• ทรัมป์ชี้ “ดีปซีค” (DeepSeek) แชตบอตเอไอจีน ที่เขย่าหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคของสหรัฐฯ ร่วงหนักเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) ควรเป็น “สัญญาณเตือน” ซิลลิคอนแวลลีย์ให้ยิ่งมุ่งมั่นทุ่มเทความสนใจเพื่อเอาชนะจีน
    .
    ถึงแม้การเปิดตัวโมเดลล่าสุดของดีปซีค บริษัทสตาร์ทอัปปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ทางภาคตะวันออกของจีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในช่วงแรกๆ ถูกกลบจนเงียบสนิทจากข่าวพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จัดขึ้นในวันเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แชตบอตของดีปซีค สามารถโค่นยักษ์แชตจีพีทีของค่ายโอเพ่นเอไอ กลายเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบนแอปสโตร์ของแอปเปิลในอเมริกา
    .
    สิ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมไฮเทคของสหรัฐฯ และค่ายตะวันตกโดยรวมนั่งไม่ติด คือ การที่ดีปซีคระบุว่า พัฒนาโมเดลล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า อาร์1 นี้ ด้วยต้นทุนแค่เศษเงินของที่บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ลงทุนในการพัฒนาเอไอ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอิงอยู่กับชิป และซอฟต์แวร์ราคาแพงของเอ็นวิเดีย
    .
    พัฒนาการดังกล่าวมีความสำคัญมากเนื่องจากกระแสเอไอที่จุดชนวนจากการเปิดตัวแชตจีพีทีเมื่อปลายปี 2022 นั้น กลายเป็นกระแสร้อนแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้หุ้นไฮเทคในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ และโลกตะวันตกอื่นๆ พุ่งแรงไม่มีตกเรื่อยมา โดยเฉพาะทำให้เอ็นวิเดียกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงที่สุดในโลกในขณะนี้
    .
    ข่าวความฮิตฮอตของดีปซีค กำลังสั่นสะเทือนทั่ววงการเทคโนโลยีของอเมริกา และปลุกเร้าความกังวลสำคัญที่ว่า บรรดาบริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ยังควรยึดโมเดลเดิม ด้วยการลงทุนเป็นแสนๆ ล้านดอลลาร์กับเอไอแบบราคาแพงต่อไปหรือไม่ ในเมื่อบริษัทจีนอย่างดีปซีค สามารถพัฒนาโมเดลเอไอที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมด้วยต้นทุนต่ำกว่ามากมาย
    .
    นอกจากนั้น ความก้าวหน้าอย่างชัดเจนของดีปซีค ยังควรสร้างความขุ่นเคืองและตระหนกให้แก่วอชิงตัน เนื่องจากมันฟ้องว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งแต่ยุค โจ ไบเดน พยายามรักษาสถานะผู้นำด้านเทคโนโลยีของอเมริกาเอาไว้ ด้วยการกีดกันแซงก์ชันไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดทางด้านเซมิคอนดักเตอร์ ที่ถูกมองว่าเป็นฮาร์ดแวร์อันจำเป็นสำหรับการพัฒนาเอไอที่ล้ำยุคนั้น กลับไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิง
    .
    ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาแสดงความเห็นทันควันในวันจันทร์ (27) ว่า การเปิดตัวดีปซีคควรถือเป็นสัญญาณเตือนว่า อุตสาหกรรมไฮเทคของอเมริกาต้องทุ่มเทความสนใจในการเอาชนะจีน
    .
    อย่างไรก็ดี ทรัมป์สำทับว่า นี่อาจเป็นเรื่องที่ดีสำหรับบิ๊กเทคอเมริกา เพราะไม่ต้องลงทุนเป็นหมื่นล้านป็นแสนล้านดอลลาร์ ก็มีโซลูชันแบบเดียวกันได้
    .
    ทางด้าน แซม อัลต์แมน ประธานบริหารโอเพ่นเอไอ โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การมีคู่แข่งใหม่ๆ ทำให้ทั้งวงการมีความกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา พร้อมชมดีปซีค อาร์1 เป็นโมเดลที่น่าประทับใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความสามารถที่นำเสนอจากต้นทุนระดับนั้น เขายังให้สัญญว่า โอเพ่นเอไอ จะเร่งปล่อยโมเดลใหม่ๆ ออกมา
    .
    ขณะที่ เดวิด แซคส์ ที่ปรึกษาด้านเอไอของทรัมป์และเป็นนักลงทุนด้านเทคโนโลยีชื่อดัง ชี้ว่า ความสำเร็จของดีปซีคยืนยันว่า ทำเนียบขาวตัดสินใจถูกต้องแล้วในการยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการพัฒนาเอไอ เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อบริษัทเอไอของอเมริกาโดยไม่มีหลักประกันว่า จีนจะไล่ตามไม่ทัน
    .
    สำหรับ มาร์ก แอนเดรสเซน นักลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เป็นพันธมิตรอีกคนหนึ่งของทรัมป์ ระบุว่า ดีปซีค อาร์1 เป็น “สปุตนิก โมเมนต์” ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ที่สหภาพโซเวียตปล่อยสปุตนิก กลายเป็นดาวเทียมโคจรรอบโลกดวงแรกของโลก เมื่อปี 1957 โดยเวลานั้นสหรัฐฯ ยังทำเช่นนั้นไม่ได้ โลกตะวันตกจึงทั้งทึ่งและตกตะลึงไปตามๆ กัน
    .
    แคธลีน บรูคส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของเอ็กซ์ทีบี ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าจีนไล่ตามอเมริกาในการแข่งขันด้านเอไอได้เร็วขนาดนี้ เศรษฐศาสตร์ของเอไอจะต้องเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง
    .
    สัตยา นาเดลลา ซีอีโอไมโครซอฟท์ โพสต์ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการในวันจันทร์ว่า เอไอต้นทุนต่ำเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคน กระนั้น ในที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัมที่ดาวอส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาเตือนว่า ตะวันตกควรจับตาพัฒนาการของจีนอย่างจริงจังมาก
    .
    ไมโครซอฟท์นั้นประกาศเอาไว้ว่า ปีนี้มีแผนลงทุนในเอไอ 80,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนคู่แข่งอย่างเมตา ก็ประกาศลงทุนอย่างน้อย 60,000 ล้านดอลลาร์
    .
    คาดกันไว้ว่าเม็ดเงินเหล่านี้จำนวนมากจะไปตกอยู่กับเอ็นวิเดีย ซึ่งเวลานี้เป็นเจ้าในเรื่องชิปเอไอระดับล้ำยุคที่ใช้กับเอไอ แต่เมื่อมีข่าวดีปชีคออกมา ราคาหุ้นของเอ็นวิเดีย จึงกลับร่วงหนักถึง 17% ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์
    .
    ถือว่าสถานการณ์พิเศษมากที่ดีปซีค ซึ่งก็เช่นเดียวกับพวกบริษัทจีนอื่นๆ ถูกมาตรการจำกัดกีดกันของรัฐบาลสหรัฐฯ จึงไม่สามารถเข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์ระดับล้ำยุคของเอ็นวิเดียได้ กลับสามารถพัฒนาโมเดลเอไอของตนลลจนทัดเทียมกับพวกยักษ์แนวหน้าระดับโลกได้
    .
    วารสาร เอ็มไอที เทคโนโลยี รีวิว ชี้ว่า มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯนั่นเอง ที่ผลักดันให้สตาร์ทอัปจีนอย่างดีปซีค ต้องค้นหาหนทางที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพของชิปรุ่นเก่ากว่าเท่าที่จะหาได้ ตลอดจนเน้นการรวมเครือข่ายทรัพยากร และการร่วมมือประสานงานกัน
    .
    กระนั้น อีลอน มัสก์ ที่ลงทุนก้อนใหญ่ในชิปเอ็นวิเดียสำหรับบริษัทเอไอของตนเองคือ เอ็กซ์เอไอ รวมทั้งยังเป็นซีอีโอของสเกลเอไอ สตาร์ทอัปชื่อดังแห่งซิลลิคอนแวลลีย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากแอมะซอนและเมตา ออกมาแสดงความสงสัยข้องใจว่า ดีปซีค น่าจะแอบเข้าถึงชิปเอช100 ของเอ็นวิเดียอย่างผิดกฎหมาย
    .
    อย่างไรก็ดี เอ็นวิเดียออกคำแถลงยืนยันว่า เทคโนโลยีของดีปซีคปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ อย่างครบถ้วน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009080
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์ชี้ “ดีปซีค” (DeepSeek) แชตบอตเอไอจีน ที่เขย่าหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคของสหรัฐฯ ร่วงหนักเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) ควรเป็น “สัญญาณเตือน” ซิลลิคอนแวลลีย์ให้ยิ่งมุ่งมั่นทุ่มเทความสนใจเพื่อเอาชนะจีน . ถึงแม้การเปิดตัวโมเดลล่าสุดของดีปซีค บริษัทสตาร์ทอัปปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ทางภาคตะวันออกของจีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในช่วงแรกๆ ถูกกลบจนเงียบสนิทจากข่าวพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จัดขึ้นในวันเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แชตบอตของดีปซีค สามารถโค่นยักษ์แชตจีพีทีของค่ายโอเพ่นเอไอ กลายเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบนแอปสโตร์ของแอปเปิลในอเมริกา . สิ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมไฮเทคของสหรัฐฯ และค่ายตะวันตกโดยรวมนั่งไม่ติด คือ การที่ดีปซีคระบุว่า พัฒนาโมเดลล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า อาร์1 นี้ ด้วยต้นทุนแค่เศษเงินของที่บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ลงทุนในการพัฒนาเอไอ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอิงอยู่กับชิป และซอฟต์แวร์ราคาแพงของเอ็นวิเดีย . พัฒนาการดังกล่าวมีความสำคัญมากเนื่องจากกระแสเอไอที่จุดชนวนจากการเปิดตัวแชตจีพีทีเมื่อปลายปี 2022 นั้น กลายเป็นกระแสร้อนแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้หุ้นไฮเทคในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ และโลกตะวันตกอื่นๆ พุ่งแรงไม่มีตกเรื่อยมา โดยเฉพาะทำให้เอ็นวิเดียกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงที่สุดในโลกในขณะนี้ . ข่าวความฮิตฮอตของดีปซีค กำลังสั่นสะเทือนทั่ววงการเทคโนโลยีของอเมริกา และปลุกเร้าความกังวลสำคัญที่ว่า บรรดาบริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ยังควรยึดโมเดลเดิม ด้วยการลงทุนเป็นแสนๆ ล้านดอลลาร์กับเอไอแบบราคาแพงต่อไปหรือไม่ ในเมื่อบริษัทจีนอย่างดีปซีค สามารถพัฒนาโมเดลเอไอที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมด้วยต้นทุนต่ำกว่ามากมาย . นอกจากนั้น ความก้าวหน้าอย่างชัดเจนของดีปซีค ยังควรสร้างความขุ่นเคืองและตระหนกให้แก่วอชิงตัน เนื่องจากมันฟ้องว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งแต่ยุค โจ ไบเดน พยายามรักษาสถานะผู้นำด้านเทคโนโลยีของอเมริกาเอาไว้ ด้วยการกีดกันแซงก์ชันไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดทางด้านเซมิคอนดักเตอร์ ที่ถูกมองว่าเป็นฮาร์ดแวร์อันจำเป็นสำหรับการพัฒนาเอไอที่ล้ำยุคนั้น กลับไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิง . ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาแสดงความเห็นทันควันในวันจันทร์ (27) ว่า การเปิดตัวดีปซีคควรถือเป็นสัญญาณเตือนว่า อุตสาหกรรมไฮเทคของอเมริกาต้องทุ่มเทความสนใจในการเอาชนะจีน . อย่างไรก็ดี ทรัมป์สำทับว่า นี่อาจเป็นเรื่องที่ดีสำหรับบิ๊กเทคอเมริกา เพราะไม่ต้องลงทุนเป็นหมื่นล้านป็นแสนล้านดอลลาร์ ก็มีโซลูชันแบบเดียวกันได้ . ทางด้าน แซม อัลต์แมน ประธานบริหารโอเพ่นเอไอ โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การมีคู่แข่งใหม่ๆ ทำให้ทั้งวงการมีความกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา พร้อมชมดีปซีค อาร์1 เป็นโมเดลที่น่าประทับใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความสามารถที่นำเสนอจากต้นทุนระดับนั้น เขายังให้สัญญว่า โอเพ่นเอไอ จะเร่งปล่อยโมเดลใหม่ๆ ออกมา . ขณะที่ เดวิด แซคส์ ที่ปรึกษาด้านเอไอของทรัมป์และเป็นนักลงทุนด้านเทคโนโลยีชื่อดัง ชี้ว่า ความสำเร็จของดีปซีคยืนยันว่า ทำเนียบขาวตัดสินใจถูกต้องแล้วในการยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการพัฒนาเอไอ เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อบริษัทเอไอของอเมริกาโดยไม่มีหลักประกันว่า จีนจะไล่ตามไม่ทัน . สำหรับ มาร์ก แอนเดรสเซน นักลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เป็นพันธมิตรอีกคนหนึ่งของทรัมป์ ระบุว่า ดีปซีค อาร์1 เป็น “สปุตนิก โมเมนต์” ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ที่สหภาพโซเวียตปล่อยสปุตนิก กลายเป็นดาวเทียมโคจรรอบโลกดวงแรกของโลก เมื่อปี 1957 โดยเวลานั้นสหรัฐฯ ยังทำเช่นนั้นไม่ได้ โลกตะวันตกจึงทั้งทึ่งและตกตะลึงไปตามๆ กัน . แคธลีน บรูคส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของเอ็กซ์ทีบี ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าจีนไล่ตามอเมริกาในการแข่งขันด้านเอไอได้เร็วขนาดนี้ เศรษฐศาสตร์ของเอไอจะต้องเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง . สัตยา นาเดลลา ซีอีโอไมโครซอฟท์ โพสต์ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการในวันจันทร์ว่า เอไอต้นทุนต่ำเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคน กระนั้น ในที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัมที่ดาวอส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาเตือนว่า ตะวันตกควรจับตาพัฒนาการของจีนอย่างจริงจังมาก . ไมโครซอฟท์นั้นประกาศเอาไว้ว่า ปีนี้มีแผนลงทุนในเอไอ 80,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนคู่แข่งอย่างเมตา ก็ประกาศลงทุนอย่างน้อย 60,000 ล้านดอลลาร์ . คาดกันไว้ว่าเม็ดเงินเหล่านี้จำนวนมากจะไปตกอยู่กับเอ็นวิเดีย ซึ่งเวลานี้เป็นเจ้าในเรื่องชิปเอไอระดับล้ำยุคที่ใช้กับเอไอ แต่เมื่อมีข่าวดีปชีคออกมา ราคาหุ้นของเอ็นวิเดีย จึงกลับร่วงหนักถึง 17% ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ . ถือว่าสถานการณ์พิเศษมากที่ดีปซีค ซึ่งก็เช่นเดียวกับพวกบริษัทจีนอื่นๆ ถูกมาตรการจำกัดกีดกันของรัฐบาลสหรัฐฯ จึงไม่สามารถเข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์ระดับล้ำยุคของเอ็นวิเดียได้ กลับสามารถพัฒนาโมเดลเอไอของตนลลจนทัดเทียมกับพวกยักษ์แนวหน้าระดับโลกได้ . วารสาร เอ็มไอที เทคโนโลยี รีวิว ชี้ว่า มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯนั่นเอง ที่ผลักดันให้สตาร์ทอัปจีนอย่างดีปซีค ต้องค้นหาหนทางที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพของชิปรุ่นเก่ากว่าเท่าที่จะหาได้ ตลอดจนเน้นการรวมเครือข่ายทรัพยากร และการร่วมมือประสานงานกัน . กระนั้น อีลอน มัสก์ ที่ลงทุนก้อนใหญ่ในชิปเอ็นวิเดียสำหรับบริษัทเอไอของตนเองคือ เอ็กซ์เอไอ รวมทั้งยังเป็นซีอีโอของสเกลเอไอ สตาร์ทอัปชื่อดังแห่งซิลลิคอนแวลลีย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากแอมะซอนและเมตา ออกมาแสดงความสงสัยข้องใจว่า ดีปซีค น่าจะแอบเข้าถึงชิปเอช100 ของเอ็นวิเดียอย่างผิดกฎหมาย . อย่างไรก็ดี เอ็นวิเดียออกคำแถลงยืนยันว่า เทคโนโลยีของดีปซีคปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ อย่างครบถ้วน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009080 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 463 มุมมอง 0 รีวิว
  • Part 2 : จาก “ไอ้ขี้ยา” ถึง “มื้อกลางวันที่เปลือยเปล่า”
    .
    การฆ่าคนสักคนโดยที่คนเราจะตั้งใจไม่หรือไม่ตั้งใจก็ตาม หากคนผู้นั้นมีจิตสำนึก ชีวิตอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง สำหรับ วิลเลี่ยม “บิล” เอส. เบอร์โรส์ ที่ชักปืนมายิงเปรี้ยงพลาดเข้ากางหน้าผากโวมเมอร์ ภรรยาโดยพฤตินัยนั้น อย่างแรกที่เขาเลือกที่จะทำคือการโทรหาทนายความหัวหมอคนนั้นอีก ซึ่งแน่นอน เขารอดคุกเป็นครั้งที่ 2 จากการใช้ช่องโหว่ทางจดหมาย แต่ไม่นานเท่าไหร่ ทนายเองก็มีปัญหาส่วนตัวกับกฏหมายบ้านเมือง ทางออกที่ดีที่สุดคือ บิลต้องเดินทางออกนอกประเทศอีกครั้ง คราวนี้ต้องไปให้ไกลกว่าเดิม ลึกกว่าเดิม เขาไปใช้ชีวิตในแถบอเมริกาใต้อยู่ครึ่งปี และกลายเป็นคนแรกในกลุ่มบีทส์ ที่ได้เสพ อายาวัสกาอย่างบ้าคลั่ง ในปี 1953 บิลกลับมาที่แม็กซิโก และ เดินทางออกจากที่นั่น กลับไปที่้ นิวยอร์ค เพื่อพบกับอัลแลน ซึ่งได้แนะนำเส้นสายในวงการโรงพิมพ์ให้เขารู้จัก หนึ่งในนั้นคือ คาร์ล โซโลมอน ซึ่งเป็นบรรณาธิการของ เอสบุ๊ค ผู้รับหนังสือเล่มแรกของบิลตีพิมพ์ออกสู่ตลาดในวงกว้าง "ไอ้ขี้ยา" - Junkie บิลได้เงินจากการขายสิทธิ์ในการตีพิมพ์เป็นเงิน 800 เหรียญ หนังสือเล่มนี้ "ไอ้ขี้ยา" - Junkie ขายไม่ค่อยดีเท่าไรนักในเวลานั้น เนื่องจากมันเป็นการรวมประสบการณ์ส่วนตัวที่ดิบและเถื่อนของบิลเองในฐานะผู้เสพยาเสพติดหลากหลายชนิด แต่หากมองในมุมมองของโลกบุคปัจจุบันซึ่งผ่านมาแล้วกว่า 70 ปี หนังสือเล่มนี้เปิดโลกอีกใบของสังคมอเมริกาในยุค mid-century ที่คนภายนอก หรือคนในปัจจุบัน มองว่าทุกอย่างนั้นเป็นระเบียบแบบแผน มีสีสัน มีความล้ำสมัย มีความเป็นอเมริกาน่าแบบไม่ตกยุค "ไอ้ขี้ยา" - Junkie จึงเป็นหนังสือเล่มหนึ่งในจำนวนที่น้อยมากๆ ที่สะท้อนสังคมอเมริกันในยุคนั้น อย่างลึกซึ้ง
    .
    อันที่จริง บิล ตกหลุมรัก อัลแลน แบบจริงจัง แบบหัวปักหัวปำ โดยออกปากว่าอยากความสัมพันธ์ทางเพศแบบชายรักชายกับเขา แต่เมื่อ อัลแลนปฏิเสธเขา บิลรู้สึกอกหัก และเดินทางออกนอกประเทศอีกครั้งสู่ แทนเจียร์ ประเทศโมร็อกโก ซึ่งขึ้นชื่ออยู่แล้วว่า เป็นตลาดใหญ่ของ โสเภณีชาย และ ยาเสพติดทุกประเภทในโลก และมันก็ไม่เกินความคาดเดา บิลเสพยาหนักขึ้นอีก ยาที่เขาเลือกใช้บ่อยที่สุดในช่วงนั้นคือ ยูคาโดล ซึ่งก็คือชื่้อทางการตลาดของยาระงับประสาท ออกซิโคโดน นั่นเอง เขาติดแบบงอมแงมซะเขาต้องเลือกที่จะบากหน้ากลับไปหาแม่ ในเดือนกันยายน ปี 1956 เพื่อขอยืมเงิน 500 เหรียญเพื่อไปบำบัด ซึ่งเขาได้พบกับ ดร. จอห์น ยาเบอร์รี่ ซึ่งเป็นหนึ่งใน แพทย์สายบำบัด ที่เก่งที่สุดในโลก โดยให้ อโปมอร์ฟีน กับบิลแทน นั่นก็ทำให้บิลหยุดอาการอยากยา ได้ขณะหนึ่ง แต่ไม่รู้เหตุอันใด บิล รีบเดินทางกลับไปที่แทนเจียร์เลยทันที
    .
    แทนเจียร์ สภาพที่คุ้นเคย สถานที่ที่บิลจัดหาทุกอย่างเพื่อสนองความต้องของตัวเองได้ทุกเวลา บิลเริ่มมีความมุ่งมั่นในการผลิตงานเขียนอย่างจริงๆจังๆ ก็ที่นี่ ที่ผลงานชั้นครูในโลกของวรรณกรรมนอกกระแส "มื้อกลางวันที่เปลือยเปล่า" - Naked Lunch บิลเขียนจดหมายถึงอัลแลนเล่าว่า "นายรู้หรือเปล่า? วิธีเขียนหนังสือยาวๆแบบฉัน ฉันนี่ดูดกัญชาไปเรื่อยๆ พิมพ์ไปด้วยความสูงสุดเท่าที่จะพิมพ์ได้ วันละ หกชั่วโมงติดต่อกันเท่านั้นเป็นเลิกกัน" อันที่จริงแล้วชื่อวรรณกรรมเล่มนี้มาด้วยความบังเอิญสุดๆ คือตอนที่จะให้ชื่อกับวรรณกรรมดังกล่าว ก่อนหน้านี้ที่บิลนั้นเดินทางไปเยี่ยมพรรคพวกที่ ม.โคลัมเบีย ซึ่งกลุ่มบีทส์ นำโดย แจ็ค กับ อัลแลน จะฝึกวิชาเขียนบทกันอย่างหนักหน่วงมาก โดยจะผลัดกับเขียนเรื่องสั้น เรียกว่า รูทีน และเอาพวกคนในกลุ่มผลัดกันมาเล่นละครแล้วก็วิจารณ์กันเองอย่างดุเดือด อัลแลนอ่านประโยค "ความใคร่อันเปลือยเปล่า" - Naked Lust ผิดเป็น Naked Lunch ซึ่งบิลชื่นชอบคำนี้มาก และจำมาเขียนเป็นชื่อวรรณกรรมของเขาเอง ในปี 1957 แจ็คเดินทางไปแทนเจียร์และพบว่า ต้นฉบับของ Naked Lunch นั้นปลิวกระจายไปทั่วห้อง แจ็คถึงกลับต้องเอามานั่งเรียบเรียงและพิมพ์ดีดลงกระดาษให้เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตาม เดือนถัดมา แจ็คก็ยังรู้สึกไม่พอใจ จึงกลับไปที่แทนเจียร์อีกรอบพร้อมกับชายคนรักคนใหม่ของเขา ปีเตอร์ ออลอฟสกี้ และสองคนนี้ก็ไปช่วยกันเรียบเรียงให้ต้นฉบับนี้สมบูรณ์และพร้อมตีพิมพ์ในเวลาต่อมา ซึ่งเมื่ออัลแลนได้อ่านต้นฉบับถึงกลับเขียนจดหมายไปหา ลูเชี่ยน คารร์ เล่าว่า "ผลงานของบิลนี้โคตรเจ๋ง การที่บิลเขาทุ่มเทกับมันใช้ความรู้และศิลปะในการใช้ภาษาที่เขามี และ ยังมีพวกเราที่มาขัดเกลามันขึ้นอีก!"
    .
    บิลกับอัลแลนเดินทางไปปารีสในเดือนมกราคมปี 1958 และขายสิทธิ์ในการตีพิมพ์งานชิ้นเอกของเขาให้กับ สำนักพิมพ์โอลิมเปีย และต่อมา ในปี 1962 ผลงานนี้จึงถูกนำเข้ามาตีพิมพ์ในอเมริกาโดย สำนักพิมพ์โกว์ฟ แต่ขายได้ไม่นานก็ถูกสั่งโดยรัฐบาลกลางให้เลิกขายโดยทันทีเนื่องจากมีเนื้อหาที่ลามกหยาบโลนเกินไปสำหรับนักอ่านในอเมริกา กว่าหนังสือเล่มนี้จะได้ขายในตลาดหนังสืออเมริกาก็ปาเข้าไปปี 1966 ซึ่งบิลนั้นยินดีมากที่หนังสือเขาจะไม่ถูกหาว่าเป็นหนังสือต้องห้าม ในเวลาต่อมาเมื่อมีการเสวนากันโดยสื่อมวลชนถึง คุณค่าและความเป็นวรรณกรรมของหนังสือดังกล่าว นอแมน เมลเลอร์ กล่าวว่า "ก็ด้วยความที่มันสุดขอบในเรื่องเซ็กซ์ ความใคร่ ความกระสันในความรุนแรงแบบน่าสยดสยอง แบบดิบๆ ที่เราเจอได้ในหนังสือเล่มนี้ ทำให้ผมชื่นชม คุณ เบอร์โรส์ มากๆ เพราะเขาเข้าถึงเรื่องอย่างว่าได้ลึกกว่านักเขียนคนใดในโลกตะวันตกในยุคนี้"
    .
    วิลเลี่ยม เอส. เบอร์โรส์ ก็ใช่่จะไม่เจอปัญหาที่ในชีวิตที่ดูเหมือนจะไม่แคร์โลกไม่แคร์สังคมของเขา นั่นก็คือลูกชายเขา - บิลจูเนียร์ นั่นเอง บิลจูเนียร์ติดยาเสพติดอย่างงอมแงม ตามไลฟสไตล์ที่เขาเห็นพ่อ และ แม่ผู้ล่วงลับใช้ชีวิตกันแบบนั้นมาตลอด บิลเดินทางออกจากแทนเจียร์อีกครั้ง มาอเมริกาเพื่อเอาลูกชายตัวเอง เข้าสถานบำบัดเอกชน เล็กซิงตั้น มีเรื่้องเล่าอยู่ว่า วันที่ สองคนเดินทางไปถึง พยาบาลถึงกลับงงและถามว่า "หนึ่งในสองคนนี้ คนไหนกันคะที่จะเข้ารับการบำบัด?" บิลจูเนียร์ มีชีวิตที่น่าสงสาร เป็นโรคไตวาย เปลี่ยนไตใหม่ไปหนึ่งครั้ง และก็จบชีวิตที่แสนสั้นของเขาที่ฟลอริดา บิลจูเนียร์เขียนจดหมายลาพ่อของเขา ลงท้ายจดหมาย "จาก บุตรที่โดนสาปแช่งตั้งแต่เกิดของท่านเอง"
    .
    .
    to be continued...
    .
    .
    Part 2 : จาก “ไอ้ขี้ยา” ถึง “มื้อกลางวันที่เปลือยเปล่า” . การฆ่าคนสักคนโดยที่คนเราจะตั้งใจไม่หรือไม่ตั้งใจก็ตาม หากคนผู้นั้นมีจิตสำนึก ชีวิตอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง สำหรับ วิลเลี่ยม “บิล” เอส. เบอร์โรส์ ที่ชักปืนมายิงเปรี้ยงพลาดเข้ากางหน้าผากโวมเมอร์ ภรรยาโดยพฤตินัยนั้น อย่างแรกที่เขาเลือกที่จะทำคือการโทรหาทนายความหัวหมอคนนั้นอีก ซึ่งแน่นอน เขารอดคุกเป็นครั้งที่ 2 จากการใช้ช่องโหว่ทางจดหมาย แต่ไม่นานเท่าไหร่ ทนายเองก็มีปัญหาส่วนตัวกับกฏหมายบ้านเมือง ทางออกที่ดีที่สุดคือ บิลต้องเดินทางออกนอกประเทศอีกครั้ง คราวนี้ต้องไปให้ไกลกว่าเดิม ลึกกว่าเดิม เขาไปใช้ชีวิตในแถบอเมริกาใต้อยู่ครึ่งปี และกลายเป็นคนแรกในกลุ่มบีทส์ ที่ได้เสพ อายาวัสกาอย่างบ้าคลั่ง ในปี 1953 บิลกลับมาที่แม็กซิโก และ เดินทางออกจากที่นั่น กลับไปที่้ นิวยอร์ค เพื่อพบกับอัลแลน ซึ่งได้แนะนำเส้นสายในวงการโรงพิมพ์ให้เขารู้จัก หนึ่งในนั้นคือ คาร์ล โซโลมอน ซึ่งเป็นบรรณาธิการของ เอสบุ๊ค ผู้รับหนังสือเล่มแรกของบิลตีพิมพ์ออกสู่ตลาดในวงกว้าง "ไอ้ขี้ยา" - Junkie บิลได้เงินจากการขายสิทธิ์ในการตีพิมพ์เป็นเงิน 800 เหรียญ หนังสือเล่มนี้ "ไอ้ขี้ยา" - Junkie ขายไม่ค่อยดีเท่าไรนักในเวลานั้น เนื่องจากมันเป็นการรวมประสบการณ์ส่วนตัวที่ดิบและเถื่อนของบิลเองในฐานะผู้เสพยาเสพติดหลากหลายชนิด แต่หากมองในมุมมองของโลกบุคปัจจุบันซึ่งผ่านมาแล้วกว่า 70 ปี หนังสือเล่มนี้เปิดโลกอีกใบของสังคมอเมริกาในยุค mid-century ที่คนภายนอก หรือคนในปัจจุบัน มองว่าทุกอย่างนั้นเป็นระเบียบแบบแผน มีสีสัน มีความล้ำสมัย มีความเป็นอเมริกาน่าแบบไม่ตกยุค "ไอ้ขี้ยา" - Junkie จึงเป็นหนังสือเล่มหนึ่งในจำนวนที่น้อยมากๆ ที่สะท้อนสังคมอเมริกันในยุคนั้น อย่างลึกซึ้ง . อันที่จริง บิล ตกหลุมรัก อัลแลน แบบจริงจัง แบบหัวปักหัวปำ โดยออกปากว่าอยากความสัมพันธ์ทางเพศแบบชายรักชายกับเขา แต่เมื่อ อัลแลนปฏิเสธเขา บิลรู้สึกอกหัก และเดินทางออกนอกประเทศอีกครั้งสู่ แทนเจียร์ ประเทศโมร็อกโก ซึ่งขึ้นชื่ออยู่แล้วว่า เป็นตลาดใหญ่ของ โสเภณีชาย และ ยาเสพติดทุกประเภทในโลก และมันก็ไม่เกินความคาดเดา บิลเสพยาหนักขึ้นอีก ยาที่เขาเลือกใช้บ่อยที่สุดในช่วงนั้นคือ ยูคาโดล ซึ่งก็คือชื่้อทางการตลาดของยาระงับประสาท ออกซิโคโดน นั่นเอง เขาติดแบบงอมแงมซะเขาต้องเลือกที่จะบากหน้ากลับไปหาแม่ ในเดือนกันยายน ปี 1956 เพื่อขอยืมเงิน 500 เหรียญเพื่อไปบำบัด ซึ่งเขาได้พบกับ ดร. จอห์น ยาเบอร์รี่ ซึ่งเป็นหนึ่งใน แพทย์สายบำบัด ที่เก่งที่สุดในโลก โดยให้ อโปมอร์ฟีน กับบิลแทน นั่นก็ทำให้บิลหยุดอาการอยากยา ได้ขณะหนึ่ง แต่ไม่รู้เหตุอันใด บิล รีบเดินทางกลับไปที่แทนเจียร์เลยทันที . แทนเจียร์ สภาพที่คุ้นเคย สถานที่ที่บิลจัดหาทุกอย่างเพื่อสนองความต้องของตัวเองได้ทุกเวลา บิลเริ่มมีความมุ่งมั่นในการผลิตงานเขียนอย่างจริงๆจังๆ ก็ที่นี่ ที่ผลงานชั้นครูในโลกของวรรณกรรมนอกกระแส "มื้อกลางวันที่เปลือยเปล่า" - Naked Lunch บิลเขียนจดหมายถึงอัลแลนเล่าว่า "นายรู้หรือเปล่า? วิธีเขียนหนังสือยาวๆแบบฉัน ฉันนี่ดูดกัญชาไปเรื่อยๆ พิมพ์ไปด้วยความสูงสุดเท่าที่จะพิมพ์ได้ วันละ หกชั่วโมงติดต่อกันเท่านั้นเป็นเลิกกัน" อันที่จริงแล้วชื่อวรรณกรรมเล่มนี้มาด้วยความบังเอิญสุดๆ คือตอนที่จะให้ชื่อกับวรรณกรรมดังกล่าว ก่อนหน้านี้ที่บิลนั้นเดินทางไปเยี่ยมพรรคพวกที่ ม.โคลัมเบีย ซึ่งกลุ่มบีทส์ นำโดย แจ็ค กับ อัลแลน จะฝึกวิชาเขียนบทกันอย่างหนักหน่วงมาก โดยจะผลัดกับเขียนเรื่องสั้น เรียกว่า รูทีน และเอาพวกคนในกลุ่มผลัดกันมาเล่นละครแล้วก็วิจารณ์กันเองอย่างดุเดือด อัลแลนอ่านประโยค "ความใคร่อันเปลือยเปล่า" - Naked Lust ผิดเป็น Naked Lunch ซึ่งบิลชื่นชอบคำนี้มาก และจำมาเขียนเป็นชื่อวรรณกรรมของเขาเอง ในปี 1957 แจ็คเดินทางไปแทนเจียร์และพบว่า ต้นฉบับของ Naked Lunch นั้นปลิวกระจายไปทั่วห้อง แจ็คถึงกลับต้องเอามานั่งเรียบเรียงและพิมพ์ดีดลงกระดาษให้เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตาม เดือนถัดมา แจ็คก็ยังรู้สึกไม่พอใจ จึงกลับไปที่แทนเจียร์อีกรอบพร้อมกับชายคนรักคนใหม่ของเขา ปีเตอร์ ออลอฟสกี้ และสองคนนี้ก็ไปช่วยกันเรียบเรียงให้ต้นฉบับนี้สมบูรณ์และพร้อมตีพิมพ์ในเวลาต่อมา ซึ่งเมื่ออัลแลนได้อ่านต้นฉบับถึงกลับเขียนจดหมายไปหา ลูเชี่ยน คารร์ เล่าว่า "ผลงานของบิลนี้โคตรเจ๋ง การที่บิลเขาทุ่มเทกับมันใช้ความรู้และศิลปะในการใช้ภาษาที่เขามี และ ยังมีพวกเราที่มาขัดเกลามันขึ้นอีก!" . บิลกับอัลแลนเดินทางไปปารีสในเดือนมกราคมปี 1958 และขายสิทธิ์ในการตีพิมพ์งานชิ้นเอกของเขาให้กับ สำนักพิมพ์โอลิมเปีย และต่อมา ในปี 1962 ผลงานนี้จึงถูกนำเข้ามาตีพิมพ์ในอเมริกาโดย สำนักพิมพ์โกว์ฟ แต่ขายได้ไม่นานก็ถูกสั่งโดยรัฐบาลกลางให้เลิกขายโดยทันทีเนื่องจากมีเนื้อหาที่ลามกหยาบโลนเกินไปสำหรับนักอ่านในอเมริกา กว่าหนังสือเล่มนี้จะได้ขายในตลาดหนังสืออเมริกาก็ปาเข้าไปปี 1966 ซึ่งบิลนั้นยินดีมากที่หนังสือเขาจะไม่ถูกหาว่าเป็นหนังสือต้องห้าม ในเวลาต่อมาเมื่อมีการเสวนากันโดยสื่อมวลชนถึง คุณค่าและความเป็นวรรณกรรมของหนังสือดังกล่าว นอแมน เมลเลอร์ กล่าวว่า "ก็ด้วยความที่มันสุดขอบในเรื่องเซ็กซ์ ความใคร่ ความกระสันในความรุนแรงแบบน่าสยดสยอง แบบดิบๆ ที่เราเจอได้ในหนังสือเล่มนี้ ทำให้ผมชื่นชม คุณ เบอร์โรส์ มากๆ เพราะเขาเข้าถึงเรื่องอย่างว่าได้ลึกกว่านักเขียนคนใดในโลกตะวันตกในยุคนี้" . วิลเลี่ยม เอส. เบอร์โรส์ ก็ใช่่จะไม่เจอปัญหาที่ในชีวิตที่ดูเหมือนจะไม่แคร์โลกไม่แคร์สังคมของเขา นั่นก็คือลูกชายเขา - บิลจูเนียร์ นั่นเอง บิลจูเนียร์ติดยาเสพติดอย่างงอมแงม ตามไลฟสไตล์ที่เขาเห็นพ่อ และ แม่ผู้ล่วงลับใช้ชีวิตกันแบบนั้นมาตลอด บิลเดินทางออกจากแทนเจียร์อีกครั้ง มาอเมริกาเพื่อเอาลูกชายตัวเอง เข้าสถานบำบัดเอกชน เล็กซิงตั้น มีเรื่้องเล่าอยู่ว่า วันที่ สองคนเดินทางไปถึง พยาบาลถึงกลับงงและถามว่า "หนึ่งในสองคนนี้ คนไหนกันคะที่จะเข้ารับการบำบัด?" บิลจูเนียร์ มีชีวิตที่น่าสงสาร เป็นโรคไตวาย เปลี่ยนไตใหม่ไปหนึ่งครั้ง และก็จบชีวิตที่แสนสั้นของเขาที่ฟลอริดา บิลจูเนียร์เขียนจดหมายลาพ่อของเขา ลงท้ายจดหมาย "จาก บุตรที่โดนสาปแช่งตั้งแต่เกิดของท่านเอง" . . to be continued... . .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยาตะวันตก กับ ยาแผนโบราณ
    News Punch
    How Rockefeller Founded Big Pharma And Waged War On Natural Cures
    March 27, 2018. Baxter Dmitry

    ผลิตภัณท์ยาของโลกตะวันตกมีส่วนที่ดีอยู่ที่ มันสามารถจัดการกับสถานการณ์เจ็บป่วยฉุกเฉินได้ ..(มันเป็นการรักษาโดยใช้สารออกฤทธิ์ตรงข้ามกับกลุ่มอาการของโรค (allopathy) ตรงข้ามกับการรักษาแบบธรรมชาติ ..homeopathy..ผู้แปล)

    ตอนนี้มันน่าจะถึงเวลาที่เราๆควรรู้ว่าการแพทย์ตะวันตกที่มันโฟกัสไปที่ ..ยา ..การฉายรังสี ..ผ่าตัด ..และยาเท่านั้น ....มาจากการหาเงินของนายทุน Rockefeller ล้วนๆ

    ผู้คนทุกวันนี้จะมองว่าคุณเป็นมนุษย์ประหลาด ถ้าคุณจะพูดถึงการแพทย์แผนโบราณที่ใช้แต่พืชสมุนไพร ..มันก็ถูกต้องแล้ว เพราะเงินถูกใช้ไปมากในการล้างสมองผู้คนเหล่านั้นที่จะให้ชื่นชอบกับแนวทางที่เข้าทางพวกนายทุน

    เรื่องเริ่มต้นเมื่อ John D. Rockefeller (1839 – 1937) ประสบความสำเร็จเป็นเศรษฐีระดับ billionaire จากธุรกิจน้ำมัน จอมเขมือบคนแรกในอเมริกา ..เป็นนักผูกขาดโดยสายเลือด

    ตอนต้นศตวรรษที่ 20 โรงกลั่นน้ำมันถึง 90% ทั่วสหรัฐเป็นของ Standard Oil ของเขา และต่อมามีการแตกออกเป็น Chevron, Exxon, Mobil etc.

    จากรายงานของ World Affairs : ช่วงปี 1900 นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ เปโตรเคมี ซึ่งทำให้ผลิตสารเคมีได้นานาชนิดจากน้ำมัน เช่นผลิตภัณท์พลาสติก ที่เรียกกันยุคนั้นว่า Bakelite (ตอนผมเป็นเด็กก็เรียกอย่างนั้น) ผลิตในปี 1907 ..และยังมีการค้นพบวิตามินหลายชนิด จึงมีการคาดกันในตอนนั้นว่าน่าจะสามารถผลิตยารักษาโรคจากน้ำมันปิโตรเลียมได้...

    ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้มันจึงเป็นโอกาศอันดีสำหรับร้อคกี้เฟลเลอร์ ที่จะได้ผูกขาดธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำมัน เคมีภัณท์และยารักษาโรค พร้อมๆกันไปเลย ..เปโตรเคมีนี่มันยอดเยี่ยมมาก ทุกๆอย่างในนั้นมันเอามาจดสิทธิบัตรผลิตขายสร้างกำไรมหาศาลแน่ๆ..

    แต่มันยังมีปัญหาเล็กๆ ที่มาขวางทางแผนผลิตยาของร้อคกี้เฟลเลอร์อยู่ นั่นคือการแพทย์แผนธรรมชาติและสมุนไพรซึ่งตอนนั้นป้อปปูล่ามากในอเมริกา ครึ่งหนึ่งของบรรดาแพทย์ยุคนั้นเรียนรู้การใช้ยาแผนโบราณโดยใช้ความรู้จากยุโรปและชนพื้นเมืองอเมริกัน

    จอมผูกขาดต้องหาทางกำจัดคู่แข่งรายนี้ให้ได้ ...มันมีเทคนิคแบบคลาสสิคอยู่อย่างหนึ่งคือการสร้าง "ปัญหา-ผลกระทบ-ทางแก้".....นั่นคือสร้างปัญหาขึ้น ทำให้ผู้คนหวาดกลัว แล้วจึงเสนอทางแก้ให้ ......(เหมือนมีโรคระบาด..มีตัวเลขผู้ติดเชื้อฟังดูน่ากลัว..แล้วเสนอทางแก้คือวัคซีนเทพ)

    เขาจึงขอให้เพื่อน Andrew Carnegie เศรษฐีนักผูกขาดอีกคนหนึ่งจากอุตสาหกรรมเหล็กกล้า มาช่วยในการสร้างแผนให้ .....เขาใช้มูลนิธิ Carnegie Foundation ส่งนาย
    Abraham Flexner ตระเวณล้างสมองผู้คนในมหาวิทยาลัยการแพทย์และโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ ...

    จนเกิด Flexner Report ที่เป็นจุดเริ่มของการแพทย์สมัยปัจจุบัน ..ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องโจมตีการแพทย์โบราณจนเละ ..จนในที่สุดเกินครึ่งของวิทยาลัยการแพทย์แบบเดิมๆถึงคราวต้องยุติ ....แพทย์แผนโบราณกลายเป็นตัวตลก แพทย์บางคนถึงกับต้องถูกจำคุก

    การเปลี่ยนผ่านจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแนวคิดของแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ จึงมีการให้ทุน $100 ล้านแก่วิทยาลัยและโรงพยาบาลต่างๆ ...มีการก่อตั้งมูลนิธิเพื่อการศึกษา
    “General Education Board” (GEB) ..นับเป็นการใช้วิธี ทั้งล่อทั้งชน

    ในไม่ช้า วิทยาลัยการแพทย์ต่างๆก็เข้ารูปเข้ารอย เดินในแนวทางเดียวกัน ..นักศึกษาแพทย์เรียนรู้เรื่องเดียวกัน การใช้เวชภัณท์ก็แน่นอน ต้องเป็นยาที่มี "สิทธิบัตร"

    เข้าสู่ยุคโมเดอร์น ที่ยาเม็ดเล็กๆแค่หนึ่งเม็ดก็เอาอยู่

    แล้ว 100 ปีต่อมา สุขภาพของพวกเราก็เข้าสู่ยุคที่ต้องขึ้นอยู่กับบริษัทยาใหญ่ๆ

    อเมริกาใช้เงินถึง 15% ของ GDP ไปในการรักษาทางการแพทย์ ..ซึ่งที่จริงแล้วน่าจะเรียกว่าการพยุงอาการของโรคไว้น่าจะถูกกว่า และนั่นทำให้เราต้องเป็นคนไข้ หรือเรียกอีกอย่างว่าลูกค้าประจำ...

    เพราะหลายโรค เช่น มะเร็ง ..เบาหวาน ..ออติสม์ ..หอบหืด ..หรือแม้แต่ไข้หวัดใหญ่ ไม่มีการพยายามหาวิธีรักษาให้หายขาด ทำไมน่ะหรือ ..ก็เพราะระบบนี้ไม่ได้เริ่มก่อตั้งจากเหล่านายแพทย์จริงๆ ....แต่เป็นนายทุนที่ต้องการกำไร

    สถาบันมะเร็ง American Cancer Society น่ะหรือ ..ก่อตั้งเมื่อปี 1913 โดย Rockefeller นั่นเอง....
    ยาตะวันตก กับ ยาแผนโบราณ News Punch How Rockefeller Founded Big Pharma And Waged War On Natural Cures March 27, 2018. Baxter Dmitry ผลิตภัณท์ยาของโลกตะวันตกมีส่วนที่ดีอยู่ที่ มันสามารถจัดการกับสถานการณ์เจ็บป่วยฉุกเฉินได้ ..(มันเป็นการรักษาโดยใช้สารออกฤทธิ์ตรงข้ามกับกลุ่มอาการของโรค (allopathy) ตรงข้ามกับการรักษาแบบธรรมชาติ ..homeopathy..ผู้แปล) ตอนนี้มันน่าจะถึงเวลาที่เราๆควรรู้ว่าการแพทย์ตะวันตกที่มันโฟกัสไปที่ ..ยา ..การฉายรังสี ..ผ่าตัด ..และยาเท่านั้น ....มาจากการหาเงินของนายทุน Rockefeller ล้วนๆ ผู้คนทุกวันนี้จะมองว่าคุณเป็นมนุษย์ประหลาด ถ้าคุณจะพูดถึงการแพทย์แผนโบราณที่ใช้แต่พืชสมุนไพร ..มันก็ถูกต้องแล้ว เพราะเงินถูกใช้ไปมากในการล้างสมองผู้คนเหล่านั้นที่จะให้ชื่นชอบกับแนวทางที่เข้าทางพวกนายทุน เรื่องเริ่มต้นเมื่อ John D. Rockefeller (1839 – 1937) ประสบความสำเร็จเป็นเศรษฐีระดับ billionaire จากธุรกิจน้ำมัน จอมเขมือบคนแรกในอเมริกา ..เป็นนักผูกขาดโดยสายเลือด ตอนต้นศตวรรษที่ 20 โรงกลั่นน้ำมันถึง 90% ทั่วสหรัฐเป็นของ Standard Oil ของเขา และต่อมามีการแตกออกเป็น Chevron, Exxon, Mobil etc. จากรายงานของ World Affairs : ช่วงปี 1900 นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ เปโตรเคมี ซึ่งทำให้ผลิตสารเคมีได้นานาชนิดจากน้ำมัน เช่นผลิตภัณท์พลาสติก ที่เรียกกันยุคนั้นว่า Bakelite (ตอนผมเป็นเด็กก็เรียกอย่างนั้น) ผลิตในปี 1907 ..และยังมีการค้นพบวิตามินหลายชนิด จึงมีการคาดกันในตอนนั้นว่าน่าจะสามารถผลิตยารักษาโรคจากน้ำมันปิโตรเลียมได้... ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้มันจึงเป็นโอกาศอันดีสำหรับร้อคกี้เฟลเลอร์ ที่จะได้ผูกขาดธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำมัน เคมีภัณท์และยารักษาโรค พร้อมๆกันไปเลย ..เปโตรเคมีนี่มันยอดเยี่ยมมาก ทุกๆอย่างในนั้นมันเอามาจดสิทธิบัตรผลิตขายสร้างกำไรมหาศาลแน่ๆ.. แต่มันยังมีปัญหาเล็กๆ ที่มาขวางทางแผนผลิตยาของร้อคกี้เฟลเลอร์อยู่ นั่นคือการแพทย์แผนธรรมชาติและสมุนไพรซึ่งตอนนั้นป้อปปูล่ามากในอเมริกา ครึ่งหนึ่งของบรรดาแพทย์ยุคนั้นเรียนรู้การใช้ยาแผนโบราณโดยใช้ความรู้จากยุโรปและชนพื้นเมืองอเมริกัน จอมผูกขาดต้องหาทางกำจัดคู่แข่งรายนี้ให้ได้ ...มันมีเทคนิคแบบคลาสสิคอยู่อย่างหนึ่งคือการสร้าง "ปัญหา-ผลกระทบ-ทางแก้".....นั่นคือสร้างปัญหาขึ้น ทำให้ผู้คนหวาดกลัว แล้วจึงเสนอทางแก้ให้ ......(เหมือนมีโรคระบาด..มีตัวเลขผู้ติดเชื้อฟังดูน่ากลัว..แล้วเสนอทางแก้คือวัคซีนเทพ) เขาจึงขอให้เพื่อน Andrew Carnegie เศรษฐีนักผูกขาดอีกคนหนึ่งจากอุตสาหกรรมเหล็กกล้า มาช่วยในการสร้างแผนให้ .....เขาใช้มูลนิธิ Carnegie Foundation ส่งนาย Abraham Flexner ตระเวณล้างสมองผู้คนในมหาวิทยาลัยการแพทย์และโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ ... จนเกิด Flexner Report ที่เป็นจุดเริ่มของการแพทย์สมัยปัจจุบัน ..ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องโจมตีการแพทย์โบราณจนเละ ..จนในที่สุดเกินครึ่งของวิทยาลัยการแพทย์แบบเดิมๆถึงคราวต้องยุติ ....แพทย์แผนโบราณกลายเป็นตัวตลก แพทย์บางคนถึงกับต้องถูกจำคุก การเปลี่ยนผ่านจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแนวคิดของแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ จึงมีการให้ทุน $100 ล้านแก่วิทยาลัยและโรงพยาบาลต่างๆ ...มีการก่อตั้งมูลนิธิเพื่อการศึกษา “General Education Board” (GEB) ..นับเป็นการใช้วิธี ทั้งล่อทั้งชน ในไม่ช้า วิทยาลัยการแพทย์ต่างๆก็เข้ารูปเข้ารอย เดินในแนวทางเดียวกัน ..นักศึกษาแพทย์เรียนรู้เรื่องเดียวกัน การใช้เวชภัณท์ก็แน่นอน ต้องเป็นยาที่มี "สิทธิบัตร" เข้าสู่ยุคโมเดอร์น ที่ยาเม็ดเล็กๆแค่หนึ่งเม็ดก็เอาอยู่ แล้ว 100 ปีต่อมา สุขภาพของพวกเราก็เข้าสู่ยุคที่ต้องขึ้นอยู่กับบริษัทยาใหญ่ๆ อเมริกาใช้เงินถึง 15% ของ GDP ไปในการรักษาทางการแพทย์ ..ซึ่งที่จริงแล้วน่าจะเรียกว่าการพยุงอาการของโรคไว้น่าจะถูกกว่า และนั่นทำให้เราต้องเป็นคนไข้ หรือเรียกอีกอย่างว่าลูกค้าประจำ... เพราะหลายโรค เช่น มะเร็ง ..เบาหวาน ..ออติสม์ ..หอบหืด ..หรือแม้แต่ไข้หวัดใหญ่ ไม่มีการพยายามหาวิธีรักษาให้หายขาด ทำไมน่ะหรือ ..ก็เพราะระบบนี้ไม่ได้เริ่มก่อตั้งจากเหล่านายแพทย์จริงๆ ....แต่เป็นนายทุนที่ต้องการกำไร สถาบันมะเร็ง American Cancer Society น่ะหรือ ..ก่อตั้งเมื่อปี 1913 โดย Rockefeller นั่นเอง....
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 1 รีวิว
  • ประเทศไทยขณะนี้ทุกอย่างสวนทางหลักเศรษฐกิจมหภาคทั้งหมดเช่นกัน เริ่มด้วย ค่าเงินบาทคงที ดอกเบี้ยฝาก ลงต่ำ ดอกเบี้ยเงินกู้ลงต่ำ(อัตราอ้างอิง-อัตราจริง ยังต้องบวกอีก 4% งานนี้ไม่รู้ใครหลอกใคร) เงินล้นธนาคารแต่ไม่มีใครปล่อยกู้เพราะกลัว NPL

    โลกทั้งโลกก็มีสภาพเหมือนประเทศไทย เพียงแต่ในกลุ่มพวกโลกตะวันตกพวกนั้น ยังถือไพ่เหนือกว่าเรามาก

    แต่วิกฤตินี้กำลังทำให้โลกตะวันตก โดยเฉพาะอเมริกาประสาทเสียแล้ว! #เปลือยธารินทร์

    https://youtu.be/Y6iNORmIM2U
    ประเทศไทยขณะนี้ทุกอย่างสวนทางหลักเศรษฐกิจมหภาคทั้งหมดเช่นกัน เริ่มด้วย ค่าเงินบาทคงที ดอกเบี้ยฝาก ลงต่ำ ดอกเบี้ยเงินกู้ลงต่ำ(อัตราอ้างอิง-อัตราจริง ยังต้องบวกอีก 4% งานนี้ไม่รู้ใครหลอกใคร) เงินล้นธนาคารแต่ไม่มีใครปล่อยกู้เพราะกลัว NPL โลกทั้งโลกก็มีสภาพเหมือนประเทศไทย เพียงแต่ในกลุ่มพวกโลกตะวันตกพวกนั้น ยังถือไพ่เหนือกว่าเรามาก แต่วิกฤตินี้กำลังทำให้โลกตะวันตก โดยเฉพาะอเมริกาประสาทเสียแล้ว! #เปลือยธารินทร์ https://youtu.be/Y6iNORmIM2U
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทัศนะนักวิเคราะห์ชาวจีนมองการเมืองอเมริกัน "ยุคของทรัมป์จะทำให้อเมริกาคล้ายจีนมากขึ้น"

    ก่อนอื่นเมื่อคืนนี้ อีลอน มัสก์ ทำเอาทั้งซ้ายและไม่ซ้ายสะดุ้งกันไปหมด เพราะขณะที่กำลังปราศรัยเขาก็ตบหน้าอกแล้วชูมือขึ้นทำท่าเหมือนการทักทาย (และแสดงพลัง) ของพวกฟาสซิสต์ 

    ผมเห็นท่านี้พร้อมกับคำที่เขาพูดว่า “My heart goes out to you,”  แล้วตบหน้าอกจากนั้นเหมือนเขวี้ยงหัวใจไปให้ผู้ฟัง ถ้าหยวนๆ หน่อยก็คิดว่าเขาแค่โยนหัวใจปันให้แฟนๆ บางคนก็บอกว่า "นี่มันแค่ Roman salute" 
    แต่ถ้าไม่หยวนกับมัสก์ก็อดคิดไม่ได้ว่า "นี่มันขวาจัดกันไปใหญ่แล้ว"

    ไม่ใช่เรื่องปกปิดอะไรที่มัสก์สนับสนุนฝ่ายขวาจัด ไม่ใช่แค่ในสหรัฐฯ แต่กำลังสนับสนุนในยุโรปด้วย เช่น มัสก์ประกาศจะหนุนทุนให้กับพรรค Reform UK ซึ่งเป็นพรรคขวาจัดของสหราชอาณาจักร ต่อต้านผู้อพยพ และสนับสนุนชาตินิยมอังกฤษ

    มัสก์ ยังสนับสนุนพรรคขวาจัดในเยอรมนีโดยเขียนไว้ใน X ว่า "Only AfD can save Germany" - AfD คือชื่อย่อของพรรค "ทางเลือกเพื่อเยอรมนี" (Alternative für Deutschland) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวา ต่อต้านคนต่างด้าว ต่อต้านผู้อพยพ สนับสนุนค่านิยมคริสเตียนและไม่เอาชาวมุสลิม

    มัสก์และทีมทรัมป์กำลังฟอร์มแนวร่วมพลังขวาในโลกตะวันตก แน่นอนว่าคราวนี้ไม่ใช่แค่เล่นๆ เพราะทรัมป์มีอำนาจและมัสก์มีเงินและเครือข่าย

    แนวโน้มที่โลกตะวันตกกำลังจะขวาจัดๆ ฝ่ายจีนก็มองเห็นเรื่องนี้ หลังจากเลือกตั้งผมได้เขียนสรุปทัศนะของ "ทู่จู่ซี" (兔主席) ซึ่งเป็นนามปากกาของ "เริ่นอี้" (任意) นักเขียนคอลัมน์การเมืองชาวจีนที่ได้รับความนิยมในโซเชียลมีเดียจีน เขาถือเป็นกลุ่ม "หงซานไต้" (红三代) หรือลูกหลานรุ่นที่ 3 ของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นหลานชายของ เริ่นจ้งอี๋ (任仲夷) อดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนและอดีตเลขาธิการคนแรกของคณะกรรมการมณฑลกวางตุ้งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน  

    ในด้านความรู้ทางการเมืองตะวันตก เขาได้รับเชิญจากศาสตราจารย์ เอซรา ไฟเวล วอเกล (Ezra Feivel Vogel) นักจีนวิทยาชาวอเมริกัน และศาสตราจารย์ด้านสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ให้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยวิจัยเกี่ยวกับ "ยุคปฏิรูปของจีน" และช่วยเขาค้นคว้าเรื่อง "ยุคเติ้งเสี่ยวผิง" ต่อมาเขาได้รับปริญญาโทจากวิทยาลัยยการเมืองเคนเนดีของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและทำงานที่ศูนย์แฟร์แบงก์เพื่อการศึกษาเอเชียตะวันออก หลังจากสำเร็จการศึกษา เขาทำงานให้กับธนาคารเพื่อการลงทุนของจีนในปักกิ่ง

    เขาเขียนทัศนะด้านการเมืองเผยแพร่เป็นบทความในสื่อต่างๆ ของจีน รวมถึงในโซเชียลมีเดียของจีน ความคิดเห็นของเขามักถูกอ้างอิงโดยสื่อกระแสหลัก และ เขาอ้างว่าบทความบางบทความของเขาถูกใช้เป็น "ข้อมูลอ้างอิงภายใน" สำหรับเจ้าหน้าที่จีน โดยที่บทความของเขาในปี 2020 เรื่อง "ไม่ใช่รัฐบาลจีนที่ปลุกชาตินิยมจีน แต่เป็นนักการเมืองอเมริกัน" ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำโดย People's Daily Online  

    1. "ทู่จู่ซี" มองว่า ชัยชนะของทรัมป์เหนือพรรคเดโมแครต คือ "ชัยชนะของการปฏิวัติระดับรากหญ้า" เขาชี้ว่าการเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายทรัมป์และฝ่ายแฮร์ริส โดยพื้นฐานแล้ว เป็นการเผชิญหน้าระหว่างคนระดับรากหญ้าและประชาชนคนสามัญของสหรัฐฯ กับกลุ่มผู้ปกครองชั้นนำของสหรัฐฯ และมองว่านี่คือยุทธศาสตร์ “ป่าล้อมเมือง” ซึ่งทัศนะนี้ของ "ทู่จู่ซี" คล้ายกับความเห็นของชาวอเมริกันบางคนที่ตำหนิว่าพรรคเดโมแครตทรยศฐานเสียงของตัวเองที่แต่เดิมเป็นพวกคนรากหญ้าและแรงงาน แต่หันมาเน้นเรื่องการเมืองชิงอัตลักษณ์ คือแนวคิดเรื่อง Woke และยังสนองวาระของกลุ่มชนชั้นนำด้วยการสนับสนุนสงครามในยูเครนและสงครามในตะวันออกกลาง ทำให้พรรครีพับลิกันหันมาจับกลุ่มรากหญ้าแทนจนประสบความสำเร็จ รวมถึงกลุ่มคนอเมริกันเชื้อสายตะวันออกกลาง

    2. "ทู่จู่ซี" มองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ในสหรัฐฯ และกระบวนการนั้นได้เสร็จสิ้นงแล้ว ซึ่งพรรครีพับลิกันได้กลายเป็นพรรคที่มีชนชั้นกลางและชั้นล่างเป็นรากฐานหลัก และผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรครีพับลิกันได้รวมเอาคนผิวสี ละติน และคนหนุ่มสาวเข้ามาด้วย ทำให้ภาพลักษณ์ของพรรครีพับลิกันไม่ใช่ตัวแทนของนายทุนใหญ่ นักอุตสาหกรรมใหญ่ นักการเงินใหญ่ และชนชั้นกระฎุมพี" อีกต่อไป แต่กลายเป็นพรรคของคนอเมริกันคนเดินดิน 

    3. "ทู่จู่ซี" ชี้ว่าทรัมป์ได้กลายเป็นประธานาธิบดีที่ทรงอำนาจที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา เพราะไม่เพียงแต่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่พรรครีพับลิกันยังชนะการเลือกตั้งวุฒิสภา และคาดว่าจะรวบรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ ในเวลาเดียวกัน "ในศาลฎีกา พรรครีพับลิกัน/อนุรักษ์นิยมมีข้อได้เปรียบอย่างชัดเจนถึง 6:3 (รวมถึงผู้พิพากษาสามคนที่ทรัมป์คัดเลือกด้วยตัวเอง) ทั้งสามอำนาจรวมกันเป็นหนึ่ง และควรเห็นว่าพรรครีพับลิกันในปัจจุบันไม่ใช่พรรครีพับลิกันเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หรือพรรครีพับลิกันเมื่อ 8 ปีที่แล้ว แต่เป็นพรรคของทรัมป์เท่านั้น ชื่อที่เหมาะสมกว่าคือ พรรคทรัมป์ การรวมอำนาจและอิทธิพลนี้คงไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์อเมริกา ทรัมป์อาจเป็นประธานาธิบดีที่มีอำนาจมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา" 

    4. แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีประธานาธิบดีที่ทรงอำนาจที่สุดในประวัติศาสตร์ ได้รับการสนับสนุนอย่างกระตือรือร้นจากชาวอเมริกันกว่าครึ่งประเทศ แต่การเมืองของอเมริกาก็แตกแยกกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และสังคมก็แตกแยกกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน "ชาวอเมริกันครึ่งหนึ่งเชื่อว่าสหรัฐอเมริกาได้เข้าสู่ยุคมืดแล้ว" ประชากรครึ่งหนึ่งเชื่อว่านักการเมืองอันธพาลที่มีนิสัยเลวร้ายอย่างยิ่ง เช่น ฮิตเลอร์ ฟาสซิสต์ และนาซี ได้ขึ้นมามีอำนาจ และจะทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายทุกสิ่งที่ประชาชนรู้เกี่ยวกับระบบของอเมริกาภายในสี่ปีข้างหน้า และนำประเทศไปในทิศทางอื่น พวกเขาสับสนและสิ้นหวังอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนเกี่ยวกับอนาคตของประเทศ

    สังคมการเมืองอเมริกันหลังการกลับเข้ามามีอำนาจของทรัมป์จะทำให้เกิดค่านิยมใหม่ "ทู่จู่ซี"  มองว่า

    1) ในแง่ของรัฐบาล ประการแรกคือการเสริมอำนาจของประธานาธิบดี/ฝ่ายบริหารอย่างมาก โดยประธานาธิบดีเป็นผู้นำศูนย์กลางทางการเมือง แผ่ขยายไปยังฝ่ายนิติบัญญัติและตุลาการ เพิ่มความเผด็จการ เพิ่มความเข้มข้นของการตัดสินใจ ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินการของรัฐบาล และลบขั้นตอนราชการที่ไม่จำเป็นออกจากระบบเก่า

    2) ในแง่นโยบายเศรษฐกิจและสังคมในประเทศ จะมุ่งที่ ระบบตลาดนิยม" นั่นคือการมีรัฐบาลขนาดเล็กเพื่อลดการแทรกแซงตลาด ลดภาษีให้ต่ำลง ลดกฎระเบียบในตลาดให้น้อยลง ใช้แรงผลักดันของตลาดเพื่อดึงดูดเงินทุนไหลกลับ เรียกร้องให้บริษัทอเมริกันกลับมายังสหรัฐอเมริกาเพื่อการลงทุนและการก่อสร้างเพิ่มเติม

    3) ในแง่วัฒนธรรมในประเทศ จะส่งเสริมและพัฒนาความเป็นชาตินิยม ความรักชาติ และชาตินิยมของอเมริกาอย่างเข้มแข็ง อยางที่ เจดี แวนซ์ (JD Vance) ว่าที่รองประธานาธิบดีบอกว่า สหรัฐอเมริกาเป็น "ชาติ" สร้างสถานะทางวัฒนธรรมที่คนผิวขาว และต่อต้านเสรีนิยม/พวกหัวก้าวหน้า/Woke รัฐบาลใหม่จะมีอิทธิพลและกำหนดรูปแบบสังคมอเมริกันผ่านคำสั่งของศาลฎีกา การตรากฎหมาย คำสั่งของรัฐบาล สุนทรพจน์ของผู้นำทางการเมืองและผู้นำทางความคิด

    4) ในแง่เศรษฐกิจต่างประเทศ ระบอบทรัมป์จะต่อต้านโลกาภิวัตน์ ต่อต้านการค้าเสรี ต่อต้านกรอบแนวคิดเสรีนิยมใหม่ ยกระดับการใช้เครื่องมือภาษีศุลกากรเพื่อกีดกันสินค้าจากต่างประเทศอย่างครอบคลุม เพื่อกดดันและจูงใจในการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศของสหรัฐฯ

    5) ในแง่การเมืองระหว่างประเทศ สหรัฐฯ ในยุคนี้จะ "ลัทธิโดดเดี่ยว" และ "ลัทธิไม่แทรกแซง" นั่นคือสหรัฐฯ จะหันมาสนใจเรื่องของตัวเองมากกขึ้นและไม่แทรกแซงกิจการต่างประเทศมากเท่าเดิม ลดการลงทุนในภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ (เช่น อันฉีดงบประมาณด้านสงคราม) ลดการใช้เงินไปกับการรักษาระเบียบระหว่างประเทศที่นำโดยสหรัฐฯ และประเมินความสัมพันธ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และพันธมิตรใหม่

    6) ในการบรรลุเป้าหมายข้างต้น รัฐบาลทรัมป์จะได้รับการสนับสนุนจาก อีลอน มัสก์ ผู้สนับสนุนคนสำคัญของเขาในการสร้างกลุ่มอำนาจ "ซิลิคอนวัลเลย์ใหม่" ซึ่งต่างจากกลุ่มซิลิคอนวัลเลย์ที่สนับสนุนเสรีนิยม "ซิลิคอนวัลเลย์ใหม่" จะเป็นการก่อตัวของพันธมิตรทางการเมืองใหม่ด้านเทคโนโลยี-อำนาจนิยม-อนุรักษ์นิยม

    แง่มุมสุดท้ายมีความน่าสนใจอยางยิ่ง เพราะจะเป็นการก่อตัวใหม่ของกลุ่มอำนาจใหม่ด้านการเมืองและธุรกิจเทค "ทู่จู่ซี" แสดงทัศนะว่า "ค่านิยมของชาวอเมริกันรุ่นใหม่ในประเด็นเศรษฐกิจนั้น “เอียงซ้าย” เชื่อในลัทธิก้าวหน้า เห็นอกเห็นใจลัทธิสังคมนิยม และไม่ต่อต้านลัทธิสังคมนิยม กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในแง่ของค่านิยมทางเศรษฐกิจ พวกเขาจะคล้ายคลึงกับเรา (จีน) ในอนาคตมากขึ้น การที่ทรัมป์ขึ้นสู่อำนาจจะเปลี่ยนทัศนคติของคนหนุ่มสาวในประเด็นเศรษฐกิจหรือไม่ เป็นเรื่องยากที่จะบอก" 

    "แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทรัมป์เป็นพรรคการเมืองระดับรากหญ้า เป็นพรรคการเมืองประชานิยม และให้ความสำคัญกับการจ้างงานและการอยู่รอดของคนธรรมดาสามัญ ดังนั้น พรรคทรัมป์จึงสามารถรวมนโยบายเศรษฐกิจฝ่ายซ้ายได้ ในทางกลับกัน พันธมิตรทางการเมืองแบบเทคโน-เผด็จการ-อนุรักษ์นิยมของทรัมป์ (และมัสก์) จะนำลัทธิเผด็จการ การปกครองแบบเผด็จการ และความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งมาสู่วัฒนธรรมการเมืองของอเมริกา ซึ่งจะคล้ายคลึงกับแนวทางของเอเชียตะวันออกมากขึ้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง มีความเป็นไปได้ที่อเมริกาในอนาคตจะคล้ายคลึงกับเรา (จีน) มากขึ้น" 

    "ทู่จู่ซี" กล่าวไว้แบบนี้ และบทความนี้ได้รับความนิยมในจีนค่อนข้างมากในช่วงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใหม่ๆ

    ส่วนตัวผมค่อนข้างเห็นด้วยกับ "ทู่จู่ซี" และตามแนวโน้มความเป็นขวาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในการเมืองสหรัฐฯ และยุโรปมาระยะหนึ่งแล้ว

    ที่มา เฟซบุ๊ก Kornkit Disthan
    https://www.facebook.com/share/p/149JGAqSR9/?
    ทัศนะนักวิเคราะห์ชาวจีนมองการเมืองอเมริกัน "ยุคของทรัมป์จะทำให้อเมริกาคล้ายจีนมากขึ้น" ก่อนอื่นเมื่อคืนนี้ อีลอน มัสก์ ทำเอาทั้งซ้ายและไม่ซ้ายสะดุ้งกันไปหมด เพราะขณะที่กำลังปราศรัยเขาก็ตบหน้าอกแล้วชูมือขึ้นทำท่าเหมือนการทักทาย (และแสดงพลัง) ของพวกฟาสซิสต์  ผมเห็นท่านี้พร้อมกับคำที่เขาพูดว่า “My heart goes out to you,”  แล้วตบหน้าอกจากนั้นเหมือนเขวี้ยงหัวใจไปให้ผู้ฟัง ถ้าหยวนๆ หน่อยก็คิดว่าเขาแค่โยนหัวใจปันให้แฟนๆ บางคนก็บอกว่า "นี่มันแค่ Roman salute"  แต่ถ้าไม่หยวนกับมัสก์ก็อดคิดไม่ได้ว่า "นี่มันขวาจัดกันไปใหญ่แล้ว" ไม่ใช่เรื่องปกปิดอะไรที่มัสก์สนับสนุนฝ่ายขวาจัด ไม่ใช่แค่ในสหรัฐฯ แต่กำลังสนับสนุนในยุโรปด้วย เช่น มัสก์ประกาศจะหนุนทุนให้กับพรรค Reform UK ซึ่งเป็นพรรคขวาจัดของสหราชอาณาจักร ต่อต้านผู้อพยพ และสนับสนุนชาตินิยมอังกฤษ มัสก์ ยังสนับสนุนพรรคขวาจัดในเยอรมนีโดยเขียนไว้ใน X ว่า "Only AfD can save Germany" - AfD คือชื่อย่อของพรรค "ทางเลือกเพื่อเยอรมนี" (Alternative für Deutschland) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวา ต่อต้านคนต่างด้าว ต่อต้านผู้อพยพ สนับสนุนค่านิยมคริสเตียนและไม่เอาชาวมุสลิม มัสก์และทีมทรัมป์กำลังฟอร์มแนวร่วมพลังขวาในโลกตะวันตก แน่นอนว่าคราวนี้ไม่ใช่แค่เล่นๆ เพราะทรัมป์มีอำนาจและมัสก์มีเงินและเครือข่าย แนวโน้มที่โลกตะวันตกกำลังจะขวาจัดๆ ฝ่ายจีนก็มองเห็นเรื่องนี้ หลังจากเลือกตั้งผมได้เขียนสรุปทัศนะของ "ทู่จู่ซี" (兔主席) ซึ่งเป็นนามปากกาของ "เริ่นอี้" (任意) นักเขียนคอลัมน์การเมืองชาวจีนที่ได้รับความนิยมในโซเชียลมีเดียจีน เขาถือเป็นกลุ่ม "หงซานไต้" (红三代) หรือลูกหลานรุ่นที่ 3 ของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นหลานชายของ เริ่นจ้งอี๋ (任仲夷) อดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนและอดีตเลขาธิการคนแรกของคณะกรรมการมณฑลกวางตุ้งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน   ในด้านความรู้ทางการเมืองตะวันตก เขาได้รับเชิญจากศาสตราจารย์ เอซรา ไฟเวล วอเกล (Ezra Feivel Vogel) นักจีนวิทยาชาวอเมริกัน และศาสตราจารย์ด้านสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ให้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยวิจัยเกี่ยวกับ "ยุคปฏิรูปของจีน" และช่วยเขาค้นคว้าเรื่อง "ยุคเติ้งเสี่ยวผิง" ต่อมาเขาได้รับปริญญาโทจากวิทยาลัยยการเมืองเคนเนดีของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและทำงานที่ศูนย์แฟร์แบงก์เพื่อการศึกษาเอเชียตะวันออก หลังจากสำเร็จการศึกษา เขาทำงานให้กับธนาคารเพื่อการลงทุนของจีนในปักกิ่ง เขาเขียนทัศนะด้านการเมืองเผยแพร่เป็นบทความในสื่อต่างๆ ของจีน รวมถึงในโซเชียลมีเดียของจีน ความคิดเห็นของเขามักถูกอ้างอิงโดยสื่อกระแสหลัก และ เขาอ้างว่าบทความบางบทความของเขาถูกใช้เป็น "ข้อมูลอ้างอิงภายใน" สำหรับเจ้าหน้าที่จีน โดยที่บทความของเขาในปี 2020 เรื่อง "ไม่ใช่รัฐบาลจีนที่ปลุกชาตินิยมจีน แต่เป็นนักการเมืองอเมริกัน" ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำโดย People's Daily Online   1. "ทู่จู่ซี" มองว่า ชัยชนะของทรัมป์เหนือพรรคเดโมแครต คือ "ชัยชนะของการปฏิวัติระดับรากหญ้า" เขาชี้ว่าการเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายทรัมป์และฝ่ายแฮร์ริส โดยพื้นฐานแล้ว เป็นการเผชิญหน้าระหว่างคนระดับรากหญ้าและประชาชนคนสามัญของสหรัฐฯ กับกลุ่มผู้ปกครองชั้นนำของสหรัฐฯ และมองว่านี่คือยุทธศาสตร์ “ป่าล้อมเมือง” ซึ่งทัศนะนี้ของ "ทู่จู่ซี" คล้ายกับความเห็นของชาวอเมริกันบางคนที่ตำหนิว่าพรรคเดโมแครตทรยศฐานเสียงของตัวเองที่แต่เดิมเป็นพวกคนรากหญ้าและแรงงาน แต่หันมาเน้นเรื่องการเมืองชิงอัตลักษณ์ คือแนวคิดเรื่อง Woke และยังสนองวาระของกลุ่มชนชั้นนำด้วยการสนับสนุนสงครามในยูเครนและสงครามในตะวันออกกลาง ทำให้พรรครีพับลิกันหันมาจับกลุ่มรากหญ้าแทนจนประสบความสำเร็จ รวมถึงกลุ่มคนอเมริกันเชื้อสายตะวันออกกลาง 2. "ทู่จู่ซี" มองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ในสหรัฐฯ และกระบวนการนั้นได้เสร็จสิ้นงแล้ว ซึ่งพรรครีพับลิกันได้กลายเป็นพรรคที่มีชนชั้นกลางและชั้นล่างเป็นรากฐานหลัก และผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรครีพับลิกันได้รวมเอาคนผิวสี ละติน และคนหนุ่มสาวเข้ามาด้วย ทำให้ภาพลักษณ์ของพรรครีพับลิกันไม่ใช่ตัวแทนของนายทุนใหญ่ นักอุตสาหกรรมใหญ่ นักการเงินใหญ่ และชนชั้นกระฎุมพี" อีกต่อไป แต่กลายเป็นพรรคของคนอเมริกันคนเดินดิน  3. "ทู่จู่ซี" ชี้ว่าทรัมป์ได้กลายเป็นประธานาธิบดีที่ทรงอำนาจที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา เพราะไม่เพียงแต่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่พรรครีพับลิกันยังชนะการเลือกตั้งวุฒิสภา และคาดว่าจะรวบรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ ในเวลาเดียวกัน "ในศาลฎีกา พรรครีพับลิกัน/อนุรักษ์นิยมมีข้อได้เปรียบอย่างชัดเจนถึง 6:3 (รวมถึงผู้พิพากษาสามคนที่ทรัมป์คัดเลือกด้วยตัวเอง) ทั้งสามอำนาจรวมกันเป็นหนึ่ง และควรเห็นว่าพรรครีพับลิกันในปัจจุบันไม่ใช่พรรครีพับลิกันเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หรือพรรครีพับลิกันเมื่อ 8 ปีที่แล้ว แต่เป็นพรรคของทรัมป์เท่านั้น ชื่อที่เหมาะสมกว่าคือ พรรคทรัมป์ การรวมอำนาจและอิทธิพลนี้คงไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์อเมริกา ทรัมป์อาจเป็นประธานาธิบดีที่มีอำนาจมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา"  4. แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีประธานาธิบดีที่ทรงอำนาจที่สุดในประวัติศาสตร์ ได้รับการสนับสนุนอย่างกระตือรือร้นจากชาวอเมริกันกว่าครึ่งประเทศ แต่การเมืองของอเมริกาก็แตกแยกกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และสังคมก็แตกแยกกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน "ชาวอเมริกันครึ่งหนึ่งเชื่อว่าสหรัฐอเมริกาได้เข้าสู่ยุคมืดแล้ว" ประชากรครึ่งหนึ่งเชื่อว่านักการเมืองอันธพาลที่มีนิสัยเลวร้ายอย่างยิ่ง เช่น ฮิตเลอร์ ฟาสซิสต์ และนาซี ได้ขึ้นมามีอำนาจ และจะทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายทุกสิ่งที่ประชาชนรู้เกี่ยวกับระบบของอเมริกาภายในสี่ปีข้างหน้า และนำประเทศไปในทิศทางอื่น พวกเขาสับสนและสิ้นหวังอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนเกี่ยวกับอนาคตของประเทศ สังคมการเมืองอเมริกันหลังการกลับเข้ามามีอำนาจของทรัมป์จะทำให้เกิดค่านิยมใหม่ "ทู่จู่ซี"  มองว่า 1) ในแง่ของรัฐบาล ประการแรกคือการเสริมอำนาจของประธานาธิบดี/ฝ่ายบริหารอย่างมาก โดยประธานาธิบดีเป็นผู้นำศูนย์กลางทางการเมือง แผ่ขยายไปยังฝ่ายนิติบัญญัติและตุลาการ เพิ่มความเผด็จการ เพิ่มความเข้มข้นของการตัดสินใจ ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินการของรัฐบาล และลบขั้นตอนราชการที่ไม่จำเป็นออกจากระบบเก่า 2) ในแง่นโยบายเศรษฐกิจและสังคมในประเทศ จะมุ่งที่ ระบบตลาดนิยม" นั่นคือการมีรัฐบาลขนาดเล็กเพื่อลดการแทรกแซงตลาด ลดภาษีให้ต่ำลง ลดกฎระเบียบในตลาดให้น้อยลง ใช้แรงผลักดันของตลาดเพื่อดึงดูดเงินทุนไหลกลับ เรียกร้องให้บริษัทอเมริกันกลับมายังสหรัฐอเมริกาเพื่อการลงทุนและการก่อสร้างเพิ่มเติม 3) ในแง่วัฒนธรรมในประเทศ จะส่งเสริมและพัฒนาความเป็นชาตินิยม ความรักชาติ และชาตินิยมของอเมริกาอย่างเข้มแข็ง อยางที่ เจดี แวนซ์ (JD Vance) ว่าที่รองประธานาธิบดีบอกว่า สหรัฐอเมริกาเป็น "ชาติ" สร้างสถานะทางวัฒนธรรมที่คนผิวขาว และต่อต้านเสรีนิยม/พวกหัวก้าวหน้า/Woke รัฐบาลใหม่จะมีอิทธิพลและกำหนดรูปแบบสังคมอเมริกันผ่านคำสั่งของศาลฎีกา การตรากฎหมาย คำสั่งของรัฐบาล สุนทรพจน์ของผู้นำทางการเมืองและผู้นำทางความคิด 4) ในแง่เศรษฐกิจต่างประเทศ ระบอบทรัมป์จะต่อต้านโลกาภิวัตน์ ต่อต้านการค้าเสรี ต่อต้านกรอบแนวคิดเสรีนิยมใหม่ ยกระดับการใช้เครื่องมือภาษีศุลกากรเพื่อกีดกันสินค้าจากต่างประเทศอย่างครอบคลุม เพื่อกดดันและจูงใจในการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศของสหรัฐฯ 5) ในแง่การเมืองระหว่างประเทศ สหรัฐฯ ในยุคนี้จะ "ลัทธิโดดเดี่ยว" และ "ลัทธิไม่แทรกแซง" นั่นคือสหรัฐฯ จะหันมาสนใจเรื่องของตัวเองมากกขึ้นและไม่แทรกแซงกิจการต่างประเทศมากเท่าเดิม ลดการลงทุนในภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ (เช่น อันฉีดงบประมาณด้านสงคราม) ลดการใช้เงินไปกับการรักษาระเบียบระหว่างประเทศที่นำโดยสหรัฐฯ และประเมินความสัมพันธ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และพันธมิตรใหม่ 6) ในการบรรลุเป้าหมายข้างต้น รัฐบาลทรัมป์จะได้รับการสนับสนุนจาก อีลอน มัสก์ ผู้สนับสนุนคนสำคัญของเขาในการสร้างกลุ่มอำนาจ "ซิลิคอนวัลเลย์ใหม่" ซึ่งต่างจากกลุ่มซิลิคอนวัลเลย์ที่สนับสนุนเสรีนิยม "ซิลิคอนวัลเลย์ใหม่" จะเป็นการก่อตัวของพันธมิตรทางการเมืองใหม่ด้านเทคโนโลยี-อำนาจนิยม-อนุรักษ์นิยม แง่มุมสุดท้ายมีความน่าสนใจอยางยิ่ง เพราะจะเป็นการก่อตัวใหม่ของกลุ่มอำนาจใหม่ด้านการเมืองและธุรกิจเทค "ทู่จู่ซี" แสดงทัศนะว่า "ค่านิยมของชาวอเมริกันรุ่นใหม่ในประเด็นเศรษฐกิจนั้น “เอียงซ้าย” เชื่อในลัทธิก้าวหน้า เห็นอกเห็นใจลัทธิสังคมนิยม และไม่ต่อต้านลัทธิสังคมนิยม กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในแง่ของค่านิยมทางเศรษฐกิจ พวกเขาจะคล้ายคลึงกับเรา (จีน) ในอนาคตมากขึ้น การที่ทรัมป์ขึ้นสู่อำนาจจะเปลี่ยนทัศนคติของคนหนุ่มสาวในประเด็นเศรษฐกิจหรือไม่ เป็นเรื่องยากที่จะบอก"  "แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทรัมป์เป็นพรรคการเมืองระดับรากหญ้า เป็นพรรคการเมืองประชานิยม และให้ความสำคัญกับการจ้างงานและการอยู่รอดของคนธรรมดาสามัญ ดังนั้น พรรคทรัมป์จึงสามารถรวมนโยบายเศรษฐกิจฝ่ายซ้ายได้ ในทางกลับกัน พันธมิตรทางการเมืองแบบเทคโน-เผด็จการ-อนุรักษ์นิยมของทรัมป์ (และมัสก์) จะนำลัทธิเผด็จการ การปกครองแบบเผด็จการ และความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งมาสู่วัฒนธรรมการเมืองของอเมริกา ซึ่งจะคล้ายคลึงกับแนวทางของเอเชียตะวันออกมากขึ้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง มีความเป็นไปได้ที่อเมริกาในอนาคตจะคล้ายคลึงกับเรา (จีน) มากขึ้น"  "ทู่จู่ซี" กล่าวไว้แบบนี้ และบทความนี้ได้รับความนิยมในจีนค่อนข้างมากในช่วงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใหม่ๆ ส่วนตัวผมค่อนข้างเห็นด้วยกับ "ทู่จู่ซี" และตามแนวโน้มความเป็นขวาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในการเมืองสหรัฐฯ และยุโรปมาระยะหนึ่งแล้ว ที่มา เฟซบุ๊ก Kornkit Disthan https://www.facebook.com/share/p/149JGAqSR9/?
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • 40 คำคมทรงพลังจากเพลโต ปราชญ์ผู้วางรากฐานปัญญาตะวันตก
    .
    กว่าสองพันสี่ร้อยปีผ่านไป เสียงกังวานแห่งปัญญาของเพลโต (Plato, 428-348 BC) ยังคงก้องกึกในโลกแห่งความคิด Plato เป็นหนึ่งในเป็นผู้วางรากฐานการคิดเชิงปรัชญาให้แก่อารยธรรมตะวันตก จนมีผู้กล่าวว่า "Western philosophy is but a series of footnotes to Plato" (ปรัชญาตะวันตกทั้งมวลเป็นเพียงเชิงอรรถของเพลโต)
    .
    ในฐานะผู้ก่อตั้ง Platonic Academy (สำนักปรัชญาอคาเดมี) สถาบันการศึกษาแห่งแรกของโลกตะวันตก เพลโตได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญาที่งอกงามเป็นต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านไปทั่วโลก
    .
    ผลงานอมตะของเพลโตที่ยังคงทรงอิทธิพลจวบจนปัจจุบัน อาทิ "Allegory of the Cave" (อุปมาถ้ำ) ที่เปรียบเทียบมนุษย์ผู้ติดอยู่กับโลกแห่งเงา และ "Theory of Forms" (ทฤษฎีแบบ) ที่เสนอว่าทุกสิ่งในโลกวัตถุล้วนเป็นเพียงเงาสะท้อนของแบบ หรือแม่แบบที่สมบูรณ์แบบในโลกแห่งความคิด
    .
    งานเขียนสำคัญของเขาอย่าง "The Republic" (รัฐ) วางรากฐานแนวคิดทางการเมืองและการปกครอง ขณะที่ "Symposium" (งานเลี้ยงสนทนา) ถกประเด็นความรักและความงามอันเป็นนิรันดร์
    .
    แนวคิดของเพลโตได้หล่อหลอมวิธีคิดของโลกในทุกแขนง ทั้งปรัชญา ศาสนา การเมือง การศึกษา วิทยาศาสตร์ และศิลปะ อิทธิพลของเขาแผ่ขยายจากกรีกโบราณ ผ่านจักรวรรดิโรมัน ผ่านยุคกลาง ผ่านยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา จนถึงโลกสมัยใหม่ ทั้งในโลกตะวันตกและตะวันออก จนกลายเป็นรากฐานสำคัญของอารยธรรมโลก
    .
    40 คำคมของเพลโตที่รวบรวมมานี้สะท้อนถึงความลุ่มลึกทางความคิดที่เชื่อมโยงสวรรค์กับโลก อุดมคติกับความเป็นจริง และชี้นำมนุษย์สู่การแสวงหาสัจธรรมอันสูงสุด
    .
    .
    1. "Music gives a soul to the universe, wings to the mind, flight to the imagination and life to everything."

    "ดนตรีมอบจิตวิญญาณให้จักรวาล มอบปีกให้ความคิด มอบการโบยบินให้จินตนาการ และมอบชีวิตให้ทุกสิ่ง"
    .
    .
    2. "Wise men speak because they have something to say; fools because they have to say something."

    "คนฉลาดพูดเพราะมีสิ่งที่ต้องการจะบอก คนโง่พูดเพราะต้องพูดอะไรสักอย่าง"
    .
    .
    3. "The beginning is the most important part of the work."

    "จุดเริ่มต้นคือส่วนสำคัญที่สุดของงาน"
    .
    .
    4. "No one is more hated than he who speaks the truth."

    "ไม่มีใครถูกเกลียดมากไปกว่าผู้ที่พูดความจริง"
    .
    .
    5. "Necessity is the mother of invention."
    "ความจำเป็นคือบ่อเกิดแห่งการประดิษฐ์คิดค้น"
    .
    .
    6. "Human behavior flows from three main sources: desire, emotion, and knowledge."

    "พฤติกรรมมนุษย์หลั่งไหลมาจากสามแหล่งหลัก: ความปรารถนา อารมณ์ และความรู้"
    .
    .
    7. "The measure of a man is what he does with power."

    "เครื่องวัดคุณค่าของมนุษย์คือสิ่งที่เขาทำเมื่อมีอำนาจ"
    .
    .
    8. "The first and best victory is to conquer self."

    "ชัยชนะแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดคือการชนะใจตนเอง"
    .
    .
    9. "The penalty that good men pay for not being interested in politics is to be governed by men worse than themselves."

    "บทลงโทษที่คนดีต้องจ่ายสำหรับการไม่สนใจการเมืองคือการถูกปกครองโดยคนที่เลวร้ายกว่าตน"
    .
    .
    10. "Those who tell the stories rule society."

    "ผู้ที่เล่าเรื่องราวคือผู้ปกครองสังคม"
    .
    .
    11. "No wealth can ever make a bad man at peace with himself."

    "ไม่มีความมั่งคั่งใดจะทำให้คนเลวอยู่อย่างสงบกับตัวเองได้"
    .
    .
    12. "Ignorance, the root and the stem of every evil."

    "ความโง่เขลาคือรากเหง้าและลำต้นของความชั่วร้ายทั้งปวง"
    .
    .
    13. "We can easily forgive a child who is afraid of the dark; the real tragedy of life is when men are afraid of the light."

    "เราให้อภัยเด็กที่กลัวความมืดได้ง่าย แต่โศกนาฏกรรมที่แท้จริงของชีวิตคือเมื่อผู้คนกลัวแสงสว่าง"
    .
    .
    14. "The worst form of injustice is pretended justice."

    "ความอยุติธรรมที่เลวร้ายที่สุดคือความยุติธรรมจอมปลอม"
    .
    .
    15. "Opinion is the medium between knowledge and ignorance."

    "ความคิดเห็นคือสิ่งที่อยู่ระหว่างความรู้และความโง่เขลา"
    .
    .
    16. "Geometry existed before creation."

    "เรขาคณิตมีอยู่ก่อนการสร้างสรรค์"
    .
    .
    17. "Writing is the geometry of the soul."
    "การเขียนคือเรขาคณิตของจิตวิญญาณ"
    .
    .
    18. "Courage is knowing what not to fear."

    "ความกล้าหาญคือการรู้ว่าอะไรไม่ควรกลัว"
    .
    .
    19. "An empty vessel makes the loudest sound, so they that have the least wit are the greatest babblers."

    "ภาชนะที่ว่างเปล่าส่งเสียงดังที่สุด เช่นเดียวกับผู้ที่มีสติปัญญาน้อยที่สุดมักเป็นผู้พูดมากที่สุด"
    .
    .
    20. "Education is teaching our children to desire the right things."

    "การศึกษาคือการสอนลูกหลานของเราให้ปรารถนาในสิ่งที่ถูกต้อง"
    .
    .
    21. "Philosophy is the highest music."

    "ปรัชญาคือดนตรีที่สูงส่งที่สุด"
    .
    .
    22. "There are three classes of men; lovers of wisdom, lovers of honor, and lovers of gain."

    "มนุษย์มีสามประเภท: ผู้รักปัญญา ผู้รักเกียรติยศ และผู้รักผลประโยชน์"
    .
    .
    23. "Do not train a child to learn by force or harshness; but direct them to it by what amuses their minds, so that you may be better able to discover with accuracy the peculiar bent of the genius of each."

    "อย่าฝึกเด็กให้เรียนรู้ด้วยการบังคับหรือความรุนแรง แต่จงชี้นำพวกเขาด้วยสิ่งที่สร้างความเพลิดเพลินให้จิตใจ เพื่อที่คุณจะสามารถค้นพบความโน้มเอียงพิเศษของอัจฉริยภาพในตัวพวกเขาแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ"
    .
    .
    24. "You should not honor men more than truth."

    "อย่าให้เกียรติมนุษย์มากกว่าความจริง"
    .
    .
    25. "A hero is born among a hundred, a wise man is found among a thousand, but an accomplished one might not be found even among a hundred thousand men."

    "วีรบุรุษเกิดขึ้นในหนึ่งร้อย ปราชญ์พบได้ในหนึ่งพัน แต่ผู้ที่สมบูรณ์แบบอาจไม่พบแม้ในหนึ่งแสนคน"
    .
    .
    26. "At the touch of love everyone becomes a poet."

    "เมื่อสัมผัสความรัก ทุกคนกลายเป็นกวี"
    .
    .
    27. "There should exist among the citizens neither extreme poverty nor again excessive wealth, for both are productive of great evil."

    "ในหมู่พลเมืองไม่ควรมีทั้งความยากจนสุดขั้วหรือความมั่งคั่งล้นเหลือ เพราะทั้งสองสิ่งล้วนก่อให้เกิดความชั่วร้ายอันใหญ่หลวง"
    .
    .
    28. "As the builders say, the larger stones do not lie well without the lesser."

    "ดังที่ช่างก่อสร้างว่า หินก้อนใหญ่ไม่อาจวางได้ดีหากปราศจากหินก้อนเล็ก"
    .
    .
    29. "The most virtuous are those who content themselves with being virtuous without seeking to appear so."

    "ผู้ที่มีคุณธรรมที่สุดคือผู้ที่พอใจในการมีคุณธรรมโดยไม่พยายามทำให้ดูเหมือนว่ามี"
    .
    .
    30. "For this feeling of wonder shows that you are a philosopher, since wonder is the only beginning of philosophy."

    "ความรู้สึกประหลาดใจนี้แสดงว่าคุณเป็นนักปรัชญา เพราะความประหลาดใจคือจุดเริ่มต้นเพียงหนึ่งเดียวของปรัชญา"
    .
    .
    31. "Courage is a kind of salvation."

    "ความกล้าหาญคือรูปแบบหนึ่งของการหลุดพ้น"
    .
    .
    32. "The highest reach of injustice is to be deemed just when you are not."

    "จุดสูงสุดของความอยุติธรรมคือการถูกมองว่ายุติธรรมทั้งที่ไม่ใช่"
    .
    .
    33. "No science or art considers or enjoins the interest of the stronger or superior, but only the interest of the subject and weaker."

    "ไม่มีวิทยาศาสตร์หรือศิลปะใดพิจารณาหรือบังคับผลประโยชน์ของผู้แข็งแกร่งหรือผู้เหนือกว่า แต่เพียงผลประโยชน์ของผู้อยู่ใต้ปกครองและผู้อ่อนแอกว่า"
    .
    .
    34. "For the uneducated, when they engage in argument about anything, give no thought to the truth about the subject of discussion but are only eager that those present will accept the position they have set forth."

    "สำหรับผู้ไร้การศึกษา เมื่อพวกเขาโต้แย้งเรื่องใดก็ตาม พวกเขาไม่คิดถึงความจริงเกี่ยวกับหัวข้อที่กำลังอภิปราย แต่กระตือรือร้นเพียงให้ผู้ที่อยู่ที่นั่นยอมรับจุดยืนที่พวกเขานำเสนอเท่านั้น"
    .
    .
    35. "Neither do the ignorant seek after wisdom. For herein is the evil of ignorance, that he who is neither good nor wise is nevertheless satisfied with himself: he has no desire for that of which he feels no want."

    "คนโง่เขลาไม่แสวงหาปัญญา เพราะนี่คือความชั่วร้ายของความโง่เขลา ที่ผู้ซึ่งไม่ดีและไม่ฉลาดกลับพอใจในตัวเอง: เขาไม่มีความปรารถนาในสิ่งที่เขารู้สึกว่าไม่ขาด"
    .
    .
    36. "The man who finds that in the course of his life he has done a lot of wrong often wakes up at night in terror, like a child with a nightmare, and his life is full of foreboding: but the man who is conscious of no wrongdoing is filled with cheerfulness and with the comfort of old age."

    "ผู้ที่พบว่าในช่วงชีวิตของเขาได้ทำผิดมากมักตื่นขึ้นมาตอนกลางคืนด้วยความหวาดกลัว เหมือนเด็กที่ฝันร้าย และชีวิตของเขาเต็มไปด้วยลางร้าย แต่ผู้ที่ไม่รู้สึกว่าได้ทำผิดจะเต็มไปด้วยความร่าเริงและความสบายใจในวัยชรา"
    .
    .
    37. "Now early life is very impressible, and children ought not to learn what they will have to unlearn when they grow up; we must therefore have a censorship of nursery tales, banishing some and keeping others."

    "ชีวิตในวัยต้นนั้นรับอิทธิพลได้ง่าย และเด็กๆ ไม่ควรเรียนรู้สิ่งที่พวกเขาจะต้องลืมเมื่อโตขึ้น เราจึงต้องมีการกลั่นกรองนิทานสำหรับเด็ก กำจัดบางเรื่องและเก็บบางเรื่องไว้"
    .
    .
    38. "There's no difficulty in choosing vice in abundance: the road is smooth and it's hardly any distance to where it lives. But the gods have put sweat in the way of goodness, and a long, rough, steep road."

    "ไม่มีความยากลำบากในการเลือกความชั่วที่มีอยู่มากมาย: ถนนราบเรียบและแทบไม่มีระยะทางไปถึงที่อยู่ของมัน แต่เทพเจ้าได้วางเหงื่อไว้ในเส้นทางแห่งความดี และเป็นถนนที่ยาว ขรุขระ และชัน"
    .
    .
    39. "It is not Love absolutely that is good or praiseworthy, but only that Love which impels meant to love aright."

    "ไม่ใช่ความรักทั้งหมดที่ดีหรือน่าสรรเสริญ แต่เป็นเพียงความรักที่ผลักดันให้รักอย่างถูกต้องเท่านั้น"
    .
    .
    40. "Both knowledge and truth are beautiful things, but the good is other and more beautiful than they."

    "ทั้งความรู้และความจริงเป็นสิ่งงดงาม แต่ความดีนั้นแตกต่างและงดงามยิ่งกว่า"
    .
    .
    .
    .
    #SuccessStrategies #Quotes #Plato #Mindset #Politic
    40 คำคมทรงพลังจากเพลโต ปราชญ์ผู้วางรากฐานปัญญาตะวันตก . กว่าสองพันสี่ร้อยปีผ่านไป เสียงกังวานแห่งปัญญาของเพลโต (Plato, 428-348 BC) ยังคงก้องกึกในโลกแห่งความคิด Plato เป็นหนึ่งในเป็นผู้วางรากฐานการคิดเชิงปรัชญาให้แก่อารยธรรมตะวันตก จนมีผู้กล่าวว่า "Western philosophy is but a series of footnotes to Plato" (ปรัชญาตะวันตกทั้งมวลเป็นเพียงเชิงอรรถของเพลโต) . ในฐานะผู้ก่อตั้ง Platonic Academy (สำนักปรัชญาอคาเดมี) สถาบันการศึกษาแห่งแรกของโลกตะวันตก เพลโตได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญาที่งอกงามเป็นต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านไปทั่วโลก . ผลงานอมตะของเพลโตที่ยังคงทรงอิทธิพลจวบจนปัจจุบัน อาทิ "Allegory of the Cave" (อุปมาถ้ำ) ที่เปรียบเทียบมนุษย์ผู้ติดอยู่กับโลกแห่งเงา และ "Theory of Forms" (ทฤษฎีแบบ) ที่เสนอว่าทุกสิ่งในโลกวัตถุล้วนเป็นเพียงเงาสะท้อนของแบบ หรือแม่แบบที่สมบูรณ์แบบในโลกแห่งความคิด . งานเขียนสำคัญของเขาอย่าง "The Republic" (รัฐ) วางรากฐานแนวคิดทางการเมืองและการปกครอง ขณะที่ "Symposium" (งานเลี้ยงสนทนา) ถกประเด็นความรักและความงามอันเป็นนิรันดร์ . แนวคิดของเพลโตได้หล่อหลอมวิธีคิดของโลกในทุกแขนง ทั้งปรัชญา ศาสนา การเมือง การศึกษา วิทยาศาสตร์ และศิลปะ อิทธิพลของเขาแผ่ขยายจากกรีกโบราณ ผ่านจักรวรรดิโรมัน ผ่านยุคกลาง ผ่านยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา จนถึงโลกสมัยใหม่ ทั้งในโลกตะวันตกและตะวันออก จนกลายเป็นรากฐานสำคัญของอารยธรรมโลก . 40 คำคมของเพลโตที่รวบรวมมานี้สะท้อนถึงความลุ่มลึกทางความคิดที่เชื่อมโยงสวรรค์กับโลก อุดมคติกับความเป็นจริง และชี้นำมนุษย์สู่การแสวงหาสัจธรรมอันสูงสุด . . 1. "Music gives a soul to the universe, wings to the mind, flight to the imagination and life to everything." "ดนตรีมอบจิตวิญญาณให้จักรวาล มอบปีกให้ความคิด มอบการโบยบินให้จินตนาการ และมอบชีวิตให้ทุกสิ่ง" . . 2. "Wise men speak because they have something to say; fools because they have to say something." "คนฉลาดพูดเพราะมีสิ่งที่ต้องการจะบอก คนโง่พูดเพราะต้องพูดอะไรสักอย่าง" . . 3. "The beginning is the most important part of the work." "จุดเริ่มต้นคือส่วนสำคัญที่สุดของงาน" . . 4. "No one is more hated than he who speaks the truth." "ไม่มีใครถูกเกลียดมากไปกว่าผู้ที่พูดความจริง" . . 5. "Necessity is the mother of invention." "ความจำเป็นคือบ่อเกิดแห่งการประดิษฐ์คิดค้น" . . 6. "Human behavior flows from three main sources: desire, emotion, and knowledge." "พฤติกรรมมนุษย์หลั่งไหลมาจากสามแหล่งหลัก: ความปรารถนา อารมณ์ และความรู้" . . 7. "The measure of a man is what he does with power." "เครื่องวัดคุณค่าของมนุษย์คือสิ่งที่เขาทำเมื่อมีอำนาจ" . . 8. "The first and best victory is to conquer self." "ชัยชนะแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดคือการชนะใจตนเอง" . . 9. "The penalty that good men pay for not being interested in politics is to be governed by men worse than themselves." "บทลงโทษที่คนดีต้องจ่ายสำหรับการไม่สนใจการเมืองคือการถูกปกครองโดยคนที่เลวร้ายกว่าตน" . . 10. "Those who tell the stories rule society." "ผู้ที่เล่าเรื่องราวคือผู้ปกครองสังคม" . . 11. "No wealth can ever make a bad man at peace with himself." "ไม่มีความมั่งคั่งใดจะทำให้คนเลวอยู่อย่างสงบกับตัวเองได้" . . 12. "Ignorance, the root and the stem of every evil." "ความโง่เขลาคือรากเหง้าและลำต้นของความชั่วร้ายทั้งปวง" . . 13. "We can easily forgive a child who is afraid of the dark; the real tragedy of life is when men are afraid of the light." "เราให้อภัยเด็กที่กลัวความมืดได้ง่าย แต่โศกนาฏกรรมที่แท้จริงของชีวิตคือเมื่อผู้คนกลัวแสงสว่าง" . . 14. "The worst form of injustice is pretended justice." "ความอยุติธรรมที่เลวร้ายที่สุดคือความยุติธรรมจอมปลอม" . . 15. "Opinion is the medium between knowledge and ignorance." "ความคิดเห็นคือสิ่งที่อยู่ระหว่างความรู้และความโง่เขลา" . . 16. "Geometry existed before creation." "เรขาคณิตมีอยู่ก่อนการสร้างสรรค์" . . 17. "Writing is the geometry of the soul." "การเขียนคือเรขาคณิตของจิตวิญญาณ" . . 18. "Courage is knowing what not to fear." "ความกล้าหาญคือการรู้ว่าอะไรไม่ควรกลัว" . . 19. "An empty vessel makes the loudest sound, so they that have the least wit are the greatest babblers." "ภาชนะที่ว่างเปล่าส่งเสียงดังที่สุด เช่นเดียวกับผู้ที่มีสติปัญญาน้อยที่สุดมักเป็นผู้พูดมากที่สุด" . . 20. "Education is teaching our children to desire the right things." "การศึกษาคือการสอนลูกหลานของเราให้ปรารถนาในสิ่งที่ถูกต้อง" . . 21. "Philosophy is the highest music." "ปรัชญาคือดนตรีที่สูงส่งที่สุด" . . 22. "There are three classes of men; lovers of wisdom, lovers of honor, and lovers of gain." "มนุษย์มีสามประเภท: ผู้รักปัญญา ผู้รักเกียรติยศ และผู้รักผลประโยชน์" . . 23. "Do not train a child to learn by force or harshness; but direct them to it by what amuses their minds, so that you may be better able to discover with accuracy the peculiar bent of the genius of each." "อย่าฝึกเด็กให้เรียนรู้ด้วยการบังคับหรือความรุนแรง แต่จงชี้นำพวกเขาด้วยสิ่งที่สร้างความเพลิดเพลินให้จิตใจ เพื่อที่คุณจะสามารถค้นพบความโน้มเอียงพิเศษของอัจฉริยภาพในตัวพวกเขาแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ" . . 24. "You should not honor men more than truth." "อย่าให้เกียรติมนุษย์มากกว่าความจริง" . . 25. "A hero is born among a hundred, a wise man is found among a thousand, but an accomplished one might not be found even among a hundred thousand men." "วีรบุรุษเกิดขึ้นในหนึ่งร้อย ปราชญ์พบได้ในหนึ่งพัน แต่ผู้ที่สมบูรณ์แบบอาจไม่พบแม้ในหนึ่งแสนคน" . . 26. "At the touch of love everyone becomes a poet." "เมื่อสัมผัสความรัก ทุกคนกลายเป็นกวี" . . 27. "There should exist among the citizens neither extreme poverty nor again excessive wealth, for both are productive of great evil." "ในหมู่พลเมืองไม่ควรมีทั้งความยากจนสุดขั้วหรือความมั่งคั่งล้นเหลือ เพราะทั้งสองสิ่งล้วนก่อให้เกิดความชั่วร้ายอันใหญ่หลวง" . . 28. "As the builders say, the larger stones do not lie well without the lesser." "ดังที่ช่างก่อสร้างว่า หินก้อนใหญ่ไม่อาจวางได้ดีหากปราศจากหินก้อนเล็ก" . . 29. "The most virtuous are those who content themselves with being virtuous without seeking to appear so." "ผู้ที่มีคุณธรรมที่สุดคือผู้ที่พอใจในการมีคุณธรรมโดยไม่พยายามทำให้ดูเหมือนว่ามี" . . 30. "For this feeling of wonder shows that you are a philosopher, since wonder is the only beginning of philosophy." "ความรู้สึกประหลาดใจนี้แสดงว่าคุณเป็นนักปรัชญา เพราะความประหลาดใจคือจุดเริ่มต้นเพียงหนึ่งเดียวของปรัชญา" . . 31. "Courage is a kind of salvation." "ความกล้าหาญคือรูปแบบหนึ่งของการหลุดพ้น" . . 32. "The highest reach of injustice is to be deemed just when you are not." "จุดสูงสุดของความอยุติธรรมคือการถูกมองว่ายุติธรรมทั้งที่ไม่ใช่" . . 33. "No science or art considers or enjoins the interest of the stronger or superior, but only the interest of the subject and weaker." "ไม่มีวิทยาศาสตร์หรือศิลปะใดพิจารณาหรือบังคับผลประโยชน์ของผู้แข็งแกร่งหรือผู้เหนือกว่า แต่เพียงผลประโยชน์ของผู้อยู่ใต้ปกครองและผู้อ่อนแอกว่า" . . 34. "For the uneducated, when they engage in argument about anything, give no thought to the truth about the subject of discussion but are only eager that those present will accept the position they have set forth." "สำหรับผู้ไร้การศึกษา เมื่อพวกเขาโต้แย้งเรื่องใดก็ตาม พวกเขาไม่คิดถึงความจริงเกี่ยวกับหัวข้อที่กำลังอภิปราย แต่กระตือรือร้นเพียงให้ผู้ที่อยู่ที่นั่นยอมรับจุดยืนที่พวกเขานำเสนอเท่านั้น" . . 35. "Neither do the ignorant seek after wisdom. For herein is the evil of ignorance, that he who is neither good nor wise is nevertheless satisfied with himself: he has no desire for that of which he feels no want." "คนโง่เขลาไม่แสวงหาปัญญา เพราะนี่คือความชั่วร้ายของความโง่เขลา ที่ผู้ซึ่งไม่ดีและไม่ฉลาดกลับพอใจในตัวเอง: เขาไม่มีความปรารถนาในสิ่งที่เขารู้สึกว่าไม่ขาด" . . 36. "The man who finds that in the course of his life he has done a lot of wrong often wakes up at night in terror, like a child with a nightmare, and his life is full of foreboding: but the man who is conscious of no wrongdoing is filled with cheerfulness and with the comfort of old age." "ผู้ที่พบว่าในช่วงชีวิตของเขาได้ทำผิดมากมักตื่นขึ้นมาตอนกลางคืนด้วยความหวาดกลัว เหมือนเด็กที่ฝันร้าย และชีวิตของเขาเต็มไปด้วยลางร้าย แต่ผู้ที่ไม่รู้สึกว่าได้ทำผิดจะเต็มไปด้วยความร่าเริงและความสบายใจในวัยชรา" . . 37. "Now early life is very impressible, and children ought not to learn what they will have to unlearn when they grow up; we must therefore have a censorship of nursery tales, banishing some and keeping others." "ชีวิตในวัยต้นนั้นรับอิทธิพลได้ง่าย และเด็กๆ ไม่ควรเรียนรู้สิ่งที่พวกเขาจะต้องลืมเมื่อโตขึ้น เราจึงต้องมีการกลั่นกรองนิทานสำหรับเด็ก กำจัดบางเรื่องและเก็บบางเรื่องไว้" . . 38. "There's no difficulty in choosing vice in abundance: the road is smooth and it's hardly any distance to where it lives. But the gods have put sweat in the way of goodness, and a long, rough, steep road." "ไม่มีความยากลำบากในการเลือกความชั่วที่มีอยู่มากมาย: ถนนราบเรียบและแทบไม่มีระยะทางไปถึงที่อยู่ของมัน แต่เทพเจ้าได้วางเหงื่อไว้ในเส้นทางแห่งความดี และเป็นถนนที่ยาว ขรุขระ และชัน" . . 39. "It is not Love absolutely that is good or praiseworthy, but only that Love which impels meant to love aright." "ไม่ใช่ความรักทั้งหมดที่ดีหรือน่าสรรเสริญ แต่เป็นเพียงความรักที่ผลักดันให้รักอย่างถูกต้องเท่านั้น" . . 40. "Both knowledge and truth are beautiful things, but the good is other and more beautiful than they." "ทั้งความรู้และความจริงเป็นสิ่งงดงาม แต่ความดีนั้นแตกต่างและงดงามยิ่งกว่า" . . . . #SuccessStrategies #Quotes #Plato #Mindset #Politic
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 728 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮู่หนิง ผู้กล้าเปิดหนังหน้าอเมริกา : Sondhitalk EP275 VDO

    รู้จัก หวัง ฮู่หนิง ผู้เปิดโลกของชาวจีนที่มองอเมริกาและโลกตะวันตกอย่างแท้จริง

    #sondhitalk #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Sondhi #หวังฮู่หนิง #เซี่ยงไฮ้ #อเมริกา #โลกตะวันตก

    ThaiTimes คือแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ช่วยให้คุณ:
    - แพลตฟอร์มที่ไม่โดนปิดกั้น
    - แชร์รูปภาพและวิดีโอ
    - ติดตามข่าวสารล่าสุดจากคนที่คุณติดตาม
    แอป Thaitimes มีให้ Download ได้แล้วทั้งใน iOS และใน android
    iOS : https://apps.apple.com/th/app/thaitimes-social/id6502225132
    Google Play :https://play.google.com/store/apps/details...
    และ https://thaitimes.co
    ฮู่หนิง ผู้กล้าเปิดหนังหน้าอเมริกา : Sondhitalk EP275 VDO รู้จัก หวัง ฮู่หนิง ผู้เปิดโลกของชาวจีนที่มองอเมริกาและโลกตะวันตกอย่างแท้จริง #sondhitalk #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Sondhi #หวังฮู่หนิง #เซี่ยงไฮ้ #อเมริกา #โลกตะวันตก ThaiTimes คือแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ช่วยให้คุณ: - แพลตฟอร์มที่ไม่โดนปิดกั้น - แชร์รูปภาพและวิดีโอ - ติดตามข่าวสารล่าสุดจากคนที่คุณติดตาม แอป Thaitimes มีให้ Download ได้แล้วทั้งใน iOS และใน android iOS : https://apps.apple.com/th/app/thaitimes-social/id6502225132 Google Play :https://play.google.com/store/apps/details... และ https://thaitimes.co
    Like
    Love
    Wow
    Haha
    51
    0 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 3515 มุมมอง 196 3 รีวิว
  • New York Post เผยถึงเหตุที่ #ทรัมป์ ต้องการ #กรีนแลนด์ ถึงขั้นบอกว่าถ้าจำเป็น ก็อาจจะต้องใช้กำลังทหารเพื่อผนวกกรีนแลนด์ ซึ่งทำให้ชาวอเมริกันหลายคนตั้งคำถามว่า “แต่ทำไมล่ะ”

    ทั้งนี้ เพราะกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ริมเส้นทางเดินเรือที่สำคัญ และมีวัตถุดิบสำคัญที่หาได้ยากจากที่อื่น

    ปัจจุบัน #สหรัฐฯ กำลังต่อสู้กับ #จีน และ #รัสเซีย เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติของ #ภูมิภาคอาร์กติก เช่น ลิเธียม โคบอลต์ และกราไฟต์

    มี 2 เหตุผลหลัก ที่สหรัฐฯต้องการผนวกกรีนแลนด์
    - ประการแรกคือ แหล่งแร่หายากจำนวนมากที่จำเป็นสำหรับการผลิตอุปกรณ์ป้องกันประเทศและอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ

    - ประการที่สอง กรีนแลนด์มีสิทธิใน #อาร์กติก อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะช่วยให้สหรัฐฯ มีสถานะที่แข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากการแข่งขันด้านการเดินเรือและทรัพยากรกำลังทวีความรุนแรงขึ้น

    สหรัฐฯ แข่งขันอย่างเงียบๆ กับจีนและรัสเซียในการเข้าถึงอาร์กติกมาหลายปีแล้ว โดยส่งเรือตัดน้ำแข็งทางทหารไปยังภูมิภาคนี้เพื่อปฏิบัติภารกิจสำรวจทุ่งทุนดราที่อุดมด้วยทรัพยากร

    ปัจจุบันสหรัฐฯ พึ่งพาแร่ธาตุหายากจากจีนอย่างมาก

    ขณะที่แร่ธาตุหายากก็พบในอาร์กติกนอกเหนือจากในเอเชีย และใช้ในทุกอย่างตั้งแต่โทรศัพท์มือถือไปจนถึงอาวุธทำลายล้างสูง

    “ด้วยความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า ระบบพลังงานหมุนเวียน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงที่เพิ่มมากขึ้น สหรัฐฯ จึงพึ่งพาวัสดุที่สำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมและรักษาความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจระดับโลก”

    “[แร่ธาตุหายาก] ถูกใช้ในการป้องกันประเทศ เทคโนโลยี ขีปนาวุธ รถถัง ดาวเทียม เรือรบ เครื่องบินขับไล่ และด้วยเหตุนี้ การรักษาความปลอดภัยจึงกลายมาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความมั่นคงของชาติ”

    การแข่งขันในอาร์กติกทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลให้แผ่นน้ำแข็งที่เคยทำให้ทรัพยากรต่างๆ แทบจะเข้าถึงไม่ได้ละลายลง

    "ภาวะโลกร้อนทำให้การเดินเรือในอาร์กติกมีอิสระมากขึ้น"

    แต่จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ ก็ยังถูกแซงหน้าโดยฝ่ายตรงข้าม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะสหรัฐฯ เข้าถึงพื้นที่ดังกล่าวได้จำกัด และมีเรือตัดน้ำแข็งจำนวนค่อนข้างน้อย

    ปัญหานี้สร้างความรำคาญให้กับสมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนมานานแล้ว รวมถึง ส.ส. ไมค์ วอลซ์ (R-Fla.) ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์

    “ในอาร์กติกที่เราต้องแข่งขันกันเพื่อทรัพยากรธรรมชาติ กองกำลังชายฝั่งต้องการเรือตัดน้ำแข็งมากกว่าหนึ่งลำ! รัสเซียมีเป็นโหล!” เขาโพสต์บน X เมื่อปี 2017

    ปัจจุบัน กองกำลังชายฝั่งของสหรัฐฯมีเรือตัดน้ำแข็งเพียงสองลำ แต่เมื่อไม่นานมานี้ วอลซ์ได้ให้คำมั่นว่าจะผลักดันให้มีเรือตัดน้ำแข็งเพิ่มขึ้นในรัฐสภาชุดที่ 119 ในการตอบกลับโพสต์บน X ที่เรียกร้องให้มีเรือตัดน้ำแข็ง “เพิ่มอีกสิบลำ”
    “นั่นคือแผน!” วอลซ์ให้คำมั่นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม

    การจัดหาเรือตัดน้ำแข็งเพิ่มเติมและการซื้อกรีนแลนด์ถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากสหรัฐฯ กำลังสร้างโรงงานแปรรูปแร่ธาตุหายากเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามล่าสุดของสหรัฐฯ ที่ต้องการลดการพึ่งพาจีน
    แต่เนื่องจากสหรัฐฯ มีแร่ธาตุหายากเพียง 1.3% ของโลก ในขณะที่จีนมีมากถึง 70% "ตอนนี้เราจำเป็นต้องหาแร่ธาตุหายากเหล่านี้จากที่ใดสักแห่งเพื่อแปรรูปในประเทศ ... ซึ่งทำให้กรีนแลนด์มีเสน่ห์ดึงดูดใจ เนื่องจากกรีนแลนด์อาจเป็นแหล่งแร่ธาตุหายาก"

    ทรัมป์ ได้สรุปวิสัยทัศน์ของเขาสำหรับซีกโลกตะวันตกในงานแถลงข่าวที่มาร์อาลาโก
    🎯กรีนแลนด์
    ทรัมป์บอกจะไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะใช้กำลังทางเศรษฐกิจหรือการทหารเพื่อยึดกรีนแลนด์หรือคลองปานามาออกไป “ไม่ ผมรับรองคุณไม่ได้หรอกว่าจะใช้กำลังทั้งสองอย่าง แต่ผมบอกได้ว่าเราต้องการมันเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ”

    🎯อ่าวเม็กซิโก
    ทรัมป์บอกจะขยายการขุดเจาะนอกชายฝั่ง “เราจะเปลี่ยนแปลง ซึ่งตรงข้ามกับการที่ไบเดนปิดทุกอย่างและกำจัดทรัพย์สินมูลค่า 50 ถึง 60 ล้านล้านดอลลาร์ เราจะเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา ซึ่งมีความหมายที่สวยงาม”

    🎯แคนาดา
    ทรัมป์บอก #แคนาดา อาจกลายเป็นรัฐที่ 51 โดยมีเวย์น เกรตสกี้ นักฮ็อกกี้ชื่อดังเป็นผู้ว่าการรัฐ “คุณสามารถกำจัดเส้นแบ่งที่วาดขึ้นอย่างไม่เป็นธรรมชาตินั้นได้ และลองดูว่ามันเป็นอย่างไร และมันจะดีขึ้นมากสำหรับความมั่นคงของชาติด้วย “พวกเขาเป็นคนดี แต่เราใช้เงินหลายร้อยพันล้านที่นี่เพื่อปกป้องมัน เราใช้เงินหลายร้อยพันล้านต่อปีเพื่อดูแลแคนาดา เราสูญเสียดุลการค้า”

    🎯คลองปานามา
    “จีนเป็นผู้ดำเนินการ! จีน! และเรามอบคลองปานามาให้ปานามา” ทรัมป์กล่าว “เราไม่ได้มอบคลองนี้ให้จีน และพวกเขาใช้คลองนี้ในทางที่ผิด พวกเขาใช้ของขวัญนั้นในทางที่ผิด”

    ❌“ไม่ขาย”
    ความทะเยอทะยานของทรัมป์ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีในเดนมาร์ก ซึ่งนายกรัฐมนตรีเมตเต้ เฟรเดอริกเซน ย้ำเมื่อวันอังคารว่าดินแดนนี้ “ไม่ขาย”

    “กรีนแลนด์เป็นของชาวกรีนแลนด์” นายกรัฐมนตรีเมตเตอ เฟรเดอริกเซนแห่งเดนมาร์ก ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เดนมาร์ก TV 2 “ในแง่หนึ่ง ผมยินดีที่อเมริกาสนใจกรีนแลนด์มากขึ้น แต่แน่นอนว่าสิ่งสำคัญคือเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นในลักษณะที่ชาวกรีนแลนด์เป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต”

    “ในแง่ของการเป็นเจ้าของ เราอาจเห็นต่างกันได้มาก เพราะเรากำลังดำเนินการสร้างประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยซึ่งก็คือกรีนแลนด์ และเราต้องการสร้างรัฐกรีนแลนด์” เฟนเคอร์กล่าว พร้อมเสริมว่ารัฐบาลอาณาเขตอาจเต็มใจทำงานร่วมกับสหรัฐฯ ในข้อตกลงการค้าโดยเสรี
    .
    ลิ้งค์ต้นทาง:
    https://web.facebook.com/share/p/15nuKPRz54/
    New York Post เผยถึงเหตุที่ #ทรัมป์ ต้องการ #กรีนแลนด์ ถึงขั้นบอกว่าถ้าจำเป็น ก็อาจจะต้องใช้กำลังทหารเพื่อผนวกกรีนแลนด์ ซึ่งทำให้ชาวอเมริกันหลายคนตั้งคำถามว่า “แต่ทำไมล่ะ” ทั้งนี้ เพราะกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ริมเส้นทางเดินเรือที่สำคัญ และมีวัตถุดิบสำคัญที่หาได้ยากจากที่อื่น ปัจจุบัน #สหรัฐฯ กำลังต่อสู้กับ #จีน และ #รัสเซีย เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติของ #ภูมิภาคอาร์กติก เช่น ลิเธียม โคบอลต์ และกราไฟต์ มี 2 เหตุผลหลัก ที่สหรัฐฯต้องการผนวกกรีนแลนด์ - ประการแรกคือ แหล่งแร่หายากจำนวนมากที่จำเป็นสำหรับการผลิตอุปกรณ์ป้องกันประเทศและอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ - ประการที่สอง กรีนแลนด์มีสิทธิใน #อาร์กติก อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะช่วยให้สหรัฐฯ มีสถานะที่แข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากการแข่งขันด้านการเดินเรือและทรัพยากรกำลังทวีความรุนแรงขึ้น สหรัฐฯ แข่งขันอย่างเงียบๆ กับจีนและรัสเซียในการเข้าถึงอาร์กติกมาหลายปีแล้ว โดยส่งเรือตัดน้ำแข็งทางทหารไปยังภูมิภาคนี้เพื่อปฏิบัติภารกิจสำรวจทุ่งทุนดราที่อุดมด้วยทรัพยากร ปัจจุบันสหรัฐฯ พึ่งพาแร่ธาตุหายากจากจีนอย่างมาก ขณะที่แร่ธาตุหายากก็พบในอาร์กติกนอกเหนือจากในเอเชีย และใช้ในทุกอย่างตั้งแต่โทรศัพท์มือถือไปจนถึงอาวุธทำลายล้างสูง “ด้วยความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า ระบบพลังงานหมุนเวียน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงที่เพิ่มมากขึ้น สหรัฐฯ จึงพึ่งพาวัสดุที่สำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมและรักษาความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจระดับโลก” “[แร่ธาตุหายาก] ถูกใช้ในการป้องกันประเทศ เทคโนโลยี ขีปนาวุธ รถถัง ดาวเทียม เรือรบ เครื่องบินขับไล่ และด้วยเหตุนี้ การรักษาความปลอดภัยจึงกลายมาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความมั่นคงของชาติ” การแข่งขันในอาร์กติกทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลให้แผ่นน้ำแข็งที่เคยทำให้ทรัพยากรต่างๆ แทบจะเข้าถึงไม่ได้ละลายลง "ภาวะโลกร้อนทำให้การเดินเรือในอาร์กติกมีอิสระมากขึ้น" แต่จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ ก็ยังถูกแซงหน้าโดยฝ่ายตรงข้าม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะสหรัฐฯ เข้าถึงพื้นที่ดังกล่าวได้จำกัด และมีเรือตัดน้ำแข็งจำนวนค่อนข้างน้อย ปัญหานี้สร้างความรำคาญให้กับสมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนมานานแล้ว รวมถึง ส.ส. ไมค์ วอลซ์ (R-Fla.) ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ “ในอาร์กติกที่เราต้องแข่งขันกันเพื่อทรัพยากรธรรมชาติ กองกำลังชายฝั่งต้องการเรือตัดน้ำแข็งมากกว่าหนึ่งลำ! รัสเซียมีเป็นโหล!” เขาโพสต์บน X เมื่อปี 2017 ปัจจุบัน กองกำลังชายฝั่งของสหรัฐฯมีเรือตัดน้ำแข็งเพียงสองลำ แต่เมื่อไม่นานมานี้ วอลซ์ได้ให้คำมั่นว่าจะผลักดันให้มีเรือตัดน้ำแข็งเพิ่มขึ้นในรัฐสภาชุดที่ 119 ในการตอบกลับโพสต์บน X ที่เรียกร้องให้มีเรือตัดน้ำแข็ง “เพิ่มอีกสิบลำ” “นั่นคือแผน!” วอลซ์ให้คำมั่นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม การจัดหาเรือตัดน้ำแข็งเพิ่มเติมและการซื้อกรีนแลนด์ถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากสหรัฐฯ กำลังสร้างโรงงานแปรรูปแร่ธาตุหายากเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามล่าสุดของสหรัฐฯ ที่ต้องการลดการพึ่งพาจีน แต่เนื่องจากสหรัฐฯ มีแร่ธาตุหายากเพียง 1.3% ของโลก ในขณะที่จีนมีมากถึง 70% "ตอนนี้เราจำเป็นต้องหาแร่ธาตุหายากเหล่านี้จากที่ใดสักแห่งเพื่อแปรรูปในประเทศ ... ซึ่งทำให้กรีนแลนด์มีเสน่ห์ดึงดูดใจ เนื่องจากกรีนแลนด์อาจเป็นแหล่งแร่ธาตุหายาก" ทรัมป์ ได้สรุปวิสัยทัศน์ของเขาสำหรับซีกโลกตะวันตกในงานแถลงข่าวที่มาร์อาลาโก 🎯กรีนแลนด์ ทรัมป์บอกจะไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะใช้กำลังทางเศรษฐกิจหรือการทหารเพื่อยึดกรีนแลนด์หรือคลองปานามาออกไป “ไม่ ผมรับรองคุณไม่ได้หรอกว่าจะใช้กำลังทั้งสองอย่าง แต่ผมบอกได้ว่าเราต้องการมันเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ” 🎯อ่าวเม็กซิโก ทรัมป์บอกจะขยายการขุดเจาะนอกชายฝั่ง “เราจะเปลี่ยนแปลง ซึ่งตรงข้ามกับการที่ไบเดนปิดทุกอย่างและกำจัดทรัพย์สินมูลค่า 50 ถึง 60 ล้านล้านดอลลาร์ เราจะเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา ซึ่งมีความหมายที่สวยงาม” 🎯แคนาดา ทรัมป์บอก #แคนาดา อาจกลายเป็นรัฐที่ 51 โดยมีเวย์น เกรตสกี้ นักฮ็อกกี้ชื่อดังเป็นผู้ว่าการรัฐ “คุณสามารถกำจัดเส้นแบ่งที่วาดขึ้นอย่างไม่เป็นธรรมชาตินั้นได้ และลองดูว่ามันเป็นอย่างไร และมันจะดีขึ้นมากสำหรับความมั่นคงของชาติด้วย “พวกเขาเป็นคนดี แต่เราใช้เงินหลายร้อยพันล้านที่นี่เพื่อปกป้องมัน เราใช้เงินหลายร้อยพันล้านต่อปีเพื่อดูแลแคนาดา เราสูญเสียดุลการค้า” 🎯คลองปานามา “จีนเป็นผู้ดำเนินการ! จีน! และเรามอบคลองปานามาให้ปานามา” ทรัมป์กล่าว “เราไม่ได้มอบคลองนี้ให้จีน และพวกเขาใช้คลองนี้ในทางที่ผิด พวกเขาใช้ของขวัญนั้นในทางที่ผิด” ❌“ไม่ขาย” ความทะเยอทะยานของทรัมป์ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีในเดนมาร์ก ซึ่งนายกรัฐมนตรีเมตเต้ เฟรเดอริกเซน ย้ำเมื่อวันอังคารว่าดินแดนนี้ “ไม่ขาย” “กรีนแลนด์เป็นของชาวกรีนแลนด์” นายกรัฐมนตรีเมตเตอ เฟรเดอริกเซนแห่งเดนมาร์ก ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เดนมาร์ก TV 2 “ในแง่หนึ่ง ผมยินดีที่อเมริกาสนใจกรีนแลนด์มากขึ้น แต่แน่นอนว่าสิ่งสำคัญคือเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นในลักษณะที่ชาวกรีนแลนด์เป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต” “ในแง่ของการเป็นเจ้าของ เราอาจเห็นต่างกันได้มาก เพราะเรากำลังดำเนินการสร้างประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยซึ่งก็คือกรีนแลนด์ และเราต้องการสร้างรัฐกรีนแลนด์” เฟนเคอร์กล่าว พร้อมเสริมว่ารัฐบาลอาณาเขตอาจเต็มใจทำงานร่วมกับสหรัฐฯ ในข้อตกลงการค้าโดยเสรี . ลิ้งค์ต้นทาง: https://web.facebook.com/share/p/15nuKPRz54/
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 680 มุมมอง 0 รีวิว
  • โล่วหู นาฬิกาหยดน้ำโบราณ

    สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยู่กันกับซีรีส์เรื่อง <เล่ห์รักวังคุนหนิง> อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ

    หลายท่านคงทราบว่านาฬิกาโบราณนั้น มีนาฬิกาแดด นาฬิกาทรายและนาฬิกาหยดน้ำ ก่อนจะพัฒนามาเป็นนาฬิกากลไกที่ใช้เฟือง มีบทความเกี่ยวกับนาฬิกาโบราณไม่น้อยให้เพื่อนเพจได้ค้นหาอ่านกัน วันนี้ Storyฯ มาขยายความเรื่องนาฬิกาน้ำแบบหยดน้ำ เพราะที่เห็นในเรื่อง <เล่ห์รักวังคุนหนิง> มันสวยเตะตาเหลือเกิน (แต่จนใจหาฉากที่เห็นรูปนาฬิกาแบบเต็มเรือนมาให้ดูไม่ได้)

    นาฬิกาหยดน้ำที่เห็นในซีรีส์เรื่องนี้มีองค์ประกอบและหลักการทำงานโดยสรุปดังนี้ (ดูรูปประกอบ): เป็นโถใส่น้ำอยู่ด้านบน ปล่อยให้น้ำค่อยๆ หยดลงบนถาด เมื่อน้ำปริ่มจนได้ระดับก็จะหยดลงในอ่างด้านล่าง ในอ่างด้านล่างมีไม้บรรทัดตั้งอยู่โดยเสียบผ่านถาดไม้บนอ่าง บนไม้บรรทัดมีขีดบอกเวลาสิบสองชั่วยาม เมื่อระดับน้ำในอ่างรับน้ำมีมากขึ้นไม้ก็จะค่อยๆ ลอยขึ้น ระดับความสูงของขอบถาดอยู่ตรงขีดไม้บรรทัดขีดไหนก็คือเวลานั้นๆ

    ดูจากหลักการทำงานตามที่กล่าวมาข้างต้น Storyฯ คิดว่านาฬิการุ่นนี้เป็นแบบขั้นบันได พูดแล้วเพื่อนเพจคงงงว่าเป็นแบบขั้นบันไดอย่างไร ก่อนอื่นมาดูรูปแบบของนาฬิกาหยดน้ำโบราณกันค่ะ

    นาฬิกาหยดน้ำเรียกว่า ‘โล่วหู’ (漏壶 แปลตรงตัวว่าโถที่มีรู) มีดีไซน์หลากหลาย แต่สามารถจัดหมวดหมู่ได้เป็นสามกลุ่มตามหลักการที่ใช้ สรุปดังนี้

    1. แบบระบายน้ำ (泄水型 /เซี่ยสุ่ยสิง หรือ 沉箭漏 / เฉินเจี้ยนโล่ว): นี่เป็นแบบแรกเริ่มของนาฬิกาหยดน้ำในจีน โดยหลักการคือใช้โถปล่อยน้ำที่มีท่อเล็กระบายน้ำที่ส่วนล่าง ฝาโถมีรูให้เสียบก้านไม้ที่มีเส้นขีดบอกเวลาเพื่อว่าก้านไม้จะได้ไม่เอียง ด้านล่างของก้านไม้ยึดอยู่บนถาดที่ลอยอยู่ในโถ (ดูรูปประกอบ) เมื่อน้ำค่อยๆ หยดระบายออก ก้านไม้ในโถก็จะค่อยๆ ลดระดับ เมื่อมองจากด้านนอกก็จะเห็นว่าขีดบอกเวลาอยู่ที่ระดับใด โบราณวัตถุที่เก่าแก่ที่สุดที่เคยค้นพบเจอนั้นเป็นของสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (ปี 202 ก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 008)

    ข้อเสียของนาฬิกาหยดน้ำแบบระบายน้ำนี้ก็คือ ความช้าเร็วในการหยดของน้ำจะแตกต่างกันเมื่อระดับปริมาณน้ำในโถที่ลดลง เป็นเรื่องของแรงดันน้ำอันเกิดจากแรงโน้มถ่วงของโลก คือน้ำในโถปล่อยยิ่งมาก แรงดันยิ่งสูง ก็จะยิ่งหยดเร็ว

    2. แบบสะสมน้ำ (受水型 /โซ่วสุ่ยสิง หรือ 浮箭漏/ฝูเจี้ยนโล่ว): ว่ากันว่านาฬิกาแบบนี้มีมาแต่สมัยฮั่นตะวันตกในช่วงปลายราชวงศ์ โดยหลักการคือเอาก้านไม้ที่บอกเวลาไปลอยไว้ในโถหรืออ่างรับน้ำที่วางอยู่ข้างล่าง เมื่อโถรับน้ำมีปริมาณน้ำสะสมมากขึ้นก็จะดันให้ก้านไม้ค่อยๆ ลอยสูงขึ้นพ้นขอบ ก็จะเห็นว่าขีดบอกเวลาอยู่ที่ขีดเวลาใด (ดูรูปประกอบเพื่อเปรียบเทียบ) เป็นหลักการที่พยายามแก้ไขปัญหาความเพี้ยนของการบอกเวลา

    แต่... มันยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ดี ดังนั้น จึงเกิดเป็นแบบที่สามขึ้นมา

    3. แบบขั้นบันได (阶梯式 /เจี้ยทีซึ): คือมีโถปล่อยน้ำเรียงหลายขั้นลดหลั่นกันลงมา แรกเริ่มคือเป็นโถปล่อยน้ำ 2 ขั้น มีใช้ในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ค.ศ. 25-220 ) ต่อมาเพิ่มโถปล่อยน้ำอีกหลาย ในราชวงศ์จิ้น (ค.ศ. 266-420) เป็นโถปล่อยน้ำ 3 ขั้น หลักการทำงานคือมีก้านไม้บอกเวลาลอยอยู่ในโถรับน้ำ (เหมือนแบบสะสมน้ำ) แต่ที่เพิ่มเติมคือมีการรักษาให้ปริมาตรของน้ำจากโถปล่อยน้ำมีความคงที่ด้วยการแบ่งเป็นหลายโถ โถขั้นกลางและล่างจะได้มีปริมาตรและแรงดันที่ค่อนข้างคงที่ ยิ่งจำนวนโถปล่อยน้ำขั้นกลางมีมากเท่าไหร่ น้ำที่หยดลงสู่อ่างรับน้ำก็จะยิ่งมีระยะห่างที่สม่ำเสมอ เป็นการสร้างเสถียรภาพในการบอกเวลาได้ดี

    แต่มันก็ยังไม่แม่นยำนัก ต่อมาในยุคหลังจึงเกิดนาฬิกากลไกขึ้นมา

    Storyฯ เล่าหลักการแบบง่ายๆ นะคะ แต่ในความเป็นจริงต้องมีการคำนวณอย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นความกว้างความสูงของทุกชิ้นส่วนของภาชนะ การตีเส้นบนก้านไม้ ตำแหน่งความสูงของหลอดปล่อยน้ำ ฯลฯ

    กลับมาที่นาฬิกาเรือนสวยลายนกเป็ดน้ำในซีรีส์ <เล่ห์รักวังคุนหนิง>... ที่ Storyฯ บอกว่ามันเป็นนาฬิกาหยดน้ำแบบขั้นบันไดก็เพราะว่ามีการรักษาปริมาตรของน้ำเพื่อให้น้ำหยดลงในระยะห่างที่คงที่ด้วยการใช้ถาดใบบัวมาขั้นนั่นเอง (ดูรูปประกอบ) แน่นอนว่ามันมีหน้าตาสวยงามกว่าต้นแบบที่ต้องใช้โถหลายใบวางเรียงกันแต่ก็คงแม่นยำไม่เท่าด้วย

    นาฬิกาหยดน้ำเป็นสิ่งประดิษฐ์ของจีนหรือว่าได้รับอิทธิพลมาจากทางตะวันตก? เรื่องนี้คำตอบไม่แน่ชัด บ้างบอกว่าได้รับอิทธิพลมาจากฝั่งตะวันตกเพราะดูจากหลักฐานโบราณวัตถุที่ค้นพบในจีนนั้นเป็นของยุคสมัยฮั่นตะวันตก แต่นาฬิกาหยดน้ำที่ใช้ในโลกตะวันตกมีต้นแบบมาจากสมัยบาบีโลนของอียิปต์ (ประมาณพันห้าร้อยปีก่อนคริสตกาล) เป็นแบบระบายน้ำเรียกว่า clepsydra โดยของฝั่งโลกตะวันตกไม่ได้ใช้ก้านไม้ขีดเส้นลอยอยู่ในน้ำ แต่เป็นการบากเส้นขึ้นในภาชนะและจะใช้เป็นภาชนะปากกว้างเช่นอ่างเพื่อให้เห็นเส้นขีดบอกเวลาภายใน

    แต่มีบางบทความอ้างอิงว่าในบันทึกโจวหลี่มีการเขียนไว้ว่า ในสมัยราชวงศ์ซางมีตำแหน่งข้าราชการที่เรียกว่า ‘เชี่ยหูซึ’ (挈壶氏) มีหน้าที่คอยดูเวลาที่นาฬิกาหยดน้ำ บ่งบอกว่านาฬิกาหยดน้ำมีใช้ในจีนโบราณมาตั้งแต่สี่พันปีที่แล้ว

    จริงๆ ในซีรีส์เรื่องนี้มีนาฬิกาโบราณแบบอื่นให้เห็นด้วย มีเพื่อนเพจท่านใดจำได้บ้างไหม?

    หมายเหตุ: แก้ไขรูปประกอบที่ผิดพลาดเมื่อวันที่ 17/5 เวลา 16.30น. นะคะ ขออภัยที่สร้างความสับสนมาก่อนหน้านี้

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/582597735
    http://www.chinajl.com.cn/jiliangqiwu/57554.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://art.people.com.cn/n/2014/0521/c206244-25043967.html
    https://www.cctv.com/geography/news/20030514/7.html#:~:text=中国最早的漏壶,或“浮箭漏”。
    https://zh.wikipedia.org/wiki/水鐘
    http://m.cnwest.com/sxxw/a/2021/12/21/20176664.html

    #เล่ห์รักวังคุนหนิง #นาฬิกาโบราณ #นาฬิกาหยดน้ำ #โล่วหู
    โล่วหู นาฬิกาหยดน้ำโบราณ สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยู่กันกับซีรีส์เรื่อง <เล่ห์รักวังคุนหนิง> อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ หลายท่านคงทราบว่านาฬิกาโบราณนั้น มีนาฬิกาแดด นาฬิกาทรายและนาฬิกาหยดน้ำ ก่อนจะพัฒนามาเป็นนาฬิกากลไกที่ใช้เฟือง มีบทความเกี่ยวกับนาฬิกาโบราณไม่น้อยให้เพื่อนเพจได้ค้นหาอ่านกัน วันนี้ Storyฯ มาขยายความเรื่องนาฬิกาน้ำแบบหยดน้ำ เพราะที่เห็นในเรื่อง <เล่ห์รักวังคุนหนิง> มันสวยเตะตาเหลือเกิน (แต่จนใจหาฉากที่เห็นรูปนาฬิกาแบบเต็มเรือนมาให้ดูไม่ได้) นาฬิกาหยดน้ำที่เห็นในซีรีส์เรื่องนี้มีองค์ประกอบและหลักการทำงานโดยสรุปดังนี้ (ดูรูปประกอบ): เป็นโถใส่น้ำอยู่ด้านบน ปล่อยให้น้ำค่อยๆ หยดลงบนถาด เมื่อน้ำปริ่มจนได้ระดับก็จะหยดลงในอ่างด้านล่าง ในอ่างด้านล่างมีไม้บรรทัดตั้งอยู่โดยเสียบผ่านถาดไม้บนอ่าง บนไม้บรรทัดมีขีดบอกเวลาสิบสองชั่วยาม เมื่อระดับน้ำในอ่างรับน้ำมีมากขึ้นไม้ก็จะค่อยๆ ลอยขึ้น ระดับความสูงของขอบถาดอยู่ตรงขีดไม้บรรทัดขีดไหนก็คือเวลานั้นๆ ดูจากหลักการทำงานตามที่กล่าวมาข้างต้น Storyฯ คิดว่านาฬิการุ่นนี้เป็นแบบขั้นบันได พูดแล้วเพื่อนเพจคงงงว่าเป็นแบบขั้นบันไดอย่างไร ก่อนอื่นมาดูรูปแบบของนาฬิกาหยดน้ำโบราณกันค่ะ นาฬิกาหยดน้ำเรียกว่า ‘โล่วหู’ (漏壶 แปลตรงตัวว่าโถที่มีรู) มีดีไซน์หลากหลาย แต่สามารถจัดหมวดหมู่ได้เป็นสามกลุ่มตามหลักการที่ใช้ สรุปดังนี้ 1. แบบระบายน้ำ (泄水型 /เซี่ยสุ่ยสิง หรือ 沉箭漏 / เฉินเจี้ยนโล่ว): นี่เป็นแบบแรกเริ่มของนาฬิกาหยดน้ำในจีน โดยหลักการคือใช้โถปล่อยน้ำที่มีท่อเล็กระบายน้ำที่ส่วนล่าง ฝาโถมีรูให้เสียบก้านไม้ที่มีเส้นขีดบอกเวลาเพื่อว่าก้านไม้จะได้ไม่เอียง ด้านล่างของก้านไม้ยึดอยู่บนถาดที่ลอยอยู่ในโถ (ดูรูปประกอบ) เมื่อน้ำค่อยๆ หยดระบายออก ก้านไม้ในโถก็จะค่อยๆ ลดระดับ เมื่อมองจากด้านนอกก็จะเห็นว่าขีดบอกเวลาอยู่ที่ระดับใด โบราณวัตถุที่เก่าแก่ที่สุดที่เคยค้นพบเจอนั้นเป็นของสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (ปี 202 ก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 008) ข้อเสียของนาฬิกาหยดน้ำแบบระบายน้ำนี้ก็คือ ความช้าเร็วในการหยดของน้ำจะแตกต่างกันเมื่อระดับปริมาณน้ำในโถที่ลดลง เป็นเรื่องของแรงดันน้ำอันเกิดจากแรงโน้มถ่วงของโลก คือน้ำในโถปล่อยยิ่งมาก แรงดันยิ่งสูง ก็จะยิ่งหยดเร็ว 2. แบบสะสมน้ำ (受水型 /โซ่วสุ่ยสิง หรือ 浮箭漏/ฝูเจี้ยนโล่ว): ว่ากันว่านาฬิกาแบบนี้มีมาแต่สมัยฮั่นตะวันตกในช่วงปลายราชวงศ์ โดยหลักการคือเอาก้านไม้ที่บอกเวลาไปลอยไว้ในโถหรืออ่างรับน้ำที่วางอยู่ข้างล่าง เมื่อโถรับน้ำมีปริมาณน้ำสะสมมากขึ้นก็จะดันให้ก้านไม้ค่อยๆ ลอยสูงขึ้นพ้นขอบ ก็จะเห็นว่าขีดบอกเวลาอยู่ที่ขีดเวลาใด (ดูรูปประกอบเพื่อเปรียบเทียบ) เป็นหลักการที่พยายามแก้ไขปัญหาความเพี้ยนของการบอกเวลา แต่... มันยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ดี ดังนั้น จึงเกิดเป็นแบบที่สามขึ้นมา 3. แบบขั้นบันได (阶梯式 /เจี้ยทีซึ): คือมีโถปล่อยน้ำเรียงหลายขั้นลดหลั่นกันลงมา แรกเริ่มคือเป็นโถปล่อยน้ำ 2 ขั้น มีใช้ในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ค.ศ. 25-220 ) ต่อมาเพิ่มโถปล่อยน้ำอีกหลาย ในราชวงศ์จิ้น (ค.ศ. 266-420) เป็นโถปล่อยน้ำ 3 ขั้น หลักการทำงานคือมีก้านไม้บอกเวลาลอยอยู่ในโถรับน้ำ (เหมือนแบบสะสมน้ำ) แต่ที่เพิ่มเติมคือมีการรักษาให้ปริมาตรของน้ำจากโถปล่อยน้ำมีความคงที่ด้วยการแบ่งเป็นหลายโถ โถขั้นกลางและล่างจะได้มีปริมาตรและแรงดันที่ค่อนข้างคงที่ ยิ่งจำนวนโถปล่อยน้ำขั้นกลางมีมากเท่าไหร่ น้ำที่หยดลงสู่อ่างรับน้ำก็จะยิ่งมีระยะห่างที่สม่ำเสมอ เป็นการสร้างเสถียรภาพในการบอกเวลาได้ดี แต่มันก็ยังไม่แม่นยำนัก ต่อมาในยุคหลังจึงเกิดนาฬิกากลไกขึ้นมา Storyฯ เล่าหลักการแบบง่ายๆ นะคะ แต่ในความเป็นจริงต้องมีการคำนวณอย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นความกว้างความสูงของทุกชิ้นส่วนของภาชนะ การตีเส้นบนก้านไม้ ตำแหน่งความสูงของหลอดปล่อยน้ำ ฯลฯ กลับมาที่นาฬิกาเรือนสวยลายนกเป็ดน้ำในซีรีส์ <เล่ห์รักวังคุนหนิง>... ที่ Storyฯ บอกว่ามันเป็นนาฬิกาหยดน้ำแบบขั้นบันไดก็เพราะว่ามีการรักษาปริมาตรของน้ำเพื่อให้น้ำหยดลงในระยะห่างที่คงที่ด้วยการใช้ถาดใบบัวมาขั้นนั่นเอง (ดูรูปประกอบ) แน่นอนว่ามันมีหน้าตาสวยงามกว่าต้นแบบที่ต้องใช้โถหลายใบวางเรียงกันแต่ก็คงแม่นยำไม่เท่าด้วย นาฬิกาหยดน้ำเป็นสิ่งประดิษฐ์ของจีนหรือว่าได้รับอิทธิพลมาจากทางตะวันตก? เรื่องนี้คำตอบไม่แน่ชัด บ้างบอกว่าได้รับอิทธิพลมาจากฝั่งตะวันตกเพราะดูจากหลักฐานโบราณวัตถุที่ค้นพบในจีนนั้นเป็นของยุคสมัยฮั่นตะวันตก แต่นาฬิกาหยดน้ำที่ใช้ในโลกตะวันตกมีต้นแบบมาจากสมัยบาบีโลนของอียิปต์ (ประมาณพันห้าร้อยปีก่อนคริสตกาล) เป็นแบบระบายน้ำเรียกว่า clepsydra โดยของฝั่งโลกตะวันตกไม่ได้ใช้ก้านไม้ขีดเส้นลอยอยู่ในน้ำ แต่เป็นการบากเส้นขึ้นในภาชนะและจะใช้เป็นภาชนะปากกว้างเช่นอ่างเพื่อให้เห็นเส้นขีดบอกเวลาภายใน แต่มีบางบทความอ้างอิงว่าในบันทึกโจวหลี่มีการเขียนไว้ว่า ในสมัยราชวงศ์ซางมีตำแหน่งข้าราชการที่เรียกว่า ‘เชี่ยหูซึ’ (挈壶氏) มีหน้าที่คอยดูเวลาที่นาฬิกาหยดน้ำ บ่งบอกว่านาฬิกาหยดน้ำมีใช้ในจีนโบราณมาตั้งแต่สี่พันปีที่แล้ว จริงๆ ในซีรีส์เรื่องนี้มีนาฬิกาโบราณแบบอื่นให้เห็นด้วย มีเพื่อนเพจท่านใดจำได้บ้างไหม? หมายเหตุ: แก้ไขรูปประกอบที่ผิดพลาดเมื่อวันที่ 17/5 เวลา 16.30น. นะคะ ขออภัยที่สร้างความสับสนมาก่อนหน้านี้ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://zhuanlan.zhihu.com/p/582597735 http://www.chinajl.com.cn/jiliangqiwu/57554.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://art.people.com.cn/n/2014/0521/c206244-25043967.html https://www.cctv.com/geography/news/20030514/7.html#:~:text=中国最早的漏壶,或“浮箭漏”。 https://zh.wikipedia.org/wiki/水鐘 http://m.cnwest.com/sxxw/a/2021/12/21/20176664.html #เล่ห์รักวังคุนหนิง #นาฬิกาโบราณ #นาฬิกาหยดน้ำ #โล่วหู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 364 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศจีนเป็นเผด็จการถึงขนาดที่จัดเวทีใหญ่เพื่อหาทางแก้ไขข้อร้องเรียนจากประชาชน! นั่นคือฟอรั่มปักกิ่ง 2024 เกี่ยวกับการตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อข้อร้องเรียนของประชาชน

    ทั้งนี้ปักกิ่งมีสายด่วน "12345" ซึ่งผู้คนสามารถโทรร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ได้แทบทุกเรื่อง เช่น หลุมบ่อ ขยะ อาชญากรรม เป็นต้น ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากจนมีนายกเทศมนตรีจากเอเธนส์และผู้ว่าเมืองอื่นๆ ทั่วโลกเข้าร่วมด้วย

    นี่เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ภายนอกประเทศจีนไม่เคยได้ยินมาก่อน: ในประเทศจีนจะมีหมายเลขโทรศัพท์ 12345 ซึ่งคุณสามารถกดได้จากทุกที่ในประเทศหากคุณมีคำถามหรือข้อร้องเรียนที่รัฐบาลท้องถิ่นสามารถตอบหรือแก้ไขได้

    พวกเขามีภาระผูกพันทางกฎหมายในการดำเนินการคดีของคุณและแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้น ตัวอย่างเช่น ในปี 2023 พวกเขาได้ดำเนินการคดีไปแล้ว 20 ล้านคดี โดยมีอัตราการแก้ไขปัญหาคดีได้ 95.5% ( beijing.gov.cn/hudong/jpzt/20… )

    การร้องเรียนที่พบบ่อยที่สุดครอบคลุมถึงปัญหาในชีวิตประจำวันมากมาย โดยปัญหาที่เรียกว่า "การจัดการตลาด" (เช่น ข้อพิพาททางการค้าออนไลน์) อยู่อันดับต้นๆ โดยมีจำนวน 3.66 ล้านกรณี รองลงมาคือปัญหาด้านสถาบันการศึกษา จำนวน 1.73 ล้านกรณี (ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการคืนเงินจากสถาบันการศึกษา) และปัญหาด้านที่อยู่อาศัย จำนวน 1.27 ล้านกรณี (ครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่สิ่งอำนวยความสะดวกในละแวกใกล้เคียงไปจนถึงการซ่อมแซมบ้าน)

    ฉันเคยใช้มันหลายครั้ง ครั้งหนึ่งคือตอนที่โรงเรียนในเซี่ยงไฮ้ปิดทำการในช่วงต้นปี 2020 เนื่องจากโควิด เพราะโรงเรียนอนุบาลของลูกสาวฉันไม่ต้องการคืนเงินค่าเล่าเรียนแม้ว่ารัฐบาลจะสั่งให้จ่ายก็ตาม

    เราถูกส่งต่อไปยังคณะกรรมการการศึกษาเซี่ยงไฮ้ ซึ่งรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวอย่างจริงจัง และพยายามไกล่เกลี่ยหาข้อยุติระหว่างเราและโรงเรียน โดยหมายเลข 12345 จะแนะนำคุณไปยังเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง และติดตามผลเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่จะพิจารณาคดีของคุณ

    สุดท้ายแล้วเราไม่ได้รับเงินคืนเพราะเป็นโรงเรียนนานาชาติซึ่งทางการการศึกษาเซี่ยงไฮ้ไม่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งตรงกันข้ามกับโรงเรียนในจีน แต่ไม่ใช่เพราะไม่พยายาม!

    อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ยังช่วยทำให้แนวคิดที่ว่าหน่วยงานต่างชาติได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีในจีนดูชัดเจนขึ้น ในกรณีนั้น โรงเรียนนานาชาติจึงมีความคล่องตัวและอิสระมากกว่าโรงเรียนในจีนมาก!

    เราใช้หมายเลข 12345 เป็นจำนวนมากเมื่อเดินทางไปประเทศจีนในช่วงที่มีการระบาดของโควิด เนื่องจากนโยบายเกี่ยวกับโควิดมักจำกัดเฉพาะในประเทศจีน เราจึงโทรไปที่หมายเลข 12345 ของจุดหมายปลายทางทั้งหมดที่เราเดินทางไประหว่างการเดินทาง เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์โควิดในพื้นที่

    พวกเขามีหน้าที่ตอบคำถามของเราและให้คำอธิบายที่ถูกต้องเกี่ยวกับนโยบายที่บังคับใช้ในพื้นที่นั้น ๆ เสมือนเป็นคำแนะนำทางกฎหมายฟรี คุณสามารถถามพวกเขาเกี่ยวกับกฎหมายหรือแนวนโยบายใด ๆ ที่บังคับใช้ในประเทศจีนก็ได้

    เท่าที่ฉันทราบ หมายเลข 12345 นี้มีความพิเศษมาก ในฝรั่งเศส หากฉันมีเรื่องร้องเรียนที่รัฐบาลสามารถแก้ไขได้ เช่น โรงเรียนที่จงใจไม่ปฏิบัติตามนโยบาย ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหน และฉันรู้ว่าปัญหาใดๆ ก็ตามอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีจึงจะได้รับการแก้ไข... ในจีน 12345 รวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ ไม่ว่าปัญหาจะเป็นอะไร คุณก็จะสามารถสรุปผลได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วันก็ได้ เรื่องเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับการสอบถามเกี่ยวกับนโยบายหรือกฎหมาย

    ในโลกตะวันตก "ไม่มีใครควรละเลยกฎหมาย" แต่คุณจะไปเรียนรู้กฎหมายได้ที่ไหน? โดยปกติแล้ว คุณจะต้องจ่ายเงินให้กับทนายความหรืออ่านกฎหมายที่คลุมเครือด้วยตัวเอง ซึ่งคนธรรมดาทั่วไปไม่มีทางเข้าใจได้ ในประเทศจีน คุณสามารถโทรไปที่หมายเลข 12345 เพื่อรับคำตอบเฉพาะสำหรับกรณีของคุณโดยตรงจากเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ง่ายและฟรีอย่างไม่สิ้นสุด!

    และโดยบังเอิญ มันยังช่วยให้รัฐบาลปรับปรุงได้แบบเรียลไทม์ในระดับที่ละเอียดมากด้วย: ถ้าพวกเขาเริ่มได้รับสายโทรศัพท์จำนวนมากเกี่ยวกับปัญหาใดปัญหาหนึ่ง พวกเขาก็จะได้รับรู้ถึงปัญหานั้นและแก้ไขปัญหานั้น

    นี่คือตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมของระดับความรับผิดชอบของรัฐบาลต่อประชาชนซึ่งไม่มีอยู่จริงในโลกตะวันตก ทำให้คุณไตร่ตรองถึงระบบการปกครองและว่าประชาธิปไตยเสรีนิยมในโลกตะวันตกได้แสดงพฤติกรรมมากเกินไปหรือไม่ - โดยยึดตามค่านิยมที่เป็นนามธรรม - เมื่อเทียบกับการปฏิบัติจริง
    ประเทศจีนเป็นเผด็จการถึงขนาดที่จัดเวทีใหญ่เพื่อหาทางแก้ไขข้อร้องเรียนจากประชาชน! นั่นคือฟอรั่มปักกิ่ง 2024 เกี่ยวกับการตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อข้อร้องเรียนของประชาชน ทั้งนี้ปักกิ่งมีสายด่วน "12345" ซึ่งผู้คนสามารถโทรร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ได้แทบทุกเรื่อง เช่น หลุมบ่อ ขยะ อาชญากรรม เป็นต้น ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากจนมีนายกเทศมนตรีจากเอเธนส์และผู้ว่าเมืองอื่นๆ ทั่วโลกเข้าร่วมด้วย นี่เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ภายนอกประเทศจีนไม่เคยได้ยินมาก่อน: ในประเทศจีนจะมีหมายเลขโทรศัพท์ 12345 ซึ่งคุณสามารถกดได้จากทุกที่ในประเทศหากคุณมีคำถามหรือข้อร้องเรียนที่รัฐบาลท้องถิ่นสามารถตอบหรือแก้ไขได้ พวกเขามีภาระผูกพันทางกฎหมายในการดำเนินการคดีของคุณและแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้น ตัวอย่างเช่น ในปี 2023 พวกเขาได้ดำเนินการคดีไปแล้ว 20 ล้านคดี โดยมีอัตราการแก้ไขปัญหาคดีได้ 95.5% ( beijing.gov.cn/hudong/jpzt/20… ) การร้องเรียนที่พบบ่อยที่สุดครอบคลุมถึงปัญหาในชีวิตประจำวันมากมาย โดยปัญหาที่เรียกว่า "การจัดการตลาด" (เช่น ข้อพิพาททางการค้าออนไลน์) อยู่อันดับต้นๆ โดยมีจำนวน 3.66 ล้านกรณี รองลงมาคือปัญหาด้านสถาบันการศึกษา จำนวน 1.73 ล้านกรณี (ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการคืนเงินจากสถาบันการศึกษา) และปัญหาด้านที่อยู่อาศัย จำนวน 1.27 ล้านกรณี (ครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่สิ่งอำนวยความสะดวกในละแวกใกล้เคียงไปจนถึงการซ่อมแซมบ้าน) ฉันเคยใช้มันหลายครั้ง ครั้งหนึ่งคือตอนที่โรงเรียนในเซี่ยงไฮ้ปิดทำการในช่วงต้นปี 2020 เนื่องจากโควิด เพราะโรงเรียนอนุบาลของลูกสาวฉันไม่ต้องการคืนเงินค่าเล่าเรียนแม้ว่ารัฐบาลจะสั่งให้จ่ายก็ตาม เราถูกส่งต่อไปยังคณะกรรมการการศึกษาเซี่ยงไฮ้ ซึ่งรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวอย่างจริงจัง และพยายามไกล่เกลี่ยหาข้อยุติระหว่างเราและโรงเรียน โดยหมายเลข 12345 จะแนะนำคุณไปยังเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง และติดตามผลเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่จะพิจารณาคดีของคุณ สุดท้ายแล้วเราไม่ได้รับเงินคืนเพราะเป็นโรงเรียนนานาชาติซึ่งทางการการศึกษาเซี่ยงไฮ้ไม่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งตรงกันข้ามกับโรงเรียนในจีน แต่ไม่ใช่เพราะไม่พยายาม! อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ยังช่วยทำให้แนวคิดที่ว่าหน่วยงานต่างชาติได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีในจีนดูชัดเจนขึ้น ในกรณีนั้น โรงเรียนนานาชาติจึงมีความคล่องตัวและอิสระมากกว่าโรงเรียนในจีนมาก! เราใช้หมายเลข 12345 เป็นจำนวนมากเมื่อเดินทางไปประเทศจีนในช่วงที่มีการระบาดของโควิด เนื่องจากนโยบายเกี่ยวกับโควิดมักจำกัดเฉพาะในประเทศจีน เราจึงโทรไปที่หมายเลข 12345 ของจุดหมายปลายทางทั้งหมดที่เราเดินทางไประหว่างการเดินทาง เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์โควิดในพื้นที่ พวกเขามีหน้าที่ตอบคำถามของเราและให้คำอธิบายที่ถูกต้องเกี่ยวกับนโยบายที่บังคับใช้ในพื้นที่นั้น ๆ เสมือนเป็นคำแนะนำทางกฎหมายฟรี คุณสามารถถามพวกเขาเกี่ยวกับกฎหมายหรือแนวนโยบายใด ๆ ที่บังคับใช้ในประเทศจีนก็ได้ เท่าที่ฉันทราบ หมายเลข 12345 นี้มีความพิเศษมาก ในฝรั่งเศส หากฉันมีเรื่องร้องเรียนที่รัฐบาลสามารถแก้ไขได้ เช่น โรงเรียนที่จงใจไม่ปฏิบัติตามนโยบาย ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหน และฉันรู้ว่าปัญหาใดๆ ก็ตามอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีจึงจะได้รับการแก้ไข... ในจีน 12345 รวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ ไม่ว่าปัญหาจะเป็นอะไร คุณก็จะสามารถสรุปผลได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วันก็ได้ เรื่องเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับการสอบถามเกี่ยวกับนโยบายหรือกฎหมาย ในโลกตะวันตก "ไม่มีใครควรละเลยกฎหมาย" แต่คุณจะไปเรียนรู้กฎหมายได้ที่ไหน? โดยปกติแล้ว คุณจะต้องจ่ายเงินให้กับทนายความหรืออ่านกฎหมายที่คลุมเครือด้วยตัวเอง ซึ่งคนธรรมดาทั่วไปไม่มีทางเข้าใจได้ ในประเทศจีน คุณสามารถโทรไปที่หมายเลข 12345 เพื่อรับคำตอบเฉพาะสำหรับกรณีของคุณโดยตรงจากเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ง่ายและฟรีอย่างไม่สิ้นสุด! และโดยบังเอิญ มันยังช่วยให้รัฐบาลปรับปรุงได้แบบเรียลไทม์ในระดับที่ละเอียดมากด้วย: ถ้าพวกเขาเริ่มได้รับสายโทรศัพท์จำนวนมากเกี่ยวกับปัญหาใดปัญหาหนึ่ง พวกเขาก็จะได้รับรู้ถึงปัญหานั้นและแก้ไขปัญหานั้น นี่คือตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมของระดับความรับผิดชอบของรัฐบาลต่อประชาชนซึ่งไม่มีอยู่จริงในโลกตะวันตก ทำให้คุณไตร่ตรองถึงระบบการปกครองและว่าประชาธิปไตยเสรีนิยมในโลกตะวันตกได้แสดงพฤติกรรมมากเกินไปหรือไม่ - โดยยึดตามค่านิยมที่เป็นนามธรรม - เมื่อเทียบกับการปฏิบัติจริง
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 483 มุมมอง 1 รีวิว
  • 17-12-67/01 : หมี CNN / "ROCK N ROLL" EP.90 ชื่อตอน "WHAT A WONDERFUL WORLD" ไอ้สัส! โลกสวยสัด ถึงต้องจัดหนัก! จอร์เจียส่อแตกแยก! ปชต.มิใช่เหรอ? ชนะเลือกตั้ง นายกขวาจัดขึ้น ปธน.ไม่ยอมรับ อ้างไม่บริสุทธิ์ หมดวาระ 29 ธันวานี้ ไม่ออก บ้านแตก! ชาวจอร์เจียแห่ออกมาด่ากราด ลงถนนนับหมื่น ดีออก! ต้องเป็นขี้ข้าเหี้ยมะกันเท่านั้นชิมิ? ถึงจะเป็น "ปชต.โคตรพ่องยิว" อีเอ๋อ..สุรางค์ วอนส้นตรีนเล่น มรึงเป็นใครฟ่ะ? เสือกทุกเรื่อง หากขี้ข้ายิวแพ้เลือกตั้ง มันส์ล่ะมรึง? งานนี้ "ยุโรปสปริงค์มาเต็มตรีน" อาหรับเอาคืนสาสมใจมรึงแน่? ด้านอีเบียร์ ก็ใช่น้อยหน้า ผู้นำขวาจัด ซัดกลางบ้องหูเหี้ย ประกาศชัด "จะมีนาโต้ไปเพื่อ?" ดูท่าตอนนี้ NATO สงคราม อเมริกา อิสราเอล อังกฤษ จะกลายเป็น "เสนียดจัญไรโลก" ไปเต็มตรีนซะแว๊ว!

    เป็นเรื่อง หลังอ.ปานเทพ ถูกขู่สั่งหยุดขุดเรื่องอีโม หลักฐานใหม่มาเพิ่มทันที ศาลเจ้าปลอมแถวนนท์งานเข้า รับงานเค้ามา โดนจัดหนัก ใครจ่าย ใครชง ใครจัดฉาก ใครปิดคดี โดนกันหมดทั้งองคาพยศ อะไรน่ะ อีเด สายเหลืองก็มีเอี่ยวเหรอ? เหี้ยสมคำเล่าลือจริง หลังชาวบ้านสุดทนกับพฤติกรรมอีกากีเสนียดแผ่นดิน เงินมาผ้าหลุด เงินถึงรอดหมด ฆ่าคนเรื่องเล็ก เงินไม่เล็กหากจ่ายหนักจริง 21 ตำหนวดถูกเช็คบิล ล่อกันทั้งขบวนการ ใครเขียนบท ใครกำกับ อี 5 ตัวบนเรือ รู้เหตุการณ์ทั้งหมด แต่พูดไม่ได้ ถูกสั่งเก็บทันที วิญญานอีโม เริ่มออกอาละวาดแล้วจ๊ะ เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย มรึงเตรียมรอชดใช้ได้เลย? งานนี้โยงไปถึงพรรคการเมืองหย่ายคับฟ้า ถึงได้ดิ้นกันกระแด่วกระแด่ว มันเป็นเรื่องของกรรม ยามที่แสงสาดส่องใครก็หนีกรรมไม่พ้น! ใหญ่แค่ไหนก็แค่ "ผงธุลีดิน" มรึงฆ่าเค้า ก็ต้องถูกเค้าฆ่ากลับ เช่นกัน สวดมนต์แผ่บุญกุศลตัดกรรมให้อีโมเยอะๆ มรึงเจ็บมามากแล้ว ชาติก่อนทำไว้เยอะ ชาตินี้ ได้ชดใช้กรรมหมดสิ้นแล้ว จากนี้ คือ "คิดบัญชี" ล้างบางเหี้ย

    ลุงสนธิมาเล่า BYD เตรียมออกไรเดอร์ไฟฟ้าวิ่ง 500 กม. ตายมั้ยล่ะมรึง? จ้าวตลาดไรเดอร์ทั่วโลก มีช็อค! มรึงเติมน้ำมัน 100 นึง วิ่งได้เท่าไหร่ งานนี้ ทั้งสัปดาห์ไม่ต้องเติม ไม่ต้องชาร์ตไฟบ่อย นี่ไง "กลเม็ดเชือดขี้ข้าเหี้ยของจีน" อียุ่นปี่โดนเต็มตรีน ตลาดไทยถูกตีแตกกระจุย ตลาดโลกแห่ย้ายค่าย ที่สำคัญไรเดอร์ไฟฟ้า ไม่มีควันพิษจ๊ะ เสียงก็ไม่บาดหู จะเสร็จอย่างเดียวคือ จมน้ำ(น้ำท่วมประจำ) อีกหน่อยคงมีไรเดอร์ดัดแปลงเหาะได้กันไปเลย จะมาชี้เป้าประเด็นนี้คือ จีนเริ่มเอานวตกรรมใหม่มาเปลี่ยนแปลงโลก ส่งสัญญานผู้คุมเกมส์เศรษฐกิจโลกตัวจริง เกือบ 10 ปี แล้วที่โลกตะวันตกไม่ได้ออกสิ่งประดิษฐ์อะไรใหม่ ดูได้จากจดสิทธิบัตรโลก จีนสร้างนวตกรรมใหม่มากที่สุดในโลก ครองสถิติ 60% ของแท้ ไม่พูดเยอะ ทุกสรรพสิ่งล้วนต้องใช้ชิปสั่งการ แปลว่า เทคโนโลยีจีน ทะลุ 3 นาโนไปแล้ว ขณะที่เหี้ยตะวันตกยังไปไม่ถึง 7 นาโนเลย มรึงเห็นความแตกต่างยัง? เอเซียครองโลกแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เมื่อปากท้องอิ่ม สมองมี ปัญญาเกิด ยุโรป อเมริกา แค่ "ขี้ตรีนเอเซีย" มันเป็นแบบนี้มานานแล้ว ที่ผ่านมาแค่ "โฆษณาหลอกควาย" ต้มเปื่อยควาย อะไรดีดีต้องตะวันตก แล้วรู้มั้ยว่า ตะวันตกใช้ของเอเซียมาเป็นชาติแล้ว มรึงแหกตาดูรอบตัวมรึงสิ?

    สงครามไม่ได้มีเฉพาะในสนามรบเท่านั้น เกมส์การเมืองโลกเปลี่ยนมือ อีผู้นำขี้ข้ายิวทั้งหลายล้มระเนระนาด ยุน ซอก ยอล มาครง โอลาฟ แม่แต่ อิชิบะ เก้าอี้หักกันหมด ขวาจัดคือไม่เอาเหี้ย กระแสแรงเกินต้าน ยิ่งใครถือนโยบายอียิว ไปหมดเกลี้ยง โลกไม่เลี้ยงไว้ทำพ่อง? ฝ่ายรัฐบาลขี้ข้ายิวเหี้ยไซออนนิสต์ถูกลากลงหลุม เหตุเพราะดันสงครามจนหน้ามืด ไม่มีจะแดร๊ก เป็นไปตามที่ปูตินคิด แผนยื้อลากยาว สร้างความเสียหายหนักให้ตะงันตกอย่างสาหัส เข้าหนาว สิ่งที่จะกระทืบซ้ำคือพลังงาน หมากกระดานนี้ คือ อย่าฆ่าเสียทีเดียว แค่เฉือนให้เลือดค่อยๆ ไหลออกจนหมดตัว นี่คือภาพที่เห็นชัดอยู่ตอนนี้ แปลว่า รัสเซีย จีน วางแผนมาฆ่าเหี้ย เปลี่ยนโลก ด้วยสงครามปากท้อง มากกว่าจะเน้นเปิดสมรภูมิรบไปทั่ว ปัจจัย 4 หากไม่มี สงครามก็ไปไม่รอด? อาวุธเต็มคลังแสง มีเอาไว้ "ปิดเกมส์" เท่านั้น ยิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า "รู้จักรอเป็น จะได้ชัยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด" เรื่องไต้หวัน เรื่องอลาสก้า ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ แผ่นดินแตก ก็ขายแดร๊กสิจ๊ะ?

    อีทรัมปป์รู้ตัว ก่อนเข้ารับตำแหน่งสาบานตน เป็นช่วงเวลาที่ต้องระวังตัวให้มากที่สุด เพราะ DEEP STATE มันจ้องตาเป็นมัน อุบัติเหตุการเมืองไม่มีอยู่จริง นอกจากใบสั่ง ใบเสร็จทั้งนั้น อีทรัมปป์ถึงได้เก็บตัวเงียบ รอได้อำนาจเต็มมือก่อน กูล่อมรึงแน่ อี DEEP STATE มันก็รู้ตัวว่า อำนาจเปลี่ยนมือ กระแสมาเต็ม แลนด์สไลค์แบบนี้ อีทรัมปป์ซัดไม่เลี้ยงแน่ อีเอ๋อไม่รอด อีลาไม่จบ เปลี่ยนกฎหมายชัวร์ อีตาเพนจะทำอย่างไรดีล่ะ อเมริกันแห่เทให้ทรัมปป์หมดหน้าตัก ขืนสวนกระแส งานนี้ "CIVIL WAR" จะมาเร็วกว่าที่คิด สงครามมีรอบทิศ ทั้งในบ้าน และนอกบ้าน อียุโรปก็เจ๊งหมดแล้ว มรึงไปเปิดสงครามการค้าจีนอีก จะเหลือใครมาซื้อของมรึงอีก? เท่ากับอีทรัมปป์จ้องจะปิดประเทศโดยนัยยะ ทำความสะอาดในบ้านก่อน จัดระเบียบใหม่ก่อน ไม่งั้น วังวนเดิมก็จะกลับมาไม่เปลี่ยน บทเรียนมันสอน ว่าควรทำอะไรก่อนหลัง?

    ปล.ทุกอย่างเป็นไปตามวัฎจักรจักรวาล มีขึ้นมีลง มีเข้า มีออก เมื่อแสงเข้ามา ความมืดมิดที่เคยมี ก็ต้องหายไป ทังเรื่องการเมือง ความเป็นอยู่ คดีความทั้งหลาย ขบวนการขายชาติ แก๊งต้มตุ๋น ไม่มีอะไรปิดบังแสงได้ มันคือการส่งสัญญานปรับโลกใหม่ คนในยุคนี้ ก็ต้องปรับตาม เมื่อความชั่วก่อเกิดจนเป็นความเคยชินในกลียุค ต่อไป แม้แต่เรื่องเล็กน้อย ก็จะกลายเป็นความผิดใหญ่หลวง เพราะสำนึกคนเริ่มกลับมา หลังจากกลายร่างเป็นสัดนรก เป็นควายกันเยอะ เพราะลาภ ยศ สรรเสริญ และเงินตรา จงมองโลกอย่างเป็นธรรม เมื่อมนุษย์เอาสิ่งปนเปื้อนใส่เข้าไปในโลก โลกก็จะตอบโต้ด้วยสิ่งที่สะอาดหมดจรด ความจริงเท่านั้น ที่จะล้างบางสิ่งโสมมออกได้ สำนึกคนจะกลับมา หาไม่ก็สิ้นโลกไป ใช่! กำลังจะบอกว่า หากโลกมันเยียวยา ศีลธรรมไม่มีอยู่ ผู้ปกครองโลกก็จะตัดสินใจทำลายมันทิ้งไปซะ ก็แค่ดาวเคราะห์ดวงนึงในระบบสุริยจักรวาล บางคนมองเป็นเรื่องไกลตัว แต่เมื่อมิติถูกยกขึ้นให้เทียบเคียงกัน ผู้สร้าง กับผู้ถูกสร้าง จะได้พบเจอกันในวันที่เหมาะสม วันที่เราปรับตัวเองเพื่อสอดรับกับคลื่นความถี่ที่ผู้สร้างมี นัยยะคือ ศีลเสมอกัน ถึงจะเจอกันได้ ไม่ว่าอะไรจะเลวร้ายแค่ไหน ก็แค่ช่วงนึงของกาลเวลา เราเป็นแค่ตัวละครฉากนึงในบทที่โลกถูกกำหนดมา มันคือห้องทดลองใหญ่ ที่เค้าดูเรามาโดยตลอด จิตคือสิ่งบ่งบอก ของการอยู่รอดของมวลมนุษยชาติ หากจิตต่ำตม ก้ไม่มีประโยชน์อะไรต่อผู้สร้างอีกต่อไป ศาสนาเป็นแค่เครื่องมือทดสอบมนุษย์ ว่าเชื่อฟังหรือไม่? จิตที่อิสระ ย่อมจะเดินไปหาสิ่งที่สูงกว่าเสมอ แต่จิตที่ถูกบงการ จะถูกนำไปเป็นทาสารับใช้ของฝ่ายมืด(ซาตาน) ไม่ต้องการจะบอกเรื่องอจินไตย แค่ชี้เป้าให้รู้ ว่าเราอยู่เพื่ออะไร? หากไม่มีประโยชน์ต่อโลก ต่อมวลมนุษยชาติ มรึงก็เท่ากับ "ปรสิต" ผู้สร้างเค้าเตรียมแผ่นดินให้สำหรับผู้ที่ถูกเลือกเท่านั้น ส่วนขยะ ก็ลงขุมนรกไป หรือไม่มีแผ่นดินให้อยู่ ไม่ว่าในภพหนก็ตาม?

    หมี CNN(ความตายไม่ใช่สิ่งสิ้นสุด มันเป็นแค่จุดเริ่มต้น ทำให้เรารู้ตัวเองว่าเป็นใคร มาจากไหน? เวียนวาย ตายเกิด มากี่ภพ กี่ชาติแล้ว จิตก็ยังอันเดิมไม่มีเปลี่ยน หยุดสร้างกรรมใหม่ ชดใช้กรรมเก่า บำเพ็ญเพียรภาวนา แผ่เมตตาให้ทุกสรรพสิ่ง ช่วยเหลือ แบ่งปัน มีเมตตา มีน้ำใจ ปล่อยวาง ใครทำได้ในกลียุค คือมรึงไม่ใช่คนอีกต่อไป สวรรค์รอมรึงอยู่ ไปมั้ยจ๊ะ?)
    17 ธันวาคม 67
    11.55 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    17-12-67/01 : หมี CNN / "ROCK N ROLL" EP.90 ชื่อตอน "WHAT A WONDERFUL WORLD" ไอ้สัส! โลกสวยสัด ถึงต้องจัดหนัก! จอร์เจียส่อแตกแยก! ปชต.มิใช่เหรอ? ชนะเลือกตั้ง นายกขวาจัดขึ้น ปธน.ไม่ยอมรับ อ้างไม่บริสุทธิ์ หมดวาระ 29 ธันวานี้ ไม่ออก บ้านแตก! ชาวจอร์เจียแห่ออกมาด่ากราด ลงถนนนับหมื่น ดีออก! ต้องเป็นขี้ข้าเหี้ยมะกันเท่านั้นชิมิ? ถึงจะเป็น "ปชต.โคตรพ่องยิว" อีเอ๋อ..สุรางค์ วอนส้นตรีนเล่น มรึงเป็นใครฟ่ะ? เสือกทุกเรื่อง หากขี้ข้ายิวแพ้เลือกตั้ง มันส์ล่ะมรึง? งานนี้ "ยุโรปสปริงค์มาเต็มตรีน" อาหรับเอาคืนสาสมใจมรึงแน่? ด้านอีเบียร์ ก็ใช่น้อยหน้า ผู้นำขวาจัด ซัดกลางบ้องหูเหี้ย ประกาศชัด "จะมีนาโต้ไปเพื่อ?" ดูท่าตอนนี้ NATO สงคราม อเมริกา อิสราเอล อังกฤษ จะกลายเป็น "เสนียดจัญไรโลก" ไปเต็มตรีนซะแว๊ว! เป็นเรื่อง หลังอ.ปานเทพ ถูกขู่สั่งหยุดขุดเรื่องอีโม หลักฐานใหม่มาเพิ่มทันที ศาลเจ้าปลอมแถวนนท์งานเข้า รับงานเค้ามา โดนจัดหนัก ใครจ่าย ใครชง ใครจัดฉาก ใครปิดคดี โดนกันหมดทั้งองคาพยศ อะไรน่ะ อีเด สายเหลืองก็มีเอี่ยวเหรอ? เหี้ยสมคำเล่าลือจริง หลังชาวบ้านสุดทนกับพฤติกรรมอีกากีเสนียดแผ่นดิน เงินมาผ้าหลุด เงินถึงรอดหมด ฆ่าคนเรื่องเล็ก เงินไม่เล็กหากจ่ายหนักจริง 21 ตำหนวดถูกเช็คบิล ล่อกันทั้งขบวนการ ใครเขียนบท ใครกำกับ อี 5 ตัวบนเรือ รู้เหตุการณ์ทั้งหมด แต่พูดไม่ได้ ถูกสั่งเก็บทันที วิญญานอีโม เริ่มออกอาละวาดแล้วจ๊ะ เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย มรึงเตรียมรอชดใช้ได้เลย? งานนี้โยงไปถึงพรรคการเมืองหย่ายคับฟ้า ถึงได้ดิ้นกันกระแด่วกระแด่ว มันเป็นเรื่องของกรรม ยามที่แสงสาดส่องใครก็หนีกรรมไม่พ้น! ใหญ่แค่ไหนก็แค่ "ผงธุลีดิน" มรึงฆ่าเค้า ก็ต้องถูกเค้าฆ่ากลับ เช่นกัน สวดมนต์แผ่บุญกุศลตัดกรรมให้อีโมเยอะๆ มรึงเจ็บมามากแล้ว ชาติก่อนทำไว้เยอะ ชาตินี้ ได้ชดใช้กรรมหมดสิ้นแล้ว จากนี้ คือ "คิดบัญชี" ล้างบางเหี้ย ลุงสนธิมาเล่า BYD เตรียมออกไรเดอร์ไฟฟ้าวิ่ง 500 กม. ตายมั้ยล่ะมรึง? จ้าวตลาดไรเดอร์ทั่วโลก มีช็อค! มรึงเติมน้ำมัน 100 นึง วิ่งได้เท่าไหร่ งานนี้ ทั้งสัปดาห์ไม่ต้องเติม ไม่ต้องชาร์ตไฟบ่อย นี่ไง "กลเม็ดเชือดขี้ข้าเหี้ยของจีน" อียุ่นปี่โดนเต็มตรีน ตลาดไทยถูกตีแตกกระจุย ตลาดโลกแห่ย้ายค่าย ที่สำคัญไรเดอร์ไฟฟ้า ไม่มีควันพิษจ๊ะ เสียงก็ไม่บาดหู จะเสร็จอย่างเดียวคือ จมน้ำ(น้ำท่วมประจำ) อีกหน่อยคงมีไรเดอร์ดัดแปลงเหาะได้กันไปเลย จะมาชี้เป้าประเด็นนี้คือ จีนเริ่มเอานวตกรรมใหม่มาเปลี่ยนแปลงโลก ส่งสัญญานผู้คุมเกมส์เศรษฐกิจโลกตัวจริง เกือบ 10 ปี แล้วที่โลกตะวันตกไม่ได้ออกสิ่งประดิษฐ์อะไรใหม่ ดูได้จากจดสิทธิบัตรโลก จีนสร้างนวตกรรมใหม่มากที่สุดในโลก ครองสถิติ 60% ของแท้ ไม่พูดเยอะ ทุกสรรพสิ่งล้วนต้องใช้ชิปสั่งการ แปลว่า เทคโนโลยีจีน ทะลุ 3 นาโนไปแล้ว ขณะที่เหี้ยตะวันตกยังไปไม่ถึง 7 นาโนเลย มรึงเห็นความแตกต่างยัง? เอเซียครองโลกแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เมื่อปากท้องอิ่ม สมองมี ปัญญาเกิด ยุโรป อเมริกา แค่ "ขี้ตรีนเอเซีย" มันเป็นแบบนี้มานานแล้ว ที่ผ่านมาแค่ "โฆษณาหลอกควาย" ต้มเปื่อยควาย อะไรดีดีต้องตะวันตก แล้วรู้มั้ยว่า ตะวันตกใช้ของเอเซียมาเป็นชาติแล้ว มรึงแหกตาดูรอบตัวมรึงสิ? สงครามไม่ได้มีเฉพาะในสนามรบเท่านั้น เกมส์การเมืองโลกเปลี่ยนมือ อีผู้นำขี้ข้ายิวทั้งหลายล้มระเนระนาด ยุน ซอก ยอล มาครง โอลาฟ แม่แต่ อิชิบะ เก้าอี้หักกันหมด ขวาจัดคือไม่เอาเหี้ย กระแสแรงเกินต้าน ยิ่งใครถือนโยบายอียิว ไปหมดเกลี้ยง โลกไม่เลี้ยงไว้ทำพ่อง? ฝ่ายรัฐบาลขี้ข้ายิวเหี้ยไซออนนิสต์ถูกลากลงหลุม เหตุเพราะดันสงครามจนหน้ามืด ไม่มีจะแดร๊ก เป็นไปตามที่ปูตินคิด แผนยื้อลากยาว สร้างความเสียหายหนักให้ตะงันตกอย่างสาหัส เข้าหนาว สิ่งที่จะกระทืบซ้ำคือพลังงาน หมากกระดานนี้ คือ อย่าฆ่าเสียทีเดียว แค่เฉือนให้เลือดค่อยๆ ไหลออกจนหมดตัว นี่คือภาพที่เห็นชัดอยู่ตอนนี้ แปลว่า รัสเซีย จีน วางแผนมาฆ่าเหี้ย เปลี่ยนโลก ด้วยสงครามปากท้อง มากกว่าจะเน้นเปิดสมรภูมิรบไปทั่ว ปัจจัย 4 หากไม่มี สงครามก็ไปไม่รอด? อาวุธเต็มคลังแสง มีเอาไว้ "ปิดเกมส์" เท่านั้น ยิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า "รู้จักรอเป็น จะได้ชัยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด" เรื่องไต้หวัน เรื่องอลาสก้า ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ แผ่นดินแตก ก็ขายแดร๊กสิจ๊ะ? อีทรัมปป์รู้ตัว ก่อนเข้ารับตำแหน่งสาบานตน เป็นช่วงเวลาที่ต้องระวังตัวให้มากที่สุด เพราะ DEEP STATE มันจ้องตาเป็นมัน อุบัติเหตุการเมืองไม่มีอยู่จริง นอกจากใบสั่ง ใบเสร็จทั้งนั้น อีทรัมปป์ถึงได้เก็บตัวเงียบ รอได้อำนาจเต็มมือก่อน กูล่อมรึงแน่ อี DEEP STATE มันก็รู้ตัวว่า อำนาจเปลี่ยนมือ กระแสมาเต็ม แลนด์สไลค์แบบนี้ อีทรัมปป์ซัดไม่เลี้ยงแน่ อีเอ๋อไม่รอด อีลาไม่จบ เปลี่ยนกฎหมายชัวร์ อีตาเพนจะทำอย่างไรดีล่ะ อเมริกันแห่เทให้ทรัมปป์หมดหน้าตัก ขืนสวนกระแส งานนี้ "CIVIL WAR" จะมาเร็วกว่าที่คิด สงครามมีรอบทิศ ทั้งในบ้าน และนอกบ้าน อียุโรปก็เจ๊งหมดแล้ว มรึงไปเปิดสงครามการค้าจีนอีก จะเหลือใครมาซื้อของมรึงอีก? เท่ากับอีทรัมปป์จ้องจะปิดประเทศโดยนัยยะ ทำความสะอาดในบ้านก่อน จัดระเบียบใหม่ก่อน ไม่งั้น วังวนเดิมก็จะกลับมาไม่เปลี่ยน บทเรียนมันสอน ว่าควรทำอะไรก่อนหลัง? ปล.ทุกอย่างเป็นไปตามวัฎจักรจักรวาล มีขึ้นมีลง มีเข้า มีออก เมื่อแสงเข้ามา ความมืดมิดที่เคยมี ก็ต้องหายไป ทังเรื่องการเมือง ความเป็นอยู่ คดีความทั้งหลาย ขบวนการขายชาติ แก๊งต้มตุ๋น ไม่มีอะไรปิดบังแสงได้ มันคือการส่งสัญญานปรับโลกใหม่ คนในยุคนี้ ก็ต้องปรับตาม เมื่อความชั่วก่อเกิดจนเป็นความเคยชินในกลียุค ต่อไป แม้แต่เรื่องเล็กน้อย ก็จะกลายเป็นความผิดใหญ่หลวง เพราะสำนึกคนเริ่มกลับมา หลังจากกลายร่างเป็นสัดนรก เป็นควายกันเยอะ เพราะลาภ ยศ สรรเสริญ และเงินตรา จงมองโลกอย่างเป็นธรรม เมื่อมนุษย์เอาสิ่งปนเปื้อนใส่เข้าไปในโลก โลกก็จะตอบโต้ด้วยสิ่งที่สะอาดหมดจรด ความจริงเท่านั้น ที่จะล้างบางสิ่งโสมมออกได้ สำนึกคนจะกลับมา หาไม่ก็สิ้นโลกไป ใช่! กำลังจะบอกว่า หากโลกมันเยียวยา ศีลธรรมไม่มีอยู่ ผู้ปกครองโลกก็จะตัดสินใจทำลายมันทิ้งไปซะ ก็แค่ดาวเคราะห์ดวงนึงในระบบสุริยจักรวาล บางคนมองเป็นเรื่องไกลตัว แต่เมื่อมิติถูกยกขึ้นให้เทียบเคียงกัน ผู้สร้าง กับผู้ถูกสร้าง จะได้พบเจอกันในวันที่เหมาะสม วันที่เราปรับตัวเองเพื่อสอดรับกับคลื่นความถี่ที่ผู้สร้างมี นัยยะคือ ศีลเสมอกัน ถึงจะเจอกันได้ ไม่ว่าอะไรจะเลวร้ายแค่ไหน ก็แค่ช่วงนึงของกาลเวลา เราเป็นแค่ตัวละครฉากนึงในบทที่โลกถูกกำหนดมา มันคือห้องทดลองใหญ่ ที่เค้าดูเรามาโดยตลอด จิตคือสิ่งบ่งบอก ของการอยู่รอดของมวลมนุษยชาติ หากจิตต่ำตม ก้ไม่มีประโยชน์อะไรต่อผู้สร้างอีกต่อไป ศาสนาเป็นแค่เครื่องมือทดสอบมนุษย์ ว่าเชื่อฟังหรือไม่? จิตที่อิสระ ย่อมจะเดินไปหาสิ่งที่สูงกว่าเสมอ แต่จิตที่ถูกบงการ จะถูกนำไปเป็นทาสารับใช้ของฝ่ายมืด(ซาตาน) ไม่ต้องการจะบอกเรื่องอจินไตย แค่ชี้เป้าให้รู้ ว่าเราอยู่เพื่ออะไร? หากไม่มีประโยชน์ต่อโลก ต่อมวลมนุษยชาติ มรึงก็เท่ากับ "ปรสิต" ผู้สร้างเค้าเตรียมแผ่นดินให้สำหรับผู้ที่ถูกเลือกเท่านั้น ส่วนขยะ ก็ลงขุมนรกไป หรือไม่มีแผ่นดินให้อยู่ ไม่ว่าในภพหนก็ตาม? หมี CNN(ความตายไม่ใช่สิ่งสิ้นสุด มันเป็นแค่จุดเริ่มต้น ทำให้เรารู้ตัวเองว่าเป็นใคร มาจากไหน? เวียนวาย ตายเกิด มากี่ภพ กี่ชาติแล้ว จิตก็ยังอันเดิมไม่มีเปลี่ยน หยุดสร้างกรรมใหม่ ชดใช้กรรมเก่า บำเพ็ญเพียรภาวนา แผ่เมตตาให้ทุกสรรพสิ่ง ช่วยเหลือ แบ่งปัน มีเมตตา มีน้ำใจ ปล่อยวาง ใครทำได้ในกลียุค คือมรึงไม่ใช่คนอีกต่อไป สวรรค์รอมรึงอยู่ ไปมั้ยจ๊ะ?) 17 ธันวาคม 67 11.55 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 713 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลประกาศโจมตีทางอากาศเล่นงานคลังอาวุธหนักในซีเรียต่อ รวมทั้งคงกำลังทหารภาคพื้นดินใน “จำนวนจำกัด” เข้าเขตปลอดทหารในซีเรีย โดยอ้างว่าเพื่อสกัดกั้นภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในช่วงสุญญากาศหลังรัฐบาลอัสซาดถูกโค่นล้ม ขณะที่ในอีกด้านหนึ่งทำเนียบเครมลินยืนยันว่า ปูตินไฟเขียวอดีตผู้นำซีเรียลี้ภัยทางการเมืองในรัสเซีย
    .
    สำหรับบรรยากาศในกรุงดามัสกัสของซีเรียตอนเช้าวันจันทร์ (9 ธ.ค.) พวกผู้สื่อข่าวรายงานว่าค่อนข้างเงียบสงบ หลังกลุ่มกบฏประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกนอกบ้านยามวิกาลในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา โดยที่ร้านรวงส่วนใหญ่ปิดและถนนว่างเปล่า มีเพียงสมาชิกกลุ่มกบฏและรถที่ติดป้ายทะเบียนเมืองอิดลิบ ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือและเป็นที่มั่นสำคัญของพวกกบฏที่นำโดยกลุ่ม ฮายัต ตอห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) ซึ่งเปิดฉากบุกสายฟ้าแลบเมื่อ 12 วันก่อน จากเมืองอะเลปโป ที่อยู่ทางตอนเหนือของซีเรีย จนสามารถบุกเข้าสู่ดามัสกัส ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ และโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เมื่อวันอาทิตย์ (8)
    .
    ชัยชนะดังกล่าวนับเป็นการปิดฉากการปกครองแบบเผด็จการรวบอำนาจของตระกูลอัสซาดที่ดำเนินต่อเนื่องมากว่าครึ่งศตวรรษ รวมทั้งสงครามกลางเมืองที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เมื่อ 13 ปีก่อนซึ่งสร้างความเสียหายไปทั่วประเทศ คร่าชีวิตผู้คนนับแสน และนำไปสู่หนึ่งในวิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดในยุคสมัยใหม่
    .
    อบู โมฮัมเหม็ด อัล-กอลานี ผู้นำของเอชทีเอส ประกาศต่อหน้าฝูงชนที่ออกมาร่วมเฉลิมฉลองการโค่นล้มระบอบปกครองอัสซาด ที่มัสยิดอุมัยยัด ในดามัสกัสเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะฟื้นฟูและสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้แก่ซีเรีย และทำให้ซีเรียเป็นแรงบันดาลใจสำหรับประเทศอิสลาม
    .
    อย่างไรก็ดี เอชทีเอสซึ่งเป็นแกนนำของแนวร่วมกลุ่มกบฏบุกเข้าตึดามัสกัสสำเร็จคราวนี้ เดิมทีมีชื่อว่าอัล นุสรา ฟรอนต์ ที่เป็นเครือข่ายของอัลกออิดะห์ และถึงแม้ กอลานีได้ประกาศสะบั้นสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้ายชื่อดังกลุ่มนี้ตั้งแต่เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ทว่าจนถึงเวลานี้ยังคงถูกยูเอ็นตลอดจนประเทศส่วนใหญ่ประทับตราว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย ดังนั้นอนาคตของซีเรียจะเป็นอย่างไรต่อไป ยังเป็นที่จับตามองกันด้วยความระแวดระวังทั้งจากชาติเพื่อนบ้านในตะวันออกกลาง และจากโลกตะวันตก
    .
    ขณะเดียวกัน อิสราเอลซึ่งมีชายแดนติดต่อกับซีเรีย รวมทั้งได้เข้ายึดครองที่ราบสูงโกลาน และต่อมาก็ประกาศผนวกดินแดนแห่งนี้เป็นของตน ถึงแม้ไม่เป็นที่รับรองของนานาชาติ ก็เฝ้ามองวิกฤตการณ์ในซีเรียด้วยความหวังระคนความกังวล สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างพลิกผันรวดเร็วครั้งนี้ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญที่สุดในตะวันออกกลางในรอบหลายปีที่ผ่านมา
    .
    ถึงแม้การที่ซีเรียหลุดจากอำนาจของอัสซาด ได้ช่วยทำลายป้อมปราการสำคัญแห่งหนึ่งที่อิหร่าน ศัตรูตัวกลั่นของอิสราเอล ใช้ในการขยายอิทธิพลในตะวันออกกลาง ทว่า ชัยชนะของกลุ่มกบฏที่แกนนำมีรากเหง้ามาจากกลุ่มก่อการร้ายอิสลามิสต์ ซึ่งถือเป็นศัตรูตัวฉกาจของอิสราเอล ก็นำมาซึ่งความเสี่ยงสำคัญ
    .
    รัฐมนตรีกลาโหม อิสราเอล แคตซ์ ของรัฐยิว เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ ว่า กองทัพอิสราเอลจะเข้าทำลายอาวุธหนักเชิงยุทธศาสตร์ในตลอดทั่วซีเรีย โดยรวมถึงพวกขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นสู่อากาศ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นสู่ภาคพื้น ขีปนาวุธร่อน จรวดยุทธวิธีพิสัยไกล ขีปนาวุธที่ติดตั้งตามแนวชายฝั่ง และอาวุธเคมี
    .
    เจ้าหน้าที่อาวุโสอิสราเอลคนหนึ่งระบุว่า จะมีการโจมตีทางอากาศต่อเนื่องอีกหลายวัน ขณะที่ กีเดียน ซาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศบอกว่า อิสราเอลไม่ต้องการแทรกแซงการเมืองภายในของซีเรีย แต่ต้องการเพียงปกป้องประชาชนของตน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องทำลายอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ในซีเรียเพื่อไม่ให้ไปตกอยู่ในมือของกลุ่มลัทธิสุดโต่ง แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดว่า อิสราเอลโจมตีที่ไหนและเมื่อใด
    .
    นอกจากนั้น มีรายงานว่าเมื่อวันอาทิตย์ (8) กองทัพอิสราเอลยังส่งกำลังภาคพื้นดินเข้าสู่เขตปลอดทหารในซีเรีย ซึ่งเป็นพื้นที่กันชนขนาด 400 ตารางกิโลเมตรที่ตั้งขึ้นตามข้อตกลงแบ่งแยกกองกำลังปี 1974 ที่มุ่งแบ่งแยกกำลังของอิสราเอลและซีเรียให้ห่างจากกัน แล้วให้กองกำลังสังเกตการณ์การยุติการสู้รบขัดแย้งของสหประชาชาติเป็นผู้เข้าไปควบคุมดูแล
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวกับพวกผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า อนาคตของฐานทัพรัสเซียที่ตั้งอยู่ในซีเรียจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่แน่นอนว่า สิ่งที่ต้องทำคือติดต่อกับผู้มีอำนาจด้านความมั่นคงในซีเรีย นอกจากนั้น กองทัพรัสเซียยังกำลังดำเนินมาตรการป้องกันไว้ก่อนที่จำเป็นทั้งหมด
    .
    รัสเซียซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญของอัสซาด มีฐานทัพอากาศฮไมมิม ตั้งอยู่ในจังหวัดลาตาเกีย รวมทั้งมีฐานทัพเรือที่จังหวัดทาร์ตัสของซีเรีย และมีโรงงานในทาร์ตัส ซึ่งเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงและเติมเสบียงเพียงแห่งเดียวของรัสเซียในทะลเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากนั้นที่ผ่านมารัสเซียยังใช้ซีเรียเป็นจุดแวะพัก ในการขนส่งพวกผู้รับเหมาด้านกลาโหมเดินทางเข้าและออกจากแอฟริกา
    .
    เปสคอฟยังยืนยันว่า อัสซาดได้รับอนุญาตจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ให้ลี้ภัยในรัสเซีย ทว่าไม่ยอมตอบว่าตอนนี้อัสซาดอยู่ที่ไหน บอกเพียงว่า ยังไม่มีกำหนดการการพบกันระหว่างปูตินกับอัสซาดในขณะนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118429
    ..............
    Sondhi X
    อิสราเอลประกาศโจมตีทางอากาศเล่นงานคลังอาวุธหนักในซีเรียต่อ รวมทั้งคงกำลังทหารภาคพื้นดินใน “จำนวนจำกัด” เข้าเขตปลอดทหารในซีเรีย โดยอ้างว่าเพื่อสกัดกั้นภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในช่วงสุญญากาศหลังรัฐบาลอัสซาดถูกโค่นล้ม ขณะที่ในอีกด้านหนึ่งทำเนียบเครมลินยืนยันว่า ปูตินไฟเขียวอดีตผู้นำซีเรียลี้ภัยทางการเมืองในรัสเซีย . สำหรับบรรยากาศในกรุงดามัสกัสของซีเรียตอนเช้าวันจันทร์ (9 ธ.ค.) พวกผู้สื่อข่าวรายงานว่าค่อนข้างเงียบสงบ หลังกลุ่มกบฏประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกนอกบ้านยามวิกาลในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา โดยที่ร้านรวงส่วนใหญ่ปิดและถนนว่างเปล่า มีเพียงสมาชิกกลุ่มกบฏและรถที่ติดป้ายทะเบียนเมืองอิดลิบ ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือและเป็นที่มั่นสำคัญของพวกกบฏที่นำโดยกลุ่ม ฮายัต ตอห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) ซึ่งเปิดฉากบุกสายฟ้าแลบเมื่อ 12 วันก่อน จากเมืองอะเลปโป ที่อยู่ทางตอนเหนือของซีเรีย จนสามารถบุกเข้าสู่ดามัสกัส ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ และโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เมื่อวันอาทิตย์ (8) . ชัยชนะดังกล่าวนับเป็นการปิดฉากการปกครองแบบเผด็จการรวบอำนาจของตระกูลอัสซาดที่ดำเนินต่อเนื่องมากว่าครึ่งศตวรรษ รวมทั้งสงครามกลางเมืองที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เมื่อ 13 ปีก่อนซึ่งสร้างความเสียหายไปทั่วประเทศ คร่าชีวิตผู้คนนับแสน และนำไปสู่หนึ่งในวิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดในยุคสมัยใหม่ . อบู โมฮัมเหม็ด อัล-กอลานี ผู้นำของเอชทีเอส ประกาศต่อหน้าฝูงชนที่ออกมาร่วมเฉลิมฉลองการโค่นล้มระบอบปกครองอัสซาด ที่มัสยิดอุมัยยัด ในดามัสกัสเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะฟื้นฟูและสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้แก่ซีเรีย และทำให้ซีเรียเป็นแรงบันดาลใจสำหรับประเทศอิสลาม . อย่างไรก็ดี เอชทีเอสซึ่งเป็นแกนนำของแนวร่วมกลุ่มกบฏบุกเข้าตึดามัสกัสสำเร็จคราวนี้ เดิมทีมีชื่อว่าอัล นุสรา ฟรอนต์ ที่เป็นเครือข่ายของอัลกออิดะห์ และถึงแม้ กอลานีได้ประกาศสะบั้นสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้ายชื่อดังกลุ่มนี้ตั้งแต่เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ทว่าจนถึงเวลานี้ยังคงถูกยูเอ็นตลอดจนประเทศส่วนใหญ่ประทับตราว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย ดังนั้นอนาคตของซีเรียจะเป็นอย่างไรต่อไป ยังเป็นที่จับตามองกันด้วยความระแวดระวังทั้งจากชาติเพื่อนบ้านในตะวันออกกลาง และจากโลกตะวันตก . ขณะเดียวกัน อิสราเอลซึ่งมีชายแดนติดต่อกับซีเรีย รวมทั้งได้เข้ายึดครองที่ราบสูงโกลาน และต่อมาก็ประกาศผนวกดินแดนแห่งนี้เป็นของตน ถึงแม้ไม่เป็นที่รับรองของนานาชาติ ก็เฝ้ามองวิกฤตการณ์ในซีเรียด้วยความหวังระคนความกังวล สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างพลิกผันรวดเร็วครั้งนี้ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญที่สุดในตะวันออกกลางในรอบหลายปีที่ผ่านมา . ถึงแม้การที่ซีเรียหลุดจากอำนาจของอัสซาด ได้ช่วยทำลายป้อมปราการสำคัญแห่งหนึ่งที่อิหร่าน ศัตรูตัวกลั่นของอิสราเอล ใช้ในการขยายอิทธิพลในตะวันออกกลาง ทว่า ชัยชนะของกลุ่มกบฏที่แกนนำมีรากเหง้ามาจากกลุ่มก่อการร้ายอิสลามิสต์ ซึ่งถือเป็นศัตรูตัวฉกาจของอิสราเอล ก็นำมาซึ่งความเสี่ยงสำคัญ . รัฐมนตรีกลาโหม อิสราเอล แคตซ์ ของรัฐยิว เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ ว่า กองทัพอิสราเอลจะเข้าทำลายอาวุธหนักเชิงยุทธศาสตร์ในตลอดทั่วซีเรีย โดยรวมถึงพวกขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นสู่อากาศ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นสู่ภาคพื้น ขีปนาวุธร่อน จรวดยุทธวิธีพิสัยไกล ขีปนาวุธที่ติดตั้งตามแนวชายฝั่ง และอาวุธเคมี . เจ้าหน้าที่อาวุโสอิสราเอลคนหนึ่งระบุว่า จะมีการโจมตีทางอากาศต่อเนื่องอีกหลายวัน ขณะที่ กีเดียน ซาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศบอกว่า อิสราเอลไม่ต้องการแทรกแซงการเมืองภายในของซีเรีย แต่ต้องการเพียงปกป้องประชาชนของตน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องทำลายอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ในซีเรียเพื่อไม่ให้ไปตกอยู่ในมือของกลุ่มลัทธิสุดโต่ง แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดว่า อิสราเอลโจมตีที่ไหนและเมื่อใด . นอกจากนั้น มีรายงานว่าเมื่อวันอาทิตย์ (8) กองทัพอิสราเอลยังส่งกำลังภาคพื้นดินเข้าสู่เขตปลอดทหารในซีเรีย ซึ่งเป็นพื้นที่กันชนขนาด 400 ตารางกิโลเมตรที่ตั้งขึ้นตามข้อตกลงแบ่งแยกกองกำลังปี 1974 ที่มุ่งแบ่งแยกกำลังของอิสราเอลและซีเรียให้ห่างจากกัน แล้วให้กองกำลังสังเกตการณ์การยุติการสู้รบขัดแย้งของสหประชาชาติเป็นผู้เข้าไปควบคุมดูแล . ในอีกด้านหนึ่ง ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวกับพวกผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า อนาคตของฐานทัพรัสเซียที่ตั้งอยู่ในซีเรียจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่แน่นอนว่า สิ่งที่ต้องทำคือติดต่อกับผู้มีอำนาจด้านความมั่นคงในซีเรีย นอกจากนั้น กองทัพรัสเซียยังกำลังดำเนินมาตรการป้องกันไว้ก่อนที่จำเป็นทั้งหมด . รัสเซียซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญของอัสซาด มีฐานทัพอากาศฮไมมิม ตั้งอยู่ในจังหวัดลาตาเกีย รวมทั้งมีฐานทัพเรือที่จังหวัดทาร์ตัสของซีเรีย และมีโรงงานในทาร์ตัส ซึ่งเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงและเติมเสบียงเพียงแห่งเดียวของรัสเซียในทะลเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากนั้นที่ผ่านมารัสเซียยังใช้ซีเรียเป็นจุดแวะพัก ในการขนส่งพวกผู้รับเหมาด้านกลาโหมเดินทางเข้าและออกจากแอฟริกา . เปสคอฟยังยืนยันว่า อัสซาดได้รับอนุญาตจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ให้ลี้ภัยในรัสเซีย ทว่าไม่ยอมตอบว่าตอนนี้อัสซาดอยู่ที่ไหน บอกเพียงว่า ยังไม่มีกำหนดการการพบกันระหว่างปูตินกับอัสซาดในขณะนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118429 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 867 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇺🇸🇷🇺 ทักเกอร์ คาร์ลสัน เผยแพร่บทสัมภาษณ์กับ เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย
    .
    JUST IN: 🇺🇸🇷🇺 Tucker Carlson releases interview with Russian Foreign Minister Sergey Lavrov.
    .
    From Tucker Carlson
    5:55 AM · Dec 6, 2024 · 96.2K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1864805770002309172
    .
    รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียที่ดำรงตำแหน่งมายาวนาน ได้อธิบายถึงสงครามกับสหรัฐอเมริกาและวิธีการยุติสงคราม

    (0:00) สหรัฐอเมริกาอยู่ในภาวะสงครามกับรัสเซียหรือไม่?
    (12:56) ข้อความของรัสเซียถึงโลกตะวันตกผ่านอาวุธความเร็วเหนือเสียง
    (17:47) มีการพูดคุยกันระหว่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกาหรือไม่?
    (23:18) มีผู้เสียชีวิตกี่คนในสงครามยูเครน/รัสเซีย?
    (28:21) จะต้องทำอย่างไรจึงจะยุติสงครามได้?
    (36:11) เกิดอะไรขึ้นกับ อเล็กซี นาวัลนี?
    (39:45) บอริส จอห์นสัน ต้องการให้สงครามดำเนินต่อไป
    (45:43) การคว่ำบาตรรัสเซีย
    (56:31) พันธมิตรจีน/รัสเซีย
    (1:02:18) ใครเป็นผู้ตัดสินใจด้านนโยบายต่างประเทศในสหรัฐฯ?
    (1:05:05) ไบเดนผลักดันสหรัฐฯสู่สงครามนิวเคลียร์ ก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง
    (1:08:52) เกิดอะไรขึ้นในซีเรีย?
    (1:13:08) ความคิดของลาฟรอฟเกี่ยวกับทรัมป์
    .
    Russia’s longtime foreign minister describes the war with the United States and how to end it.

    (0:00) Is the US at War With Russia?
    (12:56) Russia’s Message to the West Through Hypersonic Weapons
    (17:47) Is There Conversation Happening Between Russia and the US?
    (23:18) How Many Have Died in the Ukraine/Russia War?
    (28:21) What Would It Take To End the War?
    (36:11) What Happened to Alexei Navalny?
    (39:45) Boris Johnson Wants the War to Continue
    (45:43) Sanctions on Russia
    (56:31) The Chinese/Russian Alliance
    (1:02:18) Who Is Making Foreign Policy Decisions in the US?
    (1:05:05) Biden Pushes the US Toward Nuclear War Before Trump Takes Office
    (1:08:52) What’s Happening in Syria?
    (1:13:08) Lavrov’s Thoughts on Trump
    .
    5:48 AM · Dec 6, 2024 · 971.2K Views
    https://x.com/TuckerCarlson/status/1864804141735842253
    🇺🇸🇷🇺 ทักเกอร์ คาร์ลสัน เผยแพร่บทสัมภาษณ์กับ เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย . JUST IN: 🇺🇸🇷🇺 Tucker Carlson releases interview with Russian Foreign Minister Sergey Lavrov. . From Tucker Carlson 5:55 AM · Dec 6, 2024 · 96.2K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1864805770002309172 . รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียที่ดำรงตำแหน่งมายาวนาน ได้อธิบายถึงสงครามกับสหรัฐอเมริกาและวิธีการยุติสงคราม (0:00) สหรัฐอเมริกาอยู่ในภาวะสงครามกับรัสเซียหรือไม่? (12:56) ข้อความของรัสเซียถึงโลกตะวันตกผ่านอาวุธความเร็วเหนือเสียง (17:47) มีการพูดคุยกันระหว่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกาหรือไม่? (23:18) มีผู้เสียชีวิตกี่คนในสงครามยูเครน/รัสเซีย? (28:21) จะต้องทำอย่างไรจึงจะยุติสงครามได้? (36:11) เกิดอะไรขึ้นกับ อเล็กซี นาวัลนี? (39:45) บอริส จอห์นสัน ต้องการให้สงครามดำเนินต่อไป (45:43) การคว่ำบาตรรัสเซีย (56:31) พันธมิตรจีน/รัสเซีย (1:02:18) ใครเป็นผู้ตัดสินใจด้านนโยบายต่างประเทศในสหรัฐฯ? (1:05:05) ไบเดนผลักดันสหรัฐฯสู่สงครามนิวเคลียร์ ก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง (1:08:52) เกิดอะไรขึ้นในซีเรีย? (1:13:08) ความคิดของลาฟรอฟเกี่ยวกับทรัมป์ . Russia’s longtime foreign minister describes the war with the United States and how to end it. (0:00) Is the US at War With Russia? (12:56) Russia’s Message to the West Through Hypersonic Weapons (17:47) Is There Conversation Happening Between Russia and the US? (23:18) How Many Have Died in the Ukraine/Russia War? (28:21) What Would It Take To End the War? (36:11) What Happened to Alexei Navalny? (39:45) Boris Johnson Wants the War to Continue (45:43) Sanctions on Russia (56:31) The Chinese/Russian Alliance (1:02:18) Who Is Making Foreign Policy Decisions in the US? (1:05:05) Biden Pushes the US Toward Nuclear War Before Trump Takes Office (1:08:52) What’s Happening in Syria? (1:13:08) Lavrov’s Thoughts on Trump . 5:48 AM · Dec 6, 2024 · 971.2K Views https://x.com/TuckerCarlson/status/1864804141735842253
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 621 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • ปักกิ่งสวนกลับทันควัน ประกาศจำกัดการส่งออกแร่ธาตุที่มีความสำคัญในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์บางรายการให้อเมริกา หลังจากเมื่อวันจันทร์ (2) วอชิงตันออกมาตรการสกัดอุตสาหกรรมชิปจีนรอบ 3 ซึ่งจะมีการควบคุมการส่งออกไปยังบริษัทแดนมังกร 140 แห่ง
    .
    คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เดินหมากใหญ่กระดานสุดท้ายในวันจันทร์ เพื่อปิดกั้นจีนไม่ให้เข้าถึงและผลิตชิปที่จะช่วยส่งเสริมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) โดยอ้างว่าอาจถูกนำไปใช้งานทางทหารหรือคุกคามความมั่นคงของอเมริกา
    .
    คำสั่งใหม่คราวนี้ยังเกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ก็เป็นที่คาดหมายกันว่า เขาจะยังคงสานต่อมาตรการแข็งกร้าวกับปักกิ่ง
    .
    สำหรับมาตรการรอบล่าสุดของสหรัฐฯ มุ่งครอบคลุมทั้งการจำกัดการจัดส่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปยังจีน ได้แก่ ชิปหน่วยความจำแบนด์วิดธ์สูงที่จำเป็นสำหรับการใช้งานระดับไฮเอนด์อย่างเช่นการฝึกเครื่องจักรเอไอ เครื่องจักรเครื่องมือผลิตชิปอีก 24 รายการ และเครื่องมือด้านซอฟต์แวร์ 3 รายการ และการจำกัดการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปที่ผลิตในประเทศ เช่น สิงคโปร์และมาเลเซีย
    .
    จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์จีน แถลงว่า มาตรการนี้มีเป้าหมายในการป้องกันไม่ให้จีนสามารถส่งเสริมระบบการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในแดนมังกร ซึ่งจะนำไปใช้สนับสนุนการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย
    .
    สำหรับบริษัทจีนที่จะได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดรอบใหม่คราวนี้ ประกอบด้วยบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์เกือบ 24 แห่ง บริษัทด้านการลงทุน 2 แห่ง และพวกผู้ผลิตเครื่องจักรเครื่องมือผลิตชิปกว่า 100 แห่ง เช่น สเวย์ชัวร์ เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำงานร่วมกับหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ที่ถูกอเมริกาแซงก์ชันและขณะนี้มีบทบาทสำคัญในการผลิตและพัฒนาชิปขั้นสูงของจีน
    .
    บริษัทเหล่านี้จะถูกขึ้นบัญชีดำใน entity list หรือรายชื่อบริษัทที่รัฐบาลอเมริกามองว่า มีอันตรายต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ซึ่งซัปพลายเออร์อเมริกันจะไม่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งผลิตภัณฑ์ให้โดยไม่ได้รับใบอนุญาตพิเศษ
    .
    ยิ่งไปกว่านั้น มาตรการล่าสุดคราวนี้ยังมีการขยายอำนาจของอเมริกาในการควบคุมการส่งออกเครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตชิปของพวกผู้ผลิตอเมริกัน ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ ที่ทำการผลิตในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกและจัดส่งไปห้โรงงานชิปบางแห่งในจีน โดยการควบคุมเช่นนี้จะส่งผลต่อเครื่องจักรอุปกรณ์ที่ผลิตในอิสราเอล มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน ขณะที่อุปกรณ์ที่ผลิตในญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ได้รับการยกเว้น
    .
    มาตรการชุดใหม่นี้มีระเบียบจำกัดชิปความจำที่ใช้ในชิปเอไอซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี HBM 2 หรือสูงกว่า อันเป็นเทคโนโลยีที่ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และเอสเค ไฮนิกซ์ของเกาหลีใต้ และไมครอนของอเมริกาใช้อยู่
    .
    สำหรับปฏิกิริยาตอบโต้จากฝ่ายจีน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า พฤติกรรมของอเมริกาบ่อนทำลายระเบียบการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และขัดขวางห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ก่อนสำทับว่า จีนจะดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของบริษัทท้องถิ่น
    .
    ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนโจมตีว่า มาตรการจำกัดของอเมริกาเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ “การข่มขู่ทางเศรษฐกิจ” และ “แนวทางปฏิบัติที่ไม่อิงกับตลาด”
    .
    จีนประกาศห้ามส่งออกแร่ใช้ทำเซมิคอนดักเตอร์ไปยังสหรัฐฯ
    .
    ต่อมาในวันอังคาร (3) กระทรวงพาณิชย์จีนประกาศใช้มาตรการห้ามการส่งออกพวกสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับแร่ แกลเลียม เจอร์มาเนียม และพลวง (แอนติโมนี) ซึ่งมีศักยภาพที่อาจนำไปใช้ทางทหารได้ ไปยังสหรัฐฯ นอกจากนั้น ยังให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดในเรื่องการส่งออกกราไฟต์ไปยังสหรัฐฯ อีกด้วย โดยต้องตรวจสอบผู้ใช้และการนำไปใช้อย่างถี่ถ้วน
    .
    คำชี้แนะว่าด้วยสิ่งของที่อาจนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งทหารและพลเรือนของกระทรวงพาณิชย์จีนฉบับนี้ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในทันที ได้ให้เหตุผลของการออกระเบียบเช่นนี้ว่า เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศชาติ
    .
    “โดยหลักการแล้ว การส่งออกแกลเลียม เจอร์มาเนียม พลวง และพวกวัสดุที่มีความแข็งเป็นพิเศษ (superhard materials) ไปยังสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ไม่ควรได้รับอนุมัติ” กระทรวงพาณิชย์จีนบอก
    .
    มาตรการใหม่เช่นนี้ เป็นการเพิ่มความเข้มแข็งให้แก่การบังคับใช้ระเบียบจำกัดการส่งออกแร่ธาตุสำคัญยิ่งยวดเหล่านี้ซึ่งปักกิ่งทยอยประกาศออกมาในปีที่แล้ว เพียงแต่มาตรการใหม่นี้ยังมีการระบุเจาะจงว่าใช้กับการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ เท่านั้นอีกด้วย
    .
    ข้อมูลของศุลกากรจีนแสดงให้เห็นว่า ไม่มีการขนส่งเจอร์มาเนียม หรือแกลเลียม ทั้งแบบที่ขึ้นรูปแล้ว (wrought) และแบบที่ไม่ได้ขึ้นรูป (unwrought) ไปยังสหรัฐฯ เลยในปีนี้นับจนถึงเดือนตุลาคม ถึงแม้ในปีก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ คือตลาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 และอันดับ 5 ตามลำดับของแร่เหล่านี้ของจีน
    .
    แกลเลียม และเจอร์มาเนียม ใช้อยู่ในเซมิคอนดักเตอร์ นอกจากนั้นแล้ว เจอร์มาเนียม ยังใช้ในพวกเทคโนโลยีอินฟราเรด สายเคเบิลใยแก้วนำแสง และแผงโซลาร์เซลล์
    .
    ทำนองเดียวกัน การส่งออกพวกผลิตภัณฑ์พลวงของจีนโดยรวมในเดือนตุลาคม ได้หล่นฮวบลงมาถึง 97% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน หลังจากมาตรการจำกัดการส่งออกของปักกิ่งเริ่มมีผลบังคับใช้
    .
    ในปีที่แล้ว จีนเป็นผู้ผลิตพลวงที่ได้มาจากการทำเหมืองถึงประมาณ 48% ของที่ผลิตได้ทั่วโลก โดยที่พลวงถูกนำไปใช้ทั้งในพวกเครื่องกระสุน ขีปนาวุธอินฟราเรด อาวุธนิวเคลียร์ และกล้องสองตาให้มองกลางคืน ตลอดจนในแบตเตอรี่ และอุปกรณ์โฟโตโวลตาอิก
    .
    “ความเคลื่อนไหวคราวนี้ถือว่าเป็นการทำให้ความตึงเครียดในห่วงโซ่อุปทานยิ่งยกระดับบานปลายออกไปอย่างมากมาย ขณะที่การเข้าถึงพวกวัตถุนี้ก็อยู่ในสภาพตึงตัวอยู่แล้วในโลกตะวันตก” เป็นคำกล่าวของ แจ๊ก เบดเดอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง โปรเจ็คต์ บลู
    .
    ราคาของพลวงไตรออกไซด์ (antimony trioxide) ที่ตลาดรอตเตอร์ดัม อยู่ที่ 39,000 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน ณ วันที่ 28 พ.ย. เมื่อเปรียบเทียบกับตอนเริ่มต้นปีนี้ หมายความว่าราคาพุ่งสูงขึ้นถึง 228% ทั้งนี้ตามตัวเลขของ อาร์กุส กิจการด้านข้อมูลข่าวสาร
    .
    “ทุกๆ คนจะต้องพยายามลองขุดหาแถวๆ สนามหญ้าหลังบ้านของตัวเอง เพื่อค้นดูว่ามีพลวงหรือไม่ ประเทศจำนวนมากจะต้องพยายามค้นหาสินแร่พลวงให้เจอ” เป็นคำพูดของเทรดเดอร์ด้านโลหะรายหนึ่ง ซึ่งขอให้สงวนนาม
    ..............
    Sondhi X
    ปักกิ่งสวนกลับทันควัน ประกาศจำกัดการส่งออกแร่ธาตุที่มีความสำคัญในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์บางรายการให้อเมริกา หลังจากเมื่อวันจันทร์ (2) วอชิงตันออกมาตรการสกัดอุตสาหกรรมชิปจีนรอบ 3 ซึ่งจะมีการควบคุมการส่งออกไปยังบริษัทแดนมังกร 140 แห่ง . คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เดินหมากใหญ่กระดานสุดท้ายในวันจันทร์ เพื่อปิดกั้นจีนไม่ให้เข้าถึงและผลิตชิปที่จะช่วยส่งเสริมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) โดยอ้างว่าอาจถูกนำไปใช้งานทางทหารหรือคุกคามความมั่นคงของอเมริกา . คำสั่งใหม่คราวนี้ยังเกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ก็เป็นที่คาดหมายกันว่า เขาจะยังคงสานต่อมาตรการแข็งกร้าวกับปักกิ่ง . สำหรับมาตรการรอบล่าสุดของสหรัฐฯ มุ่งครอบคลุมทั้งการจำกัดการจัดส่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปยังจีน ได้แก่ ชิปหน่วยความจำแบนด์วิดธ์สูงที่จำเป็นสำหรับการใช้งานระดับไฮเอนด์อย่างเช่นการฝึกเครื่องจักรเอไอ เครื่องจักรเครื่องมือผลิตชิปอีก 24 รายการ และเครื่องมือด้านซอฟต์แวร์ 3 รายการ และการจำกัดการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปที่ผลิตในประเทศ เช่น สิงคโปร์และมาเลเซีย . จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์จีน แถลงว่า มาตรการนี้มีเป้าหมายในการป้องกันไม่ให้จีนสามารถส่งเสริมระบบการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในแดนมังกร ซึ่งจะนำไปใช้สนับสนุนการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย . สำหรับบริษัทจีนที่จะได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดรอบใหม่คราวนี้ ประกอบด้วยบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์เกือบ 24 แห่ง บริษัทด้านการลงทุน 2 แห่ง และพวกผู้ผลิตเครื่องจักรเครื่องมือผลิตชิปกว่า 100 แห่ง เช่น สเวย์ชัวร์ เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำงานร่วมกับหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ที่ถูกอเมริกาแซงก์ชันและขณะนี้มีบทบาทสำคัญในการผลิตและพัฒนาชิปขั้นสูงของจีน . บริษัทเหล่านี้จะถูกขึ้นบัญชีดำใน entity list หรือรายชื่อบริษัทที่รัฐบาลอเมริกามองว่า มีอันตรายต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ซึ่งซัปพลายเออร์อเมริกันจะไม่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งผลิตภัณฑ์ให้โดยไม่ได้รับใบอนุญาตพิเศษ . ยิ่งไปกว่านั้น มาตรการล่าสุดคราวนี้ยังมีการขยายอำนาจของอเมริกาในการควบคุมการส่งออกเครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตชิปของพวกผู้ผลิตอเมริกัน ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ ที่ทำการผลิตในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกและจัดส่งไปห้โรงงานชิปบางแห่งในจีน โดยการควบคุมเช่นนี้จะส่งผลต่อเครื่องจักรอุปกรณ์ที่ผลิตในอิสราเอล มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน ขณะที่อุปกรณ์ที่ผลิตในญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ได้รับการยกเว้น . มาตรการชุดใหม่นี้มีระเบียบจำกัดชิปความจำที่ใช้ในชิปเอไอซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี HBM 2 หรือสูงกว่า อันเป็นเทคโนโลยีที่ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และเอสเค ไฮนิกซ์ของเกาหลีใต้ และไมครอนของอเมริกาใช้อยู่ . สำหรับปฏิกิริยาตอบโต้จากฝ่ายจีน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า พฤติกรรมของอเมริกาบ่อนทำลายระเบียบการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และขัดขวางห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ก่อนสำทับว่า จีนจะดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของบริษัทท้องถิ่น . ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนโจมตีว่า มาตรการจำกัดของอเมริกาเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ “การข่มขู่ทางเศรษฐกิจ” และ “แนวทางปฏิบัติที่ไม่อิงกับตลาด” . จีนประกาศห้ามส่งออกแร่ใช้ทำเซมิคอนดักเตอร์ไปยังสหรัฐฯ . ต่อมาในวันอังคาร (3) กระทรวงพาณิชย์จีนประกาศใช้มาตรการห้ามการส่งออกพวกสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับแร่ แกลเลียม เจอร์มาเนียม และพลวง (แอนติโมนี) ซึ่งมีศักยภาพที่อาจนำไปใช้ทางทหารได้ ไปยังสหรัฐฯ นอกจากนั้น ยังให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดในเรื่องการส่งออกกราไฟต์ไปยังสหรัฐฯ อีกด้วย โดยต้องตรวจสอบผู้ใช้และการนำไปใช้อย่างถี่ถ้วน . คำชี้แนะว่าด้วยสิ่งของที่อาจนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งทหารและพลเรือนของกระทรวงพาณิชย์จีนฉบับนี้ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในทันที ได้ให้เหตุผลของการออกระเบียบเช่นนี้ว่า เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศชาติ . “โดยหลักการแล้ว การส่งออกแกลเลียม เจอร์มาเนียม พลวง และพวกวัสดุที่มีความแข็งเป็นพิเศษ (superhard materials) ไปยังสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ไม่ควรได้รับอนุมัติ” กระทรวงพาณิชย์จีนบอก . มาตรการใหม่เช่นนี้ เป็นการเพิ่มความเข้มแข็งให้แก่การบังคับใช้ระเบียบจำกัดการส่งออกแร่ธาตุสำคัญยิ่งยวดเหล่านี้ซึ่งปักกิ่งทยอยประกาศออกมาในปีที่แล้ว เพียงแต่มาตรการใหม่นี้ยังมีการระบุเจาะจงว่าใช้กับการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ เท่านั้นอีกด้วย . ข้อมูลของศุลกากรจีนแสดงให้เห็นว่า ไม่มีการขนส่งเจอร์มาเนียม หรือแกลเลียม ทั้งแบบที่ขึ้นรูปแล้ว (wrought) และแบบที่ไม่ได้ขึ้นรูป (unwrought) ไปยังสหรัฐฯ เลยในปีนี้นับจนถึงเดือนตุลาคม ถึงแม้ในปีก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ คือตลาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 และอันดับ 5 ตามลำดับของแร่เหล่านี้ของจีน . แกลเลียม และเจอร์มาเนียม ใช้อยู่ในเซมิคอนดักเตอร์ นอกจากนั้นแล้ว เจอร์มาเนียม ยังใช้ในพวกเทคโนโลยีอินฟราเรด สายเคเบิลใยแก้วนำแสง และแผงโซลาร์เซลล์ . ทำนองเดียวกัน การส่งออกพวกผลิตภัณฑ์พลวงของจีนโดยรวมในเดือนตุลาคม ได้หล่นฮวบลงมาถึง 97% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน หลังจากมาตรการจำกัดการส่งออกของปักกิ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ . ในปีที่แล้ว จีนเป็นผู้ผลิตพลวงที่ได้มาจากการทำเหมืองถึงประมาณ 48% ของที่ผลิตได้ทั่วโลก โดยที่พลวงถูกนำไปใช้ทั้งในพวกเครื่องกระสุน ขีปนาวุธอินฟราเรด อาวุธนิวเคลียร์ และกล้องสองตาให้มองกลางคืน ตลอดจนในแบตเตอรี่ และอุปกรณ์โฟโตโวลตาอิก . “ความเคลื่อนไหวคราวนี้ถือว่าเป็นการทำให้ความตึงเครียดในห่วงโซ่อุปทานยิ่งยกระดับบานปลายออกไปอย่างมากมาย ขณะที่การเข้าถึงพวกวัตถุนี้ก็อยู่ในสภาพตึงตัวอยู่แล้วในโลกตะวันตก” เป็นคำกล่าวของ แจ๊ก เบดเดอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง โปรเจ็คต์ บลู . ราคาของพลวงไตรออกไซด์ (antimony trioxide) ที่ตลาดรอตเตอร์ดัม อยู่ที่ 39,000 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน ณ วันที่ 28 พ.ย. เมื่อเปรียบเทียบกับตอนเริ่มต้นปีนี้ หมายความว่าราคาพุ่งสูงขึ้นถึง 228% ทั้งนี้ตามตัวเลขของ อาร์กุส กิจการด้านข้อมูลข่าวสาร . “ทุกๆ คนจะต้องพยายามลองขุดหาแถวๆ สนามหญ้าหลังบ้านของตัวเอง เพื่อค้นดูว่ามีพลวงหรือไม่ ประเทศจำนวนมากจะต้องพยายามค้นหาสินแร่พลวงให้เจอ” เป็นคำพูดของเทรดเดอร์ด้านโลหะรายหนึ่ง ซึ่งขอให้สงวนนาม .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 949 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผอ.หน่วยข่าวกรองเยอรมัน แนะสมาชิกนาโต้ใช้มาตรา 5 ตอบโต้รัสเซีย

    ที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรนาโต้ กล่าวหาว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังกิจกรรมที่เป็นปรปักษ์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทั่วพื้นที่ยุโรป ซึ่งเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ทั้งหมดนี้รัสเซียออกมาปฏิเสธตลอด

    "จากพฤติกรรมของรัสเซียในการลอบก่อวินาศกรรมเล่นงานเป้าหมายต่างๆในโลกตะวันตก รวมถึงการใช้วิธีการที่ผสมผสานอย่างรอบด้านของรัสเซีย หนึ่งในนั้นคือการโจมีทางด้านไซเบอร์ ท้ายที่สุดแล้วอาจกระตุ้นให้นาโตพิจารณาใช้มาตรา 5 ในการป้องกันตนเอง"

    บรูโน คาห์ล (Bruno Kahl) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ (Bundesnachrichtendienst หรือ BND) ของเยอรมนี กล่าวในงานของสถาบันวิจัย DGAP (Deutsche Gesellschaft für Auswärtige Politik)

    มาตรา 5 ของนาโต้ระบุไว้ว่า ถ้าสมาชิกนาโตใดๆถูกโจมตี สมาชิกอื่นๆของพันธมิตรทหารแห่งนี้มีหน้าที่ที่ต้องเข้าช่วยเหลือตอบโต้ทันที
    ผอ.หน่วยข่าวกรองเยอรมัน แนะสมาชิกนาโต้ใช้มาตรา 5 ตอบโต้รัสเซีย ที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรนาโต้ กล่าวหาว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังกิจกรรมที่เป็นปรปักษ์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทั่วพื้นที่ยุโรป ซึ่งเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ทั้งหมดนี้รัสเซียออกมาปฏิเสธตลอด "จากพฤติกรรมของรัสเซียในการลอบก่อวินาศกรรมเล่นงานเป้าหมายต่างๆในโลกตะวันตก รวมถึงการใช้วิธีการที่ผสมผสานอย่างรอบด้านของรัสเซีย หนึ่งในนั้นคือการโจมีทางด้านไซเบอร์ ท้ายที่สุดแล้วอาจกระตุ้นให้นาโตพิจารณาใช้มาตรา 5 ในการป้องกันตนเอง" บรูโน คาห์ล (Bruno Kahl) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ (Bundesnachrichtendienst หรือ BND) ของเยอรมนี กล่าวในงานของสถาบันวิจัย DGAP (Deutsche Gesellschaft für Auswärtige Politik) มาตรา 5 ของนาโต้ระบุไว้ว่า ถ้าสมาชิกนาโตใดๆถูกโจมตี สมาชิกอื่นๆของพันธมิตรทหารแห่งนี้มีหน้าที่ที่ต้องเข้าช่วยเหลือตอบโต้ทันที
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • พฤติกรรมของรัสเซียในการลอบก่อวินาศกรรมเล่นงานเป้าหมายต่างๆในโลกตะวันตก ท้ายที่สุดแล้วอาจกระตุ้นให้นาโตพิจารณาใช้มาตรา 5 การป้องกันตนเองร่วมของพันธมิตรทหารแห่งนี้ จากคำกล่าวของหัวหน้าหน่วยข่างกรองต่างประเทศของเยอรมนี
    .
    ระหว่างกล่าว ณ กิจกรรมหนึ่งของสถาบันวิจัย DGAP ในกรุงเบอร์ลิน เมื่อวันพุธ(27พ.ย.) บรูโน คาห์ล หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ (Bundesnachrichtendienst หรือ BND) ของเยอรมนี คาดหมายว่ามอสโกจะยกระดับสงครามลูกผสมหนักหน่วงขึ้น
    .
    "การใช้มาตรการผสมผสานอย่างครอบคลุมของรัสเซีย เพิ่มความเสี่ยงที่ท้ายที่สุดแล้ว นาโตจะพิจารณาใช้ช้มาตรา 5 การป้องกันตนเองร่วมของพันธมิตรทหาร" เขาเน้นย้ำ "ในขณะเดียวกัน การที่รัสเซียกำลังยกระดับศักยภาพด้านการทหารเพิ่มมากขึ้น มันหมายความว่าการเผชิญหน้ากับนาโต เริ่มกลายมาเป็นทางเลือกหนึ่งที่เป็นไปได้สำหรับยูเครน"
    .
    มาตรา 5 ระบุไว้ว่าถ้าสมาชิกนาโตหนึ่งๆถูกโจมตี สมาชิกอื่นๆของพันธมิตรทหารแห่งนี้มีหน้าที่ที่ต้องเข้าช่วยเหลือตอบโต้
    .
    นาโตและบรรดาหน่วยข่าวกรองของตะวันตก เคยเตือนว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังกิจกรรมที่เป็นปรปักษ์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทั่วพื้นที่ยูโร-แอตแลนติก ไล่ตั้งแต่การโจมตีทางไซเบอร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไปจนถึงการวางเพลิงที่เกี่ยวข้องกับมอสโก อย่างไรก็ตามทั้งหมดทั้งมวลนี้รัสเซียปฏิเสธ
    .
    คาห์ล บอกว่ากองทัพรัสเซีย อาจมีศักยภาพโจมตีนาโตภายในสิ้นทศวรรษนี้ พร้อมระบุการทำสงครามของมอสโกในยูเครน หมายความว่ารัสเซียมีทหารที่ผ่านสมรภูมิรบภายใต้บังคับบัญชา ซึ่งปัจจัยนี้เองเพิ่มความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากกองกำลังทั่วไปของรัสเซีย ขณะเดียวกันมอสโกยังมีความเชี่ยวชาญด้านสงครามโดรนสมัยใหม่อีกด้วย
    .
    หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของเยอรมนี อ้างอิงความเชี่ยวชาญของตนเอง ประเมินว่า พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงกลาโหมรัสเซีย อาจไม่เชื่อว่ามาตรา 5 ของนาโต ในนั้นรวมถึงมาตรการป้องกันของสหรัฐฯที่มอบแก่ยุโรป จะถูกบังคับใช้จริง ในกรณีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
    .
    "เราไม่พบสิ่งบ่งชี้ใดๆที่บ่งบอกว่ารัสเซียมีเจตนาเข้าสู่สงคราม แต่ถ้ารัฐบาลในมอสโกรู้สึกว่าตนเองเป็นฝ่ายเหนือกว่า เมื่อนั้นความเสี่ยงของการเผชิญหน้าทางทหารก็จะเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีข้างหน้า" คาห์ลระบุ
    .
    "หากรัสเซียโจมตีหนึ่งหรือหลายชาติสมาชิกนาโต พวกเขาจะไม่ทำเพื่อยึดครองดินแดนอันกว้างขวาง แต่เพื่อเป็นการทดสอบเส้นตายที่ขีดไว้โดยตะวันตก โดยมีเป้าหมายเพื่อกำราบความเป็นหนึ่งเดียวกันของตะวันตกและนาโต ในฐานะพันธมิตรป้องกันตนเอง" เขากล่าว
    .
    "ในมุมมองของรัสเซีย เป้าหมายนี้จะบรรลุ ถ้าหากว่ามาตรหากมาตรา 5 ยังไม่มีผลบังคับใช้ใดๆ ในกรณีที่เกิดการโจมตีจากรัสเซีย" เขากล่าว "เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายนี้ คุณไม่จำเป็นต้องส่งรถถังทหารมายังทิศตะวันตก พวกเขาแค่ส่งกำลังพลกลุ่มเล็กๆเข้าไปยังแถบบอลติก อ้างว่าเพื่อปกป้องการคุกคามชนกลุ่มน้อยรัสเซีย หรือจัดระเบียบชายแดนแถบหมู่เกาะสวาลบาร์ด"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000114309
    ..............
    Sondhi X
    พฤติกรรมของรัสเซียในการลอบก่อวินาศกรรมเล่นงานเป้าหมายต่างๆในโลกตะวันตก ท้ายที่สุดแล้วอาจกระตุ้นให้นาโตพิจารณาใช้มาตรา 5 การป้องกันตนเองร่วมของพันธมิตรทหารแห่งนี้ จากคำกล่าวของหัวหน้าหน่วยข่างกรองต่างประเทศของเยอรมนี . ระหว่างกล่าว ณ กิจกรรมหนึ่งของสถาบันวิจัย DGAP ในกรุงเบอร์ลิน เมื่อวันพุธ(27พ.ย.) บรูโน คาห์ล หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ (Bundesnachrichtendienst หรือ BND) ของเยอรมนี คาดหมายว่ามอสโกจะยกระดับสงครามลูกผสมหนักหน่วงขึ้น . "การใช้มาตรการผสมผสานอย่างครอบคลุมของรัสเซีย เพิ่มความเสี่ยงที่ท้ายที่สุดแล้ว นาโตจะพิจารณาใช้ช้มาตรา 5 การป้องกันตนเองร่วมของพันธมิตรทหาร" เขาเน้นย้ำ "ในขณะเดียวกัน การที่รัสเซียกำลังยกระดับศักยภาพด้านการทหารเพิ่มมากขึ้น มันหมายความว่าการเผชิญหน้ากับนาโต เริ่มกลายมาเป็นทางเลือกหนึ่งที่เป็นไปได้สำหรับยูเครน" . มาตรา 5 ระบุไว้ว่าถ้าสมาชิกนาโตหนึ่งๆถูกโจมตี สมาชิกอื่นๆของพันธมิตรทหารแห่งนี้มีหน้าที่ที่ต้องเข้าช่วยเหลือตอบโต้ . นาโตและบรรดาหน่วยข่าวกรองของตะวันตก เคยเตือนว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังกิจกรรมที่เป็นปรปักษ์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทั่วพื้นที่ยูโร-แอตแลนติก ไล่ตั้งแต่การโจมตีทางไซเบอร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไปจนถึงการวางเพลิงที่เกี่ยวข้องกับมอสโก อย่างไรก็ตามทั้งหมดทั้งมวลนี้รัสเซียปฏิเสธ . คาห์ล บอกว่ากองทัพรัสเซีย อาจมีศักยภาพโจมตีนาโตภายในสิ้นทศวรรษนี้ พร้อมระบุการทำสงครามของมอสโกในยูเครน หมายความว่ารัสเซียมีทหารที่ผ่านสมรภูมิรบภายใต้บังคับบัญชา ซึ่งปัจจัยนี้เองเพิ่มความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากกองกำลังทั่วไปของรัสเซีย ขณะเดียวกันมอสโกยังมีความเชี่ยวชาญด้านสงครามโดรนสมัยใหม่อีกด้วย . หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของเยอรมนี อ้างอิงความเชี่ยวชาญของตนเอง ประเมินว่า พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงกลาโหมรัสเซีย อาจไม่เชื่อว่ามาตรา 5 ของนาโต ในนั้นรวมถึงมาตรการป้องกันของสหรัฐฯที่มอบแก่ยุโรป จะถูกบังคับใช้จริง ในกรณีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน . "เราไม่พบสิ่งบ่งชี้ใดๆที่บ่งบอกว่ารัสเซียมีเจตนาเข้าสู่สงคราม แต่ถ้ารัฐบาลในมอสโกรู้สึกว่าตนเองเป็นฝ่ายเหนือกว่า เมื่อนั้นความเสี่ยงของการเผชิญหน้าทางทหารก็จะเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีข้างหน้า" คาห์ลระบุ . "หากรัสเซียโจมตีหนึ่งหรือหลายชาติสมาชิกนาโต พวกเขาจะไม่ทำเพื่อยึดครองดินแดนอันกว้างขวาง แต่เพื่อเป็นการทดสอบเส้นตายที่ขีดไว้โดยตะวันตก โดยมีเป้าหมายเพื่อกำราบความเป็นหนึ่งเดียวกันของตะวันตกและนาโต ในฐานะพันธมิตรป้องกันตนเอง" เขากล่าว . "ในมุมมองของรัสเซีย เป้าหมายนี้จะบรรลุ ถ้าหากว่ามาตรหากมาตรา 5 ยังไม่มีผลบังคับใช้ใดๆ ในกรณีที่เกิดการโจมตีจากรัสเซีย" เขากล่าว "เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายนี้ คุณไม่จำเป็นต้องส่งรถถังทหารมายังทิศตะวันตก พวกเขาแค่ส่งกำลังพลกลุ่มเล็กๆเข้าไปยังแถบบอลติก อ้างว่าเพื่อปกป้องการคุกคามชนกลุ่มน้อยรัสเซีย หรือจัดระเบียบชายแดนแถบหมู่เกาะสวาลบาร์ด" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000114309 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 838 มุมมอง 0 รีวิว
  • การขึ้นสู่อำนาจของทรัมป์ ถือเป็นจุดสิ้นสุดของลัทธิเสรีนิยมและการครอบงำของอาณานิคมตะวันตก

    @Agdchan นักปรัชญาชาวรัสเซีย Alexander Dugin:

    [โดนัลด์ ทรัมป์] การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ, ซึ่งเป็นบุคคลที่วิพากษ์วิจารณ์โลกาภิวัตน์และเสรีนิยมอย่างเปิดเผย, สะท้อนให้เห็นถึงการเกิดขึ้นของความไม่พอใจอย่างมีนัยสำคัญภายในแกนกลางของตะวันตกขั้วเดียว เกี่ยวกับแนวทางอุดมการณ์และภูมิรัฐศาสตร์ที่สนับสนุนโดยชนชั้นนำเสรีนิยม”

    “ลัทธิเสรีนิยมเป็นส่วนสำคัญของความทันสมัยของโลกตะวันตก... แต่ได้ล่มสลายลง... เช่นเดียวกับวัฏจักรที่กว้างขึ้นของการครอบงำของอาณานิคมตะวันตกที่เริ่มต้นด้วยยุคแห่งการสำรวจ, ก็สิ้นสุดลงแล้ว”
    .
    TRUMP'S RISE MARKS END OF LIBERALISM AND WESTERN COLONIAL DOMINANCE

    @Agdchan Russian philosopher Alexander Dugin:

    "[Donald Trump's] election as US president, a figure openly critical of globalization and liberalism, reflects the emergence of significant discontent within the core of the unipolar West regarding the ideological and geopolitical direction advocated by liberal elites."

    "Liberalism was an integral part of Western modernity,... but it collapsed... as well as the broader cycle of Western colonial dominance that began with the Age of Exploration, has come to an end."
    .
    11:44 PM · Nov 26, 2024 · 6,535 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1861450920292208920
    การขึ้นสู่อำนาจของทรัมป์ ถือเป็นจุดสิ้นสุดของลัทธิเสรีนิยมและการครอบงำของอาณานิคมตะวันตก @Agdchan นักปรัชญาชาวรัสเซีย Alexander Dugin: [โดนัลด์ ทรัมป์] การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ, ซึ่งเป็นบุคคลที่วิพากษ์วิจารณ์โลกาภิวัตน์และเสรีนิยมอย่างเปิดเผย, สะท้อนให้เห็นถึงการเกิดขึ้นของความไม่พอใจอย่างมีนัยสำคัญภายในแกนกลางของตะวันตกขั้วเดียว เกี่ยวกับแนวทางอุดมการณ์และภูมิรัฐศาสตร์ที่สนับสนุนโดยชนชั้นนำเสรีนิยม” “ลัทธิเสรีนิยมเป็นส่วนสำคัญของความทันสมัยของโลกตะวันตก... แต่ได้ล่มสลายลง... เช่นเดียวกับวัฏจักรที่กว้างขึ้นของการครอบงำของอาณานิคมตะวันตกที่เริ่มต้นด้วยยุคแห่งการสำรวจ, ก็สิ้นสุดลงแล้ว” . TRUMP'S RISE MARKS END OF LIBERALISM AND WESTERN COLONIAL DOMINANCE @Agdchan Russian philosopher Alexander Dugin: "[Donald Trump's] election as US president, a figure openly critical of globalization and liberalism, reflects the emergence of significant discontent within the core of the unipolar West regarding the ideological and geopolitical direction advocated by liberal elites." "Liberalism was an integral part of Western modernity,... but it collapsed... as well as the broader cycle of Western colonial dominance that began with the Age of Exploration, has come to an end." . 11:44 PM · Nov 26, 2024 · 6,535 Views https://x.com/SputnikInt/status/1861450920292208920
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 303 มุมมอง 0 รีวิว
  • 21-11-67/01 : หมี CNN / "ROCK N ROLL" EP.89 ชื่อตอน "MAKE WAR AS U NEED" ไอ้สัส! ใส่มา ใส่กลับ ไม่มีโกง! เป็นไงล่ะ FACE TO FACE อียิวบุกถล่มเลบานอน เฮซบอเลาะห์ถล่มถึงเมืองหลวงทันที อีเสี้ยนยายิงใส่รัสเซีย ปูตินสั่งสอนจนเยี่ยวแตก หายวับ 3 ฐานวันเดียว ดูความจริง ดูให้เป็น สิ่งที่เหี้ยทำได้ แค่ผิวเผิน แต่ขั้วใหม่ โต้กลับจุดยุทธศาสตร์ทุกดอก นั่นแปลว่า อาวุธขั้วใหม่เข้าถึงใจกลางสำคัญมรึงได้ทุกเมื่อ แต่มรึงมีปัญญาฆ่าแค่ชาวบ้านเท่านั้น ภาษาการศึก เค้าเรียก "ชี้เป้าให้รู้ตัว" แล้วทำไม ไม่เก็บมันให้เกลี้ยงไปเลยล่ะ? สงครามได้แค่ทำลาย แต่ฆ่าจริงโหดกว่าคือ "สิ้นหนทางทำมาหาแดร๊ก" สิ้นวาสนา ขี้ข้าหดหาย สิ้นเครดิต ไม่มีใครคบค้า สิ้นแผ่นดิน เพราะชดใช้หนี้ไม่หมด นี่คือ "เป้าหมายแท้จริง" ของขั้วใหม่ รบกันตายไปข้าง เพื่ออะไร? มรึงตายคาที่ แต่กูอยู่รอดสบายสิ นี่สิ เค้าถึงเรียก "โคตรเซียน" ใครคิดว่า อาวุธรัสเซีย จีน อิหร่าน หมด? มรึงควายยิ่งกว่า ไม่รู้เค้า รู้เรา เค้าจะวางแผนล่วงหน้าได้อย่างไร? ไอ้เกจิไทยปลอมทั้งหลาย มองแต่เปลือก มองแต่กรอบ ขั้วใหม่เค้าเดินสายนินจาฮาโตริ มรึงยังมองไม่ออกอีกเหรอ? อาวุธทั้งหมดที่มี ถูกผลิตขึ้นรายวัน 24 ชม. NON STOP นั่นแปลว่า ขณะที่โจมตีอยู่นั่น ของใหม่ก็เข้ามาทดแทนเติมตลอดเวลา ไม่อั้น ไม่มีหมด มีกระสุนเป็น 10000000 ล้านนัด แล้วมรึงล่ะ? เหลือเท่าไหร่? วัตถุดิบการผลิต สายพาย เทคโนโลยี ขั้วใหม่มีไม่อั้น มรึงจะเอาเหี้ยอะไรมาวัดกับเค้า นี่แค่ใช้ของ BASIC น่ะ ยังไม่ถึงขั้นสูงซะทีเดียว มรึงยังจะตายโหงขนาดนี้ ดูทรงแล้ว อาร์คติค ยุโรป แคริบเบี้ยน ลาติน ปูตินเอาหมดเกลี้ยงแน่? ใครจะกล้าขวางกันล่ะ?เล่นง่ายดีเน๊าะ! ก่อนจาก อีเอ๋อสั่งลุย สาบานตน อีทรัมปป์สั่งถอย โยนขี้ให้อีทรัมปป์ไปแก้ต่อ มรึงคิดว่าปูตินจะรอให้มรึงอนุญาตก่อนมั้ยล่ะ? ยังไม่ทันไร ฐานทัพเหี้ยทั่วตะวันออกกลางทั้งซีเรีย อิรัก ยูเครน แดร๊กขีปนาวุธร่อน MADE IN RUSSIA เต็มตรีน เชิญมรึงไปเล่นละครปาหี่แถวปากน้ำเหอะ ยิงมา ยิงกลับไม่มีโกง? ไม่มีใครสนใจใครอีกแล้ว และเมื่อมรึงสั่งให้ยูเครนยิงใส่กูได้ เท่ากับประกาศสงครามโดยตรงกับรัสเซียแล้ว แผนตบหัวและลูบหลัง เชิญมรึงไปใช้กับขี้ข้าเหอะ ดอกนี้ ปูตินสวนกลับ ถึงปากท้องเหี้ยโดยตรง นั่นคือพลังงาน ที่มาว่าทำไม ไม่ส่งแร่ยูเรเนียมให้อีกต่อไป พร้อมสั่งพันธมิตร ระงับส่งแร่พลังงานทุกชนิดให้เหี้ยทั่วโลก ดอกนี้ เจ็บกว่าตาย เพราะมันคือพลังงานที่มรึงต้องมีใช้ทุกวัน ขาดแล้วจะไปหาจากที่ไหน จะก่อสงครามยิ่งยาก!สภาแพทย์ เหลือบมันเยอะ ชื่อเป็นหมอ แต่หาแดร๊กยิ่งกว่าสัดเดรัจฉาน หากินกับความตายชาวบ้าน หวังแต่คอมมิชชั่น หวังรวย จรรยาบรรณชั้นหมา ไม่ล้างบางสภาแพทย์ รับรองเหี้ยเกลื่อนแผ่นดิน หมอ 1 คน รักษาคนได้เป็น 1000 เช่นกัน หมอ 1 คน ก็ฆ่าคนได้เป็น 1000000 เหมือนกัน อะไรที่อนุมัติให้ผ่าน ให้ใช้ ความรับผิดชอบ 1 ชีวิต ต่อ 1000000 ชีวิต แลกได้มั้ย? ตั้งแต่อีวัคซีนโควิทแล้ว MRNA เชื้อตาย มันฆ่าคนได้เป็นล้าน โดยที่ไม่รู้ตัว มรึงเห็นบทเรียนแล้วน่ะ อะไรที่มาจากเหี้ยมะกัน เหี้ยสิงโต การันตี ชาติชั่วทั้งนั้น ไทยเรารอดเพราะช่วงแรกมีจีนมาช่วย รัสเซียมาอุ้ม คิวบามาเสริม อย่าหวังพึ่งพาไอ้อีตะวันตกเลย ขนาดพวกมันกันเอง ยังขโมยวัคซีน อุปกรณ์การแพทย์หน้าด้านๆ ไปถามอีเบียร์ดูสิ ไทยส่งให้ตามสั่ง แต่อีเหี้ยมะกันขโมยซึ่งหน้าไปเฉย มรึงยังคบกันอยู่อีกเหรอ อ๋อ.. ขี้ข้า นี่หว่า?กูว่าแล้ว! เป็นเรื่องระดับชาติกันไปเลย ตั้งแต่ DRAMA เต้นฮากา กลางประชุมสภากีวี กระแสแรงโคตร รากเหง้า เผ่าพันธุ์มันฟ้อง บรรพบุรุษเรียกหา ชาวกีวี แห่ลงถนนประท้วงครั้งใหญ่ ในรอบ 184 ปี ลิดรอนสิทธิ์ ทั้งผิวขาว ผิวแทน ชาวเมารี คลั่งกันทั้งแผ่นดิน กาฮา อาละวาดเต็มพื้นที่แล้ว วิญญานเมารี เข้าสิง เรียกร้องแผ่นดินกูคืน ปชต. เน่าเฟะ อีกีวี จะรอดมั้ย? แค่ตอนนี้ หนีออก ย้ายออกไปทำงานในออสซี่ ยุโรป อาเซียน แทนกันหมดแล้ว เมื่อชาวเมารีฟื้นจิตวิญญานได้สำเร็จ มรึงคิดว่า อีออสซี่จะตามมุย? อะบอริจิ้น ทำอะไรอยู่จ๊ะ หรือยังเมามัวกับแสงสีเสียงที่โลกตะวันตกมอบให้ มองดูโลก แล้วย้อนมองดูเราเอง อโยธยา ศรีรามเทพนคร ไม่เคยสิ้นคนดี ปลุกผีปู่ผีย่างวดนี้ พลังแห่งแสงมาเต็มคาราเบล รอดูการเมืองทั่วโลกพลิกขั้ว รอดูระบบกษัตริย์จะกลับคืนหวนสู่บังลังก์อีกครั้งใครจะสู้กับกู? C909 บินพาณิชย์จีนนำร่อง สู่ตลาดโลกไปไม่นาน C919 ตามมากระทืบซ้ำความสำเร็จเข้าไปอีก สั่ง 1000 ลำทั่วโลก อีโบอิ้ง อีแอร์บัส ไปไม่เป็น มรึงขายง่ายจังฟ่ะ? คำตอบคือ ถูก ดี ไม่มีสอดแนม ไม่มียัดไส้ ประสิทธิภาพ AI เงื่อนไขไม่บัดซบ อะไหล่หาง่าย ไม่มีปัญหา ตรวจสอบได้จริง ที่สำคัญ โปรไฟไหม้ บริการหลังการขายสุดยอด ยังจะมีไอ้โง่ที่ไหนสั่งมรึงอีก อะไรน่ะ ครม.อีอุ้งๆ เหรอ? เอาให้เต็มที่ ผลาญให้เต็มคราบ เพราะจะถูกตามเช็คบิลหมดเกลี้ยงทุกเม็ด ทุกดอก อย่าคิดว่าผลาญแล้วไม่ต้องชดใช้ ศาลจ้องนานแล้ว ดีออก? เมื่อบินพาณิชย์จีนยกระดับ เริ่ด หรู ราคาถูกได้ ทำไมจะผลักยอด ตระกูลบินรบ J ไม่ได้ ล่าสุด สั่งกันกระจาย J-20/J-35A อาเซียนมาเต็มคาราเบล ตะวันออกกลางแห่จอง ไอ้สัส! แล้วอียิวมันจะทำมาหาแดร๊กอะไรได้อีกเนี่ย หลอกควายมาเป็นศตวรรษแล้ว กูเจ๊งทันที!ปล.มุกเดิมหาแดร๊ก โยกย้ายกากีประจำปี ขนขี้ข้าอีเหลี่ยมมาเต็มคาราเบล หวังปูทางให้อีพ่อ อีลูกรอด แต่ช้าก่อน คนกำหนดไม่สู้ฟ้าลิขิต ฝ่ายแสงก็ใช่ย่อย สอดไส้คาราเมลเข้ามายืนหนึ่งได้เช่นกัน(ทหารสั่ง คนที่คุณคุ้นเคย) ดูภายนอก เหมือนอีตระกูลเหี้ยจัญไร อีตะกวดส่องหล้าสั่งอีกรมตำหนวดได้หมด แต่หาใช่ไม่? นี่มันปีพศ.2567 แล้วน่ะ จะข้ามปีแล้ว ตำหนวดฝ่ายทหาร เค้าจับมือกันล็อบบี้อีอุ้งๆ งานนี้มีเงิบ สยาม ม้ามืด คุมเมืองหลวง อย่าคิดว่ามีแต่ฝ่ายเหี้ยเอาอยู่ แท้จริงอีบู๊ทตรีนโตคุมมาตั้งแต่ต้น ก่อนลุงตู่จะไปนั่นแหละ รอดูต่อไป ใครจะลายออกก่อนกัน? นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า ใหญ่แค่ไหน ก็ระเบิดทั้งสถานี ทั้งสำนักงานใหญ่ได้ กร่างแค่ไหน ฉีกรัฐธรรมนูญคือจบทันที อำนาจหายวับ มันมีอะไรจริงแท้แน่นอนบ้าง? ศรีธนญชัยเล่นเป็น ค่อยๆ นวด ค่อยๆ กลืน บีบจนเหี้ยต้องคายของเก่าออกมาจนหมดเกลี้ยง ช่องหมาลอดยังมี ไปซะ อย่าอยู่ให้หนักแผ่นดินพ่อกู อย่าช้า อย่าลีลา เพราะหากเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ คือ "เอามรึงตายทั้งตระกูล" เบื้องบนให้โอกาสรอดมรึงแล้ว อย่าลีลาเยอะ ข้ามวิกแป๊บ : หมดยุคบินล่องหนแล้ว หลังจีนคิดค้นระบบใหม่ เรดาร์ใหม่ของจีน BEITOU จับได้หมดทุกบินรบเหี้ย โคตรกระจอก ไม่พัฒนาไปไหนเลย แช่อยู่กับที่มาเป็นสิบปีแล้ว คิดว่าคนอื่นตามไม่ทัน ที่ไหนได้ มรึงนั่นแหละ ล้าหลังเค้าอยู่ 20 ปี โดยเฉพาะโครงการด้านอวกาศ จุดนี้ ทำให้เงินลงทุนไปมหาศาลกับบินรบ STEALTH หมาทันที จะขายใครออกมุย? ที่สำคัญ จีนออก J-35A เซินเจิ้นมา ยอดขายดีกว่า F-35 ซะอีก ถูก ดี ไร้เงื่อนไข ประสิทธิภาพสูงกว่า และ AI ทั้งลำ หมาได้อีกมรึง? ยังไม่พอ รัสเซียโยกย้าย S-500 เข้าประจำการพรมแดนแนวหน้าแล้ว นี่มันคืออะไร? ดาวเทียมศัตรู หายวับแน่มรึง? อย่าว่านุ๊ก ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคเลย แม้แต่ UFO ยังร่วง เอาจริงดิ? ฉากหน้า ฉากหลัง สุดท้าย ต้องวัดกำลังหมี CNN(เริ่มโชว์กันออกมาให้เห็นบ้างแล้ว ของดี ไม่โชว์บ่อย ทั้งจีน รัสเซีย อิหร่าน โสมแดง อาวุธในใต้หล้า หากเทียบเป็นชั้นกระบี่ ไอ้อีเหี้ยทั้งหลาย มรึงแค่ชั้นประถม จีน รัสเซีย เค้าไปถึงขั้นมหาเทพกันหมดแล้ว งบก็มีมากกว่า อุปกรณ์ก็พร้อมกว่า อาวุธไม่ใช่คำตอบ แผนที่เดินต่างหากคือจุดชี้เป็นชี้ตาย สู้ไม่ได้ รู้ตัว แค่ยื้อเวลา แต่ขั้วใหม่ ใช้เวลาที่มีอยู่ บีบแม่งทุกทิศทาง จนเหี้ยต้องยอมเสียค่าโง่ โลกสู้ ไทยสู้ อาเซียนสู้ ชนะชัวร์!)21 พฤศจิกายน 6711.30 น.------------------------------------------------------------------------—เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnnหรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNThttps://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u**เพจหลักของหมี CNN คือ**https://www.minds.com/mheecnn2/เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnnwww.vk.com/id448335733**เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**https://twitter.com/CnnMhee**เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    21-11-67/01 : หมี CNN / "ROCK N ROLL" EP.89 ชื่อตอน "MAKE WAR AS U NEED" ไอ้สัส! ใส่มา ใส่กลับ ไม่มีโกง! เป็นไงล่ะ FACE TO FACE อียิวบุกถล่มเลบานอน เฮซบอเลาะห์ถล่มถึงเมืองหลวงทันที อีเสี้ยนยายิงใส่รัสเซีย ปูตินสั่งสอนจนเยี่ยวแตก หายวับ 3 ฐานวันเดียว ดูความจริง ดูให้เป็น สิ่งที่เหี้ยทำได้ แค่ผิวเผิน แต่ขั้วใหม่ โต้กลับจุดยุทธศาสตร์ทุกดอก นั่นแปลว่า อาวุธขั้วใหม่เข้าถึงใจกลางสำคัญมรึงได้ทุกเมื่อ แต่มรึงมีปัญญาฆ่าแค่ชาวบ้านเท่านั้น ภาษาการศึก เค้าเรียก "ชี้เป้าให้รู้ตัว" แล้วทำไม ไม่เก็บมันให้เกลี้ยงไปเลยล่ะ? สงครามได้แค่ทำลาย แต่ฆ่าจริงโหดกว่าคือ "สิ้นหนทางทำมาหาแดร๊ก" สิ้นวาสนา ขี้ข้าหดหาย สิ้นเครดิต ไม่มีใครคบค้า สิ้นแผ่นดิน เพราะชดใช้หนี้ไม่หมด นี่คือ "เป้าหมายแท้จริง" ของขั้วใหม่ รบกันตายไปข้าง เพื่ออะไร? มรึงตายคาที่ แต่กูอยู่รอดสบายสิ นี่สิ เค้าถึงเรียก "โคตรเซียน" ใครคิดว่า อาวุธรัสเซีย จีน อิหร่าน หมด? มรึงควายยิ่งกว่า ไม่รู้เค้า รู้เรา เค้าจะวางแผนล่วงหน้าได้อย่างไร? ไอ้เกจิไทยปลอมทั้งหลาย มองแต่เปลือก มองแต่กรอบ ขั้วใหม่เค้าเดินสายนินจาฮาโตริ มรึงยังมองไม่ออกอีกเหรอ? อาวุธทั้งหมดที่มี ถูกผลิตขึ้นรายวัน 24 ชม. NON STOP นั่นแปลว่า ขณะที่โจมตีอยู่นั่น ของใหม่ก็เข้ามาทดแทนเติมตลอดเวลา ไม่อั้น ไม่มีหมด มีกระสุนเป็น 10000000 ล้านนัด แล้วมรึงล่ะ? เหลือเท่าไหร่? วัตถุดิบการผลิต สายพาย เทคโนโลยี ขั้วใหม่มีไม่อั้น มรึงจะเอาเหี้ยอะไรมาวัดกับเค้า นี่แค่ใช้ของ BASIC น่ะ ยังไม่ถึงขั้นสูงซะทีเดียว มรึงยังจะตายโหงขนาดนี้ ดูทรงแล้ว อาร์คติค ยุโรป แคริบเบี้ยน ลาติน ปูตินเอาหมดเกลี้ยงแน่? ใครจะกล้าขวางกันล่ะ?เล่นง่ายดีเน๊าะ! ก่อนจาก อีเอ๋อสั่งลุย สาบานตน อีทรัมปป์สั่งถอย โยนขี้ให้อีทรัมปป์ไปแก้ต่อ มรึงคิดว่าปูตินจะรอให้มรึงอนุญาตก่อนมั้ยล่ะ? ยังไม่ทันไร ฐานทัพเหี้ยทั่วตะวันออกกลางทั้งซีเรีย อิรัก ยูเครน แดร๊กขีปนาวุธร่อน MADE IN RUSSIA เต็มตรีน เชิญมรึงไปเล่นละครปาหี่แถวปากน้ำเหอะ ยิงมา ยิงกลับไม่มีโกง? ไม่มีใครสนใจใครอีกแล้ว และเมื่อมรึงสั่งให้ยูเครนยิงใส่กูได้ เท่ากับประกาศสงครามโดยตรงกับรัสเซียแล้ว แผนตบหัวและลูบหลัง เชิญมรึงไปใช้กับขี้ข้าเหอะ ดอกนี้ ปูตินสวนกลับ ถึงปากท้องเหี้ยโดยตรง นั่นคือพลังงาน ที่มาว่าทำไม ไม่ส่งแร่ยูเรเนียมให้อีกต่อไป พร้อมสั่งพันธมิตร ระงับส่งแร่พลังงานทุกชนิดให้เหี้ยทั่วโลก ดอกนี้ เจ็บกว่าตาย เพราะมันคือพลังงานที่มรึงต้องมีใช้ทุกวัน ขาดแล้วจะไปหาจากที่ไหน จะก่อสงครามยิ่งยาก!สภาแพทย์ เหลือบมันเยอะ ชื่อเป็นหมอ แต่หาแดร๊กยิ่งกว่าสัดเดรัจฉาน หากินกับความตายชาวบ้าน หวังแต่คอมมิชชั่น หวังรวย จรรยาบรรณชั้นหมา ไม่ล้างบางสภาแพทย์ รับรองเหี้ยเกลื่อนแผ่นดิน หมอ 1 คน รักษาคนได้เป็น 1000 เช่นกัน หมอ 1 คน ก็ฆ่าคนได้เป็น 1000000 เหมือนกัน อะไรที่อนุมัติให้ผ่าน ให้ใช้ ความรับผิดชอบ 1 ชีวิต ต่อ 1000000 ชีวิต แลกได้มั้ย? ตั้งแต่อีวัคซีนโควิทแล้ว MRNA เชื้อตาย มันฆ่าคนได้เป็นล้าน โดยที่ไม่รู้ตัว มรึงเห็นบทเรียนแล้วน่ะ อะไรที่มาจากเหี้ยมะกัน เหี้ยสิงโต การันตี ชาติชั่วทั้งนั้น ไทยเรารอดเพราะช่วงแรกมีจีนมาช่วย รัสเซียมาอุ้ม คิวบามาเสริม อย่าหวังพึ่งพาไอ้อีตะวันตกเลย ขนาดพวกมันกันเอง ยังขโมยวัคซีน อุปกรณ์การแพทย์หน้าด้านๆ ไปถามอีเบียร์ดูสิ ไทยส่งให้ตามสั่ง แต่อีเหี้ยมะกันขโมยซึ่งหน้าไปเฉย มรึงยังคบกันอยู่อีกเหรอ อ๋อ.. ขี้ข้า นี่หว่า?กูว่าแล้ว! เป็นเรื่องระดับชาติกันไปเลย ตั้งแต่ DRAMA เต้นฮากา กลางประชุมสภากีวี กระแสแรงโคตร รากเหง้า เผ่าพันธุ์มันฟ้อง บรรพบุรุษเรียกหา ชาวกีวี แห่ลงถนนประท้วงครั้งใหญ่ ในรอบ 184 ปี ลิดรอนสิทธิ์ ทั้งผิวขาว ผิวแทน ชาวเมารี คลั่งกันทั้งแผ่นดิน กาฮา อาละวาดเต็มพื้นที่แล้ว วิญญานเมารี เข้าสิง เรียกร้องแผ่นดินกูคืน ปชต. เน่าเฟะ อีกีวี จะรอดมั้ย? แค่ตอนนี้ หนีออก ย้ายออกไปทำงานในออสซี่ ยุโรป อาเซียน แทนกันหมดแล้ว เมื่อชาวเมารีฟื้นจิตวิญญานได้สำเร็จ มรึงคิดว่า อีออสซี่จะตามมุย? อะบอริจิ้น ทำอะไรอยู่จ๊ะ หรือยังเมามัวกับแสงสีเสียงที่โลกตะวันตกมอบให้ มองดูโลก แล้วย้อนมองดูเราเอง อโยธยา ศรีรามเทพนคร ไม่เคยสิ้นคนดี ปลุกผีปู่ผีย่างวดนี้ พลังแห่งแสงมาเต็มคาราเบล รอดูการเมืองทั่วโลกพลิกขั้ว รอดูระบบกษัตริย์จะกลับคืนหวนสู่บังลังก์อีกครั้งใครจะสู้กับกู? C909 บินพาณิชย์จีนนำร่อง สู่ตลาดโลกไปไม่นาน C919 ตามมากระทืบซ้ำความสำเร็จเข้าไปอีก สั่ง 1000 ลำทั่วโลก อีโบอิ้ง อีแอร์บัส ไปไม่เป็น มรึงขายง่ายจังฟ่ะ? คำตอบคือ ถูก ดี ไม่มีสอดแนม ไม่มียัดไส้ ประสิทธิภาพ AI เงื่อนไขไม่บัดซบ อะไหล่หาง่าย ไม่มีปัญหา ตรวจสอบได้จริง ที่สำคัญ โปรไฟไหม้ บริการหลังการขายสุดยอด ยังจะมีไอ้โง่ที่ไหนสั่งมรึงอีก อะไรน่ะ ครม.อีอุ้งๆ เหรอ? เอาให้เต็มที่ ผลาญให้เต็มคราบ เพราะจะถูกตามเช็คบิลหมดเกลี้ยงทุกเม็ด ทุกดอก อย่าคิดว่าผลาญแล้วไม่ต้องชดใช้ ศาลจ้องนานแล้ว ดีออก? เมื่อบินพาณิชย์จีนยกระดับ เริ่ด หรู ราคาถูกได้ ทำไมจะผลักยอด ตระกูลบินรบ J ไม่ได้ ล่าสุด สั่งกันกระจาย J-20/J-35A อาเซียนมาเต็มคาราเบล ตะวันออกกลางแห่จอง ไอ้สัส! แล้วอียิวมันจะทำมาหาแดร๊กอะไรได้อีกเนี่ย หลอกควายมาเป็นศตวรรษแล้ว กูเจ๊งทันที!ปล.มุกเดิมหาแดร๊ก โยกย้ายกากีประจำปี ขนขี้ข้าอีเหลี่ยมมาเต็มคาราเบล หวังปูทางให้อีพ่อ อีลูกรอด แต่ช้าก่อน คนกำหนดไม่สู้ฟ้าลิขิต ฝ่ายแสงก็ใช่ย่อย สอดไส้คาราเมลเข้ามายืนหนึ่งได้เช่นกัน(ทหารสั่ง คนที่คุณคุ้นเคย) ดูภายนอก เหมือนอีตระกูลเหี้ยจัญไร อีตะกวดส่องหล้าสั่งอีกรมตำหนวดได้หมด แต่หาใช่ไม่? นี่มันปีพศ.2567 แล้วน่ะ จะข้ามปีแล้ว ตำหนวดฝ่ายทหาร เค้าจับมือกันล็อบบี้อีอุ้งๆ งานนี้มีเงิบ สยาม ม้ามืด คุมเมืองหลวง อย่าคิดว่ามีแต่ฝ่ายเหี้ยเอาอยู่ แท้จริงอีบู๊ทตรีนโตคุมมาตั้งแต่ต้น ก่อนลุงตู่จะไปนั่นแหละ รอดูต่อไป ใครจะลายออกก่อนกัน? นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า ใหญ่แค่ไหน ก็ระเบิดทั้งสถานี ทั้งสำนักงานใหญ่ได้ กร่างแค่ไหน ฉีกรัฐธรรมนูญคือจบทันที อำนาจหายวับ มันมีอะไรจริงแท้แน่นอนบ้าง? ศรีธนญชัยเล่นเป็น ค่อยๆ นวด ค่อยๆ กลืน บีบจนเหี้ยต้องคายของเก่าออกมาจนหมดเกลี้ยง ช่องหมาลอดยังมี ไปซะ อย่าอยู่ให้หนักแผ่นดินพ่อกู อย่าช้า อย่าลีลา เพราะหากเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ คือ "เอามรึงตายทั้งตระกูล" เบื้องบนให้โอกาสรอดมรึงแล้ว อย่าลีลาเยอะ ข้ามวิกแป๊บ : หมดยุคบินล่องหนแล้ว หลังจีนคิดค้นระบบใหม่ เรดาร์ใหม่ของจีน BEITOU จับได้หมดทุกบินรบเหี้ย โคตรกระจอก ไม่พัฒนาไปไหนเลย แช่อยู่กับที่มาเป็นสิบปีแล้ว คิดว่าคนอื่นตามไม่ทัน ที่ไหนได้ มรึงนั่นแหละ ล้าหลังเค้าอยู่ 20 ปี โดยเฉพาะโครงการด้านอวกาศ จุดนี้ ทำให้เงินลงทุนไปมหาศาลกับบินรบ STEALTH หมาทันที จะขายใครออกมุย? ที่สำคัญ จีนออก J-35A เซินเจิ้นมา ยอดขายดีกว่า F-35 ซะอีก ถูก ดี ไร้เงื่อนไข ประสิทธิภาพสูงกว่า และ AI ทั้งลำ หมาได้อีกมรึง? ยังไม่พอ รัสเซียโยกย้าย S-500 เข้าประจำการพรมแดนแนวหน้าแล้ว นี่มันคืออะไร? ดาวเทียมศัตรู หายวับแน่มรึง? อย่าว่านุ๊ก ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคเลย แม้แต่ UFO ยังร่วง เอาจริงดิ? ฉากหน้า ฉากหลัง สุดท้าย ต้องวัดกำลังหมี CNN(เริ่มโชว์กันออกมาให้เห็นบ้างแล้ว ของดี ไม่โชว์บ่อย ทั้งจีน รัสเซีย อิหร่าน โสมแดง อาวุธในใต้หล้า หากเทียบเป็นชั้นกระบี่ ไอ้อีเหี้ยทั้งหลาย มรึงแค่ชั้นประถม จีน รัสเซีย เค้าไปถึงขั้นมหาเทพกันหมดแล้ว งบก็มีมากกว่า อุปกรณ์ก็พร้อมกว่า อาวุธไม่ใช่คำตอบ แผนที่เดินต่างหากคือจุดชี้เป็นชี้ตาย สู้ไม่ได้ รู้ตัว แค่ยื้อเวลา แต่ขั้วใหม่ ใช้เวลาที่มีอยู่ บีบแม่งทุกทิศทาง จนเหี้ยต้องยอมเสียค่าโง่ โลกสู้ ไทยสู้ อาเซียนสู้ ชนะชัวร์!)21 พฤศจิกายน 6711.30 น.------------------------------------------------------------------------—เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnnหรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNThttps://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u**เพจหลักของหมี CNN คือ**https://www.minds.com/mheecnn2/เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnnwww.vk.com/id448335733**เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**https://twitter.com/CnnMhee**เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1108 มุมมอง 0 รีวิว
  • อเมริกาจำเป็นต้องมีกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ 🤣ที่จะเปลี่ยนท่าทีของกองกำลังสหรัฐฯออกจากการแทรกแซงทางทหารที่เน้นไปที่การสร้างชาติ, ประชาธิปไตย, หรือภัยคุกคามที่ถูกกล่าวหา🤣

    แทนที่จะเป็นเช่นนั้น, ท่าทีด้านการป้องกันประเทศควรเน้นที่ซีกโลกตะวันตก, เรียนรู้ที่จะหลีกเลี่ยงรูปแบบพฤติกรรมที่ขัดต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ

    Douglas Macgregor
    .
    America needs new national security legislation that moves the posture of U.S. forces away from military interventions focused on nation-building, democratization, or alleged threats.

    Instead, the defense posture should focus on the Western Hemisphere, learning to avoid patterns of behavior antithetical to U.S. interests.
    .
    7:28 AM · Nov 21, 2024 · 8,456 Views
    https://x.com/DougAMacgregor/status/1859393503136186542
    อเมริกาจำเป็นต้องมีกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ 🤣ที่จะเปลี่ยนท่าทีของกองกำลังสหรัฐฯออกจากการแทรกแซงทางทหารที่เน้นไปที่การสร้างชาติ, ประชาธิปไตย, หรือภัยคุกคามที่ถูกกล่าวหา🤣 แทนที่จะเป็นเช่นนั้น, ท่าทีด้านการป้องกันประเทศควรเน้นที่ซีกโลกตะวันตก, เรียนรู้ที่จะหลีกเลี่ยงรูปแบบพฤติกรรมที่ขัดต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ Douglas Macgregor . America needs new national security legislation that moves the posture of U.S. forces away from military interventions focused on nation-building, democratization, or alleged threats. Instead, the defense posture should focus on the Western Hemisphere, learning to avoid patterns of behavior antithetical to U.S. interests. . 7:28 AM · Nov 21, 2024 · 8,456 Views https://x.com/DougAMacgregor/status/1859393503136186542
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 438 มุมมอง 0 รีวิว
  • "มหากาพย์ไมดาน จุดเริ่มต้นของสงครามตัวแทนและ Hybrid War" ตอนที่ 1
    ล้างแค้น 30 ปีก็ไม่สาย ลูกผู้ชายชื่อปูตินตั้งสัจจะเอาไว้ว่าตราบใดที่รัสเซียยังไม่กินอิ่มนอนอุ่น ตราบนั้นโลกตะวันตกจงอย่าได้ย่างกรายมาเพ่นพ่านแถวขอบรั้วรัสเซีย
    ***เนื้อหานำเสนออีกด้านหนึ่งของข้อมูล ส่วนจะเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่นั้น? โปรดพิจารณาเอาเอง สมองใครสมองมัน ไม่ต้องมาเถียงกับผม ผมไม่มีเวลาเถียงด้วย จะเชื่อหรือไม่เชื่อเงินในบัญชีผมก็เท่าเดิม คือร้อยกว่าบาท 555 ฉะนั้นผมไม่แคร์ว่าจะมีใครเชื่อ
    ***เนื้อหาทั้งหมดผมแคปมาจากสารคดีซึ่งผลิตโดยช่องข่าว RT ของรัสเซีย และช่อง RUPTLY ซึ่งผมไม่มีส่วนได้เสียในการสร้าง การนำเสนอ นอกจากชี้ให้เห็นอีกแง่มุมหนึ่ง และขอให้คนไทยเรียนรู้และปรับใช้เพื่อเอาชาติให้รอด ใครชังชาติ...จะปล่อยชาติล่มจมก็ไม่ควรอ่าน เสียเวลาคุณ คุณควรเอาเวลาไปบ่อนทำลายชาติจะตรงจุดประสงค์คุณมากกว่า
    ***เนื้อหาเรียงลำดับตามที่ปรากฏในสารคดี ซึ่งเมื่อลดทอนเป็นเพียงภาพบางช่วง อาจจะไม่สามารถเล่าเรื่องทั้งหมด หรือเข้าถึงอารมณ์ ความรู้สึกได้ ต้องขออภัยไว้ก่อน หากทาง RT อนุญาต ผมจะนำ VDO ชุดนี้มาเผยแพร่ต่อไป
    ***การรับชม คลิกที่รูปภาพ เนื้อหาอยู่ในคำบรรยายแต่ละภาพเรียงลำดับกันไป
    ผมไม่อยากบอกว่า "ขอให้สนุก" เพราะเนื้อหามันสะเทือนใจและตรงกับความจริงหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทยที่คนไทยถูกยุแยงให้แตกแยกทางความคิด เราเชื่อกันคนละอย่างและนำไปสู่ความเกลียดชังสุดขั้ว
    ไทยเรากำลังอยู่บนปากเหวอย่างเช่นที่อูเครนเคยอยู่มาก่อน...เชื่อผมเถอะ!
    "มหากาพย์ไมดาน จุดเริ่มต้นของสงครามตัวแทนและ Hybrid War" ตอนที่ 1 ล้างแค้น 30 ปีก็ไม่สาย ลูกผู้ชายชื่อปูตินตั้งสัจจะเอาไว้ว่าตราบใดที่รัสเซียยังไม่กินอิ่มนอนอุ่น ตราบนั้นโลกตะวันตกจงอย่าได้ย่างกรายมาเพ่นพ่านแถวขอบรั้วรัสเซีย ***เนื้อหานำเสนออีกด้านหนึ่งของข้อมูล ส่วนจะเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่นั้น? โปรดพิจารณาเอาเอง สมองใครสมองมัน ไม่ต้องมาเถียงกับผม ผมไม่มีเวลาเถียงด้วย จะเชื่อหรือไม่เชื่อเงินในบัญชีผมก็เท่าเดิม คือร้อยกว่าบาท 555 ฉะนั้นผมไม่แคร์ว่าจะมีใครเชื่อ ***เนื้อหาทั้งหมดผมแคปมาจากสารคดีซึ่งผลิตโดยช่องข่าว RT ของรัสเซีย และช่อง RUPTLY ซึ่งผมไม่มีส่วนได้เสียในการสร้าง การนำเสนอ นอกจากชี้ให้เห็นอีกแง่มุมหนึ่ง และขอให้คนไทยเรียนรู้และปรับใช้เพื่อเอาชาติให้รอด ใครชังชาติ...จะปล่อยชาติล่มจมก็ไม่ควรอ่าน เสียเวลาคุณ คุณควรเอาเวลาไปบ่อนทำลายชาติจะตรงจุดประสงค์คุณมากกว่า ***เนื้อหาเรียงลำดับตามที่ปรากฏในสารคดี ซึ่งเมื่อลดทอนเป็นเพียงภาพบางช่วง อาจจะไม่สามารถเล่าเรื่องทั้งหมด หรือเข้าถึงอารมณ์ ความรู้สึกได้ ต้องขออภัยไว้ก่อน หากทาง RT อนุญาต ผมจะนำ VDO ชุดนี้มาเผยแพร่ต่อไป ***การรับชม คลิกที่รูปภาพ เนื้อหาอยู่ในคำบรรยายแต่ละภาพเรียงลำดับกันไป ผมไม่อยากบอกว่า "ขอให้สนุก" เพราะเนื้อหามันสะเทือนใจและตรงกับความจริงหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทยที่คนไทยถูกยุแยงให้แตกแยกทางความคิด เราเชื่อกันคนละอย่างและนำไปสู่ความเกลียดชังสุดขั้ว ไทยเรากำลังอยู่บนปากเหวอย่างเช่นที่อูเครนเคยอยู่มาก่อน...เชื่อผมเถอะ!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปูตินเตือนถึงการผจญภัยของชาติตะวันตกและความเสี่ยงของการเพิ่มระดับนิวเคลียร์

    ปูตินกล่าวว่า ประชาธิปไตยกำลังถูกตีความมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเป็นการปกครองโดยชนกลุ่มน้อย, ไม่ใช่ชนกลุ่มใหญ่ เขาวิพากษ์วิจารณ์เสรีนิยมในโลกตะวันตก, โดยกล่าวว่ามันทำให้เกิดความไม่ยอมรับและการรุกรานอย่างรุนแรง, และเตือนว่าเรากำลังเข้าใกล้ขีดจำกัดที่อันตราย

    การเรียกร้องให้เอาชนะรัสเซียสะท้อนให้เห็นถึงการผจญภัยที่บ้าบิ่นของนักการเมืองบางคน, ปูตินกล่าวเสริม, และเตือนว่าความเชื่ออย่างงมงายของโลกตะวันตกในการไม่ต้องรับโทษของตนเองอาจนำไปสู่โศกนาฏกรรมได้ นอกจากนี้ เขายังแสดงความกังวล, โดยระบุว่า ไม่มีการรับประกันว่าโลกตะวันตกจะไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์
    .
    Putin warns of Western adventurism and risk of nuclear escalation

    Putin remarked that democracy is increasingly being interpreted as the rule of the minority, not the majority. He criticized Western liberalism, saying it has led to extreme intolerance and aggression, and warned that we are approaching a dangerous threshold.

    Calls to defeat Russia reflect the reckless adventurism of certain politicians, Putin added, cautioning that the West's blind belief in its own impunity could lead to tragedy. He also raised concerns, noting that there is no guarantee nuclear weapons will not be used by the West.
    .
    11:56 PM · Nov 7, 2024 · 4,463 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1854568729503256910
    ปูตินเตือนถึงการผจญภัยของชาติตะวันตกและความเสี่ยงของการเพิ่มระดับนิวเคลียร์ ปูตินกล่าวว่า ประชาธิปไตยกำลังถูกตีความมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเป็นการปกครองโดยชนกลุ่มน้อย, ไม่ใช่ชนกลุ่มใหญ่ เขาวิพากษ์วิจารณ์เสรีนิยมในโลกตะวันตก, โดยกล่าวว่ามันทำให้เกิดความไม่ยอมรับและการรุกรานอย่างรุนแรง, และเตือนว่าเรากำลังเข้าใกล้ขีดจำกัดที่อันตราย การเรียกร้องให้เอาชนะรัสเซียสะท้อนให้เห็นถึงการผจญภัยที่บ้าบิ่นของนักการเมืองบางคน, ปูตินกล่าวเสริม, และเตือนว่าความเชื่ออย่างงมงายของโลกตะวันตกในการไม่ต้องรับโทษของตนเองอาจนำไปสู่โศกนาฏกรรมได้ นอกจากนี้ เขายังแสดงความกังวล, โดยระบุว่า ไม่มีการรับประกันว่าโลกตะวันตกจะไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ . Putin warns of Western adventurism and risk of nuclear escalation Putin remarked that democracy is increasingly being interpreted as the rule of the minority, not the majority. He criticized Western liberalism, saying it has led to extreme intolerance and aggression, and warned that we are approaching a dangerous threshold. Calls to defeat Russia reflect the reckless adventurism of certain politicians, Putin added, cautioning that the West's blind belief in its own impunity could lead to tragedy. He also raised concerns, noting that there is no guarantee nuclear weapons will not be used by the West. . 11:56 PM · Nov 7, 2024 · 4,463 Views https://x.com/SputnikInt/status/1854568729503256910
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 364 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.93 : BRICS ขยายตัวครั้งใหญ่ ประเทศไทยได้อะไร
    .
    ในการประชุม BRICS ปีนี้ ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย ได้มีการรับรองให้ ประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ รวม 13 ประเทศมีสถานะเป็น “ประเทศพันธมิตร” หรือ Partner countries ของกลุ่ม BRICS ซึ่งถือว่าเป็นก้าวแรกในการเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่ม BRICS อย่างสมบูรณ์ในอนาคต นี่จึงถือเป็นการขยายตัวครั้งใหญ่ของกลุ่ม BRICS ซึ่งถูกมองว่าจะเข้ามาถ่วงดุลอำนาจกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วในโลกตะวันตก หรือกลุ่ม G7
    .
    พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ในตอนนี้ จะมาให้ข้อมูลว่า การขยายตัวครั้งใหญ่ของกลุ่ม BRICS มีนัยยะสำคัญอย่างไร ประเทศไทยจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง และมีคำตอบของคุณมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ว่า การเข้าร่วมกลุ่ม BRICS ของไทย เป็นการเลือกข้าง ต่อต้านตะวันตก เหมือนที่ถูกวิจารณ์กันหรือไม่ ?
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=kk7Nv8U2S2M
    บูรพาไม่แพ้ Ep.93 : BRICS ขยายตัวครั้งใหญ่ ประเทศไทยได้อะไร . ในการประชุม BRICS ปีนี้ ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย ได้มีการรับรองให้ ประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ รวม 13 ประเทศมีสถานะเป็น “ประเทศพันธมิตร” หรือ Partner countries ของกลุ่ม BRICS ซึ่งถือว่าเป็นก้าวแรกในการเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่ม BRICS อย่างสมบูรณ์ในอนาคต นี่จึงถือเป็นการขยายตัวครั้งใหญ่ของกลุ่ม BRICS ซึ่งถูกมองว่าจะเข้ามาถ่วงดุลอำนาจกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วในโลกตะวันตก หรือกลุ่ม G7 . พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ในตอนนี้ จะมาให้ข้อมูลว่า การขยายตัวครั้งใหญ่ของกลุ่ม BRICS มีนัยยะสำคัญอย่างไร ประเทศไทยจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง และมีคำตอบของคุณมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ว่า การเข้าร่วมกลุ่ม BRICS ของไทย เป็นการเลือกข้าง ต่อต้านตะวันตก เหมือนที่ถูกวิจารณ์กันหรือไม่ ? . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=kk7Nv8U2S2M
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 487 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'กลุ่มตะวันตกรวมตัว ได้แยกตัวและประณามตัวเองว่าไม่เกี่ยวข้อง' - นักวิเคราะห์

    นักวิเคราะห์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กิลเบิร์ต ด็อกโตโรว์, ให้สัมภาษณ์กับสปุตนิก, ชื่นชมจุดยืนที่แน่วแน่ของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ในการประชุมสุดยอด BRICS ล่าสุด, โดยเน้นย้ำถึงอิทธิพลที่เพิ่มมากขึ้นของรัสเซียบนเวทีโลก แม้ฝ่ายตะวันตกจะพยายามแยกประเทศออกไป

    “เนื่องจากมีแขกคนสำคัญ, จำนวนมากกว่า ๒๕ คนจากหัวหน้ารัฐบาล, สื่อหลักในโลกตะวันตกจึงไม่สามารถเพิกเฉยต่อกลุ่ม BRICS และรัสเซียได้,” Doctorow กล่าว, พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้ทำให้เรื่องราวที่รัสเซียถูกมองว่าโดดเดี่ยวลดความน่าเชื่อถือลง

    นักวิเคราะห์ยังคาดเดาต่อไปว่า รัสเซียใช้ประโยชน์จากตำแหน่งประธานกลุ่ม BRICS เพื่อบรรลุเป้าหมายที่สร้างสรรค์, เช่นการจัดตั้งตลาดแลกเปลี่ยนสินค้าโภคภัณฑ์และกลุ่มประกันภัยต่อ, การวางตำแหน่งประเทศให้เป็นผู้นำที่มีประสิทธิผล Doctorow เน้นย้ำว่าความสำเร็จเหล่านี้ส่งสารที่ชัดเจนว่า “รัสเซียไม่ได้โดดเดี่ยว; ตรงกันข้าม, กลุ่มตะวันตกได้โดดเดี่ยวตัวเอง และประณามตัวเองว่าไม่เกี่ยวข้อง”

    “ข้อความของกลุ่ม BRICS เกี่ยวกับโลกที่มีหลายขั้วอำนาจ, การเคารพในอำนาจอธิปไตยและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ จะส่งผลกระทบต่อการรับรู้ของชาวยุโรปที่มีต่อรัสเซียและต่อตนเองอย่างแน่นอน,” Doctorow กล่าวเสริม, โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญในระยะยาวของกลุ่ม BRICS ในการกำหนดทิศทางการเมืองระดับโลก

    นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่าวิกฤตยูเครนจะสิ้นสุดลงในปี ๒๐๒๕, ไม่ว่าผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯจะเป็นอย่างไร

    “ยิ่งเป็นเช่นนั้นมากขึ้น เมื่อสหรัฐฯยุติสงครามยูเครนโดยถอนความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารให้กับเคียฟ วันนั้นจะมาถึงเร็วมากในปี ๒๐๒๕ หากทรัมป์ชนะในวันที่ ๕ พฤศจิกายน; จะมาถึงช้ากว่าเล็กน้อยในปี ๒๐๒๕ หากแฮร์ริสชนะ เนื่องจากรัฐสภาจะต่อต้านการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมใดๆให้กับเคียฟ,” Doctorow คาดเดา

    #BRICS2024
    .
    ‘COLLECTIVE WEST HAS SELF-ISOLATED AND CONDEMNED ITSELF TO IRRELEVANCE’ – ANALYST

    International relations analyst Gilbert Doctorow, in an interview with Sputnik, praised Russian President Vladimir Putin's firm stance at the recent BRICS summit, highlighting Russia's growing influence on the global stage despite Western efforts to isolate the country.

    “Because of the important guests, numbering more than 25 heads of government, it has been impossible for major media in the West to ignore BRICS and Russia," Doctorow said, noting how this undermines the narrative of Russia's supposed isolation.

    The analyst further speculated how Russia leveraged its BRICS presidency to advance innovative goals, such as establishing commodity exchanges and a reinsurance pool, positioning the country as a constructive leader. Doctorow emphasized that these achievements send a clear message: “Russia is not isolated; on the contrary, the Collective West has self-isolated and condemned itself to irrelevance.”

    "The BRICS message of a multipolar world, of respect for the sovereignty and unique cultures of each nation will surely have an impact on Europeans' perception of Russia and of themselves," Doctorow added, stressing the long-term significance of BRICS in shaping global politics.

    The analyst also predicted the Ukraine crisis will conclude in 2025, regardless of the outcome of the US presidential election.

    “This will be all the more the case when the United States puts an end to the Ukraine war by withdrawing its financial and military assistance to Kiev. That day will come very early in 2025 if Trump wins on 5 November; it will come with a slight delay in 2025 if Harris wins because Congress will resist any further appropriations to Kiev,” Doctorow speculated.

    #BRICS2024
    .
    11:03 AM · Oct 25, 2024 · 3,132 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1849663060518068497
    'กลุ่มตะวันตกรวมตัว ได้แยกตัวและประณามตัวเองว่าไม่เกี่ยวข้อง' - นักวิเคราะห์ นักวิเคราะห์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กิลเบิร์ต ด็อกโตโรว์, ให้สัมภาษณ์กับสปุตนิก, ชื่นชมจุดยืนที่แน่วแน่ของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ในการประชุมสุดยอด BRICS ล่าสุด, โดยเน้นย้ำถึงอิทธิพลที่เพิ่มมากขึ้นของรัสเซียบนเวทีโลก แม้ฝ่ายตะวันตกจะพยายามแยกประเทศออกไป “เนื่องจากมีแขกคนสำคัญ, จำนวนมากกว่า ๒๕ คนจากหัวหน้ารัฐบาล, สื่อหลักในโลกตะวันตกจึงไม่สามารถเพิกเฉยต่อกลุ่ม BRICS และรัสเซียได้,” Doctorow กล่าว, พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้ทำให้เรื่องราวที่รัสเซียถูกมองว่าโดดเดี่ยวลดความน่าเชื่อถือลง นักวิเคราะห์ยังคาดเดาต่อไปว่า รัสเซียใช้ประโยชน์จากตำแหน่งประธานกลุ่ม BRICS เพื่อบรรลุเป้าหมายที่สร้างสรรค์, เช่นการจัดตั้งตลาดแลกเปลี่ยนสินค้าโภคภัณฑ์และกลุ่มประกันภัยต่อ, การวางตำแหน่งประเทศให้เป็นผู้นำที่มีประสิทธิผล Doctorow เน้นย้ำว่าความสำเร็จเหล่านี้ส่งสารที่ชัดเจนว่า “รัสเซียไม่ได้โดดเดี่ยว; ตรงกันข้าม, กลุ่มตะวันตกได้โดดเดี่ยวตัวเอง และประณามตัวเองว่าไม่เกี่ยวข้อง” “ข้อความของกลุ่ม BRICS เกี่ยวกับโลกที่มีหลายขั้วอำนาจ, การเคารพในอำนาจอธิปไตยและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ จะส่งผลกระทบต่อการรับรู้ของชาวยุโรปที่มีต่อรัสเซียและต่อตนเองอย่างแน่นอน,” Doctorow กล่าวเสริม, โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญในระยะยาวของกลุ่ม BRICS ในการกำหนดทิศทางการเมืองระดับโลก นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่าวิกฤตยูเครนจะสิ้นสุดลงในปี ๒๐๒๕, ไม่ว่าผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯจะเป็นอย่างไร “ยิ่งเป็นเช่นนั้นมากขึ้น เมื่อสหรัฐฯยุติสงครามยูเครนโดยถอนความช่วยเหลือทางการเงินและการทหารให้กับเคียฟ วันนั้นจะมาถึงเร็วมากในปี ๒๐๒๕ หากทรัมป์ชนะในวันที่ ๕ พฤศจิกายน; จะมาถึงช้ากว่าเล็กน้อยในปี ๒๐๒๕ หากแฮร์ริสชนะ เนื่องจากรัฐสภาจะต่อต้านการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมใดๆให้กับเคียฟ,” Doctorow คาดเดา #BRICS2024 . ‘COLLECTIVE WEST HAS SELF-ISOLATED AND CONDEMNED ITSELF TO IRRELEVANCE’ – ANALYST International relations analyst Gilbert Doctorow, in an interview with Sputnik, praised Russian President Vladimir Putin's firm stance at the recent BRICS summit, highlighting Russia's growing influence on the global stage despite Western efforts to isolate the country. “Because of the important guests, numbering more than 25 heads of government, it has been impossible for major media in the West to ignore BRICS and Russia," Doctorow said, noting how this undermines the narrative of Russia's supposed isolation. The analyst further speculated how Russia leveraged its BRICS presidency to advance innovative goals, such as establishing commodity exchanges and a reinsurance pool, positioning the country as a constructive leader. Doctorow emphasized that these achievements send a clear message: “Russia is not isolated; on the contrary, the Collective West has self-isolated and condemned itself to irrelevance.” "The BRICS message of a multipolar world, of respect for the sovereignty and unique cultures of each nation will surely have an impact on Europeans' perception of Russia and of themselves," Doctorow added, stressing the long-term significance of BRICS in shaping global politics. The analyst also predicted the Ukraine crisis will conclude in 2025, regardless of the outcome of the US presidential election. “This will be all the more the case when the United States puts an end to the Ukraine war by withdrawing its financial and military assistance to Kiev. That day will come very early in 2025 if Trump wins on 5 November; it will come with a slight delay in 2025 if Harris wins because Congress will resist any further appropriations to Kiev,” Doctorow speculated. #BRICS2024 . 11:03 AM · Oct 25, 2024 · 3,132 Views https://x.com/SputnikInt/status/1849663060518068497
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้แทนเกาหลีเหนือประจำยูเอ็น ออกมาแถลง โต้ข่าวซึ่งเผยแพร่อยู่ในโลกตะวันตก ที่กล่าวหาโสมแดงส่งทหารไปช่วยรัสเซียสู้รบในยูเครน ชี้เป็นข่าวลือไม่มีมูล หลังจากก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้แสดงปฏิกิริยาต่อข่าวนี้ด้วยการประณามโสมเหนืออย่างรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้เปียงยางถอนทหารกลับทันที รวมทั้งประกาศว่า ถ้าการเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างเปียงยางกับมอสโกยังดำเนินต่อไป โซลจะดำเนินมาตรการตอบโต้ นอกจากนั้นผู้นำเกาหลีใต้ยังเล็งเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้ ยูเครน และนาโต
    .
    สืบเนื่องจากที่หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้กล่าวอ้างตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ (18) ว่า เปียงยางได้จัดส่งทหารจำนวนมากไปช่วยรัสเซีย โดยระบุว่า ขณะนี้กองกำลังสู้รบพิเศษราว 1,500 นายของเกาหลีเหนือ ถูกส่งไปฝึกอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกไกลของรัสเซียแล้ว และพร้อมไปร่วมรบในสงครามยูเครนเร็วๆ นี้
    .
    อย่างไรก็ดี ในวันจันทร์ (21) ผู้แทนของเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ แถลงในการประชุมคณะกรรมาธิการของสมัชชาใหญ่ยูเอ็นว่า การกล่าวอ้างของโซลมีเป้าหมายเพื่อทำลายภาพลักษณ์ของเกาหลีเหนือ รวมทั้งบ่อนทำลายความสัมพันธ์ฉันมิตรอันชอบธรรมระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย
    .
    เปียงยางและมอสโกเป็นพันธมิตรกันนับจากการก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้นภายหลังรัสเซียรุกรานยูเครนในปี 2022 ขณะที่เกาหลีใต้และอเมริกาซึ่งก็สนิทสนมกันมากตั้งแต่หลังสงคราม กล่าวหามานานแล้วว่า คิม จองอึน ผู้นำโสมแดง ส่งอาวุธให้รัสเซียใช้ในยูเครน
    .
    เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กับคิมยังลงนามข้อตกลงความมั่นคงที่กำหนดว่า สองประเทศจะช่วยเหลือกันหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดถูกศัตรูรุกราน
    .
    ทางด้านจอร์จี ซีโนเวียฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำโซล ที่ถูกเกาหลีใต้เรียกเข้าพบในวันจันทร์ (21) เพื่อร้องเรียน ไม่ได้ยืนยันข้อกล่าวหาของเกาหลีใต้ แต่ย้ำว่า ความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนืออยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและไม่กระทบโดยตรงต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของเกาหลีใต้แต่อย่างใด
    .
    นอกจากนั้นเมื่อคืนวันจันทร์ ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ยังแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือไม่ได้พุ่งเป้าที่ประเทศที่สาม และไม่มีใครต้องกังวล
    .
    ในส่วนอเมริกาและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) แม้ไม่ได้ออกมายืนยันข้อกล่าวอ้างของโซล แต่โรเบิร์ต วูด รองเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงว่า หากข้อกล่าวหาเรื่องเกาหลีเหนือเป็นจริง จะถือเป็นความเคลื่อนไหวที่อันตรายและน่ากังวลมาก อีกทั้งสะท้อนความสัมพันธ์ทางทหารที่ลึกซึ้งขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย
    .
    ส่วน มาร์ก รึตเตอ เลขาธิการนาโต กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า การที่เปียงยางส่งทหารไปช่วยรัสเซียรบจะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งยิ่งลุกลาม
    .
    ระหว่างการหารือทางโทรศัพท์กับรึตเตอ ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดียุน ซอกยอลของเกาหลีใต้ เรียกร้องให้นาโตสำรวจมาตรการตอบโต้ที่เป็นรูปธรรม และสำทับว่า จะดำเนินการขั้นตอนต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้ ยูเครน และนาโต
    .
    ขณะเดียวกัน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ตอบคำถามบีบีซีเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องการร่วมมือระหว่างเปียงยาง-มอสโกว่า จีนหวังว่า ทุกฝ่ายจะดำเนินการเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์และหาทางแก้ไขวิกฤตยูเครนด้วยแนวทางการเมือง
    .
    ต่อมาในวันอังคาร (22 ต.ค.) สภาความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ออกคำแถลงประณามเกาหลีเหนืออย่างรุนแรงว่า การส่งทหารไปร่วมสงครามรุกรานที่ผิดกฎหมายของรัสเซียในยูเครนเป็นภัยคุกคามความมั่นคงอย่างมากไม่เฉพาะกับเกาหลีใต้ แต่รวมถึงนานาชาติ พร้อมเรียกร้องให้เปียงยางถอนทหารกลับประเทศทันที และประกาศว่า ถ้าการเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างเปียงยางกับมอสโกยังดำเนินต่อไป เกาหลีใต้จะดำเนินมาตรการตอบโต้
    .
    วันเดียวกันนั้น สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวในรัฐบาลคนหนึ่งว่า โซลกำลังพิจารณาส่งทีมเจ้าหน้าที่ไปยูเครนเพื่อติดตามตรวจสอบเกี่ยวกับทหารเกาหลีเหนือที่ถูกส่งไปรัสเซีย
    .
    จากข้อมูลของแหล่งข่าว ทีมที่จะส่งไปมีแนวโน้มประกอบด้วยนายทหารจากหน่วยข่าวกรองเพื่อวิเคราะห์กลยุทธ์ในสนามรบของเกาหลีเหนือ และร่วมสอบปากคำเชลยสงครามที่ยูเครนควบคุมตัวอยู่
    .
    ยอนฮัปยังรายงานว่า บัญชีเทเลแกรมที่สนับสนุนรัสเซียโพสต์ภาพธงรัสเซียและเกาหลีเหนือเคียงข้างกันอยู่ในสนามรบในยูเครน
    .
    สื่อบางสำนักของเกาหลีใต้อ้างว่า เกาหลีเหนืออาจส่งทหารถึง 12,000 นายไปช่วยรัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102030
    ..............
    Sondhi X
    ผู้แทนเกาหลีเหนือประจำยูเอ็น ออกมาแถลง โต้ข่าวซึ่งเผยแพร่อยู่ในโลกตะวันตก ที่กล่าวหาโสมแดงส่งทหารไปช่วยรัสเซียสู้รบในยูเครน ชี้เป็นข่าวลือไม่มีมูล หลังจากก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้แสดงปฏิกิริยาต่อข่าวนี้ด้วยการประณามโสมเหนืออย่างรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้เปียงยางถอนทหารกลับทันที รวมทั้งประกาศว่า ถ้าการเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างเปียงยางกับมอสโกยังดำเนินต่อไป โซลจะดำเนินมาตรการตอบโต้ นอกจากนั้นผู้นำเกาหลีใต้ยังเล็งเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้ ยูเครน และนาโต . สืบเนื่องจากที่หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้กล่าวอ้างตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ (18) ว่า เปียงยางได้จัดส่งทหารจำนวนมากไปช่วยรัสเซีย โดยระบุว่า ขณะนี้กองกำลังสู้รบพิเศษราว 1,500 นายของเกาหลีเหนือ ถูกส่งไปฝึกอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกไกลของรัสเซียแล้ว และพร้อมไปร่วมรบในสงครามยูเครนเร็วๆ นี้ . อย่างไรก็ดี ในวันจันทร์ (21) ผู้แทนของเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ แถลงในการประชุมคณะกรรมาธิการของสมัชชาใหญ่ยูเอ็นว่า การกล่าวอ้างของโซลมีเป้าหมายเพื่อทำลายภาพลักษณ์ของเกาหลีเหนือ รวมทั้งบ่อนทำลายความสัมพันธ์ฉันมิตรอันชอบธรรมระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย . เปียงยางและมอสโกเป็นพันธมิตรกันนับจากการก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้นภายหลังรัสเซียรุกรานยูเครนในปี 2022 ขณะที่เกาหลีใต้และอเมริกาซึ่งก็สนิทสนมกันมากตั้งแต่หลังสงคราม กล่าวหามานานแล้วว่า คิม จองอึน ผู้นำโสมแดง ส่งอาวุธให้รัสเซียใช้ในยูเครน . เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กับคิมยังลงนามข้อตกลงความมั่นคงที่กำหนดว่า สองประเทศจะช่วยเหลือกันหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดถูกศัตรูรุกราน . ทางด้านจอร์จี ซีโนเวียฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำโซล ที่ถูกเกาหลีใต้เรียกเข้าพบในวันจันทร์ (21) เพื่อร้องเรียน ไม่ได้ยืนยันข้อกล่าวหาของเกาหลีใต้ แต่ย้ำว่า ความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนืออยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและไม่กระทบโดยตรงต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของเกาหลีใต้แต่อย่างใด . นอกจากนั้นเมื่อคืนวันจันทร์ ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ยังแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือไม่ได้พุ่งเป้าที่ประเทศที่สาม และไม่มีใครต้องกังวล . ในส่วนอเมริกาและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) แม้ไม่ได้ออกมายืนยันข้อกล่าวอ้างของโซล แต่โรเบิร์ต วูด รองเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงว่า หากข้อกล่าวหาเรื่องเกาหลีเหนือเป็นจริง จะถือเป็นความเคลื่อนไหวที่อันตรายและน่ากังวลมาก อีกทั้งสะท้อนความสัมพันธ์ทางทหารที่ลึกซึ้งขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย . ส่วน มาร์ก รึตเตอ เลขาธิการนาโต กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า การที่เปียงยางส่งทหารไปช่วยรัสเซียรบจะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งยิ่งลุกลาม . ระหว่างการหารือทางโทรศัพท์กับรึตเตอ ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดียุน ซอกยอลของเกาหลีใต้ เรียกร้องให้นาโตสำรวจมาตรการตอบโต้ที่เป็นรูปธรรม และสำทับว่า จะดำเนินการขั้นตอนต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้ ยูเครน และนาโต . ขณะเดียวกัน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ตอบคำถามบีบีซีเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องการร่วมมือระหว่างเปียงยาง-มอสโกว่า จีนหวังว่า ทุกฝ่ายจะดำเนินการเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์และหาทางแก้ไขวิกฤตยูเครนด้วยแนวทางการเมือง . ต่อมาในวันอังคาร (22 ต.ค.) สภาความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ออกคำแถลงประณามเกาหลีเหนืออย่างรุนแรงว่า การส่งทหารไปร่วมสงครามรุกรานที่ผิดกฎหมายของรัสเซียในยูเครนเป็นภัยคุกคามความมั่นคงอย่างมากไม่เฉพาะกับเกาหลีใต้ แต่รวมถึงนานาชาติ พร้อมเรียกร้องให้เปียงยางถอนทหารกลับประเทศทันที และประกาศว่า ถ้าการเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างเปียงยางกับมอสโกยังดำเนินต่อไป เกาหลีใต้จะดำเนินมาตรการตอบโต้ . วันเดียวกันนั้น สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวในรัฐบาลคนหนึ่งว่า โซลกำลังพิจารณาส่งทีมเจ้าหน้าที่ไปยูเครนเพื่อติดตามตรวจสอบเกี่ยวกับทหารเกาหลีเหนือที่ถูกส่งไปรัสเซีย . จากข้อมูลของแหล่งข่าว ทีมที่จะส่งไปมีแนวโน้มประกอบด้วยนายทหารจากหน่วยข่าวกรองเพื่อวิเคราะห์กลยุทธ์ในสนามรบของเกาหลีเหนือ และร่วมสอบปากคำเชลยสงครามที่ยูเครนควบคุมตัวอยู่ . ยอนฮัปยังรายงานว่า บัญชีเทเลแกรมที่สนับสนุนรัสเซียโพสต์ภาพธงรัสเซียและเกาหลีเหนือเคียงข้างกันอยู่ในสนามรบในยูเครน . สื่อบางสำนักของเกาหลีใต้อ้างว่า เกาหลีเหนืออาจส่งทหารถึง 12,000 นายไปช่วยรัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102030 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1459 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามตัวแทนของยูเครนยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่สหรัฐฯพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อที่จะกอบกู้ความเป็นผู้นำระดับโลก

    🤣ความพ่ายแพ้ของสหรัฐฯในสงครามตัวแทนของยูเครนคุกคามการครอบงำของชาติตะวันตกโดยสิ้นเชิง🤣

    “ความเป็นผู้นำระดับโลกของสหรัฐฯอยู่ในความเสี่ยง,” มาร์ก สเลโบดา กล่าวในรายการ The Final Countdown ของสปุตนิกตอนสุดท้ายเมื่อวันอังคาร

    “ผมคิดว่า [ความพ่ายแพ้ในยูเครน] จะแย่กว่าการถอนตัวของอัฟกานิสถานมาก เพราะนักวิเคราะห์ตะวันตกส่วนใหญ่มองว่าเรื่องนี้ – และผมก็เห็นด้วยกับพวกเขาในเรื่องนี้ – เป็นการสร้างความขัดแย้งในระเบียบโลก,” นักวิเคราะห์กล่าวต่อ “บอริส จอห์นสัน, อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ, กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า: อำนาจครอบงำของโลกตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯอยู่ในความเสี่ยง”

    ปัจจุบันระเบียบโลกที่นำโดยสหรัฐฯ กำลังถูกทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงในหลายด้าน ในด้านเศรษฐกิจ ชาติตะวันตกกำลังล้มเหลว, ด้วยความเหลื่อมล้ำที่พุ่งสูงขึ้น และการสูญเสียพลวัตและนวัตกรรมให้กับประเทศกำลังพัฒนาที่นำโดยจีน ชื่อเสียงของยูเครนตกอยู่ในสภาพยับเยิน เนื่องจากความโหดร้ายของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของรัฐลูกค้าอิสราเอลถูกเปิดเผยออกมาอย่างเต็มที่

    🤣ขณะนี้ ความพ่ายแพ้ของยูเครนกำลังทำลายภาพลักษณ์ของความไร้เทียมทานทางทหารของชาติตะวันตก เนื่องจากพบว่าการวางแผนและอาวุธที่ดีที่สุดของประเทศยังขาดตกบกพร่อง🤣

    “พวกเขาเชื่อในทฤษฎีโดมิโนหลังสมัยใหม่ว่า หากพวกเขาถูกมองว่าแพ้รัสเซียในยูเครน... นี่จะเป็นสัญญาณของทฤษฎีโดมิโนสมัยใหม่บางรูปแบบ,” สเลโบดาอ้าง 🤣“ดังนั้นจึงไม่มีทางลงจอด ฉันไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะมีแนวคิดที่จะเห็นทางลงจอด, แน่นอนว่าไม่ใช่จากไบเดน-แฮร์ริส”🤣
    .
    UKRAINE PROXY WAR SET TO CONTINUE AS US DESPERATELY ATTEMPTS TO SALVAGE GLOBAL LEADERSHIP

    The defeat of the United States in its Ukraine proxy war threatens to fully discredit Western hegemony.

    “US global leadership is on the line,” claimed Mark Sleboda on the last episode of Sputnik’s The Final Countdown program Tuesday.

    “I would think [a loss in Ukraine] would be a lot worse than the Afghanistan withdrawal because most Western analysts regard this – and I agree with them on this – as a world order shaping conflict,” the analyst continued. “Boris Johnson, the former British prime minister, said it outright: US-led Western global hegemony is on the line.”

    The US-led world order is currently being discredited on a number of fronts. Economically the West is failing, with skyrocketing inequality and a loss of dynamism and innovation to the Chinese-led Global South. Its reputation lies in tatters as the genocidal brutality of its Israeli client state is fully unveiled.

    Now Ukraine’s defeat is eliminating the West’s aura of military invincibility as its best planning and armaments have been found wanting.

    “They believe in a post-modern domino theory that if they are seen as losing here in Ukraine against Russia… this would be some kind of modern domino theory signal,” Sleboda claimed. “So there’s just no off-ramp. I don’t even think there’s a conception of seeing an off-ramp, certainly not from Biden-Harris.”
    .
    7:31 AM · Oct 16, 2024 · 2,124 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1846348254394401149
    สงครามตัวแทนของยูเครนยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่สหรัฐฯพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อที่จะกอบกู้ความเป็นผู้นำระดับโลก 🤣ความพ่ายแพ้ของสหรัฐฯในสงครามตัวแทนของยูเครนคุกคามการครอบงำของชาติตะวันตกโดยสิ้นเชิง🤣 “ความเป็นผู้นำระดับโลกของสหรัฐฯอยู่ในความเสี่ยง,” มาร์ก สเลโบดา กล่าวในรายการ The Final Countdown ของสปุตนิกตอนสุดท้ายเมื่อวันอังคาร “ผมคิดว่า [ความพ่ายแพ้ในยูเครน] จะแย่กว่าการถอนตัวของอัฟกานิสถานมาก เพราะนักวิเคราะห์ตะวันตกส่วนใหญ่มองว่าเรื่องนี้ – และผมก็เห็นด้วยกับพวกเขาในเรื่องนี้ – เป็นการสร้างความขัดแย้งในระเบียบโลก,” นักวิเคราะห์กล่าวต่อ “บอริส จอห์นสัน, อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ, กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า: อำนาจครอบงำของโลกตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯอยู่ในความเสี่ยง” ปัจจุบันระเบียบโลกที่นำโดยสหรัฐฯ กำลังถูกทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงในหลายด้าน ในด้านเศรษฐกิจ ชาติตะวันตกกำลังล้มเหลว, ด้วยความเหลื่อมล้ำที่พุ่งสูงขึ้น และการสูญเสียพลวัตและนวัตกรรมให้กับประเทศกำลังพัฒนาที่นำโดยจีน ชื่อเสียงของยูเครนตกอยู่ในสภาพยับเยิน เนื่องจากความโหดร้ายของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของรัฐลูกค้าอิสราเอลถูกเปิดเผยออกมาอย่างเต็มที่ 🤣ขณะนี้ ความพ่ายแพ้ของยูเครนกำลังทำลายภาพลักษณ์ของความไร้เทียมทานทางทหารของชาติตะวันตก เนื่องจากพบว่าการวางแผนและอาวุธที่ดีที่สุดของประเทศยังขาดตกบกพร่อง🤣 “พวกเขาเชื่อในทฤษฎีโดมิโนหลังสมัยใหม่ว่า หากพวกเขาถูกมองว่าแพ้รัสเซียในยูเครน... นี่จะเป็นสัญญาณของทฤษฎีโดมิโนสมัยใหม่บางรูปแบบ,” สเลโบดาอ้าง 🤣“ดังนั้นจึงไม่มีทางลงจอด ฉันไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะมีแนวคิดที่จะเห็นทางลงจอด, แน่นอนว่าไม่ใช่จากไบเดน-แฮร์ริส”🤣 . UKRAINE PROXY WAR SET TO CONTINUE AS US DESPERATELY ATTEMPTS TO SALVAGE GLOBAL LEADERSHIP The defeat of the United States in its Ukraine proxy war threatens to fully discredit Western hegemony. “US global leadership is on the line,” claimed Mark Sleboda on the last episode of Sputnik’s The Final Countdown program Tuesday. “I would think [a loss in Ukraine] would be a lot worse than the Afghanistan withdrawal because most Western analysts regard this – and I agree with them on this – as a world order shaping conflict,” the analyst continued. “Boris Johnson, the former British prime minister, said it outright: US-led Western global hegemony is on the line.” The US-led world order is currently being discredited on a number of fronts. Economically the West is failing, with skyrocketing inequality and a loss of dynamism and innovation to the Chinese-led Global South. Its reputation lies in tatters as the genocidal brutality of its Israeli client state is fully unveiled. Now Ukraine’s defeat is eliminating the West’s aura of military invincibility as its best planning and armaments have been found wanting. “They believe in a post-modern domino theory that if they are seen as losing here in Ukraine against Russia… this would be some kind of modern domino theory signal,” Sleboda claimed. “So there’s just no off-ramp. I don’t even think there’s a conception of seeing an off-ramp, certainly not from Biden-Harris.” . 7:31 AM · Oct 16, 2024 · 2,124 Views https://x.com/SputnikInt/status/1846348254394401149
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts