• รอง ผกก. สมุทรปราการฉาว! อดีตแฟนสาวร้องทนายกบแฉ ถูกหลอกเงินครึ่งล้าน-เสพยา-เล่นพนันในเวลาราชการ

    เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 มีนาคม 2568 ที่สำนักงานกฎหมายนิติโชติวนิชย์ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี นางสาวฟ้า (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี พนักงานต้อนรับโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ นำหลักฐานเอกสารและอุปกรณ์เสพยาไอซ์ของอดีตแฟนหนุ่ม คบกันเกือบ 2 ปี ซึ่งเป็นตำรวจยศพันตำรวจโท ตำแหน่งรองผู้กำกับการ (สอบสวน) ในพื้นที่สมุทรปราการ เข้าร้องขอความเป็นธรรมจากนายณธัชพงศ์ บุญเกิด หรือ “ทนายกบ” หลังจากแจ้งความดำเนินคดีและร้องเรียนเรื่องวินัย กับสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่มีคลิปหลักฐานขณะเสพยาไอซ์ เล่นพนันออนไลน์ และดื่มเบียร์ในเวลาราชการ นอกจากนี้ อดีตแฟนหนุ่มยังแอบถอนเงินจากบัญชีและยืมเงินไปกว่า 500,000 บาท

    นางสาวฟ้า เปิดเผยว่า ตนทำงานเป็นพนักงานต้อนรับโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ และได้รู้จักพันตำรวจโทคนดังกล่าวเมื่อเดือนมกราคม 2565 ขณะนั้นเขามีตำแหน่งเป็นสาาวัตร โดยเขาเข้าพักที่โรงแรมบ่อยครั้ง ทำให้มีโอกาสพูดคุยกัน ต่อมาตนได้รับใบสั่งจราจรและขอให้เขาช่วยไปจ่ายค่าปรับให้ จากนั้นจึงแลกไลน์และพูดคุยกันเรื่อยมา ก่อนจะพัฒนาความสัมพันธ์เป็นคู่รัก

    ในช่วงแรกของการคบหา เขาทำงานปกติและมีท่าทีเป็นคนดี ตนจึงใช้ชีวิตร่วมกับเขาเหมือนสามีภรรยาทั่วไป แต่ไม่ได้ใช้กระเป๋าตังค์เดียวกัน โดยเขามานอนที่บ้านตนทุกวัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปี 2565 พฤติกรรมของเขาเริ่มเปลี่ยนไป เขาขอยืมโทรศัพท์ของตนโดยอ้างว่าจะนำไปเล่นเกม และมักขอหยิบยืมเงินอยู่บ่อยครั้ง โดยอ้างว่าจะคืนเมื่อถึงสิ้นเดือน แต่กลับไม่เคยคืน นอกจากนี้ ตนยังพบว่ามีเจ้าหนี้โทรศัพท์มาตามทวงเงินเขา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เขามักบอกว่าต้องใช้เงินในการทำคดีหรือจ่ายค่าเข้าเวร กระทั่งตนทราบว่าเขาติดการพนันออนไลน์

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000027837

    #MGROnline #เสพยา #การพนัน
    รอง ผกก. สมุทรปราการฉาว! อดีตแฟนสาวร้องทนายกบแฉ ถูกหลอกเงินครึ่งล้าน-เสพยา-เล่นพนันในเวลาราชการ • เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 มีนาคม 2568 ที่สำนักงานกฎหมายนิติโชติวนิชย์ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี นางสาวฟ้า (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี พนักงานต้อนรับโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ นำหลักฐานเอกสารและอุปกรณ์เสพยาไอซ์ของอดีตแฟนหนุ่ม คบกันเกือบ 2 ปี ซึ่งเป็นตำรวจยศพันตำรวจโท ตำแหน่งรองผู้กำกับการ (สอบสวน) ในพื้นที่สมุทรปราการ เข้าร้องขอความเป็นธรรมจากนายณธัชพงศ์ บุญเกิด หรือ “ทนายกบ” หลังจากแจ้งความดำเนินคดีและร้องเรียนเรื่องวินัย กับสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่มีคลิปหลักฐานขณะเสพยาไอซ์ เล่นพนันออนไลน์ และดื่มเบียร์ในเวลาราชการ นอกจากนี้ อดีตแฟนหนุ่มยังแอบถอนเงินจากบัญชีและยืมเงินไปกว่า 500,000 บาท • นางสาวฟ้า เปิดเผยว่า ตนทำงานเป็นพนักงานต้อนรับโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ และได้รู้จักพันตำรวจโทคนดังกล่าวเมื่อเดือนมกราคม 2565 ขณะนั้นเขามีตำแหน่งเป็นสาาวัตร โดยเขาเข้าพักที่โรงแรมบ่อยครั้ง ทำให้มีโอกาสพูดคุยกัน ต่อมาตนได้รับใบสั่งจราจรและขอให้เขาช่วยไปจ่ายค่าปรับให้ จากนั้นจึงแลกไลน์และพูดคุยกันเรื่อยมา ก่อนจะพัฒนาความสัมพันธ์เป็นคู่รัก • ในช่วงแรกของการคบหา เขาทำงานปกติและมีท่าทีเป็นคนดี ตนจึงใช้ชีวิตร่วมกับเขาเหมือนสามีภรรยาทั่วไป แต่ไม่ได้ใช้กระเป๋าตังค์เดียวกัน โดยเขามานอนที่บ้านตนทุกวัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปี 2565 พฤติกรรมของเขาเริ่มเปลี่ยนไป เขาขอยืมโทรศัพท์ของตนโดยอ้างว่าจะนำไปเล่นเกม และมักขอหยิบยืมเงินอยู่บ่อยครั้ง โดยอ้างว่าจะคืนเมื่อถึงสิ้นเดือน แต่กลับไม่เคยคืน นอกจากนี้ ตนยังพบว่ามีเจ้าหนี้โทรศัพท์มาตามทวงเงินเขา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เขามักบอกว่าต้องใช้เงินในการทำคดีหรือจ่ายค่าเข้าเวร กระทั่งตนทราบว่าเขาติดการพนันออนไลน์ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000027837 • #MGROnline #เสพยา #การพนัน
    0 Comments 0 Shares 452 Views 0 Reviews
  • เมีย “แป้ง นาโหนด” ฟ้องแฟนสาวของสามี ฐานยักยอกทรัพย์ เผยรู้จักเสี่ยจำเลยคดีดังตอนหลบหนีอยู่อินโดนีเซีย หลังถูกจับส่งตัวมาไทยได้มอบทองหนัก 4 บาทพร้อมนาฬิกาให้เพื่อนำไปขายเอาเงินมาดูแลคดีและส่งให้ใช้ในเรือนจำ แต่ฝ่ายหญิงรู้ทีหลังว่ามีเมียแล้ว รู้สึกเหมือนถูกหลอกใช้และเลิกติดต่อกันในที่สุด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000027464
    เมีย “แป้ง นาโหนด” ฟ้องแฟนสาวของสามี ฐานยักยอกทรัพย์ เผยรู้จักเสี่ยจำเลยคดีดังตอนหลบหนีอยู่อินโดนีเซีย หลังถูกจับส่งตัวมาไทยได้มอบทองหนัก 4 บาทพร้อมนาฬิกาให้เพื่อนำไปขายเอาเงินมาดูแลคดีและส่งให้ใช้ในเรือนจำ แต่ฝ่ายหญิงรู้ทีหลังว่ามีเมียแล้ว รู้สึกเหมือนถูกหลอกใช้และเลิกติดต่อกันในที่สุด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000027464
    Like
    Haha
    Wow
    Angry
    10
    0 Comments 0 Shares 824 Views 0 Reviews
  • เพิ่งผ่านวันเกิดของแฟนสาว “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” ไปเมื่อวันก่อน ล่าสุดฝั่งพระเอกหนุ่ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ”ก็เผยถึงโมเมนต์นี้ในงานแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คอนโดฯ ออริจิ้น–บ้านบริทาเนีย ณ โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เจ้าตัวเผยว่าปีนี้เรียบง่ายมากๆ ตอนเช้าไปทำบุญ และตอนเย็นก็ไปทานข้าวต้มกับเพื่อนๆ เท่านั้น

    “วันเกิดน้องตอนเช้าก็ไปทำบุญครับ ตกเย็นก็นัดเพื่อนๆ ไปกินข้าวกัน น้องก็ 32 แล้ว แป๊บเดียวเอง ความพิเศษผมว่าทุกปีก็พิเศษเหมือนกันนะครับ แต่ละปีอาจจะพิเศษกันคนละแบบ เพราะว่าทำงานกัน แล้วก็คงจะเหนื่อยๆ กันด้วย ก็ทำอะไรกันง่ายๆ ตอนเช้าน้องก็อยากไปทำบุญ ถวายสังฆทาน ตกเย็นมาก็ชวนเพื่อนๆ ไปกินร้านข้าวต้ม ก็สนุกดี ชิลๆ มีความสุขกันดี ก็มีแฮปปี้เบิร์ธเดย์ แล้วก็อวยพรเขา ภาพก็มีถ่ายไว้ ก็เอาเก็บไว้ดูเล่น แต่พักหลังๆ มาเราก็ไม่ค่อยได้ไปถ่ายรูปที่ไหนกันหรือว่ามีงานที่เป็นคู่ ก็เลยเอาโมเมนต์ที่เราแอบถ่ายเขาบ้าง เก็บไว้บ้างมาลง เป็นอีกหนึ่งการบอกความรู้สึกในใจว่าเรามีความสุขที่ได้อยู่กับเขา มีความสุขมากๆ เป็นผู้หญิงที่ทำให้เรามีเสียงหัวเราะได้แต่ตอนลงก็ไม่ได้ขอหรอกครับ ลงเลย (หัวเราะ) แต่เราก็ดูแหละว่าอันไหนเหมาะสม ไม่เหมาะสม”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000026455

    #MGROnline #เญาญ่าอุรัสยา #ณเดชน์คูกิมิยะ
    เพิ่งผ่านวันเกิดของแฟนสาว “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” ไปเมื่อวันก่อน ล่าสุดฝั่งพระเอกหนุ่ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ”ก็เผยถึงโมเมนต์นี้ในงานแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คอนโดฯ ออริจิ้น–บ้านบริทาเนีย ณ โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เจ้าตัวเผยว่าปีนี้เรียบง่ายมากๆ ตอนเช้าไปทำบุญ และตอนเย็นก็ไปทานข้าวต้มกับเพื่อนๆ เท่านั้น • “วันเกิดน้องตอนเช้าก็ไปทำบุญครับ ตกเย็นก็นัดเพื่อนๆ ไปกินข้าวกัน น้องก็ 32 แล้ว แป๊บเดียวเอง ความพิเศษผมว่าทุกปีก็พิเศษเหมือนกันนะครับ แต่ละปีอาจจะพิเศษกันคนละแบบ เพราะว่าทำงานกัน แล้วก็คงจะเหนื่อยๆ กันด้วย ก็ทำอะไรกันง่ายๆ ตอนเช้าน้องก็อยากไปทำบุญ ถวายสังฆทาน ตกเย็นมาก็ชวนเพื่อนๆ ไปกินร้านข้าวต้ม ก็สนุกดี ชิลๆ มีความสุขกันดี ก็มีแฮปปี้เบิร์ธเดย์ แล้วก็อวยพรเขา ภาพก็มีถ่ายไว้ ก็เอาเก็บไว้ดูเล่น แต่พักหลังๆ มาเราก็ไม่ค่อยได้ไปถ่ายรูปที่ไหนกันหรือว่ามีงานที่เป็นคู่ ก็เลยเอาโมเมนต์ที่เราแอบถ่ายเขาบ้าง เก็บไว้บ้างมาลง เป็นอีกหนึ่งการบอกความรู้สึกในใจว่าเรามีความสุขที่ได้อยู่กับเขา มีความสุขมากๆ เป็นผู้หญิงที่ทำให้เรามีเสียงหัวเราะได้แต่ตอนลงก็ไม่ได้ขอหรอกครับ ลงเลย (หัวเราะ) แต่เราก็ดูแหละว่าอันไหนเหมาะสม ไม่เหมาะสม” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000026455 • #MGROnline #เญาญ่าอุรัสยา #ณเดชน์คูกิมิยะ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 321 Views 0 Reviews
  • 30 ปี สิ้นดาราดาวรุ่ง “ธรรม์ โทณะวณิก” ดิ่งคอนโด 16 ชั้น ปมเสียชีวิตยังคงเป็นปริศนา

    🌟 ย้อนรำลึกถึงดาวที่ลับฟ้า กับความจริงที่ยังไม่คลี่คลาย 🌟

    📝 ดาวรุ่งผู้จากไป กับคำถามที่ยังไร้คำตอบ ย้อนไปในค่ำคืนอันเงียบงัน กลางดึกวันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2538 เวลาห้าทุ่ม 🌌 ทั่วทั้งวงการบันเทิงไทย ต้องเผชิญความสูญเสียครั้งใหญ่ เมื่อ “ธรรม์ โทณะวณิก” ดาราหนุ่มดาวรุ่งวัยเพียง 20 ปี ตกจากดาดฟ้าคอนโดสูง 16 ชั้น ที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ‼️

    เหตุการณ์ครั้งนั้น ยังคงฝังใจผู้คนที่ติดตามข่าวสาร ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะคำถามที่ยังไม่มีคำตอบถึง "สาเหตุการเสียชีวิต" ว่าคืออุบัติเหตุ อาการซึมเศร้า หรืออาจมีเงื่อนงำบางอย่างซ่อนอยู่?

    👦🏻 "ธรรม์ โทณะวณิก" ชื่อเล่นว่า ธรรม์ เป็นที่รู้จักในฐานะ นักแสดงและนายแบบชาวไทย ที่มีพรสวรรค์และอนาคตสดใสรออยู่ข้างหน้า เกิดและเติบโตที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

    ธรรม์เป็นบุตรชายของ
    👨‍⚕️ นายแพทย์วิรุณ โทณะวณิก
    ✍🏻 นางอิราวดี นวมานนท์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ น้ำอบ นักเขียนชื่อดังระดับตำนาน ผู้เขียนนวนิยายเรื่อง “คือหัตถาครองพิภพ” ที่มีตัวละครสำคัญชื่อ “พจน์” ซึ่งเธอได้แรงบันดาลใจ จากบุคลิกของลูกชายคนนี้เอง

    🎥 จุดเริ่มต้นในวงการบันเทิง ธรรม์เริ่มเข้าสู่วงการตั้งแต่เด็ก ด้วยงานถ่ายแบบในปี พ.ศ. 2527 ในนิตยสาร "สตรีสาร" แต่สิ่งที่ทำให้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว คือบทพระเอกในภาพยนตร์ "กระโปรงบานขาสั้น" ปี พ.ศ. 2537 โดยประกบคู่กับนางเอก "ธัญญาเรศ รามณรงค์"

    🎬 ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย "ชาติชาย แก้วสว่าง" ผู้กำกับหน้าใหม่ในขณะนั้น แต่กลับพาธรรม์ขึ้นสู่จุดสูงสุดในฐานะ "พระเอกขวัญใจวัยรุ่น" แห่งยุค 90’s

    📚 เส้นทางสายบันเทิง และชีวิตส่วนตัวที่หลายคนไม่เคยรู้

    ✨ ผลงานสร้างชื่อ ธรรม์กลายเป็นขวัญใจวัยรุ่น มีผลงานทั้งในจอเงินและจอแก้ว เช่น
    - กระโปรงบานขาสั้น
    - ม.6/2 ห้องครูวารี
    - กระโปรงบานขาสั้น เทอม 2 ตอนแอบดูบาร์บีคิว
    - ขอเก็บหัวใจเธอไว้คนเดียว
    - สมศรี 422R ภาค 3 โปรแกรม D ปีนี้มีน้อง

    📸 นายแบบยอดนิยม ธรรม์ขึ้นปกนิตยสารวัยรุ่นหลายเล่ม โดยเฉพาะ "เธอกับฉัน" ปี พ.ศ. 2536 ซึ่งธรรม์ได้รับตำแหน่ง "หนุ่มช่างฝันกิตติมศักดิ์" ด้วยคะแนนโหวตถล่มทลาย 💫

    แฟนคลับในยุคนั้น ต่างหลงใหลในความหล่อเหลา และบุคลิกที่อบอุ่นเป็นกันเอง

    ❤️ รักแรกและรักเดียว ธรรม์มีแฟนสาวนอกวงการชื่อ น้ำฝน หรือเบญจพร ตังคานุกูลกิจ คบหากันตั้งแต่เรียนที่ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ต่อเนื่องมาจนถึงช่วงที่ทั้งคู่ กำลังศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC)

    ความรักที่ดูเรียบง่ายและมั่นคงนี้เอง ที่ทำให้หลายคนเชื่อว่า ธรรม์ไม่มีเหตุผลที่จะคิดสั้น...

    🚨 คืนสุดท้ายก่อนเสียชีวิต เหตุการณ์ที่ไม่มีใครลืม กลางดึกคืนวันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2538 เวลา 23.00 น. ธรรม์พลัดตกจากดาดฟ้าคอนโด "ซีเอ็นพี คอนโดมิเนียม" ชั้น 16 ที่พักอาศัยของธรรม์ ในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

    🏢 ธรรม์ตกลงมากระแทกหลังคาบ้านเช่าหลังหนึ่ง โดยที่ "ทองม้วน พุ่มฉัตร" หญิงสาวที่เป็นแฟนคลับกำลังนอนพักผ่อนอยู่ ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา

    👉🏻 ชันสูตรพบว่า ธรรม์ไม่มีสารเสพติดในร่างกาย และไม่มีร่องรอยการต่อสู้ หรือถูกทำร้ายร่างกาย

    🕵️‍♂️ ปมปริศนา
    - อุบัติเหตุพลัดตก?
    - เมาสุราจนเสียการทรงตัว?
    - มีคนจงใจทำให้ต้องตกลงมา?

    ไม่มีใครรู้ความจริง!

    💬 คำพูดสุดท้ายของ “น้ำอบ” มารดาธรรม์ “ธรรม์ไม่มีวันฆ่าตัวตาย! เพราะยังสัญญากับแม่ว่า จะดูละครตอนแรกด้วยกัน และธรรม์ไม่เคยผิดสัญญา...”

    คำพูดนี้จาก "น้ำอบ" ผู้เป็นแม่ ยังคงสะเทือนใจแฟนคลับและสังคมจนถึงทุกวันนี้

    👉🏻 หลายคนเชื่อว่า ธรรม์อาจถูกฆาตกรรม!

    🔍 สาเหตุการเสียชีวิต อุบัติเหตุ หรือฆาตกรรม?
    1️⃣ อุบัติเหตุ บางคนตั้งข้อสันนิษฐานว่า ธรรม์อาจขึ้นไปบนดาดฟ้า เพื่อลดความเครียด สูบบุหรี่ และอาจเผลอพลัดตกลงมา โดยไม่ตั้งใจ

    2️⃣ ฆ่าตัวตาย ข่าวลือในขณะนั้นเล่าว่า ธรรม์มีความเครียดจากชีวิตการทำงาน และเรื่องส่วนตัว แต่ครอบครัวและคนสนิท ต่างปฏิเสธว่าไม่มีพฤติกรรม หรืออาการซึมเศร้า

    3️⃣ ฆาตกรรม ความสงสัยที่ไม่เคยจางหาย... ใครอยู่กับธรรม์ในคืนนั้น? และมีใครได้ยินหรือเห็นอะไรผิดปกติหรือไม่?

    หลายคนยังเชื่อว่า ธรรม์อาจถูกทำให้ตกลงมาอย่างตั้งใจ 😰

    🕰️ 30 ปีผ่านไป ความจริงที่ยังไม่ถูกเปิดเผย แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 30 ปี แต่คดีนี้ยังคงไร้บทสรุปชัดเจน 📆

    🔸 ไม่มีพยานหลักฐานใหม่
    🔸 ไม่มีผู้ต้องสงสัยที่ถูกดำเนินคดี
    🔸 ไม่มีคำอธิบายใดๆ จากผู้เกี่ยวข้อง

    ทุกอย่างยังคงเป็นปริศนา ที่ไม่มีใครสามารถคลี่คลายได้...

    🎬 มรดกทางจิตใจ และผลงานที่ธรรม์ทิ้งไว้ แม้ชีวิตของธรรม์จะจบลงในวัยเพียง 20 ปี แต่ผลงานของธรรม์ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่

    ✨ คือตัวแทนของยุคทองวงการบันเทิงไทย
    ✨ คือความทรงจำของใครหลายคน ที่ไม่เคยเลือนหาย

    “ธรรม์ โทณะวณิก ยังอยู่ในหัวใจแฟนคลับเสมอ” ❤️

    📌 “ธรรม์ โทณะวณิก” ตำนานที่ไม่มีวันลืม 30 ปีผ่านไป เหตุการณ์ครั้งนั้นยังคงเป็นปริศนา ที่ก้องอยู่ในใจของแฟนๆ และผู้ติดตามข่าวสาร หลายคนอาจยังคงสงสัย ในชะตากรรมของดาวรุ่งผู้นี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยน คือความทรงจำที่สวยงาม และผลงานที่ธรรม์ได้ทิ้งไว้ให้คนไทย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161024 มี.ค. 2568

    📲 #ธรรม์โทณะวณิก #ดารายุค90 #คดีดังในอดีต #ดาราไทยเสียชีวิต #ปริศนาดารา #วงการบันเทิงไทย #ข่าวบันเทิงย้อนหลัง #ดาวรุ่งดวงดับ #ตำนานดาราไทย #ซีเอ็นพีคอนโด
    30 ปี สิ้นดาราดาวรุ่ง “ธรรม์ โทณะวณิก” ดิ่งคอนโด 16 ชั้น ปมเสียชีวิตยังคงเป็นปริศนา 🌟 ย้อนรำลึกถึงดาวที่ลับฟ้า กับความจริงที่ยังไม่คลี่คลาย 🌟 📝 ดาวรุ่งผู้จากไป กับคำถามที่ยังไร้คำตอบ ย้อนไปในค่ำคืนอันเงียบงัน กลางดึกวันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2538 เวลาห้าทุ่ม 🌌 ทั่วทั้งวงการบันเทิงไทย ต้องเผชิญความสูญเสียครั้งใหญ่ เมื่อ “ธรรม์ โทณะวณิก” ดาราหนุ่มดาวรุ่งวัยเพียง 20 ปี ตกจากดาดฟ้าคอนโดสูง 16 ชั้น ที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ‼️ เหตุการณ์ครั้งนั้น ยังคงฝังใจผู้คนที่ติดตามข่าวสาร ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะคำถามที่ยังไม่มีคำตอบถึง "สาเหตุการเสียชีวิต" ว่าคืออุบัติเหตุ อาการซึมเศร้า หรืออาจมีเงื่อนงำบางอย่างซ่อนอยู่? 👦🏻 "ธรรม์ โทณะวณิก" ชื่อเล่นว่า ธรรม์ เป็นที่รู้จักในฐานะ นักแสดงและนายแบบชาวไทย ที่มีพรสวรรค์และอนาคตสดใสรออยู่ข้างหน้า เกิดและเติบโตที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ธรรม์เป็นบุตรชายของ 👨‍⚕️ นายแพทย์วิรุณ โทณะวณิก ✍🏻 นางอิราวดี นวมานนท์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ น้ำอบ นักเขียนชื่อดังระดับตำนาน ผู้เขียนนวนิยายเรื่อง “คือหัตถาครองพิภพ” ที่มีตัวละครสำคัญชื่อ “พจน์” ซึ่งเธอได้แรงบันดาลใจ จากบุคลิกของลูกชายคนนี้เอง 🎥 จุดเริ่มต้นในวงการบันเทิง ธรรม์เริ่มเข้าสู่วงการตั้งแต่เด็ก ด้วยงานถ่ายแบบในปี พ.ศ. 2527 ในนิตยสาร "สตรีสาร" แต่สิ่งที่ทำให้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว คือบทพระเอกในภาพยนตร์ "กระโปรงบานขาสั้น" ปี พ.ศ. 2537 โดยประกบคู่กับนางเอก "ธัญญาเรศ รามณรงค์" 🎬 ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย "ชาติชาย แก้วสว่าง" ผู้กำกับหน้าใหม่ในขณะนั้น แต่กลับพาธรรม์ขึ้นสู่จุดสูงสุดในฐานะ "พระเอกขวัญใจวัยรุ่น" แห่งยุค 90’s 📚 เส้นทางสายบันเทิง และชีวิตส่วนตัวที่หลายคนไม่เคยรู้ ✨ ผลงานสร้างชื่อ ธรรม์กลายเป็นขวัญใจวัยรุ่น มีผลงานทั้งในจอเงินและจอแก้ว เช่น - กระโปรงบานขาสั้น - ม.6/2 ห้องครูวารี - กระโปรงบานขาสั้น เทอม 2 ตอนแอบดูบาร์บีคิว - ขอเก็บหัวใจเธอไว้คนเดียว - สมศรี 422R ภาค 3 โปรแกรม D ปีนี้มีน้อง 📸 นายแบบยอดนิยม ธรรม์ขึ้นปกนิตยสารวัยรุ่นหลายเล่ม โดยเฉพาะ "เธอกับฉัน" ปี พ.ศ. 2536 ซึ่งธรรม์ได้รับตำแหน่ง "หนุ่มช่างฝันกิตติมศักดิ์" ด้วยคะแนนโหวตถล่มทลาย 💫 แฟนคลับในยุคนั้น ต่างหลงใหลในความหล่อเหลา และบุคลิกที่อบอุ่นเป็นกันเอง ❤️ รักแรกและรักเดียว ธรรม์มีแฟนสาวนอกวงการชื่อ น้ำฝน หรือเบญจพร ตังคานุกูลกิจ คบหากันตั้งแต่เรียนที่ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ต่อเนื่องมาจนถึงช่วงที่ทั้งคู่ กำลังศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) ความรักที่ดูเรียบง่ายและมั่นคงนี้เอง ที่ทำให้หลายคนเชื่อว่า ธรรม์ไม่มีเหตุผลที่จะคิดสั้น... 🚨 คืนสุดท้ายก่อนเสียชีวิต เหตุการณ์ที่ไม่มีใครลืม กลางดึกคืนวันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2538 เวลา 23.00 น. ธรรม์พลัดตกจากดาดฟ้าคอนโด "ซีเอ็นพี คอนโดมิเนียม" ชั้น 16 ที่พักอาศัยของธรรม์ ในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 🏢 ธรรม์ตกลงมากระแทกหลังคาบ้านเช่าหลังหนึ่ง โดยที่ "ทองม้วน พุ่มฉัตร" หญิงสาวที่เป็นแฟนคลับกำลังนอนพักผ่อนอยู่ ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา 👉🏻 ชันสูตรพบว่า ธรรม์ไม่มีสารเสพติดในร่างกาย และไม่มีร่องรอยการต่อสู้ หรือถูกทำร้ายร่างกาย 🕵️‍♂️ ปมปริศนา - อุบัติเหตุพลัดตก? - เมาสุราจนเสียการทรงตัว? - มีคนจงใจทำให้ต้องตกลงมา? ไม่มีใครรู้ความจริง! 💬 คำพูดสุดท้ายของ “น้ำอบ” มารดาธรรม์ “ธรรม์ไม่มีวันฆ่าตัวตาย! เพราะยังสัญญากับแม่ว่า จะดูละครตอนแรกด้วยกัน และธรรม์ไม่เคยผิดสัญญา...” คำพูดนี้จาก "น้ำอบ" ผู้เป็นแม่ ยังคงสะเทือนใจแฟนคลับและสังคมจนถึงทุกวันนี้ 👉🏻 หลายคนเชื่อว่า ธรรม์อาจถูกฆาตกรรม! 🔍 สาเหตุการเสียชีวิต อุบัติเหตุ หรือฆาตกรรม? 1️⃣ อุบัติเหตุ บางคนตั้งข้อสันนิษฐานว่า ธรรม์อาจขึ้นไปบนดาดฟ้า เพื่อลดความเครียด สูบบุหรี่ และอาจเผลอพลัดตกลงมา โดยไม่ตั้งใจ 2️⃣ ฆ่าตัวตาย ข่าวลือในขณะนั้นเล่าว่า ธรรม์มีความเครียดจากชีวิตการทำงาน และเรื่องส่วนตัว แต่ครอบครัวและคนสนิท ต่างปฏิเสธว่าไม่มีพฤติกรรม หรืออาการซึมเศร้า 3️⃣ ฆาตกรรม ความสงสัยที่ไม่เคยจางหาย... ใครอยู่กับธรรม์ในคืนนั้น? และมีใครได้ยินหรือเห็นอะไรผิดปกติหรือไม่? หลายคนยังเชื่อว่า ธรรม์อาจถูกทำให้ตกลงมาอย่างตั้งใจ 😰 🕰️ 30 ปีผ่านไป ความจริงที่ยังไม่ถูกเปิดเผย แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 30 ปี แต่คดีนี้ยังคงไร้บทสรุปชัดเจน 📆 🔸 ไม่มีพยานหลักฐานใหม่ 🔸 ไม่มีผู้ต้องสงสัยที่ถูกดำเนินคดี 🔸 ไม่มีคำอธิบายใดๆ จากผู้เกี่ยวข้อง ทุกอย่างยังคงเป็นปริศนา ที่ไม่มีใครสามารถคลี่คลายได้... 🎬 มรดกทางจิตใจ และผลงานที่ธรรม์ทิ้งไว้ แม้ชีวิตของธรรม์จะจบลงในวัยเพียง 20 ปี แต่ผลงานของธรรม์ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ ✨ คือตัวแทนของยุคทองวงการบันเทิงไทย ✨ คือความทรงจำของใครหลายคน ที่ไม่เคยเลือนหาย “ธรรม์ โทณะวณิก ยังอยู่ในหัวใจแฟนคลับเสมอ” ❤️ 📌 “ธรรม์ โทณะวณิก” ตำนานที่ไม่มีวันลืม 30 ปีผ่านไป เหตุการณ์ครั้งนั้นยังคงเป็นปริศนา ที่ก้องอยู่ในใจของแฟนๆ และผู้ติดตามข่าวสาร หลายคนอาจยังคงสงสัย ในชะตากรรมของดาวรุ่งผู้นี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยน คือความทรงจำที่สวยงาม และผลงานที่ธรรม์ได้ทิ้งไว้ให้คนไทย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161024 มี.ค. 2568 📲 #ธรรม์โทณะวณิก #ดารายุค90 #คดีดังในอดีต #ดาราไทยเสียชีวิต #ปริศนาดารา #วงการบันเทิงไทย #ข่าวบันเทิงย้อนหลัง #ดาวรุ่งดวงดับ #ตำนานดาราไทย #ซีเอ็นพีคอนโด
    0 Comments 0 Shares 1084 Views 0 Reviews
  • แฟนสาว"ผกก.โจ้"โทรหา"ไผ่ลิกค์" เพื่อ? 15/03/68 #แฟนสาว #ผู้กำกับโจ้ #ไผ่ลิกค์ #ปมถูกย้ายแดน
    แฟนสาว"ผกก.โจ้"โทรหา"ไผ่ลิกค์" เพื่อ? 15/03/68 #แฟนสาว #ผู้กำกับโจ้ #ไผ่ลิกค์ #ปมถูกย้ายแดน
    Haha
    Yay
    Love
    Wow
    6
    0 Comments 0 Shares 1494 Views 40 0 Reviews
  • นิทาน "เจ้าชายอะลาดิน-เจ้าหญิงอินฟลู" ยังไม่จบ หลังคู่กรณีโผล่เปิดหน้าแฉ "ฉลามจัส" เป็นคนเข้าหาก่อน ขอทุกอย่าง ผิดก็ตามง้อ แถมบอกคบ "มิกซ์ เฉลิมศรี" แค่คอนเทนต์ ย้อนดูประวัติพบเจ้าตัวเคยมีเรื่องกับ "ไบร์ท วชิรวิชญ์"

    กรณีสังคมออนไลน์มีการแชร์นิทานเจ้าชายอะลาดินกับเจ้าหญิงอินฟลูถูกแฟนเก่าออกมาทวงหนี้หลักล้าน ก่อน "ดุลยวัต แก้วศรียงค์" หรือ "ฉลามจัส" นักว่ายน้ำดีกรีทีมชาติจะออกมาเผยข้อมูลอีกมุมโดยบอกว่าถูกคู่กรณีเป็นคนเสนอให้ทุกอย่างกับตัวเองแถมตามตื๊อไม่เลิก

    ขณะที่แฟนสาวยูทูบเบอร์ "มิกซ์ เฉลิมศรี" หรือ "วันเฉลิม จำเนียรพล" ก็เผยว่ารู้เรื่องนี้มาตลอดเพราะแฟนหนุ่มนักว่ายน้ำเล่าให้ฟังทั้งหมด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000023351

    #MGROnline #เจ้าชายอะลาดิน #เจ้าหญิงอินฟลู #แฟนเก่า
    นิทาน "เจ้าชายอะลาดิน-เจ้าหญิงอินฟลู" ยังไม่จบ หลังคู่กรณีโผล่เปิดหน้าแฉ "ฉลามจัส" เป็นคนเข้าหาก่อน ขอทุกอย่าง ผิดก็ตามง้อ แถมบอกคบ "มิกซ์ เฉลิมศรี" แค่คอนเทนต์ ย้อนดูประวัติพบเจ้าตัวเคยมีเรื่องกับ "ไบร์ท วชิรวิชญ์" • กรณีสังคมออนไลน์มีการแชร์นิทานเจ้าชายอะลาดินกับเจ้าหญิงอินฟลูถูกแฟนเก่าออกมาทวงหนี้หลักล้าน ก่อน "ดุลยวัต แก้วศรียงค์" หรือ "ฉลามจัส" นักว่ายน้ำดีกรีทีมชาติจะออกมาเผยข้อมูลอีกมุมโดยบอกว่าถูกคู่กรณีเป็นคนเสนอให้ทุกอย่างกับตัวเองแถมตามตื๊อไม่เลิก • ขณะที่แฟนสาวยูทูบเบอร์ "มิกซ์ เฉลิมศรี" หรือ "วันเฉลิม จำเนียรพล" ก็เผยว่ารู้เรื่องนี้มาตลอดเพราะแฟนหนุ่มนักว่ายน้ำเล่าให้ฟังทั้งหมด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000023351 • #MGROnline #เจ้าชายอะลาดิน #เจ้าหญิงอินฟลู #แฟนเก่า
    0 Comments 0 Shares 365 Views 0 Reviews
  • ประเด็นร้อนแรงเกี่ยวกับ “ลำไย ไหทองคำ” สุพรรณษา เวชกามา จบลงวันนี้ หลังจากที่รายการโหนกระแส โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้เชิญ “ประจักษ์ชัย ไหทองคำ” มาเผชิญหน้ากับ “โม” อดีตแฟนสาวของ “บอส เอวหวาน” แดนเซอร์ที่มีข่าวพัวพันกับลำไย โดยในรายการ โม ได้ยกพานพวงมาลัยกราบขอขมานายห้าง พร้อมเผยประโยคที่ทำให้นายห้างถึงขั้นกลั้นน้ำตาไม่อยู่

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000022199

    #MGROnline #ลำไยไหทองคำ
    ประเด็นร้อนแรงเกี่ยวกับ “ลำไย ไหทองคำ” สุพรรณษา เวชกามา จบลงวันนี้ หลังจากที่รายการโหนกระแส โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้เชิญ “ประจักษ์ชัย ไหทองคำ” มาเผชิญหน้ากับ “โม” อดีตแฟนสาวของ “บอส เอวหวาน” แดนเซอร์ที่มีข่าวพัวพันกับลำไย โดยในรายการ โม ได้ยกพานพวงมาลัยกราบขอขมานายห้าง พร้อมเผยประโยคที่ทำให้นายห้างถึงขั้นกลั้นน้ำตาไม่อยู่ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000022199 • #MGROnline #ลำไยไหทองคำ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 371 Views 0 Reviews
  • เป็นข่าวร้อนๆ อยู่ในตอนนี้กรณีความสัมพันธ์ของนักร้องหญิง "ลำไย ไหทองคำ" กับแฟนหนุ่ม "ปุ้ย" นักร้องวง "L.กฮ." (แอลกอฮอล์) หลังนักร้องหญิงยอมรับว่าช่วงห่างแฟนหนุ่มเธอเคยคบหากับแดนเซอร์ในวง "บอส มณเฑียร เดชตระกูล" โดยเข้าใจว่าอีกฝ่ายได้เลิกรากับแฟนสาวแล้ว

    ก่อนที่เรื่องจะจบลงตรงที่ทั้งสามต่างตกลงยุติความสัมพันธ์กันและกัน โดยแดนเซอร์คนดังกล่าวยอมจ่ายเงินสองล้านให้แฟนสาวเป็นค่าที่ทำให้อีกฝ่ายเสียใจจนเรื่องนี้ถูกพูดถึงอย่างมาก

    สำหรับฝ่ายญิงที่เป็นแฟนกับแดนเซอร์นั้นเจ้าตัวมีชื่อว่า "โม" (หรือ "แตงโม") ณิชกุล รอดสัมฤทธิ์ ทำช่องยูทูบชื่อ Moni Girl

    ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าเจ้าตัวนั้นเพิ่งจะเลิกรากับแฟนหนุ่มเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง นอกจากนี้ล่าสุดเธอยังได้มีการลบโพสต์และลบภาพบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับข่าวนักร้องหญิงรวมถึงอดีตแฟนหนุ่มแดนเซอร์ไปแล้วซึ่งคาดว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวกับสัญญาที่เธอเซ็นเพื่อแลกกับเงิน 2 ล้านมานั่นเอง

    #MGROnline #ลําไยไหทองคํา
    เป็นข่าวร้อนๆ อยู่ในตอนนี้กรณีความสัมพันธ์ของนักร้องหญิง "ลำไย ไหทองคำ" กับแฟนหนุ่ม "ปุ้ย" นักร้องวง "L.กฮ." (แอลกอฮอล์) หลังนักร้องหญิงยอมรับว่าช่วงห่างแฟนหนุ่มเธอเคยคบหากับแดนเซอร์ในวง "บอส มณเฑียร เดชตระกูล" โดยเข้าใจว่าอีกฝ่ายได้เลิกรากับแฟนสาวแล้ว • ก่อนที่เรื่องจะจบลงตรงที่ทั้งสามต่างตกลงยุติความสัมพันธ์กันและกัน โดยแดนเซอร์คนดังกล่าวยอมจ่ายเงินสองล้านให้แฟนสาวเป็นค่าที่ทำให้อีกฝ่ายเสียใจจนเรื่องนี้ถูกพูดถึงอย่างมาก • สำหรับฝ่ายญิงที่เป็นแฟนกับแดนเซอร์นั้นเจ้าตัวมีชื่อว่า "โม" (หรือ "แตงโม") ณิชกุล รอดสัมฤทธิ์ ทำช่องยูทูบชื่อ Moni Girl • ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าเจ้าตัวนั้นเพิ่งจะเลิกรากับแฟนหนุ่มเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง นอกจากนี้ล่าสุดเธอยังได้มีการลบโพสต์และลบภาพบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับข่าวนักร้องหญิงรวมถึงอดีตแฟนหนุ่มแดนเซอร์ไปแล้วซึ่งคาดว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวกับสัญญาที่เธอเซ็นเพื่อแลกกับเงิน 2 ล้านมานั่นเอง • #MGROnline #ลําไยไหทองคํา
    0 Comments 0 Shares 364 Views 0 Reviews
  • อดีตแฟนสาว “บอส แดนเซอร์” โพสต์แซบตอนนี้เริ่มเชื่อเรื่องเวรกรรม อดีตเคยกรีดเลือดเป็นเอฟซี “ลำไย” ชาวเน็ตแห่ถามปมเรียกเงิน 10 ล้าน

    หลังจากที่ “ลำไย ไหทองคำ” ได้ออกมาโพสต์ยอมรับว่าได้คุยกับ “บอส แดนเซอร์” จริง แต่เป็นการคุยกันแค่ช่วงสั้นๆ ระหว่างห่างกับ ปุ้ย L.กฮ. หรือ ศรีสกล สมทรง ซึ่งเป็นการตัดสินใจร่วมกันของทั้งสองฝ่าย การคุยกับบอส ฝ่ายปุ้ยก็รับรู้ พร้อมเผยว่าถูกแฟนบอสเรียกเงิน 10 ล้าน

    ล่าสุดฝั่งอดีตแฟนสาวของบอส ถูกจับตาว่าได้ออกมาเคลื่อนไหวตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังจากที่ลำไย ประกาศว่าโสด โดยไร้มือที่สาม ซึ่งเจ้าตัวเขียนแคปชั่นระบุว่า “ไร้ปัญหามือที่สาม (อิโมจิกะโหลกผี) , เป็นคนไม่เชื่อเรื่องเวรกรรม แต่ตอนนี้เริ่มเชื่อละ555555555” รวมทั้งยังเคยเผยว่าตนเองเป็นแฟนคลับของลำไย กรีดเลือดออกมาก็เป็นเอฟซีลำไย , ปลอมเปลือก ส่วนต้นปีที่ผ่านมา เจ้าตัวได้โพสต์ว่า ขอให้ปีนี้ไม่เจอคนเหี้- หน้าส้นตี-เหมือนที่ผ่านมา สะเทือนทุกดอก

    ด้านชาวเน็ตต่างเข้าไปเมนต์ถามเรื่องเงิน 10 ล้าน 2 ล้านรัวๆ ว่าสรุปมันคือเงินอะไรกันแน่

    #MGROnline #ลําไยไหทองคํา #ลําไยปุ้ย
    อดีตแฟนสาว “บอส แดนเซอร์” โพสต์แซบตอนนี้เริ่มเชื่อเรื่องเวรกรรม อดีตเคยกรีดเลือดเป็นเอฟซี “ลำไย” ชาวเน็ตแห่ถามปมเรียกเงิน 10 ล้าน • หลังจากที่ “ลำไย ไหทองคำ” ได้ออกมาโพสต์ยอมรับว่าได้คุยกับ “บอส แดนเซอร์” จริง แต่เป็นการคุยกันแค่ช่วงสั้นๆ ระหว่างห่างกับ ปุ้ย L.กฮ. หรือ ศรีสกล สมทรง ซึ่งเป็นการตัดสินใจร่วมกันของทั้งสองฝ่าย การคุยกับบอส ฝ่ายปุ้ยก็รับรู้ พร้อมเผยว่าถูกแฟนบอสเรียกเงิน 10 ล้าน • ล่าสุดฝั่งอดีตแฟนสาวของบอส ถูกจับตาว่าได้ออกมาเคลื่อนไหวตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังจากที่ลำไย ประกาศว่าโสด โดยไร้มือที่สาม ซึ่งเจ้าตัวเขียนแคปชั่นระบุว่า “ไร้ปัญหามือที่สาม (อิโมจิกะโหลกผี) , เป็นคนไม่เชื่อเรื่องเวรกรรม แต่ตอนนี้เริ่มเชื่อละ555555555” รวมทั้งยังเคยเผยว่าตนเองเป็นแฟนคลับของลำไย กรีดเลือดออกมาก็เป็นเอฟซีลำไย , ปลอมเปลือก ส่วนต้นปีที่ผ่านมา เจ้าตัวได้โพสต์ว่า ขอให้ปีนี้ไม่เจอคนเหี้- หน้าส้นตี-เหมือนที่ผ่านมา สะเทือนทุกดอก • ด้านชาวเน็ตต่างเข้าไปเมนต์ถามเรื่องเงิน 10 ล้าน 2 ล้านรัวๆ ว่าสรุปมันคือเงินอะไรกันแน่ • #MGROnline #ลําไยไหทองคํา #ลําไยปุ้ย
    0 Comments 0 Shares 324 Views 0 Reviews
  • “เบิร์ด-เทคนิค” เดินทางเข้าพบดีเอสไอให้ข้อมูลคดี "แตงโม" เชื่อไม่เป็นอุบัติเหตุและไม่เคยโดนข่มขู่ ส่วนคนบนเรือรู้จักแค่กระติกคนเดียวแต่ไม่สนิท

    วันนี้ (3 มี.ค.) เวลา 18.45 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) "เบิร์ด-เทคนิค" อดีตแฟนสาว น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เปิดเผยหลังการเข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อให้ข้อมูลคดี โดยใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมง

    เบิร์ด เทคนิค กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่ได้ออกมาแสดงความบริสุทธิ์และทำตามหน้าที่ทำในสิ่งที่นัดหมายไว้กับดีเอสไอ ถ้ามีปัญหาหรือเรื่องสำคัญอะไรเพิ่มเติมก็ให้ดีเอสไอติดต่อตนได้โดยตรง ซึ่งวันนี้ให้ข้อมูลทางคดีกับดีเอสไอเรียบร้อยหมดแล้ว ส่วนไทม์ไลน์ที่ตนไปภูเก็ตคือตนไป จ.ภูเก็ต วันที่ 17 ก.พ. และกลับกรุงเทพฯในวันที่ 19 ก.พ. เพราะแตงโมมีถ่ายละครวันที่ 22 หรือ 23 ก.พ. ตนไม่แน่ใจ แต่วันเกิดเหตุวันที่ 24 ก.พ. โดยแตงโมบอกกับตนก่อนลงเรือ 1 คืนว่าจะไปกินข้าวกับกระติกและเพื่อน

    เบิร์ด เทคนิค กล่าวอีกว่า ก่อนวันเกิดเหตุ แตงโมแต่งตัวตามปกติ จากนั้นมาหอมแก้มแล้วบอกกับตนว่า “ที่รักเค้าไปกินข้าวกับเพื่อนแล้วนะ” ระหว่างตนนอนอยู่บนเตียง ตอนนั้นตนไม่เอะใจว่าเป็นการบอกลา เพราะทำเป็นปกติก่อนออกไปข้างนอกอยู่แล้ว ทั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่รู้จักกับคนบนเรือสักคน รู้จักเพียงกระติกคนเดียว แต่ก็ไม่สนิทกัน ส่วนคนชื่อเอ็กซ์ที่ให้ข้อมูลคนบนเรือ ตนไม่ได้สนิทด้วยรู้จักกันเพียงแค่วันไปขับรถเล่นที่บางแสน จ.ชลบุรี เพียงวันเดียว และตนก็ไม่ได้ติดต่อกับเขาเลย ส่วนรายละเอียดอื่นอยู่ในสำนวนคดีเรียบร้อยแล้ว

    นอกจากนี้ วันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 19.19 น. ตนคุยกับแตงโมครั้งสุดท้าย โดยแตงโมบอกว่าถึงร้านอาหารแล้ว กินข้าวแล้ว เธอกินข้าวหรือยัง ตนตอบกลับไปว่ากินแล้ว กำลังทำงานอยู่ หลังจากที่เบิร์ดพูดประเด็นดังกล่าวปรากฏว่าเพื่อนของเบิร์ดที่มาด้วยพยายามดึงตัวเบิร์ดออกไปแล้วบอกว่า “พอแล้ว”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000020781

    #MGROnline #เบิร์ดเทคนิค #ดีเอสไอ
    “เบิร์ด-เทคนิค” เดินทางเข้าพบดีเอสไอให้ข้อมูลคดี "แตงโม" เชื่อไม่เป็นอุบัติเหตุและไม่เคยโดนข่มขู่ ส่วนคนบนเรือรู้จักแค่กระติกคนเดียวแต่ไม่สนิท • วันนี้ (3 มี.ค.) เวลา 18.45 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) "เบิร์ด-เทคนิค" อดีตแฟนสาว น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เปิดเผยหลังการเข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อให้ข้อมูลคดี โดยใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมง • เบิร์ด เทคนิค กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่ได้ออกมาแสดงความบริสุทธิ์และทำตามหน้าที่ทำในสิ่งที่นัดหมายไว้กับดีเอสไอ ถ้ามีปัญหาหรือเรื่องสำคัญอะไรเพิ่มเติมก็ให้ดีเอสไอติดต่อตนได้โดยตรง ซึ่งวันนี้ให้ข้อมูลทางคดีกับดีเอสไอเรียบร้อยหมดแล้ว ส่วนไทม์ไลน์ที่ตนไปภูเก็ตคือตนไป จ.ภูเก็ต วันที่ 17 ก.พ. และกลับกรุงเทพฯในวันที่ 19 ก.พ. เพราะแตงโมมีถ่ายละครวันที่ 22 หรือ 23 ก.พ. ตนไม่แน่ใจ แต่วันเกิดเหตุวันที่ 24 ก.พ. โดยแตงโมบอกกับตนก่อนลงเรือ 1 คืนว่าจะไปกินข้าวกับกระติกและเพื่อน • เบิร์ด เทคนิค กล่าวอีกว่า ก่อนวันเกิดเหตุ แตงโมแต่งตัวตามปกติ จากนั้นมาหอมแก้มแล้วบอกกับตนว่า “ที่รักเค้าไปกินข้าวกับเพื่อนแล้วนะ” ระหว่างตนนอนอยู่บนเตียง ตอนนั้นตนไม่เอะใจว่าเป็นการบอกลา เพราะทำเป็นปกติก่อนออกไปข้างนอกอยู่แล้ว ทั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่รู้จักกับคนบนเรือสักคน รู้จักเพียงกระติกคนเดียว แต่ก็ไม่สนิทกัน ส่วนคนชื่อเอ็กซ์ที่ให้ข้อมูลคนบนเรือ ตนไม่ได้สนิทด้วยรู้จักกันเพียงแค่วันไปขับรถเล่นที่บางแสน จ.ชลบุรี เพียงวันเดียว และตนก็ไม่ได้ติดต่อกับเขาเลย ส่วนรายละเอียดอื่นอยู่ในสำนวนคดีเรียบร้อยแล้ว • นอกจากนี้ วันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 19.19 น. ตนคุยกับแตงโมครั้งสุดท้าย โดยแตงโมบอกว่าถึงร้านอาหารแล้ว กินข้าวแล้ว เธอกินข้าวหรือยัง ตนตอบกลับไปว่ากินแล้ว กำลังทำงานอยู่ หลังจากที่เบิร์ดพูดประเด็นดังกล่าวปรากฏว่าเพื่อนของเบิร์ดที่มาด้วยพยายามดึงตัวเบิร์ดออกไปแล้วบอกว่า “พอแล้ว” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000020781 • #MGROnline #เบิร์ดเทคนิค #ดีเอสไอ
    0 Comments 0 Shares 585 Views 0 Reviews
  • นักแสดงชาวจีน "หวังซิง" กลายเป็นที่สนใจของสาธารณชนอีกครั้ง หลังจากรอดพ้นจากขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศพม่า และกลับสู่บ้านเกิดอย่างปลอดภัย เหตุการณ์นี้ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง และล่าสุด เขายังได้รับข่าวดีต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการที่ตำรวจจีนจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่หลอกลวงเขา ความสำเร็จของแฟนสาว "เจียเจีย" ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเขา และการได้รับข้อเสนอเข้าร่วมรายการวาไรตี้ชื่อดัง

    ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี หวังซิงตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์หลังจากได้รับการติดต่อให้เดินทางไปประเทศไทย เพื่อถ่ายละคร แต่เมื่อเดินทางไปถึง กลับถูกล่อลวงให้ข้ามแดนไปยังเมืองเมียวดี ของพม่า ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติหนาแน่น

    เมื่อหวังซิงขาดการติดต่อ แฟนสาวของเขา เจียเจีย ได้ใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือขอความช่วยเหลือ เธอโพสต์รายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นกระแสบนอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐและสื่อมวลชนจีนให้ความสนใจ และกดดันให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือ จนในที่สุด ขบวนการค้ามนุษย์ตัดสินใจปล่อยตัวเขาหลังถูกกักขังนาน 8 วัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000020136

    #MGROnline #หวังซิง #นักแสดงชาวจีน
    นักแสดงชาวจีน "หวังซิง" กลายเป็นที่สนใจของสาธารณชนอีกครั้ง หลังจากรอดพ้นจากขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศพม่า และกลับสู่บ้านเกิดอย่างปลอดภัย เหตุการณ์นี้ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง และล่าสุด เขายังได้รับข่าวดีต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการที่ตำรวจจีนจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่หลอกลวงเขา ความสำเร็จของแฟนสาว "เจียเจีย" ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเขา และการได้รับข้อเสนอเข้าร่วมรายการวาไรตี้ชื่อดัง • ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี หวังซิงตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์หลังจากได้รับการติดต่อให้เดินทางไปประเทศไทย เพื่อถ่ายละคร แต่เมื่อเดินทางไปถึง กลับถูกล่อลวงให้ข้ามแดนไปยังเมืองเมียวดี ของพม่า ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติหนาแน่น • เมื่อหวังซิงขาดการติดต่อ แฟนสาวของเขา เจียเจีย ได้ใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือขอความช่วยเหลือ เธอโพสต์รายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นกระแสบนอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐและสื่อมวลชนจีนให้ความสนใจ และกดดันให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือ จนในที่สุด ขบวนการค้ามนุษย์ตัดสินใจปล่อยตัวเขาหลังถูกกักขังนาน 8 วัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000020136 • #MGROnline #หวังซิง #นักแสดงชาวจีน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 493 Views 0 Reviews
  • ปล่อยเช่าเครื่อง EDC ขโมยรูดปรื๊ดบัตรเครดิต

    ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมนางวิยะดา พลเวียง อายุ 41 ปี เจ้าของเครื่องรูดบัตร (EDC) ที่ปล่อยให้คนร้ายเช่าที่ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ถือเป็นการต่อจิ๊กซอว์ขบวนการลักขโมยวงเงินบัตรเครดิต ที่ปรากฎเป็นข่าวไปเมื่อต้นปี 2568 ซึ่งพบว่ามีกลุ่มคนไทยร่วมมือกับชาวจีนร่วมกระทำความผิด แม้นางวิยะดาอ้างว่าให้แฟนสาวของแก๊งชาวจีนเช่าเครื่องรูดบัตร ได้ค่าตอบแทน 15% รวมกว่า 130,000 บาท แต่ไม่รู้เห็นกับการกระทำความผิดก็ตาม

    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ จับกุม น.ส.ธัญชนก ชุ่มชื่นจิตร อายุ 22 ปี หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุที่คอนโดมิเนียมย่านเอกมัย กทม. เป็นคนทำทีไปใช้บริการออนเซน แล้วแอบเก็บเอาสายรัดข้อมือ (ริสแบนด์) ที่ใช้สแกนเข้าออกและเปิดตู้ล็อกเกอร์ไปทำแถบแม่เหล็กเพิ่ม โดยให้กลุ่มเพื่อนชาวจีนอีก 4 คน ช่วยทำอันใหม่ขึ้นมา ก่อนตระเวนเปิดล็อกเกอร์ของผู้เสียหายรายต่างๆ ระหว่างแช่ออนเซน แล้วหยิบบัตรเครดิตไปรูดโดยใช้เครื่อง EDC แบบพกพา

    สำหรับเครื่องรูดบัตรที่กลุ่มคนร้ายนำมาใช้เป็นแบบพกพายี่ห้อ BLUEPAD-50 v2 ของบริษัท DATECS ที่ธนาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งให้บริการร้านค้ารับบัตร เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ โดยใช้แอปพลิเคชันธนาคารทำรายการ รองรับการชำระเงินด้วยการแตะบัตร (Contactless) จำกัดไม่เกิน 1,500 บาทต่อรายการ และการเสียบบัตรชิปการ์ด (Dip Chip) ลงในเครื่อง ซึ่งไม่จำกัดวงเงินต่อรายการ

    โดยเปิดแอปฯ ผ่านสมาร์ทโฟน ใส่จำนวนเงินลงไป เสียบบัตรเครดิตที่เครื่องรูดบัตร กระทั่งรายการอนุมัติเพียงไม่กี่นาที ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหายถูกคนร้ายรูดบัตรเครดิตด้วยมูลค่าตั้งแต่ 85,900 บาท ถึง 343,000 บาท บางธนาคารยอมระงับรายการที่คนร้ายรูดและช่วยเหลือตำรวจสืบสวน แต่บางธนาคารให้ลูกค้าไปตามเรื่องเอาเอง ไม่ยอมระงับรายการ และไม่เปิดเผยข้อมูลร้านค้าที่กระทำความผิด โดยพบว่ามีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร จ.นนทบุรี ธุรกิจรถฉุกเฉิน จ.ปทุมธานี และเต็นท์รถมือสองที่ จ.มหาสารคาม

    ปัจจุบันการขอใช้เครื่องรูดบัตร (EDC) ของแต่ละธนาคารเป็นไปอย่างง่ายดาย ร้านค้าบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ขอได้ กลายเป็นช่องว่างที่ทำให้มีขบวนการปล่อยเช่าเครื่องรูดบัตรเพื่อกระทำความผิด จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องตรวจสอบว่าร้านค้าแต่ละแห่งมีการใช้เครื่องรูดบัตรที่ร้านค้าโดยตรงหรือไม่ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของร้านค้าหรือไม่ เพื่อไม่ให้กลายเป็นการนำเครื่องรูดบัตรไปใช้ในทางที่ผิด เช่นการปล่อยเช่าแก่กลุ่มมิจฉาชีพ สร้างความเสียหายแก่ผู้คนในสังคม

    #Newskit
    ปล่อยเช่าเครื่อง EDC ขโมยรูดปรื๊ดบัตรเครดิต ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมนางวิยะดา พลเวียง อายุ 41 ปี เจ้าของเครื่องรูดบัตร (EDC) ที่ปล่อยให้คนร้ายเช่าที่ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ถือเป็นการต่อจิ๊กซอว์ขบวนการลักขโมยวงเงินบัตรเครดิต ที่ปรากฎเป็นข่าวไปเมื่อต้นปี 2568 ซึ่งพบว่ามีกลุ่มคนไทยร่วมมือกับชาวจีนร่วมกระทำความผิด แม้นางวิยะดาอ้างว่าให้แฟนสาวของแก๊งชาวจีนเช่าเครื่องรูดบัตร ได้ค่าตอบแทน 15% รวมกว่า 130,000 บาท แต่ไม่รู้เห็นกับการกระทำความผิดก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ จับกุม น.ส.ธัญชนก ชุ่มชื่นจิตร อายุ 22 ปี หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุที่คอนโดมิเนียมย่านเอกมัย กทม. เป็นคนทำทีไปใช้บริการออนเซน แล้วแอบเก็บเอาสายรัดข้อมือ (ริสแบนด์) ที่ใช้สแกนเข้าออกและเปิดตู้ล็อกเกอร์ไปทำแถบแม่เหล็กเพิ่ม โดยให้กลุ่มเพื่อนชาวจีนอีก 4 คน ช่วยทำอันใหม่ขึ้นมา ก่อนตระเวนเปิดล็อกเกอร์ของผู้เสียหายรายต่างๆ ระหว่างแช่ออนเซน แล้วหยิบบัตรเครดิตไปรูดโดยใช้เครื่อง EDC แบบพกพา สำหรับเครื่องรูดบัตรที่กลุ่มคนร้ายนำมาใช้เป็นแบบพกพายี่ห้อ BLUEPAD-50 v2 ของบริษัท DATECS ที่ธนาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งให้บริการร้านค้ารับบัตร เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ โดยใช้แอปพลิเคชันธนาคารทำรายการ รองรับการชำระเงินด้วยการแตะบัตร (Contactless) จำกัดไม่เกิน 1,500 บาทต่อรายการ และการเสียบบัตรชิปการ์ด (Dip Chip) ลงในเครื่อง ซึ่งไม่จำกัดวงเงินต่อรายการ โดยเปิดแอปฯ ผ่านสมาร์ทโฟน ใส่จำนวนเงินลงไป เสียบบัตรเครดิตที่เครื่องรูดบัตร กระทั่งรายการอนุมัติเพียงไม่กี่นาที ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหายถูกคนร้ายรูดบัตรเครดิตด้วยมูลค่าตั้งแต่ 85,900 บาท ถึง 343,000 บาท บางธนาคารยอมระงับรายการที่คนร้ายรูดและช่วยเหลือตำรวจสืบสวน แต่บางธนาคารให้ลูกค้าไปตามเรื่องเอาเอง ไม่ยอมระงับรายการ และไม่เปิดเผยข้อมูลร้านค้าที่กระทำความผิด โดยพบว่ามีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร จ.นนทบุรี ธุรกิจรถฉุกเฉิน จ.ปทุมธานี และเต็นท์รถมือสองที่ จ.มหาสารคาม ปัจจุบันการขอใช้เครื่องรูดบัตร (EDC) ของแต่ละธนาคารเป็นไปอย่างง่ายดาย ร้านค้าบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ขอได้ กลายเป็นช่องว่างที่ทำให้มีขบวนการปล่อยเช่าเครื่องรูดบัตรเพื่อกระทำความผิด จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องตรวจสอบว่าร้านค้าแต่ละแห่งมีการใช้เครื่องรูดบัตรที่ร้านค้าโดยตรงหรือไม่ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของร้านค้าหรือไม่ เพื่อไม่ให้กลายเป็นการนำเครื่องรูดบัตรไปใช้ในทางที่ผิด เช่นการปล่อยเช่าแก่กลุ่มมิจฉาชีพ สร้างความเสียหายแก่ผู้คนในสังคม #Newskit
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 674 Views 0 Reviews
  • ทำเอาแฟนๆกรี๊ดเก้อกันเลยทีเดียวกับภาพขอแต่งงานหน้าหอไอเฟลของ “แทคยอน” จากวง “2PM” ที่ล่าสุดต้นสังกัดออกมาชี้แจงแล้วว่าไม่เป็นความจริง บอกว่าเป็นแค่การให้ของขวัญแฟนสาวเท่านั้น

    51k ต้นสังกัดของแทคยอน ได้ออกมาเปิดเผยว่า “ข่าวลือเรื่องการแต่งงานไม่เป็นความจริง เขาแค่ถ่ายรูปธรรมดาทั่วไปกับแฟนสาวในวันเกิดของเธอ เนื่องจากเธอไม่ใช่คนในวงการบันเทิง เราเองก็ตกใจกับภาพที่หลุดออกมานี้ด้วย”

    ก่อนหน้านี้ได้มีภาพของ แทคยอน คุกเข่ากน้าหอไอเฟลมอบแหวนให้แหวนให้แฟนสาวจนเข้าใจว่าเป็นการขอแต่งงานถูกปล่อยออกมา พร้อมข่าวลือว่าเขาแอบแต่งงานเงียบๆตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพที่ถูกอัปโหลดโดยช่างภาพในปารีส

    ชาวเน็ตได้ชี้ให้เห็นว่าภาพดังกล่าวโพสต์ไว้ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2023 ทำให้ลือกันว่าเขาน่าจะแต่งงานตั้งแต่ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ช่างภาพที่เป็นโพสต์ต้นทางของภาพนี้ก็ได้ลบโพสต์ดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000011788

    #MGROnline #แทคยอน2PM #ของขวัญ #แฟนสาว
    ทำเอาแฟนๆกรี๊ดเก้อกันเลยทีเดียวกับภาพขอแต่งงานหน้าหอไอเฟลของ “แทคยอน” จากวง “2PM” ที่ล่าสุดต้นสังกัดออกมาชี้แจงแล้วว่าไม่เป็นความจริง บอกว่าเป็นแค่การให้ของขวัญแฟนสาวเท่านั้น • 51k ต้นสังกัดของแทคยอน ได้ออกมาเปิดเผยว่า “ข่าวลือเรื่องการแต่งงานไม่เป็นความจริง เขาแค่ถ่ายรูปธรรมดาทั่วไปกับแฟนสาวในวันเกิดของเธอ เนื่องจากเธอไม่ใช่คนในวงการบันเทิง เราเองก็ตกใจกับภาพที่หลุดออกมานี้ด้วย” • ก่อนหน้านี้ได้มีภาพของ แทคยอน คุกเข่ากน้าหอไอเฟลมอบแหวนให้แหวนให้แฟนสาวจนเข้าใจว่าเป็นการขอแต่งงานถูกปล่อยออกมา พร้อมข่าวลือว่าเขาแอบแต่งงานเงียบๆตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพที่ถูกอัปโหลดโดยช่างภาพในปารีส • ชาวเน็ตได้ชี้ให้เห็นว่าภาพดังกล่าวโพสต์ไว้ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2023 ทำให้ลือกันว่าเขาน่าจะแต่งงานตั้งแต่ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ช่างภาพที่เป็นโพสต์ต้นทางของภาพนี้ก็ได้ลบโพสต์ดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000011788 • #MGROnline #แทคยอน2PM #ของขวัญ #แฟนสาว
    0 Comments 0 Shares 475 Views 0 Reviews
  • Part 1 : The Beats and William S. Burroughs

    บีทเจนเนอเรชั่น คือ กลุ่มคนหนุ่ม-สาว ในยุคต้น 1960s ที่เกี่ยวข้องแวะกันด้วยอิทธิพลทางความคิดต้านกระแสสังคม พวกเขายืนอยู่บนเส้นแบ่งของแนวคิดแบบองค์รวมของสังคมอเมริกันอุดมคติแบบ แฟร้งคลิน ดีลาโน่ รูทส์เวลท์ และ สังคมที่นิยมความเป็นปัจเจกบุคคลแบบสุดโต่งในช่วงเวลานั้น ตัวตนขวกเขาถูกแสดงผ่านผลงานการเขียน หลากหลายรูปแบบ เซ็กซ์ ดนตรี และ ศิลปะ พวกเขาเชื่อกันเองว่าในกลุ่มพวกเขามีอยู่เพียงหลักร้อยคน ซึ่งอันที่จริง จำนวนที่แท้จริงของกลุ่ม บีทส์ นั้นไม่ปรากฏเป็นตัวเลขที่ชัดเจนนัก



    นอแมน เมลเลอร์ ผู้อุปถัมภ์ค้ำจุน ความมีตัวตนของ บีทส์ กล่าวไว้อย่างสวยงามมากว่า บีทส์นั้นคือผู้กล้าหาญที่จะแสดงถึงความเป็นตัวของตัวเอง ในยุคที่ทุกกระแสสังคมถูกจับจ้องโดยรัฐบาลสหรัฐ พวกเขาคือคนที่อยู่นอกกฏระเบียบของสังคม งานเขียนของพวกเขาสะท้อนสิ่งที่ประชาชนยุคนั้นมองไม่เห็นหรือแกล้งมองไม่เห็น ซึ่งครอบคลุมเรื่องการเมือง วัฒนธรรม และ การแสวงหาทางจิตวิญญาณ โดยที่พวกเขานั้นไม่อิงแอบกับตรรกะภายนอก ไม่ว่าจะเป็น เรื่องทุนนิยมเรื่องสังคมนิยม แต่เป็นการค้นพบสิ่งใหม่ด้วยตัวเอง ผลงานของพวกเขาจึงเป็นดั่งการเบิกทางให้กับผู้ที่จะค้นพบสิ่งใหม่ๆในยุคต่อๆมา



    แจ็ค คูโรแวค

    แอลลัน กินเบิร์ค

    วิลเลี่ยม เอส. เบอร์โรส์



    สามศาสดาแถวหน้า บีทเจนเนอเรชั่น



    วิลเลี่ยม เอส. เบอร์โรส์ “อัจฉริยะ รุนแรง บ้าคลั่ง”

    .

    .

    วิลเลี่ยม “บิล” เอส. เบอร์โรส์ อายุมากกว่าเพื่อนอีกสองคน และ ผลงานของเขาประสบความสำเร็จช้ากว่าอีกสองคนมาก แต่เป็นการประสบความสำเร็จที่ยาวนานและยั่งยืนที่สุด บิล เกิดในปี ค.ศ. 1914 ในเซนหลุยส์ มิสซูรี่ ปู่ของเขาร่ำรวยจากกว่าเป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องบวกเลขเครื่องแรกของโลก แม้ครอบครัวของบิลจะไม่รวยเท่ากับรุ่นปู่แต่บอกได้ว่าเป็นครอบครัวที่มีฐานะดีมากๆครอบครัวหนึ่งในเวลานั้น เมื่ออายุได้ 15 ปี ตามกระแสในยุคนั้น ครอบครัวส่งบิลได้เรียนในโรงเรียน “บ้านไร่” โรงเรียนประจำที่อยู่ในรัฐตะวันตกอเมริกา ซึ่งเขาถูกส่งไปอยู่ถึงรัฐนิวแม็กซิโก - โรงเรียนประจำลอสอลาโมสแรนช์สกูล เนื่องจากบิลเป็นคนที่เกลียดกิจกรรมภายนอกห้องเรียนอยู่เป็นทุนเดิน เขาแทบจะเข้ากับที่นั่นไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่กีฬาชนิดหนึ่งของโรงเรียนที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษนั่นก็คือ กีฬายิงปืนนั่นเอง

    .

    ที่นั่นบิลได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับสารเสพติดเป็นครั้งแรกนั่นก็คือ คลอรอลไฮเดรต ยาระงับประสาท และเป็นที่รู้กันว่า บิลเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการเสพเกินขนาด พอเรียนต่อไม่ได้จึงต้องย้ายไปเข้าโรงเรียนเอกชนเพื่อเก็บเกรดไว้ไปต่อที่ฮาร์วาร์ด ซึ่งก็ทันตอนอายุ 18 พอดี พอเข้าไปได้ บิลก็ไม่ได้สนใจเล่าเรียนเท่าไหร่ แต่มักพบว่าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย ที่นั่นเขาได้อ่านวรรณกรรมภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสอย่างจุใจ พอเรียนจบตอนอายุ 21 ปีพอดี บิลขอพ่อแม่ออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วยุโรป และ ก็ได้เมียเป็นแม่หม้าย ชาวยิวอายุ 35 ปี จาก ยูโกสลาเวีย นัยว่าตัวเขานั้นอยากเป็นฮีโร่ ปกป้องผู้หญิงคนหนึ่งจากลัทธิเผด็จการที่เริ่มก่อตัวในยุโรปในขณะนั้น ซึ่งก็อยู่กินกับเขาเกือบ 9 ปีในนิวยอร์ค กระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงในปี 1945

    .

    หลังจากกลับมาถึงสหรัฐอเมริกา บิลเลือกจะที่กลับไปสู่แวดวงการศึกษาโดยเข้าเรียนในระดับปริญญาโทอีกครั้งที่ ฮาร์วาร์ด โดยแรงจูงใจในครั้งนี้คือการได้ใกล้ชิดกับเพื่อนชายของเขา เคลส์ แอลวินส์ ที่นั่นเอง ทั้งสองคนได้ร่วมกันผลิตงานเขียนเสียดสี เกี่้ยวกับการจมลงของเรือไททานิคโดยใช้ชื่อว่า "แสงสะท้อนสุดท้ายของยามพลบค่ำ" ซึ่งพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จในการหาสำนักพิมพ์ที่จะรับซื้องานเขียนดังกล่าวได้ โดยนิตยสาร Esquire ตอบกลับมาว่า มันไม่มีเนื้อหาอะไรลึกซึ้งพอที่จะให้พวกเขานำไปตีพิมพ์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม งานเขียนนี้กลับมาปรากฏในนิยายเรื่อง "โนวา เอ็กซ์เพรส"ของบิลในเวลาต่อมา

    .

    บิลเลือกที่จะทิ้งการเรียนปริญญาโทไปแบบครึ่งๆกลางๆ และ กลับไปอยู่ที่ เซนหลุยส์ มิสซูรี่ เพื่อจะไปเป็นลูกศิษย์ของ อัลเฟรด คอซิบสกี้ นักอรรถศาสตร์ ผู้เสนอแนวคิดว่า "คำพูดต่างๆนั้นสูญเสียความหมายที่แท้จริง" และ จากนี้ต่อไปตลอดชีวิต บิลก็ทุ่มเทความคิดให้กับการค้นหาความหมายที่แท้จริงของคำศัพท์แต่ละคำที่เขาเล็งเห็นว่าถูกใช้อย่างผิดๆโดยมนุษย์
    .
    "ผมขอเสนอทฤษฎีอย่างกว้างๆว่า คำศัพท์ของมนุษย์เราจริงๆแล้วคือ ไวรัส แต่มนุษย์เราจะไม่ได้ทราบว่ามันเป็นไวรัส ก็เพราะว่าเราเป็นพาหะที่ค่อนข้างเสถียร ซึ่ง ไอ้ไวรัสนี่ไม่มีหน้าที่อะไรนอกจาก ทำสำเนาให้ตัวเอง และส่งต่อจากมนุษย์คนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งหรือหลายๆคน..."
    .
    หลังเหตุการณ์ประกาศสงครามกับฝ่ายอักษะ บิลถูกหมายเกณฑ์ให้เป็นทหาร แต่แม่ของบิลช่วยเขาหลีกเลี่ยงการเป็นทหารโดยการส่งเขาเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช และให้การรับรองว่าเขาป่วยทางจิตและไม่เหมาะสมกับการรับใช้ชาติ ช่วงเวลาดังกล่าว บิลเดินทางออกจาก เซนหลุยส์ มิสซูรี่ สู่เมืองชิคาโก้ และหาเลี้ยงชีพโดยการรับจ้างกำจัดสัตว์ไม่พึงประสงค์ (อาชีพนี้ทำให้เขาได้เข้าไปสัมผัสมุมมืดในสังคมเมืองใหญ่ ที่เขาเคยแต่เพียงอ่านจากในหนังสือเท่านั้น พอเป็นแบบนี้มันทำให้บิลมีความรู้สึกว่า สิ่งที่เขาพบเจอนั้นคือของแท้) นอกจากนี้ยังได้รับเงินอุดหนุนจากทางบ้านเป็นค่ากินอยู่อีกเดือนละ 200 เหรียญ เป็นอยู่อย่างนี้อีกประมาณแปดเดือนเศษ กระทั่งเขาได้เจอเพื่อนเก่าจาก เซนหลุยส์ มิสซูรี่ นั่นก็คือ ลูเชี่ยน คารร์ และ เดวิท แคมเมอเรอร์ ที่ชิคาโก้ (ในเวลาต่อมา คารร์ก็ปลิดชีพ แคมเมอเรอร์ ที่นิวยอร์ค)
    .
    คารร์ มาแวะเพียงชั่วคราว และ มุ่งหน้าสู่นิวยอร์คเพื่อจะกลับไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และ บิล กับ แคมเมอเรอร์ก็ตามไปสมทบในที่สุด ซึ่งที่นี่เองเป็นที่ ที่ บิลได้พบกับเพื่อนที่จะข้องเกี่ยวกับตัวเขาเองไปอีกครึ่งศตวรรษ เขาคนนั้นคือ แอลลัน กินเบิร์ค - และ แอลลันก็แนะนำพวกเขาให้รู้จักกับ แจ็ค คูโรแวค , อีดี้ ปาร์คเกอร์ (แฟนสาวของแจ็ค) และ โจแอน โวมเมอร์ (ภรรยาของบิลในเวลาต่อมา) แอลลัน กับ แจ็ค ร่วมกันผลิตงานเขียนด้วยกันเป็นครั้งแรก มีชื่อว่า "และฮิปโปโดนต้มในบ่อของมันเอง" ซึ่งก็ไม่ได้ถูกสำนักพิมพ์ใดๆนำไปตีพิมพ์ ขณะเดียวกัน บิลก็เริ่มเบนเข็มสู่อีกช่าวของชีวิต เขาเริ่มเป็นแมงดาข้างถนนย่านไทม์สแควร์ ขายของอีหยิบ ขายมอร์ฟีนแบบเข็มฉีดเข้าเส้น และ ปล้นจี้คนด้วยปืนพกในสถานีรถไฟใต้ดินในยามค่ำคืน คนที่เป็นผู้ชักชวนบิลสู่เส้นทางสายนี้คือ เฮอเบิร์ท ฮังค์คี ซึ่งอยู่ในสายอาชีพ ปล้นชิงทรัพย์ ลักเล็กขโมยน้อย มาแต่เดิม อีกด้านหนึ่ง บิลก็แนะนำ เฮอเบิร์ทให้รู้กจักกับพวกกลุ่มเพื่อนของเขาใน มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และ รวมกลุ่มกันอยู่แบบชุมชนเล็กในอพาร์ทเม็นท์ใกล้ๆ มหาวิทยาลัย นั่นแหละ
    .
    โจแอน โวมเมอร์ นักศึกษาสาวคณะวารสารศาสตร์ เริ่มคบหาเชิงชู้สาวกับ บิล ทั้งๆที่ใครๆในกลุ่มก็ทราบดีว่าบิลมีรสนิยมทางเพศแบบโฮโมเซ็กซ์ชั่ล แต่เธอให้เห็นผลว่า "บิลเก่งเรื่องบนเตียง แบบที่แมงดาควรเป็น" - สองคนนี้อยู่กินกันแบบสามีภรรยา และเสพยาหนักทั้งคู่ กระทั่งวันหนึ่งก็ถูกตำรวจบุกจับถึงอพาร์ทเม็นท์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สองคนยังหาเวลาไปเขียนบทละครสั้น เกี่ยวกับเรื่องรสนิยมทางเพศ อยู่ด้วยกันอยู่หลายเรื่อง ซึ่งในเวลาต่อมา บิลก็เอาไปยัดใส่ในวรรณกรรมของเขาทีละเรื่อง ทีละเรื่อง ไม่นานหลังจากห้วงเวลาในรั้วมหาวิทยาลัย โวมเมอร์กับบิล ร่วมกันซื้อไร่ขนาด 99 เอเคอร์ ในเมือง นิวเวเวอรี่ รัฐเท็กซัส และ โวมเมอร์ก็ให้กำเนิดลูกชายของบิลหนึ่งคน สองผัวเมียมองหาธุรกิจทำและในที่สุดก็ชักชวน ฮังค์คี ให้มาอยู่ด้วยกันที่ไร่ และไม่นานเกินรอผลผลิตหลักจากไร่ของสองผัวเมีย คือ กัญชา
    .
    เพื่อนที่เริ่มมีชื่อเสียงมาก ก็ได้แวะเวียนมาเยี่ยมสองผัวเมีย ไม่ว่าจะเป็น อัลแลน รวมไปถึง นีล แคซซิดี้ (คู่ขาเพศชายของอัลแลน) นีลทำหน้าที่หลักคือขนกัญชาของบิลไปขายในนิวยอร์ค ส่วน อัลแลนส่งกัญชาของสองผัวเมียไปขายผ่านเส้นสายของเหล่าพาณิชย์นาวี ที่เขามีแต่เดิม เป็นแผนธุรกิจฟังดูดีใช่ไหม? แต่เอาจริง แม่งเจ๊งไม่เป็นท่า เพราะค่าใช้จ่ายของแต่ละคนมันสูงมาก เนื่องจาก สองผัวเมียนักเสพ ต้องคอยส่งส่วยให้ตำรวจท้องถิ่นตลอด ราคาขายส่งที่ควรจะเป็นมันถีบสูงไปถึงร้อยเหรียญ ในที่สุดสองผัวเมียและอีกหนึ่งนักปลูกเพื่อนผัว ก็ต้องระเห็ดไปอยู่ที่ นิวออร์ลีนส์ แต่แค่พักเดียวยังไม่ทันได้ทำอะไรจริงจัง ตำรวจก็เข้าจับกุมพวกเขาถึงบ้าน ซ้ำร้ายนอกจากกัญชาที่ปลูกไว้เสพด้วย ขายด้วยแล้ว ก็เจอยาเสพติดอีกหลายประเภทในบ้านของสองผัวเมีย แต่โชคดีพวกนี้รู้จักทนายเก่ง ทนายก็ทำให้คดีหลุดด้วยช่องโหว่ทางกฏหมาย แต่ก็แนะนำว่า สองผัวเมียควรออกไปอยู่นอกประเทศสักพักจะเป็นการดีที่สุด
    .
    ในปี 1950 บิลเขียนจดหมายหาอัลแลน จากที่ประเทศแม็กซิโก แจ้งว่าเขาเขียนหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขา ใกล้เสร็จแล้ว หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า "ไอ้ขี้ยา" - Junkie. ในวันที่ 6 กันยายน ปีเดียวกันนั้นเอง เล่ากันว่า บิลและโวมเมอร์กำลังเมากันได้ที่ จากการเสพและดื่ม โวมเมอร์เริ่มต้นก่อนด้วยการท้าทายฝีมือการแม่นปืนของบิล ซึ่งเธอเอาแก้วน้ำวางไว้เหนือหัว และ บิลก็ชักปืนสั้นขึ้นยิงแก้วนั้น แต่เล็งพลาด กระสุนเลยพุ่งเข้ากลางหน้าผากโวมเมอร์ ปลิดชีพภรรยาคู่เสพทันที และ ปิดบทบาทสามี ที่ บิลไม่ค่อยเต็มใจนัก
    .
    .
    to be continued...
    Part 1 : The Beats and William S. Burroughs บีทเจนเนอเรชั่น คือ กลุ่มคนหนุ่ม-สาว ในยุคต้น 1960s ที่เกี่ยวข้องแวะกันด้วยอิทธิพลทางความคิดต้านกระแสสังคม พวกเขายืนอยู่บนเส้นแบ่งของแนวคิดแบบองค์รวมของสังคมอเมริกันอุดมคติแบบ แฟร้งคลิน ดีลาโน่ รูทส์เวลท์ และ สังคมที่นิยมความเป็นปัจเจกบุคคลแบบสุดโต่งในช่วงเวลานั้น ตัวตนขวกเขาถูกแสดงผ่านผลงานการเขียน หลากหลายรูปแบบ เซ็กซ์ ดนตรี และ ศิลปะ พวกเขาเชื่อกันเองว่าในกลุ่มพวกเขามีอยู่เพียงหลักร้อยคน ซึ่งอันที่จริง จำนวนที่แท้จริงของกลุ่ม บีทส์ นั้นไม่ปรากฏเป็นตัวเลขที่ชัดเจนนัก นอแมน เมลเลอร์ ผู้อุปถัมภ์ค้ำจุน ความมีตัวตนของ บีทส์ กล่าวไว้อย่างสวยงามมากว่า บีทส์นั้นคือผู้กล้าหาญที่จะแสดงถึงความเป็นตัวของตัวเอง ในยุคที่ทุกกระแสสังคมถูกจับจ้องโดยรัฐบาลสหรัฐ พวกเขาคือคนที่อยู่นอกกฏระเบียบของสังคม งานเขียนของพวกเขาสะท้อนสิ่งที่ประชาชนยุคนั้นมองไม่เห็นหรือแกล้งมองไม่เห็น ซึ่งครอบคลุมเรื่องการเมือง วัฒนธรรม และ การแสวงหาทางจิตวิญญาณ โดยที่พวกเขานั้นไม่อิงแอบกับตรรกะภายนอก ไม่ว่าจะเป็น เรื่องทุนนิยมเรื่องสังคมนิยม แต่เป็นการค้นพบสิ่งใหม่ด้วยตัวเอง ผลงานของพวกเขาจึงเป็นดั่งการเบิกทางให้กับผู้ที่จะค้นพบสิ่งใหม่ๆในยุคต่อๆมา แจ็ค คูโรแวค แอลลัน กินเบิร์ค วิลเลี่ยม เอส. เบอร์โรส์ สามศาสดาแถวหน้า บีทเจนเนอเรชั่น วิลเลี่ยม เอส. เบอร์โรส์ “อัจฉริยะ รุนแรง บ้าคลั่ง” . . วิลเลี่ยม “บิล” เอส. เบอร์โรส์ อายุมากกว่าเพื่อนอีกสองคน และ ผลงานของเขาประสบความสำเร็จช้ากว่าอีกสองคนมาก แต่เป็นการประสบความสำเร็จที่ยาวนานและยั่งยืนที่สุด บิล เกิดในปี ค.ศ. 1914 ในเซนหลุยส์ มิสซูรี่ ปู่ของเขาร่ำรวยจากกว่าเป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องบวกเลขเครื่องแรกของโลก แม้ครอบครัวของบิลจะไม่รวยเท่ากับรุ่นปู่แต่บอกได้ว่าเป็นครอบครัวที่มีฐานะดีมากๆครอบครัวหนึ่งในเวลานั้น เมื่ออายุได้ 15 ปี ตามกระแสในยุคนั้น ครอบครัวส่งบิลได้เรียนในโรงเรียน “บ้านไร่” โรงเรียนประจำที่อยู่ในรัฐตะวันตกอเมริกา ซึ่งเขาถูกส่งไปอยู่ถึงรัฐนิวแม็กซิโก - โรงเรียนประจำลอสอลาโมสแรนช์สกูล เนื่องจากบิลเป็นคนที่เกลียดกิจกรรมภายนอกห้องเรียนอยู่เป็นทุนเดิน เขาแทบจะเข้ากับที่นั่นไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่กีฬาชนิดหนึ่งของโรงเรียนที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษนั่นก็คือ กีฬายิงปืนนั่นเอง . ที่นั่นบิลได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับสารเสพติดเป็นครั้งแรกนั่นก็คือ คลอรอลไฮเดรต ยาระงับประสาท และเป็นที่รู้กันว่า บิลเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการเสพเกินขนาด พอเรียนต่อไม่ได้จึงต้องย้ายไปเข้าโรงเรียนเอกชนเพื่อเก็บเกรดไว้ไปต่อที่ฮาร์วาร์ด ซึ่งก็ทันตอนอายุ 18 พอดี พอเข้าไปได้ บิลก็ไม่ได้สนใจเล่าเรียนเท่าไหร่ แต่มักพบว่าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย ที่นั่นเขาได้อ่านวรรณกรรมภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสอย่างจุใจ พอเรียนจบตอนอายุ 21 ปีพอดี บิลขอพ่อแม่ออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วยุโรป และ ก็ได้เมียเป็นแม่หม้าย ชาวยิวอายุ 35 ปี จาก ยูโกสลาเวีย นัยว่าตัวเขานั้นอยากเป็นฮีโร่ ปกป้องผู้หญิงคนหนึ่งจากลัทธิเผด็จการที่เริ่มก่อตัวในยุโรปในขณะนั้น ซึ่งก็อยู่กินกับเขาเกือบ 9 ปีในนิวยอร์ค กระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงในปี 1945 . หลังจากกลับมาถึงสหรัฐอเมริกา บิลเลือกจะที่กลับไปสู่แวดวงการศึกษาโดยเข้าเรียนในระดับปริญญาโทอีกครั้งที่ ฮาร์วาร์ด โดยแรงจูงใจในครั้งนี้คือการได้ใกล้ชิดกับเพื่อนชายของเขา เคลส์ แอลวินส์ ที่นั่นเอง ทั้งสองคนได้ร่วมกันผลิตงานเขียนเสียดสี เกี่้ยวกับการจมลงของเรือไททานิคโดยใช้ชื่อว่า "แสงสะท้อนสุดท้ายของยามพลบค่ำ" ซึ่งพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จในการหาสำนักพิมพ์ที่จะรับซื้องานเขียนดังกล่าวได้ โดยนิตยสาร Esquire ตอบกลับมาว่า มันไม่มีเนื้อหาอะไรลึกซึ้งพอที่จะให้พวกเขานำไปตีพิมพ์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม งานเขียนนี้กลับมาปรากฏในนิยายเรื่อง "โนวา เอ็กซ์เพรส"ของบิลในเวลาต่อมา . บิลเลือกที่จะทิ้งการเรียนปริญญาโทไปแบบครึ่งๆกลางๆ และ กลับไปอยู่ที่ เซนหลุยส์ มิสซูรี่ เพื่อจะไปเป็นลูกศิษย์ของ อัลเฟรด คอซิบสกี้ นักอรรถศาสตร์ ผู้เสนอแนวคิดว่า "คำพูดต่างๆนั้นสูญเสียความหมายที่แท้จริง" และ จากนี้ต่อไปตลอดชีวิต บิลก็ทุ่มเทความคิดให้กับการค้นหาความหมายที่แท้จริงของคำศัพท์แต่ละคำที่เขาเล็งเห็นว่าถูกใช้อย่างผิดๆโดยมนุษย์ . "ผมขอเสนอทฤษฎีอย่างกว้างๆว่า คำศัพท์ของมนุษย์เราจริงๆแล้วคือ ไวรัส แต่มนุษย์เราจะไม่ได้ทราบว่ามันเป็นไวรัส ก็เพราะว่าเราเป็นพาหะที่ค่อนข้างเสถียร ซึ่ง ไอ้ไวรัสนี่ไม่มีหน้าที่อะไรนอกจาก ทำสำเนาให้ตัวเอง และส่งต่อจากมนุษย์คนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งหรือหลายๆคน..." . หลังเหตุการณ์ประกาศสงครามกับฝ่ายอักษะ บิลถูกหมายเกณฑ์ให้เป็นทหาร แต่แม่ของบิลช่วยเขาหลีกเลี่ยงการเป็นทหารโดยการส่งเขาเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช และให้การรับรองว่าเขาป่วยทางจิตและไม่เหมาะสมกับการรับใช้ชาติ ช่วงเวลาดังกล่าว บิลเดินทางออกจาก เซนหลุยส์ มิสซูรี่ สู่เมืองชิคาโก้ และหาเลี้ยงชีพโดยการรับจ้างกำจัดสัตว์ไม่พึงประสงค์ (อาชีพนี้ทำให้เขาได้เข้าไปสัมผัสมุมมืดในสังคมเมืองใหญ่ ที่เขาเคยแต่เพียงอ่านจากในหนังสือเท่านั้น พอเป็นแบบนี้มันทำให้บิลมีความรู้สึกว่า สิ่งที่เขาพบเจอนั้นคือของแท้) นอกจากนี้ยังได้รับเงินอุดหนุนจากทางบ้านเป็นค่ากินอยู่อีกเดือนละ 200 เหรียญ เป็นอยู่อย่างนี้อีกประมาณแปดเดือนเศษ กระทั่งเขาได้เจอเพื่อนเก่าจาก เซนหลุยส์ มิสซูรี่ นั่นก็คือ ลูเชี่ยน คารร์ และ เดวิท แคมเมอเรอร์ ที่ชิคาโก้ (ในเวลาต่อมา คารร์ก็ปลิดชีพ แคมเมอเรอร์ ที่นิวยอร์ค) . คารร์ มาแวะเพียงชั่วคราว และ มุ่งหน้าสู่นิวยอร์คเพื่อจะกลับไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และ บิล กับ แคมเมอเรอร์ก็ตามไปสมทบในที่สุด ซึ่งที่นี่เองเป็นที่ ที่ บิลได้พบกับเพื่อนที่จะข้องเกี่ยวกับตัวเขาเองไปอีกครึ่งศตวรรษ เขาคนนั้นคือ แอลลัน กินเบิร์ค - และ แอลลันก็แนะนำพวกเขาให้รู้จักกับ แจ็ค คูโรแวค , อีดี้ ปาร์คเกอร์ (แฟนสาวของแจ็ค) และ โจแอน โวมเมอร์ (ภรรยาของบิลในเวลาต่อมา) แอลลัน กับ แจ็ค ร่วมกันผลิตงานเขียนด้วยกันเป็นครั้งแรก มีชื่อว่า "และฮิปโปโดนต้มในบ่อของมันเอง" ซึ่งก็ไม่ได้ถูกสำนักพิมพ์ใดๆนำไปตีพิมพ์ ขณะเดียวกัน บิลก็เริ่มเบนเข็มสู่อีกช่าวของชีวิต เขาเริ่มเป็นแมงดาข้างถนนย่านไทม์สแควร์ ขายของอีหยิบ ขายมอร์ฟีนแบบเข็มฉีดเข้าเส้น และ ปล้นจี้คนด้วยปืนพกในสถานีรถไฟใต้ดินในยามค่ำคืน คนที่เป็นผู้ชักชวนบิลสู่เส้นทางสายนี้คือ เฮอเบิร์ท ฮังค์คี ซึ่งอยู่ในสายอาชีพ ปล้นชิงทรัพย์ ลักเล็กขโมยน้อย มาแต่เดิม อีกด้านหนึ่ง บิลก็แนะนำ เฮอเบิร์ทให้รู้กจักกับพวกกลุ่มเพื่อนของเขาใน มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และ รวมกลุ่มกันอยู่แบบชุมชนเล็กในอพาร์ทเม็นท์ใกล้ๆ มหาวิทยาลัย นั่นแหละ . โจแอน โวมเมอร์ นักศึกษาสาวคณะวารสารศาสตร์ เริ่มคบหาเชิงชู้สาวกับ บิล ทั้งๆที่ใครๆในกลุ่มก็ทราบดีว่าบิลมีรสนิยมทางเพศแบบโฮโมเซ็กซ์ชั่ล แต่เธอให้เห็นผลว่า "บิลเก่งเรื่องบนเตียง แบบที่แมงดาควรเป็น" - สองคนนี้อยู่กินกันแบบสามีภรรยา และเสพยาหนักทั้งคู่ กระทั่งวันหนึ่งก็ถูกตำรวจบุกจับถึงอพาร์ทเม็นท์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สองคนยังหาเวลาไปเขียนบทละครสั้น เกี่ยวกับเรื่องรสนิยมทางเพศ อยู่ด้วยกันอยู่หลายเรื่อง ซึ่งในเวลาต่อมา บิลก็เอาไปยัดใส่ในวรรณกรรมของเขาทีละเรื่อง ทีละเรื่อง ไม่นานหลังจากห้วงเวลาในรั้วมหาวิทยาลัย โวมเมอร์กับบิล ร่วมกันซื้อไร่ขนาด 99 เอเคอร์ ในเมือง นิวเวเวอรี่ รัฐเท็กซัส และ โวมเมอร์ก็ให้กำเนิดลูกชายของบิลหนึ่งคน สองผัวเมียมองหาธุรกิจทำและในที่สุดก็ชักชวน ฮังค์คี ให้มาอยู่ด้วยกันที่ไร่ และไม่นานเกินรอผลผลิตหลักจากไร่ของสองผัวเมีย คือ กัญชา . เพื่อนที่เริ่มมีชื่อเสียงมาก ก็ได้แวะเวียนมาเยี่ยมสองผัวเมีย ไม่ว่าจะเป็น อัลแลน รวมไปถึง นีล แคซซิดี้ (คู่ขาเพศชายของอัลแลน) นีลทำหน้าที่หลักคือขนกัญชาของบิลไปขายในนิวยอร์ค ส่วน อัลแลนส่งกัญชาของสองผัวเมียไปขายผ่านเส้นสายของเหล่าพาณิชย์นาวี ที่เขามีแต่เดิม เป็นแผนธุรกิจฟังดูดีใช่ไหม? แต่เอาจริง แม่งเจ๊งไม่เป็นท่า เพราะค่าใช้จ่ายของแต่ละคนมันสูงมาก เนื่องจาก สองผัวเมียนักเสพ ต้องคอยส่งส่วยให้ตำรวจท้องถิ่นตลอด ราคาขายส่งที่ควรจะเป็นมันถีบสูงไปถึงร้อยเหรียญ ในที่สุดสองผัวเมียและอีกหนึ่งนักปลูกเพื่อนผัว ก็ต้องระเห็ดไปอยู่ที่ นิวออร์ลีนส์ แต่แค่พักเดียวยังไม่ทันได้ทำอะไรจริงจัง ตำรวจก็เข้าจับกุมพวกเขาถึงบ้าน ซ้ำร้ายนอกจากกัญชาที่ปลูกไว้เสพด้วย ขายด้วยแล้ว ก็เจอยาเสพติดอีกหลายประเภทในบ้านของสองผัวเมีย แต่โชคดีพวกนี้รู้จักทนายเก่ง ทนายก็ทำให้คดีหลุดด้วยช่องโหว่ทางกฏหมาย แต่ก็แนะนำว่า สองผัวเมียควรออกไปอยู่นอกประเทศสักพักจะเป็นการดีที่สุด . ในปี 1950 บิลเขียนจดหมายหาอัลแลน จากที่ประเทศแม็กซิโก แจ้งว่าเขาเขียนหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขา ใกล้เสร็จแล้ว หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า "ไอ้ขี้ยา" - Junkie. ในวันที่ 6 กันยายน ปีเดียวกันนั้นเอง เล่ากันว่า บิลและโวมเมอร์กำลังเมากันได้ที่ จากการเสพและดื่ม โวมเมอร์เริ่มต้นก่อนด้วยการท้าทายฝีมือการแม่นปืนของบิล ซึ่งเธอเอาแก้วน้ำวางไว้เหนือหัว และ บิลก็ชักปืนสั้นขึ้นยิงแก้วนั้น แต่เล็งพลาด กระสุนเลยพุ่งเข้ากลางหน้าผากโวมเมอร์ ปลิดชีพภรรยาคู่เสพทันที และ ปิดบทบาทสามี ที่ บิลไม่ค่อยเต็มใจนัก . . to be continued...
    0 Comments 0 Shares 900 Views 0 Reviews
  • ส่งสำนวน "ทนายตั้ม-พวก" ฉ้อโกง-ฟอกเงิน 4 คดีให้อัยการแล้ว เคาะสั่งฟ้องต่อศาลก่อนครบฝากขัง
    .
    กองปราบฯ ส่งสำนวนคดีทนายตั้มร่วมฉ้อโกง-ฟอกเงิน ให้อัยการพิเศษสั่งฟ้องต่อศาลก่อนสิ้นเดือนนี้ ครบกำหนดฝากขัง 30 ม.ค.นี้ พบมีผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 คน เป็นพนักงานโชว์รูมปลอมเอกสาร ส่วนคดีพินัยกรรมยังไม่พบทุจริต
    .
    วันนี้ (17 ม.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชเาภิเษก พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ นามพุทธา ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมคณะพนักงานสอบสวน บก.ป. นำสำนวนการสอบสวนที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย ผู้เสียหายได้กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม อายุ 44 ปี กับพวกรวม 7 คน คดีร่วมกันฉ้อโกง และฟอกเงิน มีสำนวนรวม 9,317 แผ่น พร้อมความเห็นทางสมควรสั่งฟ้องนายษิทรา, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด อายุ 41 ปี ภรรยาทนายตั้ม, น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือนุ อายุ 34 ปี คนสนิททนายตั้ม, น.ส.สารินี นุชนารถ อายุ 32 ปี แฟนสาวของนุ และพนักงานของโชว์รูมรถยนต์ 2 คน ที่ร่วมมือกับทนายตั้มในการปลอมแปลงเอกสาร รวมผู้ต้องหา 7 คน ในคดีฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ไปมอบให้นายณัฐพงษ์ พุฒแก้ว รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคดีพิเศษ เป็นผู้รับสำนวนการสอบสวนไว้พิจารณา
    .
    พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า สำนวนคดีทนายตั้มแบ่งเป็น 2 สำนวน คือ สำนวนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร และกระทำผิดนอกราชอาณาจักร โดยการกระทำผิดนอกราชอาณาจักรมี 3 เรื่อง คือ ฉ้อโกงเกี่ยวกับแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ ความเสียหาย 71 ล้านบาทเศษ, คดีกระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ ความเสียหาย 39 ล้านบาทเศษ และสำนวนคดีซื้อรถเบนซ์ จี 400 เพื่อรับประโยชน์จากเงินส่วนต่าง จำนวน 1,530,000 บาท ส่วนการกระทำผิดในราชอาณาจักร คดีการออกแบบโรงแรม ได้ส่วนต่าง 5,500,000 บาท สำหรับการส่งสำนวน 4 เรื่อง มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คนที่ร่วมกับทนายตั้มทำการฉ้อโกง ฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน
    .
    โดยวันนี้มีผู้ต้องหาที่กระทำความผิดในการปลอมเอกสารที่จะต้องเข้ามาพบกับพนักงานอัยการ โดยมีการแจ้งความเพิ่มมา 2 คน เป็นการปลอมเอกสารเกี่ยวกับการซื้อรถเบนซ์ โดยผู้ต้องหาทั้งสองกระทำผิดในส่วนของการปลอมใบเสร็จการซื้อรถเบนซ์ แต่รายละเอียดอยู่ในสำนวน ไม่ขอเปิดเผย ส่วน น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม ที่ได้รับการประกันตัวอยู่ในอำนาจการควบคุมของศาล จึงไม่ได้ส่งตัววันนี้ ที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนตามที่ทนายตั้มได้ร้องขอให้มีการสอบสวนในพยานหลักฐานเพิ่มเติม ถือว่าเป็นการให้ความเป็นธรรมแก่ตัวผู้ต้องหาแล้ว
    .
    ส่วนคดีพินัยกรรม พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริตเข้ามา แต่ถ้าการสืบสวนพบว่ามีพยานหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำความผิด ก็จะสอบสวนต่อไป
    .
    ด้านนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หลังจากการรับมอบสำนวนแล้ว ทางพนักงานอัยการจะส่งมอบให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่าย 1 ไปพิจารณาเพื่อตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาให้เสร็จภายในระยะเวลาฝากขังผัดสุดท้าย วันที่ 30 ม.ค.นี้ สำหรับคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรนั้น เมื่อผลการพิจารณาเสร็จสิ้นแล้วจะต้องส่งให้ทางอัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาอีกครั้งหนึ่งตามขั้นตอนของกฎหมาย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005180
    .........
    Sondhi X
    ส่งสำนวน "ทนายตั้ม-พวก" ฉ้อโกง-ฟอกเงิน 4 คดีให้อัยการแล้ว เคาะสั่งฟ้องต่อศาลก่อนครบฝากขัง . กองปราบฯ ส่งสำนวนคดีทนายตั้มร่วมฉ้อโกง-ฟอกเงิน ให้อัยการพิเศษสั่งฟ้องต่อศาลก่อนสิ้นเดือนนี้ ครบกำหนดฝากขัง 30 ม.ค.นี้ พบมีผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 คน เป็นพนักงานโชว์รูมปลอมเอกสาร ส่วนคดีพินัยกรรมยังไม่พบทุจริต . วันนี้ (17 ม.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชเาภิเษก พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ นามพุทธา ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมคณะพนักงานสอบสวน บก.ป. นำสำนวนการสอบสวนที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย ผู้เสียหายได้กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม อายุ 44 ปี กับพวกรวม 7 คน คดีร่วมกันฉ้อโกง และฟอกเงิน มีสำนวนรวม 9,317 แผ่น พร้อมความเห็นทางสมควรสั่งฟ้องนายษิทรา, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด อายุ 41 ปี ภรรยาทนายตั้ม, น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือนุ อายุ 34 ปี คนสนิททนายตั้ม, น.ส.สารินี นุชนารถ อายุ 32 ปี แฟนสาวของนุ และพนักงานของโชว์รูมรถยนต์ 2 คน ที่ร่วมมือกับทนายตั้มในการปลอมแปลงเอกสาร รวมผู้ต้องหา 7 คน ในคดีฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ไปมอบให้นายณัฐพงษ์ พุฒแก้ว รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคดีพิเศษ เป็นผู้รับสำนวนการสอบสวนไว้พิจารณา . พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า สำนวนคดีทนายตั้มแบ่งเป็น 2 สำนวน คือ สำนวนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร และกระทำผิดนอกราชอาณาจักร โดยการกระทำผิดนอกราชอาณาจักรมี 3 เรื่อง คือ ฉ้อโกงเกี่ยวกับแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ ความเสียหาย 71 ล้านบาทเศษ, คดีกระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ ความเสียหาย 39 ล้านบาทเศษ และสำนวนคดีซื้อรถเบนซ์ จี 400 เพื่อรับประโยชน์จากเงินส่วนต่าง จำนวน 1,530,000 บาท ส่วนการกระทำผิดในราชอาณาจักร คดีการออกแบบโรงแรม ได้ส่วนต่าง 5,500,000 บาท สำหรับการส่งสำนวน 4 เรื่อง มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คนที่ร่วมกับทนายตั้มทำการฉ้อโกง ฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน . โดยวันนี้มีผู้ต้องหาที่กระทำความผิดในการปลอมเอกสารที่จะต้องเข้ามาพบกับพนักงานอัยการ โดยมีการแจ้งความเพิ่มมา 2 คน เป็นการปลอมเอกสารเกี่ยวกับการซื้อรถเบนซ์ โดยผู้ต้องหาทั้งสองกระทำผิดในส่วนของการปลอมใบเสร็จการซื้อรถเบนซ์ แต่รายละเอียดอยู่ในสำนวน ไม่ขอเปิดเผย ส่วน น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม ที่ได้รับการประกันตัวอยู่ในอำนาจการควบคุมของศาล จึงไม่ได้ส่งตัววันนี้ ที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนตามที่ทนายตั้มได้ร้องขอให้มีการสอบสวนในพยานหลักฐานเพิ่มเติม ถือว่าเป็นการให้ความเป็นธรรมแก่ตัวผู้ต้องหาแล้ว . ส่วนคดีพินัยกรรม พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริตเข้ามา แต่ถ้าการสืบสวนพบว่ามีพยานหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำความผิด ก็จะสอบสวนต่อไป . ด้านนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หลังจากการรับมอบสำนวนแล้ว ทางพนักงานอัยการจะส่งมอบให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่าย 1 ไปพิจารณาเพื่อตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาให้เสร็จภายในระยะเวลาฝากขังผัดสุดท้าย วันที่ 30 ม.ค.นี้ สำหรับคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรนั้น เมื่อผลการพิจารณาเสร็จสิ้นแล้วจะต้องส่งให้ทางอัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาอีกครั้งหนึ่งตามขั้นตอนของกฎหมาย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005180 ......... Sondhi X
    Like
    Love
    13
    0 Comments 0 Shares 2082 Views 0 Reviews
  • 7 มกราคม 2568-รายงานข่าว จส.100 ระบุว่า การนำตัวหวังซิง นักแสดงชาวจีน กลับเข้าประเทศไทย พลตำรวจเอกธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการซักถาม นายหวังซิง ด้วยตัวเอง เบื้องต้นจาการสอบถาม นายหวังซิง ให้การว่าถูกชาวจีนด้วยกันพูดคุยกันผ่านแอปพลิเคชันวีแชต ใช้ชื่อเป็นบริษัทบันเทิงชื่อดังของไทยทักมาติดต่อให้ทำงาน จึงหลงเชื่อ ก่อนเดินทางทางยังประเทศไทยทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากนั้นนั่งรถที่ถูกส่งมารับที่สนามบินพาไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนจะมีคนมารับข้ามแดนทางเรือที่บริเวณชายแดน อ.แม่สอด นายหวังซิง ระบุว่า รู้ตัวว่าถูกหลอกเมื่อถูกพาข้ามแดนแต่ไม่กล้าขัดขืน อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการสอบสวน ซักถาม และตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

    สำหรับ การดำเนินการช่วยเหลือ นายหวังซิง นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานให้ความช่วยเหลือจนประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นการร่วมมือช่วยเหลือทางการจีนตามที่ได้ประสานมา หลังจากนี้จะได้เข้าสู่กลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM) หากพบว่าเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ก็จะเข้าสู่กระบวนการคุ้มครอง และประสานส่งตัวกลับประเทศตามกระบวนการของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และประสานญาติมารับตัว หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดลักษณะใด ก็จะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

    ก่อนหน้านี้ นายกัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ออกมาแถลงว่า ขณะนี้กระทรวงได้ประสานงานกับสถานทูตและสถานกงสุลของจีนในประเทศไทยและเมียนมาแล้ว หลังจากมีข่าวว่า นายหวังซิง หรือ ‘ซิงซิง’ นักแสดงชาวจีน หายตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่จังหวัดตาก ที่มีพรมแดนติดกับเมียนมา ซึ่งเป็นแหล่งกบดานของแก๊งอาชญากรรมมากมาย

    ด้านแฟนสาวของซิงซิง หลังมีข่าวส่งตัวซิงซิงถึงที่ไทย เพจลุยจีน ได้แปลข้อความเป็นดังนี้ "อัพเดท ขอขอบคุณทุกสื่อและผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องทุกระดับที่ให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ พวกเราได้รับข่าวสารมากมายของซิงซิงจากสื่อทุกข่องทางเมื่อครู่ฉันได้คุยโทรศัพท์กับทางเจ้าหน้าที่สถานทูตจีนประจำประเทศไทย เขาแจ้งว่าทางสถานทูตฯมีการประสานกับการเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อการช่วยเหลือในครั้งนี้อย่างกระตือรือร้น ซึ่งหากมีความคืบหน้าใดๆของการช่วยเหลือซิงซิงจะแจ้งให้ฉันทราบไปพร้อมๆกัน ขอให้อดทนรออีกนิด


    เหตุการณ์ที่ดำเนินมาถึงวันนี้ ฉันในฐานะแฟนสาวของเขาอยากที่จะพบกับเขาโดยเร็วเหลือเกิน ด้านครอบครัวของซิงซิงก็ฝากความหวังไว้ที่ฉันกับน้องชายของซิงซิงในภารกิจช่วยเหลือครั้งนี้ ฉันคงยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ หากว่ายังไม่ได้พบกับซิงซิงด้วยตัวฉันเอง


    ปล. ขอความร่วมมือทุกคนช่วยกันรักษาความเป็นส่วนตัวของเหยื่อในเหตุการณ์ งดการแชร์ภาพที่อาจทำให้เหยื่อเกิดความสะเทือนใจด้วยค่ะ สุดท้ายนี้ ขอให้ฉันได้พบกับซิงซิงอย่างราบรื่นด้วยเทอญ"

    ที่มา - Weibo 失眠爹地

    https://www.js100.com/en/site/news/view/147428?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR1OgYMKQJxeI-G9DQra2zrStKF1hw4gHhQ830JTrgaaJaJJsl6LG8E0Ld4_aem_pj_6AQUUP1F2piDeHBo5kA#m5mgd9q4ac0l15p5jbo
    7 มกราคม 2568-รายงานข่าว จส.100 ระบุว่า การนำตัวหวังซิง นักแสดงชาวจีน กลับเข้าประเทศไทย พลตำรวจเอกธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการซักถาม นายหวังซิง ด้วยตัวเอง เบื้องต้นจาการสอบถาม นายหวังซิง ให้การว่าถูกชาวจีนด้วยกันพูดคุยกันผ่านแอปพลิเคชันวีแชต ใช้ชื่อเป็นบริษัทบันเทิงชื่อดังของไทยทักมาติดต่อให้ทำงาน จึงหลงเชื่อ ก่อนเดินทางทางยังประเทศไทยทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากนั้นนั่งรถที่ถูกส่งมารับที่สนามบินพาไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนจะมีคนมารับข้ามแดนทางเรือที่บริเวณชายแดน อ.แม่สอด นายหวังซิง ระบุว่า รู้ตัวว่าถูกหลอกเมื่อถูกพาข้ามแดนแต่ไม่กล้าขัดขืน อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการสอบสวน ซักถาม และตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง สำหรับ การดำเนินการช่วยเหลือ นายหวังซิง นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานให้ความช่วยเหลือจนประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นการร่วมมือช่วยเหลือทางการจีนตามที่ได้ประสานมา หลังจากนี้จะได้เข้าสู่กลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM) หากพบว่าเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ก็จะเข้าสู่กระบวนการคุ้มครอง และประสานส่งตัวกลับประเทศตามกระบวนการของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และประสานญาติมารับตัว หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดลักษณะใด ก็จะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ก่อนหน้านี้ นายกัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ออกมาแถลงว่า ขณะนี้กระทรวงได้ประสานงานกับสถานทูตและสถานกงสุลของจีนในประเทศไทยและเมียนมาแล้ว หลังจากมีข่าวว่า นายหวังซิง หรือ ‘ซิงซิง’ นักแสดงชาวจีน หายตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่จังหวัดตาก ที่มีพรมแดนติดกับเมียนมา ซึ่งเป็นแหล่งกบดานของแก๊งอาชญากรรมมากมาย ด้านแฟนสาวของซิงซิง หลังมีข่าวส่งตัวซิงซิงถึงที่ไทย เพจลุยจีน ได้แปลข้อความเป็นดังนี้ "อัพเดท ขอขอบคุณทุกสื่อและผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องทุกระดับที่ให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ พวกเราได้รับข่าวสารมากมายของซิงซิงจากสื่อทุกข่องทางเมื่อครู่ฉันได้คุยโทรศัพท์กับทางเจ้าหน้าที่สถานทูตจีนประจำประเทศไทย เขาแจ้งว่าทางสถานทูตฯมีการประสานกับการเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อการช่วยเหลือในครั้งนี้อย่างกระตือรือร้น ซึ่งหากมีความคืบหน้าใดๆของการช่วยเหลือซิงซิงจะแจ้งให้ฉันทราบไปพร้อมๆกัน ขอให้อดทนรออีกนิด เหตุการณ์ที่ดำเนินมาถึงวันนี้ ฉันในฐานะแฟนสาวของเขาอยากที่จะพบกับเขาโดยเร็วเหลือเกิน ด้านครอบครัวของซิงซิงก็ฝากความหวังไว้ที่ฉันกับน้องชายของซิงซิงในภารกิจช่วยเหลือครั้งนี้ ฉันคงยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ หากว่ายังไม่ได้พบกับซิงซิงด้วยตัวฉันเอง ปล. ขอความร่วมมือทุกคนช่วยกันรักษาความเป็นส่วนตัวของเหยื่อในเหตุการณ์ งดการแชร์ภาพที่อาจทำให้เหยื่อเกิดความสะเทือนใจด้วยค่ะ สุดท้ายนี้ ขอให้ฉันได้พบกับซิงซิงอย่างราบรื่นด้วยเทอญ" ที่มา - Weibo 失眠爹地 https://www.js100.com/en/site/news/view/147428?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR1OgYMKQJxeI-G9DQra2zrStKF1hw4gHhQ830JTrgaaJaJJsl6LG8E0Ld4_aem_pj_6AQUUP1F2piDeHBo5kA#m5mgd9q4ac0l15p5jbo
    0 Comments 0 Shares 762 Views 0 Reviews
  • สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2568 "เจียเจีย" แฟนสาวของนักแสดงหนุ่มชาวจีน ที่ชื่อว่า "ซิงซิง" หรือ "หวังซิง" ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยเล่าว่า หวังซิงได้เดินทางไปชายแดนไทย-พม่าเพื่อเข้าร่วมกองถ่ายละคร และขาดการติดต่อไปตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2568 เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกในโลกออนไลน์ และได้รับความสนใจอย่างมากในจีน

    ล่าสุด “ฟ่านหู่” นักแสดงชาวจีนอีกรายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยประสบการณ์โดนเหยื่อขบวนการหลอกลวงที่แอบอ้างเป็นทีมงานกองถ่ายละครในประเทศไทย โดยเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2567 เขาได้รับคำเชิญจากบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นทีมงานกองถ่ายละครไทย เสนอให้เขารับบทนำ หรือบทสำคัญในละครเรื่องหนึ่ง พร้อมทั้งระบุว่ามีโอกาสสูงที่เขาจะได้บทนี้แทนนักแสดงคนอื่นที่อาจถอนตัว

    เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ แก๊งหลอกลวงได้นำเสนอข้อมูลที่จัดทำอย่างมืออาชีพ รวมถึงเอกสาร “โครงการถ่ายทำละคร” ที่มีข้อมูลครบถ้วน เช่น ชื่อเรื่อง เรื่องย่อ รายละเอียดตัวละครสำคัญ ชื่อผู้กำกับซึ่งแอบอ้างว่ารับหน้าที่โดย “แชมป์” วีรชิต ทองจิลา ผู้กำกับซีรีส์ชื่อดัง ทีมโปรดิวเซอร์ วันถ่ายทำ และสถานที่ถ่ายทำ

    ฟ่านหู่ กล่าวว่า เอกสารเหล่านี้ดูสมจริงและน่าเชื่อถืออย่างยิ่ง แม้แต่นักแสดงที่มีประสบการณ์ในวงการยังอาจหลงเชื่อ ติดกับดักแก๊งหลอกลวงสายอาชีพ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000001640

    #MGROnline #ฟ่านหู่ #นักแสดงชาวจีน #ขบวนการ #หลอกลวง #แอบอ้าง #ทีมงาน #กองถ่ายละคร #ประเทศไทย
    สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2568 "เจียเจีย" แฟนสาวของนักแสดงหนุ่มชาวจีน ที่ชื่อว่า "ซิงซิง" หรือ "หวังซิง" ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยเล่าว่า หวังซิงได้เดินทางไปชายแดนไทย-พม่าเพื่อเข้าร่วมกองถ่ายละคร และขาดการติดต่อไปตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2568 เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกในโลกออนไลน์ และได้รับความสนใจอย่างมากในจีน • ล่าสุด “ฟ่านหู่” นักแสดงชาวจีนอีกรายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยประสบการณ์โดนเหยื่อขบวนการหลอกลวงที่แอบอ้างเป็นทีมงานกองถ่ายละครในประเทศไทย โดยเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2567 เขาได้รับคำเชิญจากบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นทีมงานกองถ่ายละครไทย เสนอให้เขารับบทนำ หรือบทสำคัญในละครเรื่องหนึ่ง พร้อมทั้งระบุว่ามีโอกาสสูงที่เขาจะได้บทนี้แทนนักแสดงคนอื่นที่อาจถอนตัว • เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ แก๊งหลอกลวงได้นำเสนอข้อมูลที่จัดทำอย่างมืออาชีพ รวมถึงเอกสาร “โครงการถ่ายทำละคร” ที่มีข้อมูลครบถ้วน เช่น ชื่อเรื่อง เรื่องย่อ รายละเอียดตัวละครสำคัญ ชื่อผู้กำกับซึ่งแอบอ้างว่ารับหน้าที่โดย “แชมป์” วีรชิต ทองจิลา ผู้กำกับซีรีส์ชื่อดัง ทีมโปรดิวเซอร์ วันถ่ายทำ และสถานที่ถ่ายทำ • ฟ่านหู่ กล่าวว่า เอกสารเหล่านี้ดูสมจริงและน่าเชื่อถืออย่างยิ่ง แม้แต่นักแสดงที่มีประสบการณ์ในวงการยังอาจหลงเชื่อ ติดกับดักแก๊งหลอกลวงสายอาชีพ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000001640 • #MGROnline #ฟ่านหู่ #นักแสดงชาวจีน #ขบวนการ #หลอกลวง #แอบอ้าง #ทีมงาน #กองถ่ายละคร #ประเทศไทย
    0 Comments 0 Shares 701 Views 0 Reviews
  • ตาก - กองกำลังพิทักษ์ชายแดนเมียนมา (BGF) จ่อส่งตัว “หวังซิง” ดาราหนุ่มจีนหายตัวปริศนาชายแดนแม่สอด โผล่รัฐกะเหรียง ข้ามแดนผ่านสะพานมิตรภาพฯแม่สอด-เมียวดี แห่งที่ 1

    ความคืบหน้า กรณีนักแสดงหนุ่มชาวจีนชื่อ "ซิงซิง" หรือ "หวังซิง" ขาดการติดต่อและหายตัวไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด และล่าสุดพบว่าไปอยู่ในฝั่ง จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ที่อยู่ติดกันแล้วนั้น

    ล่าสุดวันนี้(7 ม.ค.) มีรายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคงไทยด้านจังหวัดตาก ยืนยันว่า ทาง BGF ยืนยันพบตัวหวังซิงแล้ว และจะนำมาส่งข้ามแดนที่สะพานมิตรภาพไทย เมียนมา แห่งที่ 1 ต่อไป

    สอดคล้องกับรายงานข่าวจากตำรวจสืบสวนจังหวัดตากรับเเจ้งจาก พ.ต.หม่องวิน รองผู้บัญชาการ บีจีเอฟ BGF หรือกองกำลังพิทักษ์ชายแดน แจ้งทางโทรศัพท์มาล่ามภาษาพม่าของ พ.ต.อ.พิทยากร เพชรรัตน์ ผกก.สภ.แม่สอด ว่าขณะที่พบตัวนายซิงซิง ดาราจีนที่ถูกนำตัวมายังชายแดนในฝั่งเมียนมาแล้ว และเตรียมจะส่งมอบให้ในฝังไทยช่วงหลังเวลา 12.00 น. ขณะนี้ทางกองกำลังนำตัวมาสอบสวนการเข้าไปในฝั่งเมียนมาอยู่ และการส่งมอบให้ฝังไทยนั้นจะทำการนัดอีกครั้งว่าจะส่งมอบที่ใด

    ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอกกมล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตากประชุมกับชุดสืบ สภ.แม่สอด ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า พบเบาะแสดาราจีนแล้วข้ามไปยังฝั่งเมียนมาที่บ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน โดยมีพยานซึ่งเป็นคนขับรถชื่อ นายวิชัย ที่เกี่ยวข้องกับการส่งคนจีนที่ อ.แม่สอด และมีชาวกะเหรี่ยงสัญชาติเมียนมาเอารถยนต์มารับตัวไปจากแม่สอด จุดนัดที่ห้างแมคโคร และเท่าที่ทราบดาราจีนสมัครใจไปเอง ไม่มีการถูกลักพาตัว และข่มขู่บังคับแต่อย่างใด ส่วนข้อเท็จจริงต้องรอสอบสวนอีกครั้ง

    อย่างไรก็ตามยังไม่มีความชัดเจนว่าเหตุใดชิงชิงจึงไปโผล่อยู่ในฝั่งประเทศเมียนมาและขาดการติดต่อจนแฟนสาวต้องประกาศตามหาตัว

    #MGROnline #XingXing #ซิงซิง
    ตาก - กองกำลังพิทักษ์ชายแดนเมียนมา (BGF) จ่อส่งตัว “หวังซิง” ดาราหนุ่มจีนหายตัวปริศนาชายแดนแม่สอด โผล่รัฐกะเหรียง ข้ามแดนผ่านสะพานมิตรภาพฯแม่สอด-เมียวดี แห่งที่ 1 • ความคืบหน้า กรณีนักแสดงหนุ่มชาวจีนชื่อ "ซิงซิง" หรือ "หวังซิง" ขาดการติดต่อและหายตัวไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด และล่าสุดพบว่าไปอยู่ในฝั่ง จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ที่อยู่ติดกันแล้วนั้น • ล่าสุดวันนี้(7 ม.ค.) มีรายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคงไทยด้านจังหวัดตาก ยืนยันว่า ทาง BGF ยืนยันพบตัวหวังซิงแล้ว และจะนำมาส่งข้ามแดนที่สะพานมิตรภาพไทย เมียนมา แห่งที่ 1 ต่อไป • สอดคล้องกับรายงานข่าวจากตำรวจสืบสวนจังหวัดตากรับเเจ้งจาก พ.ต.หม่องวิน รองผู้บัญชาการ บีจีเอฟ BGF หรือกองกำลังพิทักษ์ชายแดน แจ้งทางโทรศัพท์มาล่ามภาษาพม่าของ พ.ต.อ.พิทยากร เพชรรัตน์ ผกก.สภ.แม่สอด ว่าขณะที่พบตัวนายซิงซิง ดาราจีนที่ถูกนำตัวมายังชายแดนในฝั่งเมียนมาแล้ว และเตรียมจะส่งมอบให้ในฝังไทยช่วงหลังเวลา 12.00 น. ขณะนี้ทางกองกำลังนำตัวมาสอบสวนการเข้าไปในฝั่งเมียนมาอยู่ และการส่งมอบให้ฝังไทยนั้นจะทำการนัดอีกครั้งว่าจะส่งมอบที่ใด • ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอกกมล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตากประชุมกับชุดสืบ สภ.แม่สอด ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า พบเบาะแสดาราจีนแล้วข้ามไปยังฝั่งเมียนมาที่บ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน โดยมีพยานซึ่งเป็นคนขับรถชื่อ นายวิชัย ที่เกี่ยวข้องกับการส่งคนจีนที่ อ.แม่สอด และมีชาวกะเหรี่ยงสัญชาติเมียนมาเอารถยนต์มารับตัวไปจากแม่สอด จุดนัดที่ห้างแมคโคร และเท่าที่ทราบดาราจีนสมัครใจไปเอง ไม่มีการถูกลักพาตัว และข่มขู่บังคับแต่อย่างใด ส่วนข้อเท็จจริงต้องรอสอบสวนอีกครั้ง • อย่างไรก็ตามยังไม่มีความชัดเจนว่าเหตุใดชิงชิงจึงไปโผล่อยู่ในฝั่งประเทศเมียนมาและขาดการติดต่อจนแฟนสาวต้องประกาศตามหาตัว • #MGROnline #XingXing #ซิงซิง
    0 Comments 0 Shares 816 Views 0 Reviews
  • โฆษก ตร. แถลงยังไม่พบตัว "ซิงซิง" ดาราหนุมจีน อยู่ระหว่างเร่งค้นหาอย่างเต็มที่ มีหลักฐานเข้าไทยลำพัง พร้อมกระเป๋าเป้ 1 ใบ ไม่พบข้อมูลถูกขู่เข็ญ หรือ ทำร้าย

    วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. แถลงความคืบหน้ากรณีการหายตัวของ ซิงซิง นักแสดงชาวจีน ซึ่งเดินทางเข้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา ก่อนจะเดินทางไป อ.แม่สอด จ.ตาก และขาดการติดต่อกับครอบครัว ว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ไทยยังไม่พบตัว ซิงซิง แต่อย่างใด เรื่องดังกล่าว พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไม่ได้นิ่งนอนใจ และสั่งการให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ทำการสืบสวนเพื่อหารายละเอียดข้อเท็จจริง เกี่ยวกับวิธีการเดินทางของนักแสดงรายดังกล่าว ล่าสุดพล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ในระหว่างลงพื้นที่จ.ตาก เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง

    พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจมีการสืบสวนเรื่องเส้นทางการเดินทาง แต่ยังไม่ปรากฏว่านักแสดงรายนี้ถูกบังคับขู่เข็ญ ถูกทำร้ายให้เดินทาง หรือ ตกอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ เพียงแต่ว่าการสืบสวนโดยละเอียดต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ สิ่งที่เร่งด่วนขณะนี้คือต้องเร่งหาตัวให้พบ เชื่อว่าทางครอบครัวผู้ที่หายตัวไปไม่สบายใจ แต่ยืนยันว่าตำรวจจะพยายามค้นหาให้โดยเร็วที่สุด แต่ขณะนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่าซิงซิงเดินทางออกจากประเทศไทยด้วยช่องทางธรรมชาติหรือช่องทางตามปกติ เจ้าหน้าที่ทราบเพียงว่าเดินทางออกจากสุวรรณภูมิไม่มีการแวะพัก มุ่งตรงไปจ.ตาก ทันที

    พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า ตำรวจมีพยานบุคคลเพียงหนึ่งคน คือ คนที่ขับรถพา ซิงซิง ไปจ.ตาก ส่วนกรณีที่แฟนสาวเดินทางมาให้ข้อมูลตำรวจพยายามเร่งรวบรวมจากในหลายภาคส่วนเช่นเดียวกัน และจากข้อมูลที่ปรากฎคือ ซิงซิง เข้าประเทศไทยเพียงลำพัง มีกระเป๋าเป้ 1 ใบ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ไทยได้ประสานเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ต่างประเทศแล้ว

    เมื่อถามว่านักแสดงชายรายนี้มีประวัติเดินทางเข้าประเทศไทยมาก่อนหรือไม่ พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบและสอบสวนของตำรวจ

    #MGROnline #XingXing #ซิงซิง
    โฆษก ตร. แถลงยังไม่พบตัว "ซิงซิง" ดาราหนุมจีน อยู่ระหว่างเร่งค้นหาอย่างเต็มที่ มีหลักฐานเข้าไทยลำพัง พร้อมกระเป๋าเป้ 1 ใบ ไม่พบข้อมูลถูกขู่เข็ญ หรือ ทำร้าย • วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. แถลงความคืบหน้ากรณีการหายตัวของ ซิงซิง นักแสดงชาวจีน ซึ่งเดินทางเข้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา ก่อนจะเดินทางไป อ.แม่สอด จ.ตาก และขาดการติดต่อกับครอบครัว ว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ไทยยังไม่พบตัว ซิงซิง แต่อย่างใด เรื่องดังกล่าว พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไม่ได้นิ่งนอนใจ และสั่งการให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ทำการสืบสวนเพื่อหารายละเอียดข้อเท็จจริง เกี่ยวกับวิธีการเดินทางของนักแสดงรายดังกล่าว ล่าสุดพล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ในระหว่างลงพื้นที่จ.ตาก เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง • พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจมีการสืบสวนเรื่องเส้นทางการเดินทาง แต่ยังไม่ปรากฏว่านักแสดงรายนี้ถูกบังคับขู่เข็ญ ถูกทำร้ายให้เดินทาง หรือ ตกอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์ เพียงแต่ว่าการสืบสวนโดยละเอียดต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ สิ่งที่เร่งด่วนขณะนี้คือต้องเร่งหาตัวให้พบ เชื่อว่าทางครอบครัวผู้ที่หายตัวไปไม่สบายใจ แต่ยืนยันว่าตำรวจจะพยายามค้นหาให้โดยเร็วที่สุด แต่ขณะนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่าซิงซิงเดินทางออกจากประเทศไทยด้วยช่องทางธรรมชาติหรือช่องทางตามปกติ เจ้าหน้าที่ทราบเพียงว่าเดินทางออกจากสุวรรณภูมิไม่มีการแวะพัก มุ่งตรงไปจ.ตาก ทันที • พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า ตำรวจมีพยานบุคคลเพียงหนึ่งคน คือ คนที่ขับรถพา ซิงซิง ไปจ.ตาก ส่วนกรณีที่แฟนสาวเดินทางมาให้ข้อมูลตำรวจพยายามเร่งรวบรวมจากในหลายภาคส่วนเช่นเดียวกัน และจากข้อมูลที่ปรากฎคือ ซิงซิง เข้าประเทศไทยเพียงลำพัง มีกระเป๋าเป้ 1 ใบ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ไทยได้ประสานเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ต่างประเทศแล้ว • เมื่อถามว่านักแสดงชายรายนี้มีประวัติเดินทางเข้าประเทศไทยมาก่อนหรือไม่ พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบและสอบสวนของตำรวจ • #MGROnline #XingXing #ซิงซิง
    0 Comments 0 Shares 591 Views 0 Reviews
  • ขึ้นเทรนด์เวยปั๋วเมื่อเช้านี้ (6 ม.ค.) หลังมีรายงานว่า นักแสดงหนุ่มชาวจีน ที่ชื่อว่า "ซิงซิง" หรือ "หวังซิง" ซึ่งมีผลงานการแสดง เช่น สื่อรักปีศาจจิ้งจอก ภาคจันทราสีชาด กุหลาบร้อยรัก คู่มือนักล่า 2 ได้ขาดการติดต่อและหายตัวไปกว่า 72 ชม. หลังเดินทางมาทำงานที่ประเทศไทย

    โดย "เจียเจีย" แฟนสาวของเขาได้โพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือผ่านทางเวยปั๋วเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า ซิงซิงได้รับข้อความในกลุ่มแคสติ้งนักแสดงจากบุคคลที่ใช้ชื่อว่า "GMMGrammy~十六" ในช่วงปลายเดือน ธ.ค. และเมื่อแคสผ่าน ก็มีกำหนดเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ ผู่ตง มายังประเทศไทยในวันที่ 3 ม.ค.

    พอมาถึงก็ขึ้นรถที่ทีมงานจัดไว้ให้ ระหว่างทางซิงซิงได้แชร์โลเกชันกับเธอ ก่อนที่จะขาดการติดต่อไปในช่วงเที่ยงวัน ตามเวลาปักกิ่ง โดยพิกัดสุดท้ายจะระบุว่าอยู่แถวชายแดนไทย-พม่า

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000001419

    #MGROnline #นักแสดงหนุ่ม #ชาวจีน #ซิงซิง #หวังซิง
    ขึ้นเทรนด์เวยปั๋วเมื่อเช้านี้ (6 ม.ค.) หลังมีรายงานว่า นักแสดงหนุ่มชาวจีน ที่ชื่อว่า "ซิงซิง" หรือ "หวังซิง" ซึ่งมีผลงานการแสดง เช่น สื่อรักปีศาจจิ้งจอก ภาคจันทราสีชาด กุหลาบร้อยรัก คู่มือนักล่า 2 ได้ขาดการติดต่อและหายตัวไปกว่า 72 ชม. หลังเดินทางมาทำงานที่ประเทศไทย • โดย "เจียเจีย" แฟนสาวของเขาได้โพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือผ่านทางเวยปั๋วเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า ซิงซิงได้รับข้อความในกลุ่มแคสติ้งนักแสดงจากบุคคลที่ใช้ชื่อว่า "GMMGrammy~十六" ในช่วงปลายเดือน ธ.ค. และเมื่อแคสผ่าน ก็มีกำหนดเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ ผู่ตง มายังประเทศไทยในวันที่ 3 ม.ค. • พอมาถึงก็ขึ้นรถที่ทีมงานจัดไว้ให้ ระหว่างทางซิงซิงได้แชร์โลเกชันกับเธอ ก่อนที่จะขาดการติดต่อไปในช่วงเที่ยงวัน ตามเวลาปักกิ่ง โดยพิกัดสุดท้ายจะระบุว่าอยู่แถวชายแดนไทย-พม่า • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000001419 • #MGROnline #นักแสดงหนุ่ม #ชาวจีน #ซิงซิง #หวังซิง
    0 Comments 0 Shares 589 Views 0 Reviews
  • เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม สื่อจีน QQ รายงานว่า หวงเสี่ยวหมิง กำลังถูกสงสัยว่าโกหกแฟน ๆ ในประเทศจีน หลังมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเขายังไม่ได้เลิกรากับแฟนสาว เย่เค่อ ซึ่งเป็นอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง แม้ก่อนหน้านี้จะมีการบอกเป็นนัยว่าทั้งคู่ได้แยกทางกันแล้ว

    ตามรายงานของ QQ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม เย่เค่อถูกพบที่เมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน พร้อมกับท้องที่โตอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ หวงเสี่ยวหมิงก็อยู่ในฝูเจี้ยนตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม เพื่อถ่ายทำผลงานใหม่เรื่อง “City Builder” (ชื่อชั่วคราว) อีกทั้งยังมีรายงานจากโซเชียลมีเดียว่ามีผู้พบเห็นทั้งสองอยู่ด้วยกันในโรงแรมหรูในฝูเจี้ยน ทำให้ชาวเน็ตเชื่อว่าเย่เค่ออาจตามไปอยู่ใกล้สถานที่ถ่ายทำ

    นอกจากนี้ ในการปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนครั้งแรกหลังจากเกิดประเด็นนี้ เย่เค่อดูอารมณ์ดีและสวมเสื้อผ้าจากแบรนด์หรู เมื่อเธอสังเกตเห็นว่ามีคนถ่ายรูป เธอยังทำมือเป็นสัญลักษณ์ "โอเค" อีกด้วย หลักฐานเหล่านี้ทำให้หลายคนเชื่อว่าหวงเสี่ยวหมิงและเย่เค่อยังคงอยู่ด้วยกัน

    พฤติกรรมอวดความหรูหราของเย่เค่อ ทำให้ชาวเน็ตมั่นใจว่าเธอยังคงมีความสัมพันธ์กับหวงเสี่ยวหมิง หลายคนคาดว่าทั้งคู่แกล้งประกาศเลิกรา เพื่อช่วยให้หวงเสี่ยวหมิงลดเสียงวิจารณ์จากสาธารณะ และบรรเทากระแสต่อต้านเขาในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ชาวเน็ตยังตั้งข้อสังเกตว่าด้วยอายุครรภ์ที่ดูใกล้คลอดของเย่เค่อ เป็นไปไม่ได้ที่หวงเสี่ยวหมิงจะทอดทิ้งทั้งแม่และลูก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000122881

    #MGROnline #หวงเสี่ยวหมิง
    เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม สื่อจีน QQ รายงานว่า หวงเสี่ยวหมิง กำลังถูกสงสัยว่าโกหกแฟน ๆ ในประเทศจีน หลังมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเขายังไม่ได้เลิกรากับแฟนสาว เย่เค่อ ซึ่งเป็นอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง แม้ก่อนหน้านี้จะมีการบอกเป็นนัยว่าทั้งคู่ได้แยกทางกันแล้ว • ตามรายงานของ QQ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม เย่เค่อถูกพบที่เมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน พร้อมกับท้องที่โตอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ หวงเสี่ยวหมิงก็อยู่ในฝูเจี้ยนตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม เพื่อถ่ายทำผลงานใหม่เรื่อง “City Builder” (ชื่อชั่วคราว) อีกทั้งยังมีรายงานจากโซเชียลมีเดียว่ามีผู้พบเห็นทั้งสองอยู่ด้วยกันในโรงแรมหรูในฝูเจี้ยน ทำให้ชาวเน็ตเชื่อว่าเย่เค่ออาจตามไปอยู่ใกล้สถานที่ถ่ายทำ • นอกจากนี้ ในการปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนครั้งแรกหลังจากเกิดประเด็นนี้ เย่เค่อดูอารมณ์ดีและสวมเสื้อผ้าจากแบรนด์หรู เมื่อเธอสังเกตเห็นว่ามีคนถ่ายรูป เธอยังทำมือเป็นสัญลักษณ์ "โอเค" อีกด้วย หลักฐานเหล่านี้ทำให้หลายคนเชื่อว่าหวงเสี่ยวหมิงและเย่เค่อยังคงอยู่ด้วยกัน • พฤติกรรมอวดความหรูหราของเย่เค่อ ทำให้ชาวเน็ตมั่นใจว่าเธอยังคงมีความสัมพันธ์กับหวงเสี่ยวหมิง หลายคนคาดว่าทั้งคู่แกล้งประกาศเลิกรา เพื่อช่วยให้หวงเสี่ยวหมิงลดเสียงวิจารณ์จากสาธารณะ และบรรเทากระแสต่อต้านเขาในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ชาวเน็ตยังตั้งข้อสังเกตว่าด้วยอายุครรภ์ที่ดูใกล้คลอดของเย่เค่อ เป็นไปไม่ได้ที่หวงเสี่ยวหมิงจะทอดทิ้งทั้งแม่และลูก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000122881 • #MGROnline #หวงเสี่ยวหมิง
    0 Comments 0 Shares 463 Views 0 Reviews
  • #“อาเล็ก ธีรเดช” เผย “โบว์” เป็นคนหัวไวและชอบตบมุก บอกตนก็คิดคำเดียวกัน แต่ไม่ได้พูดออกไป แต่พอแฟนสาวพูดก็เป็นตัวตนอยู่แล้ว และเชื่อว่ายุคนี้คนน่าจะเข้าใจว่าการแสดงกับชีวิตจริงเป็นยังไง พร้อมบอกได้ไปเที่ยวบ้านญาติแฟนสาวครั้งแรก โดนเรียกหลานเขย ยอมรับดีใจ แต่รอให้เกิดขึ้นจริงก่อน เพราะยังต้องผ่านด่าน “แม่โบว์” อีกคน

    ทำเอากลายเป็นไวรัลไปเลย กรณีนางเอกสาว “โบว์ เมลดา สุศรี” ปล่อยมุกเด็ดคำว่า “ดอยหมึง” ในงานแจกปฏิทินช่อง 3 จนหลายคนมองว่าอาจจะเสียภาพลักษณ์นางเอกหรือเปล่า ล่าสุดเจอตัวแฟนหนุ่มอย่าง “อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ” เจ้าตัวเผยว่าไม่ห่วงเรื่องนี้ เพราะเป็นความตลกและหัวใจของแฟนสาวอยู่แล้ว เชื่อว่าคนคงเข้าใจและมองเป็นเรื่องตลกมากกว่า

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000119835

    #MGROnline #อาเล็กธีรเดช #โบว์เมลดา
    #“อาเล็ก ธีรเดช” เผย “โบว์” เป็นคนหัวไวและชอบตบมุก บอกตนก็คิดคำเดียวกัน แต่ไม่ได้พูดออกไป แต่พอแฟนสาวพูดก็เป็นตัวตนอยู่แล้ว และเชื่อว่ายุคนี้คนน่าจะเข้าใจว่าการแสดงกับชีวิตจริงเป็นยังไง พร้อมบอกได้ไปเที่ยวบ้านญาติแฟนสาวครั้งแรก โดนเรียกหลานเขย ยอมรับดีใจ แต่รอให้เกิดขึ้นจริงก่อน เพราะยังต้องผ่านด่าน “แม่โบว์” อีกคน • ทำเอากลายเป็นไวรัลไปเลย กรณีนางเอกสาว “โบว์ เมลดา สุศรี” ปล่อยมุกเด็ดคำว่า “ดอยหมึง” ในงานแจกปฏิทินช่อง 3 จนหลายคนมองว่าอาจจะเสียภาพลักษณ์นางเอกหรือเปล่า ล่าสุดเจอตัวแฟนหนุ่มอย่าง “อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ” เจ้าตัวเผยว่าไม่ห่วงเรื่องนี้ เพราะเป็นความตลกและหัวใจของแฟนสาวอยู่แล้ว เชื่อว่าคนคงเข้าใจและมองเป็นเรื่องตลกมากกว่า • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000119835 • #MGROnline #อาเล็กธีรเดช #โบว์เมลดา
    0 Comments 0 Shares 460 Views 0 Reviews
  • เรียกว่าเล่นใหญ่สุดๆ สำหรับปาร์ตี้ฉลองวันเกิดอายุครบ 36 ปี ของสาว “เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า” เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา เพราะงานนี้แฟนหนุ่มของเจ้าตัว อย่าง “ไฮโซนิค” ได้ทำเซอร์ไพรส์ให้แบบอลังการงานสร้าง ในธีม Art toy Pop Mart โดยได้สั่งปั้น Sculpture เป็นหน้าเกรซ แถมยังเชิญผู้บริหาร Pop Mart Thailand มาร่วมเบิร์ธเดย์แฟนสาวด้วย ในฐานะที่เป็นนักจุ่มตัวยง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000119833

    #MGROnline #เกรซกาญจน์เกล้า #ไฮโซนิค
    เรียกว่าเล่นใหญ่สุดๆ สำหรับปาร์ตี้ฉลองวันเกิดอายุครบ 36 ปี ของสาว “เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า” เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา เพราะงานนี้แฟนหนุ่มของเจ้าตัว อย่าง “ไฮโซนิค” ได้ทำเซอร์ไพรส์ให้แบบอลังการงานสร้าง ในธีม Art toy Pop Mart โดยได้สั่งปั้น Sculpture เป็นหน้าเกรซ แถมยังเชิญผู้บริหาร Pop Mart Thailand มาร่วมเบิร์ธเดย์แฟนสาวด้วย ในฐานะที่เป็นนักจุ่มตัวยง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000119833 • #MGROnline #เกรซกาญจน์เกล้า #ไฮโซนิค
    0 Comments 0 Shares 353 Views 0 Reviews
  • เชียงราย – 2 เดือนเต็มไม่มีเยียวยา..แฟนสาว-ครอบครัว “ป๊อป-แชมป์กาแฟไทยปี 66” เหยื่อฟอร์จูนเนอร์ “ผอ.โรงเรียน พื้นที่เชียงแสน” พุ่งชนขณะปั่นจักรยานออกกำลัง ทุกข์สาหัส-ร้องต้นสังกัดคู่กรณี

    กรณีเกิดเหตุรถโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ พุ่งชนท้ายกลุ่มคนที่ปั่นรถจักรยานออกกำลังกายกันระหว่างสี่แยกหนองบัวแดง-ถนนพหลโยธิน ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา จนทำให้นายยศธพล ไชยเบ้า อายุ 33 ปี หรือ "ป๊อป" หนุ่มเจ้าของร้าน “ก๋างโต่งคาเฟ่ Kang tong Cafe - Coffee & roaster Chiang Rai” ตั้งอยู่หมู่ 10 ต.ท่าสุด ซึ่งเป็นแชมป์ Mighty Mix Bartender and Barista Thailand 2023 ประเภท NAN DRIP BATTLE x HARIO และแชมป์ดริปกาแฟของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปี 2564 ได้เสียชีวิตลงขณะนำส่งโรงพยาบาล

    ส่วนคนขับหลบหนีไปขณะเกิดเหตุ ก่อนเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ในวันถัดมา ซึ่งต่อมาพบว่าเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ด้วยนั้น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9670000118771

    #MGROnline #เชียงราย #แชมป์กาแฟไทย
    เชียงราย – 2 เดือนเต็มไม่มีเยียวยา..แฟนสาว-ครอบครัว “ป๊อป-แชมป์กาแฟไทยปี 66” เหยื่อฟอร์จูนเนอร์ “ผอ.โรงเรียน พื้นที่เชียงแสน” พุ่งชนขณะปั่นจักรยานออกกำลัง ทุกข์สาหัส-ร้องต้นสังกัดคู่กรณี • กรณีเกิดเหตุรถโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ พุ่งชนท้ายกลุ่มคนที่ปั่นรถจักรยานออกกำลังกายกันระหว่างสี่แยกหนองบัวแดง-ถนนพหลโยธิน ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา จนทำให้นายยศธพล ไชยเบ้า อายุ 33 ปี หรือ "ป๊อป" หนุ่มเจ้าของร้าน “ก๋างโต่งคาเฟ่ Kang tong Cafe - Coffee & roaster Chiang Rai” ตั้งอยู่หมู่ 10 ต.ท่าสุด ซึ่งเป็นแชมป์ Mighty Mix Bartender and Barista Thailand 2023 ประเภท NAN DRIP BATTLE x HARIO และแชมป์ดริปกาแฟของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปี 2564 ได้เสียชีวิตลงขณะนำส่งโรงพยาบาล • ส่วนคนขับหลบหนีไปขณะเกิดเหตุ ก่อนเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ในวันถัดมา ซึ่งต่อมาพบว่าเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ด้วยนั้น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9670000118771 • #MGROnline #เชียงราย #แชมป์กาแฟไทย
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 818 Views 0 Reviews
  • ย่อพฤติการณ์ "นุ-สา" แหกตาบิตคอยน์

    คดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ให้เอาผิดกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ในข้อหาฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท หลังโอนคดีไปยังตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อตำรวจและสื่อมวลชนขุดคุ้ยขึ้นมา คดีก็งอกออกมาทั้งการจัดหาซื้อรถยนต์เบนซ์ รุ่น จี 400 และการเขียนแบบก่อสร้างโรงแรม นำไปสู่การจับกุมนายษิทรา พร้อมกับนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2567 โดยระบุพฤติการณ์มีลักษณะฉ้อโกงอันเป็นปกติธุระ

    มาถึงคดีล่าสุด เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2567 จับกุม นายนุวัฒน์ ยงยุทธ อายุ 34 ปี คนสนิทนายษิทรา และ น.ส.สารินี นุชนารถ อายุ 32 ปี แฟนสาว ก่อนที่วันต่อมาตำรวจได้นำตัวทั้งคู่ฝากขังต่อศาลอาญา

    ความน่าสนใจอยู่ที่คำร้องขอฝากขังของตำรวจ ระบุพฤติการณ์แห่งคดี โดยได้ย้อนตั้งแต่กรณีเงิน 71 ล้านบาท ซึ่งเป็นการหลอกลวงให้ลงทุนขายสลากกินแบ่งรัฐบาลทางออนไลน์ กรณีการจัดหาซื้อรถยนต์เบนซ์ ที่นายษิทราได้ค่าส่วนต่าง 1.53 ล้านบาท กรณีว่าจ้างบริษัทหนึ่งเขียนแบบก่อสร้างโรงแรม 9 ล้านบาท แต่นายษิทราว่าจ้างอีกบริษัทหนึ่ง ได้ค่าส่วนต่าง 5.5 ล้านบาท มาถึงคดีล่าสุด นายษิทรา นายนุวัฒน์ และ น.ส.สารินี ร่วมกันหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ

    โดยระบุว่า นายนุวัฒน์มีกระเป๋าเงินดิจิทัล สามารถโอนสกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์ได้ น.ส.จตุพร จึงให้โอนเงินไปยังอินสตาแกรม เฉินคุณ (ดาราจีน) จากนั้นได้หลอกลวง น.ส.จตุพรว่า นายนุวัฒน์ใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลของของ น.ส.สารินี โอนเงิน ทำให้กระเป๋าเงินถูกระงับการใช้งาน เสียหาย 39 ล้านบาทโดยได้ร่วมกันส่งภาพถ่ายสำเนาบันทึกประจำวันไปให้ น.ส.จตุพรดูทางไลน์ ทำให้ น.ส.จตุพรหลงเชื่อ ทั้งที่ความจริงกระเป๋าเงินดิจิทัลของนายนุวัฒน์ และ น.ส.สารินี ไม่ได้ถูกระจับแต่อย่างใด

    จากนั้น น.ส.จตุพร ส่งมอบเงินด้วยการซื้อแคชเชียร์เช็ค สั่งจ่าย น.ส.สารินี จำนวน 39 ล้านบาท ก่อนที่นายนุวัฒน์ และ น.ส.สารินีร่วมกันนำแคชเชียร์เช็คไปเข้าบัญชีธนาคารของ น.ส.สารินี จากนั้นนายษิทรา นายนุวัฒน์ และ น.ส.สารินี ร่วมกันเบิกถอนเงินสดออกจากบัญชีของ น.ส.สารินี การกระทำของนายนุวัฒน์ และ น.ส.สารินี เป็นความผิดฐานฉ้อโกง นำเข้าสู่คอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน

    ในท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงถึง 10 ปี และมูลค่าความเสียหายสูงมาก เกรงว่าจะหลบหนี และพบว่าก่อนถูกจับกุม ทั้งสองคนมีการเปลี่ยนโทรศัพท์และเบอร์มือถือ เพื่อให้ยากต่อการติดตามตัว

    #Newskit
    ย่อพฤติการณ์ "นุ-สา" แหกตาบิตคอยน์ คดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ให้เอาผิดกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ในข้อหาฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท หลังโอนคดีไปยังตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อตำรวจและสื่อมวลชนขุดคุ้ยขึ้นมา คดีก็งอกออกมาทั้งการจัดหาซื้อรถยนต์เบนซ์ รุ่น จี 400 และการเขียนแบบก่อสร้างโรงแรม นำไปสู่การจับกุมนายษิทรา พร้อมกับนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2567 โดยระบุพฤติการณ์มีลักษณะฉ้อโกงอันเป็นปกติธุระ มาถึงคดีล่าสุด เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2567 จับกุม นายนุวัฒน์ ยงยุทธ อายุ 34 ปี คนสนิทนายษิทรา และ น.ส.สารินี นุชนารถ อายุ 32 ปี แฟนสาว ก่อนที่วันต่อมาตำรวจได้นำตัวทั้งคู่ฝากขังต่อศาลอาญา ความน่าสนใจอยู่ที่คำร้องขอฝากขังของตำรวจ ระบุพฤติการณ์แห่งคดี โดยได้ย้อนตั้งแต่กรณีเงิน 71 ล้านบาท ซึ่งเป็นการหลอกลวงให้ลงทุนขายสลากกินแบ่งรัฐบาลทางออนไลน์ กรณีการจัดหาซื้อรถยนต์เบนซ์ ที่นายษิทราได้ค่าส่วนต่าง 1.53 ล้านบาท กรณีว่าจ้างบริษัทหนึ่งเขียนแบบก่อสร้างโรงแรม 9 ล้านบาท แต่นายษิทราว่าจ้างอีกบริษัทหนึ่ง ได้ค่าส่วนต่าง 5.5 ล้านบาท มาถึงคดีล่าสุด นายษิทรา นายนุวัฒน์ และ น.ส.สารินี ร่วมกันหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ โดยระบุว่า นายนุวัฒน์มีกระเป๋าเงินดิจิทัล สามารถโอนสกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์ได้ น.ส.จตุพร จึงให้โอนเงินไปยังอินสตาแกรม เฉินคุณ (ดาราจีน) จากนั้นได้หลอกลวง น.ส.จตุพรว่า นายนุวัฒน์ใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลของของ น.ส.สารินี โอนเงิน ทำให้กระเป๋าเงินถูกระงับการใช้งาน เสียหาย 39 ล้านบาทโดยได้ร่วมกันส่งภาพถ่ายสำเนาบันทึกประจำวันไปให้ น.ส.จตุพรดูทางไลน์ ทำให้ น.ส.จตุพรหลงเชื่อ ทั้งที่ความจริงกระเป๋าเงินดิจิทัลของนายนุวัฒน์ และ น.ส.สารินี ไม่ได้ถูกระจับแต่อย่างใด จากนั้น น.ส.จตุพร ส่งมอบเงินด้วยการซื้อแคชเชียร์เช็ค สั่งจ่าย น.ส.สารินี จำนวน 39 ล้านบาท ก่อนที่นายนุวัฒน์ และ น.ส.สารินีร่วมกันนำแคชเชียร์เช็คไปเข้าบัญชีธนาคารของ น.ส.สารินี จากนั้นนายษิทรา นายนุวัฒน์ และ น.ส.สารินี ร่วมกันเบิกถอนเงินสดออกจากบัญชีของ น.ส.สารินี การกระทำของนายนุวัฒน์ และ น.ส.สารินี เป็นความผิดฐานฉ้อโกง นำเข้าสู่คอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน ในท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงถึง 10 ปี และมูลค่าความเสียหายสูงมาก เกรงว่าจะหลบหนี และพบว่าก่อนถูกจับกุม ทั้งสองคนมีการเปลี่ยนโทรศัพท์และเบอร์มือถือ เพื่อให้ยากต่อการติดตามตัว #Newskit
    Like
    6
    0 Comments 0 Shares 1364 Views 0 Reviews
More Results