• เรื่องเล่าจากข่าว: “Neuralink GB-PRIME” เมื่อความคิดกลายเป็นเมาส์และคีย์บอร์ด

    Neuralink ประกาศเปิดตัวการทดลองทางคลินิกในสหราชอาณาจักรชื่อว่า “GB-PRIME” โดยร่วมมือกับ University College London Hospitals (UCLH) และ Newcastle Hospitals เพื่อทดสอบชิปสมอง N1 ที่สามารถแปลสัญญาณประสาทเป็นคำสั่งควบคุมอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟน

    ผู้เข้าร่วมต้องเป็นผู้ที่มีอาการอัมพาตรุนแรงจากโรค ALS หรือบาดเจ็บไขสันหลัง โดยชิปจะฝังเข้าไปในสมองผ่านหุ่นยนต์ R1 ที่สามารถวางเส้นใยอิเล็กโทรดบางกว่าผมมนุษย์กว่า 1,000 จุดในตำแหน่งที่แม่นยำ

    Neuralink ได้รับอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหราชอาณาจักร เช่น MHRA และ REC และเคยเริ่มทดลองในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2024 หลังจากผ่านการอนุมัติจาก FDA ซึ่งเคยปฏิเสธในปี 2022 ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย

    ล่าสุด Neuralink ระดมทุนได้ถึง $650 ล้านในรอบ Series E จากนักลงทุนชั้นนำ เช่น Sequoia, ARK Invest และ Founders Fund เพื่อขยายการทดลองและพัฒนาเทคโนโลยีให้ล้ำลึกยิ่งขึ้น

    Neuralink เปิดตัวการทดลอง GB-PRIME ในสหราชอาณาจักรเพื่อทดสอบชิปสมอง N1
    ร่วมมือกับ UCLH และ Newcastle Hospitals
    ใช้หุ่นยนต์ R1 ฝังเส้นใยอิเล็กโทรดบางเฉียบในสมอง

    ผู้เข้าร่วมต้องเป็นผู้ที่มีอัมพาตจาก ALS หรือบาดเจ็บไขสันหลัง
    ต้องมีอายุเกิน 22 ปี และไม่สามารถใช้มือทั้งสองข้างได้
    สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ Neuralink

    ชิป N1 สามารถแปลสัญญาณสมองเป็นคำสั่งควบคุมอุปกรณ์ดิจิทัล
    เช่น การเลื่อนเมาส์, พิมพ์ข้อความ, เล่นเกม
    ใช้แบตเตอรี่แบบไร้สายและไม่ต้องมีสายเชื่อมต่อภายนอก

    Neuralink เคยทดลองในสหรัฐอเมริกาและมีผู้ใช้จริงแล้ว 5 ราย
    ผู้ป่วยสามารถเล่นเกมหรือพิมพ์ข้อความด้วยความคิด
    มีการปรับปรุงซอฟต์แวร์เพื่อแก้ปัญหาเส้นใยหลุด

    บริษัทได้รับทุน $650 ล้าน ในเดือนมิถุนายน 2025 เพื่อขยายการทดลองและพัฒนาอุปกรณ์ใหม่
    นักลงทุนหลัก ได้แก่ Sequoia, ARK Invest, Founders Fund
    มูลค่าบริษัทอยู่ที่ประมาณ $9 พันล้าน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/31/musk039s-neuralink-to-launch-a-clinical-study-in-great-britain
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: “Neuralink GB-PRIME” เมื่อความคิดกลายเป็นเมาส์และคีย์บอร์ด Neuralink ประกาศเปิดตัวการทดลองทางคลินิกในสหราชอาณาจักรชื่อว่า “GB-PRIME” โดยร่วมมือกับ University College London Hospitals (UCLH) และ Newcastle Hospitals เพื่อทดสอบชิปสมอง N1 ที่สามารถแปลสัญญาณประสาทเป็นคำสั่งควบคุมอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟน ผู้เข้าร่วมต้องเป็นผู้ที่มีอาการอัมพาตรุนแรงจากโรค ALS หรือบาดเจ็บไขสันหลัง โดยชิปจะฝังเข้าไปในสมองผ่านหุ่นยนต์ R1 ที่สามารถวางเส้นใยอิเล็กโทรดบางกว่าผมมนุษย์กว่า 1,000 จุดในตำแหน่งที่แม่นยำ Neuralink ได้รับอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหราชอาณาจักร เช่น MHRA และ REC และเคยเริ่มทดลองในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2024 หลังจากผ่านการอนุมัติจาก FDA ซึ่งเคยปฏิเสธในปี 2022 ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ล่าสุด Neuralink ระดมทุนได้ถึง $650 ล้านในรอบ Series E จากนักลงทุนชั้นนำ เช่น Sequoia, ARK Invest และ Founders Fund เพื่อขยายการทดลองและพัฒนาเทคโนโลยีให้ล้ำลึกยิ่งขึ้น ✅ Neuralink เปิดตัวการทดลอง GB-PRIME ในสหราชอาณาจักรเพื่อทดสอบชิปสมอง N1 ➡️ ร่วมมือกับ UCLH และ Newcastle Hospitals ➡️ ใช้หุ่นยนต์ R1 ฝังเส้นใยอิเล็กโทรดบางเฉียบในสมอง ✅ ผู้เข้าร่วมต้องเป็นผู้ที่มีอัมพาตจาก ALS หรือบาดเจ็บไขสันหลัง ➡️ ต้องมีอายุเกิน 22 ปี และไม่สามารถใช้มือทั้งสองข้างได้ ➡️ สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ Neuralink ✅ ชิป N1 สามารถแปลสัญญาณสมองเป็นคำสั่งควบคุมอุปกรณ์ดิจิทัล ➡️ เช่น การเลื่อนเมาส์, พิมพ์ข้อความ, เล่นเกม ➡️ ใช้แบตเตอรี่แบบไร้สายและไม่ต้องมีสายเชื่อมต่อภายนอก ✅ Neuralink เคยทดลองในสหรัฐอเมริกาและมีผู้ใช้จริงแล้ว 5 ราย ➡️ ผู้ป่วยสามารถเล่นเกมหรือพิมพ์ข้อความด้วยความคิด ➡️ มีการปรับปรุงซอฟต์แวร์เพื่อแก้ปัญหาเส้นใยหลุด ✅ บริษัทได้รับทุน $650 ล้าน ในเดือนมิถุนายน 2025 เพื่อขยายการทดลองและพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ ➡️ นักลงทุนหลัก ได้แก่ Sequoia, ARK Invest, Founders Fund ➡️ มูลค่าบริษัทอยู่ที่ประมาณ $9 พันล้าน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/31/musk039s-neuralink-to-launch-a-clinical-study-in-great-britain
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Musk's Neuralink to test brain chips in clinical study in Great Britain
    (Reuters) - Elon Musk's brain implant company Neuralink said on Thursday it will launch a clinical study in Great Britain to test how its chips can enable patients with severe paralysis to control digital and physical tools with their thoughts.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากพอร์ตชาร์จ: เมื่อการเสียบสายกลายเป็นการเปิดประตูให้แฮกเกอร์

    ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน โลกเคยตื่นตัวกับภัย “Juice Jacking” ที่ใช้พอร์ต USB สาธารณะในการติดตั้งมัลแวร์หรือขโมยข้อมูลจากมือถือที่เสียบชาร์จ ทำให้ผู้ผลิตระบบปฏิบัติการมือถืออย่าง Apple และ Google ต้องออกมาตรการป้องกัน เช่น การให้ผู้ใช้เลือก “Charge only” หรือ “Transfer files” ทุกครั้งที่เสียบสาย

    แต่ในปี 2025 นักวิจัยจาก Graz University of Technology ประเทศออสเตรีย ได้เปิดเผยเทคนิคใหม่ชื่อว่า Choicejacking ซึ่งสามารถหลอกให้มือถืออนุญาตการเชื่อมต่อข้อมูลโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัวเลยแม้แต่นิดเดียว

    Choicejacking ไม่ใช่มัลแวร์แบบเดิม แต่ใช้การจำลองอุปกรณ์ USB หรือ Bluetooth เช่น คีย์บอร์ด เพื่อส่งคำสั่งปลอมไปยังมือถือให้ตอบตกลงกับหน้าต่างแจ้งเตือนการเชื่อมต่อข้อมูล โดยใช้เวลาเพียง 133 มิลลิวินาที—เร็วกว่าการกระพริบตา!

    Choicejacking เป็นเทคนิคใหม่ที่สามารถหลอกมือถือให้อนุญาตการเชื่อมต่อข้อมูลโดยไม่ต้องแตะหน้าจอ
    ใช้การจำลองอุปกรณ์ USB หรือ Bluetooth เพื่อส่งคำสั่งปลอม
    ใช้เวลาเพียง 133 มิลลิวินาทีในการดำเนินการ

    นักวิจัยจาก Graz University of Technology เป็นผู้ค้นพบและนำเสนอที่งาน USENIX Security Symposium 2025
    เป็นการพัฒนาต่อจาก Juice Jacking ที่เคยเป็นภัยใหญ่เมื่อสิบปีก่อน
    ได้รับการยอมรับจากผู้ผลิตมือถือรายใหญ่ เช่น Apple, Google, Samsung, Xiaomi

    Choicejacking สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น รูปภาพ, เอกสาร, ข้อมูลแอปพลิเคชัน
    ทดสอบกับมือถือจาก 8 ผู้ผลิตหลัก และพบว่าทุกเครื่องมีช่องโหว่
    บางรุ่นสามารถขโมยข้อมูลได้แม้หน้าจอจะล็อกอยู่

    มีการใช้เทคนิคเสริม เช่น การตรวจจับช่วงเวลาที่ผู้ใช้ไม่สังเกตหน้าจอผ่านสายไฟ (power line side-channel)
    ใช้ช่วงที่ผู้ใช้กำลังโทรศัพท์หรือดูวิดีโอเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ
    เพิ่มความแนบเนียนในการโจมตี

    ผู้ผลิตระบบปฏิบัติการเริ่มออกแพตช์เพื่อป้องกัน Choicejacking
    iOS 18.4 และ Android 15 เพิ่มการยืนยันตัวตนก่อนอนุญาตการเชื่อมต่อ USB
    แต่บางรุ่น เช่น Samsung ที่ใช้ One UI 7 ยังไม่มีการบังคับใช้การยืนยัน

    การใช้พอร์ต USB สาธารณะ เช่น ที่สนามบิน, โรงแรม, ร้านกาแฟ อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตี
    แม้จะดูปลอดภัย แต่พอร์ตอาจถูกดัดแปลงให้เป็นอุปกรณ์โจมตี
    การเสียบสายโดยไม่ระวังอาจเปิดช่องให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลได้ทันที

    การโจมตีสามารถเกิดขึ้นได้แม้ผู้ใช้ไม่ได้แตะหน้าจอเลย
    ใช้การจำลองคีย์บอร์ดหรืออุปกรณ์ Bluetooth เพื่อส่งคำสั่งปลอม
    ผู้ใช้ไม่มีโอกาสเห็นหรือยกเลิกการอนุญาต

    มือถือบางรุ่นยังไม่มีการบังคับให้ยืนยันตัวตนก่อนอนุญาตการเชื่อมต่อข้อมูล
    แม้จะอัปเดตเป็น Android 15 แล้ว แต่บางแบรนด์ยังไม่เปิดใช้ฟีเจอร์นี้
    ทำให้ผู้ใช้ยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตี Choicejacking

    อุปกรณ์ป้องกันแบบเดิม เช่น USB data blocker อาจไม่เพียงพออีกต่อไป
    Choicejacking ใช้ช่องทางใหม่ที่ไม่ถูกบล็อกโดยอุปกรณ์เหล่านี้
    ต้องใช้มาตรการเสริม เช่น สายชาร์จแบบ “charge-only” หรือ power bank ส่วนตัว

    https://hackread.com/choicejacking-attack-steals-data-phones-public-chargers/
    🔌 เรื่องเล่าจากพอร์ตชาร์จ: เมื่อการเสียบสายกลายเป็นการเปิดประตูให้แฮกเกอร์ ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน โลกเคยตื่นตัวกับภัย “Juice Jacking” ที่ใช้พอร์ต USB สาธารณะในการติดตั้งมัลแวร์หรือขโมยข้อมูลจากมือถือที่เสียบชาร์จ ทำให้ผู้ผลิตระบบปฏิบัติการมือถืออย่าง Apple และ Google ต้องออกมาตรการป้องกัน เช่น การให้ผู้ใช้เลือก “Charge only” หรือ “Transfer files” ทุกครั้งที่เสียบสาย แต่ในปี 2025 นักวิจัยจาก Graz University of Technology ประเทศออสเตรีย ได้เปิดเผยเทคนิคใหม่ชื่อว่า Choicejacking ซึ่งสามารถหลอกให้มือถืออนุญาตการเชื่อมต่อข้อมูลโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัวเลยแม้แต่นิดเดียว Choicejacking ไม่ใช่มัลแวร์แบบเดิม แต่ใช้การจำลองอุปกรณ์ USB หรือ Bluetooth เช่น คีย์บอร์ด เพื่อส่งคำสั่งปลอมไปยังมือถือให้ตอบตกลงกับหน้าต่างแจ้งเตือนการเชื่อมต่อข้อมูล โดยใช้เวลาเพียง 133 มิลลิวินาที—เร็วกว่าการกระพริบตา! ✅ Choicejacking เป็นเทคนิคใหม่ที่สามารถหลอกมือถือให้อนุญาตการเชื่อมต่อข้อมูลโดยไม่ต้องแตะหน้าจอ ➡️ ใช้การจำลองอุปกรณ์ USB หรือ Bluetooth เพื่อส่งคำสั่งปลอม ➡️ ใช้เวลาเพียง 133 มิลลิวินาทีในการดำเนินการ ✅ นักวิจัยจาก Graz University of Technology เป็นผู้ค้นพบและนำเสนอที่งาน USENIX Security Symposium 2025 ➡️ เป็นการพัฒนาต่อจาก Juice Jacking ที่เคยเป็นภัยใหญ่เมื่อสิบปีก่อน ➡️ ได้รับการยอมรับจากผู้ผลิตมือถือรายใหญ่ เช่น Apple, Google, Samsung, Xiaomi ✅ Choicejacking สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น รูปภาพ, เอกสาร, ข้อมูลแอปพลิเคชัน ➡️ ทดสอบกับมือถือจาก 8 ผู้ผลิตหลัก และพบว่าทุกเครื่องมีช่องโหว่ ➡️ บางรุ่นสามารถขโมยข้อมูลได้แม้หน้าจอจะล็อกอยู่ ✅ มีการใช้เทคนิคเสริม เช่น การตรวจจับช่วงเวลาที่ผู้ใช้ไม่สังเกตหน้าจอผ่านสายไฟ (power line side-channel) ➡️ ใช้ช่วงที่ผู้ใช้กำลังโทรศัพท์หรือดูวิดีโอเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ➡️ เพิ่มความแนบเนียนในการโจมตี ✅ ผู้ผลิตระบบปฏิบัติการเริ่มออกแพตช์เพื่อป้องกัน Choicejacking ➡️ iOS 18.4 และ Android 15 เพิ่มการยืนยันตัวตนก่อนอนุญาตการเชื่อมต่อ USB ➡️ แต่บางรุ่น เช่น Samsung ที่ใช้ One UI 7 ยังไม่มีการบังคับใช้การยืนยัน ‼️ การใช้พอร์ต USB สาธารณะ เช่น ที่สนามบิน, โรงแรม, ร้านกาแฟ อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ⛔ แม้จะดูปลอดภัย แต่พอร์ตอาจถูกดัดแปลงให้เป็นอุปกรณ์โจมตี ⛔ การเสียบสายโดยไม่ระวังอาจเปิดช่องให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลได้ทันที ‼️ การโจมตีสามารถเกิดขึ้นได้แม้ผู้ใช้ไม่ได้แตะหน้าจอเลย ⛔ ใช้การจำลองคีย์บอร์ดหรืออุปกรณ์ Bluetooth เพื่อส่งคำสั่งปลอม ⛔ ผู้ใช้ไม่มีโอกาสเห็นหรือยกเลิกการอนุญาต ‼️ มือถือบางรุ่นยังไม่มีการบังคับให้ยืนยันตัวตนก่อนอนุญาตการเชื่อมต่อข้อมูล ⛔ แม้จะอัปเดตเป็น Android 15 แล้ว แต่บางแบรนด์ยังไม่เปิดใช้ฟีเจอร์นี้ ⛔ ทำให้ผู้ใช้ยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตี Choicejacking ‼️ อุปกรณ์ป้องกันแบบเดิม เช่น USB data blocker อาจไม่เพียงพออีกต่อไป ⛔ Choicejacking ใช้ช่องทางใหม่ที่ไม่ถูกบล็อกโดยอุปกรณ์เหล่านี้ ⛔ ต้องใช้มาตรการเสริม เช่น สายชาร์จแบบ “charge-only” หรือ power bank ส่วนตัว https://hackread.com/choicejacking-attack-steals-data-phones-public-chargers/
    HACKREAD.COM
    New Choicejacking Attack Steals Data from Phones via Public Chargers
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ไอ้นี้มันอยู่พิกัดไหนนะ,สมควรถูกทิ้งไข่สักลูก,พวกลักษณะนี้ต้องเจอกับทหารไซเบอร์ภาคประชาชนท้าชนกันอย่างเสือกไปท้าชนกับทหารไทยเราเลย,มรึงต้องลงสนามอย่ามาเก่งหน้าคีย์บอร์ดแบบนี้,ไลน์สดโชว์พิกัดแบบทหารเขมรมรึงที่หน้างานด้วยสิ,ไปเจอทหารไทยที่หน้างานโน้นอย่าปากดีแถวนี้.

    ..บริษัทและกิจการต่างๆทั่วกทม.เรา ปริมลฑลก็ได้หรือทั่วประเทศก็ดี มาร่วมกันตั้งศูนย์ปฏิบัติการนักรบไซเบอร์IOภาคประชาชนอย่างเป็นทางการดีมั้ยเพื่อจัดการศัตรูของชาติไทยเราลักษณะนี้ ปั่นกระแสสร้างโกลาหลบิดเบือนอะไรของมันต้องเจอเราประชาชนคนไทยด้วยเลยเหี้ยแบบนี้ต้องเจอ ติดตามipถอดที่อยู่จริงมันด้วย,เช่นถอดออกมาแล้ว เหี้ยอาศัยอยู่บนแผ่นดินไทยเรานี้เอง ทำงานในสำนักงานพรรคการเมืองล้มสถาบันด้วยยิ่งติดตามไล่ล่าสะดวกเก็บง่ายขึ้น ถีบส่งออกจากประเทศไทยเราเต็มตีนด้วยเลยก็ว่า.

    ..จริงๆฮุนเซนกับโทนี่สมคบคิดกันดีๆนี้ล่ะ วางแผนโดนอีลิทฝรั่งdeep stateด้วย ล้มสถาบันก็ได้ ทำลายสร้างใหม่เป็นประธานาธิบดีปกครองประเทศก็ได้อีก ได้ทรัพยากรมีค่าของประเทศนี้ในมือทั้งหมดทันทีนั้นเอง,เขมรนำโดนฮุนเซนก็ได้ดินแดนไทยตามต้องการ,ได้กำจัดทหารฝ่ายตรงข้ามตนผ่านมุกทางสงครามก็ด้วย,จะเหลือแค่คนรับใช้ที่เชื่อฟังทำตามคำสั่งมันทั้งหมดและไม่ต้องแบ่งผลประโยชน์อะไรมากมายใดๆให้ทหารฝ่ายนั้นๆด้วย,ศัตรูของฮุนเซนถายในเขมรเองถูกกำจัดจริงทั้งหมดนั่นเอง.,คือสงครามครัังนี้ถ้าไม่ผิดพลาดอะไร,มีแต่ได้ ,ตายๆไปแค่หินกวาดไร้ค่าในสายตาพวกมันคนพวกนี้, ไทยเราดูได้จากขี้ข้ามันที่ทหารพลไทยเราเองถูกกับระเบิดขาขาดสิ มันเสือกว่าแค่ขาขาดจะตอบโต้ทำไม.,กบฎและคนทรยชาติไทยเราทั้งหมดสมควรกำจัดไม่ใช่มีชีวิตจริงๆได้แล้วเช่นกัน จะก่อมหัตภัยใหญ่หลวงในภายภาคหน้าแบบก่อสงครามสมคบคิดนี้ได้แน่นอน.,ตลอดเปิดบ้านเมืองตนเองให้ศัตรูต่างชาติเข้ามาทำร้ายทำลายคนไทยทำลายแผ่นดินไทยยึดครองแผ่นดินไทยอย่างง่ายดายแน่นอน.

    https://youtube.com/watch?v=Bd7D0iMyHaM&si=c-8cPv6OmEbiTAmW
    ..ไอ้นี้มันอยู่พิกัดไหนนะ,สมควรถูกทิ้งไข่สักลูก,พวกลักษณะนี้ต้องเจอกับทหารไซเบอร์ภาคประชาชนท้าชนกันอย่างเสือกไปท้าชนกับทหารไทยเราเลย,มรึงต้องลงสนามอย่ามาเก่งหน้าคีย์บอร์ดแบบนี้,ไลน์สดโชว์พิกัดแบบทหารเขมรมรึงที่หน้างานด้วยสิ,ไปเจอทหารไทยที่หน้างานโน้นอย่าปากดีแถวนี้. ..บริษัทและกิจการต่างๆทั่วกทม.เรา ปริมลฑลก็ได้หรือทั่วประเทศก็ดี มาร่วมกันตั้งศูนย์ปฏิบัติการนักรบไซเบอร์IOภาคประชาชนอย่างเป็นทางการดีมั้ยเพื่อจัดการศัตรูของชาติไทยเราลักษณะนี้ ปั่นกระแสสร้างโกลาหลบิดเบือนอะไรของมันต้องเจอเราประชาชนคนไทยด้วยเลยเหี้ยแบบนี้ต้องเจอ ติดตามipถอดที่อยู่จริงมันด้วย,เช่นถอดออกมาแล้ว เหี้ยอาศัยอยู่บนแผ่นดินไทยเรานี้เอง ทำงานในสำนักงานพรรคการเมืองล้มสถาบันด้วยยิ่งติดตามไล่ล่าสะดวกเก็บง่ายขึ้น ถีบส่งออกจากประเทศไทยเราเต็มตีนด้วยเลยก็ว่า. ..จริงๆฮุนเซนกับโทนี่สมคบคิดกันดีๆนี้ล่ะ วางแผนโดนอีลิทฝรั่งdeep stateด้วย ล้มสถาบันก็ได้ ทำลายสร้างใหม่เป็นประธานาธิบดีปกครองประเทศก็ได้อีก ได้ทรัพยากรมีค่าของประเทศนี้ในมือทั้งหมดทันทีนั้นเอง,เขมรนำโดนฮุนเซนก็ได้ดินแดนไทยตามต้องการ,ได้กำจัดทหารฝ่ายตรงข้ามตนผ่านมุกทางสงครามก็ด้วย,จะเหลือแค่คนรับใช้ที่เชื่อฟังทำตามคำสั่งมันทั้งหมดและไม่ต้องแบ่งผลประโยชน์อะไรมากมายใดๆให้ทหารฝ่ายนั้นๆด้วย,ศัตรูของฮุนเซนถายในเขมรเองถูกกำจัดจริงทั้งหมดนั่นเอง.,คือสงครามครัังนี้ถ้าไม่ผิดพลาดอะไร,มีแต่ได้ ,ตายๆไปแค่หินกวาดไร้ค่าในสายตาพวกมันคนพวกนี้, ไทยเราดูได้จากขี้ข้ามันที่ทหารพลไทยเราเองถูกกับระเบิดขาขาดสิ มันเสือกว่าแค่ขาขาดจะตอบโต้ทำไม.,กบฎและคนทรยชาติไทยเราทั้งหมดสมควรกำจัดไม่ใช่มีชีวิตจริงๆได้แล้วเช่นกัน จะก่อมหัตภัยใหญ่หลวงในภายภาคหน้าแบบก่อสงครามสมคบคิดนี้ได้แน่นอน.,ตลอดเปิดบ้านเมืองตนเองให้ศัตรูต่างชาติเข้ามาทำร้ายทำลายคนไทยทำลายแผ่นดินไทยยึดครองแผ่นดินไทยอย่างง่ายดายแน่นอน. https://youtube.com/watch?v=Bd7D0iMyHaM&si=c-8cPv6OmEbiTAmW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขมรแดงตามแนวพรมแดนไร้มนุษยธรรมทหารไทยเราใช้โดรนจัดการทุกๆตัวได้ทันทีดีที่สุดอย่าเอาชีวิตทหารไทยเราไปเสี่ยง,ทหารจัดงบสั่งซื้อโดรนพลีชีพเลยทำลายเขมรที่ไร้มนุษยธรรมนี้กระหายการฆ่าผู้บริสุทธิ์อย่าเก็บไว้รกโลก,
    ..ตลอดขีปนาวุธจรวดทำลายล้างเราสามารถยิงถึงบ้านฮุนเซนฮุนมาเน็ตจริงล็อกเป้าgpsผ่านดาวเทียมได้ด้วย อิหร่านอิสราเอลยังกระทำเป็นสากลได้ ต้องจบสงครามคืนนี้ยิงดี,ส่วนถ้าฮุนเซนหนีไปเกาหลีใต้หรือจีนจริง ยิ่งสะดวกต่อการไล่ล่าสังหารอาชญากรทางสงครามที่กระทำต่อไทยชัดเจนได้,สังหารนอกราชาอาณาจักรยิ่งง่าย,หรือเจรจาทางการฑูตส่งมาประหารชีวืตที่ไทยทันทีด้วย,หรือบินไปมาดีๆเครื่องบินส่วนตัวตกระเบิดตายตามธรรมชาติก็ว่าไปด้วย,คือแอ็คชั่นจากสายทหารไทยตำรวจไทยสากลต้องมี จากฝ่ายรัฐบาลยิ่งต้องชัดเจน,ใครปกป้องอาชญากรสงครามก็พร้อมถูกประจานประฌามทั่วโลกจากนักเลงคีย์บอร์ดไทยเรา ,ทหารโซเชียลไทย,

    ..ต้องจบศึกจริงๆอย่างรวดเร็วด้วย,เราลดความสูญเสียฝั่งเราได้,
    https://youtube.com/watch?v=WthIbUtVY9s&si=SCUD2jFrk0EmQI4k
    เขมรแดงตามแนวพรมแดนไร้มนุษยธรรมทหารไทยเราใช้โดรนจัดการทุกๆตัวได้ทันทีดีที่สุดอย่าเอาชีวิตทหารไทยเราไปเสี่ยง,ทหารจัดงบสั่งซื้อโดรนพลีชีพเลยทำลายเขมรที่ไร้มนุษยธรรมนี้กระหายการฆ่าผู้บริสุทธิ์อย่าเก็บไว้รกโลก, ..ตลอดขีปนาวุธจรวดทำลายล้างเราสามารถยิงถึงบ้านฮุนเซนฮุนมาเน็ตจริงล็อกเป้าgpsผ่านดาวเทียมได้ด้วย อิหร่านอิสราเอลยังกระทำเป็นสากลได้ ต้องจบสงครามคืนนี้ยิงดี,ส่วนถ้าฮุนเซนหนีไปเกาหลีใต้หรือจีนจริง ยิ่งสะดวกต่อการไล่ล่าสังหารอาชญากรทางสงครามที่กระทำต่อไทยชัดเจนได้,สังหารนอกราชาอาณาจักรยิ่งง่าย,หรือเจรจาทางการฑูตส่งมาประหารชีวืตที่ไทยทันทีด้วย,หรือบินไปมาดีๆเครื่องบินส่วนตัวตกระเบิดตายตามธรรมชาติก็ว่าไปด้วย,คือแอ็คชั่นจากสายทหารไทยตำรวจไทยสากลต้องมี จากฝ่ายรัฐบาลยิ่งต้องชัดเจน,ใครปกป้องอาชญากรสงครามก็พร้อมถูกประจานประฌามทั่วโลกจากนักเลงคีย์บอร์ดไทยเรา ,ทหารโซเชียลไทย, ..ต้องจบศึกจริงๆอย่างรวดเร็วด้วย,เราลดความสูญเสียฝั่งเราได้, https://youtube.com/watch?v=WthIbUtVY9s&si=SCUD2jFrk0EmQI4k
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อข้อมือกลายเป็นเมาส์และคีย์บอร์ด

    ลองจินตนาการว่าแค่ “คิดจะพิมพ์” หรือ “ตั้งใจจะคลิก” ก็สามารถสั่งงานคอมพิวเตอร์ได้ทันที—ไม่ต้องแตะหน้าจอ ไม่ต้องจับเมาส์ นี่คือสิ่งที่ Meta กำลังพัฒนาอยู่ใน Reality Labs: สายรัดข้อมืออัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยี EMG (Electromyography) เพื่ออ่านสัญญาณไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นเมื่อเราตั้งใจจะขยับนิ้ว

    Thomas Reardon หัวหน้าทีมวิจัยของ Meta บอกว่า “คุณไม่จำเป็นต้องขยับจริง ๆ แค่ตั้งใจจะขยับก็พอ” เพราะสัญญาณจากสมองจะถูกส่งไปยังกล้ามเนื้อก่อนที่เราจะเคลื่อนไหวจริง และสายรัดนี้สามารถจับสัญญาณเหล่านั้นได้แม้ไม่มีการเคลื่อนไหวให้เห็น

    เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คนทั่วไปควบคุมอุปกรณ์ได้แบบไร้สัมผัส แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้พิการทางการเคลื่อนไหวสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ด้วยเจตนาที่แฝงอยู่ในกล้ามเนื้อ แม้จะเป็นเพียงสัญญาณเบา ๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้

    Meta ใช้ข้อมูลจากผู้ใช้งานกว่า 10,000 คนในการฝึก AI ให้สามารถแปลสัญญาณกล้ามเนื้อเป็นคำสั่งได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องปรับแต่งเฉพาะบุคคล ทำให้ใครก็สามารถใช้งานได้ทันที

    Meta พัฒนาอุปกรณ์ควบคุมคอมพิวเตอร์ผ่านข้อมือ
    ใช้เทคโนโลยี EMG ตรวจจับสัญญาณไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อ
    ไม่ต้องขยับจริง แค่ “ตั้งใจ” ก็สามารถสั่งงานได้

    ไม่ต้องผ่าตัดหรือฝึกใช้งาน
    ต่างจากเทคโนโลยีอย่าง Neuralink ที่ต้องฝังอุปกรณ์ในสมอง
    ผู้ใช้สามารถสวมใส่และใช้งานได้ทันที

    ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ใช้กว่า 10,000 คน
    ทำให้ระบบสามารถทำงานกับผู้ใช้ใหม่ได้ทันที
    รองรับการพิมพ์ในอากาศ การเลื่อนเมาส์ และเปิดแอป

    ช่วยผู้พิการใช้งานเทคโนโลยี
    ทดสอบกับผู้มีอาการบาดเจ็บไขสันหลังที่มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon
    แม้มีอัมพาตมือ ก็ยังมีสัญญาณกล้ามเนื้อให้ระบบแปลคำสั่งได้

    ตีพิมพ์งานวิจัยในวารสาร Nature
    เปิดเผยข้อมูล EMG กว่า 100 ชั่วโมงให้ชุมชนวิทยาศาสตร์นำไปต่อยอด

    ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว
    การแปล “เจตนา” อาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
    หากข้อมูลกล้ามเนื้อถูกเก็บหรือวิเคราะห์โดยบุคคลที่สาม อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม

    การพึ่งพา AI มากเกินไป
    อาจเกิด “automation bias” คือเชื่อคำสั่งจาก AI โดยไม่ตรวจสอบ
    เสี่ยงต่อการตัดสินใจผิดพลาดในสถานการณ์สำคัญ

    ผลกระทบต่อแรงงานและอุปกรณ์เดิม
    เมาส์ คีย์บอร์ด และหน้าจอสัมผัสอาจถูกลดบทบาท
    อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และแรงงานที่เกี่ยวข้อง

    https://www.techspot.com/news/108797-meta-builds-wristband-can-control-devices-flick-wrist.html
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อข้อมือกลายเป็นเมาส์และคีย์บอร์ด ลองจินตนาการว่าแค่ “คิดจะพิมพ์” หรือ “ตั้งใจจะคลิก” ก็สามารถสั่งงานคอมพิวเตอร์ได้ทันที—ไม่ต้องแตะหน้าจอ ไม่ต้องจับเมาส์ นี่คือสิ่งที่ Meta กำลังพัฒนาอยู่ใน Reality Labs: สายรัดข้อมืออัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยี EMG (Electromyography) เพื่ออ่านสัญญาณไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นเมื่อเราตั้งใจจะขยับนิ้ว Thomas Reardon หัวหน้าทีมวิจัยของ Meta บอกว่า “คุณไม่จำเป็นต้องขยับจริง ๆ แค่ตั้งใจจะขยับก็พอ” เพราะสัญญาณจากสมองจะถูกส่งไปยังกล้ามเนื้อก่อนที่เราจะเคลื่อนไหวจริง และสายรัดนี้สามารถจับสัญญาณเหล่านั้นได้แม้ไม่มีการเคลื่อนไหวให้เห็น เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คนทั่วไปควบคุมอุปกรณ์ได้แบบไร้สัมผัส แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้พิการทางการเคลื่อนไหวสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ด้วยเจตนาที่แฝงอยู่ในกล้ามเนื้อ แม้จะเป็นเพียงสัญญาณเบา ๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ Meta ใช้ข้อมูลจากผู้ใช้งานกว่า 10,000 คนในการฝึก AI ให้สามารถแปลสัญญาณกล้ามเนื้อเป็นคำสั่งได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องปรับแต่งเฉพาะบุคคล ทำให้ใครก็สามารถใช้งานได้ทันที ✅ Meta พัฒนาอุปกรณ์ควบคุมคอมพิวเตอร์ผ่านข้อมือ ➡️ ใช้เทคโนโลยี EMG ตรวจจับสัญญาณไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อ ➡️ ไม่ต้องขยับจริง แค่ “ตั้งใจ” ก็สามารถสั่งงานได้ ✅ ไม่ต้องผ่าตัดหรือฝึกใช้งาน ➡️ ต่างจากเทคโนโลยีอย่าง Neuralink ที่ต้องฝังอุปกรณ์ในสมอง ➡️ ผู้ใช้สามารถสวมใส่และใช้งานได้ทันที ✅ ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ใช้กว่า 10,000 คน ➡️ ทำให้ระบบสามารถทำงานกับผู้ใช้ใหม่ได้ทันที ➡️ รองรับการพิมพ์ในอากาศ การเลื่อนเมาส์ และเปิดแอป ✅ ช่วยผู้พิการใช้งานเทคโนโลยี ➡️ ทดสอบกับผู้มีอาการบาดเจ็บไขสันหลังที่มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon ➡️ แม้มีอัมพาตมือ ก็ยังมีสัญญาณกล้ามเนื้อให้ระบบแปลคำสั่งได้ ✅ ตีพิมพ์งานวิจัยในวารสาร Nature ➡️ เปิดเผยข้อมูล EMG กว่า 100 ชั่วโมงให้ชุมชนวิทยาศาสตร์นำไปต่อยอด ‼️ ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว ⛔ การแปล “เจตนา” อาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ⛔ หากข้อมูลกล้ามเนื้อถูกเก็บหรือวิเคราะห์โดยบุคคลที่สาม อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ‼️ การพึ่งพา AI มากเกินไป ⛔ อาจเกิด “automation bias” คือเชื่อคำสั่งจาก AI โดยไม่ตรวจสอบ ⛔ เสี่ยงต่อการตัดสินใจผิดพลาดในสถานการณ์สำคัญ ‼️ ผลกระทบต่อแรงงานและอุปกรณ์เดิม ⛔ เมาส์ คีย์บอร์ด และหน้าจอสัมผัสอาจถูกลดบทบาท ⛔ อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และแรงงานที่เกี่ยวข้อง https://www.techspot.com/news/108797-meta-builds-wristband-can-control-devices-flick-wrist.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Meta builds wristband that can control devices with a flick of the wrist
    This technology draws on the field of electromyography, or EMG, which measures muscle activity by detecting the electrical signals generated as the brain sends commands to muscle...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกโอเพ่นซอร์ส: Plasma Bigscreen คืนชีพสู่จอทีวี

    จำโปรเจกต์ Plasma Bigscreen ได้ไหม? มันเคยเป็นความพยายามของ KDE ที่จะสร้างระบบสำหรับทีวีแบบโอเพ่นซอร์ส โดยใช้ Plasma shell ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับจอใหญ่ และเคยรองรับผู้ช่วยเสียง Mycroft ที่ตอนนี้เลิกพัฒนาไปแล้ว

    หลังจากถูกทิ้งไว้ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ Plasma 6 เพราะไม่มีใครพอร์ตให้ทันเวลา ล่าสุด Devin ผู้พัฒนา Plasma Mobile ได้กลับมาปลุกชีพโปรเจกต์นี้อีกครั้งในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์! เขาเริ่มจากการล้างโค้ดเก่า แล้วออกแบบ UI ใหม่ให้ทันสมัยขึ้น โดยใช้แนวคิดจาก Breeze mockups

    ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่:
    - หน้าโฮมแบบเรียบง่าย ไม่มีพื้นหลังของแผง
    - เอฟเฟกต์เบลอพื้นหลังขณะนำทางเมนู
    - ระบบค้นหาใหม่ผ่าน KRunner
    - Settings แบบสองแถบ พร้อม sidebar
    - โมดูล Wi-Fi และ KDE Connect ที่ได้รับการแก้ไข
    - แอนิเมชันตอนเปิดแอปแบบเดียวกับ Plasma Mobile

    แม้ยังไม่สมบูรณ์ เช่น ยังไม่มีคีย์บอร์ดเสมือนที่ใช้ลูกศรนำทางได้ และยังไม่มีทิศทางชัดเจนหลังจาก Mycroft หายไป แต่เป้าหมายคือการนำกลับเข้าสู่ตารางออกเวอร์ชันของ Plasma อีกครั้งในเวอร์ชัน 6.5

    https://www.neowin.net/news/kdes-android-tv-alternative-plasma-bigscreen-rises-from-the-dead-with-a-better-ui/
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกโอเพ่นซอร์ส: Plasma Bigscreen คืนชีพสู่จอทีวี 📺 จำโปรเจกต์ Plasma Bigscreen ได้ไหม? มันเคยเป็นความพยายามของ KDE ที่จะสร้างระบบสำหรับทีวีแบบโอเพ่นซอร์ส โดยใช้ Plasma shell ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับจอใหญ่ และเคยรองรับผู้ช่วยเสียง Mycroft ที่ตอนนี้เลิกพัฒนาไปแล้ว หลังจากถูกทิ้งไว้ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ Plasma 6 เพราะไม่มีใครพอร์ตให้ทันเวลา ล่าสุด Devin ผู้พัฒนา Plasma Mobile ได้กลับมาปลุกชีพโปรเจกต์นี้อีกครั้งในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์! เขาเริ่มจากการล้างโค้ดเก่า แล้วออกแบบ UI ใหม่ให้ทันสมัยขึ้น โดยใช้แนวคิดจาก Breeze mockups ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่: - หน้าโฮมแบบเรียบง่าย ไม่มีพื้นหลังของแผง - เอฟเฟกต์เบลอพื้นหลังขณะนำทางเมนู - ระบบค้นหาใหม่ผ่าน KRunner - Settings แบบสองแถบ พร้อม sidebar - โมดูล Wi-Fi และ KDE Connect ที่ได้รับการแก้ไข - แอนิเมชันตอนเปิดแอปแบบเดียวกับ Plasma Mobile แม้ยังไม่สมบูรณ์ เช่น ยังไม่มีคีย์บอร์ดเสมือนที่ใช้ลูกศรนำทางได้ และยังไม่มีทิศทางชัดเจนหลังจาก Mycroft หายไป แต่เป้าหมายคือการนำกลับเข้าสู่ตารางออกเวอร์ชันของ Plasma อีกครั้งในเวอร์ชัน 6.5 https://www.neowin.net/news/kdes-android-tv-alternative-plasma-bigscreen-rises-from-the-dead-with-a-better-ui/
    WWW.NEOWIN.NET
    KDE's Android TV alternative, Plasma Bigscreen, rises from the dead with a better UI
    Another KDE project, Plasma Bigscreen, is back from the dead with a much better UI spread across the entire shell.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากเงียบหายไปนานกว่า 30 ปี Commodore กลับมาอีกครั้งภายใต้การบริหารใหม่โดยกลุ่มผู้หลงใหลในเทคโนโลยีย้อนยุค นำโดย Christian ‘Peri Fractic’ Simpson ผู้ก่อตั้งช่อง Retro Recipes ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO ชั่วคราวของบริษัท

    Commodore 64 Ultimate เป็นคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่ไม่ใช่การจำลองด้วยซอฟต์แวร์ แต่ใช้ชิป AMD Artix-7 FPGA เพื่อสร้างเมนบอร์ดแบบดั้งเดิมขึ้นมาใหม่ ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับเกม ตลับ และอุปกรณ์เสริมกว่า 10,000 รายการจากยุค 80s/90s ได้จริง

    มีให้เลือก 3 รุ่น:
    - BASIC Beige ($299): รุ่นพื้นฐาน ไม่มีไฟตกแต่ง
    - Starlight Edition ($349): เคสโปร่งแสง พร้อมคีย์บอร์ดเรืองแสงแบบโต้ตอบเสียง
    - Founders Edition ($499): เคสโปร่งแสงสีอำพัน พร้อมของสะสมทองคำ 24k และหมายเลขซีเรียลพิเศษ

    สเปกเด่น:
    - RAM 128MB DDR2, Flash 16MB
    - รองรับไฟล์ .D64, .TAP, .PRG ฯลฯ
    - วิดีโอ HDMI 1080p, S-Video, RGB
    - เสียง SID แท้ + FPGA emulation
    - พอร์ตครบ: USB-A, USB-C, MicroSD, Ethernet, Wi-Fi, Cartridge, Joystick ฯลฯ
    - คีย์บอร์ดกลไก Gateron Pro 3.0 พร้อมไฟ RGB 70 จุด

    แถมฟรี:
    - คู่มือแบบเข้าใจง่าย
    - USB Cassette Drive 64GB พร้อมเกมคลาสสิกกว่า 50 เกม
    - สติกเกอร์และของสะสม

    แม้จะเปิดให้พรีออเดอร์แล้ว แต่การจัดส่งจะเริ่มเร็วที่สุดในเดือนตุลาคม และยังมีความไม่แน่นอนเรื่องการซื้อกิจการ Commodore ที่ยังไม่ปิดดีลอย่างสมบูรณ์

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/the-commodore-64-ultimate-computer-is-the-companys-first-hardware-release-in-over-30-years-pre-orders-start-at-usd299
    หลังจากเงียบหายไปนานกว่า 30 ปี Commodore กลับมาอีกครั้งภายใต้การบริหารใหม่โดยกลุ่มผู้หลงใหลในเทคโนโลยีย้อนยุค นำโดย Christian ‘Peri Fractic’ Simpson ผู้ก่อตั้งช่อง Retro Recipes ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO ชั่วคราวของบริษัท Commodore 64 Ultimate เป็นคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่ไม่ใช่การจำลองด้วยซอฟต์แวร์ แต่ใช้ชิป AMD Artix-7 FPGA เพื่อสร้างเมนบอร์ดแบบดั้งเดิมขึ้นมาใหม่ ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับเกม ตลับ และอุปกรณ์เสริมกว่า 10,000 รายการจากยุค 80s/90s ได้จริง มีให้เลือก 3 รุ่น: - BASIC Beige ($299): รุ่นพื้นฐาน ไม่มีไฟตกแต่ง - Starlight Edition ($349): เคสโปร่งแสง พร้อมคีย์บอร์ดเรืองแสงแบบโต้ตอบเสียง - Founders Edition ($499): เคสโปร่งแสงสีอำพัน พร้อมของสะสมทองคำ 24k และหมายเลขซีเรียลพิเศษ สเปกเด่น: - RAM 128MB DDR2, Flash 16MB - รองรับไฟล์ .D64, .TAP, .PRG ฯลฯ - วิดีโอ HDMI 1080p, S-Video, RGB - เสียง SID แท้ + FPGA emulation - พอร์ตครบ: USB-A, USB-C, MicroSD, Ethernet, Wi-Fi, Cartridge, Joystick ฯลฯ - คีย์บอร์ดกลไก Gateron Pro 3.0 พร้อมไฟ RGB 70 จุด แถมฟรี: - คู่มือแบบเข้าใจง่าย - USB Cassette Drive 64GB พร้อมเกมคลาสสิกกว่า 50 เกม - สติกเกอร์และของสะสม แม้จะเปิดให้พรีออเดอร์แล้ว แต่การจัดส่งจะเริ่มเร็วที่สุดในเดือนตุลาคม และยังมีความไม่แน่นอนเรื่องการซื้อกิจการ Commodore ที่ยังไม่ปิดดีลอย่างสมบูรณ์ https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/the-commodore-64-ultimate-computer-is-the-companys-first-hardware-release-in-over-30-years-pre-orders-start-at-usd299
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    The Commodore 64 Ultimate computer is the company's first hardware release in over 30 years — pre-orders start at $299
    No software emulation, this 'faithful recreation of the original motherboard' runs on an AMD Artix 7 FPGA.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าเรามอง mini PC แบบเดิมว่าเล็กน่ารักไว้แค่ทำงานเบา ๆ…อันนี้คือคนละโลกเลยครับ Abee AI Station มาในขนาดตัวเครื่อง 21x22x15 ซม. เท่านั้น — แต่ภายในยัดชิป Ryzen AI Max 395 (Strix Halo) ที่มี 16 คอร์ 32 เธรด + AI NPU แรงระดับ 126 TOPS + GPU Radeon 8600S ความเร็ว 2900MHz และหน่วยความจำรวมถึง 128GB LPDDR5X @8000MT/s กับ GPU memory shared ได้สูงสุดถึง 96GB

    แถมยังใช้ liquid cooling แบบครบชุด มีหม้อน้ำเล็ก ๆ, ปั๊มน้ำในตัว, และพัดลม 92mm คู่ → รองรับการ inferencing model AI ขนาดใหญ่ในเครื่องเดียว ไม่ต้องเชื่อมต่อคลาวด์ → PSU ก็จัดให้ในตัว 400W (Platinum-rated)

    นอกจากนี้ยังมากับ เมนบอร์ดแบบ ATX12VO custom, รองรับ LAN 2.5GbE และ 10GbE, จอ AOC QHD 27 นิ้ว, กล้อง V700, และชุดคีย์บอร์ด–เมาส์ไร้สายครบเซต

    แม้ยังไม่มี benchmark ภาคสนาม แต่สเปกแบบนี้เรียกได้ว่า “เกินหน้า Mac Studio M2 Ultra” ไปพอสมควรเลยครับ โดยเฉพาะถ้าเน้นใช้งาน AI inference ภายในแบบ local ไม่ต้องพึ่งคลาวด์

    Abee เปิดตัว Mini PC ชื่อ AI Station ที่ใช้ชิป Ryzen AI Max 395 (Strix Halo)  
    • 16 คอร์ 32 เธรด, Boost ได้ถึง 5.1GHz  
    • NPU รองรับ 126 TOPS, เป็นระดับสูงสุดของฝั่ง AMD ตอนนี้

    มี GPU Radeon 8600S ทำงานที่ 2900MHz + shared memory ได้ถึง 96GB  
    • GPU ในตัว APU แต่แรงพอตัวสำหรับ inferencing

    RAM 128GB LPDDR5X @8000MT/s แบบฝัง (soldered)  
    • เน้นประสิทธิภาพสูง แต่ไม่สามารถอัปเกรดภายหลังได้

    ระบบระบายความร้อนแบบน้ำ ขนาดเล็กในตัวเครื่อง + พัดลม 92mm 2 ตัว  
    • ปั๊มน้ำอยู่บน APU โดยตรง

    PSU แบบ Flex ATX กำลังไฟ 400W ในเครื่อง + เมนบอร์ด ATX12VO แบบ custom  
    • ไม่มีพอร์ตไฟ 24-pin แบบเดิม

    มี LAN 2.5Gbps และ 10Gbps + จอ QHD + กล้อง + คีย์บอร์ด–เมาส์ เป็น Ecosystem พร้อมใช้

    เหมาะกับการรัน AI model ขนาดกลาง–ใหญ่ แบบ local (ไม่ต้องใช้ cloud)  
    • ใช้ได้ทั้ง inference, fine-tune, และ edge AI

    https://www.techradar.com/pro/chinese-vendor-launches-liquid-cooled-mini-pc-powered-by-amds-most-powerful-ai-processor-with-a-built-in-400w-psu
    ถ้าเรามอง mini PC แบบเดิมว่าเล็กน่ารักไว้แค่ทำงานเบา ๆ…อันนี้คือคนละโลกเลยครับ Abee AI Station มาในขนาดตัวเครื่อง 21x22x15 ซม. เท่านั้น — แต่ภายในยัดชิป Ryzen AI Max 395 (Strix Halo) ที่มี 16 คอร์ 32 เธรด + AI NPU แรงระดับ 126 TOPS + GPU Radeon 8600S ความเร็ว 2900MHz และหน่วยความจำรวมถึง 128GB LPDDR5X @8000MT/s กับ GPU memory shared ได้สูงสุดถึง 96GB แถมยังใช้ liquid cooling แบบครบชุด มีหม้อน้ำเล็ก ๆ, ปั๊มน้ำในตัว, และพัดลม 92mm คู่ → รองรับการ inferencing model AI ขนาดใหญ่ในเครื่องเดียว ไม่ต้องเชื่อมต่อคลาวด์ → PSU ก็จัดให้ในตัว 400W (Platinum-rated) นอกจากนี้ยังมากับ เมนบอร์ดแบบ ATX12VO custom, รองรับ LAN 2.5GbE และ 10GbE, จอ AOC QHD 27 นิ้ว, กล้อง V700, และชุดคีย์บอร์ด–เมาส์ไร้สายครบเซต แม้ยังไม่มี benchmark ภาคสนาม แต่สเปกแบบนี้เรียกได้ว่า “เกินหน้า Mac Studio M2 Ultra” ไปพอสมควรเลยครับ โดยเฉพาะถ้าเน้นใช้งาน AI inference ภายในแบบ local ไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ✅ Abee เปิดตัว Mini PC ชื่อ AI Station ที่ใช้ชิป Ryzen AI Max 395 (Strix Halo)   • 16 คอร์ 32 เธรด, Boost ได้ถึง 5.1GHz   • NPU รองรับ 126 TOPS, เป็นระดับสูงสุดของฝั่ง AMD ตอนนี้ ✅ มี GPU Radeon 8600S ทำงานที่ 2900MHz + shared memory ได้ถึง 96GB   • GPU ในตัว APU แต่แรงพอตัวสำหรับ inferencing ✅ RAM 128GB LPDDR5X @8000MT/s แบบฝัง (soldered)   • เน้นประสิทธิภาพสูง แต่ไม่สามารถอัปเกรดภายหลังได้ ✅ ระบบระบายความร้อนแบบน้ำ ขนาดเล็กในตัวเครื่อง + พัดลม 92mm 2 ตัว   • ปั๊มน้ำอยู่บน APU โดยตรง ✅ PSU แบบ Flex ATX กำลังไฟ 400W ในเครื่อง + เมนบอร์ด ATX12VO แบบ custom   • ไม่มีพอร์ตไฟ 24-pin แบบเดิม ✅ มี LAN 2.5Gbps และ 10Gbps + จอ QHD + กล้อง + คีย์บอร์ด–เมาส์ เป็น Ecosystem พร้อมใช้ ✅ เหมาะกับการรัน AI model ขนาดกลาง–ใหญ่ แบบ local (ไม่ต้องใช้ cloud)   • ใช้ได้ทั้ง inference, fine-tune, และ edge AI https://www.techradar.com/pro/chinese-vendor-launches-liquid-cooled-mini-pc-powered-by-amds-most-powerful-ai-processor-with-a-built-in-400w-psu
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวานเพิ่งกลับมาจากชุมพร แต่ก็คุ้มค่าที่ไป ไม่เสียแรงเลยที่ไป แถมได้เสื้อช็อปวิศวฯลาดกระบัง เมาส์เก่าที่ไม่ได้ใช้แล้ว 2 อัน อันนึงเพื้ยน อันนึงไม่เพื้ยน ส่วนคีย์บอร์ดไม่มี น่าจะต้องซื้อใหม่ และหนังสือสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ (รอดจากปลวกรับประทาน เลยสามารถอ่านหนังสือเล่มนั้นได้) และก็ได้เรียนรู้วิธีซ่อมปลั๊กไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าให้กลับมาใช้การได้ เดี๋ยวคฃงต้องดูอะไหล่พัดลม อะไหล่เมาส์ และซ่อมเมาส์ ซื้อตะกั่วบัดกรีไว้ซ่อมเมาส์หรือคีย์บอร์ด ไม่ก็หาทางโมดิฟายคีย์บอร์ดและเมาส์เอา
    พักนี้ก็น่าจะ Maplestory อย่างเดียวและเล่นยาวๆนะครับ
    เมื่อวานเพิ่งกลับมาจากชุมพร แต่ก็คุ้มค่าที่ไป ไม่เสียแรงเลยที่ไป แถมได้เสื้อช็อปวิศวฯลาดกระบัง เมาส์เก่าที่ไม่ได้ใช้แล้ว 2 อัน อันนึงเพื้ยน อันนึงไม่เพื้ยน ส่วนคีย์บอร์ดไม่มี น่าจะต้องซื้อใหม่ และหนังสือสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ (รอดจากปลวกรับประทาน เลยสามารถอ่านหนังสือเล่มนั้นได้) และก็ได้เรียนรู้วิธีซ่อมปลั๊กไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าให้กลับมาใช้การได้ เดี๋ยวคฃงต้องดูอะไหล่พัดลม อะไหล่เมาส์ และซ่อมเมาส์ ซื้อตะกั่วบัดกรีไว้ซ่อมเมาส์หรือคีย์บอร์ด ไม่ก็หาทางโมดิฟายคีย์บอร์ดและเมาส์เอา พักนี้ก็น่าจะ Maplestory อย่างเดียวและเล่นยาวๆนะครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • BD-663 คีย์บอร์ดไฟฟ้า 61 คีย์ Keyboard ไฟฟ้าคีย์บอร์ด เปียโนคีย์บอร์ด ใส่ถ่านได้ ฟรีไมค์โครโฟน อแดปเตอร์ และที่วางโน๊ต
    พิกัด: https://s.shopee.co.th/4AoZTVHeaW
    BD-663 คีย์บอร์ดไฟฟ้า 61 คีย์ Keyboard ไฟฟ้าคีย์บอร์ด เปียโนคีย์บอร์ด ใส่ถ่านได้ ฟรีไมค์โครโฟน อแดปเตอร์ และที่วางโน๊ต พิกัด: https://s.shopee.co.th/4AoZTVHeaW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวานและวันนี้ ภูมิใจไทย คือ MVP และตอนนี้ได้เห็นปรากฎการณ์ส้มแบกแดง แดงแบกส้ม อีกในไม่ช้านี้แล้ว รทสช. กลุ่มหนุนลุงพีน่าจะถอนตัว เหลือแต่ไอ้เฮ้งนิวพาวเวอร์วอเตอร์เมโทรโปลิสที่ยังรวบรวมคนหักหลังลุงพีจัดตั้งพรรคใหม่ กระทรวงพลังงานก็น่าจะไม่พ้นเอื้อมมือ เงื้อมมือไอ้เสี่ยเพ้ง พท. แน่นอน กระทรวงศึกษาธิการ ก็หวานเจี๊ยบไอ้อ๋อยเขาสิครับ อว.น่าจะปลอดประสพไม่ก็ลูกชายมัน
    และปลายเดือนนี้ผมอาจแวะบ้านเก่า เที่ยวใต้ ล่องใต้ ก่อนกลับมาก็น่าจะเอาเสื้อช็อปวิศวะฯลาดกระบัง เมาส์เก่า คีย์บอร์ดเก่า ขึ้นมาด้วยเพราะไม่มีใครใช้ และวันนี้ก็ซื้อเมาส์ใหม่ แต่ก็ดีกว่าของ UNO ที่ซื้อมาจาก CJ คีย์บอร์ดพอรับได้ แต่ เมาส์ นี่รับไม่ได้เลย ไม่น่าเสียดายตังซื้อเลย แต่ก็ได้รับบทเรียนเต็มๆ จากปัญหาเมาส์เพี้ยน
    ไม่ทิ้ง แต่เก็บไว้ชำแหละเผื่ออยากจะขึ้นรูปเมาส์ใหม่ โหดกว่าเดิม ไม่เพี้ยน ไม่ดับเบิ้ลทริปเปิ้ลคลิก ลูกเล่นอีกเยอะ
    แผ่นรองพัดลมทำความเย็นโน้ตบุ๊กก็ NUBWO แต่ล่าสุดเมาส์ก็ NUBWO อีก แต่ก็เลือกซื้อแบรนด์นี่นั่นแหละดีแล้ว
    เมื่อวานและวันนี้ ภูมิใจไทย คือ MVP และตอนนี้ได้เห็นปรากฎการณ์ส้มแบกแดง แดงแบกส้ม อีกในไม่ช้านี้แล้ว รทสช. กลุ่มหนุนลุงพีน่าจะถอนตัว เหลือแต่ไอ้เฮ้งนิวพาวเวอร์วอเตอร์เมโทรโปลิสที่ยังรวบรวมคนหักหลังลุงพีจัดตั้งพรรคใหม่ กระทรวงพลังงานก็น่าจะไม่พ้นเอื้อมมือ เงื้อมมือไอ้เสี่ยเพ้ง พท. แน่นอน กระทรวงศึกษาธิการ ก็หวานเจี๊ยบไอ้อ๋อยเขาสิครับ อว.น่าจะปลอดประสพไม่ก็ลูกชายมัน และปลายเดือนนี้ผมอาจแวะบ้านเก่า เที่ยวใต้ ล่องใต้ ก่อนกลับมาก็น่าจะเอาเสื้อช็อปวิศวะฯลาดกระบัง เมาส์เก่า คีย์บอร์ดเก่า ขึ้นมาด้วยเพราะไม่มีใครใช้ และวันนี้ก็ซื้อเมาส์ใหม่ แต่ก็ดีกว่าของ UNO ที่ซื้อมาจาก CJ คีย์บอร์ดพอรับได้ แต่ เมาส์ นี่รับไม่ได้เลย ไม่น่าเสียดายตังซื้อเลย แต่ก็ได้รับบทเรียนเต็มๆ จากปัญหาเมาส์เพี้ยน ไม่ทิ้ง แต่เก็บไว้ชำแหละเผื่ออยากจะขึ้นรูปเมาส์ใหม่ โหดกว่าเดิม ไม่เพี้ยน ไม่ดับเบิ้ลทริปเปิ้ลคลิก ลูกเล่นอีกเยอะ แผ่นรองพัดลมทำความเย็นโน้ตบุ๊กก็ NUBWO แต่ล่าสุดเมาส์ก็ NUBWO อีก แต่ก็เลือกซื้อแบรนด์นี่นั่นแหละดีแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 0 รีวิว
  • Plasma 6.4: ปรับปรุง UI และแก้ไขบั๊กก่อนเปิดตัวเวอร์ชันเสถียร
    ทีมพัฒนา KDE ได้เผยรายละเอียดเกี่ยวกับ Plasma 6.4 ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 17 มิถุนายน 2025 โดยเน้นไปที่ การปรับปรุง UI และแก้ไขบั๊กจำนวนมาก เพื่อให้ระบบมีความเสถียรและใช้งานได้ดีขึ้น

    Plasma 6.4 ได้รับการปรับปรุง ระบบตั้งค่า Wi-Fi ให้สามารถ นำทางรายการเครือข่ายด้วยคีย์บอร์ดได้เต็มรูปแบบ นอกจากนี้ การลากและวางหน้าจอซ้อนกันในหน้าการตั้งค่ามอนิเตอร์ถูกปิดใช้งาน เพื่อป้องกัน การจัดเรียงที่ไม่รองรับและเกิดบั๊กแปลก ๆ

    ข้อมูลจากข่าว
    - Plasma 6.4 จะเปิดตัวในวันที่ 17 มิถุนายน 2025
    - ปรับปรุง UI ในหน้าตั้งค่า Wi-Fi ให้สามารถนำทางด้วยคีย์บอร์ดได้เต็มรูปแบบ
    - ปิดการลากและวางหน้าจอซ้อนกันในหน้าการตั้งค่ามอนิเตอร์เพื่อป้องกันบั๊ก
    - แก้ไขปัญหาการแสดงผล Logout Screen ที่ผิดพลาดหลังปลุกเครื่องจากโหมด Sleep
    - แก้ไขการจัดเรียงตัวอักษรในหน้าตั้งค่าของ Digital Clock Widget

    รายละเอียดการแก้ไขบั๊ก
    ทีมพัฒนา KDE ได้แก้ไข บั๊กที่พบบ่อยที่สุดใน System Monitor รวมถึง บั๊กที่ทำให้หน้าต่างหายไปเมื่อหน้าจอที่แสดงผลอยู่ถูกถอดออก นอกจากนี้ Sticky Notes Widget ได้รับการแก้ไขเพื่อไม่ให้ทำให้ Plasma Shell ค้าง

    ข้อมูลจากข่าว
    - แก้ไขบั๊กที่ทำให้ System Monitor ล่มบ่อยที่สุด
    - แก้ไขบั๊ก Divide-by-Zero ใน System Monitor
    - แก้ไขปัญหาหน้าต่างหายไปเมื่อหน้าจอที่แสดงผลอยู่ถูกถอดออก
    - Sticky Notes Widget ไม่ทำให้ Plasma Shell ค้างอีกต่อไป
    - แก้ไขบั๊กที่ทำให้ Discover ล่มเมื่อปิดแอปพลิเคชันทันทีหลังเปิด

    อนาคตของ Plasma 6.5
    แม้ว่าทีมพัฒนาจะมุ่งเน้นไปที่ Plasma 6.4 แต่การพัฒนา Plasma 6.5 ก็กำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็ว โดยมีการปรับปรุง ประสิทธิภาพและการจัดการหน่วยความจำ รวมถึง การแก้ไขบั๊กที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อเครือข่าย

    https://www.neowin.net/news/kde-brings-ui-improvements-bug-fixes-and-more-to-plasma-64-as-stable-release-draws-near/
    🖥️ Plasma 6.4: ปรับปรุง UI และแก้ไขบั๊กก่อนเปิดตัวเวอร์ชันเสถียร ทีมพัฒนา KDE ได้เผยรายละเอียดเกี่ยวกับ Plasma 6.4 ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 17 มิถุนายน 2025 โดยเน้นไปที่ การปรับปรุง UI และแก้ไขบั๊กจำนวนมาก เพื่อให้ระบบมีความเสถียรและใช้งานได้ดีขึ้น Plasma 6.4 ได้รับการปรับปรุง ระบบตั้งค่า Wi-Fi ให้สามารถ นำทางรายการเครือข่ายด้วยคีย์บอร์ดได้เต็มรูปแบบ นอกจากนี้ การลากและวางหน้าจอซ้อนกันในหน้าการตั้งค่ามอนิเตอร์ถูกปิดใช้งาน เพื่อป้องกัน การจัดเรียงที่ไม่รองรับและเกิดบั๊กแปลก ๆ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Plasma 6.4 จะเปิดตัวในวันที่ 17 มิถุนายน 2025 - ปรับปรุง UI ในหน้าตั้งค่า Wi-Fi ให้สามารถนำทางด้วยคีย์บอร์ดได้เต็มรูปแบบ - ปิดการลากและวางหน้าจอซ้อนกันในหน้าการตั้งค่ามอนิเตอร์เพื่อป้องกันบั๊ก - แก้ไขปัญหาการแสดงผล Logout Screen ที่ผิดพลาดหลังปลุกเครื่องจากโหมด Sleep - แก้ไขการจัดเรียงตัวอักษรในหน้าตั้งค่าของ Digital Clock Widget 🔧 รายละเอียดการแก้ไขบั๊ก ทีมพัฒนา KDE ได้แก้ไข บั๊กที่พบบ่อยที่สุดใน System Monitor รวมถึง บั๊กที่ทำให้หน้าต่างหายไปเมื่อหน้าจอที่แสดงผลอยู่ถูกถอดออก นอกจากนี้ Sticky Notes Widget ได้รับการแก้ไขเพื่อไม่ให้ทำให้ Plasma Shell ค้าง ✅ ข้อมูลจากข่าว - แก้ไขบั๊กที่ทำให้ System Monitor ล่มบ่อยที่สุด - แก้ไขบั๊ก Divide-by-Zero ใน System Monitor - แก้ไขปัญหาหน้าต่างหายไปเมื่อหน้าจอที่แสดงผลอยู่ถูกถอดออก - Sticky Notes Widget ไม่ทำให้ Plasma Shell ค้างอีกต่อไป - แก้ไขบั๊กที่ทำให้ Discover ล่มเมื่อปิดแอปพลิเคชันทันทีหลังเปิด 🚀 อนาคตของ Plasma 6.5 แม้ว่าทีมพัฒนาจะมุ่งเน้นไปที่ Plasma 6.4 แต่การพัฒนา Plasma 6.5 ก็กำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็ว โดยมีการปรับปรุง ประสิทธิภาพและการจัดการหน่วยความจำ รวมถึง การแก้ไขบั๊กที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อเครือข่าย https://www.neowin.net/news/kde-brings-ui-improvements-bug-fixes-and-more-to-plasma-64-as-stable-release-draws-near/
    WWW.NEOWIN.NET
    KDE brings UI improvements, bug fixes and more to Plasma 6.4 as stable release draws near
    KDE has shared its progress for the week, including bug fixes set to ship with Plasma 6.4, performance improvements targeting 6.5, and more.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุปงาน Computex 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 พฤษภาคม 2568 ณ กรุงไทเป ไต้หวัน ภายใต้ธีม “AI Next” ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เน้น AI, หุ่นยนต์, เทคโนโลยีรุ่นถัดไป และการเคลื่อนที่แห่งอนาคต นี่คือสรุปผลิตภัณฑ์ใหม่เด่นๆ จากงาน:

    1️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก NVIDIA
    • GeForce RTX 50 Series: การ์ดจอรุ่นใหม่ เช่น RTX 5060, 5070 Ti, 5080, และ 5090 เน้นประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมและงาน AI มีฟีเจอร์ DLSS 4 และ Multi Frame Generation เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด.
    • DGX Spark และ DGX Station: อุปกรณ์สำหรับการวิจัยและพัฒนา AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล AI.
    • NVLink Fusion: เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบกึ่งสำเร็จรูป ช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพสำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI.
    • AI Infrastructure: NVIDIA ผลักดันวิสัยทัศน์โรงงาน AI และการพัฒนา agentic AI รวมถึง physical AI สำหรับหุ่นยนต์และโทรคมนาคม.

    2️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Intel
    • Core Ultra 200V Series Processors: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI, ความปลอดภัย และความเร็วสำหรับงานทุกประเภท.
    • Xeon 6 Processors และ Gaudi 3 AI Accelerators: ออกแบบสำหรับศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น.
    • Intel Arc Pro B50 และ B60: การ์ดกราฟิกสำหรับงาน AI และเวิร์คสเตชันระดับมืออาชีพ.

    3️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก AMD
    • Radeon RX 9060 XT: การ์ดจอรุ่นใหม่ ใช้สถาปัตยกรรม Navi 44 มีหน่วยความจำ GDDR6 สูงสุด 16GB และเพิ่มประสิทธิภาพ Ray Tracing 2 เท่า ราคาเริ่มต้น 299 ดอลลาร์.
    • Ryzen Threadripper 9000 Series: CPU สำหรับเดสก์ท็อปและเวิร์คสเตชัน รุ่นท็อป Ryzen 9 9995WX มี 96 คอร์ 192 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.4GHz.
    • Ryzen AI Max: CPU สำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์ เพิ่มประสิทธิภาพและแบตเตอรี่.

    4️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MSI
    • Claw A8 BZ2EM และ Claw 7 A2HM: เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ รองรับทั้งโปรเซสเซอร์ Intel และ AMD มีรุ่น Polar Tempest Edition สีขาวพร้อมสตอเรจเพิ่มเป็น 2 เท่า.
    • QD-OLED Monitor และ MEG Vision X AI PC: จอมอนิเตอร์และพีซีที่ผสาน AI เช่น AI Care Sensor และ AI Navigator เพื่อป้องกัน burn-in และปรับแต่งการตั้งค่า.
    • Titan 18 HX Dragon Edition: เดสก์ท็อปพรีเมียมพร้อมจอสัมผัส 13 นิ้วที่ด้านหน้า รองรับ RTX 5090 และ Intel Core Ultra 9 CPU.

    5️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก ASUS
    • ROG Ally X และ ROG Ally 2 (คาดการณ์): เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Z2 Extreme และอาจมี Windows รุ่นปรับแต่งให้เหมาะกับแฮนด์เฮลด์.
    • ProArt RTX 5080: การ์ดจอสำหรับครีเอเตอร์ มีพอร์ต USB-C และสล็อต M.2 SSD พร้อมดีไซน์ไม้เทียม.
    • ROG Bulwark Dock: ด็อก 7-in-1 สำหรับแฮนด์เฮลด์ รองรับ 4K 144Hz ผ่าน HDMI 2.1.

    6️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MediaTek
    • AI Solutions: นำเสนอวิสัยทัศน์ “AI for Everyone: From Edge to Cloud” รวมถึง AI ในสมาร์ทโฟน บ้านอัจฉริยะ รถยนต์ และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ผสานกับ NVIDIA สำหรับโซลูชัน AI ครบวงจร.
    • Smart Auto Central และ Hybrid AI Computing: โซลูชันสำหรับยานยนต์และการประมวลผลแบบผสมผสานระหว่าง edge และ cloud.

    7️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Kingston
    • XS1000 และ XS2000 SSD: SSD แบบพกพาดีไซน์ใหม่ เน้นความเร็วและพกพาสะดวก.
    • DataTraveler Exodia S USB Flash Drive: แฟลชไดรฟ์ USB 3.2 Gen 1 ดีไซน์เพรียวบาง ใช้งานง่าย.
    • Future City Showcase: นำเสนอโซลูชันหน่วยความจำสำหรับ AI, หุ่นยนต์, เกมมิ่ง และอุตสาหกรรมการบิน.

    8️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก GIGABYTE
    • AORUS MASTER 16 AI PC: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI.
    • GIGAPOD และ AIOps Platform: โซลูชันซูเปอร์คอมพิวติ้งสำหรับ AI และศูนย์ข้อมูล.
    • BRIX AI Mini-PCs: มินิพีซีที่ใช้ AMD Ryzen 7 PRO และ Intel Core Ultra CPU พร้อม NPU สำหรับ edge computing.

    9️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Supermicro
    • High-Performance Server Architectures: เซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงและโซลูชันระบายความร้อนด้วยของเหลวสำหรับ AI และ HPC.
    • Green Computing Initiatives: เทคโนโลยีประหยัดพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูล.

     ผลิตภัณฑ์อื่นๆ
    • Acer Predator Triton 14 AI: แล็ปท็อปเกมมิ่งดีไซน์พรีเมียม ใช้ RTX 50-series และมีสารเคลือบป้องกันรอยนิ้วมือ.
    • Acer PD243Y E: จอมอนิเตอร์พกพาแบบ dual-screen สำหรับการทำงานนอกสถานที่.
    • Cherry MX Honey Switches: สวิตช์คีย์บอร์ดที่ให้ความรู้สึกแบบเมคานิคอลแต่ลดเสียงรบกวน.
    • Phison aiDAPTIV+: โซลูชันสำหรับการฝึก LLM ในสถานที่โดยไม่ต้องใช้ GPU จำนวนมาก เน้นความเป็นส่วนตัวและประหยัดต้นทุน.
    • V-Color Xfinity Manta DDR5 RAM: RAM พร้อมจอ LCD แสดงข้อมูลเช่น ความเร็วและแรงดันไฟ.
    • Thermaltake MineCube 360: ระบบระบายความร้อน AIO พร้อมจอ 720x720 แสดงภาพ Minecraft.

    สรุป
    งาน Computex 2025 เน้นหนักไปที่ AI ในทุกมิติ ตั้งแต่การ์ดจอ, CPU, เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์, แล็ปท็อป, ไปจนถึงโซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูลและ edge computing นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพการเล่นเกม, การประหยัดพลังงาน และอุปกรณ์พกพาที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ผู้ผลิตอย่าง NVIDIA, Intel, AMD, MSI, ASUS, MediaTek และ Kingston ต่างนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคทั่วไปและภาคธุรกิจ
    สรุปงาน Computex 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 พฤษภาคม 2568 ณ กรุงไทเป ไต้หวัน ภายใต้ธีม “AI Next” ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เน้น AI, หุ่นยนต์, เทคโนโลยีรุ่นถัดไป และการเคลื่อนที่แห่งอนาคต นี่คือสรุปผลิตภัณฑ์ใหม่เด่นๆ จากงาน: 1️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก NVIDIA • GeForce RTX 50 Series: การ์ดจอรุ่นใหม่ เช่น RTX 5060, 5070 Ti, 5080, และ 5090 เน้นประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมและงาน AI มีฟีเจอร์ DLSS 4 และ Multi Frame Generation เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด. • DGX Spark และ DGX Station: อุปกรณ์สำหรับการวิจัยและพัฒนา AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล AI. • NVLink Fusion: เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบกึ่งสำเร็จรูป ช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพสำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI. • AI Infrastructure: NVIDIA ผลักดันวิสัยทัศน์โรงงาน AI และการพัฒนา agentic AI รวมถึง physical AI สำหรับหุ่นยนต์และโทรคมนาคม. 2️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Intel • Core Ultra 200V Series Processors: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI, ความปลอดภัย และความเร็วสำหรับงานทุกประเภท. • Xeon 6 Processors และ Gaudi 3 AI Accelerators: ออกแบบสำหรับศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น. • Intel Arc Pro B50 และ B60: การ์ดกราฟิกสำหรับงาน AI และเวิร์คสเตชันระดับมืออาชีพ. 3️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก AMD • Radeon RX 9060 XT: การ์ดจอรุ่นใหม่ ใช้สถาปัตยกรรม Navi 44 มีหน่วยความจำ GDDR6 สูงสุด 16GB และเพิ่มประสิทธิภาพ Ray Tracing 2 เท่า ราคาเริ่มต้น 299 ดอลลาร์. • Ryzen Threadripper 9000 Series: CPU สำหรับเดสก์ท็อปและเวิร์คสเตชัน รุ่นท็อป Ryzen 9 9995WX มี 96 คอร์ 192 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.4GHz. • Ryzen AI Max: CPU สำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์ เพิ่มประสิทธิภาพและแบตเตอรี่. 4️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MSI • Claw A8 BZ2EM และ Claw 7 A2HM: เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ รองรับทั้งโปรเซสเซอร์ Intel และ AMD มีรุ่น Polar Tempest Edition สีขาวพร้อมสตอเรจเพิ่มเป็น 2 เท่า. • QD-OLED Monitor และ MEG Vision X AI PC: จอมอนิเตอร์และพีซีที่ผสาน AI เช่น AI Care Sensor และ AI Navigator เพื่อป้องกัน burn-in และปรับแต่งการตั้งค่า. • Titan 18 HX Dragon Edition: เดสก์ท็อปพรีเมียมพร้อมจอสัมผัส 13 นิ้วที่ด้านหน้า รองรับ RTX 5090 และ Intel Core Ultra 9 CPU. 5️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก ASUS • ROG Ally X และ ROG Ally 2 (คาดการณ์): เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Z2 Extreme และอาจมี Windows รุ่นปรับแต่งให้เหมาะกับแฮนด์เฮลด์. • ProArt RTX 5080: การ์ดจอสำหรับครีเอเตอร์ มีพอร์ต USB-C และสล็อต M.2 SSD พร้อมดีไซน์ไม้เทียม. • ROG Bulwark Dock: ด็อก 7-in-1 สำหรับแฮนด์เฮลด์ รองรับ 4K 144Hz ผ่าน HDMI 2.1. 6️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MediaTek • AI Solutions: นำเสนอวิสัยทัศน์ “AI for Everyone: From Edge to Cloud” รวมถึง AI ในสมาร์ทโฟน บ้านอัจฉริยะ รถยนต์ และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ผสานกับ NVIDIA สำหรับโซลูชัน AI ครบวงจร. • Smart Auto Central และ Hybrid AI Computing: โซลูชันสำหรับยานยนต์และการประมวลผลแบบผสมผสานระหว่าง edge และ cloud. 7️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Kingston • XS1000 และ XS2000 SSD: SSD แบบพกพาดีไซน์ใหม่ เน้นความเร็วและพกพาสะดวก. • DataTraveler Exodia S USB Flash Drive: แฟลชไดรฟ์ USB 3.2 Gen 1 ดีไซน์เพรียวบาง ใช้งานง่าย. • Future City Showcase: นำเสนอโซลูชันหน่วยความจำสำหรับ AI, หุ่นยนต์, เกมมิ่ง และอุตสาหกรรมการบิน. 8️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก GIGABYTE • AORUS MASTER 16 AI PC: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI. • GIGAPOD และ AIOps Platform: โซลูชันซูเปอร์คอมพิวติ้งสำหรับ AI และศูนย์ข้อมูล. • BRIX AI Mini-PCs: มินิพีซีที่ใช้ AMD Ryzen 7 PRO และ Intel Core Ultra CPU พร้อม NPU สำหรับ edge computing. 9️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Supermicro • High-Performance Server Architectures: เซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงและโซลูชันระบายความร้อนด้วยของเหลวสำหรับ AI และ HPC. • Green Computing Initiatives: เทคโนโลยีประหยัดพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูล. 🔟 ผลิตภัณฑ์อื่นๆ • Acer Predator Triton 14 AI: แล็ปท็อปเกมมิ่งดีไซน์พรีเมียม ใช้ RTX 50-series และมีสารเคลือบป้องกันรอยนิ้วมือ. • Acer PD243Y E: จอมอนิเตอร์พกพาแบบ dual-screen สำหรับการทำงานนอกสถานที่. • Cherry MX Honey Switches: สวิตช์คีย์บอร์ดที่ให้ความรู้สึกแบบเมคานิคอลแต่ลดเสียงรบกวน. • Phison aiDAPTIV+: โซลูชันสำหรับการฝึก LLM ในสถานที่โดยไม่ต้องใช้ GPU จำนวนมาก เน้นความเป็นส่วนตัวและประหยัดต้นทุน. • V-Color Xfinity Manta DDR5 RAM: RAM พร้อมจอ LCD แสดงข้อมูลเช่น ความเร็วและแรงดันไฟ. • Thermaltake MineCube 360: ระบบระบายความร้อน AIO พร้อมจอ 720x720 แสดงภาพ Minecraft. 💯 สรุป 💯 งาน Computex 2025 เน้นหนักไปที่ AI ในทุกมิติ ตั้งแต่การ์ดจอ, CPU, เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์, แล็ปท็อป, ไปจนถึงโซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูลและ edge computing นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพการเล่นเกม, การประหยัดพลังงาน และอุปกรณ์พกพาที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ผู้ผลิตอย่าง NVIDIA, Intel, AMD, MSI, ASUS, MediaTek และ Kingston ต่างนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคทั่วไปและภาคธุรกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 641 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) คือ กลุ่มอาการที่เกิดจากการทำงานในลักษณะที่ซ้ำ ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานเกินไป หรือมีท่าทางที่ไม่เหมาะสม เช่น ก้มคอ พิงพนัก พิมพ์คีย์บอร์ดนาน ๆ ส่งผลให้เกิดความตึงของกล้ามเนื้อ และเส้นประสาท โดยเฉพาะที่บริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง และข้อมือ

    อาการที่พบบ่อย ได้แก่:
    • ปวดเมื่อยบริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง
    • ชา ปวดร้าวลงแขนหรือมือ (อาจเกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับ)
    • ปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อตึง
    • อ่อนแรงในแขนหรือมือ
    • อาการนอนไม่หลับจากความไม่สบายตัว

    สาเหตุหลัก:
    • นั่งทำงานท่าเดิมนานเกินไป
    • ท่าทางการนั่งไม่ถูกหลัก (เช่น หลังค่อม คอเอียง)
    • โต๊ะ เก้าอี้ หรือหน้าจอคอมไม่เหมาะกับสรีระ
    • ขาดการยืดเหยียด หรือพักระหว่างการทำงาน

    ✅️ แนวทางการป้องกันและบรรเทา:
    • ลุกยืดเหยียดทุก 30-60 นาที
    • ปรับท่านั่งและอุปกรณ์ให้เหมาะสม
    • ออกกำลังกายเพื่อยืดกล้ามเนื้อและเสริมความแข็งแรง
    • การทำกายภาพบำบัดหรือนวดผ่อนคลายเฉพาะจุด

    หากมีอาการต่อเนื่อง หรือรุนแรง ควรพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านกล้ามเนื้อกระดูกและเส้นประสาท.
    📌#ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) คือ กลุ่มอาการที่เกิดจากการทำงานในลักษณะที่ซ้ำ ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานเกินไป หรือมีท่าทางที่ไม่เหมาะสม เช่น ก้มคอ พิงพนัก พิมพ์คีย์บอร์ดนาน ๆ ส่งผลให้เกิดความตึงของกล้ามเนื้อ และเส้นประสาท โดยเฉพาะที่บริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง และข้อมือ อาการที่พบบ่อย ได้แก่: • ปวดเมื่อยบริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง • ชา ปวดร้าวลงแขนหรือมือ (อาจเกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับ) • ปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อตึง • อ่อนแรงในแขนหรือมือ • อาการนอนไม่หลับจากความไม่สบายตัว สาเหตุหลัก: • นั่งทำงานท่าเดิมนานเกินไป • ท่าทางการนั่งไม่ถูกหลัก (เช่น หลังค่อม คอเอียง) • โต๊ะ เก้าอี้ หรือหน้าจอคอมไม่เหมาะกับสรีระ • ขาดการยืดเหยียด หรือพักระหว่างการทำงาน ✅️ แนวทางการป้องกันและบรรเทา: • ลุกยืดเหยียดทุก 30-60 นาที • ปรับท่านั่งและอุปกรณ์ให้เหมาะสม • ออกกำลังกายเพื่อยืดกล้ามเนื้อและเสริมความแข็งแรง • การทำกายภาพบำบัดหรือนวดผ่อนคลายเฉพาะจุด หากมีอาการต่อเนื่อง หรือรุนแรง ควรพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านกล้ามเนื้อกระดูกและเส้นประสาท.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 419 มุมมอง 0 รีวิว
  • Cherry เปิดตัวสวิตช์คีย์บอร์ดแบบเหนี่ยวนำรุ่นใหม่ พร้อมเพิ่ม MX รุ่นใหม่ใน Computex 2025

    Cherry เปิดตัวสวิตช์คีย์บอร์ดแบบเหนี่ยวนำรุ่นแรกของบริษัท พร้อมกับ MX รุ่นใหม่อีกสามรุ่น ในงาน Computex 2025 โดยเน้นไปที่ ความทนทาน, ประสิทธิภาพ และประสบการณ์การพิมพ์ที่ดีขึ้น

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับสวิตช์คีย์บอร์ดใหม่ของ Cherry
    Cherry IK เป็นสวิตช์แบบเหนี่ยวนำที่ใช้เซ็นเซอร์แม่เหล็กไฟฟ้าแทนการสัมผัสทางกลไก
    - ช่วยให้ การกดปุ่มมีความแม่นยำและลดการสึกหรอของสวิตช์

    Cherry IK ใช้พลังงานน้อยกว่าสวิตช์แม่เหล็กทั่วไปถึง 50% และเพียง 5% ของสวิตช์ Hall Effect
    - ส่งผลให้ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของคีย์บอร์ดไร้สายยาวนานขึ้น

    รองรับไฟ RGB และสามารถปรับจุดกดปุ่มได้ตามต้องการ
    - ทำให้ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งประสบการณ์การพิมพ์ได้มากขึ้น

    Cherry เปิดตัว MX Honey, MX Blossom และ MX Falcon สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสัมผัสที่แตกต่างกัน
    - MX Honey เป็นสวิตช์แบบสัมผัสที่เงียบ เหมาะสำหรับสำนักงาน
    - MX Blossom เป็นสวิตช์เชิงเส้นที่เบาที่สุดของ Cherry ใช้แรงกดเพียง 35cN
    - MX Falcon เป็นสวิตช์แบบสัมผัสที่ให้แรงกดหนัก คล้ายกับเครื่องพิมพ์ดีด

    สวิตช์ MX รุ่นใหม่จะเปิดตัวในคีย์บอร์ดสำเร็จรูปเดือนมิถุนายน และมีชุด DIY ตามมา
    - ทำให้ ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อแยกเพื่อนำไปติดตั้งเองได้

    https://www.techspot.com/news/107992-cherry-reveals-inductive-switch-breakthrough-new-mx-models.html
    Cherry เปิดตัวสวิตช์คีย์บอร์ดแบบเหนี่ยวนำรุ่นใหม่ พร้อมเพิ่ม MX รุ่นใหม่ใน Computex 2025 Cherry เปิดตัวสวิตช์คีย์บอร์ดแบบเหนี่ยวนำรุ่นแรกของบริษัท พร้อมกับ MX รุ่นใหม่อีกสามรุ่น ในงาน Computex 2025 โดยเน้นไปที่ ความทนทาน, ประสิทธิภาพ และประสบการณ์การพิมพ์ที่ดีขึ้น 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับสวิตช์คีย์บอร์ดใหม่ของ Cherry ✅ Cherry IK เป็นสวิตช์แบบเหนี่ยวนำที่ใช้เซ็นเซอร์แม่เหล็กไฟฟ้าแทนการสัมผัสทางกลไก - ช่วยให้ การกดปุ่มมีความแม่นยำและลดการสึกหรอของสวิตช์ ✅ Cherry IK ใช้พลังงานน้อยกว่าสวิตช์แม่เหล็กทั่วไปถึง 50% และเพียง 5% ของสวิตช์ Hall Effect - ส่งผลให้ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของคีย์บอร์ดไร้สายยาวนานขึ้น ✅ รองรับไฟ RGB และสามารถปรับจุดกดปุ่มได้ตามต้องการ - ทำให้ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งประสบการณ์การพิมพ์ได้มากขึ้น ✅ Cherry เปิดตัว MX Honey, MX Blossom และ MX Falcon สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสัมผัสที่แตกต่างกัน - MX Honey เป็นสวิตช์แบบสัมผัสที่เงียบ เหมาะสำหรับสำนักงาน - MX Blossom เป็นสวิตช์เชิงเส้นที่เบาที่สุดของ Cherry ใช้แรงกดเพียง 35cN - MX Falcon เป็นสวิตช์แบบสัมผัสที่ให้แรงกดหนัก คล้ายกับเครื่องพิมพ์ดีด ✅ สวิตช์ MX รุ่นใหม่จะเปิดตัวในคีย์บอร์ดสำเร็จรูปเดือนมิถุนายน และมีชุด DIY ตามมา - ทำให้ ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อแยกเพื่อนำไปติดตั้งเองได้ https://www.techspot.com/news/107992-cherry-reveals-inductive-switch-breakthrough-new-mx-models.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Cherry reveals inductive switch breakthrough for next-gen keyboards, new MX models
    German keyboard maker Cherry has unveiled a "bold new chapter" in its history at Computex 2025, headlined by the debut of its first inductive switch and three...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • น่าสนใจทีเดียว ลุงก็ไม่ชอบลง app พวกนี้ เพราะใช้น้อยครั้งมาก

    MSI เปิดตัว PortalX: ควบคุมไฟ RGB ผ่านเว็บโดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์

    MSI ได้เปิดตัว PortalX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเว็บที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมไฟ RGB ของอุปกรณ์ MSI ผ่านเบราว์เซอร์ โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม เช่น MSI Center หรือ Mystic Light

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MSI PortalX
    PortalX เป็นแพลตฟอร์มเว็บที่ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมไฟ RGB ได้โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์
    - รองรับ เมนบอร์ด, การ์ดจอ, พัดลมระบายความร้อน, คีย์บอร์ด และเมาส์ของ MSI

    ระบบสามารถตรวจจับอุปกรณ์ MSI ที่เชื่อมต่อกับเครื่องโดยอัตโนมัติ
    - ทำให้ การตั้งค่า RGB ง่ายขึ้นและลดความยุ่งยากในการติดตั้งซอฟต์แวร์

    PortalX รองรับเฉพาะ Windows ในตอนนี้
    - MSI ยังไม่มีแผนรองรับ macOS หรือ Linux

    แพลตฟอร์มนี้ใช้ Microsoft Edge ในการทดสอบ แต่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเบราว์เซอร์อื่น ๆ
    - ผู้ใช้ อาจต้องรอการประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรองรับ Chrome หรือ Firefox

    https://www.tomshardware.com/software/msi-preps-web-based-rgb-controls-so-you-dont-have-to-install-bloatware-on-your-pc
    น่าสนใจทีเดียว ลุงก็ไม่ชอบลง app พวกนี้ เพราะใช้น้อยครั้งมาก MSI เปิดตัว PortalX: ควบคุมไฟ RGB ผ่านเว็บโดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ MSI ได้เปิดตัว PortalX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเว็บที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมไฟ RGB ของอุปกรณ์ MSI ผ่านเบราว์เซอร์ โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม เช่น MSI Center หรือ Mystic Light 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MSI PortalX ✅ PortalX เป็นแพลตฟอร์มเว็บที่ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมไฟ RGB ได้โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ - รองรับ เมนบอร์ด, การ์ดจอ, พัดลมระบายความร้อน, คีย์บอร์ด และเมาส์ของ MSI ✅ ระบบสามารถตรวจจับอุปกรณ์ MSI ที่เชื่อมต่อกับเครื่องโดยอัตโนมัติ - ทำให้ การตั้งค่า RGB ง่ายขึ้นและลดความยุ่งยากในการติดตั้งซอฟต์แวร์ ✅ PortalX รองรับเฉพาะ Windows ในตอนนี้ - MSI ยังไม่มีแผนรองรับ macOS หรือ Linux ✅ แพลตฟอร์มนี้ใช้ Microsoft Edge ในการทดสอบ แต่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเบราว์เซอร์อื่น ๆ - ผู้ใช้ อาจต้องรอการประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรองรับ Chrome หรือ Firefox https://www.tomshardware.com/software/msi-preps-web-based-rgb-controls-so-you-dont-have-to-install-bloatware-on-your-pc
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    MSI preps web-based RGB controls so you don't have to install bloatware on your PC
    MSI PortalX is set to become the web hub for RGB control and customization.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • Linus Torvalds กลับมาใช้คีย์บอร์ดกลไก พร้อมสวิตช์ Cherry MX Blue หลังทดลองใช้คีย์บอร์ดแบบเงียบแล้วไม่เวิร์ก

    Linus Torvalds ผู้สร้าง Linux และผู้ดูแลเคอร์เนล ได้กลับมาใช้ คีย์บอร์ดกลไกที่มีสวิตช์ Cherry MX Blue หลังจากทดลองใช้ คีย์บอร์ดแบบเงียบและมีโปรไฟล์ต่ำ เป็นเวลาหกเดือน แต่พบว่า ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการพิมพ์มากขึ้น

    Torvalds ใช้คีย์บอร์ดแบบเงียบเป็นเวลาหกเดือน แต่พบว่าทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการพิมพ์มากขึ้น
    - เขาต้องการ เสียงคลิกและแรงกดที่ชัดเจนเพื่อช่วยลดข้อผิดพลาด

    Cherry MX Blue เป็นสวิตช์ที่มีเสียงดังและให้สัมผัสที่ชัดเจน
    - เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้ที่ต้องการ ฟีดแบคทางเสียงและสัมผัสที่ช่วยให้พิมพ์ได้แม่นยำขึ้น

    Torvalds ไม่สามารถจำเหตุผลที่เปลี่ยนไปใช้คีย์บอร์ดแบบเงียบได้
    - เขาไม่ได้ทำงานในสำนักงานที่ต้องการความเงียบ แต่ตัดสินใจลองใช้เพื่อดูผลลัพธ์

    หลังจากทดลองใช้คีย์บอร์ดแบบเงียบ เขาตัดสินใจกลับมาใช้คีย์บอร์ดกลไกแบบเดิม
    - เขายอมรับว่า เสียงคลิกช่วยให้พิมพ์ได้แม่นยำขึ้น

    Torvalds กล่าวติดตลกว่า ตอนนี้เขาจะโทษระบบแก้ไขอัตโนมัติแทนการโทษคีย์บอร์ด
    - เป็นการแสดงออกถึงอารมณ์ขันของเขาเกี่ยวกับข้อผิดพลาดในการพิมพ์

    https://www.tomshardware.com/peripherals/mechanical-keyboards/linus-torvalds-returns-to-clackety-clack-cherry-mx-blues-the-low-profile-quiet-keyboard-lifestyle-wasnt-for-him
    Linus Torvalds กลับมาใช้คีย์บอร์ดกลไก พร้อมสวิตช์ Cherry MX Blue หลังทดลองใช้คีย์บอร์ดแบบเงียบแล้วไม่เวิร์ก Linus Torvalds ผู้สร้าง Linux และผู้ดูแลเคอร์เนล ได้กลับมาใช้ คีย์บอร์ดกลไกที่มีสวิตช์ Cherry MX Blue หลังจากทดลองใช้ คีย์บอร์ดแบบเงียบและมีโปรไฟล์ต่ำ เป็นเวลาหกเดือน แต่พบว่า ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการพิมพ์มากขึ้น ✅ Torvalds ใช้คีย์บอร์ดแบบเงียบเป็นเวลาหกเดือน แต่พบว่าทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการพิมพ์มากขึ้น - เขาต้องการ เสียงคลิกและแรงกดที่ชัดเจนเพื่อช่วยลดข้อผิดพลาด ✅ Cherry MX Blue เป็นสวิตช์ที่มีเสียงดังและให้สัมผัสที่ชัดเจน - เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้ที่ต้องการ ฟีดแบคทางเสียงและสัมผัสที่ช่วยให้พิมพ์ได้แม่นยำขึ้น ✅ Torvalds ไม่สามารถจำเหตุผลที่เปลี่ยนไปใช้คีย์บอร์ดแบบเงียบได้ - เขาไม่ได้ทำงานในสำนักงานที่ต้องการความเงียบ แต่ตัดสินใจลองใช้เพื่อดูผลลัพธ์ ✅ หลังจากทดลองใช้คีย์บอร์ดแบบเงียบ เขาตัดสินใจกลับมาใช้คีย์บอร์ดกลไกแบบเดิม - เขายอมรับว่า เสียงคลิกช่วยให้พิมพ์ได้แม่นยำขึ้น ✅ Torvalds กล่าวติดตลกว่า ตอนนี้เขาจะโทษระบบแก้ไขอัตโนมัติแทนการโทษคีย์บอร์ด - เป็นการแสดงออกถึงอารมณ์ขันของเขาเกี่ยวกับข้อผิดพลาดในการพิมพ์ https://www.tomshardware.com/peripherals/mechanical-keyboards/linus-torvalds-returns-to-clackety-clack-cherry-mx-blues-the-low-profile-quiet-keyboard-lifestyle-wasnt-for-him
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 261 มุมมอง 0 รีวิว
  • OneChipBook-12 เป็น ชุดพัฒนา FPGA แบบพกพา ที่ออกแบบมาเพื่อ นักพัฒนาฮาร์ดแวร์และผู้ที่สนใจคอมพิวเตอร์ย้อนยุค โดยมี หน้าจอในตัวและคีย์บอร์ดแบบกลไก

    อุปกรณ์นี้ใช้ ชิป Altera Cyclone EP1C12Q240 ซึ่งมี 12,000 logic elements และ RAM 240kbits พร้อม SDRAM 32MB และช่องใส่ SD Card รองรับ FAT16 ทำให้เหมาะสำหรับ

    OneChipBook-12 เป็นชุดพัฒนา FPGA แบบพกพา
    - มี หน้าจอในตัวและคีย์บอร์ดแบบกลไก
    - ออกแบบมาเพื่อ นักพัฒนาฮาร์ดแวร์และผู้ที่สนใจคอมพิวเตอร์ย้อนยุค

    ใช้ชิป Altera Cyclone EP1C12Q240
    - มี 12,000 logic elements และ RAM 240kbits
    - รองรับ SDRAM 32MB และช่องใส่ SD Card (FAT16)

    มีพอร์ต I/O หลากหลาย
    - รองรับ PS/2, DB9 joystick, USB Type-A, VGA, S-Video และ composite video
    - มี ลำโพงสเตอริโอ, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และปุ่มปรับระดับเสียง

    สามารถซื้อได้ผ่าน Tindie, eBay และ AliExpress
    - ราคาอยู่ที่ $215–$235

    ไม่มีเฟิร์มแวร์ติดตั้งมาให้ แต่มี USB Blaster สำหรับโหลด FPGA cores
    - ผู้ใช้ต้อง แฟลชเฟิร์มแวร์เอง

    https://www.tomshardware.com/software/programming/the-onechipbook-12-is-a-retro-inspired-fpga-dev-kit-with-a-built-in-display-and-mechanical-keyboard
    OneChipBook-12 เป็น ชุดพัฒนา FPGA แบบพกพา ที่ออกแบบมาเพื่อ นักพัฒนาฮาร์ดแวร์และผู้ที่สนใจคอมพิวเตอร์ย้อนยุค โดยมี หน้าจอในตัวและคีย์บอร์ดแบบกลไก อุปกรณ์นี้ใช้ ชิป Altera Cyclone EP1C12Q240 ซึ่งมี 12,000 logic elements และ RAM 240kbits พร้อม SDRAM 32MB และช่องใส่ SD Card รองรับ FAT16 ทำให้เหมาะสำหรับ ✅ OneChipBook-12 เป็นชุดพัฒนา FPGA แบบพกพา - มี หน้าจอในตัวและคีย์บอร์ดแบบกลไก - ออกแบบมาเพื่อ นักพัฒนาฮาร์ดแวร์และผู้ที่สนใจคอมพิวเตอร์ย้อนยุค ✅ ใช้ชิป Altera Cyclone EP1C12Q240 - มี 12,000 logic elements และ RAM 240kbits - รองรับ SDRAM 32MB และช่องใส่ SD Card (FAT16) ✅ มีพอร์ต I/O หลากหลาย - รองรับ PS/2, DB9 joystick, USB Type-A, VGA, S-Video และ composite video - มี ลำโพงสเตอริโอ, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และปุ่มปรับระดับเสียง ✅ สามารถซื้อได้ผ่าน Tindie, eBay และ AliExpress - ราคาอยู่ที่ $215–$235 ✅ ไม่มีเฟิร์มแวร์ติดตั้งมาให้ แต่มี USB Blaster สำหรับโหลด FPGA cores - ผู้ใช้ต้อง แฟลชเฟิร์มแวร์เอง https://www.tomshardware.com/software/programming/the-onechipbook-12-is-a-retro-inspired-fpga-dev-kit-with-a-built-in-display-and-mechanical-keyboard
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google กำลังเตรียมเปิดตัว Material 3 Expressive (M3E) ซึ่งเป็น ดีไซน์ใหม่สำหรับ Android 16 ที่เน้น สี, รูปร่าง, ขนาด, การเคลื่อนไหว และการจัดวางองค์ประกอบ เพื่อให้ การใช้งานง่ายขึ้นและมีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น

    M3E เป็น การพัฒนาต่อยอดจาก Material You โดยมีการปรับปรุง ปุ่มที่ใหญ่ขึ้น, ขอบเขตที่มีความคมชัดสูง และองค์ประกอบที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับ UI ได้เร็วขึ้น

    Material 3 Expressive เป็นดีไซน์ใหม่สำหรับ Android 16
    - เน้น สี, รูปร่าง, ขนาด, การเคลื่อนไหว และการจัดวางองค์ประกอบ
    - ช่วยให้ การใช้งานง่ายขึ้นและมีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น

    Google ปรับปรุง UI ให้มีความชัดเจนมากขึ้น
    - ปุ่มที่ใหญ่ขึ้น และ ขอบเขตที่มีความคมชัดสูง
    - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับ UI ได้เร็วขึ้น

    ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงในแอป Gmail
    - ปุ่ม Send ถูกย้ายมาอยู่ เหนือคีย์บอร์ด และมีสีรองเพื่อให้เห็นได้ง่ายขึ้น
    - ต่างจากเวอร์ชันปัจจุบันที่ ปุ่ม Send อยู่ในแถบเครื่องมือด้านบน

    M3E จะถูกนำไปใช้กับทุกแอปของ Google รวมถึง Android 16
    - คาดว่า Wear OS อาจได้รับการอัปเดตให้รองรับ M3E ด้วย

    การเปลี่ยนแปลงในแอป Clock
    - ปรับ แถบเครื่องมือด้านล่าง และเพิ่ม World Clock label
    - เปลี่ยน รูปแบบตัวเลขในหน้า Alarms ให้เป็น ตัวเลือกเวลาที่ยาวขึ้น

    https://www.techspot.com/news/107815-google-leaks-android-16-material-3-expressive-design.html
    Google กำลังเตรียมเปิดตัว Material 3 Expressive (M3E) ซึ่งเป็น ดีไซน์ใหม่สำหรับ Android 16 ที่เน้น สี, รูปร่าง, ขนาด, การเคลื่อนไหว และการจัดวางองค์ประกอบ เพื่อให้ การใช้งานง่ายขึ้นและมีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น M3E เป็น การพัฒนาต่อยอดจาก Material You โดยมีการปรับปรุง ปุ่มที่ใหญ่ขึ้น, ขอบเขตที่มีความคมชัดสูง และองค์ประกอบที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับ UI ได้เร็วขึ้น ✅ Material 3 Expressive เป็นดีไซน์ใหม่สำหรับ Android 16 - เน้น สี, รูปร่าง, ขนาด, การเคลื่อนไหว และการจัดวางองค์ประกอบ - ช่วยให้ การใช้งานง่ายขึ้นและมีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น ✅ Google ปรับปรุง UI ให้มีความชัดเจนมากขึ้น - ปุ่มที่ใหญ่ขึ้น และ ขอบเขตที่มีความคมชัดสูง - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับ UI ได้เร็วขึ้น ✅ ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงในแอป Gmail - ปุ่ม Send ถูกย้ายมาอยู่ เหนือคีย์บอร์ด และมีสีรองเพื่อให้เห็นได้ง่ายขึ้น - ต่างจากเวอร์ชันปัจจุบันที่ ปุ่ม Send อยู่ในแถบเครื่องมือด้านบน ✅ M3E จะถูกนำไปใช้กับทุกแอปของ Google รวมถึง Android 16 - คาดว่า Wear OS อาจได้รับการอัปเดตให้รองรับ M3E ด้วย ✅ การเปลี่ยนแปลงในแอป Clock - ปรับ แถบเครื่องมือด้านล่าง และเพิ่ม World Clock label - เปลี่ยน รูปแบบตัวเลขในหน้า Alarms ให้เป็น ตัวเลือกเวลาที่ยาวขึ้น https://www.techspot.com/news/107815-google-leaks-android-16-material-3-expressive-design.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Android is getting a new look with Google's Material 3 Expressive
    The article, which is still accessible via the Wayback Machine, describes what Google calls its "most-researched" update to a design language. According to the company, Material 3...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • Chuwi ได้เปิดตัว CoreBook X รุ่นใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับ Intel Core i9-13900HK และ RAM 32GB แต่ยังคงไม่มี GPU แยก ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพกราฟิกสูง

    แม้ว่า CoreBook X จะมี หน้าจอ 2K ขนาด 14 นิ้ว และรองรับ การอัปเกรด RAM สูงสุด 96GB แต่การไม่มี GPU แยก ทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมและงานกราฟิกหนัก ๆ อาจไม่ดีเท่ากับแล็ปท็อปที่มี RTX หรือ Radeon GPU

    Chuwi ระบุว่า CoreBook X สามารถใช้งานได้สูงสุด 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และรองรับ การชาร์จเร็วถึง 60% ในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง

    สเปคหลักของ CoreBook X
    - ใช้ Intel Core i9-13900HK
    - มี RAM 32GB (อัปเกรดได้สูงสุด 96GB)
    - หน่วยความจำ SSD 1TB พร้อมช่องเพิ่ม M.2 SSD

    จุดเด่นของแล็ปท็อป
    - หน้าจอ 2K ขนาด 14 นิ้ว (2160 x 1440)
    - รองรับ Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.2
    - มี USB-C, USB 3.0, HDMI และช่องเสียบ microSD

    ข้อจำกัดของ CoreBook X
    - ไม่มี GPU แยก ทำให้ประสิทธิภาพกราฟิกอาจไม่เพียงพอสำหรับงานหนัก
    - แบตเตอรี่ 46.2Wh ใช้งานได้สูงสุด 8 ชั่วโมง

    การออกแบบและน้ำหนัก
    - น้ำหนัก 1.4 กิโลกรัม
    - มี คีย์บอร์ดเรืองแสงและทัชแพดขนาด 5.8 นิ้ว

    https://www.techradar.com/pro/obscure-chinese-laptop-vendor-unveils-mobile-workstation-with-13th-gen-core-i9-cpu-and-32gb-of-ram-but-shame-about-the-lack-of-a-discrete-gpu
    Chuwi ได้เปิดตัว CoreBook X รุ่นใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับ Intel Core i9-13900HK และ RAM 32GB แต่ยังคงไม่มี GPU แยก ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพกราฟิกสูง แม้ว่า CoreBook X จะมี หน้าจอ 2K ขนาด 14 นิ้ว และรองรับ การอัปเกรด RAM สูงสุด 96GB แต่การไม่มี GPU แยก ทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมและงานกราฟิกหนัก ๆ อาจไม่ดีเท่ากับแล็ปท็อปที่มี RTX หรือ Radeon GPU Chuwi ระบุว่า CoreBook X สามารถใช้งานได้สูงสุด 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และรองรับ การชาร์จเร็วถึง 60% ในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ✅ สเปคหลักของ CoreBook X - ใช้ Intel Core i9-13900HK - มี RAM 32GB (อัปเกรดได้สูงสุด 96GB) - หน่วยความจำ SSD 1TB พร้อมช่องเพิ่ม M.2 SSD ✅ จุดเด่นของแล็ปท็อป - หน้าจอ 2K ขนาด 14 นิ้ว (2160 x 1440) - รองรับ Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.2 - มี USB-C, USB 3.0, HDMI และช่องเสียบ microSD ✅ ข้อจำกัดของ CoreBook X - ไม่มี GPU แยก ทำให้ประสิทธิภาพกราฟิกอาจไม่เพียงพอสำหรับงานหนัก - แบตเตอรี่ 46.2Wh ใช้งานได้สูงสุด 8 ชั่วโมง ✅ การออกแบบและน้ำหนัก - น้ำหนัก 1.4 กิโลกรัม - มี คีย์บอร์ดเรืองแสงและทัชแพดขนาด 5.8 นิ้ว https://www.techradar.com/pro/obscure-chinese-laptop-vendor-unveils-mobile-workstation-with-13th-gen-core-i9-cpu-and-32gb-of-ram-but-shame-about-the-lack-of-a-discrete-gpu
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุงนี่โกรธความดื้อดึงของ Microsoft ในเรื่องนี้จริงๆ

    Microsoft ได้เริ่มย้ายฟีเจอร์จาก Control Panel ไปยัง Settings app ใน Windows 11 อย่างต่อเนื่อง โดยในอัปเดตล่าสุดสำหรับ Dev และ Beta builds ได้เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งคีย์บอร์ด เช่น Character Repeat Delay (ระยะเวลาที่ต้องกดปุ่มก่อนเริ่มการพิมพ์ซ้ำ) และ Character Repeat Rate (ความเร็วในการพิมพ์ซ้ำ) ซึ่งสามารถปรับได้ผ่านแถบเลื่อนใน Settings > Accessibility > Keyboard

    อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ใหม่นี้ยังถูกซ่อนอยู่ในค่าตั้งต้น และยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Microsoft เนื่องจากยังไม่สมบูรณ์ เช่น ตัวเลือก Cursor Blink Rate (ความเร็วในการกระพริบของเคอร์เซอร์) ยังไม่ถูกย้ายมาที่ Settings app

    การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Microsoft ในการทำให้ Settings app เป็นศูนย์กลางสำหรับการตั้งค่าทั้งหมดใน Windows 11

    การย้ายฟีเจอร์จาก Control Panel
    - เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งคีย์บอร์ดใน Settings app
    - ตัวเลือกใหม่ เช่น Character Repeat Delay และ Character Repeat Rate

    การปรับปรุง Settings app
    - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ผู้ใช้งานปรับแต่งคีย์บอร์ดได้ง่ายขึ้น
    - การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการรวมศูนย์การตั้งค่า

    สถานะของฟีเจอร์ใหม่
    - ฟีเจอร์ยังถูกซ่อนในค่าตั้งต้นและยังไม่สมบูรณ์
    - Cursor Blink Rate ยังไม่ถูกย้ายมาที่ Settings app

    เป้าหมายของ Microsoft
    - ทำให้ Settings app เป็นศูนย์กลางสำหรับการตั้งค่าทั้งหมดใน Windows 11

    https://www.neowin.net/news/microsoft-moves-more-control-panel-elements-to-the-settings-app-in-windows-11/
    ลุงนี่โกรธความดื้อดึงของ Microsoft ในเรื่องนี้จริงๆ Microsoft ได้เริ่มย้ายฟีเจอร์จาก Control Panel ไปยัง Settings app ใน Windows 11 อย่างต่อเนื่อง โดยในอัปเดตล่าสุดสำหรับ Dev และ Beta builds ได้เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งคีย์บอร์ด เช่น Character Repeat Delay (ระยะเวลาที่ต้องกดปุ่มก่อนเริ่มการพิมพ์ซ้ำ) และ Character Repeat Rate (ความเร็วในการพิมพ์ซ้ำ) ซึ่งสามารถปรับได้ผ่านแถบเลื่อนใน Settings > Accessibility > Keyboard อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ใหม่นี้ยังถูกซ่อนอยู่ในค่าตั้งต้น และยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Microsoft เนื่องจากยังไม่สมบูรณ์ เช่น ตัวเลือก Cursor Blink Rate (ความเร็วในการกระพริบของเคอร์เซอร์) ยังไม่ถูกย้ายมาที่ Settings app การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Microsoft ในการทำให้ Settings app เป็นศูนย์กลางสำหรับการตั้งค่าทั้งหมดใน Windows 11 ✅ การย้ายฟีเจอร์จาก Control Panel - เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งคีย์บอร์ดใน Settings app - ตัวเลือกใหม่ เช่น Character Repeat Delay และ Character Repeat Rate ✅ การปรับปรุง Settings app - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ผู้ใช้งานปรับแต่งคีย์บอร์ดได้ง่ายขึ้น - การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการรวมศูนย์การตั้งค่า ✅ สถานะของฟีเจอร์ใหม่ - ฟีเจอร์ยังถูกซ่อนในค่าตั้งต้นและยังไม่สมบูรณ์ - Cursor Blink Rate ยังไม่ถูกย้ายมาที่ Settings app ✅ เป้าหมายของ Microsoft - ทำให้ Settings app เป็นศูนย์กลางสำหรับการตั้งค่าทั้งหมดใน Windows 11 https://www.neowin.net/news/microsoft-moves-more-control-panel-elements-to-the-settings-app-in-windows-11/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft moves more Control Panel elements to the Settings app in Windows 11
    Microsoft continues to slowly migrate Control Panel elements to the Settings app. Certain keyboard settings received a modern overhaul in the latest Windows 11 preview builds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • Keyboardio ผู้ผลิตคีย์บอร์ดแบบกำหนดเองที่มีชื่อเสียงในด้านการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และเหมาะกับการใช้งาน ได้ประกาศหยุดรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2025 เนื่องจากผลกระทบจากภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นและการยกเลิกกฎ "de minimis" ซึ่งเคยยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์

    การหยุดรับคำสั่งซื้อในสหรัฐฯ
    - Keyboardio หยุดรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2025
    - การตัดสินใจนี้เป็นผลมาจากภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นและการยกเลิกกฎ "de minimis"

    ผลกระทบจากภาษีนำเข้า
    - สินค้าที่ส่งถึงสหรัฐฯ หลังวันที่ 1 พฤษภาคม 2025 จะถูกเก็บภาษีนำเข้า 20%
    - HK Post จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมสูงสุดถึง 90% ต่อพัสดุ

    การผลิตและการจัดส่งของ Keyboardio
    - สินค้าของ Keyboardio ออกแบบในสหรัฐฯ แต่ผลิตในจีนและจัดส่งผ่านฮ่องกง
    - การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้การจัดส่งไปยังสหรัฐฯ มีความซับซ้อนมากขึ้น

    การให้บริการลูกค้านอกสหรัฐฯ
    - Keyboardio ยังคงให้บริการลูกค้าในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

    https://www.tomshardware.com/peripherals/keyboards/custom-keyboard-maker-stopping-us-orders-entirely-amidst-tariff-impacts-keyboardio-cites-tariffs-axed-de-minimis-rule
    Keyboardio ผู้ผลิตคีย์บอร์ดแบบกำหนดเองที่มีชื่อเสียงในด้านการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และเหมาะกับการใช้งาน ได้ประกาศหยุดรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2025 เนื่องจากผลกระทบจากภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นและการยกเลิกกฎ "de minimis" ซึ่งเคยยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์ ✅ การหยุดรับคำสั่งซื้อในสหรัฐฯ - Keyboardio หยุดรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2025 - การตัดสินใจนี้เป็นผลมาจากภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นและการยกเลิกกฎ "de minimis" ✅ ผลกระทบจากภาษีนำเข้า - สินค้าที่ส่งถึงสหรัฐฯ หลังวันที่ 1 พฤษภาคม 2025 จะถูกเก็บภาษีนำเข้า 20% - HK Post จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมสูงสุดถึง 90% ต่อพัสดุ ✅ การผลิตและการจัดส่งของ Keyboardio - สินค้าของ Keyboardio ออกแบบในสหรัฐฯ แต่ผลิตในจีนและจัดส่งผ่านฮ่องกง - การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้การจัดส่งไปยังสหรัฐฯ มีความซับซ้อนมากขึ้น ✅ การให้บริการลูกค้านอกสหรัฐฯ - Keyboardio ยังคงให้บริการลูกค้าในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก https://www.tomshardware.com/peripherals/keyboards/custom-keyboard-maker-stopping-us-orders-entirely-amidst-tariff-impacts-keyboardio-cites-tariffs-axed-de-minimis-rule
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • Alex Haydock ได้สร้างบล็อกชื่อ Infected Systems โดยใช้ Nintendo Wii รุ่นปี 2006 เป็นเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นการทดลองที่น่าสนใจในการใช้ฮาร์ดแวร์เก่าและระบบปฏิบัติการ NetBSD ที่เป็นโอเพ่นซอร์ส โดย Haydock ได้ติดตั้งระบบปฏิบัติการนี้ผ่านช่องทาง Homebrew ของ Wii และใช้แอปพลิเคชัน Lighttpd และ Caddy ในการจัดการเซิร์ฟเวอร์

    ใช้ Nintendo Wii รุ่นปี 2006 เป็นเซิร์ฟเวอร์
    - Haydock เลือกใช้ Wii เนื่องจากมี CPU PowerPC ที่รองรับ NetBSD
    - ระบบปฏิบัติการ NetBSD เวอร์ชันล่าสุดสำหรับ Wii ถูกปล่อยในเดือนธันวาคม 2024

    การติดตั้งระบบปฏิบัติการผ่านช่องทาง Homebrew
    - Haydock ใช้ SD Card ขนาด 32GB และ Raspberry Pi Imager ในการติดตั้ง
    - ระบบปฏิบัติการสามารถใช้งานได้เหมือน PC ทั่วไปผ่านคีย์บอร์ด USB

    การจัดการเซิร์ฟเวอร์ด้วย Lighttpd และ Caddy
    - Lighttpd ใช้เป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ และ Caddy ใช้เป็น Reverse Proxy
    - การเข้ารหัสและการจัดการใบรับรองทำผ่าน ACME

    โปรเจกต์นี้เป็นการทดลองที่สนุกและสร้างสรรค์
    - Haydock ระบุว่าเซิร์ฟเวอร์อาจไม่รองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก แต่เป็นการทดลองที่น่าสนใจ

    https://www.tomshardware.com/software/linux/2006-nintendo-wii-hacked-to-run-infected-systems-blog-uses-open-source-netbsd
    Alex Haydock ได้สร้างบล็อกชื่อ Infected Systems โดยใช้ Nintendo Wii รุ่นปี 2006 เป็นเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นการทดลองที่น่าสนใจในการใช้ฮาร์ดแวร์เก่าและระบบปฏิบัติการ NetBSD ที่เป็นโอเพ่นซอร์ส โดย Haydock ได้ติดตั้งระบบปฏิบัติการนี้ผ่านช่องทาง Homebrew ของ Wii และใช้แอปพลิเคชัน Lighttpd และ Caddy ในการจัดการเซิร์ฟเวอร์ ✅ ใช้ Nintendo Wii รุ่นปี 2006 เป็นเซิร์ฟเวอร์ - Haydock เลือกใช้ Wii เนื่องจากมี CPU PowerPC ที่รองรับ NetBSD - ระบบปฏิบัติการ NetBSD เวอร์ชันล่าสุดสำหรับ Wii ถูกปล่อยในเดือนธันวาคม 2024 ✅ การติดตั้งระบบปฏิบัติการผ่านช่องทาง Homebrew - Haydock ใช้ SD Card ขนาด 32GB และ Raspberry Pi Imager ในการติดตั้ง - ระบบปฏิบัติการสามารถใช้งานได้เหมือน PC ทั่วไปผ่านคีย์บอร์ด USB ✅ การจัดการเซิร์ฟเวอร์ด้วย Lighttpd และ Caddy - Lighttpd ใช้เป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ และ Caddy ใช้เป็น Reverse Proxy - การเข้ารหัสและการจัดการใบรับรองทำผ่าน ACME ✅ โปรเจกต์นี้เป็นการทดลองที่สนุกและสร้างสรรค์ - Haydock ระบุว่าเซิร์ฟเวอร์อาจไม่รองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก แต่เป็นการทดลองที่น่าสนใจ https://www.tomshardware.com/software/linux/2006-nintendo-wii-hacked-to-run-infected-systems-blog-uses-open-source-netbsd
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เปิดตัว ChromeOS M135 ซึ่งเป็นอัปเดตใหม่ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น การปรับปรุงการควบคุมด้วยใบหน้า (Face Control) และ การค้นหารูปภาพตามเนื้อหาใน Launcher โดยยังคงเน้นการพัฒนาด้านการเข้าถึงและการใช้งานที่ง่ายขึ้น

    การปรับปรุงการควบคุมด้วยใบหน้า (Face Control)
    - เพิ่มข้อความแจ้งเตือนเมื่อเปิดใช้งาน Face Control เช่น "Face control active"
    - มีปุ่มปิดการใช้งานที่ชัดเจนและแจ้งเตือนเมื่อเปิดใช้งาน

    การค้นหารูปภาพตามเนื้อหาใน Launcher
    - ผู้ใช้สามารถค้นหารูปภาพโดยไม่ต้องจำชื่อไฟล์ เพียงแค่ค้นหาตามเนื้อหาของภาพ

    การรองรับ Android Bluetooth Stack (Fluoride)
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth เป็นไปอย่างราบรื่น
    - รองรับการใช้งานบน ChromeOS Flex สำหรับฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า

    ฟีเจอร์ Mouse Keys และ Fast Pair สำหรับเมาส์
    - Mouse Keys ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมเคอร์เซอร์ด้วยคีย์บอร์ด
    - Fast Pair ช่วยให้การเชื่อมต่อเมาส์ที่รองรับเป็นไปอย่างรวดเร็ว

    การอัปเดตจะทยอยเปิดให้ใช้งานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
    - หากพบปัญหา ผู้ใช้สามารถรายงานได้ผ่านระบบฟีดแบ็ก

    https://www.neowin.net/news/google-brings-chromeos-m135-to-the-stable-channel-with-improved-mouse-support-and-more/
    Google ได้เปิดตัว ChromeOS M135 ซึ่งเป็นอัปเดตใหม่ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น การปรับปรุงการควบคุมด้วยใบหน้า (Face Control) และ การค้นหารูปภาพตามเนื้อหาใน Launcher โดยยังคงเน้นการพัฒนาด้านการเข้าถึงและการใช้งานที่ง่ายขึ้น ✅ การปรับปรุงการควบคุมด้วยใบหน้า (Face Control) - เพิ่มข้อความแจ้งเตือนเมื่อเปิดใช้งาน Face Control เช่น "Face control active" - มีปุ่มปิดการใช้งานที่ชัดเจนและแจ้งเตือนเมื่อเปิดใช้งาน ✅ การค้นหารูปภาพตามเนื้อหาใน Launcher - ผู้ใช้สามารถค้นหารูปภาพโดยไม่ต้องจำชื่อไฟล์ เพียงแค่ค้นหาตามเนื้อหาของภาพ ✅ การรองรับ Android Bluetooth Stack (Fluoride) - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth เป็นไปอย่างราบรื่น - รองรับการใช้งานบน ChromeOS Flex สำหรับฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า ✅ ฟีเจอร์ Mouse Keys และ Fast Pair สำหรับเมาส์ - Mouse Keys ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมเคอร์เซอร์ด้วยคีย์บอร์ด - Fast Pair ช่วยให้การเชื่อมต่อเมาส์ที่รองรับเป็นไปอย่างรวดเร็ว ✅ การอัปเดตจะทยอยเปิดให้ใช้งานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า - หากพบปัญหา ผู้ใช้สามารถรายงานได้ผ่านระบบฟีดแบ็ก https://www.neowin.net/news/google-brings-chromeos-m135-to-the-stable-channel-with-improved-mouse-support-and-more/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google brings ChromeOS M135 to the stable channel, with improved mouse support and more
    ChromeOS M135 has landed in the stable channel, bringing several improvements that will roll out over the next few days.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • Atomic Keyboard ได้เปิดตัว MDR Dasher ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากซีรีส์ Severance บน Apple TV+ โดยออกแบบให้มีรูปลักษณ์แบบเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติก พร้อม trackball ในตัว และการจัดวางปุ่มที่แตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไป

    MDR Dasher ได้รับแรงบันดาลใจจากคีย์บอร์ดในซีรีส์ Severance
    - คีย์บอร์ดนี้ออกแบบให้คล้ายกับ Data General Dasher terminals ที่ได้รับความนิยมในช่วงปลายยุค 70 และต้นยุค 80
    - มี ดีไซน์แบบเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติก พร้อมกรอบสีขาวหม่นและปุ่มสีน้ำเงิน

    การจัดวางปุ่มแตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไป
    - ไม่มีปุ่ม Escape, Control และ Option เพื่อสะท้อนธีมของซีรีส์ที่เน้นความเป็นระบบปิด
    - มี 73 ปุ่ม และใช้ เลย์เอาต์แบบ 70%

    MDR Dasher มาพร้อม trackball ในตัว
    - แทนที่จะใช้เมาส์แบบทั่วไป คีย์บอร์ดนี้มี trackball ทางด้านขวา
    - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเคอร์เซอร์ได้โดยไม่ต้องใช้เมาส์แยก

    รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C และใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการหลัก
    - สามารถใช้กับ Windows, macOS และ Linux
    - ตัวเคสทำจาก อะลูมิเนียม เพื่อเพิ่มความทนทาน

    ราคายังไม่ถูกยืนยัน แต่คาดว่าอยู่ที่ประมาณ $399
    - Atomic Keyboard ยังไม่ได้ประกาศราคาสุดท้าย เนื่องจากมี ปัญหาด้านภาษีนำเข้า
    - เปิดให้ลงทะเบียนสำหรับ การสั่งจองล่วงหน้าแบบจำนวนจำกัด

    https://www.techspot.com/news/107593-real-life-severance-keyboard-here-complete-built-trackball.html
    Atomic Keyboard ได้เปิดตัว MDR Dasher ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากซีรีส์ Severance บน Apple TV+ โดยออกแบบให้มีรูปลักษณ์แบบเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติก พร้อม trackball ในตัว และการจัดวางปุ่มที่แตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไป ✅ MDR Dasher ได้รับแรงบันดาลใจจากคีย์บอร์ดในซีรีส์ Severance - คีย์บอร์ดนี้ออกแบบให้คล้ายกับ Data General Dasher terminals ที่ได้รับความนิยมในช่วงปลายยุค 70 และต้นยุค 80 - มี ดีไซน์แบบเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติก พร้อมกรอบสีขาวหม่นและปุ่มสีน้ำเงิน ✅ การจัดวางปุ่มแตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไป - ไม่มีปุ่ม Escape, Control และ Option เพื่อสะท้อนธีมของซีรีส์ที่เน้นความเป็นระบบปิด - มี 73 ปุ่ม และใช้ เลย์เอาต์แบบ 70% ✅ MDR Dasher มาพร้อม trackball ในตัว - แทนที่จะใช้เมาส์แบบทั่วไป คีย์บอร์ดนี้มี trackball ทางด้านขวา - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเคอร์เซอร์ได้โดยไม่ต้องใช้เมาส์แยก ✅ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C และใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการหลัก - สามารถใช้กับ Windows, macOS และ Linux - ตัวเคสทำจาก อะลูมิเนียม เพื่อเพิ่มความทนทาน ✅ ราคายังไม่ถูกยืนยัน แต่คาดว่าอยู่ที่ประมาณ $399 - Atomic Keyboard ยังไม่ได้ประกาศราคาสุดท้าย เนื่องจากมี ปัญหาด้านภาษีนำเข้า - เปิดให้ลงทะเบียนสำหรับ การสั่งจองล่วงหน้าแบบจำนวนจำกัด https://www.techspot.com/news/107593-real-life-severance-keyboard-here-complete-built-trackball.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    A real-life Severance keyboard is here, complete with built-in trackball
    In Severance, the keyboards used by Macrodata Refinement – the department where the protagonists work – appear to draw inspiration from Data General's vintage Dasher terminals, popular...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts