• ยุบสภาตามคำขอ "เท้ง" : [THE MESSAGE]

    นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เผยถึงเหตุผลการยุบสภา เป็นการคืนอำนาจให้ประชาชน พรรคภูมิใจไทย มี MOA มาเป็นรัฐบาลได้เพราะพรรคประชาชนให้มาเป็น การพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ทำมาตลอด ใน MOA ทั้ง 4-5 ข้อ พรรคภูมิใจไทยก็ปฏิบัติมาตลอด ส่วนปัญหามาตรา 256/28 ไม่เคยพูดกันไว้ใน MOA แต่หัวหน้าพรรคประชาชนแถลงในรัฐสภาว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยไม่โหวตตามที่พรรคประชาชนต้องการ พรรคประชาชนก็จะไม่สนับสนุน ขอให้นายกรัฐมนตรียุบสภา ผมก็ทำตามท่าน เป็นไปตามมารยาทที่ควรจะเป็น เราทำทุกอย่างแล้ว มาจนถึงรัฐธรรมนูญโหวตวาระ 1-2 แล้ว ไปติดอยู่ 1 มาตรา ที่เกี่ยวข้องกับอำนาจ สว. ซึ่งพรรคภูมิใจไทยไม่สามารถกดดัน บังคับ โน้มน้าว สว. ให้ลงมติตามที่พรรคประชาชนต้องการได้ ยืนยัน ไม่มีการหักหลัง ใน MOA 4-5 ข้อ ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับ สว.เลย ส่วนในอนาคตจะจับมือกับพรรคประชาชนได้หรือไม่ "ทุกอย่างเป็นไปได้หมดครับ"
    ยุบสภาตามคำขอ "เท้ง" : [THE MESSAGE] นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เผยถึงเหตุผลการยุบสภา เป็นการคืนอำนาจให้ประชาชน พรรคภูมิใจไทย มี MOA มาเป็นรัฐบาลได้เพราะพรรคประชาชนให้มาเป็น การพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ทำมาตลอด ใน MOA ทั้ง 4-5 ข้อ พรรคภูมิใจไทยก็ปฏิบัติมาตลอด ส่วนปัญหามาตรา 256/28 ไม่เคยพูดกันไว้ใน MOA แต่หัวหน้าพรรคประชาชนแถลงในรัฐสภาว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยไม่โหวตตามที่พรรคประชาชนต้องการ พรรคประชาชนก็จะไม่สนับสนุน ขอให้นายกรัฐมนตรียุบสภา ผมก็ทำตามท่าน เป็นไปตามมารยาทที่ควรจะเป็น เราทำทุกอย่างแล้ว มาจนถึงรัฐธรรมนูญโหวตวาระ 1-2 แล้ว ไปติดอยู่ 1 มาตรา ที่เกี่ยวข้องกับอำนาจ สว. ซึ่งพรรคภูมิใจไทยไม่สามารถกดดัน บังคับ โน้มน้าว สว. ให้ลงมติตามที่พรรคประชาชนต้องการได้ ยืนยัน ไม่มีการหักหลัง ใน MOA 4-5 ข้อ ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับ สว.เลย ส่วนในอนาคตจะจับมือกับพรรคประชาชนได้หรือไม่ "ทุกอย่างเป็นไปได้หมดครับ"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • "SMIC ก้าวสู่ยุค 5 นาโนเมตรด้วย DUV"

    รายงานจาก TechInsights ยืนยันว่า Huawei Kirin 9030 SoC ถูกผลิตด้วยกระบวนการ N+3 ของ SMIC ซึ่งเป็นโหนด 5 นาโนเมตรที่ใช้เทคนิค deep ultraviolet lithography (DUV) แทน EUV ที่จีนไม่สามารถเข้าถึงได้เพราะข้อจำกัดการส่งออก เทคโนโลยีนี้ถือเป็นการพัฒนาเหนือกว่าโหนด N+2 (7 นาโนเมตร) ที่เคยใช้ในชิป AI และโครงสร้างพื้นฐานของ Huawei

    เทคนิคการผลิตและข้อจำกัด
    แม้ SMIC สามารถใช้ DUV แบบหลายรอบ เช่น self-aligned quadruple patterning (SAQP) เพื่อให้ได้ความละเอียดใกล้ 35 นาโนเมตรต่อการพิมพ์ แต่ ยังมีปัญหาด้าน yield ที่สูงมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงและบางส่วนต้องลดเกรดชิปลง การใช้ DUV แทน EUV จึงเป็นการบรรลุผลทางเทคนิค แต่ยังไม่สามารถแข่งขันด้านประสิทธิภาพและต้นทุนกับผู้ผลิตรายใหญ่ที่ใช้ EUV ได้

    ความหมายต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน
    ความสำเร็จนี้สะท้อนว่า จีนสามารถเดินหน้าผลิตชิปขั้นสูงได้แม้ถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีตะวันตก ถือเป็นสัญญาณของการพึ่งพาตนเองในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ และอาจช่วยให้ Huawei และบริษัทจีนอื่น ๆ ลดการพึ่งพาต่างประเทศในด้าน AI และอุปกรณ์สื่อสาร

    ความท้าทายและอนาคต
    แม้เป็นความก้าวหน้าที่น่าทึ่ง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การใช้ DUV ในระดับ 5 นาโนเมตรเป็นการลงทุนที่เสี่ยงทางเศรษฐกิจ เพราะ yield ต่ำและต้นทุนสูง หากไม่สามารถพัฒนาเครื่อง EUV ในประเทศได้ จีนอาจยังคงตามหลังผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง TSMC และ Samsung ในเชิงประสิทธิภาพและความคุ้มค่า

    สรุปประเด็นสำคัญ
    SMIC ผลิตชิป 5 นาโนเมตร (N+3) โดยใช้ DUV
    Huawei Kirin 9030 SoC เป็นตัวอย่างที่ยืนยัน

    เทคนิค SAQP และการพิมพ์หลายรอบช่วยให้บรรลุความละเอียด
    ได้ใกล้เคียง 35 นาโนเมตรต่อการพิมพ์

    ความสำเร็จสะท้อนการพึ่งพาตนเองของจีนในอุตสาหกรรมชิป
    ลดการพึ่งพาต่างประเทศในเทคโนโลยีขั้นสูง

    Yield ต่ำทำให้ต้นทุนการผลิตสูง
    ชิปบางส่วนต้องลดเกรดลง

    การใช้ DUV แทน EUV เป็นข้อจำกัดเชิงเทคนิค
    จีนยังตามหลัง TSMC และ Samsung ในด้านประสิทธิภาพ

    https://www.techpowerup.com/344000/chinese-smic-achieves-5-nm-production-on-n-3-node-without-euv-tools
    🏭 "SMIC ก้าวสู่ยุค 5 นาโนเมตรด้วย DUV" รายงานจาก TechInsights ยืนยันว่า Huawei Kirin 9030 SoC ถูกผลิตด้วยกระบวนการ N+3 ของ SMIC ซึ่งเป็นโหนด 5 นาโนเมตรที่ใช้เทคนิค deep ultraviolet lithography (DUV) แทน EUV ที่จีนไม่สามารถเข้าถึงได้เพราะข้อจำกัดการส่งออก เทคโนโลยีนี้ถือเป็นการพัฒนาเหนือกว่าโหนด N+2 (7 นาโนเมตร) ที่เคยใช้ในชิป AI และโครงสร้างพื้นฐานของ Huawei ⚙️ เทคนิคการผลิตและข้อจำกัด แม้ SMIC สามารถใช้ DUV แบบหลายรอบ เช่น self-aligned quadruple patterning (SAQP) เพื่อให้ได้ความละเอียดใกล้ 35 นาโนเมตรต่อการพิมพ์ แต่ ยังมีปัญหาด้าน yield ที่สูงมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงและบางส่วนต้องลดเกรดชิปลง การใช้ DUV แทน EUV จึงเป็นการบรรลุผลทางเทคนิค แต่ยังไม่สามารถแข่งขันด้านประสิทธิภาพและต้นทุนกับผู้ผลิตรายใหญ่ที่ใช้ EUV ได้ 🌍 ความหมายต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน ความสำเร็จนี้สะท้อนว่า จีนสามารถเดินหน้าผลิตชิปขั้นสูงได้แม้ถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีตะวันตก ถือเป็นสัญญาณของการพึ่งพาตนเองในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ และอาจช่วยให้ Huawei และบริษัทจีนอื่น ๆ ลดการพึ่งพาต่างประเทศในด้าน AI และอุปกรณ์สื่อสาร ⚠️ ความท้าทายและอนาคต แม้เป็นความก้าวหน้าที่น่าทึ่ง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การใช้ DUV ในระดับ 5 นาโนเมตรเป็นการลงทุนที่เสี่ยงทางเศรษฐกิจ เพราะ yield ต่ำและต้นทุนสูง หากไม่สามารถพัฒนาเครื่อง EUV ในประเทศได้ จีนอาจยังคงตามหลังผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง TSMC และ Samsung ในเชิงประสิทธิภาพและความคุ้มค่า 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ SMIC ผลิตชิป 5 นาโนเมตร (N+3) โดยใช้ DUV ➡️ Huawei Kirin 9030 SoC เป็นตัวอย่างที่ยืนยัน ✅ เทคนิค SAQP และการพิมพ์หลายรอบช่วยให้บรรลุความละเอียด ➡️ ได้ใกล้เคียง 35 นาโนเมตรต่อการพิมพ์ ✅ ความสำเร็จสะท้อนการพึ่งพาตนเองของจีนในอุตสาหกรรมชิป ➡️ ลดการพึ่งพาต่างประเทศในเทคโนโลยีขั้นสูง ‼️ Yield ต่ำทำให้ต้นทุนการผลิตสูง ⛔ ชิปบางส่วนต้องลดเกรดลง ‼️ การใช้ DUV แทน EUV เป็นข้อจำกัดเชิงเทคนิค ⛔ จีนยังตามหลัง TSMC และ Samsung ในด้านประสิทธิภาพ https://www.techpowerup.com/344000/chinese-smic-achieves-5-nm-production-on-n-3-node-without-euv-tools
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Chinese SMIC Achieves 5 nm Production on N+3 Node Without EUV Tools
    Chinese company SMIC has officially achieved volume production of its newest 5 nm-class node called SMIC N+3. This is officially China's most advanced semiconductor node produced without any extreme ultraviolet (EUV) lithography tools, relying on the deep ultraviolet (DUV) to manufacture its silicon...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ไมโครพลาสติก: พาหะใหม่ของเชื้อโรคและดื้อยา"

    งานวิจัยจาก University of Exeter และ Plymouth Marine Laboratory ในสหราชอาณาจักรเผยว่า ไมโครพลาสติกไม่เพียงแต่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคและแบคทีเรียดื้อยา โดยพบว่าบนพื้นผิวของไมโครพลาสติกเกิดการสร้าง biofilm หรือที่เรียกว่า "plastisphere" ซึ่งเป็นชั้นจุลชีพที่ช่วยให้เชื้อโรคเจริญเติบโตและอยู่รอดได้นานขึ้น

    ผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
    การทดลองในแม่น้ำ Truro ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษพบว่า ไมโครพลาสติกที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลและโรงบำบัดน้ำเสียมีการสะสมเชื้อโรคที่อันตรายมากกว่า เช่น Flavobacteriia และ Sphingobacteriia รวมถึงยีนจากแบคทีเรียดื้อยาที่แพร่กระจายได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุอื่นอย่างไม้หรือแก้ว ซึ่งหมายความว่าไมโครพลาสติกอาจเป็นตัวกลางในการแพร่กระจายเชื้อโรคเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารและสิ่งแวดล้อม

    ความเสี่ยงระดับโลก
    นักวิจัยเตือนว่า ไมโครพลาสติกไม่ใช่แค่ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่เป็นภัยต่อสาธารณสุข เพราะสามารถนำเชื้อโรคเข้าสู่ระบบนิเวศและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่รักษายากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการรั่วไหลของพลาสติกจากโรงบำบัดน้ำเสีย ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปยังสัตว์น้ำและมนุษย์

    ข้อแนะนำและการป้องกัน
    ทีมวิจัยแนะนำให้มีมาตรการเข้มงวดในการป้องกันการรั่วไหลของพลาสติก เช่น bio-beads ที่ใช้ในโรงบำบัดน้ำเสีย รวมถึงการจัดการขยะพลาสติกอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังแนะนำว่า อาสาสมัครที่ทำกิจกรรมเก็บขยะชายหาดควรสวมถุงมือและล้างมือทุกครั้งหลังทำกิจกรรม เพื่อป้องกันการสัมผัสเชื้อโรคที่อาจสะสมอยู่บนพลาสติก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ไมโครพลาสติกสามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคและแบคทีเรียดื้อยา
    เกิด biofilm หรือ "plastisphere" ที่ช่วยให้เชื้อโรคอยู่รอด

    การทดลองพบเชื้อโรคอันตรายสะสมมากขึ้นใกล้โรงพยาบาลและโรงบำบัดน้ำเสีย
    Flavobacteriia และ Sphingobacteriia พบมากบนไมโครพลาสติก

    ไมโครพลาสติกเป็นภัยต่อสาธารณสุข ไม่ใช่แค่สิ่งแวดล้อม
    อาจแพร่เชื้อโรคเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารและสัตว์น้ำ

    ทีมวิจัยเสนอให้ควบคุมการรั่วไหลของพลาสติกจากโรงบำบัดน้ำเสีย
    bio-beads ต้องมีการจัดการที่รัดกุม

    ไมโครพลาสติกอาจเพิ่มการแพร่กระจายเชื้อโรคดื้อยา
    ทำให้การรักษาโรคติดเชื้อยากขึ้นและเสี่ยงต่อสุขภาพมนุษย์

    การสัมผัสพลาสติกที่ปนเปื้อนเชื้อโรคอาจเป็นอันตรายต่ออาสาสมัครเก็บขยะ
    ควรสวมถุงมือและล้างมือทุกครั้งหลังทำกิจกรรม

    https://www.sciencealert.com/microplastics-can-spread-dangerous-pathogens-scientists-warn
    🧪 "ไมโครพลาสติก: พาหะใหม่ของเชื้อโรคและดื้อยา" งานวิจัยจาก University of Exeter และ Plymouth Marine Laboratory ในสหราชอาณาจักรเผยว่า ไมโครพลาสติกไม่เพียงแต่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคและแบคทีเรียดื้อยา โดยพบว่าบนพื้นผิวของไมโครพลาสติกเกิดการสร้าง biofilm หรือที่เรียกว่า "plastisphere" ซึ่งเป็นชั้นจุลชีพที่ช่วยให้เชื้อโรคเจริญเติบโตและอยู่รอดได้นานขึ้น 🦠 ผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม การทดลองในแม่น้ำ Truro ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษพบว่า ไมโครพลาสติกที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลและโรงบำบัดน้ำเสียมีการสะสมเชื้อโรคที่อันตรายมากกว่า เช่น Flavobacteriia และ Sphingobacteriia รวมถึงยีนจากแบคทีเรียดื้อยาที่แพร่กระจายได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุอื่นอย่างไม้หรือแก้ว ซึ่งหมายความว่าไมโครพลาสติกอาจเป็นตัวกลางในการแพร่กระจายเชื้อโรคเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารและสิ่งแวดล้อม 🌍 ความเสี่ยงระดับโลก นักวิจัยเตือนว่า ไมโครพลาสติกไม่ใช่แค่ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่เป็นภัยต่อสาธารณสุข เพราะสามารถนำเชื้อโรคเข้าสู่ระบบนิเวศและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่รักษายากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการรั่วไหลของพลาสติกจากโรงบำบัดน้ำเสีย ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปยังสัตว์น้ำและมนุษย์ ⚠️ ข้อแนะนำและการป้องกัน ทีมวิจัยแนะนำให้มีมาตรการเข้มงวดในการป้องกันการรั่วไหลของพลาสติก เช่น bio-beads ที่ใช้ในโรงบำบัดน้ำเสีย รวมถึงการจัดการขยะพลาสติกอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังแนะนำว่า อาสาสมัครที่ทำกิจกรรมเก็บขยะชายหาดควรสวมถุงมือและล้างมือทุกครั้งหลังทำกิจกรรม เพื่อป้องกันการสัมผัสเชื้อโรคที่อาจสะสมอยู่บนพลาสติก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ไมโครพลาสติกสามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคและแบคทีเรียดื้อยา ➡️ เกิด biofilm หรือ "plastisphere" ที่ช่วยให้เชื้อโรคอยู่รอด ✅ การทดลองพบเชื้อโรคอันตรายสะสมมากขึ้นใกล้โรงพยาบาลและโรงบำบัดน้ำเสีย ➡️ Flavobacteriia และ Sphingobacteriia พบมากบนไมโครพลาสติก ✅ ไมโครพลาสติกเป็นภัยต่อสาธารณสุข ไม่ใช่แค่สิ่งแวดล้อม ➡️ อาจแพร่เชื้อโรคเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารและสัตว์น้ำ ✅ ทีมวิจัยเสนอให้ควบคุมการรั่วไหลของพลาสติกจากโรงบำบัดน้ำเสีย ➡️ bio-beads ต้องมีการจัดการที่รัดกุม ‼️ ไมโครพลาสติกอาจเพิ่มการแพร่กระจายเชื้อโรคดื้อยา ⛔ ทำให้การรักษาโรคติดเชื้อยากขึ้นและเสี่ยงต่อสุขภาพมนุษย์ ‼️ การสัมผัสพลาสติกที่ปนเปื้อนเชื้อโรคอาจเป็นอันตรายต่ออาสาสมัครเก็บขยะ ⛔ ควรสวมถุงมือและล้างมือทุกครั้งหลังทำกิจกรรม https://www.sciencealert.com/microplastics-can-spread-dangerous-pathogens-scientists-warn
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Microplastics Can Spread Dangerous Pathogens, Scientists Warn
    Scientists are hard at work trying to assess the scale of our microplastic pollution problem and the likely health impacts.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251212 #TechRadar

    Adobe เปิด Photoshop ฟรีใน ChatGPT
    ตอนนี้ใครๆ ก็สามารถใช้ Photoshop ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิกเลย เพราะ Adobe ได้รวมเอา Photoshop, Express และ Acrobat เข้าไปอยู่ใน ChatGPT ให้ใช้งานฟรีทั้งหมด เพียงพิมพ์สิ่งที่ต้องการด้วยภาษาธรรมชาติ ระบบก็จะช่วยแก้ไขภาพหรือสร้างเอกสารให้ทันที เช่น การปรับแสงสี ใส่เอฟเฟกต์ หรือแม้แต่รวมไฟล์ PDF หลายไฟล์เป็นหนึ่งเดียว จุดเด่นคือมีตัวเลือกปรับแต่งผ่านแถบควบคุม ทำให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขได้ตามใจโดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมเต็มรูปแบบ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ ChatGPT ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างเนื้อหา แต่กลายเป็นพื้นที่ทำงานด้านการออกแบบและเอกสารครบวงจร
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/adobe-photoshop-is-now-built-into-chatgpt-for-free-and-you-dont-need-graphic-design-skills-to-use-it

    Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome
    Google ได้ปล่อยการอัปเดตเพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงบน Chrome ที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ นี่ถือเป็นครั้งที่ 8 ของปีที่บริษัทต้องแก้ Zero-Day โดยช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการหน่วยความจำใน LibANGLE ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ การอัปเดตได้ทยอยปล่อยให้ผู้ใช้แล้ว และ Google ยังคงไม่เปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกเพื่อป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์นำไปใช้ต่อ
    https://www.techradar.com/pro/security/google-releases-emergency-fix-for-yet-another-zero-day

    สายการบินรัสเซีย Aeroflot ถูกโจมตีผ่านบริษัทซอฟต์แวร์ภายนอก
    เหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ที่ทำให้สายการบิน Aeroflot ต้องหยุดบินหลายสิบเที่ยวเมื่อเดือนกรกฎาคม ถูกเปิดเผยว่าเกิดจากการโจมตีแบบ Supply Chain ผ่านบริษัท Bakka Soft ที่พัฒนาแอปและระบบให้กับสายการบิน โดยผู้โจมตีใช้ช่องโหว่ที่ไม่มีการป้องกันด้วย 2FA และติดตั้งมัลแวร์จำนวนมากในระบบ ทำให้เที่ยวบินต้องหยุดชะงักและสร้างความเสียหายหลายล้านดอลลาร์ แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่รายงานนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาผู้ให้บริการภายนอก
    https://www.techradar.com/pro/security/russian-airline-hack-came-through-third-party-tech-vendor

    สวิตเซอร์แลนด์ถอยร่างกฎหมายขยายการสอดส่อง หลังถูกต้านหนัก
    รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ต้องกลับมาทบทวนร่างกฎหมายที่ต้องการขยายการสอดส่องจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมไปยังแพลตฟอร์มอื่น เช่น แอปแชท โซเชียลมีเดีย และ VPN หลังจากถูกต่อต้านอย่างหนักจากบริษัทเทคโนโลยีและนักการเมืองท้องถิ่น ผู้ให้บริการอย่าง Proton และ Threema ชี้ว่ากฎหมายนี้จะกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและการเข้ารหัสที่ปลอดภัย แม้การถอยครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะชั่วคราว แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ารัฐบาลยังคงมีความตั้งใจจะผลักดันการสอดส่องต่อไป
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/switzerland-will-revise-proposed-law-change-after-backlash-from-tech-industry

    Disney จับมือ OpenAI เปิดทางให้ Sora ใช้ตัวละครดัง
    Disney สร้างความฮือฮาด้วยการเซ็นสัญญา 3 ปีร่วมกับ OpenAI เพื่อให้ Sora ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย AI สามารถใช้ตัวละครจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ได้ พร้อมลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI นี่ถือเป็นการเปลี่ยนท่าทีครั้งใหญ่ เพราะที่ผ่านมา Disney เข้มงวดมากกับการใช้ตัวละครของตน การร่วมมือครั้งนี้จะทำให้แฟนๆ สามารถสร้างคอนเทนต์ที่มี Mickey Mouse, Elsa หรือแม้แต่ตัวละครจาก Star Wars ปรากฏในผลงาน AI ได้ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/disney-and-openai-are-set-to-open-the-vault-to-sora-yet-an-ai-mickey-feels-like-magic-lost

    Nvidia พัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อติดตามชิปหลังพบการลักลอบ
    หลังจากมีการค้นพบการลักลอบขนส่งชิป Nvidia ได้ออกซอฟต์แวร์ใหม่ที่ช่วยติดตามเส้นทางการเคลื่อนไหวของชิป เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าชิปแต่ละตัวถูกส่งไปที่ใดบ้าง เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันการนำชิปไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่ถูกควบคุมหรือประเทศที่มีข้อจำกัดทางการค้า ถือเป็นการเสริมความปลอดภัยและความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    https://www.techradar.com/pro/nvidia-develops-new-software-to-help-track-chips-following-smuggling-discovery

    Mullvad ยุติการสนับสนุน OpenVPN บนเดสก์ท็อป หันไปใช้ WireGuard แทน
    บริการ VPN ชื่อดัง Mullvad ประกาศเลิกใช้ OpenVPN บนเดสก์ท็อปทั้งหมด และบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ WireGuard ซึ่งมีความเร็วและความปลอดภัยสูงกว่า การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเพราะ WireGuard มีโครงสร้างที่ทันสมัยและง่ายต่อการบำรุงรักษา ทำให้ Mullvad สามารถให้บริการที่เสถียรและปลอดภัยมากขึ้น แม้ผู้ใช้บางรายอาจต้องปรับตัว แต่บริษัทเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นผลดีในระยะยาว
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/mullvad-retires-openvpn-support-on-desktop-pushing-all-users-to-wireguard

    ICO ปรับ LastPass 1.2 ล้านปอนด์ หลังข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล
    สำนักงานคุ้มครองข้อมูลของสหราชอาณาจักร (ICO) ได้สั่งปรับ LastPass เป็นเงิน 1.2 ล้านปอนด์ จากเหตุการณ์ข้อมูลผู้ใช้กว่า 1.6 ล้านรายถูกละเมิดในปี 2022 โดยการโจมตีเกิดจากการที่แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำรองของบริษัทผ่านบัญชีพนักงานที่ถูกเจาะ การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูล และเป็นการเตือนให้บริษัทด้านความปลอดภัยต้องรักษามาตรฐานสูงสุด
    https://www.techradar.com/pro/security/ico-levies-gbp1-2-million-fine-against-lastpass-data-breach-compromised-info-on-1-6-million-users

    โครงสร้างพื้นฐาน HPC และ AI กำลังบรรจบกัน
    บทความนี้พูดถึงการที่โครงสร้างพื้นฐานด้าน High Performance Computing (HPC) และ AI กำลังถูกพัฒนาให้ทำงานร่วมกันมากขึ้น เพื่อรองรับงานที่ต้องใช้การประมวลผลมหาศาล เช่น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก แนวโน้มนี้ทำให้เกิดสถาปัตยกรรมใหม่ที่สามารถรองรับทั้งงาน HPC และ AI ได้ในระบบเดียว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน
    https://www.techradar.com/pro/hpc-and-ai-converging-infrastructures

    ค่าใช้จ่ายแฝงจากช่องว่างด้าน Cloud Sovereignty
    รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่าการที่หลายองค์กรยังไม่สามารถควบคุมข้อมูลบนคลาวด์ได้อย่างสมบูรณ์ ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแฝงจำนวนมาก ทั้งในด้านความเสี่ยงทางกฎหมาย ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามข้อบังคับ การขาดความเป็นอิสระในการจัดการข้อมูลทำให้บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อป้องกันหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จึงเป็นการกระตุ้นให้หลายองค์กรหันมาให้ความสำคัญกับ Cloud Sovereignty มากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/quantifying-the-hidden-costs-of-cloud-sovereignty-gaps

    หุ้น Oracle ร่วงหลังเผยแผนลงทุน AI เพิ่มอีก 15 พันล้านดอลลาร์
    ราคาหุ้นของ Oracle ตกลงทันทีหลังบริษัทประกาศว่าจะเพิ่มงบลงทุนด้าน AI อีก 15 พันล้านดอลลาร์ นักลงทุนกังวลว่าการใช้จ่ายมหาศาลนี้อาจกระทบต่อผลกำไรระยะสั้น แม้บริษัทเชื่อว่าการลงทุนจะช่วยเสริมศักยภาพด้านคลาวด์และแข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่ได้ในอนาคต แต่ตลาดกลับตอบสนองด้วยความระมัดระวัง ทำให้หุ้นปรับตัวลงอย่างเห็นได้ชัด
    https://www.techradar.com/pro/oracle-shares-drop-after-usd15bn-higher-ai-spending-revealed

    แฮกเกอร์ใช้ฟีเจอร์ของ Mimecast แจกฟิชชิ่งลิงก์นับพัน
    มีการค้นพบว่าฟีเจอร์ Secure-Link ของ Mimecast ถูกนำไปใช้โดยแฮกเกอร์เพื่อส่งฟิชชิ่งอีเมลจำนวนมาก โดยฟีเจอร์ที่ควรจะช่วยป้องกันกลับถูกใช้เป็นช่องทางให้ผู้โจมตีสร้างลิงก์ที่ดูเหมือนปลอดภัย ทำให้ผู้ใช้หลงเชื่อและกรอกข้อมูลส่วนตัว การโจมตีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่แม้แต่เครื่องมือด้านความปลอดภัยก็อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-distribute-thousands-of-phishing-attacks-through-mimecasts-secure-link-feature

    OpenAI ดึงตัว CEO ของ Slack มาเป็น Chief Revenue Officer
    OpenAI ประกาศแต่งตั้ง Lidiane Jones อดีต CEO ของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการสร้างรายได้และการขยายธุรกิจ การย้ายครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะ Jones มีประสบการณ์ในการบริหารแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาล และคาดว่าจะช่วยให้ OpenAI สามารถต่อยอดโมเดลธุรกิจได้อย่างมั่นคง
    https://www.techradar.com/pro/open-ai-poaches-slack-ceo-as-its-chief-revenue-officer

    ทดลองใช้ Photoshop ใน ChatGPT – ฟีเจอร์ฟรีที่ทรงพลัง
    ผู้เขียนบทความได้ลองใช้ Photoshop ที่ถูกรวมเข้ามาใน ChatGPT และพบว่ามันใช้งานง่ายมาก เพียงอัปโหลดภาพแล้วพิมพ์คำสั่ง เช่น “ทำให้ภาพเป็นขาวดำ” ระบบก็จะแสดงผลพร้อมแถบปรับความเข้มให้เลือกต่อทันที นอกจากนี้ยังสามารถใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น Halftone หรือ Glitch ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิก ถือเป็นการยกระดับ ChatGPT ให้กลายเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/i-tried-photoshop-in-chatgpt-its-an-awesome-free-ai-superpower

    Google DeepMind จับมือรัฐบาลอังกฤษเพื่อวิจัยพลังงานสะอาดและวิทยาศาสตร์
    Google DeepMind ได้ลงนามความร่วมมือกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรเพื่อพัฒนาโครงการด้านวิทยาศาสตร์และพลังงานสะอาด โดยตั้งเป้าที่จะใช้ AI ในการค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การผลิตพลังงานที่มีประสิทธิภาพและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เชิงลึก ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงบทบาทของ AI ที่ไม่เพียงแต่ใช้ในธุรกิจ แต่ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาสำคัญระดับโลกได้
    https://www.techradar.com/pro/google-deepmind-partners-with-the-uk-government-for-science-breakthroughs-cleaner-energy

    Opera Neon เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ AI Subscription
    Opera ได้เปิดตัว Opera Neon ซึ่งเป็นบริการ AI subscription ที่มาพร้อมฟีเจอร์หลากหลายสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสามารถเพิ่มเติมจากเบราว์เซอร์ทั่วไป ผู้เขียนบทความมองว่าบริการนี้คุ้มค่าที่จะจ่าย เพราะมันรวมเครื่องมือ AI ที่ช่วยทั้งการทำงานและความบันเทิง เช่น การสร้างคอนเทนต์ การช่วยค้นหา และการปรับแต่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ถือเป็นการยกระดับเบราว์เซอร์ให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีมูลค่าเพิ่ม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/opera-neon-is-now-available-and-i-think-its-an-ai-subscription-worth-paying-for

    มือถือ Android รุ่นใหม่สำหรับคนที่คิดถึง Xperia Play และ N-Gage
    มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่ยังคิดถึงเครื่องเล่นเกมมือถือยุคเก่าอย่าง Xperia Play และ Nokia N-Gage โดยมือถือรุ่นนี้มาพร้อมปุ่มควบคุมเกมแบบจริงจัง ทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้อย่างสะดวกและสนุกเหมือนเครื่องเล่นเกมพกพาในอดีต ถือเป็นการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนสมัยใหม่กับความ怀旧ของเกมเมอร์ยุคก่อน
    https://www.techradar.com/phones/android/this-new-android-phone-is-designed-for-everyone-who-misses-the-xperia-play-and-n-gage

    Microsoft ปรับปรุง Windows 11 และ Phone Link ให้ดีขึ้น
    Microsoft ได้หยุดการอัปเดตที่ทำให้ Windows 11 มีปัญหาบ่อยครั้ง และหันมาเน้นการปรับปรุงฟีเจอร์ Phone Link ให้ใช้งานร่วมกับแอป Android ได้ดียิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อมือถือกับคอมพิวเตอร์ได้สะดวกขึ้น เช่น การใช้แอป Android บน PC โดยตรง ถือเป็นการพัฒนาเพื่อให้ Windows 11 มีเสถียรภาพและตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-stops-breaking-windows-11-instead-it-just-made-phone-link-even-better-with-android-apps

    NordVPN ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจากผู้ตรวจสอบอิสระอีกครั้ง
    NordVPN ได้รับการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบอิสระเพื่อยืนยันความปลอดภัยของระบบ และผลการตรวจสอบก็ออกมาว่าบริการยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดไว้ได้ การตรวจสอบนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ว่า VPN ที่พวกเขาใช้นั้นมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยจริง
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/independent-auditors-inspect-nordvpns-security-once-again-heres-what-they-found

    Android เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ช่วยชีวิต – แชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัย
    Android ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัยในกรณีฉุกเฉิน ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการช่วยชีวิต โดยทีมกู้ภัยสามารถเห็นสถานการณ์จริงผ่านกล้องมือถือของผู้ประสบเหตุ ทำให้สามารถให้คำแนะนำหรือเข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้โดยตรง
    https://www.techradar.com/phones/android/android-just-got-a-life-saving-upgrade-that-lets-you-share-live-video-with-emergency-rescuers-heres-how-it-works

    ข้อมูลลูกค้า 16TB รั่วไหลจากบริษัทด้านการตลาด
    มีการค้นพบการรั่วไหลของข้อมูลขนาดใหญ่ถึง 16TB ซึ่งเป็นข้อมูลลูกค้าจำนวนมหาศาลจากบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการสร้างฐานข้อมูลลูกค้า ข้อมูลที่รั่วไหลประกอบด้วยข้อมูลติดต่อและรายละเอียดเชิงธุรกิจที่อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในกรณีข้อมูลรั่วไหลที่ใหญ่ที่สุด และเป็นการเตือนให้องค์กรต้องเข้มงวดกับการจัดการข้อมูลมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/16tb-of-corporate-intelligence-data-exposed-in-one-of-the-largest-lead-generation-dataset-leaks
    📌📡🔵 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔵📡📌 #รวมข่าวIT #20251212 #TechRadar 🖌️ Adobe เปิด Photoshop ฟรีใน ChatGPT ตอนนี้ใครๆ ก็สามารถใช้ Photoshop ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิกเลย เพราะ Adobe ได้รวมเอา Photoshop, Express และ Acrobat เข้าไปอยู่ใน ChatGPT ให้ใช้งานฟรีทั้งหมด เพียงพิมพ์สิ่งที่ต้องการด้วยภาษาธรรมชาติ ระบบก็จะช่วยแก้ไขภาพหรือสร้างเอกสารให้ทันที เช่น การปรับแสงสี ใส่เอฟเฟกต์ หรือแม้แต่รวมไฟล์ PDF หลายไฟล์เป็นหนึ่งเดียว จุดเด่นคือมีตัวเลือกปรับแต่งผ่านแถบควบคุม ทำให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขได้ตามใจโดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมเต็มรูปแบบ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ ChatGPT ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างเนื้อหา แต่กลายเป็นพื้นที่ทำงานด้านการออกแบบและเอกสารครบวงจร 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/adobe-photoshop-is-now-built-into-chatgpt-for-free-and-you-dont-need-graphic-design-skills-to-use-it 🛡️ Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome Google ได้ปล่อยการอัปเดตเพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงบน Chrome ที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ นี่ถือเป็นครั้งที่ 8 ของปีที่บริษัทต้องแก้ Zero-Day โดยช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการหน่วยความจำใน LibANGLE ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ การอัปเดตได้ทยอยปล่อยให้ผู้ใช้แล้ว และ Google ยังคงไม่เปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกเพื่อป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์นำไปใช้ต่อ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/google-releases-emergency-fix-for-yet-another-zero-day ✈️ สายการบินรัสเซีย Aeroflot ถูกโจมตีผ่านบริษัทซอฟต์แวร์ภายนอก เหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ที่ทำให้สายการบิน Aeroflot ต้องหยุดบินหลายสิบเที่ยวเมื่อเดือนกรกฎาคม ถูกเปิดเผยว่าเกิดจากการโจมตีแบบ Supply Chain ผ่านบริษัท Bakka Soft ที่พัฒนาแอปและระบบให้กับสายการบิน โดยผู้โจมตีใช้ช่องโหว่ที่ไม่มีการป้องกันด้วย 2FA และติดตั้งมัลแวร์จำนวนมากในระบบ ทำให้เที่ยวบินต้องหยุดชะงักและสร้างความเสียหายหลายล้านดอลลาร์ แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่รายงานนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาผู้ให้บริการภายนอก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/russian-airline-hack-came-through-third-party-tech-vendor 🇨🇭 สวิตเซอร์แลนด์ถอยร่างกฎหมายขยายการสอดส่อง หลังถูกต้านหนัก รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ต้องกลับมาทบทวนร่างกฎหมายที่ต้องการขยายการสอดส่องจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมไปยังแพลตฟอร์มอื่น เช่น แอปแชท โซเชียลมีเดีย และ VPN หลังจากถูกต่อต้านอย่างหนักจากบริษัทเทคโนโลยีและนักการเมืองท้องถิ่น ผู้ให้บริการอย่าง Proton และ Threema ชี้ว่ากฎหมายนี้จะกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและการเข้ารหัสที่ปลอดภัย แม้การถอยครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะชั่วคราว แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ารัฐบาลยังคงมีความตั้งใจจะผลักดันการสอดส่องต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/switzerland-will-revise-proposed-law-change-after-backlash-from-tech-industry 🎬 Disney จับมือ OpenAI เปิดทางให้ Sora ใช้ตัวละครดัง Disney สร้างความฮือฮาด้วยการเซ็นสัญญา 3 ปีร่วมกับ OpenAI เพื่อให้ Sora ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย AI สามารถใช้ตัวละครจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ได้ พร้อมลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI นี่ถือเป็นการเปลี่ยนท่าทีครั้งใหญ่ เพราะที่ผ่านมา Disney เข้มงวดมากกับการใช้ตัวละครของตน การร่วมมือครั้งนี้จะทำให้แฟนๆ สามารถสร้างคอนเทนต์ที่มี Mickey Mouse, Elsa หรือแม้แต่ตัวละครจาก Star Wars ปรากฏในผลงาน AI ได้ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/disney-and-openai-are-set-to-open-the-vault-to-sora-yet-an-ai-mickey-feels-like-magic-lost 💻 Nvidia พัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อติดตามชิปหลังพบการลักลอบ หลังจากมีการค้นพบการลักลอบขนส่งชิป Nvidia ได้ออกซอฟต์แวร์ใหม่ที่ช่วยติดตามเส้นทางการเคลื่อนไหวของชิป เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าชิปแต่ละตัวถูกส่งไปที่ใดบ้าง เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันการนำชิปไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่ถูกควบคุมหรือประเทศที่มีข้อจำกัดทางการค้า ถือเป็นการเสริมความปลอดภัยและความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/nvidia-develops-new-software-to-help-track-chips-following-smuggling-discovery 🔒 Mullvad ยุติการสนับสนุน OpenVPN บนเดสก์ท็อป หันไปใช้ WireGuard แทน บริการ VPN ชื่อดัง Mullvad ประกาศเลิกใช้ OpenVPN บนเดสก์ท็อปทั้งหมด และบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ WireGuard ซึ่งมีความเร็วและความปลอดภัยสูงกว่า การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเพราะ WireGuard มีโครงสร้างที่ทันสมัยและง่ายต่อการบำรุงรักษา ทำให้ Mullvad สามารถให้บริการที่เสถียรและปลอดภัยมากขึ้น แม้ผู้ใช้บางรายอาจต้องปรับตัว แต่บริษัทเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นผลดีในระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/mullvad-retires-openvpn-support-on-desktop-pushing-all-users-to-wireguard 💰 ICO ปรับ LastPass 1.2 ล้านปอนด์ หลังข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล สำนักงานคุ้มครองข้อมูลของสหราชอาณาจักร (ICO) ได้สั่งปรับ LastPass เป็นเงิน 1.2 ล้านปอนด์ จากเหตุการณ์ข้อมูลผู้ใช้กว่า 1.6 ล้านรายถูกละเมิดในปี 2022 โดยการโจมตีเกิดจากการที่แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำรองของบริษัทผ่านบัญชีพนักงานที่ถูกเจาะ การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูล และเป็นการเตือนให้บริษัทด้านความปลอดภัยต้องรักษามาตรฐานสูงสุด 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ico-levies-gbp1-2-million-fine-against-lastpass-data-breach-compromised-info-on-1-6-million-users ⚙️ โครงสร้างพื้นฐาน HPC และ AI กำลังบรรจบกัน บทความนี้พูดถึงการที่โครงสร้างพื้นฐานด้าน High Performance Computing (HPC) และ AI กำลังถูกพัฒนาให้ทำงานร่วมกันมากขึ้น เพื่อรองรับงานที่ต้องใช้การประมวลผลมหาศาล เช่น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก แนวโน้มนี้ทำให้เกิดสถาปัตยกรรมใหม่ที่สามารถรองรับทั้งงาน HPC และ AI ได้ในระบบเดียว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/hpc-and-ai-converging-infrastructures ☁️ ค่าใช้จ่ายแฝงจากช่องว่างด้าน Cloud Sovereignty รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่าการที่หลายองค์กรยังไม่สามารถควบคุมข้อมูลบนคลาวด์ได้อย่างสมบูรณ์ ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแฝงจำนวนมาก ทั้งในด้านความเสี่ยงทางกฎหมาย ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามข้อบังคับ การขาดความเป็นอิสระในการจัดการข้อมูลทำให้บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อป้องกันหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จึงเป็นการกระตุ้นให้หลายองค์กรหันมาให้ความสำคัญกับ Cloud Sovereignty มากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/quantifying-the-hidden-costs-of-cloud-sovereignty-gaps 📉 หุ้น Oracle ร่วงหลังเผยแผนลงทุน AI เพิ่มอีก 15 พันล้านดอลลาร์ ราคาหุ้นของ Oracle ตกลงทันทีหลังบริษัทประกาศว่าจะเพิ่มงบลงทุนด้าน AI อีก 15 พันล้านดอลลาร์ นักลงทุนกังวลว่าการใช้จ่ายมหาศาลนี้อาจกระทบต่อผลกำไรระยะสั้น แม้บริษัทเชื่อว่าการลงทุนจะช่วยเสริมศักยภาพด้านคลาวด์และแข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่ได้ในอนาคต แต่ตลาดกลับตอบสนองด้วยความระมัดระวัง ทำให้หุ้นปรับตัวลงอย่างเห็นได้ชัด 🔗 https://www.techradar.com/pro/oracle-shares-drop-after-usd15bn-higher-ai-spending-revealed 🎣 แฮกเกอร์ใช้ฟีเจอร์ของ Mimecast แจกฟิชชิ่งลิงก์นับพัน มีการค้นพบว่าฟีเจอร์ Secure-Link ของ Mimecast ถูกนำไปใช้โดยแฮกเกอร์เพื่อส่งฟิชชิ่งอีเมลจำนวนมาก โดยฟีเจอร์ที่ควรจะช่วยป้องกันกลับถูกใช้เป็นช่องทางให้ผู้โจมตีสร้างลิงก์ที่ดูเหมือนปลอดภัย ทำให้ผู้ใช้หลงเชื่อและกรอกข้อมูลส่วนตัว การโจมตีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่แม้แต่เครื่องมือด้านความปลอดภัยก็อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-distribute-thousands-of-phishing-attacks-through-mimecasts-secure-link-feature 👔 OpenAI ดึงตัว CEO ของ Slack มาเป็น Chief Revenue Officer OpenAI ประกาศแต่งตั้ง Lidiane Jones อดีต CEO ของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการสร้างรายได้และการขยายธุรกิจ การย้ายครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะ Jones มีประสบการณ์ในการบริหารแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาล และคาดว่าจะช่วยให้ OpenAI สามารถต่อยอดโมเดลธุรกิจได้อย่างมั่นคง 🔗 https://www.techradar.com/pro/open-ai-poaches-slack-ceo-as-its-chief-revenue-officer 🖼️ ทดลองใช้ Photoshop ใน ChatGPT – ฟีเจอร์ฟรีที่ทรงพลัง ผู้เขียนบทความได้ลองใช้ Photoshop ที่ถูกรวมเข้ามาใน ChatGPT และพบว่ามันใช้งานง่ายมาก เพียงอัปโหลดภาพแล้วพิมพ์คำสั่ง เช่น “ทำให้ภาพเป็นขาวดำ” ระบบก็จะแสดงผลพร้อมแถบปรับความเข้มให้เลือกต่อทันที นอกจากนี้ยังสามารถใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น Halftone หรือ Glitch ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิก ถือเป็นการยกระดับ ChatGPT ให้กลายเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/i-tried-photoshop-in-chatgpt-its-an-awesome-free-ai-superpower ⚡ Google DeepMind จับมือรัฐบาลอังกฤษเพื่อวิจัยพลังงานสะอาดและวิทยาศาสตร์ Google DeepMind ได้ลงนามความร่วมมือกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรเพื่อพัฒนาโครงการด้านวิทยาศาสตร์และพลังงานสะอาด โดยตั้งเป้าที่จะใช้ AI ในการค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การผลิตพลังงานที่มีประสิทธิภาพและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เชิงลึก ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงบทบาทของ AI ที่ไม่เพียงแต่ใช้ในธุรกิจ แต่ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาสำคัญระดับโลกได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-deepmind-partners-with-the-uk-government-for-science-breakthroughs-cleaner-energy 🎨 Opera Neon เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ AI Subscription Opera ได้เปิดตัว Opera Neon ซึ่งเป็นบริการ AI subscription ที่มาพร้อมฟีเจอร์หลากหลายสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสามารถเพิ่มเติมจากเบราว์เซอร์ทั่วไป ผู้เขียนบทความมองว่าบริการนี้คุ้มค่าที่จะจ่าย เพราะมันรวมเครื่องมือ AI ที่ช่วยทั้งการทำงานและความบันเทิง เช่น การสร้างคอนเทนต์ การช่วยค้นหา และการปรับแต่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ถือเป็นการยกระดับเบราว์เซอร์ให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีมูลค่าเพิ่ม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/opera-neon-is-now-available-and-i-think-its-an-ai-subscription-worth-paying-for 📱 มือถือ Android รุ่นใหม่สำหรับคนที่คิดถึง Xperia Play และ N-Gage มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่ยังคิดถึงเครื่องเล่นเกมมือถือยุคเก่าอย่าง Xperia Play และ Nokia N-Gage โดยมือถือรุ่นนี้มาพร้อมปุ่มควบคุมเกมแบบจริงจัง ทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้อย่างสะดวกและสนุกเหมือนเครื่องเล่นเกมพกพาในอดีต ถือเป็นการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนสมัยใหม่กับความ怀旧ของเกมเมอร์ยุคก่อน 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/this-new-android-phone-is-designed-for-everyone-who-misses-the-xperia-play-and-n-gage 🔗 Microsoft ปรับปรุง Windows 11 และ Phone Link ให้ดีขึ้น Microsoft ได้หยุดการอัปเดตที่ทำให้ Windows 11 มีปัญหาบ่อยครั้ง และหันมาเน้นการปรับปรุงฟีเจอร์ Phone Link ให้ใช้งานร่วมกับแอป Android ได้ดียิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อมือถือกับคอมพิวเตอร์ได้สะดวกขึ้น เช่น การใช้แอป Android บน PC โดยตรง ถือเป็นการพัฒนาเพื่อให้ Windows 11 มีเสถียรภาพและตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-stops-breaking-windows-11-instead-it-just-made-phone-link-even-better-with-android-apps 🔍 NordVPN ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจากผู้ตรวจสอบอิสระอีกครั้ง NordVPN ได้รับการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบอิสระเพื่อยืนยันความปลอดภัยของระบบ และผลการตรวจสอบก็ออกมาว่าบริการยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดไว้ได้ การตรวจสอบนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ว่า VPN ที่พวกเขาใช้นั้นมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยจริง 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/independent-auditors-inspect-nordvpns-security-once-again-heres-what-they-found 🚨 Android เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ช่วยชีวิต – แชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัย Android ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัยในกรณีฉุกเฉิน ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการช่วยชีวิต โดยทีมกู้ภัยสามารถเห็นสถานการณ์จริงผ่านกล้องมือถือของผู้ประสบเหตุ ทำให้สามารถให้คำแนะนำหรือเข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้โดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/android-just-got-a-life-saving-upgrade-that-lets-you-share-live-video-with-emergency-rescuers-heres-how-it-works 📂 ข้อมูลลูกค้า 16TB รั่วไหลจากบริษัทด้านการตลาด มีการค้นพบการรั่วไหลของข้อมูลขนาดใหญ่ถึง 16TB ซึ่งเป็นข้อมูลลูกค้าจำนวนมหาศาลจากบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการสร้างฐานข้อมูลลูกค้า ข้อมูลที่รั่วไหลประกอบด้วยข้อมูลติดต่อและรายละเอียดเชิงธุรกิจที่อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในกรณีข้อมูลรั่วไหลที่ใหญ่ที่สุด และเป็นการเตือนให้องค์กรต้องเข้มงวดกับการจัดการข้อมูลมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/16tb-of-corporate-intelligence-data-exposed-in-one-of-the-largest-lead-generation-dataset-leaks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคาท์ดาวน์ปีใหม่บนเรือสำราญ Piano Land ล่อง 8 วัน 7 คืน
    เที่ยวครบ 4 ประเทศ พักสบายบนเรือทุกคืน อาหารจัดเต็ม พร้อมปาร์ตี้และพลุปีใหม่สุดอลังการ! 🛳
    ทัวร์มาเลเซีย - ที่สุดของปี! เคาท์ดาวน์บนเรือสำราญ Piano Land Cruise กลางอ่าวฮ่องกง

    วันที่ 25 ธ.ค. 68 - 1 ม.ค. 69

    เส้นทาง พอร์ตคลัง, มาเลเซีย - สิงคโปร์ - ญาจาง (เวียดนาม) - ฮ่องกง 8 วัน 7 คืน

    ราคาเริ่มต้น : ฿45,900

    ห้องพักบนเรือสำราญ 6 คืน
    พักโรงแรมที่มาเลเซีย 1 คืน
    ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมน้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง 20 กก.
    ประกันอุบัติเหตุกรุ๊ป

    รหัสโปรแกรม : AOCT-AKxSL-8D7N-PKL-HKG-2512252
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e8a229

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youytube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #PianoLandCruise #Aisa #Malaysia #Singapore #Hongkong #Vietnam #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #Cruisedomain
    🎆 เคาท์ดาวน์ปีใหม่บนเรือสำราญ Piano Land ล่อง 8 วัน 7 คืน เที่ยวครบ 4 ประเทศ พักสบายบนเรือทุกคืน อาหารจัดเต็ม พร้อมปาร์ตี้และพลุปีใหม่สุดอลังการ! 🛳🌏 ทัวร์มาเลเซีย - ที่สุดของปี! เคาท์ดาวน์บนเรือสำราญ Piano Land Cruise กลางอ่าวฮ่องกง 📅 วันที่ 25 ธ.ค. 68 - 1 ม.ค. 69 📍 เส้นทาง พอร์ตคลัง, มาเลเซีย - สิงคโปร์ - ญาจาง (เวียดนาม) - ฮ่องกง 8 วัน 7 คืน 💸 ราคาเริ่มต้น : ฿45,900 ✔️ ห้องพักบนเรือสำราญ 6 คืน ✔️ พักโรงแรมที่มาเลเซีย 1 คืน ✔️ ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมน้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง 20 กก. ✔️ ประกันอุบัติเหตุกรุ๊ป 🅿️ รหัสโปรแกรม : AOCT-AKxSL-8D7N-PKL-HKG-2512252 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e8a229 ✅ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youytube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #PianoLandCruise #Aisa #Malaysia #Singapore #Hongkong #Vietnam #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #Cruisedomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251212 #securityonline


    ช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ของ WordPress
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน WordPress โดยมีคะแนนความรุนแรง CVSS 9.8 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ระดับต่ำอย่าง “Subscriber” สามารถยกระดับสิทธิ์และเข้ายึดครองเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ ปัญหานี้เกิดจากฟังก์ชัน penci_update_option ที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงการตั้งค่าไซต์สำคัญโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์อย่างเข้มงวด ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนค่า เช่น เปิดให้ใครก็สมัครสมาชิกได้ และตั้งค่าให้ผู้ใช้ใหม่เป็น “Administrator” ได้ทันที นักพัฒนาของธีมได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 8.6.9.1 โดยเพิ่มการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ที่เข้าถึงฟังก์ชันดังกล่าว ผู้ดูแลเว็บไซต์ที่ใช้ธีมนี้จึงควรอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดครอง
    https://securityonline.info/cve-2025-64188-cvss-9-8-critical-soledad-theme-flaw-lets-subscribers-take-over-wordpress-sites

    แคมเปญฟิชชิ่ง Okta SSO ปลอมตัวเป็นการแจ้งผลเงินเดือน
    ในช่วงที่พนักงานกำลังรอการประเมินผลงานสิ้นปี มีการโจมตีฟิชชิ่งที่ซับซ้อนเกิดขึ้น โดยใช้การหลอกลวงผ่านอีเมลที่ปลอมเป็นฝ่าย HR หรือระบบเงินเดือน เช่น ADP หรือ Salesforce หัวข้ออีเมลมักจะเป็น “Review Your 2026 Salary & Bonus” เพื่อกระตุ้นให้เหยื่อรีบเปิด เมื่อเหยื่อเข้าสู่หน้าเว็บปลอม ระบบฟิชชิ่งนี้จะทำงานเหมือนจริงโดยใช้ proxy เชื่อมต่อกับ Okta ขององค์กร ทำให้หน้าล็อกอินดูสมจริงยิ่งขึ้น จากนั้นสคริปต์ inject.js จะดักจับรหัสผ่านและคุกกี้ session สำคัญเพื่อยึดครองบัญชี ผู้โจมตียังใช้เทคนิคซ่อนเว็บไซต์ผ่าน Cloudflare เพื่อเลี่ยงการตรวจจับ ถือเป็นการโจมตีที่อันตรายและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
    https://securityonline.info/sophisticated-okta-sso-phishing-bypasses-defenses-to-steal-session-tokens-with-salary-review-lures

    ValleyRAT หลุดสู่สาธารณะ กลายเป็นอาวุธไซเบอร์ในมืออาชญากร
    ValleyRAT ซึ่งเคยเป็นเครื่องมือสอดแนมระดับสูง ตอนนี้กลายเป็นภัยคุกคามสาธารณะหลังตัวสร้าง (builder) ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ทำให้ใครก็สามารถสร้างและปรับแต่งมัลแวร์นี้ได้เอง รายงานจาก Check Point Research ระบุว่ามีการตรวจพบการใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 85% ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา จุดเด่นของ ValleyRAT คือปลั๊กอิน Driver ที่ทำงานในระดับ kernel สามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของ Windows 11 ได้ และยังลบไดรเวอร์ป้องกันของระบบรักษาความปลอดภัยออกไปได้ด้วย เดิมที ValleyRAT เชื่อมโยงกับกลุ่ม Silver Fox แต่เมื่อโค้ดถูกปล่อยสู่สาธารณะ การระบุแหล่งที่มาแทบเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
    https://securityonline.info/military-grade-valleyrat-goes-rogue-kernel-rootkit-builder-leak-triggers-massive-global-surge

    ช่องโหว่ GeoServer XXE ถูกโจมตีจริง เสี่ยงขโมยข้อมูลและสแกนระบบภายใน

    CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ CVE-2025-58360 ของ GeoServer เข้าสู่รายการ Known Exploited Vulnerabilities เนื่องจากพบการโจมตีจริง ช่องโหว่นี้เกิดจากการประมวลผล XML ที่ไม่ถูกกรองอย่างเหมาะสม ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างคำสั่ง XML ที่อ้างอิงภายนอกเพื่ออ่านไฟล์ลับในเซิร์ฟเวอร์ หรือใช้เป็น SSRF เพื่อเข้าถึงระบบภายในที่ถูกไฟร์วอลล์ป้องกันอยู่ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้ระบบล่มด้วยการโจมตีแบบ DoS ได้อีกด้วย CISA กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลต้องอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ภายในวันที่ 1 มกราคม 2026 เพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/cisa-kev-alert-geoserver-xxe-flaw-under-active-attack-risks-data-theft-internal-network-scanning

    Ransomware 01flip โจมตีโครงสร้างพื้นฐานใน APAC ด้วย Rust และ Sliver
    มีการค้นพบแรนซัมแวร์ใหม่ชื่อ “01flip” ที่ถูกเขียนด้วยภาษา Rust ทำให้สามารถโจมตีได้ทั้ง Windows และ Linux โดยมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น ฟิลิปปินส์และไต้หวัน กลุ่มผู้โจมตีใช้วิธีเจาะระบบด้วยช่องโหว่เก่าอย่าง CVE-2019-11580 และติดตั้ง Sliver ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพนซอร์สสำหรับควบคุมระบบจากระยะไกล น่าสนใจว่ามีโค้ดบางส่วนที่หลีกเลี่ยงการเข้ารหัสไฟล์ที่มีนามสกุล “lockbit” ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจเชื่อมโยงกับกลุ่ม LockBit หรือเป็นการสร้างหลักฐานปลอม แม้จำนวนเหยื่อยังไม่มาก แต่มีการยืนยันว่ามีข้อมูลรั่วไหลไปขายในดาร์กเว็บแล้ว
    https://securityonline.info/new-01flip-ransomware-hits-apac-critical-infra-cross-platform-rust-weapon-uses-sliver-c2

    ช่องโหว่ Apache Struts 2 เสี่ยงทำเซิร์ฟเวอร์ล่ม
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Struts 2 ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กยอดนิยมสำหรับพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันด้วย Java ช่องโหว่นี้ชื่อว่า CVE-2025-66675 เกิดจากการจัดการไฟล์อัปโหลดที่ผิดพลาด ทำให้ไฟล์ชั่วคราวไม่ถูกลบออก ส่งผลให้พื้นที่ดิสก์เต็มอย่างรวดเร็ว หากถูกโจมตีซ้ำ ๆ เซิร์ฟเวอร์อาจหยุดทำงานทันที นักวิจัยแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชัน Struts 6.8.0 หรือ 7.1.1 และหากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ควรตั้งโฟลเดอร์ชั่วคราวแยกไว้ หรือปิดการใช้งานฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์เพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/apache-struts-2-dos-flaw-cve-2025-66775-risks-server-crash-via-file-leak-in-multipart-request-processing

    EU ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 90% ภายในปี 2040
    สหภาพยุโรปประกาศข้อตกลงครั้งใหญ่ โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงถึง 90% เมื่อเทียบกับปี 1990 ภายในปี 2040 ถือเป็นเป้าหมายที่สูงกว่าหลายประเทศมหาอำนาจ เช่น จีน การเจรจาครั้งนี้มีทั้งเสียงคัดค้านจากบางประเทศที่กังวลเรื่องต้นทุนอุตสาหกรรม และเสียงสนับสนุนจากประเทศที่เร่งผลักดันการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ข้อตกลงนี้ยังมีการผ่อนปรน เช่น เลื่อนการเก็บภาษีคาร์บอนเชื้อเพลิงไปปี 2028 และอนุญาตให้ใช้เครดิตคาร์บอนระหว่างประเทศบางส่วน แต่โดยรวมถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ยุโรปเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050
    https://securityonline.info/eus-green-mandate-parliament-pledges-90-emissions-cut-by-2040

    Instagram เปิดฟีเจอร์ใหม่ “Your Algorithm” ให้ผู้ใช้ควบคุมฟีดได้เอง
    Instagram เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Your Algorithm” ที่ให้ผู้ใช้เห็นและปรับแต่งหัวข้อที่ระบบแนะนำในหน้า Reels ได้โดยตรง ผู้ใช้สามารถเลือกดูหัวข้อที่สนใจมากขึ้นหรือน้อยลง รวมถึงแชร์หัวข้อที่ตนสนใจไปยัง Stories ได้ ฟีเจอร์นี้ใช้ AI เป็นหลักในการปรับแต่ง และถือเป็นครั้งแรกที่ Instagram เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ควบคุมการทำงานของอัลกอริทึมอย่างชัดเจน แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่า Meta ใช้ AI สร้างเนื้อหาที่เกินจริง แต่การเปิดฟีเจอร์นี้ก็เป็นการเพิ่มความโปร่งใสและความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้
    https://securityonline.info/youre-in-control-instagram-launches-your-algorithm-feature-for-reels

    Qualcomm เข้าซื้อ Ventana เสริมทัพพัฒนา CPU RISC-V
    Qualcomm ประกาศเข้าซื้อกิจการ Ventana Micro Systems เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการพัฒนา CPU โดยเฉพาะสถาปัตยกรรม RISC-V ที่กำลังได้รับความนิยม การเข้าซื้อครั้งนี้จะช่วยให้ Qualcomm สามารถผสานความเชี่ยวชาญของ Ventana เข้ากับการพัฒนา CPU Oryon ของตนเอง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงและรองรับ AI มากขึ้น นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของ Qualcomm ที่ต้องการลดการพึ่งพา Arm และสร้างอิสระทางเทคโนโลยีในระยะยาว
    https://securityonline.info/qualcomm-buys-ventana-to-double-down-on-risc-v-and-custom-oryon-cpu

    Intel แพ้คดีต่อต้านการผูกขาด ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร
    หลังจากต่อสู้คดีต่อต้านการผูกขาดกับสหภาพยุโรปยาวนานถึง 16 ปี Intel ก็แพ้การอุทธรณ์ครั้งล่าสุด ศาลตัดสินให้ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร จากเดิมที่เคยถูกปรับ 376 ล้านยูโร คดีนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2009 โดย Intel ถูกกล่าวหาว่าใช้วิธีให้เงินสนับสนุนผู้ผลิตคอมพิวเตอร์อย่าง HP, Acer และ Lenovo เพื่อชะลอหรือหยุดการใช้ชิป AMD ถือเป็นการจำกัดการแข่งขันโดยตรง แม้ Intel เคยชนะบางส่วนของคดี แต่สุดท้ายก็ยังต้องจ่ายค่าปรับก้อนใหญ่ ซึ่งนับเป็นบทเรียนสำคัญในประวัติศาสตร์วงการเทคโนโลยี
    https://securityonline.info/16-year-battle-ends-intel-loses-appeal-must-pay-e237-million-eu-fine

    องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง
    ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026
    https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps

    Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล
    Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม
    https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig

    แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม
    กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล
    https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Zoom Rooms เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์
    Zoom ได้ออกแพตช์แก้ไขด่วนสำหรับ Zoom Rooms หลังพบช่องโหว่ที่อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรเป็นความลับได้ โดยเฉพาะในเวอร์ชัน Windows ที่มีช่องโหว่ CVE-2025-67460 ซึ่งเกิดจากการป้องกันการ downgrade ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ระบบอาจถูกบังคับให้กลับไปใช้เวอร์ชันที่ไม่ปลอดภัย ส่วนใน macOS ก็มีช่องโหว่ CVE-2025-67461 ที่เสี่ยงต่อการเปิดเผยข้อมูลผ่านการจัดการไฟล์ผิดพลาด Zoom ได้ปล่อยเวอร์ชัน 6.6.0 เพื่อแก้ไขทั้งหมด และแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/high-severity-zoom-rooms-flaw-risks-privilege-escalation-via-downgrade-protection-bypass

    องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง
    ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026
    https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps

    Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล
    Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม
    https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig

    แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม
    กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล
    https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes


    📌🔐🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵🔐📌 #รวมข่าวIT #20251212 #securityonline 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ของ WordPress มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน WordPress โดยมีคะแนนความรุนแรง CVSS 9.8 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ระดับต่ำอย่าง “Subscriber” สามารถยกระดับสิทธิ์และเข้ายึดครองเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ ปัญหานี้เกิดจากฟังก์ชัน penci_update_option ที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงการตั้งค่าไซต์สำคัญโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์อย่างเข้มงวด ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนค่า เช่น เปิดให้ใครก็สมัครสมาชิกได้ และตั้งค่าให้ผู้ใช้ใหม่เป็น “Administrator” ได้ทันที นักพัฒนาของธีมได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 8.6.9.1 โดยเพิ่มการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ที่เข้าถึงฟังก์ชันดังกล่าว ผู้ดูแลเว็บไซต์ที่ใช้ธีมนี้จึงควรอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดครอง 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-64188-cvss-9-8-critical-soledad-theme-flaw-lets-subscribers-take-over-wordpress-sites 🎣 แคมเปญฟิชชิ่ง Okta SSO ปลอมตัวเป็นการแจ้งผลเงินเดือน ในช่วงที่พนักงานกำลังรอการประเมินผลงานสิ้นปี มีการโจมตีฟิชชิ่งที่ซับซ้อนเกิดขึ้น โดยใช้การหลอกลวงผ่านอีเมลที่ปลอมเป็นฝ่าย HR หรือระบบเงินเดือน เช่น ADP หรือ Salesforce หัวข้ออีเมลมักจะเป็น “Review Your 2026 Salary & Bonus” เพื่อกระตุ้นให้เหยื่อรีบเปิด เมื่อเหยื่อเข้าสู่หน้าเว็บปลอม ระบบฟิชชิ่งนี้จะทำงานเหมือนจริงโดยใช้ proxy เชื่อมต่อกับ Okta ขององค์กร ทำให้หน้าล็อกอินดูสมจริงยิ่งขึ้น จากนั้นสคริปต์ inject.js จะดักจับรหัสผ่านและคุกกี้ session สำคัญเพื่อยึดครองบัญชี ผู้โจมตียังใช้เทคนิคซ่อนเว็บไซต์ผ่าน Cloudflare เพื่อเลี่ยงการตรวจจับ ถือเป็นการโจมตีที่อันตรายและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 🔗 https://securityonline.info/sophisticated-okta-sso-phishing-bypasses-defenses-to-steal-session-tokens-with-salary-review-lures 💻 ValleyRAT หลุดสู่สาธารณะ กลายเป็นอาวุธไซเบอร์ในมืออาชญากร ValleyRAT ซึ่งเคยเป็นเครื่องมือสอดแนมระดับสูง ตอนนี้กลายเป็นภัยคุกคามสาธารณะหลังตัวสร้าง (builder) ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ทำให้ใครก็สามารถสร้างและปรับแต่งมัลแวร์นี้ได้เอง รายงานจาก Check Point Research ระบุว่ามีการตรวจพบการใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 85% ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา จุดเด่นของ ValleyRAT คือปลั๊กอิน Driver ที่ทำงานในระดับ kernel สามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของ Windows 11 ได้ และยังลบไดรเวอร์ป้องกันของระบบรักษาความปลอดภัยออกไปได้ด้วย เดิมที ValleyRAT เชื่อมโยงกับกลุ่ม Silver Fox แต่เมื่อโค้ดถูกปล่อยสู่สาธารณะ การระบุแหล่งที่มาแทบเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป 🔗 https://securityonline.info/military-grade-valleyrat-goes-rogue-kernel-rootkit-builder-leak-triggers-massive-global-surge 🌐 ช่องโหว่ GeoServer XXE ถูกโจมตีจริง เสี่ยงขโมยข้อมูลและสแกนระบบภายใน CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ CVE-2025-58360 ของ GeoServer เข้าสู่รายการ Known Exploited Vulnerabilities เนื่องจากพบการโจมตีจริง ช่องโหว่นี้เกิดจากการประมวลผล XML ที่ไม่ถูกกรองอย่างเหมาะสม ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างคำสั่ง XML ที่อ้างอิงภายนอกเพื่ออ่านไฟล์ลับในเซิร์ฟเวอร์ หรือใช้เป็น SSRF เพื่อเข้าถึงระบบภายในที่ถูกไฟร์วอลล์ป้องกันอยู่ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้ระบบล่มด้วยการโจมตีแบบ DoS ได้อีกด้วย CISA กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลต้องอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ภายในวันที่ 1 มกราคม 2026 เพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/cisa-kev-alert-geoserver-xxe-flaw-under-active-attack-risks-data-theft-internal-network-scanning 💥 Ransomware 01flip โจมตีโครงสร้างพื้นฐานใน APAC ด้วย Rust และ Sliver มีการค้นพบแรนซัมแวร์ใหม่ชื่อ “01flip” ที่ถูกเขียนด้วยภาษา Rust ทำให้สามารถโจมตีได้ทั้ง Windows และ Linux โดยมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น ฟิลิปปินส์และไต้หวัน กลุ่มผู้โจมตีใช้วิธีเจาะระบบด้วยช่องโหว่เก่าอย่าง CVE-2019-11580 และติดตั้ง Sliver ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพนซอร์สสำหรับควบคุมระบบจากระยะไกล น่าสนใจว่ามีโค้ดบางส่วนที่หลีกเลี่ยงการเข้ารหัสไฟล์ที่มีนามสกุล “lockbit” ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจเชื่อมโยงกับกลุ่ม LockBit หรือเป็นการสร้างหลักฐานปลอม แม้จำนวนเหยื่อยังไม่มาก แต่มีการยืนยันว่ามีข้อมูลรั่วไหลไปขายในดาร์กเว็บแล้ว 🔗 https://securityonline.info/new-01flip-ransomware-hits-apac-critical-infra-cross-platform-rust-weapon-uses-sliver-c2 🛡️ ช่องโหว่ Apache Struts 2 เสี่ยงทำเซิร์ฟเวอร์ล่ม มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Struts 2 ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กยอดนิยมสำหรับพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันด้วย Java ช่องโหว่นี้ชื่อว่า CVE-2025-66675 เกิดจากการจัดการไฟล์อัปโหลดที่ผิดพลาด ทำให้ไฟล์ชั่วคราวไม่ถูกลบออก ส่งผลให้พื้นที่ดิสก์เต็มอย่างรวดเร็ว หากถูกโจมตีซ้ำ ๆ เซิร์ฟเวอร์อาจหยุดทำงานทันที นักวิจัยแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชัน Struts 6.8.0 หรือ 7.1.1 และหากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ควรตั้งโฟลเดอร์ชั่วคราวแยกไว้ หรือปิดการใช้งานฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์เพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/apache-struts-2-dos-flaw-cve-2025-66775-risks-server-crash-via-file-leak-in-multipart-request-processing 🌍 EU ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 90% ภายในปี 2040 สหภาพยุโรปประกาศข้อตกลงครั้งใหญ่ โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงถึง 90% เมื่อเทียบกับปี 1990 ภายในปี 2040 ถือเป็นเป้าหมายที่สูงกว่าหลายประเทศมหาอำนาจ เช่น จีน การเจรจาครั้งนี้มีทั้งเสียงคัดค้านจากบางประเทศที่กังวลเรื่องต้นทุนอุตสาหกรรม และเสียงสนับสนุนจากประเทศที่เร่งผลักดันการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ข้อตกลงนี้ยังมีการผ่อนปรน เช่น เลื่อนการเก็บภาษีคาร์บอนเชื้อเพลิงไปปี 2028 และอนุญาตให้ใช้เครดิตคาร์บอนระหว่างประเทศบางส่วน แต่โดยรวมถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ยุโรปเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 🔗 https://securityonline.info/eus-green-mandate-parliament-pledges-90-emissions-cut-by-2040 📱 Instagram เปิดฟีเจอร์ใหม่ “Your Algorithm” ให้ผู้ใช้ควบคุมฟีดได้เอง Instagram เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Your Algorithm” ที่ให้ผู้ใช้เห็นและปรับแต่งหัวข้อที่ระบบแนะนำในหน้า Reels ได้โดยตรง ผู้ใช้สามารถเลือกดูหัวข้อที่สนใจมากขึ้นหรือน้อยลง รวมถึงแชร์หัวข้อที่ตนสนใจไปยัง Stories ได้ ฟีเจอร์นี้ใช้ AI เป็นหลักในการปรับแต่ง และถือเป็นครั้งแรกที่ Instagram เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ควบคุมการทำงานของอัลกอริทึมอย่างชัดเจน แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่า Meta ใช้ AI สร้างเนื้อหาที่เกินจริง แต่การเปิดฟีเจอร์นี้ก็เป็นการเพิ่มความโปร่งใสและความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ 🔗 https://securityonline.info/youre-in-control-instagram-launches-your-algorithm-feature-for-reels 💻 Qualcomm เข้าซื้อ Ventana เสริมทัพพัฒนา CPU RISC-V Qualcomm ประกาศเข้าซื้อกิจการ Ventana Micro Systems เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการพัฒนา CPU โดยเฉพาะสถาปัตยกรรม RISC-V ที่กำลังได้รับความนิยม การเข้าซื้อครั้งนี้จะช่วยให้ Qualcomm สามารถผสานความเชี่ยวชาญของ Ventana เข้ากับการพัฒนา CPU Oryon ของตนเอง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงและรองรับ AI มากขึ้น นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของ Qualcomm ที่ต้องการลดการพึ่งพา Arm และสร้างอิสระทางเทคโนโลยีในระยะยาว 🔗 https://securityonline.info/qualcomm-buys-ventana-to-double-down-on-risc-v-and-custom-oryon-cpu ⚖️ Intel แพ้คดีต่อต้านการผูกขาด ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร หลังจากต่อสู้คดีต่อต้านการผูกขาดกับสหภาพยุโรปยาวนานถึง 16 ปี Intel ก็แพ้การอุทธรณ์ครั้งล่าสุด ศาลตัดสินให้ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร จากเดิมที่เคยถูกปรับ 376 ล้านยูโร คดีนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2009 โดย Intel ถูกกล่าวหาว่าใช้วิธีให้เงินสนับสนุนผู้ผลิตคอมพิวเตอร์อย่าง HP, Acer และ Lenovo เพื่อชะลอหรือหยุดการใช้ชิป AMD ถือเป็นการจำกัดการแข่งขันโดยตรง แม้ Intel เคยชนะบางส่วนของคดี แต่สุดท้ายก็ยังต้องจ่ายค่าปรับก้อนใหญ่ ซึ่งนับเป็นบทเรียนสำคัญในประวัติศาสตร์วงการเทคโนโลยี 🔗 https://securityonline.info/16-year-battle-ends-intel-loses-appeal-must-pay-e237-million-eu-fine 🧑‍💻 องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026 🔗 https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps 🔐 Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig 🕵️‍♂️ แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล 🔗 https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes 📹 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Zoom Rooms เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์ Zoom ได้ออกแพตช์แก้ไขด่วนสำหรับ Zoom Rooms หลังพบช่องโหว่ที่อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรเป็นความลับได้ โดยเฉพาะในเวอร์ชัน Windows ที่มีช่องโหว่ CVE-2025-67460 ซึ่งเกิดจากการป้องกันการ downgrade ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ระบบอาจถูกบังคับให้กลับไปใช้เวอร์ชันที่ไม่ปลอดภัย ส่วนใน macOS ก็มีช่องโหว่ CVE-2025-67461 ที่เสี่ยงต่อการเปิดเผยข้อมูลผ่านการจัดการไฟล์ผิดพลาด Zoom ได้ปล่อยเวอร์ชัน 6.6.0 เพื่อแก้ไขทั้งหมด และแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/high-severity-zoom-rooms-flaw-risks-privilege-escalation-via-downgrade-protection-bypass 🧑‍💻 องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026 🔗 https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps 🔐 Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig 🕵️‍♂️ แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล 🔗 https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ วันนี้ไม่มีใครอยากได้ทั้งพรรคส้ม แดง น้ำเงิน เลือกตั้งเมื่อไหร่ช่วยกันหาพล.อ.รังษี เข้าไปล้างบางมันให้หมดสิ้น
    #7ดอกจิก
    ♣ วันนี้ไม่มีใครอยากได้ทั้งพรรคส้ม แดง น้ำเงิน เลือกตั้งเมื่อไหร่ช่วยกันหาพล.อ.รังษี เข้าไปล้างบางมันให้หมดสิ้น #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์นัดคุยอนุทิน 3 ทุ่มคืนนี้ ถ้าถูกบีบให้หยุดยิง คืนสุดท้ายก็ถล่มฐานทัพเหมนทั่วประเทศ พร้อมบ้านฮวยเซง
    #7ดอกจิก
    ทรัมป์นัดคุยอนุทิน 3 ทุ่มคืนนี้ ถ้าถูกบีบให้หยุดยิง คืนสุดท้ายก็ถล่มฐานทัพเหมนทั่วประเทศ พร้อมบ้านฮวยเซง #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทยกำลังเข้าสู่ฤดูการเลือกตั้งอีกครั้ง ขอให้ดู "เซเลนสกี" นักการเมืองมือใหม่หน้าใหม่ ไว้เป็นบทเรียน

    เซเลนสกีตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ โดยมีจุดเริ่มต้นจากซีรีส์ “Servant of the People” ที่เขารับบทเป็นครูธรรมดาซึ่งก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีผู้มุ่งมั่นปราบคอร์รัปชัน ซีรีส์ได้รับความนิยมไปทั่วยูเครน เพราะสะท้อนความรู้สึกของคนรุ่นใหม่ที่เอือมระอาการเมืองแบบเก่า ๆ ที่เต็มไปด้วยการโกงกินและผลประโยชน์ทับซ้อน

    ต่อมาในช่วงปี 2017–2018 ทีมผู้สร้างซีรีส์ได้นำชื่อดังกล่าวมาตั้งเป็นพรรคการเมืองจริง เพื่อสร้างฐานทางการเมืองรองรับกระแสความนิยมของเซเลนสกี และปูทางให้เขาลงสมัครประธานาธิบดีในปี 2019 ผลคือเขาชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย พรรค Servant of the People กลายเป็นพรรคแกนนำในสภา และเป็นเครื่องมือรวบอำนาจทางการเมืองของเขาอย่างเต็มรูปแบบในเวลาต่อมา

    นิยามของ "เซเลนสกี"
    “มือใหม่ในสนามใหญ่”
    "เซเลนสกี" นักการเมืองมือใหม่ ที่มีภูมิหลังเป็นเพียงคนธรรมดา ไร้ประสบการณ์ทางการเมือง ทั้งในเวทีภายในประเทศ และระดับนานาชาติ ไม่เคยผ่านงานบริหารใดๆในองค์กรใหญ่ที่ซับซ้อนหรือแม้แต่องค์กรของรัฐ ถูกคาดหวังว่าจะเป็นตัวแทนของความเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อเข้าสู่ความซับซ้อนของการบริหารประเทศจริง ความเป็น “คนนอกระบบ” กลับกลายเป็นภาระมากกว่าข้อได้เปรียบ

    “ปราบโกงไม่สำเร็จ”
    เซเลนสกี เคยประกาศว่าจะเปลี่ยนแปลงการเมืองยูเครน ปราบคอร์รัปชัน และสลายอำนาจเก่าที่ฝังรากลึก แต่เวลาผ่านไป ความตั้งใจนั้นพิสูจน์แล้วว่าเป็นเพียงอุดมคติ ขายฝัน หลายองค์กรต้านคอร์รัปชันถูกลดบทบาทหรือหยุดชะงักกลางทาง จนคำสัญญาในวันหาเสียงกลายเป็นเพียงวาทกรรม ล่าสุดยูเครนต้องเผชิญ ข้อกล่าวหาเรื่องทุจริตในภาคพลังงาน ผู้ถูกกล่าวหาล้วนเป็นบุคคลใกล้ชิดเซเลนสกี ขณะที่ก่อนหน้านั้นยังมีรายงานจากทั้งสื่ออเมริกันและยุโรปเกี่ยวกับ ข้อสงสัยการยักยอก หรือใช้เงินช่วยเหลือจากสหรัฐฯ และชาติตะวันตกอย่างไม่โปร่งใส จนก่อแรงกดดันให้วอชิงตันต้องเข้มงวดวิธีตรวจสอบมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ “ผู้นำผู้ปราบโกง” ของเซเลนสกียิ่งถูกตั้งคำถามหนักขึ้นกว่าเดิม

    “วังวนผลประโยชน์”
    แทนที่จะกวาดล้างความไม่โปร่งใส ภาพลักษณ์ของเซเลนสกีกลับถูกบดบังด้วยข้อกล่าวหาเรื่องการแต่งตั้งคนสนิท การรวมศูนย์อำนาจ และความเชื่อมโยงด้านผลประโยชน์ในหลายโครงการ ทำให้ตัวเขาเองกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบที่เคยวิจารณ์ ความไว้วางใจจากประชาชนจึงลดลงอย่างต่อเนื่อง

    “ฝักใฝ่ตะวันตก นิยมให้โลกมาล้อม”
    บทบาทในเวทีระหว่างประเทศของเซเลนสกี ถูกจดจำจากภาพของผู้นำที่เอ่ยปากขอความช่วยเหลือเป็นกิจวัตร ทุกย่างก้าวในการตัดสินใจ จะเรียกร้องหาพี่ๆในยุโรป หรือพ่อที่อยู่ไกลข้ามทวีป ขณะเดียวกันก็แสดงความกระสันอยากเข้าร่วมสหภาพยุโรป (EU) และนาโต้ (NATO) อย่างถอนตัวไม่ขึ้น แต่ผลลัพธ์คือการทูตที่ควรสร้างสมดุลกลับกลายเป็นการผลักประเทศไปสู่ เส้นทางเผชิญหน้าทางทหารเต็มรูปแบบ ด้วยการวางเดิมพันอนาคตประเทศที่มีทรัพยากรล้ำค่าซึ่งหลายประเทศเคยอิจฉา กลับนำไปสู่ความสูญเสีย เศรษฐกิจที่สั่นคลอน และสภาพรัฐที่เสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ จนกลายเป็นคำถามคาใจว่า การยึดติดฝั่งตะวันตกโดยไร้ทางเลือกอื่นนั้น เป็นวิสัยทัศน์เพื่อประชาชน หรือเป็นเพียงการเดินตามภาพฝันทางการเมืองของผู้นำมือใหม่ไร้ประสบการณ์

    “ความหวังที่กลายเป็นภาระ”
    ถึงวันนี้ประชาชนรู้ซึ้งแล้วว่าเซเลนสกีไม่ใช่ผู้นำในแบบที่เขาเคยโฆษณาไว้ หากแต่เป็นเพียงชายธรรมดาที่เหมือนถูกลอตเตอรี่การเมือง ได้ก้าวขึ้นสู่อำนาจทั้งที่ ไร้ประสบการณ์การเมือง และไร้ประสบการณ์บริหาร ส่งผลให้การตัดสินใจครั้งสำคัญหลายครั้งเต็มไปด้วยความผิดพลาดจาก การขาดทักษะผู้นำโดยตรง ภาพความหวังที่ประชาชนเคยฝากไว้ในการปฏิรูปประเทศจึงค่อย ๆ พังทลาย เขาไม่สามารถปราบคอร์รัปชันตามที่ประกาศไว้ และกลับถูกโยงเข้ากับข้อสงสัยความไม่โปร่งใสเสียเอง

    สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นคือ ภาระที่ตามมาไม่ได้ตกอยู่ที่เขาคนเดียว แต่กลับถูกผลักให้เป็นภาระของ ประชาชนผู้เสียภาษีชาวยูเครน ที่ต้องแบกรับเศรษฐกิจที่พังทลาย ภาระของชาติตะวันตกในยุโรปที่ต้องรับบทผู้สนับสนุนต่อไปอีกหลายปี และภาระของสหรัฐอเมริกาที่ต้องอัดฉีดงบประมาณมหาศาลเพื่อประคองรัฐบาลที่ยังหาทางออกไม่ได้ชัดเจน ความหวังที่เคยถูกขายกลายเป็นต้นทุนมหาศาลของหลายประเทศอย่างสมบูรณ์แบบ
    ไทยกำลังเข้าสู่ฤดูการเลือกตั้งอีกครั้ง ขอให้ดู "เซเลนสกี" นักการเมืองมือใหม่หน้าใหม่ ไว้เป็นบทเรียน เซเลนสกีตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ โดยมีจุดเริ่มต้นจากซีรีส์ “Servant of the People” ที่เขารับบทเป็นครูธรรมดาซึ่งก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีผู้มุ่งมั่นปราบคอร์รัปชัน ซีรีส์ได้รับความนิยมไปทั่วยูเครน เพราะสะท้อนความรู้สึกของคนรุ่นใหม่ที่เอือมระอาการเมืองแบบเก่า ๆ ที่เต็มไปด้วยการโกงกินและผลประโยชน์ทับซ้อน ต่อมาในช่วงปี 2017–2018 ทีมผู้สร้างซีรีส์ได้นำชื่อดังกล่าวมาตั้งเป็นพรรคการเมืองจริง เพื่อสร้างฐานทางการเมืองรองรับกระแสความนิยมของเซเลนสกี และปูทางให้เขาลงสมัครประธานาธิบดีในปี 2019 ผลคือเขาชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย พรรค Servant of the People กลายเป็นพรรคแกนนำในสภา และเป็นเครื่องมือรวบอำนาจทางการเมืองของเขาอย่างเต็มรูปแบบในเวลาต่อมา นิยามของ "เซเลนสกี" 👉“มือใหม่ในสนามใหญ่” "เซเลนสกี" นักการเมืองมือใหม่ ที่มีภูมิหลังเป็นเพียงคนธรรมดา ไร้ประสบการณ์ทางการเมือง ทั้งในเวทีภายในประเทศ และระดับนานาชาติ ไม่เคยผ่านงานบริหารใดๆในองค์กรใหญ่ที่ซับซ้อนหรือแม้แต่องค์กรของรัฐ ถูกคาดหวังว่าจะเป็นตัวแทนของความเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อเข้าสู่ความซับซ้อนของการบริหารประเทศจริง ความเป็น “คนนอกระบบ” กลับกลายเป็นภาระมากกว่าข้อได้เปรียบ 👉“ปราบโกงไม่สำเร็จ” เซเลนสกี เคยประกาศว่าจะเปลี่ยนแปลงการเมืองยูเครน ปราบคอร์รัปชัน และสลายอำนาจเก่าที่ฝังรากลึก แต่เวลาผ่านไป ความตั้งใจนั้นพิสูจน์แล้วว่าเป็นเพียงอุดมคติ ขายฝัน หลายองค์กรต้านคอร์รัปชันถูกลดบทบาทหรือหยุดชะงักกลางทาง จนคำสัญญาในวันหาเสียงกลายเป็นเพียงวาทกรรม ล่าสุดยูเครนต้องเผชิญ ข้อกล่าวหาเรื่องทุจริตในภาคพลังงาน ผู้ถูกกล่าวหาล้วนเป็นบุคคลใกล้ชิดเซเลนสกี ขณะที่ก่อนหน้านั้นยังมีรายงานจากทั้งสื่ออเมริกันและยุโรปเกี่ยวกับ ข้อสงสัยการยักยอก หรือใช้เงินช่วยเหลือจากสหรัฐฯ และชาติตะวันตกอย่างไม่โปร่งใส จนก่อแรงกดดันให้วอชิงตันต้องเข้มงวดวิธีตรวจสอบมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ “ผู้นำผู้ปราบโกง” ของเซเลนสกียิ่งถูกตั้งคำถามหนักขึ้นกว่าเดิม 👉“วังวนผลประโยชน์” แทนที่จะกวาดล้างความไม่โปร่งใส ภาพลักษณ์ของเซเลนสกีกลับถูกบดบังด้วยข้อกล่าวหาเรื่องการแต่งตั้งคนสนิท การรวมศูนย์อำนาจ และความเชื่อมโยงด้านผลประโยชน์ในหลายโครงการ ทำให้ตัวเขาเองกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบที่เคยวิจารณ์ ความไว้วางใจจากประชาชนจึงลดลงอย่างต่อเนื่อง 👉“ฝักใฝ่ตะวันตก นิยมให้โลกมาล้อม” บทบาทในเวทีระหว่างประเทศของเซเลนสกี ถูกจดจำจากภาพของผู้นำที่เอ่ยปากขอความช่วยเหลือเป็นกิจวัตร ทุกย่างก้าวในการตัดสินใจ จะเรียกร้องหาพี่ๆในยุโรป หรือพ่อที่อยู่ไกลข้ามทวีป ขณะเดียวกันก็แสดงความกระสันอยากเข้าร่วมสหภาพยุโรป (EU) และนาโต้ (NATO) อย่างถอนตัวไม่ขึ้น แต่ผลลัพธ์คือการทูตที่ควรสร้างสมดุลกลับกลายเป็นการผลักประเทศไปสู่ เส้นทางเผชิญหน้าทางทหารเต็มรูปแบบ ด้วยการวางเดิมพันอนาคตประเทศที่มีทรัพยากรล้ำค่าซึ่งหลายประเทศเคยอิจฉา กลับนำไปสู่ความสูญเสีย เศรษฐกิจที่สั่นคลอน และสภาพรัฐที่เสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ จนกลายเป็นคำถามคาใจว่า การยึดติดฝั่งตะวันตกโดยไร้ทางเลือกอื่นนั้น เป็นวิสัยทัศน์เพื่อประชาชน หรือเป็นเพียงการเดินตามภาพฝันทางการเมืองของผู้นำมือใหม่ไร้ประสบการณ์ 👉“ความหวังที่กลายเป็นภาระ” ถึงวันนี้ประชาชนรู้ซึ้งแล้วว่าเซเลนสกีไม่ใช่ผู้นำในแบบที่เขาเคยโฆษณาไว้ หากแต่เป็นเพียงชายธรรมดาที่เหมือนถูกลอตเตอรี่การเมือง ได้ก้าวขึ้นสู่อำนาจทั้งที่ ไร้ประสบการณ์การเมือง และไร้ประสบการณ์บริหาร ส่งผลให้การตัดสินใจครั้งสำคัญหลายครั้งเต็มไปด้วยความผิดพลาดจาก การขาดทักษะผู้นำโดยตรง ภาพความหวังที่ประชาชนเคยฝากไว้ในการปฏิรูปประเทศจึงค่อย ๆ พังทลาย เขาไม่สามารถปราบคอร์รัปชันตามที่ประกาศไว้ และกลับถูกโยงเข้ากับข้อสงสัยความไม่โปร่งใสเสียเอง สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นคือ ภาระที่ตามมาไม่ได้ตกอยู่ที่เขาคนเดียว แต่กลับถูกผลักให้เป็นภาระของ ประชาชนผู้เสียภาษีชาวยูเครน ที่ต้องแบกรับเศรษฐกิจที่พังทลาย ภาระของชาติตะวันตกในยุโรปที่ต้องรับบทผู้สนับสนุนต่อไปอีกหลายปี และภาระของสหรัฐอเมริกาที่ต้องอัดฉีดงบประมาณมหาศาลเพื่อประคองรัฐบาลที่ยังหาทางออกไม่ได้ชัดเจน ความหวังที่เคยถูกขายกลายเป็นต้นทุนมหาศาลของหลายประเทศอย่างสมบูรณ์แบบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกดดันเนเธอร์แลนด์ให้แก้ปัญหาความขัดแย้ง Nexperia

    รัฐบาลจีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์เร่งแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับบริษัท Nexperia ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของดัตช์ที่ถูกควบคุมโดย Wingtech Technology ของจีน หลังจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เข้ามาแทรกแซงเพื่อป้องกันการถ่ายโอนเทคโนโลยี ทำให้เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและการส่งออกชิ้นส่วนสำคัญ

    การแทรกแซงของรัฐและผลกระทบ
    ในเดือนกันยายน รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็นเพื่อวาง Nexperia ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ พร้อมระงับสิทธิ์การโหวตของผู้บริหารที่มาจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระแทน จีนตอบโต้ด้วยการหยุดการส่งออกชิ้นส่วนที่บรรจุในจีนกลับไปยุโรป ส่งผลให้การผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรปสะดุดทันที

    ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก
    กว่า 70% ของเวเฟอร์ที่ผลิตในยุโรปโดย Nexperia ต้องถูกส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ เมื่อจีนหยุดส่งออก ทำให้เกิดการค้างสต็อกและใบแจ้งหนี้ที่ไม่ได้รับชำระจำนวนมาก ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการควบคุมบริษัทได้อย่างถาวร

    บริบทเพิ่มเติมจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    กรณีนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดด้าน ภูมิรัฐศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและยุโรป โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่เป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันบริษัทญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังเร่งลงทุนเพื่อสร้างโรงงานใหม่ในประเทศตนเอง เพื่อลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานที่เสี่ยงต่อการเมือง

    สรุปสาระสำคัญ
    จีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์แก้ปัญหา Nexperia
    หลังการแทรกแซงของรัฐทำให้ห่วงโซ่อุปทานสะดุด

    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็น
    ระงับสิทธิ์ผู้บริหารจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระ

    จีนตอบโต้ด้วยการหยุดส่งออกชิ้นส่วน
    กระทบการผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรป

    ปัจจุบันผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน
    แต่ยังไม่แก้ปัญหาการควบคุมบริษัทได้ถาวร

    ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก
    70% ของเวเฟอร์ยุโรปต้องส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ

    ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์
    อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-presses-netherlands-to-resolve-nexperia-dispute-as-supply-concerns-grow
    🇨🇳 จีนกดดันเนเธอร์แลนด์ให้แก้ปัญหาความขัดแย้ง Nexperia รัฐบาลจีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์เร่งแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับบริษัท Nexperia ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของดัตช์ที่ถูกควบคุมโดย Wingtech Technology ของจีน หลังจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เข้ามาแทรกแซงเพื่อป้องกันการถ่ายโอนเทคโนโลยี ทำให้เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและการส่งออกชิ้นส่วนสำคัญ 🏛️ การแทรกแซงของรัฐและผลกระทบ ในเดือนกันยายน รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็นเพื่อวาง Nexperia ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ พร้อมระงับสิทธิ์การโหวตของผู้บริหารที่มาจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระแทน จีนตอบโต้ด้วยการหยุดการส่งออกชิ้นส่วนที่บรรจุในจีนกลับไปยุโรป ส่งผลให้การผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรปสะดุดทันที ⚡ ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก กว่า 70% ของเวเฟอร์ที่ผลิตในยุโรปโดย Nexperia ต้องถูกส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ เมื่อจีนหยุดส่งออก ทำให้เกิดการค้างสต็อกและใบแจ้งหนี้ที่ไม่ได้รับชำระจำนวนมาก ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการควบคุมบริษัทได้อย่างถาวร 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ กรณีนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดด้าน ภูมิรัฐศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและยุโรป โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่เป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันบริษัทญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังเร่งลงทุนเพื่อสร้างโรงงานใหม่ในประเทศตนเอง เพื่อลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานที่เสี่ยงต่อการเมือง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ จีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์แก้ปัญหา Nexperia ➡️ หลังการแทรกแซงของรัฐทำให้ห่วงโซ่อุปทานสะดุด ✅ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็น ➡️ ระงับสิทธิ์ผู้บริหารจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระ ✅ จีนตอบโต้ด้วยการหยุดส่งออกชิ้นส่วน ➡️ กระทบการผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรป ✅ ปัจจุบันผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน ➡️ แต่ยังไม่แก้ปัญหาการควบคุมบริษัทได้ถาวร ‼️ ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก ⛔ 70% ของเวเฟอร์ยุโรปต้องส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ ‼️ ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ ⛔ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-presses-netherlands-to-resolve-nexperia-dispute-as-supply-concerns-grow
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Chinese government wades into Dutch chipmaker dispute — presses Netherlands to resolve Nexperia saga as supply concerns grow
    Beijing urges the Dutch government to allow talks with Wingtech after state intervention disrupted chip flows.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC พิจารณาอัปเกรดโรงงานที่ญี่ปุ่นสู่เทคโนโลยี 4nm

    รายงานระบุว่า TSMC กำลังพิจารณาอัปเกรดโรงงาน Fab 23 Phase 2 ในเมืองคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น จากเดิมที่วางแผนผลิตชิป 6nm และ 7nm ให้สามารถผลิตชิป N4 (4nm-class) และ N5 (5nm-class) ได้ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าในญี่ปุ่นเข้าถึงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากขึ้น

    ความท้าทายด้านการก่อสร้างและเครื่องจักร
    แม้การอัปเกรดจะเป็นไปได้เพราะเครื่องจักรที่ใช้ใน N7/N6 และ N5/N4 มีความคล้ายกันถึง 90% แต่การผลิต N4 ต้องใช้เครื่อง EUV lithography ที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อนกว่า ทำให้ต้องมีการออกแบบใหม่บางส่วน ขณะเดียวกัน TSMC ได้แจ้งซัพพลายเออร์ว่าจะไม่ต้องการเครื่องจักรใหม่ในญี่ปุ่นตลอดปี 2026 เนื่องจากการก่อสร้างล่าช้า

    สัญญาณการหยุดชะงัก
    ภาพถ่ายล่าสุดจากไซต์ก่อสร้างแสดงให้เห็นว่าเครื่องจักรหนัก เช่น เครนและรถขุด ถูกนำออกไปแล้ว และมีการแจ้งซัพพลายเออร์ว่าการทำงานจะหยุดชั่วคราว นั่นหมายความว่าโรงงานอาจไม่พร้อมติดตั้งเครื่องจักรใหม่ในปีหน้า ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของโครงการ แม้จะมีแผนรองรับการผลิตขั้นสูงในอนาคต

    บริบทเพิ่มเติมจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    การอัปเกรดโรงงานในญี่ปุ่นถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ กระจายการผลิตนอกไต้หวัน ของ TSMC เพื่อลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะเดียวกันคู่แข่งอย่าง Rapidus ก็มีแผนสร้างโรงงาน 1.4nm ในญี่ปุ่นภายในปี 2027 ซึ่งอาจทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นศูนย์กลางใหม่ของการผลิตชิปขั้นสูงในเอเชีย

    สรุปสาระสำคัญ
    TSMC พิจารณาอัปเกรดโรงงาน Fab 23 Phase 2
    จาก 6nm/7nm เป็น 4nm/5nm

    เครื่องจักร N7/N6 และ N5/N4 คล้ายกันถึง 90%
    ทำให้การอัปเกรดเป็นไปได้ง่ายขึ้น

    การก่อสร้างล่าช้า
    TSMC แจ้งว่าจะไม่ต้องการเครื่องจักรใหม่ในปี 2026

    ความไม่แน่นอนของโครงการ
    การหยุดชั่วคราวและการนำเครื่องจักรออกจากไซต์

    ความท้าทายด้าน EUV lithography
    ต้องใช้เครื่องที่ใหญ่และซับซ้อนกว่า DUV

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tmsc-ponders-upgrading-2nd-japan-fab-to-4nm-could-pave-the-way-for-more-advanced-chips-for-japanese-customers
    🏭 TSMC พิจารณาอัปเกรดโรงงานที่ญี่ปุ่นสู่เทคโนโลยี 4nm รายงานระบุว่า TSMC กำลังพิจารณาอัปเกรดโรงงาน Fab 23 Phase 2 ในเมืองคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น จากเดิมที่วางแผนผลิตชิป 6nm และ 7nm ให้สามารถผลิตชิป N4 (4nm-class) และ N5 (5nm-class) ได้ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าในญี่ปุ่นเข้าถึงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากขึ้น ⚙️ ความท้าทายด้านการก่อสร้างและเครื่องจักร แม้การอัปเกรดจะเป็นไปได้เพราะเครื่องจักรที่ใช้ใน N7/N6 และ N5/N4 มีความคล้ายกันถึง 90% แต่การผลิต N4 ต้องใช้เครื่อง EUV lithography ที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อนกว่า ทำให้ต้องมีการออกแบบใหม่บางส่วน ขณะเดียวกัน TSMC ได้แจ้งซัพพลายเออร์ว่าจะไม่ต้องการเครื่องจักรใหม่ในญี่ปุ่นตลอดปี 2026 เนื่องจากการก่อสร้างล่าช้า 📉 สัญญาณการหยุดชะงัก ภาพถ่ายล่าสุดจากไซต์ก่อสร้างแสดงให้เห็นว่าเครื่องจักรหนัก เช่น เครนและรถขุด ถูกนำออกไปแล้ว และมีการแจ้งซัพพลายเออร์ว่าการทำงานจะหยุดชั่วคราว นั่นหมายความว่าโรงงานอาจไม่พร้อมติดตั้งเครื่องจักรใหม่ในปีหน้า ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของโครงการ แม้จะมีแผนรองรับการผลิตขั้นสูงในอนาคต 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ การอัปเกรดโรงงานในญี่ปุ่นถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ กระจายการผลิตนอกไต้หวัน ของ TSMC เพื่อลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะเดียวกันคู่แข่งอย่าง Rapidus ก็มีแผนสร้างโรงงาน 1.4nm ในญี่ปุ่นภายในปี 2027 ซึ่งอาจทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นศูนย์กลางใหม่ของการผลิตชิปขั้นสูงในเอเชีย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ TSMC พิจารณาอัปเกรดโรงงาน Fab 23 Phase 2 ➡️ จาก 6nm/7nm เป็น 4nm/5nm ✅ เครื่องจักร N7/N6 และ N5/N4 คล้ายกันถึง 90% ➡️ ทำให้การอัปเกรดเป็นไปได้ง่ายขึ้น ✅ การก่อสร้างล่าช้า ➡️ TSMC แจ้งว่าจะไม่ต้องการเครื่องจักรใหม่ในปี 2026 ‼️ ความไม่แน่นอนของโครงการ ⛔ การหยุดชั่วคราวและการนำเครื่องจักรออกจากไซต์ ‼️ ความท้าทายด้าน EUV lithography ⛔ ต้องใช้เครื่องที่ใหญ่และซับซ้อนกว่า DUV https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tmsc-ponders-upgrading-2nd-japan-fab-to-4nm-could-pave-the-way-for-more-advanced-chips-for-japanese-customers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.43

    การยุบสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นกลไกสำคัญภายใต้ระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาของประเทศไทย มักถูกเรียกอย่างย่อว่า "ยุบสภา" แต่ในทางกฎหมายรัฐธรรมนูญนั้น กระบวนการนี้มีที่มา อำนาจ และขอบเขตที่ชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากการสิ้นสุดวาระตามปกติ โดยสาระสำคัญแล้ว การยุบสภาคือการที่ฝ่ายบริหาร โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ริเริ่มและรับผิดชอบ เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ยุบสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีผลเป็นการคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองกลับคืนสู่ประชาชนผ่านการเลือกตั้งทั่วไปโดยเร็วที่สุด การยุบสภาจึงไม่ใช่การลงโทษ แต่เป็นการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง หรือเพื่อแสวงหาฉันทามติใหม่จากประชาชนเมื่อรัฐบาลประสบภาวะไม่สามารถบริหารประเทศต่อไปได้ด้วยความชอบธรรมทางเสียงสนับสนุนในสภา หรือในยามที่ต้องการสร้างความมั่นคงทางการเมืองให้รัฐบาลมีความเข้มแข็งและมีเสถียรภาพมากขึ้นเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ โดยอำนาจในการยุบสภานี้เป็นอำนาจเฉพาะตัวของนายกรัฐมนตรีในการเสนอต่อพระมหากษัตริย์ และเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ในการมีพระบรมราชโองการให้ยุบสภาตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี ตามที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ให้เป็นอำนาจที่พระมหากษัตริย์ทรงใช้ตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ ดังนั้น ในทางปฏิบัติ จึงเป็นไปตามการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจทางการเมืองที่ต้องรับผิดชอบต่อสาธารณชน

    ในประเด็นทางกฎหมายที่สำคัญอย่างยิ่งคือ ขอบเขตของการยุบสภานั้นตามประเพณีการปกครองและบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญจะจำกัดอยู่เพียง สภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เท่านั้น ไม่ได้รวมถึง วุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งถือเป็นความแตกต่างทางโครงสร้างและหน้าที่อย่างชัดเจนระหว่างสภาทั้งสอง สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี และมีบทบาทหลักในการออกกฎหมาย การควบคุมฝ่ายบริหาร และการให้ความเห็นชอบต่างๆ การยุบสภาจึงเป็นกลไกที่ทำให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบันพ้นจากตำแหน่งทั้งหมดเพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งทั่วไปภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด คือประมาณสี่สิบห้าถึงหกสิบวัน เพื่อให้ได้สภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ ในทางตรงกันข้าม วุฒิสภาอาจมีที่มาจากการเลือกตั้งโดยอ้อม การสรรหา หรือการแต่งตั้งตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับ มีวาระการดำรงตำแหน่งที่แตกต่างกัน และมีบทบาทหลักในการกลั่นกรองกฎหมาย ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน และดำเนินการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองบางประเภท ด้วยเหตุนี้ โครงสร้างและอำนาจหน้าที่ที่แตกต่างกัน ทำให้วุฒิสภาไม่ได้ถูกยุบไปด้วยกับการยุบสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภาจึงยังคงอยู่ในตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้จนกว่าจะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งของตนเองตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เว้นแต่รัฐธรรมนูญฉบับใดจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ซึ่งโดยหลักการประชาธิปไตยส่วนใหญ่จะคงไว้ซึ่งการยุบเฉพาะสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นตัวแทนโดยตรงของประชาชน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาทางการเมืองที่โยงกับความชอบธรรมของฝ่ายบริหารที่มาจากฐานเสียงของสภาผู้แทนราษฎรนั่นเอง การดำเนินการยุบสภานั้นจะส่งผลให้คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันต้องกลายเป็นคณะรัฐมนตรีรักษาการ ซึ่งมีข้อจำกัดในการใช้อำนาจและอนุมัติโครงการหรือการอนุมัติงบประมาณขนาดใหญ่ จนกว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้ารับหน้าที่หลังการเลือกตั้ง

    สรุปได้ว่า การยุบสภาผู้แทนราษฎรคือกระบวนการทางรัฐธรรมนูญที่เปิดโอกาสให้นายกรัฐมนตรีใช้ดุลยพินิจเพื่อขจัดวิกฤตการณ์ทางการเมืองหรือเพื่อแสวงหาความชอบธรรมใหม่จากประชาชน โดยเป็นการใช้อำนาจเสนอขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ยุบเฉพาะส่วนของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นสภาที่มีความเชื่อมโยงโดยตรงกับฐานอำนาจของรัฐบาลและที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ขณะที่วุฒิสภายังคงอยู่ตามวาระที่กำหนดไว้ การทำความเข้าใจความแตกต่างทางกฎหมายระหว่างการยุบสภาผู้แทนราษฎรกับการคงอยู่ของวุฒิสภาจึงเป็นสิ่งสำคัญในการติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองภายใต้หลักการของกฎหมายรัฐธรรมนูญไทย
    บทความกฎหมาย EP.43 การยุบสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นกลไกสำคัญภายใต้ระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาของประเทศไทย มักถูกเรียกอย่างย่อว่า "ยุบสภา" แต่ในทางกฎหมายรัฐธรรมนูญนั้น กระบวนการนี้มีที่มา อำนาจ และขอบเขตที่ชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากการสิ้นสุดวาระตามปกติ โดยสาระสำคัญแล้ว การยุบสภาคือการที่ฝ่ายบริหาร โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ริเริ่มและรับผิดชอบ เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ยุบสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีผลเป็นการคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองกลับคืนสู่ประชาชนผ่านการเลือกตั้งทั่วไปโดยเร็วที่สุด การยุบสภาจึงไม่ใช่การลงโทษ แต่เป็นการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง หรือเพื่อแสวงหาฉันทามติใหม่จากประชาชนเมื่อรัฐบาลประสบภาวะไม่สามารถบริหารประเทศต่อไปได้ด้วยความชอบธรรมทางเสียงสนับสนุนในสภา หรือในยามที่ต้องการสร้างความมั่นคงทางการเมืองให้รัฐบาลมีความเข้มแข็งและมีเสถียรภาพมากขึ้นเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ โดยอำนาจในการยุบสภานี้เป็นอำนาจเฉพาะตัวของนายกรัฐมนตรีในการเสนอต่อพระมหากษัตริย์ และเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ในการมีพระบรมราชโองการให้ยุบสภาตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี ตามที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ให้เป็นอำนาจที่พระมหากษัตริย์ทรงใช้ตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ ดังนั้น ในทางปฏิบัติ จึงเป็นไปตามการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจทางการเมืองที่ต้องรับผิดชอบต่อสาธารณชน ในประเด็นทางกฎหมายที่สำคัญอย่างยิ่งคือ ขอบเขตของการยุบสภานั้นตามประเพณีการปกครองและบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญจะจำกัดอยู่เพียง สภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เท่านั้น ไม่ได้รวมถึง วุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งถือเป็นความแตกต่างทางโครงสร้างและหน้าที่อย่างชัดเจนระหว่างสภาทั้งสอง สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี และมีบทบาทหลักในการออกกฎหมาย การควบคุมฝ่ายบริหาร และการให้ความเห็นชอบต่างๆ การยุบสภาจึงเป็นกลไกที่ทำให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบันพ้นจากตำแหน่งทั้งหมดเพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งทั่วไปภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด คือประมาณสี่สิบห้าถึงหกสิบวัน เพื่อให้ได้สภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ ในทางตรงกันข้าม วุฒิสภาอาจมีที่มาจากการเลือกตั้งโดยอ้อม การสรรหา หรือการแต่งตั้งตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับ มีวาระการดำรงตำแหน่งที่แตกต่างกัน และมีบทบาทหลักในการกลั่นกรองกฎหมาย ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน และดำเนินการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองบางประเภท ด้วยเหตุนี้ โครงสร้างและอำนาจหน้าที่ที่แตกต่างกัน ทำให้วุฒิสภาไม่ได้ถูกยุบไปด้วยกับการยุบสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภาจึงยังคงอยู่ในตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้จนกว่าจะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งของตนเองตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เว้นแต่รัฐธรรมนูญฉบับใดจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ซึ่งโดยหลักการประชาธิปไตยส่วนใหญ่จะคงไว้ซึ่งการยุบเฉพาะสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นตัวแทนโดยตรงของประชาชน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาทางการเมืองที่โยงกับความชอบธรรมของฝ่ายบริหารที่มาจากฐานเสียงของสภาผู้แทนราษฎรนั่นเอง การดำเนินการยุบสภานั้นจะส่งผลให้คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันต้องกลายเป็นคณะรัฐมนตรีรักษาการ ซึ่งมีข้อจำกัดในการใช้อำนาจและอนุมัติโครงการหรือการอนุมัติงบประมาณขนาดใหญ่ จนกว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้ารับหน้าที่หลังการเลือกตั้ง สรุปได้ว่า การยุบสภาผู้แทนราษฎรคือกระบวนการทางรัฐธรรมนูญที่เปิดโอกาสให้นายกรัฐมนตรีใช้ดุลยพินิจเพื่อขจัดวิกฤตการณ์ทางการเมืองหรือเพื่อแสวงหาความชอบธรรมใหม่จากประชาชน โดยเป็นการใช้อำนาจเสนอขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ยุบเฉพาะส่วนของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นสภาที่มีความเชื่อมโยงโดยตรงกับฐานอำนาจของรัฐบาลและที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ขณะที่วุฒิสภายังคงอยู่ตามวาระที่กำหนดไว้ การทำความเข้าใจความแตกต่างทางกฎหมายระหว่างการยุบสภาผู้แทนราษฎรกับการคงอยู่ของวุฒิสภาจึงเป็นสิ่งสำคัญในการติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองภายใต้หลักการของกฎหมายรัฐธรรมนูญไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • ห้องทดลองใต้ดินเก็บข้อมูลสมอง 10,000 ชั่วโมงเพื่อสร้าง AI แปลงความคิดเป็นข้อความ

    บริษัทสตาร์ทอัพชื่อ Conduit ในซานฟรานซิสโกได้ดำเนินโครงการเก็บข้อมูลสมองจากผู้เข้าร่วมหลายพันคนรวมกว่า 10,000 ชั่วโมง โดยใช้ชุดอุปกรณ์สวมศีรษะที่พัฒนาขึ้นเอง เพื่อฝึกโมเดล AI ที่สามารถถอดรหัสความคิดและเปลี่ยนเป็นข้อความได้ เป้าหมายคือการจับสัญญาณสมองในช่วงเสี้ยววินาทีก่อนที่ผู้เข้าร่วมจะพูดหรือพิมพ์

    เทคโนโลยีและวิธีการเก็บข้อมูล
    Conduit ใช้การผสมผสานเซ็นเซอร์ EEG, fNIRS และอุปกรณ์ตรวจจับอื่น ๆ ในโครงสร้างที่พิมพ์ 3D เพื่อสร้าง “AI Helmet” ที่มีทั้งรุ่นสำหรับการฝึก (หนักและครอบคลุมสัญญาณมากที่สุด) และรุ่นสำหรับการใช้งานจริงในอนาคต ข้อมูลทั้งหมดถูกจัดเก็บในรูปแบบ Zarr 3 เพื่อรวมสัญญาณจากหลายเซ็นเซอร์ภายใต้ระบบเดียว

    ความท้าทายด้านคุณภาพและต้นทุน
    ในช่วงแรกทีมงานต้องปิดไฟหลักและใช้แบตเตอรี่เพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณรบกวนไฟฟ้า แต่ภายหลังพบว่าการขยายขนาดข้อมูลช่วยให้โมเดลสามารถ “ทั่วไป” ได้ดีขึ้นแม้มีเสียงรบกวน ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่ซับซ้อนมากอีกต่อไป นอกจากนี้ Conduit ยังลดต้นทุนต่อชั่วโมงข้อมูลลงกว่า 40% ด้วยระบบตรวจสอบคุณภาพแบบเรียลไทม์และการจัดการห้องบันทึกหลายห้องพร้อมกัน

    บริบทเพิ่มเติมจากวงการ AI และประสาทวิทยา
    การวิจัยนี้สะท้อนถึงความพยายามของวงการ AI ที่จะก้าวไปสู่ Brain-Computer Interface (BCI) ซึ่งมีศักยภาพในการช่วยผู้พิการสื่อสาร หรือแม้แต่การสร้างอินเทอร์เฟซใหม่ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเตือนว่าการเก็บข้อมูลสมองในระดับใหญ่เช่นนี้ต้องพิจารณาเรื่อง จริยธรรมและความเป็นส่วนตัว อย่างเข้มงวด เพราะข้อมูลสมองถือเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อนที่สุดของมนุษย์

    สรุปสาระสำคัญ
    Conduit เก็บข้อมูลสมองกว่า 10,000 ชั่วโมง
    ใช้เพื่อฝึกโมเดล AI แปลงความคิดเป็นข้อความ

    ใช้ AI Helmet ที่รวม EEG และ fNIRS
    มีรุ่นสำหรับการฝึกและรุ่นสำหรับใช้งานจริง

    ลดต้นทุนการเก็บข้อมูลลงกว่า 40%
    ด้วยระบบตรวจสอบคุณภาพและการจัดการหลายห้อง

    ความเสี่ยงด้านจริยธรรมและความเป็นส่วนตัว
    ข้อมูลสมองเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและอาจถูกใช้ผิดวัตถุประสงค์

    ความท้าทายด้านการนำไปใช้จริง
    ต้องพิจารณาความแม่นยำและผลกระทบต่อผู้เข้าร่วม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/basement-lab-produces-10000-hours-of-neural-data-for-thought-to-text-research
    🧠 ห้องทดลองใต้ดินเก็บข้อมูลสมอง 10,000 ชั่วโมงเพื่อสร้าง AI แปลงความคิดเป็นข้อความ บริษัทสตาร์ทอัพชื่อ Conduit ในซานฟรานซิสโกได้ดำเนินโครงการเก็บข้อมูลสมองจากผู้เข้าร่วมหลายพันคนรวมกว่า 10,000 ชั่วโมง โดยใช้ชุดอุปกรณ์สวมศีรษะที่พัฒนาขึ้นเอง เพื่อฝึกโมเดล AI ที่สามารถถอดรหัสความคิดและเปลี่ยนเป็นข้อความได้ เป้าหมายคือการจับสัญญาณสมองในช่วงเสี้ยววินาทีก่อนที่ผู้เข้าร่วมจะพูดหรือพิมพ์ ⚙️ เทคโนโลยีและวิธีการเก็บข้อมูล Conduit ใช้การผสมผสานเซ็นเซอร์ EEG, fNIRS และอุปกรณ์ตรวจจับอื่น ๆ ในโครงสร้างที่พิมพ์ 3D เพื่อสร้าง “AI Helmet” ที่มีทั้งรุ่นสำหรับการฝึก (หนักและครอบคลุมสัญญาณมากที่สุด) และรุ่นสำหรับการใช้งานจริงในอนาคต ข้อมูลทั้งหมดถูกจัดเก็บในรูปแบบ Zarr 3 เพื่อรวมสัญญาณจากหลายเซ็นเซอร์ภายใต้ระบบเดียว 🔋 ความท้าทายด้านคุณภาพและต้นทุน ในช่วงแรกทีมงานต้องปิดไฟหลักและใช้แบตเตอรี่เพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณรบกวนไฟฟ้า แต่ภายหลังพบว่าการขยายขนาดข้อมูลช่วยให้โมเดลสามารถ “ทั่วไป” ได้ดีขึ้นแม้มีเสียงรบกวน ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่ซับซ้อนมากอีกต่อไป นอกจากนี้ Conduit ยังลดต้นทุนต่อชั่วโมงข้อมูลลงกว่า 40% ด้วยระบบตรวจสอบคุณภาพแบบเรียลไทม์และการจัดการห้องบันทึกหลายห้องพร้อมกัน 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากวงการ AI และประสาทวิทยา การวิจัยนี้สะท้อนถึงความพยายามของวงการ AI ที่จะก้าวไปสู่ Brain-Computer Interface (BCI) ซึ่งมีศักยภาพในการช่วยผู้พิการสื่อสาร หรือแม้แต่การสร้างอินเทอร์เฟซใหม่ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเตือนว่าการเก็บข้อมูลสมองในระดับใหญ่เช่นนี้ต้องพิจารณาเรื่อง จริยธรรมและความเป็นส่วนตัว อย่างเข้มงวด เพราะข้อมูลสมองถือเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อนที่สุดของมนุษย์ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Conduit เก็บข้อมูลสมองกว่า 10,000 ชั่วโมง ➡️ ใช้เพื่อฝึกโมเดล AI แปลงความคิดเป็นข้อความ ✅ ใช้ AI Helmet ที่รวม EEG และ fNIRS ➡️ มีรุ่นสำหรับการฝึกและรุ่นสำหรับใช้งานจริง ✅ ลดต้นทุนการเก็บข้อมูลลงกว่า 40% ➡️ ด้วยระบบตรวจสอบคุณภาพและการจัดการหลายห้อง ‼️ ความเสี่ยงด้านจริยธรรมและความเป็นส่วนตัว ⛔ ข้อมูลสมองเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและอาจถูกใช้ผิดวัตถุประสงค์ ‼️ ความท้าทายด้านการนำไปใช้จริง ⛔ ต้องพิจารณาความแม่นยำและผลกระทบต่อผู้เข้าร่วม https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/basement-lab-produces-10000-hours-of-neural-data-for-thought-to-text-research
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Basement AI lab captures 10,000 hours of brain scans to train thought-to-text AI models — largest known neural dataset collected from thousands of humans over six months
    Conduit built a multimodal “AI helmet” system and a large-scale data operation to train models that decode semantic content from brain activity.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • การลงทุน AI มูลค่า 400 พันล้านดอลลาร์ กำลังเจอปัญหาชิปหมดอายุเร็ว

    อุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้ลงทุนกว่า 400 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้เพื่อซื้อชิป AI และสร้างศูนย์ข้อมูล แต่เริ่มมีคำถามว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะมีอายุการใช้งานสั้นเกินไปหรือไม่ ก่อนหน้านี้บริษัทคลาวด์คาดว่าชิปและเซิร์ฟเวอร์จะใช้งานได้ราว 6 ปี แต่ปัจจุบันนักวิเคราะห์เตือนว่าอาจเหลือเพียง 2–3 ปีเท่านั้น

    ความก้าวหน้าที่เร็วเกินไปของ Nvidia และคู่แข่ง
    Nvidia เปิดตัวชิป Blackwell และประกาศรุ่นใหม่ Rubin ที่จะมาในปี 2026 ซึ่งแรงกว่าเดิมถึง 7.5 เท่า ทำให้ชิปรุ่นเก่ามูลค่าลดลงถึง 85–90% ภายใน 3–4 ปี นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านความทนทาน เพราะชิป AI ทำงานที่ความร้อนสูงจนเกิดการเสียหายบ่อยขึ้น เช่น Meta พบว่าโมเดล Llama มีอัตราความล้มเหลวถึง 9% ต่อปี

    ผลกระทบต่อกำไรและการเงินของบริษัท
    หากต้องปรับอายุการใช้งานชิปให้สั้นลง บริษัทจะต้องบันทึกค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้นทันที ซึ่งกระทบต่อกำไรและความสามารถในการระดมทุน โดยเฉพาะบริษัทที่เน้น AI อย่าง Oracle และ CoreWeave ที่มีหนี้สูงและใช้ชิปเป็นหลักประกันเงินกู้ ขณะที่ยักษ์ใหญ่เช่น Amazon, Google และ Microsoft ยังพอรับมือได้เพราะมีรายได้หลากหลาย

    บริบทเพิ่มเติมจากวงการเศรษฐกิจและเทคโนโลยี
    การเสื่อมราคาของชิป AI สะท้อนถึงความเสี่ยงของ ฟองสบู่การลงทุน AI ที่นักวิเคราะห์เตือนว่าอาจคล้ายกับฟองสบู่ดอทคอมในอดีต หากบริษัทไม่สามารถสร้างรายได้จากการลงทุนมหาศาลนี้ ความสูญเสียอาจกระทบเศรษฐกิจวงกว้าง การแก้ปัญหาที่บางบริษัทเลือกคือการนำชิปรุ่นเก่าไปใช้กับงานที่ไม่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น งานสำรองหรือการประมวลผลระดับกลาง

    สรุปสาระสำคัญ
    การลงทุน AI มูลค่า 400 พันล้านดอลลาร์
    ชิปและศูนย์ข้อมูลอาจหมดอายุเร็วเกินไป

    Nvidia เปิดตัวชิปรุ่นใหม่เร็ว
    Blackwell และ Rubin ทำให้ชิปรุ่นเก่ามูลค่าลดลงเร็ว

    ปัญหาความทนทานของชิป AI
    Meta พบอัตราความล้มเหลว 9% ต่อปี

    ผลกระทบต่อบริษัท AI
    Oracle และ CoreWeave เสี่ยงสูงเพราะหนี้และใช้ชิปเป็นหลักประกัน

    ความเสี่ยงฟองสบู่การลงทุน AI
    อาจคล้ายฟองสบู่ดอทคอม กระทบเศรษฐกิจวงกว้าง

    ค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้น
    ทำให้กำไรลดลงและการระดมทุนยากขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/12/ai039s-us400bil-problem-are-chips-getting-old-too-fast
    💸 การลงทุน AI มูลค่า 400 พันล้านดอลลาร์ กำลังเจอปัญหาชิปหมดอายุเร็ว อุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้ลงทุนกว่า 400 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้เพื่อซื้อชิป AI และสร้างศูนย์ข้อมูล แต่เริ่มมีคำถามว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะมีอายุการใช้งานสั้นเกินไปหรือไม่ ก่อนหน้านี้บริษัทคลาวด์คาดว่าชิปและเซิร์ฟเวอร์จะใช้งานได้ราว 6 ปี แต่ปัจจุบันนักวิเคราะห์เตือนว่าอาจเหลือเพียง 2–3 ปีเท่านั้น ⚡ ความก้าวหน้าที่เร็วเกินไปของ Nvidia และคู่แข่ง Nvidia เปิดตัวชิป Blackwell และประกาศรุ่นใหม่ Rubin ที่จะมาในปี 2026 ซึ่งแรงกว่าเดิมถึง 7.5 เท่า ทำให้ชิปรุ่นเก่ามูลค่าลดลงถึง 85–90% ภายใน 3–4 ปี นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านความทนทาน เพราะชิป AI ทำงานที่ความร้อนสูงจนเกิดการเสียหายบ่อยขึ้น เช่น Meta พบว่าโมเดล Llama มีอัตราความล้มเหลวถึง 9% ต่อปี 📉 ผลกระทบต่อกำไรและการเงินของบริษัท หากต้องปรับอายุการใช้งานชิปให้สั้นลง บริษัทจะต้องบันทึกค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้นทันที ซึ่งกระทบต่อกำไรและความสามารถในการระดมทุน โดยเฉพาะบริษัทที่เน้น AI อย่าง Oracle และ CoreWeave ที่มีหนี้สูงและใช้ชิปเป็นหลักประกันเงินกู้ ขณะที่ยักษ์ใหญ่เช่น Amazon, Google และ Microsoft ยังพอรับมือได้เพราะมีรายได้หลากหลาย 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากวงการเศรษฐกิจและเทคโนโลยี การเสื่อมราคาของชิป AI สะท้อนถึงความเสี่ยงของ ฟองสบู่การลงทุน AI ที่นักวิเคราะห์เตือนว่าอาจคล้ายกับฟองสบู่ดอทคอมในอดีต หากบริษัทไม่สามารถสร้างรายได้จากการลงทุนมหาศาลนี้ ความสูญเสียอาจกระทบเศรษฐกิจวงกว้าง การแก้ปัญหาที่บางบริษัทเลือกคือการนำชิปรุ่นเก่าไปใช้กับงานที่ไม่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น งานสำรองหรือการประมวลผลระดับกลาง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การลงทุน AI มูลค่า 400 พันล้านดอลลาร์ ➡️ ชิปและศูนย์ข้อมูลอาจหมดอายุเร็วเกินไป ✅ Nvidia เปิดตัวชิปรุ่นใหม่เร็ว ➡️ Blackwell และ Rubin ทำให้ชิปรุ่นเก่ามูลค่าลดลงเร็ว ✅ ปัญหาความทนทานของชิป AI ➡️ Meta พบอัตราความล้มเหลว 9% ต่อปี ✅ ผลกระทบต่อบริษัท AI ➡️ Oracle และ CoreWeave เสี่ยงสูงเพราะหนี้และใช้ชิปเป็นหลักประกัน ‼️ ความเสี่ยงฟองสบู่การลงทุน AI ⛔ อาจคล้ายฟองสบู่ดอทคอม กระทบเศรษฐกิจวงกว้าง ‼️ ค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้น ⛔ ทำให้กำไรลดลงและการระดมทุนยากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/12/ai039s-us400bil-problem-are-chips-getting-old-too-fast
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Maps: จากเครื่องมือค้นหา สู่ผู้กำหนดตลาด

    Lauren Leek เริ่มต้นจากการหาที่กินข้าว แต่กลับกลายเป็นงานวิจัยเต็มรูปแบบ เธอใช้ข้อมูลร้านอาหารกว่า 13,000 แห่งในลอนดอน มาสร้างโมเดล Machine Learning เพื่อวิเคราะห์ว่า Google Maps จัดอันดับร้านอาหารอย่างไร ผลลัพธ์ชี้ว่าแพลตฟอร์มไม่ได้เพียงสะท้อนความนิยม แต่ กำหนดการมองเห็นและการอยู่รอดของร้านอาหาร โดยใช้ตัวชี้วัดหลักคือ relevance, distance, และ prominence.

    วงจรสะสมความได้เปรียบ
    ระบบ “prominence” ของ Google Maps ให้รางวัลกับร้านที่มีรีวิวจำนวนมาก ความเร็วในการได้รับรีวิวสูง และการรับรู้แบรนด์ ส่งผลให้ร้านใหญ่หรือร้านที่อยู่ในพื้นที่คนพลุกพล่านได้เปรียบ ขณะที่ร้านเล็ก ๆ หรือร้านใหม่ ๆ เจอปัญหา cold-start เพราะไม่มีรีวิวมากพอที่จะถูกค้นพบ วงจรนี้คล้ายกับ “Matthew Effect” ในเศรษฐศาสตร์ ที่ผู้มีมากจะได้มากขึ้นเรื่อย ๆ

    การสร้าง Dashboard เพื่อมองทะลุอัลกอริทึม
    Lauren สร้าง London Food Dashboard โดยใช้ Gradient Boosted Decision Tree เพื่อคาดการณ์คะแนนที่ร้านควรได้ตามคุณลักษณะเชิงโครงสร้าง เช่น ประเภทอาหาร ราคา ทำเล และจำนวนรีวิว จากนั้นเปรียบเทียบกับคะแนนจริงเพื่อหาว่าร้านใดถูก “ประเมินต่ำ” หรือ “สูงเกินจริง” Dashboard นี้ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหา “underrated gems” ได้ และยังเผยให้เห็นความผิดพลาดในการจัดหมวดหมู่ร้านอาหารของ Google Maps

    ผลกระทบต่อชุมชนและนโยบาย
    การวิเคราะห์ยังขยายไปถึงระดับย่าน โดยใช้ PCA และ K-means clustering เพื่อจัดประเภทพื้นที่เป็น elite, strong, everyday, และ weak hubs. ผลลัพธ์ชี้ว่า ความหลากหลายทางอาหารของลอนดอนไม่ได้กระจายอย่างเท่าเทียม ร้านอาหารของชุมชนผู้อพยชมักอยู่ในพื้นที่ที่มีการมองเห็นต่ำกว่า ข้อค้นพบนี้นำไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายว่า อัลกอริทึมของแพลตฟอร์มควรถูกตรวจสอบและเปิดเผยเหมือนตลาดการเงิน เพราะมันมีผลต่อการอยู่รอดของธุรกิจท้องถิ่นโดยตรง

    สรุปสาระสำคัญ
    Google Maps ทำหน้าที่เป็น “ตลาดกลาง”
    ใช้ตัวชี้วัด relevance, distance, prominence กำหนดการมองเห็น

    วงจรสะสมความได้เปรียบ
    ร้านใหญ่และร้านดังได้เปรียบ ร้านเล็กเจอ cold-start

    London Food Dashboard
    ใช้ ML วิเคราะห์ร้านที่ถูกประเมินต่ำหรือสูงเกินจริง

    การวิเคราะห์ระดับย่าน
    พบความเหลื่อมล้ำด้านการมองเห็นและความหลากหลายทางอาหาร

    ความเสี่ยงต่อธุรกิจเล็กและชุมชนผู้อพยพ
    อัลกอริทึมอาจทำให้ร้านใหม่หรือร้านเล็กถูกมองข้าม

    ความโปร่งใสของแพลตฟอร์ม
    ควรมีการตรวจสอบอัลกอริทึมเหมือนตลาดการเงิน

    https://laurenleek.substack.com/p/how-google-maps-quietly-allocates
    🗺️ Google Maps: จากเครื่องมือค้นหา สู่ผู้กำหนดตลาด Lauren Leek เริ่มต้นจากการหาที่กินข้าว แต่กลับกลายเป็นงานวิจัยเต็มรูปแบบ เธอใช้ข้อมูลร้านอาหารกว่า 13,000 แห่งในลอนดอน มาสร้างโมเดล Machine Learning เพื่อวิเคราะห์ว่า Google Maps จัดอันดับร้านอาหารอย่างไร ผลลัพธ์ชี้ว่าแพลตฟอร์มไม่ได้เพียงสะท้อนความนิยม แต่ กำหนดการมองเห็นและการอยู่รอดของร้านอาหาร โดยใช้ตัวชี้วัดหลักคือ relevance, distance, และ prominence. 📊 วงจรสะสมความได้เปรียบ ระบบ “prominence” ของ Google Maps ให้รางวัลกับร้านที่มีรีวิวจำนวนมาก ความเร็วในการได้รับรีวิวสูง และการรับรู้แบรนด์ ส่งผลให้ร้านใหญ่หรือร้านที่อยู่ในพื้นที่คนพลุกพล่านได้เปรียบ ขณะที่ร้านเล็ก ๆ หรือร้านใหม่ ๆ เจอปัญหา cold-start เพราะไม่มีรีวิวมากพอที่จะถูกค้นพบ วงจรนี้คล้ายกับ “Matthew Effect” ในเศรษฐศาสตร์ ที่ผู้มีมากจะได้มากขึ้นเรื่อย ๆ 🧮 การสร้าง Dashboard เพื่อมองทะลุอัลกอริทึม Lauren สร้าง London Food Dashboard โดยใช้ Gradient Boosted Decision Tree เพื่อคาดการณ์คะแนนที่ร้านควรได้ตามคุณลักษณะเชิงโครงสร้าง เช่น ประเภทอาหาร ราคา ทำเล และจำนวนรีวิว จากนั้นเปรียบเทียบกับคะแนนจริงเพื่อหาว่าร้านใดถูก “ประเมินต่ำ” หรือ “สูงเกินจริง” Dashboard นี้ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหา “underrated gems” ได้ และยังเผยให้เห็นความผิดพลาดในการจัดหมวดหมู่ร้านอาหารของ Google Maps 🌍 ผลกระทบต่อชุมชนและนโยบาย การวิเคราะห์ยังขยายไปถึงระดับย่าน โดยใช้ PCA และ K-means clustering เพื่อจัดประเภทพื้นที่เป็น elite, strong, everyday, และ weak hubs. ผลลัพธ์ชี้ว่า ความหลากหลายทางอาหารของลอนดอนไม่ได้กระจายอย่างเท่าเทียม ร้านอาหารของชุมชนผู้อพยชมักอยู่ในพื้นที่ที่มีการมองเห็นต่ำกว่า ข้อค้นพบนี้นำไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายว่า อัลกอริทึมของแพลตฟอร์มควรถูกตรวจสอบและเปิดเผยเหมือนตลาดการเงิน เพราะมันมีผลต่อการอยู่รอดของธุรกิจท้องถิ่นโดยตรง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Google Maps ทำหน้าที่เป็น “ตลาดกลาง” ➡️ ใช้ตัวชี้วัด relevance, distance, prominence กำหนดการมองเห็น ✅ วงจรสะสมความได้เปรียบ ➡️ ร้านใหญ่และร้านดังได้เปรียบ ร้านเล็กเจอ cold-start ✅ London Food Dashboard ➡️ ใช้ ML วิเคราะห์ร้านที่ถูกประเมินต่ำหรือสูงเกินจริง ✅ การวิเคราะห์ระดับย่าน ➡️ พบความเหลื่อมล้ำด้านการมองเห็นและความหลากหลายทางอาหาร ‼️ ความเสี่ยงต่อธุรกิจเล็กและชุมชนผู้อพยพ ⛔ อัลกอริทึมอาจทำให้ร้านใหม่หรือร้านเล็กถูกมองข้าม ‼️ ความโปร่งใสของแพลตฟอร์ม ⛔ ควรมีการตรวจสอบอัลกอริทึมเหมือนตลาดการเงิน https://laurenleek.substack.com/p/how-google-maps-quietly-allocates
    LAURENLEEK.SUBSTACK.COM
    How Google Maps quietly allocates survival across London’s restaurants - and how I built a dashboard to see through it
    I wanted a dinner recommendation and got a research agenda instead. Using 13000+ restaurants, I rebuild its ratings with machine learning and map how algorithmic visibility actually distributes power.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • การใช้ AI วิเคราะห์ย้อนหลัง Hacker News

    Andrej Karpathy ได้ทดลองสร้างโปรเจกต์ที่ชื่อว่า HN Time Capsule โดยใช้โมเดล GPT 5.1 Thinking เพื่อวิเคราะห์กระทู้และคอมเมนต์บน Hacker News เมื่อ 10 ปีก่อน (ปี 2015) แล้วให้คะแนนความ “แม่นยำ” ของการคาดการณ์ในอดีตเมื่อเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากการที่เขาเห็นโพสต์ที่ Gemini 3 สร้างหน้าแรกของ HN แบบ “หลอนอนาคต” และทำให้เขาสนใจลองวิเคราะห์อดีตด้วยวิธีที่เป็นระบบ

    การสร้าง Time Capsule ของบทสนทนาออนไลน์
    Karpathy ได้ดึงข้อมูลหน้าแรกของ Hacker News ตลอดเดือนธันวาคม 2015 (รวมกว่า 930 บทความและคอมเมนต์) แล้วส่งให้ GPT วิเคราะห์ใน 6 มิติ เช่น สรุปบทความ, สิ่งที่เกิดขึ้นจริง, มอบรางวัล “คอมเมนต์แม่นที่สุด” และ “ผิดที่สุด”, รวมถึงให้คะแนนความน่าสนใจของบทสนทนาในอดีต ผลลัพธ์ถูกนำเสนอในรูปแบบเว็บเพจที่อ่านง่าย พร้อม “Hall of Fame” สำหรับผู้แสดงความเห็นที่แม่นยำที่สุด

    AI กับการย้อนมองพฤติกรรมมนุษย์
    สิ่งที่น่าสนใจคือแนวคิดที่ว่า “อนาคต AI กำลังเฝ้ามองเรา” เพราะเมื่อการประมวลผลราคาถูกลง การวิเคราะห์ย้อนหลังพฤติกรรมมนุษย์ในโลกออนไลน์จะกลายเป็นเรื่องง่ายและฟรี นั่นหมายความว่าความเห็นหรือการกระทำที่เราทำวันนี้อาจถูกตรวจสอบอย่างละเอียดในอนาคต การทดลองนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องสนุก แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงสังคมและจริยธรรมที่ AI นำมา

    บริบทเพิ่มเติมจากวงการ AI และสังคม
    แนวคิด “grading hindsight” ยังเชื่อมโยงกับการใช้ AI ในการศึกษาประวัติศาสตร์ดิจิทัล เช่น การวิเคราะห์ทวิตเตอร์ช่วงเหตุการณ์สำคัญ หรือการตรวจสอบข่าวปลอมในอดีตเพื่อทำความเข้าใจการแพร่กระจายข้อมูลผิด ๆ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เรามีบทเรียนสำหรับอนาคต และอาจกลายเป็นเครื่องมือใหม่ในการวิจัยสังคมศาสตร์ดิจิทัล

    สรุปสาระสำคัญ
    โปรเจกต์ HN Time Capsule ของ Karpathy
    ใช้ GPT 5.1 Thinking วิเคราะห์กระทู้ Hacker News ปี 2015

    การวิเคราะห์ย้อนหลัง 930 บทความ
    ให้คะแนนคอมเมนต์แม่นที่สุดและผิดที่สุด

    ผลลัพธ์ถูกนำเสนอเป็นเว็บเพจ
    มี Hall of Fame สำหรับผู้แสดงความเห็นแม่นยำ

    ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวในอนาคต
    AI อาจทำให้การตรวจสอบพฤติกรรมมนุษย์ย้อนหลังเป็นเรื่องง่าย

    ผลกระทบเชิงสังคมและจริยธรรม
    ความเห็นที่เคยโพสต์อาจถูกนำมาวิเคราะห์และตีความใหม่ในอนาคต

    https://karpathy.bearblog.dev/auto-grade-hn/
    📰 การใช้ AI วิเคราะห์ย้อนหลัง Hacker News Andrej Karpathy ได้ทดลองสร้างโปรเจกต์ที่ชื่อว่า HN Time Capsule โดยใช้โมเดล GPT 5.1 Thinking เพื่อวิเคราะห์กระทู้และคอมเมนต์บน Hacker News เมื่อ 10 ปีก่อน (ปี 2015) แล้วให้คะแนนความ “แม่นยำ” ของการคาดการณ์ในอดีตเมื่อเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากการที่เขาเห็นโพสต์ที่ Gemini 3 สร้างหน้าแรกของ HN แบบ “หลอนอนาคต” และทำให้เขาสนใจลองวิเคราะห์อดีตด้วยวิธีที่เป็นระบบ ⏳ การสร้าง Time Capsule ของบทสนทนาออนไลน์ Karpathy ได้ดึงข้อมูลหน้าแรกของ Hacker News ตลอดเดือนธันวาคม 2015 (รวมกว่า 930 บทความและคอมเมนต์) แล้วส่งให้ GPT วิเคราะห์ใน 6 มิติ เช่น สรุปบทความ, สิ่งที่เกิดขึ้นจริง, มอบรางวัล “คอมเมนต์แม่นที่สุด” และ “ผิดที่สุด”, รวมถึงให้คะแนนความน่าสนใจของบทสนทนาในอดีต ผลลัพธ์ถูกนำเสนอในรูปแบบเว็บเพจที่อ่านง่าย พร้อม “Hall of Fame” สำหรับผู้แสดงความเห็นที่แม่นยำที่สุด 🤖 AI กับการย้อนมองพฤติกรรมมนุษย์ สิ่งที่น่าสนใจคือแนวคิดที่ว่า “อนาคต AI กำลังเฝ้ามองเรา” เพราะเมื่อการประมวลผลราคาถูกลง การวิเคราะห์ย้อนหลังพฤติกรรมมนุษย์ในโลกออนไลน์จะกลายเป็นเรื่องง่ายและฟรี นั่นหมายความว่าความเห็นหรือการกระทำที่เราทำวันนี้อาจถูกตรวจสอบอย่างละเอียดในอนาคต การทดลองนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องสนุก แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงสังคมและจริยธรรมที่ AI นำมา 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากวงการ AI และสังคม แนวคิด “grading hindsight” ยังเชื่อมโยงกับการใช้ AI ในการศึกษาประวัติศาสตร์ดิจิทัล เช่น การวิเคราะห์ทวิตเตอร์ช่วงเหตุการณ์สำคัญ หรือการตรวจสอบข่าวปลอมในอดีตเพื่อทำความเข้าใจการแพร่กระจายข้อมูลผิด ๆ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เรามีบทเรียนสำหรับอนาคต และอาจกลายเป็นเครื่องมือใหม่ในการวิจัยสังคมศาสตร์ดิจิทัล 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ โปรเจกต์ HN Time Capsule ของ Karpathy ➡️ ใช้ GPT 5.1 Thinking วิเคราะห์กระทู้ Hacker News ปี 2015 ✅ การวิเคราะห์ย้อนหลัง 930 บทความ ➡️ ให้คะแนนคอมเมนต์แม่นที่สุดและผิดที่สุด ✅ ผลลัพธ์ถูกนำเสนอเป็นเว็บเพจ ➡️ มี Hall of Fame สำหรับผู้แสดงความเห็นแม่นยำ ‼️ ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวในอนาคต ⛔ AI อาจทำให้การตรวจสอบพฤติกรรมมนุษย์ย้อนหลังเป็นเรื่องง่าย ‼️ ผลกระทบเชิงสังคมและจริยธรรม ⛔ ความเห็นที่เคยโพสต์อาจถูกนำมาวิเคราะห์และตีความใหม่ในอนาคต https://karpathy.bearblog.dev/auto-grade-hn/
    KARPATHY.BEARBLOG.DEV
    Auto-grading decade-old Hacker News discussions with hindsight
    A vibe coding thought exercise on what it might look like for LLMs to scour human historical data at scale and in retrospect.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • Patterns.dev – คู่มือการสร้าง Web Apps ยุคใหม่

    Patterns.dev เป็นหนังสือออนไลน์ฟรีที่รวบรวม Design Patterns สำหรับนักพัฒนา JavaScript และเฟรมเวิร์กสมัยใหม่ เช่น React และ Vue จุดเด่นคือการอธิบายวิธีแก้ปัญหาที่นักพัฒนามักเจอซ้ำ ๆ เช่น Singleton, Observer, Factory, Proxy และอีกมากมาย พร้อมตัวอย่างโค้ดที่เข้าใจง่ายและสามารถนำไปใช้จริงได้ทันที

    Performance Patterns เพื่อเว็บที่เร็วขึ้น
    นอกจาก Design Patterns แล้ว เว็บไซต์ยังเน้น Performance Patterns เช่น Bundle Splitting, Tree Shaking, Prefetch, Preload และ List Virtualization เพื่อช่วยให้นักพัฒนาสามารถลดขนาดไฟล์ ปรับปรุงความเร็วการโหลด และเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการสร้างเว็บที่ต้องรองรับผู้ใช้จำนวนมากในยุคดิจิทัล

    React และ Vue Patterns
    Patterns.dev ยังมีหมวดเฉพาะสำหรับ React และ Vue เช่น Hooks Pattern, Compound Pattern, Render Props, Async Components และ Composables ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างโครงสร้างที่ยืดหยุ่นและจัดการ State ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในโปรเจกต์ขนาดใหญ่ที่ต้องการความเสถียรและการขยายตัวในอนาคต

    มุมมองใหม่ต่อ Design Patterns
    ทีมผู้จัดทำ Patterns.dev เน้นว่า Design Patterns เป็นแนวทาง ไม่ใช่ข้อบังคับ การเลือกใช้ต้องขึ้นอยู่กับปัญหาที่เจอจริง ๆ ไม่ใช่การนำมาใช้ทุกครั้งโดยไม่จำเป็น แนวคิดนี้ช่วยให้นักพัฒนามีวิจารณญาณและเลือกใช้เครื่องมืออย่างเหมาะสม เพื่อสร้างซอฟต์แวร์ที่ทั้งมีคุณภาพและง่ายต่อการดูแลรักษา

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Patterns.dev เป็นแหล่งเรียนรู้ฟรีสำหรับนักพัฒนาเว็บ
    รวม Design Patterns และ Performance Patterns สำหรับ JavaScript, React, Vue

    Design Patterns ที่นำเสนอ เช่น Singleton, Observer, Factory, Proxy
    ช่วยแก้ปัญหาที่นักพัฒนาพบซ้ำ ๆ ในการออกแบบระบบ

    Performance Patterns เน้นการเพิ่มความเร็วเว็บ
    เช่น Bundle Splitting, Tree Shaking, Prefetch, Preload, List Virtualization

    React และ Vue Patterns สำหรับโปรเจกต์สมัยใหม่
    เช่น Hooks, Compound, Async Components, Composables

    แนวคิดหลัก: Patterns เป็นแนวทาง ไม่ใช่ข้อบังคับ
    ใช้เมื่อเหมาะสมกับปัญหาจริง ไม่ใช่ทุกสถานการณ์

    การใช้ Patterns โดยไม่เข้าใจอาจเพิ่มความซับซ้อนเกินจำเป็น
    อาจทำให้โค้ดดูแลยากและไม่ตอบโจทย์ธุรกิจ

    https://www.patterns.dev/
    📚 Patterns.dev – คู่มือการสร้าง Web Apps ยุคใหม่ Patterns.dev เป็นหนังสือออนไลน์ฟรีที่รวบรวม Design Patterns สำหรับนักพัฒนา JavaScript และเฟรมเวิร์กสมัยใหม่ เช่น React และ Vue จุดเด่นคือการอธิบายวิธีแก้ปัญหาที่นักพัฒนามักเจอซ้ำ ๆ เช่น Singleton, Observer, Factory, Proxy และอีกมากมาย พร้อมตัวอย่างโค้ดที่เข้าใจง่ายและสามารถนำไปใช้จริงได้ทันที ⚡ Performance Patterns เพื่อเว็บที่เร็วขึ้น นอกจาก Design Patterns แล้ว เว็บไซต์ยังเน้น Performance Patterns เช่น Bundle Splitting, Tree Shaking, Prefetch, Preload และ List Virtualization เพื่อช่วยให้นักพัฒนาสามารถลดขนาดไฟล์ ปรับปรุงความเร็วการโหลด และเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการสร้างเว็บที่ต้องรองรับผู้ใช้จำนวนมากในยุคดิจิทัล 🔗 React และ Vue Patterns Patterns.dev ยังมีหมวดเฉพาะสำหรับ React และ Vue เช่น Hooks Pattern, Compound Pattern, Render Props, Async Components และ Composables ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างโครงสร้างที่ยืดหยุ่นและจัดการ State ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในโปรเจกต์ขนาดใหญ่ที่ต้องการความเสถียรและการขยายตัวในอนาคต 🌐 มุมมองใหม่ต่อ Design Patterns ทีมผู้จัดทำ Patterns.dev เน้นว่า Design Patterns เป็นแนวทาง ไม่ใช่ข้อบังคับ การเลือกใช้ต้องขึ้นอยู่กับปัญหาที่เจอจริง ๆ ไม่ใช่การนำมาใช้ทุกครั้งโดยไม่จำเป็น แนวคิดนี้ช่วยให้นักพัฒนามีวิจารณญาณและเลือกใช้เครื่องมืออย่างเหมาะสม เพื่อสร้างซอฟต์แวร์ที่ทั้งมีคุณภาพและง่ายต่อการดูแลรักษา 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Patterns.dev เป็นแหล่งเรียนรู้ฟรีสำหรับนักพัฒนาเว็บ ➡️ รวม Design Patterns และ Performance Patterns สำหรับ JavaScript, React, Vue ✅ Design Patterns ที่นำเสนอ เช่น Singleton, Observer, Factory, Proxy ➡️ ช่วยแก้ปัญหาที่นักพัฒนาพบซ้ำ ๆ ในการออกแบบระบบ ✅ Performance Patterns เน้นการเพิ่มความเร็วเว็บ ➡️ เช่น Bundle Splitting, Tree Shaking, Prefetch, Preload, List Virtualization ✅ React และ Vue Patterns สำหรับโปรเจกต์สมัยใหม่ ➡️ เช่น Hooks, Compound, Async Components, Composables ✅ แนวคิดหลัก: Patterns เป็นแนวทาง ไม่ใช่ข้อบังคับ ➡️ ใช้เมื่อเหมาะสมกับปัญหาจริง ไม่ใช่ทุกสถานการณ์ ‼️ การใช้ Patterns โดยไม่เข้าใจอาจเพิ่มความซับซ้อนเกินจำเป็น ⛔ อาจทำให้โค้ดดูแลยากและไม่ตอบโจทย์ธุรกิจ https://www.patterns.dev/
    WWW.PATTERNS.DEV
    Patterns.dev
    Learn JavaScript design and performance patterns for building more powerful web applications.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • Disney ลงทุนครั้งใหญ่ใน OpenAI

    ดิสนีย์ประกาศลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ ใน OpenAI และทำข้อตกลงการอนุญาตใช้สิทธิ์เป็นเวลา 3 ปี เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอด้วยตัวละครกว่า 200 ตัวจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ผ่านแอป Sora ที่เปิดตัวไปเมื่อกันยายนที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการที่ดิสนีย์ต้องการใช้ Generative AI ขยายการเล่าเรื่องในรูปแบบใหม่ ๆ โดยยังคงเคารพสิทธิ์ของผู้สร้างและผลงาน

    ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์
    นอกจากการอนุญาตให้ใช้ตัวละคร ดิสนีย์ยังจะนำ ChatGPT มาใช้ภายในองค์กรเพื่อสร้างเครื่องมือและประสบการณ์ใหม่ ๆ รวมถึงได้รับสิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มใน OpenAI การจับมือครั้งนี้ทำให้ดิสนีย์ไม่เพียงเป็นผู้ลงทุน แต่ยังเป็น ลูกค้ารายใหญ่ ของ OpenAI ด้วย ซึ่งอาจเปลี่ยนวิธีการผลิตคอนเทนต์และการสื่อสารภายในบริษัท

    การปกป้องลิขสิทธิ์
    ก่อนหน้านี้ ดิสนีย์เคยส่งจดหมาย Cease and Desist ไปยัง Google และ Character.AI รวมถึงฟ้อง Midjourney เรื่องการใช้ตัวละครโดยไม่ได้รับอนุญาต การลงทุนครั้งนี้จึงสะท้อนว่า ดิสนีย์ไม่ได้ปฏิเสธ AI แต่เลือกที่จะ ควบคุมและร่วมมือ กับแพลตฟอร์มที่สามารถสร้างรายได้และปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาไปพร้อมกัน

    การใช้งานจริงและอนาคต
    ผู้ใช้ Sora และ ChatGPT Images จะสามารถสร้างวิดีโอและภาพด้วยตัวละครดัง เช่น Mickey Mouse, Ariel, Cinderella, Iron Man และ Darth Vader โดยจะมีการคัดเลือกคลิปบางส่วนไปเผยแพร่บน Disney+ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ไม่ครอบคลุม เสียงและหน้าตาของนักแสดงจริง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาลิขสิทธิ์และการละเมิดสิทธิ์บุคคล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Disney ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI
    ทำข้อตกลงอนุญาตใช้สิทธิ์ 3 ปีสำหรับตัวละครกว่า 200 ตัว

    ผู้ใช้ Sora และ ChatGPT Images สามารถสร้างคอนเทนต์ด้วยตัวละคร Disney
    ตัวละครที่ใช้ได้ เช่น Mickey Mouse, Ariel, Cinderella, Iron Man, Darth Vader

    Disney จะใช้ ChatGPT ภายในองค์กร
    เพื่อสร้างเครื่องมือและประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้พนักงาน

    คลิปจาก Sora จะถูกเผยแพร่บน Disney+
    ขยายการเข้าถึงคอนเทนต์ AI สู่ผู้ชมทั่วโลก

    ความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์ยังคงมีอยู่
    Disney เคยฟ้อง Midjourney และส่งจดหมายเตือน Google, Character.AI เรื่องการใช้ตัวละครโดยไม่ได้รับอนุญาต

    การใช้ตัวละครไม่ครอบคลุมเสียงและหน้าตานักแสดงจริง
    เพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดสิทธิ์บุคคลและปัญหาทางกฎหมาย

    https://www.cnbc.com/2025/12/11/disney-openai-sora-characters-video.html
    🎬 Disney ลงทุนครั้งใหญ่ใน OpenAI ดิสนีย์ประกาศลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ ใน OpenAI และทำข้อตกลงการอนุญาตใช้สิทธิ์เป็นเวลา 3 ปี เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอด้วยตัวละครกว่า 200 ตัวจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ผ่านแอป Sora ที่เปิดตัวไปเมื่อกันยายนที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการที่ดิสนีย์ต้องการใช้ Generative AI ขยายการเล่าเรื่องในรูปแบบใหม่ ๆ โดยยังคงเคารพสิทธิ์ของผู้สร้างและผลงาน 🤝 ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ นอกจากการอนุญาตให้ใช้ตัวละคร ดิสนีย์ยังจะนำ ChatGPT มาใช้ภายในองค์กรเพื่อสร้างเครื่องมือและประสบการณ์ใหม่ ๆ รวมถึงได้รับสิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มใน OpenAI การจับมือครั้งนี้ทำให้ดิสนีย์ไม่เพียงเป็นผู้ลงทุน แต่ยังเป็น ลูกค้ารายใหญ่ ของ OpenAI ด้วย ซึ่งอาจเปลี่ยนวิธีการผลิตคอนเทนต์และการสื่อสารภายในบริษัท ⚖️ การปกป้องลิขสิทธิ์ ก่อนหน้านี้ ดิสนีย์เคยส่งจดหมาย Cease and Desist ไปยัง Google และ Character.AI รวมถึงฟ้อง Midjourney เรื่องการใช้ตัวละครโดยไม่ได้รับอนุญาต การลงทุนครั้งนี้จึงสะท้อนว่า ดิสนีย์ไม่ได้ปฏิเสธ AI แต่เลือกที่จะ ควบคุมและร่วมมือ กับแพลตฟอร์มที่สามารถสร้างรายได้และปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาไปพร้อมกัน 📺 การใช้งานจริงและอนาคต ผู้ใช้ Sora และ ChatGPT Images จะสามารถสร้างวิดีโอและภาพด้วยตัวละครดัง เช่น Mickey Mouse, Ariel, Cinderella, Iron Man และ Darth Vader โดยจะมีการคัดเลือกคลิปบางส่วนไปเผยแพร่บน Disney+ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ไม่ครอบคลุม เสียงและหน้าตาของนักแสดงจริง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาลิขสิทธิ์และการละเมิดสิทธิ์บุคคล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Disney ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI ➡️ ทำข้อตกลงอนุญาตใช้สิทธิ์ 3 ปีสำหรับตัวละครกว่า 200 ตัว ✅ ผู้ใช้ Sora และ ChatGPT Images สามารถสร้างคอนเทนต์ด้วยตัวละคร Disney ➡️ ตัวละครที่ใช้ได้ เช่น Mickey Mouse, Ariel, Cinderella, Iron Man, Darth Vader ✅ Disney จะใช้ ChatGPT ภายในองค์กร ➡️ เพื่อสร้างเครื่องมือและประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้พนักงาน ✅ คลิปจาก Sora จะถูกเผยแพร่บน Disney+ ➡️ ขยายการเข้าถึงคอนเทนต์ AI สู่ผู้ชมทั่วโลก ‼️ ความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์ยังคงมีอยู่ ⛔ Disney เคยฟ้อง Midjourney และส่งจดหมายเตือน Google, Character.AI เรื่องการใช้ตัวละครโดยไม่ได้รับอนุญาต ‼️ การใช้ตัวละครไม่ครอบคลุมเสียงและหน้าตานักแสดงจริง ⛔ เพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดสิทธิ์บุคคลและปัญหาทางกฎหมาย https://www.cnbc.com/2025/12/11/disney-openai-sora-characters-video.html
    WWW.CNBC.COM
    Disney making $1 billion investment in OpenAI, will allow characters on Sora AI video generator
    Disney is investing in OpenAI and has licensed its iconic characters like Mickey Mouse, Ariel and Iron Man to be used in the Sora AI video generator.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • การลงทุนด้าน Cybersecurity ต้องพูดภาษา “ธุรกิจ”

    ในยุคที่ภัยคุกคามไซเบอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารด้านความปลอดภัย (CISO) ไม่สามารถนำเสนอการลงทุนในระบบป้องกันเพียงแค่เชิงเทคนิคอีกต่อไป แต่ต้องเชื่อมโยงกับ เป้าหมายธุรกิจ เช่น การขยายตลาดใหม่ การเพิ่มความยืดหยุ่น และการสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น การอธิบายว่าเทคโนโลยีช่วยลดเวลาในการตอบสนองเหตุการณ์ หรือช่วยลดต้นทุนได้อย่างไร จะทำให้บอร์ดบริหารเห็นความคุ้มค่าและอนุมัติการลงทุนได้ง่ายขึ้น

    เทรนด์ Cybersecurity ปี 2025 จาก Gartner
    รายงานล่าสุดชี้ว่า Generative AI กำลังเปลี่ยนโฟกัสการป้องกันข้อมูลจากแบบ “Structured Data” ไปสู่ “Unstructured Data” เช่น ข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ อีกทั้งการจัดการ Machine Identity กลายเป็นเรื่องสำคัญ เพราะบัญชีเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติเพิ่มจำนวนมหาศาล หากไม่ควบคุมอาจขยายช่องโหว่ให้แฮกเกอร์โจมตีได้ง่ายขึ้น

    Quantum Computing และภัยคุกคามใหม่
    นักวิจัยเตือนว่า Quantum Computing อาจทำให้การเข้ารหัสแบบ RSA หรือ ECC ที่ใช้กันอยู่ทั่วโลกถูกถอดรหัสได้ในอนาคต เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Harvest Now, Decrypt Later” คือการขโมยข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ตอนนี้ แล้วรอให้ Quantum สามารถถอดรหัสได้ในอนาคต หากไม่เตรียมใช้ Post-Quantum Cryptography องค์กรอาจสูญเสียข้อมูลสำคัญมหาศาล

    วัฒนธรรมและพฤติกรรมด้านความปลอดภัย
    องค์กรจำนวนมากเริ่มลงทุนใน Security Behavior & Culture Programs (SBCPs) เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในพนักงาน โดยผสมผสาน AI เข้ามาช่วยตรวจสอบพฤติกรรมและลดเหตุการณ์ที่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ คาดว่าภายในปี 2026 องค์กรที่ใช้แนวทางนี้จะลดเหตุการณ์ที่เกิดจากพนักงานได้ถึง 40%

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การลงทุนด้าน Cybersecurity ต้องเชื่อมโยงกับธุรกิจ
    ลดเวลาในการตอบสนองเหตุการณ์ เพิ่มความยืดหยุ่น และสร้างรายได้ใหม่

    Generative AI กำลังเปลี่ยนโฟกัสการป้องกันข้อมูล
    จากการป้องกันฐานข้อมูล ไปสู่การป้องกันข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ

    Machine Identity Management เป็นเรื่องเร่งด่วน
    หากไม่ควบคุม บัญชีเครื่องจักรอัตโนมัติจะขยายช่องโหว่

    Quantum Computing กำลังคุกคามการเข้ารหัสปัจจุบัน
    ต้องเตรียมใช้ Post-Quantum Cryptography เพื่อป้องกันข้อมูลระยะยาว

    การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กรช่วยลดความเสี่ยง
    AI สามารถช่วยตรวจสอบพฤติกรรมและลดเหตุการณ์ที่เกิดจากมนุษย์

    ความเสี่ยงจาก Quantum Computing
    “Harvest Now, Decrypt Later” อาจทำให้ข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสวันนี้ถูกเปิดเผยในอนาคต

    การใช้ AI โดยไม่ควบคุมอาจสร้างช่องโหว่ใหม่
    AI ที่ไม่ถูกกำกับอาจถูกใช้สร้าง Deepfake หรือโจมตีระบบอัตโนมัติ

    https://www.csoonline.com/article/4104472/how-to-justify-your-security-investments.html
    🛡️ การลงทุนด้าน Cybersecurity ต้องพูดภาษา “ธุรกิจ” ในยุคที่ภัยคุกคามไซเบอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารด้านความปลอดภัย (CISO) ไม่สามารถนำเสนอการลงทุนในระบบป้องกันเพียงแค่เชิงเทคนิคอีกต่อไป แต่ต้องเชื่อมโยงกับ เป้าหมายธุรกิจ เช่น การขยายตลาดใหม่ การเพิ่มความยืดหยุ่น และการสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น การอธิบายว่าเทคโนโลยีช่วยลดเวลาในการตอบสนองเหตุการณ์ หรือช่วยลดต้นทุนได้อย่างไร จะทำให้บอร์ดบริหารเห็นความคุ้มค่าและอนุมัติการลงทุนได้ง่ายขึ้น 🤖 เทรนด์ Cybersecurity ปี 2025 จาก Gartner รายงานล่าสุดชี้ว่า Generative AI กำลังเปลี่ยนโฟกัสการป้องกันข้อมูลจากแบบ “Structured Data” ไปสู่ “Unstructured Data” เช่น ข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ อีกทั้งการจัดการ Machine Identity กลายเป็นเรื่องสำคัญ เพราะบัญชีเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติเพิ่มจำนวนมหาศาล หากไม่ควบคุมอาจขยายช่องโหว่ให้แฮกเกอร์โจมตีได้ง่ายขึ้น ⚛️ Quantum Computing และภัยคุกคามใหม่ นักวิจัยเตือนว่า Quantum Computing อาจทำให้การเข้ารหัสแบบ RSA หรือ ECC ที่ใช้กันอยู่ทั่วโลกถูกถอดรหัสได้ในอนาคต เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Harvest Now, Decrypt Later” คือการขโมยข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ตอนนี้ แล้วรอให้ Quantum สามารถถอดรหัสได้ในอนาคต หากไม่เตรียมใช้ Post-Quantum Cryptography องค์กรอาจสูญเสียข้อมูลสำคัญมหาศาล 🌐 วัฒนธรรมและพฤติกรรมด้านความปลอดภัย องค์กรจำนวนมากเริ่มลงทุนใน Security Behavior & Culture Programs (SBCPs) เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในพนักงาน โดยผสมผสาน AI เข้ามาช่วยตรวจสอบพฤติกรรมและลดเหตุการณ์ที่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ คาดว่าภายในปี 2026 องค์กรที่ใช้แนวทางนี้จะลดเหตุการณ์ที่เกิดจากพนักงานได้ถึง 40% 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การลงทุนด้าน Cybersecurity ต้องเชื่อมโยงกับธุรกิจ ➡️ ลดเวลาในการตอบสนองเหตุการณ์ เพิ่มความยืดหยุ่น และสร้างรายได้ใหม่ ✅ Generative AI กำลังเปลี่ยนโฟกัสการป้องกันข้อมูล ➡️ จากการป้องกันฐานข้อมูล ไปสู่การป้องกันข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ ✅ Machine Identity Management เป็นเรื่องเร่งด่วน ➡️ หากไม่ควบคุม บัญชีเครื่องจักรอัตโนมัติจะขยายช่องโหว่ ✅ Quantum Computing กำลังคุกคามการเข้ารหัสปัจจุบัน ➡️ ต้องเตรียมใช้ Post-Quantum Cryptography เพื่อป้องกันข้อมูลระยะยาว ✅ การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กรช่วยลดความเสี่ยง ➡️ AI สามารถช่วยตรวจสอบพฤติกรรมและลดเหตุการณ์ที่เกิดจากมนุษย์ ‼️ ความเสี่ยงจาก Quantum Computing ⛔ “Harvest Now, Decrypt Later” อาจทำให้ข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสวันนี้ถูกเปิดเผยในอนาคต ‼️ การใช้ AI โดยไม่ควบคุมอาจสร้างช่องโหว่ใหม่ ⛔ AI ที่ไม่ถูกกำกับอาจถูกใช้สร้าง Deepfake หรือโจมตีระบบอัตโนมัติ https://www.csoonline.com/article/4104472/how-to-justify-your-security-investments.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    How to justify your security investments
    Budget discussions are tiresome because cyber risks and expenses are rising in tandem. CISOs should therefore align their arguments with business objectives.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • DroidLock: มัลแวร์ Android ใหม่ แอบสอดส่องผ่านกล้องหน้า

    นักวิจัยจาก Zimperium zLabs ได้ค้นพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ DroidLock ซึ่งถูกออกแบบมาให้ทำงานคล้าย Ransomware โดยสามารถยึดเครื่อง Android ของเหยื่อได้ทั้งหมด พร้อมทั้งแอบสอดส่องผู้ใช้ผ่านกล้องหน้าและบันทึกกิจกรรมบนหน้าจอแบบเรียลไทม์

    วิธีการทำงานของ DroidLock
    ใช้ Phishing Sites หลอกให้ผู้ใช้ติดตั้งแอปปลอม โดยแสดงหน้าต่างอัปเดตระบบปลอมเพื่อหลอกให้กดตกลง
    เมื่อถูกติดตั้ง มัลแวร์จะใช้สิทธิ์ Device Administrator เพื่อควบคุมเครื่อง เช่น เปลี่ยนรหัส PIN, ลบข้อมูลทั้งหมด หรือบังคับล็อกเครื่อง
    ใช้เทคนิค Overlay Attack โดยสร้างหน้าจอปลอมทับบนแอปจริง เพื่อขโมยข้อมูล เช่น Pattern Unlock หรือรหัสผ่านแอปต่าง ๆ
    สามารถ สตรีมหน้าจอผ่าน VNC และบันทึกกิจกรรมทั้งหมด รวมถึงรหัส OTP และข้อมูลเข้าสู่ระบบ

    ผลกระทบที่น่ากังวล
    DroidLock ไม่ได้เข้ารหัสไฟล์เหมือน Ransomware ทั่วไป แต่สามารถทำให้ผู้ใช้ถูกล็อกออกจากเครื่องโดยสิ้นเชิง
    สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน, ข้อมูลการเงิน, หรือแม้แต่ภาพจากกล้องหน้า
    หากติดตั้งบนอุปกรณ์ที่ใช้ในองค์กร อาจทำให้ข้อมูลภายในรั่วไหลและกลายเป็น “hostile endpoint” ภายในเครือข่ายบริษัท

    แนวทางป้องกัน
    หลีกเลี่ยงการติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะลิงก์ที่ส่งมาทาง SMS หรืออีเมล
    ตรวจสอบสิทธิ์ที่แอปขอ หากมีการขอสิทธิ์ Device Administrator หรือ Accessibility ที่ไม่จำเป็น ควรหลีกเลี่ยง
    ใช้ Mobile Security Solutions ที่สามารถตรวจจับ Overlay Attack และมัลแวร์ประเภทนี้
    อัปเดตระบบและแอปพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปิดช่องโหว่ที่มัลแวร์อาจใช้โจมตี

    สรุปประเด็นสำคัญ
    วิธีการทำงานของ DroidLock
    ใช้ Phishing หลอกติดตั้งแอปปลอม
    ใช้สิทธิ์ Device Administrator ควบคุมเครื่อง
    Overlay Attack ขโมยข้อมูลล็อกอิน
    สตรีมหน้าจอและสอดส่องผ่านกล้องหน้า

    ผลกระทบ
    ล็อกผู้ใช้ไม่ให้เข้าถึงเครื่อง
    ขโมยข้อมูลการเงินและรหัส OTP
    เสี่ยงต่อการรั่วไหลข้อมูลองค์กร

    แนวทางป้องกัน
    หลีกเลี่ยงการติดตั้งแอปจากลิงก์ไม่ปลอดภัย
    ตรวจสอบสิทธิ์ที่แอปขอ
    ใช้ Mobile Security Solutions
    อัปเดตระบบและแอปอย่างสม่ำเสมอ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน
    การติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือเสี่ยงต่อการติดมัลแวร์
    หากติดตั้งในอุปกรณ์องค์กร อาจทำให้ข้อมูลรั่วไหลและเครือข่ายถูกโจมตี

    https://hackread.com/droidlock-android-malware-users-spy-camera/
    📱 DroidLock: มัลแวร์ Android ใหม่ แอบสอดส่องผ่านกล้องหน้า นักวิจัยจาก Zimperium zLabs ได้ค้นพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ DroidLock ซึ่งถูกออกแบบมาให้ทำงานคล้าย Ransomware โดยสามารถยึดเครื่อง Android ของเหยื่อได้ทั้งหมด พร้อมทั้งแอบสอดส่องผู้ใช้ผ่านกล้องหน้าและบันทึกกิจกรรมบนหน้าจอแบบเรียลไทม์ 🕵️ วิธีการทำงานของ DroidLock 💠 ใช้ Phishing Sites หลอกให้ผู้ใช้ติดตั้งแอปปลอม โดยแสดงหน้าต่างอัปเดตระบบปลอมเพื่อหลอกให้กดตกลง 💠 เมื่อถูกติดตั้ง มัลแวร์จะใช้สิทธิ์ Device Administrator เพื่อควบคุมเครื่อง เช่น เปลี่ยนรหัส PIN, ลบข้อมูลทั้งหมด หรือบังคับล็อกเครื่อง 💠 ใช้เทคนิค Overlay Attack โดยสร้างหน้าจอปลอมทับบนแอปจริง เพื่อขโมยข้อมูล เช่น Pattern Unlock หรือรหัสผ่านแอปต่าง ๆ 💠 สามารถ สตรีมหน้าจอผ่าน VNC และบันทึกกิจกรรมทั้งหมด รวมถึงรหัส OTP และข้อมูลเข้าสู่ระบบ ⚠️ ผลกระทบที่น่ากังวล 💠 DroidLock ไม่ได้เข้ารหัสไฟล์เหมือน Ransomware ทั่วไป แต่สามารถทำให้ผู้ใช้ถูกล็อกออกจากเครื่องโดยสิ้นเชิง 💠 สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน, ข้อมูลการเงิน, หรือแม้แต่ภาพจากกล้องหน้า 💠 หากติดตั้งบนอุปกรณ์ที่ใช้ในองค์กร อาจทำให้ข้อมูลภายในรั่วไหลและกลายเป็น “hostile endpoint” ภายในเครือข่ายบริษัท 🛡️ แนวทางป้องกัน 🎗️ หลีกเลี่ยงการติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะลิงก์ที่ส่งมาทาง SMS หรืออีเมล 🎗️ ตรวจสอบสิทธิ์ที่แอปขอ หากมีการขอสิทธิ์ Device Administrator หรือ Accessibility ที่ไม่จำเป็น ควรหลีกเลี่ยง 🎗️ ใช้ Mobile Security Solutions ที่สามารถตรวจจับ Overlay Attack และมัลแวร์ประเภทนี้ 🎗️ อัปเดตระบบและแอปพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปิดช่องโหว่ที่มัลแวร์อาจใช้โจมตี 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ วิธีการทำงานของ DroidLock ➡️ ใช้ Phishing หลอกติดตั้งแอปปลอม ➡️ ใช้สิทธิ์ Device Administrator ควบคุมเครื่อง ➡️ Overlay Attack ขโมยข้อมูลล็อกอิน ➡️ สตรีมหน้าจอและสอดส่องผ่านกล้องหน้า ✅ ผลกระทบ ➡️ ล็อกผู้ใช้ไม่ให้เข้าถึงเครื่อง ➡️ ขโมยข้อมูลการเงินและรหัส OTP ➡️ เสี่ยงต่อการรั่วไหลข้อมูลองค์กร ✅ แนวทางป้องกัน ➡️ หลีกเลี่ยงการติดตั้งแอปจากลิงก์ไม่ปลอดภัย ➡️ ตรวจสอบสิทธิ์ที่แอปขอ ➡️ ใช้ Mobile Security Solutions ➡️ อัปเดตระบบและแอปอย่างสม่ำเสมอ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน ⛔ การติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือเสี่ยงต่อการติดมัลแวร์ ⛔ หากติดตั้งในอุปกรณ์องค์กร อาจทำให้ข้อมูลรั่วไหลและเครือข่ายถูกโจมตี https://hackread.com/droidlock-android-malware-users-spy-camera/
    HACKREAD.COM
    New ‘DroidLock’ Android Malware Locks Users Out, Spies via Front Camera
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่มีแล้วไอ้เท้ง มีแต่
    ไอ้แท้ง ณัฐพงษ์
    พรรคhereไร มีทั้งไอ้ว่าว และไอ้แท้ง
    ไม่มีแล้วไอ้เท้ง มีแต่ ไอ้แท้ง ณัฐพงษ์ พรรคhereไร มีทั้งไอ้ว่าว และไอ้แท้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • Jetson ONE: เครื่องบินส่วนบุคคลที่ไม่ต้องมีใบอนุญาตนักบิน

    บทความจาก SlashGear เปิดเผยว่า Jetson ONE ซึ่งเป็นเครื่องบินไฟฟ้าแบบ eVTOL (electric Vertical Take-Off and Landing) กำลังสร้างความฮือฮาในตลาด เพราะสามารถบินได้โดย ไม่ต้องมีใบอนุญาตนักบิน ตามกฎของ FAA Part 103 ที่จัดให้เป็น Ultralight Aircraft

    คุณสมบัติหลักของ Jetson ONE
    น้ำหนักเพียง 253 ปอนด์ (ต่ำกว่าเกณฑ์ 254 ปอนด์ที่ FAA กำหนดสำหรับ ultralight)
    ความเร็วสูงสุด 63 mph (จำกัดด้วยซอฟต์แวร์ให้ตรงกับข้อกำหนด 55 knots)
    บินได้สูงสุด 1,500 ฟุต และมีเวลาบินประมาณ 20 นาที
    ใช้โครงสร้าง คาร์บอนไฟเบอร์ และขับเคลื่อนด้วย 8 มอเตอร์ไฟฟ้า

    ระบบความปลอดภัย
    Jetson ONE มาพร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยลดความเสี่ยง เช่น
    Ballistic parachute คล้ายกับที่ใช้ในเครื่องบิน Cirrus
    ระบบ hands-free hover mode
    สามารถบินต่อได้แม้มีมอเตอร์เสียหายหนึ่งตัว
    โครงสร้างแบบ racecar-style safety cell เพื่อปกป้องผู้โดยสาร

    กฎระเบียบและข้อจำกัด
    แม้จะไม่ต้องมีใบอนุญาตนักบิน แต่ FAA Part 103 กำหนดว่า:
    ห้ามบินเหนือพื้นที่แออัดหรือที่มีการรวมตัวกลางแจ้ง
    จำกัดการใช้งานเฉพาะพื้นที่เปิดโล่ง ไม่ใช่ในเมืองใหญ่
    ใช้ได้สำหรับผู้โดยสารเพียง 1 คนเท่านั้น

    ตลาดและราคา
    Jetson ONE มีราคาอยู่ที่ประมาณ 148,000 ดอลลาร์สหรัฐ
    มีคำสั่งซื้อแล้วกว่า 600 ลำ และการผลิตเต็มไปจนถึงปี 2026–2027
    ลูกค้ารายแรกคือ Palmer Luckey ผู้ก่อตั้ง Oculus

    สรุปประเด็นสำคัญ
    คุณสมบัติของ Jetson ONE
    น้ำหนัก 253 ปอนด์, ความเร็วสูงสุด 63 mph, บินได้ 20 นาที
    ใช้โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์และมอเตอร์ไฟฟ้า 8 ตัว

    ระบบความปลอดภัย
    Ballistic parachute, hands-free hover, redundancy ของมอเตอร์
    โครงสร้าง safety cell แบบรถแข่ง

    กฎ FAA Part 103
    ไม่ต้องมีใบอนุญาตนักบิน
    ห้ามบินเหนือเมืองหรือพื้นที่แออัด
    จำกัดผู้โดยสาร 1 คน

    ตลาดและราคา
    ราคา 148,000 ดอลลาร์
    มีคำสั่งซื้อแล้วกว่า 600 ลำ
    ลูกค้ารายแรกคือ Palmer Luckey

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน
    แม้ควบคุมได้ง่าย แต่การฝึกเพียงไม่กี่นาทีไม่เพียงพอสำหรับการตัดสินใจด้านสภาพอากาศ
    การบินในพื้นที่ไม่เหมาะสมอาจผิดกฎหมายและเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ

    https://www.slashgear.com/2047526/jetson-aircraft-no-pilots-license-needed-to-fly/
    ✈️ Jetson ONE: เครื่องบินส่วนบุคคลที่ไม่ต้องมีใบอนุญาตนักบิน บทความจาก SlashGear เปิดเผยว่า Jetson ONE ซึ่งเป็นเครื่องบินไฟฟ้าแบบ eVTOL (electric Vertical Take-Off and Landing) กำลังสร้างความฮือฮาในตลาด เพราะสามารถบินได้โดย ไม่ต้องมีใบอนุญาตนักบิน ตามกฎของ FAA Part 103 ที่จัดให้เป็น Ultralight Aircraft ⚙️ คุณสมบัติหลักของ Jetson ONE 💠 น้ำหนักเพียง 253 ปอนด์ (ต่ำกว่าเกณฑ์ 254 ปอนด์ที่ FAA กำหนดสำหรับ ultralight) 💠 ความเร็วสูงสุด 63 mph (จำกัดด้วยซอฟต์แวร์ให้ตรงกับข้อกำหนด 55 knots) 💠 บินได้สูงสุด 1,500 ฟุต และมีเวลาบินประมาณ 20 นาที 💠 ใช้โครงสร้าง คาร์บอนไฟเบอร์ และขับเคลื่อนด้วย 8 มอเตอร์ไฟฟ้า 🛡️ ระบบความปลอดภัย Jetson ONE มาพร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยลดความเสี่ยง เช่น 🎗️ Ballistic parachute คล้ายกับที่ใช้ในเครื่องบิน Cirrus 🎗️ ระบบ hands-free hover mode 🎗️ สามารถบินต่อได้แม้มีมอเตอร์เสียหายหนึ่งตัว 🎗️ โครงสร้างแบบ racecar-style safety cell เพื่อปกป้องผู้โดยสาร 📜 กฎระเบียบและข้อจำกัด แม้จะไม่ต้องมีใบอนุญาตนักบิน แต่ FAA Part 103 กำหนดว่า: 💠 ห้ามบินเหนือพื้นที่แออัดหรือที่มีการรวมตัวกลางแจ้ง 💠 จำกัดการใช้งานเฉพาะพื้นที่เปิดโล่ง ไม่ใช่ในเมืองใหญ่ 💠 ใช้ได้สำหรับผู้โดยสารเพียง 1 คนเท่านั้น 💰 ตลาดและราคา 🎗️ Jetson ONE มีราคาอยู่ที่ประมาณ 148,000 ดอลลาร์สหรัฐ 🎗️ มีคำสั่งซื้อแล้วกว่า 600 ลำ และการผลิตเต็มไปจนถึงปี 2026–2027 🎗️ ลูกค้ารายแรกคือ Palmer Luckey ผู้ก่อตั้ง Oculus 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ คุณสมบัติของ Jetson ONE ➡️ น้ำหนัก 253 ปอนด์, ความเร็วสูงสุด 63 mph, บินได้ 20 นาที ➡️ ใช้โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์และมอเตอร์ไฟฟ้า 8 ตัว ✅ ระบบความปลอดภัย ➡️ Ballistic parachute, hands-free hover, redundancy ของมอเตอร์ ➡️ โครงสร้าง safety cell แบบรถแข่ง ✅ กฎ FAA Part 103 ➡️ ไม่ต้องมีใบอนุญาตนักบิน ➡️ ห้ามบินเหนือเมืองหรือพื้นที่แออัด ➡️ จำกัดผู้โดยสาร 1 คน ✅ ตลาดและราคา ➡️ ราคา 148,000 ดอลลาร์ ➡️ มีคำสั่งซื้อแล้วกว่า 600 ลำ ➡️ ลูกค้ารายแรกคือ Palmer Luckey ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน ⛔ แม้ควบคุมได้ง่าย แต่การฝึกเพียงไม่กี่นาทีไม่เพียงพอสำหรับการตัดสินใจด้านสภาพอากาศ ⛔ การบินในพื้นที่ไม่เหมาะสมอาจผิดกฎหมายและเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ https://www.slashgear.com/2047526/jetson-aircraft-no-pilots-license-needed-to-fly/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    You Don't Need A Pilot License To Fly This Jetson Aircraft (And That's Terrifying) - SlashGear
    The Jetson ONE is a $148,000 eVTOL you can fly without a pilot license. It exploits an FAA ultralight loophole by weighing just 253 lbs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด้านมืดของ Nintendo

    บทความจาก SlashGear เปิดเผยด้านมืดของ Nintendo ที่มักถูกมองว่าเป็นบริษัทเกมครอบครัว แต่เบื้องหลังมีหลายกรณีที่เป็นข้อถกเถียง เช่น การผูกขาดตลาดเกมยุค 80s, การฟ้องร้องคู่แข่ง, การโฆษณาที่แปลกและก้าวร้าวในยุค 90s, ปัญหา Joy-Con Drift ของ Switch, ไปจนถึงการจัดการที่เข้มงวดกับแฟน ๆ และนักพัฒนา.

    Nintendo: เบื้องหลังภาพลักษณ์ครอบครัว
    แม้ Nintendo จะสร้างชื่อเสียงจากเกมอมตะอย่าง Mario และ Zelda และรักษาภาพลักษณ์ครอบครัวมาตลอด แต่ในความเป็นจริงบริษัทก็มีพฤติกรรมเชิงธุรกิจที่เข้มงวดและบางครั้งก่อให้เกิดข้อถกเถียงรุนแรงในวงการเกม.

    การผูกขาดตลาดเกมยุค 80s
    หลังจากวิกฤตเกมปี 1983 Nintendo ใช้ระบบ 10NES lockout chip บังคับให้ผู้พัฒนาต้องผ่านการอนุญาตและจ่ายค่าลิขสิทธิ์ จำกัดการออกเกมเพียง 5 เกมต่อปี ส่งผลให้บริษัทครองตลาดกว่า 65% ในปี 1987 และทำให้คู่แข่งอย่าง Atari และ Sega ตกต่ำลง.

    กรณี Donkey Kong และการฟ้องร้อง
    เกม Donkey Kong ถูกพัฒนาโดยบริษัท Ikegami Tsushinki แต่ Nintendo สร้าง PCB เพิ่มโดยไม่ได้รับอนุญาต และต่อมาใช้โค้ดที่ reverse-engineer ใน Donkey Kong Jr. จนถูกฟ้องร้องเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ในปี 1983.

    โฆษณาและกลยุทธ์ก้าวร้าว
    ยุค 90s Nintendo ใช้โฆษณาแนว gross-out เช่น Super Mario World 2 ที่มีภาพผู้ชายกินจนท้องแตก รวมถึงการใช้ข้อความอ้างถึงพระเจ้าในโฆษณา N64 ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม.

    ปัญหา Joy-Con Drift และการฟ้องร้อง
    Nintendo Switch แม้จะขายได้กว่า 140 ล้านเครื่อง แต่ก็มีปัญหา Joy-Con Drift ที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวผิดพลาด จนบริษัทต้องออกมาขอโทษและเผชิญคดีฟ้องร้องแบบ class action.

    ความสัมพันธ์กับแฟน ๆ และนักพัฒนา
    Nintendo มีชื่อเสียงด้านการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวด เช่น การฟ้อง PocketPair เรื่อง Palworld ที่คล้าย Pokémon, การปิด emulator Yuzu และ Ryujinx, รวมถึงการลบวิดีโอ YouTube ของแฟน ๆ ที่ใช้เนื้อหาเกมของบริษัท.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การผูกขาดตลาดเกมยุค 80s
    ใช้ 10NES lockout chip และจำกัดการออกเกม

    กรณีละเมิดลิขสิทธิ์ Donkey Kong
    ฟ้องร้องกับ Ikegami Tsushinki

    กลยุทธ์โฆษณาและการตลาด
    โฆษณา gross-out และข้อความก้าวร้าว

    ปัญหาฮาร์ดแวร์และการฟ้องร้อง
    Joy-Con Drift และ class action lawsuits

    ความสัมพันธ์กับแฟน ๆ และนักพัฒนา
    ฟ้อง PocketPair, ปิด emulator, ลบคอนเทนต์แฟน ๆ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้งานและนักพัฒนา
    Nintendo ปกป้อง IP อย่างเข้มงวด อาจกระทบต่อแฟน ๆ และคอมมูนิตี้
    ปัญหาฮาร์ดแวร์ที่ไม่ได้รับการแก้ไขอาจสร้างความไม่พอใจต่อผู้ใช้

    https://www.slashgear.com/1725390/nintendo-shady-side-hidden-controversy-incidents-business-practice-explained/
    🎮 ด้านมืดของ Nintendo บทความจาก SlashGear เปิดเผยด้านมืดของ Nintendo ที่มักถูกมองว่าเป็นบริษัทเกมครอบครัว แต่เบื้องหลังมีหลายกรณีที่เป็นข้อถกเถียง เช่น การผูกขาดตลาดเกมยุค 80s, การฟ้องร้องคู่แข่ง, การโฆษณาที่แปลกและก้าวร้าวในยุค 90s, ปัญหา Joy-Con Drift ของ Switch, ไปจนถึงการจัดการที่เข้มงวดกับแฟน ๆ และนักพัฒนา. 🎮 Nintendo: เบื้องหลังภาพลักษณ์ครอบครัว แม้ Nintendo จะสร้างชื่อเสียงจากเกมอมตะอย่าง Mario และ Zelda และรักษาภาพลักษณ์ครอบครัวมาตลอด แต่ในความเป็นจริงบริษัทก็มีพฤติกรรมเชิงธุรกิจที่เข้มงวดและบางครั้งก่อให้เกิดข้อถกเถียงรุนแรงในวงการเกม. 🏆 การผูกขาดตลาดเกมยุค 80s หลังจากวิกฤตเกมปี 1983 Nintendo ใช้ระบบ 10NES lockout chip บังคับให้ผู้พัฒนาต้องผ่านการอนุญาตและจ่ายค่าลิขสิทธิ์ จำกัดการออกเกมเพียง 5 เกมต่อปี ส่งผลให้บริษัทครองตลาดกว่า 65% ในปี 1987 และทำให้คู่แข่งอย่าง Atari และ Sega ตกต่ำลง. 🧩 กรณี Donkey Kong และการฟ้องร้อง เกม Donkey Kong ถูกพัฒนาโดยบริษัท Ikegami Tsushinki แต่ Nintendo สร้าง PCB เพิ่มโดยไม่ได้รับอนุญาต และต่อมาใช้โค้ดที่ reverse-engineer ใน Donkey Kong Jr. จนถูกฟ้องร้องเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ในปี 1983. 📺 โฆษณาและกลยุทธ์ก้าวร้าว ยุค 90s Nintendo ใช้โฆษณาแนว gross-out เช่น Super Mario World 2 ที่มีภาพผู้ชายกินจนท้องแตก รวมถึงการใช้ข้อความอ้างถึงพระเจ้าในโฆษณา N64 ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม. 🎮 ปัญหา Joy-Con Drift และการฟ้องร้อง Nintendo Switch แม้จะขายได้กว่า 140 ล้านเครื่อง แต่ก็มีปัญหา Joy-Con Drift ที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวผิดพลาด จนบริษัทต้องออกมาขอโทษและเผชิญคดีฟ้องร้องแบบ class action. 👥 ความสัมพันธ์กับแฟน ๆ และนักพัฒนา Nintendo มีชื่อเสียงด้านการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวด เช่น การฟ้อง PocketPair เรื่อง Palworld ที่คล้าย Pokémon, การปิด emulator Yuzu และ Ryujinx, รวมถึงการลบวิดีโอ YouTube ของแฟน ๆ ที่ใช้เนื้อหาเกมของบริษัท. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การผูกขาดตลาดเกมยุค 80s ➡️ ใช้ 10NES lockout chip และจำกัดการออกเกม ✅ กรณีละเมิดลิขสิทธิ์ Donkey Kong ➡️ ฟ้องร้องกับ Ikegami Tsushinki ✅ กลยุทธ์โฆษณาและการตลาด ➡️ โฆษณา gross-out และข้อความก้าวร้าว ✅ ปัญหาฮาร์ดแวร์และการฟ้องร้อง ➡️ Joy-Con Drift และ class action lawsuits ✅ ความสัมพันธ์กับแฟน ๆ และนักพัฒนา ➡️ ฟ้อง PocketPair, ปิด emulator, ลบคอนเทนต์แฟน ๆ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้งานและนักพัฒนา ⛔ Nintendo ปกป้อง IP อย่างเข้มงวด อาจกระทบต่อแฟน ๆ และคอมมูนิตี้ ⛔ ปัญหาฮาร์ดแวร์ที่ไม่ได้รับการแก้ไขอาจสร้างความไม่พอใจต่อผู้ใช้ https://www.slashgear.com/1725390/nintendo-shady-side-hidden-controversy-incidents-business-practice-explained/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    The Shady Side Of Nintendo: Hidden Controversies & Questionable Incidents - SlashGear
    With mascots like Mario and Link, Nintendo has cultivated one of the most family-friendly reputations in gaming. But the company also has a dark side too.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • System76 เปิดตัว COSMIC Desktop รุ่นเสถียร พร้อม Pop!_OS 24.04 LTS

    บริษัท System76 ได้ประกาศเปิดตัวครั้งสำคัญ โดยปล่อย เวอร์ชันเสถียรแรกของ COSMIC Desktop ที่เขียนขึ้นใหม่ด้วยภาษา Rust พร้อมกับการออก Pop!_OS 24.04 LTS ซึ่งพัฒนาต่อยอดจาก Ubuntu 24.04 LTS และใช้ Linux Kernel 6.17 จุดมุ่งหมายคือการสร้างประสบการณ์เดสก์ท็อปที่ทันสมัย ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง

    COSMIC Desktop ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จาก GNOME โดยมุ่งเน้นการปรับปรุง workflow และ customization ให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้มากขึ้น เช่น การจัดการหน้าต่างที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม, ระบบตั้งค่าที่ชัดเจน และการทำงานที่ตอบสนองรวดเร็วขึ้นจากการใช้ Rust ซึ่งช่วยลดบั๊กด้านหน่วยความจำที่มักพบในภาษา C

    Pop!_OS 24.04 LTS ที่มาพร้อม COSMIC Desktop ยังได้รับการปรับปรุงในหลายด้าน เช่น การรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่, การอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุด และการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับผู้ใช้ที่ทำงานด้านวิศวกรรม, วิทยาศาสตร์ข้อมูล และงานสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังคงจุดแข็งด้าน Hybrid Graphics และ Tiling Window Management ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Pop!_OS

    การเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ System76 ในการสร้างระบบนิเวศ Linux ที่เป็นอิสระจาก GNOME และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดย COSMIC Desktop รุ่นเสถียรนี้คาดว่าจะเป็นก้าวสำคัญในการดึงดูดผู้ใช้ที่ต้องการเดสก์ท็อปที่ทันสมัยและปรับแต่งได้เต็มที่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปิดตัวหลัก
    COSMIC Desktop รุ่นเสถียรแรก เขียนด้วย Rust
    Pop!_OS 24.04 LTS บนฐาน Ubuntu 24.04 LTS
    ใช้ Linux Kernel 6.17

    จุดเด่นของ COSMIC Desktop
    Workflow ที่ยืดหยุ่นและปรับแต่งได้มากขึ้น
    ระบบตั้งค่าที่ชัดเจนและใช้งานง่าย
    ลดบั๊กหน่วยความจำด้วย Rust

    จุดแข็งของ Pop!_OS 24.04 LTS
    รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่และซอฟต์แวร์ล่าสุด
    Hybrid Graphics และ Tiling Window Management
    เหมาะสำหรับงานวิศวกรรม, วิทยาศาสตร์ข้อมูล และงานสร้างสรรค์

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน
    หากยังใช้ Pop!_OS รุ่นเก่า อาจพลาดฟีเจอร์ใหม่และการแก้ไขบั๊กสำคัญ
    การไม่อัปเดตอาจทำให้ระบบไม่รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่และมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

    https://9to5linux.com/system76-launches-first-stable-release-of-cosmic-desktop-and-pop_os-24-04-lts
    🌌 System76 เปิดตัว COSMIC Desktop รุ่นเสถียร พร้อม Pop!_OS 24.04 LTS บริษัท System76 ได้ประกาศเปิดตัวครั้งสำคัญ โดยปล่อย เวอร์ชันเสถียรแรกของ COSMIC Desktop ที่เขียนขึ้นใหม่ด้วยภาษา Rust พร้อมกับการออก Pop!_OS 24.04 LTS ซึ่งพัฒนาต่อยอดจาก Ubuntu 24.04 LTS และใช้ Linux Kernel 6.17 จุดมุ่งหมายคือการสร้างประสบการณ์เดสก์ท็อปที่ทันสมัย ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง COSMIC Desktop ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จาก GNOME โดยมุ่งเน้นการปรับปรุง workflow และ customization ให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้มากขึ้น เช่น การจัดการหน้าต่างที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม, ระบบตั้งค่าที่ชัดเจน และการทำงานที่ตอบสนองรวดเร็วขึ้นจากการใช้ Rust ซึ่งช่วยลดบั๊กด้านหน่วยความจำที่มักพบในภาษา C Pop!_OS 24.04 LTS ที่มาพร้อม COSMIC Desktop ยังได้รับการปรับปรุงในหลายด้าน เช่น การรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่, การอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุด และการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับผู้ใช้ที่ทำงานด้านวิศวกรรม, วิทยาศาสตร์ข้อมูล และงานสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังคงจุดแข็งด้าน Hybrid Graphics และ Tiling Window Management ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Pop!_OS การเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ System76 ในการสร้างระบบนิเวศ Linux ที่เป็นอิสระจาก GNOME และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดย COSMIC Desktop รุ่นเสถียรนี้คาดว่าจะเป็นก้าวสำคัญในการดึงดูดผู้ใช้ที่ต้องการเดสก์ท็อปที่ทันสมัยและปรับแต่งได้เต็มที่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปิดตัวหลัก ➡️ COSMIC Desktop รุ่นเสถียรแรก เขียนด้วย Rust ➡️ Pop!_OS 24.04 LTS บนฐาน Ubuntu 24.04 LTS ➡️ ใช้ Linux Kernel 6.17 ✅ จุดเด่นของ COSMIC Desktop ➡️ Workflow ที่ยืดหยุ่นและปรับแต่งได้มากขึ้น ➡️ ระบบตั้งค่าที่ชัดเจนและใช้งานง่าย ➡️ ลดบั๊กหน่วยความจำด้วย Rust ✅ จุดแข็งของ Pop!_OS 24.04 LTS ➡️ รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่และซอฟต์แวร์ล่าสุด ➡️ Hybrid Graphics และ Tiling Window Management ➡️ เหมาะสำหรับงานวิศวกรรม, วิทยาศาสตร์ข้อมูล และงานสร้างสรรค์ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน ⛔ หากยังใช้ Pop!_OS รุ่นเก่า อาจพลาดฟีเจอร์ใหม่และการแก้ไขบั๊กสำคัญ ⛔ การไม่อัปเดตอาจทำให้ระบบไม่รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่และมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย https://9to5linux.com/system76-launches-first-stable-release-of-cosmic-desktop-and-pop_os-24-04-lts
    9TO5LINUX.COM
    System76 Launches First Stable Release of COSMIC Desktop and Pop!_OS 24.04 LTS - 9to5Linux
    Pop!_OS 24.04 Linux distribution from System76 is now available for download with the first stable release of the COSMIC desktop environment.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA 580.119.02 Linux Graphics Driver ออกแล้ว พร้อมแก้บั๊กหลายรายการ

    NVIDIA ได้ปล่อย ไดรเวอร์เวอร์ชัน 580.119.02 สำหรับระบบปฏิบัติการ Linux, BSD และ Solaris โดยเป็นการอัปเดตในซีรีส์ 580 ที่มุ่งเน้นการแก้ไขบั๊กและปรับปรุงการรองรับฮาร์ดแวร์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความเสถียรในการใช้งาน

    หนึ่งในจุดเด่นของการอัปเดตครั้งนี้คือการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ LG Ultragear monitors และ Samsung Odyssey Neo G9 ซึ่งเป็นจอภาพเกมมิ่งรุ่นใหม่ที่ต้องการการรองรับพิเศษ นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขปัญหาที่พบในเกม X-Plane และแอปพลิเคชันที่ใช้ Vulkan API เพื่อให้ประสิทธิภาพการเรนเดอร์ภาพดีขึ้นและลดการเกิดบั๊กที่รบกวนผู้ใช้

    การอัปเดตนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในซีรีส์ 580 โดยก่อนหน้านี้ NVIDIA ได้เพิ่มการรองรับ YCbCr 4:2:2 Display Modes over HDMI FRL และตัวแปรสภาพแวดล้อมใหม่สำหรับการปรับแต่งการทำงานของไดรเวอร์ รวมถึงการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ Explicit Sync บน Wayland ในรุ่นก่อนหน้า

    สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเสถียรและการรองรับฮาร์ดแวร์ล่าสุด การอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 580.119.02 ถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้จอภาพเกมมิ่งรุ่นใหม่หรือแอปพลิเคชันที่ต้องการการเรนเดอร์กราฟิกขั้นสูง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การอัปเดตหลักใน NVIDIA 580.119.02
    ปรับปรุงการรองรับ LG Ultragear monitors
    ปรับปรุงการรองรับ Samsung Odyssey Neo G9
    แก้ไขบั๊กในเกม X-Plane และ Vulkan apps

    พัฒนาต่อเนื่องจากรุ่นก่อนหน้าในซีรีส์ 580
    รองรับ YCbCr 4:2:2 Display Modes over HDMI FRL
    เพิ่ม environment variable ใหม่สำหรับการปรับแต่ง
    แก้ไข Explicit Sync บน Wayland

    ผลกระทบเชิงบวก
    เพิ่มความเสถียรในการใช้งานกราฟิก
    รองรับจอภาพเกมมิ่งรุ่นใหม่ได้ดีขึ้น
    ลดบั๊กที่เกิดในเกมและแอปพลิเคชันกราฟิก

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน
    หากยังใช้เวอร์ชันเก่า อาจพบปัญหากับจอภาพใหม่และเกมที่ใช้ Vulkan
    การไม่อัปเดตอาจทำให้ประสิทธิภาพการเรนเดอร์ภาพลดลงและเกิดบั๊กซ้ำเดิม

    https://9to5linux.com/nvidia-580-119-02-linux-graphics-driver-released-with-various-bug-fixes
    🎮 NVIDIA 580.119.02 Linux Graphics Driver ออกแล้ว พร้อมแก้บั๊กหลายรายการ NVIDIA ได้ปล่อย ไดรเวอร์เวอร์ชัน 580.119.02 สำหรับระบบปฏิบัติการ Linux, BSD และ Solaris โดยเป็นการอัปเดตในซีรีส์ 580 ที่มุ่งเน้นการแก้ไขบั๊กและปรับปรุงการรองรับฮาร์ดแวร์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความเสถียรในการใช้งาน หนึ่งในจุดเด่นของการอัปเดตครั้งนี้คือการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ LG Ultragear monitors และ Samsung Odyssey Neo G9 ซึ่งเป็นจอภาพเกมมิ่งรุ่นใหม่ที่ต้องการการรองรับพิเศษ นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขปัญหาที่พบในเกม X-Plane และแอปพลิเคชันที่ใช้ Vulkan API เพื่อให้ประสิทธิภาพการเรนเดอร์ภาพดีขึ้นและลดการเกิดบั๊กที่รบกวนผู้ใช้ การอัปเดตนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในซีรีส์ 580 โดยก่อนหน้านี้ NVIDIA ได้เพิ่มการรองรับ YCbCr 4:2:2 Display Modes over HDMI FRL และตัวแปรสภาพแวดล้อมใหม่สำหรับการปรับแต่งการทำงานของไดรเวอร์ รวมถึงการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ Explicit Sync บน Wayland ในรุ่นก่อนหน้า สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเสถียรและการรองรับฮาร์ดแวร์ล่าสุด การอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 580.119.02 ถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้จอภาพเกมมิ่งรุ่นใหม่หรือแอปพลิเคชันที่ต้องการการเรนเดอร์กราฟิกขั้นสูง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การอัปเดตหลักใน NVIDIA 580.119.02 ➡️ ปรับปรุงการรองรับ LG Ultragear monitors ➡️ ปรับปรุงการรองรับ Samsung Odyssey Neo G9 ➡️ แก้ไขบั๊กในเกม X-Plane และ Vulkan apps ✅ พัฒนาต่อเนื่องจากรุ่นก่อนหน้าในซีรีส์ 580 ➡️ รองรับ YCbCr 4:2:2 Display Modes over HDMI FRL ➡️ เพิ่ม environment variable ใหม่สำหรับการปรับแต่ง ➡️ แก้ไข Explicit Sync บน Wayland ✅ ผลกระทบเชิงบวก ➡️ เพิ่มความเสถียรในการใช้งานกราฟิก ➡️ รองรับจอภาพเกมมิ่งรุ่นใหม่ได้ดีขึ้น ➡️ ลดบั๊กที่เกิดในเกมและแอปพลิเคชันกราฟิก ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน ⛔ หากยังใช้เวอร์ชันเก่า อาจพบปัญหากับจอภาพใหม่และเกมที่ใช้ Vulkan ⛔ การไม่อัปเดตอาจทำให้ประสิทธิภาพการเรนเดอร์ภาพลดลงและเกิดบั๊กซ้ำเดิม https://9to5linux.com/nvidia-580-119-02-linux-graphics-driver-released-with-various-bug-fixes
    9TO5LINUX.COM
    NVIDIA 580.119.02 Linux Graphics Driver Released with Various Bug Fixes - 9to5Linux
    NVIDIA 580.119.02 graphics driver is now available for download for Linux, FreeBSD, and Solaris systems with various bug fixes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts