• Intel กำลังพัฒนา Griffin Cove ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม CPU รุ่นใหม่ที่ต่อยอดจาก Cougar Cove และจะถูกนำมาใช้ใน Razer Lake โดยมีแนวโน้มว่า Intel จะเปลี่ยนกลยุทธ์การออกแบบ CPU ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

    ✅ Intel ยืนยันว่ากำลังพัฒนา Griffin Cove
    - Griffin Cove เป็นสถาปัตยกรรมที่พัฒนาต่อจาก Cougar Cove ซึ่งจะถูกใช้ใน Panther Lake
    - Intel กำลังทำงานล่วงหน้าไปถึง สามรุ่น เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน

    ✅ กลยุทธ์ใหม่ของ Intel ในการออกแบบ CPU
    - Intel เปลี่ยนไปใช้แนวทาง "Process Node Agnostic" ซึ่งช่วยให้สามารถเลือกกระบวนการผลิตที่เหมาะสมที่สุด
    - บริษัทสามารถใช้ ทั้ง IFS และ TSMC ในการผลิต CPU เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น

    ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด CPU
    - Intel กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจาก AMD โดยเฉพาะหลังจากเปิดตัว Zen 6
    - การเปลี่ยนกลยุทธ์อาจช่วยให้ Intel สามารถกลับมาแข่งขันได้ดีขึ้น

    ✅ แนวโน้มของ Razer Lake และอนาคตของ Intel
    - มีข่าวลือว่า Razer Lake อาจใช้ เฉพาะ P-Core ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
    - Intel กำลังพัฒนา CPU บน หลายกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่อการผลิต CPU
    - การใช้หลายกระบวนการผลิตอาจทำให้เกิดความซับซ้อนในการจัดการซัพพลายเชน
    - ต้องติดตามว่า Intel จะสามารถรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้หรือไม่

    ℹ️ ความท้าทายในการแข่งขันกับ AMD
    - AMD กำลังพัฒนา Zen 6 บนกระบวนการ TSMC N2 ซึ่งอาจมีประสิทธิภาพสูงกว่า
    - Intel ต้องพิสูจน์ว่า Griffin Cove สามารถแข่งขันได้ในตลาด HPC และเซิร์ฟเวอร์

    ℹ️ แนวโน้มของตลาด CPU ในปี 2025-2026
    - การแข่งขันระหว่าง Intel และ AMD อาจส่งผลต่อราคาของ CPU ระดับไฮเอนด์
    - อาจมีการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์ของ Intel หาก Griffin Cove ไม่สามารถทำให้บริษัทกลับมาเป็นผู้นำตลาดได้

    https://wccftech.com/intel-engineer-reveals-development-on-griffin-cove-is-already-underway/
    Intel กำลังพัฒนา Griffin Cove ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม CPU รุ่นใหม่ที่ต่อยอดจาก Cougar Cove และจะถูกนำมาใช้ใน Razer Lake โดยมีแนวโน้มว่า Intel จะเปลี่ยนกลยุทธ์การออกแบบ CPU ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ✅ Intel ยืนยันว่ากำลังพัฒนา Griffin Cove - Griffin Cove เป็นสถาปัตยกรรมที่พัฒนาต่อจาก Cougar Cove ซึ่งจะถูกใช้ใน Panther Lake - Intel กำลังทำงานล่วงหน้าไปถึง สามรุ่น เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน ✅ กลยุทธ์ใหม่ของ Intel ในการออกแบบ CPU - Intel เปลี่ยนไปใช้แนวทาง "Process Node Agnostic" ซึ่งช่วยให้สามารถเลือกกระบวนการผลิตที่เหมาะสมที่สุด - บริษัทสามารถใช้ ทั้ง IFS และ TSMC ในการผลิต CPU เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด CPU - Intel กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจาก AMD โดยเฉพาะหลังจากเปิดตัว Zen 6 - การเปลี่ยนกลยุทธ์อาจช่วยให้ Intel สามารถกลับมาแข่งขันได้ดีขึ้น ✅ แนวโน้มของ Razer Lake และอนาคตของ Intel - มีข่าวลือว่า Razer Lake อาจใช้ เฉพาะ P-Core ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ - Intel กำลังพัฒนา CPU บน หลายกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่อการผลิต CPU - การใช้หลายกระบวนการผลิตอาจทำให้เกิดความซับซ้อนในการจัดการซัพพลายเชน - ต้องติดตามว่า Intel จะสามารถรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้หรือไม่ ℹ️ ความท้าทายในการแข่งขันกับ AMD - AMD กำลังพัฒนา Zen 6 บนกระบวนการ TSMC N2 ซึ่งอาจมีประสิทธิภาพสูงกว่า - Intel ต้องพิสูจน์ว่า Griffin Cove สามารถแข่งขันได้ในตลาด HPC และเซิร์ฟเวอร์ ℹ️ แนวโน้มของตลาด CPU ในปี 2025-2026 - การแข่งขันระหว่าง Intel และ AMD อาจส่งผลต่อราคาของ CPU ระดับไฮเอนด์ - อาจมีการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์ของ Intel หาก Griffin Cove ไม่สามารถทำให้บริษัทกลับมาเป็นผู้นำตลาดได้ https://wccftech.com/intel-engineer-reveals-development-on-griffin-cove-is-already-underway/
    WCCFTECH.COM
    Intel Engineer Reveals "Griffin Cove" Development Is Already Underway; Says Relying On Intel's Nodes Alone "Got Them Into Trouble" In The Past
    Intel's renowned engineer has revealed that Team Blue is already working on the "great-grandchild" of Lion Cove, the Griffin Cove.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Radeon RX 9060 XT ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 โดยมีข่าวลือว่าการ์ดรุ่นนี้สามารถ เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาได้สูงสุดถึง 3.3 GHz และอาจเปิดตัวในงาน Computex 2025

    ✅ สเปคและประสิทธิภาพของ RX 9060 XT
    - ใช้ชิป Navi 44 XT ซึ่งเป็นรุ่นลดสเปคจาก Navi 48
    - มี 2048 Stream Processors ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของ Navi 48
    - ความเร็วสัญญาณนาฬิกา Game Clock อยู่ที่ 2620 MHz และ Boost Clock สูงสุด 3230 MHz
    - รุ่นที่โอเวอร์คล็อกอาจสามารถเพิ่มความเร็วได้ถึง 3.3 GHz

    ✅ การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง
    - คาดว่า RX 9060 XT จะถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA GeForce RTX 5060 Ti
    - อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 4070 Non-SUPER ในบางสถานการณ์

    ✅ ข้อกำหนดด้านพลังงาน
    - ต้องใช้ Power Supply ขั้นต่ำ 500W และอาจต้องใช้ 550W สำหรับรุ่นที่โอเวอร์คล็อก
    - ใช้ 8-pin power connectors เป็นมาตรฐาน

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่อการตลาดของ AMD
    - หากราคาสูงเกินไป อาจทำให้ RX 9060 XT สูญเสียความได้เปรียบด้านความคุ้มค่า
    - ต้องจับตาว่า AMD จะตั้งราคาที่แข่งขันได้หรือไม่

    ℹ️ ความท้าทายด้านการผลิต
    - การใช้ชิป Navi 44 XT อาจหมายถึงการนำชิปที่มีข้อบกพร่องจาก RX 9070 มาใช้ใหม่
    - ต้องดูว่า AMD จะสามารถรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้ดีแค่ไหน

    ℹ️ แนวโน้มของตลาด GPU ในปี 2025
    - NVIDIA และ AMD ต่างกำลังแข่งขันกันในตลาดกราฟิกการ์ดระดับกลาง
    - อาจมีการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ เช่น FSR 4 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม

    https://www.techpowerup.com/335455/amd-radeon-rx-9060-xt-reportedly-capable-of-boosting-up-to-3-3-ghz-new-leak-suggests-navi-44-xt-gpu
    AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Radeon RX 9060 XT ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 โดยมีข่าวลือว่าการ์ดรุ่นนี้สามารถ เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาได้สูงสุดถึง 3.3 GHz และอาจเปิดตัวในงาน Computex 2025 ✅ สเปคและประสิทธิภาพของ RX 9060 XT - ใช้ชิป Navi 44 XT ซึ่งเป็นรุ่นลดสเปคจาก Navi 48 - มี 2048 Stream Processors ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของ Navi 48 - ความเร็วสัญญาณนาฬิกา Game Clock อยู่ที่ 2620 MHz และ Boost Clock สูงสุด 3230 MHz - รุ่นที่โอเวอร์คล็อกอาจสามารถเพิ่มความเร็วได้ถึง 3.3 GHz ✅ การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง - คาดว่า RX 9060 XT จะถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA GeForce RTX 5060 Ti - อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 4070 Non-SUPER ในบางสถานการณ์ ✅ ข้อกำหนดด้านพลังงาน - ต้องใช้ Power Supply ขั้นต่ำ 500W และอาจต้องใช้ 550W สำหรับรุ่นที่โอเวอร์คล็อก - ใช้ 8-pin power connectors เป็นมาตรฐาน ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่อการตลาดของ AMD - หากราคาสูงเกินไป อาจทำให้ RX 9060 XT สูญเสียความได้เปรียบด้านความคุ้มค่า - ต้องจับตาว่า AMD จะตั้งราคาที่แข่งขันได้หรือไม่ ℹ️ ความท้าทายด้านการผลิต - การใช้ชิป Navi 44 XT อาจหมายถึงการนำชิปที่มีข้อบกพร่องจาก RX 9070 มาใช้ใหม่ - ต้องดูว่า AMD จะสามารถรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้ดีแค่ไหน ℹ️ แนวโน้มของตลาด GPU ในปี 2025 - NVIDIA และ AMD ต่างกำลังแข่งขันกันในตลาดกราฟิกการ์ดระดับกลาง - อาจมีการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ เช่น FSR 4 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม https://www.techpowerup.com/335455/amd-radeon-rx-9060-xt-reportedly-capable-of-boosting-up-to-3-3-ghz-new-leak-suggests-navi-44-xt-gpu
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD Radeon RX 9060 XT Reportedly Capable of Boosting Up To 3.3 GHz, New Leak Suggests "Navi 44 XT" GPU
    AMD has not publicly announced its Radeon RX 9060 XT 16 GB and 8 GB graphics cards, but board partners have inadvertently "revealed" the existence of forthcoming custom designs. Team Red's RDNA 4 kick-off events did tease a second quarter launch of a Radeon RX 9060 Series cards, but have remained co...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia มีแผนเปิดตัวการ์ดจอ GeForce RTX 5060 Ti ในวันที่ 15 เมษายน 2025 โดยมุ่งเน้นกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า การเปิดตัวครั้งนี้มาพร้อมข่าวลือเรื่องราคาอย่างเป็นทางการที่ลดลง เมื่อเทียบกับซีรีส์ RTX 4060 Ti รุ่นก่อนหน้า

    ✅ ราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น:
    - รุ่น 8GB มีราคาเริ่มต้นที่ $379 ในขณะที่รุ่น 16GB ราคา $429 ราคานี้ถูกกว่า RTX 4060 Ti ที่เคยเปิดตัวด้วยราคา $399 สำหรับรุ่น 8GB และ $499 สำหรับรุ่น 16GB
    - ราคาในจีนอยู่ที่ประมาณ 3,199 หยวน ($435) และ 3,599 หยวน ($490) ซึ่งยังน่าสนใจสำหรับตลาดระดับสากล

    ✅ สเปคขั้นสูงในราคาสบายกระเป๋า:
    - ใช้ GPU GB206-300 ที่ผลิตด้วยกระบวนการ 5nm ของ TSMC
    - รวม 4,608 CUDA cores, หน่วยความจำ GDDR7 พร้อมแบนด์วิดท์ถึง 448GB/s
    - ความเร็ว base clock อยู่ที่ 2407MHz และ boost clock ที่ 2572MHz พร้อมพลังงาน TGP ที่ 180W

    ✅ พอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครัน:
    - มี HDMI 2.1b 1 พอร์ต และ DisplayPort 2.1b อีก 3 พอร์ต รองรับการเชื่อมต่อหลายหน้าจอ

    https://www.techspot.com/news/107480-nvidia-rtx-5060-ti-16gb-8gb-rumored-prices.html
    Nvidia มีแผนเปิดตัวการ์ดจอ GeForce RTX 5060 Ti ในวันที่ 15 เมษายน 2025 โดยมุ่งเน้นกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า การเปิดตัวครั้งนี้มาพร้อมข่าวลือเรื่องราคาอย่างเป็นทางการที่ลดลง เมื่อเทียบกับซีรีส์ RTX 4060 Ti รุ่นก่อนหน้า ✅ ราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น: - รุ่น 8GB มีราคาเริ่มต้นที่ $379 ในขณะที่รุ่น 16GB ราคา $429 ราคานี้ถูกกว่า RTX 4060 Ti ที่เคยเปิดตัวด้วยราคา $399 สำหรับรุ่น 8GB และ $499 สำหรับรุ่น 16GB - ราคาในจีนอยู่ที่ประมาณ 3,199 หยวน ($435) และ 3,599 หยวน ($490) ซึ่งยังน่าสนใจสำหรับตลาดระดับสากล ✅ สเปคขั้นสูงในราคาสบายกระเป๋า: - ใช้ GPU GB206-300 ที่ผลิตด้วยกระบวนการ 5nm ของ TSMC - รวม 4,608 CUDA cores, หน่วยความจำ GDDR7 พร้อมแบนด์วิดท์ถึง 448GB/s - ความเร็ว base clock อยู่ที่ 2407MHz และ boost clock ที่ 2572MHz พร้อมพลังงาน TGP ที่ 180W ✅ พอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครัน: - มี HDMI 2.1b 1 พอร์ต และ DisplayPort 2.1b อีก 3 พอร์ต รองรับการเชื่อมต่อหลายหน้าจอ https://www.techspot.com/news/107480-nvidia-rtx-5060-ti-16gb-8gb-rumored-prices.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia to unveil RTX 5060 Ti next week, rumored prices are good news for gamers
    According to industry insider Board Channels and Chinese tech blog IT Home, the RTX 5060 Ti 8GB model will cost $379, while the 16GB variant is $429....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และ จีน ได้สร้างความผันผวนให้กับตลาดโลก โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากการประกาศมาตรการภาษีของประธานาธิบดี Donald Trump บริษัท Apple ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามมูลค่าตลาดได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดในครั้งนี้

    ✅ ผลกระทบจากมาตรการภาษี 50%: มาตรการภาษีที่กำลังถูกเสนอจะส่งผลโดยตรงต่อผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่ผลิตในจีน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ iPhone ไปจนถึง MacBook ที่อาจต้องเพิ่มราคาขายสูงถึง 350 ดอลลาร์ ต่อเครื่องเพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น หาก Apple เลือกที่จะส่งต่อภาระภาษีไปยังผู้บริโภค

    ✅ การผลิตในประเทศอื่นที่ยังไม่แน่นอน: แม้ว่า Apple จะมีฐานการผลิตใน เวียดนาม ไทย และอินเดีย แต่ประเทศเหล่านี้ก็ต้องเจอมาตรการภาษีที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่า Apple อาจพิจารณาย้ายฐานการผลิตบางส่วนไปยัง บราซิล ซึ่งเผชิญอัตราภาษีต่ำกว่าประเทศอื่น

    ✅ สถานะของหุ้น Apple: มูลค่าหุ้นของ Apple ลดลงเกือบ 20% ในช่วงสามวันแรกของสงครามการค้า ทำให้สูญเสียมูลค่าตลาดกว่า 640 พันล้านดอลลาร์ ก่อนจะเริ่มฟื้นตัวในวันอังคาร

    https://www.techspot.com/news/107459-apple-stock-plummets-trump-tariff-threat-wiping-out.html
    สงครามการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และ จีน ได้สร้างความผันผวนให้กับตลาดโลก โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากการประกาศมาตรการภาษีของประธานาธิบดี Donald Trump บริษัท Apple ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามมูลค่าตลาดได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดในครั้งนี้ ✅ ผลกระทบจากมาตรการภาษี 50%: มาตรการภาษีที่กำลังถูกเสนอจะส่งผลโดยตรงต่อผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่ผลิตในจีน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ iPhone ไปจนถึง MacBook ที่อาจต้องเพิ่มราคาขายสูงถึง 350 ดอลลาร์ ต่อเครื่องเพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น หาก Apple เลือกที่จะส่งต่อภาระภาษีไปยังผู้บริโภค ✅ การผลิตในประเทศอื่นที่ยังไม่แน่นอน: แม้ว่า Apple จะมีฐานการผลิตใน เวียดนาม ไทย และอินเดีย แต่ประเทศเหล่านี้ก็ต้องเจอมาตรการภาษีที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่า Apple อาจพิจารณาย้ายฐานการผลิตบางส่วนไปยัง บราซิล ซึ่งเผชิญอัตราภาษีต่ำกว่าประเทศอื่น ✅ สถานะของหุ้น Apple: มูลค่าหุ้นของ Apple ลดลงเกือบ 20% ในช่วงสามวันแรกของสงครามการค้า ทำให้สูญเสียมูลค่าตลาดกว่า 640 พันล้านดอลลาร์ ก่อนจะเริ่มฟื้นตัวในวันอังคาร https://www.techspot.com/news/107459-apple-stock-plummets-trump-tariff-threat-wiping-out.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Apple's China exposure makes it most vulnerable in US-China trade war
    While most major American tech companies have much to lose in a global trade war, Apple – the world's largest by market cap – is the most...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z Fold 7 และ Flip 7 ซึ่งมาพร้อม One UI 8 ที่พัฒนาขึ้นใหม่จาก Android 16 เพิ่มความสะดวกสบายและฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เหล่านี้เน้นดีไซน์บางเฉียบ การปรับปรุงกล้อง และประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีกว่าเดิม แสดงถึงทิศทางที่ชัดเจนของ Samsung ในการเป็นผู้นำด้านสมาร์ทโฟนพับได้

    ✅ One UI 8: ระบบปฏิบัติการที่มาพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะ
    - Samsung เลือกเปิดตัว One UI 8 บนสมาร์ทโฟนพับได้รุ่นใหม่ก่อนใคร โดยมีข่าวลือว่าระบบปฏิบัติการนี้จะปรับปรุงโหมด Desktop Mode เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ใกล้เคียงคอมพิวเตอร์มากยิ่งขึ้น
    - ฟีเจอร์เด่นอื่น ๆ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพของฟังก์ชันสุขภาพ และระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ที่จะช่วยป้องกันการโจรกรรม

    ✅ Galaxy Z Fold 7: ดีไซน์บางเฉียบและปรับปรุงกล้อง
    - ตัวเครื่องจะบางลงจากรุ่นก่อน พร้อมการอัปเกรดประสิทธิภาพการทำงานและความเร็วของชิปประมวลผล รวมถึงอาจมีการพัฒนากล้องเพื่อรองรับการถ่ายภาพที่ดีขึ้น

    ✅ Galaxy Z Flip 7: จอด้านนอกที่ใหญ่ขึ้น
    - มีการคาดการณ์ว่า Z Flip 7 จะมาพร้อมกับ หน้าจอด้านนอกที่ขยายใหญ่เต็มพื้นที่ เพื่อการแสดงผลที่สะดวกและตอบโจทย์การใช้งานในยุคปัจจุบัน

    ✅ ปรับปรุงอายุการใช้งานแบตเตอรี่:
    - ทั้งสองรุ่นจะใช้หน้าจอที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่าเดิม

    นอกจาก Galaxy Z Fold 7 และ Flip 7 ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับ Galaxy Z Flip SE รุ่นราคาประหยัด และสมาร์ทโฟนพับสาม (Tri-Fold) ซึ่งอาจถูกเปิดตัวพร้อมกัน แสดงให้เห็นว่า Samsung ยังคงมุ่งมั่นขยายตลาดสมาร์ทโฟนพับได้ให้หลากหลายกลุ่มผู้ใช้งาน

    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-z-fold-7-and-galaxy-z-flip-7-are-being-tipped-to-come-with-one-ui-8-on-board
    Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z Fold 7 และ Flip 7 ซึ่งมาพร้อม One UI 8 ที่พัฒนาขึ้นใหม่จาก Android 16 เพิ่มความสะดวกสบายและฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เหล่านี้เน้นดีไซน์บางเฉียบ การปรับปรุงกล้อง และประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีกว่าเดิม แสดงถึงทิศทางที่ชัดเจนของ Samsung ในการเป็นผู้นำด้านสมาร์ทโฟนพับได้ ✅ One UI 8: ระบบปฏิบัติการที่มาพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะ - Samsung เลือกเปิดตัว One UI 8 บนสมาร์ทโฟนพับได้รุ่นใหม่ก่อนใคร โดยมีข่าวลือว่าระบบปฏิบัติการนี้จะปรับปรุงโหมด Desktop Mode เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ใกล้เคียงคอมพิวเตอร์มากยิ่งขึ้น - ฟีเจอร์เด่นอื่น ๆ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพของฟังก์ชันสุขภาพ และระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ที่จะช่วยป้องกันการโจรกรรม ✅ Galaxy Z Fold 7: ดีไซน์บางเฉียบและปรับปรุงกล้อง - ตัวเครื่องจะบางลงจากรุ่นก่อน พร้อมการอัปเกรดประสิทธิภาพการทำงานและความเร็วของชิปประมวลผล รวมถึงอาจมีการพัฒนากล้องเพื่อรองรับการถ่ายภาพที่ดีขึ้น ✅ Galaxy Z Flip 7: จอด้านนอกที่ใหญ่ขึ้น - มีการคาดการณ์ว่า Z Flip 7 จะมาพร้อมกับ หน้าจอด้านนอกที่ขยายใหญ่เต็มพื้นที่ เพื่อการแสดงผลที่สะดวกและตอบโจทย์การใช้งานในยุคปัจจุบัน ✅ ปรับปรุงอายุการใช้งานแบตเตอรี่: - ทั้งสองรุ่นจะใช้หน้าจอที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่าเดิม นอกจาก Galaxy Z Fold 7 และ Flip 7 ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับ Galaxy Z Flip SE รุ่นราคาประหยัด และสมาร์ทโฟนพับสาม (Tri-Fold) ซึ่งอาจถูกเปิดตัวพร้อมกัน แสดงให้เห็นว่า Samsung ยังคงมุ่งมั่นขยายตลาดสมาร์ทโฟนพับได้ให้หลากหลายกลุ่มผู้ใช้งาน https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-z-fold-7-and-galaxy-z-flip-7-are-being-tipped-to-come-with-one-ui-8-on-board
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sigma มีข่าวลือที่กำลังเป็นที่สนใจในแวดวงการถ่ายภาพ โดยมีแผนพัฒนาเลนส์ 200mm f/1.8 Telephoto Prime ซึ่งจะเป็นเลนส์รุ่นแรกของโลกที่รองรับกล้องมิเรอร์เลสระบบ L-mount และ Sony E-mount นี่ถือเป็นการคืนชีพเทคโนโลยีที่เคยโดดเด่นในยุค DSLR หลังจากเลนส์ Canon EF 200mm f/1.8L USM เคยทำตลาดในช่วงปี 1988 ก่อนเลิกผลิตในปี 2004

    ✅ ความเร็วชัตเตอร์และการละลายฉากหลังในระดับใหม่
    - เลนส์ 200mm f/1.8 นำเสนอมิติใหม่สำหรับการถ่ายภาพ ด้วยความสามารถในการสร้างฉากหลังที่ละลาย (bokeh) อย่างนุ่มนวล และทำให้วัตถุหลักโดดเด่น
    - ด้วยรูรับแสงกว้างพิเศษ ช่วยให้ถ่ายในสถานการณ์แสงน้อยได้ง่ายขึ้น เช่น กีฬากลางคืนหรือถ่ายภาพในร่ม

    ✅ การรองรับหลากหลายการใช้งาน
    - สำหรับ ช่างภาพกีฬา เลนส์นี้ช่วยให้การจับภาพการเคลื่อนไหวทำได้รวดเร็ว และยังเหมาะสำหรับ ช่างภาพสัตว์ป่า ที่ต้องการจับภาพในสภาพแสงที่ท้าทาย
    - ช่างภาพพอร์ตเทรตและแลนด์สเคป จะได้เปรียบเรื่องการสร้างเอฟเฟกต์ภาพที่ดึงดูดสายตา

    ✅ การออกแบบตามมาตรฐานเลนส์ระดับสูงของ Sigma
    - ข่าวลือชี้ว่าเลนส์นี้อาจเป็นส่วนหนึ่งในไลน์ Sigma Sports ซึ่งให้ความสำคัญกับความคงทนและคุณภาพของภาพถ่าย

    Sigma เคยสร้างนวัตกรรมที่น่าทึ่ง เช่นเลนส์ซูม 28–45mm f/1.8 ซึ่งเป็นเลนส์ f/1.8 zoom ตัวแรกในโลกสำหรับกล้องฟูลเฟรม ดังนั้นหากข่าวลือเกี่ยวกับเลนส์ 200mm f/1.8 นี้เป็นจริง มันอาจเป็นก้าวสำคัญสำหรับช่างภาพทั่วโลก

    https://www.techradar.com/cameras/mirrorless-cameras/rumored-sigma-telephoto-prime-could-be-world-first-200mm-f1-8-for-mirrorless-and-it-sounds-like-a-next-level-portrait-lens
    Sigma มีข่าวลือที่กำลังเป็นที่สนใจในแวดวงการถ่ายภาพ โดยมีแผนพัฒนาเลนส์ 200mm f/1.8 Telephoto Prime ซึ่งจะเป็นเลนส์รุ่นแรกของโลกที่รองรับกล้องมิเรอร์เลสระบบ L-mount และ Sony E-mount นี่ถือเป็นการคืนชีพเทคโนโลยีที่เคยโดดเด่นในยุค DSLR หลังจากเลนส์ Canon EF 200mm f/1.8L USM เคยทำตลาดในช่วงปี 1988 ก่อนเลิกผลิตในปี 2004 ✅ ความเร็วชัตเตอร์และการละลายฉากหลังในระดับใหม่ - เลนส์ 200mm f/1.8 นำเสนอมิติใหม่สำหรับการถ่ายภาพ ด้วยความสามารถในการสร้างฉากหลังที่ละลาย (bokeh) อย่างนุ่มนวล และทำให้วัตถุหลักโดดเด่น - ด้วยรูรับแสงกว้างพิเศษ ช่วยให้ถ่ายในสถานการณ์แสงน้อยได้ง่ายขึ้น เช่น กีฬากลางคืนหรือถ่ายภาพในร่ม ✅ การรองรับหลากหลายการใช้งาน - สำหรับ ช่างภาพกีฬา เลนส์นี้ช่วยให้การจับภาพการเคลื่อนไหวทำได้รวดเร็ว และยังเหมาะสำหรับ ช่างภาพสัตว์ป่า ที่ต้องการจับภาพในสภาพแสงที่ท้าทาย - ช่างภาพพอร์ตเทรตและแลนด์สเคป จะได้เปรียบเรื่องการสร้างเอฟเฟกต์ภาพที่ดึงดูดสายตา ✅ การออกแบบตามมาตรฐานเลนส์ระดับสูงของ Sigma - ข่าวลือชี้ว่าเลนส์นี้อาจเป็นส่วนหนึ่งในไลน์ Sigma Sports ซึ่งให้ความสำคัญกับความคงทนและคุณภาพของภาพถ่าย Sigma เคยสร้างนวัตกรรมที่น่าทึ่ง เช่นเลนส์ซูม 28–45mm f/1.8 ซึ่งเป็นเลนส์ f/1.8 zoom ตัวแรกในโลกสำหรับกล้องฟูลเฟรม ดังนั้นหากข่าวลือเกี่ยวกับเลนส์ 200mm f/1.8 นี้เป็นจริง มันอาจเป็นก้าวสำคัญสำหรับช่างภาพทั่วโลก https://www.techradar.com/cameras/mirrorless-cameras/rumored-sigma-telephoto-prime-could-be-world-first-200mm-f1-8-for-mirrorless-and-it-sounds-like-a-next-level-portrait-lens
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • Arm บริษัทผู้พัฒนาสถาปัตยกรรมชิประดับโลก กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเซิร์ฟเวอร์ โดยรายงานล่าสุดเผยว่าประมาณ 50% ของชิปเซิร์ฟเวอร์ที่ส่งไปยัง Hyperscaler ชั้นนำในปี 2025 จะเป็นชิปที่ใช้สถาปัตยกรรม Neoverse การเติบโตนี้ได้รับแรงสนับสนุนจากความต้องการเทคโนโลยี AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และการมุ่งเน้นที่ การประหยัดพลังงาน และ ความสามารถในการปรับขนาด

    ✅ AI ขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดชิป:
    - เทคโนโลยี AI ทำให้เกิดความต้องการที่สูงขึ้นในด้านประสิทธิภาพการประมวลผลและพลังงานที่คุ้มค่า Hyperscaler อย่าง AWS, Google, และ Microsoft กำลังเปลี่ยนจากสถาปัตยกรรม x86 ไปสู่ Arm Neoverse

    ✅ จุดเด่นของ Neoverse Architecture:
    - Neoverse มอบความยืดหยุ่นในการออกแบบชิปแบบปรับแต่งเฉพาะ เช่น Grace Blackwell Superchip ของ Nvidia ที่รวมความสามารถของ CPU และ GPU เพื่อรองรับงาน AI ได้แบบเต็มประสิทธิภาพ
    - สถาปัตยกรรม Arm ช่วยลดต้นทุนการประมวลผลและพลังงาน ทำให้สามารถออกแบบ Data Center ขนาดใหญ่ที่ใช้พลังงานเป็น Gigawatts

    ✅ อนาคตของ Arm และการแข่งขันในตลาด:
    - Arm ยังคงเป็นที่ต้องการในหมู่ Hyperscaler ขนาดใหญ่ถึง 10 แห่งทั่วโลก แม้ว่าจะมีข่าวลือว่า Arm อาจผลิตชิปของตัวเอง ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์กับพาร์ทเนอร์อย่างมาก
    - SoftBank เจ้าของ Arm เพิ่งเข้าซื้อ Ampere ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิป Arm ด้วยมูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันในตลาด

    ✅ เทคโนโลยีที่ปรับตัวตามความต้องการ:
    - ด้วยความนิยมในการปรับแต่งชิปสำหรับงาน AI Arm Neoverse จะกลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับผู้พัฒนา Data Center ในอนาคต

    https://www.techradar.com/pro/has-x86-lost-the-data-center-battle-arm-claims-victory-as-it-declares-close-to-50-percent-of-compute-shipped-to-top-hyperscalers-in-2025-will-be-arm-based
    Arm บริษัทผู้พัฒนาสถาปัตยกรรมชิประดับโลก กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเซิร์ฟเวอร์ โดยรายงานล่าสุดเผยว่าประมาณ 50% ของชิปเซิร์ฟเวอร์ที่ส่งไปยัง Hyperscaler ชั้นนำในปี 2025 จะเป็นชิปที่ใช้สถาปัตยกรรม Neoverse การเติบโตนี้ได้รับแรงสนับสนุนจากความต้องการเทคโนโลยี AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และการมุ่งเน้นที่ การประหยัดพลังงาน และ ความสามารถในการปรับขนาด ✅ AI ขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดชิป: - เทคโนโลยี AI ทำให้เกิดความต้องการที่สูงขึ้นในด้านประสิทธิภาพการประมวลผลและพลังงานที่คุ้มค่า Hyperscaler อย่าง AWS, Google, และ Microsoft กำลังเปลี่ยนจากสถาปัตยกรรม x86 ไปสู่ Arm Neoverse ✅ จุดเด่นของ Neoverse Architecture: - Neoverse มอบความยืดหยุ่นในการออกแบบชิปแบบปรับแต่งเฉพาะ เช่น Grace Blackwell Superchip ของ Nvidia ที่รวมความสามารถของ CPU และ GPU เพื่อรองรับงาน AI ได้แบบเต็มประสิทธิภาพ - สถาปัตยกรรม Arm ช่วยลดต้นทุนการประมวลผลและพลังงาน ทำให้สามารถออกแบบ Data Center ขนาดใหญ่ที่ใช้พลังงานเป็น Gigawatts ✅ อนาคตของ Arm และการแข่งขันในตลาด: - Arm ยังคงเป็นที่ต้องการในหมู่ Hyperscaler ขนาดใหญ่ถึง 10 แห่งทั่วโลก แม้ว่าจะมีข่าวลือว่า Arm อาจผลิตชิปของตัวเอง ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์กับพาร์ทเนอร์อย่างมาก - SoftBank เจ้าของ Arm เพิ่งเข้าซื้อ Ampere ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิป Arm ด้วยมูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันในตลาด ✅ เทคโนโลยีที่ปรับตัวตามความต้องการ: - ด้วยความนิยมในการปรับแต่งชิปสำหรับงาน AI Arm Neoverse จะกลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับผู้พัฒนา Data Center ในอนาคต https://www.techradar.com/pro/has-x86-lost-the-data-center-battle-arm-claims-victory-as-it-declares-close-to-50-percent-of-compute-shipped-to-top-hyperscalers-in-2025-will-be-arm-based
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • Xiaomi เตรียมเปิดตัวชิปเซ็ตที่พัฒนาขึ้นเองครั้งแรกในปลายปี 2025 โดยชิปนี้จะถูกผลิตด้วยกระบวนการ 4nm ‘N4P’ ของ TSMC ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการผลิตที่ล้ำหน้าที่สุดในอุตสาหกรรม ชิปตัวนี้แม้ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ แต่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลสเปกบางส่วน โดยจะยังคงใช้สถาปัตยกรรมจาก ARM แทนที่จะพัฒนาแกนประมวลผลเอง

    ✅ กระบวนการผลิตและเทคโนโลยีระดับสูง
    - ชิปใหม่นี้ผลิตด้วยกระบวนการ 4nm ‘N4P’ ของ TSMC ซึ่งเน้นความละเอียดและประหยัดพลังงาน
    - แม้ว่าก่อนหน้านี้ Xiaomi เคยมีเป้าหมายพัฒนาชิป 3nm แต่คาดว่าจะเห็น 4nm ออกมาก่อน

    ✅ โครงสร้างซีพียูและจีพียูที่ทันสมัย
    - ใช้การตั้งค่าซีพียูแบบ ‘1+3+4’ โดยมีคอร์หลักเป็น Cortex-X925 ความเร็ว 3.20GHz พร้อมคอร์ประหยัดพลังงานและคอร์สำหรับงานทั่วไป
    - มาพร้อม GPU IMG DXT 72-2304 จาก Imagination Technologies ซึ่งเคลมว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่ากราฟิก Adreno 740 ของ Snapdragon 8 Gen 2

    ✅ พัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน
    - แม้ว่าจะยังพึ่งพาการออกแบบสถาปัตยกรรม ARM แต่ Xiaomi ตั้งเป้าที่จะลดการพึ่งพาชิปจาก Qualcomm และ MediaTek ในอนาคต
    - ข่าวลือนี้ยังชี้ว่า Xiaomi อาจเจอกับแรงกดดันทางการเมืองจากมาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีของสหรัฐฯ

    ✅ ความหวังและความเสี่ยง
    - แม้ว่าชิปนี้จะมีเป้าหมายทำตลาดระดับไฮเอนด์เทียบ Snapdragon 8 Gen 1 แต่ยังคงต้องดูผลลัพธ์ว่า Xiaomi จะสามารถแข่งขันในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ได้หรือไม่
    - ความคืบหน้าของชิป 3nm ที่เข้าขั้น Tape-Out (ขั้นตอนสุดท้ายของการออกแบบ) อาจเป็นกุญแจสำคัญในอนาคต

    https://wccftech.com/xiaomi-custom-soc-to-use-tsmc-4nm-n4p-process-will-lack-in-house-cores/
    Xiaomi เตรียมเปิดตัวชิปเซ็ตที่พัฒนาขึ้นเองครั้งแรกในปลายปี 2025 โดยชิปนี้จะถูกผลิตด้วยกระบวนการ 4nm ‘N4P’ ของ TSMC ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการผลิตที่ล้ำหน้าที่สุดในอุตสาหกรรม ชิปตัวนี้แม้ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ แต่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลสเปกบางส่วน โดยจะยังคงใช้สถาปัตยกรรมจาก ARM แทนที่จะพัฒนาแกนประมวลผลเอง ✅ กระบวนการผลิตและเทคโนโลยีระดับสูง - ชิปใหม่นี้ผลิตด้วยกระบวนการ 4nm ‘N4P’ ของ TSMC ซึ่งเน้นความละเอียดและประหยัดพลังงาน - แม้ว่าก่อนหน้านี้ Xiaomi เคยมีเป้าหมายพัฒนาชิป 3nm แต่คาดว่าจะเห็น 4nm ออกมาก่อน ✅ โครงสร้างซีพียูและจีพียูที่ทันสมัย - ใช้การตั้งค่าซีพียูแบบ ‘1+3+4’ โดยมีคอร์หลักเป็น Cortex-X925 ความเร็ว 3.20GHz พร้อมคอร์ประหยัดพลังงานและคอร์สำหรับงานทั่วไป - มาพร้อม GPU IMG DXT 72-2304 จาก Imagination Technologies ซึ่งเคลมว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่ากราฟิก Adreno 740 ของ Snapdragon 8 Gen 2 ✅ พัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน - แม้ว่าจะยังพึ่งพาการออกแบบสถาปัตยกรรม ARM แต่ Xiaomi ตั้งเป้าที่จะลดการพึ่งพาชิปจาก Qualcomm และ MediaTek ในอนาคต - ข่าวลือนี้ยังชี้ว่า Xiaomi อาจเจอกับแรงกดดันทางการเมืองจากมาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ✅ ความหวังและความเสี่ยง - แม้ว่าชิปนี้จะมีเป้าหมายทำตลาดระดับไฮเอนด์เทียบ Snapdragon 8 Gen 1 แต่ยังคงต้องดูผลลัพธ์ว่า Xiaomi จะสามารถแข่งขันในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ได้หรือไม่ - ความคืบหน้าของชิป 3nm ที่เข้าขั้น Tape-Out (ขั้นตอนสุดท้ายของการออกแบบ) อาจเป็นกุญแจสำคัญในอนาคต https://wccftech.com/xiaomi-custom-soc-to-use-tsmc-4nm-n4p-process-will-lack-in-house-cores/
    WCCFTECH.COM
    Xiaomi’s In-House Chipset’s Specification Details Come Through; Rumor Claims That SoC Will Be Mass Produced On TSMC’s 4nm ‘N4P’ But Will Stick To ARM’s Current CPU Designs
    Some specification details of Xiaomi’s upcoming in-house chipset reveals that it will be mass produced on TSMC’s 4nm process, among other details
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

    เดือนนี้ ต้องหนักแน่นอย่าหูเบาเพราะมีศัตรูคู่แข่งขันจะคอยจ้องทำร้ายจากการปล่อยข่าวลือให้ตื่นเต้นตกใจ หรือเป็นเพราะการได้ยินที่ผิดพลาดทำให้เกิดการเข้าใจผิดหรือเกิดจากการทรยศหักหลังส่งผลให้ความลับในองค์กรรั่วไหลเปิดเผย รวมทั้งกระทำการนอกกฎระเบียบจะถูกตัดสิทธิ์ริบเงินมัดจำ ตลอดจนลูกหลานบริวารไม่ยอมปฏิบัติเชื่อฟัง แม้กระทั่งสุนัขสัตว์เลี้ยงอาจจะแวงกัดตนหรือคนอื่นจนเกิดเป็นโรคร้ายให้ต้องเสียทรัพย์รักษาพยาบาล ชายที่ชอบเที่ยวเตร่ท่องสุรานารีเป็นประจำระวังจะเป็นโรคเลือด หรือแม้แต่การเดินทางไกลหรือเดินทางไปในสถานที่ๆชื้นแฉะหรือที่ๆมืดมิด ควรระมัดระวังภัยอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ เพราะมีโอกาสจะได้รับบาดเจ็บให้เลือดตกยางออกได้

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เดือนนี้ ต้องหนักแน่นอย่าหูเบาเพราะมีศัตรูคู่แข่งขันจะคอยจ้องทำร้ายจากการปล่อยข่าวลือให้ตื่นเต้นตกใจ หรือเป็นเพราะการได้ยินที่ผิดพลาดทำให้เกิดการเข้าใจผิดหรือเกิดจากการทรยศหักหลังส่งผลให้ความลับในองค์กรรั่วไหลเปิดเผย รวมทั้งกระทำการนอกกฎระเบียบจะถูกตัดสิทธิ์ริบเงินมัดจำ ตลอดจนลูกหลานบริวารไม่ยอมปฏิบัติเชื่อฟัง แม้กระทั่งสุนัขสัตว์เลี้ยงอาจจะแวงกัดตนหรือคนอื่นจนเกิดเป็นโรคร้ายให้ต้องเสียทรัพย์รักษาพยาบาล ชายที่ชอบเที่ยวเตร่ท่องสุรานารีเป็นประจำระวังจะเป็นโรคเลือด หรือแม้แต่การเดินทางไกลหรือเดินทางไปในสถานที่ๆชื้นแฉะหรือที่ๆมืดมิด ควรระมัดระวังภัยอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ เพราะมีโอกาสจะได้รับบาดเจ็บให้เลือดตกยางออกได้ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานว่า บริษัท AI ชั้นนำของจีน เช่น Tencent, Alibaba และ ByteDance ได้ใช้เงินรวมกันกว่า 16 พันล้านดอลลาร์ ในการซื้อ GPU รุ่น H20 จาก Nvidia ภายในไตรมาสแรกของปี 2025 การเร่งสั่งซื้อครั้งใหญ่นี้คาดว่ามาจากความต้องการเพิ่มขึ้นของฮาร์ดแวร์ AI ในตลาดจีน ซึ่งขับเคลื่อนโดยบริษัท AI สตาร์ตอัปอย่าง DeepSeek

    ✅ H20—AI Processor ระดับสูงที่ยังคงอนุญาตให้ส่งออกไปจีน
    - Nvidia H20 เป็น AI GPU ที่ทรงพลังที่สุดที่ยังได้รับการอนุมัติให้ส่งออกไปยังจีน ภายใต้ข้อจำกัดด้านการส่งออกของสหรัฐฯ
    - คาดว่าความเร่งรีบในการสั่งซื้อนี้เกิดจากข่าวลือเกี่ยวกับ การเพิ่มข้อจำกัดการส่งออกเพิ่มเติมในอนาคต

    ✅ คำแนะนำจากรัฐบาลจีนให้ชะลอการสั่งซื้อ
    - มีรายงานว่าหน่วยงานรัฐบาลจีน แนะนำให้บริษัทชั้นนำหยุดการสั่งซื้อ GPU H20 เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการกักตุนฮาร์ดแวร์ และเพื่อสนับสนุนการพัฒนา GPU ที่ผลิตในประเทศ

    ✅ แนวโน้มการออกแบบชิปใหม่ของ Nvidia สำหรับตลาดจีน
    - Nvidia อาจกำลังพัฒนา ชิปรุ่นใหม่สำหรับตลาดจีน ที่จะสอดคล้องกับข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด
    - มีข่าวลือเกี่ยวกับการเปิดตัว GPU H20 ที่อัปเกรดด้วย HBM3E modules

    ✅ บทบาทสำคัญของ DeepSeek ในการขยายตลาด AI
    - ความต้องการ Nvidia H20 เพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจาก DeepSeek ซึ่งเป็นสตาร์ตอัป AI ของจีน มี AI โมเดลต้นทุนต่ำที่เข้าถึงตลาดได้กว้าง

    https://www.techpowerup.com/335077/chinas-largest-ai-firms-reportedly-forked-out-usd-16-billion-total-for-nvidia-h20-gpu-supplies-in-2025
    มีรายงานว่า บริษัท AI ชั้นนำของจีน เช่น Tencent, Alibaba และ ByteDance ได้ใช้เงินรวมกันกว่า 16 พันล้านดอลลาร์ ในการซื้อ GPU รุ่น H20 จาก Nvidia ภายในไตรมาสแรกของปี 2025 การเร่งสั่งซื้อครั้งใหญ่นี้คาดว่ามาจากความต้องการเพิ่มขึ้นของฮาร์ดแวร์ AI ในตลาดจีน ซึ่งขับเคลื่อนโดยบริษัท AI สตาร์ตอัปอย่าง DeepSeek ✅ H20—AI Processor ระดับสูงที่ยังคงอนุญาตให้ส่งออกไปจีน - Nvidia H20 เป็น AI GPU ที่ทรงพลังที่สุดที่ยังได้รับการอนุมัติให้ส่งออกไปยังจีน ภายใต้ข้อจำกัดด้านการส่งออกของสหรัฐฯ - คาดว่าความเร่งรีบในการสั่งซื้อนี้เกิดจากข่าวลือเกี่ยวกับ การเพิ่มข้อจำกัดการส่งออกเพิ่มเติมในอนาคต ✅ คำแนะนำจากรัฐบาลจีนให้ชะลอการสั่งซื้อ - มีรายงานว่าหน่วยงานรัฐบาลจีน แนะนำให้บริษัทชั้นนำหยุดการสั่งซื้อ GPU H20 เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการกักตุนฮาร์ดแวร์ และเพื่อสนับสนุนการพัฒนา GPU ที่ผลิตในประเทศ ✅ แนวโน้มการออกแบบชิปใหม่ของ Nvidia สำหรับตลาดจีน - Nvidia อาจกำลังพัฒนา ชิปรุ่นใหม่สำหรับตลาดจีน ที่จะสอดคล้องกับข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด - มีข่าวลือเกี่ยวกับการเปิดตัว GPU H20 ที่อัปเกรดด้วย HBM3E modules ✅ บทบาทสำคัญของ DeepSeek ในการขยายตลาด AI - ความต้องการ Nvidia H20 เพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจาก DeepSeek ซึ่งเป็นสตาร์ตอัป AI ของจีน มี AI โมเดลต้นทุนต่ำที่เข้าถึงตลาดได้กว้าง https://www.techpowerup.com/335077/chinas-largest-ai-firms-reportedly-forked-out-usd-16-billion-total-for-nvidia-h20-gpu-supplies-in-2025
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    China's Largest AI Firms Reportedly Forked Out ~$16 Billion Total for NVIDIA H20 GPU Supplies in 2025
    Last week, industry reports pointed to evidence of NVIDIA H20 AI GPU shortages in China—supply chain insiders expressed frustration about limited availability, and alleged price hikes. Days later, local media outlets have disclosed staggering sales figures. Two unnamed sources opine that the likes o...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เอกนัฏ” ลงนามหนังสือขอให้เพิกถอนสิทธิประโยชน์การลงทุน BOI “ ซิน เคอ หยวน สตีล” ไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย พรบ.โรงงาน และ พรบ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พร้อมโต้ข่าวลือบอร์ด BOI ล่มไม่ใช่เพราะกระทรวงอุตฯ หลังพบว่าสมอ.ออกหนังสือรับรองระบบควบคุมภาพฯซิน เคอ หยวน เมื่อวันที่ 20มกราคม2568

    นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ได้โพสต์เฟสบุค ว่า “ผมได้ลงนามในหนังสือขอให้เพิกถอนสิทธิประโยชน์การลงทุน (BOI) ไปวันนี้ (4 เมษายน 2568) เนื่องจากพบว่าบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย พรบ.โรงงาน และ พรบ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม โดยที่หนังสือแจ้งเตือนให้ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน ครั้งแรกในวันที่ 27 ธันวาคม 2567 และครั้งที่สอง ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ยังมีผลเนื่องจากยังไม่มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์แต่อย่างใด

    “ข่าวลือเรื่องการประชุมบีโอไอล่มเพราะกระทรวงอุตสาหกรรมไม่เป็นความจริง แต่ได้ออกคำสั่งให้หัวหน้าชุดสุดซอยสอบแล้ว”

    อย่างไรก็ดี ในเดือนธันวาคม 2567 สมอ.ทำหนังสือแจ้งเตือน “ซิน เคอ หยวน” มี 2 กรณี คือ 1. ระบบควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์บกพร่อง2. ผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000032334

    #MGROnline #BOI #ซินเคอหยวน
    “เอกนัฏ” ลงนามหนังสือขอให้เพิกถอนสิทธิประโยชน์การลงทุน BOI “ ซิน เคอ หยวน สตีล” ไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย พรบ.โรงงาน และ พรบ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พร้อมโต้ข่าวลือบอร์ด BOI ล่มไม่ใช่เพราะกระทรวงอุตฯ หลังพบว่าสมอ.ออกหนังสือรับรองระบบควบคุมภาพฯซิน เคอ หยวน เมื่อวันที่ 20มกราคม2568 • นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ได้โพสต์เฟสบุค ว่า “ผมได้ลงนามในหนังสือขอให้เพิกถอนสิทธิประโยชน์การลงทุน (BOI) ไปวันนี้ (4 เมษายน 2568) เนื่องจากพบว่าบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย พรบ.โรงงาน และ พรบ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม โดยที่หนังสือแจ้งเตือนให้ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน ครั้งแรกในวันที่ 27 ธันวาคม 2567 และครั้งที่สอง ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ยังมีผลเนื่องจากยังไม่มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์แต่อย่างใด • “ข่าวลือเรื่องการประชุมบีโอไอล่มเพราะกระทรวงอุตสาหกรรมไม่เป็นความจริง แต่ได้ออกคำสั่งให้หัวหน้าชุดสุดซอยสอบแล้ว” • อย่างไรก็ดี ในเดือนธันวาคม 2567 สมอ.ทำหนังสือแจ้งเตือน “ซิน เคอ หยวน” มี 2 กรณี คือ 1. ระบบควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์บกพร่อง2. ผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000032334 • #MGROnline #BOI #ซินเคอหยวน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เอกนัฏ” ลงนามหนังสือขอให้เพิกถอนสิทธิประโยชน์การลงทุน BOI “ ซิน เคอ หยวน สตีล” ไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย พรบ.โรงงาน และ พรบ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พร้อมโต้ข่าวลือบอร์ด BOI ล่มไม่ใช่เพราะกระทรวงอุตฯ หลังพบว่าสมอ.ออกหนังสือรับรองระบบควบคุมภาพฯซิน เคอ หยวน เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000032334
    “เอกนัฏ” ลงนามหนังสือขอให้เพิกถอนสิทธิประโยชน์การลงทุน BOI “ ซิน เคอ หยวน สตีล” ไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย พรบ.โรงงาน และ พรบ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พร้อมโต้ข่าวลือบอร์ด BOI ล่มไม่ใช่เพราะกระทรวงอุตฯ หลังพบว่าสมอ.ออกหนังสือรับรองระบบควบคุมภาพฯซิน เคอ หยวน เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000032334
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 855 มุมมอง 0 รีวิว
  • สยบเกาเหลา 'อนุทิน-เอกนัฎ' แค่บอกให้ทราบ
    .
    หลังมีข่าวลือสะพัดว่าพรรคภูมิใจไทยกับรวมไทยสร้างชาติอาจมีปัญหา ปมอภิปรายเรื่องมาตรฐานเหล็กในที่ประชุม ครม. “อนุทิน” เคลียร์ชัด แค่ขอความร่วมมือตรวจสอบ ไม่ได้ตำหนิ พร้อมเผยตรวจสอบการร่วมงานของบริษัทจีนกับ กฟภ. อยู่ในความดูแล หากพบความเสี่ยง พร้อมดำเนินการทันที

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000032244
    สยบเกาเหลา 'อนุทิน-เอกนัฎ' แค่บอกให้ทราบ . หลังมีข่าวลือสะพัดว่าพรรคภูมิใจไทยกับรวมไทยสร้างชาติอาจมีปัญหา ปมอภิปรายเรื่องมาตรฐานเหล็กในที่ประชุม ครม. “อนุทิน” เคลียร์ชัด แค่ขอความร่วมมือตรวจสอบ ไม่ได้ตำหนิ พร้อมเผยตรวจสอบการร่วมงานของบริษัทจีนกับ กฟภ. อยู่ในความดูแล หากพบความเสี่ยง พร้อมดำเนินการทันที อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000032244
    Haha
    Like
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 602 มุมมอง 0 รีวิว
  • Elon Musk ปฏิเสธข่าวลือว่าเขาจะถอนตัวจากรัฐบาลสหรัฐ หุ้น Tesla ร่วงลง 3.5% หลังโดนลดเป้าหมายราคาหลายครั้งจากนักวิเคราะห์ Tesla ส่งมอบรถในไตรมาสแรกน้อยกว่าที่คาดไว้ ขณะที่ นักวิเคราะห์จาก CFRA และ Truist ลดเป้าหมายราคาหุ้น ด้าน Dan Ives จาก Wedbush เรียกผลประกอบการของ Tesla ว่าเป็น 'หายนะ' และเตือนว่า Musk ต้องจัดลำดับความสำคัญระหว่างบทบาท CEO กับงานในรัฐบาล

    ✅ Tesla มียอดส่งมอบรถยนต์ไตรมาสแรกต่ำกว่าคาด
    - ยอดส่งมอบรถอยู่ที่ 336,681 คัน น้อยกว่าการคาดการณ์ของ Wall Street ที่ 377,000 คัน

    ✅ นักวิเคราะห์ลดเป้าหมายราคาหุ้น Tesla
    - CFRA ลดเป้าหมายราคาลงเหลือ $360 พร้อมปรับลดคาดการณ์กำไรปี 2025 และ 2026
    - Truist ลดเป้าหมายราคาลงเหลือ $280 โดยแนะให้มองไปที่แพลตฟอร์มขับขี่อัตโนมัติ FSD มากกว่ายอดขายรถ

    ✅ Elon Musk ปฏิเสธข่าวลือ และเตือนนักลงทุนเกี่ยวกับทิศทางธุรกิจ
    - Musk เรียกข่าวที่เผยแพร่โดย Politico ว่าเป็น 'ข่าวปลอม'
    - แม้ว่าหุ้น Tesla จะพุ่งขึ้น 5.3% ในวันนั้น แต่ก็ร่วงลงหลังตลาดปิด

    ✅ Wedbush มองว่า Q1 ของ Tesla เป็น "หายนะทุกด้าน"
    - นักวิเคราะห์ Dan Ives ยังคงให้คะแนน "Outperform" กับราคาหุ้น เป้าหมาย $550
    - เขาระบุว่า Musk ต้องจัดลำดับความสำคัญระหว่างบทบาท CEO Tesla กับงานในรัฐบาล

    https://wccftech.com/musk-denies-leaving-us-government-tesla-shares-sink-by-3-5-amidst-back-to-back-target-cuts/
    Elon Musk ปฏิเสธข่าวลือว่าเขาจะถอนตัวจากรัฐบาลสหรัฐ หุ้น Tesla ร่วงลง 3.5% หลังโดนลดเป้าหมายราคาหลายครั้งจากนักวิเคราะห์ Tesla ส่งมอบรถในไตรมาสแรกน้อยกว่าที่คาดไว้ ขณะที่ นักวิเคราะห์จาก CFRA และ Truist ลดเป้าหมายราคาหุ้น ด้าน Dan Ives จาก Wedbush เรียกผลประกอบการของ Tesla ว่าเป็น 'หายนะ' และเตือนว่า Musk ต้องจัดลำดับความสำคัญระหว่างบทบาท CEO กับงานในรัฐบาล ✅ Tesla มียอดส่งมอบรถยนต์ไตรมาสแรกต่ำกว่าคาด - ยอดส่งมอบรถอยู่ที่ 336,681 คัน น้อยกว่าการคาดการณ์ของ Wall Street ที่ 377,000 คัน ✅ นักวิเคราะห์ลดเป้าหมายราคาหุ้น Tesla - CFRA ลดเป้าหมายราคาลงเหลือ $360 พร้อมปรับลดคาดการณ์กำไรปี 2025 และ 2026 - Truist ลดเป้าหมายราคาลงเหลือ $280 โดยแนะให้มองไปที่แพลตฟอร์มขับขี่อัตโนมัติ FSD มากกว่ายอดขายรถ ✅ Elon Musk ปฏิเสธข่าวลือ และเตือนนักลงทุนเกี่ยวกับทิศทางธุรกิจ - Musk เรียกข่าวที่เผยแพร่โดย Politico ว่าเป็น 'ข่าวปลอม' - แม้ว่าหุ้น Tesla จะพุ่งขึ้น 5.3% ในวันนั้น แต่ก็ร่วงลงหลังตลาดปิด ✅ Wedbush มองว่า Q1 ของ Tesla เป็น "หายนะทุกด้าน" - นักวิเคราะห์ Dan Ives ยังคงให้คะแนน "Outperform" กับราคาหุ้น เป้าหมาย $550 - เขาระบุว่า Musk ต้องจัดลำดับความสำคัญระหว่างบทบาท CEO Tesla กับงานในรัฐบาล https://wccftech.com/musk-denies-leaving-us-government-tesla-shares-sink-by-3-5-amidst-back-to-back-target-cuts/
    WCCFTECH.COM
    Musk Denies Leaving US Government - Tesla Shares Sink By 3.5% Amidst Back-to-Back Target Cuts
    Elon Musk denies leaving the US government and Tesla stock drops by 3.5% in aftermarket trading, accompanied by bearish analysts.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลูกชาย "รังสรรค์ ต่อสุวรรณ" โต้ข่าวลือขาย "ตึกสาทร" ยันพ่อไม่ได้ประกาศขายเอง เผยตึกมีข้อพิพาท-คดีความซับซ้อน
    https://www.thai-tai.tv/news/17990/
    ลูกชาย "รังสรรค์ ต่อสุวรรณ" โต้ข่าวลือขาย "ตึกสาทร" ยันพ่อไม่ได้ประกาศขายเอง เผยตึกมีข้อพิพาท-คดีความซับซ้อน https://www.thai-tai.tv/news/17990/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • Counterpoint Research รายงานว่า ยอดขายมือถือจอพับในปี 2025 อาจลดลง แม้ว่าจะเติบโตอย่างช้า ๆ ในปี 2024 โดยแบรนด์ใหญ่เช่น Samsung, Google, Oppo, Huawei และ Motorola ต่างก็ลงทุนในตลาดนี้อย่างหนัก แต่ยังไม่สามารถขยายฐานผู้ใช้ได้มากพอ นักวิเคราะห์คาดว่า หาก Apple เปิดตัว iPhone Fold ในปี 2026 อาจช่วยพลิกตลาดได้

    ✅ มือถือจอพับยังคงเป็นกลุ่มเล็กในตลาดสมาร์ทโฟน
    - แม้ว่าหลายแบรนด์จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ ยอดขายมือถือจอพับไม่เคยเกิน 2% ของตลาดสมาร์ทโฟนทั้งหมด
    - ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้ไม่สนใจคือ ราคาสูงและขาดจุดขายที่ดึงดูดพอ

    ✅ แบรนด์ต่าง ๆ ยังคงลงทุน แม้ผู้ใช้ยังไม่ตอบรับเต็มที่
    - Honor และ Oppo มีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ช่วยขยายตลาดมือถือจอพับ แต่ ส่วนใหญ่จำกัดอยู่ในจีนและยุโรป
    - นักวิเคราะห์มองว่า ปี 2026 จะเป็นจุดเปลี่ยนของตลาด โดยเฉพาะเมื่อ Apple เข้าสู่ตลาด

    ✅ Apple อาจเปิดตัว iPhone Fold ในปี 2026
    - Apple มัก รอให้ตลาดมีความชัดเจนก่อน แล้วค่อยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบอย่างดี
    - มีข่าวลือว่า iPhone Fold อาจใช้บานพับโลหะเหลวและดีไซน์บางเป็นพิเศษ
    - นักวิเคราะห์คาดว่า Apple อาจเลือกทำมือถือพับแบบฝาพับแทนที่จะเป็นแท็บเล็ตพับ เพื่อให้มีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า

    ✅ ราคายังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดตลาดมือถือจอพับ
    - คาดว่า iPhone Fold อาจมีราคา ประมาณ $2,000 ซึ่งยังคงสูงมาก
    - แม้ว่าราคาอาจลดลงเมื่อเทคโนโลยีมีความแพร่หลายขึ้น แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะลดลงแค่ไหน

    https://www.techradar.com/phones/iphone/foldable-phone-sales-are-tipped-to-fall-this-year-and-apple-is-the-only-brand-that-could-turn-things-around
    Counterpoint Research รายงานว่า ยอดขายมือถือจอพับในปี 2025 อาจลดลง แม้ว่าจะเติบโตอย่างช้า ๆ ในปี 2024 โดยแบรนด์ใหญ่เช่น Samsung, Google, Oppo, Huawei และ Motorola ต่างก็ลงทุนในตลาดนี้อย่างหนัก แต่ยังไม่สามารถขยายฐานผู้ใช้ได้มากพอ นักวิเคราะห์คาดว่า หาก Apple เปิดตัว iPhone Fold ในปี 2026 อาจช่วยพลิกตลาดได้ ✅ มือถือจอพับยังคงเป็นกลุ่มเล็กในตลาดสมาร์ทโฟน - แม้ว่าหลายแบรนด์จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ ยอดขายมือถือจอพับไม่เคยเกิน 2% ของตลาดสมาร์ทโฟนทั้งหมด - ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้ไม่สนใจคือ ราคาสูงและขาดจุดขายที่ดึงดูดพอ ✅ แบรนด์ต่าง ๆ ยังคงลงทุน แม้ผู้ใช้ยังไม่ตอบรับเต็มที่ - Honor และ Oppo มีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ช่วยขยายตลาดมือถือจอพับ แต่ ส่วนใหญ่จำกัดอยู่ในจีนและยุโรป - นักวิเคราะห์มองว่า ปี 2026 จะเป็นจุดเปลี่ยนของตลาด โดยเฉพาะเมื่อ Apple เข้าสู่ตลาด ✅ Apple อาจเปิดตัว iPhone Fold ในปี 2026 - Apple มัก รอให้ตลาดมีความชัดเจนก่อน แล้วค่อยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบอย่างดี - มีข่าวลือว่า iPhone Fold อาจใช้บานพับโลหะเหลวและดีไซน์บางเป็นพิเศษ - นักวิเคราะห์คาดว่า Apple อาจเลือกทำมือถือพับแบบฝาพับแทนที่จะเป็นแท็บเล็ตพับ เพื่อให้มีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า ✅ ราคายังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดตลาดมือถือจอพับ - คาดว่า iPhone Fold อาจมีราคา ประมาณ $2,000 ซึ่งยังคงสูงมาก - แม้ว่าราคาอาจลดลงเมื่อเทคโนโลยีมีความแพร่หลายขึ้น แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะลดลงแค่ไหน https://www.techradar.com/phones/iphone/foldable-phone-sales-are-tipped-to-fall-this-year-and-apple-is-the-only-brand-that-could-turn-things-around
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ยืนยันว่า Core Ultra 300 'Panther Lake' จะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2026 แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยปฏิเสธข่าวลือเรื่องการล่าช้า CEO Lip-Bu Tan ย้ำว่าเทคโนโลยี 18A Node ของ Intel ไม่ได้มีปัญหา และกำลังเดินหน้าตามแผน การผลิตจำนวนมากจะเริ่มก่อนสิ้นปี 2025 และในเดือนตุลาคมจะมี การเปิดตัวจำนวนจำกัดผ่านโปรแกรม EEP ขณะที่ Nova Lake จะเปิดตัวในปี 2026 เป็นรุ่นต่อจาก Panther Lake

    ✅ Panther Lake จะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2026 ไม่ใช่ปลายปี 2025 ตามที่เคยกล่าวไว้
    - ก่อนหน้านี้ Intel เคยยืนยันว่า Panther Lake จะเปิดตัวในครึ่งหลังของปี 2025
    - ข้อมูลใหม่จากงาน Vision 2025 ระบุว่า Panther Lake จะเข้าสู่ตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2026

    ✅ ผู้บริหารยืนยันว่าการพัฒนา 18A Node ไม่ได้มีปัญหา
    - ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า ปัญหาการผลิตบนเทคโนโลยี 18A อาจทำให้ Panther Lake ล่าช้า
    - อย่างไรก็ตาม Lip-Bu Tan CEO ของ Intel ระบุว่า โครงการเดินหน้าไปได้ดี และจะมีการผลิตจำนวนมากก่อนสิ้นปี 2025

    ✅ Intel กำลังทดสอบการผลิตแบบ Early Enablement Program (EEP)
    - Intel วางแผนเปิดตัว Panther Lake ในจำนวนจำกัดผ่านโปรแกรม EEP ในเดือนตุลาคม 2025
    - การผลิตจำนวนมากจะเริ่มในช่วงต้นปี 2026

    ✅ Panther Lake ได้รับการออกแบบให้รวมพลังของ Lunar Lake และ Arrow Lake
    - รองประธานกลุ่ม Client Computing ระบุว่า Panther Lake จะใช้พลังงานต่ำเหมือน Lunar Lake
    - มีประสิทธิภาพการประมวลผลสูงเทียบเท่า Arrow Lake
    - เป็น CPU รุ่นแรกของ Intel ที่ใช้เทคโนโลยี 18A เต็มรูปแบบ

    ✅ Nova Lake จะเปิดตัวในปี 2026 เป็นรุ่นต่อจาก Panther Lake
    - Nova Lake จะมาพร้อม สถาปัตยกรรมใหม่และโครงสร้างชิปแบบแยกส่วน
    - คาดว่าจะเป็นซีพียูสำหรับเดสก์ท็อปที่ใช้ N3 ของ TSMC ร่วมกับการออกแบบของ Intel

    https://www.techpowerup.com/334929/intel-vision-presentation-labels-core-ultra-300-panther-lake-cpu-series-as-2026-products
    Intel ยืนยันว่า Core Ultra 300 'Panther Lake' จะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2026 แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยปฏิเสธข่าวลือเรื่องการล่าช้า CEO Lip-Bu Tan ย้ำว่าเทคโนโลยี 18A Node ของ Intel ไม่ได้มีปัญหา และกำลังเดินหน้าตามแผน การผลิตจำนวนมากจะเริ่มก่อนสิ้นปี 2025 และในเดือนตุลาคมจะมี การเปิดตัวจำนวนจำกัดผ่านโปรแกรม EEP ขณะที่ Nova Lake จะเปิดตัวในปี 2026 เป็นรุ่นต่อจาก Panther Lake ✅ Panther Lake จะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2026 ไม่ใช่ปลายปี 2025 ตามที่เคยกล่าวไว้ - ก่อนหน้านี้ Intel เคยยืนยันว่า Panther Lake จะเปิดตัวในครึ่งหลังของปี 2025 - ข้อมูลใหม่จากงาน Vision 2025 ระบุว่า Panther Lake จะเข้าสู่ตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2026 ✅ ผู้บริหารยืนยันว่าการพัฒนา 18A Node ไม่ได้มีปัญหา - ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า ปัญหาการผลิตบนเทคโนโลยี 18A อาจทำให้ Panther Lake ล่าช้า - อย่างไรก็ตาม Lip-Bu Tan CEO ของ Intel ระบุว่า โครงการเดินหน้าไปได้ดี และจะมีการผลิตจำนวนมากก่อนสิ้นปี 2025 ✅ Intel กำลังทดสอบการผลิตแบบ Early Enablement Program (EEP) - Intel วางแผนเปิดตัว Panther Lake ในจำนวนจำกัดผ่านโปรแกรม EEP ในเดือนตุลาคม 2025 - การผลิตจำนวนมากจะเริ่มในช่วงต้นปี 2026 ✅ Panther Lake ได้รับการออกแบบให้รวมพลังของ Lunar Lake และ Arrow Lake - รองประธานกลุ่ม Client Computing ระบุว่า Panther Lake จะใช้พลังงานต่ำเหมือน Lunar Lake - มีประสิทธิภาพการประมวลผลสูงเทียบเท่า Arrow Lake - เป็น CPU รุ่นแรกของ Intel ที่ใช้เทคโนโลยี 18A เต็มรูปแบบ ✅ Nova Lake จะเปิดตัวในปี 2026 เป็นรุ่นต่อจาก Panther Lake - Nova Lake จะมาพร้อม สถาปัตยกรรมใหม่และโครงสร้างชิปแบบแยกส่วน - คาดว่าจะเป็นซีพียูสำหรับเดสก์ท็อปที่ใช้ N3 ของ TSMC ร่วมกับการออกแบบของ Intel https://www.techpowerup.com/334929/intel-vision-presentation-labels-core-ultra-300-panther-lake-cpu-series-as-2026-products
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Intel Vision Presentation Labels Core Ultra 300 "Panther Lake" CPU Series as 2026 Products
    Intel's freshly concluded Vision 2025 "Products Update and GTM" showcase included a segment dedicated to forthcoming Core Ultra 300 "Panther Lake" client processors. Industry watchdogs have grabbed a select few screenshots from Team Blue's broadcast from Las Vegas, Nevada—one backdropped slide confi...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung อาจเลิกใช้ชื่อ Exynos และเตรียมรีแบรนด์ชิปเซ็ตของตนเอง โดย Exynos 2600 จะถูกใช้ใน Galaxy S26 แต่มีจำนวนจำกัด ขณะที่ Exynos 2500 อาจถูกใช้ใน Galaxy Z Flip FE แต่ยังเป็น 4 nm มีข่าวลือว่า Samsung อาจเลิกใช้ Snapdragon และพัฒนาเทคโนโลยี 2 nm GAA ด้วยความช่วยเหลือจากบริษัท AI ภายนอก

    ✅ ชิป Exynos 2600 จะใช้ใน Galaxy S26 แต่มีจำนวนจำกัด
    - แหล่งข่าวระบุว่า Exynos 2600 จะถูกใช้ใน Galaxy S26 series แต่มีจำนวนผลิตที่จำกัด
    - อาจมีสถานการณ์คล้ายกับ Exynos 990 ที่เคยมีปริมาณจำกัดในอดีต

    ✅ Samsung Foundry อาจเลิกพัฒนา 1.4 nm และเดินหน้าสู่ 2 nm GAA
    - แหล่งข่าวบางแห่งเชื่อว่า Samsung จะไม่ใช้ 1.4 nm node และเดินหน้าสู่ 2 nm GAA (Gate-All-Around)
    - มีข่าวลือว่า Samsung ร่วมมือกับบริษัท AI ภายนอก เพื่อช่วยพัฒนาเทคโนโลยีใหม่

    ✅ Exynos 2500 อาจถูกใช้ใน Galaxy Z Flip FE แต่ยังเป็น 4 nm
    - แม้ว่า Exynos 2500 อาจอยู่ในแผนผลิตของปี 2025 แต่รุ่นแรกจะยังคงเป็น 4 nm node
    - ชิปนี้ถูกพัฒนาสำหรับ สมาร์ทโฟนระดับกลาง ไม่ใช่เรือธง

    ✅ แหล่งข่าวบางแห่งระบุว่า Samsung อาจเลิกใช้ Snapdragon
    - มีข่าวลือว่า Samsung ต้องการหยุดใช้ Snapdragon และหันมาใช้ชิปที่พัฒนาเองทั้งหมด
    - อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวส่วนใหญ่ยังมองว่า Samsung จะใช้ ชิป Exynos และ Snapdragon ร่วมกัน

    ✅ เป้าหมายของ Samsung คือกู้คืนภาพลักษณ์ของชิปเซ็ต Exynos
    - Samsung อาจต้องการ หลีกเลี่ยงภาพลักษณ์เชิงลบที่ Exynos เคยมี โดยเปลี่ยนชื่อใหม่
    - บริษัทยังคงพยายามเพิ่มประสิทธิภาพของชิป และแข่งขันกับ Apple A-Series และ Qualcomm Snapdragon

    https://www.techpowerup.com/334927/leaker-claims-that-samsung-will-stop-using-exynos-nomenclature-next-gen-2-nm-mobile-soc-tipped-for-rebrand
    Samsung อาจเลิกใช้ชื่อ Exynos และเตรียมรีแบรนด์ชิปเซ็ตของตนเอง โดย Exynos 2600 จะถูกใช้ใน Galaxy S26 แต่มีจำนวนจำกัด ขณะที่ Exynos 2500 อาจถูกใช้ใน Galaxy Z Flip FE แต่ยังเป็น 4 nm มีข่าวลือว่า Samsung อาจเลิกใช้ Snapdragon และพัฒนาเทคโนโลยี 2 nm GAA ด้วยความช่วยเหลือจากบริษัท AI ภายนอก ✅ ชิป Exynos 2600 จะใช้ใน Galaxy S26 แต่มีจำนวนจำกัด - แหล่งข่าวระบุว่า Exynos 2600 จะถูกใช้ใน Galaxy S26 series แต่มีจำนวนผลิตที่จำกัด - อาจมีสถานการณ์คล้ายกับ Exynos 990 ที่เคยมีปริมาณจำกัดในอดีต ✅ Samsung Foundry อาจเลิกพัฒนา 1.4 nm และเดินหน้าสู่ 2 nm GAA - แหล่งข่าวบางแห่งเชื่อว่า Samsung จะไม่ใช้ 1.4 nm node และเดินหน้าสู่ 2 nm GAA (Gate-All-Around) - มีข่าวลือว่า Samsung ร่วมมือกับบริษัท AI ภายนอก เพื่อช่วยพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ✅ Exynos 2500 อาจถูกใช้ใน Galaxy Z Flip FE แต่ยังเป็น 4 nm - แม้ว่า Exynos 2500 อาจอยู่ในแผนผลิตของปี 2025 แต่รุ่นแรกจะยังคงเป็น 4 nm node - ชิปนี้ถูกพัฒนาสำหรับ สมาร์ทโฟนระดับกลาง ไม่ใช่เรือธง ✅ แหล่งข่าวบางแห่งระบุว่า Samsung อาจเลิกใช้ Snapdragon - มีข่าวลือว่า Samsung ต้องการหยุดใช้ Snapdragon และหันมาใช้ชิปที่พัฒนาเองทั้งหมด - อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวส่วนใหญ่ยังมองว่า Samsung จะใช้ ชิป Exynos และ Snapdragon ร่วมกัน ✅ เป้าหมายของ Samsung คือกู้คืนภาพลักษณ์ของชิปเซ็ต Exynos - Samsung อาจต้องการ หลีกเลี่ยงภาพลักษณ์เชิงลบที่ Exynos เคยมี โดยเปลี่ยนชื่อใหม่ - บริษัทยังคงพยายามเพิ่มประสิทธิภาพของชิป และแข่งขันกับ Apple A-Series และ Qualcomm Snapdragon https://www.techpowerup.com/334927/leaker-claims-that-samsung-will-stop-using-exynos-nomenclature-next-gen-2-nm-mobile-soc-tipped-for-rebrand
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Leaker Claims that Samsung Will Stop Using "Exynos" Nomenclature, Next-gen 2 nm Mobile SoC Tipped for Rebrand
    Over the past weekend Jukanlosreve declared via social media that Samsung's: "Exynos 2600 (mobile SoC) is definitely back, and it will be used in the Galaxy S26 series. But the chip volume is so limited that it'll likely be similar to the Exynos 990 situation. I'm not sure if SF2 is actually any goo...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ภายใต้ CEO Lip-Bu Tan ซึ่งเน้นสร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้า และปรับตัวให้เหมาะกับธุรกิจโรงงานผลิตชิป Tan เตรียมเดินหน้าสู่ การผลิต High-Volume ของ Panther Lake บนเทคโนโลยี 18A พร้อมมุ่งเน้นการจ้างงานและวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ขณะที่เขาตัดสินใจเก็บธุรกิจโรงงานไว้โดยไม่แยกออกเป็นบริษัทอิสระ

    ✅ ความท้าทายของ Intel กับธุรกิจ Foundry
    - Intel ถูกวิจารณ์มานานว่า ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าได้
    - ปี 2011 Tim Cook เคยบอกกับ Morris Chang (ผู้ก่อตั้ง TSMC) ว่า Intel "ไม่เข้าใจการทำธุรกิจโรงงานผลิตชิป"
    - จุดนี้ทำให้ TSMC กลายเป็นผู้นำตลาด โดยสามารถรองรับลูกค้ารายใหญ่เช่น Apple และ Nvidia

    ✅ Lip-Bu Tan ต้องการปรับโครงสร้างเพื่อดึงลูกค้ากลับมา
    - Tan กล่าวว่า "Foundry เป็นธุรกิจบริการ และต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า"
    - เขาเชื่อว่า ลูกค้าแต่ละรายมีรูปแบบการออกแบบชิปที่แตกต่างกัน และ Intel ต้อง เรียนรู้วิธีปรับตัวให้เข้ากับแต่ละบริษัท
    - กลยุทธ์นี้เคยประสบความสำเร็จในยุคที่เขาเป็น CEO ของ Cadence

    ✅ Intel ไม่ได้ยอมแพ้—เตรียมเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่
    - Tan กล่าวว่า Intel พร้อมเข้าสู่การผลิตขนาดใหญ่ (High-Volume Production) ของ Panther Lake บนเทคโนโลยี 18A ในปีนี้
    - นอกจากนี้ Intel กำลังทำงานบน 14A Node ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีระดับสูงกว่า

    ✅ มุ่งเน้นการจ้างงานและฟื้นฟูวัฒนธรรมองค์กร
    - Tan มองว่า Intel สูญเสียบุคลากรสำคัญไปหลายปี และเขาต้องการดึงวิศวกรชั้นนำกลับมา
    - เป้าหมายคือ สร้างวัฒนธรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม

    ✅ Intel จะเก็บธุรกิจโรงงานไว้—ไม่แยกออกเป็นบริษัทอิสระ
    - ก่อนที่ Tan จะรับตำแหน่ง CEO มีข่าวลือว่า Intel อาจแยกธุรกิจโรงงานออกจากกันเพื่อเพิ่มผลกำไร
    - อย่างไรก็ตาม หลังจากสุนทรพจน์ครั้งแรกของ Tan ดูเหมือนว่า เขาจะพยายามรักษาธุรกิจนี้ไว้และดึงลูกค้ากลับมา

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/lip-bu-tans-first-speech-as-intel-ceo-focuses-on-innovation-and-working-with-foundry-customers
    Intel กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ภายใต้ CEO Lip-Bu Tan ซึ่งเน้นสร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้า และปรับตัวให้เหมาะกับธุรกิจโรงงานผลิตชิป Tan เตรียมเดินหน้าสู่ การผลิต High-Volume ของ Panther Lake บนเทคโนโลยี 18A พร้อมมุ่งเน้นการจ้างงานและวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ขณะที่เขาตัดสินใจเก็บธุรกิจโรงงานไว้โดยไม่แยกออกเป็นบริษัทอิสระ ✅ ความท้าทายของ Intel กับธุรกิจ Foundry - Intel ถูกวิจารณ์มานานว่า ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าได้ - ปี 2011 Tim Cook เคยบอกกับ Morris Chang (ผู้ก่อตั้ง TSMC) ว่า Intel "ไม่เข้าใจการทำธุรกิจโรงงานผลิตชิป" - จุดนี้ทำให้ TSMC กลายเป็นผู้นำตลาด โดยสามารถรองรับลูกค้ารายใหญ่เช่น Apple และ Nvidia ✅ Lip-Bu Tan ต้องการปรับโครงสร้างเพื่อดึงลูกค้ากลับมา - Tan กล่าวว่า "Foundry เป็นธุรกิจบริการ และต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า" - เขาเชื่อว่า ลูกค้าแต่ละรายมีรูปแบบการออกแบบชิปที่แตกต่างกัน และ Intel ต้อง เรียนรู้วิธีปรับตัวให้เข้ากับแต่ละบริษัท - กลยุทธ์นี้เคยประสบความสำเร็จในยุคที่เขาเป็น CEO ของ Cadence ✅ Intel ไม่ได้ยอมแพ้—เตรียมเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ - Tan กล่าวว่า Intel พร้อมเข้าสู่การผลิตขนาดใหญ่ (High-Volume Production) ของ Panther Lake บนเทคโนโลยี 18A ในปีนี้ - นอกจากนี้ Intel กำลังทำงานบน 14A Node ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีระดับสูงกว่า ✅ มุ่งเน้นการจ้างงานและฟื้นฟูวัฒนธรรมองค์กร - Tan มองว่า Intel สูญเสียบุคลากรสำคัญไปหลายปี และเขาต้องการดึงวิศวกรชั้นนำกลับมา - เป้าหมายคือ สร้างวัฒนธรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ✅ Intel จะเก็บธุรกิจโรงงานไว้—ไม่แยกออกเป็นบริษัทอิสระ - ก่อนที่ Tan จะรับตำแหน่ง CEO มีข่าวลือว่า Intel อาจแยกธุรกิจโรงงานออกจากกันเพื่อเพิ่มผลกำไร - อย่างไรก็ตาม หลังจากสุนทรพจน์ครั้งแรกของ Tan ดูเหมือนว่า เขาจะพยายามรักษาธุรกิจนี้ไว้และดึงลูกค้ากลับมา https://www.tomshardware.com/tech-industry/lip-bu-tans-first-speech-as-intel-ceo-focuses-on-innovation-and-working-with-foundry-customers
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Lip-Bu Tan's first speech as Intel CEO focuses on innovation and working with foundry customers
    “I can’t do it alone: I need your help as a customer — give me honest feedback.”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ประกาศให้ Lip-Bu Tan ขึ้นดำรงตำแหน่ง CEO คนใหม่ หลังจากที่ Pat Gelsinger ถูกบีบให้ลาออกเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องจากบอร์ดบริหารมองว่าแผนฟื้นฟูบริษัทดำเนินไป ช้ากว่าที่ตลาดต้องการ อย่างไรก็ตาม Tan ยังคงเดินหน้าตามแผนของ Gelsinger แต่จะปรับปรุงให้เร็วขึ้นเพื่อเรียกความมั่นใจจากอุตสาหกรรม

    ✅ Lip-Bu Tan มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีมายาวนาน
    - เขาเคยเป็น CEO ของ Cadence บริษัทออกแบบชิปชั้นนำ
    - ก่อตั้ง Walden International บริษัทด้านการลงทุนที่มุ่งเน้นเทคโนโลยี
    - เคยอยู่ในบอร์ดบริหารของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์หลายแห่ง

    ✅ Intel ยังคงเดินหน้าในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์และโรงงานผลิตชิป
    - Tan เชื่อว่า Intel ต้องเป็นทั้งผู้ผลิตและออกแบบชิป ไม่ใช่แค่ผลิตเพื่อใช้เอง แต่ต้องดึงลูกค้าใหญ่ เช่น Apple, Nvidia และ Qualcomm มาใช้บริการโรงงานของ Intel
    - กระแสข่าวลือว่า Intel อาจ แยกธุรกิจโรงงานออกเป็นบริษัทอิสระ แต่ยังไม่มีการยืนยัน

    ✅ ก้าวสำคัญ: เทคโนโลยี 18A และอนาคตของ Intel Foundry
    - Intel กำลังจะเปิดตัวเทคโนโลยี 18A ซึ่งมีฟีเจอร์ Backside Power Delivery และ RibbonFET Transistors
    - เทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยให้ชิปของ Intel เร็วกว่าชิป 2nm ของ TSMC
    - Tan ต้องโน้มน้าวบริษัทต่าง ๆ ให้มาใช้ Intel Foundry เพื่อสร้างฐานธุรกิจที่มั่นคง

    ✅ วิสัยทัศน์ของ CEO ใหม่—เร่งให้ Intel กลับมาเป็นผู้นำ
    - Tan ย้ำว่า Intel ต้อง ปรับวัฒนธรรมองค์กรให้รวดเร็วและคล่องตัวเหมือนสตาร์ทอัพ
    - ต้อง สร้างนวัตกรรมใหม่ด้าน AI และ Robotics ให้แข่งขันได้
    - เป้าหมายใหญ่คือ เรียกคืนความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรม และทำให้ Intel กลับมาเป็นศูนย์กลางของวงการเซมิคอนดักเตอร์

    https://www.techspot.com/news/107369-new-intel-ceo-lip-bu-tan-takes-reins.html
    Intel ประกาศให้ Lip-Bu Tan ขึ้นดำรงตำแหน่ง CEO คนใหม่ หลังจากที่ Pat Gelsinger ถูกบีบให้ลาออกเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องจากบอร์ดบริหารมองว่าแผนฟื้นฟูบริษัทดำเนินไป ช้ากว่าที่ตลาดต้องการ อย่างไรก็ตาม Tan ยังคงเดินหน้าตามแผนของ Gelsinger แต่จะปรับปรุงให้เร็วขึ้นเพื่อเรียกความมั่นใจจากอุตสาหกรรม ✅ Lip-Bu Tan มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีมายาวนาน - เขาเคยเป็น CEO ของ Cadence บริษัทออกแบบชิปชั้นนำ - ก่อตั้ง Walden International บริษัทด้านการลงทุนที่มุ่งเน้นเทคโนโลยี - เคยอยู่ในบอร์ดบริหารของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์หลายแห่ง ✅ Intel ยังคงเดินหน้าในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์และโรงงานผลิตชิป - Tan เชื่อว่า Intel ต้องเป็นทั้งผู้ผลิตและออกแบบชิป ไม่ใช่แค่ผลิตเพื่อใช้เอง แต่ต้องดึงลูกค้าใหญ่ เช่น Apple, Nvidia และ Qualcomm มาใช้บริการโรงงานของ Intel - กระแสข่าวลือว่า Intel อาจ แยกธุรกิจโรงงานออกเป็นบริษัทอิสระ แต่ยังไม่มีการยืนยัน ✅ ก้าวสำคัญ: เทคโนโลยี 18A และอนาคตของ Intel Foundry - Intel กำลังจะเปิดตัวเทคโนโลยี 18A ซึ่งมีฟีเจอร์ Backside Power Delivery และ RibbonFET Transistors - เทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยให้ชิปของ Intel เร็วกว่าชิป 2nm ของ TSMC - Tan ต้องโน้มน้าวบริษัทต่าง ๆ ให้มาใช้ Intel Foundry เพื่อสร้างฐานธุรกิจที่มั่นคง ✅ วิสัยทัศน์ของ CEO ใหม่—เร่งให้ Intel กลับมาเป็นผู้นำ - Tan ย้ำว่า Intel ต้อง ปรับวัฒนธรรมองค์กรให้รวดเร็วและคล่องตัวเหมือนสตาร์ทอัพ - ต้อง สร้างนวัตกรรมใหม่ด้าน AI และ Robotics ให้แข่งขันได้ - เป้าหมายใหญ่คือ เรียกคืนความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรม และทำให้ Intel กลับมาเป็นศูนย์กลางของวงการเซมิคอนดักเตอร์ https://www.techspot.com/news/107369-new-intel-ceo-lip-bu-tan-takes-reins.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New Intel CEO Lip-Bu Tan takes the reins with a familiar but faster plan
    Taking a tech industry titan back to the heights from which it once reigned is no easy task for anyone. Just ask Pat Gelsinger, former CEO and...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ย้ำ “ทุกคนช่วยกันได้ มีสติ อย่าตื่นตระหนก อย่าส่งข่าวลือ ความหวังของเราทุกคนคือ ผู้รอดชีวิตในทุกวัน
    https://www.thai-tai.tv/news/17979/
    ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ย้ำ “ทุกคนช่วยกันได้ มีสติ อย่าตื่นตระหนก อย่าส่งข่าวลือ ความหวังของเราทุกคนคือ ผู้รอดชีวิตในทุกวัน https://www.thai-tai.tv/news/17979/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • โพสต์ล้อเล่น “วันโกหก” ระวังเจอคุก! รู้ทันกฎหมายก่อนแชร์ ในวันเอพริลฟูลเดย์

    🤡 วันเอพริลฟูลเดย์ วัฒนธรรมตะวันตกที่คนไทยควร “เล่นอย่างมีสติ” เพราะพลาดเพียงนิดเดียว อาจโดนโทษหนักจาก พ.ร.บ.คอมพ์ฯ 😰

    🧠 วันโกหกที่ไม่ควรโกหก ในทุกวันที่ 1 เมษายนของทุกปี ผู้คนทั่วโลกเฉลิมฉลอง “วันเมษาหน้าโง่” หรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาอังกฤษว่า April Fool’s Day วันที่คนส่วนใหญ่ มักใช้เล่นมุกล้อขำขัน สร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้าง...แต่เดี๋ยวก่อน!

    ✋📱 แม้จะดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่ในประเทศไทย การโพสต์หรือแชร์ “ข่าวปลอม” หรือ “ข้อมูลอันเป็นเท็จ” ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม อาจทำให้คุณต้องเผชิญกับ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท 😱

    🎭 วันเอพริลฟูลเดย์ (April Fool's Day) เป็นเทศกาลที่คนในประเทศตะวันตก เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และหลายประเทศในยุโรป เล่นมุกหลอกกันเพื่อความสนุกสนาน ในวันที่ 1 เมษายน

    ตามธรรมเนียม วัตถุประสงค์ของวันนี้ ไม่ใช่การโกหกแบบจริงจัง แต่เป็นการ เล่นมุกขำขัน โดยต้องระมัดระวัง ไม่ให้เกิดผลเสียจริง เช่น ทำให้คนตกใจ เข้าใจผิด หรือเสียหาย

    🌍 ความนิยมของวันโกหก เริ่มตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยสื่อและบุคคลต่าง ๆ จะโพสต์เรื่องหลอกในวันนี้ และเฉลยความจริงในวันถัดมา

    📚 ต้นกำเนิดของวันโกหกจากตะวันตก มีหลายทฤษฎี เกี่ยวกับต้นกำเนิดของ April Fool’s Day

    ยุคกลางของยุโรป เคยมีการฉลองปีใหม่ ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึง 1 เมษายน เมื่อมีการเปลี่ยนมาใช้วันที่ 1 มกราคมแทน คนที่ยังเฉลิมฉลองในช่วงเดิม จึงถูกมองว่า "โง่" 🤦

    มีการเชื่อมโยงกับเทศกาลโรมันชื่อว่า Hilaria ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม เป็นการเฉลิมฉลองความสนุกสนาน และการแต่งตัวล้อเลียน

    ตำนานแคนเตอร์บรีของชอเซอร์ (ปี ค.ศ. 1392) มีคำบรรยายที่ตีความว่า “32 มีนาคม” ซึ่งก็คือวันที่ 1 เมษายน

    🕰️ ไม่ว่าต้นกำเนิดจะมาจากไหน แต่แน่นอนว่าวันนี้กลายเป็น “วันแห่งการหลอกแบบเบา ๆ” ที่ยังมีอิทธิพลจนถึงปัจจุบัน

    ⚖️ กฎหมายไทยไม่ขำด้วย! รู้จัก พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 แม้ว่าจะเป็นวันล้อเล่น ในวัฒนธรรมตะวันตก แต่ในประเทศไทย การโพสต์ ข้อมูลเท็จ หรือข่าวปลอม ไม่ว่าจะมีเจตนาขำหรือไม่ ก็ถือว่าผิดกฎหมาย!

    📌 พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 ระบุว่า "ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือประเทศชาติ ถือว่ามีความผิด"

    👮‍♂️ โทษหนักมาก! จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ!

    ❗ แม้จะเป็นการล้อเล่น ถ้าทำให้คนตื่นตระหนก หรือเชื่อผิดจริง ก็ถือว่ามีความผิด ตามกฎหมายนี้ได้เช่นกัน

    🧨 ข่าวปลอมที่คิดว่า “เล่นๆ” แต่ผิดจริง! หลายคนอาจเคยเห็นโพสต์ ในวันเอพริลฟูล เช่น

    “รัฐบาลจะล็อกดาวน์ประเทศ!”
    “ธนาคารกำลังจะล้ม”
    “มีเอเลี่ยนบุกกรุงเทพ”

    แม้จะโพสต์แบบขำ ๆ แต่หากไม่มีการระบุชัดเจนว่าเป็น “มุกล้อเล่น” และส่งผลให้คนตื่นตกใจ หรือแชร์ต่อกันเป็นวงกว้าง ก็มีโอกาสโดนแจ้งความจริง!

    📂 ตัวอย่างคดีจริงในไทยจากวันโกหก เคสข่าวลือวัคซีนหมด ผู้โพสต์บอกว่า "วัคซีนโควิดหมดแล้ว!" แต่ประชาชนบางส่วนเชื่อจริง และแห่กันไปโรงพยาบาล ถูกตำรวจเรียกตัว และแจ้งความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ. คอมฯ

    เคสข่าวปลอมเกี่ยวกับเหตุการณ์ภัยพิบัติ โพสต์ข่าวแผ่นดินไหวรุนแรงในเชียงใหม่ ทำให้คนตกใจกลัว สุดท้ายพบว่า เป็นมุกในวันเอพริลฟูล แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ขำด้วย 😬

    ✅ วิธีโพสต์มุกวันโกหกแบบ “ปลอดภัย” เพื่อไม่ให้เจอปัญหา นี่คือแนวทางการล้อเล่นแบบ “ขำได้ไม่ผิดกฎหมาย

    💡 ต้องมี “คำชี้แจง” ใส่ #มุกวันโกหก หรือ #AprilFools ใช้ emoji อย่าง 🤡😂🃏 เพื่อสื่อความขำขัน เขียนท้ายโพสต์ว่า “เรื่องนี้ไม่จริงนะครับ/ค่ะ เป็นมุกวันโกหก”

    🙅‍♂️ หลีกเลี่ยงประเด็นอ่อนไหว ความมั่นคงของประเทศ เศรษฐกิจ เช่น “ธนาคารล้ม” สุขภาพ เช่น “โรคใหม่ระบาด” เหตุการณ์ร้ายแรง เช่น “มีระเบิดในห้าง”

    🎨 ตัวอย่างมุกล้อเล่นที่ปลอดภัย และสร้างสรรค์
    “วันนี้จะลาออกไปเปิดร้านกาแฟบนดาวอังคารแล้วนะ ☕🚀”
    “Apple จะออก iPhone กลิ่นต้มยำในรุ่นถัดไป 🍜📱”
    “บีทีเอสเปิดให้ขึ้นฟรีตลอดปี ถ้าใส่เสื้อสีม่วงทุกวัน 😆”

    🔍 วิธีตรวจสอบข่าว ก่อนโพสต์หรือแชร์ ก่อนจะแชร์อะไรในวันโกหก อย่าลืมตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่!

    ✅ เช็คยังไง? ดูแหล่งข่าว ตรวจสอบว่าเป็นสื่อชั้นนำที่น่าเชื่อถือ ดูวันที่ข่าว ข่าวเก่าบางข่าวถูกนำมาแชร์ใหม่ ใช้เว็บไซต์ตรวจสอบข่าวปลอม เช่น Anti-Fake News Center

    👤 ความรับผิดชอบของผู้ใช้โซเชียล การใช้โซเชียลมีเดียไม่ใช่แค่ความสนุก แต่คือ “ความรับผิดชอบ” เราทุกคนมีส่วนในการสร้างสังคมออนไลน์ที่ปลอดภัย อย่าแชร์ถ้าไม่แน่ใจ อย่าทำให้คนอื่นตกใจ อย่าล้อในเรื่องที่กระทบสังคม

    ⚠️ ข้อควรระวัง แชร์โพสต์ของคนอื่นก็ผิดได้! แม้ไม่ได้เป็นคนเขียนโพสต์ต้นฉบับ แต่หาก “แชร์” ข้อมูลที่เป็นเท็จ โดยไม่ได้ตรวจสอบก่อน ก็อาจถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เช่นกัน!

    👩‍⚖️ ถ้าโดนแจ้งความ ให้ติดต่อทนายความทันที อย่าเพิกเฉยต่อหมายเรียก ให้ข้อมูลตามจริง และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่

    🔚 ขำได้...แต่อย่าผิดกฎหมาย! วันเอพริลฟูลเดย์ เป็นวันที่ให้เสียงหัวเราะ แต่ในโลกยุคดิจิทัล การล้อเล่นโดยไม่ระวัง อาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในประเทศที่มีกฎหมายควบคุม “ข้อมูลเท็จ” อย่างจริงจัง เช่นประเทศไทย

    คิดก่อนโพสต์ แชร์อย่างรับผิดชอบ ล้อเล่นแบบสร้างสรรค์ เพื่อให้วันโกหกยังคงเป็นวันสนุก...โดยไม่ต้องเจอคุก! 🤝✨

    📌 อยากให้วันโกหกเป็นเรื่องขำ...ไม่ใช่เรื่องคุก ขอแค่ “คิดก่อนคลิก แชร์อย่างรู้ทัน” ก็ปลอดภัยทุกฝ่าย 😊

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 011152 เม.ย. 2568

    📌 #วันเอพริลฟูลเดย์ #ข่าวปลอม #โพสต์ล้อเล่น #พรกคอมพ์ #วันโกหก #AprilFools #ล้อเล่นอย่างมีสติ #แชร์อย่างรับผิดชอบ #กฎหมายออนไลน์ #โทษโพสต์เท็จ

    โพสต์ล้อเล่น “วันโกหก” ระวังเจอคุก! รู้ทันกฎหมายก่อนแชร์ ในวันเอพริลฟูลเดย์ 🤡 วันเอพริลฟูลเดย์ วัฒนธรรมตะวันตกที่คนไทยควร “เล่นอย่างมีสติ” เพราะพลาดเพียงนิดเดียว อาจโดนโทษหนักจาก พ.ร.บ.คอมพ์ฯ 😰 🧠 วันโกหกที่ไม่ควรโกหก ในทุกวันที่ 1 เมษายนของทุกปี ผู้คนทั่วโลกเฉลิมฉลอง “วันเมษาหน้าโง่” หรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาอังกฤษว่า April Fool’s Day วันที่คนส่วนใหญ่ มักใช้เล่นมุกล้อขำขัน สร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้าง...แต่เดี๋ยวก่อน! ✋📱 แม้จะดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่ในประเทศไทย การโพสต์หรือแชร์ “ข่าวปลอม” หรือ “ข้อมูลอันเป็นเท็จ” ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม อาจทำให้คุณต้องเผชิญกับ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท 😱 🎭 วันเอพริลฟูลเดย์ (April Fool's Day) เป็นเทศกาลที่คนในประเทศตะวันตก เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และหลายประเทศในยุโรป เล่นมุกหลอกกันเพื่อความสนุกสนาน ในวันที่ 1 เมษายน ตามธรรมเนียม วัตถุประสงค์ของวันนี้ ไม่ใช่การโกหกแบบจริงจัง แต่เป็นการ เล่นมุกขำขัน โดยต้องระมัดระวัง ไม่ให้เกิดผลเสียจริง เช่น ทำให้คนตกใจ เข้าใจผิด หรือเสียหาย 🌍 ความนิยมของวันโกหก เริ่มตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยสื่อและบุคคลต่าง ๆ จะโพสต์เรื่องหลอกในวันนี้ และเฉลยความจริงในวันถัดมา 📚 ต้นกำเนิดของวันโกหกจากตะวันตก มีหลายทฤษฎี เกี่ยวกับต้นกำเนิดของ April Fool’s Day ยุคกลางของยุโรป เคยมีการฉลองปีใหม่ ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึง 1 เมษายน เมื่อมีการเปลี่ยนมาใช้วันที่ 1 มกราคมแทน คนที่ยังเฉลิมฉลองในช่วงเดิม จึงถูกมองว่า "โง่" 🤦 มีการเชื่อมโยงกับเทศกาลโรมันชื่อว่า Hilaria ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม เป็นการเฉลิมฉลองความสนุกสนาน และการแต่งตัวล้อเลียน ตำนานแคนเตอร์บรีของชอเซอร์ (ปี ค.ศ. 1392) มีคำบรรยายที่ตีความว่า “32 มีนาคม” ซึ่งก็คือวันที่ 1 เมษายน 🕰️ ไม่ว่าต้นกำเนิดจะมาจากไหน แต่แน่นอนว่าวันนี้กลายเป็น “วันแห่งการหลอกแบบเบา ๆ” ที่ยังมีอิทธิพลจนถึงปัจจุบัน ⚖️ กฎหมายไทยไม่ขำด้วย! รู้จัก พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 แม้ว่าจะเป็นวันล้อเล่น ในวัฒนธรรมตะวันตก แต่ในประเทศไทย การโพสต์ ข้อมูลเท็จ หรือข่าวปลอม ไม่ว่าจะมีเจตนาขำหรือไม่ ก็ถือว่าผิดกฎหมาย! 📌 พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 ระบุว่า "ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือประเทศชาติ ถือว่ามีความผิด" 👮‍♂️ โทษหนักมาก! จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ! ❗ แม้จะเป็นการล้อเล่น ถ้าทำให้คนตื่นตระหนก หรือเชื่อผิดจริง ก็ถือว่ามีความผิด ตามกฎหมายนี้ได้เช่นกัน 🧨 ข่าวปลอมที่คิดว่า “เล่นๆ” แต่ผิดจริง! หลายคนอาจเคยเห็นโพสต์ ในวันเอพริลฟูล เช่น “รัฐบาลจะล็อกดาวน์ประเทศ!” “ธนาคารกำลังจะล้ม” “มีเอเลี่ยนบุกกรุงเทพ” แม้จะโพสต์แบบขำ ๆ แต่หากไม่มีการระบุชัดเจนว่าเป็น “มุกล้อเล่น” และส่งผลให้คนตื่นตกใจ หรือแชร์ต่อกันเป็นวงกว้าง ก็มีโอกาสโดนแจ้งความจริง! 📂 ตัวอย่างคดีจริงในไทยจากวันโกหก เคสข่าวลือวัคซีนหมด ผู้โพสต์บอกว่า "วัคซีนโควิดหมดแล้ว!" แต่ประชาชนบางส่วนเชื่อจริง และแห่กันไปโรงพยาบาล ถูกตำรวจเรียกตัว และแจ้งความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ. คอมฯ เคสข่าวปลอมเกี่ยวกับเหตุการณ์ภัยพิบัติ โพสต์ข่าวแผ่นดินไหวรุนแรงในเชียงใหม่ ทำให้คนตกใจกลัว สุดท้ายพบว่า เป็นมุกในวันเอพริลฟูล แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ขำด้วย 😬 ✅ วิธีโพสต์มุกวันโกหกแบบ “ปลอดภัย” เพื่อไม่ให้เจอปัญหา นี่คือแนวทางการล้อเล่นแบบ “ขำได้ไม่ผิดกฎหมาย 💡 ต้องมี “คำชี้แจง” ใส่ #มุกวันโกหก หรือ #AprilFools ใช้ emoji อย่าง 🤡😂🃏 เพื่อสื่อความขำขัน เขียนท้ายโพสต์ว่า “เรื่องนี้ไม่จริงนะครับ/ค่ะ เป็นมุกวันโกหก” 🙅‍♂️ หลีกเลี่ยงประเด็นอ่อนไหว ความมั่นคงของประเทศ เศรษฐกิจ เช่น “ธนาคารล้ม” สุขภาพ เช่น “โรคใหม่ระบาด” เหตุการณ์ร้ายแรง เช่น “มีระเบิดในห้าง” 🎨 ตัวอย่างมุกล้อเล่นที่ปลอดภัย และสร้างสรรค์ “วันนี้จะลาออกไปเปิดร้านกาแฟบนดาวอังคารแล้วนะ ☕🚀” “Apple จะออก iPhone กลิ่นต้มยำในรุ่นถัดไป 🍜📱” “บีทีเอสเปิดให้ขึ้นฟรีตลอดปี ถ้าใส่เสื้อสีม่วงทุกวัน 😆” 🔍 วิธีตรวจสอบข่าว ก่อนโพสต์หรือแชร์ ก่อนจะแชร์อะไรในวันโกหก อย่าลืมตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่! ✅ เช็คยังไง? ดูแหล่งข่าว ตรวจสอบว่าเป็นสื่อชั้นนำที่น่าเชื่อถือ ดูวันที่ข่าว ข่าวเก่าบางข่าวถูกนำมาแชร์ใหม่ ใช้เว็บไซต์ตรวจสอบข่าวปลอม เช่น Anti-Fake News Center 👤 ความรับผิดชอบของผู้ใช้โซเชียล การใช้โซเชียลมีเดียไม่ใช่แค่ความสนุก แต่คือ “ความรับผิดชอบ” เราทุกคนมีส่วนในการสร้างสังคมออนไลน์ที่ปลอดภัย อย่าแชร์ถ้าไม่แน่ใจ อย่าทำให้คนอื่นตกใจ อย่าล้อในเรื่องที่กระทบสังคม ⚠️ ข้อควรระวัง แชร์โพสต์ของคนอื่นก็ผิดได้! แม้ไม่ได้เป็นคนเขียนโพสต์ต้นฉบับ แต่หาก “แชร์” ข้อมูลที่เป็นเท็จ โดยไม่ได้ตรวจสอบก่อน ก็อาจถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เช่นกัน! 👩‍⚖️ ถ้าโดนแจ้งความ ให้ติดต่อทนายความทันที อย่าเพิกเฉยต่อหมายเรียก ให้ข้อมูลตามจริง และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ 🔚 ขำได้...แต่อย่าผิดกฎหมาย! วันเอพริลฟูลเดย์ เป็นวันที่ให้เสียงหัวเราะ แต่ในโลกยุคดิจิทัล การล้อเล่นโดยไม่ระวัง อาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในประเทศที่มีกฎหมายควบคุม “ข้อมูลเท็จ” อย่างจริงจัง เช่นประเทศไทย คิดก่อนโพสต์ แชร์อย่างรับผิดชอบ ล้อเล่นแบบสร้างสรรค์ เพื่อให้วันโกหกยังคงเป็นวันสนุก...โดยไม่ต้องเจอคุก! 🤝✨ 📌 อยากให้วันโกหกเป็นเรื่องขำ...ไม่ใช่เรื่องคุก ขอแค่ “คิดก่อนคลิก แชร์อย่างรู้ทัน” ก็ปลอดภัยทุกฝ่าย 😊 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 011152 เม.ย. 2568 📌 #วันเอพริลฟูลเดย์ #ข่าวปลอม #โพสต์ล้อเล่น #พรกคอมพ์ #วันโกหก #AprilFools #ล้อเล่นอย่างมีสติ #แชร์อย่างรับผิดชอบ #กฎหมายออนไลน์ #โทษโพสต์เท็จ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 560 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ปลัดคลัง" ย้ำศูนย์ราชการฯ อาคาร A ตรวจสอบแล้วปลอดภัยหลังแผ่นดินไหว ข่าวลือตึกทรุดเอียง
    https://www.thai-tai.tv/news/17951/
    "ปลัดคลัง" ย้ำศูนย์ราชการฯ อาคาร A ตรวจสอบแล้วปลอดภัยหลังแผ่นดินไหว ข่าวลือตึกทรุดเอียง https://www.thai-tai.tv/news/17951/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • 35 ปี ตึกร้างผีสิง “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ร่องรอยวิกฤตต้มยำกุ้ง แต่… ไร้รอยฝุ่นฟุ้งแผ่นดินไหว 🏚️

    🏙️ เมื่อสถานที่กลายเป็น ร่องรอยของเหตุการณ์ในอดีต สถานที่บางแห่ง ถูกสร้างขึ้นเพื่อจดจำสิ่งยิ่งใหญ่ เช่น รูปปั้นเทพีเสรีภาพของอเมริกา หรืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยของไทย แต่บางครั้งสถานที่กลับกลายเป็น "ร่องรอยที่ไม่มีใครอยากจดจำ" อย่างเช่น ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ (Sathorn Unique Tower) ที่ไม่ได้ตั้งอยู่เพื่อเป็นอนุสรณ์ แต่กลับกลายเป็นหนึ่งในหลักฐานชิ้นเอกของ วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง ปี พ.ศ. 2540 🕰️

    🌉 Sathorn Unique Tower:ความหวังระดับลักซ์ชัวรี่ใจกลางกรุง ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2533 ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไทย เฟื่องฟูแบบก้าวกระโดด โครงการอสังหาริมทรัพย์หรู ผุดขึ้นทั่วเมืองกรุง หนึ่งในนั้นคือ “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ที่ออกแบบโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกชื่อดัง ผู้อยู่เบื้องหลังดีไซน์ของ State Tower ที่โด่งดังเช่นกัน

    ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ เป็นคอนโดฯ สไตล์โรมันสูง 49 ชั้น รวมชั้นใต้ดิน 2 ชั้น บนความสูง 185 เมตร 🏢 รวมทั้งหมด 600 ยูนิต มูลค่าลงทุนมากถึง 1,800 ล้านบาท เป้าหมายคือการเป็นแลนด์มาร์กสุดหรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

    🏗️ โครงการในฝัน กลายเป็นฝันร้าย? แม้จะมีเงินลงทุนจากพรีเซลล์ และบริษัทร่วมทุน แต่ก็ยังไม่พอ จึงต้องพึ่งพาเงินกู้จาก บริษัทหลักทรัพย์ไทยเม็กซ์ ซึ่งต่อมากลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะทันทีที่เจ้าของโครงการ ถูกกล่าวหาคดีอาญาเรื่องจ้างวานฆ่า ซึ่งภายหลังถูกยกฟ้อง ก็ส่งผลให้สถาบันการเงิน “เบรก” การปล่อยกู้ทันที 😨

    แม้จะฟื้นคืนการเงินได้ในภายหลัง แต่ “ความเชื่อมั่น” ก็ไม่กลับมาอีกเลย…

    📉 วิกฤตต้มยำกุ้ง จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจที่ทำให้ตึกหยุดสร้าง

    🔍 พื้นหลังเศรษฐกิจไทยยุคทอง ก่อนปี 2540 เศรษฐกิจไทยโตเฉลี่ย 9% ต่อปี เงินทุนไหลเข้ามหาศาล ดอกเบี้ยในประเทศสูง ต่างชาติแห่ลงทุน ธนาคารไทยเองก็ขยายเครดิตอย่างหนัก 🏦

    มีการตั้ง BIBF เพื่อปล่อยกู้เงินต่างประเทศ เข้ามาภายในประเทศ แต่บริษัทส่วนใหญ่กลับกู้ระยะสั้น ทั้งที่อสังหาฯ ต้องใช้เงินระยะยาว ระบบเศรษฐกิจ "เติบโตเกินจริง" หรือ Overextended

    เมื่อค่าเงินบาทถูก "ลอยตัว" จาก 25 บาท/ดอลลาร์ ไปแตะ 50 บาท/ดอลลาร์ ทำให้ภาคเอกชนต้องใช้หนี้เพิ่มขึ้น “เท่าตัว” โดยไม่มีรายได้เพิ่มขึ้น

    🧨 เมื่อฟองสบู่แตก บริษัทเงินทุนล่มสลาย ปี 2540 รัฐบาลประกาศปิดบริษัทเงินทุนกว่า 50 แห่ง รวมถึง ไทยเม็กซ์
    โครงการสาธร ยูนีค ที่เดินหน้าไปแล้ว 80% ก็ต้องหยุดกะทันหัน ท่ามกลางวิกฤตความเชื่อมั่น และต้นทุนกู้ยืมที่สูงเกินรับไหว

    👻 จาก “สาธร ยูนีค” สู่ “Ghost Tower” ตำนานความหลอนใจกลางเมือง หลังจากการก่อสร้างถูกปล่อยทิ้งร้าง ตึกนี้ก็เริ่มเสื่อมโทรมตามกาลเวลา และเพราะเป็นตึกสูงใหญ่โดดเด่นที่ "ไม่เสร็จ" ผู้คนก็เริ่มแต่งเรื่องลี้ลับขึ้นมา…

    💀 ข่าวลือที่สร้างชื่อเสียงแบบไม่ตั้งใจ บางคนเชื่อว่า ตึกสร้างไม่เสร็จเพราะอาถรรพ์ บ้างลือว่าตึกนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่สุสานเก่า มีข่าวลือถึงการเสียชีวิตปริศนาในตึก

    🎥 ในปี 2557 มีเหตุสลดจริง เมื่อพบศพชายชาวสวีเดน แขวนคอในตึกดังกล่าว ทำให้ทางเจ้าของตึกแจ้งความ และมีการ “ปิดทางเข้า” ไม่ให้คนภายนอกเข้าไปอีก

    อย่างไรก็ตาม ภาพจากตึกนี้ยังคงปรากฏในหนังหลายเรื่อง เช่น “เพื่อน…ที่ระลึก” ที่ตีแผ่ความหลอนจากวิกฤตเศรษฐกิจและการพลัดพราก 🕯️

    💡 ทำไมถึงขายไม่ได้? ราคาพุ่งจาก 3,000 ล้าน สู่ 4,000 ล้าน

    📌 ต้นทุนที่ยังค้างคา เจ้าของคนปัจจุบันคือ นายพรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ บุตรชาย ผศ.รังสรรค์ ยืนยันว่า จะขายตึกในราคาที่สามารถคืนทุนทั้งหมด และคืนเงินให้กับผู้ที่ซื้อพรีเซลล์ไว้แล้วกว่า 90%

    ปัจจุบันราคาตึกตั้งไว้ที่ 3,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งสูงเกินกว่าที่นักลงทุนรายใหม่จะรับได้ โดยเฉพาะเมื่อโครงสร้างห้องในอดีตเน้น “ขนาดใหญ่” ซึ่งสวนทางกับเทรนด์ห้องยุคปัจจุบัน ที่ต้องการห้องขนาดกะทัดรัด 😕

    🧱 แต่… “Ghost Tower” แข็งแรงกว่าที่คิด! 🌍 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2568 ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ขายตึกนี้ในราคา 4,000 ล้านบาท พร้อมข้อมูลว่า…

    ❗ "แม้จะเกิดแผ่นดินไหว แต่โครงสร้างตึก ไม่กระทบเลยแม้แต่น้อย"

    ทำให้มีคนเริ่มสนใจตึกนี้ในฐานะ “อสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแรง และโดดเด่นทางสถาปัตยกรรม” อีกครั้ง ตึกนี้ไม่เพียงรอดจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ยัง "ยืนหยัดท่ามกลางแรงสั่นสะเทือนจากธรรมชาติ" ได้อีกด้วย 💪🌎

    🧠 “สาธร” หรือ “สาทร” สรุปใช้คำไหนกันแน่? แม้ตึกจะใช้ชื่อว่า “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ตามชื่อบริษัทที่จดทะเบียน แต่ในความเป็นจริง ชื่อเขตที่ตั้งควรสะกดว่า “สาทร” โดยมีที่มาทางประวัติศาสตร์ดังนี้

    “สาทร” มาจาก หลวงสาทรราชายุตก์ ผู้สร้างถนนและคลองในยุค ร.5 เอกสารราชการในยุค ร.6 ใช้คำว่า “สาทร” อย่างชัดเจน ปัจจุบันการสะกดผิดพลาด และใช้คำว่า “สาธร” แพร่หลาย

    ราชบัณฑิตยสถานจึงแนะนำให้ใช้คำว่า “สาทร” เพื่อความถูกต้องตามประวัติศาสตร์ 📜

    🎬 "Sathorn Unique Tower" แลนด์มาร์กของ “อดีต” ที่ยังยืนอยู่ใน “ปัจจุบัน” แม้จะผ่านเวลามาแล้ว 35 ปี ตึกแห่งนี้ยังคงตั้งตระหง่าน อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ได้เพียงเป็นตึกร้าง แต่กลายเป็น สัญลักษณ์ของบทเรียนเศรษฐกิจ กลายเป็น แลนด์มาร์กแห่งความทรงจำ และอาจเป็น “โอกาสใหม่” ที่รอเพียงการตีความใหม่อีกครั้ง ในอนาคต…

    🔚 "ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์" อดีตที่ยัง “ยืนอยู่” ตึกนี้คือบทเรียนทางเศรษฐกิจ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม
    ที่ยังไม่จบ… และอาจเป็น “จุดเริ่มต้นใหม่” หากมีใครกล้าคิด…ต่าง 💡

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 301305 มี.ค. 2568

    🏷️ #ตึกสาธรยูนีค #GhostTower #วิกฤตต้มยำกุ้ง #ตึกร้างกรุงเทพ #อสังหาริมทรัพย์ไทย #สถานที่หลอน #ตึกผีสิง #กรุงเทพมหานคร #SathornUniqueTower #ตำนานเมืองกรุง
    35 ปี ตึกร้างผีสิง “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ร่องรอยวิกฤตต้มยำกุ้ง แต่… ไร้รอยฝุ่นฟุ้งแผ่นดินไหว 🏚️ 🏙️ เมื่อสถานที่กลายเป็น ร่องรอยของเหตุการณ์ในอดีต สถานที่บางแห่ง ถูกสร้างขึ้นเพื่อจดจำสิ่งยิ่งใหญ่ เช่น รูปปั้นเทพีเสรีภาพของอเมริกา หรืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยของไทย แต่บางครั้งสถานที่กลับกลายเป็น "ร่องรอยที่ไม่มีใครอยากจดจำ" อย่างเช่น ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ (Sathorn Unique Tower) ที่ไม่ได้ตั้งอยู่เพื่อเป็นอนุสรณ์ แต่กลับกลายเป็นหนึ่งในหลักฐานชิ้นเอกของ วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง ปี พ.ศ. 2540 🕰️ 🌉 Sathorn Unique Tower:ความหวังระดับลักซ์ชัวรี่ใจกลางกรุง ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2533 ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไทย เฟื่องฟูแบบก้าวกระโดด โครงการอสังหาริมทรัพย์หรู ผุดขึ้นทั่วเมืองกรุง หนึ่งในนั้นคือ “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ที่ออกแบบโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกชื่อดัง ผู้อยู่เบื้องหลังดีไซน์ของ State Tower ที่โด่งดังเช่นกัน ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ เป็นคอนโดฯ สไตล์โรมันสูง 49 ชั้น รวมชั้นใต้ดิน 2 ชั้น บนความสูง 185 เมตร 🏢 รวมทั้งหมด 600 ยูนิต มูลค่าลงทุนมากถึง 1,800 ล้านบาท เป้าหมายคือการเป็นแลนด์มาร์กสุดหรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 🏗️ โครงการในฝัน กลายเป็นฝันร้าย? แม้จะมีเงินลงทุนจากพรีเซลล์ และบริษัทร่วมทุน แต่ก็ยังไม่พอ จึงต้องพึ่งพาเงินกู้จาก บริษัทหลักทรัพย์ไทยเม็กซ์ ซึ่งต่อมากลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะทันทีที่เจ้าของโครงการ ถูกกล่าวหาคดีอาญาเรื่องจ้างวานฆ่า ซึ่งภายหลังถูกยกฟ้อง ก็ส่งผลให้สถาบันการเงิน “เบรก” การปล่อยกู้ทันที 😨 แม้จะฟื้นคืนการเงินได้ในภายหลัง แต่ “ความเชื่อมั่น” ก็ไม่กลับมาอีกเลย… 📉 วิกฤตต้มยำกุ้ง จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจที่ทำให้ตึกหยุดสร้าง 🔍 พื้นหลังเศรษฐกิจไทยยุคทอง ก่อนปี 2540 เศรษฐกิจไทยโตเฉลี่ย 9% ต่อปี เงินทุนไหลเข้ามหาศาล ดอกเบี้ยในประเทศสูง ต่างชาติแห่ลงทุน ธนาคารไทยเองก็ขยายเครดิตอย่างหนัก 🏦 มีการตั้ง BIBF เพื่อปล่อยกู้เงินต่างประเทศ เข้ามาภายในประเทศ แต่บริษัทส่วนใหญ่กลับกู้ระยะสั้น ทั้งที่อสังหาฯ ต้องใช้เงินระยะยาว ระบบเศรษฐกิจ "เติบโตเกินจริง" หรือ Overextended เมื่อค่าเงินบาทถูก "ลอยตัว" จาก 25 บาท/ดอลลาร์ ไปแตะ 50 บาท/ดอลลาร์ ทำให้ภาคเอกชนต้องใช้หนี้เพิ่มขึ้น “เท่าตัว” โดยไม่มีรายได้เพิ่มขึ้น 🧨 เมื่อฟองสบู่แตก บริษัทเงินทุนล่มสลาย ปี 2540 รัฐบาลประกาศปิดบริษัทเงินทุนกว่า 50 แห่ง รวมถึง ไทยเม็กซ์ โครงการสาธร ยูนีค ที่เดินหน้าไปแล้ว 80% ก็ต้องหยุดกะทันหัน ท่ามกลางวิกฤตความเชื่อมั่น และต้นทุนกู้ยืมที่สูงเกินรับไหว 👻 จาก “สาธร ยูนีค” สู่ “Ghost Tower” ตำนานความหลอนใจกลางเมือง หลังจากการก่อสร้างถูกปล่อยทิ้งร้าง ตึกนี้ก็เริ่มเสื่อมโทรมตามกาลเวลา และเพราะเป็นตึกสูงใหญ่โดดเด่นที่ "ไม่เสร็จ" ผู้คนก็เริ่มแต่งเรื่องลี้ลับขึ้นมา… 💀 ข่าวลือที่สร้างชื่อเสียงแบบไม่ตั้งใจ บางคนเชื่อว่า ตึกสร้างไม่เสร็จเพราะอาถรรพ์ บ้างลือว่าตึกนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่สุสานเก่า มีข่าวลือถึงการเสียชีวิตปริศนาในตึก 🎥 ในปี 2557 มีเหตุสลดจริง เมื่อพบศพชายชาวสวีเดน แขวนคอในตึกดังกล่าว ทำให้ทางเจ้าของตึกแจ้งความ และมีการ “ปิดทางเข้า” ไม่ให้คนภายนอกเข้าไปอีก อย่างไรก็ตาม ภาพจากตึกนี้ยังคงปรากฏในหนังหลายเรื่อง เช่น “เพื่อน…ที่ระลึก” ที่ตีแผ่ความหลอนจากวิกฤตเศรษฐกิจและการพลัดพราก 🕯️ 💡 ทำไมถึงขายไม่ได้? ราคาพุ่งจาก 3,000 ล้าน สู่ 4,000 ล้าน 📌 ต้นทุนที่ยังค้างคา เจ้าของคนปัจจุบันคือ นายพรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ บุตรชาย ผศ.รังสรรค์ ยืนยันว่า จะขายตึกในราคาที่สามารถคืนทุนทั้งหมด และคืนเงินให้กับผู้ที่ซื้อพรีเซลล์ไว้แล้วกว่า 90% ปัจจุบันราคาตึกตั้งไว้ที่ 3,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งสูงเกินกว่าที่นักลงทุนรายใหม่จะรับได้ โดยเฉพาะเมื่อโครงสร้างห้องในอดีตเน้น “ขนาดใหญ่” ซึ่งสวนทางกับเทรนด์ห้องยุคปัจจุบัน ที่ต้องการห้องขนาดกะทัดรัด 😕 🧱 แต่… “Ghost Tower” แข็งแรงกว่าที่คิด! 🌍 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2568 ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ขายตึกนี้ในราคา 4,000 ล้านบาท พร้อมข้อมูลว่า… ❗ "แม้จะเกิดแผ่นดินไหว แต่โครงสร้างตึก ไม่กระทบเลยแม้แต่น้อย" ทำให้มีคนเริ่มสนใจตึกนี้ในฐานะ “อสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแรง และโดดเด่นทางสถาปัตยกรรม” อีกครั้ง ตึกนี้ไม่เพียงรอดจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ยัง "ยืนหยัดท่ามกลางแรงสั่นสะเทือนจากธรรมชาติ" ได้อีกด้วย 💪🌎 🧠 “สาธร” หรือ “สาทร” สรุปใช้คำไหนกันแน่? แม้ตึกจะใช้ชื่อว่า “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ตามชื่อบริษัทที่จดทะเบียน แต่ในความเป็นจริง ชื่อเขตที่ตั้งควรสะกดว่า “สาทร” โดยมีที่มาทางประวัติศาสตร์ดังนี้ “สาทร” มาจาก หลวงสาทรราชายุตก์ ผู้สร้างถนนและคลองในยุค ร.5 เอกสารราชการในยุค ร.6 ใช้คำว่า “สาทร” อย่างชัดเจน ปัจจุบันการสะกดผิดพลาด และใช้คำว่า “สาธร” แพร่หลาย ราชบัณฑิตยสถานจึงแนะนำให้ใช้คำว่า “สาทร” เพื่อความถูกต้องตามประวัติศาสตร์ 📜 🎬 "Sathorn Unique Tower" แลนด์มาร์กของ “อดีต” ที่ยังยืนอยู่ใน “ปัจจุบัน” แม้จะผ่านเวลามาแล้ว 35 ปี ตึกแห่งนี้ยังคงตั้งตระหง่าน อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ได้เพียงเป็นตึกร้าง แต่กลายเป็น สัญลักษณ์ของบทเรียนเศรษฐกิจ กลายเป็น แลนด์มาร์กแห่งความทรงจำ และอาจเป็น “โอกาสใหม่” ที่รอเพียงการตีความใหม่อีกครั้ง ในอนาคต… 🔚 "ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์" อดีตที่ยัง “ยืนอยู่” ตึกนี้คือบทเรียนทางเศรษฐกิจ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม ที่ยังไม่จบ… และอาจเป็น “จุดเริ่มต้นใหม่” หากมีใครกล้าคิด…ต่าง 💡 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 301305 มี.ค. 2568 🏷️ #ตึกสาธรยูนีค #GhostTower #วิกฤตต้มยำกุ้ง #ตึกร้างกรุงเทพ #อสังหาริมทรัพย์ไทย #สถานที่หลอน #ตึกผีสิง #กรุงเทพมหานคร #SathornUniqueTower #ตำนานเมืองกรุง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 726 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Pixel 9a เตรียมเปิดตัวพร้อมราคาคุ้มค่าและตัวเลือกสีที่หลากหลาย แม้จะประสบปัญหาด้านส่วนประกอบในช่วงแรก แต่ Google ได้เร่งแก้ไขเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จะมีคุณภาพสูงสุด การวางจำหน่ายจะเริ่มในวันที่ 10 เมษายนในบางประเทศ และขยายไปยังภูมิภาคอื่นในไม่กี่วันถัดมา

    ราคาที่คุ้มค่า:
    - Google Pixel 9a จะวางจำหน่ายในราคา $499 / £499 / AU$849 พร้อม RAM 8GB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 128GB ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนระดับกลาง.

    ตัวเลือกสีที่น่าสนใจ:
    - Pixel 9a มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ Obsidian, สีขาว Porcelain, สีชมพู Peony และสีม่วง Iris.

    การปรับปรุงจากรุ่นก่อน:
    - แม้จะมีข่าวลือเกี่ยวกับปัญหากล้องที่ร้อนเกินไป แต่ Google ได้ออกมายืนยันว่าปัญหาดังกล่าวไม่ได้ส่งผลต่อ Pixel 9a และสามารถแก้ไขได้ด้วยการอัปเดตซอฟต์แวร์.

    ความพยายามของ Google:
    - Google ได้จับข้อผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสะท้อนถึงความใส่ใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และคาดว่าจะช่วยลดโอกาสที่ผู้ใช้พบปัญหาด้านเทคนิคในอนาคต.

    https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/google-pixel-9a-delay-ends-heres-when-youll-be-able-to-buy-one
    Google Pixel 9a เตรียมเปิดตัวพร้อมราคาคุ้มค่าและตัวเลือกสีที่หลากหลาย แม้จะประสบปัญหาด้านส่วนประกอบในช่วงแรก แต่ Google ได้เร่งแก้ไขเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จะมีคุณภาพสูงสุด การวางจำหน่ายจะเริ่มในวันที่ 10 เมษายนในบางประเทศ และขยายไปยังภูมิภาคอื่นในไม่กี่วันถัดมา ราคาที่คุ้มค่า: - Google Pixel 9a จะวางจำหน่ายในราคา $499 / £499 / AU$849 พร้อม RAM 8GB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 128GB ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนระดับกลาง. ตัวเลือกสีที่น่าสนใจ: - Pixel 9a มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ Obsidian, สีขาว Porcelain, สีชมพู Peony และสีม่วง Iris. การปรับปรุงจากรุ่นก่อน: - แม้จะมีข่าวลือเกี่ยวกับปัญหากล้องที่ร้อนเกินไป แต่ Google ได้ออกมายืนยันว่าปัญหาดังกล่าวไม่ได้ส่งผลต่อ Pixel 9a และสามารถแก้ไขได้ด้วยการอัปเดตซอฟต์แวร์. ความพยายามของ Google: - Google ได้จับข้อผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสะท้อนถึงความใส่ใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และคาดว่าจะช่วยลดโอกาสที่ผู้ใช้พบปัญหาด้านเทคนิคในอนาคต. https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/google-pixel-9a-delay-ends-heres-when-youll-be-able-to-buy-one
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts