• “ใต้ทะเลไม่เงียบอีกต่อไป — ไต้หวันเพิ่มการลาดตระเวนสายเคเบิลใต้น้ำ 24 จุด รับมือยุทธวิธี ‘สงครามสีเทา’ จากจีน”

    ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไต้หวันเผชิญกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่การยิงขีปนาวุธหรือการส่งเรือรบ แต่เป็นการโจมตีสายเคเบิลใต้น้ำที่เชื่อมต่อเกาะกับโลกภายนอก ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสารระดับประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การทหาร และการบริหารภาครัฐ

    ล่าสุด รัฐบาลไต้หวันได้เพิ่มการลาดตระเวนรอบสายเคเบิลใต้น้ำทั้ง 24 จุดทั่วเกาะ โดยเน้นพื้นที่ TP3 ซึ่งเคยถูกเรือจีนชื่อ Hong Tai 58 ตัดสายเคเบิลในเดือนกุมภาพันธ์ และศาลไต้หวันได้ตัดสินว่ากัปตันจีนมีความผิดฐานเจตนาโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

    การลาดตระเวนดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง โดยใช้เรือตรวจการณ์ PP-10079 พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อมีเรือเข้าใกล้สายเคเบิลในระยะ 1 กิโลเมตรด้วยความเร็วต่ำ รวมถึงการใช้เรดาร์และสถานีตรวจจับหลายสิบแห่งทั่วเกาะเพื่อสแกนหาความเคลื่อนไหวที่น่าสงสัย

    เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของไต้หวันระบุว่า มีเรือที่เชื่อมโยงกับจีนกว่า 96 ลำที่ถูกขึ้นบัญชีดำ และอีกกว่า 400 ลำที่สามารถดัดแปลงเป็นเรือสงครามได้ ซึ่งสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อทรัพยากรของหน่วยยามชายฝั่ง

    เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงยุทธวิธี “สงครามสีเทา” ที่จีนใช้เพื่อบั่นทอนเสถียรภาพของไต้หวันโดยไม่ต้องเปิดฉากสงครามอย่างเป็นทางการ เช่นเดียวกับที่รัสเซียเคยใช้ในทะเลบอลติกหลังการรุกรานยูเครน

    มาตรการป้องกันสายเคเบิลใต้น้ำของไต้หวัน
    เพิ่มการลาดตระเวน 24 ชั่วโมงรอบสายเคเบิล TP3 และอีก 23 จุดทั่วเกาะ
    ใช้เรือตรวจการณ์ PP-10079 พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อมีเรือเข้าใกล้
    มีสถานีเรดาร์หลายสิบแห่งช่วยตรวจจับเรือที่เคลื่อนที่ผิดปกติ
    ออกคำเตือนทางวิทยุก่อนส่งเรือเข้าตรวจสอบ

    เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีสายเคเบิล
    เรือ Hong Tai 58 ถูกตัดสินว่าตั้งใจตัดสายเคเบิล TP3 ในเดือนกุมภาพันธ์
    ศาลไต้หวันตัดสินจำคุกกัปตันจีนเป็นเวลา 3 ปี
    มีเหตุการณ์คล้ายกันในภาคเหนือของไต้หวันที่เชื่อมโยงกับเรือจีน
    จีนปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่าไต้หวัน “สร้างเรื่อง” ก่อนมีข้อเท็จจริง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    สายเคเบิลใต้น้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของการสื่อสารระดับโลก
    การตัดสายเคเบิลสามารถทำให้ประเทศหนึ่ง “ตัดขาดจากโลกภายนอก” ได้ทันที
    ยุทธวิธีสงครามสีเทาเน้นการบั่นทอนทรัพยากรโดยไม่เปิดสงคราม
    รัสเซียเคยใช้วิธีคล้ายกันในทะเลบอลติกหลังรุกรานยูเครน

    https://www.tomshardware.com/networking/taiwan-increases-undersea-cable-protection-patrols-closely-monitoring-96-blacklisted-china-linked-boats
    🌊 “ใต้ทะเลไม่เงียบอีกต่อไป — ไต้หวันเพิ่มการลาดตระเวนสายเคเบิลใต้น้ำ 24 จุด รับมือยุทธวิธี ‘สงครามสีเทา’ จากจีน” ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไต้หวันเผชิญกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่การยิงขีปนาวุธหรือการส่งเรือรบ แต่เป็นการโจมตีสายเคเบิลใต้น้ำที่เชื่อมต่อเกาะกับโลกภายนอก ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสารระดับประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การทหาร และการบริหารภาครัฐ ล่าสุด รัฐบาลไต้หวันได้เพิ่มการลาดตระเวนรอบสายเคเบิลใต้น้ำทั้ง 24 จุดทั่วเกาะ โดยเน้นพื้นที่ TP3 ซึ่งเคยถูกเรือจีนชื่อ Hong Tai 58 ตัดสายเคเบิลในเดือนกุมภาพันธ์ และศาลไต้หวันได้ตัดสินว่ากัปตันจีนมีความผิดฐานเจตนาโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ การลาดตระเวนดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง โดยใช้เรือตรวจการณ์ PP-10079 พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อมีเรือเข้าใกล้สายเคเบิลในระยะ 1 กิโลเมตรด้วยความเร็วต่ำ รวมถึงการใช้เรดาร์และสถานีตรวจจับหลายสิบแห่งทั่วเกาะเพื่อสแกนหาความเคลื่อนไหวที่น่าสงสัย เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของไต้หวันระบุว่า มีเรือที่เชื่อมโยงกับจีนกว่า 96 ลำที่ถูกขึ้นบัญชีดำ และอีกกว่า 400 ลำที่สามารถดัดแปลงเป็นเรือสงครามได้ ซึ่งสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อทรัพยากรของหน่วยยามชายฝั่ง เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงยุทธวิธี “สงครามสีเทา” ที่จีนใช้เพื่อบั่นทอนเสถียรภาพของไต้หวันโดยไม่ต้องเปิดฉากสงครามอย่างเป็นทางการ เช่นเดียวกับที่รัสเซียเคยใช้ในทะเลบอลติกหลังการรุกรานยูเครน ✅ มาตรการป้องกันสายเคเบิลใต้น้ำของไต้หวัน ➡️ เพิ่มการลาดตระเวน 24 ชั่วโมงรอบสายเคเบิล TP3 และอีก 23 จุดทั่วเกาะ ➡️ ใช้เรือตรวจการณ์ PP-10079 พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อมีเรือเข้าใกล้ ➡️ มีสถานีเรดาร์หลายสิบแห่งช่วยตรวจจับเรือที่เคลื่อนที่ผิดปกติ ➡️ ออกคำเตือนทางวิทยุก่อนส่งเรือเข้าตรวจสอบ ✅ เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีสายเคเบิล ➡️ เรือ Hong Tai 58 ถูกตัดสินว่าตั้งใจตัดสายเคเบิล TP3 ในเดือนกุมภาพันธ์ ➡️ ศาลไต้หวันตัดสินจำคุกกัปตันจีนเป็นเวลา 3 ปี ➡️ มีเหตุการณ์คล้ายกันในภาคเหนือของไต้หวันที่เชื่อมโยงกับเรือจีน ➡️ จีนปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่าไต้หวัน “สร้างเรื่อง” ก่อนมีข้อเท็จจริง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ สายเคเบิลใต้น้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของการสื่อสารระดับโลก ➡️ การตัดสายเคเบิลสามารถทำให้ประเทศหนึ่ง “ตัดขาดจากโลกภายนอก” ได้ทันที ➡️ ยุทธวิธีสงครามสีเทาเน้นการบั่นทอนทรัพยากรโดยไม่เปิดสงคราม ➡️ รัสเซียเคยใช้วิธีคล้ายกันในทะเลบอลติกหลังรุกรานยูเครน https://www.tomshardware.com/networking/taiwan-increases-undersea-cable-protection-patrols-closely-monitoring-96-blacklisted-china-linked-boats
    0 Comments 0 Shares 3 Views 0 Reviews
  • เนทันยาฮู:
    "เราจะทำตามเป้าหมายของเรา ว่ารัฐปาเลสไตน์จะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก ที่นี่เป็นดินแดนของเรา"

    ชัดเจนว่าไม่มีความคิดเรื่องเจรจาหยุดยิง และการทำสงครามกับฮามาสที่ผ่านมา โดยอ้างเรื่องตัวประกัน เป็นเพียงคำหลอกลวงของอิสราเอล!
    เนทันยาฮู: "เราจะทำตามเป้าหมายของเรา ว่ารัฐปาเลสไตน์จะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก ที่นี่เป็นดินแดนของเรา" ชัดเจนว่าไม่มีความคิดเรื่องเจรจาหยุดยิง และการทำสงครามกับฮามาสที่ผ่านมา โดยอ้างเรื่องตัวประกัน เป็นเพียงคำหลอกลวงของอิสราเอล!
    0 Comments 0 Shares 35 Views 0 0 Reviews
  • คุณสนธิคะ #ใครส่งอาวุธมาเสริมให้กัมพูชาๆมันเสริมอาวุธและกองกำลังประชิดชายแดนไทยตลอดเวลา ลอบกัดวางระเบิดไม่หยุดยั่วยุทุกอย่าง ใครเป็นแบ็คให้มัน พวกจีนเทาฟอกเงินสกปรกเป็นอาวุธเพื่อมาทำร้ายไทย#แล้วจีน&รัสเซียร่วมด้วยหรือไม่??อาสนธิสนิทสืบข่าวให้หน่อยคะ#ไอพวกนักการเมืองชั่วๆอ้างปากท้องประชาชน"^^แต่จริงคือปากท้องของพวกมันมากกว่า#กระสันอยากเปิดด่านเหลือเกินผลประโยชน์ส่วนตัวบ่อนการพนัน ไม่สนใจแผ่นดินชาติบ้านเมือง พวกมันต้องการให้เหตุปัจจัยนำประชาชนลงถนนงั้นหรือ หากประชาชนหมดความอดทนเดี๋ยวจะเป็นแบบเนปาลประเทศชาติจะพังพินาศใครจะรับผิดชอบ #การที่กัมพูชามันกำแหงขนาดนี้ได้ต้องมีแบ็คใหญ่อยู่เบื้องหลังแน่ๆ.."มันคือใคร?คะ#ไอพวกเขมรไม่จำเป็นต้องเจรจามันไม่มีสัจจะในหมู่โจร พูดอย่างทำอย่าง"ขอบอกไว้เลยถ้าไทยอยู่ไม่ได้ประเทศแถบนี้ก็พังไปทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสงครามตัวแทนหรืออะไรก็ตาม "จีนคือหัวมังกร"ไทยก็คือหางมังกรไม่มีใครขาดใครได้หรอก#ถ้าสงครามโลกเกิดที่ไทยอเมริกาก็จบเหมือนกัน มันไม่ใช่อาวุธนิวเคลียร์ แต่มันเหนือกว่านิวเคลียร์เสียอีก"นักการเมืองโกงกินกันจนทำให้ประเทศชาติไม่ไปไหนเลย คราวนี้ประชาชนสุดทนจริงๆกับการไปหยุดกองทัพเพื่อช่วยกัมพูชาได้เตรียมตัว เสริมกำลังทหารและอาวุธทั้งฝึกการใช้อาวุธและโดรนทุกอย่างใครฝึกให้..?"คนที่นัดหมายแล้วไม่ตรงต่อเวลาถือว่าเป็นการดูถูกอีกฝ่ายอย่างชัดเจน มันเริ่มก่อนแต่แซรงทำตัวเป็น"เหยื่อใครเชื่อมันก็โง่ไม่มีอะไรเปรียบ"ขออ.สนธิเจาะข้อมูลลึกๆออกมาเลยคะพรุ่งนี้ หนูนอนไม่ค่อยหลับเลยว่าศัตรูของไทยมันคือใคร "คนในชาติเดียวกันร่วมมือกับศัตรูเพื่อฆ่าคนไทย เราไว้ใจใครไม่ได้เลยบอกตรงๆ"24ปีกับระบอบทักกี้บ้านเมืองก็บอบช้ำมามากเกินทน ประชาชนลำบากยากเข็นแต่พวกนักการเมืองกับร่ำรวยมหาศาลอยู่อย่างสุขสบายเข้าไปสมัยเดียวก็มีทรัพย์มากมาย มันคืออะไร ทางภาคเหนือประชาชนเจอน้ำท่วมใหญ่ติดต่อกันมาหลายปี นักการเมืองบริหารจัดการระบบป้องกันยังไงถึงท่วมซ้ำซาก ประชาชนลำบากไม่เคยเหลียวแล จ้องแต่จะแบ่งเค็กกัน มองบ้างซิคนที่เลือกพวกคุณเข้าไป ได้ทำอะไรเพื่อเขาบ้างไหม..ไม่เคยเห็นมี จ้องแต่จะฟอกขาวตัวเองและพวกพ้อง "ถ้าประชาชนไร้ที่พึ่งประชาชนก็จะพึ่งตัวเอง ถ้าคนจำนวนมากออกมาคุณจะฆ่าทั้งหมดได้ไหมถามจริงๆ อาสนธิรอฟังนะคะพรุ่งนี้🖥
    คุณสนธิคะ #ใครส่งอาวุธมาเสริมให้กัมพูชาๆมันเสริมอาวุธและกองกำลังประชิดชายแดนไทยตลอดเวลา ลอบกัดวางระเบิดไม่หยุดยั่วยุทุกอย่าง ใครเป็นแบ็คให้มัน พวกจีนเทาฟอกเงินสกปรกเป็นอาวุธเพื่อมาทำร้ายไทย#แล้วจีน&รัสเซียร่วมด้วยหรือไม่??อาสนธิสนิทสืบข่าวให้หน่อยคะ#ไอพวกนักการเมืองชั่วๆอ้างปากท้องประชาชน"^^แต่จริงคือปากท้องของพวกมันมากกว่า#กระสันอยากเปิดด่านเหลือเกินผลประโยชน์ส่วนตัวบ่อนการพนัน ไม่สนใจแผ่นดินชาติบ้านเมือง พวกมันต้องการให้เหตุปัจจัยนำประชาชนลงถนนงั้นหรือ หากประชาชนหมดความอดทนเดี๋ยวจะเป็นแบบเนปาลประเทศชาติจะพังพินาศใครจะรับผิดชอบ #การที่กัมพูชามันกำแหงขนาดนี้ได้ต้องมีแบ็คใหญ่อยู่เบื้องหลังแน่ๆ.."มันคือใคร?คะ🤔#ไอพวกเขมรไม่จำเป็นต้องเจรจามันไม่มีสัจจะในหมู่โจร พูดอย่างทำอย่าง"ขอบอกไว้เลยถ้าไทยอยู่ไม่ได้ประเทศแถบนี้ก็พังไปทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสงครามตัวแทนหรืออะไรก็ตาม "จีนคือหัวมังกร"ไทยก็คือหางมังกรไม่มีใครขาดใครได้หรอก#ถ้าสงครามโลกเกิดที่ไทยอเมริกาก็จบเหมือนกัน มันไม่ใช่อาวุธนิวเคลียร์ แต่มันเหนือกว่านิวเคลียร์เสียอีก"นักการเมืองโกงกินกันจนทำให้ประเทศชาติไม่ไปไหนเลย คราวนี้ประชาชนสุดทนจริงๆกับการไปหยุดกองทัพเพื่อช่วยกัมพูชาได้เตรียมตัว เสริมกำลังทหารและอาวุธทั้งฝึกการใช้อาวุธและโดรนทุกอย่างใครฝึกให้..?"คนที่นัดหมายแล้วไม่ตรงต่อเวลาถือว่าเป็นการดูถูกอีกฝ่ายอย่างชัดเจน มันเริ่มก่อนแต่แซรงทำตัวเป็น"เหยื่อใครเชื่อมันก็โง่ไม่มีอะไรเปรียบ🙄"ขออ.สนธิเจาะข้อมูลลึกๆออกมาเลยคะพรุ่งนี้ หนูนอนไม่ค่อยหลับเลยว่าศัตรูของไทยมันคือใคร "คนในชาติเดียวกันร่วมมือกับศัตรูเพื่อฆ่าคนไทย เราไว้ใจใครไม่ได้เลยบอกตรงๆ"24ปีกับระบอบทักกี้บ้านเมืองก็บอบช้ำมามากเกินทน ประชาชนลำบากยากเข็นแต่พวกนักการเมืองกับร่ำรวยมหาศาลอยู่อย่างสุขสบายเข้าไปสมัยเดียวก็มีทรัพย์มากมาย มันคืออะไร ทางภาคเหนือประชาชนเจอน้ำท่วมใหญ่ติดต่อกันมาหลายปี นักการเมืองบริหารจัดการระบบป้องกันยังไงถึงท่วมซ้ำซาก ประชาชนลำบากไม่เคยเหลียวแล จ้องแต่จะแบ่งเค็กกัน มองบ้างซิคนที่เลือกพวกคุณเข้าไป ได้ทำอะไรเพื่อเขาบ้างไหม..ไม่เคยเห็นมี จ้องแต่จะฟอกขาวตัวเองและพวกพ้อง "ถ้าประชาชนไร้ที่พึ่งประชาชนก็จะพึ่งตัวเอง ถ้าคนจำนวนมากออกมาคุณจะฆ่าทั้งหมดได้ไหมถามจริงๆ อาสนธิรอฟังนะคะพรุ่งนี้🔊🎧🖥💡
    Yay
    1
    0 Comments 0 Shares 70 Views 0 Reviews
  • ..พล.อ.รังษี อย่าให้จีนมาถือการลงทุนมากกว่าไทยเลยนะ ไม่ดีแน่นอน นี้คือการครอบงำกิจการ ครอบงำการปฏิบัติงานอธิปไตยของชาตินะ จะทำอะไรก็ต้องขออนุญาตจีนแล้วนะนั้น อันตรายมาก,แนวคิดนี้ท่านพลาดใหญ่หลวงเลยนะ,การดำรงอธิปไตยไทยได้ดีที่สุดคือเป็นเจ้าของ100% ให้บริการดูแลเขาเต็มที่ก็พอ เสมือนห้องประชุมงานเลี้ยงที่สถานที่คือของเรา100%ผลประโยชน์ด้านงานสถานที่คือรับเต็มๆ100%
    เราบริหารจัดการสั่งการบัญชาการอะไร ปรับปรุงแบบไหนอิสระเต็มที่ ไม่ต้องรออนุญาตอนุมัติจากใคร รอใครมาเห็นชอบด้วย บริหารจัดการได้100%.

    ..จะรถไฟระบบรางความเร็วสูงจะรีบร้อนอะไร เรามีกำลังเท่าไรก็ทำเองเท่านั้นก่อน,ที่ดินและระบบรางเป็นตังเป็นทุนของเราเองสร้าง ความเป็นเจ้าของเราก็100%เต็ม พื้นที่บริหารจัดการรางรถไฟทั้งหมดเราบริหารจัดการเอง,เชื่อมรถไฟจีน จีนแค่เอารถไฟจีนของตัวเองมาวิ่งแค่นั้น ห้ามมีสิทธิใดๆในอธิปไตยดินแดนบนแผ่นดินไทยเราให้บรืหารจัดการยุ่งยาก,ผลประโยชน์ทั้งหมดจะตกแก่คนไทยในชาติเราเอง,เช่นสถานีพักระหว่างทางขึ้นลง คนไทยสร้างศูนย์การค้าการตลาดประชาชนเองร่วมกัน นักท่องเที่ยวลงจอดแวะซื้อขายบนเขตพื้นที่บริหารจัดการเราผู้เดียว ตังก็หมุนเวียนทันทีภายในประเทศไทยเรา รถไฟจีนมาหน้าที่ขนคนขนสินค้าบริการตนตามเป้าหมายปลายทางแค่นั้น,ไทยไม่เป็นหนี้ตังจีนมาเร่งรีบลงทุนงานก่อสร้างด้วย,เราจัดการข้าราชการทุจริตจริงจังจบก็สบายทันที โปร่งใสสร้างความเชื่อถือได้แล้ว ไม่ยากอะไร,อย่าเป็นแบบลาว จีนสร้างเแ็นของจีนหมดตลอดที่ดินสร้างรางรถไฟ นี้เสียอธิปไตยบริหารจัดการบนแผ่นดินตนชัดเจน,ความโลภลักษณะนี้อันตรายต่อลูกหลานเราเองในคนรุ่นหลังๆเราอาจด่าโคตรเหง้าว่าขายชาติขายสิทธิอธิปไตยตนเองได้,

    ..ขุดคลองคิดกระก็ขุดเอง100%ห้ามต่างชาติมายุ่ง
    ..สร้างแลนด์บริดจ์ข้างคลองคอดกระทั้งสองข้างก็ห้ามใครมายุ่ง,ระดมทุนจากภาคประชาชนทั้งประเทศไทยได้ สร้างมันขึ้นมาสิ.,ตั้งเป็นกองทุนคลองไทยแห่งชาติก็ได้ สร้างบริษัทบริหารจัดการคลองคอดกระและแลนด์บริดจ์เอง,ไม่ต้องให้มหาอำนาจใดมาแดกตังมากอบโกยเม็ดเงินมหาศาลนี้ง่ายๆจะจีนจะอเมริกาก็ตามที่เป็นเขตราชอาณาจักรอธิปไตยไทยนี้,เม็ดเงินมหาศาลจากการบริหารจัดการคลองคอดกระ จากแลนด์บริดจ์อาจกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีได้ทั่วประ้ทศไทยเราโดยเฉพาะเขตคลองคอดกระและแลนด์บริดจ์นี้.,จะไปให้จีนถือมากกว่าไทยทำไม,ใช่ไม่ได้ เสมือนหมอบกราบสยบใต้ตีนจีนเกินไป ไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรีเพราะนี้คือดินแดนแผ่นดินไทย เขตอธิปไตยไทยคลองไทยเราขุดเองระเบิดเองจะทำไม,จีนอเมริกามาบีบหมายบังคับจะแดกด้วยใช้ไม่ได้,ให้สามารถสร้างงานบริการเต็มที่ที่ลูกค้าทั่วโลกผ่านเข้าออกคลองไทยเรา,ต่างชาติจะมาแทรกแซงสั่งการใดๆไม่ได้ เราจะปิดจะเปิดคลองไทยมันคืออธิปไตยไทย100% รวมรางรถไฟความเร็วสูงด้วย ปิดระบบรางเพื่อความมั่นคงของไทยก็ได้ตลอดเวลาอีก ใครจะมาปรับเอาความเสียหายกับเราก็ไม่ได้,รางรถไฟเราสร้างเองไม่ต้องกู้ตังใครถูกต้องที่สุด ดำเนินทางสายกลางถูกแล้ว.

    ..จริงๆเราสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยเราทันทีได้ง่ายๆ พลิกหน้ามือมารอดมาตั้งหลักตั้งฐานได้ทันทีกันเลย นั้นคือ ยกเลิกสัมปทานปิโตรเลียมทั้งหมดที่ไม่ผ่านสภาประชาธิปไตยใดๆเลย ซึ่งเป็นกิจการความมั่นคงโดยตรงด้านพลังงานขับเคลื่อนทุกๆบริบทกิจกรรมภายในประเทศไทยเรา ต้องโมฆะทันที ยึดคืนสู่สามัญใหม่ให้ถูกต้องเป็นธรรมกว่าในอดีตๆที่ผ่านๆมา,เศรษฐกิจจะพลิกฟื้นทันที เราสามารถส่งทหารไปผลิตเองใช้ในประเทศก่อนได้ ขายน้ำมันราคาไม่แพงแก่ประชาชนแลัอุตสาหกรรมภายในประเทศที่เป็นของคนไทยก่อน สัญชาติไทย100%หุ้นไทยก่อน,ใครมีต่างชาติถือหุ้นด้วยก็อีกราคาต่างหาก,เกษตรกรสามารถซื้อน้ำมันราคาลิตรละ1-2บาทได้ ขนส่งก็อาจลิตรละ0.90บาท ,ค่าครองชีพค่าขนส่งจะลดลงทันที,ราคาสินค้าจะปรับฐานใหม่ภายในประเทศ ทุกๆอย่างจะปรับฐานใหม่หมดจะเชื่อมโยงกระทบทางที่ดีหมด,ราคาสินค้าเราจะต้นทุนต่ำ สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ทันที ข้าวจากตันละ400-600$,อาจลดเหลือ200-300$ ต้นทุนแค่10$ต่อตัน,กำไรกว่า100$พอใจมั้ย,คนซื้อก็พอใจประหยัดตังได้อีก,ความอุดมสมบูรณ์จะกลับคืนมาทันที,นักเรียนนักศึกษาจากปกติพกตังหลายร้อยบาทไปโรงเรียนไปมหาลัยตื๊ดๆทีก็หมดไปหลายร้อย,ปัจจุบันตื๊ดๆที ได้สินค้าอาหารกับข้าวกินจนอิ่มจนเหลือทุกๆวันเพราะ10-20บาทอาจเทียบกับพกตังไปในกระเป๋ากว่าพันกว่าหมื่นบาทกันเลย,ข้าวอาหารก๋วยเตี๋ยวอาจชามละ0.25บาทนั้นเอง,น้ำมันเติมมอไซค์ไปโรงเรียนไปมหาลัยอาจแค่ลิตรละ0.5-1บาทสำหรับนักเรียนนักศึกษาก็ได้,1บาทได้2ลิตรเกือบเต็มถัง.2บาท4ลิตรล้นถังมอไซค์แน่นอน,
    ..ต้นเหตุเศรษฐกิจจริงๆตอนนี้คือน้ำมันคือพลังงาน จะรบจะทำสงครามกันเครื่องจักรปัจจุบันกินน้ำมันหมด,
    ..ไทยเรายึดบ่อน้ำมันจากอีลิทต่างชาติdeep state หลายๆปัญหาจบแน่นอน,ยึดสัก20-30บ่อมาผลิตขายเองในไทยดูสิ จะเห็นผลทันที ทุกๆคนไทยใช้รถ ขนส่งสินค้าใช้รถ ราคาสินค้าบวกต้นทุนขนส่งหมด,ต้นทุนต้นน้ำแบบเกษตรกร โรงงานผู้ผลิตต่างๆลดลง กำไรเขาก็มากได้ ลดค่าใช้จ่ายรวมอีก,ต้นน้ำถูก ปลายน้ำก็ถูกทันที
    ..จริงๆปัญหาประเทศไทยตัวโคตรพ่อโคตรแมร่งจริงๆคือบ่อน้ำมันในไทยเรา,ยึดคืนมาทั้งหมดที่ถูกปล้นจากสัญญาสัมปทานเอาเปรียบประเทศไทยมานานก็จบแล้ว.,ไปเดินอ้อมปัญหาจริงๆทำไม.ลดค่าน้ำมันลิตรละ0.50-1บาทในไทย ลดค่าไฟฟ้า 0.15-0.25บาทต่อหน่วย ,เศรษฐกิจทั่วประเทศไทยฟื้นฟูทันที,จากนั้นค่อยแก้ไปทีละจุดๆต่อไป,ขายน้ำมันในราคาตลาดโลกเมื่อส่งออก,วิกฤติไทยแก้ได้แน่นอน.,ที่เขมรใช้1:200,000ก็ฝรั่งเศสอเมริกาหรือหลายชาติต่างอยากได้แดกบ่อน้ำมันในอ่าวไทยเรานี้ด้วยล่ะ,ก่อนไปพลังงานสะอาดอื่นๆที่สร้างค่าเสถียรการใช้งานปลอดภัยได้แล้ว.,แต่คงหลายสิบปีหรือหลายร้อยปีกันเลย.


    https://youtube.com/watch?v=41WZaOg8ZFo&si=RViZxHzSvx9JtmUZ
    ..พล.อ.รังษี อย่าให้จีนมาถือการลงทุนมากกว่าไทยเลยนะ ไม่ดีแน่นอน นี้คือการครอบงำกิจการ ครอบงำการปฏิบัติงานอธิปไตยของชาตินะ จะทำอะไรก็ต้องขออนุญาตจีนแล้วนะนั้น อันตรายมาก,แนวคิดนี้ท่านพลาดใหญ่หลวงเลยนะ,การดำรงอธิปไตยไทยได้ดีที่สุดคือเป็นเจ้าของ100% ให้บริการดูแลเขาเต็มที่ก็พอ เสมือนห้องประชุมงานเลี้ยงที่สถานที่คือของเรา100%ผลประโยชน์ด้านงานสถานที่คือรับเต็มๆ100% เราบริหารจัดการสั่งการบัญชาการอะไร ปรับปรุงแบบไหนอิสระเต็มที่ ไม่ต้องรออนุญาตอนุมัติจากใคร รอใครมาเห็นชอบด้วย บริหารจัดการได้100%. ..จะรถไฟระบบรางความเร็วสูงจะรีบร้อนอะไร เรามีกำลังเท่าไรก็ทำเองเท่านั้นก่อน,ที่ดินและระบบรางเป็นตังเป็นทุนของเราเองสร้าง ความเป็นเจ้าของเราก็100%เต็ม พื้นที่บริหารจัดการรางรถไฟทั้งหมดเราบริหารจัดการเอง,เชื่อมรถไฟจีน จีนแค่เอารถไฟจีนของตัวเองมาวิ่งแค่นั้น ห้ามมีสิทธิใดๆในอธิปไตยดินแดนบนแผ่นดินไทยเราให้บรืหารจัดการยุ่งยาก,ผลประโยชน์ทั้งหมดจะตกแก่คนไทยในชาติเราเอง,เช่นสถานีพักระหว่างทางขึ้นลง คนไทยสร้างศูนย์การค้าการตลาดประชาชนเองร่วมกัน นักท่องเที่ยวลงจอดแวะซื้อขายบนเขตพื้นที่บริหารจัดการเราผู้เดียว ตังก็หมุนเวียนทันทีภายในประเทศไทยเรา รถไฟจีนมาหน้าที่ขนคนขนสินค้าบริการตนตามเป้าหมายปลายทางแค่นั้น,ไทยไม่เป็นหนี้ตังจีนมาเร่งรีบลงทุนงานก่อสร้างด้วย,เราจัดการข้าราชการทุจริตจริงจังจบก็สบายทันที โปร่งใสสร้างความเชื่อถือได้แล้ว ไม่ยากอะไร,อย่าเป็นแบบลาว จีนสร้างเแ็นของจีนหมดตลอดที่ดินสร้างรางรถไฟ นี้เสียอธิปไตยบริหารจัดการบนแผ่นดินตนชัดเจน,ความโลภลักษณะนี้อันตรายต่อลูกหลานเราเองในคนรุ่นหลังๆเราอาจด่าโคตรเหง้าว่าขายชาติขายสิทธิอธิปไตยตนเองได้, ..ขุดคลองคิดกระก็ขุดเอง100%ห้ามต่างชาติมายุ่ง ..สร้างแลนด์บริดจ์ข้างคลองคอดกระทั้งสองข้างก็ห้ามใครมายุ่ง,ระดมทุนจากภาคประชาชนทั้งประเทศไทยได้ สร้างมันขึ้นมาสิ.,ตั้งเป็นกองทุนคลองไทยแห่งชาติก็ได้ สร้างบริษัทบริหารจัดการคลองคอดกระและแลนด์บริดจ์เอง,ไม่ต้องให้มหาอำนาจใดมาแดกตังมากอบโกยเม็ดเงินมหาศาลนี้ง่ายๆจะจีนจะอเมริกาก็ตามที่เป็นเขตราชอาณาจักรอธิปไตยไทยนี้,เม็ดเงินมหาศาลจากการบริหารจัดการคลองคอดกระ จากแลนด์บริดจ์อาจกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีได้ทั่วประ้ทศไทยเราโดยเฉพาะเขตคลองคอดกระและแลนด์บริดจ์นี้.,จะไปให้จีนถือมากกว่าไทยทำไม,ใช่ไม่ได้ เสมือนหมอบกราบสยบใต้ตีนจีนเกินไป ไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรีเพราะนี้คือดินแดนแผ่นดินไทย เขตอธิปไตยไทยคลองไทยเราขุดเองระเบิดเองจะทำไม,จีนอเมริกามาบีบหมายบังคับจะแดกด้วยใช้ไม่ได้,ให้สามารถสร้างงานบริการเต็มที่ที่ลูกค้าทั่วโลกผ่านเข้าออกคลองไทยเรา,ต่างชาติจะมาแทรกแซงสั่งการใดๆไม่ได้ เราจะปิดจะเปิดคลองไทยมันคืออธิปไตยไทย100% รวมรางรถไฟความเร็วสูงด้วย ปิดระบบรางเพื่อความมั่นคงของไทยก็ได้ตลอดเวลาอีก ใครจะมาปรับเอาความเสียหายกับเราก็ไม่ได้,รางรถไฟเราสร้างเองไม่ต้องกู้ตังใครถูกต้องที่สุด ดำเนินทางสายกลางถูกแล้ว. ..จริงๆเราสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยเราทันทีได้ง่ายๆ พลิกหน้ามือมารอดมาตั้งหลักตั้งฐานได้ทันทีกันเลย นั้นคือ ยกเลิกสัมปทานปิโตรเลียมทั้งหมดที่ไม่ผ่านสภาประชาธิปไตยใดๆเลย ซึ่งเป็นกิจการความมั่นคงโดยตรงด้านพลังงานขับเคลื่อนทุกๆบริบทกิจกรรมภายในประเทศไทยเรา ต้องโมฆะทันที ยึดคืนสู่สามัญใหม่ให้ถูกต้องเป็นธรรมกว่าในอดีตๆที่ผ่านๆมา,เศรษฐกิจจะพลิกฟื้นทันที เราสามารถส่งทหารไปผลิตเองใช้ในประเทศก่อนได้ ขายน้ำมันราคาไม่แพงแก่ประชาชนแลัอุตสาหกรรมภายในประเทศที่เป็นของคนไทยก่อน สัญชาติไทย100%หุ้นไทยก่อน,ใครมีต่างชาติถือหุ้นด้วยก็อีกราคาต่างหาก,เกษตรกรสามารถซื้อน้ำมันราคาลิตรละ1-2บาทได้ ขนส่งก็อาจลิตรละ0.90บาท ,ค่าครองชีพค่าขนส่งจะลดลงทันที,ราคาสินค้าจะปรับฐานใหม่ภายในประเทศ ทุกๆอย่างจะปรับฐานใหม่หมดจะเชื่อมโยงกระทบทางที่ดีหมด,ราคาสินค้าเราจะต้นทุนต่ำ สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ทันที ข้าวจากตันละ400-600$,อาจลดเหลือ200-300$ ต้นทุนแค่10$ต่อตัน,กำไรกว่า100$พอใจมั้ย,คนซื้อก็พอใจประหยัดตังได้อีก,ความอุดมสมบูรณ์จะกลับคืนมาทันที,นักเรียนนักศึกษาจากปกติพกตังหลายร้อยบาทไปโรงเรียนไปมหาลัยตื๊ดๆทีก็หมดไปหลายร้อย,ปัจจุบันตื๊ดๆที ได้สินค้าอาหารกับข้าวกินจนอิ่มจนเหลือทุกๆวันเพราะ10-20บาทอาจเทียบกับพกตังไปในกระเป๋ากว่าพันกว่าหมื่นบาทกันเลย,ข้าวอาหารก๋วยเตี๋ยวอาจชามละ0.25บาทนั้นเอง,น้ำมันเติมมอไซค์ไปโรงเรียนไปมหาลัยอาจแค่ลิตรละ0.5-1บาทสำหรับนักเรียนนักศึกษาก็ได้,1บาทได้2ลิตรเกือบเต็มถัง.2บาท4ลิตรล้นถังมอไซค์แน่นอน, ..ต้นเหตุเศรษฐกิจจริงๆตอนนี้คือน้ำมันคือพลังงาน จะรบจะทำสงครามกันเครื่องจักรปัจจุบันกินน้ำมันหมด, ..ไทยเรายึดบ่อน้ำมันจากอีลิทต่างชาติdeep state หลายๆปัญหาจบแน่นอน,ยึดสัก20-30บ่อมาผลิตขายเองในไทยดูสิ จะเห็นผลทันที ทุกๆคนไทยใช้รถ ขนส่งสินค้าใช้รถ ราคาสินค้าบวกต้นทุนขนส่งหมด,ต้นทุนต้นน้ำแบบเกษตรกร โรงงานผู้ผลิตต่างๆลดลง กำไรเขาก็มากได้ ลดค่าใช้จ่ายรวมอีก,ต้นน้ำถูก ปลายน้ำก็ถูกทันที ..จริงๆปัญหาประเทศไทยตัวโคตรพ่อโคตรแมร่งจริงๆคือบ่อน้ำมันในไทยเรา,ยึดคืนมาทั้งหมดที่ถูกปล้นจากสัญญาสัมปทานเอาเปรียบประเทศไทยมานานก็จบแล้ว.,ไปเดินอ้อมปัญหาจริงๆทำไม.ลดค่าน้ำมันลิตรละ0.50-1บาทในไทย ลดค่าไฟฟ้า 0.15-0.25บาทต่อหน่วย ,เศรษฐกิจทั่วประเทศไทยฟื้นฟูทันที,จากนั้นค่อยแก้ไปทีละจุดๆต่อไป,ขายน้ำมันในราคาตลาดโลกเมื่อส่งออก,วิกฤติไทยแก้ได้แน่นอน.,ที่เขมรใช้1:200,000ก็ฝรั่งเศสอเมริกาหรือหลายชาติต่างอยากได้แดกบ่อน้ำมันในอ่าวไทยเรานี้ด้วยล่ะ,ก่อนไปพลังงานสะอาดอื่นๆที่สร้างค่าเสถียรการใช้งานปลอดภัยได้แล้ว.,แต่คงหลายสิบปีหรือหลายร้อยปีกันเลย. https://youtube.com/watch?v=41WZaOg8ZFo&si=RViZxHzSvx9JtmUZ
    0 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • ..ส่วนตัวไทยต้องจัดการเขมรเองเพราะเขมรต้องถูกไทยเด็ดหัวสถานเดียว,ทำไม เพราะไทยปะทะกับเขมรแต่เริ่มแรก มิสามารถให้มหาอำนาจแบบรัสเชีย แบบจีน แบบอเมริกาฝรั่งเศสมาใช้เขมรเป็นฐานสงครามความขัดแย้งระดับมหาอำนาจได้ซึ่งอาจนำไปสู่สมรภูมิสงครามโลกครั้งที่3ได้,ลาว เวียดนามจริงๆไม่สามารถมายุ่งได้ ญี่ปุ่นที่บีบไทยขี้ข้าอเมริกาก็ไม่สมควรกระโดดสร้างมุกเข้ามายุ่งวุ่นวายขยายความขีดแย้งได้ด้วย,สมรังสีคือคนของอีลิทฝรั่งเศสอีก มาปกครองเขมรก็เป็นภัยศัตรูของไทยเหมือนเดิมเพราะขี้ข้าทาสรับใช้ชาติยุโรปอเมริกาฝรั่งเศสๆคือศัตรูตัวจริงของได้แน่นอนด้วย, จีนก็ไม่ปลื้มด้วยมิใช่แค่ไทยไม่ปลื้มกับมัน,
    ..ไทยต้องเด็ดหัวฮุนเซนและฮุนมาเนตข้อหาอาชญากรสงครามต่อไทยสถานเดียว.
    ..เพื่อมิให้ภูมิภาคนี้เป็นกระดานให้ใครมาเล่นมาสร้างความวุ่นวายความแตกแยกโกลาหลไม่สงบสุขสันติอีกตลอดไป.



    https://youtube.com/shorts/XjfPKMjTTXM?si=oGmle7P2sws0hArD
    ..ส่วนตัวไทยต้องจัดการเขมรเองเพราะเขมรต้องถูกไทยเด็ดหัวสถานเดียว,ทำไม เพราะไทยปะทะกับเขมรแต่เริ่มแรก มิสามารถให้มหาอำนาจแบบรัสเชีย แบบจีน แบบอเมริกาฝรั่งเศสมาใช้เขมรเป็นฐานสงครามความขัดแย้งระดับมหาอำนาจได้ซึ่งอาจนำไปสู่สมรภูมิสงครามโลกครั้งที่3ได้,ลาว เวียดนามจริงๆไม่สามารถมายุ่งได้ ญี่ปุ่นที่บีบไทยขี้ข้าอเมริกาก็ไม่สมควรกระโดดสร้างมุกเข้ามายุ่งวุ่นวายขยายความขีดแย้งได้ด้วย,สมรังสีคือคนของอีลิทฝรั่งเศสอีก มาปกครองเขมรก็เป็นภัยศัตรูของไทยเหมือนเดิมเพราะขี้ข้าทาสรับใช้ชาติยุโรปอเมริกาฝรั่งเศสๆคือศัตรูตัวจริงของได้แน่นอนด้วย, จีนก็ไม่ปลื้มด้วยมิใช่แค่ไทยไม่ปลื้มกับมัน, ..ไทยต้องเด็ดหัวฮุนเซนและฮุนมาเนตข้อหาอาชญากรสงครามต่อไทยสถานเดียว. ..เพื่อมิให้ภูมิภาคนี้เป็นกระดานให้ใครมาเล่นมาสร้างความวุ่นวายความแตกแยกโกลาหลไม่สงบสุขสันติอีกตลอดไป. https://youtube.com/shorts/XjfPKMjTTXM?si=oGmle7P2sws0hArD
    0 Comments 0 Shares 70 Views 0 Reviews
  • เกาหลีเหนือน่าถล่มญี่ปุ่นแทนไทยสักดอกนะ,สงครามโลกก็อาจเริ่มจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธถล่มญี่ปุ่นนี้ล่ะ,สั่งสอนแทนจีนที่อวยขีปนาวุธญี่ปุ่นขู่จีนแทนอเมริกานั้นล่ะ,อเมริกามรเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นตัวแทนอเมริกา,จีนมีเกาหลีเหนือค้ำยันญี่ปุ่นและเกาหลีใต้.,อาจจะเห็นการสั่งสอนญี่ปุ่นเร็วๆนี้ก็ได้,ญี่ปุ่นไม่มีทางมาอยู่กับจีน,เขมรก็ไม่มีทางซื่อสัตย์กับจีน ผลงานการหักหลังจีนคือเครื่องยืนยัน ตบหน้าเต็มๆเหยียบหัวด้วย,อเมริกาเข้ายึดกิจการจีนทั้งเขมรนั้นเอง.ยึดเขมรแน่นอน,เพราะเขมรจะล้างหนี้จีนได้หมดก็ต้องไปหันหาอเมริกาเท่านั้น.,จึงไม่แปลกใจที่ญี่ปุ่นพยายามช่วยเหลืออเมริกาในไทยอย่างเปิดเผย,แบบไม่สนใจจีนจะรู้ความจริง,ญี่ปุ่นค้านอำนาจตังในเขมรกับจีนโดยอเมริกาหนุนหลังค้ำประกันความปลอดภัยให้,เกาหลีใต้ก็ด้วย จนบริหารจัดการน้ำผูกขาดทั้งเขมร,ตึกจีน โรงงานจีน ฐานผลิตจีนต้องใช้น้ำในเขมรเป็นปัจจัยการผลิตแน่นอน,อเมริกาควบคุมเกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้,แร่เอิร์ธอีกที่อเมริกาจะชิงจากจีนในเขมร,ศึกศักดิ์ศรีเต็มๆระหว่างจีนกับอเมริกาในเขมร ฮุนเซนโกงตังจีนหักหลังจีนชักดาบจีนจึงคบอเมริกาอย่างออกนอกหน้า,โดยแสดงเจตนาเข้าเป็นสมาชิกอินโดแปซิฟิก,อเมริกาแบนเขมรแค่ฉากละครปาหี่,จีนถูกเขมรหักหลังทรยศเต็มๆ,เขมรมันไม่ยอมใช้หนี้จีนแน่นอน,มันแค้นใจที่จีนกดขี่มันยึดครองที่ดินมันเป็นอันมากในเขมรตกไปเป็นของจีนสร้างนั้นนี้เต็มเขมร,รวมท่าเรือเรียมด้วยแบบพูดอะไรไม่ได้,การทรยศหักหลังคือทางเดียวเพื่อเอาแผ่นดินเขมรมาจากจีน ล้างหนี้สินจากจีนได้ก็แบบนี้ด้วย,จังหวะสงครามปะทะอาจมุกหนึ่งก็ด้วย,เรียกความสนใจจากอเมริกามาตบหน้าจีนสำเร็จด้วย.
    ..เขมร ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อเมริกา ฝรั่งเศสและชาติขี้ข้าอเมริกาทั้งหมดคือแก๊งเดียวกัน,ในเวลานี้,ใครๆก็เป็นหนี้จีน,หากจีนสิ้นชาติล้มสลาย ชาติต่างๆที่เป็นลูกหนี้จีน จะถูกล้างหนี้หมดรวมทั้งอเมริกาที่จีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของอเมริกาด้วย มหาสงครามล้างหนี้ฆ่าเจ้าหนี้จึงเกิดขึ้น,ลาวก็ถูกจีนกดขี่มิน้อยเก็บกดแรงแค้นมหาศาลแน่นอน,เวียดนามก็ด้วย,พม่ายิ่งโหด,ยิ่งจีนชั่วนอกแถวหนีตายมาพม่ามาเขมรยิ่งจะพร้อมใจกันกำจัดจีนแผ่นดินใหญ่,รัสเชียถ้าจีนอ่อนแอก็จัดการจีนเหมือนในอดีตนั้นล่ะ อินเดียยิ่งคู่ปรับตลอดกาลของจีนปกติอยู่แล้วแค้นนี้ไม่ลืมหรอก,จีนจึงมีเกาหลีเหนือและไทยเท่านั้นที่เป็นมิตรแท้ได้,ไม่หักหลังจีน,ส่วนในนานรัฐบาลเลวชั่วอาจมีตามที่อเมริกาสั่งได้,แต่พื้นฐานโดยสถาบันกษัตริย์เรา ญาติพี่น้องกันชัดเจน คนจีนเป็นอันมากก็อยู่ในไทย,ได้สัญชาติไทยด้วย,จีนยุคใหม่อาจกบฎแนวสัมพันธ์นี้ได้แต่เมื่อตื่นรู้จะเข้าใจความเป็นจริงว่าไทยกับจีนสายใยแน่นหนามาก.กระทบโกรธกันบ้างก็มิเคยทำร้ายทำลายกันจริงอะไรแต่กลับช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดเรื่อยมา.
    ..ลาว เวียดนาม เขมร พม่า แม้อยากทำสงครามยึดประเทศไทยก็ต้องมองหน้าจีนก่อนนั้นเอง.,ปัจจุบันเราก็ถล่มชาติรอบข้างนี้อย่างง่ายดายได้เช่นกัน,แต่เราไม่ทำ,เรารักสงบ,แต่เมื่อใดเราสิ้นอดทน พัฒนาการทางอาวุธเราก็ไใ่แพ้ชาติใดๆในโลกได้เมื่อเราตั้งใจจะทำมันจริงจังแบบนั้น,ขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์เราก็สามารถสร้างได้สบายมาก,10,000-20,000กม.อาจสร้างได้ธรรมดาด้วย,อย่าลืมว่าเราสามารถถอดจิตวิญญาณไปแลกเปลี่ยนวิวัฒนาการจากจักรวาลอื่นที่ล้ำๆขอความช่วยเหลือได้นะ,แค่เราจะทำหรือไม่.
    ..ศูนย์กลางพลังจักรวาลก็อยู่ที่ประเทศไทยเราแล้ว.

    https://youtube.com/shorts/iD2NnXgY51I?si=MLlq2Jubw_S5UNI_
    เกาหลีเหนือน่าถล่มญี่ปุ่นแทนไทยสักดอกนะ,สงครามโลกก็อาจเริ่มจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธถล่มญี่ปุ่นนี้ล่ะ,สั่งสอนแทนจีนที่อวยขีปนาวุธญี่ปุ่นขู่จีนแทนอเมริกานั้นล่ะ,อเมริกามรเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นตัวแทนอเมริกา,จีนมีเกาหลีเหนือค้ำยันญี่ปุ่นและเกาหลีใต้.,อาจจะเห็นการสั่งสอนญี่ปุ่นเร็วๆนี้ก็ได้,ญี่ปุ่นไม่มีทางมาอยู่กับจีน,เขมรก็ไม่มีทางซื่อสัตย์กับจีน ผลงานการหักหลังจีนคือเครื่องยืนยัน ตบหน้าเต็มๆเหยียบหัวด้วย,อเมริกาเข้ายึดกิจการจีนทั้งเขมรนั้นเอง.ยึดเขมรแน่นอน,เพราะเขมรจะล้างหนี้จีนได้หมดก็ต้องไปหันหาอเมริกาเท่านั้น.,จึงไม่แปลกใจที่ญี่ปุ่นพยายามช่วยเหลืออเมริกาในไทยอย่างเปิดเผย,แบบไม่สนใจจีนจะรู้ความจริง,ญี่ปุ่นค้านอำนาจตังในเขมรกับจีนโดยอเมริกาหนุนหลังค้ำประกันความปลอดภัยให้,เกาหลีใต้ก็ด้วย จนบริหารจัดการน้ำผูกขาดทั้งเขมร,ตึกจีน โรงงานจีน ฐานผลิตจีนต้องใช้น้ำในเขมรเป็นปัจจัยการผลิตแน่นอน,อเมริกาควบคุมเกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้,แร่เอิร์ธอีกที่อเมริกาจะชิงจากจีนในเขมร,ศึกศักดิ์ศรีเต็มๆระหว่างจีนกับอเมริกาในเขมร ฮุนเซนโกงตังจีนหักหลังจีนชักดาบจีนจึงคบอเมริกาอย่างออกนอกหน้า,โดยแสดงเจตนาเข้าเป็นสมาชิกอินโดแปซิฟิก,อเมริกาแบนเขมรแค่ฉากละครปาหี่,จีนถูกเขมรหักหลังทรยศเต็มๆ,เขมรมันไม่ยอมใช้หนี้จีนแน่นอน,มันแค้นใจที่จีนกดขี่มันยึดครองที่ดินมันเป็นอันมากในเขมรตกไปเป็นของจีนสร้างนั้นนี้เต็มเขมร,รวมท่าเรือเรียมด้วยแบบพูดอะไรไม่ได้,การทรยศหักหลังคือทางเดียวเพื่อเอาแผ่นดินเขมรมาจากจีน ล้างหนี้สินจากจีนได้ก็แบบนี้ด้วย,จังหวะสงครามปะทะอาจมุกหนึ่งก็ด้วย,เรียกความสนใจจากอเมริกามาตบหน้าจีนสำเร็จด้วย. ..เขมร ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อเมริกา ฝรั่งเศสและชาติขี้ข้าอเมริกาทั้งหมดคือแก๊งเดียวกัน,ในเวลานี้,ใครๆก็เป็นหนี้จีน,หากจีนสิ้นชาติล้มสลาย ชาติต่างๆที่เป็นลูกหนี้จีน จะถูกล้างหนี้หมดรวมทั้งอเมริกาที่จีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของอเมริกาด้วย มหาสงครามล้างหนี้ฆ่าเจ้าหนี้จึงเกิดขึ้น,ลาวก็ถูกจีนกดขี่มิน้อยเก็บกดแรงแค้นมหาศาลแน่นอน,เวียดนามก็ด้วย,พม่ายิ่งโหด,ยิ่งจีนชั่วนอกแถวหนีตายมาพม่ามาเขมรยิ่งจะพร้อมใจกันกำจัดจีนแผ่นดินใหญ่,รัสเชียถ้าจีนอ่อนแอก็จัดการจีนเหมือนในอดีตนั้นล่ะ อินเดียยิ่งคู่ปรับตลอดกาลของจีนปกติอยู่แล้วแค้นนี้ไม่ลืมหรอก,จีนจึงมีเกาหลีเหนือและไทยเท่านั้นที่เป็นมิตรแท้ได้,ไม่หักหลังจีน,ส่วนในนานรัฐบาลเลวชั่วอาจมีตามที่อเมริกาสั่งได้,แต่พื้นฐานโดยสถาบันกษัตริย์เรา ญาติพี่น้องกันชัดเจน คนจีนเป็นอันมากก็อยู่ในไทย,ได้สัญชาติไทยด้วย,จีนยุคใหม่อาจกบฎแนวสัมพันธ์นี้ได้แต่เมื่อตื่นรู้จะเข้าใจความเป็นจริงว่าไทยกับจีนสายใยแน่นหนามาก.กระทบโกรธกันบ้างก็มิเคยทำร้ายทำลายกันจริงอะไรแต่กลับช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดเรื่อยมา. ..ลาว เวียดนาม เขมร พม่า แม้อยากทำสงครามยึดประเทศไทยก็ต้องมองหน้าจีนก่อนนั้นเอง.,ปัจจุบันเราก็ถล่มชาติรอบข้างนี้อย่างง่ายดายได้เช่นกัน,แต่เราไม่ทำ,เรารักสงบ,แต่เมื่อใดเราสิ้นอดทน พัฒนาการทางอาวุธเราก็ไใ่แพ้ชาติใดๆในโลกได้เมื่อเราตั้งใจจะทำมันจริงจังแบบนั้น,ขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์เราก็สามารถสร้างได้สบายมาก,10,000-20,000กม.อาจสร้างได้ธรรมดาด้วย,อย่าลืมว่าเราสามารถถอดจิตวิญญาณไปแลกเปลี่ยนวิวัฒนาการจากจักรวาลอื่นที่ล้ำๆขอความช่วยเหลือได้นะ,แค่เราจะทำหรือไม่. ..ศูนย์กลางพลังจักรวาลก็อยู่ที่ประเทศไทยเราแล้ว. https://youtube.com/shorts/iD2NnXgY51I?si=MLlq2Jubw_S5UNI_
    0 Comments 0 Shares 84 Views 0 Reviews
  • แหกคอก ตอนที่ 3 – ซ่อนรูป
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 3 : ซ่อนรูป
    ในปี ค.ศ.1940 หลวงพ่อ CFR ก็ทำการศึกษาวางแผนระยะยาวเพิ่มเติมอีก เกี่ยวกับเศรษฐกิจของอเมริการะหว่างการทำสงคราม ซึ่งจะต้องมีการดูแลจัดการเกี่ยวกับเรื่องปากท้อง เงินทอง เพื่อให้อเมริกา นักล่าเข้าไปทำสงครามแบบสบายใจ หลวงพ่อนี่ดูแลแบบ ไม่มีตกไม่หล่นเลย รอบคอบมาก พวกเขาสรุปว่า อเมริกาต้องหาทางทำให้เกิดรายได้เข้าประเทศ โดยหาหรือสร้างตลาดใหญ่ สำหรับรองรับการผลิตสินค้าของอเมริกา และเพื่อให้แน่ใจว่า อเมริกาจะเข้าไปถึงแหล่งวัตถุดิบในบริเวณที่ประทับตรา ควบคุม (ขโมย !) ได้อย่างสะดวกเสรี ปราศจากการปิดกั้น หรือต้องตีตั๋วผ่าน รวมทั้งดูแลส่วนที่เกี่ยวกับ การค้าขาย การลงทุน เพื่อให้การล่าราบรื่น ไม่มีสดุด ติดขัด อเมริกาจำเป็นต้องมีกองทัพอันแข็งแกร่ง Military Supremacy เพื่อการนี้ด้วย แม่เจ้าโว้ย ! ฟันน้ำนมยังไม่ขึ้น พี่เลี้ยงสั่งให้แยกเขี้ยวแล้ว
    เริ่มต้น Grand Area Project บอกว่าศึกษาเพื่อเตรียมให้อเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 และดูแลเศรษฐกิจของอเมริการะหว่างรบ ไม่ใช่รบๆ ไปกระเป๋าฉีก กางเกงขาด มันคงทุลักทุเล ทุเรศน่าดู แต่นั่นแหละพี่เลี้ยงนักล่าระดับหลวงพ่อ CFR ทำอะไรจะให้มันเปิดเผยเหมือนยืนล่อนจ้อนอยู่หน้าจอได้ยังไง มันต้องซ่อนต้องซ้อนกันหน่อย แท้จริงแล้ว Grand Area Project ได้ถูกออกแบบตั้งแต่แรก เพื่อให้อเมริกาเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่งของโลกเป็นผู้ครองโลก คุมเศรษฐกิจโลกทั้งหมด หลังสงครามโลกสิ้นสุดลง และเพื่อจะควบคุมเศรษฐกิจตามเป้าหมาย ก็จะต้องมีการจัดตั้งองค์กรระหว่างประเทศขึ้นอีกเพียบ เพื่อมาจัดตั้งระบบวางกฎระเบียบ ที่เหมาะสมกับการค้า การลงทุน และระบบการเงินระหว่างประเทศ ให้ทุกอย่างอยู่ในระบบเดียวกับที่อเมริกาต้องการ เอาถึงขนาดนั้นเลยล่ะ และเพื่อจะให้ได้ผลเช่นนั้น อเมริกาจะต้องมีกองกำลังกล้ามใหญ่เอาไว้เบ่ง เวลาพูดจะได้มีคนฟัง ไม่ใช่ทำหูทวนลม แบบนี้เสียหน้ามาถึงหลวงพ่อCFR ด้วย
    น่าสนใจจริงๆ Grand Area Project นี้ ออกแบบไว้ล่วงหน้า โดยใช้ข้อสมมุติฐานว่า
1. อเมริกาต้องเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง
2. เยอรมันจะต้องเป็นผู้แพ้สงครามในตอบจบ
3. หลังจากสงครามโลกจบ อเมริกาจะก้าวขึ้นเป็นพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งขึ้นครองโลก หลวงพ่อ CFR ไม่ใช่ธรรมดา ไม่ได้ทำนายหรือศึกษาเหตุการณ์ แต่ดูเหมือนจะ สร้าง เหตุการณ์ได้ด้วย ! ?
    ภายหลังจากเหตุการณ์ Pearl Harbor เมื่อ ค.ศ.1941 อเมริกาประกาศตัวโดดเข้าเล่นสงครามโลกด้วยจริงๆ ทันทีที่อเมริกาประกาศ CFR รีบออกข่าวตามไปติดๆ สำทับว่าฝ่ายอักษะแพ้สงครามแน่นอน แค่ยังไม่ออกข่าวว่าจะแพ้วันไหน เท่านั้นเอง และพร้อมกันนั้น CFR ขอแก้ไข Grand Area ทุ่งใหญ่ ไม่ใช่มีแค่ 4 แหล่ง ตามที่ศึกษาไว้ตอนแรก แต่มันต้องหมายรวมถึงโลกทั้งใบนี้ด้วย โอ้โห ! หลวงพ่อ CFR หนุนนักล่าสุดตัวไปเต็มตีนเลย แนวความคิดการจัดระเบียบโลกใหม่ จึงเกิดขึ้น (New World Order !) เราจำเป็นต้องจัดระเบียบใหม่ เกี่ยวกับการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ซึ่งต้องสอดคล้องกันกับแผนการ ที่จะให้อเมริกาเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง การรวมเป็นหนึ่งเดียวของประเทศทั้งหลายในโลก Unification จึงควรเป็นเป้าหมาย ตามแนวทางความคิดของ CFR พี่เลี้ยง/รัฐบาลอเมริกัน หรือควรจะเรียกว่าผู้กำกับหรือเจ้าของ ! ?
    แล้วเพื่อให้การดำเนินการเป็นไป ตามแผน พี่เลี้ยงบอกนักล่า จำเป็น ต้องเข้าไปมีส่วนร่วม ในกิจการภายในบ้าน (Internal Affairs) ของประเทศหลัก ที่นักล่าจะไป (หลอก) เอาวัตถุดิบที่อยู่ในบ้านเขามา ใช้ ต้องเข้าไปควบคุม ไปล้วงลูก ไปจัดการบ้านของพวกเขา ให้เป็นไปตามแผนเรา และต้องทำให้ประเทศนั้น นอกเหนือจาก ยินยอม ส่งวัถตุดิบให้เราแล้ว เราต้องทำให้เขารู้สึก อยาก ที่จะเป็นผู้บริโภคสินค้าที่เราผลิต (ด้วยวัตถุดิบของเขา) อีกด้วย นี่มันเดินหมากกิน 3 ต่อเลยนะ เพื่อให้นโยบายทั้งหมดสัมฤทธิผล เราจะต้องจัดตั้ง IMF และ IBRD (Bank For Reconstruction and Development ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น World Bank) มาเป็นส่วนสำคัญในการชักใย
    พี่เลี้ยง CFR บอกหน่วยงานพวกนี้ จำเป็นต้องมี เพื่อมาทำหน้าที่สร้างกลไกที่จะทำให้เงินสกุลของประเทศโลก ที่ 3 ที่เราจะไปลงทุน และค้าขายด้วย มีความมั่นคงมีเสถียรภาพ (ใช้ศัพท์วิชาการเลยนะลุง) แหม ! ถ้าเงินของไอ้พวกโลกที่ 3 มันขึ้นลงแบบลิฟท์เสีย ผู้ลงทุนสร้างนักล่าก็ล้มทั้งยืน ซิโยม แล้ว CFR ก็ลงมือร่างแผนการจัดตั้ง World Bank กับ IMF ตั้งแต่ ค.ศ.1941 ในที่สุดโดยการประชุมที่ Bretton Woods ค.ศ.1944 World Bank และ IMF ก็คลอด
    แต่ถึงยังงั้นก็เถอะ พี่เลี้ยง CFR ก็ยังเป็นห่วง พวกเขาดูแลนักล่าแบบพี่เลี้ยงมือโปร จะล่าเหยื่อกินแบบตะกรุมตะกรามให้ชาวบ้านเขาด่าได้ยังไง เรามันพวกครีม อยู่ชั้นบนของขนมเค้กเป็นชนชั้นสูงของสังคมมิใช่หรือ ฉะนั้นเราต้องเอาผ้าเช็ดปากมาปิดปาก เวลาจะอ้าปากเคี้ยว อำพรางตัวเองหน่อย ตั้งอะไรขึ้นมาบังหน้า แล้วเราคุมมันอีกต่อไม่ดีหรือ United Nations สหประชาชาติยังไงเล่า เพราะนายทุนกระเป๋าใหญ่ของ CFR อย่างมูลนิธิ Rockefeller และ Carnegie Corporation ต่างก็เคยฝัน อยากให้ประเทศต่างๆ รวมตัวกันเป็น League of Nations ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จบใหม่ๆ แล้ว แต่ไม่ได้ประโยชน์อะไรหนักหนา ก็ได้แต่มารวมตัวกัน คุยกันหลวมๆ เหมือนมางานสังสรร ระดับ CFR จะคิดจะทำอะไรมันต้องหนักแน่นแม่นยำกว่านั้น มันต้องเป็นเครื่องมือของการล่าเหยื่อชนิดพิเศษ Informal Agenda Group จึงถูก CFR ตั้งขึ้นมาทำการบ้าน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1942 (ไอ้พวกนี้มันบ้าจัดตั้งหน่วยงานกันจริงนะ!) เพื่อสร้างฉาก จัดการ ให้มีหน่วยงานตามเป้าหมาย คือ องค์การสหประชาชาติ United Nations นั้นแหละ
    คณะสร้างฉากนี้มีสมาชิกทำงาน 6 คน รวมทั้งตัวนาย Cordell Hull รัฐมนตรีของ State Department คณะสร้างฉากนี้นอกเหนือจากตัวรัฐมนตรีแล้ว ที่เหลืออีก 5 คน เป็นสมาชิกของ CFR ทั้งสิ้น คณะสร้างฉาก ได้ข้อสรุปว่า เพื่อไม่ให้ชาวบ้านจับได้ไล่ทัน ว่าเราจะทำอะไร เราควรเอาตัวละครอื่นมาร่วมเข้า ฉากด้วย เป้ามันจะได้กระจาย เช่น สหภาพโซเวียต แคนาดา อังกฤษ ซึ่งประธานาธิบดี Roosevelt ก็ตกลง (คุณประธานาธิบดีนี่ เวลาหลวงพ่อ CFR เสนอ มีบ้างไหมที่แกไม่ตกลงชักสงสัย) ดังนั้นปี ค.ศ.1944 องค์กรสหประชาชาติก็ถูกจัดตั้งขึ้นเรียบร้อย มีกฎบัตร จัดร่างตีตราประทับอย่างถูกต้อง โดยลากเอาสมาชิก CFR ที่เป็นนักกฎหมายอีกเป็นกระบุง เข้ามาดูแล เข้ามาร่วมจัดร่างด้วย CFR ทำงานกันเป็นทีมแบบนี้ นายทุนกระเป๋าหนัก John D. Rockefeller หน้าบานยิ้มจนหุบปากไม่ลง ว่าแล้วก็ยกที่ดินกลางเมืองนิวยอร์ค ราคา 8.5 ล้านเหรียญ ให้เป็นของขวัญ (สมัยนั้น แปลว่าแยะนะครับ สมัยนี้ก็แยะ ถ้าเป็นเงินของเรา) เพื่อสร้างตึกสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ
    ตกลงนับตั้งแต่ ค.ศ.1939 เป็นต้นมา อเมริกานักล่าอยู่ภายใต้การกำกับชักใยอย่างเปิดเผย โดยกลุ่มพี่เลี้ยง CFR ตกลงหลวงพ่อ CFR เป็นเจ้าของนักล่า หรือแค่เป็นผู้จัดการ ยังมีใครอื่นที่กำกับหลวงพ่ออีกหรือเปล่า เรารู้กันแน่ไหมว่าใครเป็นคนสั่งให้โลกหมุน ใครเป็นคนกำหนดอนาคตของโลกใบนี้
    คนเล่านิทาน
29 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 3 – ซ่อนรูป นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 3 : ซ่อนรูป ในปี ค.ศ.1940 หลวงพ่อ CFR ก็ทำการศึกษาวางแผนระยะยาวเพิ่มเติมอีก เกี่ยวกับเศรษฐกิจของอเมริการะหว่างการทำสงคราม ซึ่งจะต้องมีการดูแลจัดการเกี่ยวกับเรื่องปากท้อง เงินทอง เพื่อให้อเมริกา นักล่าเข้าไปทำสงครามแบบสบายใจ หลวงพ่อนี่ดูแลแบบ ไม่มีตกไม่หล่นเลย รอบคอบมาก พวกเขาสรุปว่า อเมริกาต้องหาทางทำให้เกิดรายได้เข้าประเทศ โดยหาหรือสร้างตลาดใหญ่ สำหรับรองรับการผลิตสินค้าของอเมริกา และเพื่อให้แน่ใจว่า อเมริกาจะเข้าไปถึงแหล่งวัตถุดิบในบริเวณที่ประทับตรา ควบคุม (ขโมย !) ได้อย่างสะดวกเสรี ปราศจากการปิดกั้น หรือต้องตีตั๋วผ่าน รวมทั้งดูแลส่วนที่เกี่ยวกับ การค้าขาย การลงทุน เพื่อให้การล่าราบรื่น ไม่มีสดุด ติดขัด อเมริกาจำเป็นต้องมีกองทัพอันแข็งแกร่ง Military Supremacy เพื่อการนี้ด้วย แม่เจ้าโว้ย ! ฟันน้ำนมยังไม่ขึ้น พี่เลี้ยงสั่งให้แยกเขี้ยวแล้ว เริ่มต้น Grand Area Project บอกว่าศึกษาเพื่อเตรียมให้อเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 และดูแลเศรษฐกิจของอเมริการะหว่างรบ ไม่ใช่รบๆ ไปกระเป๋าฉีก กางเกงขาด มันคงทุลักทุเล ทุเรศน่าดู แต่นั่นแหละพี่เลี้ยงนักล่าระดับหลวงพ่อ CFR ทำอะไรจะให้มันเปิดเผยเหมือนยืนล่อนจ้อนอยู่หน้าจอได้ยังไง มันต้องซ่อนต้องซ้อนกันหน่อย แท้จริงแล้ว Grand Area Project ได้ถูกออกแบบตั้งแต่แรก เพื่อให้อเมริกาเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่งของโลกเป็นผู้ครองโลก คุมเศรษฐกิจโลกทั้งหมด หลังสงครามโลกสิ้นสุดลง และเพื่อจะควบคุมเศรษฐกิจตามเป้าหมาย ก็จะต้องมีการจัดตั้งองค์กรระหว่างประเทศขึ้นอีกเพียบ เพื่อมาจัดตั้งระบบวางกฎระเบียบ ที่เหมาะสมกับการค้า การลงทุน และระบบการเงินระหว่างประเทศ ให้ทุกอย่างอยู่ในระบบเดียวกับที่อเมริกาต้องการ เอาถึงขนาดนั้นเลยล่ะ และเพื่อจะให้ได้ผลเช่นนั้น อเมริกาจะต้องมีกองกำลังกล้ามใหญ่เอาไว้เบ่ง เวลาพูดจะได้มีคนฟัง ไม่ใช่ทำหูทวนลม แบบนี้เสียหน้ามาถึงหลวงพ่อCFR ด้วย น่าสนใจจริงๆ Grand Area Project นี้ ออกแบบไว้ล่วงหน้า โดยใช้ข้อสมมุติฐานว่า
1. อเมริกาต้องเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง
2. เยอรมันจะต้องเป็นผู้แพ้สงครามในตอบจบ
3. หลังจากสงครามโลกจบ อเมริกาจะก้าวขึ้นเป็นพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งขึ้นครองโลก หลวงพ่อ CFR ไม่ใช่ธรรมดา ไม่ได้ทำนายหรือศึกษาเหตุการณ์ แต่ดูเหมือนจะ สร้าง เหตุการณ์ได้ด้วย ! ? ภายหลังจากเหตุการณ์ Pearl Harbor เมื่อ ค.ศ.1941 อเมริกาประกาศตัวโดดเข้าเล่นสงครามโลกด้วยจริงๆ ทันทีที่อเมริกาประกาศ CFR รีบออกข่าวตามไปติดๆ สำทับว่าฝ่ายอักษะแพ้สงครามแน่นอน แค่ยังไม่ออกข่าวว่าจะแพ้วันไหน เท่านั้นเอง และพร้อมกันนั้น CFR ขอแก้ไข Grand Area ทุ่งใหญ่ ไม่ใช่มีแค่ 4 แหล่ง ตามที่ศึกษาไว้ตอนแรก แต่มันต้องหมายรวมถึงโลกทั้งใบนี้ด้วย โอ้โห ! หลวงพ่อ CFR หนุนนักล่าสุดตัวไปเต็มตีนเลย แนวความคิดการจัดระเบียบโลกใหม่ จึงเกิดขึ้น (New World Order !) เราจำเป็นต้องจัดระเบียบใหม่ เกี่ยวกับการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ซึ่งต้องสอดคล้องกันกับแผนการ ที่จะให้อเมริกาเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง การรวมเป็นหนึ่งเดียวของประเทศทั้งหลายในโลก Unification จึงควรเป็นเป้าหมาย ตามแนวทางความคิดของ CFR พี่เลี้ยง/รัฐบาลอเมริกัน หรือควรจะเรียกว่าผู้กำกับหรือเจ้าของ ! ? แล้วเพื่อให้การดำเนินการเป็นไป ตามแผน พี่เลี้ยงบอกนักล่า จำเป็น ต้องเข้าไปมีส่วนร่วม ในกิจการภายในบ้าน (Internal Affairs) ของประเทศหลัก ที่นักล่าจะไป (หลอก) เอาวัตถุดิบที่อยู่ในบ้านเขามา ใช้ ต้องเข้าไปควบคุม ไปล้วงลูก ไปจัดการบ้านของพวกเขา ให้เป็นไปตามแผนเรา และต้องทำให้ประเทศนั้น นอกเหนือจาก ยินยอม ส่งวัถตุดิบให้เราแล้ว เราต้องทำให้เขารู้สึก อยาก ที่จะเป็นผู้บริโภคสินค้าที่เราผลิต (ด้วยวัตถุดิบของเขา) อีกด้วย นี่มันเดินหมากกิน 3 ต่อเลยนะ เพื่อให้นโยบายทั้งหมดสัมฤทธิผล เราจะต้องจัดตั้ง IMF และ IBRD (Bank For Reconstruction and Development ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น World Bank) มาเป็นส่วนสำคัญในการชักใย พี่เลี้ยง CFR บอกหน่วยงานพวกนี้ จำเป็นต้องมี เพื่อมาทำหน้าที่สร้างกลไกที่จะทำให้เงินสกุลของประเทศโลก ที่ 3 ที่เราจะไปลงทุน และค้าขายด้วย มีความมั่นคงมีเสถียรภาพ (ใช้ศัพท์วิชาการเลยนะลุง) แหม ! ถ้าเงินของไอ้พวกโลกที่ 3 มันขึ้นลงแบบลิฟท์เสีย ผู้ลงทุนสร้างนักล่าก็ล้มทั้งยืน ซิโยม แล้ว CFR ก็ลงมือร่างแผนการจัดตั้ง World Bank กับ IMF ตั้งแต่ ค.ศ.1941 ในที่สุดโดยการประชุมที่ Bretton Woods ค.ศ.1944 World Bank และ IMF ก็คลอด แต่ถึงยังงั้นก็เถอะ พี่เลี้ยง CFR ก็ยังเป็นห่วง พวกเขาดูแลนักล่าแบบพี่เลี้ยงมือโปร จะล่าเหยื่อกินแบบตะกรุมตะกรามให้ชาวบ้านเขาด่าได้ยังไง เรามันพวกครีม อยู่ชั้นบนของขนมเค้กเป็นชนชั้นสูงของสังคมมิใช่หรือ ฉะนั้นเราต้องเอาผ้าเช็ดปากมาปิดปาก เวลาจะอ้าปากเคี้ยว อำพรางตัวเองหน่อย ตั้งอะไรขึ้นมาบังหน้า แล้วเราคุมมันอีกต่อไม่ดีหรือ United Nations สหประชาชาติยังไงเล่า เพราะนายทุนกระเป๋าใหญ่ของ CFR อย่างมูลนิธิ Rockefeller และ Carnegie Corporation ต่างก็เคยฝัน อยากให้ประเทศต่างๆ รวมตัวกันเป็น League of Nations ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จบใหม่ๆ แล้ว แต่ไม่ได้ประโยชน์อะไรหนักหนา ก็ได้แต่มารวมตัวกัน คุยกันหลวมๆ เหมือนมางานสังสรร ระดับ CFR จะคิดจะทำอะไรมันต้องหนักแน่นแม่นยำกว่านั้น มันต้องเป็นเครื่องมือของการล่าเหยื่อชนิดพิเศษ Informal Agenda Group จึงถูก CFR ตั้งขึ้นมาทำการบ้าน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1942 (ไอ้พวกนี้มันบ้าจัดตั้งหน่วยงานกันจริงนะ!) เพื่อสร้างฉาก จัดการ ให้มีหน่วยงานตามเป้าหมาย คือ องค์การสหประชาชาติ United Nations นั้นแหละ คณะสร้างฉากนี้มีสมาชิกทำงาน 6 คน รวมทั้งตัวนาย Cordell Hull รัฐมนตรีของ State Department คณะสร้างฉากนี้นอกเหนือจากตัวรัฐมนตรีแล้ว ที่เหลืออีก 5 คน เป็นสมาชิกของ CFR ทั้งสิ้น คณะสร้างฉาก ได้ข้อสรุปว่า เพื่อไม่ให้ชาวบ้านจับได้ไล่ทัน ว่าเราจะทำอะไร เราควรเอาตัวละครอื่นมาร่วมเข้า ฉากด้วย เป้ามันจะได้กระจาย เช่น สหภาพโซเวียต แคนาดา อังกฤษ ซึ่งประธานาธิบดี Roosevelt ก็ตกลง (คุณประธานาธิบดีนี่ เวลาหลวงพ่อ CFR เสนอ มีบ้างไหมที่แกไม่ตกลงชักสงสัย) ดังนั้นปี ค.ศ.1944 องค์กรสหประชาชาติก็ถูกจัดตั้งขึ้นเรียบร้อย มีกฎบัตร จัดร่างตีตราประทับอย่างถูกต้อง โดยลากเอาสมาชิก CFR ที่เป็นนักกฎหมายอีกเป็นกระบุง เข้ามาดูแล เข้ามาร่วมจัดร่างด้วย CFR ทำงานกันเป็นทีมแบบนี้ นายทุนกระเป๋าหนัก John D. Rockefeller หน้าบานยิ้มจนหุบปากไม่ลง ว่าแล้วก็ยกที่ดินกลางเมืองนิวยอร์ค ราคา 8.5 ล้านเหรียญ ให้เป็นของขวัญ (สมัยนั้น แปลว่าแยะนะครับ สมัยนี้ก็แยะ ถ้าเป็นเงินของเรา) เพื่อสร้างตึกสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ ตกลงนับตั้งแต่ ค.ศ.1939 เป็นต้นมา อเมริกานักล่าอยู่ภายใต้การกำกับชักใยอย่างเปิดเผย โดยกลุ่มพี่เลี้ยง CFR ตกลงหลวงพ่อ CFR เป็นเจ้าของนักล่า หรือแค่เป็นผู้จัดการ ยังมีใครอื่นที่กำกับหลวงพ่ออีกหรือเปล่า เรารู้กันแน่ไหมว่าใครเป็นคนสั่งให้โลกหมุน ใครเป็นคนกำหนดอนาคตของโลกใบนี้ คนเล่านิทาน
29 พค. 57
    0 Comments 0 Shares 104 Views 0 Reviews
  • แหกคอก ตอนที่ 2 – ทุ่งใหญ่
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 2 : ทุ่งใหญ่
    CFR แอบทำโครงการลับๆ อย่างเงียบๆ และต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1939 ถึง 1945 ชื่อ War and Peace Studies ซึ่งเป็นการประสานงานร่วมมือกันระหว่างสมาชิกของ CFR กับ State Department ของรัฐบาล แต่เงินทุนที่ใช่ในการทำโครงการนี้ทั้งหมด ไม่ต้องบอกก็คงเดากันออก มาจากนายทุนโคตรรวย กระเป๋าของมูลนิธิ Rockefeller ทั้งหมด (อย่าเพิ่งเบื่อชื่อนี้นะครับ ถึงเบื่อ ก็ต้องทนเอา เพราะเขาเป็นตัวจริงเสียงจริง ในการกำกับพวกพี่เลี้ยง หรือเรียกให้ถูก น่าจะต้องใช้คำว่า เขาเป็น เจ้าของ คงไม่เป็นการแดกดันเขานัก)
    โครงการ War and Peace Studies นี้ วัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อสร้างให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิอเมริกา เช่นเดียวกับ จักรวรรดิ หรือจักรภพอังกฤษ เพียงแต่จะเป็นจักรวรรดินักล่าที่วิธีการล่าต่างกัน อังกฤษเป็นนักล่าอาณานิคมที่ต้องการขยายดินแดน เพราะประเทศตัวเองเป็นเกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อย ต้องการเอาประเทศของคนอื่นมาเป็นอาณานิคม เพื่อขยายอาณาจักรตัวเอง เพื่อปกครองและเพื่อใช้ทรัพยากรของเขา เพื่อสร้างความเจริญและความยิ่งใหญ่ของตนเอง แหม ! ให้ใครๆ เรียกว่า Empress of India หรือ Viceroy of Burma มันก็สมเป็นนายเหนือของอาณานิคมกร่างดีออก ภูมิใจนักหนากับประโยคที่พูดซ้ำซากว่า ดวงอาทิตย์ไม่มีวันตกในจักรภพอังกฤษ แสดงให้เห็นถึงอาณาจักรที่กว้างใหญ่ไพศาล
    แต่ผู้คิดสร้างอเมริกานักล่ารุ่นใหม่บอก คิดแบบนั้นมันไม่ฉลาดเท่าไหร่หรอก เอาไปทำไมประเทศคนอื่น ต้องไปเลี้ยงดูประชาชนพลเมืองเขาอีก ตัวเล็ก ตัวดำ ตัวเหลือง พูดกันไม่รู้เรื่อง คิดก็ต่างกัน ไม่เอาหรอก เราอย่าไปคิดเอาประเทศเขามาเป็นอาณานิคมเลยนะ ภาระมันแยะ เราแค่คิดวิธีที่จะทำอะไรก็ได้ ในแผ่นดินเขาดีกว่า ใช้ทรัพยากร ใช้คน ใช้เงิน ใช้กลอุบายทุกอย่าง ให้ผู้คนในแผ่นดินนั้น มันตกหลุมเราทุกประการ โดยเราไม่ต้องไปรับผิดชอบว่าเขาเป็นคนของเรา มันไม่ดีกว่าหรือ เราแค่อ้างว่าเราจะนำความเจริญมาให้เขา เราทำเพื่อความเจริญของโลก แค่นั้น เขาก็รีบเปิดประตูเมืองรับเรามือไม้สั่นไปหมดแล้ว
    แล้วเราอย่าไปเรียกตัวเองว่า จักรวรรดิอเมริกาด้วย มันล่อแหลม (ต่อความล้มเหลว !) ในทางตรงกันข้าม เรากลับต้องปลอมตัว (ลวงโลก) ว่า อเมริกาต่างหากที่เป็นผู้สนับสนุนให้เสรีภาพ อิสระภาพให้เกิดขึ้นกับประเทศอาณานิคม (ถือโอกาสตบหน้าอังกฤษแถมให้) ให้มีประชาธิปไตยเกิดขึ้นในโลกอันสวยงามใบนี้ และให้มีเสรีภาพในการทำมาค้าขาย ไม่มีการปิดกั้น โดยเราจะใช้กลไกที่จะเราจะตั้งขึ้นใหม่ เพื่อการนี้โดยเฉพาะ แต่โลกจะดูไม่รู้ จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
    มันเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ ที่สวยหรู ที่บิดเบือนความจริง ลวงโลก ที่ได้ผลอย่างยอดเยี่ยมที่สุดแห่งศตวรรษ จนบัดนี้ยังไม่มีโฆษณาชวนเชื่อใดมาลบล้างได้ !
    ตราบใดที่เศรษฐกิจของอเมริการุ่งเรือง แบงค์ดอลล่าร์สีเขียวของอเมริกา ยังเป็นแผ่นกระดาษที่โลกยอมรับและต้องการ การลวงโลกแบบนี้จะบอกว่าไม่สำเร็จ ได้อย่างไร และตราบใดที่ยุโรปตะวันตก ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง และเอเซียตะวันออก เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ฯลฯ ยังต้องพึ่งพากองทัพ (ที่อ้างว่า) เกรียงไกรของอเมริกาในการปกป้องภูมิภาคของตน นี่แหละคือข้อพิสูจน์ว่า จักรวรรดิอเมริกามีจริงเป็นจริง จักรวรรดิอเมริกา พี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก ใหญ่อย่างชนิด ไม่มีใครกล้ามาท้าทาย (แน่ใจหรือเปล่า ? !)
    นอกจากนี้ โครงการ War and Peace Studies นี้ เสนอความคิด และแนวทาง (shopping list) เพื่อให้อเมริกาปฏิบัติการอีกมากมาย ภายหลังสงครามโลกสิ้นสุด ที่สำคัญคือเขากำหนด บริเวณ ของโลกใบนี้ที่อเมริกาจะต้องประทับตรา ควบคุมหรือครอบครอง เพื่อส่งเสริมให้อเมริกามีเศรษฐกิจที่แข็งแรง บริเวณที่อเมริกาจะควบคุมนี้เขาเรียกกันว่า “Grand Area” ทุ่งใหญ่สำหรับนักล่า ซึ่งอยู่ในบริเวณต่อไปนี้
– ลาตินอเมริกา (ดินแดนกว้างใหญ่ ทรัพยากรแยะ นักล่าจะเอาไว้ทำอะไร ถ้าจำไม่ได้ช่วยกลับไปอ่านนิทานมายากลยุทธอีกรอบนะครับ)
– ยุโรป ซึ่งจะต้องยับเยินหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุด (เป็นพี่เลี้ยงที่สุดเจ๋งจริงๆ คาดการณ์ได้แม่นยำเหมือนลงมือจัดการเอง ! ! เป็นการควบคุมให้ล้มอย่างมีระเบียบ ฮา)
– เหล่าอดีตอาณานิคมของจักรภพอังกฤษ (นายเหนือเจ๊ง แล้วขี้ข้าจะทำยังไง ไม่ฉวยโอกาสฉกมาตอนนี้ แล้วจะไปรอหลังสงครามโลกครั้งหน้าหรือไง)
– เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (มาแล้ว ทุ่งหญ้าของพวกเราไง ที่เหล่าสมันน้อยอยู่แบบกินอิ่ม นอนหลับ ตื่นมาก็วิ่งเล่นเต๊าะแต๊ะน่ารัก) เพราะบริเวณนี้ ยังอุดมสมบูรณ์ มีแหล่งทรัพยากรและวัตถุดิบ ที่ Great Britain และญี่ปุ่น จะได้ใช้สอย ในฐานะผู้ผลิต และเหล่าสมันน้อยในทุ่งหญ้านี้จะได้ใช้สอย ในฐานะผู้บริโภคผลผลิต ของญี่ปุ่น (โอ ! นายท่าน ช่างเก่งจริงๆ อ่านขาดล่วงหน้า ตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกแบบนี้ ถ้านักการเมืองไทยมันรู้ว่า CFR สุดโปรดของผม มันเยี่ยมขนาดนี้นะ หมอดูอีที เห็นทีจะหมดอาชีพ มิน่าเล่าไอ้หมาไนโจรร้ายมันถึงไปใช้บริการของไอ้ก๊วนพวกนี้ !)
    ดังนั้นโปรดเข้าใจด้วย เวลาเขาพูดถึงผลประโยชน์ของอเมริกา เขาบอกว่าจะต้องนับเอา Grand Area ทุ่งใหญ่ รวมทั้งการปกป้อง คุมครองดูแลทุ่งใหญ่นี้ เข้าไปด้วย อ้าว ! สมันน้อยกลายเป็นผลประโยชน์ของเขา ตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยนะ รู้ตัวกันบ้างหรือเปล่า และในที่สุดจะรวมไปถึงโจทย์ที่ว่า จะพิจารณาปกป้องเวียตนาม ให้พ้นจากลัทธิคอมมิวนิสต์ด้วย หรือไม่ นี่เขียนไว้ตั้งแต่ ค.ศ.1939 นะเนี่ย ! ศักดิ์สิทธิจริงๆ หลวงพ่อ CFR ! ผมเลื่อนตำแหน่งให้แล้ว เพราะการวิเคราะห์ แบบนี้ หมอดูคนไหนก็ไม่มีทางสู้หลวงพ่อ CFR ได้แน่นอน
    คนเล่านิทาน
29 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 2 – ทุ่งใหญ่ นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 2 : ทุ่งใหญ่ CFR แอบทำโครงการลับๆ อย่างเงียบๆ และต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1939 ถึง 1945 ชื่อ War and Peace Studies ซึ่งเป็นการประสานงานร่วมมือกันระหว่างสมาชิกของ CFR กับ State Department ของรัฐบาล แต่เงินทุนที่ใช่ในการทำโครงการนี้ทั้งหมด ไม่ต้องบอกก็คงเดากันออก มาจากนายทุนโคตรรวย กระเป๋าของมูลนิธิ Rockefeller ทั้งหมด (อย่าเพิ่งเบื่อชื่อนี้นะครับ ถึงเบื่อ ก็ต้องทนเอา เพราะเขาเป็นตัวจริงเสียงจริง ในการกำกับพวกพี่เลี้ยง หรือเรียกให้ถูก น่าจะต้องใช้คำว่า เขาเป็น เจ้าของ คงไม่เป็นการแดกดันเขานัก) โครงการ War and Peace Studies นี้ วัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อสร้างให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิอเมริกา เช่นเดียวกับ จักรวรรดิ หรือจักรภพอังกฤษ เพียงแต่จะเป็นจักรวรรดินักล่าที่วิธีการล่าต่างกัน อังกฤษเป็นนักล่าอาณานิคมที่ต้องการขยายดินแดน เพราะประเทศตัวเองเป็นเกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อย ต้องการเอาประเทศของคนอื่นมาเป็นอาณานิคม เพื่อขยายอาณาจักรตัวเอง เพื่อปกครองและเพื่อใช้ทรัพยากรของเขา เพื่อสร้างความเจริญและความยิ่งใหญ่ของตนเอง แหม ! ให้ใครๆ เรียกว่า Empress of India หรือ Viceroy of Burma มันก็สมเป็นนายเหนือของอาณานิคมกร่างดีออก ภูมิใจนักหนากับประโยคที่พูดซ้ำซากว่า ดวงอาทิตย์ไม่มีวันตกในจักรภพอังกฤษ แสดงให้เห็นถึงอาณาจักรที่กว้างใหญ่ไพศาล แต่ผู้คิดสร้างอเมริกานักล่ารุ่นใหม่บอก คิดแบบนั้นมันไม่ฉลาดเท่าไหร่หรอก เอาไปทำไมประเทศคนอื่น ต้องไปเลี้ยงดูประชาชนพลเมืองเขาอีก ตัวเล็ก ตัวดำ ตัวเหลือง พูดกันไม่รู้เรื่อง คิดก็ต่างกัน ไม่เอาหรอก เราอย่าไปคิดเอาประเทศเขามาเป็นอาณานิคมเลยนะ ภาระมันแยะ เราแค่คิดวิธีที่จะทำอะไรก็ได้ ในแผ่นดินเขาดีกว่า ใช้ทรัพยากร ใช้คน ใช้เงิน ใช้กลอุบายทุกอย่าง ให้ผู้คนในแผ่นดินนั้น มันตกหลุมเราทุกประการ โดยเราไม่ต้องไปรับผิดชอบว่าเขาเป็นคนของเรา มันไม่ดีกว่าหรือ เราแค่อ้างว่าเราจะนำความเจริญมาให้เขา เราทำเพื่อความเจริญของโลก แค่นั้น เขาก็รีบเปิดประตูเมืองรับเรามือไม้สั่นไปหมดแล้ว แล้วเราอย่าไปเรียกตัวเองว่า จักรวรรดิอเมริกาด้วย มันล่อแหลม (ต่อความล้มเหลว !) ในทางตรงกันข้าม เรากลับต้องปลอมตัว (ลวงโลก) ว่า อเมริกาต่างหากที่เป็นผู้สนับสนุนให้เสรีภาพ อิสระภาพให้เกิดขึ้นกับประเทศอาณานิคม (ถือโอกาสตบหน้าอังกฤษแถมให้) ให้มีประชาธิปไตยเกิดขึ้นในโลกอันสวยงามใบนี้ และให้มีเสรีภาพในการทำมาค้าขาย ไม่มีการปิดกั้น โดยเราจะใช้กลไกที่จะเราจะตั้งขึ้นใหม่ เพื่อการนี้โดยเฉพาะ แต่โลกจะดูไม่รู้ จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน มันเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ ที่สวยหรู ที่บิดเบือนความจริง ลวงโลก ที่ได้ผลอย่างยอดเยี่ยมที่สุดแห่งศตวรรษ จนบัดนี้ยังไม่มีโฆษณาชวนเชื่อใดมาลบล้างได้ ! ตราบใดที่เศรษฐกิจของอเมริการุ่งเรือง แบงค์ดอลล่าร์สีเขียวของอเมริกา ยังเป็นแผ่นกระดาษที่โลกยอมรับและต้องการ การลวงโลกแบบนี้จะบอกว่าไม่สำเร็จ ได้อย่างไร และตราบใดที่ยุโรปตะวันตก ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง และเอเซียตะวันออก เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ฯลฯ ยังต้องพึ่งพากองทัพ (ที่อ้างว่า) เกรียงไกรของอเมริกาในการปกป้องภูมิภาคของตน นี่แหละคือข้อพิสูจน์ว่า จักรวรรดิอเมริกามีจริงเป็นจริง จักรวรรดิอเมริกา พี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก ใหญ่อย่างชนิด ไม่มีใครกล้ามาท้าทาย (แน่ใจหรือเปล่า ? !) นอกจากนี้ โครงการ War and Peace Studies นี้ เสนอความคิด และแนวทาง (shopping list) เพื่อให้อเมริกาปฏิบัติการอีกมากมาย ภายหลังสงครามโลกสิ้นสุด ที่สำคัญคือเขากำหนด บริเวณ ของโลกใบนี้ที่อเมริกาจะต้องประทับตรา ควบคุมหรือครอบครอง เพื่อส่งเสริมให้อเมริกามีเศรษฐกิจที่แข็งแรง บริเวณที่อเมริกาจะควบคุมนี้เขาเรียกกันว่า “Grand Area” ทุ่งใหญ่สำหรับนักล่า ซึ่งอยู่ในบริเวณต่อไปนี้
– ลาตินอเมริกา (ดินแดนกว้างใหญ่ ทรัพยากรแยะ นักล่าจะเอาไว้ทำอะไร ถ้าจำไม่ได้ช่วยกลับไปอ่านนิทานมายากลยุทธอีกรอบนะครับ)
– ยุโรป ซึ่งจะต้องยับเยินหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุด (เป็นพี่เลี้ยงที่สุดเจ๋งจริงๆ คาดการณ์ได้แม่นยำเหมือนลงมือจัดการเอง ! ! เป็นการควบคุมให้ล้มอย่างมีระเบียบ ฮา)
– เหล่าอดีตอาณานิคมของจักรภพอังกฤษ (นายเหนือเจ๊ง แล้วขี้ข้าจะทำยังไง ไม่ฉวยโอกาสฉกมาตอนนี้ แล้วจะไปรอหลังสงครามโลกครั้งหน้าหรือไง)
– เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (มาแล้ว ทุ่งหญ้าของพวกเราไง ที่เหล่าสมันน้อยอยู่แบบกินอิ่ม นอนหลับ ตื่นมาก็วิ่งเล่นเต๊าะแต๊ะน่ารัก) เพราะบริเวณนี้ ยังอุดมสมบูรณ์ มีแหล่งทรัพยากรและวัตถุดิบ ที่ Great Britain และญี่ปุ่น จะได้ใช้สอย ในฐานะผู้ผลิต และเหล่าสมันน้อยในทุ่งหญ้านี้จะได้ใช้สอย ในฐานะผู้บริโภคผลผลิต ของญี่ปุ่น (โอ ! นายท่าน ช่างเก่งจริงๆ อ่านขาดล่วงหน้า ตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกแบบนี้ ถ้านักการเมืองไทยมันรู้ว่า CFR สุดโปรดของผม มันเยี่ยมขนาดนี้นะ หมอดูอีที เห็นทีจะหมดอาชีพ มิน่าเล่าไอ้หมาไนโจรร้ายมันถึงไปใช้บริการของไอ้ก๊วนพวกนี้ !) ดังนั้นโปรดเข้าใจด้วย เวลาเขาพูดถึงผลประโยชน์ของอเมริกา เขาบอกว่าจะต้องนับเอา Grand Area ทุ่งใหญ่ รวมทั้งการปกป้อง คุมครองดูแลทุ่งใหญ่นี้ เข้าไปด้วย อ้าว ! สมันน้อยกลายเป็นผลประโยชน์ของเขา ตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยนะ รู้ตัวกันบ้างหรือเปล่า และในที่สุดจะรวมไปถึงโจทย์ที่ว่า จะพิจารณาปกป้องเวียตนาม ให้พ้นจากลัทธิคอมมิวนิสต์ด้วย หรือไม่ นี่เขียนไว้ตั้งแต่ ค.ศ.1939 นะเนี่ย ! ศักดิ์สิทธิจริงๆ หลวงพ่อ CFR ! ผมเลื่อนตำแหน่งให้แล้ว เพราะการวิเคราะห์ แบบนี้ หมอดูคนไหนก็ไม่มีทางสู้หลวงพ่อ CFR ได้แน่นอน คนเล่านิทาน
29 พค. 57
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 1 : พี่เลี้ยงนางนม
    อเมริกาพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก ที่วันนี้กำลังถูกท้าทาย จะรักษาตำแหน่งหมายเลขหนึ่งได้หรือไม่ ได้อีกนานเท่าไร ชาวโลกกำลังจับตามอง อเมริกา ขยับขา อ้าแขน แหกปาก ไม่ว่าจะทำอะไรเป็นข่าวไปทั่วโลก แต่เป็นข่าวในทางร้ายมากกว่าดี แต่ถึงอย่างนี้ก็ยังมีชาวโลกสวยชื่นชอบอเมริกา ผู้นำความเจริญมาสู่โลก ผู้นำเศรษฐกิจเสรี โลกาภิวัฒน์มันไปทุกอย่าง ไม่ ว่าการค้า การศึกษา วัฒนธรรม ฯลฯ ไม่มีอเมริกาเป็นเพื่อน ไม่มีอเมริกาตบหัวลูบหลัง หรืออเมริกาไม่เห็นด้วย ไม่ว่าเรื่องอะไร จะเป็นจะตายเสียให้ได้
    แต่ถ้าถามชาวแหกคอกไม่ว่าพันธ์เทศพันธ์ไทย ต่างบอก ถุด ! อเมริกา มันก็แค่นักล่า(อาณานิคม)รุ่นใหม่ กระสันอยากจะป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่ใจไม่ถึงที่จะประกาศให้โลกรู้ ได้แต่ทำตัวหน้าไหว้หลังหลอก อย่างงี้นักเลงจริงเขาดูถูก (โปรดนึกถึงหน้าพี่ปูตินเวลาพูดกับนายโอบามาก็แล้วกัน) แล้วสมันน้อยว่าไงจ๊ะ เห็นอเมริกาเป็นพี่เบิ้ม ผู้นำ ผู้พิทักษ์ ผู้ปกครอง ฯลฯ หรือเป็นนักล่ารุ่นใหม่ ไม่ต่างกับจิ๊กโก๋ปากซอย กล้าเบ่งแต่กับผู้อ่อนแอกว่า เจอนักเลงใหญ่อย่างพี่ปู หรือแค่อาเฮียยืนหน้าเฉย อย่าติดเบรคใส่เกียร์ว่างก็แล้วกัน
    แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพึ่งลงมติ นี่ยังไม่ถึงตีสี่ มีเวลาตัดสินใจ อ่านนิทานกันไปเรื่อยๆก่อนแล้วกัน อ่านๆไปก็จะมองออกเองแหละ ว่าอเมริกาเป็นพี่เบิ้มผู้พิทักษ์ของโลกสวย หรือเป็นนักล่าของชาวแหกคอก รู้จักเขาให้ชัดเจน จะได้รู้ว่าควรจะปฏิบัติตัวเองหรือปฏิบัติกับอเมริกาอย่างไร
    นักวิเคราะห์การเมืองรุ่นใหม่(สมัยนั้น) ต่างประสานเสียงเชียร์ บอกว่าอเมริกาเป็นนักล่าแน่นอนที่สุดและไม่ได้เป็นนักล่าแบบอุบัติเหตุ ไม่ใช่ประเภทเป็นเด็กกำพร้าไม่มีใครเลี้ยงดู เลยต้องปากถีบตีนกัด ออกมาล่าเหยื่อเลี้ยงตัวเองตั้งกะเด็ก ไม่ใช่นะ อย่าเข้าใจผิดเด็ดขาด อเมริกาเป็นลูกคนรวย ที่ถูกเลี้ยง ถูกฝึก ถูกเลือกให้เป็นนักล่าเหยื่อต่างหาก ถูกเลือก เข้าใจไหม (America was chosen to be an empire) มันมีการวางยุทธศาสตร์ หารือ วางแผนและปฏิบัติการให้อเมริกาเป็นนักล่าเป็น American Empire !
    เอาละซิ แล้วใครล่ะที่เป็นพี่เลี้ยงนางนม เป็นคนฝึก เป็นคนวางแผนให้อเมริกาเป็นนักล่า จะรู้ให้แน่ต้องแกะรอยเก่าของนักล่าย้อนไปให้เห็นภาพตั้งแต่ ยังเป็นละอ่อน เริ่มตั้งไข่ ดูว่าเขาหัดเดิน หัดคลานอย่างไร ใครเป็นพี่เลี้ยง เป็นพี่เลี้ยงแบบไหน ประเภทวิ่งไปตามเนินเขา แล้วร้องเพลง The Sound of Music หรือเปล่า (ท่านที่เกิดไม่ทันหนังเรื่องนี้ ขออำไพนะครับ ถึงไม่เคยดู ก็น่าจะเคยได้ยินเพลงบ้างน่า พระเอกมีลูกเป็นพรวน เมียตาย หรือไงเนี่ย ผมก็จำไม่ค่อยได้ จ้างนางเอกมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ดูแลเด็ก ในที่สุดพระเอกก็รักกับคุณพี่เลี้ยงตามฟอร์ม เด็กก็ดีใจไชโย เรื่องแสนจะธรรมดา สมัยนั้น ไม่มีอะไรซับซ้อนจนแบบเดาไมได้ ไม่ใช่หนังจบแล้ว หันหน้ามองกัน เลิกลั่ก มึนไปหมด ไม่มีครับ) หรือถ้าไม่เป็นพี่เลี้ยงแต่เป็นแม่เลี้ยง แบบแม่เลี้ยงใจร้ายของหนูน้อย Cinderella หนังการ์ตูนยอดฮิตของ Walt Disney ก่อนมาทำเป็นหนังใหญ่ เห็นไหมครับ ขนาดจะอธิบายเรื่องพี่เลี้ยง แม่เลี้ยง ยังต้องยกตัวอย่างหนัง Hollywood เลย เห็นอิทธิพลของเขาไหม จะให้ยกตัวอย่างเป็นปลาบู่ทอง จะมีใครรู้เรื่องบ้าง
    ผู้ที่ร่วมมือกัน ทำหน้าที่พี่เลี้ยง ป้อนนม ป้อนน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อม จับอเมริกาตั้งไข่ หัดเดิน ซ้อมให้เป็นนักล่า ไม่ใช่ใครที่ไหนที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า แต่เป็นกลุ่มชนชั้นนำในสังคมอเมริกา คือ พวก Elites นั่นแหละ ที่ประกอบด้วย นายธนาคารและบรรดาบริษัทอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมของอเมริกา (Americas Industrial Revolution) ในปลายศตวรรษที่ 19 รวมทั้งพวกมูลนิธิ ที่อ้างตัวว่าก่อตั้งขึ้นมาเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ Philanthropic Foundations (พวกมูลนิธิแบบนี้น่ะในบ้านเราก็มีจับตากันให้ดี สอดไส้กันง่ายเหลือเกิน) สถาบันการศึกษาชั้นนำต่างๆ และสถาบันที่เป็นถังความคิด (Think Tank) รวมทั้งกลุ่มทุนธุรกิจ ซึ่งเดินกร่างอยู่บนเส้นทางของอำนาจ สรุปง่ายๆ ว่าเป็นกลุ่มคน ที่ถ้าเปรียบแบบฝรั่ง เขาก็จะบอกว่าเป็นเหมือนพวก cream หรือ topping ที่อยู่ชั้นบนสุดของขนมเค้กนั่นแหละ คือกลุ่มผู้ที่ทำหน้าที่พี่เลี้ยงนักล่า
    ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่ 2 จะเริ่มต้น พี่เลี้ยงนักล่าที่เดินร้องเพลงเชียร์นำมาก่อนคือพวกนักยุทธศาสตร์อเมริกัน เริ่มประสานเสียงเรียกหา New Global American Empire จักรวรรดิอเมริกาที่จะครองโลกอ ยู่ไหน นำโดย Henry R. Luce บัณฑิตจากมหาวิทยาลัย Yale ผู้ก่อตั้งหนังสือ Time Magazine, Life และ Fortune ซึ่งเป็นลูกพี่ใหญ่ในวงการสำนักพิมพ์ ที่มีอิทธิพลในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 และเป็นหัวหน้ากองเชียร์ เสียงดังของพรรค Republican ซึ่งต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์อย่างเปิดเผย ขนาดไปเป็นที่ปรึกษาให้กับพวกนักการเมืองเผด็จการทางฝั่งยุโรป เช่น Mussolini ของอิตาลีและพวกนาซีของเยอรมัน ด้วยความเชื่อว่าวิถีของเผด็จการ จะหยุดการแพร่พันธ์ของคอมมิวนิสต์ได้ เชื่อกันแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
    ในปี ค.ศ.1941 นาย Luce เขียนบทความดังเป็นพลุแตก (แบบนิทานจิกโก๋ปากซอย ฮา) ลงในนิตยสาร Life ชื่อ The American Century ศตวรรษของอเมริกา เขาบอกว่าศตวรรษที่ 20 นี้ จะเป็นเวลาของอเมริกา เป็นช่วงเวลาที่โลกจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้นำโลกตัวจริงมาแล้ว มันไม่เหมือนกับการเป็นจักรวรรดิแบบโรม หรือเจ็งกิสข่านหรือจักรภพอังกฤษ ที่ทำเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่จะเป็นจักรวรรดิเพื่อมนุษย์ชาติทั้งปวง ไม่ใช่เฉพาะแต่อเมริกันชนเท่านั้น ว่าเข้านั่น พูดแบบอเมริกันแท้ ไม่มีเทียมเลยคุณพี่ คุณพี่ Luce นี่นอกจากเชียร์สุดลิ่ม และยังเป็นนักฝันดีอีกด้วย
    ในขณะที่นาย Luce เป็นนักร้องนำ เขียนบทความสรรเสริญอเมริกา ลงทุนผ่านปากกา แต่ผู้ที่ลงแรง ลงมือ ลงขัน จัดการให้ ศตวรรษอเมริกาเกิดขึ้นจริงๆ ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมด มาจากความคิดริเริ่มและการผลัก ดันของ the Council on Foreign Relations (CFR) กลุ่มนักคิด นักวางแผนโคตรชั่ว ตัวแสบนั่นเอง และนักยุทธศาสตร์คนสำคัญ CFR ที่เป็นหัวรถจักร ของรถไฟสายพี่เลี้ยง คือนาย Dean Acheson นาย Acheson นี้ มีประวัติน่าสนใจ เขาเป็นทนายความ ต่อมาเปลี่ยนเส้นทางมาเข้าวงการ เมือง ไต่กระไดขึ้นมาเรื่อย จนในที่สุดได้เป็น Secretary of State ช่วงปี ค.ศ.1949 – 1953 สมัยนาย Truman เป็นประธานาธิบดี เขามีส่วนสำคัญในการร่างนโยบาย ตปท. ของอเมริกาในช่วงสงครามเย็น (เอ! ใครเอาอย่างนะ จากทนายหน้าหอ มาเป็น รอ มอ ตอ ต่างประเทศ)
    ตั้งแต่ปี ค.ศ.1939 เมื่อเยอรมันบุกโปแลนด์ นาย Acheson เขียนหนังสือเรื่อง An American Attitude เป็นใบสั่งล่วงหน้าว่า หลัง สงครามโลกจบ อเมริกาจะต้องทำอะบ้าง (เขาสั่งกันได้ตั้งแต่ก่อนเข้าไปร่วมทำสงคราม) สิ่งที่สำคัญอเมริกาจะต้องทำคือ ทำให้โลกมีเสรีภาพในทางเศรษฐกิจการค้า หลังจากนั้นนาย Acheson ก็เป็นหนึ่งในคณะผู้ทำงานของ CFR ในการวางแผน ตั้งไข่ ให้แก่นักล่า หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง
    แม้ว่าอเมริกาจะเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการในปลายปี ค.ศ.1941 แต่ CFR วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้วว่า อเมริกาจะต้องเข้าสู่สงครามโลก เลิกยืนกอดอกดูอยู่ข้างสนามแบบนั้นมันจะไปได้เรื่องอะไร กระโดดลงไปในสนามรบได้แล้ว อันที่จริงพวกเขาวางแผนตั้งแต่ก่อนสงครามโลกจะเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ ที่จะให้อเมริกากระโจนลงไปในสนามรบ
    คนเล่านิทาน
29 พค. 57
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 1 : พี่เลี้ยงนางนม อเมริกาพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก ที่วันนี้กำลังถูกท้าทาย จะรักษาตำแหน่งหมายเลขหนึ่งได้หรือไม่ ได้อีกนานเท่าไร ชาวโลกกำลังจับตามอง อเมริกา ขยับขา อ้าแขน แหกปาก ไม่ว่าจะทำอะไรเป็นข่าวไปทั่วโลก แต่เป็นข่าวในทางร้ายมากกว่าดี แต่ถึงอย่างนี้ก็ยังมีชาวโลกสวยชื่นชอบอเมริกา ผู้นำความเจริญมาสู่โลก ผู้นำเศรษฐกิจเสรี โลกาภิวัฒน์มันไปทุกอย่าง ไม่ ว่าการค้า การศึกษา วัฒนธรรม ฯลฯ ไม่มีอเมริกาเป็นเพื่อน ไม่มีอเมริกาตบหัวลูบหลัง หรืออเมริกาไม่เห็นด้วย ไม่ว่าเรื่องอะไร จะเป็นจะตายเสียให้ได้ แต่ถ้าถามชาวแหกคอกไม่ว่าพันธ์เทศพันธ์ไทย ต่างบอก ถุด ! อเมริกา มันก็แค่นักล่า(อาณานิคม)รุ่นใหม่ กระสันอยากจะป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่ใจไม่ถึงที่จะประกาศให้โลกรู้ ได้แต่ทำตัวหน้าไหว้หลังหลอก อย่างงี้นักเลงจริงเขาดูถูก (โปรดนึกถึงหน้าพี่ปูตินเวลาพูดกับนายโอบามาก็แล้วกัน) แล้วสมันน้อยว่าไงจ๊ะ เห็นอเมริกาเป็นพี่เบิ้ม ผู้นำ ผู้พิทักษ์ ผู้ปกครอง ฯลฯ หรือเป็นนักล่ารุ่นใหม่ ไม่ต่างกับจิ๊กโก๋ปากซอย กล้าเบ่งแต่กับผู้อ่อนแอกว่า เจอนักเลงใหญ่อย่างพี่ปู หรือแค่อาเฮียยืนหน้าเฉย อย่าติดเบรคใส่เกียร์ว่างก็แล้วกัน แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพึ่งลงมติ นี่ยังไม่ถึงตีสี่ มีเวลาตัดสินใจ อ่านนิทานกันไปเรื่อยๆก่อนแล้วกัน อ่านๆไปก็จะมองออกเองแหละ ว่าอเมริกาเป็นพี่เบิ้มผู้พิทักษ์ของโลกสวย หรือเป็นนักล่าของชาวแหกคอก รู้จักเขาให้ชัดเจน จะได้รู้ว่าควรจะปฏิบัติตัวเองหรือปฏิบัติกับอเมริกาอย่างไร นักวิเคราะห์การเมืองรุ่นใหม่(สมัยนั้น) ต่างประสานเสียงเชียร์ บอกว่าอเมริกาเป็นนักล่าแน่นอนที่สุดและไม่ได้เป็นนักล่าแบบอุบัติเหตุ ไม่ใช่ประเภทเป็นเด็กกำพร้าไม่มีใครเลี้ยงดู เลยต้องปากถีบตีนกัด ออกมาล่าเหยื่อเลี้ยงตัวเองตั้งกะเด็ก ไม่ใช่นะ อย่าเข้าใจผิดเด็ดขาด อเมริกาเป็นลูกคนรวย ที่ถูกเลี้ยง ถูกฝึก ถูกเลือกให้เป็นนักล่าเหยื่อต่างหาก ถูกเลือก เข้าใจไหม (America was chosen to be an empire) มันมีการวางยุทธศาสตร์ หารือ วางแผนและปฏิบัติการให้อเมริกาเป็นนักล่าเป็น American Empire ! เอาละซิ แล้วใครล่ะที่เป็นพี่เลี้ยงนางนม เป็นคนฝึก เป็นคนวางแผนให้อเมริกาเป็นนักล่า จะรู้ให้แน่ต้องแกะรอยเก่าของนักล่าย้อนไปให้เห็นภาพตั้งแต่ ยังเป็นละอ่อน เริ่มตั้งไข่ ดูว่าเขาหัดเดิน หัดคลานอย่างไร ใครเป็นพี่เลี้ยง เป็นพี่เลี้ยงแบบไหน ประเภทวิ่งไปตามเนินเขา แล้วร้องเพลง The Sound of Music หรือเปล่า (ท่านที่เกิดไม่ทันหนังเรื่องนี้ ขออำไพนะครับ ถึงไม่เคยดู ก็น่าจะเคยได้ยินเพลงบ้างน่า พระเอกมีลูกเป็นพรวน เมียตาย หรือไงเนี่ย ผมก็จำไม่ค่อยได้ จ้างนางเอกมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ดูแลเด็ก ในที่สุดพระเอกก็รักกับคุณพี่เลี้ยงตามฟอร์ม เด็กก็ดีใจไชโย เรื่องแสนจะธรรมดา สมัยนั้น ไม่มีอะไรซับซ้อนจนแบบเดาไมได้ ไม่ใช่หนังจบแล้ว หันหน้ามองกัน เลิกลั่ก มึนไปหมด ไม่มีครับ) หรือถ้าไม่เป็นพี่เลี้ยงแต่เป็นแม่เลี้ยง แบบแม่เลี้ยงใจร้ายของหนูน้อย Cinderella หนังการ์ตูนยอดฮิตของ Walt Disney ก่อนมาทำเป็นหนังใหญ่ เห็นไหมครับ ขนาดจะอธิบายเรื่องพี่เลี้ยง แม่เลี้ยง ยังต้องยกตัวอย่างหนัง Hollywood เลย เห็นอิทธิพลของเขาไหม จะให้ยกตัวอย่างเป็นปลาบู่ทอง จะมีใครรู้เรื่องบ้าง ผู้ที่ร่วมมือกัน ทำหน้าที่พี่เลี้ยง ป้อนนม ป้อนน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อม จับอเมริกาตั้งไข่ หัดเดิน ซ้อมให้เป็นนักล่า ไม่ใช่ใครที่ไหนที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า แต่เป็นกลุ่มชนชั้นนำในสังคมอเมริกา คือ พวก Elites นั่นแหละ ที่ประกอบด้วย นายธนาคารและบรรดาบริษัทอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมของอเมริกา (Americas Industrial Revolution) ในปลายศตวรรษที่ 19 รวมทั้งพวกมูลนิธิ ที่อ้างตัวว่าก่อตั้งขึ้นมาเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ Philanthropic Foundations (พวกมูลนิธิแบบนี้น่ะในบ้านเราก็มีจับตากันให้ดี สอดไส้กันง่ายเหลือเกิน) สถาบันการศึกษาชั้นนำต่างๆ และสถาบันที่เป็นถังความคิด (Think Tank) รวมทั้งกลุ่มทุนธุรกิจ ซึ่งเดินกร่างอยู่บนเส้นทางของอำนาจ สรุปง่ายๆ ว่าเป็นกลุ่มคน ที่ถ้าเปรียบแบบฝรั่ง เขาก็จะบอกว่าเป็นเหมือนพวก cream หรือ topping ที่อยู่ชั้นบนสุดของขนมเค้กนั่นแหละ คือกลุ่มผู้ที่ทำหน้าที่พี่เลี้ยงนักล่า ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่ 2 จะเริ่มต้น พี่เลี้ยงนักล่าที่เดินร้องเพลงเชียร์นำมาก่อนคือพวกนักยุทธศาสตร์อเมริกัน เริ่มประสานเสียงเรียกหา New Global American Empire จักรวรรดิอเมริกาที่จะครองโลกอ ยู่ไหน นำโดย Henry R. Luce บัณฑิตจากมหาวิทยาลัย Yale ผู้ก่อตั้งหนังสือ Time Magazine, Life และ Fortune ซึ่งเป็นลูกพี่ใหญ่ในวงการสำนักพิมพ์ ที่มีอิทธิพลในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 และเป็นหัวหน้ากองเชียร์ เสียงดังของพรรค Republican ซึ่งต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์อย่างเปิดเผย ขนาดไปเป็นที่ปรึกษาให้กับพวกนักการเมืองเผด็จการทางฝั่งยุโรป เช่น Mussolini ของอิตาลีและพวกนาซีของเยอรมัน ด้วยความเชื่อว่าวิถีของเผด็จการ จะหยุดการแพร่พันธ์ของคอมมิวนิสต์ได้ เชื่อกันแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ในปี ค.ศ.1941 นาย Luce เขียนบทความดังเป็นพลุแตก (แบบนิทานจิกโก๋ปากซอย ฮา) ลงในนิตยสาร Life ชื่อ The American Century ศตวรรษของอเมริกา เขาบอกว่าศตวรรษที่ 20 นี้ จะเป็นเวลาของอเมริกา เป็นช่วงเวลาที่โลกจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้นำโลกตัวจริงมาแล้ว มันไม่เหมือนกับการเป็นจักรวรรดิแบบโรม หรือเจ็งกิสข่านหรือจักรภพอังกฤษ ที่ทำเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่จะเป็นจักรวรรดิเพื่อมนุษย์ชาติทั้งปวง ไม่ใช่เฉพาะแต่อเมริกันชนเท่านั้น ว่าเข้านั่น พูดแบบอเมริกันแท้ ไม่มีเทียมเลยคุณพี่ คุณพี่ Luce นี่นอกจากเชียร์สุดลิ่ม และยังเป็นนักฝันดีอีกด้วย ในขณะที่นาย Luce เป็นนักร้องนำ เขียนบทความสรรเสริญอเมริกา ลงทุนผ่านปากกา แต่ผู้ที่ลงแรง ลงมือ ลงขัน จัดการให้ ศตวรรษอเมริกาเกิดขึ้นจริงๆ ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมด มาจากความคิดริเริ่มและการผลัก ดันของ the Council on Foreign Relations (CFR) กลุ่มนักคิด นักวางแผนโคตรชั่ว ตัวแสบนั่นเอง และนักยุทธศาสตร์คนสำคัญ CFR ที่เป็นหัวรถจักร ของรถไฟสายพี่เลี้ยง คือนาย Dean Acheson นาย Acheson นี้ มีประวัติน่าสนใจ เขาเป็นทนายความ ต่อมาเปลี่ยนเส้นทางมาเข้าวงการ เมือง ไต่กระไดขึ้นมาเรื่อย จนในที่สุดได้เป็น Secretary of State ช่วงปี ค.ศ.1949 – 1953 สมัยนาย Truman เป็นประธานาธิบดี เขามีส่วนสำคัญในการร่างนโยบาย ตปท. ของอเมริกาในช่วงสงครามเย็น (เอ! ใครเอาอย่างนะ จากทนายหน้าหอ มาเป็น รอ มอ ตอ ต่างประเทศ) ตั้งแต่ปี ค.ศ.1939 เมื่อเยอรมันบุกโปแลนด์ นาย Acheson เขียนหนังสือเรื่อง An American Attitude เป็นใบสั่งล่วงหน้าว่า หลัง สงครามโลกจบ อเมริกาจะต้องทำอะบ้าง (เขาสั่งกันได้ตั้งแต่ก่อนเข้าไปร่วมทำสงคราม) สิ่งที่สำคัญอเมริกาจะต้องทำคือ ทำให้โลกมีเสรีภาพในทางเศรษฐกิจการค้า หลังจากนั้นนาย Acheson ก็เป็นหนึ่งในคณะผู้ทำงานของ CFR ในการวางแผน ตั้งไข่ ให้แก่นักล่า หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง แม้ว่าอเมริกาจะเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการในปลายปี ค.ศ.1941 แต่ CFR วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้วว่า อเมริกาจะต้องเข้าสู่สงครามโลก เลิกยืนกอดอกดูอยู่ข้างสนามแบบนั้นมันจะไปได้เรื่องอะไร กระโดดลงไปในสนามรบได้แล้ว อันที่จริงพวกเขาวางแผนตั้งแต่ก่อนสงครามโลกจะเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ ที่จะให้อเมริกากระโจนลงไปในสนามรบ คนเล่านิทาน
29 พค. 57
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • ..อ.ปานเทพ ทำถูกต้องมาก ต้องแบบนี้ แฉชื่อประเทศที่สามอย่างตรงไปตรงมา มันกล้าสั่งมันกล้ามาบีบมากดดัน ต้องกล้าถูกคนไทยทั้งประเทศมารับรู้การกระทำของมัน
    .. เลิกปกปิดเลิกปิดบังชื่อประเทศที่สามกันอีกต่อไป แฉความจริงแบบลักษณะนี้ออกมา เรา..ประชาชนก็สามารถร่วมแก้ไขต้นเหตุของปัญหาร่วมกันได้.
    ..ญี่ปุ่นเป็นประเทศสันดานหมามาแต่ใดมาตั้งแต่ก่อการอยากใหญ่ก่อสงครามโลก
    ..ญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศที่สามเจ้าเดียวแน่นอน แต่เมื่อแฉว่าญี่ปุ่นก็คือชาติญี่ปุ่น นักลงทุนญี่ปุ่นนี้นั้นเอง.
    ..ใจหมามาแทรกแซงอธิปไตยไทย เกาหลีเหนือสมควรยิงขีปนาวุธถล่มญี่ปุ่นเลย,เกาะผีบ้าจะจมทะเลทั้งประเทศเวลาไหนก็ไม่รู้ เกาะซาตานแรปทีเลียนเสพกามทั้งเกาะเอามันส์บ้ากามสารพัดตามสันดานแรปทีเลี่ยนสัตว์เลื้อยคลาน กษัตริย์มันในอดีตก่อนระเบิดสองเกาะนางากับฮิโรชิมันก็สัตว์เลื้อยคลานขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองจนมีกฎห้ามมองหน้ากษัตริย์เกิดขึ้นเพราะหน้าตากษัตริย์คือพวกสัตว์เลื้อยคลาน ประชาชนรับรู้จะล้มล้างมัน จึงฆ่าทุกๆคนที่ไปเห็นใบหน้าพวกมัน,ใต้เกาะญี่ปุ่นคืออุโมงค์ขนาดใหญ่ยักษ์เผ่าสัตว์เลื้อยคลานแดกมนุษย์เป็นอันมาก เพาะมนุษย์โคลนมนุษย์เป็นฟาร์มใต้ดินไว้แดกเป็นจำนวนมาก.ญี่ปุ่นคือตาอเมริกาตัวพ่อ ตัวกดขี่ไทยคือญี่ปุ่นนี้ล่ะ, ฝรั่งเศสก็ตาอเมริกา,อย่าแปลกใจทำไมเราเสียมลฑลบูรพาเราคือพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณเพราะญี่ปุ่นนี้คือฝ่ายพวกมันกับฝรั่งเศสอังกฤษอเมริกา ญี่ปุ่นคือไส้ศึกตัวพ่ออีกตัว,ตัวแทนอเมริกาเป็นceoตัวแทนฝรั่งมาปกครองดูแลสายพานผลประโยชน์ของฝรั่งทั้งประเทศไทย ดูตัวอย่างที่ชัดเจนคือการผลิตรถยนต์ มันกดขี่ห้ามคนไทยสามารถผลิตมาแข่งกับมันอิสระได้,ซื้อข้าราชการนักการเมืองขายชาติไว้ทำงานทุกๆวงการให้มัน,ชาติไทยเราจึงไม่เจริญไปไหน,แถมเสื่อมศีลธรรมคู่ขนานเจริญเพียงวัตถุแค่นั้น,ง่ายๆญี่ปุ่นไม่ใช่มิตรจริงอะไรหรอก,นอมินีอีลิทdeep stateแรปทีเลี่ยนดีๆนี้ล่ะ,สังเกตุมันใช้มุกแบบอเมริกาพิมพ์แบงค์ใช้เองได้สิ,อเมริกาก็พิมพ์แบงค์ใช้เองตามอำเภอใจ,ญี่ปุ่นขี้ข้ามือขวาในฝั่งเอเชียเลยก็ได้ สันดานเดียวกับอเมริกานั้นล่ะ,สันดานนี้ดูง่ายๆคือมวยไทยไปชกที่ญี่ปุ่น มันโกงคนไทยสารพัดรูปแบบเพื่อเอาชนะนักมวยไทยเรา ยุคล่าสุดคือบัวขวาK-1มันนั้นล่ะ,เราถูกสื่อในไทยเราที่มันซื้อสื่อหลักเราด้วยเงินได้มาล้างสมองคนไทยเราให้ชอบญี่ปุ่นแบบมัน,
    ..ธาตุแท้ญี่ปุ่นมันก็สันดานเดียวกับเขมรนั้นล่ะ,
    ..คนไทยเราจึงต้องช่วยเหลือกันเองเท่านั้น,สามัคคีเราคนไทยเท่านั้นจึงจะรอดในวิกฤติยุคนี้,เรามิอาจพึงใครนอกประเทศจริงจังเป็นหลักได้,พระเจ้าสอนให้เองพึงตนเองให้ได้ก่อนนั้นถูกต้องที่สุด,
    ..ญี่ปุ่นมาแทรกแซงภัยคุกคามรุกรานไทย,สันดานไม่ต่างจากอเมริการีบมาแทรกให้ต้องหยุดยิงนั้นล่ะ มุกเดียวกัน
    ..แต่ญี่ปุ่นมาแทรกมาแซงมาแทรกแซงขัดขวางในการจัดการเขมรด้วยการบีบไทยให้ต้องเปิดด่าน,บริบทพื้นฐานเพื่ออีลิทไม่ต้องการให้ไทยจัดการเขมรให้เด็ดขาดได้เพราะถ้าจัดการเขมรเด็ดขาดได้ ภูมิภาคนี้จะสงบสุขทันที ซึ่งอีลิทdeep stateยอมรับไม่ได้จะเสียแผนทั้งหมด,ต้องทำลายกลยุทธทางสงครามของไทยด้านการแทรกแซงบีบำทยต้องเปิดด่านให้ได้โดยส่งญี่ปุ่นกล้าตายมารับบทรับงานหน้างานครั้งนี้แทนมาเลย์อเมริกาที่เล่นไปแล้ว,กำกับงานละครโดยCIAประจำภูมิภาคนี้อีกล่ะ,งานสร้างความวุ่นวายไม่สงบสุขงานสร้างความโกลาหลแตกแยกต้องCIAยุยงปลุกปั่นเสมอ,มือที่สามตัวพ่อกำกับมือที่สามสำรองอีกที.
    ..ประเทศที่สามไม่น่าจะแค่ชาติญี่ปุ่น มีอเมริกา มีฝรั่งเศส ชาติอาหรับเลว ชาติยุโรปชั่วอีกตรึม งานหลักคือสร้างความไม่สงบสุขสันติในภูมิภาคนี้ ห้ามไทยจัดการเขมรให้เด็ดขาดได้ แหล่งอาหาร เนื้อมนุษย์ค้ามนุษย์ค้าอวัยวะมนุษย์จะหายไปทันที อาหารดีๆเนื้อคนเนื้อเด็กๆจะหายไปทันทีจะขาดตลาดทั่วโลกในลัทธิตาเดียวแดกมนุษย์นี้ ตลอดฮับฟอกเงิน ฮับอาชญากรรมสากลข้ามชาติทำเงินในเขมรจะหายไปด้วย สแกมเมอร์เดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะหายไปทันที บ่อนคาสิโน ค้ายาเถื่อน ค้าอาวุธชีวภาพตัวพ่อด้วยที่แอบซ่อนไว้อีกตรึมไม่ต่างจากฝั่งยูเครนเลยล่ะ,ใต้ดินใต้อุโมงค์ในเขมรอีกขุดไว้ขนาดใหญ่เป็นฐานจะถูกทำลายทันที,ไม่ต่างจากพวกขายชาติที่ให้อเมริกาสร้างอุโมงค์ขนาดใหญ่ฐานขนาดใหญ่ที่เชียงใหม่แก่อเมริกานั้นล่ะ,ฮับรวบรวมเนื้อสดค้ามนุษย์จากฝั่งพม่าได้มากมายกันเลย ,ทะลุรถไฟฟ้าใต้เปลือกโลกใต้ดินวิ่งไปยุโรปอเมริกาความเร็วกว่า3,000กม.ถึง8,000กม.ต่อชม.อีก,
    ..สรุปญี่ปุ่นเหี้ยทำลายความมั่นคงสงบสุขในภูมิภาคเรานี้ก็ด้วย ในไทยยิ่งชัดเจน,ญี่ปุ่นใช้เวียดนามส่งสินค้าบรรทุกสินค้าไปค้าขายได้,เห็นว่าไทยปิดด่าน สามารถใช้ฐานลาว เวียดนามค้าขายแทนได้,ไม่จำเป็นใช้อ้างไทย หากมิตรสหายที่ดีจริงจะไม่ทำแบบนี้,เอาภัยรุกรานคุกคามอธิปไตยไทยที่เขมรกำลังโจมตีไทย ยิงระเบิดใส่ไทยก่อนใส่ประชาชนไทยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก่อน ใส่โรงพยาบาลไทยที่ไม่รู้ห่าอะไรด้วยเลยก่อน สายข่าวสืบทราบชัดเจนว่ามันล็อกวิถีระเยิดยิงตกของการตกได้ ความน่าจะเป็นจะถึงจะตกระเบิดได้หรือการตกถูกได้,ญี่ปุ่นทำในจังหวะนี้ผิดวิสัยผิดปกติด้วย.ไส้ศึกศัตรูคือญี่ปุ่นนี้ก็ด้วย.หากข่าวนี้จริง,ญี่ปุ่นถ้าไปตกลงเจรจาทางลับกับอเมริกากับฝรั่งเศสหากขนเสบียงอาวุธช่วยเขมรชนะไทย ญี่ปุ่นก็มีส่วนได้ทรัพยากรมีค่ามากมายกว่า20ล้านล้านบาทอาจถึง100ล้านล้านบาทในอ่าวไทยและตลอดแนวพรมแดนไทยกับเขมรด้วย,สถานะญี่ปุ่นกับไทยจึงดูเหมาะสมยุ่งเกี่ยวออกตัวไม่น่าเกียจแบบอเมริกาฝรั่งเศสมาเลย์เพราะอ้างการลงทุนในเขมรอ้างการค้าขายไม่ได้แบบใก้ไทยเช่นญี่ปุ่นกว่าก็ไม่ได้,ญี่ปุ่นจึงเป็นตัวเลือกการแทรกแซงหน้างานครั้งนี้ดีที่สุดเนียนๆที่สุดนิ่มนวลที่สุด,ไม่มีใครออกมากล้าแฉชื่อประเทศที่สามได้หรอก รัฐบาลนายกฯหนูปกปิดให้อย่างดีแน่นอน,สามารถแทรกแซงยุทธการยุทธวิธีการเด็ดศึกเขมรได้แน่นอน ขัดขวางทหารไทยทำลายศักยภาพทางสงครามทหารเขมรได้แน่นอน,การเปิดด่าน ชาติที่สนับสนุนเขมร ขายอาวุธให้เขมรได้ขายได้ค้าแน่นอนจากเงินมืดเงินบ่อนของเขมรจากเงินแก๊งสแกมเมอร์ในเขมรมันซื้ออาวุธซื้อเสบียงพร้อมส่งตรงเวลาตามไส้ศึกในไทยเปิดจุดผ่อนปรนเปิดด่านให้เราขนส่งกำลังพลช่วยทหารเขมรชนะไทยได้แน่นอน.,ต้องฝากประเทศที่สามแบบญี่ปุ่นแล้วนะ เราฝรั่งเศสจะล่มละลายแล้ว อเมริกาก็ด้วย ญี่ปุ่นแกก็อักเสบทางการเงินด้วยนี้,มาจัดการไทยปล้นไทยอย่างชอบธรรมแดกได้จริงไม่อับอายโลกแค่เชียร์เขมรยึด1:200,000,สั่งไส้ศึกในไทยจะเปลี่ยนใครก็กอดmou43,44,tor46ไว้ให้แน่นด้วย,รับรองว่ามือที่สามประเทศสร้างความแตกแยกวุ่นวายแทรกแซงชาตินั้นแทรกแซงชาตินี้แบบเราสบายแน่นอน.ตังมหาศาลจากไทยเลย.แกญี่ปุ่นบีบไทยเปิดด่านให้ได้ ส่งสินค้าอาวุธและเสบียงให้ทหารเขมรรบชนะไทยให้ได้ ตุนอาวุธตุนเสบียงก่อน ยอมๆตกลงรับปากลมๆใสกระดาษกับไทยก่อนนะเขมร,ชนะไทยแน่นอนจากไส้ศึกภายในประเทศไทยมันเองคนในกองทัพไทยมันเอง.

    https://youtube.com/shorts/8br86PtN-yg?si=OtkRfTsleWOCTPaP
    ..อ.ปานเทพ ทำถูกต้องมาก ต้องแบบนี้ แฉชื่อประเทศที่สามอย่างตรงไปตรงมา มันกล้าสั่งมันกล้ามาบีบมากดดัน ต้องกล้าถูกคนไทยทั้งประเทศมารับรู้การกระทำของมัน .. เลิกปกปิดเลิกปิดบังชื่อประเทศที่สามกันอีกต่อไป แฉความจริงแบบลักษณะนี้ออกมา เรา..ประชาชนก็สามารถร่วมแก้ไขต้นเหตุของปัญหาร่วมกันได้. ..ญี่ปุ่นเป็นประเทศสันดานหมามาแต่ใดมาตั้งแต่ก่อการอยากใหญ่ก่อสงครามโลก ..ญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศที่สามเจ้าเดียวแน่นอน แต่เมื่อแฉว่าญี่ปุ่นก็คือชาติญี่ปุ่น นักลงทุนญี่ปุ่นนี้นั้นเอง. ..ใจหมามาแทรกแซงอธิปไตยไทย เกาหลีเหนือสมควรยิงขีปนาวุธถล่มญี่ปุ่นเลย,เกาะผีบ้าจะจมทะเลทั้งประเทศเวลาไหนก็ไม่รู้ เกาะซาตานแรปทีเลียนเสพกามทั้งเกาะเอามันส์บ้ากามสารพัดตามสันดานแรปทีเลี่ยนสัตว์เลื้อยคลาน กษัตริย์มันในอดีตก่อนระเบิดสองเกาะนางากับฮิโรชิมันก็สัตว์เลื้อยคลานขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองจนมีกฎห้ามมองหน้ากษัตริย์เกิดขึ้นเพราะหน้าตากษัตริย์คือพวกสัตว์เลื้อยคลาน ประชาชนรับรู้จะล้มล้างมัน จึงฆ่าทุกๆคนที่ไปเห็นใบหน้าพวกมัน,ใต้เกาะญี่ปุ่นคืออุโมงค์ขนาดใหญ่ยักษ์เผ่าสัตว์เลื้อยคลานแดกมนุษย์เป็นอันมาก เพาะมนุษย์โคลนมนุษย์เป็นฟาร์มใต้ดินไว้แดกเป็นจำนวนมาก.ญี่ปุ่นคือตาอเมริกาตัวพ่อ ตัวกดขี่ไทยคือญี่ปุ่นนี้ล่ะ, ฝรั่งเศสก็ตาอเมริกา,อย่าแปลกใจทำไมเราเสียมลฑลบูรพาเราคือพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณเพราะญี่ปุ่นนี้คือฝ่ายพวกมันกับฝรั่งเศสอังกฤษอเมริกา ญี่ปุ่นคือไส้ศึกตัวพ่ออีกตัว,ตัวแทนอเมริกาเป็นceoตัวแทนฝรั่งมาปกครองดูแลสายพานผลประโยชน์ของฝรั่งทั้งประเทศไทย ดูตัวอย่างที่ชัดเจนคือการผลิตรถยนต์ มันกดขี่ห้ามคนไทยสามารถผลิตมาแข่งกับมันอิสระได้,ซื้อข้าราชการนักการเมืองขายชาติไว้ทำงานทุกๆวงการให้มัน,ชาติไทยเราจึงไม่เจริญไปไหน,แถมเสื่อมศีลธรรมคู่ขนานเจริญเพียงวัตถุแค่นั้น,ง่ายๆญี่ปุ่นไม่ใช่มิตรจริงอะไรหรอก,นอมินีอีลิทdeep stateแรปทีเลี่ยนดีๆนี้ล่ะ,สังเกตุมันใช้มุกแบบอเมริกาพิมพ์แบงค์ใช้เองได้สิ,อเมริกาก็พิมพ์แบงค์ใช้เองตามอำเภอใจ,ญี่ปุ่นขี้ข้ามือขวาในฝั่งเอเชียเลยก็ได้ สันดานเดียวกับอเมริกานั้นล่ะ,สันดานนี้ดูง่ายๆคือมวยไทยไปชกที่ญี่ปุ่น มันโกงคนไทยสารพัดรูปแบบเพื่อเอาชนะนักมวยไทยเรา ยุคล่าสุดคือบัวขวาK-1มันนั้นล่ะ,เราถูกสื่อในไทยเราที่มันซื้อสื่อหลักเราด้วยเงินได้มาล้างสมองคนไทยเราให้ชอบญี่ปุ่นแบบมัน, ..ธาตุแท้ญี่ปุ่นมันก็สันดานเดียวกับเขมรนั้นล่ะ, ..คนไทยเราจึงต้องช่วยเหลือกันเองเท่านั้น,สามัคคีเราคนไทยเท่านั้นจึงจะรอดในวิกฤติยุคนี้,เรามิอาจพึงใครนอกประเทศจริงจังเป็นหลักได้,พระเจ้าสอนให้เองพึงตนเองให้ได้ก่อนนั้นถูกต้องที่สุด, ..ญี่ปุ่นมาแทรกแซงภัยคุกคามรุกรานไทย,สันดานไม่ต่างจากอเมริการีบมาแทรกให้ต้องหยุดยิงนั้นล่ะ มุกเดียวกัน ..แต่ญี่ปุ่นมาแทรกมาแซงมาแทรกแซงขัดขวางในการจัดการเขมรด้วยการบีบไทยให้ต้องเปิดด่าน,บริบทพื้นฐานเพื่ออีลิทไม่ต้องการให้ไทยจัดการเขมรให้เด็ดขาดได้เพราะถ้าจัดการเขมรเด็ดขาดได้ ภูมิภาคนี้จะสงบสุขทันที ซึ่งอีลิทdeep stateยอมรับไม่ได้จะเสียแผนทั้งหมด,ต้องทำลายกลยุทธทางสงครามของไทยด้านการแทรกแซงบีบำทยต้องเปิดด่านให้ได้โดยส่งญี่ปุ่นกล้าตายมารับบทรับงานหน้างานครั้งนี้แทนมาเลย์อเมริกาที่เล่นไปแล้ว,กำกับงานละครโดยCIAประจำภูมิภาคนี้อีกล่ะ,งานสร้างความวุ่นวายไม่สงบสุขงานสร้างความโกลาหลแตกแยกต้องCIAยุยงปลุกปั่นเสมอ,มือที่สามตัวพ่อกำกับมือที่สามสำรองอีกที. ..ประเทศที่สามไม่น่าจะแค่ชาติญี่ปุ่น มีอเมริกา มีฝรั่งเศส ชาติอาหรับเลว ชาติยุโรปชั่วอีกตรึม งานหลักคือสร้างความไม่สงบสุขสันติในภูมิภาคนี้ ห้ามไทยจัดการเขมรให้เด็ดขาดได้ แหล่งอาหาร เนื้อมนุษย์ค้ามนุษย์ค้าอวัยวะมนุษย์จะหายไปทันที อาหารดีๆเนื้อคนเนื้อเด็กๆจะหายไปทันทีจะขาดตลาดทั่วโลกในลัทธิตาเดียวแดกมนุษย์นี้ ตลอดฮับฟอกเงิน ฮับอาชญากรรมสากลข้ามชาติทำเงินในเขมรจะหายไปด้วย สแกมเมอร์เดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะหายไปทันที บ่อนคาสิโน ค้ายาเถื่อน ค้าอาวุธชีวภาพตัวพ่อด้วยที่แอบซ่อนไว้อีกตรึมไม่ต่างจากฝั่งยูเครนเลยล่ะ,ใต้ดินใต้อุโมงค์ในเขมรอีกขุดไว้ขนาดใหญ่เป็นฐานจะถูกทำลายทันที,ไม่ต่างจากพวกขายชาติที่ให้อเมริกาสร้างอุโมงค์ขนาดใหญ่ฐานขนาดใหญ่ที่เชียงใหม่แก่อเมริกานั้นล่ะ,ฮับรวบรวมเนื้อสดค้ามนุษย์จากฝั่งพม่าได้มากมายกันเลย ,ทะลุรถไฟฟ้าใต้เปลือกโลกใต้ดินวิ่งไปยุโรปอเมริกาความเร็วกว่า3,000กม.ถึง8,000กม.ต่อชม.อีก, ..สรุปญี่ปุ่นเหี้ยทำลายความมั่นคงสงบสุขในภูมิภาคเรานี้ก็ด้วย ในไทยยิ่งชัดเจน,ญี่ปุ่นใช้เวียดนามส่งสินค้าบรรทุกสินค้าไปค้าขายได้,เห็นว่าไทยปิดด่าน สามารถใช้ฐานลาว เวียดนามค้าขายแทนได้,ไม่จำเป็นใช้อ้างไทย หากมิตรสหายที่ดีจริงจะไม่ทำแบบนี้,เอาภัยรุกรานคุกคามอธิปไตยไทยที่เขมรกำลังโจมตีไทย ยิงระเบิดใส่ไทยก่อนใส่ประชาชนไทยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก่อน ใส่โรงพยาบาลไทยที่ไม่รู้ห่าอะไรด้วยเลยก่อน สายข่าวสืบทราบชัดเจนว่ามันล็อกวิถีระเยิดยิงตกของการตกได้ ความน่าจะเป็นจะถึงจะตกระเบิดได้หรือการตกถูกได้,ญี่ปุ่นทำในจังหวะนี้ผิดวิสัยผิดปกติด้วย.ไส้ศึกศัตรูคือญี่ปุ่นนี้ก็ด้วย.หากข่าวนี้จริง,ญี่ปุ่นถ้าไปตกลงเจรจาทางลับกับอเมริกากับฝรั่งเศสหากขนเสบียงอาวุธช่วยเขมรชนะไทย ญี่ปุ่นก็มีส่วนได้ทรัพยากรมีค่ามากมายกว่า20ล้านล้านบาทอาจถึง100ล้านล้านบาทในอ่าวไทยและตลอดแนวพรมแดนไทยกับเขมรด้วย,สถานะญี่ปุ่นกับไทยจึงดูเหมาะสมยุ่งเกี่ยวออกตัวไม่น่าเกียจแบบอเมริกาฝรั่งเศสมาเลย์เพราะอ้างการลงทุนในเขมรอ้างการค้าขายไม่ได้แบบใก้ไทยเช่นญี่ปุ่นกว่าก็ไม่ได้,ญี่ปุ่นจึงเป็นตัวเลือกการแทรกแซงหน้างานครั้งนี้ดีที่สุดเนียนๆที่สุดนิ่มนวลที่สุด,ไม่มีใครออกมากล้าแฉชื่อประเทศที่สามได้หรอก รัฐบาลนายกฯหนูปกปิดให้อย่างดีแน่นอน,สามารถแทรกแซงยุทธการยุทธวิธีการเด็ดศึกเขมรได้แน่นอน ขัดขวางทหารไทยทำลายศักยภาพทางสงครามทหารเขมรได้แน่นอน,การเปิดด่าน ชาติที่สนับสนุนเขมร ขายอาวุธให้เขมรได้ขายได้ค้าแน่นอนจากเงินมืดเงินบ่อนของเขมรจากเงินแก๊งสแกมเมอร์ในเขมรมันซื้ออาวุธซื้อเสบียงพร้อมส่งตรงเวลาตามไส้ศึกในไทยเปิดจุดผ่อนปรนเปิดด่านให้เราขนส่งกำลังพลช่วยทหารเขมรชนะไทยได้แน่นอน.,ต้องฝากประเทศที่สามแบบญี่ปุ่นแล้วนะ เราฝรั่งเศสจะล่มละลายแล้ว อเมริกาก็ด้วย ญี่ปุ่นแกก็อักเสบทางการเงินด้วยนี้,มาจัดการไทยปล้นไทยอย่างชอบธรรมแดกได้จริงไม่อับอายโลกแค่เชียร์เขมรยึด1:200,000,สั่งไส้ศึกในไทยจะเปลี่ยนใครก็กอดmou43,44,tor46ไว้ให้แน่นด้วย,รับรองว่ามือที่สามประเทศสร้างความแตกแยกวุ่นวายแทรกแซงชาตินั้นแทรกแซงชาตินี้แบบเราสบายแน่นอน.ตังมหาศาลจากไทยเลย.แกญี่ปุ่นบีบไทยเปิดด่านให้ได้ ส่งสินค้าอาวุธและเสบียงให้ทหารเขมรรบชนะไทยให้ได้ ตุนอาวุธตุนเสบียงก่อน ยอมๆตกลงรับปากลมๆใสกระดาษกับไทยก่อนนะเขมร,ชนะไทยแน่นอนจากไส้ศึกภายในประเทศไทยมันเองคนในกองทัพไทยมันเอง. https://youtube.com/shorts/8br86PtN-yg?si=OtkRfTsleWOCTPaP
    0 Comments 0 Shares 113 Views 0 Reviews
  • จริงๆจังหวัดแถวภาคตะวันออกทั้งหมด ร่วมถึงสระแก้ว สมควรเร่งจัดทำบังเกอร์ให้เพียงพอต่อการเกิดเหตุสู้รบกันได้ตลอดเวลาได้แล้ว ประชาชนรัศมีการยิงระเบิดทั้งแบบ20กม. แบบ150กม.ตกถึง,ต้องเร่งสร้างบังเกอร์หลุมหลบภัยใกล้บ้านตนไว้แล้ว,ประชาชนในหมู่บ้านชุมชนต่างๆต้องจัดประชุมเตรียมความพร้อมความไม่ประมาท ทำความเข้าใจกันทุกๆ5-7วันได้แล้ว,เกิดเหตุสงครามสู้รบกันขึ้นสามารถเข้าหลุมหลบภัยบังเบอร์ใกล้ตนที่สุดได้.,เรา..ภาคประชาชน อย่าได้ประมาทนะ ชุมชนเราหนาแน่นกว่าเขมรมัน ยิงระเบิดมา เส้นทางถนนเสียหายการอพยพคนจะโกลาหลวุ่นวายได้ หากเตรียมพร้อมซ้อมความเข้าใจกันก่อน จะสร้างระเบียบทางหนีทีไล่ได้ทัน,ทหารไทยเรา ตำรวจไทยเรา เจ้าหน้าที่ไทยเรา จะไม่กังวลรับมือศึกตรงหน้าได้ สามารถเต็มที่ในการจัดการภัยรุกรานคุกคามเราได้,การเจรจาปัจจุบันอาจแค่ละครปาหี่ซื้อเวลาเติมเต็มอาวุธช่วยเหลือฝั่งเขมร ตลอดไส้ศึกและมือที่สามประเทศที่สามบีบบังคับไทยให้เร่งรีบเปิดด่านแม้จุดผ่อนปรนก็จะเปิดเพื่อขนเสบียงขนอาวุธก็ได้ ไส้ศึกหลับตาช่วยเหลือกันได้นะ ,นัยยะนี้จึงอันตรายต่อชาติบ้านเมืองเรามาก,
    ..หากลาว เวียดนาม จีนรัสเชียยังนิ่งเฉยจัดการเขมร เสมือนว่ายืมมือเขมรมาจัดการไทยด้วยนั้นเอง ระเบิดที่วางใส่ทหารไทยก็ใหม่ๆมาจากรัสเชีย อาวุธเขมรก็จีน รัสเชีย หรือชาติอาหรับส่งให้ซื้อไปประจำการที่เขมรหมายยึดไทยก็ได้,อาชญากรรมระดับโลกแบบเขมรหากจีน รัสเชียไม่จัดการเสมือนคือพวกเดียวกันด้วย.

    https://youtube.com/shorts/2yTCxmJKQok?si=Z8mmz9lmwJ5sPO0R
    จริงๆจังหวัดแถวภาคตะวันออกทั้งหมด ร่วมถึงสระแก้ว สมควรเร่งจัดทำบังเกอร์ให้เพียงพอต่อการเกิดเหตุสู้รบกันได้ตลอดเวลาได้แล้ว ประชาชนรัศมีการยิงระเบิดทั้งแบบ20กม. แบบ150กม.ตกถึง,ต้องเร่งสร้างบังเกอร์หลุมหลบภัยใกล้บ้านตนไว้แล้ว,ประชาชนในหมู่บ้านชุมชนต่างๆต้องจัดประชุมเตรียมความพร้อมความไม่ประมาท ทำความเข้าใจกันทุกๆ5-7วันได้แล้ว,เกิดเหตุสงครามสู้รบกันขึ้นสามารถเข้าหลุมหลบภัยบังเบอร์ใกล้ตนที่สุดได้.,เรา..ภาคประชาชน อย่าได้ประมาทนะ ชุมชนเราหนาแน่นกว่าเขมรมัน ยิงระเบิดมา เส้นทางถนนเสียหายการอพยพคนจะโกลาหลวุ่นวายได้ หากเตรียมพร้อมซ้อมความเข้าใจกันก่อน จะสร้างระเบียบทางหนีทีไล่ได้ทัน,ทหารไทยเรา ตำรวจไทยเรา เจ้าหน้าที่ไทยเรา จะไม่กังวลรับมือศึกตรงหน้าได้ สามารถเต็มที่ในการจัดการภัยรุกรานคุกคามเราได้,การเจรจาปัจจุบันอาจแค่ละครปาหี่ซื้อเวลาเติมเต็มอาวุธช่วยเหลือฝั่งเขมร ตลอดไส้ศึกและมือที่สามประเทศที่สามบีบบังคับไทยให้เร่งรีบเปิดด่านแม้จุดผ่อนปรนก็จะเปิดเพื่อขนเสบียงขนอาวุธก็ได้ ไส้ศึกหลับตาช่วยเหลือกันได้นะ ,นัยยะนี้จึงอันตรายต่อชาติบ้านเมืองเรามาก, ..หากลาว เวียดนาม จีนรัสเชียยังนิ่งเฉยจัดการเขมร เสมือนว่ายืมมือเขมรมาจัดการไทยด้วยนั้นเอง ระเบิดที่วางใส่ทหารไทยก็ใหม่ๆมาจากรัสเชีย อาวุธเขมรก็จีน รัสเชีย หรือชาติอาหรับส่งให้ซื้อไปประจำการที่เขมรหมายยึดไทยก็ได้,อาชญากรรมระดับโลกแบบเขมรหากจีน รัสเชียไม่จัดการเสมือนคือพวกเดียวกันด้วย. https://youtube.com/shorts/2yTCxmJKQok?si=Z8mmz9lmwJ5sPO0R
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
  • “AMD MegaPod 256-GPU ท้าชน Nvidia SuperPod — ยุทธศาสตร์ใหม่ในสงคราม HPC ที่ไม่ใช่แค่เรื่องจำนวน แต่คือการควบคุมโครงสร้างทั้งระบบ”

    AMD กำลังเตรียมเปิดตัวระบบประมวลผลขนาดใหญ่ระดับ rack-scale ที่ชื่อว่า “MegaPod” ซึ่งจะใช้ GPU รุ่นใหม่ Instinct MI500 จำนวนถึง 256 ตัว พร้อมกับ CPU EPYC “Verano” รุ่นล่าสุด โดยวางแผนเปิดใช้งานในปี 2027 เพื่อแข่งขันกับ Nvidia SuperPod ที่ใช้ GPU Vera Rubin ในระบบ NVL576.

    MegaPod จะประกอบด้วย 3 แร็คหลัก โดยแร็คด้านข้างแต่ละฝั่งจะมี 32 ถาดประมวลผล (compute trays) ซึ่งแต่ละถาดจะมี 1 CPU Verano และ 4 GPU MI500 รวมเป็น 64 CPU และ 256 GPU ทั้งระบบ ส่วนแร็คกลางจะใช้สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย โดยใช้การ์ด Vulcano ที่พัฒนาจาก Pensando รองรับแบนด์วิดท์สูงถึง 800GbE ต่อ tray และใช้เทคโนโลยี TSMC 3nm เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลด latency

    แม้ AMD จะมีจำนวนแพ็กเกจ GPU มากกว่า Nvidia (256 vs 144) แต่ Nvidia ใช้การรวม 4 GPU ต่อแพ็กเกจ ทำให้มี GPU จริงถึง 576 ตัวในระบบ NVL576 ซึ่งทำให้การเปรียบเทียบไม่ตรงไปตรงมา และขึ้นอยู่กับการออกแบบสถาปัตยกรรมและการจัดการ throughput มากกว่าตัวเลขดิบ

    AMD ยังวางแผนใช้เทคโนโลยี UALink และ Ultra Ethernet เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อระหว่าง GPU และ CPU พร้อมกับ ROCm 7 ที่รองรับ FP8 และ Flash Attention 3 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้าน AI training และ inference โดยเฉพาะในงาน computer vision และ LLM

    โครงสร้างของ AMD MegaPod
    ประกอบด้วย 3 แร็ค: 2 แร็คด้านข้างสำหรับ compute trays และ 1 แร็คกลางสำหรับ networking
    มีทั้งหมด 64 CPU Verano และ 256 GPU MI500
    ใช้การ์ด Vulcano ที่รองรับ 800GbE ต่อ tray และผลิตด้วย TSMC 3nm
    ใช้เทคโนโลยี UALink และ Ultra Ethernet เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ

    จุดเด่นด้านเทคโนโลยี
    MI500 ใช้สถาปัตยกรรมใหม่พร้อม FP8 และ XMX matrix engine
    Verano CPU ใช้ Zen 7 และ PCIe Gen6 พร้อม backside power delivery
    ROCm 7 รองรับ Flash Attention 3 และ containerized LLM workloads
    ระบบออกแบบให้รองรับ AI training ขนาดใหญ่และ HPC workload

    การเปรียบเทียบกับ Nvidia SuperPod
    MegaPod มี 256 physical GPU packages เทียบกับ 144 ของ NVL576
    Nvidia รวม 4 GPU ต่อแพ็กเกจ ทำให้มี GPU จริง 576 ตัว
    AMD ใช้ single-GPU packages — เน้นความยืดหยุ่นและการควบคุม latency
    การเปรียบเทียบขึ้นอยู่กับ throughput และ network efficiency มากกว่าตัวเลข GPU

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    AMD เคยเปิดตัว Helios rack system ในปี 2026 ด้วย MI400 และ EPYC Venice
    MI500 จะใช้ TSMC N2P หรือ A16 node พร้อม CoWoS-L packaging
    ระบบ MegaPod คาดว่าจะให้ FP4 performance สูงกว่า 3 exaFLOPS
    Vulcano switch ASIC มี throughput สูงถึง 102.4Tbps ต่อ tray

    https://www.techradar.com/pro/amd-megapod-set-to-face-nvidias-superpod-with-a-256-gpu-rack-full-with-instinct-mi500-chips
    🚀 “AMD MegaPod 256-GPU ท้าชน Nvidia SuperPod — ยุทธศาสตร์ใหม่ในสงคราม HPC ที่ไม่ใช่แค่เรื่องจำนวน แต่คือการควบคุมโครงสร้างทั้งระบบ” AMD กำลังเตรียมเปิดตัวระบบประมวลผลขนาดใหญ่ระดับ rack-scale ที่ชื่อว่า “MegaPod” ซึ่งจะใช้ GPU รุ่นใหม่ Instinct MI500 จำนวนถึง 256 ตัว พร้อมกับ CPU EPYC “Verano” รุ่นล่าสุด โดยวางแผนเปิดใช้งานในปี 2027 เพื่อแข่งขันกับ Nvidia SuperPod ที่ใช้ GPU Vera Rubin ในระบบ NVL576. MegaPod จะประกอบด้วย 3 แร็คหลัก โดยแร็คด้านข้างแต่ละฝั่งจะมี 32 ถาดประมวลผล (compute trays) ซึ่งแต่ละถาดจะมี 1 CPU Verano และ 4 GPU MI500 รวมเป็น 64 CPU และ 256 GPU ทั้งระบบ ส่วนแร็คกลางจะใช้สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย โดยใช้การ์ด Vulcano ที่พัฒนาจาก Pensando รองรับแบนด์วิดท์สูงถึง 800GbE ต่อ tray และใช้เทคโนโลยี TSMC 3nm เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลด latency แม้ AMD จะมีจำนวนแพ็กเกจ GPU มากกว่า Nvidia (256 vs 144) แต่ Nvidia ใช้การรวม 4 GPU ต่อแพ็กเกจ ทำให้มี GPU จริงถึง 576 ตัวในระบบ NVL576 ซึ่งทำให้การเปรียบเทียบไม่ตรงไปตรงมา และขึ้นอยู่กับการออกแบบสถาปัตยกรรมและการจัดการ throughput มากกว่าตัวเลขดิบ AMD ยังวางแผนใช้เทคโนโลยี UALink และ Ultra Ethernet เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อระหว่าง GPU และ CPU พร้อมกับ ROCm 7 ที่รองรับ FP8 และ Flash Attention 3 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้าน AI training และ inference โดยเฉพาะในงาน computer vision และ LLM ✅ โครงสร้างของ AMD MegaPod ➡️ ประกอบด้วย 3 แร็ค: 2 แร็คด้านข้างสำหรับ compute trays และ 1 แร็คกลางสำหรับ networking ➡️ มีทั้งหมด 64 CPU Verano และ 256 GPU MI500 ➡️ ใช้การ์ด Vulcano ที่รองรับ 800GbE ต่อ tray และผลิตด้วย TSMC 3nm ➡️ ใช้เทคโนโลยี UALink และ Ultra Ethernet เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ ✅ จุดเด่นด้านเทคโนโลยี ➡️ MI500 ใช้สถาปัตยกรรมใหม่พร้อม FP8 และ XMX matrix engine ➡️ Verano CPU ใช้ Zen 7 และ PCIe Gen6 พร้อม backside power delivery ➡️ ROCm 7 รองรับ Flash Attention 3 และ containerized LLM workloads ➡️ ระบบออกแบบให้รองรับ AI training ขนาดใหญ่และ HPC workload ✅ การเปรียบเทียบกับ Nvidia SuperPod ➡️ MegaPod มี 256 physical GPU packages เทียบกับ 144 ของ NVL576 ➡️ Nvidia รวม 4 GPU ต่อแพ็กเกจ ทำให้มี GPU จริง 576 ตัว ➡️ AMD ใช้ single-GPU packages — เน้นความยืดหยุ่นและการควบคุม latency ➡️ การเปรียบเทียบขึ้นอยู่กับ throughput และ network efficiency มากกว่าตัวเลข GPU ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ AMD เคยเปิดตัว Helios rack system ในปี 2026 ด้วย MI400 และ EPYC Venice ➡️ MI500 จะใช้ TSMC N2P หรือ A16 node พร้อม CoWoS-L packaging ➡️ ระบบ MegaPod คาดว่าจะให้ FP4 performance สูงกว่า 3 exaFLOPS ➡️ Vulcano switch ASIC มี throughput สูงถึง 102.4Tbps ต่อ tray https://www.techradar.com/pro/amd-megapod-set-to-face-nvidias-superpod-with-a-256-gpu-rack-full-with-instinct-mi500-chips
    0 Comments 0 Shares 77 Views 0 Reviews
  • รัสเชียถล่มฝรั่งเศสตอนนี้เดือนนี้เลย ปล่อยให้มันสะสมอาวุธเตรียมพร้อมฆ่าคนรัสเชียทำไม,เปิดตัวขนาดนี้ ตัวพ่อเบื้องหลังก่อสงคราม ตัวพ่อเบื้องหลังก่ออาชยญากรรมสาระพัดทั่วโลกร่วมถึงสนับสนุนเขมรค้ามนุษย์ค้าอวัยวะค้ายาเสพติดของอีลิทdeep stateด้วยส่งเนื้อสดไปประเทศเครือข่ายฝรั่งเศสแปรรูปแน่นอนก่อนส่งไปให้พวกวาติกันแดกเนื้อมนุษย์กันทั่วรีตตาเดียวมันและอังกฤษคือตัวพ่ออีกตัวนั้นเอง,มันย้ายฐานมายูเครน อีลิทยุโรปจึงช่วยยูเครนเป็นการใหญ่เพราะใต้ดินใต้อุโมงค์ยูเครนคือแหล่งผลิตแปรรูปสาระพัดความชั่วร้ายเช่นแดกมนุษย์แดกเด็กแดกอะดริโนโครมผลิตอาวุธชีวภาพแบบเชื้อโรคโควิดเป็นต้นในโซนยุโรป,โซนเอเชียก็แหล่งค้ามนุษย์ค้าอวัยวะมนุษย์ตัวพ่อนอกจากสแกมเมอร์คอลเซนเตอร์ก็มีพม่ามีเขมรล่าสุดที่อพยพจากฐานพม่ามาสร้างที่เขมรแทนโดยมีรัฐบาลชั่วเลวของไทยสมคบคิดด้วยชุดก่อน สมยอมเขมรใต้ตีนมันหมด ฝรั่งเศสคือตัวปัญหาของเอเชียและอาเชียนจริงตลอดเรื่อยมา ยึดปล้นชิงทรัพยากรมีค่ามากมายจากคนเอเชียคนอาเชียนเราไม่น้อยจนถึงปัจจุบัน เช่นบ่อน้ำมันทั่วอาเชียนเรา สร้างความแตกแยกวุ่นวายโกลาหลทั่วเอเชียอาเชียนเป็นทีมเป็นขบวนการและแทรกแซงวิถีการปกครองไปหมดในเอเชียในอาเชียนเรา ,ยุโรปสมควรถูกกำจัดถูกทำลายโดยเฉพาะฝรั่งเศส รัสเชีย จีน อินเดีย เกาหลีเหนือยิงถล่มมันทิ้งเลย,เอเชียเราสงบสุขสันติแน่นอน แถมทรัพยากรมีค่ามากมายจะทำคุณประโยชน์พัฒนาคนเอเชียเราให้สุขสบายร่วมกันสันติสงบสุขได้.
    https://youtube.com/watch?v=xoLDX0C9240&si=GETJXaxrOqczGntC
    รัสเชียถล่มฝรั่งเศสตอนนี้เดือนนี้เลย ปล่อยให้มันสะสมอาวุธเตรียมพร้อมฆ่าคนรัสเชียทำไม,เปิดตัวขนาดนี้ ตัวพ่อเบื้องหลังก่อสงคราม ตัวพ่อเบื้องหลังก่ออาชยญากรรมสาระพัดทั่วโลกร่วมถึงสนับสนุนเขมรค้ามนุษย์ค้าอวัยวะค้ายาเสพติดของอีลิทdeep stateด้วยส่งเนื้อสดไปประเทศเครือข่ายฝรั่งเศสแปรรูปแน่นอนก่อนส่งไปให้พวกวาติกันแดกเนื้อมนุษย์กันทั่วรีตตาเดียวมันและอังกฤษคือตัวพ่ออีกตัวนั้นเอง,มันย้ายฐานมายูเครน อีลิทยุโรปจึงช่วยยูเครนเป็นการใหญ่เพราะใต้ดินใต้อุโมงค์ยูเครนคือแหล่งผลิตแปรรูปสาระพัดความชั่วร้ายเช่นแดกมนุษย์แดกเด็กแดกอะดริโนโครมผลิตอาวุธชีวภาพแบบเชื้อโรคโควิดเป็นต้นในโซนยุโรป,โซนเอเชียก็แหล่งค้ามนุษย์ค้าอวัยวะมนุษย์ตัวพ่อนอกจากสแกมเมอร์คอลเซนเตอร์ก็มีพม่ามีเขมรล่าสุดที่อพยพจากฐานพม่ามาสร้างที่เขมรแทนโดยมีรัฐบาลชั่วเลวของไทยสมคบคิดด้วยชุดก่อน สมยอมเขมรใต้ตีนมันหมด ฝรั่งเศสคือตัวปัญหาของเอเชียและอาเชียนจริงตลอดเรื่อยมา ยึดปล้นชิงทรัพยากรมีค่ามากมายจากคนเอเชียคนอาเชียนเราไม่น้อยจนถึงปัจจุบัน เช่นบ่อน้ำมันทั่วอาเชียนเรา สร้างความแตกแยกวุ่นวายโกลาหลทั่วเอเชียอาเชียนเป็นทีมเป็นขบวนการและแทรกแซงวิถีการปกครองไปหมดในเอเชียในอาเชียนเรา ,ยุโรปสมควรถูกกำจัดถูกทำลายโดยเฉพาะฝรั่งเศส รัสเชีย จีน อินเดีย เกาหลีเหนือยิงถล่มมันทิ้งเลย,เอเชียเราสงบสุขสันติแน่นอน แถมทรัพยากรมีค่ามากมายจะทำคุณประโยชน์พัฒนาคนเอเชียเราให้สุขสบายร่วมกันสันติสงบสุขได้. https://youtube.com/watch?v=xoLDX0C9240&si=GETJXaxrOqczGntC
    0 Comments 0 Shares 58 Views 0 Reviews
  • ช่วงเวลาที่ Charlie Kirk ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรเยาวชนอนุรักษ์นิยม Turning Point USA ถูกลอบสังหารในงานที่มหาวิทยาลัย Utah Valley ในรัฐยูทาห์

    https://thaitimes.co/posts/267154
    https://thaitimes.co/posts/267157
    https://thaitimes.co/posts/267159

    ทรัมป์โพสต์แสดงความเสียใจต่อการจากไปของเขา:
    "ชาร์ลี เคิร์ก เป็นตำนานผู้ยิ่งใหญ่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ไม่มีใครเข้าใจหรือมีหัวใจของเยาวชนในสหรัฐอเมริกาดีไปกว่าชาร์ลีอีกแล้ว เขาเป็นที่รักและชื่นชมของทุกคน โดยเฉพาะผม และตอนนี้เขาจากไปแล้ว ผมขอแสดงความเสียใจกับเมลาเนียและเอริกา ภรรยาผู้แสนดีของเขา และครอบครัว ชาร์ลี พวกเรารักคุณ!" - ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์

    Kirk มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้คนรุ่นใหม่สนับสนุนทรัมป์ กิจกรรมของเขาที่จัดขึ้นตามมหาวิทยาลัยทั่วประเทศมักดึงดูดผู้คนจำนวนมาก

    เขาเคยแสดงความเห็นเกี่ยวกับเด็กและผู้หญิงที่เสียชีวิตในกาซา ว่าเป็นความรับผิดชอบของฮามาส "ไม่ใช่อิสราเอล" เช่นเดียวกับการเสียชีวิตของผู้คนในญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นความผิดของญี่ปุ่น
    ช่วงเวลาที่ Charlie Kirk ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรเยาวชนอนุรักษ์นิยม Turning Point USA ถูกลอบสังหารในงานที่มหาวิทยาลัย Utah Valley ในรัฐยูทาห์ https://thaitimes.co/posts/267154 https://thaitimes.co/posts/267157 https://thaitimes.co/posts/267159 ทรัมป์โพสต์แสดงความเสียใจต่อการจากไปของเขา: "ชาร์ลี เคิร์ก เป็นตำนานผู้ยิ่งใหญ่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ไม่มีใครเข้าใจหรือมีหัวใจของเยาวชนในสหรัฐอเมริกาดีไปกว่าชาร์ลีอีกแล้ว เขาเป็นที่รักและชื่นชมของทุกคน โดยเฉพาะผม และตอนนี้เขาจากไปแล้ว ผมขอแสดงความเสียใจกับเมลาเนียและเอริกา ภรรยาผู้แสนดีของเขา และครอบครัว ชาร์ลี พวกเรารักคุณ!" - ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ Kirk มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้คนรุ่นใหม่สนับสนุนทรัมป์ กิจกรรมของเขาที่จัดขึ้นตามมหาวิทยาลัยทั่วประเทศมักดึงดูดผู้คนจำนวนมาก 👉เขาเคยแสดงความเห็นเกี่ยวกับเด็กและผู้หญิงที่เสียชีวิตในกาซา ว่าเป็นความรับผิดชอบของฮามาส "ไม่ใช่อิสราเอล" เช่นเดียวกับการเสียชีวิตของผู้คนในญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นความผิดของญี่ปุ่น
    0 Comments 0 Shares 162 Views 0 Reviews
  • ทหารภาค2ยึดอำนาจเลย,สุดจะทนนักการเมืองพวกห่านี้แล้ว,ทนกับอดีตนายกฯอังเคิลอยากได้อะไรเดียวจัดให้,ต้องมาทนพวกเจรจานี้จัดให้อีก,เข้าทรงเดิมชัดเจน,ไล่รัฐบาลนายกฯหนูอาจเร็วกว่ากำหนดอีก,เรา..ประชาชนไม่ทนกับรัฐบาลเก่าก็สมควรเกินบรรยายแล้ว,รัฐบาลใหม่ไม่ต่างอะไรด้วย,ไร้จุดยืนชัดเจน สร้างบาลีและวาทะกรรม บริบทแหกตาประชาชนได้ตลอด,เปิดด่าน เปิดผ่อนปรนห่าอะไรก็ไม่ได้ ไม่สมควรตอนนี้,เราปิดด่านแล้วมันมายิงปืนใส่ก็ให้มันทำเลย,เราไล่เขมรถีบออกจากแผ่นดินไทย ถ้ามันยิงใส่เราก็ให้มันยิงเลย,เราสร้างรั้วสร้างกำแพงรั้วลวดหนามในแผ่นดินบนแผ่นดินในเขตไทยเราเอง ห่างจากเส้นเสาหมุดสยามเรา5เมตรตลอดแนวพรมแดนเป็นพื้นมาตราฐานงานสร้าง ถ้ามันยิงใส่เรา ก็ให้มันยิงเลย จะกว่าอะไร กลัวทำไม มันมาวางกับระเบิดใหม่ก็ยิงคนมาวางทิ้งเลย ข้ามเขตแนวเสาหมุดตลิดแนวพรมแดน800กม.ก็ยิงทิ้งทหารเขมรทันทีเลย.,ทั้งหมดเราปิดก็ปิดด่านในส่วนเรา มันอยากเปิดก็เรื่องของมัน,ตัดน้ำมันบนบกและในทะเลตัดกันจริงๆมั้ย,ตัดไฟฟ้า ตัดซิมตัดเน็ตไทย ตัดจริงๆมั้ย ใครไปตรวจจับคลื่นเสาสัญญาณเลย,ลงคลิปแฉรัฐบาลหนูด้วยเลย,ปากเอาแต่พูด ส่วนค่าจริงไม่ทำจริงใดๆอะไรเลย,
    ..คดีฮั่วอาจดำเนินการอย่างรวดเร็ว คดียุบพรรคก็ด้วย คดีเขากระโดงก็ด้วย ถ้ายิ่งอยู่นานหลายวันแล้วเสียของขนาดนี้ก็ไปเถอะ,ไปทั้งครม.นั้นล่ะ.
    ..น่าผิดหวังมากๆ ยุทธปืนคอก็เหี้ยแล้ว โทรบอกบิ๊กกุ้งอย่าตอบโต้ยิ่งเหี้ยไปอีก,4เดือนนานไป,4วัน4อาทิตย์ก็พอแล้วล่ะ.
    ..ให้นายกฯคนที่33มาทำต่อก็ได้. มลทินเยอะเกินไป.
    ..เรา..ประชาชนดูจากเนื้องานและค่าจริง,ผลที่เกิดขึ้นจริง.
    #การเปิดด่านคือการทรยศคนที่ตายของไทย.
    #การเปิดด่านคือทางไม่แก้ปัญหาที่ยั่งยืน.
    #การเปิดด่านคือสนับสนุนเขมรให้มีกำลัง.
    #การเปิดด่านคือการทรยศคนไทยทั้งประเทศ.
    #พวกเจรจาคือพวกกบฎทรยศต่อน้ำใจคนไทย.
    #พวกเจรจาต้องให้ตายเกือบหมดครอบครัวบ้าง.
    #คณะเจรจาคนทั้งครอบครัวตนตายเกือบหมดอาจจะซึ้งเช่นผู้บริสุทธิ์เรา.
    ..
    #การเปิดด่านคือการพยายามก่อสงคราม.
    #การเปิดด่านคือการส่งเสบียงให้ศัตรูมีแรง.
    #การเปิดด่านมีแต่ไส้ศึกศัตรูเท่านั้นต้องการจะทำ.
    #ไส้ศึกเท่านั้นจะเปิดประตูให้โจรศัตรู.
    #คนทรยศเท่านั้นจะเปิดโอกาสให้ศัตรู.


    https://youtube.com/shorts/6wH99tZKmFA?si=6-LxcOKa_bW2mUtK
    ทหารภาค2ยึดอำนาจเลย,สุดจะทนนักการเมืองพวกห่านี้แล้ว,ทนกับอดีตนายกฯอังเคิลอยากได้อะไรเดียวจัดให้,ต้องมาทนพวกเจรจานี้จัดให้อีก,เข้าทรงเดิมชัดเจน,ไล่รัฐบาลนายกฯหนูอาจเร็วกว่ากำหนดอีก,เรา..ประชาชนไม่ทนกับรัฐบาลเก่าก็สมควรเกินบรรยายแล้ว,รัฐบาลใหม่ไม่ต่างอะไรด้วย,ไร้จุดยืนชัดเจน สร้างบาลีและวาทะกรรม บริบทแหกตาประชาชนได้ตลอด,เปิดด่าน เปิดผ่อนปรนห่าอะไรก็ไม่ได้ ไม่สมควรตอนนี้,เราปิดด่านแล้วมันมายิงปืนใส่ก็ให้มันทำเลย,เราไล่เขมรถีบออกจากแผ่นดินไทย ถ้ามันยิงใส่เราก็ให้มันยิงเลย,เราสร้างรั้วสร้างกำแพงรั้วลวดหนามในแผ่นดินบนแผ่นดินในเขตไทยเราเอง ห่างจากเส้นเสาหมุดสยามเรา5เมตรตลอดแนวพรมแดนเป็นพื้นมาตราฐานงานสร้าง ถ้ามันยิงใส่เรา ก็ให้มันยิงเลย จะกว่าอะไร กลัวทำไม มันมาวางกับระเบิดใหม่ก็ยิงคนมาวางทิ้งเลย ข้ามเขตแนวเสาหมุดตลิดแนวพรมแดน800กม.ก็ยิงทิ้งทหารเขมรทันทีเลย.,ทั้งหมดเราปิดก็ปิดด่านในส่วนเรา มันอยากเปิดก็เรื่องของมัน,ตัดน้ำมันบนบกและในทะเลตัดกันจริงๆมั้ย,ตัดไฟฟ้า ตัดซิมตัดเน็ตไทย ตัดจริงๆมั้ย ใครไปตรวจจับคลื่นเสาสัญญาณเลย,ลงคลิปแฉรัฐบาลหนูด้วยเลย,ปากเอาแต่พูด ส่วนค่าจริงไม่ทำจริงใดๆอะไรเลย, ..คดีฮั่วอาจดำเนินการอย่างรวดเร็ว คดียุบพรรคก็ด้วย คดีเขากระโดงก็ด้วย ถ้ายิ่งอยู่นานหลายวันแล้วเสียของขนาดนี้ก็ไปเถอะ,ไปทั้งครม.นั้นล่ะ. ..น่าผิดหวังมากๆ ยุทธปืนคอก็เหี้ยแล้ว โทรบอกบิ๊กกุ้งอย่าตอบโต้ยิ่งเหี้ยไปอีก,4เดือนนานไป,4วัน4อาทิตย์ก็พอแล้วล่ะ. ..ให้นายกฯคนที่33มาทำต่อก็ได้. มลทินเยอะเกินไป. ..เรา..ประชาชนดูจากเนื้องานและค่าจริง,ผลที่เกิดขึ้นจริง. #การเปิดด่านคือการทรยศคนที่ตายของไทย. #การเปิดด่านคือทางไม่แก้ปัญหาที่ยั่งยืน. #การเปิดด่านคือสนับสนุนเขมรให้มีกำลัง. #การเปิดด่านคือการทรยศคนไทยทั้งประเทศ. #พวกเจรจาคือพวกกบฎทรยศต่อน้ำใจคนไทย. #พวกเจรจาต้องให้ตายเกือบหมดครอบครัวบ้าง. #คณะเจรจาคนทั้งครอบครัวตนตายเกือบหมดอาจจะซึ้งเช่นผู้บริสุทธิ์เรา. .. #การเปิดด่านคือการพยายามก่อสงคราม. #การเปิดด่านคือการส่งเสบียงให้ศัตรูมีแรง. #การเปิดด่านมีแต่ไส้ศึกศัตรูเท่านั้นต้องการจะทำ. #ไส้ศึกเท่านั้นจะเปิดประตูให้โจรศัตรู. #คนทรยศเท่านั้นจะเปิดโอกาสให้ศัตรู. https://youtube.com/shorts/6wH99tZKmFA?si=6-LxcOKa_bW2mUtK
    0 Comments 0 Shares 99 Views 0 Reviews
  • อ้างประเทศที่3,ทำไมไม่กล้าบอกชื่อประเทศที่3ควายนี้แก่ประชาชน,ประชาชนจะได้ไปถามฑูตประเทศที่3นี้,ถ้าเดือดร้อนขนาดนั้นมาค้ามาขายโคตรพ่อโคตรแมร่งมรึงทำไมในไทย,ใช้ไทยเป็นสถานที่อ้างเปิดด่านเปืดจุดผ่อนปรนวลีคำพ่อมรึงตายเหรอ,ไปใช้ลาวแทนสิ ไปเปิดบริษัทในลาวในเวียดนามโน้น,ใช้ด่านเวียดนามด่านลาวโน้น,ตรรกะส้นตีนมาก,รมต.ก็ไร้สมองไร้ความคิดความอ่าน คิดไม่เป็น,ไปเป็นรมต.มันสะ ลาออกจากรมต.เลย ,ไม่มีความสามารถยึดมั่นในยุทธการวิธีทางสงครามอะไร,เป็นผู้บัญชาการแบบไหน แต่ยึดฐานที่มั่นตนเองไม่ได้,ยึดครองฐานรบตนก็ไม่ได้,กากมาก,จะอ้างผ่อนปรนห่าเหวอะไรก็คือเปิดด่านให้สินค้าเข้าออกได้นั้นล่ะ สอดไส้อะไรก็ได้หมดในการขนไปเขมร ไอ้มือที่สามนี้ล่ะน่ากลัวส่งอาวุธก็ได้,เป็นถึง รมต.สมควรมีสมองมีวุฒิภาวะพื้นฐานว่าเวลานี้มันเส้นยาแดงชัดเจน ยังจะมีหน้าไปเปิดโอกาสทางเปิดด่านขนส่งรถบรรทุกสินค้าอีก เอกชนต่างชาติ ประเทศที่สามนี้สมควรประเทศมันมีแต่ศึกสงคราม ความไม่สงบภายในใหญ่โตบ้างนะ จนล่มสลายเลย อย่ามาใช้ไทยทำมาหาแดกเลย ไปทำมาหาแดกที่ประเทศอื่นเถอะถ้าจะตายขนาดนั้น,นี้คือข้ออ้างเพื่อช่วยเหลือเขมรเหมือนรีบเจรจาหยุดยิงนั่นเอง,ทหารพานิชย์บัดสบมาก สระแก้วก็เกินทนแล้ว ชาวบ้านเขาเห็นความชั่วเลวหมดล่ะ ปิดด่านยังลักลอบขนกันเข้าออกตรึม,
    ..ทหารภาคตะวันออกไว้ใจไม่ได้แล้วทั้งหมดหากเป็นเช่นนี้,รวมไปถึงรัฐบาลอนุทินนายกฯหนูด้วย เรา..ประชาชนกำลังลดเครดิตลงอาจติดลบแล้วตอนนี้ ไม่น่าไว้วางใจแล้ว หางงอก ลายออกชัดเจนแล้ว ,
    ..ไม่สมควรตัดสินใจแถลงบนเวทีแบบนั้น,ทรยศประชาชนคนไทยทั้งประเทศชัดเจน.รับไม่ได้ เหี้ยสันดานเขมรมันยิงคนไทยตายคา7/11นะ ตายเกือบหมดครอบครัว พวกเจรจานี้ทั้งหมดที่เป็นคนไทยพากันไปเจรจาทรยศประชาชนแบบนี้ สมควรให้ตายเกือบหมดครอบครัวทุกๆตัวแบบครอบครัวคนที่ถูกระเบิดเขมรยิงใส่7/11 โดยเฉพาะหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทยเรา,ไม่สำนึกสำเนียกอะไร ,น่าผิดหวังมาก ไม่สมควรเป็นคณะนำทีมเจรจาใดๆอีกต่อไป กากกระจอก ไร้ฝีมือ อ่อน ขลาดใจหมา แค่ประเทศที่3บอกก็ใจสัตว์หมาทำตามดากมัน,ไม่ยกประเทศให้มันเลย มันบอกอะไรเดี๋ยวจัดให้ เข้าข่ายอดีตนายกฯอุ๊งอิ๊งอีกคนแล้วทั้งคณะ ร่วมก่อการเป็นกระบวนการให้เสียยุทธการศึกปกป้องอธิปไตยความมั่นคงของชาติ ด้านความมั่นคงชัดเจนด้านเพราะปิดด่านไร้เปิดด่านทุกๆกรณีคือยุทธวิธีสงครามที่ชนะโดยไม่ต้องรบ,แต่ขี้หมาสมองหมาปัญญาควายทั้งคณะเจรจามีสมองไว้ตั้งบ่าใส่กระโหลกเฉยๆก็คิดอ่านเหมือนคนมีตำแหน่งใหญ่โตจริงก็ไม่ได้ สมองหมาและปัญญาอ่อนสุดๆทั้งคณะ เจตนาทำให้ศักยภาพทางทหารเขมรมีกำลังสู้รบชนะไทยชัดเจนจนอาจนำไปสู่ให้ทหารไทยเราแพ้สงคราม ทำให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยด้วย ผิด ม.119 ให้เสียหานเสื่อมเสียได้,คาดผลได้ว่าคนเขมรมีกำลังใจเชียร์ทหารเขมรตน ส่งข้าวปลาอาหารจากตนที่ขนส่งจากด่านไทยเข้าไปส่งต่อให้ทหารเขมรได้ จะอาวุธที่ประกอบเสร็จแล้ว ยารักษาโรคขณะยิงกันบาดเจ็บ อาหารเสบียงสามารถส่งต่อจากมือประชาชนคนทหารเขมรก็ได้อีก,นี้คือพื้นๆที่คนทั่วไปก็อ่านขาดได้ แต่คณะเจรจากากมากๆ ,ทรยศกบฎต่อประชาชนคนไทยตนเองชัดเจน นายกฯหนู ต้องถูกยึดอำนาจหากยังปล่อยแบบนี้ อย่ามาลิเกกับประชาชน,ถือว่ายุบการเจรจาทั้งหมดทันที ไร้ประสิทธิภาพ ใช้การจริงอะไรไม่ได้ เจรจาผีบ้ามาหลายรอบแล้ว ถือว่ากระจอก,ยุบไปเถอะ,ปิดด่านถาวรเหมือนเดิม ให้ทหารภาค2ควบคุมด่านตลอดพรมแดนเถอะ,ผบ.ทบ. ผบ.สส.เหล่าทัพท่านต้องสร้างความไว้วางใจให้ประชาชนให้ได้ เรา..ประชาชนหากเสื่อมศรัทธาทหารโดยภาพรวมอีก ที่กระทำย่ำยีความรู้สึกประชาชนทุกๆครั้งแบบนี้ที่ประชุมผีบ้ากันออกมาแต่ละที,ทหารไทยเราอาจไม่มีประชาชนสนับสนุนอีกต่อไป,และเบื่อหน่ายมากกับหลายๆมาตราการที่ไม่เด็ดขาดกับเขมรในภาคตะวันออกนี้ เสมือนภาพที่ออกมาทหารภาค1,คือผู้ทรยศต่ออธิปไตยไทยตนเองดีๆนี้เอง.หรือทหารบูรพาพยัคฆ์คือต้นเหตุของปัญหาพรมแดนไทยกับเขมรทั้งหมดตั้งแต่แรก.ผู้ก่อความวุ่นวายโกลาหลเองต่อแผ่นดินไทยนี้.
    ..เพราะทหารภาค2 ไม่มีปัญหาแบบทหารภาค1,ชัดเจนหนักแน่นไม่ขี้คุย ใช่ปากสร้างข้ออ้างหาคะแนนกับประชาชนคนไทยทั้งประเทศแบบภาค1หรือคณะเจรจารีบเปิดแต่ด่าน เร่งรีบอ้างปากออกมาก็อยากแต่เปิดด่านตั้งแต่รัฐบาลอุ๊งอิ๊งแล้ว,สายข่าวทหารดี ถ้ามีหลักฐานพวกเหี้ยนี้ทำความชั่วก็ขอให้ท่านจัดการทหารเลวชั่วนี้แทนคนไทยเรา..ประชาชนจริงๆเสียที เก็บกวาดเสียที ท่านเก็บรักษาไว้เป็นอนุสาวรีย์ไว้เชิดชูเกียรติกองทัพไทยหรือไง.



    https://youtube.com/watch?v=iFYaOFFV3lU&si=9Ehz_xkDyLizQNVW
    อ้างประเทศที่3,ทำไมไม่กล้าบอกชื่อประเทศที่3ควายนี้แก่ประชาชน,ประชาชนจะได้ไปถามฑูตประเทศที่3นี้,ถ้าเดือดร้อนขนาดนั้นมาค้ามาขายโคตรพ่อโคตรแมร่งมรึงทำไมในไทย,ใช้ไทยเป็นสถานที่อ้างเปิดด่านเปืดจุดผ่อนปรนวลีคำพ่อมรึงตายเหรอ,ไปใช้ลาวแทนสิ ไปเปิดบริษัทในลาวในเวียดนามโน้น,ใช้ด่านเวียดนามด่านลาวโน้น,ตรรกะส้นตีนมาก,รมต.ก็ไร้สมองไร้ความคิดความอ่าน คิดไม่เป็น,ไปเป็นรมต.มันสะ ลาออกจากรมต.เลย ,ไม่มีความสามารถยึดมั่นในยุทธการวิธีทางสงครามอะไร,เป็นผู้บัญชาการแบบไหน แต่ยึดฐานที่มั่นตนเองไม่ได้,ยึดครองฐานรบตนก็ไม่ได้,กากมาก,จะอ้างผ่อนปรนห่าเหวอะไรก็คือเปิดด่านให้สินค้าเข้าออกได้นั้นล่ะ สอดไส้อะไรก็ได้หมดในการขนไปเขมร ไอ้มือที่สามนี้ล่ะน่ากลัวส่งอาวุธก็ได้,เป็นถึง รมต.สมควรมีสมองมีวุฒิภาวะพื้นฐานว่าเวลานี้มันเส้นยาแดงชัดเจน ยังจะมีหน้าไปเปิดโอกาสทางเปิดด่านขนส่งรถบรรทุกสินค้าอีก เอกชนต่างชาติ ประเทศที่สามนี้สมควรประเทศมันมีแต่ศึกสงคราม ความไม่สงบภายในใหญ่โตบ้างนะ จนล่มสลายเลย อย่ามาใช้ไทยทำมาหาแดกเลย ไปทำมาหาแดกที่ประเทศอื่นเถอะถ้าจะตายขนาดนั้น,นี้คือข้ออ้างเพื่อช่วยเหลือเขมรเหมือนรีบเจรจาหยุดยิงนั่นเอง,ทหารพานิชย์บัดสบมาก สระแก้วก็เกินทนแล้ว ชาวบ้านเขาเห็นความชั่วเลวหมดล่ะ ปิดด่านยังลักลอบขนกันเข้าออกตรึม, ..ทหารภาคตะวันออกไว้ใจไม่ได้แล้วทั้งหมดหากเป็นเช่นนี้,รวมไปถึงรัฐบาลอนุทินนายกฯหนูด้วย เรา..ประชาชนกำลังลดเครดิตลงอาจติดลบแล้วตอนนี้ ไม่น่าไว้วางใจแล้ว หางงอก ลายออกชัดเจนแล้ว , ..ไม่สมควรตัดสินใจแถลงบนเวทีแบบนั้น,ทรยศประชาชนคนไทยทั้งประเทศชัดเจน.รับไม่ได้ เหี้ยสันดานเขมรมันยิงคนไทยตายคา7/11นะ ตายเกือบหมดครอบครัว พวกเจรจานี้ทั้งหมดที่เป็นคนไทยพากันไปเจรจาทรยศประชาชนแบบนี้ สมควรให้ตายเกือบหมดครอบครัวทุกๆตัวแบบครอบครัวคนที่ถูกระเบิดเขมรยิงใส่7/11 โดยเฉพาะหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทยเรา,ไม่สำนึกสำเนียกอะไร ,น่าผิดหวังมาก ไม่สมควรเป็นคณะนำทีมเจรจาใดๆอีกต่อไป กากกระจอก ไร้ฝีมือ อ่อน ขลาดใจหมา แค่ประเทศที่3บอกก็ใจสัตว์หมาทำตามดากมัน,ไม่ยกประเทศให้มันเลย มันบอกอะไรเดี๋ยวจัดให้ เข้าข่ายอดีตนายกฯอุ๊งอิ๊งอีกคนแล้วทั้งคณะ ร่วมก่อการเป็นกระบวนการให้เสียยุทธการศึกปกป้องอธิปไตยความมั่นคงของชาติ ด้านความมั่นคงชัดเจนด้านเพราะปิดด่านไร้เปิดด่านทุกๆกรณีคือยุทธวิธีสงครามที่ชนะโดยไม่ต้องรบ,แต่ขี้หมาสมองหมาปัญญาควายทั้งคณะเจรจามีสมองไว้ตั้งบ่าใส่กระโหลกเฉยๆก็คิดอ่านเหมือนคนมีตำแหน่งใหญ่โตจริงก็ไม่ได้ สมองหมาและปัญญาอ่อนสุดๆทั้งคณะ เจตนาทำให้ศักยภาพทางทหารเขมรมีกำลังสู้รบชนะไทยชัดเจนจนอาจนำไปสู่ให้ทหารไทยเราแพ้สงคราม ทำให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยด้วย ผิด ม.119 ให้เสียหานเสื่อมเสียได้,คาดผลได้ว่าคนเขมรมีกำลังใจเชียร์ทหารเขมรตน ส่งข้าวปลาอาหารจากตนที่ขนส่งจากด่านไทยเข้าไปส่งต่อให้ทหารเขมรได้ จะอาวุธที่ประกอบเสร็จแล้ว ยารักษาโรคขณะยิงกันบาดเจ็บ อาหารเสบียงสามารถส่งต่อจากมือประชาชนคนทหารเขมรก็ได้อีก,นี้คือพื้นๆที่คนทั่วไปก็อ่านขาดได้ แต่คณะเจรจากากมากๆ ,ทรยศกบฎต่อประชาชนคนไทยตนเองชัดเจน นายกฯหนู ต้องถูกยึดอำนาจหากยังปล่อยแบบนี้ อย่ามาลิเกกับประชาชน,ถือว่ายุบการเจรจาทั้งหมดทันที ไร้ประสิทธิภาพ ใช้การจริงอะไรไม่ได้ เจรจาผีบ้ามาหลายรอบแล้ว ถือว่ากระจอก,ยุบไปเถอะ,ปิดด่านถาวรเหมือนเดิม ให้ทหารภาค2ควบคุมด่านตลอดพรมแดนเถอะ,ผบ.ทบ. ผบ.สส.เหล่าทัพท่านต้องสร้างความไว้วางใจให้ประชาชนให้ได้ เรา..ประชาชนหากเสื่อมศรัทธาทหารโดยภาพรวมอีก ที่กระทำย่ำยีความรู้สึกประชาชนทุกๆครั้งแบบนี้ที่ประชุมผีบ้ากันออกมาแต่ละที,ทหารไทยเราอาจไม่มีประชาชนสนับสนุนอีกต่อไป,และเบื่อหน่ายมากกับหลายๆมาตราการที่ไม่เด็ดขาดกับเขมรในภาคตะวันออกนี้ เสมือนภาพที่ออกมาทหารภาค1,คือผู้ทรยศต่ออธิปไตยไทยตนเองดีๆนี้เอง.หรือทหารบูรพาพยัคฆ์คือต้นเหตุของปัญหาพรมแดนไทยกับเขมรทั้งหมดตั้งแต่แรก.ผู้ก่อความวุ่นวายโกลาหลเองต่อแผ่นดินไทยนี้. ..เพราะทหารภาค2 ไม่มีปัญหาแบบทหารภาค1,ชัดเจนหนักแน่นไม่ขี้คุย ใช่ปากสร้างข้ออ้างหาคะแนนกับประชาชนคนไทยทั้งประเทศแบบภาค1หรือคณะเจรจารีบเปิดแต่ด่าน เร่งรีบอ้างปากออกมาก็อยากแต่เปิดด่านตั้งแต่รัฐบาลอุ๊งอิ๊งแล้ว,สายข่าวทหารดี ถ้ามีหลักฐานพวกเหี้ยนี้ทำความชั่วก็ขอให้ท่านจัดการทหารเลวชั่วนี้แทนคนไทยเรา..ประชาชนจริงๆเสียที เก็บกวาดเสียที ท่านเก็บรักษาไว้เป็นอนุสาวรีย์ไว้เชิดชูเกียรติกองทัพไทยหรือไง. https://youtube.com/watch?v=iFYaOFFV3lU&si=9Ehz_xkDyLizQNVW
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews
  • ตอนนี้อนุทิน สั่งยกเลิกmou43,44,tor46สมตามเรา..ประชาชนเชื่อว่าอนุทินต้องไม่เป็นแบบรัฐบาลที่แล้ว,เพราะความเป็นจริง ข้อมูลค่าจริงคงรับรู้กันหมดแล้ว พรรคภูมิใจไทยเองยังเห็สด้วยในการยกเลิกmou43,44ก่อนตนมาเป็นรัฐบาลอีก,ภูมิใจที่จะทำสิ่งชั่วเลวหรือภูมิใจที่จะทำสิ่งดีต่อประชาชนต่อชาติก็ต้องเลือกเอา,ประชุมมาจริงกับเขมรแต่เสียกลยุทธทางสงครามเผด็จศึกตัดกำลังตัดศักยภาพทางสงครามสนามรบกับเขมร ก็ต้องไม่ทำตามผลที่ประชุมผีบ้านี้กระทำกัน ,ถ้าเปิดด่าน ย่อมแสดงว่ามีเจตนาทำลายแผนการยุทธวิธีจัดการเขมร ตัดกำลังเขมรทางทหารให้อ่อนแอลงไป,มิให้รุกรานคุกคามเพื่อเข้ายึดประเทศไทยเราได้,หรือถ้าเปิดด่านจะเสียแผนการรบกำจัดศัตรูนั้นเอง,

    https://youtube.com/watch?v=qImPV7rNAI8&si=_TORWlrxmDgFu_tc
    ตอนนี้อนุทิน สั่งยกเลิกmou43,44,tor46สมตามเรา..ประชาชนเชื่อว่าอนุทินต้องไม่เป็นแบบรัฐบาลที่แล้ว,เพราะความเป็นจริง ข้อมูลค่าจริงคงรับรู้กันหมดแล้ว พรรคภูมิใจไทยเองยังเห็สด้วยในการยกเลิกmou43,44ก่อนตนมาเป็นรัฐบาลอีก,ภูมิใจที่จะทำสิ่งชั่วเลวหรือภูมิใจที่จะทำสิ่งดีต่อประชาชนต่อชาติก็ต้องเลือกเอา,ประชุมมาจริงกับเขมรแต่เสียกลยุทธทางสงครามเผด็จศึกตัดกำลังตัดศักยภาพทางสงครามสนามรบกับเขมร ก็ต้องไม่ทำตามผลที่ประชุมผีบ้านี้กระทำกัน ,ถ้าเปิดด่าน ย่อมแสดงว่ามีเจตนาทำลายแผนการยุทธวิธีจัดการเขมร ตัดกำลังเขมรทางทหารให้อ่อนแอลงไป,มิให้รุกรานคุกคามเพื่อเข้ายึดประเทศไทยเราได้,หรือถ้าเปิดด่านจะเสียแผนการรบกำจัดศัตรูนั้นเอง, https://youtube.com/watch?v=qImPV7rNAI8&si=_TORWlrxmDgFu_tc
    0 Comments 0 Shares 81 Views 0 Reviews
  • อนุทินถูกวางยาจาก รมต.กลาโหมแล้ว,ประกาศเปิดด่าน แบบนี้ทำคนไทยผิดหวังทั้งประเทศไปเลย,อย่าเอาเศษเงินคนละครึ่งมาตบหัวแลกเปิดด่านช่วยเขมรนะ,เจ้าสัวกิจการใครต้องขุดออกมาประจานกันจริงๆแล้ว เจ้าสัวเหล่านี้คิดแต่ประโยชน์ของตนเอง,เอกชนต่างชาติที่มีกิจการในไทยก็ด้วยที่ใช้ไทยหาตังกับการค้าขายเขมร เร่งการเปิดด่านก็ด้วย,
    ..กฎอัยการศึกไร้น้ำยาจริงๆ.
    ..อนุทินจะต้องถูกยุบพรรคทันที,หากยังใช้คนไม่ถูกแบบนี้,ไม่เด็ดขาดตัดศักยภาพทางทหารศัตรู เสมือนคนยินยอมลงนามเปิดด่านคือไส้ศึกช่วยเพิ่มเสบียงเพิ่มกำลังศัตรูให้มีแรงมาทำสงครามกับไทยนั้นเอง,เสริมกำลังเสริมเสบียงให้พร้อมก่อนมารบกับไทยแบบรอบแรก,กักตุนเสบียงต่างๆทุกๆรูปแบบ หรือเร่งรีบต้องเปิดด่านช่วยเหลือเขมรชัดเจน,การประชุมนี้ถือว่าไม่มีสาระและประโยชน์อะไร เสียเวลาด้วย,สมควรยุบและยุติวิถีการเจรจานี้ทันที,เขมรต้องถูกปิดด่านถาวรจากฝั่งไทยทุกๆกรณีตลอดพรมแดน ไม่มีการเจรจาใดๆอีกต่อไปแม้ไม่มีการรบ จนกว่าเราจะสร้างรั้วลวดหนามกำแพงถาวรลวดหนามนี้เสร็จสมบูรณ์ตลอดแนวพรมแดนเขมรทั้งหมด,
    ..เราสามารถสร้างกำแพงในเขตพื้นที่ดินแดนเราเองทันทีได้ห่างจากเส้นศูนย์กลางปกติ10-20เมตร.จากเสาหมุดเขตแดนได้,โดยตรงแนวเส้นเสาหมุดที่เล็งตรงจากเสาต่อเสาหมุดเขตแดนเราล็อกด้วยพิกัดgpsถาวรได้,สร้างรั้วลวดหนามง่ายๆปกติธรรมดาแบบเสารั้วไทบ้านๆเราได้ต้นทุนไม่แพงให้รู้ว่าแนวนี้คือเขตไทยฝั่งไทย จากนั้นวัดเข้ามาฝั่งไทยดินแดนเราเองจากรั้วเขตแดนธรรมดาง่ายๆกันเขมรกับไทยนั้นวัดเข้ามาสักบวกลบ10-20เมตร เราสามารถสร้างกำแพงรั้วลวดหนามชนิดถาวรมั่นคงไปเลยต่ออีกชั้นหนึ่ง, เราสามารถเดินรถลาดตะเวนตลอดแนวลวดหนามถาวรได้,รั้วปกติธรรมดากั้นด่านแรก,ด่านสองรั้วกำแพงสูงถาวรลวดหนามกั้นอีกชั้น,ใช้งบ25,000บาทคนละครึ่งนั้นล่ะ,เราคนไทยเสียสละพร้อมใจกันไม่รับตังนี้,แล้วเร่งรีบเอาตังนี้ที่ต้องด่วนและด่วนที่สุดสร้างกั้นเขมรให้เสร็จโดยรวดเร็ว เราจะตัดตอนภัยคุกคามนี้อีกตัวไปได้ มันจะเป็นจะตายก็ประเทศของมันชาติเนรคุณทรยศนี้ เจ้าสัวเอกชนไทยและต่างชาติในไทยเสียดายโอกาสก็ปิดกิจการในไทยทันทีแล้วย้ายไปเขมรเสีย อย่ามาโคตรพ่อโคตรแมร่งมรึงเอาอธิปไตยความมั่นคงของชาติไทยเรามาสร้างรายได้กำไรมหาศาลหาแดกบนสนามรบสนามความขัดแย้งนี้ ในการทำกำไร,จะว่ามรึงไทยและเขมรรบกัน กูคนค้าขายไม่เกี่ยวหรือกูคนต่างชาติเปิดกิจการในไทยมรึงไม่เกี่ยว,รัฐบาลไทยมรึงต้องเปิดด่านให้อำนวยกูค้าขายทำเงิน ส่งเสบียงอาหารยาสะสมให้ทหารเขมรได้เสรีดีต่อการทำกำไรการค้ากูฝั่งเขมร,อธิปไตยไทยมรึงก็เรื่องของมรึงไม่เกี่ยวกับกูคนต่างชาติเจ้าสัวไทยแบบกูก็ได้วย.

    https://youtube.com/watch?v=l84ju69tsDQ&si=lulzR-gFbJ6y6haE
    อนุทินถูกวางยาจาก รมต.กลาโหมแล้ว,ประกาศเปิดด่าน แบบนี้ทำคนไทยผิดหวังทั้งประเทศไปเลย,อย่าเอาเศษเงินคนละครึ่งมาตบหัวแลกเปิดด่านช่วยเขมรนะ,เจ้าสัวกิจการใครต้องขุดออกมาประจานกันจริงๆแล้ว เจ้าสัวเหล่านี้คิดแต่ประโยชน์ของตนเอง,เอกชนต่างชาติที่มีกิจการในไทยก็ด้วยที่ใช้ไทยหาตังกับการค้าขายเขมร เร่งการเปิดด่านก็ด้วย, ..กฎอัยการศึกไร้น้ำยาจริงๆ. ..อนุทินจะต้องถูกยุบพรรคทันที,หากยังใช้คนไม่ถูกแบบนี้,ไม่เด็ดขาดตัดศักยภาพทางทหารศัตรู เสมือนคนยินยอมลงนามเปิดด่านคือไส้ศึกช่วยเพิ่มเสบียงเพิ่มกำลังศัตรูให้มีแรงมาทำสงครามกับไทยนั้นเอง,เสริมกำลังเสริมเสบียงให้พร้อมก่อนมารบกับไทยแบบรอบแรก,กักตุนเสบียงต่างๆทุกๆรูปแบบ หรือเร่งรีบต้องเปิดด่านช่วยเหลือเขมรชัดเจน,การประชุมนี้ถือว่าไม่มีสาระและประโยชน์อะไร เสียเวลาด้วย,สมควรยุบและยุติวิถีการเจรจานี้ทันที,เขมรต้องถูกปิดด่านถาวรจากฝั่งไทยทุกๆกรณีตลอดพรมแดน ไม่มีการเจรจาใดๆอีกต่อไปแม้ไม่มีการรบ จนกว่าเราจะสร้างรั้วลวดหนามกำแพงถาวรลวดหนามนี้เสร็จสมบูรณ์ตลอดแนวพรมแดนเขมรทั้งหมด, ..เราสามารถสร้างกำแพงในเขตพื้นที่ดินแดนเราเองทันทีได้ห่างจากเส้นศูนย์กลางปกติ10-20เมตร.จากเสาหมุดเขตแดนได้,โดยตรงแนวเส้นเสาหมุดที่เล็งตรงจากเสาต่อเสาหมุดเขตแดนเราล็อกด้วยพิกัดgpsถาวรได้,สร้างรั้วลวดหนามง่ายๆปกติธรรมดาแบบเสารั้วไทบ้านๆเราได้ต้นทุนไม่แพงให้รู้ว่าแนวนี้คือเขตไทยฝั่งไทย จากนั้นวัดเข้ามาฝั่งไทยดินแดนเราเองจากรั้วเขตแดนธรรมดาง่ายๆกันเขมรกับไทยนั้นวัดเข้ามาสักบวกลบ10-20เมตร เราสามารถสร้างกำแพงรั้วลวดหนามชนิดถาวรมั่นคงไปเลยต่ออีกชั้นหนึ่ง, เราสามารถเดินรถลาดตะเวนตลอดแนวลวดหนามถาวรได้,รั้วปกติธรรมดากั้นด่านแรก,ด่านสองรั้วกำแพงสูงถาวรลวดหนามกั้นอีกชั้น,ใช้งบ25,000บาทคนละครึ่งนั้นล่ะ,เราคนไทยเสียสละพร้อมใจกันไม่รับตังนี้,แล้วเร่งรีบเอาตังนี้ที่ต้องด่วนและด่วนที่สุดสร้างกั้นเขมรให้เสร็จโดยรวดเร็ว เราจะตัดตอนภัยคุกคามนี้อีกตัวไปได้ มันจะเป็นจะตายก็ประเทศของมันชาติเนรคุณทรยศนี้ เจ้าสัวเอกชนไทยและต่างชาติในไทยเสียดายโอกาสก็ปิดกิจการในไทยทันทีแล้วย้ายไปเขมรเสีย อย่ามาโคตรพ่อโคตรแมร่งมรึงเอาอธิปไตยความมั่นคงของชาติไทยเรามาสร้างรายได้กำไรมหาศาลหาแดกบนสนามรบสนามความขัดแย้งนี้ ในการทำกำไร,จะว่ามรึงไทยและเขมรรบกัน กูคนค้าขายไม่เกี่ยวหรือกูคนต่างชาติเปิดกิจการในไทยมรึงไม่เกี่ยว,รัฐบาลไทยมรึงต้องเปิดด่านให้อำนวยกูค้าขายทำเงิน ส่งเสบียงอาหารยาสะสมให้ทหารเขมรได้เสรีดีต่อการทำกำไรการค้ากูฝั่งเขมร,อธิปไตยไทยมรึงก็เรื่องของมรึงไม่เกี่ยวกับกูคนต่างชาติเจ้าสัวไทยแบบกูก็ได้วย. https://youtube.com/watch?v=l84ju69tsDQ&si=lulzR-gFbJ6y6haE
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • แกะรอยเก่า ตอนที่ 14
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 14 (ตอนจบ)
    หลังจากนาย Kenneth จัดอบรมหลักสูตรปรับพื้นสนามล่าได้ประมาณ
2 ปี วันหนึ่งในปี ค.ศ.1963 นาย Alexis Johnson ก็เข้ามาเยี่ยมระหว่างการฝึกอบรมและประกาศว่านาย Kenneth ทำหน้าที่ปรับพื้นสนามล่าได้ผล เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงจะให้นาย Kenneth ไปทำหน้าที่สำคัญกว่านั้น โดยเป็น Dean of Area Studies for the Foreign Service Institute ซึ่งเป็นการสร้างหลักสูตรสำหรับโปรแกรมต่างๆ ทั่วโลก เป็นงานนั่งโต๊ะ ซึ่งนาย Kenneth บอกว่าไม่รู้ตัวเลย ว่าเขาถูกปลดจากที่ยืนบนแท่นที่ มีไฟส่อง ไปนั่งโต๊ะทำงานในมุมมืด แต่งานมันมีมุมลึกกว่าเดิม ถึงจะลึกยังไง คงไม่สบกับอารมณ์ของนาย Kenneth ซึ่งชอบเสนอหน้า เขาทนนั่งทำงานอยู่ที่สถาบันนี้อยู่ 2,3 ปี จึงออกไปทำงานเป็นศาสตราจารย์เต็ม ตัวใน American University ตามคำชวนของนาย Ernest Griffith แห่ง Council for American Learned Studies ตกลง ใครนะเป็นเจ้าของ มิชชั่นนารี จากเมืองตรัง
    นาย Griffith ขอให้เขาตั้งสถาบันเอเซีย ท้ังตะวันออกเฉียงใต้และเอเซียใต้ที่ American University ซึ่งนาย Kenneth ก็ตกลง เขาคิดหลักสูตรและให้มีการสอนทั้งภาษา ไทย พม่า เวียตนาม ฮินดู และอินโดนีเซีย ฯลฯ หลังจากนั้นมหาวิทยาลัยดังๆ ต่างๆ ในอเมริกา ต่างพากันตั้งสถาบันทำนองนี้กันหมด ครอบคลุมไปหลาย area เครื่องมือนักล่าแพร่หลายและใช้การได้อย่างดี นาย Kenneth (หรือคนสร้างนาย Kenneth ? ) เป็นคนมองเห็นการณ์ไกลจริง
    และก็สถาบันแบบนี้แหละ ที่ ประมาณ 6,7 ปีมานี้ ไอ้โจรร้ายได้ส่งพวกอาจารย์นักบิด(เบือน)รุ่นใหญ่ ไปเป็นหัวหน้าภาควิชา โดยการสนับสนุนให้ทุนก้อนใหญ่ และการร่วมมือของพวกนักล่า ไปปรับหลักสูตรใหม่ โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับสถาบัน หลังจากน้ัน บทความที่บิดเบือนเกี่ยวกับสถาบัน เขียนโดยสมุนนักล่า และ ขี้ข้าโจร ก็ทยอยกันออกมา จนถึงทุกวันนี้ และตอนนี้ก็กำลังโหมฟืนเพิ่มไฟ นักล่าและไอ้โจรร้าย ทำทุกวิถีทางที่จะเขย่าเสาหลักให้คลอน การครอบครองแดนสมันน้อยจะได้ง่ายขึ้น เลิกสงสัยกันได้ว่า เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร
    อเมริกาซึ่งเคยรู้จักเมืองไทยแบบลางเลือน รู้แค่ว่าเมืองไทยมีแต่คนฝาแฝดตัวติดกัน รู้จักสถาบันกษัตริย์ของไทยผ่านสายตา ของนางพี่เลี้ยงที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและเพ้อเจ้อ เช่น นาง Anna Leonowens ก็ได้ค่อยๆเริ่มเปลี่ยนไป คงต้องยอมรับว่า ฝีมือกระล่อนและความเป็นนักฉวยโอกาสของนาย Kenneth ได้ผล ทำให้เครื่องมือนักล่าประเภทนี้ขึ้นอันดับ อเมริกาติดใจดัดแปลงเครื่องมือชนิดนี้ไปเรื่อๆ นาย Kenneth มาเป็นมิชชั่นนารี อาสามาทำงานในเมืองไทยเอง หรือจะมาด้วยเหตุผลอื่น เรายังไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัด แต่ก็ต้องยอมรับว่าเครื่องมือนักล่าเช่นนี้ ได้ผลอย่างชนิดเหลือเชื่อ การเรียนภาษาไทยจนเข้าใจและอ่านได้ ถึงขนาดอ่านขาดว่าม้าตัวเต็งชื่อสฤษดิ์จะเข้าวิน ทำให้อเมริกาเดินงานได้ตามแผนที่วางไว้เกือบทุกอย่าง แบบนี้จะมีหรือที่ อเมริกาจะไม่เก็บเครื่องมือชนิดนี้ไว้ใช้ต่อ แค่ดัดแปลงใส่ app ใหม่ๆเข้าไปเรื่อยๆเท่านั้น
    สถาบันเอเซียศึกษาไม่ว่าอยู่ใน เมืองไทย หรือในอเมริกา มาจากไหน หนังสือเกือบ 2000 เล่ม และแผ่นที่หอบไป ขยายผลได้มากมาย มูลนิธิต่างๆ เช่น Asia Foundation ….. ได้ถูกนำมาก่อตั้งในเมืองไทยมีทั้งแบบโจ๋งครึ่ม และปกปิด ครูบาอาจารย์หรือ ให้ทุนมันเข้าไป จะได้ไปรับวัฒนธรรมทางความคิดของอเมริกากลับเข้ามา เหตุการณ์ ค.ศ.1960 ที่ประธานาธิบดี Kennedy ฉุนขาดจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ผ่านมากว่า 50 ปี เรารู้กันบ้างไหมว่าเขาเอานาย Kenneth 1,2,3….. ถึง 1000 มาไว้บ้านเรากี่คนแล้ว ยกตัวอย่างเช่น นาย Kenneth รุ่นใหม่ ชื่อพี่เจฟ เข้ามาเป็น Peace Corp อยู่ทางใต้ (เดินตามรอยกันมาเดี๊ยะเชียวนะ ! ) ตั้งแต่ยังแน่นหนุ่ม ตอนนั้นทั้งเหี่ยวทั้งล้านก็ยังอยู่เมืองไทย เข้าออกในที่สูงที่ลับที่แจ้ง บนเวทีลุงกำนันก็ไปขึ้นมาแล้ว ขนพรรคพวกมาอยู่ข้างเวทีเกือบทุกวัน สมัยหนึ่ง 3-4 ปีมาแล้วถึงกับจัดงานหาทุนให้พรรคการเมืองเก่าแก่พรรคหนึ่ง (ไม่เข็ดเรื่อง Lotus Project หรือไง ต้องให้แฉกันมากกว่านี้มั๊ย ? ท่านใดอ่านแล้วงงก็ไปหาอ่านกันต่อในนิทานเรื่องจิ๊กโก๋ปากซอยนะครับ) ยังมีทุนการศึกษาต่างๆ เช่น American Field Service (AFS) ที่ให้แก่นักเรียนชั้น ม. ปลาย ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยไปอยู่กับครอบครัวอเมริกัน ตั้งแต่สมัยสงครามเวียตนาม หลายๆคน เดี๋ยวนี้ก็ยังเข้มแข็งจัดงานเฉลิมฉลองมิตรไมตรีความเข้าใจอันดีของ 2 ประเทศอยู่ทุกปี ขนาดโดนเขาด่า เขามาแทรกแซงประเทศ คนพวกนี้ก็เหมือนจะเห็นบุญคุณของ 1 ปี ที่ไปอยู่กับเขามากกว่าแผ่นดินเกิดของตนเอง
    นี่ยังไม่ได้พูดถึงครูบาอาจารย์ ที่ได้ทุนไปเรียนปริญญาตรี โท เอก ของ Asia Foundation, Fulbright, Ford Foundation, Rockefeller ฯลฯ อาจารย์ต่างๆเหล่านี้ กลับมาสอนในมหาวิทยาลัยไทย แต่จัดหลักสูตรใหม่ตามที่ผู้ให้ทุนต้องการ เขารู้จักเรามากว่า 50 ปีแล้วจากที่แทบจะไม่มีใครในบ้านเมืองเขาได้ยินชื่อเมืองเราเลย จนเดี๋ยวนี้เขารู้จักเมืองเราทุกตารางนิ้ว รู้จักและใช้คนของเราทำงานเพื่อ ประโยชน์ของเขา เขาติดตามเราทุกย่างก้าว ครอบงำความคิด วัฒนธรรม การศึกษา ฯลฯ เราเกือบทุกเรื่อง โดยเราไม่รู้ตัว หรือรู้ตัว แต่ไม่รู้สึก ไม่ฉุกคิด ไม่เฉลียวใจ ไม่รับรู้ ไม่หวงแหน นี่ขนาดเขาใช้เครื่องมือล่าระดับง่ามไม้เล็กๆ เขายังกวาดข้อมูล นำไปใช้เป็นต้นแบบเครื่องมือล่าให้แม่นยำขึ้นไปอีก แล้วถ้าเราเจอเครื่องมือล่าประเภทหัวเจาะ ไม่ว่าเป็นประเภทหัวเจาะผมทอง หรือผมดำสัญชาติไทยแต่ใจเป็นอื่น ซึ่งก็มีอยู่ไม่น้อยในบ้านเรา และอาจจะกำลังถูกนำมาใช้งานเร็วๆนี้ แล้วเราจะนั่งไม่รู้ไม่ชี้ต่อไปหรือครับ

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 14 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 14 (ตอนจบ) หลังจากนาย Kenneth จัดอบรมหลักสูตรปรับพื้นสนามล่าได้ประมาณ
2 ปี วันหนึ่งในปี ค.ศ.1963 นาย Alexis Johnson ก็เข้ามาเยี่ยมระหว่างการฝึกอบรมและประกาศว่านาย Kenneth ทำหน้าที่ปรับพื้นสนามล่าได้ผล เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงจะให้นาย Kenneth ไปทำหน้าที่สำคัญกว่านั้น โดยเป็น Dean of Area Studies for the Foreign Service Institute ซึ่งเป็นการสร้างหลักสูตรสำหรับโปรแกรมต่างๆ ทั่วโลก เป็นงานนั่งโต๊ะ ซึ่งนาย Kenneth บอกว่าไม่รู้ตัวเลย ว่าเขาถูกปลดจากที่ยืนบนแท่นที่ มีไฟส่อง ไปนั่งโต๊ะทำงานในมุมมืด แต่งานมันมีมุมลึกกว่าเดิม ถึงจะลึกยังไง คงไม่สบกับอารมณ์ของนาย Kenneth ซึ่งชอบเสนอหน้า เขาทนนั่งทำงานอยู่ที่สถาบันนี้อยู่ 2,3 ปี จึงออกไปทำงานเป็นศาสตราจารย์เต็ม ตัวใน American University ตามคำชวนของนาย Ernest Griffith แห่ง Council for American Learned Studies ตกลง ใครนะเป็นเจ้าของ มิชชั่นนารี จากเมืองตรัง นาย Griffith ขอให้เขาตั้งสถาบันเอเซีย ท้ังตะวันออกเฉียงใต้และเอเซียใต้ที่ American University ซึ่งนาย Kenneth ก็ตกลง เขาคิดหลักสูตรและให้มีการสอนทั้งภาษา ไทย พม่า เวียตนาม ฮินดู และอินโดนีเซีย ฯลฯ หลังจากนั้นมหาวิทยาลัยดังๆ ต่างๆ ในอเมริกา ต่างพากันตั้งสถาบันทำนองนี้กันหมด ครอบคลุมไปหลาย area เครื่องมือนักล่าแพร่หลายและใช้การได้อย่างดี นาย Kenneth (หรือคนสร้างนาย Kenneth ? ) เป็นคนมองเห็นการณ์ไกลจริง และก็สถาบันแบบนี้แหละ ที่ ประมาณ 6,7 ปีมานี้ ไอ้โจรร้ายได้ส่งพวกอาจารย์นักบิด(เบือน)รุ่นใหญ่ ไปเป็นหัวหน้าภาควิชา โดยการสนับสนุนให้ทุนก้อนใหญ่ และการร่วมมือของพวกนักล่า ไปปรับหลักสูตรใหม่ โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับสถาบัน หลังจากน้ัน บทความที่บิดเบือนเกี่ยวกับสถาบัน เขียนโดยสมุนนักล่า และ ขี้ข้าโจร ก็ทยอยกันออกมา จนถึงทุกวันนี้ และตอนนี้ก็กำลังโหมฟืนเพิ่มไฟ นักล่าและไอ้โจรร้าย ทำทุกวิถีทางที่จะเขย่าเสาหลักให้คลอน การครอบครองแดนสมันน้อยจะได้ง่ายขึ้น เลิกสงสัยกันได้ว่า เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร อเมริกาซึ่งเคยรู้จักเมืองไทยแบบลางเลือน รู้แค่ว่าเมืองไทยมีแต่คนฝาแฝดตัวติดกัน รู้จักสถาบันกษัตริย์ของไทยผ่านสายตา ของนางพี่เลี้ยงที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและเพ้อเจ้อ เช่น นาง Anna Leonowens ก็ได้ค่อยๆเริ่มเปลี่ยนไป คงต้องยอมรับว่า ฝีมือกระล่อนและความเป็นนักฉวยโอกาสของนาย Kenneth ได้ผล ทำให้เครื่องมือนักล่าประเภทนี้ขึ้นอันดับ อเมริกาติดใจดัดแปลงเครื่องมือชนิดนี้ไปเรื่อๆ นาย Kenneth มาเป็นมิชชั่นนารี อาสามาทำงานในเมืองไทยเอง หรือจะมาด้วยเหตุผลอื่น เรายังไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัด แต่ก็ต้องยอมรับว่าเครื่องมือนักล่าเช่นนี้ ได้ผลอย่างชนิดเหลือเชื่อ การเรียนภาษาไทยจนเข้าใจและอ่านได้ ถึงขนาดอ่านขาดว่าม้าตัวเต็งชื่อสฤษดิ์จะเข้าวิน ทำให้อเมริกาเดินงานได้ตามแผนที่วางไว้เกือบทุกอย่าง แบบนี้จะมีหรือที่ อเมริกาจะไม่เก็บเครื่องมือชนิดนี้ไว้ใช้ต่อ แค่ดัดแปลงใส่ app ใหม่ๆเข้าไปเรื่อยๆเท่านั้น สถาบันเอเซียศึกษาไม่ว่าอยู่ใน เมืองไทย หรือในอเมริกา มาจากไหน หนังสือเกือบ 2000 เล่ม และแผ่นที่หอบไป ขยายผลได้มากมาย มูลนิธิต่างๆ เช่น Asia Foundation ….. ได้ถูกนำมาก่อตั้งในเมืองไทยมีทั้งแบบโจ๋งครึ่ม และปกปิด ครูบาอาจารย์หรือ ให้ทุนมันเข้าไป จะได้ไปรับวัฒนธรรมทางความคิดของอเมริกากลับเข้ามา เหตุการณ์ ค.ศ.1960 ที่ประธานาธิบดี Kennedy ฉุนขาดจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ผ่านมากว่า 50 ปี เรารู้กันบ้างไหมว่าเขาเอานาย Kenneth 1,2,3….. ถึง 1000 มาไว้บ้านเรากี่คนแล้ว ยกตัวอย่างเช่น นาย Kenneth รุ่นใหม่ ชื่อพี่เจฟ เข้ามาเป็น Peace Corp อยู่ทางใต้ (เดินตามรอยกันมาเดี๊ยะเชียวนะ ! ) ตั้งแต่ยังแน่นหนุ่ม ตอนนั้นทั้งเหี่ยวทั้งล้านก็ยังอยู่เมืองไทย เข้าออกในที่สูงที่ลับที่แจ้ง บนเวทีลุงกำนันก็ไปขึ้นมาแล้ว ขนพรรคพวกมาอยู่ข้างเวทีเกือบทุกวัน สมัยหนึ่ง 3-4 ปีมาแล้วถึงกับจัดงานหาทุนให้พรรคการเมืองเก่าแก่พรรคหนึ่ง (ไม่เข็ดเรื่อง Lotus Project หรือไง ต้องให้แฉกันมากกว่านี้มั๊ย ? ท่านใดอ่านแล้วงงก็ไปหาอ่านกันต่อในนิทานเรื่องจิ๊กโก๋ปากซอยนะครับ) ยังมีทุนการศึกษาต่างๆ เช่น American Field Service (AFS) ที่ให้แก่นักเรียนชั้น ม. ปลาย ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยไปอยู่กับครอบครัวอเมริกัน ตั้งแต่สมัยสงครามเวียตนาม หลายๆคน เดี๋ยวนี้ก็ยังเข้มแข็งจัดงานเฉลิมฉลองมิตรไมตรีความเข้าใจอันดีของ 2 ประเทศอยู่ทุกปี ขนาดโดนเขาด่า เขามาแทรกแซงประเทศ คนพวกนี้ก็เหมือนจะเห็นบุญคุณของ 1 ปี ที่ไปอยู่กับเขามากกว่าแผ่นดินเกิดของตนเอง นี่ยังไม่ได้พูดถึงครูบาอาจารย์ ที่ได้ทุนไปเรียนปริญญาตรี โท เอก ของ Asia Foundation, Fulbright, Ford Foundation, Rockefeller ฯลฯ อาจารย์ต่างๆเหล่านี้ กลับมาสอนในมหาวิทยาลัยไทย แต่จัดหลักสูตรใหม่ตามที่ผู้ให้ทุนต้องการ เขารู้จักเรามากว่า 50 ปีแล้วจากที่แทบจะไม่มีใครในบ้านเมืองเขาได้ยินชื่อเมืองเราเลย จนเดี๋ยวนี้เขารู้จักเมืองเราทุกตารางนิ้ว รู้จักและใช้คนของเราทำงานเพื่อ ประโยชน์ของเขา เขาติดตามเราทุกย่างก้าว ครอบงำความคิด วัฒนธรรม การศึกษา ฯลฯ เราเกือบทุกเรื่อง โดยเราไม่รู้ตัว หรือรู้ตัว แต่ไม่รู้สึก ไม่ฉุกคิด ไม่เฉลียวใจ ไม่รับรู้ ไม่หวงแหน นี่ขนาดเขาใช้เครื่องมือล่าระดับง่ามไม้เล็กๆ เขายังกวาดข้อมูล นำไปใช้เป็นต้นแบบเครื่องมือล่าให้แม่นยำขึ้นไปอีก แล้วถ้าเราเจอเครื่องมือล่าประเภทหัวเจาะ ไม่ว่าเป็นประเภทหัวเจาะผมทอง หรือผมดำสัญชาติไทยแต่ใจเป็นอื่น ซึ่งก็มีอยู่ไม่น้อยในบ้านเรา และอาจจะกำลังถูกนำมาใช้งานเร็วๆนี้ แล้วเราจะนั่งไม่รู้ไม่ชี้ต่อไปหรือครับ คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 126 Views 0 Reviews
  • แกะรอยเก่า ตอนที่ 13
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 13
    นาย Kenneth จัดหลักสูตรปรับพื้นสนามล่า ให้การอบรมแก่เหล่าสมุนนักล่าอยู่ 2 ปี หลังจากนั้นก็มีคนอื่นมารับหน้าที่ปรับพื้นสนามต่อ ตัวเขาย้ายกลับไปอยู่กระทรวงต่าง ประเทศ เดินแกว่งไปมาอีกรอบ จน ค.ศ. 1966 Pentagon มีงานพิเศษ Advanced Research Project Agency (ARPA) ต้องการได้ข้อมูลแบบละเอียดเหมือนทำสารานุกรม เกี่ยวกับพื้นที่แถวอีสานเหนือของไทย ที่อเมริกามาสร้างสนามบินไว้หลายแห่ง เพื่อให้เครื่องบินรบของอเมริกา บินไปถล่มเวียตมินท์ เวียตนาม หรือกัมพูชา ข้อมูลที่ Pentagon ต้องการอยู่แถวอีสาณตอนบน แถบ นครพนม มุกดาหาร และเส้นทางตามแม่น้ำโขง นั้นแหละ ซึ่งอเมริกาอ้างว่าต้องการข้อมูล เพิ่ม หัวหน้าทีม ชื่อ Wilfred Smith ถูกตามตัวมาจากอียิปต์ ( ! ? ) เพื่อมาคุมทีม ทางPentagon ขอให้นาย Kenneth มาด้วย พร้อมกับนักธรณีวิทยา นักวิทยาศาสตร์ ผู้ชำนาญด้านเกษตรกรรม และสภาพอากาศ นาย Smith ตามประวัติบอกว่าเกิดและโตที่เมือง จีน พ่อแม่เป็นมิชชั่น นารี (อีกแล้ว!) ต่อมาเป็นทหารอเมริกัน และล่าสุดสังกัดหน่วย OSS สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นผู้ชำนาญด้านระบอบคอมมิวนิสต์ ชนิดติดตามแบบวันต่อวัน ประธานาธิบดี Kennedy ประทับใจมาก ให้ไปจิกตัวกลับมาจากอียิปต์ เพื่อมาคุมงานนี้ แต่เพื่อไม่ให้สมันน้อยตกใจจับไต๋ได้ แทนที่จะมาในนาม ARPA เขาใช้ชื่อบริษัท Philco บังหน้า จึงเรียก Phico Project
    บริษัท Philco นี้ เป็นคู่สัญญากับกองทัพอเมริกา รับงานสร้างและติดตั้งเครื่องมือสื่อสาร ตั้งแต่ชิ้นส่วนเล็กไปจนถึงสร้างสถานีส่งเรดาห์สัญญาณสื่อ สารและดาวเทียม เขามาทำอะไรมาสำรวจอะไร นาย Kenneth ไม่ได้โม้ให้ฟัง บอกว่ามาสำรวจอยู่กว่า 3 เดือน และเขาได้พบกับนายพจน์ สารสิน (อีกแล้ว ! ) ซึ่งตอนนั้นเป็นรัฐมนตรีด้านพัฒนาสังคมของเมืองไทย ซึ่งอำนวยความสะดวกให้คณะสำรวจอย่างดี
    ก็น่าสนใจการสำรวจคร้ังนี้ หัวหน้าทีมชำนาญด้าน คอมมิวนิสต์ มาสำรวจพื้นที่บ้านเรา แถบที่พวกเขามาสร้างสนามบินไว้ แต่หอบเอานักธรณีวิทยา นักวิทยาศาสตร์มาด้วย จะว่ามาสำรวจเพื่อสร้างสนามบินเพิ่ม มันก็จะมากไปหน่อย จะต้ังสนามบินแฝดหรือไง หรือว่ามีอะไรพิเศษที่นักล่าสนใจรู้เค้ามา แต่ไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านจะรู้เรื่องกับเขาหรือเปล่า
    ท่านผู้อ่านนิทานจะพอจำกันได้ไหม เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง อันลือชื่อของไทยเรา ถูกค้นพบโดยนาย Stephen Young ลูกชายของฑูต Kenneth Young ประจำประเทศไทย เมื่อปี ค.ศ. 1966 ตอนนั้นนาย Stephen เพิ่งอายุประมาณ 15 – 16 ปี ยังเรียนหนังสืออยู่มัธยม มันเหลือเชื่อน่าสงสัยขนาดไหน ลองไปหาอ่านกันดู นาย Stephen Young ล่าสุดดำรงตำแหน่ง Global Exclusive Director ของ Caux Round Table
    และหวังว่ายังคงไม่ลืมค่ายรามสูร (ถ้าจำไม่ได้ ช่วยกลับไปอ่านจิกโก๋ปากซอยนะครับ) ที่นักล่าสร้างไว้ที่อุดร ใหญ่ชนิดมีสนามกอล์ฟและสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิก มีพนักงาน 2,000 คน เอาไว้ดักฟังสัญญาณต่างๆ ได้ถึงดาวอังคาร เมื่อสงครามเวียตนามเลิก อเมริกาบอกปิดค่ายรามสูรอพยพกลับบ้าน แต่ข่าววงในบอกว่าอพยพแต่เจ้าหน้าที่ แต่เครื่องมือย้ายมาอยู่แถวบางเขน บ้างก็ว่าอยู่ทุ่งมหาเมฆ แต่สรุปว่า เอาแค่ป้ายชื่อค่ายรามสูรออก ขนคนทำงานประเภทเสมียนกลับอเมริกา ส่วนคนไทยก็ปลดออก แล้วย้ายเรดาห์ทั้งหมดมาอยู่ในที่กรุงเทพแทน! แหม! ดักฟังได้ชัดเจนกว่า นายกรัฐมนตรีคนไหนของไทยจะกระแอม จะคุยกับอาเฮีย หรือ จะเรียก 20 เรียก 30 กับมันได้ยินกันหมด แล้วมันจะไม่อยู่ในมือเขาหรือ แล้วไอ้เรื่อง Philco Project นั้นมันจะเกี่ยวข้องกับบ้านเชียงหรือเปล่า มันน่าอัศจรรย์เกินบรรยาย กรมศิลปากรทั้งกรมค้นหามาไม่รู้กี่สิบปีไม่เจอซักกะหม้อ แหม พอหนุ่มน้อยอายุ 15-16 ปี เดินเล่นชมนกชมไม้ (ไปตามที่เครื่องมือของ Philco Project มันทำทางไว้ ! ?) ดันเจอหม้อไหอายุ 5000 ปี เต็มไปหมด เด็กอะไรมันเก่งขนาดนั้น แล้วมันจะเกี่ยวกับน้ำมัน ที่ภายหลังต่างชาติ โดยเฉพาะ Chevron เขาสำรวจเจอน้ำมัน ได้สัมปทานช่วงปี 1970 ต้นๆ เพียบเลยหรือเปล่า
    นี่ยังไม่นับรวมแร่ธาตุและทองอีกเพียบ ที่สำรวจเจอ แต่ปิดปากกันเงียบรู้กันเฉพาะวงในสุดๆ เช่น โปแตส ซึ่งเป็นแร่สำคัญ เป็นสารต้ังต้นของอุตสาหกรรมเกือบทุกชนิด เป็นส่วนผสมของการทำระเบิดขนาดเล็กไปถึงขนาดปรมาณู มีมากอยู่แถวอีสาณเหนือนั้นแหละ ใครวิ่ง ใครได้สัมปทาน ก็ไปสืบกันดู และไอ้เจ้าโปแตสนี้ มีอยู่มากที่อาฟกานิสถาน นักล่าถึงยังเล่นรบอยู่แถวน้ัน ไม่เลิกเสียที ก็ลองคิดนอกกรอบกันดูบ้างแล้วกัน

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 13 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 13 นาย Kenneth จัดหลักสูตรปรับพื้นสนามล่า ให้การอบรมแก่เหล่าสมุนนักล่าอยู่ 2 ปี หลังจากนั้นก็มีคนอื่นมารับหน้าที่ปรับพื้นสนามต่อ ตัวเขาย้ายกลับไปอยู่กระทรวงต่าง ประเทศ เดินแกว่งไปมาอีกรอบ จน ค.ศ. 1966 Pentagon มีงานพิเศษ Advanced Research Project Agency (ARPA) ต้องการได้ข้อมูลแบบละเอียดเหมือนทำสารานุกรม เกี่ยวกับพื้นที่แถวอีสานเหนือของไทย ที่อเมริกามาสร้างสนามบินไว้หลายแห่ง เพื่อให้เครื่องบินรบของอเมริกา บินไปถล่มเวียตมินท์ เวียตนาม หรือกัมพูชา ข้อมูลที่ Pentagon ต้องการอยู่แถวอีสาณตอนบน แถบ นครพนม มุกดาหาร และเส้นทางตามแม่น้ำโขง นั้นแหละ ซึ่งอเมริกาอ้างว่าต้องการข้อมูล เพิ่ม หัวหน้าทีม ชื่อ Wilfred Smith ถูกตามตัวมาจากอียิปต์ ( ! ? ) เพื่อมาคุมทีม ทางPentagon ขอให้นาย Kenneth มาด้วย พร้อมกับนักธรณีวิทยา นักวิทยาศาสตร์ ผู้ชำนาญด้านเกษตรกรรม และสภาพอากาศ นาย Smith ตามประวัติบอกว่าเกิดและโตที่เมือง จีน พ่อแม่เป็นมิชชั่น นารี (อีกแล้ว!) ต่อมาเป็นทหารอเมริกัน และล่าสุดสังกัดหน่วย OSS สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นผู้ชำนาญด้านระบอบคอมมิวนิสต์ ชนิดติดตามแบบวันต่อวัน ประธานาธิบดี Kennedy ประทับใจมาก ให้ไปจิกตัวกลับมาจากอียิปต์ เพื่อมาคุมงานนี้ แต่เพื่อไม่ให้สมันน้อยตกใจจับไต๋ได้ แทนที่จะมาในนาม ARPA เขาใช้ชื่อบริษัท Philco บังหน้า จึงเรียก Phico Project บริษัท Philco นี้ เป็นคู่สัญญากับกองทัพอเมริกา รับงานสร้างและติดตั้งเครื่องมือสื่อสาร ตั้งแต่ชิ้นส่วนเล็กไปจนถึงสร้างสถานีส่งเรดาห์สัญญาณสื่อ สารและดาวเทียม เขามาทำอะไรมาสำรวจอะไร นาย Kenneth ไม่ได้โม้ให้ฟัง บอกว่ามาสำรวจอยู่กว่า 3 เดือน และเขาได้พบกับนายพจน์ สารสิน (อีกแล้ว ! ) ซึ่งตอนนั้นเป็นรัฐมนตรีด้านพัฒนาสังคมของเมืองไทย ซึ่งอำนวยความสะดวกให้คณะสำรวจอย่างดี ก็น่าสนใจการสำรวจคร้ังนี้ หัวหน้าทีมชำนาญด้าน คอมมิวนิสต์ มาสำรวจพื้นที่บ้านเรา แถบที่พวกเขามาสร้างสนามบินไว้ แต่หอบเอานักธรณีวิทยา นักวิทยาศาสตร์มาด้วย จะว่ามาสำรวจเพื่อสร้างสนามบินเพิ่ม มันก็จะมากไปหน่อย จะต้ังสนามบินแฝดหรือไง หรือว่ามีอะไรพิเศษที่นักล่าสนใจรู้เค้ามา แต่ไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านจะรู้เรื่องกับเขาหรือเปล่า ท่านผู้อ่านนิทานจะพอจำกันได้ไหม เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง อันลือชื่อของไทยเรา ถูกค้นพบโดยนาย Stephen Young ลูกชายของฑูต Kenneth Young ประจำประเทศไทย เมื่อปี ค.ศ. 1966 ตอนนั้นนาย Stephen เพิ่งอายุประมาณ 15 – 16 ปี ยังเรียนหนังสืออยู่มัธยม มันเหลือเชื่อน่าสงสัยขนาดไหน ลองไปหาอ่านกันดู นาย Stephen Young ล่าสุดดำรงตำแหน่ง Global Exclusive Director ของ Caux Round Table และหวังว่ายังคงไม่ลืมค่ายรามสูร (ถ้าจำไม่ได้ ช่วยกลับไปอ่านจิกโก๋ปากซอยนะครับ) ที่นักล่าสร้างไว้ที่อุดร ใหญ่ชนิดมีสนามกอล์ฟและสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิก มีพนักงาน 2,000 คน เอาไว้ดักฟังสัญญาณต่างๆ ได้ถึงดาวอังคาร เมื่อสงครามเวียตนามเลิก อเมริกาบอกปิดค่ายรามสูรอพยพกลับบ้าน แต่ข่าววงในบอกว่าอพยพแต่เจ้าหน้าที่ แต่เครื่องมือย้ายมาอยู่แถวบางเขน บ้างก็ว่าอยู่ทุ่งมหาเมฆ แต่สรุปว่า เอาแค่ป้ายชื่อค่ายรามสูรออก ขนคนทำงานประเภทเสมียนกลับอเมริกา ส่วนคนไทยก็ปลดออก แล้วย้ายเรดาห์ทั้งหมดมาอยู่ในที่กรุงเทพแทน! แหม! ดักฟังได้ชัดเจนกว่า นายกรัฐมนตรีคนไหนของไทยจะกระแอม จะคุยกับอาเฮีย หรือ จะเรียก 20 เรียก 30 กับมันได้ยินกันหมด แล้วมันจะไม่อยู่ในมือเขาหรือ แล้วไอ้เรื่อง Philco Project นั้นมันจะเกี่ยวข้องกับบ้านเชียงหรือเปล่า มันน่าอัศจรรย์เกินบรรยาย กรมศิลปากรทั้งกรมค้นหามาไม่รู้กี่สิบปีไม่เจอซักกะหม้อ แหม พอหนุ่มน้อยอายุ 15-16 ปี เดินเล่นชมนกชมไม้ (ไปตามที่เครื่องมือของ Philco Project มันทำทางไว้ ! ?) ดันเจอหม้อไหอายุ 5000 ปี เต็มไปหมด เด็กอะไรมันเก่งขนาดนั้น แล้วมันจะเกี่ยวกับน้ำมัน ที่ภายหลังต่างชาติ โดยเฉพาะ Chevron เขาสำรวจเจอน้ำมัน ได้สัมปทานช่วงปี 1970 ต้นๆ เพียบเลยหรือเปล่า นี่ยังไม่นับรวมแร่ธาตุและทองอีกเพียบ ที่สำรวจเจอ แต่ปิดปากกันเงียบรู้กันเฉพาะวงในสุดๆ เช่น โปแตส ซึ่งเป็นแร่สำคัญ เป็นสารต้ังต้นของอุตสาหกรรมเกือบทุกชนิด เป็นส่วนผสมของการทำระเบิดขนาดเล็กไปถึงขนาดปรมาณู มีมากอยู่แถวอีสาณเหนือนั้นแหละ ใครวิ่ง ใครได้สัมปทาน ก็ไปสืบกันดู และไอ้เจ้าโปแตสนี้ มีอยู่มากที่อาฟกานิสถาน นักล่าถึงยังเล่นรบอยู่แถวน้ัน ไม่เลิกเสียที ก็ลองคิดนอกกรอบกันดูบ้างแล้วกัน คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 115 Views 0 Reviews
  • “ดาวเทียมล้นวงโคจร! สหรัฐฯ ครองแชมป์ด้วย 9,203 ดวง ขณะที่โลกเพิ่มขึ้นวันละ 7 ตัน — จาก Sputnik สู่ยุค Starlink และสงครามอวกาศ”

    ย้อนกลับไปปี 1957 เมื่อ Sputnik 1 กลายเป็นดาวเทียมดวงแรกของโลกที่โคจรรอบโลกอย่างโดดเดี่ยว — วันนี้มันคงรู้สึกเหงาไม่ออก เพราะมีวัตถุมนุษย์สร้างกว่า 45,000 ชิ้นลอยอยู่ในอวกาศ และในจำนวนนี้มีดาวเทียมที่ยังทำงานอยู่ถึง 13,727 ดวงจาก 82 ประเทศทั่วโลก

    สหรัฐอเมริกาครองตำแหน่งผู้นำแบบทิ้งห่าง ด้วยจำนวนดาวเทียมถึง 9,203 ดวง มากกว่ารัสเซียที่ตามมาเป็นอันดับสองถึง 6 เท่า ส่วนจีนมี 1,121 ดวง และสหราชอาณาจักรมี 722 ดวง โดยในปี 2024 เพียงปีเดียว มีดาวเทียมใหม่ถูกส่งขึ้นไปถึง 2,695 ดวง — เทียบกับปี 2020 ที่มีเพียง 3,371 ดวงเท่านั้น1

    ดาวเทียมเหล่านี้ไม่ได้มีไว้แค่ส่งสัญญาณทีวีหรือพยากรณ์อากาศ แต่ยังใช้ในงานที่หลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ เช่น การทำธุรกรรมทางการเงิน, การติดตามกระแสน้ำในมหาสมุทร, การควบคุมโครงข่ายพลังงาน, การสื่อสารทางทหาร, และแม้แต่การพาเถ้ากระดูกมนุษย์ไปโคจรรอบโลก

    ในด้านการทหาร สหรัฐฯ ก็ยังนำโด่งด้วยดาวเทียมทางทหารถึง 247 ดวง ตามด้วยจีน 157 ดวง และรัสเซีย 110 ดวง3 ดาวเทียมเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการสอดแนม, แจ้งเตือนการยิงขีปนาวุธ, สื่อสารภาคสนาม, และแม้แต่การป้องกันไซเบอร์

    แม้จะมีประโยชน์มหาศาล แต่การเพิ่มขึ้นของดาวเทียมก็ทำให้เกิดปัญหา “ขยะอวกาศ” ที่กำลังทวีความรุนแรง โดยมีวัตถุที่ถูกติดตามแล้วกว่า 32,750 ชิ้น และมีฮาร์ดแวร์ใหม่ถูกส่งขึ้นไปถึง 7 ตันต่อวัน — ทำให้วงโคจรของโลกกลายเป็นพื้นที่แออัดที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ

    สถานการณ์ดาวเทียมในปัจจุบัน
    มีดาวเทียมที่ยังทำงานอยู่ 13,727 ดวง จาก 82 ประเทศและองค์กร
    สหรัฐฯ มีมากที่สุดที่ 9,203 ดวง ตามด้วยรัสเซีย 1,471 ดวง และจีน 1,121 ดวง1
    ปี 2024 มีดาวเทียมใหม่เพิ่มขึ้น 2,695 ดวง เทียบกับ 3,371 ดวงในปี 2020

    การใช้งานดาวเทียม
    ใช้ในระบบนำทาง, อินเทอร์เน็ต, การพยากรณ์อากาศ, การสื่อสาร
    ใช้ในธุรกรรมการเงิน เช่น การส่งข้อมูลบัตรเครดิตผ่านดาวเทียม
    ใช้ในงานวิจัย เช่น กล้องโทรทรรศน์อวกาศ Hubble และการติดตามมหาสมุทร
    ใช้ในพิธีกรรม เช่น การนำเถ้ากระดูกมนุษย์ไปโคจรรอบโลก

    ดาวเทียมทางทหาร
    สหรัฐฯ มีดาวเทียมทางทหาร 247 ดวง มากที่สุดในโลก3
    จีนมี 157 ดวง, รัสเซีย 110 ดวง, ฝรั่งเศส 17 ดวง, อิสราเอล 12 ดวง
    ใช้ในการสอดแนม, แจ้งเตือนภัย, GPS, และการสื่อสารภาคสนาม

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ดาวเทียมของสหรัฐฯ มีทั้งเชิงพาณิชย์, วิจัย, และทหาร รวมกว่า 11,655 ดวง
    ระบบดาวเทียมเช่น Starlink ของ Elon Musk มีบทบาทสำคัญในการให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก
    ระบบ SATCOM ถูกใช้ในสงคราม เช่น Operation Desert Storm ปี 19912
    ประเทศอื่นที่มีดาวเทียมจำนวนมาก ได้แก่ รัสเซีย (7,187 ดวง), จีน (5,330 ดวง), สหราชอาณาจักร (735 ดวง), ฝรั่งเศส (604 ดวง)

    คำเตือนจากการเพิ่มขึ้นของดาวเทียม
    ขยะอวกาศมีมากกว่า 32,750 ชิ้นที่ถูกติดตามแล้ว — เสี่ยงต่อการชนกันในวงโคจร
    มีฮาร์ดแวร์ใหม่ถูกส่งขึ้นไปถึง 7 ตันต่อวัน — เพิ่มความแออัดในอวกาศ
    การควบคุมการปล่อยดาวเทียมยังไม่มีมาตรฐานสากลที่ชัดเจน
    ดาวเทียมทางทหารอาจถูกใช้ในสงครามไซเบอร์หรือการสอดแนมประชาชน
    หากไม่มีการจัดการขยะอวกาศอย่างจริงจัง อาจเกิด “Kessler Syndrome” ที่ทำให้วงโคจรใช้งานไม่ได้

    https://www.slashgear.com/1961880/how-many-satellites-are-in-space-which-country-has-the-most/
    🛰️ “ดาวเทียมล้นวงโคจร! สหรัฐฯ ครองแชมป์ด้วย 9,203 ดวง ขณะที่โลกเพิ่มขึ้นวันละ 7 ตัน — จาก Sputnik สู่ยุค Starlink และสงครามอวกาศ” ย้อนกลับไปปี 1957 เมื่อ Sputnik 1 กลายเป็นดาวเทียมดวงแรกของโลกที่โคจรรอบโลกอย่างโดดเดี่ยว — วันนี้มันคงรู้สึกเหงาไม่ออก เพราะมีวัตถุมนุษย์สร้างกว่า 45,000 ชิ้นลอยอยู่ในอวกาศ และในจำนวนนี้มีดาวเทียมที่ยังทำงานอยู่ถึง 13,727 ดวงจาก 82 ประเทศทั่วโลก สหรัฐอเมริกาครองตำแหน่งผู้นำแบบทิ้งห่าง ด้วยจำนวนดาวเทียมถึง 9,203 ดวง มากกว่ารัสเซียที่ตามมาเป็นอันดับสองถึง 6 เท่า ส่วนจีนมี 1,121 ดวง และสหราชอาณาจักรมี 722 ดวง โดยในปี 2024 เพียงปีเดียว มีดาวเทียมใหม่ถูกส่งขึ้นไปถึง 2,695 ดวง — เทียบกับปี 2020 ที่มีเพียง 3,371 ดวงเท่านั้น1 ดาวเทียมเหล่านี้ไม่ได้มีไว้แค่ส่งสัญญาณทีวีหรือพยากรณ์อากาศ แต่ยังใช้ในงานที่หลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ เช่น การทำธุรกรรมทางการเงิน, การติดตามกระแสน้ำในมหาสมุทร, การควบคุมโครงข่ายพลังงาน, การสื่อสารทางทหาร, และแม้แต่การพาเถ้ากระดูกมนุษย์ไปโคจรรอบโลก ในด้านการทหาร สหรัฐฯ ก็ยังนำโด่งด้วยดาวเทียมทางทหารถึง 247 ดวง ตามด้วยจีน 157 ดวง และรัสเซีย 110 ดวง3 ดาวเทียมเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการสอดแนม, แจ้งเตือนการยิงขีปนาวุธ, สื่อสารภาคสนาม, และแม้แต่การป้องกันไซเบอร์ แม้จะมีประโยชน์มหาศาล แต่การเพิ่มขึ้นของดาวเทียมก็ทำให้เกิดปัญหา “ขยะอวกาศ” ที่กำลังทวีความรุนแรง โดยมีวัตถุที่ถูกติดตามแล้วกว่า 32,750 ชิ้น และมีฮาร์ดแวร์ใหม่ถูกส่งขึ้นไปถึง 7 ตันต่อวัน — ทำให้วงโคจรของโลกกลายเป็นพื้นที่แออัดที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ ✅ สถานการณ์ดาวเทียมในปัจจุบัน ➡️ มีดาวเทียมที่ยังทำงานอยู่ 13,727 ดวง จาก 82 ประเทศและองค์กร ➡️ สหรัฐฯ มีมากที่สุดที่ 9,203 ดวง ตามด้วยรัสเซีย 1,471 ดวง และจีน 1,121 ดวง1 ➡️ ปี 2024 มีดาวเทียมใหม่เพิ่มขึ้น 2,695 ดวง เทียบกับ 3,371 ดวงในปี 2020 ✅ การใช้งานดาวเทียม ➡️ ใช้ในระบบนำทาง, อินเทอร์เน็ต, การพยากรณ์อากาศ, การสื่อสาร ➡️ ใช้ในธุรกรรมการเงิน เช่น การส่งข้อมูลบัตรเครดิตผ่านดาวเทียม ➡️ ใช้ในงานวิจัย เช่น กล้องโทรทรรศน์อวกาศ Hubble และการติดตามมหาสมุทร ➡️ ใช้ในพิธีกรรม เช่น การนำเถ้ากระดูกมนุษย์ไปโคจรรอบโลก ✅ ดาวเทียมทางทหาร ➡️ สหรัฐฯ มีดาวเทียมทางทหาร 247 ดวง มากที่สุดในโลก3 ➡️ จีนมี 157 ดวง, รัสเซีย 110 ดวง, ฝรั่งเศส 17 ดวง, อิสราเอล 12 ดวง ➡️ ใช้ในการสอดแนม, แจ้งเตือนภัย, GPS, และการสื่อสารภาคสนาม ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ดาวเทียมของสหรัฐฯ มีทั้งเชิงพาณิชย์, วิจัย, และทหาร รวมกว่า 11,655 ดวง ➡️ ระบบดาวเทียมเช่น Starlink ของ Elon Musk มีบทบาทสำคัญในการให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ➡️ ระบบ SATCOM ถูกใช้ในสงคราม เช่น Operation Desert Storm ปี 19912 ➡️ ประเทศอื่นที่มีดาวเทียมจำนวนมาก ได้แก่ รัสเซีย (7,187 ดวง), จีน (5,330 ดวง), สหราชอาณาจักร (735 ดวง), ฝรั่งเศส (604 ดวง) ‼️ คำเตือนจากการเพิ่มขึ้นของดาวเทียม ⛔ ขยะอวกาศมีมากกว่า 32,750 ชิ้นที่ถูกติดตามแล้ว — เสี่ยงต่อการชนกันในวงโคจร ⛔ มีฮาร์ดแวร์ใหม่ถูกส่งขึ้นไปถึง 7 ตันต่อวัน — เพิ่มความแออัดในอวกาศ ⛔ การควบคุมการปล่อยดาวเทียมยังไม่มีมาตรฐานสากลที่ชัดเจน ⛔ ดาวเทียมทางทหารอาจถูกใช้ในสงครามไซเบอร์หรือการสอดแนมประชาชน ⛔ หากไม่มีการจัดการขยะอวกาศอย่างจริงจัง อาจเกิด “Kessler Syndrome” ที่ทำให้วงโคจรใช้งานไม่ได้ https://www.slashgear.com/1961880/how-many-satellites-are-in-space-which-country-has-the-most/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    How Many Satellites Are In Space And Which Country Has The Most? - SlashGear
    Around 13,700 satellites orbit Earth, and with over 9,000, the U.S. owns the most. It's way ahead of any other nation, including Russia, China, and the U.K.
    0 Comments 0 Shares 111 Views 0 Reviews
  • แกะรอยเก่า ตอนที่ 12
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 12
    ประมาณปี พ.ศ.1960 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของรัฐบาลEisenhower นาย Kenneth ขออนุญาตกระทรวงต่างประเทศอเม ริกา เดินทางมาสำรวจเมืองไทย และแถบอินโดจีนอีกรอบ (!!!) ตอนนั้น นาย Alexis Johnson เป็นฑูต และ นาย Leonard Unger เป็นผู้ช่วยฑูต ทั้ง 2 คนเป็นคนฉลาดรู้จักเมืองไทยอย่างดี เข้ ากับทหารไทยได้แบบคอหอยกับลูกกระเดือก โดยเฉพาะนาย Unger เมื่อมาถึงปรากฏว่าจอมพลสฤษดิ์ส่งนายทหารคนสนิทมารับนาย Kenneth ถึงสนามบิน จอมพลสฤษดิ์ถามเขาว่า มาทำไม นาย Kenneth บอกจะมาดูสถานการณ์ในลาวสักหน่อย หลังจากนั้นจะไปกัมพูชา ไซ่ง่อนและพม่า นาย Kenneth บอกว่า จริงๆจะมาตรวจการบ้านด้วยว่าเงินช่วยเหลือทางทหาร Military Assistance Program (MAP) ที่อเมริกาให้แต่ละประเทศ ได้ผลมากน้อยแค่ไหน จอมพลสฤษดิ์บอกว่ากลับมาแล้ว มาเล่าให้ฟังกันด้วย ปรากฎว่าส่วนใหญ่ได้ผล ยกเว้นแต่ลาว ซึ่งอเมริกาให้เงินช่วยเหลือมากกว่าไทยเสียอีก แต่อเมริกาทำท่าจะเสียลาวให้แก่คอมมิวนิสต์ (และในที่สุดก็เสียจริงๆ ! ) โดยอาจจะมีการปฏิวัติโดยลาวแดงเร็วๆนี้ ขากลับ นาย Kenneth ก็รายงานเรื่องลาวอาจมีการปฏิวัติให้จอมพลสฤษดิ์ทราบ แล้วก็เดินทางต่อลงมาที่สิงค์โปร์
    ที่สิงคโปร์ เขาได้พบกับเศรษฐีสิงคโปร์คนหนึ่งชื่อ Ko Geng Hsui ซึ่งเป็นกระเป๋าใหญ่ให้แก่นาย Lee Kwan Yew และภายหลังได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหม นาย Ko ต้องการให้นาย Kenneth ช่วยตั้งสถาบันเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ในมหาวิทยาลัยสิงคโปร์ให้ ภายหลังนาย Kenneth ได้ลางานจากรัฐบาลอเมริกัน 1 ปี เพื่อมาจัดตั้งสถาบันนี้ให้สิงคโปร์ โดยเอาชาวยิวชื่อ Harry Benda จากมหาวิทยาลัย Yale มาช่วย สิงคโปร์จึงเป็นประเทศแรกในแถบนี้ ที่มีสถาบันการศึกษาลงลึกอย่างจริงจังเกี่ยวกับเอเซียอาคเณย์ ตกลงสิงคโปร์ไม่ได้ลอกเลียนแค่งานสงกรานต์ไปจากบ้านเรา แต่ลอกหลายอย่างรวมทั้งวิชาความรู้เกี่ยวกับภูมิภาคนี้ สิงคโปร์ประเทศที่ไม่มีรากไม่มีเหง้า ไม่มีวัฒนธรรม ประเพณีของตนเอง แต่มีคนไทยหลายคนปลาบปลื้มกับความเจริญของสิงคโปร์ จนถึงขนาดอยากให้เมืองไทยเป็นเหมือนสิงคโปร์ เศร้าครับ!
    เมื่อนาย Kenneth กลับมาถึงวอซิงตัน การเลือกตั้งประธานาธิบดีกำลังเข้มข้น แล้วนาย Kennedy ก็ชนะการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันลาวก็อาการทรุดตามที่นาย Kenneth คาด รัฐบาล Kennedy เข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ ยังจับต้นไม่ชนปลาย นาย Mc Geroge Bundy จอมแสบที่ปรึกษาด้านความมั่นคง ของประธานาธิบดี Kennedy ถึงจะแสนรู้อย่างไร มาใหม่ๆก็มึนรับประทาน แนะนำสั่งการอะไรไม่ถูก ได้แต่เรียกให้นาย Kenneth ให้มาสรุปสถานการณ์ในลาวให้รัฐบาลฟังก่อนตัดสินใจ ทุกอย่างอลเวงไปหมด และนี่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ ประธานธิบดี Kennedy ฉุนขาด ประกาศว่าหน่วยงาน National Security Council ทำงานไม่ได้ผล (คงไม่ให้ราคานาย Kenneth สักเท่าไหร่) ถ้าเขายุบหน่วยงานนี้ได้เขาจะยุบแล้ว เพียงแต่ต้องไปขออนุมัติจากสภาสูง ต้องออกกฏหมาย ฯลฯ ดังนั้นเขาจึงสั่ง “แขวน” พนักงานทุกคนในหน่วยงานรวมทั้งนาย Kenneth ด้วย และได้ยกเครื่องการทำงานสภาความมั่นคงเสียใหม่
    หลังจากโดนแขวนอยู่หลายเดือน นาย Kenneth ก็เดินแกว่งไปตามหน่วยงานต่างๆ เพื่อหาที่ลง เพราะแม้จะมีเงินเดือนกิน แต่ไม่มีเก้าอี้นั่งชูคอ แบบรัฐบาลก่อนๆ มันก็ทำให้เขาเสียรังวัดไปพอสมควร จะโม้อะไร โอ้อวดอะไร อย่างเมื่อก่อนก็ไม่ถนัดปาก ก็คนโดนแขวนอยู่มันจะให้โม้อะไร ไหว จนวันหนึ่ง นาย Walt Rostow ซึ่งเป็นผู้ช่วยของนาย McGeorge Bundy และรู้จักกับนาย Kenneth ตั้งแต่สมัยทำงานอยู่ OSS เป็นลูกน้องนาย Donovan มาด้วยกัน ก็ติดต่อนาย Kenneth บอกว่ามีงานให้ทำแล้ว ประธานาธิบดี Kennedy เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของอเมริกาไม่ว่าทหาร หรือพลเรือน เมื่อจะต้องไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่เมืองใด ควรรู้เรื่องเมืองนั้นอย่างดี ไม่ใช่ไปแบบยืนหน้าเซ่อ ร้องเพลงรำวงวันคริสตมาสให้ชาวบ้านฟัง (สงสัยคุณนายเคนนี่ฑูตอเมริกาคนปัจจุบัน คงไม่เคยได้รับการอบรมอะไรเลยก่อนมาประจำเมืองไทย คุณนายถึงได้ทำตัวทุเรศปานนั้น) จึงมอบหมายให้นาย Kenneth เป็นผู้จัดการหลักสูตรอบรม เกี่ยวกับการต่อต้านเหตุการณ์ไม่สงบ (Counter Insurgency) ชื่อเต็มก็คือการต่อต้านความไม่สงบ อันเกิดจากภัยคอมมิวนิสต์ในโลกที่ 3 นั่นแหละ เป็นหลักสูตรที่จัดรวมให้สมุนนักล่าไม่ว่าจะอยู่ในเครื่องแบบใด นาย Kenneth บอกไม่มีปัญหาขอให้จัดงบแบบไม่อั้นมาแล้วกัน นักล่ากำลังฟิต เพราะฉะนั้น เท่าไรเท่ากัน จัดไปเลยย
    นาย Kenneth สารภาพว่า แรกๆ เขาก็ยังงงว่าจะทำได้อย่างไร เขาไม่ใช่ทหาร ไม่รู้เรื่องการรบ แต่เขารู้จักประเทศต่างๆ ที่คอมมิวนิสต์กำลังคุกคาม เขาจึงนำประสพการณ์ ข้อมูลที่เขาได้จากการที่เขาเคยอยู่ในเมืองไทยและการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ และเจอผู้คนในประเทศเหล่านั้น ไม่ว่าจะระดับรัฐบาล ผู้นำประเทศ หรือชาวบ้านทั่วไป บวกกับข้อมูลจากหนังสืออีกเกือบ 2,000 เล่ม ที่เขาสะสมไว้ เอามาผสมปนเปแบบตอแหล ทำเป็นหลักสูตรสำหรับการอบรมประมาณ 2 เดือน เป็นการติวเข้มสมุนนักล่า
    ปรากฎว่าการตอแหลได้ผลดีเกินคาด เจ้านายสั่งให้เพิ่มบริเวณพื้นที่การอบรม จากครอบคลุมเฉพาะแถบเอเซีย เพิ่มลาตินอเมริกา อาฟริกา และตะวันออกกลางเข้าไปด้วย นี่มันกำลังทำสนามนักล่าขนาดใหญ่ครอบคลุมโลกนี่หว่า นักล่าหน้าใหม่มาแรงจริงๆ แต่นาย Kenneth มีภูมิมีพื้นแค่แถบอินโดจีน แต่คนพันธ์นาย Kenneth ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เสียเหลี่ยมมิชชันนารีจากเมืองตรังหมด โม้เอาไว้เยอะ เขาบอกไม่มีปัญหา เขาไปกว้านเอาอาจารย์ตามมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ ที่มีผู้เชี่ยวชาญตามที่เจ้านายต้องการ มาช่วยกันสร้างหลักสูตรปรับพื้น สนามนักล่าจนสำเร็จ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกไม่ถึง 15 ปี อเมริกานักล่าหน้าใหม่ ก็พร้อมที่ลงสนามล่า ที่ได้ส่งสมุนไปปรับพื้นทำสนาม เตรียมไว้ตามแผน โดยการอนุเคราะห์ของผู้ถูกล่าเองเสียหลายส่วน! น่าเศร้าใจจนต้องหยุดพักเขียนไปหลายวัน

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 12 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 12 ประมาณปี พ.ศ.1960 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของรัฐบาลEisenhower นาย Kenneth ขออนุญาตกระทรวงต่างประเทศอเม ริกา เดินทางมาสำรวจเมืองไทย และแถบอินโดจีนอีกรอบ (!!!) ตอนนั้น นาย Alexis Johnson เป็นฑูต และ นาย Leonard Unger เป็นผู้ช่วยฑูต ทั้ง 2 คนเป็นคนฉลาดรู้จักเมืองไทยอย่างดี เข้ ากับทหารไทยได้แบบคอหอยกับลูกกระเดือก โดยเฉพาะนาย Unger เมื่อมาถึงปรากฏว่าจอมพลสฤษดิ์ส่งนายทหารคนสนิทมารับนาย Kenneth ถึงสนามบิน จอมพลสฤษดิ์ถามเขาว่า มาทำไม นาย Kenneth บอกจะมาดูสถานการณ์ในลาวสักหน่อย หลังจากนั้นจะไปกัมพูชา ไซ่ง่อนและพม่า นาย Kenneth บอกว่า จริงๆจะมาตรวจการบ้านด้วยว่าเงินช่วยเหลือทางทหาร Military Assistance Program (MAP) ที่อเมริกาให้แต่ละประเทศ ได้ผลมากน้อยแค่ไหน จอมพลสฤษดิ์บอกว่ากลับมาแล้ว มาเล่าให้ฟังกันด้วย ปรากฎว่าส่วนใหญ่ได้ผล ยกเว้นแต่ลาว ซึ่งอเมริกาให้เงินช่วยเหลือมากกว่าไทยเสียอีก แต่อเมริกาทำท่าจะเสียลาวให้แก่คอมมิวนิสต์ (และในที่สุดก็เสียจริงๆ ! ) โดยอาจจะมีการปฏิวัติโดยลาวแดงเร็วๆนี้ ขากลับ นาย Kenneth ก็รายงานเรื่องลาวอาจมีการปฏิวัติให้จอมพลสฤษดิ์ทราบ แล้วก็เดินทางต่อลงมาที่สิงค์โปร์ ที่สิงคโปร์ เขาได้พบกับเศรษฐีสิงคโปร์คนหนึ่งชื่อ Ko Geng Hsui ซึ่งเป็นกระเป๋าใหญ่ให้แก่นาย Lee Kwan Yew และภายหลังได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหม นาย Ko ต้องการให้นาย Kenneth ช่วยตั้งสถาบันเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ในมหาวิทยาลัยสิงคโปร์ให้ ภายหลังนาย Kenneth ได้ลางานจากรัฐบาลอเมริกัน 1 ปี เพื่อมาจัดตั้งสถาบันนี้ให้สิงคโปร์ โดยเอาชาวยิวชื่อ Harry Benda จากมหาวิทยาลัย Yale มาช่วย สิงคโปร์จึงเป็นประเทศแรกในแถบนี้ ที่มีสถาบันการศึกษาลงลึกอย่างจริงจังเกี่ยวกับเอเซียอาคเณย์ ตกลงสิงคโปร์ไม่ได้ลอกเลียนแค่งานสงกรานต์ไปจากบ้านเรา แต่ลอกหลายอย่างรวมทั้งวิชาความรู้เกี่ยวกับภูมิภาคนี้ สิงคโปร์ประเทศที่ไม่มีรากไม่มีเหง้า ไม่มีวัฒนธรรม ประเพณีของตนเอง แต่มีคนไทยหลายคนปลาบปลื้มกับความเจริญของสิงคโปร์ จนถึงขนาดอยากให้เมืองไทยเป็นเหมือนสิงคโปร์ เศร้าครับ! เมื่อนาย Kenneth กลับมาถึงวอซิงตัน การเลือกตั้งประธานาธิบดีกำลังเข้มข้น แล้วนาย Kennedy ก็ชนะการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันลาวก็อาการทรุดตามที่นาย Kenneth คาด รัฐบาล Kennedy เข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ ยังจับต้นไม่ชนปลาย นาย Mc Geroge Bundy จอมแสบที่ปรึกษาด้านความมั่นคง ของประธานาธิบดี Kennedy ถึงจะแสนรู้อย่างไร มาใหม่ๆก็มึนรับประทาน แนะนำสั่งการอะไรไม่ถูก ได้แต่เรียกให้นาย Kenneth ให้มาสรุปสถานการณ์ในลาวให้รัฐบาลฟังก่อนตัดสินใจ ทุกอย่างอลเวงไปหมด และนี่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ ประธานธิบดี Kennedy ฉุนขาด ประกาศว่าหน่วยงาน National Security Council ทำงานไม่ได้ผล (คงไม่ให้ราคานาย Kenneth สักเท่าไหร่) ถ้าเขายุบหน่วยงานนี้ได้เขาจะยุบแล้ว เพียงแต่ต้องไปขออนุมัติจากสภาสูง ต้องออกกฏหมาย ฯลฯ ดังนั้นเขาจึงสั่ง “แขวน” พนักงานทุกคนในหน่วยงานรวมทั้งนาย Kenneth ด้วย และได้ยกเครื่องการทำงานสภาความมั่นคงเสียใหม่ หลังจากโดนแขวนอยู่หลายเดือน นาย Kenneth ก็เดินแกว่งไปตามหน่วยงานต่างๆ เพื่อหาที่ลง เพราะแม้จะมีเงินเดือนกิน แต่ไม่มีเก้าอี้นั่งชูคอ แบบรัฐบาลก่อนๆ มันก็ทำให้เขาเสียรังวัดไปพอสมควร จะโม้อะไร โอ้อวดอะไร อย่างเมื่อก่อนก็ไม่ถนัดปาก ก็คนโดนแขวนอยู่มันจะให้โม้อะไร ไหว จนวันหนึ่ง นาย Walt Rostow ซึ่งเป็นผู้ช่วยของนาย McGeorge Bundy และรู้จักกับนาย Kenneth ตั้งแต่สมัยทำงานอยู่ OSS เป็นลูกน้องนาย Donovan มาด้วยกัน ก็ติดต่อนาย Kenneth บอกว่ามีงานให้ทำแล้ว ประธานาธิบดี Kennedy เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของอเมริกาไม่ว่าทหาร หรือพลเรือน เมื่อจะต้องไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่เมืองใด ควรรู้เรื่องเมืองนั้นอย่างดี ไม่ใช่ไปแบบยืนหน้าเซ่อ ร้องเพลงรำวงวันคริสตมาสให้ชาวบ้านฟัง (สงสัยคุณนายเคนนี่ฑูตอเมริกาคนปัจจุบัน คงไม่เคยได้รับการอบรมอะไรเลยก่อนมาประจำเมืองไทย คุณนายถึงได้ทำตัวทุเรศปานนั้น) จึงมอบหมายให้นาย Kenneth เป็นผู้จัดการหลักสูตรอบรม เกี่ยวกับการต่อต้านเหตุการณ์ไม่สงบ (Counter Insurgency) ชื่อเต็มก็คือการต่อต้านความไม่สงบ อันเกิดจากภัยคอมมิวนิสต์ในโลกที่ 3 นั่นแหละ เป็นหลักสูตรที่จัดรวมให้สมุนนักล่าไม่ว่าจะอยู่ในเครื่องแบบใด นาย Kenneth บอกไม่มีปัญหาขอให้จัดงบแบบไม่อั้นมาแล้วกัน นักล่ากำลังฟิต เพราะฉะนั้น เท่าไรเท่ากัน จัดไปเลยย นาย Kenneth สารภาพว่า แรกๆ เขาก็ยังงงว่าจะทำได้อย่างไร เขาไม่ใช่ทหาร ไม่รู้เรื่องการรบ แต่เขารู้จักประเทศต่างๆ ที่คอมมิวนิสต์กำลังคุกคาม เขาจึงนำประสพการณ์ ข้อมูลที่เขาได้จากการที่เขาเคยอยู่ในเมืองไทยและการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ และเจอผู้คนในประเทศเหล่านั้น ไม่ว่าจะระดับรัฐบาล ผู้นำประเทศ หรือชาวบ้านทั่วไป บวกกับข้อมูลจากหนังสืออีกเกือบ 2,000 เล่ม ที่เขาสะสมไว้ เอามาผสมปนเปแบบตอแหล ทำเป็นหลักสูตรสำหรับการอบรมประมาณ 2 เดือน เป็นการติวเข้มสมุนนักล่า ปรากฎว่าการตอแหลได้ผลดีเกินคาด เจ้านายสั่งให้เพิ่มบริเวณพื้นที่การอบรม จากครอบคลุมเฉพาะแถบเอเซีย เพิ่มลาตินอเมริกา อาฟริกา และตะวันออกกลางเข้าไปด้วย นี่มันกำลังทำสนามนักล่าขนาดใหญ่ครอบคลุมโลกนี่หว่า นักล่าหน้าใหม่มาแรงจริงๆ แต่นาย Kenneth มีภูมิมีพื้นแค่แถบอินโดจีน แต่คนพันธ์นาย Kenneth ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เสียเหลี่ยมมิชชันนารีจากเมืองตรังหมด โม้เอาไว้เยอะ เขาบอกไม่มีปัญหา เขาไปกว้านเอาอาจารย์ตามมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ ที่มีผู้เชี่ยวชาญตามที่เจ้านายต้องการ มาช่วยกันสร้างหลักสูตรปรับพื้น สนามนักล่าจนสำเร็จ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกไม่ถึง 15 ปี อเมริกานักล่าหน้าใหม่ ก็พร้อมที่ลงสนามล่า ที่ได้ส่งสมุนไปปรับพื้นทำสนาม เตรียมไว้ตามแผน โดยการอนุเคราะห์ของผู้ถูกล่าเองเสียหลายส่วน! น่าเศร้าใจจนต้องหยุดพักเขียนไปหลายวัน คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 201 Views 0 Reviews
  • แกะรอยเก่า ตอนที่ 11
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 11
    ค.ศ. 1953 นาย Donovan ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเอกอัครราชฑูตอเมริกาประจำเมืองไทย นาย Kenneth บอกว่าที่นาย Donovan ต้องมาเป็นฑูตที่เมืองไทย มันเป็นการแลกเปลี่ยนที่นาย Donovan ไม่พอใจนัก เนื่องมาจากเมื่อสงครามโลกครั้ง ที่ 2 สิ้นสุด ประธานาธิบดี Truman ก็สั่งยกเลิกหน่วยงาน OSS ของนาย Donovan เมื่อนาย Eisenhower ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี เขาสั่งให้มีการจัดตั้งหน่วยงานข่าวกรองรูปแบบใหม่ คือ Central Intelligence Agency (CIA) หน่วยงานนี้ให้ขึ้นตรงต่อประธานาธิบดี นาย Donovan ก็ดำเนินการตามสั่งจนเสร็จ และคิดว่าตนจะได้เป็นหัวหน้า CIA คนแรก แต่พอตั้งเสร็จ ประธานาธิบดี Eisenhower ซึ่งเลือกนาย John Foster Dulles มาเป็น รมว.ต่างประเทศ นาย John บอกว่าถ้าจะให้ดี ทำงานเข้าขากัน เขาแนะนำให้ประธานาธิบดีตั้งนาย Allen น้องชายเขามาเป็นหัวหน้าหน่วยงาน CIA จะดีกว่า ประธานาธิบดีก็ยอม และเพื่อไม่ให้นาย Donovan กินแห้ว เลยส่งมาเป็นฑูตที่เมืองไทย ซึ่งนาย Kenneth ว่า ก็เป็นตำแหน่งที่สำคัญไม่น้อยกว่าเป็นหัวหน้า CIA หรอกนะ และตอนนั้นนาย Donovan ก็อายุ 70 ปีแล้ว
    (หมายเหตุคนเล่านิทาน : นาย Kenneth น่าจะวิเคราะห์เรื่องนาย Donovan ไม่พอใจที่ต้องมาเป็นฑูตที่เมืองไทยไม่ถูกต้อง มันน่าจะตรงกันข้าม นาย Donovan น่าจะถูกเลือกมาโดยเฉพาะให้มาเป็นฑูตในตอนนั้น เพราะเป็นช่วงที่อเมริกากำลังจะเริ่มรบกับเวียตนาม จำเป็นต้องทำการเข้าใจทั้งการรบ และเข้าใจทั้งเมืองไทยและอินโดจีนอย่างดี และอาจจะมีภาระกิจอื่นแถม! นาย Donovan รู้จักคนไทยสำคัญๆหลายคน สมัยทำงาน OSS น่าจะได้รับความร่วมมือมากกว่า จะเอาหน้าใหม่มา หมายเหตุเพิ่มเติม ทั้งประธานาธิบดี Eisenhower นาย John Foster Dulles และนาย Donovan ล้วนเกี่ยวกับ CFR ทั้งสิ้นครับ)
    เมื่อนาย Donovan ได้เป็นฑูตประจำไทย นาย Kenneth เป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศอเมริกา ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลประเทศ ไทย ทั้ง 2 คน จึงได้กลับมาร่วมงานกันอีก นาย Kenneth ถือโอกาสติดตามนาย Donovan มาเมืองไทย อ้างว่าจะมาติวเข้มให้ ว่าใครเป็นใครในเมืองไทย เรื่องนี้ ต้องยอมรับว่านาย Kenneth “รู้งาน” เพราะสมัยนายDonovan คุมหน่วย OSS ตอนสงครามโลก แม้เขาจะรู้จักกับคนไทยที่ร่วมงาน OSS เป็นอย่างดี โดยเฉพาะนายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งตอนหลังหมดอำนาจ แถม ยืนอยู่คนละค่ายกับ จอมพล ป ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีขณะนั้นอีกด้วย การเมืองไทยซึ่งช่วงน้ันแบ่งเป็นหลายก๊ก หลายแก๊งค์ ถ้าไม่ติวกันให้ดี อาจจะมีการเหยียบตาปลาเสียเรื่องกันซะเปล่าๆ
    นาย Kenneth โม้ต่อไปว่า เดิมอเมริกาให้การสนับสนุนแก่เผ่า (อตร.สมัยนั้น โดยเฉพาะด้านตำรวจตระเวนชายแดน) แต่เป็นเพราะฝีมือเขานะ ที่หว่านล้อมให้นาย Donovan ทำเรื่องไปทางวอชิงตันว่าควรสนับสนุนสฤษดิ์ด้วย เพราะสฤษดิ์น่าจะเป็นผู้นำที่ดีกว่าเผ่า วอชิงตันเห็นด้วย และเริ่มให้การสนับสนุนทางการทหารและการเงินแก่กองทัพไทย และด้วยเงินสนับสนุนของอเมริกานี้ ทำให้สฤษดิ์เริ่มมีรัศมีอำนาจฉายแสงสู้กับเผ่าได้ ทั้ง 2 คน แข่งกันสร้างอำนาจและสร้างพรรคพวก อย่างสูสีกัน ถ้าเป็นม้าแข่งก็ต้องตัดสินด้วยรูปถ่าย
    ยังไม่รู้ว่าใครจะเข้าวิน สฤษดิ์ก็ดันล้มป่วย อเมริการีบประคองส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล Water Reed (แสดงว่าคุณป๋าถ้าจะเข้าวิน) แน่นอนคนที่ไปนั่งกุมมือคุณป๋ายามป่วย นอกจากนายพล Erskine (ที่ประจำอยู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษของ Pentagon ที่รัฐบาลอเมริกาส่งมาประกบสฤษดิ์เป็นพิเศษ และภายหลัง กลายเป็นเพื่อนซี้ ขนาดคุณป๋ายกลูกชายคนโต ให้เป็นลูกบุญธรรมของท่านนายพล) แน่นอนย่อมต้องมีนาย Kenneth นี่อีกคน ที่ไปนั่งคุยเป็นภาษาไทย ไม่ให้คุณป๋าเหงาหู อย่าลืมคุณป๋าไม่ชอบพูดภาษาอังกฤษ เมื่อไปนอนอยู่ต่างบ้านต่างเมือง มีตลกหัวทองมานั่งพูดไทยด้วย มันก็หายเมื่อยมือเวลาพูดไปแยะ บางวันคุณป๋าก็ออกไปนั่งเล่น กินข้าวอยู่ที่บ้านนาย Kenneth ซึ่งถือโอกาสผูกมิตรชิดใกล้เข้าไปเรื่อยๆ แบบนี้ มันก็น่าจะสร้างความอบอุ่นหัวใจของคุณป๋าไม่น้อย เป็นธรรมดาของคนอยู่ไกลบ้าน
    คุณป๋าสฤษดิ์หายป่วยกลับมาเมืองไทยไม่นาน คุณป๋าก็ทำการรัฐประหารดีดจอมพล ป. ออกไปนุ่งกิโมโนอยู่ญี่ปุ่น ส่วนนายเผ่า Sea Supply คู่ปรับเก่าก็ถูกส่งตัวไปนั่งนับเนยแข็งอยู่ที่สวิส หลังจากตั้งหุ่นชื่อ พจน์ สารสิน เป็นนายกรัฐมนตรีขัดตาทัพอยู่แป๊บ หนึ่ง คุณป๋าก็รัฐประหารใหม่ คราวนี้เลิกเหนียม ตัดใจเป็นนายกรัฐมนตรีเอง ระหว่างคุณป๋าเป็นนายกฯ ก็ทำงานใกล้ชิดกับอเมริกา คุณป๋าทหารหาญคิดว่าอเมริกานักล่า เป็นเพื่อนรักยามยาก มาช่วยเหลือไม่ให้คอมมี่บุกไทยแลนด์ อยากได้อะไร เปรยปั๊บ ได้ปุ๊บ คุณป๋าก็เลยทั้งทุ่มทั้งเทตอบ ใครจะนึกว่าเพื่อนรักแอบเล่นบ ทตามสุภาษิต ช้างสาร งูเห่า ข้าเก่า มิตรรัก จดจำกันไว้ อย่าได้เชื่อจนหมดใจ เหลือที่ไว้ เผื่อขาด เผื่อเหลือบ้าง จะได้ไม่ต้องนั่งชีช้ำ นึกถึงประเทศอิหร่าน ฟิลิปปินส์ ลิเบีย อียิปต์ อาฟกานิสถาน อิรัก ฯลฯ ไว้บ้างก็แล้วกัน
    ส่วนนาย Kenneth เอง น่าจะได้ความดีความชอบไม่น้อย จากการแทงม้าถูกตัว เมื่อคุณป๋าเป็นนายกไทยแลนด์ สัมพันธ์ไทยอเมริกาลื่นเหมือนทาด้วยน้ำมันของ Standard Oil นาย Kenneth จึงได้ย้ายไปนั่งคอยืดอยู่สภาความมั่นคงของอเมริกา National Security Council (NSC) เรียกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ระดับ “วงในสุด” ของอเมริกา เขาอยู่หน่วยงานที่รับผิดชอบวางแผนเกี่ยวกับ ความมั่นคงของประเทศ และติดตามผลงาน แม่เจ้าโว้ย ! มันใหญ่จริงๆ สำหรับอดีตมิชชั่นนารีจากเมืองตรัง เขาทำงานกับหน่วยงานและบุคคลระดับใหญ่ และลับเฉพาะสูงสุดของประเทศ เช่น รัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีต่างประเทศ หัวหน้างานข่าวกรอง (CIA) อะไรทำนองนั้น หน้าที่ของเขาคือร่างแผนปฏิบัติการณ์ในภูมิภาคเอเซียใต้ และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เขาทำงานนี้จนถึงสมัยรัฐบาล Kennedy เป็นมิชชั่นนารี พันธ์พิเศษจริงๆ เก่งขนาดร่างแผนการล่าได้ หรือว่าเป็นภาระกิจถนัดของมิชชั่นนารีพันธ์พิเศษ ?!

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 11 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 11 ค.ศ. 1953 นาย Donovan ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเอกอัครราชฑูตอเมริกาประจำเมืองไทย นาย Kenneth บอกว่าที่นาย Donovan ต้องมาเป็นฑูตที่เมืองไทย มันเป็นการแลกเปลี่ยนที่นาย Donovan ไม่พอใจนัก เนื่องมาจากเมื่อสงครามโลกครั้ง ที่ 2 สิ้นสุด ประธานาธิบดี Truman ก็สั่งยกเลิกหน่วยงาน OSS ของนาย Donovan เมื่อนาย Eisenhower ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี เขาสั่งให้มีการจัดตั้งหน่วยงานข่าวกรองรูปแบบใหม่ คือ Central Intelligence Agency (CIA) หน่วยงานนี้ให้ขึ้นตรงต่อประธานาธิบดี นาย Donovan ก็ดำเนินการตามสั่งจนเสร็จ และคิดว่าตนจะได้เป็นหัวหน้า CIA คนแรก แต่พอตั้งเสร็จ ประธานาธิบดี Eisenhower ซึ่งเลือกนาย John Foster Dulles มาเป็น รมว.ต่างประเทศ นาย John บอกว่าถ้าจะให้ดี ทำงานเข้าขากัน เขาแนะนำให้ประธานาธิบดีตั้งนาย Allen น้องชายเขามาเป็นหัวหน้าหน่วยงาน CIA จะดีกว่า ประธานาธิบดีก็ยอม และเพื่อไม่ให้นาย Donovan กินแห้ว เลยส่งมาเป็นฑูตที่เมืองไทย ซึ่งนาย Kenneth ว่า ก็เป็นตำแหน่งที่สำคัญไม่น้อยกว่าเป็นหัวหน้า CIA หรอกนะ และตอนนั้นนาย Donovan ก็อายุ 70 ปีแล้ว (หมายเหตุคนเล่านิทาน : นาย Kenneth น่าจะวิเคราะห์เรื่องนาย Donovan ไม่พอใจที่ต้องมาเป็นฑูตที่เมืองไทยไม่ถูกต้อง มันน่าจะตรงกันข้าม นาย Donovan น่าจะถูกเลือกมาโดยเฉพาะให้มาเป็นฑูตในตอนนั้น เพราะเป็นช่วงที่อเมริกากำลังจะเริ่มรบกับเวียตนาม จำเป็นต้องทำการเข้าใจทั้งการรบ และเข้าใจทั้งเมืองไทยและอินโดจีนอย่างดี และอาจจะมีภาระกิจอื่นแถม! นาย Donovan รู้จักคนไทยสำคัญๆหลายคน สมัยทำงาน OSS น่าจะได้รับความร่วมมือมากกว่า จะเอาหน้าใหม่มา หมายเหตุเพิ่มเติม ทั้งประธานาธิบดี Eisenhower นาย John Foster Dulles และนาย Donovan ล้วนเกี่ยวกับ CFR ทั้งสิ้นครับ) เมื่อนาย Donovan ได้เป็นฑูตประจำไทย นาย Kenneth เป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศอเมริกา ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลประเทศ ไทย ทั้ง 2 คน จึงได้กลับมาร่วมงานกันอีก นาย Kenneth ถือโอกาสติดตามนาย Donovan มาเมืองไทย อ้างว่าจะมาติวเข้มให้ ว่าใครเป็นใครในเมืองไทย เรื่องนี้ ต้องยอมรับว่านาย Kenneth “รู้งาน” เพราะสมัยนายDonovan คุมหน่วย OSS ตอนสงครามโลก แม้เขาจะรู้จักกับคนไทยที่ร่วมงาน OSS เป็นอย่างดี โดยเฉพาะนายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งตอนหลังหมดอำนาจ แถม ยืนอยู่คนละค่ายกับ จอมพล ป ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีขณะนั้นอีกด้วย การเมืองไทยซึ่งช่วงน้ันแบ่งเป็นหลายก๊ก หลายแก๊งค์ ถ้าไม่ติวกันให้ดี อาจจะมีการเหยียบตาปลาเสียเรื่องกันซะเปล่าๆ นาย Kenneth โม้ต่อไปว่า เดิมอเมริกาให้การสนับสนุนแก่เผ่า (อตร.สมัยนั้น โดยเฉพาะด้านตำรวจตระเวนชายแดน) แต่เป็นเพราะฝีมือเขานะ ที่หว่านล้อมให้นาย Donovan ทำเรื่องไปทางวอชิงตันว่าควรสนับสนุนสฤษดิ์ด้วย เพราะสฤษดิ์น่าจะเป็นผู้นำที่ดีกว่าเผ่า วอชิงตันเห็นด้วย และเริ่มให้การสนับสนุนทางการทหารและการเงินแก่กองทัพไทย และด้วยเงินสนับสนุนของอเมริกานี้ ทำให้สฤษดิ์เริ่มมีรัศมีอำนาจฉายแสงสู้กับเผ่าได้ ทั้ง 2 คน แข่งกันสร้างอำนาจและสร้างพรรคพวก อย่างสูสีกัน ถ้าเป็นม้าแข่งก็ต้องตัดสินด้วยรูปถ่าย ยังไม่รู้ว่าใครจะเข้าวิน สฤษดิ์ก็ดันล้มป่วย อเมริการีบประคองส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล Water Reed (แสดงว่าคุณป๋าถ้าจะเข้าวิน) แน่นอนคนที่ไปนั่งกุมมือคุณป๋ายามป่วย นอกจากนายพล Erskine (ที่ประจำอยู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษของ Pentagon ที่รัฐบาลอเมริกาส่งมาประกบสฤษดิ์เป็นพิเศษ และภายหลัง กลายเป็นเพื่อนซี้ ขนาดคุณป๋ายกลูกชายคนโต ให้เป็นลูกบุญธรรมของท่านนายพล) แน่นอนย่อมต้องมีนาย Kenneth นี่อีกคน ที่ไปนั่งคุยเป็นภาษาไทย ไม่ให้คุณป๋าเหงาหู อย่าลืมคุณป๋าไม่ชอบพูดภาษาอังกฤษ เมื่อไปนอนอยู่ต่างบ้านต่างเมือง มีตลกหัวทองมานั่งพูดไทยด้วย มันก็หายเมื่อยมือเวลาพูดไปแยะ บางวันคุณป๋าก็ออกไปนั่งเล่น กินข้าวอยู่ที่บ้านนาย Kenneth ซึ่งถือโอกาสผูกมิตรชิดใกล้เข้าไปเรื่อยๆ แบบนี้ มันก็น่าจะสร้างความอบอุ่นหัวใจของคุณป๋าไม่น้อย เป็นธรรมดาของคนอยู่ไกลบ้าน คุณป๋าสฤษดิ์หายป่วยกลับมาเมืองไทยไม่นาน คุณป๋าก็ทำการรัฐประหารดีดจอมพล ป. ออกไปนุ่งกิโมโนอยู่ญี่ปุ่น ส่วนนายเผ่า Sea Supply คู่ปรับเก่าก็ถูกส่งตัวไปนั่งนับเนยแข็งอยู่ที่สวิส หลังจากตั้งหุ่นชื่อ พจน์ สารสิน เป็นนายกรัฐมนตรีขัดตาทัพอยู่แป๊บ หนึ่ง คุณป๋าก็รัฐประหารใหม่ คราวนี้เลิกเหนียม ตัดใจเป็นนายกรัฐมนตรีเอง ระหว่างคุณป๋าเป็นนายกฯ ก็ทำงานใกล้ชิดกับอเมริกา คุณป๋าทหารหาญคิดว่าอเมริกานักล่า เป็นเพื่อนรักยามยาก มาช่วยเหลือไม่ให้คอมมี่บุกไทยแลนด์ อยากได้อะไร เปรยปั๊บ ได้ปุ๊บ คุณป๋าก็เลยทั้งทุ่มทั้งเทตอบ ใครจะนึกว่าเพื่อนรักแอบเล่นบ ทตามสุภาษิต ช้างสาร งูเห่า ข้าเก่า มิตรรัก จดจำกันไว้ อย่าได้เชื่อจนหมดใจ เหลือที่ไว้ เผื่อขาด เผื่อเหลือบ้าง จะได้ไม่ต้องนั่งชีช้ำ นึกถึงประเทศอิหร่าน ฟิลิปปินส์ ลิเบีย อียิปต์ อาฟกานิสถาน อิรัก ฯลฯ ไว้บ้างก็แล้วกัน ส่วนนาย Kenneth เอง น่าจะได้ความดีความชอบไม่น้อย จากการแทงม้าถูกตัว เมื่อคุณป๋าเป็นนายกไทยแลนด์ สัมพันธ์ไทยอเมริกาลื่นเหมือนทาด้วยน้ำมันของ Standard Oil นาย Kenneth จึงได้ย้ายไปนั่งคอยืดอยู่สภาความมั่นคงของอเมริกา National Security Council (NSC) เรียกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ระดับ “วงในสุด” ของอเมริกา เขาอยู่หน่วยงานที่รับผิดชอบวางแผนเกี่ยวกับ ความมั่นคงของประเทศ และติดตามผลงาน แม่เจ้าโว้ย ! มันใหญ่จริงๆ สำหรับอดีตมิชชั่นนารีจากเมืองตรัง เขาทำงานกับหน่วยงานและบุคคลระดับใหญ่ และลับเฉพาะสูงสุดของประเทศ เช่น รัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีต่างประเทศ หัวหน้างานข่าวกรอง (CIA) อะไรทำนองนั้น หน้าที่ของเขาคือร่างแผนปฏิบัติการณ์ในภูมิภาคเอเซียใต้ และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เขาทำงานนี้จนถึงสมัยรัฐบาล Kennedy เป็นมิชชั่นนารี พันธ์พิเศษจริงๆ เก่งขนาดร่างแผนการล่าได้ หรือว่าเป็นภาระกิจถนัดของมิชชั่นนารีพันธ์พิเศษ ?! คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 192 Views 0 Reviews
  • เศร้ากับนักต่อสู้เราจริงๆ,ตอนนี้ประชาชนกำลังทำสงครามกับรัฐบาลในอดีตชัดเจน,สนามรบนี้คือสนามศาลภายใต้อำนาจรัฐบาลด้วย,หน่วยงานทั้งประเทศรัฐบาลเป็นเจ้าของ ตลอดถึงคนข้าราชการ กำลังพลราชการรัฐด้วย,เรา..ประชาชนทำไมต้องต่อสู้กับรัฐบาลในอดีตของตนเอง ทำผิดก็โทษเล็กน้อยหรือไม่ผิดเลย,ประชาชนขโมยของ,ปล้นชิงทองคำแค่1เส้นหรือสูงสุด100เส้นบวกให้อีก1,000เส้นๆละ10บาทๆละ50,000ก็เถอะ,รวมมูลค่าเสียหายสุดๆคือ500ล้านบาทเอง,นี้นักการเมืองเหี้ยขั้นต่ำคนละ1,000ล้านอัพ รอดคดีเกือบหมดแดกฉลาดด้วย,คือยกย่องวิธีการแดกและเอาตัวริดก็ว่าเนาะ,ทุจริตกว่า100,000ล้านอีกก็รอดแบบจำนำข้าว,ตามจริงๆไม่รอดหรอก,หันย้อนมาดูประชาชนบ้าง ปล้นชิงทองคำ ไม่กี่เส้น ปล้นธนาคาร ไม่กี่บาทกี่ล้านแมร่งติดคุกกันหลายปีเลย,แดกด้วยวิธีสัมปทานผูกขาดอีกตรึม.,มองดูดีๆประเทศเรามันเสื่อมทรามจริงๆนะ,ในอดีตตำรวจจับใบขับขี่จับหมวกกันน็อคนักเรียนนักศึกษาก็เหี้ยมากแล้วหรือประชาชนทั่วประเทศเรานั้นล่ะ โคตรช่องทางทำแดกที่ชั่วเลวผ่านตัวกฎหมายนี้บัดสบจริงๆ.
    เศร้ากับนักต่อสู้เราจริงๆ,ตอนนี้ประชาชนกำลังทำสงครามกับรัฐบาลในอดีตชัดเจน,สนามรบนี้คือสนามศาลภายใต้อำนาจรัฐบาลด้วย,หน่วยงานทั้งประเทศรัฐบาลเป็นเจ้าของ ตลอดถึงคนข้าราชการ กำลังพลราชการรัฐด้วย,เรา..ประชาชนทำไมต้องต่อสู้กับรัฐบาลในอดีตของตนเอง ทำผิดก็โทษเล็กน้อยหรือไม่ผิดเลย,ประชาชนขโมยของ,ปล้นชิงทองคำแค่1เส้นหรือสูงสุด100เส้นบวกให้อีก1,000เส้นๆละ10บาทๆละ50,000ก็เถอะ,รวมมูลค่าเสียหายสุดๆคือ500ล้านบาทเอง,นี้นักการเมืองเหี้ยขั้นต่ำคนละ1,000ล้านอัพ รอดคดีเกือบหมดแดกฉลาดด้วย,คือยกย่องวิธีการแดกและเอาตัวริดก็ว่าเนาะ,ทุจริตกว่า100,000ล้านอีกก็รอดแบบจำนำข้าว,ตามจริงๆไม่รอดหรอก,หันย้อนมาดูประชาชนบ้าง ปล้นชิงทองคำ ไม่กี่เส้น ปล้นธนาคาร ไม่กี่บาทกี่ล้านแมร่งติดคุกกันหลายปีเลย,แดกด้วยวิธีสัมปทานผูกขาดอีกตรึม.,มองดูดีๆประเทศเรามันเสื่อมทรามจริงๆนะ,ในอดีตตำรวจจับใบขับขี่จับหมวกกันน็อคนักเรียนนักศึกษาก็เหี้ยมากแล้วหรือประชาชนทั่วประเทศเรานั้นล่ะ โคตรช่องทางทำแดกที่ชั่วเลวผ่านตัวกฎหมายนี้บัดสบจริงๆ.
    ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.ปชป. ชี้ศาลชำแหละราชทัณฑ์ กระบวนการส่งตัวทักษิณไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ ป.ป.ช.รับไม้ต่อ ขอบคุณเจ้าตัวยอมมาฟังคำพิพากษา แต่ประเทศไทยไม่คุ้ม ติดคุกปีเดียวทั้งที่ความเสียหายเป็นแสนล้าน ด้านกลุ่ม คปท.นัดพฤหัสฯ นี้ จี้ ป.ป.ช.เดินหน้าเอาผิดข้าราชการที่ช่วยเหลือด้วย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000086266

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 Comments 0 Shares 91 Views 0 Reviews
  • ..อันตรายมาก,ส่อแววไม่ซื่อสัตย์สุจริตชัดเจน มีคลิปยืนยันการพูดจาจริง,เจตนาและสมยอมให้แบ่งปันกันจริง แต่ติดที่นั้นคือเขตดินแดนอธิปไตยไทยชัดเจน,แต่ตนซึ่งมีวุฒิภาวะครบถ้วมมีความรู้ดีด้วยระดับผู้บริหารแล้วกับตระหนักถึงมูลความจริงไม่ได้ว่า ความจริงนั้นคือเขตดินแดนไทย ถ้าแบ่ง50:50ให้เขมร แสดงว่ายกดินแดรอธิปไตยไทยให้เขมรด้วย,เห็นชอบเห็นด้วยในการยกดินแดนที่แบ่งกัน50:50นี้ให้เป็นของเขมร ซึ่งความจริงเป็นของไทยปกติอยู่เดิมที่100%,
    ..ตนเองจะมาเป็น รมต.พลังงานด้วย ถือว่าไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง,ไม่ต่างเลยที่แสดงความเห็นว่า เห็นชอบในการแก้ไข ม.112 ออกรายการสื่อหรือบนเวทีต่างๆผ่านมวลชน,แสดงเจตนาตนว่าร่วมด้วยในการแก้ไข ม.112 อันเดียวกัน,นี้ก็ด้วยอันเดียวกัน มีเจตนาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนแก่เอกชนไทยฝ่ายต่างๆหรือกลุ่มคนที่ทำกิจการด้านพลังงานชัดเจน,หาประโยชน์ด้วยบนอำนาจตำแหน่งในอนาคตหากตนได้เข้าไปมีอำนาจ,สามารถสนองเจตนากลุ่มชนตนที่พูดป่านสื่อ ออกรายการลักษณะนี้ได้,นี้มีความผิด ม.119ร่วมด้วยชัดเจน เจตนาส่งมอบผลประโยชน์ด้านอธิปไตยตนให้อีกฝ่ายหรือศัตรูชัดเจน และหรือเจตนาทำให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยไทยตนจนนำไปสู่เสียพื้นที่เสียเส้นขีดแดน กินพื้นที่อ่าวไทยตน กินอธิปไตยไทยโดยมีปกติไปกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งผลคือได้แบ่งครึ่งกัน50:50สำเร็จผลแล้วนั้นเอง.
    ..ครม.ทั้งคณะของรัฐบาลนายกฯ32หนูนี่ แม้เน่า1คนก็เน่าทั้งคอก ถึงว่าเป็นชุดครม.อันโมฆะบุรุษ เป็นภัยร้ายแรงต่ออธิปไตยไทย มีคลิปสนับสนุนยืนยันการกระทำชัดเจนด้วย ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ส่อเจตนาไม่ปกป้องหวงแหนสมบัติทรัพยากรมีค่าในบ้านในเมืองตน ทำเล่นๆเหมือนเด็กๆมาแบ่งขนมกันกินคนละครึ่ง,ทั้งมาจากกิจการด้านพลังงานด้วย จากคนนอกอีก,ซึ่งผิดวิสัยระบบเลือกตัังของประชาชนมาก,แม้กฎหมายสนับสนุนเขียนให้ชอบธรรมก็ผิดหลักธรรมชาติสามัญของระบบประชาธิปไตยไทย และประชาชนมิได้เลือกตั้งตรงคนเหล่านี้จากภายนอกด้วย,แม้ทูลกล้าฯขึ้นไปก็มิชอบธรรม,เพราะเสมือนเป็นครม.คนนอก นอกการเลือกตั้งจากระบบประชาชนประชาธิปไตย,ครม.ทั้งคณะตลอด นายกฯหนูมีสิทธิติดคุกในอนาคตแน่นอน ก้าวล่วงระบบประชาธิปไตยด้วย ทำอำนาจพระมหากษัตริย์หม่นหม่อง ก้าวล่วงพระราชอำนาจ องคมนตรีผู้ถวายงานก็สมควรโดนด้วย,เช่นนั้นไม่สมควรมีการเลือกตั้งจากประชาชนทั้งประเทศก็ได้,คณะครม.เอาคนนอกมานั่งได้สบายใจ กฎเขียนกฎหมายตามใจคนมีอำนาจได้หมด,จะแบ่งแผ่นดินไทย50:50ตรงไหนในอนาคตก็ได้,พูดล่วงหน้าตอนยังไม่เป็นครม.ก็ได้ เป็นแล้วจะพูดเจตนาจริงของตนไม่ได้อีก,พูดเห็นดีเห็นงามแบ่ง50:50ดินแดนอธิปไตยตนก่อนทำสงครามภูมะเขือก็ได้ บ้านหนองจานก็ได้มาแบ่งพื้นที่กัน50:50เถอะพูดเปิดเผยขณะตนยังไม่เป็นครม.รมต.ก็ได้,พูดเห็นด้วยในการแก้ไข ม.112ก่อนเป็นว่าที่นายกฯก็ได้ นี้ก็คงอันเดียวกันสินะ,คนใหญ่คนโตพูดอะไรก็ไม่ผิด เอาผิดจากคำพูดจากคลิปไม่ได้ ไม่เจตนาตั้งใจพูดก็คงอีกเรื่อง,แต่นี้ตั้งใจชัดเจน.,สถานะความเป็นครม คณะครม. หลังโปรดเกล้าลงมาก็สมควรขาดคุณสมบัติอย่างแรงและคือเรื่อง ม.119ด้วยอธิปไตยดินแดนไทยเต็มๆ,50ส่วนจากเดิมเป็นของไทยมีคำพูดทางวาจาประจักษ์ชัดว่าแบ่งดินแดนพื้นที่ไทยตนให้เขมร50ส่วนไปทำประโยชน์ร่วมกัน50:50 ,
    ..คณะรวมพลังแผ่นดินไทย ท่านเห็นตรงนี้มั้ย มิอาจปล่อยคนชั่วเลวลักษณะอำนวยเอื้อสร้างให้กลุ่มทุนมุ่งหวังผลประโยชน์ได้,นี้คือการสอดไส้ความไม่ซื่อสัตย์ชัดเจน เจตนาไม่สุจริตใจอย่างร้ายแรง ผลจริยธรรมของการเป็นผู้นำที่ดีด้วย ขาดคุณสมบัติมากมาย นอกจากมาจากคนนอกที่ประชาชนไม่ได้เลือกตั้งนะ เสือกมาได้อีก,ผิด ผิด ผิดธรรมาภิบาลหลักการสร้างฐานชัยที่ดีงามชัดเจน นี้คือการสร้างฐานแห่งความชั่วร้ายเลงทรามชัดเจนมากการ.
    ..คณะรวมพลังแผ่นดินฯหากดูไม่ออก ไม่แสดงเจตนาจุดยืนชัดเจน ตรวจสอบพวกครม.เหี้ยนี้ด้วย ให้เป็นจริงชัดเจนแบบคลิปนี้ คณะรวมพลังแผ่นดินฯท่านมีไส้ศึกภายในคณะแล้ว,ไม่ต่อสู้กับสิ่งชั่วเลวจริง ,และเชื่อว่าคณะรวมพลังแผ่นดินฯต้องมองเห็น อาจฟ้องดำเนินคดีข้อหาความไม่ซื่อสัตย์สุจิตใจได้อีก,ไม่ต่างจากคลิปอดีตนายกฯอุ๊งอิ๊งแน่นอน,และคลิปนี้พร้อมใจแบ่งร่วมดินแดนอธิปไตยตนกับเขมรชัดเจน.


    https://youtube.com/watch?v=6mxfFl4dATc&si=TewIiacimVIugQa7
    ..อันตรายมาก,ส่อแววไม่ซื่อสัตย์สุจริตชัดเจน มีคลิปยืนยันการพูดจาจริง,เจตนาและสมยอมให้แบ่งปันกันจริง แต่ติดที่นั้นคือเขตดินแดนอธิปไตยไทยชัดเจน,แต่ตนซึ่งมีวุฒิภาวะครบถ้วมมีความรู้ดีด้วยระดับผู้บริหารแล้วกับตระหนักถึงมูลความจริงไม่ได้ว่า ความจริงนั้นคือเขตดินแดนไทย ถ้าแบ่ง50:50ให้เขมร แสดงว่ายกดินแดรอธิปไตยไทยให้เขมรด้วย,เห็นชอบเห็นด้วยในการยกดินแดนที่แบ่งกัน50:50นี้ให้เป็นของเขมร ซึ่งความจริงเป็นของไทยปกติอยู่เดิมที่100%, ..ตนเองจะมาเป็น รมต.พลังงานด้วย ถือว่าไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง,ไม่ต่างเลยที่แสดงความเห็นว่า เห็นชอบในการแก้ไข ม.112 ออกรายการสื่อหรือบนเวทีต่างๆผ่านมวลชน,แสดงเจตนาตนว่าร่วมด้วยในการแก้ไข ม.112 อันเดียวกัน,นี้ก็ด้วยอันเดียวกัน มีเจตนาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนแก่เอกชนไทยฝ่ายต่างๆหรือกลุ่มคนที่ทำกิจการด้านพลังงานชัดเจน,หาประโยชน์ด้วยบนอำนาจตำแหน่งในอนาคตหากตนได้เข้าไปมีอำนาจ,สามารถสนองเจตนากลุ่มชนตนที่พูดป่านสื่อ ออกรายการลักษณะนี้ได้,นี้มีความผิด ม.119ร่วมด้วยชัดเจน เจตนาส่งมอบผลประโยชน์ด้านอธิปไตยตนให้อีกฝ่ายหรือศัตรูชัดเจน และหรือเจตนาทำให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยไทยตนจนนำไปสู่เสียพื้นที่เสียเส้นขีดแดน กินพื้นที่อ่าวไทยตน กินอธิปไตยไทยโดยมีปกติไปกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งผลคือได้แบ่งครึ่งกัน50:50สำเร็จผลแล้วนั้นเอง. ..ครม.ทั้งคณะของรัฐบาลนายกฯ32หนูนี่ แม้เน่า1คนก็เน่าทั้งคอก ถึงว่าเป็นชุดครม.อันโมฆะบุรุษ เป็นภัยร้ายแรงต่ออธิปไตยไทย มีคลิปสนับสนุนยืนยันการกระทำชัดเจนด้วย ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ส่อเจตนาไม่ปกป้องหวงแหนสมบัติทรัพยากรมีค่าในบ้านในเมืองตน ทำเล่นๆเหมือนเด็กๆมาแบ่งขนมกันกินคนละครึ่ง,ทั้งมาจากกิจการด้านพลังงานด้วย จากคนนอกอีก,ซึ่งผิดวิสัยระบบเลือกตัังของประชาชนมาก,แม้กฎหมายสนับสนุนเขียนให้ชอบธรรมก็ผิดหลักธรรมชาติสามัญของระบบประชาธิปไตยไทย และประชาชนมิได้เลือกตั้งตรงคนเหล่านี้จากภายนอกด้วย,แม้ทูลกล้าฯขึ้นไปก็มิชอบธรรม,เพราะเสมือนเป็นครม.คนนอก นอกการเลือกตั้งจากระบบประชาชนประชาธิปไตย,ครม.ทั้งคณะตลอด นายกฯหนูมีสิทธิติดคุกในอนาคตแน่นอน ก้าวล่วงระบบประชาธิปไตยด้วย ทำอำนาจพระมหากษัตริย์หม่นหม่อง ก้าวล่วงพระราชอำนาจ องคมนตรีผู้ถวายงานก็สมควรโดนด้วย,เช่นนั้นไม่สมควรมีการเลือกตั้งจากประชาชนทั้งประเทศก็ได้,คณะครม.เอาคนนอกมานั่งได้สบายใจ กฎเขียนกฎหมายตามใจคนมีอำนาจได้หมด,จะแบ่งแผ่นดินไทย50:50ตรงไหนในอนาคตก็ได้,พูดล่วงหน้าตอนยังไม่เป็นครม.ก็ได้ เป็นแล้วจะพูดเจตนาจริงของตนไม่ได้อีก,พูดเห็นดีเห็นงามแบ่ง50:50ดินแดนอธิปไตยตนก่อนทำสงครามภูมะเขือก็ได้ บ้านหนองจานก็ได้มาแบ่งพื้นที่กัน50:50เถอะพูดเปิดเผยขณะตนยังไม่เป็นครม.รมต.ก็ได้,พูดเห็นด้วยในการแก้ไข ม.112ก่อนเป็นว่าที่นายกฯก็ได้ นี้ก็คงอันเดียวกันสินะ,คนใหญ่คนโตพูดอะไรก็ไม่ผิด เอาผิดจากคำพูดจากคลิปไม่ได้ ไม่เจตนาตั้งใจพูดก็คงอีกเรื่อง,แต่นี้ตั้งใจชัดเจน.,สถานะความเป็นครม คณะครม. หลังโปรดเกล้าลงมาก็สมควรขาดคุณสมบัติอย่างแรงและคือเรื่อง ม.119ด้วยอธิปไตยดินแดนไทยเต็มๆ,50ส่วนจากเดิมเป็นของไทยมีคำพูดทางวาจาประจักษ์ชัดว่าแบ่งดินแดนพื้นที่ไทยตนให้เขมร50ส่วนไปทำประโยชน์ร่วมกัน50:50 , ..คณะรวมพลังแผ่นดินไทย ท่านเห็นตรงนี้มั้ย มิอาจปล่อยคนชั่วเลวลักษณะอำนวยเอื้อสร้างให้กลุ่มทุนมุ่งหวังผลประโยชน์ได้,นี้คือการสอดไส้ความไม่ซื่อสัตย์ชัดเจน เจตนาไม่สุจริตใจอย่างร้ายแรง ผลจริยธรรมของการเป็นผู้นำที่ดีด้วย ขาดคุณสมบัติมากมาย นอกจากมาจากคนนอกที่ประชาชนไม่ได้เลือกตั้งนะ เสือกมาได้อีก,ผิด ผิด ผิดธรรมาภิบาลหลักการสร้างฐานชัยที่ดีงามชัดเจน นี้คือการสร้างฐานแห่งความชั่วร้ายเลงทรามชัดเจนมากการ. ..คณะรวมพลังแผ่นดินฯหากดูไม่ออก ไม่แสดงเจตนาจุดยืนชัดเจน ตรวจสอบพวกครม.เหี้ยนี้ด้วย ให้เป็นจริงชัดเจนแบบคลิปนี้ คณะรวมพลังแผ่นดินฯท่านมีไส้ศึกภายในคณะแล้ว,ไม่ต่อสู้กับสิ่งชั่วเลวจริง ,และเชื่อว่าคณะรวมพลังแผ่นดินฯต้องมองเห็น อาจฟ้องดำเนินคดีข้อหาความไม่ซื่อสัตย์สุจิตใจได้อีก,ไม่ต่างจากคลิปอดีตนายกฯอุ๊งอิ๊งแน่นอน,และคลิปนี้พร้อมใจแบ่งร่วมดินแดนอธิปไตยตนกับเขมรชัดเจน. https://youtube.com/watch?v=6mxfFl4dATc&si=TewIiacimVIugQa7
    0 Comments 0 Shares 136 Views 0 Reviews
More Results