• เรื่อง เตียงหัก
    ” เตียงหัก !”

    (1)

    หลังจากที่กษัตริย์อับดุลลาแห่งซาอุดิอารเบีย สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 23 มกราคม ค.ศ.2015
    มงกุฏราชกุมาร เจ้าชายซาลมาน ซึ่งเป็นน้องชายก็ขึ้นครองบัลลังก์ต่อ เป็นช่วงที่ตะวันออกกลางกำลังแดดร้อน ลมพัดแรง จะถึงกับมีพายุทะเลทรายหรือไม่ น่าเป็นห่วง

    เยเมน ที่อยู่ทางใต้ของซาอุดิ กำลังวุ่นวายเกิดศึกชิงเก้าอี้กัน ทางเหนือหน่อไอซิสยังไม่หยุดงอกทั้งพันธุ์แท้ พันธุ์เทียม และกลายพันธุ์ ทั้งที่อิรัคและที่ซีเรีย ส่วนความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านชื่ออิสราเอล ก็ยังบูดเหมือนเดิม ไม่มีทีท่าว่าจะมองหน้าและยิ้มให้กันได้ แต่ที่น่าเป็นห่วงกว่าเพื่อน น่าจะเป็นเรื่องอิหร่าน ซึ่งถึงจะอยู่ห่างกันคนละฟาก แต่ซาอุดิก็เห็นอิหร่านเป็นคู่แข่งรัศมี ชิงความเป็นพี่ใหญ่ในตะวันออกกลางกันมาตลอด

    อิหร่านกำลังก้มหน้าก้มตาพัฒนาระบบนิวเคลียร์ ที่อ้างว่าไม่ไช่เป็นอาวุธนะ อย่าเข้าใจผิด แต่ถึงอย่างนั้น ซาอุดิก็หงุดหงิด ไม่พอใจ จะพอใจได้ยังไง ก็ตัวเองยังไม่มีนิวเคลียร์กับ เขาสักลูก แถมอาวุธที่มีอยู่ ยังต้องกัดฟันซื้อ โดยเฉพาะจากอเมริกา นึกว่าเขาให้ฟรีๆหรือ เปล่าหรอก แค่ลดราคาให้เท่านั้นเอง เค็มชะมัด แบบนี้ไม่หงุดหงิดได้ไง

    แต่ที่ไม่พอใจมากที่สุด คือไม่พอใจในอากัปกริยา ท่าทีของอเมริกา มากกว่า

    ซาอุดิอารเบียกับอเมริกา มีความสัมพันธ์ยาวนาน และแข็งแรงอย่างเป็นทางการมาประมาณ 70 ปีแล้ว ตั้งแต่ประธานาธิบดี Franklin D Roosevelt กับกษัตริย์ Abd al-Aziz ibn Sa’ud ผู้ก่อตั้งราชอาณาจักรซาอุดิอารเบีย นั่งจับมือกันบนเรือรบ USS Quincy เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1945

    แต่ในความเป็นจริง ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ จะแข็งแรงมากน้อยขนาดไหนไม่มีใครรู้ดี มีนักวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ ทั้ง 2 ประเทศ อุปมาไว้น่าฟังว่า มันเหมือนการแต่งงาน เพื่อความเหมาะสม a marriage for convenience ไม่ใช่มาจากรักแรกพบ หรือรักแบบดูดดื่มฝังใจ เพาะบ่มรอกันมา 20 ปี

    เมื่อเป็นการแต่งงาน เพื่อความเหมาะสม จะให้หวือหวา หวานชื่นกันตลอด คงเป็นไปไม่ได้ มันคงจะเป็นประเภท ต่างก็ยี่ต๊อกใส่กันว่า ฉันได้มากกว่าเสีย หรือเธอได้มากกว่าฉันหรือเปล่า ทำนองนั้น เรื่องอะไรที่ไม่พอใจ ตราบใดที่บัญชีของทั้ง 2 ฝ่าย ยังไม่เป็นตัวแดง ก็ยังคงกล้อมแกล้ม กัดฟันอยู่กันต่อไป

    ตลอดการอยู่ร่วมกันของคู่แต่งงาน ซาอุดิฉุนจัดครั้งแรก ก็เมื่ออเมริกามีทีท่าว่าจะมีใจให้กับอิสราเอล สาวข้างบ้าน ที่อเมริกาให้การรับรองเมื่อปี ค.ศ.1948 แต่มันเป็นช่วงระหว่างการก่อร่างสร้างเมืองของซาอุดิ กษัตริย์ Abd al-Aziz จึงต้องกัดฟันมองไปทางอื่นแทน ขณะที่รอบข้างกดดันให้ยกเลิกสัมปทาน ที่ซาอุดิให้แก่ Aramco ของอเมริกาตั้งแต่ ค.ศ.1933
    หลังจากนั้น ก็มีเรื่องการสั่งห้ามซื้อขายน้ำมัน Oil Embargo ระหว่างกลุ่มค้าน้ำมันชาติอาหรับ กับกลุ่มตะวันตกในปี ค.ศ.1973-74 ซึ่งเป็นการเล่นกล หลอกต้มทั้งคนขายน้ำมันและคนใช้ น้ำมัน โดยพวกนักการเงินวอลสตรีท ที่จัดฉากโดยนาย Henry Kissinger ตัวแสบ ภายใต้การชักใยของ พวกโคตรรวย Rockefeller แต่เรื่องนี้มันก็ลงความเห็นยากว่า ฝ่ายไหนเสียมากกว่า ดูเหมือนจะเป็นมวยล้มต้มคนดู พวกที่เสียหายจริงๆ น่าจะเป็นพวกซื้อน้ำมัน จนแล้วยังทำซ่า อยากเป็นเสือตัวที่ห้ามากกว่า ไปอ่านรายละเอียดได้ จากนิทานเรื่องมายากลยุทธนะครับ

    ซาอุดิ เริ่มขัดใจจริงๆ น่าจะเป็นเรื่องการบุกเข้าไปขยี้อิรัคของอเมริกา ไม่ใช่เพราะซาอุดิใจอ่อนสงสารอิรัคหรอก อย่าเข้าใจผิด แต่ซาอุดิเห็นว่า เป็นการทำให้ดุลยอำนาจในภูมิภาคเอียง ไปเข้าทางอิหร่านมากกว่า เพราะเป็นการเปิดทางให้อิหร่าน เข้าไปสนับสนุนกลุ่ม Nouri al-Maliki ขึ้นมามีอำนาจในอิรัค หลังจากซัดดัมถูกโค่น และทำให้อิรัคกับอิหร่าน ก็ใกล้เคียงกับการเป็นคอหอยกับลูกกระเดือกกันตั้งแต่บัดนั้น มันเป็นการเสริมบารมี เสริมกำลัง ให้กับอิหร่านมากขึ้น เกินกว่าที่ซาอุดิ จะไม่สนใจ

    แต่ที่เป็นหนามตำใจมาตลอด คือเรื่องสาวข้างบ้าน อิสราเอลนั่นแหละ ที่ทำให้ซาอุดิเห็นว่า อเมริกา ตาชั่งเอียงจนน่าเกลียด เรื่องนี้ไม่มีทางแก้แน่นอน ซาอุดิรู้ดีอยู่แก่ใจ มีแต่ทางเดินออก ซาอุดิจะกล้าเดินออกไหมเท่านั้น

    พอไปรวมกับเรื่องอียิปต์ ซึ่งซาอุดิเห็นว่า ขนาด Hosni Mubarak ผู้ซึ่งเป็นลูกหาบที่ซื่อสัตย์มาให้อเมริกา 30 กว่าปี อเมริกายังโยนทิ้งเฉย ปล่อยให้ Muslim Brotherhood มุสลิมหัวรุนแรงที่ไม่เอาพวกตะวัน ตก ขึ้นมาปกครองอียิปต์แทน แน่นอน ซาอุดิต้องหงุดหงิด กลุ้มใจ จนหน้าคล้ำหนักไปกว่าเดิม แบบนี้แปลว่าอะไร อเมริกาไม่สนใจหรือว่า มันจะยิ่งสร้างความไม่มั่นคงในตะวันออกกลางมากขึ้น เผลอๆ เรื่องแบบนี้อาจจะเกิดที่ซาอุดิก็ได้ อเมริกาปล่อยให้เป็นอย่านี้ได้อย่างไร

    เรื่องอิสราเอลยังแก้ไม่ออก เรื่องอียิปต์ดันมาเกิดขึ้นต่อ บวกกับเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่านที่ยังค้างคา นี่ยังมามีเรื่องซีเรียอีก เรื่องซีเรียที่ซาอุดิก็ไม่รัก เอะ เสี่ยซาอุรักใครมั่งนะ ชักสงสัย สู้กันมา3 ปีกว่าแล้ว เรื่องยังไม่จบเสียที ไอ้เจ้า Assad นี่มันทนทายาด แล้วอเมริกาก็ดันประกาศ (ในปี ค.ศ. 2013) ว่าจะไม่ใช้กองกำลังจัดการเรื่องซีเรีย โอ้ย กลุ้มใจโว้ย ยังถอนใจไม่หายเหนื่อย หน่อไอซิสก็ทะลี่งได้ปุ๋ยดี บานเต็มท้องทุ่งซีเรีย อิรัค นี่ถ้ามันดันชอบอากาศแถวซาอุดิ มางอกต่อแถวนี้ พวกซาอุดิจะเอาอยู่ไหม

    หงุดหงิดแล้ว ก็เลยพาลน้อยใจต่อ ซาอุดิน้อยใจ คิดหนัก คิดจริงจังคือ เรื่องอิหร่าน (อีกแล้ว) การเจรจา ระหว่างพวกตะวันตกกับอิหร่าน เรื่องการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ซาอุดิมองว่า ถ้าการเจรจาเข้าทางอิหร่าน ตะวันออกกลาง โดยเฉพาะฝ่ายของซาอุดิจะเสียเปรียบ และอาจจะถึงเสียหายเลยทีเดียว ฝ่ายที่มีนิวเคลียร์ในตะวันออกกลาง คือฝ่ายที่มีอำนาจควบคุมอ่าวเปอร์เซีย รวมไปทั้งตะวันออกกลาง ที่สำคัญ ซาอุดิมองว่า การใช้วิธีเจรจากับอิหร่าน ดูเหมือนเป็นการเริ่มกลับมาสานสัมพันธ์ใหม่ระหว่างอเมริกากับอิหร่าน อย่าลืมว่าคู่นี้ เขาเคยเป็นคู่รัก คู่แค้นกันมาก่อน หรือถ่านไฟเก่ามันจะคุขึ้นมาใหม่ ?!?!

    (2)
    ตกลงอเมริกากำลัง “shifting away” หันเหไปจากสัมพันธ์พิเศษกับซาอุดิหรือ มันดูเหมือนมีอาการของการนอกใจ ที่มองเห็นได้จากทั้งฝ่ายซาอุดิและฝ่ายอเมริกาเอง

    ทางฝ่ายซาอุดินั้น อดีตหัวหน้าหน่วยงานข่าวกรอง และอดีตฑูตซาอุดิประจำอเมริกา Prince Bandar bin Sultan พูดตั้งแต่ปลายปี 2013 แล้วว่า ทางซาอุดิอาจจะมีการเปลี่ยนแนวทางของความสัมพันธ์ ระหว่างซาอุดิกับอเมริกา เป็นการประท้วงอเมริกาที่ไม่ขยับอะไรเลย เกี่ยวกับเรื่องการรบในซีเรีย รวมทั้งการที่อเมริกามีท่าที เหมือนจะไปสานสัมพันธ์ใหม่กับอิหร่าน อ้อ เรื่องนี้เอง ที่มันคาใจคนนอนเตียงเดียวกัน

    คำพูดของ Prince Bandar คนเดียวคงไม่พอ Prince Turki al-Faisal อดีตหัวหน้าสายลับ และฑูตซาอุดิประจำสหประชาชาติ ออกมาทำเสียงเข้มว่า นโยบายเกี่ยวกับซีเรีย ของนายโอบามา ฟังแล้วน่าเศร้าใจ พร้อมกับบอกว่า ข้อตกลงระหว่างรัสเซียกับอเมริกา เรื่องการห้ามมิให้ Assad ใช้อาวุธเคมี เป็นหลุมพรางล่อให้อเมริกาตกพลั่ก เขวไปจากการใช้กำลังทหารจัดการในซีเรีย

    เขาต่อว่ากันแรงดีนะครับ ไม่เหมือนสมันน้อย คำน้อยคำ ก็ไม่ค่อยจะกล้าออกมาพาดพิงถึงลูกพี่ เชื่องดีจัง ( ช ช้างสะกดนะครับ ไม่ใช่ ข ไข่ เดี๋ยวจะเข้าใจกันผิด ฮา)

    นักจัดรายการทีวีชาวอเมริกัน Fred Kaplan วิจารณ์ว่า คำพูดของฝ่ายซาอุดิในเรื่องนี้ เหมือน “game of high-way chicken” เขาเตือนนายโอบามาว่า ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไก่อาจหลุดมือ วิ่งหายไปได้ หรือโอบามาไม่สนใจ เพราะอเมริกากำลังตื่นเต้นกับการค้นพบพลังงานใหม่ ที่จะไม่ต้องพึ่งจมูกคนอื่นหายใจแล้ว หรือปล่อยให้ไก่วิ่งจนเหนื่อยก่อน

    หลังจากนั้น ขบวนการกดดันอเมริกาโดยกลุ่ม Gulf Cooperation Council (GCC) ลูกน้องคุณพี่ซาอุก็เกิดขึ้น นำโดยอาหรับอามิเรต และกาต้าร์เศรษฐีใหญ่ทั้งคู่ ออกโรงเดินสายคุยกับพวกถังความคิด Think Tank ของอเมริกา พร้อมเอาเงินบริจาคกล่องใหญ่ไปฝาก การลงทุนได้ผล ถังความคิดรีบออกรายงานทันที อเมริกาจะปล่อยให้พรรคพวกในตะวันออกกลาง แก้ไขปัญหาเรื่องซีเรียกับไอซิส โดยลำพังหรือ มันดูเหมือนอเมริกากำลังทิ้งเพื่อนที่มีความสัมพันธ์พิเศษนะ เพราะถ้าพวกเขาจัดการไม่ได้ คนที่จะตกที่นั่งลำบากคืออเมริกา แหม! นึกว่าถังความคิดชั้นนำระดับโลกจะสั่งไม่ได้ มีเงินจ่ายก็ใช้ได้ทั้งนั่นแหละครับ

    อเมริกา ถึงยังทิ้งกระบองยอดเพชร ที่อยู่ด้วยกันมานานถึง 70 ปี ไม่ลง

    นายโอบามา ทำหน้าชื่นไปหากษัตริย์ Abdullah เมื่อประมาณเดือนมีนาคมปีที่แล้ว หลังจากนั่งปรับความไม่เข้าใจกัน การแถลงข่าวภายหลังการปรับคลื่น สรุปว่าทั้ง 2 ฝ่าย มีการหารือกัน เรื่องซีเรีย เรื่องการป้องกันไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ การร่วมกันต่อต้านการก่อการร้าย และสนับสนุนการเจรจา เพื่อให้มีสันติภาพเกิดขึ้นในตะวันออกกลาง (จากการแถลงข่าวของ ทำเนียบขาว เมื่อ 28 มีนาคม 2014)
    เอกสารที่แจกในการแถลงข่าว บอกด้วยว่าซาอุดิอารเบีย เป็นลูกค้าต่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ที่ซื้ออาวุธของอเมริกา U S Foreign Military Sales (FMS) คือประมาณ 97 พันล้านเหรียญ และอเมริกา ส่งสินค้าออกไปยังซาอุดิอารเบียในปี 2013 จำนวน 35 พันล้านเหรียญ และขณะนี้มีชาวซาอุดิ ประมาณ 8 หมื่นคน เรียนหนังสืออยู่ในอเมริกา

    อืม ดูเหมือนจะเป็นรายงาน ที่แปลงความสัมพันธ์เป็นตัวเงิน (รายได้) ของอเมริกา มากกว่าจะเป็นการให้ข้อมูล ที่ทำให้เกิดความเข้าใจกันมากขึ้น

    นอกจากนี้ การรายงานข่าวของสื่อในช่วงนั้น ยังสรุปไปทิศทางเดียวกันว่า แม้จะมีความเห็นไม่สอดคล้องกันทุกเรื่อง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับซาอุดิอารเบีย ก็ยังไม่ถึงขั้นแตกหัก not broken เตียงยังไม่หัก ไม่ชำรุดขาเตียงยังอยู่ครบดี ไม่ว่าจะเป็น การร่วมมือทางการต่อต้านผู้ก่อการร้าย การทหาร การธุรกิจและด้านยุทธศาสตร์ อู้ย พูดกันรู้เรื่องดีคร้าบ

    แต่ก็คงจะเร็วไป ที่จะสรุปว่าคู่นี่เขาจะยังมั่นคงกันดีตลอดไป เพราะมันก็ยังเห็นรอยร้าวค้างอยู่ และแม้จะยังไม่ถึงกับทำให้ซาอุดิอารเบีย แยกทางกับอเมริกา แต่ซาอุดิอารเบียก็บอกว่า ไม่ปิดทางตัวเองที่จะมองหาหุ้นส่วนรายใหม่เช่นเดียวกัน นโยบายไม่แทงม้าตัวเดียว ไม่ใช่มีแต่อเมริกาเท่านั้นที่เล่นเป็น เอะ แล้วใครนะที่ซาอุดิอารเบีย เริ่มเจรจาต้าอวยไว้

    (3)

    ถังความคิดตัวแสบ CSIS Think Tank ได้ออกรายงานการวิเคราะห์ The True Nature of the Saudi Succession “Crisis” วิกฤติตามธรรมชาติของการสืบสันตติวงศ์ของ Saudi เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2015 นี้ก่อนการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์ Abdullah ไม่นานนัก

    รายงานสรุปว่า กษัตริย์ Abdullah ได้เตรียมการล่วงหน้ามานานแล้วอย่างเรียบร้อยดี ทั้งเรื่องในพระราชวงศ์ เรื่องในประเทศ ทั้งด้านศาสนา และรัฐบาล รวมทั้งเรื่องการต่างประเทศ เท่าที่จะทำได้ แน่นอนหลายปัจจัย ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูความเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะต้องมีตามสภาพ….รายงานแจงค่อนข้างละเอียดว่า เตรียมการอะไร ใครเป็นใคร ตามประสา นิสัยเสือกทุกเรื่องของอเมริกา

    แต่ที่น่าจะสนใจคือ บางส่วนที่รายงานการวิคราะห์ดังกล่าวระบุถึง ซึ่งไม่ได้เกี่ยว หรือมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนกษัตริย์ผู้ปกครอง แต่เป็นเรื่องที่รายงานการวิเคราะห์ ระบุถึงสภาพสังคมของซาอุดิอารเบีย
    เป็นส่วนของรายงานที่บอกว่า ปี 2015 ซาอุดิจะมีประชากรประมาณ 27.8 ล้านคน ปี 2025 จะมี 31.9 ล้านคน และปี 2050 จะมีประชากร 40.3 ล้านคน ปัจจุบัน ซาอุดิอารเบียเป็นสังคมที่มีวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ และอยู่ในวัยที่ต้องทำงานแต่ไม่ทำงาน โดยอยู่ด้วยสวัสดิการของรัฐ มีตลาดแรงงานประมาณ 8.4 ล้านคน แต่เป็นชาวซาอุดิเพียง 1.7 ล้านคน ที่ผ่านมา ซาอุดิรับมือกับวัยรุ่นจำนวนมากที่ไม่ทำงานได้พอสมควร เพราะที่ผ่านมา ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่สูงกว่าปัจจุบันมากมาย

    ขณะที่อัตราประชากรเพิ่ม และมีคนไม่ยอมทำงาน แต่รายรับของประเทศ ซึ่งมาจากน้ำมันอย่างเดียว ลดลง ตามราคาน้ำมันโลก (หรือจากการร่วมมือกันกดราคาน้ำมันก็ตาม) ขณะเดียวกัน ซาอุดิก็มีรายจ่ายเกี่ยวกับความ มั่นคงของรัฐ สูงที่สุดในโลก ซาอุดิ มีสตรูมากหน้า ทั้งที่เป็นรัฐ และไม่ใช่รัฐ รวมทั้งมีก่อการร้ายเสมอ จากการที่เป็นผู้ดูแลสถานที่
    เรื่อง เตียงหัก ” เตียงหัก !” (1) หลังจากที่กษัตริย์อับดุลลาแห่งซาอุดิอารเบีย สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 23 มกราคม ค.ศ.2015 มงกุฏราชกุมาร เจ้าชายซาลมาน ซึ่งเป็นน้องชายก็ขึ้นครองบัลลังก์ต่อ เป็นช่วงที่ตะวันออกกลางกำลังแดดร้อน ลมพัดแรง จะถึงกับมีพายุทะเลทรายหรือไม่ น่าเป็นห่วง เยเมน ที่อยู่ทางใต้ของซาอุดิ กำลังวุ่นวายเกิดศึกชิงเก้าอี้กัน ทางเหนือหน่อไอซิสยังไม่หยุดงอกทั้งพันธุ์แท้ พันธุ์เทียม และกลายพันธุ์ ทั้งที่อิรัคและที่ซีเรีย ส่วนความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านชื่ออิสราเอล ก็ยังบูดเหมือนเดิม ไม่มีทีท่าว่าจะมองหน้าและยิ้มให้กันได้ แต่ที่น่าเป็นห่วงกว่าเพื่อน น่าจะเป็นเรื่องอิหร่าน ซึ่งถึงจะอยู่ห่างกันคนละฟาก แต่ซาอุดิก็เห็นอิหร่านเป็นคู่แข่งรัศมี ชิงความเป็นพี่ใหญ่ในตะวันออกกลางกันมาตลอด อิหร่านกำลังก้มหน้าก้มตาพัฒนาระบบนิวเคลียร์ ที่อ้างว่าไม่ไช่เป็นอาวุธนะ อย่าเข้าใจผิด แต่ถึงอย่างนั้น ซาอุดิก็หงุดหงิด ไม่พอใจ จะพอใจได้ยังไง ก็ตัวเองยังไม่มีนิวเคลียร์กับ เขาสักลูก แถมอาวุธที่มีอยู่ ยังต้องกัดฟันซื้อ โดยเฉพาะจากอเมริกา นึกว่าเขาให้ฟรีๆหรือ เปล่าหรอก แค่ลดราคาให้เท่านั้นเอง เค็มชะมัด แบบนี้ไม่หงุดหงิดได้ไง แต่ที่ไม่พอใจมากที่สุด คือไม่พอใจในอากัปกริยา ท่าทีของอเมริกา มากกว่า ซาอุดิอารเบียกับอเมริกา มีความสัมพันธ์ยาวนาน และแข็งแรงอย่างเป็นทางการมาประมาณ 70 ปีแล้ว ตั้งแต่ประธานาธิบดี Franklin D Roosevelt กับกษัตริย์ Abd al-Aziz ibn Sa’ud ผู้ก่อตั้งราชอาณาจักรซาอุดิอารเบีย นั่งจับมือกันบนเรือรบ USS Quincy เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1945 แต่ในความเป็นจริง ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ จะแข็งแรงมากน้อยขนาดไหนไม่มีใครรู้ดี มีนักวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ ทั้ง 2 ประเทศ อุปมาไว้น่าฟังว่า มันเหมือนการแต่งงาน เพื่อความเหมาะสม a marriage for convenience ไม่ใช่มาจากรักแรกพบ หรือรักแบบดูดดื่มฝังใจ เพาะบ่มรอกันมา 20 ปี เมื่อเป็นการแต่งงาน เพื่อความเหมาะสม จะให้หวือหวา หวานชื่นกันตลอด คงเป็นไปไม่ได้ มันคงจะเป็นประเภท ต่างก็ยี่ต๊อกใส่กันว่า ฉันได้มากกว่าเสีย หรือเธอได้มากกว่าฉันหรือเปล่า ทำนองนั้น เรื่องอะไรที่ไม่พอใจ ตราบใดที่บัญชีของทั้ง 2 ฝ่าย ยังไม่เป็นตัวแดง ก็ยังคงกล้อมแกล้ม กัดฟันอยู่กันต่อไป ตลอดการอยู่ร่วมกันของคู่แต่งงาน ซาอุดิฉุนจัดครั้งแรก ก็เมื่ออเมริกามีทีท่าว่าจะมีใจให้กับอิสราเอล สาวข้างบ้าน ที่อเมริกาให้การรับรองเมื่อปี ค.ศ.1948 แต่มันเป็นช่วงระหว่างการก่อร่างสร้างเมืองของซาอุดิ กษัตริย์ Abd al-Aziz จึงต้องกัดฟันมองไปทางอื่นแทน ขณะที่รอบข้างกดดันให้ยกเลิกสัมปทาน ที่ซาอุดิให้แก่ Aramco ของอเมริกาตั้งแต่ ค.ศ.1933 หลังจากนั้น ก็มีเรื่องการสั่งห้ามซื้อขายน้ำมัน Oil Embargo ระหว่างกลุ่มค้าน้ำมันชาติอาหรับ กับกลุ่มตะวันตกในปี ค.ศ.1973-74 ซึ่งเป็นการเล่นกล หลอกต้มทั้งคนขายน้ำมันและคนใช้ น้ำมัน โดยพวกนักการเงินวอลสตรีท ที่จัดฉากโดยนาย Henry Kissinger ตัวแสบ ภายใต้การชักใยของ พวกโคตรรวย Rockefeller แต่เรื่องนี้มันก็ลงความเห็นยากว่า ฝ่ายไหนเสียมากกว่า ดูเหมือนจะเป็นมวยล้มต้มคนดู พวกที่เสียหายจริงๆ น่าจะเป็นพวกซื้อน้ำมัน จนแล้วยังทำซ่า อยากเป็นเสือตัวที่ห้ามากกว่า ไปอ่านรายละเอียดได้ จากนิทานเรื่องมายากลยุทธนะครับ ซาอุดิ เริ่มขัดใจจริงๆ น่าจะเป็นเรื่องการบุกเข้าไปขยี้อิรัคของอเมริกา ไม่ใช่เพราะซาอุดิใจอ่อนสงสารอิรัคหรอก อย่าเข้าใจผิด แต่ซาอุดิเห็นว่า เป็นการทำให้ดุลยอำนาจในภูมิภาคเอียง ไปเข้าทางอิหร่านมากกว่า เพราะเป็นการเปิดทางให้อิหร่าน เข้าไปสนับสนุนกลุ่ม Nouri al-Maliki ขึ้นมามีอำนาจในอิรัค หลังจากซัดดัมถูกโค่น และทำให้อิรัคกับอิหร่าน ก็ใกล้เคียงกับการเป็นคอหอยกับลูกกระเดือกกันตั้งแต่บัดนั้น มันเป็นการเสริมบารมี เสริมกำลัง ให้กับอิหร่านมากขึ้น เกินกว่าที่ซาอุดิ จะไม่สนใจ แต่ที่เป็นหนามตำใจมาตลอด คือเรื่องสาวข้างบ้าน อิสราเอลนั่นแหละ ที่ทำให้ซาอุดิเห็นว่า อเมริกา ตาชั่งเอียงจนน่าเกลียด เรื่องนี้ไม่มีทางแก้แน่นอน ซาอุดิรู้ดีอยู่แก่ใจ มีแต่ทางเดินออก ซาอุดิจะกล้าเดินออกไหมเท่านั้น พอไปรวมกับเรื่องอียิปต์ ซึ่งซาอุดิเห็นว่า ขนาด Hosni Mubarak ผู้ซึ่งเป็นลูกหาบที่ซื่อสัตย์มาให้อเมริกา 30 กว่าปี อเมริกายังโยนทิ้งเฉย ปล่อยให้ Muslim Brotherhood มุสลิมหัวรุนแรงที่ไม่เอาพวกตะวัน ตก ขึ้นมาปกครองอียิปต์แทน แน่นอน ซาอุดิต้องหงุดหงิด กลุ้มใจ จนหน้าคล้ำหนักไปกว่าเดิม แบบนี้แปลว่าอะไร อเมริกาไม่สนใจหรือว่า มันจะยิ่งสร้างความไม่มั่นคงในตะวันออกกลางมากขึ้น เผลอๆ เรื่องแบบนี้อาจจะเกิดที่ซาอุดิก็ได้ อเมริกาปล่อยให้เป็นอย่านี้ได้อย่างไร เรื่องอิสราเอลยังแก้ไม่ออก เรื่องอียิปต์ดันมาเกิดขึ้นต่อ บวกกับเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่านที่ยังค้างคา นี่ยังมามีเรื่องซีเรียอีก เรื่องซีเรียที่ซาอุดิก็ไม่รัก เอะ เสี่ยซาอุรักใครมั่งนะ ชักสงสัย สู้กันมา3 ปีกว่าแล้ว เรื่องยังไม่จบเสียที ไอ้เจ้า Assad นี่มันทนทายาด แล้วอเมริกาก็ดันประกาศ (ในปี ค.ศ. 2013) ว่าจะไม่ใช้กองกำลังจัดการเรื่องซีเรีย โอ้ย กลุ้มใจโว้ย ยังถอนใจไม่หายเหนื่อย หน่อไอซิสก็ทะลี่งได้ปุ๋ยดี บานเต็มท้องทุ่งซีเรีย อิรัค นี่ถ้ามันดันชอบอากาศแถวซาอุดิ มางอกต่อแถวนี้ พวกซาอุดิจะเอาอยู่ไหม หงุดหงิดแล้ว ก็เลยพาลน้อยใจต่อ ซาอุดิน้อยใจ คิดหนัก คิดจริงจังคือ เรื่องอิหร่าน (อีกแล้ว) การเจรจา ระหว่างพวกตะวันตกกับอิหร่าน เรื่องการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ซาอุดิมองว่า ถ้าการเจรจาเข้าทางอิหร่าน ตะวันออกกลาง โดยเฉพาะฝ่ายของซาอุดิจะเสียเปรียบ และอาจจะถึงเสียหายเลยทีเดียว ฝ่ายที่มีนิวเคลียร์ในตะวันออกกลาง คือฝ่ายที่มีอำนาจควบคุมอ่าวเปอร์เซีย รวมไปทั้งตะวันออกกลาง ที่สำคัญ ซาอุดิมองว่า การใช้วิธีเจรจากับอิหร่าน ดูเหมือนเป็นการเริ่มกลับมาสานสัมพันธ์ใหม่ระหว่างอเมริกากับอิหร่าน อย่าลืมว่าคู่นี้ เขาเคยเป็นคู่รัก คู่แค้นกันมาก่อน หรือถ่านไฟเก่ามันจะคุขึ้นมาใหม่ ?!?! (2) ตกลงอเมริกากำลัง “shifting away” หันเหไปจากสัมพันธ์พิเศษกับซาอุดิหรือ มันดูเหมือนมีอาการของการนอกใจ ที่มองเห็นได้จากทั้งฝ่ายซาอุดิและฝ่ายอเมริกาเอง ทางฝ่ายซาอุดินั้น อดีตหัวหน้าหน่วยงานข่าวกรอง และอดีตฑูตซาอุดิประจำอเมริกา Prince Bandar bin Sultan พูดตั้งแต่ปลายปี 2013 แล้วว่า ทางซาอุดิอาจจะมีการเปลี่ยนแนวทางของความสัมพันธ์ ระหว่างซาอุดิกับอเมริกา เป็นการประท้วงอเมริกาที่ไม่ขยับอะไรเลย เกี่ยวกับเรื่องการรบในซีเรีย รวมทั้งการที่อเมริกามีท่าที เหมือนจะไปสานสัมพันธ์ใหม่กับอิหร่าน อ้อ เรื่องนี้เอง ที่มันคาใจคนนอนเตียงเดียวกัน คำพูดของ Prince Bandar คนเดียวคงไม่พอ Prince Turki al-Faisal อดีตหัวหน้าสายลับ และฑูตซาอุดิประจำสหประชาชาติ ออกมาทำเสียงเข้มว่า นโยบายเกี่ยวกับซีเรีย ของนายโอบามา ฟังแล้วน่าเศร้าใจ พร้อมกับบอกว่า ข้อตกลงระหว่างรัสเซียกับอเมริกา เรื่องการห้ามมิให้ Assad ใช้อาวุธเคมี เป็นหลุมพรางล่อให้อเมริกาตกพลั่ก เขวไปจากการใช้กำลังทหารจัดการในซีเรีย เขาต่อว่ากันแรงดีนะครับ ไม่เหมือนสมันน้อย คำน้อยคำ ก็ไม่ค่อยจะกล้าออกมาพาดพิงถึงลูกพี่ เชื่องดีจัง ( ช ช้างสะกดนะครับ ไม่ใช่ ข ไข่ เดี๋ยวจะเข้าใจกันผิด ฮา) นักจัดรายการทีวีชาวอเมริกัน Fred Kaplan วิจารณ์ว่า คำพูดของฝ่ายซาอุดิในเรื่องนี้ เหมือน “game of high-way chicken” เขาเตือนนายโอบามาว่า ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไก่อาจหลุดมือ วิ่งหายไปได้ หรือโอบามาไม่สนใจ เพราะอเมริกากำลังตื่นเต้นกับการค้นพบพลังงานใหม่ ที่จะไม่ต้องพึ่งจมูกคนอื่นหายใจแล้ว หรือปล่อยให้ไก่วิ่งจนเหนื่อยก่อน หลังจากนั้น ขบวนการกดดันอเมริกาโดยกลุ่ม Gulf Cooperation Council (GCC) ลูกน้องคุณพี่ซาอุก็เกิดขึ้น นำโดยอาหรับอามิเรต และกาต้าร์เศรษฐีใหญ่ทั้งคู่ ออกโรงเดินสายคุยกับพวกถังความคิด Think Tank ของอเมริกา พร้อมเอาเงินบริจาคกล่องใหญ่ไปฝาก การลงทุนได้ผล ถังความคิดรีบออกรายงานทันที อเมริกาจะปล่อยให้พรรคพวกในตะวันออกกลาง แก้ไขปัญหาเรื่องซีเรียกับไอซิส โดยลำพังหรือ มันดูเหมือนอเมริกากำลังทิ้งเพื่อนที่มีความสัมพันธ์พิเศษนะ เพราะถ้าพวกเขาจัดการไม่ได้ คนที่จะตกที่นั่งลำบากคืออเมริกา แหม! นึกว่าถังความคิดชั้นนำระดับโลกจะสั่งไม่ได้ มีเงินจ่ายก็ใช้ได้ทั้งนั่นแหละครับ อเมริกา ถึงยังทิ้งกระบองยอดเพชร ที่อยู่ด้วยกันมานานถึง 70 ปี ไม่ลง นายโอบามา ทำหน้าชื่นไปหากษัตริย์ Abdullah เมื่อประมาณเดือนมีนาคมปีที่แล้ว หลังจากนั่งปรับความไม่เข้าใจกัน การแถลงข่าวภายหลังการปรับคลื่น สรุปว่าทั้ง 2 ฝ่าย มีการหารือกัน เรื่องซีเรีย เรื่องการป้องกันไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ การร่วมกันต่อต้านการก่อการร้าย และสนับสนุนการเจรจา เพื่อให้มีสันติภาพเกิดขึ้นในตะวันออกกลาง (จากการแถลงข่าวของ ทำเนียบขาว เมื่อ 28 มีนาคม 2014) เอกสารที่แจกในการแถลงข่าว บอกด้วยว่าซาอุดิอารเบีย เป็นลูกค้าต่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ที่ซื้ออาวุธของอเมริกา U S Foreign Military Sales (FMS) คือประมาณ 97 พันล้านเหรียญ และอเมริกา ส่งสินค้าออกไปยังซาอุดิอารเบียในปี 2013 จำนวน 35 พันล้านเหรียญ และขณะนี้มีชาวซาอุดิ ประมาณ 8 หมื่นคน เรียนหนังสืออยู่ในอเมริกา อืม ดูเหมือนจะเป็นรายงาน ที่แปลงความสัมพันธ์เป็นตัวเงิน (รายได้) ของอเมริกา มากกว่าจะเป็นการให้ข้อมูล ที่ทำให้เกิดความเข้าใจกันมากขึ้น นอกจากนี้ การรายงานข่าวของสื่อในช่วงนั้น ยังสรุปไปทิศทางเดียวกันว่า แม้จะมีความเห็นไม่สอดคล้องกันทุกเรื่อง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับซาอุดิอารเบีย ก็ยังไม่ถึงขั้นแตกหัก not broken เตียงยังไม่หัก ไม่ชำรุดขาเตียงยังอยู่ครบดี ไม่ว่าจะเป็น การร่วมมือทางการต่อต้านผู้ก่อการร้าย การทหาร การธุรกิจและด้านยุทธศาสตร์ อู้ย พูดกันรู้เรื่องดีคร้าบ แต่ก็คงจะเร็วไป ที่จะสรุปว่าคู่นี่เขาจะยังมั่นคงกันดีตลอดไป เพราะมันก็ยังเห็นรอยร้าวค้างอยู่ และแม้จะยังไม่ถึงกับทำให้ซาอุดิอารเบีย แยกทางกับอเมริกา แต่ซาอุดิอารเบียก็บอกว่า ไม่ปิดทางตัวเองที่จะมองหาหุ้นส่วนรายใหม่เช่นเดียวกัน นโยบายไม่แทงม้าตัวเดียว ไม่ใช่มีแต่อเมริกาเท่านั้นที่เล่นเป็น เอะ แล้วใครนะที่ซาอุดิอารเบีย เริ่มเจรจาต้าอวยไว้ (3) ถังความคิดตัวแสบ CSIS Think Tank ได้ออกรายงานการวิเคราะห์ The True Nature of the Saudi Succession “Crisis” วิกฤติตามธรรมชาติของการสืบสันตติวงศ์ของ Saudi เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2015 นี้ก่อนการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์ Abdullah ไม่นานนัก รายงานสรุปว่า กษัตริย์ Abdullah ได้เตรียมการล่วงหน้ามานานแล้วอย่างเรียบร้อยดี ทั้งเรื่องในพระราชวงศ์ เรื่องในประเทศ ทั้งด้านศาสนา และรัฐบาล รวมทั้งเรื่องการต่างประเทศ เท่าที่จะทำได้ แน่นอนหลายปัจจัย ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูความเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะต้องมีตามสภาพ….รายงานแจงค่อนข้างละเอียดว่า เตรียมการอะไร ใครเป็นใคร ตามประสา นิสัยเสือกทุกเรื่องของอเมริกา แต่ที่น่าจะสนใจคือ บางส่วนที่รายงานการวิคราะห์ดังกล่าวระบุถึง ซึ่งไม่ได้เกี่ยว หรือมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนกษัตริย์ผู้ปกครอง แต่เป็นเรื่องที่รายงานการวิเคราะห์ ระบุถึงสภาพสังคมของซาอุดิอารเบีย เป็นส่วนของรายงานที่บอกว่า ปี 2015 ซาอุดิจะมีประชากรประมาณ 27.8 ล้านคน ปี 2025 จะมี 31.9 ล้านคน และปี 2050 จะมีประชากร 40.3 ล้านคน ปัจจุบัน ซาอุดิอารเบียเป็นสังคมที่มีวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ และอยู่ในวัยที่ต้องทำงานแต่ไม่ทำงาน โดยอยู่ด้วยสวัสดิการของรัฐ มีตลาดแรงงานประมาณ 8.4 ล้านคน แต่เป็นชาวซาอุดิเพียง 1.7 ล้านคน ที่ผ่านมา ซาอุดิรับมือกับวัยรุ่นจำนวนมากที่ไม่ทำงานได้พอสมควร เพราะที่ผ่านมา ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่สูงกว่าปัจจุบันมากมาย ขณะที่อัตราประชากรเพิ่ม และมีคนไม่ยอมทำงาน แต่รายรับของประเทศ ซึ่งมาจากน้ำมันอย่างเดียว ลดลง ตามราคาน้ำมันโลก (หรือจากการร่วมมือกันกดราคาน้ำมันก็ตาม) ขณะเดียวกัน ซาอุดิก็มีรายจ่ายเกี่ยวกับความ มั่นคงของรัฐ สูงที่สุดในโลก ซาอุดิ มีสตรูมากหน้า ทั้งที่เป็นรัฐ และไม่ใช่รัฐ รวมทั้งมีก่อการร้ายเสมอ จากการที่เป็นผู้ดูแลสถานที่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทบ.ยืนยันกองทัพไทยไม่เคยใช้อาวุธเคมีในการปฏิบัติการ ชี้กัมพูชาบิดเบือนอ้างไทยใช้อาวุธเคมี หวังสร้างความเข้าใจผิดเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือจากต่างชาติ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000100197

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทบ.ยืนยันกองทัพไทยไม่เคยใช้อาวุธเคมีในการปฏิบัติการ ชี้กัมพูชาบิดเบือนอ้างไทยใช้อาวุธเคมี หวังสร้างความเข้าใจผิดเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือจากต่างชาติ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000100197 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'เขมร' แถลงการณ์ขอเงินทุนจากนานาชาติ อ้างทำลาย "สารเคมีอันตรายกว่า 70 ชนิด" จากอาวุธของไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/21978/
    .
    #ไทยไท #กัมพูชา #อาวุธเคมี #ฟอสฟอรัสขาว #NACW #เรียกร้องเงินทุน #ความขัดแย้งชายแดน

    'เขมร' แถลงการณ์ขอเงินทุนจากนานาชาติ อ้างทำลาย "สารเคมีอันตรายกว่า 70 ชนิด" จากอาวุธของไทย https://www.thai-tai.tv/news/21978/ . #ไทยไท #กัมพูชา #อาวุธเคมี #ฟอสฟอรัสขาว #NACW #เรียกร้องเงินทุน #ความขัดแย้งชายแดน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล รบกับเฟกนิวส์กัมพูชา

    การปรากฎตัวครั้งแรกของ พลเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล ที่ปรึกษากรมวิทยาศาสตร์ทหารบก และผู้เชี่ยวชาญด้านเคมี ชีวะ รังสีและนิวเคลียร์ ร่วมแถลงข่าวกับโฆษกกองทัพบก เมื่อวันที่ 15 ส.ค. เพื่อนำเสนอข้อมูลกรณีที่กัมพูชากล่าวหาว่าไทยใช้อาวุธเคมีโจมตีทหารกัมพูชา ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง นับเป็นปรากฎการณ์ที่น่าสนใจ เพราะระดับพระองค์ชายกุ๊กไก่ลงมาแถลงข่าวด้วยเอง ตอกย้ำว่าสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชาไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อีกต่อไป

    พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล กล่าวว่า ไทยและกัมพูชาเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (CWC) และพิธีสารเจนีวา ค.ศ. 1925 ว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธเคมี ซึ่งไทยได้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ที่กัมพูชานำภาพที่อ้างว่าเครื่องบินโปรยสารสีแดงนั้น เป็นภาพจากสหรัฐอเมริกาในเหตุการณ์ดับไฟป่า ไม่ใช่เหตุการณ์จริง หากกัมพูชาสงสัยต้องนำหลักฐานฟ้ององค์การห้ามอาวุธเคมี (OPCW) ที่เนเธอร์แลนด์ แต่กัมพูชาไม่เคยใช้ช่องทางนี้ กลับกล่าวหาลอยๆ ให้ประชาชนทั้งสองฝ่ายตื่นตระหนก

    ที่ผ่านมาหลายประเทศไม่เชื่อกัมพูชาเพราะถูกจับเท็จได้ แต่มีบางประเทศหรือกลุ่มบุคคลที่ไม่ชัดเจนพยายามจะมาจิกไทย ยังไม่เลิก และพยายามขุดเรื่องย้อนหลังไป เหตุที่ออกมาเปิดตัวเพราะรำคาญเสียงนกเสียงกา กัมพูชาเล่นไม่เลิก จึงจำเป็นต้องออกมาเพื่อกระจายความน่าเชื่อถือออกไป ส่วนที่ พล.ท.หญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกข่าวเท็จบ่อยครั้ง เพราะเขามีเจ้านาย เจ้านายสั่้งอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ไม่งั้นโดนไล่ออก

    สำหรับพระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล เป็นพระโอรสในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร และหม่อมทองแถม ยุคล ณ อยุธยา เป็นนายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ มีความเชี่ยวชาญด้านเคมี ชีวะ รังสีและนิวเคลียร์ สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนรังสีวิทยาและนิวเคลียร์เคมีชีวภาพกองทัพบกสหรัฐ (CBRN) ได้รับการแต่งตั้งจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเคมี เคยเป็นผู้ตรวจอาวุธเคมีที่ประเทศอิรักในปี 2534

    ก่อนหน้านี้มีข่าวปลอมที่กัมพูชากล่าวหาว่าไทยใช้อาวุธเคมีโจมตีทหารกัมพูชา หนึ่งในนั้นคือเพจสถานทูตกัมพูชาในบัลแกเรีย โพสต์ภาพเครื่องบินโปรยสารสีชมพู กล่าวหาว่าไทยใช้อาวุธเคมีสังหารพลเรือน ขณะเดียวกัน พล.ท.หญิง มาลี แถลงข่าวเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ว่ากองทัพไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชาและใช้อาวุธเคมีปฏิบัติการทางทหาร เมื่อตรวจสอบก็พบว่าเป็นภาพถูกบิดเบือนจากเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้อง ด้านกระทรวงต่างประเทศยืนยันว่า ไทยปฏิบัติตามอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี

    #Newskit

    (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะเผยแพร่ใน Facebook และ IG วันจันทร์ที่ 18 ส.ค. 2568)
    พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล รบกับเฟกนิวส์กัมพูชา การปรากฎตัวครั้งแรกของ พลเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล ที่ปรึกษากรมวิทยาศาสตร์ทหารบก และผู้เชี่ยวชาญด้านเคมี ชีวะ รังสีและนิวเคลียร์ ร่วมแถลงข่าวกับโฆษกกองทัพบก เมื่อวันที่ 15 ส.ค. เพื่อนำเสนอข้อมูลกรณีที่กัมพูชากล่าวหาว่าไทยใช้อาวุธเคมีโจมตีทหารกัมพูชา ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง นับเป็นปรากฎการณ์ที่น่าสนใจ เพราะระดับพระองค์ชายกุ๊กไก่ลงมาแถลงข่าวด้วยเอง ตอกย้ำว่าสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชาไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อีกต่อไป พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล กล่าวว่า ไทยและกัมพูชาเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (CWC) และพิธีสารเจนีวา ค.ศ. 1925 ว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธเคมี ซึ่งไทยได้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ที่กัมพูชานำภาพที่อ้างว่าเครื่องบินโปรยสารสีแดงนั้น เป็นภาพจากสหรัฐอเมริกาในเหตุการณ์ดับไฟป่า ไม่ใช่เหตุการณ์จริง หากกัมพูชาสงสัยต้องนำหลักฐานฟ้ององค์การห้ามอาวุธเคมี (OPCW) ที่เนเธอร์แลนด์ แต่กัมพูชาไม่เคยใช้ช่องทางนี้ กลับกล่าวหาลอยๆ ให้ประชาชนทั้งสองฝ่ายตื่นตระหนก ที่ผ่านมาหลายประเทศไม่เชื่อกัมพูชาเพราะถูกจับเท็จได้ แต่มีบางประเทศหรือกลุ่มบุคคลที่ไม่ชัดเจนพยายามจะมาจิกไทย ยังไม่เลิก และพยายามขุดเรื่องย้อนหลังไป เหตุที่ออกมาเปิดตัวเพราะรำคาญเสียงนกเสียงกา กัมพูชาเล่นไม่เลิก จึงจำเป็นต้องออกมาเพื่อกระจายความน่าเชื่อถือออกไป ส่วนที่ พล.ท.หญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกข่าวเท็จบ่อยครั้ง เพราะเขามีเจ้านาย เจ้านายสั่้งอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ไม่งั้นโดนไล่ออก สำหรับพระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล เป็นพระโอรสในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร และหม่อมทองแถม ยุคล ณ อยุธยา เป็นนายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ มีความเชี่ยวชาญด้านเคมี ชีวะ รังสีและนิวเคลียร์ สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนรังสีวิทยาและนิวเคลียร์เคมีชีวภาพกองทัพบกสหรัฐ (CBRN) ได้รับการแต่งตั้งจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเคมี เคยเป็นผู้ตรวจอาวุธเคมีที่ประเทศอิรักในปี 2534 ก่อนหน้านี้มีข่าวปลอมที่กัมพูชากล่าวหาว่าไทยใช้อาวุธเคมีโจมตีทหารกัมพูชา หนึ่งในนั้นคือเพจสถานทูตกัมพูชาในบัลแกเรีย โพสต์ภาพเครื่องบินโปรยสารสีชมพู กล่าวหาว่าไทยใช้อาวุธเคมีสังหารพลเรือน ขณะเดียวกัน พล.ท.หญิง มาลี แถลงข่าวเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ว่ากองทัพไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชาและใช้อาวุธเคมีปฏิบัติการทางทหาร เมื่อตรวจสอบก็พบว่าเป็นภาพถูกบิดเบือนจากเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้อง ด้านกระทรวงต่างประเทศยืนยันว่า ไทยปฏิบัติตามอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี #Newskit (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะเผยแพร่ใน Facebook และ IG วันจันทร์ที่ 18 ส.ค. 2568)
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 601 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมี ชีวะ รังสี และนิวเคลียร์ ยืนยันข้อกล่าวหากัมพูชา ระบุว่าไทยใช้อาวุธเคมีโจมตีเป็นเท็จ หากมีข้อสงสัยให้ส่งหลักฐานไปที่องค์การห้ามอาวุธเคมี ประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่กลับไม่ทำนอกจากใช้ภาพปลอม

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000077717

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมี ชีวะ รังสี และนิวเคลียร์ ยืนยันข้อกล่าวหากัมพูชา ระบุว่าไทยใช้อาวุธเคมีโจมตีเป็นเท็จ หากมีข้อสงสัยให้ส่งหลักฐานไปที่องค์การห้ามอาวุธเคมี ประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่กลับไม่ทำนอกจากใช้ภาพปลอม อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000077717 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 494 มุมมอง 0 รีวิว
  • "รำคาญเสียงนกเสียงกา!!" "พระองค์เจ้าเฉลิมศึก" ออกโรงแฉ...กัมพูชาโกหกเรื่องอาวุธเคมี...ชี้ภาพที่ใช้เป็นของปลอม-ไม่มีหลักฐาน
    https://www.thai-tai.tv/news/20952/
    .
    #พระองค์เจ้าเฉลิมศึก #อาวุธเคมี #ชายแดนไทยกัมพูชา #OPCW #ข่าวความมั่นคง #ไทยไท

    "รำคาญเสียงนกเสียงกา!!" "พระองค์เจ้าเฉลิมศึก" ออกโรงแฉ...กัมพูชาโกหกเรื่องอาวุธเคมี...ชี้ภาพที่ใช้เป็นของปลอม-ไม่มีหลักฐาน https://www.thai-tai.tv/news/20952/ . #พระองค์เจ้าเฉลิมศึก #อาวุธเคมี #ชายแดนไทยกัมพูชา #OPCW #ข่าวความมั่นคง #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมี ชีวะ รังสีและนิวเคลียร์ ชี้กัมพูชามั่ว กล่าวหาไทยใช้อาวุธเคมีโจมตี ทั้งที่ไทยและกัมพูชาต่างเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี ท้าถ้าเป็นจริงให้นำหลักฐานฟ้ององค์การห้ามอาวุธเคมีที่เนเธอร์แลนด์เลย ไม่ใช่เอาภาพปลอมกล่าวหาทั้งในกัมพูชาและต่างประเทศ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000077704

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมี ชีวะ รังสีและนิวเคลียร์ ชี้กัมพูชามั่ว กล่าวหาไทยใช้อาวุธเคมีโจมตี ทั้งที่ไทยและกัมพูชาต่างเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี ท้าถ้าเป็นจริงให้นำหลักฐานฟ้ององค์การห้ามอาวุธเคมีที่เนเธอร์แลนด์เลย ไม่ใช่เอาภาพปลอมกล่าวหาทั้งในกัมพูชาและต่างประเทศ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000077704 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Love
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 813 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อต่างประเทศรายงาน พบพวกผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ใช้ภาพเครื่องบินรบปล่อยควันสี กล่าวหากองทัพไทยใช้อาวุธเคมีกับกัมพูชา แต่จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามันมาจากคลิปเก่าของงานแอร์โชว์หนึ่งในมาเลเซีย ประเทศที่เป็นคนกลางในข้อตกลงหยุดยิงระหว่าง 2 ชาติ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000076640

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สื่อต่างประเทศรายงาน พบพวกผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ใช้ภาพเครื่องบินรบปล่อยควันสี กล่าวหากองทัพไทยใช้อาวุธเคมีกับกัมพูชา แต่จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามันมาจากคลิปเก่าของงานแอร์โชว์หนึ่งในมาเลเซีย ประเทศที่เป็นคนกลางในข้อตกลงหยุดยิงระหว่าง 2 ชาติ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000076640 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 909 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทบ. ไล่ไทม์ไลน์สู้รบ ฟ้องคณะทูต ยันกัมพูชาเริ่มก่อน จัดกิจกรรมยั่วยุ รุกอธิปไตย เปิดฉากยิงสู่การสู้รบ โจมตีพลเรือน ใช้ประชาชนโล่มนุษย์ บิดเบือนข้อมูลให้ร้ายไทยใช้อาวุธเคมี ทิ้งบอมบ์ใส่บ้านเรือน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000072825

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทบ. ไล่ไทม์ไลน์สู้รบ ฟ้องคณะทูต ยันกัมพูชาเริ่มก่อน จัดกิจกรรมยั่วยุ รุกอธิปไตย เปิดฉากยิงสู่การสู้รบ โจมตีพลเรือน ใช้ประชาชนโล่มนุษย์ บิดเบือนข้อมูลให้ร้ายไทยใช้อาวุธเคมี ทิ้งบอมบ์ใส่บ้านเรือน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000072825 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 688 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทบ. ไล่ไทม์ไลน์สู้รบ ฟ้องคณะทูต ยันกัมพูชาเริ่มก่อน จัดกิจกรรมยั่วยุ รุกอธิปไตย เปิดฉากยิงสู่การสู้รบ โจมตีพลเรือน ใช้ประชาชนโล่มนุษย์ บิดเบือนข้อมูลให้ร้ายไทยใช้อาวุธเคมี ทิ้งบอมบ์ใส่บ้านเรือน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000072870

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทบ. ไล่ไทม์ไลน์สู้รบ ฟ้องคณะทูต ยันกัมพูชาเริ่มก่อน จัดกิจกรรมยั่วยุ รุกอธิปไตย เปิดฉากยิงสู่การสู้รบ โจมตีพลเรือน ใช้ประชาชนโล่มนุษย์ บิดเบือนข้อมูลให้ร้ายไทยใช้อาวุธเคมี ทิ้งบอมบ์ใส่บ้านเรือน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000072870 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1112 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้แต่เพจของพระบาท​สมเด็จ​พระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี กษัตริย์​กัมพูชา ก็เผยแพร่ "ข่าวปลอม" โดยกล่าวหาว่าไทยใช้อาวุธ​เคมีโจมตีกัมพูชา ซึ่งเป็นข้อหาร้ายแรง เพราะผิดทั้งพิธีสารเจนีวา 1925, อนุสัญญา​ว่าด้วย​อาวุธเคมี(CWC),อนุสัญญา​เจนีวาและพิธีสารเพิ่มเติม
    .
    https://www.facebook.com/share/p/15BCKBQSxR/
    แม้แต่เพจของพระบาท​สมเด็จ​พระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี กษัตริย์​กัมพูชา ก็เผยแพร่ "ข่าวปลอม" โดยกล่าวหาว่าไทยใช้อาวุธ​เคมีโจมตีกัมพูชา ซึ่งเป็นข้อหาร้ายแรง เพราะผิดทั้งพิธีสารเจนีวา 1925, อนุสัญญา​ว่าด้วย​อาวุธเคมี(CWC),อนุสัญญา​เจนีวาและพิธีสารเพิ่มเติม . https://www.facebook.com/share/p/15BCKBQSxR/
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • การที่ฝ่ายกัมพูชา กล่าวหาไทยว่าใช้อาวุธเคมี เป็น "ข้อกล่าวหาเท็จ" ที่ "ไม่มีมูลมาจากความจริงแต่อย่างใด" ซึ่งเป็นเพียง "Fake News" ที่ปรากฏในสื่อสังคมของทางกัมพูชาเท่านั้น
    #TeamThailand
    #ข้อกล่าวหาเท็จ
    #กองทัพไทย #กองทัพอากาศ
    การที่ฝ่ายกัมพูชา กล่าวหาไทยว่าใช้อาวุธเคมี เป็น "ข้อกล่าวหาเท็จ" ที่ "ไม่มีมูลมาจากความจริงแต่อย่างใด" ซึ่งเป็นเพียง "Fake News" ที่ปรากฏในสื่อสังคมของทางกัมพูชาเท่านั้น #TeamThailand #ข้อกล่าวหาเท็จ #กองทัพไทย #กองทัพอากาศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สถานการณ์ตะวันออกกลางขณะนี้"

    สหรัฐกำลัง "สร้างข้ออ้าง" เพื่อหาทางทำลายอิหร่าน เช่นเดียวกับที่ จอร์จ บุช เคยทำกับอิรักมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยอ้างว่าอิรักมีอาวุธเคมี!!!

    "อิหร่านไม่สามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ได้ เราจะไม่อนุญาตให้มีมัน" ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวไว้ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน

    ทอม คอตตอน วุฒิสมาชิกของสหรัฐ และอดีตทหารผ่านศึกกในสงครามอิรัก ระบุว่า "พีท เฮกเซธ" รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่าอิหร่านกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และอเมริกาต้องหยุดยั้งการกระทำดังกล่าว

    อิสราเอลแจ้งต่อสหรัฐ พร้อมแล้วสำหรับปฏิบัติการโจมตีอิหร่าน

    สหรัฐแจ้งเตือนฐานทัพของพวกเขาทั่วโลกให้เตรียมพร้อมรับมือขั้นสูงสุด

    สหรัฐอเมริกามีคำสั่งอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากสถานทูตในหลายประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมทั้งสมาชิกครอบครัวและบุคลากรที่ไม่จำเป็น

    อิหร่านประกาศพร้อมโจมตีฐานทัพสหรัฐทันทีทั่วทั้งตะวันออกกลาง รวมทั้งอิสราเอล หากมีการดเปิดฉากโจมตีอิหร่าน

    รัฐมนตรีกลาโหมอิหร่าo ประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธที่มีหัวรบขนาด 2 ตัน



    "สถานการณ์ตะวันออกกลางขณะนี้" สหรัฐกำลัง "สร้างข้ออ้าง" เพื่อหาทางทำลายอิหร่าน เช่นเดียวกับที่ จอร์จ บุช เคยทำกับอิรักมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยอ้างว่าอิรักมีอาวุธเคมี!!! 👉"อิหร่านไม่สามารถมีอาวุธนิวเคลียร์ได้ เราจะไม่อนุญาตให้มีมัน" ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวไว้ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน 👉ทอม คอตตอน วุฒิสมาชิกของสหรัฐ และอดีตทหารผ่านศึกกในสงครามอิรัก ระบุว่า "พีท เฮกเซธ" รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่าอิหร่านกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และอเมริกาต้องหยุดยั้งการกระทำดังกล่าว 👉อิสราเอลแจ้งต่อสหรัฐ พร้อมแล้วสำหรับปฏิบัติการโจมตีอิหร่าน 👉สหรัฐแจ้งเตือนฐานทัพของพวกเขาทั่วโลกให้เตรียมพร้อมรับมือขั้นสูงสุด 👉สหรัฐอเมริกามีคำสั่งอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากสถานทูตในหลายประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมทั้งสมาชิกครอบครัวและบุคลากรที่ไม่จำเป็น 👉อิหร่านประกาศพร้อมโจมตีฐานทัพสหรัฐทันทีทั่วทั้งตะวันออกกลาง รวมทั้งอิสราเอล หากมีการดเปิดฉากโจมตีอิหร่าน 👉รัฐมนตรีกลาโหมอิหร่าo ประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธที่มีหัวรบขนาด 2 ตัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 383 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาวุธนิวเคลียร์ตอนนี้มันไม่น่ากลัวเท่าอาวุธชีวภาพหรืออาวุธเคมีแล้วจับมือคนทำก็ไม่ได้"ยิ่งโครงการ ฮารป์ฟิสิกส์อันตรายและไม่รู้เลยว่าใครทำๆจริงหรือไม่"ไร้หลักฐานกลายเป็นทฤษฎีสมคบคิดไปเลยว่าเป็น"เท็จ เพราะไม่มีหลักฐานไง เหมือนการคอรัปชั่นจะมาขอหลักฐานใบเสร็จใครเขาจะทิ้งร่องลอยถามจริง!!!!?#ตย:วซ.โควิดทุกวันนี้ยังมีแต่คลิปปฏิเสธทั้งนั้นโดยคลิปของผู้เห็นต่างถูกลบทั้งหมดลงไปกี่พันคลิปเขาก็ลบทิ้งหมดเขาบอกแต่ว่าเป็นข้อมูลเท็จทั้งที่มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายและหลายประเทศก็ออกมายอมรับว่า วซ.มีสิ่งปนเปื้อนสกปรกให้ส่งกลับไปต้นทาง#สงสาร ชินโซ อาเบะ อดีตนายกญี่ปุ่นที่ถูกลอบสังหาร ..คนบ่งการต้องการอะไร?
    อาวุธนิวเคลียร์ตอนนี้มันไม่น่ากลัวเท่าอาวุธชีวภาพหรืออาวุธเคมีแล้วจับมือคนทำก็ไม่ได้"ยิ่งโครงการ ฮารป์ฟิสิกส์อันตรายและไม่รู้เลยว่าใครทำๆจริงหรือไม่"ไร้หลักฐานกลายเป็นทฤษฎีสมคบคิดไปเลยว่าเป็น"เท็จ เพราะไม่มีหลักฐานไง เหมือนการคอรัปชั่นจะมาขอหลักฐานใบเสร็จใครเขาจะทิ้งร่องลอยถามจริง!!!!?#ตย:วซ.โควิดทุกวันนี้ยังมีแต่คลิปปฏิเสธทั้งนั้นโดยคลิปของผู้เห็นต่างถูกลบทั้งหมดลงไปกี่พันคลิปเขาก็ลบทิ้งหมดเขาบอกแต่ว่าเป็นข้อมูลเท็จทั้งที่มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายและหลายประเทศก็ออกมายอมรับว่า วซ.มีสิ่งปนเปื้อนสกปรกให้ส่งกลับไปต้นทาง#สงสาร ชินโซ อาเบะ อดีตนายกญี่ปุ่นที่ถูกลอบสังหาร🖤🇯🇵 ..คนบ่งการต้องการอะไร?
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐยื่นเงื่อนไขต่อซีเรียสำหรับการยกเลิกการคว่ำบาตรบางส่วน
    — รอยเตอร์

    การติดต่อโดยตรงครั้งแรกระหว่างตัวแทนของรัฐบาลชุดใหม่ของทั้งสองเกิดขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้เข้าพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศซีเรียเพื่อยื่นเงื่นไขจากวอชิงตันในการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรบางส่วน

    เงื่อนไขบางส่วนประกอบด้วย :
    ซีเรียต้องทำลายคลังอาวุธเคมีที่เหลืออยู่ทั้งหมด
    ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่โดยไม่บิดพลิ้วในการต่อต้านทำลายกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ
    จะต้องขับไล่นักรบฮิซบอลเลาะห์ รวมทั้งนักรบต่างชาติทั้งหมดออกจากซีเรีย
    รวมถึงความช่วยเหลือในการค้นหาออสติน ไทซ์ นักข่าวชาวอเมริกันที่หายตัวไป
    สหรัฐยื่นเงื่อนไขต่อซีเรียสำหรับการยกเลิกการคว่ำบาตรบางส่วน — รอยเตอร์ การติดต่อโดยตรงครั้งแรกระหว่างตัวแทนของรัฐบาลชุดใหม่ของทั้งสองเกิดขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้เข้าพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศซีเรียเพื่อยื่นเงื่นไขจากวอชิงตันในการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรบางส่วน เงื่อนไขบางส่วนประกอบด้วย : ซีเรียต้องทำลายคลังอาวุธเคมีที่เหลืออยู่ทั้งหมด ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่โดยไม่บิดพลิ้วในการต่อต้านทำลายกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ จะต้องขับไล่นักรบฮิซบอลเลาะห์ รวมทั้งนักรบต่างชาติทั้งหมดออกจากซีเรีย รวมถึงความช่วยเหลือในการค้นหาออสติน ไทซ์ นักข่าวชาวอเมริกันที่หายตัวไป
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 480 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ เดินทางถึงกรุงดามัสกัสเพื่อพบกับผู้นำซีเรียคนใหม่ ซึ่งถือเป็นการเยือนครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีอัสซาดถูกโค่นล้ม โดยหวังว่าจะส่งเสริมแนวทางที่เป็นกลางและครอบคลุมผลประโยชน์ร่วมกัน

    ด้านโจลานีผู้นำ HTS วอนอย่ามองอดีต ขณะนี้เขาเปลี่ยนไปแล้ว ยินดีเป็นพันธมิตรที่ดีของอเมริกา!

    เน้นย้ำกันอีกครั้งว่า โจลานีและกลุ่ม HTS คือผู้ก่อการร้ายที่ประกาศโดยสหรัฐอเมริกา และจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานการตรวจพบอาวุธเคมีในซีเรีย ตามที่สหรัฐกล่าวหาแต่อย่างใด
    นักการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ เดินทางถึงกรุงดามัสกัสเพื่อพบกับผู้นำซีเรียคนใหม่ ซึ่งถือเป็นการเยือนครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีอัสซาดถูกโค่นล้ม โดยหวังว่าจะส่งเสริมแนวทางที่เป็นกลางและครอบคลุมผลประโยชน์ร่วมกัน ด้านโจลานีผู้นำ HTS วอนอย่ามองอดีต ขณะนี้เขาเปลี่ยนไปแล้ว ยินดีเป็นพันธมิตรที่ดีของอเมริกา! เน้นย้ำกันอีกครั้งว่า โจลานีและกลุ่ม HTS คือผู้ก่อการร้ายที่ประกาศโดยสหรัฐอเมริกา และจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานการตรวจพบอาวุธเคมีในซีเรีย ตามที่สหรัฐกล่าวหาแต่อย่างใด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียควบคุมตัวชายชาวอุซเบกรายหนึ่ง ซึ่งสารภาพว่าเป็นคนลอบวางและจุดชนวนระเบิดสังหารนายพลระดับสูง ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ของรัสเซีย ในกรุงมอสโก เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ เจ้าตัวสารภาพทำตามคำส่งของหน่วยงานความมั่นคง SBU ของยูเครน
    .
    คิริลลอฟ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ ชีวภาพ และเคมีแห่งกองทัพสหพันธรัฐรัสเซีย ถูกสังหารบริเวณด้านนอกอาคารอพาร์ทเมนท์ของตนเองเมื่อวันอังคาร(17ธ.ค.) พร้อมกับผู้ช่วยรายหนึ่ง หลังจากคนร้ายจุดชนวนระเบิดที่ซุกซ่อนอยู่ในสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า
    .
    เขากลายเป็นเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงสุดของรัสเซีย ที่ถูกยูเครนลอบสังหารในรัสเซีย ทั้งนี้ SBU หน่วยงานความมั่นคงของยูเครน ออกมากล่าวอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุสังหารครั้งนี้ หลังจาก เคียฟ กล่าวหาว่า คิริลลอฟ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน คำกล่าวหาที่ทางมอสโกปฏิเสธ
    .
    คณะกรรมการสืบสวนของรัสเซีย ซึ่งมีหน้าที่สืบสวนอาชญากรรมร้ายแรงต่างๆ ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันพุธ(18ธ.ค.) ว่าผู้ต้องสงสัยซึ่งไม่เปิดเผยชื่อรายนี้ ให้การว่าเขาเดินทางมายังกรุงมอสโก เพื่อทำงานตามที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยข่าวกรองยูเครน
    .
    ในวิดีโอที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวเบซา พบเห็นผู้ต้องสงสัยกำลังนั่งอยู่ในรถตู้คันหนึ่ง บอกเล่าเกี่ยวกับปฏิบัติการของตนเอง เขาบอกว่าเดินทางมายังกรุงมอสโก ตามคำสั่งของหน่วยข่าวกรองยูเครน จากนั้นก็ไปหาซื้อสกู๊ตเตอร์และรับระเบิดแสวงเครื่องมา
    .
    ต่อมาก็นำระเบิดแสวงเครื่องดังกล่าวซุกซ่อนในรถสกู๊ตเตอร์และนำมันไปจอดไว้บริเวณด้านนอกของอาคารที่ คิริลลอฟ อาศัยอยู่ ทีมสืบสวนอ้างคำให้การของเขา ระบุว่าชายรายนี้ติดตั้งกล้องวงจรปิดในรถยนต์คันหนึ่งที่เช่ามา เพื่อให้คนที่บงการปฏิบัติการลอบสังหาร ได้เฝ้าดูจากเมืองดริโปรของยูเครน
    .
    ผู้ต้องสงสัยรายนี้ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดในช่วงปี 1995 ยังบอกด้วยว่าเขาจุดชนวนวัตถุระเบิดจากระยะไกล ตอนที่ คิริลลอฟ ออกมาจากอาคาร พร้อมสารภาพว่ายูเครนว่าจ้างเขาด้วยเงิน 100,000 ดอลลาร์(ราว 3.4 ล้านบาท) และมีถิ่นที่อยู่ในประเทศยุโรปชาติหนึ่ง
    .
    ทีมสืบสวนเผยว่าพวกเขากำลังระบุตัวตนคนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่ามีผู้ต้องสงสัยอีกคนถูกควบคุมตัวเช่นกัน แต่รอยเตอร์ไม่ยืนยันรายงานข่าวนี้
    .
    มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย บอกว่ามอสโกจะหยิบยกเหตุลอบสังหารครั้งนี้ เข้าหารือ ณ ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในวันศุกร์(20ธ.ค.) พร้อมระบุ "รัสเซียจะตามล่าตัวทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารจนพบและทำการลงโทษ มอสโกจะไม่ยอมถูกข่มขู่ใดๆ"
    .
    "เรามองว่ารัฐบาลเคียฟคือผู้อยู่เบื้องหลังอีกครั้ง สำหรับการโจมตีก่อการร้ายครั้งใหม่ พวกขี้แพ้ SBU และรัฐบาลบ้าบอของเคียฟ เป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกแองโกล-แซกซอน" ถ้อยคำที่รัสเซียใช้เรียกสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร "พวกเขาคือผู้รับผลประโยชน์หนักในการก่อการร้ายของเคียฟ"
    .
    กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร(17ธ.ค.) ยืนยันว่าวอชิงตันไม่เกี่ยวข้องใดๆหรือรู้ล่วงหน้าในเหตุบอลสังหาร ในขณะที่โฆษกนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ระบุว่า "คิริลลอฟ แผ่ขยายการรุกรานผิดกฎหมายและทำให้ประชาชนชาวยูเครนบาดเจ็บล้มตายและทุกข์ทรมาน"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121642
    ..............
    Sondhi X
    รัสเซียควบคุมตัวชายชาวอุซเบกรายหนึ่ง ซึ่งสารภาพว่าเป็นคนลอบวางและจุดชนวนระเบิดสังหารนายพลระดับสูง ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ของรัสเซีย ในกรุงมอสโก เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ เจ้าตัวสารภาพทำตามคำส่งของหน่วยงานความมั่นคง SBU ของยูเครน . คิริลลอฟ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ ชีวภาพ และเคมีแห่งกองทัพสหพันธรัฐรัสเซีย ถูกสังหารบริเวณด้านนอกอาคารอพาร์ทเมนท์ของตนเองเมื่อวันอังคาร(17ธ.ค.) พร้อมกับผู้ช่วยรายหนึ่ง หลังจากคนร้ายจุดชนวนระเบิดที่ซุกซ่อนอยู่ในสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า . เขากลายเป็นเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงสุดของรัสเซีย ที่ถูกยูเครนลอบสังหารในรัสเซีย ทั้งนี้ SBU หน่วยงานความมั่นคงของยูเครน ออกมากล่าวอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุสังหารครั้งนี้ หลังจาก เคียฟ กล่าวหาว่า คิริลลอฟ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน คำกล่าวหาที่ทางมอสโกปฏิเสธ . คณะกรรมการสืบสวนของรัสเซีย ซึ่งมีหน้าที่สืบสวนอาชญากรรมร้ายแรงต่างๆ ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันพุธ(18ธ.ค.) ว่าผู้ต้องสงสัยซึ่งไม่เปิดเผยชื่อรายนี้ ให้การว่าเขาเดินทางมายังกรุงมอสโก เพื่อทำงานตามที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยข่าวกรองยูเครน . ในวิดีโอที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวเบซา พบเห็นผู้ต้องสงสัยกำลังนั่งอยู่ในรถตู้คันหนึ่ง บอกเล่าเกี่ยวกับปฏิบัติการของตนเอง เขาบอกว่าเดินทางมายังกรุงมอสโก ตามคำสั่งของหน่วยข่าวกรองยูเครน จากนั้นก็ไปหาซื้อสกู๊ตเตอร์และรับระเบิดแสวงเครื่องมา . ต่อมาก็นำระเบิดแสวงเครื่องดังกล่าวซุกซ่อนในรถสกู๊ตเตอร์และนำมันไปจอดไว้บริเวณด้านนอกของอาคารที่ คิริลลอฟ อาศัยอยู่ ทีมสืบสวนอ้างคำให้การของเขา ระบุว่าชายรายนี้ติดตั้งกล้องวงจรปิดในรถยนต์คันหนึ่งที่เช่ามา เพื่อให้คนที่บงการปฏิบัติการลอบสังหาร ได้เฝ้าดูจากเมืองดริโปรของยูเครน . ผู้ต้องสงสัยรายนี้ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดในช่วงปี 1995 ยังบอกด้วยว่าเขาจุดชนวนวัตถุระเบิดจากระยะไกล ตอนที่ คิริลลอฟ ออกมาจากอาคาร พร้อมสารภาพว่ายูเครนว่าจ้างเขาด้วยเงิน 100,000 ดอลลาร์(ราว 3.4 ล้านบาท) และมีถิ่นที่อยู่ในประเทศยุโรปชาติหนึ่ง . ทีมสืบสวนเผยว่าพวกเขากำลังระบุตัวตนคนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่ามีผู้ต้องสงสัยอีกคนถูกควบคุมตัวเช่นกัน แต่รอยเตอร์ไม่ยืนยันรายงานข่าวนี้ . มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย บอกว่ามอสโกจะหยิบยกเหตุลอบสังหารครั้งนี้ เข้าหารือ ณ ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในวันศุกร์(20ธ.ค.) พร้อมระบุ "รัสเซียจะตามล่าตัวทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารจนพบและทำการลงโทษ มอสโกจะไม่ยอมถูกข่มขู่ใดๆ" . "เรามองว่ารัฐบาลเคียฟคือผู้อยู่เบื้องหลังอีกครั้ง สำหรับการโจมตีก่อการร้ายครั้งใหม่ พวกขี้แพ้ SBU และรัฐบาลบ้าบอของเคียฟ เป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกแองโกล-แซกซอน" ถ้อยคำที่รัสเซียใช้เรียกสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร "พวกเขาคือผู้รับผลประโยชน์หนักในการก่อการร้ายของเคียฟ" . กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร(17ธ.ค.) ยืนยันว่าวอชิงตันไม่เกี่ยวข้องใดๆหรือรู้ล่วงหน้าในเหตุบอลสังหาร ในขณะที่โฆษกนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ระบุว่า "คิริลลอฟ แผ่ขยายการรุกรานผิดกฎหมายและทำให้ประชาชนชาวยูเครนบาดเจ็บล้มตายและทุกข์ทรมาน" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121642 .............. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1105 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯระบุไม่เกี่ยวข้องในเหตุลอบสังหารเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงรายหนึ่งของรัสเซีย ในปฏิบัติการที่ยูเครนกล่าวอ้างความรับผิดชอบ แต่ประณามความโหดร้ายป่าเถื่อนของนายพลรายนี้
    .
    "ผมสามารถบอกกับพวกคุณได้ว่า สหรัฐฯ ไม่ทราบเรื่องล่วงหน้าและไม่เกี่ยวข้อง" แมตธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ พูดถึงเหตุลอบสังหารอิกอร์ คิริลลอฟ หัวหน้าหน่วยอาวุธเคมีของกองทัพรัสเซีย
    .
    แต่ มิลเลอร์ ชี้ถึงคำประเมินของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ ที่ว่า คิริลลอฟ เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงที่สุดของรัสเซียที่ถูกลอบสังหารนับตั้งแต่มอสโกรุกรานยูเครน เป็นคนออกคำสั่งให้ใช้สารควบคุมจลาจลในสมรภูมิรบ ซึ่งละเมิดสนธิสัญญาควบคุมอาวุธเคมี "เขาเป็นนายพลที่เกี่ยวข้องกับความโหดร้ายป่าเถื่อนต่างๆ เขาเกี่ยวข้องในการใช้อาวุธเคมีกับกองทัพยูเครน"
    .
    มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวหาพันธมิตรตะวันตกของยูเครน เป็นผู้สมคบคิดในเหตุลอบสังหารอย่างเลือดเย็นในกรุงมองโก ขณะที่สำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียรายงานว่า ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีที่ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของรัสเซีย ประกาศว่า จะชำระแค้นเอากับผู้นำกองทัพและรัฐบาลยูเครนเร็วๆ นี้
    .
    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่ง ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกว่าอเมริกา "ไม่ทราบปฏิบัติการนี้ล่วงหน้า และเราไม่สนับสนุนหรือให้สิทธิความเคลื่อนไหวลักษณะนี้"
    .
    เหตุลอบสังหารเกิดขึ้นในพื้นที่ชุมชนแห่งหนึ่งในกรุงมอสโก หนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อวดอ้างความสำเร็จของทหารรัสเซียในยูเครน หลังจากปฏิบัติการรุกรานประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ ที่ฝักใฝ่ตะวันตก ลากยาวมาใกล้ครบ 3 ปีแล้ว
    .
    คิริลลอฟ วัย 54 ปี เป็นหัวหน้าฝ่ายอาวุธเคมี ชีวภาพและรังสีวิทยาของกองทัพรัสเซีย และเมื่อเร็วๆ นี้ถูกสหราชอาณาจักรคว่ำบาตร ต่อคำกล่าวหาใช้อาวุธเคมีในยูเครน
    .
    แหล่งข่าวในหน่วยงานด้านความมั่นคงยูเครน (SBU) บอกกับเอเอฟพี ว่าพวกเขาอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดลอบสังหาร ในสิ่งที่เรียกว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษ" พร้อมเรียก คาริลลอฟ ว่าเป็น "อาชญากรสงคราม"
    .
    คณะกรรมการสืบสวนของรัสเซีย ระบุว่า "วัตถุระเบิดที่ซุกซ่อนในรถสกูตเตอร์คันหนึ่งที่จอดใกล้ทางเข้าของอาคารที่พักอาศัย ถูกจุดชนวนขึ้นในตอนเช้าวันที่ 17 ธันวาคม บนถนนรยาซานสกี ในมอสโก"
    .
    แรงระเบิดทำให้บานกระจกหน้าต่างของอาคารแตกกระจัดกระจาย และประตูหน้าได้รับความเสียหายรุนแรง ตามรายงานข่าวของผู้สื่อข่าวเอเอฟพีที่อยู่ ณ จุดเกิดเหตุ
    .
    เจ้าหน้าที่รัสเซียระบุว่า พวกเขากำลังดำเนินการสืบสวนเหตุโจมตีก่อการร้าย แต่แหล่งข่าวของ SBU ตอบโต้ว่า "คาริลลอฟ เป็นอาชญากรและเป็นเป้าหมายโดยชอบธรรม เนื่องจากเขาเป็นคนออกคำสั่งให้ใช้อาวุธเคมีต้องห้ามกับกองทัพยูเครน มันคือจุดสิ้นสุดการรอคอยของชาวยูเครนที่ถูกฆ่าอย่างไร้เกียรติ การลงโทษอาชญากรรมสงครามเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้" แหล่งข่าวระบุ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121240
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯระบุไม่เกี่ยวข้องในเหตุลอบสังหารเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงรายหนึ่งของรัสเซีย ในปฏิบัติการที่ยูเครนกล่าวอ้างความรับผิดชอบ แต่ประณามความโหดร้ายป่าเถื่อนของนายพลรายนี้ . "ผมสามารถบอกกับพวกคุณได้ว่า สหรัฐฯ ไม่ทราบเรื่องล่วงหน้าและไม่เกี่ยวข้อง" แมตธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ พูดถึงเหตุลอบสังหารอิกอร์ คิริลลอฟ หัวหน้าหน่วยอาวุธเคมีของกองทัพรัสเซีย . แต่ มิลเลอร์ ชี้ถึงคำประเมินของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ ที่ว่า คิริลลอฟ เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงที่สุดของรัสเซียที่ถูกลอบสังหารนับตั้งแต่มอสโกรุกรานยูเครน เป็นคนออกคำสั่งให้ใช้สารควบคุมจลาจลในสมรภูมิรบ ซึ่งละเมิดสนธิสัญญาควบคุมอาวุธเคมี "เขาเป็นนายพลที่เกี่ยวข้องกับความโหดร้ายป่าเถื่อนต่างๆ เขาเกี่ยวข้องในการใช้อาวุธเคมีกับกองทัพยูเครน" . มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวหาพันธมิตรตะวันตกของยูเครน เป็นผู้สมคบคิดในเหตุลอบสังหารอย่างเลือดเย็นในกรุงมองโก ขณะที่สำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียรายงานว่า ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีที่ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของรัสเซีย ประกาศว่า จะชำระแค้นเอากับผู้นำกองทัพและรัฐบาลยูเครนเร็วๆ นี้ . เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่ง ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกว่าอเมริกา "ไม่ทราบปฏิบัติการนี้ล่วงหน้า และเราไม่สนับสนุนหรือให้สิทธิความเคลื่อนไหวลักษณะนี้" . เหตุลอบสังหารเกิดขึ้นในพื้นที่ชุมชนแห่งหนึ่งในกรุงมอสโก หนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อวดอ้างความสำเร็จของทหารรัสเซียในยูเครน หลังจากปฏิบัติการรุกรานประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ ที่ฝักใฝ่ตะวันตก ลากยาวมาใกล้ครบ 3 ปีแล้ว . คิริลลอฟ วัย 54 ปี เป็นหัวหน้าฝ่ายอาวุธเคมี ชีวภาพและรังสีวิทยาของกองทัพรัสเซีย และเมื่อเร็วๆ นี้ถูกสหราชอาณาจักรคว่ำบาตร ต่อคำกล่าวหาใช้อาวุธเคมีในยูเครน . แหล่งข่าวในหน่วยงานด้านความมั่นคงยูเครน (SBU) บอกกับเอเอฟพี ว่าพวกเขาอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดลอบสังหาร ในสิ่งที่เรียกว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษ" พร้อมเรียก คาริลลอฟ ว่าเป็น "อาชญากรสงคราม" . คณะกรรมการสืบสวนของรัสเซีย ระบุว่า "วัตถุระเบิดที่ซุกซ่อนในรถสกูตเตอร์คันหนึ่งที่จอดใกล้ทางเข้าของอาคารที่พักอาศัย ถูกจุดชนวนขึ้นในตอนเช้าวันที่ 17 ธันวาคม บนถนนรยาซานสกี ในมอสโก" . แรงระเบิดทำให้บานกระจกหน้าต่างของอาคารแตกกระจัดกระจาย และประตูหน้าได้รับความเสียหายรุนแรง ตามรายงานข่าวของผู้สื่อข่าวเอเอฟพีที่อยู่ ณ จุดเกิดเหตุ . เจ้าหน้าที่รัสเซียระบุว่า พวกเขากำลังดำเนินการสืบสวนเหตุโจมตีก่อการร้าย แต่แหล่งข่าวของ SBU ตอบโต้ว่า "คาริลลอฟ เป็นอาชญากรและเป็นเป้าหมายโดยชอบธรรม เนื่องจากเขาเป็นคนออกคำสั่งให้ใช้อาวุธเคมีต้องห้ามกับกองทัพยูเครน มันคือจุดสิ้นสุดการรอคอยของชาวยูเครนที่ถูกฆ่าอย่างไร้เกียรติ การลงโทษอาชญากรรมสงครามเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้" แหล่งข่าวระบุ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121240 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1139 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายพลระดับท็อปของรัสเซีย ที่ถูกยูเครนกล่าวหาอยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน ถูกลอบสังหารอุกอาจด้วยระเบิดในกรุงมอสโกเมื่อเช้าวันอังคาร (17 ธ.ค.) โดยที่หน่วยข่าวกรอง เอสยูบี ของยูเครนกระพือข่าวว่าเป็นฝีมือของตน ซึ่งหากเป็นจริงก็ถือว่าเป็นการก่อเหตุเข่นฆ่าลักษณะนี้ครั้งอึกทึกครึกโครมที่สุดทีเดียว
    .
    พลโทอิกอร์ คิริลลอฟ ผู้บัญชาการกองทหารหน่วยอาวุธรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพของรัสเซีย พร้อมผู้ช่วยคนหนึ่งของเขา เสียชีวิตจากระเบิดซึ่งซุกซ่อนอยู่ในรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่จอดอยู่ใกล้ทางเข้าอพาร์ตเมนต์บนถนนรยาแซนสกี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโกเมื่อเช้าวันอังคาร ทั้งนี้ตามการแถลงคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของรัสเซีย ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการสืบสวนคดีอุกฉกรรจ์ โดยระบุว่าได้เปิดการสอบสวนเหตุการณ์นี้แล้ว คาดกันว่าคดีนี้จะถูกจัดให้เป็นคดีก่อการร้าย
    .
    เวลาเดียวกัน สื่อมวลชนหลายแห่ง รวมทั้งสำนักข่าวรอยเตอร์ และสำนักข่าวเอเอฟพี ต่างอ้างอิงแหล่งข่าวรายหนึ่งในหน่วยข่าวกรองเอสบียูของยูเครน ได้ยืนยันว่า เอสบียูอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ โดยถือเป็นการปฏิบัติการพิเศษเพื่อสังหารอาชญากรสงคราม เนื่องจากคิริลลอฟเป็นผู้ออกคำสั่งให้ใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน โดยที่เมื่อวันจันทร์ (16) เช่นกัน เอสบียูเพิ่งกล่าวหารัสเซียใช้กระสุนที่เป็นอาวุธเคมีโจมตีใส่ทหารยูเครนมากกว่า 4,800 กรณี นับตั้งแต่เริ่มต้นรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
    .
    ก่อนหน้านี้ ชาติตะวันตกที่เป็นพันธมิตรของเคียฟ อย่างสหราชอาณาจักรและอเมริกา ก็ได้กล่าวหาว่ารัสเซียใช้สารพิษคลอโรพิกรินกับทหารยูเครน ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาห้ามใช้อาวุธเคมี และเมื่อเดือนตุลาคมสหราชอาณาจักรยังได้ประกาศแซงก์ชันคว่ำบาตร คิริลลอฟและหน่วยงานใต้บังคับบัญชาของเขา ในข้อหาช่วยเหลือให้มีการใช้อาวุธร้ายแรงเหล่านั้น
    .
    สำหรับกองทหารหน่วยอาวุธรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพของรัสเซีย ที่คิริลลอฟ เป็นผู้บังคับบัญชา และเป็นที่รู้จักกันด้วยชื่อย่อว่า RKhBZ นั้น ทางรัสเซียระบุว่าเป็นกองกำลังพิเศษซึ่งปฏิบัติการภายใต้สภาพที่เกิดการปนเปื้อนทางรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพ และภารกิจของทหารหน่วยนี้คือการพิทักษ์ปกป้องพวกกองกำลังภาคพื้นดินที่กำลังปฏิบัติการในสภาพเงื่อนไขแบบสุดขั้ว
    .
    ถ้าหากการกล่าวอ้างของเคียฟได้รับการยืนยัน คิริลลอฟ วัย 54 ปี ก็จะถือเป็นนายทหารอาวุโสที่สุดที่ถูกยูเครนลอบสังหารในรัสเซีย และมีแนวโน้มว่า เหตุการณ์นี้จะกระตุ้นให้รัสเซียทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยนายทหารระดับสูงของกองทัพ รวมทั้งหาวิธีแก้แค้น
    .
    สำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียรายงานว่า ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีที่ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของรัสเซีย ประกาศว่า จะชำระแค้นเอากับผู้นำกองทัพและรัฐบาลยูเครนเร็วๆ นี้
    .
    รัสเซียยังปฏิเสธข้อกล่าวหาของยูเครนเรื่องการใช้อาวุธเคมีในสนามรบในยูเครน โดยบางครั้งคิริลลอฟเองได้บรรยายสรุปทางสถานีทีวีของรัฐบาล กล่าวหาตอบโต้กลับว่า ยูเครนและฝ่ายตะวันตกมีเครือข่ายห้องปฏิบัติการชีววิทยาลับ ที่พัฒนาอาวุธเคมีต้องห้ามทั่วยูเครน
    .
    ด้าน มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แถลงยกย่องคิริลลอฟว่า อุทิศตนให้ประเทศชาติอย่างกล้าหาญในการเปิดโปงอาชญากรรมสงครามที่เกี่ยวข้องกับอาวุธเคมีและโครงการลับของฝ่ายตะวันตกทั้งในซีเรียและประเทศอื่นๆ
    .
    ก่อนหน้าคิริลลอฟเสียชีวิต 1 วัน อัยการรัฐบาลยูเครนได้ตั้งข้อหานายทหารรัสเซียผู้นี้ใช้อาวุธเคมีที่ถูกนานาชาติห้ามใช้ นอกจากนั้นคิริลลอฟยังมีชื่ออยู่ในฐานข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการของบุคคลที่ถือเป็นศัตรูของยูเครน
    .
    การลอบสังหารคิริลลอฟยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (16) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อวดอ้างว่า ปีนี้เป็นปีสำคัญของปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียในยูเครน โดยที่กองทหารรัสเซียอยู่ในสถานะได้เปรียบในทุกสมรภูมิ
    .
    ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ มอสโกเชื่อว่า เคียฟอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารบุคคลสำคัญของรัสเซียมาแล้วหลายคนเพื่อทำลายขวัญและกำลังใจของแดนหมีขาว รวมทั้งเพื่อลงโทษผู้ที่เคียฟระบุว่า มีบทบาทในอาชญากรรมสงคราม โดยยูเครนประกาศชัดเจนว่า การสังหารคนเหล่านั้นเป็นการกระทำอันชอบธรรม
    .
    บุคคลที่เป็นที่รู้จักซึ่งถูกลอบสังหารนับจากที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อต้นปี 2022 มีอาทิ ดาร์ยา ดูกินา นักเขียนแนวชาตินิยมและเป็นบุตรสาวของนักปรัชญาการเมืองชื่อดัง อเล็กซานเดอร์ ดูกิน โดยเธอถูกโจมตีด้วยคาร์บอมบ์นอกมอสโก, วลาเดน ตาตาร์สกี บล็อกเกอร์ที่สนับสนุนสงครามยูเครนซึ่งเสียชีวิตจากการลอบวางระเบิดคาเฟ่ในปี 2023 และการลอบยิงผู้บังคับการเรือดำน้ำรัสเซียที่ถูกเคียฟกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงครามเมื่อปีที่แล้ว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121236
    ..............
    Sondhi X
    นายพลระดับท็อปของรัสเซีย ที่ถูกยูเครนกล่าวหาอยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน ถูกลอบสังหารอุกอาจด้วยระเบิดในกรุงมอสโกเมื่อเช้าวันอังคาร (17 ธ.ค.) โดยที่หน่วยข่าวกรอง เอสยูบี ของยูเครนกระพือข่าวว่าเป็นฝีมือของตน ซึ่งหากเป็นจริงก็ถือว่าเป็นการก่อเหตุเข่นฆ่าลักษณะนี้ครั้งอึกทึกครึกโครมที่สุดทีเดียว . พลโทอิกอร์ คิริลลอฟ ผู้บัญชาการกองทหารหน่วยอาวุธรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพของรัสเซีย พร้อมผู้ช่วยคนหนึ่งของเขา เสียชีวิตจากระเบิดซึ่งซุกซ่อนอยู่ในรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่จอดอยู่ใกล้ทางเข้าอพาร์ตเมนต์บนถนนรยาแซนสกี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโกเมื่อเช้าวันอังคาร ทั้งนี้ตามการแถลงคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของรัสเซีย ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการสืบสวนคดีอุกฉกรรจ์ โดยระบุว่าได้เปิดการสอบสวนเหตุการณ์นี้แล้ว คาดกันว่าคดีนี้จะถูกจัดให้เป็นคดีก่อการร้าย . เวลาเดียวกัน สื่อมวลชนหลายแห่ง รวมทั้งสำนักข่าวรอยเตอร์ และสำนักข่าวเอเอฟพี ต่างอ้างอิงแหล่งข่าวรายหนึ่งในหน่วยข่าวกรองเอสบียูของยูเครน ได้ยืนยันว่า เอสบียูอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ โดยถือเป็นการปฏิบัติการพิเศษเพื่อสังหารอาชญากรสงคราม เนื่องจากคิริลลอฟเป็นผู้ออกคำสั่งให้ใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน โดยที่เมื่อวันจันทร์ (16) เช่นกัน เอสบียูเพิ่งกล่าวหารัสเซียใช้กระสุนที่เป็นอาวุธเคมีโจมตีใส่ทหารยูเครนมากกว่า 4,800 กรณี นับตั้งแต่เริ่มต้นรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 . ก่อนหน้านี้ ชาติตะวันตกที่เป็นพันธมิตรของเคียฟ อย่างสหราชอาณาจักรและอเมริกา ก็ได้กล่าวหาว่ารัสเซียใช้สารพิษคลอโรพิกรินกับทหารยูเครน ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาห้ามใช้อาวุธเคมี และเมื่อเดือนตุลาคมสหราชอาณาจักรยังได้ประกาศแซงก์ชันคว่ำบาตร คิริลลอฟและหน่วยงานใต้บังคับบัญชาของเขา ในข้อหาช่วยเหลือให้มีการใช้อาวุธร้ายแรงเหล่านั้น . สำหรับกองทหารหน่วยอาวุธรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพของรัสเซีย ที่คิริลลอฟ เป็นผู้บังคับบัญชา และเป็นที่รู้จักกันด้วยชื่อย่อว่า RKhBZ นั้น ทางรัสเซียระบุว่าเป็นกองกำลังพิเศษซึ่งปฏิบัติการภายใต้สภาพที่เกิดการปนเปื้อนทางรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพ และภารกิจของทหารหน่วยนี้คือการพิทักษ์ปกป้องพวกกองกำลังภาคพื้นดินที่กำลังปฏิบัติการในสภาพเงื่อนไขแบบสุดขั้ว . ถ้าหากการกล่าวอ้างของเคียฟได้รับการยืนยัน คิริลลอฟ วัย 54 ปี ก็จะถือเป็นนายทหารอาวุโสที่สุดที่ถูกยูเครนลอบสังหารในรัสเซีย และมีแนวโน้มว่า เหตุการณ์นี้จะกระตุ้นให้รัสเซียทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยนายทหารระดับสูงของกองทัพ รวมทั้งหาวิธีแก้แค้น . สำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียรายงานว่า ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีที่ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของรัสเซีย ประกาศว่า จะชำระแค้นเอากับผู้นำกองทัพและรัฐบาลยูเครนเร็วๆ นี้ . รัสเซียยังปฏิเสธข้อกล่าวหาของยูเครนเรื่องการใช้อาวุธเคมีในสนามรบในยูเครน โดยบางครั้งคิริลลอฟเองได้บรรยายสรุปทางสถานีทีวีของรัฐบาล กล่าวหาตอบโต้กลับว่า ยูเครนและฝ่ายตะวันตกมีเครือข่ายห้องปฏิบัติการชีววิทยาลับ ที่พัฒนาอาวุธเคมีต้องห้ามทั่วยูเครน . ด้าน มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แถลงยกย่องคิริลลอฟว่า อุทิศตนให้ประเทศชาติอย่างกล้าหาญในการเปิดโปงอาชญากรรมสงครามที่เกี่ยวข้องกับอาวุธเคมีและโครงการลับของฝ่ายตะวันตกทั้งในซีเรียและประเทศอื่นๆ . ก่อนหน้าคิริลลอฟเสียชีวิต 1 วัน อัยการรัฐบาลยูเครนได้ตั้งข้อหานายทหารรัสเซียผู้นี้ใช้อาวุธเคมีที่ถูกนานาชาติห้ามใช้ นอกจากนั้นคิริลลอฟยังมีชื่ออยู่ในฐานข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการของบุคคลที่ถือเป็นศัตรูของยูเครน . การลอบสังหารคิริลลอฟยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (16) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อวดอ้างว่า ปีนี้เป็นปีสำคัญของปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียในยูเครน โดยที่กองทหารรัสเซียอยู่ในสถานะได้เปรียบในทุกสมรภูมิ . ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ มอสโกเชื่อว่า เคียฟอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารบุคคลสำคัญของรัสเซียมาแล้วหลายคนเพื่อทำลายขวัญและกำลังใจของแดนหมีขาว รวมทั้งเพื่อลงโทษผู้ที่เคียฟระบุว่า มีบทบาทในอาชญากรรมสงคราม โดยยูเครนประกาศชัดเจนว่า การสังหารคนเหล่านั้นเป็นการกระทำอันชอบธรรม . บุคคลที่เป็นที่รู้จักซึ่งถูกลอบสังหารนับจากที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อต้นปี 2022 มีอาทิ ดาร์ยา ดูกินา นักเขียนแนวชาตินิยมและเป็นบุตรสาวของนักปรัชญาการเมืองชื่อดัง อเล็กซานเดอร์ ดูกิน โดยเธอถูกโจมตีด้วยคาร์บอมบ์นอกมอสโก, วลาเดน ตาตาร์สกี บล็อกเกอร์ที่สนับสนุนสงครามยูเครนซึ่งเสียชีวิตจากการลอบวางระเบิดคาเฟ่ในปี 2023 และการลอบยิงผู้บังคับการเรือดำน้ำรัสเซียที่ถูกเคียฟกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงครามเมื่อปีที่แล้ว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121236 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1270 มุมมอง 0 รีวิว
  • พลโท อิกอร์ คิริลอฟ ซึ่งเป็นหัวหน้ากองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ ชีวภาพ และเคมีของรัสเซีย ถูกสังหารนอกอาคารอพาร์ตเมนต์บนถนน ถนนไรซานสกี้ พร้อมด้วยผู้ช่วยของเขา ซึ่งเป็นคณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียที่ทำการสืบสวนคดีอาชญากรรมร้ายแรง ภาพที่โพสต์บนช่องเทเลแกรมของรัสเซีย แสดงให้เห็นทางเข้าอาคารที่ได้รับความเสียหายและเต็มไปด้วยเศษหิน และมีศพ 2 ศพนอนจมอยู่ใต้หิมะที่เปื้อนเลือด ส่วนภาพจากสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ถ่ายในที่เกิดเหตุ เผยให้เห็นแนวป้องกันของตำรวจ เจ้าหน้าที่สอบสวนกล่าวว่าพวกเขาได้เปิดการสอบสวนทางอาญาเกี่ยวกับการสังหารทหาร 2 นาย แหล่งข่าวจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแจ้งต่อสื่อรัสเซียว่า คดีนี้มีแนวโน้มที่จะถูกยกระดับเป็นคดีก่อการร้ายรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาของยูเครนว่าใช้อาวุธเคมีในสนามรบ และนายคิริลอฟ เคยปรากฏตัวทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐ โดยกล่าวหาว่ายูเครนละเมิดมาตรการความปลอดภัยนิวเคลียร์เมื่อเดือนตุลาคม อังกฤษได้คว่ำบาตรนายคิริลอฟและกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ จากการใช้สารเคมีควบคุมการจลาจล และจากรายงานหลายฉบับที่ระบุว่ามีการใช้คลอโรพิคริน ซึ่งเป็นสารพิษที่ทำให้หายใจไม่ออกในสนามรบ
    พลโท อิกอร์ คิริลอฟ ซึ่งเป็นหัวหน้ากองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ ชีวภาพ และเคมีของรัสเซีย ถูกสังหารนอกอาคารอพาร์ตเมนต์บนถนน ถนนไรซานสกี้ พร้อมด้วยผู้ช่วยของเขา ซึ่งเป็นคณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียที่ทำการสืบสวนคดีอาชญากรรมร้ายแรง ภาพที่โพสต์บนช่องเทเลแกรมของรัสเซีย แสดงให้เห็นทางเข้าอาคารที่ได้รับความเสียหายและเต็มไปด้วยเศษหิน และมีศพ 2 ศพนอนจมอยู่ใต้หิมะที่เปื้อนเลือด ส่วนภาพจากสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ถ่ายในที่เกิดเหตุ เผยให้เห็นแนวป้องกันของตำรวจ เจ้าหน้าที่สอบสวนกล่าวว่าพวกเขาได้เปิดการสอบสวนทางอาญาเกี่ยวกับการสังหารทหาร 2 นาย แหล่งข่าวจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแจ้งต่อสื่อรัสเซียว่า คดีนี้มีแนวโน้มที่จะถูกยกระดับเป็นคดีก่อการร้ายรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาของยูเครนว่าใช้อาวุธเคมีในสนามรบ และนายคิริลอฟ เคยปรากฏตัวทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐ โดยกล่าวหาว่ายูเครนละเมิดมาตรการความปลอดภัยนิวเคลียร์เมื่อเดือนตุลาคม อังกฤษได้คว่ำบาตรนายคิริลอฟและกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ จากการใช้สารเคมีควบคุมการจลาจล และจากรายงานหลายฉบับที่ระบุว่ามีการใช้คลอโรพิคริน ซึ่งเป็นสารพิษที่ทำให้หายใจไม่ออกในสนามรบ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 581 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนวางระเบิดสังหารผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ของรัสเซียเสียชีวิต

    แถลงการณ์จากคณะกรรมการสอบสวนของสหพันธรัฐรัสเซียเปิดเผยว่า:
    เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ เกิดเหตุระเบิดที่ถนน Ryazansky Prospekt ในกรุงมอสโก โดยมีอุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่องซุกซ่อนอยู่ในสกู๊ตเตอร์ ที่จอดอยู่ข้างทางเข้าอาคารที่พักอาศัย และเกิดการระเบิดขึ้นขณะ พล.ท.อิกอร์ คิริลลอฟ(Igor Kirillov) ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ ชีวภาพ และเคมี (NBC - Chief of Nuclear, Chemical, and Biological Protection Troops of the Armed Forces of the Russian Federation) พร้อมผู้ช่วย กำลังออกจากที่พัก เป็นเหตุให้ทั้งสองคนเสียชีวิต

    คณะกรรมการสอบสวนรัสเซียได้ทำการเปิดการสอบสวนคดีอาญาที่กระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐ 2 รายแล้ว โดยพนักงานสอบสวน ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างการปฏิบัติงานในจุดที่เกิดเหตุ เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงทุกด้านของอาชญากรรมครั้งนี้
    .
    นายพลคิริลอฟ วัย 54 ปี ของรัสเซียเป็นผู้เปิดโปงกิจกรรมเกี่ยวกับห้องทดลองทางชีวภาพในยูเครนที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ โดยอ้างถึงเอกสารหลักฐานจำนวนมากที่พบในห้องปฏิบัติการของยูเครนระหว่างช่วงเริ่มต้นของปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซีย

    - ในเดือนมีนาคม 2022 คิริลอฟค้นพบเอกสารที่อ้างว่าห้องแล็บชีวภาพที่ได้รับเงินทุนจากกระทรวงกลาโหมในยูเครนกำลังพัฒนาอาวุธชีวภาพโดยใช้ค้างคาวและนก

    - เอกสารเหล่านี้แสดงให้เห็นการทดลองกับประชากรของยูเครน การทดสอบยา และการส่งออกตัวอย่างทางชีวภาพไปยังสหรัฐฯ เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง

    - ในเดือนกันยายน 2023 เขาได้กล่าวหาเครือข่ายห้องแล็บชีวภาพของสหรัฐฯ ว่าเป็นภัยคุกคามทางชีวภาพ โดยอ้างถึงห้องแล็บผิดกฎหมายในแคลิฟอร์เนียที่เป็นแหล่งกักเก็บเชื้อโรค เช่น COVID-19, HIV และตับอักเสบ

    - ในเดือนมกราคม 2024 เขาได้กล่าวหาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ รวมถึง Gina Haspel, Alex Azar และ Anthony Fauci ว่าขัดขวางการสืบสวนแหล่งกำเนิดของ COVID-19

    - คิริลอฟกล่าวหาสหรัฐฯ และยูเครนหลายครั้งว่าละเมิดอนุสัญญาอาวุธชีวภาพและสารพิษ (BTWC)

    - คิริลอฟมีหลักฐานว่ายูเครนใช้อาวุธเคมี DM-105 ที่ดัดแปลงให้มีรูปร่างเหมือนระเบิดควันเพื่อใช้ใน Sudzha ภูมิภาค Kursk ของรัสเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม 2024

    - เขาเตือนว่าเคียฟอาจจัดฉากในการใช้ “dirty bomb” โดยฝึกบุคลากรให้ผลิตและจุดชนวนอุปกรณ์ดังกล่าวในพื้นที่ที่มีประชากร

    - คิริลอฟอยู่ในรายชื่อบุคคลที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดของยูเครนเนื่องจากมีบทบาทในปฏิบัติการพิเศษทางทหาร
    ยูเครนวางระเบิดสังหารผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ของรัสเซียเสียชีวิต แถลงการณ์จากคณะกรรมการสอบสวนของสหพันธรัฐรัสเซียเปิดเผยว่า: เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ เกิดเหตุระเบิดที่ถนน Ryazansky Prospekt ในกรุงมอสโก โดยมีอุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่องซุกซ่อนอยู่ในสกู๊ตเตอร์ ที่จอดอยู่ข้างทางเข้าอาคารที่พักอาศัย และเกิดการระเบิดขึ้นขณะ พล.ท.อิกอร์ คิริลลอฟ(Igor Kirillov) ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ ชีวภาพ และเคมี (NBC - Chief of Nuclear, Chemical, and Biological Protection Troops of the Armed Forces of the Russian Federation) พร้อมผู้ช่วย กำลังออกจากที่พัก เป็นเหตุให้ทั้งสองคนเสียชีวิต คณะกรรมการสอบสวนรัสเซียได้ทำการเปิดการสอบสวนคดีอาญาที่กระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐ 2 รายแล้ว โดยพนักงานสอบสวน ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างการปฏิบัติงานในจุดที่เกิดเหตุ เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงทุกด้านของอาชญากรรมครั้งนี้ . นายพลคิริลอฟ วัย 54 ปี ของรัสเซียเป็นผู้เปิดโปงกิจกรรมเกี่ยวกับห้องทดลองทางชีวภาพในยูเครนที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ โดยอ้างถึงเอกสารหลักฐานจำนวนมากที่พบในห้องปฏิบัติการของยูเครนระหว่างช่วงเริ่มต้นของปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซีย - ในเดือนมีนาคม 2022 คิริลอฟค้นพบเอกสารที่อ้างว่าห้องแล็บชีวภาพที่ได้รับเงินทุนจากกระทรวงกลาโหมในยูเครนกำลังพัฒนาอาวุธชีวภาพโดยใช้ค้างคาวและนก - เอกสารเหล่านี้แสดงให้เห็นการทดลองกับประชากรของยูเครน การทดสอบยา และการส่งออกตัวอย่างทางชีวภาพไปยังสหรัฐฯ เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง - ในเดือนกันยายน 2023 เขาได้กล่าวหาเครือข่ายห้องแล็บชีวภาพของสหรัฐฯ ว่าเป็นภัยคุกคามทางชีวภาพ โดยอ้างถึงห้องแล็บผิดกฎหมายในแคลิฟอร์เนียที่เป็นแหล่งกักเก็บเชื้อโรค เช่น COVID-19, HIV และตับอักเสบ - ในเดือนมกราคม 2024 เขาได้กล่าวหาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ รวมถึง Gina Haspel, Alex Azar และ Anthony Fauci ว่าขัดขวางการสืบสวนแหล่งกำเนิดของ COVID-19 - คิริลอฟกล่าวหาสหรัฐฯ และยูเครนหลายครั้งว่าละเมิดอนุสัญญาอาวุธชีวภาพและสารพิษ (BTWC) - คิริลอฟมีหลักฐานว่ายูเครนใช้อาวุธเคมี DM-105 ที่ดัดแปลงให้มีรูปร่างเหมือนระเบิดควันเพื่อใช้ใน Sudzha ภูมิภาค Kursk ของรัสเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม 2024 - เขาเตือนว่าเคียฟอาจจัดฉากในการใช้ “dirty bomb” โดยฝึกบุคลากรให้ผลิตและจุดชนวนอุปกรณ์ดังกล่าวในพื้นที่ที่มีประชากร - คิริลอฟอยู่ในรายชื่อบุคคลที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดของยูเครนเนื่องจากมีบทบาทในปฏิบัติการพิเศษทางทหาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 672 มุมมอง 0 รีวิว
  • CNN ยอมออกมาแก้ข่าวเกี่ยวกับการรายงานข่าวของ "คลาริสซา วาร์ด" ซึ่งเป็นการกล่าวหาอัสซาดว่าทรมานนักโทษ

    CNN ยอมรับว่า “นักโทษ” ที่ได้ “รับการปล่อยตัว” โดยผู้สื่อข่าวที่ฉาวโฉ่อย่างคลาริสซา วาร์ด แท้จริงแล้วเป็นเจ้าหน้าที่ข่าวกรองในรัฐบาลของอัสซาด ซึ่งถูกจับกุมเมื่อไม่ถึง 1 เดือน จากข้อหาทะเลาะวิวาทกับผู้บังคับบัญชาของเขา

    ในตอนแรก CNN อ้างว่าชายคนดังกล่าวเป็น “เหยื่อของระบอบการปกครองซีเรีย” ที่ถูกคุมขังเดี่ยวในเรือนจำเซดนายาเป็นเวลานานกว่า 3 ปี

    เน้นย้ำการอีกครั้ง จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีสื่อรายใดที่นำเสนอเกี่ยวกับอาวุธเคมีของอัสซาดเลยสักรายเดียว ก่อนหน้านี้สหรัฐกล่าวหาอัสซาดมาโดยตลอดว่าเขามีอาวุธเคมีในครอบครองและใช้มันเข่นฆ่าประชาชนจนนำไปสู่การคว่ำบาตรอย่างรุนแรงของสหรัฐ
    CNN ยอมออกมาแก้ข่าวเกี่ยวกับการรายงานข่าวของ "คลาริสซา วาร์ด" ซึ่งเป็นการกล่าวหาอัสซาดว่าทรมานนักโทษ CNN ยอมรับว่า “นักโทษ” ที่ได้ “รับการปล่อยตัว” โดยผู้สื่อข่าวที่ฉาวโฉ่อย่างคลาริสซา วาร์ด แท้จริงแล้วเป็นเจ้าหน้าที่ข่าวกรองในรัฐบาลของอัสซาด ซึ่งถูกจับกุมเมื่อไม่ถึง 1 เดือน จากข้อหาทะเลาะวิวาทกับผู้บังคับบัญชาของเขา ในตอนแรก CNN อ้างว่าชายคนดังกล่าวเป็น “เหยื่อของระบอบการปกครองซีเรีย” ที่ถูกคุมขังเดี่ยวในเรือนจำเซดนายาเป็นเวลานานกว่า 3 ปี เน้นย้ำการอีกครั้ง จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีสื่อรายใดที่นำเสนอเกี่ยวกับอาวุธเคมีของอัสซาดเลยสักรายเดียว ก่อนหน้านี้สหรัฐกล่าวหาอัสซาดมาโดยตลอดว่าเขามีอาวุธเคมีในครอบครองและใช้มันเข่นฆ่าประชาชนจนนำไปสู่การคว่ำบาตรอย่างรุนแรงของสหรัฐ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 236 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในขณะที่สื่อของเลบานอนกำลังรายงานเกี่ยวกับนักโทษที่ถูกทรมานจากเรือนจำ Sednaya ของซีเรีย เพื่อสร้างภาพความน่ากลัวโหดร้ายของระบอกอัสซาดที่ถูกโค่นล้มอยู่นั้น......

    ญาติของคนไข้ก็เดินเข้ามา แล้วบอกว่า เขาเป็นชาวเลบานอน เดินทางมารักษาตัวที่ซีเรีย และไม่ใช่นักโทษ

    สื่อผิดหวังอีกครั้ง! หลังจากพยายามสร้างหลักฐานให้อัสซาดโหดร้าย

    ย้ำกันอีกครั้ง จนถึงขณะนี้ยังไม่มีสื่อรายใด รายงานการพบเจอหลักฐานต่างๆที่เชื่อมโยงไปถึงอาวุธเคมีเลยแม้แต่น้อย ซีเรียกำลังจะเป็นอิรักเวอร์ชั่น2024!!
    ในขณะที่สื่อของเลบานอนกำลังรายงานเกี่ยวกับนักโทษที่ถูกทรมานจากเรือนจำ Sednaya ของซีเรีย เพื่อสร้างภาพความน่ากลัวโหดร้ายของระบอกอัสซาดที่ถูกโค่นล้มอยู่นั้น...... ญาติของคนไข้ก็เดินเข้ามา แล้วบอกว่า เขาเป็นชาวเลบานอน เดินทางมารักษาตัวที่ซีเรีย และไม่ใช่นักโทษ สื่อผิดหวังอีกครั้ง! หลังจากพยายามสร้างหลักฐานให้อัสซาดโหดร้าย ย้ำกันอีกครั้ง จนถึงขณะนี้ยังไม่มีสื่อรายใด รายงานการพบเจอหลักฐานต่างๆที่เชื่อมโยงไปถึงอาวุธเคมีเลยแม้แต่น้อย ซีเรียกำลังจะเป็นอิรักเวอร์ชั่น2024!!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 564 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • สหรัฐปกป้องอิสราเอล จากการกระทำบนดินแดนซีเรีย

    "พวกเขามีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยตัวเองซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้อง พวกเขาจึงมีสิทธิที่จะปกป้องตนเอง" - ซาบรินา ซิงห์ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวรับรองการยึดครองดินแดนซีเรียของอิสราเอลเป็นสิ่งที่สมควรทำ

    "ปฏิบัติการที่พวกเขาทำ เพื่อกำจัดสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของพวกเขา ซึ่งรวมถึงอาวุธเคมี ขีปนาวุธ จรวดที่ระบอบการปกครองของอัสซาดควบคุมอยู่" ซิงห์ยังคงตอกย้ำข้ออ้างเรื่องอาวุธเคมี ที่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานว่า “ระบอบการปกครองของอัสซาด” นำมาใช้ในซีเรีย
    สหรัฐปกป้องอิสราเอล จากการกระทำบนดินแดนซีเรีย "พวกเขามีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยตัวเองซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้อง พวกเขาจึงมีสิทธิที่จะปกป้องตนเอง" - ซาบรินา ซิงห์ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวรับรองการยึดครองดินแดนซีเรียของอิสราเอลเป็นสิ่งที่สมควรทำ "ปฏิบัติการที่พวกเขาทำ เพื่อกำจัดสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของพวกเขา ซึ่งรวมถึงอาวุธเคมี ขีปนาวุธ จรวดที่ระบอบการปกครองของอัสซาดควบคุมอยู่" ซิงห์ยังคงตอกย้ำข้ออ้างเรื่องอาวุธเคมี ที่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานว่า “ระบอบการปกครองของอัสซาด” นำมาใช้ในซีเรีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 510 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • อิสราเอลบอกไม่ได้ฉวยโอกาสตะลุยเข้าสู่ดินแดนซีเรียนอกเหนือจากเขตกันชนกับที่ราบสูงโกลัน อย่างที่มีสื่อบางสำนักรายงานว่ากองทัพยิวเข้าประชิดกรุงดามัสกัสแล้ว ขณะที่ทางด้านกลุ่มสังเกตการณ์สถานการณ์การสู้รบในซีเรียระบุว่า รัฐยิวปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทั่วซีเรียแล้วถึงกว่า 300 ระลอก นับจากระบอบอัสซาดปิดฉากลงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
    .
    กองทัพอิสราเอลได้เคลื่อนกำลังเข้ายึดเขตกันชนระหว่างที่ราบสูงโกลัน กับอิสราเอล ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาด 400 ตารางกิโลเมตรภายในซีเรีย ที่ก่อตั้งขึ้นภายหลังสงครามตะวันออกกลางปี 1973 เอาไว้อย่างรวดเร็ว หลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียถูกโค่นล้มเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยฝีมือกลุ่มกบฏที่นำโดยกลุ่ม ฮายัต ตอห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) ที่บุกสายฟ้าแลบจากด้านเหนือของซีเรียเข้าสู่กรุงดามัสกัสในเวลาเพียง 12 วัน
    .
    กิเดียน ซาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล แถลงว่า การเข้ายึดเขตกันชนเป็นมาตรการชั่วคราวและเพียงจำกัด เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคง
    .
    ทว่า ในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ออกมาประกาศว่า ที่ราบสูงโกลันจะเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอลไปตลอดกาล
    .
    พวกชาติอาหรับทั้งอียิปต์ จอร์แดน และซาอุดีอาระเบีย พากันประณามว่านี่เป็นการรุกรานของอิสราเอล ซึ่งละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และกล่าวหาว่าอิสราเอลฉวยโอกาสที่ซีเรียกำลังปั่นป่วน
    .
    ด้านอเมริกาแถลงเช่นเดียวกันว่า การรุกรานของอิสราเอลต้องเป็นปฏิบัติการชั่วคราว หลังจากสหประชาชาติประกาศว่า อิสราเอลกำลังละเมิดข้อตกลงปี 1974
    .
    ต่อมาในวันอังคาร (10 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงคนหนึ่งของซีเรียระบุว่า กองทหารอิสราเอลเคลื่อนกำลังเข้าถึงเมืองกาตานา ห่างจากกรุงดามัสกัสไปทางตะวันตกเฉียงใต้เพียง 25 กิโลเมตร และอยู่ทางด้านตะวันออกของเขตปลอดทหารระหว่างซีเรียกับอิสราเอล
    .
    กระนั้น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของกองทัพอิสราเอลยืนยันว่า รายงานที่กล่าวหาว่า ขบวนรถถังอิสราเอลมุ่งหน้าสู่ดามัสกัสนั้นไม่เป็นความจริง แต่กองทัพรัฐยิวยังคงประจำอยู่ในเขตกันชน และยืนยันจุดยืนเดิมว่า อิสราเอลไม่ต้องการขัดแย้งกับผู้ปกครองใหม่ของดามัสกัส
    .
    อิสราเอลนั้นมีประวัติยาวนานในการยึดดินแดนระหว่างทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านและครอบครองไม่มีกำหนดโดยอ้างความกังวลด้านความมั่นคง ตัวอย่างเช่น การเข้ายึดที่ราบสูงโกลันจากซีเรียในสงครามตะวันออกกลางปี 1967 จากนั้นก็ประกาศเข้าผนวกเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน โดยที่ไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ยกเว้นอเมริกา ผู้เป็นพันธมิตรสำคัญ
    .
    ด้านกลุ่มซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ ซึ่งเป็นกลุ่มติดตามสงครามกลางเมืองในซีเรียที่มีฐานอยู่ในลอนดอน รายงานว่า นับจากระบอบอัสซาดปิดฉากลงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อิสราเอลโจมตีทางอากาศทั่วซีเรียกว่า 300 ระลอกแล้ว ขณะที่เมื่อวันจันทร์ (9 ธ.ค.) อิสราเอลเองบอกว่า ได้โจมตีสถานที่ต้องสงสัยเป็นคลังอาวุธเคมีและอาวุธหนักเชิงยุทธศาสตร์ทั่วซีเรีย ด้วยเหตุผลว่าเพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธเหล่านั้นตกถึงมือกลุ่มลัทธิสุดโต่ง และสำทับว่า จะโจมตีทางอากาศในซีเรียต่อไปอีกหลายวัน
    .
    สำหรับสถานการณ์ภายในซีเรียนั้น ท่ามกลางบรรยากาศการเฉลิมฉลองการปลดแอกจากระบอบอัสซาดที่ดำเนินมาถึงกว่า 50 ปีในดามัสกัส โมฮัมเหม็ด จาลาลี นายกรัฐมนตรีซีเรียที่ยังอยู่ในกรุงดามัสกัสไม่ได้หนีไปไหน กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า จะถ่ายโอนอำนาจให้รัฐบาลกู้ชาติที่นำโดยกลุ่มกบฏและมีฐานอยู่ในดินแดนยึดครองของกลุ่มกบฏทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ
    .
    แหล่งข่าววงในคนหนึ่งเผยว่า อบู โมฮัมเหม็ด อัล-กอลานี ผู้นำเอชทีเอสที่นานาชาติระบุเป็นกลุ่มก่อการร้าย ได้พบกับจาลาลีและรองประธานาธิบดีไฟซาล เมคแดด เพื่อหารือเกี่ยวกับรัฐบาลชั่วคราว และสถานีอัลจาซีรา รายงานว่า หน่วยงานถ่ายโอนอำนาจจะนำโดยโมฮัมเหม็ด อัล-บาชีร์ ผู้นำรัฐบาลกู้ชาติ
    .
    นอกจากนั้นเมื่อวันอังคาร อัล-กอลานียังออกคำแถลงผ่านแพลตฟอร์มเทเลแกรมว่า เร็วๆ นี้จะมีการเปิดเผยรายชื่อเจ้าหน้าที่อาวุโสของระบอบอัสซาด ที่เกี่ยวข้องกับการทรมานชาวซีเรีย ซึ่งจะถูกนำตัวมาลงโทษ รวมทั้งจะเสนอรางวัลให้ผู้ให้เบาะแสเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและกองทัพอาวุโสที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมสงคราม รวมทั้งคณะรัฐบาลชุดใหม่จะหาทางนำตัวเจ้าหน้าที่ซึ่งหนีไปต่างประเทศกลับมารับโทษอีกด้วย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118732
    ..............
    Sondhi X
    อิสราเอลบอกไม่ได้ฉวยโอกาสตะลุยเข้าสู่ดินแดนซีเรียนอกเหนือจากเขตกันชนกับที่ราบสูงโกลัน อย่างที่มีสื่อบางสำนักรายงานว่ากองทัพยิวเข้าประชิดกรุงดามัสกัสแล้ว ขณะที่ทางด้านกลุ่มสังเกตการณ์สถานการณ์การสู้รบในซีเรียระบุว่า รัฐยิวปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทั่วซีเรียแล้วถึงกว่า 300 ระลอก นับจากระบอบอัสซาดปิดฉากลงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา . กองทัพอิสราเอลได้เคลื่อนกำลังเข้ายึดเขตกันชนระหว่างที่ราบสูงโกลัน กับอิสราเอล ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาด 400 ตารางกิโลเมตรภายในซีเรีย ที่ก่อตั้งขึ้นภายหลังสงครามตะวันออกกลางปี 1973 เอาไว้อย่างรวดเร็ว หลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียถูกโค่นล้มเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยฝีมือกลุ่มกบฏที่นำโดยกลุ่ม ฮายัต ตอห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) ที่บุกสายฟ้าแลบจากด้านเหนือของซีเรียเข้าสู่กรุงดามัสกัสในเวลาเพียง 12 วัน . กิเดียน ซาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล แถลงว่า การเข้ายึดเขตกันชนเป็นมาตรการชั่วคราวและเพียงจำกัด เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคง . ทว่า ในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ออกมาประกาศว่า ที่ราบสูงโกลันจะเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอลไปตลอดกาล . พวกชาติอาหรับทั้งอียิปต์ จอร์แดน และซาอุดีอาระเบีย พากันประณามว่านี่เป็นการรุกรานของอิสราเอล ซึ่งละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และกล่าวหาว่าอิสราเอลฉวยโอกาสที่ซีเรียกำลังปั่นป่วน . ด้านอเมริกาแถลงเช่นเดียวกันว่า การรุกรานของอิสราเอลต้องเป็นปฏิบัติการชั่วคราว หลังจากสหประชาชาติประกาศว่า อิสราเอลกำลังละเมิดข้อตกลงปี 1974 . ต่อมาในวันอังคาร (10 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงคนหนึ่งของซีเรียระบุว่า กองทหารอิสราเอลเคลื่อนกำลังเข้าถึงเมืองกาตานา ห่างจากกรุงดามัสกัสไปทางตะวันตกเฉียงใต้เพียง 25 กิโลเมตร และอยู่ทางด้านตะวันออกของเขตปลอดทหารระหว่างซีเรียกับอิสราเอล . กระนั้น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของกองทัพอิสราเอลยืนยันว่า รายงานที่กล่าวหาว่า ขบวนรถถังอิสราเอลมุ่งหน้าสู่ดามัสกัสนั้นไม่เป็นความจริง แต่กองทัพรัฐยิวยังคงประจำอยู่ในเขตกันชน และยืนยันจุดยืนเดิมว่า อิสราเอลไม่ต้องการขัดแย้งกับผู้ปกครองใหม่ของดามัสกัส . อิสราเอลนั้นมีประวัติยาวนานในการยึดดินแดนระหว่างทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านและครอบครองไม่มีกำหนดโดยอ้างความกังวลด้านความมั่นคง ตัวอย่างเช่น การเข้ายึดที่ราบสูงโกลันจากซีเรียในสงครามตะวันออกกลางปี 1967 จากนั้นก็ประกาศเข้าผนวกเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน โดยที่ไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ยกเว้นอเมริกา ผู้เป็นพันธมิตรสำคัญ . ด้านกลุ่มซีเรียน ออบเซอร์วาทอรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์ ซึ่งเป็นกลุ่มติดตามสงครามกลางเมืองในซีเรียที่มีฐานอยู่ในลอนดอน รายงานว่า นับจากระบอบอัสซาดปิดฉากลงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อิสราเอลโจมตีทางอากาศทั่วซีเรียกว่า 300 ระลอกแล้ว ขณะที่เมื่อวันจันทร์ (9 ธ.ค.) อิสราเอลเองบอกว่า ได้โจมตีสถานที่ต้องสงสัยเป็นคลังอาวุธเคมีและอาวุธหนักเชิงยุทธศาสตร์ทั่วซีเรีย ด้วยเหตุผลว่าเพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธเหล่านั้นตกถึงมือกลุ่มลัทธิสุดโต่ง และสำทับว่า จะโจมตีทางอากาศในซีเรียต่อไปอีกหลายวัน . สำหรับสถานการณ์ภายในซีเรียนั้น ท่ามกลางบรรยากาศการเฉลิมฉลองการปลดแอกจากระบอบอัสซาดที่ดำเนินมาถึงกว่า 50 ปีในดามัสกัส โมฮัมเหม็ด จาลาลี นายกรัฐมนตรีซีเรียที่ยังอยู่ในกรุงดามัสกัสไม่ได้หนีไปไหน กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า จะถ่ายโอนอำนาจให้รัฐบาลกู้ชาติที่นำโดยกลุ่มกบฏและมีฐานอยู่ในดินแดนยึดครองของกลุ่มกบฏทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ . แหล่งข่าววงในคนหนึ่งเผยว่า อบู โมฮัมเหม็ด อัล-กอลานี ผู้นำเอชทีเอสที่นานาชาติระบุเป็นกลุ่มก่อการร้าย ได้พบกับจาลาลีและรองประธานาธิบดีไฟซาล เมคแดด เพื่อหารือเกี่ยวกับรัฐบาลชั่วคราว และสถานีอัลจาซีรา รายงานว่า หน่วยงานถ่ายโอนอำนาจจะนำโดยโมฮัมเหม็ด อัล-บาชีร์ ผู้นำรัฐบาลกู้ชาติ . นอกจากนั้นเมื่อวันอังคาร อัล-กอลานียังออกคำแถลงผ่านแพลตฟอร์มเทเลแกรมว่า เร็วๆ นี้จะมีการเปิดเผยรายชื่อเจ้าหน้าที่อาวุโสของระบอบอัสซาด ที่เกี่ยวข้องกับการทรมานชาวซีเรีย ซึ่งจะถูกนำตัวมาลงโทษ รวมทั้งจะเสนอรางวัลให้ผู้ให้เบาะแสเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและกองทัพอาวุโสที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมสงคราม รวมทั้งคณะรัฐบาลชุดใหม่จะหาทางนำตัวเจ้าหน้าที่ซึ่งหนีไปต่างประเทศกลับมารับโทษอีกด้วย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118732 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1419 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts