• Valve Steam Machine: ราคาที่ทำให้แฟน ๆ กังวล

    Valve เปิดตัว Steam Machine ซึ่งเป็นพีซีขนาดเล็กที่ใช้ระบบปฏิบัติการ SteamOS โดยหวังว่าจะเป็นอีกทางเลือกสำหรับการเล่นเกมบนเดสก์ท็อป แต่สิ่งที่สร้างความกังวลคือเรื่อง ราคา ที่ Valve ยืนยันว่าจะตั้งราคาแบบ “พีซี” ไม่ใช่ “คอนโซล”

    ราคาแพงเกินไปสำหรับคอนโซล แต่ไม่แรงพอสำหรับพีซี
    Pierre-Loup Griffais นักพัฒนาของ Valve กล่าวว่าราคาจะอยู่ในช่วงเดียวกับการประกอบพีซีที่มีสเปกใกล้เคียง ซึ่งหมายความว่า Steam Machine อาจมีราคา 600–800 ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นไป แม้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ PS5 รุ่นพื้นฐาน แต่ราคากลับสูงกว่าแม้เทียบกับ PS5 Pro ที่แพงกว่า

    ความท้าทายของ Valve
    ตลาดฮาร์ดแวร์พีซีกำลังเผชิญกับราคาชิ้นส่วนที่สูงขึ้นจากความต้องการในอุตสาหกรรม AI ทำให้การผลิต Steam Machine ยิ่งยากขึ้นไปอีก แม้จะถูกออกแบบให้เป็นพีซี แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะนำไปใช้แทนคอนโซลในห้องนั่งเล่น ซึ่งอาจทำให้กลุ่มเป้าหมายหลักคือ เกมเมอร์คอนโซล รู้สึกว่าราคาไม่คุ้มค่า

    กลุ่มผู้ใช้ที่ Valve อาจพลาด
    เกมเมอร์คอนโซล: ต้องการเครื่องเล่นราคาสมเหตุสมผล แต่ Steam Machine แพงเกินไป

    เกมเมอร์พีซีสายฮาร์ดคอร์: มักมีเครื่องแรงอยู่แล้ว จึงไม่สนใจฮาร์ดแวร์ที่ด้อยกว่า

    ผู้ใช้ทั่วไป: SteamOS และ Steam เองก็สามารถใช้งานบนพีซีหรือ Linux ได้ฟรี ทำให้ Steam Machine ไม่ได้มีจุดขายที่ชัดเจน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Valve เปิดตัว Steam Machine
    ใช้ SteamOS บนพีซีขนาดเล็ก
    ตั้งราคาแบบพีซี ไม่ใช่คอนโซล

    ราคาและสเปก
    คาดการณ์ 600–800 ดอลลาร์
    ประสิทธิภาพใกล้เคียง PS5 รุ่นพื้นฐาน แต่แพงกว่า PS5 Pro

    ความเสี่ยงต่อการตลาด
    แพงเกินไปสำหรับผู้เล่นคอนโซล
    ไม่แรงพอสำหรับผู้ใช้พีซีสายฮาร์ดคอร์

    ปัจจัยภายนอก
    ราคาชิ้นส่วนพีซีสูงขึ้นจากอุตสาหกรรม AI
    SteamOS และ Steam มีให้ใช้ฟรี ทำให้เครื่องไม่โดดเด่น

    https://www.slashgear.com/2044546/valve-steam-machine-pricing-console-or-computer/
    🎮 Valve Steam Machine: ราคาที่ทำให้แฟน ๆ กังวล Valve เปิดตัว Steam Machine ซึ่งเป็นพีซีขนาดเล็กที่ใช้ระบบปฏิบัติการ SteamOS โดยหวังว่าจะเป็นอีกทางเลือกสำหรับการเล่นเกมบนเดสก์ท็อป แต่สิ่งที่สร้างความกังวลคือเรื่อง ราคา ที่ Valve ยืนยันว่าจะตั้งราคาแบบ “พีซี” ไม่ใช่ “คอนโซล” 💰 ราคาแพงเกินไปสำหรับคอนโซล แต่ไม่แรงพอสำหรับพีซี Pierre-Loup Griffais นักพัฒนาของ Valve กล่าวว่าราคาจะอยู่ในช่วงเดียวกับการประกอบพีซีที่มีสเปกใกล้เคียง ซึ่งหมายความว่า Steam Machine อาจมีราคา 600–800 ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นไป แม้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ PS5 รุ่นพื้นฐาน แต่ราคากลับสูงกว่าแม้เทียบกับ PS5 Pro ที่แพงกว่า ⚠️ ความท้าทายของ Valve ตลาดฮาร์ดแวร์พีซีกำลังเผชิญกับราคาชิ้นส่วนที่สูงขึ้นจากความต้องการในอุตสาหกรรม AI ทำให้การผลิต Steam Machine ยิ่งยากขึ้นไปอีก แม้จะถูกออกแบบให้เป็นพีซี แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะนำไปใช้แทนคอนโซลในห้องนั่งเล่น ซึ่งอาจทำให้กลุ่มเป้าหมายหลักคือ เกมเมอร์คอนโซล รู้สึกว่าราคาไม่คุ้มค่า 🕹️ กลุ่มผู้ใช้ที่ Valve อาจพลาด เกมเมอร์คอนโซล: ต้องการเครื่องเล่นราคาสมเหตุสมผล แต่ Steam Machine แพงเกินไป เกมเมอร์พีซีสายฮาร์ดคอร์: มักมีเครื่องแรงอยู่แล้ว จึงไม่สนใจฮาร์ดแวร์ที่ด้อยกว่า ผู้ใช้ทั่วไป: SteamOS และ Steam เองก็สามารถใช้งานบนพีซีหรือ Linux ได้ฟรี ทำให้ Steam Machine ไม่ได้มีจุดขายที่ชัดเจน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Valve เปิดตัว Steam Machine ➡️ ใช้ SteamOS บนพีซีขนาดเล็ก ➡️ ตั้งราคาแบบพีซี ไม่ใช่คอนโซล ✅ ราคาและสเปก ➡️ คาดการณ์ 600–800 ดอลลาร์ ➡️ ประสิทธิภาพใกล้เคียง PS5 รุ่นพื้นฐาน แต่แพงกว่า PS5 Pro ‼️ ความเสี่ยงต่อการตลาด ⛔ แพงเกินไปสำหรับผู้เล่นคอนโซล ⛔ ไม่แรงพอสำหรับผู้ใช้พีซีสายฮาร์ดคอร์ ‼️ ปัจจัยภายนอก ⛔ ราคาชิ้นส่วนพีซีสูงขึ้นจากอุตสาหกรรม AI ⛔ SteamOS และ Steam มีให้ใช้ฟรี ทำให้เครื่องไม่โดดเด่น https://www.slashgear.com/2044546/valve-steam-machine-pricing-console-or-computer/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Valve Confirms What Everyone Feared About The Steam Machine's Pricing - SlashGear
    Valve confirms the Steam Machine won't be subsidized like a console. Pierre-Loup Griffais states pricing will match the cost of building a similar PC.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI Craze ดันราคา RAM และ SSD พุ่งสูง

    รายงานล่าสุดเผยว่า ความต้องการชิปหน่วยความจำและสตอเรจจากศูนย์ข้อมูล AI กำลังทำให้ตลาดผู้ใช้ทั่วไปได้รับผลกระทบอย่างหนัก ราคาของ RAM และ SSD พุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว เนื่องจากผู้ผลิตหันไปให้ความสำคัญกับลูกค้ารายใหญ่ในภาค AI มากกว่าผู้บริโภคทั่วไป

    ตัวเลขที่น่าตกใจ
    Micron ประกาศยุติแบรนด์ Crucial ที่เคยทำตลาด RAM และ SSD สำหรับผู้ใช้ทั่วไป โดยหันไปโฟกัสลูกค้าองค์กรด้าน AI
    CyberPowerPC เผยว่า ราคาของ RAM เพิ่มขึ้นถึง 500% และ SSD เพิ่มขึ้น 100% ภายในเวลาไม่นาน
    ข้อมูลจาก DRAMeXchange ระบุว่า ชิป DDR5 ขนาด 16Gb ที่ราคา $6.84 เมื่อเดือนกันยายน 2025 ขึ้นไปถึง $27.20 ภายในเดือนธันวาคม 2025 (เพิ่มเกือบ 4 เท่า)
    ผู้บริหาร TeamGroup คาดว่าราคาจะยังคงพุ่งต่อเนื่องในไตรมาสแรกและสองของปี 2026

    ผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไป
    ตลาดโน้ตบุ๊กก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยมีการคาดการณ์ว่าราคาโน้ตบุ๊กอาจเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20% ในปี 2026 ขณะที่ผู้ผลิต NAND อย่าง Phison เตือนว่าราคาจะยังคงสูงต่อไปอีกหลายปี เนื่องจากความต้องการจาก AI ไม่ลดลง

    สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประกอบเครื่อง Linux หรือ PC เพื่อเล่นเกมและทำงานหนัก ๆ ตอนนี้มีทางเลือกไม่มากนัก:
    ยอมจ่ายราคาที่สูงขึ้น
    รอให้ตลาดปรับตัว
    หรือหันไปใช้ ฮาร์ดแวร์มือสอง ที่ยังพอมีราคาสมเหตุสมผล

    มุมมองและคำเตือน
    สถานการณ์นี้ถูกเปรียบเทียบว่าเป็น “AI Gold Rush” คล้ายกับกระแส Crypto และ Cloud ในอดีต ที่สุดท้ายผู้ใช้ทั่วไปต้องแบกรับผลกระทบจากการไล่ตามกำไรของบริษัทใหญ่ หากฟองสบู่ AI แตกขึ้นมาในอนาคต บริษัทอาจเผชิญการขาดทุนและปลดพนักงานจำนวนมาก แต่ผู้ใช้ทั่วไปก็ยังคงเสียประโยชน์จากราคาที่สูงเกินจริง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปลี่ยนแปลงในตลาด
    Micron ยุติ Crucial หันไปโฟกัสลูกค้า AI
    CyberPowerPC เผย RAM ขึ้น 500%, SSD ขึ้น 100%

    ตัวเลขราคาที่พุ่งสูง
    DDR5 16Gb จาก $6.84 → $27.20 ภายใน 2 เดือน
    TeamGroup คาดราคายังพุ่งต่อในปี 2026

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    โน้ตบุ๊กอาจขึ้นราคา 20% ในปี 2026
    ทางเลือกคือจ่ายแพง, รอ, หรือใช้ฮาร์ดแวร์มือสอง

    คำเตือนจากสถานการณ์
    AI Craze ถูกเปรียบเทียบเป็น “Gold Rush” ที่ผู้ใช้ทั่วไปเสียประโยชน์
    หากฟองสบู่ AI แตก บริษัทใหญ่จะขาดทุน แต่ผู้ใช้ยังคงเจ็บจากราคาสูง

    https://itsfoss.com/news/ai-causes-ram-prices-skyrocket/
    💾 AI Craze ดันราคา RAM และ SSD พุ่งสูง รายงานล่าสุดเผยว่า ความต้องการชิปหน่วยความจำและสตอเรจจากศูนย์ข้อมูล AI กำลังทำให้ตลาดผู้ใช้ทั่วไปได้รับผลกระทบอย่างหนัก ราคาของ RAM และ SSD พุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว เนื่องจากผู้ผลิตหันไปให้ความสำคัญกับลูกค้ารายใหญ่ในภาค AI มากกว่าผู้บริโภคทั่วไป 📈 ตัวเลขที่น่าตกใจ 💠 Micron ประกาศยุติแบรนด์ Crucial ที่เคยทำตลาด RAM และ SSD สำหรับผู้ใช้ทั่วไป โดยหันไปโฟกัสลูกค้าองค์กรด้าน AI 💠 CyberPowerPC เผยว่า ราคาของ RAM เพิ่มขึ้นถึง 500% และ SSD เพิ่มขึ้น 100% ภายในเวลาไม่นาน 💠 ข้อมูลจาก DRAMeXchange ระบุว่า ชิป DDR5 ขนาด 16Gb ที่ราคา $6.84 เมื่อเดือนกันยายน 2025 ขึ้นไปถึง $27.20 ภายในเดือนธันวาคม 2025 (เพิ่มเกือบ 4 เท่า) 💠 ผู้บริหาร TeamGroup คาดว่าราคาจะยังคงพุ่งต่อเนื่องในไตรมาสแรกและสองของปี 2026 🖥️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไป ตลาดโน้ตบุ๊กก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยมีการคาดการณ์ว่าราคาโน้ตบุ๊กอาจเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20% ในปี 2026 ขณะที่ผู้ผลิต NAND อย่าง Phison เตือนว่าราคาจะยังคงสูงต่อไปอีกหลายปี เนื่องจากความต้องการจาก AI ไม่ลดลง สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประกอบเครื่อง Linux หรือ PC เพื่อเล่นเกมและทำงานหนัก ๆ ตอนนี้มีทางเลือกไม่มากนัก: 💠 ยอมจ่ายราคาที่สูงขึ้น 💠 รอให้ตลาดปรับตัว 💠 หรือหันไปใช้ ฮาร์ดแวร์มือสอง ที่ยังพอมีราคาสมเหตุสมผล ⚠️ มุมมองและคำเตือน สถานการณ์นี้ถูกเปรียบเทียบว่าเป็น “AI Gold Rush” คล้ายกับกระแส Crypto และ Cloud ในอดีต ที่สุดท้ายผู้ใช้ทั่วไปต้องแบกรับผลกระทบจากการไล่ตามกำไรของบริษัทใหญ่ หากฟองสบู่ AI แตกขึ้นมาในอนาคต บริษัทอาจเผชิญการขาดทุนและปลดพนักงานจำนวนมาก แต่ผู้ใช้ทั่วไปก็ยังคงเสียประโยชน์จากราคาที่สูงเกินจริง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาด ➡️ Micron ยุติ Crucial หันไปโฟกัสลูกค้า AI ➡️ CyberPowerPC เผย RAM ขึ้น 500%, SSD ขึ้น 100% ✅ ตัวเลขราคาที่พุ่งสูง ➡️ DDR5 16Gb จาก $6.84 → $27.20 ภายใน 2 เดือน ➡️ TeamGroup คาดราคายังพุ่งต่อในปี 2026 ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้ ➡️ โน้ตบุ๊กอาจขึ้นราคา 20% ในปี 2026 ➡️ ทางเลือกคือจ่ายแพง, รอ, หรือใช้ฮาร์ดแวร์มือสอง ‼️ คำเตือนจากสถานการณ์ ⛔ AI Craze ถูกเปรียบเทียบเป็น “Gold Rush” ที่ผู้ใช้ทั่วไปเสียประโยชน์ ⛔ หากฟองสบู่ AI แตก บริษัทใหญ่จะขาดทุน แต่ผู้ใช้ยังคงเจ็บจากราคาสูง https://itsfoss.com/news/ai-causes-ram-prices-skyrocket/
    ITSFOSS.COM
    AI Craze Just Made Your New PC Build Way More Expensive
    RAM and SSD prices are skyrocketing as manufacturers prioritize AI servers over consumer PCs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251130 #TechRadar

    ChatGPT ครบรอบ 3 ปี เผยฟีเจอร์ยอดนิยมที่คนใช้จริง
    ChatGPT จาก OpenAI เดินทางมาถึงปีที่ 3 แล้ว และข้อมูลใหม่ที่ถูกเปิดเผยทำให้หลายคนแปลกใจ เพราะสิ่งที่คนใช้มากที่สุดไม่ใช่การสร้างภาพใหม่ แต่กลับเป็นการ “อัปโหลดภาพ” เพื่อให้ AI ช่วยปรับปรุงหรือแก้ไข นอกจากนี้งานหลักที่คนใช้ในที่ทำงานคือการแก้ไขและวิจารณ์ข้อความ มากกว่าการเขียนใหม่ทั้งหมด ฟีเจอร์ยอดนิยมที่ถูกใช้ทั่วโลกยังรวมถึงการค้นหาข้อมูล การใช้โมเดลเหตุผล การวิเคราะห์ข้อมูล และการพูดเป็นข้อความ ซึ่งสะท้อนว่าผู้ใช้มอง ChatGPT เป็นเครื่องมือช่วยงานจริงจัง ไม่ใช่แค่ของเล่นทดลองอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-reveals-chatgpts-most-popular-features-and-the-top-one-might-surprise-you

    FBI เตือนภัย! แฮกเกอร์ใช้ AI หลอกขโมยเงินกว่า 262 ล้านดอลลาร์
    ปี 2025 กลายเป็นปีที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ AI สร้างแคมเปญหลอกลวงได้สมจริงยิ่งขึ้น FBI รายงานว่ามีการสูญเสียเงินกว่า 262 ล้านดอลลาร์จากการยึดบัญชีผู้ใช้ผ่านการหลอกให้เปิดเผยรหัสผ่านหรือ OTP เมื่อได้ข้อมูลแล้ว แฮกเกอร์สามารถรีเซ็ตรหัสและโอนเงินไปยังบัญชีที่ควบคุมเอง บ่อยครั้งเงินถูกเปลี่ยนเป็นคริปโตเพื่อปกปิดร่องรอย การโจมตีมักมาในรูปแบบอีเมล ปลอมเป็นธนาคาร หรือแม้แต่เว็บไซต์ช้อปปิ้งปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ จุดอันตรายคือผู้ใช้เองเป็นคนกดยืนยันธุรกรรม ทำให้การป้องกันยิ่งยากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/fbi-says-hackers-have-stolen-usd262-million-in-account-takeover-scams-in-2025-so-far-heres-how-you-can-stay-safe

    Meta จ่อดีลใหญ่กับ Google TPU สะเทือนตลาดชิป AI
    ความต้องการชิป AI พุ่งสูงจน Meta ต้องหันไปเจรจากับ Google เพื่อใช้ TPU ของ Google Cloud ในปี 2026 และอาจซื้อโดยตรงในปี 2027 ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนเกม เพราะ Google แต่เดิมใช้ TPU ภายในเท่านั้น ขณะที่ Meta เคยพึ่งพาหลายเจ้า รวมถึง Nvidia การเจรจานี้ทำให้มูลค่า Alphabet พุ่งขึ้นทันที และนักลงทุนเริ่มกังวลว่า Nvidia อาจเสียส่วนแบ่งตลาดมหาศาล ความตึงเครียดในซัพพลายเชนยังคงสูง เพราะความต้องการชิป AI เกินกำลังการผลิตทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/meta-and-google-could-be-about-to-sign-a-mega-ai-chip-deal-and-it-could-change-everything-in-the-tech-space

    IBM เปิดตัวระบบเก็บข้อมูลใหม่ รองรับสูงสุด 47 เพตะไบต์ต่อแร็ค
    IBM ขยายศักยภาพระบบ Storage Scale System 6000 ด้วย All-Flash Expansion Enclosures ที่ใช้ไดรฟ์ QLC ขนาด 122TB ทำให้รองรับข้อมูลได้ถึง 47PB ต่อแร็ค เหมาะกับงานที่ต้องใช้ข้อมูลมหาศาล เช่น AI และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ จุดเด่นคือการรองรับการทำงานหลายงานพร้อมกันโดยไม่เกิดคอขวด และยังเชื่อมต่อกับ GPU ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุดยังเพิ่มประสิทธิภาพการเขียนและการอ่านให้สูงขึ้น เพื่อรองรับการประมวลผลที่ซับซ้อนในระดับองค์กรใหญ่
    https://www.techradar.com/pro/talk-about-a-triple-threat-ibm-says-it-can-now-support-up-to-47pb-on-a-full-rack-so-load-it-up

    โน้ตบุ๊ก RAM 128GB และ 256GB ปี 2025 สำหรับงานโหดสุดๆ
    โน้ตบุ๊กที่มาพร้อม RAM 128GB หรือแม้แต่ 256GB ไม่ใช่ของสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่ถูกออกแบบมาเพื่อมืออาชีพที่ต้องการพลังประมวลผลสูงสุด เช่น นักวิทยาศาสตร์ นักสร้างสรรค์คอนเทนต์ หรือผู้ทำงานกับข้อมูลขนาดใหญ่ รายชื่อรุ่นที่มีให้เลือกในปี 2025 ครอบคลุมแบรนด์ดังอย่าง Dell, HP, Lenovo, MSI, Asus, Alienware และ Razer ราคามีตั้งแต่ประมาณ 1,599 ดอลลาร์ไปจนถึงกว่า 7,000 ดอลลาร์ รุ่นที่รองรับ 256GB ยังมีไม่มาก แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของตลาดโน้ตบุ๊กที่กำลังผลักดันขีดจำกัดของการใช้งานพกพา
    https://www.techradar.com/pro/best-256gb-and-128gb-ram-laptops

    การกำกับดูแลโลกไซเบอร์-กายภาพ กลายเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับรัฐบาลท้องถิ่น
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการบริหารจัดการระบบไซเบอร์ที่เชื่อมโยงกับโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ เช่น ระบบไฟฟ้า น้ำ และการขนส่ง ไม่ใช่เรื่อง “nice to have” อีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น รัฐบาลท้องถิ่นต้องมีมาตรการกำกับดูแลที่เข้มแข็งเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการโจมตีไซเบอร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของประชาชน แนวคิดนี้กำลังถูกผลักดันให้เป็นมาตรฐานใหม่ในการบริหารเมืองอัจฉริยะและโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะ
    https://www.techradar.com/pro/cyber-physical-governance-isnt-a-nice-to-have-for-state-and-local-government-its-essential

    หูฟังที่ดีที่สุดสำหรับทุกงบประมาณ ผ่านการทดสอบจริง
    ทีมผู้เชี่ยวชาญได้ทดสอบหูฟังหลากหลายรุ่น ตั้งแต่ราคาประหยัดไปจนถึงระดับพรีเมียม เพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะสมกับผู้ใช้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นหูฟังแบบครอบหู ไร้สาย หรือแบบอินเอียร์ จุดเด่นคือการทดสอบในสถานการณ์จริง ทำให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าคุณภาพเสียง ความสบาย และความทนทานได้รับการตรวจสอบแล้ว รายการนี้ช่วยให้ผู้ใช้เลือกหูฟังที่ตรงกับความต้องการโดยไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกเอง
    https://www.techradar.com/audio/headphones/the-best-headphones

    กล้องสำหรับมือใหม่ปี 2025 ตัวเลือกที่เหมาะที่สุด
    สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นถ่ายภาพ บทความนี้แนะนำกล้องที่ใช้งานง่าย ราคาสมเหตุสมผล และมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เรียนรู้ได้เร็ว ไม่ว่าจะเป็นกล้อง DSLR หรือ Mirrorless ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับผู้เริ่มต้น จุดสำคัญคือการเลือกกล้องที่ไม่ซับซ้อนเกินไป แต่ยังมีคุณภาพภาพถ่ายที่ดีพอจะต่อยอดไปสู่การถ่ายภาพจริงจังในอนาคต
    https://www.techradar.com/cameras/the-best-camera-for-beginners

    รีวิว Panasonic HC-X1200 กล้องวิดีโอที่ซูมได้สุดประทับใจ
    Panasonic HC-X1200 ทำให้หลายคนทึ่งกับความสามารถในการซูมที่ทรงพลัง จนแทบจะทำให้กล้องวิดีโอแบบเต็มรูปแบบกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง คุณภาพภาพและระบบกันสั่นที่ดี ทำให้การถ่ายวิดีโอทั้งงานมืออาชีพและงานส่วนตัวมีความคมชัดและเสถียร จุดขายหลักคือการซูมที่เหนือกว่ากล้องทั่วไปในตลาด
    https://www.techradar.com/cameras/video-cameras/panasonic-hc-x1200-review

    ฟีเจอร์ AirDrop ใหม่บน Google Pixel 10 มีปัญหากับผู้ใช้บางราย
    Google Pixel 10 มาพร้อมฟีเจอร์ AirDrop ที่ตั้งใจให้แชร์ไฟล์ได้สะดวกขึ้น แต่ผู้ใช้บางรายพบว่าฟีเจอร์นี้ยังมีบั๊ก ทำให้การส่งไฟล์ไม่เสถียรหรือเชื่อมต่อไม่สำเร็จ ปัญหานี้กำลังถูกพูดถึงในชุมชนผู้ใช้ และคาดว่า Google จะต้องออกอัปเดตแก้ไขในเร็วๆ นี้ เพื่อให้ฟีเจอร์ทำงานได้สมบูรณ์ตามที่ตั้งใจ
    https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/the-new-airdrop-feature-on-the-google-pixel-10-is-proving-buggy-for-some-users

    ปัญหากวนใจใน iOS 26 และวิธีแก้
    อัปเดต iOS 26 ที่หลายคนรอคอย กลับมาพร้อมทั้งฟีเจอร์ใหม่และความเปลี่ยนแปลงที่บางอย่างทำให้ผู้ใช้หงุดหงิดไม่น้อย เช่น “Liquid Glass” ที่ทำให้หน้าจอดูโปร่งใสเกินไปจนอ่านยาก หลายคนเลือกปิดด้วยการตั้งค่า Reduce Transparency เพื่อให้ใช้งานง่ายขึ้น อีกเรื่องคือการถ่ายภาพหน้าจอที่เปลี่ยนไปจากเดิม กลายเป็นเต็มจอพร้อมเครื่องมือแก้ไขทันที ซึ่งบางคนไม่ชอบ จึงไปตั้งค่าให้กลับมาเป็นแบบเดิมที่แค่โชว์ตัวอย่างเล็ก ๆ แล้วปัดทิ้งได้สะดวกกว่า Safari ก็ถูกปรับแถบเครื่องมือใหม่จนดูอึดอัดและต้องกดหลายขั้นตอนกว่าจะได้ฟังก์ชันที่เคยง่าย ๆ ผู้ใช้บางคนเลยเลือกปรับกลับให้เหมือนเดิม ส่วนการพิมพ์แบบ “slide-to-type” ที่บางครั้งเผลอไปลากนิ้วแล้วกลายเป็นคำไม่ตั้งใจ ก็สามารถปิดได้ในเมนู Keyboard และสุดท้ายคือการตั้งปลุกที่เคยบังคับ snooze 9 นาที ตอนนี้สามารถเลือกได้เองตั้งแต่ 1–15 นาที ทำให้ชีวิตยืดหยุ่นขึ้นมาก
    https://www.techradar.com/phones/the-5-most-frustrating-things-about-ios-26-and-how-I-fixed-them

    Cyber Resilience: ธุรกิจต้องปรับตัว
    โลกธุรกิจอังกฤษกำลังเผชิญภัยไซเบอร์ครั้งใหญ่ เหตุการณ์โจมตี Jaguar Land Rover ทำความเสียหายมหาศาลกว่า 1.9 พันล้านปอนด์ และยังมีกรณี Marks & Spencer กับ Co-Op ที่โดนโจมตีเช่นกัน รัฐบาลอังกฤษจึงเสนอแนวทางห้ามจ่ายค่าไถ่ ransomware สำหรับหน่วยงานรัฐและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เพื่อไม่ให้คนร้ายได้ผลประโยชน์ แต่ผลข้างเคียงคือเอกชนอาจกลายเป็นเป้าหมายหลักแทน สิ่งที่ธุรกิจต้องทำคือสร้าง “ความยืดหยุ่นทางไซเบอร์” โดยเริ่มจากการพัฒนาทักษะบุคลากร เพราะรายงานล่าสุดชี้ว่ามีช่องว่างทักษะด้านนี้สูงมาก การฝึกอบรมต้องไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ต้องฝังอยู่ในงานประจำทุกตำแหน่ง ตั้งแต่ฝ่ายการเงินจนถึงบริการลูกค้า เพื่อให้ทุกคนรู้จักรับมือภัย เช่น phishing ที่ยังเป็นช่องทางโจมตีหลัก และที่สำคัญคือบอร์ดบริหารต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เทียบเท่ากับผลประกอบการ เพราะภัยไซเบอร์วันนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่คือความอยู่รอดของธุรกิจ
    https://www.techradar.com/pro/cyber-resilience-is-a-business-imperative-skills-and-strategy-must-evolve

    Cybersecurity Burnout: เมื่อทีมงานหมดแรง
    งานด้านความปลอดภัยไซเบอร์เป็นงานที่ต้องวิ่งแข่งกับภัยคุกคามตลอดเวลา จนทำให้คนทำงานจำนวนมากเกิดภาวะ “burnout” หรือหมดแรง ล่าสุดมีตัวเลขว่ากว่า 76% ของผู้เชี่ยวชาญด้านนี้รู้สึกเหนื่อยล้า และ 69% บอกว่าหนักขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักคือการโจมตีที่ไม่หยุดพัก กฎระเบียบใหม่ ๆ ที่ต้องตามให้ทัน และการขาดบุคลากรที่เพียงพอ ผลกระทบไม่ใช่แค่สุขภาพจิต แต่ยังทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง เสี่ยงต่อการเกิดช่องโหว่และความเสียหายทางการเงิน บริษัทจึงต้องหาทางแก้ เช่น การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนพนักงาน การลงทุนในเครื่องมือที่ช่วยแบ่งเบาภาระ รวมถึงการใช้บริการภายนอกอย่าง Managed Detection and Response (MDR) ที่ช่วยลดความเหนื่อยล้าได้จริง และที่สำคัญคือการให้โอกาสเติบโตในสายงาน เพื่อให้คนทำงานรู้สึกว่ามีอนาคต ไม่ใช่แค่ทำงานไปวัน ๆ
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/tackling-cybersecurity-burnout-once-and-for-all
    📌📡🔴 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔴📡📌 #รวมข่าวIT #20251130 #TechRadar 🧠 ChatGPT ครบรอบ 3 ปี เผยฟีเจอร์ยอดนิยมที่คนใช้จริง ChatGPT จาก OpenAI เดินทางมาถึงปีที่ 3 แล้ว และข้อมูลใหม่ที่ถูกเปิดเผยทำให้หลายคนแปลกใจ เพราะสิ่งที่คนใช้มากที่สุดไม่ใช่การสร้างภาพใหม่ แต่กลับเป็นการ “อัปโหลดภาพ” เพื่อให้ AI ช่วยปรับปรุงหรือแก้ไข นอกจากนี้งานหลักที่คนใช้ในที่ทำงานคือการแก้ไขและวิจารณ์ข้อความ มากกว่าการเขียนใหม่ทั้งหมด ฟีเจอร์ยอดนิยมที่ถูกใช้ทั่วโลกยังรวมถึงการค้นหาข้อมูล การใช้โมเดลเหตุผล การวิเคราะห์ข้อมูล และการพูดเป็นข้อความ ซึ่งสะท้อนว่าผู้ใช้มอง ChatGPT เป็นเครื่องมือช่วยงานจริงจัง ไม่ใช่แค่ของเล่นทดลองอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-reveals-chatgpts-most-popular-features-and-the-top-one-might-surprise-you 🛡️ FBI เตือนภัย! แฮกเกอร์ใช้ AI หลอกขโมยเงินกว่า 262 ล้านดอลลาร์ ปี 2025 กลายเป็นปีที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ AI สร้างแคมเปญหลอกลวงได้สมจริงยิ่งขึ้น FBI รายงานว่ามีการสูญเสียเงินกว่า 262 ล้านดอลลาร์จากการยึดบัญชีผู้ใช้ผ่านการหลอกให้เปิดเผยรหัสผ่านหรือ OTP เมื่อได้ข้อมูลแล้ว แฮกเกอร์สามารถรีเซ็ตรหัสและโอนเงินไปยังบัญชีที่ควบคุมเอง บ่อยครั้งเงินถูกเปลี่ยนเป็นคริปโตเพื่อปกปิดร่องรอย การโจมตีมักมาในรูปแบบอีเมล ปลอมเป็นธนาคาร หรือแม้แต่เว็บไซต์ช้อปปิ้งปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ จุดอันตรายคือผู้ใช้เองเป็นคนกดยืนยันธุรกรรม ทำให้การป้องกันยิ่งยากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/fbi-says-hackers-have-stolen-usd262-million-in-account-takeover-scams-in-2025-so-far-heres-how-you-can-stay-safe 💻 Meta จ่อดีลใหญ่กับ Google TPU สะเทือนตลาดชิป AI ความต้องการชิป AI พุ่งสูงจน Meta ต้องหันไปเจรจากับ Google เพื่อใช้ TPU ของ Google Cloud ในปี 2026 และอาจซื้อโดยตรงในปี 2027 ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนเกม เพราะ Google แต่เดิมใช้ TPU ภายในเท่านั้น ขณะที่ Meta เคยพึ่งพาหลายเจ้า รวมถึง Nvidia การเจรจานี้ทำให้มูลค่า Alphabet พุ่งขึ้นทันที และนักลงทุนเริ่มกังวลว่า Nvidia อาจเสียส่วนแบ่งตลาดมหาศาล ความตึงเครียดในซัพพลายเชนยังคงสูง เพราะความต้องการชิป AI เกินกำลังการผลิตทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/meta-and-google-could-be-about-to-sign-a-mega-ai-chip-deal-and-it-could-change-everything-in-the-tech-space 💾 IBM เปิดตัวระบบเก็บข้อมูลใหม่ รองรับสูงสุด 47 เพตะไบต์ต่อแร็ค IBM ขยายศักยภาพระบบ Storage Scale System 6000 ด้วย All-Flash Expansion Enclosures ที่ใช้ไดรฟ์ QLC ขนาด 122TB ทำให้รองรับข้อมูลได้ถึง 47PB ต่อแร็ค เหมาะกับงานที่ต้องใช้ข้อมูลมหาศาล เช่น AI และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ จุดเด่นคือการรองรับการทำงานหลายงานพร้อมกันโดยไม่เกิดคอขวด และยังเชื่อมต่อกับ GPU ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุดยังเพิ่มประสิทธิภาพการเขียนและการอ่านให้สูงขึ้น เพื่อรองรับการประมวลผลที่ซับซ้อนในระดับองค์กรใหญ่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/talk-about-a-triple-threat-ibm-says-it-can-now-support-up-to-47pb-on-a-full-rack-so-load-it-up 💻 โน้ตบุ๊ก RAM 128GB และ 256GB ปี 2025 สำหรับงานโหดสุดๆ โน้ตบุ๊กที่มาพร้อม RAM 128GB หรือแม้แต่ 256GB ไม่ใช่ของสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่ถูกออกแบบมาเพื่อมืออาชีพที่ต้องการพลังประมวลผลสูงสุด เช่น นักวิทยาศาสตร์ นักสร้างสรรค์คอนเทนต์ หรือผู้ทำงานกับข้อมูลขนาดใหญ่ รายชื่อรุ่นที่มีให้เลือกในปี 2025 ครอบคลุมแบรนด์ดังอย่าง Dell, HP, Lenovo, MSI, Asus, Alienware และ Razer ราคามีตั้งแต่ประมาณ 1,599 ดอลลาร์ไปจนถึงกว่า 7,000 ดอลลาร์ รุ่นที่รองรับ 256GB ยังมีไม่มาก แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของตลาดโน้ตบุ๊กที่กำลังผลักดันขีดจำกัดของการใช้งานพกพา 🔗 https://www.techradar.com/pro/best-256gb-and-128gb-ram-laptops 🌐 การกำกับดูแลโลกไซเบอร์-กายภาพ กลายเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับรัฐบาลท้องถิ่น บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการบริหารจัดการระบบไซเบอร์ที่เชื่อมโยงกับโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ เช่น ระบบไฟฟ้า น้ำ และการขนส่ง ไม่ใช่เรื่อง “nice to have” อีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น รัฐบาลท้องถิ่นต้องมีมาตรการกำกับดูแลที่เข้มแข็งเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการโจมตีไซเบอร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของประชาชน แนวคิดนี้กำลังถูกผลักดันให้เป็นมาตรฐานใหม่ในการบริหารเมืองอัจฉริยะและโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะ 🔗 https://www.techradar.com/pro/cyber-physical-governance-isnt-a-nice-to-have-for-state-and-local-government-its-essential 🎧 หูฟังที่ดีที่สุดสำหรับทุกงบประมาณ ผ่านการทดสอบจริง ทีมผู้เชี่ยวชาญได้ทดสอบหูฟังหลากหลายรุ่น ตั้งแต่ราคาประหยัดไปจนถึงระดับพรีเมียม เพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะสมกับผู้ใช้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นหูฟังแบบครอบหู ไร้สาย หรือแบบอินเอียร์ จุดเด่นคือการทดสอบในสถานการณ์จริง ทำให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าคุณภาพเสียง ความสบาย และความทนทานได้รับการตรวจสอบแล้ว รายการนี้ช่วยให้ผู้ใช้เลือกหูฟังที่ตรงกับความต้องการโดยไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกเอง 🔗 https://www.techradar.com/audio/headphones/the-best-headphones 📷 กล้องสำหรับมือใหม่ปี 2025 ตัวเลือกที่เหมาะที่สุด สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นถ่ายภาพ บทความนี้แนะนำกล้องที่ใช้งานง่าย ราคาสมเหตุสมผล และมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เรียนรู้ได้เร็ว ไม่ว่าจะเป็นกล้อง DSLR หรือ Mirrorless ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับผู้เริ่มต้น จุดสำคัญคือการเลือกกล้องที่ไม่ซับซ้อนเกินไป แต่ยังมีคุณภาพภาพถ่ายที่ดีพอจะต่อยอดไปสู่การถ่ายภาพจริงจังในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/cameras/the-best-camera-for-beginners 🎥 รีวิว Panasonic HC-X1200 กล้องวิดีโอที่ซูมได้สุดประทับใจ Panasonic HC-X1200 ทำให้หลายคนทึ่งกับความสามารถในการซูมที่ทรงพลัง จนแทบจะทำให้กล้องวิดีโอแบบเต็มรูปแบบกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง คุณภาพภาพและระบบกันสั่นที่ดี ทำให้การถ่ายวิดีโอทั้งงานมืออาชีพและงานส่วนตัวมีความคมชัดและเสถียร จุดขายหลักคือการซูมที่เหนือกว่ากล้องทั่วไปในตลาด 🔗 https://www.techradar.com/cameras/video-cameras/panasonic-hc-x1200-review 📱 ฟีเจอร์ AirDrop ใหม่บน Google Pixel 10 มีปัญหากับผู้ใช้บางราย Google Pixel 10 มาพร้อมฟีเจอร์ AirDrop ที่ตั้งใจให้แชร์ไฟล์ได้สะดวกขึ้น แต่ผู้ใช้บางรายพบว่าฟีเจอร์นี้ยังมีบั๊ก ทำให้การส่งไฟล์ไม่เสถียรหรือเชื่อมต่อไม่สำเร็จ ปัญหานี้กำลังถูกพูดถึงในชุมชนผู้ใช้ และคาดว่า Google จะต้องออกอัปเดตแก้ไขในเร็วๆ นี้ เพื่อให้ฟีเจอร์ทำงานได้สมบูรณ์ตามที่ตั้งใจ 🔗 https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/the-new-airdrop-feature-on-the-google-pixel-10-is-proving-buggy-for-some-users 📱 ปัญหากวนใจใน iOS 26 และวิธีแก้ อัปเดต iOS 26 ที่หลายคนรอคอย กลับมาพร้อมทั้งฟีเจอร์ใหม่และความเปลี่ยนแปลงที่บางอย่างทำให้ผู้ใช้หงุดหงิดไม่น้อย เช่น “Liquid Glass” ที่ทำให้หน้าจอดูโปร่งใสเกินไปจนอ่านยาก หลายคนเลือกปิดด้วยการตั้งค่า Reduce Transparency เพื่อให้ใช้งานง่ายขึ้น อีกเรื่องคือการถ่ายภาพหน้าจอที่เปลี่ยนไปจากเดิม กลายเป็นเต็มจอพร้อมเครื่องมือแก้ไขทันที ซึ่งบางคนไม่ชอบ จึงไปตั้งค่าให้กลับมาเป็นแบบเดิมที่แค่โชว์ตัวอย่างเล็ก ๆ แล้วปัดทิ้งได้สะดวกกว่า Safari ก็ถูกปรับแถบเครื่องมือใหม่จนดูอึดอัดและต้องกดหลายขั้นตอนกว่าจะได้ฟังก์ชันที่เคยง่าย ๆ ผู้ใช้บางคนเลยเลือกปรับกลับให้เหมือนเดิม ส่วนการพิมพ์แบบ “slide-to-type” ที่บางครั้งเผลอไปลากนิ้วแล้วกลายเป็นคำไม่ตั้งใจ ก็สามารถปิดได้ในเมนู Keyboard และสุดท้ายคือการตั้งปลุกที่เคยบังคับ snooze 9 นาที ตอนนี้สามารถเลือกได้เองตั้งแต่ 1–15 นาที ทำให้ชีวิตยืดหยุ่นขึ้นมาก 🔗 https://www.techradar.com/phones/the-5-most-frustrating-things-about-ios-26-and-how-I-fixed-them 🛡️ Cyber Resilience: ธุรกิจต้องปรับตัว โลกธุรกิจอังกฤษกำลังเผชิญภัยไซเบอร์ครั้งใหญ่ เหตุการณ์โจมตี Jaguar Land Rover ทำความเสียหายมหาศาลกว่า 1.9 พันล้านปอนด์ และยังมีกรณี Marks & Spencer กับ Co-Op ที่โดนโจมตีเช่นกัน รัฐบาลอังกฤษจึงเสนอแนวทางห้ามจ่ายค่าไถ่ ransomware สำหรับหน่วยงานรัฐและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เพื่อไม่ให้คนร้ายได้ผลประโยชน์ แต่ผลข้างเคียงคือเอกชนอาจกลายเป็นเป้าหมายหลักแทน สิ่งที่ธุรกิจต้องทำคือสร้าง “ความยืดหยุ่นทางไซเบอร์” โดยเริ่มจากการพัฒนาทักษะบุคลากร เพราะรายงานล่าสุดชี้ว่ามีช่องว่างทักษะด้านนี้สูงมาก การฝึกอบรมต้องไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ต้องฝังอยู่ในงานประจำทุกตำแหน่ง ตั้งแต่ฝ่ายการเงินจนถึงบริการลูกค้า เพื่อให้ทุกคนรู้จักรับมือภัย เช่น phishing ที่ยังเป็นช่องทางโจมตีหลัก และที่สำคัญคือบอร์ดบริหารต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เทียบเท่ากับผลประกอบการ เพราะภัยไซเบอร์วันนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่คือความอยู่รอดของธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/cyber-resilience-is-a-business-imperative-skills-and-strategy-must-evolve 😓 Cybersecurity Burnout: เมื่อทีมงานหมดแรง งานด้านความปลอดภัยไซเบอร์เป็นงานที่ต้องวิ่งแข่งกับภัยคุกคามตลอดเวลา จนทำให้คนทำงานจำนวนมากเกิดภาวะ “burnout” หรือหมดแรง ล่าสุดมีตัวเลขว่ากว่า 76% ของผู้เชี่ยวชาญด้านนี้รู้สึกเหนื่อยล้า และ 69% บอกว่าหนักขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักคือการโจมตีที่ไม่หยุดพัก กฎระเบียบใหม่ ๆ ที่ต้องตามให้ทัน และการขาดบุคลากรที่เพียงพอ ผลกระทบไม่ใช่แค่สุขภาพจิต แต่ยังทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง เสี่ยงต่อการเกิดช่องโหว่และความเสียหายทางการเงิน บริษัทจึงต้องหาทางแก้ เช่น การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนพนักงาน การลงทุนในเครื่องมือที่ช่วยแบ่งเบาภาระ รวมถึงการใช้บริการภายนอกอย่าง Managed Detection and Response (MDR) ที่ช่วยลดความเหนื่อยล้าได้จริง และที่สำคัญคือการให้โอกาสเติบโตในสายงาน เพื่อให้คนทำงานรู้สึกว่ามีอนาคต ไม่ใช่แค่ทำงานไปวัน ๆ ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/tackling-cybersecurity-burnout-once-and-for-all
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 575 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอาญาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต "จ่าเอ็ม" จำเลยคดียิง "ลิม กิมยา" นักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาเสียชีวิตย่านถนนข้าวสาร พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ภรรยา 1.79 ล้านบาท ส่วนคนขับรถรับจ้างไปส่งที่คลองหาด จ.สระแก้ว ศาลยกฟ้อง เพราะไม่ปรากฎว่ามีเจตนาพิเศษ และค่าจ้างไปส่งเป็นราคาสมเหตุสมผล
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000094654

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ศาลอาญาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต "จ่าเอ็ม" จำเลยคดียิง "ลิม กิมยา" นักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาเสียชีวิตย่านถนนข้าวสาร พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ภรรยา 1.79 ล้านบาท ส่วนคนขับรถรับจ้างไปส่งที่คลองหาด จ.สระแก้ว ศาลยกฟ้อง เพราะไม่ปรากฎว่ามีเจตนาพิเศษ และค่าจ้างไปส่งเป็นราคาสมเหตุสมผล . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000094654 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 697 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Microsoft 365 Premium เปิดตัวแล้ว — รวมพลัง AI ระดับโปรในแพ็กเดียว พร้อมเลิกขาย Copilot Pro แยก”

    Microsoft ประกาศเปิดตัวแผนสมาชิกใหม่ “Microsoft 365 Premium” ที่รวมทุกสิ่งจาก Microsoft 365 Family และ Copilot Pro เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ AI ระดับมืออาชีพในราคาสมเหตุสมผลที่ $19.99 ต่อเดือน โดยผู้ใช้ Copilot Pro เดิมสามารถสลับมาใช้แผน Premium ได้ทันทีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

    แผนนี้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ AI ที่เหนือกว่าการใช้งานทั่วไป เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การสร้างเอกสารระดับมืออาชีพจากคำสั่งเดียว และการจัดการงานผ่าน Agent Mode ที่เปลี่ยน Copilot ให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่ทำงานแทนได้จริง

    Microsoft ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น Photos Agent สำหรับจัดการภาพ, การสร้างภาพด้วย GPT-4o, การสรุปเสียงและพอดแคสต์, และการใช้งานผ่านเสียงแบบเต็มรูปแบบ โดยทั้งหมดนี้มาพร้อมกับการป้องกันระดับองค์กร เช่น Enterprise Data Protection และระบบตรวจสอบความปลอดภัยจาก prompt injection

    นอกจากนี้ Microsoft ยังปรับไอคอนของแอป Office ใหม่ทั้งหมดให้ดูทันสมัยและสะท้อนยุค AI มากขึ้น พร้อมเปิดให้ผู้ใช้เลือกโมเดล AI ที่ต้องการใช้งาน เช่น ChatGPT หรือ Claude ผ่านระบบ Copilot

    การเปิดตัวครั้งนี้ยังมาพร้อมการเลิกขาย Copilot Pro แบบแยก โดยผู้ใช้ที่ต้องการฟีเจอร์ AI ระดับสูงจะต้องสมัคร Microsoft 365 Premium แทน ซึ่งถือเป็นการปรับโครงสร้างแผนสมาชิกให้เรียบง่ายขึ้น และเพิ่มความคุ้มค่าให้กับผู้ใช้ทั่วไป

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Microsoft เปิดตัวแผนสมาชิกใหม่ “Microsoft 365 Premium” ราคา $19.99/เดือน
    รวมฟีเจอร์จาก Microsoft 365 Family และ Copilot Pro เข้าไว้ในแผนเดียว
    ผู้ใช้ Copilot Pro เดิมสามารถสลับมาใช้ Premium ได้ทันทีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
    เพิ่มฟีเจอร์ AI ระดับโปร เช่น Researcher, Analyst, Actions และ Agent Mode
    มี Photos Agent สำหรับจัดการภาพ และ GPT-4o สำหรับสร้างภาพใน PowerPoint
    รองรับการสรุปเสียงและพอดแคสต์ พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงเต็มรูปแบบ
    มี Enterprise Data Protection สำหรับการใช้งานกับไฟล์องค์กร
    ปรับไอคอนแอป Office ใหม่ทั้งหมดให้สะท้อนยุค AI
    ผู้ใช้สามารถเลือกโมเดล AI ที่ต้องการ เช่น ChatGPT หรือ Claude
    Microsoft เลิกขาย Copilot Pro แบบแยก และแนะนำให้ใช้ Premium แทน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Microsoft 365 Premium ได้รับการออกแบบให้แข่งกับ ChatGPT Plus โดยตรง
    Premium รองรับการใช้งานกับ GPT-5 และ GPT-4o สำหรับงาน reasoning และภาพ
    ผู้ใช้ Premium จะได้สิทธิ์ทดลองฟีเจอร์ใหม่ก่อนใครผ่านโปรแกรม Frontier
    มีพื้นที่เก็บข้อมูล OneDrive สูงสุด 6TB (1TB ต่อคน สำหรับสูงสุด 6 คน)
    Microsoft ลงทุนกว่า $13 พันล้านใน OpenAI และใช้ Azure เป็นโครงสร้างพื้นฐานของ Copilot

    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/microsoft-365-premium-brings-pro-level-ai-features-to-your-subscription-but-only-if-you-upgrade
    🧠 “Microsoft 365 Premium เปิดตัวแล้ว — รวมพลัง AI ระดับโปรในแพ็กเดียว พร้อมเลิกขาย Copilot Pro แยก” Microsoft ประกาศเปิดตัวแผนสมาชิกใหม่ “Microsoft 365 Premium” ที่รวมทุกสิ่งจาก Microsoft 365 Family และ Copilot Pro เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ AI ระดับมืออาชีพในราคาสมเหตุสมผลที่ $19.99 ต่อเดือน โดยผู้ใช้ Copilot Pro เดิมสามารถสลับมาใช้แผน Premium ได้ทันทีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แผนนี้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ AI ที่เหนือกว่าการใช้งานทั่วไป เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การสร้างเอกสารระดับมืออาชีพจากคำสั่งเดียว และการจัดการงานผ่าน Agent Mode ที่เปลี่ยน Copilot ให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่ทำงานแทนได้จริง Microsoft ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น Photos Agent สำหรับจัดการภาพ, การสร้างภาพด้วย GPT-4o, การสรุปเสียงและพอดแคสต์, และการใช้งานผ่านเสียงแบบเต็มรูปแบบ โดยทั้งหมดนี้มาพร้อมกับการป้องกันระดับองค์กร เช่น Enterprise Data Protection และระบบตรวจสอบความปลอดภัยจาก prompt injection นอกจากนี้ Microsoft ยังปรับไอคอนของแอป Office ใหม่ทั้งหมดให้ดูทันสมัยและสะท้อนยุค AI มากขึ้น พร้อมเปิดให้ผู้ใช้เลือกโมเดล AI ที่ต้องการใช้งาน เช่น ChatGPT หรือ Claude ผ่านระบบ Copilot การเปิดตัวครั้งนี้ยังมาพร้อมการเลิกขาย Copilot Pro แบบแยก โดยผู้ใช้ที่ต้องการฟีเจอร์ AI ระดับสูงจะต้องสมัคร Microsoft 365 Premium แทน ซึ่งถือเป็นการปรับโครงสร้างแผนสมาชิกให้เรียบง่ายขึ้น และเพิ่มความคุ้มค่าให้กับผู้ใช้ทั่วไป ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Microsoft เปิดตัวแผนสมาชิกใหม่ “Microsoft 365 Premium” ราคา $19.99/เดือน ➡️ รวมฟีเจอร์จาก Microsoft 365 Family และ Copilot Pro เข้าไว้ในแผนเดียว ➡️ ผู้ใช้ Copilot Pro เดิมสามารถสลับมาใช้ Premium ได้ทันทีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ➡️ เพิ่มฟีเจอร์ AI ระดับโปร เช่น Researcher, Analyst, Actions และ Agent Mode ➡️ มี Photos Agent สำหรับจัดการภาพ และ GPT-4o สำหรับสร้างภาพใน PowerPoint ➡️ รองรับการสรุปเสียงและพอดแคสต์ พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงเต็มรูปแบบ ➡️ มี Enterprise Data Protection สำหรับการใช้งานกับไฟล์องค์กร ➡️ ปรับไอคอนแอป Office ใหม่ทั้งหมดให้สะท้อนยุค AI ➡️ ผู้ใช้สามารถเลือกโมเดล AI ที่ต้องการ เช่น ChatGPT หรือ Claude ➡️ Microsoft เลิกขาย Copilot Pro แบบแยก และแนะนำให้ใช้ Premium แทน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Microsoft 365 Premium ได้รับการออกแบบให้แข่งกับ ChatGPT Plus โดยตรง ➡️ Premium รองรับการใช้งานกับ GPT-5 และ GPT-4o สำหรับงาน reasoning และภาพ ➡️ ผู้ใช้ Premium จะได้สิทธิ์ทดลองฟีเจอร์ใหม่ก่อนใครผ่านโปรแกรม Frontier ➡️ มีพื้นที่เก็บข้อมูล OneDrive สูงสุด 6TB (1TB ต่อคน สำหรับสูงสุด 6 คน) ➡️ Microsoft ลงทุนกว่า $13 พันล้านใน OpenAI และใช้ Azure เป็นโครงสร้างพื้นฐานของ Copilot https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/microsoft-365-premium-brings-pro-level-ai-features-to-your-subscription-but-only-if-you-upgrade
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตั้งราคาถูกจนเจ๊ง! หรือขายสมราคาแล้วรอด กลยุทธ์ตั้งราคาร้านอาหาร ให้มีกำไรและอยู่รอดในระยะยาว อย่าหลงทางด้วยราคาถูก! ตั้งราคาที่สมคุณค่า เพื่อร้านอาหารอยู่รอด ลูกค้าไม่หาย กำไรยังงาม


    เรียนรู้วิธีตั้งราคาร้านอาหารให้คุ้มค่า มีกำไร และอยู่รอดในระยะยาว ลูกค้าเข้าใจ ไม่หาย พร้อมเทคนิคเพิ่มราคาอย่างชาญฉลาด ร้านอาหารจะอยู่รอด ต้องตั้งราคาอย่างมีกลยุทธ์ จะพาเข้าใจว่าการขายถูก อาจทำให้เจ๊งได้อย่างไร และจะแก้เกมยังไง ให้ลูกค้าไม่หาย กำไรยังคงอยู่

    ขายดีแต่เจ๊ง? ปัญหาที่เจ้าของร้านอาหารไม่เคยอยากเจอ “ขายดีไม่ได้แปลว่ามีกำไร” หลายร้านขายดี จนลูกค้าแน่นทุกวัน แต่เมื่อดูบัญชีปลายเดือน กลับพบว่ากำไรแทบไม่มี หรือแม้แต่ขาดทุน! ทำไมจึงเกิดปัญหานี้?

    เพราะหลายร้าน “ตั้งราคาผิด” ด้วยความเข้าใจผิดว่า ราคาถูก = ลูกค้าเยอะ = รายได้เยอะ = ธุรกิจดี
    แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป...

    จะพาสำรวจความจริง ของการตั้งราคาในร้านอาหาร พร้อมเผยกลยุทธ์การตั้งราคาที่ “ไม่จำเป็นต้องถูกที่สุด” แต่ “คุ้มค่าที่สุด” จนลูกค้าพร้อมจ่าย และร้านของคุณก็อยู่รอดได้อย่างยั่งยืน

    ร้านอาหารจะอยู่รอด ต้องกล้าราคา ขายแพงขึ้นยังไงไม่ให้ลูกค้าหาย? ความกลัวที่เจ้าของร้านอาหารทุกคนเคยมี...
    “กลัวลูกค้าจะหาย ถ้าขึ้นราคา”
    “กลัวโดนบ่นในโซเชียล”
    “กลัวเสียลูกค้าประจำ”

    แต่...คุณลองถามตัวเองดูไหมว่า ทุกวันนี้คุณขายอาหารที่ “สมราคา” แล้วหรือยัง? หากคุณตั้งราคาถูกจนไม่มีกำไร แปลว่า “คุณกำลังทำธุรกิจโดยไม่มีอนาคต” และกำลังสร้างร้านที่ไม่มีพลังจะเติบโต

    ทำไมขายดีแต่ร้านยังเจ๊ง? จุดบอดที่หลายคนมองไม่เห็น มีหลายร้านที่ขายได้เยอะ คนต่อคิวยาว แต่สุดท้ายก็ปิดตัวในเวลาไม่นาน ทำไม?

    เพราะราคาที่ตั้ง “ไม่ครอบคลุมต้นทุน” หรือ “กำไรต่อจานน้อยเกินไป”

    ต้นทุนที่คุณอาจลืมคำนวณ
    วัตถุดิบที่ราคาขึ้นทุกเดือน
    ค่าเช่า ค่าไฟ ค่าน้ำ
    ค่าจ้างพนักงาน
    ค่าการตลาด โปรโมชัน
    ค่าเสื่อมของอุปกรณ์ต่างๆ

    เมื่อลบทุกอย่างแล้ว บางครั้งเหลือ “กำไรหลักสิบต่อวัน” หรือ “ติดลบ” ด้วยซ้ำ!

    ความเข้าใจผิดของเจ้าของร้าน:ราคาถูก = ลูกค้าเยอะ = ดี? แนวคิดนี้อาจถูกบางส่วน แต่ใช้ไม่ได้กับระยะยาว ลูกค้าเยอะไม่ใช่คำตอบ ถ้ากำไรหาย ขายวันละ 200 จาน กำไรจานละ 5 บาท = กำไรวันละ 1,000 บาท

    แต่ถ้าใช้ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทุกเดือน โดยไม่ปรับราคา = กำไรหาย

    สิ่งที่คุณควรตั้งเป้าคือ “ขายได้น้อยลง แต่กำไรมากขึ้น และยังรักษาฐานลูกค้าไว้ได้” “คุณค่า” มาก่อน “ราคา”: ลูกค้าซื้อเพราะอะไร? ในยุคที่ผู้บริโภคฉลาดขึ้น การขายถูกอย่างเดียวไม่พอ

    ลูกค้าเลือกจ่ายให้ร้านที่มี คุณค่า เช่น... รสชาติอร่อยคงที่ การบริการดี ความสะอาด บรรยากาศดี ใช้วัตถุดิบที่ปลอดภัย มีเรื่องราว หรือ Storytelling

    ตัวอย่าง “เราใช้เนื้อวัวจากฟาร์มออร์แกนิค ในเชียงใหม่” หรือ “สูตรน้ำซุปจากรุ่นยาย อายุกว่า 40 ปี” = เพิ่มคุณค่าโดยไม่ต้องลดราคา

    กลยุทธ์ตั้งราคาที่สมคุณค่า ขายแพงขึ้นยังไง ให้ลูกค้าเข้าใจ เพิ่มคุณค่าก่อนเพิ่มราคา อัปเดตเมนูใหม่ให้ดูดี ปรับปรุงร้าน เพิ่มแสงไฟ เพลง บรรยากาศ ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ แล้วแจ้งให้ลูกค้ารู้ สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ใช้ป้ายในร้าน หรือโพสต์ในเพจ

    “เพื่อรักษาคุณภาพ เราจึงจำเป็นต้องปรับราคาบางเมนู” ขึ้นราคาอย่างมีชั้นเชิง ค่อยๆ เพิ่ม เช่น เมนูละ 5 บาท ทุก 6 เดือน ตัดเมนูที่ไม่ทำกำไรออก แล้วเสริมเมนูที่มีกำไรสูงแทน ใช้โปรโมชันแบบไม่ลดราคา แจกของแถมเล็กๆ น้อยๆ จัดเซ็ตเมนูที่ดูคุ้มค่า ใช้โปรโมชั่นเฉพาะเวลา เช่น Happy Hour

    อันตรายของการติดกับดักราคาถูก ไม่มีเงินพัฒนา จ้างพนักงานที่มีศักยภาพไม่ได้ ลดคุณภาพวัตถุดิบ ไม่มีแรงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ขึ้นราคาทีหลัง ลูกค้าบ่นเพราะไม่เคยชิน

    เรื่องเล่าจากร้านก๋วยเตี๋ยว กล้าขึ้นราคา แล้วเกิดอะไรขึ้น? ร้านหนึ่งขายก๋วยเตี๋ยว 35 บาทมา 5 ปี ไม่กล้าขึ้นราคา
    จนวันหนึ่งเขาตัดสินใจขึ้นเป็น 40 บาท ลูกค้าบ่นนิดหน่อย แต่เขาพูดว่า “ผมทำอาหารด้วยใจ แต่ถ้าไม่มีทุน ผมก็อยู่ต่อไม่ได้”

    ผลคือ ลูกค้าที่เข้าใจยังอยู่ ลูกค้าที่ไม่เห็นคุณค่าก็จากไป แต่ที่สำคัญคือ “ร้านยังอยู่ และมีกำไร”

    ร้านที่อยู่รอด คือร้านที่รู้จักคุณค่าของตัวเอง ตั้งราคาไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่คือ “จุดยืนของธุรกิจ” ถ้าคุณกลัวจะขึ้นราคา แล้วไม่มีคนมา อย่าลืมว่า “ฝีมือของคุณมีค่า” อย่ายอมขายของถูกๆ เพียงเพราะกลัวเปลี่ยนแปลง

    คุณไม่จำเป็นต้องขายถูกที่สุด แต่คุณต้อง “ให้มากกว่าที่ลูกค้าคาด” ลูกค้าที่ดีจะเข้าใจ และพร้อมจ่ายในราคาที่เหมาะสม

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 232230 เม.ย. 2568

    #ตั้งราคาร้านอาหาร #กลยุทธ์ธุรกิจ #เคล็ดลับร้านอาหาร #ราคาสมเหตุสมผล #SMEไทย #ขายดีแต่ไม่เจ๊ง #ธุรกิจอาหาร #กำไรยั่งยืน #ร้านอาหารอยู่รอด #เพิ่มราคายังไงไม่ให้ลูกค้าหาย
    ตั้งราคาถูกจนเจ๊ง! หรือขายสมราคาแล้วรอด กลยุทธ์ตั้งราคาร้านอาหาร ให้มีกำไรและอยู่รอดในระยะยาว อย่าหลงทางด้วยราคาถูก! ตั้งราคาที่สมคุณค่า เพื่อร้านอาหารอยู่รอด ลูกค้าไม่หาย กำไรยังงาม เรียนรู้วิธีตั้งราคาร้านอาหารให้คุ้มค่า มีกำไร และอยู่รอดในระยะยาว ลูกค้าเข้าใจ ไม่หาย พร้อมเทคนิคเพิ่มราคาอย่างชาญฉลาด ร้านอาหารจะอยู่รอด ต้องตั้งราคาอย่างมีกลยุทธ์ จะพาเข้าใจว่าการขายถูก อาจทำให้เจ๊งได้อย่างไร และจะแก้เกมยังไง ให้ลูกค้าไม่หาย กำไรยังคงอยู่ 📌 ขายดีแต่เจ๊ง? ปัญหาที่เจ้าของร้านอาหารไม่เคยอยากเจอ “ขายดีไม่ได้แปลว่ามีกำไร” หลายร้านขายดี จนลูกค้าแน่นทุกวัน แต่เมื่อดูบัญชีปลายเดือน กลับพบว่ากำไรแทบไม่มี หรือแม้แต่ขาดทุน! ทำไมจึงเกิดปัญหานี้? เพราะหลายร้าน “ตั้งราคาผิด” ด้วยความเข้าใจผิดว่า ราคาถูก = ลูกค้าเยอะ = รายได้เยอะ = ธุรกิจดี แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป... จะพาสำรวจความจริง ของการตั้งราคาในร้านอาหาร พร้อมเผยกลยุทธ์การตั้งราคาที่ “ไม่จำเป็นต้องถูกที่สุด” แต่ “คุ้มค่าที่สุด” จนลูกค้าพร้อมจ่าย และร้านของคุณก็อยู่รอดได้อย่างยั่งยืน ร้านอาหารจะอยู่รอด ต้องกล้าราคา ขายแพงขึ้นยังไงไม่ให้ลูกค้าหาย? ความกลัวที่เจ้าของร้านอาหารทุกคนเคยมี... 😨 “กลัวลูกค้าจะหาย ถ้าขึ้นราคา” 😓 “กลัวโดนบ่นในโซเชียล” 😔 “กลัวเสียลูกค้าประจำ” แต่...คุณลองถามตัวเองดูไหมว่า ทุกวันนี้คุณขายอาหารที่ “สมราคา” แล้วหรือยัง? หากคุณตั้งราคาถูกจนไม่มีกำไร แปลว่า “คุณกำลังทำธุรกิจโดยไม่มีอนาคต” และกำลังสร้างร้านที่ไม่มีพลังจะเติบโต ทำไมขายดีแต่ร้านยังเจ๊ง? จุดบอดที่หลายคนมองไม่เห็น มีหลายร้านที่ขายได้เยอะ คนต่อคิวยาว แต่สุดท้ายก็ปิดตัวในเวลาไม่นาน ทำไม? 📉 เพราะราคาที่ตั้ง “ไม่ครอบคลุมต้นทุน” หรือ “กำไรต่อจานน้อยเกินไป” ต้นทุนที่คุณอาจลืมคำนวณ วัตถุดิบที่ราคาขึ้นทุกเดือน 🥬🍗 ค่าเช่า ค่าไฟ ค่าน้ำ 💡 ค่าจ้างพนักงาน 👨‍🍳👩‍🍳 ค่าการตลาด โปรโมชัน 📱 ค่าเสื่อมของอุปกรณ์ต่างๆ เมื่อลบทุกอย่างแล้ว บางครั้งเหลือ “กำไรหลักสิบต่อวัน” หรือ “ติดลบ” ด้วยซ้ำ! ความเข้าใจผิดของเจ้าของร้าน:ราคาถูก = ลูกค้าเยอะ = ดี? แนวคิดนี้อาจถูกบางส่วน แต่ใช้ไม่ได้กับระยะยาว ลูกค้าเยอะไม่ใช่คำตอบ ถ้ากำไรหาย ขายวันละ 200 จาน กำไรจานละ 5 บาท = กำไรวันละ 1,000 บาท แต่ถ้าใช้ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทุกเดือน โดยไม่ปรับราคา = กำไรหาย 🎯 สิ่งที่คุณควรตั้งเป้าคือ “ขายได้น้อยลง แต่กำไรมากขึ้น และยังรักษาฐานลูกค้าไว้ได้” “คุณค่า” มาก่อน “ราคา”: ลูกค้าซื้อเพราะอะไร? ในยุคที่ผู้บริโภคฉลาดขึ้น การขายถูกอย่างเดียวไม่พอ ลูกค้าเลือกจ่ายให้ร้านที่มี คุณค่า เช่น... รสชาติอร่อยคงที่ การบริการดี ความสะอาด บรรยากาศดี ใช้วัตถุดิบที่ปลอดภัย มีเรื่องราว หรือ Storytelling 🧑‍🍳 🔍 ตัวอย่าง “เราใช้เนื้อวัวจากฟาร์มออร์แกนิค ในเชียงใหม่” หรือ “สูตรน้ำซุปจากรุ่นยาย อายุกว่า 40 ปี” = เพิ่มคุณค่าโดยไม่ต้องลดราคา กลยุทธ์ตั้งราคาที่สมคุณค่า ขายแพงขึ้นยังไง ให้ลูกค้าเข้าใจ เพิ่มคุณค่าก่อนเพิ่มราคา อัปเดตเมนูใหม่ให้ดูดี ปรับปรุงร้าน เพิ่มแสงไฟ เพลง บรรยากาศ ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ แล้วแจ้งให้ลูกค้ารู้ สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ใช้ป้ายในร้าน หรือโพสต์ในเพจ “เพื่อรักษาคุณภาพ เราจึงจำเป็นต้องปรับราคาบางเมนู” ขึ้นราคาอย่างมีชั้นเชิง ค่อยๆ เพิ่ม เช่น เมนูละ 5 บาท ทุก 6 เดือน ตัดเมนูที่ไม่ทำกำไรออก แล้วเสริมเมนูที่มีกำไรสูงแทน ใช้โปรโมชันแบบไม่ลดราคา แจกของแถมเล็กๆ น้อยๆ 🎁 จัดเซ็ตเมนูที่ดูคุ้มค่า ใช้โปรโมชั่นเฉพาะเวลา เช่น Happy Hour อันตรายของการติดกับดักราคาถูก ไม่มีเงินพัฒนา จ้างพนักงานที่มีศักยภาพไม่ได้ ลดคุณภาพวัตถุดิบ ไม่มีแรงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ขึ้นราคาทีหลัง ลูกค้าบ่นเพราะไม่เคยชิน เรื่องเล่าจากร้านก๋วยเตี๋ยว กล้าขึ้นราคา แล้วเกิดอะไรขึ้น? ร้านหนึ่งขายก๋วยเตี๋ยว 35 บาทมา 5 ปี ไม่กล้าขึ้นราคา จนวันหนึ่งเขาตัดสินใจขึ้นเป็น 40 บาท ลูกค้าบ่นนิดหน่อย แต่เขาพูดว่า 🗣️ “ผมทำอาหารด้วยใจ แต่ถ้าไม่มีทุน ผมก็อยู่ต่อไม่ได้” ผลคือ ลูกค้าที่เข้าใจยังอยู่ ลูกค้าที่ไม่เห็นคุณค่าก็จากไป แต่ที่สำคัญคือ “ร้านยังอยู่ และมีกำไร” ร้านที่อยู่รอด คือร้านที่รู้จักคุณค่าของตัวเอง 🎯 ตั้งราคาไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่คือ “จุดยืนของธุรกิจ” ถ้าคุณกลัวจะขึ้นราคา แล้วไม่มีคนมา อย่าลืมว่า “ฝีมือของคุณมีค่า” อย่ายอมขายของถูกๆ เพียงเพราะกลัวเปลี่ยนแปลง คุณไม่จำเป็นต้องขายถูกที่สุด แต่คุณต้อง “ให้มากกว่าที่ลูกค้าคาด” ลูกค้าที่ดีจะเข้าใจ และพร้อมจ่ายในราคาที่เหมาะสม ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 232230 เม.ย. 2568 📲 #ตั้งราคาร้านอาหาร #กลยุทธ์ธุรกิจ #เคล็ดลับร้านอาหาร #ราคาสมเหตุสมผล #SMEไทย #ขายดีแต่ไม่เจ๊ง #ธุรกิจอาหาร #กำไรยั่งยืน #ร้านอาหารอยู่รอด #เพิ่มราคายังไงไม่ให้ลูกค้าหาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1015 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ได้เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ RX 9070 และ RX 9070 XT ซึ่งทำงานบนสถาปัตยกรรม RDNA 4 โดย RX 9070 ถูกตั้งราคาสุดคุ้มที่ $549 ซึ่งเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกมเมอร์ อย่างไรก็ตาม ข่าวล่าสุดชี้ว่า ราคานี้จะมีให้เฉพาะสำหรับชุดล็อตแรกของการ์ดจอนี้เท่านั้น หลังจากนี้ ผู้ผลิตและร้านค้าต่าง ๆ จะมีสิทธิ์กำหนดราคาใหม่ที่อาจสูงขึ้น

    ในกรณีนี้ ผู้ค้าปลีกจากหลายประเทศ เช่น สวีเดน และสหราชอาณาจักร ได้เปิดเผยว่า การ์ดจอ RX 9070 จะคงราคา MSRP ($549) เฉพาะสำหรับล็อตแรกของการผลิตเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ร้าน Inet.se ในสวีเดนได้ชี้แจงว่าหลังจากล็อตแรกหมด ราคาจะถูกปรับเพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตบางราย เช่น PowerColor ซึ่งได้ยืนยันว่า สินค้าจากล็อตสองจะมีราคาสูงขึ้น และไม่สามารถขายในราคามาตรฐานได้อีก

    ปัจจุบัน RX 9070 มีราคาถูกกว่า RX 9070 XT เพียง $50 (XT ราคา $599) การที่ RX 9070 มีราคาที่ใกล้เคียงกับ XT ทำให้ความน่าสนใจลดลง หากเกมเมอร์พลาดโอกาสล็อตแรกในราคา $549 ก็อาจต้องจ่ายแพงขึ้น ซึ่งในกรณีนี้ RX 9070 XT อาจดูคุ้มค่ากว่า เกมเมอร์ที่ต้องการ RX 9070 ในราคามาตรฐานควรรีบตัดสินใจซื้อในล็อตแรกก่อนที่ราคาจะปรับขึ้น

    การตั้งราคาของ RX 9070 ที่ต่ำกว่า NVIDIA RTX ซีรีส์ 50 แสดงให้เห็นว่า AMD พยายามแข่งขันในตลาดการ์ดจอกลุ่มราคาประหยัด แต่นโยบายการปรับราคานี้อาจสร้างความสับสนและส่งผลกระทบต่อความไว้วางใจของผู้บริโภคในระยะยาว

    การ์ดจอ RX 9070 รุ่นแรกในราคาสุดคุ้มนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับเกมเมอร์ที่มองหาประสิทธิภาพสูงในราคาสมเหตุสมผล หากคุณสนใจและอยากเป็นเจ้าของ อย่าลืมติดตามร้านค้าต่าง ๆ ที่ยังมีล็อตแรกเหลืออยู่

    https://www.techradar.com/computing/gpu/bad-news-pc-gamers-it-seems-amds-aggressively-low-price-for-its-radeon-rx-9070-gpu-will-only-be-for-a-limited-time
    AMD ได้เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ RX 9070 และ RX 9070 XT ซึ่งทำงานบนสถาปัตยกรรม RDNA 4 โดย RX 9070 ถูกตั้งราคาสุดคุ้มที่ $549 ซึ่งเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกมเมอร์ อย่างไรก็ตาม ข่าวล่าสุดชี้ว่า ราคานี้จะมีให้เฉพาะสำหรับชุดล็อตแรกของการ์ดจอนี้เท่านั้น หลังจากนี้ ผู้ผลิตและร้านค้าต่าง ๆ จะมีสิทธิ์กำหนดราคาใหม่ที่อาจสูงขึ้น ในกรณีนี้ ผู้ค้าปลีกจากหลายประเทศ เช่น สวีเดน และสหราชอาณาจักร ได้เปิดเผยว่า การ์ดจอ RX 9070 จะคงราคา MSRP ($549) เฉพาะสำหรับล็อตแรกของการผลิตเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ร้าน Inet.se ในสวีเดนได้ชี้แจงว่าหลังจากล็อตแรกหมด ราคาจะถูกปรับเพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตบางราย เช่น PowerColor ซึ่งได้ยืนยันว่า สินค้าจากล็อตสองจะมีราคาสูงขึ้น และไม่สามารถขายในราคามาตรฐานได้อีก ปัจจุบัน RX 9070 มีราคาถูกกว่า RX 9070 XT เพียง $50 (XT ราคา $599) การที่ RX 9070 มีราคาที่ใกล้เคียงกับ XT ทำให้ความน่าสนใจลดลง หากเกมเมอร์พลาดโอกาสล็อตแรกในราคา $549 ก็อาจต้องจ่ายแพงขึ้น ซึ่งในกรณีนี้ RX 9070 XT อาจดูคุ้มค่ากว่า เกมเมอร์ที่ต้องการ RX 9070 ในราคามาตรฐานควรรีบตัดสินใจซื้อในล็อตแรกก่อนที่ราคาจะปรับขึ้น การตั้งราคาของ RX 9070 ที่ต่ำกว่า NVIDIA RTX ซีรีส์ 50 แสดงให้เห็นว่า AMD พยายามแข่งขันในตลาดการ์ดจอกลุ่มราคาประหยัด แต่นโยบายการปรับราคานี้อาจสร้างความสับสนและส่งผลกระทบต่อความไว้วางใจของผู้บริโภคในระยะยาว การ์ดจอ RX 9070 รุ่นแรกในราคาสุดคุ้มนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับเกมเมอร์ที่มองหาประสิทธิภาพสูงในราคาสมเหตุสมผล หากคุณสนใจและอยากเป็นเจ้าของ อย่าลืมติดตามร้านค้าต่าง ๆ ที่ยังมีล็อตแรกเหลืออยู่ https://www.techradar.com/computing/gpu/bad-news-pc-gamers-it-seems-amds-aggressively-low-price-for-its-radeon-rx-9070-gpu-will-only-be-for-a-limited-time
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 732 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความหมายของ มิชลิน

    ดาว

    1 ดาว ควรหยุดแวะชิม
    2 ดาว ควรขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม
    3 ดาว ควรเดินทางไกลเพื่อไปชิม

    ช้อนส้อมไขว้กัน

    1 คู่ หมายถึง ค่อนข้างสะดวกสบาย
    2 คู่ สะดวกสบาย
    3 คู่ สะดวกสบายมาก
    4 คู่ สะดวกสบายในระดับท็อปคลาส
    5 คู่ Luxury สะดวกสบายและหรูหราขั้นสูงสุด

    สัญลักษณ์ใบโคลเวอร์สีเขียว 5 แฉก=มิชลินรักษ์โลก

    โดดเด่นเรื่องแนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืน แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างมีมาตรฐาน ทั้งยังร่วมมือกับผู้ผลิตและคู่ค้าเพื่อเลี่ยงการสร้างขยะเหลือใช้ รวมถึงลดการใช้พลาสติกและวัสดุที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้ใหม่อีกด้วย

    บีเบนดั้ม (Bibendum) หรือมิชลินแมน
    รางวัล BIB GOURMAND คือ รางวัลที่ทาง Michelin มอบให้กับร้านอาหารอร่อยและราคาสมเหตุสมผล (Good Cuisine at a Reasonable Price)

    มิชลิน เพลท รูปจานกับช้อนส้อม หรือ L’Assiette เพื่อบ่งบอกถึง ร้านอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ และปรุงอย่างพิถีพิถัน

    ร้านอาหารริมทาง หรือสตรีทฟู้ด(รถเข็น)
    ร้านไวน์ขั้นเยี่ยม(องุ่น)
    ร้านวิวสวย...หลักล้าน(จุด+3เส้นพุ่งออกไป)
    ร้านที่มีอากาศธรรมชาติ (โต๊ะ เก้าอี้ ร่ม)
    ร้านที่มีบรรยากาศง่ายๆ(รูปกาแฟ)
    ร้านครัวเปิด(กินที่เคาน์เตอร์ปรุงอาหาร)
    ความหมายของ มิชลิน ดาว ⭐ ⭐ ⭐ ⭐ ⭐ ⭐ ⭐ 1 ดาว ควรหยุดแวะชิม 2 ดาว ควรขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม 3 ดาว ควรเดินทางไกลเพื่อไปชิม ช้อนส้อมไขว้กัน 🍴 🍴 🍴 🍴 🍴 🍴 🍴 🍴 🍴 🍴 1 คู่ หมายถึง ค่อนข้างสะดวกสบาย 2 คู่ สะดวกสบาย 3 คู่ สะดวกสบายมาก 4 คู่ สะดวกสบายในระดับท็อปคลาส 5 คู่ Luxury สะดวกสบายและหรูหราขั้นสูงสุด สัญลักษณ์ใบโคลเวอร์สีเขียว 5 แฉก=มิชลินรักษ์โลก 🍀 🍀 🍀 🍀 🍀 🍀 🍀 🍀 🍀 🍀 โดดเด่นเรื่องแนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืน แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างมีมาตรฐาน ทั้งยังร่วมมือกับผู้ผลิตและคู่ค้าเพื่อเลี่ยงการสร้างขยะเหลือใช้ รวมถึงลดการใช้พลาสติกและวัสดุที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้ใหม่อีกด้วย บีเบนดั้ม (Bibendum) หรือมิชลินแมน รางวัล BIB GOURMAND คือ รางวัลที่ทาง Michelin มอบให้กับร้านอาหารอร่อยและราคาสมเหตุสมผล (Good Cuisine at a Reasonable Price) มิชลิน เพลท รูปจานกับช้อนส้อม หรือ L’Assiette เพื่อบ่งบอกถึง ร้านอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ และปรุงอย่างพิถีพิถัน ร้านอาหารริมทาง หรือสตรีทฟู้ด(รถเข็น) ร้านไวน์ขั้นเยี่ยม(องุ่น) ร้านวิวสวย...หลักล้าน(จุด+3เส้นพุ่งออกไป) ร้านที่มีอากาศธรรมชาติ (โต๊ะ เก้าอี้ ร่ม) ร้านที่มีบรรยากาศง่ายๆ(รูปกาแฟ) ร้านครัวเปิด(กินที่เคาน์เตอร์ปรุงอาหาร)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 755 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาหารไทยเฉิดฉาย มิชลินไกด์มาเลย์ฯ

    การประกาศรางวัลร้านอาหารมิชลินไกด์ กัวลาลัมเปอร์และปีนัง ปี 2025 (MICHELIN Guide Kuala Lumpur & Penang 2025) ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2567 มีร้านอาหารในกรุงกัวลาลัมเปอร์ และรัฐปีนังได้รับการคัดเลือก 143 แห่ง โดยมี 25 แห่ง ได้รับการคัดเลือกเป็นครั้งแรก พร้อมเปิดตัวร้านที่ได้รับรางวัล Green Star หรือรางวัลดาวมิชลินรักษ์โลกแห่งแรกในประเทศมาเลเซีย คือ ร้านเดวากาน (Dewakan) ที่นอกจากจะรักษารางวัลมิชลิน 2 ดาวด้วยเมนูอาหารที่โดดเด่นแล้ว ยังพยายามจัดหาวัตถุดิบในท้องถิ่นและใช้เป็นส่วนผสมให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเสริมรสชาติแบบดั้งเดิมของมาเลเซีย วัตถุดิบส่วนเกินยังนำไปหมักเป็นซอสโฮมเมดเพื่อลดขยะ ถือเป็นแรงบันดาลใจให้ร้านอาหารอื่นนำแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้

    ร้านใหม่ 2 แห่งได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว ได้แก่ ชิมบายเชฟหนุ่ม (Chim By Chef Noom) ร้านอาหารไทยร่วมสมัย สืบทอดอาหารไทยดั้งเดิม แต่มีการปรับเปลี่ยนเมนูที่สร้างสรรค์และการจัดจานอย่างมีสไตล์ อีกทั้งเชฟอัซมี อาหมัด กามาล ยังได้รับรางวัล Service Award อีกรางวัลหนึ่ง ส่วนอีกร้านหนึ่งคือ โมลินา (Molina) ที่มีเมนูสร้างสรรค์ที่ผสมผสานเทคนิคแบบฝรั่งเศส กลิ่นอายแบบนอร์ดิก และกลิ่นอายแบบเอเชียอย่างลงตัว โดยเชฟกีโยม เดอปูร์แตร์ ได้รับรางวัล Opening of the Year Award

    รางวัลบิบกรูมองด์ (Bib Gourmand) ร้านอาหารอร่อยและราคาสมเหตุสมผล มีร้านใหม่ 12 แห่ง ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ 5 แห่ง และปีนัง 7 แห่ง หนึ่งในนั้นคือร้าน BM Yam Rice ย่านบูกิตเมอร์ตาจัม ที่เลื่อนระดับขึ้นจาก MICHELIN Selected เมนูเด่นคือซุปหมูและเครื่องในหมูรสชาติเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมข้าวแยมไรซ์ (Yam Rice) เป็นหนึ่งในร้านอาหารราคาจับต้องได้ที่โดดเด่นที่สุดในมาเลเซีย ส่วนร้านอาหารหมวดหมู่ MICHELIN Selected มีร้านใหม่เพิ่มเติม 10 ร้าน รวมเป็น 80 ร้าน

    สำหรับร้านชิมบายเชฟหนุ่ม ตั้งอยู่ในอาคาร TSLAW Tower ย่านตุน ราซัก เอ็กซ์เชนจ์ (Tun Razak Exchange) เจ้าของร้านคือเชฟหนุ่ม ธนินธร จันทรวรรณ แห่งร้านชิมบายสยามวิสดอม (Chim by Siam Wisdom) ย่านสามเสน กรุงเทพฯ โดยใช้วัตถุดิบคุณภาพจากญี่ปุ่น ร่วมกับเครื่องเทศ ผลไม้ และผักในท้องถิ่น เมนูเด่นของร้านคือ The Lost Recipe ต้มยำสูตรโบราณกว่า 200 ปี ที่มีรสชาติกลมกล่อมลงตัว

    อนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียนมีการจัดทำคู่มือมิชลินไกด์แล้ว 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์เริ่มจากฉบับปี 2016 ประเทศไทยเริ่มจากฉบับปี 2018 มาเลเซียและและเวียดนาม เริ่มจากฉบับปี 2023

    #Newskit #MICHELINGuideMY #ChimbyChefNoom
    อาหารไทยเฉิดฉาย มิชลินไกด์มาเลย์ฯ การประกาศรางวัลร้านอาหารมิชลินไกด์ กัวลาลัมเปอร์และปีนัง ปี 2025 (MICHELIN Guide Kuala Lumpur & Penang 2025) ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2567 มีร้านอาหารในกรุงกัวลาลัมเปอร์ และรัฐปีนังได้รับการคัดเลือก 143 แห่ง โดยมี 25 แห่ง ได้รับการคัดเลือกเป็นครั้งแรก พร้อมเปิดตัวร้านที่ได้รับรางวัล Green Star หรือรางวัลดาวมิชลินรักษ์โลกแห่งแรกในประเทศมาเลเซีย คือ ร้านเดวากาน (Dewakan) ที่นอกจากจะรักษารางวัลมิชลิน 2 ดาวด้วยเมนูอาหารที่โดดเด่นแล้ว ยังพยายามจัดหาวัตถุดิบในท้องถิ่นและใช้เป็นส่วนผสมให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเสริมรสชาติแบบดั้งเดิมของมาเลเซีย วัตถุดิบส่วนเกินยังนำไปหมักเป็นซอสโฮมเมดเพื่อลดขยะ ถือเป็นแรงบันดาลใจให้ร้านอาหารอื่นนำแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ ร้านใหม่ 2 แห่งได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว ได้แก่ ชิมบายเชฟหนุ่ม (Chim By Chef Noom) ร้านอาหารไทยร่วมสมัย สืบทอดอาหารไทยดั้งเดิม แต่มีการปรับเปลี่ยนเมนูที่สร้างสรรค์และการจัดจานอย่างมีสไตล์ อีกทั้งเชฟอัซมี อาหมัด กามาล ยังได้รับรางวัล Service Award อีกรางวัลหนึ่ง ส่วนอีกร้านหนึ่งคือ โมลินา (Molina) ที่มีเมนูสร้างสรรค์ที่ผสมผสานเทคนิคแบบฝรั่งเศส กลิ่นอายแบบนอร์ดิก และกลิ่นอายแบบเอเชียอย่างลงตัว โดยเชฟกีโยม เดอปูร์แตร์ ได้รับรางวัล Opening of the Year Award รางวัลบิบกรูมองด์ (Bib Gourmand) ร้านอาหารอร่อยและราคาสมเหตุสมผล มีร้านใหม่ 12 แห่ง ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ 5 แห่ง และปีนัง 7 แห่ง หนึ่งในนั้นคือร้าน BM Yam Rice ย่านบูกิตเมอร์ตาจัม ที่เลื่อนระดับขึ้นจาก MICHELIN Selected เมนูเด่นคือซุปหมูและเครื่องในหมูรสชาติเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมข้าวแยมไรซ์ (Yam Rice) เป็นหนึ่งในร้านอาหารราคาจับต้องได้ที่โดดเด่นที่สุดในมาเลเซีย ส่วนร้านอาหารหมวดหมู่ MICHELIN Selected มีร้านใหม่เพิ่มเติม 10 ร้าน รวมเป็น 80 ร้าน สำหรับร้านชิมบายเชฟหนุ่ม ตั้งอยู่ในอาคาร TSLAW Tower ย่านตุน ราซัก เอ็กซ์เชนจ์ (Tun Razak Exchange) เจ้าของร้านคือเชฟหนุ่ม ธนินธร จันทรวรรณ แห่งร้านชิมบายสยามวิสดอม (Chim by Siam Wisdom) ย่านสามเสน กรุงเทพฯ โดยใช้วัตถุดิบคุณภาพจากญี่ปุ่น ร่วมกับเครื่องเทศ ผลไม้ และผักในท้องถิ่น เมนูเด่นของร้านคือ The Lost Recipe ต้มยำสูตรโบราณกว่า 200 ปี ที่มีรสชาติกลมกล่อมลงตัว อนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียนมีการจัดทำคู่มือมิชลินไกด์แล้ว 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์เริ่มจากฉบับปี 2016 ประเทศไทยเริ่มจากฉบับปี 2018 มาเลเซียและและเวียดนาม เริ่มจากฉบับปี 2023 #Newskit #MICHELINGuideMY #ChimbyChefNoom
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2138 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ตอนนั้น​ ถึงขั้น​ ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม**

    (โพสต์​นี้​ รูปแรก ใช้รูปของคนอื่นประกอบ​ เพราะตอนที่พาสปอร์ต​ตก​ในห้องน้ำ​ ตกใจอยู่​ จึงไม่ได้ถ่ายรูปไว้)​

    มีครั้งหนึ่งที่ผมไป #ไต้หวัน ตอนที่ไปเข้าห้องน้ำที่เมือง #เกาสง เพื่อขึ้น #รถไฟความเร็วสูง กลับไปที่ #ไทเป ด้วยความเร่งรีบ ผมจึงลืมปิดกระเป๋าพอเดินไปเข้าห้องน้ำที่พื้นมีน้ำนองอยู่ที่พื้น สูงประมาณครึ่งซม. พาสปอร์ตที่อยู่ในกระเป๋า ก็หล่นลงไปที่พื้น ที่มีน้ำเจิ่งนอง

    ตอนนั้นผมใจหายวาบ รีบเก็บเล่มพาสปอร์ตขึ้นมาดู และ คิดในใจว่า "งานต้องเข้าแล้ว" คิดว่า "คงต้องไปทำธุระแทนที่จะได้เที่ยวแล้ว"

    แต่พอเช็คดู เล่มพาสปอร์ตยังปกติยังไม่ทันเปียกน้ำ เพราะผมใช้ Passport Holder แบรนด์ Signature ที่ตัวปกกันน้ำได้ และมีความหนาพอควร จึงทำให้น้ำที่เจิ่งนองที่พื้นประมาณครึ่งซม. ยังไม่ทันเข้าไปโดนตัวเล่ม จึงรอดไป จากงานที่จ่อเตรียมเข้า

    จึงทำให้ผมคิดได้ว่า หากตอนนั้นไม่ได้ใช้ Passport Holder และ เล่มพาสปอร์ตเกิดเปียก ผมควรต้องทำอย่าไรบ้างเพื่อแก้ปัญหานี้ จึงทำให้เรียบเรียงบทความนี้ขึ้นมา เพราะตอนไปต่างประเทศ เราก็ต้องสัมผัสกับน้ำ และเข้าห้องน้ำทุกวัน จึงมีโอกาสเกิดปัญหา #พาสปอร์ตตกน้ำ หรือ #พาสปอร์ตเปียก น้ำได้ง่ายกว่า ปัญหารูปแบบอื่นๆ

    ---------

    4 ขั้นตอน หลังพบว่า #เล่มพาสปอร์ตเปียก ตอนอยู่ต่างประเทศ

    1. รีบเช็ดให้แห้ง และ ตรวจสอบความเสียหาย

    นำพาสปอร์ตออกจากน้ำทันที เช็ดน้ำออกให้มากที่สุด ใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชู่ซับน้ำ

    เมื่อซับน้ำแล้ว ให้วางพาสปอร์ตในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและหลีกเลี่ยงความร้อนจัด เพื่อป้องกัน "กระดาษย่นหรือ ซีลพลาสติกพัง" ที่จะส่งผลให้ เล่มพาสปอร์ตทำงานไม่ได้

    2. ใช้เครื่องมือเพื่อช่วยให้แห้ง ก่อนที่เล่มจะเสียหาย

    หากมีไดร์เป่าผม สามารถใช้ "ไดร์เป่า ลมเย็น" เป่าพาสปอร์ตเพื่อช่วยให้น้ำแห้งเร็วขึ้น ** ห้ามใช้ลมร้อนโดยเด็ดขาด** เพราะอาจทำให้พาสปอร์ต เสียหายมากกว่าเดิม

    ถ้ามีซองดูดความชื้นให้ใส่พาสปอร์ตในถุงพร้อมซองดูดความชื้น วิธีนี้จะช่วยให้พาสปอร์ตแห้งโดยไม่เสี่ยงต่อการเสียรูป

    3. ตรวจสอบความชัดเจน ของข้อมูลบนพาสปอร์ต

    ตรวจสอบ "หน้าแรกที่มีรูปถ่าย และ ข้อมูลสำคัญต่างๆ ว่ายังชัดเจนดีไหม" ถ้าหมึกเลือนหรือเสียหาย การยืนยันตัวตนอาจมีปัญหาเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าออกระหว่างประเทศ

    หากข้อมูลเริ่มไม่ชัดเจนหรือพาสปอร์ตบวมจากความชื้น ควรเตรียมตัวขอเอกสารใหม่

    4. ติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทย​ ในประเทศนั้นๆ

    ควรรีบติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยใกล้ที่สุด แจ้งเหตุการณ์และขอคำแนะนำ หากจำเป็นอาจต้อง ขอเอกสารชั่วคราวสำหรับการเดินทางกลับประเทศไทย

    ทางสถานทูตจะช่วยเหลือในการออก #เอกสารทดแทน (Emergency Travel Document) ซึ่งสามารถใช้แทนพาสปอร์ตในกรณีฉุกเฉิน

    ---------

    #พาสปอร์ต ถือเป็นหนึ่งในเอกสารที่มีความสำคัญสูงสุด ในการเดินทางต่างประเทศ การป้องกันความเสียหายแก่เอกสารนี้ จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องทำ เป็นงานที่ควรเตรียมพร้อมก่อนเดินทางไปต่างประเทศ

    หากคุณกำลังมองหา #PassportHolder ที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูง สีสันสวยงาม มี 17 สีให้เลือกสรร การตัดเย็บดีเยี่ยม ราคาสมเหตุสมผล อีกทั้งยังออกแบบให้สนับสนุนการจัดเก็บและจัดการเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้คุณสะดวกในการใช้งาน

    The Signature Passport Holder อาจเป็น Passport Holder ที่ตอบโจทย์ของคุณ

    #TheSignature #BangkokCraftmanship #การจัดการ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes

    --------

    เพิ่มเติม

    ตัวอย่างปรากฏการณ์จริง ที่แสดงให้เห็นว่า พอ #พาสปอร์ตเปียกน้ำ แล้วยุ่งยาก เสี่ยงทริปล่มแค่ไหน อ่านได้ ตามลิงค์ด้านล่าง

    https://www.facebook.com/TravelNews.th/posts/pfbid02mdjSeF6DMwgDxj5UkzVhwJ7sFWEerVjas3Zuz2Ax67XGwUD6meH3NXC8JjW2RHpBl

    ขอบคุณข้อมูลจากเพจ #TravelNews ครับ
    **ตอนนั้น​ ถึงขั้น​ ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม** (โพสต์​นี้​ รูปแรก ใช้รูปของคนอื่นประกอบ​ เพราะตอนที่พาสปอร์ต​ตก​ในห้องน้ำ​ ตกใจอยู่​ จึงไม่ได้ถ่ายรูปไว้)​ มีครั้งหนึ่งที่ผมไป #ไต้หวัน ตอนที่ไปเข้าห้องน้ำที่เมือง #เกาสง เพื่อขึ้น #รถไฟความเร็วสูง กลับไปที่ #ไทเป ด้วยความเร่งรีบ ผมจึงลืมปิดกระเป๋าพอเดินไปเข้าห้องน้ำที่พื้นมีน้ำนองอยู่ที่พื้น สูงประมาณครึ่งซม. พาสปอร์ตที่อยู่ในกระเป๋า ก็หล่นลงไปที่พื้น ที่มีน้ำเจิ่งนอง ตอนนั้นผมใจหายวาบ รีบเก็บเล่มพาสปอร์ตขึ้นมาดู และ คิดในใจว่า "งานต้องเข้าแล้ว" คิดว่า "คงต้องไปทำธุระแทนที่จะได้เที่ยวแล้ว" แต่พอเช็คดู เล่มพาสปอร์ตยังปกติยังไม่ทันเปียกน้ำ เพราะผมใช้ Passport Holder แบรนด์ Signature ที่ตัวปกกันน้ำได้ และมีความหนาพอควร จึงทำให้น้ำที่เจิ่งนองที่พื้นประมาณครึ่งซม. ยังไม่ทันเข้าไปโดนตัวเล่ม จึงรอดไป จากงานที่จ่อเตรียมเข้า จึงทำให้ผมคิดได้ว่า หากตอนนั้นไม่ได้ใช้ Passport Holder และ เล่มพาสปอร์ตเกิดเปียก ผมควรต้องทำอย่าไรบ้างเพื่อแก้ปัญหานี้ จึงทำให้เรียบเรียงบทความนี้ขึ้นมา เพราะตอนไปต่างประเทศ เราก็ต้องสัมผัสกับน้ำ และเข้าห้องน้ำทุกวัน จึงมีโอกาสเกิดปัญหา #พาสปอร์ตตกน้ำ หรือ #พาสปอร์ตเปียก น้ำได้ง่ายกว่า ปัญหารูปแบบอื่นๆ --------- 4 ขั้นตอน หลังพบว่า #เล่มพาสปอร์ตเปียก ตอนอยู่ต่างประเทศ 1. รีบเช็ดให้แห้ง และ ตรวจสอบความเสียหาย นำพาสปอร์ตออกจากน้ำทันที เช็ดน้ำออกให้มากที่สุด ใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชู่ซับน้ำ เมื่อซับน้ำแล้ว ให้วางพาสปอร์ตในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและหลีกเลี่ยงความร้อนจัด เพื่อป้องกัน "กระดาษย่นหรือ ซีลพลาสติกพัง" ที่จะส่งผลให้ เล่มพาสปอร์ตทำงานไม่ได้ 2. ใช้เครื่องมือเพื่อช่วยให้แห้ง ก่อนที่เล่มจะเสียหาย หากมีไดร์เป่าผม สามารถใช้ "ไดร์เป่า ลมเย็น" เป่าพาสปอร์ตเพื่อช่วยให้น้ำแห้งเร็วขึ้น ** ห้ามใช้ลมร้อนโดยเด็ดขาด** เพราะอาจทำให้พาสปอร์ต เสียหายมากกว่าเดิม ถ้ามีซองดูดความชื้นให้ใส่พาสปอร์ตในถุงพร้อมซองดูดความชื้น วิธีนี้จะช่วยให้พาสปอร์ตแห้งโดยไม่เสี่ยงต่อการเสียรูป 3. ตรวจสอบความชัดเจน ของข้อมูลบนพาสปอร์ต ตรวจสอบ "หน้าแรกที่มีรูปถ่าย และ ข้อมูลสำคัญต่างๆ ว่ายังชัดเจนดีไหม" ถ้าหมึกเลือนหรือเสียหาย การยืนยันตัวตนอาจมีปัญหาเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าออกระหว่างประเทศ หากข้อมูลเริ่มไม่ชัดเจนหรือพาสปอร์ตบวมจากความชื้น ควรเตรียมตัวขอเอกสารใหม่ 4. ติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทย​ ในประเทศนั้นๆ ควรรีบติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยใกล้ที่สุด แจ้งเหตุการณ์และขอคำแนะนำ หากจำเป็นอาจต้อง ขอเอกสารชั่วคราวสำหรับการเดินทางกลับประเทศไทย ทางสถานทูตจะช่วยเหลือในการออก #เอกสารทดแทน (Emergency Travel Document) ซึ่งสามารถใช้แทนพาสปอร์ตในกรณีฉุกเฉิน --------- #พาสปอร์ต ถือเป็นหนึ่งในเอกสารที่มีความสำคัญสูงสุด ในการเดินทางต่างประเทศ การป้องกันความเสียหายแก่เอกสารนี้ จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องทำ เป็นงานที่ควรเตรียมพร้อมก่อนเดินทางไปต่างประเทศ หากคุณกำลังมองหา #PassportHolder ที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูง สีสันสวยงาม มี 17 สีให้เลือกสรร การตัดเย็บดีเยี่ยม ราคาสมเหตุสมผล อีกทั้งยังออกแบบให้สนับสนุนการจัดเก็บและจัดการเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้คุณสะดวกในการใช้งาน The Signature Passport Holder อาจเป็น Passport Holder ที่ตอบโจทย์ของคุณ #TheSignature #BangkokCraftmanship #การจัดการ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes -------- เพิ่มเติม ตัวอย่างปรากฏการณ์จริง ที่แสดงให้เห็นว่า พอ #พาสปอร์ตเปียกน้ำ แล้วยุ่งยาก เสี่ยงทริปล่มแค่ไหน อ่านได้ ตามลิงค์ด้านล่าง https://www.facebook.com/TravelNews.th/posts/pfbid02mdjSeF6DMwgDxj5UkzVhwJ7sFWEerVjas3Zuz2Ax67XGwUD6meH3NXC8JjW2RHpBl ขอบคุณข้อมูลจากเพจ #TravelNews ครับ
    Like
    1
    6 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2263 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ตอนนั้น​ ถึงขั้น​ ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม**

    (โพสต์​นี้​ รูปแรก ใช้รูปของคนอื่นประกอบ​ เพราะตอนที่พาสปอร์ต​ตก​ในห้องน้ำ​ ตกใจอยู่​ จึงไม่ได้ถ่ายรูปไว้)​

    มีครั้งหนึ่งที่ผมไป #ไต้หวัน ตอนที่ไปเข้าห้องน้ำที่เมือง #เกาสง เพื่อขึ้น #รถไฟความเร็วสูง กลับไปที่ #ไทเป ด้วยความเร่งรีบ ผมจึงลืมปิดกระเป๋าพอเดินไปเข้าห้องน้ำที่พื้นมีน้ำนองอยู่ที่พื้น สูงประมาณครึ่งซม. พาสปอร์ตที่อยู่ในกระเป๋า ก็หล่นลงไปที่พื้น ที่มีน้ำเจิ่งนอง

    ตอนนั้นผมใจหายวาบ รีบเก็บเล่มพาสปอร์ตขึ้นมาดู และ คิดในใจว่า "งานต้องเข้าแล้ว" คิดว่า "คงต้องไปทำธุระแทนที่จะได้เที่ยวแล้ว"

    แต่พอเช็คดู เล่มพาสปอร์ตยังปกติยังไม่ทันเปียกน้ำ เพราะผมใช้ Passport Holder แบรนด์ Signature ที่ตัวปกกันน้ำได้ และมีความหนาพอควร จึงทำให้น้ำที่เจิ่งนองที่พื้นประมาณครึ่งซม. ยังไม่ทันเข้าไปโดนตัวเล่ม จึงรอดไป จากงานที่จ่อเตรียมเข้า

    จึงทำให้ผมคิดได้ว่า หากตอนนั้นไม่ได้ใช้ Passport Holder และ เล่มพาสปอร์ตเกิดเปียก ผมควรต้องทำอย่าไรบ้างเพื่อแก้ปัญหานี้ จึงทำให้เรียบเรียงบทความนี้ขึ้นมา เพราะตอนไปต่างประเทศ เราก็ต้องสัมผัสกับน้ำ และเข้าห้องน้ำทุกวัน จึงมีโอกาสเกิดปัญหา #พาสปอร์ตตกน้ำ หรือ #พาสปอร์ตเปียก น้ำได้ง่ายกว่า ปัญหารูปแบบอื่นๆ

    ---------

    4 ขั้นตอน หลังพบว่า #เล่มพาสปอร์ตเปียก ตอนอยู่ต่างประเทศ

    1. รีบเช็ดให้แห้ง และ ตรวจสอบความเสียหาย

    นำพาสปอร์ตออกจากน้ำทันที เช็ดน้ำออกให้มากที่สุด ใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชู่ซับน้ำ

    เมื่อซับน้ำแล้ว ให้วางพาสปอร์ตในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและหลีกเลี่ยงความร้อนจัด เพื่อป้องกัน "กระดาษย่นหรือ ซีลพลาสติกพัง" ที่จะส่งผลให้ เล่มพาสปอร์ตทำงานไม่ได้

    2. ใช้เครื่องมือเพื่อช่วยให้แห้ง ก่อนที่เล่มจะเสียหาย

    หากมีไดร์เป่าผม สามารถใช้ "ไดร์เป่า ลมเย็น" เป่าพาสปอร์ตเพื่อช่วยให้น้ำแห้งเร็วขึ้น ** ห้ามใช้ลมร้อนโดยเด็ดขาด** เพราะอาจทำให้พาสปอร์ต เสียหายมากกว่าเดิม

    ถ้ามีซองดูดความชื้นให้ใส่พาสปอร์ตในถุงพร้อมซองดูดความชื้น วิธีนี้จะช่วยให้พาสปอร์ตแห้งโดยไม่เสี่ยงต่อการเสียรูป

    3. ตรวจสอบความชัดเจน ของข้อมูลบนพาสปอร์ต

    ตรวจสอบ "หน้าแรกที่มีรูปถ่าย และ ข้อมูลสำคัญต่างๆ ว่ายังชัดเจนดีไหม" ถ้าหมึกเลือนหรือเสียหาย การยืนยันตัวตนอาจมีปัญหาเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าออกระหว่างประเทศ

    หากข้อมูลเริ่มไม่ชัดเจนหรือพาสปอร์ตบวมจากความชื้น ควรเตรียมตัวขอเอกสารใหม่

    4. ติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทย​ ในประเทศนั้นๆ

    ควรรีบติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยใกล้ที่สุด แจ้งเหตุการณ์และขอคำแนะนำ หากจำเป็นอาจต้อง ขอเอกสารชั่วคราวสำหรับการเดินทางกลับประเทศไทย

    ทางสถานทูตจะช่วยเหลือในการออก #เอกสารทดแทน (Emergency Travel Document) ซึ่งสามารถใช้แทนพาสปอร์ตในกรณีฉุกเฉิน

    ---------

    #พาสปอร์ต ถือเป็นหนึ่งในเอกสารที่มีความสำคัญสูงสุด ในการเดินทางต่างประเทศ การป้องกันความเสียหายแก่เอกสารนี้ จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องทำ เป็นงานที่ควรเตรียมพร้อมก่อนเดินทางไปต่างประเทศ

    หากคุณกำลังมองหา #PassportHolder ที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูง สีสันสวยงาม มี 17 สีให้เลือกสรร การตัดเย็บดีเยี่ยม ราคาสมเหตุสมผล อีกทั้งยังออกแบบให้สนับสนุนการจัดเก็บและจัดการเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้คุณสะดวกในการใช้งาน

    The Signature Passport Holder อาจเป็น Passport Holder ที่ตอบโจทย์ของคุณ

    #TheSignature #BangkokCraftmanship #การจัดการ

    -------

    เพิ่มเติม

    ตัวอย่างปรากฏการณ์จริง ที่แสดงให้เห็นว่า พอ #พาสปอร์ตเปียกน้ำ แล้วยุ่งยาก เสี่ยงทริปล่มแค่ไหน อ่านได้ ตามลิงค์ด้านล่าง

    https://www.facebook.com/TravelNews.th/posts/pfbid02mdjSeF6DMwgDxj5UkzVhwJ7sFWEerVjas3Zuz2Ax67XGwUD6meH3NXC8JjW2RHpBl

    ขอบคุณข้อมูลจากเพจ #TravelNews ครับ
    **ตอนนั้น​ ถึงขั้น​ ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม** (โพสต์​นี้​ รูปแรก ใช้รูปของคนอื่นประกอบ​ เพราะตอนที่พาสปอร์ต​ตก​ในห้องน้ำ​ ตกใจอยู่​ จึงไม่ได้ถ่ายรูปไว้)​ มีครั้งหนึ่งที่ผมไป #ไต้หวัน ตอนที่ไปเข้าห้องน้ำที่เมือง #เกาสง เพื่อขึ้น #รถไฟความเร็วสูง กลับไปที่ #ไทเป ด้วยความเร่งรีบ ผมจึงลืมปิดกระเป๋าพอเดินไปเข้าห้องน้ำที่พื้นมีน้ำนองอยู่ที่พื้น สูงประมาณครึ่งซม. พาสปอร์ตที่อยู่ในกระเป๋า ก็หล่นลงไปที่พื้น ที่มีน้ำเจิ่งนอง ตอนนั้นผมใจหายวาบ รีบเก็บเล่มพาสปอร์ตขึ้นมาดู และ คิดในใจว่า "งานต้องเข้าแล้ว" คิดว่า "คงต้องไปทำธุระแทนที่จะได้เที่ยวแล้ว" แต่พอเช็คดู เล่มพาสปอร์ตยังปกติยังไม่ทันเปียกน้ำ เพราะผมใช้ Passport Holder แบรนด์ Signature ที่ตัวปกกันน้ำได้ และมีความหนาพอควร จึงทำให้น้ำที่เจิ่งนองที่พื้นประมาณครึ่งซม. ยังไม่ทันเข้าไปโดนตัวเล่ม จึงรอดไป จากงานที่จ่อเตรียมเข้า จึงทำให้ผมคิดได้ว่า หากตอนนั้นไม่ได้ใช้ Passport Holder และ เล่มพาสปอร์ตเกิดเปียก ผมควรต้องทำอย่าไรบ้างเพื่อแก้ปัญหานี้ จึงทำให้เรียบเรียงบทความนี้ขึ้นมา เพราะตอนไปต่างประเทศ เราก็ต้องสัมผัสกับน้ำ และเข้าห้องน้ำทุกวัน จึงมีโอกาสเกิดปัญหา #พาสปอร์ตตกน้ำ หรือ #พาสปอร์ตเปียก น้ำได้ง่ายกว่า ปัญหารูปแบบอื่นๆ --------- 4 ขั้นตอน หลังพบว่า #เล่มพาสปอร์ตเปียก ตอนอยู่ต่างประเทศ 1. รีบเช็ดให้แห้ง และ ตรวจสอบความเสียหาย นำพาสปอร์ตออกจากน้ำทันที เช็ดน้ำออกให้มากที่สุด ใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชู่ซับน้ำ เมื่อซับน้ำแล้ว ให้วางพาสปอร์ตในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและหลีกเลี่ยงความร้อนจัด เพื่อป้องกัน "กระดาษย่นหรือ ซีลพลาสติกพัง" ที่จะส่งผลให้ เล่มพาสปอร์ตทำงานไม่ได้ 2. ใช้เครื่องมือเพื่อช่วยให้แห้ง ก่อนที่เล่มจะเสียหาย หากมีไดร์เป่าผม สามารถใช้ "ไดร์เป่า ลมเย็น" เป่าพาสปอร์ตเพื่อช่วยให้น้ำแห้งเร็วขึ้น ** ห้ามใช้ลมร้อนโดยเด็ดขาด** เพราะอาจทำให้พาสปอร์ต เสียหายมากกว่าเดิม ถ้ามีซองดูดความชื้นให้ใส่พาสปอร์ตในถุงพร้อมซองดูดความชื้น วิธีนี้จะช่วยให้พาสปอร์ตแห้งโดยไม่เสี่ยงต่อการเสียรูป 3. ตรวจสอบความชัดเจน ของข้อมูลบนพาสปอร์ต ตรวจสอบ "หน้าแรกที่มีรูปถ่าย และ ข้อมูลสำคัญต่างๆ ว่ายังชัดเจนดีไหม" ถ้าหมึกเลือนหรือเสียหาย การยืนยันตัวตนอาจมีปัญหาเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าออกระหว่างประเทศ หากข้อมูลเริ่มไม่ชัดเจนหรือพาสปอร์ตบวมจากความชื้น ควรเตรียมตัวขอเอกสารใหม่ 4. ติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทย​ ในประเทศนั้นๆ ควรรีบติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยใกล้ที่สุด แจ้งเหตุการณ์และขอคำแนะนำ หากจำเป็นอาจต้อง ขอเอกสารชั่วคราวสำหรับการเดินทางกลับประเทศไทย ทางสถานทูตจะช่วยเหลือในการออก #เอกสารทดแทน (Emergency Travel Document) ซึ่งสามารถใช้แทนพาสปอร์ตในกรณีฉุกเฉิน --------- #พาสปอร์ต ถือเป็นหนึ่งในเอกสารที่มีความสำคัญสูงสุด ในการเดินทางต่างประเทศ การป้องกันความเสียหายแก่เอกสารนี้ จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องทำ เป็นงานที่ควรเตรียมพร้อมก่อนเดินทางไปต่างประเทศ หากคุณกำลังมองหา #PassportHolder ที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูง สีสันสวยงาม มี 17 สีให้เลือกสรร การตัดเย็บดีเยี่ยม ราคาสมเหตุสมผล อีกทั้งยังออกแบบให้สนับสนุนการจัดเก็บและจัดการเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้คุณสะดวกในการใช้งาน The Signature Passport Holder อาจเป็น Passport Holder ที่ตอบโจทย์ของคุณ #TheSignature #BangkokCraftmanship #การจัดการ ------- เพิ่มเติม ตัวอย่างปรากฏการณ์จริง ที่แสดงให้เห็นว่า พอ #พาสปอร์ตเปียกน้ำ แล้วยุ่งยาก เสี่ยงทริปล่มแค่ไหน อ่านได้ ตามลิงค์ด้านล่าง https://www.facebook.com/TravelNews.th/posts/pfbid02mdjSeF6DMwgDxj5UkzVhwJ7sFWEerVjas3Zuz2Ax67XGwUD6meH3NXC8JjW2RHpBl ขอบคุณข้อมูลจากเพจ #TravelNews ครับ
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1646 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทุนหมด หนำซ้ำ ไม่ทันได้ตั้งตัว เหนื่อยหน่ายเหลือเกิน กับ การสิ้นหวังซ้ำซาก กับ องค์กรที่ดูเหมือนค้าออนไลน์ ที่เน้นขายฝันการมีลูกทีมและเครือข่าย แต่ไม่เน้นขายสินค้า"

    หากคุณตั้งใจจะเป็นแม่ค้าออนไลน์ที่แท้จริง แต่ต้องอยู่ในสภาวะนี้ และ ไม่อยากชีวิตพังอีกแล้ว บทความนี้ คือ สิ่งที่เป็นประโยชน์กับคุณ

    -------------

    บริษัท #การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง ต้องเป็นอย่างไร ?

    1. บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง " #ต้องได้รายได้มาจากการขายปลีกไปยังลูกค้ารายสุดท้าย เท่านั้น" **ไม่ใช่ ได้รายได้ จากการซื้อเพื่อสต๊อกสินค้า ของตัวแทน**

    จึงจะสามารถเชื่อมั่นได้ว่า "สินค้า ที่บริษัทฯ นำมาให้จัดจำหน่ายนั้น มีคุณภาพ มีราคาสมเหตุสมผล" ที่ลูกค้ารายสุดท้ายจะสามารถซื้อซ้ำๆ ได้จริง ไม่ใช่ออกแบบสินค้า มาเพื่อให้คนที่มาเป็นตัวแทน "จ่ายเงินให้บริษัทฯ เพื่อสต๊อกสินค้า แต่ขายไม่ได้จริง"

    บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จึงควรต้องมีนโยบาย ที่ "ไม่เก็บค่าธรรมเนียมใดๆจากตัวแทน ไม่ให้ตัวแทนเปิดบิลหรือเป็นผู้สต๊อกสินค้า" บริษัท จะได้รายได้ ก็ต่อเมื่อ ตัวแทนสามารถปิดการขายสินค้า ให้กับลูกค้ารายสุดท้ายได้ เท่านั้น

    2. #โฟกัสที่การขายสินค้าไปยังลูกค้ารายสุดท้าย จึง #ไม่มีระบบแม่ทีมลูกทีม

    เพราะการมีระบบแม่ทีมลูกทีม จะส่งผลให้ "ไม่โฟกัส การทำงานขายสินค้า ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย" แต่จะมาโฟกัส หาลูกทีม ที่ส่งผลให้ไม่เกิดการพัฒนา "ทักษะขาย ที่แท้จริง" ที่เกิดจาก "การโฟกัส และฝึกฝนการทำงานขาย ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย อย่างซื่อสัตย์"

    และ ยังส่งผล ให้เกิด "โครงสร้างราคา ที่ไม่เท่าเทียม" ระหว่างคนมาก่อนที่เป็นแม่ทีมกับคนมาทีหลังที่เป็นลูกทีม ซึ่ง "โครงสร้างราคา ที่ไม่เท่าเทียม" นี้ ส่งผลให้ เกิดภาวะ "คนที่มาทีหลัง ต้องแบกคนที่มาก่อน"

    บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จึงต้อง รักษา "โครงสร้างราคา ให้เท่าเทียม ระหว่างตัวแทนทุกคน ไม่ว่าจะเข้ามาก่อนหรือเข้ามาทีหลัง" และ มุ่งเน้นให้ตัวแทน "โฟกัส ที่การขายสินค้า ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย เท่านั้น"

    3. #มุ่งเน้นการให้ข้อมูลสินค้า ไม่ใช่ภาพลักษณ์ของบริษัท ในการขาย

    บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จะจดจ่อ กับการขายสินค้า ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย และ "สิ่งที่ลูกค้ารายสุดท้าย จะซื้อ คือ สินค้า ไม่ใช่ ภาพลักษณ์ ของบริษัท"

    ดังนั้น ข้อมูลที่ลูกค้ารายสุดท้ายต้องการ เพื่อประเมินและตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อ คือ "ข้อมูลของสินค้า"

    บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จึงต้องเน้น การให้ข้อมูลสินค้า "โดยเฉพาะ ข้อมูลวิทยาศาสตร์ ที่เป็นข้อเท็จจริง ที่สามารถพิสูจน์ได้ ด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์" ไม่ใช่ ใช้การนำเสนอ ภาพลักษณ์ของบริษัท ในการขาย

    -------------

    "การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง นั้น ไม่ง่าย" แต่เป็น #สัมมาอาชีพ "ที่สามารถทำให้มั่นคงทางการเงินได้ ตลอดชีวิต"

    เพราะ เมื่อ "รายได้ มาจากการขายสินค้า ให้กับลูกค้ารายสุดท้าย เท่านั้น" การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง "จึง ไม่ใช่ การหลอกคนที่เข้ามาใหม่ ให้มาสต๊อกสินค้า"

    ดังนั้น "การขายออนไลน์ ที่แท้จริง จึง ไม่ได้ทำให้รวยได้ ในชั่วข้ามคืน อย่างที่หลายๆ คนฝันไว้"

    จำเป็นต้อง "อดทน​ กับ​ การทำสิ่งที่น่าเบื่อ​ ซ้ำๆ​ เดิมๆ​ ได้​ สามารถ​จดจ่อได้อย่างต่อเนื่อง​จริงๆ​" จนวันหนึ่งที่ คุณสามารถฝึกฝน จนมี "ทักษะขาย อย่างซื่อสัตย์" จนเริ่มมี "ลูกค้าประจำ"

    การ "การทำสิ่งที่น่าเบื่อ​ ซ้ำๆ​ เดิมๆ อย่างซื่อสัตย์" ในการขายออนไลน์ของคุณ จึงจะสามารถทำให้คุณมีกลุ่มลูกค้าประจำ และมีรายได้จนเพียงพอ ที่สามารถรับผิดชอบตนเอง และ ครอบครัวได้

    และ หาก คุณยังรักษา "ความซื่อสัตย์" ของคุณต่อไปได้

    อาชีพนี้ จะเป็น สัมมาอาชีพ "ที่คุณสามารถทำได้ ตลอดชีวิต" ที่จะช่วยให้คุณ มีความมั่นคงทางการเงิน สามารถรับผิดชอบ ตนเอง และ ครอบครัวของคุณได้

    เพราะทุกบาท ทุกสตางค์ ของรายได้ของคุณ มาจาก "การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง" "ไม่ได้ โกหก หลอกลวงใคร" ให้ต้องทุกข์ทรมาน อย่างที่คุณเคยเจอ

    -------------

    **หากคุณ ฝันที่จะมีสัมมาอาชีพเป็นแม่ค้าออนไลน์ ที่แท้จริง และ ต้องการหาบริษัทที่จะมาสนับสนุนความฝันนั้นของคุณ บริษัท ซุปเปอร์ชี คอร์ปอร์เรชัน คือ ระบบที่สามารถสนับสนุนฝันนั้น ของคุณได้**

    เพราะ ทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่ บริษัท ซุปเปอร์ชี คอร์ปอร์เรชัน เป็น มาตลอด 12 ปี ที่ก่อตั้งบริษัท

    และ เป็นมากกว่านั้น ตรงที่ "ไม่เคยจ้าง ดารา นางแบบ อินฟลูฯ ที่มีชื่อเสียง มาเป็นพรีเซนเตอร์ สินค้าที่บริษัทฯ จำหน่ายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ! "

    การให้ข้อมูลเพื่อขายทุกครั้ง คือ การให้ "ปรากฏการณ์จริง ที่เกิดจากการใช้สินค้าจริง ของผู้ใช้" และ "ข้อมูลวิทยาศาสตร์ ของสินค้า"

    *ตัวแทนขาย ทุกคน ของบริษัทฯ ล้วนมาจากลูกค้าประจำ ที่เป็นผู้ใช้สินค้าจริง*

    สินค้าของบริษัทฯ ทุกตัว! เป็นสินค้า "มาตรฐานคุณภาพระดับสากล ที่มีลูกค้าประจำใช้ต่อเนื่อง ไม่เคยเปลี่ยนสูตร ไม่เคยรีแบรนด์ ตลอดระยะเวลาที่ขาย"

    เมื่อตัวแทนปิดการขายได้ ค่อยนำเงินที่ได้จากลูกค้าที่หักส่วนของตัวแทนแล้ว มาจ่ายค่าสินค้าให้กับบริษัทฯ และ บริษัทฯ จะทำการส่งสินค้าไปให้ลูกค้ารายสุดท้าย โดยที่ตัวแทนไม่ต้องสต๊อก

    จึง สามารถเริ่มได้เลย ไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่ต้องเปิดบิล ไม่ต้องจ่ายเงินให้บริษัทฯก่อนที่จะขายได้ สักบาทเดียว "ไม่ต้องกลัวถูกหลอก ไม่ต้องกลัวสูญเงิน เพราะไม่ต้องจ่ายเงิน"

    "ใช้เพียง ความซื่อสัตย์ ขยัน อดทน สม่ำเสมอ ในการทำงานขายออนไลน์"

    บริษัทฯ ไม่เคยเรียกเก็บเงินจากตัวแทนแม้แต่บาทเดียว ไม่เคยบังคับให้ต้องสต๊อกเปิดบิล ไม่เคยให้จ่ายเงินลงทุน ตัวแทนได้ราคาเท่ากันทุกคน ไม่ว่าเข้ามาก่อน หรือ เข้ามาทีหลัง ตลอด 12 ปี ที่ผ่านมา

    -------------

    หากสนใจ เพียงติดต่อรับตัวอย่างสินค้าไปทดลองใช้ โดยจ่ายค่าจัดส่ง 30 บาทเท่านั้น! เรากำหนดค่าจัดส่งเพื่อคัดกรองผู้ที่สนใจจริงๆ ในการทดลองใช้และพิจารณาเข้าร่วมเป็นตัวแทนขาย ไม่ใช่เพียงแค่ต้องการของฟรี

    ไม่มีการบังคับซื้อ ไม่มีการหลอกมาลงทุน เพราะไม่ใช้เงินแม้แต่บาทเดียว !!
    "ทุนหมด หนำซ้ำ ไม่ทันได้ตั้งตัว เหนื่อยหน่ายเหลือเกิน กับ การสิ้นหวังซ้ำซาก กับ องค์กรที่ดูเหมือนค้าออนไลน์ ที่เน้นขายฝันการมีลูกทีมและเครือข่าย แต่ไม่เน้นขายสินค้า" หากคุณตั้งใจจะเป็นแม่ค้าออนไลน์ที่แท้จริง แต่ต้องอยู่ในสภาวะนี้ และ ไม่อยากชีวิตพังอีกแล้ว บทความนี้ คือ สิ่งที่เป็นประโยชน์กับคุณ ------------- บริษัท #การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง ต้องเป็นอย่างไร ? 1. บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง " #ต้องได้รายได้มาจากการขายปลีกไปยังลูกค้ารายสุดท้าย เท่านั้น" **ไม่ใช่ ได้รายได้ จากการซื้อเพื่อสต๊อกสินค้า ของตัวแทน** จึงจะสามารถเชื่อมั่นได้ว่า "สินค้า ที่บริษัทฯ นำมาให้จัดจำหน่ายนั้น มีคุณภาพ มีราคาสมเหตุสมผล" ที่ลูกค้ารายสุดท้ายจะสามารถซื้อซ้ำๆ ได้จริง ไม่ใช่ออกแบบสินค้า มาเพื่อให้คนที่มาเป็นตัวแทน "จ่ายเงินให้บริษัทฯ เพื่อสต๊อกสินค้า แต่ขายไม่ได้จริง" บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จึงควรต้องมีนโยบาย ที่ "ไม่เก็บค่าธรรมเนียมใดๆจากตัวแทน ไม่ให้ตัวแทนเปิดบิลหรือเป็นผู้สต๊อกสินค้า" บริษัท จะได้รายได้ ก็ต่อเมื่อ ตัวแทนสามารถปิดการขายสินค้า ให้กับลูกค้ารายสุดท้ายได้ เท่านั้น 2. #โฟกัสที่การขายสินค้าไปยังลูกค้ารายสุดท้าย จึง #ไม่มีระบบแม่ทีมลูกทีม เพราะการมีระบบแม่ทีมลูกทีม จะส่งผลให้ "ไม่โฟกัส การทำงานขายสินค้า ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย" แต่จะมาโฟกัส หาลูกทีม ที่ส่งผลให้ไม่เกิดการพัฒนา "ทักษะขาย ที่แท้จริง" ที่เกิดจาก "การโฟกัส และฝึกฝนการทำงานขาย ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย อย่างซื่อสัตย์" และ ยังส่งผล ให้เกิด "โครงสร้างราคา ที่ไม่เท่าเทียม" ระหว่างคนมาก่อนที่เป็นแม่ทีมกับคนมาทีหลังที่เป็นลูกทีม ซึ่ง "โครงสร้างราคา ที่ไม่เท่าเทียม" นี้ ส่งผลให้ เกิดภาวะ "คนที่มาทีหลัง ต้องแบกคนที่มาก่อน" บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จึงต้อง รักษา "โครงสร้างราคา ให้เท่าเทียม ระหว่างตัวแทนทุกคน ไม่ว่าจะเข้ามาก่อนหรือเข้ามาทีหลัง" และ มุ่งเน้นให้ตัวแทน "โฟกัส ที่การขายสินค้า ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย เท่านั้น" 3. #มุ่งเน้นการให้ข้อมูลสินค้า ไม่ใช่ภาพลักษณ์ของบริษัท ในการขาย บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จะจดจ่อ กับการขายสินค้า ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย และ "สิ่งที่ลูกค้ารายสุดท้าย จะซื้อ คือ สินค้า ไม่ใช่ ภาพลักษณ์ ของบริษัท" ดังนั้น ข้อมูลที่ลูกค้ารายสุดท้ายต้องการ เพื่อประเมินและตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อ คือ "ข้อมูลของสินค้า" บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จึงต้องเน้น การให้ข้อมูลสินค้า "โดยเฉพาะ ข้อมูลวิทยาศาสตร์ ที่เป็นข้อเท็จจริง ที่สามารถพิสูจน์ได้ ด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์" ไม่ใช่ ใช้การนำเสนอ ภาพลักษณ์ของบริษัท ในการขาย ------------- "การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง นั้น ไม่ง่าย" แต่เป็น #สัมมาอาชีพ "ที่สามารถทำให้มั่นคงทางการเงินได้ ตลอดชีวิต" เพราะ เมื่อ "รายได้ มาจากการขายสินค้า ให้กับลูกค้ารายสุดท้าย เท่านั้น" การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง "จึง ไม่ใช่ การหลอกคนที่เข้ามาใหม่ ให้มาสต๊อกสินค้า" ดังนั้น "การขายออนไลน์ ที่แท้จริง จึง ไม่ได้ทำให้รวยได้ ในชั่วข้ามคืน อย่างที่หลายๆ คนฝันไว้" จำเป็นต้อง "อดทน​ กับ​ การทำสิ่งที่น่าเบื่อ​ ซ้ำๆ​ เดิมๆ​ ได้​ สามารถ​จดจ่อได้อย่างต่อเนื่อง​จริงๆ​" จนวันหนึ่งที่ คุณสามารถฝึกฝน จนมี "ทักษะขาย อย่างซื่อสัตย์" จนเริ่มมี "ลูกค้าประจำ" การ "การทำสิ่งที่น่าเบื่อ​ ซ้ำๆ​ เดิมๆ อย่างซื่อสัตย์" ในการขายออนไลน์ของคุณ จึงจะสามารถทำให้คุณมีกลุ่มลูกค้าประจำ และมีรายได้จนเพียงพอ ที่สามารถรับผิดชอบตนเอง และ ครอบครัวได้ และ หาก คุณยังรักษา "ความซื่อสัตย์" ของคุณต่อไปได้ อาชีพนี้ จะเป็น สัมมาอาชีพ "ที่คุณสามารถทำได้ ตลอดชีวิต" ที่จะช่วยให้คุณ มีความมั่นคงทางการเงิน สามารถรับผิดชอบ ตนเอง และ ครอบครัวของคุณได้ เพราะทุกบาท ทุกสตางค์ ของรายได้ของคุณ มาจาก "การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง" "ไม่ได้ โกหก หลอกลวงใคร" ให้ต้องทุกข์ทรมาน อย่างที่คุณเคยเจอ ------------- **หากคุณ ฝันที่จะมีสัมมาอาชีพเป็นแม่ค้าออนไลน์ ที่แท้จริง และ ต้องการหาบริษัทที่จะมาสนับสนุนความฝันนั้นของคุณ บริษัท ซุปเปอร์ชี คอร์ปอร์เรชัน คือ ระบบที่สามารถสนับสนุนฝันนั้น ของคุณได้** เพราะ ทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่ บริษัท ซุปเปอร์ชี คอร์ปอร์เรชัน เป็น มาตลอด 12 ปี ที่ก่อตั้งบริษัท และ เป็นมากกว่านั้น ตรงที่ "ไม่เคยจ้าง ดารา นางแบบ อินฟลูฯ ที่มีชื่อเสียง มาเป็นพรีเซนเตอร์ สินค้าที่บริษัทฯ จำหน่ายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ! " การให้ข้อมูลเพื่อขายทุกครั้ง คือ การให้ "ปรากฏการณ์จริง ที่เกิดจากการใช้สินค้าจริง ของผู้ใช้" และ "ข้อมูลวิทยาศาสตร์ ของสินค้า" *ตัวแทนขาย ทุกคน ของบริษัทฯ ล้วนมาจากลูกค้าประจำ ที่เป็นผู้ใช้สินค้าจริง* สินค้าของบริษัทฯ ทุกตัว! เป็นสินค้า "มาตรฐานคุณภาพระดับสากล ที่มีลูกค้าประจำใช้ต่อเนื่อง ไม่เคยเปลี่ยนสูตร ไม่เคยรีแบรนด์ ตลอดระยะเวลาที่ขาย" เมื่อตัวแทนปิดการขายได้ ค่อยนำเงินที่ได้จากลูกค้าที่หักส่วนของตัวแทนแล้ว มาจ่ายค่าสินค้าให้กับบริษัทฯ และ บริษัทฯ จะทำการส่งสินค้าไปให้ลูกค้ารายสุดท้าย โดยที่ตัวแทนไม่ต้องสต๊อก จึง สามารถเริ่มได้เลย ไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่ต้องเปิดบิล ไม่ต้องจ่ายเงินให้บริษัทฯก่อนที่จะขายได้ สักบาทเดียว "ไม่ต้องกลัวถูกหลอก ไม่ต้องกลัวสูญเงิน เพราะไม่ต้องจ่ายเงิน" "ใช้เพียง ความซื่อสัตย์ ขยัน อดทน สม่ำเสมอ ในการทำงานขายออนไลน์" บริษัทฯ ไม่เคยเรียกเก็บเงินจากตัวแทนแม้แต่บาทเดียว ไม่เคยบังคับให้ต้องสต๊อกเปิดบิล ไม่เคยให้จ่ายเงินลงทุน ตัวแทนได้ราคาเท่ากันทุกคน ไม่ว่าเข้ามาก่อน หรือ เข้ามาทีหลัง ตลอด 12 ปี ที่ผ่านมา ------------- หากสนใจ เพียงติดต่อรับตัวอย่างสินค้าไปทดลองใช้ โดยจ่ายค่าจัดส่ง 30 บาทเท่านั้น! เรากำหนดค่าจัดส่งเพื่อคัดกรองผู้ที่สนใจจริงๆ ในการทดลองใช้และพิจารณาเข้าร่วมเป็นตัวแทนขาย ไม่ใช่เพียงแค่ต้องการของฟรี ไม่มีการบังคับซื้อ ไม่มีการหลอกมาลงทุน เพราะไม่ใช้เงินแม้แต่บาทเดียว !!
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1791 มุมมอง 0 รีวิว
  • Creative Valuation เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมงานศิลปะคุณภาพสูง ทั้งภาพสต็อก ภาพวาดสีน้ำ และกราฟิกดีไซน์ที่สร้างสรรค์โดยศิลปินจากทั่วทุกมุมโลก โดยเน้นความเป็นเอกลักษณ์และความละเอียดในการสร้างสรรค์ผลงาน การซื้อขายบนแพลตฟอร์มนี้ไม่เพียงแต่ช่วยสนับสนุนศิลปินอิสระ แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อได้รับผลงานที่ไม่ซ้ำใคร เพื่อใช้ในโครงการต่าง ๆ เช่น การออกแบบเว็บไซต์ โฆษณา หรือสื่อสิ่งพิมพ์

    จุดเด่นของ Creative Valuation

    1. ศิลปะที่ไม่เหมือนใคร: แพลตฟอร์มนี้นำเสนอผลงานที่มีความเป็นเอกลักษณ์เกิดจากศิลปินมืออาชีพที่สร้างสรรค์ด้วยมือ ทำให้ผลงานแต่ละชิ้นมีความเป็นธรรมชาติและมีอารมณ์ที่จับต้องได้
    2. คุณภาพสูง: ทุกชิ้นงานบนเว็บไซต์ได้รับการตรวจสอบเพื่อคุณภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นภาพสต็อกหรือภาพวาดสีน้ำ ล้วนผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน
    3. ใช้งานได้หลากหลาย: ผู้ซื้อสามารถใช้ผลงานจาก Creative Valuation ในหลากหลายบริบท ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบดิจิทัล สื่อสิ่งพิมพ์ การโฆษณา หรือการนำเสนอ
    4. สนับสนุนศิลปินอิสระ: ทุกการซื้อขายบนเว็บไซต์นี้ ช่วยสนับสนุนศิลปินอิสระ ให้พวกเขาสามารถสร้างสรรค์ผลงานต่อไปได้ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสให้ศิลปินสามารถแสดงผลงานและขายได้โดยตรง

    วิธีการใช้งาน Creative Valuation

    1. เลือกประเภทของงานศิลปะ: ไม่ว่าคุณจะมองหาภาพสต็อกเพื่อใช้ในการออกแบบเว็บไซต์ หรือภาพวาดสีน้ำที่สวยงามเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับงานพิมพ์ คุณสามารถค้นหางานศิลปะที่เหมาะสมได้จากหมวดหมู่ที่จัดไว้อย่างชัดเจน
    2. สั่งซื้อและดาวน์โหลด: หลังจากเลือกผลงานที่ต้องการแล้ว การสั่งซื้อเป็นเรื่องง่าย คุณสามารถชำระเงินและดาวน์โหลดไฟล์ได้ทันที ซึ่งช่วยให้คุณได้รับผลงานพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
    3. ร่วมเป็นศิลปิน: หากคุณเป็นศิลปินและต้องการมีช่องทางในการเผยแพร่และขายผลงานของคุณ Creative Valuation ยังเปิดโอกาสให้คุณเข้าร่วมและนำเสนอผลงานของคุณบนแพลตฟอร์ม

    แนวทางการส่งเสริมเว็บไซต์ Creative Valuation

    1. สร้างความสัมพันธ์กับชุมชนศิลปิน: การโปรโมต Creative Valuation สามารถเริ่มต้นจากการสร้างเครือข่ายกับศิลปินอิสระผ่านโซเชียลมีเดีย การเชิญชวนให้ศิลปินแชร์ประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ และการเผยแพร่ผลงานที่พวกเขาได้ขายผ่านแพลตฟอร์มนี้ เป็นอีกวิธีหนึ่งในการสร้างความน่าสนใจและความเชื่อมั่น
    2. แคมเปญการตลาดออนไลน์: การใช้โฆษณาผ่านแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook และ Instagram ช่วยเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการงานศิลปะคุณภาพสูง นอกจากนี้ ยังสามารถจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย เช่น ส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนในครั้งแรก
    3. การโปรโมตผ่านผู้ทรงอิทธิพล: การร่วมงานกับ influencers ในวงการศิลปะหรือกราฟิกดีไซน์ สามารถช่วยให้ Creative Valuation ได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น
    4. รีวิวและบทความในบล็อก: การเขียนบทความรีวิวเกี่ยวกับการใช้เว็บไซต์ Creative Valuation รวมถึงการแนะนำผลงานเด่นๆ บนบล็อกหรือเว็บไซต์เกี่ยวกับการออกแบบและศิลปะ จะช่วยให้เว็บเป็นที่รู้จักและสร้างความเชื่อถือให้กับผู้ที่กำลังมองหาแหล่งซื้อขายงานศิลปะออนไลน์

    ประโยชน์สำหรับผู้ซื้อ

    • ความเป็นเอกลักษณ์: ผลงานบน Creative Valuation มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้คุณสามารถใช้ภาพและกราฟิกที่แตกต่างจากแหล่งอื่น ๆ
    • ใช้งานง่าย: เว็บไซต์ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและสะดวกในการค้นหา คุณสามารถหาและดาวน์โหลดงานศิลปะได้อย่างรวดเร็ว
    • ราคาสมเหตุสมผล: Creative Valuation นำเสนอผลงานในราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงงานศิลปะคุณภาพสูงได้ง่ายๆ

    ประโยชน์สำหรับศิลปิน

    • แพลตฟอร์มที่เปิดโอกาส: ศิลปินสามารถใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อเผยแพร่ผลงานของตน และได้รับรายได้จากการขายผลงาน
    • สร้างชื่อเสียง: การที่ผลงานของคุณถูกนำไปใช้ในหลากหลายโครงการจะช่วยให้คุณได้รับการยอมรับและสร้างชื่อเสียงในวงการ
    • ไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงผลงาน: Creative Valuation ให้ศิลปินสามารถลงผลงานได้ฟรี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายล่วงหน้า

    สรุป
    Creative Valuation เป็นแหล่งรวมงานศิลปะคุณภาพที่เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่ต้องการซื้อภาพสต็อกหรือภาพวาดสีน้ำ และศิลปินที่ต้องการแสดงผลงานของตนให้เป็นที่รู้จัก การโปรโมตเว็บไซต์นี้ควรเน้นที่ความเป็นเอกลักษณ์ของผลงาน คุณภาพสูง และโอกาสในการสนับสนุนศิลปินอิสระเพื่อให้ชุมชนศิลปะเติบโตไปด้วยกัน

    เยี่ยมชม Creative Valuation เพื่อค้นพบและเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์ศิลปะใหม่ๆ ที่นี่ https://creativevaluation.com
    Creative Valuation เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมงานศิลปะคุณภาพสูง ทั้งภาพสต็อก ภาพวาดสีน้ำ และกราฟิกดีไซน์ที่สร้างสรรค์โดยศิลปินจากทั่วทุกมุมโลก โดยเน้นความเป็นเอกลักษณ์และความละเอียดในการสร้างสรรค์ผลงาน การซื้อขายบนแพลตฟอร์มนี้ไม่เพียงแต่ช่วยสนับสนุนศิลปินอิสระ แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อได้รับผลงานที่ไม่ซ้ำใคร เพื่อใช้ในโครงการต่าง ๆ เช่น การออกแบบเว็บไซต์ โฆษณา หรือสื่อสิ่งพิมพ์ จุดเด่นของ Creative Valuation 1. ศิลปะที่ไม่เหมือนใคร: แพลตฟอร์มนี้นำเสนอผลงานที่มีความเป็นเอกลักษณ์เกิดจากศิลปินมืออาชีพที่สร้างสรรค์ด้วยมือ ทำให้ผลงานแต่ละชิ้นมีความเป็นธรรมชาติและมีอารมณ์ที่จับต้องได้ 2. คุณภาพสูง: ทุกชิ้นงานบนเว็บไซต์ได้รับการตรวจสอบเพื่อคุณภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นภาพสต็อกหรือภาพวาดสีน้ำ ล้วนผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน 3. ใช้งานได้หลากหลาย: ผู้ซื้อสามารถใช้ผลงานจาก Creative Valuation ในหลากหลายบริบท ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบดิจิทัล สื่อสิ่งพิมพ์ การโฆษณา หรือการนำเสนอ 4. สนับสนุนศิลปินอิสระ: ทุกการซื้อขายบนเว็บไซต์นี้ ช่วยสนับสนุนศิลปินอิสระ ให้พวกเขาสามารถสร้างสรรค์ผลงานต่อไปได้ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสให้ศิลปินสามารถแสดงผลงานและขายได้โดยตรง วิธีการใช้งาน Creative Valuation 1. เลือกประเภทของงานศิลปะ: ไม่ว่าคุณจะมองหาภาพสต็อกเพื่อใช้ในการออกแบบเว็บไซต์ หรือภาพวาดสีน้ำที่สวยงามเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับงานพิมพ์ คุณสามารถค้นหางานศิลปะที่เหมาะสมได้จากหมวดหมู่ที่จัดไว้อย่างชัดเจน 2. สั่งซื้อและดาวน์โหลด: หลังจากเลือกผลงานที่ต้องการแล้ว การสั่งซื้อเป็นเรื่องง่าย คุณสามารถชำระเงินและดาวน์โหลดไฟล์ได้ทันที ซึ่งช่วยให้คุณได้รับผลงานพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว 3. ร่วมเป็นศิลปิน: หากคุณเป็นศิลปินและต้องการมีช่องทางในการเผยแพร่และขายผลงานของคุณ Creative Valuation ยังเปิดโอกาสให้คุณเข้าร่วมและนำเสนอผลงานของคุณบนแพลตฟอร์ม แนวทางการส่งเสริมเว็บไซต์ Creative Valuation 1. สร้างความสัมพันธ์กับชุมชนศิลปิน: การโปรโมต Creative Valuation สามารถเริ่มต้นจากการสร้างเครือข่ายกับศิลปินอิสระผ่านโซเชียลมีเดีย การเชิญชวนให้ศิลปินแชร์ประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ และการเผยแพร่ผลงานที่พวกเขาได้ขายผ่านแพลตฟอร์มนี้ เป็นอีกวิธีหนึ่งในการสร้างความน่าสนใจและความเชื่อมั่น 2. แคมเปญการตลาดออนไลน์: การใช้โฆษณาผ่านแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook และ Instagram ช่วยเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการงานศิลปะคุณภาพสูง นอกจากนี้ ยังสามารถจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย เช่น ส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนในครั้งแรก 3. การโปรโมตผ่านผู้ทรงอิทธิพล: การร่วมงานกับ influencers ในวงการศิลปะหรือกราฟิกดีไซน์ สามารถช่วยให้ Creative Valuation ได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น 4. รีวิวและบทความในบล็อก: การเขียนบทความรีวิวเกี่ยวกับการใช้เว็บไซต์ Creative Valuation รวมถึงการแนะนำผลงานเด่นๆ บนบล็อกหรือเว็บไซต์เกี่ยวกับการออกแบบและศิลปะ จะช่วยให้เว็บเป็นที่รู้จักและสร้างความเชื่อถือให้กับผู้ที่กำลังมองหาแหล่งซื้อขายงานศิลปะออนไลน์ ประโยชน์สำหรับผู้ซื้อ • ความเป็นเอกลักษณ์: ผลงานบน Creative Valuation มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้คุณสามารถใช้ภาพและกราฟิกที่แตกต่างจากแหล่งอื่น ๆ • ใช้งานง่าย: เว็บไซต์ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและสะดวกในการค้นหา คุณสามารถหาและดาวน์โหลดงานศิลปะได้อย่างรวดเร็ว • ราคาสมเหตุสมผล: Creative Valuation นำเสนอผลงานในราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงงานศิลปะคุณภาพสูงได้ง่ายๆ ประโยชน์สำหรับศิลปิน • แพลตฟอร์มที่เปิดโอกาส: ศิลปินสามารถใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อเผยแพร่ผลงานของตน และได้รับรายได้จากการขายผลงาน • สร้างชื่อเสียง: การที่ผลงานของคุณถูกนำไปใช้ในหลากหลายโครงการจะช่วยให้คุณได้รับการยอมรับและสร้างชื่อเสียงในวงการ • ไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงผลงาน: Creative Valuation ให้ศิลปินสามารถลงผลงานได้ฟรี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายล่วงหน้า สรุป Creative Valuation เป็นแหล่งรวมงานศิลปะคุณภาพที่เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่ต้องการซื้อภาพสต็อกหรือภาพวาดสีน้ำ และศิลปินที่ต้องการแสดงผลงานของตนให้เป็นที่รู้จัก การโปรโมตเว็บไซต์นี้ควรเน้นที่ความเป็นเอกลักษณ์ของผลงาน คุณภาพสูง และโอกาสในการสนับสนุนศิลปินอิสระเพื่อให้ชุมชนศิลปะเติบโตไปด้วยกัน เยี่ยมชม Creative Valuation เพื่อค้นพบและเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์ศิลปะใหม่ๆ ที่นี่ https://creativevaluation.com
    CREATIVEVALUATION.COM
    Human Artistry : Handcrafted Imagery , Authentic Watercolor creations & Stock Photos .
    Discover a curated collection of genuine human-made art. Explore handcrafted imagery, authentic watercolor paintings, and unique photography-every piece created by talented artists, not AI. Perfect for those who value true artistic craftsmanship.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 977 มุมมอง 0 รีวิว