• ไทยคือจุดยุทธศาสตร์! บทความต่างชาติชี้ชัดเหตุปะทะชายแดน สะท้อนความสำคัญของไทยต่อยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก
    https://www.thai-tai.tv/news/21304/
    .
    #ไทยไท #การเมือง #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ #สหรัฐอเมริกา #กัมพูชา #จีน #ข่าววันนี้
    ไทยคือจุดยุทธศาสตร์! บทความต่างชาติชี้ชัดเหตุปะทะชายแดน สะท้อนความสำคัญของไทยต่อยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก https://www.thai-tai.tv/news/21304/ . #ไทยไท #การเมือง #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ #สหรัฐอเมริกา #กัมพูชา #จีน #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุทธการกบกระโดด ตอนที่ 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    บทสรุป
    อันที่จริงเราแทบไม่ต้องรอดูเลยว่า National Security Strategy ของอเมริกา ประจำปี ค.ศ. 2014 จะบอกว่าอย่างไร และอเมริกาจะเลือก การบริหารจัดการกับฐานทัพของตน ที่สร้างไว้ทั่วโลกอย่างไร
    กระบวนยุทธของอเมริกาในช่วง 2-3 ปีนี้ มันฟ้องออกมาแล้วว่าอเมริกาไม่มีวันเลิก
สันดานนักล่า และเมื่อคิดว่าตัวเองเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง จะกระเป๋าขาดแค่ไหน ก็ไม่ต้องสนใจ เพราะอเมริกาสามารถแต่งเรื่อง พิมพ์เงินกระดาษออกมาได้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว
แต่ที่จะปล่อยให้มีนักล่าหน้าใหม่ ขึ้นมาชิงตำแหน่งหมายเลขหนึ่งนั้น เป็นเรื่องยอมกันไม่ได้ นอกจากนั้น ในทศวรรษนี้ อเมริกาต้องตามล่าหาน้ำมันและก๊าซ เพื่อสนองความต้องการของตนเอง และที่สำคัญกว่านั้น เพื่อชิงไม่ให้ใครได้ไป เพราะน้ำมันเป็นอาวุธเลี้ยงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและกองทัพของทุกประเทศ
และอเมริกาไม่มีทางปล่อยให้จีนโตไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่ว่าทางเศรษฐกิจหรือทางกองทัพ
    เพราะฉะนั้นการย้ายฐานทัพ ไม่ว่าใหญ่ไม่ว่าเล็ก โดยเฉพาะฐานทัพใบบัวกบกระโดดมาทาง AsiaPacific นี้ คือการล้อมกรอบจีน (containment) ทางทะเลอย่างสมบูรณ์แบบ
    นอกจากนี้ทะเลจีนใต้ มีความสำคัญกับอเมริกาไม่ต่างกับจีน ฝ่ายใดคุมทะเลจีนใต้ ฝ่ายนั้นก็ได้เปรียบ
    – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางสัญจรทางทะเลที่คับคั่งอันดับ 2 ของโลก
    – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมัน 1 ใน 3 ของโลก และขนส่งก๊าซครึ่งหนึ่งของโลก
การขนส่งผ่านมาทางช่องแคบมะละกา และอ่าวไทย ภายหลังวิกฤติ Fukushima ที่ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นต้องสั่งก๊าซเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ขนส่งมาตามเส้นทางนี้ อเมริกาจะปล่อยให้ญี่ปุ่นเสี่ยงกับการ black out ทั้งเกาะไหวไหม ?
    – ความขัดแย้งเกี่ยวกับสิทธิ บนพื้นที่เกาะบริเวณทะเลจีนใต้กำลังเข้มข้นระหว่างจีนกับ
เหล่าลูกหาบของอเมริกา สิทธิบนพื้นที่ยอมโยงกับทรัพยากรใต้พื้นที่ อเมริกาจะยืนดูลูกหาบทำสงครามแย่งชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ โดยไม่เข้าไปกำกับการแสดงหรือ ผิดสันดานไปหน่อย
    – ทะเลจีนใต้เป็นแหล่งทรัพยากรน้ำมันและก๊าซที่อุดมสมบูรณ์มากมาก ตามรายงานของ
IEA (US Energy Information Administration)
    – จีนเพิ่งประกาศ Air Defense Identification Zone (ADIZ) เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ.2013 นี่เอง โดยไม่บอกกล่าวเล่าสิบแก่ใคร สำหรับจีนการประกาศ ADIZ นี้เป็นครั้งแรก แต่สำหรับอเมริกาทำมาแล้ว ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาบอกว่า จีนกำลังขยายสิทธิในอาณาเขตของตัวเองออกไป เพื่อยื่นขาไปเตะญี่ปุ่นให้ออกไปจากหมู่เกาะ ที่ญี่ปุ่นเรียก Senkakuแต่จีนเรียก Diaoyu
    การประกาศ ADIZ ของจีน ทำให้นักล่ากำลังสะอึก นึกไม่ถึง สั่งให้สมุนออกมา
ช่วยกันประนามจีน ว่ากำลังทำเกิน โดยไม่ปรึกษาหรือขออนุญาตใคร แต่จีนก็ทำ แล้วถามว่าต้องถามใคร ? กำลังเป็นเรื่องที่น่าติดตามปฎิกิริยาของนักล่าและลูกหาบและสมุน
    ส่วนสมันน้อยมีทางเลือกอะไร เซ็นสัญญาเสียอธิปไตยในส่วนนี้ไปแล้ว ตั้งแต่ปีมะโว้ ควร
จะมีการเจรจาแก้ไขกันมานานแล้ว แต่ดูเหมือนฝ่ายรัฐบาล และทหารหาญทั้งหลาย คงยืนโก้งโค้งมอง ถึงได้เห็นผลลัพท์กลับหัวกลับหาง ไม่มีใครเจรจาแก้ไข ปล่อยมาถึงทุกวันนี้ วันที่สนามประลองเขี้ยวนักล่ากำลังฝุ่นตลบ ไหน ๆ ก็จะปฎิรูปประเทศแล้ว มวลมหาประชาชนก็ลองศึกษาเรื่องนี้ดูกันบ้าง จะแก้ไข หรือปล่อยคาไว้อีก 50 ปี!
    ขอจบด้วยการเล่าเรื่องฐานทัพอเมริกาที่ Okinawa ดูผ่าน ๆ เหมือนจะไม่เกี่ยวกับ สมันน้อย แต่มันอาจจะเกี่ยว และน่าสนใจ อยากเล่าครับ
    ญี่ปุ่นที่เคยอยู่แต่ในโอวาทของอเมริกา เกิดมีปัญหาขัดใจ เรื่องฐานทัอากาศ
Futenma ที่ตั้งอยู่ที่เกาะ Okinawa
ปี ค.ศ. 1995 ทหารอเมริกัน 3 คน ไปลักพาเด็กนักเรียนหญิงชาวญี่ปุ่น
อายุสิบสอง ไปรุมข่มขืนและทิ้งให้เด็กหญิงนอนอยู่ข้างถนน แล้วทหาร 3 คน ก็หนีกลับเข้าฐานทัพ
ชาวญี่ปุ่นประท้วงอยู่นาน กว่ากองทัพอเมริกาจะยอมดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิด
แม้จะได้ตัวคนทำความผิดมาแล้ว ตอนแรกอเมริกาก็คิดจะนำกลับไปดำเนินคดีในบ้านตัวเอง เพราะมีข้อตกลงในเรื่องนี้กันไว้แล้วกับญี่ปุ่น (เช่นเดียวกับที่อเมริกาเคยทำสัญญากับราชอาณาจักรไทยสมัยสงครามเวียตนาม ทำให้เราเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต) แต่ชาวญี่ปุ่นไม่ยอม ทั้งประนามและประท้วงอย่างรุนแรง ให้มีการดำเนินคดีที่ญี่ปุ่น และยื่นคำขาดให้อเมริกาย้ายฐานทัพออกไปจากเกาะ Okinawa
    ทั้งอเมริกาและรัฐบาลญี่ปุ่นถ่วงการเจรจาอยู่ 17 ปี เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นมองในแง่เศรษฐกิจว่า การมีฐานทัพอยู่ในบริเวณนั้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่ญี่ปุ่น และที่สำคัญภายใต้สัญญา Treaty of Mutual Cooperation ที่ญี่ปุ่นทำไว้กับอเมริกา (ประเภทสัญญาทาสเหมือนกัน !)
ถ้ามีการย้ายฐานทัพอเมริกาออกไปจาก Okinawa ซึ่งเป็นบริเวณที่อเมริกาเจาะจงเลือก เนื่องจากอยู่ใกล้กับจีนและเกาหลีเหนือที่สุด ญี่ปุ่นจะต้องช่วยออกค่าใช้จ่ายบางส่วนในการย้ายฐานทัพ ให้แก่อเมริกา (ไม่ใช่ย้ายทิ้ง แค่ย้ายที่ยังต้องจ่าย มันโหดจริง ๆ)
ปี ค.ศ. 2006 อเมริกากับญี่ปุ่นได้ข้อตกลงเบื้องต้นว่าจะปิดฐานทัพนี้ และย้ายไปอยู่ทางเหนือของเกาะแทน แล้วเรื่องก็ค้างคา (อย่างจงใจจากรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย)
    ล่าสุด เพิ่งมาตกลงกันได้ เมื่อปลายปี ค.ศ. 2013 โดยญี่ปุ่นจะต้องจ่ายเงินมหาศาลให้แก่อเมริกาเป็นค่าย้าย โดยปี ค.ศ. 2014 ต้องจ่ายเงินประมาณ 3.2 พันล้านเหรียญ หลังจากนั้นจ่ายเป็นรายปี อีกปีละ 2.85 พันล้านเหรียญ จนถึงปี ค.ศ. 2021 ญี่ปุ่นซึ่งกำลังกรอบจากเศรษฐกิจและวิกฤติ Fukushima จะมีปัญญาจ่ายไหม ?
    นอกจากนี้ ตามข้อตกลงใหม่ ฐานใหม่จะไปสร้างที่อ่าว Nago ทางเหนือของ Okinawa
ขณะเดียวกัน นายกเทศมนตรีของ Nago ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาในตำแหน่ง เมื่อเดือนมกรานี้เอง หลังจากประกาศตอนหาเสียงว่า จะทำทุกอย่างไม่ให้อเมริกามาตั้งฐานทัพที่ Nago
ข่าวนี้ทำให้ทั้งวอชิงตันและนายกรัฐมนตรี Abe ออกมาโต้ นายกเทศมนตรีหมาด ๆ ว่าเป็นแค่นายกฯ เมืองเล็ก ๆ จะทะลึ่งมาล้มแผนย้ายฐานทัพได้อย่างไร นายกเล็ก บอกว่าล้มแผนได้หรือไม่ ไม่รู้ แต่นายกเล็ก มีสิทธิ สั่งห้ามการใช้ถนนและสาธารณูปโภคทั้งปวงของเมือง Nago ได้
    เป็นการต่อต้านการสร้างฐานทัพ ที่น่าสนใจครับ และน่าสนใจว่าการย้ายฐานทัพจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ? ! ?
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
13 กพ 57
    ยุทธการกบกระโดด ตอนที่ 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” บทสรุป อันที่จริงเราแทบไม่ต้องรอดูเลยว่า National Security Strategy ของอเมริกา ประจำปี ค.ศ. 2014 จะบอกว่าอย่างไร และอเมริกาจะเลือก การบริหารจัดการกับฐานทัพของตน ที่สร้างไว้ทั่วโลกอย่างไร กระบวนยุทธของอเมริกาในช่วง 2-3 ปีนี้ มันฟ้องออกมาแล้วว่าอเมริกาไม่มีวันเลิก
สันดานนักล่า และเมื่อคิดว่าตัวเองเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง จะกระเป๋าขาดแค่ไหน ก็ไม่ต้องสนใจ เพราะอเมริกาสามารถแต่งเรื่อง พิมพ์เงินกระดาษออกมาได้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว
แต่ที่จะปล่อยให้มีนักล่าหน้าใหม่ ขึ้นมาชิงตำแหน่งหมายเลขหนึ่งนั้น เป็นเรื่องยอมกันไม่ได้ นอกจากนั้น ในทศวรรษนี้ อเมริกาต้องตามล่าหาน้ำมันและก๊าซ เพื่อสนองความต้องการของตนเอง และที่สำคัญกว่านั้น เพื่อชิงไม่ให้ใครได้ไป เพราะน้ำมันเป็นอาวุธเลี้ยงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและกองทัพของทุกประเทศ
และอเมริกาไม่มีทางปล่อยให้จีนโตไปกว่านี้อีกแล้ว ไม่ว่าทางเศรษฐกิจหรือทางกองทัพ เพราะฉะนั้นการย้ายฐานทัพ ไม่ว่าใหญ่ไม่ว่าเล็ก โดยเฉพาะฐานทัพใบบัวกบกระโดดมาทาง AsiaPacific นี้ คือการล้อมกรอบจีน (containment) ทางทะเลอย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ทะเลจีนใต้ มีความสำคัญกับอเมริกาไม่ต่างกับจีน ฝ่ายใดคุมทะเลจีนใต้ ฝ่ายนั้นก็ได้เปรียบ – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางสัญจรทางทะเลที่คับคั่งอันดับ 2 ของโลก – ทะเลจีนใต้ เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมัน 1 ใน 3 ของโลก และขนส่งก๊าซครึ่งหนึ่งของโลก
การขนส่งผ่านมาทางช่องแคบมะละกา และอ่าวไทย ภายหลังวิกฤติ Fukushima ที่ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นต้องสั่งก๊าซเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ขนส่งมาตามเส้นทางนี้ อเมริกาจะปล่อยให้ญี่ปุ่นเสี่ยงกับการ black out ทั้งเกาะไหวไหม ? – ความขัดแย้งเกี่ยวกับสิทธิ บนพื้นที่เกาะบริเวณทะเลจีนใต้กำลังเข้มข้นระหว่างจีนกับ
เหล่าลูกหาบของอเมริกา สิทธิบนพื้นที่ยอมโยงกับทรัพยากรใต้พื้นที่ อเมริกาจะยืนดูลูกหาบทำสงครามแย่งชิ้นเนื้อก้อนใหญ่ โดยไม่เข้าไปกำกับการแสดงหรือ ผิดสันดานไปหน่อย – ทะเลจีนใต้เป็นแหล่งทรัพยากรน้ำมันและก๊าซที่อุดมสมบูรณ์มากมาก ตามรายงานของ
IEA (US Energy Information Administration) – จีนเพิ่งประกาศ Air Defense Identification Zone (ADIZ) เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ.2013 นี่เอง โดยไม่บอกกล่าวเล่าสิบแก่ใคร สำหรับจีนการประกาศ ADIZ นี้เป็นครั้งแรก แต่สำหรับอเมริกาทำมาแล้ว ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาบอกว่า จีนกำลังขยายสิทธิในอาณาเขตของตัวเองออกไป เพื่อยื่นขาไปเตะญี่ปุ่นให้ออกไปจากหมู่เกาะ ที่ญี่ปุ่นเรียก Senkakuแต่จีนเรียก Diaoyu การประกาศ ADIZ ของจีน ทำให้นักล่ากำลังสะอึก นึกไม่ถึง สั่งให้สมุนออกมา
ช่วยกันประนามจีน ว่ากำลังทำเกิน โดยไม่ปรึกษาหรือขออนุญาตใคร แต่จีนก็ทำ แล้วถามว่าต้องถามใคร ? กำลังเป็นเรื่องที่น่าติดตามปฎิกิริยาของนักล่าและลูกหาบและสมุน ส่วนสมันน้อยมีทางเลือกอะไร เซ็นสัญญาเสียอธิปไตยในส่วนนี้ไปแล้ว ตั้งแต่ปีมะโว้ ควร
จะมีการเจรจาแก้ไขกันมานานแล้ว แต่ดูเหมือนฝ่ายรัฐบาล และทหารหาญทั้งหลาย คงยืนโก้งโค้งมอง ถึงได้เห็นผลลัพท์กลับหัวกลับหาง ไม่มีใครเจรจาแก้ไข ปล่อยมาถึงทุกวันนี้ วันที่สนามประลองเขี้ยวนักล่ากำลังฝุ่นตลบ ไหน ๆ ก็จะปฎิรูปประเทศแล้ว มวลมหาประชาชนก็ลองศึกษาเรื่องนี้ดูกันบ้าง จะแก้ไข หรือปล่อยคาไว้อีก 50 ปี! ขอจบด้วยการเล่าเรื่องฐานทัพอเมริกาที่ Okinawa ดูผ่าน ๆ เหมือนจะไม่เกี่ยวกับ สมันน้อย แต่มันอาจจะเกี่ยว และน่าสนใจ อยากเล่าครับ ญี่ปุ่นที่เคยอยู่แต่ในโอวาทของอเมริกา เกิดมีปัญหาขัดใจ เรื่องฐานทัอากาศ
Futenma ที่ตั้งอยู่ที่เกาะ Okinawa
ปี ค.ศ. 1995 ทหารอเมริกัน 3 คน ไปลักพาเด็กนักเรียนหญิงชาวญี่ปุ่น
อายุสิบสอง ไปรุมข่มขืนและทิ้งให้เด็กหญิงนอนอยู่ข้างถนน แล้วทหาร 3 คน ก็หนีกลับเข้าฐานทัพ
ชาวญี่ปุ่นประท้วงอยู่นาน กว่ากองทัพอเมริกาจะยอมดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิด
แม้จะได้ตัวคนทำความผิดมาแล้ว ตอนแรกอเมริกาก็คิดจะนำกลับไปดำเนินคดีในบ้านตัวเอง เพราะมีข้อตกลงในเรื่องนี้กันไว้แล้วกับญี่ปุ่น (เช่นเดียวกับที่อเมริกาเคยทำสัญญากับราชอาณาจักรไทยสมัยสงครามเวียตนาม ทำให้เราเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต) แต่ชาวญี่ปุ่นไม่ยอม ทั้งประนามและประท้วงอย่างรุนแรง ให้มีการดำเนินคดีที่ญี่ปุ่น และยื่นคำขาดให้อเมริกาย้ายฐานทัพออกไปจากเกาะ Okinawa ทั้งอเมริกาและรัฐบาลญี่ปุ่นถ่วงการเจรจาอยู่ 17 ปี เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นมองในแง่เศรษฐกิจว่า การมีฐานทัพอยู่ในบริเวณนั้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่ญี่ปุ่น และที่สำคัญภายใต้สัญญา Treaty of Mutual Cooperation ที่ญี่ปุ่นทำไว้กับอเมริกา (ประเภทสัญญาทาสเหมือนกัน !)
ถ้ามีการย้ายฐานทัพอเมริกาออกไปจาก Okinawa ซึ่งเป็นบริเวณที่อเมริกาเจาะจงเลือก เนื่องจากอยู่ใกล้กับจีนและเกาหลีเหนือที่สุด ญี่ปุ่นจะต้องช่วยออกค่าใช้จ่ายบางส่วนในการย้ายฐานทัพ ให้แก่อเมริกา (ไม่ใช่ย้ายทิ้ง แค่ย้ายที่ยังต้องจ่าย มันโหดจริง ๆ)
ปี ค.ศ. 2006 อเมริกากับญี่ปุ่นได้ข้อตกลงเบื้องต้นว่าจะปิดฐานทัพนี้ และย้ายไปอยู่ทางเหนือของเกาะแทน แล้วเรื่องก็ค้างคา (อย่างจงใจจากรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย) ล่าสุด เพิ่งมาตกลงกันได้ เมื่อปลายปี ค.ศ. 2013 โดยญี่ปุ่นจะต้องจ่ายเงินมหาศาลให้แก่อเมริกาเป็นค่าย้าย โดยปี ค.ศ. 2014 ต้องจ่ายเงินประมาณ 3.2 พันล้านเหรียญ หลังจากนั้นจ่ายเป็นรายปี อีกปีละ 2.85 พันล้านเหรียญ จนถึงปี ค.ศ. 2021 ญี่ปุ่นซึ่งกำลังกรอบจากเศรษฐกิจและวิกฤติ Fukushima จะมีปัญญาจ่ายไหม ? นอกจากนี้ ตามข้อตกลงใหม่ ฐานใหม่จะไปสร้างที่อ่าว Nago ทางเหนือของ Okinawa
ขณะเดียวกัน นายกเทศมนตรีของ Nago ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาในตำแหน่ง เมื่อเดือนมกรานี้เอง หลังจากประกาศตอนหาเสียงว่า จะทำทุกอย่างไม่ให้อเมริกามาตั้งฐานทัพที่ Nago
ข่าวนี้ทำให้ทั้งวอชิงตันและนายกรัฐมนตรี Abe ออกมาโต้ นายกเทศมนตรีหมาด ๆ ว่าเป็นแค่นายกฯ เมืองเล็ก ๆ จะทะลึ่งมาล้มแผนย้ายฐานทัพได้อย่างไร นายกเล็ก บอกว่าล้มแผนได้หรือไม่ ไม่รู้ แต่นายกเล็ก มีสิทธิ สั่งห้ามการใช้ถนนและสาธารณูปโภคทั้งปวงของเมือง Nago ได้ เป็นการต่อต้านการสร้างฐานทัพ ที่น่าสนใจครับ และน่าสนใจว่าการย้ายฐานทัพจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ? ! ? สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
13 กพ 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    ตอนที่ 5
    อเมริกาสมเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง สิงห์โตซุ่มจริง ๆ ขณะที่หน้าฉากยังไม่ชัดเจน ว่าจะ
เล่นเรื่องอะไร มีข่าวหลุดออกมาจาก Pentagon เมื่อ ค.ศ. 2012 ว่าอเมริกามีแผนจะปรับโฉมหน้าของฐานทัพ ที่มีอยู่ต่างประเทศเสียใหม่ เรียกว่าทำ face lift อัพหน้ากันใหม่ ตามยุทธการ “กบกระโดด” เพราะการมีฐานทัพกระจายทั่วโลก เป็นปัญหาทั้งด้านกระเป๋าที่ยังรั่วอยู่ และเป็นเป้าสายตาของชาวโลก ขยับตัวทีเขารู้แผนกันหมดทั้งคู่หู คู่แข่ง
สมัยนายบุชตัวลูก ก็ปวดขมอง คิดจะปิดฐานทัพไปสัก 1 ใน 3 แต่ตัดสินใจไม่ขาด จะเปิดอันไหน ปิดอันไหน คิดยังไม่ทันตก ดันหมดเทอมซะก่อน
มาถึงนายโอบามา ปัญหานี้จะทู่ซี้ต่อไป อาจจะไม่ได้ไปนั่งเท่ในทำเนียบขาว หรือถ้าได้นั่ง ก็อยู่ไม่ยาว ตอนหาเสียงเลยเล่นมุก ท่องมันไปทุกเวที Change Change Change
    เอาเข้าจริง เป็นพี่เบิ้มนักล่าถ้าเก็บเครื่องมือล่าทิ้งลงถังขยะ แล้วจะไปล่าเหยื่อได้ยังไง แบบนี้ เพื่อนซี้ เพื่อนกิน ลูกหาบก็หลบหน้า ลี้กายหายไปหมด เลยต้องเรียกเด็ก ๆ
เฮ้ย ! มาทำการบ้านใหม่โว้ย !
ตกลงนักล่ามันเปลี่ยนสันดานไหม มัน Change ไหม ?
    กบกระโดดครับนาย กบกระโดดคือคำตอบ กบจะกระโดดในสระกว้างต้องมีใบบัวรองรับ
สระกว้างใหญ่ มีใบบัวเต็มไปหมด คนมองก็ไม่รู้สึกแปลก
แต่ถ้าดันสร้างเป็น swimming pool ขนาดโอลิมปิก กบจะกระโดดไหวหรือ กลายเป็นกบพุ่งหลาวจมไม่โผล่ละซิ ส่วนที่คิดจะเอาใบบัวไปลอย ใน swimming pool น่ะ แบบนั้น มันฉากละครทีวีช่องคุณหญิงคุณชายนะ Hollywood เขาไม่ทำกัน
มันต้องทำให้เนียน ๆ
    เพราะฉะนั้นเอาฐานทัพเก่า ๆ มาดัดแปลงเสียใหม่ ไม่ให้คนสังเกต หรือแถบไหน (ของ
ประเทศคนอื่น) ที่มันเล็ก ๆ ไม่เด่นก็ไปแอบสร้าง เอาให้มันกลมกลืนกับธรรมชาติ แต่แฝงด้วยอาวุธทันสมัยติดไว้ให้เพียบ แบบนี้ก็เรียบร้อย นักล่าบอกน่าสนใจ (มาก)
    เอะ ! แล้วนี่ ที่นักล่าเขาหลอกให้เราเฝ้าแต่อู่ตะเภา แล้วถ้าเขาไปสร้างใบบัวให้กบมัน
กระโดดแถวชุมพร นี่สมันน้อยจะรู้ไหมนะ ! ?
    ด้วยยุทธศาสตร์กบกระโดดบนใบบัว อเมริกาสามารถสร้างฐานทัพให้ กระจายแบบโรยไว้ทั่ว (peppering) บริเวณ Asia Pacific ถ้าอเมริกาทำได้จริง มันก็ไม่ต่างกับการควบคุมจีนทางอ้อม (containment) และก็เหมือนเป็นการเอาฉากสงครามเย็น สมัยที่อเมริกาจัดการกับสหภาพโซเวียตมาเล่นใหม่ !
    ลองคิดดูช่วง 2-3 ปีนี้ อเมริกาเดินแผนอย่างไร กับทุกประเทศในภูมิภาคนี้ ไม่มีหลุด
สักเม็ด เค้าของสงครามโลกครั้งที่ 3 พอมองได้เห็นลาง ๆ
    – ออสเตรเลีย : อเมริกา เจรจาที่จะร่วมใช้ฐานทัพที่ Darwin และกำลังเริ่มแผนใช้
drone (เครื่องบินประเภทไร้คนขับ บังคับด้วยเรดาร์) โดยใช้ฐานทัพของออสเตรเลียที่เกาะ Cocos เป็นฐานพัก รวมทั้งการจัดกองกำลังเตรียมพร้อมไว้ แถว Brisbane และ Perth ด้วย
    – ราชอาณาจักรไทย : แน่นอนจะใช้อู่ตะเภา หรือสร้างใบบัวให้กบกระโดดที่ชุมพร หรือ
ที่ไหนอีก ตามสัญญาผูกคอทาส ทำได้สารพัด
    – ฟิลิปปินส์ : ตกลงไปแล้วให้อเมริกาฟื้นสนามบิน Clark และฐานทัพเรือ Subic Bay ที่ปิดไปชั่วคราวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 กว่า ๆ (แต่หลังจากปี ค.ศ. 2002 ก็ยอมให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษของอเมริกาเข้ามาใช้ใหม่บางกรณี !)
    – เวียตนาม : ทำสัญญาตกลงให้อเมริกาเพิ่มกองเรือ เข้าไปใช้ท่าเรือของเวียตนาม และ
จะขยายท่าเรือ เพื่อให้เฉพาะกองทัพเรืออเมริกาจอด
    – เกาะกวม : อเมริกาเตรียมสร้าง runway เพิ่มที่เกาะ Tinian ใกล้กับเกาะกวม และเตรียมสร้างฐานทัพ และ runwayสำหรับเครื่องบินลง ที่เกาะไซปัน (Saipan) ที่ห่างจากเกาะกวมไปประมาณ190 กม. เพื่อเป็นฐานทัพรองรับ หากกวมโดนโจมตี
    – มาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไน : อเมริกาเจรจาที่จะสร้างฐานทัพเพิ่ม
    – เกาหลีใต้ : ตกลงกับอเมริกาที่จะสร้างฐานทัพเพิ่ม ให้อเมริกาใช้ที่เกาะ Jeju
    – อินเดีย : อเมริกาทำข้อตกลงเพิ่มความร่วมมือทางการทหารไปแล้ว
    นี่ยังไม่ได้นับฐานทัพอีกประมาณ 200 แห่ง ที่อเมริกามีกระจายอยู่ แล้วที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เกาะกวม Diego Garcia และฮาวาย ถ้าใบบัวงอกทั้งหมดนี้ อาเฮียแทบไม่มีทางออกทะเล ต้องใช้บินอย่างเดียว (ฮา !)
    ยุทธศาสตร์กบกระโดด บนใบบัวนี้ แสดงให้เห็นว่าลึก ๆ อเมริกาคิดอะไรอยู่ เป็นแผนล่า
เหยื่อของนักล่าตัวจริง ในเมื่อการสร้างฐานทัพใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ นอกจากราคาแพงแล้ว ยังเป็นทั้งเป้าสายตาและเป้าอาวุธ แต่ถ้าแอบสร้างฐานเล็ก ๆ แบบใบบัว ให้กบกระโดด หลาย ๆแห่ง ทำได้เร็ว และไม่สร้างความอึกทึกให้โลกและเจ้าของบ้าน (ที่นักล่าหลอกไว้) ให้รู้ตัว นักยุทธศาสตร์การรบบอกว่า ฐานทัพรุ่นใบบัวนี้ ถ้าติดเครื่องมือทันสมัยให้เพียบ ใช้ควบคู่กับหน่วยรบพิเศษ (special operation forces) กบรุ่นใหม่เคลื่อนที่เร็ว แบบกบมหัศจรรย์ กับการใช้ droneสอดแนมและข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพ (อย่าลืมว่าหน่วยปฎิบัติการในภาวะภัยพิบัตินั้น เป็นงาน
พรางตัวที่ดีที่สุด ของกองทัพในการทำงานข่าวกรอง) ร่วมกับการปฎิบัติทางโลก Cyber และมีการร่วมมือระหว่างกองทัพ กับหน่วยงานพลเรือนอย่างดี คุณสามารถทำการปฎิวัติ หรือบุกยึดเมืองใด หรือทำการรบในยุทธภูมิใดก็ได้ผลเกินคาด รวดเร็วกว่าการใช้กองทัพใหญ่ ๆ ที่เคลื่อนตัวอย่างอุ้ยอ้าย มันหมดสมัยแล้ว !
    อเมริกาปรับปรุงฐานทัพจากการขยายหรือสร้างฐานทัพใหญ่ เป็นเตรียมการสร้างฐานทัพรูปแบบใบบัว (Lily Pad) เพื่อให้กบกระโดไทั่ว แค่นั้นยังไม่พอ เพื่อให้การล่าเหยื่อเบ็ดเสร็จสมใจ อเมริกา จึงปรับปรุงการกระโดดของกบด้วย โดยแบ่งซอยกองกำลังออกมาเรียกว่า หน่วยปฎิบัติการพิเศษ
(เหมือนชายชุดดำนะครับ เอ๊ะ ! หน่วยเดียวกันหรือเปล่า ?!) Special Operation Forces (SOF)
(หรือมันเอาอย่างกัน หวังว่าไม่ถึงขนาดฝึกให้กันเลยนะ !)
    SOF นี้ เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1980 เมื่อเจ้าหน้าที่สถานฑูตอเมริกาถูกจับเป็นตัวประกันที่อิหร่าน (ก็ผลงานของนักล่าเอง !) ทำให้ตัวประกันตายไป 8 คน
อเมริกาแค้นจัด ตั้งหน่วย Special Operation Command (SOCOM) ขึ้นมา
โดยคัดหัวกะทิมาจากหน่วย Seals, Rangers, Special Operation Aviators และ Green Beret มาฝึกหนัก จริง ๆ ก็คือฝึกเป็น Rambo เหมือนในหนังน่ะ
พวก SOF นี้ ถูกใช้ให้ไปปฎิบัติการลับ ในที่ต่าง ๆ ที่เป็นความลับ
มีรายงานว่าน่าจะมี SOF ประมาณกว่า 70,000 คนในปี ค.ศ. 2014 กระจายอยู่ทั่วโลก ปฎิบัติการอยู่ในต่างประเทศ ประมาณ 70-80 ประเทศ เช่น ลิเบีย โซมาเลีย อาฟกานิสถาน ปากีสถาน หลายประเทศในอาหรับ
และลาตินอเมริกา และเอเซีย และยุโรป ฯลฯ
    สรุปแล้ว การจัดการให้มีฐานทัพแบบใบบัว (Lily Pad) และ กองกำลังแบบ SOF ตามยุทธการกบกระโดด อยู่ในบ้านเมืองใคร อเมริกาบอกว่า มันก็เหมือนเราไปอยู่ในบ้านนั้น (ยึด!) เรียบร้อยแล้วล่ะ (de facto presence) ดังนั้นเราจะต้องให้มี ฐานทัพใบบัวนี้ให้มากที่สุดให้ได้ (lots and lots of Lily pad bases!)

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” ตอนที่ 5 อเมริกาสมเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง สิงห์โตซุ่มจริง ๆ ขณะที่หน้าฉากยังไม่ชัดเจน ว่าจะ
เล่นเรื่องอะไร มีข่าวหลุดออกมาจาก Pentagon เมื่อ ค.ศ. 2012 ว่าอเมริกามีแผนจะปรับโฉมหน้าของฐานทัพ ที่มีอยู่ต่างประเทศเสียใหม่ เรียกว่าทำ face lift อัพหน้ากันใหม่ ตามยุทธการ “กบกระโดด” เพราะการมีฐานทัพกระจายทั่วโลก เป็นปัญหาทั้งด้านกระเป๋าที่ยังรั่วอยู่ และเป็นเป้าสายตาของชาวโลก ขยับตัวทีเขารู้แผนกันหมดทั้งคู่หู คู่แข่ง
สมัยนายบุชตัวลูก ก็ปวดขมอง คิดจะปิดฐานทัพไปสัก 1 ใน 3 แต่ตัดสินใจไม่ขาด จะเปิดอันไหน ปิดอันไหน คิดยังไม่ทันตก ดันหมดเทอมซะก่อน
มาถึงนายโอบามา ปัญหานี้จะทู่ซี้ต่อไป อาจจะไม่ได้ไปนั่งเท่ในทำเนียบขาว หรือถ้าได้นั่ง ก็อยู่ไม่ยาว ตอนหาเสียงเลยเล่นมุก ท่องมันไปทุกเวที Change Change Change เอาเข้าจริง เป็นพี่เบิ้มนักล่าถ้าเก็บเครื่องมือล่าทิ้งลงถังขยะ แล้วจะไปล่าเหยื่อได้ยังไง แบบนี้ เพื่อนซี้ เพื่อนกิน ลูกหาบก็หลบหน้า ลี้กายหายไปหมด เลยต้องเรียกเด็ก ๆ
เฮ้ย ! มาทำการบ้านใหม่โว้ย !
ตกลงนักล่ามันเปลี่ยนสันดานไหม มัน Change ไหม ? กบกระโดดครับนาย กบกระโดดคือคำตอบ กบจะกระโดดในสระกว้างต้องมีใบบัวรองรับ
สระกว้างใหญ่ มีใบบัวเต็มไปหมด คนมองก็ไม่รู้สึกแปลก
แต่ถ้าดันสร้างเป็น swimming pool ขนาดโอลิมปิก กบจะกระโดดไหวหรือ กลายเป็นกบพุ่งหลาวจมไม่โผล่ละซิ ส่วนที่คิดจะเอาใบบัวไปลอย ใน swimming pool น่ะ แบบนั้น มันฉากละครทีวีช่องคุณหญิงคุณชายนะ Hollywood เขาไม่ทำกัน
มันต้องทำให้เนียน ๆ เพราะฉะนั้นเอาฐานทัพเก่า ๆ มาดัดแปลงเสียใหม่ ไม่ให้คนสังเกต หรือแถบไหน (ของ
ประเทศคนอื่น) ที่มันเล็ก ๆ ไม่เด่นก็ไปแอบสร้าง เอาให้มันกลมกลืนกับธรรมชาติ แต่แฝงด้วยอาวุธทันสมัยติดไว้ให้เพียบ แบบนี้ก็เรียบร้อย นักล่าบอกน่าสนใจ (มาก) เอะ ! แล้วนี่ ที่นักล่าเขาหลอกให้เราเฝ้าแต่อู่ตะเภา แล้วถ้าเขาไปสร้างใบบัวให้กบมัน
กระโดดแถวชุมพร นี่สมันน้อยจะรู้ไหมนะ ! ? ด้วยยุทธศาสตร์กบกระโดดบนใบบัว อเมริกาสามารถสร้างฐานทัพให้ กระจายแบบโรยไว้ทั่ว (peppering) บริเวณ Asia Pacific ถ้าอเมริกาทำได้จริง มันก็ไม่ต่างกับการควบคุมจีนทางอ้อม (containment) และก็เหมือนเป็นการเอาฉากสงครามเย็น สมัยที่อเมริกาจัดการกับสหภาพโซเวียตมาเล่นใหม่ ! ลองคิดดูช่วง 2-3 ปีนี้ อเมริกาเดินแผนอย่างไร กับทุกประเทศในภูมิภาคนี้ ไม่มีหลุด
สักเม็ด เค้าของสงครามโลกครั้งที่ 3 พอมองได้เห็นลาง ๆ – ออสเตรเลีย : อเมริกา เจรจาที่จะร่วมใช้ฐานทัพที่ Darwin และกำลังเริ่มแผนใช้
drone (เครื่องบินประเภทไร้คนขับ บังคับด้วยเรดาร์) โดยใช้ฐานทัพของออสเตรเลียที่เกาะ Cocos เป็นฐานพัก รวมทั้งการจัดกองกำลังเตรียมพร้อมไว้ แถว Brisbane และ Perth ด้วย – ราชอาณาจักรไทย : แน่นอนจะใช้อู่ตะเภา หรือสร้างใบบัวให้กบกระโดดที่ชุมพร หรือ
ที่ไหนอีก ตามสัญญาผูกคอทาส ทำได้สารพัด – ฟิลิปปินส์ : ตกลงไปแล้วให้อเมริกาฟื้นสนามบิน Clark และฐานทัพเรือ Subic Bay ที่ปิดไปชั่วคราวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 กว่า ๆ (แต่หลังจากปี ค.ศ. 2002 ก็ยอมให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษของอเมริกาเข้ามาใช้ใหม่บางกรณี !) – เวียตนาม : ทำสัญญาตกลงให้อเมริกาเพิ่มกองเรือ เข้าไปใช้ท่าเรือของเวียตนาม และ
จะขยายท่าเรือ เพื่อให้เฉพาะกองทัพเรืออเมริกาจอด – เกาะกวม : อเมริกาเตรียมสร้าง runway เพิ่มที่เกาะ Tinian ใกล้กับเกาะกวม และเตรียมสร้างฐานทัพ และ runwayสำหรับเครื่องบินลง ที่เกาะไซปัน (Saipan) ที่ห่างจากเกาะกวมไปประมาณ190 กม. เพื่อเป็นฐานทัพรองรับ หากกวมโดนโจมตี – มาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไน : อเมริกาเจรจาที่จะสร้างฐานทัพเพิ่ม – เกาหลีใต้ : ตกลงกับอเมริกาที่จะสร้างฐานทัพเพิ่ม ให้อเมริกาใช้ที่เกาะ Jeju – อินเดีย : อเมริกาทำข้อตกลงเพิ่มความร่วมมือทางการทหารไปแล้ว นี่ยังไม่ได้นับฐานทัพอีกประมาณ 200 แห่ง ที่อเมริกามีกระจายอยู่ แล้วที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เกาะกวม Diego Garcia และฮาวาย ถ้าใบบัวงอกทั้งหมดนี้ อาเฮียแทบไม่มีทางออกทะเล ต้องใช้บินอย่างเดียว (ฮา !) ยุทธศาสตร์กบกระโดด บนใบบัวนี้ แสดงให้เห็นว่าลึก ๆ อเมริกาคิดอะไรอยู่ เป็นแผนล่า
เหยื่อของนักล่าตัวจริง ในเมื่อการสร้างฐานทัพใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ นอกจากราคาแพงแล้ว ยังเป็นทั้งเป้าสายตาและเป้าอาวุธ แต่ถ้าแอบสร้างฐานเล็ก ๆ แบบใบบัว ให้กบกระโดด หลาย ๆแห่ง ทำได้เร็ว และไม่สร้างความอึกทึกให้โลกและเจ้าของบ้าน (ที่นักล่าหลอกไว้) ให้รู้ตัว นักยุทธศาสตร์การรบบอกว่า ฐานทัพรุ่นใบบัวนี้ ถ้าติดเครื่องมือทันสมัยให้เพียบ ใช้ควบคู่กับหน่วยรบพิเศษ (special operation forces) กบรุ่นใหม่เคลื่อนที่เร็ว แบบกบมหัศจรรย์ กับการใช้ droneสอดแนมและข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพ (อย่าลืมว่าหน่วยปฎิบัติการในภาวะภัยพิบัตินั้น เป็นงาน
พรางตัวที่ดีที่สุด ของกองทัพในการทำงานข่าวกรอง) ร่วมกับการปฎิบัติทางโลก Cyber และมีการร่วมมือระหว่างกองทัพ กับหน่วยงานพลเรือนอย่างดี คุณสามารถทำการปฎิวัติ หรือบุกยึดเมืองใด หรือทำการรบในยุทธภูมิใดก็ได้ผลเกินคาด รวดเร็วกว่าการใช้กองทัพใหญ่ ๆ ที่เคลื่อนตัวอย่างอุ้ยอ้าย มันหมดสมัยแล้ว ! อเมริกาปรับปรุงฐานทัพจากการขยายหรือสร้างฐานทัพใหญ่ เป็นเตรียมการสร้างฐานทัพรูปแบบใบบัว (Lily Pad) เพื่อให้กบกระโดไทั่ว แค่นั้นยังไม่พอ เพื่อให้การล่าเหยื่อเบ็ดเสร็จสมใจ อเมริกา จึงปรับปรุงการกระโดดของกบด้วย โดยแบ่งซอยกองกำลังออกมาเรียกว่า หน่วยปฎิบัติการพิเศษ
(เหมือนชายชุดดำนะครับ เอ๊ะ ! หน่วยเดียวกันหรือเปล่า ?!) Special Operation Forces (SOF)
(หรือมันเอาอย่างกัน หวังว่าไม่ถึงขนาดฝึกให้กันเลยนะ !) SOF นี้ เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1980 เมื่อเจ้าหน้าที่สถานฑูตอเมริกาถูกจับเป็นตัวประกันที่อิหร่าน (ก็ผลงานของนักล่าเอง !) ทำให้ตัวประกันตายไป 8 คน
อเมริกาแค้นจัด ตั้งหน่วย Special Operation Command (SOCOM) ขึ้นมา
โดยคัดหัวกะทิมาจากหน่วย Seals, Rangers, Special Operation Aviators และ Green Beret มาฝึกหนัก จริง ๆ ก็คือฝึกเป็น Rambo เหมือนในหนังน่ะ
พวก SOF นี้ ถูกใช้ให้ไปปฎิบัติการลับ ในที่ต่าง ๆ ที่เป็นความลับ
มีรายงานว่าน่าจะมี SOF ประมาณกว่า 70,000 คนในปี ค.ศ. 2014 กระจายอยู่ทั่วโลก ปฎิบัติการอยู่ในต่างประเทศ ประมาณ 70-80 ประเทศ เช่น ลิเบีย โซมาเลีย อาฟกานิสถาน ปากีสถาน หลายประเทศในอาหรับ
และลาตินอเมริกา และเอเซีย และยุโรป ฯลฯ สรุปแล้ว การจัดการให้มีฐานทัพแบบใบบัว (Lily Pad) และ กองกำลังแบบ SOF ตามยุทธการกบกระโดด อยู่ในบ้านเมืองใคร อเมริกาบอกว่า มันก็เหมือนเราไปอยู่ในบ้านนั้น (ยึด!) เรียบร้อยแล้วล่ะ (de facto presence) ดังนั้นเราจะต้องให้มี ฐานทัพใบบัวนี้ให้มากที่สุดให้ได้ (lots and lots of Lily pad bases!) คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    ตอนที่ 4
    ยุทธศาสตร์ความมั่นคง National Security Strategy สำหรับปี ค.ศ. 2014 ยังไม่คลอดคาด ว่าจะคลอดประมาณเดือนเมษายน, พฤษภาคม แต่อย่างน้อย อเมริกาก็ใบ้หวยมาหลายครั้งแล้ว คือ
    – เมื่อกลางปี ค.ศ. 2012 อเมริกาบอกว่า จะมีการปรับกองกำลังของอเมริการะหว่าง
    แอตแลนติกกับแปซิฟิก จากที่เคยวางไว้ที่ 50:50 เป็น 40:60 แปลว่าให้น้ำหนักทางแปซิฟิก มากขึ้น
    – มาปลายปี ค.ศ. 2013 อเมริกาย้ำซ้ำว่า เราจะทำการปรับดุลยอำนาจในแถวเอเซีย
    แปซิฟิกเสียใหม่
    – พอต้นปี ค.ศ. 2014 มีข่าวปล่อยว่า อเมริกาอาจจะพิจารณาผ่อนคลายการคว่ำบาตรอิหร่าน แบบนี้เซียนการเมืองต่อรองกันน่าดู ฝ่ายที่เล่นว่าอเมริกาไม่พร้อมจะก่อศึก 2 ด้านพร้อมกัน รู้ข่าววงในหรือไง !
    มาดูฝ่ายเหล่าเสือร้ายลายก้างขวางคอกันบ้าง กำลังภายในภายนอก รวมกันแล้วน่า
    ตีมือตบ เป่านกหวีดให้แค่ไหน
    ด้านอิหร่าน ถ้ารวมตัวกับรัสเซีย ซีเรียและพวกที่มีแยะ แต่ยังไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัว
    ขณะนี้ ร่วมกันเล่นมวยหมู่ นักล่าก็จุกได้เหมือนกัน
    ส่วนด้านจีน ถ้ารวมกับกลุ่มเจ้าพ่อเซียงไฮ้ (Shanghai Corporation Organization ซึ่งมีรัสเซียรวมอยู่ด้วย) บวกกับเด็กแสบแห่งเกาหลีเหนือ
    คราวนี้อเมริกาไม่ใช่แค่จุก แต่อาจจะถึงกับเดี้ยงไปเลย เพราะเกาหลีเหนือพร้อม
    ทุกเมื่อ ที่จะส่งของขวัญ แบบส่งตรงไม่ต้องฝากใคร ไปให้อเมริกาถึงหน้าทำเนียบขาว หรือวอชิงตันดีซี (ไม่รู้ราคาคุยของเด็กแสบหรือเปล่า)
    คิดแบบนี้ นักล่าก็น่าจะคลายมือที่บีบคออิหร่านออกมาสัก 1 หุน และหันมาโชว์พาวใช้โปรแกรมขย่มขวัญอาเฮีย ด้าน Asia Pacific น่าจะเข้าท่ากว่า แล้วนี่ ถ้าบรรดาพวกก้าง เขารวมหัวกันหมด นักล่าจะใช้โปรแกรมไหนเอ่ย นึกว่าเขาไม่คิดรวม หรือไม่กล้าเล่นหรือไง
    ไม่ว่านักล่าตัดสินใจมาทาง Asia Pacific หรือล่ามันทั้งโลก โปรแกรมที่เลือกใช้
    ไม่ว่าโปรแกรมใด แน่นอนต้องมีไทยแลนด์ แดนสมันน้อย เข้าไปเกี่ยวด้วยทุกรายการ สมันน้อย ถูกสัญญาทาสผูกคอมาตั้งแต่สมัยจอมพลคนแปลก หลวมตัวทำเอาไว้ในปี พ.ศ. 2493 (ค.ศ. 1950)ที่เราเรียกกันว่าสัญญา JUSMAC ท่านใดที่ลืมเรื่องนี้ โปรดกลับไปอ่านจิกโก๋ปากซอย นะครับ สัญญานี้ยังมีอายุอยู่ และเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 (ค.ศ. 2012) นาย Leon Panetta รมว.กลาโหมของนักล่า ขณะนั้น ก็คว้ามือคุณพี่สุกำพล รมว.กลาโหมไทยขณะนั้น
    เอาแปะโป้งซ้ำอีกรอบ ใน Joint Vision Statement ระหว่างอเมริกากับไทย พร้อมออกข่าวแถลงด้วยความดีใจ ว่าเป็นทาสเขาไปอีกรอบแล้ว
    ภายใต้สัญญา JUSMAC อเมริกาสามารถตั้งฐานทัพ ในราชอาณาจักรไทยได้
    เมื่อไทยขอร้อง หรือเมื่ออเมริกาเห็นว่าไทยถูกคุกคาม ไอ้ฉากแบบนี้น่ะ มันสร้างยากนักหรือ เพราะฉะนั้น พี่น้องก็เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ อย่ามัวแต่นั่งโลกสวย คอยอธิบายแก้ข่าวที่พวกนักล่ามันแกล้งให้ สื่อเฮงซวยลงข่าวบ้านเราผิด ๆ ประเภท ประเทศไทยกำลังทำลายประชาธิปไตย ด้วยการประท้วงไม่ให้มีการเลือกตั้ง ฯลฯ
    เลิกไปอธิบายซ้ำซากกับพวกสื่อต่างชาติได้แล้ว มันรู้อยู่แล้วว่าอะไร เป็นอะไร แต่มันแกล้งสร้างข่าว เพื่อเบนความสนใจของเราไปจากเรื่องจริง คือการมาใช้ฐานทัพและ
    การขะโมยทรัพยากรของเรา ดังนั้นหัดคิดในเชิงรุกกันบ้าง ว่าเราจะป้องกันอย่างไร ไม่ให้มันมาสาระแนในบ้านเรา เดี๋ยวจะว่าไม่เตือนกัน
    ข่าวลือมันมีมาตลอดว่า อเมริกาจะมาใช้ฐานทัพอู่ตะเภาของไทย ตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2555(ค.ศ. 2012) ข่าวนี้แรกหลุดมาจากการประชุม Shangrila Dialogue ประมาณเดือนมิถุนายน ปีค.ศ. 2012 ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีของ International Institute for Strategic Studies (IISS)
    ซึ่งเป็นหน่วยงานประเภท think tank ระหว่างรัฐบาลด้านความมั่นคง (ก็หน่วยงานของพวก CFRนั่นแหละ !) ที่ประชุมกันที่โรงแรม Shangrila สิงคโปร์ทุกปี มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002
    ฝ่ายไทยที่ไปร่วมประชุม จะมีตัวแทนเป็นนักวิชาการด้านความมั่นคงบ้าง ผู้แทนจากกระทรวงต่างประเทศและผู้แทนจากกองทัพ เท่าที่จำได้ (จากเอกสารครับ ไม่เคยไป !) ขาประจำผูกขาดที่ไปประชุม ชื่อ นิพัท ทองเล็ก
    ในปี พ.ศ. 2555 คุณพี่สุกำพล ควงกะคุณน้องนิพัท ไปนั่งกระหนุง กระหนิง กับนาย Leon Panetta ในที่ประชุม กลับมาเมืองไทยไม่กี่เดือน ก็ยืนคู่กันถ่ายรูปประกาศการลงนามสัญญา Joint Vision Statement!

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” ตอนที่ 4 ยุทธศาสตร์ความมั่นคง National Security Strategy สำหรับปี ค.ศ. 2014 ยังไม่คลอดคาด ว่าจะคลอดประมาณเดือนเมษายน, พฤษภาคม แต่อย่างน้อย อเมริกาก็ใบ้หวยมาหลายครั้งแล้ว คือ – เมื่อกลางปี ค.ศ. 2012 อเมริกาบอกว่า จะมีการปรับกองกำลังของอเมริการะหว่าง แอตแลนติกกับแปซิฟิก จากที่เคยวางไว้ที่ 50:50 เป็น 40:60 แปลว่าให้น้ำหนักทางแปซิฟิก มากขึ้น – มาปลายปี ค.ศ. 2013 อเมริกาย้ำซ้ำว่า เราจะทำการปรับดุลยอำนาจในแถวเอเซีย แปซิฟิกเสียใหม่ – พอต้นปี ค.ศ. 2014 มีข่าวปล่อยว่า อเมริกาอาจจะพิจารณาผ่อนคลายการคว่ำบาตรอิหร่าน แบบนี้เซียนการเมืองต่อรองกันน่าดู ฝ่ายที่เล่นว่าอเมริกาไม่พร้อมจะก่อศึก 2 ด้านพร้อมกัน รู้ข่าววงในหรือไง ! มาดูฝ่ายเหล่าเสือร้ายลายก้างขวางคอกันบ้าง กำลังภายในภายนอก รวมกันแล้วน่า ตีมือตบ เป่านกหวีดให้แค่ไหน ด้านอิหร่าน ถ้ารวมตัวกับรัสเซีย ซีเรียและพวกที่มีแยะ แต่ยังไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัว ขณะนี้ ร่วมกันเล่นมวยหมู่ นักล่าก็จุกได้เหมือนกัน ส่วนด้านจีน ถ้ารวมกับกลุ่มเจ้าพ่อเซียงไฮ้ (Shanghai Corporation Organization ซึ่งมีรัสเซียรวมอยู่ด้วย) บวกกับเด็กแสบแห่งเกาหลีเหนือ คราวนี้อเมริกาไม่ใช่แค่จุก แต่อาจจะถึงกับเดี้ยงไปเลย เพราะเกาหลีเหนือพร้อม ทุกเมื่อ ที่จะส่งของขวัญ แบบส่งตรงไม่ต้องฝากใคร ไปให้อเมริกาถึงหน้าทำเนียบขาว หรือวอชิงตันดีซี (ไม่รู้ราคาคุยของเด็กแสบหรือเปล่า) คิดแบบนี้ นักล่าก็น่าจะคลายมือที่บีบคออิหร่านออกมาสัก 1 หุน และหันมาโชว์พาวใช้โปรแกรมขย่มขวัญอาเฮีย ด้าน Asia Pacific น่าจะเข้าท่ากว่า แล้วนี่ ถ้าบรรดาพวกก้าง เขารวมหัวกันหมด นักล่าจะใช้โปรแกรมไหนเอ่ย นึกว่าเขาไม่คิดรวม หรือไม่กล้าเล่นหรือไง ไม่ว่านักล่าตัดสินใจมาทาง Asia Pacific หรือล่ามันทั้งโลก โปรแกรมที่เลือกใช้ ไม่ว่าโปรแกรมใด แน่นอนต้องมีไทยแลนด์ แดนสมันน้อย เข้าไปเกี่ยวด้วยทุกรายการ สมันน้อย ถูกสัญญาทาสผูกคอมาตั้งแต่สมัยจอมพลคนแปลก หลวมตัวทำเอาไว้ในปี พ.ศ. 2493 (ค.ศ. 1950)ที่เราเรียกกันว่าสัญญา JUSMAC ท่านใดที่ลืมเรื่องนี้ โปรดกลับไปอ่านจิกโก๋ปากซอย นะครับ สัญญานี้ยังมีอายุอยู่ และเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 (ค.ศ. 2012) นาย Leon Panetta รมว.กลาโหมของนักล่า ขณะนั้น ก็คว้ามือคุณพี่สุกำพล รมว.กลาโหมไทยขณะนั้น เอาแปะโป้งซ้ำอีกรอบ ใน Joint Vision Statement ระหว่างอเมริกากับไทย พร้อมออกข่าวแถลงด้วยความดีใจ ว่าเป็นทาสเขาไปอีกรอบแล้ว ภายใต้สัญญา JUSMAC อเมริกาสามารถตั้งฐานทัพ ในราชอาณาจักรไทยได้ เมื่อไทยขอร้อง หรือเมื่ออเมริกาเห็นว่าไทยถูกคุกคาม ไอ้ฉากแบบนี้น่ะ มันสร้างยากนักหรือ เพราะฉะนั้น พี่น้องก็เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ อย่ามัวแต่นั่งโลกสวย คอยอธิบายแก้ข่าวที่พวกนักล่ามันแกล้งให้ สื่อเฮงซวยลงข่าวบ้านเราผิด ๆ ประเภท ประเทศไทยกำลังทำลายประชาธิปไตย ด้วยการประท้วงไม่ให้มีการเลือกตั้ง ฯลฯ เลิกไปอธิบายซ้ำซากกับพวกสื่อต่างชาติได้แล้ว มันรู้อยู่แล้วว่าอะไร เป็นอะไร แต่มันแกล้งสร้างข่าว เพื่อเบนความสนใจของเราไปจากเรื่องจริง คือการมาใช้ฐานทัพและ การขะโมยทรัพยากรของเรา ดังนั้นหัดคิดในเชิงรุกกันบ้าง ว่าเราจะป้องกันอย่างไร ไม่ให้มันมาสาระแนในบ้านเรา เดี๋ยวจะว่าไม่เตือนกัน ข่าวลือมันมีมาตลอดว่า อเมริกาจะมาใช้ฐานทัพอู่ตะเภาของไทย ตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2555(ค.ศ. 2012) ข่าวนี้แรกหลุดมาจากการประชุม Shangrila Dialogue ประมาณเดือนมิถุนายน ปีค.ศ. 2012 ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีของ International Institute for Strategic Studies (IISS) ซึ่งเป็นหน่วยงานประเภท think tank ระหว่างรัฐบาลด้านความมั่นคง (ก็หน่วยงานของพวก CFRนั่นแหละ !) ที่ประชุมกันที่โรงแรม Shangrila สิงคโปร์ทุกปี มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 ฝ่ายไทยที่ไปร่วมประชุม จะมีตัวแทนเป็นนักวิชาการด้านความมั่นคงบ้าง ผู้แทนจากกระทรวงต่างประเทศและผู้แทนจากกองทัพ เท่าที่จำได้ (จากเอกสารครับ ไม่เคยไป !) ขาประจำผูกขาดที่ไปประชุม ชื่อ นิพัท ทองเล็ก ในปี พ.ศ. 2555 คุณพี่สุกำพล ควงกะคุณน้องนิพัท ไปนั่งกระหนุง กระหนิง กับนาย Leon Panetta ในที่ประชุม กลับมาเมืองไทยไม่กี่เดือน ก็ยืนคู่กันถ่ายรูปประกาศการลงนามสัญญา Joint Vision Statement! คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก YMTC x CXMT: เมื่อ NAND และ DRAM รวมพลังเพื่อสร้าง HBM รุ่นถัดไป

    ในปี 2025 จีนกำลังเร่งเครื่องเข้าสู่ยุค self-reliance ทางเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะในด้านหน่วยความจำที่มีความสำคัญต่อ AI, HPC และระบบคลาวด์ ล่าสุด YMTC (Yangtze Memory Technologies) ซึ่งเป็นผู้ผลิต NAND ชั้นนำของจีน ได้ประกาศจับมือกับ CXMT (ChangXin Memory Technologies) ซึ่งเป็นผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ที่สุดของประเทศ เพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยี HBM3 และ HBM รุ่นถัดไป

    CXMT เคยผลิต HBM2 ได้แล้ว และกำลังเร่งเข้าสู่ HBM3 ด้วยเทคนิค hybrid bonding ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่าง die มีความหนาแน่นและประสิทธิภาพสูงขึ้น ขณะที่ YMTC ซึ่งเคยร่วมมือกับ Samsung มาก่อน มีความเชี่ยวชาญด้าน NAND และ packaging ที่สามารถนำมาใช้ใน HBM ได้โดยตรง

    การร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแบ่งปันเทคโนโลยี แต่เป็นการสร้าง supply chain ภายในประเทศที่สามารถผลิต HBM ได้ครบวงจร ตั้งแต่ DRAM wafer ไปจนถึงการประกอบแบบ 3D stacking ซึ่งเป็นหัวใจของชิป AI เช่น Nvidia H100 หรือ AMD MI300

    นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า YMTC ได้เริ่มสั่งซื้ออุปกรณ์ R&D สำหรับ DRAM แล้ว และมีแผนจะลงทุนในสายการผลิต DRAM โดยตรง ซึ่งจะทำให้จีนมีผู้ผลิตหน่วยความจำแบบครบทุกประเภท—NAND, DRAM, และ HBM—ภายในประเทศ

    https://wccftech.com/china-ymtc-set-to-enter-the-dram-segment-by-partnering-with-cxmt/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก YMTC x CXMT: เมื่อ NAND และ DRAM รวมพลังเพื่อสร้าง HBM รุ่นถัดไป ในปี 2025 จีนกำลังเร่งเครื่องเข้าสู่ยุค self-reliance ทางเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะในด้านหน่วยความจำที่มีความสำคัญต่อ AI, HPC และระบบคลาวด์ ล่าสุด YMTC (Yangtze Memory Technologies) ซึ่งเป็นผู้ผลิต NAND ชั้นนำของจีน ได้ประกาศจับมือกับ CXMT (ChangXin Memory Technologies) ซึ่งเป็นผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ที่สุดของประเทศ เพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยี HBM3 และ HBM รุ่นถัดไป CXMT เคยผลิต HBM2 ได้แล้ว และกำลังเร่งเข้าสู่ HBM3 ด้วยเทคนิค hybrid bonding ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่าง die มีความหนาแน่นและประสิทธิภาพสูงขึ้น ขณะที่ YMTC ซึ่งเคยร่วมมือกับ Samsung มาก่อน มีความเชี่ยวชาญด้าน NAND และ packaging ที่สามารถนำมาใช้ใน HBM ได้โดยตรง การร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแบ่งปันเทคโนโลยี แต่เป็นการสร้าง supply chain ภายในประเทศที่สามารถผลิต HBM ได้ครบวงจร ตั้งแต่ DRAM wafer ไปจนถึงการประกอบแบบ 3D stacking ซึ่งเป็นหัวใจของชิป AI เช่น Nvidia H100 หรือ AMD MI300 นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า YMTC ได้เริ่มสั่งซื้ออุปกรณ์ R&D สำหรับ DRAM แล้ว และมีแผนจะลงทุนในสายการผลิต DRAM โดยตรง ซึ่งจะทำให้จีนมีผู้ผลิตหน่วยความจำแบบครบทุกประเภท—NAND, DRAM, และ HBM—ภายในประเทศ https://wccftech.com/china-ymtc-set-to-enter-the-dram-segment-by-partnering-with-cxmt/
    WCCFTECH.COM
    China's YMTC Reportedly Set to Enter the DRAM Segment by Partnering with Domestic Expert CXMT, Collaborating on HBM Technologies
    Chinese memory manufacturers are teaming up for HBM production, as the prominent NAND firm YMTC partners up with CXMT in a push towards HBM3.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Nanjing: เมื่อ TSMC ต้องขออนุญาตทุกครั้งเพื่อส่งเครื่องมือไปยังโรงงานของตัวเอง

    ในช่วงปลายปี 2025 รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกสิทธิ์ Validated End User (VEU) ของ TSMC สำหรับโรงงาน Fab 16 ที่เมืองหนานจิง ประเทศจีน ซึ่งเดิมทีอนุญาตให้ TSMC สามารถนำเข้าเครื่องมือผลิตชิปจากบริษัทอเมริกัน เช่น Applied Materials, KLA และ Lam Research ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตรายครั้ง

    เมื่อ VEU ถูกยกเลิกตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2025 เป็นต้นไป ทุกการส่งออกเครื่องมือ, อะไหล่, หรือสารเคมีไปยัง Fab 16 จะต้องผ่านการตรวจสอบแบบรายรายการจากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมี “แนวโน้มปฏิเสธ” เป็นค่าเริ่มต้น ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในการดำเนินงานของโรงงานนี้

    แม้ TSMC จะยืนยันว่าจะพยายามดำเนินงานต่อไปโดยไม่สะดุด แต่การเปลี่ยนแปลงนี้อาจบีบให้บริษัทต้องหันไปใช้เครื่องมือจากผู้ผลิตจีน เช่น AMEC, Naura, Kingsemi หรือ Piotech ซึ่งแม้จะมีความก้าวหน้าในบางด้าน แต่ยังไม่สามารถทดแทนเครื่องมือระดับ 16nm ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะในส่วนของ lithography ที่ยังไม่มีผู้ผลิตจีนรายใดสามารถทำได้ในระดับที่ TSMC ต้องการ

    ผลกระทบต่อ TSMC อาจไม่รุนแรงเท่ากับ Samsung หรือ SK hynix ที่มี footprint ในจีนมากกว่า แต่การลดกำลังผลิตของ Fab 16 จะส่งผลดีต่อผู้ผลิตจีนอย่าง SMIC และ HuaHong ที่อาจได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น และช่วยผลักดันนโยบาย self-sufficiency ของรัฐบาลจีนให้เดินหน้าเร็วขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/u-s-govt-revokes-tsmcs-authorization-to-ship-tools-to-its-fabs-in-china-special-export-license-to-be-pulled-by-end-of-2025
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Nanjing: เมื่อ TSMC ต้องขออนุญาตทุกครั้งเพื่อส่งเครื่องมือไปยังโรงงานของตัวเอง ในช่วงปลายปี 2025 รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกสิทธิ์ Validated End User (VEU) ของ TSMC สำหรับโรงงาน Fab 16 ที่เมืองหนานจิง ประเทศจีน ซึ่งเดิมทีอนุญาตให้ TSMC สามารถนำเข้าเครื่องมือผลิตชิปจากบริษัทอเมริกัน เช่น Applied Materials, KLA และ Lam Research ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตรายครั้ง เมื่อ VEU ถูกยกเลิกตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2025 เป็นต้นไป ทุกการส่งออกเครื่องมือ, อะไหล่, หรือสารเคมีไปยัง Fab 16 จะต้องผ่านการตรวจสอบแบบรายรายการจากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมี “แนวโน้มปฏิเสธ” เป็นค่าเริ่มต้น ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในการดำเนินงานของโรงงานนี้ แม้ TSMC จะยืนยันว่าจะพยายามดำเนินงานต่อไปโดยไม่สะดุด แต่การเปลี่ยนแปลงนี้อาจบีบให้บริษัทต้องหันไปใช้เครื่องมือจากผู้ผลิตจีน เช่น AMEC, Naura, Kingsemi หรือ Piotech ซึ่งแม้จะมีความก้าวหน้าในบางด้าน แต่ยังไม่สามารถทดแทนเครื่องมือระดับ 16nm ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะในส่วนของ lithography ที่ยังไม่มีผู้ผลิตจีนรายใดสามารถทำได้ในระดับที่ TSMC ต้องการ ผลกระทบต่อ TSMC อาจไม่รุนแรงเท่ากับ Samsung หรือ SK hynix ที่มี footprint ในจีนมากกว่า แต่การลดกำลังผลิตของ Fab 16 จะส่งผลดีต่อผู้ผลิตจีนอย่าง SMIC และ HuaHong ที่อาจได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น และช่วยผลักดันนโยบาย self-sufficiency ของรัฐบาลจีนให้เดินหน้าเร็วขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/u-s-govt-revokes-tsmcs-authorization-to-ship-tools-to-its-fabs-in-china-special-export-license-to-be-pulled-by-end-of-2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก WeChat ถึง Douyin: เมื่อโพสต์ทุกชิ้นต้องบอกว่า “มนุษย์หรือ AI”

    ในเดือนกันยายน 2025 จีนได้บังคับใช้กฎหมายใหม่ที่กำหนดให้ทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต้องติดป้ายกำกับเนื้อหาที่สร้างโดย AI อย่างชัดเจน ทั้งในรูปแบบที่ผู้ใช้มองเห็นได้ (explicit labels) และฝังไว้ใน metadata สำหรับระบบอัตโนมัติ (implicit identifiers) โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ, deepfake, และการชักจูงทางความคิดผ่านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

    แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ของจีน เช่น WeChat, Douyin (TikTok เวอร์ชันจีน), Weibo และ RedNote ต่างออกประกาศให้ผู้ใช้ต้อง “ประกาศด้วยตัวเอง” หากโพสต์นั้นสร้างด้วย AI และห้ามลบหรือแก้ไขป้ายกำกับที่ระบบติดไว้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืน อาจถูกลบโพสต์หรือถูกลงโทษตามที่ Cyberspace Administration of China (CAC) กำหนดไว้

    นอกจากนี้ CAC ยังเปิดช่องให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถ “รายงาน” เนื้อหาที่ไม่ได้ติดป้าย AI ได้ด้วยตนเอง และมีการตั้งระบบตรวจสอบ metadata เพื่อช่วยตรวจจับเนื้อหาที่หลุดรอดจากการติดป้าย

    แม้จีนจะเป็นประเทศแรกที่ออกกฎหมายลักษณะนี้อย่างเป็นทางการ แต่แนวคิดนี้กำลังแพร่ไปทั่วโลก เช่น Internet Engineering Task Force เสนอให้มี “AI header field” สำหรับเว็บไซต์ และ Google ก็เริ่มฝัง C2PA credentials ในภาพถ่ายจาก Pixel 10 เพื่อบอกว่า “ภาพนี้ผ่าน AI หรือไม่”


    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chinese-social-media-firms-comply-with-strict-ai-labelling-law-making-it-clear-to-users-and-bots-whats-real-and-whats-not
    🎙️ เรื่องเล่าจาก WeChat ถึง Douyin: เมื่อโพสต์ทุกชิ้นต้องบอกว่า “มนุษย์หรือ AI” ในเดือนกันยายน 2025 จีนได้บังคับใช้กฎหมายใหม่ที่กำหนดให้ทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต้องติดป้ายกำกับเนื้อหาที่สร้างโดย AI อย่างชัดเจน ทั้งในรูปแบบที่ผู้ใช้มองเห็นได้ (explicit labels) และฝังไว้ใน metadata สำหรับระบบอัตโนมัติ (implicit identifiers) โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ, deepfake, และการชักจูงทางความคิดผ่านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ของจีน เช่น WeChat, Douyin (TikTok เวอร์ชันจีน), Weibo และ RedNote ต่างออกประกาศให้ผู้ใช้ต้อง “ประกาศด้วยตัวเอง” หากโพสต์นั้นสร้างด้วย AI และห้ามลบหรือแก้ไขป้ายกำกับที่ระบบติดไว้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืน อาจถูกลบโพสต์หรือถูกลงโทษตามที่ Cyberspace Administration of China (CAC) กำหนดไว้ นอกจากนี้ CAC ยังเปิดช่องให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถ “รายงาน” เนื้อหาที่ไม่ได้ติดป้าย AI ได้ด้วยตนเอง และมีการตั้งระบบตรวจสอบ metadata เพื่อช่วยตรวจจับเนื้อหาที่หลุดรอดจากการติดป้าย แม้จีนจะเป็นประเทศแรกที่ออกกฎหมายลักษณะนี้อย่างเป็นทางการ แต่แนวคิดนี้กำลังแพร่ไปทั่วโลก เช่น Internet Engineering Task Force เสนอให้มี “AI header field” สำหรับเว็บไซต์ และ Google ก็เริ่มฝัง C2PA credentials ในภาพถ่ายจาก Pixel 10 เพื่อบอกว่า “ภาพนี้ผ่าน AI หรือไม่” https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chinese-social-media-firms-comply-with-strict-ai-labelling-law-making-it-clear-to-users-and-bots-whats-real-and-whats-not
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Chinese social media firms comply with strict AI labelling law, making it clear to users and bots what's real and what's not
    It's part of a broader push by the Cyberspace Administration of China to have greater oversight over the AI industry and the content it produces.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากสมองถึงซิลิคอน: เมื่อจีนเปิดศึก BCI ด้วยแผน 17 ข้อจาก 7 กระทรวง

    ในเดือนสิงหาคม 2025 รัฐบาลจีนได้เผยแพร่เอกสารนโยบายขนาดใหญ่ชื่อ “Implementation Plan for Promoting Innovation and Development of the Brain-Computer Interface (BCI) Industry” ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติที่มีเป้าหมายชัดเจน: สร้างอุตสาหกรรม BCI ที่แข่งขันได้ในระดับโลกภายใน 5 ปี และผลักดันให้เทคโนโลยีนี้เข้าสู่การใช้งานจริงภายในปี 2027

    แผนนี้ไม่ใช่แค่การวิจัย แต่เป็นการบูรณาการระหว่าง 7 กระทรวงที่รวมการวางแผนอุตสาหกรรม, การกำกับดูแลทางการแพทย์, และการควบคุมการวิจัยไว้ใน playbook เดียว เพื่อเร่งการอนุมัติและลดเวลาจากห้องแล็บสู่ตลาดให้เหลือเพียงไม่กี่ปี—ต่างจากสหรัฐฯ ที่ต้องผ่านด่าน FDA หลายชั้น

    ในแผนมี 17 ข้อที่ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนา chip ฝังสมองที่ใช้พลังงานต่ำ, การออกแบบอิเล็กโทรดที่ลดการเกิดแผล, การสร้างอัลกอริธึมถอดรหัสความคิดแบบ real-time ไปจนถึงการผลิตอุปกรณ์แบบ non-invasive สำหรับตลาดผู้บริโภค เช่น อุปกรณ์ตรวจความตื่นตัวของคนขับรถ หรือหมวกนิรภัยที่ตรวจจับอันตรายในเหมือง

    ที่สำคัญคือ จีนได้เริ่มทดลองจริงแล้ว—ผู้ป่วยที่ได้รับการฝังอิเล็กโทรดสามารถเล่นหมากรุกและใช้งานแอปมือถือด้วยความคิดล้วน ๆ โดยใช้อิเล็กโทรด 128 ช่องที่ออกแบบให้เสถียรและลดการอักเสบในระยะยาว

    แผนยุทธศาสตร์ BCI ของจีน
    มีชื่อว่า “Implementation Plan for Promoting Innovation and Development of the BCI Industry”
    ร่วมกันจัดทำโดย 7 กระทรวงของรัฐบาลจีน
    ตั้งเป้าให้มีการใช้งานจริงในคลินิกภายในปี 2027 และมีบริษัทชั้นนำภายในปี 2030

    รายละเอียดของแผน 17 ข้อ
    พัฒนา chip ฝังสมองที่ใช้พลังงานต่ำ
    ออกแบบอิเล็กโทรดที่ลดการเกิดแผลและอยู่ในสมองได้นาน
    สร้างอัลกอริธึมถอดรหัสความคิดแบบ real-time
    ขยายสายการผลิตอุปกรณ์ non-invasive สำหรับผู้บริโภค

    ความคืบหน้าทางเทคนิค
    ทีมวิจัยจีนพัฒนาอิเล็กโทรด 128 ช่องที่เสถียรและลดการอักเสบ
    ผู้ป่วยสามารถเล่นหมากรุกและใช้งานแอปมือถือด้วยความคิด
    มีการทดลองในสัตว์, ลิง, และมนุษย์แล้ว

    การขยายสู่ตลาดผู้บริโภค
    สนับสนุนอุปกรณ์ non-invasive เช่น หมวกนิรภัยอัจฉริยะและเซนเซอร์ตรวจความตื่นตัว
    วางตำแหน่ง BCI เป็นทั้งเทคโนโลยีการแพทย์และแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค
    คาดว่าจะมีผู้ป่วย 1–2 ล้านคนที่ได้รับประโยชน์จาก BCI ภายในไม่กี่ปี

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-bci-blueprint
    🎙️ เรื่องเล่าจากสมองถึงซิลิคอน: เมื่อจีนเปิดศึก BCI ด้วยแผน 17 ข้อจาก 7 กระทรวง ในเดือนสิงหาคม 2025 รัฐบาลจีนได้เผยแพร่เอกสารนโยบายขนาดใหญ่ชื่อ “Implementation Plan for Promoting Innovation and Development of the Brain-Computer Interface (BCI) Industry” ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติที่มีเป้าหมายชัดเจน: สร้างอุตสาหกรรม BCI ที่แข่งขันได้ในระดับโลกภายใน 5 ปี และผลักดันให้เทคโนโลยีนี้เข้าสู่การใช้งานจริงภายในปี 2027 แผนนี้ไม่ใช่แค่การวิจัย แต่เป็นการบูรณาการระหว่าง 7 กระทรวงที่รวมการวางแผนอุตสาหกรรม, การกำกับดูแลทางการแพทย์, และการควบคุมการวิจัยไว้ใน playbook เดียว เพื่อเร่งการอนุมัติและลดเวลาจากห้องแล็บสู่ตลาดให้เหลือเพียงไม่กี่ปี—ต่างจากสหรัฐฯ ที่ต้องผ่านด่าน FDA หลายชั้น ในแผนมี 17 ข้อที่ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนา chip ฝังสมองที่ใช้พลังงานต่ำ, การออกแบบอิเล็กโทรดที่ลดการเกิดแผล, การสร้างอัลกอริธึมถอดรหัสความคิดแบบ real-time ไปจนถึงการผลิตอุปกรณ์แบบ non-invasive สำหรับตลาดผู้บริโภค เช่น อุปกรณ์ตรวจความตื่นตัวของคนขับรถ หรือหมวกนิรภัยที่ตรวจจับอันตรายในเหมือง ที่สำคัญคือ จีนได้เริ่มทดลองจริงแล้ว—ผู้ป่วยที่ได้รับการฝังอิเล็กโทรดสามารถเล่นหมากรุกและใช้งานแอปมือถือด้วยความคิดล้วน ๆ โดยใช้อิเล็กโทรด 128 ช่องที่ออกแบบให้เสถียรและลดการอักเสบในระยะยาว ✅ แผนยุทธศาสตร์ BCI ของจีน ➡️ มีชื่อว่า “Implementation Plan for Promoting Innovation and Development of the BCI Industry” ➡️ ร่วมกันจัดทำโดย 7 กระทรวงของรัฐบาลจีน ➡️ ตั้งเป้าให้มีการใช้งานจริงในคลินิกภายในปี 2027 และมีบริษัทชั้นนำภายในปี 2030 ✅ รายละเอียดของแผน 17 ข้อ ➡️ พัฒนา chip ฝังสมองที่ใช้พลังงานต่ำ ➡️ ออกแบบอิเล็กโทรดที่ลดการเกิดแผลและอยู่ในสมองได้นาน ➡️ สร้างอัลกอริธึมถอดรหัสความคิดแบบ real-time ➡️ ขยายสายการผลิตอุปกรณ์ non-invasive สำหรับผู้บริโภค ✅ ความคืบหน้าทางเทคนิค ➡️ ทีมวิจัยจีนพัฒนาอิเล็กโทรด 128 ช่องที่เสถียรและลดการอักเสบ ➡️ ผู้ป่วยสามารถเล่นหมากรุกและใช้งานแอปมือถือด้วยความคิด ➡️ มีการทดลองในสัตว์, ลิง, และมนุษย์แล้ว ✅ การขยายสู่ตลาดผู้บริโภค ➡️ สนับสนุนอุปกรณ์ non-invasive เช่น หมวกนิรภัยอัจฉริยะและเซนเซอร์ตรวจความตื่นตัว ➡️ วางตำแหน่ง BCI เป็นทั้งเทคโนโลยีการแพทย์และแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค ➡️ คาดว่าจะมีผู้ป่วย 1–2 ล้านคนที่ได้รับประโยชน์จาก BCI ภายในไม่กี่ปี https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-bci-blueprint
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    China plans to outpace Neuralink with a state-backed brain chip blitz — seven ministries, a 17-point roadmap, and clinical trials where patients play chess
    Plan aims to streamline approval by bringing regulators in at the beginning, potentially shaving years off the lab-to-market timeline.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากสนามหัวพิมพ์: เมื่อ Prusa, Bambu, AtomForm และ Snapmaker เปิดศึกแย่งชิงอนาคตของการพิมพ์หลายสี

    ในเดือนสิงหาคม 2025 วงการ 3D printing สั่นสะเทือนด้วยการเปิดตัวเครื่องพิมพ์แบบ “tool changer” ถึง 4 รุ่นในเวลาใกล้เคียงกัน โดยแต่ละค่ายต่างมีแนวทางเฉพาะของตนเองในการจัดการกับปัญหา “การพิมพ์หลายสีหรือหลายวัสดุ” ที่เคยยุ่งยากและเปลืองวัสดุ

    Snapmaker เปิดตัว U1 บน Kickstarter ด้วยราคาต่ำสุดเพียง $649 สำหรับผู้สนับสนุนกลุ่มแรก และสามารถระดมทุนได้กว่า $13 ล้านจากผู้สนับสนุนกว่า 14,000 คนภายในไม่กี่วัน AtomForm จากจีนเปิดตัว Palette 300 ที่มีหัวพิมพ์ถึง 12 หัว โดยใช้เทคนิคสลับหัวแบบ low-footprint และเตรียมเปิดตัวบน Kickstarter ด้วยราคาเริ่มต้น $1,499

    Bambu Lab เปิดตัว H2C ซึ่งแม้จะไม่ใช่ tool changer เต็มรูปแบบ แต่ก็ใช้แนวคิด “สลับหัวฉีด” โดยยังต้องพึ่งระบบ AMS ในการป้อนเส้นพลาสติก ส่วน Prusa กลับมาอย่างเงียบ ๆ ด้วยโพสต์ภาพ CORE One ที่ติดตั้งหัวพิมพ์ 6 หัว พร้อมอีโมจิป๊อปคอร์น และตามมาด้วยการยืนยันความร่วมมือกับ Bondtech ผู้พัฒนา INDX ซึ่งเป็นระบบ tool changer แบบไร้สายและใช้ความร้อนแบบเหนี่ยวนำ

    แนวคิดของ INDX คือการลดความซับซ้อนของหัวพิมพ์ให้เบาและง่ายต่อการสลับ โดยไม่ต้องใช้สายไฟหรือท่อเส้นพลาสติกที่ยุ่งยาก ทำให้ระบบมีความเสถียรและลดปัญหาการอุดตันของหัวฉีด

    การกลับมาของ Prusa กับ CORE One
    โพสต์ภาพ CORE One ที่ติดตั้งหัวพิมพ์ 6 หัว พร้อมอีโมจิป๊อปคอร์น
    ยืนยันความร่วมมือกับ Bondtech ในการใช้ระบบ INDX tool changer
    INDX ใช้ระบบไร้สายและความร้อนแบบเหนี่ยวนำ ทำให้หัวพิมพ์เบาและง่ายต่อการสลับ

    การเปิดตัวของ Snapmaker U1
    เปิดตัวบน Kickstarter ด้วยราคาต่ำสุด $649
    ระดมทุนได้กว่า $13 ล้านจากผู้สนับสนุนกว่า 14,000 คน
    รองรับการพิมพ์ 4 สีด้วยระบบ tool changer แบบ desktop

    การเปิดตัวของ AtomForm Palette 300
    มีหัวพิมพ์ถึง 12 หัวในพื้นที่ 300 x 300 x 300 mm
    ใช้เทคนิคสลับหัวแบบ low-footprint โดยยังไม่มีการสาธิตสด
    เตรียมเปิดตัวบน Kickstarter ด้วยราคาเริ่มต้น $1,499

    การเปิดตัวของ Bambu Lab H2C
    ใช้แนวคิด “สลับหัวฉีด” โดยยังต้องใช้ AMS ในการป้อนเส้นพลาสติก
    เปิดตัวหลัง H2S เพียง 1 ชั่วโมง สร้างความสับสนในตลาด
    เป็นการตอบโต้ต่อความสำเร็จของ Snapmaker และการมาถึงของ AtomForm

    จุดเด่นของระบบ INDX จาก Bondtech
    ใช้ระบบไร้สายและความร้อนแบบเหนี่ยวนำ ลดความซับซ้อนของหัวพิมพ์
    ลดปัญหาการอุดตันและการเสียเวลาจากการ purge เส้นพลาสติก
    สามารถติดตั้งบนเครื่องพิมพ์ DIY เช่น Voron ได้

    https://www.tomshardware.com/3d-printing/3d-printings-tool-changer-wars-heat-up-as-prusa-re-enters-the-ring
    🎙️ เรื่องเล่าจากสนามหัวพิมพ์: เมื่อ Prusa, Bambu, AtomForm และ Snapmaker เปิดศึกแย่งชิงอนาคตของการพิมพ์หลายสี ในเดือนสิงหาคม 2025 วงการ 3D printing สั่นสะเทือนด้วยการเปิดตัวเครื่องพิมพ์แบบ “tool changer” ถึง 4 รุ่นในเวลาใกล้เคียงกัน โดยแต่ละค่ายต่างมีแนวทางเฉพาะของตนเองในการจัดการกับปัญหา “การพิมพ์หลายสีหรือหลายวัสดุ” ที่เคยยุ่งยากและเปลืองวัสดุ Snapmaker เปิดตัว U1 บน Kickstarter ด้วยราคาต่ำสุดเพียง $649 สำหรับผู้สนับสนุนกลุ่มแรก และสามารถระดมทุนได้กว่า $13 ล้านจากผู้สนับสนุนกว่า 14,000 คนภายในไม่กี่วัน AtomForm จากจีนเปิดตัว Palette 300 ที่มีหัวพิมพ์ถึง 12 หัว โดยใช้เทคนิคสลับหัวแบบ low-footprint และเตรียมเปิดตัวบน Kickstarter ด้วยราคาเริ่มต้น $1,499 Bambu Lab เปิดตัว H2C ซึ่งแม้จะไม่ใช่ tool changer เต็มรูปแบบ แต่ก็ใช้แนวคิด “สลับหัวฉีด” โดยยังต้องพึ่งระบบ AMS ในการป้อนเส้นพลาสติก ส่วน Prusa กลับมาอย่างเงียบ ๆ ด้วยโพสต์ภาพ CORE One ที่ติดตั้งหัวพิมพ์ 6 หัว พร้อมอีโมจิป๊อปคอร์น และตามมาด้วยการยืนยันความร่วมมือกับ Bondtech ผู้พัฒนา INDX ซึ่งเป็นระบบ tool changer แบบไร้สายและใช้ความร้อนแบบเหนี่ยวนำ แนวคิดของ INDX คือการลดความซับซ้อนของหัวพิมพ์ให้เบาและง่ายต่อการสลับ โดยไม่ต้องใช้สายไฟหรือท่อเส้นพลาสติกที่ยุ่งยาก ทำให้ระบบมีความเสถียรและลดปัญหาการอุดตันของหัวฉีด ✅ การกลับมาของ Prusa กับ CORE One ➡️ โพสต์ภาพ CORE One ที่ติดตั้งหัวพิมพ์ 6 หัว พร้อมอีโมจิป๊อปคอร์น ➡️ ยืนยันความร่วมมือกับ Bondtech ในการใช้ระบบ INDX tool changer ➡️ INDX ใช้ระบบไร้สายและความร้อนแบบเหนี่ยวนำ ทำให้หัวพิมพ์เบาและง่ายต่อการสลับ ✅ การเปิดตัวของ Snapmaker U1 ➡️ เปิดตัวบน Kickstarter ด้วยราคาต่ำสุด $649 ➡️ ระดมทุนได้กว่า $13 ล้านจากผู้สนับสนุนกว่า 14,000 คน ➡️ รองรับการพิมพ์ 4 สีด้วยระบบ tool changer แบบ desktop ✅ การเปิดตัวของ AtomForm Palette 300 ➡️ มีหัวพิมพ์ถึง 12 หัวในพื้นที่ 300 x 300 x 300 mm ➡️ ใช้เทคนิคสลับหัวแบบ low-footprint โดยยังไม่มีการสาธิตสด ➡️ เตรียมเปิดตัวบน Kickstarter ด้วยราคาเริ่มต้น $1,499 ✅ การเปิดตัวของ Bambu Lab H2C ➡️ ใช้แนวคิด “สลับหัวฉีด” โดยยังต้องใช้ AMS ในการป้อนเส้นพลาสติก ➡️ เปิดตัวหลัง H2S เพียง 1 ชั่วโมง สร้างความสับสนในตลาด ➡️ เป็นการตอบโต้ต่อความสำเร็จของ Snapmaker และการมาถึงของ AtomForm ✅ จุดเด่นของระบบ INDX จาก Bondtech ➡️ ใช้ระบบไร้สายและความร้อนแบบเหนี่ยวนำ ลดความซับซ้อนของหัวพิมพ์ ➡️ ลดปัญหาการอุดตันและการเสียเวลาจากการ purge เส้นพลาสติก ➡️ สามารถติดตั้งบนเครื่องพิมพ์ DIY เช่น Voron ได้ https://www.tomshardware.com/3d-printing/3d-printings-tool-changer-wars-heat-up-as-prusa-re-enters-the-ring
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    3D printing's tool changer wars heat up as Prusa re-enters the ring
    Buckle up, the road to 3D printing tool changers is about to get bumpy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Silver Fox: เมื่อ “ไดรเวอร์ที่เซ็นแล้ว” กลายเป็นอาวุธของ APT

    กลุ่มแฮกเกอร์ระดับชาติที่ชื่อว่า Silver Fox APT ได้เปิดแคมเปญโจมตีใหม่ที่ใช้เทคนิค BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) โดยอาศัยไดรเวอร์ที่เซ็นโดย Microsoft อย่างถูกต้อง แต่มีช่องโหว่ร้ายแรง เพื่อปิดระบบป้องกันของ Windows แล้วติดตั้งมัลแวร์ ValleyRAT

    ไดรเวอร์ที่ถูกใช้คือ WatchDog Antimalware (amsdk.sys v1.0.600) ซึ่งแม้จะเซ็นโดย Microsoft แต่ไม่เคยถูกขึ้นบัญชีบล็อกของ Microsoft หรือชุมชนอย่าง LOLDrivers มาก่อน Silver Fox ยังใช้ไดรเวอร์เก่าของ Zemana (zam.exe) เพื่อให้แคมเปญทำงานได้ทั้งบน Windows 7, 10 และ 11

    Loader ที่ใช้ในแคมเปญนี้เป็นแพ็กเกจแบบ all-in-one ที่รวม anti-analysis, driver ฝังตัว, logic สำหรับฆ่า process และ ValleyRAT downloader ไว้ในไฟล์เดียว เมื่อรันแล้วจะเลือกไดรเวอร์ให้เหมาะกับระบบ ติดตั้งตัวเองแบบ persistent และเริ่มฆ่า process ของโปรแกรมป้องกันทันที

    ที่น่าตกใจคือ แม้ WatchDog จะออก patch ใหม่ (v1.1.100) เพื่อแก้ไขช่องโหว่ privilege escalation แต่ Silver Fox กลับ “พลิกเกม” โดยเปลี่ยนแค่ 1 byte ใน timestamp ของลายเซ็น ทำให้ได้ hash ใหม่ที่หลบ blocklist ได้ โดยไม่ทำให้ลายเซ็นเสีย—Windows ยังเชื่อว่าเป็นไฟล์ที่ปลอดภัย

    เทคนิค BYOVD ที่ใช้ในแคมเปญ Silver Fox
    ใช้ไดรเวอร์ที่เซ็นโดย Microsoft แต่มีช่องโหว่จริง
    WatchDog (amsdk.sys v1.0.600) และ Zemana (zam.exe) ถูกใช้ร่วมกัน
    Loader แบบ all-in-one รวมทุกฟีเจอร์ไว้ในไฟล์เดียว

    จุดอ่อนของ WatchDog driver
    สามารถฆ่า process ได้โดยไม่ตรวจสอบสิทธิ์ (PP/PPL bypass)
    มีช่องโหว่ privilege escalation และ raw disk access
    ไม่มีการควบคุม access บน device namespace ทำให้ user ธรรมดาใช้ได้

    การหลบการตรวจจับด้วยการเปลี่ยน hash
    เปลี่ยนแค่ 1 byte ใน timestamp ของลายเซ็น
    ได้ hash ใหม่ที่ไม่อยู่ใน blocklist แต่ยังคงลายเซ็นที่ถูกต้อง
    Windows ยังมองว่าเป็นไฟล์ที่เชื่อถือได้

    ValleyRAT: Payload สุดท้าย
    เป็น modular backdoor ที่มีฟีเจอร์ spying, command execution และ data exfiltration
    โครงสร้าง C2 ถูก trace ไปยังเซิร์ฟเวอร์ในจีน
    เป้าหมายหลักคือองค์กรในเอเชีย โดยเฉพาะจีน

    การตอบสนองจาก WatchDog และ Microsoft
    WatchDog ออก patch v1.1.100 เพื่อแก้ LPE ด้วยการเพิ่ม DACL
    แต่ยังไม่แก้ปัญหา process termination
    Microsoft blocklist อัปเดตช้า ทำให้มีช่องว่างให้โจมตี

    ความเสี่ยงจากการเชื่อมั่นลายเซ็นมากเกินไป
    ลายเซ็นที่ถูกต้องไม่เท่ากับความปลอดภัย หาก hash ถูกเปลี่ยน
    ระบบที่ใช้ hash-based blocklist อาจถูกหลอกได้ง่าย

    ความล่าช้าในการอัปเดต blocklist
    Microsoft อัปเดต blocklist ปีละไม่กี่ครั้ง ทำให้มีช่องว่างหลายเดือน
    ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่แต่ยังไม่ถูกบล็อกสามารถใช้โจมตีได้ทันที

    ความเสี่ยงจากการใช้ driver ที่ไม่ได้ตรวจสอบ
    ระบบ endpoint protection อาจถูกปิดก่อนที่ detection engine จะทำงาน
    การใช้ driver ที่มีสิทธิ์ระดับ kernel ทำให้มัลแวร์ฝังตัวได้ลึกและยากต่อการลบ

    https://hackread.com/silver-fox-apt-exploit-signed-windows-driver-valleyrat/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Silver Fox: เมื่อ “ไดรเวอร์ที่เซ็นแล้ว” กลายเป็นอาวุธของ APT กลุ่มแฮกเกอร์ระดับชาติที่ชื่อว่า Silver Fox APT ได้เปิดแคมเปญโจมตีใหม่ที่ใช้เทคนิค BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) โดยอาศัยไดรเวอร์ที่เซ็นโดย Microsoft อย่างถูกต้อง แต่มีช่องโหว่ร้ายแรง เพื่อปิดระบบป้องกันของ Windows แล้วติดตั้งมัลแวร์ ValleyRAT ไดรเวอร์ที่ถูกใช้คือ WatchDog Antimalware (amsdk.sys v1.0.600) ซึ่งแม้จะเซ็นโดย Microsoft แต่ไม่เคยถูกขึ้นบัญชีบล็อกของ Microsoft หรือชุมชนอย่าง LOLDrivers มาก่อน Silver Fox ยังใช้ไดรเวอร์เก่าของ Zemana (zam.exe) เพื่อให้แคมเปญทำงานได้ทั้งบน Windows 7, 10 และ 11 Loader ที่ใช้ในแคมเปญนี้เป็นแพ็กเกจแบบ all-in-one ที่รวม anti-analysis, driver ฝังตัว, logic สำหรับฆ่า process และ ValleyRAT downloader ไว้ในไฟล์เดียว เมื่อรันแล้วจะเลือกไดรเวอร์ให้เหมาะกับระบบ ติดตั้งตัวเองแบบ persistent และเริ่มฆ่า process ของโปรแกรมป้องกันทันที ที่น่าตกใจคือ แม้ WatchDog จะออก patch ใหม่ (v1.1.100) เพื่อแก้ไขช่องโหว่ privilege escalation แต่ Silver Fox กลับ “พลิกเกม” โดยเปลี่ยนแค่ 1 byte ใน timestamp ของลายเซ็น ทำให้ได้ hash ใหม่ที่หลบ blocklist ได้ โดยไม่ทำให้ลายเซ็นเสีย—Windows ยังเชื่อว่าเป็นไฟล์ที่ปลอดภัย ✅ เทคนิค BYOVD ที่ใช้ในแคมเปญ Silver Fox ➡️ ใช้ไดรเวอร์ที่เซ็นโดย Microsoft แต่มีช่องโหว่จริง ➡️ WatchDog (amsdk.sys v1.0.600) และ Zemana (zam.exe) ถูกใช้ร่วมกัน ➡️ Loader แบบ all-in-one รวมทุกฟีเจอร์ไว้ในไฟล์เดียว ✅ จุดอ่อนของ WatchDog driver ➡️ สามารถฆ่า process ได้โดยไม่ตรวจสอบสิทธิ์ (PP/PPL bypass) ➡️ มีช่องโหว่ privilege escalation และ raw disk access ➡️ ไม่มีการควบคุม access บน device namespace ทำให้ user ธรรมดาใช้ได้ ✅ การหลบการตรวจจับด้วยการเปลี่ยน hash ➡️ เปลี่ยนแค่ 1 byte ใน timestamp ของลายเซ็น ➡️ ได้ hash ใหม่ที่ไม่อยู่ใน blocklist แต่ยังคงลายเซ็นที่ถูกต้อง ➡️ Windows ยังมองว่าเป็นไฟล์ที่เชื่อถือได้ ✅ ValleyRAT: Payload สุดท้าย ➡️ เป็น modular backdoor ที่มีฟีเจอร์ spying, command execution และ data exfiltration ➡️ โครงสร้าง C2 ถูก trace ไปยังเซิร์ฟเวอร์ในจีน ➡️ เป้าหมายหลักคือองค์กรในเอเชีย โดยเฉพาะจีน ✅ การตอบสนองจาก WatchDog และ Microsoft ➡️ WatchDog ออก patch v1.1.100 เพื่อแก้ LPE ด้วยการเพิ่ม DACL ➡️ แต่ยังไม่แก้ปัญหา process termination ➡️ Microsoft blocklist อัปเดตช้า ทำให้มีช่องว่างให้โจมตี ‼️ ความเสี่ยงจากการเชื่อมั่นลายเซ็นมากเกินไป ⛔ ลายเซ็นที่ถูกต้องไม่เท่ากับความปลอดภัย หาก hash ถูกเปลี่ยน ⛔ ระบบที่ใช้ hash-based blocklist อาจถูกหลอกได้ง่าย ‼️ ความล่าช้าในการอัปเดต blocklist ⛔ Microsoft อัปเดต blocklist ปีละไม่กี่ครั้ง ทำให้มีช่องว่างหลายเดือน ⛔ ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่แต่ยังไม่ถูกบล็อกสามารถใช้โจมตีได้ทันที ‼️ ความเสี่ยงจากการใช้ driver ที่ไม่ได้ตรวจสอบ ⛔ ระบบ endpoint protection อาจถูกปิดก่อนที่ detection engine จะทำงาน ⛔ การใช้ driver ที่มีสิทธิ์ระดับ kernel ทำให้มัลแวร์ฝังตัวได้ลึกและยากต่อการลบ https://hackread.com/silver-fox-apt-exploit-signed-windows-driver-valleyrat/
    HACKREAD.COM
    Silver Fox APT Exploits Signed Windows Driver to Deliver ValleyRAT
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    ตอนที่ 3
    จะแสดงอภิมหาแสนยานุภาพทั้งที ต้องดูตาถี่ตาห่าง ทบทวนกันหน่อยว่าตอนนี้
    ใครเป็นมิตร ใครเป็นศัตรู ใครเป็นพวกใคร น้ำหนักเท่าไหร่ ความไวเป็นอย่างไร จุดเป็น จุดตาย จุดอ่อนจุดแข็ง อยู่ตรงไหน โลกมันเปลี่ยนไปเร็ว เห็นตัวอย่างจากการโตเร็วของอาเฮียแดนมังกรแล้ว ไม่ทำการบ้านให้ดี ถลาเข้ามาเดินเชิดหน้าพองขน ดันโดนรุมสกรัม พุ่งถลาหน้าแหก คงไม่สง่างามสมกับเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่งของโลก
    เอ้า วัดสัดส่วนเทียบทุกจุดแล้ว โผออกมาดังนี้
    1. กลุ่มที่จะกระทบกับผลประโยชน์ของอเมริกาและพวก คือ
    – จีน และ เกาหลีเหนือ สำหรับ กลุ่มพวกเอเซีย
    – อิหร่านและซีเรีย (และกลุ่มหัวรุนแรง ที่ไม่ประกาศสัญชาติ) สำหรับ กลุ่ม
    ตะวันออกกลาง
    – รัสเซีย สำหรับ กลุ่มเอเซีย และยุโรป
    2. คู่แข่งในการแสดงอำนาจและบารมีของอเมริกาในภูมิภาคต่าง ๆ
    – จีน ในเอเซียตะวันออก เอเซียกลาง และอาฟริกา (โปรดสังเกต ไม่มีเอเซีย
    ตะวันออกเฉียงใต้ แสดงว่าประเทศแถวนี้ มันหมูในอวย หรือลูกหาบตลอดการของนักล่า หือไม่ขึ้นแล้ว อาเฮียลื้ออย่ามาเกี้ยวให้เสียเวลาเลย ฮา !)
    – อิหร่าน ในตะวันออกกลาง
    – รัสเซีย ในเอเซียกลาง และบริเวณใกล้เคียง
    3. คู่แข่งในเรื่องกองทัพและอาวุธ
    – จีน และเกาหลีเหนือ
    – อิหร่าน
    (เอะ ! ทำไมตัวละครมันซ้ำ ๆ กันแบบนี้ คนทำการบ้านวิเคราะห์ถูกหรือเปล่านะ คนเล่า
    นิทานชักเบื่อ ไม่เห็นมีอะไรใหม่เลย)
    รู้มิตร รู้ศัตรู รู้หน้าตาคู่แข่ง พวกก้างขวางคอ แล้วอเมริกาจะจัดการอย่างไรกับฐานทัพและกองทัพ ที่กระจายกันอยู่ทั่วโลก เพื่อรุกไปขย่มขวัญอาเฮียใน Asia Pacific และรับมือกับบรรดาก้างขวางคอ
    ผู้ทำแผนการล่าเหยื่อบอกไม่มีปัญหา เรามีแผนจัดเป็นโปรแกรม โปรดเลือกเอาตาม
    สะดวก ชอบโปรแกรมไหน กดไป ใช้ได้เลย เสียดายไม่ยักกะมีเพลงประจำ แต่ละโปรแกรมมาด้วย
    – โปรแกรมขย่มขวัญ
    จัดให้เพื่อแสดงบทขย่มขวัญจีนและเกาหลีเหนือโดยเฉพาะ และให้พรรคพวกอุ่นใจ
    ว่านักล่ายังฟันคมกริบ กรงเล็บแข็ง ตะปบแม่น ถ้าอเมริกาต้องการแสดงแสนยานุภาพ
    ไปทางเอเซียอย่างเต็มที่ ! มันต้องยังงั้น ! ไปท้าทายเขาถึงหน้าบ้านเลย ดูซิว่าจีนกับเกาหลีเหนือ จะยืนเกาหัวมึนไป หรือนักล่าจะถูกดักตีหัวแบะเอง ให้มันรู้กันไป เป็นจิกโก๋ต้องใจสู้ เข้าไปท้าชิงในถิ่นเขาเลย !
    การจะใช้โปรแกรมขย่มขวัญ อเมริกาต้องขยายฐานทัพ และสร้างภาพให้โลก โดยเฉพาะ
    ผู้ที่อเมริกาอยากขย่มขวัญ เห็นว่าอเมริกามาแล้ว มาอยู่ตรงนี้จริง ๆ (permanent presence) ดังนั้นควรมีการขยายฐานทัพ/สร้างฐานทัพ ของพวกลูกหาบ เช่น ในฟิลิปปินส์ ไทยแลนด์ (ของสมันน้อยไงจ๊ะ ! ) สิงคโปร์และออสเตรเลียเพิ่มขึ้น
    และหาทางเจรจาสร้างฐานทัพกับมาเลเซียเวียตนาม และอินโดนีเซีย (พวกผักชีโรยหน้า) เพื่อเป็นการรองรับปัญหาที่อาจจะมาจากกรณีทะเลจีนใต้ (ที่ตนเองไปเสี้ยมไว้) ขณะเดียวกัน ก็ต้องเพิ่มการฝึกซ้อมรบร่วมกันทั้งทางอากาศและทางทะเล กับพวกลูกหาบให้บ่อยมากขึ้น
    ส่วนฐานทัพที่อยู่ในอเมริกาไม่ต้องทำอะไร แค่ดูให้มั่นใจว่ารับศึกที่จะมาคุกคาม พรรคพวกแถวยุโรปกับอาหรับได้เป็นพอ
    (เรียกว่าเป็นโปรแกรมใหญ่ ค่าตั๋วน่าจะแพง กินงบประมาณแผ่นดินกันถ้วนหน้า ถ้าชิงรางวัลใหญ่ไม่ได้ อาจกลายเป็นเสียเมืองแทน
    พวกลูกหาบระวังตัวให้ดีแล้วกัน)
    – โปรแกรมรับมือ
    เป็นการเตรียมรับมือในกรณี เกิดความไม่มั่นคงในตะวันออกกลาง เพราะทะเลาะกันเอง
    หรือการเมือง เศรษฐกิจของหลายประเทศไม่มั่นคง (ก็เกิดจากการเสี้ยมของอเมริกานั่นแหละ ไม่ต้องวิเคราะห์มากให้ปวดหัว)
    รายการนี้ต้องใช้ฐานทัพและกองกำลังของอเมริกาเป็นตัวหลัก
    ยุทธศาสตร์นี้จะใช้ต่อเมื่อจีนไม่มีปฎิกริยาโต้ตอบกับอเมริกา เหมือนเป็นกองกำลังกงเต๊ก ส่วนในยุโรปก็ไม่มีผู้ท้าชิง ในทางตรงกันข้าม อิหร่านเกิดบ้าเลือดมาแรง เผลอ ๆ จะได้เห็นนิวเคลียร์ยี่ห้ออิหร่านลงแอลเอ ! ดังนั้น กองกำลังที่อยู่ในยุโรปและในอเมริกาเองจะต้องปรับ เพื่อให้คล่องตัวในการเล่นศึกกับอิหร่าน สำหรับเอเซีย การปรับเปลี่ยนกองกำลังและฐานทัพ จะเป็นเช่นเดียวกับโปรแกรมขย่มขวัญ
    (โปรแกรมนี้ดูมันไม่ค่อยมีเหตุผลนะ แต่ก็อยากเห็น ระเบิดลงหัวนักล่า
    เหมือนกันแหละ !)
    – โปรแกรมนักล่าตัวจริง
    กรณีนี้ใช้สำหรับนักล่าตัวจริง หมายเลข 1 ของโลก ที่จะล่ามันไปทั่วทั้งบริเวณ
    East Asia, ยุโรป และตะวันออกกลาง และขยายฐานที่มีอยู่ใน Southeast Asia ไปจนถึงตะวันออกกลาง ทั้งในด้านการเมืองและการเงิน
    ถ้าเลือกโปรแกรมนี้ นักล่าต้องฟิตหนัก เพราะต้องเตรียมตัวรับ กับ การขยายตัวทางการทหารจากจีน และเกาหลีเหนือ (ก็ยื่นหน้าไปเบ่งกล้ามใส่เขา คิดว่าเขา
    จะอยู่เฉยหรือไง !) และยังต้องมีกองกำลังในตะวันออกกลาง เพื่อเตรียมรับมือกับอิหร่านอีกด้วย
    และต้องพร้อมที่จะชนะการปะทะแถวยุโรป เพื่อแสดงให้เด็ก ๆ แถว Nato เห็นว่าลูกพี่ยังแน่อยู่
    กองทัพแถวยุโรป จึงต้องยังมีและพร้อมอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุม นักล่าต้องทำให้น่าเชื่อว่าตัวเอง ดูแลอย่างใกล้ชิดประเทศในแถบ GCC (Gulf Cooperation Council) สร้างภาพให้เป็นที่เชื่อถือ มีภาพตัวเองติดอยู่ในแถบ GCC (ติดรูปไว้ทุกเสาไฟฟ้าเลยนะ)
    และควรมีการทำข้อตกลงกับ Saudi Arabia และ India ที่จะใช้ฐานทัพในแถบนั้นได้ ในกรณีวิกฤติ (อันนี้ไม่ใช่ผักชีโรย แต่เป็นอาหารจานหลักนี่หว่า หลอกแขกชัด ๆ) ส่วนกองกำลังปะทะ (combat) และกองกำลังเคลื่อนที่ จะต้องมีอยู่ในฐานทัพต่าง ๆ ของอเมริกา
    (นี่มันโปรแกรมฝันกลางวัน เอ ! หรือนักล่าเอาจริง ! )
    แล้วตกลงอเมริกาจะเลือกใช้โปรแกรมไหน น่าสังเกตว่าทุกโปรแกรม ยุโรปเหมือนเป็นตัว
    ประกอบราคาถูก หรือไม่กล้าใช้นายเหนืออีกทีกันแน่
    แต่ที่น่าสนใจฝ่ายวางแผนล่าเหยื่อบอกว่า อเมริกาต้องตัดสินใจ ว่าจะจัดการกับกองกำลังและฐานทัพที่เกลื่อนอยู่ทั่วโลกอย่างไร มันใช้เงินโขอยู่ ตอนนี้ก็ไม่ได้รวยอย่างที่โม้ไว้ เพราะฉะนั้นเลือกเลยว่า จะแค่ขย่มขวัญ รับมือ หรือเป็นนักล่าตัวจริง ใหญ่ค้ำโลก
    การเลือกของอเมริกาในเรื่องนี้ มันจะแสดงให้เห็นอนาคตของโลกนี้ว่า
    กระบวนยุทธครั้งนี้ของอเมริกา เป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ไหม ขณะนี้อเมริกายังไม่พูดให้ชัดว่าจะเล่นแค่ Asia Pacific เป็นฉากหน้า แต่ของจริงล่าทั้งโลก ส่วนไอ้เรื่องโปรแกรมรับมือน่ะ ไม่มีทาง เขียนมาให้โวยเล่น นักล่าหรือจะคิดแค่รับมือ!

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” ตอนที่ 3 จะแสดงอภิมหาแสนยานุภาพทั้งที ต้องดูตาถี่ตาห่าง ทบทวนกันหน่อยว่าตอนนี้ ใครเป็นมิตร ใครเป็นศัตรู ใครเป็นพวกใคร น้ำหนักเท่าไหร่ ความไวเป็นอย่างไร จุดเป็น จุดตาย จุดอ่อนจุดแข็ง อยู่ตรงไหน โลกมันเปลี่ยนไปเร็ว เห็นตัวอย่างจากการโตเร็วของอาเฮียแดนมังกรแล้ว ไม่ทำการบ้านให้ดี ถลาเข้ามาเดินเชิดหน้าพองขน ดันโดนรุมสกรัม พุ่งถลาหน้าแหก คงไม่สง่างามสมกับเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่งของโลก เอ้า วัดสัดส่วนเทียบทุกจุดแล้ว โผออกมาดังนี้ 1. กลุ่มที่จะกระทบกับผลประโยชน์ของอเมริกาและพวก คือ – จีน และ เกาหลีเหนือ สำหรับ กลุ่มพวกเอเซีย – อิหร่านและซีเรีย (และกลุ่มหัวรุนแรง ที่ไม่ประกาศสัญชาติ) สำหรับ กลุ่ม ตะวันออกกลาง – รัสเซีย สำหรับ กลุ่มเอเซีย และยุโรป 2. คู่แข่งในการแสดงอำนาจและบารมีของอเมริกาในภูมิภาคต่าง ๆ – จีน ในเอเซียตะวันออก เอเซียกลาง และอาฟริกา (โปรดสังเกต ไม่มีเอเซีย ตะวันออกเฉียงใต้ แสดงว่าประเทศแถวนี้ มันหมูในอวย หรือลูกหาบตลอดการของนักล่า หือไม่ขึ้นแล้ว อาเฮียลื้ออย่ามาเกี้ยวให้เสียเวลาเลย ฮา !) – อิหร่าน ในตะวันออกกลาง – รัสเซีย ในเอเซียกลาง และบริเวณใกล้เคียง 3. คู่แข่งในเรื่องกองทัพและอาวุธ – จีน และเกาหลีเหนือ – อิหร่าน (เอะ ! ทำไมตัวละครมันซ้ำ ๆ กันแบบนี้ คนทำการบ้านวิเคราะห์ถูกหรือเปล่านะ คนเล่า นิทานชักเบื่อ ไม่เห็นมีอะไรใหม่เลย) รู้มิตร รู้ศัตรู รู้หน้าตาคู่แข่ง พวกก้างขวางคอ แล้วอเมริกาจะจัดการอย่างไรกับฐานทัพและกองทัพ ที่กระจายกันอยู่ทั่วโลก เพื่อรุกไปขย่มขวัญอาเฮียใน Asia Pacific และรับมือกับบรรดาก้างขวางคอ ผู้ทำแผนการล่าเหยื่อบอกไม่มีปัญหา เรามีแผนจัดเป็นโปรแกรม โปรดเลือกเอาตาม สะดวก ชอบโปรแกรมไหน กดไป ใช้ได้เลย เสียดายไม่ยักกะมีเพลงประจำ แต่ละโปรแกรมมาด้วย – โปรแกรมขย่มขวัญ จัดให้เพื่อแสดงบทขย่มขวัญจีนและเกาหลีเหนือโดยเฉพาะ และให้พรรคพวกอุ่นใจ ว่านักล่ายังฟันคมกริบ กรงเล็บแข็ง ตะปบแม่น ถ้าอเมริกาต้องการแสดงแสนยานุภาพ ไปทางเอเซียอย่างเต็มที่ ! มันต้องยังงั้น ! ไปท้าทายเขาถึงหน้าบ้านเลย ดูซิว่าจีนกับเกาหลีเหนือ จะยืนเกาหัวมึนไป หรือนักล่าจะถูกดักตีหัวแบะเอง ให้มันรู้กันไป เป็นจิกโก๋ต้องใจสู้ เข้าไปท้าชิงในถิ่นเขาเลย ! การจะใช้โปรแกรมขย่มขวัญ อเมริกาต้องขยายฐานทัพ และสร้างภาพให้โลก โดยเฉพาะ ผู้ที่อเมริกาอยากขย่มขวัญ เห็นว่าอเมริกามาแล้ว มาอยู่ตรงนี้จริง ๆ (permanent presence) ดังนั้นควรมีการขยายฐานทัพ/สร้างฐานทัพ ของพวกลูกหาบ เช่น ในฟิลิปปินส์ ไทยแลนด์ (ของสมันน้อยไงจ๊ะ ! ) สิงคโปร์และออสเตรเลียเพิ่มขึ้น และหาทางเจรจาสร้างฐานทัพกับมาเลเซียเวียตนาม และอินโดนีเซีย (พวกผักชีโรยหน้า) เพื่อเป็นการรองรับปัญหาที่อาจจะมาจากกรณีทะเลจีนใต้ (ที่ตนเองไปเสี้ยมไว้) ขณะเดียวกัน ก็ต้องเพิ่มการฝึกซ้อมรบร่วมกันทั้งทางอากาศและทางทะเล กับพวกลูกหาบให้บ่อยมากขึ้น ส่วนฐานทัพที่อยู่ในอเมริกาไม่ต้องทำอะไร แค่ดูให้มั่นใจว่ารับศึกที่จะมาคุกคาม พรรคพวกแถวยุโรปกับอาหรับได้เป็นพอ (เรียกว่าเป็นโปรแกรมใหญ่ ค่าตั๋วน่าจะแพง กินงบประมาณแผ่นดินกันถ้วนหน้า ถ้าชิงรางวัลใหญ่ไม่ได้ อาจกลายเป็นเสียเมืองแทน พวกลูกหาบระวังตัวให้ดีแล้วกัน) – โปรแกรมรับมือ เป็นการเตรียมรับมือในกรณี เกิดความไม่มั่นคงในตะวันออกกลาง เพราะทะเลาะกันเอง หรือการเมือง เศรษฐกิจของหลายประเทศไม่มั่นคง (ก็เกิดจากการเสี้ยมของอเมริกานั่นแหละ ไม่ต้องวิเคราะห์มากให้ปวดหัว) รายการนี้ต้องใช้ฐานทัพและกองกำลังของอเมริกาเป็นตัวหลัก ยุทธศาสตร์นี้จะใช้ต่อเมื่อจีนไม่มีปฎิกริยาโต้ตอบกับอเมริกา เหมือนเป็นกองกำลังกงเต๊ก ส่วนในยุโรปก็ไม่มีผู้ท้าชิง ในทางตรงกันข้าม อิหร่านเกิดบ้าเลือดมาแรง เผลอ ๆ จะได้เห็นนิวเคลียร์ยี่ห้ออิหร่านลงแอลเอ ! ดังนั้น กองกำลังที่อยู่ในยุโรปและในอเมริกาเองจะต้องปรับ เพื่อให้คล่องตัวในการเล่นศึกกับอิหร่าน สำหรับเอเซีย การปรับเปลี่ยนกองกำลังและฐานทัพ จะเป็นเช่นเดียวกับโปรแกรมขย่มขวัญ (โปรแกรมนี้ดูมันไม่ค่อยมีเหตุผลนะ แต่ก็อยากเห็น ระเบิดลงหัวนักล่า เหมือนกันแหละ !) – โปรแกรมนักล่าตัวจริง กรณีนี้ใช้สำหรับนักล่าตัวจริง หมายเลข 1 ของโลก ที่จะล่ามันไปทั่วทั้งบริเวณ East Asia, ยุโรป และตะวันออกกลาง และขยายฐานที่มีอยู่ใน Southeast Asia ไปจนถึงตะวันออกกลาง ทั้งในด้านการเมืองและการเงิน ถ้าเลือกโปรแกรมนี้ นักล่าต้องฟิตหนัก เพราะต้องเตรียมตัวรับ กับ การขยายตัวทางการทหารจากจีน และเกาหลีเหนือ (ก็ยื่นหน้าไปเบ่งกล้ามใส่เขา คิดว่าเขา จะอยู่เฉยหรือไง !) และยังต้องมีกองกำลังในตะวันออกกลาง เพื่อเตรียมรับมือกับอิหร่านอีกด้วย และต้องพร้อมที่จะชนะการปะทะแถวยุโรป เพื่อแสดงให้เด็ก ๆ แถว Nato เห็นว่าลูกพี่ยังแน่อยู่ กองทัพแถวยุโรป จึงต้องยังมีและพร้อมอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุม นักล่าต้องทำให้น่าเชื่อว่าตัวเอง ดูแลอย่างใกล้ชิดประเทศในแถบ GCC (Gulf Cooperation Council) สร้างภาพให้เป็นที่เชื่อถือ มีภาพตัวเองติดอยู่ในแถบ GCC (ติดรูปไว้ทุกเสาไฟฟ้าเลยนะ) และควรมีการทำข้อตกลงกับ Saudi Arabia และ India ที่จะใช้ฐานทัพในแถบนั้นได้ ในกรณีวิกฤติ (อันนี้ไม่ใช่ผักชีโรย แต่เป็นอาหารจานหลักนี่หว่า หลอกแขกชัด ๆ) ส่วนกองกำลังปะทะ (combat) และกองกำลังเคลื่อนที่ จะต้องมีอยู่ในฐานทัพต่าง ๆ ของอเมริกา (นี่มันโปรแกรมฝันกลางวัน เอ ! หรือนักล่าเอาจริง ! ) แล้วตกลงอเมริกาจะเลือกใช้โปรแกรมไหน น่าสังเกตว่าทุกโปรแกรม ยุโรปเหมือนเป็นตัว ประกอบราคาถูก หรือไม่กล้าใช้นายเหนืออีกทีกันแน่ แต่ที่น่าสนใจฝ่ายวางแผนล่าเหยื่อบอกว่า อเมริกาต้องตัดสินใจ ว่าจะจัดการกับกองกำลังและฐานทัพที่เกลื่อนอยู่ทั่วโลกอย่างไร มันใช้เงินโขอยู่ ตอนนี้ก็ไม่ได้รวยอย่างที่โม้ไว้ เพราะฉะนั้นเลือกเลยว่า จะแค่ขย่มขวัญ รับมือ หรือเป็นนักล่าตัวจริง ใหญ่ค้ำโลก การเลือกของอเมริกาในเรื่องนี้ มันจะแสดงให้เห็นอนาคตของโลกนี้ว่า กระบวนยุทธครั้งนี้ของอเมริกา เป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ไหม ขณะนี้อเมริกายังไม่พูดให้ชัดว่าจะเล่นแค่ Asia Pacific เป็นฉากหน้า แต่ของจริงล่าทั้งโลก ส่วนไอ้เรื่องโปรแกรมรับมือน่ะ ไม่มีทาง เขียนมาให้โวยเล่น นักล่าหรือจะคิดแค่รับมือ! คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    ตอนที่ 2
    จะดูว่านักล่ามันใหญ่จริงไหม ดูง่าย ๆ มีชาติไหนบ้างที่สามารถตั้งฐานทัพของตัวเอง
    ไว้ในประเทศอื่นได้บ้าง เอาประเทศที่ว่าใหญ่ ๆ นะ เล็ก ๆ ไม่ต้องเสนอหน้า
    อินเดียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่แค่ไหน พลเมืองมากเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับอเมริกา
    แขกก็กำลังรวย แอบสร้างอาวุธนิวเคลียร์ (เอ๊ะ ! ที่ยังงี้ทำไมไม่เห็นมีใครเสนอ ส่งหน่วยตรวจสอบจาก UN มาเลยนะ เอ้าคนอ่านนิทานลองคิดหาคำตอบกันเองบ้าง) เกือบมีฐานทัพในบ้านคนอื่น คือ Tajikistan แต่แค่เกือบแปลว่ายังไม่สำเร็จ แขกยังต้มไม่เก่งเท่านักล่า
    แล้วจีนล่ะ อาเฮียรวยจะตาย เศรษฐกิจโตพุ่งพรวดเป็นอันดับ 2 ของดวงดาวนี้ ขยายบ้านสร้างเมือง ไปเซียงไฮ้ นึกว่าไปปารีส (ฮา !) แล้วไง มีไหมฐานทัพในประเทศอื่น ของจริงยังม่ายมี ! มีแต่ข่าวว่าจะไป ตั้งที่เกาะเล็ก ๆ เกาะหนึ่ง แถวหมู่เกาะ
    Seychelles ในมหาสมุทรอินเดีย จิกโก๋บอกโถ ! แค่นี้ยังไม่มีปัญญา อย่ามาทำซ่ากะไอนะ !
    เอ้า ! รัสเซียของพี่ปูจอมอึด ว่าไง มีไหม ! อย่านะ ยุ่งกะจีนเรื่องนึง แต่รัสเซียของพี่ปูนี่ก็อีกเรื่องนึง ไม่จำเป็นอย่ายุ่ง สงครามเย็นน่ะ มันทำให้เหนื่อย ให้จนกันขนาดไหน ยังไม่เข็ดหรือไง ขอโทษ ! นึกว่าพี่ปูไม่มีหรือไง พี่ปูก็มีนะอยู่แถวเอเซียกลาง ฐานเล็ก ๆ 4,5 ฐาน ก็จริงอยู่ แต่ต่อไปอาจจะมีใครตาละห้อยมอง เพราะ the Great Great Game ศึกชิงน้ำมันกำลังเข้มข้นอยู่แถวนั้น
    อังกฤษล่ะ ในฐานะนักล่ารุ่นเก่าต้องรักษาฟอร์ม มีอยู่บ้างในอาฟกานิสถาน และตามเมืองขี้ข้าเก่า ของตนเองประมาณ 10 ฐาน เป็นฐานขนาดเล็กที่เยอรมันกับ Falkland ที่เหลือเป็นขนาดจ้อย ๆ
    ส่วนฝรั่งเศสก็มาฟอร์มเดี๋ยวกับอังกฤษ มีฐานเล็ก จิ๋ว ๆ ตามเมืองขี้ข้าเก่า ประมาณ
    10 ฐาน มีกำลังประจำฐานละไม่กี่ร้อยคน บางฐานมี 15 คน (ฮา !)
    ญี่ปุ่นเองมี 1 ฐานที่ Djiboutiเป็นฐานเล็กเอาไว้สู้กับโจรสลัด
    และอีกประเทศคือ ตุรกีมี 1 ฐาน อยู่ที่ไซปรัส หมดแล้วทั้งโลกนี้นะ
    เบ่งกล้ามกันได้เท่านี้ แล้วจะไปสู้อะไรกับพี่เบิ้มนักล่าหมายเลขหนึ่งได้
    แล้วพี่เบิ้มเองมีเท่าไหร่ อยู่ที่ไหนบ้าง
    รายงานของแต่ละหน่วยงานของอเมริกา บอกตัวเลขไม่เหมือนกัน (ฝรั่งก็แต่งตัวเลข
    เหมือนกันน่า แต่งเก่งด้วย มันชอบเขียนให้ดูยุ่งยาก ต้องเอาบวกมาลบมารวมและมา
    แยกใหม่ อะไรทำนองนี้ ถึงจะได้ของจริง)
    รายงานของ Pentagon ผู้ที่น่าจะมีตัวเลขครบ แต่ไม่มีวันจะบอกความจริงกับโลก
    ตัวเลขของ Pentagon เมื่อปี ค.ศ. 2010 บอกว่าอเมริกามีฐานทัพในต่างประเทศ 662 แห่งใน 38 ประเทศทั่วโลก แปลว่าของจริง ต้องมีมากกว่านั้น คำถามคือมากกว่าอีกเท่าไหร่
    ในปี ค.ศ. 1955 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จบไปแล้ว 10 ปี หนังสือพิมพ์ Chicago Daily Tribune สำรวจฐานทัพของอเมริกาแถบยุโรปและแปซิฟิกและรายงานว่า ธงชาติอเมริกันปลิวไสวอยู่บนเสาใน 300 กว่า ฐานทัพที่อยู่ต่างประเทศ ประมาณ 63 ประเทศ เออ ! ปี 1955 มันเข้าไป 63 ประเทศ พอ ค.ศ. 2010 เหลือ 38 ประเทศ ! มึน !
    ปัจจุบัน สรุปจากเอกสารประกอบเกือบ 10 สถาบัน ตัวเลขที่น่าเป็นไปได้ที่สุด คือ อเมริกามีประมาณ 1,077 ฐานทัพในประมาณ 130 ประเทศทั่วโลก !
    โฆษกของ US – led International Security Assistance Force (ISAF) บอกว่าในปี ค.ศ.2010 แค่ในอาฟกานิสถานเอง มีฐานทัพอเมริกาเกือบ 400 แห่ง นี่ยังไม่นับฐานลับ ที่อเมริกามีแอบในอิรักอีกเป็น 100 แห่ง
    สำหรับฐานทัพขนาดใหญ่ของอเมริกาตามรายงานของ Pentagon บอกว่าบางแห่งมีบ้านและโรงเรียนสำหรับครอบครัวทหาร โรงแรมแบบรีสอร์ท (ใช่ ! กระทรวงกลาโหมมีได้ มีปัญหาไหม ? ) ลานเล่นสกี (ใช่ ! มีได้เช่นกัน) และสนามกอล์ฟ ทหารอเมริกาคุยว่า พวกเขามีประมาณ 172 สนามกอล์ฟ ขนาดต่าง ๆ (ใช่ ! มิได้เช่นกัน อิจฉาไหม !)
    ใหญ่เสียขนาดนี้ สยายปีกเหยี่ยวไปทั่วโลก ตอนนี้บอกจะปรับกระบวนยุทธใหม่ มุ่งชิง
    รางวัลใหญ่ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก ฝ่ายวิเคราะห์ก็ต้องทำการบ้าน อย่าลืม Research and Development หน่วยงานฝ่ายวิเคราะห์และวางแผนของอเมริกา คือ ผู้ทำแผนการล่าเหยื่อนั่นเอง
    คราวนี้ใช้บริการของ Rand Corporation ซึ่งถือว่าเป็น think tank มือเก๋าของ Pentagon เรียกว่าใช้กันมานาน รู้ว่าเจ้านายต้องการให้เขียนอะไร

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” ตอนที่ 2 จะดูว่านักล่ามันใหญ่จริงไหม ดูง่าย ๆ มีชาติไหนบ้างที่สามารถตั้งฐานทัพของตัวเอง ไว้ในประเทศอื่นได้บ้าง เอาประเทศที่ว่าใหญ่ ๆ นะ เล็ก ๆ ไม่ต้องเสนอหน้า อินเดียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่แค่ไหน พลเมืองมากเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับอเมริกา แขกก็กำลังรวย แอบสร้างอาวุธนิวเคลียร์ (เอ๊ะ ! ที่ยังงี้ทำไมไม่เห็นมีใครเสนอ ส่งหน่วยตรวจสอบจาก UN มาเลยนะ เอ้าคนอ่านนิทานลองคิดหาคำตอบกันเองบ้าง) เกือบมีฐานทัพในบ้านคนอื่น คือ Tajikistan แต่แค่เกือบแปลว่ายังไม่สำเร็จ แขกยังต้มไม่เก่งเท่านักล่า แล้วจีนล่ะ อาเฮียรวยจะตาย เศรษฐกิจโตพุ่งพรวดเป็นอันดับ 2 ของดวงดาวนี้ ขยายบ้านสร้างเมือง ไปเซียงไฮ้ นึกว่าไปปารีส (ฮา !) แล้วไง มีไหมฐานทัพในประเทศอื่น ของจริงยังม่ายมี ! มีแต่ข่าวว่าจะไป ตั้งที่เกาะเล็ก ๆ เกาะหนึ่ง แถวหมู่เกาะ Seychelles ในมหาสมุทรอินเดีย จิกโก๋บอกโถ ! แค่นี้ยังไม่มีปัญญา อย่ามาทำซ่ากะไอนะ ! เอ้า ! รัสเซียของพี่ปูจอมอึด ว่าไง มีไหม ! อย่านะ ยุ่งกะจีนเรื่องนึง แต่รัสเซียของพี่ปูนี่ก็อีกเรื่องนึง ไม่จำเป็นอย่ายุ่ง สงครามเย็นน่ะ มันทำให้เหนื่อย ให้จนกันขนาดไหน ยังไม่เข็ดหรือไง ขอโทษ ! นึกว่าพี่ปูไม่มีหรือไง พี่ปูก็มีนะอยู่แถวเอเซียกลาง ฐานเล็ก ๆ 4,5 ฐาน ก็จริงอยู่ แต่ต่อไปอาจจะมีใครตาละห้อยมอง เพราะ the Great Great Game ศึกชิงน้ำมันกำลังเข้มข้นอยู่แถวนั้น อังกฤษล่ะ ในฐานะนักล่ารุ่นเก่าต้องรักษาฟอร์ม มีอยู่บ้างในอาฟกานิสถาน และตามเมืองขี้ข้าเก่า ของตนเองประมาณ 10 ฐาน เป็นฐานขนาดเล็กที่เยอรมันกับ Falkland ที่เหลือเป็นขนาดจ้อย ๆ ส่วนฝรั่งเศสก็มาฟอร์มเดี๋ยวกับอังกฤษ มีฐานเล็ก จิ๋ว ๆ ตามเมืองขี้ข้าเก่า ประมาณ 10 ฐาน มีกำลังประจำฐานละไม่กี่ร้อยคน บางฐานมี 15 คน (ฮา !) ญี่ปุ่นเองมี 1 ฐานที่ Djiboutiเป็นฐานเล็กเอาไว้สู้กับโจรสลัด และอีกประเทศคือ ตุรกีมี 1 ฐาน อยู่ที่ไซปรัส หมดแล้วทั้งโลกนี้นะ เบ่งกล้ามกันได้เท่านี้ แล้วจะไปสู้อะไรกับพี่เบิ้มนักล่าหมายเลขหนึ่งได้ แล้วพี่เบิ้มเองมีเท่าไหร่ อยู่ที่ไหนบ้าง รายงานของแต่ละหน่วยงานของอเมริกา บอกตัวเลขไม่เหมือนกัน (ฝรั่งก็แต่งตัวเลข เหมือนกันน่า แต่งเก่งด้วย มันชอบเขียนให้ดูยุ่งยาก ต้องเอาบวกมาลบมารวมและมา แยกใหม่ อะไรทำนองนี้ ถึงจะได้ของจริง) รายงานของ Pentagon ผู้ที่น่าจะมีตัวเลขครบ แต่ไม่มีวันจะบอกความจริงกับโลก ตัวเลขของ Pentagon เมื่อปี ค.ศ. 2010 บอกว่าอเมริกามีฐานทัพในต่างประเทศ 662 แห่งใน 38 ประเทศทั่วโลก แปลว่าของจริง ต้องมีมากกว่านั้น คำถามคือมากกว่าอีกเท่าไหร่ ในปี ค.ศ. 1955 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จบไปแล้ว 10 ปี หนังสือพิมพ์ Chicago Daily Tribune สำรวจฐานทัพของอเมริกาแถบยุโรปและแปซิฟิกและรายงานว่า ธงชาติอเมริกันปลิวไสวอยู่บนเสาใน 300 กว่า ฐานทัพที่อยู่ต่างประเทศ ประมาณ 63 ประเทศ เออ ! ปี 1955 มันเข้าไป 63 ประเทศ พอ ค.ศ. 2010 เหลือ 38 ประเทศ ! มึน ! ปัจจุบัน สรุปจากเอกสารประกอบเกือบ 10 สถาบัน ตัวเลขที่น่าเป็นไปได้ที่สุด คือ อเมริกามีประมาณ 1,077 ฐานทัพในประมาณ 130 ประเทศทั่วโลก ! โฆษกของ US – led International Security Assistance Force (ISAF) บอกว่าในปี ค.ศ.2010 แค่ในอาฟกานิสถานเอง มีฐานทัพอเมริกาเกือบ 400 แห่ง นี่ยังไม่นับฐานลับ ที่อเมริกามีแอบในอิรักอีกเป็น 100 แห่ง สำหรับฐานทัพขนาดใหญ่ของอเมริกาตามรายงานของ Pentagon บอกว่าบางแห่งมีบ้านและโรงเรียนสำหรับครอบครัวทหาร โรงแรมแบบรีสอร์ท (ใช่ ! กระทรวงกลาโหมมีได้ มีปัญหาไหม ? ) ลานเล่นสกี (ใช่ ! มีได้เช่นกัน) และสนามกอล์ฟ ทหารอเมริกาคุยว่า พวกเขามีประมาณ 172 สนามกอล์ฟ ขนาดต่าง ๆ (ใช่ ! มิได้เช่นกัน อิจฉาไหม !) ใหญ่เสียขนาดนี้ สยายปีกเหยี่ยวไปทั่วโลก ตอนนี้บอกจะปรับกระบวนยุทธใหม่ มุ่งชิง รางวัลใหญ่ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก ฝ่ายวิเคราะห์ก็ต้องทำการบ้าน อย่าลืม Research and Development หน่วยงานฝ่ายวิเคราะห์และวางแผนของอเมริกา คือ ผู้ทำแผนการล่าเหยื่อนั่นเอง คราวนี้ใช้บริการของ Rand Corporation ซึ่งถือว่าเป็น think tank มือเก๋าของ Pentagon เรียกว่าใช้กันมานาน รู้ว่าเจ้านายต้องการให้เขียนอะไร คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุทธการกบกระโดด ตอนที่ 1
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    ตอนที่ 1
    อเมริกากำลังปรับกระบวนยุทธใหม่ เพื่อมุ่งไปสู่การเป็นศูนย์อำนาจ เป็นสุดยอดนักล่า
(Strategic Pivot) ในภูมิภาค Asia Pacific แต่เพื่อให้ฟังนุ่มหู อเมริกาบอกว่าเป็นการปรับดุลยอำนาจ (Rebalancing) ในภูมิภาคนี้ใหม่ กระบวนยุทธใหม่นี้ นายโอบามา พูดถึงเป็นครั้งแรกที่กรุง Canberra Australia เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011 หลังจากนั้น อเมริกาเริ่มปฎิบัติการอย่างเงียบ ๆ มาตลอดเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา เราชาวโลกควรให้ความสนใจกัน เพราะต่อไปนี้
ละครฉากสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการค้า การรบ การคบ การเคี้ยว จะอยู่ตรงแถวนี้แหละ ตรงที่เรียกว่า Asia Pacific
    สิ่งที่อเมริกาเดินหน้าทำเป็นเรื่องแรก ในช่วงปรับกระบวนยุทธ คือ ทำให้ประเทศที่
เรียกว่าเป็นพันธมิตร ทั้งระดับชิดและระดับห่าง แถวภูมิภาค Asia Pacific (Alliances) เชื่อว่าเรายังเป็นก๊วนกันอยู่นะ แม้ตัวจะไกล แต่ใจแนบแน่น เพราะฉะนั้นไอกระดิกนิ้วเรียกเมื่อไหร่ ต้องวิ่งมากันเลยนะ
    อเมริกาลงทุนเดินไปเคาะประตูบ้านเกือบทุกบาน ของพันธมิตร (ลูกหาบ !) จับมือ เขย่าแขน กอดคอ หอมแก้ม ผู้นำเกือบทุกคนในภูมิภาคนี้ โดยใช้นักแสดงนำ เช่น คุณนาย Clintonรมว.ตปท. นาย Robert Gates รมว.กลาโหม นาย Leon Panetta ที่มาเป็นรมว. กลาโหมคนต่อมา รวมทั้งที่ปรึกษาความมั่นคง เช่น นาย Tom Donjion และบรรดาแม่ทัพนายกอง แถวกองทัพภาคที่ 7 ยังถูกเกณฑ์ออกมาเดินสาย ที่สำคัญตัวพระเอกเอง คือ ประธานาธิบดี Obamaก็ไม่เว้น ออกเดินสายเคาะประตูบ้านด้วยเช่นกัน
    – อันดับแรก แน่นอน ญี่ปุ่นลูกเลี้ยง ประเทศที่อเมริกาถล่มเขาซะหายไปทั้งเมือง ทำให้
ต้องกระเตงเลี้ยงกันไปตลอด ทั้งช่วยทั้งใช้ (แต่รู้สึกอย่างหลังจะมากกว่านะ) อเมริกาเข้าไปปรับปรุงยุ่งถึงในมุ้งการเมืองของญี่ปุ่น ได้นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดมา 1 คน เพื่อให้ดำเนินนโยบายประเทศให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ใหม่ของอเมริกา และเพื่อโชว์ให้โลกเห็นว่าอเมริกาเป็นพ่อพระใจดีใจกว้าง ไม่ได้ทอดทิ้งยามยาก เช่น คราวญี่ปุ่นแผ่นดินไหว เกิดซึนามิและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์รั่ว ในปี ค.ศ. 2011 (จริง ๆ แล้วมันอยากไปดูว่าของจริง ฉ.ห แค่ไหน จะได้คิดย้ายฐานทัพของตัวออกมาน่ะ) อเมริกาก็ช่วยไป แต่งข่าวผ่าน CNN ไป ชาวเราก็ได้เรื่องจริงมาน้อยกว่าเรื่องแต่ง
    – อันดับสอง เกาหลีใต้ อเมริกาพยายามโปรโมทเกาหลีใต้ขึ้นมาแข่งกับญี่ปุ่นนานแล้ว
Toyota แพ้ Hyundai Sony แพ้ Samsung ฝีมือใคร เอ๊ะ ทำได้ไงกับลูกเลี้ยง ก็เพราะอเมริกันต้องการให้เกาหลีใต้แข็งแรง เป็นกำแพงกั้นเกาหลีเหนือ เอาความเจริญใส่เข้าไปมาก ๆ จะได้เห็นความแตกต่าง ๆ ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ มันจะได้ยากที่จะรวมกัน เดี๋ยวมันจะเอาอย่างเยอรมันตะวันออกกับตะวันตก ไอไม่ใจดีขนาดนั้นหรอก ลงทุนไปแยะ มาถึงตอนนี้ไม่ต้องทำอะไรมาก โปรโมทเข้าไปหนัก ๆ ยูดี ยูเก่ง ยูเจริญ ที่สุดในเอเซีย ใคร ๆ ก็อยากมี look แบบเกาหลีกันทั้งนั้น โอบซ้าย โอบขวา เชียร์กังนัมมันไปเรื่อย ๆ แค่นี้ก็พอถมเถ ชาวเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ ก็ใช่ว่าจะอยากไปอยู่กับเด็กแสบของเกาหลีเหนือ คราวนี้พักเรื่องกังนัมสักครู่ แล้วมาคุยกันเรื่องสร้างฐานทัพให้ลูกพี่จอดเรือรบก่อนนะ
    – อันดับสาม ฟิลิปปินส์ ซึ่งอเมริกาเลี้ยงดูมาหลายสิบปี มีอะไรก็ถมให้ไปหมด ขนาด
เศรษฐีโคตรรวย Rockefeller ยังพยายามทั้งผลักทั้งดัน ให้ฟิลิปปินส์เป็นเมืองเอกในเอเซีย ลงทุนตั้งมหาวิทยาลัยให้ทั้งหลัง หน่วยงานสำคัญ ๆ ก็ไปไว้ที่นั่น ADB ไง Asian for DevelopmentBank ลูกของ World Bank สำนักงานใหญ่ก็อยู่ที่นี่แหละ แต่เด็กมันไม่ค่อยรักดี ถ้าไม่โกงกันระเบิด ก็เอาระเบิดมาถล่มกันเองอยู่เรื่อย แต่ก็ยังทิ้งกันไม่ลง ก็ลงทุนสร้างฐานทัพทิ้งไว้ที่เกาะนี้เต็มไปหมด งวดนี้กัดฟันไปคุยกันใหม่ เพราะต้องใช้ฟิลิปปินส์ เป็นม้าใช้ลอยคอไปยันกับจีนแถวทะเลจีนใต้ รื้อฟื้นฐานทัพเก่าที่เคยสร้างไว้มาปัดฝุ่นใช้กันใหม่
    – อันดับสี่ ไทยแลนด์แดนสมันน้อย แหม ! นึกว่าเป็นลูกรักอยู่อันดับหนึ่ง ที่แท้อยู่โหล่
เลย ฉะนั้นอย่างสำคัญตนผิด แต่ขอโทษ คุณพี่ Obama มาเอง เพราะไทยแลนด์เป็นพันธมิตรเก่าแก่ในภูมิภาคนี้ ร่วมรบ หลอกตุ๋นกันมาตั้งกะสมัยสงครามเวียตนาม แต่พักหลังนี้ มันเล่นกีฬาสีกันแยะ จนลูกพี่ชักงง จะชอบจะใช้สีไหนดีนะ เอาที่มันใช้ง่าย ๆ น่ะ มาคราวนี้เลยบีบมือนางสมันน้อยแน่นนาน อย่าลืมนะ นางสาวแสนโง่ ! สัญญาทาสผูกคอของเราสองยังมีอยู่นะ เรียกเมื่อไหร่อย่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง เรื่องอื่นไม่รู้เรื่องไม่เป็นไร แต่เรื่องนี้ห้ามโง่นะ ว่าแล้วก็ทำตาเยิ้มใส่กัน ฮา !
    แม้จะใช้นักแสดงนำรุ่นใหญ่ขนาดนั้น แต่ความที่บทมันไม่ชัดเหมือนดูหนังจนจบแล้ว คนดู
ยังไม่แน่ใจว่า เป็นหนังบู๊หรือหนังตลก พระเอกชักปืนจะมายิงผู้ร้ายทีไร ดันยิงเข้าหัวแม่เท้าตัวเองทุกที แบบนั้นแหละ แถมนักแสดงบางคนก็เล่นไม่เนียน ถ้าไม่หน้าใหม่ ก็หน้าโหด ดูอย่างหน้าคุณนาย Clinton ซิ ปากยิ้ม แต่ลูกตายังกะนางสิงห์กำลังจ้องจะขม้ำเหยื่อ ชาวบ้านก็เลยมึน นี่มันเรื่องจริงหรือเปล่านะ ไหนเขาลือกันว่ากระเป๋ายังโหว่อยู่ ไม่ใช่หรือ เงินเดือนจะจ่ายคนทำงานยังไม่พอเลย เป็นข่าวไปทั่วโลก จะ shut down shut up อะไรนั่น นี่มันรายการเกทับบลัฟแหลก ประเภทหน้าไพ่มีคิงแต่ข้างในกบแปดหรือเปล่านะ เล่นมุกนี้แถว Asia Pacific น่ะไม่หมูนะ อาเฮียกับพวกนี่เขาธรรมดาที่ไหน ชาวบ้านเขาก็วิจารณ์กันทั่วโลก (ยกเว้นไทยแลนด์ของสมัย
น้อยแหละ ที่ดีใจหนักหนา พี่เขากลับมาแล้ว)
    ขนาดพวกนักวิเคราะห์บางค่าย เช่น CFR (พวกกันเอง) ยังถามเลยว่ามาทาง Asia
Pacific แน่หรือ แล้วทาง Middle East ว่าอย่างไร มันยัง spring หลุดกันอยู่เลยนะ บางค่ายก็บอกว่า อเมริกาต้องมาทางนี้แหละ เพราะว่าภูมิภาคนี้ ต้องมีอเมริกามายืนผงาด ให้พวกอาเฮียรู้บางว่าใครเป็นใคร เป็นการดุลยอำนาจไงล่ะ แต่ที่แหลได้ใจ คือ นักวิเคราะห์จากค่ายลูกพี่นักล่า Chatham House บอกว่างงกันไปได้ ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกใหม่อะไรเลย อเมริกาก็เป็นพี่เบิ้มวนเวียนอยู่ทางนี้มากว่าครึ่งศตวรรษแล้ว และไม่ว่าจะป็นพรรค Democrat หรือ Republican ทั้ง 2 พรรค ก็มีนโยบายเหมือนกันแหละ (คือให้ใครมาใหญ่กว่าตัวไม่ได้ทั้งนั้น) และที่สำคัญเข้าใจกันให้ถูกนะ อเมริกาไม่เคย “ไปจาก” ภูมิภาคนี้เลยต่างหาก แค่กร่างมากกร่างน้อยเท่านั้นเอง อันหลังนี้คนเขียน นิทานเพิ่มเองครับ
    ทั้งหมดนี้อเมริกาทำทำไม ไม่ต้องถามโหรระดับแม่หมอฟองสนานหรอก คนอ่านนิทาน
ทุกคนตอบได้หมด ถ้าไม่แน่ใจโปรด กลับไปอ่านจิกโก๋ปากซอย หรือยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุกใหม่นะครับ อเมริกาหมุนเข็มทิศมาทางAsia Pacific ด้วยเหตุผล 2 อย่าง เป็นเหตุผลเดิม ๆ ที่ไม่ว่าอเมริกา หรือชาติมหาอำนาจใด หรือชาติเล็กชาติน้อย หรือใครที่มันคิดจะเป็นใหญ่มันก็คิดกันอยู่แค่นี้ทั้งนั้นแหละ “อำนาจกับทุน” สูตรสำเร็จเดิม ๆ จำไม่ได้หรือไง อเมริกามาแถบนี้ เพราะต้องการให้ทุกชาติ โดยเฉพาะจีนจำใส่หัวสมองไว้ว่า อเมริกายังมีอำนาจเต็มเปี่ยม ทั้งในภูมิภาคนี้และในโลกใบนี้ ใครที่คิดว่ารวยแล้วนึกว่าตัวเองใหญ่ แบบอาเฮียเศรษฐีใหม่น่ะ คิดใหม่นะกับอีกอย่างที่อเมริกาต้องการจนน้ำลายไหลฟูมปาก คือ ทรัพยากรที่ยังเหลือเฟืออยู่ในภูมิภาคนี้และกำลังมีการหักเหลี่ยม เล่นเชิงกันอย่างเข้มข้น ทั้งใน Asia Pacific และ Central Asia แต่นิทานวันนี้จะยังไม่เล่าเรื่องทรัพยากรนะครับ จะเน้นกันเรื่องกองทัพกองกำลัง ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อนักล่า ที่อเมริกากำลังเบ่งให้ดู

    คนเล่านิทาน
    ยุทธการกบกระโดด ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” ตอนที่ 1 อเมริกากำลังปรับกระบวนยุทธใหม่ เพื่อมุ่งไปสู่การเป็นศูนย์อำนาจ เป็นสุดยอดนักล่า
(Strategic Pivot) ในภูมิภาค Asia Pacific แต่เพื่อให้ฟังนุ่มหู อเมริกาบอกว่าเป็นการปรับดุลยอำนาจ (Rebalancing) ในภูมิภาคนี้ใหม่ กระบวนยุทธใหม่นี้ นายโอบามา พูดถึงเป็นครั้งแรกที่กรุง Canberra Australia เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011 หลังจากนั้น อเมริกาเริ่มปฎิบัติการอย่างเงียบ ๆ มาตลอดเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา เราชาวโลกควรให้ความสนใจกัน เพราะต่อไปนี้
ละครฉากสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการค้า การรบ การคบ การเคี้ยว จะอยู่ตรงแถวนี้แหละ ตรงที่เรียกว่า Asia Pacific สิ่งที่อเมริกาเดินหน้าทำเป็นเรื่องแรก ในช่วงปรับกระบวนยุทธ คือ ทำให้ประเทศที่
เรียกว่าเป็นพันธมิตร ทั้งระดับชิดและระดับห่าง แถวภูมิภาค Asia Pacific (Alliances) เชื่อว่าเรายังเป็นก๊วนกันอยู่นะ แม้ตัวจะไกล แต่ใจแนบแน่น เพราะฉะนั้นไอกระดิกนิ้วเรียกเมื่อไหร่ ต้องวิ่งมากันเลยนะ อเมริกาลงทุนเดินไปเคาะประตูบ้านเกือบทุกบาน ของพันธมิตร (ลูกหาบ !) จับมือ เขย่าแขน กอดคอ หอมแก้ม ผู้นำเกือบทุกคนในภูมิภาคนี้ โดยใช้นักแสดงนำ เช่น คุณนาย Clintonรมว.ตปท. นาย Robert Gates รมว.กลาโหม นาย Leon Panetta ที่มาเป็นรมว. กลาโหมคนต่อมา รวมทั้งที่ปรึกษาความมั่นคง เช่น นาย Tom Donjion และบรรดาแม่ทัพนายกอง แถวกองทัพภาคที่ 7 ยังถูกเกณฑ์ออกมาเดินสาย ที่สำคัญตัวพระเอกเอง คือ ประธานาธิบดี Obamaก็ไม่เว้น ออกเดินสายเคาะประตูบ้านด้วยเช่นกัน – อันดับแรก แน่นอน ญี่ปุ่นลูกเลี้ยง ประเทศที่อเมริกาถล่มเขาซะหายไปทั้งเมือง ทำให้
ต้องกระเตงเลี้ยงกันไปตลอด ทั้งช่วยทั้งใช้ (แต่รู้สึกอย่างหลังจะมากกว่านะ) อเมริกาเข้าไปปรับปรุงยุ่งถึงในมุ้งการเมืองของญี่ปุ่น ได้นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดมา 1 คน เพื่อให้ดำเนินนโยบายประเทศให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ใหม่ของอเมริกา และเพื่อโชว์ให้โลกเห็นว่าอเมริกาเป็นพ่อพระใจดีใจกว้าง ไม่ได้ทอดทิ้งยามยาก เช่น คราวญี่ปุ่นแผ่นดินไหว เกิดซึนามิและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์รั่ว ในปี ค.ศ. 2011 (จริง ๆ แล้วมันอยากไปดูว่าของจริง ฉ.ห แค่ไหน จะได้คิดย้ายฐานทัพของตัวออกมาน่ะ) อเมริกาก็ช่วยไป แต่งข่าวผ่าน CNN ไป ชาวเราก็ได้เรื่องจริงมาน้อยกว่าเรื่องแต่ง – อันดับสอง เกาหลีใต้ อเมริกาพยายามโปรโมทเกาหลีใต้ขึ้นมาแข่งกับญี่ปุ่นนานแล้ว
Toyota แพ้ Hyundai Sony แพ้ Samsung ฝีมือใคร เอ๊ะ ทำได้ไงกับลูกเลี้ยง ก็เพราะอเมริกันต้องการให้เกาหลีใต้แข็งแรง เป็นกำแพงกั้นเกาหลีเหนือ เอาความเจริญใส่เข้าไปมาก ๆ จะได้เห็นความแตกต่าง ๆ ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ มันจะได้ยากที่จะรวมกัน เดี๋ยวมันจะเอาอย่างเยอรมันตะวันออกกับตะวันตก ไอไม่ใจดีขนาดนั้นหรอก ลงทุนไปแยะ มาถึงตอนนี้ไม่ต้องทำอะไรมาก โปรโมทเข้าไปหนัก ๆ ยูดี ยูเก่ง ยูเจริญ ที่สุดในเอเซีย ใคร ๆ ก็อยากมี look แบบเกาหลีกันทั้งนั้น โอบซ้าย โอบขวา เชียร์กังนัมมันไปเรื่อย ๆ แค่นี้ก็พอถมเถ ชาวเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ ก็ใช่ว่าจะอยากไปอยู่กับเด็กแสบของเกาหลีเหนือ คราวนี้พักเรื่องกังนัมสักครู่ แล้วมาคุยกันเรื่องสร้างฐานทัพให้ลูกพี่จอดเรือรบก่อนนะ – อันดับสาม ฟิลิปปินส์ ซึ่งอเมริกาเลี้ยงดูมาหลายสิบปี มีอะไรก็ถมให้ไปหมด ขนาด
เศรษฐีโคตรรวย Rockefeller ยังพยายามทั้งผลักทั้งดัน ให้ฟิลิปปินส์เป็นเมืองเอกในเอเซีย ลงทุนตั้งมหาวิทยาลัยให้ทั้งหลัง หน่วยงานสำคัญ ๆ ก็ไปไว้ที่นั่น ADB ไง Asian for DevelopmentBank ลูกของ World Bank สำนักงานใหญ่ก็อยู่ที่นี่แหละ แต่เด็กมันไม่ค่อยรักดี ถ้าไม่โกงกันระเบิด ก็เอาระเบิดมาถล่มกันเองอยู่เรื่อย แต่ก็ยังทิ้งกันไม่ลง ก็ลงทุนสร้างฐานทัพทิ้งไว้ที่เกาะนี้เต็มไปหมด งวดนี้กัดฟันไปคุยกันใหม่ เพราะต้องใช้ฟิลิปปินส์ เป็นม้าใช้ลอยคอไปยันกับจีนแถวทะเลจีนใต้ รื้อฟื้นฐานทัพเก่าที่เคยสร้างไว้มาปัดฝุ่นใช้กันใหม่ – อันดับสี่ ไทยแลนด์แดนสมันน้อย แหม ! นึกว่าเป็นลูกรักอยู่อันดับหนึ่ง ที่แท้อยู่โหล่
เลย ฉะนั้นอย่างสำคัญตนผิด แต่ขอโทษ คุณพี่ Obama มาเอง เพราะไทยแลนด์เป็นพันธมิตรเก่าแก่ในภูมิภาคนี้ ร่วมรบ หลอกตุ๋นกันมาตั้งกะสมัยสงครามเวียตนาม แต่พักหลังนี้ มันเล่นกีฬาสีกันแยะ จนลูกพี่ชักงง จะชอบจะใช้สีไหนดีนะ เอาที่มันใช้ง่าย ๆ น่ะ มาคราวนี้เลยบีบมือนางสมันน้อยแน่นนาน อย่าลืมนะ นางสาวแสนโง่ ! สัญญาทาสผูกคอของเราสองยังมีอยู่นะ เรียกเมื่อไหร่อย่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง เรื่องอื่นไม่รู้เรื่องไม่เป็นไร แต่เรื่องนี้ห้ามโง่นะ ว่าแล้วก็ทำตาเยิ้มใส่กัน ฮา ! แม้จะใช้นักแสดงนำรุ่นใหญ่ขนาดนั้น แต่ความที่บทมันไม่ชัดเหมือนดูหนังจนจบแล้ว คนดู
ยังไม่แน่ใจว่า เป็นหนังบู๊หรือหนังตลก พระเอกชักปืนจะมายิงผู้ร้ายทีไร ดันยิงเข้าหัวแม่เท้าตัวเองทุกที แบบนั้นแหละ แถมนักแสดงบางคนก็เล่นไม่เนียน ถ้าไม่หน้าใหม่ ก็หน้าโหด ดูอย่างหน้าคุณนาย Clinton ซิ ปากยิ้ม แต่ลูกตายังกะนางสิงห์กำลังจ้องจะขม้ำเหยื่อ ชาวบ้านก็เลยมึน นี่มันเรื่องจริงหรือเปล่านะ ไหนเขาลือกันว่ากระเป๋ายังโหว่อยู่ ไม่ใช่หรือ เงินเดือนจะจ่ายคนทำงานยังไม่พอเลย เป็นข่าวไปทั่วโลก จะ shut down shut up อะไรนั่น นี่มันรายการเกทับบลัฟแหลก ประเภทหน้าไพ่มีคิงแต่ข้างในกบแปดหรือเปล่านะ เล่นมุกนี้แถว Asia Pacific น่ะไม่หมูนะ อาเฮียกับพวกนี่เขาธรรมดาที่ไหน ชาวบ้านเขาก็วิจารณ์กันทั่วโลก (ยกเว้นไทยแลนด์ของสมัย
น้อยแหละ ที่ดีใจหนักหนา พี่เขากลับมาแล้ว) ขนาดพวกนักวิเคราะห์บางค่าย เช่น CFR (พวกกันเอง) ยังถามเลยว่ามาทาง Asia
Pacific แน่หรือ แล้วทาง Middle East ว่าอย่างไร มันยัง spring หลุดกันอยู่เลยนะ บางค่ายก็บอกว่า อเมริกาต้องมาทางนี้แหละ เพราะว่าภูมิภาคนี้ ต้องมีอเมริกามายืนผงาด ให้พวกอาเฮียรู้บางว่าใครเป็นใคร เป็นการดุลยอำนาจไงล่ะ แต่ที่แหลได้ใจ คือ นักวิเคราะห์จากค่ายลูกพี่นักล่า Chatham House บอกว่างงกันไปได้ ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกใหม่อะไรเลย อเมริกาก็เป็นพี่เบิ้มวนเวียนอยู่ทางนี้มากว่าครึ่งศตวรรษแล้ว และไม่ว่าจะป็นพรรค Democrat หรือ Republican ทั้ง 2 พรรค ก็มีนโยบายเหมือนกันแหละ (คือให้ใครมาใหญ่กว่าตัวไม่ได้ทั้งนั้น) และที่สำคัญเข้าใจกันให้ถูกนะ อเมริกาไม่เคย “ไปจาก” ภูมิภาคนี้เลยต่างหาก แค่กร่างมากกร่างน้อยเท่านั้นเอง อันหลังนี้คนเขียน นิทานเพิ่มเองครับ ทั้งหมดนี้อเมริกาทำทำไม ไม่ต้องถามโหรระดับแม่หมอฟองสนานหรอก คนอ่านนิทาน
ทุกคนตอบได้หมด ถ้าไม่แน่ใจโปรด กลับไปอ่านจิกโก๋ปากซอย หรือยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุกใหม่นะครับ อเมริกาหมุนเข็มทิศมาทางAsia Pacific ด้วยเหตุผล 2 อย่าง เป็นเหตุผลเดิม ๆ ที่ไม่ว่าอเมริกา หรือชาติมหาอำนาจใด หรือชาติเล็กชาติน้อย หรือใครที่มันคิดจะเป็นใหญ่มันก็คิดกันอยู่แค่นี้ทั้งนั้นแหละ “อำนาจกับทุน” สูตรสำเร็จเดิม ๆ จำไม่ได้หรือไง อเมริกามาแถบนี้ เพราะต้องการให้ทุกชาติ โดยเฉพาะจีนจำใส่หัวสมองไว้ว่า อเมริกายังมีอำนาจเต็มเปี่ยม ทั้งในภูมิภาคนี้และในโลกใบนี้ ใครที่คิดว่ารวยแล้วนึกว่าตัวเองใหญ่ แบบอาเฮียเศรษฐีใหม่น่ะ คิดใหม่นะกับอีกอย่างที่อเมริกาต้องการจนน้ำลายไหลฟูมปาก คือ ทรัพยากรที่ยังเหลือเฟืออยู่ในภูมิภาคนี้และกำลังมีการหักเหลี่ยม เล่นเชิงกันอย่างเข้มข้น ทั้งใน Asia Pacific และ Central Asia แต่นิทานวันนี้จะยังไม่เล่าเรื่องทรัพยากรนะครับ จะเน้นกันเรื่องกองทัพกองกำลัง ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อนักล่า ที่อเมริกากำลังเบ่งให้ดู คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## นิยายสั้นเรื่อง รถไฟฟ้า 20 บาท กับ "ตั๋วเที่ยว" ที่หายไป ##
    ..
    ..
    นิยายสั้นเรื่องนี้ ไม่ได้มีส่วนหนึ่งส่วนใดที่ อ้างอิงมาจาก เรื่องจริง เหตุการณ์จริง หรือ บุคคล ที่มีอยู่จริงเลย แม้แต่นิดเดียว...
    ...
    ...
    นับแต่โบราณ การสร้างนโยบายฝันเฟื่อง ประชานิยม นั้นก็เพื่อ ล่อลวงประชาชน
    .
    เพราะนักการเมือง รู้ซึ้งถึงคุณภาพประชากร จึงรู้ว่าจะเกิดช่องว่างขึ้น
    .
    "ตั๋วเที่ยว" อันตรธาน หายไปจากกลุ่มประชากร ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก
    .
    ผลจากการลบ "ตั๋วเที่ยว" ออกไปได้ ส่งผลให้ ผลประโยชน์ เพิ่มขึ้นมหาศาล แม้แต่จะเกิดขึ้นเป็นภาวะชั่วคราว...
    .
    หากเกิดขึ้นและคงอยู่ตลอดไปหล่ะ คิดเป็นผลประโยชน์มหาศาลใช่หรือไม่...???
    ....
    ....
    สำนวนจีน เขาว่า “กวนน้ำให้ขุ่นแล้วค่อยจับปลา”
    .
    เพราะ เวลาน้ำใส ปลาจะมองเห็นคนและหนีได้ง่าย จับได้ยาก แต่ถ้าไปกวนน้ำให้ขุ่นจนปลามองไม่เห็นทิศทาง คนก็สามารถอาศัยจังหวะนั้นจับปลาได้ง่ายขึ้น
    .
    “สร้างความปั่นป่วนเสียก่อน แล้วฉวยโอกาสเอาผลประโยชน์”
    .
    ถ้าเป็นนายทุนพรรคการเมืองแล้วไม่ได้ประโยชน์ จะเป็นไปทำไม...???
    .
    ถ้าได้รับท่อน้ำเลี้ยงจากนายทุน พอมีอำนาจแล้ว ก็ต้องตอบแทนนายทุนใช่หรือไม่...???
    .
    การเมืองเป็นเรื่องของการจัดสรรทรัพยากร หรือ ภาษาชาวบ้าน เรียกว่า การแบ่งเค้ก ที่เจือสมกันทุกฝ่าย หรือ วินวิน นั่นเอง...
    ## นิยายสั้นเรื่อง รถไฟฟ้า 20 บาท กับ "ตั๋วเที่ยว" ที่หายไป ## .. .. นิยายสั้นเรื่องนี้ ไม่ได้มีส่วนหนึ่งส่วนใดที่ อ้างอิงมาจาก เรื่องจริง เหตุการณ์จริง หรือ บุคคล ที่มีอยู่จริงเลย แม้แต่นิดเดียว... ... ... นับแต่โบราณ การสร้างนโยบายฝันเฟื่อง ประชานิยม นั้นก็เพื่อ ล่อลวงประชาชน . เพราะนักการเมือง รู้ซึ้งถึงคุณภาพประชากร จึงรู้ว่าจะเกิดช่องว่างขึ้น . "ตั๋วเที่ยว" อันตรธาน หายไปจากกลุ่มประชากร ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก . ผลจากการลบ "ตั๋วเที่ยว" ออกไปได้ ส่งผลให้ ผลประโยชน์ เพิ่มขึ้นมหาศาล แม้แต่จะเกิดขึ้นเป็นภาวะชั่วคราว... . หากเกิดขึ้นและคงอยู่ตลอดไปหล่ะ คิดเป็นผลประโยชน์มหาศาลใช่หรือไม่...??? .... .... สำนวนจีน เขาว่า “กวนน้ำให้ขุ่นแล้วค่อยจับปลา” . เพราะ เวลาน้ำใส ปลาจะมองเห็นคนและหนีได้ง่าย จับได้ยาก แต่ถ้าไปกวนน้ำให้ขุ่นจนปลามองไม่เห็นทิศทาง คนก็สามารถอาศัยจังหวะนั้นจับปลาได้ง่ายขึ้น . “สร้างความปั่นป่วนเสียก่อน แล้วฉวยโอกาสเอาผลประโยชน์” . ถ้าเป็นนายทุนพรรคการเมืองแล้วไม่ได้ประโยชน์ จะเป็นไปทำไม...??? . ถ้าได้รับท่อน้ำเลี้ยงจากนายทุน พอมีอำนาจแล้ว ก็ต้องตอบแทนนายทุนใช่หรือไม่...??? . การเมืองเป็นเรื่องของการจัดสรรทรัพยากร หรือ ภาษาชาวบ้าน เรียกว่า การแบ่งเค้ก ที่เจือสมกันทุกฝ่าย หรือ วินวิน นั่นเอง...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘สี จิ้นผิง’ ประกาศมอบเงิน 90 ล้านช่วยกัมพูชาฟื้นฟูหลังปะทะชายแดนไทย พร้อมหนุนสร้างความสามารถในการพึ่งพาตนเอง
    https://www.thai-tai.tv/news/21271/
    .
    #ไทยไท #ข่าวต่างประเทศ #จีน #กัมพูชา #สีจิ้นผิง #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ #ข่าววันนี้
    ‘สี จิ้นผิง’ ประกาศมอบเงิน 90 ล้านช่วยกัมพูชาฟื้นฟูหลังปะทะชายแดนไทย พร้อมหนุนสร้างความสามารถในการพึ่งพาตนเอง https://www.thai-tai.tv/news/21271/ . #ไทยไท #ข่าวต่างประเทศ #จีน #กัมพูชา #สีจิ้นผิง #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดหนังหน้า เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงเสียที,นี้คือการตบหน้าจีนด้วย สนับสนุนเขมรพร้อมรับมือกับจีน รัสเซียที่อุ่นเครื่องก่อนรบจริงกับเขมรโดยยืมมือลาว เวียดนามเป็นนอมินี ไม่รวมไทยที่เขมรไปเปิดใส่ไทยก่อนด้วย อเมริกาและฝรั่งเศสซึ่งแก๊งเดียวกันอยู่แล้วจึงตกลงร่วมกันว่าเขมรจะไม่ขาดแคลนพลังงานน้ำมันแก๊สหากรบกับจีนกับรัสเซียจริงโดยใช้มือลาว เวียดนามบวกเกาหลีเหนือเข้าสนามรบครั้งนี้ด้วย,อเมริกาและฝรั่งเศสเสมือนกำลังเข้ายึดครองกิจการของจีนทั้งหมดในเขมรแน่นอนแล้วในตอนนี้ เขมรโดยฮุนเซนก็ยกกิจการจีนและใดๆทั้งหมดแก่อเมริกาฝรั่งเศสแน่นอนแล้วด้วย,ผีบ้าอะไรอเมริกาฝรั่งเศสจะช่วยเหลือเตรียมการร่วมกับเขมรด้วย,ที่ขนทหารชิดชายแดนไทยเป็นอันมากเพราะอเมริกาฝรั่งเศสสั่งต้องยึดไทยให้ได้ด้วยนั้นเองเพื่อยึดบ่อน้ำมันไทยในอ่าวไทยขุดเจาะให้ทันเวลา เดี๋ยวชาติกูล่มละลายมันว่า คือเขมร อเมริกา ฝรั่งเศสและชาติตะวันตกมากมายกำลังจะล้มละลายนั้นเอง,จึงรีบก่อการ แต่เหี้ยทรัพย์สินพี่ใหญ่จีนเต็มเขมร แร่เอิร์ธอีกเพียบ อเมริกาฝรั่งเศสก็อยากได้ทุนเดิม ภูเขาฝั่งไทยแร่เหี้ยนี้ก็มากด้วย ทองคำอีก สาระพัดแร่มีมากมายตรึมกูอยากได้มากตลอดพรมแดนเขมรกับอ่าวไทยเรา,จีนลงทุนในเขมรหลายแสนล้านเหรียญเหี้ยอเมริกาจะบุกยึดหน้าตาเฉยที่กูจีนบุกเบิกเองเกือบตาย,เขมรหักหลังจีนกู,มรึงเตรียมรอวันสิ้นชาติได้เลย พี่จีนว่า บุกทางลาวแน่นอน อเมริกาเห็นทางอเมริกาชนะได้ ทรัพยากรมากมายนี้รวมกับในอินโดฯ สามารถพลิกฟื้นคืนชีพยุโรปและอเมริกาได้เลยนะถ้าปล้นชิงครั้งนี้สำเร็จ,อเมริกาฝรั่งเศสจึงออกหน้าชัดเจนเปิดเผยไว้ก่อนเพื่อสนับสนุนพลังงานรอรบกับลาว เวียดนาม เกาหลีเหนือเต็มที่รวมทั้งไทยด้วย,ซึ่งพี่ใหญ่จีนรัสเซียสนับสนุนเต็มที่เช่นกันนอกจากอเมริกาฝรั่งเศสสนับสนุนเขมรเต็มที่ อาวุธขนกันตรึมทางลับแน่นอน,เขมรมันขี้อวดจึงเริ่มถ่ายลงโซเชียลว่าชนะไทยแน่นอนเพราะอเมริกาฝรั่งเศสสนับสนุนทางลับไม่เปิดเผยหรืออกนอกหน้าสไตล์ciaอเมริกาหมาลอบกัดวางแผนกัดในมุมมืด.
    เปิดหนังหน้า เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงเสียที,นี้คือการตบหน้าจีนด้วย สนับสนุนเขมรพร้อมรับมือกับจีน รัสเซียที่อุ่นเครื่องก่อนรบจริงกับเขมรโดยยืมมือลาว เวียดนามเป็นนอมินี ไม่รวมไทยที่เขมรไปเปิดใส่ไทยก่อนด้วย อเมริกาและฝรั่งเศสซึ่งแก๊งเดียวกันอยู่แล้วจึงตกลงร่วมกันว่าเขมรจะไม่ขาดแคลนพลังงานน้ำมันแก๊สหากรบกับจีนกับรัสเซียจริงโดยใช้มือลาว เวียดนามบวกเกาหลีเหนือเข้าสนามรบครั้งนี้ด้วย,อเมริกาและฝรั่งเศสเสมือนกำลังเข้ายึดครองกิจการของจีนทั้งหมดในเขมรแน่นอนแล้วในตอนนี้ เขมรโดยฮุนเซนก็ยกกิจการจีนและใดๆทั้งหมดแก่อเมริกาฝรั่งเศสแน่นอนแล้วด้วย,ผีบ้าอะไรอเมริกาฝรั่งเศสจะช่วยเหลือเตรียมการร่วมกับเขมรด้วย,ที่ขนทหารชิดชายแดนไทยเป็นอันมากเพราะอเมริกาฝรั่งเศสสั่งต้องยึดไทยให้ได้ด้วยนั้นเองเพื่อยึดบ่อน้ำมันไทยในอ่าวไทยขุดเจาะให้ทันเวลา เดี๋ยวชาติกูล่มละลายมันว่า คือเขมร อเมริกา ฝรั่งเศสและชาติตะวันตกมากมายกำลังจะล้มละลายนั้นเอง,จึงรีบก่อการ แต่เหี้ยทรัพย์สินพี่ใหญ่จีนเต็มเขมร แร่เอิร์ธอีกเพียบ อเมริกาฝรั่งเศสก็อยากได้ทุนเดิม ภูเขาฝั่งไทยแร่เหี้ยนี้ก็มากด้วย ทองคำอีก สาระพัดแร่มีมากมายตรึมกูอยากได้มากตลอดพรมแดนเขมรกับอ่าวไทยเรา,จีนลงทุนในเขมรหลายแสนล้านเหรียญเหี้ยอเมริกาจะบุกยึดหน้าตาเฉยที่กูจีนบุกเบิกเองเกือบตาย,เขมรหักหลังจีนกู,มรึงเตรียมรอวันสิ้นชาติได้เลย พี่จีนว่า บุกทางลาวแน่นอน อเมริกาเห็นทางอเมริกาชนะได้ ทรัพยากรมากมายนี้รวมกับในอินโดฯ สามารถพลิกฟื้นคืนชีพยุโรปและอเมริกาได้เลยนะถ้าปล้นชิงครั้งนี้สำเร็จ,อเมริกาฝรั่งเศสจึงออกหน้าชัดเจนเปิดเผยไว้ก่อนเพื่อสนับสนุนพลังงานรอรบกับลาว เวียดนาม เกาหลีเหนือเต็มที่รวมทั้งไทยด้วย,ซึ่งพี่ใหญ่จีนรัสเซียสนับสนุนเต็มที่เช่นกันนอกจากอเมริกาฝรั่งเศสสนับสนุนเขมรเต็มที่ อาวุธขนกันตรึมทางลับแน่นอน,เขมรมันขี้อวดจึงเริ่มถ่ายลงโซเชียลว่าชนะไทยแน่นอนเพราะอเมริกาฝรั่งเศสสนับสนุนทางลับไม่เปิดเผยหรืออกนอกหน้าสไตล์ciaอเมริกาหมาลอบกัดวางแผนกัดในมุมมืด.
    เอ็กซอนโมบิล บริษัทน้ำมันและก๊าซข้ามชาติสัญชาติอเมริกา แสดงความตั้งใจร่วมมือกับกัมพูชาในจัดหาน้ำมันและก๊าซให้ประเทศแห่งนี้ ความเคลื่อนไหวมีขึ้นหลังจากเมื่อช่วงกลางเดือน ทาง "โททาลเอนเนอร์ยี่ส์" ของฝรั่งเศส ก็เปิดกว้างสำหรับดำเนินการแบบเดียวกัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000083704

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปอยเปตไม่หลับใหล แม้ไทยจะปิดด่าน

    ข่าวคราวที่สร้างความสับสน เมื่อจู่ๆ ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จังหวัดสระแก้ว ประชาสัมพันธ์ว่า "หลังจากวันที่ 29 ส.ค.เป็นต้นไป จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จะเปิดให้บริการคนไทยและคนกัมพูชา เพื่อเดินทางกลับประเทศภูมิลำเนา ทุกวันพุธและทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ถึง 16.00 น. เริ่มวันอาทิตย์ที่ 31 ส.ค.68 เป็นต้นไป สำหรับจุดผ่านแดนอื่นๆ ยังไม่เปิดให้บริการ" กลายเป็นที่วิจารณ์จำนวนมาก ทั้งที่สถานการณ์ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

    เมื่อนักข่าวสอบถาม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาการ รมช.กลาโหม และผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ปรากฎว่าไม่ใช่คำสั่งของ ศบ.ทก. แต่เป็นตำรวจ ตม. อีกทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บัญชาการกองกำลังบูรพาไม่เกี่ยวข้อง ที่สุดแล้ว ตม.สระแก้วจึงชี้แจงว่า เป็นการอนุโลมให้คนไทยที่ยังตกค้าง และคนกัมพูชาที่จะกลับประเทศเป็นวันสุดท้าย โดยมีเอกสารถูกต้องเท่านั้น ไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่น ยืนยันว่าทุกจุดผ่านแดนฯ ในพื้นที่ จ.สระแก้ว ยังคงปิดเช่นเดิม แต่ความสงสัยจากสังคมยังไม่หมดไป เพราะประกาศก่อนหน้านี้ เหมือนจะให้เปิดด่านทุกวันพุธและอาทิตย์

    แหล่งข่าวจากสื่อมวลชนรายหนึ่ง (ขอสงวนนามเพื่อความปลอดภัย) กล่าวกับ Newskit ว่า ปัจจุบันแม้ด่านพรมแดนบ้านคลองลึกจะปิดไม่ให้เข้า-ออกประเทศ แต่บ่อนกาสิโนในฝั่งเมืองปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย จำนวน 17 แห่ง ปัจจุบันยังคงเปิดให้บริการอยู่ นักเสี่ยงโชคจากทุกสารทิศต้องเดินทางไปลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์ (SAI) แล้วเดินทางต่อด้วยรถยนต์ อีกทั้งยังมีประชากรแฝง ที่เป็นนักเสี่ยงโชคจากจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศอื่นๆ อาศัยอยู่ในปอยเปตประมาณ 2 แสนคน และยังคงใช้ไฟฟ้าบางส่วนจากไทย มีเสาส่งไฟฟ้าบริเวณบ้านป่าไร่ ซื้อขายกันระหว่างเอกชนกับเอกชน

    แหล่งข่าวยังส่งภาพที่แสดงให้เห็นว่าอาคารสูงซึ่งเป็นโรงแรมและบ่อนกาสิโนยังเปิดไฟสว่างไสว หนึ่งในนั้นคือตีก Crown Casino ที่ตั้งประชิดด่านตรวจคนเข้าเมืองปอยเปต สามารถมองเห็นได้จากตลาดโรงเกลือ ฝั่งประเทศไทย

    สำหรับท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์ (SAI) อยู่ห่างจากด่านปอยเปต 196 กิโลเมตร มีเที่ยวบินขาเข้าต่อสัปดาห์ จากกรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ 24 เที่ยวบิน ดอนเมือง 14 เที่ยวบิน จากเวียดนาม โฮจิมินห์ 21 เที่ยวบิน ฮานอย 13 เที่ยวบิน ดานัง 7 เที่ยวบิน จากสิงคโปร์, กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย และคุนหมิง ประเทศจีน 7 เที่ยวบิน ส่วนเที่ยวบินในประเทศ มีพนมเปญ 13 เที่ยวบิน และสีหนุวิลล์ 7 เที่ยวบิน

    #Newskit
    ปอยเปตไม่หลับใหล แม้ไทยจะปิดด่าน ข่าวคราวที่สร้างความสับสน เมื่อจู่ๆ ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จังหวัดสระแก้ว ประชาสัมพันธ์ว่า "หลังจากวันที่ 29 ส.ค.เป็นต้นไป จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จะเปิดให้บริการคนไทยและคนกัมพูชา เพื่อเดินทางกลับประเทศภูมิลำเนา ทุกวันพุธและทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ถึง 16.00 น. เริ่มวันอาทิตย์ที่ 31 ส.ค.68 เป็นต้นไป สำหรับจุดผ่านแดนอื่นๆ ยังไม่เปิดให้บริการ" กลายเป็นที่วิจารณ์จำนวนมาก ทั้งที่สถานการณ์ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เมื่อนักข่าวสอบถาม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาการ รมช.กลาโหม และผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ปรากฎว่าไม่ใช่คำสั่งของ ศบ.ทก. แต่เป็นตำรวจ ตม. อีกทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บัญชาการกองกำลังบูรพาไม่เกี่ยวข้อง ที่สุดแล้ว ตม.สระแก้วจึงชี้แจงว่า เป็นการอนุโลมให้คนไทยที่ยังตกค้าง และคนกัมพูชาที่จะกลับประเทศเป็นวันสุดท้าย โดยมีเอกสารถูกต้องเท่านั้น ไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่น ยืนยันว่าทุกจุดผ่านแดนฯ ในพื้นที่ จ.สระแก้ว ยังคงปิดเช่นเดิม แต่ความสงสัยจากสังคมยังไม่หมดไป เพราะประกาศก่อนหน้านี้ เหมือนจะให้เปิดด่านทุกวันพุธและอาทิตย์ แหล่งข่าวจากสื่อมวลชนรายหนึ่ง (ขอสงวนนามเพื่อความปลอดภัย) กล่าวกับ Newskit ว่า ปัจจุบันแม้ด่านพรมแดนบ้านคลองลึกจะปิดไม่ให้เข้า-ออกประเทศ แต่บ่อนกาสิโนในฝั่งเมืองปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย จำนวน 17 แห่ง ปัจจุบันยังคงเปิดให้บริการอยู่ นักเสี่ยงโชคจากทุกสารทิศต้องเดินทางไปลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์ (SAI) แล้วเดินทางต่อด้วยรถยนต์ อีกทั้งยังมีประชากรแฝง ที่เป็นนักเสี่ยงโชคจากจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศอื่นๆ อาศัยอยู่ในปอยเปตประมาณ 2 แสนคน และยังคงใช้ไฟฟ้าบางส่วนจากไทย มีเสาส่งไฟฟ้าบริเวณบ้านป่าไร่ ซื้อขายกันระหว่างเอกชนกับเอกชน แหล่งข่าวยังส่งภาพที่แสดงให้เห็นว่าอาคารสูงซึ่งเป็นโรงแรมและบ่อนกาสิโนยังเปิดไฟสว่างไสว หนึ่งในนั้นคือตีก Crown Casino ที่ตั้งประชิดด่านตรวจคนเข้าเมืองปอยเปต สามารถมองเห็นได้จากตลาดโรงเกลือ ฝั่งประเทศไทย สำหรับท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ อังกอร์ (SAI) อยู่ห่างจากด่านปอยเปต 196 กิโลเมตร มีเที่ยวบินขาเข้าต่อสัปดาห์ จากกรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ 24 เที่ยวบิน ดอนเมือง 14 เที่ยวบิน จากเวียดนาม โฮจิมินห์ 21 เที่ยวบิน ฮานอย 13 เที่ยวบิน ดานัง 7 เที่ยวบิน จากสิงคโปร์, กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย และคุนหมิง ประเทศจีน 7 เที่ยวบิน ส่วนเที่ยวบินในประเทศ มีพนมเปญ 13 เที่ยวบิน และสีหนุวิลล์ 7 เที่ยวบิน #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • จริงๆเรากากมาก,คืออาเชียนเราทั้งอาเชียนรวมกันก็กากมากในสายตาชาติมหาอำนาจ,
    ..แท้จริงเราสมควรสามัคคีกันทั้งอาเชียนดีที่สุด,หรือทั้งเอเชียยิ่งดี,แต่มีข้อแม้คือกำจัดเขมรสันดานคนทรยศเนรคุณหักหลังนี้ออกไปก่อน,มันสามารถหักหลังเราทั้งเอเชียหรือทั้งอาเชียนได้สบายแบบหักหน้าจีนหักหลังจีนเต็มๆอย่างแรงนั้นล่ะ จนอเมริกาหัวเราะเยาะเย้ยจีนว่าไอ้หน้าโง่อย่างแรง,เสียฟอร์มโคตรๆ เพราะตนคือพญามังกรใหญ่แต่ให้อีกาอีแร้งแบบเขมรขี้ใส่หัวพญามังกรได้,พญาอินทรีย์มันว่าถ้าเป็นมันจะจัดการไม่เหลือซากให้มันมีโอกาสขี้ใส่หัวเหยียบหัวแบบจีนได้ อับอายไปทั่วโลกในช่วงเวลานั้น.
    ..เอาเข้าจริงๆนะถ้าไทยเราใฝ่สงครามจริงๆ จะสะสมอาวุธอย่างมหาศาลกว่าอเมริกาหรือจีนได้อีก,ตังเรามีมากมายไม่แพ้ซาอุฯดูไบเลย,พวกบ่อน้ำมันทั้งประเทศไทยและทรัพยากรมากมายฝรั่งจะไม่ได้แดกเลย,เงินทองจากมีมากมายสะสมสาระพัดอาวุธคู่ขนานรัสเชียจีนอเมริกาก็ได้,และอาจล้ำกว่าเพราะเราติดต่อต่างดาวจักรวาลอื่นแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีล้ำๆได้ แต่เราไม่ทำ เราต้องการอยู่ร่วมกันบนผิวโลกนี้อย่างสงบสุข,จนทนให้ต่างชาติมากมายปล้นชิงแย่งชิงเราไปเป็นอันมาก,
    ..แม้กระนั้นเราก็มีมิตรดีมากมายทั่วโลก จะอเมริกาเอง จะจีนเอง จะรัสเชียเอง เราก็คบค้าสมาคมกันได้สบายใจแม้ปะปนในผลประโยชน์ในไทยก็ตาม,เมื่อถึงจังหวะอันเหมาะสม แม้เราได้อยากมีอยากเป็นอยากได้ มันก็จะมาเองกระทั่งแสงยานุภาพกำลังพลทางยุทธการทหารอาจระดับกองทัพพิทักษ์โลกและจักรวาลกันไปเลย,คือระดับผู้นำสงครามจักรวาลอวกาศในอนาคตก็ว่า.นอกจากเราประเทศไทยผู้นำแห่งจิตวิญญาณ.



    https://youtube.com/shorts/dE6A3jIusrQ?si=tCvNHGdxLVVCgpex
    จริงๆเรากากมาก,คืออาเชียนเราทั้งอาเชียนรวมกันก็กากมากในสายตาชาติมหาอำนาจ, ..แท้จริงเราสมควรสามัคคีกันทั้งอาเชียนดีที่สุด,หรือทั้งเอเชียยิ่งดี,แต่มีข้อแม้คือกำจัดเขมรสันดานคนทรยศเนรคุณหักหลังนี้ออกไปก่อน,มันสามารถหักหลังเราทั้งเอเชียหรือทั้งอาเชียนได้สบายแบบหักหน้าจีนหักหลังจีนเต็มๆอย่างแรงนั้นล่ะ จนอเมริกาหัวเราะเยาะเย้ยจีนว่าไอ้หน้าโง่อย่างแรง,เสียฟอร์มโคตรๆ เพราะตนคือพญามังกรใหญ่แต่ให้อีกาอีแร้งแบบเขมรขี้ใส่หัวพญามังกรได้,พญาอินทรีย์มันว่าถ้าเป็นมันจะจัดการไม่เหลือซากให้มันมีโอกาสขี้ใส่หัวเหยียบหัวแบบจีนได้ อับอายไปทั่วโลกในช่วงเวลานั้น. ..เอาเข้าจริงๆนะถ้าไทยเราใฝ่สงครามจริงๆ จะสะสมอาวุธอย่างมหาศาลกว่าอเมริกาหรือจีนได้อีก,ตังเรามีมากมายไม่แพ้ซาอุฯดูไบเลย,พวกบ่อน้ำมันทั้งประเทศไทยและทรัพยากรมากมายฝรั่งจะไม่ได้แดกเลย,เงินทองจากมีมากมายสะสมสาระพัดอาวุธคู่ขนานรัสเชียจีนอเมริกาก็ได้,และอาจล้ำกว่าเพราะเราติดต่อต่างดาวจักรวาลอื่นแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีล้ำๆได้ แต่เราไม่ทำ เราต้องการอยู่ร่วมกันบนผิวโลกนี้อย่างสงบสุข,จนทนให้ต่างชาติมากมายปล้นชิงแย่งชิงเราไปเป็นอันมาก, ..แม้กระนั้นเราก็มีมิตรดีมากมายทั่วโลก จะอเมริกาเอง จะจีนเอง จะรัสเชียเอง เราก็คบค้าสมาคมกันได้สบายใจแม้ปะปนในผลประโยชน์ในไทยก็ตาม,เมื่อถึงจังหวะอันเหมาะสม แม้เราได้อยากมีอยากเป็นอยากได้ มันก็จะมาเองกระทั่งแสงยานุภาพกำลังพลทางยุทธการทหารอาจระดับกองทัพพิทักษ์โลกและจักรวาลกันไปเลย,คือระดับผู้นำสงครามจักรวาลอวกาศในอนาคตก็ว่า.นอกจากเราประเทศไทยผู้นำแห่งจิตวิญญาณ. https://youtube.com/shorts/dE6A3jIusrQ?si=tCvNHGdxLVVCgpex
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • อีกหนึ่งอิริยาบถของสามผู้นำระดับโลก รัสเซีย จีน อินเดีย ขณะกำลังสนทนาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
    อีกหนึ่งอิริยาบถของสามผู้นำระดับโลก รัสเซีย จีน อินเดีย ขณะกำลังสนทนาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • "ภาพบาดตาของสหรัฐและยุโรป"

    นายกรัฐมนตรีโมดีจูงมือประธานาธิบดีปูติน เดินเข้าไปหาประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พร้อมเริ่มต้นการสนทนาด้วยสีหน้าชื่นมื่นกันทุกฝ่าย
    เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน ในระหว่างการประชุมสุดยอด SCO

    ประธานาธิบดีสี กล่าวว่า “ขณะนี้กำลังมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ซึ่งเราไม่เคยเห็นมานานกว่า 100 ปี นั่นคือ พวกเรากำลังร่วมมือกันขับเคลื่อนไปสู่โลกหลายขั้วที่กำลังจะเกิดขึ้น”
    "ภาพบาดตาของสหรัฐและยุโรป" นายกรัฐมนตรีโมดีจูงมือประธานาธิบดีปูติน เดินเข้าไปหาประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พร้อมเริ่มต้นการสนทนาด้วยสีหน้าชื่นมื่นกันทุกฝ่าย เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน ในระหว่างการประชุมสุดยอด SCO ประธานาธิบดีสี กล่าวว่า “ขณะนี้กำลังมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ซึ่งเราไม่เคยเห็นมานานกว่า 100 ปี นั่นคือ พวกเรากำลังร่วมมือกันขับเคลื่อนไปสู่โลกหลายขั้วที่กำลังจะเกิดขึ้น”
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เที่ยวจีน ไหหลำ 1แถม1 คนละ 7,500

    🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน
    ✈ DE-คอนดอร์
    พักโรงแรม

    นั่งเฮลิคอปเตอร์
    วัดหนานซาน
    ห้างสับปะรด
    ตลาดกลางคืนซานย่า

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์จีน #hainan #sanya #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยวจีน ไหหลำ 🥰 1แถม1 คนละ 7,500 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน ✈ DE-คอนดอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 นั่งเฮลิคอปเตอร์ 📍 วัดหนานซาน 📍 ห้างสับปะรด 📍 ตลาดกลางคืนซานย่า รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จีน #hainan #sanya #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ⭕️ดีมากค่ะ ทริปเซี่ยงไฮ้ หางโจว  ดูแลดี บริการดี อาหารอร่อย ที่พักดีมากค่ะ ⭕️

    #รีวิว #REVIEW เส้นทาง #หางโจว #เซี่ยงไฮ้ จากคุณนงนภัสนะคะ เมื่อวันที่ 7-11 ส.ค.68 ที่ผ่านมานะคะ
    ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com
    แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ

    ทุกภาพคือกำลังใจสำคัญของพวกเราค่ะ
    ขอบคุณจากใจอีกครั้งนะคะ
    แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้า

    Travel License: 11/11450
    โอนบัญชีชื่อ บริษัท วีอาร์ เอเจนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด เท่านั้น

    #ขอบคุณลูกค้าที่ไว้ใจ #ทีมงานมีความสุขเสมอ #eTravelWay #รีวิวจากผู้เดินทาง #กำลังใจในการทำงาน #เที่ยวกับเราไม่ผิดหวัง

    ดูทัวร์จีนทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/30a85f

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    ⭕️ดีมากค่ะ ทริปเซี่ยงไฮ้ หางโจว  ดูแลดี บริการดี อาหารอร่อย ที่พักดีมากค่ะ ⭕️ 💜 #รีวิว #REVIEW เส้นทาง #หางโจว #เซี่ยงไฮ้ จากคุณนงนภัสนะคะ💜 เมื่อวันที่ 7-11 ส.ค.68 ที่ผ่านมานะคะ📍 ❤️ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ😘 📸 ทุกภาพคือกำลังใจสำคัญของพวกเราค่ะ ขอบคุณจากใจอีกครั้งนะคะ 🌈✨ แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้า 💼✈️ ✔️Travel License: 11/11450 ✔️โอนบัญชีชื่อ บริษัท วีอาร์ เอเจนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด เท่านั้น #ขอบคุณลูกค้าที่ไว้ใจ #ทีมงานมีความสุขเสมอ #eTravelWay #รีวิวจากผู้เดินทาง #กำลังใจในการทำงาน #เที่ยวกับเราไม่ผิดหวัง 💙 ดูทัวร์จีนทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/30a85f LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เสนอประจำการ "กองกำลังรักษาสันติภาพจีน" ในยูเครน เพื่อตรวจตราข้อตกลงสันติภาพใดๆระหว่างทหารรัสเซียกับทหารยูเครน หากทั้ง 2 ฝ่ายเจรจาหาทางออกความขัดแย้งได้สำเร็จ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส อ้างอิงแหล่งข่าวที่ได้รับฟังรายงานสรุปในเรื่องนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000083294

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เสนอประจำการ "กองกำลังรักษาสันติภาพจีน" ในยูเครน เพื่อตรวจตราข้อตกลงสันติภาพใดๆระหว่างทหารรัสเซียกับทหารยูเครน หากทั้ง 2 ฝ่ายเจรจาหาทางออกความขัดแย้งได้สำเร็จ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส อ้างอิงแหล่งข่าวที่ได้รับฟังรายงานสรุปในเรื่องนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000083294 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 432 มุมมอง 0 รีวิว
  • พวกฝรั่งลงมือกับชาติอินโดฯแล้วแน่ๆ,การเกิดเหตุการณ์นี้ ถ้ามาจากรัฐบาลอินโดฯก็คงเป็นรัฐบาลของciaอเมริกาฝรั่งมันครอบงำเกินครึ่ง,ถ้ามาจากฝีมือภาคประชาชนอาจคือมือที่สามสร้างความโกลาหลขึ้นและกิจการเครือข่ายซาตานฝ่ายมืดในอินโดฯก็เข้าร่วมด้วย กดขี่แรงงาน ค่าอยู่ค่ากินค่าที่อาศัยปากท้องประชาชน,ตำรวจ ทหาร ศาล รัฐบาล กิจการ deep stateปะปนอยู่ไม่น้อยในแต่ละวงการ อาจครอบงำทัังหมดแล้วก็ได้.,แต่น่าสนใจตรงที่รัฐบาลอินโดฯจะเอาแหล่งน้ำมันคืนจากมาเลย์ฯหรือไม่ยอมมาเลย์ในเขตพิพาทแหล่งน้ำมันนี้ มาเลย์คนของอีลิทอเมริกาดูจากเข้าข้างเขมรตอนมาเป็นคนลำเอียงยืนข้างเขมรตอนหยุดยิงชัดเจน,พอเกิดปัญหาเรื่องบ่อน้ำมัน ภายในเวลาต่อมาอินโดฯก็เกิดเรื่องสาระพัดภายในผิดปกติรุนแรงขึ้น คนฝ่ายมืดในภายรัฐบาลอินโดฯอาจยั่วยุให้เข้าทางตามแผนปะทะประชาชนอินโดฯซึ่งฝ่ายมืดด้านฝั่งประชาชนโด้นเรื่องรอนานแล้วจากกิจการอินโดฯวิกฤติเศรษฐกิจอินโดฯ,ciaอเมริกาลูกพี่มาเลย์เลยจัดเต็มสักดอกให้อินโดฯ ทั้งตัดกำลังทางการทหารอินโดฯลงด้วย,นอกจากฝั่งเวียดนามหรือไทย,1ใน3ที่เป็นภาคีกำลังทหารมากกว่าชาติอื่นในอาเชียน,หรือตอดนิดตอดหน่อยก็เอาให้พลังศักยภาพกำลังทหารด้านอาเชียนปั่นป่วนจัดระเบียนกำลังพลเป๋ไปนิดหน่อยก็เอา,อินโดฯมียุทธการทางทหารมากสุดในอาเชียน รองลงมาเวียดนามและไทย ที่กำลังพลรวมกันและยุทธการเชิงรบพอสามารถปกป้องอาเชียนได้ที่ไม่ใช่ฝั่งอเมริกาหรือพวกเดียวกับอเมริกาอย่างเปิดเผยเหมือนมาเลย์ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ,ความน่าจะเป็นฝีมือciaอเมริกาอัดอินโดฯเพื่อสั่งสอนอินโดฯด้านผลประโยชน์อื่นๆรวมทั้งแหล่งน้ำมันที่ลูกน้องมาเลย์อเมริกามาฟ้องลูกพี่มันด้วย,นั้นคือไทยภาคใต้เราไม่สงบทุกๆวันนี้ถึงปัจจุบันเพื่อciaอเมริกาใข้มาเลย์เป็นฐานปั่นป่วนภาคใต้เราร่วมกับคนทรยศทางการเมืองฝั่งไทยและพวกมีอำนาจทั้งหน้าฉากและมีอิทธิพลอยู่หลังฉากในไทยเราด้วยคือciaประจำมาเลย์วางแผนป่วนไทยและประจำประเทศไทยป่วนไทยนัันเอง,ฝั่งอินโดฯก็ไม่ต่างจากไทย,จึงพอเข้าใจได้ว่าฝรั่งอเมริกาไม่ต้องการเห็นความสามัคคีในภูมิภาคนี้ทั้งระดับประเทศแบบไทยกับอินโดฯ,จึงยึดเอามาเลย์สิงคโปร์กันชนกั้นไว้,และปั่นป่วนให้ไม่สงบอยู่ตลอดเวลาทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ แบบมาเลย์ปะทะอินโดฯแย่งบ่อน้ำมันโดยกิจการทั้งหมดอเมริกาและฝรั่งเศสยึดทำเองส่วนมาก เศษๆก็มาเลย์ไปทำได้ไป,เหมือนอเมริกาฝรั่งเศสปั่นป่วนไทยโดยยืมมือเขมรใช้งานแลกกับตังมหาศาลกลับมาปกครองเผด็จการอำนาจในเขมรได้อีกมีตังใช้หนี้จีนครบ เหลืออีกมหาศาลด้วย,สั่งอาวุธยึดไทยได้ในอนาคตทันทีเพราะciaจะล้มไทยช่วยล้มไทยจากภายในให้เขมรได้อยู่แล้ว ,อเมริกากับฝรั่งเศสและชาติฝรั่งสมุนอเมริกาก็เป็นอีแร้งลงมาแดกบ่อน้ำมันเต็มอ่าวไทยไม่ต่างจากอินโดฯที่อเมริกาใช้มาเลย์นั้นล่ะแต่แหล่งน้ำมันอินโดฯมาเลย์นี้อาจกว่า100ล้านล้านเหรียญเลยแม้ตีต่ำๆว่า40-50ล้านล้านเหรียญนั้น,ล้างหนี้อเมริกาเลยนะที่35-40ล้านล้านเหรียญ,แม้ตีเป็นเงินบาทก็มากมายมหาศาลมาก.
    พวกฝรั่งลงมือกับชาติอินโดฯแล้วแน่ๆ,การเกิดเหตุการณ์นี้ ถ้ามาจากรัฐบาลอินโดฯก็คงเป็นรัฐบาลของciaอเมริกาฝรั่งมันครอบงำเกินครึ่ง,ถ้ามาจากฝีมือภาคประชาชนอาจคือมือที่สามสร้างความโกลาหลขึ้นและกิจการเครือข่ายซาตานฝ่ายมืดในอินโดฯก็เข้าร่วมด้วย กดขี่แรงงาน ค่าอยู่ค่ากินค่าที่อาศัยปากท้องประชาชน,ตำรวจ ทหาร ศาล รัฐบาล กิจการ deep stateปะปนอยู่ไม่น้อยในแต่ละวงการ อาจครอบงำทัังหมดแล้วก็ได้.,แต่น่าสนใจตรงที่รัฐบาลอินโดฯจะเอาแหล่งน้ำมันคืนจากมาเลย์ฯหรือไม่ยอมมาเลย์ในเขตพิพาทแหล่งน้ำมันนี้ มาเลย์คนของอีลิทอเมริกาดูจากเข้าข้างเขมรตอนมาเป็นคนลำเอียงยืนข้างเขมรตอนหยุดยิงชัดเจน,พอเกิดปัญหาเรื่องบ่อน้ำมัน ภายในเวลาต่อมาอินโดฯก็เกิดเรื่องสาระพัดภายในผิดปกติรุนแรงขึ้น คนฝ่ายมืดในภายรัฐบาลอินโดฯอาจยั่วยุให้เข้าทางตามแผนปะทะประชาชนอินโดฯซึ่งฝ่ายมืดด้านฝั่งประชาชนโด้นเรื่องรอนานแล้วจากกิจการอินโดฯวิกฤติเศรษฐกิจอินโดฯ,ciaอเมริกาลูกพี่มาเลย์เลยจัดเต็มสักดอกให้อินโดฯ ทั้งตัดกำลังทางการทหารอินโดฯลงด้วย,นอกจากฝั่งเวียดนามหรือไทย,1ใน3ที่เป็นภาคีกำลังทหารมากกว่าชาติอื่นในอาเชียน,หรือตอดนิดตอดหน่อยก็เอาให้พลังศักยภาพกำลังทหารด้านอาเชียนปั่นป่วนจัดระเบียนกำลังพลเป๋ไปนิดหน่อยก็เอา,อินโดฯมียุทธการทางทหารมากสุดในอาเชียน รองลงมาเวียดนามและไทย ที่กำลังพลรวมกันและยุทธการเชิงรบพอสามารถปกป้องอาเชียนได้ที่ไม่ใช่ฝั่งอเมริกาหรือพวกเดียวกับอเมริกาอย่างเปิดเผยเหมือนมาเลย์ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ,ความน่าจะเป็นฝีมือciaอเมริกาอัดอินโดฯเพื่อสั่งสอนอินโดฯด้านผลประโยชน์อื่นๆรวมทั้งแหล่งน้ำมันที่ลูกน้องมาเลย์อเมริกามาฟ้องลูกพี่มันด้วย,นั้นคือไทยภาคใต้เราไม่สงบทุกๆวันนี้ถึงปัจจุบันเพื่อciaอเมริกาใข้มาเลย์เป็นฐานปั่นป่วนภาคใต้เราร่วมกับคนทรยศทางการเมืองฝั่งไทยและพวกมีอำนาจทั้งหน้าฉากและมีอิทธิพลอยู่หลังฉากในไทยเราด้วยคือciaประจำมาเลย์วางแผนป่วนไทยและประจำประเทศไทยป่วนไทยนัันเอง,ฝั่งอินโดฯก็ไม่ต่างจากไทย,จึงพอเข้าใจได้ว่าฝรั่งอเมริกาไม่ต้องการเห็นความสามัคคีในภูมิภาคนี้ทั้งระดับประเทศแบบไทยกับอินโดฯ,จึงยึดเอามาเลย์สิงคโปร์กันชนกั้นไว้,และปั่นป่วนให้ไม่สงบอยู่ตลอดเวลาทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ แบบมาเลย์ปะทะอินโดฯแย่งบ่อน้ำมันโดยกิจการทั้งหมดอเมริกาและฝรั่งเศสยึดทำเองส่วนมาก เศษๆก็มาเลย์ไปทำได้ไป,เหมือนอเมริกาฝรั่งเศสปั่นป่วนไทยโดยยืมมือเขมรใช้งานแลกกับตังมหาศาลกลับมาปกครองเผด็จการอำนาจในเขมรได้อีกมีตังใช้หนี้จีนครบ เหลืออีกมหาศาลด้วย,สั่งอาวุธยึดไทยได้ในอนาคตทันทีเพราะciaจะล้มไทยช่วยล้มไทยจากภายในให้เขมรได้อยู่แล้ว ,อเมริกากับฝรั่งเศสและชาติฝรั่งสมุนอเมริกาก็เป็นอีแร้งลงมาแดกบ่อน้ำมันเต็มอ่าวไทยไม่ต่างจากอินโดฯที่อเมริกาใช้มาเลย์นั้นล่ะแต่แหล่งน้ำมันอินโดฯมาเลย์นี้อาจกว่า100ล้านล้านเหรียญเลยแม้ตีต่ำๆว่า40-50ล้านล้านเหรียญนั้น,ล้างหนี้อเมริกาเลยนะที่35-40ล้านล้านเหรียญ,แม้ตีเป็นเงินบาทก็มากมายมหาศาลมาก.
    ตำรวจพุ่งชนไรเดอร์ อินโดนีเซียลุกเป็นไฟ

    รัฐบาลอินโดนีเซีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต ถูกประชาชนไม่ไว้วางใจอย่างหนัก โดยเชื่อว่ามีแนวโน้มจะรวมศูนย์อำนาจมากขึ้น ในยามที่ประชาชนยากลำบากจากเศรษฐกิจตกต่ำ ตั้งแต่การแสดงสัญลักษณ์ด้วยธงโจรสลัดจากอนิเมะเรื่องวันพีซ ในห้วงวันประกาศอิสรภาพครบรอบ 80 ปี กระทั่งต้องเผชิญกับการชุมนุมประท้วง ตั้งแต่กลุ่มนักศึกษาคัดค้านการขึ้นเงินเดือนและสวัสดิการของรัฐสภา โดยเฉพาะค่าที่พักสูงถึงเดือนละ 50 ล้านรูเปียห์ (เกือบ 100,000 บาท) และกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่เรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ยุติการจ้างงานแบบภายนอก และตั้งคณะกรรมการป้องกันการเลิกจ้าง ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงสลายการชุมนุม

    จุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อวันที่ 28 ส.ค. รถหุ้มเกราะควบคุมฝูงชนบริม็อบ (Brimob) ของตำรวจอินโดนีเซีย พุ่งเข้าชนนายอัฟฟาน คูรเนียวัน อายุ 21 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน (Ojol) เสียชีวิตใจกลางกรุงจาการ์ตา ระหว่างที่มีผู้ชุมนุมประท้วง จุดชนวนให้ประชาชนโกรธแค้นมากขึ้น แม้ต้นสังกัดจะควบคุมตัวตำรวจ 7 นาย ที่อยู่ในรถหุ้มเกราะไปสอบสวน ถูกควบคุมตัวฐานละเมิดจริยธรรม 20 วัน รวมทั้งประธานาธิบดีปราโบโว ไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยตัวเอง แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น

    ในกรุงจาการ์ตา อาคารรัฐสภา ที่ทำการตำรวจ รวมทั้งสถานีรถเมล์ด่วนพิเศษ ถูกผู้ชุมนุมเผาทำลาย อาคารรัฐสภาส่วนภูมิภาคและที่ทำการตำรวจในหลายเมืองก็ถูกผู้ชุมนุมเผา เช่น เมืองมากัสซาร์ อาคารสภาท้องถิ่นถูกวางเพลิง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย เมืองสุราบายา ที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นก็ถูกเผา เมืองบันดุง ปะทะกันรุนแรง และบ้านพักของสมาชิกสภาถูกเผา รวมทั้งเมืองอื่นๆ เช่น เมืองโซโล ยอร์คยาการ์ตา กูนิกัน เตกัล ปอนตินัค ฯลฯ มีการปล้นสะดมที่บ้านของ รมว.คลังอินโดนีเซีย และสมาชิกรัฐสภาหลายคน

    ที่สุดแล้วประธานาธิบดีปราโบโวแถลงว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นรัฐบาลและอยู่ในความสงบ สภาผู้แทนราษฎรเตรียมเพิกถอนสิทธิประโยชน์บางประการ รวมถึงลดเบี้ยเลี้ยง และระงับการดูงานต่างประเทศ หัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ จะลงโทษสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่กล่าวถ้อยคำไม่เหมาะสม ส่วนตำรวจที่ทำผิดพลาด พร้อมตรวจสอบอย่างรวดเร็ว โปร่งใส และเปิดเผยต่อสาธารณะ ยืนยันว่าเคารพเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่หากทำลายทรัพย์สินหรือปล้นสะดมถือว่าละเมิดกฎหมาย ตำรวจและกองทัพจะดำเนินการอย่างเข้มงวด พร้อมเชิญชวนผู้นำการชุมนุมรวมถึงนักศึกษาร่วมพูดคุยโดยตรง โดยรับรองว่าจะรับฟังข้อเสนอแนะและการวิพากษ์วิจารณ์เพื่อนำไปปฏิบัติต่อไป

    #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว

  • อินโดฯชาวบ้านบุกยึดทรัพย์สิน สส. สส.คนนี้ก็เกินจริงๆสมควรโดน ,เป็นไปได้มั้ยว่าคือกระบวนการก่อความไม่สงบโดยทีมงานciaและคณะสส.คนของciaด้วย,การออกกฎหมายมากมายควบคุมกดขี่บีบบังคับคนอินโดฯสู่การทำให้ยากจนแบบประเทศไทยก็คงอันเดียวกัน อเมริกาและชาติฝรั่งเป็นอันมากไปปล้นชิงทรัพยากรมีค่ามากมายบนอินโดฯไม่น้อย บีบบังคับเอากว่าประเทศไทยเราอีก,อินโดฯจึงเร่งสร้างกองกำลังทหารของตนเองเพื่อปกป้องตนเอง แต่นักการเมืองอินโดฯก็มีไม่น้อยแบบพรรคในไทยที่ถูกยุบ จะเป็นคนของciaอเมริกาด้วย,สลับกันปกครองเพื่อทำคนอินโดฯดักดานมั่นคงในความยากจนแบบไทย แบบพม่านั้นล่ะ ปล้นชิงบ่อน้ำมันไทยบ่อทองคำไทยเป็นต้นจนคนไทยยากจนต้นทุนแพงส่งผลค่าใช้จ่ายแพง เงินเดือนไม่ผูกผันแปรตรงกับค่าครองชีพค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นหรือแปรผันตรงกับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นนั้นเอง,
    ..อินโดฯดูดีๆเหมือนกำลังถูกอีลิทciaวางแผนสร้างความไม่สงบแน่ๆที่ไม่ยืนข้างอเมริกาชาติฝรั่งร่วมจัดการจีนประมาณนั้น,เหมือนไทยกำลัวโดยนี้ล่ะ ,อินโดฯมีปัญหาเรื่องบ่อน้ำมันกับมาเลย์ มาเลย์ฟ้องอเมริกาช่วยจัดการอินโดฯด้วยเดี๋ยวแบ่งรายได้จากแหล่งน้ำมันพิพาทกับอินโดฯนี้ให้ มูลค่าเบื้องต้นกว่า45-60ล้านล้านบาท,จริงๆอาจกว่า100ล้านล้านบาทแน่นอน,อเมริกานำโดยciaสั่งไอ้เหี้ยนี้สส.นี้ยั่วยุคนอินโดฯเสีย บวกกดขี่กดดันคนอินโดฯทุกข์ยากขาดแคลนลำบากให้หนักขึ้น,จากนั้นล็อบบี้คนของตนที่อินโดฯยกแหล่งบ่อน้ำมันพิพาทนี้ให้มาเลย์เสียทำแบบไทยที่หามุกจนเจอ ใช้มุก1:200,000แย่งบ่อน้ำมันในอ่าวไทยจากไทยให้ได้,อินโดฯก็เหมือนไทยนั้นล่ะ ciaอเมริกาครอบงำการปกครองไทยฝั่งผู้นำไทยทั้งสภารวมฝ่ายค้านด้วยยิ่งบินเยือนอเมริกาหลบหนีเป็นว่าเล่น,อินโดฯก็เช่นกัน คนของciaอเมริกาฝรั่งเศสตรึมเช่นกัน,
    ..สรุปอาเชียนเราไม่สงบสุขเพราะพวกฝรั่งอเมริกาciaสายตะวันตกยุโรปมาลุกล้ำอธิปไตยคนอาเชียนคนเอเชียเรามาเกินไปสมควรผลักดันกลับตะวันตกกลับอเมริกายุโรปให้หมด,เขตอาเชียนปลอดฝรั่งตะวันตกยุโรปอเมริกาก็ว่าไป,เราอาจร่วมกันสร้างความสุขสงบจริงภายในเอเชียภายในอาเชียนเราเองได้สบายมาก.



    https://youtube.com/watch?v=tJirUo4MUyc&si=B-21uPkl5v5j5VFh
    อินโดฯชาวบ้านบุกยึดทรัพย์สิน สส. สส.คนนี้ก็เกินจริงๆสมควรโดน ,เป็นไปได้มั้ยว่าคือกระบวนการก่อความไม่สงบโดยทีมงานciaและคณะสส.คนของciaด้วย,การออกกฎหมายมากมายควบคุมกดขี่บีบบังคับคนอินโดฯสู่การทำให้ยากจนแบบประเทศไทยก็คงอันเดียวกัน อเมริกาและชาติฝรั่งเป็นอันมากไปปล้นชิงทรัพยากรมีค่ามากมายบนอินโดฯไม่น้อย บีบบังคับเอากว่าประเทศไทยเราอีก,อินโดฯจึงเร่งสร้างกองกำลังทหารของตนเองเพื่อปกป้องตนเอง แต่นักการเมืองอินโดฯก็มีไม่น้อยแบบพรรคในไทยที่ถูกยุบ จะเป็นคนของciaอเมริกาด้วย,สลับกันปกครองเพื่อทำคนอินโดฯดักดานมั่นคงในความยากจนแบบไทย แบบพม่านั้นล่ะ ปล้นชิงบ่อน้ำมันไทยบ่อทองคำไทยเป็นต้นจนคนไทยยากจนต้นทุนแพงส่งผลค่าใช้จ่ายแพง เงินเดือนไม่ผูกผันแปรตรงกับค่าครองชีพค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นหรือแปรผันตรงกับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นนั้นเอง, ..อินโดฯดูดีๆเหมือนกำลังถูกอีลิทciaวางแผนสร้างความไม่สงบแน่ๆที่ไม่ยืนข้างอเมริกาชาติฝรั่งร่วมจัดการจีนประมาณนั้น,เหมือนไทยกำลัวโดยนี้ล่ะ ,อินโดฯมีปัญหาเรื่องบ่อน้ำมันกับมาเลย์ มาเลย์ฟ้องอเมริกาช่วยจัดการอินโดฯด้วยเดี๋ยวแบ่งรายได้จากแหล่งน้ำมันพิพาทกับอินโดฯนี้ให้ มูลค่าเบื้องต้นกว่า45-60ล้านล้านบาท,จริงๆอาจกว่า100ล้านล้านบาทแน่นอน,อเมริกานำโดยciaสั่งไอ้เหี้ยนี้สส.นี้ยั่วยุคนอินโดฯเสีย บวกกดขี่กดดันคนอินโดฯทุกข์ยากขาดแคลนลำบากให้หนักขึ้น,จากนั้นล็อบบี้คนของตนที่อินโดฯยกแหล่งบ่อน้ำมันพิพาทนี้ให้มาเลย์เสียทำแบบไทยที่หามุกจนเจอ ใช้มุก1:200,000แย่งบ่อน้ำมันในอ่าวไทยจากไทยให้ได้,อินโดฯก็เหมือนไทยนั้นล่ะ ciaอเมริกาครอบงำการปกครองไทยฝั่งผู้นำไทยทั้งสภารวมฝ่ายค้านด้วยยิ่งบินเยือนอเมริกาหลบหนีเป็นว่าเล่น,อินโดฯก็เช่นกัน คนของciaอเมริกาฝรั่งเศสตรึมเช่นกัน, ..สรุปอาเชียนเราไม่สงบสุขเพราะพวกฝรั่งอเมริกาciaสายตะวันตกยุโรปมาลุกล้ำอธิปไตยคนอาเชียนคนเอเชียเรามาเกินไปสมควรผลักดันกลับตะวันตกกลับอเมริกายุโรปให้หมด,เขตอาเชียนปลอดฝรั่งตะวันตกยุโรปอเมริกาก็ว่าไป,เราอาจร่วมกันสร้างความสุขสงบจริงภายในเอเชียภายในอาเชียนเราเองได้สบายมาก. https://youtube.com/watch?v=tJirUo4MUyc&si=B-21uPkl5v5j5VFh
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts