• วัดใจ 'วันนอร์' เปิดรัฐธรรมนูญ เผด็จศึกส.ว.สีน้ำเงิน : ถอนหมุดข่าว 27/05/68
    วัดใจ 'วันนอร์' เปิดรัฐธรรมนูญ เผด็จศึกส.ว.สีน้ำเงิน : ถอนหมุดข่าว 27/05/68
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • "ทักษิณ" กอด "อนุทิน" โชว์สื่อ อวดแดงน้ำเงินยังรักกันดีเหนียวแน่น จับมือกันไป จนครบเทอม มั่นใจคดีฮั้ว เลือกสว. ไม่กระทบความสัมพันธ์ปล่อยตามกระบวนการ

    วันนี้ (27พ.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ความสัมพันธ์ในพรรครวมรัฐบาลโดยเฉพาะกับพรรคภูมิใจไทยยังคงเหนียวแน่นกันดี ไม่มีปัญหาอะไรกัน มั่นใจว่า จะยังคงร่วมงานกันต่อไปจน จนครบสี่ปี และจะไม่มีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีกลางคัน จนกว่าจะมีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งก็อีกนาน

    นายทักษิณ ระบุว่ากระแสข่าวเรื่องความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยเกิดขึ้นจากเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการได้มาซึ่ง สว. ที่ทั้ง กรมสอบสวนคดีพิเศษและคณะกรรมการการเลือกตั้งต่างทำหน้าที่ของตัวเอง โดยไม่มีใครสามารถสั่งการได้เพราะหากไม่ดำเนินการตามคำร้องก็จะถูกร้องเรียนฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่

    แต่ในความเป็นจริง ทั้งสีแดงและสีน้ำเงิน ต่างก็ยังรักกันดี เป็นพี่น้องกันทุกคน มั่นใจไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างก็เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049625

    #MGROnline #ทักษิณ #อนุทิน
    "ทักษิณ" กอด "อนุทิน" โชว์สื่อ อวดแดงน้ำเงินยังรักกันดีเหนียวแน่น จับมือกันไป จนครบเทอม มั่นใจคดีฮั้ว เลือกสว. ไม่กระทบความสัมพันธ์ปล่อยตามกระบวนการ • วันนี้ (27พ.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ความสัมพันธ์ในพรรครวมรัฐบาลโดยเฉพาะกับพรรคภูมิใจไทยยังคงเหนียวแน่นกันดี ไม่มีปัญหาอะไรกัน มั่นใจว่า จะยังคงร่วมงานกันต่อไปจน จนครบสี่ปี และจะไม่มีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีกลางคัน จนกว่าจะมีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งก็อีกนาน • นายทักษิณ ระบุว่ากระแสข่าวเรื่องความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยเกิดขึ้นจากเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการได้มาซึ่ง สว. ที่ทั้ง กรมสอบสวนคดีพิเศษและคณะกรรมการการเลือกตั้งต่างทำหน้าที่ของตัวเอง โดยไม่มีใครสามารถสั่งการได้เพราะหากไม่ดำเนินการตามคำร้องก็จะถูกร้องเรียนฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ • แต่ในความเป็นจริง ทั้งสีแดงและสีน้ำเงิน ต่างก็ยังรักกันดี เป็นพี่น้องกันทุกคน มั่นใจไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างก็เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049625 • #MGROnline #ทักษิณ #อนุทิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง ,จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด

    คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที

    ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน
    .
    พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว
    ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑)
    ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒)
    ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓)
    ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔)
    พร้อมด้วยของกลาง
    .
    ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด
    ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด
    .
    พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว
    .
    ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ
    .
    นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง
    อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    .
    ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง ,จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน . พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑) ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒) ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓) ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔) พร้อมด้วยของกลาง . ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด . พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว . ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ . นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง . เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด . เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป . ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง, จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด

    คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที

    ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน
    .
    พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว
    ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑)
    ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒)
    ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓)
    ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔)
    พร้อมด้วยของกลาง
    .
    ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด
    ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด
    .
    พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว
    .
    ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ
    .
    นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง
    อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    .
    ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง, จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน . พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑) ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒) ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓) ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔) พร้อมด้วยของกลาง . ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด . พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว . ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ . นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง . เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด . เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป . ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนวินจ่อกินรวบ 3 อำนาจ (บริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ)
    สั่งสว.สีน้ำเงินโหวต อิทธิพร เป็นอัยกากสูงสุด
    หวังตัดตอนคดีตั้งแต่ต้น อัยกากช่วยไม่สั่งฟ้อง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เนวินจ่อกินรวบ 3 อำนาจ (บริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ) สั่งสว.สีน้ำเงินโหวต อิทธิพร เป็นอัยกากสูงสุด หวังตัดตอนคดีตั้งแต่ต้น อัยกากช่วยไม่สั่งฟ้อง #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 9 0 รีวิว
  • Newsstory : สว.อิสระ ลุกคืบ สว.น้ำเงิน ร้อง DSI หยุดทำงาน เหตุเพราะหลักฐาน....โผล่

    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล
    #สวสีน้ำเงิน #สวอิสระ
    Newsstory : สว.อิสระ ลุกคืบ สว.น้ำเงิน ร้อง DSI หยุดทำงาน เหตุเพราะหลักฐาน....โผล่ #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #สวสีน้ำเงิน #สวอิสระ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 6 0 รีวิว
  • Newsstory : สว.สายตรง ชิดชอบ จ่อโดนสอย10กว่าคน ส่วนที่เหลือก็พวกเดียวกัน

    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล
    #สวสีน้ำเงิน #ชิดชอบ
    Newsstory : สว.สายตรง ชิดชอบ จ่อโดนสอย10กว่าคน ส่วนที่เหลือก็พวกเดียวกัน #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #สวสีน้ำเงิน #ชิดชอบ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • ตอกตะปูปิดฝาโลงกระบวนการยุติธรรมกันไปเลย ที่ผ่านมาก็ตกต่ำมากและ สว.สีน้ำเงินยังหวังโหวตเห็นชอบให้คนมีชู้ ล่อเด็กหน้าห้อง จนต้องเลิกรากับเมีย แค่คู่ชีวิตเมิงยังทรยศ แถมยังพัวพันการปล่อยทรัพย์สินที่ยึดมาจากคดียาเสพติดแบบน่ากังขา ตกลงเมิงเป็นผู้เชี่ยวชาญคดีอาญา หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญก่อคดีอาญากันแน่ คนแบบนี้แหละที่สว.สีน้ำเงินชอบ เพราะตำบอนเหมือนกัน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #อิทธิพรแก้วทิพย์
    #อัยการสูงสุด
    ตอกตะปูปิดฝาโลงกระบวนการยุติธรรมกันไปเลย ที่ผ่านมาก็ตกต่ำมากและ สว.สีน้ำเงินยังหวังโหวตเห็นชอบให้คนมีชู้ ล่อเด็กหน้าห้อง จนต้องเลิกรากับเมีย แค่คู่ชีวิตเมิงยังทรยศ แถมยังพัวพันการปล่อยทรัพย์สินที่ยึดมาจากคดียาเสพติดแบบน่ากังขา ตกลงเมิงเป็นผู้เชี่ยวชาญคดีอาญา หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญก่อคดีอาญากันแน่ คนแบบนี้แหละที่สว.สีน้ำเงินชอบ เพราะตำบอนเหมือนกัน #คิงส์โพธิ์แดง #อิทธิพรแก้วทิพย์ #อัยการสูงสุด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชิหายละ เราจะได้อัยกากสูงสุดคนใหม่ ที่เป็นชู้กับเด็กหน้าห้อง จนต้องเลิกเมีย
    พัวพันปล่อยทรัพย์สินที่ยึดจากคดียาเสพติด สว.สีน้ำเงินจะตั้งไอ่นี่
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ชิหายละ เราจะได้อัยกากสูงสุดคนใหม่ ที่เป็นชู้กับเด็กหน้าห้อง จนต้องเลิกเมีย พัวพันปล่อยทรัพย์สินที่ยึดจากคดียาเสพติด สว.สีน้ำเงินจะตั้งไอ่นี่ #คิงส์โพธิ์แดง
    Haha
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • Asustor เปิดตัว Lockerstor 6 Gen2+ และ Lockerstor 12R Pro Gen2 ที่ Computex 2025

    Asustor เปิดตัว Lockerstor 6 Gen2+ ซึ่งเป็นรุ่นอัปเกรดของ Lockerstor 6 Gen2 โดยมีการเปลี่ยนแปลงหลักคือ การอัปเกรดพอร์ต Ethernet จาก 2.5 Gbps เป็น 5 Gbps เพื่อให้สามารถแยกความเร็วของพอร์ตได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัว Lockerstor 12R Pro Gen2 ซึ่งเป็น NAS แบบ Rack-Mounted ที่รองรับสูงสุด 16 ไดรฟ์

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Lockerstor 6 Gen2+ และ Lockerstor 12R Pro Gen2
    ✅ Lockerstor 6 Gen2+ เปลี่ยนพอร์ต Ethernet จากสีแดงเป็นสีน้ำเงิน
    - พอร์ตสีน้ำเงิน รองรับความเร็วสูงสุด 5 Gbps ในขณะที่พอร์ตสีแดงเดิมรองรับเพียง 2.5 Gbps

    ✅ Lockerstor 12R Pro Gen2 รองรับ 12 หรือ 16 ไดรฟ์ขนาด 3.5 นิ้ว
    - ออกแบบมาเพื่อ การใช้งานในศูนย์ข้อมูลและองค์กรที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บขนาดใหญ่

    ✅ ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 7 Pro พร้อม RAM ECC DDR5-4800 ขนาด 16GB
    - ช่วยให้ NAS มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับการทำงานที่เสถียร

    ✅ มีพอร์ต Ethernet 10 Gbps คู่ และพอร์ต Gigabit Ethernet 2 พอร์ต
    - รองรับ การเชื่อมต่อเครือข่ายความเร็วสูงสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลขนาดใหญ่

    ✅ รองรับ M.2 NVMe PCIe 5.0 x4 สำหรับไดรฟ์ระบบปฏิบัติการ
    - ช่วยให้ สามารถบูตระบบได้เร็วขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของ NAS

    ‼️ Lockerstor 6 Gen2+ มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยจากรุ่นก่อนหน้า
    - ผู้ใช้ อาจต้องพิจารณาว่าการอัปเกรดพอร์ต Ethernet คุ้มค่าหรือไม่

    ‼️ Lockerstor 12R Pro Gen2 อาจมีราคาสูงเนื่องจากใช้ฮาร์ดแวร์ระดับองค์กร
    - อาจเหมาะสำหรับ ธุรกิจขนาดใหญ่มากกว่าผู้ใช้ทั่วไป

    https://www.techpowerup.com/337144/asustor-shows-off-updated-lockerstor-6-gen2-at-computex-2025
    Asustor เปิดตัว Lockerstor 6 Gen2+ และ Lockerstor 12R Pro Gen2 ที่ Computex 2025 Asustor เปิดตัว Lockerstor 6 Gen2+ ซึ่งเป็นรุ่นอัปเกรดของ Lockerstor 6 Gen2 โดยมีการเปลี่ยนแปลงหลักคือ การอัปเกรดพอร์ต Ethernet จาก 2.5 Gbps เป็น 5 Gbps เพื่อให้สามารถแยกความเร็วของพอร์ตได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัว Lockerstor 12R Pro Gen2 ซึ่งเป็น NAS แบบ Rack-Mounted ที่รองรับสูงสุด 16 ไดรฟ์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Lockerstor 6 Gen2+ และ Lockerstor 12R Pro Gen2 ✅ Lockerstor 6 Gen2+ เปลี่ยนพอร์ต Ethernet จากสีแดงเป็นสีน้ำเงิน - พอร์ตสีน้ำเงิน รองรับความเร็วสูงสุด 5 Gbps ในขณะที่พอร์ตสีแดงเดิมรองรับเพียง 2.5 Gbps ✅ Lockerstor 12R Pro Gen2 รองรับ 12 หรือ 16 ไดรฟ์ขนาด 3.5 นิ้ว - ออกแบบมาเพื่อ การใช้งานในศูนย์ข้อมูลและองค์กรที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บขนาดใหญ่ ✅ ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 7 Pro พร้อม RAM ECC DDR5-4800 ขนาด 16GB - ช่วยให้ NAS มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับการทำงานที่เสถียร ✅ มีพอร์ต Ethernet 10 Gbps คู่ และพอร์ต Gigabit Ethernet 2 พอร์ต - รองรับ การเชื่อมต่อเครือข่ายความเร็วสูงสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลขนาดใหญ่ ✅ รองรับ M.2 NVMe PCIe 5.0 x4 สำหรับไดรฟ์ระบบปฏิบัติการ - ช่วยให้ สามารถบูตระบบได้เร็วขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของ NAS ‼️ Lockerstor 6 Gen2+ มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยจากรุ่นก่อนหน้า - ผู้ใช้ อาจต้องพิจารณาว่าการอัปเกรดพอร์ต Ethernet คุ้มค่าหรือไม่ ‼️ Lockerstor 12R Pro Gen2 อาจมีราคาสูงเนื่องจากใช้ฮาร์ดแวร์ระดับองค์กร - อาจเหมาะสำหรับ ธุรกิจขนาดใหญ่มากกว่าผู้ใช้ทั่วไป https://www.techpowerup.com/337144/asustor-shows-off-updated-lockerstor-6-gen2-at-computex-2025
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Asustor Shows Off Updated Lockerstor 6 Gen2+ at Computex 2025
    Asustor didn't have any big news at Computex this year, but the company was showing it's upcoming Lockerstor 6 Gen2+, which is a slightly improved version of the current Lockerstor 6 Gen2, with the only upgrade being a move from red to blue Ethernet ports. Ok, there's a little more to it than a colo...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft กำลังทดสอบไอคอน Office ใหม่ พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้ว

    Microsoft กำลังพัฒนาไอคอนใหม่สำหรับแอป Office ซึ่งถือเป็นการปรับปรุงครั้งแรกในรอบ 7 ปี โดยไอคอนเหล่านี้ถูกแชร์ให้ผู้ใช้ทดลองและให้ข้อเสนอแนะ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าการออกแบบนี้จะถูกนำมาใช้จริง

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับไอคอน Office ใหม่
    ✅ Microsoft กำลังทดสอบไอคอน Office ใหม่ ซึ่งเป็นการปรับปรุงครั้งแรกตั้งแต่ปี 2018
    - ผู้ใช้สามารถ ดาวน์โหลดไอคอนเหล่านี้เพื่อทดลองใช้งานได้แล้ว

    ✅ ไอคอนถูกแชร์ให้ผู้ใช้ให้ข้อเสนอแนะก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
    - Microsoft อาจปรับเปลี่ยนดีไซน์ก่อนนำไปใช้จริง

    ✅ ผู้ใช้ Reddit สร้างไอคอนเวอร์ชันของตนเองโดยใช้ DALLE-3
    - ไอคอนเหล่านี้ ไม่ใช่ของ Microsoft อย่างเป็นทางการ แต่เป็นการสร้างขึ้นใหม่จากไอคอนที่รั่วไหล

    ✅ ไอคอน Outlook ในชุดนี้เป็นสีเหลือง ซึ่งเป็นการย้อนกลับไปสู่ดีไซน์ดั้งเดิม
    - หลายคนเห็นด้วยว่า สีเหลืองเหมาะกับ Outlook มากกว่าสีน้ำเงินที่ใช้ในปัจจุบัน

    ✅ สามารถดาวน์โหลดไอคอนทั้งหมดได้ผ่าน Google Drive
    - แต่ต้อง แปลงไฟล์ PNG เป็น ICO ก่อนนำไปใช้เป็นไอคอนแอป

    https://www.neowin.net/news/microsoft-is-testing-redesigned-office-icons-and-you-can-already-download-them/
    Microsoft กำลังทดสอบไอคอน Office ใหม่ พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้ว Microsoft กำลังพัฒนาไอคอนใหม่สำหรับแอป Office ซึ่งถือเป็นการปรับปรุงครั้งแรกในรอบ 7 ปี โดยไอคอนเหล่านี้ถูกแชร์ให้ผู้ใช้ทดลองและให้ข้อเสนอแนะ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าการออกแบบนี้จะถูกนำมาใช้จริง 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับไอคอน Office ใหม่ ✅ Microsoft กำลังทดสอบไอคอน Office ใหม่ ซึ่งเป็นการปรับปรุงครั้งแรกตั้งแต่ปี 2018 - ผู้ใช้สามารถ ดาวน์โหลดไอคอนเหล่านี้เพื่อทดลองใช้งานได้แล้ว ✅ ไอคอนถูกแชร์ให้ผู้ใช้ให้ข้อเสนอแนะก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ - Microsoft อาจปรับเปลี่ยนดีไซน์ก่อนนำไปใช้จริง ✅ ผู้ใช้ Reddit สร้างไอคอนเวอร์ชันของตนเองโดยใช้ DALLE-3 - ไอคอนเหล่านี้ ไม่ใช่ของ Microsoft อย่างเป็นทางการ แต่เป็นการสร้างขึ้นใหม่จากไอคอนที่รั่วไหล ✅ ไอคอน Outlook ในชุดนี้เป็นสีเหลือง ซึ่งเป็นการย้อนกลับไปสู่ดีไซน์ดั้งเดิม - หลายคนเห็นด้วยว่า สีเหลืองเหมาะกับ Outlook มากกว่าสีน้ำเงินที่ใช้ในปัจจุบัน ✅ สามารถดาวน์โหลดไอคอนทั้งหมดได้ผ่าน Google Drive - แต่ต้อง แปลงไฟล์ PNG เป็น ICO ก่อนนำไปใช้เป็นไอคอนแอป https://www.neowin.net/news/microsoft-is-testing-redesigned-office-icons-and-you-can-already-download-them/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft is testing redesigned Office icons, and you can already download them
    Microsoft recently asked users for feedback about a set of redesigned Office icons, and thanks to a Reddit user, you can already download and use them.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดีเอสไอทราบดีว่าการทำคดีฮั้ว ส.ว.นั้นเป็นการต่อสู้กับนายใหญ่ค่ายสีน้ำเงินที่อยู่เบื้องหลัง ศึกนี้ทำให้ฝ่ายแดงคงต้องปรับแผนรับมือกับทิศทางที่เปลี่ยนไป เพราะดีเอสไอกำลังอยู่ในภาวะไร้หัว

    #คดีฮั่วสว #ทวีโดนแช่แข็ง #สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ทวีสอดส่อง #ฝ่ายแดงฝ่ายน้ำเงิน #สวสีน้ำเงิน #ทวีสอดส่อง #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    ดีเอสไอทราบดีว่าการทำคดีฮั้ว ส.ว.นั้นเป็นการต่อสู้กับนายใหญ่ค่ายสีน้ำเงินที่อยู่เบื้องหลัง ศึกนี้ทำให้ฝ่ายแดงคงต้องปรับแผนรับมือกับทิศทางที่เปลี่ยนไป เพราะดีเอสไอกำลังอยู่ในภาวะไร้หัว #คดีฮั่วสว #ทวีโดนแช่แข็ง #สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ทวีสอดส่อง #ฝ่ายแดงฝ่ายน้ำเงิน #สวสีน้ำเงิน #ทวีสอดส่อง #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    Like
    Love
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1414 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • สอยสว.สีน้ำเงินไม่ง่ายอย่างที่คิด

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000045193
    สอยสว.สีน้ำเงินไม่ง่ายอย่างที่คิด บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000045193
    MGRONLINE.COM
    สอย สว.สีน้ำเงินไม่ง่ายอย่างที่คิด
    ตอนนี้กำลังเปิดศึกสงครามตัวแทนระหว่าง สว.สีน้ำเงินกับดีเอสไอ ลึกๆ แล้วก็คือ ตัวแทนของความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน เพราะแม้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.กระทรวงยุติธรรมจะอยู่พรรคประชาชาติ แต่เ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปมร้อนข่าวลึก : “เนวิน”สั่งลุย เอาคืน ดีเอสไอ -กกต.
    .
    หลังพักตั้งหลัก3-4 วันเพราะติดวันหยุดยาวราชการ พืชมงคล-เสาร์-อาทิตย์-ชดเชยวิสาขบูชา แต่เปิดทำการมาวันอังคาร ต้องจับตา แผนตั้งรับและโต้กลับของ”สว.สีน้ำเงิน”หลังโดน ดีเอสไอ -คณะอนุกรรมการไต่สวนกกต.รุกหนัก ถึงขั้นส่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ไปติดหมายเรียกหน้าบ้านสว. บางคน ให้ไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาทำผิดกฎหมายเลือกตั้งสว. เรียกว่า ทำให้อับอายทางการเมือง เพราะเล่นไปติดหมายหน้าบ้านแล้วถ่ายรูปส่งให้สื่อมวลชนเอาไปเสนอข่าว แบบไม่ไว้หน้า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000044175

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ปมร้อนข่าวลึก : “เนวิน”สั่งลุย เอาคืน ดีเอสไอ -กกต. . หลังพักตั้งหลัก3-4 วันเพราะติดวันหยุดยาวราชการ พืชมงคล-เสาร์-อาทิตย์-ชดเชยวิสาขบูชา แต่เปิดทำการมาวันอังคาร ต้องจับตา แผนตั้งรับและโต้กลับของ”สว.สีน้ำเงิน”หลังโดน ดีเอสไอ -คณะอนุกรรมการไต่สวนกกต.รุกหนัก ถึงขั้นส่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ไปติดหมายเรียกหน้าบ้านสว. บางคน ให้ไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาทำผิดกฎหมายเลือกตั้งสว. เรียกว่า ทำให้อับอายทางการเมือง เพราะเล่นไปติดหมายหน้าบ้านแล้วถ่ายรูปส่งให้สื่อมวลชนเอาไปเสนอข่าว แบบไม่ไว้หน้า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000044175 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 565 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้รู้สึกใจฟูขึ้นมาเลย แต่ทัพหลัก 14 เทศบาลในนาม NEXT ปทุมธานี(คนรักปทุมเดิม) และอีกทัพหนึ่งคือทัพที่ 15 (ทีมสมชาติในNEXTปทุมธานีหรือคนรักปทุมเดิม) ทัพหลักชนะเกือบหมด ยกเว้นบางกะดี และเทศบาลตำบลธัญบุรี(กำลังจะยกระดับสู่เทศบาลนครธัญบุรีในอนาคต) ที่ทัพ 2 ใน 15 แพ้ แต่อย่างน้อยก็ได้ทำคะแนนเกือบสูสี ครั้งหน้ากวาดลงนรกให้หมด
    เทศบาลนครรังสิต ตั้งเป้าว่าจะชนะยกทีม สุดท้าย สท.ทีมบ้านใหญ่ก็เข้าวิน เขต 1 ได้แค่หนึ่งคน เพราะชื่อหนึ่ง หนึ่งสมชื่อแหละแต่ไม่ใช่ชนะเหมือนครั้งชนะ สจ. รอบที่แล้วก็แพ้พี่สกล เขต 4 ปทุมธานี แต่ยังเป็นรองอาสุทินบ้านกลางอยู่ ตอนครั้งลง สส. พรรคสีน้ำเงิน ตอนนี้กลับพรรค พท. สีแดงแปร๊ดแล้วนะ ไปเลยไปทั้งพี่ทั้งน้องและไอ้เหน่งโอริโอ้ และเขต 2 ได้ตั้ง 2 คน ที่เหลือทีมเบอร์ 1 NEXT กินขาด
    เทศบาลเมืองคูคต เสียดายทัศนกานต์ที่ไม่ยอมรวมทีมกับทีมวีรพจน์ ที่ยายสุภารมย์ส่งไม้ต่อให้ และลงในนามทีม NEXT ชัดแล้วว่ายายสุภารมย์อยู่ทีมNEXTปทุมธานีหรือคนรักปทุมเดิมแล้ว แต่ทัศนกานต์ไม่ยอมหลีกทางให้ คือทาง NEXT ปทุมธานี ควรจะเสนอตำแหน่งให้ทัศนกานต์เค้า เค้าจะได้ให้ทีมวีรพจน์ของยายสุภารมณ์ได้แข่งอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย คือถ้าไม่แยกทีม ส้มคงไม่ได้เก้าอี้ สท ถึง 8 ที่นั่ง
    เทศบาลเมืองลำสามแก้ว ดร.เกียรติศักดิ์ (ธีราทัต) ส่องแสง เข้าวิน แต่ทีมNEXTได้ สท. แค่ 5 พอๆกับ ส้มที่ได้แค่ 5 แต่ทีมอีจุกเพื่อไทยได้ตั้ง 8 ตัว เลือกตั้งครั้งหน้า ขอทีมอีจุกเพื่อไทยไม่มีแม้แต่ที่นั่งเดียว ส่วนทีมNEXTขอให้ได้มากกว่าส้มหรือยกเมืองไปเลย ผมเคยเจอว่าที่นายกฯเกียรติศักดิ์ 2 ครั้งแล้ว อยากจะเสนอให้นายกฯเกียรติศักดิ์อัพเกรดโรงเรียนเทศบาล 1 ขจรเนติยุทธ ให้มี ม.ปลาย และเพิ่มห้องสายวิทย์คณิต EIS STEM ทุกระดับชั้นด้วยครับ
    เทศบาลเมืองลาดสวาย ทีมวินัยเข้าวินเหมือนเดิม แต่ลงในนาม NEXT และยังได้บ้านใหญ่ผาสุขร่วมสนับสนุนเป็นทัพหลักด้วย เดิมทีทีมบ้านใหญ่ผาสุขอยู่บ้านใหญ่ของชาญ หลังแพ้ให้กับวินัย ก็ยกทีมบ้านใหญ่ผาสุขไปช่วยนายกฯวินัย และหลังจากนั้นทีม NEXT ก็ได้อดีตบ้านใหญ่เครือข่ายชาญเข้ามาอยู่ในร่มธง NEXT ปทุมธานี หรือ คนรักปทุมเดิม ถึง 2 บ้านด้วยกันคือบ้านโลทะกะและบ้านผาสุข จาก 2 เทศบาลเมือง
    ส่วน เทศบาลเมืองบึงยี่โถ อันนี้ขาดไม่ได้ นายกฯรังสรรค์ ไม่ได้ลงในนามส้ม ทีมนายกฯรังสรรค์ถือว่า MVP ยกทีมจริงๆ แต่ สจ.อ๋อง ลงในนามพรรคส้ม แต่ได้คะแนนท่วมท้นต่อลูกชายของ สท.ไพบูลย์ ที่เพิ่งสอบได้ สท. เทศบาลนครรังสิต ผมเองก็มองว่า สจ.อ๋องไม่ควรไปอยู่พรรคส้มเลย พรรคส้มจะถีบหัวส่ง สจ.อ๋อง เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ขอ สจ.อ๋อง กลับมาอยู่ทีม NEXT ก่อนดีกว่า อย่าอยู่เลยส้ม ไม่รู้วันดีคืนดีปลด สจ.อ๋อง ออกจากพรรคส้มเมื่อไหร่ยังไม่ทราบ
    วันนี้รู้สึกใจฟูขึ้นมาเลย แต่ทัพหลัก 14 เทศบาลในนาม NEXT ปทุมธานี(คนรักปทุมเดิม) และอีกทัพหนึ่งคือทัพที่ 15 (ทีมสมชาติในNEXTปทุมธานีหรือคนรักปทุมเดิม) ทัพหลักชนะเกือบหมด ยกเว้นบางกะดี และเทศบาลตำบลธัญบุรี(กำลังจะยกระดับสู่เทศบาลนครธัญบุรีในอนาคต) ที่ทัพ 2 ใน 15 แพ้ แต่อย่างน้อยก็ได้ทำคะแนนเกือบสูสี ครั้งหน้ากวาดลงนรกให้หมด เทศบาลนครรังสิต ตั้งเป้าว่าจะชนะยกทีม สุดท้าย สท.ทีมบ้านใหญ่ก็เข้าวิน เขต 1 ได้แค่หนึ่งคน เพราะชื่อหนึ่ง หนึ่งสมชื่อแหละแต่ไม่ใช่ชนะเหมือนครั้งชนะ สจ. รอบที่แล้วก็แพ้พี่สกล เขต 4 ปทุมธานี แต่ยังเป็นรองอาสุทินบ้านกลางอยู่ ตอนครั้งลง สส. พรรคสีน้ำเงิน ตอนนี้กลับพรรค พท. สีแดงแปร๊ดแล้วนะ ไปเลยไปทั้งพี่ทั้งน้องและไอ้เหน่งโอริโอ้ และเขต 2 ได้ตั้ง 2 คน ที่เหลือทีมเบอร์ 1 NEXT กินขาด เทศบาลเมืองคูคต เสียดายทัศนกานต์ที่ไม่ยอมรวมทีมกับทีมวีรพจน์ ที่ยายสุภารมย์ส่งไม้ต่อให้ และลงในนามทีม NEXT ชัดแล้วว่ายายสุภารมย์อยู่ทีมNEXTปทุมธานีหรือคนรักปทุมเดิมแล้ว แต่ทัศนกานต์ไม่ยอมหลีกทางให้ คือทาง NEXT ปทุมธานี ควรจะเสนอตำแหน่งให้ทัศนกานต์เค้า เค้าจะได้ให้ทีมวีรพจน์ของยายสุภารมณ์ได้แข่งอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย คือถ้าไม่แยกทีม ส้มคงไม่ได้เก้าอี้ สท ถึง 8 ที่นั่ง เทศบาลเมืองลำสามแก้ว ดร.เกียรติศักดิ์ (ธีราทัต) ส่องแสง เข้าวิน แต่ทีมNEXTได้ สท. แค่ 5 พอๆกับ ส้มที่ได้แค่ 5 แต่ทีมอีจุกเพื่อไทยได้ตั้ง 8 ตัว เลือกตั้งครั้งหน้า ขอทีมอีจุกเพื่อไทยไม่มีแม้แต่ที่นั่งเดียว ส่วนทีมNEXTขอให้ได้มากกว่าส้มหรือยกเมืองไปเลย ผมเคยเจอว่าที่นายกฯเกียรติศักดิ์ 2 ครั้งแล้ว อยากจะเสนอให้นายกฯเกียรติศักดิ์อัพเกรดโรงเรียนเทศบาล 1 ขจรเนติยุทธ ให้มี ม.ปลาย และเพิ่มห้องสายวิทย์คณิต EIS STEM ทุกระดับชั้นด้วยครับ เทศบาลเมืองลาดสวาย ทีมวินัยเข้าวินเหมือนเดิม แต่ลงในนาม NEXT และยังได้บ้านใหญ่ผาสุขร่วมสนับสนุนเป็นทัพหลักด้วย เดิมทีทีมบ้านใหญ่ผาสุขอยู่บ้านใหญ่ของชาญ หลังแพ้ให้กับวินัย ก็ยกทีมบ้านใหญ่ผาสุขไปช่วยนายกฯวินัย และหลังจากนั้นทีม NEXT ก็ได้อดีตบ้านใหญ่เครือข่ายชาญเข้ามาอยู่ในร่มธง NEXT ปทุมธานี หรือ คนรักปทุมเดิม ถึง 2 บ้านด้วยกันคือบ้านโลทะกะและบ้านผาสุข จาก 2 เทศบาลเมือง ส่วน เทศบาลเมืองบึงยี่โถ อันนี้ขาดไม่ได้ นายกฯรังสรรค์ ไม่ได้ลงในนามส้ม ทีมนายกฯรังสรรค์ถือว่า MVP ยกทีมจริงๆ แต่ สจ.อ๋อง ลงในนามพรรคส้ม แต่ได้คะแนนท่วมท้นต่อลูกชายของ สท.ไพบูลย์ ที่เพิ่งสอบได้ สท. เทศบาลนครรังสิต ผมเองก็มองว่า สจ.อ๋องไม่ควรไปอยู่พรรคส้มเลย พรรคส้มจะถีบหัวส่ง สจ.อ๋อง เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ขอ สจ.อ๋อง กลับมาอยู่ทีม NEXT ก่อนดีกว่า อย่าอยู่เลยส้ม ไม่รู้วันดีคืนดีปลด สจ.อ๋อง ออกจากพรรคส้มเมื่อไหร่ยังไม่ทราบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ ดีเอสไอ หมูป่าไม่กลัวหนูผี ท้าฟัดอนุทินในขื่อมหาดไทย เจอกันทั้งศึก สตง.คัพ ที่พี่หนูต้องช่วยน้องมณเฑียร และ สว.คัพ ที่หนูผีต้องช่วยสว.สีน้ำเงินเสี่ยเน ซัดกันยิ่งกว่าหงส์ฟัดผี ยับยิ่งกว่าบาว่าชนราชัน
    #7ดอกจิก
    ♣ ดีเอสไอ หมูป่าไม่กลัวหนูผี ท้าฟัดอนุทินในขื่อมหาดไทย เจอกันทั้งศึก สตง.คัพ ที่พี่หนูต้องช่วยน้องมณเฑียร และ สว.คัพ ที่หนูผีต้องช่วยสว.สีน้ำเงินเสี่ยเน ซัดกันยิ่งกว่าหงส์ฟัดผี ยับยิ่งกว่าบาว่าชนราชัน #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • Linux Mint 22.2 และ LMDE 7 ได้รับชื่อใหม่ พร้อมอัปเดตธีม Mint-Y ให้ทันสมัยขึ้น Clem Lefebvre หัวหน้าโครงการ Linux Mint ได้ประกาศชื่อของ Linux Mint 22.2 และ LMDE 7 โดย Linux Mint 22.2 จะใช้ชื่อว่า "Zara" และ LMDE 7 จะใช้ชื่อว่า "Gigi" ซึ่งจะ อ้างอิงจาก Debian 13

    นอกจากนี้ ธีม Mint-Y ซึ่งเป็นธีมเริ่มต้นของ Linux Mint ได้รับการปรับปรุงให้ดูทันสมัยขึ้น โดยมี การเปลี่ยนแปลงสีเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับหลักการออกแบบสมัยใหม่ เช่น เพิ่มโทนสีน้ำเงินในธีมสว่างเพื่อให้ดูเป็นโลหะมากขึ้น

    ✅ Linux Mint 22.2 จะใช้ชื่อว่า "Zara" และ LMDE 7 จะใช้ชื่อว่า "Gigi"
    - LMDE 7 จะ อ้างอิงจาก Debian 13

    ✅ ธีม Mint-Y ได้รับการปรับปรุงให้ดูทันสมัยขึ้น
    - เพิ่มโทนสีน้ำเงินในธีมสว่าง เพื่อให้ดูเป็นโลหะและทันสมัยมากขึ้น
    - ทำให้ธีม ดูเย็นขึ้นแทนที่จะเป็นสีเทากลางแบบเดิม

    ✅ Flatpak apps ที่ใช้ libAdwaita จะสามารถใช้สี accent ที่ตั้งค่าใน Linux Mint ได้
    - ทำให้ แอปพลิเคชันเหล่านี้กลมกลืนกับเดสก์ท็อปมากขึ้น

    ✅ ทีมพัฒนา Linux Mint ได้ปรับปรุง Mint-Y และ Mint-X ให้เข้ากับ libAdwaita มากขึ้น
    - ปรับแต่ง libAdwaita ให้ไม่บังคับใช้ stylesheet ของตัวเอง และเคารพธีมของระบบ

    ✅ การทดสอบแสดงให้เห็นว่า GNOME Calendar, GNOME Characters และ Foliate ทำงานได้ดีขึ้น
    - แต่ทีมพัฒนายังต้องการ หาทางแก้ไขที่ยั่งยืนในระยะยาว

    https://www.neowin.net/news/linux-mint-222-and-lmde-7-get-names-mint-y-updated-to-look-more-modern/
    Linux Mint 22.2 และ LMDE 7 ได้รับชื่อใหม่ พร้อมอัปเดตธีม Mint-Y ให้ทันสมัยขึ้น Clem Lefebvre หัวหน้าโครงการ Linux Mint ได้ประกาศชื่อของ Linux Mint 22.2 และ LMDE 7 โดย Linux Mint 22.2 จะใช้ชื่อว่า "Zara" และ LMDE 7 จะใช้ชื่อว่า "Gigi" ซึ่งจะ อ้างอิงจาก Debian 13 นอกจากนี้ ธีม Mint-Y ซึ่งเป็นธีมเริ่มต้นของ Linux Mint ได้รับการปรับปรุงให้ดูทันสมัยขึ้น โดยมี การเปลี่ยนแปลงสีเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับหลักการออกแบบสมัยใหม่ เช่น เพิ่มโทนสีน้ำเงินในธีมสว่างเพื่อให้ดูเป็นโลหะมากขึ้น ✅ Linux Mint 22.2 จะใช้ชื่อว่า "Zara" และ LMDE 7 จะใช้ชื่อว่า "Gigi" - LMDE 7 จะ อ้างอิงจาก Debian 13 ✅ ธีม Mint-Y ได้รับการปรับปรุงให้ดูทันสมัยขึ้น - เพิ่มโทนสีน้ำเงินในธีมสว่าง เพื่อให้ดูเป็นโลหะและทันสมัยมากขึ้น - ทำให้ธีม ดูเย็นขึ้นแทนที่จะเป็นสีเทากลางแบบเดิม ✅ Flatpak apps ที่ใช้ libAdwaita จะสามารถใช้สี accent ที่ตั้งค่าใน Linux Mint ได้ - ทำให้ แอปพลิเคชันเหล่านี้กลมกลืนกับเดสก์ท็อปมากขึ้น ✅ ทีมพัฒนา Linux Mint ได้ปรับปรุง Mint-Y และ Mint-X ให้เข้ากับ libAdwaita มากขึ้น - ปรับแต่ง libAdwaita ให้ไม่บังคับใช้ stylesheet ของตัวเอง และเคารพธีมของระบบ ✅ การทดสอบแสดงให้เห็นว่า GNOME Calendar, GNOME Characters และ Foliate ทำงานได้ดีขึ้น - แต่ทีมพัฒนายังต้องการ หาทางแก้ไขที่ยั่งยืนในระยะยาว https://www.neowin.net/news/linux-mint-222-and-lmde-7-get-names-mint-y-updated-to-look-more-modern/
    WWW.NEOWIN.NET
    Linux Mint 22.2 and LMDE 7 get names, Mint-Y updated to look more modern
    Linux Mint 22.2 and LMDE 7 have received their names in a new announcement. Linux Mint is also due to get a slight theme tweak to make it look more modern.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • 07-05-68/01 : หมี CNN / สัพเพเหระ เม้าท์มอย สังขยา ปลาปิ้ง EP.60 TIME UP! หมดเวลาแล้วจ๊ะ? เหี้ยทนไม่ไหวแล้วจ๊ะ สั่งเปิดแล้วจ๊ะ แบบว่า "จะรีบไปตายห่าจ๊ะ" ขั้วใหม่ยิ้มรับ แค่นี้แหละ มันจะได้จบๆ ไปซะ ดีออก? เหี้ยไทย เหี้ยเทศ สุดอั้น ระเบิดฟอร์มหน้ามืด เผยธาตุแท้ จนควายคลั่งปชต.อายแทน รีบชิงหมาไปเกิดทันที? มาหมดทุกดอก อะไรก็ได้ ที่จะทำให้โลกยิงประทัดยักษ์ใส่กัน เหี้ยจนตรอกขั้นหมาสูงสุดแล้ว! ขับใจความให้ดีดี กูกำลังจะสื่อถึงผลลัพธ์ตามมา งานนี้ ระดับ 5 ดาว มิชเชอลินไม่ต้อง ประทับตรายอดตรีนอุ้มหมีแห่งอโยธยาเป็นประกัน งานนี้มีพลิกล็อค ถล่มทลาย แบบเทกระเป๋า คริสติน่า ไม่ได้กล่าว? อย่าช็อค! เดี๋ยวมรึงจะรู้ ว่าขั้วใหม่ เค้าเตรียมการมาดีแค่ไหน? รอแค่ "มรึงเปิด เท่านั้นแหละ" ใบเสร็จ ตราประทับ ตรายาง มาทันที

    อีแขกภาระตะเร่งเกมส์เกินไป ระวังจะเข้าทางตรีนจีนน่ะ มองให้ทะลุ อียิว อีเหี้ยมะกัน อีสิงโตเหี้ย แบ็คอัพ อีแขกโมดี้ หน้ามืด เอาเหยื่อมาล่อปุ๊บ รีบงับทันที เสร็จล่ะมรึงเอ๋ย พอดี ปากี เค้าเตรียมปล่อยตัวอิมร่าน ขานแล้วจ๊ะ จีนคุ้ม รัสเซียช่วย อิหร่านป้อน สุดท้าย ก็หนีไม่พ้นสงครามตัวแทน แต่มันต่างกันตรงที่ว่า "เปิดหน้าแล้ว" ไม่ต้องอีแอบอีกต่อไป ยี่ห้อขี้ข้าเหี้ยโผล่ขึ้นหน้าจอทันที แคชเมียร์คือสิ่งที่เหี้ยสิงโตทิ้งเอาไว้ เพื่อให้เอเซียใต้ตีกันเอง ทั้งปากี อินเดีย จีน แต่ขั้วใหม่ เค้าเดินเกมส์สูงกว่านั้นเยอะ ไม่ใช่แค่แคชเมียร์ แต่กำลังจะผนวกโลกรวมเป็นหนึ่งเดียว แล้วเขี่ยพวกมรึงออกไปจากสารบบ อีปากี สิ้นชาติ หากไม่มีจีนอุ้ม ดอกนี้ จะทำให้การเมืองภายในเปลี่ยนขั้วแบบฉับพลัน เหตุเพราะอีกองทัพปากี และบรรดานายพลที่เคยแดร๊กดุ มางวดนี้ แดร๊กไม่ได้ช่วยอะไร เอาแผ่นดินรอดก่อน ไฟมันรนก้นไงล่ะ? ชาวปากี ชูจีน รัสเซีย อิหร่าน คือพันธมิตรแล้ว แต่ฝ่ายการเมืองประกาศเป็นศัตรู มรึงคิดว่าใครจะรอด?

    ภาพยิ่งชัด CIVIL WAR มาเร็วกว่าที่คิด อีทรัมปป์ยื่นเงินให้เลย ใครยอมอพยพกลับบ้าน เอาเงินดอลล่าร์ไปแดร๊กซะให้อิ่ม ทำไมต้องเคลียร์ต่างด้าว เคลียร์ผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายออกไปก่อน เพื่อกำจัดม็อบเติมเงินเหี้ยล่ะไงล่ะ กำจัดหัวคะแนนปลอมที่มรึงเคยใช้ ปรากฎแห่กลับบ้านตรึม อีกนัยยะคือ การส่งสัญญานเคลียร์ภายในขั้นสูงสุด จัดกำลังเสริมอีลาออกไปก่อน อีทรัมปป์ เปิดศึกการค้าทั่วโลก เพื่อโดดเดี่ยวอเมริกา และต่อมาจะเปิดศึกภายใน เพื่อเคลียร์แผ่นดิน แยกน้ำ แยกปลา ตามสูตร ทำไมต้องเคลียร์? คำตอบคือเจ้าบ้านใหม่กำลังจะมาจ๊ะ อีทรัมปป์ขอ 7 รัฐใหญ่ 10 รัฐย่อย อีลาขอ 5 รัฐใหญ่ 5 รัฐย่อย แล้วค่อยไปผนวกกับอีแคนต่อไป อั๊ยยะ แผนเนียนกริบนะมรึง อเมริกันชนยังไม่รู้ตัวว่ากำลังจะสิ้นชาติ 52 รัฐเดิม จะกลายร่างเป็น 3 ประเทศใหม่ โดยหลักๆ จะเป็น TRUMP LAND/ NEW US-NEW CAN/ NEW JEWS STATE ชะตากรรมที่มรึงเลียงไม่ได้ ส่วนรัฐย่อย ประเทศเล็กอีกนับ 10 จะมีชนเผ่าอินเดียนแดงได้จัดตั้งประเทศตัวเองเสียที จากประชากรอินเดียนแดงที่เหลืออยู่ กว่า 200 ปี ฝันเพิ่งจะเป็นจริง ในอีกไม่ช้านี้

    กูว่าแล้ว! ทหารตบหน้ารมต.เสียหมา เงิบแดร๊กทั้งคณะ กูไม่ถอย กูไม่ไปไหนทั้งนั้น ผิดแผนสิจ๊ะ ไหนบอกว่า ให้กูมา แล้วทหารจะหลีกทางให้ สืบไปสืบมา ได้คำตอบเดียว วังถาม "ใครสั่ง" ฝ่ายการเมืองไบ้แดร๊กทันที ช่วงปลุกกระแสรักชาติอีขะแมร์ ถูกไทยเหยียบย่ำ ดูถูก กดขี่มาช้านาน อ๋อ..เหรอ อยากปลดปล่อย อยากโชว์พลัง พอโผล่ถึงเนินเขาปุ๊บ ไอ้สัด! มาจากไหนกันฟ่ะ ล่อมาเป็นกองพัน เตรียมต้อนรับ อีขะแมร์ถอยสิจ๊ะ วังวนเกมส์การเมืองวุ่น สีน้ำเงิน เตรียมเปลี่ยนแม่ทัพ เพ่นู๋ขาลงหลบไป ลูกอีเน ดันสุดลิ่มทิ่มประตู วงในชี้เป้า "อย่าสวนวัง" อาจตายโหงได้ อีเน มันนกรู้ อีลิ้น 18 แฉก เอาตัวรอดเสมอ ชูธงไตร์รงค์ รักสถาบัน มาเต็มตรีน อีนี่ คงจบการละครช่อง 3.5 มาชัวร์ เรื่องตอแหล สตรอเบอรี่ชีสเค็ก ขอให้บอก? อีฮุนเซน กำลังจะถูกปลดจากบังลังก์จ๊ะ กลิ่นตุตุ ปฎิวัติมาแต่ไกล อะไรน่ะ ใครสั่งสอน อ๋อ..ใครใช้ให้มรึงเสือกอยากแดร๊กเป็ดปักกิ่งกันล่ะ งวดนี้ ระวังจะโดนเป็ดแดร๊กแทนน่ะจ๊ะ?

    อี EU เสียงแตก กรีนแลนด์ถูกหมายหัว หวังตีกินฟรี แต่อีจตุรมิตรแห่งแดนไวกิ้ง ประสานมือ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย อีโคนม อีสวิงกิ้ง อีไวกิ้ง อีฟินน์ เตรียมสังเวย โดนศึก 2 ด้าน ทั้งอาร์คติค และกรีนแลนด์ เมื่อต้องเลือกจะตายห่า มรึงจะเลือกใครฆ่าดีล่ะ? อเมริโกย หรือราสปูตินดี ทางรอดเดียว สูตรอีฝรั่งจนตรอก คือเข้าหาจีน เพื่อส่งสัญญานถึงเครมลิน เบามือให้กูหน่อย ยังไงอีฟินน์ถูกผนวกอยู่แล้ว เพราะดินแดนติดรัสเซีย ส่วนที่เหลือ จะสวามิภักดิ์ หรือจะยกแผ่นดินให้ฟรีๆ ก็อยู่ที่มรึงตัดสินใจเอง อะไรน่ะ? อีเสี้ยนยามีแผนโจมตีรัสเซีย วันฉลองชัยชนะ 9 พฤษภาคม อั๊ยยะ! ให้ว่อง ให้ไว อย่าดีแต่เห่า ทำเลย ดีมั่กมาก เอาเลย ดีมั่กมาก ทั่วโลกเบื่อมรึงเต็มทน รีบๆ ไปตายห่าซะน่ะ ปูติน เค้าล่อเหยื่อมรึงอยู่ งับสิจ๊ะ รอเหี้ยอะไรอยู่ล่ะ? แผ่นดินเหี้ยทั้งหลายได้มอบและยกให้เครมลินโดยปริยายแล้ว แม้แต่คุณยายละม่อมยังต้องหลบให้ รู้มั้ยว่า 9 พฤษภาคมนี้ กองทัพรัสเซีย เตรียมกำลังไว้สูงสุดเพื่อโชว์ตบเหี้ยออกสื่อ เอาให้เห็นกันจะจะ คาตากันไปเลย? ยิง LIVE ถล่มสดด้วย เอามั้ย? ภาพดาวเทียมจ้องตาเป็นมัน ไม่ว่ามรึงคิดจะทำอะไร รัสเซียรู้ล่วงหน้าก่อนเสมอ เพราะมีหนอนบ่อนไส้ไปทั่วยูเครน แม้แต่คนใกล้ตัวอีเสี้ยนยา ระวังตัวให้ดีดีเหอะ คนใกล้ตัวมรึงเนี่ยแหละ ขายมรึงแดร๊ก เต็มตรีน ใครจะไม่เอา $20 ล้านเหรียญน่ะมรึง? แพงกว่าค่าหัว JOHN WICK ซะอีก!

    อีปากีคลั่ง เอาคืนอีแขกภาระตะ สอยบินรบร่วง 5 ลำ ถล่ม 9 แห่ง งานนี้ "ศักดิ์ดำ" ไม่ต้องมาคุย อิมร่าน ขานมาแน่ ปล่อยตัวเมื่อไหร่ อีแขกขี้แตกทันที เพราะแนวร่วมชาวปากี หนุนอิมร่าน ขาน กลับมารักษาแผ่นดินท่วมท้น บทมันจะส่งให้เป็นวีรบุรุษ มรึงเข้าใจยัง? อาวุธปากี จากไหนกันจ๊ะ วงในชี้เป้า ทั้งอิหร่าน จีน มีตรึม งานนี้ รัสเซียจะไม่ยุ่ง เพราะมรึงเสือกไปจับมือกับเหี้ยตะวันตก หวังมาตีกิน รวบแดร๊กปากี รัสเซียคบแค่การค้า แต่ชิงแผ่นดินคนอื่นเค้า ปูตินบอก "ไอ้โง่" ริจะเสือกวัดรอยตรีนจีน มรึงคิดว่ากูจะเลือกมรึง หรือจีน กันล่ะ? ไอ้ควาย..อสรพิษอย่างมรึง ทำไม กูจะไม่รู้จัก ขนาดอยู่ BRICS ด้วยกัน เสือกจะเล่นบาลี เลี่ยง BRICS DIGITAL CURRENCY ดันหยวนผงาด แต่จะเอารูปีขึ้นแทน ฝันไกลเกินไปป่ะ? สีจิ้นผิง รอรับผลประโยชน์เต็มตรีน เมื่ออีแขก เข้าสู่โหมดสงคราม การค้าจะชะงัก การขายจะหดหาย ผู้คนจะอดตาย แย่งชิงกันอย่างกะหมา ใครเอาแผ่นดินไปสุ่มเสี่ยงสงคราม หากไม่มีความพร้อมจริง อีโมดี้ ก้าวพลาด เชื่อไอ้อีตะวันตกมากจนเกินไป รบกันมีแต่พังทั้ง 2 ฝ่าย ใครได้ประโยชน์ล่ะ มันเสี้ยมมรึง เพื่อจะขายอาวุธให้มรึง ไอ้ควายเอ๋ย? ผู้นำโง่ แผ่นดินจะสิ้น ผู้นำควาย แผ่นดินจะหรรษา(พากันลงนรกกันหมด)

    ปล.การเมืองโลกระอุ การเมืองภายในเอเซียทะลุปรอทแตก การเปลี่ยนแปลงกำลังจะมา ทั้งหมดมาจากการแยกน้ำ แยกปลา และการเอาตัวรอด ของบรรดาประเทศโลกที่ 3 ภาพรวมเริ่มเด่นชัด ฝ่ายโลกที่ต้องการความสงบสุข เดินตามขั้วใหม่ทันที ส่วนฝ่ายโลกที่หิวแสง และหน้ามืดจะเดินตามเหี้ยลงขุมนรกกันหมด จับตา กองทัพไทย ปฎิวัติฝ่ายการเมือง อีขะแมร์เสียว อีหม่องช็อค อีอิเหนาจ้องตาไม่กระพริบ สูตรรักแผ่นดินเกิดจะตามมา พลังแผ่นดินจะก่อเกิดแบบไม่ได้นัดหมาย สุดทางเดินตระกูลเหี้ยจัญไรแผ่นดิน เสนียดที่เกาะกินไทยมายาวนาน กำลังจะถูกปลดล็อคโดยศาลไคฟง หมายจับรออยู่ ชั้น 14 ตายยกชั้น ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ แม้แต่ยบังลังก์ศาลบางตัว ก็หัวขาดจ๊ะ เชือดไม่มีเลี้ยงไว้ เกมส์พลิก ขี้ข้าทรยศ หนีเอาตัวรอดกันหมด อาเซียนจะประชุมลับ การเดินหมากของอีปินส์ จะทำให้อาเซียนวุ่นวายใจ เพราะไม่มีใครต้องการจะรบกับจีนซึ่งหน้า แก้ง่ายกว่ามั้ย แค่ถีบมันออก แล้วเอาชาติใหม่เสียบแทน รอท่าทีชัดเจน ประกาศให้ชัด มรึงจะอยู่อาเซียนต่อ แต่ไม่เสือกทำตามมติอาเซียน อีปินส์ออก ใครยิ้มล่ะ? ชาติอาเซียนได้สิทธิ์อีกเยอะ ใครก็อยากจะเข้า อู่ข้าว อู่น้ำโลก การันตี ไม่มีอดตาย? ส่วนสงครามปาหี่เสี้ยมอาเซียน นั่นแค่หน้าฉาก อาเซียนจะไม่รบกันเอง เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไรทั้งนั้น ยกเว้นนอกจากมรึงรับใบสั่งใครมา? ยอมแล้วจ๊ะ รู้ฤทธิ์พิษสงแล้วจ๊ะ ไม่กล้าแล้วจ๊ะ อีทรัมปป์ถอย สั่งยกเลิกโจมตีเยเมน เพราะเสียค่าโง่ไปเยอะ หักลบกลบหนี้ ติดลบกว่า $15000 ล้านเหรียญ แกว่งส้นตรีนหาเสี้ยนของแท้ แต่อียิวยังหน้ามืดต่อไป โดนถล่มกลับยับเหมือนเดิม ไฮฟาไม่เหลือซากแล้ว ไฟป่ามาเผา ขีปนาวุธมาเต็มหัว มรึงยังไม่เข็ด ต้องเอาให้ราบพนาสูญสิน่ะ ลูกหลานซาลาดิน ชูธง "สงครามศักดิ์สิทธิ์แล้ว" งานนี้ ไม่ถอย ฆ่าจนกว่าจะหมดแผ่นดิน ยิงได้ยิงไป ทนได้ทนไป จนกว่าจะไม่เหลือแม้แต่หมาตัวเดียว อิสราเอลทรุดหนัก ไร้ขี้ข้าปกป้องรอบตัว

    หมี CNN(รัสเซียประกาศยึดภูมิภาคซูมีของยูเครน ชายแดนติดเคิร์สค์เป็นเขตกันชนนาโต้ ส่งสัญญานชัดเจน ไม่ได้เอาแค่ยูเครน แต่กำลังจะเปิดศึกต่อกับ NATO ที่กำลังแตกแถว และเสียรางวัดตอนนี้ แผนปูทางสู่ท่อแก็สอาร์คติคก็มา ใครบอกเหี้ยตะวันตกสุมหัวจะรุมรัสเซียกันล่ะ ความจริงมันตรงกันข้าม ถึงได้หนีหางจุกตูดไปแปซิฟิคแทน แต่อย่าคิดว่าจะรอด เพราะจีนเอง ก็เตรียมต้อนรับพวกมรึงอย่างอบอุ่นเช่นกัน จะหนีไปไหนได้ หากไม่คิดจะเจรจาสันติภาพจริง ที่ไม่ใช่มัวแต่จัดฉากเล่นละครไปวันวัน เมื่ออยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ก็จงเป็นเมืองขึ้นกูซะ ปูตินไม่ได้กล่าว สีจินผิงไม่ได้พูด แค่ยักคิ้วให้..คือรู้กัน?)
    07 พฤษภาคม 68
    15.56 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    07-05-68/01 : หมี CNN / สัพเพเหระ เม้าท์มอย สังขยา ปลาปิ้ง EP.60 TIME UP! หมดเวลาแล้วจ๊ะ? เหี้ยทนไม่ไหวแล้วจ๊ะ สั่งเปิดแล้วจ๊ะ แบบว่า "จะรีบไปตายห่าจ๊ะ" ขั้วใหม่ยิ้มรับ แค่นี้แหละ มันจะได้จบๆ ไปซะ ดีออก? เหี้ยไทย เหี้ยเทศ สุดอั้น ระเบิดฟอร์มหน้ามืด เผยธาตุแท้ จนควายคลั่งปชต.อายแทน รีบชิงหมาไปเกิดทันที? มาหมดทุกดอก อะไรก็ได้ ที่จะทำให้โลกยิงประทัดยักษ์ใส่กัน เหี้ยจนตรอกขั้นหมาสูงสุดแล้ว! ขับใจความให้ดีดี กูกำลังจะสื่อถึงผลลัพธ์ตามมา งานนี้ ระดับ 5 ดาว มิชเชอลินไม่ต้อง ประทับตรายอดตรีนอุ้มหมีแห่งอโยธยาเป็นประกัน งานนี้มีพลิกล็อค ถล่มทลาย แบบเทกระเป๋า คริสติน่า ไม่ได้กล่าว? อย่าช็อค! เดี๋ยวมรึงจะรู้ ว่าขั้วใหม่ เค้าเตรียมการมาดีแค่ไหน? รอแค่ "มรึงเปิด เท่านั้นแหละ" ใบเสร็จ ตราประทับ ตรายาง มาทันที อีแขกภาระตะเร่งเกมส์เกินไป ระวังจะเข้าทางตรีนจีนน่ะ มองให้ทะลุ อียิว อีเหี้ยมะกัน อีสิงโตเหี้ย แบ็คอัพ อีแขกโมดี้ หน้ามืด เอาเหยื่อมาล่อปุ๊บ รีบงับทันที เสร็จล่ะมรึงเอ๋ย พอดี ปากี เค้าเตรียมปล่อยตัวอิมร่าน ขานแล้วจ๊ะ จีนคุ้ม รัสเซียช่วย อิหร่านป้อน สุดท้าย ก็หนีไม่พ้นสงครามตัวแทน แต่มันต่างกันตรงที่ว่า "เปิดหน้าแล้ว" ไม่ต้องอีแอบอีกต่อไป ยี่ห้อขี้ข้าเหี้ยโผล่ขึ้นหน้าจอทันที แคชเมียร์คือสิ่งที่เหี้ยสิงโตทิ้งเอาไว้ เพื่อให้เอเซียใต้ตีกันเอง ทั้งปากี อินเดีย จีน แต่ขั้วใหม่ เค้าเดินเกมส์สูงกว่านั้นเยอะ ไม่ใช่แค่แคชเมียร์ แต่กำลังจะผนวกโลกรวมเป็นหนึ่งเดียว แล้วเขี่ยพวกมรึงออกไปจากสารบบ อีปากี สิ้นชาติ หากไม่มีจีนอุ้ม ดอกนี้ จะทำให้การเมืองภายในเปลี่ยนขั้วแบบฉับพลัน เหตุเพราะอีกองทัพปากี และบรรดานายพลที่เคยแดร๊กดุ มางวดนี้ แดร๊กไม่ได้ช่วยอะไร เอาแผ่นดินรอดก่อน ไฟมันรนก้นไงล่ะ? ชาวปากี ชูจีน รัสเซีย อิหร่าน คือพันธมิตรแล้ว แต่ฝ่ายการเมืองประกาศเป็นศัตรู มรึงคิดว่าใครจะรอด? ภาพยิ่งชัด CIVIL WAR มาเร็วกว่าที่คิด อีทรัมปป์ยื่นเงินให้เลย ใครยอมอพยพกลับบ้าน เอาเงินดอลล่าร์ไปแดร๊กซะให้อิ่ม ทำไมต้องเคลียร์ต่างด้าว เคลียร์ผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายออกไปก่อน เพื่อกำจัดม็อบเติมเงินเหี้ยล่ะไงล่ะ กำจัดหัวคะแนนปลอมที่มรึงเคยใช้ ปรากฎแห่กลับบ้านตรึม อีกนัยยะคือ การส่งสัญญานเคลียร์ภายในขั้นสูงสุด จัดกำลังเสริมอีลาออกไปก่อน อีทรัมปป์ เปิดศึกการค้าทั่วโลก เพื่อโดดเดี่ยวอเมริกา และต่อมาจะเปิดศึกภายใน เพื่อเคลียร์แผ่นดิน แยกน้ำ แยกปลา ตามสูตร ทำไมต้องเคลียร์? คำตอบคือเจ้าบ้านใหม่กำลังจะมาจ๊ะ อีทรัมปป์ขอ 7 รัฐใหญ่ 10 รัฐย่อย อีลาขอ 5 รัฐใหญ่ 5 รัฐย่อย แล้วค่อยไปผนวกกับอีแคนต่อไป อั๊ยยะ แผนเนียนกริบนะมรึง อเมริกันชนยังไม่รู้ตัวว่ากำลังจะสิ้นชาติ 52 รัฐเดิม จะกลายร่างเป็น 3 ประเทศใหม่ โดยหลักๆ จะเป็น TRUMP LAND/ NEW US-NEW CAN/ NEW JEWS STATE ชะตากรรมที่มรึงเลียงไม่ได้ ส่วนรัฐย่อย ประเทศเล็กอีกนับ 10 จะมีชนเผ่าอินเดียนแดงได้จัดตั้งประเทศตัวเองเสียที จากประชากรอินเดียนแดงที่เหลืออยู่ กว่า 200 ปี ฝันเพิ่งจะเป็นจริง ในอีกไม่ช้านี้ กูว่าแล้ว! ทหารตบหน้ารมต.เสียหมา เงิบแดร๊กทั้งคณะ กูไม่ถอย กูไม่ไปไหนทั้งนั้น ผิดแผนสิจ๊ะ ไหนบอกว่า ให้กูมา แล้วทหารจะหลีกทางให้ สืบไปสืบมา ได้คำตอบเดียว วังถาม "ใครสั่ง" ฝ่ายการเมืองไบ้แดร๊กทันที ช่วงปลุกกระแสรักชาติอีขะแมร์ ถูกไทยเหยียบย่ำ ดูถูก กดขี่มาช้านาน อ๋อ..เหรอ อยากปลดปล่อย อยากโชว์พลัง พอโผล่ถึงเนินเขาปุ๊บ ไอ้สัด! มาจากไหนกันฟ่ะ ล่อมาเป็นกองพัน เตรียมต้อนรับ อีขะแมร์ถอยสิจ๊ะ วังวนเกมส์การเมืองวุ่น สีน้ำเงิน เตรียมเปลี่ยนแม่ทัพ เพ่นู๋ขาลงหลบไป ลูกอีเน ดันสุดลิ่มทิ่มประตู วงในชี้เป้า "อย่าสวนวัง" อาจตายโหงได้ อีเน มันนกรู้ อีลิ้น 18 แฉก เอาตัวรอดเสมอ ชูธงไตร์รงค์ รักสถาบัน มาเต็มตรีน อีนี่ คงจบการละครช่อง 3.5 มาชัวร์ เรื่องตอแหล สตรอเบอรี่ชีสเค็ก ขอให้บอก? อีฮุนเซน กำลังจะถูกปลดจากบังลังก์จ๊ะ กลิ่นตุตุ ปฎิวัติมาแต่ไกล อะไรน่ะ ใครสั่งสอน อ๋อ..ใครใช้ให้มรึงเสือกอยากแดร๊กเป็ดปักกิ่งกันล่ะ งวดนี้ ระวังจะโดนเป็ดแดร๊กแทนน่ะจ๊ะ? อี EU เสียงแตก กรีนแลนด์ถูกหมายหัว หวังตีกินฟรี แต่อีจตุรมิตรแห่งแดนไวกิ้ง ประสานมือ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย อีโคนม อีสวิงกิ้ง อีไวกิ้ง อีฟินน์ เตรียมสังเวย โดนศึก 2 ด้าน ทั้งอาร์คติค และกรีนแลนด์ เมื่อต้องเลือกจะตายห่า มรึงจะเลือกใครฆ่าดีล่ะ? อเมริโกย หรือราสปูตินดี ทางรอดเดียว สูตรอีฝรั่งจนตรอก คือเข้าหาจีน เพื่อส่งสัญญานถึงเครมลิน เบามือให้กูหน่อย ยังไงอีฟินน์ถูกผนวกอยู่แล้ว เพราะดินแดนติดรัสเซีย ส่วนที่เหลือ จะสวามิภักดิ์ หรือจะยกแผ่นดินให้ฟรีๆ ก็อยู่ที่มรึงตัดสินใจเอง อะไรน่ะ? อีเสี้ยนยามีแผนโจมตีรัสเซีย วันฉลองชัยชนะ 9 พฤษภาคม อั๊ยยะ! ให้ว่อง ให้ไว อย่าดีแต่เห่า ทำเลย ดีมั่กมาก เอาเลย ดีมั่กมาก ทั่วโลกเบื่อมรึงเต็มทน รีบๆ ไปตายห่าซะน่ะ ปูติน เค้าล่อเหยื่อมรึงอยู่ งับสิจ๊ะ รอเหี้ยอะไรอยู่ล่ะ? แผ่นดินเหี้ยทั้งหลายได้มอบและยกให้เครมลินโดยปริยายแล้ว แม้แต่คุณยายละม่อมยังต้องหลบให้ รู้มั้ยว่า 9 พฤษภาคมนี้ กองทัพรัสเซีย เตรียมกำลังไว้สูงสุดเพื่อโชว์ตบเหี้ยออกสื่อ เอาให้เห็นกันจะจะ คาตากันไปเลย? ยิง LIVE ถล่มสดด้วย เอามั้ย? ภาพดาวเทียมจ้องตาเป็นมัน ไม่ว่ามรึงคิดจะทำอะไร รัสเซียรู้ล่วงหน้าก่อนเสมอ เพราะมีหนอนบ่อนไส้ไปทั่วยูเครน แม้แต่คนใกล้ตัวอีเสี้ยนยา ระวังตัวให้ดีดีเหอะ คนใกล้ตัวมรึงเนี่ยแหละ ขายมรึงแดร๊ก เต็มตรีน ใครจะไม่เอา $20 ล้านเหรียญน่ะมรึง? แพงกว่าค่าหัว JOHN WICK ซะอีก! อีปากีคลั่ง เอาคืนอีแขกภาระตะ สอยบินรบร่วง 5 ลำ ถล่ม 9 แห่ง งานนี้ "ศักดิ์ดำ" ไม่ต้องมาคุย อิมร่าน ขานมาแน่ ปล่อยตัวเมื่อไหร่ อีแขกขี้แตกทันที เพราะแนวร่วมชาวปากี หนุนอิมร่าน ขาน กลับมารักษาแผ่นดินท่วมท้น บทมันจะส่งให้เป็นวีรบุรุษ มรึงเข้าใจยัง? อาวุธปากี จากไหนกันจ๊ะ วงในชี้เป้า ทั้งอิหร่าน จีน มีตรึม งานนี้ รัสเซียจะไม่ยุ่ง เพราะมรึงเสือกไปจับมือกับเหี้ยตะวันตก หวังมาตีกิน รวบแดร๊กปากี รัสเซียคบแค่การค้า แต่ชิงแผ่นดินคนอื่นเค้า ปูตินบอก "ไอ้โง่" ริจะเสือกวัดรอยตรีนจีน มรึงคิดว่ากูจะเลือกมรึง หรือจีน กันล่ะ? ไอ้ควาย..อสรพิษอย่างมรึง ทำไม กูจะไม่รู้จัก ขนาดอยู่ BRICS ด้วยกัน เสือกจะเล่นบาลี เลี่ยง BRICS DIGITAL CURRENCY ดันหยวนผงาด แต่จะเอารูปีขึ้นแทน ฝันไกลเกินไปป่ะ? สีจิ้นผิง รอรับผลประโยชน์เต็มตรีน เมื่ออีแขก เข้าสู่โหมดสงคราม การค้าจะชะงัก การขายจะหดหาย ผู้คนจะอดตาย แย่งชิงกันอย่างกะหมา ใครเอาแผ่นดินไปสุ่มเสี่ยงสงคราม หากไม่มีความพร้อมจริง อีโมดี้ ก้าวพลาด เชื่อไอ้อีตะวันตกมากจนเกินไป รบกันมีแต่พังทั้ง 2 ฝ่าย ใครได้ประโยชน์ล่ะ มันเสี้ยมมรึง เพื่อจะขายอาวุธให้มรึง ไอ้ควายเอ๋ย? ผู้นำโง่ แผ่นดินจะสิ้น ผู้นำควาย แผ่นดินจะหรรษา(พากันลงนรกกันหมด) ปล.การเมืองโลกระอุ การเมืองภายในเอเซียทะลุปรอทแตก การเปลี่ยนแปลงกำลังจะมา ทั้งหมดมาจากการแยกน้ำ แยกปลา และการเอาตัวรอด ของบรรดาประเทศโลกที่ 3 ภาพรวมเริ่มเด่นชัด ฝ่ายโลกที่ต้องการความสงบสุข เดินตามขั้วใหม่ทันที ส่วนฝ่ายโลกที่หิวแสง และหน้ามืดจะเดินตามเหี้ยลงขุมนรกกันหมด จับตา กองทัพไทย ปฎิวัติฝ่ายการเมือง อีขะแมร์เสียว อีหม่องช็อค อีอิเหนาจ้องตาไม่กระพริบ สูตรรักแผ่นดินเกิดจะตามมา พลังแผ่นดินจะก่อเกิดแบบไม่ได้นัดหมาย สุดทางเดินตระกูลเหี้ยจัญไรแผ่นดิน เสนียดที่เกาะกินไทยมายาวนาน กำลังจะถูกปลดล็อคโดยศาลไคฟง หมายจับรออยู่ ชั้น 14 ตายยกชั้น ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ แม้แต่ยบังลังก์ศาลบางตัว ก็หัวขาดจ๊ะ เชือดไม่มีเลี้ยงไว้ เกมส์พลิก ขี้ข้าทรยศ หนีเอาตัวรอดกันหมด อาเซียนจะประชุมลับ การเดินหมากของอีปินส์ จะทำให้อาเซียนวุ่นวายใจ เพราะไม่มีใครต้องการจะรบกับจีนซึ่งหน้า แก้ง่ายกว่ามั้ย แค่ถีบมันออก แล้วเอาชาติใหม่เสียบแทน รอท่าทีชัดเจน ประกาศให้ชัด มรึงจะอยู่อาเซียนต่อ แต่ไม่เสือกทำตามมติอาเซียน อีปินส์ออก ใครยิ้มล่ะ? ชาติอาเซียนได้สิทธิ์อีกเยอะ ใครก็อยากจะเข้า อู่ข้าว อู่น้ำโลก การันตี ไม่มีอดตาย? ส่วนสงครามปาหี่เสี้ยมอาเซียน นั่นแค่หน้าฉาก อาเซียนจะไม่รบกันเอง เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไรทั้งนั้น ยกเว้นนอกจากมรึงรับใบสั่งใครมา? ยอมแล้วจ๊ะ รู้ฤทธิ์พิษสงแล้วจ๊ะ ไม่กล้าแล้วจ๊ะ อีทรัมปป์ถอย สั่งยกเลิกโจมตีเยเมน เพราะเสียค่าโง่ไปเยอะ หักลบกลบหนี้ ติดลบกว่า $15000 ล้านเหรียญ แกว่งส้นตรีนหาเสี้ยนของแท้ แต่อียิวยังหน้ามืดต่อไป โดนถล่มกลับยับเหมือนเดิม ไฮฟาไม่เหลือซากแล้ว ไฟป่ามาเผา ขีปนาวุธมาเต็มหัว มรึงยังไม่เข็ด ต้องเอาให้ราบพนาสูญสิน่ะ ลูกหลานซาลาดิน ชูธง "สงครามศักดิ์สิทธิ์แล้ว" งานนี้ ไม่ถอย ฆ่าจนกว่าจะหมดแผ่นดิน ยิงได้ยิงไป ทนได้ทนไป จนกว่าจะไม่เหลือแม้แต่หมาตัวเดียว อิสราเอลทรุดหนัก ไร้ขี้ข้าปกป้องรอบตัว หมี CNN(รัสเซียประกาศยึดภูมิภาคซูมีของยูเครน ชายแดนติดเคิร์สค์เป็นเขตกันชนนาโต้ ส่งสัญญานชัดเจน ไม่ได้เอาแค่ยูเครน แต่กำลังจะเปิดศึกต่อกับ NATO ที่กำลังแตกแถว และเสียรางวัดตอนนี้ แผนปูทางสู่ท่อแก็สอาร์คติคก็มา ใครบอกเหี้ยตะวันตกสุมหัวจะรุมรัสเซียกันล่ะ ความจริงมันตรงกันข้าม ถึงได้หนีหางจุกตูดไปแปซิฟิคแทน แต่อย่าคิดว่าจะรอด เพราะจีนเอง ก็เตรียมต้อนรับพวกมรึงอย่างอบอุ่นเช่นกัน จะหนีไปไหนได้ หากไม่คิดจะเจรจาสันติภาพจริง ที่ไม่ใช่มัวแต่จัดฉากเล่นละครไปวันวัน เมื่ออยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ก็จงเป็นเมืองขึ้นกูซะ ปูตินไม่ได้กล่าว สีจินผิงไม่ได้พูด แค่ยักคิ้วให้..คือรู้กัน?) 07 พฤษภาคม 68 15.56 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 641 มุมมอง 0 รีวิว
  • “กัน จอมพลัง” พาลูกสาวและลูกชายของตากับยายกระบะคู่กรณี “พีช” รับมอบรถกระบะมือสอง มูลค่ากว่า 6 แสนบาท พร้อมมอเตอร์ไซค์ จาก “บิ๊ก สระแก้ว” รวมถึงเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า และแฟนคลับ รวม 5 แสนบาท

    วันนี้ (26 เม.ย.) ที่ร้าน Davin Cafe นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พร้อมด้วยลูกสาวและลูกชาย ของตากับยาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากกรณีนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือพีช บุตรชายของ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยวอดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี ขับรถ BMW กระแทกรถกระบะของตากับยายบนทางด่วน ได้เดินทางมารับรถกะบะ อีซูซุ แค็บ Calendar ปี 2022 สีบรอนซ์ ราคา 600,000 บาท มอเตอร์ไซค์ ฮอนด้าเวฟ 110i 2025 สีน้ำ-ขาว ราคา 47,000 บาท รวมถึงอาหารทั้งหมูยอ ข้าวสารจากทางครอบครัวของนายอรรถวัฒน์ ตังคะประเสริฐ หรือบิ๊ก สระแก้ว และนายสุรพล ตังคะประเสริฐ ประธานบริษัท ดีที่สุดคาร์แอนเซอวิส ฮอนด้าประสิทธิ์ระแก้ว(2554) ปตท. เฮียพลสั่งลุยซ้อน้องจัดเต็ม มั่งมีศรีสุข

    กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการประกาศตามหาซื้อรถให้กับทางคุณตาคุณยาย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีหลายคนเสนอเข้ามา ซึ่งทางคุณบิ๊กมีการเสนอรถฟอร์จูนเนอร์มาให้กับครอบครัวคุณตาคุณยายด้วย ยอมรับว่า ตนเองตกใจเป็นอย่างมากเพราะฟอร์จูนเนอร์ออกใหม่ราคา 1 ล้านกว่าบาท จึงได้มีการไปปรึกษาคุณตาคุณยาย แต่ทั้งสองคนไม่กล้ารับ เพราะอยากจะได้รถที่เป็นกระบะแคปเหมือนเดิม และไม่ได้หวังว่าจะต้องได้รถมือหนึ่ง ซึ่งคุณตาคุณยายทำให้ตนรู้สึกดีเป็นอย่างมากที่ไม่ได้ช่วยโอกาสอยากจะได้อะไรเป็นสุรต่านร่ำรวย กลับทำให้รู้สึกสงสารคุณตาคุณยายมากกว่าเดิม

    จึงจำเป็นที่จะต้องหาดูรถ ให้คุณตาคุณยายใหม่ จนคุณบิ๊กเสนอรถเข้ามาดูใหม่ เป็นรถกระบะแคปปี 2022 เลขกิโลนั้นไม่ได้เยอะมาก ซึ่งทางคุณบิ๊กนั้นต้องการที่จะช่วยจริงๆ ได้มีการลากจากจังหวัดสระแก้วมาที่กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งมอบให้กับคุณตาคุณยาย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000039217

    #MGROnline #กันจอมพลัง
    “กัน จอมพลัง” พาลูกสาวและลูกชายของตากับยายกระบะคู่กรณี “พีช” รับมอบรถกระบะมือสอง มูลค่ากว่า 6 แสนบาท พร้อมมอเตอร์ไซค์ จาก “บิ๊ก สระแก้ว” รวมถึงเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า และแฟนคลับ รวม 5 แสนบาท • วันนี้ (26 เม.ย.) ที่ร้าน Davin Cafe นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พร้อมด้วยลูกสาวและลูกชาย ของตากับยาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากกรณีนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือพีช บุตรชายของ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยวอดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี ขับรถ BMW กระแทกรถกระบะของตากับยายบนทางด่วน ได้เดินทางมารับรถกะบะ อีซูซุ แค็บ Calendar ปี 2022 สีบรอนซ์ ราคา 600,000 บาท มอเตอร์ไซค์ ฮอนด้าเวฟ 110i 2025 สีน้ำ-ขาว ราคา 47,000 บาท รวมถึงอาหารทั้งหมูยอ ข้าวสารจากทางครอบครัวของนายอรรถวัฒน์ ตังคะประเสริฐ หรือบิ๊ก สระแก้ว และนายสุรพล ตังคะประเสริฐ ประธานบริษัท ดีที่สุดคาร์แอนเซอวิส ฮอนด้าประสิทธิ์ระแก้ว(2554) ปตท. เฮียพลสั่งลุยซ้อน้องจัดเต็ม มั่งมีศรีสุข • กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการประกาศตามหาซื้อรถให้กับทางคุณตาคุณยาย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีหลายคนเสนอเข้ามา ซึ่งทางคุณบิ๊กมีการเสนอรถฟอร์จูนเนอร์มาให้กับครอบครัวคุณตาคุณยายด้วย ยอมรับว่า ตนเองตกใจเป็นอย่างมากเพราะฟอร์จูนเนอร์ออกใหม่ราคา 1 ล้านกว่าบาท จึงได้มีการไปปรึกษาคุณตาคุณยาย แต่ทั้งสองคนไม่กล้ารับ เพราะอยากจะได้รถที่เป็นกระบะแคปเหมือนเดิม และไม่ได้หวังว่าจะต้องได้รถมือหนึ่ง ซึ่งคุณตาคุณยายทำให้ตนรู้สึกดีเป็นอย่างมากที่ไม่ได้ช่วยโอกาสอยากจะได้อะไรเป็นสุรต่านร่ำรวย กลับทำให้รู้สึกสงสารคุณตาคุณยายมากกว่าเดิม • จึงจำเป็นที่จะต้องหาดูรถ ให้คุณตาคุณยายใหม่ จนคุณบิ๊กเสนอรถเข้ามาดูใหม่ เป็นรถกระบะแคปปี 2022 เลขกิโลนั้นไม่ได้เยอะมาก ซึ่งทางคุณบิ๊กนั้นต้องการที่จะช่วยจริงๆ ได้มีการลากจากจังหวัดสระแก้วมาที่กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งมอบให้กับคุณตาคุณยาย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000039217 • #MGROnline #กันจอมพลัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 500 มุมมอง 0 รีวิว
  • Bluesky กำลังพัฒนาระบบ Blue Check Verification ใหม่ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบัญชีผู้ใช้ โดยระบบนี้จะใช้ Trusted Verifiers เช่น องค์กรข่าวหรือกลุ่มที่ได้รับการยอมรับ แทนการจ่ายเงินเพื่อรับเครื่องหมายยืนยันตัวตนแบบที่แพลตฟอร์ม X ใช้

    ✅ ระบบใหม่ใช้ Trusted Verifiers แทนการจ่ายเงิน
    - Trusted Verifiers เช่น องค์กรข่าวหรือกลุ่มที่ได้รับการยอมรับ จะเป็นผู้มอบเครื่องหมายยืนยันตัวตน
    - ผู้ใช้สามารถดูได้ว่า ใครเป็นผู้ยืนยันตัวตนของบัญชี

    ✅ เครื่องหมายยืนยันตัวตนมีสองรูปแบบ
    - บัญชีที่ได้รับการยืนยันจะมี วงกลมสีน้ำเงินพร้อมเครื่องหมายถูกสีขาว
    - Trusted Verifiers จะมี วงกลมสีน้ำเงินแบบ scalloped พร้อมเครื่องหมายถูกสีขาว

    ✅ ระบบนี้ออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาของแพลตฟอร์ม X
    - แพลตฟอร์ม X ใช้ระบบจ่ายเงินเพื่อรับเครื่องหมายยืนยันตัวตน ซึ่งถูกวิจารณ์ว่า ลดความน่าเชื่อถือของเครื่องหมาย
    - Bluesky หวังว่าระบบใหม่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือโดยไม่ต้องพึ่งพาการจ่ายเงิน

    ✅ ผู้ใช้สามารถเลือกซ่อนเครื่องหมายยืนยันตัวตนได้
    - Bluesky จะเพิ่มตัวเลือกให้ผู้ใช้ ซ่อนเครื่องหมายยืนยันตัวตนทั้งหมดในหน้าการตั้งค่า

    https://www.neowin.net/news/angry-disappointed-users-react-to-blueskys-upcoming-blue-check-mark-verification-system/
    Bluesky กำลังพัฒนาระบบ Blue Check Verification ใหม่ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบัญชีผู้ใช้ โดยระบบนี้จะใช้ Trusted Verifiers เช่น องค์กรข่าวหรือกลุ่มที่ได้รับการยอมรับ แทนการจ่ายเงินเพื่อรับเครื่องหมายยืนยันตัวตนแบบที่แพลตฟอร์ม X ใช้ ✅ ระบบใหม่ใช้ Trusted Verifiers แทนการจ่ายเงิน - Trusted Verifiers เช่น องค์กรข่าวหรือกลุ่มที่ได้รับการยอมรับ จะเป็นผู้มอบเครื่องหมายยืนยันตัวตน - ผู้ใช้สามารถดูได้ว่า ใครเป็นผู้ยืนยันตัวตนของบัญชี ✅ เครื่องหมายยืนยันตัวตนมีสองรูปแบบ - บัญชีที่ได้รับการยืนยันจะมี วงกลมสีน้ำเงินพร้อมเครื่องหมายถูกสีขาว - Trusted Verifiers จะมี วงกลมสีน้ำเงินแบบ scalloped พร้อมเครื่องหมายถูกสีขาว ✅ ระบบนี้ออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาของแพลตฟอร์ม X - แพลตฟอร์ม X ใช้ระบบจ่ายเงินเพื่อรับเครื่องหมายยืนยันตัวตน ซึ่งถูกวิจารณ์ว่า ลดความน่าเชื่อถือของเครื่องหมาย - Bluesky หวังว่าระบบใหม่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือโดยไม่ต้องพึ่งพาการจ่ายเงิน ✅ ผู้ใช้สามารถเลือกซ่อนเครื่องหมายยืนยันตัวตนได้ - Bluesky จะเพิ่มตัวเลือกให้ผู้ใช้ ซ่อนเครื่องหมายยืนยันตัวตนทั้งหมดในหน้าการตั้งค่า https://www.neowin.net/news/angry-disappointed-users-react-to-blueskys-upcoming-blue-check-mark-verification-system/
    WWW.NEOWIN.NET
    Angry, disappointed users react to Bluesky's upcoming blue check mark verification system
    Bluesky, the decentralized social network, is working on a new verification system, and users are not happy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • **เจาะลึกจิตวิญญาณและอารมณ์ของตัวละครหลัก**
    (ในนิยาย *The Seven Heirs: Bonds of the Compass*)

    ---

    ### **1. หลง เจี้ยน (จีน - ทิศเหนือ)**
    **จิตวิญญาณ :** *ผู้แบกรักเก่าในร่างนักรบ*
    - **ความเจ็บปวดซ่อนเร้น :** แผลเป็นรูปเกล็ดงูบนแก้มไม่ใช่แค่ร่องรอยคำสาป แต่เป็นสัญลักษณ์แห่ง "ความอัปยศ" ที่ปล่อยให้หยวนเยี่ยนต้องเป็นอมตะเพียงลำพัง
    - **การแสดงออก :** สื่อสารผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด เวลาโกรธจะจัดระเบียบเข็มปักจักรวาลให้เรียงตัวเป็นรูปวงแหวน
    - **ความปรารถนาลึกๆ :** อยากใช้ชีวิตธรรมดาเป็นช่างซ่อมนาฬิกาในตรอกเล็กๆ ของปักกิ่ง โดยไม่ต้องสวมมงกุฎแห่งความรับผิดชอบ
    - **จุดแตกหักทางอารมณ์ :** การพบว่าหยวนเยี่ยนเลือกถูกสาปเพื่อให้เขาได้มีชีวิตต่อ...แทนที่จะปล่อยให้เขาตายตาม

    ---

    ### **2. ทาเคดะ ซากุระ (ญี่ปุ่น - ทิศตะวันออก)**
    **จิตวิญญาณ :** *ศิลปินผู้วาดภาพด้วยวิญญาณตนเอง*
    - **ความเปราะบาง :** รู้สึกเหมือนเป็น "ภาพวาดที่ยังไม่เสร็จ" เปรียบเทียบตัวเองกับพี่ชายที่สมบูรณ์แบบเสมอ
    - **พิธีกรรมส่วนตัว :** แอบเก็บเส้นผมของทุกคนที่วาดภาพไว้ในสมุดสีน้ำ เพื่อรู้สึกว่ายังควบคุมบางสิ่งได้
    - **ความฝันลับ :** อยากวาดภาพที่ไม่มีคำสาปซ่อนอยู่ แค่ภาพทุ่งซากุระกับพี่ชายที่ยิ้มได้อย่างอิสระ
    - **การเผชิญความจริง :** วันที่ต้องใช้พู่กันจุ่มเลือดตัวเองเพื่อวาดทางรอดให้ทุกคน

    ---

    ### **3. วีร ราชปุต (อินเดีย - ทิศตะวันตก)**
    **จิตวิญญาณ :** *มหาเศรษฐีผู้ห่อหุ้มหัวใจด้วยเงินตรา*
    - **ความกลัวที่ซ่อนอยู่ :** กลัวความเงียบ จึงใช้เสียงเพลง/การเจรจาเติมเต็มชีวิตตลอดเวลา
    - **พฤติกรรมย้ำคิด :** นับเม็ดพลอยในสร้อย 108 เม็ดทุกเช้า เพื่อยืนยันว่ายัง "เป็นปกติ"
    - **ความขัดแย้ง :** เกลียดความอ่อนแอ แต่แอบเก็บยาพิษที่อานยาทำไว้...ในกรณีที่ต้องฆ่าตัวตาย
    - **จุดเปลี่ยน :** การพบว่าแม่แท้ๆ ยังมีชีวิตอยู่ในร่างของศัตรู

    ---

    ### **4. คิม จีอู (เกาหลีใต้ - ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)**
    **จิตวิญญาณ :** *นกในกรงทองแห่งเสียงเพลง*
    - **ความทุกข์ระทม :** ได้ยินเสียงกระซิบจากไมโครโฟนเก่าๆ ที่พี่ชายให้มา เสียงนั้นบอกให้เธอ "ร้องให้ดังกว่านี้...แม้ต้องแลกด้วยชีวิต"
    - **การต่อรองกับชะตา :** ใช้ลิปสติกสีเลือดเขียนคำสาปบนกระจกห้องน้ำทุกครั้งก่อนขึ้นเวที
    - **ความฝันที่ถูกกดทับ :** อยากร้องเพลงกล่อมเด็กในหมู่บ้านเล็กๆ โดยไม่ต้องมีเอฟเฟกต์พิเศษ
    - **ความสัมพันธ์กับแทฮยอน :** รู้สึกเหมือนเป็น "นกขมิ้นในกรงทอง" ที่พี่ชายสวยงาม แต่กรงนั้นทำจากความผิดพลาดในอดีตของเขา

    ---

    ### **5. ณัฐ ศรีสุวรรณ (ไทย - ทิศใต้)**
    **จิตวิญญาณ :** *นักรบผู้สวมหน้ากากแห่งรอยยิ้ม*
    - **ความเจ็บปวดที่ซ่อนใต้รอยสัก :** สักคำว่า "อิสระ" ซ่อนไว้ใต้ลายนาคราช แต่รู้ตัวว่าตนเองถูกพันธนาการโดยความรักที่มีต่อน้องสาว
    - **พิธีกรรม :** ทุบกระจกในห้องฝึกมวยทุกครั้งที่รู้สึกอ่อนแอ
    - **ความฝันลึกๆ :** อยากพาพิมพ์ลดาไปเที่ยวทะเล โดยไม่ต้องคิดเรื่องคำสาปหรือพิธีกรรม
    - **จุดพลิกผัน :** วันที่พิมพ์ลดาเลือกเต้นระบำหน้ากากครั้งสุดท้าย...โดยไม่บอกเขา

    ---

    ### **6. เดีย วิชายา (อินโดนีเซีย - ทิศตะวันออกเฉียงใต้)**
    **จิตวิญญาณ :** *ราชินีเครื่องเทศผู้หลงกลิ่นอดีต*
    - **ความขัดแย้ง :** เกลียดเครื่องเทศเพราะถูกพ่อฝึกจนจมูกเสื่อม แต่กลับใช้มันเป็นอาวุธ
    - **ความทรงจำสุขสุด :** กลิ่นดินหลังฝนตกในวันที่พี่ชายพาไปตั้งแคมป์โดยไม่บอกแม่
    - **ความกลัว :** กลัวการถูกทิ้ง จึงแสร้งทำตัวแข็งกร้าวตลอดเวลา
    - **สัญลักษณ์ :** แก้วกาแฟร้าวที่พี่ชายให้...เก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจว่า "ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ"

    ---

    ### **7. เหงียน ลาน (เวียดนาม - ทิศตะวันตกเฉียงใต้)**
    **จิตวิญญาณ :** *เชฟผู้ปรุงรสชาติแห่งความทรงจำ*
    - **ความสามารถพิเศษ :** รู้รสชาติอารมณ์คนผ่านอาหาร แต่ไม่สามารถลิ้มรสอาหารที่ตัวเองปรุงได้
    - **พิธีกรรม :** แอบชิมน้ำตาตัวเองเวลาปรุงอาหารให้คนสำคัญ
    - **ความฝันที่ถูกเก็บไว้ :** อยากเปิดร้านอาหารเล็กๆ ที่เสิร์ฟแต่เมนูแห่งความสุข โดยไม่มีสูตรลับของตระกูล
    - **ความสัมพันธ์กับล็อง :** มองว่าพี่ชายคือ "สมุดบันทึกที่มีชีวิต" ที่เธอไม่อยากให้เขียนจบ
    **เจาะลึกจิตวิญญาณและอารมณ์ของตัวละครหลัก** (ในนิยาย *The Seven Heirs: Bonds of the Compass*) --- ### **1. หลง เจี้ยน (จีน - ทิศเหนือ)** **จิตวิญญาณ :** *ผู้แบกรักเก่าในร่างนักรบ* - **ความเจ็บปวดซ่อนเร้น :** แผลเป็นรูปเกล็ดงูบนแก้มไม่ใช่แค่ร่องรอยคำสาป แต่เป็นสัญลักษณ์แห่ง "ความอัปยศ" ที่ปล่อยให้หยวนเยี่ยนต้องเป็นอมตะเพียงลำพัง - **การแสดงออก :** สื่อสารผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด เวลาโกรธจะจัดระเบียบเข็มปักจักรวาลให้เรียงตัวเป็นรูปวงแหวน - **ความปรารถนาลึกๆ :** อยากใช้ชีวิตธรรมดาเป็นช่างซ่อมนาฬิกาในตรอกเล็กๆ ของปักกิ่ง โดยไม่ต้องสวมมงกุฎแห่งความรับผิดชอบ - **จุดแตกหักทางอารมณ์ :** การพบว่าหยวนเยี่ยนเลือกถูกสาปเพื่อให้เขาได้มีชีวิตต่อ...แทนที่จะปล่อยให้เขาตายตาม --- ### **2. ทาเคดะ ซากุระ (ญี่ปุ่น - ทิศตะวันออก)** **จิตวิญญาณ :** *ศิลปินผู้วาดภาพด้วยวิญญาณตนเอง* - **ความเปราะบาง :** รู้สึกเหมือนเป็น "ภาพวาดที่ยังไม่เสร็จ" เปรียบเทียบตัวเองกับพี่ชายที่สมบูรณ์แบบเสมอ - **พิธีกรรมส่วนตัว :** แอบเก็บเส้นผมของทุกคนที่วาดภาพไว้ในสมุดสีน้ำ เพื่อรู้สึกว่ายังควบคุมบางสิ่งได้ - **ความฝันลับ :** อยากวาดภาพที่ไม่มีคำสาปซ่อนอยู่ แค่ภาพทุ่งซากุระกับพี่ชายที่ยิ้มได้อย่างอิสระ - **การเผชิญความจริง :** วันที่ต้องใช้พู่กันจุ่มเลือดตัวเองเพื่อวาดทางรอดให้ทุกคน --- ### **3. วีร ราชปุต (อินเดีย - ทิศตะวันตก)** **จิตวิญญาณ :** *มหาเศรษฐีผู้ห่อหุ้มหัวใจด้วยเงินตรา* - **ความกลัวที่ซ่อนอยู่ :** กลัวความเงียบ จึงใช้เสียงเพลง/การเจรจาเติมเต็มชีวิตตลอดเวลา - **พฤติกรรมย้ำคิด :** นับเม็ดพลอยในสร้อย 108 เม็ดทุกเช้า เพื่อยืนยันว่ายัง "เป็นปกติ" - **ความขัดแย้ง :** เกลียดความอ่อนแอ แต่แอบเก็บยาพิษที่อานยาทำไว้...ในกรณีที่ต้องฆ่าตัวตาย - **จุดเปลี่ยน :** การพบว่าแม่แท้ๆ ยังมีชีวิตอยู่ในร่างของศัตรู --- ### **4. คิม จีอู (เกาหลีใต้ - ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)** **จิตวิญญาณ :** *นกในกรงทองแห่งเสียงเพลง* - **ความทุกข์ระทม :** ได้ยินเสียงกระซิบจากไมโครโฟนเก่าๆ ที่พี่ชายให้มา เสียงนั้นบอกให้เธอ "ร้องให้ดังกว่านี้...แม้ต้องแลกด้วยชีวิต" - **การต่อรองกับชะตา :** ใช้ลิปสติกสีเลือดเขียนคำสาปบนกระจกห้องน้ำทุกครั้งก่อนขึ้นเวที - **ความฝันที่ถูกกดทับ :** อยากร้องเพลงกล่อมเด็กในหมู่บ้านเล็กๆ โดยไม่ต้องมีเอฟเฟกต์พิเศษ - **ความสัมพันธ์กับแทฮยอน :** รู้สึกเหมือนเป็น "นกขมิ้นในกรงทอง" ที่พี่ชายสวยงาม แต่กรงนั้นทำจากความผิดพลาดในอดีตของเขา --- ### **5. ณัฐ ศรีสุวรรณ (ไทย - ทิศใต้)** **จิตวิญญาณ :** *นักรบผู้สวมหน้ากากแห่งรอยยิ้ม* - **ความเจ็บปวดที่ซ่อนใต้รอยสัก :** สักคำว่า "อิสระ" ซ่อนไว้ใต้ลายนาคราช แต่รู้ตัวว่าตนเองถูกพันธนาการโดยความรักที่มีต่อน้องสาว - **พิธีกรรม :** ทุบกระจกในห้องฝึกมวยทุกครั้งที่รู้สึกอ่อนแอ - **ความฝันลึกๆ :** อยากพาพิมพ์ลดาไปเที่ยวทะเล โดยไม่ต้องคิดเรื่องคำสาปหรือพิธีกรรม - **จุดพลิกผัน :** วันที่พิมพ์ลดาเลือกเต้นระบำหน้ากากครั้งสุดท้าย...โดยไม่บอกเขา --- ### **6. เดีย วิชายา (อินโดนีเซีย - ทิศตะวันออกเฉียงใต้)** **จิตวิญญาณ :** *ราชินีเครื่องเทศผู้หลงกลิ่นอดีต* - **ความขัดแย้ง :** เกลียดเครื่องเทศเพราะถูกพ่อฝึกจนจมูกเสื่อม แต่กลับใช้มันเป็นอาวุธ - **ความทรงจำสุขสุด :** กลิ่นดินหลังฝนตกในวันที่พี่ชายพาไปตั้งแคมป์โดยไม่บอกแม่ - **ความกลัว :** กลัวการถูกทิ้ง จึงแสร้งทำตัวแข็งกร้าวตลอดเวลา - **สัญลักษณ์ :** แก้วกาแฟร้าวที่พี่ชายให้...เก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจว่า "ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ" --- ### **7. เหงียน ลาน (เวียดนาม - ทิศตะวันตกเฉียงใต้)** **จิตวิญญาณ :** *เชฟผู้ปรุงรสชาติแห่งความทรงจำ* - **ความสามารถพิเศษ :** รู้รสชาติอารมณ์คนผ่านอาหาร แต่ไม่สามารถลิ้มรสอาหารที่ตัวเองปรุงได้ - **พิธีกรรม :** แอบชิมน้ำตาตัวเองเวลาปรุงอาหารให้คนสำคัญ - **ความฝันที่ถูกเก็บไว้ :** อยากเปิดร้านอาหารเล็กๆ ที่เสิร์ฟแต่เมนูแห่งความสุข โดยไม่มีสูตรลับของตระกูล - **ความสัมพันธ์กับล็อง :** มองว่าพี่ชายคือ "สมุดบันทึกที่มีชีวิต" ที่เธอไม่อยากให้เขียนจบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 770 มุมมอง 0 รีวิว
  • Atomic Keyboard ได้เปิดตัว MDR Dasher ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากซีรีส์ Severance บน Apple TV+ โดยออกแบบให้มีรูปลักษณ์แบบเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติก พร้อม trackball ในตัว และการจัดวางปุ่มที่แตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไป

    ✅ MDR Dasher ได้รับแรงบันดาลใจจากคีย์บอร์ดในซีรีส์ Severance
    - คีย์บอร์ดนี้ออกแบบให้คล้ายกับ Data General Dasher terminals ที่ได้รับความนิยมในช่วงปลายยุค 70 และต้นยุค 80
    - มี ดีไซน์แบบเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติก พร้อมกรอบสีขาวหม่นและปุ่มสีน้ำเงิน

    ✅ การจัดวางปุ่มแตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไป
    - ไม่มีปุ่ม Escape, Control และ Option เพื่อสะท้อนธีมของซีรีส์ที่เน้นความเป็นระบบปิด
    - มี 73 ปุ่ม และใช้ เลย์เอาต์แบบ 70%

    ✅ MDR Dasher มาพร้อม trackball ในตัว
    - แทนที่จะใช้เมาส์แบบทั่วไป คีย์บอร์ดนี้มี trackball ทางด้านขวา
    - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเคอร์เซอร์ได้โดยไม่ต้องใช้เมาส์แยก

    ✅ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C และใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการหลัก
    - สามารถใช้กับ Windows, macOS และ Linux
    - ตัวเคสทำจาก อะลูมิเนียม เพื่อเพิ่มความทนทาน

    ✅ ราคายังไม่ถูกยืนยัน แต่คาดว่าอยู่ที่ประมาณ $399
    - Atomic Keyboard ยังไม่ได้ประกาศราคาสุดท้าย เนื่องจากมี ปัญหาด้านภาษีนำเข้า
    - เปิดให้ลงทะเบียนสำหรับ การสั่งจองล่วงหน้าแบบจำนวนจำกัด

    https://www.techspot.com/news/107593-real-life-severance-keyboard-here-complete-built-trackball.html
    Atomic Keyboard ได้เปิดตัว MDR Dasher ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากซีรีส์ Severance บน Apple TV+ โดยออกแบบให้มีรูปลักษณ์แบบเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติก พร้อม trackball ในตัว และการจัดวางปุ่มที่แตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไป ✅ MDR Dasher ได้รับแรงบันดาลใจจากคีย์บอร์ดในซีรีส์ Severance - คีย์บอร์ดนี้ออกแบบให้คล้ายกับ Data General Dasher terminals ที่ได้รับความนิยมในช่วงปลายยุค 70 และต้นยุค 80 - มี ดีไซน์แบบเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติก พร้อมกรอบสีขาวหม่นและปุ่มสีน้ำเงิน ✅ การจัดวางปุ่มแตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไป - ไม่มีปุ่ม Escape, Control และ Option เพื่อสะท้อนธีมของซีรีส์ที่เน้นความเป็นระบบปิด - มี 73 ปุ่ม และใช้ เลย์เอาต์แบบ 70% ✅ MDR Dasher มาพร้อม trackball ในตัว - แทนที่จะใช้เมาส์แบบทั่วไป คีย์บอร์ดนี้มี trackball ทางด้านขวา - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเคอร์เซอร์ได้โดยไม่ต้องใช้เมาส์แยก ✅ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C และใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการหลัก - สามารถใช้กับ Windows, macOS และ Linux - ตัวเคสทำจาก อะลูมิเนียม เพื่อเพิ่มความทนทาน ✅ ราคายังไม่ถูกยืนยัน แต่คาดว่าอยู่ที่ประมาณ $399 - Atomic Keyboard ยังไม่ได้ประกาศราคาสุดท้าย เนื่องจากมี ปัญหาด้านภาษีนำเข้า - เปิดให้ลงทะเบียนสำหรับ การสั่งจองล่วงหน้าแบบจำนวนจำกัด https://www.techspot.com/news/107593-real-life-severance-keyboard-here-complete-built-trackball.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    A real-life Severance keyboard is here, complete with built-in trackball
    In Severance, the keyboards used by Macrodata Refinement – the department where the protagonists work – appear to draw inspiration from Data General's vintage Dasher terminals, popular...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 273 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้ออกอัปเดต Chrome 136 เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวที่มีมายาวนานกว่า 20 ปี โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เว็บไซต์สามารถติดตาม ประวัติการเข้าชมลิงก์ของผู้ใช้ ผ่าน CSS :visited selector

    ✅ Chrome 136 ปรับปรุงการจัดการประวัติการเข้าชมลิงก์
    - ก่อนหน้านี้ CSS :visited selector ถูกใช้เพื่อเปลี่ยนสีลิงก์ที่เคยคลิก เช่น จากสีน้ำเงินเป็นสีม่วง
    - นักพัฒนาเว็บสามารถใช้เทคนิคนี้เพื่อ ดึงข้อมูลประวัติการเข้าชมของผู้ใช้

    ✅ การใช้โมเดลแบ่งส่วนข้อมูล (Partitioning Model)
    - Chrome 136 จะใช้ การแบ่งส่วนข้อมูล เพื่อป้องกันการรั่วไหลของประวัติการเข้าชม
    - ลิงก์จะถูกทำเครื่องหมายว่า "visited" เฉพาะในเว็บไซต์ที่ผู้ใช้คลิกครั้งแรกเท่านั้น

    ✅ ผลกระทบต่อการโจมตีแบบ Side-Channel
    - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยป้องกัน การติดตาม, การสร้างโปรไฟล์ และการโจมตีแบบฟิชชิ่ง
    - Chrome 136 จะเป็น เบราว์เซอร์แรกที่ใช้การแบ่งส่วนข้อมูลสำหรับประวัติการเข้าชม

    ✅ การเปรียบเทียบกับเบราว์เซอร์อื่น
    - เบราว์เซอร์อื่นๆ เช่น Firefox และ Edge มีมาตรการป้องกันการรั่วไหลของ URL
    - แต่ยังไม่มีเบราว์เซอร์ใดใช้ การแบ่งส่วนข้อมูลแบบ Chrome 136

    ✅ การเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้
    - Chrome 132 เคยเปิดตัวฟีเจอร์นี้แบบทดลอง และ Chrome 136 จะเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น

    https://www.techspot.com/news/107558-new-chrome-update-fix-long-standing-bug-user.html
    Google ได้ออกอัปเดต Chrome 136 เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวที่มีมายาวนานกว่า 20 ปี โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เว็บไซต์สามารถติดตาม ประวัติการเข้าชมลิงก์ของผู้ใช้ ผ่าน CSS :visited selector ✅ Chrome 136 ปรับปรุงการจัดการประวัติการเข้าชมลิงก์ - ก่อนหน้านี้ CSS :visited selector ถูกใช้เพื่อเปลี่ยนสีลิงก์ที่เคยคลิก เช่น จากสีน้ำเงินเป็นสีม่วง - นักพัฒนาเว็บสามารถใช้เทคนิคนี้เพื่อ ดึงข้อมูลประวัติการเข้าชมของผู้ใช้ ✅ การใช้โมเดลแบ่งส่วนข้อมูล (Partitioning Model) - Chrome 136 จะใช้ การแบ่งส่วนข้อมูล เพื่อป้องกันการรั่วไหลของประวัติการเข้าชม - ลิงก์จะถูกทำเครื่องหมายว่า "visited" เฉพาะในเว็บไซต์ที่ผู้ใช้คลิกครั้งแรกเท่านั้น ✅ ผลกระทบต่อการโจมตีแบบ Side-Channel - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยป้องกัน การติดตาม, การสร้างโปรไฟล์ และการโจมตีแบบฟิชชิ่ง - Chrome 136 จะเป็น เบราว์เซอร์แรกที่ใช้การแบ่งส่วนข้อมูลสำหรับประวัติการเข้าชม ✅ การเปรียบเทียบกับเบราว์เซอร์อื่น - เบราว์เซอร์อื่นๆ เช่น Firefox และ Edge มีมาตรการป้องกันการรั่วไหลของ URL - แต่ยังไม่มีเบราว์เซอร์ใดใช้ การแบ่งส่วนข้อมูลแบบ Chrome 136 ✅ การเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ - Chrome 132 เคยเปิดตัวฟีเจอร์นี้แบบทดลอง และ Chrome 136 จะเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น https://www.techspot.com/news/107558-new-chrome-update-fix-long-standing-bug-user.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New Chrome update to fix a long-standing bug in user privacy for visited links
    Browsers have mishandled visited site tracking since the early days of the internet. Google is now working to fix the issue with Chrome. The browser's next update...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • 24 ปี ประหารชีวิต ‘สมคิด นามแก้ว’ นักโทษคดียาบ้าคนแรก ที่ถูกประหาร ด้วยการยิงเป้า” เสียงครวญสะท้านใจ “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต มันไม่คุ้มเลย” แง่คิดที่เตือนให้รู้คุณค่าของชีวิต

    “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้า คนแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านไป ภายใต้บรรยากาศอันน่าสะเทือนใจ ของการเปลี่ยนแปลงสังคม การปราบปรามยาเสพติด ชีวิตมีค่ามากกว่าเงินทอง และความจำเป็นในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด อย่างเด็ดขาด

    ในโลกที่ความมีค่าแห่งชีวิต ศีลธรรม ถูกท้าทายด้วยความโลภ และความอยากรวย เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมานั้น ยังคงสะเทือนใจคนไทยทุกวันนี้ 😢

    ย้อนไปเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมา ในบ่ายวันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 ที่แดนประหาร เรือนจำกลางบางขวาง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ ต้องจ้องมองและตั้งคำถาม ถึงความหมายของความถูกต้อง และความยุติธรรมในสังคม อย่างลึกซึ้ง

    ยาบ้าและปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติดทุกชนิด ต่างก็เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในทุกชั้นสังคม แต่ยาบ้าในสมัยนั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่คลุ้มคลั่ง และทำให้ผู้เสพมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตัวเองและสังคมทั่วไป

    นายสมคิด นามแก้ว ได้ถูกจับในคดีมียาเสพติด โดยมีหลักฐานแน่ชัดว่า ต้องขนส่งยาบ้าปริมาณมหาศาล ซึ่งสืบเนื่องมาจากการสืบสวน ที่เชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายค้ายาเสพติด ทั้งในประเทศและในต่างประเทศ และในขณะที่ระบบการปราบปรามยาเสพติด เริ่มเข้มงวดขึ้น เพื่อยับยั้งอาชญากรรม และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายาบ้าในสังคม 👮‍♂️

    ประเทศไทยมีกฎหมายที่เข้มงวด เกี่ยวกับคดียาเสพติด โดยหลักฐานและการรับสารภาพ มักนำไปสู่โทษที่ร้ายแรงที่สุดในบางกรณี โดยเฉพาะในคดียาบ้า ที่มักจะมีมาตรการประหารชีวิต สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีจุดประสงค์ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือน ให้กับผู้ที่คิดจะเข้ามามีส่วนร่วมกับการค้า และเสพติดยาเสพติด

    ในคดีของสมคิด ศาลชั้นต้นเห็นว่า ความผิดไม่ได้เกิดจาก ความประมาทเลินเล่อเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการกระทำ ที่บ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยของสังคม และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การกระทำความผิดในฐานะที่เป็น “นักโทษคดียาบ้า” นั้น จะต้องได้รับโทษในระดับสูงสุด ซึ่งก็คือการประหารชีวิต ตามที่ได้เกิดขึ้นจริงในวันนั้น

    ในช่วงเวลานั้น ยาบ้าเป็นที่แพร่หลายในสังคมในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นชั้นคนทำงานข้างนอก หรือแม้แต่ในวงการขบวนการอาชญากรรมขนาดใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของเครือข่ายค้ายาเสพติด ทำให้การปราบปรามเป็นเรื่องท้าทาย และต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยังทำให้เกิดความรู้สึกสับสนในสังคม ที่มองเห็นภาพของความยุติธรรม ที่อาจไม่ชัดเจนในบางครั้ง

    เหตุการณ์ของคดีนี้ เริ่มต้นในกลางดึกวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2540 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูล เกี่ยวกับการลำเลียงยาบ้าปริมาณมาก จากพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย เข้าสู่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางผ่านทางหลวงหมายเลข 103

    เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กองบังคับการทางหลวง 5 จังหวัดพะเยา ได้ตั้งด่านสกัด ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวงร้องกวาง ตำบลร้องเข็ม อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ตามข้อมูลที่ได้รับ และมีรถเก๋งโตโยต้า โคโรน่าสีน้ำตาล ทะเบียน 3ว-8505 กทม. วิ่งเข้ามาที่จุดสกัด เมื่อเจ้าหน้าที่สั่งให้รถหยุด เพื่อทำการตรวจค้น

    ในขณะตรวจค้น นายสมคิด ซึ่งในตอนนั้นอายุ 31 ปี พักอาศัยอยู่ที่หมู่ที่ 10 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้แสดงออกถึงพิรุธ ด้วยการกล่าวว่า “ในรถไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย” และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตนเองเกลียดยาบ้ามากที่สุด” แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการค้นอย่างละเอียด พบยาบ้าบรรจุในห่อพลาสติก ซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในรถ ทั้งที่ประตูรถและใต้เบาะนั่ง พบว่ามียาบ้าปริมาณถึง 203 ห่อ ๆ ละ 2,000 เม็ด รวมเป็นจำนวน 406,000 เม็ด ซึ่งมีสีสันปรากฏเป็นสีส้มและเขียว ประทับตัวอักษรว่า “wy” โดยมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท จึงติดสินบนตำรวจ 5 ล้านบาท แต่ตำรวจไม่เล่นด้วย🚔

    หลังจากจับกุม ในขั้นตอนการสอบสวน นายสมคิดได้ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาบ้าจากพ่อค้ายาเสพติด ด้วยค่าจ้าง 50,000 บาท เพื่อนำส่งให้ลูกค้าที่ปั๊มน้ำมัน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    เหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้ เผยให้เห็นว่า แม้จะมีกำไรในทางการค้ายาเสพติด แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” นั้นไม่คุ้มค่าเลย เพราะชีวิตที่ถูกประหารนั้น เป็นชีวิตที่จบลงไปในพริบตา ไม่มีวันได้กลับคืน หรือแก้ไขได้หลังจากนั้น

    นายสมคิดถูกส่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี ในศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยในชั้นต้นศาลเห็นว่า แม้จะมีการรับสารภาพ แต่การกระทำของนายสมคิดนั้นทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรง ต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม จึงได้พิพากษาให้ลงโทษในระดับสูงสุด นั่นคือโทษประหารชีวิต

    หลังจากคำพิพากษาของศาลชั้นต้น นายสมคิดได้ดำเนินการอุทธรณ์ ต่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา พร้อมทั้งได้ยื่นหนังสือถวายฎีกา ทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษ ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2543

    นายสมคิดได้ให้เหตุผลว่า “ตนมีการรับสารภาพมาตั้งแต่แรก และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน” รวมทั้งระบุว่า ตนได้กระทำเ พราะต้องการหาเงินมารักษาพยาบาลพี่สาว ที่ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ เนื่องจากฐานะทางการเงินที่ยากจน แต่ข้ออ้างเหล่านี้ถู กศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาปฏิเสธ โดยให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศชาติ และความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยกล่าวว่าเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถเปรียบเทียบ กับประโยชน์ส่วนรวมของสังคมได้

    ในกระบวนการพิจารณา ศาลได้พิจารณาหลักฐาน และพฤติกรรมของนายสมคิด ที่ชัดเจนว่าเป็นผู้รับจ้างขนยาบ้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้า และการค้ายาเสพติด ที่สร้างความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม การที่นายสมคิดพยายามให้สินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่เน้นย้ำถึงความจริงที่ว่า ระบบค้ายาเสพติด มีการแทรกซึมลึกในสังคม

    ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินยืน ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และเมื่อเรื่องนั้นถูกส่งต่อมายังศาลฎีกา คำพิพากษาก็ยังคงยืนหยัด นำมาซึ่งวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 เป็นวันที่ประหารชีวิตเกิดขึ้นจริง

    วันประหารชีวิตของนายสมคิด นามแก้ว ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดความสลดใจ และสะเทือนใจคนไทยอย่างแท้จริง โดยรายละเอียดในวันนั้นถูกบันทึกไว้ในหลาย ๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นบันทึกของเจ้าหน้าที่ หรือรายงานของนักข่าว ภาพความทุกข์ และความหวาดกลัวของนักโทษที่ต้องรอประหาร ได้สะท้อนให้เห็นถึงความหนักแน่น ในการปราบปรามยาเสพติดในสมัยนั้น

    ในช่วงบ่ายของวันประหาร ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ต่างเข้ามาจัดเตรียมสิ่งของ ที่จำเป็นสำหรับการประหารชีวิต ทั้งนี้เพื่อให้ขั้นตอนทั้งหมด เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นความลับ เมื่อถึงเวลาที่นายสมคิด ถูกเบิกตัวออกจากห้องคุม ทุกอย่างดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเงียบสงัด และบรรยากาศที่หนักอึ้ง

    นายสมคิดในวันนั้น แสดงอาการที่ชัดเจนว่า รู้สึกกลัวและทุกข์ทรมาน ทั้งทางร่างกายที่เริ่มอ่อนแรง และจิตใจที่สั่นคลอน ถึงแม้ว่าในช่วงท้ายของการเดิน จากห้องคุมไปสู่หลักประหาร นายสมคิดยังคงตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับความรู้สึกและความคิดของตนเอง “ผมเป็นคนแรกที่ถูกประหาร เพราะคดียาบ้าใช่ไหมครับ” และยังได้เตือนผู้อื่น เกี่ยวกับการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ที่อาจนำมาซึ่งความทุกข์ และความเสียหายต่อชีวิต 😔

    ระหว่างทาง ในขณะที่นายสมคิดถูกนำไปประหาร มีการสนทนาที่บ่งบอกถึงความทรงจำ และความเจ็บปวดภายในจิตใจของเขา รวมถึงการแฉข้อเท็จจริงของเครือข่ายค้ายาเสพติด ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองในระดับท้องถิ่น “ถ้าจะปราบยาเสพติดให้หมดไปจริงๆ ก็ต้องเอาคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในทุกระดับออกไป” นายสมคิดกล่าว ในช่วงเวลาที่อารมณ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ และความรู้สึกที่อยากจะบอกต่อสังคม

    ผู้คุมในวันนั้น ได้พยายามปลอบใจนายสมคิดว่า “อย่างน้อยสมคิดยังได้ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นครั้งสุดท้าย” แม้ว่าจะมองในแง่ของการเป็นบทเตือน สำหรับผู้ที่คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่คำพูดเหล่านี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งของจิตใจ ระหว่างความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และความเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ของมนุษย์

    ในห้องประหาร ที่จัดเตรียมขึ้นอย่างเคร่งครัด นายสมคิดถูกนำเข้ามาในห้องที่แสงไฟสลัว ๆ และบรรยากาศเงียบสงัด ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ทำการเตรียมเครื่องมือ และตรวจสอบความพร้อมในทุกขั้นตอน ก่อนที่หัวหน้าชุดประหารจะโบกธงแดง เพื่อเริ่มกระบวนการประหาร

    ในช่วงเวลานั้น ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ทุกคน ต่างมีความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างหน้าที่ และความสำนึกในความทุกข์ทรมานของนายสมคิด ขณะที่นายสมคิดเอง ก็ได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ ในการรำลึกถึงชีวิตที่ผ่านมา ทั้งความรัก ความฝัน และความผิดพลาด ที่ไม่อาจย้อนกลับได้อีกต่อไป

    คำบอกลาและพินัยกรรมของนายสมคิด เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงข้อคิดที่ว่า “ชีวิตมนุษย์มีค่า เกินกว่าจะถูกแลกด้วยเงินเพียงเพราะความจน หรือความสิ้นหวัง” เขาได้ฝากท้ายจดหมายถึงญาติพี่น้องว่า “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด” ซึ่งเป็นคำเตือนที่หวังว่า จะช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่น เดินตามรอยเท้าของเขาในอนาคต

    แม้คดีของนายสมคิด นามแก้ว จะเกิดขึ้นเมื่อกว่า 24 ปี ที่ผ่านมา แต่ผลกระทบ และบทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์นี้ ยังคงสะท้อนอยู่ในสังคมไทยในหลายมิติ ทั้งในแง่ของการปราบปรามยาเสพติด และการตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตมนุษย์

    คดีนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้กับนโยบาย และวิธีการปราบปรามยาเสพติดในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับบทเรียนอันทรงคุณค่าจากการจับกุม และการดำเนินคดีที่เป็นแบบอย่าง แม้ว่าจะมีความท้าทาย จากเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อน แต่การดำเนินการที่เข้มแข็ง และเด็ดขาดในคดีนี้ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ไม่มีทางที่ผู้กระทำผิด จะหลุดพ้นไปจากกฎหมาย

    นอกจากนี้ ความเข้มงวดในการลงโทษสูงสุด อย่างการประหารชีวิต ได้เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยา ที่ทำให้ผู้ค้ายาเสพติดต้องคิดทบทวนถึงความเสี่ยง และผลที่ตามมา หากตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางอาชญากรรมดังกล่าว

    หนึ่งในแง่คิดที่ทรงพลัง จากเหตุการณ์ของนายสมคิด คือ “ชีวิตมนุษย์มีค่าเกินกว่าจะแลกด้วยเงิน” เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ นายสมคิดได้รับเงินค่าจ้างเ 50,000 บาท เพื่อการขนส่งยาบ้า แต่ท้ายที่สุดค่าใช้จ่ายนั้น กลับสูงกว่ามาก เมื่อชีวิตของเขา ถูกสังหารไปในพริบตา

    เหตุการณ์ครั้งนี้เตือนใจให้กับทุกคนว่า ไม่ว่าเราจะเผชิญกับความยากจน หรือความท้าทายใด ๆ ในชีวิต การก้าวเข้าสู่เส้นทางผิดกฎหมาย ด้วยเงินทองเพียงไม่กี่บาทนั้น ไม่สามารถชดเชยค่าของชีวิต และความมีคุณค่าที่แท้จริงได้

    ในมุมมองของสังคม สิ่งนี้ยังเป็นการเผยให้เห็นถึง ความจำเป็นในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ในระบบเศรษฐกิจ และสวัสดิการสังคม เพื่อให้คนไทยทุกคน มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือ และการสนับสนุนที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิต หรือกระทำความผิดเพื่อความอยู่รอด

    นอกจากความเสียหาย ที่เกิดกับตัวนายสมคิดแล้ว คดีนี้ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัว และญาติพี่น้องของเขาอีกด้วย ภาพของคนในบ้าน ที่ต้องสูญเสียสมาชิกอันมีค่าไป จากการกระทำที่นำไปสู่การประหารชีวิต สะท้อนให้เห็นถึงความสูญเสีย ทั้งทางด้านอารมณ์ และชื่อเสียงในสังคม

    การที่คนรอบข้าง ต้องเผชิญกับความสลด จากการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวนั้น ทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการมีคุณค่าชีวิต และความจำเป็นในการสนับสนุน และช่วยเหลือกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นผ่านนโยบายสังคมที่เข้มแข็ง หรือการให้ความรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด

    ในหลายช่วงของเรื่องราวนี้ อารมณ์และความรู้สึก ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างละเอียด ทั้งความกลัว ความเสียใจ และความหวาดกลัวของนายสมคิด ในนาทีสุดท้าย และความเหงาเศร้าใจของผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ที่ต้องเผชิญกับการปฏิบัติหน้าที่หนักอึ้ง เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องหันมาสำรวจ และตั้งคำถามว่า “เราจะทำอะไร เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นอีก?”

    สังคมไทยในปัจจุบัน ยังคงต้องรับมือกับปัญหายาบ้า และปัญหาอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีมาตรการส่งเสริมคุณค่าชีวิต การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ และโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้กับผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรมเหล่านั้น โดยที่ไม่ใช่แค่การลงโทษเท่านั้น แต่ยังเป็นการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น

    เหตุการณ์ของนายสมคิด นามแก้ว ได้เปิดเผยประเด็นสำคัญทางจริยธรรม ที่สังคมไทยต้องเผชิญ โดยเฉพาะในแง่ของการให้คุณค่ากับชีวิตมนุษย์ และการตัดสินใจที่มีผลตามมาตลอดชีพ

    ในสังคมที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ยังคงมีอยู่ ความจนหรือความจำเป็นบางครั้ง ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการกระทำผิด แต่เหตุการณ์ของนายสมคิด สอนเราให้เห็นว่า การกระทำผิดไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ แม้จะมีเหตุผลส่วนตัว ที่น่าสงสารเพียงใดก็ตาม

    “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” เป็นวาทะที่ชัดเจนที่เตือนใจว่า ค่าใช้จ่ายในชีวิตนั้น สูงเกินกว่าที่จะวัดด้วยเงินทอง ใครที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ควรได้รับความช่วยเหลือจากสังคม มากกว่าที่จะถูกผลัก ให้เข้าสู่เส้นทางที่ไร้ทางออก

    การลงโทษประหารชีวิตในคดียาเสพติด อาจดูเหมือนเป็นการลงโทษที่รุนแรง แต่ในมุมมองของสังคมไทยในขณะนั้นแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เครือข่ายค้ายาเสพติด เติบโตและแพร่กระจาย

    อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน ก็มีความถกเถียงกันในหลายมุมมอง เกี่ยวกับความถูกต้องของการลงโทษสูงสุดนี้ ว่าจะสามารถช่วยลดอาชญากรรมในระยะยาว ได้จริงหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงที่เห็นจากคดีของนายสมคิดคือ การลงโทษอย่างเด็ดขาดนั้น เป็นการยืนยันถึงความเข้มงวด ของระบบยุติธรรมในยุคนั้น

    หากเรามองในแง่ของการป้องกัน การลงโทษที่รุนแรง ไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการกระทำผิด ได้ในระยะยาว สังคมจำเป็นต้องหันมาสนับสนุนการศึกษา สวัสดิการ และระบบช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบ

    ในบทเรียนจากคดีนี้ เราได้รู้ว่าการแก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาสังคมในมิติ ที่ลึกกว่าเพียงการลงโทษนั้น สำคัญมาก การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ทุกคน มีโอกาสทางการศึกษา และการพัฒนาตนเอง อาจเป็นกุญแจสำคัญ ในการป้องกันไม่ให้เกิดคดี ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต

    เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต 24 ปีที่ผ่านมา คดีของนายสมคิด นามแก้ว ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจให้กับสังคมไทย ถึงความเปราะบางของชีวิตมนุษย์ และความรับผิดชอบ ที่เราต้องมีต่อกันในฐานะสมาชิกของสังคม

    แม้ว่าในนาทีสุดท้ายของชีวิต นายสมคิดจะต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน และความกลัวที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่คำพูดและการกระทำของเขา กลับเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า สำหรับคนไทยทุกคน “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด” คือคำเตือนที่เกิดจากความเจ็บปวดส่วนตัว ที่สุดท้ายแล้ว กลับกลายเป็นเสียงเตือนถึงความผิดพลาด ที่อาจส่งผลให้ชีวิตของเรา และคนที่เรารักต้องจบลงในพริบตา

    การประหารชีวิตในคดีนี้ ทำให้เราได้ตระหนักว่า การเลือกทางเดินในชีวิตนั้น สำคัญมากกว่าเงินทอง หรือสิ่งของวัตถุใด ๆ เพราะเมื่อชีวิตถูกใช้ไปแล้ว เราจะไม่มีทางหวนคืนกลับมาได้อีก 😔

    สังคมไทยในปัจจุบัน ย่อมต้องหันมาสนับสนุนกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม ที่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตที่มีคุณค่าแ ละถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด การสนับสนุนให้ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง รวมถึงการส่งเสริมค่านิยมในด้านความซื่อสัตย์ และความมีคุณธรรม

    ในมุมมองนี้ คดีของนายสมคิด ไม่ได้เป็นเพียงคดีของนักโทษ ที่ถูกประหารชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำหรับทุกคน ที่ต้องคิดทบทวน ถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ชีวิตมีค่า” เมื่อชีวิตของเราถูกกีดกันด้วยความผิดพลาด ในเส้นทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนความเสียหาย ที่เกิดขึ้นได้ในภายหลัง

    เพื่อป้องกันไม่ให้มีคดีที่คล้ายคลึงกัน เกิดขึ้นอีกในอนาคต จำเป็นต้องมีการสร้างระบบ ที่ช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรม อย่างครบวงจร ตั้งแต่การศึกษาเรื่องผลกระทบของยาเสพติด การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ ไปจนถึงการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ ให้กับกลุ่มคนที่อาจตกเป็นเหยื่อของความยากจน และการล่อลวงของเครือข่ายค้ายาเสพติด

    นอกจากนี้ การให้ความรู้ และสร้างจิตสำนึกในสังคมว่า “การแลกเปลี่ยนชีวิตมนุษย์เพื่อเงิน” นั้นไม่มีค่าเทียบเท่ากับความมีชีวิตอยู่ และความสมบูรณ์ของจิตใจ จะช่วยลดโอกาสให้คนเข้าสู่แนวทางที่ผิด และนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่ดีขึ้น อย่างแท้จริง

    เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความจริง ที่บางครั้งเราอาจมองข้ามไป ในแง่ของคุณค่าชีวิต และผลกระทบที่เกิดขึ้น จากการกระทำผิดกฎหมาย 🤔 ชีวิตที่ถูกแลกด้วยเงินเพียงเล็กน้อยนั้นไม่มีค่า เมื่อเทียบกับความรักและความสัมพันธ์ของคนรอบข้า งที่สูญเสียไปไปพร้อมกัน

    ทั้งนี้ คดีนี้เป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า ที่สังคมไทยไม่ควรลืม และเป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้จะอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก หรือมีความยากจน แต่ทางออกที่ถูกต้องคือ การมองหาแนวทางช่วยเหลือ และการพัฒนาชีวิตให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่การเลือกเส้นทาง ที่นำพามาซึ่งความผิดพลาด และจุดจบที่น่าเศร้า

    เหตุการณ์ประหารชีวิต “สมคิด นามแก้ว” ในคดีคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงคุณค่าให้กับคนไทยในทุกยุคสมัย แม้จะผ่านไปนาน 24 ปี แต่บาดแผลจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังคงปรากฏให้เห็นในแง่มุมของการต่อสู้กับยาเสพติด และการรักษาคุณค่าของชีวิตมนุษย์

    จากคดีนี้เราได้เรียนรู้ว่า "ชีวิตมีค่า" และไม่ควรนำมาแลกเปลี่ยนกับเงินทอง แม้เพียงเล็กน้อย เพราะผลที่ตามมาหลังจากนั้น คือความสูญเสีย ที่ไม่อาจชดเชยได้ทั้งในทางกายและจิตใจ

    สิ่งที่เราได้จากเรื่องราวของสมคิด คือการตระหนักในความสำคัญ ของการเลือกเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง การช่วยเหลือ และสนับสนุนกันในสังคม ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และความยากจน เราควรเลือกที่จะอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง และมีความหมาย แม้ทางเดินจะยากลำบาก แต่ความมีคุณค่าในชีวิตและความจริงใจ จะนำเราไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เส้นทางที่ไม่ต้องแลกเปลี่ยนชีวิตอันมีค่า เพื่อเงินทองที่ว่างเปล่า

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121635 เม.ย. 2568

    #24ปีประหาร #สมคิดนามแก้ว #นักโทษคดียาบ้า #ปราบยาเสพติด #ชีวิตมีค่า #คดียาบ้า #ยับยั้งอาชญากรรม #สังคมปลอดภัย #อาลัยในชีวิต #ความจริงที่ไม่ควรลืม
    24 ปี ประหารชีวิต ‘สมคิด นามแก้ว’ นักโทษคดียาบ้าคนแรก ที่ถูกประหาร ด้วยการยิงเป้า” เสียงครวญสะท้านใจ “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต มันไม่คุ้มเลย” แง่คิดที่เตือนให้รู้คุณค่าของชีวิต “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้า คนแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านไป ภายใต้บรรยากาศอันน่าสะเทือนใจ ของการเปลี่ยนแปลงสังคม การปราบปรามยาเสพติด ชีวิตมีค่ามากกว่าเงินทอง และความจำเป็นในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด อย่างเด็ดขาด ในโลกที่ความมีค่าแห่งชีวิต ศีลธรรม ถูกท้าทายด้วยความโลภ และความอยากรวย เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมานั้น ยังคงสะเทือนใจคนไทยทุกวันนี้ 😢 ย้อนไปเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมา ในบ่ายวันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 ที่แดนประหาร เรือนจำกลางบางขวาง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ ต้องจ้องมองและตั้งคำถาม ถึงความหมายของความถูกต้อง และความยุติธรรมในสังคม อย่างลึกซึ้ง ยาบ้าและปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติดทุกชนิด ต่างก็เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในทุกชั้นสังคม แต่ยาบ้าในสมัยนั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่คลุ้มคลั่ง และทำให้ผู้เสพมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตัวเองและสังคมทั่วไป นายสมคิด นามแก้ว ได้ถูกจับในคดีมียาเสพติด โดยมีหลักฐานแน่ชัดว่า ต้องขนส่งยาบ้าปริมาณมหาศาล ซึ่งสืบเนื่องมาจากการสืบสวน ที่เชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายค้ายาเสพติด ทั้งในประเทศและในต่างประเทศ และในขณะที่ระบบการปราบปรามยาเสพติด เริ่มเข้มงวดขึ้น เพื่อยับยั้งอาชญากรรม และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายาบ้าในสังคม 👮‍♂️ ประเทศไทยมีกฎหมายที่เข้มงวด เกี่ยวกับคดียาเสพติด โดยหลักฐานและการรับสารภาพ มักนำไปสู่โทษที่ร้ายแรงที่สุดในบางกรณี โดยเฉพาะในคดียาบ้า ที่มักจะมีมาตรการประหารชีวิต สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีจุดประสงค์ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือน ให้กับผู้ที่คิดจะเข้ามามีส่วนร่วมกับการค้า และเสพติดยาเสพติด ในคดีของสมคิด ศาลชั้นต้นเห็นว่า ความผิดไม่ได้เกิดจาก ความประมาทเลินเล่อเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการกระทำ ที่บ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยของสังคม และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การกระทำความผิดในฐานะที่เป็น “นักโทษคดียาบ้า” นั้น จะต้องได้รับโทษในระดับสูงสุด ซึ่งก็คือการประหารชีวิต ตามที่ได้เกิดขึ้นจริงในวันนั้น ในช่วงเวลานั้น ยาบ้าเป็นที่แพร่หลายในสังคมในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นชั้นคนทำงานข้างนอก หรือแม้แต่ในวงการขบวนการอาชญากรรมขนาดใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของเครือข่ายค้ายาเสพติด ทำให้การปราบปรามเป็นเรื่องท้าทาย และต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยังทำให้เกิดความรู้สึกสับสนในสังคม ที่มองเห็นภาพของความยุติธรรม ที่อาจไม่ชัดเจนในบางครั้ง เหตุการณ์ของคดีนี้ เริ่มต้นในกลางดึกวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2540 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูล เกี่ยวกับการลำเลียงยาบ้าปริมาณมาก จากพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย เข้าสู่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางผ่านทางหลวงหมายเลข 103 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กองบังคับการทางหลวง 5 จังหวัดพะเยา ได้ตั้งด่านสกัด ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวงร้องกวาง ตำบลร้องเข็ม อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ตามข้อมูลที่ได้รับ และมีรถเก๋งโตโยต้า โคโรน่าสีน้ำตาล ทะเบียน 3ว-8505 กทม. วิ่งเข้ามาที่จุดสกัด เมื่อเจ้าหน้าที่สั่งให้รถหยุด เพื่อทำการตรวจค้น ในขณะตรวจค้น นายสมคิด ซึ่งในตอนนั้นอายุ 31 ปี พักอาศัยอยู่ที่หมู่ที่ 10 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้แสดงออกถึงพิรุธ ด้วยการกล่าวว่า “ในรถไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย” และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตนเองเกลียดยาบ้ามากที่สุด” แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการค้นอย่างละเอียด พบยาบ้าบรรจุในห่อพลาสติก ซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในรถ ทั้งที่ประตูรถและใต้เบาะนั่ง พบว่ามียาบ้าปริมาณถึง 203 ห่อ ๆ ละ 2,000 เม็ด รวมเป็นจำนวน 406,000 เม็ด ซึ่งมีสีสันปรากฏเป็นสีส้มและเขียว ประทับตัวอักษรว่า “wy” โดยมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท จึงติดสินบนตำรวจ 5 ล้านบาท แต่ตำรวจไม่เล่นด้วย🚔 หลังจากจับกุม ในขั้นตอนการสอบสวน นายสมคิดได้ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาบ้าจากพ่อค้ายาเสพติด ด้วยค่าจ้าง 50,000 บาท เพื่อนำส่งให้ลูกค้าที่ปั๊มน้ำมัน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้ เผยให้เห็นว่า แม้จะมีกำไรในทางการค้ายาเสพติด แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” นั้นไม่คุ้มค่าเลย เพราะชีวิตที่ถูกประหารนั้น เป็นชีวิตที่จบลงไปในพริบตา ไม่มีวันได้กลับคืน หรือแก้ไขได้หลังจากนั้น นายสมคิดถูกส่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี ในศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยในชั้นต้นศาลเห็นว่า แม้จะมีการรับสารภาพ แต่การกระทำของนายสมคิดนั้นทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรง ต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม จึงได้พิพากษาให้ลงโทษในระดับสูงสุด นั่นคือโทษประหารชีวิต หลังจากคำพิพากษาของศาลชั้นต้น นายสมคิดได้ดำเนินการอุทธรณ์ ต่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา พร้อมทั้งได้ยื่นหนังสือถวายฎีกา ทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษ ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2543 นายสมคิดได้ให้เหตุผลว่า “ตนมีการรับสารภาพมาตั้งแต่แรก และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน” รวมทั้งระบุว่า ตนได้กระทำเ พราะต้องการหาเงินมารักษาพยาบาลพี่สาว ที่ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ เนื่องจากฐานะทางการเงินที่ยากจน แต่ข้ออ้างเหล่านี้ถู กศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาปฏิเสธ โดยให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศชาติ และความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยกล่าวว่าเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถเปรียบเทียบ กับประโยชน์ส่วนรวมของสังคมได้ ในกระบวนการพิจารณา ศาลได้พิจารณาหลักฐาน และพฤติกรรมของนายสมคิด ที่ชัดเจนว่าเป็นผู้รับจ้างขนยาบ้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้า และการค้ายาเสพติด ที่สร้างความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม การที่นายสมคิดพยายามให้สินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่เน้นย้ำถึงความจริงที่ว่า ระบบค้ายาเสพติด มีการแทรกซึมลึกในสังคม ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินยืน ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และเมื่อเรื่องนั้นถูกส่งต่อมายังศาลฎีกา คำพิพากษาก็ยังคงยืนหยัด นำมาซึ่งวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 เป็นวันที่ประหารชีวิตเกิดขึ้นจริง วันประหารชีวิตของนายสมคิด นามแก้ว ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดความสลดใจ และสะเทือนใจคนไทยอย่างแท้จริง โดยรายละเอียดในวันนั้นถูกบันทึกไว้ในหลาย ๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นบันทึกของเจ้าหน้าที่ หรือรายงานของนักข่าว ภาพความทุกข์ และความหวาดกลัวของนักโทษที่ต้องรอประหาร ได้สะท้อนให้เห็นถึงความหนักแน่น ในการปราบปรามยาเสพติดในสมัยนั้น ในช่วงบ่ายของวันประหาร ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ต่างเข้ามาจัดเตรียมสิ่งของ ที่จำเป็นสำหรับการประหารชีวิต ทั้งนี้เพื่อให้ขั้นตอนทั้งหมด เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นความลับ เมื่อถึงเวลาที่นายสมคิด ถูกเบิกตัวออกจากห้องคุม ทุกอย่างดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเงียบสงัด และบรรยากาศที่หนักอึ้ง นายสมคิดในวันนั้น แสดงอาการที่ชัดเจนว่า รู้สึกกลัวและทุกข์ทรมาน ทั้งทางร่างกายที่เริ่มอ่อนแรง และจิตใจที่สั่นคลอน ถึงแม้ว่าในช่วงท้ายของการเดิน จากห้องคุมไปสู่หลักประหาร นายสมคิดยังคงตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับความรู้สึกและความคิดของตนเอง “ผมเป็นคนแรกที่ถูกประหาร เพราะคดียาบ้าใช่ไหมครับ” และยังได้เตือนผู้อื่น เกี่ยวกับการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ที่อาจนำมาซึ่งความทุกข์ และความเสียหายต่อชีวิต 😔 ระหว่างทาง ในขณะที่นายสมคิดถูกนำไปประหาร มีการสนทนาที่บ่งบอกถึงความทรงจำ และความเจ็บปวดภายในจิตใจของเขา รวมถึงการแฉข้อเท็จจริงของเครือข่ายค้ายาเสพติด ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองในระดับท้องถิ่น “ถ้าจะปราบยาเสพติดให้หมดไปจริงๆ ก็ต้องเอาคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในทุกระดับออกไป” นายสมคิดกล่าว ในช่วงเวลาที่อารมณ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ และความรู้สึกที่อยากจะบอกต่อสังคม ผู้คุมในวันนั้น ได้พยายามปลอบใจนายสมคิดว่า “อย่างน้อยสมคิดยังได้ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นครั้งสุดท้าย” แม้ว่าจะมองในแง่ของการเป็นบทเตือน สำหรับผู้ที่คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่คำพูดเหล่านี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งของจิตใจ ระหว่างความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และความเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ของมนุษย์ ในห้องประหาร ที่จัดเตรียมขึ้นอย่างเคร่งครัด นายสมคิดถูกนำเข้ามาในห้องที่แสงไฟสลัว ๆ และบรรยากาศเงียบสงัด ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ทำการเตรียมเครื่องมือ และตรวจสอบความพร้อมในทุกขั้นตอน ก่อนที่หัวหน้าชุดประหารจะโบกธงแดง เพื่อเริ่มกระบวนการประหาร ในช่วงเวลานั้น ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ทุกคน ต่างมีความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างหน้าที่ และความสำนึกในความทุกข์ทรมานของนายสมคิด ขณะที่นายสมคิดเอง ก็ได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ ในการรำลึกถึงชีวิตที่ผ่านมา ทั้งความรัก ความฝัน และความผิดพลาด ที่ไม่อาจย้อนกลับได้อีกต่อไป คำบอกลาและพินัยกรรมของนายสมคิด เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงข้อคิดที่ว่า “ชีวิตมนุษย์มีค่า เกินกว่าจะถูกแลกด้วยเงินเพียงเพราะความจน หรือความสิ้นหวัง” เขาได้ฝากท้ายจดหมายถึงญาติพี่น้องว่า “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด” ซึ่งเป็นคำเตือนที่หวังว่า จะช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่น เดินตามรอยเท้าของเขาในอนาคต แม้คดีของนายสมคิด นามแก้ว จะเกิดขึ้นเมื่อกว่า 24 ปี ที่ผ่านมา แต่ผลกระทบ และบทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์นี้ ยังคงสะท้อนอยู่ในสังคมไทยในหลายมิติ ทั้งในแง่ของการปราบปรามยาเสพติด และการตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตมนุษย์ คดีนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้กับนโยบาย และวิธีการปราบปรามยาเสพติดในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับบทเรียนอันทรงคุณค่าจากการจับกุม และการดำเนินคดีที่เป็นแบบอย่าง แม้ว่าจะมีความท้าทาย จากเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อน แต่การดำเนินการที่เข้มแข็ง และเด็ดขาดในคดีนี้ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ไม่มีทางที่ผู้กระทำผิด จะหลุดพ้นไปจากกฎหมาย นอกจากนี้ ความเข้มงวดในการลงโทษสูงสุด อย่างการประหารชีวิต ได้เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยา ที่ทำให้ผู้ค้ายาเสพติดต้องคิดทบทวนถึงความเสี่ยง และผลที่ตามมา หากตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางอาชญากรรมดังกล่าว หนึ่งในแง่คิดที่ทรงพลัง จากเหตุการณ์ของนายสมคิด คือ “ชีวิตมนุษย์มีค่าเกินกว่าจะแลกด้วยเงิน” เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ นายสมคิดได้รับเงินค่าจ้างเ 50,000 บาท เพื่อการขนส่งยาบ้า แต่ท้ายที่สุดค่าใช้จ่ายนั้น กลับสูงกว่ามาก เมื่อชีวิตของเขา ถูกสังหารไปในพริบตา เหตุการณ์ครั้งนี้เตือนใจให้กับทุกคนว่า ไม่ว่าเราจะเผชิญกับความยากจน หรือความท้าทายใด ๆ ในชีวิต การก้าวเข้าสู่เส้นทางผิดกฎหมาย ด้วยเงินทองเพียงไม่กี่บาทนั้น ไม่สามารถชดเชยค่าของชีวิต และความมีคุณค่าที่แท้จริงได้ ในมุมมองของสังคม สิ่งนี้ยังเป็นการเผยให้เห็นถึง ความจำเป็นในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ในระบบเศรษฐกิจ และสวัสดิการสังคม เพื่อให้คนไทยทุกคน มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือ และการสนับสนุนที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิต หรือกระทำความผิดเพื่อความอยู่รอด นอกจากความเสียหาย ที่เกิดกับตัวนายสมคิดแล้ว คดีนี้ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัว และญาติพี่น้องของเขาอีกด้วย ภาพของคนในบ้าน ที่ต้องสูญเสียสมาชิกอันมีค่าไป จากการกระทำที่นำไปสู่การประหารชีวิต สะท้อนให้เห็นถึงความสูญเสีย ทั้งทางด้านอารมณ์ และชื่อเสียงในสังคม การที่คนรอบข้าง ต้องเผชิญกับความสลด จากการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวนั้น ทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการมีคุณค่าชีวิต และความจำเป็นในการสนับสนุน และช่วยเหลือกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นผ่านนโยบายสังคมที่เข้มแข็ง หรือการให้ความรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด ในหลายช่วงของเรื่องราวนี้ อารมณ์และความรู้สึก ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างละเอียด ทั้งความกลัว ความเสียใจ และความหวาดกลัวของนายสมคิด ในนาทีสุดท้าย และความเหงาเศร้าใจของผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ที่ต้องเผชิญกับการปฏิบัติหน้าที่หนักอึ้ง เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องหันมาสำรวจ และตั้งคำถามว่า “เราจะทำอะไร เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นอีก?” สังคมไทยในปัจจุบัน ยังคงต้องรับมือกับปัญหายาบ้า และปัญหาอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีมาตรการส่งเสริมคุณค่าชีวิต การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ และโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้กับผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรมเหล่านั้น โดยที่ไม่ใช่แค่การลงโทษเท่านั้น แต่ยังเป็นการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น เหตุการณ์ของนายสมคิด นามแก้ว ได้เปิดเผยประเด็นสำคัญทางจริยธรรม ที่สังคมไทยต้องเผชิญ โดยเฉพาะในแง่ของการให้คุณค่ากับชีวิตมนุษย์ และการตัดสินใจที่มีผลตามมาตลอดชีพ ในสังคมที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ยังคงมีอยู่ ความจนหรือความจำเป็นบางครั้ง ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการกระทำผิด แต่เหตุการณ์ของนายสมคิด สอนเราให้เห็นว่า การกระทำผิดไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ แม้จะมีเหตุผลส่วนตัว ที่น่าสงสารเพียงใดก็ตาม “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” เป็นวาทะที่ชัดเจนที่เตือนใจว่า ค่าใช้จ่ายในชีวิตนั้น สูงเกินกว่าที่จะวัดด้วยเงินทอง ใครที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ควรได้รับความช่วยเหลือจากสังคม มากกว่าที่จะถูกผลัก ให้เข้าสู่เส้นทางที่ไร้ทางออก การลงโทษประหารชีวิตในคดียาเสพติด อาจดูเหมือนเป็นการลงโทษที่รุนแรง แต่ในมุมมองของสังคมไทยในขณะนั้นแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เครือข่ายค้ายาเสพติด เติบโตและแพร่กระจาย อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน ก็มีความถกเถียงกันในหลายมุมมอง เกี่ยวกับความถูกต้องของการลงโทษสูงสุดนี้ ว่าจะสามารถช่วยลดอาชญากรรมในระยะยาว ได้จริงหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงที่เห็นจากคดีของนายสมคิดคือ การลงโทษอย่างเด็ดขาดนั้น เป็นการยืนยันถึงความเข้มงวด ของระบบยุติธรรมในยุคนั้น หากเรามองในแง่ของการป้องกัน การลงโทษที่รุนแรง ไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการกระทำผิด ได้ในระยะยาว สังคมจำเป็นต้องหันมาสนับสนุนการศึกษา สวัสดิการ และระบบช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบ ในบทเรียนจากคดีนี้ เราได้รู้ว่าการแก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาสังคมในมิติ ที่ลึกกว่าเพียงการลงโทษนั้น สำคัญมาก การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ทุกคน มีโอกาสทางการศึกษา และการพัฒนาตนเอง อาจเป็นกุญแจสำคัญ ในการป้องกันไม่ให้เกิดคดี ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต 24 ปีที่ผ่านมา คดีของนายสมคิด นามแก้ว ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจให้กับสังคมไทย ถึงความเปราะบางของชีวิตมนุษย์ และความรับผิดชอบ ที่เราต้องมีต่อกันในฐานะสมาชิกของสังคม แม้ว่าในนาทีสุดท้ายของชีวิต นายสมคิดจะต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน และความกลัวที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่คำพูดและการกระทำของเขา กลับเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า สำหรับคนไทยทุกคน “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด” คือคำเตือนที่เกิดจากความเจ็บปวดส่วนตัว ที่สุดท้ายแล้ว กลับกลายเป็นเสียงเตือนถึงความผิดพลาด ที่อาจส่งผลให้ชีวิตของเรา และคนที่เรารักต้องจบลงในพริบตา การประหารชีวิตในคดีนี้ ทำให้เราได้ตระหนักว่า การเลือกทางเดินในชีวิตนั้น สำคัญมากกว่าเงินทอง หรือสิ่งของวัตถุใด ๆ เพราะเมื่อชีวิตถูกใช้ไปแล้ว เราจะไม่มีทางหวนคืนกลับมาได้อีก 😔 สังคมไทยในปัจจุบัน ย่อมต้องหันมาสนับสนุนกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม ที่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตที่มีคุณค่าแ ละถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด การสนับสนุนให้ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง รวมถึงการส่งเสริมค่านิยมในด้านความซื่อสัตย์ และความมีคุณธรรม ในมุมมองนี้ คดีของนายสมคิด ไม่ได้เป็นเพียงคดีของนักโทษ ที่ถูกประหารชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำหรับทุกคน ที่ต้องคิดทบทวน ถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ชีวิตมีค่า” เมื่อชีวิตของเราถูกกีดกันด้วยความผิดพลาด ในเส้นทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนความเสียหาย ที่เกิดขึ้นได้ในภายหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้มีคดีที่คล้ายคลึงกัน เกิดขึ้นอีกในอนาคต จำเป็นต้องมีการสร้างระบบ ที่ช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรม อย่างครบวงจร ตั้งแต่การศึกษาเรื่องผลกระทบของยาเสพติด การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ ไปจนถึงการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ ให้กับกลุ่มคนที่อาจตกเป็นเหยื่อของความยากจน และการล่อลวงของเครือข่ายค้ายาเสพติด นอกจากนี้ การให้ความรู้ และสร้างจิตสำนึกในสังคมว่า “การแลกเปลี่ยนชีวิตมนุษย์เพื่อเงิน” นั้นไม่มีค่าเทียบเท่ากับความมีชีวิตอยู่ และความสมบูรณ์ของจิตใจ จะช่วยลดโอกาสให้คนเข้าสู่แนวทางที่ผิด และนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่ดีขึ้น อย่างแท้จริง เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความจริง ที่บางครั้งเราอาจมองข้ามไป ในแง่ของคุณค่าชีวิต และผลกระทบที่เกิดขึ้น จากการกระทำผิดกฎหมาย 🤔 ชีวิตที่ถูกแลกด้วยเงินเพียงเล็กน้อยนั้นไม่มีค่า เมื่อเทียบกับความรักและความสัมพันธ์ของคนรอบข้า งที่สูญเสียไปไปพร้อมกัน ทั้งนี้ คดีนี้เป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า ที่สังคมไทยไม่ควรลืม และเป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้จะอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก หรือมีความยากจน แต่ทางออกที่ถูกต้องคือ การมองหาแนวทางช่วยเหลือ และการพัฒนาชีวิตให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่การเลือกเส้นทาง ที่นำพามาซึ่งความผิดพลาด และจุดจบที่น่าเศร้า เหตุการณ์ประหารชีวิต “สมคิด นามแก้ว” ในคดีคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงคุณค่าให้กับคนไทยในทุกยุคสมัย แม้จะผ่านไปนาน 24 ปี แต่บาดแผลจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังคงปรากฏให้เห็นในแง่มุมของการต่อสู้กับยาเสพติด และการรักษาคุณค่าของชีวิตมนุษย์ จากคดีนี้เราได้เรียนรู้ว่า "ชีวิตมีค่า" และไม่ควรนำมาแลกเปลี่ยนกับเงินทอง แม้เพียงเล็กน้อย เพราะผลที่ตามมาหลังจากนั้น คือความสูญเสีย ที่ไม่อาจชดเชยได้ทั้งในทางกายและจิตใจ สิ่งที่เราได้จากเรื่องราวของสมคิด คือการตระหนักในความสำคัญ ของการเลือกเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง การช่วยเหลือ และสนับสนุนกันในสังคม ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และความยากจน เราควรเลือกที่จะอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง และมีความหมาย แม้ทางเดินจะยากลำบาก แต่ความมีคุณค่าในชีวิตและความจริงใจ จะนำเราไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เส้นทางที่ไม่ต้องแลกเปลี่ยนชีวิตอันมีค่า เพื่อเงินทองที่ว่างเปล่า ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121635 เม.ย. 2568 #24ปีประหาร #สมคิดนามแก้ว #นักโทษคดียาบ้า #ปราบยาเสพติด #ชีวิตมีค่า #คดียาบ้า #ยับยั้งอาชญากรรม #สังคมปลอดภัย #อาลัยในชีวิต #ความจริงที่ไม่ควรลืม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1311 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Chrome กำลังอัปเดตเวอร์ชันใหม่เพื่อแก้ไขช่องโหว่ที่ทำให้นักแฮ็กสามารถตรวจสอบเว็บไซต์ที่คุณเคยเข้าชมได้ผ่านสีของลิงก์ ฟีเจอร์ Partitioning ที่เพิ่มเข้ามาจะช่วยป้องกันข้อมูลประวัติการเข้าชมของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    == จุดเริ่มต้นของปัญหา ==
    ✅ การเปลี่ยนสีของลิงก์ที่เข้าชมแล้ว:
    - ในเบราว์เซอร์ Chrome (และเบราว์เซอร์อื่น ๆ) เมื่อผู้ใช้คลิกบนลิงก์ในหน้าเว็บ ลิงก์ดังกล่าวจะเปลี่ยนจาก สีน้ำเงิน เป็น สีม่วง เพื่อช่วยให้ผู้ใช้จำเว็บไซต์ที่ตนเคยเยี่ยมชมได้

    ✅ การนำช่องโหว่ไปใช้:
    - นักแฮ็กใช้ JavaScript หรือ CSS เพื่อตรวจสอบว่าเว็บไซต์ใดถูกเข้าชมแล้วผ่านการตรวจสอบสีของลิงก์ ซึ่งสามารถเผยข้อมูลการท่องเว็บของผู้ใช้ได้อย่างง่ายดาย

    == การแก้ไขใน Chrome 136 ==
    ✅ “Partitioning :visited Link History”:
    - Google ได้นำเทคนิคนี้มาใช้เพื่อป้องกันการตรวจสอบสีของลิงก์ที่เข้าชมแล้ว นักแฮ็กจึงไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ได้อีก

    ✅ ความสำคัญของการแก้ปัญหานี้:
    - ปัญหานี้มีมานานกว่า 20 ปีและถูกพบในเบราว์เซอร์อื่น ๆ ด้วย Google ยืนยันว่า Chrome 136 จะช่วยลดความเสี่ยงและทำให้ช่องโหว่นี้ "ล้าสมัย" โดยสมบูรณ์

    https://www.techradar.com/pro/security/ancient-flaw-that-allowed-hackers-to-view-browsing-history-patched-by-chrome
    Google Chrome กำลังอัปเดตเวอร์ชันใหม่เพื่อแก้ไขช่องโหว่ที่ทำให้นักแฮ็กสามารถตรวจสอบเว็บไซต์ที่คุณเคยเข้าชมได้ผ่านสีของลิงก์ ฟีเจอร์ Partitioning ที่เพิ่มเข้ามาจะช่วยป้องกันข้อมูลประวัติการเข้าชมของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ == จุดเริ่มต้นของปัญหา == ✅ การเปลี่ยนสีของลิงก์ที่เข้าชมแล้ว: - ในเบราว์เซอร์ Chrome (และเบราว์เซอร์อื่น ๆ) เมื่อผู้ใช้คลิกบนลิงก์ในหน้าเว็บ ลิงก์ดังกล่าวจะเปลี่ยนจาก สีน้ำเงิน เป็น สีม่วง เพื่อช่วยให้ผู้ใช้จำเว็บไซต์ที่ตนเคยเยี่ยมชมได้ ✅ การนำช่องโหว่ไปใช้: - นักแฮ็กใช้ JavaScript หรือ CSS เพื่อตรวจสอบว่าเว็บไซต์ใดถูกเข้าชมแล้วผ่านการตรวจสอบสีของลิงก์ ซึ่งสามารถเผยข้อมูลการท่องเว็บของผู้ใช้ได้อย่างง่ายดาย == การแก้ไขใน Chrome 136 == ✅ “Partitioning :visited Link History”: - Google ได้นำเทคนิคนี้มาใช้เพื่อป้องกันการตรวจสอบสีของลิงก์ที่เข้าชมแล้ว นักแฮ็กจึงไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ได้อีก ✅ ความสำคัญของการแก้ปัญหานี้: - ปัญหานี้มีมานานกว่า 20 ปีและถูกพบในเบราว์เซอร์อื่น ๆ ด้วย Google ยืนยันว่า Chrome 136 จะช่วยลดความเสี่ยงและทำให้ช่องโหว่นี้ "ล้าสมัย" โดยสมบูรณ์ https://www.techradar.com/pro/security/ancient-flaw-that-allowed-hackers-to-view-browsing-history-patched-by-chrome
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts