• “พาณิชย์” จับมือผู้ส่งออกข้าว! เดินหน้าเจาะตลาดโลก...เร่งระบายสต็อก-แก้ปัญหาค่าเงิน...หวังดันยอดส่งออกครึ่งปีหลัง
    https://www.thai-tai.tv/news/20839/
    .
    #ส่งออกข้าว #กระทรวงพาณิชย์ #ข้าวไทย #เศรษฐกิจ #ข้าว #ข่าวธุรกิจ #ไทยไท
    “พาณิชย์” จับมือผู้ส่งออกข้าว! เดินหน้าเจาะตลาดโลก...เร่งระบายสต็อก-แก้ปัญหาค่าเงิน...หวังดันยอดส่งออกครึ่งปีหลัง https://www.thai-tai.tv/news/20839/ . #ส่งออกข้าว #กระทรวงพาณิชย์ #ข้าวไทย #เศรษฐกิจ #ข้าว #ข่าวธุรกิจ #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 12 Views 0 Reviews
  • สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเผยส่งออกข้าว 3 เดือน ปี 68 ทำได้แค่ 2.1 ล้านตัน ลดลง 30% ได้รับผลกระทบอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาว อินโดนีเซียหยุดนำเข้า ส่วนทรัมป์ 2.0 ทำให้สหรัฐฯ มีการเร่งซื้อข้าวไทยไปเก็บสต๊อก แต่ระยะยาว หากภาษีขึ้น ส่งออกกระทบแน่ ยังยืนเป้าปีนี้ 7.5 ล้านตัน รอดูครึ่งปีจะทบทวนหรือไม่

    นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยในช่วง 3 เดือน ปี 2568 (ม.ค.-มี.ค.) มีปริมาณ 2.1 ล้านตัน ลดลง 30% เนื่องจากอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาวอีกครั้ง หลังระงับส่งออกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และยังได้รับผลกระทบจากอินโดนีเซีย ซึ่งผู้นำเข้ารายสำคัญในปีที่ผ่านมา ที่นำเข้าสูงถึง 4 ล้านตัน แต่ช่วงนี้หยุดการนำเข้าข้าวจากไทย เพราะมีผลผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น โดยปีนี้ทั้งปีอินโดนีเซียอาจนำเข้าข้าวไม่ถึง 1 ล้านตัน และคาดว่าจะกลับมานำเข้าในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ปริมาณส่งออกข้าวขาวลดลงถึง 53% แต่ยังดีที่มียอดส่งออกข้าวหอมมะลิไทย และข้าวนึ่งเพิ่มขึ้น

    สำหรับนโยบายทรัมป์ 2.0 ยังเป็นประเด็นที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้มีการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากไทยแล้ว 10% จากเดิมภาษีอยู่ที่ 0% โดยการชะลอการเก็บภาษีนำเข้าจากไทยในอัตรา 36% ออกไป 90 วัน ทำให้มีคำสั่งซื้อข้าวไทยเพิ่มมากขึ้น เพื่อเก็บในสต็อก โดยในช่วงไตรมาสแรก มีการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปแล้วกว่า 2 แสนตัน ส่วนปีที่ผ่านมา ส่งออกข้าวไปตลาดสหรัฐฯ ปริมาณ 830,000 ตัน เป็นข้าวหอมมะลิไทย 630,000 ตัน และข้าวหอมไทย 120,000 ตัน โดยแต่ละปี มีการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย รวม 1.3-1.4 ล้านตัน

    ทั้งนี้ ในระยะต่อไป หากไทยถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 25% ราคาส่งออกข้าวหอมมะลิไทยปัจจุบันอยู่ที่ 1,000 เหรียญสหรัฐต่อตัน ราคาจะเพิ่มเป็น 1,250 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งไม่แน่ใจว่าผู้บริโภคสหรัฐฯ จะรับราคาที่เพิ่มได้หรือไม่ ซึ่งต้องรอดูผลตอบรับต่อไป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000037319

    #MGROnline #สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย #ข้าวไทย #ส่งออกข้าวขาว
    สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเผยส่งออกข้าว 3 เดือน ปี 68 ทำได้แค่ 2.1 ล้านตัน ลดลง 30% ได้รับผลกระทบอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาว อินโดนีเซียหยุดนำเข้า ส่วนทรัมป์ 2.0 ทำให้สหรัฐฯ มีการเร่งซื้อข้าวไทยไปเก็บสต๊อก แต่ระยะยาว หากภาษีขึ้น ส่งออกกระทบแน่ ยังยืนเป้าปีนี้ 7.5 ล้านตัน รอดูครึ่งปีจะทบทวนหรือไม่ • นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยในช่วง 3 เดือน ปี 2568 (ม.ค.-มี.ค.) มีปริมาณ 2.1 ล้านตัน ลดลง 30% เนื่องจากอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาวอีกครั้ง หลังระงับส่งออกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และยังได้รับผลกระทบจากอินโดนีเซีย ซึ่งผู้นำเข้ารายสำคัญในปีที่ผ่านมา ที่นำเข้าสูงถึง 4 ล้านตัน แต่ช่วงนี้หยุดการนำเข้าข้าวจากไทย เพราะมีผลผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น โดยปีนี้ทั้งปีอินโดนีเซียอาจนำเข้าข้าวไม่ถึง 1 ล้านตัน และคาดว่าจะกลับมานำเข้าในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ปริมาณส่งออกข้าวขาวลดลงถึง 53% แต่ยังดีที่มียอดส่งออกข้าวหอมมะลิไทย และข้าวนึ่งเพิ่มขึ้น • สำหรับนโยบายทรัมป์ 2.0 ยังเป็นประเด็นที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้มีการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากไทยแล้ว 10% จากเดิมภาษีอยู่ที่ 0% โดยการชะลอการเก็บภาษีนำเข้าจากไทยในอัตรา 36% ออกไป 90 วัน ทำให้มีคำสั่งซื้อข้าวไทยเพิ่มมากขึ้น เพื่อเก็บในสต็อก โดยในช่วงไตรมาสแรก มีการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปแล้วกว่า 2 แสนตัน ส่วนปีที่ผ่านมา ส่งออกข้าวไปตลาดสหรัฐฯ ปริมาณ 830,000 ตัน เป็นข้าวหอมมะลิไทย 630,000 ตัน และข้าวหอมไทย 120,000 ตัน โดยแต่ละปี มีการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย รวม 1.3-1.4 ล้านตัน • ทั้งนี้ ในระยะต่อไป หากไทยถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 25% ราคาส่งออกข้าวหอมมะลิไทยปัจจุบันอยู่ที่ 1,000 เหรียญสหรัฐต่อตัน ราคาจะเพิ่มเป็น 1,250 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งไม่แน่ใจว่าผู้บริโภคสหรัฐฯ จะรับราคาที่เพิ่มได้หรือไม่ ซึ่งต้องรอดูผลตอบรับต่อไป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000037319 • #MGROnline #สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย #ข้าวไทย #ส่งออกข้าวขาว
    0 Comments 0 Shares 602 Views 0 Reviews
  • 170 ปี สนธิสัญญาเบาว์ริง เปิดประเทศสู่เศรษฐกิจโลก ประโยชน์ไม่สมดุล ทุนต่างชาติครอบงำ ไม่ยุติธรรม! ไทยทำไม่ได้ที่อังกฤษ เปิดประเทศสู่โลก แต่ปิดความเท่าเทียม?

    สนธิสัญญาเบาว์ริงไม่ใช่แค่เรื่องในอดีต แต่คือจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่นำไทยเข้าสู่เวทีเศรษฐกิจโลก ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่เท่าเทียม เปิดประตูสู่ความทันสมัย แต่ปิดโอกาสของความเสมอภาค ในการเจรจากับชาติตะวันตก

    สนธิสัญญาที่เปิดประเทศ แต่ปิดความเสมอภาค ในวันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2398 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงลงนามในสนธิสัญญาทางพระราชไมตรีกับอังกฤษ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “สนธิสัญญาเบาว์ริง” ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของไทย สู่โลกทุนนิยม

    แต่ภายใต้การเปิดเสรีนั้น กลับมีเงื่อนไขที่ไทยเสียเปรียบ ทั้งในแง่เศรษฐกิจ การปกครอง และกฎหมายระหว่างประเทศ ทำให้สนธิสัญญานี้ถูกวิพากษ์ว่าเป็น "สนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรม"

    “Treaty of Friendship and Commerce between the British Empire and the Kingdom of Siam” หรือ Bowring Treaty คือข้อตกลงระหว่างไทย หรือราชอาณาจักรสยามในสมัยนั้น กับอังกฤษ ที่ลงนามเมื่อวันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2398

    จุดเด่นของสนธิสัญญานี้ คือการเปิดให้พ่อค้าชาวอังกฤษ สามารถค้าขายอย่างเสรีในสยาม และได้รับ “สิทธิสภาพนอกอาณาเขต” (Extraterritorial Rights)

    กล่าวคือ คนในบังคับอังกฤษที่อยู่ในไทย จะไม่อยู่ภายใต้กฎหมายไทย แต่ขึ้นกับศาลของอังกฤษเอง

    นอกจากนี้ สนธิสัญญายังเปิดทางให้พ่อค้าต่างชาติ ตั้งรกราก ซื้อขายทรัพย์สิน และถือครองที่ดินในบางพื้นที่ได้ด้วย

    เหตุผลเบื้องหลัง อังกฤษต้องการอะไรกันแน่? หลายคนอาจเข้าใจว่า อังกฤษต้องการแค่เปิดตลาดการค้า แต่เบื้องหลังของข้อตกลงนี้ กลับลึกซึ้งกว่านั้นมาก…

    ผลประโยชน์จากการค้าฝิ่น อังกฤษต้องการสร้างเส้นทางการค้าฝิ่น ที่มั่นคงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องการให้สยามเป็นทางผ่านการค้ากับจีน ฮ่องกง และอินเดีย อำนาจและอิทธิพลทางการทูต

    หลังสงครามฝิ่นครั้งแรก จีนพ่ายแพ้ อังกฤษต้องการป้องกันไม่ให้เกิด “สยามเป็นจีนลำดับต่อไป” เบาว์ริงใช้วิธี “ทูตนุ่ม” มากกว่าการใช้กำลังทหาร

    ประโยชน์จากภาษีต่ำ ตามสนธิสัญญา ไทยเก็บภาษีนำเข้าได้แค่ 3% เท่านั้น ฝิ่นไม่ต้องเสียภาษีเลย แต่ต้องขายให้กับเจ้าภาษีเท่านั้น

    ทำไมสยามถึงยอมเซ็น? พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงเล็งเห็นว่า ประเทศไทยอยู่ในภาวะล้าหลัง เมื่อเทียบกับชาติตะวันตก หากไม่ยอมเปิดประเทศ อาจตกเป็นอาณานิคมเหมือนจีน พม่า หรืออินเดียได้

    การเปิดการค้าเสรี จะช่วยให้ราษฎรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจาก “การส่งออกข้าว” ชาวนาก็จะมีเงินมากขึ้น ข้าวจะกลายเป็นสินค้าส่งออกของไทย สร้างรายได้ให้แก่รัฐบาล...

    ผลกระทบที่ตามมา เปิดเสรี หรือเปิดโอกาสให้ต่างชาติครอบงำ? ภายหลังการลงนามสนธิสัญญาเบาว์ริง มีเรือต่างประเทศ เข้ามาค้าขายกว่า 100 ลำในปีเดียว ระบบเงินเหรียญ แทนพดด้วง เริ่มใช้อย่างเป็นระบบ เกิดการลงทุนของต่างชาติ เช่น โรงสี โรงเลื่อยไม้ โรงน้ำตาล

    ชาวนามีรายได้สูงขึ้น ราคาข้าวพุ่ง จาก 3–5 บาท ต่อเกวียน เป็น 16–20 บาท ต่อเกวียน ราษฎรสามารถ “จำนอง” หรือ “ขายฝาก” ที่ดินของตนได้ ชาวต่างชาติสามารถเช่า หรือซื้อที่ดินได้ในพื้นที่ที่รัฐบาลกำหนด

    ข้อดีของสนธิสัญญาเบาว์ริง ที่น้อยคนนึกถึง...
    เปิดประตูการค้าเสรี
    ช่วยให้ไทยพัฒนาวิทยาการตะวันตก
    ราษฎรมีรายได้จากการค้าข้าว
    กระตุ้นการพัฒนาเมือง ถนนเจริญกรุง สีลม เริ่มก่อสร้าง
    ทำให้มีการแข่งขันทางการค้า → ราคาสินค้าลดลง

    สินค้าไทยเป็นที่ต้องการของตลาดโลก เช่น ข้าว ไม้สัก งาช้าง

    ข้อเสียเปรียบของไทย ในสนธิสัญญาเบาว์ริง ที่ถูกซ่อนไว้

    เสียสิทธิเสรีภาพทางเศรษฐกิจ ไม่สามารถเก็บภาษีนำเข้าตามต้องการได้ ต้องเปิดตลาดสินค้าให้ต่างชาติ โดยไม่มีข้อจำกัด

    เสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต คนอังกฤษไม่ต้องขึ้นศาลไทย ทำให้ศาลไทยไม่มีอำนาจเต็มที่

    ทุนต่างชาติเข้ามาครอบงำเศรษฐกิจ ตั้งโรงงาน โรงสี โรงเลื่อยไม้ ฯลฯ โดยคนไทยแข่งขันไม่ได้

    คนไทยไม่สามารถทำการค้าในอังกฤษได้ ไม่ได้รับสิทธิเท่าเทียม เหมือนที่อังกฤษได้จากไทย

    ทำไมถึงเรียกว่า “สนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรม”?
    ถูกเซ็นภายใต้แรงกดดัน จากอำนาจจักรวรรดิ
    ไม่มีความเสมอภาคระหว่างสองประเทศ
    ไทยไม่สามารถต่อรองเงื่อนไขได้มากนัก
    คล้ายกับ “สนธิสัญญานานกิง” ที่จีนถูกบังคับให้เซ็นหลังสงครามฝิ่น

    บทเรียนที่ไทยได้จากอดีต

    สนธิสัญญาเบาว์ริง เป็นแรงผลักดันให้ไทยเร่งพัฒนา ปฏิรูประบบราชการ ระบบศาล และกฎหมาย เปิดการเจรจาแก้ไขสนธิสัญญาในภายหลัง โดยเฉพาะในสมัยรัชกาลที่ 5 ส่งผลถึงการรักษาเอกราชของไทย ในขณะที่เพื่อนบ้านหลายประเทศ กลายเป็นอาณานิคม

    ไทยเสียเปรียบวันนี้ เพื่อไม่เสียประเทศในวันหน้า?

    “ไม่เสมอภาค แต่จำเป็น” คือคำจำกัดความที่ดีที่สุด ของสนธิสัญญาเบาว์ริง

    ถึงแม้สัญญาฉบับนี้ จะเต็มไปด้วยข้อเสียเปรียบ แต่ก็นำมาซึ่งการรอดพ้นจากอาณานิคม การเปิดประตูสู่โลกสมัยใหม่ การเตรียมประเทศ เข้าสู่ยุคการปฏิรูปในรัชกาลที่ 5

    สนธิสัญญาเบาว์ริงจึงเป็นเหมือน "ดาบสองคม" ที่ทั้งให้คุณและโทษ ในเวลาเดียวกัน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 181147 เม.ย. 2568

    #สนธิสัญญาเบาว์ริง #เปิดประเทศแต่ไม่เปิดโอกาส #ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทย
    #ThailandHistory #BowringTreaty #เปิดเสรีไม่เท่าเทียม
    #ThailandTradeHistory #อธิปไตยไทย #อังกฤษในไทย
    #โลกาภิวัตน์กับไทย
    170 ปี สนธิสัญญาเบาว์ริง เปิดประเทศสู่เศรษฐกิจโลก ประโยชน์ไม่สมดุล ทุนต่างชาติครอบงำ ไม่ยุติธรรม! ไทยทำไม่ได้ที่อังกฤษ เปิดประเทศสู่โลก แต่ปิดความเท่าเทียม? 🇹🇭⚖️ 📚 สนธิสัญญาเบาว์ริงไม่ใช่แค่เรื่องในอดีต แต่คือจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่นำไทยเข้าสู่เวทีเศรษฐกิจโลก ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่เท่าเทียม เปิดประตูสู่ความทันสมัย แต่ปิดโอกาสของความเสมอภาค ในการเจรจากับชาติตะวันตก ⚖️ 🧭 สนธิสัญญาที่เปิดประเทศ แต่ปิดความเสมอภาค ในวันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2398 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงลงนามในสนธิสัญญาทางพระราชไมตรีกับอังกฤษ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “สนธิสัญญาเบาว์ริง” ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของไทย สู่โลกทุนนิยม 🌍 แต่ภายใต้การเปิดเสรีนั้น กลับมีเงื่อนไขที่ไทยเสียเปรียบ ทั้งในแง่เศรษฐกิจ การปกครอง และกฎหมายระหว่างประเทศ ทำให้สนธิสัญญานี้ถูกวิพากษ์ว่าเป็น "สนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรม" 📜 “Treaty of Friendship and Commerce between the British Empire and the Kingdom of Siam” หรือ Bowring Treaty คือข้อตกลงระหว่างไทย หรือราชอาณาจักรสยามในสมัยนั้น กับอังกฤษ ที่ลงนามเมื่อวันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2398 จุดเด่นของสนธิสัญญานี้ คือการเปิดให้พ่อค้าชาวอังกฤษ สามารถค้าขายอย่างเสรีในสยาม และได้รับ “สิทธิสภาพนอกอาณาเขต” (Extraterritorial Rights) 🛂 กล่าวคือ คนในบังคับอังกฤษที่อยู่ในไทย จะไม่อยู่ภายใต้กฎหมายไทย แต่ขึ้นกับศาลของอังกฤษเอง นอกจากนี้ สนธิสัญญายังเปิดทางให้พ่อค้าต่างชาติ ตั้งรกราก ซื้อขายทรัพย์สิน และถือครองที่ดินในบางพื้นที่ได้ด้วย 💼 เหตุผลเบื้องหลัง อังกฤษต้องการอะไรกันแน่? หลายคนอาจเข้าใจว่า อังกฤษต้องการแค่เปิดตลาดการค้า แต่เบื้องหลังของข้อตกลงนี้ กลับลึกซึ้งกว่านั้นมาก… ผลประโยชน์จากการค้าฝิ่น อังกฤษต้องการสร้างเส้นทางการค้าฝิ่น ที่มั่นคงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องการให้สยามเป็นทางผ่านการค้ากับจีน ฮ่องกง และอินเดีย 🚢 อำนาจและอิทธิพลทางการทูต หลังสงครามฝิ่นครั้งแรก จีนพ่ายแพ้ อังกฤษต้องการป้องกันไม่ให้เกิด “สยามเป็นจีนลำดับต่อไป” เบาว์ริงใช้วิธี “ทูตนุ่ม” มากกว่าการใช้กำลังทหาร ประโยชน์จากภาษีต่ำ ตามสนธิสัญญา ไทยเก็บภาษีนำเข้าได้แค่ 3% เท่านั้น ‼️ ฝิ่นไม่ต้องเสียภาษีเลย แต่ต้องขายให้กับเจ้าภาษีเท่านั้น 👑 ทำไมสยามถึงยอมเซ็น? พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงเล็งเห็นว่า ประเทศไทยอยู่ในภาวะล้าหลัง เมื่อเทียบกับชาติตะวันตก หากไม่ยอมเปิดประเทศ อาจตกเป็นอาณานิคมเหมือนจีน พม่า หรืออินเดียได้ การเปิดการค้าเสรี จะช่วยให้ราษฎรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจาก “การส่งออกข้าว” ชาวนาก็จะมีเงินมากขึ้น ข้าวจะกลายเป็นสินค้าส่งออกของไทย สร้างรายได้ให้แก่รัฐบาล... 🧺🌾 🔍 ผลกระทบที่ตามมา เปิดเสรี หรือเปิดโอกาสให้ต่างชาติครอบงำ? ภายหลังการลงนามสนธิสัญญาเบาว์ริง มีเรือต่างประเทศ เข้ามาค้าขายกว่า 100 ลำในปีเดียว ระบบเงินเหรียญ แทนพดด้วง เริ่มใช้อย่างเป็นระบบ เกิดการลงทุนของต่างชาติ เช่น โรงสี โรงเลื่อยไม้ โรงน้ำตาล ชาวนามีรายได้สูงขึ้น ราคาข้าวพุ่ง จาก 3–5 บาท ต่อเกวียน เป็น 16–20 บาท ต่อเกวียน ราษฎรสามารถ “จำนอง” หรือ “ขายฝาก” ที่ดินของตนได้ ชาวต่างชาติสามารถเช่า หรือซื้อที่ดินได้ในพื้นที่ที่รัฐบาลกำหนด 🏘️ 📈 ข้อดีของสนธิสัญญาเบาว์ริง ที่น้อยคนนึกถึง... ✅ เปิดประตูการค้าเสรี ✅ ช่วยให้ไทยพัฒนาวิทยาการตะวันตก ✅ ราษฎรมีรายได้จากการค้าข้าว ✅ กระตุ้นการพัฒนาเมือง ถนนเจริญกรุง สีลม เริ่มก่อสร้าง ✅ ทำให้มีการแข่งขันทางการค้า → ราคาสินค้าลดลง 📌 สินค้าไทยเป็นที่ต้องการของตลาดโลก เช่น ข้าว ไม้สัก งาช้าง 😞 ข้อเสียเปรียบของไทย ในสนธิสัญญาเบาว์ริง ที่ถูกซ่อนไว้ ❌ เสียสิทธิเสรีภาพทางเศรษฐกิจ ไม่สามารถเก็บภาษีนำเข้าตามต้องการได้ ต้องเปิดตลาดสินค้าให้ต่างชาติ โดยไม่มีข้อจำกัด ❌ เสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต คนอังกฤษไม่ต้องขึ้นศาลไทย ทำให้ศาลไทยไม่มีอำนาจเต็มที่ ❌ ทุนต่างชาติเข้ามาครอบงำเศรษฐกิจ ตั้งโรงงาน โรงสี โรงเลื่อยไม้ ฯลฯ โดยคนไทยแข่งขันไม่ได้ ❌ คนไทยไม่สามารถทำการค้าในอังกฤษได้ ไม่ได้รับสิทธิเท่าเทียม เหมือนที่อังกฤษได้จากไทย ⚖️ ทำไมถึงเรียกว่า “สนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรม”? 📍 ถูกเซ็นภายใต้แรงกดดัน จากอำนาจจักรวรรดิ 📍 ไม่มีความเสมอภาคระหว่างสองประเทศ 📍 ไทยไม่สามารถต่อรองเงื่อนไขได้มากนัก 📍 คล้ายกับ “สนธิสัญญานานกิง” ที่จีนถูกบังคับให้เซ็นหลังสงครามฝิ่น 📚 บทเรียนที่ไทยได้จากอดีต 🇹🇭 สนธิสัญญาเบาว์ริง เป็นแรงผลักดันให้ไทยเร่งพัฒนา ปฏิรูประบบราชการ ระบบศาล และกฎหมาย เปิดการเจรจาแก้ไขสนธิสัญญาในภายหลัง โดยเฉพาะในสมัยรัชกาลที่ 5 ส่งผลถึงการรักษาเอกราชของไทย ในขณะที่เพื่อนบ้านหลายประเทศ กลายเป็นอาณานิคม ✨ ไทยเสียเปรียบวันนี้ เพื่อไม่เสียประเทศในวันหน้า? “ไม่เสมอภาค แต่จำเป็น” คือคำจำกัดความที่ดีที่สุด ของสนธิสัญญาเบาว์ริง ถึงแม้สัญญาฉบับนี้ จะเต็มไปด้วยข้อเสียเปรียบ แต่ก็นำมาซึ่งการรอดพ้นจากอาณานิคม การเปิดประตูสู่โลกสมัยใหม่ การเตรียมประเทศ เข้าสู่ยุคการปฏิรูปในรัชกาลที่ 5 สนธิสัญญาเบาว์ริงจึงเป็นเหมือน "ดาบสองคม" ที่ทั้งให้คุณและโทษ ในเวลาเดียวกัน ⚔️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 181147 เม.ย. 2568 📌 #สนธิสัญญาเบาว์ริง #เปิดประเทศแต่ไม่เปิดโอกาส #ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทย #ThailandHistory #BowringTreaty #เปิดเสรีไม่เท่าเทียม #ThailandTradeHistory #อธิปไตยไทย #อังกฤษในไทย #โลกาภิวัตน์กับไทย
    0 Comments 0 Shares 1106 Views 0 Reviews
  • สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยยอดส่งออกข้าว 2 เดือนปี 68 ทำได้แค่ 1.1 ล้านตัน ลด 32% เหตุได้รับผลกระทบจากอินเดียกลับมาส่งออก และข้าวไทยยังราคาแพงที่สุดในโลก ทำขายยาก คาดไตรมาสแรก ไม่เกิน 2 ล้านตัน ส่วนทั้งปี ยังคงเป้า 7.5 ล้านตัน แนะรัฐช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกร ช่วยเรื่องปัจจัยการผลิต อย่าดันราคาอย่างเดียว เหตุผู้ส่งออกทำตลาดลำบาก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000019021

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยยอดส่งออกข้าว 2 เดือนปี 68 ทำได้แค่ 1.1 ล้านตัน ลด 32% เหตุได้รับผลกระทบจากอินเดียกลับมาส่งออก และข้าวไทยยังราคาแพงที่สุดในโลก ทำขายยาก คาดไตรมาสแรก ไม่เกิน 2 ล้านตัน ส่วนทั้งปี ยังคงเป้า 7.5 ล้านตัน แนะรัฐช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกร ช่วยเรื่องปัจจัยการผลิต อย่าดันราคาอย่างเดียว เหตุผู้ส่งออกทำตลาดลำบาก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000019021 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Wow
    Sad
    5
    0 Comments 0 Shares 1145 Views 0 Reviews
  • วิบากกรรม ‘ข้าวไทย’ ยุค แพทองธาร : [Biz Talk]

    ท่ามกลางความน่ายินดี ที่ส่งออกไทยเดือนแรกของปี 68 เติบโตสูงถึง 13.6%ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 แต่สินค้าข้าว น่าเป็นห่วง ส่งออกร่วงแรง 32.4% แม้ความต้องการข้าวไทยในตลาดโลก ยังดีอยู่ แต่การแข่งขันสูง จนทำให้ปริมาณส่งออกข้าวไทยไม่ดีนัก แถมข้าวไทย ยังแพงที่สุดในโลก แข่งขันยาก หวั่นกระทบวงกว้าง หากไม่เร่งหาทางแก้!
    วิบากกรรม ‘ข้าวไทย’ ยุค แพทองธาร : [Biz Talk] ท่ามกลางความน่ายินดี ที่ส่งออกไทยเดือนแรกของปี 68 เติบโตสูงถึง 13.6%ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 แต่สินค้าข้าว น่าเป็นห่วง ส่งออกร่วงแรง 32.4% แม้ความต้องการข้าวไทยในตลาดโลก ยังดีอยู่ แต่การแข่งขันสูง จนทำให้ปริมาณส่งออกข้าวไทยไม่ดีนัก แถมข้าวไทย ยังแพงที่สุดในโลก แข่งขันยาก หวั่นกระทบวงกว้าง หากไม่เร่งหาทางแก้!
    Like
    Haha
    6
    0 Comments 0 Shares 872 Views 25 0 Reviews
  • 23-10-67/01 : หมี CNN / ((( ขอสดุดี "พระปิยะมหาราช" )))

    - ไม่มีพ่อปิยะ มรึงกะกู อาจจะยังเป็นทาสอยู่ก็ได้ทุกวันนี้ ทาสในเมืองไทยไม่มีแล้ว มีแต่ทาสในอเมริกา อังกฤษ อิสราเอล แม่งไม่พัฒนาไปไหนเลย ดีออก ล่าอาณานิคมอย่างเดียว จนวันนี้ ถูกเค้าล่าคืน สาแก่ใจอีช้อยทั่วโลก!

    - ใครกันล่ะ? ที่เปลี่ยนแผ่นดินสยามให้เทียบเคียงนานาประเทศ สาเหตุคือ ไม่ให้ชาติตะวันตกมาใช้ข้ออ้างว่าล้าหลัง แล้วเข้ามายึดเป็นชาติบริวาร หมวกต้องสวม ไม้เท้าต้องมี เสื้อต้องใส่ ไม่ได้เห่อฝรั่ง แต่ไม่ให้มันมาดูถูก

    - ลูกหลานไทยฟังเอาไว้ มรึงเกิดไม่ทัน แต่ใช่ว่ามรึงจะไม่สำนึกบุญคุณพ่อปิยะ ความเจริญด้านวัตถุ สร้างง่ายดาย แต่ความเจริญด้านจิตใจ สำคัญกว่า มรึงดูชาติตะวันตก นับวันยิ่งกว่าไร้อารยธรรม สิทธิโคตรพ่อง โคตรแม่ง อ้างกันไป เพื่อเพียงสนองตัณหาตัวเองเท่านั้น แหกกฎหมายก็ได้ ฆ่าใครก็ได้ กราดยิงก็ได้ ไล่ข่มขืนใครก็ได้ กฎหมาทั้งนั้น กฎหมายทำให้คนไม่กลายเป็นสัดเดรัจฉาน กฎหมาย ทำให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ปชต.มาเพื่อทำลายสิ่งเหล่านี้ มรึงอย่าหลงรูป รส กลิ่น เสียงให้มาก พ่อปิยะ ท่านวางถุงเงิน ถุงแดง รับไม้ต่อจากพ่อร.4 เพื่อการณ์ใหญ่ในวันข้างหน้า มาจนถึงพ่อร.10 คลังไทยถึงมีทองคำล้นพระคลัง จนมรึงจินตนาการไม่ออกดอกว่า มหาศาล! แต่ชาติปชต.จน อดอยาก เพราะก่อแต่สงคราม ไล่ล่าไม่รู้จบ หาสันติสุขไม่ได้

    - ใครที่ทำให้พ่อปิยะของกูและมรึง ต้องทนทุกข์ใจ ต้องยอมแบ่งดินแดนส่วนน้อยเพื่อรักษาพื้นแผ่นดินหลักเอาไว้ กูมิลืมเลือน จากนี้ไป นับตั้งแต่พ่อร.10 เราจะดูดคืนทุกอย่างที่เสียไป กลับคืนมา มากกว่าเดิม ยิ่งใหญ่กว่าเดิม จะไม่ทำให้พ่อปิยะ ต้องเสียใจอีกแล้ว พ่อปิยะต้องภาคภูมิใจในลูกหลานราชวงศ์จักรีแน่นอน เพราะไทยเราหรือสยามประเทศ จะกลายเป็นมหาอำนาจอาเซียนในเร็ววันนี้ TOP10 ที่นานาชาติจะต้องเกรงใจ ไม่ต้องไปปล้นแผ่นดินเค้า ไม่ต้องใช้กำลัง ชนเผ่ารอบทิศแผ่นดินจะขอมาอาศัยอยู่ ใต้ร่มโพธิ์ของพ่อหลวงชัวร์ เราจะขยายพื้นที่โดยการค้า และผนวกดินแดนเพิ่มไปเรื่อยๆ จากความสมัครใจของเพื่อนบ้าน รวมกันเราอยู่ รวมกันเราโต เพราะรากฐานการปกครองไทย พ่อปกครองลูก เป็นที่ยืนยันแน่ชัดแล้วว่า "ดีที่สุดในโลก" เชิญเอาปชต.ตอแหลอัปรีย์จัญไร ไปไกลๆ ส้นตรีนคนไทยซะ

    - นับตั้งแต่ก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ ชี้ให้เห็นชัดว่า พระอัจฉริยะภาพของพ่อหลวงท่านทุกพระองค์ สุดยอดแห่งแนวทางการปกครอง ที่ยืดหยุ่น และเมตตาธรรม ราชวงศ์จักรีถือกำเนิดบนโลก และจะกลายเป็นราชวงศ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทุกราชวงศ์ที่เคยมีมา รวมทั้งเป็นต้นแบบโมเดล เรียกคืนราชวงศ์ต่างๆ ทั่วโลก ให้ฟื้นคืนชีพ หลังถูกปชต.จอมปลอมหลอกแดร๊กควายมาปั่นกว่าศตวรรษ ปชต.คืออียิวมันคิด เพื่อให้ควบคุมโลก ใครยังเสพปชต.อยู่ ชาตินี้ มรึงไม่มีวันได้เห็นฟ้าสีทองผ่องอำไพ แม้แต่รัสเซีย จีน ไม่มีระบบกษัตริย์แล้ว แต่สิ่งที่ปูติน สีจิ้นผิง ทำนั้น คือ "รูปแบบพ่อปกครองลูก" ชัดเจน ปูตินมาเยือนพ่อร.9 รู้เห็นทุกอย่าง เข้าใจ จึงนำไปปฎิบัติใช้จนได้ผล กลับมาส่งออกข้าวสาลีมากที่สุดในโลก ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ส่วนสีจิ้นผิง ปฎิวัติแผ่นดินครั้งใหญ่ กวาดล้างบางคอรัปชั่น ใหญ่แค่ไหนก็แค่ใต้ตรีนพรรคคอมมิวนิสค์จีน ชัดเจนว่า ผู้นำดี ชาติเจริญ ปูติน และสีจิ้นผิง เปรียบเหมือนบิดาแห่งชาติ ที่เอาส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เอาแผ่นดินมาตุภูมิมาเป็นตัวกำหนด ทุกการกระทำ นี่คืออัตลักษณ์ของผู้นำแบบพ่อปกครองลูก เราถึงเข้ากันได้ดี เพราะเคมีมันใช่เลย ตรงกันเป๊ะเด๊ะ!

    - พ่อปิยะ คือผู้นำการเปลี่ยนสยามประเทศครั้งใหญ่ เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ จะถูกเค้ากลืนหรือจะเป็นพวกเดียวกับเค้า ทัดเทียมกัน พ่อทำสำเร็จอย่างงดงาม ไทยเราเจริญเทียบเท่าญี่ปุ่นในยุคนั้น ธรรมดาที่ไหน การสื่อสาร ขนส่ง การค้า ระเบียบสากลมาเต็ม ลูกหลานไทยไปนอก สั่งสอน มรึงคือคนไทย กูไม่ได้ส่งมรึงไปให้เป็นฝรั่ง แต่กูให้มรึงสำเหนียกเอาไว้ว่า มรึงคือคนไทยที่มีความรู้เทียบเท่าฝรั่ง ไม่ให้มันมาเอาเปรียบเราได้ รู้ทันโลก 23 ตุลาคม คือวันคล้ายวันสวรรคตของพ่อท่าน เราลูกหลานอโยธยาทุกไอ้อี ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ไม่มีพ่อท่าน เราคงตายห่าไปนานแล้ว ไม่มีพ่อท่าน คงไม่มีพ่อหลวงร.7 ร.9 ที่ฝ่าฟันอุปสรรคนานับประการ ขอบคุณแผ่นดินสวรรค์ ที่ได้ส่งพระอัฉริยะภาพพ่อหลวงทุกพระองค์มาปกครองแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองนี้ มรึงและกู โคตรจะมีบุญ ที่ได้มาเกิดในยุครัชสมัยพ่อร.9 "ยุคแห่งพระคุณ" และยิ่งมีบุญมากขึ้น ที่ได้ยังอยู่เห็น "ยุคพระเดช" ในรัชสมัยพ่อร.10 ดังนั้น คน 2 แผ่นดิน ไม่รักพ่อ แล้วจะให้ไปรักใครได้อีก

    ขอเชิดชู ทุกการกระทำ ทุกการเสียสละ ทุกความเพียร และการตัดสินใจครั้งใหญ่ ครั้งสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์โลก ไม่มีพ่อปิยะ ก็คงไม่มีสยามประเทศในวันนี้ ไม่มีราชวงศ์จักรี ก็คงไม่มีลูกหลานไทยให้สืบต่อไปจนชั่วกาลปาวสาน จงรักสถาบันสูงสุดยิ่งกว่าชีวิตมรึง เพราะแผ่นดินนี้ ไม่มีกษัตริย์ ไม่ได้ แผ่นดินนี้ คือแผ่นดินสวรรค์ ไอ้อี ใครคิดร้าย มรึงจะถูกธรณีสูบลงขุมนรก โดนไฟนรกแผดเผาไปตลอดกาล ทำดี ต้องได้ดี ทำเหี้ย ต้องชดใช้กรรมไม่สิ้นสุด หยุด ลด ละ เลิก ตั้งสติ และแผ่เมตตาธรรมให้ทั่วหล้า อานิสงค์แห่งบุญนี้ จะทำให้เหี้ยไอ้อีทุกตัวมันร้อนจนอยู่ต่อไม่ได้ ต้องเผ่นออกนอกกันจนหมดสิ้น ขอราชวงศ์จักรี เจริญรุ่งเรือง ไปตลอดกาลเถิด ลูกหลานไทย จะรักษาคำมั่นเอาไว้ จากลูกสู่หลาน ส่งต่อปณิธานของพ่อไม่สิ้นสุด

    หมี CNN(รักพ่อปิยะ กุหลาบแดงจัดมา บุหรี่ เหล้าพร้อมเพรียง กราบไหว้ท่าน ระลึกถึงท่าน แสดงให้ท่านรู้ ว่าพระคุณของท่านยิ่งใหญ่ ลูกหลานไทยไม่เคยลืมเลือน ปลดแอกทาส พ่อทำให้ เพื่อให้อิสระพวกมรึง อิสรภาพ เสรีภาพ ของจริงคือแผ่นดินนี้ หาใช่อเมริกา อังกฤษ ตะวันตก ตอแหล อย่าถูกเหี้ยหลอกง่าย ลูกพ่อหลวง เก่ง ฉลาด มีสติ มีปัญญา มากกว่าพวกมันเยอะ เพราะพวกเราคือคนของสวรรค์นั่นเอง ถึงได้อยู่ในแผ่นดินร่มเย็นนี้ได้)
    23 ตุลาคม 67(วันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพ่อปิยะ ที่รักของปวงชนชาวไทย)
    09.55 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172965228578622743
    23-10-67/01 : หมี CNN / ((( ขอสดุดี "พระปิยะมหาราช" ))) - ไม่มีพ่อปิยะ มรึงกะกู อาจจะยังเป็นทาสอยู่ก็ได้ทุกวันนี้ ทาสในเมืองไทยไม่มีแล้ว มีแต่ทาสในอเมริกา อังกฤษ อิสราเอล แม่งไม่พัฒนาไปไหนเลย ดีออก ล่าอาณานิคมอย่างเดียว จนวันนี้ ถูกเค้าล่าคืน สาแก่ใจอีช้อยทั่วโลก! - ใครกันล่ะ? ที่เปลี่ยนแผ่นดินสยามให้เทียบเคียงนานาประเทศ สาเหตุคือ ไม่ให้ชาติตะวันตกมาใช้ข้ออ้างว่าล้าหลัง แล้วเข้ามายึดเป็นชาติบริวาร หมวกต้องสวม ไม้เท้าต้องมี เสื้อต้องใส่ ไม่ได้เห่อฝรั่ง แต่ไม่ให้มันมาดูถูก - ลูกหลานไทยฟังเอาไว้ มรึงเกิดไม่ทัน แต่ใช่ว่ามรึงจะไม่สำนึกบุญคุณพ่อปิยะ ความเจริญด้านวัตถุ สร้างง่ายดาย แต่ความเจริญด้านจิตใจ สำคัญกว่า มรึงดูชาติตะวันตก นับวันยิ่งกว่าไร้อารยธรรม สิทธิโคตรพ่อง โคตรแม่ง อ้างกันไป เพื่อเพียงสนองตัณหาตัวเองเท่านั้น แหกกฎหมายก็ได้ ฆ่าใครก็ได้ กราดยิงก็ได้ ไล่ข่มขืนใครก็ได้ กฎหมาทั้งนั้น กฎหมายทำให้คนไม่กลายเป็นสัดเดรัจฉาน กฎหมาย ทำให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ปชต.มาเพื่อทำลายสิ่งเหล่านี้ มรึงอย่าหลงรูป รส กลิ่น เสียงให้มาก พ่อปิยะ ท่านวางถุงเงิน ถุงแดง รับไม้ต่อจากพ่อร.4 เพื่อการณ์ใหญ่ในวันข้างหน้า มาจนถึงพ่อร.10 คลังไทยถึงมีทองคำล้นพระคลัง จนมรึงจินตนาการไม่ออกดอกว่า มหาศาล! แต่ชาติปชต.จน อดอยาก เพราะก่อแต่สงคราม ไล่ล่าไม่รู้จบ หาสันติสุขไม่ได้ - ใครที่ทำให้พ่อปิยะของกูและมรึง ต้องทนทุกข์ใจ ต้องยอมแบ่งดินแดนส่วนน้อยเพื่อรักษาพื้นแผ่นดินหลักเอาไว้ กูมิลืมเลือน จากนี้ไป นับตั้งแต่พ่อร.10 เราจะดูดคืนทุกอย่างที่เสียไป กลับคืนมา มากกว่าเดิม ยิ่งใหญ่กว่าเดิม จะไม่ทำให้พ่อปิยะ ต้องเสียใจอีกแล้ว พ่อปิยะต้องภาคภูมิใจในลูกหลานราชวงศ์จักรีแน่นอน เพราะไทยเราหรือสยามประเทศ จะกลายเป็นมหาอำนาจอาเซียนในเร็ววันนี้ TOP10 ที่นานาชาติจะต้องเกรงใจ ไม่ต้องไปปล้นแผ่นดินเค้า ไม่ต้องใช้กำลัง ชนเผ่ารอบทิศแผ่นดินจะขอมาอาศัยอยู่ ใต้ร่มโพธิ์ของพ่อหลวงชัวร์ เราจะขยายพื้นที่โดยการค้า และผนวกดินแดนเพิ่มไปเรื่อยๆ จากความสมัครใจของเพื่อนบ้าน รวมกันเราอยู่ รวมกันเราโต เพราะรากฐานการปกครองไทย พ่อปกครองลูก เป็นที่ยืนยันแน่ชัดแล้วว่า "ดีที่สุดในโลก" เชิญเอาปชต.ตอแหลอัปรีย์จัญไร ไปไกลๆ ส้นตรีนคนไทยซะ - นับตั้งแต่ก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ ชี้ให้เห็นชัดว่า พระอัจฉริยะภาพของพ่อหลวงท่านทุกพระองค์ สุดยอดแห่งแนวทางการปกครอง ที่ยืดหยุ่น และเมตตาธรรม ราชวงศ์จักรีถือกำเนิดบนโลก และจะกลายเป็นราชวงศ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทุกราชวงศ์ที่เคยมีมา รวมทั้งเป็นต้นแบบโมเดล เรียกคืนราชวงศ์ต่างๆ ทั่วโลก ให้ฟื้นคืนชีพ หลังถูกปชต.จอมปลอมหลอกแดร๊กควายมาปั่นกว่าศตวรรษ ปชต.คืออียิวมันคิด เพื่อให้ควบคุมโลก ใครยังเสพปชต.อยู่ ชาตินี้ มรึงไม่มีวันได้เห็นฟ้าสีทองผ่องอำไพ แม้แต่รัสเซีย จีน ไม่มีระบบกษัตริย์แล้ว แต่สิ่งที่ปูติน สีจิ้นผิง ทำนั้น คือ "รูปแบบพ่อปกครองลูก" ชัดเจน ปูตินมาเยือนพ่อร.9 รู้เห็นทุกอย่าง เข้าใจ จึงนำไปปฎิบัติใช้จนได้ผล กลับมาส่งออกข้าวสาลีมากที่สุดในโลก ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ส่วนสีจิ้นผิง ปฎิวัติแผ่นดินครั้งใหญ่ กวาดล้างบางคอรัปชั่น ใหญ่แค่ไหนก็แค่ใต้ตรีนพรรคคอมมิวนิสค์จีน ชัดเจนว่า ผู้นำดี ชาติเจริญ ปูติน และสีจิ้นผิง เปรียบเหมือนบิดาแห่งชาติ ที่เอาส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เอาแผ่นดินมาตุภูมิมาเป็นตัวกำหนด ทุกการกระทำ นี่คืออัตลักษณ์ของผู้นำแบบพ่อปกครองลูก เราถึงเข้ากันได้ดี เพราะเคมีมันใช่เลย ตรงกันเป๊ะเด๊ะ! - พ่อปิยะ คือผู้นำการเปลี่ยนสยามประเทศครั้งใหญ่ เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ จะถูกเค้ากลืนหรือจะเป็นพวกเดียวกับเค้า ทัดเทียมกัน พ่อทำสำเร็จอย่างงดงาม ไทยเราเจริญเทียบเท่าญี่ปุ่นในยุคนั้น ธรรมดาที่ไหน การสื่อสาร ขนส่ง การค้า ระเบียบสากลมาเต็ม ลูกหลานไทยไปนอก สั่งสอน มรึงคือคนไทย กูไม่ได้ส่งมรึงไปให้เป็นฝรั่ง แต่กูให้มรึงสำเหนียกเอาไว้ว่า มรึงคือคนไทยที่มีความรู้เทียบเท่าฝรั่ง ไม่ให้มันมาเอาเปรียบเราได้ รู้ทันโลก 23 ตุลาคม คือวันคล้ายวันสวรรคตของพ่อท่าน เราลูกหลานอโยธยาทุกไอ้อี ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ไม่มีพ่อท่าน เราคงตายห่าไปนานแล้ว ไม่มีพ่อท่าน คงไม่มีพ่อหลวงร.7 ร.9 ที่ฝ่าฟันอุปสรรคนานับประการ ขอบคุณแผ่นดินสวรรค์ ที่ได้ส่งพระอัฉริยะภาพพ่อหลวงทุกพระองค์มาปกครองแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองนี้ มรึงและกู โคตรจะมีบุญ ที่ได้มาเกิดในยุครัชสมัยพ่อร.9 "ยุคแห่งพระคุณ" และยิ่งมีบุญมากขึ้น ที่ได้ยังอยู่เห็น "ยุคพระเดช" ในรัชสมัยพ่อร.10 ดังนั้น คน 2 แผ่นดิน ไม่รักพ่อ แล้วจะให้ไปรักใครได้อีก ขอเชิดชู ทุกการกระทำ ทุกการเสียสละ ทุกความเพียร และการตัดสินใจครั้งใหญ่ ครั้งสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์โลก ไม่มีพ่อปิยะ ก็คงไม่มีสยามประเทศในวันนี้ ไม่มีราชวงศ์จักรี ก็คงไม่มีลูกหลานไทยให้สืบต่อไปจนชั่วกาลปาวสาน จงรักสถาบันสูงสุดยิ่งกว่าชีวิตมรึง เพราะแผ่นดินนี้ ไม่มีกษัตริย์ ไม่ได้ แผ่นดินนี้ คือแผ่นดินสวรรค์ ไอ้อี ใครคิดร้าย มรึงจะถูกธรณีสูบลงขุมนรก โดนไฟนรกแผดเผาไปตลอดกาล ทำดี ต้องได้ดี ทำเหี้ย ต้องชดใช้กรรมไม่สิ้นสุด หยุด ลด ละ เลิก ตั้งสติ และแผ่เมตตาธรรมให้ทั่วหล้า อานิสงค์แห่งบุญนี้ จะทำให้เหี้ยไอ้อีทุกตัวมันร้อนจนอยู่ต่อไม่ได้ ต้องเผ่นออกนอกกันจนหมดสิ้น ขอราชวงศ์จักรี เจริญรุ่งเรือง ไปตลอดกาลเถิด ลูกหลานไทย จะรักษาคำมั่นเอาไว้ จากลูกสู่หลาน ส่งต่อปณิธานของพ่อไม่สิ้นสุด หมี CNN(รักพ่อปิยะ กุหลาบแดงจัดมา บุหรี่ เหล้าพร้อมเพรียง กราบไหว้ท่าน ระลึกถึงท่าน แสดงให้ท่านรู้ ว่าพระคุณของท่านยิ่งใหญ่ ลูกหลานไทยไม่เคยลืมเลือน ปลดแอกทาส พ่อทำให้ เพื่อให้อิสระพวกมรึง อิสรภาพ เสรีภาพ ของจริงคือแผ่นดินนี้ หาใช่อเมริกา อังกฤษ ตะวันตก ตอแหล อย่าถูกเหี้ยหลอกง่าย ลูกพ่อหลวง เก่ง ฉลาด มีสติ มีปัญญา มากกว่าพวกมันเยอะ เพราะพวกเราคือคนของสวรรค์นั่นเอง ถึงได้อยู่ในแผ่นดินร่มเย็นนี้ได้) 23 ตุลาคม 67(วันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพ่อปิยะ ที่รักของปวงชนชาวไทย) 09.55 น. https://linevoom.line.me/post/1172965228578622743
    0 Comments 0 Shares 973 Views 0 Reviews
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยข้อมูล
    น้ำท่วมไทยปี 2567 นี้ คาดราคาผัก ข้าว และ ผลไม้
    ในไตรมาส 4/2567

    แนวโน้ม ราคาผัก ยังปรับตัวสูงขึ้น ประมาณ 8%
    (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน) จากสถานการณ์
    น้ำท่วมเกือบทุกภาค ทำให้ผลผลิตเสียหาย
    รวมทั้ง เดือน ตุลาคม เป็นเทศกาลกินเจ ส่งผลให้
    ราคาผักปรับตัวสูงขึ้น

    ส่วนราคาข้าว ปรับตัวลดลง -10% (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน)
    จากปัจจัยอินเดียกลับมาส่งออกข้าวอีกครั้ง

    ในขณะที่ราคาผลไม้ ปรับตัวลดลง -5% (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน)
    จากปัจจัยฤดูกาล

    ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ราคาผักข้าวผลไม้ #thaitimes
    💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยข้อมูล น้ำท่วมไทยปี 2567 นี้ คาดราคาผัก ข้าว และ ผลไม้ ในไตรมาส 4/2567 🚩แนวโน้ม ราคาผัก ยังปรับตัวสูงขึ้น ประมาณ 8% (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน) จากสถานการณ์ น้ำท่วมเกือบทุกภาค ทำให้ผลผลิตเสียหาย รวมทั้ง เดือน ตุลาคม เป็นเทศกาลกินเจ ส่งผลให้ ราคาผักปรับตัวสูงขึ้น 🚩ส่วนราคาข้าว ปรับตัวลดลง -10% (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน) จากปัจจัยอินเดียกลับมาส่งออกข้าวอีกครั้ง 🚩ในขณะที่ราคาผลไม้ ปรับตัวลดลง -5% (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน) จากปัจจัยฤดูกาล ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ราคาผักข้าวผลไม้ #thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 1106 Views 0 Reviews
  • ความท้าทายของการส่งออกข้าวไทย
    เมื่อผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก คือ อินเดีย
    ได้กลับมาเปิดเสรี การส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศอีกครั้ง
    หลังจากหยุดพักการส่งออกข้าว
    ตั้งแต่ กรกฎาคม 2566 เป็นต้นมา

    ส่งผลให้แนวโน้มของราคาข้าวในตลาดโลก
    มีโอกาสปรับตัวลดลง
    จากผลผลิตข้าวในตลาดที่มากยิ่งขึ้น

    นักวิชาการแนะ รัฐบาล ให้เพิ่มการยกระดับ
    ในการปรับปรุงคุณภาพข้าวในประเทศ
    เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขั้นในตลาดโลก

    ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #การส่งออกข้าวไทย
    #thaitimes
    💥💥ความท้าทายของการส่งออกข้าวไทย เมื่อผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก คือ อินเดีย ได้กลับมาเปิดเสรี การส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศอีกครั้ง หลังจากหยุดพักการส่งออกข้าว ตั้งแต่ กรกฎาคม 2566 เป็นต้นมา 🚩ส่งผลให้แนวโน้มของราคาข้าวในตลาดโลก มีโอกาสปรับตัวลดลง จากผลผลิตข้าวในตลาดที่มากยิ่งขึ้น 🚩นักวิชาการแนะ รัฐบาล ให้เพิ่มการยกระดับ ในการปรับปรุงคุณภาพข้าวในประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขั้นในตลาดโลก ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #การส่งออกข้าวไทย #thaitimes
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 777 Views 0 Reviews