• #เด็กมีแวว ที่มากความสามารถ จาก โรงเรียนมูลนิธิสตรีไทยมุสลิม ที่มีโอกาสมาเป็นพิธีกร #อาสาพาสุข ในกิจกรรมของโรงเรียน

    ซึ่งตามสไตล์การทำงานที่ไม่ได้ให้น้องอ่านสคริปต์ แต่บอกหัวข้อให้น้องพูดเองเลย และน้องจะเป็นคนคุยกับครู ที่จะให้ข้อมูล น้องก็จะนำมาสรุปเองอีกรอบ

    ปล.โรงเรียนนี้มีเด็กเก่งหัวไว อีกหลายคน ขอบคุณโรงเรียนที่ฝึกฝนเด็กๆอย่างดี

    #สยามเด็กเล่น #ไม่ได้มาเล่นๆ #มูลนิธิสตรีไทยมุสลิม #ผู้สื่อข่าว #อาสาสมัคร #siamplayground
    #thaitimesเยาวชน
    #เด็กมีแวว ที่มากความสามารถ จาก โรงเรียนมูลนิธิสตรีไทยมุสลิม ที่มีโอกาสมาเป็นพิธีกร #อาสาพาสุข ในกิจกรรมของโรงเรียน ซึ่งตามสไตล์การทำงานที่ไม่ได้ให้น้องอ่านสคริปต์ แต่บอกหัวข้อให้น้องพูดเองเลย และน้องจะเป็นคนคุยกับครู ที่จะให้ข้อมูล น้องก็จะนำมาสรุปเองอีกรอบ ปล.โรงเรียนนี้มีเด็กเก่งหัวไว อีกหลายคน ขอบคุณโรงเรียนที่ฝึกฝนเด็กๆอย่างดี #สยามเด็กเล่น #ไม่ได้มาเล่นๆ #มูลนิธิสตรีไทยมุสลิม #ผู้สื่อข่าว #อาสาสมัคร #siamplayground #thaitimesเยาวชน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 650 Views 131 0 Reviews
  • #เด็กมีแวว ที่มากความสามารถ จาก โรงเรียนมูลนิธิสตรีไทยมุสลิม ที่มีโอกาสมาเป็นพิธีกร #อาสาพาสุข ในกิจกรรมของโรงเรียน

    ซึ่งตามสไตล์การทำงานที่ไม่ได้ให้น้องอ่านสคริปต์ แต่บอกหัวข้อให้น้องพูดเองเลย และน้องจะเป็นคนคุยกับครู ที่จะให้ข้อมูล น้องก็จะนำมาสรุปเองอีกรอบ

    ปล.โรงเรียนนี้มีเด็กเก่งหัวไว อีกหลายคน ขอบคุณโรงเรียนที่ฝึกฝนเด็กๆอย่างดี

    #สยามเด็กเล่น #ไม่ได้มาเล่นๆ #มูลนิธิสตรีไทยมุสลิม #ผู้สื่อข่าว #อาสาสมัคร #siamplayground #thaitimes
    #เด็กมีแวว ที่มากความสามารถ จาก โรงเรียนมูลนิธิสตรีไทยมุสลิม ที่มีโอกาสมาเป็นพิธีกร #อาสาพาสุข ในกิจกรรมของโรงเรียน ซึ่งตามสไตล์การทำงานที่ไม่ได้ให้น้องอ่านสคริปต์ แต่บอกหัวข้อให้น้องพูดเองเลย และน้องจะเป็นคนคุยกับครู ที่จะให้ข้อมูล น้องก็จะนำมาสรุปเองอีกรอบ ปล.โรงเรียนนี้มีเด็กเก่งหัวไว อีกหลายคน ขอบคุณโรงเรียนที่ฝึกฝนเด็กๆอย่างดี #สยามเด็กเล่น #ไม่ได้มาเล่นๆ #มูลนิธิสตรีไทยมุสลิม #ผู้สื่อข่าว #อาสาสมัคร #siamplayground #thaitimes
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 558 Views 109 0 Reviews
  • 16-09-67/01 : หมี CNN / หมี CNN / "ตีแสกหน้า" EP.8

    01. ผวาสัส! ไฮเปอร์โซนิคเยเมน ผ่านฉลุย ล่อเป้าใกล้สนามบินเทลอาวีฟ!
    02. อดีต CIA แฉ อเมริกาตอแหล ปชต.พ่อง? ปลุกอเมริกันฆ่ากันเอง ยิวเผ่น
    03. ชักคะเย่อ มรึงร่วง กูล่อ มรึงถอย กูแหย่ รัสเซียปั่นหัวยูเครน ติดกับดักต่อ ดูดเงินอาวุธ กำลังพล NATO ตายห่าเรียบวุธ เอาจนกว่ายุโรปจะยวบเอง
    04. เฮซบอเลาะห์แรง! ถล่มคลังแสงโกลานเละ รัว 6 ฐานทัพ IOF ดับสนิท
    05. อีสวิงกิ้งขายกริฟเพ่นให้ยูเครน มันจะเอาที่ไหนจ่าย รัสเซียเตรียมสอย! เสี้ยนจัดขนาดนี้ อีฟินน์ อีสวิงกิ้ง อีลอนดอน เตรียมย้ายบ้านได้เลย เอาจริง
    06. ยอดขายไม่ตอแหล EV ร่วงเหรอ? ยอดทะลุเป้า รถอียุ่นปี่ ร่วงทุกยี่ห้อ?
    07. อีเบียร์วอนส้นตรีนพญามังกร แค่ 3 ฮอ ยังไม่ผ่าน ดีออก อย่าริเสนอหน้า
    08. เสธ.แดง ลาออก ดีลลับซับซ้อน อีเหลี่ยมเยี่ยวแตก หุบปาก เก็บตัว จ้อง
    09. พิษณุโลกสั่งสอนอีส้มเน่าล้มเจ้า หางโผล่ กระแสตีกลับ อีแดงจ่ายเต็ม
    10. จีนสอนมวย ไต้หวัน แค่เหยื่อล่อเหี้ยมะกันมาตายฟรี เป้าหมายวอชิงตัน
    11. อวสาน TV ดิจิตอล กสทช.จะมีไปทำพ่อง? แดร๊กมาเยอะแล้ว เหี้ยจัญไร
    12. WWIII จะมาก่อน หรือเหี้ยจะตายห่าก่อน? หมดตูดทั้งทวีปแล้ว ฆ่าด้วยปากท้อง ฆ่าด้วยเส้นทางการค้า ฆ่าด้วยโลจิสติค ฆ่าด้วยความเที่ยงธรรม
    13. ไอ้สัส! AMAZING THAILAND "หมูเด้ง" ดังไปทั่วจักรวาล ใครไม่รู้ เชย
    14. พลิกล็อค! กระแสอีส้มเน่าล้มเจ้า แพ้ยับทุกจังหวัด เรตติ้งต่ำตม ตบหน้า 14 ล้าน เสียงควายบัดซบ ยิ่งยุบ ยิ่งเจ๊ง ขายไม่ออก แผน CIA แห้วแดร๊ก
    15. เหี้ย CIA จ๋า มรึงพยายามมากปุยมุย? เสี้ยมอีขะแมร์-ไทย เช้าเย็น ควายยังรู้ ไอ้ที่โพสโซเชี่ยลอ่ะ คนไทย-อีขะแมร์ สาย C ทั้งนั้น ชงเอง ตบเอง ฮา
    16. SU-57 ออกโรงที่ยูเครนแล้ว ยับสิจ๊ะ ตั้งใจโชว์ให้ไอ้อี NATO ดูเต็มตา!
    17. ละครไทยเจ๊งยับ! ดูถูกคนดู หรือนายทุนสั่ง เน่ามาเป็นชาติ เหลือใครดู?
    18. ซอยกู พบ JOHN KIM ไม่ธรรมดา? บอกเลยชุดใหญ่จัดเต็ม ยูเครนเละ
    19. เหี้ย เผยธาตุแท้ เลิกสื่อเสรี การค้าเสรี เพราะสู้เค้าไม่ได้ เก่งแต่กฎหมา
    20. ไทยบาทแข็งโป๊ก แหงสิ! ตุนทองคำไว้เต็มท้องพระคลัง ของจริง จะแข็งกว่านี้อีกเยอะ หากไม่เอาอีเศษกระดาษปลอมมาเทียบ ปลดพันธนาการ

    หมายเหตุ : เกมส์สงคราม ขั้วใหม่ยึดหัวหาด แดร๊กเรียบวุธ ไม่ต้องสงสัย เกมส์การเมือง ขั้วใหม่ชนะใสใส หัวใจปูติน BRICS ขย่มโลกซะอยู่หมัด เกมส์การค้า จีนขยายตลาดไปทั่วโลก เดินสายโลจิสติคครอบจักรวาล เส้นทางสายไหมมาเต็มตรีน พ่วงตะวันออกกลาง แอฟริกา ภาพชัดสัส! เกมส์การเงิน เข้าเป้า ทั้งโลกแห่เทดอลล่าร์หมดเกลี้ยง อุ้มทองคำ หยวน รูเบิล แทน เกมส์สื่อ ชาวโลกเลิกดู TV ลงโซเชี่ยลกันหมด ความจริงปรากฎชัด เพราะทุกคนสามารถเป็นผู้สื่อข่าวได้หมด ไม่ต้องมีช่อง ไม่ต้องมีสังกัด ข้อดี และข้อเสีย ของโซเชี่ยลมีเดีย แฉยับ เหี้ยจนตรอก! (หมายเหตุ 2 : ภาพกุลสตรีไทยยุคใหม่ สวยใสฮาแตก เอามาฝาก มือใหม่ หัดเป็นกลุสตรีไทย มันยากน่ะเนี่ย นอกจากต้องเอาผัวให้มันส์แล้ว ยังต้องลีลาเด็ดในครัวต่อ)

    หมี CNN(จับตากรณีเสธ.แดงลาออก อีเหลี่ยมหุบปาก คือเรื่องเดียวกัน เบื้องหลัง กำลังจะมีพายุเฮอริเคนหลังบ้านเหี้ยส่องหมา ใบเสร็จพร้อม รอศาลไคฟงฟันเท่านั้นเอง เลือกตั้งปาหี่ แค่เอาคืนการเมือง อีแดงต้องล้างบางอีส้ม แล้วค่อยถูกอีเขียวเขมือบทั้งคอกอีกที ทุกอย่างอยู่ในเกมส์ทหาร)
    16 กันยายน 67
    10.54 น.

    ------------------------------------------------------------------------— https://linevoom.line.me/post/1172645897261542391
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :

    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u



    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    16-09-67/01 : หมี CNN / หมี CNN / "ตีแสกหน้า" EP.8 01. ผวาสัส! ไฮเปอร์โซนิคเยเมน ผ่านฉลุย ล่อเป้าใกล้สนามบินเทลอาวีฟ! 02. อดีต CIA แฉ อเมริกาตอแหล ปชต.พ่อง? ปลุกอเมริกันฆ่ากันเอง ยิวเผ่น 03. ชักคะเย่อ มรึงร่วง กูล่อ มรึงถอย กูแหย่ รัสเซียปั่นหัวยูเครน ติดกับดักต่อ ดูดเงินอาวุธ กำลังพล NATO ตายห่าเรียบวุธ เอาจนกว่ายุโรปจะยวบเอง 04. เฮซบอเลาะห์แรง! ถล่มคลังแสงโกลานเละ รัว 6 ฐานทัพ IOF ดับสนิท 05. อีสวิงกิ้งขายกริฟเพ่นให้ยูเครน มันจะเอาที่ไหนจ่าย รัสเซียเตรียมสอย! เสี้ยนจัดขนาดนี้ อีฟินน์ อีสวิงกิ้ง อีลอนดอน เตรียมย้ายบ้านได้เลย เอาจริง 06. ยอดขายไม่ตอแหล EV ร่วงเหรอ? ยอดทะลุเป้า รถอียุ่นปี่ ร่วงทุกยี่ห้อ? 07. อีเบียร์วอนส้นตรีนพญามังกร แค่ 3 ฮอ ยังไม่ผ่าน ดีออก อย่าริเสนอหน้า 08. เสธ.แดง ลาออก ดีลลับซับซ้อน อีเหลี่ยมเยี่ยวแตก หุบปาก เก็บตัว จ้อง 09. พิษณุโลกสั่งสอนอีส้มเน่าล้มเจ้า หางโผล่ กระแสตีกลับ อีแดงจ่ายเต็ม 10. จีนสอนมวย ไต้หวัน แค่เหยื่อล่อเหี้ยมะกันมาตายฟรี เป้าหมายวอชิงตัน 11. อวสาน TV ดิจิตอล กสทช.จะมีไปทำพ่อง? แดร๊กมาเยอะแล้ว เหี้ยจัญไร 12. WWIII จะมาก่อน หรือเหี้ยจะตายห่าก่อน? หมดตูดทั้งทวีปแล้ว ฆ่าด้วยปากท้อง ฆ่าด้วยเส้นทางการค้า ฆ่าด้วยโลจิสติค ฆ่าด้วยความเที่ยงธรรม 13. ไอ้สัส! AMAZING THAILAND "หมูเด้ง" ดังไปทั่วจักรวาล ใครไม่รู้ เชย 14. พลิกล็อค! กระแสอีส้มเน่าล้มเจ้า แพ้ยับทุกจังหวัด เรตติ้งต่ำตม ตบหน้า 14 ล้าน เสียงควายบัดซบ ยิ่งยุบ ยิ่งเจ๊ง ขายไม่ออก แผน CIA แห้วแดร๊ก 15. เหี้ย CIA จ๋า มรึงพยายามมากปุยมุย? เสี้ยมอีขะแมร์-ไทย เช้าเย็น ควายยังรู้ ไอ้ที่โพสโซเชี่ยลอ่ะ คนไทย-อีขะแมร์ สาย C ทั้งนั้น ชงเอง ตบเอง ฮา 16. SU-57 ออกโรงที่ยูเครนแล้ว ยับสิจ๊ะ ตั้งใจโชว์ให้ไอ้อี NATO ดูเต็มตา! 17. ละครไทยเจ๊งยับ! ดูถูกคนดู หรือนายทุนสั่ง เน่ามาเป็นชาติ เหลือใครดู? 18. ซอยกู พบ JOHN KIM ไม่ธรรมดา? บอกเลยชุดใหญ่จัดเต็ม ยูเครนเละ 19. เหี้ย เผยธาตุแท้ เลิกสื่อเสรี การค้าเสรี เพราะสู้เค้าไม่ได้ เก่งแต่กฎหมา 20. ไทยบาทแข็งโป๊ก แหงสิ! ตุนทองคำไว้เต็มท้องพระคลัง ของจริง จะแข็งกว่านี้อีกเยอะ หากไม่เอาอีเศษกระดาษปลอมมาเทียบ ปลดพันธนาการ หมายเหตุ : เกมส์สงคราม ขั้วใหม่ยึดหัวหาด แดร๊กเรียบวุธ ไม่ต้องสงสัย เกมส์การเมือง ขั้วใหม่ชนะใสใส หัวใจปูติน BRICS ขย่มโลกซะอยู่หมัด เกมส์การค้า จีนขยายตลาดไปทั่วโลก เดินสายโลจิสติคครอบจักรวาล เส้นทางสายไหมมาเต็มตรีน พ่วงตะวันออกกลาง แอฟริกา ภาพชัดสัส! เกมส์การเงิน เข้าเป้า ทั้งโลกแห่เทดอลล่าร์หมดเกลี้ยง อุ้มทองคำ หยวน รูเบิล แทน เกมส์สื่อ ชาวโลกเลิกดู TV ลงโซเชี่ยลกันหมด ความจริงปรากฎชัด เพราะทุกคนสามารถเป็นผู้สื่อข่าวได้หมด ไม่ต้องมีช่อง ไม่ต้องมีสังกัด ข้อดี และข้อเสีย ของโซเชี่ยลมีเดีย แฉยับ เหี้ยจนตรอก! (หมายเหตุ 2 : ภาพกุลสตรีไทยยุคใหม่ สวยใสฮาแตก เอามาฝาก มือใหม่ หัดเป็นกลุสตรีไทย มันยากน่ะเนี่ย นอกจากต้องเอาผัวให้มันส์แล้ว ยังต้องลีลาเด็ดในครัวต่อ) หมี CNN(จับตากรณีเสธ.แดงลาออก อีเหลี่ยมหุบปาก คือเรื่องเดียวกัน เบื้องหลัง กำลังจะมีพายุเฮอริเคนหลังบ้านเหี้ยส่องหมา ใบเสร็จพร้อม รอศาลไคฟงฟันเท่านั้นเอง เลือกตั้งปาหี่ แค่เอาคืนการเมือง อีแดงต้องล้างบางอีส้ม แล้วค่อยถูกอีเขียวเขมือบทั้งคอกอีกที ทุกอย่างอยู่ในเกมส์ทหาร) 16 กันยายน 67 10.54 น. ------------------------------------------------------------------------— https://linevoom.line.me/post/1172645897261542391 เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 Comments 0 Shares 227 Views 0 Reviews
  • ลอบสังหาร"ทรัมป์" ครั้งที่สอง แต่ทรัมป์ปลอดภัยหลังเกิดเหตุยิงครั้งใหม่, FBI เชื่อคนร้ายจ้องลอบสังหาร

    15 กันยายน2567- รายงานข่าวอินโฟเควสระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน เผชิญกับเหตุการณ์ระทักขวัญรอบใหม่ โดยมีชายคนหนึ่งยิงปืนใกล้สนามกอล์ฟของทรัมป์ในเมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) อย่างไรก็ดี ทรัมป์ปลอดภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) เชื่อว่า มือปืนรายนี้มีเป้าหมายที่จะลอบสังหารทรัมป์

    มือปืนที่ก่อเหตุได้ถูกหน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ (US Secret Service) หรือ USSS ยิงและถูกรวบตัวเอาไว้ได้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ทรัมป์กำลังเล่นกอล์ฟในสนามแห่งนี้ และจุดที่ทรัมป์เล่นกอล์ฟนั้น อยู่ห่างจากมือปืนในรัศมี 300-500 หลา

    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของหน่วย USSS ได้นำตัวทรัมป์ไปยังที่ที่ปลอดภัยทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น และขบวนรถของหน่วย USSS ใช้เวลาไม่นานในการพาทรัมป์เดินทางถึงบ้านพักของเขาที่รีสอร์ตมาร์-อะ-ลาโก ในปาล์มบีช

    สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวไม่นาน ทีมหาเสียงของทรัมป์ได้ส่งข้อความของทรัมป์ผ่านทางอีเมลที่ตั้งขึ้นเพื่อการระดมทุน โดยมีใจความว่า "เกิดเหตุการณ์ยิงในพื้นที่ของผม แต่ก่อนที่ข่าวลือจะแพร่สะพัดออกไปจนไม่อาจควบคุมได้นั้น ผมต้องการให้ท่านฟังทางนี้ว่า 'ผมปลอดภัยและผมสบายดี' ไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมช้าลงได้ และผมจะไม่มีวันยอมแพ้"

    ริค แบรดชอร์ นายอำเภอเขตปาล์มบีช เคาตี้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากเสียงปืนดังขึ้นไม่นาน พยานคนหนึ่งในที่เกิดเหตุได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาเห็นชายคนหนึ่งวิ่งออกจากพุ่มไม้ และจากนั้นได้กระโดดเข้าไปในรถยนต์นิสสันสีดำคันหนึ่ง

    นอกจากนี้ แบรดชอร์เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจได้พบปืนไรเฟิลรุ่น AK-47 พร้อมกล้องส่องทางไกลใกล้กับพุ่มไม้ และยังพบกระเป๋าเป้สองใบที่มีกระเบื้องเซรามิกอยู่ข้างใน และพบกล้อง GoPro ที่ผูกยึดติดกับรั้ว

    ทั้งนี้ ทรัมป์เผชิญกับเหตุการณ์ระทึกขวัญเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ถูกคนร้ายลอบยิงในระหว่างการปราศรัยหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย โดยทรัมป์ถูกยิงที่หูด้านขวาและทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้ที่เข้าร่วมฟังการปราศรัยเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ส่วนมือปืนได้ถูกหน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐยิงเสียชีวิตหลังก่อเหตุทันที

    #Thaitimes
    ลอบสังหาร"ทรัมป์" ครั้งที่สอง แต่ทรัมป์ปลอดภัยหลังเกิดเหตุยิงครั้งใหม่, FBI เชื่อคนร้ายจ้องลอบสังหาร 15 กันยายน2567- รายงานข่าวอินโฟเควสระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน เผชิญกับเหตุการณ์ระทักขวัญรอบใหม่ โดยมีชายคนหนึ่งยิงปืนใกล้สนามกอล์ฟของทรัมป์ในเมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) อย่างไรก็ดี ทรัมป์ปลอดภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) เชื่อว่า มือปืนรายนี้มีเป้าหมายที่จะลอบสังหารทรัมป์ มือปืนที่ก่อเหตุได้ถูกหน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ (US Secret Service) หรือ USSS ยิงและถูกรวบตัวเอาไว้ได้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ทรัมป์กำลังเล่นกอล์ฟในสนามแห่งนี้ และจุดที่ทรัมป์เล่นกอล์ฟนั้น อยู่ห่างจากมือปืนในรัศมี 300-500 หลา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของหน่วย USSS ได้นำตัวทรัมป์ไปยังที่ที่ปลอดภัยทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น และขบวนรถของหน่วย USSS ใช้เวลาไม่นานในการพาทรัมป์เดินทางถึงบ้านพักของเขาที่รีสอร์ตมาร์-อะ-ลาโก ในปาล์มบีช สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวไม่นาน ทีมหาเสียงของทรัมป์ได้ส่งข้อความของทรัมป์ผ่านทางอีเมลที่ตั้งขึ้นเพื่อการระดมทุน โดยมีใจความว่า "เกิดเหตุการณ์ยิงในพื้นที่ของผม แต่ก่อนที่ข่าวลือจะแพร่สะพัดออกไปจนไม่อาจควบคุมได้นั้น ผมต้องการให้ท่านฟังทางนี้ว่า 'ผมปลอดภัยและผมสบายดี' ไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมช้าลงได้ และผมจะไม่มีวันยอมแพ้" ริค แบรดชอร์ นายอำเภอเขตปาล์มบีช เคาตี้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากเสียงปืนดังขึ้นไม่นาน พยานคนหนึ่งในที่เกิดเหตุได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาเห็นชายคนหนึ่งวิ่งออกจากพุ่มไม้ และจากนั้นได้กระโดดเข้าไปในรถยนต์นิสสันสีดำคันหนึ่ง นอกจากนี้ แบรดชอร์เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจได้พบปืนไรเฟิลรุ่น AK-47 พร้อมกล้องส่องทางไกลใกล้กับพุ่มไม้ และยังพบกระเป๋าเป้สองใบที่มีกระเบื้องเซรามิกอยู่ข้างใน และพบกล้อง GoPro ที่ผูกยึดติดกับรั้ว ทั้งนี้ ทรัมป์เผชิญกับเหตุการณ์ระทึกขวัญเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ถูกคนร้ายลอบยิงในระหว่างการปราศรัยหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย โดยทรัมป์ถูกยิงที่หูด้านขวาและทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้ที่เข้าร่วมฟังการปราศรัยเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ส่วนมือปืนได้ถูกหน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐยิงเสียชีวิตหลังก่อเหตุทันที #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 328 Views 0 Reviews
  • พระสันตปาปาทรงชื่นชมจีนว่า“ “จีนเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการสนทนาและความเข้าใจที่เหนือกว่าประเทศระบบประชาธิปไตย“ก่อนที่จะมีการต่ออายุข้อตกลงระหว่างปักกิ่งและนครรัฐวาติกันเรื่องการแต่งตั้งพระสังฆราช(บิชอป)

    15 กันยายน2567-สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส องค์ประมุขแห่งคริสตจักร นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งมีพระชนมายุ 87 พรรษา ทรงตรัสแถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวขณะอยู่บนเครื่องบินของพระองค์ขณะเสด็จกลับกรุงโรมหลังจากเสด็จเยือนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นเวลา 12 วันว่า “ข้าพเจ้าอยากไปเยือนประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่”

    พระสันตปาปาตรัสว่า “ข้าพเจ้าชื่นชมจีน ข้าพเจ้าเคารพจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่นับพันปีและมีศักยภาพในการเจรจากับความสามารถเข้าใจซึ่งกันและกันซึ่งเหนือกว่าระบบประชาธิปไตยที่มีอยู่”

    “ข้าพเจ้าเชื่อว่าจีนคือคำมั่นสัญญาและความหวังของคริสตจักร” โป๊ปฟรานซิสตรัสและเสริมว่าพระองค์พอใจกับการเจรจาอย่างต่อเนื่องระหว่างวาติกันกับจีน

    ความคิดเห็นของพระองค์ดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ข้อตกลงระหว่างปักกิ่งและวาติกันเรื่องการแต่งตั้งพระสังฆราช(บิชอป)ซึ่งเป็นประมุขสังฆมณฑลในเขตปกครองศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิกจะมีการต่ออายุอย่างเป็นทางการ
    ทั้งสองฝ่ายตกลงทำข้อตกลงทางประวัติศาสตร์แต่เป็นความลับเมื่อปี 2018 ซึ่งให้ทั้งสองฝ่ายมีสิทธิ์ในการแต่งตั้งบาทหลวงคาธอลิกในประเทศคอมมิวนิสต์

    ข้อตกลงดังกล่าวมีการต่ออายุในปี 2020 และ 2022 ได้รับการออกแบบมาเพื่อนำชาวคาธอลิกที่ติดอยู่ระหว่างคริสตจักรที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐอย่างเป็นทางการในจีนและขบวนการใต้ดินที่จงรักภักดีต่อโรมมารวมกัน ทั้งนี้เป็นการให้พระสันตปาปามีอำนาจขั้นสุดท้ายในการแต่งตั้งบิชอป

    ทั้งนี้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส องค์ประมุขแห่งคริสตจักร นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งมีพระชนมายุ 87 พรรษา เสร็จสิ้นภารกิจเสด็จเยือนเอเชีย-แปซิฟิก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน โดยเสด็จเยือน4 ประเทศคือ อินโดนีเซีย ปาปัวนิวกินี ติมอร์-เลสเต และสิงคโปร์ ขณะที่ทรงเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ มากกว่า 40 กิจกรรม ระยะเดินทาง 33,000 กม. แม้สุขภาพพระสันตะปาปาอ่อนแอลง แต่พระองค์มักจะได้รับพลังพิเศษอยู่เสมอท่ามกลางศรัทธาของศาสนิกชนชาวคริสต์ โรมันคาทอลิก
    “ "ข้าพเจ้าขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้ ข้าพเจ้าคิดว่านี่เป็นการเดินทางที่ยาวนานที่สุดที่เคยมีมา"

    ที่มา:https://x.com/rnaudbertrand/status/1835171408256942149?s=46&t=nn3z3yuHSlOFcPbFyzmrQA

    #Thaitimes
    พระสันตปาปาทรงชื่นชมจีนว่า“ “จีนเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการสนทนาและความเข้าใจที่เหนือกว่าประเทศระบบประชาธิปไตย“ก่อนที่จะมีการต่ออายุข้อตกลงระหว่างปักกิ่งและนครรัฐวาติกันเรื่องการแต่งตั้งพระสังฆราช(บิชอป) 15 กันยายน2567-สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส องค์ประมุขแห่งคริสตจักร นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งมีพระชนมายุ 87 พรรษา ทรงตรัสแถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวขณะอยู่บนเครื่องบินของพระองค์ขณะเสด็จกลับกรุงโรมหลังจากเสด็จเยือนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นเวลา 12 วันว่า “ข้าพเจ้าอยากไปเยือนประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่” พระสันตปาปาตรัสว่า “ข้าพเจ้าชื่นชมจีน ข้าพเจ้าเคารพจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่นับพันปีและมีศักยภาพในการเจรจากับความสามารถเข้าใจซึ่งกันและกันซึ่งเหนือกว่าระบบประชาธิปไตยที่มีอยู่” “ข้าพเจ้าเชื่อว่าจีนคือคำมั่นสัญญาและความหวังของคริสตจักร” โป๊ปฟรานซิสตรัสและเสริมว่าพระองค์พอใจกับการเจรจาอย่างต่อเนื่องระหว่างวาติกันกับจีน ความคิดเห็นของพระองค์ดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ข้อตกลงระหว่างปักกิ่งและวาติกันเรื่องการแต่งตั้งพระสังฆราช(บิชอป)ซึ่งเป็นประมุขสังฆมณฑลในเขตปกครองศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิกจะมีการต่ออายุอย่างเป็นทางการ ทั้งสองฝ่ายตกลงทำข้อตกลงทางประวัติศาสตร์แต่เป็นความลับเมื่อปี 2018 ซึ่งให้ทั้งสองฝ่ายมีสิทธิ์ในการแต่งตั้งบาทหลวงคาธอลิกในประเทศคอมมิวนิสต์ ข้อตกลงดังกล่าวมีการต่ออายุในปี 2020 และ 2022 ได้รับการออกแบบมาเพื่อนำชาวคาธอลิกที่ติดอยู่ระหว่างคริสตจักรที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐอย่างเป็นทางการในจีนและขบวนการใต้ดินที่จงรักภักดีต่อโรมมารวมกัน ทั้งนี้เป็นการให้พระสันตปาปามีอำนาจขั้นสุดท้ายในการแต่งตั้งบิชอป ทั้งนี้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส องค์ประมุขแห่งคริสตจักร นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งมีพระชนมายุ 87 พรรษา เสร็จสิ้นภารกิจเสด็จเยือนเอเชีย-แปซิฟิก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน โดยเสด็จเยือน4 ประเทศคือ อินโดนีเซีย ปาปัวนิวกินี ติมอร์-เลสเต และสิงคโปร์ ขณะที่ทรงเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ มากกว่า 40 กิจกรรม ระยะเดินทาง 33,000 กม. แม้สุขภาพพระสันตะปาปาอ่อนแอลง แต่พระองค์มักจะได้รับพลังพิเศษอยู่เสมอท่ามกลางศรัทธาของศาสนิกชนชาวคริสต์ โรมันคาทอลิก “ "ข้าพเจ้าขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้ ข้าพเจ้าคิดว่านี่เป็นการเดินทางที่ยาวนานที่สุดที่เคยมีมา" ที่มา:https://x.com/rnaudbertrand/status/1835171408256942149?s=46&t=nn3z3yuHSlOFcPbFyzmrQA #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 399 Views 0 Reviews
  • #อุต๊ะมีความน่าอัวพี่คิงส์นี่ขนตั้งชัน
    ป้าโจวตกขาว หรือมณฑนี
    ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนเธอเป็นใคร
    พิธีกรตกยุค ที่เคยแสดงออกถึงความรักชาติ
    แต่หลังจากที่นางมีอาการเปื่อยจิต
    ต้องรับการบำ บัด จังหวะ
    แน๊กเริ่มมีความคิดช่วยเหลืออิเหวิงกามิจ
    นางเลยหลุดเข้าสู่มิติแห่งความเพ้อฝัน
    และเป็นแนวร่วมตั้งกลุ่มลั-บ
    โดยเอเจนซี่กับอิเหวิงทำแพลนรอไว้แล้วตั้งแต่แปดเดือนที่แล้ว
    เพื่อให้สาวกเข้าไปสิงสถิตและได้คุยส่วนตัวกับอิเหวิง
    มีทั้งรายเดือน มีทั้งเรียกไปเปย์ติ๊กเกอร์ตอนพีเค
    เรียกว่า ทุยสาวกบางคน หมดกันเป็นล้าน
    ส่วนป้าโจตกขาวก็ได้ส่วนแบ่ง มีหน้าที่
    สร้างอุปทานหมู่ ด้วยความชำนาญในการเป็นนักพูดตกยุค
    เล่นเอาสาวกเคลิ้มล่องลอยเหมือนจักรวาลนี้สร้างมาเพื่ออิเหวิง
    และเมื่อแน๊กเริ่มรับรู้ว่ามีคนที่เปย์จนเดือดร้อนเพราะหลงอิป้าโจกับอิเหวิง
    ก็เลยต้องหาทางสร้างเรื่องไม่จริง ใส่ไคร้ว่าน้องแน๊ก เปื่อยจิต โดยเอาอาการของตัวเอง ไปยัดเยียดให้น้องแน๊ก กระจายกันในกลุ่ม
    (หลักต๋านส่งมาเพียบบบบ)
    ให้อิเหวิงเป็นผู้ถูกกระทำ
    เมื่อแน๊กรู้สึกว่า อิเหวิงไม่จบกับโลภะ รวมถึงคนที่ได้ประโยชน์ร่วมก็เลยเถิด
    ก็ต้องจบความรักเพื่อปกป้องคนไทยด้วยกัน
    จึงเป็นที่มาที่อิป้าโจตกขาว สร้างกลุ่มสุมหัว โดยดึงคนที่เสียประโยชน์จากการที่แน๊กตัดขาดความสัมพันธ์ มารวมกันเพื่อสหบาทาแน๊ก และอวยอิเหวิง
    จุดนี้แหละ ที่พี่คิงส์รับรู้รับทราบ ทั้งๆที่พี่คิงส์เองเอ็นดูแน๊ก แต่ไม่เคยอินหรือติดตามเป็นลูกทัพน้องแน๊กเลย แต่มันคือเรื่องการที่น้องผู้ชายคนหนึ่ง ถูกอธรรมอย่างไม่ยุติธรรม ด้วยกลุ่มก้อนเฮงชวยพวกนี้ รวมถึงคนที่ถูกเชี่ยมจิตในกลุ่มที่ยังคงเปย์ตามการจูงจมูกของอิป้าโจวตกขาว
    ทำให้พี่คิงส์ต้องหันมาเปิดเผยเรื่องนี้อย่างจริงจัง
    ต่อมา สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้สื่อข่าวระดับตำนาน ได้มองเรื่องนี้ว่าเป็นอตร.กับคนไทย จึงนัดหมายว่าจะนำเสนอข้อมูลในวันศุกร์ที่ 13 กันยายน 67
    อิป้าโจวตกขาว ก็ดิ้น ถึงขนาดข่มด้วยการโพส เบรคสื่อระดับตำนาน สารพัด
    นี่คือที่มา ของการเปิดเผยข้อมูลสำคัญมาตลอดจนถึงตอนนี้
    หลังจากที่ข้อมูลได้เปิดเผยสู่สาธารณะ
    อิป้าโจวตกขาวถึงกับช็อค ไม่กล้าโพสใดๆอีกเลย
    เพราะยิ่งขุด ยิ่งเจอ
    แม้กระทั่ง มีการแอบตั้งโรงเรียนอย่างไม่ถูกต้องตาม-ก-ฏ-ห-ม-าย เพื่อลวงคนในกลุ่มและคนทั่วไปที่เป็นแฟนคลับกามิจ ไปเรียนทำนายทายทัก ฝึกจิตฝึกวิญาณ เอาง่ายๆ หาแดรกกับความเชื่อ คนละเป็นหมื่น ซึ่งไม่นาน กระทรวงคงได้ติดต่อนางไป นี่มันอาชีพต้มคนไทยชัดๆ
    แต่ซักครู่นี้่เอง นางเจอคนเปิดความจริงแบบงานละเอียดยิบอย่างพี่คิงส์ฯ
    กองเชียร์ก็บอกให้มาโต้ แต่จะโต้ได้ไง เพราะมันคือความจริง นางเลยเข้าสายกับช่องสาวกของนาง และพูดเสียงเครือแบบ ขึ้นมาก ทั้งสั่นทั้งกลัว
    "ที่เงียบไป ไม่ได้เงียบไปเฉยๆนะ นี่ก็กำลังไปตร.ไซเบอร์ จะจัดการคนที่มาทำให้นางเสื่อม เพราะที่พูดไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์" ป๊าดดดด
    พี่คิงส์ก็ย้อนกลับไปดู หลักฐานก็มีน้า
    เอางี้ป้า อยากทำอะไรจัดมา
    ส่วนพี่คิงส์ก็รู้สึกกลัวมาก
    จะตอบสนองป้าด้วยการขุดให้ลึกไปอีกแบบรัวๆ
    เอาให้คนไทยทั่วประเทศ สว่างวาบเลย
    ป้าได้ปิดท้ายไว้ว่า
    "เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับป้าโจวตกขาว"
    คือหวังให้เพจคิงส์โพธิ์แดงกลัว ว่างั้น!!
    หึหึ ป้าโจ ไปสืบก่อนก็ดี ว่าคิงส์โพธิ์แดง
    สู้กับใครมาบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
    อิฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    #อุต๊ะมีความน่าอัวพี่คิงส์นี่ขนตั้งชัน ป้าโจวตกขาว หรือมณฑนี ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนเธอเป็นใคร พิธีกรตกยุค ที่เคยแสดงออกถึงความรักชาติ แต่หลังจากที่นางมีอาการเปื่อยจิต ต้องรับการบำ บัด จังหวะ แน๊กเริ่มมีความคิดช่วยเหลืออิเหวิงกามิจ นางเลยหลุดเข้าสู่มิติแห่งความเพ้อฝัน และเป็นแนวร่วมตั้งกลุ่มลั-บ โดยเอเจนซี่กับอิเหวิงทำแพลนรอไว้แล้วตั้งแต่แปดเดือนที่แล้ว เพื่อให้สาวกเข้าไปสิงสถิตและได้คุยส่วนตัวกับอิเหวิง มีทั้งรายเดือน มีทั้งเรียกไปเปย์ติ๊กเกอร์ตอนพีเค เรียกว่า ทุยสาวกบางคน หมดกันเป็นล้าน ส่วนป้าโจตกขาวก็ได้ส่วนแบ่ง มีหน้าที่ สร้างอุปทานหมู่ ด้วยความชำนาญในการเป็นนักพูดตกยุค เล่นเอาสาวกเคลิ้มล่องลอยเหมือนจักรวาลนี้สร้างมาเพื่ออิเหวิง และเมื่อแน๊กเริ่มรับรู้ว่ามีคนที่เปย์จนเดือดร้อนเพราะหลงอิป้าโจกับอิเหวิง ก็เลยต้องหาทางสร้างเรื่องไม่จริง ใส่ไคร้ว่าน้องแน๊ก เปื่อยจิต โดยเอาอาการของตัวเอง ไปยัดเยียดให้น้องแน๊ก กระจายกันในกลุ่ม (หลักต๋านส่งมาเพียบบบบ) ให้อิเหวิงเป็นผู้ถูกกระทำ เมื่อแน๊กรู้สึกว่า อิเหวิงไม่จบกับโลภะ รวมถึงคนที่ได้ประโยชน์ร่วมก็เลยเถิด ก็ต้องจบความรักเพื่อปกป้องคนไทยด้วยกัน จึงเป็นที่มาที่อิป้าโจตกขาว สร้างกลุ่มสุมหัว โดยดึงคนที่เสียประโยชน์จากการที่แน๊กตัดขาดความสัมพันธ์ มารวมกันเพื่อสหบาทาแน๊ก และอวยอิเหวิง จุดนี้แหละ ที่พี่คิงส์รับรู้รับทราบ ทั้งๆที่พี่คิงส์เองเอ็นดูแน๊ก แต่ไม่เคยอินหรือติดตามเป็นลูกทัพน้องแน๊กเลย แต่มันคือเรื่องการที่น้องผู้ชายคนหนึ่ง ถูกอธรรมอย่างไม่ยุติธรรม ด้วยกลุ่มก้อนเฮงชวยพวกนี้ รวมถึงคนที่ถูกเชี่ยมจิตในกลุ่มที่ยังคงเปย์ตามการจูงจมูกของอิป้าโจวตกขาว ทำให้พี่คิงส์ต้องหันมาเปิดเผยเรื่องนี้อย่างจริงจัง ต่อมา สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้สื่อข่าวระดับตำนาน ได้มองเรื่องนี้ว่าเป็นอตร.กับคนไทย จึงนัดหมายว่าจะนำเสนอข้อมูลในวันศุกร์ที่ 13 กันยายน 67 อิป้าโจวตกขาว ก็ดิ้น ถึงขนาดข่มด้วยการโพส เบรคสื่อระดับตำนาน สารพัด นี่คือที่มา ของการเปิดเผยข้อมูลสำคัญมาตลอดจนถึงตอนนี้ หลังจากที่ข้อมูลได้เปิดเผยสู่สาธารณะ อิป้าโจวตกขาวถึงกับช็อค ไม่กล้าโพสใดๆอีกเลย เพราะยิ่งขุด ยิ่งเจอ แม้กระทั่ง มีการแอบตั้งโรงเรียนอย่างไม่ถูกต้องตาม-ก-ฏ-ห-ม-าย เพื่อลวงคนในกลุ่มและคนทั่วไปที่เป็นแฟนคลับกามิจ ไปเรียนทำนายทายทัก ฝึกจิตฝึกวิญาณ เอาง่ายๆ หาแดรกกับความเชื่อ คนละเป็นหมื่น ซึ่งไม่นาน กระทรวงคงได้ติดต่อนางไป นี่มันอาชีพต้มคนไทยชัดๆ แต่ซักครู่นี้่เอง นางเจอคนเปิดความจริงแบบงานละเอียดยิบอย่างพี่คิงส์ฯ กองเชียร์ก็บอกให้มาโต้ แต่จะโต้ได้ไง เพราะมันคือความจริง นางเลยเข้าสายกับช่องสาวกของนาง และพูดเสียงเครือแบบ ขึ้นมาก ทั้งสั่นทั้งกลัว "ที่เงียบไป ไม่ได้เงียบไปเฉยๆนะ นี่ก็กำลังไปตร.ไซเบอร์ จะจัดการคนที่มาทำให้นางเสื่อม เพราะที่พูดไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์" ป๊าดดดด พี่คิงส์ก็ย้อนกลับไปดู หลักฐานก็มีน้า เอางี้ป้า อยากทำอะไรจัดมา ส่วนพี่คิงส์ก็รู้สึกกลัวมาก จะตอบสนองป้าด้วยการขุดให้ลึกไปอีกแบบรัวๆ เอาให้คนไทยทั่วประเทศ สว่างวาบเลย ป้าได้ปิดท้ายไว้ว่า "เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับป้าโจวตกขาว" คือหวังให้เพจคิงส์โพธิ์แดงกลัว ว่างั้น!! หึหึ ป้าโจ ไปสืบก่อนก็ดี ว่าคิงส์โพธิ์แดง สู้กับใครมาบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน อิฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2 #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    Like
    Love
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 872 Views 0 Reviews
  • #กรุแตก# ของจริงมีมานานแล้ว แต่ระยะหลายปีหลัง พอมีข่าวเซียนรีบไป เพื่อดักซื้อ แต่หลายครั้ง ก็มีคำตัดพ้อ "เสียเวลาฉิกหาย" เมื่อเห็นของ..!!
    ในส่วนของจริง จะไม่ขอกล่าวถึง ขอเขียนในส่วนที่ใช้กันประจำ คือ การวางงาน อาจจะมีการตกลงกับวัด หรือไม่ก็ได้ แล้วก็เอายอดฝีมือไปฝังของไว้ ..นิทานเรื่องเล่าก็ตามมา ส่งวิญญาณไปเข้าฝันเจ้าอาวาส หรือพระในวัดบอกตำแหน่งเส็รจสรรพ. เตรียมกล้อง ผู้สื่อข่าวท้องถิ่น ทีมงานครบ.
    ของแบบนี้ มีทำระดับ เบอร์เล็กๆ ไปยันเบอร์มีชื่อ (แบบที่คนรุ่นเก่า รุ่นแก่ ยังไม่กล้าสวดตรงๆเพราะเกรงใจ ก็มี)
    คนทำพระเก๊งานดีๆคือใคร คือเซียนนั่นละ เพราะรู้ว่า จะดูจุดชี้ขาดจุดไหนบ้าง คนไม่รู้มาทำก็เหมือนงานเก๊ยุคเก่า เห็นแวปเดียวก็รู้แล้วว่า "ไม่ใช่"
    #ของจริงมี #แต่ในยุคหลังมานี่จะน้อย
    #กรุแตก# ของจริงมีมานานแล้ว แต่ระยะหลายปีหลัง พอมีข่าวเซียนรีบไป เพื่อดักซื้อ แต่หลายครั้ง ก็มีคำตัดพ้อ "เสียเวลาฉิกหาย" เมื่อเห็นของ..!! ในส่วนของจริง จะไม่ขอกล่าวถึง ขอเขียนในส่วนที่ใช้กันประจำ คือ การวางงาน อาจจะมีการตกลงกับวัด หรือไม่ก็ได้ แล้วก็เอายอดฝีมือไปฝังของไว้ ..นิทานเรื่องเล่าก็ตามมา ส่งวิญญาณไปเข้าฝันเจ้าอาวาส หรือพระในวัดบอกตำแหน่งเส็รจสรรพ. เตรียมกล้อง ผู้สื่อข่าวท้องถิ่น ทีมงานครบ. ของแบบนี้ มีทำระดับ เบอร์เล็กๆ ไปยันเบอร์มีชื่อ (แบบที่คนรุ่นเก่า รุ่นแก่ ยังไม่กล้าสวดตรงๆเพราะเกรงใจ ก็มี) คนทำพระเก๊งานดีๆคือใคร คือเซียนนั่นละ เพราะรู้ว่า จะดูจุดชี้ขาดจุดไหนบ้าง คนไม่รู้มาทำก็เหมือนงานเก๊ยุคเก่า เห็นแวปเดียวก็รู้แล้วว่า "ไม่ใช่" #ของจริงมี #แต่ในยุคหลังมานี่จะน้อย
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 116 Views 0 Reviews
  • จะทำตามไหม! ศาลอาญาโลกสั่งมองโกเลียรวบตัวปูติน หลังผู้นำรัสเซียมีคิวเดินทางเยือน

    1 กันยายน 2567- สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มองโกเลียต้องควบคุมตัวประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย สืบเนื่องจากพวกเขาเป็นรัฐสมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) จากคำกล่าวของโฆษกศาลแห่งนี้ที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองเฮก ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นก่อนหน้าที่ ปูติน มีกำหนดเดินทางเยือนมองโกเลีย

    ปูติน มีกำหนดเดินทางเยือนเพื่อนบ้านของรัสเซียแห่งนี้ ในวันจันทร์ (2 ก.ย.) เพื่อร่วมรำลึกครบรอบ 85 ปี ของการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในทางทฤษฎีแล้ว แผนการเดินทางดังกล่าวทำให้เขาเสี่ยงถูกจับกุมตามหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ ในข้อหา "ก่ออาชญากรรมสงตราม" เนื่องจากมองโกเลีย ให้การรับรองขอบเขตอำนาจของศาลแห่งนี้

    ฟาดิ เอล-อับดัลเลาะห์ โฆษกของศาลอาญาระหว่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีในวันศุกร์ (30 ส.ค.) ว่าทุกรัฐที่ลงนามในธรรมนูญกรุงโรม "มีพันธสัญญาที่ต้องให้ความร่วมมือ สอดคล้องกับบทบัญญัติภาค 9 ของธรรมนูญกรุงโรม" ทั้งนี้ ธรรมนูญกรุงโรม เป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่จัดตั้งศาลแห่งนี้ขึ้นมา และทางมองโกเลียได้ให้สัตยาบันรับรองในปี 2002

    "ในกรณีที่ไม่ให้ความร่วมมือ บรรดาผู้พิพากษาของศาลอาญาระหว่างประเทศ อาจดำเนินการตรวจสอบผลกระทบในเรื่องดังกล่าว และแจ้งต่อสมัชชารัฐภาคีแห่งธรรมนูญกรุงโรมในเรื่องนี้ จากนั้นทางสมัชชาฯ จะเป็นคนตัดสินใจใช้มาตรการใดๆ ที่พวกเขาเล็งเห็นว่ามีความเหมาะสม" เอล-อับดัลเลาะห์กล่าว

    อย่างไรก็ตาม ธรรมนูญกรุงโรมได้ให้ข้อยกเว้น ครั้งที่การจับกุมใดๆ นั้นเป็นการละเมิดพันธสัญญาในสนธิสัญญาหนึ่งที่ทำไว้กับประเทศอื่น หรือละเมิดเอกสิทธิ์คุ้มกันทางการทูตของบุคคลหรือสินทรัพย์ของประเทศที่ 3

    อ้างอิงจากรัฐบาลในกรุงเคียฟ ทางยูเครนได้ยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการ เรียกร้องให้ มองโกเลียจับกุม ปูติน เช่นกัน

    กระนั้นก็ตาม ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของวังเครมลิน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (30 ส.ค.) มอสโกไม่กังวลเกี่ยวกับหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ พร้อมเน้นว่าทุกประเด็นปัญหาในความเป็นไปได้ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางเยือนของปูติน จะได้รับการจัดการแยกกันเป็นการล่วงหน้า

    ศาลอาญาระหว่างประเทศออกหมายจับ ปูติน ในเดือนมีนาคม 2023 กล่าวหาประธานาธิบดีรัสเซีย บังคับเนรเทศอย่างผิดกฎหมายและบังคับขนย้ายประชากร (เด็ก) จากพื้นที่ยึดครองในยูเครน ไปยังสหพันธรัฐรัสเซีย

    มอสโกปฏิเสธคำกล่าวอ้างว่าไร้สาระ เน้นว่าการอพยพพลเรือนออกจากพื้นที่สู้รบไม่ใช่อาชญากรรม ยิ่งไปกว่านั้นทั้งรัสเซียและยูเครน ก็ไม่ได้เป็นรัฐภาคีของธรรมนูญกรุงโรม นั่นหมายความว่าศาลอาญาระหว่างประเทศไม่มีขอบเขตอำนาจในเรื่องนี้

    ที่มา : https://mgronline.com/around/detail/9670000080886

    #Thaitimes
    จะทำตามไหม! ศาลอาญาโลกสั่งมองโกเลียรวบตัวปูติน หลังผู้นำรัสเซียมีคิวเดินทางเยือน 1 กันยายน 2567- สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มองโกเลียต้องควบคุมตัวประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย สืบเนื่องจากพวกเขาเป็นรัฐสมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) จากคำกล่าวของโฆษกศาลแห่งนี้ที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองเฮก ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นก่อนหน้าที่ ปูติน มีกำหนดเดินทางเยือนมองโกเลีย ปูติน มีกำหนดเดินทางเยือนเพื่อนบ้านของรัสเซียแห่งนี้ ในวันจันทร์ (2 ก.ย.) เพื่อร่วมรำลึกครบรอบ 85 ปี ของการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในทางทฤษฎีแล้ว แผนการเดินทางดังกล่าวทำให้เขาเสี่ยงถูกจับกุมตามหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ ในข้อหา "ก่ออาชญากรรมสงตราม" เนื่องจากมองโกเลีย ให้การรับรองขอบเขตอำนาจของศาลแห่งนี้ ฟาดิ เอล-อับดัลเลาะห์ โฆษกของศาลอาญาระหว่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีในวันศุกร์ (30 ส.ค.) ว่าทุกรัฐที่ลงนามในธรรมนูญกรุงโรม "มีพันธสัญญาที่ต้องให้ความร่วมมือ สอดคล้องกับบทบัญญัติภาค 9 ของธรรมนูญกรุงโรม" ทั้งนี้ ธรรมนูญกรุงโรม เป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่จัดตั้งศาลแห่งนี้ขึ้นมา และทางมองโกเลียได้ให้สัตยาบันรับรองในปี 2002 "ในกรณีที่ไม่ให้ความร่วมมือ บรรดาผู้พิพากษาของศาลอาญาระหว่างประเทศ อาจดำเนินการตรวจสอบผลกระทบในเรื่องดังกล่าว และแจ้งต่อสมัชชารัฐภาคีแห่งธรรมนูญกรุงโรมในเรื่องนี้ จากนั้นทางสมัชชาฯ จะเป็นคนตัดสินใจใช้มาตรการใดๆ ที่พวกเขาเล็งเห็นว่ามีความเหมาะสม" เอล-อับดัลเลาะห์กล่าว อย่างไรก็ตาม ธรรมนูญกรุงโรมได้ให้ข้อยกเว้น ครั้งที่การจับกุมใดๆ นั้นเป็นการละเมิดพันธสัญญาในสนธิสัญญาหนึ่งที่ทำไว้กับประเทศอื่น หรือละเมิดเอกสิทธิ์คุ้มกันทางการทูตของบุคคลหรือสินทรัพย์ของประเทศที่ 3 อ้างอิงจากรัฐบาลในกรุงเคียฟ ทางยูเครนได้ยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการ เรียกร้องให้ มองโกเลียจับกุม ปูติน เช่นกัน กระนั้นก็ตาม ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของวังเครมลิน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (30 ส.ค.) มอสโกไม่กังวลเกี่ยวกับหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ พร้อมเน้นว่าทุกประเด็นปัญหาในความเป็นไปได้ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางเยือนของปูติน จะได้รับการจัดการแยกกันเป็นการล่วงหน้า ศาลอาญาระหว่างประเทศออกหมายจับ ปูติน ในเดือนมีนาคม 2023 กล่าวหาประธานาธิบดีรัสเซีย บังคับเนรเทศอย่างผิดกฎหมายและบังคับขนย้ายประชากร (เด็ก) จากพื้นที่ยึดครองในยูเครน ไปยังสหพันธรัฐรัสเซีย มอสโกปฏิเสธคำกล่าวอ้างว่าไร้สาระ เน้นว่าการอพยพพลเรือนออกจากพื้นที่สู้รบไม่ใช่อาชญากรรม ยิ่งไปกว่านั้นทั้งรัสเซียและยูเครน ก็ไม่ได้เป็นรัฐภาคีของธรรมนูญกรุงโรม นั่นหมายความว่าศาลอาญาระหว่างประเทศไม่มีขอบเขตอำนาจในเรื่องนี้ ที่มา : https://mgronline.com/around/detail/9670000080886 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    จะทำตามไหม! ศาลอาญาโลกสั่งมองโกเลียรวบตัวปูติน หลังผู้นำรัสเซียมีคิวเดินทางเยือน
    มองโกเลีย ต้องควบคุมตัว ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย สืบเนื่องจากพวกเขาเป็นรัฐสมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศ(ไอซีซี) จากคำกล่าวของโฆษกศาลแห่งนี้ที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองเฮก ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นก่อนหน้าที่ ปูติน มีกำหน
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 610 Views 0 Reviews
  • กองทัพเอลได้ออกคำสั่งใหม่ให้ชาวปาเลสที่พลัดถิ่นในพื้นที่ที่กำหนดทางตะวันออกของเมืองเดียร์เอลบาลาห์อพยพทันที ก่อนที่จะมีการโจมตีทางพื้นดินเพิ่มขึ้น
    Avichay Adraee โฆษกกองทัพเอล ประกาศกับชาวปาเลสว่าพื้นที่ดังกล่าว “ถือเป็นเขตการรุกรานอันตรายในปัจจุบัน"
    ชาวปาเลสอย่างน้อย 100,000 คน ต้องอพยพออกจากพื้นที่เดียร์เอลบาลาห์ โดยหลายคนไม่ได้อพยพเป็นครั้งแรกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และบางคนไม่มีแม้แต่พื้นที่กางเต็นท์ เนื่องจากกองทัพเอลกำลังพยายามลดขนาดพื้นที่ปลอดภัยในกาซาให้เล็กลง
    ความหวาดกลัว ความตื่นตระหนกในเดียร์เอลบาลาห์ เมื่อชาวปาเลสกว่า 100,000 คนต้องอพยพอีกครั้ง
    ฮินด์ คูดารี ผู้สื่อข่าวอัลจาซีรา รายงานจากเดียร์ เอล-บาลาห์ บรรยายถึงเหตุการณ์ที่น่า "เลวร้าย" ในพื้นที่ตอนกลางของกาซา ขณะที่กองกำลังเอลออกคำสั่งอพยพใหม่ ส่งผลให้ผู้คนอีกหลายพันคนต้องอพยพออกไป
    “เรากำลังพูดถึงชาวปาเลส 100,000 คน ซึ่งไม่เพียงแต่ต้องพลัดถิ่นฐานเท่านั้น แต่พวกเขายังเป็นคนไร้บ้าน ไม่มีที่พักพิงใดๆ” เธอกล่าว
    “ครอบครัวเหล่านี้แสดงอาการตื่นตระหนก กลัว และหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เพราะพวกเขาเชื่อว่าแม้ว่าพวกเขาจะอพยพไปยัง 'เขตมนุษยธรรม' ซึ่งกำลังหดตัวลงเรื่อยๆ เมื่อมีคำสั่งอพยพทุกครั้ง ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่เป็นเป้าหมาย”
    .
    #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews
    #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง
    -------------------------------
    สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    กองทัพเอลได้ออกคำสั่งใหม่ให้ชาวปาเลสที่พลัดถิ่นในพื้นที่ที่กำหนดทางตะวันออกของเมืองเดียร์เอลบาลาห์อพยพทันที ก่อนที่จะมีการโจมตีทางพื้นดินเพิ่มขึ้น Avichay Adraee โฆษกกองทัพเอล ประกาศกับชาวปาเลสว่าพื้นที่ดังกล่าว “ถือเป็นเขตการรุกรานอันตรายในปัจจุบัน" ชาวปาเลสอย่างน้อย 100,000 คน ต้องอพยพออกจากพื้นที่เดียร์เอลบาลาห์ โดยหลายคนไม่ได้อพยพเป็นครั้งแรกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และบางคนไม่มีแม้แต่พื้นที่กางเต็นท์ เนื่องจากกองทัพเอลกำลังพยายามลดขนาดพื้นที่ปลอดภัยในกาซาให้เล็กลง ความหวาดกลัว ความตื่นตระหนกในเดียร์เอลบาลาห์ เมื่อชาวปาเลสกว่า 100,000 คนต้องอพยพอีกครั้ง ฮินด์ คูดารี ผู้สื่อข่าวอัลจาซีรา รายงานจากเดียร์ เอล-บาลาห์ บรรยายถึงเหตุการณ์ที่น่า "เลวร้าย" ในพื้นที่ตอนกลางของกาซา ขณะที่กองกำลังเอลออกคำสั่งอพยพใหม่ ส่งผลให้ผู้คนอีกหลายพันคนต้องอพยพออกไป “เรากำลังพูดถึงชาวปาเลส 100,000 คน ซึ่งไม่เพียงแต่ต้องพลัดถิ่นฐานเท่านั้น แต่พวกเขายังเป็นคนไร้บ้าน ไม่มีที่พักพิงใดๆ” เธอกล่าว “ครอบครัวเหล่านี้แสดงอาการตื่นตระหนก กลัว และหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เพราะพวกเขาเชื่อว่าแม้ว่าพวกเขาจะอพยพไปยัง 'เขตมนุษยธรรม' ซึ่งกำลังหดตัวลงเรื่อยๆ เมื่อมีคำสั่งอพยพทุกครั้ง ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่เป็นเป้าหมาย” . #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง ------------------------------- สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    0 Comments 0 Shares 272 Views 0 Reviews
  • บิ๊กป้อมวุฒิภาวะต่ำ โปรดรับผิดชอบด้วย

    เหตุการณ์ไม่คาดคิดระหว่างสื่อมวลชนกำลังสัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ปรากฎว่า พล.อ.ประวิตร ใช้มือตบศีรษะ ดวงทิพย์ เยี่ยมภพ ผู้สื่อข่าวสายทหาร สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส พร้อมกล่าวว่า "ถามไร...ถามไร" ก่อนขึ้นรถยนต์

    พล.อ.ประวิตร ย้ำว่า "ถามอะไรก็ไม่ได้ยิน แล้วยังจะถามอีก" และเมื่อถามถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้รับโหวตเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ตอบว่า "วู้...ถามอะไรวะ" ก่อนที่รถจะเคลื่อนออกไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย (บ้านอัมพวัน) เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ส.ค.)

    ทันทีที่วีดีโอคลิปจากผู้สื่อข่าวภาคสนามเป็นไวรัล บรรดาเพื่อนสื่อมวลชนต่างแสดงความไม่พอใจถึงวุฒิภาวะของ พล.อ.ประวิตร หรือ บิ๊กป้อม อดีตนายทหารและนักการเมืองวัย 79 ปีผู้นี้ พร้อมตั้งคำถามถึงการกระทำดังกล่าวว่า มีสิทธิ์อะไรมาตีผู้สื่อข่าวแบบนี้ ทั้งที่สิ่งที่นักข่าวถามไม่ได้ล่วงเกิน หรือรุนแรงอะไร

    ทันใดนั้น สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลพฤติกรรมคุกคามสื่อ เรียกร้องให้เกียรติผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่าย ข่มขู่ คุกคามสิทธิเสรีภาพในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน จึงขอให้ พล.อ.ประวิตร แสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว

    "ขณะเดียวกัน ขอเตือนไปยังบุคคลใดก็ตามพึงระมัดระวังการใช้อารมณ์รุนแรงชั่ววูบอันอาจก่อให้เกิดผลเสียตามมาได้ และขอให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมคุกคามเหล่านี้ สิ่งสำคัญควรให้เกียรติผู้ปฏิบัติงานในแต่ละวิชาชีพ รวมถึงเคารพการทำหน้าที่ซึ่งกันและกันด้วย" แถลงการณ์สมาคมนักข่าวฯ ระบุ

    ด้านองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ออกแถลงการณ์ระบุว่า ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการคุกคามการทำหน้าที่ผู้สื่อข่าว

    "การตั้งคำถามด้วยถ้อยคำ และท่าทีสุภาพในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผู้ถูกสัมภาษณ์ ดังปรากฎในคลิปวีดีโอ ที่ถูกเผยแพร่เป็นที่ประจักษ์นั้น ชัดเจนว่า เป็นการทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวโดยสุจริต การถูกกระทำทางกายจากแหล่งข่าวเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ และถือเป็นพฤติกรรมที่ย่อมส่งผลกระทบต่อจิตใจและความรู้สึกปลอดภัยของผู้สื่อข่าว-ช่างภาพ ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์เดียวกันด้วย" แถลงการณ์ไทยพีบีเอส ระบุ

    ไทยพีบีเอส เรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร แสดงความรับผิดชอบต่อการคุกคามผู้สื่อข่าวครั้งนี้ และขอให้องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนต่างๆ ร่วมหามาตรการดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสื่อมวลชนต่อไป

    มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร ได้ให้นายทหารคนสนิท อย่าง พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม โทรศัพท์สายตรงมาถึงผู้สื่อข่าว อ้างว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นได้ส่งสายโทรศัพท์ให้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้มีเจตนาอะไรเลย เพราะปกติแล้วตนเองก็ได้พูดล้อเล่น และแหย่เล่นกับผู้สื่อข่าวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นประจำอยู่แล้ว

    แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งความโกรธแค้นของคนที่รับรู้เรื่องราว ต่างเรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร แสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด

    #Newskit #ประวิตร #คุกคามสื่อ
    บิ๊กป้อมวุฒิภาวะต่ำ โปรดรับผิดชอบด้วย เหตุการณ์ไม่คาดคิดระหว่างสื่อมวลชนกำลังสัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ปรากฎว่า พล.อ.ประวิตร ใช้มือตบศีรษะ ดวงทิพย์ เยี่ยมภพ ผู้สื่อข่าวสายทหาร สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส พร้อมกล่าวว่า "ถามไร...ถามไร" ก่อนขึ้นรถยนต์ พล.อ.ประวิตร ย้ำว่า "ถามอะไรก็ไม่ได้ยิน แล้วยังจะถามอีก" และเมื่อถามถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้รับโหวตเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ตอบว่า "วู้...ถามอะไรวะ" ก่อนที่รถจะเคลื่อนออกไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย (บ้านอัมพวัน) เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ส.ค.) ทันทีที่วีดีโอคลิปจากผู้สื่อข่าวภาคสนามเป็นไวรัล บรรดาเพื่อนสื่อมวลชนต่างแสดงความไม่พอใจถึงวุฒิภาวะของ พล.อ.ประวิตร หรือ บิ๊กป้อม อดีตนายทหารและนักการเมืองวัย 79 ปีผู้นี้ พร้อมตั้งคำถามถึงการกระทำดังกล่าวว่า มีสิทธิ์อะไรมาตีผู้สื่อข่าวแบบนี้ ทั้งที่สิ่งที่นักข่าวถามไม่ได้ล่วงเกิน หรือรุนแรงอะไร ทันใดนั้น สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลพฤติกรรมคุกคามสื่อ เรียกร้องให้เกียรติผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่าย ข่มขู่ คุกคามสิทธิเสรีภาพในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน จึงขอให้ พล.อ.ประวิตร แสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว "ขณะเดียวกัน ขอเตือนไปยังบุคคลใดก็ตามพึงระมัดระวังการใช้อารมณ์รุนแรงชั่ววูบอันอาจก่อให้เกิดผลเสียตามมาได้ และขอให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมคุกคามเหล่านี้ สิ่งสำคัญควรให้เกียรติผู้ปฏิบัติงานในแต่ละวิชาชีพ รวมถึงเคารพการทำหน้าที่ซึ่งกันและกันด้วย" แถลงการณ์สมาคมนักข่าวฯ ระบุ ด้านองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ออกแถลงการณ์ระบุว่า ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการคุกคามการทำหน้าที่ผู้สื่อข่าว "การตั้งคำถามด้วยถ้อยคำ และท่าทีสุภาพในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผู้ถูกสัมภาษณ์ ดังปรากฎในคลิปวีดีโอ ที่ถูกเผยแพร่เป็นที่ประจักษ์นั้น ชัดเจนว่า เป็นการทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวโดยสุจริต การถูกกระทำทางกายจากแหล่งข่าวเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ และถือเป็นพฤติกรรมที่ย่อมส่งผลกระทบต่อจิตใจและความรู้สึกปลอดภัยของผู้สื่อข่าว-ช่างภาพ ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์เดียวกันด้วย" แถลงการณ์ไทยพีบีเอส ระบุ ไทยพีบีเอส เรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร แสดงความรับผิดชอบต่อการคุกคามผู้สื่อข่าวครั้งนี้ และขอให้องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนต่างๆ ร่วมหามาตรการดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสื่อมวลชนต่อไป มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร ได้ให้นายทหารคนสนิท อย่าง พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม โทรศัพท์สายตรงมาถึงผู้สื่อข่าว อ้างว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นได้ส่งสายโทรศัพท์ให้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้มีเจตนาอะไรเลย เพราะปกติแล้วตนเองก็ได้พูดล้อเล่น และแหย่เล่นกับผู้สื่อข่าวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งความโกรธแค้นของคนที่รับรู้เรื่องราว ต่างเรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร แสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด #Newskit #ประวิตร #คุกคามสื่อ
    Sad
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 555 Views 0 Reviews
  • หลายคนเห็นภาพอินโฟร์นี้คงตกใจ
    ว่าคิงส์โพธิ์แดงไม่เคยเรียกใครว่าท่าน
    แต่สำหรับ เศรษฐา ต้องยกเกียรติเค้าจริงๆ
    หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน
    น้อบรับคำตัดสินอย่างถ่อมตน วาจาที่เปล่งออกมา
    เต็มไปด้วยมารยาท และรักษาไว้ซึ่งระบบตลาการ และนิติรัฐ
    และเมื่อผู้สื่อข่าวได้ป้อนคำถามเรื่อง ดิจิตอลวอลเลท
    ท่านเศรษฐายืนยันว่า คณะรัฐมนตรีใหม่ หรือนายกคนใหม่
    หรือรัฐบาลชุดใหม่ หากไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้
    ย่อมมีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะยกเลิก หรือยุติโครงการ
    เพราะพรรคการเมืองหลายพรรคก็มิได้เห็นด้วยกับโครงการนี้
    ถือว่าเป็นสิทธิตามกระบวนการทางกฏหมาย
    คิงส์โพธิ์แดงรู้สึก เบาใจแทนท่านยังไงก็ไม่รู้
    ถึงแม้ว่า ท่านเศรษฐาจะไม่มีโอกาสกลับมาเป็นนายกหรือรัฐมนตรี
    แต่ต้นแบบของนักการเมืองที่มีมารยาท และความสุภาพ
    ยกให้เป็นที่ 1 ในใจเลยจริงๆ ลาก่อนครับท่านเศรษฐา นายกคนที่ 30 ของคนไทย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #เศรษฐาทวีสิน
    หลายคนเห็นภาพอินโฟร์นี้คงตกใจ ว่าคิงส์โพธิ์แดงไม่เคยเรียกใครว่าท่าน แต่สำหรับ เศรษฐา ต้องยกเกียรติเค้าจริงๆ หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน น้อบรับคำตัดสินอย่างถ่อมตน วาจาที่เปล่งออกมา เต็มไปด้วยมารยาท และรักษาไว้ซึ่งระบบตลาการ และนิติรัฐ และเมื่อผู้สื่อข่าวได้ป้อนคำถามเรื่อง ดิจิตอลวอลเลท ท่านเศรษฐายืนยันว่า คณะรัฐมนตรีใหม่ หรือนายกคนใหม่ หรือรัฐบาลชุดใหม่ หากไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ ย่อมมีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะยกเลิก หรือยุติโครงการ เพราะพรรคการเมืองหลายพรรคก็มิได้เห็นด้วยกับโครงการนี้ ถือว่าเป็นสิทธิตามกระบวนการทางกฏหมาย คิงส์โพธิ์แดงรู้สึก เบาใจแทนท่านยังไงก็ไม่รู้ ถึงแม้ว่า ท่านเศรษฐาจะไม่มีโอกาสกลับมาเป็นนายกหรือรัฐมนตรี แต่ต้นแบบของนักการเมืองที่มีมารยาท และความสุภาพ ยกให้เป็นที่ 1 ในใจเลยจริงๆ ลาก่อนครับท่านเศรษฐา นายกคนที่ 30 ของคนไทย #คิงส์โพธิ์แดง #เศรษฐาทวีสิน
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 278 Views 0 Reviews
  • เอกอัครราชทูตอังกฤษ-สหรัฐฯ ประจำญี่ปุ่น ปฏิเสธไม่เข้าร่วมพิธีรำลึกสันติภาพ(Peace Memorial Ceremony)ที่เมืองนางาซากิในวันที่ 9 ส.ค. เพื่อรำลึกถึงเหยื่อระเบิดปรมาณูเมื่อปี 1945 อ้างไม่ไปงานนี้เพราะไม่ได้เชิญอิสราเอลเข้าร่วม

    7 สิงหาคม 2567 -รายงานข่าวอาซาฮีระบุว่า เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำญี่ปุ่น นางจูเลีย ลองบัตทอม ชี้แจงว่าการตัดสินใจของเธอเป็นเพราะนายกเทศมนตรีเมืองนางาซากิไม่ได้เชิญอิสราเอลเข้าร่วม

    ทั้งนี้พิธีรำลึกสันติภาพนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 79 นับตั้งแต่สหรัฐฯทิ้ง ระเบิดปรมาณู “ลิตเติลบอย” ซึ่งถูกปล่อยจากเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-29 “อีโนลา เกย์” เมื่อเวลา 8.15 น. ของวันที่ 6 สิงหาคม ปี 1945 ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองฮิโรชิมา ถูกเผาผลาญด้วยไฟร้อนจัดถึง 4,000 องศาเซลเซียส ซึ่งร้อนพอที่จะหลอมเหล็กให้ละลาย

    ผลจากระเบิดปรมาณูลูกแรก ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีและเจ็บป่วยตายในภายหลังรวมกันประมาณ 140,000 คน ซึ่งหลังจากนั้นอีกเพียง 3 วัน 9 ส.ค.ที่เมืองท่านางาซากิของญี่ปุ่น ก็ต้องประสบกับชะตากรรมไม่ต่างกัน และทำให้ญี่ปุ่นต้องประกาศยอมแพ้สงครามโลกในวันที่ 15 ส.ค. ปี 1945

    นางจูเลีย ลองบัตทอม ซึ่งเข้าร่วมพิธีรำลึกสันติภาพที่เมืองฮิโรชิม่า กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ว่า อิสราเอลใช้สิทธิในการป้องกันตนเอง ซึ่งแตกต่างจากรัสเซียที่รุกรานยูเครน และเบลารุสที่ให้การสนับสนุนการรุกราน

    ดังนั้น การปฏิบัติต่ออิสราเอลในลักษณะเดียวกันจึงถือเป็นการเข้าใจผิด เธอกล่าว ตัวแทนอิสราเอลเข้าร่วมพิธีสันติภาพที่เมืองฮิโรชิม่าในปีนี้

    ราห์ม เอ็มมานูเอล เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำญี่ปุ่น จะไม่เข้าร่วมพิธีสันติภาพที่เมืองนางาซากิเช่นกัน แม้ว่าเขาจะเข้าร่วมพิธีที่เมืองฮิโรชิม่าเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมแล้วก็ตาม

    เอ็มมานูเอล ทูตสหรัฐฯ เผยว่า ไม่ต้องการให้เหตุการณ์ที่นางาซากิกลายเป็นประเด็นทางการเมือง แต่ทางสถานทูตจะจัดการให้เขาเข้าร่วมพิธีรำลึกถึงเหยื่อระเบิดปรมาณูที่นางาซากิ ณ วัดโซโจจิ ในกรุงโตเกียวในวันเดียวกันแทน

    เจ้าหน้าที่สถานทูตกล่าวว่า ความปรารถนาของเอกอัครราชทูตที่ต้องการรำลึกถึงผู้เสียชีวิตยังคงไม่เปลี่ยนแปลง สหรัฐฯ จะยังคงส่งตัวแทนเข้าร่วมพิธีสันติภาพที่นางาซากิ

    สถานกงสุลสหรัฐฯ ในฟุกุโอกะ ใกล้เมืองนางาซากิ กล่าวเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ว่า ชูกะ อาซิเกะ เจ้าหน้าที่หลักของสถานกงสุลจะเข้าร่วมงานนี้

    นางาซากิไม่ได้เชิญรัสเซียหรือเบลารุสซึ่งเป็นพันธมิตรของนางาซากิเข้าร่วมพิธีรำลึกสันติภาพประจำปีตั้งแต่มอสโกว์บุกยูเครนในปี 2022 และในปีนี้ นางาซากิไม่ได้เชิญอิสราเอล โดยอ้างถึง “ความเสี่ยงของเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดระหว่างพิธี” เนื่องจากความขัดแย้งที่ยังคงดำเนินอยู่ในฉนวนกาซา

    ด้วยเหตุนี้ ทูตฝรั่งเศส อิตาลี และออสเตรเลียก็จะไม่เข้าร่วมพิธีรำลึกสันติภาพที่นางาซากิในวันที่ 9 สิงหาคมด้วย

    ที่มา : https://www.asahi.com/sp/ajw/articles/15379321

    #Thaitimes
    เอกอัครราชทูตอังกฤษ-สหรัฐฯ ประจำญี่ปุ่น ปฏิเสธไม่เข้าร่วมพิธีรำลึกสันติภาพ(Peace Memorial Ceremony)ที่เมืองนางาซากิในวันที่ 9 ส.ค. เพื่อรำลึกถึงเหยื่อระเบิดปรมาณูเมื่อปี 1945 อ้างไม่ไปงานนี้เพราะไม่ได้เชิญอิสราเอลเข้าร่วม 7 สิงหาคม 2567 -รายงานข่าวอาซาฮีระบุว่า เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำญี่ปุ่น นางจูเลีย ลองบัตทอม ชี้แจงว่าการตัดสินใจของเธอเป็นเพราะนายกเทศมนตรีเมืองนางาซากิไม่ได้เชิญอิสราเอลเข้าร่วม ทั้งนี้พิธีรำลึกสันติภาพนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 79 นับตั้งแต่สหรัฐฯทิ้ง ระเบิดปรมาณู “ลิตเติลบอย” ซึ่งถูกปล่อยจากเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-29 “อีโนลา เกย์” เมื่อเวลา 8.15 น. ของวันที่ 6 สิงหาคม ปี 1945 ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองฮิโรชิมา ถูกเผาผลาญด้วยไฟร้อนจัดถึง 4,000 องศาเซลเซียส ซึ่งร้อนพอที่จะหลอมเหล็กให้ละลาย ผลจากระเบิดปรมาณูลูกแรก ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีและเจ็บป่วยตายในภายหลังรวมกันประมาณ 140,000 คน ซึ่งหลังจากนั้นอีกเพียง 3 วัน 9 ส.ค.ที่เมืองท่านางาซากิของญี่ปุ่น ก็ต้องประสบกับชะตากรรมไม่ต่างกัน และทำให้ญี่ปุ่นต้องประกาศยอมแพ้สงครามโลกในวันที่ 15 ส.ค. ปี 1945 นางจูเลีย ลองบัตทอม ซึ่งเข้าร่วมพิธีรำลึกสันติภาพที่เมืองฮิโรชิม่า กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ว่า อิสราเอลใช้สิทธิในการป้องกันตนเอง ซึ่งแตกต่างจากรัสเซียที่รุกรานยูเครน และเบลารุสที่ให้การสนับสนุนการรุกราน ดังนั้น การปฏิบัติต่ออิสราเอลในลักษณะเดียวกันจึงถือเป็นการเข้าใจผิด เธอกล่าว ตัวแทนอิสราเอลเข้าร่วมพิธีสันติภาพที่เมืองฮิโรชิม่าในปีนี้ ราห์ม เอ็มมานูเอล เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำญี่ปุ่น จะไม่เข้าร่วมพิธีสันติภาพที่เมืองนางาซากิเช่นกัน แม้ว่าเขาจะเข้าร่วมพิธีที่เมืองฮิโรชิม่าเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมแล้วก็ตาม เอ็มมานูเอล ทูตสหรัฐฯ เผยว่า ไม่ต้องการให้เหตุการณ์ที่นางาซากิกลายเป็นประเด็นทางการเมือง แต่ทางสถานทูตจะจัดการให้เขาเข้าร่วมพิธีรำลึกถึงเหยื่อระเบิดปรมาณูที่นางาซากิ ณ วัดโซโจจิ ในกรุงโตเกียวในวันเดียวกันแทน เจ้าหน้าที่สถานทูตกล่าวว่า ความปรารถนาของเอกอัครราชทูตที่ต้องการรำลึกถึงผู้เสียชีวิตยังคงไม่เปลี่ยนแปลง สหรัฐฯ จะยังคงส่งตัวแทนเข้าร่วมพิธีสันติภาพที่นางาซากิ สถานกงสุลสหรัฐฯ ในฟุกุโอกะ ใกล้เมืองนางาซากิ กล่าวเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ว่า ชูกะ อาซิเกะ เจ้าหน้าที่หลักของสถานกงสุลจะเข้าร่วมงานนี้ นางาซากิไม่ได้เชิญรัสเซียหรือเบลารุสซึ่งเป็นพันธมิตรของนางาซากิเข้าร่วมพิธีรำลึกสันติภาพประจำปีตั้งแต่มอสโกว์บุกยูเครนในปี 2022 และในปีนี้ นางาซากิไม่ได้เชิญอิสราเอล โดยอ้างถึง “ความเสี่ยงของเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดระหว่างพิธี” เนื่องจากความขัดแย้งที่ยังคงดำเนินอยู่ในฉนวนกาซา ด้วยเหตุนี้ ทูตฝรั่งเศส อิตาลี และออสเตรเลียก็จะไม่เข้าร่วมพิธีรำลึกสันติภาพที่นางาซากิในวันที่ 9 สิงหาคมด้วย ที่มา : https://www.asahi.com/sp/ajw/articles/15379321 #Thaitimes
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 433 Views 0 Reviews
  • ตามรายงานของกองกำลังป้องกันพลเรือนปาเลสในกาซา ผู้ถูกดับชีพและได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีโรงเรียนฮัสซัน ซาลามา และอัลนาสร์เมื่อวันอาทิตย์เป็นเยาวชนถึง ร้อยละ 80
    รายงานจากเดียร์ อัล บาลาห์ ฮานี มะห์มูด ผู้สื่อข่าวอัลจาซีรา ระบุว่า โรงเรียนซึ่งถูกใช้เป็นที่พักพิงของชาวปาเลสที่ต้องอพยพ ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
    “นี่คือสถานการณ์เดียวกันกับที่เราเคยเห็นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สิ่งที่เรารู้ตอนนี้ก็คือมีการโจมตีศูนย์อพยพเป็นจำนวนมาก สิ่งที่น่าเป็นห่วงจริงๆ ก็คือ … กองทัพเอลไม่ได้แจ้งเตือนผู้คนที่อยู่ในศูนย์อพยพเหล่านี้ล่วงหน้า” มะห์มูดกล่าว
    ผู้สื่อข่าวได้ระบุว่าอาคารส่วนใหญ่ที่ใช้เป็นที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นในกาซาคือโรงเรียน เนื่องจากปัจจุบันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่แห่งเดียวที่สามารถรองรับผู้คนจำนวนมากได้
    “เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแบบที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ส่งผลให้เกิดความสูญเสียอย่างหนักและสร้างความกระทบกระเทือนทางจิตใจให้กับประชากรที่เคยต้องอพยพไปแล้วถึง 5 6 หรือ 7 ครั้งในพื้นที่ทางตอนเหนือของกาซา” มะห์มูดกล่าว
    .
    #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews
    #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง
    -------------------------------
    สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    ตามรายงานของกองกำลังป้องกันพลเรือนปาเลสในกาซา ผู้ถูกดับชีพและได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีโรงเรียนฮัสซัน ซาลามา และอัลนาสร์เมื่อวันอาทิตย์เป็นเยาวชนถึง ร้อยละ 80 รายงานจากเดียร์ อัล บาลาห์ ฮานี มะห์มูด ผู้สื่อข่าวอัลจาซีรา ระบุว่า โรงเรียนซึ่งถูกใช้เป็นที่พักพิงของชาวปาเลสที่ต้องอพยพ ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง “นี่คือสถานการณ์เดียวกันกับที่เราเคยเห็นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สิ่งที่เรารู้ตอนนี้ก็คือมีการโจมตีศูนย์อพยพเป็นจำนวนมาก สิ่งที่น่าเป็นห่วงจริงๆ ก็คือ … กองทัพเอลไม่ได้แจ้งเตือนผู้คนที่อยู่ในศูนย์อพยพเหล่านี้ล่วงหน้า” มะห์มูดกล่าว ผู้สื่อข่าวได้ระบุว่าอาคารส่วนใหญ่ที่ใช้เป็นที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นในกาซาคือโรงเรียน เนื่องจากปัจจุบันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่แห่งเดียวที่สามารถรองรับผู้คนจำนวนมากได้ “เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแบบที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ส่งผลให้เกิดความสูญเสียอย่างหนักและสร้างความกระทบกระเทือนทางจิตใจให้กับประชากรที่เคยต้องอพยพไปแล้วถึง 5 6 หรือ 7 ครั้งในพื้นที่ทางตอนเหนือของกาซา” มะห์มูดกล่าว . #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง ------------------------------- สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 438 Views 0 Reviews
  • หนักแน่! จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักชกหญิงทีมชาติไทยเข้ารอบรองชนะเลิศ ไปพบกับ อีมาน คาลิฟ นักชกจากแอลจีเรียที่กำลังตกเป็นประเด็นเรื่องฮอร์โมนในร่างกาย ในวันที่ 6 สิงหาคม

    3 สิงหาคม 2567-ศึกการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น โอลิมปิก 2024 รุ่น 66 กิโลกรัมหญิง รอบ 8 คนสุดท้าย จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง มือ 8 นักชกทีมชาติไทย ขึ้นชกกับ บูเซนาซ ซือร์เมเลนี แชมป์เก่าโอลิมปิก2020 ที่ผ่านมา

    หลังจบการชกมวย 3 ยก กรรมการได้ให้ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักชกจากไทยชนะคู่แข่งไปแบบไม่เอกฉันท์

    สำหรับรอบรองชนะเลิศ ในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ “จันทร์แจ่ม” จะต้องพบกับ อิมาน คาลิฟ(แอลจีเรีย)ที่ชกชนะลูก้า ฮาโมรี (ฮังการี) 5-0

    พันตำรวจโท วิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชทีมกำปั้นหญิงไทยยังเผยอีกว่า "อิมาน คาลิฟ นักชกสาวแอลจีเรียที่ไม่ผ่านการตรวจเพศในรายการชิงแชมป์โลก 2023 ที่อินเดีย และขึ้นชกกับ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ในรอบรองชนะเลิศแล้ว โดยชนะคะแนน จากนั้นรุ่งเช้าไอบ้าได้โทร.แจ้งให้จันทร์แจ่มเป็นผู้ชนะแล้วเข้าไปชิงชนะเลิศ สำหรับตนมองว่าในรายของคาลิฟมีความแข็งแกร่งเหมือนผู้ชาย สามารถชกกับ บรรจง สินสิริ ได้สบายๆ และการต่อยกับผู้หญิงในรุ่นเดียวกัน ก็ไม่มีใครที่จะสามารถต่อกรกับเจ้าตัวได้แน่ ประมาณว่าชกด้วยก็เจ็บมือ"

    ขณะที่ จันทร์แจ่มได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ว่า "เขาแข็งแกร่งเหมือนผู้ชายเลย และไม่ยุติธรรมที่จะปล่อยให้ชกโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้"

    ทั้งนี้ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง เคยได้เหรียญเงินในการแข่งขันมวยสากล เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจวเกมส์” ที่หางโจว ยิมเนเซียม ประเทศจีน เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมปีที่แล้ว2023 และการได้มาแข่งโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส ถือเป็นความฝันสูงสุดของเธอ

    #Thaitimes
    หนักแน่! จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักชกหญิงทีมชาติไทยเข้ารอบรองชนะเลิศ ไปพบกับ อีมาน คาลิฟ นักชกจากแอลจีเรียที่กำลังตกเป็นประเด็นเรื่องฮอร์โมนในร่างกาย ในวันที่ 6 สิงหาคม 3 สิงหาคม 2567-ศึกการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น โอลิมปิก 2024 รุ่น 66 กิโลกรัมหญิง รอบ 8 คนสุดท้าย จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง มือ 8 นักชกทีมชาติไทย ขึ้นชกกับ บูเซนาซ ซือร์เมเลนี แชมป์เก่าโอลิมปิก2020 ที่ผ่านมา หลังจบการชกมวย 3 ยก กรรมการได้ให้ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักชกจากไทยชนะคู่แข่งไปแบบไม่เอกฉันท์ สำหรับรอบรองชนะเลิศ ในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ “จันทร์แจ่ม” จะต้องพบกับ อิมาน คาลิฟ(แอลจีเรีย)ที่ชกชนะลูก้า ฮาโมรี (ฮังการี) 5-0 พันตำรวจโท วิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชทีมกำปั้นหญิงไทยยังเผยอีกว่า "อิมาน คาลิฟ นักชกสาวแอลจีเรียที่ไม่ผ่านการตรวจเพศในรายการชิงแชมป์โลก 2023 ที่อินเดีย และขึ้นชกกับ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ในรอบรองชนะเลิศแล้ว โดยชนะคะแนน จากนั้นรุ่งเช้าไอบ้าได้โทร.แจ้งให้จันทร์แจ่มเป็นผู้ชนะแล้วเข้าไปชิงชนะเลิศ สำหรับตนมองว่าในรายของคาลิฟมีความแข็งแกร่งเหมือนผู้ชาย สามารถชกกับ บรรจง สินสิริ ได้สบายๆ และการต่อยกับผู้หญิงในรุ่นเดียวกัน ก็ไม่มีใครที่จะสามารถต่อกรกับเจ้าตัวได้แน่ ประมาณว่าชกด้วยก็เจ็บมือ" ขณะที่ จันทร์แจ่มได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ว่า "เขาแข็งแกร่งเหมือนผู้ชายเลย และไม่ยุติธรรมที่จะปล่อยให้ชกโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้" ทั้งนี้ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง เคยได้เหรียญเงินในการแข่งขันมวยสากล เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจวเกมส์” ที่หางโจว ยิมเนเซียม ประเทศจีน เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมปีที่แล้ว2023 และการได้มาแข่งโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส ถือเป็นความฝันสูงสุดของเธอ #Thaitimes
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 450 Views 0 Reviews
  • อัลยาซีราปฏิเสธข้อกล่าวหาของเอลที่ "ไร้เหตุผล" ต่อนักข่าวที่ถูกดับชีพอย่างเจตนา
    สำนักข่าวอัลยาซีราได้ออกมาปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อข้อกล่าวหาที่ “ไร้เหตุผล” ของเอล ซึ่งระบุว่า อิสมาอิล อัล-กูล ผู้สื่อข่าวของเครือข่าย ซึ่งถูกดับชีพอย่างไร้มนุษยธรรมในการโจมตีของเอลในกาซา เป็นสมาชิกกลุ่มปกป้องดินแดนปาเลส
    เครือข่ายในกรุงโดฮารายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่าข้อกล่าวหาที่เอลยื่นโดยไม่มีหลักฐานนั้นเป็นความพยายามที่จะหาเหตุผลให้กับการ "ดับชีพโดยเจตนา" ของอัล-กูลและรามี อัล-ริฟี ช่างภาพเพื่อนของเขา
    เครือข่ายสื่ออัลยาซีรา กล่าวว่าข้อกล่าวหาต่ออัลกูล "เน้นย้ำถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของเอลในการสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จที่ใช้เพื่อปกปิดอาชญากรรมที่ชั่วร้าย" และเน้นย้ำว่าประเทศนี้ห้ามนักข่าวต่างประเทศเข้าไปในกาซาอย่างเด็ดขาดอีกด้วย
    .
    #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews
    #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง
    -------------------------------
    สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    อัลยาซีราปฏิเสธข้อกล่าวหาของเอลที่ "ไร้เหตุผล" ต่อนักข่าวที่ถูกดับชีพอย่างเจตนา สำนักข่าวอัลยาซีราได้ออกมาปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อข้อกล่าวหาที่ “ไร้เหตุผล” ของเอล ซึ่งระบุว่า อิสมาอิล อัล-กูล ผู้สื่อข่าวของเครือข่าย ซึ่งถูกดับชีพอย่างไร้มนุษยธรรมในการโจมตีของเอลในกาซา เป็นสมาชิกกลุ่มปกป้องดินแดนปาเลส เครือข่ายในกรุงโดฮารายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่าข้อกล่าวหาที่เอลยื่นโดยไม่มีหลักฐานนั้นเป็นความพยายามที่จะหาเหตุผลให้กับการ "ดับชีพโดยเจตนา" ของอัล-กูลและรามี อัล-ริฟี ช่างภาพเพื่อนของเขา เครือข่ายสื่ออัลยาซีรา กล่าวว่าข้อกล่าวหาต่ออัลกูล "เน้นย้ำถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของเอลในการสร้างเรื่องและหลักฐานเท็จที่ใช้เพื่อปกปิดอาชญากรรมที่ชั่วร้าย" และเน้นย้ำว่าประเทศนี้ห้ามนักข่าวต่างประเทศเข้าไปในกาซาอย่างเด็ดขาดอีกด้วย . #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง ------------------------------- สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 491 Views 0 Reviews
  • นี่ไงผลักดันกฏหมาย ทำtankได้ร่างกายกรู คะหรี่เสรี เอวีถูกกฏหมาย
    เพราะพวกแม่ม ไฝ่หมกมุ่นเรื่องพวกนี้จริงๆ
    รายละเอียดข่าว ตามนี้
    วันที่ 24 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณี 'ครูบี' (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง ) อายุ 42 ปี ครูสาวท่านหนึ่ง ปัจจุบันรับราชการอยู่ในจังหวัดปทุมธานีได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าเมื่อประมาณห้าปีที่ผ่านมา ได้ถูกนักการเมืองดังในอยุธยา (ปัจจุบันเป็นผู้สมัครนายก อบจ.อยุธยา ในนามพรรคก้าวไกล) ทราบภายหลังว่าเป็นคน ทำร้ายร่างกายเมื่อหลายปีก่อน โดยมีการถ่ายคลิปหลักฐานเก็บไว้ และแจ้งความกับตำรวจ สภ.มหาราชไปแล้ว แต่คดีไม่คืบ โดยขณะนั้นไม่ทราบว่าเป็นใครชื่อและนามสกุลอะไร ที่มาทำร้ายจนเพิ่งได้มาเห็นภาพจากทางโซเชียลว่าผู้ที่ทำร้ายตนเป็นนักนักการเมือง ซึ่งตนจำได้อย่างแม่นยำ จึงศึกษาจากผู้รู้กฎหมายพบว่าคดียังไม่ขาดอายุความ จึงต้องการทวงความเป็นธรรมที่ค้างคานานมาร่วม 5 ปี ทั้งนี้ในช่วงเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความไว้แล้วพร้อมทั้งมีผลการตรวจแพทย์ยืนยันเป็นเอกสารราชการทั้งหมดจึงเข้าพบตำรวจเพื่อแจ้งว่าผู้ที่ทำร้ายตนเองเป็นใคร แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง
    .
    ทั้งนี้ ครูบี กล่าวว่าในวันที่เกิดเหตุ นั้นตนได้พาเด็กไปทำกิจกรรมทางนาฏศิลป์ในงานแห่งหนึ่ง ในอำเภอมหาราช จังหวัดอยุธยาแล้วมีนักการเมืองคนนี้มาคุยใกล้ๆ ด้านหลังเวที ตนก็แจ้งว่าขอให้ไปคุยโทรศัพท์ที่อื่นเพราะมีน้องที่เป็นเด็กผู้หญิงหลายคนที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัวชุดไทยกันอยู่ น้องๆ กลัวว่าอาจจะโป๊ หรือมีภาพหลุดออกไปได้
    .
    ซึ่งนักการเมืองคนดังกล่าวก็เดินหายไป แต่พักหนึ่งก็เดินกลับมาพร้อมกับพูดว่า "รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?" แต่ตนเองก็พยายามหลบหลีกเพราะไม่อยากมีปัญหา แต่พอเริ่มเปิดการแสดงไปไม่ถึง 1 นาที นักการเมืองคนดังกล่าว ก็ขึ้นไปบนเวทีและสั่งหยุดการแสดง และเกิดการพูดจาโวยวายทะเลาะกัน สุดท้ายมาจบที่ตนเองไปยืนตรงหน้าศาลาที่พัก แล้วก็โดนนักการเมืองคนดังกล่าวกระโดดถีบ และท้าให้ไปแจ้งความ ซึ่งเธอก็ไปแจ้งความ แต่ขณะนั้นคดีก็เงียบไปจากตำรวจในพื้นที่ แถมยังถูกตอบกลับมาด้วยว่า "รู้ไหมคนที่คุณแจ้งความเป็นใคร"
    .
    โดย ในวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตนเองได้เข้าให้ปากคำตำรวจที่ สภ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งครูสาวยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด สาเหตุที่แจ้งความนั้นต้องการความถูกต้องและไม่อยากให้จังหวัดอยุธยาต้องนักการเมืองที่มีพฤติกรรมที่ทำร้ายผู้หญิงแบบนี้และขอยืนยันว่าไม่การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นแต่ก็กลัวมากเพราะเขา ประกาศว่ามีพรรคการเมืองใหญ่หนุนหลังอยู่ และทางนายกรุณพล เทียนสุวรรณ (เพชร) รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า คนดังกล่าวในคลิปไม่ได้ผ่านขั้นตอนใดๆของพรรคที่สนับสนุน อย่างที่บอกทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่เขาก็ใช้สีส้มและพยายามทำให้คนเข้าใจผิดว่าพรรคเป็นคนส่ง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเลย เพราะมติพรรคไม่มีการ สนับสนุนคนลงชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระอยุธยาในนามตัวแทนของพรรคก้าวไกลแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีการตักเตือนไปถึง ส.ส. ก้าวไกล ในจังหวัดอยุธยา ในการวางตัวการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย ซึ่งตนเองก็สบายใจชื้นแต่ก็รู้สึกกลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้นเตรียมเข้าร้องเรียนกับมูลนิธิต่างๆเพื่อช่วยป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น โดยไม่คาดคิดได้
    -------------------------------‬
    แหล่งข่าว
    https://siamrath.co.th/n/553167
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #พิธาคิโอ้
    #นายกว่าว
    นี่ไงผลักดันกฏหมาย ทำtankได้ร่างกายกรู คะหรี่เสรี เอวีถูกกฏหมาย เพราะพวกแม่ม ไฝ่หมกมุ่นเรื่องพวกนี้จริงๆ รายละเอียดข่าว ตามนี้ วันที่ 24 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณี 'ครูบี' (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง ) อายุ 42 ปี ครูสาวท่านหนึ่ง ปัจจุบันรับราชการอยู่ในจังหวัดปทุมธานีได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าเมื่อประมาณห้าปีที่ผ่านมา ได้ถูกนักการเมืองดังในอยุธยา (ปัจจุบันเป็นผู้สมัครนายก อบจ.อยุธยา ในนามพรรคก้าวไกล) ทราบภายหลังว่าเป็นคน ทำร้ายร่างกายเมื่อหลายปีก่อน โดยมีการถ่ายคลิปหลักฐานเก็บไว้ และแจ้งความกับตำรวจ สภ.มหาราชไปแล้ว แต่คดีไม่คืบ โดยขณะนั้นไม่ทราบว่าเป็นใครชื่อและนามสกุลอะไร ที่มาทำร้ายจนเพิ่งได้มาเห็นภาพจากทางโซเชียลว่าผู้ที่ทำร้ายตนเป็นนักนักการเมือง ซึ่งตนจำได้อย่างแม่นยำ จึงศึกษาจากผู้รู้กฎหมายพบว่าคดียังไม่ขาดอายุความ จึงต้องการทวงความเป็นธรรมที่ค้างคานานมาร่วม 5 ปี ทั้งนี้ในช่วงเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความไว้แล้วพร้อมทั้งมีผลการตรวจแพทย์ยืนยันเป็นเอกสารราชการทั้งหมดจึงเข้าพบตำรวจเพื่อแจ้งว่าผู้ที่ทำร้ายตนเองเป็นใคร แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง . ทั้งนี้ ครูบี กล่าวว่าในวันที่เกิดเหตุ นั้นตนได้พาเด็กไปทำกิจกรรมทางนาฏศิลป์ในงานแห่งหนึ่ง ในอำเภอมหาราช จังหวัดอยุธยาแล้วมีนักการเมืองคนนี้มาคุยใกล้ๆ ด้านหลังเวที ตนก็แจ้งว่าขอให้ไปคุยโทรศัพท์ที่อื่นเพราะมีน้องที่เป็นเด็กผู้หญิงหลายคนที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัวชุดไทยกันอยู่ น้องๆ กลัวว่าอาจจะโป๊ หรือมีภาพหลุดออกไปได้ . ซึ่งนักการเมืองคนดังกล่าวก็เดินหายไป แต่พักหนึ่งก็เดินกลับมาพร้อมกับพูดว่า "รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?" แต่ตนเองก็พยายามหลบหลีกเพราะไม่อยากมีปัญหา แต่พอเริ่มเปิดการแสดงไปไม่ถึง 1 นาที นักการเมืองคนดังกล่าว ก็ขึ้นไปบนเวทีและสั่งหยุดการแสดง และเกิดการพูดจาโวยวายทะเลาะกัน สุดท้ายมาจบที่ตนเองไปยืนตรงหน้าศาลาที่พัก แล้วก็โดนนักการเมืองคนดังกล่าวกระโดดถีบ และท้าให้ไปแจ้งความ ซึ่งเธอก็ไปแจ้งความ แต่ขณะนั้นคดีก็เงียบไปจากตำรวจในพื้นที่ แถมยังถูกตอบกลับมาด้วยว่า "รู้ไหมคนที่คุณแจ้งความเป็นใคร" . โดย ในวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตนเองได้เข้าให้ปากคำตำรวจที่ สภ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งครูสาวยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด สาเหตุที่แจ้งความนั้นต้องการความถูกต้องและไม่อยากให้จังหวัดอยุธยาต้องนักการเมืองที่มีพฤติกรรมที่ทำร้ายผู้หญิงแบบนี้และขอยืนยันว่าไม่การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นแต่ก็กลัวมากเพราะเขา ประกาศว่ามีพรรคการเมืองใหญ่หนุนหลังอยู่ และทางนายกรุณพล เทียนสุวรรณ (เพชร) รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า คนดังกล่าวในคลิปไม่ได้ผ่านขั้นตอนใดๆของพรรคที่สนับสนุน อย่างที่บอกทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่เขาก็ใช้สีส้มและพยายามทำให้คนเข้าใจผิดว่าพรรคเป็นคนส่ง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเลย เพราะมติพรรคไม่มีการ สนับสนุนคนลงชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระอยุธยาในนามตัวแทนของพรรคก้าวไกลแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีการตักเตือนไปถึง ส.ส. ก้าวไกล ในจังหวัดอยุธยา ในการวางตัวการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย ซึ่งตนเองก็สบายใจชื้นแต่ก็รู้สึกกลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้นเตรียมเข้าร้องเรียนกับมูลนิธิต่างๆเพื่อช่วยป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น โดยไม่คาดคิดได้ -------------------------------‬ แหล่งข่าว https://siamrath.co.th/n/553167 #คิงส์โพธิ์แดง #พิธาคิโอ้ #นายกว่าว
    Like
    Haha
    6
    0 Comments 0 Shares 463 Views 0 Reviews
  • #อิ๊งทอร์นาโดแรงไม่เกรงใจใคร
    อิ๊งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์แบบไร้เยื่อใย
    ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไปเจรจาที่บ้านริมน้ำอีกรอบหรือไม่
    อิ๊งแสดงสีหน้า โนสน โนแคร์
    และกล่าวว่า ไม่ค่ะ ไม่ไป
    ถ้าอยากเคลีย ให้มาเคลียที่พรรค
    ต้องเป็นมืออาชีพ และไม่อยากตอบคำถามเรื่องนายเฉลิมอีกแล้ว
    ก็ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ตอกย้ำการด้อยค่านายเฉลิม
    อดีตผู้มีพระคุณของนายใหญ่แห่งพรรคเพื่อไทย
    ที่วันนี้ สังขาลที่โรยรา ลูกชายเป็น สส.สอบตก
    หรือ วันนี้บารมีของเฉลิม ไม่ขลังอีกต่อไป
    รอติดตามอยู่บำรุง ณ.บ้านใหม่ ป่ารอยต่อ พลังปชร
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #อุ๊งอิ๊ง
    #เฉลิมอยู่บำรุง
    #อิ๊งทอร์นาโด
    #อิ๊งทอร์นาโดแรงไม่เกรงใจใคร อิ๊งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์แบบไร้เยื่อใย ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไปเจรจาที่บ้านริมน้ำอีกรอบหรือไม่ อิ๊งแสดงสีหน้า โนสน โนแคร์ และกล่าวว่า ไม่ค่ะ ไม่ไป ถ้าอยากเคลีย ให้มาเคลียที่พรรค ต้องเป็นมืออาชีพ และไม่อยากตอบคำถามเรื่องนายเฉลิมอีกแล้ว ก็ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ตอกย้ำการด้อยค่านายเฉลิม อดีตผู้มีพระคุณของนายใหญ่แห่งพรรคเพื่อไทย ที่วันนี้ สังขาลที่โรยรา ลูกชายเป็น สส.สอบตก หรือ วันนี้บารมีของเฉลิม ไม่ขลังอีกต่อไป รอติดตามอยู่บำรุง ณ.บ้านใหม่ ป่ารอยต่อ พลังปชร #คิงส์โพธิ์แดง #อุ๊งอิ๊ง #เฉลิมอยู่บำรุง #อิ๊งทอร์นาโด
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 422 Views 0 Reviews
  • สงครามความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ มาถึงจุดICJ ศาลโลกชี้การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในดินแดนปาเลสไตน์เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและผิดในนโยบายอิสราเอลยึดครองผนวกดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองเปรียบเสมือนการผนวกดินแดน พบโครงการหมู่บ้านแห่งใหม่ในนิคม Givat Ze'ev ของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง ชี้ควรยุติลง "โดยเร็วที่สุด"

    20 ก.ค.2567-ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)
    นายนาวาฟ ซาลาม ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในกรุงเฮก อ่านคำตัดสินที่ไม่ผูกมัดที่ออกโดยคณะผู้พิพากษา 15 คน เรื่องการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ของอิสราเอล ในวันศุกร์ที่19 ก.ค.
    ผู้พิพากษาได้ชี้ให้เห็นนโยบายต่างๆ มากมาย ซึ่งรวมถึงการสร้างและขยายนิคมของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มตะวันออก การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ การผนวกและบังคับใช้การควบคุมถาวรเหนือที่ดิน และนโยบายเลือกปฏิบัติต่อชาวปาเลสไตน์ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

    ศาลกล่าวว่าอิสราเอลไม่มีสิทธิในอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนดังกล่าว และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศในการยึดครองดินแดนด้วยกำลัง และขัดขวางสิทธิในการกำหนดชะตากรรมของตัวเองของชาวปาเลสไตน์

    รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศอื่นๆไม่มีหน้าที่ “ให้ความช่วยเหลือหรือความช่วยเหลือในการรักษา” สถานะของอิสราเอลในดินแดนดังกล่าว รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่าอิสราเอลจะต้องยุติการสร้างนิคมทันที และต้องรื้อถอนนิคมที่มีอยู่เดิมออกไป ตามสรุปความเห็นที่ยาวกว่า 80 หน้าที่อ่านโดยซาลาม

    การที่อิสราเอล “ละเมิดกฏหมายในฐานะผู้ยึดครอง” ส่งผลให้การมีอยู่ของอิสราเอลในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองเป็นเรื่องผิดกฎหมาย” ศาลกล่าว

    “การตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มตะวันออกรวมทั้งระบอบการปกครองที่เกี่ยวข้องได้รับการจัดตั้งและรักษาไว้โดยละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ” ศาลกล่าว

    ความคิดเห็นของศาลดังกล่าวได้รับการขอในคำร้องปี 2022 จากสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
    ICJ หรือที่เรียกอีกอย่างว่าศาลโลก เป็นองค์กรสูงสุดของสหประชาชาติที่ทำหน้าที่พิจารณาคดีข้อพิพาทระหว่างรัฐ

    อิสราเอลยึดครองเวสต์แบงก์ ฉนวนกาซา และเยรูซาเล็มตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ของปาเลสไตน์ที่ชาวปาเลสไตน์ต้องการเป็นรัฐ ในสงครามปี 1967 นับแต่นั้นมา อิสราเอลได้สร้างนิคมในเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มตะวันออก และขยายนิคมเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ อิสราเอลยังมีนิคมในกาซาก่อนการถอนทัพในปี 2005 สหประชาชาติและชุมชนนานาชาติส่วนใหญ่ถือว่าดินแดนปาเลสไตน์ถูกยึดครองโดยอิสราเอล

    ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ“
    มาริยาด มาลิสกี รัฐมนตรีต่างประเทศปาเลสไตน์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงเฮกว่า คำตัดสินดังกล่าวถือเป็นสัญญาณของ “ช่วงเวลาสำคัญสำหรับปาเลสไตน์ สำหรับความยุติธรรม และสำหรับกฎหมายระหว่างประเทศ”

    “ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและศีลธรรมด้วยคำตัดสินครั้งประวัติศาสตร์นี้ รัฐทุกแห่งต้องยึดมั่นในพันธกรณีที่ชัดเจนของตน ไม่ให้ความช่วยเหลือ ไม่สมรู้ร่วมคิด ไม่รับเงิน ไม่รับอาวุธ ไม่ค้าขาย ไม่รับสิ่งของใดๆ ไม่กระทำการใดๆ ทั้งสิ้นเพื่อสนับสนุนการยึดครองที่ผิดกฎหมายของอิสราเอล” เขากล่าว

    ริยาด มานซูร์ เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำสหประชาชาติ กล่าวว่าคำตัดสินดังกล่าวถือเป็น "ก้าวสำคัญ" ในทิศทางการยุติการยึดครองและบรรลุสิทธิที่ไม่สามารถโอนให้ใครได้ของชาวปาเลสไตน์ รวมถึงสิทธิในการกำหนดชะตากรรมของตัวเอง สิทธิในการเป็นรัฐ และสิทธิในการกลับคืนสู่มาตุภูมิ

    สิทธิในการกลับคืนบ้านเกิดเป็นข้อเรียกร้องที่ชาวปาเลสไตน์ที่ถูกบังคับให้ออกจากบ้านของตนในสงคราม Nakba ปี 1948 และสงครามอาหรับ-อิสราเอล ปี 1967 ควรได้รับอนุญาตให้กลับคืนสู่บ้านของตนได้

    มานซูร์กล่าวว่าทีมงานของเขาจะศึกษาความเห็นทั้งหมดและ "วิเคราะห์ทุกประโยค"
    “เราจะหารือกับกองทัพมิตรสหายที่สหประชาชาติและทุกมุมโลก” เขากล่าว และเสริมว่า “เราจะผลิตมติที่เป็นผลงานชิ้นเอก” ในสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ

    กระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลปฏิเสธความเห็นดังกล่าวโดยระบุว่าคำแนะนำของศาลโลก “ผิดพลาดโดยพื้นฐาน” และเป็นการตัดสินใจข้างเดียว

    สำนักงานของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลออกแถลงการณ์ที่เรียกคำตัดสินดังกล่าวว่าเป็น “การตัดสินใจด้วยคำโกหก” ที่บิดเบือนความจริง และยืนยันว่า “ประชาชนชาวยิวไม่ใช่ผู้ยึดครองดินแดนของตนเอง”

    เจฟฟรีย์ ไนซ์ ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน เปิดเผยกับอัลจาซีราว่า เป็นเรื่องยากที่ผู้นำโลกจะ “เพิกเฉย” ต่อคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าคำตัดสินดังกล่าวจะไม่มีผลผูกพันก็ตาม

    “นี่เป็นส่วนหนึ่งของระบบกฎหมายที่บอกว่าพอแล้ว” เขากล่าวอีกว่า “จะเป็นเรื่องยากสำหรับประชาชนที่สนใจ ได้รับข้อมูล และมีความเกี่ยวข้องที่จะไม่พูดว่า ‘ถึงเวลาที่อิสราเอลจะต้องจัดการเรื่องบ้านเมืองให้เข้าที่เข้าทางแล้ว’ ”

    มาร์วัน บิชารา นักวิเคราะห์การเมืองอาวุโสของอัลจาซีรา กล่าวว่า “ยังมีความหวังอยู่มากว่าคำตัดสินนี้จะสนับสนุนการเคลื่อนไหวในระดับนานาชาติในทุกระดับทั้งในโลกตะวันตกและที่อื่นๆ ในโลก เพื่อสนับสนุนการคว่ำบาตรเพิ่มเติม และเพิ่มแรงกดดันให้รัฐบาลตะวันตกกดดันอิสราเอลมากขึ้น”

    ในคดีแยกที่ยื่นโดยแอฟริกาใต้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศกำลังพิจารณาข้อกล่าวหาที่ว่าอิสราเอลกำลังก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในสงครามในฉนวนกาซา

    คดีดังกล่าวมีคำตัดสินเบื้องต้นแล้ว โดยศาลสั่งให้อิสราเอลยุติการกระทำและลงโทษการยุยงปลุกปั่นให้ก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

    ในเดือนพฤษภาคมศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้สั่งให้อิสราเอลหยุดการโจมตีเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา โดยอ้างถึง “ความเสี่ยงมหาศาล” ต่อชาวปาเลสไตน์หลายแสนคนที่หลบภัยอยู่ที่นั่น แต่อิสราเอลยังคงโจมตีฉนวนกาซาต่อไป รวมถึงเมืองราฟาห์ โดยฝ่าฝืนคำสั่งของศาลสหประชาชาติ

    ที่มา: อัลจาซีร่า https://www.aljazeera.com/news/2024/7/19/world-court-says-israels-settlement-policies-breach-international-law
    สงครามความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ มาถึงจุดICJ ศาลโลกชี้การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในดินแดนปาเลสไตน์เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและผิดในนโยบายอิสราเอลยึดครองผนวกดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองเปรียบเสมือนการผนวกดินแดน พบโครงการหมู่บ้านแห่งใหม่ในนิคม Givat Ze'ev ของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง ชี้ควรยุติลง "โดยเร็วที่สุด" 20 ก.ค.2567-ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) นายนาวาฟ ซาลาม ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในกรุงเฮก อ่านคำตัดสินที่ไม่ผูกมัดที่ออกโดยคณะผู้พิพากษา 15 คน เรื่องการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ของอิสราเอล ในวันศุกร์ที่19 ก.ค. ผู้พิพากษาได้ชี้ให้เห็นนโยบายต่างๆ มากมาย ซึ่งรวมถึงการสร้างและขยายนิคมของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มตะวันออก การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ การผนวกและบังคับใช้การควบคุมถาวรเหนือที่ดิน และนโยบายเลือกปฏิบัติต่อชาวปาเลสไตน์ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ศาลกล่าวว่าอิสราเอลไม่มีสิทธิในอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนดังกล่าว และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศในการยึดครองดินแดนด้วยกำลัง และขัดขวางสิทธิในการกำหนดชะตากรรมของตัวเองของชาวปาเลสไตน์ รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศอื่นๆไม่มีหน้าที่ “ให้ความช่วยเหลือหรือความช่วยเหลือในการรักษา” สถานะของอิสราเอลในดินแดนดังกล่าว รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่าอิสราเอลจะต้องยุติการสร้างนิคมทันที และต้องรื้อถอนนิคมที่มีอยู่เดิมออกไป ตามสรุปความเห็นที่ยาวกว่า 80 หน้าที่อ่านโดยซาลาม การที่อิสราเอล “ละเมิดกฏหมายในฐานะผู้ยึดครอง” ส่งผลให้การมีอยู่ของอิสราเอลในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองเป็นเรื่องผิดกฎหมาย” ศาลกล่าว “การตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มตะวันออกรวมทั้งระบอบการปกครองที่เกี่ยวข้องได้รับการจัดตั้งและรักษาไว้โดยละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ” ศาลกล่าว ความคิดเห็นของศาลดังกล่าวได้รับการขอในคำร้องปี 2022 จากสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ICJ หรือที่เรียกอีกอย่างว่าศาลโลก เป็นองค์กรสูงสุดของสหประชาชาติที่ทำหน้าที่พิจารณาคดีข้อพิพาทระหว่างรัฐ อิสราเอลยึดครองเวสต์แบงก์ ฉนวนกาซา และเยรูซาเล็มตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ของปาเลสไตน์ที่ชาวปาเลสไตน์ต้องการเป็นรัฐ ในสงครามปี 1967 นับแต่นั้นมา อิสราเอลได้สร้างนิคมในเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มตะวันออก และขยายนิคมเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ อิสราเอลยังมีนิคมในกาซาก่อนการถอนทัพในปี 2005 สหประชาชาติและชุมชนนานาชาติส่วนใหญ่ถือว่าดินแดนปาเลสไตน์ถูกยึดครองโดยอิสราเอล ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ“ มาริยาด มาลิสกี รัฐมนตรีต่างประเทศปาเลสไตน์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงเฮกว่า คำตัดสินดังกล่าวถือเป็นสัญญาณของ “ช่วงเวลาสำคัญสำหรับปาเลสไตน์ สำหรับความยุติธรรม และสำหรับกฎหมายระหว่างประเทศ” “ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและศีลธรรมด้วยคำตัดสินครั้งประวัติศาสตร์นี้ รัฐทุกแห่งต้องยึดมั่นในพันธกรณีที่ชัดเจนของตน ไม่ให้ความช่วยเหลือ ไม่สมรู้ร่วมคิด ไม่รับเงิน ไม่รับอาวุธ ไม่ค้าขาย ไม่รับสิ่งของใดๆ ไม่กระทำการใดๆ ทั้งสิ้นเพื่อสนับสนุนการยึดครองที่ผิดกฎหมายของอิสราเอล” เขากล่าว ริยาด มานซูร์ เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำสหประชาชาติ กล่าวว่าคำตัดสินดังกล่าวถือเป็น "ก้าวสำคัญ" ในทิศทางการยุติการยึดครองและบรรลุสิทธิที่ไม่สามารถโอนให้ใครได้ของชาวปาเลสไตน์ รวมถึงสิทธิในการกำหนดชะตากรรมของตัวเอง สิทธิในการเป็นรัฐ และสิทธิในการกลับคืนสู่มาตุภูมิ สิทธิในการกลับคืนบ้านเกิดเป็นข้อเรียกร้องที่ชาวปาเลสไตน์ที่ถูกบังคับให้ออกจากบ้านของตนในสงคราม Nakba ปี 1948 และสงครามอาหรับ-อิสราเอล ปี 1967 ควรได้รับอนุญาตให้กลับคืนสู่บ้านของตนได้ มานซูร์กล่าวว่าทีมงานของเขาจะศึกษาความเห็นทั้งหมดและ "วิเคราะห์ทุกประโยค" “เราจะหารือกับกองทัพมิตรสหายที่สหประชาชาติและทุกมุมโลก” เขากล่าว และเสริมว่า “เราจะผลิตมติที่เป็นผลงานชิ้นเอก” ในสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ กระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลปฏิเสธความเห็นดังกล่าวโดยระบุว่าคำแนะนำของศาลโลก “ผิดพลาดโดยพื้นฐาน” และเป็นการตัดสินใจข้างเดียว สำนักงานของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลออกแถลงการณ์ที่เรียกคำตัดสินดังกล่าวว่าเป็น “การตัดสินใจด้วยคำโกหก” ที่บิดเบือนความจริง และยืนยันว่า “ประชาชนชาวยิวไม่ใช่ผู้ยึดครองดินแดนของตนเอง” เจฟฟรีย์ ไนซ์ ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน เปิดเผยกับอัลจาซีราว่า เป็นเรื่องยากที่ผู้นำโลกจะ “เพิกเฉย” ต่อคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าคำตัดสินดังกล่าวจะไม่มีผลผูกพันก็ตาม “นี่เป็นส่วนหนึ่งของระบบกฎหมายที่บอกว่าพอแล้ว” เขากล่าวอีกว่า “จะเป็นเรื่องยากสำหรับประชาชนที่สนใจ ได้รับข้อมูล และมีความเกี่ยวข้องที่จะไม่พูดว่า ‘ถึงเวลาที่อิสราเอลจะต้องจัดการเรื่องบ้านเมืองให้เข้าที่เข้าทางแล้ว’ ” มาร์วัน บิชารา นักวิเคราะห์การเมืองอาวุโสของอัลจาซีรา กล่าวว่า “ยังมีความหวังอยู่มากว่าคำตัดสินนี้จะสนับสนุนการเคลื่อนไหวในระดับนานาชาติในทุกระดับทั้งในโลกตะวันตกและที่อื่นๆ ในโลก เพื่อสนับสนุนการคว่ำบาตรเพิ่มเติม และเพิ่มแรงกดดันให้รัฐบาลตะวันตกกดดันอิสราเอลมากขึ้น” ในคดีแยกที่ยื่นโดยแอฟริกาใต้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศกำลังพิจารณาข้อกล่าวหาที่ว่าอิสราเอลกำลังก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในสงครามในฉนวนกาซา คดีดังกล่าวมีคำตัดสินเบื้องต้นแล้ว โดยศาลสั่งให้อิสราเอลยุติการกระทำและลงโทษการยุยงปลุกปั่นให้ก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ในเดือนพฤษภาคมศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้สั่งให้อิสราเอลหยุดการโจมตีเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา โดยอ้างถึง “ความเสี่ยงมหาศาล” ต่อชาวปาเลสไตน์หลายแสนคนที่หลบภัยอยู่ที่นั่น แต่อิสราเอลยังคงโจมตีฉนวนกาซาต่อไป รวมถึงเมืองราฟาห์ โดยฝ่าฝืนคำสั่งของศาลสหประชาชาติ ที่มา: อัลจาซีร่า https://www.aljazeera.com/news/2024/7/19/world-court-says-israels-settlement-policies-breach-international-law
    WWW.ALJAZEERA.COM
    ICJ says Israel’s occupation of Palestinian territory is illegal
    International Court of Justice says Israel’s policies in the occupied Palestinian territory amount to annexation.
    Like
    Sad
    3
    0 Comments 0 Shares 508 Views 0 Reviews
  • จากลีลาสุขุมของนายกเศรษฐา แต่กับปิดประโยคสุดท้าย
    ที่ทำเอาจุกดิ้นทั้งพรรคก้าวไกล
    เมื่อนายกทิ้งท้ายว่า จะไม่ให้ความสำคัญกับ
    ความเห็นค้านที่ไร้อนาคต
    ซึ่งหลายคนตีความยังไม่ออก
    แม้ว่านายกจะรักษามารยาทด้วยการตอบกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีอะไร อย่าคิดมากก็ตาม
    เพราะในระยะเวลาอันใกล้นี้ จะถึงวันแห่งการชี้ชะตาของพรรก้าวไกล
    รวมไปถึงกรรมการบริหารพรรค
    และคนบงการที่อยู่นอกพรรค
    ที่มีดคีย์112 ที่รอการพิจารณานับร้อยคดีย์
    ต้องสะเทือน เพราะคำว่า ความเห็นที่ไร้อนาคต
    สะท้อนถึงทุกอย่างกำลังจะปิดเกมส์
    พรรคก้าวไกล จะพูดอะไรก็ตาม
    แต่สุดท้าย ก็ไร้อนาคตอยู่ดี
    คิงส์โพธิ์แดงแค่อ่านใจจากการอ่านปากของนายกนิดนะ
    อาจจะถูกหรือไม่ถูกก็ได้
    ก็แค่รอดูผลการตัดสินก็พอ
    พรรคก้าวไกล ตัดสินแล้ว
    ธรจะยักไหล่ หรือยิ่งยุบยิ่งโต
    ก็คอยดู แหลวกัน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ศิริกัญญา
    #ถึงกับอึ้ง
    #เศรษฐาทวีสิน
    จากลีลาสุขุมของนายกเศรษฐา แต่กับปิดประโยคสุดท้าย ที่ทำเอาจุกดิ้นทั้งพรรคก้าวไกล เมื่อนายกทิ้งท้ายว่า จะไม่ให้ความสำคัญกับ ความเห็นค้านที่ไร้อนาคต ซึ่งหลายคนตีความยังไม่ออก แม้ว่านายกจะรักษามารยาทด้วยการตอบกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีอะไร อย่าคิดมากก็ตาม เพราะในระยะเวลาอันใกล้นี้ จะถึงวันแห่งการชี้ชะตาของพรรก้าวไกล รวมไปถึงกรรมการบริหารพรรค และคนบงการที่อยู่นอกพรรค ที่มีดคีย์112 ที่รอการพิจารณานับร้อยคดีย์ ต้องสะเทือน เพราะคำว่า ความเห็นที่ไร้อนาคต สะท้อนถึงทุกอย่างกำลังจะปิดเกมส์ พรรคก้าวไกล จะพูดอะไรก็ตาม แต่สุดท้าย ก็ไร้อนาคตอยู่ดี คิงส์โพธิ์แดงแค่อ่านใจจากการอ่านปากของนายกนิดนะ อาจจะถูกหรือไม่ถูกก็ได้ ก็แค่รอดูผลการตัดสินก็พอ พรรคก้าวไกล ตัดสินแล้ว ธรจะยักไหล่ หรือยิ่งยุบยิ่งโต ก็คอยดู แหลวกัน #คิงส์โพธิ์แดง #ศิริกัญญา #ถึงกับอึ้ง #เศรษฐาทวีสิน
    0 Comments 0 Shares 343 Views 0 Reviews
  • 'ตั้งคำถามถึงสิ่งที่เอลไม่อยากให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้เห็น'
    สมาคมสื่อมวลชนต่างประเทศ ซึ่งเป็นตัวแทนของสื่อระหว่างประเทศที่ทำงานในเอลและปาเลส กล่าวว่ารู้สึกตกใจและผิดหวังที่เอลยังคงห้ามนักข่าวแม้จะผ่านการรุกรานมาเป็นเวลาเก้าเดือนแล้ว
    “ไม่เคยมีมาก่อนที่เอลจะบังคับใช้การปิดกั้นข้อมูลอย่างยาวนานและเข้มงวดเช่นนี้ เอลปฏิเสธคำร้องของเราหลายครั้งในการเข้าถึงข้อมูล ต่อสู้กับเราในศาลเพื่อยืนยันการห้ามที่เข้มงวดนี้” เอลระบุในแถลงการณ์
    สมาคมดังกล่าวกล่าวว่านักข่าวท้องถิ่นในกาซายังคงเผชิญกับภัยคุกคามและข้อจำกัดการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน "ขณะที่พวกเขาพยายามรายงานเรื่องราวนี้อย่างกล้าหาญ"
    กลุ่มดังกล่าวกล่าวว่า “เรื่องนี้ทำให้เกิดคำถามถึงสิ่งที่เอลไม่ต้องการให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้เห็น” และย้ำถึงข้อเรียกร้องที่เรียกร้องให้ทางการเอลอนุญาตให้เข้าถึงกาซาได้อย่างอิสระและไร้ข้อจำกัด
    .
    #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews #การตั้งคำถาม #ความกล้าหาญ
    #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง
    -------------------------------
    สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    'ตั้งคำถามถึงสิ่งที่เอลไม่อยากให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้เห็น' สมาคมสื่อมวลชนต่างประเทศ ซึ่งเป็นตัวแทนของสื่อระหว่างประเทศที่ทำงานในเอลและปาเลส กล่าวว่ารู้สึกตกใจและผิดหวังที่เอลยังคงห้ามนักข่าวแม้จะผ่านการรุกรานมาเป็นเวลาเก้าเดือนแล้ว “ไม่เคยมีมาก่อนที่เอลจะบังคับใช้การปิดกั้นข้อมูลอย่างยาวนานและเข้มงวดเช่นนี้ เอลปฏิเสธคำร้องของเราหลายครั้งในการเข้าถึงข้อมูล ต่อสู้กับเราในศาลเพื่อยืนยันการห้ามที่เข้มงวดนี้” เอลระบุในแถลงการณ์ สมาคมดังกล่าวกล่าวว่านักข่าวท้องถิ่นในกาซายังคงเผชิญกับภัยคุกคามและข้อจำกัดการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน "ขณะที่พวกเขาพยายามรายงานเรื่องราวนี้อย่างกล้าหาญ" กลุ่มดังกล่าวกล่าวว่า “เรื่องนี้ทำให้เกิดคำถามถึงสิ่งที่เอลไม่ต้องการให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้เห็น” และย้ำถึงข้อเรียกร้องที่เรียกร้องให้ทางการเอลอนุญาตให้เข้าถึงกาซาได้อย่างอิสระและไร้ข้อจำกัด . #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews #การตั้งคำถาม #ความกล้าหาญ #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง ------------------------------- สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    0 Comments 0 Shares 315 Views 0 Reviews