• 20-09-68/01 : หมี CNN / BREAKING NEWS "หมีม้าด่วน ม้าเร็ว ม้าหน้ามืด" EP.22

    1.เล่ห์เหลี่ยมอีขะแมร์ ป่วนภาค 1 แต่เป้าโจมตีคือภาค 2 แค้นจัดรึจ๊ะ? อยากล้างตาสิน่ะ เค้าพร้อมรองาบมรึงนานแล้ว ให้ไว ไอ้สัส! งานนี้รถถังออกจริง ปูพรมแน่ อย่าเผ่นก่อนล่ะ สูตรลูกยาวเทกระจาด ภาคพื้นเก็บกวาด หนุนเสริมด้วยขีปนาวุธจากทัพเรือ สูตรนี้ หนียังไงก็ไม่รอด? อาวุธมรึงซ่อนที่ไหนเค้ารู้หมด เอากองกำลังไปซุ่มในป่า เค้าก็เห็น ไม่เสียเวลาเข้าปะทะ ปูพรมระเบิดเกลี้ยง ราบเป็นหน้ากอง แม้แต่กระสุนก็ยังไม่ได้ยิง ถึงเวลาระเบิดทำลายทุ่นระเบิดมรึงให้เกลี้ยงพื้นที่ รถเคลนเคลียร์ทุนระเบิดตามแนวชายแดนมาเต็ม รออะไร? รอให้มรึงบุกก่อนไงล่ะ?

    2.โซเชี่ยลพลิกขั้ว สาวกอีส้มเน่า ปั่นใจ ถูกปั่นง่าย ก็กลับใจง่าย เพราะมันตามกระแสเป็นหลัก จุดยืนไม่ต้องถาม กูเอาความสบายใจเป็นเหตุ เลือกตั้งเลือกตามอารมณ์ สติปัญญาไม่ต้องใช้ เมื่อสู้กับกระต่าย มรึงก็ต้องทำให้กระต่ายตื่นตูมไงล่ะ กองทัพวางแม่ทัพกุ้งเดินสาย เต็มพื้นที่อีสาน จุดเปลี่ยนเกมส์การเมือง กระแสอีส้มเน่าดับวูบลงเรื่อยๆ แลนด์สไลด์เหรอ เดี๋ยวมรึงได้เจอแบบพรรคฟ้าคราวก่อน วัยรุ่น รักง่าย เบื่อเร็ว เล่นวาทะกรรมยังไงโดนย้อนศรคืนหมด อีสานตื่นกันทั้งแผ่นดิน เบื่อหน่ายกับอีขะแมร์ เพราะการเมืองไทยเป็นขี้ข้าบ่อนไงล่ะ นายทุนมันสั่ง ส่วย 100 ล้านต่อเดือน ใครจะจ่ายต่อ? ได้เวลาเด็ดหัวทหารเหี้ยจ๊ะ?

    3.E-เล็ก ยังแถไม่เลิก อย่ากระเหี้ยนกระหือรือออกหน้าซะขนาดนั้น กลัวไม่ได้ยกแผ่นดินให้อีขะแมร์เหรอ? มรึงมันหมายันลูกหลาน เค้ากาหัวมรึงทั้งประเทศ อ้างไปเหอะ หมายังรู้ อะไรที่เป็นของเรา ใยต้องแบ่งให้วุ่นวาย เป็นใครยึดคืนหมด ไม่ต้องถามต่อ? ฝากไปบอกอีลวกเพ่ใหญ่ เพ่รอง มรึงด้วย กองทัพเค้าไม่เอามรึงแล้วน่ะ จะพาลุงตู่ซวยไปด้วย กบฎนายพันมีจริง นายพลใหญ่แค่ไหน หากขายชาติ นายพันก็พร้อมปฎิวัติ ยังไง? กูไม่ทำไงล่ะ กองกำลังจริง ใครคุม ไม่ใช่มรึงน่ะ? มรึงแค่สั่ง แต่ภาคปฎิบัติการแข็งข้อ มรึงจะทำยังไง? วังไฟเขียวแล้วจ๊ะ!

    4. ‘เงินไม่รู้ที่มา’ ทะลักเข้าไทยแสนล้านบาทต่อไตรมาส มาจากไหน? ปมปัญหาที่แบงค์ชาติต้องตอบ? สาเหตุทำบาทไทยแข็งโป๊ก นอกจากปัจจัยพื้นฐาน ที่เงินเฟ้อไทยต่ำมาก ต่ำกว่าชาวโลกเค้า เพราะควบคุมกระแสเงินได้ดีช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่สิ่งอื่นที่เป็นปัจจัยเกินคาดการณ์ สิ่งนี้ อาจจะมีนัยยะซ่อนเร้นอยู่ เกมส์โลกคือตัวกำหนดทิศทางเงิน เมื่อดอลล่าร์ล่มสลาย และหลายชาติไม่มั่นใจในระบบการเงินโลกยุคเก่า แห่ไปอุ้มทอง และเงินบาทไทย เพราะมีเสถียรภาพมั่นคงมาตลอด การชำระด้วยเงินบาทไทย เป็นที่นิยมสากลโลกตอนนี้ มันมีจุดอ่อน คือกลุ่มเหี้ยบางกลุ่ม อาจใช้เงินบาทไทยเป็นตัวกลางฟอกเงินได้ในอนาคต เพราะความต้องการเงินบาทมีมากจนเกินปกติ ทุกอย่างไม่มีบังเอิญจ๊ะ

    5.แผนลับอี FED กดทองคำยับ หวังช้อนซื้อของถูก เพราะทองคำในมือไม่มี กดไว้ กูจะได้กว้านซื้อขาลงให้มันถูกหน่อย คนมีสติ อยู่ดีดี จะเอาทองคำในมือไปแลกเศษกระดาษทำไมกัน? เพราะมูลค่าในตลาดโลกว่าสูง แต่มูลค่าทองคำในตัวมันเองสูงกว่าตลาดวางไว้ 10 เท่า ยามเมื่อทองคำหมดโลก แผนนี้ไว้ล่อแมงเม่าไงล่ะ หวังฟันกำไรระยะสั้น แต่ที่ถือคือกระดาษเปล่าที่รอวันหมดสภาพ ใครว่าทอง 50000 แพงแล้ว ต่อไป 100000 มรึงจะช็อคมากกว่านี้มั้ยล่ะ? บอกไปแล้ว ทะลุ 65000 เมื่อไหร่ ก็ตัวใครตัวมัน มันเอาไม่อยู่แล้ว สภาพจริง ภาวะจริง ที่โลกต้องแย่งกันสะสมทองคำในมือให้มากที่สุด โดยเฉพาะทองคำแท่งแท้ๆ ไม่ใช่กระดาษซื้อขายล่วงหน้าแบบที่ไอ้อีตะวันตกมันทำ เพื่อเอามาปั่นดอกน่ะ

    6.เจ๊ปองรอด อีเพ่หมี ยุทธิยง รอด ศาลเมตตา ทำผิด ยอมรับผิด มูลเหตุเพื่อปวงประชา หาใช่ทำเพื่อตัวเอง คือการเสียสละ(ศาลเป็นแฟนเจ๊ปอง ดูทุกวัน จับเจ๊เข้าคุก แล้วใครจะเม้าท์ให้กูฟังกันล่ะ) ศาลมีเหตุ มีผล ไม่ใช้อาวุธ ไม่ใช้มวลชนมุ่งเป้าทำลาย นี่คือคีย์ของเหตุแห่งการอภัยลดโทษ คนดี แม้จะเข้าไปยึด เพื่อปิดปากกระบอกเสียงผู้นำขายชาติ ไม่จำเป็นต้องทำลายสถานที่ หรือทำร้ายใคร แค่ปิดการออกอากาศ ผิดจริงตามกฎหมาย เพราะบุก แต่ไม่มีอะไรเสียหาย หรือใครตาย ก็ทัณฑ์บนไว้ ยกฟ้อง อย่าทำอีกล่ะ? อีเจ๊ปองปลื้ม แต่อีเพ่หมี ยุทธิยง ต้องเดิน 14 กิโล ฮาแตกเลยมรึง? บนเอาไว้ ฟ้ามีตา อีเจ๊ปอง ไม่เอาด้วย กูขี้เกียจเดิน

    7.มันส์ล่ะมรึง! เร็วฟ้าผ่า ฟาโรห์ส่งทหาร 20000 ตั้งต้น ซาอุ ตามมา ก่อตั้งกองกำลังกำจัดยิวชั่ว คล้าย NATO อาหรับนั่นแหละ 60 ชาติทั่วโลกมาประชุมกาตาร์ เอาด้วย ประเทศมุสลิมทั้งโลกเตรียมลงแขกยิว รับไม่ได้ อียิวส่ง F-35 มาโจมตีกลุงโดฮา อ้างถล่มศูนย์บัญชาการฮามาส งานนี้ เยรูซาเล็ม เทลอาวีฟ ไฮฟา ที่เหลือแต่ซากแล้ว มรึงยังจะเอาเหี้ยอะไรมาเหลือให้ถล่มซ้ำอีก งานนี้ ฎีกา ยกพลขึ้นบก เกมส์นี้ เค้าแบ่งกันเล่น อิหร่านไม่ต้องออกหน้า อาหรับโดยมติสันนิบาตรอาหรับ นำทีมโดยฟาโรห์ ซาอุ UAE คูเวต โอมาน เตรียมรวมกำลัง จัดใหญ่ จัดหนัก แน่นอนว่า แผนการรุก ย่อมต้องมีอิหร่านวางแผนเบื้องหลัง โดยมีอิรักเป็นหน้าฉาก อาวุธเอาจากไหนกันล่ะ ระบบอาวุธสหรัฐที่มีอยู่จะไม่ได้ถูกใช้งาน เพราะมันสั่งปิดระบบได้ แต่ดอกนี้ Made in จีน อิหร่าน มาเต็มตรีน!

    8.แม่ทัพดาหน้าเสนอ "ปิด สร้าง สู้" มองข้ามหัวไอ้อีฝ่ายการเมืองทุกไอ้อี แม้แต่บูรพาสุนัข ที่ยังสั่งเด็กเห่าแต่เรื่องเปิดด่าน เจอตอกหน้าหงาย เชิญมรึงไปอยู่กับบ่อนที่รักของมรึงเลยเป็นไง? E-เล็ก อย่างหมา กองทัพไม่ให้ราคา หลังจีนสร้างชิป AI สำเร็จ ส่งเหี้ยอะไรมาให้ไทยทดลอง ไทยเราเอาหมด โอกาสงาม จะได้ใช้ก็งานนี้แหละ รหัสยิงขีปนาวุธลำกล้องขะแมร์ ที่จีนเคยมอบให้ ถูกล็อครหัสยิงไม่ได้ กลายเป็นเศษเหล็กไปแล้ว อาวุธใหม่ที่จีนมอบให้ไทย คือรุ่นอัพเกรด วงในรู้กัน ได้ผลลัพธ์ยังไงรายงานด้วย ไม่ถึง 1 เดือน เงินสำรองประเทศหมด อีขะแมร์เข้าตาจนแล้ว ชาวบ้านตกงาน อดอยากปากแห้ง พรมแดนระอุเดือด ปะทะแน่ ขอบอก

    9.ควอนตัม AI จุดจบโลกทุนนิยม เมื่อทุกอย่างควบคุมด้วยสมองกล และการประเมิน ทุกอย่างเข้าระบบเหมือนกัน วิธีการเดียวกันหมด จะทำให้ทุนนิยมผูกขาด เจ๊งในที่สุด เมื่อทุกทางเลือกเกิดขึ้นใหม่ตลอด แนวคิดปัจจุบันนี้ ที่บรรดาเจ้าสัวคิด จะใช้ไม่ได้อีก 50 ปีข้างหน้า เป็นไปได้ทั้งหมด เพราะมันจะไม่มีใครสามารถเข้ามาผูกขาดการค้าฝ่ายเดียวได้อีกต่อไป เพราะทั้งระบบเริ่มต้น ยันไปถึงปลายทาง AI จัดการให้แล้วเสร็จ โดยไม่ต้องมีสอดไส้คาราเมล โลกจะเข้าสู่การจัดระเบียบใหม่อย่างแท้จริง ตัดปัญหาที่มนุษย์เคยสร้างไว้ทั้งหมด แต่แน่นอนว่า ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ปัญหาใหม่จะเกิดตามมาแน่นอน เป็นเพราะมนุษย์อีกเช่นเคย

    10.ครม.1 เพ่นู๋ มาเต็ม เด็กฝากเพี๊ยบ แก้กฎหมายเอาตัวรอดก่อน 4 เดือนมันสั้น สร้างภาพต้องมา แก้ไขผิดให้ถูกต้องมี สายไหนก็จะเอาแต่ทางรอดตัวเอง ไม่มีใครคิดว่าไทยจะรอดยังไง? ด้านความมั่นคง เด็กเพ่ใหญ่ เพ่รอง เข้าวินชัวร์ แต่จะกล้าสวนกระแสกองทัพหรือไม่ อย่าลืมว่า กองทัพไม่ได้มีแค่ "บูรพาสุนัขน่ะจ๊ะ" สายอื่นก็จ้อง มรึงล้มเมื่อไหร่ กูข้ามทันที? ความผิด กสทช. ซุกไว้ในเกะต่อ ความผิดของอีน้ำเงินทั้งหมด จะถูกบิดเบือนให้มีทางรอด ยอมทุกอย่างเพื่อล้างมลทินไงล่ะ ดังนั้น ใครหวังว่ารัฐบาลไอ้อีหน้าไหน เข้ามาเพื่อแก้ปัญหาไทย อย่าได้หวัง ก็แค่สมบัติผลัดกันชม อะไรที่เคยเหี้ยไข่ทิ้งไว้ ก็ต้องมาชำระล้างกันภายหลัง แล้วมรึงยังจะต้องการประชาธิปไตยอีกต่อไปมั้ยล่ะ จะเลือดตั้งไปเพื่อ? ไม่มีใครจริง
    ที่ทำงานให้มรึง ไม่มีและไม่เคยมี

    ปล.สหภาพแรงงานทั้งยุโรปรวมตัว อีปารีโดนแล้ว ปิดทำการทุกอย่าง โรงเรียน ขนส่ง คมนาคม ผู้คนออกเดินถนนล่ออีมาครงทั่วประเทศ อีเบียร์ตามมาทันที และยังมีอีกหลายเมืองทั่วยุโรป คำถามคือ จะตายห่าอยู่แล้ว จะก่อสงครามไปเพื่อ? ชาวบ้านอยากได้สงครามเหรอ? จะตายเพื่อยิวเหรอ? นักการเมืองคือขี้ข้ายิวทั้งหมด ยุโรปตกเป็นของยิวมานานนับ 100 ปีแล้ว ลุงหนวดจิ๋ม ถึงได้ล้างบาง ฆ่าล้างโคตรยิวไงล่ะ? มียิวที่ไหน ความฉิบหายเกิดที่นั่น! สภาพ! แววออก เพ่นู่ คุยคุณนู๋อภิสิทธิ์ ส่งสัญญานชัด เลือกตั้งใหม่ กอดกันแน่ การเมืองคือเรื่องผลประโยชน์ทั้งนั้น นายช่วยเรา เราช่วยนาย แล้วใครจะช่วยประเทศก่อนล่ะ? ไม่รอด "สุชาติ 3 นิ้ว" โพสต์หมิ่นสถาบันฯ ถูกปลดจากศิลปินแห่งชาติโดยสมบูรณ์ ศาลฯยกฟ้องคำสั่งเพิกถอน ออกตัวแรงก่อนเลือกตั้งใหม่ รับมาเท่าไหร่จ๊ะ ถึงกล้ายอมติดคุก พรรคพวกมรึงก็รอยู่เต็มไปหมด เลือกตั้งหน้า พรรคอีส้มเน่าจองหมดทั้งคลองเปรม สรุปคุกมีไว้ขังนักการเมืองขายชาติไปแล้ว อีกไม่นาน คลองเปรม อาจกลายร่างเป็น "คฤหาสน์หรู" กลางเมืองซะงั้น เหี้ยถึงรวย เอาเงินไปเสพสุขต่อในคุกสิน่ะ ตรรกะจิตป่วยขั้นสูงสุด ทำได้ทุกอย่างเพื่อเงิน ขายตัว ขายชาติ กันเมามันส์ กลียุคมันดีอย่างงี้แหละ รู้ไส้รู้พุงกันหมดเปลือกไปเลย?

    หมี CNN(แผนที่ฝรั่งเศส ปี 1927 ยืนยันชัดเจน แหล่งพลังงานทั้งหมดคืออยู่ในไทย 100% อีบัวแก้วไม่ใช้ รัฐบาลไม่ใช้ เพราะกลัวไม่ได้ขายชาติแดร๊กจ๊ะ ยุบอีบัวแก้วไปเลยดีมั้ย? หน้าที่ไม่ทำ จ้องแต่จะขายชาติแดร๊กท่าเดียว คำถามคือ หากไทยคลั่งบ้าง อย่าร้องน่ะมรึง มันไม่จบแค่พรมแดน แต่จะกลืนมรึงทั้งหมดทั้งประเทศ ฆ่าด้วยปากท้อง ฆ่าด้วยเศรษฐกิจ ฆ่าด้วยแสนยานุภาพ ฆ่าด้วยอิทธิพลเจ้ามือโลกใหม่ มีอีก 108 1009 วิธี ที่จะขยายพื้นที่ได้จริง แค่รอเจ้าเก่าตายคาตรีนก่อน ทุกอย่าง ฝันที่เป็นจริงจะปรากฎ ดังนั้น รู้แล้วชิมิ ควรเชียร์ฝั่งใคร?)
    20 กันยายน 68
    11.11 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    20-09-68/01 : หมี CNN / BREAKING NEWS "หมีม้าด่วน ม้าเร็ว ม้าหน้ามืด" EP.22 1.เล่ห์เหลี่ยมอีขะแมร์ ป่วนภาค 1 แต่เป้าโจมตีคือภาค 2 แค้นจัดรึจ๊ะ? อยากล้างตาสิน่ะ เค้าพร้อมรองาบมรึงนานแล้ว ให้ไว ไอ้สัส! งานนี้รถถังออกจริง ปูพรมแน่ อย่าเผ่นก่อนล่ะ สูตรลูกยาวเทกระจาด ภาคพื้นเก็บกวาด หนุนเสริมด้วยขีปนาวุธจากทัพเรือ สูตรนี้ หนียังไงก็ไม่รอด? อาวุธมรึงซ่อนที่ไหนเค้ารู้หมด เอากองกำลังไปซุ่มในป่า เค้าก็เห็น ไม่เสียเวลาเข้าปะทะ ปูพรมระเบิดเกลี้ยง ราบเป็นหน้ากอง แม้แต่กระสุนก็ยังไม่ได้ยิง ถึงเวลาระเบิดทำลายทุ่นระเบิดมรึงให้เกลี้ยงพื้นที่ รถเคลนเคลียร์ทุนระเบิดตามแนวชายแดนมาเต็ม รออะไร? รอให้มรึงบุกก่อนไงล่ะ? 2.โซเชี่ยลพลิกขั้ว สาวกอีส้มเน่า ปั่นใจ ถูกปั่นง่าย ก็กลับใจง่าย เพราะมันตามกระแสเป็นหลัก จุดยืนไม่ต้องถาม กูเอาความสบายใจเป็นเหตุ เลือกตั้งเลือกตามอารมณ์ สติปัญญาไม่ต้องใช้ เมื่อสู้กับกระต่าย มรึงก็ต้องทำให้กระต่ายตื่นตูมไงล่ะ กองทัพวางแม่ทัพกุ้งเดินสาย เต็มพื้นที่อีสาน จุดเปลี่ยนเกมส์การเมือง กระแสอีส้มเน่าดับวูบลงเรื่อยๆ แลนด์สไลด์เหรอ เดี๋ยวมรึงได้เจอแบบพรรคฟ้าคราวก่อน วัยรุ่น รักง่าย เบื่อเร็ว เล่นวาทะกรรมยังไงโดนย้อนศรคืนหมด อีสานตื่นกันทั้งแผ่นดิน เบื่อหน่ายกับอีขะแมร์ เพราะการเมืองไทยเป็นขี้ข้าบ่อนไงล่ะ นายทุนมันสั่ง ส่วย 100 ล้านต่อเดือน ใครจะจ่ายต่อ? ได้เวลาเด็ดหัวทหารเหี้ยจ๊ะ? 3.E-เล็ก ยังแถไม่เลิก อย่ากระเหี้ยนกระหือรือออกหน้าซะขนาดนั้น กลัวไม่ได้ยกแผ่นดินให้อีขะแมร์เหรอ? มรึงมันหมายันลูกหลาน เค้ากาหัวมรึงทั้งประเทศ อ้างไปเหอะ หมายังรู้ อะไรที่เป็นของเรา ใยต้องแบ่งให้วุ่นวาย เป็นใครยึดคืนหมด ไม่ต้องถามต่อ? ฝากไปบอกอีลวกเพ่ใหญ่ เพ่รอง มรึงด้วย กองทัพเค้าไม่เอามรึงแล้วน่ะ จะพาลุงตู่ซวยไปด้วย กบฎนายพันมีจริง นายพลใหญ่แค่ไหน หากขายชาติ นายพันก็พร้อมปฎิวัติ ยังไง? กูไม่ทำไงล่ะ กองกำลังจริง ใครคุม ไม่ใช่มรึงน่ะ? มรึงแค่สั่ง แต่ภาคปฎิบัติการแข็งข้อ มรึงจะทำยังไง? วังไฟเขียวแล้วจ๊ะ! 4. ‘เงินไม่รู้ที่มา’ ทะลักเข้าไทยแสนล้านบาทต่อไตรมาส มาจากไหน? ปมปัญหาที่แบงค์ชาติต้องตอบ? สาเหตุทำบาทไทยแข็งโป๊ก นอกจากปัจจัยพื้นฐาน ที่เงินเฟ้อไทยต่ำมาก ต่ำกว่าชาวโลกเค้า เพราะควบคุมกระแสเงินได้ดีช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่สิ่งอื่นที่เป็นปัจจัยเกินคาดการณ์ สิ่งนี้ อาจจะมีนัยยะซ่อนเร้นอยู่ เกมส์โลกคือตัวกำหนดทิศทางเงิน เมื่อดอลล่าร์ล่มสลาย และหลายชาติไม่มั่นใจในระบบการเงินโลกยุคเก่า แห่ไปอุ้มทอง และเงินบาทไทย เพราะมีเสถียรภาพมั่นคงมาตลอด การชำระด้วยเงินบาทไทย เป็นที่นิยมสากลโลกตอนนี้ มันมีจุดอ่อน คือกลุ่มเหี้ยบางกลุ่ม อาจใช้เงินบาทไทยเป็นตัวกลางฟอกเงินได้ในอนาคต เพราะความต้องการเงินบาทมีมากจนเกินปกติ ทุกอย่างไม่มีบังเอิญจ๊ะ 5.แผนลับอี FED กดทองคำยับ หวังช้อนซื้อของถูก เพราะทองคำในมือไม่มี กดไว้ กูจะได้กว้านซื้อขาลงให้มันถูกหน่อย คนมีสติ อยู่ดีดี จะเอาทองคำในมือไปแลกเศษกระดาษทำไมกัน? เพราะมูลค่าในตลาดโลกว่าสูง แต่มูลค่าทองคำในตัวมันเองสูงกว่าตลาดวางไว้ 10 เท่า ยามเมื่อทองคำหมดโลก แผนนี้ไว้ล่อแมงเม่าไงล่ะ หวังฟันกำไรระยะสั้น แต่ที่ถือคือกระดาษเปล่าที่รอวันหมดสภาพ ใครว่าทอง 50000 แพงแล้ว ต่อไป 100000 มรึงจะช็อคมากกว่านี้มั้ยล่ะ? บอกไปแล้ว ทะลุ 65000 เมื่อไหร่ ก็ตัวใครตัวมัน มันเอาไม่อยู่แล้ว สภาพจริง ภาวะจริง ที่โลกต้องแย่งกันสะสมทองคำในมือให้มากที่สุด โดยเฉพาะทองคำแท่งแท้ๆ ไม่ใช่กระดาษซื้อขายล่วงหน้าแบบที่ไอ้อีตะวันตกมันทำ เพื่อเอามาปั่นดอกน่ะ 6.เจ๊ปองรอด อีเพ่หมี ยุทธิยง รอด ศาลเมตตา ทำผิด ยอมรับผิด มูลเหตุเพื่อปวงประชา หาใช่ทำเพื่อตัวเอง คือการเสียสละ(ศาลเป็นแฟนเจ๊ปอง ดูทุกวัน จับเจ๊เข้าคุก แล้วใครจะเม้าท์ให้กูฟังกันล่ะ) ศาลมีเหตุ มีผล ไม่ใช้อาวุธ ไม่ใช้มวลชนมุ่งเป้าทำลาย นี่คือคีย์ของเหตุแห่งการอภัยลดโทษ คนดี แม้จะเข้าไปยึด เพื่อปิดปากกระบอกเสียงผู้นำขายชาติ ไม่จำเป็นต้องทำลายสถานที่ หรือทำร้ายใคร แค่ปิดการออกอากาศ ผิดจริงตามกฎหมาย เพราะบุก แต่ไม่มีอะไรเสียหาย หรือใครตาย ก็ทัณฑ์บนไว้ ยกฟ้อง อย่าทำอีกล่ะ? อีเจ๊ปองปลื้ม แต่อีเพ่หมี ยุทธิยง ต้องเดิน 14 กิโล ฮาแตกเลยมรึง? บนเอาไว้ ฟ้ามีตา อีเจ๊ปอง ไม่เอาด้วย กูขี้เกียจเดิน 7.มันส์ล่ะมรึง! เร็วฟ้าผ่า ฟาโรห์ส่งทหาร 20000 ตั้งต้น ซาอุ ตามมา ก่อตั้งกองกำลังกำจัดยิวชั่ว คล้าย NATO อาหรับนั่นแหละ 60 ชาติทั่วโลกมาประชุมกาตาร์ เอาด้วย ประเทศมุสลิมทั้งโลกเตรียมลงแขกยิว รับไม่ได้ อียิวส่ง F-35 มาโจมตีกลุงโดฮา อ้างถล่มศูนย์บัญชาการฮามาส งานนี้ เยรูซาเล็ม เทลอาวีฟ ไฮฟา ที่เหลือแต่ซากแล้ว มรึงยังจะเอาเหี้ยอะไรมาเหลือให้ถล่มซ้ำอีก งานนี้ ฎีกา ยกพลขึ้นบก เกมส์นี้ เค้าแบ่งกันเล่น อิหร่านไม่ต้องออกหน้า อาหรับโดยมติสันนิบาตรอาหรับ นำทีมโดยฟาโรห์ ซาอุ UAE คูเวต โอมาน เตรียมรวมกำลัง จัดใหญ่ จัดหนัก แน่นอนว่า แผนการรุก ย่อมต้องมีอิหร่านวางแผนเบื้องหลัง โดยมีอิรักเป็นหน้าฉาก อาวุธเอาจากไหนกันล่ะ ระบบอาวุธสหรัฐที่มีอยู่จะไม่ได้ถูกใช้งาน เพราะมันสั่งปิดระบบได้ แต่ดอกนี้ Made in จีน อิหร่าน มาเต็มตรีน! 8.แม่ทัพดาหน้าเสนอ "ปิด สร้าง สู้" มองข้ามหัวไอ้อีฝ่ายการเมืองทุกไอ้อี แม้แต่บูรพาสุนัข ที่ยังสั่งเด็กเห่าแต่เรื่องเปิดด่าน เจอตอกหน้าหงาย เชิญมรึงไปอยู่กับบ่อนที่รักของมรึงเลยเป็นไง? E-เล็ก อย่างหมา กองทัพไม่ให้ราคา หลังจีนสร้างชิป AI สำเร็จ ส่งเหี้ยอะไรมาให้ไทยทดลอง ไทยเราเอาหมด โอกาสงาม จะได้ใช้ก็งานนี้แหละ รหัสยิงขีปนาวุธลำกล้องขะแมร์ ที่จีนเคยมอบให้ ถูกล็อครหัสยิงไม่ได้ กลายเป็นเศษเหล็กไปแล้ว อาวุธใหม่ที่จีนมอบให้ไทย คือรุ่นอัพเกรด วงในรู้กัน ได้ผลลัพธ์ยังไงรายงานด้วย ไม่ถึง 1 เดือน เงินสำรองประเทศหมด อีขะแมร์เข้าตาจนแล้ว ชาวบ้านตกงาน อดอยากปากแห้ง พรมแดนระอุเดือด ปะทะแน่ ขอบอก 9.ควอนตัม AI จุดจบโลกทุนนิยม เมื่อทุกอย่างควบคุมด้วยสมองกล และการประเมิน ทุกอย่างเข้าระบบเหมือนกัน วิธีการเดียวกันหมด จะทำให้ทุนนิยมผูกขาด เจ๊งในที่สุด เมื่อทุกทางเลือกเกิดขึ้นใหม่ตลอด แนวคิดปัจจุบันนี้ ที่บรรดาเจ้าสัวคิด จะใช้ไม่ได้อีก 50 ปีข้างหน้า เป็นไปได้ทั้งหมด เพราะมันจะไม่มีใครสามารถเข้ามาผูกขาดการค้าฝ่ายเดียวได้อีกต่อไป เพราะทั้งระบบเริ่มต้น ยันไปถึงปลายทาง AI จัดการให้แล้วเสร็จ โดยไม่ต้องมีสอดไส้คาราเมล โลกจะเข้าสู่การจัดระเบียบใหม่อย่างแท้จริง ตัดปัญหาที่มนุษย์เคยสร้างไว้ทั้งหมด แต่แน่นอนว่า ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ปัญหาใหม่จะเกิดตามมาแน่นอน เป็นเพราะมนุษย์อีกเช่นเคย 10.ครม.1 เพ่นู๋ มาเต็ม เด็กฝากเพี๊ยบ แก้กฎหมายเอาตัวรอดก่อน 4 เดือนมันสั้น สร้างภาพต้องมา แก้ไขผิดให้ถูกต้องมี สายไหนก็จะเอาแต่ทางรอดตัวเอง ไม่มีใครคิดว่าไทยจะรอดยังไง? ด้านความมั่นคง เด็กเพ่ใหญ่ เพ่รอง เข้าวินชัวร์ แต่จะกล้าสวนกระแสกองทัพหรือไม่ อย่าลืมว่า กองทัพไม่ได้มีแค่ "บูรพาสุนัขน่ะจ๊ะ" สายอื่นก็จ้อง มรึงล้มเมื่อไหร่ กูข้ามทันที? ความผิด กสทช. ซุกไว้ในเกะต่อ ความผิดของอีน้ำเงินทั้งหมด จะถูกบิดเบือนให้มีทางรอด ยอมทุกอย่างเพื่อล้างมลทินไงล่ะ ดังนั้น ใครหวังว่ารัฐบาลไอ้อีหน้าไหน เข้ามาเพื่อแก้ปัญหาไทย อย่าได้หวัง ก็แค่สมบัติผลัดกันชม อะไรที่เคยเหี้ยไข่ทิ้งไว้ ก็ต้องมาชำระล้างกันภายหลัง แล้วมรึงยังจะต้องการประชาธิปไตยอีกต่อไปมั้ยล่ะ จะเลือดตั้งไปเพื่อ? ไม่มีใครจริง ที่ทำงานให้มรึง ไม่มีและไม่เคยมี ปล.สหภาพแรงงานทั้งยุโรปรวมตัว อีปารีโดนแล้ว ปิดทำการทุกอย่าง โรงเรียน ขนส่ง คมนาคม ผู้คนออกเดินถนนล่ออีมาครงทั่วประเทศ อีเบียร์ตามมาทันที และยังมีอีกหลายเมืองทั่วยุโรป คำถามคือ จะตายห่าอยู่แล้ว จะก่อสงครามไปเพื่อ? ชาวบ้านอยากได้สงครามเหรอ? จะตายเพื่อยิวเหรอ? นักการเมืองคือขี้ข้ายิวทั้งหมด ยุโรปตกเป็นของยิวมานานนับ 100 ปีแล้ว ลุงหนวดจิ๋ม ถึงได้ล้างบาง ฆ่าล้างโคตรยิวไงล่ะ? มียิวที่ไหน ความฉิบหายเกิดที่นั่น! สภาพ! แววออก เพ่นู่ คุยคุณนู๋อภิสิทธิ์ ส่งสัญญานชัด เลือกตั้งใหม่ กอดกันแน่ การเมืองคือเรื่องผลประโยชน์ทั้งนั้น นายช่วยเรา เราช่วยนาย แล้วใครจะช่วยประเทศก่อนล่ะ? ไม่รอด "สุชาติ 3 นิ้ว" โพสต์หมิ่นสถาบันฯ ถูกปลดจากศิลปินแห่งชาติโดยสมบูรณ์ ศาลฯยกฟ้องคำสั่งเพิกถอน ออกตัวแรงก่อนเลือกตั้งใหม่ รับมาเท่าไหร่จ๊ะ ถึงกล้ายอมติดคุก พรรคพวกมรึงก็รอยู่เต็มไปหมด เลือกตั้งหน้า พรรคอีส้มเน่าจองหมดทั้งคลองเปรม สรุปคุกมีไว้ขังนักการเมืองขายชาติไปแล้ว อีกไม่นาน คลองเปรม อาจกลายร่างเป็น "คฤหาสน์หรู" กลางเมืองซะงั้น เหี้ยถึงรวย เอาเงินไปเสพสุขต่อในคุกสิน่ะ ตรรกะจิตป่วยขั้นสูงสุด ทำได้ทุกอย่างเพื่อเงิน ขายตัว ขายชาติ กันเมามันส์ กลียุคมันดีอย่างงี้แหละ รู้ไส้รู้พุงกันหมดเปลือกไปเลย? หมี CNN(แผนที่ฝรั่งเศส ปี 1927 ยืนยันชัดเจน แหล่งพลังงานทั้งหมดคืออยู่ในไทย 100% อีบัวแก้วไม่ใช้ รัฐบาลไม่ใช้ เพราะกลัวไม่ได้ขายชาติแดร๊กจ๊ะ ยุบอีบัวแก้วไปเลยดีมั้ย? หน้าที่ไม่ทำ จ้องแต่จะขายชาติแดร๊กท่าเดียว คำถามคือ หากไทยคลั่งบ้าง อย่าร้องน่ะมรึง มันไม่จบแค่พรมแดน แต่จะกลืนมรึงทั้งหมดทั้งประเทศ ฆ่าด้วยปากท้อง ฆ่าด้วยเศรษฐกิจ ฆ่าด้วยแสนยานุภาพ ฆ่าด้วยอิทธิพลเจ้ามือโลกใหม่ มีอีก 108 1009 วิธี ที่จะขยายพื้นที่ได้จริง แค่รอเจ้าเก่าตายคาตรีนก่อน ทุกอย่าง ฝันที่เป็นจริงจะปรากฎ ดังนั้น รู้แล้วชิมิ ควรเชียร์ฝั่งใคร?) 20 กันยายน 68 11.11 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • สังคมเงินสดได้กลับมาแล้ว เพราะเหตุนี้... (16/9/68)

    #สังคมเงินสด
    #หมดศรัทธาเงินดิจิทัล
    #เศรษฐกิจไทย
    #กระเป๋าเงินสด
    #เงินเฟ้อ
    #ข่าววันนี้
    #News1short
    #ThaiTimes
    #TruthFromThailand
    #CambodiaNoCeasefire
    #Hunsenfiredfirst
    #scambodia
    #news1
    #shorts
    สังคมเงินสดได้กลับมาแล้ว เพราะเหตุนี้... (16/9/68) #สังคมเงินสด #หมดศรัทธาเงินดิจิทัล #เศรษฐกิจไทย #กระเป๋าเงินสด #เงินเฟ้อ #ข่าววันนี้ #News1short #ThaiTimes #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #Hunsenfiredfirst #scambodia #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รัฐบาลนี้คนไทยก็ไร้ความหวัง "ประเทศไทยอาจมีสภาพเหมือนอินโดนีเซีย ประชาชนสุดจะทนกับนักการเมืองแล้ว...ผลประโยชน์ฯลฯ#นักการเมืองเราจะมีไว้ทำไม?"ประเทศมีสงคราม ประชาชนกับทหารช่วยกัน น้ำท่วมทหาร&กลุ่มอาสาฯลฯช่วยกัน ไม่มีนักการเมืองหน้าไหนเลยออกมาช่วยเหลือประชาชน"ทหารเขาก็เป็นประชาชนคนหนึ่งเหมือนกันเดินแช่น้ำเป็นวันๆจนเท้าเลือดออก เป็นเบาหวานเท้าเป็นแผลอาจสูญเสียขาได้เหมือนกัน "มีไหมพวกที่ชอบอ้าง'ปชช.11/14ล้านเสียง. ที่เลือกพวกคุณเข้าไปรับเงินเดือนกันเป็นแสน ค่าอาหารวันละ1พันบาท.ค่ายานพาหนะฟรีฯลฯ ออกมาช่วยประชาชนบ้างไหม ชายแดนคนไทยตายไม่มีใครสักคนออกมาประนามกัมพูชาเรื่องมนุษยธรรม ยิงใส่บ้านเรือนคนอพยพเป็นแสนมองไม่เห็น "ทหารกัมพูชาฆ่าคนไทยบอกต้องรับมารักษา เด็กกัมพูชาเหยียบธงชาติไทยบอกต้องให้สิทธิได้เรียนอ้างสิทธิสารพัด บล่าๆๆ🗣#กับคนไทยด้วยกับเงียบกริปมองไม่เห็น #เราขออยู่แบบไม่มีนักการเมืองดีกว่า ชายแดนไทย-เขมร "จะทำกำแพงล้อมรั้วลวดหนามคัดค้านกันจังทำไม??มันมีผลประโยชน์อะไรนักหรือ เพื่อนบ้านเลวกั้นรั้วถาวรไปเลยดีแล้วไว้ใจไม่ได้ ต่างคนต่างอยู่ถ้าจะเข้ามาก็ต้องมีหนังสือเข้าออกตามกฎหมาย ขนาดคุณวีระเดินอยู่บนแผ่นดินไทยยังโดนจับไปขังคุกตั้งหลายปีบรรพบุรุษเราสอนไว้แล้วว่าอย่าไว้ใจ"พวกละแวกมันชอบหักหลัง"ดูซิจีนช่วยหักหลังจีนไปจับมือเมกา..คนแบบนี้คบได้หรือ?"มีแต่ขอๆๆแต่ประเทศไม่ได้พัฒนาไปไหนเลย ผู้นำรวยมหาศาลประชาชนยากจนเข็นใจ แค่ห้องน้ำยังไม่มีคนต้องฉี่ใส่กำแพงวังอนาถแท้ๆประชาชนเขาถูกสอนฝังหัวในแบบเรียนเลยว่า"เสียม(สยาม)รุกรานปล้นสมบัติเขามา คนอยู่ในประเทศถูกปิดหูปิดตาก็พอเข้าใจได้ แต่เขมรนอกประเทศที่สามารถค้นคว้าหาข้อมูลที่แท้จริงได้ก็เปล่า เป็นเหมือนกันหมดฝังหัวข้อมูลเท็จกันมานาน#เราอย่าทิ้งมรดกบาปไว้ให้ลูกหลานต้องมารบฆ่าฟันกันในภายภาคหน้าเลย#เงินทองจะเอาไปไหนนักหนา #เกียรติยศศักดิ์ศรีเงินซื้อไม่ได้นะแม่ทัพภาค2พูดน่ะถูกต้องแล้ววันหนึ่งกินไม่ถึง300บ.ชีวิตก็นับถอยหลังแล้วที่มีก็พอแล้ว.."นกม.ไม่เคยพออุดมการณ์มันไม่เคยมีอยู่จริงอาสามารับใช้ชาติปากเป็นมัน"#หนูมีเล็กน้อยหนูก็บริจาคช่วยซื้อแอนตี้โดรนตามกำลังเพื่อเชฟชีวิตทหารๆของเรา ถ้าจะล้อมรั้วทำกำแพงก็จะร่วมบริจาค ต่อให้ไม่มีก็จะขายทองให้เลย ไม่มีแผ่นดินเราก็ไม่มีชีวิตหรอก""นกม.อย่าให้ประชาชนสุดทนจะเป็นแบบอินโดนีเซียๆดีนะทหารเขาอยู่ข้างประชาชน"ตอนนี้เงินเฟ้อข้าวของแพงไปหมด ถ้าอเมริกาล้มไทยมีผลกระทบแน่ไทยเราก็ถือเงินดอลล่าร์ไว้เยอะซะด้วย"พิมพ์เงินเป็นว่าเล่นเลยๆจะเป็นกระดาษเปล่าๆไร้ค่าแบบเวเนฯเงินตกเกลื่อนถนนคนยังไม่เก็บเลยเวเนฯทำงานทั้งวันซื้อใข่แพงเดียวยังไม่ได้เลย กาแฟแก้วละ6,000บาท."ไทยกินกาแฟเอสแก้วล่ะ45-50บ.ยังได้อยู่#คนอินโดนีเซียสุดยอดจริงๆบุกเข้าไปถึงในบ้านนักการเมืองเลย
    รัฐบาลนี้คนไทยก็ไร้ความหวัง "ประเทศไทยอาจมีสภาพเหมือนอินโดนีเซีย ประชาชนสุดจะทนกับนักการเมืองแล้ว🤚📣...ผลประโยชน์ฯลฯ#นักการเมืองเราจะมีไว้ทำไม?"ประเทศมีสงคราม ประชาชนกับทหารช่วยกัน น้ำท่วมทหาร&กลุ่มอาสาฯลฯช่วยกัน ไม่มีนักการเมืองหน้าไหนเลยออกมาช่วยเหลือประชาชน"ทหารเขาก็เป็นประชาชนคนหนึ่งเหมือนกันเดินแช่น้ำเป็นวันๆจนเท้าเลือดออก เป็นเบาหวานเท้าเป็นแผลอาจสูญเสียขาได้เหมือนกัน "มีไหมพวกที่ชอบอ้าง'ปชช.11/14ล้านเสียง. ที่เลือกพวกคุณเข้าไปรับเงินเดือนกันเป็นแสน ค่าอาหารวันละ1พันบาท.ค่ายานพาหนะฟรีฯลฯ ออกมาช่วยประชาชนบ้างไหม ชายแดนคนไทยตายไม่มีใครสักคนออกมาประนามกัมพูชาเรื่องมนุษยธรรม ยิงใส่บ้านเรือนคนอพยพเป็นแสนมองไม่เห็น "ทหารกัมพูชาฆ่าคนไทยบอกต้องรับมารักษา เด็กกัมพูชาเหยียบธงชาติไทยบอกต้องให้สิทธิได้เรียนอ้างสิทธิสารพัด บล่าๆๆ🗣#กับคนไทยด้วยกับเงียบกริป🙊🙉🙈มองไม่เห็น #เราขออยู่แบบไม่มีนักการเมืองดีกว่า ชายแดนไทย-เขมร "จะทำกำแพงล้อมรั้วลวดหนามคัดค้านกันจังทำไม??มันมีผลประโยชน์อะไรนักหรือ เพื่อนบ้านเลวกั้นรั้วถาวรไปเลยดีแล้วไว้ใจไม่ได้ ต่างคนต่างอยู่ถ้าจะเข้ามาก็ต้องมีหนังสือเข้าออกตามกฎหมาย ขนาดคุณวีระเดินอยู่บนแผ่นดินไทยยังโดนจับไปขังคุกตั้งหลายปีบรรพบุรุษเราสอนไว้แล้วว่าอย่าไว้ใจ"พวกละแวกมันชอบหักหลัง"ดูซิจีนช่วยหักหลังจีนไปจับมือเมกา..คนแบบนี้คบได้หรือ?"มีแต่ขอๆๆแต่ประเทศไม่ได้พัฒนาไปไหนเลย ผู้นำรวยมหาศาลประชาชนยากจนเข็นใจ แค่ห้องน้ำยังไม่มีคนต้องฉี่ใส่กำแพงวังอนาถแท้ๆประชาชนเขาถูกสอนฝังหัวในแบบเรียนเลยว่า"เสียม(สยาม)รุกรานปล้นสมบัติเขามา คนอยู่ในประเทศถูกปิดหูปิดตาก็พอเข้าใจได้ แต่เขมรนอกประเทศที่สามารถค้นคว้าหาข้อมูลที่แท้จริงได้ก็เปล่า เป็นเหมือนกันหมดฝังหัวข้อมูลเท็จกันมานาน#เราอย่าทิ้งมรดกบาปไว้ให้ลูกหลานต้องมารบฆ่าฟันกันในภายภาคหน้าเลย#เงินทองจะเอาไปไหนนักหนา #เกียรติยศศักดิ์ศรีเงินซื้อไม่ได้นะแม่ทัพภาค2พูดน่ะถูกต้องแล้ววันหนึ่งกินไม่ถึง300บ.ชีวิตก็นับถอยหลังแล้วที่มีก็พอแล้ว.."นกม.ไม่เคยพออุดมการณ์มันไม่เคยมีอยู่จริงอาสามารับใช้ชาติปากเป็นมัน"#หนูมีเล็กน้อยหนูก็บริจาคช่วยซื้อแอนตี้โดรนตามกำลังเพื่อเชฟชีวิตทหารๆของเรา ถ้าจะล้อมรั้วทำกำแพงก็จะร่วมบริจาค ต่อให้ไม่มีก็จะขายทองให้เลย ไม่มีแผ่นดินเราก็ไม่มีชีวิตหรอก""นกม.อย่าให้ประชาชนสุดทนจะเป็นแบบอินโดนีเซียๆดีนะทหารเขาอยู่ข้างประชาชน"ตอนนี้เงินเฟ้อข้าวของแพงไปหมด ถ้าอเมริกาล้มไทยมีผลกระทบแน่ไทยเราก็ถือเงินดอลล่าร์ไว้เยอะซะด้วย"พิมพ์เงินเป็นว่าเล่นเลยๆจะเป็นกระดาษเปล่าๆไร้ค่าแบบเวเนฯเงินตกเกลื่อนถนนคนยังไม่เก็บเลยเวเนฯทำงานทั้งวันซื้อใข่แพงเดียวยังไม่ได้เลย กาแฟแก้วละ6,000บาท."ไทยกินกาแฟเอสแก้วล่ะ45-50บ.ยังได้อยู่#คนอินโดนีเซียสุดยอดจริงๆบุกเข้าไปถึงในบ้านนักการเมืองเลย
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก USDT: เมื่อเงินเดือนไม่ต้องผ่านธนาคาร และไม่ต้องกลัวค่าเงินตก

    ในหลายประเทศที่เงินเฟ้อพุ่งสูง ธนาคารล่าช้า หรือระบบการโอนเงินข้ามประเทศเต็มไปด้วยค่าธรรมเนียม—คนทำงานเริ่มหันมาใช้ USDT (Tether) ซึ่งเป็น stablecoin ที่ผูกกับมูลค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแบบ 1:1 เพื่อรับเงินเดือนโดยตรงผ่าน blockchain

    USDT ไม่ใช่เหรียญเก็งกำไรแบบ Bitcoin แต่เป็น “เงินดิจิทัลที่นิ่ง” ซึ่งช่วยให้ผู้รับเงินไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเงินท้องถิ่นที่อ่อนตัว หรือการรอเงินโอนข้ามประเทศหลายวัน โดยเฉพาะในประเทศอย่างอาร์เจนตินา ตุรกี และไนจีเรีย ที่ผู้คนยอมจ่ายพรีเมียม 20–30% เพื่อถือ stablecoin แทนเงินสด

    สำหรับบริษัทที่มีทีมงานกระจายทั่วโลก USDT ช่วยลดภาระด้าน conversion, ค่าธรรมเนียม, และเวลาการโอนเงิน โดยสามารถส่งเงินผ่านเครือข่าย TRC-20 (Tron) ได้ในไม่กี่วินาที ด้วยค่าธรรมเนียมเพียงไม่กี่เซ็นต์

    แต่การใช้ USDT ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป—ต้องมี wallet ที่ปลอดภัย, เข้าใจภาษีในแต่ละประเทศ, และมีแผนการแปลงกลับเป็นเงินสดเมื่อจำเป็น เพราะในหลายประเทศยังไม่มีข้อกฎหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการจ่ายเงินเดือนด้วย stablecoin

    ข้อดีของการรับเงินเดือนเป็น USDT
    มูลค่าเสถียร ผูกกับดอลลาร์สหรัฐแบบ 1:1
    โอนเงินข้ามประเทศได้เร็วและถูกกว่าธนาคาร
    ไม่ต้องพึ่งระบบธนาคารในประเทศที่ล่าช้า หรือมีข้อจำกัด

    การใช้งานจริงในประเทศที่มีปัญหาเศรษฐกิจ
    อาร์เจนตินาและตุรกีใช้ USDT เพื่อหลีกเลี่ยงเงินเฟ้อ
    ไนจีเรียใช้ stablecoin สำหรับการโอนเงินและจ่ายเงินเดือน
    ผู้ใช้ยอมจ่ายพรีเมียมเพื่อถือ “ดอลลาร์ดิจิทัล” แทนเงินสด

    เครือข่ายที่นิยมใช้สำหรับการโอน USDT
    TRC-20 (Tron): เร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ
    ERC-20 (Ethereum): ปลอดภัยแต่ค่าธรรมเนียมสูง
    BEP-20 (BNB), Solana, Polygon: ทางเลือกที่สมดุลระหว่างความเร็วและต้นทุน

    การใช้งานในฝั่งบริษัท
    ลดต้นทุนการโอนเงินข้ามประเทศ
    จ่ายเงินให้ทีมงานระยะไกลได้ง่ายขึ้น
    ใช้ USDT เป็นโบนัสหรือส่วนเสริมจากเงินเดือนหลักเพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมาย

    https://hackread.com/why-users-businesses-choosing-usdt-local-currency/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก USDT: เมื่อเงินเดือนไม่ต้องผ่านธนาคาร และไม่ต้องกลัวค่าเงินตก ในหลายประเทศที่เงินเฟ้อพุ่งสูง ธนาคารล่าช้า หรือระบบการโอนเงินข้ามประเทศเต็มไปด้วยค่าธรรมเนียม—คนทำงานเริ่มหันมาใช้ USDT (Tether) ซึ่งเป็น stablecoin ที่ผูกกับมูลค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแบบ 1:1 เพื่อรับเงินเดือนโดยตรงผ่าน blockchain USDT ไม่ใช่เหรียญเก็งกำไรแบบ Bitcoin แต่เป็น “เงินดิจิทัลที่นิ่ง” ซึ่งช่วยให้ผู้รับเงินไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเงินท้องถิ่นที่อ่อนตัว หรือการรอเงินโอนข้ามประเทศหลายวัน โดยเฉพาะในประเทศอย่างอาร์เจนตินา ตุรกี และไนจีเรีย ที่ผู้คนยอมจ่ายพรีเมียม 20–30% เพื่อถือ stablecoin แทนเงินสด สำหรับบริษัทที่มีทีมงานกระจายทั่วโลก USDT ช่วยลดภาระด้าน conversion, ค่าธรรมเนียม, และเวลาการโอนเงิน โดยสามารถส่งเงินผ่านเครือข่าย TRC-20 (Tron) ได้ในไม่กี่วินาที ด้วยค่าธรรมเนียมเพียงไม่กี่เซ็นต์ แต่การใช้ USDT ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป—ต้องมี wallet ที่ปลอดภัย, เข้าใจภาษีในแต่ละประเทศ, และมีแผนการแปลงกลับเป็นเงินสดเมื่อจำเป็น เพราะในหลายประเทศยังไม่มีข้อกฎหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการจ่ายเงินเดือนด้วย stablecoin ✅ ข้อดีของการรับเงินเดือนเป็น USDT ➡️ มูลค่าเสถียร ผูกกับดอลลาร์สหรัฐแบบ 1:1 ➡️ โอนเงินข้ามประเทศได้เร็วและถูกกว่าธนาคาร ➡️ ไม่ต้องพึ่งระบบธนาคารในประเทศที่ล่าช้า หรือมีข้อจำกัด ✅ การใช้งานจริงในประเทศที่มีปัญหาเศรษฐกิจ ➡️ อาร์เจนตินาและตุรกีใช้ USDT เพื่อหลีกเลี่ยงเงินเฟ้อ ➡️ ไนจีเรียใช้ stablecoin สำหรับการโอนเงินและจ่ายเงินเดือน ➡️ ผู้ใช้ยอมจ่ายพรีเมียมเพื่อถือ “ดอลลาร์ดิจิทัล” แทนเงินสด ✅ เครือข่ายที่นิยมใช้สำหรับการโอน USDT ➡️ TRC-20 (Tron): เร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ ➡️ ERC-20 (Ethereum): ปลอดภัยแต่ค่าธรรมเนียมสูง ➡️ BEP-20 (BNB), Solana, Polygon: ทางเลือกที่สมดุลระหว่างความเร็วและต้นทุน ✅ การใช้งานในฝั่งบริษัท ➡️ ลดต้นทุนการโอนเงินข้ามประเทศ ➡️ จ่ายเงินให้ทีมงานระยะไกลได้ง่ายขึ้น ➡️ ใช้ USDT เป็นโบนัสหรือส่วนเสริมจากเงินเดือนหลักเพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมาย https://hackread.com/why-users-businesses-choosing-usdt-local-currency/
    HACKREAD.COM
    Why Users and Businesses Are Choosing to Get Paid in USDT Instead of Local Currency
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • แรงงานกัมพูชาถูกบีบหนัก ค่าแรงขั้นต่ำไม่พอเลี้ยงชีพ ท่ามกลางเงินเฟ้อ-หนี้ท่วม ขณะที่สหภาพแรงงานเร่งจี้ปรับค่าจ้างขึ้นอย่างน้อย 232 ดอลลาร์ต่อเดือน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000084106

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    แรงงานกัมพูชาถูกบีบหนัก ค่าแรงขั้นต่ำไม่พอเลี้ยงชีพ ท่ามกลางเงินเฟ้อ-หนี้ท่วม ขณะที่สหภาพแรงงานเร่งจี้ปรับค่าจ้างขึ้นอย่างน้อย 232 ดอลลาร์ต่อเดือน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000084106 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 664 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ”
    ภาคสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน
    ตอนที่ 24 : สร้างกับดัก
    จากเหตุการณ์ไล่ Shah ออกไป การประท้วงรุนแรงลุกลาม ราคาน้ำมันโลกก็พุ่งกระฉูดอีกรอบ เหมือนปี ค.ศ. 1973 แต่อเมริกาแก้ภาวะวิกฤติในรูปแบบใหม่ โดยคำกระซิบของนายเหนือ David Rockefeller และเหล่าสถาบันการเงินผู้ทรงอิทธิพลและ Wall Street บอกให้นาย Paul Volcker ซึ่งเป็นประธาน Fed ขณะนั้น “จัดการ” ขึ้นดอกเบี้ย เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ แน่นอนโลกการเงินย่อมมึนเหมือนโดนตีหัว มันไปเอาวิธีแก้เงินเฟ้อ แบบนี้มาจากตำราไหนวะ ทำไมนาย Volcker ถึงได้ตัดสินใจแบบนี้ โปรดอย่าลืมว่านาย Volcker เป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งของ Trillateral Commission ของพวกโคตรรวย (ถ้าลืมช่วยกลับไปอ่าน ตอน 4 นะครับ)
    มารู้ประวัติเขาสักนิด นาย Volcker เริ่มต้นเป็นเศรษฐกร ตัวเล็ก ๆ ที่ New York Federal Reserve Bank ช่วงปี ค.ศ. 1950 ต้น ๆ หลังทำงานอยู่ประมาณ 5 ปี นาย David Rockefeller ก็บังเอิญเดินเลี้ยวไปเจอ เลยชวนให้มาทำงานที่ Chase Bank ของพรรคโคตรรวย หลังจากนั้นก็หนุนให้นาย Volcker เป็นผู้ช่วยกรรมาธิการด้านการเงิน และเป็นที่ปรึกษาอยู่ที่กระทรวงการคลังของอเมริกา (เขาสั่งได้จริง ๆ !) ปี ค.ศ. 1965 ก็กลับมาอยู่ที่ Chase กับนาย David ในฐานะผู้ช่วย คราวนี้มาดูแลด้านธุรกิจ ตปท. ให้ เมื่อ Nixon เป็นประธานาธิบดี ฟ้าก็ส่งให้นาย Volcker ขึ้นเป็นใหญ่ ลำดับ 3 ของกระทรวงการคลัง และทำให้เขามีส่วนที่ช่วย “ดำเนินการ” ให้มีการยกเลิกข้อตกลง Bretton Woods ที่ตัดเชือกผูกระหว่างเงินดอลล่าร์กับทองคำ ปี ค.ศ. 1973 เขาได้รับการชวนให้เป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งของ Trillateral Commission และปี ค.ศ. 1975 เขาก็ได้เป็นประธานของ New York Federal Reserve Bank สาขาที่ทรงอำนาจที่สุดใน 12 สาขา ของ Fed
    ในปี ค.ศ. 1979 ประธานาธิบดี Carter ถูกกระซิบ (อีกแล้ว) ให้ตั้งนาย Arthur Miller ซึ่งเป็นประธานของ Fed ขณะนั้น ให้ไปดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง ตำแหน่งประธาน Fed ก็เลยว่าง แน่นอน ราชรถมาเกยที่นาย Volcker การชักใยจึงทำได้สะดวกโยธิน ตามแผนของนักเล่นกล
    ปรกติอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระหว่างประเทศ จะอยู่ที่ประมาณ 2% ต่อปี แต่จากเหตุวิกฤติเรื่องราคาน้ำมันพุ่ง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ขึ้นจาก 2% ในช่วงปี ค.ศ. 1970 เป็น 18% ในช่วงปี ค.ศ. 1980 ผู้ที่รับผลกระทบดอกเบี้ยขึ้นสูงนี้ คือ ประเทศที่กำลังพัฒนา หรือประเทศในโลกที่ 3
    ประเทศที่กำลังพัฒนา เช่น Mexico, Brazil, Venezuela, Argentina และหลายประเทศใน อาฟริกา ซึ่งเพิ่งได้รับเอกราชมาจากอังกฤษ ช่วงปี ค.ศ. 1950 และหลายประเทศในแถบเอเซีย ประเทศเหล่านี้มีน้ำมัน แต่ยังต้องพึ่งพาเงินกู้จากต่างประเทศ เพราะกำลังตั้งตัว เพื่อมาพัฒนาประเทศ เพื่อจะให้มีเศรษฐกิจใกล้เคียงหรือตามทันประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่เมื่อเกิดภาวะวิกฤติน้ำมันบวกกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ดอกเบี้ยที่ประเทศพวกนี้ ต้องจ่ายให้เจ้าหนี้ถึงกับท่วมเงินต้น แล้วมันจะไปอยู่รอดได้อย่างไร
    แล้วก็มีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยประเทศลูกหนี้เหล่านี้ คงเดากันออก พระเอกใส่เสื้อคลุมยี่ห้อ IMF, World Bank ซึ่งรีบออกโปรแกรมใหม่ เรียกว่า “SAP” (ไปถามอ้ายน้อยดูแล้วกัน ตอนวิกฤติ ต้มยำกุ้งบ้านเรา เราได้ SAP ไปแค่ไหน) คือ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้นั่นแหละ (Structural Adjustment Programs) SAPs มาพร้อมกับเงื่อนไข 508ประการ (ช่วยกลับไปอ่านจิกโก๋ปากซอย ตอน 14/2 นะครับ ขี้เกียจเขียนซ้ำ เขียนซ้ำก็ช้ำใจซ้ำ !) หลาย ๆ เงื่อนไขที่ SAPs วางแทบจะไม่เป็น เงื่อนไขเกี่ยวกับเงินกู้เลย บางครั้งเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า และที่แย่บางครั้ง เป็นเรื่องกระทบอธิปไตยของประเทศผู้กู้เสียด้วย ผลจากการปฏิบัติการของคุณ SAPs ทำให้ประเทศของโลกที่สาม หรือที่กำลังพัฒนา หยุดการพัฒนาไปโดยปริยาย
    ตั้งแต่ ค.ศ. 1980 ถึงหลัง ค.ศ. 1990 แต่ก็ยังมีหนี้ท่วมอยู่ ประเทศเหล่านี้ไม่มีทางเลือก เพื่อความอยู่รอดของประเทศ ต้องยอมเปิดประตูให้ผู้ให้กู้ตปท. นักธุรกิจตปท.เข้ามาทึ้งสมบัติในประเทศ
    นี่คือรูปแบบของการล่าอาณานิคมยุคใหม่ ที่ไม่ต้องใช้อาวุธยิงถล่มบ้านเมืองให้พังพินาศ แต่ใช้อาวุธทางการเงินที่เราขวนขวาย แสวงหา และตะกายทำตามเพราะนึกว่าจะทำให้เรากลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างเขา หารู้ไม่ว่าเครื่องมือและกลไกทางการเงินต่าง ๆ นั้น คือ “กับดัก” สมันน้อยชาติต่าง ๆ ก็พากันเดินเข้าไปสู่กับดักอย่างไม่รู้ตัว ถ้าไม่รู้จักเดินเลี่ยงจากกับดัก หรือหาทางแกะกับดักนี้ให้ออก มันจะกลายเป็นสิ่งที่นำพาให้สมันน้อย ไม่มีอะไรเหลือในประเทศ หรือถึงขั้น อาจไม่เหลือประเทศอยู่ และทั้งหมดที่นักมายากลเขาสร้าง เครื่องมือต่าง ๆ มาดักสมันน้อย ก็เพื่อช่วงชิงน้ำมันและแสดงให้โลกเห็นว่า ใครคือผู้มีอำนาจครองโลกที่แท้จริง นี่คือการแสดงมายากลระดับตั๋วราคาโคตรแพง ! ! !


    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ” ภาคสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน ตอนที่ 24 : สร้างกับดัก จากเหตุการณ์ไล่ Shah ออกไป การประท้วงรุนแรงลุกลาม ราคาน้ำมันโลกก็พุ่งกระฉูดอีกรอบ เหมือนปี ค.ศ. 1973 แต่อเมริกาแก้ภาวะวิกฤติในรูปแบบใหม่ โดยคำกระซิบของนายเหนือ David Rockefeller และเหล่าสถาบันการเงินผู้ทรงอิทธิพลและ Wall Street บอกให้นาย Paul Volcker ซึ่งเป็นประธาน Fed ขณะนั้น “จัดการ” ขึ้นดอกเบี้ย เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ แน่นอนโลกการเงินย่อมมึนเหมือนโดนตีหัว มันไปเอาวิธีแก้เงินเฟ้อ แบบนี้มาจากตำราไหนวะ ทำไมนาย Volcker ถึงได้ตัดสินใจแบบนี้ โปรดอย่าลืมว่านาย Volcker เป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งของ Trillateral Commission ของพวกโคตรรวย (ถ้าลืมช่วยกลับไปอ่าน ตอน 4 นะครับ) มารู้ประวัติเขาสักนิด นาย Volcker เริ่มต้นเป็นเศรษฐกร ตัวเล็ก ๆ ที่ New York Federal Reserve Bank ช่วงปี ค.ศ. 1950 ต้น ๆ หลังทำงานอยู่ประมาณ 5 ปี นาย David Rockefeller ก็บังเอิญเดินเลี้ยวไปเจอ เลยชวนให้มาทำงานที่ Chase Bank ของพรรคโคตรรวย หลังจากนั้นก็หนุนให้นาย Volcker เป็นผู้ช่วยกรรมาธิการด้านการเงิน และเป็นที่ปรึกษาอยู่ที่กระทรวงการคลังของอเมริกา (เขาสั่งได้จริง ๆ !) ปี ค.ศ. 1965 ก็กลับมาอยู่ที่ Chase กับนาย David ในฐานะผู้ช่วย คราวนี้มาดูแลด้านธุรกิจ ตปท. ให้ เมื่อ Nixon เป็นประธานาธิบดี ฟ้าก็ส่งให้นาย Volcker ขึ้นเป็นใหญ่ ลำดับ 3 ของกระทรวงการคลัง และทำให้เขามีส่วนที่ช่วย “ดำเนินการ” ให้มีการยกเลิกข้อตกลง Bretton Woods ที่ตัดเชือกผูกระหว่างเงินดอลล่าร์กับทองคำ ปี ค.ศ. 1973 เขาได้รับการชวนให้เป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งของ Trillateral Commission และปี ค.ศ. 1975 เขาก็ได้เป็นประธานของ New York Federal Reserve Bank สาขาที่ทรงอำนาจที่สุดใน 12 สาขา ของ Fed ในปี ค.ศ. 1979 ประธานาธิบดี Carter ถูกกระซิบ (อีกแล้ว) ให้ตั้งนาย Arthur Miller ซึ่งเป็นประธานของ Fed ขณะนั้น ให้ไปดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง ตำแหน่งประธาน Fed ก็เลยว่าง แน่นอน ราชรถมาเกยที่นาย Volcker การชักใยจึงทำได้สะดวกโยธิน ตามแผนของนักเล่นกล ปรกติอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระหว่างประเทศ จะอยู่ที่ประมาณ 2% ต่อปี แต่จากเหตุวิกฤติเรื่องราคาน้ำมันพุ่ง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ขึ้นจาก 2% ในช่วงปี ค.ศ. 1970 เป็น 18% ในช่วงปี ค.ศ. 1980 ผู้ที่รับผลกระทบดอกเบี้ยขึ้นสูงนี้ คือ ประเทศที่กำลังพัฒนา หรือประเทศในโลกที่ 3 ประเทศที่กำลังพัฒนา เช่น Mexico, Brazil, Venezuela, Argentina และหลายประเทศใน อาฟริกา ซึ่งเพิ่งได้รับเอกราชมาจากอังกฤษ ช่วงปี ค.ศ. 1950 และหลายประเทศในแถบเอเซีย ประเทศเหล่านี้มีน้ำมัน แต่ยังต้องพึ่งพาเงินกู้จากต่างประเทศ เพราะกำลังตั้งตัว เพื่อมาพัฒนาประเทศ เพื่อจะให้มีเศรษฐกิจใกล้เคียงหรือตามทันประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่เมื่อเกิดภาวะวิกฤติน้ำมันบวกกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ดอกเบี้ยที่ประเทศพวกนี้ ต้องจ่ายให้เจ้าหนี้ถึงกับท่วมเงินต้น แล้วมันจะไปอยู่รอดได้อย่างไร แล้วก็มีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยประเทศลูกหนี้เหล่านี้ คงเดากันออก พระเอกใส่เสื้อคลุมยี่ห้อ IMF, World Bank ซึ่งรีบออกโปรแกรมใหม่ เรียกว่า “SAP” (ไปถามอ้ายน้อยดูแล้วกัน ตอนวิกฤติ ต้มยำกุ้งบ้านเรา เราได้ SAP ไปแค่ไหน) คือ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้นั่นแหละ (Structural Adjustment Programs) SAPs มาพร้อมกับเงื่อนไข 508ประการ (ช่วยกลับไปอ่านจิกโก๋ปากซอย ตอน 14/2 นะครับ ขี้เกียจเขียนซ้ำ เขียนซ้ำก็ช้ำใจซ้ำ !) หลาย ๆ เงื่อนไขที่ SAPs วางแทบจะไม่เป็น เงื่อนไขเกี่ยวกับเงินกู้เลย บางครั้งเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า และที่แย่บางครั้ง เป็นเรื่องกระทบอธิปไตยของประเทศผู้กู้เสียด้วย ผลจากการปฏิบัติการของคุณ SAPs ทำให้ประเทศของโลกที่สาม หรือที่กำลังพัฒนา หยุดการพัฒนาไปโดยปริยาย ตั้งแต่ ค.ศ. 1980 ถึงหลัง ค.ศ. 1990 แต่ก็ยังมีหนี้ท่วมอยู่ ประเทศเหล่านี้ไม่มีทางเลือก เพื่อความอยู่รอดของประเทศ ต้องยอมเปิดประตูให้ผู้ให้กู้ตปท. นักธุรกิจตปท.เข้ามาทึ้งสมบัติในประเทศ นี่คือรูปแบบของการล่าอาณานิคมยุคใหม่ ที่ไม่ต้องใช้อาวุธยิงถล่มบ้านเมืองให้พังพินาศ แต่ใช้อาวุธทางการเงินที่เราขวนขวาย แสวงหา และตะกายทำตามเพราะนึกว่าจะทำให้เรากลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างเขา หารู้ไม่ว่าเครื่องมือและกลไกทางการเงินต่าง ๆ นั้น คือ “กับดัก” สมันน้อยชาติต่าง ๆ ก็พากันเดินเข้าไปสู่กับดักอย่างไม่รู้ตัว ถ้าไม่รู้จักเดินเลี่ยงจากกับดัก หรือหาทางแกะกับดักนี้ให้ออก มันจะกลายเป็นสิ่งที่นำพาให้สมันน้อย ไม่มีอะไรเหลือในประเทศ หรือถึงขั้น อาจไม่เหลือประเทศอยู่ และทั้งหมดที่นักมายากลเขาสร้าง เครื่องมือต่าง ๆ มาดักสมันน้อย ก็เพื่อช่วงชิงน้ำมันและแสดงให้โลกเห็นว่า ใครคือผู้มีอำนาจครองโลกที่แท้จริง นี่คือการแสดงมายากลระดับตั๋วราคาโคตรแพง ! ! ! คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 0 รีวิว
  • รถไฟฟ้า LRT สายแรกในปีนัง ต้นทุนก่อสร้างพุ่ง 68%

    โครงการรถไฟฟ้ารางเบาสายมูเทียรา (LRT Mutiara Line) สายแรกบนเกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย เป็นที่วิจารณ์ว่าต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นกว่า 68% เมื่อนายแอนโทนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย กล่าวต่อที่ประชุมสรุปแผนพัฒนามาเลเซียฉบับที่ 13 เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ว่า ต้นทุนโครงการจะถูกจำกัดไว้ที่ราว 16,000-17,000 ล้านริงกิต ไม่ใช่ 10,000 ล้านริงกิต ตามที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เคยประกาศไว้ในงบประมาณปี 2024 โดยให้เหตุผลว่าขณะนั้นคาดการณ์เบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่ได้คำนึงถึงมูลค่าการบริหารจัดการโครงการ และการประเมินทางวิศวกรรม

    ต่อมาวันที่ 21 ส.ค. MRT Corp ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากรัฐบาลกลางมาเลเซียให้เป็นผู้พัฒนาโครงการชี้แจงว่า เดิมโครงการ Penang LRT สายบายัน เลปาส (Bayan Lepas) เส้นทางเกาะซิลิคอน (Silicon Island) ถึงคอมตาร์ (Komtar) เมื่อปี 2559 ประเมินไว้ที่ 10,000 ล้านริงกิต แต่ได้ขยายเส้นทางจากสถานีแมคคัลลัม (Macallum) ถึงสถานีปีนังเซ็นทรัล (Penang Sentral) ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 3,000 ล้านริงกิต อีกทั้งอ้างอิงจากข้อมูลตลาดในปี 2567 จำเป็นต้องปรับปรุงงบประมาณ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น และงานก่อสร้างเพิ่มเติม ที่แมคคัลลัมและเกาะซิลิคอน

    แต่รัฐบาลได้มอบหมายให้ควบคุมค่าใช้จ่ายให้ต่ำกว่า จากการประกวดราคา โดยสัญญาที่ 1 งานโยธาช่วงเกาะซิลิคอนถึงคอมตาร์ ระยะทาง 24 กิโลเมตร บริษัท เอสอาร์เอส คอนซอร์เตียม เป็นผู้รับจ้างก่อสร้าง ได้ปรับลดมูลค่าสัญญาจาก 8,310 ล้านริงกิต เหลือ 7,930 ล้านริงกิต ซึ่งงบประมาณ 16,800 ล้านริงกิตยังรวมถึงค่าเวนคืนที่ดิน ประเมินไว้ที่ 2 พันล้านริงกิต ส่วนที่เหลือครอบคลุมสัญญาที่ 2 งานโยธาช่วงสถานีแมคคัลลัมถึงสถานีปีนังเซ็นทรัล ศูนย์ซ่อมบำรุงที่สุไหงนิบง (Sungai Nibong) และสัญญาที่ 3 เหมาจ้างทำระบบรถไฟฟ้าแบบเบ็ดเสร็จ ยืนยันว่าไม่ใช่ควบคุมงบประมาณไม่ได้ แต่สะท้อนสภาพตลาดปัจจุบัน

    โครงการ LRT Mutiara Line มีระยะทาง 29.5 กิโลเมตร ประกอบด้วยสถานียกระดับ 21 สถานี มีสะพานข้ามทะเลความยาว 5 กิโลเมตร เชื่อมต่อระหว่างเกาะปีนังกับฝั่งแผ่นดินใหญ่ เมืองบัตเตอร์เวอร์ธ ใช้เวลาเดินทาง 49 นาที เริ่มต้นที่สถานี PSR-A (โครงการถมทะเลปีนังตอนใต้ เกาะ A) ผ่านท่าอากาศยานนานาชาติปีนัง (PEN) เขตอุตสาหกรรมเสรีบายันเลปาส อาคารคอมตาร์ และสถานีปีนังเซ็นทรัล ที่เชื่อมต่อรถทัวร์ รถไฟ ETS ไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ และรถไฟ KTM Komuter ไปปาดังเบซาร์ และอิโปห์ โดยมีเป้าหมายเปิดให้บริการในเดือน ธ.ค.2574

    #Newskit
    รถไฟฟ้า LRT สายแรกในปีนัง ต้นทุนก่อสร้างพุ่ง 68% โครงการรถไฟฟ้ารางเบาสายมูเทียรา (LRT Mutiara Line) สายแรกบนเกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย เป็นที่วิจารณ์ว่าต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นกว่า 68% เมื่อนายแอนโทนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย กล่าวต่อที่ประชุมสรุปแผนพัฒนามาเลเซียฉบับที่ 13 เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ว่า ต้นทุนโครงการจะถูกจำกัดไว้ที่ราว 16,000-17,000 ล้านริงกิต ไม่ใช่ 10,000 ล้านริงกิต ตามที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เคยประกาศไว้ในงบประมาณปี 2024 โดยให้เหตุผลว่าขณะนั้นคาดการณ์เบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่ได้คำนึงถึงมูลค่าการบริหารจัดการโครงการ และการประเมินทางวิศวกรรม ต่อมาวันที่ 21 ส.ค. MRT Corp ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากรัฐบาลกลางมาเลเซียให้เป็นผู้พัฒนาโครงการชี้แจงว่า เดิมโครงการ Penang LRT สายบายัน เลปาส (Bayan Lepas) เส้นทางเกาะซิลิคอน (Silicon Island) ถึงคอมตาร์ (Komtar) เมื่อปี 2559 ประเมินไว้ที่ 10,000 ล้านริงกิต แต่ได้ขยายเส้นทางจากสถานีแมคคัลลัม (Macallum) ถึงสถานีปีนังเซ็นทรัล (Penang Sentral) ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 3,000 ล้านริงกิต อีกทั้งอ้างอิงจากข้อมูลตลาดในปี 2567 จำเป็นต้องปรับปรุงงบประมาณ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น และงานก่อสร้างเพิ่มเติม ที่แมคคัลลัมและเกาะซิลิคอน แต่รัฐบาลได้มอบหมายให้ควบคุมค่าใช้จ่ายให้ต่ำกว่า จากการประกวดราคา โดยสัญญาที่ 1 งานโยธาช่วงเกาะซิลิคอนถึงคอมตาร์ ระยะทาง 24 กิโลเมตร บริษัท เอสอาร์เอส คอนซอร์เตียม เป็นผู้รับจ้างก่อสร้าง ได้ปรับลดมูลค่าสัญญาจาก 8,310 ล้านริงกิต เหลือ 7,930 ล้านริงกิต ซึ่งงบประมาณ 16,800 ล้านริงกิตยังรวมถึงค่าเวนคืนที่ดิน ประเมินไว้ที่ 2 พันล้านริงกิต ส่วนที่เหลือครอบคลุมสัญญาที่ 2 งานโยธาช่วงสถานีแมคคัลลัมถึงสถานีปีนังเซ็นทรัล ศูนย์ซ่อมบำรุงที่สุไหงนิบง (Sungai Nibong) และสัญญาที่ 3 เหมาจ้างทำระบบรถไฟฟ้าแบบเบ็ดเสร็จ ยืนยันว่าไม่ใช่ควบคุมงบประมาณไม่ได้ แต่สะท้อนสภาพตลาดปัจจุบัน โครงการ LRT Mutiara Line มีระยะทาง 29.5 กิโลเมตร ประกอบด้วยสถานียกระดับ 21 สถานี มีสะพานข้ามทะเลความยาว 5 กิโลเมตร เชื่อมต่อระหว่างเกาะปีนังกับฝั่งแผ่นดินใหญ่ เมืองบัตเตอร์เวอร์ธ ใช้เวลาเดินทาง 49 นาที เริ่มต้นที่สถานี PSR-A (โครงการถมทะเลปีนังตอนใต้ เกาะ A) ผ่านท่าอากาศยานนานาชาติปีนัง (PEN) เขตอุตสาหกรรมเสรีบายันเลปาส อาคารคอมตาร์ และสถานีปีนังเซ็นทรัล ที่เชื่อมต่อรถทัวร์ รถไฟ ETS ไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ และรถไฟ KTM Komuter ไปปาดังเบซาร์ และอิโปห์ โดยมีเป้าหมายเปิดให้บริการในเดือน ธ.ค.2574 #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 0 รีวิว
  • มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน นักมายากลชั้นเซียน (1)
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 12 : นักมายากลชั้นเซียน (1)
    นักมายากลชั้นเซียน พวก Rockefeller ไม่ได้เข้าไปในลาตินอเมริกา เพื่อไปขายเมล็ดพันธ์พืช GMO กับแจกถุงยางเท่านั้น แต่พวกเขาเข้าไป “ซื้อ” ด้วย
    เขาหอบกระเป๋าเงิน ที่ได้กำไรจากการขายเมล็ดพันธ์พืช เอาไปเลี้ยงนักการเมือง และทหารของหลายประเทศในแถบนั้น สร้างเด็กในคาถาอยู่หลายปี ด้วยการร่วมมืออย่างดีของหน่วยงานความมั่นคงของอเมริกา ปฏิบัติการลับเกิดขึ้นหลายครั้งในประเทศต่าง ๆ ในแถบนั้น แล้วในที่สุด เด็กสร้างของเขา ก็ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ ของหลายประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกัน
    มันเป็นการค้า ที่ทำกำไรเกินตำราบอก เอาเงินของคนในประเทศ
ซื้อประเทศนั้นเอง !
    สมันน้อยอ่านตรงนี้กันหลาย ๆ หนหน่อยนะ !
    เขารอเวลา “อันเหมาะสม” แล้วก็ ตั้งสมาคม Trilateral Commission ขึ้นมา สมาชิกสมาคมเป็นผู้ที่เขาคัดเลือกไว้ล่วงหน้าแล้วว่า จะผลักดันให้เข้าไปทำหน้าที่ในรัฐบาล ในตำแหน่งสำคัญ ๆ ตามที่เขากำกับ
    และด้วยอำนาจ อิทธิพล และเงิน เมื่อถึงเวลา เขาก็ส่งคนของเขา เข้าไปอยู่ในแวดวงการเมือง เป็นตั้งแต่ประธานาธิบดี รัฐมนตรี นักวิชาการ และสื่อ (ขี้ข้า) และกำหนดนโยบายให้ขี้ข้าเหล่านั้น ปฎิบัติตามกลยุทธที่เขาวางไว้ทั้งหมด พร้อม ๆ กัน แต่แยกกันเล่น เหมือนคนเล่นกล หลอกให้เราดูมือซ้ายที มือขวาที โดยเราไม่รู้ตัวว่ากลนั้นสร้าง
ขึ้นมาได้อย่างไร
    เวลา “อันเหมาะสม” สำหรับ การก่อตั้ง Trilateral Commission นั้น น่าสนใจมาก ในปี ค.ศ.1973 นาย David Rockefeller ซึ่งเป็นเจ้าของความคิดการตั้งสมาคมนี้ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานของ The Council on Foreign Reations (CFR) ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยงานมันสมอง (Think Tank) ให้กับรัฐบาลอเมริกัน มาตั้งแต่ประมาณปี คศ 1939
    แต่ช่วงปี ค.ศ. 1971 ขณะที่โลกกำลังบูมด้วยการอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในประเทศผู้ผลิต เช่น อเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ประเทศในอีกซีกโลกอีกหนึ่ง คือ กลุ่มประเทศที่ส่งออกน้ำมัน หรือที่เรียกว่า Organization of Petroleum Exporting Countries (OPEC) ก็เกิดอาการชักกระดุก ควบคุมกันเองไม่อยู่ พากันขึ้นราคาล่วงหน้าของน้ำมันอย่างบ้าเลือด ทำให้กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม ที่ต้องพึ่งพาน้ำมันอย่าง กลุ่ม Rockefeller และพรรคพวกในยุโรป และญี่ปุ่น ย่อมกระอักเป็นธรรมดา
    ประธานาธิบดี Nixon แก้ปัญหาด้วยการ ควบคุมราคาน้ำมันและก๊าซ ที่ผลิตและขายในประเทศ เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ แต่ผลออกมาคนละเรื่อง บรรดาพวกคุณอาค้าน้ำมัน กลับทุ่มน้ำมันเข้ามาในตลาดอเมริกา ขายในราคาแพง ในขณะที่น้ำมันที่ผลิตและขายในอเมริกา ต้องขายในราคาถูกควบคุม
    เศรษฐีเจ้าของ Standard Oil ฉุนขาด เพราะโดน OPEC ตีตลาด แต่ที่จริงแล้ว เศรษฐีก็แอบยิ้มมุมปาก เพราะคุณอาพวกราชวงศ์ซาอุกับคูเวต และพวกบริษัทน้ำมันที่เป็นของรัฐ แถวอิหร่าน อิรัค และอัลจีเรีย ไม่รู้จะทำอะไรกับดอลล่าร์ ที่ได้รับจากการขายน้ำมัน นอกจากฝากกับธนาคาร ใหญ่ ๆ ในอเมริกาและยุโรป แน่นอน Chase Manhatlon ของตระกูล Rockefeller ก็ต้องได้ส้มหล่น ใส่ด้วย
    แต่นั่นแหละนะ ของทุกอย่างมีได้ก็มีเสีย ดูด้านเดียวมันก็บื้อไปหน่อย การประกอบธุรกิจธนาคาร ได้เงินฝากมาจะให้มันนอนเฉยอยู่ในลิ้นชักได้ยังไง ธนาคารพวกนี้ก็เอาไปปล่อยต่อให้กับประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่มีน้ำมันของตัวเอง หรือมีแหล่ง แต่ยังไม่ได้ขุดขึ้นมา เพราะไม่รู้ว่าตัวว่ามี หรือ ถูกหลอกว่าบ้านยูไม่มี ไม่มี ประเทศพวกนี้ คนอ่านนิทานน่าจะเดาออกว่าคงอยู่ แถบเอเซียกับลาตินอเมริกานั้นแหละ
    แล้วทำไงล่ะ ประเทศพวกนี้ก็ไปกู้เงินจากธนาคาร ที่รับเงินค้าขายน้ำมันจากคุณอานั่นไง ทีนี้พอ OPEC ดันขึ้นราคาน้ำมันอย่างบ้าเลือด เงินเข้ามามหึมาก็จริง แต่ไอ้ที่ให้เขายืมไป มันก็ตัวแดงแก่มหึมาเหมือนกัน จริง ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาโดยตรงของรัฐบาลอเมริกา และไม่น่าจะใช่ความผิดของคุณ Nixon แก ซึ่งตอนนั้นก็หน้ามืดอยู่หลายเรื่องแล้ว แต่ก็ทำให้เศรษฐีเกิดความคิด ตามประสาคนที่โลภอยากจะเอาแต่ได้ แต่ไม่ยอมเสีย
    มันเรื่องอะไร จะทำแต่การวิจัยแนะนำรัฐบาล แล้วรัฐบาลก็ไม่ได้ทำตามที่เขาต้องการทุกเรื่อง แบบนี้มันต้อง คุมรัฐบาลให้อยู่ในกำมือไม่ดีกว่าหรือ แล้วความคิดที่จะตั้งหน่วยงานพิเศษ หรือ Trillateral จึงเกิดขึ้น และได้รวมพรรคพวกที่ทำธุรกิจน้ำมันอุตสาหกรรม และธนาคาร เข้ามาอยู่ในกระบุงเดียวกัน
    ( จริง ๆ นะ เขียนมาถึงตรงนี้ เชื่อเกือบเต็มร้อย ว่าไอ้โจรนั่น มันต้องเรียนวิธีขี้โกงระดับนโยบาย มาจากผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยจริง ๆ)
    คิดดูง่าย ๆ จากเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น แทนที่พวกเศรษฐีจะให้ธนาคารตัวเอง ให้เงินกู้กับประเทศที่กำลังพัฒนาต่อไปตามเดิม เขากลับใช้เหตุการณ์วิกฤติน้ำมันครั้งนี้ สร้างโอกาสให้พวกเขาอีกต่อ มันงกจริงๆนะ พวกเศรษฐีกลับคิดว่า ถ้าเรายกเครื่อง IMF World Bank เสียหน่อย แล้วให้องค์กรเหล่านี้เป็นเครื่องมือ รับความเสี่ยงให้กับเรา
แบบนี้เราก็มีแต่ win win solution พูดเหมือนใครหนอ !
    เขาจึงเริ่มแผนคุมสหประชาชาติ โดยการ “ซื้อเสียง”

    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน นักมายากลชั้นเซียน (1) นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ ” ตอนที่ 12 : นักมายากลชั้นเซียน (1) นักมายากลชั้นเซียน พวก Rockefeller ไม่ได้เข้าไปในลาตินอเมริกา เพื่อไปขายเมล็ดพันธ์พืช GMO กับแจกถุงยางเท่านั้น แต่พวกเขาเข้าไป “ซื้อ” ด้วย เขาหอบกระเป๋าเงิน ที่ได้กำไรจากการขายเมล็ดพันธ์พืช เอาไปเลี้ยงนักการเมือง และทหารของหลายประเทศในแถบนั้น สร้างเด็กในคาถาอยู่หลายปี ด้วยการร่วมมืออย่างดีของหน่วยงานความมั่นคงของอเมริกา ปฏิบัติการลับเกิดขึ้นหลายครั้งในประเทศต่าง ๆ ในแถบนั้น แล้วในที่สุด เด็กสร้างของเขา ก็ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ ของหลายประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกัน มันเป็นการค้า ที่ทำกำไรเกินตำราบอก เอาเงินของคนในประเทศ
ซื้อประเทศนั้นเอง ! สมันน้อยอ่านตรงนี้กันหลาย ๆ หนหน่อยนะ ! เขารอเวลา “อันเหมาะสม” แล้วก็ ตั้งสมาคม Trilateral Commission ขึ้นมา สมาชิกสมาคมเป็นผู้ที่เขาคัดเลือกไว้ล่วงหน้าแล้วว่า จะผลักดันให้เข้าไปทำหน้าที่ในรัฐบาล ในตำแหน่งสำคัญ ๆ ตามที่เขากำกับ และด้วยอำนาจ อิทธิพล และเงิน เมื่อถึงเวลา เขาก็ส่งคนของเขา เข้าไปอยู่ในแวดวงการเมือง เป็นตั้งแต่ประธานาธิบดี รัฐมนตรี นักวิชาการ และสื่อ (ขี้ข้า) และกำหนดนโยบายให้ขี้ข้าเหล่านั้น ปฎิบัติตามกลยุทธที่เขาวางไว้ทั้งหมด พร้อม ๆ กัน แต่แยกกันเล่น เหมือนคนเล่นกล หลอกให้เราดูมือซ้ายที มือขวาที โดยเราไม่รู้ตัวว่ากลนั้นสร้าง
ขึ้นมาได้อย่างไร เวลา “อันเหมาะสม” สำหรับ การก่อตั้ง Trilateral Commission นั้น น่าสนใจมาก ในปี ค.ศ.1973 นาย David Rockefeller ซึ่งเป็นเจ้าของความคิดการตั้งสมาคมนี้ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานของ The Council on Foreign Reations (CFR) ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยงานมันสมอง (Think Tank) ให้กับรัฐบาลอเมริกัน มาตั้งแต่ประมาณปี คศ 1939 แต่ช่วงปี ค.ศ. 1971 ขณะที่โลกกำลังบูมด้วยการอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในประเทศผู้ผลิต เช่น อเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ประเทศในอีกซีกโลกอีกหนึ่ง คือ กลุ่มประเทศที่ส่งออกน้ำมัน หรือที่เรียกว่า Organization of Petroleum Exporting Countries (OPEC) ก็เกิดอาการชักกระดุก ควบคุมกันเองไม่อยู่ พากันขึ้นราคาล่วงหน้าของน้ำมันอย่างบ้าเลือด ทำให้กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม ที่ต้องพึ่งพาน้ำมันอย่าง กลุ่ม Rockefeller และพรรคพวกในยุโรป และญี่ปุ่น ย่อมกระอักเป็นธรรมดา ประธานาธิบดี Nixon แก้ปัญหาด้วยการ ควบคุมราคาน้ำมันและก๊าซ ที่ผลิตและขายในประเทศ เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ แต่ผลออกมาคนละเรื่อง บรรดาพวกคุณอาค้าน้ำมัน กลับทุ่มน้ำมันเข้ามาในตลาดอเมริกา ขายในราคาแพง ในขณะที่น้ำมันที่ผลิตและขายในอเมริกา ต้องขายในราคาถูกควบคุม เศรษฐีเจ้าของ Standard Oil ฉุนขาด เพราะโดน OPEC ตีตลาด แต่ที่จริงแล้ว เศรษฐีก็แอบยิ้มมุมปาก เพราะคุณอาพวกราชวงศ์ซาอุกับคูเวต และพวกบริษัทน้ำมันที่เป็นของรัฐ แถวอิหร่าน อิรัค และอัลจีเรีย ไม่รู้จะทำอะไรกับดอลล่าร์ ที่ได้รับจากการขายน้ำมัน นอกจากฝากกับธนาคาร ใหญ่ ๆ ในอเมริกาและยุโรป แน่นอน Chase Manhatlon ของตระกูล Rockefeller ก็ต้องได้ส้มหล่น ใส่ด้วย แต่นั่นแหละนะ ของทุกอย่างมีได้ก็มีเสีย ดูด้านเดียวมันก็บื้อไปหน่อย การประกอบธุรกิจธนาคาร ได้เงินฝากมาจะให้มันนอนเฉยอยู่ในลิ้นชักได้ยังไง ธนาคารพวกนี้ก็เอาไปปล่อยต่อให้กับประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่มีน้ำมันของตัวเอง หรือมีแหล่ง แต่ยังไม่ได้ขุดขึ้นมา เพราะไม่รู้ว่าตัวว่ามี หรือ ถูกหลอกว่าบ้านยูไม่มี ไม่มี ประเทศพวกนี้ คนอ่านนิทานน่าจะเดาออกว่าคงอยู่ แถบเอเซียกับลาตินอเมริกานั้นแหละ แล้วทำไงล่ะ ประเทศพวกนี้ก็ไปกู้เงินจากธนาคาร ที่รับเงินค้าขายน้ำมันจากคุณอานั่นไง ทีนี้พอ OPEC ดันขึ้นราคาน้ำมันอย่างบ้าเลือด เงินเข้ามามหึมาก็จริง แต่ไอ้ที่ให้เขายืมไป มันก็ตัวแดงแก่มหึมาเหมือนกัน จริง ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาโดยตรงของรัฐบาลอเมริกา และไม่น่าจะใช่ความผิดของคุณ Nixon แก ซึ่งตอนนั้นก็หน้ามืดอยู่หลายเรื่องแล้ว แต่ก็ทำให้เศรษฐีเกิดความคิด ตามประสาคนที่โลภอยากจะเอาแต่ได้ แต่ไม่ยอมเสีย มันเรื่องอะไร จะทำแต่การวิจัยแนะนำรัฐบาล แล้วรัฐบาลก็ไม่ได้ทำตามที่เขาต้องการทุกเรื่อง แบบนี้มันต้อง คุมรัฐบาลให้อยู่ในกำมือไม่ดีกว่าหรือ แล้วความคิดที่จะตั้งหน่วยงานพิเศษ หรือ Trillateral จึงเกิดขึ้น และได้รวมพรรคพวกที่ทำธุรกิจน้ำมันอุตสาหกรรม และธนาคาร เข้ามาอยู่ในกระบุงเดียวกัน ( จริง ๆ นะ เขียนมาถึงตรงนี้ เชื่อเกือบเต็มร้อย ว่าไอ้โจรนั่น มันต้องเรียนวิธีขี้โกงระดับนโยบาย มาจากผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยจริง ๆ) คิดดูง่าย ๆ จากเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น แทนที่พวกเศรษฐีจะให้ธนาคารตัวเอง ให้เงินกู้กับประเทศที่กำลังพัฒนาต่อไปตามเดิม เขากลับใช้เหตุการณ์วิกฤติน้ำมันครั้งนี้ สร้างโอกาสให้พวกเขาอีกต่อ มันงกจริงๆนะ พวกเศรษฐีกลับคิดว่า ถ้าเรายกเครื่อง IMF World Bank เสียหน่อย แล้วให้องค์กรเหล่านี้เป็นเครื่องมือ รับความเสี่ยงให้กับเรา
แบบนี้เราก็มีแต่ win win solution พูดเหมือนใครหนอ ! เขาจึงเริ่มแผนคุมสหประชาชาติ โดยการ “ซื้อเสียง” คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อ AI โตเร็วกว่าไฟฟ้า: สหรัฐฯ เผชิญวิกฤตพลังงานจากศูนย์ข้อมูล

    ในปี 2025 ความต้องการพลังงานจากศูนย์ข้อมูล AI ในสหรัฐฯ พุ่งสูงจนโครงข่ายไฟฟ้าไม่สามารถรองรับได้ทัน โดยเฉพาะศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ของบริษัทอย่าง Amazon, Google, Meta และ Microsoft ที่ต้องใช้ไฟฟ้าระดับ “กิกะวัตต์” ต่อแห่ง—เทียบเท่าบ้านเรือนหลายล้านหลัง

    รายงานจาก Goldman Sachs และ Gartner ระบุว่า ภายในปี 2027 ความต้องการไฟฟ้าจากศูนย์ข้อมูลอาจแตะ 500 เทราวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้าสหรัฐฯ ที่สร้างไว้ตั้งแต่ยุค 1970

    ผลกระทบเริ่มเห็นชัดในหลายรัฐ เช่น เท็กซัสและเวอร์จิเนีย ที่ค่าไฟฟ้าในพื้นที่ใกล้ศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้น $14–$37 ต่อเดือน และอาจสูงขึ้นอีกเมื่อรวมกับเงินเฟ้อ

    บริษัทเทคโนโลยีจึงเริ่มสร้างโรงไฟฟ้าเอง เช่น Meta ที่ใช้โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติสำหรับคลัสเตอร์ AI ขนาดใหญ่ และ Microsoft ที่ฟื้นโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Three Mile Island เพื่อรองรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์

    หากไม่มีการแก้ไขอย่างเป็นระบบ สหรัฐฯ อาจสูญเสียความเป็นผู้นำด้าน AI เพราะบริษัทอาจย้ายศูนย์ข้อมูลไปต่างประเทศที่มีไฟฟ้าพร้อมใช้มากกว่า

    ข้อมูลจากข่าวหลัก
    ความต้องการไฟฟ้าจากศูนย์ข้อมูล AI พุ่งสูงจนโครงข่ายไฟฟ้าสหรัฐฯ ติดคอขวด
    บริษัทเทคโนโลยีต้องสร้างโรงไฟฟ้าเอง เช่น Meta และ Microsoft
    ความต้องการไฟฟ้าอาจแตะ 500 TWh ภายในปี 2027
    ค่าไฟฟ้าในพื้นที่ใกล้ศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
    การขอเชื่อมต่อไฟฟ้าแต่ละครั้งสูงถึง 5 GW ต่อศูนย์ข้อมูล
    ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอ “AI action plan” เพื่อแก้ปัญหาโครงข่ายไฟฟ้า

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    รายงานจาก RAND ระบุว่า AI อาจต้องใช้ไฟฟ้าสูงถึง 68 GW ภายในปี 2027
    หากไม่แก้ปัญหา บริษัทอาจย้ายศูนย์ข้อมูลไปต่างประเทศ เสี่ยงต่อความมั่นคง
    ศูนย์ข้อมูลใหม่เริ่มใช้พลังงาน onsite เช่น เซลล์เชื้อเพลิงและพลังงานหมุนเวียน
    Bloom Energy คาดว่า 30% ของศูนย์ข้อมูลในปี 2030 จะใช้พลังงาน onsite เป็นหลัก
    การอนุมัติโครงการไฟฟ้าใหม่ยังติดขั้นตอนราชการและ supply chain
    การสร้างโรงไฟฟ้าใช้เวลาหลายปี แต่การขยายศูนย์ข้อมูลเกิดขึ้นทุกเดือน

    https://wccftech.com/the-us-ai-datacenter-boom-is-so-massive-that-the-nation-power-grid-is-in-a-critical-bottleneck-right-now/
    ⚠️ เมื่อ AI โตเร็วกว่าไฟฟ้า: สหรัฐฯ เผชิญวิกฤตพลังงานจากศูนย์ข้อมูล ในปี 2025 ความต้องการพลังงานจากศูนย์ข้อมูล AI ในสหรัฐฯ พุ่งสูงจนโครงข่ายไฟฟ้าไม่สามารถรองรับได้ทัน โดยเฉพาะศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ของบริษัทอย่าง Amazon, Google, Meta และ Microsoft ที่ต้องใช้ไฟฟ้าระดับ “กิกะวัตต์” ต่อแห่ง—เทียบเท่าบ้านเรือนหลายล้านหลัง รายงานจาก Goldman Sachs และ Gartner ระบุว่า ภายในปี 2027 ความต้องการไฟฟ้าจากศูนย์ข้อมูลอาจแตะ 500 เทราวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้าสหรัฐฯ ที่สร้างไว้ตั้งแต่ยุค 1970 ผลกระทบเริ่มเห็นชัดในหลายรัฐ เช่น เท็กซัสและเวอร์จิเนีย ที่ค่าไฟฟ้าในพื้นที่ใกล้ศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้น $14–$37 ต่อเดือน และอาจสูงขึ้นอีกเมื่อรวมกับเงินเฟ้อ บริษัทเทคโนโลยีจึงเริ่มสร้างโรงไฟฟ้าเอง เช่น Meta ที่ใช้โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติสำหรับคลัสเตอร์ AI ขนาดใหญ่ และ Microsoft ที่ฟื้นโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Three Mile Island เพื่อรองรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ หากไม่มีการแก้ไขอย่างเป็นระบบ สหรัฐฯ อาจสูญเสียความเป็นผู้นำด้าน AI เพราะบริษัทอาจย้ายศูนย์ข้อมูลไปต่างประเทศที่มีไฟฟ้าพร้อมใช้มากกว่า ✅ ข้อมูลจากข่าวหลัก ➡️ ความต้องการไฟฟ้าจากศูนย์ข้อมูล AI พุ่งสูงจนโครงข่ายไฟฟ้าสหรัฐฯ ติดคอขวด ➡️ บริษัทเทคโนโลยีต้องสร้างโรงไฟฟ้าเอง เช่น Meta และ Microsoft ➡️ ความต้องการไฟฟ้าอาจแตะ 500 TWh ภายในปี 2027 ➡️ ค่าไฟฟ้าในพื้นที่ใกล้ศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ➡️ การขอเชื่อมต่อไฟฟ้าแต่ละครั้งสูงถึง 5 GW ต่อศูนย์ข้อมูล ➡️ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอ “AI action plan” เพื่อแก้ปัญหาโครงข่ายไฟฟ้า ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ รายงานจาก RAND ระบุว่า AI อาจต้องใช้ไฟฟ้าสูงถึง 68 GW ภายในปี 2027 ➡️ หากไม่แก้ปัญหา บริษัทอาจย้ายศูนย์ข้อมูลไปต่างประเทศ เสี่ยงต่อความมั่นคง ➡️ ศูนย์ข้อมูลใหม่เริ่มใช้พลังงาน onsite เช่น เซลล์เชื้อเพลิงและพลังงานหมุนเวียน ➡️ Bloom Energy คาดว่า 30% ของศูนย์ข้อมูลในปี 2030 จะใช้พลังงาน onsite เป็นหลัก ➡️ การอนุมัติโครงการไฟฟ้าใหม่ยังติดขั้นตอนราชการและ supply chain ➡️ การสร้างโรงไฟฟ้าใช้เวลาหลายปี แต่การขยายศูนย์ข้อมูลเกิดขึ้นทุกเดือน https://wccftech.com/the-us-ai-datacenter-boom-is-so-massive-that-the-nation-power-grid-is-in-a-critical-bottleneck-right-now/
    WCCFTECH.COM
    The U.S. AI Datacenter Boom Is So Massive That the Nation’s Power Grid Is In a "Critical Bottleneck" Right Now; Big Tech is Forced to Build Its Power Plants
    While the AI hype is advancing with full force, the industry seems set to face a massive issue due to America's old power grids.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘เงินเฟ้อ’ ต่ำ ทำ เงินฝืด!? : [Biz Talk]
    เงินเฟ้อไทย ติดลบ 4 เดือนติด/ ก.ค.68 ลดลง 0.70% พาณิชย์ ยันไม่ใช่ภาวะ‘เงินฝืด’ เพราะสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อทั่วไป ลดลง มาจากการลดลงของราคาพลังงาน ,ผัก,ผลไม้สด เป็นหลัก ไม่ได้มาจากปัจจัยอุปสงค์ ความต้องการซื้อ การใช้จ่ายยังปกติ ขณะที่ราคาสินค้าหมวดอาหาร-เครื่องดื่ม ไม่มีแอลกอฮอล์ และเงินเฟ้อพื้นฐาน ก็ยังสูงอยู่
    ‘เงินเฟ้อ’ ต่ำ ทำ เงินฝืด!? : [Biz Talk] เงินเฟ้อไทย ติดลบ 4 เดือนติด/ ก.ค.68 ลดลง 0.70% พาณิชย์ ยันไม่ใช่ภาวะ‘เงินฝืด’ เพราะสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อทั่วไป ลดลง มาจากการลดลงของราคาพลังงาน ,ผัก,ผลไม้สด เป็นหลัก ไม่ได้มาจากปัจจัยอุปสงค์ ความต้องการซื้อ การใช้จ่ายยังปกติ ขณะที่ราคาสินค้าหมวดอาหาร-เครื่องดื่ม ไม่มีแอลกอฮอล์ และเงินเฟ้อพื้นฐาน ก็ยังสูงอยู่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 469 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: Dollar Tree ปฏิเสธการถูกแฮก—แต่ข้อมูลที่หลุดอาจมาจากอดีตคู่แข่งที่ล้มละลาย

    INC Ransom ซึ่งเป็นกลุ่มแรนซัมแวร์ที่มีประวัติการโจมตีองค์กรทั่วโลก ได้โพสต์ชื่อ Dollar Tree บนเว็บไซต์ของตน พร้อมอ้างว่าได้ขโมยข้อมูลกว่า 1.2TB ซึ่งรวมถึงเอกสารสำคัญและข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สแกนหนังสือเดินทาง และขู่ว่าจะเปิดเผยหากไม่จ่ายค่าไถ่

    แต่ Dollar Tree ออกแถลงการณ์ปฏิเสธทันที โดยระบุว่า “ข้อมูลที่หลุดนั้นเป็นของ 99 Cents Only” ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งที่ล้มละลายไปในปี 2024 และ Dollar Tree ได้ซื้อสิทธิ์การเช่าอาคารบางแห่งมาเปิดร้านใหม่เท่านั้น ไม่ได้ซื้อระบบหรือฐานข้อมูลของบริษัทนั้นแต่อย่างใด

    99 Cents Only ปิดกิจการทั้งหมด 371 สาขา และไม่มีช่องทางติดต่อแล้ว ทำให้ไม่สามารถยืนยันข้อมูลจากฝั่งนั้นได้ ขณะที่ Dollar Tree ยืนยันว่า “ไม่มีการเจาะระบบของเรา” และ “ไม่มีการซื้อข้อมูลหรือระบบจาก 99 Cents Only”

    INC Ransom อ้างว่าเจาะระบบ Dollar Tree และขโมยข้อมูล 1.2TB
    รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สแกนหนังสือเดินทาง
    ขู่ว่าจะเปิดเผยข้อมูลหากไม่จ่ายค่าไถ่

    Dollar Tree ปฏิเสธการถูกแฮก และระบุว่าข้อมูลนั้นเป็นของ 99 Cents Only
    บริษัทคู่แข่งที่ล้มละลายไปในปี 2024
    Dollar Tree ซื้อแค่สิทธิ์การเช่าอาคาร ไม่ได้ซื้อระบบหรือข้อมูล

    99 Cents Only ปิดกิจการทั้งหมด 371 สาขา และไม่มีช่องทางติดต่อแล้ว
    Dollar Tree เปิดร้านใหม่ในอาคารเดิม 170 แห่ง
    ไม่มีการรวมระบบหรือฐานข้อมูลของบริษัทเดิม

    Dollar Tree เป็นบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ มีรายได้กว่า $17.6 พันล้านในปี 2024
    มีสาขากว่า 15,000 แห่งในสหรัฐฯ และแคนาดา
    มีพนักงานมากกว่า 65,000 คน

    INC Ransom เป็นกลุ่มแรนซัมแวร์แบบ multi-extortion ที่โจมตีองค์กรทั่วโลก
    เคยโจมตีองค์กรในภาครัฐ การศึกษา และสุขภาพ
    ใช้เทคนิคขู่เปิดเผยข้อมูลเพื่อเรียกค่าไถ่

    99 Cents Only ยื่นล้มละลายในเดือนเมษายน 2024 จากผลกระทบของเงินเฟ้อ โควิด และการแข่งขันที่รุนแรง
    ปิดกิจการทั้งหมดภายในกลางปี 2024
    เป็นหนึ่งในบริษัทค้าปลีกที่ล้มละลายจากภาวะเศรษฐกิจ

    INC Ransom เคยโจมตีองค์กรระดับสูง เช่น Stark AeroSpace และ Xerox Corporation
    ไม่เลือกเป้าหมายเฉพาะเจาะจง
    มีเหยื่อมากกว่า 200 รายในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

    การโจมตีแบบ multi-extortion คือการขโมยข้อมูล + ขู่เปิดเผย + เรียกค่าไถ่ เป็นรูปแบบที่เพิ่มแรงกดดันให้เหยื่อยอมจ่าย ต้องมีระบบป้องกันและแผนตอบสนองที่ชัดเจน

    การซื้อกิจการหรือทรัพย์สินจากบริษัทที่ล้มละลายต้องมีการตรวจสอบความปลอดภัยของข้อมูลอย่างเข้มงวด
    ไม่ใช่แค่ตรวจสอบทรัพย์สินทางกายภาพ แต่ต้องรวมถึงระบบดิจิทัล
    ควรมีการล้างข้อมูลและ audit ก่อนนำมาใช้งาน

    แม้ Dollar Tree จะไม่ถูกเจาะโดยตรง แต่ข้อมูลจาก 99 Cents Only อาจมีความเกี่ยวข้องกับลูกค้าเดิมหรือพนักงานที่ยังมีผลกระทบ
    หากข้อมูลนั้นยังมีความเชื่อมโยงกับระบบที่ Dollar Tree ใช้ อาจเกิดความเสี่ยง
    ต้องตรวจสอบว่าไม่มีการนำข้อมูลเดิมมาใช้ซ้ำในระบบใหม่

    การซื้อสิทธิ์เช่าอาคารโดยไม่ซื้อระบบ ไม่ได้หมายความว่าข้อมูลจะปลอดภัยเสมอไป
    หากมีการโอนอุปกรณ์หรือเซิร์ฟเวอร์โดยไม่ได้ล้างข้อมูล อาจเกิดการรั่วไหล
    ต้องมีการตรวจสอบทรัพย์สินดิจิทัลอย่างละเอียดก่อนนำมาใช้งาน

    การปฏิเสธการถูกแฮกอาจไม่เพียงพอ หากไม่มีการตรวจสอบระบบอย่างโปร่งใส
    ควรมีการเปิดเผยผลการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญภายนอก
    เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและพันธมิตร

    การโจมตีแบบ multi-extortion ของ INC Ransom อาจยังดำเนินต่อไป แม้บริษัทจะไม่จ่ายค่าไถ่
    ข้อมูลอาจถูกเปิดเผยในอนาคตเพื่อกดดันเพิ่มเติม
    ต้องเตรียมแผนรับมือด้านสื่อและกฎหมายล่วงหน้า

    https://www.techradar.com/pro/security/dollar-tree-denies-data-breach-says-hacker-targeted-its-rival-instead
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: Dollar Tree ปฏิเสธการถูกแฮก—แต่ข้อมูลที่หลุดอาจมาจากอดีตคู่แข่งที่ล้มละลาย INC Ransom ซึ่งเป็นกลุ่มแรนซัมแวร์ที่มีประวัติการโจมตีองค์กรทั่วโลก ได้โพสต์ชื่อ Dollar Tree บนเว็บไซต์ของตน พร้อมอ้างว่าได้ขโมยข้อมูลกว่า 1.2TB ซึ่งรวมถึงเอกสารสำคัญและข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สแกนหนังสือเดินทาง และขู่ว่าจะเปิดเผยหากไม่จ่ายค่าไถ่ แต่ Dollar Tree ออกแถลงการณ์ปฏิเสธทันที โดยระบุว่า “ข้อมูลที่หลุดนั้นเป็นของ 99 Cents Only” ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งที่ล้มละลายไปในปี 2024 และ Dollar Tree ได้ซื้อสิทธิ์การเช่าอาคารบางแห่งมาเปิดร้านใหม่เท่านั้น ไม่ได้ซื้อระบบหรือฐานข้อมูลของบริษัทนั้นแต่อย่างใด 99 Cents Only ปิดกิจการทั้งหมด 371 สาขา และไม่มีช่องทางติดต่อแล้ว ทำให้ไม่สามารถยืนยันข้อมูลจากฝั่งนั้นได้ ขณะที่ Dollar Tree ยืนยันว่า “ไม่มีการเจาะระบบของเรา” และ “ไม่มีการซื้อข้อมูลหรือระบบจาก 99 Cents Only” ✅ INC Ransom อ้างว่าเจาะระบบ Dollar Tree และขโมยข้อมูล 1.2TB ➡️ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สแกนหนังสือเดินทาง ➡️ ขู่ว่าจะเปิดเผยข้อมูลหากไม่จ่ายค่าไถ่ ✅ Dollar Tree ปฏิเสธการถูกแฮก และระบุว่าข้อมูลนั้นเป็นของ 99 Cents Only ➡️ บริษัทคู่แข่งที่ล้มละลายไปในปี 2024 ➡️ Dollar Tree ซื้อแค่สิทธิ์การเช่าอาคาร ไม่ได้ซื้อระบบหรือข้อมูล ✅ 99 Cents Only ปิดกิจการทั้งหมด 371 สาขา และไม่มีช่องทางติดต่อแล้ว ➡️ Dollar Tree เปิดร้านใหม่ในอาคารเดิม 170 แห่ง ➡️ ไม่มีการรวมระบบหรือฐานข้อมูลของบริษัทเดิม ✅ Dollar Tree เป็นบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ มีรายได้กว่า $17.6 พันล้านในปี 2024 ➡️ มีสาขากว่า 15,000 แห่งในสหรัฐฯ และแคนาดา ➡️ มีพนักงานมากกว่า 65,000 คน ✅ INC Ransom เป็นกลุ่มแรนซัมแวร์แบบ multi-extortion ที่โจมตีองค์กรทั่วโลก ➡️ เคยโจมตีองค์กรในภาครัฐ การศึกษา และสุขภาพ ➡️ ใช้เทคนิคขู่เปิดเผยข้อมูลเพื่อเรียกค่าไถ่ ✅ 99 Cents Only ยื่นล้มละลายในเดือนเมษายน 2024 จากผลกระทบของเงินเฟ้อ โควิด และการแข่งขันที่รุนแรง ➡️ ปิดกิจการทั้งหมดภายในกลางปี 2024 ➡️ เป็นหนึ่งในบริษัทค้าปลีกที่ล้มละลายจากภาวะเศรษฐกิจ ✅ INC Ransom เคยโจมตีองค์กรระดับสูง เช่น Stark AeroSpace และ Xerox Corporation ➡️ ไม่เลือกเป้าหมายเฉพาะเจาะจง ➡️ มีเหยื่อมากกว่า 200 รายในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ✅ การโจมตีแบบ multi-extortion คือการขโมยข้อมูล + ขู่เปิดเผย + เรียกค่าไถ่ ➡️ เป็นรูปแบบที่เพิ่มแรงกดดันให้เหยื่อยอมจ่าย ➡️ ต้องมีระบบป้องกันและแผนตอบสนองที่ชัดเจน ✅ การซื้อกิจการหรือทรัพย์สินจากบริษัทที่ล้มละลายต้องมีการตรวจสอบความปลอดภัยของข้อมูลอย่างเข้มงวด ➡️ ไม่ใช่แค่ตรวจสอบทรัพย์สินทางกายภาพ แต่ต้องรวมถึงระบบดิจิทัล ➡️ ควรมีการล้างข้อมูลและ audit ก่อนนำมาใช้งาน ‼️ แม้ Dollar Tree จะไม่ถูกเจาะโดยตรง แต่ข้อมูลจาก 99 Cents Only อาจมีความเกี่ยวข้องกับลูกค้าเดิมหรือพนักงานที่ยังมีผลกระทบ ⛔ หากข้อมูลนั้นยังมีความเชื่อมโยงกับระบบที่ Dollar Tree ใช้ อาจเกิดความเสี่ยง ⛔ ต้องตรวจสอบว่าไม่มีการนำข้อมูลเดิมมาใช้ซ้ำในระบบใหม่ ‼️ การซื้อสิทธิ์เช่าอาคารโดยไม่ซื้อระบบ ไม่ได้หมายความว่าข้อมูลจะปลอดภัยเสมอไป ⛔ หากมีการโอนอุปกรณ์หรือเซิร์ฟเวอร์โดยไม่ได้ล้างข้อมูล อาจเกิดการรั่วไหล ⛔ ต้องมีการตรวจสอบทรัพย์สินดิจิทัลอย่างละเอียดก่อนนำมาใช้งาน ‼️ การปฏิเสธการถูกแฮกอาจไม่เพียงพอ หากไม่มีการตรวจสอบระบบอย่างโปร่งใส ⛔ ควรมีการเปิดเผยผลการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญภายนอก ⛔ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและพันธมิตร ‼️ การโจมตีแบบ multi-extortion ของ INC Ransom อาจยังดำเนินต่อไป แม้บริษัทจะไม่จ่ายค่าไถ่ ⛔ ข้อมูลอาจถูกเปิดเผยในอนาคตเพื่อกดดันเพิ่มเติม ⛔ ต้องเตรียมแผนรับมือด้านสื่อและกฎหมายล่วงหน้า https://www.techradar.com/pro/security/dollar-tree-denies-data-breach-says-hacker-targeted-its-rival-instead
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 369 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อ “เงินปลอม” ถูกขายผ่าน Facebook แบบไม่ต้องหลบซ่อน

    ลองจินตนาการว่าคุณเลื่อนดู Instagram แล้วเจอโพสต์ขายธนบัตรปลอมแบบ “A1 quality” พร้อมวิดีโอโชว์กองเงินปลอม และยังมีบริการส่งถึงบ้านแบบเก็บเงินปลายทาง (COD)! นี่ไม่ใช่ฉากในหนังอาชญากรรม แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในอินเดีย

    ทีม STRIKE ของบริษัท CloudSEK ได้เปิดโปงขบวนการเงินปลอมมูลค่ากว่า ₹17.5 crore (ประมาณ 2 ล้านดอลลาร์) ที่ดำเนินการอย่างเปิดเผยผ่าน Facebook, Instagram, Telegram และ YouTube โดยใช้เทคนิค OSINT และ HUMINT เพื่อระบุตัวผู้กระทำผิด พร้อมส่งข้อมูลให้หน่วยงานรัฐเพื่อดำเนินคดี

    ขบวนการเงินปลอมมูลค่า ₹17.5 crore ถูกเปิดโปงโดย CloudSEK ในช่วง 6 เดือน
    ดำเนินการระหว่างธันวาคม 2024 ถึงมิถุนายน 2025
    ใช้แพลตฟอร์ม XVigil ตรวจจับโพสต์และบัญชีต้องสงสัย

    มีการตรวจพบโพสต์โปรโมทเงินปลอมกว่า 4,500 โพสต์ และบัญชีผู้ขายกว่า 750 บัญชี
    พบเบอร์โทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องกว่า 410 หมายเลข
    ใช้ Meta Ads และโซเชียลมีเดียเพื่อเข้าถึงผู้ซื้อโดยตรง

    ผู้ขายใช้เทคนิคสร้างความน่าเชื่อถือ เช่น วิดีโอคอลโชว์เงินปลอม และภาพเขียนมือ
    ใช้คำรหัสเช่น “A1 note” และ “second currency” เพื่อหลบการตรวจจับ
    มีการใช้ WhatsApp เพื่อเจรจาและส่งภาพหลักฐาน

    การผลิตธนบัตรปลอมใช้เครื่องมือระดับมืออาชีพ
    ใช้ Adobe Photoshop, เครื่องพิมพ์อุตสาหกรรม และกระดาษพิเศษที่มีลายน้ำ Mahatma Gandhi
    ธนบัตรปลอมสามารถหลอกเครื่องตรวจจับได้ในบางกรณี

    ผู้ต้องสงสัยถูกระบุจากภาพใบหน้า, GPS, และบัญชีโซเชียลมีเดีย
    พบการดำเนินการในหมู่บ้าน Jamade (Dhule, Maharashtra) และเมือง Pune
    ผู้ต้องสงสัยใช้ชื่อปลอม เช่น Vivek Kumar, Karan Pawar, Sachin Deeva

    CloudSEK ส่งข้อมูลให้หน่วยงานรัฐเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย
    รวมถึงภาพใบหน้า, หมายเลขโทรศัพท์, ตำแหน่ง GPS และหลักฐานดิจิทัล
    มีการแนะนำให้ Meta ตรวจสอบและลบโฆษณาที่เกี่ยวข้อง

    การขายเงินปลอมผ่านโซเชียลมีเดียเป็นภัยต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ
    อาจทำให้เกิดเงินเฟ้อและความไม่เชื่อมั่นในระบบการเงิน
    ส่งผลกระทบต่อธุรกิจรายย่อยและประชาชนทั่วไป

    แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยังมีช่องโหว่ในการตรวจจับการฉ้อโกงทางการเงิน
    โฆษณาเงินปลอมสามารถหลุดรอดการตรวจสอบได้
    การใช้แฮชแท็กและคำรหัสช่วยให้ผู้ขายหลบเลี่ยงการแบน

    การซื้อขายเงินปลอมอาจนำไปสู่การถูกหลอกหรือถูกปล้น
    มีรายงานว่าผู้ซื้อบางรายถูกโกงหรือถูกข่มขู่
    การทำธุรกรรมแบบพบตัวอาจเสี่ยงต่ออาชญากรรม

    การปลอมแปลงธนบัตรเป็นอาชญากรรมร้ายแรงตามกฎหมายอินเดีย
    เข้าข่ายผิดตาม Bharatiya Nyaya Sanhita (BNS) มาตรา 176–179
    และผิดตาม IT Act มาตรา 66D และ 69A หากเผยแพร่ผ่านอินเทอร์เน็ต

    https://hackread.com/researchers-online-fake-currency-operation-in-india/
    💰 เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อ “เงินปลอม” ถูกขายผ่าน Facebook แบบไม่ต้องหลบซ่อน ลองจินตนาการว่าคุณเลื่อนดู Instagram แล้วเจอโพสต์ขายธนบัตรปลอมแบบ “A1 quality” พร้อมวิดีโอโชว์กองเงินปลอม และยังมีบริการส่งถึงบ้านแบบเก็บเงินปลายทาง (COD)! นี่ไม่ใช่ฉากในหนังอาชญากรรม แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในอินเดีย ทีม STRIKE ของบริษัท CloudSEK ได้เปิดโปงขบวนการเงินปลอมมูลค่ากว่า ₹17.5 crore (ประมาณ 2 ล้านดอลลาร์) ที่ดำเนินการอย่างเปิดเผยผ่าน Facebook, Instagram, Telegram และ YouTube โดยใช้เทคนิค OSINT และ HUMINT เพื่อระบุตัวผู้กระทำผิด พร้อมส่งข้อมูลให้หน่วยงานรัฐเพื่อดำเนินคดี ✅ ขบวนการเงินปลอมมูลค่า ₹17.5 crore ถูกเปิดโปงโดย CloudSEK ในช่วง 6 เดือน ➡️ ดำเนินการระหว่างธันวาคม 2024 ถึงมิถุนายน 2025 ➡️ ใช้แพลตฟอร์ม XVigil ตรวจจับโพสต์และบัญชีต้องสงสัย ✅ มีการตรวจพบโพสต์โปรโมทเงินปลอมกว่า 4,500 โพสต์ และบัญชีผู้ขายกว่า 750 บัญชี ➡️ พบเบอร์โทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องกว่า 410 หมายเลข ➡️ ใช้ Meta Ads และโซเชียลมีเดียเพื่อเข้าถึงผู้ซื้อโดยตรง ✅ ผู้ขายใช้เทคนิคสร้างความน่าเชื่อถือ เช่น วิดีโอคอลโชว์เงินปลอม และภาพเขียนมือ ➡️ ใช้คำรหัสเช่น “A1 note” และ “second currency” เพื่อหลบการตรวจจับ ➡️ มีการใช้ WhatsApp เพื่อเจรจาและส่งภาพหลักฐาน ✅ การผลิตธนบัตรปลอมใช้เครื่องมือระดับมืออาชีพ ➡️ ใช้ Adobe Photoshop, เครื่องพิมพ์อุตสาหกรรม และกระดาษพิเศษที่มีลายน้ำ Mahatma Gandhi ➡️ ธนบัตรปลอมสามารถหลอกเครื่องตรวจจับได้ในบางกรณี ✅ ผู้ต้องสงสัยถูกระบุจากภาพใบหน้า, GPS, และบัญชีโซเชียลมีเดีย ➡️ พบการดำเนินการในหมู่บ้าน Jamade (Dhule, Maharashtra) และเมือง Pune ➡️ ผู้ต้องสงสัยใช้ชื่อปลอม เช่น Vivek Kumar, Karan Pawar, Sachin Deeva ✅ CloudSEK ส่งข้อมูลให้หน่วยงานรัฐเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย ➡️ รวมถึงภาพใบหน้า, หมายเลขโทรศัพท์, ตำแหน่ง GPS และหลักฐานดิจิทัล ➡️ มีการแนะนำให้ Meta ตรวจสอบและลบโฆษณาที่เกี่ยวข้อง ‼️ การขายเงินปลอมผ่านโซเชียลมีเดียเป็นภัยต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ ⛔ อาจทำให้เกิดเงินเฟ้อและความไม่เชื่อมั่นในระบบการเงิน ⛔ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจรายย่อยและประชาชนทั่วไป ‼️ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยังมีช่องโหว่ในการตรวจจับการฉ้อโกงทางการเงิน ⛔ โฆษณาเงินปลอมสามารถหลุดรอดการตรวจสอบได้ ⛔ การใช้แฮชแท็กและคำรหัสช่วยให้ผู้ขายหลบเลี่ยงการแบน ‼️ การซื้อขายเงินปลอมอาจนำไปสู่การถูกหลอกหรือถูกปล้น ⛔ มีรายงานว่าผู้ซื้อบางรายถูกโกงหรือถูกข่มขู่ ⛔ การทำธุรกรรมแบบพบตัวอาจเสี่ยงต่ออาชญากรรม ‼️ การปลอมแปลงธนบัตรเป็นอาชญากรรมร้ายแรงตามกฎหมายอินเดีย ⛔ เข้าข่ายผิดตาม Bharatiya Nyaya Sanhita (BNS) มาตรา 176–179 ⛔ และผิดตาม IT Act มาตรา 66D และ 69A หากเผยแพร่ผ่านอินเทอร์เน็ต https://hackread.com/researchers-online-fake-currency-operation-in-india/
    HACKREAD.COM
    Researchers Expose Massive Online Fake Currency Operation in India
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 440 มุมมอง 0 รีวิว
  • เงินเฟ้อช่วยลดหนี้ได้จริงเหรอ ?
    เงินเฟ้อช่วยลดหนี้ได้จริงเหรอ ?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • การผลิตเงินตราของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางสำคัญ 3 ประการ และแต่ละทิศทางมีทั้งผลดีและผลเสีย ดังนี้:

    ### 1. **การเปลี่ยนสู่เงินดิจิทัล (Digital Currencies)**
    - **ผลดี:**
    - **ความสะดวกและเร็ว:** การชำระเงินข้ามประเทศใช้เวลาไม่กี่วินาที (เดิมใช้วัน) เช่น ระบบ CBDC ของจีน (e-CNY)
    - **การเข้าถึงบริการทางการเงิน:** ช่วยให้ประชากร 1.4 พันล้านคนที่ไม่มีบัญชีธนาคารเข้าถึงระบบการเงิน (World Bank 2023)
    - **ลดต้นทุน:** ธนาคารกลางยุโรปประเมินว่า CBDC ลดต้นทุนการจัดการเงินสดได้ 30%
    - **ผลเสีย:**
    - **ความเสี่ยงทางไซเบอร์:** แฮ็กระบบการเงินระดับชาติ เช่น เหตุการณ์แฮ็ก Cryptocurrency ที่สูญเสียกว่า 3.8 พันล้าน USD ในปี 2022 (Chainalysis)
    - **การละเมิดความเป็นส่วนตัว:** รัฐอาจติดตามทุกการทำธุรกรรมของประชาชน

    ### 2. **การลดบทบาทเงินสด (Cashless Society)**
    - **ผลดี:**
    - **ลดอาชญากรรม:** สวีเดนพบว่าการปล้นลดลง 85% หลังลดการใช้เงินสด (Riksbank รายงาน)
    - **ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ:** IMF ชี้ว่าประเทศไร้เงินสดเพิ่ม GDP ได้ 0.8-1.2% จากการลดต้นทุนการพิมพ์/ขนส่ง
    - **ผลเสีย:**
    - **การแบ่งแยกดิจิทัล:** ผู้สูงอายุหรือชุมชนห่างไกลในอินเดียกว่า 40% ยังไม่พร้อม (Reserve Bank of India)
    - **ความเสี่ยงต่อระบบ:** ไฟฟ้าดับหรือระบบล่มอาจทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก

    ### 3. **การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลภาคเอกชน (Private Cryptocurrencies & Stablecoins)**
    - **ผลดี:**
    - **นวัตกรรมทางการเงิน:** DeFi (การเงินแบบกระจายศูนย์) สร้างตลาดมูลค่า 80 พันล้าน USD ในปี 2023 (DeFi Llama)
    - **การป้องกันเงินเฟ้อ:** Stablecoin เช่น USDT ให้ทางเลือกในประเทศที่เงินเฟ้อสูง (เวเนซุเอลา อาร์เจนตินา)
    - **ผลเสีย:**
    - **ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการเงิน:** การล่มสลายของ TerraUSD (2022) ทำลายมูลค่ากว่า 40 พันล้าน USD ใน 3 วัน
    - **การฟอกเงิน:** UN ประเมินว่ามีการฟอกเงินผ่านคริปโตกว่า 8.6 พันล้าน USD ในปี 2021

    ### ผลกระทบเชิงโครงสร้าง:
    - **ผลดีโดยรวม:**
    - เพิ่มประสิทธิภาพระบบการเงินโลก
    - ส่งเสริมการรวมตัวทางการเงิน (Financial Inclusion)
    - ลดต้นทุนการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน (เดิมเฉลี่ย 6.5% ลดเหลือต่ำกว่า 1%)

    - **ผลเสียโดยรวม:**
    - **ความไม่เสมอภาค:** ประเทศกำลังพัฒนาอาจถูกทิ้งห่าง (แอฟริกามีการใช้ CBDC เพียง 3 ประเทศเทียบกับ 114 ประเทศที่กำลังวิจัย)
    - **ภัยคุกคามต่ออธิปไตย:** สกุลเงินดิจิทัลเอกชนอาจลดทอนอำนาจนโยบายการเงินของรัฐ

    ### ตัวอย่างประเทศที่ชัดเจน:
    - **จีน (e-CNY):** ใช้ทดลองใน 26 เมืองใหญ่ คาดครอบคลุม 15% ของเศรษฐกิจภายในปี 2025 → เพิ่มการควบคุมทางการคลัง แต่ถูกวิจารณ์เรื่องการสอดส่องประชาชน
    - **สวีเดน:** เงินสดเหลือเพียง 8% ของ GDP (2010 อยู่ที่ 40%) → ลดอาชญากรรมแต่เสี่ยงต่อ Cyberattack

    ### บทสรุป:
    การเปลี่ยนแปลงนี้เป็น **"ดาบสองคม"** โดยทิศทางหลักคือ **การทำให้เป็นดิจิทัล (Digitalization)** ซึ่งให้ประโยชน์ด้านประสิทธิภาพ แต่ต้องจัดการกับความเสี่ยงด้านความมั่นคงและความเป็นส่วนตัวอย่างเร่งด่วน อนาคตอาจเห็นระบบการเงินแบบผสมผสานระหว่าง CBDC, สกุลเงินดิจิทัลเอกชน และเงินสดแบบจำกัด โดยความสำเร็จขึ้นอยู่กับการออกแบบกฎเกณฑ์ที่สมดุลระหว่างนวัตกรรมกับการคุ้มครองประชาชน
    การผลิตเงินตราของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางสำคัญ 3 ประการ และแต่ละทิศทางมีทั้งผลดีและผลเสีย ดังนี้: ### 1. **การเปลี่ยนสู่เงินดิจิทัล (Digital Currencies)** - **ผลดี:** - **ความสะดวกและเร็ว:** การชำระเงินข้ามประเทศใช้เวลาไม่กี่วินาที (เดิมใช้วัน) เช่น ระบบ CBDC ของจีน (e-CNY) - **การเข้าถึงบริการทางการเงิน:** ช่วยให้ประชากร 1.4 พันล้านคนที่ไม่มีบัญชีธนาคารเข้าถึงระบบการเงิน (World Bank 2023) - **ลดต้นทุน:** ธนาคารกลางยุโรปประเมินว่า CBDC ลดต้นทุนการจัดการเงินสดได้ 30% - **ผลเสีย:** - **ความเสี่ยงทางไซเบอร์:** แฮ็กระบบการเงินระดับชาติ เช่น เหตุการณ์แฮ็ก Cryptocurrency ที่สูญเสียกว่า 3.8 พันล้าน USD ในปี 2022 (Chainalysis) - **การละเมิดความเป็นส่วนตัว:** รัฐอาจติดตามทุกการทำธุรกรรมของประชาชน ### 2. **การลดบทบาทเงินสด (Cashless Society)** - **ผลดี:** - **ลดอาชญากรรม:** สวีเดนพบว่าการปล้นลดลง 85% หลังลดการใช้เงินสด (Riksbank รายงาน) - **ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ:** IMF ชี้ว่าประเทศไร้เงินสดเพิ่ม GDP ได้ 0.8-1.2% จากการลดต้นทุนการพิมพ์/ขนส่ง - **ผลเสีย:** - **การแบ่งแยกดิจิทัล:** ผู้สูงอายุหรือชุมชนห่างไกลในอินเดียกว่า 40% ยังไม่พร้อม (Reserve Bank of India) - **ความเสี่ยงต่อระบบ:** ไฟฟ้าดับหรือระบบล่มอาจทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก ### 3. **การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลภาคเอกชน (Private Cryptocurrencies & Stablecoins)** - **ผลดี:** - **นวัตกรรมทางการเงิน:** DeFi (การเงินแบบกระจายศูนย์) สร้างตลาดมูลค่า 80 พันล้าน USD ในปี 2023 (DeFi Llama) - **การป้องกันเงินเฟ้อ:** Stablecoin เช่น USDT ให้ทางเลือกในประเทศที่เงินเฟ้อสูง (เวเนซุเอลา อาร์เจนตินา) - **ผลเสีย:** - **ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการเงิน:** การล่มสลายของ TerraUSD (2022) ทำลายมูลค่ากว่า 40 พันล้าน USD ใน 3 วัน - **การฟอกเงิน:** UN ประเมินว่ามีการฟอกเงินผ่านคริปโตกว่า 8.6 พันล้าน USD ในปี 2021 ### ผลกระทบเชิงโครงสร้าง: - **ผลดีโดยรวม:** - เพิ่มประสิทธิภาพระบบการเงินโลก - ส่งเสริมการรวมตัวทางการเงิน (Financial Inclusion) - ลดต้นทุนการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน (เดิมเฉลี่ย 6.5% ลดเหลือต่ำกว่า 1%) - **ผลเสียโดยรวม:** - **ความไม่เสมอภาค:** ประเทศกำลังพัฒนาอาจถูกทิ้งห่าง (แอฟริกามีการใช้ CBDC เพียง 3 ประเทศเทียบกับ 114 ประเทศที่กำลังวิจัย) - **ภัยคุกคามต่ออธิปไตย:** สกุลเงินดิจิทัลเอกชนอาจลดทอนอำนาจนโยบายการเงินของรัฐ ### ตัวอย่างประเทศที่ชัดเจน: - **จีน (e-CNY):** ใช้ทดลองใน 26 เมืองใหญ่ คาดครอบคลุม 15% ของเศรษฐกิจภายในปี 2025 → เพิ่มการควบคุมทางการคลัง แต่ถูกวิจารณ์เรื่องการสอดส่องประชาชน - **สวีเดน:** เงินสดเหลือเพียง 8% ของ GDP (2010 อยู่ที่ 40%) → ลดอาชญากรรมแต่เสี่ยงต่อ Cyberattack ### บทสรุป: การเปลี่ยนแปลงนี้เป็น **"ดาบสองคม"** โดยทิศทางหลักคือ **การทำให้เป็นดิจิทัล (Digitalization)** ซึ่งให้ประโยชน์ด้านประสิทธิภาพ แต่ต้องจัดการกับความเสี่ยงด้านความมั่นคงและความเป็นส่วนตัวอย่างเร่งด่วน อนาคตอาจเห็นระบบการเงินแบบผสมผสานระหว่าง CBDC, สกุลเงินดิจิทัลเอกชน และเงินสดแบบจำกัด โดยความสำเร็จขึ้นอยู่กับการออกแบบกฎเกณฑ์ที่สมดุลระหว่างนวัตกรรมกับการคุ้มครองประชาชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 520 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน - ประธานาธิบดีทรัมป์เขียนบันทึกด้วยลายมือถึงประธานเฟด พาวเวลล์: "เจอโรม - คุณสายเกินไปเหมือนเช่นเคย คุณทำให้สหรัฐฯ เสียเงินจำนวนมาก - และยังคงทำเช่นนั้นต่อไป คุณควรลดอัตราดอกเบี้ยเฟดลงมาก! สูญเสียเงินไปหลายแสนล้านดอลลาร์! ไม่มีเงินเฟ้อ!"

    คุณเห็นลำดับ 2.ประเทศสแกมโบเดียและ 6.ไทยไหม ความมั่นคงทางการเงินของเหมนเกิดจากธุรกิจอันใด?
    ด่วน - ประธานาธิบดีทรัมป์เขียนบันทึกด้วยลายมือถึงประธานเฟด พาวเวลล์: "เจอโรม - คุณสายเกินไปเหมือนเช่นเคย คุณทำให้สหรัฐฯ เสียเงินจำนวนมาก - และยังคงทำเช่นนั้นต่อไป คุณควรลดอัตราดอกเบี้ยเฟดลงมาก! สูญเสียเงินไปหลายแสนล้านดอลลาร์! ไม่มีเงินเฟ้อ!" คุณเห็นลำดับ 2.ประเทศสแกมโบเดียและ 6.ไทยไหม ความมั่นคงทางการเงินของเหมนเกิดจากธุรกิจอันใด?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมพลังแผ่นดินยึดอำนาจโดยมวลมหาพลังชนคนแผ่นดินไทยเลย,วิจัยสัก10-20ปีว่ารูปแบบบริหารจัดการโดยภาคประชาชนเป็นผู้นำประเทศจะเป็นแบบใด,ดีกว่านักการเมืองบริหารราชการหรือภาคประชาชนบริหารราชการไทยดีกว่า,อนาคตกฎหมายอะไรที่ออกมาแล้วที่ผ่านๆมาจากกฎกระทรวงทบวงกรมเขียนออกเองแล้วเหี้ยๆมากมายสามารถฉีกทิ้งได้เลยด้วยทีมเฉพาะพิเศษของภาคประชาชนมาดูเรื่องนี้โดยเฉพาะ,เช่นกฎหมายที่ดินมากมายที่นายทุนทั้งในและต่างประเทศใช้กฎหมายบัดสบนั้นย่ำยีอธิปไตยในที่ดินชาติไทยมานานยึดครองแทนประชาชนคนไทยไปเป็นอันมากโดยอาศัยกฎหมายนั้นๆเขียนเอื้ออำนวยสร้างให้พวกมันจะจัดการใหม่ทั้งหมด เมื่อภาคประชาชนยึดอำนาจได้แล้ว สิ้นสุดสถาบันนักการเมือง มาเป็นสถาบันของประชาชนเลยปกครองเอง เขียนกฎหมายที่ดำรงไว้เพื่อประชาชนจริงมิใช่เพื่อคนต่างชาติต่างประเทศเพื่อนายทุนซึ่งส่วนใหญ่คืออีลิทdeep stateต้องการปกครองประชาชนคนไทยผ่านลักษณะภาคการเมืองและภาคกิจการบริษัทการยึดกิจการผูกขาดต่างๆภายในประเทศ ชาวไทยเรากำหนดราคาสินค้าที่เหมาะสมไม่ได้เลย,เช่นสินค้าทุกๆชนิดต้องขึ้นลงตามราคาทองคำเพราะทองคำยังอ้างอิงใช้เป็นหลักค้ำประกันการพิมพ์พันธบัตรได้หรือค้ำประกันตังดิจิดัลของรัฐบาลตนก็ว่า,สามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อทันทีได้,ตลอดเงินเดือนค่าแรงงานคนไทยต้องอ้างอิงราคาทองคำเรียลไทม์ด้วยเช่นกันเพื่อสามารถชนะค่าครองชีพให้ทันความเป็นจริง,ราคาสินค้า100บาทต่อชิ้น,เงินเดือนยัง9,000บาทต่อเดือนมันใข่เหรอ,จาก100บาทเคยซื้อของได้5-6ชิ้นหรือมากกว่า,หรือ15,000บาทต่อเดือนก็ตาม,แต่สถานะค่าดำรงชีพจริงและการใช้จ่ายไทบ้านประชาชนปกติธรรมดายังหาตังหารายได้ได้น้อยกว่าที่เป็นจริง,หรือสูงกว่ารายได้,หรือค่าใช้จ่ายต่างๆทั่วชุมชนส่งคมรอบๆตนแพงสูงขึ้นนั้นเอง,การปกครองหากแก้ต้นเหตุได้จะจบสิ้นทันที,ทุกๆอย่างหากควบคุมที่ต้นเหตุได้จริง คนไทยเราจะใช้ชีวิตไม่ลำบากมาถึงทุกๆวันนี้เพราะสถาบันภาคนักการเมืองเสื่อมสถานะแล้วขาดคุณสมบัติให้บริหารชาติปกครองประเทศอีกต่อไปโดยสิ้นเชิง,อบต.ต้องยุบทั่วประเทศสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน,เรามีข้าราชการมากเกินไปและเป็นระบบอุปถัมภ์เสียมาก,พี่น้องวงศ์ตระกูลทั้งสิ้นเสียมากต่างฝาดต่างให้คะแนนผ่านสอบกัน,หายุติธรรมลำบาก,เป็นไปด้วยการทุจริตใต้โต๊ะโดยมากโดยผู้หลักผู้ใหญ่ภายในองค์กรคัดเลือกนี้เอง,เงินกว่า60-70%ของงบประเทศจะเป็นไปเพื่อค่าสาระพัดต่างๆที่เสียไปแก่คนในระบบราชการนี้,เงินเดือนไม่พอ มีสวัสดิการ ค่าเบี้ยเลี้ยงเบี้ยประชุมสัมมนาอีกไม่รวมโบนัสค่าตำแหน่งค่าน้ำมันรถค่าบ้านค่าไฟเบิกหลวงทางอ้อมได้หมดนอกจากทางตรงแค่ตังเงินเดือน,ส่วนประชาชนกินแกลบเสียค่าปรับค่าธรรมเนียมค่าบำรุงคนของข้าราชการรัฐตรึมภาษีสาระพัดค่าใบอนุญาตจิปาถะ ,พื้นๆไปดูโรงเรียนเลย เก็บค่านั้นนี้กับผู้ปกครองเด็กๆสาระพัด ค่ากิจกรรมต่างๆอีก เรี่ยไรสร้างสาระพัดสิ่งในโรงเรียนอีก,เคสสถานศึกษาดูง่ายที่สุด.
    ..คือประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลงต้องพลิกประเทศจริงๆ,มีบ่อน้ำมันเต็มประเทศบ่อทองคำมากล้นเป็นสายทางแร่ แต่จากการปกครองผ่านมาหลายทศวรรษพิสูจน์แล้วว่าเหี้ยหมด,ตกประเมินก็ได้,ขาดคุณสมบัติก็ด้วย,ล้มเหลวทางการปกครองยิ่งชัด,ดูได้ชัดเจนจากสถาบันภาคการเมืองบริหารปกครองระบบราชการไม่ดี ปล่อยบ่อน้ำมันให้ตกไปแก่เอกชนต่างชาติและเอกชนภายในประเทศที่ถูกครอบงำจากคนไม่ดีไปตกแก่พวกนี้เกือบ100% รัฐบาลเองโดยสถาบันภาคนักการเมืองต้องบริหารอย่างซื่อสัตย์สุจริตใจต่อประชาชนต่อประเทศต่ออธิปไตยตนเองเพราะแน่นอนบ่อน้ำมันนั้นหากเขาได้ไปจะเสียสิทธิ์ทางอธิปไตยพื้นที่สัมปทานไปทันทีคือแปลงที่ดินนั้นเขาได้สิทธิเหนือกฎหมายอธิปไตยชาติไทยทันที,สะดวกต่อกิจกรรมใดๆเอกชนนั้นทันที,กว่าเสียอธิปไตยพรมแดนเขมรอีกที่เป็นเรื่องในตอนนี้,สัมปทานไปกว่า21ครั้งแล้ว เสียพื้นที่บริหารจัดการทางที่ดินไปกี่ล้านไร่แล้วทั่วประเทศ,ชาวบ้านขุดเจอน้ำมันบนที่ดินตนเองปกติสมควรเป็นของส่วนรวมแต่เหี้ยเอกชนนั้นๆมันมายึดครองทันที เช่นแปลงสัมปทานที่มันได้กินพื้นที่อุดร สกล หนองคาย หากชาวบ้านขุดบ่อบาดาลแล้วเจอน้ำมัน พวกมันมายึดไปขุดแทนที่ทันที,นี้คือกฎหมายและสัมปทานขายอธิปไตยความมั่นคงทางพลังงานและอธิปไตยเหนือที่ดินประชาชนชาวไทยเราทันที,ต้องฉีกทิ้งกฎหมายนี้ทั้งหมดทันทีเช่นกัน ,นี้คือหน้าที่ภาคประชาชนคนไทยต้องจบในรุ่นยุคเราให้ได้,มันบัดสบพอแล้ว,อิหร่านมีบ่อน้ำมันมีโรงกลั่นน้ำมันน้อยกว่าไทยเสือกขายน้ำมันภายในประเทศอิหร่านแค่ลิตรละ1-2บาทได้,นั้นแสดงว่าวิถีปกครองเรามีปัญหาและคือตัวถ่วงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนคนไทยเราทั้งประเทศจริง,และตัวการใหญ่ที่ทำไมจึงตั้งใจปกครองให้ประชาชนโง่ไม่ให้รู้ความจริงตรงนีัและอัดสถานะเพิ่มบัตรคนจนให้มากๆคงความมั่นคงทางความยากจนความจนให้คนไทยมากๆ.
    ..เราต้องการเห็นภาคประชาชนชนะและยึดอำนาจรัฐบาลจริงจังได้เสียที,ไล่ออกรัฐบาลสมคบคิดต่อศัตรูภัยอธิปไตยชาติไทยตนเองภัยคุกคามแผ่นดินไทยตนเองทันทีแล้วทำให้สุดซอยยึดอำนาจโดยภาคประชาชนเลยเคียงคู่ทหารไทยเราที่ยืนเคียงข้างประชาชนคนไทยตนเองเพราะทหารทุกๆคนก็ประชาชนคนไทยเรานี้ไปเป็นทหารในชื่อว่าทหารแทนชื่ิอว่าประชาชนคนไทยคนหนึ่งเท่านั้น,ประเทศไทยถึงเวลาเปลี่ยนแปลงกันอย่างจริงจังครั่งใหญ่แล้ว,เพราะนี้คือสงครามย่อยบทท้าทายเบื้องต้นแค่นั่น,รัฐบาลที่มาจากภาคประชาชนยึดอำนาจปกครองเองที่มิใช่ทหาร ประเทศทั่วโลกไหนจะเหี้ยประนามเรา,เราสมควรเลิกชุมนุมแล้วให้ทหารรับกรรมว่ายึดอำนาจรัฐประหารเถอะ,เรา..ประชาชนยึดอำนาจเองเลย ทำให้สุดซอยเลย,ไม่มีใครผิดกฎหมายในกระบวนการยึดอำนาจจริงคืนมาจากตัวแทนที่เลวชั่วใช้อำนาจเราไปทางที่ชั่วเลวนั่นเองจนสู่ภัยคุกคามที่ร้ายแรงถึงอธิปไตยชาติไทยตนเองจะปล่อยไว้ทำซากอะไรให้เนินนานขนาดนี้.

    https://youtu.be/MGtFbJDl1lc?si=EXDyGbqUgRSqHBov
    รวมพลังแผ่นดินยึดอำนาจโดยมวลมหาพลังชนคนแผ่นดินไทยเลย,วิจัยสัก10-20ปีว่ารูปแบบบริหารจัดการโดยภาคประชาชนเป็นผู้นำประเทศจะเป็นแบบใด,ดีกว่านักการเมืองบริหารราชการหรือภาคประชาชนบริหารราชการไทยดีกว่า,อนาคตกฎหมายอะไรที่ออกมาแล้วที่ผ่านๆมาจากกฎกระทรวงทบวงกรมเขียนออกเองแล้วเหี้ยๆมากมายสามารถฉีกทิ้งได้เลยด้วยทีมเฉพาะพิเศษของภาคประชาชนมาดูเรื่องนี้โดยเฉพาะ,เช่นกฎหมายที่ดินมากมายที่นายทุนทั้งในและต่างประเทศใช้กฎหมายบัดสบนั้นย่ำยีอธิปไตยในที่ดินชาติไทยมานานยึดครองแทนประชาชนคนไทยไปเป็นอันมากโดยอาศัยกฎหมายนั้นๆเขียนเอื้ออำนวยสร้างให้พวกมันจะจัดการใหม่ทั้งหมด เมื่อภาคประชาชนยึดอำนาจได้แล้ว สิ้นสุดสถาบันนักการเมือง มาเป็นสถาบันของประชาชนเลยปกครองเอง เขียนกฎหมายที่ดำรงไว้เพื่อประชาชนจริงมิใช่เพื่อคนต่างชาติต่างประเทศเพื่อนายทุนซึ่งส่วนใหญ่คืออีลิทdeep stateต้องการปกครองประชาชนคนไทยผ่านลักษณะภาคการเมืองและภาคกิจการบริษัทการยึดกิจการผูกขาดต่างๆภายในประเทศ ชาวไทยเรากำหนดราคาสินค้าที่เหมาะสมไม่ได้เลย,เช่นสินค้าทุกๆชนิดต้องขึ้นลงตามราคาทองคำเพราะทองคำยังอ้างอิงใช้เป็นหลักค้ำประกันการพิมพ์พันธบัตรได้หรือค้ำประกันตังดิจิดัลของรัฐบาลตนก็ว่า,สามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อทันทีได้,ตลอดเงินเดือนค่าแรงงานคนไทยต้องอ้างอิงราคาทองคำเรียลไทม์ด้วยเช่นกันเพื่อสามารถชนะค่าครองชีพให้ทันความเป็นจริง,ราคาสินค้า100บาทต่อชิ้น,เงินเดือนยัง9,000บาทต่อเดือนมันใข่เหรอ,จาก100บาทเคยซื้อของได้5-6ชิ้นหรือมากกว่า,หรือ15,000บาทต่อเดือนก็ตาม,แต่สถานะค่าดำรงชีพจริงและการใช้จ่ายไทบ้านประชาชนปกติธรรมดายังหาตังหารายได้ได้น้อยกว่าที่เป็นจริง,หรือสูงกว่ารายได้,หรือค่าใช้จ่ายต่างๆทั่วชุมชนส่งคมรอบๆตนแพงสูงขึ้นนั้นเอง,การปกครองหากแก้ต้นเหตุได้จะจบสิ้นทันที,ทุกๆอย่างหากควบคุมที่ต้นเหตุได้จริง คนไทยเราจะใช้ชีวิตไม่ลำบากมาถึงทุกๆวันนี้เพราะสถาบันภาคนักการเมืองเสื่อมสถานะแล้วขาดคุณสมบัติให้บริหารชาติปกครองประเทศอีกต่อไปโดยสิ้นเชิง,อบต.ต้องยุบทั่วประเทศสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน,เรามีข้าราชการมากเกินไปและเป็นระบบอุปถัมภ์เสียมาก,พี่น้องวงศ์ตระกูลทั้งสิ้นเสียมากต่างฝาดต่างให้คะแนนผ่านสอบกัน,หายุติธรรมลำบาก,เป็นไปด้วยการทุจริตใต้โต๊ะโดยมากโดยผู้หลักผู้ใหญ่ภายในองค์กรคัดเลือกนี้เอง,เงินกว่า60-70%ของงบประเทศจะเป็นไปเพื่อค่าสาระพัดต่างๆที่เสียไปแก่คนในระบบราชการนี้,เงินเดือนไม่พอ มีสวัสดิการ ค่าเบี้ยเลี้ยงเบี้ยประชุมสัมมนาอีกไม่รวมโบนัสค่าตำแหน่งค่าน้ำมันรถค่าบ้านค่าไฟเบิกหลวงทางอ้อมได้หมดนอกจากทางตรงแค่ตังเงินเดือน,ส่วนประชาชนกินแกลบเสียค่าปรับค่าธรรมเนียมค่าบำรุงคนของข้าราชการรัฐตรึมภาษีสาระพัดค่าใบอนุญาตจิปาถะ ,พื้นๆไปดูโรงเรียนเลย เก็บค่านั้นนี้กับผู้ปกครองเด็กๆสาระพัด ค่ากิจกรรมต่างๆอีก เรี่ยไรสร้างสาระพัดสิ่งในโรงเรียนอีก,เคสสถานศึกษาดูง่ายที่สุด. ..คือประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลงต้องพลิกประเทศจริงๆ,มีบ่อน้ำมันเต็มประเทศบ่อทองคำมากล้นเป็นสายทางแร่ แต่จากการปกครองผ่านมาหลายทศวรรษพิสูจน์แล้วว่าเหี้ยหมด,ตกประเมินก็ได้,ขาดคุณสมบัติก็ด้วย,ล้มเหลวทางการปกครองยิ่งชัด,ดูได้ชัดเจนจากสถาบันภาคการเมืองบริหารปกครองระบบราชการไม่ดี ปล่อยบ่อน้ำมันให้ตกไปแก่เอกชนต่างชาติและเอกชนภายในประเทศที่ถูกครอบงำจากคนไม่ดีไปตกแก่พวกนี้เกือบ100% รัฐบาลเองโดยสถาบันภาคนักการเมืองต้องบริหารอย่างซื่อสัตย์สุจริตใจต่อประชาชนต่อประเทศต่ออธิปไตยตนเองเพราะแน่นอนบ่อน้ำมันนั้นหากเขาได้ไปจะเสียสิทธิ์ทางอธิปไตยพื้นที่สัมปทานไปทันทีคือแปลงที่ดินนั้นเขาได้สิทธิเหนือกฎหมายอธิปไตยชาติไทยทันที,สะดวกต่อกิจกรรมใดๆเอกชนนั้นทันที,กว่าเสียอธิปไตยพรมแดนเขมรอีกที่เป็นเรื่องในตอนนี้,สัมปทานไปกว่า21ครั้งแล้ว เสียพื้นที่บริหารจัดการทางที่ดินไปกี่ล้านไร่แล้วทั่วประเทศ,ชาวบ้านขุดเจอน้ำมันบนที่ดินตนเองปกติสมควรเป็นของส่วนรวมแต่เหี้ยเอกชนนั้นๆมันมายึดครองทันที เช่นแปลงสัมปทานที่มันได้กินพื้นที่อุดร สกล หนองคาย หากชาวบ้านขุดบ่อบาดาลแล้วเจอน้ำมัน พวกมันมายึดไปขุดแทนที่ทันที,นี้คือกฎหมายและสัมปทานขายอธิปไตยความมั่นคงทางพลังงานและอธิปไตยเหนือที่ดินประชาชนชาวไทยเราทันที,ต้องฉีกทิ้งกฎหมายนี้ทั้งหมดทันทีเช่นกัน ,นี้คือหน้าที่ภาคประชาชนคนไทยต้องจบในรุ่นยุคเราให้ได้,มันบัดสบพอแล้ว,อิหร่านมีบ่อน้ำมันมีโรงกลั่นน้ำมันน้อยกว่าไทยเสือกขายน้ำมันภายในประเทศอิหร่านแค่ลิตรละ1-2บาทได้,นั้นแสดงว่าวิถีปกครองเรามีปัญหาและคือตัวถ่วงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนคนไทยเราทั้งประเทศจริง,และตัวการใหญ่ที่ทำไมจึงตั้งใจปกครองให้ประชาชนโง่ไม่ให้รู้ความจริงตรงนีัและอัดสถานะเพิ่มบัตรคนจนให้มากๆคงความมั่นคงทางความยากจนความจนให้คนไทยมากๆ. ..เราต้องการเห็นภาคประชาชนชนะและยึดอำนาจรัฐบาลจริงจังได้เสียที,ไล่ออกรัฐบาลสมคบคิดต่อศัตรูภัยอธิปไตยชาติไทยตนเองภัยคุกคามแผ่นดินไทยตนเองทันทีแล้วทำให้สุดซอยยึดอำนาจโดยภาคประชาชนเลยเคียงคู่ทหารไทยเราที่ยืนเคียงข้างประชาชนคนไทยตนเองเพราะทหารทุกๆคนก็ประชาชนคนไทยเรานี้ไปเป็นทหารในชื่อว่าทหารแทนชื่ิอว่าประชาชนคนไทยคนหนึ่งเท่านั้น,ประเทศไทยถึงเวลาเปลี่ยนแปลงกันอย่างจริงจังครั่งใหญ่แล้ว,เพราะนี้คือสงครามย่อยบทท้าทายเบื้องต้นแค่นั่น,รัฐบาลที่มาจากภาคประชาชนยึดอำนาจปกครองเองที่มิใช่ทหาร ประเทศทั่วโลกไหนจะเหี้ยประนามเรา,เราสมควรเลิกชุมนุมแล้วให้ทหารรับกรรมว่ายึดอำนาจรัฐประหารเถอะ,เรา..ประชาชนยึดอำนาจเองเลย ทำให้สุดซอยเลย,ไม่มีใครผิดกฎหมายในกระบวนการยึดอำนาจจริงคืนมาจากตัวแทนที่เลวชั่วใช้อำนาจเราไปทางที่ชั่วเลวนั่นเองจนสู่ภัยคุกคามที่ร้ายแรงถึงอธิปไตยชาติไทยตนเองจะปล่อยไว้ทำซากอะไรให้เนินนานขนาดนี้. https://youtu.be/MGtFbJDl1lc?si=EXDyGbqUgRSqHBov
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 660 มุมมอง 0 รีวิว
  • ติดลบ 2 เดือนติด ‘เงินเฟ้อไทย’ : [Biz Talk]

    เงินเฟ้อทั่วไปของไทย ติดลบ 2 เดือนติด (เม.ย-พ.ค.68) ตามการลดลงของราคาสินค้ากลุ่มพลังงาน,ผัก-ผลไม้สด สนค.ปรับเป้าเงินเฟ้อทั่วไปทั้งปี68 จาก 0.3–1.3% เป็น 0.0–1.0% ย้ำไร้สัญญาณเงินฝืด ประเมิน มิ.ย.จะยังอยู่ระดับต่ำ แต่เริ่มพลิกกลับมาเป็นบวก
    ติดลบ 2 เดือนติด ‘เงินเฟ้อไทย’ : [Biz Talk] เงินเฟ้อทั่วไปของไทย ติดลบ 2 เดือนติด (เม.ย-พ.ค.68) ตามการลดลงของราคาสินค้ากลุ่มพลังงาน,ผัก-ผลไม้สด สนค.ปรับเป้าเงินเฟ้อทั่วไปทั้งปี68 จาก 0.3–1.3% เป็น 0.0–1.0% ย้ำไร้สัญญาณเงินฝืด ประเมิน มิ.ย.จะยังอยู่ระดับต่ำ แต่เริ่มพลิกกลับมาเป็นบวก
    Sad
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • มีเพื่อนเพจเคยขอให้เขียนถึงองครักษ์เสื้อแพรนอกเหนือจากที่มีในซีรีส์ ข้อมูลหาไม่ง่าย วันนี้เริ่มด้วยเรื่องเงินๆ ทองๆ ยาวหน่อยนะคะ แต่เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายคนต้องเคยสงสัยเกี่ยวกับเรื่องค่าเงิน

    ความมีอยู่ว่า
    ...เกาชิ่งมาเรียกหาจินเซี่ยแล้วถาม: “ใต้เท้าลู่มีคำถาม วันนี้เช่าเรือทั้งหมดสองเหลี่ยง รวมค่าชาและขนมบนเรืออีก คิดเป็นประมาณสามเฉียนแล้วกัน ท่านใต้เท้าออกเงินไปให้ก่อน แต่ถามว่าเมื่อใดพวกเจ้าจึงจะใช้คืน?”....
    - จากเรื่อง <เบื้องล่างของเสื้อแพร> ผู้แต่ง หลานเส้อซือ
    (หมายเหตุ ละครเรื่องยอดองค์รักษ์เสื้อแพรดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    ก่อนอื่นเทียบมูลค่าเงิน: 1 ตำลึงเงิน (เหลี่ยง) = 1,000 เฉียน (คือ เหวิน หรือ อีแปะ) = 1 ก้วน (พวงเหรียญเฉียน)

    ก่อนจะพูดถึงรายรับ เราดูค่าครองชีพกันหน่อย ราชวงศ์หมิงยาวนานเกือบ 300 ปี แต่ลู่ปิ่งและลู่อี้มีตัวตนจริงอยู่ในรัชสมัยขององค์หมิงสื้อจง (ค.ศ. 1521-1567) (Storyฯ เคยเขียนถึงมาหลายเดือนก่อน) ในยุคสมัยนั้น เนื้อหมูหนึ่งชั่งราคา 7-8 เฉียน เนื้อไก่หนึ่งชั่งราคา 3-4 เฉียน (เทียบเท่าน้ำหนักปัจจุบัน 595 กรัม) ดังนั้นราคาขนมและชาที่ยกข้อความมาจากในนิยายข้างต้นก็พอจะฟังดูสมเหตุสมผล

    คำถามต่อมาคือ องครักษ์เสื้อแพรมีรายรับเท่าไหร่เมื่อเทียบกับค่าครองชีพตามข้างต้น?

    มีตารางข้อมูลจาก “หมิงสื่อ /明史” หรือบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงมาให้ดู (ดูรูปประกอบ) เป็นอัตราเงินเดือนของขุนนางที่กำหนดไว้โดยปฐมกษัตริย์จูหยวนจาง จ่ายเป็นเดือน แต่กำหนดอัตราไว้เป็นรายปี วงให้ดูว่าเงินเดือนของใต้เท้าลู่อี้และพ่อของเขาคือ:
    ลู่ถิง (ในนิยายชื่อลู่ปิ่ง) เป็นผู้บัญชาการสูงสุดขององครักษ์เสื้อแพร ยศขุนนางขั้นที่สามเต็ม ได้เงินเดือนเป็นข้าวสาร 420 ตาน/ปี (เขียนหน่วยเป็นสือ ต่อมาเรียกเป็นตาน) ส่วนใต้เท้าลู่อี้ของเราในนิยายกล่าวไว้ว่าตอนที่แรกพบกับนางเอก เขาเป็นเพียงขุนนางขั้นที่เจ็ดล่าง ได้เงินเดือนเป็นข้าวสาร 84 ตาน/ปี หรือ 7 ตาน/เดือน

    ท่านอ่านไม่ผิดค่ะ เงินเดือนของข้าราชการสมัยนั้นปกติจ่ายเป็นข้าวสาร

    ข้าวสารหนึ่งตานสมัยนั้นหน้าตาเป็นกระบุงหาบ เทียบเท่าน้ำหนักปัจจุบันประมาณ 60 กก. เชื่อว่าขุนนางระดับสูงเวลารับเงินเดือนต้องใช้รถเข็นเลยทีเดียว

    แล้วถ้าคิดเป็นเงินล่ะ? อันนี้ผันแปรตามเงินเฟ้อ ข้าวสารหนึ่งตานในสมัยของใต้เท้าลู่นั้นราคา 0.584 ตำลึงเงิน ดังนั้นใต้เท้าลู่มีเงินเดือนเพียงประมาณ 4 ตำลึงเงิน/เดือน หรือ 4,000 เฉียนเท่านั้น! (ภาพการควักเงินหยวนเป่าออกมาวางให้เสี่ยวเอ้อตาโต หายแวบไปจากมโนของ Storyฯ ทันที)

    แล้วถ้าเปรียบเทียบวิชาชีพอื่น? สรุปโดยประมาณได้ดังนี้: ค่าจ้าง 600-1,700 เฉียน/เดือนขึ้นอยู่กับระดับงาน แผงขายอาหารในเมืองใหญ่ 1,300-1,600 เฉียน/เดือน ที่ดูจะรายได้ดีมากคือคนขับรถม้าที่ 3,000 เฉียน/เดือนเลยทีเดียว (หาไม่พบว่าเป็นเพราะอะไร) ส่วนเกษตรกรรายได้เฉลี่ย 750-1,200 เฉียน/เดือน

    แต่ขุนนางมี ‘สวัสดิการ’ อย่างอื่นด้วยคือผ้า เงินค่าน้ำชา ฟืน ชุดประจำตำแหน่ง จวนประจำตำแหน่ง เป็นต้น และยังไม่ต้องเสียภาษีเหมือนชาวนาหรือพ่อค้า แน่นอนว่าการต้องเลี้ยงบ่าวไพร่ทั้งเรือนก็มีค่าใช้จ่ายสูงอยู่ แต่เทียบกับวิชาชีพอื่นแล้ว หากได้เป็นขุนนางติดยศชีวิตความเป็นอยู่จะดีมาก

    สมัยนั้นตำแหน่งจอหงวนคือลำดับหกเต็ม Storyฯ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมคนถึงขวนขวายเข้าเมืองหลวงสอบจอหงวนกัน ยศสูงกว่าใต้เท้าลู่อี้เสียอีก! (วันนี้คุยเรื่องเงินทอง ไม่คุยเรื่องอุดมการณ์ค่ะ)

    เขียนเพิ่มเติมหลังจากอัพเพจครั้งแรก:
    ในช่วงเวลาที่ไม่ปกติ เช่นแล้ง หรือเกิดสงคราม ข้าวในคลังมีน้อย หรือในฤดูที่ไม่มีการเก็บเกี่ยว มีการแก้ไขการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ โดยกำหนดมูลค่าของข้าวเทียบเท่าของอย่างอื่น เช่น ผ้าผืน พริกไทย ใบชา เป็นต้น (อะไรก็ได้ที่มีมากในคลังหลวง) ต่อมาจึงมีแบ่งจ่ายเป็นตั๋วเงินด้วย ต่อมาในช่วงปลายราชวงศ์หมิงจึงเปลี่ยนมากำหนดให้จ่ายเป็นข้าว ตั๋วเงินและเงิน แต่ยังคงเทียบอัตราเงินเดือนเป็นข้าวสารอยู่

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากและข้อมูลเรียบเรียงจาก:
    https://www.sohu.com/a/360665261_162238
    https://www.bilibili.com/read/cv9844919
    https://www.zmkm8.com/artdata-94382.html
    https://www.sohu.com/a/273067566_559864
    http://www.gushizhuan.com/gdws/284082.html

    #ใต้เท้าลู่ #องครักษ์เสื้อแพร #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ราชวงศ์หมิง #วัฒนธรรมจีนโบราณ #เงินจีนโบราณ #เงินเดือนข้าราชการจีน
    มีเพื่อนเพจเคยขอให้เขียนถึงองครักษ์เสื้อแพรนอกเหนือจากที่มีในซีรีส์ ข้อมูลหาไม่ง่าย วันนี้เริ่มด้วยเรื่องเงินๆ ทองๆ ยาวหน่อยนะคะ แต่เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายคนต้องเคยสงสัยเกี่ยวกับเรื่องค่าเงิน ความมีอยู่ว่า ...เกาชิ่งมาเรียกหาจินเซี่ยแล้วถาม: “ใต้เท้าลู่มีคำถาม วันนี้เช่าเรือทั้งหมดสองเหลี่ยง รวมค่าชาและขนมบนเรืออีก คิดเป็นประมาณสามเฉียนแล้วกัน ท่านใต้เท้าออกเงินไปให้ก่อน แต่ถามว่าเมื่อใดพวกเจ้าจึงจะใช้คืน?”.... - จากเรื่อง <เบื้องล่างของเสื้อแพร> ผู้แต่ง หลานเส้อซือ (หมายเหตุ ละครเรื่องยอดองค์รักษ์เสื้อแพรดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) ก่อนอื่นเทียบมูลค่าเงิน: 1 ตำลึงเงิน (เหลี่ยง) = 1,000 เฉียน (คือ เหวิน หรือ อีแปะ) = 1 ก้วน (พวงเหรียญเฉียน) ก่อนจะพูดถึงรายรับ เราดูค่าครองชีพกันหน่อย ราชวงศ์หมิงยาวนานเกือบ 300 ปี แต่ลู่ปิ่งและลู่อี้มีตัวตนจริงอยู่ในรัชสมัยขององค์หมิงสื้อจง (ค.ศ. 1521-1567) (Storyฯ เคยเขียนถึงมาหลายเดือนก่อน) ในยุคสมัยนั้น เนื้อหมูหนึ่งชั่งราคา 7-8 เฉียน เนื้อไก่หนึ่งชั่งราคา 3-4 เฉียน (เทียบเท่าน้ำหนักปัจจุบัน 595 กรัม) ดังนั้นราคาขนมและชาที่ยกข้อความมาจากในนิยายข้างต้นก็พอจะฟังดูสมเหตุสมผล คำถามต่อมาคือ องครักษ์เสื้อแพรมีรายรับเท่าไหร่เมื่อเทียบกับค่าครองชีพตามข้างต้น? มีตารางข้อมูลจาก “หมิงสื่อ /明史” หรือบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงมาให้ดู (ดูรูปประกอบ) เป็นอัตราเงินเดือนของขุนนางที่กำหนดไว้โดยปฐมกษัตริย์จูหยวนจาง จ่ายเป็นเดือน แต่กำหนดอัตราไว้เป็นรายปี วงให้ดูว่าเงินเดือนของใต้เท้าลู่อี้และพ่อของเขาคือ: ลู่ถิง (ในนิยายชื่อลู่ปิ่ง) เป็นผู้บัญชาการสูงสุดขององครักษ์เสื้อแพร ยศขุนนางขั้นที่สามเต็ม ได้เงินเดือนเป็นข้าวสาร 420 ตาน/ปี (เขียนหน่วยเป็นสือ ต่อมาเรียกเป็นตาน) ส่วนใต้เท้าลู่อี้ของเราในนิยายกล่าวไว้ว่าตอนที่แรกพบกับนางเอก เขาเป็นเพียงขุนนางขั้นที่เจ็ดล่าง ได้เงินเดือนเป็นข้าวสาร 84 ตาน/ปี หรือ 7 ตาน/เดือน ท่านอ่านไม่ผิดค่ะ เงินเดือนของข้าราชการสมัยนั้นปกติจ่ายเป็นข้าวสาร ข้าวสารหนึ่งตานสมัยนั้นหน้าตาเป็นกระบุงหาบ เทียบเท่าน้ำหนักปัจจุบันประมาณ 60 กก. เชื่อว่าขุนนางระดับสูงเวลารับเงินเดือนต้องใช้รถเข็นเลยทีเดียว แล้วถ้าคิดเป็นเงินล่ะ? อันนี้ผันแปรตามเงินเฟ้อ ข้าวสารหนึ่งตานในสมัยของใต้เท้าลู่นั้นราคา 0.584 ตำลึงเงิน ดังนั้นใต้เท้าลู่มีเงินเดือนเพียงประมาณ 4 ตำลึงเงิน/เดือน หรือ 4,000 เฉียนเท่านั้น! (ภาพการควักเงินหยวนเป่าออกมาวางให้เสี่ยวเอ้อตาโต หายแวบไปจากมโนของ Storyฯ ทันที) แล้วถ้าเปรียบเทียบวิชาชีพอื่น? สรุปโดยประมาณได้ดังนี้: ค่าจ้าง 600-1,700 เฉียน/เดือนขึ้นอยู่กับระดับงาน แผงขายอาหารในเมืองใหญ่ 1,300-1,600 เฉียน/เดือน ที่ดูจะรายได้ดีมากคือคนขับรถม้าที่ 3,000 เฉียน/เดือนเลยทีเดียว (หาไม่พบว่าเป็นเพราะอะไร) ส่วนเกษตรกรรายได้เฉลี่ย 750-1,200 เฉียน/เดือน แต่ขุนนางมี ‘สวัสดิการ’ อย่างอื่นด้วยคือผ้า เงินค่าน้ำชา ฟืน ชุดประจำตำแหน่ง จวนประจำตำแหน่ง เป็นต้น และยังไม่ต้องเสียภาษีเหมือนชาวนาหรือพ่อค้า แน่นอนว่าการต้องเลี้ยงบ่าวไพร่ทั้งเรือนก็มีค่าใช้จ่ายสูงอยู่ แต่เทียบกับวิชาชีพอื่นแล้ว หากได้เป็นขุนนางติดยศชีวิตความเป็นอยู่จะดีมาก สมัยนั้นตำแหน่งจอหงวนคือลำดับหกเต็ม Storyฯ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมคนถึงขวนขวายเข้าเมืองหลวงสอบจอหงวนกัน ยศสูงกว่าใต้เท้าลู่อี้เสียอีก! (วันนี้คุยเรื่องเงินทอง ไม่คุยเรื่องอุดมการณ์ค่ะ) เขียนเพิ่มเติมหลังจากอัพเพจครั้งแรก: ในช่วงเวลาที่ไม่ปกติ เช่นแล้ง หรือเกิดสงคราม ข้าวในคลังมีน้อย หรือในฤดูที่ไม่มีการเก็บเกี่ยว มีการแก้ไขการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ โดยกำหนดมูลค่าของข้าวเทียบเท่าของอย่างอื่น เช่น ผ้าผืน พริกไทย ใบชา เป็นต้น (อะไรก็ได้ที่มีมากในคลังหลวง) ต่อมาจึงมีแบ่งจ่ายเป็นตั๋วเงินด้วย ต่อมาในช่วงปลายราชวงศ์หมิงจึงเปลี่ยนมากำหนดให้จ่ายเป็นข้าว ตั๋วเงินและเงิน แต่ยังคงเทียบอัตราเงินเดือนเป็นข้าวสารอยู่ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากและข้อมูลเรียบเรียงจาก: https://www.sohu.com/a/360665261_162238 https://www.bilibili.com/read/cv9844919 https://www.zmkm8.com/artdata-94382.html https://www.sohu.com/a/273067566_559864 http://www.gushizhuan.com/gdws/284082.html #ใต้เท้าลู่ #องครักษ์เสื้อแพร #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ราชวงศ์หมิง #วัฒนธรรมจีนโบราณ #เงินจีนโบราณ #เงินเดือนข้าราชการจีน
    《锦衣之下》即将上线 任嘉伦谭松韵“猫鼠游戏“甜酥来袭_悬疑
    此次曝光的海报中,锦衣卫经历陆绎(任嘉伦饰)一身大红炽金飞鱼服,手握绣春刀伫立,眼神凌厉气势十足;六扇门小捕快袁今夏(谭松韵饰)侧抱花猫,明眸善睐、笑容明媚极具少女感;严世蕃(韩栋饰)执扇侧立,神思沉稳…
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 704 มุมมอง 0 รีวิว
  • แบงค์ชาติเราสมควรผูกค่าเงินอ้างอิงค่าเงินใหม่,กำหนดทิศทางอ้างอิงราคาสินค้าช่วยเหลือการแลกเปลี่ยนซื้อขายทางธุรกรรมการเงินและการค้าการตลาดที่แท้จริงได้ด้วย,เช่นเมื่อเอาทองคำไปค้ำประกันการพิมพ์ตังออกมา,ก็สู้สมควรทำสุดซอยใหม่ในยุคนี้คือผูกอ้างอิงการขึ้นลงจริงของราคาทองคำกำหนดเป็นมาตราฐานมูลค่าเงินบาทในตัวด้วยตัดอัตราเงินเฟ้อทิ้งไปเลยได้ด้วย,1บาททองคำจับวันที่ราคาทองคำสูงสุดเป็นราคาฐานเทียบเงินบาทแบบ50,000บาทเงินก็ว่า,หากราคาทองคำขึ้นลง ให้ราคาสินค้าปรับขึ้นลงให้เรียลไทม์แต่ไม่เกินขั้นสูงขั้นต่ำของวันนั้นๆก็ว่า,เช่น ข้าวปกติขายราคาตันละ15,000บาทเงิน,เทียบราคาทองคำฐานคือ50,000บาท,ราคาข้าวในตลาดที่แท้จริงต้องทำการซื้อขายจริงนับจากวันนี้ตลอดไปที่ราคาขึ้นลงอ้างอิงราคาทองคำในแต่ละวันคูณทันที2.34,เท่ากับ35,100บาท เอาไปบวกราคาเดิม15,000บาทคือ50,100บาทเงินต่อข้าว1ตัน.,เงินเดือนคนทำงานทุกๆคนในประเทศไทยจะเอกชนหรือต่างชาติต้องทำเช่นเดียวกันนี้,ทุกๆอย่างที่ตีมูลค่าเป็นเงินบาทยกเว้นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรากับชาติอื่นๆทั่วโลก ให้ทำเหมือนราคาขายข้าว สินค้าอุปโภคบริโภคและบริการตีมูลค่าใหม่ได้ทันที ส่วนใครจะพังจะล้มละลายต้องบริหารภายในกันเองให้ดี ปรับตัวให้ทัน,ก๋วยเตี๋ยวชามละ15บาท ขายทันทีชามละ50.10บาทหรือชามละ50บาทก็ราคาปกติทันที,เราจะทันค่าครองชีพที่แพง แก้อัตราเงินเฟ้อที่ทำลายมูลค่าเงินได้ทันทีด้วย.,ค่าเงินจะอ่อนค่าหรือแข็งค่าขึ้นมิใช่ใครจะเทขายหรือเข้าซื้อเงินบาทปั่นสาระพัดอิสระได้เสรีอีก,ค่าเงินบาทเสมือนอ้างอิงราคาทองคำจริงไปในตัวและสินค้าบริการทั้งประเทศไทยก็อ้างอิงราคาทองคำจริงสากลโลกด้วย.เมื่อเราเกาถูกที่คันก็แก้ไขทุกๆปัญหาได้ทันที,เช่นผีบ้าไทยที่เสือกไปอ้างอิงราคาน้ำมันสิงคโปร์ทั้งที่ประเทศไทยมีบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยมากกว่าอีกแม้ผู้นำผู้ปกครองและข้าราชการไทยจะขายบ่อน้ำมันขายชาติยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติก็ตามจากการให้สัมปทานเกินไปกว่า20ครั้งไปแล้วก็ว่า,ตลอดอ่าวไทยสดๆร้อนๆอีก2แปลงขนาดใหญ่ก็ยกให้คนอื่น,ผู้นำผู้ปกครองไทยชั่งชั่วโง่กากไร้ฝีมือสิ้นดีเสือกอยากเป็นผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจบนแผ่นดินไทย,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว เสือกยกความร่ำรวยมั่งคั่งให้คนอื่นมิใช่คนในชาติไทยตนเอง.,กระบวนการปล่อยกู้ก็เอารัดเอาเปรียบประชาชน ทวงหนี้ ยึดสาระพัดขายอะไรต่อมิอะไรของคนกู้ยึดทรัพย์จนครบตังครบดอกเบี้ยครบสาระพัดตังที่คิดตังเอาเปรียบคนกู้,ต่างชาติซื้อรถยึดรถก็จบคดีกัน,ซื้อบ้านยึดบ้านก็จบภาระหนี้กัน,มาดูไทยแมร่งปล่อยเอกชนรังแกคนกู้คนไทยสาระพัด,เราปกครองล้มเหลวจริงๆ.
    แบงค์ชาติเราสมควรผูกค่าเงินอ้างอิงค่าเงินใหม่,กำหนดทิศทางอ้างอิงราคาสินค้าช่วยเหลือการแลกเปลี่ยนซื้อขายทางธุรกรรมการเงินและการค้าการตลาดที่แท้จริงได้ด้วย,เช่นเมื่อเอาทองคำไปค้ำประกันการพิมพ์ตังออกมา,ก็สู้สมควรทำสุดซอยใหม่ในยุคนี้คือผูกอ้างอิงการขึ้นลงจริงของราคาทองคำกำหนดเป็นมาตราฐานมูลค่าเงินบาทในตัวด้วยตัดอัตราเงินเฟ้อทิ้งไปเลยได้ด้วย,1บาททองคำจับวันที่ราคาทองคำสูงสุดเป็นราคาฐานเทียบเงินบาทแบบ50,000บาทเงินก็ว่า,หากราคาทองคำขึ้นลง ให้ราคาสินค้าปรับขึ้นลงให้เรียลไทม์แต่ไม่เกินขั้นสูงขั้นต่ำของวันนั้นๆก็ว่า,เช่น ข้าวปกติขายราคาตันละ15,000บาทเงิน,เทียบราคาทองคำฐานคือ50,000บาท,ราคาข้าวในตลาดที่แท้จริงต้องทำการซื้อขายจริงนับจากวันนี้ตลอดไปที่ราคาขึ้นลงอ้างอิงราคาทองคำในแต่ละวันคูณทันที2.34,เท่ากับ35,100บาท เอาไปบวกราคาเดิม15,000บาทคือ50,100บาทเงินต่อข้าว1ตัน.,เงินเดือนคนทำงานทุกๆคนในประเทศไทยจะเอกชนหรือต่างชาติต้องทำเช่นเดียวกันนี้,ทุกๆอย่างที่ตีมูลค่าเป็นเงินบาทยกเว้นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรากับชาติอื่นๆทั่วโลก ให้ทำเหมือนราคาขายข้าว สินค้าอุปโภคบริโภคและบริการตีมูลค่าใหม่ได้ทันที ส่วนใครจะพังจะล้มละลายต้องบริหารภายในกันเองให้ดี ปรับตัวให้ทัน,ก๋วยเตี๋ยวชามละ15บาท ขายทันทีชามละ50.10บาทหรือชามละ50บาทก็ราคาปกติทันที,เราจะทันค่าครองชีพที่แพง แก้อัตราเงินเฟ้อที่ทำลายมูลค่าเงินได้ทันทีด้วย.,ค่าเงินจะอ่อนค่าหรือแข็งค่าขึ้นมิใช่ใครจะเทขายหรือเข้าซื้อเงินบาทปั่นสาระพัดอิสระได้เสรีอีก,ค่าเงินบาทเสมือนอ้างอิงราคาทองคำจริงไปในตัวและสินค้าบริการทั้งประเทศไทยก็อ้างอิงราคาทองคำจริงสากลโลกด้วย.เมื่อเราเกาถูกที่คันก็แก้ไขทุกๆปัญหาได้ทันที,เช่นผีบ้าไทยที่เสือกไปอ้างอิงราคาน้ำมันสิงคโปร์ทั้งที่ประเทศไทยมีบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยมากกว่าอีกแม้ผู้นำผู้ปกครองและข้าราชการไทยจะขายบ่อน้ำมันขายชาติยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติก็ตามจากการให้สัมปทานเกินไปกว่า20ครั้งไปแล้วก็ว่า,ตลอดอ่าวไทยสดๆร้อนๆอีก2แปลงขนาดใหญ่ก็ยกให้คนอื่น,ผู้นำผู้ปกครองไทยชั่งชั่วโง่กากไร้ฝีมือสิ้นดีเสือกอยากเป็นผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจบนแผ่นดินไทย,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว เสือกยกความร่ำรวยมั่งคั่งให้คนอื่นมิใช่คนในชาติไทยตนเอง.,กระบวนการปล่อยกู้ก็เอารัดเอาเปรียบประชาชน ทวงหนี้ ยึดสาระพัดขายอะไรต่อมิอะไรของคนกู้ยึดทรัพย์จนครบตังครบดอกเบี้ยครบสาระพัดตังที่คิดตังเอาเปรียบคนกู้,ต่างชาติซื้อรถยึดรถก็จบคดีกัน,ซื้อบ้านยึดบ้านก็จบภาระหนี้กัน,มาดูไทยแมร่งปล่อยเอกชนรังแกคนกู้คนไทยสาระพัด,เราปกครองล้มเหลวจริงๆ.
    พายุลูกใหญ่..ผู้ว่า ธปท.เตือนรับมือภาษีทรัมป์กระทบไทย : คนเคาะข่าว 02-06-68
    : เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
    ผู้ว่าการพบสื่อมวลชน (Meet the Press) ครั้งที่ 1/68 วันที่ 9 พ.ค.2568
    #คนเคาะข่าว #ภาษีทรัมป์ #ผลกระทบเศรษฐกิจไทย #ธปท #เศรษฐพุฒิสุทธิวาทนฤพุฒิ #ธนาคารแห่งประเทศไทย #นโยบายการเงิน #MeetThePress #เศรษฐกิจโลก #ข่าวเศรษฐกิจ #สงครามการค้า #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #thaitimes #การเงินไทย #พายุเศรษฐกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 610 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • ..เคยมโนเล่นๆไปหลายครัังแล้ว,ส่วนใครมีทองคำ ขายเลยอย่าถือไว้ เงินบาทเรามีทองคำค้ำประกันปกติมั่นคงในความแข็งแกร่งปกติอยู่แล้วอาจในระดับต้นๆของโลก สมดุลตัวปกติ,แต่ทองคำยุคนี้คือตัวปั่นสร้างราคาของอีลิทซาตานชัดเจน ฝ่ายแสงบ้าแสงบออย่าไปเชื่อเพราะอีลิทมืดมันคือเจ้าของบ่อทองคำเหมืองผลิตทองคำจริงเกือบทุกๆแห่งทั่วโลกไม่เว้นบ่อทองคำไทยเราด้วย,มันปั่นราคาให้สูงขึ้นชัดเจน อ้างbricsจะเป็นตังดิจิดัลโลกมีทองคำค้ำประกันใช้ทองคำเยอะราคาพุ่งเพราะแต่ละชาติต้องสะสมใช้ค้ำซึ่งหากมโนว่าจริงถ้าbricsคือองค์กรสากลของอีลิทยุคสมัยหน้าใหม่ก็ไม่แปลก,
    ..ทองคำถ้าบริหารจัดการขั้นตัดตอนจริงแบบอีลิทเจอตัดขาจริง,ไม่ใช่อีลิทสั่งควบคุมให้ปล่อยดันราคาให้สูงขึ้นแบบนี้ ทำลายกฎสมดุลเช่นราคาสินค้าอื่นๆที่เป็นอุปโภคบริโภคไปด้วยเพราะมันคือสินทรัพย์ที่ใช้ปั่นราคาเนียนๆนั้นเองโดยอ้างว่าทองคำเชื่อถือได้ที่สุดเพราะอีลิทมันโปรยัง,เดอะแก๊งเครือข่ายทั่วโลกเลยปั่นสะดวกเพราะนายใหญ่อนุญาตและรับรองการทำงานลงหน้างานไง,ถ้าผู้นำผีบ้าบางประเทศสมมุติแบบไทยที่ผู้ปกครองหรือผู้นำผู้มีอำนาจประเทศไทยมิใช่ขี้ข้าทาสรับใช้มันนะ,แค่ออกกฎหมายกติกาใหม่ยุติธรรมว่า ทุกๆราคาทองคำที่โลกสากลยอมรับในเวลานี้ว่าน่าเชื่อถือที่สุด หากราคาทองคำเพิ่มขึ้นเช่นที่ไทยจากปกติราคาไม่กี่หมื่นกี่พัน เทียบราคาสินค้าแบบก๋วยเตี๋ยวข้าวผัด1ชามจานที่ราคาละ15-20บาท ทองราคา15,000-20,000บาทต่อ1บาททองคำ,ราคาสินค้าทั้งหมดในเวลานี้ทั่วประเทศทุกๆสินค้าอุปโภคบริโภคหรือสินค้านำเข้าและส่งออกหรือภาษีทั้งหมดของประเทศไทยตลอดเงินเดือนค้าจ้างค้าแรงงานทั้งหมดจะเอกชนหรือรัฐบาลต้องปรับขึ้นทั้งหมดพร้อมกันทันทีและต้องอ้างอิงราคาทองคำนี้เป็นมาตราไทยทั้งหมดทันที โดยฐานปัจจุบันคือ2.34เท่าของราคาทองคำที่เปลี่ยนแปลงถึงปัจจุบัน อนาคตจะทันเงินเฟ้อทุกๆกรณีทันที,เช่นข้าวผัดก๋วยเตี๋ยวจานชามละ15บาทคูณราคาเพิ่มในเวลานี้ทันทีคือ15×2.34เท่า=35.10บาทที่ต้องบวกจาก15บาทเพิ่มขึ้นรวมราคาในปัจจุบันเวลานี้ต้องค้าขายกันจริงที่50.10บาทต่อจานชามเป็นราคาธรรมดาทั่วไปทันที จะทันเงินเฟ้อจริงที่ราคาทองคำในปัจจุบันที่50,000บาทเงินต่อ1บาททองคำทันทีด้วย,หากราคาทองคำลดลงที่30,000บาทเงิน,ราคาสินค้าจาก50บาทก็จะลดลงเรียลไทม์เช่นกันที่30บาทต่อจามชามในเวลานั้นโดยอ้างอิงราคาทองคำฐานที่50,000บาทเงินในเวลาฐานเป็นหลักเป็นพื้นเพื่อยืนคำนวนได้ในการเทียบราคาอ้างอิงในเวลาขึ้นลงของอนาคตต่อไป,มุกสูตรนี้สามารถใช้กับทุกๆค่าแรงงานจ้างเงินเดือนด้วยเรียลไทม์เช่นกันเพื่อทันเงินเฟ้อเรียลไทม์เช่นปกติเงินเดือน15,000บาท ทองคำราคาคือ50,000บาทเงินในเวลาจริงปัจจุบันซึ่งการขึ้นลงราคาทองคำในเวลานี้ถือว่าเอาเปรียบสายสาขาอื่นชัดเจนที่ไม่ได้ปรับราคาจริงทันอัตราเงินเฟ้อค่าเงินบาทไทยจนไปลดคุณค่าเงินบาทไทยอย่างอยุติธรรมของทองคำที่ทำกับค่าเงินบาทไทยเรา,จึงเปลี่ยนแปลงทางนโยบายการเงินไทยให้ล้ำสมัยทันเกมส์อีลิทซาตานสร้างมูลค่าเอาเปรียบเราคือทองคำฝ่ายเดียว ดันราคาขึ้นให้ค่าให้ราคาจนเหยียบค่าเงินบาทเราจนด้อยค่าลงหรือไร้ค่าเป็นเงินฟ้อนั้นเอง,นายกฯจึงต้องเปลี่ยนคนใหม่ทันทีบวกผู้ว่าแบงค์ชาติด้วยต้องทันมัน,คือรีเซ็ตปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ก็ต้องทำนั้นเอง,มิต้องไปใช้ตังดิจิดัลอะไรก็ได้,ตังกระดาษถ้าซื่อสัตย์ในการใช้มันก็จบ,เงินเดือนคนไทยป.ตรี15,000บาทคูณ2.34เท่าคือบวกเพิ่มที่35,100บาททันทีในทุกๆกิจการบริษัทที่มีพนักงานอยู่ กฎหมายต้องใช้บังคับทันทีจริงจัง,รวมคนไทยที่ปกติได้เงินเดือน15,000บาท เดือนหน้าจะเป็น50,100บาททันที,ทองคำลงที่30,000บาท,เดือนนั้นจะได้เงินเดือนที่30,060บาทเช่นกัน เพราะอ้างอิงราคาทองคำ,เมื่อนโยบายทางการเงินเราเปลี่ยนแปลงแบบอ้างอิงราคาทองคำโลกนำมาใข้จริงในไทย,เราจะบริหารแบบสมดุลการค้าการตังได้จริงทันที แก้ที่ต้นเหตุจริง,ทันค่าเงินจริง มูลค่าคุณค่าทางเงินบาทเราจะเที่ยงตรงสากลโลกจริง,ปัจจุบันมันไม่สมดุลด้วยราคาทองคำผีบ้ามีเอกสิทธิ์สามารถขึ้นเอาขึ้นเอาบวกทั้งไปเสือกลดด้อยค่าเงินบาทเราอีกด้วย,ค่าเงินกระทบเราจริง,เงินเฟ้อคือเครื่องมือมันคิดอ่านสร้างขึ้น ตัวไปกดไปขี่ไปบังคับให้ค่าเงินชาติอื่นๆไร้ค่าไร้ค่าก็ว่า,100บาท ปกติซื้อสินค้าในราคาอดีตเหมือนกันได้5ชนิดอย่าง,ปัจจุบันตัง100บาทซื้อสินค้าได้2ชนิดอย่างเป็นต้น,กิจการบริษัทไหนๆจะถูกควบคุมด้วยกลไกการค้าตังค้าเศรษฐกิจหรือแข่งขันกันอย่างยุติธรรมทันที,แรงงานก็ไม่ถูกเอาเปรียบเอารัดจากกิจการบริษัทด้วย,มีตังเท่านี้ ขยายกิจการสาขาจ้างแรงงานตามกำลังตังกำลังเศรษฐกิจตนได้สมสถานะก็ว่า,มิใช่ใช้ความได้เปรียบกดค่าตัวค่าแรงคนงานเช่นอ้างเศรษฐกิจไม่ดีอ้างแพะอ้างเงินเฟ้อสูงก็ด้วย,
    ..เมื่อปรับฐานลักษณะนี้ได้คือใช้นโยบายราคาทองคำไปใช้อ้างอิงจริงในสินค้าบริการทั้งอุปโภคและบริโภคภายในประเทศก่อนจึงค่อยต่อยอดขยายทั้งส่งออกและนำเข้าสินค้าจากนอกประเทศก็ด้วยจึงจะสามารถเข้าใกล้ค่าจริงของความเป็นจริงที่เราประเทศไทยต้องเผชิญในภาวะสงครามเศรษฐกิจหรือภาวะตัง,สงครามตังแบบนี้,จริงๆอีลิทมันใช้ทองคำเป็นอาวุธ(ตัดมุกมโนเรื่องฝ่ายแสงออกไป)มันไม่ใช้ตังบาทตังหยวนตังดอลล่าร์คืออาวุธ,จึงชี้นำว่าทองคำคือแร่ธาตุอ้างอิงมูลค่าและสร้างคุณค่าตังให้ดูดีมีหรูสูงค่ามากราคาดีที่สุดกว่าผีบ้ายุคอดีตอเมริกาอีลิทเก่าที่ใช้น้ำมันแทนทองคำค้ำประกันตังที่พิมพ์ๆปั่นๆตังกันออกมาใช้อย่างมากมายและมากจนเลอะเทอะไปหมดของชาติฝรั่งและอเมริกาบวกขี้ข้าตาอเมริกาก็ด้วย
    ..สรุป สมควรประกาศฉุกเฉินทันทีได้เลยว่า พรุ่งนี้ทุกๆสถานะที่ว่าด้วยตังเรื่องตัง,คูณทันทีที่ป้ายซื้อขายเงินเดือนค้าจ้างและอื่นๆที่เกี่ยวกับตัง,หรือประชาชนสามารถมาแลกตังบาทใหม่ในสถานะใหม่ที่แบงค์ชาติไทยได้ทันทีที่คูณ2.34เท่าแล้ว,เช่น เงินเดือนเดิมที่15,000บาท,นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างใหม่ทันทีที่ราคาทองคำใช้อ้างอิงในปัจจุบันของราคา50,000บาทต่อ1บาททองคำ,ที่บวกเพิ่มคือ35,100บาทรวมเป็น50,100บาท เพื่อคุ้มครองสัมมาชีวิตของคนไทยเราให้สมดุลกับค่าจริงของวิถีระบบตังที่เปลี่ยนมูลค่าไป ไม่ทันเวลาเช่นในอดีต,จนเกิดการเหลื่อมล้ำวทุกๆวิถีการครองชีพที่แพงที่สูงจนเกินไปก็ว่าและปกป้องค่าเงินบาทตนเองอีกช่องทางหนึ่งด้วย,ราคาทองคำจะขึ้นจะลง ไม่กระทบค่าใช้จ่ายประชาชนคนไทยเลย ทั้งค่าเงินมูลค่าเงินก็ไม่ลดลงด้วย,เดินในสมดุลเรียลไทม์กันจริงๆเลยก็ว่า,นี้คือฝ่ายมืดไม่กล้าจะทำ ไม่กล้าจะประกาศบังคับใช้ด้วยเพราะคนไทยจะได้ประโยชน์เต็มๆทันที ไม่กระทบคนไทยในการดำรงชีพด้วย,คือต้นทุนประชาชนจริงๆมูลค่าจริงๆมันก็เท่าเดิมอันเดิมนั้นล่ะนั้นเอง,ราคาทองคำขึ้น ราคาสินค้าบริการเงินเดือนค่าจ้างค่าแรงก็ขึ้นเรียลไทม์เช่นกันทันค่าใช้จ่ายทันรายได้รายรับ,ราคาทองคำลดลง ราคาสินค้าบริการเงินเดือนค่าจ้างก็ลดลงตามค่าจริงค่าครองชีพมวลรวมด้วยตลอดต้นน้ำปลายน้ำทั้งหมดก็ลดราคาลงจริงตามไปด้วย,ทองจะขึ้นทองจะลง ไม่กระทบคนไทยเราเลยนั้นล่ะ,นี้คือค่าจริงมิใช่ค่าเท็จค่าปลอมหลอกๆที่ผีบ้าแค่ใช้ทองคำไปค้ำประกันการพิมพ์แบงค์ออกมาใส่ให้หมุนเวียนในระบบแค่นั้น,มันไม่สุดซอยเลอะเทอะด้วย คนไทยต้องเจอกับมูลค่าตังที่อ่อนค่าลงหรือแข็งค่าขึ้นแค่นั้นซึ่งมั่นยังถูกปั่นราคาง่ายสบายเกินไปเช่นสถาบันต่างชาติซื้อบาทมากไปก็แข็งค่า ขายเททิ้งบาทไทยในsetบาทก็อ่อนค่า,มันผีบ้ามั้ยล่ะ,ใช้ทองคำประกันพะนะ นี้คือกลยุทธสงครามตังที่ตั้งทัพผิดพลาด รบก็แพ้ตลอด,ต้องประกาศอัดใส่นโยยายชาติเลยว่า เมื่อตังบาทอยู่ในระบบแล้ว ราคาสินค้าบริการที่ตังเข้าไปแทนที่ เช่นค่าแรงเงินเดือน ตังบาทเข้าไปแทนทีเป็นตัวตังทันทีที่50,100บาทในภาวะทองคำเงินทำราคาอ้างอิงฐานที่50,000ในรอบคำนวนเป็นฐานอ้างอิง,หากลดลงเป็น30,000บาทต่อ1บาททองคำ,เงินเดือนจริงในภาวะสังคมจริงในการครองชีพจะเป็นที่30,060บาทต่อคนต่อแรงงานนั้น,ราคาน้ำมัน,ค่าขนส่งก็ด้วยเป็นต้นและสาระพัดอื่นๆที่ระบบทาสตังเข้าไปคำนวนเกี่ยวข้องตีมูลค่าตังได้ อาทิตย.อีกตัว ที่ดินบ้านซื้อขายกัน,1,500,000บาทต่อไร่ก็จะเป็น5,010,000บาทต่อไร่ทันที,จะไร้การคตโกงในความได้เปรียบของมูลค่าเก็งกำไรทางวิกฤติตังเศรษฐกิจที่ไม่ยุติธรรมในอดีตทันที,จะอยู่บนค่าจริงกัน,มิใช่ราคาทองคำสูงถึง50,000บาทต่อ1บาททองคำ,ค่าแรงขั้นต่ำเสือก300บาทเหมือนเดิมหาก300×2.34เท่า=702บาทนะ บวก300เข้าไปให้เต็มสูตรรวมคือ1,002บาทต่อวัน,นี้ค่าแรงงานขั้นต่ำประจำประเทศไทยที่สมดุลกับค่าจริงครองชีพเทียบราคาทองคำที่สะท้อนสภาวะความเชื่อมั่นในตลาดโลกถึงตลาดการค้าการเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตสัมมาชีวิตและสัมมาอาชีพต่างๆทั่วไทยของจริง,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลวและกากของคณะบริหารประเทศจากอดีตถึงปัจจุบัน,จะราคาข้าวเอย ราคาน้ำมันเอย สามารถใช้ราคาทองคำผูกอ้างอิงได้ค่าจริงสมจริงกว่าตลอดเวลาแต่ไม่ทำ,ราคาทองคำขึ้นลงราคาข้าวเกษตรกรก็ขึ้นลงสมมูลค่าจริงไว้เปรียบเทียบอ้างอิงได้,จากตันละ15,000บาท,เทียบราคาทองคำปัจจุบันคูณ2.34เท่าบวกตัวมันเองคือ50,100บาทต่อตัน,มิใช่เอาเปรียบชาวนาแบบที่เห็นๆกันทั้งในอดีตถึงปัจจุบัน ราคามันฯราคาอ้อยก็ใช้ได้หมดเช่นกัน,คนไทยจะตัดภาวะเงินเฟ้อไปเลย,
    ..
    https://youtube.com/shorts/vaq2-T0uPfw?si=C2gfmvZTRkZ37QkW
    ..เคยมโนเล่นๆไปหลายครัังแล้ว,ส่วนใครมีทองคำ ขายเลยอย่าถือไว้ เงินบาทเรามีทองคำค้ำประกันปกติมั่นคงในความแข็งแกร่งปกติอยู่แล้วอาจในระดับต้นๆของโลก สมดุลตัวปกติ,แต่ทองคำยุคนี้คือตัวปั่นสร้างราคาของอีลิทซาตานชัดเจน ฝ่ายแสงบ้าแสงบออย่าไปเชื่อเพราะอีลิทมืดมันคือเจ้าของบ่อทองคำเหมืองผลิตทองคำจริงเกือบทุกๆแห่งทั่วโลกไม่เว้นบ่อทองคำไทยเราด้วย,มันปั่นราคาให้สูงขึ้นชัดเจน อ้างbricsจะเป็นตังดิจิดัลโลกมีทองคำค้ำประกันใช้ทองคำเยอะราคาพุ่งเพราะแต่ละชาติต้องสะสมใช้ค้ำซึ่งหากมโนว่าจริงถ้าbricsคือองค์กรสากลของอีลิทยุคสมัยหน้าใหม่ก็ไม่แปลก, ..ทองคำถ้าบริหารจัดการขั้นตัดตอนจริงแบบอีลิทเจอตัดขาจริง,ไม่ใช่อีลิทสั่งควบคุมให้ปล่อยดันราคาให้สูงขึ้นแบบนี้ ทำลายกฎสมดุลเช่นราคาสินค้าอื่นๆที่เป็นอุปโภคบริโภคไปด้วยเพราะมันคือสินทรัพย์ที่ใช้ปั่นราคาเนียนๆนั้นเองโดยอ้างว่าทองคำเชื่อถือได้ที่สุดเพราะอีลิทมันโปรยัง,เดอะแก๊งเครือข่ายทั่วโลกเลยปั่นสะดวกเพราะนายใหญ่อนุญาตและรับรองการทำงานลงหน้างานไง,ถ้าผู้นำผีบ้าบางประเทศสมมุติแบบไทยที่ผู้ปกครองหรือผู้นำผู้มีอำนาจประเทศไทยมิใช่ขี้ข้าทาสรับใช้มันนะ,แค่ออกกฎหมายกติกาใหม่ยุติธรรมว่า ทุกๆราคาทองคำที่โลกสากลยอมรับในเวลานี้ว่าน่าเชื่อถือที่สุด หากราคาทองคำเพิ่มขึ้นเช่นที่ไทยจากปกติราคาไม่กี่หมื่นกี่พัน เทียบราคาสินค้าแบบก๋วยเตี๋ยวข้าวผัด1ชามจานที่ราคาละ15-20บาท ทองราคา15,000-20,000บาทต่อ1บาททองคำ,ราคาสินค้าทั้งหมดในเวลานี้ทั่วประเทศทุกๆสินค้าอุปโภคบริโภคหรือสินค้านำเข้าและส่งออกหรือภาษีทั้งหมดของประเทศไทยตลอดเงินเดือนค้าจ้างค้าแรงงานทั้งหมดจะเอกชนหรือรัฐบาลต้องปรับขึ้นทั้งหมดพร้อมกันทันทีและต้องอ้างอิงราคาทองคำนี้เป็นมาตราไทยทั้งหมดทันที โดยฐานปัจจุบันคือ2.34เท่าของราคาทองคำที่เปลี่ยนแปลงถึงปัจจุบัน อนาคตจะทันเงินเฟ้อทุกๆกรณีทันที,เช่นข้าวผัดก๋วยเตี๋ยวจานชามละ15บาทคูณราคาเพิ่มในเวลานี้ทันทีคือ15×2.34เท่า=35.10บาทที่ต้องบวกจาก15บาทเพิ่มขึ้นรวมราคาในปัจจุบันเวลานี้ต้องค้าขายกันจริงที่50.10บาทต่อจานชามเป็นราคาธรรมดาทั่วไปทันที จะทันเงินเฟ้อจริงที่ราคาทองคำในปัจจุบันที่50,000บาทเงินต่อ1บาททองคำทันทีด้วย,หากราคาทองคำลดลงที่30,000บาทเงิน,ราคาสินค้าจาก50บาทก็จะลดลงเรียลไทม์เช่นกันที่30บาทต่อจามชามในเวลานั้นโดยอ้างอิงราคาทองคำฐานที่50,000บาทเงินในเวลาฐานเป็นหลักเป็นพื้นเพื่อยืนคำนวนได้ในการเทียบราคาอ้างอิงในเวลาขึ้นลงของอนาคตต่อไป,มุกสูตรนี้สามารถใช้กับทุกๆค่าแรงงานจ้างเงินเดือนด้วยเรียลไทม์เช่นกันเพื่อทันเงินเฟ้อเรียลไทม์เช่นปกติเงินเดือน15,000บาท ทองคำราคาคือ50,000บาทเงินในเวลาจริงปัจจุบันซึ่งการขึ้นลงราคาทองคำในเวลานี้ถือว่าเอาเปรียบสายสาขาอื่นชัดเจนที่ไม่ได้ปรับราคาจริงทันอัตราเงินเฟ้อค่าเงินบาทไทยจนไปลดคุณค่าเงินบาทไทยอย่างอยุติธรรมของทองคำที่ทำกับค่าเงินบาทไทยเรา,จึงเปลี่ยนแปลงทางนโยบายการเงินไทยให้ล้ำสมัยทันเกมส์อีลิทซาตานสร้างมูลค่าเอาเปรียบเราคือทองคำฝ่ายเดียว ดันราคาขึ้นให้ค่าให้ราคาจนเหยียบค่าเงินบาทเราจนด้อยค่าลงหรือไร้ค่าเป็นเงินฟ้อนั้นเอง,นายกฯจึงต้องเปลี่ยนคนใหม่ทันทีบวกผู้ว่าแบงค์ชาติด้วยต้องทันมัน,คือรีเซ็ตปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ก็ต้องทำนั้นเอง,มิต้องไปใช้ตังดิจิดัลอะไรก็ได้,ตังกระดาษถ้าซื่อสัตย์ในการใช้มันก็จบ,เงินเดือนคนไทยป.ตรี15,000บาทคูณ2.34เท่าคือบวกเพิ่มที่35,100บาททันทีในทุกๆกิจการบริษัทที่มีพนักงานอยู่ กฎหมายต้องใช้บังคับทันทีจริงจัง,รวมคนไทยที่ปกติได้เงินเดือน15,000บาท เดือนหน้าจะเป็น50,100บาททันที,ทองคำลงที่30,000บาท,เดือนนั้นจะได้เงินเดือนที่30,060บาทเช่นกัน เพราะอ้างอิงราคาทองคำ,เมื่อนโยบายทางการเงินเราเปลี่ยนแปลงแบบอ้างอิงราคาทองคำโลกนำมาใข้จริงในไทย,เราจะบริหารแบบสมดุลการค้าการตังได้จริงทันที แก้ที่ต้นเหตุจริง,ทันค่าเงินจริง มูลค่าคุณค่าทางเงินบาทเราจะเที่ยงตรงสากลโลกจริง,ปัจจุบันมันไม่สมดุลด้วยราคาทองคำผีบ้ามีเอกสิทธิ์สามารถขึ้นเอาขึ้นเอาบวกทั้งไปเสือกลดด้อยค่าเงินบาทเราอีกด้วย,ค่าเงินกระทบเราจริง,เงินเฟ้อคือเครื่องมือมันคิดอ่านสร้างขึ้น ตัวไปกดไปขี่ไปบังคับให้ค่าเงินชาติอื่นๆไร้ค่าไร้ค่าก็ว่า,100บาท ปกติซื้อสินค้าในราคาอดีตเหมือนกันได้5ชนิดอย่าง,ปัจจุบันตัง100บาทซื้อสินค้าได้2ชนิดอย่างเป็นต้น,กิจการบริษัทไหนๆจะถูกควบคุมด้วยกลไกการค้าตังค้าเศรษฐกิจหรือแข่งขันกันอย่างยุติธรรมทันที,แรงงานก็ไม่ถูกเอาเปรียบเอารัดจากกิจการบริษัทด้วย,มีตังเท่านี้ ขยายกิจการสาขาจ้างแรงงานตามกำลังตังกำลังเศรษฐกิจตนได้สมสถานะก็ว่า,มิใช่ใช้ความได้เปรียบกดค่าตัวค่าแรงคนงานเช่นอ้างเศรษฐกิจไม่ดีอ้างแพะอ้างเงินเฟ้อสูงก็ด้วย, ..เมื่อปรับฐานลักษณะนี้ได้คือใช้นโยบายราคาทองคำไปใช้อ้างอิงจริงในสินค้าบริการทั้งอุปโภคและบริโภคภายในประเทศก่อนจึงค่อยต่อยอดขยายทั้งส่งออกและนำเข้าสินค้าจากนอกประเทศก็ด้วยจึงจะสามารถเข้าใกล้ค่าจริงของความเป็นจริงที่เราประเทศไทยต้องเผชิญในภาวะสงครามเศรษฐกิจหรือภาวะตัง,สงครามตังแบบนี้,จริงๆอีลิทมันใช้ทองคำเป็นอาวุธ(ตัดมุกมโนเรื่องฝ่ายแสงออกไป)มันไม่ใช้ตังบาทตังหยวนตังดอลล่าร์คืออาวุธ,จึงชี้นำว่าทองคำคือแร่ธาตุอ้างอิงมูลค่าและสร้างคุณค่าตังให้ดูดีมีหรูสูงค่ามากราคาดีที่สุดกว่าผีบ้ายุคอดีตอเมริกาอีลิทเก่าที่ใช้น้ำมันแทนทองคำค้ำประกันตังที่พิมพ์ๆปั่นๆตังกันออกมาใช้อย่างมากมายและมากจนเลอะเทอะไปหมดของชาติฝรั่งและอเมริกาบวกขี้ข้าตาอเมริกาก็ด้วย ..สรุป สมควรประกาศฉุกเฉินทันทีได้เลยว่า พรุ่งนี้ทุกๆสถานะที่ว่าด้วยตังเรื่องตัง,คูณทันทีที่ป้ายซื้อขายเงินเดือนค้าจ้างและอื่นๆที่เกี่ยวกับตัง,หรือประชาชนสามารถมาแลกตังบาทใหม่ในสถานะใหม่ที่แบงค์ชาติไทยได้ทันทีที่คูณ2.34เท่าแล้ว,เช่น เงินเดือนเดิมที่15,000บาท,นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างใหม่ทันทีที่ราคาทองคำใช้อ้างอิงในปัจจุบันของราคา50,000บาทต่อ1บาททองคำ,ที่บวกเพิ่มคือ35,100บาทรวมเป็น50,100บาท เพื่อคุ้มครองสัมมาชีวิตของคนไทยเราให้สมดุลกับค่าจริงของวิถีระบบตังที่เปลี่ยนมูลค่าไป ไม่ทันเวลาเช่นในอดีต,จนเกิดการเหลื่อมล้ำวทุกๆวิถีการครองชีพที่แพงที่สูงจนเกินไปก็ว่าและปกป้องค่าเงินบาทตนเองอีกช่องทางหนึ่งด้วย,ราคาทองคำจะขึ้นจะลง ไม่กระทบค่าใช้จ่ายประชาชนคนไทยเลย ทั้งค่าเงินมูลค่าเงินก็ไม่ลดลงด้วย,เดินในสมดุลเรียลไทม์กันจริงๆเลยก็ว่า,นี้คือฝ่ายมืดไม่กล้าจะทำ ไม่กล้าจะประกาศบังคับใช้ด้วยเพราะคนไทยจะได้ประโยชน์เต็มๆทันที ไม่กระทบคนไทยในการดำรงชีพด้วย,คือต้นทุนประชาชนจริงๆมูลค่าจริงๆมันก็เท่าเดิมอันเดิมนั้นล่ะนั้นเอง,ราคาทองคำขึ้น ราคาสินค้าบริการเงินเดือนค่าจ้างค่าแรงก็ขึ้นเรียลไทม์เช่นกันทันค่าใช้จ่ายทันรายได้รายรับ,ราคาทองคำลดลง ราคาสินค้าบริการเงินเดือนค่าจ้างก็ลดลงตามค่าจริงค่าครองชีพมวลรวมด้วยตลอดต้นน้ำปลายน้ำทั้งหมดก็ลดราคาลงจริงตามไปด้วย,ทองจะขึ้นทองจะลง ไม่กระทบคนไทยเราเลยนั้นล่ะ,นี้คือค่าจริงมิใช่ค่าเท็จค่าปลอมหลอกๆที่ผีบ้าแค่ใช้ทองคำไปค้ำประกันการพิมพ์แบงค์ออกมาใส่ให้หมุนเวียนในระบบแค่นั้น,มันไม่สุดซอยเลอะเทอะด้วย คนไทยต้องเจอกับมูลค่าตังที่อ่อนค่าลงหรือแข็งค่าขึ้นแค่นั้นซึ่งมั่นยังถูกปั่นราคาง่ายสบายเกินไปเช่นสถาบันต่างชาติซื้อบาทมากไปก็แข็งค่า ขายเททิ้งบาทไทยในsetบาทก็อ่อนค่า,มันผีบ้ามั้ยล่ะ,ใช้ทองคำประกันพะนะ นี้คือกลยุทธสงครามตังที่ตั้งทัพผิดพลาด รบก็แพ้ตลอด,ต้องประกาศอัดใส่นโยยายชาติเลยว่า เมื่อตังบาทอยู่ในระบบแล้ว ราคาสินค้าบริการที่ตังเข้าไปแทนที่ เช่นค่าแรงเงินเดือน ตังบาทเข้าไปแทนทีเป็นตัวตังทันทีที่50,100บาทในภาวะทองคำเงินทำราคาอ้างอิงฐานที่50,000ในรอบคำนวนเป็นฐานอ้างอิง,หากลดลงเป็น30,000บาทต่อ1บาททองคำ,เงินเดือนจริงในภาวะสังคมจริงในการครองชีพจะเป็นที่30,060บาทต่อคนต่อแรงงานนั้น,ราคาน้ำมัน,ค่าขนส่งก็ด้วยเป็นต้นและสาระพัดอื่นๆที่ระบบทาสตังเข้าไปคำนวนเกี่ยวข้องตีมูลค่าตังได้ อาทิตย.อีกตัว ที่ดินบ้านซื้อขายกัน,1,500,000บาทต่อไร่ก็จะเป็น5,010,000บาทต่อไร่ทันที,จะไร้การคตโกงในความได้เปรียบของมูลค่าเก็งกำไรทางวิกฤติตังเศรษฐกิจที่ไม่ยุติธรรมในอดีตทันที,จะอยู่บนค่าจริงกัน,มิใช่ราคาทองคำสูงถึง50,000บาทต่อ1บาททองคำ,ค่าแรงขั้นต่ำเสือก300บาทเหมือนเดิมหาก300×2.34เท่า=702บาทนะ บวก300เข้าไปให้เต็มสูตรรวมคือ1,002บาทต่อวัน,นี้ค่าแรงงานขั้นต่ำประจำประเทศไทยที่สมดุลกับค่าจริงครองชีพเทียบราคาทองคำที่สะท้อนสภาวะความเชื่อมั่นในตลาดโลกถึงตลาดการค้าการเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตสัมมาชีวิตและสัมมาอาชีพต่างๆทั่วไทยของจริง,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลวและกากของคณะบริหารประเทศจากอดีตถึงปัจจุบัน,จะราคาข้าวเอย ราคาน้ำมันเอย สามารถใช้ราคาทองคำผูกอ้างอิงได้ค่าจริงสมจริงกว่าตลอดเวลาแต่ไม่ทำ,ราคาทองคำขึ้นลงราคาข้าวเกษตรกรก็ขึ้นลงสมมูลค่าจริงไว้เปรียบเทียบอ้างอิงได้,จากตันละ15,000บาท,เทียบราคาทองคำปัจจุบันคูณ2.34เท่าบวกตัวมันเองคือ50,100บาทต่อตัน,มิใช่เอาเปรียบชาวนาแบบที่เห็นๆกันทั้งในอดีตถึงปัจจุบัน ราคามันฯราคาอ้อยก็ใช้ได้หมดเช่นกัน,คนไทยจะตัดภาวะเงินเฟ้อไปเลย, .. https://youtube.com/shorts/vaq2-T0uPfw?si=C2gfmvZTRkZ37QkW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 874 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียยังคงได้รับชิป Intel และ AMD ผ่านช่องทางเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร

    แม้ว่าสหรัฐฯ จะออกมาตรการคว่ำบาตรเพื่อจำกัดการส่งออกชิปไปยังรัสเซียหลังการรุกรานยูเครน แต่รายงานล่าสุดพบว่าชิปยังคงไหลเข้าสู่รัสเซียผ่านเครือข่ายช่องทางที่ไม่เป็นทางการ โดยมี ฮ่องกง, มาเลเซีย และอินเดีย เป็นศูนย์กลางสำคัญในการนำเข้าชิป

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการนำเข้าชิปของรัสเซีย
    ข้อมูลจาก Federal Customs Service (FCS) ของรัสเซียเผยว่า การนำเข้า CPU Intel ลดลง 95% ในปีที่ผ่านมา
    - ลดลงจาก 537,000 หน่วยในปี 2023 เหลือเพียง 37,000 หน่วย

    การนำเข้า CPU AMD ลดลง 81% ในช่วงเวลาเดียวกัน
    - แสดงให้เห็นว่า มาตรการคว่ำบาตรส่งผลกระทบต่อการนำเข้าชิปโดยตรง

    อย่างไรก็ตาม บริษัทเทคโนโลยีในรัสเซียรายงานว่าการจัดหาชิปยังคงดำเนินต่อไปและเพิ่มขึ้น
    - Rikor รายงานว่าซื้อ CPU กว่า 120,000 หน่วยในปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน

    ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางสำคัญในการนำเข้าชิป โดยมีที่อยู่หนึ่งที่จัดการการนำเข้าชิปมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
    - นอกจากนี้ มาเลเซียและอินเดียยังมีบทบาทสำคัญในการส่งชิปไปยังรัสเซีย

    ชิปบางส่วนถูกนำเข้าโดยไม่มีการระบุว่าเป็น "โปรเซสเซอร์" บนเอกสารการจัดส่ง
    - ทำให้ สามารถหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากหน่วยงานศุลกากรได้

    ราคาชิปในรัสเซียคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10-12% ในปี 2025
    - เนื่องจาก อัตราเงินเฟ้อและความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

    https://www.techspot.com/news/108053-russia-swimming-new-intel-amd-chips-thanks-sanction.html
    รัสเซียยังคงได้รับชิป Intel และ AMD ผ่านช่องทางเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร แม้ว่าสหรัฐฯ จะออกมาตรการคว่ำบาตรเพื่อจำกัดการส่งออกชิปไปยังรัสเซียหลังการรุกรานยูเครน แต่รายงานล่าสุดพบว่าชิปยังคงไหลเข้าสู่รัสเซียผ่านเครือข่ายช่องทางที่ไม่เป็นทางการ โดยมี ฮ่องกง, มาเลเซีย และอินเดีย เป็นศูนย์กลางสำคัญในการนำเข้าชิป 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการนำเข้าชิปของรัสเซีย ✅ ข้อมูลจาก Federal Customs Service (FCS) ของรัสเซียเผยว่า การนำเข้า CPU Intel ลดลง 95% ในปีที่ผ่านมา - ลดลงจาก 537,000 หน่วยในปี 2023 เหลือเพียง 37,000 หน่วย ✅ การนำเข้า CPU AMD ลดลง 81% ในช่วงเวลาเดียวกัน - แสดงให้เห็นว่า มาตรการคว่ำบาตรส่งผลกระทบต่อการนำเข้าชิปโดยตรง ✅ อย่างไรก็ตาม บริษัทเทคโนโลยีในรัสเซียรายงานว่าการจัดหาชิปยังคงดำเนินต่อไปและเพิ่มขึ้น - Rikor รายงานว่าซื้อ CPU กว่า 120,000 หน่วยในปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน ✅ ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางสำคัญในการนำเข้าชิป โดยมีที่อยู่หนึ่งที่จัดการการนำเข้าชิปมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ - นอกจากนี้ มาเลเซียและอินเดียยังมีบทบาทสำคัญในการส่งชิปไปยังรัสเซีย ✅ ชิปบางส่วนถูกนำเข้าโดยไม่มีการระบุว่าเป็น "โปรเซสเซอร์" บนเอกสารการจัดส่ง - ทำให้ สามารถหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากหน่วยงานศุลกากรได้ ✅ ราคาชิปในรัสเซียคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10-12% ในปี 2025 - เนื่องจาก อัตราเงินเฟ้อและความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน https://www.techspot.com/news/108053-russia-swimming-new-intel-amd-chips-thanks-sanction.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Russia is still swimming in new Intel and AMD chips thanks to sanction "workarounds"
    Russia's official customs data suggests the country's once-thriving market for US-made processors has nearly disappeared. Figures from the Federal Customs Service (FCS), reported by Russian publication Kommersant,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศไทย เข้าภาวะเงินฝืด!? : [Biz Talk]

    ติดลบครั้งแรกในรอบ 13 เดือน / เงินเฟ้อทั่วไปของไทย เม.ย.68 ติดลบ 0.22 % แนวโน้ม พ.ค.ยังติดลบต่อเป็นเดือนที่ 2 แต่ยังไม่ถึงขั้น‘เงินฝืด’เหตุปัจจัยหลัก มาจากการลดลงของราคาสินค้ากลุ่มพลังงาน ขณะที่ราคาสินค้าบางกลุ่มยังสูง การบริโภค การจับจ่ายยังปกติ
    ประเทศไทย เข้าภาวะเงินฝืด!? : [Biz Talk] ติดลบครั้งแรกในรอบ 13 เดือน / เงินเฟ้อทั่วไปของไทย เม.ย.68 ติดลบ 0.22 % แนวโน้ม พ.ค.ยังติดลบต่อเป็นเดือนที่ 2 แต่ยังไม่ถึงขั้น‘เงินฝืด’เหตุปัจจัยหลัก มาจากการลดลงของราคาสินค้ากลุ่มพลังงาน ขณะที่ราคาสินค้าบางกลุ่มยังสูง การบริโภค การจับจ่ายยังปกติ
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 605 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • Nvidia และ MediaTek อาจเลื่อนการเปิดตัว AI CPU สู่ตลาดมวลชนไปจนถึงปลายปี 2026

    Nvidia และ MediaTek กำลังพัฒนา ชิป AI PC รุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ 'N1' ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวที่ Computex 2025 อย่างไรก็ตาม รายงานจาก Digitimes ระบุว่าการผลิตในปริมาณมากอาจไม่เกิดขึ้นจนถึงครึ่งหลังของปี 2026 เนื่องจากปัญหาด้านการรวมระบบและข้อจำกัดทางเทคนิค

    Nvidia และ MediaTek ร่วมมือกันพัฒนา AI CPU สำหรับ Windows PCs
    - ชิปจะเปิดตัวภายใต้ แบรนด์ Nvidia และมีทั้งรุ่น N1X และ N1

    Asus, Dell และ Lenovo กำลังพัฒนาเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป N1X
    - คาดว่าจะมี ประสิทธิภาพ AI สูงถึง 180-200 AI TOPS

    Nvidia และ MediaTek กำลังเร่งการผลิต แต่คาดว่าปริมาณการจัดส่งจำนวนมากจะเริ่มในครึ่งหลังของปี 2026
    - เนื่องจาก ปัญหาด้านการรวมระบบกับอุปกรณ์ปลายทาง

    N1X มีประสิทธิภาพต่ำกว่าชิป Arm-based PC บางรุ่นในการทดสอบเบื้องต้น
    - ทำให้เกิดความกังวลในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับ ความสามารถในการแข่งขันของชิปนี้

    Nvidia และ MediaTek มีแผนเปิดตัวโน้ตบุ๊ก AI รุ่น N1C สำหรับตลาดผู้บริโภค
    - แต่ถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2026 เนื่องจาก ภาษีนำเข้าและอัตราเงินเฟ้อ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/nvidia-and-mediateks-ai-cpu-may-not-see-mass-rollout-until-late-2026-asus-dell-and-lenovo-reportedly-developing-n1x-desktops-and-laptops
    Nvidia และ MediaTek อาจเลื่อนการเปิดตัว AI CPU สู่ตลาดมวลชนไปจนถึงปลายปี 2026 Nvidia และ MediaTek กำลังพัฒนา ชิป AI PC รุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ 'N1' ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวที่ Computex 2025 อย่างไรก็ตาม รายงานจาก Digitimes ระบุว่าการผลิตในปริมาณมากอาจไม่เกิดขึ้นจนถึงครึ่งหลังของปี 2026 เนื่องจากปัญหาด้านการรวมระบบและข้อจำกัดทางเทคนิค ✅ Nvidia และ MediaTek ร่วมมือกันพัฒนา AI CPU สำหรับ Windows PCs - ชิปจะเปิดตัวภายใต้ แบรนด์ Nvidia และมีทั้งรุ่น N1X และ N1 ✅ Asus, Dell และ Lenovo กำลังพัฒนาเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป N1X - คาดว่าจะมี ประสิทธิภาพ AI สูงถึง 180-200 AI TOPS ✅ Nvidia และ MediaTek กำลังเร่งการผลิต แต่คาดว่าปริมาณการจัดส่งจำนวนมากจะเริ่มในครึ่งหลังของปี 2026 - เนื่องจาก ปัญหาด้านการรวมระบบกับอุปกรณ์ปลายทาง ✅ N1X มีประสิทธิภาพต่ำกว่าชิป Arm-based PC บางรุ่นในการทดสอบเบื้องต้น - ทำให้เกิดความกังวลในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับ ความสามารถในการแข่งขันของชิปนี้ ✅ Nvidia และ MediaTek มีแผนเปิดตัวโน้ตบุ๊ก AI รุ่น N1C สำหรับตลาดผู้บริโภค - แต่ถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2026 เนื่องจาก ภาษีนำเข้าและอัตราเงินเฟ้อ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/nvidia-and-mediateks-ai-cpu-may-not-see-mass-rollout-until-late-2026-asus-dell-and-lenovo-reportedly-developing-n1x-desktops-and-laptops
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรียน ทุกท่าน

    แบงก์ชาติอีสาน ขอนำส่งสรุปภาวะเศรษฐกิจอีสาน ไตรมาส 1 ปี 2568 มาเพื่อทราบ ดังนี้

    ประเด็นสำคัญ "กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม หดตัวจากไตรมาสก่อน"

    ตามการบริโภคภาคเอกชนที่กลับมาหดตัวหลังเร่งใช้จ่ายไปในไตรมาสก่อนและกำลังซื้อที่ฟื้นตัวช้า กอปรกับรายได้เกษตรกรที่หดตัวจากปัจจัยด้านราคา ช่วยพยุงการบริโภคได้ลดลง อย่างไรก็ดี ภาคบริการท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง ตามการจัดกิจกรรมขนาดใหญ่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ และการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวตามการแปรรูปสินค้าเกษตร

    อัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้น ตามราคาอาหารสดเป็นสำคัญ ด้านตลาดแรงงานปรับลดลง ตามการจ้างงานในภาคเกษตร การผลิต และก่อสร้างที่ปรับลดลง อย่างไรก็ดี การจ้างงานในภาคบริการปรับดีขึ้น ตามสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ขยายตัว

    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในรูปแบบอินโฟกราฟิก ได้ที่ https://www.bot.or.th/th/news-and-media/news/news-bot-ne-20250507.html
    เรียน ทุกท่าน แบงก์ชาติอีสาน ขอนำส่งสรุปภาวะเศรษฐกิจอีสาน ไตรมาส 1 ปี 2568 มาเพื่อทราบ ดังนี้ 📉 ประเด็นสำคัญ "กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม หดตัวจากไตรมาสก่อน" ตามการบริโภคภาคเอกชนที่กลับมาหดตัวหลังเร่งใช้จ่ายไปในไตรมาสก่อนและกำลังซื้อที่ฟื้นตัวช้า กอปรกับรายได้เกษตรกรที่หดตัวจากปัจจัยด้านราคา ช่วยพยุงการบริโภคได้ลดลง อย่างไรก็ดี ภาคบริการท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง ตามการจัดกิจกรรมขนาดใหญ่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ และการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวตามการแปรรูปสินค้าเกษตร อัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้น ตามราคาอาหารสดเป็นสำคัญ ด้านตลาดแรงงานปรับลดลง ตามการจ้างงานในภาคเกษตร การผลิต และก่อสร้างที่ปรับลดลง อย่างไรก็ดี การจ้างงานในภาคบริการปรับดีขึ้น ตามสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ขยายตัว 📖 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในรูปแบบอินโฟกราฟิก ได้ที่ https://www.bot.or.th/th/news-and-media/news/news-bot-ne-20250507.html
    WWW.BOT.OR.TH
    แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไตรมาสที่ 1 ปี 2568
    แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไตรมาสที่ 1 ปี 2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 427 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตผู้บริหาร PlayStation Shuhei Yoshida ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ การขึ้นราคาวิดีโอเกม โดยระบุว่า เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ปัญหาที่แท้จริงคือ คุณค่าของเกมที่ไม่สอดคล้องกับราคาที่เพิ่มขึ้น

    ปัจจุบัน เกม AAA หลายเกมมีราคาสูงถึง $70 หรือมากกว่า โดยผู้พัฒนาให้เหตุผลว่า ต้นทุนการพัฒนาเพิ่มขึ้นและเงินเฟ้อเป็นปัจจัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นจำนวนมาก เริ่มหลีกเลี่ยงการซื้อเกมวันแรก เนื่องจาก เกมใหม่หลายเกมไม่สามารถให้คุณค่าเทียบเท่ากับราคาที่ต้องจ่าย

    เกม AAA หลายเกมมีราคาสูงถึง $70 หรือมากกว่า
    - ผู้พัฒนาให้เหตุผลว่า ต้นทุนการพัฒนาเพิ่มขึ้นและเงินเฟ้อเป็นปัจจัยสำคัญ
    - ผู้เล่นจำนวนมาก เริ่มหลีกเลี่ยงการซื้อเกมวันแรก

    Nintendo และ Microsoft กำลังปรับราคาขึ้น
    - เกมสำหรับ Nintendo Switch 2 อาจมีราคาสูงถึง $80
    - มีรายงานว่า GTA 6 อาจมีราคาสูงกว่า $100

    Shuhei Yoshida ระบุว่าผู้เล่นต้องการเกมที่มีความทะเยอทะยานมากขึ้น แต่ไม่ต้องการให้ราคาสูงขึ้น
    - เขาเรียกสถานการณ์นี้ว่า "สมการที่เป็นไปไม่ได้"
    - ผู้เล่นต้องการ เกมที่มีคุณภาพสูงขึ้นโดยไม่ต้องจ่ายแพงขึ้น

    เกมจากทีมพัฒนาเล็ก ๆ เช่น Clair Obscur: Expedition 33 แสดงให้เห็นว่าเกมคุณภาพสูงสามารถสร้างได้โดยไม่ต้องใช้ต้นทุนมหาศาล
    - เกมนี้ถูกพัฒนาโดยทีม 30 คน และขายได้ 1 ล้านชุดภายใน 3 วัน
    - ต้นทุนต่ำกว่าการพัฒนาเกม AAA แต่ยังคงให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม

    Yoshida เชื่อว่า AI อาจช่วยลดต้นทุนการพัฒนาเกมในอนาคต
    - เขากล่าวว่า เครื่องมือ AI เช่น Microsoft's Muse อาจช่วยให้ทีมพัฒนาเกมขนาดเล็กสามารถสร้างเกมได้ง่ายขึ้น

    https://www.techspot.com/news/107821-former-playstation-boss-gaming-price-hikes-inevitable-but.html
    อดีตผู้บริหาร PlayStation Shuhei Yoshida ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ การขึ้นราคาวิดีโอเกม โดยระบุว่า เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ปัญหาที่แท้จริงคือ คุณค่าของเกมที่ไม่สอดคล้องกับราคาที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบัน เกม AAA หลายเกมมีราคาสูงถึง $70 หรือมากกว่า โดยผู้พัฒนาให้เหตุผลว่า ต้นทุนการพัฒนาเพิ่มขึ้นและเงินเฟ้อเป็นปัจจัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นจำนวนมาก เริ่มหลีกเลี่ยงการซื้อเกมวันแรก เนื่องจาก เกมใหม่หลายเกมไม่สามารถให้คุณค่าเทียบเท่ากับราคาที่ต้องจ่าย ✅ เกม AAA หลายเกมมีราคาสูงถึง $70 หรือมากกว่า - ผู้พัฒนาให้เหตุผลว่า ต้นทุนการพัฒนาเพิ่มขึ้นและเงินเฟ้อเป็นปัจจัยสำคัญ - ผู้เล่นจำนวนมาก เริ่มหลีกเลี่ยงการซื้อเกมวันแรก ✅ Nintendo และ Microsoft กำลังปรับราคาขึ้น - เกมสำหรับ Nintendo Switch 2 อาจมีราคาสูงถึง $80 - มีรายงานว่า GTA 6 อาจมีราคาสูงกว่า $100 ✅ Shuhei Yoshida ระบุว่าผู้เล่นต้องการเกมที่มีความทะเยอทะยานมากขึ้น แต่ไม่ต้องการให้ราคาสูงขึ้น - เขาเรียกสถานการณ์นี้ว่า "สมการที่เป็นไปไม่ได้" - ผู้เล่นต้องการ เกมที่มีคุณภาพสูงขึ้นโดยไม่ต้องจ่ายแพงขึ้น ✅ เกมจากทีมพัฒนาเล็ก ๆ เช่น Clair Obscur: Expedition 33 แสดงให้เห็นว่าเกมคุณภาพสูงสามารถสร้างได้โดยไม่ต้องใช้ต้นทุนมหาศาล - เกมนี้ถูกพัฒนาโดยทีม 30 คน และขายได้ 1 ล้านชุดภายใน 3 วัน - ต้นทุนต่ำกว่าการพัฒนาเกม AAA แต่ยังคงให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ✅ Yoshida เชื่อว่า AI อาจช่วยลดต้นทุนการพัฒนาเกมในอนาคต - เขากล่าวว่า เครื่องมือ AI เช่น Microsoft's Muse อาจช่วยให้ทีมพัฒนาเกมขนาดเล็กสามารถสร้างเกมได้ง่ายขึ้น https://www.techspot.com/news/107821-former-playstation-boss-gaming-price-hikes-inevitable-but.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Former PlayStation boss says gaming price hikes are inevitable, but lack of value is the real issue
    Many players have opted out of day-one releases as big-name publishers rapidly raise game prices. Nintendo's upcoming Switch 2 titles will cost as much as $80, Microsoft...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts