• แอปฟรีที่คุณโหลด อาจไม่ฟรีสำหรับข้อมูลของคุณ

    ในยุคที่ทุกคนมีแอปติดมือถือมากกว่าติดเงินในบัญชี แอปต่างประเทศที่ได้รับความนิยมในสหรัฐฯ เช่น TikTok, Temu, Alibaba และ Shein กลับกลายเป็น “นักสะสมข้อมูล” ที่เก็บทุกอย่างตั้งแต่ชื่อ เบอร์โทร ไปจนถึงตำแหน่งที่คุณอยู่และแอปที่คุณใช้

    จากการศึกษาของบริษัท Incogni พบว่า แอปต่างประเทศ 10 อันดับแรกที่ถูกดาวน์โหลดในสหรัฐฯ มีการเก็บข้อมูลเฉลี่ย 15–24 ประเภทต่อผู้ใช้ และแชร์ข้อมูลเหล่านั้นกับบุคคลที่สามเพื่อใช้ในการโฆษณาแบบเจาะจงและการสร้างโปรไฟล์ผู้บริโภค

    TikTok ถูกระบุว่าเก็บข้อมูลมากที่สุดถึง 24 ประเภท รวมถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น ชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ ส่วน Temu ซึ่งเป็นแอปช้อปปิ้งราคาถูกที่มาแรงที่สุดในปี 2023 ถูกกล่าวหาว่าเข้าถึงระบบปฏิบัติการมือถือได้ลึกกว่าที่ผู้ใช้รู้ เช่น กล้อง รายชื่อผู้ติดต่อ และแม้แต่ไฟล์เอกสาร โดยสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของแอปหลังจากติดตั้งแล้ว

    Alibaba และ Shein ก็ไม่น้อยหน้า โดยมีการเก็บและแชร์ข้อมูลภาพ วิดีโอ และอีเมลกับบุคคลที่สามเพื่อใช้ในการโฆษณา และในบางกรณีอาจนำไปสู่การปรับราคาสินค้าแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากโมเดลราคามาตรฐานที่ผู้บริโภคคุ้นเคย

    สิ่งที่น่ากังวลคือ แอปเหล่านี้ส่วนใหญ่มีเจ้าของจากจีน และมีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนในระดับที่ทำให้หลายฝ่ายมองว่าเป็น “ความเสี่ยงด้านความมั่นคง” มากกว่าปัญหาความเป็นส่วนตัว

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    แอปต่างประเทศยอดนิยมในสหรัฐฯ เช่น TikTok, Temu, Alibaba และ Shein เก็บข้อมูลผู้ใช้อย่างกว้างขวาง
    TikTok เก็บข้อมูลมากถึง 24 ประเภท รวมถึงชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์
    Temu เข้าถึงระบบมือถือได้ลึก เช่น กล้อง รายชื่อผู้ติดต่อ และไฟล์เอกสาร
    Alibaba และ Shein แชร์ข้อมูลภาพ วิดีโอ และอีเมลกับบุคคลที่สามเพื่อโฆษณา
    แอปเหล่านี้ใช้ข้อมูลเพื่อสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้และปรับราคาสินค้าแบบเฉพาะบุคคล
    แอปจากจีนมีการดาวน์โหลดในสหรัฐฯ มากถึง 755 ล้านครั้งจากทั้งหมด 1 พันล้านครั้ง
    แอปอื่น ๆ เช่น AliExpress, DramaBox และ ABPV ก็มีการเก็บตำแหน่งและประวัติการซื้อ
    การศึกษาชี้ว่าแอปเหล่านี้แชร์ข้อมูลเฉลี่ย 5–6 ประเภทกับบุคคลที่สาม
    ข้อมูลที่แชร์นำไปสู่การเพิ่มสแปมและการโฆษณาแบบเจาะจง
    ผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้มีการเปิดเผยและควบคุมการใช้ข้อมูลผู้ใช้ให้ชัดเจน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Temu ถูกฟ้องโดยอัยการหลายรัฐในสหรัฐฯ ฐานละเมิดความเป็นส่วนตัวและมีพฤติกรรมคล้ายมัลแวร์
    แอป Temu เคยถูก Apple และ Google ระงับการให้บริการชั่วคราวจากปัญหาด้านความปลอดภัย
    แอปจากจีนบางตัวสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมหลังติดตั้งเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ
    การเก็บข้อมูลตำแหน่งแบบละเอียดและข้อมูลชีวมิติ เช่น ลายนิ้วมือ เป็นสิ่งที่เกินความจำเป็นของแอป
    การเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนทำให้หลายฝ่ายมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ

    https://hackread.com/study-tiktok-alibaba-temu-collect-us-user-data/
    📱 แอปฟรีที่คุณโหลด อาจไม่ฟรีสำหรับข้อมูลของคุณ ในยุคที่ทุกคนมีแอปติดมือถือมากกว่าติดเงินในบัญชี แอปต่างประเทศที่ได้รับความนิยมในสหรัฐฯ เช่น TikTok, Temu, Alibaba และ Shein กลับกลายเป็น “นักสะสมข้อมูล” ที่เก็บทุกอย่างตั้งแต่ชื่อ เบอร์โทร ไปจนถึงตำแหน่งที่คุณอยู่และแอปที่คุณใช้ จากการศึกษาของบริษัท Incogni พบว่า แอปต่างประเทศ 10 อันดับแรกที่ถูกดาวน์โหลดในสหรัฐฯ มีการเก็บข้อมูลเฉลี่ย 15–24 ประเภทต่อผู้ใช้ และแชร์ข้อมูลเหล่านั้นกับบุคคลที่สามเพื่อใช้ในการโฆษณาแบบเจาะจงและการสร้างโปรไฟล์ผู้บริโภค TikTok ถูกระบุว่าเก็บข้อมูลมากที่สุดถึง 24 ประเภท รวมถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น ชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ ส่วน Temu ซึ่งเป็นแอปช้อปปิ้งราคาถูกที่มาแรงที่สุดในปี 2023 ถูกกล่าวหาว่าเข้าถึงระบบปฏิบัติการมือถือได้ลึกกว่าที่ผู้ใช้รู้ เช่น กล้อง รายชื่อผู้ติดต่อ และแม้แต่ไฟล์เอกสาร โดยสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของแอปหลังจากติดตั้งแล้ว Alibaba และ Shein ก็ไม่น้อยหน้า โดยมีการเก็บและแชร์ข้อมูลภาพ วิดีโอ และอีเมลกับบุคคลที่สามเพื่อใช้ในการโฆษณา และในบางกรณีอาจนำไปสู่การปรับราคาสินค้าแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากโมเดลราคามาตรฐานที่ผู้บริโภคคุ้นเคย สิ่งที่น่ากังวลคือ แอปเหล่านี้ส่วนใหญ่มีเจ้าของจากจีน และมีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนในระดับที่ทำให้หลายฝ่ายมองว่าเป็น “ความเสี่ยงด้านความมั่นคง” มากกว่าปัญหาความเป็นส่วนตัว 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ แอปต่างประเทศยอดนิยมในสหรัฐฯ เช่น TikTok, Temu, Alibaba และ Shein เก็บข้อมูลผู้ใช้อย่างกว้างขวาง ➡️ TikTok เก็บข้อมูลมากถึง 24 ประเภท รวมถึงชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ ➡️ Temu เข้าถึงระบบมือถือได้ลึก เช่น กล้อง รายชื่อผู้ติดต่อ และไฟล์เอกสาร ➡️ Alibaba และ Shein แชร์ข้อมูลภาพ วิดีโอ และอีเมลกับบุคคลที่สามเพื่อโฆษณา ➡️ แอปเหล่านี้ใช้ข้อมูลเพื่อสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้และปรับราคาสินค้าแบบเฉพาะบุคคล ➡️ แอปจากจีนมีการดาวน์โหลดในสหรัฐฯ มากถึง 755 ล้านครั้งจากทั้งหมด 1 พันล้านครั้ง ➡️ แอปอื่น ๆ เช่น AliExpress, DramaBox และ ABPV ก็มีการเก็บตำแหน่งและประวัติการซื้อ ➡️ การศึกษาชี้ว่าแอปเหล่านี้แชร์ข้อมูลเฉลี่ย 5–6 ประเภทกับบุคคลที่สาม ➡️ ข้อมูลที่แชร์นำไปสู่การเพิ่มสแปมและการโฆษณาแบบเจาะจง ➡️ ผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้มีการเปิดเผยและควบคุมการใช้ข้อมูลผู้ใช้ให้ชัดเจน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Temu ถูกฟ้องโดยอัยการหลายรัฐในสหรัฐฯ ฐานละเมิดความเป็นส่วนตัวและมีพฤติกรรมคล้ายมัลแวร์ ➡️ แอป Temu เคยถูก Apple และ Google ระงับการให้บริการชั่วคราวจากปัญหาด้านความปลอดภัย ➡️ แอปจากจีนบางตัวสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมหลังติดตั้งเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ➡️ การเก็บข้อมูลตำแหน่งแบบละเอียดและข้อมูลชีวมิติ เช่น ลายนิ้วมือ เป็นสิ่งที่เกินความจำเป็นของแอป ➡️ การเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนทำให้หลายฝ่ายมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ https://hackread.com/study-tiktok-alibaba-temu-collect-us-user-data/
    HACKREAD.COM
    Study Reveals TikTok, Alibaba, Temu Collect Extensive User Data in America
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • แพ็คเกจเรือสำราญ Costa Serena, Cruise Only 8 วัน 7 คืน
    เส้นทาง สิงคโปร์ - บันดาร์ เสรีเบกาวัน, บรูไน - ปูเอร์โตปรินเซซา ปาลาวัน, ฟิลิปปินส์ - ฮ่องกง

    12-19 ธ.ค. 2568
    ⭕️ ราคาเริ่มต้น : ฿36,800

    9-16 ม.ค. 2569
    ⭕️ ราคาเริ่มต้น : ฿36,800

    7-14 ก.พ. 2569 > ลดห้องละ 5,000
    ⭕️ ราคาเริ่มต้น : ฿39,800

    ฟรี! ประกันภัยการเดินทาง Asia Plus Basic [8D]
    จองภายใน 15 ก.ย. 2568 หรือจนกว่าห้องจะเต็ม

    ราคานี้รวมครบ
    ห้องพักบนเรือสำราญ 7 คืน
    อาหารทุกมื้อบนเรือ
    ค่าภาษีท่าเรือ

    รหัสแพคเกจทัวร์ : COSP-8D7N-SIN-HKG-2602071
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/ecca1d
    ดูเรือ COSTA ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/ccbd30

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696 (Auto)

    #เรือCOSTA #CostaCruise #CostaSerena #Singapore #Brunei #Philippines #Hongkong #Austria #WachauValley #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #CruiseDomain
    แพ็คเกจเรือสำราญ Costa Serena, Cruise Only 8 วัน 7 คืน 💬 เส้นทาง สิงคโปร์ - บันดาร์ เสรีเบกาวัน, บรูไน - ปูเอร์โตปรินเซซา ปาลาวัน, ฟิลิปปินส์ - ฮ่องกง 12-19 ธ.ค. 2568 ⭕️ ราคาเริ่มต้น : ฿36,800 9-16 ม.ค. 2569 ⭕️ ราคาเริ่มต้น : ฿36,800 7-14 ก.พ. 2569 > ลดห้องละ 5,000 ⭕️ ราคาเริ่มต้น : ฿39,800 ฟรี! ประกันภัยการเดินทาง Asia Plus Basic [8D] จองภายใน 15 ก.ย. 2568 หรือจนกว่าห้องจะเต็ม 💥 ✨ ราคานี้รวมครบ ✅ ห้องพักบนเรือสำราญ 7 คืน ✅ อาหารทุกมื้อบนเรือ ✅ ค่าภาษีท่าเรือ ➡️ รหัสแพคเกจทัวร์ : COSP-8D7N-SIN-HKG-2602071 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/ecca1d ดูเรือ COSTA ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/ccbd30 ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #เรือCOSTA #CostaCruise #CostaSerena #Singapore #Brunei #Philippines #Hongkong #Austria #WachauValley #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #CruiseDomain
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • จาก “แค่โปรเจกต์เล่นๆ” สู่ระบบปฏิบัติการที่ขับเคลื่อนโลก — 34 ปีของ Linux

    ย้อนกลับไปวันที่ 25 สิงหาคม 1991 Linus Benedict Torvalds นักศึกษาวัย 21 ปีจากฟินแลนด์ โพสต์ข้อความใน newsgroup ชื่อ comp.os.minix ว่าเขากำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการฟรีสำหรับเครื่อง 386/486 AT clones โดยย้ำว่า “มันเป็นแค่โปรเจกต์เล่นๆ ไม่ใหญ่โตหรือมืออาชีพแบบ GNU”

    เขาเรียกมันว่า Freax — มาจากคำว่า Free + Freak + Unix — แต่เพื่อนร่วมงานที่ดูแล FTP server กลับเปลี่ยนชื่อเป็น “Linux” โดยไม่ได้บอกเขา และชื่อนี้ก็กลายเป็นตำนานตั้งแต่นั้น

    ในเดือนกันยายนปีเดียวกัน Linux เวอร์ชัน 0.01 ถูกปล่อยออกมา มีเพียง 10,000 กว่าบรรทัดของโค้ด และรองรับเฉพาะฮาร์ดดิสก์แบบ AT เท่านั้น แต่จุดเริ่มต้นเล็กๆ นี้ได้กลายเป็นการปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์

    วันนี้ Linux ขับเคลื่อนทุกอย่างตั้งแต่สมาร์ทโฟน Android, เซิร์ฟเวอร์เว็บ, ซูเปอร์คอมพิวเตอร์, ไปจนถึงสถานีอวกาศ ISS และแม้แต่ตู้เย็นอัจฉริยะในบ้านคุณ

    มันกลายเป็นหัวใจของอินเทอร์เน็ต, คลาวด์, AI, และ IoT โดยมีนักพัฒนากว่า 25,000 คนทั่วโลกที่ร่วมกันสร้างและปรับปรุงโค้ดกว่า 40 ล้านบรรทัดใน kernel ปัจจุบัน

    แม้จะเริ่มต้นจากความถ่อมตัว แต่ Linux ได้พิสูจน์แล้วว่าความร่วมมือแบบโอเพ่นซอร์สสามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้จริง

    https://www.tomshardware.com/software/linux/linux-is-34-years-old-today-linus-torvalds-meekly-announced-this-free-new-os-in-the-comp-os-minix-newsgroup-on-this-day-in-1991
    🎙️ จาก “แค่โปรเจกต์เล่นๆ” สู่ระบบปฏิบัติการที่ขับเคลื่อนโลก — 34 ปีของ Linux ย้อนกลับไปวันที่ 25 สิงหาคม 1991 Linus Benedict Torvalds นักศึกษาวัย 21 ปีจากฟินแลนด์ โพสต์ข้อความใน newsgroup ชื่อ comp.os.minix ว่าเขากำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการฟรีสำหรับเครื่อง 386/486 AT clones โดยย้ำว่า “มันเป็นแค่โปรเจกต์เล่นๆ ไม่ใหญ่โตหรือมืออาชีพแบบ GNU” เขาเรียกมันว่า Freax — มาจากคำว่า Free + Freak + Unix — แต่เพื่อนร่วมงานที่ดูแล FTP server กลับเปลี่ยนชื่อเป็น “Linux” โดยไม่ได้บอกเขา และชื่อนี้ก็กลายเป็นตำนานตั้งแต่นั้น ในเดือนกันยายนปีเดียวกัน Linux เวอร์ชัน 0.01 ถูกปล่อยออกมา มีเพียง 10,000 กว่าบรรทัดของโค้ด และรองรับเฉพาะฮาร์ดดิสก์แบบ AT เท่านั้น แต่จุดเริ่มต้นเล็กๆ นี้ได้กลายเป็นการปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ วันนี้ Linux ขับเคลื่อนทุกอย่างตั้งแต่สมาร์ทโฟน Android, เซิร์ฟเวอร์เว็บ, ซูเปอร์คอมพิวเตอร์, ไปจนถึงสถานีอวกาศ ISS และแม้แต่ตู้เย็นอัจฉริยะในบ้านคุณ มันกลายเป็นหัวใจของอินเทอร์เน็ต, คลาวด์, AI, และ IoT โดยมีนักพัฒนากว่า 25,000 คนทั่วโลกที่ร่วมกันสร้างและปรับปรุงโค้ดกว่า 40 ล้านบรรทัดใน kernel ปัจจุบัน แม้จะเริ่มต้นจากความถ่อมตัว แต่ Linux ได้พิสูจน์แล้วว่าความร่วมมือแบบโอเพ่นซอร์สสามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้จริง https://www.tomshardware.com/software/linux/linux-is-34-years-old-today-linus-torvalds-meekly-announced-this-free-new-os-in-the-comp-os-minix-newsgroup-on-this-day-in-1991
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Linux is 34 years old today — Linus Torvalds meekly announced this free new OS in the comp.os.minix newsgroup on this day in 1991
    From its roots of being 'just a hobby, [which] won’t be big and professional like GNU' it has come a long way.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • งานในฝันหรือกับดัก? เมื่อข้อเสนอจากรัสเซียกลายเป็นภัยเงียบต่อหญิงสาวแอฟริกัน

    ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โฆษณางานจากรัสเซียที่ดูหรูหราและน่าดึงดูดได้แพร่กระจายบนโซเชียลมีเดียในแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายคือหญิงสาวอายุระหว่าง 18–22 ปี ข้อเสนอเหล่านี้มาพร้อมคำสัญญาเรื่องเงินเดือนสูง ที่พักฟรี และโอกาสในการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

    แต่เบื้องหลังความสวยงามนั้น กลับมีรายงานจากหลายองค์กรวิจัยว่า ผู้หญิงเหล่านี้ถูกส่งไปทำงานในโรงงานประกอบโดรน Shahed 136 ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ในสงครามยูเครน และโรงงานเหล่านี้ถูกโจมตีอยู่บ่อยครั้ง

    องค์กรที่อยู่เบื้องหลังการรับสมัครคือ Alabuga Start ซึ่งเป็นหน่วยงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Alabuga ของรัสเซีย โดยมีการขยายการรับสมัครไปยังประเทศในแอฟริกา ละตินอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่ปี 2023

    รัฐบาลแอฟริกาใต้ โดยกระทรวงสตรี เยาวชน และผู้พิการ ได้ออกแถลงการณ์เตือนว่า ข้อเสนอเหล่านี้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ และขอให้ประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนหญิง ระมัดระวังอย่างยิ่ง

    นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยว่าองค์กรในเครือ BRICS บางแห่งในแอฟริกาใต้ได้ลงนามข้อตกลงเพื่อส่งแรงงานกว่า 5,600 คนไปยัง Alabuga และบริษัทก่อสร้างในรัสเซีย ซึ่งยิ่งเพิ่มความกังวลว่าอาจมีการแอบแฝงเป้าหมายทางทหาร

    กระทรวงต่างประเทศของแอฟริกาใต้ยืนยันว่ากำลังสอบสวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง และได้ช่วยเหลือหญิงสาวคนหนึ่งกลับประเทศหลังจากเธอพบว่าข้อเสนอที่ได้รับไม่เป็นจริง

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    กระทรวงสตรีของแอฟริกาใต้เตือนประชาชนให้ระวังข้อเสนอทำงานในรัสเซีย
    ข้อเสนอเหล่านี้มาจาก Alabuga Start ซึ่งเป็นหน่วยงานรับสมัครในเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัสเซีย
    กลุ่มเป้าหมายคือหญิงสาวอายุ 18–22 ปีจากแอฟริกา ละตินอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
    มีรายงานว่าแรงงานหญิงถูกส่งไปทำงานในโรงงานประกอบโดรน Shahed 136
    โรงงานเหล่านี้ถูกโจมตีโดยยูเครนเป็นประจำ
    กระทรวงต่างประเทศแอฟริกาใต้กำลังสอบสวนเรื่องนี้ และได้ช่วยเหลือหญิงสาวกลับประเทศ
    รัฐบาลรัสเซียปฏิเสธว่าไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการบังคับใช้แรงงานหรือละเมิดสิทธิ
    ข้อเสนอเหล่านี้ถูกโปรโมทผ่านอินฟลูเอนเซอร์ใน Instagram และ TikTok
    BRICS Women’s Business Alliance ในแอฟริกาใต้ลงนามข้อตกลงส่งแรงงาน 5,600 คนไปยังรัสเซีย
    ปัญหาการว่างงานในแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงอายุต่ำกว่า 34 ปี สูงถึง 48%

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Shahed 136 เป็นโดรนโจมตีที่รัสเซียใช้ในสงครามยูเครน และมีต้นแบบจากอิหร่าน
    Alabuga เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ผลิตอาวุธและเทคโนโลยีทางทหาร
    รัสเซียเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานจากการสูญเสียประชากรชายในสงคราม
    การใช้ BRICS เป็นเครื่องมือในการรับสมัครแรงงานอาจเป็นการบิดเบือนวัตถุประสงค์ขององค์กร
    การรับสมัครแรงงานหญิงเพื่อประกอบอาวุธอาจละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/26/south-africa-womens-ministry-warns-on-russian-job-offers
    🎙️ งานในฝันหรือกับดัก? เมื่อข้อเสนอจากรัสเซียกลายเป็นภัยเงียบต่อหญิงสาวแอฟริกัน ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โฆษณางานจากรัสเซียที่ดูหรูหราและน่าดึงดูดได้แพร่กระจายบนโซเชียลมีเดียในแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายคือหญิงสาวอายุระหว่าง 18–22 ปี ข้อเสนอเหล่านี้มาพร้อมคำสัญญาเรื่องเงินเดือนสูง ที่พักฟรี และโอกาสในการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ แต่เบื้องหลังความสวยงามนั้น กลับมีรายงานจากหลายองค์กรวิจัยว่า ผู้หญิงเหล่านี้ถูกส่งไปทำงานในโรงงานประกอบโดรน Shahed 136 ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ในสงครามยูเครน และโรงงานเหล่านี้ถูกโจมตีอยู่บ่อยครั้ง องค์กรที่อยู่เบื้องหลังการรับสมัครคือ Alabuga Start ซึ่งเป็นหน่วยงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Alabuga ของรัสเซีย โดยมีการขยายการรับสมัครไปยังประเทศในแอฟริกา ละตินอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่ปี 2023 รัฐบาลแอฟริกาใต้ โดยกระทรวงสตรี เยาวชน และผู้พิการ ได้ออกแถลงการณ์เตือนว่า ข้อเสนอเหล่านี้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ และขอให้ประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนหญิง ระมัดระวังอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยว่าองค์กรในเครือ BRICS บางแห่งในแอฟริกาใต้ได้ลงนามข้อตกลงเพื่อส่งแรงงานกว่า 5,600 คนไปยัง Alabuga และบริษัทก่อสร้างในรัสเซีย ซึ่งยิ่งเพิ่มความกังวลว่าอาจมีการแอบแฝงเป้าหมายทางทหาร กระทรวงต่างประเทศของแอฟริกาใต้ยืนยันว่ากำลังสอบสวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง และได้ช่วยเหลือหญิงสาวคนหนึ่งกลับประเทศหลังจากเธอพบว่าข้อเสนอที่ได้รับไม่เป็นจริง 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ กระทรวงสตรีของแอฟริกาใต้เตือนประชาชนให้ระวังข้อเสนอทำงานในรัสเซีย ➡️ ข้อเสนอเหล่านี้มาจาก Alabuga Start ซึ่งเป็นหน่วยงานรับสมัครในเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัสเซีย ➡️ กลุ่มเป้าหมายคือหญิงสาวอายุ 18–22 ปีจากแอฟริกา ละตินอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ➡️ มีรายงานว่าแรงงานหญิงถูกส่งไปทำงานในโรงงานประกอบโดรน Shahed 136 ➡️ โรงงานเหล่านี้ถูกโจมตีโดยยูเครนเป็นประจำ ➡️ กระทรวงต่างประเทศแอฟริกาใต้กำลังสอบสวนเรื่องนี้ และได้ช่วยเหลือหญิงสาวกลับประเทศ ➡️ รัฐบาลรัสเซียปฏิเสธว่าไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการบังคับใช้แรงงานหรือละเมิดสิทธิ ➡️ ข้อเสนอเหล่านี้ถูกโปรโมทผ่านอินฟลูเอนเซอร์ใน Instagram และ TikTok ➡️ BRICS Women’s Business Alliance ในแอฟริกาใต้ลงนามข้อตกลงส่งแรงงาน 5,600 คนไปยังรัสเซีย ➡️ ปัญหาการว่างงานในแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงอายุต่ำกว่า 34 ปี สูงถึง 48% ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Shahed 136 เป็นโดรนโจมตีที่รัสเซียใช้ในสงครามยูเครน และมีต้นแบบจากอิหร่าน ➡️ Alabuga เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ผลิตอาวุธและเทคโนโลยีทางทหาร ➡️ รัสเซียเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานจากการสูญเสียประชากรชายในสงคราม ➡️ การใช้ BRICS เป็นเครื่องมือในการรับสมัครแรงงานอาจเป็นการบิดเบือนวัตถุประสงค์ขององค์กร ➡️ การรับสมัครแรงงานหญิงเพื่อประกอบอาวุธอาจละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/26/south-africa-womens-ministry-warns-on-russian-job-offers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    South Africa Women’s Ministry warns on Russian job offers
    "We are extremely worried," he said. "Influencers have been mobilised to promote these opportunities that look very good on paper."
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว

  • #อย่าตกเป็นเหยื่อ...สินค้าอเมริกาหรือต่างชาติที่ได้เข้ามาจำหน่ายในตลาดของไทย ภายในประเทศไทยจากภาษีทรัมป์คือตัวอย่างในอนาคตก็ตาม.

    ..เตือนภัยสัญลักษณ์ที่ใช้ในอเมริกาและทางการอเมริกาไม่บอกประชาชนเขาตรงๆ

    เลขนำหน้าเป็น 9 = ออร์แกนิก
    เลขนำหน้าเป็น 4 = ปลูกด้วยยาฆ่าแมลง
    เลขนำหน้าเป็น 8 = จีเอ็มโอ

    #อย่าตกเป็นเหยื่อ...

    ... "วิธีการลดประชากรโลก" มีหลายวิธี เช่นการใช้วัคซีนแบบวัคซีนโควิด ,สงครามตัวแทนต่างๆแบบไทยกับเขมร รัสเชียกับยูเคน อิสราเอลกับอิหร่านกับปาเลสไตน์ , สารเคมี หรือใส่ฟลูออไรด์ลงไปในน้ำ แบบฮิตเลอร์ทำ,หรือในยาสีฟันต่างๆทั่วโลก, การทำผ่านบริษัททาง เช่น อุตสาหกรรมทางอาหาร และเกษตรต่างๆแบบขนาดใหญ่บริษัทมอนซานโต, หรือผ่านอาหาร พืช ผัก ผลไม้ สัตว์อาหารต่างๆตัดแต่งพันธุกรรม GMO ร่างกายมนุษย์ก็จะเข้าสู่โหมดสาระพัดโรคภัยไข้เจ็บเป็นอันมาก , วัคซีนป้องกันโควิด-19 มีคุณสมบัติเป็นผลิตภัณฑ์ GMOด้วย, ตลอดไวรัสในวัคซีนก็ด้วยGMOตรึมก็ว่าในวัคซีนนั้น(สิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม)

    ระบบการแพทย์ที่ทุจริตจะต้องล้มละลายหากผู้คนรู้เรื่องนี้

    แพทย์ท่านหนึ่งที่สั่งอาหารปลอดจีเอ็มโอให้กับคนไข้ 5,000 คน กล่าวว่า “คนไข้ [ของเธอ] ทุกคน” มีอาการดีขึ้นหลังจากเปลี่ยนมารับประทานอาหาร

    ซึ่งรวมถึงอาการดีขึ้นจากโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น โรคอ้วน ปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ และแม้แต่โรคมะเร็ง

    เจฟฟรีย์ สมิธ รู้สึกประหลาดใจกับรายงานนี้ จึงได้ทำการสำรวจผู้เข้าร่วม 3,256 คน เพื่อเปิดเผยถึงผลกระทบของการเปลี่ยนมารับประทานอาหารปลอดจีเอ็มโอ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าทึ่งมาก

    เปอร์เซ็นต์ที่ดีขึ้นจากการเปลี่ยนไปรับประทานอาหารที่ไม่ใช่ GMO:

    • ปัญหาระบบย่อยอาหาร - 85.2%
    • ความเหนื่อยล้า - 60.4%
    • น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน - 54.6%
    • ภาวะสมองล้า (Brain Fog) - 51.7%
    • ปัญหาอารมณ์ / ความวิตกกังวล / ภาวะซึมเศร้า - 51.1%
    • อาการแพ้อาหารหรือความไวต่ออาหาร - 50.2%
    • ความจำและสมาธิ - 46.9%
    • อาการปวดข้อ - 47.5%
    • อาการแพ้ตามฤดูกาล - 46.2%
    • ความไวต่อกลูเตน - 42.6%
    • นอนไม่หลับ - 41.2%
    • โรคผิวหนังอื่นๆ - 30.9%
    • ปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน - 30.4%
    • อาการปวดกล้ามเนื้อและกระดูก - 30.2%
    • โรคภูมิต้านตนเอง - 21.4%
    • โรคผิวหนังอักเสบ - 20.8%
    • ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดและความดันโลหิตสูง - 19.8%
    • โรคหอบหืด - 14.8%
    • ปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน - 13.4%
    • โรคเบาหวาน - 10.6%
    • โรคทางจิตเวชอื่นๆ - 7.9%
    • น้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ - 6.5%
    • โรคมะเร็ง - 4.8%
    • โรคไต - 4.3%
    • ภาวะมีบุตรยาก - 2.8%
    • กลุ่มอาการออทิสติก - 2.4%
    • โรคอัลไซเมอร์ - 2.4%
    • โรคพาร์กินสัน - 1.4%

    - - - - - -

    พวกเขาโกหกคุณเรื่องสุขภาพและยามานานหลายทศวรรษ เพราะเมื่อคุณป่วย คุณก็จะมีเงินมากขึ้น



    #อย่าตกเป็นเหยื่อ...สินค้าอเมริกาหรือต่างชาติที่ได้เข้ามาจำหน่ายในตลาดของไทย ภายในประเทศไทยจากภาษีทรัมป์คือตัวอย่างในอนาคตก็ตาม. ..เตือนภัยสัญลักษณ์ที่ใช้ในอเมริกาและทางการอเมริกาไม่บอกประชาชนเขาตรงๆ เลขนำหน้าเป็น 9 = ออร์แกนิก เลขนำหน้าเป็น 4 = ปลูกด้วยยาฆ่าแมลง เลขนำหน้าเป็น 8 = จีเอ็มโอ #อย่าตกเป็นเหยื่อ... ... "วิธีการลดประชากรโลก" มีหลายวิธี เช่นการใช้วัคซีนแบบวัคซีนโควิด ,สงครามตัวแทนต่างๆแบบไทยกับเขมร รัสเชียกับยูเคน อิสราเอลกับอิหร่านกับปาเลสไตน์ , สารเคมี หรือใส่ฟลูออไรด์ลงไปในน้ำ แบบฮิตเลอร์ทำ,หรือในยาสีฟันต่างๆทั่วโลก, การทำผ่านบริษัททาง เช่น อุตสาหกรรมทางอาหาร และเกษตรต่างๆแบบขนาดใหญ่บริษัทมอนซานโต, หรือผ่านอาหาร พืช ผัก ผลไม้ สัตว์อาหารต่างๆตัดแต่งพันธุกรรม GMO ร่างกายมนุษย์ก็จะเข้าสู่โหมดสาระพัดโรคภัยไข้เจ็บเป็นอันมาก , วัคซีนป้องกันโควิด-19 มีคุณสมบัติเป็นผลิตภัณฑ์ GMOด้วย, ตลอดไวรัสในวัคซีนก็ด้วยGMOตรึมก็ว่าในวัคซีนนั้น(สิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม) ระบบการแพทย์ที่ทุจริตจะต้องล้มละลายหากผู้คนรู้เรื่องนี้ แพทย์ท่านหนึ่งที่สั่งอาหารปลอดจีเอ็มโอให้กับคนไข้ 5,000 คน กล่าวว่า “คนไข้ [ของเธอ] ทุกคน” มีอาการดีขึ้นหลังจากเปลี่ยนมารับประทานอาหาร ซึ่งรวมถึงอาการดีขึ้นจากโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น โรคอ้วน ปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ และแม้แต่โรคมะเร็ง เจฟฟรีย์ สมิธ รู้สึกประหลาดใจกับรายงานนี้ จึงได้ทำการสำรวจผู้เข้าร่วม 3,256 คน เพื่อเปิดเผยถึงผลกระทบของการเปลี่ยนมารับประทานอาหารปลอดจีเอ็มโอ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าทึ่งมาก เปอร์เซ็นต์ที่ดีขึ้นจากการเปลี่ยนไปรับประทานอาหารที่ไม่ใช่ GMO: • ปัญหาระบบย่อยอาหาร - 85.2% • ความเหนื่อยล้า - 60.4% • น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน - 54.6% • ภาวะสมองล้า (Brain Fog) - 51.7% • ปัญหาอารมณ์ / ความวิตกกังวล / ภาวะซึมเศร้า - 51.1% • อาการแพ้อาหารหรือความไวต่ออาหาร - 50.2% • ความจำและสมาธิ - 46.9% • อาการปวดข้อ - 47.5% • อาการแพ้ตามฤดูกาล - 46.2% • ความไวต่อกลูเตน - 42.6% • นอนไม่หลับ - 41.2% • โรคผิวหนังอื่นๆ - 30.9% • ปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน - 30.4% • อาการปวดกล้ามเนื้อและกระดูก - 30.2% • โรคภูมิต้านตนเอง - 21.4% • โรคผิวหนังอักเสบ - 20.8% • ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดและความดันโลหิตสูง - 19.8% • โรคหอบหืด - 14.8% • ปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน - 13.4% • โรคเบาหวาน - 10.6% • โรคทางจิตเวชอื่นๆ - 7.9% • น้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ - 6.5% • โรคมะเร็ง - 4.8% • โรคไต - 4.3% • ภาวะมีบุตรยาก - 2.8% • กลุ่มอาการออทิสติก - 2.4% • โรคอัลไซเมอร์ - 2.4% • โรคพาร์กินสัน - 1.4% - - - - - - พวกเขาโกหกคุณเรื่องสุขภาพและยามานานหลายทศวรรษ เพราะเมื่อคุณป่วย คุณก็จะมีเงินมากขึ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระบบตุลาการทั้งหมดล้วนทุจริตและถูกควบคุมโดยกลุ่มฟรีเมสันผู้ล่วงละเมิดเด็ก คดีทุกคดีจึงถูกยกฟ้อง แล้วใครจะได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมล่ะ.

    ..มันควบคุมสื่อทั้งหมดและสาระพัดเครือข่ายกิจการมันทั่วโลก รวมถึงไทย.
    👹😱ระบบตุลาการทั้งหมดล้วนทุจริตและถูกควบคุมโดยกลุ่มฟรีเมสันผู้ล่วงละเมิดเด็ก คดีทุกคดีจึงถูกยกฟ้อง แล้วใครจะได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมล่ะ. ..มันควบคุมสื่อทั้งหมดและสาระพัดเครือข่ายกิจการมันทั่วโลก รวมถึงไทย.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • เส้นทางใหม่ในโลกการทำงานยุค AI : คู่มือเชิงกลยุทธ์สำหรับคนไทยวัย 45 ปี

    ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานอย่างรวดเร็ว การถูกให้ออกจากงานหรือถูกบังคับเกษียณก่อนกำหนดในวัย 45 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หลายคนยังต้องแบกรับภาระครอบครัวและความรับผิดชอบสูงสุดในชีวิต กลายเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและสร้างความช็อกให้กับคนทำงานจำนวนมาก ความรู้สึกสิ้นหวัง การตั้งคำถามกับคุณค่าในตัวเอง และความรู้สึกด้อยค่าที่ว่า "ทำมา 10 ปีแต่ไม่รอด" ล้วนเป็นปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่เข้าใจได้และเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นี้ไม่ใช่ความล้มเหลวส่วนบุคคลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในตลาดแรงงานระดับโลก รายงานนี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นมากกว่าแค่ข้อมูล แต่เป็นแผนที่ชีวิตที่จะช่วยให้ผู้ที่กำลังเผชิญวิกฤตนี้สามารถตั้งหลักและก้าวเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง โดยเปลี่ยนมุมมองจากจุดจบไปสู่จุดเปลี่ยนที่เต็มเปี่ยมด้วยโอกาส

    เมื่อพิจารณาถึงสาเหตุที่ทำให้หลายคนต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงนี้ คำถามที่ว่า "ทำไมต้องเป็นฉัน" มักผุดขึ้นมา โดยเฉพาะเมื่อ AI กลายเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดเกมในตลาดแรงงานไทย ซึ่งกำลังเผชิญกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้มาจาก AI เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ เช่น สังคมสูงวัย ในประเทศรายได้สูงและการเพิ่มขึ้นของแรงงานในประเทศรายได้ต่ำ ตลอดจนความผันผวนทางเศรษฐกิจ ตามรายงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศหรือ ILO คาดการณ์ว่าในอีกสองทศวรรษข้างหน้า ตำแหน่งงานในไทยมากกว่า 44% หรือราว 17 ล้านตำแหน่ง มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นพลังที่กำลังปรับโครงสร้างการจ้างงานอย่างถอนรากถอนโคน โดยเฉพาะงานที่ต้องทำซ้ำๆ และงานประจำ ซึ่งแรงงานวัยกลางคนจำนวนมากรับผิดชอบอยู่ ส่งผลให้เกิดปัญหาความไม่สมดุลของทักษะในตลาดแรงงาน แม้จะมีคนว่างงานมาก แต่พวกเขาก็ขาดทักษะที่จำเป็นสำหรับงานใหม่ที่เทคโนโลยีสร้างขึ้น การทำความเข้าใจปรากฏการณ์นี้อย่างเป็นระบบจะช่วยให้คนทำงานมองเห็นปัญหาในมุมกว้างและวางแผนพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในอนาคต

    เพื่อให้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น การจำแนกอาชีพตามระดับความเสี่ยงจาก AI ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ อาชีพที่มีความเสี่ยงสูงมักเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมประจำหรือการจัดการข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งสามารถทำให้เป็นระบบอัตโนมัติได้ง่าย เช่น พนักงานแคชเชียร์หรือพนักงานขายหน้าร้านที่ถูกแทนที่ด้วยระบบ self-checkout และการซื้อขายออนไลน์ เจ้าหน้าที่บริการลูกค้าหรือพนักงานคอลเซ็นเตอร์ที่ chatbot และระบบตอบรับอัตโนมัติสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง พนักงานป้อนและประมวลผลข้อมูลที่ระบบ OCR และ AI สามารถจัดการข้อมูลมหาศาลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ พนักงานขนส่งและโลจิสติกส์รวมถึงคนขับรถที่รถยนต์ไร้คนขับ และโดรนส่งของกำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และพนักงานบัญชีที่โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูปและ AI สามารถบันทึกและประมวลผลข้อมูลทางการเงินได้อย่างแม่นยำ ในทางตรงกันข้าม อาชีพที่ทนทานต่อ AI และกำลังเติบโตมักต้องใช้ทักษะเชิงมนุษย์ชั้นสูงที่ซับซ้อนและเลียนแบบได้ยาก เช่น แพทย์ นักจิตวิทยา และพยาบาลที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูง ประสบการณ์ การตัดสินใจที่ซับซ้อน และความเข้าใจมนุษย์ ครู-อาจารย์ที่ต้องใช้ทักษะการสอนที่ละเอียดอ่อน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และการสร้างแรงบันดาลใจ นักกฎหมายที่ต้องคิดเชิงวิเคราะห์ซับซ้อน 🛜 การสื่อสาร และการตัดสินใจในบริบทละเอียดอ่อน นักพัฒนา AI Data Scientist และ AI Ethicist ที่เป็นผู้สร้างและควบคุมเทคโนโลยีเอง โดยต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และทักษะเฉพาะทางระดับสูง และผู้เชี่ยวชาญด้าน soft skills ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การสื่อสาร ภาวะผู้นำ และการจัดการอารมณ์ ข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่แค่รายการอาชีพ แต่เป็นแผนที่กลยุทธ์ที่ชี้ทิศทางของตลาดแรงงาน คุณค่าของมนุษย์ในยุค AI อยู่ที่ทักษะที่ AI ไม่สามารถแทนที่ได้ ซึ่งจะช่วยให้คนทำงานวางแผนอัปสกิลหรือรีสกิลไปสู่อาชีพที่ยั่งยืนกว่า

    เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบาก การตั้งหลักอย่างมีสติและกลยุทธ์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเริ่มจากจัดการคลื่นอารมณ์ที่ถาโถมเข้ามา การถูกให้ออกจากงานอย่างกะทันหันอาจนำมาซึ่งความสับสน โกรธ สูญเสีย และด้อยค่า ผู้ที่เคยผ่านสถานการณ์นี้แนะนำให้ยอมรับความรู้สึกเหล่านั้นและให้เวลาตัวเองจัดการ โดยวิธีต่างๆ เช่น พูดคุยกับคนรอบข้างเพื่อรับกำลังใจและมุมมองใหม่ เขียนระบายความรู้สึกเพื่อจัดระเบียบความคิดและลดภาระจิตใจ หรือฝึกสมาธิและโยคะเพื่อทำให้จิตใจสงบ ลดความวิตกกังวล และตัดสินใจได้ดีขึ้น การปล่อยวางความคิดที่ว่าต้องชนะทุกเกมหรือชีวิตต้องเป็นไปตามแผนจะช่วยลดความกดดันและเปิดโอกาสให้คิดหาทางออกใหม่ๆ อย่างสร้างสรรค์ การให้กำลังใจตัวเองและไม่ยอมแพ้จะเป็นพลังที่นำไปสู่การเริ่มต้นใหม่ที่ทรงพลังกว่าเดิม

    ต่อจากนั้นคือการจัดการเรื่องสำคัญเร่งด่วนอย่างสิทธิประโยชน์และแผนการเงิน เพื่อให้มีสภาพคล่องในช่วงเปลี่ยนผ่าน การใช้สิทธิจากกองทุนประกันสังคมเป็นขั้นตอนสำคัญ โดยผู้ประกันตนมาตรา 33 จะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน หากจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 6 เดือนภายใน 15 เดือนก่อนว่างงาน และต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานภายใน 30 วันนับจากวันที่ออกจากงาน มิเช่นนั้นจะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง การขึ้นทะเบียนสามารถทำออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมการจัดหางาน เช่น e-service.doe.go.th หรือ empui.doe.go.th โดยลงทะเบียนผู้ใช้ใหม่ กรอกข้อมูลส่วนตัว วันที่ออกจากงาน สาเหตุ และยืนยันตัวตนด้วยรหัสหลังบัตรประชาชน จากนั้นเลือกเมนูขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนกรณีว่างงานและกรอกข้อมูลการทำงานล่าสุด หลังจากนั้นยื่นเอกสารที่สำนักงานประกันสังคม เช่น แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนว่างงาน (สปส. 2-01/7) สำเนาบัตรประชาชน หนังสือรับรองการออกจากงาน (ถ้ามี) และสำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ร่วมรายการ สุดท้ายต้องรายงานตัวทุกเดือนผ่านช่องทางออนไลน์ ข้อควรระวังคือผู้ที่มีอายุเกิน 55 ปีจะไม่ได้รับเงินทดแทนว่างงาน แต่ต้องใช้สิทธิเบี้ยชราภาพแทน

    ถัดมาคือการประเมินตนเองอย่างตรงไปตรงมาเพื่อค้นหาคุณค่าจากประสบการณ์ที่สั่งสม การถูกเลิกจ้างในวัย 45 ปีไม่ได้หมายถึงคุณค่าหมดสิ้น แต่กลับกัน อายุและประสบการณ์คือทุนมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุด ปัญหาที่แท้จริงคือทัศนคติที่ต้องปรับเปลี่ยน องค์กรยุคใหม่ให้ความสำคัญกับคนที่เปิดใจเรียนรู้และทำงานร่วมกับคนต่างวัย การเปลี่ยนจากการพูดถึงลักษณะงานไปสู่การบอกเล่าความสำเร็จที่จับต้องได้จะสร้างความน่าเชื่อถือ ทักษะที่นำไปปรับใช้ได้หรือ transferable skills คือขุมทรัพย์ของคนวัยนี้ เช่น ทักษะการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนจากประสบการณ์ยาวนานที่ทำให้มองปัญหาได้อย่างเป็นระบบ โดยนำเสนอด้วยตัวอย่างปัญหาที่เคยแก้ไขพร้อมขั้นตอนวิเคราะห์และผลลัพธ์จริง ภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมจากประสบการณ์นำทีมโครงการใหญ่ โดยระบุรายละเอียดเช่นนำทีม 10 คนลดต้นทุนได้ 15% ทักษะการสื่อสารและความฉลาดทางอารมณ์จากการประสานงาน เจรจา และจัดการความขัดแย้ง โดยเล่าเรื่องที่แสดงถึงความเข้าใจผู้อื่น และการสร้างเครือข่ายจากความสัมพันธ์ในอุตสาหกรรม โดยใช้เพื่อขอคำแนะนำหรือหาโอกาสงาน การประยุกต์ทักษะเหล่านี้จะเปลี่ยนจุดอ่อนเรื่องอายุให้เป็นจุดแข็งที่ไม่เหมือนใคร

    ในโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การยกระดับทักษะเพื่อการแข่งขันในยุคใหม่จึงจำเป็น โดยการเรียนรู้ตลอดชีวิตคือกุญแจสู่ความอยู่รอด มีแหล่งฝึกอบรมมากมายในไทยทั้งภาครัฐและเอกชน เริ่มจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานหรือ DSD ที่ให้บริการฝึกอบรมหลากหลายทั้งหลักสูตรระยะสั้นสำหรับรีสกิลและอัปสกิล เช่น หลักสูตร AI สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว คอมพิวเตอร์อย่าง Excel และ Power BI งานช่างอย่างช่างเดินสายไฟฟ้า และอาชีพอิสระอย่างทำอาหารไทย สามารถตรวจสอบและสมัครผ่านเว็บไซต์ dsd.go.th หรือ onlinetraining.dsd.go.th ต่อมาคือศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภายใต้กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวที่เปิดหลักสูตรฟรีเช่นการดูแลผู้สูงอายุและเสริมสวย และกรมการจัดหางานที่มีกิจกรรมแนะแนวอาชีพสำหรับผู้ว่างงาน สำหรับสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยหลายแห่งอย่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เปิดหลักสูตรสะสมหน่วยกิตสำหรับรีสกิลและอัปสกิล ส่วนแพลตฟอร์มเอกชนอย่าง FutureSkill และ SkillLane นำเสนอคอร์สทักษะแห่งอนาคตทั้ง hard skills ด้านเทคโนโลยี ข้อมูล ธุรกิจ และ soft skills สำหรับทำงานร่วมกับ AI

    เมื่อพร้อมทั้งอารมณ์และทักษะ การกำหนดแผนปฏิบัติการ 3 เส้นทางสู่ความสำเร็จจะเป็นขั้นตอนต่อไป

    1️⃣ เส้นทางแรกคือการกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยใช้ประสบการณ์เป็นแต้มต่อ เทคนิคเขียนเรซูเม่สำหรับวัยเก๋าคือหลีกเลี่ยงข้อมูลที่ทำให้ถูกเหมารวมอย่างปีจบการศึกษา ใช้คำสร้างความน่าเชื่อถือเช่นมีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี และเน้นความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม การสร้างโปรไฟล์ LinkedIn เพื่อนำเสนอประสบการณ์อย่างมืออาชีพ และใช้เครือข่ายอย่างเพื่อนร่วมงานเก่าหรือ head hunter เพื่อเปิดโอกาสงานที่ไม่ได้ประกาศทั่วไป

    2️⃣ เส้นทางที่สองคือการเป็นผู้เชี่ยวชาญอิสระอย่างฟรีแลนซ์หรือคอนซัลแทนต์ ซึ่งเหมาะกับผู้มีประสบการณ์สูงและต้องการกำหนดเวลาทำงานเอง อาชีพที่น่าสนใจเช่นที่ปรึกษาธุรกิจสำหรับองค์กรขนาดเล็ก นักเขียนหรือนักแปลอิสระที่ยังต้องอาศัยมนุษย์ตรวจสอบเนื้อหาละเอียดอ่อน และนักบัญชีหรือนักการเงินอิสระสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก การเตรียมพร้อมคือสร้างพอร์ตโฟลิโอที่น่าเชื่อถือเพราะผลงานสำคัญกว่าวุฒิการศึกษา

    3️⃣ เส้นทางที่สามคือการเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็กจากงานอดิเรก โดยใช้เทคโนโลยีลดต้นทุน เช่นขายของออนไลน์ผ่าน Facebook หรือ LINE เพื่อเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ หรือเป็น influencer หรือ YouTuber โดยใช้ประสบการณ์สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า ไอเดียธุรกิจที่ลงทุนน้อยและเหมาะสม เช่นธุรกิจอาหารและบริการอย่างทำอาหารหรือขนมขายจากบ้าน ขายของตลาดนัด หรือบริการดูแลผู้สูงอายุและสัตว์เลี้ยง ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์อย่างขายเสื้อผ้าหรือเป็นตัวแทนขายประกัน ธุรกิจที่ปรึกษาหรือฟรีแลนซ์อย่างที่ปรึกษาองค์กร นักเขียนอิสระ หรือที่ปรึกษาการเงิน และธุรกิจสร้างสรรค์อย่างปลูกผักปลอดสารพิษ งานฝีมือศิลปะ หรือเป็น influencer

    เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ การดูเรื่องราวความสำเร็จจากผู้ที่ก้าวข้ามมาแล้วจะช่วยให้เห็นว่าการเริ่มต้นใหม่ในวัย 45 ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ เช่น Henry Ford ที่ประสบความสำเร็จกับรถยนต์ Model T ในวัย 45 ปี Colonel Sanders ที่เริ่มแฟรนไชส์ KFC ในวัย 62 ปี หรือในไทยอย่างอดีตผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดที่ถูกเลิกจ้างแต่ผันตัวเป็นผู้ค้าอิสระและประสบความสำเร็จ เรื่องราวเหล่านี้แสดงว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข และความมุ่งมั่นคือกุญแจ

    สุดท้าย การเผชิญกับการถูกบังคับเกษียณในวัย 45 ปีไม่ใช่จุดจบแต่เป็นใบเบิกทางสู่บทบาทใหม่ที่ทรงคุณค่า ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติคือตั้งสติจัดการอารมณ์ ใช้สิทธิประโยชน์ให้เต็มที่ ประเมินคุณค่าจากประสบการณ์ ยกระดับทักษะอย่างต่อเนื่อง และสำรวจทางเลือกใหม่ๆ ท้ายที่สุด วัย 45 ปีคือช่วงเวลาที่ทรงพลังที่สุดในการนำประสบการณ์กว่าสองทศวรรษไปสร้างคุณค่าใหม่ให้ชีวิตและสังคมอย่างยั่งยืน

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    เส้นทางใหม่ในโลกการทำงานยุค AI 🤖: 📚 คู่มือเชิงกลยุทธ์สำหรับคนไทยวัย 45 ปี 🙎‍♂️ ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานอย่างรวดเร็ว การถูกให้ออกจากงานหรือถูกบังคับเกษียณก่อนกำหนดในวัย 45 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หลายคนยังต้องแบกรับภาระครอบครัวและความรับผิดชอบสูงสุดในชีวิต กลายเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและสร้างความช็อกให้กับคนทำงานจำนวนมาก ความรู้สึกสิ้นหวัง🤞 การตั้งคำถามกับคุณค่าในตัวเอง และความรู้สึกด้อยค่าที่ว่า "ทำมา 10 ปีแต่ไม่รอด" ล้วนเป็นปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่เข้าใจได้และเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นี้ไม่ใช่ความล้มเหลวส่วนบุคคลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในตลาดแรงงานระดับโลก🌏 รายงานนี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นมากกว่าแค่ข้อมูล แต่เป็นแผนที่ชีวิตที่จะช่วยให้ผู้ที่กำลังเผชิญวิกฤตนี้สามารถตั้งหลักและก้าวเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง โดยเปลี่ยนมุมมองจากจุดจบไปสู่จุดเปลี่ยนที่เต็มเปี่ยมด้วยโอกาส 🌞 เมื่อพิจารณาถึงสาเหตุที่ทำให้หลายคนต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงนี้ คำถามที่ว่า "ทำไมต้องเป็นฉัน" ⁉️ มักผุดขึ้นมา โดยเฉพาะเมื่อ AI กลายเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดเกมในตลาดแรงงานไทย 🙏 ซึ่งกำลังเผชิญกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้มาจาก AI เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ เช่น สังคมสูงวัย 👴 ในประเทศรายได้สูงและการเพิ่มขึ้นของแรงงานในประเทศรายได้ต่ำ ตลอดจนความผันผวนทางเศรษฐกิจ📉 ตามรายงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศหรือ ILO คาดการณ์ว่าในอีกสองทศวรรษข้างหน้า ตำแหน่งงานในไทยมากกว่า 44% หรือราว 17 ล้านตำแหน่ง มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นพลังที่กำลังปรับโครงสร้างการจ้างงานอย่างถอนรากถอนโคน โดยเฉพาะงานที่ต้องทำซ้ำๆ และงานประจำ ซึ่งแรงงานวัยกลางคนจำนวนมากรับผิดชอบอยู่ ส่งผลให้เกิดปัญหาความไม่สมดุลของทักษะในตลาดแรงงาน แม้จะมีคนว่างงานมาก แต่พวกเขาก็ขาดทักษะที่จำเป็นสำหรับงานใหม่ที่เทคโนโลยีสร้างขึ้น การทำความเข้าใจปรากฏการณ์นี้อย่างเป็นระบบจะช่วยให้คนทำงานมองเห็นปัญหาในมุมกว้างและวางแผนพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในอนาคต 🔮 เพื่อให้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น การจำแนกอาชีพตามระดับความเสี่ยงจาก AI ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ อาชีพที่มีความเสี่ยงสูงมักเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมประจำหรือการจัดการข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งสามารถทำให้เป็นระบบอัตโนมัติได้ง่าย เช่น พนักงานแคชเชียร์หรือพนักงานขายหน้าร้านที่ถูกแทนที่ด้วยระบบ self-checkout 🏧 และการซื้อขายออนไลน์ 🌐 เจ้าหน้าที่บริการลูกค้าหรือพนักงานคอลเซ็นเตอร์ที่ chatbot 🤖 และระบบตอบรับอัตโนมัติสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง พนักงานป้อนและประมวลผลข้อมูลที่ระบบ OCR และ AI สามารถจัดการข้อมูลมหาศาลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ พนักงานขนส่งและโลจิสติกส์รวมถึงคนขับรถที่รถยนต์ไร้คนขับ 🚗 และโดรนส่งของกำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และพนักงานบัญชีที่โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูปและ AI สามารถบันทึกและประมวลผลข้อมูลทางการเงินได้อย่างแม่นยำ ในทางตรงกันข้าม อาชีพที่ทนทานต่อ AI และกำลังเติบโตมักต้องใช้ทักษะเชิงมนุษย์ชั้นสูงที่ซับซ้อนและเลียนแบบได้ยาก เช่น 🧑‍⚕️ แพทย์ 👩‍🔬นักจิตวิทยา และพยาบาลที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูง ประสบการณ์ การตัดสินใจที่ซับซ้อน และความเข้าใจมนุษย์ 👩‍🏫 ครู-อาจารย์ที่ต้องใช้ทักษะการสอนที่ละเอียดอ่อน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และการสร้างแรงบันดาลใจ นักกฎหมายที่ต้องคิดเชิงวิเคราะห์ซับซ้อน 🛜 การสื่อสาร และการตัดสินใจในบริบทละเอียดอ่อน นักพัฒนา AI Data Scientist และ AI Ethicist ที่เป็นผู้สร้างและควบคุมเทคโนโลยีเอง โดยต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และทักษะเฉพาะทางระดับสูง และผู้เชี่ยวชาญด้าน soft skills ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การสื่อสาร ภาวะผู้นำ และการจัดการอารมณ์ ข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่แค่รายการอาชีพ แต่เป็นแผนที่กลยุทธ์ที่ชี้ทิศทางของตลาดแรงงาน คุณค่าของมนุษย์ในยุค AI อยู่ที่ทักษะที่ AI ไม่สามารถแทนที่ได้ ซึ่งจะช่วยให้คนทำงานวางแผนอัปสกิลหรือรีสกิลไปสู่อาชีพที่ยั่งยืนกว่า เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบาก การตั้งหลักอย่างมีสติและกลยุทธ์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเริ่มจากจัดการคลื่นอารมณ์ที่ถาโถมเข้ามา 🧘 การถูกให้ออกจากงานอย่างกะทันหันอาจนำมาซึ่งความสับสน โกรธ สูญเสีย และด้อยค่า ผู้ที่เคยผ่านสถานการณ์นี้แนะนำให้ยอมรับความรู้สึกเหล่านั้นและให้เวลาตัวเองจัดการ โดยวิธีต่างๆ เช่น พูดคุยกับคนรอบข้างเพื่อรับกำลังใจและมุมมองใหม่ เขียนระบายความรู้สึกเพื่อจัดระเบียบความคิดและลดภาระจิตใจ หรือฝึกสมาธิและโยคะเพื่อทำให้จิตใจสงบ ลดความวิตกกังวล และตัดสินใจได้ดีขึ้น การปล่อยวางความคิดที่ว่าต้องชนะทุกเกมหรือชีวิตต้องเป็นไปตามแผนจะช่วยลดความกดดันและเปิดโอกาสให้คิดหาทางออกใหม่ๆ อย่างสร้างสรรค์ การให้กำลังใจตัวเองและไม่ยอมแพ้จะเป็นพลังที่นำไปสู่การเริ่มต้นใหม่ที่ทรงพลังกว่าเดิม 💪 ต่อจากนั้นคือการจัดการเรื่องสำคัญเร่งด่วนอย่างสิทธิประโยชน์และแผนการเงิน เพื่อให้มีสภาพคล่องในช่วงเปลี่ยนผ่าน การใช้สิทธิจากกองทุนประกันสังคมเป็นขั้นตอนสำคัญ โดยผู้ประกันตนมาตรา 33 จะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน หากจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 6 เดือนภายใน 15 เดือนก่อนว่างงาน และต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานภายใน 30 วันนับจากวันที่ออกจากงาน มิเช่นนั้นจะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง การขึ้นทะเบียนสามารถทำออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมการจัดหางาน เช่น e-service.doe.go.th หรือ empui.doe.go.th โดยลงทะเบียนผู้ใช้ใหม่ กรอกข้อมูลส่วนตัว วันที่ออกจากงาน สาเหตุ และยืนยันตัวตนด้วยรหัสหลังบัตรประชาชน จากนั้นเลือกเมนูขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนกรณีว่างงานและกรอกข้อมูลการทำงานล่าสุด หลังจากนั้นยื่นเอกสารที่สำนักงานประกันสังคม เช่น แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนว่างงาน (สปส. 2-01/7) สำเนาบัตรประชาชน หนังสือรับรองการออกจากงาน (ถ้ามี) และสำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ร่วมรายการ สุดท้ายต้องรายงานตัวทุกเดือนผ่านช่องทางออนไลน์ ข้อควรระวังคือผู้ที่มีอายุเกิน 55 ปีจะไม่ได้รับเงินทดแทนว่างงาน แต่ต้องใช้สิทธิเบี้ยชราภาพแทน 💷💶💵 ถัดมาคือการประเมินตนเองอย่างตรงไปตรงมาเพื่อค้นหาคุณค่าจากประสบการณ์ที่สั่งสม การถูกเลิกจ้างในวัย 45 ปีไม่ได้หมายถึงคุณค่าหมดสิ้น แต่กลับกัน อายุและประสบการณ์คือทุนมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุด ปัญหาที่แท้จริงคือทัศนคติที่ต้องปรับเปลี่ยน องค์กรยุคใหม่ให้ความสำคัญกับคนที่เปิดใจเรียนรู้และทำงานร่วมกับคนต่างวัย การเปลี่ยนจากการพูดถึงลักษณะงานไปสู่การบอกเล่าความสำเร็จที่จับต้องได้จะสร้างความน่าเชื่อถือ ทักษะที่นำไปปรับใช้ได้หรือ transferable skills คือขุมทรัพย์ของคนวัยนี้ เช่น ทักษะการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนจากประสบการณ์ยาวนานที่ทำให้มองปัญหาได้อย่างเป็นระบบ โดยนำเสนอด้วยตัวอย่างปัญหาที่เคยแก้ไขพร้อมขั้นตอนวิเคราะห์และผลลัพธ์จริง 📊 ภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมจากประสบการณ์นำทีมโครงการใหญ่ โดยระบุรายละเอียดเช่นนำทีม 10 คนลดต้นทุนได้ 15% ทักษะการสื่อสารและความฉลาดทางอารมณ์จากการประสานงาน เจรจา และจัดการความขัดแย้ง โดยเล่าเรื่องที่แสดงถึงความเข้าใจผู้อื่น และการสร้างเครือข่ายจากความสัมพันธ์ในอุตสาหกรรม โดยใช้เพื่อขอคำแนะนำหรือหาโอกาสงาน การประยุกต์ทักษะเหล่านี้จะเปลี่ยนจุดอ่อนเรื่องอายุให้เป็นจุดแข็งที่ไม่เหมือนใคร 🧍‍♂️ ในโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การยกระดับทักษะเพื่อการแข่งขันในยุคใหม่จึงจำเป็น โดยการเรียนรู้ตลอดชีวิตคือกุญแจสู่ความอยู่รอด 🏫 มีแหล่งฝึกอบรมมากมายในไทยทั้งภาครัฐและเอกชน เริ่มจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานหรือ DSD ที่ให้บริการฝึกอบรมหลากหลายทั้งหลักสูตรระยะสั้นสำหรับรีสกิลและอัปสกิล เช่น หลักสูตร AI สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว คอมพิวเตอร์อย่าง Excel และ Power BI งานช่างอย่างช่างเดินสายไฟฟ้า และอาชีพอิสระอย่างทำอาหารไทย สามารถตรวจสอบและสมัครผ่านเว็บไซต์ dsd.go.th หรือ onlinetraining.dsd.go.th 🌐 ต่อมาคือศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภายใต้กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวที่เปิดหลักสูตรฟรีเช่นการดูแลผู้สูงอายุและเสริมสวย และกรมการจัดหางานที่มีกิจกรรมแนะแนวอาชีพสำหรับผู้ว่างงาน สำหรับสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยหลายแห่งอย่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เปิดหลักสูตรสะสมหน่วยกิตสำหรับรีสกิลและอัปสกิล ส่วนแพลตฟอร์มเอกชนอย่าง FutureSkill และ SkillLane 🕸️ นำเสนอคอร์สทักษะแห่งอนาคตทั้ง hard skills ด้านเทคโนโลยี ข้อมูล ธุรกิจ และ soft skills สำหรับทำงานร่วมกับ AI เมื่อพร้อมทั้งอารมณ์และทักษะ การกำหนดแผนปฏิบัติการ 3 เส้นทางสู่ความสำเร็จจะเป็นขั้นตอนต่อไป 1️⃣ เส้นทางแรกคือการกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยใช้ประสบการณ์เป็นแต้มต่อ 👩‍💻 เทคนิคเขียนเรซูเม่สำหรับวัยเก๋าคือหลีกเลี่ยงข้อมูลที่ทำให้ถูกเหมารวมอย่างปีจบการศึกษา ใช้คำสร้างความน่าเชื่อถือเช่นมีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี และเน้นความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม การสร้างโปรไฟล์ LinkedIn เพื่อนำเสนอประสบการณ์อย่างมืออาชีพ และใช้เครือข่ายอย่างเพื่อนร่วมงานเก่าหรือ head hunter เพื่อเปิดโอกาสงานที่ไม่ได้ประกาศทั่วไป 2️⃣ เส้นทางที่สองคือการเป็นผู้เชี่ยวชาญอิสระอย่างฟรีแลนซ์หรือคอนซัลแทนต์ 👨‍🏭 ซึ่งเหมาะกับผู้มีประสบการณ์สูงและต้องการกำหนดเวลาทำงานเอง อาชีพที่น่าสนใจเช่นที่ปรึกษาธุรกิจสำหรับองค์กรขนาดเล็ก นักเขียนหรือนักแปลอิสระที่ยังต้องอาศัยมนุษย์ตรวจสอบเนื้อหาละเอียดอ่อน และนักบัญชีหรือนักการเงินอิสระสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก การเตรียมพร้อมคือสร้างพอร์ตโฟลิโอที่น่าเชื่อถือเพราะผลงานสำคัญกว่าวุฒิการศึกษา 3️⃣ เส้นทางที่สามคือการเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็กจากงานอดิเรก 🏓 โดยใช้เทคโนโลยีลดต้นทุน เช่นขายของออนไลน์ผ่าน Facebook หรือ LINE เพื่อเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ หรือเป็น influencer หรือ YouTuber โดยใช้ประสบการณ์สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า ไอเดียธุรกิจที่ลงทุนน้อยและเหมาะสม เช่นธุรกิจอาหารและบริการอย่างทำอาหารหรือขนมขายจากบ้าน ขายของตลาดนัด หรือบริการดูแลผู้สูงอายุและสัตว์เลี้ยง ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์อย่างขายเสื้อผ้าหรือเป็นตัวแทนขายประกัน ธุรกิจที่ปรึกษาหรือฟรีแลนซ์อย่างที่ปรึกษาองค์กร นักเขียนอิสระ หรือที่ปรึกษาการเงิน และธุรกิจสร้างสรรค์อย่างปลูกผักปลอดสารพิษ งานฝีมือศิลปะ หรือเป็น influencer เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ การดูเรื่องราวความสำเร็จจากผู้ที่ก้าวข้ามมาแล้วจะช่วยให้เห็นว่าการเริ่มต้นใหม่ในวัย 45 ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ เช่น Henry Ford ที่ประสบความสำเร็จกับรถยนต์ Model T ในวัย 45 ปี Colonel Sanders ที่เริ่มแฟรนไชส์ KFC ในวัย 62 ปี หรือในไทยอย่างอดีตผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดที่ถูกเลิกจ้างแต่ผันตัวเป็นผู้ค้าอิสระและประสบความสำเร็จ เรื่องราวเหล่านี้แสดงว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข และความมุ่งมั่นคือกุญแจ 🗝️ สุดท้าย การเผชิญกับการถูกบังคับเกษียณในวัย 45 ปีไม่ใช่จุดจบแต่เป็นใบเบิกทางสู่บทบาทใหม่ที่ทรงคุณค่า ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติคือตั้งสติจัดการอารมณ์ ใช้สิทธิประโยชน์ให้เต็มที่ ประเมินคุณค่าจากประสบการณ์ ยกระดับทักษะอย่างต่อเนื่อง และสำรวจทางเลือกใหม่ๆ ท้ายที่สุด วัย 45 ปีคือช่วงเวลาที่ทรงพลังที่สุดในการนำประสบการณ์กว่าสองทศวรรษไปสร้างคุณค่าใหม่ให้ชีวิตและสังคมอย่างยั่งยืน #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขุมทรัพย์ในถังขยะ – เมื่อ SSD ระดับโปรกลายเป็นของฟรี

    ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเดินผ่านถังขยะ แล้วพบกับ SSD ระดับโปรจำนวน 6 ตัว รวมความจุถึง 6TB ที่ยังใช้งานได้อยู่ — นั่นคือสิ่งที่ผู้ใช้ Reddit ชื่อ DogeBoi6 เจอเข้าโดยบังเอิญ

    เขาพบ SSD Samsung 850 Pro ขนาด 1TB จำนวน 6 ตัว ถูกทิ้งไว้โดยไม่ใส่ใจ และตัดสินใจนำกลับมาใช้เพื่อดาวน์โหลดคลังเกม Steam ทั้งหมดของเขา แม้จะไม่รู้ว่า SSD เหล่านี้เคยผ่านการใช้งานแบบไหนมาก่อน แต่เขาก็ไม่กังวล เพราะไม่ได้วางแผนจะเก็บข้อมูลสำคัญไว้ในนั้น

    Samsung 850 Pro เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 ใช้เทคโนโลยี V-NAND รุ่นแรก มีความเร็วอ่าน/เขียนสูงสุดถึง 550MB/s และ 520MB/s ตามลำดับ พร้อม IOPS สูงถึง 100K/90K และมาพร้อมกับการรับประกัน 10 ปี หรือ 150–300 TBW ซึ่งถือว่ายาวนานและมั่นใจในความทนทาน

    แม้ SSD เหล่านี้จะหมดระยะรับประกันไปแล้ว แต่ก็ยังถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง และสามารถใช้งานได้ดีในงานที่ไม่ต้องการความเสถียรระดับมืออาชีพ เช่น การเก็บเกมหรือไฟล์ที่สามารถดาวน์โหลดใหม่ได้

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    ผู้ใช้ Reddit พบ SSD Samsung 850 Pro ขนาด 1TB จำนวน 6 ตัวในถังขยะ
    รวมความจุทั้งหมด 6TB และวางแผนใช้เก็บคลังเกม Steam
    ไม่ทราบประวัติการใช้งาน SSD เหล่านี้ แต่คาดว่าอาจเคยใช้ในเซิร์ฟเวอร์
    ผู้ใช้ไม่เก็บข้อมูลสำคัญใน SSD เหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
    Samsung 850 Pro เปิดตัวในปี 2014 และถือว่าเป็น SSD ระดับสูงในยุคนั้น
    ใช้เทคโนโลยี V-NAND รุ่นแรก มีความเร็วอ่าน/เขียนสูงสุด 550/520MB/s
    มี IOPS สูงถึง 100K/90K และรองรับ AES encryption
    รับประกัน 10 ปี หรือ 150–300 TBW แล้วแต่รุ่นและแหล่งข้อมูล
    SSD เหล่านี้หมดระยะรับประกันแล้ว แต่ยังใช้งานได้ในระดับทั่วไป
    เป็นตัวอย่างของการนำอุปกรณ์เก่ากลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Samsung 850 Pro เคยเป็น SSD SATA ที่เร็วที่สุดในตลาดช่วงเปิดตัว
    มีความทนทานสูงและใช้พลังงานต่ำ เหมาะกับงานหนักและเกมเมอร์
    ราคาเปิดตัวอยู่ที่ประมาณ $730 ต่อ 1TB ซึ่งถือว่าสูงมากในยุคนั้น
    รองรับระบบปฏิบัติการหลากหลาย เช่น Windows, Linux, Server
    สามารถใช้ซอฟต์แวร์ Samsung Magician เพื่อตรวจสอบสุขภาพ SSD
    การใช้ SSD เก่าในงานที่ไม่สำคัญช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้ดี

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/lucky-user-finds-6tb-of-free-ssd-storage-while-dumpster-diving-finder-plans-to-use-the-six-1tb-samsung-850-pro-ssds-to-download-entire-steam-library
    🎙️ ขุมทรัพย์ในถังขยะ – เมื่อ SSD ระดับโปรกลายเป็นของฟรี ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเดินผ่านถังขยะ แล้วพบกับ SSD ระดับโปรจำนวน 6 ตัว รวมความจุถึง 6TB ที่ยังใช้งานได้อยู่ — นั่นคือสิ่งที่ผู้ใช้ Reddit ชื่อ DogeBoi6 เจอเข้าโดยบังเอิญ เขาพบ SSD Samsung 850 Pro ขนาด 1TB จำนวน 6 ตัว ถูกทิ้งไว้โดยไม่ใส่ใจ และตัดสินใจนำกลับมาใช้เพื่อดาวน์โหลดคลังเกม Steam ทั้งหมดของเขา แม้จะไม่รู้ว่า SSD เหล่านี้เคยผ่านการใช้งานแบบไหนมาก่อน แต่เขาก็ไม่กังวล เพราะไม่ได้วางแผนจะเก็บข้อมูลสำคัญไว้ในนั้น Samsung 850 Pro เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 ใช้เทคโนโลยี V-NAND รุ่นแรก มีความเร็วอ่าน/เขียนสูงสุดถึง 550MB/s และ 520MB/s ตามลำดับ พร้อม IOPS สูงถึง 100K/90K และมาพร้อมกับการรับประกัน 10 ปี หรือ 150–300 TBW ซึ่งถือว่ายาวนานและมั่นใจในความทนทาน แม้ SSD เหล่านี้จะหมดระยะรับประกันไปแล้ว แต่ก็ยังถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง และสามารถใช้งานได้ดีในงานที่ไม่ต้องการความเสถียรระดับมืออาชีพ เช่น การเก็บเกมหรือไฟล์ที่สามารถดาวน์โหลดใหม่ได้ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ ผู้ใช้ Reddit พบ SSD Samsung 850 Pro ขนาด 1TB จำนวน 6 ตัวในถังขยะ ➡️ รวมความจุทั้งหมด 6TB และวางแผนใช้เก็บคลังเกม Steam ➡️ ไม่ทราบประวัติการใช้งาน SSD เหล่านี้ แต่คาดว่าอาจเคยใช้ในเซิร์ฟเวอร์ ➡️ ผู้ใช้ไม่เก็บข้อมูลสำคัญใน SSD เหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ➡️ Samsung 850 Pro เปิดตัวในปี 2014 และถือว่าเป็น SSD ระดับสูงในยุคนั้น ➡️ ใช้เทคโนโลยี V-NAND รุ่นแรก มีความเร็วอ่าน/เขียนสูงสุด 550/520MB/s ➡️ มี IOPS สูงถึง 100K/90K และรองรับ AES encryption ➡️ รับประกัน 10 ปี หรือ 150–300 TBW แล้วแต่รุ่นและแหล่งข้อมูล ➡️ SSD เหล่านี้หมดระยะรับประกันแล้ว แต่ยังใช้งานได้ในระดับทั่วไป ➡️ เป็นตัวอย่างของการนำอุปกรณ์เก่ากลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Samsung 850 Pro เคยเป็น SSD SATA ที่เร็วที่สุดในตลาดช่วงเปิดตัว ➡️ มีความทนทานสูงและใช้พลังงานต่ำ เหมาะกับงานหนักและเกมเมอร์ ➡️ ราคาเปิดตัวอยู่ที่ประมาณ $730 ต่อ 1TB ซึ่งถือว่าสูงมากในยุคนั้น ➡️ รองรับระบบปฏิบัติการหลากหลาย เช่น Windows, Linux, Server ➡️ สามารถใช้ซอฟต์แวร์ Samsung Magician เพื่อตรวจสอบสุขภาพ SSD ➡️ การใช้ SSD เก่าในงานที่ไม่สำคัญช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้ดี https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/lucky-user-finds-6tb-of-free-ssd-storage-while-dumpster-diving-finder-plans-to-use-the-six-1tb-samsung-850-pro-ssds-to-download-entire-steam-library
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อ “ฟรี” ไม่ใช่คำตอบ – และการย้ายออกจาก Gmail กลายเป็นการปลดปล่อย

    Giulio Magnifico ใช้ Gmail มาตั้งแต่ปี 2007 แต่ในปี 2025 เขาตัดสินใจย้ายออกจากบริการฟรีที่ “จ่ายด้วยข้อมูลส่วนตัว” ไปใช้ Mailbox.org ที่เน้นความเป็นส่วนตัวมากกว่า แม้จะต้องจ่ายเงินเดือนละ €2.50 แต่เขาบอกว่า “คุ้มกว่าการให้ Google รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับชีวิตเรา”

    เหตุผลหลักคือ Gmail ส่งข้อมูลแบบ plain text ซึ่ง Google สามารถเก็บไว้ได้ทั้งหมด และหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ก็สามารถร้องขอข้อมูลได้ แม้ผู้ใช้นั้นจะเป็นพลเมืองยุโรปก็ตาม

    Giulio ใช้อีเมลแบบเรียบง่าย ไม่สนใจฟีเจอร์เสริมอย่างปฏิทินหรือโน้ต เขาจึงเลือก Mailbox.org แทน ProtonMail หรือ Tutanota ซึ่งแม้จะมีการเข้ารหัสแบบ end-to-end แต่บังคับให้ใช้แอปของตัวเอง ซึ่งไม่เข้ากับ Apple Mail ที่เขาชื่นชอบ

    Mailbox.org รองรับ PGP และสามารถใช้ร่วมกับ Apple Mail ได้อย่างราบรื่น มีพื้นที่เก็บอีเมล 10GB และคลาวด์อีก 5GB โดยสามารถขยายได้ตามต้องการ

    เขาย้ายอีเมลกว่า 26,000 ฉบับจาก Gmail ไปยัง Mailbox.org ด้วยเครื่องมือ imapsync ผ่าน Docker โดยใช้สคริปต์เฉพาะที่เขียนเอง ใช้เวลา 3 ชั่วโมงเต็ม และไม่มีอีเมลหายแม้แต่ฉบับเดียว

    หลังจากย้ายเสร็จ เขาตั้งระบบ forward จาก Gmail ไปยัง Mailbox.org และใช้ระบบ flag เพื่อแยกอีเมลที่ยังส่งมาจาก Gmail เพื่อค่อย ๆ เปลี่ยนแอดเดรสในบริการต่าง ๆ

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Giulio Magnifico ย้ายจาก Gmail ไปใช้ Mailbox.org เพื่อความเป็นส่วนตัว
    เหตุผลหลักคือการไม่ต้องการให้ Google เก็บข้อมูลอีเมลทั้งหมด
    Gmail ส่งข้อมูลแบบ plain text และอยู่ภายใต้กฎหมายสหรัฐฯ แม้ผู้ใช้จะเป็นพลเมือง EU
    Mailbox.org รองรับ PGP และใช้งานร่วมกับ Apple Mail ได้
    มีแผนเริ่มต้นที่ €2.50/เดือน พร้อมพื้นที่เก็บอีเมล 10GB และคลาวด์ 5GB
    สามารถขยายพื้นที่ได้ที่ €0.20/GB
    ใช้ imapsync ผ่าน Docker เพื่อย้ายอีเมลกว่า 26,000 ฉบับจาก Gmail
    ใช้สคริปต์เฉพาะเพื่อหลีกเลี่ยงการซ้ำซ้อนของโฟลเดอร์ All Mail และ Archive
    ตั้งระบบ forward จาก Gmail และใช้ flag เพื่อแยกอีเมลที่ยังส่งมาจาก Gmail
    Mailbox.org ไม่มีระบบต่ออายุอัตโนมัติ ต้องเติมเงินเอง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    imapsync เป็นเครื่องมือยอดนิยมสำหรับการย้ายอีเมลแบบ IMAP โดยไม่สูญเสีย metadata
    ผู้ใช้ Gmail จำนวนมากเริ่มย้ายออกเพราะความกังวลด้านความเป็นส่วนตัว
    Gmail เคยถูกวิจารณ์เรื่องการใช้ข้อมูลเพื่อโฆษณาและการเข้าถึงของหน่วยงานรัฐ
    Mailbox.org เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่ได้รับการแนะนำจากกลุ่มผู้สนับสนุนความเป็นส่วนตัว
    การใช้ PGP บนเว็บของ Mailbox.org ช่วยให้ใช้งานบน iOS ได้สะดวกโดยไม่ต้องใช้แอปเสริม

    https://giuliomagnifico.blog/post/2025-08-18-leaving-gmail/
    🎙️ เมื่อ “ฟรี” ไม่ใช่คำตอบ – และการย้ายออกจาก Gmail กลายเป็นการปลดปล่อย Giulio Magnifico ใช้ Gmail มาตั้งแต่ปี 2007 แต่ในปี 2025 เขาตัดสินใจย้ายออกจากบริการฟรีที่ “จ่ายด้วยข้อมูลส่วนตัว” ไปใช้ Mailbox.org ที่เน้นความเป็นส่วนตัวมากกว่า แม้จะต้องจ่ายเงินเดือนละ €2.50 แต่เขาบอกว่า “คุ้มกว่าการให้ Google รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับชีวิตเรา” เหตุผลหลักคือ Gmail ส่งข้อมูลแบบ plain text ซึ่ง Google สามารถเก็บไว้ได้ทั้งหมด และหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ก็สามารถร้องขอข้อมูลได้ แม้ผู้ใช้นั้นจะเป็นพลเมืองยุโรปก็ตาม Giulio ใช้อีเมลแบบเรียบง่าย ไม่สนใจฟีเจอร์เสริมอย่างปฏิทินหรือโน้ต เขาจึงเลือก Mailbox.org แทน ProtonMail หรือ Tutanota ซึ่งแม้จะมีการเข้ารหัสแบบ end-to-end แต่บังคับให้ใช้แอปของตัวเอง ซึ่งไม่เข้ากับ Apple Mail ที่เขาชื่นชอบ Mailbox.org รองรับ PGP และสามารถใช้ร่วมกับ Apple Mail ได้อย่างราบรื่น มีพื้นที่เก็บอีเมล 10GB และคลาวด์อีก 5GB โดยสามารถขยายได้ตามต้องการ เขาย้ายอีเมลกว่า 26,000 ฉบับจาก Gmail ไปยัง Mailbox.org ด้วยเครื่องมือ imapsync ผ่าน Docker โดยใช้สคริปต์เฉพาะที่เขียนเอง ใช้เวลา 3 ชั่วโมงเต็ม และไม่มีอีเมลหายแม้แต่ฉบับเดียว หลังจากย้ายเสร็จ เขาตั้งระบบ forward จาก Gmail ไปยัง Mailbox.org และใช้ระบบ flag เพื่อแยกอีเมลที่ยังส่งมาจาก Gmail เพื่อค่อย ๆ เปลี่ยนแอดเดรสในบริการต่าง ๆ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Giulio Magnifico ย้ายจาก Gmail ไปใช้ Mailbox.org เพื่อความเป็นส่วนตัว ➡️ เหตุผลหลักคือการไม่ต้องการให้ Google เก็บข้อมูลอีเมลทั้งหมด ➡️ Gmail ส่งข้อมูลแบบ plain text และอยู่ภายใต้กฎหมายสหรัฐฯ แม้ผู้ใช้จะเป็นพลเมือง EU ➡️ Mailbox.org รองรับ PGP และใช้งานร่วมกับ Apple Mail ได้ ➡️ มีแผนเริ่มต้นที่ €2.50/เดือน พร้อมพื้นที่เก็บอีเมล 10GB และคลาวด์ 5GB ➡️ สามารถขยายพื้นที่ได้ที่ €0.20/GB ➡️ ใช้ imapsync ผ่าน Docker เพื่อย้ายอีเมลกว่า 26,000 ฉบับจาก Gmail ➡️ ใช้สคริปต์เฉพาะเพื่อหลีกเลี่ยงการซ้ำซ้อนของโฟลเดอร์ All Mail และ Archive ➡️ ตั้งระบบ forward จาก Gmail และใช้ flag เพื่อแยกอีเมลที่ยังส่งมาจาก Gmail ➡️ Mailbox.org ไม่มีระบบต่ออายุอัตโนมัติ ต้องเติมเงินเอง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ imapsync เป็นเครื่องมือยอดนิยมสำหรับการย้ายอีเมลแบบ IMAP โดยไม่สูญเสีย metadata ➡️ ผู้ใช้ Gmail จำนวนมากเริ่มย้ายออกเพราะความกังวลด้านความเป็นส่วนตัว ➡️ Gmail เคยถูกวิจารณ์เรื่องการใช้ข้อมูลเพื่อโฆษณาและการเข้าถึงของหน่วยงานรัฐ ➡️ Mailbox.org เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่ได้รับการแนะนำจากกลุ่มผู้สนับสนุนความเป็นส่วนตัว ➡️ การใช้ PGP บนเว็บของ Mailbox.org ช่วยให้ใช้งานบน iOS ได้สะดวกโดยไม่ต้องใช้แอปเสริม https://giuliomagnifico.blog/post/2025-08-18-leaving-gmail/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว



  • โทนี่คือบททดสอบจริงของคนไทยว่าระดับสติปัญญาของคนส่วนมากบนแผ่นดินไทยพร้อมพอที่จะอัพเรเวลตนและประเทศไทยสู่ระดับดีผ่านได้จริงมั้ย,คือต้องการอยู่แบบนรกบนดินถูกเชือดนิ่มๆยิ่งกว่าเขมรมั้ย,หรือปลดปล่อยตนเองเป็นอิสระอย่างแท้จริง หรือคือสนามสอบสนามทดสอบความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางที่ดีได้มั้ยในระดับชาติของคนไทยเราทั่วประเทศก็ว่า , ประชาชนคนไทยส่วนมากต้องการเป็นแบบไหน?ของยุคสมัยใหม่ที่จะมาถึง,ไม่ว่าแบบส้มก็ตามแบบโทนี่ก็ด้วย คือจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่จริงๆ,อยากเกิดในนรกก็ตามระบบโทนี่ระบบชูสามนิ้วไป,อยากขึ้นสวรรค์สรรค์สร้างเองร่วมกันก็ลงมือทำจริงกันปลดแอกปลดปล่อยตนเองกัน ยึดประเทศตนคือจากระบบรัฐที่ล้มเหลวนี้ของคณะกบฎ2475ทั้งสิ้นก่อสร้างมาเองทั้งหมดจนถึงปัจจุบัน สืบทอดอำนาจอันยาวนานเรื่อยๆมาถึงปีพอศอพ.ศ.นี้นั้นเอง,การปฏิวัติยึดอำนาจยุคลุงโดยสมคบคิดกับกลุ่มกปปส.คือของจริง ทั้งหมดคือการละครแหกตาประชาชนหลอกลวงประชาชนเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประชาชนอย่างเราๆอีกที,เราผิดพลาดจากยุคลุงสังหารเราอย่างอำมหิตผ่านวัคซีนโควิดจริงๆนะ,วางหมากสมคบคิดกันอย่างข้ามปีๆหลายๆปี มิน่าจึงพยายามทุกๆวิถีทางจะครองอำนาจตนให้ได้ปกครองรอบที่2 จากปี57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 ,เดทโซนปี66 67 68 69 70 ทุกๆวาระagendaในไทยต้องสำเร็จหมดและทันเวลาของนายใหญ่deep state สากลระดับโลก, ดูดีๆมันอยู่ในแผนdeep state ที่วางไว้หมดจริงๆ ไทยต้องเดินตามแผนมันที่วางไว้,โดยคนของมันต้องยึดอำนาจ จึงก่อเหตุสู่ขั้นตอนกระบวนการยึดปกครองขึ้น,จากนั้นจึงเริ่มปฏิบัติทุกๆภาระกิจหลัก ตามแผนหลักให้สำเร็จโดยเร็ว.

    ..หากคนไทยไม่ลืม มันเข้ามายึดอำนาจเร่งรีบจะใช้single gatewayใจจะขาดเพื่อควบคุมคนไทยให้ได้ กฎหมายปรับ2,000บาทคือตัวอย่างโยนหินถามทางในการควบคุมคนไทย ต้องใส่หมวกกันน็อคนะ ทำให้หวาดกลัวและลงโทษทางกฎหมายสไตล์การปกครองของมารซาตาน, ถ้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)มีนโยบายเตรียมผลักดันการจัดตั้ง Single Gateway สำเร็จในยุคลุงยึดอำนาจ ที่ออกแบบต้นกลางปี58 สำเร็จ,ประเทศจะดับอนาถยิ่งกว่าเขมรในปัจจุบันที่ฮุนเซนปกครองอีก,ควบคุมสื่อสารทางเน็ตทุกๆรูปแบบ,ไม่ต่างจากจีน จากเกาหลีเหนือนั้นเอง,จนคนเขมรยังเชื่อว่าทหารไทยตายและยังไม่มาเก็บศพในฝั่งมันเลยก็ว่า.
    ..
    ..ทหารพระราชาต้องรักษาบ้านเมืองปกป้องประเทศไทยให้ได้จากภัยรุกรานคุกคามรอบทิศรอบโลกแบบนี้,ด้วยการประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศทันที,นี้คือการปิดประตูตีแมวตีหมาตีหนูจริงด้วยภายในประเทศเรา,ปิดประเทศอย่างไม่เป็นทางการก็ได้นั้นเอง,ปิดด่านฉุกเฉินคัดกรองคนต่างชาติต่างบ้านต่างเมืองก็ด้วย,ใครไม่มีวีซ่าพิเศษที่ออกใหม่ยุคพิเศษคัดกรองนี้ไม่สามารถเข้าประเทศได้เสรีอีกต่อไป,ไม่มีฟรีวีซ่าในทุกๆกรณีอีกแล้ว,จะปกป้องภัยจากภายนอกได้ระดับหนึ่งด้วยเพราะคนเฮี้ยๆจากภายนอกบ้านในยุคเศรษฐกิจโลกพังพินาศแล้วนี้ในปัจจุบันเป็นแบบใดกันแน่.
    ..ทหารพระราชาและภาคประชาชนจะปลอดภัยขึ้นเป็นอันมากด้วยในหลายๆมิติที่แบบเดิมๆแก้ไขปัญหาไม่ได้.,เพราะสามารถใช้คำสั่งเด็ดขาดกำจัดได้ทันทีนั้นเอง.

    https://youtube.com/shorts/3ewzZtymUXg?si=GrGPXPgZhF6M4nYv
    โทนี่คือบททดสอบจริงของคนไทยว่าระดับสติปัญญาของคนส่วนมากบนแผ่นดินไทยพร้อมพอที่จะอัพเรเวลตนและประเทศไทยสู่ระดับดีผ่านได้จริงมั้ย,คือต้องการอยู่แบบนรกบนดินถูกเชือดนิ่มๆยิ่งกว่าเขมรมั้ย,หรือปลดปล่อยตนเองเป็นอิสระอย่างแท้จริง หรือคือสนามสอบสนามทดสอบความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางที่ดีได้มั้ยในระดับชาติของคนไทยเราทั่วประเทศก็ว่า , ประชาชนคนไทยส่วนมากต้องการเป็นแบบไหน?ของยุคสมัยใหม่ที่จะมาถึง,ไม่ว่าแบบส้มก็ตามแบบโทนี่ก็ด้วย คือจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่จริงๆ,อยากเกิดในนรกก็ตามระบบโทนี่ระบบชูสามนิ้วไป,อยากขึ้นสวรรค์สรรค์สร้างเองร่วมกันก็ลงมือทำจริงกันปลดแอกปลดปล่อยตนเองกัน ยึดประเทศตนคือจากระบบรัฐที่ล้มเหลวนี้ของคณะกบฎ2475ทั้งสิ้นก่อสร้างมาเองทั้งหมดจนถึงปัจจุบัน สืบทอดอำนาจอันยาวนานเรื่อยๆมาถึงปีพอศอพ.ศ.นี้นั้นเอง,การปฏิวัติยึดอำนาจยุคลุงโดยสมคบคิดกับกลุ่มกปปส.คือของจริง ทั้งหมดคือการละครแหกตาประชาชนหลอกลวงประชาชนเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประชาชนอย่างเราๆอีกที,เราผิดพลาดจากยุคลุงสังหารเราอย่างอำมหิตผ่านวัคซีนโควิดจริงๆนะ,วางหมากสมคบคิดกันอย่างข้ามปีๆหลายๆปี มิน่าจึงพยายามทุกๆวิถีทางจะครองอำนาจตนให้ได้ปกครองรอบที่2 จากปี57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 ,เดทโซนปี66 67 68 69 70 ทุกๆวาระagendaในไทยต้องสำเร็จหมดและทันเวลาของนายใหญ่deep state สากลระดับโลก, ดูดีๆมันอยู่ในแผนdeep state ที่วางไว้หมดจริงๆ ไทยต้องเดินตามแผนมันที่วางไว้,โดยคนของมันต้องยึดอำนาจ จึงก่อเหตุสู่ขั้นตอนกระบวนการยึดปกครองขึ้น,จากนั้นจึงเริ่มปฏิบัติทุกๆภาระกิจหลัก ตามแผนหลักให้สำเร็จโดยเร็ว. ..หากคนไทยไม่ลืม มันเข้ามายึดอำนาจเร่งรีบจะใช้single gatewayใจจะขาดเพื่อควบคุมคนไทยให้ได้ กฎหมายปรับ2,000บาทคือตัวอย่างโยนหินถามทางในการควบคุมคนไทย ต้องใส่หมวกกันน็อคนะ ทำให้หวาดกลัวและลงโทษทางกฎหมายสไตล์การปกครองของมารซาตาน, ถ้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)มีนโยบายเตรียมผลักดันการจัดตั้ง Single Gateway สำเร็จในยุคลุงยึดอำนาจ ที่ออกแบบต้นกลางปี58 สำเร็จ,ประเทศจะดับอนาถยิ่งกว่าเขมรในปัจจุบันที่ฮุนเซนปกครองอีก,ควบคุมสื่อสารทางเน็ตทุกๆรูปแบบ,ไม่ต่างจากจีน จากเกาหลีเหนือนั้นเอง,จนคนเขมรยังเชื่อว่าทหารไทยตายและยังไม่มาเก็บศพในฝั่งมันเลยก็ว่า. .. ..ทหารพระราชาต้องรักษาบ้านเมืองปกป้องประเทศไทยให้ได้จากภัยรุกรานคุกคามรอบทิศรอบโลกแบบนี้,ด้วยการประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศทันที,นี้คือการปิดประตูตีแมวตีหมาตีหนูจริงด้วยภายในประเทศเรา,ปิดประเทศอย่างไม่เป็นทางการก็ได้นั้นเอง,ปิดด่านฉุกเฉินคัดกรองคนต่างชาติต่างบ้านต่างเมืองก็ด้วย,ใครไม่มีวีซ่าพิเศษที่ออกใหม่ยุคพิเศษคัดกรองนี้ไม่สามารถเข้าประเทศได้เสรีอีกต่อไป,ไม่มีฟรีวีซ่าในทุกๆกรณีอีกแล้ว,จะปกป้องภัยจากภายนอกได้ระดับหนึ่งด้วยเพราะคนเฮี้ยๆจากภายนอกบ้านในยุคเศรษฐกิจโลกพังพินาศแล้วนี้ในปัจจุบันเป็นแบบใดกันแน่. ..ทหารพระราชาและภาคประชาชนจะปลอดภัยขึ้นเป็นอันมากด้วยในหลายๆมิติที่แบบเดิมๆแก้ไขปัญหาไม่ได้.,เพราะสามารถใช้คำสั่งเด็ดขาดกำจัดได้ทันทีนั้นเอง. https://youtube.com/shorts/3ewzZtymUXg?si=GrGPXPgZhF6M4nYv
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนไทยว่าไง ข่าวลือให้สัญชาติเขมร ที่รุกล้ำตั้งรกรากชายแดน บ้านหนองจาน อยู่ฟรี เรียนฟรี รักษาฟรี ให้คนทรยศเนรคุณ
    #7ดอกจิก
    คนไทยว่าไง ข่าวลือให้สัญชาติเขมร ที่รุกล้ำตั้งรกรากชายแดน บ้านหนองจาน อยู่ฟรี เรียนฟรี รักษาฟรี ให้คนทรยศเนรคุณ #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัมผัสยุโรปคลาสสิกผ่านสายน้ำไรน์บนเรือ Viking River Cruise 5 ดาว 8 วัน 7 คืน
    ล่องผ่าน 4 ประเทศ ไฮไลต์ครบทั้งธรรมชาติ เมืองเก่า มรดกโลก แวะเที่ยวเมืองดังอย่างสตราสบูร์ก โคโลญจน์ อัมสเตอร์ดัม

    เส้นทาง บาเซิล, สวิตเซอร์แลนด์ - ไบรซัค, เยอรมนี - สตราสบูร์ก, ฝรั่งเศส - ชไปเออร์, เยอรมนี - รืเดสไฮม์, เยอรมนี - โคเบลนซ์, เยอรมนี - โคโลญจน์, เยอรมนี - คินเดอร์ไดค์, เนเธอร์แลนด์ - อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์

    วันที่ มี.ค. - ต.ค. 2569

    ⭕️ ราคาเริ่มต้น 6,195AUD
    โปรโมชั่น รับส่วนลดสูงสุดถึง 4,000AUD ต่อห้องพักคู่ เมื่อจองภายใน 1 ก.ย. 2568 หรือ จนกว่าห้องจะเต็ม

    All inclusive
    โรงแรมที่พักในเบอร์ลิน 2 คืน
    ทัวร์ชายฝั่งฟรี 1 รายการในทุกเมืองที่เรือจอด
    ฟรี Wi-Fi
    เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ เสริ์ฟพร้อมมื้อกลางวัน และมื้อเย็นบนเรือ

    รหัสแพคเกจทัวร์ : VKRP-8D7N-BSL-AMS-2611211
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e3ccf4

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #VikingRiverCruise #ElegantElbe #Switzerland #Germany #France #Netherland #Cologne #KinderdijkWindmills #Speyer #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #CruiseDomain
    🚢 สัมผัสยุโรปคลาสสิกผ่านสายน้ำไรน์บนเรือ Viking River Cruise 5 ดาว 8 วัน 7 คืน ล่องผ่าน 4 ประเทศ ไฮไลต์ครบทั้งธรรมชาติ เมืองเก่า มรดกโลก แวะเที่ยวเมืองดังอย่างสตราสบูร์ก โคโลญจน์ อัมสเตอร์ดัม ➡️ เส้นทาง บาเซิล, สวิตเซอร์แลนด์ - ไบรซัค, เยอรมนี - สตราสบูร์ก, ฝรั่งเศส - ชไปเออร์, เยอรมนี - รืเดสไฮม์, เยอรมนี - โคเบลนซ์, เยอรมนี - โคโลญจน์, เยอรมนี - คินเดอร์ไดค์, เนเธอร์แลนด์ - อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์ 📅 วันที่ มี.ค. - ต.ค. 2569 ⭕️ ราคาเริ่มต้น 6,195AUD โปรโมชั่น รับส่วนลดสูงสุดถึง 4,000AUD ต่อห้องพักคู่ เมื่อจองภายใน 1 ก.ย. 2568 หรือ จนกว่าห้องจะเต็ม 💥 ✨ All inclusive ✅ โรงแรมที่พักในเบอร์ลิน 2 คืน ✅ ทัวร์ชายฝั่งฟรี 1 รายการในทุกเมืองที่เรือจอด ✅ ฟรี Wi-Fi ✅ เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ เสริ์ฟพร้อมมื้อกลางวัน และมื้อเย็นบนเรือ ➡️ รหัสแพคเกจทัวร์ : VKRP-8D7N-BSL-AMS-2611211 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e3ccf4 ✅ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #VikingRiverCruise #ElegantElbe #Switzerland #Germany #France #Netherland #Cologne #KinderdijkWindmills #Speyer #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #CruiseDomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อเบอร์ลินเสนอขอ “ดูแล” Chrome – และอาจเปลี่ยนเบราว์เซอร์ให้กลายเป็นเครื่องมือสีเขียว

    ในวันที่ 21 สิงหาคม 2025 Ecosia บริษัทไม่แสวงหากำไรจากเยอรมนีที่รู้จักกันดีในฐานะเสิร์ชเอนจินสายสิ่งแวดล้อม ได้เสนอแนวคิดที่ไม่ธรรมดา: ขอรับหน้าที่ดูแล Google Chrome เป็นเวลา 10 ปี โดยไม่ขอซื้อ แต่ขอ “บริหารจัดการ” แทน

    ข้อเสนอของ Ecosia คือให้ Google แยก Chrome ออกเป็นมูลนิธิที่ยังคงถือสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาไว้ แต่ให้ Ecosia รับผิดชอบการดำเนินงานทั้งหมด โดย Ecosiaจะนำกำไรจาก Chrome ประมาณ 60% ไปลงทุนในโครงการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การปลูกป่า การพัฒนา AI สีเขียว และการฟ้องร้องผู้ก่อมลพิษ ส่วนอีก 40% จะคืนให้ Google เป็นค่าตอบแทน

    ข้อเสนอนี้เกิดขึ้นในช่วงที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กำลังพิจารณาให้ Google แยก Chrome ออกจากธุรกิจหลัก หลังจากถูกตัดสินว่าผูกขาดตลาดค้นหา Ecosiaจึงเสนอแนวทางที่ไม่ใช่การขาย แต่เป็นการดูแลแบบมีเป้าหมายเพื่อสาธารณะ

    ก่อนหน้านี้ Perplexity AI เคยเสนอซื้อ Chrome ด้วยเงินสด $34.5 พันล้าน แม้จะมีมูลค่าต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ แต่ก็สะท้อนถึงความสนใจใน Chrome ที่มีผู้ใช้งานหลายพันล้านคนทั่วโลก

    แม้ข้อเสนอของ Ecosia จะดู “ฟรี” แต่พวกเขาคาดว่า Chrome จะสร้างรายได้ถึง $1 ล้านล้านใน 10 ปี ซึ่งหมายความว่า Ecosia จะบริหารเงินกว่า $600 พันล้านเพื่อสิ่งแวดล้อม และ Google จะได้รับคืน $400 พันล้าน โดยไม่ต้องบริหารเอง

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Ecosia เสนอรับหน้าที่ดูแล Google Chrome เป็นเวลา 10 ปี โดยไม่ขอซื้อ
    Google จะยังคงถือสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาและสามารถเป็น search engine เริ่มต้นได้
    Ecosia จะนำกำไร 60% ไปลงทุนในโครงการสิ่งแวดล้อม และคืน 40% ให้ Google
    ข้อเสนอเกิดขึ้นหลัง DOJ สหรัฐฯ พิจารณาให้ Google แยก Chrome ออกจากธุรกิจหลัก
    Ecosia คาดว่า Chrome จะสร้างรายได้ $1 ล้านล้านใน 10 ปี
    โครงการสิ่งแวดล้อมที่เสนอรวมถึงการปลูกป่า, พัฒนา AI สีเขียว และฟ้องร้องผู้ก่อมลพิษ
    Google ยังไม่ตอบรับหรือปฏิเสธข้อเสนออย่างเป็นทางการ
    Ecosia มีความสัมพันธ์กับ Google อยู่แล้วผ่านการใช้ search engine และ revenue sharing
    ข้อเสนอของ Ecosia ถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ แต่เน้นผลประโยชน์สาธารณะ
    หากครบ 10 ปี อาจมีการเปลี่ยนผู้ดูแลหรือทบทวนใหม่

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Perplexity AI เคยเสนอซื้อ Chrome ด้วยเงินสด $34.5 พันล้าน แม้จะต่ำกว่าคาด
    OpenAI ก็แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome หากมีการเปิดขาย
    Ecosia ก่อตั้งในปี 2009 และลงทุนในโครงการสิ่งแวดล้อมในกว่า 35 ประเทศ
    นักวิเคราะห์คาดว่า Chrome อาจมีมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์หากเปิดประมูล
    การเปลี่ยน Chrome เป็นมูลนิธิอาจช่วยลดแรงกดดันด้านกฎหมายต่อตัว Google

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/21/germany039s-ecosia-proposes-stewardship-to-run-google-chrome
    🎙️ เมื่อเบอร์ลินเสนอขอ “ดูแล” Chrome – และอาจเปลี่ยนเบราว์เซอร์ให้กลายเป็นเครื่องมือสีเขียว ในวันที่ 21 สิงหาคม 2025 Ecosia บริษัทไม่แสวงหากำไรจากเยอรมนีที่รู้จักกันดีในฐานะเสิร์ชเอนจินสายสิ่งแวดล้อม ได้เสนอแนวคิดที่ไม่ธรรมดา: ขอรับหน้าที่ดูแล Google Chrome เป็นเวลา 10 ปี โดยไม่ขอซื้อ แต่ขอ “บริหารจัดการ” แทน ข้อเสนอของ Ecosia คือให้ Google แยก Chrome ออกเป็นมูลนิธิที่ยังคงถือสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาไว้ แต่ให้ Ecosia รับผิดชอบการดำเนินงานทั้งหมด โดย Ecosiaจะนำกำไรจาก Chrome ประมาณ 60% ไปลงทุนในโครงการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การปลูกป่า การพัฒนา AI สีเขียว และการฟ้องร้องผู้ก่อมลพิษ ส่วนอีก 40% จะคืนให้ Google เป็นค่าตอบแทน ข้อเสนอนี้เกิดขึ้นในช่วงที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กำลังพิจารณาให้ Google แยก Chrome ออกจากธุรกิจหลัก หลังจากถูกตัดสินว่าผูกขาดตลาดค้นหา Ecosiaจึงเสนอแนวทางที่ไม่ใช่การขาย แต่เป็นการดูแลแบบมีเป้าหมายเพื่อสาธารณะ ก่อนหน้านี้ Perplexity AI เคยเสนอซื้อ Chrome ด้วยเงินสด $34.5 พันล้าน แม้จะมีมูลค่าต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ แต่ก็สะท้อนถึงความสนใจใน Chrome ที่มีผู้ใช้งานหลายพันล้านคนทั่วโลก แม้ข้อเสนอของ Ecosia จะดู “ฟรี” แต่พวกเขาคาดว่า Chrome จะสร้างรายได้ถึง $1 ล้านล้านใน 10 ปี ซึ่งหมายความว่า Ecosia จะบริหารเงินกว่า $600 พันล้านเพื่อสิ่งแวดล้อม และ Google จะได้รับคืน $400 พันล้าน โดยไม่ต้องบริหารเอง 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Ecosia เสนอรับหน้าที่ดูแล Google Chrome เป็นเวลา 10 ปี โดยไม่ขอซื้อ ➡️ Google จะยังคงถือสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาและสามารถเป็น search engine เริ่มต้นได้ ➡️ Ecosia จะนำกำไร 60% ไปลงทุนในโครงการสิ่งแวดล้อม และคืน 40% ให้ Google ➡️ ข้อเสนอเกิดขึ้นหลัง DOJ สหรัฐฯ พิจารณาให้ Google แยก Chrome ออกจากธุรกิจหลัก ➡️ Ecosia คาดว่า Chrome จะสร้างรายได้ $1 ล้านล้านใน 10 ปี ➡️ โครงการสิ่งแวดล้อมที่เสนอรวมถึงการปลูกป่า, พัฒนา AI สีเขียว และฟ้องร้องผู้ก่อมลพิษ ➡️ Google ยังไม่ตอบรับหรือปฏิเสธข้อเสนออย่างเป็นทางการ ➡️ Ecosia มีความสัมพันธ์กับ Google อยู่แล้วผ่านการใช้ search engine และ revenue sharing ➡️ ข้อเสนอของ Ecosia ถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ แต่เน้นผลประโยชน์สาธารณะ ➡️ หากครบ 10 ปี อาจมีการเปลี่ยนผู้ดูแลหรือทบทวนใหม่ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Perplexity AI เคยเสนอซื้อ Chrome ด้วยเงินสด $34.5 พันล้าน แม้จะต่ำกว่าคาด ➡️ OpenAI ก็แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome หากมีการเปิดขาย ➡️ Ecosia ก่อตั้งในปี 2009 และลงทุนในโครงการสิ่งแวดล้อมในกว่า 35 ประเทศ ➡️ นักวิเคราะห์คาดว่า Chrome อาจมีมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์หากเปิดประมูล ➡️ การเปลี่ยน Chrome เป็นมูลนิธิอาจช่วยลดแรงกดดันด้านกฎหมายต่อตัว Google https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/21/germany039s-ecosia-proposes-stewardship-to-run-google-chrome
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Germany's Ecosia proposes stewardship to run Google Chrome
    STOCKHOLM (Reuters) -Germany's Ecosia, a nonprofit search engine, said on Thursday it has submitted a proposal to assume a 10-year stewardship of Alphabet's Google Chrome web browser.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • น้ำที่ไม่ปลอดภัย – เมื่อไซเบอร์สงครามเริ่มจากก๊อกน้ำ

    ในเดือนสิงหาคม 2025 เกิดเหตุการณ์สองครั้งที่สะท้อนถึงภัยคุกคามไซเบอร์ต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำในยุโรป ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซีย

    เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ เมื่อมีผู้เจาะระบบควบคุมและเปิดวาล์วปล่อยน้ำเป็นเวลาราว 4 ชั่วโมง แม้จะไม่มีความเสียหาย แต่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมระบบจริงได้ โดยมีวิดีโอเผยแพร่บน Telegram ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่ม Z-Pentest Alliance ที่มีแนวโน้มสนับสนุนรัสเซีย

    เหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในโปแลนด์ เมื่อรองนายกรัฐมนตรี Krzysztof Gawkowski เปิดเผยว่ามีความพยายามโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ถูกสกัดไว้ได้ทันเวลา เขาเปรียบเทียบว่า “รัสเซียอาจไม่ส่งรถถัง แต่ส่งมัลแวร์แทน”

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การโจมตีลักษณะนี้เป็น “การหยั่งเชิง” ที่อาจนำไปสู่การโจมตีขนาดใหญ่ในอนาคต โดยเฉพาะระบบน้ำที่มักขาดงบประมาณและบุคลากรด้านไซเบอร์

    แม้ผู้โจมตีจะดูเหมือนมือสมัครเล่น แต่การควบคุมระบบจริงได้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก และการใช้ช่องโหว่ เช่น รหัสผ่านอ่อนแอ หรือ HMI ที่เปิดให้เข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นจุดอ่อนที่พบได้ทั่วไป

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    เกิดเหตุโจมตีไซเบอร์ที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ โดยเปิดวาล์วปล่อยน้ำ 4 ชั่วโมง
    โปแลนด์สกัดการโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่ได้ทันเวลา
    กลุ่ม Z-Pentest Alliance ถูกเชื่อมโยงกับการโจมตีในนอร์เวย์
    วิดีโอการโจมตีถูกเผยแพร่บน Telegram พร้อมเพลงรัสเซีย
    ผู้โจมตีใช้ HMI ที่เปิดผ่านอินเทอร์เน็ตและรหัสผ่านอ่อนแอ
    ไม่มีความเสียหายทางกายภาพ แต่มีการควบคุมระบบจริง
    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเป็นการ “หยั่งเชิง” ก่อนการโจมตีใหญ่
    ระบบน้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญแต่ขาดการป้องกัน
    สหรัฐฯ และยุโรปควรใช้เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือน
    โครงการ Cyber Peace Initiative และ DEF CON Franklin เสนอความช่วยเหลือฟรีแก่ระบบน้ำ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    โปแลนด์เผชิญการโจมตีไซเบอร์จากรัสเซียวันละ 300 ครั้ง
    ในปี 2024 รัสเซียเคยโจมตีระบบน้ำในเท็กซัสจนถังน้ำล้น
    ระบบน้ำในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการตรวจสอบไซเบอร์เต็มรูปแบบ
    การโจมตีระบบ OT (Operational Technology) มักใช้กลุ่มแฮกเกอร์มือสมัครเล่นเป็นตัวแทน
    การโจมตีระบบน้ำสามารถสร้างความหวาดกลัวและบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชน
    การควบคุมวาล์วแบบเรียลไทม์แสดงถึงความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการที่ร้ายแรง

    https://www.csoonline.com/article/4042449/russia-linked-european-attacks-renew-concerns-over-water-cybersecurity.html
    🕵️‍♂️ น้ำที่ไม่ปลอดภัย – เมื่อไซเบอร์สงครามเริ่มจากก๊อกน้ำ ในเดือนสิงหาคม 2025 เกิดเหตุการณ์สองครั้งที่สะท้อนถึงภัยคุกคามไซเบอร์ต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำในยุโรป ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซีย เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ เมื่อมีผู้เจาะระบบควบคุมและเปิดวาล์วปล่อยน้ำเป็นเวลาราว 4 ชั่วโมง แม้จะไม่มีความเสียหาย แต่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมระบบจริงได้ โดยมีวิดีโอเผยแพร่บน Telegram ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่ม Z-Pentest Alliance ที่มีแนวโน้มสนับสนุนรัสเซีย เหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในโปแลนด์ เมื่อรองนายกรัฐมนตรี Krzysztof Gawkowski เปิดเผยว่ามีความพยายามโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ถูกสกัดไว้ได้ทันเวลา เขาเปรียบเทียบว่า “รัสเซียอาจไม่ส่งรถถัง แต่ส่งมัลแวร์แทน” ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การโจมตีลักษณะนี้เป็น “การหยั่งเชิง” ที่อาจนำไปสู่การโจมตีขนาดใหญ่ในอนาคต โดยเฉพาะระบบน้ำที่มักขาดงบประมาณและบุคลากรด้านไซเบอร์ แม้ผู้โจมตีจะดูเหมือนมือสมัครเล่น แต่การควบคุมระบบจริงได้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก และการใช้ช่องโหว่ เช่น รหัสผ่านอ่อนแอ หรือ HMI ที่เปิดให้เข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นจุดอ่อนที่พบได้ทั่วไป 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ เกิดเหตุโจมตีไซเบอร์ที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ โดยเปิดวาล์วปล่อยน้ำ 4 ชั่วโมง ➡️ โปแลนด์สกัดการโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่ได้ทันเวลา ➡️ กลุ่ม Z-Pentest Alliance ถูกเชื่อมโยงกับการโจมตีในนอร์เวย์ ➡️ วิดีโอการโจมตีถูกเผยแพร่บน Telegram พร้อมเพลงรัสเซีย ➡️ ผู้โจมตีใช้ HMI ที่เปิดผ่านอินเทอร์เน็ตและรหัสผ่านอ่อนแอ ➡️ ไม่มีความเสียหายทางกายภาพ แต่มีการควบคุมระบบจริง ➡️ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเป็นการ “หยั่งเชิง” ก่อนการโจมตีใหญ่ ➡️ ระบบน้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญแต่ขาดการป้องกัน ➡️ สหรัฐฯ และยุโรปควรใช้เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือน ➡️ โครงการ Cyber Peace Initiative และ DEF CON Franklin เสนอความช่วยเหลือฟรีแก่ระบบน้ำ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ โปแลนด์เผชิญการโจมตีไซเบอร์จากรัสเซียวันละ 300 ครั้ง ➡️ ในปี 2024 รัสเซียเคยโจมตีระบบน้ำในเท็กซัสจนถังน้ำล้น ➡️ ระบบน้ำในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการตรวจสอบไซเบอร์เต็มรูปแบบ ➡️ การโจมตีระบบ OT (Operational Technology) มักใช้กลุ่มแฮกเกอร์มือสมัครเล่นเป็นตัวแทน ➡️ การโจมตีระบบน้ำสามารถสร้างความหวาดกลัวและบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชน ➡️ การควบคุมวาล์วแบบเรียลไทม์แสดงถึงความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการที่ร้ายแรง https://www.csoonline.com/article/4042449/russia-linked-european-attacks-renew-concerns-over-water-cybersecurity.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Russia-linked European attacks renew concerns over water cybersecurity
    Suspected sabotage in Norway and a foiled cyberattack in Poland highlight the growing risk to under-protected water utilities, experts warn.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรือ Viking Cruise Only, 10 วัน 9 คืน – สัมผัสความหรูหราอย่างมีระดับบนแม่น้ำเอลเบ
    ทริปเดียวเที่ยว 2 ประเทศ! เยอรมนี-เช็ก
    พร้อมวิวธรรมชาติสุดโรแมนติก เมืองเก่าริมแม่น้ำ ปราสาทหินผาสุดอลัง และบรรยากาศคลาสสิกตลอดเส้นทาง

    เส้นทาง : เบอร์ลิน, เยอรมนี - พอทสดัม, เยอรมนี - วิตเทนเบิร์ก, เยอรมนี - ไมเซิน - เดรสเดน, เยอรมนี - ล่องเรือชมวิวแซกซอน, สวิตเซอร์แลนด์ - บาดชานเดา, เยอรมนี - เมืองเดชิน, เข็ก - ปราก, เช็ก

    วันที่ มี.ค. - พ.ย. 2568

    ⭕️ ราคาเริ่มต้น : AUD7,695 ต่อท่าน
    โปรโมชั่น รับส่วนลดสูงสุดถึง 4,000AUD ต่อห้องพักคู่ เมื่อจองภายใน 1 ก.ย. 2568 หรือ จนกว่าห้องจะเต็ม

    ราคานี้รวมครบ
    โรงแรมที่พักในเบอร์ลิน 2 คืน
    ทัวร์ชายฝั่งฟรี 1 รายการในทุกเมืองที่เรือจอด
    ฟรี Wi-Fi
    เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ เสริ์ฟพร้อมมื้อกลางวัน และมื้อเย็นบนเรือ

    รหัสแพคเกจทัวร์ : VKRP-10D9N-BER-PRG-2611211
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/edb0ca

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696 (Auto)

    #VikingRiverCruise #เรือVikingAstrild #เรือVikingBeyla #ElegantElbe #VltavaRiver #Czech #Prague #Saxon #Switzerland #Wittenberg #Germany #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #CruiseDomain
    🚢 เรือ Viking Cruise Only, 10 วัน 9 คืน – สัมผัสความหรูหราอย่างมีระดับบนแม่น้ำเอลเบ ทริปเดียวเที่ยว 2 ประเทศ! เยอรมนี-เช็ก พร้อมวิวธรรมชาติสุดโรแมนติก เมืองเก่าริมแม่น้ำ ปราสาทหินผาสุดอลัง และบรรยากาศคลาสสิกตลอดเส้นทาง ➡️ เส้นทาง : เบอร์ลิน, เยอรมนี - พอทสดัม, เยอรมนี - วิตเทนเบิร์ก, เยอรมนี - ไมเซิน - เดรสเดน, เยอรมนี - ล่องเรือชมวิวแซกซอน, สวิตเซอร์แลนด์ - บาดชานเดา, เยอรมนี - เมืองเดชิน, เข็ก - ปราก, เช็ก 📅 วันที่ มี.ค. - พ.ย. 2568 ⭕️ ราคาเริ่มต้น : AUD7,695 ต่อท่าน โปรโมชั่น รับส่วนลดสูงสุดถึง 4,000AUD ต่อห้องพักคู่ เมื่อจองภายใน 1 ก.ย. 2568 หรือ จนกว่าห้องจะเต็ม 💥 ✨ ราคานี้รวมครบ ✅ โรงแรมที่พักในเบอร์ลิน 2 คืน ✅ ทัวร์ชายฝั่งฟรี 1 รายการในทุกเมืองที่เรือจอด ✅ ฟรี Wi-Fi ✅ เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ เสริ์ฟพร้อมมื้อกลางวัน และมื้อเย็นบนเรือ ➡️ รหัสแพคเกจทัวร์ : VKRP-10D9N-BER-PRG-2611211 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/edb0ca ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #VikingRiverCruise #เรือVikingAstrild #เรือVikingBeyla #ElegantElbe #VltavaRiver #Czech #Prague #Saxon #Switzerland #Wittenberg #Germany #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #CruiseDomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากฟรีนักเก็ตสู่ช่องโหว่ระดับองค์กร – เมื่อ McDonald’s ลืมล็อกประตูดิจิทัล

    เรื่องเริ่มต้นจากนักวิจัยด้านความปลอดภัยนามว่า “BobDaHacker” ที่แค่อยากได้ McNuggets ฟรีจากแอปของ McDonald’s แต่กลับพบว่าการตรวจสอบคะแนนสะสมทำแค่ฝั่งผู้ใช้ (client-side) ทำให้สามารถปลดล็อกของรางวัลได้แม้ไม่มีคะแนน

    เมื่อเขาขุดลึกลงไป ก็พบช่องโหว่ใน “Feel-Good Design Hub” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มภายในของ McDonald’s ที่ใช้สำหรับจัดการแบรนด์และสื่อการตลาดในกว่า 120 ประเทศ โดยระบบเดิมใช้รหัสผ่านฝั่งผู้ใช้ในการป้องกันข้อมูลลับ!

    แม้ McDonald’s จะใช้เวลาถึง 3 เดือนในการแก้ไขระบบให้มีการล็อกอินแบบแยกสำหรับพนักงานและพันธมิตร แต่ Bob พบว่าเพียงแค่เปลี่ยนคำว่า “login” เป็น “register” ใน URL ก็สามารถสร้างบัญชีใหม่และเข้าถึงข้อมูลลับได้ทันที

    ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือระบบส่งรหัสผ่านแบบ plain-text ทางอีเมล และไม่มีช่องทางรายงานช่องโหว่อย่างเป็นทางการ ทำให้ Bob ต้องโทรไปยังสำนักงานใหญ่และสุ่มชื่อพนักงานจาก LinkedIn เพื่อให้มีคนรับเรื่อง

    นอกจากนี้ยังพบ API Key ที่รั่ว, ระบบค้นหาที่เปิดเผยข้อมูลพนักงานทั่วโลก, ช่องโหว่ในระบบ GRS ที่เปิดให้ใครก็ได้ inject HTML และแม้แต่แอปทดลองของร้าน CosMc’s ที่สามารถใช้คูปองไม่จำกัดและแก้ไขคำสั่งซื้อได้ตามใจ

    ข้อมูลในข่าว
    BobDaHacker พบช่องโหว่จากการตรวจสอบคะแนนสะสมในแอป McDonald’s ที่ทำแค่ฝั่ง client
    ระบบ Feel-Good Design Hub ใช้รหัสผ่านฝั่ง client ในการป้องกันข้อมูลภายใน
    เปลี่ยน “login” เป็น “register” ใน URL สามารถสร้างบัญชีและเข้าถึงข้อมูลลับได้
    ระบบส่งรหัสผ่านแบบ plain-text ทางอีเมล ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่ไม่ปลอดภัย
    ไม่มีช่องทางรายงานช่องโหว่อย่างเป็นทางการ ต้องโทรสุ่มชื่อพนักงานจาก LinkedIn
    พบ API Key และ Algolia Index ที่รั่ว ทำให้สามารถส่ง phishing และดูข้อมูลพนักงาน
    ระบบ TRT เปิดให้พนักงานทั่วไปค้นหาอีเมลของผู้บริหารและใช้ฟีเจอร์ “impersonation”
    GRS Panel ไม่มีการยืนยันตัวตน ทำให้สามารถ inject HTML ได้
    แอป CosMc’s มีช่องโหว่ให้ใช้คูปองไม่จำกัดและแก้ไขคำสั่งซื้อได้

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    การตรวจสอบฝั่ง client เป็นช่องโหว่พื้นฐานที่ควรหลีกเลี่ยงในระบบที่เกี่ยวข้องกับสิทธิ์หรือรางวัล
    การส่งรหัสผ่านแบบ plain-text ขัดกับมาตรฐานความปลอดภัยสมัยใหม่ เช่น OWASP
    security.txt เป็นมาตรฐานที่ใช้ระบุช่องทางรายงานช่องโหว่ แต่ McDonald’s ลบไฟล์นี้ออก
    การไม่มีช่องทางรายงานที่ชัดเจนทำให้นักวิจัยอาจละทิ้งการแจ้งเตือน
    การใช้ API Key แบบ hardcoded ใน JavaScript เป็นช่องโหว่ที่พบได้บ่อยในเว็บแอป
    การเปิดเผยข้อมูลพนักงานระดับผู้บริหารอาจนำไปสู่ targeted phishing หรือ social engineering

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/prompted-by-free-nuggets-security-researcher-uncovers-staggering-mcdonalds-internal-platform-vulnerability-changing-login-to-register-in-url-prompted-site-to-issue-plain-text-password-for-a-new-account
    🍟 จากฟรีนักเก็ตสู่ช่องโหว่ระดับองค์กร – เมื่อ McDonald’s ลืมล็อกประตูดิจิทัล เรื่องเริ่มต้นจากนักวิจัยด้านความปลอดภัยนามว่า “BobDaHacker” ที่แค่อยากได้ McNuggets ฟรีจากแอปของ McDonald’s แต่กลับพบว่าการตรวจสอบคะแนนสะสมทำแค่ฝั่งผู้ใช้ (client-side) ทำให้สามารถปลดล็อกของรางวัลได้แม้ไม่มีคะแนน เมื่อเขาขุดลึกลงไป ก็พบช่องโหว่ใน “Feel-Good Design Hub” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มภายในของ McDonald’s ที่ใช้สำหรับจัดการแบรนด์และสื่อการตลาดในกว่า 120 ประเทศ โดยระบบเดิมใช้รหัสผ่านฝั่งผู้ใช้ในการป้องกันข้อมูลลับ! แม้ McDonald’s จะใช้เวลาถึง 3 เดือนในการแก้ไขระบบให้มีการล็อกอินแบบแยกสำหรับพนักงานและพันธมิตร แต่ Bob พบว่าเพียงแค่เปลี่ยนคำว่า “login” เป็น “register” ใน URL ก็สามารถสร้างบัญชีใหม่และเข้าถึงข้อมูลลับได้ทันที ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือระบบส่งรหัสผ่านแบบ plain-text ทางอีเมล และไม่มีช่องทางรายงานช่องโหว่อย่างเป็นทางการ ทำให้ Bob ต้องโทรไปยังสำนักงานใหญ่และสุ่มชื่อพนักงานจาก LinkedIn เพื่อให้มีคนรับเรื่อง นอกจากนี้ยังพบ API Key ที่รั่ว, ระบบค้นหาที่เปิดเผยข้อมูลพนักงานทั่วโลก, ช่องโหว่ในระบบ GRS ที่เปิดให้ใครก็ได้ inject HTML และแม้แต่แอปทดลองของร้าน CosMc’s ที่สามารถใช้คูปองไม่จำกัดและแก้ไขคำสั่งซื้อได้ตามใจ ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ BobDaHacker พบช่องโหว่จากการตรวจสอบคะแนนสะสมในแอป McDonald’s ที่ทำแค่ฝั่ง client ➡️ ระบบ Feel-Good Design Hub ใช้รหัสผ่านฝั่ง client ในการป้องกันข้อมูลภายใน ➡️ เปลี่ยน “login” เป็น “register” ใน URL สามารถสร้างบัญชีและเข้าถึงข้อมูลลับได้ ➡️ ระบบส่งรหัสผ่านแบบ plain-text ทางอีเมล ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่ไม่ปลอดภัย ➡️ ไม่มีช่องทางรายงานช่องโหว่อย่างเป็นทางการ ต้องโทรสุ่มชื่อพนักงานจาก LinkedIn ➡️ พบ API Key และ Algolia Index ที่รั่ว ทำให้สามารถส่ง phishing และดูข้อมูลพนักงาน ➡️ ระบบ TRT เปิดให้พนักงานทั่วไปค้นหาอีเมลของผู้บริหารและใช้ฟีเจอร์ “impersonation” ➡️ GRS Panel ไม่มีการยืนยันตัวตน ทำให้สามารถ inject HTML ได้ ➡️ แอป CosMc’s มีช่องโหว่ให้ใช้คูปองไม่จำกัดและแก้ไขคำสั่งซื้อได้ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ การตรวจสอบฝั่ง client เป็นช่องโหว่พื้นฐานที่ควรหลีกเลี่ยงในระบบที่เกี่ยวข้องกับสิทธิ์หรือรางวัล ➡️ การส่งรหัสผ่านแบบ plain-text ขัดกับมาตรฐานความปลอดภัยสมัยใหม่ เช่น OWASP ➡️ security.txt เป็นมาตรฐานที่ใช้ระบุช่องทางรายงานช่องโหว่ แต่ McDonald’s ลบไฟล์นี้ออก ➡️ การไม่มีช่องทางรายงานที่ชัดเจนทำให้นักวิจัยอาจละทิ้งการแจ้งเตือน ➡️ การใช้ API Key แบบ hardcoded ใน JavaScript เป็นช่องโหว่ที่พบได้บ่อยในเว็บแอป ➡️ การเปิดเผยข้อมูลพนักงานระดับผู้บริหารอาจนำไปสู่ targeted phishing หรือ social engineering https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/prompted-by-free-nuggets-security-researcher-uncovers-staggering-mcdonalds-internal-platform-vulnerability-changing-login-to-register-in-url-prompted-site-to-issue-plain-text-password-for-a-new-account
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อชัดเจนขนาดนี้แล้วทำไมคณะรวมพลังแผ่นดินไทยนำโดย อ.วีระ ไม่รวมตัวกันยื่นฟ้องแม่ทัพภาคที่1 ข้อหา119และอื่นๆที่เห็นสมควรแบบชาวขอนแก่นรวมตัวกันฟ้องศาลต่อภูมิธรรม ,ไม่สามารถออกมาแฉกับสื่อเฉยๆได้เลย ไม่มีแอ็คชั่นทางข้อกฎหมายด้วย,ชี้ชัดผ่านสื่อ หลักฐานโฉนดที่ทำกินภาครัฐออกให้แก่ประชาชนชาวบ้านเขามีทุกๆล่ะและเสาปักหมุดเขตแดนสยามเขียนปักชัดเจนตำตาอีก เสือกไปวางรั้วลวดหนามผีบ้าห่างจากหลักแดนกว่า500ม. มันบ้าไปแล้วจริงๆ,เอารั้วลวดหนามเวียดนามกับเขมรหรือรั้วลวดหนามจีนกับเวียดนามหรือรั้วอเมริกากับเม็กซิโกมากางดูสิว่า เขาตีพื้นที่ช่วงระยะห่างนี้จริงหรือไม่ ระยะฟรีคนละ500เมตรจากเขตแนวพรมแดน แล้วปัจจุบันเขมรทำตามนั้นด้วยมั้ย ห่างข้างละ500เมตรทั้งฝั่งไทยฝั่งเขมรแสดงว่า ไทยกับเขมรต้องห่างกัน1,000เมตร 1กม.ห้ามมีสิ่งก่อสร้างใด ใครมาทำกินทำประโยชน์ใดๆตรงบริเวณนี้เขมรมันทำจริงมั้ย,ทหารภาค1 ผลักดันออกไปหมดยัง,จริงๆเขมรละเมิดหยุดยิงแล้ว ไทยสามารถยกเลิกทั้งหมดใน13ข้อทันทีได้แต่ทางเราใจหมาใจกากเอง ไม่กล้ายกเลิกทิ้งเหมือนmou43,44กอดไว้แน่นเพื่อหมายตังเงินทองมากมายที่ได้จากพื้นที่ที่เกินไปจากแผ่นดินไทย,นี้คือเจตนาทำให้ไทยเสียดินแดนอธิปไตยไทยชัดเจน,มีความรู้ระดับนั้นควบคุมเป็นทีมงานคณะทั้งภาค แค่พื้นที่ตนเองตำตาตนเองแท้ๆเหตุใดไปวางรั้วผิดวางรั้วไกลขนาดนั้นได้.
    https://youtube.com/watch?v=f1QUtsheW8s&si=OjQuDbMLdSQngeW3

    https://youtube.com/watch?v=f1QUtsheW8s&si=OjQuDbMLdSQngeW3
    เมื่อชัดเจนขนาดนี้แล้วทำไมคณะรวมพลังแผ่นดินไทยนำโดย อ.วีระ ไม่รวมตัวกันยื่นฟ้องแม่ทัพภาคที่1 ข้อหา119และอื่นๆที่เห็นสมควรแบบชาวขอนแก่นรวมตัวกันฟ้องศาลต่อภูมิธรรม ,ไม่สามารถออกมาแฉกับสื่อเฉยๆได้เลย ไม่มีแอ็คชั่นทางข้อกฎหมายด้วย,ชี้ชัดผ่านสื่อ หลักฐานโฉนดที่ทำกินภาครัฐออกให้แก่ประชาชนชาวบ้านเขามีทุกๆล่ะและเสาปักหมุดเขตแดนสยามเขียนปักชัดเจนตำตาอีก เสือกไปวางรั้วลวดหนามผีบ้าห่างจากหลักแดนกว่า500ม. มันบ้าไปแล้วจริงๆ,เอารั้วลวดหนามเวียดนามกับเขมรหรือรั้วลวดหนามจีนกับเวียดนามหรือรั้วอเมริกากับเม็กซิโกมากางดูสิว่า เขาตีพื้นที่ช่วงระยะห่างนี้จริงหรือไม่ ระยะฟรีคนละ500เมตรจากเขตแนวพรมแดน แล้วปัจจุบันเขมรทำตามนั้นด้วยมั้ย ห่างข้างละ500เมตรทั้งฝั่งไทยฝั่งเขมรแสดงว่า ไทยกับเขมรต้องห่างกัน1,000เมตร 1กม.ห้ามมีสิ่งก่อสร้างใด ใครมาทำกินทำประโยชน์ใดๆตรงบริเวณนี้เขมรมันทำจริงมั้ย,ทหารภาค1 ผลักดันออกไปหมดยัง,จริงๆเขมรละเมิดหยุดยิงแล้ว ไทยสามารถยกเลิกทั้งหมดใน13ข้อทันทีได้แต่ทางเราใจหมาใจกากเอง ไม่กล้ายกเลิกทิ้งเหมือนmou43,44กอดไว้แน่นเพื่อหมายตังเงินทองมากมายที่ได้จากพื้นที่ที่เกินไปจากแผ่นดินไทย,นี้คือเจตนาทำให้ไทยเสียดินแดนอธิปไตยไทยชัดเจน,มีความรู้ระดับนั้นควบคุมเป็นทีมงานคณะทั้งภาค แค่พื้นที่ตนเองตำตาตนเองแท้ๆเหตุใดไปวางรั้วผิดวางรั้วไกลขนาดนั้นได้. https://youtube.com/watch?v=f1QUtsheW8s&si=OjQuDbMLdSQngeW3 https://youtube.com/watch?v=f1QUtsheW8s&si=OjQuDbMLdSQngeW3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปฏิบัติการยึดคริปโตจากกลุ่ม Zeppelin: เมื่อความยุติธรรมไล่ทันอาชญากรรมไซเบอร์

    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ประกาศยึดเงินคริปโตมูลค่ากว่า $2.8 ล้าน พร้อมเงินสด $70,000 และรถยนต์หรูจาก Ianis Aleksandrovich Antropenko ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มแรนซัมแวร์ Zeppelin ซึ่งเคยโจมตีองค์กรในหลายประเทศตั้งแต่ปี 2019–2022

    Zeppelin เป็นแรนซัมแวร์แบบ RaaS (Ransomware-as-a-Service) ที่ใช้วิธี “double extortion” คือเข้ารหัสข้อมูลเหยื่อและขโมยข้อมูลไปด้วย จากนั้นขู่จะเปิดเผยข้อมูลหากไม่จ่ายค่าไถ่ โดยกลุ่มนี้เคยโจมตีองค์กรด้านสุขภาพ, เทคโนโลยี, การเงิน และแม้แต่ศูนย์พักพิงคนไร้บ้าน

    Antropenko และพวกใช้บริการ ChipMixer ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม “ล้างรอย” เงินคริปโต เพื่อซ่อนที่มาของเงินค่าไถ่ และยังใช้วิธีแลกคริปโตเป็นเงินสดแล้วฝากแบบแบ่งยอดเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากธนาคาร

    แม้ Zeppelin จะถูกระบุว่า “ล้มหาย” ไปในปี 2022 หลังนักวิจัยจาก Unit221b สร้างเครื่องมือถอดรหัสฟรีให้เหยื่อ แต่ในปี 2024 มีรายงานว่าโค้ดของ Zeppelin ถูกขายในฟอรั่มแฮกเกอร์รัสเซียในราคาเพียง $500 ซึ่งอาจนำไปสู่การฟื้นคืนชีพของมัลแวร์นี้ในอนาคต

    ข้อมูลจากข่าวหลัก
    DoJ ยึดคริปโตมูลค่า $2.8 ล้าน, เงินสด $70,000 และรถหรูจากผู้ต้องสงสัย Antropenko
    Antropenko ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงคอมพิวเตอร์และฟอกเงินในศาลรัฐเท็กซัส
    Zeppelin เป็นแรนซัมแวร์แบบ RaaS ที่ใช้วิธี double extortion
    เหยื่อถูกเข้ารหัสข้อมูลและขู่เปิดเผยข้อมูลหากไม่จ่ายค่าไถ่
    กลุ่มนี้เคยโจมตีองค์กรในสหรัฐฯ และต่างประเทศ รวมถึง NGO และศูนย์พักพิง
    ใช้ ChipMixer และการฝากเงินแบบแบ่งยอดเพื่อฟอกเงิน
    DoJ ออกหมายจับ 6 ฉบับในรัฐเท็กซัส, เวอร์จิเนีย และแคลิฟอร์เนีย
    Zeppelin ถูกระบุว่าเลิกใช้งานในปี 2022 หลังนักวิจัยสร้างเครื่องมือถอดรหัสฟรี
    การยึดทรัพย์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญปราบปรามแรนซัมแวร์ของ DoJ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Zeppelin พัฒนาจาก VegaLocker และ Buran ซึ่งเป็นมัลแวร์สาย Delphi
    FBI เคยเตือนว่า Zeppelin ใช้ช่องโหว่ RDP และ SonicWall ในการเข้าถึงระบบ
    Unit221b หยุดให้บริการถอดรหัส Zeppelin แล้วในปี 2024
    มีรายงานว่า Zeppelin2 ถูกขายในฟอรั่มแฮกเกอร์รัสเซียในราคา $500
    DoJ เคยยึดคริปโตจากกลุ่ม Chaos และ BlackSuit รวมกว่า $3.4 ล้าน
    ตั้งแต่ปี 2020 DoJ ยึดทรัพย์จากอาชญากรรมไซเบอร์รวมกว่า $350 ล้าน

    https://www.techradar.com/pro/security/millions-of-dollars-in-cryptocurrency-has-been-confiscated-as-the-doj-cracks-down-on-an-infamous-ransomware-operator
    🕵️‍♂️ ปฏิบัติการยึดคริปโตจากกลุ่ม Zeppelin: เมื่อความยุติธรรมไล่ทันอาชญากรรมไซเบอร์ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ประกาศยึดเงินคริปโตมูลค่ากว่า $2.8 ล้าน พร้อมเงินสด $70,000 และรถยนต์หรูจาก Ianis Aleksandrovich Antropenko ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มแรนซัมแวร์ Zeppelin ซึ่งเคยโจมตีองค์กรในหลายประเทศตั้งแต่ปี 2019–2022 Zeppelin เป็นแรนซัมแวร์แบบ RaaS (Ransomware-as-a-Service) ที่ใช้วิธี “double extortion” คือเข้ารหัสข้อมูลเหยื่อและขโมยข้อมูลไปด้วย จากนั้นขู่จะเปิดเผยข้อมูลหากไม่จ่ายค่าไถ่ โดยกลุ่มนี้เคยโจมตีองค์กรด้านสุขภาพ, เทคโนโลยี, การเงิน และแม้แต่ศูนย์พักพิงคนไร้บ้าน Antropenko และพวกใช้บริการ ChipMixer ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม “ล้างรอย” เงินคริปโต เพื่อซ่อนที่มาของเงินค่าไถ่ และยังใช้วิธีแลกคริปโตเป็นเงินสดแล้วฝากแบบแบ่งยอดเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากธนาคาร แม้ Zeppelin จะถูกระบุว่า “ล้มหาย” ไปในปี 2022 หลังนักวิจัยจาก Unit221b สร้างเครื่องมือถอดรหัสฟรีให้เหยื่อ แต่ในปี 2024 มีรายงานว่าโค้ดของ Zeppelin ถูกขายในฟอรั่มแฮกเกอร์รัสเซียในราคาเพียง $500 ซึ่งอาจนำไปสู่การฟื้นคืนชีพของมัลแวร์นี้ในอนาคต ✅ ข้อมูลจากข่าวหลัก ➡️ DoJ ยึดคริปโตมูลค่า $2.8 ล้าน, เงินสด $70,000 และรถหรูจากผู้ต้องสงสัย Antropenko ➡️ Antropenko ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงคอมพิวเตอร์และฟอกเงินในศาลรัฐเท็กซัส ➡️ Zeppelin เป็นแรนซัมแวร์แบบ RaaS ที่ใช้วิธี double extortion ➡️ เหยื่อถูกเข้ารหัสข้อมูลและขู่เปิดเผยข้อมูลหากไม่จ่ายค่าไถ่ ➡️ กลุ่มนี้เคยโจมตีองค์กรในสหรัฐฯ และต่างประเทศ รวมถึง NGO และศูนย์พักพิง ➡️ ใช้ ChipMixer และการฝากเงินแบบแบ่งยอดเพื่อฟอกเงิน ➡️ DoJ ออกหมายจับ 6 ฉบับในรัฐเท็กซัส, เวอร์จิเนีย และแคลิฟอร์เนีย ➡️ Zeppelin ถูกระบุว่าเลิกใช้งานในปี 2022 หลังนักวิจัยสร้างเครื่องมือถอดรหัสฟรี ➡️ การยึดทรัพย์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญปราบปรามแรนซัมแวร์ของ DoJ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Zeppelin พัฒนาจาก VegaLocker และ Buran ซึ่งเป็นมัลแวร์สาย Delphi ➡️ FBI เคยเตือนว่า Zeppelin ใช้ช่องโหว่ RDP และ SonicWall ในการเข้าถึงระบบ ➡️ Unit221b หยุดให้บริการถอดรหัส Zeppelin แล้วในปี 2024 ➡️ มีรายงานว่า Zeppelin2 ถูกขายในฟอรั่มแฮกเกอร์รัสเซียในราคา $500 ➡️ DoJ เคยยึดคริปโตจากกลุ่ม Chaos และ BlackSuit รวมกว่า $3.4 ล้าน ➡️ ตั้งแต่ปี 2020 DoJ ยึดทรัพย์จากอาชญากรรมไซเบอร์รวมกว่า $350 ล้าน https://www.techradar.com/pro/security/millions-of-dollars-in-cryptocurrency-has-been-confiscated-as-the-doj-cracks-down-on-an-infamous-ransomware-operator
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขมรที่หนีภัยสงครามมาตั้งถิ่นฐาน ขยายหมู่บ้าน แถมได้รักษาฟรี ได้เรียนฟรี มีงานทำ ตลอดหลายสิบปี วันนี้ทรยศไทยด้วยการให้ร้ายเรากับนานาชาติ และต้องการยึดแผ่นดินไทย ไอ้พวกเชี้ยที่ปากร้องหามนุษยธรรม มนุษยชน หดหัวอยู่ไหนกันว่ะ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เขมรที่หนีภัยสงครามมาตั้งถิ่นฐาน ขยายหมู่บ้าน แถมได้รักษาฟรี ได้เรียนฟรี มีงานทำ ตลอดหลายสิบปี วันนี้ทรยศไทยด้วยการให้ร้ายเรากับนานาชาติ และต้องการยึดแผ่นดินไทย ไอ้พวกเชี้ยที่ปากร้องหามนุษยธรรม มนุษยชน หดหัวอยู่ไหนกันว่ะ #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลาก่อนแล็ปท็อป? เมื่อ DaaS กลายเป็นตัวเลือกหลักขององค์กรยุคใหม่

    ลองนึกภาพว่าแทนที่พนักงานจะต้องพกแล็ปท็อปไปทำงาน พวกเขาแค่ล็อกอินผ่านเบราว์เซอร์ แล้วเข้าถึงเดสก์ท็อปเสมือนที่อยู่บนคลาวด์—นี่คือแนวคิดของ Desktop as a Service หรือ DaaS ที่กำลังมาแรง

    จากรายงานของ Gartner พบว่า DaaS จะคุ้มค่ากับ 95% ของแรงงานภายในปี 2027 เพิ่มขึ้นจาก 40% ในปี 2019 และการใช้งานจริงก็เพิ่มขึ้นเป็น 20% แล้วในปีนี้ โดยเฉพาะในองค์กรที่มีพนักงานทำงานระยะไกลหรือจ้างงานภายนอก

    Microsoft ถูกจัดอันดับเป็นผู้นำในตลาดนี้ ด้วยผลิตภัณฑ์อย่าง Azure Virtual Desktop และ Windows 365 ที่ตอบโจทย์องค์กรขนาดกลางถึงใหญ่

    นอกจากความคุ้มค่าแล้ว DaaS ยังช่วยลดภาระการดูแลอุปกรณ์ ลดต้นทุนล่วงหน้า และเพิ่มความปลอดภัย เพราะข้อมูลทั้งหมดอยู่บนคลาวด์ ไม่ใช่ในเครื่องของพนักงาน

    อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลเรื่อง vendor lock-in และความซับซ้อนของการจัดการลิขสิทธิ์ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้งานต้องเผชิญกับความยุ่งยากในช่วงแรก

    แนวโน้มการใช้งาน DaaS
    Gartner คาดว่า DaaS จะคุ้มค่ากับ 95% ของแรงงานภายในปี 2027
    การใช้งานจริงเพิ่มขึ้นเป็น 20% จาก 10% ในปี 2019
    องค์กรเริ่มใช้ DaaS เพื่อรองรับงานระยะไกลและงานภายนอก

    ข้อดีของ DaaS
    ลดต้นทุนการดูแลอุปกรณ์และการอัปเดตซอฟต์แวร์
    เพิ่มความปลอดภัย เพราะข้อมูลอยู่บนคลาวด์
    รองรับการขยายทีมงานแบบยืดหยุ่น เช่น พนักงานชั่วคราวหรือฟรีแลนซ์
    ลดค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ด้วยโมเดลจ่ายตามการใช้งาน

    ผู้เล่นหลักในตลาด
    Microsoft เป็นผู้นำด้วย Azure Virtual Desktop และ Windows 365
    60% ของลูกค้า DaaS ของ Microsoft เป็นองค์กรขนาดกลาง
    Gartner ระบุว่าองค์กรใหม่แทบไม่ใช้ VDI แบบ on-prem อีกแล้ว

    ข้อมูลเสริมจากผู้ให้บริการ
    DaaS ช่วยให้การจัดการซอฟต์แวร์เป็นแบบรวมศูนย์
    ลดความซับซ้อนในการดูแลระบบ IT
    เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องและความปลอดภัยสูง

    DaaS ยังเป็นตลาดใหม่ที่มีการกำกับดูแลน้อย
    อาจเกิด vendor lock-in หากเลือกผู้ให้บริการไม่รอบคอบ
    การจัดการลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อาจซับซ้อนในระบบคลาวด์
    ผู้ใช้งานต้องมีอินเทอร์เน็ตที่เสถียรเพื่อเข้าถึงเดสก์ท็อป
    องค์กรที่มีข้อจำกัดด้านข้อมูลอาจไม่สามารถใช้ DaaS ได้เต็มรูปแบบ

    https://www.techradar.com/pro/the-end-of-laptops-at-work-desktop-as-a-service-is-now-cheaper-and-easier-to-run-reports-claim
    🧠 ลาก่อนแล็ปท็อป? เมื่อ DaaS กลายเป็นตัวเลือกหลักขององค์กรยุคใหม่ ลองนึกภาพว่าแทนที่พนักงานจะต้องพกแล็ปท็อปไปทำงาน พวกเขาแค่ล็อกอินผ่านเบราว์เซอร์ แล้วเข้าถึงเดสก์ท็อปเสมือนที่อยู่บนคลาวด์—นี่คือแนวคิดของ Desktop as a Service หรือ DaaS ที่กำลังมาแรง จากรายงานของ Gartner พบว่า DaaS จะคุ้มค่ากับ 95% ของแรงงานภายในปี 2027 เพิ่มขึ้นจาก 40% ในปี 2019 และการใช้งานจริงก็เพิ่มขึ้นเป็น 20% แล้วในปีนี้ โดยเฉพาะในองค์กรที่มีพนักงานทำงานระยะไกลหรือจ้างงานภายนอก Microsoft ถูกจัดอันดับเป็นผู้นำในตลาดนี้ ด้วยผลิตภัณฑ์อย่าง Azure Virtual Desktop และ Windows 365 ที่ตอบโจทย์องค์กรขนาดกลางถึงใหญ่ นอกจากความคุ้มค่าแล้ว DaaS ยังช่วยลดภาระการดูแลอุปกรณ์ ลดต้นทุนล่วงหน้า และเพิ่มความปลอดภัย เพราะข้อมูลทั้งหมดอยู่บนคลาวด์ ไม่ใช่ในเครื่องของพนักงาน อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลเรื่อง vendor lock-in และความซับซ้อนของการจัดการลิขสิทธิ์ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้งานต้องเผชิญกับความยุ่งยากในช่วงแรก ✅ แนวโน้มการใช้งาน DaaS ➡️ Gartner คาดว่า DaaS จะคุ้มค่ากับ 95% ของแรงงานภายในปี 2027 ➡️ การใช้งานจริงเพิ่มขึ้นเป็น 20% จาก 10% ในปี 2019 ➡️ องค์กรเริ่มใช้ DaaS เพื่อรองรับงานระยะไกลและงานภายนอก ✅ ข้อดีของ DaaS ➡️ ลดต้นทุนการดูแลอุปกรณ์และการอัปเดตซอฟต์แวร์ ➡️ เพิ่มความปลอดภัย เพราะข้อมูลอยู่บนคลาวด์ ➡️ รองรับการขยายทีมงานแบบยืดหยุ่น เช่น พนักงานชั่วคราวหรือฟรีแลนซ์ ➡️ ลดค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ด้วยโมเดลจ่ายตามการใช้งาน ✅ ผู้เล่นหลักในตลาด ➡️ Microsoft เป็นผู้นำด้วย Azure Virtual Desktop และ Windows 365 ➡️ 60% ของลูกค้า DaaS ของ Microsoft เป็นองค์กรขนาดกลาง ➡️ Gartner ระบุว่าองค์กรใหม่แทบไม่ใช้ VDI แบบ on-prem อีกแล้ว ✅ ข้อมูลเสริมจากผู้ให้บริการ ➡️ DaaS ช่วยให้การจัดการซอฟต์แวร์เป็นแบบรวมศูนย์ ➡️ ลดความซับซ้อนในการดูแลระบบ IT ➡️ เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องและความปลอดภัยสูง ⛔ DaaS ยังเป็นตลาดใหม่ที่มีการกำกับดูแลน้อย ⛔ อาจเกิด vendor lock-in หากเลือกผู้ให้บริการไม่รอบคอบ ⛔ การจัดการลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อาจซับซ้อนในระบบคลาวด์ ⛔ ผู้ใช้งานต้องมีอินเทอร์เน็ตที่เสถียรเพื่อเข้าถึงเดสก์ท็อป ⛔ องค์กรที่มีข้อจำกัดด้านข้อมูลอาจไม่สามารถใช้ DaaS ได้เต็มรูปแบบ https://www.techradar.com/pro/the-end-of-laptops-at-work-desktop-as-a-service-is-now-cheaper-and-easier-to-run-reports-claim
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • Wix vs Weebly: สร้างเว็บไซต์ง่าย ๆ แต่เลือกผิดอาจเสียโอกาสทางธุรกิจ

    ในยุคที่ใคร ๆ ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด แพลตฟอร์มอย่าง Wix และ Weebly จึงกลายเป็นตัวเลือกหลักสำหรับผู้เริ่มต้นและธุรกิจขนาดเล็ก แต่ความแตกต่างของสองแพลตฟอร์มนี้มีผลต่อการเติบโตในระยะยาวอย่างมาก

    Wix โดดเด่นด้วยเครื่องมือ AI ที่ช่วยสร้างเว็บไซต์ในไม่กี่นาที มีเทมเพลตให้เลือกกว่า 2,000 แบบ และระบบแก้ไขแบบ drag-and-drop ที่ยืดหยุ่นสูง เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมดีไซน์อย่างเต็มที่

    Weebly เน้นความเรียบง่าย ราคาถูก และมีแผนฟรีที่ให้ฟีเจอร์ e-commerce โดยไม่ต้องจ่ายเงิน ซึ่งหาได้ยากในตลาด แต่ข้อเสียคือระบบไม่ค่อยได้รับการอัปเดต และเทมเพลตมีให้เลือกน้อยกว่า 60 แบบ

    Wix เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการเติบโต มีระบบ SEO ขั้นสูง แอปเสริมกว่า 800 รายการ และการสนับสนุนลูกค้าที่ครอบคลุม ส่วน Weebly เหมาะกับผู้เริ่มต้นที่ต้องการเว็บไซต์เร็ว ๆ โดยไม่ต้องปรับแต่งมาก

    จุดเด่นของ Wix
    มีเทมเพลตกว่า 2,000 แบบ พร้อมระบบแก้ไขที่ยืดหยุ่น
    ใช้ AI สร้างเว็บไซต์ได้ภายใน 60 วินาที
    มีแอปเสริมกว่า 800 รายการ และระบบ SEO ขั้นสูง
    รองรับการแก้ไขบนมือถือ และมีระบบป้องกันด้วยรหัสผ่าน

    จุดเด่นของ Weebly
    มีแผนฟรีที่รองรับ e-commerce โดยไม่ต้องจ่ายเงิน
    ระบบแก้ไขแบบ drag-and-drop ที่ใช้งานง่าย
    เหมาะกับผู้เริ่มต้นที่ไม่ต้องการปรับแต่งมาก
    มีระบบวิเคราะห์ยอดขายจากการเชื่อมต่อกับ Square

    การเปรียบเทียบด้านราคา
    Wix เริ่มต้นที่ $17/เดือน และสูงสุดถึง $152/เดือน
    Weebly เริ่มต้นที่ $0 และสูงสุดที่ $29/เดือน
    Wix ให้ฟีเจอร์มากกว่า แต่ราคาสูงกว่า
    Weebly เหมาะกับผู้ใช้งานที่เน้นความคุ้มค่าและประหยัด

    ความเหมาะสมกับผู้ใช้งาน
    Wix เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการเติบโตและปรับแต่งได้เต็มที่
    Weebly เหมาะกับร้านเล็กหรือเว็บไซต์ส่วนตัวที่ไม่ซับซ้อน
    Wix เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมดีไซน์และฟีเจอร์
    Weebly เหมาะกับผู้ที่ต้องการความง่ายและเร็วในการเริ่มต้น

    https://www.techradar.com/news/wix-vs-weebly
    🧠 Wix vs Weebly: สร้างเว็บไซต์ง่าย ๆ แต่เลือกผิดอาจเสียโอกาสทางธุรกิจ ในยุคที่ใคร ๆ ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด แพลตฟอร์มอย่าง Wix และ Weebly จึงกลายเป็นตัวเลือกหลักสำหรับผู้เริ่มต้นและธุรกิจขนาดเล็ก แต่ความแตกต่างของสองแพลตฟอร์มนี้มีผลต่อการเติบโตในระยะยาวอย่างมาก Wix โดดเด่นด้วยเครื่องมือ AI ที่ช่วยสร้างเว็บไซต์ในไม่กี่นาที มีเทมเพลตให้เลือกกว่า 2,000 แบบ และระบบแก้ไขแบบ drag-and-drop ที่ยืดหยุ่นสูง เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมดีไซน์อย่างเต็มที่ Weebly เน้นความเรียบง่าย ราคาถูก และมีแผนฟรีที่ให้ฟีเจอร์ e-commerce โดยไม่ต้องจ่ายเงิน ซึ่งหาได้ยากในตลาด แต่ข้อเสียคือระบบไม่ค่อยได้รับการอัปเดต และเทมเพลตมีให้เลือกน้อยกว่า 60 แบบ Wix เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการเติบโต มีระบบ SEO ขั้นสูง แอปเสริมกว่า 800 รายการ และการสนับสนุนลูกค้าที่ครอบคลุม ส่วน Weebly เหมาะกับผู้เริ่มต้นที่ต้องการเว็บไซต์เร็ว ๆ โดยไม่ต้องปรับแต่งมาก ✅ จุดเด่นของ Wix ➡️ มีเทมเพลตกว่า 2,000 แบบ พร้อมระบบแก้ไขที่ยืดหยุ่น ➡️ ใช้ AI สร้างเว็บไซต์ได้ภายใน 60 วินาที ➡️ มีแอปเสริมกว่า 800 รายการ และระบบ SEO ขั้นสูง ➡️ รองรับการแก้ไขบนมือถือ และมีระบบป้องกันด้วยรหัสผ่าน ✅ จุดเด่นของ Weebly ➡️ มีแผนฟรีที่รองรับ e-commerce โดยไม่ต้องจ่ายเงิน ➡️ ระบบแก้ไขแบบ drag-and-drop ที่ใช้งานง่าย ➡️ เหมาะกับผู้เริ่มต้นที่ไม่ต้องการปรับแต่งมาก ➡️ มีระบบวิเคราะห์ยอดขายจากการเชื่อมต่อกับ Square ✅ การเปรียบเทียบด้านราคา ➡️ Wix เริ่มต้นที่ $17/เดือน และสูงสุดถึง $152/เดือน ➡️ Weebly เริ่มต้นที่ $0 และสูงสุดที่ $29/เดือน ➡️ Wix ให้ฟีเจอร์มากกว่า แต่ราคาสูงกว่า ➡️ Weebly เหมาะกับผู้ใช้งานที่เน้นความคุ้มค่าและประหยัด ✅ ความเหมาะสมกับผู้ใช้งาน ➡️ Wix เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการเติบโตและปรับแต่งได้เต็มที่ ➡️ Weebly เหมาะกับร้านเล็กหรือเว็บไซต์ส่วนตัวที่ไม่ซับซ้อน ➡️ Wix เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมดีไซน์และฟีเจอร์ ➡️ Weebly เหมาะกับผู้ที่ต้องการความง่ายและเร็วในการเริ่มต้น https://www.techradar.com/news/wix-vs-weebly
    WWW.TECHRADAR.COM
    Wix vs Weebly: How these top website builders compare
    Top website builders go head-to-head on price and performance
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • iKKO MindOne: สมาร์ตโฟนจิ๋วที่อัดแน่นด้วย AI และอินเทอร์เน็ตฟรี

    ลองจินตนาการว่าคุณมีสมาร์ตโฟนขนาดเท่าบัตรเครดิต แต่สามารถทำงานได้เหมือนเครื่องมือระดับมืออาชีพ ทั้งแปลภาษาแบบเรียลไทม์ บันทึกเสียงเป็นข้อความ และสรุปเนื้อหาอัตโนมัติ—ทั้งหมดนี้โดยไม่ต้องเสียค่าสมัครสมาชิกใด ๆ

    นั่นคือสิ่งที่ iKKO MindOne เสนอไว้ในแคมเปญระดมทุนที่ระดมได้มากกว่า 1.2 ล้านดอลลาร์ ตัวเครื่องมีขนาด 86×72×8.9 มม. ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 4.02 นิ้ว พร้อมกระจกแซฟไฟร์กันรอยระดับ 9H และกล้อง Sony 50MP ที่หมุนได้ 180° ใช้ได้ทั้งหน้าและหลัง

    ที่โดดเด่นคือระบบ vSIM แบบคู่: NovaLink ให้ใช้งาน AI ฟรีในกว่า 60 ประเทศ ส่วน vSIM แบบเสียเงินครอบคลุมกว่า 140 ประเทศสำหรับการใช้งานเต็มรูปแบบ เช่น ดูวิดีโอหรือท่องเว็บ นอกจากนี้ยังมีช่องใส่ nano SIM สำหรับ 4G+ LTE ที่เลือกใช้แทน 5G เพื่อความเสถียรและประหยัดพลังงาน

    ระบบปฏิบัติการมีสองชุด: Android 15 สำหรับแอปทั่วไป และ iKKO AI OS สำหรับงานที่ต้องการสมาธิและความปลอดภัย โดยสามารถสลับผ่านปุ่มจริง และนำแอป Android เข้าไปใช้ในโหมด AI ได้

    อุปกรณ์เสริมอย่างเคสคีย์บอร์ด QWERTY ยังเพิ่มแบตเตอรี่เสริม 500mAh, DAC คุณภาพสูง Cirrus Logic CS43198 และช่องหูฟัง 3.5 มม. สำหรับคนที่ต้องการเสียงคุณภาพและการพิมพ์แบบ tactile

    ข้อมูลพื้นฐานของ iKKO MindOne
    ขนาด 86×72×8.9 มม. หนาเท่าบัตรเครดิต
    หน้าจอ AMOLED 4.02 นิ้ว พร้อมกระจกแซฟไฟร์ระดับ 9H
    กล้อง Sony 50MP หมุนได้ 180° ใช้ได้ทั้งหน้าและหลัง

    ระบบการเชื่อมต่อและอินเทอร์เน็ต
    ใช้ระบบ vSIM แบบคู่: NovaLink (ฟรี AI) และ vSIM แบบเสียเงิน
    ครอบคลุมกว่า 140 ประเทศสำหรับการใช้งานเต็มรูปแบบ
    รองรับ nano SIM สำหรับ 4G+ LTE ทั่วโลก
    เลือกใช้ 4G+ แทน 5G เพื่อความเสถียรและลดความร้อน

    ระบบปฏิบัติการและฟีเจอร์ AI
    ใช้ Android 15 และ iKKO AI OS สลับได้ผ่านปุ่มจริง
    รองรับ Google Mobile Services และอัปเดต Android 3 รุ่น + แพตช์ 5 ปี
    ฟีเจอร์ AI: แปลภาษา, สรุปเนื้อหา, บันทึกเสียงเป็นข้อความ, จดโน้ตอัตโนมัติ
    ไม่มีค่าสมัครสมาชิก และไม่เก็บข้อมูลส่วนตัว

    อุปกรณ์เสริมและการใช้งาน
    เคสคีย์บอร์ด QWERTY พร้อมแบตเตอรี่เสริม 500mAh
    DAC Cirrus Logic CS43198 และช่องหูฟัง 3.5 มม. สำหรับเสียงคุณภาพสูง
    เหมาะกับนักเดินทาง นักเรียน และผู้ใช้ที่ต้องการความคล่องตัว

    ยังไม่มีข้อมูลสเปก CPU และ RAM อย่างเป็นทางการ
    การใช้งานอินเทอร์เน็ตฟรีจำกัดเฉพาะฟีเจอร์ AI เท่านั้น ไม่รวมการท่องเว็บหรือดูวิดีโอ
    เคสคีย์บอร์ดเพิ่มขนาดและน้ำหนักของเครื่อง
    ยังไม่ชัดเจนว่าคุณภาพการผลิตจริงจะตรงกับที่โฆษณาหรือไม่
    การใช้งานในบางประเทศอาจมีข้อจำกัดด้านเครือข่ายหรือกฎหมาย

    https://www.techradar.com/pro/crowdfunded-ai-smartphone-with-free-global-internet-detachable-keyboard-and-square-screen-gets-over-usd1-million-pledge-and-its-strangely-mesmerizing
    🧠 iKKO MindOne: สมาร์ตโฟนจิ๋วที่อัดแน่นด้วย AI และอินเทอร์เน็ตฟรี ลองจินตนาการว่าคุณมีสมาร์ตโฟนขนาดเท่าบัตรเครดิต แต่สามารถทำงานได้เหมือนเครื่องมือระดับมืออาชีพ ทั้งแปลภาษาแบบเรียลไทม์ บันทึกเสียงเป็นข้อความ และสรุปเนื้อหาอัตโนมัติ—ทั้งหมดนี้โดยไม่ต้องเสียค่าสมัครสมาชิกใด ๆ นั่นคือสิ่งที่ iKKO MindOne เสนอไว้ในแคมเปญระดมทุนที่ระดมได้มากกว่า 1.2 ล้านดอลลาร์ ตัวเครื่องมีขนาด 86×72×8.9 มม. ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 4.02 นิ้ว พร้อมกระจกแซฟไฟร์กันรอยระดับ 9H และกล้อง Sony 50MP ที่หมุนได้ 180° ใช้ได้ทั้งหน้าและหลัง ที่โดดเด่นคือระบบ vSIM แบบคู่: NovaLink ให้ใช้งาน AI ฟรีในกว่า 60 ประเทศ ส่วน vSIM แบบเสียเงินครอบคลุมกว่า 140 ประเทศสำหรับการใช้งานเต็มรูปแบบ เช่น ดูวิดีโอหรือท่องเว็บ นอกจากนี้ยังมีช่องใส่ nano SIM สำหรับ 4G+ LTE ที่เลือกใช้แทน 5G เพื่อความเสถียรและประหยัดพลังงาน ระบบปฏิบัติการมีสองชุด: Android 15 สำหรับแอปทั่วไป และ iKKO AI OS สำหรับงานที่ต้องการสมาธิและความปลอดภัย โดยสามารถสลับผ่านปุ่มจริง และนำแอป Android เข้าไปใช้ในโหมด AI ได้ อุปกรณ์เสริมอย่างเคสคีย์บอร์ด QWERTY ยังเพิ่มแบตเตอรี่เสริม 500mAh, DAC คุณภาพสูง Cirrus Logic CS43198 และช่องหูฟัง 3.5 มม. สำหรับคนที่ต้องการเสียงคุณภาพและการพิมพ์แบบ tactile ✅ ข้อมูลพื้นฐานของ iKKO MindOne ➡️ ขนาด 86×72×8.9 มม. หนาเท่าบัตรเครดิต ➡️ หน้าจอ AMOLED 4.02 นิ้ว พร้อมกระจกแซฟไฟร์ระดับ 9H ➡️ กล้อง Sony 50MP หมุนได้ 180° ใช้ได้ทั้งหน้าและหลัง ✅ ระบบการเชื่อมต่อและอินเทอร์เน็ต ➡️ ใช้ระบบ vSIM แบบคู่: NovaLink (ฟรี AI) และ vSIM แบบเสียเงิน ➡️ ครอบคลุมกว่า 140 ประเทศสำหรับการใช้งานเต็มรูปแบบ ➡️ รองรับ nano SIM สำหรับ 4G+ LTE ทั่วโลก ➡️ เลือกใช้ 4G+ แทน 5G เพื่อความเสถียรและลดความร้อน ✅ ระบบปฏิบัติการและฟีเจอร์ AI ➡️ ใช้ Android 15 และ iKKO AI OS สลับได้ผ่านปุ่มจริง ➡️ รองรับ Google Mobile Services และอัปเดต Android 3 รุ่น + แพตช์ 5 ปี ➡️ ฟีเจอร์ AI: แปลภาษา, สรุปเนื้อหา, บันทึกเสียงเป็นข้อความ, จดโน้ตอัตโนมัติ ➡️ ไม่มีค่าสมัครสมาชิก และไม่เก็บข้อมูลส่วนตัว ✅ อุปกรณ์เสริมและการใช้งาน ➡️ เคสคีย์บอร์ด QWERTY พร้อมแบตเตอรี่เสริม 500mAh ➡️ DAC Cirrus Logic CS43198 และช่องหูฟัง 3.5 มม. สำหรับเสียงคุณภาพสูง ➡️ เหมาะกับนักเดินทาง นักเรียน และผู้ใช้ที่ต้องการความคล่องตัว ⛔ ยังไม่มีข้อมูลสเปก CPU และ RAM อย่างเป็นทางการ ⛔ การใช้งานอินเทอร์เน็ตฟรีจำกัดเฉพาะฟีเจอร์ AI เท่านั้น ไม่รวมการท่องเว็บหรือดูวิดีโอ ⛔ เคสคีย์บอร์ดเพิ่มขนาดและน้ำหนักของเครื่อง ⛔ ยังไม่ชัดเจนว่าคุณภาพการผลิตจริงจะตรงกับที่โฆษณาหรือไม่ ⛔ การใช้งานในบางประเทศอาจมีข้อจำกัดด้านเครือข่ายหรือกฎหมาย https://www.techradar.com/pro/crowdfunded-ai-smartphone-with-free-global-internet-detachable-keyboard-and-square-screen-gets-over-usd1-million-pledge-and-its-strangely-mesmerizing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสื้อปุ๋ย เทรนด์ฮิตจากทุ่งนา

    เสื้อแขนยาวทั้งคอกลมและคอปก กลายเป็นเทรนด์ฮิตในหมู่คนที่ชื่นชอบวิถีชีวิตชนบทแบบเกษตรกร เมื่อวันก่อนเฟซบุ๊ก ปุ๋ยตราม้าบิน โพสต์ภาพระบุว่า "ใส่เสื้อหลักล้าน? เสื้อปุ๋ยธรรมดาที่ได้มากกว่าล้าน" กลายเป็นที่พูดถึงแก่ชาวเน็ต ถึงขนาด จ๋าย ไททศมิตร หรือ อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี ศิลปินเพลงป๊อปอินดี้เพื่อชีวิต คอมเมนต์ในเพจว่า "คิวว่าง พรีเซนเตอร์เข้าได้ครับ" และยังมีชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งเชียร์ให้จำหน่ายเสื้อ เพราะไม่ได้ซื้อปุ๋ยแต่อยากเท่กับเขาบ้าง แต่เนื่องจากเสื้อปุ๋ยม้าบินจะไม่มีจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แอดมินจึงแนะนำให้ติดตามข่าวสารและกิจกรรมจากเพจไปก่อน

    ขณะที่แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ เริ่มมีผู้ขายโพสต์ขายเสื้อปุ๋ยบ้างแล้ว แต่ไม่พบว่าเป็นเสื้อลิขสิทธิ์แท้หรือของลอกเลียนแบบ เพราะโดยปกติแล้วเสื้อขายปุ๋ย ผู้จัดจำหน่ายจะแจกจ่ายให้ร้านค้าทางการเกษตร เพื่อนำไปสมนาคุณแก่ลูกค้าที่ซื้อปุ๋ยตามเงื่อนไข ซึ่งแต่ละครั้งเกษตรกรจะซื้อเป็นกระสอบ ยิ่งมีจำนวนไร่มากยิ่งต้องใช้ปุ๋ยมาก ต้องจ่ายในราคาที่แพงมาก โดยก่อนหน้านี้ เสื้อปุ๋ยตราม้าบินสีน้ำเงิน ถูกนำไปใช้ในมิวสิกวีดีโอเพลง ให้บุญนำพา ของ ไหมไทย หัวใจศิลป์ ที่นักแสดงนำชายอย่าง ยูโร พัชรพล รับบทเป็นชาวนา เผยแพร่ผ่านยูทูบเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2567 ปัจจุบันมียอดวิวมากกว่า 115 ล้านวิว

    อย่างไรก็ตาม ยังมีเพลงที่เกี่ยวข้องกับเสื้อปุ๋ย เฉกเช่นมิวสิกวีดีโอเพลง ผู้บ่าวเสื้อปุ๋ย ของศิลปินเพลงป็อปลูกทุ่ง ดิด คิตตี้ หรือ บัณฑิต ไพรบึง โดยมีท่อนฮุคระบุว่า "อ้ายใส่เสื้อปุ๋ยแถมมาน้องหล่า บ่มีปัญญาไปซื้อของห้าง หรูสุดแค่ข้าวกระเพราข้างทาง ดีแหน่กะพาหย่างตลาดนัดวันเสาร์" เผยแพร่ผ่านยูทูปเมื่อวันที่ 20 พ.ค.2568 ปัจจุบันมียอดวิวมากกว่า 56 ล้านวิว ไม่นับรวมถ่ายคลิปลงติ๊กต็อกหรือร้องเพลงคัฟเวอร์ แถมศิลปินยังใช้โอกาสนี้ขายเสื้อปุ๋ยคอปกสีแสดแบบเดียวกับในเอ็มวี สำหรับแฟนเพลงที่อยากได้ไว้ใส่ทำนา ทำสวน ทำไร่ หรือใส่ไปเที่ยว

    สำหรับเสื้อปุ๋ย นิยมทำเป็นเสื้อแขนยาวเพื่อใช้กันแดดที่แขน ผลิตจากใยสังเคราะห์หรือโพลีเอสเตอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าทีเคหรือผ้าทีซี (ผสมคอตตอน 20%) ซึ่งราคาถูกที่สุด หรืออย่างดีขึ้นมาหน่อยจะเป็นผ้าไอบีหรือผ้าไมโคร ยิ่งสั่งผลิตจำนวนมากยิ่งราคาถูกลง แต่อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับเนื้อผ้าและการซัก ที่ผ่านมามีมุกตลกที่ระบุว่า "ใครใส่เสื้อที่มีโลโก้ปุ๋ยแปลว่าเป็นคนมีตังค์" แม้จะเป็นเสื้อแถม แต่ต้องมียอดซื้อจำนวนมากถึงจะได้เสื้อฟรี สะท้อนให้เห็นว่า สังคมเกษตรกรรม เป็นรากฐานของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนไทยที่ขาดกันไม่ได้

    #Newskit

    (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะเผยแพร่ใน Facebook และ IG วันจันทร์ที่ 18 ส.ค. 2568)
    เสื้อปุ๋ย เทรนด์ฮิตจากทุ่งนา เสื้อแขนยาวทั้งคอกลมและคอปก กลายเป็นเทรนด์ฮิตในหมู่คนที่ชื่นชอบวิถีชีวิตชนบทแบบเกษตรกร เมื่อวันก่อนเฟซบุ๊ก ปุ๋ยตราม้าบิน โพสต์ภาพระบุว่า "ใส่เสื้อหลักล้าน? เสื้อปุ๋ยธรรมดาที่ได้มากกว่าล้าน" กลายเป็นที่พูดถึงแก่ชาวเน็ต ถึงขนาด จ๋าย ไททศมิตร หรือ อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี ศิลปินเพลงป๊อปอินดี้เพื่อชีวิต คอมเมนต์ในเพจว่า "คิวว่าง พรีเซนเตอร์เข้าได้ครับ" และยังมีชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งเชียร์ให้จำหน่ายเสื้อ เพราะไม่ได้ซื้อปุ๋ยแต่อยากเท่กับเขาบ้าง แต่เนื่องจากเสื้อปุ๋ยม้าบินจะไม่มีจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แอดมินจึงแนะนำให้ติดตามข่าวสารและกิจกรรมจากเพจไปก่อน ขณะที่แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ เริ่มมีผู้ขายโพสต์ขายเสื้อปุ๋ยบ้างแล้ว แต่ไม่พบว่าเป็นเสื้อลิขสิทธิ์แท้หรือของลอกเลียนแบบ เพราะโดยปกติแล้วเสื้อขายปุ๋ย ผู้จัดจำหน่ายจะแจกจ่ายให้ร้านค้าทางการเกษตร เพื่อนำไปสมนาคุณแก่ลูกค้าที่ซื้อปุ๋ยตามเงื่อนไข ซึ่งแต่ละครั้งเกษตรกรจะซื้อเป็นกระสอบ ยิ่งมีจำนวนไร่มากยิ่งต้องใช้ปุ๋ยมาก ต้องจ่ายในราคาที่แพงมาก โดยก่อนหน้านี้ เสื้อปุ๋ยตราม้าบินสีน้ำเงิน ถูกนำไปใช้ในมิวสิกวีดีโอเพลง ให้บุญนำพา ของ ไหมไทย หัวใจศิลป์ ที่นักแสดงนำชายอย่าง ยูโร พัชรพล รับบทเป็นชาวนา เผยแพร่ผ่านยูทูบเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2567 ปัจจุบันมียอดวิวมากกว่า 115 ล้านวิว อย่างไรก็ตาม ยังมีเพลงที่เกี่ยวข้องกับเสื้อปุ๋ย เฉกเช่นมิวสิกวีดีโอเพลง ผู้บ่าวเสื้อปุ๋ย ของศิลปินเพลงป็อปลูกทุ่ง ดิด คิตตี้ หรือ บัณฑิต ไพรบึง โดยมีท่อนฮุคระบุว่า "อ้ายใส่เสื้อปุ๋ยแถมมาน้องหล่า บ่มีปัญญาไปซื้อของห้าง หรูสุดแค่ข้าวกระเพราข้างทาง ดีแหน่กะพาหย่างตลาดนัดวันเสาร์" เผยแพร่ผ่านยูทูปเมื่อวันที่ 20 พ.ค.2568 ปัจจุบันมียอดวิวมากกว่า 56 ล้านวิว ไม่นับรวมถ่ายคลิปลงติ๊กต็อกหรือร้องเพลงคัฟเวอร์ แถมศิลปินยังใช้โอกาสนี้ขายเสื้อปุ๋ยคอปกสีแสดแบบเดียวกับในเอ็มวี สำหรับแฟนเพลงที่อยากได้ไว้ใส่ทำนา ทำสวน ทำไร่ หรือใส่ไปเที่ยว สำหรับเสื้อปุ๋ย นิยมทำเป็นเสื้อแขนยาวเพื่อใช้กันแดดที่แขน ผลิตจากใยสังเคราะห์หรือโพลีเอสเตอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าทีเคหรือผ้าทีซี (ผสมคอตตอน 20%) ซึ่งราคาถูกที่สุด หรืออย่างดีขึ้นมาหน่อยจะเป็นผ้าไอบีหรือผ้าไมโคร ยิ่งสั่งผลิตจำนวนมากยิ่งราคาถูกลง แต่อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับเนื้อผ้าและการซัก ที่ผ่านมามีมุกตลกที่ระบุว่า "ใครใส่เสื้อที่มีโลโก้ปุ๋ยแปลว่าเป็นคนมีตังค์" แม้จะเป็นเสื้อแถม แต่ต้องมียอดซื้อจำนวนมากถึงจะได้เสื้อฟรี สะท้อนให้เห็นว่า สังคมเกษตรกรรม เป็นรากฐานของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนไทยที่ขาดกันไม่ได้ #Newskit (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะเผยแพร่ใน Facebook และ IG วันจันทร์ที่ 18 ส.ค. 2568)
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคสคอมพิวเตอร์ฟรีจาก Teenage Engineering: ดีไซน์ล้ำ งบศูนย์บาท
    Teenage Engineering บริษัทดีไซน์สุดแนวจากสวีเดนที่เคยสร้างชื่อจากเครื่องดนตรีพกพาและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สุดครีเอทีฟ กลับมาอีกครั้งกับโปรเจกต์ใหม่ที่ชวนให้คนในวงการพีซีต้องหันมามอง นั่นคือ “Computer–2” เคสคอมพิวเตอร์ขนาด mini-ITX ที่แจกฟรี! ใช่ครับ ฟรีจริง ๆ (ยกเว้นค่าส่ง)

    เคสนี้ถูกออกแบบให้ประกอบจากแผ่นพลาสติกโปร่งแสงเพียงแผ่นเดียว โดยใช้ “living hinges” และ “snap hooks” ที่สามารถประกอบได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือสกรูใด ๆ ทั้งสิ้น แค่ “กดแล้วคลิก” ก็เสร็จเรียบร้อย

    แม้จะดูเรียบง่าย แต่ Computer–2 รองรับฮาร์ดแวร์จริงจังได้พอสมควร เช่น
    - เมนบอร์ดขนาด mini-ITX
    - พาวเวอร์ซัพพลายแบบ SFX
    - การ์ดจอแบบ dual-slot ที่ยาวไม่เกิน 180 มม.
    - พัดลมขนาด 80 มม.
    - และฮีตซิงก์ซีพียูแบบ low-profile

    Teenage Engineering ตั้งเป้าให้เคสนี้เป็น “เคสคอมพิวเตอร์ที่ถูกที่สุดในโลก” และพวกเขาก็ทำสำเร็จ ด้วยต้นทุนที่ “เท่ากับศูนย์” โดยไม่รวมอุปกรณ์ภายใน

    อย่างไรก็ตาม เคสนี้ก็มีข้อจำกัดอยู่ไม่น้อย เช่น ความแข็งแรงที่อาจไม่เหมาะกับการพกพาไปงาน LAN party หรือการใช้งานระยะยาว รวมถึงระบบระบายความร้อนที่อาจไม่เพียงพอสำหรับฮาร์ดแวร์แรง ๆ

    Teenage Engineering เปิดตัวเคส Computer–2 แจกฟรี
    เคสทำจากแผ่นพลาสติกโปร่งแสงเพียงแผ่นเดียว
    ใช้ snap hooks และ living hinges ประกอบโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ
    แจกฟรีแบบจำกัดจำนวน (1 ชิ้นต่อคน) โดยต้องจ่ายค่าส่งเอง

    รองรับฮาร์ดแวร์ขนาดเล็กแต่ใช้งานได้จริง
    รองรับเมนบอร์ด mini-ITX และพาวเวอร์ซัพพลายแบบ SFX
    รองรับการ์ดจอ dual-slot ยาวไม่เกิน 180 มม.
    รองรับพัดลมขนาด 80 มม. และฮีตซิงก์แบบ low-profile

    แนวคิดการออกแบบเพื่อความเรียบง่ายและต้นทุนต่ำ
    ไม่มีพอร์ต I/O ด้านหน้า มีเพียงสวิตช์เปิดปิดและไฟ LED
    ไม่มีสกรูหรือเครื่องมือใด ๆ ในการประกอบ
    เป็นการทดลองด้านดีไซน์และการตลาดของบริษัท

    https://www.tomshardware.com/pc-components/pc-cases/free-mini-itx-case-made-of-one-sheet-of-translucent-plastic-arrives-stock-evaporates-instantly-teenage-engineerings-foldable-computer-2-sports-odd-layout-with-the-gpu-above-the-motherboard
    🧩 เคสคอมพิวเตอร์ฟรีจาก Teenage Engineering: ดีไซน์ล้ำ งบศูนย์บาท Teenage Engineering บริษัทดีไซน์สุดแนวจากสวีเดนที่เคยสร้างชื่อจากเครื่องดนตรีพกพาและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สุดครีเอทีฟ กลับมาอีกครั้งกับโปรเจกต์ใหม่ที่ชวนให้คนในวงการพีซีต้องหันมามอง นั่นคือ “Computer–2” เคสคอมพิวเตอร์ขนาด mini-ITX ที่แจกฟรี! ใช่ครับ ฟรีจริง ๆ (ยกเว้นค่าส่ง) เคสนี้ถูกออกแบบให้ประกอบจากแผ่นพลาสติกโปร่งแสงเพียงแผ่นเดียว โดยใช้ “living hinges” และ “snap hooks” ที่สามารถประกอบได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือสกรูใด ๆ ทั้งสิ้น แค่ “กดแล้วคลิก” ก็เสร็จเรียบร้อย แม้จะดูเรียบง่าย แต่ Computer–2 รองรับฮาร์ดแวร์จริงจังได้พอสมควร เช่น - เมนบอร์ดขนาด mini-ITX - พาวเวอร์ซัพพลายแบบ SFX - การ์ดจอแบบ dual-slot ที่ยาวไม่เกิน 180 มม. - พัดลมขนาด 80 มม. - และฮีตซิงก์ซีพียูแบบ low-profile Teenage Engineering ตั้งเป้าให้เคสนี้เป็น “เคสคอมพิวเตอร์ที่ถูกที่สุดในโลก” และพวกเขาก็ทำสำเร็จ ด้วยต้นทุนที่ “เท่ากับศูนย์” โดยไม่รวมอุปกรณ์ภายใน อย่างไรก็ตาม เคสนี้ก็มีข้อจำกัดอยู่ไม่น้อย เช่น ความแข็งแรงที่อาจไม่เหมาะกับการพกพาไปงาน LAN party หรือการใช้งานระยะยาว รวมถึงระบบระบายความร้อนที่อาจไม่เพียงพอสำหรับฮาร์ดแวร์แรง ๆ ✅ Teenage Engineering เปิดตัวเคส Computer–2 แจกฟรี ➡️ เคสทำจากแผ่นพลาสติกโปร่งแสงเพียงแผ่นเดียว ➡️ ใช้ snap hooks และ living hinges ประกอบโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ ➡️ แจกฟรีแบบจำกัดจำนวน (1 ชิ้นต่อคน) โดยต้องจ่ายค่าส่งเอง ✅ รองรับฮาร์ดแวร์ขนาดเล็กแต่ใช้งานได้จริง ➡️ รองรับเมนบอร์ด mini-ITX และพาวเวอร์ซัพพลายแบบ SFX ➡️ รองรับการ์ดจอ dual-slot ยาวไม่เกิน 180 มม. ➡️ รองรับพัดลมขนาด 80 มม. และฮีตซิงก์แบบ low-profile ✅ แนวคิดการออกแบบเพื่อความเรียบง่ายและต้นทุนต่ำ ➡️ ไม่มีพอร์ต I/O ด้านหน้า มีเพียงสวิตช์เปิดปิดและไฟ LED ➡️ ไม่มีสกรูหรือเครื่องมือใด ๆ ในการประกอบ ➡️ เป็นการทดลองด้านดีไซน์และการตลาดของบริษัท https://www.tomshardware.com/pc-components/pc-cases/free-mini-itx-case-made-of-one-sheet-of-translucent-plastic-arrives-stock-evaporates-instantly-teenage-engineerings-foldable-computer-2-sports-odd-layout-with-the-gpu-above-the-motherboard
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าหน้าร้อน: มือถือร้อนเกินไป...ไม่ใช่แค่รำคาญ แต่เสี่ยงพังจริง!

    หน้าร้อนปีนี้ หลายประเทศทั่วโลกเจอกับคลื่นความร้อนที่รุนแรง โดยเฉพาะในยุโรปตอนใต้และสหรัฐฯ ซึ่งไม่ใช่แค่คนที่ต้องระวัง—มือถือของเราก็เสี่ยงเช่นกัน!

    มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ถูกออกแบบมาให้ทำงานในอุณหภูมิที่เหมาะสม เช่น iPhone และ iPad ควรใช้งานในช่วง 0–35°C ถ้าเกินกว่านี้ เครื่องอาจเริ่มทำงานผิดปกติ เช่น แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว หรือระบบปิดตัวเองเพื่อป้องกันความเสียหาย

    หลายคนอาจเคยเห็นข้อความเตือน “iPhone needs to cool down” หรือหน้าจอ Android ที่มืดลง ปิดแอป และหยุดชาร์จอัตโนมัติ—นั่นคือสัญญาณว่ามือถือกำลังร้อนเกินไป

    สิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดคือเอาเครื่องไปแช่ตู้เย็น เพราะความชื้นอาจทำให้วงจรเสียหายได้ และการใช้ฟีเจอร์หนัก ๆ เช่น GPS, เกมกราฟิกสูง หรือกล้องกลางแดดจัด ก็ยิ่งเพิ่มความร้อนเข้าไปอีก

    วิธีป้องกันง่าย ๆ คือ:
    - ปิดเครื่องชั่วคราว
    - ถอดเคสออก
    - วางไว้ในที่เย็น เช่น ห้องแอร์หรือหน้าพัดลม
    - หลีกเลี่ยงการชาร์จในที่ร้อนหรือใต้หมอน

    และถ้าอยากรู้ลึกกว่านี้—ความร้อนยังส่งผลต่อ CPU, GPU, แบตเตอรี่, RAM และหน้าจอโดยตรง เช่น ทำให้เครื่องช้า แบตเสื่อมเร็ว หรือจอเกิด burn-in ได้เลยทีเดียว

    คำเตือนเกี่ยวกับการจัดการความร้อนผิดวิธี
    ห้ามนำมือถือไปแช่ตู้เย็นหรือช่องฟรีซ เพราะอาจเกิดความชื้นและทำให้เครื่องเสีย
    ห้ามใช้ฟีเจอร์หนัก ๆ กลางแดดจัด เช่น GPS, เกมกราฟิกสูง หรือกล้อง

    ผลกระทบระยะยาวจากความร้อนต่อมือถือ
    CPU และ GPU จะลดความเร็วลง ทำให้เครื่องช้า
    แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว เก็บไฟได้น้อยลง และเสี่ยงต่อการบวมหรือระเบิด
    หน้าจออาจเกิด burn-in หรือภาพติดถาวร
    RAM ทำงานผิดปกติ ทำให้แอปค้างหรือปิดตัวเอง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/15/one-tech-tip-this-summer-don039t-let-your-phone-overheat
    📱เรื่องเล่าหน้าร้อน: มือถือร้อนเกินไป...ไม่ใช่แค่รำคาญ แต่เสี่ยงพังจริง! หน้าร้อนปีนี้ หลายประเทศทั่วโลกเจอกับคลื่นความร้อนที่รุนแรง โดยเฉพาะในยุโรปตอนใต้และสหรัฐฯ ซึ่งไม่ใช่แค่คนที่ต้องระวัง—มือถือของเราก็เสี่ยงเช่นกัน! มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ถูกออกแบบมาให้ทำงานในอุณหภูมิที่เหมาะสม เช่น iPhone และ iPad ควรใช้งานในช่วง 0–35°C ถ้าเกินกว่านี้ เครื่องอาจเริ่มทำงานผิดปกติ เช่น แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว หรือระบบปิดตัวเองเพื่อป้องกันความเสียหาย หลายคนอาจเคยเห็นข้อความเตือน “iPhone needs to cool down” หรือหน้าจอ Android ที่มืดลง ปิดแอป และหยุดชาร์จอัตโนมัติ—นั่นคือสัญญาณว่ามือถือกำลังร้อนเกินไป สิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดคือเอาเครื่องไปแช่ตู้เย็น เพราะความชื้นอาจทำให้วงจรเสียหายได้ และการใช้ฟีเจอร์หนัก ๆ เช่น GPS, เกมกราฟิกสูง หรือกล้องกลางแดดจัด ก็ยิ่งเพิ่มความร้อนเข้าไปอีก วิธีป้องกันง่าย ๆ คือ: - ปิดเครื่องชั่วคราว - ถอดเคสออก - วางไว้ในที่เย็น เช่น ห้องแอร์หรือหน้าพัดลม - หลีกเลี่ยงการชาร์จในที่ร้อนหรือใต้หมอน และถ้าอยากรู้ลึกกว่านี้—ความร้อนยังส่งผลต่อ CPU, GPU, แบตเตอรี่, RAM และหน้าจอโดยตรง เช่น ทำให้เครื่องช้า แบตเสื่อมเร็ว หรือจอเกิด burn-in ได้เลยทีเดียว ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับการจัดการความร้อนผิดวิธี ⛔ ห้ามนำมือถือไปแช่ตู้เย็นหรือช่องฟรีซ เพราะอาจเกิดความชื้นและทำให้เครื่องเสีย ⛔ ห้ามใช้ฟีเจอร์หนัก ๆ กลางแดดจัด เช่น GPS, เกมกราฟิกสูง หรือกล้อง ‼️ ผลกระทบระยะยาวจากความร้อนต่อมือถือ ⛔ CPU และ GPU จะลดความเร็วลง ทำให้เครื่องช้า ⛔ แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว เก็บไฟได้น้อยลง และเสี่ยงต่อการบวมหรือระเบิด ⛔ หน้าจออาจเกิด burn-in หรือภาพติดถาวร ⛔ RAM ทำงานผิดปกติ ทำให้แอปค้างหรือปิดตัวเอง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/15/one-tech-tip-this-summer-don039t-let-your-phone-overheat
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts