• "ดร.เอ้" ประกาศ ไทยก้าวใหม่พร้อมเต็มที่ ลงพื้นที่ทุกวัน คนสมัครเข้าพรรคเพียบ พร้อมส่ง สส.ลงทุกจังหวัด หวังทำการเมืองสร้างสรรค์
    https://www.thai-tai.tv/news/22432/
    .
    #ไทยไท #สุชัชวีร์ #ไทยก้าวใหม่ #ยุบสภา #การเมืองสร้างสรรค์ #วิกฤตน้ำท่วม

    "ดร.เอ้" ประกาศ ไทยก้าวใหม่พร้อมเต็มที่ ลงพื้นที่ทุกวัน คนสมัครเข้าพรรคเพียบ พร้อมส่ง สส.ลงทุกจังหวัด หวังทำการเมืองสร้างสรรค์ https://www.thai-tai.tv/news/22432/ . #ไทยไท #สุชัชวีร์ #ไทยก้าวใหม่ #ยุบสภา #การเมืองสร้างสรรค์ #วิกฤตน้ำท่วม
    0 Comments 0 Shares 23 Views 0 Reviews
  • กรณีศึกษาโรงแรมแชงกรีล่าเชียงใหม่รอดวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ตลอด 17 ปีเพราะมีวิสัยทัศน์และสติปัญญา บริหารระบบจัดการระบายน้ำและติดตั้ง Flood Gate ป้องกันน้ำท่วมที่ภาครัฐต้องมาเรียนรู้นำไปใช้แก้วิกฤติให้ประชาชน

    ท่ามกลางวิกฤติน้ำท่วมหนักรอบร้อยปีของจังหวัดเชียงใหม่ ทีมวลน้ำปริมาณมหาศาลไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ โดยที่สถานีP1 แก้วนวรัฐ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีระดับน้ำสูงสุดเป็นประวัติศาตร์วัดได้ที่ 5.30 เมตรเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมานั้น แต่ปรากฏว่ามีโรงแรม 5 ดาว ชื่อว่า โรงแรมแชงกรีลา เชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่บน ถ.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กลับรอด ไม่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมแต่อย่างใด และเป็นพื้นที่แห้งเพียงหนึ่งเดียวบนถนนช้างคลานที่เต็มไปด้วยมวลน้ำระดับสูงเกือบ 1 เมตร

    ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด และประชาสัมพันธ์ โรงแรมแชงกรีลา เชียงใหม่ กล่าวยอมรับว่า ตั้งแต่ที่โรงแรมเปิดกิจการเมื่อปี 2550 ได้มีการวางระบบในการป้องกันน้ำท่วม เนื่องจากถนนช้างคลานเป็นพื้นที่ที่เคยประสบกับปัญหาน้ำท่วม โดยได้นำเอานวัตกรรมระบบป้องกันน้ำท่วม Flood Gate ซึ่งเป็นประตูกั้นน้ำที่ทำจากเหล็กพ่นกันสนิมอีพ็อกซี่ ส่วนตัวเสาเป็นอลูมิเนียม โดยมีการติดตั้งทั้งหมด 3 จุด ด้วยกันคือ
    จุดแรก คือบริเวณประตูด้านหน้าทางเข้าโรงแรม
    จุดที่ 2 ประตูทางลงบริเวณลานจอดรถ
    จุดที่ 3 บริเวณลานจอดรถชั้นล่าง

    พร้อมทั้งมีการวางระบบท่อน้ำโดยรอบโรงแรม เพื่อระบายน้ำที่เข้ามาให้ลงไปสู่บ่อเก็บน้ำของโรงแรม อีกทั้งยังมีเครื่องสูบน้ำ จำนวนสามเครื่องในการสูบน้ำออกจากบ่อเก็บน้ำ รวมถึงการใช้ประตูปิดเปิดน้ำเพื่อระบายน้ำออกจากโรงแรม ในขณะเดียวกันหากเกิดกรณีน้ำท่วม ประตูนี้จะถูกปิดเพื่อกันน้ำด้านนอกเข้าสู่บริเวณโรงแรม ทำให้ตลอดเวลากว่า 17 ปี โรงแรมไม่เคยประสบปัญหาน้ำท่วมแต่อย่างใด

    นอกจากนี้ ทางโรงแรมยังให้ความสำคัญในการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุในทุกสถานการณ์ เช่น น้ำท่วม, ไฟไหม้ และการประท้วง เป็นประจำทุก 1- 2 เดือน และมีทีมดูแลความปลอดภัยที่จะทำหน้าที่ในการประเมินสถานการณ์ อย่างเช่น กรณีที่เกิดอุทกภัย ทีมจะมีการประเมินสถานการณ์น้ำทุกชั่วโมง และเกาะติดการแจ้งเตือนจากภาครัฐอย่างใกล้ชิด ซึ่งข้อมูลต่างๆ จะมีการส่งในไลน์กลุ่มที่ตั้งขึ้นมา และพร้อมที่จะทำการติดตั้ง Flood Gate ได้ภายใน 1 ชั่วโมง 30 นาที ก่อนที่มวลน้ำจะทะลักเข้ามาในย่านถนนช้างคลาน

    "ตั้งแต่เปิดบริการ จังหวัดเชียงใหม่ประสบกับอุทกภัยเมื่อปี 2554, 2565, 2566 และ 2567 และน้ำทะลักเข้ามาในพื้นที่ถนนช้างคลาน แต่ไม่เคยเกิดเหตุน้ำท่วมเข้ามาในโรงแรมแต่อย่างใด และในระหว่างที่ภาพรวมของจังหวัดเชียงใหม่ประสบกับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมนั้น ธุรกิจของเรายังคงเปิดให้บริการตามปกติ จำนวน 277 ห้อง และลูกค้าก็ใช้บริการภายในโรงแรมกันตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำ ใช้บริการสปา และรับประทานอาหาร ซึ่งลูกค้าที่มาใช้บริการเข้าพักต่างมีความพอใจในการบริหารจัดการการป้องกันน้ำท่วมของโรงแรม และต้องขอขอบคุณที่มีการชื่นชมการรับมือกับภัยพิบัติของโรงแรม ซึ่งก็พร้อมที่จะให้หน่วยงานที่สนใจเข้ามาศึกษาดูระบบของโรงแรมได้"

    ที่มา : ข่าวคมชัดลึก

    #Thaitimes
    กรณีศึกษาโรงแรมแชงกรีล่าเชียงใหม่รอดวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ตลอด 17 ปีเพราะมีวิสัยทัศน์และสติปัญญา บริหารระบบจัดการระบายน้ำและติดตั้ง Flood Gate ป้องกันน้ำท่วมที่ภาครัฐต้องมาเรียนรู้นำไปใช้แก้วิกฤติให้ประชาชน ท่ามกลางวิกฤติน้ำท่วมหนักรอบร้อยปีของจังหวัดเชียงใหม่ ทีมวลน้ำปริมาณมหาศาลไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ โดยที่สถานีP1 แก้วนวรัฐ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีระดับน้ำสูงสุดเป็นประวัติศาตร์วัดได้ที่ 5.30 เมตรเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมานั้น แต่ปรากฏว่ามีโรงแรม 5 ดาว ชื่อว่า โรงแรมแชงกรีลา เชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่บน ถ.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กลับรอด ไม่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมแต่อย่างใด และเป็นพื้นที่แห้งเพียงหนึ่งเดียวบนถนนช้างคลานที่เต็มไปด้วยมวลน้ำระดับสูงเกือบ 1 เมตร ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด และประชาสัมพันธ์ โรงแรมแชงกรีลา เชียงใหม่ กล่าวยอมรับว่า ตั้งแต่ที่โรงแรมเปิดกิจการเมื่อปี 2550 ได้มีการวางระบบในการป้องกันน้ำท่วม เนื่องจากถนนช้างคลานเป็นพื้นที่ที่เคยประสบกับปัญหาน้ำท่วม โดยได้นำเอานวัตกรรมระบบป้องกันน้ำท่วม Flood Gate ซึ่งเป็นประตูกั้นน้ำที่ทำจากเหล็กพ่นกันสนิมอีพ็อกซี่ ส่วนตัวเสาเป็นอลูมิเนียม โดยมีการติดตั้งทั้งหมด 3 จุด ด้วยกันคือ จุดแรก คือบริเวณประตูด้านหน้าทางเข้าโรงแรม จุดที่ 2 ประตูทางลงบริเวณลานจอดรถ จุดที่ 3 บริเวณลานจอดรถชั้นล่าง พร้อมทั้งมีการวางระบบท่อน้ำโดยรอบโรงแรม เพื่อระบายน้ำที่เข้ามาให้ลงไปสู่บ่อเก็บน้ำของโรงแรม อีกทั้งยังมีเครื่องสูบน้ำ จำนวนสามเครื่องในการสูบน้ำออกจากบ่อเก็บน้ำ รวมถึงการใช้ประตูปิดเปิดน้ำเพื่อระบายน้ำออกจากโรงแรม ในขณะเดียวกันหากเกิดกรณีน้ำท่วม ประตูนี้จะถูกปิดเพื่อกันน้ำด้านนอกเข้าสู่บริเวณโรงแรม ทำให้ตลอดเวลากว่า 17 ปี โรงแรมไม่เคยประสบปัญหาน้ำท่วมแต่อย่างใด นอกจากนี้ ทางโรงแรมยังให้ความสำคัญในการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุในทุกสถานการณ์ เช่น น้ำท่วม, ไฟไหม้ และการประท้วง เป็นประจำทุก 1- 2 เดือน และมีทีมดูแลความปลอดภัยที่จะทำหน้าที่ในการประเมินสถานการณ์ อย่างเช่น กรณีที่เกิดอุทกภัย ทีมจะมีการประเมินสถานการณ์น้ำทุกชั่วโมง และเกาะติดการแจ้งเตือนจากภาครัฐอย่างใกล้ชิด ซึ่งข้อมูลต่างๆ จะมีการส่งในไลน์กลุ่มที่ตั้งขึ้นมา และพร้อมที่จะทำการติดตั้ง Flood Gate ได้ภายใน 1 ชั่วโมง 30 นาที ก่อนที่มวลน้ำจะทะลักเข้ามาในย่านถนนช้างคลาน "ตั้งแต่เปิดบริการ จังหวัดเชียงใหม่ประสบกับอุทกภัยเมื่อปี 2554, 2565, 2566 และ 2567 และน้ำทะลักเข้ามาในพื้นที่ถนนช้างคลาน แต่ไม่เคยเกิดเหตุน้ำท่วมเข้ามาในโรงแรมแต่อย่างใด และในระหว่างที่ภาพรวมของจังหวัดเชียงใหม่ประสบกับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมนั้น ธุรกิจของเรายังคงเปิดให้บริการตามปกติ จำนวน 277 ห้อง และลูกค้าก็ใช้บริการภายในโรงแรมกันตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำ ใช้บริการสปา และรับประทานอาหาร ซึ่งลูกค้าที่มาใช้บริการเข้าพักต่างมีความพอใจในการบริหารจัดการการป้องกันน้ำท่วมของโรงแรม และต้องขอขอบคุณที่มีการชื่นชมการรับมือกับภัยพิบัติของโรงแรม ซึ่งก็พร้อมที่จะให้หน่วยงานที่สนใจเข้ามาศึกษาดูระบบของโรงแรมได้" ที่มา : ข่าวคมชัดลึก #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 1 Shares 944 Views 0 Reviews
  • วิกฤตน้ำท่วมเชียงราย!
    บทพิสูจน์รัฐบาลนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ทำงานไม่เป็น
    .
    ผมมองว่ารัฐบาลชุดนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์นั้นทำงานไม่เป็นเลย ในการแก้วิกฤตแห่งชาติ คนเราถ้าทำงานเป็น ไม่ต้องลงไปถามประชาชนว่าเดือดร้อนไหม เขาเดือดร้อนแน่นอน
    .
    นายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนสั่ง คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ท่านดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แทนที่ท่านจะไปทะเลาะกับผู้ว่าฯ เชียงรายที่อีกไม่กี่วันจะเกษียณอายุแล้ว ไม่สนใจเลยว่าปัญหาของตัวเองต้องแก้อย่างไร ต้องสั่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาครีบไปจัดตั้งไฟฟ้าชั่วคราวให้ทุกคนได้ใช้
    .
    ที่สำคัญที่สุด บ้านหลังไหนมีโคลนเข้าไปเต็มที่ เยอะแยะไปหมด ซ่อมไม่ได้หรอก ต้องทิ้งไป และตรงนี้คือการตัดสินใจที่ต้องเด็ดขาดของนายกฯ ต้องทำ ต้องสำรวจทันทีเลย จัดงบประมาณ 3 แสนบาทต่อบ้าน ให้เขาไปเลย เอาไปสร้างบ้านใหม่ ถ้ายังไม่พอที่จะสร้างใหม่ ก็ให้ธนาคารกรุงไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย คุณผยง ต้องลงไปพร้อมนายกฯ
    .
    คนที่แม่สายไม่มีอาหารสดกินเลย ต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะขนอาหารสดไปให้เขากินได้ ตั้งเตารวมขึ้นมา แจกอาหารให้ทุกคน วันละ 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ทำกันไปเลย เอางบประมาณใส่เข้ามา ไม่ต้องไปรอ
    .
    แค่นี้เอง นักการเมืองคอร์รัปชันกันเป็นแสนล้าน เงินแค่นี้ช่วยเหลือประชาชนไม่ได้หรืออย่างไร ใช้เงินไม่เท่าไรหรอก จะมีกี่ที่เองที่น้ำท่วมแล้วดินไหลมากองเป็นเมตรๆ ที่หนักๆ มีแค่แม่สาย เพราะแม่สายเป็นเขตเศรษฐกิจ ยิ่งทำให้แม่สายเปิดได้เร็วเท่าไร ยิ่งดี เศรษฐกิจจะได้กลับมาหมุนเวียน
    วิกฤตน้ำท่วมเชียงราย! บทพิสูจน์รัฐบาลนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ทำงานไม่เป็น . ผมมองว่ารัฐบาลชุดนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์นั้นทำงานไม่เป็นเลย ในการแก้วิกฤตแห่งชาติ คนเราถ้าทำงานเป็น ไม่ต้องลงไปถามประชาชนว่าเดือดร้อนไหม เขาเดือดร้อนแน่นอน . นายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนสั่ง คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ท่านดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แทนที่ท่านจะไปทะเลาะกับผู้ว่าฯ เชียงรายที่อีกไม่กี่วันจะเกษียณอายุแล้ว ไม่สนใจเลยว่าปัญหาของตัวเองต้องแก้อย่างไร ต้องสั่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาครีบไปจัดตั้งไฟฟ้าชั่วคราวให้ทุกคนได้ใช้ . ที่สำคัญที่สุด บ้านหลังไหนมีโคลนเข้าไปเต็มที่ เยอะแยะไปหมด ซ่อมไม่ได้หรอก ต้องทิ้งไป และตรงนี้คือการตัดสินใจที่ต้องเด็ดขาดของนายกฯ ต้องทำ ต้องสำรวจทันทีเลย จัดงบประมาณ 3 แสนบาทต่อบ้าน ให้เขาไปเลย เอาไปสร้างบ้านใหม่ ถ้ายังไม่พอที่จะสร้างใหม่ ก็ให้ธนาคารกรุงไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย คุณผยง ต้องลงไปพร้อมนายกฯ . คนที่แม่สายไม่มีอาหารสดกินเลย ต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะขนอาหารสดไปให้เขากินได้ ตั้งเตารวมขึ้นมา แจกอาหารให้ทุกคน วันละ 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ทำกันไปเลย เอางบประมาณใส่เข้ามา ไม่ต้องไปรอ . แค่นี้เอง นักการเมืองคอร์รัปชันกันเป็นแสนล้าน เงินแค่นี้ช่วยเหลือประชาชนไม่ได้หรืออย่างไร ใช้เงินไม่เท่าไรหรอก จะมีกี่ที่เองที่น้ำท่วมแล้วดินไหลมากองเป็นเมตรๆ ที่หนักๆ มีแค่แม่สาย เพราะแม่สายเป็นเขตเศรษฐกิจ ยิ่งทำให้แม่สายเปิดได้เร็วเท่าไร ยิ่งดี เศรษฐกิจจะได้กลับมาหมุนเวียน
    Like
    Love
    4
    0 Comments 0 Shares 1627 Views 0 Reviews
  • วิกฤตน้ำท่วมเชียงราย!
    บทพิสูจน์รัฐบาลนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ทำงานไม่เป็น
    .
    ผมมองว่ารัฐบาลชุดนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์นั้นทำงานไม่เป็นเลย ในการแก้วิกฤตแห่งชาติ คนเราถ้าทำงานเป็น ไม่ต้องลงไปถามประชาชนว่าเดือดร้อนไหม เขาเดือดร้อนแน่นอน
    .
    นายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนสั่ง คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ท่านดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แทนที่ท่านจะไปทะเลาะกับผู้ว่าฯ เชียงรายที่อีกไม่กี่วันจะเกษียณอายุแล้ว ไม่สนใจเลยว่าปัญหาของตัวเองต้องแก้อย่างไร ต้องสั่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาครีบไปจัดตั้งไฟฟ้าชั่วคราวให้ทุกคนได้ใช้
    .
    ที่สำคัญที่สุด บ้านหลังไหนมีโคลนเข้าไปเต็มที่ เยอะแยะไปหมด ซ่อมไม่ได้หรอก ต้องทิ้งไป และตรงนี้คือการตัดสินใจที่ต้องเด็ดขาดของนายกฯ ต้องทำ ต้องสำรวจทันทีเลย จัดงบประมาณ 3 แสนบาทต่อบ้าน ให้เขาไปเลย เอาไปสร้างบ้านใหม่ ถ้ายังไม่พอที่จะสร้างใหม่ ก็ให้ธนาคารกรุงไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย คุณผยง ต้องลงไปพร้อมนายกฯ
    .
    คนที่แม่สายไม่มีอาหารสดกินเลย ต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะขนอาหารสดไปให้เขากินได้ ตั้งเตารวมขึ้นมา แจกอาหารให้ทุกคน วันละ 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ทำกันไปเลย เอางบประมาณใส่เข้ามา ไม่ต้องไปรอ
    .
    แค่นี้เอง นักการเมืองคอร์รัปชันกันเป็นแสนล้าน เงินแค่นี้ช่วยเหลือประชาชนไม่ได้หรืออย่างไร ใช้เงินไม่เท่าไรหรอก จะมีกี่ที่เองที่น้ำท่วมแล้วดินไหลมากองเป็นเมตรๆ ที่หนักๆ มีแค่แม่สาย เพราะแม่สายเป็นเขตเศรษฐกิจ ยิ่งทำให้แม่สายเปิดได้เร็วเท่าไร ยิ่งดี เศรษฐกิจจะได้กลับมาหมุนเวียน
    วิกฤตน้ำท่วมเชียงราย! บทพิสูจน์รัฐบาลนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ทำงานไม่เป็น . ผมมองว่ารัฐบาลชุดนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์นั้นทำงานไม่เป็นเลย ในการแก้วิกฤตแห่งชาติ คนเราถ้าทำงานเป็น ไม่ต้องลงไปถามประชาชนว่าเดือดร้อนไหม เขาเดือดร้อนแน่นอน . นายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนสั่ง คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ท่านดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แทนที่ท่านจะไปทะเลาะกับผู้ว่าฯ เชียงรายที่อีกไม่กี่วันจะเกษียณอายุแล้ว ไม่สนใจเลยว่าปัญหาของตัวเองต้องแก้อย่างไร ต้องสั่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาครีบไปจัดตั้งไฟฟ้าชั่วคราวให้ทุกคนได้ใช้ . ที่สำคัญที่สุด บ้านหลังไหนมีโคลนเข้าไปเต็มที่ เยอะแยะไปหมด ซ่อมไม่ได้หรอก ต้องทิ้งไป และตรงนี้คือการตัดสินใจที่ต้องเด็ดขาดของนายกฯ ต้องทำ ต้องสำรวจทันทีเลย จัดงบประมาณ 3 แสนบาทต่อบ้าน ให้เขาไปเลย เอาไปสร้างบ้านใหม่ ถ้ายังไม่พอที่จะสร้างใหม่ ก็ให้ธนาคารกรุงไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย คุณผยง ต้องลงไปพร้อมนายกฯ . คนที่แม่สายไม่มีอาหารสดกินเลย ต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะขนอาหารสดไปให้เขากินได้ ตั้งเตารวมขึ้นมา แจกอาหารให้ทุกคน วันละ 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ทำกันไปเลย เอางบประมาณใส่เข้ามา ไม่ต้องไปรอ . แค่นี้เอง นักการเมืองคอร์รัปชันกันเป็นแสนล้าน เงินแค่นี้ช่วยเหลือประชาชนไม่ได้หรืออย่างไร ใช้เงินไม่เท่าไรหรอก จะมีกี่ที่เองที่น้ำท่วมแล้วดินไหลมากองเป็นเมตรๆ ที่หนักๆ มีแค่แม่สาย เพราะแม่สายเป็นเขตเศรษฐกิจ ยิ่งทำให้แม่สายเปิดได้เร็วเท่าไร ยิ่งดี เศรษฐกิจจะได้กลับมาหมุนเวียน
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 1615 Views 0 Reviews
  • วิกฤตน้ำท่วมปางช้าง20กว่าแห่งที่แม่แตง เชียงใหม่ ต้องเร่งอพยพช้างประสบภัย500ตัวขึ้นดอย ขาดแคลนอาหาร บางตัวจมน้ำตายและลอยคอในสายน้ำเชี่ยวกราก

    4 ตุลาคม 2567 -รายงานข่าวเมติชนออนไลน์ ระบุว่า น.ส.โซไรดา ซาลวาลา เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง เปิดเผยกับมติชนว่า จากเหตุการน้ำท่วมพื้นที่ อ.แม่แตง แม่วาง จ.เชียงใหม่ ที่วิกฤตอย่างยิ่ง โดยน้ำในแม่น้ำแม่แตงไหลเชี่ยวอย่างมาก ซึ่งพื้นที่ อ.แม่วาง แม่แตง นั้น มีปางช้างตั้งอยู่ประมาณ 20 กว่าปาง มีช้างรวมเกือบ 500 ตัว ตอนนี้ ทั้งหมด ย้ายขึ้นไปอยู่บนดอยหมดแล้ว ที่น่าเศร้าคือ ได้รับรายงานว่า ที่ อ.แม่แตงนั้น มีช้างลอยคอมา 2 เชือก ท่ามกลางน้ำที่เชี่ยวกราก เจ้าหน้าที่พยายามตัวเอาไว้ได้ 1 เชือก แต่อีก 1 เชือกนั้นติดตอไม้ และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปช่วยออกมาได้ จึงจมน้ำตายในที่สุด สร้างความเศร้าใจแก่ทุกคนที่เห็นภาพอย่างยิ่ง โดยยังไม่รู้ว่า ช้างทั้ง 2 ตัว นั้น เป็นช้างจากปางของใคร

    น.ส.โซไรดา กล่าวว่า ทราบด้วยว่า ยังมีช้างอีก 30 ตัว ยังลอยคออยู่ในแม่น้ำแม่แตง ซึ่งไหลเชี่ยวมาก ถามว่า ช้างว่ายน้ำได้หรือเปล่า ก็ว่ายได้ แต่สภาพที่น้ำเชี่ยวแบบนี้ ก็ไม่ต่างจากคนที่ลอยคออยู่ในน้ำกลางน้ำเชี่ยว แม้ว่าว่ายน้ำเป็นแต่คงอยู่ในสภาพตะเกียกตะกาย หากหมดแรงเมื่อไรก็คงจมน้ำเมื่อนั้น

    “ตอนนี้ก็ได้แต่คอยลุ้น และช่วยกันทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายปกครอง และทหาร ตอนนี้ต้องใช้โดรน บินหา แต่ปัญหาคือ ตอนนี้ใกล้ค่ำแล้ว ฝนก็ยังตกอยู่ เข้าใจว่า หากมืด ก็คงต้องถอนตัวออกมาจากพื้นที่ก่อน เพราะคงทำอะไรได้ไม่มาก”เลขาธิการมูลนิธิเพื่อช้าง กล่าว

    ด้าน นายวิโรจน์ สุภโชคสหกุล ที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการมูลนิธิเพื่อช้าง กล่าวว่า ปัญหาเวลานี้คือ ช้างเกือบ 500 เชือก จากปางช้าง แม่แตง แม่วาง ที่ย้ายขึ้นไปอยู่บนดอยนั้น ไม่มีอาหารกิน แม้จะมีผู้เอาหญ้าขึ้นไปให้ 200 มัด แล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าน้ำจะลดเมื่อไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ต้องเฝ้าระวังอย่างไม่ให้เดินเพ่นพ่านบนดอย แต่ยังดีกว่า ลอยคอแช่น้ำอยู่ด้านล่าง

    ที่มา https://www.matichon.co.th/region/news_4828398#m1uoo0hdcn91kt8ezl4

    #Thaitimes
    วิกฤตน้ำท่วมปางช้าง20กว่าแห่งที่แม่แตง เชียงใหม่ ต้องเร่งอพยพช้างประสบภัย500ตัวขึ้นดอย ขาดแคลนอาหาร บางตัวจมน้ำตายและลอยคอในสายน้ำเชี่ยวกราก 4 ตุลาคม 2567 -รายงานข่าวเมติชนออนไลน์ ระบุว่า น.ส.โซไรดา ซาลวาลา เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง เปิดเผยกับมติชนว่า จากเหตุการน้ำท่วมพื้นที่ อ.แม่แตง แม่วาง จ.เชียงใหม่ ที่วิกฤตอย่างยิ่ง โดยน้ำในแม่น้ำแม่แตงไหลเชี่ยวอย่างมาก ซึ่งพื้นที่ อ.แม่วาง แม่แตง นั้น มีปางช้างตั้งอยู่ประมาณ 20 กว่าปาง มีช้างรวมเกือบ 500 ตัว ตอนนี้ ทั้งหมด ย้ายขึ้นไปอยู่บนดอยหมดแล้ว ที่น่าเศร้าคือ ได้รับรายงานว่า ที่ อ.แม่แตงนั้น มีช้างลอยคอมา 2 เชือก ท่ามกลางน้ำที่เชี่ยวกราก เจ้าหน้าที่พยายามตัวเอาไว้ได้ 1 เชือก แต่อีก 1 เชือกนั้นติดตอไม้ และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปช่วยออกมาได้ จึงจมน้ำตายในที่สุด สร้างความเศร้าใจแก่ทุกคนที่เห็นภาพอย่างยิ่ง โดยยังไม่รู้ว่า ช้างทั้ง 2 ตัว นั้น เป็นช้างจากปางของใคร น.ส.โซไรดา กล่าวว่า ทราบด้วยว่า ยังมีช้างอีก 30 ตัว ยังลอยคออยู่ในแม่น้ำแม่แตง ซึ่งไหลเชี่ยวมาก ถามว่า ช้างว่ายน้ำได้หรือเปล่า ก็ว่ายได้ แต่สภาพที่น้ำเชี่ยวแบบนี้ ก็ไม่ต่างจากคนที่ลอยคออยู่ในน้ำกลางน้ำเชี่ยว แม้ว่าว่ายน้ำเป็นแต่คงอยู่ในสภาพตะเกียกตะกาย หากหมดแรงเมื่อไรก็คงจมน้ำเมื่อนั้น “ตอนนี้ก็ได้แต่คอยลุ้น และช่วยกันทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายปกครอง และทหาร ตอนนี้ต้องใช้โดรน บินหา แต่ปัญหาคือ ตอนนี้ใกล้ค่ำแล้ว ฝนก็ยังตกอยู่ เข้าใจว่า หากมืด ก็คงต้องถอนตัวออกมาจากพื้นที่ก่อน เพราะคงทำอะไรได้ไม่มาก”เลขาธิการมูลนิธิเพื่อช้าง กล่าว ด้าน นายวิโรจน์ สุภโชคสหกุล ที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการมูลนิธิเพื่อช้าง กล่าวว่า ปัญหาเวลานี้คือ ช้างเกือบ 500 เชือก จากปางช้าง แม่แตง แม่วาง ที่ย้ายขึ้นไปอยู่บนดอยนั้น ไม่มีอาหารกิน แม้จะมีผู้เอาหญ้าขึ้นไปให้ 200 มัด แล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าน้ำจะลดเมื่อไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ต้องเฝ้าระวังอย่างไม่ให้เดินเพ่นพ่านบนดอย แต่ยังดีกว่า ลอยคอแช่น้ำอยู่ด้านล่าง ที่มา https://www.matichon.co.th/region/news_4828398#m1uoo0hdcn91kt8ezl4 #Thaitimes
    WWW.MATICHON.CO.TH
    สุดสลดช้างจมน้ำตาย แล้ว 1 หนีท่วมเชียงใหม่ ลอยคออีก 30 เชือก ยังไม่รู้ชะตากรรม
    สุดสลดช้าง 2 เชือก ลอยคอกลางน้ำเชี่ยวกรากแต่หมดแรง ตะเกียกตะกายไปติดตอไม้จมน้ำตาย อีกตัวช่วยได้หวุดหวิด
    Like
    Love
    Sad
    8
    0 Comments 0 Shares 1049 Views 0 Reviews
  • นูซันตารา เมืองหลวงใหม่อินโดฯ

    วันชาติสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 17 สิงหาคมที่จะถึงนี้ นอกจากเป็นการฉลองครบรอบ 79 ปี แห่งการประกาศตนเป็นอิสรภาพจากการปกครองของเนเธอร์แลนด์ เมื่อปี 2488 แล้ว ยังมีแผนเปิดตัวเมืองหลวงแห่งชาติ (IKN) ที่ชื่อว่า "นูซันตารา" (Nusantara) ตั้งอยู่จังหวัดกาลิมันตันตะวันออก แทนที่กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย

    โดยหลังจากนั้น นูซันตาราจะทำหน้าที่ศูนย์กลางการบริหารประเทศของอินโดนีเซีย ซึ่งจะมีข้าราชการพลเรือนกว่า 11,916 คน จาก 38 กระทรวงและสถาบันต่างๆ ย้ายไปทำงานที่นั่น ส่วนกรุงจาการ์ตายังคงเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและธุรกิจเช่นเดิม คล้ายกับประเทศออสเตรเลีย ที่มีแคนเบอราเป็นเมืองหลวง แต่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอยู่ที่้ซิดนีย์

    จุดเริ่มต้นของเมืองหลวงแห่งใหม่ มาจากประธานาธิบดีโจโก วีโดโด ประกาศเมื่อปี 2562 ว่าจะย้ายศูนย์กลางการบริหารประเทศไปยังพื้นที่ชนบทในกาลีมันตันตะวันออก เนื่องจากกรุงจาการ์ตาที่มีประชากรหนาแน่นเกือบ 11 ล้านคน ประสบปัญหาแออัด มลพิษ เริ่มเผชิญวิกฤตน้ำท่วมรุนแรงขึ้น และคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นถึงขั้นเสี่ยงจมบาดาล

    กระทั่งในปี 2565 รัฐสภาอินโดนีเซียมีมติผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยการย้ายเมืองหลวงของประเทศ โดยตั้งชื่อเมืองหลวงแห่งใหม่ว่า “นูซันตารา” ซึ่งมีความหมายว่า “หมู่เกาะ” ในภาษาอินโดนีเซีย มีความเป็นสากล เรียบง่าย สะท้อนถึงสภาพภูมิศาสตร์ของอินโดนีเซียที่ประกอบด้วยหมู่เกาะจำนวนมาก อีกทั้งเป็นคำที่ประชาชนชาวอินโดนีเซียทุกภูมิภาคให้การยอมรับ

    เมืองใหม่ที่ชื่อว่านูซันตารา ตั้งอยู่ระหว่างเมืองซามารินดา (Samarinda) กับเมืองบาลิกปาปัน (Balikpapan) บนเกาะบอร์เนียว ห่างจากกรุงจาการ์ตาประมาณ 2,000 กิโลเมตร โดยสนามบินที่ใกล้ที่สุด คือ สนามบินสุลตานอาจี มูฮาหมัด ซูลัยมาน (BPN) ในเมืองบาลิกปาปัน แต่ก็ได้สร้างสนามบินในเมืองนูซันตารา เพื่อรองรับเที่ยวบินพิเศษ (VIP) ไม่รองรับเที่ยวบินพาณิชย์

    การก่อสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่นี้ใช้งบประมาณราว 32,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งออกเป็น 5 ระยะ โดยระยะแรกก่อสร้างทำเนียบประธานาธิบดี อาคารของกระทรวงต่างๆ และโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน บ้านพักข้าราชการ แต่การก่อสร้างเมืองใหม่แห่งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2588 ซึ่งจะเชื่อมต่อกับเมืองโดยรอบ คือเมืองซามารินดา และเมืองบาลิกปาปัน

    ถึงกระนั้น โครงการเมืองหลวงแห่งใหม่ตรงนี้ยังเป็นไปด้วยความล่าช้า และคาดว่ากินเวลาที่ประธานาธิบดี ปราโบโว สุเบียนโต จะรับตำแหน่งต่อจากประธานาธิบดีวีโดโดอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ตุลาคม 2567 ที่จะถึงนี้

    #Newskit #Indonesia #Nusantara
    นูซันตารา เมืองหลวงใหม่อินโดฯ วันชาติสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 17 สิงหาคมที่จะถึงนี้ นอกจากเป็นการฉลองครบรอบ 79 ปี แห่งการประกาศตนเป็นอิสรภาพจากการปกครองของเนเธอร์แลนด์ เมื่อปี 2488 แล้ว ยังมีแผนเปิดตัวเมืองหลวงแห่งชาติ (IKN) ที่ชื่อว่า "นูซันตารา" (Nusantara) ตั้งอยู่จังหวัดกาลิมันตันตะวันออก แทนที่กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย โดยหลังจากนั้น นูซันตาราจะทำหน้าที่ศูนย์กลางการบริหารประเทศของอินโดนีเซีย ซึ่งจะมีข้าราชการพลเรือนกว่า 11,916 คน จาก 38 กระทรวงและสถาบันต่างๆ ย้ายไปทำงานที่นั่น ส่วนกรุงจาการ์ตายังคงเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและธุรกิจเช่นเดิม คล้ายกับประเทศออสเตรเลีย ที่มีแคนเบอราเป็นเมืองหลวง แต่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอยู่ที่้ซิดนีย์ จุดเริ่มต้นของเมืองหลวงแห่งใหม่ มาจากประธานาธิบดีโจโก วีโดโด ประกาศเมื่อปี 2562 ว่าจะย้ายศูนย์กลางการบริหารประเทศไปยังพื้นที่ชนบทในกาลีมันตันตะวันออก เนื่องจากกรุงจาการ์ตาที่มีประชากรหนาแน่นเกือบ 11 ล้านคน ประสบปัญหาแออัด มลพิษ เริ่มเผชิญวิกฤตน้ำท่วมรุนแรงขึ้น และคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นถึงขั้นเสี่ยงจมบาดาล กระทั่งในปี 2565 รัฐสภาอินโดนีเซียมีมติผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยการย้ายเมืองหลวงของประเทศ โดยตั้งชื่อเมืองหลวงแห่งใหม่ว่า “นูซันตารา” ซึ่งมีความหมายว่า “หมู่เกาะ” ในภาษาอินโดนีเซีย มีความเป็นสากล เรียบง่าย สะท้อนถึงสภาพภูมิศาสตร์ของอินโดนีเซียที่ประกอบด้วยหมู่เกาะจำนวนมาก อีกทั้งเป็นคำที่ประชาชนชาวอินโดนีเซียทุกภูมิภาคให้การยอมรับ เมืองใหม่ที่ชื่อว่านูซันตารา ตั้งอยู่ระหว่างเมืองซามารินดา (Samarinda) กับเมืองบาลิกปาปัน (Balikpapan) บนเกาะบอร์เนียว ห่างจากกรุงจาการ์ตาประมาณ 2,000 กิโลเมตร โดยสนามบินที่ใกล้ที่สุด คือ สนามบินสุลตานอาจี มูฮาหมัด ซูลัยมาน (BPN) ในเมืองบาลิกปาปัน แต่ก็ได้สร้างสนามบินในเมืองนูซันตารา เพื่อรองรับเที่ยวบินพิเศษ (VIP) ไม่รองรับเที่ยวบินพาณิชย์ การก่อสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่นี้ใช้งบประมาณราว 32,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งออกเป็น 5 ระยะ โดยระยะแรกก่อสร้างทำเนียบประธานาธิบดี อาคารของกระทรวงต่างๆ และโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน บ้านพักข้าราชการ แต่การก่อสร้างเมืองใหม่แห่งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2588 ซึ่งจะเชื่อมต่อกับเมืองโดยรอบ คือเมืองซามารินดา และเมืองบาลิกปาปัน ถึงกระนั้น โครงการเมืองหลวงแห่งใหม่ตรงนี้ยังเป็นไปด้วยความล่าช้า และคาดว่ากินเวลาที่ประธานาธิบดี ปราโบโว สุเบียนโต จะรับตำแหน่งต่อจากประธานาธิบดีวีโดโดอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ตุลาคม 2567 ที่จะถึงนี้ #Newskit #Indonesia #Nusantara
    Like
    6
    0 Comments 0 Shares 1148 Views 0 Reviews