• วรรณกรรมประเภทหนึ่งที่ตอนนี้มีเยอะมากโดยเฉพาะจากฝั่งตะวันออก (จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี) แต่ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไร คือเรื่องแนวฟีลกู๊ดประเภทสถานที่เยียวยาจิตใจ ไม่ใช่เพราะผมเป็นพวกจิตใจหยาบกระด้างหรือชอบเสพแต่ความดาร์กและความสยอง แต่เพราะผมมองว่าตัวเองพอดักทางได้ว่าเรื่องพวกนั้นมี "สาร" อย่างไร ต้องการสอนผู้อ่านอย่างไร ทั้งนี้ก็จะมีบางเรื่องที่เป็นข้อยกเว้น หนึ่งในนั้นคือคาเฟ่ของแม่หมอมานูล

    'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' โดย อัตสึกิ โอโตะ เป็นนิยายแบบที่ผมคงไม่สนใจในแวบแรก ถ้าไม่ใช่เพราะโดนล่อตาล่อใจจากของแถมที่ทาง สนพ. บอกว่ามีเฉพาะในรอบพิมพ์ครั้งแรกเท่านั้น นั่นคือ ไพ่ทาโรต์ขนาดเล็ก ๆ 5 ใบที่เป็นภาพคุณมานูล แมวหมอดูตัวเอกประจำเรื่อง ข้อนี้เลยเป็นตัวแปรสำคัญให้ผมเปิดใจรับหนังสือเล่มนี้มาบรรจุเข้าชั้นที่บ้าน

    ไหน ๆ ก็พูดถึงหนังสือเล่มนี้แล้ว ผมก็เห็นว่ามันควรค่าแก่การรีวิวในแบบของไพ่เราเผาเรื่อง แต่รอบนี้จะต่างจากครั้งอื่น ๆ ตรงที่ผมจะไม่ใช้ไพ่ทาโรต์หรือไพ่พยากรณ์สำรับใด ๆ ในคลัง แต่จะใช้ไพ่แถม 5 ใบที่มากับหนังสือเล่มนี้เป็นเครื่องมือประกอบการ "เผาเรื่อง" โดยสับไพ่แล้วสุ่มหยิบตามลำดับ

    ขอเชิญรับชม #ไพ่เราเผาหนังสือ 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' ด้วยไพ่แถมสุดน่ารักทั้ง 5 ใบ ได้ ณ บัดนี้ครับ

    ----------

    "เรื่องจบในตอนพร้อมข้อคิดดี ๆ"
    🃏The Sun + 🃏The World

    ในไพ่ทาโรต์ 78 ใบ The Sun เป็นไพ่ที่ความหมายดีรอบด้านในอันดับต้น ๆ แต่ไพ่ใบนี้ยังสื่อถึง "ความจริง" และ "ข้อคิดที่เป็นประโยชน์" ได้ด้วย ส่วน The World ในฐานะไพ่ใบสุดท้ายของไพ่ชุดหลัก (Major Arcana) จึงมักสื่อความถึง "จุดสิ้นสุด" และ "ความสมบูรณ์" แต่มันไม่ใช่การตัดจบแบบบริบูรณ์หรือ Happily Ever After ทว่าเป็นการจบลงของบทหนึ่งเพื่อที่จะเข้าสู่บทถัดไป

    'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' มีลักษณะการเขียนแบบที่มักเจอใน Fiction ประเภทสถานที่ที่ช่วยให้ผู้คนได้ฮีลใจ นั่นคือเป็นนวนิยายแบบเนื้อเรื่องจบในตอน (Episodic novel) โดยแต่ละตอนมักจะมีข้อคิดจรรโลงใจหรือมุมมองที่น่าสนใจแตกต่างกัน บางครั้งต่างตอนก็มีสารหรือข้อคิดสำหรับคนต่างกลุ่มต่างจำพวก

    หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยเนื้อเรื่อง 5 บท แต่ละบทสามารถอ่านแยกในฐานะเรื่องสั้นที่จบสมบูรณ์ในตัวเองได้ แต่ตอนหลัง ๆ ก็จะมีรายละเอียดบางอย่างที่ต่อเนื่องจากตอนก่อน ๆ ตัวละครดำเนินเรื่องในแต่ละตอนมีช่วงอายุ บทบาท และปัญหาคาใจแตกต่างกัน มีทั้งเด็กมัธยมที่หาทาง fit in ในสังคมห้องเรียน อินฟลูเอนเซอร์สาว ซิงเกิลมัม ไปจนถึงวัยกลางคนที่กำลังสับสนกับทิศทางชีวิตและหน้าที่การงานของตัวเอง จากนั้นโชคชะตาหรือพล็อตเรื่องก็จะพาตัวละครไปเจอกับคุณมานูลและคาเฟมาร์เนิล

    คุณมานูล ศูนย์กลางของเรื่อง เดิมเคยเป็นมนุษย์ชื่อ คาวาตานิ ไอซาวะ แต่ด้วยสาเหตุบางอย่าง นางเลือก 'ลาออก' จากการเป็นมนุษย์ มาอยู่ในร่างของแมวมานูล (Manul) หรืออีกชื่อคือแมวพัลลาส (Pallas's cat) และรับดูดวงด้วยสารพัดวิธี ไม่ว่าจะใช้ไพ่ ลูกแก้ว หรือเครื่องเสี่ยงเซียมซีรูเลตต์ พร้อมทั้งเปิดคาเฟ่ร่วมกับคนที่น่าจะเป็นสามีและลูกสาว (ส่วนชื่อคาเฟ่ ทำไมถึงชื่อ "มาร์เนิล" แทนที่จะเป็น "มานูล" ตรงนี้ในหนังสือมีอธิบายไว้ แต่สั้น ๆ คือเป็นมุกที่เล่นกับตัวเขียนญี่ปุ่นแบบคาตาคานะ ซึ่งต้องขอชื่นชมผู้แปลที่พยายามเรียบเรียงเป็นไทยให้ใกล้เคียงโดยไม่เสียอรรถรสของต้นฉบับ)

    เนื้อเรื่องแต่ละตอนดำเนินไปอย่างค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จ เริ่มจากแนะนำตัวละครและชีวิตประจำวันที่เจ้าตัวไม่พึงพอใจเท่าไร จากนั้นตัวละครก็จะได้เจอคุณมานูลช่วยทำนายดวงชะตาพร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบคร่าว ๆ เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งตัวละครจะทำตามและอะไร ๆ ก็ดูจะดีขึ้นจริง ๆ แต่แล้วก็จะมีเหตุสักอย่างให้ชีวิตตัวละครกลับไปเป็นแบบตอนต้นเรื่องหรือเผลอ ๆ เหมือนจะดูแย่ลง และทำให้ตัวละครได้รับการชี้แนะจากคุณมานูลเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งคราวนี้เรื่องก็จะดูจบตอนแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ชวนให้นึกถึงโดราเอมอนแแบบอนิเมะในทีวีที่ฉายเป็นตอน ๆ หรือการ์ตูนต่อสู้อย่างเซเลอร์มูนช่วงแรก ๆ ที่จะมีตัวร้ายประจำสัปดาห์ (Monster of the week) มาให้ตัวเอกปราบ

    นิยายประเภทสถานที่ฮีลใจมักมีตัวละครประจำตอนที่แแตกต่างกันทั้งช่วงอายุและอาชีพ เพื่อจะได้เป็นตัวแทนของคนอ่านในกลุ่มต่าง ๆ นิยายเล่มนี้ก็เช่นกัน ทั้ง 5 ตอนมีตัวละครตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยกลางคน ซึ่งก็น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ผู้เขียนคคาดหวังว่าจะรวมอยู่ในหมู่คนอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วย และถึงแม้ปัญหาที่ตัวละครในเรื่องเผชิญอาจไม่ตรงกับเรื่องที่คนอ่านในช่วงวัยเดียวกันเจอในชีวิตจริงทั้งหมด แต่ข้อคิดและคำแนะนำจากคุณมานููลในแต่ละตอนก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เช่นกัน

    ----------

    "เยียวยาจิตใจในสถานที่ที่มอบความสุข"
    🃏The Star + 🃏Ten of Cups

    The Star คือดวงดาว จึงเป็นไพ่ตัวแทนหลายสิ่งหลายอย่างที่คนเรามักเชื่อมโยงกับดาว ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง ความโด่งดัง หรือความหวัง แต่มันก็มีอีกความหมายหนึ่ง นั่นคือ "การเยียวยา" ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ส่วนไพ่ 10 ถ้วย โดยทั่วไปมักหมายถึงบ้านหรือครอบครัว แต่บางกรณีก็สื่อถึง "ความสุขอย่างเต็มเปี่ยม" โดยเป็นความสุขที่มาจากกลุ่มคนที่อยู่กันสนิทชิดเชื้อเหมือนเป็นครอบครัว (แบบใน "แฟ้มเมอะหลี่" ของพี่ดอม ทอร์เรตโต แห่งซีรีส์ Fast & Furious) หรือจากาสถานที่มีผู้พร้อมจะส่งมอบความสุขให้ผู้อื่น

    คาเฟ่มาร์เนิลของคุณมานูลลงล็อกพอดีกับคำจำกัดความของสถานที่แบบที่ว่า แต่ก็อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ข้างบน ๆ นิยายเรื่องนี้ผลิตซ้ำ Trope ของสถานที่ที่ให้ความช่วยเหลือผู้คนในการแก้ปัญหาและเยียวยาจิตใจ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมกันในวงการวรรณกรรมฝั่งเอเชียตะวันออก แต่ละเรื่องอาจมีสถานที่ต่างกันไป บางเรื่องเป็นคาเฟ่ บางเรื่องเป็นร้านเบเกอรี่ บ้างเรื่องเป็นร้านหนังสือหรือห้องสมุด แต่ทุกเรื่องจบลงที่ตัวละครซึ่งไปเยือนสถานที่นั้น ๆ ได้เยียวยาบาดแผลหรือปมปัญหาในใจ หรือได้ปลดล็อกอะไรสักอย่างที่ติดค้างอยู่

    น่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า ในชีวิตจริงซึ่งไม่ได้มีมนตร์วิเศษอยู่ (อย่างน้อยก็ในแบบที่มักเกิลอย่างเรา ๆ จับต้องและพิสูจน์ได้) คนเราก็มีสถานที่สำหรับเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำและแตกร้าว นอกจากกลับบ้านไปหาครอบครัวแล้ว ที่อื่นที่คนมักไปเพื่อฮีลใจตัวเอง เช่น คาเฟ่ ซุ้มหมอดู (หรือบางคนก็ทักไปหาหมอดูทางออนไลน์) และที่ใดก็ตามที่มีแมวอยู่ กล่าวอีกอย่างคือ คาเฟ่ การดูดวง และแมว คือ Top 3 แห่งเครื่องเยียวยาจิตใจของมนุษย์ในปัจจุบัน (ซึ่งจะเรียกว่าเป็นยุคทุนนิยมหรือยุคโพสต์โมเดิร์นก็ตามแต่)

    และสามอย่างที่ว่านี้ นอกจากในนิยายซีรีส์ "ร้านกาแฟจันทร์เต็มดวง" แล้ว ก็มีคุณมานูลในนิยายเรื่องนี้ที่รวมทุกอย่างไว้ในตัว เหมือนผู้เขียนจงใจ หรือไม่ก็สร้างไว้ให้คนอ่านที่ชอบ Overanalyze ได้สังเกตและทึกทักเอา

    ----------

    "โชคชะตาไม่สำคัญเมื่อเธอนั้นกลายเป็นแมว"
    🃏Wheel of Fortune

    ไพ่วงล้อแห่งโชคชะตาเป็นใบหนึ่งที่ท้าทายสกิลการอ่านและตีความไพ่ของผู้อ่านไพ่มากที่สุด บางบริบท มันสื่อถึงการที่โชคชะตากำลังดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าช่วงนั้นดวงกกำลังดี ๆ อยู่ มันก็อาจเป็นคำเตือนในระวังถึงขาลงของชีวิตที่ส่อแววมาแต่ไกล โดยรวมแล้ว ไพ่ใบนี้สื่อถึง "โชคชะตา" ในภาพรวม ซึ่งโดยตัวมันเองไม่มีดีหรือร้าย แต่ที่เรามองว่าดีหรือร้ายก็เพราะเรามองจากมุมมองของตัวเรา ถ้าเรามองเรื่องที่เกิดกับคนอื่น หรือมองตัวเองอย่างเป็นภววิสัย เราก็คงมองว่าททุกอย่างเป็นเรื่องของธรรมชาติ เดี๋ยวมีดี เดี๋ยวมีร้าย ไม่แน่ไม่นอน เผลอ ๆ คาดเดาไม่ได้ (หากเราเชื่อตาม Chaos Theory) และด้วยเหตุนี้ ไพ่ใบนี้จึงหมายรวมถึงการพยากรณ์ การดูดวง หรือการตรวจสอบดวงชะตาเช่นกัน

    ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนผมไหม ตอนเห็นชื่อหนังสือฉบับแปลไทยครั้งแรก ก็คิดว่าคุณมานูลน่าจะเป็นตัวละครประเภทกวน ๆ ที่ทำนายดวงตรงมั่งมั่วมั่ง (แต่สุดท้ายก็ช่วยให้ตัวละครในแต่ละตอนได้มีความสุขอยู่ดี ตามแนวทางของนิยายฮีลใจแบบนี้) แต่พอได้อ่านจริงก็พบว่านางเป็นคาแรกเตอร์ประเภทกวน ๆ จริง กวนแบบน่ารัก ๆ ชนิดที่เชื่อว่าทุกคนน่าจะอยากมีเพื่อนสนิทแบบนี้สักคนสองคน ทว่าสิ่งที่ดูเหมือนจะหายไปคือการทำนายแบบมั่ว ๆ เพราะเท่าที่อ่านเจอในเรื่อง คุณมานูลไม่เคยทำนายดวงชะตาให้ตัวละครไหนแบบมั่ว ๆ เลย อย่างมากคือทำนายแบบส่งเดช พอให้เห็นว่ามีการใช้อุปกรณ์ทำนาย (อันนี้พูดในฐานะคนที่ทุกวันนี้รายรอบด้วยคนในวงการนักพยากรณ์ และเคยเจอหมอดูที่ทำนายแบบมั่วซั่วมาจนมากเกินจะนับด้วยนิ้วมือรวมนิ้วเท้าได้) อันที่จริงชื่อต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นของนิยายเรื่องนี้แปลตรงตัวแค่ว่า "คุณมานูลผู้ลาออกจากการเป็นมนุษย์จะทำนายดวงชะตาให้คุณ" ด้วยซ้ำ

    อย่างไรก็ตาม คุณมานูลตลอดทั้งเรื่องจะเล่นอีกบทบาทหนึ่ง ซึ่งเป็นบทบาทที่หมอดูทุกศาสตร์ทุกแขนงควรเป็นในตัว (ถ้ายังไม่เป็นก็ควรฝึกตัวเองให้เป็น หรือไป take course เสียโดยด่วน โปรดรู้ว่าสังคมทุกวันนี้กำลังต้องการมาก) นั่นคือการเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านจิตใจและสังคม เนื้อเรื่องไม่เคยฟันธงว่าคุณมานูลดูดวงเป็นจริง ๆ หรือไม่ แต่เรื่องแสดงให้เห็นว่านางดูคนเป็น เข้าใจว่าแต่ละคนกำลังขาดหรือล้นเกินในเรื่องอะไร ซึ่งก็น่าจะเป็นทักษะที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยนางยังเป็นมนุษย์ และจากตรงนี้ นางจึงให้คำแนะนำแบบแมว ๆ ให้แต่ละตัวละครรับไปหาทางแก้ปัญหาของตัวเองอย่างตรงจุด

    เนื้อเรื่องไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้คุณไอซาวะลาออกจากการเป็นมนุษย์แล้วผันตัวมาเป็นแมวมานูล แต่เมื่อดูจากคำใบ้ในแต่ละตอน (โดยเฉพาะตอนสุดท้าย) ผมมองว่านางคงเบื่อชีวิตมนุษย์ที่วัน ๆ ได้แต่ไหลไปตามสิ่งรอบข้างอย่างกระแสสังคม ความควาดหวังและแรงกดดันจากคนรอบข้าง (ซึ่งไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นสิ่งที่เรารับมากระทำกับตัวเราเอง) ตลอดจนการยอมจำนนต่อ "โชคชะตา" เดี๋ยวดวงดี เดี๋ยวดวงซวย ช่วงนี้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อหลีกเลี่ยงกาลกิณี ฯลฯ

    ในเมื่อมีแต่มนุษย์ที่ปวดหัววุ่นวายกับเรื่องเหล่านี้ แต่แมวใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องนำพาต่อสิ่งเหล่านี้ นางก็เลยเลิกเป็นมนุษย์แล้วเป็นแมวซะดื้อ ๆ แต่ครั้นจะเป็นแมวพันธุ์ธรรมดา ๆ พื้น ๆ ก็ไม่เอา เลยขอเป็นพันธุ์หายากอย่างแมวมานูล และพอเป็นแมวแล้ว นางเลยสามารถมองเรื่องราววุ่น ๆ ของมนุษย์ได้อย่างเป็นกลาง พร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบชิล ๆ แต่ตรงประเด็นได้

    ถึงแม้นิยายเรื่องนี้จะขึ้นชื่อว่ามีหมอดูอยู่ แต่เนื้อเรื่องแทบไม่เกี่ยวกับการทำนายดวงชะตา (จริง ๆ) เลย กลับกัน มันแนะแนววิธีการใช้ชีวิตแบบไม่แคร์ดวง เหมือนที่แมวไม่แคร์วิถีชีวิตของมนุษย์ แต่พร้อมกันนั้น มันก็ให้คำแนะนำที่ดีอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นหมอดูและอยากเป็นหมอดูครับ

    ----------

    Final Verdict: 🃏The Sun + 🃏The World + 🃏The Star + 🃏Ten of Cups + 🃏Wheel of Fortune

    'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' จะช่วยให้คุณเข้าใจความจริงว่า ต่อให้โลกนี้จะหมุนไปและชีวิตนำพาอะไรมาให้คุณ แต่คุณก็สามารถเฉิดฉายในแบบของตัวเองและมีความสุขทุกวันได้ ขอแค่คุณปล่อยจอยกับชีวิต คิดเสียว่าลาออกจากการมนุษย์แล้วทำตัวเหมือนเป็นแมวเสีย เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้แค่เวลาจำกัด แล้วทำไม เราต้องปล่อยให้เรื่องชั่วประเดี๋ยวประด๋าว (เมื่อเทียบกับเวลาของจักรวาล) มาขัดจังหวะการเก็บเกี่ยวความสุขในแต่ละวันของเราด้วย จริงไหม?

    🃏🃏🃏🃏🃏
    แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่งคาเฟมาร์เนิล (2025)
    • แปลจาก: 人間やめたマヌルさんが、あなたの人生占います (2023)
    • ผู้เขียน: ฮัตสึกิ โอโตะ
    • ผู้แปล: วิลาสินี จงสถิตวัฒนา
    • สำนักพิมพ์: Lumi (ในเครือนานมีบุ๊คส์)
    ไพ่ที่ใช้: ไพ่ทาโรต์แถมพิเศษเฉพาะฉบับพิมพ์ครั้งแรกของนิยายเรื่องนี้
    วรรณกรรมประเภทหนึ่งที่ตอนนี้มีเยอะมากโดยเฉพาะจากฝั่งตะวันออก (จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี) แต่ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไร คือเรื่องแนวฟีลกู๊ดประเภทสถานที่เยียวยาจิตใจ ไม่ใช่เพราะผมเป็นพวกจิตใจหยาบกระด้างหรือชอบเสพแต่ความดาร์กและความสยอง แต่เพราะผมมองว่าตัวเองพอดักทางได้ว่าเรื่องพวกนั้นมี "สาร" อย่างไร ต้องการสอนผู้อ่านอย่างไร ทั้งนี้ก็จะมีบางเรื่องที่เป็นข้อยกเว้น หนึ่งในนั้นคือคาเฟ่ของแม่หมอมานูล 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' โดย อัตสึกิ โอโตะ เป็นนิยายแบบที่ผมคงไม่สนใจในแวบแรก ถ้าไม่ใช่เพราะโดนล่อตาล่อใจจากของแถมที่ทาง สนพ. บอกว่ามีเฉพาะในรอบพิมพ์ครั้งแรกเท่านั้น นั่นคือ ไพ่ทาโรต์ขนาดเล็ก ๆ 5 ใบที่เป็นภาพคุณมานูล แมวหมอดูตัวเอกประจำเรื่อง ข้อนี้เลยเป็นตัวแปรสำคัญให้ผมเปิดใจรับหนังสือเล่มนี้มาบรรจุเข้าชั้นที่บ้าน ไหน ๆ ก็พูดถึงหนังสือเล่มนี้แล้ว ผมก็เห็นว่ามันควรค่าแก่การรีวิวในแบบของไพ่เราเผาเรื่อง แต่รอบนี้จะต่างจากครั้งอื่น ๆ ตรงที่ผมจะไม่ใช้ไพ่ทาโรต์หรือไพ่พยากรณ์สำรับใด ๆ ในคลัง แต่จะใช้ไพ่แถม 5 ใบที่มากับหนังสือเล่มนี้เป็นเครื่องมือประกอบการ "เผาเรื่อง" โดยสับไพ่แล้วสุ่มหยิบตามลำดับ ขอเชิญรับชม #ไพ่เราเผาหนังสือ 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' ด้วยไพ่แถมสุดน่ารักทั้ง 5 ใบ ได้ ณ บัดนี้ครับ ---------- "เรื่องจบในตอนพร้อมข้อคิดดี ๆ" 🃏The Sun + 🃏The World ในไพ่ทาโรต์ 78 ใบ The Sun เป็นไพ่ที่ความหมายดีรอบด้านในอันดับต้น ๆ แต่ไพ่ใบนี้ยังสื่อถึง "ความจริง" และ "ข้อคิดที่เป็นประโยชน์" ได้ด้วย ส่วน The World ในฐานะไพ่ใบสุดท้ายของไพ่ชุดหลัก (Major Arcana) จึงมักสื่อความถึง "จุดสิ้นสุด" และ "ความสมบูรณ์" แต่มันไม่ใช่การตัดจบแบบบริบูรณ์หรือ Happily Ever After ทว่าเป็นการจบลงของบทหนึ่งเพื่อที่จะเข้าสู่บทถัดไป 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' มีลักษณะการเขียนแบบที่มักเจอใน Fiction ประเภทสถานที่ที่ช่วยให้ผู้คนได้ฮีลใจ นั่นคือเป็นนวนิยายแบบเนื้อเรื่องจบในตอน (Episodic novel) โดยแต่ละตอนมักจะมีข้อคิดจรรโลงใจหรือมุมมองที่น่าสนใจแตกต่างกัน บางครั้งต่างตอนก็มีสารหรือข้อคิดสำหรับคนต่างกลุ่มต่างจำพวก หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยเนื้อเรื่อง 5 บท แต่ละบทสามารถอ่านแยกในฐานะเรื่องสั้นที่จบสมบูรณ์ในตัวเองได้ แต่ตอนหลัง ๆ ก็จะมีรายละเอียดบางอย่างที่ต่อเนื่องจากตอนก่อน ๆ ตัวละครดำเนินเรื่องในแต่ละตอนมีช่วงอายุ บทบาท และปัญหาคาใจแตกต่างกัน มีทั้งเด็กมัธยมที่หาทาง fit in ในสังคมห้องเรียน อินฟลูเอนเซอร์สาว ซิงเกิลมัม ไปจนถึงวัยกลางคนที่กำลังสับสนกับทิศทางชีวิตและหน้าที่การงานของตัวเอง จากนั้นโชคชะตาหรือพล็อตเรื่องก็จะพาตัวละครไปเจอกับคุณมานูลและคาเฟมาร์เนิล คุณมานูล ศูนย์กลางของเรื่อง เดิมเคยเป็นมนุษย์ชื่อ คาวาตานิ ไอซาวะ แต่ด้วยสาเหตุบางอย่าง นางเลือก 'ลาออก' จากการเป็นมนุษย์ มาอยู่ในร่างของแมวมานูล (Manul) หรืออีกชื่อคือแมวพัลลาส (Pallas's cat) และรับดูดวงด้วยสารพัดวิธี ไม่ว่าจะใช้ไพ่ ลูกแก้ว หรือเครื่องเสี่ยงเซียมซีรูเลตต์ พร้อมทั้งเปิดคาเฟ่ร่วมกับคนที่น่าจะเป็นสามีและลูกสาว (ส่วนชื่อคาเฟ่ ทำไมถึงชื่อ "มาร์เนิล" แทนที่จะเป็น "มานูล" ตรงนี้ในหนังสือมีอธิบายไว้ แต่สั้น ๆ คือเป็นมุกที่เล่นกับตัวเขียนญี่ปุ่นแบบคาตาคานะ ซึ่งต้องขอชื่นชมผู้แปลที่พยายามเรียบเรียงเป็นไทยให้ใกล้เคียงโดยไม่เสียอรรถรสของต้นฉบับ) เนื้อเรื่องแต่ละตอนดำเนินไปอย่างค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จ เริ่มจากแนะนำตัวละครและชีวิตประจำวันที่เจ้าตัวไม่พึงพอใจเท่าไร จากนั้นตัวละครก็จะได้เจอคุณมานูลช่วยทำนายดวงชะตาพร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบคร่าว ๆ เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งตัวละครจะทำตามและอะไร ๆ ก็ดูจะดีขึ้นจริง ๆ แต่แล้วก็จะมีเหตุสักอย่างให้ชีวิตตัวละครกลับไปเป็นแบบตอนต้นเรื่องหรือเผลอ ๆ เหมือนจะดูแย่ลง และทำให้ตัวละครได้รับการชี้แนะจากคุณมานูลเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งคราวนี้เรื่องก็จะดูจบตอนแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ชวนให้นึกถึงโดราเอมอนแแบบอนิเมะในทีวีที่ฉายเป็นตอน ๆ หรือการ์ตูนต่อสู้อย่างเซเลอร์มูนช่วงแรก ๆ ที่จะมีตัวร้ายประจำสัปดาห์ (Monster of the week) มาให้ตัวเอกปราบ นิยายประเภทสถานที่ฮีลใจมักมีตัวละครประจำตอนที่แแตกต่างกันทั้งช่วงอายุและอาชีพ เพื่อจะได้เป็นตัวแทนของคนอ่านในกลุ่มต่าง ๆ นิยายเล่มนี้ก็เช่นกัน ทั้ง 5 ตอนมีตัวละครตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยกลางคน ซึ่งก็น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ผู้เขียนคคาดหวังว่าจะรวมอยู่ในหมู่คนอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วย และถึงแม้ปัญหาที่ตัวละครในเรื่องเผชิญอาจไม่ตรงกับเรื่องที่คนอ่านในช่วงวัยเดียวกันเจอในชีวิตจริงทั้งหมด แต่ข้อคิดและคำแนะนำจากคุณมานููลในแต่ละตอนก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เช่นกัน ---------- "เยียวยาจิตใจในสถานที่ที่มอบความสุข" 🃏The Star + 🃏Ten of Cups The Star คือดวงดาว จึงเป็นไพ่ตัวแทนหลายสิ่งหลายอย่างที่คนเรามักเชื่อมโยงกับดาว ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง ความโด่งดัง หรือความหวัง แต่มันก็มีอีกความหมายหนึ่ง นั่นคือ "การเยียวยา" ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ส่วนไพ่ 10 ถ้วย โดยทั่วไปมักหมายถึงบ้านหรือครอบครัว แต่บางกรณีก็สื่อถึง "ความสุขอย่างเต็มเปี่ยม" โดยเป็นความสุขที่มาจากกลุ่มคนที่อยู่กันสนิทชิดเชื้อเหมือนเป็นครอบครัว (แบบใน "แฟ้มเมอะหลี่" ของพี่ดอม ทอร์เรตโต แห่งซีรีส์ Fast & Furious) หรือจากาสถานที่มีผู้พร้อมจะส่งมอบความสุขให้ผู้อื่น คาเฟ่มาร์เนิลของคุณมานูลลงล็อกพอดีกับคำจำกัดความของสถานที่แบบที่ว่า แต่ก็อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ข้างบน ๆ นิยายเรื่องนี้ผลิตซ้ำ Trope ของสถานที่ที่ให้ความช่วยเหลือผู้คนในการแก้ปัญหาและเยียวยาจิตใจ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมกันในวงการวรรณกรรมฝั่งเอเชียตะวันออก แต่ละเรื่องอาจมีสถานที่ต่างกันไป บางเรื่องเป็นคาเฟ่ บางเรื่องเป็นร้านเบเกอรี่ บ้างเรื่องเป็นร้านหนังสือหรือห้องสมุด แต่ทุกเรื่องจบลงที่ตัวละครซึ่งไปเยือนสถานที่นั้น ๆ ได้เยียวยาบาดแผลหรือปมปัญหาในใจ หรือได้ปลดล็อกอะไรสักอย่างที่ติดค้างอยู่ น่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า ในชีวิตจริงซึ่งไม่ได้มีมนตร์วิเศษอยู่ (อย่างน้อยก็ในแบบที่มักเกิลอย่างเรา ๆ จับต้องและพิสูจน์ได้) คนเราก็มีสถานที่สำหรับเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำและแตกร้าว นอกจากกลับบ้านไปหาครอบครัวแล้ว ที่อื่นที่คนมักไปเพื่อฮีลใจตัวเอง เช่น คาเฟ่ ซุ้มหมอดู (หรือบางคนก็ทักไปหาหมอดูทางออนไลน์) และที่ใดก็ตามที่มีแมวอยู่ กล่าวอีกอย่างคือ คาเฟ่ การดูดวง และแมว คือ Top 3 แห่งเครื่องเยียวยาจิตใจของมนุษย์ในปัจจุบัน (ซึ่งจะเรียกว่าเป็นยุคทุนนิยมหรือยุคโพสต์โมเดิร์นก็ตามแต่) และสามอย่างที่ว่านี้ นอกจากในนิยายซีรีส์ "ร้านกาแฟจันทร์เต็มดวง" แล้ว ก็มีคุณมานูลในนิยายเรื่องนี้ที่รวมทุกอย่างไว้ในตัว เหมือนผู้เขียนจงใจ หรือไม่ก็สร้างไว้ให้คนอ่านที่ชอบ Overanalyze ได้สังเกตและทึกทักเอา ---------- "โชคชะตาไม่สำคัญเมื่อเธอนั้นกลายเป็นแมว" 🃏Wheel of Fortune ไพ่วงล้อแห่งโชคชะตาเป็นใบหนึ่งที่ท้าทายสกิลการอ่านและตีความไพ่ของผู้อ่านไพ่มากที่สุด บางบริบท มันสื่อถึงการที่โชคชะตากำลังดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าช่วงนั้นดวงกกำลังดี ๆ อยู่ มันก็อาจเป็นคำเตือนในระวังถึงขาลงของชีวิตที่ส่อแววมาแต่ไกล โดยรวมแล้ว ไพ่ใบนี้สื่อถึง "โชคชะตา" ในภาพรวม ซึ่งโดยตัวมันเองไม่มีดีหรือร้าย แต่ที่เรามองว่าดีหรือร้ายก็เพราะเรามองจากมุมมองของตัวเรา ถ้าเรามองเรื่องที่เกิดกับคนอื่น หรือมองตัวเองอย่างเป็นภววิสัย เราก็คงมองว่าททุกอย่างเป็นเรื่องของธรรมชาติ เดี๋ยวมีดี เดี๋ยวมีร้าย ไม่แน่ไม่นอน เผลอ ๆ คาดเดาไม่ได้ (หากเราเชื่อตาม Chaos Theory) และด้วยเหตุนี้ ไพ่ใบนี้จึงหมายรวมถึงการพยากรณ์ การดูดวง หรือการตรวจสอบดวงชะตาเช่นกัน ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนผมไหม ตอนเห็นชื่อหนังสือฉบับแปลไทยครั้งแรก ก็คิดว่าคุณมานูลน่าจะเป็นตัวละครประเภทกวน ๆ ที่ทำนายดวงตรงมั่งมั่วมั่ง (แต่สุดท้ายก็ช่วยให้ตัวละครในแต่ละตอนได้มีความสุขอยู่ดี ตามแนวทางของนิยายฮีลใจแบบนี้) แต่พอได้อ่านจริงก็พบว่านางเป็นคาแรกเตอร์ประเภทกวน ๆ จริง กวนแบบน่ารัก ๆ ชนิดที่เชื่อว่าทุกคนน่าจะอยากมีเพื่อนสนิทแบบนี้สักคนสองคน ทว่าสิ่งที่ดูเหมือนจะหายไปคือการทำนายแบบมั่ว ๆ เพราะเท่าที่อ่านเจอในเรื่อง คุณมานูลไม่เคยทำนายดวงชะตาให้ตัวละครไหนแบบมั่ว ๆ เลย อย่างมากคือทำนายแบบส่งเดช พอให้เห็นว่ามีการใช้อุปกรณ์ทำนาย (อันนี้พูดในฐานะคนที่ทุกวันนี้รายรอบด้วยคนในวงการนักพยากรณ์ และเคยเจอหมอดูที่ทำนายแบบมั่วซั่วมาจนมากเกินจะนับด้วยนิ้วมือรวมนิ้วเท้าได้) อันที่จริงชื่อต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นของนิยายเรื่องนี้แปลตรงตัวแค่ว่า "คุณมานูลผู้ลาออกจากการเป็นมนุษย์จะทำนายดวงชะตาให้คุณ" ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม คุณมานูลตลอดทั้งเรื่องจะเล่นอีกบทบาทหนึ่ง ซึ่งเป็นบทบาทที่หมอดูทุกศาสตร์ทุกแขนงควรเป็นในตัว (ถ้ายังไม่เป็นก็ควรฝึกตัวเองให้เป็น หรือไป take course เสียโดยด่วน โปรดรู้ว่าสังคมทุกวันนี้กำลังต้องการมาก) นั่นคือการเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านจิตใจและสังคม เนื้อเรื่องไม่เคยฟันธงว่าคุณมานูลดูดวงเป็นจริง ๆ หรือไม่ แต่เรื่องแสดงให้เห็นว่านางดูคนเป็น เข้าใจว่าแต่ละคนกำลังขาดหรือล้นเกินในเรื่องอะไร ซึ่งก็น่าจะเป็นทักษะที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยนางยังเป็นมนุษย์ และจากตรงนี้ นางจึงให้คำแนะนำแบบแมว ๆ ให้แต่ละตัวละครรับไปหาทางแก้ปัญหาของตัวเองอย่างตรงจุด เนื้อเรื่องไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้คุณไอซาวะลาออกจากการเป็นมนุษย์แล้วผันตัวมาเป็นแมวมานูล แต่เมื่อดูจากคำใบ้ในแต่ละตอน (โดยเฉพาะตอนสุดท้าย) ผมมองว่านางคงเบื่อชีวิตมนุษย์ที่วัน ๆ ได้แต่ไหลไปตามสิ่งรอบข้างอย่างกระแสสังคม ความควาดหวังและแรงกดดันจากคนรอบข้าง (ซึ่งไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นสิ่งที่เรารับมากระทำกับตัวเราเอง) ตลอดจนการยอมจำนนต่อ "โชคชะตา" เดี๋ยวดวงดี เดี๋ยวดวงซวย ช่วงนี้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อหลีกเลี่ยงกาลกิณี ฯลฯ ในเมื่อมีแต่มนุษย์ที่ปวดหัววุ่นวายกับเรื่องเหล่านี้ แต่แมวใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องนำพาต่อสิ่งเหล่านี้ นางก็เลยเลิกเป็นมนุษย์แล้วเป็นแมวซะดื้อ ๆ แต่ครั้นจะเป็นแมวพันธุ์ธรรมดา ๆ พื้น ๆ ก็ไม่เอา เลยขอเป็นพันธุ์หายากอย่างแมวมานูล และพอเป็นแมวแล้ว นางเลยสามารถมองเรื่องราววุ่น ๆ ของมนุษย์ได้อย่างเป็นกลาง พร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบชิล ๆ แต่ตรงประเด็นได้ ถึงแม้นิยายเรื่องนี้จะขึ้นชื่อว่ามีหมอดูอยู่ แต่เนื้อเรื่องแทบไม่เกี่ยวกับการทำนายดวงชะตา (จริง ๆ) เลย กลับกัน มันแนะแนววิธีการใช้ชีวิตแบบไม่แคร์ดวง เหมือนที่แมวไม่แคร์วิถีชีวิตของมนุษย์ แต่พร้อมกันนั้น มันก็ให้คำแนะนำที่ดีอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นหมอดูและอยากเป็นหมอดูครับ ---------- Final Verdict: 🃏The Sun + 🃏The World + 🃏The Star + 🃏Ten of Cups + 🃏Wheel of Fortune 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' จะช่วยให้คุณเข้าใจความจริงว่า ต่อให้โลกนี้จะหมุนไปและชีวิตนำพาอะไรมาให้คุณ แต่คุณก็สามารถเฉิดฉายในแบบของตัวเองและมีความสุขทุกวันได้ ขอแค่คุณปล่อยจอยกับชีวิต คิดเสียว่าลาออกจากการมนุษย์แล้วทำตัวเหมือนเป็นแมวเสีย เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้แค่เวลาจำกัด แล้วทำไม เราต้องปล่อยให้เรื่องชั่วประเดี๋ยวประด๋าว (เมื่อเทียบกับเวลาของจักรวาล) มาขัดจังหวะการเก็บเกี่ยวความสุขในแต่ละวันของเราด้วย จริงไหม? 🃏🃏🃏🃏🃏 แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่งคาเฟมาร์เนิล (2025) • แปลจาก: 人間やめたマヌルさんが、あなたの人生占います (2023) • ผู้เขียน: ฮัตสึกิ โอโตะ • ผู้แปล: วิลาสินี จงสถิตวัฒนา • สำนักพิมพ์: Lumi (ในเครือนานมีบุ๊คส์) ไพ่ที่ใช้: ไพ่ทาโรต์แถมพิเศษเฉพาะฉบับพิมพ์ครั้งแรกของนิยายเรื่องนี้
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ไม่รู้จะทำอะไรดี แต่ก็รีแลกซ์ให้อิ่มก่อนค่อยลุยทำในสิ่งที่ตัวเองพยายามจะทำ แต่ดูยูทูบเบอร์สายตลกทำรายการ ไม่ลองไม่รู้ ดินเกษตรบ้านแพ้วของป๋าเด่นที่ล่วงลับไป ผมรู้สึกมีความสุข ฮีลใจไปเยอะเลย ผ่อนคล้าย แต่คนในครอบครัวจ้องจะพูดจาดูถูก แทงใจดำ หยามน้ำหน้ามากเท่าไหร่ ผมคงจะไม่อ่อนไหวตามคำพูดเหล่านั้น ที่ผ่านมาผมฟังคำเหล่านี้และนอยด์ ดิ่ง เครียด คิดมาก หงุดหงิดมามากพอละ แต่เสพบันเทิงที่เคยเสพอย่างหนักอย่างตลก เล่นเกมส์ ก็อิ่มสุขแล้ว ผมเองก็เคยมูจนเสียทุกอย่างที่เคยเคียงข้างเรา ไม่ว่าจะเพื่อน สังคมส่วนน้อยบางสังคม หรือแม้กระทั่วโอกาส แต่ผมไม่ขยับสร้างงานสร้างโอกาส กลับกลายเป็นว่าผมต้องสูญเสียโอกาสไป 2 ครั้งแล้วก็ตาม เซฟโซนคืออยู่คนเดียว ย้ายอยู่คนละที่ บางทีอยากย้ายไปอยู่พัทยา ไม่ก็พัทลุง เพราะชอบอาหารพัทลุงมากครับ
    วันนี้ไม่รู้จะทำอะไรดี แต่ก็รีแลกซ์ให้อิ่มก่อนค่อยลุยทำในสิ่งที่ตัวเองพยายามจะทำ แต่ดูยูทูบเบอร์สายตลกทำรายการ ไม่ลองไม่รู้ ดินเกษตรบ้านแพ้วของป๋าเด่นที่ล่วงลับไป ผมรู้สึกมีความสุข ฮีลใจไปเยอะเลย ผ่อนคล้าย แต่คนในครอบครัวจ้องจะพูดจาดูถูก แทงใจดำ หยามน้ำหน้ามากเท่าไหร่ ผมคงจะไม่อ่อนไหวตามคำพูดเหล่านั้น ที่ผ่านมาผมฟังคำเหล่านี้และนอยด์ ดิ่ง เครียด คิดมาก หงุดหงิดมามากพอละ แต่เสพบันเทิงที่เคยเสพอย่างหนักอย่างตลก เล่นเกมส์ ก็อิ่มสุขแล้ว ผมเองก็เคยมูจนเสียทุกอย่างที่เคยเคียงข้างเรา ไม่ว่าจะเพื่อน สังคมส่วนน้อยบางสังคม หรือแม้กระทั่วโอกาส แต่ผมไม่ขยับสร้างงานสร้างโอกาส กลับกลายเป็นว่าผมต้องสูญเสียโอกาสไป 2 ครั้งแล้วก็ตาม เซฟโซนคืออยู่คนเดียว ย้ายอยู่คนละที่ บางทีอยากย้ายไปอยู่พัทยา ไม่ก็พัทลุง เพราะชอบอาหารพัทลุงมากครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้ปั๊มของในเกมส์รัวๆไปด้วยศึกษาข้อมูลอาหารแปลกใหม่ไปด้วย เลยเตรียมใจว่าวันอังคารไปอัพเดทอาการ แต่ขอปรับพฤติกรรมการกินและการนอน คือ หยุดกินชา หยุดกินกาแฟ หยุดกินเครื่องดื่มชูกำลัง (Energy Booster) หันมาทานนมมากขึ้น โดยจะทานนมกล่องที่มีส่วนผสมของสฟิงโกไมอิลินและนมกล่องที่ให้แคลเซียมสูงด้วย เลยรู้สึกมีความสุขกว่าที่ๆผ่านมา แต่ผมใส่เสื้อปั่นเพื่อพ่อนึกถึงเสื้อที่พิธีกรสุขชาวบ้านใส่ประจำนั่นแหละ แต่เพื่อรักษาสุขภาพที่มีประสิทธิภาพกว่านี้เลยงดเครื่องดื่มกระตุ้นต่างๆไปก่อน ทานอาหารจานหลัก + ทานนม + ทานน้ำมะเขือเทศ ทำให้ผมรู้สึกฮีลใจขึ้นมาเลยครับ ส่วนตัวผมเริ่มจัดเรียงลำดับความสำคัญสิ่งที่ต้องทำวันนี้และวันต่อๆไป และยังไม่ได้ถ่ายโรดแมปที่ผมเขียน เขียนโรดแมปฉบับสมบูรณ์เมื่อไหร่ เขียนเสร็จว่าจะถ่ายมาให้ดูนะครับ และต้องจดสิ่งที่ต้องทำในวันนี้หรือวันต่อๆไปเพื่อไม่ให้แผนที่วางไว้ต้องมาพังดื้อๆ และหลงทิศหลงทางไปหมด เลยต้องจัดระเบียบชีวิตตัวเองและใส่ใจกับการค้นพบค้นหาตัวเองให้ชัดเจนกว่านี้ก่อนถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจด้วยตัวเองแล้วว่าจะอยู่คนเดียวหรืออยู่กับครอบครัวที่คิดไม่ตรงกัน ส่วนตัวผมเอาตัวเองให้รอดก่อน ก่อนที่จะไปช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวครับ
    ช่วงนี้ปั๊มของในเกมส์รัวๆไปด้วยศึกษาข้อมูลอาหารแปลกใหม่ไปด้วย เลยเตรียมใจว่าวันอังคารไปอัพเดทอาการ แต่ขอปรับพฤติกรรมการกินและการนอน คือ หยุดกินชา หยุดกินกาแฟ หยุดกินเครื่องดื่มชูกำลัง (Energy Booster) หันมาทานนมมากขึ้น โดยจะทานนมกล่องที่มีส่วนผสมของสฟิงโกไมอิลินและนมกล่องที่ให้แคลเซียมสูงด้วย เลยรู้สึกมีความสุขกว่าที่ๆผ่านมา แต่ผมใส่เสื้อปั่นเพื่อพ่อนึกถึงเสื้อที่พิธีกรสุขชาวบ้านใส่ประจำนั่นแหละ แต่เพื่อรักษาสุขภาพที่มีประสิทธิภาพกว่านี้เลยงดเครื่องดื่มกระตุ้นต่างๆไปก่อน ทานอาหารจานหลัก + ทานนม + ทานน้ำมะเขือเทศ ทำให้ผมรู้สึกฮีลใจขึ้นมาเลยครับ ส่วนตัวผมเริ่มจัดเรียงลำดับความสำคัญสิ่งที่ต้องทำวันนี้และวันต่อๆไป และยังไม่ได้ถ่ายโรดแมปที่ผมเขียน เขียนโรดแมปฉบับสมบูรณ์เมื่อไหร่ เขียนเสร็จว่าจะถ่ายมาให้ดูนะครับ และต้องจดสิ่งที่ต้องทำในวันนี้หรือวันต่อๆไปเพื่อไม่ให้แผนที่วางไว้ต้องมาพังดื้อๆ และหลงทิศหลงทางไปหมด เลยต้องจัดระเบียบชีวิตตัวเองและใส่ใจกับการค้นพบค้นหาตัวเองให้ชัดเจนกว่านี้ก่อนถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจด้วยตัวเองแล้วว่าจะอยู่คนเดียวหรืออยู่กับครอบครัวที่คิดไม่ตรงกัน ส่วนตัวผมเอาตัวเองให้รอดก่อน ก่อนที่จะไปช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ถึงขอมาแต่ได้มาคราวละไม่ถึง 500 บาท ยังไงก็ต้องดิ้นรนทำมาหากินในแบบที่ผมกำลังจะทำต่อไป หลังจากที่หงุดหงิดจากการโทรตามจิกให้แก้งานเช้ายันค่ำทุกวัน จนผมต้องกล้าตัดสินใจที่จะยกเลิกเพราะมีสิ่งที่ผมอยากทำและงานบ้านที่ต้องทำเพราะเอาใจคนในครอบครัวเยอะมาก หนังสือ กพ. ก็ต้องหยิบขึ้นมาอ่าน โทรขัดจังหวะตอนที่ผมกำลังรีแลกซ์ฮีลใจหรืออะไรก็ตามแต่ที่ทำให้ความรู้ของผมเพิ่มพูน ผมรู้สึกหัวเสีย ฟิวส์ขาด แทบจะอาละวาดและ ทรตอ. จนเจ็บลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ จนผมอัดอั้นไว้ไม่อยู่ก็ใด้ตัดสินใจตัดพ้อสิ่งที่ผมเจอระหว่างทำงานให้มันกับสิ่งภายนอกอย่างครอบครัวจ้ำจี้จ้ำไช ผมไม่จำเป็นต้องขออะไรจากครอบครัวอีกต่อไปแล้ว ที่ผ่านมากว่าจะได้เงินก็ไส้แห้งพอดี มาวันนี้เขาจะเสนองานที่เล็กกว่าผมก็ปฏิเสธเป็นเสียงแข็ง ทำไปก็รอเงินอีกนาน ได้เงินมาก็ได้น้อยกว่าที่ตั้งราคางบไว้ ความอึดอัดของผมก็อึดอัดกับเขามามากพอแล้ว และผมไปท้วงว่าถ้าไม่ให้พี่ผู้พัฒนาคนอื่นช่วย ถึงขอไปช่วยเขาก็ไม่ว่างมาช่วยแก้ปัญหา ให้ผมรับผิดชอบอยู่คนเดียว ถ้ามันถึงจุดที่ผมทำไม่ได้จริงๆ ผมเลยกล้าตัดสินใจอย่างแข็งขันไปเลยว่าไม่รับงานมาทำ แถมเวอร์ชั่นเฟรมเวร์คก็โคตรเก่าอีกด้วย ผมจำต้องยกเลิกและไม่คุยกับมันไปอีกยาวไปเลย บางทีอารมณ์ผมมันแปรปรวนง่ายเพราะไม่ได้กินอาหารเช้า อาหารเที่ยง มันก็เลยทำให้ผมต้องฟิวส์ขาดกลางสายบ้าง กลางมีทวิดีโอคอลบ้าง เฮ้อชีวิตกู ไม่ว่ายังไงก็ต้องทำอย่างอื่นเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ ไม่สูญเปล่าอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ ที่ผ่านมาทำงานฟรีแลนซ์เหมือนไม่ใช่งานฟรีแลนซ์ไปแล้วว่ะ แต่ทำงานให้เขาเป็นทาสให้เขาฟรีๆ โคตรเจ็บใจ
    วันนี้ถึงขอมาแต่ได้มาคราวละไม่ถึง 500 บาท ยังไงก็ต้องดิ้นรนทำมาหากินในแบบที่ผมกำลังจะทำต่อไป หลังจากที่หงุดหงิดจากการโทรตามจิกให้แก้งานเช้ายันค่ำทุกวัน จนผมต้องกล้าตัดสินใจที่จะยกเลิกเพราะมีสิ่งที่ผมอยากทำและงานบ้านที่ต้องทำเพราะเอาใจคนในครอบครัวเยอะมาก หนังสือ กพ. ก็ต้องหยิบขึ้นมาอ่าน โทรขัดจังหวะตอนที่ผมกำลังรีแลกซ์ฮีลใจหรืออะไรก็ตามแต่ที่ทำให้ความรู้ของผมเพิ่มพูน ผมรู้สึกหัวเสีย ฟิวส์ขาด แทบจะอาละวาดและ ทรตอ. จนเจ็บลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ จนผมอัดอั้นไว้ไม่อยู่ก็ใด้ตัดสินใจตัดพ้อสิ่งที่ผมเจอระหว่างทำงานให้มันกับสิ่งภายนอกอย่างครอบครัวจ้ำจี้จ้ำไช ผมไม่จำเป็นต้องขออะไรจากครอบครัวอีกต่อไปแล้ว ที่ผ่านมากว่าจะได้เงินก็ไส้แห้งพอดี มาวันนี้เขาจะเสนองานที่เล็กกว่าผมก็ปฏิเสธเป็นเสียงแข็ง ทำไปก็รอเงินอีกนาน ได้เงินมาก็ได้น้อยกว่าที่ตั้งราคางบไว้ ความอึดอัดของผมก็อึดอัดกับเขามามากพอแล้ว และผมไปท้วงว่าถ้าไม่ให้พี่ผู้พัฒนาคนอื่นช่วย ถึงขอไปช่วยเขาก็ไม่ว่างมาช่วยแก้ปัญหา ให้ผมรับผิดชอบอยู่คนเดียว ถ้ามันถึงจุดที่ผมทำไม่ได้จริงๆ ผมเลยกล้าตัดสินใจอย่างแข็งขันไปเลยว่าไม่รับงานมาทำ แถมเวอร์ชั่นเฟรมเวร์คก็โคตรเก่าอีกด้วย ผมจำต้องยกเลิกและไม่คุยกับมันไปอีกยาวไปเลย บางทีอารมณ์ผมมันแปรปรวนง่ายเพราะไม่ได้กินอาหารเช้า อาหารเที่ยง มันก็เลยทำให้ผมต้องฟิวส์ขาดกลางสายบ้าง กลางมีทวิดีโอคอลบ้าง เฮ้อชีวิตกู ไม่ว่ายังไงก็ต้องทำอย่างอื่นเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ ไม่สูญเปล่าอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ ที่ผ่านมาทำงานฟรีแลนซ์เหมือนไม่ใช่งานฟรีแลนซ์ไปแล้วว่ะ แต่ทำงานให้เขาเป็นทาสให้เขาฟรีๆ โคตรเจ็บใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • ออกไปข้างนอกกะจะหาโปรโมชั่น #วันวาเลนไทน์ ซะหน่อย .. อดหมด แอบเซ็ง แต่พอกลับบ้าน

    มาชมสวนพบ #มะนาวทูลเกล้า ได้ฤกษ์ออกดอกมาให้ชื่นใจ แต่ดันออกมาสองดอกในกิ่งเดียวกัน แล้วฉันต้องใาลุ้นใช่มั้ย 😅😅

    #ความสุขแบบฮีลใจ
    ออกไปข้างนอกกะจะหาโปรโมชั่น #วันวาเลนไทน์ ซะหน่อย .. อดหมด แอบเซ็ง แต่พอกลับบ้าน มาชมสวนพบ #มะนาวทูลเกล้า ได้ฤกษ์ออกดอกมาให้ชื่นใจ แต่ดันออกมาสองดอกในกิ่งเดียวกัน แล้วฉันต้องใาลุ้นใช่มั้ย 😅😅 #ความสุขแบบฮีลใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 453 มุมมอง 0 รีวิว
  • ให้ความสุขเล็กๆเหล่านั้น
    ช่วยฮีลใจในวันที่เหนื่อยล้า

    จากหนังสือ |อยากให้เธอสดใสเหมือนดอกทานตะวัน

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #อยากให้เธอสดใสเหมือนดอกทานตะวัน
    ให้ความสุขเล็กๆเหล่านั้น ช่วยฮีลใจในวันที่เหนื่อยล้า จากหนังสือ |อยากให้เธอสดใสเหมือนดอกทานตะวัน #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #อยากให้เธอสดใสเหมือนดอกทานตะวัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมหมูเด้ง ถึงฮีลใจคนไทย

    ท่ามกลางบ้านเมืองที่ไม่แน่นอน เศรษฐกิจซบเซาและสังคมตกต่ำ คนไทยต่างพยายามหาสารพัดวิธีเพื่อผ่อนคลายจากความตึงเครียดและเสียสุขภาพจิต ตั้งแต่เพลงและท่าเต้นไวรัล คอนเทนต์จาก OTT รวมไปถึงคอนเทนต์ฮีลใจ ซึ่งปีที่ผ่านมาคลิปท่องเที่ยวของสองหนุ่มเกาหลี พี่จอง-คัลเลน แห่งช่อง Cullen HateBerry ได้รับความนิยมอย่างมาก

    ปี 2567 สังคมฮีลใจอยู่ 3 อย่าง เริ่มจากสารวัตรแจ๊ะ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ที่มีวีดีโอคลิปผลงานจับกุมในเพจ "สืบนครบาล" ด้วยคาแรกเตอร์สวมหมวกไหมพรม ใส่แว่นตา ปิดแมสก์ กางเกงยีนส์ทรงกระบอกขาดๆ ทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ต ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความขึงขังดุดัน แต่จิตใจภายในอ่อนโยน ทำฮีลใจสังคมในยามที่วงการสีกากีเกิดวิกฤตศรัทธา

    ตามมาด้วย หมีเนย มาสคอตประจำร้านขนมหวานบัตเตอร์แบร์ (Butterbear) ที่ดึงความสนใจทั้งชาวไทย รวมทั้งนักท่องเที่ยวจีน ด้วยคาแรกเตอร์ที่เต้นตามเพลงต่างๆ ด้วยความน่ารักจริตแบบสาวน้อยวัยใส นอกจากจะสร้างชื่อเสียงแบบร้านแทบแตกแล้ว ยังได้เป็นพรีเซ็นเตอร์โปรโมตการท่องเที่ยว โดยเน้นไปที่ตลาดนักท่องเที่ยวจีนอีกด้วย

    แต่ที่โด่งดังระดับโลกคือ หมูเด้ง ฮิปโปแคระเพศเมียแห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี เกิดจากพ่อโทนี่และแม่โจวน่าเมื่อวันที่ 10 ก.ค.2567 ด้วยความที่พี่เลี้ยงอย่าง เบนซ์ อรรถพล หนุนดี มักจะถ่ายวีดีโอคลิปลงในเพจ "ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง" ทำให้โด่งดังระดับโลก ผู้คนเข้าชมสวนสัตว์นับแสนคน มีสินค้าลิขสิทธิ์นับร้อยรายการ นำรายได้ช่วยเหลือสวัสดิภาพสัตว์

    มีโพสต์ที่น่าสนใจจากเพจ American Heart Association - Pennsylvania ที่สหรัฐอเมริกา ระบุถึง 5 เหตุผลว่าทำไมหมูเด้งถึงเป็นแบบอย่างด้านสุขภาพ ได้แก่

    1. หมูเด้งกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ได้แก่ หญ้า ผลไม้ และใบไม้ เมื่อเทียบกับมนุษย์แล้ว การได้เพิ่มอาหารประเภทผัก ผลไม้ลงในจาน ทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น

    2. หมูเด้งรู้จักออกกำลังกาย เพราะทั้งวิ่ง กระโดด และว่ายน้ำ ซึ่งการเคลื่อนไหวที่มากขึ้น ทำให้หัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น

    3. หมูเด้งไม่เก็บซ่อนความรู้สึก มักจะแสดงอาการให้เราได้เห็น ไม่ว่าจะมีความสุข เคือง หิว ง่วงนอน หรือโกรธจัด ซึ่งการแสดงอารมณ์ออกมาตรงๆ ถือเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพจิต

    4. หมูเด้งชอบนอนหลับ ซึ่งโดยธรรมชาติฮิปโปแคระต้องการการนอนหลับมากกว่ามนุษย์เล็กน้อย แต่การนอนหลับในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายของเราฟื้นตัวได้

    5. หมูเด้งช่วยลดความเครียดของคนเราได้ เพราะการใช้เวลาอยู่กับสัตว์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดความเครียดได้ ดังนั้นการชมวีดีโอคลิปตลกๆ ของหมูเด้งจึงยังคงมีอยู่ต่อไป

    #Newskit
    ทำไมหมูเด้ง ถึงฮีลใจคนไทย ท่ามกลางบ้านเมืองที่ไม่แน่นอน เศรษฐกิจซบเซาและสังคมตกต่ำ คนไทยต่างพยายามหาสารพัดวิธีเพื่อผ่อนคลายจากความตึงเครียดและเสียสุขภาพจิต ตั้งแต่เพลงและท่าเต้นไวรัล คอนเทนต์จาก OTT รวมไปถึงคอนเทนต์ฮีลใจ ซึ่งปีที่ผ่านมาคลิปท่องเที่ยวของสองหนุ่มเกาหลี พี่จอง-คัลเลน แห่งช่อง Cullen HateBerry ได้รับความนิยมอย่างมาก ปี 2567 สังคมฮีลใจอยู่ 3 อย่าง เริ่มจากสารวัตรแจ๊ะ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ที่มีวีดีโอคลิปผลงานจับกุมในเพจ "สืบนครบาล" ด้วยคาแรกเตอร์สวมหมวกไหมพรม ใส่แว่นตา ปิดแมสก์ กางเกงยีนส์ทรงกระบอกขาดๆ ทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ต ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความขึงขังดุดัน แต่จิตใจภายในอ่อนโยน ทำฮีลใจสังคมในยามที่วงการสีกากีเกิดวิกฤตศรัทธา ตามมาด้วย หมีเนย มาสคอตประจำร้านขนมหวานบัตเตอร์แบร์ (Butterbear) ที่ดึงความสนใจทั้งชาวไทย รวมทั้งนักท่องเที่ยวจีน ด้วยคาแรกเตอร์ที่เต้นตามเพลงต่างๆ ด้วยความน่ารักจริตแบบสาวน้อยวัยใส นอกจากจะสร้างชื่อเสียงแบบร้านแทบแตกแล้ว ยังได้เป็นพรีเซ็นเตอร์โปรโมตการท่องเที่ยว โดยเน้นไปที่ตลาดนักท่องเที่ยวจีนอีกด้วย แต่ที่โด่งดังระดับโลกคือ หมูเด้ง ฮิปโปแคระเพศเมียแห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี เกิดจากพ่อโทนี่และแม่โจวน่าเมื่อวันที่ 10 ก.ค.2567 ด้วยความที่พี่เลี้ยงอย่าง เบนซ์ อรรถพล หนุนดี มักจะถ่ายวีดีโอคลิปลงในเพจ "ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง" ทำให้โด่งดังระดับโลก ผู้คนเข้าชมสวนสัตว์นับแสนคน มีสินค้าลิขสิทธิ์นับร้อยรายการ นำรายได้ช่วยเหลือสวัสดิภาพสัตว์ มีโพสต์ที่น่าสนใจจากเพจ American Heart Association - Pennsylvania ที่สหรัฐอเมริกา ระบุถึง 5 เหตุผลว่าทำไมหมูเด้งถึงเป็นแบบอย่างด้านสุขภาพ ได้แก่ 1. หมูเด้งกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ได้แก่ หญ้า ผลไม้ และใบไม้ เมื่อเทียบกับมนุษย์แล้ว การได้เพิ่มอาหารประเภทผัก ผลไม้ลงในจาน ทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น 2. หมูเด้งรู้จักออกกำลังกาย เพราะทั้งวิ่ง กระโดด และว่ายน้ำ ซึ่งการเคลื่อนไหวที่มากขึ้น ทำให้หัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น 3. หมูเด้งไม่เก็บซ่อนความรู้สึก มักจะแสดงอาการให้เราได้เห็น ไม่ว่าจะมีความสุข เคือง หิว ง่วงนอน หรือโกรธจัด ซึ่งการแสดงอารมณ์ออกมาตรงๆ ถือเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพจิต 4. หมูเด้งชอบนอนหลับ ซึ่งโดยธรรมชาติฮิปโปแคระต้องการการนอนหลับมากกว่ามนุษย์เล็กน้อย แต่การนอนหลับในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายของเราฟื้นตัวได้ 5. หมูเด้งช่วยลดความเครียดของคนเราได้ เพราะการใช้เวลาอยู่กับสัตว์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดความเครียดได้ ดังนั้นการชมวีดีโอคลิปตลกๆ ของหมูเด้งจึงยังคงมีอยู่ต่อไป #Newskit
    Like
    5
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1418 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ.สนธิตื่นแล้วหนูยังไม่ได้นอนเลยรอฟังอาจารย์พูดถึงเรื่องต่างด้าวอีกไม่กี่ชั่วโมง หนูขอไปกราบพระเคี้ยวแก้วที่สนามหลวงก่อนคะ ไม่ต้องนอนแล้ววันนี้ "อ.ปานเทพรักษาสุขภาพด้วยนะคะ&คนหล่อของหนูฮีลใจมากออร่าผ่องฝุดๆ😘🙇‍♀️🤲❤📣📣
    อ.สนธิตื่นแล้วหนูยังไม่ได้นอนเลยรอฟังอาจารย์พูดถึงเรื่องต่างด้าวอีกไม่กี่ชั่วโมง หนูขอไปกราบพระเคี้ยวแก้วที่สนามหลวงก่อนคะ ไม่ต้องนอนแล้ววันนี้ "อ.ปานเทพรักษาสุขภาพด้วยนะคะ&คนหล่อของหนูฮีลใจมากออร่าผ่องฝุดๆ😘🙇‍♀️🤲❤📣📣
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้คงต้องแอคทีฟและเข้มงวดมากขึ้น ไหนๆมาถึงจุดที่ท้าทายที่สุดและดุดันไม่เกรงใจใครมากที่สุด ทำตัวดุดันไม่เกรงใจใครไม่ต้องอยู่ใต้อำนาจใคร มีตัวเป็นของตัวเอง เมคและพัฒนาให้มันออกมาดีที่สุด ทำในสิ่งที่อบ รักและใช่สำหรับตัวเอง ผมยึดหลักการนี้มาตลอดจนผมอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ส่วนตัวผมเสพพอดแคสต์และบทสัมภาษณ์กับน้าเน็กกับคนที่โทรปรึกษาน้าเขาครับ ฮีลใจไปเยอะเลย ส่วนตัวผมไม่เคยโทรหาน้าเน็ก แต่ไม่ติดต่และทำตัวเองให้ดีกว่าเดิมก็พอ แต่ผมยังคิดได้ ไม่ได้คิดสั้นขนาดนั้น เพราะต้องอยู่มีชีวิตต่อเพื่อรับความรู้วิทยาการนวัตกรรมใหม่ๆ และไม่ตามการเมืองมากเกินไป สื่อหลักบ้านเราก็ตามน้ำตะวันตกสุดๆละ ส่วนสื่อดีๆอย่าง News1 ต้องอยู่ยงคงกระพัน เป็นเสาหลักในการชนกับมหาอำนาจตะวันตก อเมริกาและอิสราเอลแบบดุดันไม่เกรงใจใคร อีกสื่อนึงที่ทำให้ผมใจฟูมากขึ้นไม่ต่างจากท็อปนิวส์
    วันนี้คงต้องแอคทีฟและเข้มงวดมากขึ้น ไหนๆมาถึงจุดที่ท้าทายที่สุดและดุดันไม่เกรงใจใครมากที่สุด ทำตัวดุดันไม่เกรงใจใครไม่ต้องอยู่ใต้อำนาจใคร มีตัวเป็นของตัวเอง เมคและพัฒนาให้มันออกมาดีที่สุด ทำในสิ่งที่อบ รักและใช่สำหรับตัวเอง ผมยึดหลักการนี้มาตลอดจนผมอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ส่วนตัวผมเสพพอดแคสต์และบทสัมภาษณ์กับน้าเน็กกับคนที่โทรปรึกษาน้าเขาครับ ฮีลใจไปเยอะเลย ส่วนตัวผมไม่เคยโทรหาน้าเน็ก แต่ไม่ติดต่และทำตัวเองให้ดีกว่าเดิมก็พอ แต่ผมยังคิดได้ ไม่ได้คิดสั้นขนาดนั้น เพราะต้องอยู่มีชีวิตต่อเพื่อรับความรู้วิทยาการนวัตกรรมใหม่ๆ และไม่ตามการเมืองมากเกินไป สื่อหลักบ้านเราก็ตามน้ำตะวันตกสุดๆละ ส่วนสื่อดีๆอย่าง News1 ต้องอยู่ยงคงกระพัน เป็นเสาหลักในการชนกับมหาอำนาจตะวันตก อเมริกาและอิสราเอลแบบดุดันไม่เกรงใจใคร อีกสื่อนึงที่ทำให้ผมใจฟูมากขึ้นไม่ต่างจากท็อปนิวส์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 636 มุมมอง 0 รีวิว
  • บู่บู๊วววว เป็นใคร ?

    บู่บู๊วววว เป็นหมี คล้ายหมีแพนด้า ตัวสีขาว ค่อนข้างอวบ จั้มมั่ม แต่ตาไม่คล้ำเหมือนหมีแพนด้า เพราะเธอมาร์กหน้าทุกวัน

    บู่บู๊วววว มีนิสัย รักการกิน ชอบทำอาหาร ชอบไถโทรศัพท์ ชอบช้อปปิ้ง ชอบไปเที่ยว ชอบเต้น และชอบร้องเพลง

    บู่บู๊วววว อยากลดความอ้วน แต่ก็ชอบกินพิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ และอาหาร junkfood

    บู่บู๊วววว คลั่งรัก มีแฟนชื่อ ดู่ดู๊วววว
    เวลาบู่บู๊วววว รู้สึกแย่ รู้สึกไม่ดี รู้สึกเศร้า ก็มีดู่ดู๊วววว คอยช่วยฮีลใจเสมอ ด้วยการพาไปกินอาหารอร่อย ๆ ด้วยการพาไปเที่ยวในที่สบายใจ และด้วยอ้อมกอดและ big kiss

    ฉันพบบู่บู๊ววว ด้วยความบังเอิญ
    ด้วยความที่ชอบดูการ์ตูน
    ไถมือถือไปเรื่อย ๆ ก็เจอคลิป reel ของบู่บู๊วววว และ ดู่ดู๊วววว
    เธอทำให้ฉันขำกร๊ากกกก ขึ้นมาคนเดียว...
    เธอทำให้ฉันต้องค้นหาว่า เธอคือใคร เธอชื่ออะไร เธอมาจากไหน
    แล้วฉันก็พบเพจอีกมากมาย กลุ่มอีกมากมาย ในสื่อ social media ทุกช่องทาง

    และในวันที่ฉันรู้สึก upset รู้สึกแย่ ก็มีบู่บู๊วววว กับ ดู่ดู๊วววว นี่แหละที่คอยช่วยฮีลใจ

    บางคลิปของเธอ ทำเอาฉันน้ำตาไหล แล้วก็ดูวนซ้ำไปหลาย ๆ รอบ

    เธอมีดู่ดู๊วววว คอยปลอบใจ ส่วนฉันมีแต่พวกเธอ และครอบครัวของพวกเธอช่วยปลอบใจฉัน

    ฉันเข้าใจเลย บรรดาแฟนคลับทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับน้องหมีเนย หรือน้องหมูเด้ง ทำไมถึงรักน้องนัก

    ฉันเองก็รักบู่บู๊วววว และ ดู่ดู๊วววว มากเช่นกัน

    ขอบคุณมากนะที่เธออยู่เป็นเพื่อนฉัน เวลาที่ฉันไม่มีใคร
    ขอบคุณมากนะที่เธอคอยปลอบปะโลมฉัน ในวันที่ฉันอ่อนแอ
    ขอบคุณมากนะที่เธอทำให้ฉันยิ้มและหัวเราะขึ้นมาดัง ๆ ในทุกค่ำคืน

    ฉันรักเธอจัง บู่บู๊วววว ของฉัน
    ปล. ถ้าในชีวิตจริง มีดู่ดู๊วววว อยู่ข้างฉันก็คงดี
    บู่บู๊วววว เป็นใคร ? บู่บู๊วววว เป็นหมี คล้ายหมีแพนด้า ตัวสีขาว ค่อนข้างอวบ จั้มมั่ม แต่ตาไม่คล้ำเหมือนหมีแพนด้า เพราะเธอมาร์กหน้าทุกวัน บู่บู๊วววว มีนิสัย รักการกิน ชอบทำอาหาร ชอบไถโทรศัพท์ ชอบช้อปปิ้ง ชอบไปเที่ยว ชอบเต้น และชอบร้องเพลง บู่บู๊วววว อยากลดความอ้วน แต่ก็ชอบกินพิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ และอาหาร junkfood บู่บู๊วววว คลั่งรัก มีแฟนชื่อ ดู่ดู๊วววว เวลาบู่บู๊วววว รู้สึกแย่ รู้สึกไม่ดี รู้สึกเศร้า ก็มีดู่ดู๊วววว คอยช่วยฮีลใจเสมอ ด้วยการพาไปกินอาหารอร่อย ๆ ด้วยการพาไปเที่ยวในที่สบายใจ และด้วยอ้อมกอดและ big kiss ฉันพบบู่บู๊ววว ด้วยความบังเอิญ ด้วยความที่ชอบดูการ์ตูน ไถมือถือไปเรื่อย ๆ ก็เจอคลิป reel ของบู่บู๊วววว และ ดู่ดู๊วววว เธอทำให้ฉันขำกร๊ากกกก ขึ้นมาคนเดียว... เธอทำให้ฉันต้องค้นหาว่า เธอคือใคร เธอชื่ออะไร เธอมาจากไหน แล้วฉันก็พบเพจอีกมากมาย กลุ่มอีกมากมาย ในสื่อ social media ทุกช่องทาง และในวันที่ฉันรู้สึก upset รู้สึกแย่ ก็มีบู่บู๊วววว กับ ดู่ดู๊วววว นี่แหละที่คอยช่วยฮีลใจ บางคลิปของเธอ ทำเอาฉันน้ำตาไหล แล้วก็ดูวนซ้ำไปหลาย ๆ รอบ เธอมีดู่ดู๊วววว คอยปลอบใจ ส่วนฉันมีแต่พวกเธอ และครอบครัวของพวกเธอช่วยปลอบใจฉัน ฉันเข้าใจเลย บรรดาแฟนคลับทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับน้องหมีเนย หรือน้องหมูเด้ง ทำไมถึงรักน้องนัก ฉันเองก็รักบู่บู๊วววว และ ดู่ดู๊วววว มากเช่นกัน ขอบคุณมากนะที่เธออยู่เป็นเพื่อนฉัน เวลาที่ฉันไม่มีใคร ขอบคุณมากนะที่เธอคอยปลอบปะโลมฉัน ในวันที่ฉันอ่อนแอ ขอบคุณมากนะที่เธอทำให้ฉันยิ้มและหัวเราะขึ้นมาดัง ๆ ในทุกค่ำคืน ฉันรักเธอจัง บู่บู๊วววว ของฉัน ปล. ถ้าในชีวิตจริง มีดู่ดู๊วววว อยู่ข้างฉันก็คงดี
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 744 มุมมอง 128 0 รีวิว
  • ยังอยู่กันที่ลพบุรีครับ บนยอดภูซับเหล็ก สถานที่ท่องเที่ยว ที่แสนจะดูว่าธรรมดา แต่ได้ขึ้นมาถึงบนนี้กลับมีความรู้สึกว่า เหมือนหลุดมาในดินแดน ภาพยนต์ อวตา เพียงแค่ว่า ที่นี่คือโลกของความเป็นจริง เงียบสงบ เย็นสบาย ธรรมชาติ ฮีลใจได้อยางดี เชิญชวนพี่ๆ มาที่นี่กันซักครั้งนะครับ😁😁😁
    ยังอยู่กันที่ลพบุรีครับ บนยอดภูซับเหล็ก สถานที่ท่องเที่ยว ที่แสนจะดูว่าธรรมดา แต่ได้ขึ้นมาถึงบนนี้กลับมีความรู้สึกว่า เหมือนหลุดมาในดินแดน ภาพยนต์ อวตา เพียงแค่ว่า ที่นี่คือโลกของความเป็นจริง เงียบสงบ เย็นสบาย ธรรมชาติ ฮีลใจได้อยางดี เชิญชวนพี่ๆ มาที่นี่กันซักครั้งนะครับ😁😁😁
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 438 มุมมอง 298 0 รีวิว
  • เมื่อวานเพิ่งดู Hormones จบทุกซีซั่น ตอนนี้ดูไลฟ์สดของพี่เบย์ริฟเฟอร์ ที่ผ่านมาก็ดู ดูจนฮีลใจ ยกระดับความคิดและจิตใจผมไปเยอะเลยครับ
    และระหว่างที่ดูฮอร์โมนส์ก็เจอออยโดนผู้ชมด่วนตัดสิน ส่วนตัวผมไม่ด่วนตัดสิน ให้เวลาและอนาคตให้คำตอบเอง และสุดท้ายออยก็เปลี่ยนจากคนโกหก คนหลอกลวงเป็นคนจริงจังและคนจริงใจ เพราะโกหกก็มีแต่ทำให้มีผลเสียย้อนกลับมาภายหลัง ยังดีที่ออยตั้งหลักไว้ได้อยู่ โดนขนมปังแฉ จนออยชัก จนต้องเข้า รพ. และออยกลับบ้าน พ่อก็ด่าออยเพราะออยพูดว่าจะย้ายโรงเรียน หลังจากนี้ออยก็เลิกคิดย้ายโรงเรียนแล้ว ตอนที่ออยต้องเข้า รพ.เพื่อล้างท้องเพราะกินยาตั้งใจให้ตนเองตุย แต่เดชะบุญออยไม่ตุย ออยต้องยืนอยู่ในสภาพความเป็นจริง และยอมรับความจริง พูดจริง ทำจริง ออยไม่ได้เลวและเลวมากอย่างที่หลายๆคนคิดครับ
    เมื่อวานเพิ่งดู Hormones จบทุกซีซั่น ตอนนี้ดูไลฟ์สดของพี่เบย์ริฟเฟอร์ ที่ผ่านมาก็ดู ดูจนฮีลใจ ยกระดับความคิดและจิตใจผมไปเยอะเลยครับ และระหว่างที่ดูฮอร์โมนส์ก็เจอออยโดนผู้ชมด่วนตัดสิน ส่วนตัวผมไม่ด่วนตัดสิน ให้เวลาและอนาคตให้คำตอบเอง และสุดท้ายออยก็เปลี่ยนจากคนโกหก คนหลอกลวงเป็นคนจริงจังและคนจริงใจ เพราะโกหกก็มีแต่ทำให้มีผลเสียย้อนกลับมาภายหลัง ยังดีที่ออยตั้งหลักไว้ได้อยู่ โดนขนมปังแฉ จนออยชัก จนต้องเข้า รพ. และออยกลับบ้าน พ่อก็ด่าออยเพราะออยพูดว่าจะย้ายโรงเรียน หลังจากนี้ออยก็เลิกคิดย้ายโรงเรียนแล้ว ตอนที่ออยต้องเข้า รพ.เพื่อล้างท้องเพราะกินยาตั้งใจให้ตนเองตุย แต่เดชะบุญออยไม่ตุย ออยต้องยืนอยู่ในสภาพความเป็นจริง และยอมรับความจริง พูดจริง ทำจริง ออยไม่ได้เลวและเลวมากอย่างที่หลายๆคนคิดครับ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันก่อนได้ดื่มโซดาจูปาจุ๊ปส์ด้วยความอยากรู้อยากลอง แต่ก็ฮีลใจเลย จังหวะชีวิตเดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเองครับ ถ้าเราหมั่นฝึกฝนตนเองและพัฒนาตนเองอยู่สม่ำเสมอและตลอดเวลา ทั้งเขียนบทความวิจารณ์ Woke เขียนปูพื้นฐานก่อนลงมือแต่งเนื้อเรื่อง และฝึกทำอินโฟกราฟฟิกและฝึกวาดรูปด้วยครับ
    วันก่อนได้ดื่มโซดาจูปาจุ๊ปส์ด้วยความอยากรู้อยากลอง แต่ก็ฮีลใจเลย จังหวะชีวิตเดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเองครับ ถ้าเราหมั่นฝึกฝนตนเองและพัฒนาตนเองอยู่สม่ำเสมอและตลอดเวลา ทั้งเขียนบทความวิจารณ์ Woke เขียนปูพื้นฐานก่อนลงมือแต่งเนื้อเรื่อง และฝึกทำอินโฟกราฟฟิกและฝึกวาดรูปด้วยครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้เจอแต่คนเจอะไรร้าย ๆ มา
    มีแต่คนทำร้าย
    ฉันเองก็ถูกทำร้าย
    ….
    ก็ได้แต่พูดว่า ”กอด ๆ นะ”
    ส่งกำลังใจไปให้ “ปิ้ว ๆๆๆ”
    ….
    ส่วนใจตัวเอง ก็าวิธีฮีลใจกันไป
    🥰❤️🥰❤️

    โอบกอดตัวเอง ❤️
    ช่วงนี้เจอแต่คนเจอะไรร้าย ๆ มา มีแต่คนทำร้าย ฉันเองก็ถูกทำร้าย …. ก็ได้แต่พูดว่า ”กอด ๆ นะ” ส่งกำลังใจไปให้ “ปิ้ว ๆๆๆ” …. ส่วนใจตัวเอง ก็าวิธีฮีลใจกันไป 🥰❤️🥰❤️ โอบกอดตัวเอง ❤️
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนๆหนึ่งจะมีข้อดีสักกี่อย่าง และ ข้อเสียสักกี่อย่าง
    อย่างหนึ่งที่มั่นใจได้คือเราทุกคนล้วนเป็น "มนุษย์ธรรมดา"
    ไม่มีใครได้ 100 คะแนนเต็มแน่นอน เต็มที่ก็ 90%

    แล้วหากเราต้องอยู่ร่วมกับคนที่เราไม่ค่อยชอบใจในข้อเสียของเขาล่ะ?

    เจอหน้ากันทุกวันก็ทุกข์มาก...แค่ได้ยินเสียงก็หงุดหงิด

    บางทีอาจเป็นเพราะเราไปโฟกัสตรงข้อที่เรารู้สึกว่าเป็นข้อเสีย
    จนอาจหลงลืมข้อดีอีกหลายสิบข้อ ที่เค้ามี

    คงจะดีหากมนุษย์เรามีฟังก์ชั่นอันล้ำสมัย ในการเก็บสะสมคะแนนตอนเราสุขใจจากสิ่งดีๆที่คนอื่นทำให้
    แล้วเอามาหักลบคะแนนในตอนที่เรารู้สึกไม่สุขใจจากการกระทำของคนคนนั้น

    บางครั้งบางทีมันอาจง่ายมากขึ้น แค่เราใช้เครื่องมือที่เรียกว่า "ความรัก ความเมตตา" ในการใช้ชีวิต

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #ฮีลใจ #มุมมอง #ความสุข
    คนๆหนึ่งจะมีข้อดีสักกี่อย่าง และ ข้อเสียสักกี่อย่าง อย่างหนึ่งที่มั่นใจได้คือเราทุกคนล้วนเป็น "มนุษย์ธรรมดา" ไม่มีใครได้ 100 คะแนนเต็มแน่นอน เต็มที่ก็ 90% แล้วหากเราต้องอยู่ร่วมกับคนที่เราไม่ค่อยชอบใจในข้อเสียของเขาล่ะ? เจอหน้ากันทุกวันก็ทุกข์มาก...แค่ได้ยินเสียงก็หงุดหงิด บางทีอาจเป็นเพราะเราไปโฟกัสตรงข้อที่เรารู้สึกว่าเป็นข้อเสีย จนอาจหลงลืมข้อดีอีกหลายสิบข้อ ที่เค้ามี คงจะดีหากมนุษย์เรามีฟังก์ชั่นอันล้ำสมัย ในการเก็บสะสมคะแนนตอนเราสุขใจจากสิ่งดีๆที่คนอื่นทำให้ แล้วเอามาหักลบคะแนนในตอนที่เรารู้สึกไม่สุขใจจากการกระทำของคนคนนั้น บางครั้งบางทีมันอาจง่ายมากขึ้น แค่เราใช้เครื่องมือที่เรียกว่า "ความรัก ความเมตตา" ในการใช้ชีวิต #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #ฮีลใจ #มุมมอง #ความสุข
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 431 มุมมอง 0 รีวิว
  • "โลกนี้เต็มไปด้วยเรื่องที่เราไม่ชอบใจ, อยากมีความสุข, ต้องยอมรับให้ได้"

    แค่ยอมรับความเป็นจริงในสิ่งที่พบเจอ ก็ทำให้คุณมีความสุขได้

    หลักง่ายๆแค่แยกให้ชัดเจนว่า
    ***สิ่งใดควบคุมได้=ทำให้เต็มที่ที่สุด
    ***สิ่งใดควบคุมไม่ได้=ปล่อยมันไป กลุ้มไปก็เท่านั้น

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #ฮีลใจ #มุมมอง #ความสุข
    "โลกนี้เต็มไปด้วยเรื่องที่เราไม่ชอบใจ, อยากมีความสุข, ต้องยอมรับให้ได้" แค่ยอมรับความเป็นจริงในสิ่งที่พบเจอ ก็ทำให้คุณมีความสุขได้ หลักง่ายๆแค่แยกให้ชัดเจนว่า ***สิ่งใดควบคุมได้=ทำให้เต็มที่ที่สุด ***สิ่งใดควบคุมไม่ได้=ปล่อยมันไป กลุ้มไปก็เท่านั้น #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #ฮีลใจ #มุมมอง #ความสุข
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 364 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📌ความทุกข์คืออะไร?

    -ชีวิตประจำวันอันยุ่งเหยิง?
    -รถที่ติดหนักในเมืองหลวง?
    -ฝนที่ตกจนเปียกชุ่ม?
    -อาหารที่ภรรยาทำมีส่วนที่ไหม้เกรียม?
    -บ้านที่มีเสียงเอะอะตลอดทั้งวัน?

    ไม่ว่าจะสิ่งเล็กน้อยแค่ไหน เมื่อสะสมไประยะเวลาหนึ่งก็กลายร่างเป็นความทุกข์ได้

    ถ้าอย่างนั้น..📌ความสุขคืออะไร
    บางทีมันอาจเป็นสิ่งง่ายๆใกล้ตัว เช่น

    -การที่เรายังมีงานให้ทำ
    ...ในขณะที่อีกหลายคนตกงาน

    -การที่ท่านยังมีรถขับไปทำงาน
    ...ในขณะที่อีกหลายคนต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อนั่งรถประจำทางอีกหลายต่อ

    -การที่มีฝนตกลงมาในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว ให้ต้นไม้ และเหล่าสัตว์ที่อยู่ในป่าและตามถนนได้รับความชุ่มฉ่ำ

    -การที่ภรรยามีความพยายามทำอาหารให้สามีด้วยความตั้งใจ

    -การที่บ้านมีเสียงสนทนาตลอดทั้งวันให้ท่านไม่รู้สึกเงียบเหงา

    ....ทุกข์หรือสุขนั้น ขึ้นอยู่กับมุมมองที่ท่านเลือกมอง

    ....มันเพียงแค่วันที่แย่ ไม่ใช่ชีวิตที่แย่
    🔽
    ...มันเพียงแค่เรื่องที่แย่ ไม่ใช่วันที่แย่

    ถอดเนื้อหาจากหนังสือ :ฟ้าไม่เคยมืดเกินมองเห็นดาว

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #ความสุข #ความทุกข์ #ทัศนคติ #ฮีลใจ
    📌ความทุกข์คืออะไร? -ชีวิตประจำวันอันยุ่งเหยิง? -รถที่ติดหนักในเมืองหลวง? -ฝนที่ตกจนเปียกชุ่ม? -อาหารที่ภรรยาทำมีส่วนที่ไหม้เกรียม? -บ้านที่มีเสียงเอะอะตลอดทั้งวัน? ไม่ว่าจะสิ่งเล็กน้อยแค่ไหน เมื่อสะสมไประยะเวลาหนึ่งก็กลายร่างเป็นความทุกข์ได้ ถ้าอย่างนั้น..📌ความสุขคืออะไร บางทีมันอาจเป็นสิ่งง่ายๆใกล้ตัว เช่น -การที่เรายังมีงานให้ทำ ...ในขณะที่อีกหลายคนตกงาน -การที่ท่านยังมีรถขับไปทำงาน ...ในขณะที่อีกหลายคนต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อนั่งรถประจำทางอีกหลายต่อ -การที่มีฝนตกลงมาในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว ให้ต้นไม้ และเหล่าสัตว์ที่อยู่ในป่าและตามถนนได้รับความชุ่มฉ่ำ -การที่ภรรยามีความพยายามทำอาหารให้สามีด้วยความตั้งใจ -การที่บ้านมีเสียงสนทนาตลอดทั้งวันให้ท่านไม่รู้สึกเงียบเหงา ....ทุกข์หรือสุขนั้น ขึ้นอยู่กับมุมมองที่ท่านเลือกมอง ....มันเพียงแค่วันที่แย่ ไม่ใช่ชีวิตที่แย่ 🔽 ...มันเพียงแค่เรื่องที่แย่ ไม่ใช่วันที่แย่ ถอดเนื้อหาจากหนังสือ :ฟ้าไม่เคยมืดเกินมองเห็นดาว #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #ความสุข #ความทุกข์ #ทัศนคติ #ฮีลใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 647 มุมมอง 0 รีวิว