0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
40 มุมมอง
0 รีวิว
รายการ
ค้นพบผู้คนใหม่ๆ สร้างการเชื่อมต่อใหม่ๆ และรู้จักเพื่อนใหม่
- กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อกดถูกใจ แชร์ และแสดงความคิดเห็น!
- ซ้อมให้เกิดความความชำนาญซ้อมให้เกิดความความชำนาญ
-
- 🇬🇧🇷🇺 ผู้บัญชาการกองทัพอังกฤษ กล่าวว่า "เราพร้อมที่จะต่อสู้กับปูตินในยุโรปตะวันออก"
.
JUST IN: 🇬🇧🇷🇺 UK army chief says "we're ready to fight Putin in Eastern Europe."
.
3:35 AM · Nov 22, 2024 · 480.2K Views
https://x.com/BRICSinfo/status/1859697285103542585🇬🇧🇷🇺 ผู้บัญชาการกองทัพอังกฤษ กล่าวว่า "เราพร้อมที่จะต่อสู้กับปูตินในยุโรปตะวันออก" . JUST IN: 🇬🇧🇷🇺 UK army chief says "we're ready to fight Putin in Eastern Europe." . 3:35 AM · Nov 22, 2024 · 480.2K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1859697285103542585 - 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
-
- 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
- 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
-
-
-
- 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
-
- 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
- 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
- 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
-
- #หลวงปู่ปรง
- แถลงการณ์ของประธานาธิบดีปูติน แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย
ปูตินยืนยันการโจมตีโรงงานผลิตอาวุธขนาดใหญ่ในเมือง Dnepropetrovsk ในยูเครนด้วยขีปนาวุธพิสัยกลางที่มีความสามารถทำลายล้างในระดับนิวเคลียร์ โดยระบุว่านี่ถือเป็นการทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางรุ่นใหม่ Oreshnik (“Hazel”) ที่ทันสมัยซึ่งติดหัวรบที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ โดยอ้างถึงการยกเลิกสนธิสัญญา INF ของรัฐบาลทรัมป์ในปี 2019 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จำกัดการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยกลางชนิดนี้โดยเฉพาะ
ปูตินยังกล่าวอีกว่าการทดสอบยิงดังกล่าวเป็นการตอบสนองต่อขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ และอังกฤษที่โจมตีรัสเซีย โดยกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุของการขยายตัวของสงคราม และบีบบังคับให้มอสโกต้องใช้มาตรการตอบโต้รุนแรงขึ้น
ขีปนาวุธพิสัยกลาง Oreshnik มีความเร็วสูงสุดที่ 10 Mach ซึ่งมีความเร็วกว่า 3 กม. ต่อวินาที และระบบป้องกันขีปนาวุธของศัตรูที่มีอยู่ในขณะนี้ไม่สามารถสกัดกั้นได้ โดยประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวเสริมว่าจะมีการเตือนพลเรือนล่วงหน้าก่อนที่กองกำลังรัสเซียจะใช้ขีปนาวุธพิสัยไกล
.
ลิ้งค์คำแถลงการณ์ฉบับเต็ม
http://en.kremlin.ru/events/president/news/75614แถลงการณ์ของประธานาธิบดีปูติน แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ปูตินยืนยันการโจมตีโรงงานผลิตอาวุธขนาดใหญ่ในเมือง Dnepropetrovsk ในยูเครนด้วยขีปนาวุธพิสัยกลางที่มีความสามารถทำลายล้างในระดับนิวเคลียร์ โดยระบุว่านี่ถือเป็นการทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางรุ่นใหม่ Oreshnik (“Hazel”) ที่ทันสมัยซึ่งติดหัวรบที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ โดยอ้างถึงการยกเลิกสนธิสัญญา INF ของรัฐบาลทรัมป์ในปี 2019 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จำกัดการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยกลางชนิดนี้โดยเฉพาะ ปูตินยังกล่าวอีกว่าการทดสอบยิงดังกล่าวเป็นการตอบสนองต่อขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ และอังกฤษที่โจมตีรัสเซีย โดยกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุของการขยายตัวของสงคราม และบีบบังคับให้มอสโกต้องใช้มาตรการตอบโต้รุนแรงขึ้น ขีปนาวุธพิสัยกลาง Oreshnik มีความเร็วสูงสุดที่ 10 Mach ซึ่งมีความเร็วกว่า 3 กม. ต่อวินาที และระบบป้องกันขีปนาวุธของศัตรูที่มีอยู่ในขณะนี้ไม่สามารถสกัดกั้นได้ โดยประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวเสริมว่าจะมีการเตือนพลเรือนล่วงหน้าก่อนที่กองกำลังรัสเซียจะใช้ขีปนาวุธพิสัยไกล . ลิ้งค์คำแถลงการณ์ฉบับเต็ม http://en.kremlin.ru/events/president/news/756140 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 รีวิว - ฟื้นทางรถไฟ สุไหงโก-ลกไปมาเลเซีย
เมื่อวันก่อน นายฮัสบิ ฮาบิโบลเลาะห์ รมว.คมนาคมมาเลเซีย เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมพร้อมที่จะศึกษาความต้องการในการฟื้นฟูทางรถไฟ ช่วงระหว่างด่านรันเตาปันจัง กับสถานีปาซีร์มัส รัฐกลันตัน ระยะทาง 18.7 กิโลเมตร และศึกษาความเป็นไปได้ในการกลับมาให้บริการรถไฟ จากสถานีรันเตาปันจัง ไปยังสถานีสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประเทศไทย โดยต้องคำนึงถึงการจัดสรรงบประมาณ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ด้วย
สำหรับทางรถไฟที่เชื่อมต่อมาเลเซียกับไทย หยุดให้บริการผู้โดยสารตั้งแต่ปี 2525 และหยุดให้บริการขนส่งสินค้าเมื่อปี 2549 เนื่องจากปัญหาความปลอดภัยและผลกระทบจากอุทกภัย นับแต่นั้นเป็นต้นมาเส้นทางรถไฟถูกปิดตาย โครงสร้างพื้นฐานรวมถึงสถานีรถไฟรันเตาปันจังอยู่ในสภาพทรุดโทรม จำเป็นต้องได้รับการบูรณะ บำรุงรักษา และยกระดับก่อนจะสามารถเปิดให้บริการอีกครั้ง
ส่วนข้อเสนอของนางซาอิลาห์ โมห์ด ยูซอฟฟ์ ส.ส.เมืองรันเตาปันจัง เกี่ยวกับความจำเป็นในการฟื้นฟูทางรถไฟและการกลับมาให้บริการรถไฟจากรันเตาปันจังไปยังสุไหงโก-ลก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น เสริมสร้างความสัมพันธ์แบบทวิภาคีระหว่างมาเลเซียและไทย เติมเต็มกิจกรรมการค้าในพื้นที่ชายแดนนั้น รัฐบาลรับทราบข้อเสนอดังกล่าว ถือเป็นหนทางที่จะปรับปรุงการเข้าถึงและกระตุ้นเศรษฐกิจระหว่างมาเลเซียและไทย หากโครงการนี้ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ไม่เพียงแต่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และเพิ่มกิจกรรมการค้าในพื้นที่ชายแดนอีกด้วย
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งทะเลตะวันออก (ECRL) ไปยังสถานีปาซีร์มัส ของการรถไฟมาลายา (KTMB) ซึ่งจะทำให้ทางรถไฟ ECRL มีประสิทธิภาพที่กระตุ้นให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจบนชายฝั่งทะเลตะวันออกของคาบสมุทรมาเลเซีย และช่วยลดช่องว่างทางเศรษฐกิจกับชายฝั่งทะเลตะวันตก นอกจากนี้ ยังเป็นตัวเลือกสำหรับขนส่งสินค้าและโดยสารระหว่างมาเลเซียกับไทยอีกด้วย
เมื่อเดือน มิ.ย. 2567 แหล่งข่าวจากตัวแทนการรถไฟแห่งประเทศไทยรายหนึ่งเปิดเผยว่า การรถไฟฯ มีความพร้อมที่จะพัฒนาทางรถไฟเชื่อมไปยังฝั่งประเทศมาเลเซีย โดยได้มีการพูดคุยกับการรถไฟมาลายา (KTMB) เป็นระยะ แต่โครงการจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการเจรจาระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ที่ผ่านมานับตั้งแต่หยุดการเดินรถ และฝั่งประเทศมาเลเซียเคยเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 ถึงบัดนี้ ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบสภาพทางรถไฟฝั่งประเทศมาเลเซียในปัจจุบันได้
#Newskitฟื้นทางรถไฟ สุไหงโก-ลกไปมาเลเซีย เมื่อวันก่อน นายฮัสบิ ฮาบิโบลเลาะห์ รมว.คมนาคมมาเลเซีย เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมพร้อมที่จะศึกษาความต้องการในการฟื้นฟูทางรถไฟ ช่วงระหว่างด่านรันเตาปันจัง กับสถานีปาซีร์มัส รัฐกลันตัน ระยะทาง 18.7 กิโลเมตร และศึกษาความเป็นไปได้ในการกลับมาให้บริการรถไฟ จากสถานีรันเตาปันจัง ไปยังสถานีสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประเทศไทย โดยต้องคำนึงถึงการจัดสรรงบประมาณ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ด้วย สำหรับทางรถไฟที่เชื่อมต่อมาเลเซียกับไทย หยุดให้บริการผู้โดยสารตั้งแต่ปี 2525 และหยุดให้บริการขนส่งสินค้าเมื่อปี 2549 เนื่องจากปัญหาความปลอดภัยและผลกระทบจากอุทกภัย นับแต่นั้นเป็นต้นมาเส้นทางรถไฟถูกปิดตาย โครงสร้างพื้นฐานรวมถึงสถานีรถไฟรันเตาปันจังอยู่ในสภาพทรุดโทรม จำเป็นต้องได้รับการบูรณะ บำรุงรักษา และยกระดับก่อนจะสามารถเปิดให้บริการอีกครั้ง ส่วนข้อเสนอของนางซาอิลาห์ โมห์ด ยูซอฟฟ์ ส.ส.เมืองรันเตาปันจัง เกี่ยวกับความจำเป็นในการฟื้นฟูทางรถไฟและการกลับมาให้บริการรถไฟจากรันเตาปันจังไปยังสุไหงโก-ลก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น เสริมสร้างความสัมพันธ์แบบทวิภาคีระหว่างมาเลเซียและไทย เติมเต็มกิจกรรมการค้าในพื้นที่ชายแดนนั้น รัฐบาลรับทราบข้อเสนอดังกล่าว ถือเป็นหนทางที่จะปรับปรุงการเข้าถึงและกระตุ้นเศรษฐกิจระหว่างมาเลเซียและไทย หากโครงการนี้ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ไม่เพียงแต่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และเพิ่มกิจกรรมการค้าในพื้นที่ชายแดนอีกด้วย นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งทะเลตะวันออก (ECRL) ไปยังสถานีปาซีร์มัส ของการรถไฟมาลายา (KTMB) ซึ่งจะทำให้ทางรถไฟ ECRL มีประสิทธิภาพที่กระตุ้นให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจบนชายฝั่งทะเลตะวันออกของคาบสมุทรมาเลเซีย และช่วยลดช่องว่างทางเศรษฐกิจกับชายฝั่งทะเลตะวันตก นอกจากนี้ ยังเป็นตัวเลือกสำหรับขนส่งสินค้าและโดยสารระหว่างมาเลเซียกับไทยอีกด้วย เมื่อเดือน มิ.ย. 2567 แหล่งข่าวจากตัวแทนการรถไฟแห่งประเทศไทยรายหนึ่งเปิดเผยว่า การรถไฟฯ มีความพร้อมที่จะพัฒนาทางรถไฟเชื่อมไปยังฝั่งประเทศมาเลเซีย โดยได้มีการพูดคุยกับการรถไฟมาลายา (KTMB) เป็นระยะ แต่โครงการจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการเจรจาระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ที่ผ่านมานับตั้งแต่หยุดการเดินรถ และฝั่งประเทศมาเลเซียเคยเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 ถึงบัดนี้ ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบสภาพทางรถไฟฝั่งประเทศมาเลเซียในปัจจุบันได้ #Newskit -
-
-
-
- https://youtu.be/yV7D4frE_XE?si=veE4Mieoe7K2MnkP0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว