• "เข้าสู่ฤดูฝน เรายังเคียงข้างประชาชน พร้อมช่วยเหลือในทุกโอกาส"
    .
    กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 8 จัดกำลังพล พร้อมยานพาหนะ ยุทโธปกรณ์ ลงพื้นที่ อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ในการติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่เอ่อล้นตลิ่งลำน้ำเชิญไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในหลายหมู่บ้าน
    .
    มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่
    •ตำบลวังสวาบ: บ้านหนองแห้ว ม.3, บ้านวังมน ม.4, บ้านเขาวง ม.5, บ้านโนนเตาเหล็ก ม.10
    •ตำบลนาฝาย: บ้านสะแกเครือ ม.1, บ้านสองคอน ม.3, บ้านนาท่าลี่ ม.4, บ้านนาฝายเหนือ ม.5
    •ตำบลโนนคอม: บ้านเซินเหนือ ม.2, บ้านเซินใต้ ม.3
    .
    โดยประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ทางน้ำได้รับผลกระทบจากน้ำหลากไหลเข้าท่วมบ้านเรือน หน่วยจึงได้เร่งให้การช่วยเหลือโดยการกรอกกระสอบทรายเพื่อจัดทำแนวป้องกันน้ำ ยกสิ่งของขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมความพร้อมในการเข้าช่วยเหลือเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด
    .
    #กองพลทหารราบที่3
    #กองทัพภาคที่2
    #กองทัพบกRoyalThaiArmy
    "เข้าสู่ฤดูฝน เรายังเคียงข้างประชาชน พร้อมช่วยเหลือในทุกโอกาส" . กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 8 จัดกำลังพล พร้อมยานพาหนะ ยุทโธปกรณ์ ลงพื้นที่ อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ในการติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่เอ่อล้นตลิ่งลำน้ำเชิญไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในหลายหมู่บ้าน . มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ •ตำบลวังสวาบ: บ้านหนองแห้ว ม.3, บ้านวังมน ม.4, บ้านเขาวง ม.5, บ้านโนนเตาเหล็ก ม.10 •ตำบลนาฝาย: บ้านสะแกเครือ ม.1, บ้านสองคอน ม.3, บ้านนาท่าลี่ ม.4, บ้านนาฝายเหนือ ม.5 •ตำบลโนนคอม: บ้านเซินเหนือ ม.2, บ้านเซินใต้ ม.3 . โดยประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ทางน้ำได้รับผลกระทบจากน้ำหลากไหลเข้าท่วมบ้านเรือน หน่วยจึงได้เร่งให้การช่วยเหลือโดยการกรอกกระสอบทรายเพื่อจัดทำแนวป้องกันน้ำ ยกสิ่งของขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมความพร้อมในการเข้าช่วยเหลือเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด . #กองพลทหารราบที่3 #กองทัพภาคที่2 #กองทัพบกRoyalThaiArmy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตู่น้องพี่ที่กล้าหาญ
    ‘สนธิ’รับ ‘จตุพร’เป็นศิษย์น้อง แสวงจุดร่วม ‘ทักษิณ’เลว

    ////////////////////

    วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ร่วมกับนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, นายทนง ขันทอง, นายนพรัตน์ พรวนสุข, นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประพันธุ์ และนายคูณมี จัดเวที “ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 2/2568” ขณะที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตหัวหน้าศูนย์นโยบายและวิชาการของพรรคพลังประชารัฐ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมรับฟังด้วย
    โดยนายจตุพร เข้าสวมกอดนายสนธิ และกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนเชื่อว่าตลอดระยะเวลา 20 ปีมานี้ ภาพที่ท่านทั้งหลายได้เห็นขณะนี้ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะคำว่าทวงความถูกต้องให้กับคนไทยเป็นหัวใจหลักนำพาให้ตนมาพบกับนายสนธิ ลิ้มทองกูล ในวันนี้ ซึ่งนายสนธิได้ชวนตนในขณะที่พบกันที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมือประมาณ 7 ปีที่แล้ว ว่าเราจะได้มีโอกาสถ้อยแถลงพร้อมกัน โดยผ่านมา 7 ปีเพิ่งประสบความสำเร็จในวันนี้ และก่อนหน้านี้ 5 วัน เหมือนของนายสนธิแรงเหลือเกิน เพราะตนติดโควิด-19 แต่ได้กินยาฟ้าทะลายโจรของนายปานเทพ จึงทำให้สภาพร่างกายพร้อม
    อย่างไรก็ตามวันนี้คงไม่มีอะไรสำคัญมากกว่าประเทศไทย ที่ผ่านมาตนจะอย่างไรทุกอย่างเป็นเรื่องเล็ก ส่วนเรื่องใหญ่ของบ้านเมืองในวันนี้คือจะนำพาให้ประเทศไทยเดินทางในทิศทางที่ถูกต้อง และพลิกฟื้นประเทศชาติขึ้นมาได้อย่างไร ตนผ่านมาหลายเหตุการณ์ มารู้ตัวอีกทีก็อายุ 60 ปี แต่ทันทีที่ตนประกาศรบกับนายทักษิณ ทุกคนก็กลับมาญาติดีกับตนเหมือนเดิม ทั้งนี้วันที่นายทักษิณ กลับมาประเทศไทยและยื่นถวายฎีกา ยอมรับว่ากระทำความผิดตามคำพิพากษา มองว่าไม่ใช่ผลพวงการยึดอำนาจหรือตุลาการภิวัฒน์ แต่เขายอมรับว่าทุจริตจริง ไม่ว่าระบอบการเมืองใดทุจริตคือทุจริต โกงก็คือโกง ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการหรือประชาธิปไตย
    และขณะนี้มีการตั้งคำถามว่านายทักษิณ จะหนีหรือไม่ หรือมีการหนีออกนอกประเทศไปแล้วหรือยัง ซึ่งตนไม่อยากให้หนีอยากให้ได้ซึมซับบรรยากาศอย่างที่ตนและนายสนธิ ได้ซึมซับในเรือนจำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีคนไทยคนไหนได้รับโอกาสเหมือนนายทักษิณอีกแล้ว และเขาไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว และหากเขายอมรับตามที่ได้เขียนถวายฎีกา คนก็ไม่ต้องมาลุ้นว่าจะหนีหรือไม่ และหัวใจหลักที่คนออกมาต่อสู้กับนายทักษิณ คือการปฎิบัติ 2 มาตรฐานและอภิสิทธิ์ชน ซึ่งนายทักษิณได้ทำครบทุกข้อ ที่ผ่านมาเราได้เห็นความเป็นทักษิณ ผู้สนับสนุนได้หูตาสว่างมากขึ้น เพราะการกระทำทั้งหมดเป็นการทำลายตัวเองอย่างย่อยยับไม่มีใครไปทำอะไรเขา ตอนอยู่ต่างประเทศกระแสนิยมสูง เพราะเห็นว่าไม่ได้รับความยุติธรรม แต่เมื่อกลับมาประเทศไทยตั้งแต่ 22 สิงหาคม 66 จนถึงวันนี้ คนไทยได้เห็นความเป็นตัวตนของนายทักษิณครบถ้วน สิ่งที่เสียไปคือการได้รัฐบาลแบบนี้ และเราได้เห็นการเปลือยตัวอย่างล่อนจ้อนของนายทักษิณ และเชื่อว่าหาคนไปตายแทบจะไม่เห็นในเวลาต่อมา

    ดังนั้นจึงควรมาเริ่มต้นความถูกต้องให้เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ เราต้องยอมรับความจริงว่าบ้านเมืองเดินมาถึงจุดเสียหายครบทุกด้าน เลยคำว่าปฏิรูป อาจถึงขั้นการปฏิวัติและล้างบางกันใหม่ โดยยึดแนวทางสร้างสถาบันหลักของชาติและประชาชนให้แข็งแรง เพราะแต่ละขบวนการเราหาสิ่งที่ถูกต้องไม่เจอ กล่าวอ้างประชาธิปไตยเพียงแค่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งก่อนหน้านั้นมีการซื้อเสียงตั้งแต่ระดับผู้ใหญ่บ้านแต่กลับอธิบายว่าเป็นประชาธิปไตย
    นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ตนมีโอกาสอยู่ท้องถนนและเข้าสู่สภาฯ บ้าง ซึ่งเทียบแล้วอยู่บนถนนมีความสุขมากกว่ารัฐสภา วันนี้เป็นตัวของตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง จึงต้องกล้าคิดว่าหนทางบ้านเมืองต่อไปนี้จะช่วยอะไรได้บ้าง ตนรู้ว่าพี่น้องสู้กันมานาน ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ เช่น 14 ตุลา 6 ตุลา และสงครามที่เกี่ยวกับนายทักษิณมา 20 ปี ล้วนยังไม่มีที่สิ้นสุดแต่ประเทศกลับแย่ ทั้งนี้หากสู้เพื่อสลับอำนาจให้กับนักการเมืองหรือผู้อื่น ก่อนเข้าสู่อำนาจรับปากหมด แต่เมื่อเป็นผู้มีอำนาจระหว่างเดินทางจากบ้านไปทำเนียบกลับทำสมองหล่นกลางทาง เราเจอผู้ปกครองลักษณะนี้มาโดยบ้านเมืองจึงแก้ไขไม่ได้

    ทั้งนี้ตนกับทนายนกเขา จัดรายการมา 2 ปี เพื่ออธิบายว่าหากประชาชนไม่สามัคคีกันเราไม่มีทางเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ได้รวมถึงถ้าประชาชนถูกปลุกปั่นให้ทะเลาะกัน วันนี้เป็นโอกาสดีที่สุดที่นายทักษิณกลับมาประเทศไทย และทำให้แต่ละฝ่ายสามัคคีกันโดยไม่ได้นัดหมาย เรื่องราวของบ้านเมืองจากนี้ไปภาคประชาชนต้องให้กำลังใจกัน เราเจอการบริหารประเทศแบ่งแยกและปกครอง รัฐบาลทั้งโลกและประเทศไทยล้วนแต่ชั่วทั้งสิ้น วิธีจัดการรัฐบาลนี้คือประชาชนต้องสามัคคีเท่านั้น
    อย่างไรก็ตามหลังวันที่ 13 มิถุนายน 2568 นี้บ้านเมืองนี้คงเจริญและรวดเร็วขึ้นทุกกระบวนการ เพราะผลนั้นจะเป็นน้ำมันหล่อลื่น เรื่องที่หนืดในกกต. ผู้ตรวจการแผ่นดินหรือ ป.ป.ช. จะมีความรวดเร็วมากขึ้น เพราะทุกขบวนการทำหน้าที่จะเริ่มต้นในการคิดใหม่ แต่ถ้าทุกคนรอคนใหม่มาทำหน้าที่จะทำให้บ้านเมืองจะย่อยยับ ตนมองว่าบ้านเมืองจะเปลี่ยนแต่ปัญหาคือจะเปลี่ยนไปเป็นแบบเดิมได้หรือไม่ ขออย่าหนีจิ้งจกมาเจอตุ๊กแก

    อย่างไรก็ตามตลอด 2 ปีที่ผ่านมา กับสองนายกรัฐมนตรีมีอะไรที่ดีขึ้นบ้าง และนโยบายที่หาเสียงสามารถทำได้จริงหรือไม่ ทั้งลดค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าไฟฟ้าทันที ไฟฟ้า 20 บาททุกสาย รวมถึงแจกเงินหมื่นผ่สนดิจิทัลวอลเล็ต ตอนนี้กลับทำไม่ได้ ความจริงที่กล้าลวง เพราะคิดว่าประชาชนประเทศนี้อะไรก็ได้ วันนี้ถึงเวลาของประชาชนที่เห็นบ้านเมืองไม่ถูกต้อง ผิดทำนองคลองธรรม ประเทศนี้เป็นของเรา ต้องมีสิทธิ์กำหนดอนาคต ไม่ใช่ให้นายทักษิณคิดคนเดียว แต่ประชาชนสามารถคิดในแผ่นดินนี้ได้เหมือนกัน และสุดท้ายเวลาที่ต้องการความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจมาถึงแล้ว วันนี้ตนและทนายนกเขาพร้อมร่วมมือกับนายสนธิ เรื่องชาติบ้านเมือง เพื่อร่วมเปลี่ยนประเทศไทยไปด้วยกัน
    ตู่น้องพี่ที่กล้าหาญ ‘สนธิ’รับ ‘จตุพร’เป็นศิษย์น้อง แสวงจุดร่วม ‘ทักษิณ’เลว //////////////////// วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ร่วมกับนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, นายทนง ขันทอง, นายนพรัตน์ พรวนสุข, นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประพันธุ์ และนายคูณมี จัดเวที “ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 2/2568” ขณะที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตหัวหน้าศูนย์นโยบายและวิชาการของพรรคพลังประชารัฐ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมรับฟังด้วย โดยนายจตุพร เข้าสวมกอดนายสนธิ และกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนเชื่อว่าตลอดระยะเวลา 20 ปีมานี้ ภาพที่ท่านทั้งหลายได้เห็นขณะนี้ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะคำว่าทวงความถูกต้องให้กับคนไทยเป็นหัวใจหลักนำพาให้ตนมาพบกับนายสนธิ ลิ้มทองกูล ในวันนี้ ซึ่งนายสนธิได้ชวนตนในขณะที่พบกันที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมือประมาณ 7 ปีที่แล้ว ว่าเราจะได้มีโอกาสถ้อยแถลงพร้อมกัน โดยผ่านมา 7 ปีเพิ่งประสบความสำเร็จในวันนี้ และก่อนหน้านี้ 5 วัน เหมือนของนายสนธิแรงเหลือเกิน เพราะตนติดโควิด-19 แต่ได้กินยาฟ้าทะลายโจรของนายปานเทพ จึงทำให้สภาพร่างกายพร้อม อย่างไรก็ตามวันนี้คงไม่มีอะไรสำคัญมากกว่าประเทศไทย ที่ผ่านมาตนจะอย่างไรทุกอย่างเป็นเรื่องเล็ก ส่วนเรื่องใหญ่ของบ้านเมืองในวันนี้คือจะนำพาให้ประเทศไทยเดินทางในทิศทางที่ถูกต้อง และพลิกฟื้นประเทศชาติขึ้นมาได้อย่างไร ตนผ่านมาหลายเหตุการณ์ มารู้ตัวอีกทีก็อายุ 60 ปี แต่ทันทีที่ตนประกาศรบกับนายทักษิณ ทุกคนก็กลับมาญาติดีกับตนเหมือนเดิม ทั้งนี้วันที่นายทักษิณ กลับมาประเทศไทยและยื่นถวายฎีกา ยอมรับว่ากระทำความผิดตามคำพิพากษา มองว่าไม่ใช่ผลพวงการยึดอำนาจหรือตุลาการภิวัฒน์ แต่เขายอมรับว่าทุจริตจริง ไม่ว่าระบอบการเมืองใดทุจริตคือทุจริต โกงก็คือโกง ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการหรือประชาธิปไตย และขณะนี้มีการตั้งคำถามว่านายทักษิณ จะหนีหรือไม่ หรือมีการหนีออกนอกประเทศไปแล้วหรือยัง ซึ่งตนไม่อยากให้หนีอยากให้ได้ซึมซับบรรยากาศอย่างที่ตนและนายสนธิ ได้ซึมซับในเรือนจำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีคนไทยคนไหนได้รับโอกาสเหมือนนายทักษิณอีกแล้ว และเขาไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว และหากเขายอมรับตามที่ได้เขียนถวายฎีกา คนก็ไม่ต้องมาลุ้นว่าจะหนีหรือไม่ และหัวใจหลักที่คนออกมาต่อสู้กับนายทักษิณ คือการปฎิบัติ 2 มาตรฐานและอภิสิทธิ์ชน ซึ่งนายทักษิณได้ทำครบทุกข้อ ที่ผ่านมาเราได้เห็นความเป็นทักษิณ ผู้สนับสนุนได้หูตาสว่างมากขึ้น เพราะการกระทำทั้งหมดเป็นการทำลายตัวเองอย่างย่อยยับไม่มีใครไปทำอะไรเขา ตอนอยู่ต่างประเทศกระแสนิยมสูง เพราะเห็นว่าไม่ได้รับความยุติธรรม แต่เมื่อกลับมาประเทศไทยตั้งแต่ 22 สิงหาคม 66 จนถึงวันนี้ คนไทยได้เห็นความเป็นตัวตนของนายทักษิณครบถ้วน สิ่งที่เสียไปคือการได้รัฐบาลแบบนี้ และเราได้เห็นการเปลือยตัวอย่างล่อนจ้อนของนายทักษิณ และเชื่อว่าหาคนไปตายแทบจะไม่เห็นในเวลาต่อมา ดังนั้นจึงควรมาเริ่มต้นความถูกต้องให้เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ เราต้องยอมรับความจริงว่าบ้านเมืองเดินมาถึงจุดเสียหายครบทุกด้าน เลยคำว่าปฏิรูป อาจถึงขั้นการปฏิวัติและล้างบางกันใหม่ โดยยึดแนวทางสร้างสถาบันหลักของชาติและประชาชนให้แข็งแรง เพราะแต่ละขบวนการเราหาสิ่งที่ถูกต้องไม่เจอ กล่าวอ้างประชาธิปไตยเพียงแค่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งก่อนหน้านั้นมีการซื้อเสียงตั้งแต่ระดับผู้ใหญ่บ้านแต่กลับอธิบายว่าเป็นประชาธิปไตย นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ตนมีโอกาสอยู่ท้องถนนและเข้าสู่สภาฯ บ้าง ซึ่งเทียบแล้วอยู่บนถนนมีความสุขมากกว่ารัฐสภา วันนี้เป็นตัวของตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง จึงต้องกล้าคิดว่าหนทางบ้านเมืองต่อไปนี้จะช่วยอะไรได้บ้าง ตนรู้ว่าพี่น้องสู้กันมานาน ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ เช่น 14 ตุลา 6 ตุลา และสงครามที่เกี่ยวกับนายทักษิณมา 20 ปี ล้วนยังไม่มีที่สิ้นสุดแต่ประเทศกลับแย่ ทั้งนี้หากสู้เพื่อสลับอำนาจให้กับนักการเมืองหรือผู้อื่น ก่อนเข้าสู่อำนาจรับปากหมด แต่เมื่อเป็นผู้มีอำนาจระหว่างเดินทางจากบ้านไปทำเนียบกลับทำสมองหล่นกลางทาง เราเจอผู้ปกครองลักษณะนี้มาโดยบ้านเมืองจึงแก้ไขไม่ได้ ทั้งนี้ตนกับทนายนกเขา จัดรายการมา 2 ปี เพื่ออธิบายว่าหากประชาชนไม่สามัคคีกันเราไม่มีทางเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ได้รวมถึงถ้าประชาชนถูกปลุกปั่นให้ทะเลาะกัน วันนี้เป็นโอกาสดีที่สุดที่นายทักษิณกลับมาประเทศไทย และทำให้แต่ละฝ่ายสามัคคีกันโดยไม่ได้นัดหมาย เรื่องราวของบ้านเมืองจากนี้ไปภาคประชาชนต้องให้กำลังใจกัน เราเจอการบริหารประเทศแบ่งแยกและปกครอง รัฐบาลทั้งโลกและประเทศไทยล้วนแต่ชั่วทั้งสิ้น วิธีจัดการรัฐบาลนี้คือประชาชนต้องสามัคคีเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังวันที่ 13 มิถุนายน 2568 นี้บ้านเมืองนี้คงเจริญและรวดเร็วขึ้นทุกกระบวนการ เพราะผลนั้นจะเป็นน้ำมันหล่อลื่น เรื่องที่หนืดในกกต. ผู้ตรวจการแผ่นดินหรือ ป.ป.ช. จะมีความรวดเร็วมากขึ้น เพราะทุกขบวนการทำหน้าที่จะเริ่มต้นในการคิดใหม่ แต่ถ้าทุกคนรอคนใหม่มาทำหน้าที่จะทำให้บ้านเมืองจะย่อยยับ ตนมองว่าบ้านเมืองจะเปลี่ยนแต่ปัญหาคือจะเปลี่ยนไปเป็นแบบเดิมได้หรือไม่ ขออย่าหนีจิ้งจกมาเจอตุ๊กแก อย่างไรก็ตามตลอด 2 ปีที่ผ่านมา กับสองนายกรัฐมนตรีมีอะไรที่ดีขึ้นบ้าง และนโยบายที่หาเสียงสามารถทำได้จริงหรือไม่ ทั้งลดค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าไฟฟ้าทันที ไฟฟ้า 20 บาททุกสาย รวมถึงแจกเงินหมื่นผ่สนดิจิทัลวอลเล็ต ตอนนี้กลับทำไม่ได้ ความจริงที่กล้าลวง เพราะคิดว่าประชาชนประเทศนี้อะไรก็ได้ วันนี้ถึงเวลาของประชาชนที่เห็นบ้านเมืองไม่ถูกต้อง ผิดทำนองคลองธรรม ประเทศนี้เป็นของเรา ต้องมีสิทธิ์กำหนดอนาคต ไม่ใช่ให้นายทักษิณคิดคนเดียว แต่ประชาชนสามารถคิดในแผ่นดินนี้ได้เหมือนกัน และสุดท้ายเวลาที่ต้องการความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจมาถึงแล้ว วันนี้ตนและทนายนกเขาพร้อมร่วมมือกับนายสนธิ เรื่องชาติบ้านเมือง เพื่อร่วมเปลี่ยนประเทศไทยไปด้วยกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ยอมรับว่าเบื่อหน่ายทัังระบบข้าราชการพลเรือนและข้าราชการแบบส่วนท้องถิ่นมา อบต.อบท.อบจ.เหี้ยหมด ตลอดผู้ใหญ่บ้านก็ด้วย ซื้อเสียงหมด พรรคการเมืองระดับชาติคุมหมด,กำนันผีบ้าก็ไม่เลือกตั้งตรงอีก,สมบัติชาติ ทรัพยากรระดับท้องถิ่นใครมันสมควรไปสร้างประโยชน์สาธารณะระดับประเทศแบบบ่อน้ำมันในพื้นที่ อบต.อบท.อบจ.อำเภอ จังหวัดนั้นๆอะไรจะไม่เห็นจริงได้ไง,นำพาประชาชนเรียกร้องห้ามเปืดสัมปทานยกให้ต่างชาติสิ,เอาสื่อหลักมาตีแผ่ความจริงก็ไม่ทำ ทั้งผู้ว่า นายอำเภอนั้นๆ ปิดปากเงียบร่วมกับอบต.อบท.อบจ.นัันๆอีก,ไม่รวมบ่อทองคำด้วย,ถ้าค่ายบางระจันมีจริง แต่ละอบต.อบท.อบจ.นายอำเภอผู้ว่านั้นๆต้องเปิดค่ายบางระจันรบเลย เต็มตรึมทั่วบนแผ่นดิน สร้างกองทัพมวลชนปลุกคนไทยพื้นที่อื่นๆมารู้จะมากมายขนาดไหน,นี้คือวิถีปกครองที่ผิดพลาดและล้มเหลว,ชาติไทยดำรงมั่นคงดักดานในความยากจนเกินพอแล้วจริงๆ ร.5เราคือตัวอย่างที่ดีชัดเจน จนต่างชาติหวาดกลัวในภูมิภาคนี้ เกินหน้าชาติใดๆก็ว่า เกาหลีใต้ยังขี้เล็บเราเลยสมัยนั้น.,ฝรั่งมันกลัวเราจึงตัดขาเราทุกๆรูปแบบ.จึงฝรั่งได้มุกสำเร็จในยุคกบฎคณะ2475 ประชุมกองโจรกบฎก็ทำที่ชาติฝรั่งมันอำนวยสถานที่ทัังประสานงานและก่อการอำนวยสร้าง,
    ..แม้ข้ามเดือนนี้ไปก็ไม่ต้องการข้าม ถีบๆลงไปเถอะทั้งหมดพวกหนักแผ่นดินไทย.,ทุบทิ้งกลางเดือนนี้ยิ่งดี.

    https://youtube.com/shorts/NLiCRW-2iG4?si=9YNOkJvL7sfljW3Y
    ..ยอมรับว่าเบื่อหน่ายทัังระบบข้าราชการพลเรือนและข้าราชการแบบส่วนท้องถิ่นมา อบต.อบท.อบจ.เหี้ยหมด ตลอดผู้ใหญ่บ้านก็ด้วย ซื้อเสียงหมด พรรคการเมืองระดับชาติคุมหมด,กำนันผีบ้าก็ไม่เลือกตั้งตรงอีก,สมบัติชาติ ทรัพยากรระดับท้องถิ่นใครมันสมควรไปสร้างประโยชน์สาธารณะระดับประเทศแบบบ่อน้ำมันในพื้นที่ อบต.อบท.อบจ.อำเภอ จังหวัดนั้นๆอะไรจะไม่เห็นจริงได้ไง,นำพาประชาชนเรียกร้องห้ามเปืดสัมปทานยกให้ต่างชาติสิ,เอาสื่อหลักมาตีแผ่ความจริงก็ไม่ทำ ทั้งผู้ว่า นายอำเภอนั้นๆ ปิดปากเงียบร่วมกับอบต.อบท.อบจ.นัันๆอีก,ไม่รวมบ่อทองคำด้วย,ถ้าค่ายบางระจันมีจริง แต่ละอบต.อบท.อบจ.นายอำเภอผู้ว่านั้นๆต้องเปิดค่ายบางระจันรบเลย เต็มตรึมทั่วบนแผ่นดิน สร้างกองทัพมวลชนปลุกคนไทยพื้นที่อื่นๆมารู้จะมากมายขนาดไหน,นี้คือวิถีปกครองที่ผิดพลาดและล้มเหลว,ชาติไทยดำรงมั่นคงดักดานในความยากจนเกินพอแล้วจริงๆ ร.5เราคือตัวอย่างที่ดีชัดเจน จนต่างชาติหวาดกลัวในภูมิภาคนี้ เกินหน้าชาติใดๆก็ว่า เกาหลีใต้ยังขี้เล็บเราเลยสมัยนั้น.,ฝรั่งมันกลัวเราจึงตัดขาเราทุกๆรูปแบบ.จึงฝรั่งได้มุกสำเร็จในยุคกบฎคณะ2475 ประชุมกองโจรกบฎก็ทำที่ชาติฝรั่งมันอำนวยสถานที่ทัังประสานงานและก่อการอำนวยสร้าง, ..แม้ข้ามเดือนนี้ไปก็ไม่ต้องการข้าม ถีบๆลงไปเถอะทั้งหมดพวกหนักแผ่นดินไทย.,ทุบทิ้งกลางเดือนนี้ยิ่งดี. https://youtube.com/shorts/NLiCRW-2iG4?si=9YNOkJvL7sfljW3Y
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ 14 พ.ค. 2568 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมาย ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา สนง.ปภ จังหวัดนครราชสีมา , อำเภอเมืองนครราชสีมา , องค์การบริหารส่วนตำบลจอหอ เทศบาลตำบลตลาด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายสถานีรถไฟบ้านเกาะ และเจ้าหน้าที่นายตรวจทางรถไฟ ลงพื้นที่ตรวจสอบอุโมงค์ทางลอดรถไฟ บริเวณบ้านหนองกะดังงา ตำบลจอหอ อำเภอเมืองนครราชสีมา กรณีน้ำท่วมขังจากฝนที่ตกหนัก เนื่องจากถูกขโมยตัดสายไฟที่ต่อไปยังเครื่องสูบน้ำ
    จากการตรวจสอบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการแก้ไขในระยะเร่งด่วน ดังนี้
    1. การรถไฟ ได้ต่อสายไฟเข้ากับเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากอุโมงค์ คาดว่าในช่วงบ่ายจะสามารถระบายน้ำออกได้แล้วเสร็จ
    2. องค์การบริหารส่วนตำบลจอหอ และเทศบาลตำบลตลาด จะได้นำรถไถ และรถบรรทุกน้ำ เข้าล้างทำความสะอาดอุโมงค์
    3. การรถไฟ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ขโมยสายไฟ กับสถานีตำรวจภูธรจอหอ เพื่อสืบหาผู้กระทำความผิด
    4. อำเภอเมืองนครราชสีมา ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรจอหอ ออกตรวจร้านขายของเก่าในพื้นที่ และแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ออกตรวจพื้นที่ เพื่อป้องกันการลักขโมยสายไฟ
    ระยะยาว นายตรวจทางรถไฟ ได้ของบประมาณจากการรถไฟ เพื่อวางสายไฟใต้ดินเชื่อมกับเครื่องสูบน้ำ และติดตั้งกล้องวงจรปิด ในบริเวณดังกล่าว
    วันนี้ 14 พ.ค. 2568 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมาย ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา สนง.ปภ จังหวัดนครราชสีมา , อำเภอเมืองนครราชสีมา , องค์การบริหารส่วนตำบลจอหอ เทศบาลตำบลตลาด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายสถานีรถไฟบ้านเกาะ และเจ้าหน้าที่นายตรวจทางรถไฟ ลงพื้นที่ตรวจสอบอุโมงค์ทางลอดรถไฟ บริเวณบ้านหนองกะดังงา ตำบลจอหอ อำเภอเมืองนครราชสีมา กรณีน้ำท่วมขังจากฝนที่ตกหนัก เนื่องจากถูกขโมยตัดสายไฟที่ต่อไปยังเครื่องสูบน้ำ จากการตรวจสอบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการแก้ไขในระยะเร่งด่วน ดังนี้ 1. การรถไฟ ได้ต่อสายไฟเข้ากับเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากอุโมงค์ คาดว่าในช่วงบ่ายจะสามารถระบายน้ำออกได้แล้วเสร็จ 2. องค์การบริหารส่วนตำบลจอหอ และเทศบาลตำบลตลาด จะได้นำรถไถ และรถบรรทุกน้ำ เข้าล้างทำความสะอาดอุโมงค์ 3. การรถไฟ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ขโมยสายไฟ กับสถานีตำรวจภูธรจอหอ เพื่อสืบหาผู้กระทำความผิด 4. อำเภอเมืองนครราชสีมา ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรจอหอ ออกตรวจร้านขายของเก่าในพื้นที่ และแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ออกตรวจพื้นที่ เพื่อป้องกันการลักขโมยสายไฟ ระยะยาว นายตรวจทางรถไฟ ได้ของบประมาณจากการรถไฟ เพื่อวางสายไฟใต้ดินเชื่อมกับเครื่องสูบน้ำ และติดตั้งกล้องวงจรปิด ในบริเวณดังกล่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เอาจริงๆนะ ว่าตามยุคโควิดนี้ก็ว่า อสม.เสมือนคนที่ตายแล้วจริงๆ,เพียงรอเวลาวัคซีนที่ฉีดๆเข้าไปออกฤทธิ์แค่นั้น, หรือกราฟีนในวัคซีนลดอายุขัย อสม.นั้นเอง ,อสม.น่าสงสารมาก คือเหยื่อด่านหน้าจริงๆ ลูกหลานครอบครัวเขาจะขาดที่พึ่งทันที จะอสม.คนไหนก็ตาม สมัยก่อนใครอยากเป็นอสม.ก็อาสาเข้ามาหรือยกมือขออาสาเป็นเอง แม้ส่วนใหญ่คือเส้นสายคณะกรรมหมู่บ้านสายสัมพันธ์คนในชุมชน คนของใคร ทีมผู้ใหญ่นั้นๆคนไหน ยุคผู้ใหญ่บ้านของใครมันก็ด้วย,555คือเส้นทั้งนั้นเช่นกัน ดักดานยึดครองอสม.จนรากงอกก็ว่า,นี้คือความจริงอีกด้าน,นอกจากความจริงว่า ต้องตายแน่นอนร่วมกับแพทย์หมอพยาบาลทหารตำรวจที่ไม่รู้เรื่องหรือคนของระบบราชการด่านหน้าในหลายๆคน,แก่สมุนรับใช้อีลิทรอดหมดในไทย มุกว่ามีใบอนุญาตฉีกแล้วสามารถหลอกได้ตรึมล่ะบวกเข็มปลอมๆฉีดปลอมๆก็มีตรึมในคลิปต่างประเทศ พวกนี้จึงไม่เป็นห่าอะไร ไม่น้ำเกลือๆแร่หรือเข็มบำรุงแทนไปด้วยโน้น ในไทยมีมุกพิศดารนี้ตรึมล่ะ,
    ..สงสารจริงคือไทบ้าน ชาวบ้านตาดำ เสลอไปอยากเป็นอสม.ด้วยหลงถูกหลอกลวงโดยฝ่ายมืดมันวางหมากจัดตั้งอสม.นี้เตรียมกาลไว้แล้วหลายปีก่อนลงมือใช้งานจริงหลอกชาวบ้านด้วยกันให้เชื่อถืออสม.ได้ เพราะก็คนไทบ้านเราเหมือนกันพะนะ จึงพากันถูกฉีดถึงบ้านอย่างสบายใจตายทั้งหมู่บ้าน 608ตุยก่อนคือเป้าหมายแรกพะนะ,
    ..ประชาชนไม่ฟ้องศาลก็ไม่ได้ตังเพราะคนพวกนี้โวยวายได้แค่ในหมู่บ้าน ไม่มีปัญญาเอาผิดทางพยานหลักฐานการตายทางกฎหมายถึงศาลฟ้องพวกอีลิทไม่ได้,ไทบ้านๆแค่นั้นก็ว่า,ตายเงียบตรึม อาจปลอบใจหน่อยคืออสม.ให้ตังหลังตายแก่คนข้างหลังบ้างเพราะรับใช้ทำงานช่วยลดประชากรได้ตามเป้าดี.

    ..ประชาชนเสือกไม่ได้อะไรเลย ตายก็ตายเปล่า
    ..อสม.ก็น่าสงสารแต่น้อยกว่าประชาชนแน่นอน ไม่ยุติธรรมต่อประชาชนตาดำๆเลย,ถ้าพิจารณาคนได้รับผลกระทบบาดเจ็บ&อักเสบหรืออนาถที่สุดคือตายจากผลของวัคซีนโควิดที่ฉีดๆกันไป อาทิ ลิ่มเลือดอุดตัน หัวใจอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบถึงวายตาย วูบตาย มะเร็งสาระพัดแห่งที่จะเป็นตามอวัยวะต่างๆ,และกว่าก่อโรค1,291โรคเอาแต่ภูมิnkcellภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติจะลดลงให้โรคต่างๆโจมตีแทนได้,
    ..แม้เห็นใจ อสม.แต่ภาคประชาชนสมควรได้รับการชดเชยและเปิดเผยความจริงถึงวัคซีนโควิดที่รับไปแล้วจริงๆจากภาครัฐบาลประกาศอย่างเป็นทางการบอกความจริงนั้นๆ,มิใช่ให้สิทธิ อสม.ฝ่ายเดียวแบบนี้ หากพิจารณาถึงกรณีไม่รอดแน่นอนจากการรับวัคซีนของอสม.ก็ตามแต่บิดเบือนช่วยเหลือในหัวข้ออื่นสร้างเรื่องอ้างบริบทอื่นชดเชยค่าสาระพัดแบบในคลิปนี้ลิ้งก์นี้.
    ..จริงๆพรบ.อสม.ไม่สมควรมีหรอก ยกเลิกเถอะ ยุบไปก็ได้,เป็นรุ่นสุดท้าย จ่ายชดเชยตอนมีชีวิตอยู่นี้ล่ะ หากเสียชีวิตไป,ตามรายชื่อที่ปรากฏในทะเบียนอสม.แม้พ้นหน้าที่แล้วแต่หลังในวันนี้,ล็อกรายชื่ออสม.ทั้งยุคโควิดจนถึงปัจจุบันที่ไม่รวมการรับสมัครใหม่ล่าสุดของปีนี้นะ, หากใครเสียชีวิตรับเงินชดเชยทันทีตามเงื่อนไขและค่าทำศพอะไรใดๆก็ว่าไป,แล้วยุบอสม.ทั้งประเทศไปเลย,จะตั้งอะไรใหม่ ชื่อใหม่ใดๆอีกครั้งเพื่อวัตถุประสงค์ใดตรงจุดเป้าหมายจริงๆชัดเจนก็จึงค่อยตั้งขึ้นมาใหม่มีระบบระเบียบวิธีการคัดกรองคัดเลือกชัดเจน มีใช่ใช้เส้นสายอิทธิพล&เดอะแก๊งใดๆประจำชุมชนหมู่บ้านเส้นใครมันคนกูคนมรึงเลือกยึดครองกันเองก็ว่า มันเลอะเทอะพอแล้ว ซื้อซีซื้อตำแหน่งเข้าทำงานใดๆใน อบต.อบท.อบจ.ในอดีตถึงปัจจุบันก็อนาถแล้ว,อนาคตใช้ตังดิจิดัลควอนตัมเลยมั้ย,แมร่งใต้โต๊ะซื้อตำแหน่งฮั่วประมูล เงินมืดเงินเถื่อนใดๆมีหนาวแน่นอน,หรือตังซื้อเสียงซื้อให้กาคะแนนก็สามารถตรวจสอบย้อนหลังถึงต้นทางกันเลยก็ได้ ท่านเอาไปอะไรแล,หรือท่านๆไทบ้านประชาชนมีตังเข้าบัญชีควอนตัมบัตรประชาชนนี้แต่ใดมานะ,ซวยทั้งคนแจกทั้งคนรับแบบเรียลไทม์เลย,บางครัังเมื่อไม่ชอบอิสระเสรีมีคุณค่าความเป็นคนสำนึกดีในคุณค่ามนุษย์ก็ต้องใช้ระบบจัดการจริงๆ.,เราไม่สามารถทำคนทุกๆคนเป็นคนดีได้ แต่เราไม่สามารถละทิ้งคนดีให้โดดเดี่ยวได้เช่นกัน.
    https://youtube.com/watch?v=Srl39JNss-c&si=JzM_9Q2aVmx7oQwI
    ..เอาจริงๆนะ ว่าตามยุคโควิดนี้ก็ว่า อสม.เสมือนคนที่ตายแล้วจริงๆ,เพียงรอเวลาวัคซีนที่ฉีดๆเข้าไปออกฤทธิ์แค่นั้น, หรือกราฟีนในวัคซีนลดอายุขัย อสม.นั้นเอง ,อสม.น่าสงสารมาก คือเหยื่อด่านหน้าจริงๆ ลูกหลานครอบครัวเขาจะขาดที่พึ่งทันที จะอสม.คนไหนก็ตาม สมัยก่อนใครอยากเป็นอสม.ก็อาสาเข้ามาหรือยกมือขออาสาเป็นเอง แม้ส่วนใหญ่คือเส้นสายคณะกรรมหมู่บ้านสายสัมพันธ์คนในชุมชน คนของใคร ทีมผู้ใหญ่นั้นๆคนไหน ยุคผู้ใหญ่บ้านของใครมันก็ด้วย,555คือเส้นทั้งนั้นเช่นกัน ดักดานยึดครองอสม.จนรากงอกก็ว่า,นี้คือความจริงอีกด้าน,นอกจากความจริงว่า ต้องตายแน่นอนร่วมกับแพทย์หมอพยาบาลทหารตำรวจที่ไม่รู้เรื่องหรือคนของระบบราชการด่านหน้าในหลายๆคน,แก่สมุนรับใช้อีลิทรอดหมดในไทย มุกว่ามีใบอนุญาตฉีกแล้วสามารถหลอกได้ตรึมล่ะบวกเข็มปลอมๆฉีดปลอมๆก็มีตรึมในคลิปต่างประเทศ พวกนี้จึงไม่เป็นห่าอะไร ไม่น้ำเกลือๆแร่หรือเข็มบำรุงแทนไปด้วยโน้น ในไทยมีมุกพิศดารนี้ตรึมล่ะ, ..สงสารจริงคือไทบ้าน ชาวบ้านตาดำ เสลอไปอยากเป็นอสม.ด้วยหลงถูกหลอกลวงโดยฝ่ายมืดมันวางหมากจัดตั้งอสม.นี้เตรียมกาลไว้แล้วหลายปีก่อนลงมือใช้งานจริงหลอกชาวบ้านด้วยกันให้เชื่อถืออสม.ได้ เพราะก็คนไทบ้านเราเหมือนกันพะนะ จึงพากันถูกฉีดถึงบ้านอย่างสบายใจตายทั้งหมู่บ้าน 608ตุยก่อนคือเป้าหมายแรกพะนะ, ..ประชาชนไม่ฟ้องศาลก็ไม่ได้ตังเพราะคนพวกนี้โวยวายได้แค่ในหมู่บ้าน ไม่มีปัญญาเอาผิดทางพยานหลักฐานการตายทางกฎหมายถึงศาลฟ้องพวกอีลิทไม่ได้,ไทบ้านๆแค่นั้นก็ว่า,ตายเงียบตรึม อาจปลอบใจหน่อยคืออสม.ให้ตังหลังตายแก่คนข้างหลังบ้างเพราะรับใช้ทำงานช่วยลดประชากรได้ตามเป้าดี. ..ประชาชนเสือกไม่ได้อะไรเลย ตายก็ตายเปล่า ..อสม.ก็น่าสงสารแต่น้อยกว่าประชาชนแน่นอน ไม่ยุติธรรมต่อประชาชนตาดำๆเลย,ถ้าพิจารณาคนได้รับผลกระทบบาดเจ็บ&อักเสบหรืออนาถที่สุดคือตายจากผลของวัคซีนโควิดที่ฉีดๆกันไป อาทิ ลิ่มเลือดอุดตัน หัวใจอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบถึงวายตาย วูบตาย มะเร็งสาระพัดแห่งที่จะเป็นตามอวัยวะต่างๆ,และกว่าก่อโรค1,291โรคเอาแต่ภูมิnkcellภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติจะลดลงให้โรคต่างๆโจมตีแทนได้, ..แม้เห็นใจ อสม.แต่ภาคประชาชนสมควรได้รับการชดเชยและเปิดเผยความจริงถึงวัคซีนโควิดที่รับไปแล้วจริงๆจากภาครัฐบาลประกาศอย่างเป็นทางการบอกความจริงนั้นๆ,มิใช่ให้สิทธิ อสม.ฝ่ายเดียวแบบนี้ หากพิจารณาถึงกรณีไม่รอดแน่นอนจากการรับวัคซีนของอสม.ก็ตามแต่บิดเบือนช่วยเหลือในหัวข้ออื่นสร้างเรื่องอ้างบริบทอื่นชดเชยค่าสาระพัดแบบในคลิปนี้ลิ้งก์นี้. ..จริงๆพรบ.อสม.ไม่สมควรมีหรอก ยกเลิกเถอะ ยุบไปก็ได้,เป็นรุ่นสุดท้าย จ่ายชดเชยตอนมีชีวิตอยู่นี้ล่ะ หากเสียชีวิตไป,ตามรายชื่อที่ปรากฏในทะเบียนอสม.แม้พ้นหน้าที่แล้วแต่หลังในวันนี้,ล็อกรายชื่ออสม.ทั้งยุคโควิดจนถึงปัจจุบันที่ไม่รวมการรับสมัครใหม่ล่าสุดของปีนี้นะ, หากใครเสียชีวิตรับเงินชดเชยทันทีตามเงื่อนไขและค่าทำศพอะไรใดๆก็ว่าไป,แล้วยุบอสม.ทั้งประเทศไปเลย,จะตั้งอะไรใหม่ ชื่อใหม่ใดๆอีกครั้งเพื่อวัตถุประสงค์ใดตรงจุดเป้าหมายจริงๆชัดเจนก็จึงค่อยตั้งขึ้นมาใหม่มีระบบระเบียบวิธีการคัดกรองคัดเลือกชัดเจน มีใช่ใช้เส้นสายอิทธิพล&เดอะแก๊งใดๆประจำชุมชนหมู่บ้านเส้นใครมันคนกูคนมรึงเลือกยึดครองกันเองก็ว่า มันเลอะเทอะพอแล้ว ซื้อซีซื้อตำแหน่งเข้าทำงานใดๆใน อบต.อบท.อบจ.ในอดีตถึงปัจจุบันก็อนาถแล้ว,อนาคตใช้ตังดิจิดัลควอนตัมเลยมั้ย,แมร่งใต้โต๊ะซื้อตำแหน่งฮั่วประมูล เงินมืดเงินเถื่อนใดๆมีหนาวแน่นอน,หรือตังซื้อเสียงซื้อให้กาคะแนนก็สามารถตรวจสอบย้อนหลังถึงต้นทางกันเลยก็ได้ ท่านเอาไปอะไรแล,หรือท่านๆไทบ้านประชาชนมีตังเข้าบัญชีควอนตัมบัตรประชาชนนี้แต่ใดมานะ,ซวยทั้งคนแจกทั้งคนรับแบบเรียลไทม์เลย,บางครัังเมื่อไม่ชอบอิสระเสรีมีคุณค่าความเป็นคนสำนึกดีในคุณค่ามนุษย์ก็ต้องใช้ระบบจัดการจริงๆ.,เราไม่สามารถทำคนทุกๆคนเป็นคนดีได้ แต่เราไม่สามารถละทิ้งคนดีให้โดดเดี่ยวได้เช่นกัน. https://youtube.com/watch?v=Srl39JNss-c&si=JzM_9Q2aVmx7oQwI
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 443 มุมมอง 0 รีวิว
  • 03-05-68/01 : หมี CNN / "FRIDAY JASON" ศุกร์ สยิวกิ้ว! EP17

    วันศุกร์เสือกไปโพส 3 แยกปากหมาก่อน วันอาทิตย์เลยต้องสลับ FRIDAY JASON มาแทน จะได้ลงตัว เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง?

    E-DOK มรึงยังมีหน้าเรียกตัวเองว่า "แพทย์ศาลา" อีกเหรอ คนทั้งแผ่นดินรู้ว่าสตอรี่ชั้น 14 มันคือเรืองโกหกตอแหล ควายยังไม่กล้าแถขนาดนี้เลย? เพิ่งจะมาฟันเหี้ยอะไรตอนนี้ เชือดเหี้ยให้เหี้ยดูแค่ 2 ตัว คิดว่าจะรอดเหรอ? สังคมเค้าลงดาบมรึงไปเรียบร้อยโรงเรียนหมาวัดนานแล้ว หมอสมัยนี้ อย่าได้ถามจรรยาบรรณ ไม่ใช่ทั้งหมดจะเหี้ย แต่ส่วนใหญ่หาแดร๊กทั้งนั้น ไม่ต่างอะไรกับโรงเชือด ตั้งแต่อีโรงพยาบาลทุนนิยมเหี้ยสามานย์เข้ามา มันให้คอมมิชั่น เอ๊ะอะ อะไร ก็จับเอ๊กซ์เรย์ ฟันนำร่องก่อนเสมอ ไม่ใช่ทุกคนจะมีตังค์น่ะมรึง 30 บาท ประกันสังคม ยังต้องรอคิวยาวเป็นหางว่าว แค่เปรดนรกตัวเดียว มรึงกล้าเอาแพทย์ศาลามาเสี่ยง มันคุ้มเหรอ ที่จะอุ้มเหี้ยไม่กี่ตัว? รับงาน รับเงินใครเค้ามา หรือว่าแม้แต่เก้าอี้ผู้นำศาลามรึง เค้าก็ให้มรึงมาสิน่ะ? คอรัปชั่นตัวเดียว ฉิบหายทั้งแผ่นดิน! จีนถึงได้กวาดล้าง และได้ขอมายังวังไทยด้วยเช่นกัน ถึงเวลาทำความสะอาดบ้านแล้วท่าน!

    อเมริกันแพ้ยับแล้ว เยเมนประกาศชัยชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทะเลแดง บินรบ โดรนพันล้าน ร่วงนับ 100 ลำ เรือบรรทุกเครื่องบินพังยับเข้าอู่ซ่อม 5 ลำ ลำที่ 6 เพิ่งจะมา ยังโดนสอย ถามจริง แล้วไอ้ที่มรึงขนกันมาทั้งยุโรป จะบุกแปซิฟิคเนี่ย มรึงรู้จัก "ตงเฟิง" ดีแค่ไหน ลูกเดียว จมเรือบรรทุกเครื่องบินทั้งลำสบายตรีน $6000 ล้านเหรียญ แลกกับ $350000 คุ้มมั้ยล่ะ? ยังไม่นับชีวิตลูกเรือบนเรืออีกนับพันตัว อีทรัมปป์เริ่มกังวลหนัก หมดงบประมาณทางทหารไปเยอะ แล้วกูจะหาเงินที่ไหนมาเติมกันล่ะ? ความโง่ไม่เคยปราณีใคร? หากไม่ยุ่ง ไม่แตะสงคราม มรึงยังจะเหลือเงินเอาไปอุ้มปากท้องประชาชนได้มากกว่านี้ แต่ที่ไม่ทำ เพราะมรึงต้องการให้มันลงถนนไงล่ะ? แต่แผนจะล่มก่อนน่ะสิ เพราะตอนนี้ อีพรรคลามันรุกมรึงหนักเหลือเกิน ทั้งเอาสภามาขู่ ทั้งเอากฎหมายมาอ้าง พ่วงม็อบเติมเงินลงถนนขับไล่อีทรัมปป์ทั้งแผ่นดิน อ้าว..ไหง อ้างปชต. แต่เสือกจะรัฐประหารซะเอง นี่ไง ธาตุแท้ ตัวจริงมรึง?

    F-16 รุ่นคุณปู่ เก่าเก็บ อีทรัมปป์ยกให้อีเสี้ยนยา นี่ไง เหตุผลที่ปูตินไม่เชื่อแผนสันติภาพเหี้ยมาตั้งแต่ต้น ใครเชื่อก็โง่ยิ่งกว่าควาย แค่ยื้อเวลา หยุดเลือดไหล แข่งอะไรก็แข่งได้ แต่แข่งบุญ วาสนา อย่าริมาเทียบ ยูเครนมันตายห่าไปนานแล้ว แต่ที่รัสเซียยังสนุปเล่นอยู่ ก็เพื่อสิ่งนี้แหละ ให้พวกมรึงถมอาวุธ เงิน กำลังพล มาตายห่าฟรี เพื่อที่มรึงจะได้ไม่มีเหลือ ยามที่กูบุกไปตีท้ายครัว เจาะไข่แดงมรึงถึงเมืองหลวงไงล่ะ? อียูเครน มันหมูในอวยอยู่แล้ว คามือปูตินนานแล้ว ส่งมาอีก กูก็เผาเรียบวุธอีก บางสื่ออ้าง ผลาญอาวุธเก่าเพื่อหาซื้อของใหม่ ถามกลับ มรึงผลิตทันเหรอ แค่วันนี้ ขั้วใหม่บุกยุโรป อเมริกา มรึงจะเอาเหี้ยอะไรไปต้านเค้า นุ๊กมรึงทั้งเก่า ทั้งช้า แถมมีจำกัด ติดบ่วงสงครามซะเอง จนโง่หัวไม่ขึ้น ส่งผลอะไรรู้มั้ย? ดอลล่าร์ตาย อาวุธขายไม่ออก เรือสินค้าเดินไม่ได้ นี่มันโลจิสติค เส้นเลือดใหญ่มรึงน่ะเนี่ย?

    กยศ.เละเทะ หาแดร๊กกับเยาวชนไทย การศึกษาที่ลูกหลานไทยควรได้โอกาส ไม่ใช่กู้มาเพื่อล่มจม อนาคตชาติยังต้องจ่ายเยอะ มรึงคิดว่าต่อไปเด็กจะเริ่มตั้งต้นได้ยังไง? เริ่มจากหนี้หัวบานตะไท ลุงสนธิ อัดยับ ไอ้อีผู้ใหญ่ที่บ่อนทำลายอนาคตชาติตัวเอง หลายกระทรวงที่ทำลายรากฐานเยาวชนไทย เพราะเหี้ยมันชุม ทั้งหมด ต่างเห็นเต็มตา แต่ยังไม่มีใครเข้าไปล้างบางทั้งระบบได้ ถึงได้บอกว่า งานนี้ มันต้องล้างป่าช้า ยกโคตรระบบหาแดร๊กทั้งหมด คนเดียวที่ทำได้คือวัง และสิ่งเดียวที่มันจะทำให้เกิดขึ้นจริงได้คือ "มวลมหาประชาชน นั่นเอง" เหี้ยผู้ใหญ่บ้านเมืองนี้ ที่มาจากลากตั้ง มันคิดแต่จะหาแดร๊กกับเด็ก เพราะไร้ปัญญาจะต่อกร ให้แดร๊กนมบูดก็แดร๊กไปสิ ให้ใช้แทปเล็ตเสื่อม ก็ใช้ไปตามภาษาสิจ๊ะ อย่าเรียกร้อง ให้ในสิ่งที่ไม่ได้ขอ ยัดเหยียดในสิ่งที่กูไม่อยากได้ (ใจเด็กมันด่าไงล่ะ) ทุนเรียน อาหาร สำคัญกว่าเยอะ ทำไม ไม่ให้ฟรี ดีออก? เพราะมันแดร๊กได้น้อยสิน่ะ?

    กระสันอยากจะขายชาติแดร๊กกันจังน่ะมรึง? บทกลียุค เขาชงให้เหี้ยสุดซอย อีภูมิเหี้ย จะสั่งถอยกองกำลังออกจากปราสาทตาเมืองธม แต่ทหารไม่ฟังจ๊ะ แผ่นดินพ่อกู ใครสั่งให้มรึงบุกรุก มีเหรอ ผู้รุกรานจะย่ำยีอธิปไตยไทย แต่เราเสือกถอย อ้างกลัวมีปัญหา ต้องให้เค้าเข้ายึดก่อนรึไง? เรื่องนี้ไม่ต้องหัวร้อน บอกไปแล้วไงล่ะว่า ทหารเค้าไม่ได้ฟังไอ้อีฝ่ายการเมืองต็อกต๋อยดอกน่ะ เค้าปฎิบัติหน้าที่กันเอง ตามสัญชาตญานนักรบ มีหน้าที่เฝ้าแผ่นดิน ก็ต้องเฝ้าอยู่อย่างงั้น จะให้กูไปไหนกันล่ะ? ทหารอีขะแมร์แค่ขี้ตรีน ที่มันกร่างขนาดนี้ เพราะอีเหลี่ยมไปชงให้อีฮุนเซนเหี้ย เข้ามาตีกินพื้นที่แนวกันชนไทย ทหารเค้ารู้หมด หน่วยข่าวกรองเค้าถึงกันหมด แต่ขอโทษน่ะ หากไทยจะเอาจริง แค่วันเดียว บุกถล่มถึงพนมเปญยังได้ ฉะนั้น ไอ้เรื่องเสียดินแดนอย่าได้หวัง แม้แต่ปราสาทเขาพระวิหารที่อ้างว่าเสียดินแดนไปให้แล้วน่ะ ถึงเวลาจริง ไทยผนวกอีขะแมร์เข้ามาเป็นส่วนนึงของสยามประเทศ มรึงยังจะคิดถึงปราสาทเขาวิหารอีกมั้ยล่ะ? ไม่ใช่แค่ไม่เสีย แต่กำลังจะได้แดร๊ก ได้กลืนแม่งทั้งประเทศ รอดูต่อไป คิวอีฮุนเซนมาถึงแล้ว จีนไม่เก็บไว้แล้วจ๊ะ อสรพิษ ไม่เลี้ยง!

    ต้องเหี้ยให้สุด ต้องระยำได้ใจ ถึงจะเรียกส้นตรีนทั้งโลกได้ เหี้ยยิวมันสั่งมา หลังอีเนรคุณทันยา สั่งถล่มเรือบรรเทาทุกข์ที่เข้ามาเพื่อช่วยเขตฉนวนกาซ่าตามมติมนุษยชนของสหประชาชาติ จมเรือช่วยเหลือนอกชายฝั่งยุโรป เพื่อให้โลกหันส้นตรีนมากระตืบมันไงล่ะ แล้วมันก็จะเรียกขี้ข้าเข้ามาสู้ตายแทน WWIII จุดไม่ติด เพราะสถานการณ์มันยังเดือดไม่สุด ไม่ถล่มด้วยนุ๊กก่อน อย่าหวังไฟจะติด ทั้งหมด แค่ละครเรียกเรตติ้ง หลังอียิวโดนเคราะห์กรรมหนัก ทั้งไฟป่า โดรนถล่ม ระเบิดกระจาย หัวเมืองมหญ่พินาศสิ้น อียิวทะยอยหนีไปอาเซียนกันหมดแล้ว ยุโรปก็เตรียมถูกเผา อเมริกาก็เต็มไปด้วยโจร เหลือแค่เอเซียที่มั่นคง ปลอดภัย เข้ามาเยอะ ก็มีตัวประกันเยอะ อย่าได้กลัว ไอ้อีหน้าไหนที่อยู่ในแผ่นดินทอง เข้าง่าย แต่ออกยาก หากถูกกาหัวจ๊ะ เพราะศรีธนญชัย จะเก็บเอาไว้ต่อรองไงล่ะ ส่งตัวดีมั้ย ส่งเชลยกลับไปให้คู่กรณียังได้ อยู่ที่เจ้าบ้าน ก็ใครให้มรึงหนีมาสยามเมืองยิ้มกันล่ะ? กับดักโลกดีดีนี่เอง ใครอยากได้ตัวการ ใครอยากได้เหี้ยหนีคดี มรึงไม่ต้องไปตามหาที่ไหน มันมาอยู่รวมกันที่นี่แล้ว เหยื่ออันโอชะ!

    ปล.อียิวเละเป็นโจ๊ก คาร์บอม-กราดยิง-ไฟป่า-พายุทราย ไหนจะโดนฮามาสตามล่อรายตัว ขยี้รายวัน ทำไมมันช่างตรงกันข้ามกับสื่อขี้ข้ายิวรายงานจังฟ่ะ? ทหารอิสราเอลตายห่าไปเยอะ ไม่เหลือกองกำลังไปรับมือไฟป่า แล้วยังเสี้ยนก่อสงครามต่อ มันสมควรโดนล้างเผ่าพันธุ์มั้ยล่ะ? ฟ้าดินยังสะอิดสะเอียด อียิวพันธุ์สัดนรก อะไรน่ะ อยู่ปายเหรอ? ไม่รอดดอกจ๊ะ ไอ้ที่เดินไปมารอบตัวมรึง ก็สายอิหร่านทั้งนั้น เค้าเตรียมล่อมรึงอยู่ อีมอดสาด อย่าคิดว่าหน่วยข่าวกรองเค้าไม่รู้ ว่ามรึงหนีเข้ามาไทยทำไม? เค้าตั้งใจปล่อยให้มรึงเดินแผนเพื่อที่จะรู้สิ่งที่มรึงกำลังจะทำไงล่ะ? ขับไล่ออกไปไม่ยากดอก กฎหมายไทยมันค้ำหัวอยู่ หมายศาลออก ไม่หนีก็คุกไงจ๊ะ? ระวัง โรคมาตรา 157 กำลังจะมาระบาดหนัก ในหมู่เหี้ยจัญไรแผ่นดินอีกครั้ง งวดนี้ ไม่สำคัญว่าใครโดน แต่ให้ระวัง เพราะคนเชือด รับคำสั่งตรงจากเบื้องบนมา ให้พิสูจน์จนเป็นที่ประจักษ์ชัด อะไรถูกว่าไปตามถูก อะไรผิดจริง ว่ากันไปตามจริง ใครอุ้ม ซวยยกแผง ใครขวาง ตายยกคอก? มรึงดู DSI ก็พอ ไปแดร๊กเหี้ยอะไรมา? 100 วัน 1000 ปี มีเหรอ จะกล้าท้าชนปทุมวันซึ่งหน้า ยามขาลง วาสนาก็เบาบาง ยิ่งทำแต่เหี้ย จะเหลือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรคุ้มครองมรึงได้อีกล่ะ แสงเข้ามาแล้ว ซาตานก็ต้องเผ่นไปตามระเบียบ หนีไม่ทันก็คุก หัวไม่ไวก็ตาย ก็มีเพียงเท่านี้แหละ! อย่าไปโฟกัสที่อีเหลี่ยมมาก มันแค่หางแถว ระดับโลก ให้ดูปูติน สีจิ้นผิง ว่าจะเดินเกมส์โลกต่อยังไง นั่นแหละ อนาคตใหม่โลก เกมส์โลกไม่จบ อาเซียนก็ไม่มีวันจบ มันคือคีย์เดียวกัน ฮับอาเซียนไม่ใช่ใครจะเป็นก็ได้ อีฮุนเซนชะตาขาด เพราะคิดเทียบบารมีวังไทย คำสาปแช่งอยู่เต็มแผ่นดินอีขะแมร์ กว่าจะมีวันนี้ได้ มรึงฆ่าชาวขะแมร์ไปกี่ล้านศพแล้ว เวรกรรมมันมีจริง มรึงมองไม่เห็นดอก เพราะกรรมมันบังตามรึงอยู่ไง?

    หมี CNN(อีแขก อีปากี ล่อกันซะที อย่ามัวแต่วิ่งอ้อมภูเขา 3 ลูก งานนี้ อีปากี หากไม่ปล่อยตัวอิมราน ข่าน จีนจะไม่ยุ่ง รอดูศพกระจายจ๊ะ อีแขก อยากจะเขมือบหอกข้างแคร่ในใจมาช้านานแล้ว แต่อย่าบีบจนหมาจนตรอก แขก็คือแขก มันมีวิธีเอาตัวรอดเสมอ จบสวย ไม่สวย คนละเรื่อง แต่เวลาแขกทะเลาะกัน คุยซะมากกว่าทำจริง ไม่เหมือนอิหร่าน ซีเรีย อิรัก เลบานอน เยเมน ทำก่อนแล้วค่อยพูด ความแตกต่างที่ดูเหมือนใกล้เคียง แต่ใจมันผิดกันเยอะ อีแขก กับอาหรับ เปอร์เซีย ลูกหลานซาลาดิน จ้าวแห่งทะเลทราย หัวใจนับรบมีมานานนับ 1000 ปี ไม่ใช่ดีแต่เห่า จีนรออยู่ ใครบอบช้ำมา เดี๋ยวจีนช่วยยกระดับให้กลายเป็นเมืองขึ้นใหม่ดีมั้ย? อีแขก ยังไม่ใช่คู่แข่งจีนตอนนี้ หากมรึงยังไม่สามารถรวมใจคนทั้งชาติได้ อย่าหวังคิดเป็นเบอร์ 1 โลก ตีกันให้จบก่อน คุมกันให้อยู่ก่อน ค่อยมาเห่าน่ะจ๊ะ)
    03 พฤษภาคม 68
    19.05 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    03-05-68/01 : หมี CNN / "FRIDAY JASON" ศุกร์ สยิวกิ้ว! EP17 วันศุกร์เสือกไปโพส 3 แยกปากหมาก่อน วันอาทิตย์เลยต้องสลับ FRIDAY JASON มาแทน จะได้ลงตัว เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง? E-DOK มรึงยังมีหน้าเรียกตัวเองว่า "แพทย์ศาลา" อีกเหรอ คนทั้งแผ่นดินรู้ว่าสตอรี่ชั้น 14 มันคือเรืองโกหกตอแหล ควายยังไม่กล้าแถขนาดนี้เลย? เพิ่งจะมาฟันเหี้ยอะไรตอนนี้ เชือดเหี้ยให้เหี้ยดูแค่ 2 ตัว คิดว่าจะรอดเหรอ? สังคมเค้าลงดาบมรึงไปเรียบร้อยโรงเรียนหมาวัดนานแล้ว หมอสมัยนี้ อย่าได้ถามจรรยาบรรณ ไม่ใช่ทั้งหมดจะเหี้ย แต่ส่วนใหญ่หาแดร๊กทั้งนั้น ไม่ต่างอะไรกับโรงเชือด ตั้งแต่อีโรงพยาบาลทุนนิยมเหี้ยสามานย์เข้ามา มันให้คอมมิชั่น เอ๊ะอะ อะไร ก็จับเอ๊กซ์เรย์ ฟันนำร่องก่อนเสมอ ไม่ใช่ทุกคนจะมีตังค์น่ะมรึง 30 บาท ประกันสังคม ยังต้องรอคิวยาวเป็นหางว่าว แค่เปรดนรกตัวเดียว มรึงกล้าเอาแพทย์ศาลามาเสี่ยง มันคุ้มเหรอ ที่จะอุ้มเหี้ยไม่กี่ตัว? รับงาน รับเงินใครเค้ามา หรือว่าแม้แต่เก้าอี้ผู้นำศาลามรึง เค้าก็ให้มรึงมาสิน่ะ? คอรัปชั่นตัวเดียว ฉิบหายทั้งแผ่นดิน! จีนถึงได้กวาดล้าง และได้ขอมายังวังไทยด้วยเช่นกัน ถึงเวลาทำความสะอาดบ้านแล้วท่าน! อเมริกันแพ้ยับแล้ว เยเมนประกาศชัยชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทะเลแดง บินรบ โดรนพันล้าน ร่วงนับ 100 ลำ เรือบรรทุกเครื่องบินพังยับเข้าอู่ซ่อม 5 ลำ ลำที่ 6 เพิ่งจะมา ยังโดนสอย ถามจริง แล้วไอ้ที่มรึงขนกันมาทั้งยุโรป จะบุกแปซิฟิคเนี่ย มรึงรู้จัก "ตงเฟิง" ดีแค่ไหน ลูกเดียว จมเรือบรรทุกเครื่องบินทั้งลำสบายตรีน $6000 ล้านเหรียญ แลกกับ $350000 คุ้มมั้ยล่ะ? ยังไม่นับชีวิตลูกเรือบนเรืออีกนับพันตัว อีทรัมปป์เริ่มกังวลหนัก หมดงบประมาณทางทหารไปเยอะ แล้วกูจะหาเงินที่ไหนมาเติมกันล่ะ? ความโง่ไม่เคยปราณีใคร? หากไม่ยุ่ง ไม่แตะสงคราม มรึงยังจะเหลือเงินเอาไปอุ้มปากท้องประชาชนได้มากกว่านี้ แต่ที่ไม่ทำ เพราะมรึงต้องการให้มันลงถนนไงล่ะ? แต่แผนจะล่มก่อนน่ะสิ เพราะตอนนี้ อีพรรคลามันรุกมรึงหนักเหลือเกิน ทั้งเอาสภามาขู่ ทั้งเอากฎหมายมาอ้าง พ่วงม็อบเติมเงินลงถนนขับไล่อีทรัมปป์ทั้งแผ่นดิน อ้าว..ไหง อ้างปชต. แต่เสือกจะรัฐประหารซะเอง นี่ไง ธาตุแท้ ตัวจริงมรึง? F-16 รุ่นคุณปู่ เก่าเก็บ อีทรัมปป์ยกให้อีเสี้ยนยา นี่ไง เหตุผลที่ปูตินไม่เชื่อแผนสันติภาพเหี้ยมาตั้งแต่ต้น ใครเชื่อก็โง่ยิ่งกว่าควาย แค่ยื้อเวลา หยุดเลือดไหล แข่งอะไรก็แข่งได้ แต่แข่งบุญ วาสนา อย่าริมาเทียบ ยูเครนมันตายห่าไปนานแล้ว แต่ที่รัสเซียยังสนุปเล่นอยู่ ก็เพื่อสิ่งนี้แหละ ให้พวกมรึงถมอาวุธ เงิน กำลังพล มาตายห่าฟรี เพื่อที่มรึงจะได้ไม่มีเหลือ ยามที่กูบุกไปตีท้ายครัว เจาะไข่แดงมรึงถึงเมืองหลวงไงล่ะ? อียูเครน มันหมูในอวยอยู่แล้ว คามือปูตินนานแล้ว ส่งมาอีก กูก็เผาเรียบวุธอีก บางสื่ออ้าง ผลาญอาวุธเก่าเพื่อหาซื้อของใหม่ ถามกลับ มรึงผลิตทันเหรอ แค่วันนี้ ขั้วใหม่บุกยุโรป อเมริกา มรึงจะเอาเหี้ยอะไรไปต้านเค้า นุ๊กมรึงทั้งเก่า ทั้งช้า แถมมีจำกัด ติดบ่วงสงครามซะเอง จนโง่หัวไม่ขึ้น ส่งผลอะไรรู้มั้ย? ดอลล่าร์ตาย อาวุธขายไม่ออก เรือสินค้าเดินไม่ได้ นี่มันโลจิสติค เส้นเลือดใหญ่มรึงน่ะเนี่ย? กยศ.เละเทะ หาแดร๊กกับเยาวชนไทย การศึกษาที่ลูกหลานไทยควรได้โอกาส ไม่ใช่กู้มาเพื่อล่มจม อนาคตชาติยังต้องจ่ายเยอะ มรึงคิดว่าต่อไปเด็กจะเริ่มตั้งต้นได้ยังไง? เริ่มจากหนี้หัวบานตะไท ลุงสนธิ อัดยับ ไอ้อีผู้ใหญ่ที่บ่อนทำลายอนาคตชาติตัวเอง หลายกระทรวงที่ทำลายรากฐานเยาวชนไทย เพราะเหี้ยมันชุม ทั้งหมด ต่างเห็นเต็มตา แต่ยังไม่มีใครเข้าไปล้างบางทั้งระบบได้ ถึงได้บอกว่า งานนี้ มันต้องล้างป่าช้า ยกโคตรระบบหาแดร๊กทั้งหมด คนเดียวที่ทำได้คือวัง และสิ่งเดียวที่มันจะทำให้เกิดขึ้นจริงได้คือ "มวลมหาประชาชน นั่นเอง" เหี้ยผู้ใหญ่บ้านเมืองนี้ ที่มาจากลากตั้ง มันคิดแต่จะหาแดร๊กกับเด็ก เพราะไร้ปัญญาจะต่อกร ให้แดร๊กนมบูดก็แดร๊กไปสิ ให้ใช้แทปเล็ตเสื่อม ก็ใช้ไปตามภาษาสิจ๊ะ อย่าเรียกร้อง ให้ในสิ่งที่ไม่ได้ขอ ยัดเหยียดในสิ่งที่กูไม่อยากได้ (ใจเด็กมันด่าไงล่ะ) ทุนเรียน อาหาร สำคัญกว่าเยอะ ทำไม ไม่ให้ฟรี ดีออก? เพราะมันแดร๊กได้น้อยสิน่ะ? กระสันอยากจะขายชาติแดร๊กกันจังน่ะมรึง? บทกลียุค เขาชงให้เหี้ยสุดซอย อีภูมิเหี้ย จะสั่งถอยกองกำลังออกจากปราสาทตาเมืองธม แต่ทหารไม่ฟังจ๊ะ แผ่นดินพ่อกู ใครสั่งให้มรึงบุกรุก มีเหรอ ผู้รุกรานจะย่ำยีอธิปไตยไทย แต่เราเสือกถอย อ้างกลัวมีปัญหา ต้องให้เค้าเข้ายึดก่อนรึไง? เรื่องนี้ไม่ต้องหัวร้อน บอกไปแล้วไงล่ะว่า ทหารเค้าไม่ได้ฟังไอ้อีฝ่ายการเมืองต็อกต๋อยดอกน่ะ เค้าปฎิบัติหน้าที่กันเอง ตามสัญชาตญานนักรบ มีหน้าที่เฝ้าแผ่นดิน ก็ต้องเฝ้าอยู่อย่างงั้น จะให้กูไปไหนกันล่ะ? ทหารอีขะแมร์แค่ขี้ตรีน ที่มันกร่างขนาดนี้ เพราะอีเหลี่ยมไปชงให้อีฮุนเซนเหี้ย เข้ามาตีกินพื้นที่แนวกันชนไทย ทหารเค้ารู้หมด หน่วยข่าวกรองเค้าถึงกันหมด แต่ขอโทษน่ะ หากไทยจะเอาจริง แค่วันเดียว บุกถล่มถึงพนมเปญยังได้ ฉะนั้น ไอ้เรื่องเสียดินแดนอย่าได้หวัง แม้แต่ปราสาทเขาพระวิหารที่อ้างว่าเสียดินแดนไปให้แล้วน่ะ ถึงเวลาจริง ไทยผนวกอีขะแมร์เข้ามาเป็นส่วนนึงของสยามประเทศ มรึงยังจะคิดถึงปราสาทเขาวิหารอีกมั้ยล่ะ? ไม่ใช่แค่ไม่เสีย แต่กำลังจะได้แดร๊ก ได้กลืนแม่งทั้งประเทศ รอดูต่อไป คิวอีฮุนเซนมาถึงแล้ว จีนไม่เก็บไว้แล้วจ๊ะ อสรพิษ ไม่เลี้ยง! ต้องเหี้ยให้สุด ต้องระยำได้ใจ ถึงจะเรียกส้นตรีนทั้งโลกได้ เหี้ยยิวมันสั่งมา หลังอีเนรคุณทันยา สั่งถล่มเรือบรรเทาทุกข์ที่เข้ามาเพื่อช่วยเขตฉนวนกาซ่าตามมติมนุษยชนของสหประชาชาติ จมเรือช่วยเหลือนอกชายฝั่งยุโรป เพื่อให้โลกหันส้นตรีนมากระตืบมันไงล่ะ แล้วมันก็จะเรียกขี้ข้าเข้ามาสู้ตายแทน WWIII จุดไม่ติด เพราะสถานการณ์มันยังเดือดไม่สุด ไม่ถล่มด้วยนุ๊กก่อน อย่าหวังไฟจะติด ทั้งหมด แค่ละครเรียกเรตติ้ง หลังอียิวโดนเคราะห์กรรมหนัก ทั้งไฟป่า โดรนถล่ม ระเบิดกระจาย หัวเมืองมหญ่พินาศสิ้น อียิวทะยอยหนีไปอาเซียนกันหมดแล้ว ยุโรปก็เตรียมถูกเผา อเมริกาก็เต็มไปด้วยโจร เหลือแค่เอเซียที่มั่นคง ปลอดภัย เข้ามาเยอะ ก็มีตัวประกันเยอะ อย่าได้กลัว ไอ้อีหน้าไหนที่อยู่ในแผ่นดินทอง เข้าง่าย แต่ออกยาก หากถูกกาหัวจ๊ะ เพราะศรีธนญชัย จะเก็บเอาไว้ต่อรองไงล่ะ ส่งตัวดีมั้ย ส่งเชลยกลับไปให้คู่กรณียังได้ อยู่ที่เจ้าบ้าน ก็ใครให้มรึงหนีมาสยามเมืองยิ้มกันล่ะ? กับดักโลกดีดีนี่เอง ใครอยากได้ตัวการ ใครอยากได้เหี้ยหนีคดี มรึงไม่ต้องไปตามหาที่ไหน มันมาอยู่รวมกันที่นี่แล้ว เหยื่ออันโอชะ! ปล.อียิวเละเป็นโจ๊ก คาร์บอม-กราดยิง-ไฟป่า-พายุทราย ไหนจะโดนฮามาสตามล่อรายตัว ขยี้รายวัน ทำไมมันช่างตรงกันข้ามกับสื่อขี้ข้ายิวรายงานจังฟ่ะ? ทหารอิสราเอลตายห่าไปเยอะ ไม่เหลือกองกำลังไปรับมือไฟป่า แล้วยังเสี้ยนก่อสงครามต่อ มันสมควรโดนล้างเผ่าพันธุ์มั้ยล่ะ? ฟ้าดินยังสะอิดสะเอียด อียิวพันธุ์สัดนรก อะไรน่ะ อยู่ปายเหรอ? ไม่รอดดอกจ๊ะ ไอ้ที่เดินไปมารอบตัวมรึง ก็สายอิหร่านทั้งนั้น เค้าเตรียมล่อมรึงอยู่ อีมอดสาด อย่าคิดว่าหน่วยข่าวกรองเค้าไม่รู้ ว่ามรึงหนีเข้ามาไทยทำไม? เค้าตั้งใจปล่อยให้มรึงเดินแผนเพื่อที่จะรู้สิ่งที่มรึงกำลังจะทำไงล่ะ? ขับไล่ออกไปไม่ยากดอก กฎหมายไทยมันค้ำหัวอยู่ หมายศาลออก ไม่หนีก็คุกไงจ๊ะ? ระวัง โรคมาตรา 157 กำลังจะมาระบาดหนัก ในหมู่เหี้ยจัญไรแผ่นดินอีกครั้ง งวดนี้ ไม่สำคัญว่าใครโดน แต่ให้ระวัง เพราะคนเชือด รับคำสั่งตรงจากเบื้องบนมา ให้พิสูจน์จนเป็นที่ประจักษ์ชัด อะไรถูกว่าไปตามถูก อะไรผิดจริง ว่ากันไปตามจริง ใครอุ้ม ซวยยกแผง ใครขวาง ตายยกคอก? มรึงดู DSI ก็พอ ไปแดร๊กเหี้ยอะไรมา? 100 วัน 1000 ปี มีเหรอ จะกล้าท้าชนปทุมวันซึ่งหน้า ยามขาลง วาสนาก็เบาบาง ยิ่งทำแต่เหี้ย จะเหลือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรคุ้มครองมรึงได้อีกล่ะ แสงเข้ามาแล้ว ซาตานก็ต้องเผ่นไปตามระเบียบ หนีไม่ทันก็คุก หัวไม่ไวก็ตาย ก็มีเพียงเท่านี้แหละ! อย่าไปโฟกัสที่อีเหลี่ยมมาก มันแค่หางแถว ระดับโลก ให้ดูปูติน สีจิ้นผิง ว่าจะเดินเกมส์โลกต่อยังไง นั่นแหละ อนาคตใหม่โลก เกมส์โลกไม่จบ อาเซียนก็ไม่มีวันจบ มันคือคีย์เดียวกัน ฮับอาเซียนไม่ใช่ใครจะเป็นก็ได้ อีฮุนเซนชะตาขาด เพราะคิดเทียบบารมีวังไทย คำสาปแช่งอยู่เต็มแผ่นดินอีขะแมร์ กว่าจะมีวันนี้ได้ มรึงฆ่าชาวขะแมร์ไปกี่ล้านศพแล้ว เวรกรรมมันมีจริง มรึงมองไม่เห็นดอก เพราะกรรมมันบังตามรึงอยู่ไง? หมี CNN(อีแขก อีปากี ล่อกันซะที อย่ามัวแต่วิ่งอ้อมภูเขา 3 ลูก งานนี้ อีปากี หากไม่ปล่อยตัวอิมราน ข่าน จีนจะไม่ยุ่ง รอดูศพกระจายจ๊ะ อีแขก อยากจะเขมือบหอกข้างแคร่ในใจมาช้านานแล้ว แต่อย่าบีบจนหมาจนตรอก แขก็คือแขก มันมีวิธีเอาตัวรอดเสมอ จบสวย ไม่สวย คนละเรื่อง แต่เวลาแขกทะเลาะกัน คุยซะมากกว่าทำจริง ไม่เหมือนอิหร่าน ซีเรีย อิรัก เลบานอน เยเมน ทำก่อนแล้วค่อยพูด ความแตกต่างที่ดูเหมือนใกล้เคียง แต่ใจมันผิดกันเยอะ อีแขก กับอาหรับ เปอร์เซีย ลูกหลานซาลาดิน จ้าวแห่งทะเลทราย หัวใจนับรบมีมานานนับ 1000 ปี ไม่ใช่ดีแต่เห่า จีนรออยู่ ใครบอบช้ำมา เดี๋ยวจีนช่วยยกระดับให้กลายเป็นเมืองขึ้นใหม่ดีมั้ย? อีแขก ยังไม่ใช่คู่แข่งจีนตอนนี้ หากมรึงยังไม่สามารถรวมใจคนทั้งชาติได้ อย่าหวังคิดเป็นเบอร์ 1 โลก ตีกันให้จบก่อน คุมกันให้อยู่ก่อน ค่อยมาเห่าน่ะจ๊ะ) 03 พฤษภาคม 68 19.05 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 771 มุมมอง 0 รีวิว
  • 78 ปี วิสามัญ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ จากผู้ใหญ่บ้าน สู่ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อตำรวจน่ากลัวกว่าเสือ จึงถูกหลอกซ้ำซาก ล่อติดคุก-ลวงยิงทิ้ง 🐅

    เมื่อผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่รัฐกลัวที่สุด ย้อนตำนาน “เสือฝ้าย” จอมโจรผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองสุพรรณ กับบทสรุปที่กลายเป็นปริศนา เสือจริงหรือตำรวจคือภัยร้ายกว่า?

    เรื่องราวของ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้กล้าท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม กลายเป็นตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวบ้านรัก และตำรวจหวาดกลัว 🕵️‍♂️🔥

    เมื่อความอยุติธรรม สร้างตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ หากพูดถึง "เสือ" ในตำนานไทย หลายคนอาจนึกถึง “เสือใบ”, “เสือดำ” หรือ “เสือมเหศวร” แต่มีอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ “เสือฝ้าย” 🐯 จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นโจร แต่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกระบบรังแก

    "เสือฝ้าย" หรือ "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเดิมบาง เป็นนักรบเสรีไทย และเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำดีเพื่อบ้านเกิด แต่เมื่อความดี ถูกตอบแทนด้วยความอยุติธรรม จึงเลือกหนทางของ "เสือ"

    “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!” เสือฝ้าย กล่าวไว้ หลังพ้นโทษจำคุก 8 ปี

    😇👉😈 "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2431 ที่ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นลูกของชาวนา ครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เติบโตมาอย่างเรียบง่าย กระทั่งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าใหญ่ หมู่ที่ 5”

    ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สอง เสือฝ้ายมีบทบาทสำคัญใน “ขบวนการเสรีไทย” ต่อต้านทหารญี่ปุ่น และได้รับฉายา “จอมพลฝ้าย” จากประชาชน

    แต่เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป เมื่อถูกใส่ร้ายจากหลานเขย ผู้มีสายสัมพันธ์กับตำรวจ ถูกตัดสินให้ติดคุกถึง 8 ปี ทั้งที่ไม่มีความผิด นี่คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง 🧨

    ✊ เสือฝ้ายผู้รักความยุติธรรม แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็น “โจร” แต่เสือฝ้ายไม่เหมือนโจรทั่วไป

    สิ่งที่ “ปล้น” ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยส่วนตัว เสือฝ้ายตั้งเป้าเล่นงานเฉพาะ “ผู้มีอำนาจที่ฉ้อโกง” ไม่ปล้นคนจน ไม่แตะต้องชาวบ้าน แจกจ่ายทรัพย์สินที่ปล้นมา ให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน

    🔥 ชาวบ้านจึงเปรียบเสือฝ้ายเสมือน “ฮีโร่” มากกว่า “ผู้ร้าย” ❤️

    “ชาวบ้านรักเสือฝ้าย เพราะไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่มีอำนาจ”

    🏴‍☠️ ชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เสือฝ้ายไม่ใช่โจรเดี่ยว นำกองกำลังชุมโจรที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่ไทยเคยมี สมุนไม่ต่ำกว่า 100-200 คน เทียบกับกลุ่มโจรทั่วไปในยุคนั้น ที่มีเพียง 10-20 คน

    เสือฝ้ายใช้เส้นทางป่าในเขตเดิมบางนางบวช ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าทึบ เป็นที่หลบซ่อนและตั้งฐานปฏิบัติการ

    “บางคนว่าทั้งสุพรรณบุรี คือบ้านของเสือฝ้าย เพราะทุกคนต่างพร้อมใจ ให้การช่วยเหลือ”

    🌆 เมืองสุพรรณยุคโจรครองเมือง 🧧 ย้อนกลับไปในยุคต้นรัชกาลที่ 6 เมืองสุพรรณฯ เต็มไปด้วยข่าวปล้น คนจีนอพยพมาตั้งตลาด หอดูโจรถูกสร้างไว้ทั่วเมือง

    จนมีคำพูดติดปากว่า “ใครไปรับราชการที่สุพรรณฯ ต้องเตรียมหม้อใส่กระดูกกลับบ้าน”

    สุพรรณกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในแง่ลบ แต่ก็เป็นบ้านของวีรบุรุษนอกกฎหมาย ที่ชาวบ้านศรัทธา

    📜 การลวงฆ่าเสือฝ้าย ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการ 🔫 วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก...

    ตำรวจกองปราบหลอกเสือฝ้ายว่า จะพาไปรับรางวัลที่กรุงเทพฯ แล้วนำตัวไปพักที่โรงแรมศรีธงชัย ปัจจุบันคือธนาคารกรุงศรีฯ แต่รุ่งเช้ากลับมีข่าวว่า เสือฝ้ายถูกยิงตายที่ป่าช้าบ้านบางกะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยอ้างว่า “กระโดดน้ำหนี” ❌

    แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ เพราะ “ไม่มีทางที่เสือฝ้ายจะหนี ทั้งที่เชื่อว่ากำลังจะได้รางวัล”

    😰 ปากคำชาวบ้าน ตำรวจน่ากลัวกว่าโจร

    “ตำรวจกองปราบน่ากลัวกว่าเสือเสียอีก พวกเขาอำพรางข่าว หลอกลวง และฆ่าคนบริสุทธิ์” ยายเกียด ทรัพย์จีน กล่าวไว้

    เธอเผยว่าเคยต้องปลอมตัว เอาโคลนทาทั่วตัว เพื่อส่งเสบียงให้ชุมโจรแบบลับ ๆ

    🧘‍♂️ เสือฝ้ายกับขุนพันธ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมรับสินบน ⚖️ เสือฝ้ายเคยพยายามติดสินบน “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้ปราบโจรในตำนาน แต่ขุนพันธ์ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ" และไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตำรวจ ด้วยการรับสินบนจากโจร

    🐯 เสือฝ้ายในโลกภาพยนตร์ 🎬 เสือฝ้ายยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ ภาค 2" แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด "พันโทวันชนะ สวัสดี" เพิ่มความเหนือธรรมชาติ เช่น วิชานะจังงัง, รอยสักยันต์ช้างเอราวัณ และยันต์ท้าวเวสสุวรรณ

    🔥 ความตายที่กลายเป็นตำนาน แม้เสือฝ้ายจะถูกฆ่าตาย แต่ตำนานของเขายังอยู่...

    เสือฝ้ายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถูกระบบกดขี่ แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นเสียงของผู้ไร้เสียง และเป็นเสือที่ถูกฆ่าโดย “สัตว์ที่ร้ายกว่า”

    คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓

    ใครสั่งวิสามัญเสือฝ้ายจริง ๆ?

    ตำรวจเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีเจตนาแอบแฝง?

    ทำไมข่าวถูกกลบอย่างรวดเร็ว?

    🐾 เสือที่ยังคงคำรามในประวัติศาสตร์ 📚 เรื่องราวของเสือฝ้าย ไม่ใช่เพียงเรื่องของโจร หรือเรื่องของตำรวจ
    แต่คือ “ภาพสะท้อนของสังคม” ที่ยังคงเป็นจริงแม้ผ่านไป 78 ปี

    เสือฝ้ายคือผู้ที่ระบบผลักให้กลายเป็นโจร แต่ชาวบ้านกลับยกย่องว่า “วีรบุรุษ” และตราบใดที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่ เสียงคำรามของ “เสือฝ้าย” ก็ยังดังก้องในใจของคนรุ่นหลัง ✊

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251009 เม.ย. 2568

    📢 #เสือฝ้าย #ตำนานเสือสุพรรณ #จอมโจรไทย #ประวัติศาสตร์โจร #ขุนพันธ์ #เสรีไทย #วิสามัญฆาตกรรม #สุพรรณบุรี #วีรบุรุษโจร #เสือฝ้ายผู้ยิ่งใหญ่
    78 ปี วิสามัญ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ จากผู้ใหญ่บ้าน สู่ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อตำรวจน่ากลัวกว่าเสือ จึงถูกหลอกซ้ำซาก ล่อติดคุก-ลวงยิงทิ้ง 🐅 เมื่อผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่รัฐกลัวที่สุด ย้อนตำนาน “เสือฝ้าย” จอมโจรผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองสุพรรณ กับบทสรุปที่กลายเป็นปริศนา เสือจริงหรือตำรวจคือภัยร้ายกว่า? เรื่องราวของ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้กล้าท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม กลายเป็นตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวบ้านรัก และตำรวจหวาดกลัว 🕵️‍♂️🔥 เมื่อความอยุติธรรม สร้างตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ หากพูดถึง "เสือ" ในตำนานไทย หลายคนอาจนึกถึง “เสือใบ”, “เสือดำ” หรือ “เสือมเหศวร” แต่มีอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ “เสือฝ้าย” 🐯 จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นโจร แต่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกระบบรังแก "เสือฝ้าย" หรือ "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเดิมบาง เป็นนักรบเสรีไทย และเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำดีเพื่อบ้านเกิด แต่เมื่อความดี ถูกตอบแทนด้วยความอยุติธรรม จึงเลือกหนทางของ "เสือ" “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!” เสือฝ้าย กล่าวไว้ หลังพ้นโทษจำคุก 8 ปี 😇👉😈 "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2431 ที่ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นลูกของชาวนา ครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เติบโตมาอย่างเรียบง่าย กระทั่งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าใหญ่ หมู่ที่ 5” ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สอง เสือฝ้ายมีบทบาทสำคัญใน “ขบวนการเสรีไทย” ต่อต้านทหารญี่ปุ่น และได้รับฉายา “จอมพลฝ้าย” จากประชาชน แต่เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป เมื่อถูกใส่ร้ายจากหลานเขย ผู้มีสายสัมพันธ์กับตำรวจ ถูกตัดสินให้ติดคุกถึง 8 ปี ทั้งที่ไม่มีความผิด นี่คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง 🧨 ✊ เสือฝ้ายผู้รักความยุติธรรม แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็น “โจร” แต่เสือฝ้ายไม่เหมือนโจรทั่วไป สิ่งที่ “ปล้น” ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยส่วนตัว เสือฝ้ายตั้งเป้าเล่นงานเฉพาะ “ผู้มีอำนาจที่ฉ้อโกง” ไม่ปล้นคนจน ไม่แตะต้องชาวบ้าน แจกจ่ายทรัพย์สินที่ปล้นมา ให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน 🔥 ชาวบ้านจึงเปรียบเสือฝ้ายเสมือน “ฮีโร่” มากกว่า “ผู้ร้าย” ❤️ “ชาวบ้านรักเสือฝ้าย เพราะไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่มีอำนาจ” 🏴‍☠️ ชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เสือฝ้ายไม่ใช่โจรเดี่ยว นำกองกำลังชุมโจรที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่ไทยเคยมี สมุนไม่ต่ำกว่า 100-200 คน เทียบกับกลุ่มโจรทั่วไปในยุคนั้น ที่มีเพียง 10-20 คน เสือฝ้ายใช้เส้นทางป่าในเขตเดิมบางนางบวช ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าทึบ เป็นที่หลบซ่อนและตั้งฐานปฏิบัติการ “บางคนว่าทั้งสุพรรณบุรี คือบ้านของเสือฝ้าย เพราะทุกคนต่างพร้อมใจ ให้การช่วยเหลือ” 🌆 เมืองสุพรรณยุคโจรครองเมือง 🧧 ย้อนกลับไปในยุคต้นรัชกาลที่ 6 เมืองสุพรรณฯ เต็มไปด้วยข่าวปล้น คนจีนอพยพมาตั้งตลาด หอดูโจรถูกสร้างไว้ทั่วเมือง จนมีคำพูดติดปากว่า “ใครไปรับราชการที่สุพรรณฯ ต้องเตรียมหม้อใส่กระดูกกลับบ้าน” สุพรรณกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในแง่ลบ แต่ก็เป็นบ้านของวีรบุรุษนอกกฎหมาย ที่ชาวบ้านศรัทธา 📜 การลวงฆ่าเสือฝ้าย ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการ 🔫 วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก... ตำรวจกองปราบหลอกเสือฝ้ายว่า จะพาไปรับรางวัลที่กรุงเทพฯ แล้วนำตัวไปพักที่โรงแรมศรีธงชัย ปัจจุบันคือธนาคารกรุงศรีฯ แต่รุ่งเช้ากลับมีข่าวว่า เสือฝ้ายถูกยิงตายที่ป่าช้าบ้านบางกะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยอ้างว่า “กระโดดน้ำหนี” ❌ แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ เพราะ “ไม่มีทางที่เสือฝ้ายจะหนี ทั้งที่เชื่อว่ากำลังจะได้รางวัล” 😰 ปากคำชาวบ้าน ตำรวจน่ากลัวกว่าโจร “ตำรวจกองปราบน่ากลัวกว่าเสือเสียอีก พวกเขาอำพรางข่าว หลอกลวง และฆ่าคนบริสุทธิ์” ยายเกียด ทรัพย์จีน กล่าวไว้ เธอเผยว่าเคยต้องปลอมตัว เอาโคลนทาทั่วตัว เพื่อส่งเสบียงให้ชุมโจรแบบลับ ๆ 🧘‍♂️ เสือฝ้ายกับขุนพันธ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมรับสินบน ⚖️ เสือฝ้ายเคยพยายามติดสินบน “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้ปราบโจรในตำนาน แต่ขุนพันธ์ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ" และไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตำรวจ ด้วยการรับสินบนจากโจร 🐯 เสือฝ้ายในโลกภาพยนตร์ 🎬 เสือฝ้ายยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ ภาค 2" แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด "พันโทวันชนะ สวัสดี" เพิ่มความเหนือธรรมชาติ เช่น วิชานะจังงัง, รอยสักยันต์ช้างเอราวัณ และยันต์ท้าวเวสสุวรรณ 🔥 ความตายที่กลายเป็นตำนาน แม้เสือฝ้ายจะถูกฆ่าตาย แต่ตำนานของเขายังอยู่... เสือฝ้ายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถูกระบบกดขี่ แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นเสียงของผู้ไร้เสียง และเป็นเสือที่ถูกฆ่าโดย “สัตว์ที่ร้ายกว่า” คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓ ใครสั่งวิสามัญเสือฝ้ายจริง ๆ? ตำรวจเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีเจตนาแอบแฝง? ทำไมข่าวถูกกลบอย่างรวดเร็ว? 🐾 เสือที่ยังคงคำรามในประวัติศาสตร์ 📚 เรื่องราวของเสือฝ้าย ไม่ใช่เพียงเรื่องของโจร หรือเรื่องของตำรวจ แต่คือ “ภาพสะท้อนของสังคม” ที่ยังคงเป็นจริงแม้ผ่านไป 78 ปี เสือฝ้ายคือผู้ที่ระบบผลักให้กลายเป็นโจร แต่ชาวบ้านกลับยกย่องว่า “วีรบุรุษ” และตราบใดที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่ เสียงคำรามของ “เสือฝ้าย” ก็ยังดังก้องในใจของคนรุ่นหลัง ✊ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251009 เม.ย. 2568 📢 #เสือฝ้าย #ตำนานเสือสุพรรณ #จอมโจรไทย #ประวัติศาสตร์โจร #ขุนพันธ์ #เสรีไทย #วิสามัญฆาตกรรม #สุพรรณบุรี #วีรบุรุษโจร #เสือฝ้ายผู้ยิ่งใหญ่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 751 มุมมอง 0 รีวิว
  • 15 ปี สิ้น “จ่าเพียร ขาเหล็ก” ผู้กำกับนักสู้แห่งเทือกเขาบูโด ตำนานย้ายยากเย็น เซ่นสลับบัญชี โชคร้ายตายก่อนขึ้นรองผู้การ

    🚔 “คงอยากจะขอยศพันตำรวจเอกให้ผม ตอนที่ผมตายแล้ว” คำพูดที่ยังคงก้องในหัวใจคนไทยหลายคน… 🕊️

    🌿 ตำนานที่ยังไม่ลืม ผ่านมากว่า 15 ปี แล้ว... แต่เรื่องราวของ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” หรือ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา ภ.จว.ยะลา ยังถูกเล่าขานในฐานะ “นักสู้แห่งเทือกเขาบูโด” ผู้ทุ่มเทชีวิตเพื่อความสงบสุขของแผ่นดินปลายด้ามขวาน 🗡️ แม้จะแลกด้วยความเหน็ดเหนื่อย เจ็บปวด และสุดท้าย... ชีวิต

    👮‍♂️ “สมเพียร เอกสมญา” หรือชื่อเล่นว่า “เนี้ยบ” เกิดเมื่อปี 2493 ในครอบครัวยากจนที่จังหวัดสงขลา ชีวิตในวัยเด็กเต็มไปด้วยความลำบาก ต้องช่วยพ่อแม่กรีดยาง เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว แต่ความยากจน ไม่สามารถปิดกั้นความฝันได้ 🎓

    หลังเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 สมเพียรตัดสินใจเป็นศิษย์วัดเพื่อเรียนต่อ และก้าวขึ้นสู่การเป็นนักเรียนตำรวจ ต้องเปลี่ยนนามสกุลจาก “แซ่เจ่ง” เป็น “เอกสมญา” เพื่อเข้ารับราชการในยุคนั้น

    จุดเริ่มต้นของนักรบแดนใต้ ปี 2513 สมเพียรเริ่มต้นอาชีพตำรวจที่ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ภ.จว.ยะลา ในช่วงเวลาที่ภาคใต้ร้อนระอุ จากความขัดแย้งของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (พคม.) และกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน

    ชีวิตของสมเพียร ไม่ใช่แค่การจับผู้ร้ายทั่วไป แต่ต้องเผชิญหน้ากับสงครามกองโจร และการลอบสังหารเกือบทุกวัน 😔

    🔥 วีรกรรมและตำนาน “ขาเหล็ก” เหตุการณ์ปะทะที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด ปี 2519 ขณะที่ครองยศ "จ่าสิบตำรวจ" ได้เข้าปะทะกับขบวนการก่อการไม่สงบ ที่จับตำรวจและครอบครัวเป็นตัวประกัน บนเขาเจาะปันตัง เหตุการณ์นั้นทำให้ จ่าเพียรเกือบเสียขาข้างซ้าย ต้องใส่เหล็กดามขามาตลอดชีวิต จนได้ฉายาว่า “จ่าเพียร ขาเหล็ก” 🦿

    🦾 “ผมไม่อยากเป็นวีรบุรุษ และจะไม่ขอตายในชุดนักรบ” พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา

    🦅 ปฏิบัติการ “ยูงทอง” ชุดปฏิบัติการปราบปราม กลุ่มก่อการไม่สงบในบันนังสตา มีชื่อเสียงอย่างมากภาย ใต้การนำของจ่าเพียร เคยนำทีมเข้าปะทะกองกำลังกว่า 30 คน ในปี 2526 แม้ตัวเองจะโดนยิงที่ต้นขาขวา แต่ยังสู้ไม่ถอย ✊

    🏡 ความฝันสุดท้ายของจ่าเพียร อยากกลับบ้าน...แค่ใช้ชีวิตกับครอบครัว ในช่วงสุดท้ายของชีวิต พ.ต.อ.สมเพียร ยื่นเรื่องขอย้ายกลับไปอยู่ สภ.กันตัง จ.ตรัง บ้านเกิดของภรรยา เพื่อใช้ชีวิตเงียบสงบช่วง 18 เดือนก่อนเกษียณ แต่การโยกย้ายกลับไม่เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีชื่อติดในโผโยกย้ายตั้งแต่แรก แต่ในขั้นตอนสุดท้าย กลับถูกสับเปลี่ยนชื่อ สลับบัญชี เพื่อหลีกทางให้คนของนักการเมือง 🍃

    จ่าเพียรไม่ยอมรับโผอัปยศ จึงเดินทางจากชายแดนใต้สู่กรุงเทพฯ ไปทวงถามความเป็นธรรม ถึงทำเนียบรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้รับคำปลอบใจว่า จะเยียวยาโดยให้ขึ้นตำแหน่ง "รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด" ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ

    💬 “ไม่มีการแต่งตั้งตำรวจครั้งไหนที่แย่เท่าครั้งนี้อีกแล้ว” แม้ว่าจ่าเพยีจะพูดด้วยน้ำตา แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

    💔 วันแห่งความสูญเสีย ปฏิบัติการสุดท้ายที่บ้านทับช้าง ในเช้าวันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2553 จ่าเพียร พร้อมด้วยลูกน้อง 4 นาย และ อส.คนสนิทอีก 1 นาย นั่งรถยนต์ปิกอัพ โตโยต้าไฮลักซ์วีโก้ 4 ประตู สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กข 9302 ยะลา และอส.คนสนิท อีก 1 นาย ออกลาดตระเวนในพื้นที่บ้านทับช้าง แต่ถูกกลุ่มก่อการไม่สงบ กดระเบิด และกราดยิงด้วยอาวุธสงครามอย่างหนัก จ่าเพียรได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ลูกน้องได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 นาย และอีก 1 นายเสียชีวิต 🔫

    ⚰️ อายุ 59 ปี สิ้นสุดเส้นทางของนักรบผู้ภักดีต่อหน้าที่ บทเรียนชีวิตและความจริงที่เจ็บปวด การต่อสู้ของจ่าเพียร ไม่ใช่แค่ศึกในสนามรบ แต่ยังเป็นศึกในระบบราชการที่ซับซ้อน และมีปัญหาเรื่องอุปถัมภ์ จ่าเพียรไม่ได้รับโอกาสเลื่อนยศหรือโยกย้าย จนกว่าจะเสียชีวิตแล้ว ถึงได้เลื่อนยศ 7 ขั้น เป็น "พลตำรวจเอก" 🕊️

    ⚖️ ระบบที่ควรตอบแทนคนทุ่มเท กลับถูกแทนที่ด้วยสายสัมพันธ์และอำนาจ มรดกและแรงบันดาลใจ
    หลังจากการเสียชีวิตของจ่าเพียร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวจำนวน 3 ล้านบาท และรับผิดชอบการศึกษาของลูก จนจบปริญญาตรี แต่สิ่งที่จ่าเพียรทิ้งไว้ไม่ใช่แค่เงินทอง

    ❤️ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” กลายเป็นสัญลักษณ์ของตำรวจที่ทุ่มเท และไม่ยอมแพ้ต่ออุปถัมภ์

    🗣️ คำพูดสุดท้ายที่ยังตราตรึง "ผมไม่ได้อยากย้ายเพื่อความก้าวหน้า แต่อยากกลับไปอยู่กับครอบครัว ผมทำงานมา 40 ปี แทบไม่มีเวลาให้พวกเขาเลย"

    ❓ คำถามที่ยังไร้คำตอบ แม้เวลาจะผ่านไป 15 ปี แต่เรื่องราวของจ่าเพียร ยังเป็นกระจกสะท้อนปัญหาระบบราชการไทย หลายคนยังสงสัยว่า…

    - ทำไมตำรวจน้ำดี ต้องตายก่อนจึงได้รับการยกย่อง?
    - ทำไมระบบโยกย้าย ถึงเต็มไปด้วยข้อครหา?
    - ใครจะปกป้องผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ไม่มีเส้นสาย?

    🤝 เสียงจากคนในพื้นที่ “จ่าเพียรกลับมาแล้ว” ไม่ใช่แค่ตำรวจ แต่เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน

    🕊️ “กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ยะลา ปัตตานี นราธิวาส รู้จักจ่าเพียรในฐานะคนที่ไม่เคยทิ้งพื้นที่”

    🌳 "คนที่เคยเป็นเยาวชนไม่มีอนาคต กลายมาเป็นอาสาสมัครในทีมของจ่าเพียร ด้วยศรัทธาและความเชื่อมั่น"

    🕯️ ตำนานที่ไม่ควรจางหาย ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ชื่อ "สมเพียร เอกสมญา" ไม่ได้ตายเพราะกระสุนหรือระเบิด แต่เพราะระบบที่ล้มเหลวในการดูแลคนดี 💐

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121155 มี.ค. 2568

    #จ่าเพียรขาเหล็ก #ฮีโร่แดนใต้ #ผู้กำกับนักสู้ #สมเพียรเอกสมญา #ชายแดนใต้ #นักรบแห่งบูโด #ตำรวจไทย #ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ #วีรบุรุษแดนใต้ #ระบบอุปถัมภ์

    15 ปี สิ้น “จ่าเพียร ขาเหล็ก” ผู้กำกับนักสู้แห่งเทือกเขาบูโด ตำนานย้ายยากเย็น เซ่นสลับบัญชี โชคร้ายตายก่อนขึ้นรองผู้การ 🚔 “คงอยากจะขอยศพันตำรวจเอกให้ผม ตอนที่ผมตายแล้ว” คำพูดที่ยังคงก้องในหัวใจคนไทยหลายคน… 🕊️ 🌿 ตำนานที่ยังไม่ลืม ผ่านมากว่า 15 ปี แล้ว... แต่เรื่องราวของ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” หรือ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา ภ.จว.ยะลา ยังถูกเล่าขานในฐานะ “นักสู้แห่งเทือกเขาบูโด” ผู้ทุ่มเทชีวิตเพื่อความสงบสุขของแผ่นดินปลายด้ามขวาน 🗡️ แม้จะแลกด้วยความเหน็ดเหนื่อย เจ็บปวด และสุดท้าย... ชีวิต 👮‍♂️ “สมเพียร เอกสมญา” หรือชื่อเล่นว่า “เนี้ยบ” เกิดเมื่อปี 2493 ในครอบครัวยากจนที่จังหวัดสงขลา ชีวิตในวัยเด็กเต็มไปด้วยความลำบาก ต้องช่วยพ่อแม่กรีดยาง เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว แต่ความยากจน ไม่สามารถปิดกั้นความฝันได้ 🎓 หลังเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 สมเพียรตัดสินใจเป็นศิษย์วัดเพื่อเรียนต่อ และก้าวขึ้นสู่การเป็นนักเรียนตำรวจ ต้องเปลี่ยนนามสกุลจาก “แซ่เจ่ง” เป็น “เอกสมญา” เพื่อเข้ารับราชการในยุคนั้น จุดเริ่มต้นของนักรบแดนใต้ ปี 2513 สมเพียรเริ่มต้นอาชีพตำรวจที่ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ภ.จว.ยะลา ในช่วงเวลาที่ภาคใต้ร้อนระอุ จากความขัดแย้งของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (พคม.) และกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน ชีวิตของสมเพียร ไม่ใช่แค่การจับผู้ร้ายทั่วไป แต่ต้องเผชิญหน้ากับสงครามกองโจร และการลอบสังหารเกือบทุกวัน 😔 🔥 วีรกรรมและตำนาน “ขาเหล็ก” เหตุการณ์ปะทะที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด ปี 2519 ขณะที่ครองยศ "จ่าสิบตำรวจ" ได้เข้าปะทะกับขบวนการก่อการไม่สงบ ที่จับตำรวจและครอบครัวเป็นตัวประกัน บนเขาเจาะปันตัง เหตุการณ์นั้นทำให้ จ่าเพียรเกือบเสียขาข้างซ้าย ต้องใส่เหล็กดามขามาตลอดชีวิต จนได้ฉายาว่า “จ่าเพียร ขาเหล็ก” 🦿 🦾 “ผมไม่อยากเป็นวีรบุรุษ และจะไม่ขอตายในชุดนักรบ” พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา 🦅 ปฏิบัติการ “ยูงทอง” ชุดปฏิบัติการปราบปราม กลุ่มก่อการไม่สงบในบันนังสตา มีชื่อเสียงอย่างมากภาย ใต้การนำของจ่าเพียร เคยนำทีมเข้าปะทะกองกำลังกว่า 30 คน ในปี 2526 แม้ตัวเองจะโดนยิงที่ต้นขาขวา แต่ยังสู้ไม่ถอย ✊ 🏡 ความฝันสุดท้ายของจ่าเพียร อยากกลับบ้าน...แค่ใช้ชีวิตกับครอบครัว ในช่วงสุดท้ายของชีวิต พ.ต.อ.สมเพียร ยื่นเรื่องขอย้ายกลับไปอยู่ สภ.กันตัง จ.ตรัง บ้านเกิดของภรรยา เพื่อใช้ชีวิตเงียบสงบช่วง 18 เดือนก่อนเกษียณ แต่การโยกย้ายกลับไม่เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีชื่อติดในโผโยกย้ายตั้งแต่แรก แต่ในขั้นตอนสุดท้าย กลับถูกสับเปลี่ยนชื่อ สลับบัญชี เพื่อหลีกทางให้คนของนักการเมือง 🍃 จ่าเพียรไม่ยอมรับโผอัปยศ จึงเดินทางจากชายแดนใต้สู่กรุงเทพฯ ไปทวงถามความเป็นธรรม ถึงทำเนียบรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้รับคำปลอบใจว่า จะเยียวยาโดยให้ขึ้นตำแหน่ง "รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด" ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ 💬 “ไม่มีการแต่งตั้งตำรวจครั้งไหนที่แย่เท่าครั้งนี้อีกแล้ว” แม้ว่าจ่าเพยีจะพูดด้วยน้ำตา แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง 💔 วันแห่งความสูญเสีย ปฏิบัติการสุดท้ายที่บ้านทับช้าง ในเช้าวันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2553 จ่าเพียร พร้อมด้วยลูกน้อง 4 นาย และ อส.คนสนิทอีก 1 นาย นั่งรถยนต์ปิกอัพ โตโยต้าไฮลักซ์วีโก้ 4 ประตู สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กข 9302 ยะลา และอส.คนสนิท อีก 1 นาย ออกลาดตระเวนในพื้นที่บ้านทับช้าง แต่ถูกกลุ่มก่อการไม่สงบ กดระเบิด และกราดยิงด้วยอาวุธสงครามอย่างหนัก จ่าเพียรได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ลูกน้องได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 นาย และอีก 1 นายเสียชีวิต 🔫 ⚰️ อายุ 59 ปี สิ้นสุดเส้นทางของนักรบผู้ภักดีต่อหน้าที่ บทเรียนชีวิตและความจริงที่เจ็บปวด การต่อสู้ของจ่าเพียร ไม่ใช่แค่ศึกในสนามรบ แต่ยังเป็นศึกในระบบราชการที่ซับซ้อน และมีปัญหาเรื่องอุปถัมภ์ จ่าเพียรไม่ได้รับโอกาสเลื่อนยศหรือโยกย้าย จนกว่าจะเสียชีวิตแล้ว ถึงได้เลื่อนยศ 7 ขั้น เป็น "พลตำรวจเอก" 🕊️ ⚖️ ระบบที่ควรตอบแทนคนทุ่มเท กลับถูกแทนที่ด้วยสายสัมพันธ์และอำนาจ มรดกและแรงบันดาลใจ หลังจากการเสียชีวิตของจ่าเพียร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวจำนวน 3 ล้านบาท และรับผิดชอบการศึกษาของลูก จนจบปริญญาตรี แต่สิ่งที่จ่าเพียรทิ้งไว้ไม่ใช่แค่เงินทอง ❤️ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” กลายเป็นสัญลักษณ์ของตำรวจที่ทุ่มเท และไม่ยอมแพ้ต่ออุปถัมภ์ 🗣️ คำพูดสุดท้ายที่ยังตราตรึง "ผมไม่ได้อยากย้ายเพื่อความก้าวหน้า แต่อยากกลับไปอยู่กับครอบครัว ผมทำงานมา 40 ปี แทบไม่มีเวลาให้พวกเขาเลย" ❓ คำถามที่ยังไร้คำตอบ แม้เวลาจะผ่านไป 15 ปี แต่เรื่องราวของจ่าเพียร ยังเป็นกระจกสะท้อนปัญหาระบบราชการไทย หลายคนยังสงสัยว่า… - ทำไมตำรวจน้ำดี ต้องตายก่อนจึงได้รับการยกย่อง? - ทำไมระบบโยกย้าย ถึงเต็มไปด้วยข้อครหา? - ใครจะปกป้องผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ไม่มีเส้นสาย? 🤝 เสียงจากคนในพื้นที่ “จ่าเพียรกลับมาแล้ว” ไม่ใช่แค่ตำรวจ แต่เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน 🕊️ “กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ยะลา ปัตตานี นราธิวาส รู้จักจ่าเพียรในฐานะคนที่ไม่เคยทิ้งพื้นที่” 🌳 "คนที่เคยเป็นเยาวชนไม่มีอนาคต กลายมาเป็นอาสาสมัครในทีมของจ่าเพียร ด้วยศรัทธาและความเชื่อมั่น" 🕯️ ตำนานที่ไม่ควรจางหาย ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ชื่อ "สมเพียร เอกสมญา" ไม่ได้ตายเพราะกระสุนหรือระเบิด แต่เพราะระบบที่ล้มเหลวในการดูแลคนดี 💐 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121155 มี.ค. 2568 #จ่าเพียรขาเหล็ก #ฮีโร่แดนใต้ #ผู้กำกับนักสู้ #สมเพียรเอกสมญา #ชายแดนใต้ #นักรบแห่งบูโด #ตำรวจไทย #ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ #วีรบุรุษแดนใต้ #ระบบอุปถัมภ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1531 มุมมอง 0 รีวิว
  • เงยหน้าไม่อายฟ้า
    ก้มหน้าไม่อายดิน
    😊
    ผู้ใหญ่บ้านแหนบทองคำ แต่ไมได้เป็นกำนัน เพราะไมจ่ายเงินซื้อเสียง
    🤣
    เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน 😊 ผู้ใหญ่บ้านแหนบทองคำ แต่ไมได้เป็นกำนัน เพราะไมจ่ายเงินซื้อเสียง 🤣
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาหากใครได้ขับรถไปทางเส้นสุขุมวิท บริเวณจุดเชื่อมต่อระยอง – จันทบุรี เราอาจได้เห็นล้งทุเรียนมากมายริมถนนสุขุมวิท และยิ่งใครได้เดินทางมาช่วงมีนาคม – เมษายน ก็จะได้สัมผัสประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยรถขนทุเรียนรายล้อม ล้งทุเรียนที่คึกคักตลอดวันตลอดคืน หรือแม้แต่การชิงตัดราคากันบนถนนระหว่างรถจอดติดไฟแดงเอง ก็เป็นเหตุการณ์ที่คนในพื้นที่คุ้นเคยกันดี หรือหลายคนอาจจะเคยได้ยินอย่างอาชีพคนวิ่งทุเรียนย้อนกลับไปก่อนการเฟื่องฟูของล้งทุเรียนที่หมายถึงพ่อค้าคนกลางที่เป็นเหมือนโรงคัดแยกและบรรจุทุเรียนเพื่อส่งไปขายต่อ จริงๆ แล้ว ‘ล้ง’ นั้นถูกใช้งานกับการเป็นพ่อค้าคนกลางสำหรับผลไม้ประเภทอื่นๆ ด้วยจากข้อมูลในรายงานศึกษา ได้ชี้ให้เห็นตัวเลขว่า ก่อนปี พ.ศ. 2550 ทุเรียนส่วนใหญ่ยังเน้นบริโภคในประเทศ โดยส่งออกน้อยกว่า 30% ของผลผลิตทั้งหมด แต่หลังปี พ.ศ. 2555 เป็นต้นมา เมื่อเริ่มมีความต้องการจากตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน ทำให้ล้งเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยแรกเริ่มมีล้งของคนไทย ล้งของคนจีน และล้งของคนเวียดนาม จนกระทั่งตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 70% ของผลผลิตทั้งหมด นำไปสู่การเปลี่ยนวิถีการขายทุเรียนที่เน้นเหมาสวนส่งให้ล้ง มีนายหน้าตกลงราคาก่อนผลผลิตจะออกผลและส่งขายโดยข้อมูลในวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 กองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช กรมวิชาการเกษตร ได้แสดงสถิติไว้ว่า ล้งที่ส่งออกไปขายที่จีนทั่วประเทศมีจำนวนทั้งสิ้น 2,122 ราย หากสโคปลงมาที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออกแบ่งเป็น จันทบุรี 909 ราย ระยอง 50 ราย และตราด 29 ราย รวมเป็น 988 ราย หรือคิดเป็น 42.84% ของจำนวนล้งทั้งประเทศแต่นี่เป็นเพียงตัวเลขที่มีการขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานรัฐเท่านั้น เพราะตามรายงานศึกษาของ Land Watch และ EEC Watch พบว่า ในการรายงานข่าวจากสำนักข่าว ThaiPBS ได้ลงพื้นที่สอบถามเจ้าของสวนทุเรียน และพบว่าจำนวนล้งใน 3 จังหวัด จันทบุรี ระยอง ตราด นั้นมีมากกว่า 1,200 ล้งในรายงานศึกษายังได้อธิบายรูปแบบการทำธุรกิจของล้ง โดยแบ่งเป็น 3 รูปแบบ คือ ล้งจีน ล้งไทย และล้งไทยที่มีการร่วมทุนกับต่างชาติ (ซึ่งก็คือจีน) โดยในรูปแบบที่เป็นการร่วมทุน จะมาในลักษณะของ ทุนต่างชาติเป็นผู้ลงเงิน ส่วนคนไทยจะเป็นคนจัดหาลูกทุเรียน และจัดการเรื่องส่งออกโดยข้อมูลจากแหล่งข้อมูลในพื้นที่กรณีศึกษา พบว่า ล้งที่เป็นการร่วมทุนจะตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเขาคิชกูฏ จ.จันทบุรี ในขณะที่ล้งจีน 100% จะพบได้ที่อำเภอท่าใหม่ และอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี โดยใช้ทุนหมุนเวียนวันละไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท โดยใน 3 จังหวัดภาคตะวันออกมีการคาดการณ์ว่ามีล้งจีนกว่า 600 ล้ง ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร แต่ก็ยังมีที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนอีกมากเช่นกันในขณะที่ล้งไทยส่วนใหญ่ จะเป็นคนมีตำแหน่งอย่างผู้ใหญ่บ้าน หรือกำนัน โดยจะเป็นพ่อค้าคนกลางส่งต่อให้กับบริษัทส่งออกของจีนอีกทอดหนึ่ง และมักใช้วิธีการซื้อผ่านการ ‘เกี๊ยว’ หรือมัดจำเอาไว้กับสวนทุเรียนตั้งแต่ช่วงออกดอกหรือที่เรียกว่าช่วง หางแย้ โดยอาศัยความเป็นคนในพื้นที่ในการมีข้อมูลว่าบ้านไหนทำสวน และล้งไทยจะต้องหาให้ได้ตามดีลที่มักนับหน่วยเป็นเต็ม 1 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือประมาณ 18 ตันปัจจุบันจากรายงานข่าวของ ThaiPBS ในเดือนมีนาคม 2567 พบว่าในจังหวัดจันทบุรีมีล้งไทยเหลือไม่ถึง 10% ของจำนวนล้งในจันทบุรี ส่วนใหญ่ได้ผันตัวเป็นล้งที่ร่วมทุนระหว่างไทย-จีน ไปแล้วแต่ดูเหมือนว่าแม้ล้งจะเป็นผู้กำหนดราคาคนสำคัญ แต่ทุนจีนมองการณ์ไกลกว่านั้น โดยเริ่มทำล้งที่มีสวนทุเรียนไปด้วยนั่นเอง‘เขา’ มาซื้อสวนทุเรียนจากปลายน้ำอย่างการรับซื้อผลทุเรียน สู่กลางน้ำที่เป็นพ่อค้าคนกลางเองในการเป็นล้ง การทำธุรกิจทุเรียนของจีนได้รุกคืบเข้ามาในอุตสาหกรรมทุเรียนของไทยสู่ต้นน้ำ หรือคือการเป็นผู้ผลิตเสียเอง โดยเริ่มมีการครอบครองสวนทุเรียนโดยทุนจีน ซึ่งจากรายงานศึกษานี้พบว่ากลุ่มทุนจีนที่มาทำธุรกิจล้งทุเรียนมักเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่มาซื้อสวนทุเรียนและทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นการรับประกันว่าจะมีผลผลิตสำหรับการส่งออกที่เพียงพอ แต่อีกเหตุผลที่สำคัญกว่าก็คือการทำกำไรมหาศาล เนื่องจากสามารถกำหนดราคาได้เอง และควบคุมตลาดได้เบ็ดเสร็จโดยในรายงานศึกษาได้นำเสนอวิธีการครอบครองที่ดินของทุนจีน โดยพื้นที่ที่ทุนจีนเล็งไว้มักมีลักษณะที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำเนื่องจากทุเรียนต้องใช้น้ำจำนวนมากในการดูแล นอกจากนี้ทุนจีนมักไม่สนใจที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์เนื่องจากมีราคาสูง แต่มักเลือกที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เช่นในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติซึ่งการเริ่มต้นเข้าไปครอบครองทำสวนทุเรียนจะเริ่มจากมีนายหน้าคนไทยที่คอยเป็นนอมินีให้ทุนจีนโพสต์ตามหาที่ดินตามกบุ่มซื้อ-ขายที่ดินในโซเชียลมีเดีย และมีนายหน้าคนไทยเข้ามาคอมเมนต์เสนอขายที่ดิน ซึ่งนายหน้าที่มาขายที่ดินส่วนใหญ่ก็มักเป็นผู้นำชุมชน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่บ้าน กำนันที่รู้จักพื้นที่เป็นอย่างดีหลังจากได้ข้อมูลที่ดินก็จะมีการนัดแนะ และคนจีนจะเข้าไปดูพื้นที่และตัดสินใจด้วยตัวเองทันทีไม่ผ่านนายหน้า โดยมีข้อสังเกตว่าบางครั้งในการซื้อขายบนโซเชียลมีเดียเอง ก็อาจเป็นคนจีนที่ใช้แอคเคาต์อวตารเป็นคนไทยเพื่อลดค่าใช้จ่ายผ่านนายหน้า ซึ่งที่ดินที่ทุนจีนสนใจมักเป็นสวนที่ต้นทุเรียนให้ผลผลิตแล้ว หลังจากถูกใจในที่ดินก็มีการตกลงซื้อขาย ทำสัญญาเป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษ มีทนายมาร่วมในกระบวนการ โดยจะดำเนินการทำสัญญาที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน และมีผู้ใหญ่บ้านเป็นพยาน เพื่อเป็นหลักประกันว่าที่ดินนี้เชื่อถือได้ โดยผู้ใหญ่บ้านก็จะได้รับเงินในการทำสัญญาครั้งละ 3,000 – 5,000 บาทhttps://epigramnews.co/environment/cross-border-land-acquisition-by-chinese-capital/
    ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาหากใครได้ขับรถไปทางเส้นสุขุมวิท บริเวณจุดเชื่อมต่อระยอง – จันทบุรี เราอาจได้เห็นล้งทุเรียนมากมายริมถนนสุขุมวิท และยิ่งใครได้เดินทางมาช่วงมีนาคม – เมษายน ก็จะได้สัมผัสประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยรถขนทุเรียนรายล้อม ล้งทุเรียนที่คึกคักตลอดวันตลอดคืน หรือแม้แต่การชิงตัดราคากันบนถนนระหว่างรถจอดติดไฟแดงเอง ก็เป็นเหตุการณ์ที่คนในพื้นที่คุ้นเคยกันดี หรือหลายคนอาจจะเคยได้ยินอย่างอาชีพคนวิ่งทุเรียนย้อนกลับไปก่อนการเฟื่องฟูของล้งทุเรียนที่หมายถึงพ่อค้าคนกลางที่เป็นเหมือนโรงคัดแยกและบรรจุทุเรียนเพื่อส่งไปขายต่อ จริงๆ แล้ว ‘ล้ง’ นั้นถูกใช้งานกับการเป็นพ่อค้าคนกลางสำหรับผลไม้ประเภทอื่นๆ ด้วยจากข้อมูลในรายงานศึกษา ได้ชี้ให้เห็นตัวเลขว่า ก่อนปี พ.ศ. 2550 ทุเรียนส่วนใหญ่ยังเน้นบริโภคในประเทศ โดยส่งออกน้อยกว่า 30% ของผลผลิตทั้งหมด แต่หลังปี พ.ศ. 2555 เป็นต้นมา เมื่อเริ่มมีความต้องการจากตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน ทำให้ล้งเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยแรกเริ่มมีล้งของคนไทย ล้งของคนจีน และล้งของคนเวียดนาม จนกระทั่งตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 70% ของผลผลิตทั้งหมด นำไปสู่การเปลี่ยนวิถีการขายทุเรียนที่เน้นเหมาสวนส่งให้ล้ง มีนายหน้าตกลงราคาก่อนผลผลิตจะออกผลและส่งขายโดยข้อมูลในวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 กองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช กรมวิชาการเกษตร ได้แสดงสถิติไว้ว่า ล้งที่ส่งออกไปขายที่จีนทั่วประเทศมีจำนวนทั้งสิ้น 2,122 ราย หากสโคปลงมาที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออกแบ่งเป็น จันทบุรี 909 ราย ระยอง 50 ราย และตราด 29 ราย รวมเป็น 988 ราย หรือคิดเป็น 42.84% ของจำนวนล้งทั้งประเทศแต่นี่เป็นเพียงตัวเลขที่มีการขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานรัฐเท่านั้น เพราะตามรายงานศึกษาของ Land Watch และ EEC Watch พบว่า ในการรายงานข่าวจากสำนักข่าว ThaiPBS ได้ลงพื้นที่สอบถามเจ้าของสวนทุเรียน และพบว่าจำนวนล้งใน 3 จังหวัด จันทบุรี ระยอง ตราด นั้นมีมากกว่า 1,200 ล้งในรายงานศึกษายังได้อธิบายรูปแบบการทำธุรกิจของล้ง โดยแบ่งเป็น 3 รูปแบบ คือ ล้งจีน ล้งไทย และล้งไทยที่มีการร่วมทุนกับต่างชาติ (ซึ่งก็คือจีน) โดยในรูปแบบที่เป็นการร่วมทุน จะมาในลักษณะของ ทุนต่างชาติเป็นผู้ลงเงิน ส่วนคนไทยจะเป็นคนจัดหาลูกทุเรียน และจัดการเรื่องส่งออกโดยข้อมูลจากแหล่งข้อมูลในพื้นที่กรณีศึกษา พบว่า ล้งที่เป็นการร่วมทุนจะตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเขาคิชกูฏ จ.จันทบุรี ในขณะที่ล้งจีน 100% จะพบได้ที่อำเภอท่าใหม่ และอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี โดยใช้ทุนหมุนเวียนวันละไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท โดยใน 3 จังหวัดภาคตะวันออกมีการคาดการณ์ว่ามีล้งจีนกว่า 600 ล้ง ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร แต่ก็ยังมีที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนอีกมากเช่นกันในขณะที่ล้งไทยส่วนใหญ่ จะเป็นคนมีตำแหน่งอย่างผู้ใหญ่บ้าน หรือกำนัน โดยจะเป็นพ่อค้าคนกลางส่งต่อให้กับบริษัทส่งออกของจีนอีกทอดหนึ่ง และมักใช้วิธีการซื้อผ่านการ ‘เกี๊ยว’ หรือมัดจำเอาไว้กับสวนทุเรียนตั้งแต่ช่วงออกดอกหรือที่เรียกว่าช่วง หางแย้ โดยอาศัยความเป็นคนในพื้นที่ในการมีข้อมูลว่าบ้านไหนทำสวน และล้งไทยจะต้องหาให้ได้ตามดีลที่มักนับหน่วยเป็นเต็ม 1 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือประมาณ 18 ตันปัจจุบันจากรายงานข่าวของ ThaiPBS ในเดือนมีนาคม 2567 พบว่าในจังหวัดจันทบุรีมีล้งไทยเหลือไม่ถึง 10% ของจำนวนล้งในจันทบุรี ส่วนใหญ่ได้ผันตัวเป็นล้งที่ร่วมทุนระหว่างไทย-จีน ไปแล้วแต่ดูเหมือนว่าแม้ล้งจะเป็นผู้กำหนดราคาคนสำคัญ แต่ทุนจีนมองการณ์ไกลกว่านั้น โดยเริ่มทำล้งที่มีสวนทุเรียนไปด้วยนั่นเอง‘เขา’ มาซื้อสวนทุเรียนจากปลายน้ำอย่างการรับซื้อผลทุเรียน สู่กลางน้ำที่เป็นพ่อค้าคนกลางเองในการเป็นล้ง การทำธุรกิจทุเรียนของจีนได้รุกคืบเข้ามาในอุตสาหกรรมทุเรียนของไทยสู่ต้นน้ำ หรือคือการเป็นผู้ผลิตเสียเอง โดยเริ่มมีการครอบครองสวนทุเรียนโดยทุนจีน ซึ่งจากรายงานศึกษานี้พบว่ากลุ่มทุนจีนที่มาทำธุรกิจล้งทุเรียนมักเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่มาซื้อสวนทุเรียนและทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นการรับประกันว่าจะมีผลผลิตสำหรับการส่งออกที่เพียงพอ แต่อีกเหตุผลที่สำคัญกว่าก็คือการทำกำไรมหาศาล เนื่องจากสามารถกำหนดราคาได้เอง และควบคุมตลาดได้เบ็ดเสร็จโดยในรายงานศึกษาได้นำเสนอวิธีการครอบครองที่ดินของทุนจีน โดยพื้นที่ที่ทุนจีนเล็งไว้มักมีลักษณะที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำเนื่องจากทุเรียนต้องใช้น้ำจำนวนมากในการดูแล นอกจากนี้ทุนจีนมักไม่สนใจที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์เนื่องจากมีราคาสูง แต่มักเลือกที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เช่นในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติซึ่งการเริ่มต้นเข้าไปครอบครองทำสวนทุเรียนจะเริ่มจากมีนายหน้าคนไทยที่คอยเป็นนอมินีให้ทุนจีนโพสต์ตามหาที่ดินตามกบุ่มซื้อ-ขายที่ดินในโซเชียลมีเดีย และมีนายหน้าคนไทยเข้ามาคอมเมนต์เสนอขายที่ดิน ซึ่งนายหน้าที่มาขายที่ดินส่วนใหญ่ก็มักเป็นผู้นำชุมชน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่บ้าน กำนันที่รู้จักพื้นที่เป็นอย่างดีหลังจากได้ข้อมูลที่ดินก็จะมีการนัดแนะ และคนจีนจะเข้าไปดูพื้นที่และตัดสินใจด้วยตัวเองทันทีไม่ผ่านนายหน้า โดยมีข้อสังเกตว่าบางครั้งในการซื้อขายบนโซเชียลมีเดียเอง ก็อาจเป็นคนจีนที่ใช้แอคเคาต์อวตารเป็นคนไทยเพื่อลดค่าใช้จ่ายผ่านนายหน้า ซึ่งที่ดินที่ทุนจีนสนใจมักเป็นสวนที่ต้นทุเรียนให้ผลผลิตแล้ว หลังจากถูกใจในที่ดินก็มีการตกลงซื้อขาย ทำสัญญาเป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษ มีทนายมาร่วมในกระบวนการ โดยจะดำเนินการทำสัญญาที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน และมีผู้ใหญ่บ้านเป็นพยาน เพื่อเป็นหลักประกันว่าที่ดินนี้เชื่อถือได้ โดยผู้ใหญ่บ้านก็จะได้รับเงินในการทำสัญญาครั้งละ 3,000 – 5,000 บาทhttps://epigramnews.co/environment/cross-border-land-acquisition-by-chinese-capital/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 747 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมเด็จพลอย วัดบัวงาม พระอารามหลวง ปี2536
    สมเด็จพลอย เนื้อผงพุทธคุณ วัดบัวงาม พระอารามหลวง ปี2536 //พระดีพิธีใหญ่ มีเกจิหลายท่านปลุกเสกเช่น หลวงพ่อวิไล วัดโพธิ์งาม // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณดีเยี่ยมด้าน เมตตามหานิยม มหาอำนาจ แคล้วคลาดภัยภิบัติ คงกระพัน โชคลาภ มั่งคั่ง ก้าวหน้า ร่ำรวย ป้องกันภัยอันตราย อุบัติเหตุ ภูตผีปิศาจ >>

    ** วัดบัวงามสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ พุทธศักราช ๒๔๔๒ แรกเริ่มตั้งชื่อวัดว่า “ วัดบัวลอย ” เหตุในการสร้างวัดบัวงามเกิดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๔๒ ได้เกิดคดีเรื่องที่ดินระหว่างนายกีบ เจริญภักดี กับนางทองดี พวงสุข เนื่องจากต่างฝ่ายต่างถือสิทธิ์ว่าเป็นที่ดินที่ตนได้จับจองไว้ ในที่สุดผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นบุคคลที่ชาวบ้านให้ความนับถือ ได้ขอให้ทั้งสองฝ่ายประนีประนอมโดยให้ยกที่ดินนั้นเป็นที่ธรณีสงฆ์สำหรับสร้างวัด เนื้อที่จำนวน ๑๕ ไร่ ๑ งาน ๘๐ ตารางวา และได้นิมนต์พระอาจารย์หน่าย เขมจาโร วัดดอนคลัง มาเป็นประธานสร้างวัด เริ่มเมื่อปีกุน พ.ศ.๒๔๔๒ นั่นเอง >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    สมเด็จพลอย วัดบัวงาม พระอารามหลวง ปี2536 สมเด็จพลอย เนื้อผงพุทธคุณ วัดบัวงาม พระอารามหลวง ปี2536 //พระดีพิธีใหญ่ มีเกจิหลายท่านปลุกเสกเช่น หลวงพ่อวิไล วัดโพธิ์งาม // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณดีเยี่ยมด้าน เมตตามหานิยม มหาอำนาจ แคล้วคลาดภัยภิบัติ คงกระพัน โชคลาภ มั่งคั่ง ก้าวหน้า ร่ำรวย ป้องกันภัยอันตราย อุบัติเหตุ ภูตผีปิศาจ >> ** วัดบัวงามสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ พุทธศักราช ๒๔๔๒ แรกเริ่มตั้งชื่อวัดว่า “ วัดบัวลอย ” เหตุในการสร้างวัดบัวงามเกิดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๔๒ ได้เกิดคดีเรื่องที่ดินระหว่างนายกีบ เจริญภักดี กับนางทองดี พวงสุข เนื่องจากต่างฝ่ายต่างถือสิทธิ์ว่าเป็นที่ดินที่ตนได้จับจองไว้ ในที่สุดผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นบุคคลที่ชาวบ้านให้ความนับถือ ได้ขอให้ทั้งสองฝ่ายประนีประนอมโดยให้ยกที่ดินนั้นเป็นที่ธรณีสงฆ์สำหรับสร้างวัด เนื้อที่จำนวน ๑๕ ไร่ ๑ งาน ๘๐ ตารางวา และได้นิมนต์พระอาจารย์หน่าย เขมจาโร วัดดอนคลัง มาเป็นประธานสร้างวัด เริ่มเมื่อปีกุน พ.ศ.๒๔๔๒ นั่นเอง >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • ได้ดูคลิปที่แชร์กันต่อเรื่องที่ต่างด้าวเข้ามาใช้สิทธิ์การรักษาฟรีในประเทศ รวมถึงมาเรียนฟรีด้วย เหตุการณ์นี้ทำให้ นึกถึงตอนที่มีคนพม่า มาขอให้รับรองว่ามาเช่าอยู่ในพื้นที่ เพื่อที่จะทำใบรับรองในการเรียนกับ สกร.(กศน.เก่า) ในระดับอนุบาล( ระดับไม่มีความรู้ด้านภาษาไทยเลย) ทั้งๆที่ อายุของคนที่มาขอรับรองก็ประมาณ 40 กว่าๆ เมื่อโทรไปเช็คกับต้นสังกัด เพราะเอกสารที่ให้เซ็นเกี่ยวกับการรับรองรายได้ รวมถึงใบรับรองจากผู้ใหญ่บ้านด้วย
    จนในที่สุดทาง สกร.(กศน.เดิม) ตอบมาว่าเป็นแบบฟอร์มที่มาจากหน่วยงานจริง แต่เหตุการณ์นี้ทำให้คิดต่อได้ว่า หากคนไทยต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศนอกจากจะต้องเสียค่าเล่าเรียนที่แสนแพงแล้ว การกระทำ student visa ก็ยังยากเย็นแสนเข็ญแต่ตอนนี้ทั้งต่างด้าวและต่างชาติฉวยโอกาส เข้ามาเรียนฟรีแถมยังเป็นใบการันตีในการอยู่ในประเทศไทยได้อย่างสะดวกสบาย
    เคยโทรไปปรึกษากับผอ.สกร อำเภอ แต่ก็ได้คำตอบว่าไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเป็นนโยบายมาจากส่วนกลาง เราก็ได้แต่เข้าใจและทำใจเพียงแต่ฝากผอ. ไปว่าถ้ามีโอกาสได้ชี้แจงหรือเสนอแนะประเด็นตรงนี้ขึ้นไปในระดับบน ก็จะได้ช่วยชี้ให้เห็นถึงช่องว่างช่องโหว่ เพราะคนไทยในปัจจุบันแทบจะไม่มีที่ไปเรียนการศึกษานอกโรงเรียนแล้ว
    พี่ที่เคารพกันเคยเล่าให้ฟังว่าเคยได้ยินพวกไทยใหญ่อ้างบุญคุณว่าถ้าไม่มีพวกเขาโรงเรียนต่างๆที่เปิดก็จะเจ๊งเพราะพวกเขาทำให้โรงเรียนของพวกเราอยู่ได้ แหม…. ทำไมไม่มาพูดให้เราได้ยินนะจะตอบกลับกลับไปให้สวยๆเลยทีเดียว
    ได้ดูคลิปที่แชร์กันต่อเรื่องที่ต่างด้าวเข้ามาใช้สิทธิ์การรักษาฟรีในประเทศ รวมถึงมาเรียนฟรีด้วย เหตุการณ์นี้ทำให้ นึกถึงตอนที่มีคนพม่า มาขอให้รับรองว่ามาเช่าอยู่ในพื้นที่ เพื่อที่จะทำใบรับรองในการเรียนกับ สกร.(กศน.เก่า) ในระดับอนุบาล( ระดับไม่มีความรู้ด้านภาษาไทยเลย) ทั้งๆที่ อายุของคนที่มาขอรับรองก็ประมาณ 40 กว่าๆ เมื่อโทรไปเช็คกับต้นสังกัด เพราะเอกสารที่ให้เซ็นเกี่ยวกับการรับรองรายได้ รวมถึงใบรับรองจากผู้ใหญ่บ้านด้วย จนในที่สุดทาง สกร.(กศน.เดิม) ตอบมาว่าเป็นแบบฟอร์มที่มาจากหน่วยงานจริง แต่เหตุการณ์นี้ทำให้คิดต่อได้ว่า หากคนไทยต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศนอกจากจะต้องเสียค่าเล่าเรียนที่แสนแพงแล้ว การกระทำ student visa ก็ยังยากเย็นแสนเข็ญแต่ตอนนี้ทั้งต่างด้าวและต่างชาติฉวยโอกาส เข้ามาเรียนฟรีแถมยังเป็นใบการันตีในการอยู่ในประเทศไทยได้อย่างสะดวกสบาย เคยโทรไปปรึกษากับผอ.สกร อำเภอ แต่ก็ได้คำตอบว่าไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเป็นนโยบายมาจากส่วนกลาง เราก็ได้แต่เข้าใจและทำใจเพียงแต่ฝากผอ. ไปว่าถ้ามีโอกาสได้ชี้แจงหรือเสนอแนะประเด็นตรงนี้ขึ้นไปในระดับบน ก็จะได้ช่วยชี้ให้เห็นถึงช่องว่างช่องโหว่ เพราะคนไทยในปัจจุบันแทบจะไม่มีที่ไปเรียนการศึกษานอกโรงเรียนแล้ว พี่ที่เคารพกันเคยเล่าให้ฟังว่าเคยได้ยินพวกไทยใหญ่อ้างบุญคุณว่าถ้าไม่มีพวกเขาโรงเรียนต่างๆที่เปิดก็จะเจ๊งเพราะพวกเขาทำให้โรงเรียนของพวกเราอยู่ได้ แหม…. ทำไมไม่มาพูดให้เราได้ยินนะจะตอบกลับกลับไปให้สวยๆเลยทีเดียว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 549 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์ข่าวขอนแก่น-เจ้าอาวาสวัดจำปา ต.บ้านลาน อ.บ้านไผ่ขับรถยนต์หนีออกจากวัดกลางดึก หลังมีภาพหลุดแต่งตัวเป็นคนธรรมดาถ่ายรูปคู่กับสีกาสาว อ้างมีพระผู้ใหญ่แนะให้หลบไปก่อนจนกว่าจะเคลียร์กับทางคณะสงฆ์จังหวัดและสำนักพุทธได้ ค่อยกลับวัด ซ้ำแถอีกมีมือดีตัดต่อภาพทั้งพระทั้งสีกาคู่กายจะฟ้องเอาผิด

    จากกรณีเพจ Facebook ชื่อ ”อีซ้อขยี้ข่าว“ โพสต์ภาพพระสงฆ์รูปหนึ่งนั่งบนเก้าอี้และมีสีกานั่งอยู่บนพื้น พร้อมข้อความระบุว่า “เจ้าอาวาสวัดนึงใน จ.ขอนแก่น กลางวันอยู่วัด กลางคืนควงสาวเข้ารีสอร์ท“ ภายหลังโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก และทราบต่อมาว่าพระรูปดังกล่าวคือ พระครูพิศาลจันโทภาส เจ้าอาวาสวัดจำปา อ.บ้านไผ่

    ล่าสุดบ่ายวันนี้(12ก.พ.)ที่วัดจำปา ต.บ้านลาน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ได้มีผู้นำชุมชนและชาวบ้าน เกาะกลุ่มพูดคุยวิพากย์วิจารณ์กรณีภาพที่ปรากฏในสื่อโซเชียล ต่างยืนยันว่าเป็นพระครูพิศาลจันโทภาส เจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ และต่อมามีนายวรรลพ วลัยศรี ปลัดอาวุโสอำเภอบ้านไผ่ พร้อมด้วยปลัดป้องกันอำเภอบ้านไผ่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 และหมู่ 12 ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริง จากการตรวจสอบพบว่าที่กุฎิเจ้าอาวาสมีการล็อกกุญแจจากด้านนอก ปิดประตูหน้าต่างมิดชิดทุกบาน ส่วนตัวเจ้าอาวาสได้ขับรถกระบะส่วนตัวออกจากวัดไปตั้งแต่เมื่อคืนกลางดึก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000014219

    #MGROnline #วัดจำปา #ขอนแก่น
    ศูนย์ข่าวขอนแก่น-เจ้าอาวาสวัดจำปา ต.บ้านลาน อ.บ้านไผ่ขับรถยนต์หนีออกจากวัดกลางดึก หลังมีภาพหลุดแต่งตัวเป็นคนธรรมดาถ่ายรูปคู่กับสีกาสาว อ้างมีพระผู้ใหญ่แนะให้หลบไปก่อนจนกว่าจะเคลียร์กับทางคณะสงฆ์จังหวัดและสำนักพุทธได้ ค่อยกลับวัด ซ้ำแถอีกมีมือดีตัดต่อภาพทั้งพระทั้งสีกาคู่กายจะฟ้องเอาผิด • จากกรณีเพจ Facebook ชื่อ ”อีซ้อขยี้ข่าว“ โพสต์ภาพพระสงฆ์รูปหนึ่งนั่งบนเก้าอี้และมีสีกานั่งอยู่บนพื้น พร้อมข้อความระบุว่า “เจ้าอาวาสวัดนึงใน จ.ขอนแก่น กลางวันอยู่วัด กลางคืนควงสาวเข้ารีสอร์ท“ ภายหลังโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก และทราบต่อมาว่าพระรูปดังกล่าวคือ พระครูพิศาลจันโทภาส เจ้าอาวาสวัดจำปา อ.บ้านไผ่ • ล่าสุดบ่ายวันนี้(12ก.พ.)ที่วัดจำปา ต.บ้านลาน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ได้มีผู้นำชุมชนและชาวบ้าน เกาะกลุ่มพูดคุยวิพากย์วิจารณ์กรณีภาพที่ปรากฏในสื่อโซเชียล ต่างยืนยันว่าเป็นพระครูพิศาลจันโทภาส เจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ และต่อมามีนายวรรลพ วลัยศรี ปลัดอาวุโสอำเภอบ้านไผ่ พร้อมด้วยปลัดป้องกันอำเภอบ้านไผ่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 และหมู่ 12 ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริง จากการตรวจสอบพบว่าที่กุฎิเจ้าอาวาสมีการล็อกกุญแจจากด้านนอก ปิดประตูหน้าต่างมิดชิดทุกบาน ส่วนตัวเจ้าอาวาสได้ขับรถกระบะส่วนตัวออกจากวัดไปตั้งแต่เมื่อคืนกลางดึก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000014219 • #MGROnline #วัดจำปา #ขอนแก่น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 605 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าอาวาสวัดอินกัลยา อ.บางปะหัน จ.อยุธยาได้มอบ ถุงยังชีพให้กับ ผู้เปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียงและผู้ยากไร้ จำนวน 50 ครัวเรือน ในพื้นที่ตำบลบ้านลี่ ต.บางนางร้า อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
    https://www.facebook.com/share/p/169H8skgdF/
    พระครูวินัยธร ภภฺทโก เจ้าอาวาส วัดอินกัลยา อ.บางปะหัน ได้มอบข้าวสารอาหารแห้ง ใข่ไก่น้ำดื่มให้กับ กลุ่มผู้เปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียงและผู้ยากไร้ในพื้นที่ตำบลบ้านลี่ ต.บางนางร้า จำนวน 50 ครัวเรือน ชาวบ้านเหล่านี้ได้คัดกรองมาจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ โดยนัดรับรับมอบถุงยังชีพที่วัดอินกัลยาบางปะหันโดยมีพระครูวินัยธรไพโรน์ ภภฺทโก เจ้าอาวาส เป็นประธานมอบถุงยังชีพ ให้กับผู้ เปราะบางจำนวน 50 ครัวเรือน ณ ที่หน้าศาลาทรงไทยและใด้มอบไปเป็นทีเรียบร้อย และจะมอบถุงยังชีพไปอย่างต่อเนื่อง ประจำของทุกเดือน โดย จะประสานผ่านทางกำนันผู้ใหญ่บ้านให้ทราบ
    ชาญ ชูกลิ่น อยุธยา
    เจ้าอาวาสวัดอินกัลยา อ.บางปะหัน จ.อยุธยาได้มอบ ถุงยังชีพให้กับ ผู้เปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียงและผู้ยากไร้ จำนวน 50 ครัวเรือน ในพื้นที่ตำบลบ้านลี่ ต.บางนางร้า อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา https://www.facebook.com/share/p/169H8skgdF/ พระครูวินัยธร ภภฺทโก เจ้าอาวาส วัดอินกัลยา อ.บางปะหัน ได้มอบข้าวสารอาหารแห้ง ใข่ไก่น้ำดื่มให้กับ กลุ่มผู้เปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียงและผู้ยากไร้ในพื้นที่ตำบลบ้านลี่ ต.บางนางร้า จำนวน 50 ครัวเรือน ชาวบ้านเหล่านี้ได้คัดกรองมาจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ โดยนัดรับรับมอบถุงยังชีพที่วัดอินกัลยาบางปะหันโดยมีพระครูวินัยธรไพโรน์ ภภฺทโก เจ้าอาวาส เป็นประธานมอบถุงยังชีพ ให้กับผู้ เปราะบางจำนวน 50 ครัวเรือน ณ ที่หน้าศาลาทรงไทยและใด้มอบไปเป็นทีเรียบร้อย และจะมอบถุงยังชีพไปอย่างต่อเนื่อง ประจำของทุกเดือน โดย จะประสานผ่านทางกำนันผู้ใหญ่บ้านให้ทราบ ชาญ ชูกลิ่น อยุธยา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมพลัง คนทำบัตรเสีย และไม่เลือกผู้ใด ทั่วประเทศให้ได้เกิน 10% เพื่อบอกพวกเขาว่า เลือกทำไม อบจ. อบต. ในเมื่อ มีผู้ว่า ผู้ใหญ่บ้าน ก็ปกครองให้ดีก็ทำได้แล้วhttps://youtu.be/Ma4YlfbbP3Y?si=MueWxa11qyP4FYzY
    รวมพลัง คนทำบัตรเสีย และไม่เลือกผู้ใด ทั่วประเทศให้ได้เกิน 10% เพื่อบอกพวกเขาว่า เลือกทำไม อบจ. อบต. ในเมื่อ มีผู้ว่า ผู้ใหญ่บ้าน ก็ปกครองให้ดีก็ทำได้แล้วhttps://youtu.be/Ma4YlfbbP3Y?si=MueWxa11qyP4FYzY
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายอำเภอเมืองลพบุรี ตรวจเข้มไร่อ้อย
    ป้องกันการเผา
    เกิดปัญหามลพิษทางฝุ่น Pm 2.5
    เขตอำเภอเมืองลพบุรี
    //////////////////////


    จังหวัดลพบุรี โดยอำเภอเมืองลพบุรี รณรงค์ให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย ใช้รถตัดอ้อยสด เพื่อลดการเผาอ้อยก่อนตัด เป็นบ่อเกิดปัญหามลพิษทางฝุ่น Pm 2.5

    เมื่อเวลา 14.30 น ในวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568
    นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี
    ภายใต้การอำนวยการของ นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี
    พร้อมด้วยนางสาวพรนิภา จิกแหล่ม ลงพื้นที่ที่ปลูกอ้อย ตำบลโคกตูม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ซึ่งมีเกษตรกรปลูกอ้อย 305 ราย พื้นที่ 5,394 ไร่ ได้ดำเนินการดังนี้
    1 นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ได้สอบถามนางมาลี แก้วเกิด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ตำบลโคกตูม ถึงสถานการณ์การตัดอ้อยในพื้นที่ ปรากฏว่าเกษตรกรในพื้นที่ตำบลโคกตูม ส่วนใหญ่ใช้วิธีการตัดอ้อยสดเพื่อส่งโรงงาน 100% โดยใช้รถคัดอ้อยในการเก็บเกี่ยว ซึ่งมีรถตัดอ้อยในพื้นที่กว่า 10 คัน
    2. นางสาวพรนิภา จิกแหล่ม เกษตรอำเภอเมืองลพบุรี นางสาวปรียารัฐ ภูสุวรรณ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ และนางสาวนิชาภา ธัมมัญจศิริ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฎิบัติการ ให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการแปลงอ้อยหลังการเก็บเกี่ยว โดยการอัดใบอ้อยเพื่อส่งโรงไฟฟ้าชีวมวล เป็นรายได้อีกทางหนึ่ง
    นายอำเภอเมืองลพบุรี ตรวจเข้มไร่อ้อย ป้องกันการเผา เกิดปัญหามลพิษทางฝุ่น Pm 2.5 เขตอำเภอเมืองลพบุรี ////////////////////// จังหวัดลพบุรี โดยอำเภอเมืองลพบุรี รณรงค์ให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย ใช้รถตัดอ้อยสด เพื่อลดการเผาอ้อยก่อนตัด เป็นบ่อเกิดปัญหามลพิษทางฝุ่น Pm 2.5 เมื่อเวลา 14.30 น ในวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568 นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ภายใต้การอำนวยการของ นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยนางสาวพรนิภา จิกแหล่ม ลงพื้นที่ที่ปลูกอ้อย ตำบลโคกตูม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ซึ่งมีเกษตรกรปลูกอ้อย 305 ราย พื้นที่ 5,394 ไร่ ได้ดำเนินการดังนี้ 1 นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ได้สอบถามนางมาลี แก้วเกิด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ตำบลโคกตูม ถึงสถานการณ์การตัดอ้อยในพื้นที่ ปรากฏว่าเกษตรกรในพื้นที่ตำบลโคกตูม ส่วนใหญ่ใช้วิธีการตัดอ้อยสดเพื่อส่งโรงงาน 100% โดยใช้รถคัดอ้อยในการเก็บเกี่ยว ซึ่งมีรถตัดอ้อยในพื้นที่กว่า 10 คัน 2. นางสาวพรนิภา จิกแหล่ม เกษตรอำเภอเมืองลพบุรี นางสาวปรียารัฐ ภูสุวรรณ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ และนางสาวนิชาภา ธัมมัญจศิริ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฎิบัติการ ให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการแปลงอ้อยหลังการเก็บเกี่ยว โดยการอัดใบอ้อยเพื่อส่งโรงไฟฟ้าชีวมวล เป็นรายได้อีกทางหนึ่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 500 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขออัปเดตหน่อย เพื่อให้คนมีที่ดินและคิดจะปลูกไม้ยืนต้นทิ้งไว้ จะได้เป็นแนวทางหนึ่งในการตัดสินใจ....แปลงนี้ศิษย์เกษตรได้ไปให้บริการแนะนำปลูกและดูแลตัดหญ้า ในเขตจังหวัดแพร่เมื่อ 6 เดือนก่อน ลงปลูกไปทั้งหมด 150 ต้น ตอนนี้เหลือ 128 ต้น เท่ากับว่าผ่านมาครึ่งปีต้นไม้รอด 85 %....เหตุที่ตายก็มาจากวัวเหยียบบ้าง คนเข้ามาตัดหญ้าไปเลี้ยงวัวไม่เห็นบ้าง และก็พื้นที่บางโซนน้ำท่วมขังในฤดูฝนก็ตายไปบ้าง แต่รอด 85% นี่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รอดเยอะมากเมื่อเทียบกับการไม่ต้องติดตั้งระบบน้ำ แต่ไม่ใช่ว่าปลูกไม้ป่าแล้วจะไม่ลงทุนเลย อันนั้นไม่ใช่ เพราะแปลงนี้เจ้าของแปลงให้ lit nit เข้ามาตัดหญ้าทุก 3 เดือน และตอนนี้ก็ต้องลงทุนล้อมลวดไฟฟ้าเพื่อกันวัวชาวบ้านที่เข้ามา (เจ้าของตัดสินใจกั้นรั้วเองเพราะไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านก็แล้ว ทะเลาะกับเจ้าของวัวก็แล้วแต่ปัญหาเรื่องวัวก็ไม่จบไม่สิ้นสักที)....แปลงนี้ไม่ใช้ยาฆ่าหญ้าเพราะหากใช้ยาฆ่าหญ้าโอกาสที่ต้นไม้จะตายเพราะขาดน้ำก็มีสูง เหตุเพราะไม่มีอะไรห่มดินไว้ไม่ให้โดนแดดโดยตรง หรือหากฆ่าหญ้าก็ต้องติดตั้งระบบน้ำซึ่งก็ใช้งบบานปลายเกินจำเป็น เพราะเมื่อติดตั้งระบบน้ำก็จะต้องมีการดูแลระบบอย่างต่อเนื่องเหตุเพราะสายน้ำรั่วบ้าง หัวตันบ้าง อุปกรณ์ถูกขโมยบ้างอะไรประมาณนี้ผ่านมาครึ่งปีไม้หลายต้นโตเร็วจนหนีหญ้าเกือบพ้นแล้ว บางต้นบางชนิดโตช้ามาก ๆ ตามลักษณะพันธุ์....การปลูกต้นไม้เป็นการลงทุน อยู่ที่ว่าจะเลือกลงทุนมากหรือน้อย ลงทุนเหมาะสมหรือเกินกำลัง หรือตัดสินใจไปในทิศทางเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย#อันนี้ขึ้นอยู่กับว่า ลงทุนเพราะใจอยาก หรือลงทุนตามข้อมูลที่ศึกษามาและคำแนะนำจากผู้ที่มีประสบการณ์โชกโชน^^
    ขออัปเดตหน่อย เพื่อให้คนมีที่ดินและคิดจะปลูกไม้ยืนต้นทิ้งไว้ จะได้เป็นแนวทางหนึ่งในการตัดสินใจ....แปลงนี้ศิษย์เกษตรได้ไปให้บริการแนะนำปลูกและดูแลตัดหญ้า ในเขตจังหวัดแพร่เมื่อ 6 เดือนก่อน ลงปลูกไปทั้งหมด 150 ต้น ตอนนี้เหลือ 128 ต้น เท่ากับว่าผ่านมาครึ่งปีต้นไม้รอด 85 %....เหตุที่ตายก็มาจากวัวเหยียบบ้าง คนเข้ามาตัดหญ้าไปเลี้ยงวัวไม่เห็นบ้าง และก็พื้นที่บางโซนน้ำท่วมขังในฤดูฝนก็ตายไปบ้าง แต่รอด 85% นี่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รอดเยอะมากเมื่อเทียบกับการไม่ต้องติดตั้งระบบน้ำ แต่ไม่ใช่ว่าปลูกไม้ป่าแล้วจะไม่ลงทุนเลย อันนั้นไม่ใช่ เพราะแปลงนี้เจ้าของแปลงให้ lit nit เข้ามาตัดหญ้าทุก 3 เดือน และตอนนี้ก็ต้องลงทุนล้อมลวดไฟฟ้าเพื่อกันวัวชาวบ้านที่เข้ามา (เจ้าของตัดสินใจกั้นรั้วเองเพราะไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านก็แล้ว ทะเลาะกับเจ้าของวัวก็แล้วแต่ปัญหาเรื่องวัวก็ไม่จบไม่สิ้นสักที)....แปลงนี้ไม่ใช้ยาฆ่าหญ้าเพราะหากใช้ยาฆ่าหญ้าโอกาสที่ต้นไม้จะตายเพราะขาดน้ำก็มีสูง เหตุเพราะไม่มีอะไรห่มดินไว้ไม่ให้โดนแดดโดยตรง หรือหากฆ่าหญ้าก็ต้องติดตั้งระบบน้ำซึ่งก็ใช้งบบานปลายเกินจำเป็น เพราะเมื่อติดตั้งระบบน้ำก็จะต้องมีการดูแลระบบอย่างต่อเนื่องเหตุเพราะสายน้ำรั่วบ้าง หัวตันบ้าง อุปกรณ์ถูกขโมยบ้างอะไรประมาณนี้ผ่านมาครึ่งปีไม้หลายต้นโตเร็วจนหนีหญ้าเกือบพ้นแล้ว บางต้นบางชนิดโตช้ามาก ๆ ตามลักษณะพันธุ์....การปลูกต้นไม้เป็นการลงทุน อยู่ที่ว่าจะเลือกลงทุนมากหรือน้อย ลงทุนเหมาะสมหรือเกินกำลัง หรือตัดสินใจไปในทิศทางเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย#อันนี้ขึ้นอยู่กับว่า ลงทุนเพราะใจอยาก หรือลงทุนตามข้อมูลที่ศึกษามาและคำแนะนำจากผู้ที่มีประสบการณ์โชกโชน^^
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลำปาง - ผู้ใหญ่บ้านหลิ่งก้าน เมืองรถม้า เผย..“เบิร์ด วันว่างๆ” สมัยเด็กลำบากตระเวนไปกับพ่อพักอยู่บ้านพักคนงานในสวนพ่อเลี้ยงลำปาง แทบไม่เชื่อว่าจะเป็นคนเดียวกัน

    นายเส็ง วงค์ต่อม ผญบ.หลิ่งก้าน ม.3 ต.หนองหล่ม อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ได้นำผู้สื่อข่าวลุยถนนดินแดงเข้าไปดูอดีตที่เคยเป็นสวนของพ่อเลี้ยงธง พ่อเลี้ยงลำปาง ที่พ่อของ “เบิร์ด วันว่างๆ” เคยพาเบิร์ดมาพักอาศัยและทำงานเป็นคนสวนอยู่ที่นี่เมื่อกว่า 20 ปีก่อน สมัยเบิร์ดเป็นเด็ก

    ซึ่งปัจจุบันสวนดังกล่าว กลายเป็นสวนร้าง เนื่องจากพ่อเลี้ยงธงได้เสียชีวิตไปแล้วและบุตรหลานได้ขายสวนแห่งนี้ให้กับเจ้าของใหม่ แต่ก็ยังเหลือบ้านพักคนงานที่ปล่อยร้างไว้อยู่

    ผู้ใหญ่บ้านบอกว่าพื้นเพเดิมก็ไม่รู้ว่าพ่อลูกคู่นี้มาจากไหน แต่พ่อของเบิร์ดก็พาเบิร์ดตระเวนทำงาน เป็นคนงานทำสวนของพ่อเลี้ยงธงหลายปี เบิร์ดก็เรียนหนังสือชั้นประถมจนถึงชั้นประถม6 ที่โรงเรียนหลิ่งก้านแห่งนี้ ซึ่งก็ถือว่าลำบากไม่มีบ้านอยู่

    พ่อเบิร์ดชอบกินเหล้าจนสุดท้ายหน้าหนาวจำปีไม่ได้ เขากินเหล้าจนตาย ก็นำศพมาทำพิธีที่วัด จากนั้นเบิร์ดก็อาศัยอยู่กับพ่อเลี้ยงธง ระยะหนึ่งจนพ่อเลี้ยงธงเสียและมีการขายที่ดินแห่งนี้ไปจากนั้นก็ไม่เห็นหน้าอีกเลย จนกระทั่งเป็นข่าวก็กว่า 20 ปี คือแทบจำหน้าไม่ได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9670000124876

    #MGROnline #ลำปาง #ผู้ใหญ่บ้าน #เบิร์ดวันว่างๆ
    ลำปาง - ผู้ใหญ่บ้านหลิ่งก้าน เมืองรถม้า เผย..“เบิร์ด วันว่างๆ” สมัยเด็กลำบากตระเวนไปกับพ่อพักอยู่บ้านพักคนงานในสวนพ่อเลี้ยงลำปาง แทบไม่เชื่อว่าจะเป็นคนเดียวกัน • นายเส็ง วงค์ต่อม ผญบ.หลิ่งก้าน ม.3 ต.หนองหล่ม อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ได้นำผู้สื่อข่าวลุยถนนดินแดงเข้าไปดูอดีตที่เคยเป็นสวนของพ่อเลี้ยงธง พ่อเลี้ยงลำปาง ที่พ่อของ “เบิร์ด วันว่างๆ” เคยพาเบิร์ดมาพักอาศัยและทำงานเป็นคนสวนอยู่ที่นี่เมื่อกว่า 20 ปีก่อน สมัยเบิร์ดเป็นเด็ก • ซึ่งปัจจุบันสวนดังกล่าว กลายเป็นสวนร้าง เนื่องจากพ่อเลี้ยงธงได้เสียชีวิตไปแล้วและบุตรหลานได้ขายสวนแห่งนี้ให้กับเจ้าของใหม่ แต่ก็ยังเหลือบ้านพักคนงานที่ปล่อยร้างไว้อยู่ • ผู้ใหญ่บ้านบอกว่าพื้นเพเดิมก็ไม่รู้ว่าพ่อลูกคู่นี้มาจากไหน แต่พ่อของเบิร์ดก็พาเบิร์ดตระเวนทำงาน เป็นคนงานทำสวนของพ่อเลี้ยงธงหลายปี เบิร์ดก็เรียนหนังสือชั้นประถมจนถึงชั้นประถม6 ที่โรงเรียนหลิ่งก้านแห่งนี้ ซึ่งก็ถือว่าลำบากไม่มีบ้านอยู่ • พ่อเบิร์ดชอบกินเหล้าจนสุดท้ายหน้าหนาวจำปีไม่ได้ เขากินเหล้าจนตาย ก็นำศพมาทำพิธีที่วัด จากนั้นเบิร์ดก็อาศัยอยู่กับพ่อเลี้ยงธง ระยะหนึ่งจนพ่อเลี้ยงธงเสียและมีการขายที่ดินแห่งนี้ไปจากนั้นก็ไม่เห็นหน้าอีกเลย จนกระทั่งเป็นข่าวก็กว่า 20 ปี คือแทบจำหน้าไม่ได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9670000124876 • #MGROnline #ลำปาง #ผู้ใหญ่บ้าน #เบิร์ดวันว่างๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 682 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ยะลา - ยะลาวิกฤตหนักดินสไลด์ถนนเส้น 410 ยะลา-เบตง จนท.เร่งเคลียร์เส้นทาง ขณะที่น้ำจากแม่น้ำปัตตานีข้ามสันเขื่อนเข้าเขตเทศบาลนครยะลา ทำให้พื้นที่ชุมชนเขตเศรษฐกิจได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง

    วันนี้ (29 พ.ย.) ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดยะลา ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง จนทำให้เกิดดินสไลด์ทับถนนสาย 410 ยะลา-เบตง เขตบ้านกระป๋องบ้านตาพะเยา ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.แม่หวาด ร่วมกับหมวดการทาง ชุดคุ้มครองครูตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันเร่งเคลียร์เส้นทางเพื่อให้รถสัญจรไปมาได้

    ขณะที่ในเขตเทศบาลนครยะลา ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปในพื้นที่ชุมชนบ้านร่ม หมู่ที่ 1 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ใกล้กับ ต.ท่าสาป ซึ่งติดกับแม่น้ำปัตตานี พบมีสภาพน้ำไหลหลากข้ามแนวสันเขื่อนชุมชนบ้านร่ม เขตเทศบาลนครยะลา มวลน้ำจากแม่น้ำปัตตานีได้ล้นพนังกั้นน้ำเข้ามาในพื้นที่หมู่บ้าน ทำให้น้ำท่วมขยายเป็นวงกว้างในพื้นที่ของ ชุมชน 5 แยกสะเตง ชุมชนสาย 15 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา ก่อนเข้าไปภายในตัวเมืองยะลา

    ซึ่งมวลน้ำจากแม่น้ำปัตตานีที่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องคาดว่าเป็นปริมาณน้ำฝนตกสะสมจากพื้นที่ อ.บันนังสตา อ.กรงปินัง เนื่องจากมีรายงานว่า ทั้ง 2 อำเภอมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งมวลน้ำทั้งหมดไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานี โดยทางน้ำได้ไหลผ่าน อ.เมืองยะลา สู่เขื่อนชลประทานปัตตานี แต่ด้วยระดับน้ำที่ท่วมอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าสาป ต.ยุโป เป็นพื้นที่ติดแม่น้ำปัตตานีอยู่แล้ว จึงทำให้มวลน้ำมารวมกันจนระดับน้ำท่วมสูงขึ้นจนล้นพนังกันน้ำ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/south/detail/9670000114947

    #MGROnline #สถานการณ์น้ำท่วม #จังหวัดยะลา
    #ยะลา - ยะลาวิกฤตหนักดินสไลด์ถนนเส้น 410 ยะลา-เบตง จนท.เร่งเคลียร์เส้นทาง ขณะที่น้ำจากแม่น้ำปัตตานีข้ามสันเขื่อนเข้าเขตเทศบาลนครยะลา ทำให้พื้นที่ชุมชนเขตเศรษฐกิจได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง • วันนี้ (29 พ.ย.) ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดยะลา ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง จนทำให้เกิดดินสไลด์ทับถนนสาย 410 ยะลา-เบตง เขตบ้านกระป๋องบ้านตาพะเยา ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.แม่หวาด ร่วมกับหมวดการทาง ชุดคุ้มครองครูตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันเร่งเคลียร์เส้นทางเพื่อให้รถสัญจรไปมาได้ • ขณะที่ในเขตเทศบาลนครยะลา ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปในพื้นที่ชุมชนบ้านร่ม หมู่ที่ 1 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ใกล้กับ ต.ท่าสาป ซึ่งติดกับแม่น้ำปัตตานี พบมีสภาพน้ำไหลหลากข้ามแนวสันเขื่อนชุมชนบ้านร่ม เขตเทศบาลนครยะลา มวลน้ำจากแม่น้ำปัตตานีได้ล้นพนังกั้นน้ำเข้ามาในพื้นที่หมู่บ้าน ทำให้น้ำท่วมขยายเป็นวงกว้างในพื้นที่ของ ชุมชน 5 แยกสะเตง ชุมชนสาย 15 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา ก่อนเข้าไปภายในตัวเมืองยะลา • ซึ่งมวลน้ำจากแม่น้ำปัตตานีที่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องคาดว่าเป็นปริมาณน้ำฝนตกสะสมจากพื้นที่ อ.บันนังสตา อ.กรงปินัง เนื่องจากมีรายงานว่า ทั้ง 2 อำเภอมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งมวลน้ำทั้งหมดไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานี โดยทางน้ำได้ไหลผ่าน อ.เมืองยะลา สู่เขื่อนชลประทานปัตตานี แต่ด้วยระดับน้ำที่ท่วมอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าสาป ต.ยุโป เป็นพื้นที่ติดแม่น้ำปัตตานีอยู่แล้ว จึงทำให้มวลน้ำมารวมกันจนระดับน้ำท่วมสูงขึ้นจนล้นพนังกันน้ำ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/south/detail/9670000114947 • #MGROnline #สถานการณ์น้ำท่วม #จังหวัดยะลา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 923 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านยันเหตุระเบิดแคมป์คนงานสร้างเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ที่สุดในโลกไม่มีความขัดแย้งระหว่างศาสนา แม้เคยมีการต่อต้านการเริ่มสร้าง เจ้าหน้าที่เร่งหาเบาะแสล่าตัวผู้ก่อเหตุ ชาวบ้านผวาเกิดขึ้นครั้งแรกและหนักมาก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000111775

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านยันเหตุระเบิดแคมป์คนงานสร้างเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ที่สุดในโลกไม่มีความขัดแย้งระหว่างศาสนา แม้เคยมีการต่อต้านการเริ่มสร้าง เจ้าหน้าที่เร่งหาเบาะแสล่าตัวผู้ก่อเหตุ ชาวบ้านผวาเกิดขึ้นครั้งแรกและหนักมาก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000111775 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1684 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ใหญ่บ้านตัดพ้อโอดวอนรัฐช่วยปัญหาภัยช้างป่าบุกทำลายสวนยางพาราหักโค่นไปกว่าพันต้น

    https://youtu.be/KwLWKNj549A
    ผู้ใหญ่บ้านตัดพ้อโอดวอนรัฐช่วยปัญหาภัยช้างป่าบุกทำลายสวนยางพาราหักโค่นไปกว่าพันต้น https://youtu.be/KwLWKNj549A
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 443 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣️ มี อสม.เป็นฐานเสียงยังไม่พอ ขอต่ออายุให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไว้เป็นหัวคะแนน
    #7ดอกจิก
    ♣️ มี อสม.เป็นฐานเสียงยังไม่พอ ขอต่ออายุให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไว้เป็นหัวคะแนน #7ดอกจิก
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 347 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรุงเก่ายังอ่วม บ้านเรือชาวบ้าน กว่า 27,000 ครัวเรือน ยังจมน้ำ ขณะที่ชุมชนวัดช่องลมกว่า 185 หลังคาเรือน รถยนต์รถ จยย.กว่า 120 คัน ต้องมาจอดบนถนน ผู้ใหญ่บ้านต้องย้ายที่ทำการมาอยู่ศาลาริมถนนเฝ้าความปลอดภัย 24 ชม.

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097855

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กรุงเก่ายังอ่วม บ้านเรือชาวบ้าน กว่า 27,000 ครัวเรือน ยังจมน้ำ ขณะที่ชุมชนวัดช่องลมกว่า 185 หลังคาเรือน รถยนต์รถ จยย.กว่า 120 คัน ต้องมาจอดบนถนน ผู้ใหญ่บ้านต้องย้ายที่ทำการมาอยู่ศาลาริมถนนเฝ้าความปลอดภัย 24 ชม. อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097855 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Sad
    Like
    Love
    35
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2429 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดอยสุเทพเกิดเหตุดินสไลด์ปิดทางเข้าออกหมู่บ้านดอยปุย บ้านพังเสียหาย 1 หลัง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันตราย พบนักท่องเที่ยว 30 คน ติดค้าง ทางผู้ใหญ่บ้านต้องจัดรถช่วยเหลือลำเลียงออกจากหมู่บ้าน แต่ในส่วนของรถนักท่องเที่ยวอีกประมาณ 10 คัน ต้องจอดทิ้งไว้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094207

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ดอยสุเทพเกิดเหตุดินสไลด์ปิดทางเข้าออกหมู่บ้านดอยปุย บ้านพังเสียหาย 1 หลัง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันตราย พบนักท่องเที่ยว 30 คน ติดค้าง ทางผู้ใหญ่บ้านต้องจัดรถช่วยเหลือลำเลียงออกจากหมู่บ้าน แต่ในส่วนของรถนักท่องเที่ยวอีกประมาณ 10 คัน ต้องจอดทิ้งไว้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094207 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Love
    38
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 3642 มุมมอง 1 รีวิว
  • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยและทรงพระเมตตา ทรงจัดทำถุงพระราชทานสำหรับเด็กเพื่อเชิญไปพระราชแก่ผู้ประสบอุทกภัยในภาคต่างๆ

    เมื่อวันอังคารที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๘.๒๗ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรงบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ลงในถุงพระราชทานสำหรับเด็ก จำนวน ๑,๐๐๐ ถุง เพื่อเชิญไปพระราชทานแก่เด็กในพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคต่างๆ

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กแรกเกิดและเด็กเล็กที่ประสบอุทกภัยร้ายแรง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดทำถุงพระราชทานสำหรับเด็กเล็กและจัดหาสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็กบรรจุลงในถุงพระราชทาน อาทิ ตุ๊กตาผ้าห่ม เป้อุ้มเด็ก นมผง อาหารเด็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป สำลี ฟองน้ำเช็ดตัว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์ซักล้างสำหรับเด็ก โดยจัดพระราชทานสำหรับเด็กตั้งแต่
    แรกเกิดถึงอายุ ๒ ปี เพิ่มเติมจากถุงพระราชทานทั่วไป

    ทั้งนี้ จากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศไทย เป็นเหตุให้เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ในบริเวณพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อยู่ติดแม่น้ำโขง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน บาดเจ็บ และเสียชีวิต รวมถึงเกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ องคมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับหน่วยราชการในพระองค์ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของราษฎรในเบื้องต้น โดยนำสิ่งของพระราชทานไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ ตาก พิษณุโลก หนองคาย และจังหวัดเลย อีกทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน และจัดรถครัวสนามปรุงอาหารให้กับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ที่ประสบภัยต่าง ๆ เมื่อสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย แต่ยังมีความจำเป็นในการฟื้นฟูและ
    ทำความสะอาดบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีดินโคลนที่มากับน้ำเป็นจำนวนมากทับถมอยู่ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง พร้อมอุปกรณ์ประกอบ ให้แก่กองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สำหรับนำไปช่วยเหลือราษฎร ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่ช่วยทุ่นแรงในการทำความสะอาดและฟื้นฟูบ้านเรือน ที่สาธารณประโยชน์ วัด ถนน และสถานที่ราชการ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และช่วยให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปรกติโดยเร็ว นอกจากนั้น พระมหากรุณาธิคุณยังครอบคลุมถึงกลุ่มบุคคลที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนด้วยจิตสาธารณะ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่และจิตอาสาเสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติงาน ในการนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพวงมาลาไปวางที่หน้าหีบศพผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการศพแก่จิตอาสาที่เสียชีวิต พระราชทานทุนการศึกษาแก่บุตรของผู้เสียชีวิต รวมทั้งทรงรับจิตอาสาที่ได้รับบาดเจ็บไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงติดตามสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด โดยมีพระเมตตาและพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณในการพระราชทานความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมทั้งได้มีพระราชกระแสทรงห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยจากเหตุดังกล่าว และมีพระราชกระแสทรงชื่นชม และพระราชทานกำลังใจ แก่จิตอาสาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งต่างเสียสละกำลังกาย กำลังปัญญา และกำลังทรัพย์ มาร่วมกันปฏิบัติการให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย แม้การช่วยเหลือจะเป็นไปอย่างยากลำบากท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยว และข้อจำกัดต่าง ๆ แต่ทุกภาคส่วน และจิตอาสา ต่างร่วมมือร่วมใจกันอย่างเต็มกำลัง ด้วยความรัก ความปรารถนาดี
    ต่อกัน เป็นเครื่องมือสำคัญทำให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เป็นไปตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในการให้ทุกคนมีจิตอาสา พร้อมที่จะเสียสละ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนสามารถทำให้สถานการณ์รุนแรงคลี่คลายลงได้ตามลำดับ

    #ทรงพระเจริญ
    #สืบสานรักษาต่อยอด
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยและทรงพระเมตตา ทรงจัดทำถุงพระราชทานสำหรับเด็กเพื่อเชิญไปพระราชแก่ผู้ประสบอุทกภัยในภาคต่างๆ เมื่อวันอังคารที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๘.๒๗ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรงบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ลงในถุงพระราชทานสำหรับเด็ก จำนวน ๑,๐๐๐ ถุง เพื่อเชิญไปพระราชทานแก่เด็กในพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคต่างๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กแรกเกิดและเด็กเล็กที่ประสบอุทกภัยร้ายแรง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดทำถุงพระราชทานสำหรับเด็กเล็กและจัดหาสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็กบรรจุลงในถุงพระราชทาน อาทิ ตุ๊กตาผ้าห่ม เป้อุ้มเด็ก นมผง อาหารเด็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป สำลี ฟองน้ำเช็ดตัว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์ซักล้างสำหรับเด็ก โดยจัดพระราชทานสำหรับเด็กตั้งแต่ แรกเกิดถึงอายุ ๒ ปี เพิ่มเติมจากถุงพระราชทานทั่วไป ทั้งนี้ จากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศไทย เป็นเหตุให้เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ในบริเวณพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อยู่ติดแม่น้ำโขง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน บาดเจ็บ และเสียชีวิต รวมถึงเกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ องคมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับหน่วยราชการในพระองค์ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของราษฎรในเบื้องต้น โดยนำสิ่งของพระราชทานไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ ตาก พิษณุโลก หนองคาย และจังหวัดเลย อีกทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน และจัดรถครัวสนามปรุงอาหารให้กับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ที่ประสบภัยต่าง ๆ เมื่อสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย แต่ยังมีความจำเป็นในการฟื้นฟูและ ทำความสะอาดบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีดินโคลนที่มากับน้ำเป็นจำนวนมากทับถมอยู่ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง พร้อมอุปกรณ์ประกอบ ให้แก่กองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สำหรับนำไปช่วยเหลือราษฎร ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่ช่วยทุ่นแรงในการทำความสะอาดและฟื้นฟูบ้านเรือน ที่สาธารณประโยชน์ วัด ถนน และสถานที่ราชการ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และช่วยให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปรกติโดยเร็ว นอกจากนั้น พระมหากรุณาธิคุณยังครอบคลุมถึงกลุ่มบุคคลที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนด้วยจิตสาธารณะ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่และจิตอาสาเสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติงาน ในการนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพวงมาลาไปวางที่หน้าหีบศพผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการศพแก่จิตอาสาที่เสียชีวิต พระราชทานทุนการศึกษาแก่บุตรของผู้เสียชีวิต รวมทั้งทรงรับจิตอาสาที่ได้รับบาดเจ็บไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงติดตามสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด โดยมีพระเมตตาและพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณในการพระราชทานความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมทั้งได้มีพระราชกระแสทรงห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยจากเหตุดังกล่าว และมีพระราชกระแสทรงชื่นชม และพระราชทานกำลังใจ แก่จิตอาสาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งต่างเสียสละกำลังกาย กำลังปัญญา และกำลังทรัพย์ มาร่วมกันปฏิบัติการให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย แม้การช่วยเหลือจะเป็นไปอย่างยากลำบากท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยว และข้อจำกัดต่าง ๆ แต่ทุกภาคส่วน และจิตอาสา ต่างร่วมมือร่วมใจกันอย่างเต็มกำลัง ด้วยความรัก ความปรารถนาดี ต่อกัน เป็นเครื่องมือสำคัญทำให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เป็นไปตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในการให้ทุกคนมีจิตอาสา พร้อมที่จะเสียสละ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนสามารถทำให้สถานการณ์รุนแรงคลี่คลายลงได้ตามลำดับ #ทรงพระเจริญ #สืบสานรักษาต่อยอด
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1509 มุมมอง 48 0 รีวิว
Pages Boosts