• "ธรรมนัส"รับ เจอ"สจ.โต้ง" บ่อย แต่ไม่รู้ ค่าหัว 30 ล้าน (19/12/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #สจ.โต้ง #คดี สจ.โต้ง #เลือกนายก อบจ.ปราจีนบุรี
    "ธรรมนัส"รับ เจอ"สจ.โต้ง" บ่อย แต่ไม่รู้ ค่าหัว 30 ล้าน (19/12/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #สจ.โต้ง #คดี สจ.โต้ง #เลือกนายก อบจ.ปราจีนบุรี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • ไม่รอด!!! นายกฯ ฝรั่งเศสต้องพ้นจากตำแหน่ง หลังแพ้การลงมติไม่ไว้วางใจ จากความพยายามใช้อำนาจพิเศษผลักดันกฎหมายงบประมาณ

    นายมิเชล บาร์นิเยร์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส กลายเป็นนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสคนแรกที่แพ้โหวตไม่ไว้วางใจนับตั้งแต่ปี 2505 ด้วยคะแนนเห็นชอบ 331 เสียง จากทั้งหมด 577 เสียง หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาร่วมมือกันสนับสนุนญัตติไม่ไว้วางใจ

    นอกจากนี้ บาร์นิเยร์ยังทำสถิติเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีวาระสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยอยู่ในตำแหน่งได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น

    ทั้งนี้ พรรค “ฟรานซ์ อันโบลด์” (France Unbowed - LFI) ฝ่ายซ้ายจัด กับพรรค “เนชันแนล แรลลี” (National Rally-RN) ของ นางมารีน เลอ เปน ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันจันทร์ที่ 2 ธ.ค. 2567 หลังจากนายบาร์นิเยร์พยายามใช้อำนาจพิเศษ ผ่านกฎหมายงบประมาณประจำปี โดยข้ามขั้นตอนการลงมติของรัฐสภา

    คณะรัฐมนตรีของนายบาร์นิเยร์จะทำหน้าที่รักษาการ จนกว่าประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง จะเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่
    ไม่รอด!!! นายกฯ ฝรั่งเศสต้องพ้นจากตำแหน่ง หลังแพ้การลงมติไม่ไว้วางใจ จากความพยายามใช้อำนาจพิเศษผลักดันกฎหมายงบประมาณ นายมิเชล บาร์นิเยร์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส กลายเป็นนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสคนแรกที่แพ้โหวตไม่ไว้วางใจนับตั้งแต่ปี 2505 ด้วยคะแนนเห็นชอบ 331 เสียง จากทั้งหมด 577 เสียง หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาร่วมมือกันสนับสนุนญัตติไม่ไว้วางใจ นอกจากนี้ บาร์นิเยร์ยังทำสถิติเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีวาระสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยอยู่ในตำแหน่งได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น ทั้งนี้ พรรค “ฟรานซ์ อันโบลด์” (France Unbowed - LFI) ฝ่ายซ้ายจัด กับพรรค “เนชันแนล แรลลี” (National Rally-RN) ของ นางมารีน เลอ เปน ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันจันทร์ที่ 2 ธ.ค. 2567 หลังจากนายบาร์นิเยร์พยายามใช้อำนาจพิเศษ ผ่านกฎหมายงบประมาณประจำปี โดยข้ามขั้นตอนการลงมติของรัฐสภา คณะรัฐมนตรีของนายบาร์นิเยร์จะทำหน้าที่รักษาการ จนกว่าประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง จะเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • #สามารถคือใคร
    #เห็นละหลายคนงงว่าไอ่เสื้อดำนี้ใครฟร๊ะ
    ชื่อสามารถ สามารถไหนฟร๊ะ
    แล้วเกี่ยวอารายกับดิไอค่อน
    เอาจริงๆ เกี่ยวแม่มมแทบทุกวงการ
    ตอนนี้ตามตัวไม่เจอ เจอแต่แม่ แม่โดนด้วย
    ตัวฟอก ตัวดาร์ค ตัวตบ ครบในที่เดียว
    เดี๋ยวเล่าวีระกรรมเรียงให้
    1. คนนี้แหละ ที่เป็นตัวสำคัญ เข้าไปในพรรค พลปชร ทีหลัง แต่เป็นคนมีทักษะเรื่องการประจบนาย ชนิดที่ ขนาดเสี่ยแป้งยังกระเด็ด คิดเอา และเป็นตัวปั่นในพรรค จนทำให้ ผู้จงรักภักดีลุงเผ่นแนบ
    2. เป็นตัวที่ชอบอ้างชื่อลุงป้อม ในการกระทำเรียกรับผลประโยชน์ต่างๆ แทรกซึ่มในกระทรวง หน่วยงานต่างๆ โดยใช้ชื่อลุงเป็นใบเบิกทาง
    3. เป็นตัวที่อ้างว่า เชื่อม สส.แดง และสส.ส้มได้ และเบิกลุงไปจ่าย พรรคส้มหัวละแสน พรรคแดงหัวละล้าน โดยรับปากลุงว่าถ้าเปย์แบบนี้ ตอนลงโหวตเลือกนายก ลุงได้เป็นแน่นวล แต่หารู้มั๊ย จ่ายไปแสนจ่ายห้าหมื่น จ่ายไปล้าน จ่ายห้าแสน และบรรดาระดับหัวของส้มและแดง เค้าก็ปล่อยให้เปย์ไปดิ ลูกพรรคได้ค่าขนมฟรีๆ ใครไม่เอา ลุงเจ๊งง สามารถ รวยเอารวยเอา ซึ่งลุงโมโหมากที่นักข่าวมาถามจี้ใจดำเรื่องผลโหวต
    4. ต้องบอกว่า การเดินเกมส์ของลุง เริ่มเป๋ เซ หลงทิศก็ตั้งแต่ลุงได้เลื่อนลำดับความสำคัญให้สามารถมาเป็นเบอร์หนึ่ง ไม่รู้สามารถใช้วิธีไหน เหมือนลุงกลายเป็นคนในคาถา สามารถ หยิบฉวยชื่อลุงไปใช้อย่างไม่กระดาก
    5. จำเสียงคนที่บอสพอลอัดเสียงไว้ป่าว ที่บอกว่า ฟิล์มจ่ายเดือนละแสน มันเล่นเล็กไป พอลต้องเล่นให้ใหญ่ ดูแลดีกว่านี้ แล้วบอสพอลจะเหมือนทานอส อยากได้อะไร ดีดนิ้วได้หมด ก็เสียงตานี่นี่แหละ
    6. ทุกคน คงรู้จักนังพัต ใช่ป่ะ ที่เพิ่งเข้าซรังเตไปไม่กี่วันที่ผ่านมา นังพัต ดิลงานกับสามารถนี่แหละ ที่เวลาอ้าง ผู้ใหญ่อะไร เรียกว่าศีลเสมอกันที่สุดแล้ว พัต สามารถ
    ดังนั้น นี่คือตัวสำคัญ ที่มีความเกี่ยวพันกับอีกหลายวงการ
    รอบนี้ โดนเรื่องฟอกด้วย รอติดตาม
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    #สามารถคือใคร #เห็นละหลายคนงงว่าไอ่เสื้อดำนี้ใครฟร๊ะ ชื่อสามารถ สามารถไหนฟร๊ะ แล้วเกี่ยวอารายกับดิไอค่อน เอาจริงๆ เกี่ยวแม่มมแทบทุกวงการ ตอนนี้ตามตัวไม่เจอ เจอแต่แม่ แม่โดนด้วย ตัวฟอก ตัวดาร์ค ตัวตบ ครบในที่เดียว เดี๋ยวเล่าวีระกรรมเรียงให้ 1. คนนี้แหละ ที่เป็นตัวสำคัญ เข้าไปในพรรค พลปชร ทีหลัง แต่เป็นคนมีทักษะเรื่องการประจบนาย ชนิดที่ ขนาดเสี่ยแป้งยังกระเด็ด คิดเอา และเป็นตัวปั่นในพรรค จนทำให้ ผู้จงรักภักดีลุงเผ่นแนบ 2. เป็นตัวที่ชอบอ้างชื่อลุงป้อม ในการกระทำเรียกรับผลประโยชน์ต่างๆ แทรกซึ่มในกระทรวง หน่วยงานต่างๆ โดยใช้ชื่อลุงเป็นใบเบิกทาง 3. เป็นตัวที่อ้างว่า เชื่อม สส.แดง และสส.ส้มได้ และเบิกลุงไปจ่าย พรรคส้มหัวละแสน พรรคแดงหัวละล้าน โดยรับปากลุงว่าถ้าเปย์แบบนี้ ตอนลงโหวตเลือกนายก ลุงได้เป็นแน่นวล แต่หารู้มั๊ย จ่ายไปแสนจ่ายห้าหมื่น จ่ายไปล้าน จ่ายห้าแสน และบรรดาระดับหัวของส้มและแดง เค้าก็ปล่อยให้เปย์ไปดิ ลูกพรรคได้ค่าขนมฟรีๆ ใครไม่เอา ลุงเจ๊งง สามารถ รวยเอารวยเอา ซึ่งลุงโมโหมากที่นักข่าวมาถามจี้ใจดำเรื่องผลโหวต 4. ต้องบอกว่า การเดินเกมส์ของลุง เริ่มเป๋ เซ หลงทิศก็ตั้งแต่ลุงได้เลื่อนลำดับความสำคัญให้สามารถมาเป็นเบอร์หนึ่ง ไม่รู้สามารถใช้วิธีไหน เหมือนลุงกลายเป็นคนในคาถา สามารถ หยิบฉวยชื่อลุงไปใช้อย่างไม่กระดาก 5. จำเสียงคนที่บอสพอลอัดเสียงไว้ป่าว ที่บอกว่า ฟิล์มจ่ายเดือนละแสน มันเล่นเล็กไป พอลต้องเล่นให้ใหญ่ ดูแลดีกว่านี้ แล้วบอสพอลจะเหมือนทานอส อยากได้อะไร ดีดนิ้วได้หมด ก็เสียงตานี่นี่แหละ 6. ทุกคน คงรู้จักนังพัต ใช่ป่ะ ที่เพิ่งเข้าซรังเตไปไม่กี่วันที่ผ่านมา นังพัต ดิลงานกับสามารถนี่แหละ ที่เวลาอ้าง ผู้ใหญ่อะไร เรียกว่าศีลเสมอกันที่สุดแล้ว พัต สามารถ ดังนั้น นี่คือตัวสำคัญ ที่มีความเกี่ยวพันกับอีกหลายวงการ รอบนี้ โดนเรื่องฟอกด้วย รอติดตาม #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 668 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • เรื่องน่าคิด!
    #thaitimes #sondhitalk #news1
    ถ้าประเทศไทยเลือกนายก สส สว นายกอบจ. แบบอเมริกาจะเป็นอย่างไร?

    ขอพูดถึงนายกก่อน ย้ำว่านายกไม่ใช้ปธน.!

    ถ้าประเทศไทยเลือกนายกแบบอเมริกาโดยมี Electoral Vote สำหรับแต่ละจังหวัดโดยการจัดสรรจำนวน Electoral Vote ตามสัดส่วนประชากร โดยกทม.ก็จะต้องมีมากสุด (33 Electoral Vote ตามจำนวนสส. เขตในปัจจุบันอย่างเดียวเพราะไทยเป็นรัฐเดี่ยวไม่มีสว. 2 คนสำหรับแต่ละจังหวัดแบบเมกาและ
    ก็ไม่นับสส.บช.รายชื่อ) เพราะกทมมีประชากรมากสุด

    ในระบบการเลือกตั้งแบบนี้ผู้ชนะกินรวบหมายความว่าถ้ากทม. มีประชากร 100 คนแล้ว 51 คนเลือกโทนี่ โทนี่ก็จะได้ 33 Electoral Vote ซึ่งจขกท. คิดว่าการที่มีคะแนนตกน้ำแบบนี้เหมาะกับเมืองไทยเพราจะทำให้การซื้อเสียงไม่มีประสิทธิภาพถ้าซื้อก็ต้องซื้อให้ชนะไปเลยไม่งั้นเจ๊งหมด ทุกคนเชื่อไหมว่าทุกคะแนนเสียงที่ได้กันมาทุกวันนี้บริสุทธิ์? จขกท. ไม่เชื่อ อีกอย่างผู้ที่จะเป็นนายกจะต้องได้ 201 Electoral Vote ขึ้นไปจากทั้งหมด 400 Electoral Vote พรรคเล็กพรรคน้อยก็จะหายไปเพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้ถึง 201 อยู่แล้ว (ไม่ควรมีพรรคเล็กพรรคน้อยและไม่ควรมีคนครอบงำพรรคใหญ่ พรรคต้องใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค ทำให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันที่โปร่งใส)

    แต่เท่านี้ยังไม่พอเพื่อป้องกันการครอบงำพรรคในการเลือกตั้งแต่ละครั้งทุกพรรคที่ลงสมัครชิงนายกต้องเสนอแคนดิเดตนายกสามคน โดยต้องมีการเปิดตัวสามคนนี้ให้ประชาชนรู้จัก โดยชื่อของสามคนนี้จะอยู่ในบัตรเลือกตั้งและจะมีโลโก้พรรคเหมือนกัน (ต้องย้ำประชาชนว่าเลือกได้คนเดียว) เช่น พรรคเพื่อสยามส่ง นายเอ นายบี นายซี ทั้ง 400เขตทั่วไทยเลือก นายเอ 160 เขต นายบี 41 เขต นายซี 0 เขต ก็แปลว่าพรรคเพื่อสยามได้เป็นนายกเพราะชนะแล้ว 201 เขต และนายกก็คือนายเอเพราะชนะจำนวนเขตมากสุด

    การใช้ Electoral Vote จะทำให้นายกต้องเป็นที่รู้จักและชื่นชอบในหลายจังหวัดไม่ใช่เพียงแค่จังหวัดที่ตนมีฐานเสียงเยอะและต้องใส่ใจทุกจังหวัด

    เพื่อป้องกันการครอบงำพรรคอีกชั้นควรห้ามไม่ให้ผู้ที่ชนะมาลาออกโดยไม่มีเหตุจำเป็นเช่นป่วย ทำผิดกฏหมาย หรือตายหากลาออกต้องมีโทษทางกฏหมายหรือไม่ก็ถือเป็นการสละตำแน่งนายกให้พรรคอันดับสองไปโดยอัตโนมัติเพราะถือว่าคุณได้ตัดสินใจลงเลือกตั้งแล้วแต่มารู้ทีหลังว่าตนไม่มีความสามารถก็ให้พรรคอันดับสองเป็นนายกไปเลย

    ใครที่อยากเป็นนายกหรือเป็นนักการเมืองก็ต้องเข้ามาในระบบพรรคการเมืองไม่ต้องออกไปตั้งพรรคเอง ถ้าคิดว่าตนเจ๋งพอก็ทำงานพิสูจน์ให้สมาชิกพรรคเสนอเป็นแคนดิเดตนายก
    เรื่องน่าคิด! #thaitimes #sondhitalk #news1 ถ้าประเทศไทยเลือกนายก สส สว นายกอบจ. แบบอเมริกาจะเป็นอย่างไร? ขอพูดถึงนายกก่อน ย้ำว่านายกไม่ใช้ปธน.! ถ้าประเทศไทยเลือกนายกแบบอเมริกาโดยมี Electoral Vote สำหรับแต่ละจังหวัดโดยการจัดสรรจำนวน Electoral Vote ตามสัดส่วนประชากร โดยกทม.ก็จะต้องมีมากสุด (33 Electoral Vote ตามจำนวนสส. เขตในปัจจุบันอย่างเดียวเพราะไทยเป็นรัฐเดี่ยวไม่มีสว. 2 คนสำหรับแต่ละจังหวัดแบบเมกาและ ก็ไม่นับสส.บช.รายชื่อ) เพราะกทมมีประชากรมากสุด ในระบบการเลือกตั้งแบบนี้ผู้ชนะกินรวบหมายความว่าถ้ากทม. มีประชากร 100 คนแล้ว 51 คนเลือกโทนี่ โทนี่ก็จะได้ 33 Electoral Vote ซึ่งจขกท. คิดว่าการที่มีคะแนนตกน้ำแบบนี้เหมาะกับเมืองไทยเพราจะทำให้การซื้อเสียงไม่มีประสิทธิภาพถ้าซื้อก็ต้องซื้อให้ชนะไปเลยไม่งั้นเจ๊งหมด ทุกคนเชื่อไหมว่าทุกคะแนนเสียงที่ได้กันมาทุกวันนี้บริสุทธิ์? จขกท. ไม่เชื่อ อีกอย่างผู้ที่จะเป็นนายกจะต้องได้ 201 Electoral Vote ขึ้นไปจากทั้งหมด 400 Electoral Vote พรรคเล็กพรรคน้อยก็จะหายไปเพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้ถึง 201 อยู่แล้ว (ไม่ควรมีพรรคเล็กพรรคน้อยและไม่ควรมีคนครอบงำพรรคใหญ่ พรรคต้องใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค ทำให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันที่โปร่งใส) แต่เท่านี้ยังไม่พอเพื่อป้องกันการครอบงำพรรคในการเลือกตั้งแต่ละครั้งทุกพรรคที่ลงสมัครชิงนายกต้องเสนอแคนดิเดตนายกสามคน โดยต้องมีการเปิดตัวสามคนนี้ให้ประชาชนรู้จัก โดยชื่อของสามคนนี้จะอยู่ในบัตรเลือกตั้งและจะมีโลโก้พรรคเหมือนกัน (ต้องย้ำประชาชนว่าเลือกได้คนเดียว) เช่น พรรคเพื่อสยามส่ง นายเอ นายบี นายซี ทั้ง 400เขตทั่วไทยเลือก นายเอ 160 เขต นายบี 41 เขต นายซี 0 เขต ก็แปลว่าพรรคเพื่อสยามได้เป็นนายกเพราะชนะแล้ว 201 เขต และนายกก็คือนายเอเพราะชนะจำนวนเขตมากสุด การใช้ Electoral Vote จะทำให้นายกต้องเป็นที่รู้จักและชื่นชอบในหลายจังหวัดไม่ใช่เพียงแค่จังหวัดที่ตนมีฐานเสียงเยอะและต้องใส่ใจทุกจังหวัด เพื่อป้องกันการครอบงำพรรคอีกชั้นควรห้ามไม่ให้ผู้ที่ชนะมาลาออกโดยไม่มีเหตุจำเป็นเช่นป่วย ทำผิดกฏหมาย หรือตายหากลาออกต้องมีโทษทางกฏหมายหรือไม่ก็ถือเป็นการสละตำแน่งนายกให้พรรคอันดับสองไปโดยอัตโนมัติเพราะถือว่าคุณได้ตัดสินใจลงเลือกตั้งแล้วแต่มารู้ทีหลังว่าตนไม่มีความสามารถก็ให้พรรคอันดับสองเป็นนายกไปเลย ใครที่อยากเป็นนายกหรือเป็นนักการเมืองก็ต้องเข้ามาในระบบพรรคการเมืองไม่ต้องออกไปตั้งพรรคเอง ถ้าคิดว่าตนเจ๋งพอก็ทำงานพิสูจน์ให้สมาชิกพรรคเสนอเป็นแคนดิเดตนายก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 462 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องน่าคิด!
    #thaitimes #sondhitalk #news1
    ถ้าประเทศไทยเลือกนายก สส สว นายกอบจ. แบบอเมริกาจะเป็นอย่างไร?

    ขอพูดถึงนายกก่อน ย้ำว่านายกไม่ใช้ปธน.!

    ถ้าประเทศไทยเลือกนายกแบบอเมริกาโดยมี Electoral Vote สำหรับแต่ละจังหวัดโดยการจัดสรรจำนวน Electoral Vote ตามสัดส่วนประชากร โดยกทม.ก็จะต้องมีมากสุด (33 Electoral Vote ตามจำนวนสส. เขตในปัจจุบันอย่างเดียวเพราะไทยเป็นรัฐเดี่ยวไม่มีสว. 2 คนสำหรับแต่ละจังหวัดแบบเมกาและ
    ก็ไม่นับสส.บช.รายชื่อ) เพราะกทมมีประชากรมากสุด

    ในระบบการเลือกตั้งแบบนี้ผู้ชนะกินรวบหมายความว่าถ้ากทม. มีประชากร 100 คนแล้ว 51 คนเลือกโทนี่ โทนี่ก็จะได้ 33 Electoral Vote ซึ่งจขกท. คิดว่าการที่มีคะแนนตกน้ำแบบนี้เหมาะกับเมืองไทยเพราจะทำให้การซื้อเสียงไม่มีประสิทธิภาพถ้าซื้อก็ต้องซื้อให้ชนะไปเลยไม่งั้นเจ๊งหมด ทุกคนเชื่อไหมว่าทุกคะแนนเสียงที่ได้กันมาทุกวันนี้บริสุทธิ์? จขกท. ไม่เชื่อ อีกอย่างผู้ที่จะเป็นนายกจะต้องได้ 201 Electoral Vote ขึ้นไปจากทั้งหมด 400 Electoral Vote พรรคเล็กพรรคน้อยก็จะหายไปเพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้ถึง 201 อยู่แล้ว (ไม่ควรมีพรรคเล็กพรรคน้อยและไม่ควรมีคนครอบงำพรรคใหญ่ พรรคต้องใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค ทำให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันที่โปร่งใส)

    แต่เท่านี้ยังไม่พอเพื่อป้องกันการครอบงำพรรคในการเลือกตั้งแต่ละครั้งทุกพรรคที่ลงสมัครชิงนายกต้องเสนอแคนดิเดตนายกสามคน โดยต้องมีการเปิดตัวสามคนนี้ให้ประชาชนรู้จัก โดยชื่อของสามคนนี้จะอยู่ในบัตรเลือกตั้งและจะมีโลโก้พรรคเหมือนกัน (ต้องย้ำประชาชนว่าเลือกได้คนเดียว) เช่น พรรคเพื่อสยามส่ง นายเอ นายบี นายซี ทั้ง 400เขตทั่วไทยเลือก นายเอ 160 เขต นายบี 41 เขต นายซี 0 เขต ก็แปลว่าพรรคเพื่อสยามได้เป็นนายกเพราะชนะแล้ว 201 เขต และนายกก็คือนายเอเพราะชนะจำนวนเขตมากสุด

    การใช้ Electoral Vote จะทำให้นายกต้องเป็นที่รู้จักและชื่นชอบในหลายจังหวัดไม่ใช่เพียงแค่จังหวัดที่ตนมีฐานเสียงเยอะและต้องใส่ใจทุกจังหวัด

    เพื่อป้องกันการครอบงำพรรคอีกชั้นควรห้ามไม่ให้ผู้ที่ชนะมาลาออกโดยไม่มีเหตุจำเป็นเช่นป่วย ทำผิดกฏหมาย หรือตายหากลาออกต้องมีโทษทางกฏหมายหรือไม่ก็ถือเป็นการสละตำแน่งนายกให้พรรคอันดับสองไปโดยอัตโนมัติเพราะถือว่าคุณได้ตัดสินใจลงเลือกตั้งแล้วแต่มารู้ทีหลังว่าตนไม่มีความสามารถก็ให้พรรคอันดับสองเป็นนายกไปเลย

    ใครที่อยากเป็นนายกหรือเป็นนักการเมืองก็ต้องเข้ามาในระบบพรรคการเมืองไม่ต้องออกไปตั้งพรรคเอง ถ้าคิดว่าตนเจ๋งพอก็ทำงานพิสูจน์ให้สมาชิกพรรคเสนอเป็นแคนดิเดตนายก
    เรื่องน่าคิด! #thaitimes #sondhitalk #news1 ถ้าประเทศไทยเลือกนายก สส สว นายกอบจ. แบบอเมริกาจะเป็นอย่างไร? ขอพูดถึงนายกก่อน ย้ำว่านายกไม่ใช้ปธน.! ถ้าประเทศไทยเลือกนายกแบบอเมริกาโดยมี Electoral Vote สำหรับแต่ละจังหวัดโดยการจัดสรรจำนวน Electoral Vote ตามสัดส่วนประชากร โดยกทม.ก็จะต้องมีมากสุด (33 Electoral Vote ตามจำนวนสส. เขตในปัจจุบันอย่างเดียวเพราะไทยเป็นรัฐเดี่ยวไม่มีสว. 2 คนสำหรับแต่ละจังหวัดแบบเมกาและ ก็ไม่นับสส.บช.รายชื่อ) เพราะกทมมีประชากรมากสุด ในระบบการเลือกตั้งแบบนี้ผู้ชนะกินรวบหมายความว่าถ้ากทม. มีประชากร 100 คนแล้ว 51 คนเลือกโทนี่ โทนี่ก็จะได้ 33 Electoral Vote ซึ่งจขกท. คิดว่าการที่มีคะแนนตกน้ำแบบนี้เหมาะกับเมืองไทยเพราจะทำให้การซื้อเสียงไม่มีประสิทธิภาพถ้าซื้อก็ต้องซื้อให้ชนะไปเลยไม่งั้นเจ๊งหมด ทุกคนเชื่อไหมว่าทุกคะแนนเสียงที่ได้กันมาทุกวันนี้บริสุทธิ์? จขกท. ไม่เชื่อ อีกอย่างผู้ที่จะเป็นนายกจะต้องได้ 201 Electoral Vote ขึ้นไปจากทั้งหมด 400 Electoral Vote พรรคเล็กพรรคน้อยก็จะหายไปเพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้ถึง 201 อยู่แล้ว (ไม่ควรมีพรรคเล็กพรรคน้อยและไม่ควรมีคนครอบงำพรรคใหญ่ พรรคต้องใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค ทำให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันที่โปร่งใส) แต่เท่านี้ยังไม่พอเพื่อป้องกันการครอบงำพรรคในการเลือกตั้งแต่ละครั้งทุกพรรคที่ลงสมัครชิงนายกต้องเสนอแคนดิเดตนายกสามคน โดยต้องมีการเปิดตัวสามคนนี้ให้ประชาชนรู้จัก โดยชื่อของสามคนนี้จะอยู่ในบัตรเลือกตั้งและจะมีโลโก้พรรคเหมือนกัน (ต้องย้ำประชาชนว่าเลือกได้คนเดียว) เช่น พรรคเพื่อสยามส่ง นายเอ นายบี นายซี ทั้ง 400เขตทั่วไทยเลือก นายเอ 160 เขต นายบี 41 เขต นายซี 0 เขต ก็แปลว่าพรรคเพื่อสยามได้เป็นนายกเพราะชนะแล้ว 201 เขต และนายกก็คือนายเอเพราะชนะจำนวนเขตมากสุด การใช้ Electoral Vote จะทำให้นายกต้องเป็นที่รู้จักและชื่นชอบในหลายจังหวัดไม่ใช่เพียงแค่จังหวัดที่ตนมีฐานเสียงเยอะและต้องใส่ใจทุกจังหวัด เพื่อป้องกันการครอบงำพรรคอีกชั้นควรห้ามไม่ให้ผู้ที่ชนะมาลาออกโดยไม่มีเหตุจำเป็นเช่นป่วย ทำผิดกฏหมาย หรือตายหากลาออกต้องมีโทษทางกฏหมายหรือไม่ก็ถือเป็นการสละตำแน่งนายกให้พรรคอันดับสองไปโดยอัตโนมัติเพราะถือว่าคุณได้ตัดสินใจลงเลือกตั้งแล้วแต่มารู้ทีหลังว่าตนไม่มีความสามารถก็ให้พรรคอันดับสองเป็นนายกไปเลย ใครที่อยากเป็นนายกหรือเป็นนักการเมืองก็ต้องเข้ามาในระบบพรรคการเมืองไม่ต้องออกไปตั้งพรรคเอง ถ้าคิดว่าตนเจ๋งพอก็ทำงานพิสูจน์ให้สมาชิกพรรคเสนอเป็นแคนดิเดตนายก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 446 มุมมอง 0 รีวิว
  • #จิตสำนึกหล่อหลอมจากครอบครัว
    #ผู้นำที่สร้างจากคนดีคิดถึงส่วนรวม
    •ลีกวนยู เลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่
    ที่จะทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง
    ให้เจริญเติบโตอย่างไร | 17.08.2024

    ครั้งหนึ่งมีคนถามลีกวนยูว่า “ถ้าให้คุณเลือกคนมาทำงานด้วย จะเลือกคนที่ไอคิวสูงหรืออีคิวสูง”

    ลีกวนยูว่า “แล้วแต่ลักษณะงาน ถ้าหาคนมาคุมงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ คงเลือกคนไอคิวสูงก่อน”

    แต่ถ้าหาคนที่ต้องคุมคนอื่นอีกที ก็ต้องได้ทั้งไอคิวและอีคิว

    ลีกวนยูเข้าใจการเมืองอย่างลึกซึ้งและมองทะลุปรุโปร่ง เพราะเหตุนี้ ณ จุดสูงสุดของชีวิตผู้นำ เขาก็ก้าวลงจากอำนาจส่งไม้ต่อให้คนหนุ่มกว่า

    ลีกวนยูบอกเสมอว่าเขาคัดแต่คนเก่งระดับหัวกะทิมาทำงานการเมือง

    ผู้บริหารประเทศสิงคโปร์คัดเลือกคนที่จะมาเป็นนายกฯคนที่สองมาหลายปีก่อนโอนถ่ายอำนาจ นั่นคือโกช็อกตง ลีกวนยูก็ติวเข้มโกช็อกตงมาล่วงหน้าถึงเก้าปี

    โกช็อกตงไม่ใช่ตัวเลือกของลีกวนยู แต่เป็นตัวเลือกจากการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีอย่างรอบคอบ โกช็อกตงจบปริญญาโทจากอเมริกา ฉลาด มีวิสัยทัศน์ ไม่เช่นนั้นลีกวนยูคงไม่ยอมปล่อยให้บริหารประเทศต่อ

    ก่อนรับตำแหน่งนายกฯ โกช็อกตงมีประสบการณ์ในตำแหน่งรองนายกฯมาเจ็ดปี

    ลีกวนยูวิเคราะห์โกช็อกตงไว้ว่า “ตัวสูง เก้งก้าง งุ่มง่าม พูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงฮกเกี้ยน พูดไม่เก่ง แต่มีความสามารถ มีความมุ่งมั่น”

    เมื่อเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ลีกวนยูส่งโกช็อกตงไปเรียนทักษะการพูด หาครูชาวอังกฤษมาสอนเขา รวมทั้งรัฐมนตรีใหม่ ๆ หลายคน

    การเป็นผู้นำประเทศต้องพูดเป็น พูดอย่างผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติ นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนจะมาเป็นผู้นำ

    เก่งแค่ไหนก็ต้องสื่อสารเป็นด้วย สื่อสารเป็นคือทำให้คนฟังคล้อยตามได้

    ผ่านไประยะหนึ่ง โกช็อกตงก็พัฒนาการพูดดีขึ้น

    ลีกวนยูพูดกับบรรดารัฐมนตรีว่า “รัฐมนตรีที่ดีไม่ใช่พวกที่จูบทารกและยิ้ม รัฐมนตรีที่ดีคือพวกที่ต้องตัดสินใจเรื่องที่ประชาชนไม่ชอบ และยังยิ้มได้ แล้วพิสูจน์ให้เห็นว่าทำงานได้ผล นั่นคือการเป็นรัฐบาล”

    คนเป็นรัฐมนตรีต้องทำงานหนัก ไม่ใช่โชว์ ไม่ใช่สร้างคะแนนนิยม

    เมื่อคนใหม่พร้อมแล้ว และหลังจากเป็นนายกรัฐมนตรีมา 31 ปี ลีกวนยูก็ลงจากตำแหน่งโดยไม่อาลัยอาวรณ์

    โกช็อกตงรับไม้ต่อจากลีกวนยู เป็นนายกฯสิงคโปร์คนที่สอง ในปี 1990 เจอเหตุการณ์ทดสอบภาวะผู้นำหลายเรื่อง เช่น วิกฤตต้มยำกุ้งในปี 1997 โรคซาร์สระบาดในปี 2003 ก็สอบผ่านมาได้

    โกช็อกตงเป็นนายกฯ 14 ปี ก็ส่งไม้ต่อให้ลีเซียนหลง บุตรชายของลีกวนยู ในปี 2004 เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่สาม

    และในปี 2024 ก็ส่งไม้ต่อให้ ลอว์เรนซ์ หว่อง รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

    การเลือกผู้นำของสิงคโปร์ไม่ใช่เกมการเมือง ไม่ใช่เกมเด็กเล่น ซีเรียสอย่างที่สุด มันจึงเป็นประเทศสิงคโปร์ที่เราเห็นในวันนี้

    จากหนังสือ
    สร้างชาติจากศูนย์
    / วินทร์ เลียววาริณ
    หนังสือเกี่ยวกับลีกวนยูและ
    การสร้างชาติสิงคโปร์จากศูนย์
    วางตลาดเดือนตุลาคม 2024 นี้
    #จิตสำนึกหล่อหลอมจากครอบครัว #ผู้นำที่สร้างจากคนดีคิดถึงส่วนรวม •ลีกวนยู เลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่จะทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ให้เจริญเติบโตอย่างไร | 17.08.2024 ครั้งหนึ่งมีคนถามลีกวนยูว่า “ถ้าให้คุณเลือกคนมาทำงานด้วย จะเลือกคนที่ไอคิวสูงหรืออีคิวสูง” ลีกวนยูว่า “แล้วแต่ลักษณะงาน ถ้าหาคนมาคุมงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ คงเลือกคนไอคิวสูงก่อน” แต่ถ้าหาคนที่ต้องคุมคนอื่นอีกที ก็ต้องได้ทั้งไอคิวและอีคิว ลีกวนยูเข้าใจการเมืองอย่างลึกซึ้งและมองทะลุปรุโปร่ง เพราะเหตุนี้ ณ จุดสูงสุดของชีวิตผู้นำ เขาก็ก้าวลงจากอำนาจส่งไม้ต่อให้คนหนุ่มกว่า ลีกวนยูบอกเสมอว่าเขาคัดแต่คนเก่งระดับหัวกะทิมาทำงานการเมือง ผู้บริหารประเทศสิงคโปร์คัดเลือกคนที่จะมาเป็นนายกฯคนที่สองมาหลายปีก่อนโอนถ่ายอำนาจ นั่นคือโกช็อกตง ลีกวนยูก็ติวเข้มโกช็อกตงมาล่วงหน้าถึงเก้าปี โกช็อกตงไม่ใช่ตัวเลือกของลีกวนยู แต่เป็นตัวเลือกจากการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีอย่างรอบคอบ โกช็อกตงจบปริญญาโทจากอเมริกา ฉลาด มีวิสัยทัศน์ ไม่เช่นนั้นลีกวนยูคงไม่ยอมปล่อยให้บริหารประเทศต่อ ก่อนรับตำแหน่งนายกฯ โกช็อกตงมีประสบการณ์ในตำแหน่งรองนายกฯมาเจ็ดปี ลีกวนยูวิเคราะห์โกช็อกตงไว้ว่า “ตัวสูง เก้งก้าง งุ่มง่าม พูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงฮกเกี้ยน พูดไม่เก่ง แต่มีความสามารถ มีความมุ่งมั่น” เมื่อเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ลีกวนยูส่งโกช็อกตงไปเรียนทักษะการพูด หาครูชาวอังกฤษมาสอนเขา รวมทั้งรัฐมนตรีใหม่ ๆ หลายคน การเป็นผู้นำประเทศต้องพูดเป็น พูดอย่างผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติ นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนจะมาเป็นผู้นำ เก่งแค่ไหนก็ต้องสื่อสารเป็นด้วย สื่อสารเป็นคือทำให้คนฟังคล้อยตามได้ ผ่านไประยะหนึ่ง โกช็อกตงก็พัฒนาการพูดดีขึ้น ลีกวนยูพูดกับบรรดารัฐมนตรีว่า “รัฐมนตรีที่ดีไม่ใช่พวกที่จูบทารกและยิ้ม รัฐมนตรีที่ดีคือพวกที่ต้องตัดสินใจเรื่องที่ประชาชนไม่ชอบ และยังยิ้มได้ แล้วพิสูจน์ให้เห็นว่าทำงานได้ผล นั่นคือการเป็นรัฐบาล” คนเป็นรัฐมนตรีต้องทำงานหนัก ไม่ใช่โชว์ ไม่ใช่สร้างคะแนนนิยม เมื่อคนใหม่พร้อมแล้ว และหลังจากเป็นนายกรัฐมนตรีมา 31 ปี ลีกวนยูก็ลงจากตำแหน่งโดยไม่อาลัยอาวรณ์ โกช็อกตงรับไม้ต่อจากลีกวนยู เป็นนายกฯสิงคโปร์คนที่สอง ในปี 1990 เจอเหตุการณ์ทดสอบภาวะผู้นำหลายเรื่อง เช่น วิกฤตต้มยำกุ้งในปี 1997 โรคซาร์สระบาดในปี 2003 ก็สอบผ่านมาได้ โกช็อกตงเป็นนายกฯ 14 ปี ก็ส่งไม้ต่อให้ลีเซียนหลง บุตรชายของลีกวนยู ในปี 2004 เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่สาม และในปี 2024 ก็ส่งไม้ต่อให้ ลอว์เรนซ์ หว่อง รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง การเลือกผู้นำของสิงคโปร์ไม่ใช่เกมการเมือง ไม่ใช่เกมเด็กเล่น ซีเรียสอย่างที่สุด มันจึงเป็นประเทศสิงคโปร์ที่เราเห็นในวันนี้ จากหนังสือ สร้างชาติจากศูนย์ / วินทร์ เลียววาริณ หนังสือเกี่ยวกับลีกวนยูและ การสร้างชาติสิงคโปร์จากศูนย์ วางตลาดเดือนตุลาคม 2024 นี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 0 รีวิว
  • บิ๊กป้อมวุฒิภาวะต่ำ โปรดรับผิดชอบด้วย

    เหตุการณ์ไม่คาดคิดระหว่างสื่อมวลชนกำลังสัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ปรากฎว่า พล.อ.ประวิตร ใช้มือตบศีรษะ ดวงทิพย์ เยี่ยมภพ ผู้สื่อข่าวสายทหาร สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส พร้อมกล่าวว่า "ถามไร...ถามไร" ก่อนขึ้นรถยนต์

    พล.อ.ประวิตร ย้ำว่า "ถามอะไรก็ไม่ได้ยิน แล้วยังจะถามอีก" และเมื่อถามถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้รับโหวตเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ตอบว่า "วู้...ถามอะไรวะ" ก่อนที่รถจะเคลื่อนออกไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย (บ้านอัมพวัน) เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ส.ค.)

    ทันทีที่วีดีโอคลิปจากผู้สื่อข่าวภาคสนามเป็นไวรัล บรรดาเพื่อนสื่อมวลชนต่างแสดงความไม่พอใจถึงวุฒิภาวะของ พล.อ.ประวิตร หรือ บิ๊กป้อม อดีตนายทหารและนักการเมืองวัย 79 ปีผู้นี้ พร้อมตั้งคำถามถึงการกระทำดังกล่าวว่า มีสิทธิ์อะไรมาตีผู้สื่อข่าวแบบนี้ ทั้งที่สิ่งที่นักข่าวถามไม่ได้ล่วงเกิน หรือรุนแรงอะไร

    ทันใดนั้น สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลพฤติกรรมคุกคามสื่อ เรียกร้องให้เกียรติผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่าย ข่มขู่ คุกคามสิทธิเสรีภาพในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน จึงขอให้ พล.อ.ประวิตร แสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว

    "ขณะเดียวกัน ขอเตือนไปยังบุคคลใดก็ตามพึงระมัดระวังการใช้อารมณ์รุนแรงชั่ววูบอันอาจก่อให้เกิดผลเสียตามมาได้ และขอให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมคุกคามเหล่านี้ สิ่งสำคัญควรให้เกียรติผู้ปฏิบัติงานในแต่ละวิชาชีพ รวมถึงเคารพการทำหน้าที่ซึ่งกันและกันด้วย" แถลงการณ์สมาคมนักข่าวฯ ระบุ

    ด้านองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ออกแถลงการณ์ระบุว่า ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการคุกคามการทำหน้าที่ผู้สื่อข่าว

    "การตั้งคำถามด้วยถ้อยคำ และท่าทีสุภาพในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผู้ถูกสัมภาษณ์ ดังปรากฎในคลิปวีดีโอ ที่ถูกเผยแพร่เป็นที่ประจักษ์นั้น ชัดเจนว่า เป็นการทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวโดยสุจริต การถูกกระทำทางกายจากแหล่งข่าวเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ และถือเป็นพฤติกรรมที่ย่อมส่งผลกระทบต่อจิตใจและความรู้สึกปลอดภัยของผู้สื่อข่าว-ช่างภาพ ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์เดียวกันด้วย" แถลงการณ์ไทยพีบีเอส ระบุ

    ไทยพีบีเอส เรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร แสดงความรับผิดชอบต่อการคุกคามผู้สื่อข่าวครั้งนี้ และขอให้องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนต่างๆ ร่วมหามาตรการดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสื่อมวลชนต่อไป

    มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร ได้ให้นายทหารคนสนิท อย่าง พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม โทรศัพท์สายตรงมาถึงผู้สื่อข่าว อ้างว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นได้ส่งสายโทรศัพท์ให้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้มีเจตนาอะไรเลย เพราะปกติแล้วตนเองก็ได้พูดล้อเล่น และแหย่เล่นกับผู้สื่อข่าวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นประจำอยู่แล้ว

    แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งความโกรธแค้นของคนที่รับรู้เรื่องราว ต่างเรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร แสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด

    #Newskit #ประวิตร #คุกคามสื่อ
    บิ๊กป้อมวุฒิภาวะต่ำ โปรดรับผิดชอบด้วย เหตุการณ์ไม่คาดคิดระหว่างสื่อมวลชนกำลังสัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ปรากฎว่า พล.อ.ประวิตร ใช้มือตบศีรษะ ดวงทิพย์ เยี่ยมภพ ผู้สื่อข่าวสายทหาร สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส พร้อมกล่าวว่า "ถามไร...ถามไร" ก่อนขึ้นรถยนต์ พล.อ.ประวิตร ย้ำว่า "ถามอะไรก็ไม่ได้ยิน แล้วยังจะถามอีก" และเมื่อถามถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้รับโหวตเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ตอบว่า "วู้...ถามอะไรวะ" ก่อนที่รถจะเคลื่อนออกไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย (บ้านอัมพวัน) เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ส.ค.) ทันทีที่วีดีโอคลิปจากผู้สื่อข่าวภาคสนามเป็นไวรัล บรรดาเพื่อนสื่อมวลชนต่างแสดงความไม่พอใจถึงวุฒิภาวะของ พล.อ.ประวิตร หรือ บิ๊กป้อม อดีตนายทหารและนักการเมืองวัย 79 ปีผู้นี้ พร้อมตั้งคำถามถึงการกระทำดังกล่าวว่า มีสิทธิ์อะไรมาตีผู้สื่อข่าวแบบนี้ ทั้งที่สิ่งที่นักข่าวถามไม่ได้ล่วงเกิน หรือรุนแรงอะไร ทันใดนั้น สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลพฤติกรรมคุกคามสื่อ เรียกร้องให้เกียรติผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่าย ข่มขู่ คุกคามสิทธิเสรีภาพในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน จึงขอให้ พล.อ.ประวิตร แสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว "ขณะเดียวกัน ขอเตือนไปยังบุคคลใดก็ตามพึงระมัดระวังการใช้อารมณ์รุนแรงชั่ววูบอันอาจก่อให้เกิดผลเสียตามมาได้ และขอให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมคุกคามเหล่านี้ สิ่งสำคัญควรให้เกียรติผู้ปฏิบัติงานในแต่ละวิชาชีพ รวมถึงเคารพการทำหน้าที่ซึ่งกันและกันด้วย" แถลงการณ์สมาคมนักข่าวฯ ระบุ ด้านองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ออกแถลงการณ์ระบุว่า ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการคุกคามการทำหน้าที่ผู้สื่อข่าว "การตั้งคำถามด้วยถ้อยคำ และท่าทีสุภาพในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผู้ถูกสัมภาษณ์ ดังปรากฎในคลิปวีดีโอ ที่ถูกเผยแพร่เป็นที่ประจักษ์นั้น ชัดเจนว่า เป็นการทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวโดยสุจริต การถูกกระทำทางกายจากแหล่งข่าวเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ และถือเป็นพฤติกรรมที่ย่อมส่งผลกระทบต่อจิตใจและความรู้สึกปลอดภัยของผู้สื่อข่าว-ช่างภาพ ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์เดียวกันด้วย" แถลงการณ์ไทยพีบีเอส ระบุ ไทยพีบีเอส เรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร แสดงความรับผิดชอบต่อการคุกคามผู้สื่อข่าวครั้งนี้ และขอให้องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนต่างๆ ร่วมหามาตรการดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสื่อมวลชนต่อไป มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร ได้ให้นายทหารคนสนิท อย่าง พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม โทรศัพท์สายตรงมาถึงผู้สื่อข่าว อ้างว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นได้ส่งสายโทรศัพท์ให้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้มีเจตนาอะไรเลย เพราะปกติแล้วตนเองก็ได้พูดล้อเล่น และแหย่เล่นกับผู้สื่อข่าวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งความโกรธแค้นของคนที่รับรู้เรื่องราว ต่างเรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร แสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด #Newskit #ประวิตร #คุกคามสื่อ
    Sad
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1046 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุงป้อมหัวร้อน
    "บิ๊กป้อม" อารมณ์ขึ้น หลังถูกถามได้ดูโหวตเลือกนายกฯ หรือไม่ ปรี่ตบหัวนักข่าวก่อนเดินขึ้นรถ

    #sondhitalk #sondhix #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ลุงป้อมหัวร้อน
    ลุงป้อมหัวร้อน "บิ๊กป้อม" อารมณ์ขึ้น หลังถูกถามได้ดูโหวตเลือกนายกฯ หรือไม่ ปรี่ตบหัวนักข่าวก่อนเดินขึ้นรถ #sondhitalk #sondhix #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ลุงป้อมหัวร้อน
    Like
    Haha
    Sad
    Wow
    Angry
    13
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10584 มุมมอง 888 0 รีวิว
  • อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร นายกรัฐมนตรีคนที่ 31

    ในที่สุด อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อายุ 38 ปี กำลังจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 หลังจากกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย มีมติให้อุ๊งอิ๊งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่บรรดา สส.พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ นับเป็นคนที่ 4 ในตระกูลชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 และเป็นนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์

    เดิมจากการตกลงระหว่างนายทักษิณ กับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล จะเสนอนายชัยเกษม นิติสิริ หนึ่งในบัญชีแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ปรากฎว่านายชัยเกษมมีแผลขึ้นมา ทั้งกรณีถูกวิจารณ์ว่าสมัยเป็นอัยการสูงสุด เป็นยุคที่เคยสั่งไม่ฟ้องนายพิชิต ชื่นบาน ในคดีถุงขนม 2 ล้าน อีกทั้งยังเคยมีกรณีที่นายชัยเกษมเคยเสนอแก้ไขมาตรา 112 ที่พรรคร่วมไม่เห็นด้วย

    ขณะที่ สส.พรรคเพื่อไทย สนับสนุนอุ๊งอิ๊งเต็มที่ เพราะที่ผ่านมาอุ๊งอิ๊งลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งเป็นส่วนใหญ่ และผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทยหาเสียงเอาไว้ว่า จะให้อุ๊งอิ๊งเป็นนายกรัฐมนตรี แม้ภายหลังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จะกลายเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน ก็ตาม อีกทั้งสังคมเห็นภาพเด่นชัดว่าอุ๊งอิ๊งเป็นตัวแทนของนายทักษิณ คนที่เลือกอุ๊งอิ๊งก็เท่ากับเลือกทักษิณ

    หากได้เป็นนายกรัฐมนตรีเต็มตัว อุ๊งอิ๊งและนายทักษิณมีอำนาจเต็มในการบริหารจัดการ ไม่เกิดแรงกระเพื่อมในพรรค

    นอกจากนี้ ด้วยวัยเพียงแค่ 37 ปี อุ๊งอิ๊งเป็นคนหนุ่มสาว คนรุ่นใหม่ มีพละกำลังเหลือเฟือ คิดอ่านบริหารเหลือเฟือ อยู่ในวัยที่กำลังเหมาะเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนนายชัยเกษม สส.ส่วนหนึ่งเห็นว่ายังมีปัญหาเรื่องสุขภาพ และในอดีตนายชัยเกษมเคยพูดถึงเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 เกรงว่าจะทำให้เป็นปัญหาตามมาได้

    น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สำหรับการสนับสนุนนี้ ตนจะทำทุกอย่างให้เต็มความสามารถ ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเราทุกคนชื่นชมการทำงานของนายเศรษฐา เสียดายที่จะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น อย่างที่เราไม่ได้คาดฝันไว้ แต่ประเทศต้องไปต่อ พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล วันนี้เรามีความพร้อมที่จะผลักดันประเทศต่อ ตนมั่นใจในพรรคเพื่อไทย มั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ที่จะช่วยกันนำพาประเทศของเราให้หลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ

    สำหรับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เกิดเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2529 เป็นบุตรสาวคนสุดท้องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มีพี่น้องร่วมกัน คือ นายพานทองแท้ ชินวัตร และนางพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ จบการศึกษาปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท Msc International Hotel Management ที่มหาวิทยาลัยเซอร์เรย์ สหราชอาณาจักร

    ประสบการณ์ทำงาน เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจโรงแรมและสนามกอล์ฟ บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ อาทิ โรงแรม เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่, สนามกอล์ฟอัลไพน์, โรงแรมเอสซี ปาร์ค ส่วนในทางการเมือง เป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมของพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

    #Newskit #แพทองธาร #นายกรัฐมนตรี
    อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ในที่สุด อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อายุ 38 ปี กำลังจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 หลังจากกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย มีมติให้อุ๊งอิ๊งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่บรรดา สส.พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ นับเป็นคนที่ 4 ในตระกูลชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 และเป็นนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ เดิมจากการตกลงระหว่างนายทักษิณ กับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล จะเสนอนายชัยเกษม นิติสิริ หนึ่งในบัญชีแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ปรากฎว่านายชัยเกษมมีแผลขึ้นมา ทั้งกรณีถูกวิจารณ์ว่าสมัยเป็นอัยการสูงสุด เป็นยุคที่เคยสั่งไม่ฟ้องนายพิชิต ชื่นบาน ในคดีถุงขนม 2 ล้าน อีกทั้งยังเคยมีกรณีที่นายชัยเกษมเคยเสนอแก้ไขมาตรา 112 ที่พรรคร่วมไม่เห็นด้วย ขณะที่ สส.พรรคเพื่อไทย สนับสนุนอุ๊งอิ๊งเต็มที่ เพราะที่ผ่านมาอุ๊งอิ๊งลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งเป็นส่วนใหญ่ และผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทยหาเสียงเอาไว้ว่า จะให้อุ๊งอิ๊งเป็นนายกรัฐมนตรี แม้ภายหลังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จะกลายเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน ก็ตาม อีกทั้งสังคมเห็นภาพเด่นชัดว่าอุ๊งอิ๊งเป็นตัวแทนของนายทักษิณ คนที่เลือกอุ๊งอิ๊งก็เท่ากับเลือกทักษิณ หากได้เป็นนายกรัฐมนตรีเต็มตัว อุ๊งอิ๊งและนายทักษิณมีอำนาจเต็มในการบริหารจัดการ ไม่เกิดแรงกระเพื่อมในพรรค นอกจากนี้ ด้วยวัยเพียงแค่ 37 ปี อุ๊งอิ๊งเป็นคนหนุ่มสาว คนรุ่นใหม่ มีพละกำลังเหลือเฟือ คิดอ่านบริหารเหลือเฟือ อยู่ในวัยที่กำลังเหมาะเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนนายชัยเกษม สส.ส่วนหนึ่งเห็นว่ายังมีปัญหาเรื่องสุขภาพ และในอดีตนายชัยเกษมเคยพูดถึงเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 เกรงว่าจะทำให้เป็นปัญหาตามมาได้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สำหรับการสนับสนุนนี้ ตนจะทำทุกอย่างให้เต็มความสามารถ ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเราทุกคนชื่นชมการทำงานของนายเศรษฐา เสียดายที่จะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น อย่างที่เราไม่ได้คาดฝันไว้ แต่ประเทศต้องไปต่อ พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล วันนี้เรามีความพร้อมที่จะผลักดันประเทศต่อ ตนมั่นใจในพรรคเพื่อไทย มั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ที่จะช่วยกันนำพาประเทศของเราให้หลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ สำหรับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เกิดเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2529 เป็นบุตรสาวคนสุดท้องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มีพี่น้องร่วมกัน คือ นายพานทองแท้ ชินวัตร และนางพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ จบการศึกษาปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท Msc International Hotel Management ที่มหาวิทยาลัยเซอร์เรย์ สหราชอาณาจักร ประสบการณ์ทำงาน เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจโรงแรมและสนามกอล์ฟ บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ อาทิ โรงแรม เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่, สนามกอล์ฟอัลไพน์, โรงแรมเอสซี ปาร์ค ส่วนในทางการเมือง เป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมของพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย #Newskit #แพทองธาร #นายกรัฐมนตรี
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1133 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ต้องขออภัยที่พี่คิงส์โพธิ์แดงเป็นผู้มาก่อนกาล
    ชัดเจนแบบไม่ต้องหมุนเสานะคับนะ
    ที่พี่คิงส์ฯได้บอกล่วงหน้าหลายวัน
    ว่าหลัง 22 สค.นี้ โทนี่จะเป็นนายกตัวจริง
    ที่ชื่อตำแหน่งคือ ประธานที่ปรึกษานายก
    และมีอำนาจเหนือนายกทุกประการ
    สิ่งที่พี่คิงส์เสียดายที่สุดคือ
    นายกนิดที่มีหลายๆอย่างที่ทำเพื่อคนไทยจริงๆ
    และหลายๆเรื่องก็ขัดคำสั่งโทนี่เสียด้ายซ้ำ
    แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา
    ทำใจหน่อยนะ ที่หลายคนเลือกนายกชื่อนิด
    แต่สุดท้าย กลับได้นายกชื่อโทนี่แทน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ต้องขออภัยที่พี่คิงส์โพธิ์แดงเป็นผู้มาก่อนกาล ชัดเจนแบบไม่ต้องหมุนเสานะคับนะ ที่พี่คิงส์ฯได้บอกล่วงหน้าหลายวัน ว่าหลัง 22 สค.นี้ โทนี่จะเป็นนายกตัวจริง ที่ชื่อตำแหน่งคือ ประธานที่ปรึกษานายก และมีอำนาจเหนือนายกทุกประการ สิ่งที่พี่คิงส์เสียดายที่สุดคือ นายกนิดที่มีหลายๆอย่างที่ทำเพื่อคนไทยจริงๆ และหลายๆเรื่องก็ขัดคำสั่งโทนี่เสียด้ายซ้ำ แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ทำใจหน่อยนะ ที่หลายคนเลือกนายกชื่อนิด แต่สุดท้าย กลับได้นายกชื่อโทนี่แทน #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 รีวิว