• ปะการังเจ็ดสี Unseen กองหินขาว จ.สตูล

    เอ่ยถึงจังหวัดสตูล หลายคนมักจะถึงเกาะตะรุเตา เกาะหลีเป๊ะ อาดังราวี แต่รู้หรือไม่ว่า ที่จังหวัดสตูล ยังมีทะเลอีกหนึ่งจุดที่รอนักท่องเที่ยวมาสัมผัสความงามใต้ท้องทะเลลึก ณ กองหินขาว อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา

    หลายปีที่ผ่านมา ชื่อของกองหินขาว โด่งดังขึ้นมา จากโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา ซึ่งเหล่านักวิชาการ -นักอนุรักษ์มองว่าการก่อสร้างท่าเรือดังกล่าวจะส่งผลกระทบโดยตรงกับกองหินขาว และระบบนิเวศวิทยาทางทะเลที่อยู่ล้อมรอบ ดังนั้นจึงมีการนำภาพนิ่ง - วีดีโอ ต่างๆของท้องทะเลใต้กองหินขาวและบริเวณรอบๆมานำเสนอต่อประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับรู้ ได้เห็นว่าแท้จริงแล้ว ใต้ท้องทะเลแห่งนี้มีของดีล้ำค่าเพียงใด

    ผลของการออกโรงของนักวิชาการ -นักอนุรักษ์ รวมไปถึงชุมชนที่หวั่นว่าจะได้รับผลกระทบ ส่งผลให้รัฐบาลโดยกรมเจ้าท่า ได้ลงนามร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาที่เป็นคู่สัญญายุติโครงการศึกษาทบทวนและสำรวจออกแบบรายละเอียด (EHIA) โครงการท่าเรือน้ำลึกฯ (ปากบารา) เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562

    #ปะการัง7สี
    ปะการังเจ็ดสี Unseen กองหินขาว จ.สตูล เอ่ยถึงจังหวัดสตูล หลายคนมักจะถึงเกาะตะรุเตา เกาะหลีเป๊ะ อาดังราวี แต่รู้หรือไม่ว่า ที่จังหวัดสตูล ยังมีทะเลอีกหนึ่งจุดที่รอนักท่องเที่ยวมาสัมผัสความงามใต้ท้องทะเลลึก ณ กองหินขาว อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา หลายปีที่ผ่านมา ชื่อของกองหินขาว โด่งดังขึ้นมา จากโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา ซึ่งเหล่านักวิชาการ -นักอนุรักษ์มองว่าการก่อสร้างท่าเรือดังกล่าวจะส่งผลกระทบโดยตรงกับกองหินขาว และระบบนิเวศวิทยาทางทะเลที่อยู่ล้อมรอบ ดังนั้นจึงมีการนำภาพนิ่ง - วีดีโอ ต่างๆของท้องทะเลใต้กองหินขาวและบริเวณรอบๆมานำเสนอต่อประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับรู้ ได้เห็นว่าแท้จริงแล้ว ใต้ท้องทะเลแห่งนี้มีของดีล้ำค่าเพียงใด ผลของการออกโรงของนักวิชาการ -นักอนุรักษ์ รวมไปถึงชุมชนที่หวั่นว่าจะได้รับผลกระทบ ส่งผลให้รัฐบาลโดยกรมเจ้าท่า ได้ลงนามร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาที่เป็นคู่สัญญายุติโครงการศึกษาทบทวนและสำรวจออกแบบรายละเอียด (EHIA) โครงการท่าเรือน้ำลึกฯ (ปากบารา) เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 #ปะการัง7สี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • 28/12/67

    วันที่ 26/12/67(วันนี้) ทักษิณเดินทางมาขึ้นเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ในข่วงเช้าและกลับไปในตอนเย็น โดยใช้เรือ 4 ลำที่เห็นจอดอยู่ไกล ๆ เป็นพาหนะ คงมีใครตามไปมาก ถึงต้องใช้เรือถึง 4 ลำ....???

    https://www.youtube.com/live/hsfs7r0okQk?si=ENc4F7pChMpfE_cV
    cr: CEO Talk
    28/12/67 วันที่ 26/12/67(วันนี้) ทักษิณเดินทางมาขึ้นเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ในข่วงเช้าและกลับไปในตอนเย็น โดยใช้เรือ 4 ลำที่เห็นจอดอยู่ไกล ๆ เป็นพาหนะ คงมีใครตามไปมาก ถึงต้องใช้เรือถึง 4 ลำ....??? https://www.youtube.com/live/hsfs7r0okQk?si=ENc4F7pChMpfE_cV cr: CEO Talk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • “๑ ประเทศ ๒ รัฐบาล” #เปลวสีเงิน
    plew

    เปลว สีเงิน

    คงเป็น “ที่สุดแห่งปี” จริงๆ
    สำหรับประเทศแห่งประชากรผู้หิวโหยและเทิดทูน ๒ พ่อลูก “ตระกูลชิน”
    บ่ายวาน(๒๗ ธ.ค.๖๗)นายกฯมาเลย์ฯ “นายอันวาร์” โพสต์เฟซ พร้อมภาพถ่ายคู่ทักษิณ

    Anwar Ibrahim
    รู้สึกยินดีที่ได้พบอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยและเพื่อนรักอย่าง ดร.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อหารือกันอย่างน่าสนใจ ครอบคลุมและมีประโยชน์

    รวมทั้งในฐานะที่ปรึกษาไม่เป็นทางการของมาเลเซีย ในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน

    การสนทนามุ่งเน้นประเด็นสำคัญในภูมิภาค ได้แก่ การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ การส่งเสริมสันติภาพในภาคใต้ของไทย และการแก้ไขวิกฤตเมียนมา

    เครือข่ายความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ในภูมิภาคของคุณทักษิณ ประกอบกับความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวของเขา ได้ให้คำมั่นว่า

    จะเปิดโอกาสอันล้ำค่าสำหรับมาเลเซียและอาเซียนเพื่อรับมือกับความท้าทาย ด้วยความมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงแนวทางเสริมสร้างสัมพันธ์ทวิภาคีที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ระหว่างมาเลเซียและไทย
    ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์การพัฒนาอย่างยั่งยืนและความสามัคคีในภูมิภาค

    ที่ผมมีร่วมกับ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศไทย

    หลายทศวรรษที่ผ่านทักษิณและผมเชื่อมั่นว่า มาเลเซียและไทยสามารถบรรลุผลสำเร็จได้มากกว่านี้มาก เมื่อร่วมมือกัน

    ไม่เพียงแต่สำหรับประเทศของเราเท่านั้น
    แต่สำหรับภูมิภาคโดยรวมด้วย เรามุ่งมั่นที่จะทำให้วิสัยทัศน์นั้น กลายเป็นความจริง.

    นั่นคือบทบาท “นายกฯ-ผู้พ่อ” ปิดศักราช ๒๕๖๗ เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน ทีนี้อยากให้ดูบทบาท “นายกฯ-ผู้ลูก” ส่งท้ายปีบ้าง

    ๒๗ ธันวา. นายกฯ “แพทองธาร ชินวัตร”
    ส่งหนังสือลากิจ ๑ วัน ไปที่ “สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี” (สลค.)

    “หยุดงาน” ยาวต่อเนื่องข้ามศักราชไปถึงปีหน้า บอกว่า “เพื่อใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัว”
    จะกลับมา “ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ” อีกครั้ง วันที่ ๒ มกรา.๖๘

    โดยเป็นประธานพิธีทำบุญในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๘ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ตอนเช้า
    นายกฯ บอกลาอย่างนี้แล้ว รู้สึกยังไงกันบ้างครับ?

    ในความรู้สึกผม….
    ประเทศเหมือน “ครอบครัวหนึ่ง” มีสมาชิก ๖๐ กว่าล้านคน มีรัฐบาลโดย “นายกฯ” เป็นหัวหน้า “รับผิดชอบ” ดูแลครอบครัว

    ปีใหม่ “หยุดยาว” สมาชิกในครอบครัว พากันไปเที่ยวไหน-ต่อไหนกันจนกรุงเทพฯ แทบโล่ง ประมาณ ๑ สัปดาห์

    แต่แทนที่ “หัวหน้าครอบครัว” จะบอกว่า หยุดยาว เที่ยวกันให้สนุกนะ ไม่ต้องห่วงหรอก จะระวังขะโมย-ขะโจรให้เอง

    กลับตรงกันข้าม ลูกบ้านหยุดยาวไปเที่ยว หัวหน้าบ้านก็หยุดยาวบ้าง แถมชิงเอาเปรียบ “ลาหยุด” ล่วงหน้าซะอีก ๑ วัน!

    ถามว่าผิดมั้ย?
    ก็ไม่ผิด แต่มันขาด “ภาวะสำนึก” แห่งความรับผิดชอบของ “คนเป็นผู้นำ”

    หรือพูดกันชัดๆ…
    นางสาวแพทองธาร ลูกนายทักษิณ ไม่มีทั้งวุฒิภาวะ ไม่มีทั้งสำนึกภาวะ ไม่คู่ควรตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” เลย!

    เป็น “ผู้นำ” เป็นตลอด ๒๔ ชั่วโมง….
    หยุุดงาน-หยุดได้ แต่ไม่ใช่เห็นชาวบ้านเขาหยุดยาวในเทศกาล กูก็จะหยุดมั่ง แบบนี้

    มีธุระสำคัญอะไรที่ต้องลาหยุดเพิ่มให้เป็น “แบบอย่าง” ที่ไม่ดี เช่นนี้?
    เปล่า…ลาหยุดพักผ่อนกับครอบครัว!?

    แถมบอก “จะกลับมาปฎิบัติหน้าที่นายกฯ” อีกครั้ง ในวันที่ ๒ มกรา.๖๘ นั้น
    น่ารังเกียจ ประหนึ่ง “ไร้เดียงสา”!

    ต้องเข้าใจนะอุ๊งอิ๊ง คุณพ่อไม่สอนหรือว่า การไปทำงานนั้น “หยุด…คือไม่ไปที่ทำงาน” นั้น ได้

    แต่ “หน้าที่นายกฯ” มันหยุดปฎิบัติไม่ได้-ลาไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน แบบไหน กำลังกิน กำลังนอน กำลังถ่าย แม้แขม็บๆ กำลังจะตาย

    “ลาออก” จากตำแหน่งนายกฯ ได้
    แต่ลา “ปฎิบัติหน้าที่นายกฯ” ไม่ได้!

    เช่นเดียวกับ “ข้าราชการ” ไม่ว่าข้าราชการพลเรือน ข้าราชครู ข้าราชการทหาร ตำรวจ แม้กระทั่ง แพทย์ พยาบาล
    “หยุดงาน-ลางาน” ได้

    แต่หยุด “หน้าที่” คนเป็นข้าราชการไม่ได้ ต่อให้ไปไหน-อยู่ไหน เขาพร้อม “ปฎิบัติหน้าที่” ในทันที เมื่อมีสถานการณ์

    คนเป็นผู้นำบริหารประเทศ “สำนึกภาวะ” ด้านรับผิดชอบในหน้าที่ “ต้องสูงกว่าข้าราชการ” ขึ้นไปอีกขั้น

    อย่างปีใหม่ “หยุดยาวข้ามปี”…….
    นายกฯ อยู่บ้านหรือมาทำเนียบ “ค่าเท่ากัน”

    ไม่ต้องทำเป็น “ลาก่ง-ลากิจ” ให้ดูตลกปัญญาอ่อนหรอก

    ที่สำคัญ ผู้นำต้องส่งสัญญานให้ประชาชนรู้ว่า ในขณะที่เขาทิ้งบ้านไปไหนต่อไหนกันนั้น
    ฉัน..นายกฯ อยู่นะ รัฐบาล “อยู่โยง” ทำหน้าที่ “มอนิเตอร์ประเทศ” ให้ตลอด ๒๔ ชั่วโมงนะ

    เที่ยวกันให้สนุก ไม่ต้อง “ห่วงหน้า-พะวงหลัง”
    เจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงาน ที่ต้องทำงานในเทศกาลหยุดยาว เขาก็พลอยมีกำลังใจ

    ว่าไม่เพียงพวกเขาต้องแกร่ว “อยู่เวร-อยู่ยาม”
    “ผู้นำรัฐบาล” ก็แกร่วอยู่ด้วย

    คอยตรวจตราสั่งการ “รักษาบ้าน-เฝ้าเมือง” ให้ประชาชน ไม่ได้ตะแล๊ดแต๊ดแต๋ละทิ้งหน้าที่ไปทางไหนแต่อย่างใด!
    นี่คือ “สำนึกผู้นำ”

    ไม่ใช่ชาวบ้านเขาลาหยุดยาว กูก็ลาหยุดยาวบ้าง แถมบอกเสร็จสรรพ “จะกลับมาปฎิบัติหน้าที่” ในที่ ๒ มกรา.๕๘! จะให้ “ชาวบ้าน-ชาวเมือง” เข้าใจว่า…..

    จากวันนี้ จนถึง ๒ มกรา.๖๘ บ้านเมือง “ว่างเปล่า” ไม่มีผู้ปฎิบัติหน้าที่นายกฯ งั้นหรือ?

    โบราณท่านบอก….
    เป็นหัวหน้างาน “อย่าไปแย่งงานลูกน้องทำ”

    แต่คนเป็นหัวหน้าคน “ต้องตื่นก่อน-นอนทีหลัง”

    เป็นนายกฯ เป็นแม่ทัพ-นายกอง เป็นหัวหน้าครอบครัว ถึงเทศกาล ลูกน้อง-ลูกบ้าน เขาจะสนุกสนาน เที่ยวเตร่กัน
    คนเป็นนายก็ต้อง “เฝ้าบ้าน-เฝ้าประเทศ” คอยระหวังหลังให้พวกเขา

    มันไม่ใช่เรื่องซับซ้อน เป็นแค่ “สามัญสำนึกพื้นฐาน” ของคนเป็นนายคนเท่านั้นเอง

    พูดถึงลูกแล้ว มาพูดถึงพ่อบ้าง
    จากหลีเป๊ะ-สตูล ไปลังกาวี-มาเลเซีย ๕๒ กิโลเท่านั้นเอง ถ้านั่งเรือ ก็ชั่วโมงกว่าๆ

    ตอนเป็นเด็กวัดเคยอ่านบันทึกของ “หลุย คีรีวัต” ที่ถูกขัง
    คุกเกาะ “ตะรุเตา” กับเพื่อนนักโทษกบฎอีก ๒-๓ คน มี “โหรแฉล้ม เลี่ยมเพ็ชรรัตน์” รวมอยู่ด้วย

    หลบหนีคุก ลอยคอจากเกาะตะรุเตา ไปขึ้นที่เกาะลังกาวี ซึ่งเกาะนี้ อยู่ใน “รัฐเคดะห์”

    อดีตเป็นส่วนหนึ่งของเมืองไทยบุรี ดินแดนของสยาม แต่เราจำต้องเสียให้อังกฤษไป ในสมัยรัชกาลที่ ๕
    เกาะนี้ “ถูกสาป” จนมีเรื่องราวเล่าขานเป็นตำนานรักของหญิงไทยจนถึงทุกวันนี้ ไปหาอ่านกันเอาเองละกัน

    ผมเล่าตามข่าวนะ …..
    “ทักษิณ” กับ “นายอันวาร์” นายกฯ มาเลย์ เขานัดพบกัน ส่วนจะพบในดินแดนมาเลย์ ที่ลังกาวี
    หรือลอยเรือในทะเลคุยกันในเขตไทยแถวๆ หลีเป๊ะ?
    ลองทายกันดูซิ….

    เพราะในทุกข่าวสาร เผยแพร่ภาพพบกัน แต่ไม่มีข่าวสารไหนยอมระบุว่าพบกันที่ไหน
    “ในแดนไทย” หรือ “ในแดนมาลย์” ที่ลังกาวี?

    แค่บอกว่า
    “ทักษิณกับร.อ.ธรรมนัส อดีตรมว.เกษตรฯ เดินทางด้วยขบวนเรือยอชต์ ๖ ลำ แวะเยือนเกาะหลีเป๊ะ สตูล

    โดยมาถึงชายฝั่งเกาะหลีเป๊ะตั้งแต่วันที่ ๒๕ ธ.ค. เวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. โดยไม่มีผู้ใดทราบล่วงหน้า เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป

    จนกระทั่งเช้าวันที่ ๒๖ ธ.ค. เวลา ๐๙.๐๐-๑๑.๐๐ น. ทั้งสองขึ้นฝั่งเพื่อรับประทานอาหารเช้าที่ “โรงแรมบูโลว คาซ่าแกรนด์วิว” รีสอร์ท”

    ผมไม่สนทั้งสองเขาคุยอะไรกัน เพราะที่เขาบอก “เรื่องแต่ง” ส่วน “เรื่องจริง” ใครเขาจะบอก!

    แต่ฉงนในประเด็น ทักษิณมาดูลาดเลา “ช่องทางธรรมชาติ” หรืออย่างไร?

    อย่าลืม ทักษิณเป็นจำเลยคดีมาตรา ๑๑๒ ได้ประกันตัวจากศาล ด้วยเงื่อนไข “ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ”

    แล้วเชื่อได้ขนาดไหน มีใครยืนยันได้ ว่านายกฯมาเลย์กับทักษิณ นั่งเรือคุยกันในทะเลฝั่งไทย

    ไม่ใช่ทักษิณนั่งเรือยอชต์ไปพบนายอันวาร์ที่เกาะลังกาวี ในดินแดนมาเลย์
    พบ-พูดคุยกันแล้ว….
    อีกวันถึงลอยเรือยอชต์ ปรากฎตัวให้คนเห็นเป็นข่าวที่หลีเป๊ะ-เขตไทย?

    อีกประเด็นที่ผมสน “ทักษิณมีสถานะอะไร และนายอันวาร์ต้องการอะไร”
    จึงเล่นบท “การเมืองลับๆ ล่อๆ” กับทักษิณ?

    -ฟื้นฟูเศรษฐกิจ, ส่งเสริมสันติภาพ ๓ จว.ใต้, แก้ไขวิกฤตเมียนมา, เสริมสร้างสัมพันธ์ทวิภาคี “มาเลเซีย-ไทย”

    ทักษิณมีตำแหน่ง-หน้าที่ใด ที่นายอันวาร์ต้องนำมาคุย นอกจากเป็นนักโทษเทวดา เป็นพ่อนายกฯ เป็นหัวหน้าแก๊งเปลี่ยนระบอบเป็น “แดงทั้งแผ่นดิน ทักษิณสถาปนา” เป็นเจ้าของคอกหมา และฯลฯ

    อีกคุณสมบัติเดียว คุณค่าที่ไม่มีใครเทียบได้ในภูมิภาคนี้ของทักษิณ คือ วิชา “ขายแผ่นดิน”

    และวิชา “แปลง” ทุนสำรองระหว่างประเทศ “เป็นเงินโปรย” ประชานิยม”!

    “การเมืองลับๆ ล่อๆ” นี้ “ฉีกประเทศไทย” ให้มี ๒ รัฐบาล คือ “รัฐบาลพ่อ” กับ “รัฐบาลลูก”
    แล้วกูจะต้องปฎิบัติตัวยังไงดีวะ ในประเทศ ๒ รัฐบาล?

    เปลว สีเงิน
    ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๗
    “๑ ประเทศ ๒ รัฐบาล” #เปลวสีเงิน plew เปลว สีเงิน คงเป็น “ที่สุดแห่งปี” จริงๆ สำหรับประเทศแห่งประชากรผู้หิวโหยและเทิดทูน ๒ พ่อลูก “ตระกูลชิน” บ่ายวาน(๒๗ ธ.ค.๖๗)นายกฯมาเลย์ฯ “นายอันวาร์” โพสต์เฟซ พร้อมภาพถ่ายคู่ทักษิณ Anwar Ibrahim รู้สึกยินดีที่ได้พบอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยและเพื่อนรักอย่าง ดร.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อหารือกันอย่างน่าสนใจ ครอบคลุมและมีประโยชน์ รวมทั้งในฐานะที่ปรึกษาไม่เป็นทางการของมาเลเซีย ในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน การสนทนามุ่งเน้นประเด็นสำคัญในภูมิภาค ได้แก่ การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ การส่งเสริมสันติภาพในภาคใต้ของไทย และการแก้ไขวิกฤตเมียนมา เครือข่ายความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ในภูมิภาคของคุณทักษิณ ประกอบกับความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวของเขา ได้ให้คำมั่นว่า จะเปิดโอกาสอันล้ำค่าสำหรับมาเลเซียและอาเซียนเพื่อรับมือกับความท้าทาย ด้วยความมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงแนวทางเสริมสร้างสัมพันธ์ทวิภาคีที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ระหว่างมาเลเซียและไทย ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์การพัฒนาอย่างยั่งยืนและความสามัคคีในภูมิภาค ที่ผมมีร่วมกับ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศไทย หลายทศวรรษที่ผ่านทักษิณและผมเชื่อมั่นว่า มาเลเซียและไทยสามารถบรรลุผลสำเร็จได้มากกว่านี้มาก เมื่อร่วมมือกัน ไม่เพียงแต่สำหรับประเทศของเราเท่านั้น แต่สำหรับภูมิภาคโดยรวมด้วย เรามุ่งมั่นที่จะทำให้วิสัยทัศน์นั้น กลายเป็นความจริง. นั่นคือบทบาท “นายกฯ-ผู้พ่อ” ปิดศักราช ๒๕๖๗ เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน ทีนี้อยากให้ดูบทบาท “นายกฯ-ผู้ลูก” ส่งท้ายปีบ้าง ๒๗ ธันวา. นายกฯ “แพทองธาร ชินวัตร” ส่งหนังสือลากิจ ๑ วัน ไปที่ “สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี” (สลค.) “หยุดงาน” ยาวต่อเนื่องข้ามศักราชไปถึงปีหน้า บอกว่า “เพื่อใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัว” จะกลับมา “ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ” อีกครั้ง วันที่ ๒ มกรา.๖๘ โดยเป็นประธานพิธีทำบุญในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๘ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ตอนเช้า นายกฯ บอกลาอย่างนี้แล้ว รู้สึกยังไงกันบ้างครับ? ในความรู้สึกผม…. ประเทศเหมือน “ครอบครัวหนึ่ง” มีสมาชิก ๖๐ กว่าล้านคน มีรัฐบาลโดย “นายกฯ” เป็นหัวหน้า “รับผิดชอบ” ดูแลครอบครัว ปีใหม่ “หยุดยาว” สมาชิกในครอบครัว พากันไปเที่ยวไหน-ต่อไหนกันจนกรุงเทพฯ แทบโล่ง ประมาณ ๑ สัปดาห์ แต่แทนที่ “หัวหน้าครอบครัว” จะบอกว่า หยุดยาว เที่ยวกันให้สนุกนะ ไม่ต้องห่วงหรอก จะระวังขะโมย-ขะโจรให้เอง กลับตรงกันข้าม ลูกบ้านหยุดยาวไปเที่ยว หัวหน้าบ้านก็หยุดยาวบ้าง แถมชิงเอาเปรียบ “ลาหยุด” ล่วงหน้าซะอีก ๑ วัน! ถามว่าผิดมั้ย? ก็ไม่ผิด แต่มันขาด “ภาวะสำนึก” แห่งความรับผิดชอบของ “คนเป็นผู้นำ” หรือพูดกันชัดๆ… นางสาวแพทองธาร ลูกนายทักษิณ ไม่มีทั้งวุฒิภาวะ ไม่มีทั้งสำนึกภาวะ ไม่คู่ควรตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” เลย! เป็น “ผู้นำ” เป็นตลอด ๒๔ ชั่วโมง…. หยุุดงาน-หยุดได้ แต่ไม่ใช่เห็นชาวบ้านเขาหยุดยาวในเทศกาล กูก็จะหยุดมั่ง แบบนี้ มีธุระสำคัญอะไรที่ต้องลาหยุดเพิ่มให้เป็น “แบบอย่าง” ที่ไม่ดี เช่นนี้? เปล่า…ลาหยุดพักผ่อนกับครอบครัว!? แถมบอก “จะกลับมาปฎิบัติหน้าที่นายกฯ” อีกครั้ง ในวันที่ ๒ มกรา.๖๘ นั้น น่ารังเกียจ ประหนึ่ง “ไร้เดียงสา”! ต้องเข้าใจนะอุ๊งอิ๊ง คุณพ่อไม่สอนหรือว่า การไปทำงานนั้น “หยุด…คือไม่ไปที่ทำงาน” นั้น ได้ แต่ “หน้าที่นายกฯ” มันหยุดปฎิบัติไม่ได้-ลาไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน แบบไหน กำลังกิน กำลังนอน กำลังถ่าย แม้แขม็บๆ กำลังจะตาย “ลาออก” จากตำแหน่งนายกฯ ได้ แต่ลา “ปฎิบัติหน้าที่นายกฯ” ไม่ได้! เช่นเดียวกับ “ข้าราชการ” ไม่ว่าข้าราชการพลเรือน ข้าราชครู ข้าราชการทหาร ตำรวจ แม้กระทั่ง แพทย์ พยาบาล “หยุดงาน-ลางาน” ได้ แต่หยุด “หน้าที่” คนเป็นข้าราชการไม่ได้ ต่อให้ไปไหน-อยู่ไหน เขาพร้อม “ปฎิบัติหน้าที่” ในทันที เมื่อมีสถานการณ์ คนเป็นผู้นำบริหารประเทศ “สำนึกภาวะ” ด้านรับผิดชอบในหน้าที่ “ต้องสูงกว่าข้าราชการ” ขึ้นไปอีกขั้น อย่างปีใหม่ “หยุดยาวข้ามปี”……. นายกฯ อยู่บ้านหรือมาทำเนียบ “ค่าเท่ากัน” ไม่ต้องทำเป็น “ลาก่ง-ลากิจ” ให้ดูตลกปัญญาอ่อนหรอก ที่สำคัญ ผู้นำต้องส่งสัญญานให้ประชาชนรู้ว่า ในขณะที่เขาทิ้งบ้านไปไหนต่อไหนกันนั้น ฉัน..นายกฯ อยู่นะ รัฐบาล “อยู่โยง” ทำหน้าที่ “มอนิเตอร์ประเทศ” ให้ตลอด ๒๔ ชั่วโมงนะ เที่ยวกันให้สนุก ไม่ต้อง “ห่วงหน้า-พะวงหลัง” เจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงาน ที่ต้องทำงานในเทศกาลหยุดยาว เขาก็พลอยมีกำลังใจ ว่าไม่เพียงพวกเขาต้องแกร่ว “อยู่เวร-อยู่ยาม” “ผู้นำรัฐบาล” ก็แกร่วอยู่ด้วย คอยตรวจตราสั่งการ “รักษาบ้าน-เฝ้าเมือง” ให้ประชาชน ไม่ได้ตะแล๊ดแต๊ดแต๋ละทิ้งหน้าที่ไปทางไหนแต่อย่างใด! นี่คือ “สำนึกผู้นำ” ไม่ใช่ชาวบ้านเขาลาหยุดยาว กูก็ลาหยุดยาวบ้าง แถมบอกเสร็จสรรพ “จะกลับมาปฎิบัติหน้าที่” ในที่ ๒ มกรา.๕๘! จะให้ “ชาวบ้าน-ชาวเมือง” เข้าใจว่า….. จากวันนี้ จนถึง ๒ มกรา.๖๘ บ้านเมือง “ว่างเปล่า” ไม่มีผู้ปฎิบัติหน้าที่นายกฯ งั้นหรือ? โบราณท่านบอก…. เป็นหัวหน้างาน “อย่าไปแย่งงานลูกน้องทำ” แต่คนเป็นหัวหน้าคน “ต้องตื่นก่อน-นอนทีหลัง” เป็นนายกฯ เป็นแม่ทัพ-นายกอง เป็นหัวหน้าครอบครัว ถึงเทศกาล ลูกน้อง-ลูกบ้าน เขาจะสนุกสนาน เที่ยวเตร่กัน คนเป็นนายก็ต้อง “เฝ้าบ้าน-เฝ้าประเทศ” คอยระหวังหลังให้พวกเขา มันไม่ใช่เรื่องซับซ้อน เป็นแค่ “สามัญสำนึกพื้นฐาน” ของคนเป็นนายคนเท่านั้นเอง พูดถึงลูกแล้ว มาพูดถึงพ่อบ้าง จากหลีเป๊ะ-สตูล ไปลังกาวี-มาเลเซีย ๕๒ กิโลเท่านั้นเอง ถ้านั่งเรือ ก็ชั่วโมงกว่าๆ ตอนเป็นเด็กวัดเคยอ่านบันทึกของ “หลุย คีรีวัต” ที่ถูกขัง คุกเกาะ “ตะรุเตา” กับเพื่อนนักโทษกบฎอีก ๒-๓ คน มี “โหรแฉล้ม เลี่ยมเพ็ชรรัตน์” รวมอยู่ด้วย หลบหนีคุก ลอยคอจากเกาะตะรุเตา ไปขึ้นที่เกาะลังกาวี ซึ่งเกาะนี้ อยู่ใน “รัฐเคดะห์” อดีตเป็นส่วนหนึ่งของเมืองไทยบุรี ดินแดนของสยาม แต่เราจำต้องเสียให้อังกฤษไป ในสมัยรัชกาลที่ ๕ เกาะนี้ “ถูกสาป” จนมีเรื่องราวเล่าขานเป็นตำนานรักของหญิงไทยจนถึงทุกวันนี้ ไปหาอ่านกันเอาเองละกัน ผมเล่าตามข่าวนะ ….. “ทักษิณ” กับ “นายอันวาร์” นายกฯ มาเลย์ เขานัดพบกัน ส่วนจะพบในดินแดนมาเลย์ ที่ลังกาวี หรือลอยเรือในทะเลคุยกันในเขตไทยแถวๆ หลีเป๊ะ? ลองทายกันดูซิ…. เพราะในทุกข่าวสาร เผยแพร่ภาพพบกัน แต่ไม่มีข่าวสารไหนยอมระบุว่าพบกันที่ไหน “ในแดนไทย” หรือ “ในแดนมาลย์” ที่ลังกาวี? แค่บอกว่า “ทักษิณกับร.อ.ธรรมนัส อดีตรมว.เกษตรฯ เดินทางด้วยขบวนเรือยอชต์ ๖ ลำ แวะเยือนเกาะหลีเป๊ะ สตูล โดยมาถึงชายฝั่งเกาะหลีเป๊ะตั้งแต่วันที่ ๒๕ ธ.ค. เวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. โดยไม่มีผู้ใดทราบล่วงหน้า เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป จนกระทั่งเช้าวันที่ ๒๖ ธ.ค. เวลา ๐๙.๐๐-๑๑.๐๐ น. ทั้งสองขึ้นฝั่งเพื่อรับประทานอาหารเช้าที่ “โรงแรมบูโลว คาซ่าแกรนด์วิว” รีสอร์ท” ผมไม่สนทั้งสองเขาคุยอะไรกัน เพราะที่เขาบอก “เรื่องแต่ง” ส่วน “เรื่องจริง” ใครเขาจะบอก! แต่ฉงนในประเด็น ทักษิณมาดูลาดเลา “ช่องทางธรรมชาติ” หรืออย่างไร? อย่าลืม ทักษิณเป็นจำเลยคดีมาตรา ๑๑๒ ได้ประกันตัวจากศาล ด้วยเงื่อนไข “ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ” แล้วเชื่อได้ขนาดไหน มีใครยืนยันได้ ว่านายกฯมาเลย์กับทักษิณ นั่งเรือคุยกันในทะเลฝั่งไทย ไม่ใช่ทักษิณนั่งเรือยอชต์ไปพบนายอันวาร์ที่เกาะลังกาวี ในดินแดนมาเลย์ พบ-พูดคุยกันแล้ว…. อีกวันถึงลอยเรือยอชต์ ปรากฎตัวให้คนเห็นเป็นข่าวที่หลีเป๊ะ-เขตไทย? อีกประเด็นที่ผมสน “ทักษิณมีสถานะอะไร และนายอันวาร์ต้องการอะไร” จึงเล่นบท “การเมืองลับๆ ล่อๆ” กับทักษิณ? -ฟื้นฟูเศรษฐกิจ, ส่งเสริมสันติภาพ ๓ จว.ใต้, แก้ไขวิกฤตเมียนมา, เสริมสร้างสัมพันธ์ทวิภาคี “มาเลเซีย-ไทย” ทักษิณมีตำแหน่ง-หน้าที่ใด ที่นายอันวาร์ต้องนำมาคุย นอกจากเป็นนักโทษเทวดา เป็นพ่อนายกฯ เป็นหัวหน้าแก๊งเปลี่ยนระบอบเป็น “แดงทั้งแผ่นดิน ทักษิณสถาปนา” เป็นเจ้าของคอกหมา และฯลฯ อีกคุณสมบัติเดียว คุณค่าที่ไม่มีใครเทียบได้ในภูมิภาคนี้ของทักษิณ คือ วิชา “ขายแผ่นดิน” และวิชา “แปลง” ทุนสำรองระหว่างประเทศ “เป็นเงินโปรย” ประชานิยม”! “การเมืองลับๆ ล่อๆ” นี้ “ฉีกประเทศไทย” ให้มี ๒ รัฐบาล คือ “รัฐบาลพ่อ” กับ “รัฐบาลลูก” แล้วกูจะต้องปฎิบัติตัวยังไงดีวะ ในประเทศ ๒ รัฐบาล? เปลว สีเงิน ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๗
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 668 มุมมอง 0 รีวิว
  • Marry Now, Pay Later แพ็คเกจมาเลย์นิกะห์ไทย

    เป็นที่ฮือฮาของชาวเน็ตมาเลเซีย เมื่อมีคลิปในติ๊กต็อกโฆษณาแพ็คเกจแต่งงานในประเทศไทย สำหรับคู่รักชาวมุสลิมมาเลเซียในราคาต่ำกว่า 2,000 ริงกิต (ประมาณ 15,200 บาทเศษ) ในคอนเซปต์ Marry Now, Pay Later หรือแต่งก่อนจ่ายทีหลัง ทำเอาแซวอย่างตลกขบขัน เช่น จะใช้ Atome (แอปฯ ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง) เพื่อผ่อนชำระรายเดือนได้หรือไม่ บางคนสงสัยว่าในมาเลเซียถูกกฎหมายหรือเปล่า ทำไมผู้คนถึงแต่งงานกันที่นั่น

    จากการสอบถามชาวมาเลเซียรายหนึ่ง ระบุว่า คู่รักที่นิยมไปทำพิธีนิกะห์ หรือพิธีแต่งงานแบบชาวมุสลิมที่ประเทศไทย ส่วนใหญ่แต่งงานกับภรรยาคนที่สอง คนที่สาม หรือคนที่สี่ เพราะฝ่ายชายเจอภรรยาคนที่หนึ่งไม่อนุญาต

    การแต่งงานในไทยของชาวมุสลิมมาเลเซียเกิดขึ้นมานานแล้ว เนื่องจากกฎหมายของมาเลเซียถ้าจะแต่งงงานกับภรรยาคนที่สอง ต้องได้รับอนุญาตจากภรรยาคนแรก ต้องมีสถานะการเงิน และความเป็นอยู่ที่มั่นคง รวมทั้งต้องทำตามหลักศาสนาที่ถูกต้อง ฝ่ายชายที่พบรักกับผู้หญิงคนใหม่ จึงอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายออกนอกประเทศ เพื่อประกอบพิธีนิกะห์ตามมัสยิดใน 5 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ สตูล สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส

    ขั้นตอนก็คือ เมื่อคู่รักมาถึงไทยแล้ว จะประกอบพิธีนิกะห์ที่มัสยิด จากนั้นองค์กรศาสนาอิสลามในไทย เช่น สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด จะออกหนังสือรับรองการแต่งงาน แล้วไปลงทะเบียนที่สถานกงสุลใหญ่มาเลเซีย ประจำจังหวัดสงขลา เมื่อได้เอกสารแล้วกลับมาเลเซีย คู่รักทั้งสองคนไปจ่ายค่าปรับที่ศาลอิสลามคนละ 1,000 ริงกิต หรือประมาณ 7,700 บาท แล้วไปจดทะเบียนสมรสกับสภาศาสนาของมาเลเซีย

    เมื่อเกิดกระแส Buy Now, Pay Later สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค จึงมีผู้ประกอบการหัวใสจัดแพ็คเกจแต่งงานในประเทศไทยแบบ "แต่งก่อน จ่ายทีหลัง" เพื่อให้คู่รักสามารถตัดสินใจแต่งงานได้ง่ายขึ้น

    อย่างไรก็ตาม นายโมฮัมหมัด นาอิม มุคธาร์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ด้านกิจการศาสนา) ของมาเลเซีย เตือนว่าผู้ประกอบการที่จัดแพ็คเกจแต่งงานในไทย อาจถูกดำเนินคดีภายใต้พระราชบัญญัติครอบครัวศาสนาอิสลาม แม้ว่าการแต่งงานในไทยอาจตรงตามข้อกำหนดของศาสนา เช่น การมีวะลีย์ (ผู้ปกครองเจ้าสาว) และพยาน แต่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายของมาเลเซีย พร้อมเตือนว่าให้ประชาชนระวังและอย่าหลงเชื่อโฆษณาเหล่านี้

    ทั้งนี้ มาเลเซียต้องการสร้างสังคมมุสลิม ที่เคารพทั้งกฎหมายศาสนาและระบบกฎหมายของประเทศ หากรีบแต่งงาน ไม่เพียงแต่สูญเสียเงิน แต่ยังสูญเสียแผนการแต่งงานด้วย ผู้ประกอบการบางคนแสวงหาผลผลกำไรอย่างรวดเร็วโดยไม่คำนึงถึงผู้อื่น

    #Newskit
    Marry Now, Pay Later แพ็คเกจมาเลย์นิกะห์ไทย เป็นที่ฮือฮาของชาวเน็ตมาเลเซีย เมื่อมีคลิปในติ๊กต็อกโฆษณาแพ็คเกจแต่งงานในประเทศไทย สำหรับคู่รักชาวมุสลิมมาเลเซียในราคาต่ำกว่า 2,000 ริงกิต (ประมาณ 15,200 บาทเศษ) ในคอนเซปต์ Marry Now, Pay Later หรือแต่งก่อนจ่ายทีหลัง ทำเอาแซวอย่างตลกขบขัน เช่น จะใช้ Atome (แอปฯ ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง) เพื่อผ่อนชำระรายเดือนได้หรือไม่ บางคนสงสัยว่าในมาเลเซียถูกกฎหมายหรือเปล่า ทำไมผู้คนถึงแต่งงานกันที่นั่น จากการสอบถามชาวมาเลเซียรายหนึ่ง ระบุว่า คู่รักที่นิยมไปทำพิธีนิกะห์ หรือพิธีแต่งงานแบบชาวมุสลิมที่ประเทศไทย ส่วนใหญ่แต่งงานกับภรรยาคนที่สอง คนที่สาม หรือคนที่สี่ เพราะฝ่ายชายเจอภรรยาคนที่หนึ่งไม่อนุญาต การแต่งงานในไทยของชาวมุสลิมมาเลเซียเกิดขึ้นมานานแล้ว เนื่องจากกฎหมายของมาเลเซียถ้าจะแต่งงงานกับภรรยาคนที่สอง ต้องได้รับอนุญาตจากภรรยาคนแรก ต้องมีสถานะการเงิน และความเป็นอยู่ที่มั่นคง รวมทั้งต้องทำตามหลักศาสนาที่ถูกต้อง ฝ่ายชายที่พบรักกับผู้หญิงคนใหม่ จึงอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายออกนอกประเทศ เพื่อประกอบพิธีนิกะห์ตามมัสยิดใน 5 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ สตูล สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ขั้นตอนก็คือ เมื่อคู่รักมาถึงไทยแล้ว จะประกอบพิธีนิกะห์ที่มัสยิด จากนั้นองค์กรศาสนาอิสลามในไทย เช่น สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด จะออกหนังสือรับรองการแต่งงาน แล้วไปลงทะเบียนที่สถานกงสุลใหญ่มาเลเซีย ประจำจังหวัดสงขลา เมื่อได้เอกสารแล้วกลับมาเลเซีย คู่รักทั้งสองคนไปจ่ายค่าปรับที่ศาลอิสลามคนละ 1,000 ริงกิต หรือประมาณ 7,700 บาท แล้วไปจดทะเบียนสมรสกับสภาศาสนาของมาเลเซีย เมื่อเกิดกระแส Buy Now, Pay Later สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค จึงมีผู้ประกอบการหัวใสจัดแพ็คเกจแต่งงานในประเทศไทยแบบ "แต่งก่อน จ่ายทีหลัง" เพื่อให้คู่รักสามารถตัดสินใจแต่งงานได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม นายโมฮัมหมัด นาอิม มุคธาร์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ด้านกิจการศาสนา) ของมาเลเซีย เตือนว่าผู้ประกอบการที่จัดแพ็คเกจแต่งงานในไทย อาจถูกดำเนินคดีภายใต้พระราชบัญญัติครอบครัวศาสนาอิสลาม แม้ว่าการแต่งงานในไทยอาจตรงตามข้อกำหนดของศาสนา เช่น การมีวะลีย์ (ผู้ปกครองเจ้าสาว) และพยาน แต่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายของมาเลเซีย พร้อมเตือนว่าให้ประชาชนระวังและอย่าหลงเชื่อโฆษณาเหล่านี้ ทั้งนี้ มาเลเซียต้องการสร้างสังคมมุสลิม ที่เคารพทั้งกฎหมายศาสนาและระบบกฎหมายของประเทศ หากรีบแต่งงาน ไม่เพียงแต่สูญเสียเงิน แต่ยังสูญเสียแผนการแต่งงานด้วย ผู้ประกอบการบางคนแสวงหาผลผลกำไรอย่างรวดเร็วโดยไม่คำนึงถึงผู้อื่น #Newskit
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 543 มุมมอง 0 รีวิว
  •  สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ เพิ่งผ่านกฎหมายที่บังคับให้เด็กนักเรียนในสหรัฐฯ สอนลัทธิต่อต้านคอมมิวนิสต์และโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านจีนยิ่งไปกว่านั้น หลักสูตรจะอิงจากสื่อการเรียนรู้ที่จัดทำโดยมูลนิธิ Victims of Communism Memorial Foundation (VOCMF, victimsofcommunism.org/house-of-repre… ) ซึ่งเป็นร้านโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านคอมมิวนิสต์ที่ก่อตั้งโดยรัฐสภาVOCFM มีมุมมองสุดโต่งมากจนพวกเขาคิดว่าพวกนาซีที่ถูกโซเวียตสังหารล้วนเป็น "เหยื่อของลัทธิคอมมิวนิสต์" เช่นเดียวกับการเสียชีวิตทั้งหมดที่เกิดจากโควิด-19 ( hamptonthink.org/read/red-scare… ) ลองดูตัวอย่างโพสต์ X ล่าสุดของพวกเขา ( x.com/VoCommunism/st… ภาพหน้าจอด้านล่าง 👇 ) ซึ่งพวกเขาเรียกร้องให้ผู้คน "จดจำเหยื่อ" จากตอนที่กองทัพโซเวียตปลดปล่อยโปแลนด์จากพวกนาซี (รวมถึงเอาช์วิทซ์ด้วย!) ในช่วงการรุกวิสตูลา-โอเดอร์ 🤦กฎหมายใหม่ที่เพิ่งผ่านไป ซึ่งมีชื่อว่า "Crucial Communism Teaching Act" (มีข้อความดังนี้: congress.gov/bill/118th-con… ) กำหนดให้ "นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในสหรัฐอเมริกาต้องเรียนรู้ว่าลัทธิคอมมิวนิสต์ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100,000,000 รายทั่วโลก" ซึ่งถือเป็นจำนวนเดียวกับ VOCMF (และอันที่จริง กฎหมายระบุโดยเฉพาะว่า VOCMF จะต้องเป็นผู้พัฒนาหลักสูตรดังกล่าว)กฎหมายฉบับใหม่ยังกำหนดให้เด็กนักเรียนในสหรัฐฯ จะต้อง "ถูกสอน" เกี่ยวกับประเด็นโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านจีน เช่น "การปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์" (ซึ่ง "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอุยกูร์" ก็เป็นเรื่องเล่าที่มาจาก VOCMF เช่นกัน) "การกระทำของ PRC เพื่อขัดขวางการประท้วงเพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกง" หรือ "ท่าทีที่ก้าวร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ ของ PRC ต่อไต้หวัน ซึ่งเป็นมิตรประชาธิปไตยของสหรัฐฯ"แน่นอนว่าเรื่องที่น่าขันก็คือ "จีนคอมมิวนิสต์" ไม่มีกฎหมายหรือหลักสูตรที่เทียบเท่ากัน เด็กนักเรียนจีนไม่ได้รับการสอนให้เกลียดทุนนิยมหรือสหรัฐอเมริกาเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร ในความเป็นจริง จีนมีโรงเรียนนานาชาติอเมริกันมากมายในเมืองใหญ่เกือบทั้งหมดในประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ตรงกันข้ามกับความเข้าใจทั่วไป แนวทางการศึกษาของจีนต่อสหรัฐอเมริกาและระบบของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงการยอมรับและความสมดุลมากกว่าที่เห็นในปัจจุบันในทิศทางตรงกันข้าม และนั่นเป็นการพูดน้อยเกินไปอย่างมาก...โดยรวมแล้ว หากจะย้อนกลับไปสักนิด แนวทางใดที่น่าจะให้การศึกษาแก่พลเมืองที่มีความสามารถและมีวิจารณญาณมากกว่ากัน แนวทางที่ส่งเสริมความเข้าใจอย่างแท้จริงผ่านการเปิดรับมุมมองที่หลากหลาย หรือแนวทางที่กำหนดกรอบแนวคิดที่ขัดแย้งกันอย่างเข้มงวด
     สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ เพิ่งผ่านกฎหมายที่บังคับให้เด็กนักเรียนในสหรัฐฯ สอนลัทธิต่อต้านคอมมิวนิสต์และโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านจีนยิ่งไปกว่านั้น หลักสูตรจะอิงจากสื่อการเรียนรู้ที่จัดทำโดยมูลนิธิ Victims of Communism Memorial Foundation (VOCMF, victimsofcommunism.org/house-of-repre… ) ซึ่งเป็นร้านโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านคอมมิวนิสต์ที่ก่อตั้งโดยรัฐสภาVOCFM มีมุมมองสุดโต่งมากจนพวกเขาคิดว่าพวกนาซีที่ถูกโซเวียตสังหารล้วนเป็น "เหยื่อของลัทธิคอมมิวนิสต์" เช่นเดียวกับการเสียชีวิตทั้งหมดที่เกิดจากโควิด-19 ( hamptonthink.org/read/red-scare… ) ลองดูตัวอย่างโพสต์ X ล่าสุดของพวกเขา ( x.com/VoCommunism/st… ภาพหน้าจอด้านล่าง 👇 ) ซึ่งพวกเขาเรียกร้องให้ผู้คน "จดจำเหยื่อ" จากตอนที่กองทัพโซเวียตปลดปล่อยโปแลนด์จากพวกนาซี (รวมถึงเอาช์วิทซ์ด้วย!) ในช่วงการรุกวิสตูลา-โอเดอร์ 🤦กฎหมายใหม่ที่เพิ่งผ่านไป ซึ่งมีชื่อว่า "Crucial Communism Teaching Act" (มีข้อความดังนี้: congress.gov/bill/118th-con… ) กำหนดให้ "นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในสหรัฐอเมริกาต้องเรียนรู้ว่าลัทธิคอมมิวนิสต์ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100,000,000 รายทั่วโลก" ซึ่งถือเป็นจำนวนเดียวกับ VOCMF (และอันที่จริง กฎหมายระบุโดยเฉพาะว่า VOCMF จะต้องเป็นผู้พัฒนาหลักสูตรดังกล่าว)กฎหมายฉบับใหม่ยังกำหนดให้เด็กนักเรียนในสหรัฐฯ จะต้อง "ถูกสอน" เกี่ยวกับประเด็นโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านจีน เช่น "การปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์" (ซึ่ง "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอุยกูร์" ก็เป็นเรื่องเล่าที่มาจาก VOCMF เช่นกัน) "การกระทำของ PRC เพื่อขัดขวางการประท้วงเพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกง" หรือ "ท่าทีที่ก้าวร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ ของ PRC ต่อไต้หวัน ซึ่งเป็นมิตรประชาธิปไตยของสหรัฐฯ"แน่นอนว่าเรื่องที่น่าขันก็คือ "จีนคอมมิวนิสต์" ไม่มีกฎหมายหรือหลักสูตรที่เทียบเท่ากัน เด็กนักเรียนจีนไม่ได้รับการสอนให้เกลียดทุนนิยมหรือสหรัฐอเมริกาเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร ในความเป็นจริง จีนมีโรงเรียนนานาชาติอเมริกันมากมายในเมืองใหญ่เกือบทั้งหมดในประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ตรงกันข้ามกับความเข้าใจทั่วไป แนวทางการศึกษาของจีนต่อสหรัฐอเมริกาและระบบของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงการยอมรับและความสมดุลมากกว่าที่เห็นในปัจจุบันในทิศทางตรงกันข้าม และนั่นเป็นการพูดน้อยเกินไปอย่างมาก...โดยรวมแล้ว หากจะย้อนกลับไปสักนิด แนวทางใดที่น่าจะให้การศึกษาแก่พลเมืองที่มีความสามารถและมีวิจารณญาณมากกว่ากัน แนวทางที่ส่งเสริมความเข้าใจอย่างแท้จริงผ่านการเปิดรับมุมมองที่หลากหลาย หรือแนวทางที่กำหนดกรอบแนวคิดที่ขัดแย้งกันอย่างเข้มงวด
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 461 มุมมอง 0 รีวิว
  • น้ำท่วมภาคใต้ อ่วมไทย-มาเลเซีย

    สภาพอากาศแปรปรวนในพื้นที่ภาคใต้ของไทย ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากหลายพื้นที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สรุปสถานการณ์ระหว่างวันที่ 22 พ.ย. ถึง 2 ธ.ค. 2567 เกิดอุทกภัย 10 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส รวม 87 อำเภอ 538 ตำบล 3,729 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 664,173 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 25 ราย ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วม 6 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส

    นับเป็นอุทกภัยครั้งใหญ่ในรอบหลายปี ที่จังหวัดยะลา เทศบาลนครยะลาน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 36 ปี นับจากก่อนหน้านี้เมื่อปี 2531 ส่วนเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา น้ำจากคลองอู่ตะเภาและคลองระบายน้ำภูมินารถดำริ หรือคลอง ร.1 เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่โซนหาดใหญ่ใน เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ก่อนกลับมาเป็นปกติเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. แต่โซนเศรษฐกิจชั้นในของเมืองหาดใหญ่ปลอดภัย น้ำไม่ท่วม เพราะคลอง ร.1 โครงการพระราชดำริในหลวง รัชกาลที่ ๙ สร้างขึ้นหลังอุทกภัยปี 2543 ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน

    แม้สถานการณ์ลุ่มน้ำปัจจุบันระดับน้ำลดลง แต่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ ลงวันที่ 2 ธ.ค. เวลา 17.00 น. ระบุว่า ในช่วงวันที่ 3-5 ธ.ค. หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนล่างและประเทศมาเลเซีย ลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่างและช่องแคบมะละกา ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

    สภาพอากาศแปรปรวนยังส่งผลกระทบถึงประเทศมาเลเซีย มีน้ำท่วมเกิดขึ้นแล้ว 10 รัฐ เสียชีวิต 7 ราย โดยรัฐกลันตันมีผู้ประสบภัยน้ำท่วมมากที่สุด แม่น้ำสุไหงโกลกในเมืองรันเตาปันจังและตุมปัต ยังอยู่ในระดับที่อันตราย ส่วนทางด่วนสายเหนือ-ใต้ E1 เชื่อมระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ไปยังประเทศไทย น้ำท่วมบริเวณกิโลเมตรที่ 32.1 ถึง 33.2 ช่วงด่านจิตรา ถึงด่านฮูตันกำปง ต้องเบี่ยงให้ผู้ใช้ทางไปใช้เส้นทางใกล้เคียง ส่วนทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก หยุดการเดินรถเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะขบวนรถไฟเส้นทางตุมปัต-เจบี เซ็นทรัล

    นายกสมาคมโรงแรมไทย เสนอให้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องช่วงโค้งสุดท้ายปี 2567 เพราะน้ำท่วมครั้งนี้มีการยกเลิกห้องพักล่วงหน้าทั้งกรุ๊ปทัวร์และเดินทางส่วนตัว รวมถึงการจองจัดงานสังสรรค์ หากสถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียก็จะฟื้นตัวได้เร็ว เพราะขับรถข้ามด่านมาเที่ยวเอง

    #Newskit
    น้ำท่วมภาคใต้ อ่วมไทย-มาเลเซีย สภาพอากาศแปรปรวนในพื้นที่ภาคใต้ของไทย ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากหลายพื้นที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สรุปสถานการณ์ระหว่างวันที่ 22 พ.ย. ถึง 2 ธ.ค. 2567 เกิดอุทกภัย 10 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส รวม 87 อำเภอ 538 ตำบล 3,729 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 664,173 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 25 ราย ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วม 6 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส นับเป็นอุทกภัยครั้งใหญ่ในรอบหลายปี ที่จังหวัดยะลา เทศบาลนครยะลาน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 36 ปี นับจากก่อนหน้านี้เมื่อปี 2531 ส่วนเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา น้ำจากคลองอู่ตะเภาและคลองระบายน้ำภูมินารถดำริ หรือคลอง ร.1 เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่โซนหาดใหญ่ใน เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ก่อนกลับมาเป็นปกติเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. แต่โซนเศรษฐกิจชั้นในของเมืองหาดใหญ่ปลอดภัย น้ำไม่ท่วม เพราะคลอง ร.1 โครงการพระราชดำริในหลวง รัชกาลที่ ๙ สร้างขึ้นหลังอุทกภัยปี 2543 ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน แม้สถานการณ์ลุ่มน้ำปัจจุบันระดับน้ำลดลง แต่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ ลงวันที่ 2 ธ.ค. เวลา 17.00 น. ระบุว่า ในช่วงวันที่ 3-5 ธ.ค. หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนล่างและประเทศมาเลเซีย ลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่างและช่องแคบมะละกา ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สภาพอากาศแปรปรวนยังส่งผลกระทบถึงประเทศมาเลเซีย มีน้ำท่วมเกิดขึ้นแล้ว 10 รัฐ เสียชีวิต 7 ราย โดยรัฐกลันตันมีผู้ประสบภัยน้ำท่วมมากที่สุด แม่น้ำสุไหงโกลกในเมืองรันเตาปันจังและตุมปัต ยังอยู่ในระดับที่อันตราย ส่วนทางด่วนสายเหนือ-ใต้ E1 เชื่อมระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ไปยังประเทศไทย น้ำท่วมบริเวณกิโลเมตรที่ 32.1 ถึง 33.2 ช่วงด่านจิตรา ถึงด่านฮูตันกำปง ต้องเบี่ยงให้ผู้ใช้ทางไปใช้เส้นทางใกล้เคียง ส่วนทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก หยุดการเดินรถเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะขบวนรถไฟเส้นทางตุมปัต-เจบี เซ็นทรัล นายกสมาคมโรงแรมไทย เสนอให้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องช่วงโค้งสุดท้ายปี 2567 เพราะน้ำท่วมครั้งนี้มีการยกเลิกห้องพักล่วงหน้าทั้งกรุ๊ปทัวร์และเดินทางส่วนตัว รวมถึงการจองจัดงานสังสรรค์ หากสถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียก็จะฟื้นตัวได้เร็ว เพราะขับรถข้ามด่านมาเที่ยวเอง #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1050 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาคใต้น้ำท่วม นายกฯไปเหนือ ขอโปรดเข้าใจ
    .
    สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ในภาพรวมถือว่ายังคงน่าเป็นห่วงพอสมควร โดนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากระหว่างวันที่ 22 พ.ย. - 1 ธันวาคม 67 ปัจจุบันมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ 1. นครศรีธรรมราช 2.พัทลุง 3.สตูล 4.สงขลา 5.ปัตตานี 6.ยะลา 7.นราธิวาส รวม 78 อำเภอ 508 ตำบล 3,387 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 617,386 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 12 ราย
    .
    ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเพียงเฉพาะประชาชนเท่านั้น เพราะแม้แต่ปศุสัตว์ที่ประชาชนเลี้ยงไว้เพื่อทำการเกษตรก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 9 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา สตูล และตรัง จำนวน 71 อำเภอ 425 ตำบล 2,235 หมู่บ้าน มีเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ 117,400 ราย สัตว์ในพื้นที่น้ำท่วม 5,753,340 ตัว แบ่งเป็น โค 215,925 ตัว กระบือ 8,453 ตัว สุกร 75,164 ตัว แพะ/แกะ 135,775 ตัว และสัตว์ปีก 5,318,023 ตัว
    .
    ขณะที่ อีกด้านมีเสียงวิจารณ์ต่อท่าทีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการเอาใจใส่ต่อการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ เนื่องจากระหว่างประชาชนทางตอนใต้ของประเทศกำลังรอคอยความช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่ปรากฎว่านายกฯยังคงความสำคัญกับการตรวจราชการในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พรรคเพื่อไทยมีฐานเสียง
    .
    ในเรื่องนี้ นายกฯ ชี้แจงว่า ตั้งแต่เกิดเหตุได้ส่งรองนายกฯและรัฐมนตรี ลงพื้นที่ และจากการลงพื้นที่เชียงรายวันนี้ได้พูดคุยกับธนาคารต่างๆ ถึงมาตรการช่วยเหลือภายหลังอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และจะนำมาตรการดังกล่าวไปใช้ช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดภาคใต้
    .
    “โอ๊ย คำว่าละเลยภาคใต้ สามีเป็นคนใต้ ครอบครัวสามีเป็นคนใต้ ถ้าละเลยคนใต้ ไม่รักคนใต้ แต่งงานคนใต้ไม่ได้ และวันที่เกิดเรื่อง แจกจ่ายงานประสานทั้งหมด ตั้งแต่กลางคืนไลน์คุยกัน โทรคุยกัน ทำทุกอย่าง แต่การมาการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) เราวางแผนกันเป็นเดือน เพื่อมาฟื้นฟูพื้นที่ภาคเหนือ ให้รู้ว่าเราพร้อมกลับไปเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว เป็นการฟื้นฟูพื้นที่ ซึ่งจำเป็นต้องมาเหมือนกัน" นายกฯ อธิบาย
    .............
    Sondhi X
    ภาคใต้น้ำท่วม นายกฯไปเหนือ ขอโปรดเข้าใจ . สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ในภาพรวมถือว่ายังคงน่าเป็นห่วงพอสมควร โดนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากระหว่างวันที่ 22 พ.ย. - 1 ธันวาคม 67 ปัจจุบันมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ 1. นครศรีธรรมราช 2.พัทลุง 3.สตูล 4.สงขลา 5.ปัตตานี 6.ยะลา 7.นราธิวาส รวม 78 อำเภอ 508 ตำบล 3,387 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 617,386 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 12 ราย . ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเพียงเฉพาะประชาชนเท่านั้น เพราะแม้แต่ปศุสัตว์ที่ประชาชนเลี้ยงไว้เพื่อทำการเกษตรก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 9 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา สตูล และตรัง จำนวน 71 อำเภอ 425 ตำบล 2,235 หมู่บ้าน มีเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ 117,400 ราย สัตว์ในพื้นที่น้ำท่วม 5,753,340 ตัว แบ่งเป็น โค 215,925 ตัว กระบือ 8,453 ตัว สุกร 75,164 ตัว แพะ/แกะ 135,775 ตัว และสัตว์ปีก 5,318,023 ตัว . ขณะที่ อีกด้านมีเสียงวิจารณ์ต่อท่าทีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการเอาใจใส่ต่อการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ เนื่องจากระหว่างประชาชนทางตอนใต้ของประเทศกำลังรอคอยความช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่ปรากฎว่านายกฯยังคงความสำคัญกับการตรวจราชการในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พรรคเพื่อไทยมีฐานเสียง . ในเรื่องนี้ นายกฯ ชี้แจงว่า ตั้งแต่เกิดเหตุได้ส่งรองนายกฯและรัฐมนตรี ลงพื้นที่ และจากการลงพื้นที่เชียงรายวันนี้ได้พูดคุยกับธนาคารต่างๆ ถึงมาตรการช่วยเหลือภายหลังอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และจะนำมาตรการดังกล่าวไปใช้ช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ . “โอ๊ย คำว่าละเลยภาคใต้ สามีเป็นคนใต้ ครอบครัวสามีเป็นคนใต้ ถ้าละเลยคนใต้ ไม่รักคนใต้ แต่งงานคนใต้ไม่ได้ และวันที่เกิดเรื่อง แจกจ่ายงานประสานทั้งหมด ตั้งแต่กลางคืนไลน์คุยกัน โทรคุยกัน ทำทุกอย่าง แต่การมาการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) เราวางแผนกันเป็นเดือน เพื่อมาฟื้นฟูพื้นที่ภาคเหนือ ให้รู้ว่าเราพร้อมกลับไปเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว เป็นการฟื้นฟูพื้นที่ ซึ่งจำเป็นต้องมาเหมือนกัน" นายกฯ อธิบาย ............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Haha
    Angry
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1208 มุมมอง 0 รีวิว
  • หาดสันหลังมังกร จ.สตูล
    หาดสันหลังมังกร ตั้งอยู่ที่ ตำบลตันหยงโป อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล เป็นหาดสันทรายกลางทะเลที่เกิดจากการทับทมของซากเปลือกหอยนับหลายล้านตัวทับถมกัน จนกลายเป็นเส้นทางเดินยาวกว่า 4 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างเกาะหัวมันกับเกาะสาม อยู่กลางทะเลอันดามัน ถ้าได้มองดูที่ หาดสันหลังมังกร จะเหมือนกับมีการเคลื่อนไหว
    เมื่อประมาณ 500 ล้านปีที่แล้ว ได้เกิดการระเบิดของภูเขาไฟ เมื่อเย็นตัวลงได้กลายเป็นหินกรวดสีแดงอยู่ภายในหมู่บ้านบากันใหญ่ ที่ค้นพบโดยกรมทรัพยากรธรณี ในช่วงน้ำลงผืนกรวดสีแดงนั้นจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเหนือผืนน้ำ โดยส่วนหัวจะขนาบกับบนเกาะของชาวบ้าน ส่วนหางจะคดเคี้ยวไปตามน้ำเป็นแนวยาวยื่นลงไปในทะเล หาดสันหลังมังกร นี้ จะเห็นได้เฉพาะตอนน้ำลงเท่านั้น

    โดยช่วงน้ำที่ลดลงนั้น น้ำจะกระทบเข้าหากันจะคล้ายเกร็ดของมังกรเมื่อมองดูไกลๆ จากนั้นก็จะค่อยๆ เห็นสันทรายแนวยาวที่อยู่กลางทะเล เป็นอันซีนที่อยู่ใน จังหวัดสตูล ที่เดียวเท่านั้น ด้วยความพิเศษของ หาดสันหลังมังกร ที่เต็มไปด้วยเปลือกหอย เมื่อเดินไปตามสันทรายก็จะเหมือนกับเราเดินอยู่บนสันหลังมังกรที่วิบวับ เพราะแสงแดดที่ส่องลงมากระทบสันทรายนั่นเอง โดยเราสามารถนั่งเรือจากบ้านบากันใหญ่ ใช้เวลา 30 นาที ก็จะได้ชมความอันซีนของ หาดสันหลังมังกร นอกจากนี้บริเวณ หาดสันหลังมังกร จะมีหมู่บ้านบากันใหญ่ที่จะคอยต้อนรับและให้บริการนักท่องเที่ยวเป็นกันเองมากๆ เลยค่ะ กิจกรรมของที่นี่ ไม่ได้มีเพียงแค่การไปชม หาดสันหลังมังกร เท่านั้น แต่ยังมีทั้ง กิจกรรมล่องแพ ชมนก พายเรือชมธรรมชาติ ปล่อยปู ปลูกต้นโกงกาง และทานอาหารทะเลสดๆ ที่ต้องบอกว่าใครที่ได้มาก็ต่างประทับใจกันสุดๆ เลย
    หาดสันหลังมังกร จ.สตูล หาดสันหลังมังกร ตั้งอยู่ที่ ตำบลตันหยงโป อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล เป็นหาดสันทรายกลางทะเลที่เกิดจากการทับทมของซากเปลือกหอยนับหลายล้านตัวทับถมกัน จนกลายเป็นเส้นทางเดินยาวกว่า 4 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างเกาะหัวมันกับเกาะสาม อยู่กลางทะเลอันดามัน ถ้าได้มองดูที่ หาดสันหลังมังกร จะเหมือนกับมีการเคลื่อนไหว เมื่อประมาณ 500 ล้านปีที่แล้ว ได้เกิดการระเบิดของภูเขาไฟ เมื่อเย็นตัวลงได้กลายเป็นหินกรวดสีแดงอยู่ภายในหมู่บ้านบากันใหญ่ ที่ค้นพบโดยกรมทรัพยากรธรณี ในช่วงน้ำลงผืนกรวดสีแดงนั้นจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเหนือผืนน้ำ โดยส่วนหัวจะขนาบกับบนเกาะของชาวบ้าน ส่วนหางจะคดเคี้ยวไปตามน้ำเป็นแนวยาวยื่นลงไปในทะเล หาดสันหลังมังกร นี้ จะเห็นได้เฉพาะตอนน้ำลงเท่านั้น โดยช่วงน้ำที่ลดลงนั้น น้ำจะกระทบเข้าหากันจะคล้ายเกร็ดของมังกรเมื่อมองดูไกลๆ จากนั้นก็จะค่อยๆ เห็นสันทรายแนวยาวที่อยู่กลางทะเล เป็นอันซีนที่อยู่ใน จังหวัดสตูล ที่เดียวเท่านั้น ด้วยความพิเศษของ หาดสันหลังมังกร ที่เต็มไปด้วยเปลือกหอย เมื่อเดินไปตามสันทรายก็จะเหมือนกับเราเดินอยู่บนสันหลังมังกรที่วิบวับ เพราะแสงแดดที่ส่องลงมากระทบสันทรายนั่นเอง โดยเราสามารถนั่งเรือจากบ้านบากันใหญ่ ใช้เวลา 30 นาที ก็จะได้ชมความอันซีนของ หาดสันหลังมังกร นอกจากนี้บริเวณ หาดสันหลังมังกร จะมีหมู่บ้านบากันใหญ่ที่จะคอยต้อนรับและให้บริการนักท่องเที่ยวเป็นกันเองมากๆ เลยค่ะ กิจกรรมของที่นี่ ไม่ได้มีเพียงแค่การไปชม หาดสันหลังมังกร เท่านั้น แต่ยังมีทั้ง กิจกรรมล่องแพ ชมนก พายเรือชมธรรมชาติ ปล่อยปู ปลูกต้นโกงกาง และทานอาหารทะเลสดๆ ที่ต้องบอกว่าใครที่ได้มาก็ต่างประทับใจกันสุดๆ เลย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 411 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานการแจ้งเตือน
    สาธารณภัย ประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567

    🔵 น้ำทะเลหนุนสูง บริเวณปากแม่น้ำ และพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่ง
    จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
    กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานการแจ้งเตือน สาธารณภัย ประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 🔵 น้ำทะเลหนุนสูง บริเวณปากแม่น้ำ และพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่ง จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1210 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปะการังเจ็ดสี Unseen กองหินขาว จ.สตูล

    เอ่ยถึงจังหวัดสตูล หลายคนมักจะถึงเกาะตะรุเตา เกาะหลีเป๊ะ อาดังราวี แต่รู้หรือไม่ว่า ที่จังหวัดสตูล ยังมีทะเลอีกหนึ่งจุดที่รอนักท่องเที่ยวมาสัมผัสความงามใต้ท้องทะเลลึก ณ กองหินขาว อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา

    หลายปีที่ผ่านมา ชื่อของกองหินขาว โด่งดังขึ้นมา จากโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา ซึ่งเหล่านักวิชาการ -นักอนุรักษ์มองว่าการก่อสร้างท่าเรือดังกล่าวจะส่งผลกระทบโดยตรงกับกองหินขาว และระบบนิเวศวิทยาทางทะเลที่อยู่ล้อมรอบ ดังนั้นจึงมีการนำภาพนิ่ง - วีดีโอ ต่างๆของท้องทะเลใต้กองหินขาวและบริเวณรอบๆมานำเสนอต่อประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับรู้ ได้เห็นว่าแท้จริงแล้ว ใต้ท้องทะเลแห่งนี้มีของดีล้ำค่าเพียงใด

    ผลของการออกโรงของนักวิชาการ -นักอนุรักษ์ รวมไปถึงชุมชนที่หวั่นว่าจะได้รับผลกระทบ ส่งผลให้รัฐบาลโดยกรมเจ้าท่า ได้ลงนามร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาที่เป็นคู่สัญญายุติโครงการศึกษาทบทวนและสำรวจออกแบบรายละเอียด (EHIA) โครงการท่าเรือน้ำลึกฯ (ปากบารา) เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562

    #ปะการัง7สี
    ปะการังเจ็ดสี Unseen กองหินขาว จ.สตูล เอ่ยถึงจังหวัดสตูล หลายคนมักจะถึงเกาะตะรุเตา เกาะหลีเป๊ะ อาดังราวี แต่รู้หรือไม่ว่า ที่จังหวัดสตูล ยังมีทะเลอีกหนึ่งจุดที่รอนักท่องเที่ยวมาสัมผัสความงามใต้ท้องทะเลลึก ณ กองหินขาว อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา หลายปีที่ผ่านมา ชื่อของกองหินขาว โด่งดังขึ้นมา จากโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา ซึ่งเหล่านักวิชาการ -นักอนุรักษ์มองว่าการก่อสร้างท่าเรือดังกล่าวจะส่งผลกระทบโดยตรงกับกองหินขาว และระบบนิเวศวิทยาทางทะเลที่อยู่ล้อมรอบ ดังนั้นจึงมีการนำภาพนิ่ง - วีดีโอ ต่างๆของท้องทะเลใต้กองหินขาวและบริเวณรอบๆมานำเสนอต่อประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับรู้ ได้เห็นว่าแท้จริงแล้ว ใต้ท้องทะเลแห่งนี้มีของดีล้ำค่าเพียงใด ผลของการออกโรงของนักวิชาการ -นักอนุรักษ์ รวมไปถึงชุมชนที่หวั่นว่าจะได้รับผลกระทบ ส่งผลให้รัฐบาลโดยกรมเจ้าท่า ได้ลงนามร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาที่เป็นคู่สัญญายุติโครงการศึกษาทบทวนและสำรวจออกแบบรายละเอียด (EHIA) โครงการท่าเรือน้ำลึกฯ (ปากบารา) เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 #ปะการัง7สี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 394 มุมมอง 0 รีวิว
  • สันหลังมังกรตันหยงโป มหัศจรรย์แห่งท้องทะเลสตูล

    มาเที่ยวสตูลทั้งที ต้องเที่ยวให้ครบทั้งบนฝั่งและบนเกาะ และมีสถานที่สุดพิเศษที่หนึ่งที่เราอยากจะพาไปเที่ยวด้วยกันในวันนี้ นั่นก็คือ “สันหลังมังกร” สถานที่ท่องเที่ยว Unseen แห่งใหม่ของจังหวัดสตูลที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากอยู่ในขณะนี้
    แต่ก่อนที่เราจะเดินทางไปชมสันหลังมังกรได้นั้น เราต้องไปลงเรือที่ ท่าเรือบ้านบากันเคย เสียก่อน โดยท่าเรือเปิดให้บริการทุกวัน นั่งเรือหางยาวของชาวบากันเคยออกไปเพียง 20 นาที ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงสันหลังมังกรที่เรารอคอยกันแล้ว

    สันหลังมังกร เป็นสันหาดทรายคล้ายทะเลแหวกกลางทะเล แต่มีความแตกต่างจากที่อื่นตรงที่แนวหาดที่เห็นนั้นไม่ใช่ทราย...แต่เป็นเปลือกหอยนับล้านล้านตัวที่ถูกคลื่นซัดมาทับถมกันเป็นระยะทางยาวกว่า 4 กิโลเมตร ซึ่งเชื่อมเป็นทางยาวระหว่าง เกาะหัวมัน กับ เกาะสาม

    ในช่วงที่น้ำลด เราจะเห็นน้ำแยกออกจากกันทั้งสองฝั่ง พอเหมาะพอเจาะกับที่แสงแดดที่สาดส่องลงมาตรงกลาง มองเห็นเป็นเกร็ดที่แวววาว เหมือนมังกรกำลังเลื้อยตามแนวโค้งแหวกว่ายเล่นน้ำในทะเล ตามตำนาน “เขาเล่าว่า” ใครที่ได้ไปยืนบนสันเกล็ดมังกรนี้ จะได้รับพลังบริสุทธิ์จากฮวงจุ้ยแห่งท้องทะเล ที่จะช่วยเติมเต็มพลังกายพลังใจให้เข้มแข็ง ซึ่งเราได้ลองไปยืนรับพลังมาตามที่เขาเล่าว่าแล้ว รู้สึกว่าร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาเลย แต่ถึงว่านะครับ... บรรยากาศสวยงามขนาดนี้ เป็นใครก็ต้องรู้สึกไม่ต่างจากเราแน่นอน

    #สันหลังมังกรตันหยงโป
    #สตูล
    สันหลังมังกรตันหยงโป มหัศจรรย์แห่งท้องทะเลสตูล มาเที่ยวสตูลทั้งที ต้องเที่ยวให้ครบทั้งบนฝั่งและบนเกาะ และมีสถานที่สุดพิเศษที่หนึ่งที่เราอยากจะพาไปเที่ยวด้วยกันในวันนี้ นั่นก็คือ “สันหลังมังกร” สถานที่ท่องเที่ยว Unseen แห่งใหม่ของจังหวัดสตูลที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากอยู่ในขณะนี้ แต่ก่อนที่เราจะเดินทางไปชมสันหลังมังกรได้นั้น เราต้องไปลงเรือที่ ท่าเรือบ้านบากันเคย เสียก่อน โดยท่าเรือเปิดให้บริการทุกวัน นั่งเรือหางยาวของชาวบากันเคยออกไปเพียง 20 นาที ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงสันหลังมังกรที่เรารอคอยกันแล้ว สันหลังมังกร เป็นสันหาดทรายคล้ายทะเลแหวกกลางทะเล แต่มีความแตกต่างจากที่อื่นตรงที่แนวหาดที่เห็นนั้นไม่ใช่ทราย...แต่เป็นเปลือกหอยนับล้านล้านตัวที่ถูกคลื่นซัดมาทับถมกันเป็นระยะทางยาวกว่า 4 กิโลเมตร ซึ่งเชื่อมเป็นทางยาวระหว่าง เกาะหัวมัน กับ เกาะสาม ในช่วงที่น้ำลด เราจะเห็นน้ำแยกออกจากกันทั้งสองฝั่ง พอเหมาะพอเจาะกับที่แสงแดดที่สาดส่องลงมาตรงกลาง มองเห็นเป็นเกร็ดที่แวววาว เหมือนมังกรกำลังเลื้อยตามแนวโค้งแหวกว่ายเล่นน้ำในทะเล ตามตำนาน “เขาเล่าว่า” ใครที่ได้ไปยืนบนสันเกล็ดมังกรนี้ จะได้รับพลังบริสุทธิ์จากฮวงจุ้ยแห่งท้องทะเล ที่จะช่วยเติมเต็มพลังกายพลังใจให้เข้มแข็ง ซึ่งเราได้ลองไปยืนรับพลังมาตามที่เขาเล่าว่าแล้ว รู้สึกว่าร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาเลย แต่ถึงว่านะครับ... บรรยากาศสวยงามขนาดนี้ เป็นใครก็ต้องรู้สึกไม่ต่างจากเราแน่นอน #สันหลังมังกรตันหยงโป #สตูล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • 22/10/67


    หาดห้าสี อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา สตูล # อุทยานธรณีสตูล

    เป็นหาดเล็กๆ หน้าหาดหันเข้าหาอ่าวละงู ตะวันตกเขาโต๊ะหงาย บนหาดทรายเล็กๆนั้นมีกลุ่มก้อนหินสี อยู่บนชายหาดอย่างละลานตา เป็นหินสีแดง ฟ้า เหลือง ขาว ดำ หินพวกนี้มาจากไหน?

    หินสีแดง มาจากหินภูเขาโต๊ะหงาย เป็นหินทรายเก่าแก่ในยุคแคมเบรียน อายุ.....๕๔๒- ๔๘๘ ล้านปี ซึ่งภูเขาโต๊ะหงายทางด้านตะวันตกเป็นหินนี้เกือบทั้งหมด

    หินสีฟ้า เป็นหินปูนยุคออโดวิเชียนอายุ ๔๘๘-๔๔๔ ซึ่งก็ต่อจากยุคแคมแบรียนนั่นเอง หินปูนนี้จะอยู่ฝั่งตะวันออกของเขาโต๊ะหงาย

    ส่วนสีขาว และดำ น่าจะเป็นเหมือนกรวด สีดำนั้นคล้ายบนหาดหินงาม

    ทุกก้อนกลม มน คิดว่าคงจะถูกคลื่นพัดพาขัดสีกันจนเป็นลักษณะมน พอมาอยู่รวมกันบนหาด มันเลย
    เหมือนสลิ่ม คละสี

    เป็นความมหัศจรรย์ทางธรณีที่น่าสนใจมาก
    ใครจะถ่ายรูป แนะให้มาตอนเย็น แดดจะเข้าทางตะวันตกพอดี แล้วดูพระอาทิตย์ตกด้วยรูปจะสวยกว่านี้

    ## ที่สำคัญ ต้องย้ำกันเลยว่า...อย่าเอาหินพวกนี้ไปนะ...มันเป็นสมบัติของประเทศชาติ อย่าเอาไปครอบครองส่วนตัว เก็บไว้ให้คนอื่นได้ดูและชื่นชมร่วมกัน เก็บเอาไปไว้ที่บ้าน มันจะเป็นแค่ก้อนหินธรรมดา แต่เมื่อมันอยู่บนหาด มันคือหาดห้าสีที่สวยงามของไทย หาไม่ได้ง่ายๆในโลก ควรช่วยกันเก็บรักษา ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอมา ไม่มีใครว่าอะไร​
    22/10/67 หาดห้าสี อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา สตูล # อุทยานธรณีสตูล เป็นหาดเล็กๆ หน้าหาดหันเข้าหาอ่าวละงู ตะวันตกเขาโต๊ะหงาย บนหาดทรายเล็กๆนั้นมีกลุ่มก้อนหินสี อยู่บนชายหาดอย่างละลานตา เป็นหินสีแดง ฟ้า เหลือง ขาว ดำ หินพวกนี้มาจากไหน? หินสีแดง มาจากหินภูเขาโต๊ะหงาย เป็นหินทรายเก่าแก่ในยุคแคมเบรียน อายุ.....๕๔๒- ๔๘๘ ล้านปี ซึ่งภูเขาโต๊ะหงายทางด้านตะวันตกเป็นหินนี้เกือบทั้งหมด หินสีฟ้า เป็นหินปูนยุคออโดวิเชียนอายุ ๔๘๘-๔๔๔ ซึ่งก็ต่อจากยุคแคมแบรียนนั่นเอง หินปูนนี้จะอยู่ฝั่งตะวันออกของเขาโต๊ะหงาย ส่วนสีขาว และดำ น่าจะเป็นเหมือนกรวด สีดำนั้นคล้ายบนหาดหินงาม ทุกก้อนกลม มน คิดว่าคงจะถูกคลื่นพัดพาขัดสีกันจนเป็นลักษณะมน พอมาอยู่รวมกันบนหาด มันเลย เหมือนสลิ่ม คละสี เป็นความมหัศจรรย์ทางธรณีที่น่าสนใจมาก ใครจะถ่ายรูป แนะให้มาตอนเย็น แดดจะเข้าทางตะวันตกพอดี แล้วดูพระอาทิตย์ตกด้วยรูปจะสวยกว่านี้ ## ที่สำคัญ ต้องย้ำกันเลยว่า...อย่าเอาหินพวกนี้ไปนะ...มันเป็นสมบัติของประเทศชาติ อย่าเอาไปครอบครองส่วนตัว เก็บไว้ให้คนอื่นได้ดูและชื่นชมร่วมกัน เก็บเอาไปไว้ที่บ้าน มันจะเป็นแค่ก้อนหินธรรมดา แต่เมื่อมันอยู่บนหาด มันคือหาดห้าสีที่สวยงามของไทย หาไม่ได้ง่ายๆในโลก ควรช่วยกันเก็บรักษา ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอมา ไม่มีใครว่าอะไร​
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,550
    วันพระ: ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๗ (17 October 2024)

    รายชื่อทำบุญ Photo Album ชุดที่ 1/3
    ทอดกฐินพระราชทาน 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท
    01. วัดบุปผาราม เขตธนบุรี กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67)
    02. วัดปทุมวนาราม เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67)
    03. วัดป่าโมกวรวิหาร อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง
    (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67)
    04. วัดราชคฤห์วรวิหาร เขตธนบุรี กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67)
    05. วัดราชนัดดาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67)
    06. วัดลุ่มมหาชัยชุมพล อ.เมือง จ.ระยอง
    (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67)
    07. วัดหงส์รัตนาราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67)
    08. วัดเขาบางทราย อ.เมือง จ.ชลบุรี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 2 พ.ย.67)
    09. วัดแจ้งวรวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินพระราชทาน 2 พ.ย.67)
    10. วัดชนาธิปเฉลิม อ.เมือง จ.สตูล
    (ทอดกฐินพระราชทาน 2 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๑๘ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,550 วันพระ: ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง วันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๗ (17 October 2024) รายชื่อทำบุญ Photo Album ชุดที่ 1/3 ทอดกฐินพระราชทาน 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท 01. วัดบุปผาราม เขตธนบุรี กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67) 02. วัดปทุมวนาราม เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67) 03. วัดป่าโมกวรวิหาร อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67) 04. วัดราชคฤห์วรวิหาร เขตธนบุรี กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67) 05. วัดราชนัดดาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67) 06. วัดลุ่มมหาชัยชุมพล อ.เมือง จ.ระยอง (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67) 07. วัดหงส์รัตนาราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67) 08. วัดเขาบางทราย อ.เมือง จ.ชลบุรี (ทอดกฐินพระราชทาน 2 พ.ย.67) 09. วัดแจ้งวรวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินพระราชทาน 2 พ.ย.67) 10. วัดชนาธิปเฉลิม อ.เมือง จ.สตูล (ทอดกฐินพระราชทาน 2 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๑๘ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,550
    วันพระ: ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๗ (17 October 2024)

    รายชื่อทำบุญ Photo Album ชุดที่ 1/3
    ทอดกฐินพระราชทาน 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท
    01. วัดบุปผาราม เขตธนบุรี กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67)
    02. วัดปทุมวนาราม เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67)
    03. วัดป่าโมกวรวิหาร อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง
    (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67)
    04. วัดราชคฤห์วรวิหาร เขตธนบุรี กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67)
    05. วัดราชนัดดาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67)
    06. วัดลุ่มมหาชัยชุมพล อ.เมือง จ.ระยอง
    (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67)
    07. วัดหงส์รัตนาราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67)
    08. วัดเขาบางทราย อ.เมือง จ.ชลบุรี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 2 พ.ย.67)
    09. วัดแจ้งวรวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินพระราชทาน 2 พ.ย.67)
    10. วัดชนาธิปเฉลิม อ.เมือง จ.สตูล
    (ทอดกฐินพระราชทาน 2 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๑๘ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,550 วันพระ: ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง วันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๗ (17 October 2024) รายชื่อทำบุญ Photo Album ชุดที่ 1/3 ทอดกฐินพระราชทาน 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท 01. วัดบุปผาราม เขตธนบุรี กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67) 02. วัดปทุมวนาราม เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67) 03. วัดป่าโมกวรวิหาร อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67) 04. วัดราชคฤห์วรวิหาร เขตธนบุรี กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67) 05. วัดราชนัดดาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67) 06. วัดลุ่มมหาชัยชุมพล อ.เมือง จ.ระยอง (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67) 07. วัดหงส์รัตนาราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 1 พ.ย.67) 08. วัดเขาบางทราย อ.เมือง จ.ชลบุรี (ทอดกฐินพระราชทาน 2 พ.ย.67) 09. วัดแจ้งวรวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินพระราชทาน 2 พ.ย.67) 10. วัดชนาธิปเฉลิม อ.เมือง จ.สตูล (ทอดกฐินพระราชทาน 2 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๑๘ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • บรรยากาศดีมาก ถ่ายด้วยมือถือราคาถูกยังสวย สถานที่ตรงนี้คือสะพานข้ามกาลเวลา สตูล
    บรรยากาศดีมาก ถ่ายด้วยมือถือราคาถูกยังสวย สถานที่ตรงนี้คือสะพานข้ามกาลเวลา สตูล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพลย์ลิสต์ 12 ตอน
    รายการ สยามโสภา
    》》
    https://youtube.com/playlist?list=PL41fHrDILF1sPtjXDl3CwzJ8WXakk8fa_&si=1JPuAnEp603ydck_
    《《
    ■■■■■■■■
    EP.1 นราน่าอยู่ สู่สันติสุข - สุขนิยาม สยามโสภา (นราธิวาส)
    》》
    https://youtu.be/8iNFe2EtxrU?si=YDmlin4YudVrlRLc
    《《
    EP.2 เมืองลุงโนรา ล้ำค่าแดนใต้ - สุขนิยาม สยามโสภา (พัทลุง)
    》》
    https://youtu.be/CqfroF5r8Zg?si=_zBTj-cXAHTS1umJ
    《《
    EP.3 ยลชุมชนวิถี ของดียโสธร - สุขนิยาม สยามโสภา (ยโสธร)
    》》
    https://youtu.be/-umeLk4zeI4?si=tMe0hAc5920EJ8V-
    《《
    EP.4 เล่าเรื่องเมืองเลย เอื้อนเอ่ยวัฒนธรรม - สุขนิยาม สยามโสภา (เลย)
    》》
    https://youtu.be/KXDGAnX-aAg?si=5SegR0YpRidmhmRS
    《《
    EP.5 ธรรมชาติเกื้อกูล เมืองสตูลยั่งยืน - สุขนิยาม สยามโสภา (สตูล)
    》》
    https://youtu.be/k-Fw-c5LjPY?si=EHYEI9eX_g0iMQPS
    《《
    EP.6 สุขสันต์สราญ ณ ราชบุรี - สุขนิยาม สยามโสภา (ราชบุรี)
    》》
    https://youtu.be/gtcxqCKa2fM?si=zE-EEvFQCxZuu5wc
    《《
    EP.7 วิถีสุพรรณ สร้างสรรค์มั่งคง - สุขนิยาม สยามโสภา (สุพรรณบุรี)
    》》
    https://youtu.be/7ejG-2nRzmo?si=xeiaw8Bq6QFNV_k9
    》》
    EP.8 ชื่นฉ่ำฤทัย เมืองอุทัยฯที่รัก - สุขนิยาม สยามโสภา (อุทัยธานี)
    》》
    https://youtu.be/RFMEXgYQH8Y?si=WJAnUQFyfdEXDHNB
    《《
    EP.9 อารยะสงขลา งามตาเพลินใจ - สุขนิยาม สยามโสภา (สงขลา)
    》》
    https://youtu.be/tmXdzQnnO-c?si=lk0r9CftGZPOrAty
    《《
    EP.10 เบตงรุ่งเรือง เมืองงามแดนใต้ - สุขนิยาม สยามโสภา (อำเภอเบตง ยะลา)
    》》
    https://youtu.be/x1lDpq-slAs?si=F7YtK-5TlBQEcexY
    《《
    EP.11 ขุนเขาไฉไล เชียงใหม่ใจฟู - สุขนิยาม สยามโสภา (เชียงใหม่)
    》》
    https://youtu.be/e7nsSD8Jlrg?si=_1Me1jF6CvUIZV9Z
    《《
    EP.12 ท่องเที่ยวเบิกบาน เมืองกาญจน์สุขใจ - สุขนิยาม สยามโสภา (กาญจนบุรี)
    》》
    https://youtu.be/3gadquTBAtU?si=fPttKLwM9Ua98c46
    《《
    #สยามโสภา #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesสยามโสภา #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesสารคดีข่าวท่องเที่ยวไทย #thaitimesmanowjourney
    เพลย์ลิสต์ 12 ตอน รายการ สยามโสภา 》》 https://youtube.com/playlist?list=PL41fHrDILF1sPtjXDl3CwzJ8WXakk8fa_&si=1JPuAnEp603ydck_ 《《 ■■■■■■■■ EP.1 นราน่าอยู่ สู่สันติสุข - สุขนิยาม สยามโสภา (นราธิวาส) 》》 https://youtu.be/8iNFe2EtxrU?si=YDmlin4YudVrlRLc 《《 EP.2 เมืองลุงโนรา ล้ำค่าแดนใต้ - สุขนิยาม สยามโสภา (พัทลุง) 》》 https://youtu.be/CqfroF5r8Zg?si=_zBTj-cXAHTS1umJ 《《 EP.3 ยลชุมชนวิถี ของดียโสธร - สุขนิยาม สยามโสภา (ยโสธร) 》》 https://youtu.be/-umeLk4zeI4?si=tMe0hAc5920EJ8V- 《《 EP.4 เล่าเรื่องเมืองเลย เอื้อนเอ่ยวัฒนธรรม - สุขนิยาม สยามโสภา (เลย) 》》 https://youtu.be/KXDGAnX-aAg?si=5SegR0YpRidmhmRS 《《 EP.5 ธรรมชาติเกื้อกูล เมืองสตูลยั่งยืน - สุขนิยาม สยามโสภา (สตูล) 》》 https://youtu.be/k-Fw-c5LjPY?si=EHYEI9eX_g0iMQPS 《《 EP.6 สุขสันต์สราญ ณ ราชบุรี - สุขนิยาม สยามโสภา (ราชบุรี) 》》 https://youtu.be/gtcxqCKa2fM?si=zE-EEvFQCxZuu5wc 《《 EP.7 วิถีสุพรรณ สร้างสรรค์มั่งคง - สุขนิยาม สยามโสภา (สุพรรณบุรี) 》》 https://youtu.be/7ejG-2nRzmo?si=xeiaw8Bq6QFNV_k9 》》 EP.8 ชื่นฉ่ำฤทัย เมืองอุทัยฯที่รัก - สุขนิยาม สยามโสภา (อุทัยธานี) 》》 https://youtu.be/RFMEXgYQH8Y?si=WJAnUQFyfdEXDHNB 《《 EP.9 อารยะสงขลา งามตาเพลินใจ - สุขนิยาม สยามโสภา (สงขลา) 》》 https://youtu.be/tmXdzQnnO-c?si=lk0r9CftGZPOrAty 《《 EP.10 เบตงรุ่งเรือง เมืองงามแดนใต้ - สุขนิยาม สยามโสภา (อำเภอเบตง ยะลา) 》》 https://youtu.be/x1lDpq-slAs?si=F7YtK-5TlBQEcexY 《《 EP.11 ขุนเขาไฉไล เชียงใหม่ใจฟู - สุขนิยาม สยามโสภา (เชียงใหม่) 》》 https://youtu.be/e7nsSD8Jlrg?si=_1Me1jF6CvUIZV9Z 《《 EP.12 ท่องเที่ยวเบิกบาน เมืองกาญจน์สุขใจ - สุขนิยาม สยามโสภา (กาญจนบุรี) 》》 https://youtu.be/3gadquTBAtU?si=fPttKLwM9Ua98c46 《《 #สยามโสภา #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesสยามโสภา #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesสารคดีข่าวท่องเที่ยวไทย #thaitimesmanowjourney
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1397 มุมมอง 0 รีวิว
  • ☆ปราสาทหินพันยอด เกาะเขาใหญ่ จ.สตูล
    ☆พื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติในตำบล ปากน้ำ
    ☆"ปราสาทหิน" มีหินแนวสันเขาโอบล้อมเป็นวงกลมคล้ายป้อมปราการในทะเลน้ำตื้น มีช่องให้เรือคายัคเข้าไปได้
    ☆ต้นกำเนิดปราสาทหินพันยอด เมื่อหลายล้านปีก่อนน้ำใต้ดินได้กัดเซาะ และละลายหินปูนที่อยู่ใต้ดินจนเกิดเป็นโพรงมากมาย โพรงขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆจนเชื่อมกันเป็นโพรงใหญ่ต่อมาหินปูนถูกยกตัวขึ้นกลายเป็นหินปูนเทือกเขาเกาะเขาใหญ่ เพดานของโพรงที่อยู่ในหินปูนถูกน้ำกัดเซาะจนบางลงเรื่อยๆ จนกระทั่งรับน้ำหนักไม่ไหวจึงเกิดการยุบตัวลงมากลายเป็นหลุมหยุบในภูเขาซึ่งเกิดเป็นปราสาทหินพันยอดนั่นเอง
    ☆สนใจทริป ติดต่อ
    》》พี่ไกด์ชุมชน
    095-096-7782
    ☆ราคา คนละ 800 บาท
    ■■■■■■■■■■■■
    #เที่ยวไทยไปกับมะนาวก้าวเดิน #ปราสาทหินพันยอด #เกาะเขาใหญ่ #สตูล
    #มะนาวก้าวเดิน #manowjourney #ปราสาทหินพันยอด
    #Unseeปราสาทหินดึกดำบรรพ์แห่งสตูล
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    ☆ปราสาทหินพันยอด เกาะเขาใหญ่ จ.สตูล ☆พื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติในตำบล ปากน้ำ ☆"ปราสาทหิน" มีหินแนวสันเขาโอบล้อมเป็นวงกลมคล้ายป้อมปราการในทะเลน้ำตื้น มีช่องให้เรือคายัคเข้าไปได้ ☆ต้นกำเนิดปราสาทหินพันยอด เมื่อหลายล้านปีก่อนน้ำใต้ดินได้กัดเซาะ และละลายหินปูนที่อยู่ใต้ดินจนเกิดเป็นโพรงมากมาย โพรงขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆจนเชื่อมกันเป็นโพรงใหญ่ต่อมาหินปูนถูกยกตัวขึ้นกลายเป็นหินปูนเทือกเขาเกาะเขาใหญ่ เพดานของโพรงที่อยู่ในหินปูนถูกน้ำกัดเซาะจนบางลงเรื่อยๆ จนกระทั่งรับน้ำหนักไม่ไหวจึงเกิดการยุบตัวลงมากลายเป็นหลุมหยุบในภูเขาซึ่งเกิดเป็นปราสาทหินพันยอดนั่นเอง ☆สนใจทริป ติดต่อ 》》พี่ไกด์ชุมชน 095-096-7782 ☆ราคา คนละ 800 บาท ■■■■■■■■■■■■ #เที่ยวไทยไปกับมะนาวก้าวเดิน #ปราสาทหินพันยอด #เกาะเขาใหญ่ #สตูล #มะนาวก้าวเดิน #manowjourney #ปราสาทหินพันยอด #Unseeปราสาทหินดึกดำบรรพ์แห่งสตูล #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1227 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพลย์ลิสต์ 12 ตอน
    รายการ สยามโสภา
    》》
    https://youtube.com/playlist?list=PL41fHrDILF1sPtjXDl3CwzJ8WXakk8fa_&si=1JPuAnEp603ydck_
    《《
    ■■■■■■■■
    EP.1 นราน่าอยู่ สู่สันติสุข - สุขนิยาม สยามโสภา (นราธิวาส)
    》》
    https://youtu.be/8iNFe2EtxrU?si=YDmlin4YudVrlRLc
    《《
    EP.2 เมืองลุงโนรา ล้ำค่าแดนใต้ - สุขนิยาม สยามโสภา (พัทลุง)
    》》
    https://youtu.be/CqfroF5r8Zg?si=_zBTj-cXAHTS1umJ
    《《
    EP.3 ยลชุมชนวิถี ของดียโสธร - สุขนิยาม สยามโสภา (ยโสธร)
    》》
    https://youtu.be/-umeLk4zeI4?si=tMe0hAc5920EJ8V-
    《《
    EP.4 เล่าเรื่องเมืองเลย เอื้อนเอ่ยวัฒนธรรม - สุขนิยาม สยามโสภา (เลย)
    》》
    https://youtu.be/KXDGAnX-aAg?si=5SegR0YpRidmhmRS
    《《
    EP.5 ธรรมชาติเกื้อกูล เมืองสตูลยั่งยืน - สุขนิยาม สยามโสภา (สตูล)
    》》
    https://youtu.be/k-Fw-c5LjPY?si=EHYEI9eX_g0iMQPS
    《《
    EP.6 สุขสันต์สราญ ณ ราชบุรี - สุขนิยาม สยามโสภา (ราชบุรี)
    》》
    https://youtu.be/gtcxqCKa2fM?si=zE-EEvFQCxZuu5wc
    《《
    EP.7 วิถีสุพรรณ สร้างสรรค์มั่งคง - สุขนิยาม สยามโสภา (สุพรรณบุรี)
    》》
    https://youtu.be/7ejG-2nRzmo?si=xeiaw8Bq6QFNV_k9
    》》
    EP.8 ชื่นฉ่ำฤทัย เมืองอุทัยฯที่รัก - สุขนิยาม สยามโสภา (อุทัยธานี)
    》》
    https://youtu.be/RFMEXgYQH8Y?si=WJAnUQFyfdEXDHNB
    《《
    EP.9 อารยะสงขลา งามตาเพลินใจ - สุขนิยาม สยามโสภา (สงขลา)
    》》
    https://youtu.be/tmXdzQnnO-c?si=lk0r9CftGZPOrAty
    《《
    EP.10 เบตงรุ่งเรือง เมืองงามแดนใต้ - สุขนิยาม สยามโสภา (อำเภอเบตง ยะลา)
    》》
    https://youtu.be/x1lDpq-slAs?si=F7YtK-5TlBQEcexY
    《《
    EP.11 ขุนเขาไฉไล เชียงใหม่ใจฟู - สุขนิยาม สยามโสภา (เชียงใหม่)
    》》
    https://youtu.be/e7nsSD8Jlrg?si=_1Me1jF6CvUIZV9Z
    《《
    EP.12 ท่องเที่ยวเบิกบาน เมืองกาญจน์สุขใจ - สุขนิยาม สยามโสภา (กาญจนบุรี)
    》》
    https://youtu.be/3gadquTBAtU?si=fPttKLwM9Ua98c46
    《《
    #สยามโสภา #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesสยามโสภา #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesสารคดีข่าวท่องเที่ยวไทย #thaitimesmanowjourney
    เพลย์ลิสต์ 12 ตอน รายการ สยามโสภา 》》 https://youtube.com/playlist?list=PL41fHrDILF1sPtjXDl3CwzJ8WXakk8fa_&si=1JPuAnEp603ydck_ 《《 ■■■■■■■■ EP.1 นราน่าอยู่ สู่สันติสุข - สุขนิยาม สยามโสภา (นราธิวาส) 》》 https://youtu.be/8iNFe2EtxrU?si=YDmlin4YudVrlRLc 《《 EP.2 เมืองลุงโนรา ล้ำค่าแดนใต้ - สุขนิยาม สยามโสภา (พัทลุง) 》》 https://youtu.be/CqfroF5r8Zg?si=_zBTj-cXAHTS1umJ 《《 EP.3 ยลชุมชนวิถี ของดียโสธร - สุขนิยาม สยามโสภา (ยโสธร) 》》 https://youtu.be/-umeLk4zeI4?si=tMe0hAc5920EJ8V- 《《 EP.4 เล่าเรื่องเมืองเลย เอื้อนเอ่ยวัฒนธรรม - สุขนิยาม สยามโสภา (เลย) 》》 https://youtu.be/KXDGAnX-aAg?si=5SegR0YpRidmhmRS 《《 EP.5 ธรรมชาติเกื้อกูล เมืองสตูลยั่งยืน - สุขนิยาม สยามโสภา (สตูล) 》》 https://youtu.be/k-Fw-c5LjPY?si=EHYEI9eX_g0iMQPS 《《 EP.6 สุขสันต์สราญ ณ ราชบุรี - สุขนิยาม สยามโสภา (ราชบุรี) 》》 https://youtu.be/gtcxqCKa2fM?si=zE-EEvFQCxZuu5wc 《《 EP.7 วิถีสุพรรณ สร้างสรรค์มั่งคง - สุขนิยาม สยามโสภา (สุพรรณบุรี) 》》 https://youtu.be/7ejG-2nRzmo?si=xeiaw8Bq6QFNV_k9 》》 EP.8 ชื่นฉ่ำฤทัย เมืองอุทัยฯที่รัก - สุขนิยาม สยามโสภา (อุทัยธานี) 》》 https://youtu.be/RFMEXgYQH8Y?si=WJAnUQFyfdEXDHNB 《《 EP.9 อารยะสงขลา งามตาเพลินใจ - สุขนิยาม สยามโสภา (สงขลา) 》》 https://youtu.be/tmXdzQnnO-c?si=lk0r9CftGZPOrAty 《《 EP.10 เบตงรุ่งเรือง เมืองงามแดนใต้ - สุขนิยาม สยามโสภา (อำเภอเบตง ยะลา) 》》 https://youtu.be/x1lDpq-slAs?si=F7YtK-5TlBQEcexY 《《 EP.11 ขุนเขาไฉไล เชียงใหม่ใจฟู - สุขนิยาม สยามโสภา (เชียงใหม่) 》》 https://youtu.be/e7nsSD8Jlrg?si=_1Me1jF6CvUIZV9Z 《《 EP.12 ท่องเที่ยวเบิกบาน เมืองกาญจน์สุขใจ - สุขนิยาม สยามโสภา (กาญจนบุรี) 》》 https://youtu.be/3gadquTBAtU?si=fPttKLwM9Ua98c46 《《 #สยามโสภา #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesสยามโสภา #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesสารคดีข่าวท่องเที่ยวไทย #thaitimesmanowjourney
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2111 มุมมอง 414 0 รีวิว
  • ส่งใจและสิ่งของไปกับแคมเปญ "ไปรษณีย์ไทย เชื่อมโยงน้ำใจ ส่งต่อผู้ประสบภัยน้ำท่วม" ส่งฟรี!! ของบริจาคช่วยน้ำท่วมที่ไปรษณีย์ไทยได้ฟรี โดยระบุจ่าหน้าไปยังจังหวัดที่มีผู้ประสบภัยน้ำท่วม ส่งได้ไม่เกิน 20 กิโลกรัม ขอแนะนำว่าควรซักเสื้อผ้าใช้แล้วให้สะอาดก่อนบริจาค

    ข้อมูลที่อยู่ศาลากลาง จังหวัดที่มีน้ำท่วมรับสิ่งของ

    ศาลากลางจังหวัดเชียงราย
    ถ.แม่ฟ้าหลวง ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย 57100

    ศาลากลางจังหวัดพะเยา (หลังใหม่)
    ถ.พหลโยธิน ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา 56000

    ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่
    ถ.โชตนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50000

    ศาลากลางจังหวัดน่าน
    ถ.สุริยพงษ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.น่าน 55000

    ศาลากลางจังหวัดแพร่
    ถ.ไชยบูรณ์ ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ 54000

    ศาลากลางจังหวัดสตูล
    ถ.สตูลธานี ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล 91000

    ศาลากลางจังหวัดชุมพร
    ถ.ไตรรัตน์ ต.นาชะอัง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร 86000

    ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
    9/99 ถ.เจ้าฟ้า ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต 83000

    ศาลากลางจังหวัดหนองคาย
    ถ.มิตรภาพหนองคาย - อุดรธานี ต. หนองกอมเกาะ อ. เมือง จ.หนองคาย 43000

    ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่)
    ถ.อภิบาลบัญชา ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม 48000
    ใช้รหัสรับฝาก 4440

    ที่มา : รายชื่อที่อยู่ศาลากลางสำหรับส่งสิ่งของบริจาค : https://drive.google.com/drive/folders/12hvhl5Zc1cY1HUBqHYU8r6NXvlWl-yQ0

    รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.thailandpost.co.th/un/article_detail/article/11/32595

    #Thaitimes
    ส่งใจและสิ่งของไปกับแคมเปญ "ไปรษณีย์ไทย เชื่อมโยงน้ำใจ ส่งต่อผู้ประสบภัยน้ำท่วม" ส่งฟรี!! ของบริจาคช่วยน้ำท่วมที่ไปรษณีย์ไทยได้ฟรี โดยระบุจ่าหน้าไปยังจังหวัดที่มีผู้ประสบภัยน้ำท่วม ส่งได้ไม่เกิน 20 กิโลกรัม ขอแนะนำว่าควรซักเสื้อผ้าใช้แล้วให้สะอาดก่อนบริจาค ข้อมูลที่อยู่ศาลากลาง จังหวัดที่มีน้ำท่วมรับสิ่งของ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ถ.แม่ฟ้าหลวง ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย 57100 ศาลากลางจังหวัดพะเยา (หลังใหม่) ถ.พหลโยธิน ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา 56000 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ถ.โชตนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50000 ศาลากลางจังหวัดน่าน ถ.สุริยพงษ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.น่าน 55000 ศาลากลางจังหวัดแพร่ ถ.ไชยบูรณ์ ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ 54000 ศาลากลางจังหวัดสตูล ถ.สตูลธานี ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล 91000 ศาลากลางจังหวัดชุมพร ถ.ไตรรัตน์ ต.นาชะอัง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร 86000 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต 9/99 ถ.เจ้าฟ้า ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต 83000 ศาลากลางจังหวัดหนองคาย ถ.มิตรภาพหนองคาย - อุดรธานี ต. หนองกอมเกาะ อ. เมือง จ.หนองคาย 43000 ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) ถ.อภิบาลบัญชา ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม 48000 ใช้รหัสรับฝาก 4440 ที่มา : รายชื่อที่อยู่ศาลากลางสำหรับส่งสิ่งของบริจาค : https://drive.google.com/drive/folders/12hvhl5Zc1cY1HUBqHYU8r6NXvlWl-yQ0 รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.thailandpost.co.th/un/article_detail/article/11/32595 #Thaitimes
    Like
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1710 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
    ออกประกาศแจ้งเตือน 16 จังหวัด เฝ้าระวังภัยแผ่นดินถล่ม
    น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 13-15 กันยายน ได้แก่
    เชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, น่าน, เลย, หนองคาย,
    ศรีษะเกษ, อุบลราชธานี, จันทบุรี, ตราด, ระนอง, พังงา,
    ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง และ สตูล
    ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #กรมทรัพยากรธรณี
    #พื้นที่เฝ้าระวัง #thaitimes
    🔥🔥กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ออกประกาศแจ้งเตือน 16 จังหวัด เฝ้าระวังภัยแผ่นดินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 13-15 กันยายน ได้แก่ เชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, น่าน, เลย, หนองคาย, ศรีษะเกษ, อุบลราชธานี, จันทบุรี, ตราด, ระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง และ สตูล ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #กรมทรัพยากรธรณี #พื้นที่เฝ้าระวัง #thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1485 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิด้าโพลสำรวจเสียงคนใต้เกินครึ่งไม่เห็นด้วย พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย มีผลเลือกตั้งครั้งหน้าไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์

    ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “เสียงพี่น้องชาวใต้ถึงพรรคประชาธิปัตย์ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2-3 กันยายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีสิทธิเลือกตั้งใน 14 จังหวัดภาคใต้ กระจายระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ในการเข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

    จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ในการเข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 54.19 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 14.58 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 12.98 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 11.91 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย และร้อยละ 6.34 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

    ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 41.37 ระบุว่า ไม่เลือก รองลงมา ร้อยละ 41.15 ระบุว่า ยังไม่แน่ใจ และร้อยละ 17.48 ระบุว่า เลือก

    เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างทั้งหมดมีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่ในภาคใต้ ตัวอย่าง ร้อยละ 16.87 มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ร้อยละ 15.27 จังหวัดสงขลา ร้อยละ 11.53 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร้อยละ 8.01 จังหวัดนราธิวาส ร้อยละ 7.10 จังหวัดปัตตานี ร้อยละ 6.95 จังหวัดตรัง ร้อยละ 5.80 จังหวัดพัทลุง ร้อยละ 5.57 จังหวัดชุมพร ร้อยละ 5.34 จังหวัดยะลา ร้อยละ 4.96 จังหวัดกระบี่ ร้อยละ 4.43 จังหวัดภูเก็ต ร้อยละ 3.36 จังหวัดสตูล ร้อยละ 2.90 จังหวัดพังงา และร้อยละ 1.91 จังหวัดระนอง ตัวอย่าง ร้อยละ 48.09 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.91 เป็นเพศหญิง

    ตัวอย่าง ร้อยละ 14.35 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 19.47 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 19.00 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 24.89 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 22.29 อายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่าง ร้อยละ 72.22 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 27.25 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.53 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ

    ตัวอย่าง ร้อยละ 34.73 สถานภาพโสด ร้อยละ 63.74 สมรส และร้อยละ 1.53 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ ตัวอย่าง ร้อยละ 15.65 จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ร้อยละ 36.41 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 9.47 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 33.66 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 4.81 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า

    ตัวอย่าง ร้อยละ 11.98 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 14.73 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 23.59 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 12.06 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 13.82 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 18.17 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 5.65 เป็นนักเรียน/นักศึกษา

    ตัวอย่าง ร้อยละ 18.86 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 16.72 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 32.82 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 11.22 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 5.19 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 6.56 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 8.63 ไม่ระบุรายได้

    ที่มา https://nidapoll.nida.ac.th/survey_detail?survey_id=716

    #Thaitimes
    นิด้าโพลสำรวจเสียงคนใต้เกินครึ่งไม่เห็นด้วย พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย มีผลเลือกตั้งครั้งหน้าไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “เสียงพี่น้องชาวใต้ถึงพรรคประชาธิปัตย์ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2-3 กันยายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีสิทธิเลือกตั้งใน 14 จังหวัดภาคใต้ กระจายระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ในการเข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0 จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ในการเข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 54.19 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 14.58 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 12.98 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 11.91 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย และร้อยละ 6.34 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 41.37 ระบุว่า ไม่เลือก รองลงมา ร้อยละ 41.15 ระบุว่า ยังไม่แน่ใจ และร้อยละ 17.48 ระบุว่า เลือก เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างทั้งหมดมีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่ในภาคใต้ ตัวอย่าง ร้อยละ 16.87 มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ร้อยละ 15.27 จังหวัดสงขลา ร้อยละ 11.53 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร้อยละ 8.01 จังหวัดนราธิวาส ร้อยละ 7.10 จังหวัดปัตตานี ร้อยละ 6.95 จังหวัดตรัง ร้อยละ 5.80 จังหวัดพัทลุง ร้อยละ 5.57 จังหวัดชุมพร ร้อยละ 5.34 จังหวัดยะลา ร้อยละ 4.96 จังหวัดกระบี่ ร้อยละ 4.43 จังหวัดภูเก็ต ร้อยละ 3.36 จังหวัดสตูล ร้อยละ 2.90 จังหวัดพังงา และร้อยละ 1.91 จังหวัดระนอง ตัวอย่าง ร้อยละ 48.09 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.91 เป็นเพศหญิง ตัวอย่าง ร้อยละ 14.35 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 19.47 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 19.00 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 24.89 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 22.29 อายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่าง ร้อยละ 72.22 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 27.25 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.53 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ ตัวอย่าง ร้อยละ 34.73 สถานภาพโสด ร้อยละ 63.74 สมรส และร้อยละ 1.53 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ ตัวอย่าง ร้อยละ 15.65 จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ร้อยละ 36.41 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 9.47 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 33.66 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 4.81 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ตัวอย่าง ร้อยละ 11.98 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 14.73 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 23.59 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 12.06 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 13.82 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 18.17 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 5.65 เป็นนักเรียน/นักศึกษา ตัวอย่าง ร้อยละ 18.86 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 16.72 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 32.82 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 11.22 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 5.19 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 6.56 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 8.63 ไม่ระบุรายได้ ที่มา https://nidapoll.nida.ac.th/survey_detail?survey_id=716 #Thaitimes
    Like
    Haha
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1262 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้ำเลสเตโกดอน มรดกจากยุคน้ำแข็ง ช้างโบราณกลางป่าสตูล!

    ถ้ำเลสเตโกดอน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล อยู่ในเขตพื้นที่อุทยานธรณีโลกสตูล (Satun Global Geopark) เป็นบริเวณที่มีการค้นพบฟอสซิลของช้างสเตโกดอน สภาพของถ้ำเลสเตโกดอนในปัจจุบัน เป็นถ้ำที่อยู่ติดทะเล และมีน้ำทะเลท่วมตลอดทั้งแนวถ้ำ การเข้าไปสำรวจหรือท่องเที่ยวภายในถ้ำต้องพายเรือเข้าไปเพื่อชมความงดงามภายในถ้ำ

    แต่หากย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ช้างสเตโกดอนอาศัยอยู่ ในสมัยไพลสโตซีน ถ้ำแห่งนี้อยู่เหนือจากระดับน้ำทะเล จึงเป็นที่อยู่อาศัย หลบซ่อนของสัตว์น้อยใหญ่หลายชนิด จากหลักฐานฟอสซิลอื่น ๆ ที่พบในถ้ำเลสเตโกดอน พบว่ามีช้างอีกสกุลหนึ่ง คือ ช้างเอลิฟาส (Elephas) ซึ่งเป็นต้นตระกูลของช้างเอเชียในปัจจุบัน แรดโบราณอีก 2 สกุล คือ เกนดาทีเรียม (Gaindatherium) และคิโลทีเรียม (Chilotherium) เศษซากฟอสซิลของสัตว์ใหญ่เหล่านี้ สันนิษฐานอาจเกิดจากการถูกล่าแล้วนำชิ้นส่วนต่าง ๆ เข้ามาหลบกินในถ้ำ และชิ้นส่วนกระดูกที่กระจัดกระจายอาจเกิดจากการนำพาของสัตว์กินซากซึ่งเป็นสัตว์ฟันแทะขนาดเล็กนำเข้ามาในถ้ำ เมื่อเวลาผ่านไปหลายหมื่นปี เศษซากกระดูกสัตว์แปรสภาพกลายเป็นฟอสซิล เช่นเดียวกับถ้ำหินปูนที่แปรสภาพไปด้วยเช่น

    #ถ้ำเลสเตโกดอน
    #ยุคน้ำแข็ง
    #สตูล
    #ท่องเที่ยว



    ถ้ำเลสเตโกดอน มรดกจากยุคน้ำแข็ง ช้างโบราณกลางป่าสตูล! ถ้ำเลสเตโกดอน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล อยู่ในเขตพื้นที่อุทยานธรณีโลกสตูล (Satun Global Geopark) เป็นบริเวณที่มีการค้นพบฟอสซิลของช้างสเตโกดอน สภาพของถ้ำเลสเตโกดอนในปัจจุบัน เป็นถ้ำที่อยู่ติดทะเล และมีน้ำทะเลท่วมตลอดทั้งแนวถ้ำ การเข้าไปสำรวจหรือท่องเที่ยวภายในถ้ำต้องพายเรือเข้าไปเพื่อชมความงดงามภายในถ้ำ แต่หากย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ช้างสเตโกดอนอาศัยอยู่ ในสมัยไพลสโตซีน ถ้ำแห่งนี้อยู่เหนือจากระดับน้ำทะเล จึงเป็นที่อยู่อาศัย หลบซ่อนของสัตว์น้อยใหญ่หลายชนิด จากหลักฐานฟอสซิลอื่น ๆ ที่พบในถ้ำเลสเตโกดอน พบว่ามีช้างอีกสกุลหนึ่ง คือ ช้างเอลิฟาส (Elephas) ซึ่งเป็นต้นตระกูลของช้างเอเชียในปัจจุบัน แรดโบราณอีก 2 สกุล คือ เกนดาทีเรียม (Gaindatherium) และคิโลทีเรียม (Chilotherium) เศษซากฟอสซิลของสัตว์ใหญ่เหล่านี้ สันนิษฐานอาจเกิดจากการถูกล่าแล้วนำชิ้นส่วนต่าง ๆ เข้ามาหลบกินในถ้ำ และชิ้นส่วนกระดูกที่กระจัดกระจายอาจเกิดจากการนำพาของสัตว์กินซากซึ่งเป็นสัตว์ฟันแทะขนาดเล็กนำเข้ามาในถ้ำ เมื่อเวลาผ่านไปหลายหมื่นปี เศษซากกระดูกสัตว์แปรสภาพกลายเป็นฟอสซิล เช่นเดียวกับถ้ำหินปูนที่แปรสภาพไปด้วยเช่น #ถ้ำเลสเตโกดอน #ยุคน้ำแข็ง #สตูล #ท่องเที่ยว
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 430 มุมมอง 0 รีวิว