• อเล็กเซย์ เชอร์นีชอฟ (Alexey Chernyshov) ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเอกภาพแห่งชาติของยูเครน (Ministry of National Unity) ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตคอร์รัปชันอื้อฉาวของยูเครน

    "เชอร์นีชอฟ" ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเขาคือมือขวาคนสนิทของเซเลนสกี ถูกตั้งข้อหาใช้อำนาจในทางมิชอบเกี่ยวกับสัญญาที่น่าสงสัยในการซื้อขายที่ดินของรัฐร่วมกับผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ส่งผลให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณสูงถึง 40 ล้านดอลลาร์

    ศาลกำหนดวงเงินประกันตัวไว้ที่ 2.9 ล้านยูโร (ประมาณ 110 ล้านบาท) และสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่เชอร์นีชอฟยืนยันจะไม่ลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน

    ที่ผ่านมาเซเลนสกีพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อปกป้องเชอร์นีชอฟและ "เป่าคดี" นี้ออกจากระบบ แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขากลับปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่คำสั่งของเซเลนสกีถูกเพิกเฉย

    คิริลล์ บูดานอฟ (Kyrylo Budanov) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองกลาโหม และวาซิลี่ มาริอุค (Vasiliy Maliuk) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองกลาง แห่งสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของยูเครน คือบุคคลที่ปฏิเสธคำสั่งของเซเลนสกี

    สิ่งนี้บ่งบอกได้ถึงสถานการณ์ของเซเลนสกีที่ไม่ได้แค่สูญเสียลูกน้องคู่กายไปอีกคน แต่เขากำลังจะสูญเสียการควบคุมอำนาจทางบริหารลงไปเรื่อยๆ

    อเล็กเซย์ เชอร์นีชอฟ (Alexey Chernyshov) ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเอกภาพแห่งชาติของยูเครน (Ministry of National Unity) ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตคอร์รัปชันอื้อฉาวของยูเครน 👉"เชอร์นีชอฟ" ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเขาคือมือขวาคนสนิทของเซเลนสกี ถูกตั้งข้อหาใช้อำนาจในทางมิชอบเกี่ยวกับสัญญาที่น่าสงสัยในการซื้อขายที่ดินของรัฐร่วมกับผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ส่งผลให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณสูงถึง 40 ล้านดอลลาร์ 👉ศาลกำหนดวงเงินประกันตัวไว้ที่ 2.9 ล้านยูโร (ประมาณ 110 ล้านบาท) และสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่เชอร์นีชอฟยืนยันจะไม่ลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน 👉ที่ผ่านมาเซเลนสกีพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อปกป้องเชอร์นีชอฟและ "เป่าคดี" นี้ออกจากระบบ แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขากลับปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่คำสั่งของเซเลนสกีถูกเพิกเฉย 👉คิริลล์ บูดานอฟ (Kyrylo Budanov) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองกลาโหม และวาซิลี่ มาริอุค (Vasiliy Maliuk) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองกลาง แห่งสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของยูเครน คือบุคคลที่ปฏิเสธคำสั่งของเซเลนสกี 👉สิ่งนี้บ่งบอกได้ถึงสถานการณ์ของเซเลนสกีที่ไม่ได้แค่สูญเสียลูกน้องคู่กายไปอีกคน แต่เขากำลังจะสูญเสียการควบคุมอำนาจทางบริหารลงไปเรื่อยๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • "กูรูไพศาล" ฟันธง "แพทองธาร" ไม่ลาออก ก.ค. นี้! ชี้กลุ่มกดดันหวังดัน "ประยุทธ์" กลับมานั่งนายกฯ
    https://www.thai-tai.tv/news/20240/
    .
    #ไพศาลพืชมงคล #แพทองธาร #ไม่ลาออก #การเมืองไทย #ประยุทธ์จันทร์โอชา #พรรคเพื่อไทย #ศาลรัฐธรรมนูญ #วิเคราะห์การเมือง #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    "กูรูไพศาล" ฟันธง "แพทองธาร" ไม่ลาออก ก.ค. นี้! ชี้กลุ่มกดดันหวังดัน "ประยุทธ์" กลับมานั่งนายกฯ https://www.thai-tai.tv/news/20240/ . #ไพศาลพืชมงคล #แพทองธาร #ไม่ลาออก #การเมืองไทย #ประยุทธ์จันทร์โอชา #พรรคเพื่อไทย #ศาลรัฐธรรมนูญ #วิเคราะห์การเมือง #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์เพจ สรยุทธ์ สุทัศนจินดา 9/7/68

    “‘ทักษิณ’ ลั่นเมืองไทยไม่มีทางตัน แค่มีคนอุดไว้ บอก นายกฯ อิ๊งค์ ยังอยากให้ภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล แต่เขาใช้คลิปฮุนเซน เป็นจังหวะเตะลูก พร้อมแฉกลฮั้วสว.วางแผนตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง สส. รับตกใจเห็นวิสัยทัศน์แยบยล ขาย สส.พ่วง สว. มั่นใจความบริสุทธิ์ลูกสาว หวังศาลรับฟัง ไม่ปิดประตู มีโอกาสกลืนเลือด 4 ปี๊บ จูบปาก ‘ภท.’ รอบสาม หากติดคณิตศาสตร์การเมือง ลั่น ผมหมูจะตาย มีแต่ช่วยคน จะกลัวผมทำไม ชี้ ผมต้องช่วยประเทศ จะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ เผย ไม่ได้คุยกับ ‘เนวิน - อนุทิน’ เลย มอง ภท. เป็นฝ่ายแค้นมากกว่าฝ่ายค้าน ลั่น พ่อนายกอยู่นี่ เชื่อการเมืองไม่มีสูญญากาศ แม้ ‘อิ๊งค์’ ถูกสั่งพักงาน ชม มท.1 คนใหม่ มาถูกทาง สั่งโยกย้ายทันทีหลังเริ่มงาน บอก river of no return หากจะรีเทิร์นต้องรอสมัยหน้า

    เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 9 กรกฎาคม ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมเป็นแขกรับเชิญในรายการ 55 ปี เนชั่น ผ่าทางตันประเทศไทย เอ็กซ์คลูซีฟ ทอล์ก กับ 4 ผู้นำทางความคิด ร่วมชี้ทางรอดการเมือง ทางออกประเทศไทย 3 บก. ถาม บก.ที่ 4 ตอบ

    โดยก่อนเริ่มถ่ายทอดสด พิธีกรได้เชิญนายทักษิณขึ้นบนเวที โดยนายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้มาในฐานะพ่อนายกฯ ขณะเดียวกันพิธีได้ถามนายทักษิณว่า ไปไหนมาไหนต้องมีลูกสาวเกาะติดเป็นผู้ติดตามตลอด

    นายทักษิณ ยิ้มและกล่าวว่า “ผมเป็นคนที่ใกล้ชิดลูกๆ 17 ปีที่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดลูกๆ กลับมาเขาก็ต้องมาคอยเป็นห่วงเป็นใย”

    จากนั้นเข้าสู่การถ่ายทอดสด โดยพิธีได้ถามว่า วันนี้ประเทศถึงทางตันหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “แสดงว่ามีคนอุดไว้ มันถึงจะตัน เหตุเกิดที่ไหนดับที่นั่น”

    ส่วนเป็นกลุ่มใด องค์กรใดที่ไปอุดไว้ทำให้เกิดทางตัน นายทักษิณ กล่าวว่า เราต้องเข้าใจก่อนว่า เมืองไทยเรานี้ คนอยากเป็นนายกฯ ก็เยอะ ลูกชายไปเที่ยวเมืองนอกก็ประกาศเลยว่า พ่อจะต้องเป็นนายกฯ ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ตนจะเล่าให้ฟังคนที่อยากไปเป็นนายกฯ นี่ เขายอมทำทุกอย่าง เพราะอยากให้หมอดูแม่น เดี๋ยวหมอดูจะไม่แม่นไป

    เมื่อถามว่า เขาทำเพื่อหมอดูหรือเพื่อตัวเอง นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ด้วยกัน ส่วนจะได้เป็นนายกหรือไม่นั้นตนไม่รู้เพราะเห็นว่าลูกชายพูดแบบนั้น

    จากนั้นพิธีกร ถามว่าในแคนดิเดตนายกฯ ส่วนใหญ่มีแต่ลูกสาว แต่มีอยู่คนเดียว คือ น.หนูอนุทินแน่ๆ นายทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดนะ

    พิธีย้อนถามถึงปัญหาทางตันที่เกิดขึ้น นายทักษิณ กล่าวว่า การเมืองมีหลายรูปแบบโดยเฉพาะเรื่องนิติสงครามเข้ามาด้วย บางทีก็เป็นเรื่องของตัวเลขในสภาฯ ซึ่งเป็นคณิตศาสตร์ทางการเมือง ทุกคนเก่งคณิตคณิตศาสตร์หมด มันไม่มีอะไรเกินกว่าที่ไม่สามารถแก้ได้ ตนบอกเลยว่าไม่ตัน

    เมื่อถามถึง การเอาที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกจากรัฐบาลจะทำให้เกิดทางตันหรือไม่ นายทักษิณ ย้ำว่าไม่ได้ขอให้ออก เพียงแต่ว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาลที่ต้องมีผลงานเพราะชอบสู้ด้วยนโยบาย เพราะแถลงไปแล้วมันเป็นไปตามที่แถลงก็ต้องพยามผลักดัน แต่มันไปติดที่กระทรวงมหาดไทย ก็นโยบายหลายเรื่องทั้งยาเสพติดและการแก้ไขปัญหาความยากจน ทุกอย่างเรื่องหนี้ เรื่องโอทอป มันต้องอาศัยกลไกของมหาดไทยทั้งนั้น เเม้กระทั่ง เรื่องสร้างบ้านให้คนไทย ที่ต้องทำสัญญา 99 ปีก็ต้องไปผ่านมหาดไทย

    ”พูดให้ชัดเจน พรรคเพื่อไทยบอกว่าขอมหาดไทยคืน แต่เขาไม่ตกลง เราก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะออกหรือไม่ นายกเล่าให้ตนฟังว่า ยังอยากให้เขาอยู่ตรงนี้ อยู่ทำด้วยกัน พอดีมีเหตุฮุนเซน ก็ได้จังหวะเตะลูกพร้อม“

    พิธีกร ถามว่า เขามีการคอนเน็คติ้งกันหรือไม่ ระหว่างกัมพูชา ในไทยกับกัมพูชาในกัมพูชา นายทักษิณ กล่าวว่า ผมไม่กลัาจะไปปรักปรำใคร มันบังเอิญ

    นายทักษิณ ยังย้ำว่าการแก้ไขทางตันนั้นไม่มีปัญหาอะไรต้องแก้ไปด้วยคณิตศาสตร์ทางการเมือง พร้อมยืนยันเสถียรภาพรัฐบาล ยังไม่ใช่ตันเลย

    พิธีกรได้ถามถึงพรรคภูมิใจไทยที่ออกไปเป็นฝ่ายค้านแล้วขย่มร่วมกับกลไกของ สว. จนทำให้นายกฯ ต้องพักการปฏิบัติหน้าที่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตนจะเล่าให้ฟัง เรื่องการฮั้วสว. ซึ่งสวโดนกล่าวหา ว่ามีการฮั้ว ซึ่งพูดเพราะไปนะ ต้องใช้คำว่าโกงเลือกตั้ง เรื่องนี้จริยธรรมมันไม่มีแล้ว แล้วจะมาร้องจริยธรรมทำไม ในเมื่อคนร้องไม่มีจริยธรรมแล้วจะมาร้องจริยธรรมคนอื่น เป็นเรื่องที่จะทำยังไงให้รัฐบาลล่ม ให้ทันกรกฎาคน มันกลายเป็นว่า zero-sum game แล้วเป็น Race Against Time

    “ผมถามเรื่องสว.พรรคร่วมรัฐบาลจะเอายังไงกันดี ทุกคนบอกไม่มีใครยุ่ง แต่ตนเห็นมีรายงานการสืบสวนที่เขาเล่าให้ผมฟัง ว่ามีเตรียมการตั้งแต่เลือกตั้งสส. ตนตกใจสุดขีดว่าวิสัยทัศน์เขาดีมาก ที่สส.เลือกตั้งก่อน แล้วใครคุมสส. 15 คนจะได้โควตา สว.หนึ่งคน นายทักษิณ กล่าว

    พิธีกร ย้อนถามเรื่องเสียงในสภาฯ ที่ปริ่มน้ำจะต้องทำยังไง นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องบริหารและเพิ่มคนไป เดี๋ยวก็ต้องร้องเพลง ” ฉันป่าวนะเขามาเอง“ก็ไม่มีปัญหา พวกเราเป็นเบิร์ด เพราะรักทุกๆคน ปัญหาเขามีไว้ให้แก้เขาไม่ได้มีไว้ให้แบก ตนมองปัญหาเป็นความท้าทาย ถ้าคิดว่าเป็นปัญหาก็เครียดตายไม่ต้องนอน

    “ เราอยู่ในโลกที่มีกติกาก็ต้องเคารพกติกาแต่เมื่อศาลบอกว่าให้พักปฎิบัติหน้าที่เราก็พักซะ แต่คนมีหน้าที่ก็ทำไป เป็นเรื่องที่เราต้องทำตามกติกา ถ้าเราไม่เคารพกติกาไปบิดเบี้ยวกติกา มันก็อยู่ด้วยกันยาก “ นายทักษิณ กล่าว

    ส่วนถ้าคนชกนอกกติกา นายทักษิณ กล่าวว่า ตนก็กระทืบเท้าเขา จะกระทืบตัวเองทำไม

    นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า สมัยนี้นิติสงครามไม่เหมือนเดิม ไม่แรงกว่าเดิม สมัยก่อนมีระบบคอมแมนคอนโทรล สมัยนี้ร้องและทำหน้าที่พิจารณา แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำตาม ระบบยังมีกติกาของมันอยู่ แม้จะหยุมหยิม แต่มีหลักมีเกณฑ์กว่าสมัยก่อน ส่วนที่องค์กรอิสระไม่กี่คนมาตัดสิน จริงๆ แล้ว ก็ไม่ควรเป็นเช่นนี้ แต่ถ้าเราเข้ามาแล้วมีกติกาแบบนี้ ก็ต้องเดินไปก่อน โดนจนชินแล้ว เป็นเรื่องที่เราก็ต้องสู้ไป แก้ไป อะไรแก้ได้ก็แก้ อะไรแก้ไม่ได้ก็ต้องอยู่ในกติกานั้น

    นายทักษิณ มองว่าการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเพื่อลดกระแสมากกว่า คนละเรื่องกับการตัดสิน ส่วนวิตกกังวลหรือไม่ว่าน.ส.แพทองธารจะพ้นจากหน้าที่นายกรัฐมนตรี แล้วทำให้เกมการเมืองถึงขั้นยุบสภาฯ นายทักษิณยืนยันว่าตนมั่นใจตามข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงและมั่นใจความบริสุทธิ์ใจของลูกสาว เชื่อว่าศาลน่าจะรับฟังด้วยเหตุและผลว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ก็อธิบายได้หมดทุกอย่าง ส่วนพรรคที่ออกไป เพราะคิดว่าน.ส.แพทองธารไม่รอดนั้น ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าใครไปทำอะไรหรือไม่

    หากเขาไปสุมหัวจะตั้งรัฐบาลแล้ว นายทักษิณ บอกว่าจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด ตนเดาอยู่แล้ว ผมไม่อยากให้เขาออก แต่เขาอยากออก แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ก็อย่าไปเสียใจกับมัน เราไม่สามารถควบคุมได้เพราะเราชวนเขาแล้ว เขาไม่เอา ไม่เอาก็ช่วยไม่ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไร เราก็อยู่ได้ เพราะแลกกระทรวงอื่นเขาก็ไม่เอา เขาจะเอากระทรวงมหาดไทยกับคมนาคม ส่วนเหตุผลที่ไม่ให้นั้นเพราะเรารู้อดีตเขา

    สำหรับกรณีที่หากย้อนกลับไปแล้วผิดหวังกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยรอบแรกปี 2551 ที่พรรค ภท. ไปตั้งพรรคของตัวเองแล้วไปร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อีกขั้วหนึ่ง ส่วนรอบนี้ก็ผิดหวังอีกนั้น นายทักษิณ บอกว่าการเมืองต้องเข้าใจว่าการเมืองบ้านเรามีกฎไว้เลี่ยง ผมกลับมาลืมอดีตหมดแล้ว พยายามจะเริ่มต้นใหม่ ส่วนจะมีรอบที่สามกับภูมิใจไทยหรือไม่นั้น นายทักษิณ บอกว่า การเมืองบ้านเรา วันนี้เป็นการออกแบบการเมืองที่แย่ที่สุด ตั้งแต่ทหารปฏิวัติมาเนี่ยแหละ เวลาเขาเขียนรัฐธรรมนูญ เขาเห็นหน้าผมอยู่ กันผมในทุกรูปแบบ กันจนผลสุดท้ายบ้านเมืองมีปัญหา การเมืองแบบหัวแตก พรรคเล็กพรรคน้อยเยอะแยะ ทำงานยาก ไม่เหมือนตอนตนแก้ปัญหาต้มยำกุ้ง เพราะเป็นพรรคใหญ่ ไม่มีระบบสัมปทานกระทรวง มาวันนี้มันแย่แล้ว ให้ไปบริหารแต่กับไปทำธุรการกับธุรกิจ ธุรการคือแต่งตั้งโยกย้าย ธุรกิจคือวางไข่ออกไข่ วันนี้กติกาแบบนี้สร้างวัฒนธรรม ไม่ทำไม่ผิด เมื่อถามย้ำ จะมีรอบสาม กับภูมิใจไทย หรือไม่ นายทักษิณ ระบุการเมืองไทย ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร เมื่อการเมืองออกแบบแบบนี้ ไม่สามารถที่จะบอกว่าจะอยู่คนเดียวในรัฐบาลนี้ สูตรคณิตศาสตร์ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้นก็ต้องกลืนเลือด ซัก 3-4 ปี๊ป ก็ว่าไป ไม่ปิดโอกาสร่วมมือพรรคส้ม แต่วันนี้ยังไม่จำเป็น บอกสีน้ำเงินส้ม จับมือกันได้หลวมๆ เหตุเป็นปลาคนละน้ำ ชี้บริบทรัฐบาล มีหลายออฟชั่น

    นายทักษิณ ยังตอบคำถามกรณีตนเองเป็นทางตันหรือไม่ และปัญหาทั้งหมดเกิดเพราะท่านหรือไม่นั้น ว่า หลายคนอาจจะไม่ชอบหน้าเป็นพิเศษ จึงทำให้ตนมีขาประจำ ซึ่งตนเมินขาประจำที่เป็นมา 20 ปี พ่อเสียชีวิตก็ลืมถามว่าพ่อของใครมีปัญหากับพ่อของเขาหรือไม่ ส่วนที่เหตุใดจึงไม่สามารถโน้มน้าวคนกลุ่มนี้ได้นั้น ตนมองว่าหากคนกลุ่มนี้มาพูดคุยกับตน ซึ่งบางคนไม่รู้จักตนด้วยซ้ำ ไม่เคยเจอเห็นแต่ในทีวี แต่เมื่อเห็นก็รู้สึกหมั่นไส้แล้ว ซึ่งตนเป็นคนที่สร้างตัวจากไม่มีอะไรมาด้วยตัวเอง จึงไม่ค่อยอะไร

    ส่วนมาถามว่าเพราะอะไรถึงเห็นในทีวีแล้วหมั่นไส้ นายทักษิณ ระบุว่า ตนยังคงงงอยู่ ส่วนนายกฯ แพทองธาร เคยถามหรือไม่ว่าไปทำอะไรให้คนกลุ่มนั้น ถึงมาเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน นายทักษิณ ตอบสั้นๆ ว่า “ผมก็กวาดน้ำ อย่าไปคิดอะไรมาก”

    ส่วนในฐานะที่คลุกคลีกับการเมืองมา 51 ปี โอกาสที่พรรคสีแดงอย่างพรรคเพื่อไทยจะไปผสมกับพรรคประชาชนนายทักษิณ ระบุว่า “ในวันนี้ยังไม่มีมีความจำ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นศรัตรูกับพรรคใดพรรคหนึ่ง ยืนยันว่าไม่ได้เป็น แต่การจะทำงานกับใครต้องมั่นใจว่าเราไปด้วยกันได้ และไม่ขัดนโยบายหลักๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสถาบัน เรื่องเจ้านาย เพราะตนได้รับพระเมตตาสูงสุด ดังนั้นตนจะไม่มีทางที่จะไปทำงานกับใครที่กระทบกระเทือนกับสถาบัน

    หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมาสีส้มไม่ได้มีการพูดถึงประเด็นมาตรา 112 จะสามารถร่วมมือกันได้หรือไม่ นายทักษิณ ตอบ ”ไม่รู้ เพราะไม่ได้คุยกันเลย“

    สำหรับสีน้ำเงินกับสีส้มมีโอกาสจับมือกันได้หรือไม่ในขณะที่เป็น ตนมองว่า หากจะจับก็จับหลวมๆ เพราะเป็นปลาคนละน้ำ ส่วนน้ำของแดงกับส้มใกล้เคียงกว่ากันนั้นหรือไม่ หากพูดความจริงเป็นพรรคที่เกิดจากนโยบายพรรคที่เกิดจากการหาเสียงมาสไตล์เดียวกัน ถ้าเห็นไทยรักไทยอย่างไรพรรคส้มก็คล้ายๆ กัน

    อย่างนั้นส้มกับน้ำเงินปลาคนละน้ำ แต่แดงกับส้มปลาน้ำกันใช่หรือไม่ นายทักษิณ บอกว่า เป็นวงสีธรรมชาติ สีส้มเกิดจากสีแดงรวมกับสีเหลือง ถ้าแดงแยกไปประสมกับน้ำเงินจะเป็นสีม่วง และสีเหลืองผสมสีน้ำเงินเป็นสีเขียว ถ้าสีม่วงกับสีเหลืองไปผสมกันจะเป็นสีช้ำเลือดช้ำหนอง สีไม่สวย ส่วนสีแดงผสมกับสีส้มจะเป็นสีแสด ซึ่งสีแสดมันแรงไป

    ส่วนที่อดีตนายกวิเคราะห์ ยังไม่จำเป็นที่จะจับมือกับสีส้ม เสียงอย่างพอ โดยนายทักษิณระบุว่า พรรคแกนนำรัฐบาลยังมีความสามัคคีทำงานด้วยกันได้ ไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่าต้องคุมในสภามาให้โดสภาแค่นั้นเอง ไม่ให้โดดกฎหมายสำคัญ
    ส่วนหลังจากนั้นหนูเปล่านะเขามาเอง

    ส่วนกลไกการเมืองในปัจจุบัน เป็นอุปสรรคต่อรัฐบาลในปัจจุบัน นายทักษิณ ระบุว่า มีปัญหาไว้ให้แก้เมื่อมีอุปสรรคต้องแก้ไป หากถามว่าถึงทางตันหรือไม่ไม่ตัน ส่วนกลไกบริบทปัจจุบันทำให้นายกรัฐมนตรีไปสู่การติดกับดัก และรักการนายกฯ ต้องประคองต่อ หรือหากไม่ลาออกก็ต้องยุบสภา รัฐบาลจะอายุสั้น นายทักษิณ ระบุว่า มีหลาย option 1.คือนายกแพทองธารทองคำรอด ก็สามารถกลับไปทำงานเต็มที่และทำยาว 2. แต่ถ้าสมมุติว่าไม่รอดมี 2 ทางเลือก คือเสนอนายชัยเกษม นิติสิริ หรือยุบสภา และตอนนี้นายชัยเกษมก็ยังฟิต อยู่ตีกอล์ฟสบายมาก

    เมื่อถามว่า ท่านดูอารมณ์ของคนไทย ที่ถูกตั้งคำถามเหมือนกัน เพื่อไทยที่เป็นแกนนำ มีอาวุธอยู่สองอาวุธ คือ นายเศรษฐา ทวีสิน ติดกับดักจริยธรรมของ ศาลรัฐธรรมนูญ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ติดกับดักของศาลรัฐธรรมนูญเข้าไปอีก ท่านคิดว่านายชัยเกษม ที่เป็นกลไกที่สาม จะเป็นทางรอดของประเทศหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ผมยังอยู่เอาออกไม่ได้ ตนยังเป็นสทร. เหมือนเดิม ผมไม่ยอม อายุ 76 ปียังหนุ่มอยู่ ขอให้บ้านเมืองรอด เอาเรื่องบ้านเมืองเป็นหลัก

    เมื่อถามว่า ถ้าเทียบกับช่วงสิงหาคมปี 2566 มีทัวร์ลงเยอะ วิบากกรรมเยอะขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร ตื่นเช้ามาวันนี้ต้องขึ้นศาลก็ขึ้นไป มันแก่แล้วปล่อยวางไปเยอะแล้ว ผมหยุดแล้วแต่ท่านไม่หยุด ตนต้องทำให้บ้านเมือง จะให้ทำอย่างไร ภาวะเศรษฐกิจในวันนี้ ถ้าตนไม่เสือกแล้วใครจะเสือก มันยากนะ วันนี้ปัญหาบ้านเมืองตนอยู่เฉยไม่ได้ ในฐานะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีและลูกเป็นนายกรัฐมนตรี มีอะไรก็ต้องช่วยกัน วันนี้ประชุมว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งตนออกนอกประเทศไม่ได้ถ้าออกได้จะสนุกกว่านี้

    เมื่อถามว่าอยากจะออกไปช่วย แล้วมีคดีมองว่าเหมือนมีใครมาล่ามขาไว้หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นเรื่องต่อเนื่องจากคราวที่แล้ว ตอนที่ปฏิวัติปี 2549 คดีของตนจะหมดอายุความก็เลยล็อคไว้ก่อน โดยใช้การสัมภาษณ์ที่เกี่ยวข้องกับม. 112 ที่เกาหลีใต้ ซึ่งตนไม่กังวล เราไม่มีอะไรเลย ซึ่งถ้าเป็นภาวะปกติ ก็คงไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาแต่เป็นภาวะพิเศษ

    เมื่อถามว่า ในกลไกบริบททางการเมือง ในปัจจุบันทั้งกลไกเรื่องฝ่ายค้าน กลไกนิติสงครามทางข้อกฎหมาย กลไกองค์การอิสระ จะมีกลไกมีอำนาจอะไรที่เหนือกว่าสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ที่จะทำให้การทำงานของรัฐบาลเดินต่อไปไม่ค่อยได้ สะดุดตลอด นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีอะไรเลย มีแต่ความหยุมหยิมของระบบ ซึ่งต้องแก้ระบบการเมืองที่วางไว้ องค์การอิสระที่อนุญาตให้ใครก็ได้มาร้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่คดีหลบไปหมด ซึ่งอาจจะส่งเสริมอาชีพนักร้อง บางคนรับจ้างร้องหรือบางคนรับจ้างหยุดร้อง

    เมื่อถามว่า การกลับมาเป็น สทร. กลัวจะมีอำนาจอะไรหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า อย่ามากลัวตน หมูเรียกพี่ใครเจอตน ผมหมูจะตาย ไม่เคยฆ่าใครมีแต่ช่วยคน

    เมื่อถามว่า สายน้ำเงิน บอกว่าไม่กลัวลูกแต่กลัวพ่อนายทักษิณ กล่าวว่า ตนคุยชัดเจนจะตาย ถ้าชัดเจนแบบที่ตนบอกก็จบไปแล้ว

    เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกับนายเนวิน หรือนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่าไม่ได้คุยเลย เพราะเขาไม่คุยกับตน พรรคที่ร่วมรัฐบาล แปลสภาพมาเป็นฝ่ายค้าน

    เมื่อถามว่า ไม่รู้จะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายแค้น นายทักษิณ กล่าวว่า น่าจะแค้นมากกว่าค้าน เมื่อถามถึงเรื่องการทำงาน โดยเฉพาะในส่วนกระทรวงมหาดไทยที่เข้าไปดูแลกรมที่ดิน ประเมินเรื่องเขากระโดงอย่างไร นายทักษิณกล่าวว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกติกา และกฎหมาย ซึ่งที่ดินอัลไพน์ก็โดนสั่งถอน ว่ากันไปตามกติกามีสิทธิ์ก็รักษาสิทธิ์ไป ใครนั่งทับสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ต้องโดน ม. 157 และเดี๋ยวอีกไม่นานก็ต้องมีคนมาร้อง มท.1ใหม่ ซึ่งตอนนี้ก็มาแล้ว เป็นอย่างที่เขาบอกว่าบ้านเมืองเราไม่ใช่ผู้เสียหายก็ร้องได้เลอะเทอะไปหมด

    ส่วนเรื่องการทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ มีการโยกย้ายทันที ถือว่ามาถูกทางหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่าต้องเห็นใจ เขามาจากกระทรวงกลาโหม มาถึงตรงนี้ต้องเด็ดขาด และมองว่ากลไกกระทรวงมหาดไทยเริ่มทำงานแล้ว ได้ข่าวรัฐมนตรีบอกว่าจะดุเอง บอกว่าไม่ต้องมาต้อนรับ หากผู้ว่าฯไม่ทำงานก็จะโดน

    ส่วนในแง่การทำงานระหว่างที่นางสาวแพทองธารถูกพักการทำหน้าที่ จะสร้างความมั่นใจให้คนอย่างไรว่ารัฐบาลยังไม่ถึงจุดอับ ทักษิณกล่าวว่า

    “พ่อนายกอยู่นี่ ยังไงก็ดูแลบ้านเมืองเต็มที่ มีอะไรก็บอกให้รัฐมนตรีช่วยกันทำเชื่อว่าไม่มีสูญญากาศ ส่วนที่บอกว่าข้าราชการจะเกียร์ว่างนั้นไม่ต้องว่าง ไม่ต้องรอสถานการณ์การเมือง อย่าไปคิดว่า river จะ return”

    เมื่อถามว่าระบบราชการหลังรัฐประหารเปลี่ยนไป นายทักษิณยอมรับว่า เปลี่ยนไป ข้าราชการบางคนบอกว่าจะกลับมา แต่ตนขอบอกว่า river of no return จะรีเทิร์นต้องรอเลือกตั้งสมัยหน้า

    เมื่อถามว่าคะแนนนิยมที่ลดลง น่าห่วงหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า การเมืองเป็นกระแส ต้องดูว่าในภาวะการณ์ไหน หากโดนรุมอย่างนี้ หากเป็นทางโซเชียลมีเดีย ซอมบี้ทั้งหลาย ก็จะมีการปั่นกันโกรธกัน สักเดี๋ยวก็หยุด

    ส่วนจะขับเคลื่อนโครงการใหญ่ได้อย่างไร ในช่วงที่การเมืองไม่มีเสถียรภาพ นายทักษิณกล่าวว่าอะไรที่เคลื่อนได้ก็ต้องเคลื่อน อะไรที่เป็นรูทีนก็ต้องขับเคลื่อนทั้งเรื่องยาเสพติดการแก้หนี้การเพิ่มรายได้ให้ประชาชนต้องทำอย่างต่อเนื่อง แต่เรื่องโครงการใหญ่ใหญ่อยู่ในแนยทางอยู่แล้วก็ต้องทำไปส่วนเรื่องเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์วันนี้ถอนออกมาเพราะไม่อยากให้สับสน ซึ่งช่วงนี้ต้องเรียงลำดับความสำคัญก็ไม่เป็นไร”
    รีโพสต์เพจ สรยุทธ์ สุทัศนจินดา 9/7/68 “‘ทักษิณ’ ลั่นเมืองไทยไม่มีทางตัน แค่มีคนอุดไว้ บอก นายกฯ อิ๊งค์ ยังอยากให้ภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล แต่เขาใช้คลิปฮุนเซน เป็นจังหวะเตะลูก พร้อมแฉกลฮั้วสว.วางแผนตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง สส. รับตกใจเห็นวิสัยทัศน์แยบยล ขาย สส.พ่วง สว. มั่นใจความบริสุทธิ์ลูกสาว หวังศาลรับฟัง ไม่ปิดประตู มีโอกาสกลืนเลือด 4 ปี๊บ จูบปาก ‘ภท.’ รอบสาม หากติดคณิตศาสตร์การเมือง ลั่น ผมหมูจะตาย มีแต่ช่วยคน จะกลัวผมทำไม ชี้ ผมต้องช่วยประเทศ จะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ เผย ไม่ได้คุยกับ ‘เนวิน - อนุทิน’ เลย มอง ภท. เป็นฝ่ายแค้นมากกว่าฝ่ายค้าน ลั่น พ่อนายกอยู่นี่ เชื่อการเมืองไม่มีสูญญากาศ แม้ ‘อิ๊งค์’ ถูกสั่งพักงาน ชม มท.1 คนใหม่ มาถูกทาง สั่งโยกย้ายทันทีหลังเริ่มงาน บอก river of no return หากจะรีเทิร์นต้องรอสมัยหน้า เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 9 กรกฎาคม ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมเป็นแขกรับเชิญในรายการ 55 ปี เนชั่น ผ่าทางตันประเทศไทย เอ็กซ์คลูซีฟ ทอล์ก กับ 4 ผู้นำทางความคิด ร่วมชี้ทางรอดการเมือง ทางออกประเทศไทย 3 บก. ถาม บก.ที่ 4 ตอบ โดยก่อนเริ่มถ่ายทอดสด พิธีกรได้เชิญนายทักษิณขึ้นบนเวที โดยนายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้มาในฐานะพ่อนายกฯ ขณะเดียวกันพิธีได้ถามนายทักษิณว่า ไปไหนมาไหนต้องมีลูกสาวเกาะติดเป็นผู้ติดตามตลอด นายทักษิณ ยิ้มและกล่าวว่า “ผมเป็นคนที่ใกล้ชิดลูกๆ 17 ปีที่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดลูกๆ กลับมาเขาก็ต้องมาคอยเป็นห่วงเป็นใย” จากนั้นเข้าสู่การถ่ายทอดสด โดยพิธีได้ถามว่า วันนี้ประเทศถึงทางตันหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “แสดงว่ามีคนอุดไว้ มันถึงจะตัน เหตุเกิดที่ไหนดับที่นั่น” ส่วนเป็นกลุ่มใด องค์กรใดที่ไปอุดไว้ทำให้เกิดทางตัน นายทักษิณ กล่าวว่า เราต้องเข้าใจก่อนว่า เมืองไทยเรานี้ คนอยากเป็นนายกฯ ก็เยอะ ลูกชายไปเที่ยวเมืองนอกก็ประกาศเลยว่า พ่อจะต้องเป็นนายกฯ ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ตนจะเล่าให้ฟังคนที่อยากไปเป็นนายกฯ นี่ เขายอมทำทุกอย่าง เพราะอยากให้หมอดูแม่น เดี๋ยวหมอดูจะไม่แม่นไป เมื่อถามว่า เขาทำเพื่อหมอดูหรือเพื่อตัวเอง นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ด้วยกัน ส่วนจะได้เป็นนายกหรือไม่นั้นตนไม่รู้เพราะเห็นว่าลูกชายพูดแบบนั้น จากนั้นพิธีกร ถามว่าในแคนดิเดตนายกฯ ส่วนใหญ่มีแต่ลูกสาว แต่มีอยู่คนเดียว คือ น.หนูอนุทินแน่ๆ นายทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดนะ พิธีย้อนถามถึงปัญหาทางตันที่เกิดขึ้น นายทักษิณ กล่าวว่า การเมืองมีหลายรูปแบบโดยเฉพาะเรื่องนิติสงครามเข้ามาด้วย บางทีก็เป็นเรื่องของตัวเลขในสภาฯ ซึ่งเป็นคณิตศาสตร์ทางการเมือง ทุกคนเก่งคณิตคณิตศาสตร์หมด มันไม่มีอะไรเกินกว่าที่ไม่สามารถแก้ได้ ตนบอกเลยว่าไม่ตัน เมื่อถามถึง การเอาที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกจากรัฐบาลจะทำให้เกิดทางตันหรือไม่ นายทักษิณ ย้ำว่าไม่ได้ขอให้ออก เพียงแต่ว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาลที่ต้องมีผลงานเพราะชอบสู้ด้วยนโยบาย เพราะแถลงไปแล้วมันเป็นไปตามที่แถลงก็ต้องพยามผลักดัน แต่มันไปติดที่กระทรวงมหาดไทย ก็นโยบายหลายเรื่องทั้งยาเสพติดและการแก้ไขปัญหาความยากจน ทุกอย่างเรื่องหนี้ เรื่องโอทอป มันต้องอาศัยกลไกของมหาดไทยทั้งนั้น เเม้กระทั่ง เรื่องสร้างบ้านให้คนไทย ที่ต้องทำสัญญา 99 ปีก็ต้องไปผ่านมหาดไทย ”พูดให้ชัดเจน พรรคเพื่อไทยบอกว่าขอมหาดไทยคืน แต่เขาไม่ตกลง เราก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะออกหรือไม่ นายกเล่าให้ตนฟังว่า ยังอยากให้เขาอยู่ตรงนี้ อยู่ทำด้วยกัน พอดีมีเหตุฮุนเซน ก็ได้จังหวะเตะลูกพร้อม“ พิธีกร ถามว่า เขามีการคอนเน็คติ้งกันหรือไม่ ระหว่างกัมพูชา ในไทยกับกัมพูชาในกัมพูชา นายทักษิณ กล่าวว่า ผมไม่กลัาจะไปปรักปรำใคร มันบังเอิญ นายทักษิณ ยังย้ำว่าการแก้ไขทางตันนั้นไม่มีปัญหาอะไรต้องแก้ไปด้วยคณิตศาสตร์ทางการเมือง พร้อมยืนยันเสถียรภาพรัฐบาล ยังไม่ใช่ตันเลย พิธีกรได้ถามถึงพรรคภูมิใจไทยที่ออกไปเป็นฝ่ายค้านแล้วขย่มร่วมกับกลไกของ สว. จนทำให้นายกฯ ต้องพักการปฏิบัติหน้าที่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตนจะเล่าให้ฟัง เรื่องการฮั้วสว. ซึ่งสวโดนกล่าวหา ว่ามีการฮั้ว ซึ่งพูดเพราะไปนะ ต้องใช้คำว่าโกงเลือกตั้ง เรื่องนี้จริยธรรมมันไม่มีแล้ว แล้วจะมาร้องจริยธรรมทำไม ในเมื่อคนร้องไม่มีจริยธรรมแล้วจะมาร้องจริยธรรมคนอื่น เป็นเรื่องที่จะทำยังไงให้รัฐบาลล่ม ให้ทันกรกฎาคน มันกลายเป็นว่า zero-sum game แล้วเป็น Race Against Time “ผมถามเรื่องสว.พรรคร่วมรัฐบาลจะเอายังไงกันดี ทุกคนบอกไม่มีใครยุ่ง แต่ตนเห็นมีรายงานการสืบสวนที่เขาเล่าให้ผมฟัง ว่ามีเตรียมการตั้งแต่เลือกตั้งสส. ตนตกใจสุดขีดว่าวิสัยทัศน์เขาดีมาก ที่สส.เลือกตั้งก่อน แล้วใครคุมสส. 15 คนจะได้โควตา สว.หนึ่งคน นายทักษิณ กล่าว พิธีกร ย้อนถามเรื่องเสียงในสภาฯ ที่ปริ่มน้ำจะต้องทำยังไง นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องบริหารและเพิ่มคนไป เดี๋ยวก็ต้องร้องเพลง ” ฉันป่าวนะเขามาเอง“ก็ไม่มีปัญหา พวกเราเป็นเบิร์ด เพราะรักทุกๆคน ปัญหาเขามีไว้ให้แก้เขาไม่ได้มีไว้ให้แบก ตนมองปัญหาเป็นความท้าทาย ถ้าคิดว่าเป็นปัญหาก็เครียดตายไม่ต้องนอน “ เราอยู่ในโลกที่มีกติกาก็ต้องเคารพกติกาแต่เมื่อศาลบอกว่าให้พักปฎิบัติหน้าที่เราก็พักซะ แต่คนมีหน้าที่ก็ทำไป เป็นเรื่องที่เราต้องทำตามกติกา ถ้าเราไม่เคารพกติกาไปบิดเบี้ยวกติกา มันก็อยู่ด้วยกันยาก “ นายทักษิณ กล่าว ส่วนถ้าคนชกนอกกติกา นายทักษิณ กล่าวว่า ตนก็กระทืบเท้าเขา จะกระทืบตัวเองทำไม นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า สมัยนี้นิติสงครามไม่เหมือนเดิม ไม่แรงกว่าเดิม สมัยก่อนมีระบบคอมแมนคอนโทรล สมัยนี้ร้องและทำหน้าที่พิจารณา แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำตาม ระบบยังมีกติกาของมันอยู่ แม้จะหยุมหยิม แต่มีหลักมีเกณฑ์กว่าสมัยก่อน ส่วนที่องค์กรอิสระไม่กี่คนมาตัดสิน จริงๆ แล้ว ก็ไม่ควรเป็นเช่นนี้ แต่ถ้าเราเข้ามาแล้วมีกติกาแบบนี้ ก็ต้องเดินไปก่อน โดนจนชินแล้ว เป็นเรื่องที่เราก็ต้องสู้ไป แก้ไป อะไรแก้ได้ก็แก้ อะไรแก้ไม่ได้ก็ต้องอยู่ในกติกานั้น นายทักษิณ มองว่าการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเพื่อลดกระแสมากกว่า คนละเรื่องกับการตัดสิน ส่วนวิตกกังวลหรือไม่ว่าน.ส.แพทองธารจะพ้นจากหน้าที่นายกรัฐมนตรี แล้วทำให้เกมการเมืองถึงขั้นยุบสภาฯ นายทักษิณยืนยันว่าตนมั่นใจตามข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงและมั่นใจความบริสุทธิ์ใจของลูกสาว เชื่อว่าศาลน่าจะรับฟังด้วยเหตุและผลว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ก็อธิบายได้หมดทุกอย่าง ส่วนพรรคที่ออกไป เพราะคิดว่าน.ส.แพทองธารไม่รอดนั้น ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าใครไปทำอะไรหรือไม่ หากเขาไปสุมหัวจะตั้งรัฐบาลแล้ว นายทักษิณ บอกว่าจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด ตนเดาอยู่แล้ว ผมไม่อยากให้เขาออก แต่เขาอยากออก แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ก็อย่าไปเสียใจกับมัน เราไม่สามารถควบคุมได้เพราะเราชวนเขาแล้ว เขาไม่เอา ไม่เอาก็ช่วยไม่ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไร เราก็อยู่ได้ เพราะแลกกระทรวงอื่นเขาก็ไม่เอา เขาจะเอากระทรวงมหาดไทยกับคมนาคม ส่วนเหตุผลที่ไม่ให้นั้นเพราะเรารู้อดีตเขา สำหรับกรณีที่หากย้อนกลับไปแล้วผิดหวังกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยรอบแรกปี 2551 ที่พรรค ภท. ไปตั้งพรรคของตัวเองแล้วไปร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อีกขั้วหนึ่ง ส่วนรอบนี้ก็ผิดหวังอีกนั้น นายทักษิณ บอกว่าการเมืองต้องเข้าใจว่าการเมืองบ้านเรามีกฎไว้เลี่ยง ผมกลับมาลืมอดีตหมดแล้ว พยายามจะเริ่มต้นใหม่ ส่วนจะมีรอบที่สามกับภูมิใจไทยหรือไม่นั้น นายทักษิณ บอกว่า การเมืองบ้านเรา วันนี้เป็นการออกแบบการเมืองที่แย่ที่สุด ตั้งแต่ทหารปฏิวัติมาเนี่ยแหละ เวลาเขาเขียนรัฐธรรมนูญ เขาเห็นหน้าผมอยู่ กันผมในทุกรูปแบบ กันจนผลสุดท้ายบ้านเมืองมีปัญหา การเมืองแบบหัวแตก พรรคเล็กพรรคน้อยเยอะแยะ ทำงานยาก ไม่เหมือนตอนตนแก้ปัญหาต้มยำกุ้ง เพราะเป็นพรรคใหญ่ ไม่มีระบบสัมปทานกระทรวง มาวันนี้มันแย่แล้ว ให้ไปบริหารแต่กับไปทำธุรการกับธุรกิจ ธุรการคือแต่งตั้งโยกย้าย ธุรกิจคือวางไข่ออกไข่ วันนี้กติกาแบบนี้สร้างวัฒนธรรม ไม่ทำไม่ผิด เมื่อถามย้ำ จะมีรอบสาม กับภูมิใจไทย หรือไม่ นายทักษิณ ระบุการเมืองไทย ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร เมื่อการเมืองออกแบบแบบนี้ ไม่สามารถที่จะบอกว่าจะอยู่คนเดียวในรัฐบาลนี้ สูตรคณิตศาสตร์ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้นก็ต้องกลืนเลือด ซัก 3-4 ปี๊ป ก็ว่าไป ไม่ปิดโอกาสร่วมมือพรรคส้ม แต่วันนี้ยังไม่จำเป็น บอกสีน้ำเงินส้ม จับมือกันได้หลวมๆ เหตุเป็นปลาคนละน้ำ ชี้บริบทรัฐบาล มีหลายออฟชั่น นายทักษิณ ยังตอบคำถามกรณีตนเองเป็นทางตันหรือไม่ และปัญหาทั้งหมดเกิดเพราะท่านหรือไม่นั้น ว่า หลายคนอาจจะไม่ชอบหน้าเป็นพิเศษ จึงทำให้ตนมีขาประจำ ซึ่งตนเมินขาประจำที่เป็นมา 20 ปี พ่อเสียชีวิตก็ลืมถามว่าพ่อของใครมีปัญหากับพ่อของเขาหรือไม่ ส่วนที่เหตุใดจึงไม่สามารถโน้มน้าวคนกลุ่มนี้ได้นั้น ตนมองว่าหากคนกลุ่มนี้มาพูดคุยกับตน ซึ่งบางคนไม่รู้จักตนด้วยซ้ำ ไม่เคยเจอเห็นแต่ในทีวี แต่เมื่อเห็นก็รู้สึกหมั่นไส้แล้ว ซึ่งตนเป็นคนที่สร้างตัวจากไม่มีอะไรมาด้วยตัวเอง จึงไม่ค่อยอะไร ส่วนมาถามว่าเพราะอะไรถึงเห็นในทีวีแล้วหมั่นไส้ นายทักษิณ ระบุว่า ตนยังคงงงอยู่ ส่วนนายกฯ แพทองธาร เคยถามหรือไม่ว่าไปทำอะไรให้คนกลุ่มนั้น ถึงมาเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน นายทักษิณ ตอบสั้นๆ ว่า “ผมก็กวาดน้ำ อย่าไปคิดอะไรมาก” ส่วนในฐานะที่คลุกคลีกับการเมืองมา 51 ปี โอกาสที่พรรคสีแดงอย่างพรรคเพื่อไทยจะไปผสมกับพรรคประชาชนนายทักษิณ ระบุว่า “ในวันนี้ยังไม่มีมีความจำ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นศรัตรูกับพรรคใดพรรคหนึ่ง ยืนยันว่าไม่ได้เป็น แต่การจะทำงานกับใครต้องมั่นใจว่าเราไปด้วยกันได้ และไม่ขัดนโยบายหลักๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสถาบัน เรื่องเจ้านาย เพราะตนได้รับพระเมตตาสูงสุด ดังนั้นตนจะไม่มีทางที่จะไปทำงานกับใครที่กระทบกระเทือนกับสถาบัน หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมาสีส้มไม่ได้มีการพูดถึงประเด็นมาตรา 112 จะสามารถร่วมมือกันได้หรือไม่ นายทักษิณ ตอบ ”ไม่รู้ เพราะไม่ได้คุยกันเลย“ สำหรับสีน้ำเงินกับสีส้มมีโอกาสจับมือกันได้หรือไม่ในขณะที่เป็น ตนมองว่า หากจะจับก็จับหลวมๆ เพราะเป็นปลาคนละน้ำ ส่วนน้ำของแดงกับส้มใกล้เคียงกว่ากันนั้นหรือไม่ หากพูดความจริงเป็นพรรคที่เกิดจากนโยบายพรรคที่เกิดจากการหาเสียงมาสไตล์เดียวกัน ถ้าเห็นไทยรักไทยอย่างไรพรรคส้มก็คล้ายๆ กัน อย่างนั้นส้มกับน้ำเงินปลาคนละน้ำ แต่แดงกับส้มปลาน้ำกันใช่หรือไม่ นายทักษิณ บอกว่า เป็นวงสีธรรมชาติ สีส้มเกิดจากสีแดงรวมกับสีเหลือง ถ้าแดงแยกไปประสมกับน้ำเงินจะเป็นสีม่วง และสีเหลืองผสมสีน้ำเงินเป็นสีเขียว ถ้าสีม่วงกับสีเหลืองไปผสมกันจะเป็นสีช้ำเลือดช้ำหนอง สีไม่สวย ส่วนสีแดงผสมกับสีส้มจะเป็นสีแสด ซึ่งสีแสดมันแรงไป ส่วนที่อดีตนายกวิเคราะห์ ยังไม่จำเป็นที่จะจับมือกับสีส้ม เสียงอย่างพอ โดยนายทักษิณระบุว่า พรรคแกนนำรัฐบาลยังมีความสามัคคีทำงานด้วยกันได้ ไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่าต้องคุมในสภามาให้โดสภาแค่นั้นเอง ไม่ให้โดดกฎหมายสำคัญ ส่วนหลังจากนั้นหนูเปล่านะเขามาเอง ส่วนกลไกการเมืองในปัจจุบัน เป็นอุปสรรคต่อรัฐบาลในปัจจุบัน นายทักษิณ ระบุว่า มีปัญหาไว้ให้แก้เมื่อมีอุปสรรคต้องแก้ไป หากถามว่าถึงทางตันหรือไม่ไม่ตัน ส่วนกลไกบริบทปัจจุบันทำให้นายกรัฐมนตรีไปสู่การติดกับดัก และรักการนายกฯ ต้องประคองต่อ หรือหากไม่ลาออกก็ต้องยุบสภา รัฐบาลจะอายุสั้น นายทักษิณ ระบุว่า มีหลาย option 1.คือนายกแพทองธารทองคำรอด ก็สามารถกลับไปทำงานเต็มที่และทำยาว 2. แต่ถ้าสมมุติว่าไม่รอดมี 2 ทางเลือก คือเสนอนายชัยเกษม นิติสิริ หรือยุบสภา และตอนนี้นายชัยเกษมก็ยังฟิต อยู่ตีกอล์ฟสบายมาก เมื่อถามว่า ท่านดูอารมณ์ของคนไทย ที่ถูกตั้งคำถามเหมือนกัน เพื่อไทยที่เป็นแกนนำ มีอาวุธอยู่สองอาวุธ คือ นายเศรษฐา ทวีสิน ติดกับดักจริยธรรมของ ศาลรัฐธรรมนูญ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ติดกับดักของศาลรัฐธรรมนูญเข้าไปอีก ท่านคิดว่านายชัยเกษม ที่เป็นกลไกที่สาม จะเป็นทางรอดของประเทศหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ผมยังอยู่เอาออกไม่ได้ ตนยังเป็นสทร. เหมือนเดิม ผมไม่ยอม อายุ 76 ปียังหนุ่มอยู่ ขอให้บ้านเมืองรอด เอาเรื่องบ้านเมืองเป็นหลัก เมื่อถามว่า ถ้าเทียบกับช่วงสิงหาคมปี 2566 มีทัวร์ลงเยอะ วิบากกรรมเยอะขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร ตื่นเช้ามาวันนี้ต้องขึ้นศาลก็ขึ้นไป มันแก่แล้วปล่อยวางไปเยอะแล้ว ผมหยุดแล้วแต่ท่านไม่หยุด ตนต้องทำให้บ้านเมือง จะให้ทำอย่างไร ภาวะเศรษฐกิจในวันนี้ ถ้าตนไม่เสือกแล้วใครจะเสือก มันยากนะ วันนี้ปัญหาบ้านเมืองตนอยู่เฉยไม่ได้ ในฐานะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีและลูกเป็นนายกรัฐมนตรี มีอะไรก็ต้องช่วยกัน วันนี้ประชุมว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งตนออกนอกประเทศไม่ได้ถ้าออกได้จะสนุกกว่านี้ เมื่อถามว่าอยากจะออกไปช่วย แล้วมีคดีมองว่าเหมือนมีใครมาล่ามขาไว้หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นเรื่องต่อเนื่องจากคราวที่แล้ว ตอนที่ปฏิวัติปี 2549 คดีของตนจะหมดอายุความก็เลยล็อคไว้ก่อน โดยใช้การสัมภาษณ์ที่เกี่ยวข้องกับม. 112 ที่เกาหลีใต้ ซึ่งตนไม่กังวล เราไม่มีอะไรเลย ซึ่งถ้าเป็นภาวะปกติ ก็คงไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาแต่เป็นภาวะพิเศษ เมื่อถามว่า ในกลไกบริบททางการเมือง ในปัจจุบันทั้งกลไกเรื่องฝ่ายค้าน กลไกนิติสงครามทางข้อกฎหมาย กลไกองค์การอิสระ จะมีกลไกมีอำนาจอะไรที่เหนือกว่าสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ที่จะทำให้การทำงานของรัฐบาลเดินต่อไปไม่ค่อยได้ สะดุดตลอด นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีอะไรเลย มีแต่ความหยุมหยิมของระบบ ซึ่งต้องแก้ระบบการเมืองที่วางไว้ องค์การอิสระที่อนุญาตให้ใครก็ได้มาร้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่คดีหลบไปหมด ซึ่งอาจจะส่งเสริมอาชีพนักร้อง บางคนรับจ้างร้องหรือบางคนรับจ้างหยุดร้อง เมื่อถามว่า การกลับมาเป็น สทร. กลัวจะมีอำนาจอะไรหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า อย่ามากลัวตน หมูเรียกพี่ใครเจอตน ผมหมูจะตาย ไม่เคยฆ่าใครมีแต่ช่วยคน เมื่อถามว่า สายน้ำเงิน บอกว่าไม่กลัวลูกแต่กลัวพ่อนายทักษิณ กล่าวว่า ตนคุยชัดเจนจะตาย ถ้าชัดเจนแบบที่ตนบอกก็จบไปแล้ว เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกับนายเนวิน หรือนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่าไม่ได้คุยเลย เพราะเขาไม่คุยกับตน พรรคที่ร่วมรัฐบาล แปลสภาพมาเป็นฝ่ายค้าน เมื่อถามว่า ไม่รู้จะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายแค้น นายทักษิณ กล่าวว่า น่าจะแค้นมากกว่าค้าน เมื่อถามถึงเรื่องการทำงาน โดยเฉพาะในส่วนกระทรวงมหาดไทยที่เข้าไปดูแลกรมที่ดิน ประเมินเรื่องเขากระโดงอย่างไร นายทักษิณกล่าวว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกติกา และกฎหมาย ซึ่งที่ดินอัลไพน์ก็โดนสั่งถอน ว่ากันไปตามกติกามีสิทธิ์ก็รักษาสิทธิ์ไป ใครนั่งทับสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ต้องโดน ม. 157 และเดี๋ยวอีกไม่นานก็ต้องมีคนมาร้อง มท.1ใหม่ ซึ่งตอนนี้ก็มาแล้ว เป็นอย่างที่เขาบอกว่าบ้านเมืองเราไม่ใช่ผู้เสียหายก็ร้องได้เลอะเทอะไปหมด ส่วนเรื่องการทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ มีการโยกย้ายทันที ถือว่ามาถูกทางหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่าต้องเห็นใจ เขามาจากกระทรวงกลาโหม มาถึงตรงนี้ต้องเด็ดขาด และมองว่ากลไกกระทรวงมหาดไทยเริ่มทำงานแล้ว ได้ข่าวรัฐมนตรีบอกว่าจะดุเอง บอกว่าไม่ต้องมาต้อนรับ หากผู้ว่าฯไม่ทำงานก็จะโดน ส่วนในแง่การทำงานระหว่างที่นางสาวแพทองธารถูกพักการทำหน้าที่ จะสร้างความมั่นใจให้คนอย่างไรว่ารัฐบาลยังไม่ถึงจุดอับ ทักษิณกล่าวว่า “พ่อนายกอยู่นี่ ยังไงก็ดูแลบ้านเมืองเต็มที่ มีอะไรก็บอกให้รัฐมนตรีช่วยกันทำเชื่อว่าไม่มีสูญญากาศ ส่วนที่บอกว่าข้าราชการจะเกียร์ว่างนั้นไม่ต้องว่าง ไม่ต้องรอสถานการณ์การเมือง อย่าไปคิดว่า river จะ return” เมื่อถามว่าระบบราชการหลังรัฐประหารเปลี่ยนไป นายทักษิณยอมรับว่า เปลี่ยนไป ข้าราชการบางคนบอกว่าจะกลับมา แต่ตนขอบอกว่า river of no return จะรีเทิร์นต้องรอเลือกตั้งสมัยหน้า เมื่อถามว่าคะแนนนิยมที่ลดลง น่าห่วงหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า การเมืองเป็นกระแส ต้องดูว่าในภาวะการณ์ไหน หากโดนรุมอย่างนี้ หากเป็นทางโซเชียลมีเดีย ซอมบี้ทั้งหลาย ก็จะมีการปั่นกันโกรธกัน สักเดี๋ยวก็หยุด ส่วนจะขับเคลื่อนโครงการใหญ่ได้อย่างไร ในช่วงที่การเมืองไม่มีเสถียรภาพ นายทักษิณกล่าวว่าอะไรที่เคลื่อนได้ก็ต้องเคลื่อน อะไรที่เป็นรูทีนก็ต้องขับเคลื่อนทั้งเรื่องยาเสพติดการแก้หนี้การเพิ่มรายได้ให้ประชาชนต้องทำอย่างต่อเนื่อง แต่เรื่องโครงการใหญ่ใหญ่อยู่ในแนยทางอยู่แล้วก็ต้องทำไปส่วนเรื่องเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์วันนี้ถอนออกมาเพราะไม่อยากให้สับสน ซึ่งช่วงนี้ต้องเรียงลำดับความสำคัญก็ไม่เป็นไร”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 426 มุมมอง 0 รีวิว
  • "พท." แถลงย้ำ "นายกฯ" ไม่ลาออก-ไม่ยุบสภาฯ ปัดข่าวทิ้งเก้าอี้หลัง "งบฯ69" ผ่านสภาฯวาระ 3
    https://www.thai-tai.tv/news/19655/
    "พท." แถลงย้ำ "นายกฯ" ไม่ลาออก-ไม่ยุบสภาฯ ปัดข่าวทิ้งเก้าอี้หลัง "งบฯ69" ผ่านสภาฯวาระ 3 https://www.thai-tai.tv/news/19655/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..คิดเล่นๆนะ,ถ้าประชาชนทุกๆคนที่เป็นสมาชิกพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลต่างทำการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคทั้งหมดที่เคยเอาบัตรประชาชนตนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค ไปสนับสนุนการมีอยู่ของสมาชิกพรรคจะเกิดอะไรขึ้นถ้าร่วมสามัคคีใจทำการลาออกจากพวกทรยศอธิปไตยชาติไทยเรานะ,มันจะจัดตั้งพรรคมันก็ล่ารายชื่อเราเพื่อหาสมาชิกพรรคจากประชาชนกันจัง,จริงๆกกต.สมควรล้างสถานะสมาชิกพรรคทุกๆสมัยก่อนมีการเลือกตั้งนะ,ไม่ให้ผูกขาดหรือคงอยู่ของการมีอยู่บุคคลว่าสมัครเป็นสมาชิกพรรคตนไว้,ถ้าสถานะการมีอยู่ของประชาชนที่มาเป็นสมาชิกพรรคไม่ถึงเกณฑ์ห้ามพรรคส่งสส.ลงสมัครรับเลือกตั้งหรือพรรคการเมืองนั้นสิ้นสถานะพรรคการเมืองทันที,เช่นหากพรรคเพื่อไทย ประชาชนไม่พอใจเพราะวลีความว่าทหารไทยอยู่ตรงข้ามฝ่ายเรา,ประชาชนเสื้อแดงจากเคยเอาบัตรประชาชนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคกว่า10-20ล้านคนที่ไม่อัพเดทมีตายทุกๆเดือนทุกๆปีก็ว่า,พากันลาออกออนไลน์ได้ทันทีในนามสมาชิกสนับสนุนการมีอยู่ของพรรคก่อนตั้งพรรคต้องมีสมาชิกจากประชาชนเข้าร่วมด้วยอย่างน้อย1,000คนจึงตั้งพรรคการเมืองได้,ประชาชนลงทะเบียนออนไลน์สายตรงต่อกกต.ว่าขอลาออกการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยทันทีกว่า10-20ล้านคนทันทีเข่นกัน,นั้นแสดงว่าขาดคุณสมบัติการมีอยู่ของพรรคการเมืองทันที,พรรคนั้นจะยุบพรรคไปเองทันทีโดยอัตโนมัติและต้องหาคนหาประชาชนคนไทยที่มีสิทธิเลือกตั้งมาเป็นสมาชิกพรรคใหม่อีกครั้ง จดทะเบียนรายชื่อพรรคใหม่อีกครั้งนั้นเอง,นี้คือประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองชัดเจนอีกทางหนึ่ง,สส.ก็ด้วยสามารถไร้สกัดพรรคการเมืองได้,อิสระจากวิถีพรรคการเมืองได้,
    ..จริงๆหากสส.มีจิตสำนึกจริง จะต้องลาออกจากพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดด้วย,สส.รัฐบาลทุกๆคนสามารถมีข้อหาเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยชาติเข่นกันรวมถึงทุกๆคนที่ได้รับเงินเดือนทำงานให้กับพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดด้วยเพราะเป็นกลไกขับเคลื่อนความชั่วเลวให้ชาติไทยประสบกับภัยคุกคามรุกรานนี้ด้วยทางความมั่นคงทางอธิปไตยของประเทศไทยตนและขาดจิตสำนึกดีชั่ว ไม่รู้สำนึกควรไม่ควร ทำงานให้คนทรยศอธิปไตยแผ่นดินไทยตนเองซึ่งข่าวสารชัดเจนสามารถประกอบการตัดสินใจด้านจิตสำนึกดีชั่วเลวขั้นพื้นฐานได้,แต่ยังมีเจตนาชัดเจนหมายก่อการร่วมกระทำการไปด้วยอย่างตั้งใจเมื่อความชัดปรากฎแล้ว,
    ..นี้คือภัยคุกคามความมั่นคงทางอธิปไตยของประเทศ จะมาล่อเล่นไม่ได้,ประเทศไทยจะเป็นประเทศได้มิใช่ไม่มีที่ไปที่มา,มีเลือดมีเนื้อมีชีวิตผู้กล้ามากมายผู้บริสุทธิ์มากล้นต้องแลกมาเพื่อปกป้องอธิปไตยชาติไทยเรานี้.,สส.และกรรมการพรรคตลอดคนงานที่รับเงินเดือนค่าตอบแทนพรรคนั้นๆทั้งหมดสามารถเข้าใจชัดเจนว่ามีความผิดร้ายแรงอย่างให้อภัยโทษไม่ได้,ประชาชนผู้ร่วมเป็นสมาชิกพรรคนั้นๆก็ด้วยบางคนไม่รับรู้อะไรเลยว่าตนถูกขโมยเลขที่บัตรประชาชนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นๆกกต.จึงต้องมีระบบตรวจสอบสถานะสมาชิกพรรคการเมืองอย่างสะดวกสบายเรียลไทม์ให้เห็นผลว่าเขาเป็นสมาชิกนั้นๆได้แค่ตรวจสอบออนไลน์เรียลไทม์ด้วยเทคโนโลยีเราล้ำสมัยแล้ว,สามารถกดยืนยันลาออกจากสมาชิกนั้นเรียลไทม์ได้เช่นกัน,เราต้องปรับปรุงจริงๆนี้คือประชาชนมีส่วนร่วมจริงทางการบริหารประเทศ ชาติเสียหาย นายกฯไม่จำเป็นต้องลาออกหรือยุบสภาเลย,ประชาชนลาออกจากสมาชิกพรรคการเมืองนั้นๆก็จบ.,สส.ลาออกจากพรรคนั้นๆก็จบหากใช้สไตล์สส.มากจัดตั้งรัฐบาลได้.
    ..สรุป สส.ทั้งหมดคือตัวเหี้ยก็ได้ในตอนนี้,จะเป็นฮีโร่ก็ได้เช่นกันในเวลานี้ที่เป็นแปรสำคัญของทุกๆพรรคการเมืองในฝ่ายรัฐบาล,โยนความผิดให้สส.รัฐบาลเลย เพราะตัวการที่แท้จริงยังไม่ตัดสินใจว่าอะไรผิดถูก สมควรไม่สมควร เหมาะสมไม่เหมาะสม,ไม่ใช่แค่หัวหน้าพรรคหรือมติกรรมการพรรค ตัวพ่อมรึงคือมรึงนั้นล่ะ สส.ประจำพรรคจัดตัังรัฐบาลทั้งหลาย,ลาออกจากการเป็นสส.พรรครัฐบาลตั้งแต่ดูคลิปแล้วจึงจะสมควรสุด,ไม่อยากพูดแค่นั่นจริงๆ,และสื่อเราแบบโซเชียลทุกๆช่องทางสมควรตีหัวให้รู้สำนึกดีชั่วได้แล้ว,
    ..สส.พรรคนี้ทำดีมาก,คนทำงานในพรรคนี้ก็ดีด้วย,สามารถหนีหรือหลุดคดีภัยร้ายแรงด้านความมั่นคงทางอธิปไตยชาติไทยได้,และจริงๆต้องเป็นไปในรูปแบบนี้ด้วย กรรมการพรรค สส.พรรค เจ้าหน้าที่ทำงานแรงงานทุกๆคนในพรรคนั้นๆต้องรับโทษทั้งหมด,หนักเบาลดหย่อนตามบริบทหน้าที่หน้างานการมีส่วนกระบวนการนั้นๆแต่จริงๆโทษเสมอกันหมดในขั้นเรเวลความผิด.,มันจะเป็นบรรทัดฐานสร้างวินัยจิตสำนึกอันดีงามที่ดีในอนาคตได้และต่อยอดสิ่งดีๆเพิ่มขึ้นไปอีก.,และถ้าจะดีหากปลุกกระแสขับไล่สส.ที่อยู่ในพรรครัฐบาลทั้งหมดด้วยขาดจิตสำนึกรับผิดชอบชั่วดีขั้นพื้นฐานในบ้านในเมืองตนเองแท้ๆโดยเฉพาะเรื่องอธิปไตยชาติไทยตนเองเสือกยังคงดำรงตนอยู่เพื่อผลประโยชน์ตนเองต้องมาก่อน,จะสส.พรรคร่วมรัฐบาลก็ด้วย,ตลอดสส.ฝ่ายค้านเองก็เถอะ,เสือกอยากให้รัฐบาลยุบสภา,แต่ตนเองเสือกไม่ลาออกจากสส.ในการปกครองของรัฐบาล,ยุบสภาตัวเองก็พ้นสถานะสส.อยู่ดีกะแต่อยากได้ผลประโยชน์ใส่ตนเองหากลาออกหรือไม่ลาออก,สวัสดิการผลประโยชน์ชดเชยต่างกันก็ว่า,อุบาทก์สิ้นดีทั้งหมด,กลัวไม่ได้บำนาญสส.เหรอ.เดือนละเป็นหมื่นหลายหมื่นเนาะ.
    https://youtu.be/OXDSZRx7mOo?si=Y1y25Eci0honernx
    ..คิดเล่นๆนะ,ถ้าประชาชนทุกๆคนที่เป็นสมาชิกพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลต่างทำการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคทั้งหมดที่เคยเอาบัตรประชาชนตนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค ไปสนับสนุนการมีอยู่ของสมาชิกพรรคจะเกิดอะไรขึ้นถ้าร่วมสามัคคีใจทำการลาออกจากพวกทรยศอธิปไตยชาติไทยเรานะ,มันจะจัดตั้งพรรคมันก็ล่ารายชื่อเราเพื่อหาสมาชิกพรรคจากประชาชนกันจัง,จริงๆกกต.สมควรล้างสถานะสมาชิกพรรคทุกๆสมัยก่อนมีการเลือกตั้งนะ,ไม่ให้ผูกขาดหรือคงอยู่ของการมีอยู่บุคคลว่าสมัครเป็นสมาชิกพรรคตนไว้,ถ้าสถานะการมีอยู่ของประชาชนที่มาเป็นสมาชิกพรรคไม่ถึงเกณฑ์ห้ามพรรคส่งสส.ลงสมัครรับเลือกตั้งหรือพรรคการเมืองนั้นสิ้นสถานะพรรคการเมืองทันที,เช่นหากพรรคเพื่อไทย ประชาชนไม่พอใจเพราะวลีความว่าทหารไทยอยู่ตรงข้ามฝ่ายเรา,ประชาชนเสื้อแดงจากเคยเอาบัตรประชาชนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคกว่า10-20ล้านคนที่ไม่อัพเดทมีตายทุกๆเดือนทุกๆปีก็ว่า,พากันลาออกออนไลน์ได้ทันทีในนามสมาชิกสนับสนุนการมีอยู่ของพรรคก่อนตั้งพรรคต้องมีสมาชิกจากประชาชนเข้าร่วมด้วยอย่างน้อย1,000คนจึงตั้งพรรคการเมืองได้,ประชาชนลงทะเบียนออนไลน์สายตรงต่อกกต.ว่าขอลาออกการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยทันทีกว่า10-20ล้านคนทันทีเข่นกัน,นั้นแสดงว่าขาดคุณสมบัติการมีอยู่ของพรรคการเมืองทันที,พรรคนั้นจะยุบพรรคไปเองทันทีโดยอัตโนมัติและต้องหาคนหาประชาชนคนไทยที่มีสิทธิเลือกตั้งมาเป็นสมาชิกพรรคใหม่อีกครั้ง จดทะเบียนรายชื่อพรรคใหม่อีกครั้งนั้นเอง,นี้คือประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองชัดเจนอีกทางหนึ่ง,สส.ก็ด้วยสามารถไร้สกัดพรรคการเมืองได้,อิสระจากวิถีพรรคการเมืองได้, ..จริงๆหากสส.มีจิตสำนึกจริง จะต้องลาออกจากพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดด้วย,สส.รัฐบาลทุกๆคนสามารถมีข้อหาเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยชาติเข่นกันรวมถึงทุกๆคนที่ได้รับเงินเดือนทำงานให้กับพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดด้วยเพราะเป็นกลไกขับเคลื่อนความชั่วเลวให้ชาติไทยประสบกับภัยคุกคามรุกรานนี้ด้วยทางความมั่นคงทางอธิปไตยของประเทศไทยตนและขาดจิตสำนึกดีชั่ว ไม่รู้สำนึกควรไม่ควร ทำงานให้คนทรยศอธิปไตยแผ่นดินไทยตนเองซึ่งข่าวสารชัดเจนสามารถประกอบการตัดสินใจด้านจิตสำนึกดีชั่วเลวขั้นพื้นฐานได้,แต่ยังมีเจตนาชัดเจนหมายก่อการร่วมกระทำการไปด้วยอย่างตั้งใจเมื่อความชัดปรากฎแล้ว, ..นี้คือภัยคุกคามความมั่นคงทางอธิปไตยของประเทศ จะมาล่อเล่นไม่ได้,ประเทศไทยจะเป็นประเทศได้มิใช่ไม่มีที่ไปที่มา,มีเลือดมีเนื้อมีชีวิตผู้กล้ามากมายผู้บริสุทธิ์มากล้นต้องแลกมาเพื่อปกป้องอธิปไตยชาติไทยเรานี้.,สส.และกรรมการพรรคตลอดคนงานที่รับเงินเดือนค่าตอบแทนพรรคนั้นๆทั้งหมดสามารถเข้าใจชัดเจนว่ามีความผิดร้ายแรงอย่างให้อภัยโทษไม่ได้,ประชาชนผู้ร่วมเป็นสมาชิกพรรคนั้นๆก็ด้วยบางคนไม่รับรู้อะไรเลยว่าตนถูกขโมยเลขที่บัตรประชาชนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นๆกกต.จึงต้องมีระบบตรวจสอบสถานะสมาชิกพรรคการเมืองอย่างสะดวกสบายเรียลไทม์ให้เห็นผลว่าเขาเป็นสมาชิกนั้นๆได้แค่ตรวจสอบออนไลน์เรียลไทม์ด้วยเทคโนโลยีเราล้ำสมัยแล้ว,สามารถกดยืนยันลาออกจากสมาชิกนั้นเรียลไทม์ได้เช่นกัน,เราต้องปรับปรุงจริงๆนี้คือประชาชนมีส่วนร่วมจริงทางการบริหารประเทศ ชาติเสียหาย นายกฯไม่จำเป็นต้องลาออกหรือยุบสภาเลย,ประชาชนลาออกจากสมาชิกพรรคการเมืองนั้นๆก็จบ.,สส.ลาออกจากพรรคนั้นๆก็จบหากใช้สไตล์สส.มากจัดตั้งรัฐบาลได้. ..สรุป สส.ทั้งหมดคือตัวเหี้ยก็ได้ในตอนนี้,จะเป็นฮีโร่ก็ได้เช่นกันในเวลานี้ที่เป็นแปรสำคัญของทุกๆพรรคการเมืองในฝ่ายรัฐบาล,โยนความผิดให้สส.รัฐบาลเลย เพราะตัวการที่แท้จริงยังไม่ตัดสินใจว่าอะไรผิดถูก สมควรไม่สมควร เหมาะสมไม่เหมาะสม,ไม่ใช่แค่หัวหน้าพรรคหรือมติกรรมการพรรค ตัวพ่อมรึงคือมรึงนั้นล่ะ สส.ประจำพรรคจัดตัังรัฐบาลทั้งหลาย,ลาออกจากการเป็นสส.พรรครัฐบาลตั้งแต่ดูคลิปแล้วจึงจะสมควรสุด,ไม่อยากพูดแค่นั่นจริงๆ,และสื่อเราแบบโซเชียลทุกๆช่องทางสมควรตีหัวให้รู้สำนึกดีชั่วได้แล้ว, ..สส.พรรคนี้ทำดีมาก,คนทำงานในพรรคนี้ก็ดีด้วย,สามารถหนีหรือหลุดคดีภัยร้ายแรงด้านความมั่นคงทางอธิปไตยชาติไทยได้,และจริงๆต้องเป็นไปในรูปแบบนี้ด้วย กรรมการพรรค สส.พรรค เจ้าหน้าที่ทำงานแรงงานทุกๆคนในพรรคนั้นๆต้องรับโทษทั้งหมด,หนักเบาลดหย่อนตามบริบทหน้าที่หน้างานการมีส่วนกระบวนการนั้นๆแต่จริงๆโทษเสมอกันหมดในขั้นเรเวลความผิด.,มันจะเป็นบรรทัดฐานสร้างวินัยจิตสำนึกอันดีงามที่ดีในอนาคตได้และต่อยอดสิ่งดีๆเพิ่มขึ้นไปอีก.,และถ้าจะดีหากปลุกกระแสขับไล่สส.ที่อยู่ในพรรครัฐบาลทั้งหมดด้วยขาดจิตสำนึกรับผิดชอบชั่วดีขั้นพื้นฐานในบ้านในเมืองตนเองแท้ๆโดยเฉพาะเรื่องอธิปไตยชาติไทยตนเองเสือกยังคงดำรงตนอยู่เพื่อผลประโยชน์ตนเองต้องมาก่อน,จะสส.พรรคร่วมรัฐบาลก็ด้วย,ตลอดสส.ฝ่ายค้านเองก็เถอะ,เสือกอยากให้รัฐบาลยุบสภา,แต่ตนเองเสือกไม่ลาออกจากสส.ในการปกครองของรัฐบาล,ยุบสภาตัวเองก็พ้นสถานะสส.อยู่ดีกะแต่อยากได้ผลประโยชน์ใส่ตนเองหากลาออกหรือไม่ลาออก,สวัสดิการผลประโยชน์ชดเชยต่างกันก็ว่า,อุบาทก์สิ้นดีทั้งหมด,กลัวไม่ได้บำนาญสส.เหรอ.เดือนละเป็นหมื่นหลายหมื่นเนาะ. https://youtu.be/OXDSZRx7mOo?si=Y1y25Eci0honernx
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลขาฯเพื่อไทย ยัน 'นายกฯอิ๊งค์' ไม่ลาออกตามเงื่อนไขพรรคร่วม
    https://www.thai-tai.tv/news/19639/
    เลขาฯเพื่อไทย ยัน 'นายกฯอิ๊งค์' ไม่ลาออกตามเงื่อนไขพรรคร่วม https://www.thai-tai.tv/news/19639/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ดิเรกฤทธิ์' ชี้ 4 คดีรุม นายกฯ ไม่ลาออก รัฐบาลก็ไปไม่รอด
    https://www.thai-tai.tv/news/19636/
    'ดิเรกฤทธิ์' ชี้ 4 คดีรุม นายกฯ ไม่ลาออก รัฐบาลก็ไปไม่รอด https://www.thai-tai.tv/news/19636/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สรวงศ์” ปัดข่าวนายกฯ จะลาออกหลังผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2569 ยันจะอยู่ครบเทอม ไม่ลาออก-ไม่ยุบสภา เดินหน้าแก้วิกฤติทั้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ตอบโต้เข้มข้นขึ้น และภาษีทรัมป์ที่กำลังเร่งเจรจาอย่างจริงจัง พร้อมใช้เวลาที่เหลืออยู่ผลักดันนโยบายให้เป็นผลสำเร็จ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000058457

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “สรวงศ์” ปัดข่าวนายกฯ จะลาออกหลังผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2569 ยันจะอยู่ครบเทอม ไม่ลาออก-ไม่ยุบสภา เดินหน้าแก้วิกฤติทั้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ตอบโต้เข้มข้นขึ้น และภาษีทรัมป์ที่กำลังเร่งเจรจาอย่างจริงจัง พร้อมใช้เวลาที่เหลืออยู่ผลักดันนโยบายให้เป็นผลสำเร็จ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000058457 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 533 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ปลัดตุ๋ม” ยันยังไม่ลาออกจาก ก.ทรัพย์ฯ ไม่ทราบจะได้นั่ง รมว.พลังงาน ปัดถูกทาบนั่งหัวหน้า "โอกาสใหม่"
    https://www.thai-tai.tv/news/19338/
    “ปลัดตุ๋ม” ยันยังไม่ลาออกจาก ก.ทรัพย์ฯ ไม่ทราบจะได้นั่ง รมว.พลังงาน ปัดถูกทาบนั่งหัวหน้า "โอกาสใหม่" https://www.thai-tai.tv/news/19338/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ใครมีองค์รู้ตีแตกทางกฎหมายที่รุกรานแผ่นดินแล้วเจ้าหน้าที่ราชการไทยละเว้นไม่ปกป้อง,คนไทยทุกๆคนพากันยื่นฟ้องทั่วประเทศเลย,ลงจากตำแหน่งอำนาจทางการเมืองหรืออำนาจทางราชการจะได้ขึ้นศาลบันเทิงจนแก่เฒ่าชรา พวกนี้ต้องจัดการจนสำนึกผิดใส่สันดานหยาบให้ได้บวกเจ้าสัวชั่วเลวที่ห่วงกำไรค้าขายทางธุรกิจด้วย,ยื่นฟ้องร่วมเลย,ไม่ซื่อสัตย์มีเล่ห์เหลี่ยมเสี่ยงสูงต่ออธิปไตยความมั่นคงของประเทศไทยต้องจัดการด้วยทั้งหมดกวาดล้างไปด้วย
    ..ทนายอิสระไทยที่รักชาติรักแผ่นดิน นักวิชาการเต็มประเทศไทยต้องขึ้นเสนอยื่นฟ้องคนบัดสบพวกนี้ที่ไม่รักชาติด้วย,มาถึงขนาดนี้เสือกนิ่งเฉยมาหลายวัน,ปืดด่านถาวรชั่วคราวจุดไหนๆก็ไม่เร่งรีบดำเนินการหรือผลักดันคนเขมรออกจากประเทศไทยเป็นการตอบโต้,เรียกฑูตตนเองกลับประเทศ,ไล่ฑูตเขมรออกจากไทย,ตัดอาหารเสบียงเขมรและใดๆทัังหมดเสือกไม่ทำ,และทหารพระราชาทำการเปลี่ยนรัฐบาลเองเถอะ มันชัดเจนขนาดนี้แล้ว,ทิ้งคนเลวชั่วแม้คืนเดียวไว้มีแต่จะทำให้ชาติพังพินาศลงทุกๆขณะเวลา,พรรคร่วมรัฐบาลก็ร่วมเลวชั่วอย่างถึงใจไม่ลาออกไป,พรรคร่วมทั้งหมดที่เป็นรัฐบาลนี้เสมือนเดอะแก๊งเดียวกันมีความผิดต่อภัยคุกคามอธิปไตยดินแดนไทยด้วย.

    ..https://youtu.be/mLyr9mOMaA8?si=JAJ26R4tyxe63rX4
    ..ใครมีองค์รู้ตีแตกทางกฎหมายที่รุกรานแผ่นดินแล้วเจ้าหน้าที่ราชการไทยละเว้นไม่ปกป้อง,คนไทยทุกๆคนพากันยื่นฟ้องทั่วประเทศเลย,ลงจากตำแหน่งอำนาจทางการเมืองหรืออำนาจทางราชการจะได้ขึ้นศาลบันเทิงจนแก่เฒ่าชรา พวกนี้ต้องจัดการจนสำนึกผิดใส่สันดานหยาบให้ได้บวกเจ้าสัวชั่วเลวที่ห่วงกำไรค้าขายทางธุรกิจด้วย,ยื่นฟ้องร่วมเลย,ไม่ซื่อสัตย์มีเล่ห์เหลี่ยมเสี่ยงสูงต่ออธิปไตยความมั่นคงของประเทศไทยต้องจัดการด้วยทั้งหมดกวาดล้างไปด้วย ..ทนายอิสระไทยที่รักชาติรักแผ่นดิน นักวิชาการเต็มประเทศไทยต้องขึ้นเสนอยื่นฟ้องคนบัดสบพวกนี้ที่ไม่รักชาติด้วย,มาถึงขนาดนี้เสือกนิ่งเฉยมาหลายวัน,ปืดด่านถาวรชั่วคราวจุดไหนๆก็ไม่เร่งรีบดำเนินการหรือผลักดันคนเขมรออกจากประเทศไทยเป็นการตอบโต้,เรียกฑูตตนเองกลับประเทศ,ไล่ฑูตเขมรออกจากไทย,ตัดอาหารเสบียงเขมรและใดๆทัังหมดเสือกไม่ทำ,และทหารพระราชาทำการเปลี่ยนรัฐบาลเองเถอะ มันชัดเจนขนาดนี้แล้ว,ทิ้งคนเลวชั่วแม้คืนเดียวไว้มีแต่จะทำให้ชาติพังพินาศลงทุกๆขณะเวลา,พรรคร่วมรัฐบาลก็ร่วมเลวชั่วอย่างถึงใจไม่ลาออกไป,พรรคร่วมทั้งหมดที่เป็นรัฐบาลนี้เสมือนเดอะแก๊งเดียวกันมีความผิดต่อภัยคุกคามอธิปไตยดินแดนไทยด้วย. ..https://youtu.be/mLyr9mOMaA8?si=JAJ26R4tyxe63rX4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรรคส้ม ปัดทุกข้อกล่าวหาไม่เคยปิดกั้นการทำงาน "กฤษฎิ์" จ่อยื่นหน่วยงานตีความเป็นหนังสือลาออกหรือไม่ "เท้ง" บอกเหตุผลฝ่ายค้านทำงานไม่สะดวกฟังไม่ขึ้น หากผลออกมาไม่ลาออกเจอ ”ดองเค็มงูเห่า“ แถมตัดทุกสิทธิ์ในพรรค จ่อลุยชลบุรีพิสูจน์ทำงานเพื่อ ปชช.

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000044641

    #MGROnline #กฤษฎิ์ #พรรคประชาชน
    พรรคส้ม ปัดทุกข้อกล่าวหาไม่เคยปิดกั้นการทำงาน "กฤษฎิ์" จ่อยื่นหน่วยงานตีความเป็นหนังสือลาออกหรือไม่ "เท้ง" บอกเหตุผลฝ่ายค้านทำงานไม่สะดวกฟังไม่ขึ้น หากผลออกมาไม่ลาออกเจอ ”ดองเค็มงูเห่า“ แถมตัดทุกสิทธิ์ในพรรค จ่อลุยชลบุรีพิสูจน์ทำงานเพื่อ ปชช. • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000044641 • #MGROnline #กฤษฎิ์ #พรรคประชาชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 357 มุมมอง 0 รีวิว
  • Matt Mullenweg ผู้ร่วมก่อตั้ง WordPress และ CEO ของ Automattic ได้ประกาศว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์และเรียกร้องให้ลาออกผ่านคำร้องออนไลน์และการฟ้องร้องหมู่ ซึ่งเขากล่าวในการสัมภาษณ์กับ Lenny's Podcast ว่า การที่เขาจะเกษียณนั้น เขาจะหาคนมาสืบทอดตำแหน่งที่มีค่านิยมเช่นเดียวกับเขา และจะนำบริษัทไปในทางเดียวกับที่เขาดูแลอยู่

    ความขัดแย้งนี้เกิดขึ้นจากการที่ Mullenweg กล่าวถึง WP Engine ว่าได้รับประโยชน์จากโมเดลโอเพนซอร์สของ WordPress โดยไม่ได้มีส่วนร่วมมากพอในโครงการ WP Engine แย้งว่าพวกเขาปฏิบัติตาม GPL ซึ่งอนุญาตให้ใช้เชิงพาณิชย์ได้โดยไม่ต้องมีการบริจาคเงิน ทั้งนี้ Mullenweg ย้ำว่าโครงการโอเพนซอร์สจะเติบโตเมื่อผู้ที่ได้ผลประโยชน์จากมันกลับมาลงทุนในการพัฒนา

    เขายังกล่าวถึงอนาคตของ WordPress และ Automattic โดยเน้นว่าเขาต้องการความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและเป็นศูนย์กลาง แทนที่จะให้การตัดสินใจเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการ “หากผมจะหายไป ผมไม่ต้องการส่งมอบงานให้คณะกรรมการ แต่จะให้ใครสักคนที่มีบทบาทเช่นเดียวกับผมและเป็นผู้นำที่มีค่านิยมเช่นเดียวกับผม” เขากล่าว

    คำพูดของเขาเกิดขึ้นท่ามกลางการวิจารณ์เรื่องการจัดการข้อพิพาทกับ WP Engine บางคนกล่าวหาว่า Mullenweg ใช้อำนาจบีบบังคับ WP Engine ให้จ่ายเงินในการใช้ WordPress ซึ่งขัดแย้งกับจิตวิญญาณของซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส (FOSS) ในขณะที่ WP Engine ยืนยันว่าสนับสนุนโครงการโอเพนซอร์สควรเป็นสิ่งสมัครใจ ไม่ใช่การบีบบังคับ ความขัดแย้งนี้ได้นำไปสู่การฟ้องร้องหมู่ที่กล่าวหาว่าธุรกิจไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการกำกับดูแล WordPress และยังมีคำร้องออนไลน์เรียกร้องให้ Mullenweg ลาออก ถึงแม้ว่าจะมีแรงกดดันมากมาย Mullenweg ยืนยันว่าเขาจะไม่ลาออก

    มีผู้เชี่ยวชาญบางคนที่เห็นว่า WP Engine ได้ประโยชน์จาก WordPress โดยไม่คืนผลประโยชน์กลับ ซึ่งอาจทำให้แพลตฟอร์มนี้เสี่ยงต่ออนาคต ขณะที่บางคนคิดว่า Mullenweg กดดันเพื่อให้มีการจ่ายเงินเกินความจำเป็นตามกฎหมาย GPL การถกเถียงนี้ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องทางกฎหมาย แต่ยังเกี่ยวกับความรับผิดชอบที่บริษัทที่ได้ผลประโยชน์จากซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สควรมีต่อชุมชน

    Mullenweg เปรียบบทบาทของเขาเสมือนนายกเทศมนตรีที่ดูแลเมือง โดยเน้นความสำคัญของการมีผู้นำที่มีความเข้าใจและผูกพันกับองค์กรในระดับลึก

    https://www.techspot.com/news/107017-mullenweg-refuses-step-down-amid-wp-engine-dispute.html
    Matt Mullenweg ผู้ร่วมก่อตั้ง WordPress และ CEO ของ Automattic ได้ประกาศว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์และเรียกร้องให้ลาออกผ่านคำร้องออนไลน์และการฟ้องร้องหมู่ ซึ่งเขากล่าวในการสัมภาษณ์กับ Lenny's Podcast ว่า การที่เขาจะเกษียณนั้น เขาจะหาคนมาสืบทอดตำแหน่งที่มีค่านิยมเช่นเดียวกับเขา และจะนำบริษัทไปในทางเดียวกับที่เขาดูแลอยู่ ความขัดแย้งนี้เกิดขึ้นจากการที่ Mullenweg กล่าวถึง WP Engine ว่าได้รับประโยชน์จากโมเดลโอเพนซอร์สของ WordPress โดยไม่ได้มีส่วนร่วมมากพอในโครงการ WP Engine แย้งว่าพวกเขาปฏิบัติตาม GPL ซึ่งอนุญาตให้ใช้เชิงพาณิชย์ได้โดยไม่ต้องมีการบริจาคเงิน ทั้งนี้ Mullenweg ย้ำว่าโครงการโอเพนซอร์สจะเติบโตเมื่อผู้ที่ได้ผลประโยชน์จากมันกลับมาลงทุนในการพัฒนา เขายังกล่าวถึงอนาคตของ WordPress และ Automattic โดยเน้นว่าเขาต้องการความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและเป็นศูนย์กลาง แทนที่จะให้การตัดสินใจเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการ “หากผมจะหายไป ผมไม่ต้องการส่งมอบงานให้คณะกรรมการ แต่จะให้ใครสักคนที่มีบทบาทเช่นเดียวกับผมและเป็นผู้นำที่มีค่านิยมเช่นเดียวกับผม” เขากล่าว คำพูดของเขาเกิดขึ้นท่ามกลางการวิจารณ์เรื่องการจัดการข้อพิพาทกับ WP Engine บางคนกล่าวหาว่า Mullenweg ใช้อำนาจบีบบังคับ WP Engine ให้จ่ายเงินในการใช้ WordPress ซึ่งขัดแย้งกับจิตวิญญาณของซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส (FOSS) ในขณะที่ WP Engine ยืนยันว่าสนับสนุนโครงการโอเพนซอร์สควรเป็นสิ่งสมัครใจ ไม่ใช่การบีบบังคับ ความขัดแย้งนี้ได้นำไปสู่การฟ้องร้องหมู่ที่กล่าวหาว่าธุรกิจไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการกำกับดูแล WordPress และยังมีคำร้องออนไลน์เรียกร้องให้ Mullenweg ลาออก ถึงแม้ว่าจะมีแรงกดดันมากมาย Mullenweg ยืนยันว่าเขาจะไม่ลาออก มีผู้เชี่ยวชาญบางคนที่เห็นว่า WP Engine ได้ประโยชน์จาก WordPress โดยไม่คืนผลประโยชน์กลับ ซึ่งอาจทำให้แพลตฟอร์มนี้เสี่ยงต่ออนาคต ขณะที่บางคนคิดว่า Mullenweg กดดันเพื่อให้มีการจ่ายเงินเกินความจำเป็นตามกฎหมาย GPL การถกเถียงนี้ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องทางกฎหมาย แต่ยังเกี่ยวกับความรับผิดชอบที่บริษัทที่ได้ผลประโยชน์จากซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สควรมีต่อชุมชน Mullenweg เปรียบบทบาทของเขาเสมือนนายกเทศมนตรีที่ดูแลเมือง โดยเน้นความสำคัญของการมีผู้นำที่มีความเข้าใจและผูกพันกับองค์กรในระดับลึก https://www.techspot.com/news/107017-mullenweg-refuses-step-down-amid-wp-engine-dispute.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Matt Mullenweg doubles down on leadership amid WordPress controversy
    Matt Mullenweg, co-founder of WordPress and CEO of Automattic, has called out WP Engine for benefiting from WordPress's open-source model without contributing enough to the project. WP...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกี้ : "ผมจะไม่ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี จนกว่ายูเครนจะเข้าร่วมสหภาพยุโรปและนาโตอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่แค่นาม แต่ทั้งหมดต้องมีลายลักษณ์อักษรเป็นสิ่งยืนยันว่าเราได้เข้าสู่ยุคทอง"

    - สำนักข่าว FOX News รายงาน
    เซเลนสกี้ : "ผมจะไม่ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี จนกว่ายูเครนจะเข้าร่วมสหภาพยุโรปและนาโตอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่แค่นาม แต่ทั้งหมดต้องมีลายลักษณ์อักษรเป็นสิ่งยืนยันว่าเราได้เข้าสู่ยุคทอง" - สำนักข่าว FOX News รายงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าหน้าที่ระดับสูงนาโตเชื่อว่า สหรัฐฯ จะยังไม่ลาออกจากนาโตแต่น่าจะถอนกำลังทหารออกไปบางส่วนหลังยุโรปไม่ใช่เป้าหมายหลักอีกต่อไปสำหรับวอชิงตัน
    .
    บลูมเบิร์กของสหรัฐฯ รายงานวันจันทร์ (17 ก.พ.) ว่า วอชิงตันน่าที่จะยังคงอยู่ร่วมกับนาโตต่อไป แต่ทว่าอาจจะลดกองกำลังประจำการลงในยุโรปจากการที่สหรัฐฯ หันเห็นความจำเป็นไปอยู่ที่ภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
    .
    พลเรือเอกจูเซปเป คาโว ดราโกเน ประธานคณะกรรมการกองทัพประจำ NATO เดือนที่แล้วได้กล่าวในการประชุมนอกรอบในการประชุมความมั่นคงมิวนิกที่ซึ่งบรรดาผู้นำยุโรปมาเพื่อเผชิญหน้ากับรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงความคาดหวังการลดลงของการปกป้องทางความมั่นคงของสหรัฐฯ
    .
    พลเรือเอกคาโว ดราโกเน กล่าวว่า “สหรัฐฯ จะไม่ถอนตัวออกไปจากนาโต” ในการให้สัมภาษณ์ในเมืองมิวนิก แต่การถอนกำลังทหารอเมริกันบางส่วนออกไปจากทั้งหมด 100,000 นายที่ประจำอยู่ในยุโรปอาจมีวาระเกิดขึ้น เป็นเพราะมีความผูกพันบางประการที่สหรัฐฯ ต้องออกห่างไปจากที่นี่ ไปอยู่ที่มหาสมุทรแปซิฟิก”
    .
    แต่พลเรือเอกจากอิตาลีที่ได้นั่งในตำแหน่งสำคัญนี้เปิดเผยว่า “อย่างไรก็ตามผมไม่คิดว่าจะเป็นตัวเลขมหาศาลที่จะนำอเมริกันออกไปจากยุโรป”
    .
    ความมั่นคงยุโรปมีความสำคัญอย่างสูงในการประชุมความมั่นคงมิวนิก เหนือจากทั้งหมดคือการแก้ปัญหาสงครามยูเครนที่ยาวนานยืดเยื้อร่วม 3 ปี
    .
    แต่ทว่าผู้นำชาติยุโรปและยูเครนต่างไม่ทันตั้งตัวถึงแผนทรัมป์ที่จะหารือกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ที่ต่างวิตกกันว่ายุโรปจะไม่ได้มีส่วนร่วม
    .
    คาโว ดราโกเน เห็นพ้องกับสมาชิกนาโตหลายคนในยุโรปเรียกร้องให้เพิ่มงบประมาณการป้องกันประเทศ โดยรับรู้ว่าการหันเหความสนใจของสหรัฐฯ หมายถึงยุโรปจำเป็นต้องเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นมา
    .
    “มันมีความไม่สมดุลเกิดขึ้น ดังนั้นพวกเราจำเป็นต้องทำให้มีความสมดุลกลับคืนมา” พร้อมกับเรียกแนวคิดที่ว่ายุโรปไม่สามารถปกป้องตัวเองว่า “เป็นการดูหมิ่น”
    .
    อย่างไรก็ตาม การลดลงใดๆ ของอเมริกาในยุโรปนั้นเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับโดยนาโตด้วยทัศนคติเชิงปฏิบัติ” เขากล่าวพร้อมยืนกรานว่า กองทัพในภูมิภาคจำเป็นต้องเข้ามาแทนที่เพื่ออุดช่องโหว่
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016363
    ..............
    Sondhi X
    เจ้าหน้าที่ระดับสูงนาโตเชื่อว่า สหรัฐฯ จะยังไม่ลาออกจากนาโตแต่น่าจะถอนกำลังทหารออกไปบางส่วนหลังยุโรปไม่ใช่เป้าหมายหลักอีกต่อไปสำหรับวอชิงตัน . บลูมเบิร์กของสหรัฐฯ รายงานวันจันทร์ (17 ก.พ.) ว่า วอชิงตันน่าที่จะยังคงอยู่ร่วมกับนาโตต่อไป แต่ทว่าอาจจะลดกองกำลังประจำการลงในยุโรปจากการที่สหรัฐฯ หันเห็นความจำเป็นไปอยู่ที่ภูมิภาคอินโดแปซิฟิก . พลเรือเอกจูเซปเป คาโว ดราโกเน ประธานคณะกรรมการกองทัพประจำ NATO เดือนที่แล้วได้กล่าวในการประชุมนอกรอบในการประชุมความมั่นคงมิวนิกที่ซึ่งบรรดาผู้นำยุโรปมาเพื่อเผชิญหน้ากับรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงความคาดหวังการลดลงของการปกป้องทางความมั่นคงของสหรัฐฯ . พลเรือเอกคาโว ดราโกเน กล่าวว่า “สหรัฐฯ จะไม่ถอนตัวออกไปจากนาโต” ในการให้สัมภาษณ์ในเมืองมิวนิก แต่การถอนกำลังทหารอเมริกันบางส่วนออกไปจากทั้งหมด 100,000 นายที่ประจำอยู่ในยุโรปอาจมีวาระเกิดขึ้น เป็นเพราะมีความผูกพันบางประการที่สหรัฐฯ ต้องออกห่างไปจากที่นี่ ไปอยู่ที่มหาสมุทรแปซิฟิก” . แต่พลเรือเอกจากอิตาลีที่ได้นั่งในตำแหน่งสำคัญนี้เปิดเผยว่า “อย่างไรก็ตามผมไม่คิดว่าจะเป็นตัวเลขมหาศาลที่จะนำอเมริกันออกไปจากยุโรป” . ความมั่นคงยุโรปมีความสำคัญอย่างสูงในการประชุมความมั่นคงมิวนิก เหนือจากทั้งหมดคือการแก้ปัญหาสงครามยูเครนที่ยาวนานยืดเยื้อร่วม 3 ปี . แต่ทว่าผู้นำชาติยุโรปและยูเครนต่างไม่ทันตั้งตัวถึงแผนทรัมป์ที่จะหารือกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ที่ต่างวิตกกันว่ายุโรปจะไม่ได้มีส่วนร่วม . คาโว ดราโกเน เห็นพ้องกับสมาชิกนาโตหลายคนในยุโรปเรียกร้องให้เพิ่มงบประมาณการป้องกันประเทศ โดยรับรู้ว่าการหันเหความสนใจของสหรัฐฯ หมายถึงยุโรปจำเป็นต้องเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นมา . “มันมีความไม่สมดุลเกิดขึ้น ดังนั้นพวกเราจำเป็นต้องทำให้มีความสมดุลกลับคืนมา” พร้อมกับเรียกแนวคิดที่ว่ายุโรปไม่สามารถปกป้องตัวเองว่า “เป็นการดูหมิ่น” . อย่างไรก็ตาม การลดลงใดๆ ของอเมริกาในยุโรปนั้นเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับโดยนาโตด้วยทัศนคติเชิงปฏิบัติ” เขากล่าวพร้อมยืนกรานว่า กองทัพในภูมิภาคจำเป็นต้องเข้ามาแทนที่เพื่ออุดช่องโหว่ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016363 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2374 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุน ซ็อกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ต่อกรณีพยายามบังคับใช้กฎอัยการศึกแต่ล้มเหลว จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมรายหนึ่งในวันจันทร์ (9 ธ.ค.) ท่ามกลางเสียงเรียกร้องดังขึ้นขอให้ถอดถอนเขาหรือไม่ก็ลาออกจากตำแหน่ง และวิกฤตความเป็นผู้นำที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
    .
    ประธานาธิบดียุน ออกมาขอโทษต่อความพยายามดังกล่าวและบอกว่าจะปล่อยให้ชะตากรรมทางการเมืองและทางกฎหมายของตนเอง ขึ้นอยู่กับพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) พรรคการเมืองของเขา แต่ไม่ลาออกจากตำแหน่ง ในขณะที่เวลานี้ผู้นำรายนี้อยู่ภายใต้การสืบสวนทางอาญา ตามรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่น
    .
    ในวันจันทร์ (9 ธ.ค.) กระทรวงกลาโหมระบุว่า ยุน ยังคงผู้บัญชาการสูงสุดตามกฎหมาย แต่ด้วยมีความเห็นไม่ลงรอยมากขึ้นในหมู่เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงเกี่ยวกับตัวประธานาธิบดี มันจึงก่อคำถามเกี่ยวกับอำนาจที่อยู่ในมือของผู้นำรายนี้
    .
    โอ ดอง-วูน หัวหน้าสำนักงานสืบสวนคอร์รัปชัน สำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูง เปิดเผยว่าเขาห้าม ยุน เดินทางออกไปยังต่างแดน ครั้งที่เข้าให้ปากคำกับรัฐสภา ว่าจะใช้มาตรการใดบ้างกับประธานาธิบดี
    .
    เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมรายหนึ่ง บอกกับคณะกรรมาธิการเช่นกัน ว่าได้ดำเนินการตามคำสั่งห้ามเดินทางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    คณะกรรมาธิการชุดนี้ถูกจัดตั้งขึ้นในปี 2021 เพื่อสืบสวนเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูง ในนั้นรวมถึงประธานาธิบดี และสมาชิกในครอบครัว แต่ไม่มีอำนาจในการดำเนินคดีกับประธานาธิดี โดยกฎหมายบังคับให้ทางคณะกรรมาธิการส่งต่อเรื่องดังกล่าวต่อไปยังสำนักงานอัยการ
    .
    แม้ ยุน รอดพ้นจากการลงมติถอดถอนในรัฐสภาเมื่อวันเสาร์ (7 ธ.ค.) แต่การที่พรรคของเขาตัดสินใจถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีไปยังนายกรัฐมนตรี ได้ผลักให้พันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ แห่งนี้เข้าสู่วิกฤตรัฐธรรมนูญ
    .
    ยุน ปฏิเสธเสียงเรียกร้อง ในนั้นบางส่วนมาจากผู้คนภายในพรรคของเขาเอง ที่ขอให้ลาออกจากตำแหน่ง แต่อนาคตของเขาดูเหมือนจะไม่แน่นอนยิ่งขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อสำนักข่าวยอนฮับ รายงานว่าเขาถูกสืบสวนทางอาญาสำหรับคำกล่าวหาก่อกบฏ
    .
    ในวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) อัยการได้จับกุม คิม ยอง-ฮยุน อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ตามคำกล่าวหาเกี่ยวกับบทบาทของเขาในการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม
    .
    ประธานาธิบดียุน มอบอำนาจอย่างกว้างขวางแก่กองทัพในวันที่ 3 ธันวาคม อ้างว่าเพื่อขุดรากถอนโคนในสิ่งที่เขาเรียกว่า "กองกำลังต่อต้านรัฐ" และการทำตัวเป็นอุปสรรคขัดขวางการทำงาน โดยฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง" แต่เขากลับลำถอนคำสั่งดังกล่าวในอีก 6 ชั่วโมงต่อมา หลังจากรัฐสภาลงมติคัดค้าน
    .
    ท่ามกลางกระแสตีกลับ พวกเจ้าหน้าที่ทหารหลายคน ในนั้นรวมถึงรักษาการรัฐมนตรีกลาโหม บอกว่พวกเขาจะไม่ปฏิบัติตามใดๆ หากมีการออกคำสั่งบังคับใช้กฎอัยการศึกอีกรอบ
    .
    พรรคประชาธิปไตย พรรคฝ่ายค้านหลัก (ดีพี) เรียกร้องให้ปลดอำนาจของยุนที่มีเหนือกองทัพ นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้จับกุมยุนและเจ้าหน้าที่ทหารรายใดก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอัยการศึกที่ล้มเหลว
    .
    ในวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) ฮัน ดง-ฮูน หัวหน้าพรรคพีพีพี บอกว่าประธานาธิบดีจะถูกกันจากกิจการต่างประเทศและกิจการรัฐอื่นๆ โดยที่นายกรัฐมนตรีฮัน ด็อค-ซู จะเข้ารับผิดชอบกิจการรัฐบาลแทน
    .
    อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายค้าน ที่บอกว่ามันไม่ชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ พวกเขาระบุว่า ยุน ต้องโดนถอดถอนหรือไม่ก็ต้องลาออกจากตำแหน่ง พร้อมกับเผชิญกับการดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ พวกเขายังมีแผนยื่นถอดถอนผู้นำรายนี้อีกรอบในวันเสาร์ (14 ธ.ค.)
    .
    การตัดสินใจประกาศใช้กฎอัยการศึกของยุน โหมกระพือการประท้วงบนท้องถนน และก่อความกังวลแก่บรรดาพันธมิตรทั้งหลายของโซล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐฯ
    .
    ความยุ่งเหยิงของโซล เกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในภูมิภาค หลังมีรายงานข่าวว่าเกาหลีเหนือส่งทหารเข้าไปยังรัสเซีย เพื่อช่วยมอสโกทำสงครามกับยูเครน ท่ามกลางความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือ
    .
    โช แทย็อล รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ แนะนำเจ้าหน้าที่ภายในกระทรวงของเขาว่า "เราต้องมุ่งมั่นไม่หยุดยั้งในความพยายามฟื้นฟูความเชื่อมั่นของบรรดาพันธมิตรของเขา และเป็นอีกครั้งที่ต้องยกระดับทำให้ได้ตามความคาดหวังของประชาคมนานาชาติที่มีต่อเกาหลีใต้"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118434
    ..............
    Sondhi X
    ยุน ซ็อกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ต่อกรณีพยายามบังคับใช้กฎอัยการศึกแต่ล้มเหลว จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมรายหนึ่งในวันจันทร์ (9 ธ.ค.) ท่ามกลางเสียงเรียกร้องดังขึ้นขอให้ถอดถอนเขาหรือไม่ก็ลาออกจากตำแหน่ง และวิกฤตความเป็นผู้นำที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ . ประธานาธิบดียุน ออกมาขอโทษต่อความพยายามดังกล่าวและบอกว่าจะปล่อยให้ชะตากรรมทางการเมืองและทางกฎหมายของตนเอง ขึ้นอยู่กับพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) พรรคการเมืองของเขา แต่ไม่ลาออกจากตำแหน่ง ในขณะที่เวลานี้ผู้นำรายนี้อยู่ภายใต้การสืบสวนทางอาญา ตามรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่น . ในวันจันทร์ (9 ธ.ค.) กระทรวงกลาโหมระบุว่า ยุน ยังคงผู้บัญชาการสูงสุดตามกฎหมาย แต่ด้วยมีความเห็นไม่ลงรอยมากขึ้นในหมู่เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงเกี่ยวกับตัวประธานาธิบดี มันจึงก่อคำถามเกี่ยวกับอำนาจที่อยู่ในมือของผู้นำรายนี้ . โอ ดอง-วูน หัวหน้าสำนักงานสืบสวนคอร์รัปชัน สำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูง เปิดเผยว่าเขาห้าม ยุน เดินทางออกไปยังต่างแดน ครั้งที่เข้าให้ปากคำกับรัฐสภา ว่าจะใช้มาตรการใดบ้างกับประธานาธิบดี . เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมรายหนึ่ง บอกกับคณะกรรมาธิการเช่นกัน ว่าได้ดำเนินการตามคำสั่งห้ามเดินทางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว . คณะกรรมาธิการชุดนี้ถูกจัดตั้งขึ้นในปี 2021 เพื่อสืบสวนเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูง ในนั้นรวมถึงประธานาธิบดี และสมาชิกในครอบครัว แต่ไม่มีอำนาจในการดำเนินคดีกับประธานาธิดี โดยกฎหมายบังคับให้ทางคณะกรรมาธิการส่งต่อเรื่องดังกล่าวต่อไปยังสำนักงานอัยการ . แม้ ยุน รอดพ้นจากการลงมติถอดถอนในรัฐสภาเมื่อวันเสาร์ (7 ธ.ค.) แต่การที่พรรคของเขาตัดสินใจถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีไปยังนายกรัฐมนตรี ได้ผลักให้พันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ แห่งนี้เข้าสู่วิกฤตรัฐธรรมนูญ . ยุน ปฏิเสธเสียงเรียกร้อง ในนั้นบางส่วนมาจากผู้คนภายในพรรคของเขาเอง ที่ขอให้ลาออกจากตำแหน่ง แต่อนาคตของเขาดูเหมือนจะไม่แน่นอนยิ่งขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อสำนักข่าวยอนฮับ รายงานว่าเขาถูกสืบสวนทางอาญาสำหรับคำกล่าวหาก่อกบฏ . ในวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) อัยการได้จับกุม คิม ยอง-ฮยุน อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ตามคำกล่าวหาเกี่ยวกับบทบาทของเขาในการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม . ประธานาธิบดียุน มอบอำนาจอย่างกว้างขวางแก่กองทัพในวันที่ 3 ธันวาคม อ้างว่าเพื่อขุดรากถอนโคนในสิ่งที่เขาเรียกว่า "กองกำลังต่อต้านรัฐ" และการทำตัวเป็นอุปสรรคขัดขวางการทำงาน โดยฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง" แต่เขากลับลำถอนคำสั่งดังกล่าวในอีก 6 ชั่วโมงต่อมา หลังจากรัฐสภาลงมติคัดค้าน . ท่ามกลางกระแสตีกลับ พวกเจ้าหน้าที่ทหารหลายคน ในนั้นรวมถึงรักษาการรัฐมนตรีกลาโหม บอกว่พวกเขาจะไม่ปฏิบัติตามใดๆ หากมีการออกคำสั่งบังคับใช้กฎอัยการศึกอีกรอบ . พรรคประชาธิปไตย พรรคฝ่ายค้านหลัก (ดีพี) เรียกร้องให้ปลดอำนาจของยุนที่มีเหนือกองทัพ นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้จับกุมยุนและเจ้าหน้าที่ทหารรายใดก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอัยการศึกที่ล้มเหลว . ในวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) ฮัน ดง-ฮูน หัวหน้าพรรคพีพีพี บอกว่าประธานาธิบดีจะถูกกันจากกิจการต่างประเทศและกิจการรัฐอื่นๆ โดยที่นายกรัฐมนตรีฮัน ด็อค-ซู จะเข้ารับผิดชอบกิจการรัฐบาลแทน . อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายค้าน ที่บอกว่ามันไม่ชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ พวกเขาระบุว่า ยุน ต้องโดนถอดถอนหรือไม่ก็ต้องลาออกจากตำแหน่ง พร้อมกับเผชิญกับการดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ พวกเขายังมีแผนยื่นถอดถอนผู้นำรายนี้อีกรอบในวันเสาร์ (14 ธ.ค.) . การตัดสินใจประกาศใช้กฎอัยการศึกของยุน โหมกระพือการประท้วงบนท้องถนน และก่อความกังวลแก่บรรดาพันธมิตรทั้งหลายของโซล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐฯ . ความยุ่งเหยิงของโซล เกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในภูมิภาค หลังมีรายงานข่าวว่าเกาหลีเหนือส่งทหารเข้าไปยังรัสเซีย เพื่อช่วยมอสโกทำสงครามกับยูเครน ท่ามกลางความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือ . โช แทย็อล รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ แนะนำเจ้าหน้าที่ภายในกระทรวงของเขาว่า "เราต้องมุ่งมั่นไม่หยุดยั้งในความพยายามฟื้นฟูความเชื่อมั่นของบรรดาพันธมิตรของเขา และเป็นอีกครั้งที่ต้องยกระดับทำให้ได้ตามความคาดหวังของประชาคมนานาชาติที่มีต่อเกาหลีใต้" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118434 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1066 มุมมอง 0 รีวิว