• เนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกการแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567 นางสาวแพทองธาร นายปิฎก สุขสวัสดิ์ ผู้อยู่กินฉันสามีภริยาตามที่ ป.ป.ช. กำหนด และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 13,993,826,903 บาท หนี้สินทั้งสิ้น 4,441,159,711 บาท 
    มีการระบุสิทธิในการเช่าที่อยู่ที่อังกฤษ 2 แห่ง ได้แก่ 1. สิทธิในการเช่าที่ Flat 11 Knaresborough Place London 2. สิทธิในการเช่าที่ Flat 6, 14 Montpelier street London
    โดยรายการสิทธิในการเช่าที่ Flat 11 Knaresborough Place London มีการระบุว่า ได้สิทธินี้มาตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.2550 สิ้นสุดวันที่ 24 ธ.ค. 3537 หรือก็คือระยะเวลาเช่าสิทธินาน ถึง 987 ปี มูลค่าอยู่ที่ 111,612,250 บาท
    ส่วนสิทธิในการเช่าที่ Flat 6, 14 Montpelier street London ระบุว่า ได้สิทธินี้มาตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.2560 สิ้นสุดวันที่ 24 ม.ค. 3552 หรือก็คือระยะเวลาเช่าสิทธินาน ถึง 992 ปี มูลค่าอยู่ที่ 208,342,867 บาท  

    ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ย้อนกลับไปตรวจสอบรายละเอียดสิทธิในการเช่าที่อยู่ที่อังกฤษ 2 แห่ง เพิ่มเติม พบว่า สิทธิในการเช่าที่ Flat 6, 14 Montpelier street London มีการแนบเอกสารเกี่ยวกับสิทธิในการเช่า จัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2560 ระบุรายละเอียดคร่าวๆว่ามีเงื่อนไขการเช่า 999 ปี ถึงวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 3009
    มีคู่สัญญา (Parties) สองฝ่าย ได้แก่ 1.Tropic Offshore Holdings Inc และ 2. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร,นายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร
    ในส่วนทะเบียนกรรมสิทธิ์ระบุว่า มีผู้เป็นเจ้าของหรือProprietor ได้แก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร,นายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร 
    โดยราคานอกเหนือจากค่าเช่าที่ระบุไว้ว่าได้จ่ายจากการให้สัญญาเช่าคือ 1 ปอนด์ (The Price, other than rents,  stated to have been paid on the grant of the lease was 1 Pound)
    สำหรับรายละเอียด บริษัท Tropic Offshore Holdings Inc ปรากฏข้อมูลจากเอกสารข่าวปานามาเปเปอร์ส ซึ่งเป็นการตีแผ่ข้อมูลการถือครองบริษัทนอกอาณาเขต (offshore company) ที่อยู่ในฐานข้อมูลของสำนักกฎหมายชื่อ มอสแซค ฟอนเซก้า (Mossack Fonceka) ที่เป็นบริษัทรับจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทนอกอาณาเขตที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ปานามา และมีสาขาอยู่ใน 42 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ฐานข้อมูลดังกล่าวเป็นฐานข้อมูลเรื่องการถือครองบริษัทนอกอาณาเขตที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ตกถึงมือของสื่อมวลชน โดยมีขนาดความจุ 2.6 เทราไบต์ มีเอกสารทั้งหมด 11.5 ล้านชิ้น ประกอบไปด้วยข้อมูลของบริษัทนอกอาณาเขตทั้งหมด 214,000 บริษัท โดยการขุดคุ้ยและวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดของเอกสารที่ให้ชื่อว่า “ปานามาลีก” (Panama Leak) นี้เป็นความร่วมมือกันของผู้สื่อข่าวจำนวน 370 คนจาก 78 ประเทศ) 
    เอกสารข่าวปานามาเปเปอร์ส ระบุว่า เมื่อปี 2549 นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ประธานกรรมการบริษัท โรงพยาบาลพระราม 9 จำกัด (มหาชน) พี่ชายบุญธรรม ของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ได้ดำเนินการเข้าซื้อและจดทะเบียนเป็นเจ้าของผู้รับผลประโยชน์แต่เพียงผู้เดียว อย่างไรก็ตาม ชื่อเจ้าของผู้รับผลประโยชน์ได้เปลี่ยนจากนายบรรณพจน์เป็นนาย กาลิด โมฮัมหมัด กาดฟอร์ อัลเมไฮรี (Khalid Mohamad Kadfoor Almehairi) ในปี 2550

    ข้อมูลบริคณห์สนธิบริษัทฯ ระบุว่า บริษัท Tropic Offshore Holdings Inc ถูกจัดตั้งโดยบริษัทในสิงคโปร์ชื่อว่าบริษัท UBS AG สิงคโปร์ โดยการจัดตั้งบริษัทนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2549 และมีการขายบริษัทไปเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2549 และบริษัทมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็น 1,681,675 บาท ตามค่าเงินปัจจุบัน)

    โดยผู้ถือหุ้นและผู้อำนวยการบริษัทในปัจจุบัน คือ บริษัท NWT Directors Limited ซึ่งเข้ามาเป็นทั้งผู้ถือหุ้นและผู้อำนวยการเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2550
    สำหรับที่อยู่ปัจจุบันของบริษัทฯ อยู่ที่ One Raffles Quay#50-01 North TowerSINGAPORE 048583

    ทั้งหมดนี้ คือ ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับบริษัทที่เป็นคู่สัญญาที่เกี่ยวข้องกับสิทธิในการเช่าที่ Flat 6, 14 Montpelier street London ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่มีการแจ้งบัญชีทรัพย์และหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567 

    ที่มา https://www.isranews.org/article/isranews/135213-isranews-Panamaaart.html?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR2nLggEACbFIpzdcfGrZHzXUZThT8iizlgvTwRRYpTn4EOauqjWa9YuLWk_aem_NcAfeRGv0VtwZQuV8JHOxA#a76xjgtso0awrd0kdad0xn25e74459qj
    เนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกการแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567 นางสาวแพทองธาร นายปิฎก สุขสวัสดิ์ ผู้อยู่กินฉันสามีภริยาตามที่ ป.ป.ช. กำหนด และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 13,993,826,903 บาท หนี้สินทั้งสิ้น 4,441,159,711 บาท  มีการระบุสิทธิในการเช่าที่อยู่ที่อังกฤษ 2 แห่ง ได้แก่ 1. สิทธิในการเช่าที่ Flat 11 Knaresborough Place London 2. สิทธิในการเช่าที่ Flat 6, 14 Montpelier street London โดยรายการสิทธิในการเช่าที่ Flat 11 Knaresborough Place London มีการระบุว่า ได้สิทธินี้มาตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.2550 สิ้นสุดวันที่ 24 ธ.ค. 3537 หรือก็คือระยะเวลาเช่าสิทธินาน ถึง 987 ปี มูลค่าอยู่ที่ 111,612,250 บาท ส่วนสิทธิในการเช่าที่ Flat 6, 14 Montpelier street London ระบุว่า ได้สิทธินี้มาตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.2560 สิ้นสุดวันที่ 24 ม.ค. 3552 หรือก็คือระยะเวลาเช่าสิทธินาน ถึง 992 ปี มูลค่าอยู่ที่ 208,342,867 บาท   ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ย้อนกลับไปตรวจสอบรายละเอียดสิทธิในการเช่าที่อยู่ที่อังกฤษ 2 แห่ง เพิ่มเติม พบว่า สิทธิในการเช่าที่ Flat 6, 14 Montpelier street London มีการแนบเอกสารเกี่ยวกับสิทธิในการเช่า จัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2560 ระบุรายละเอียดคร่าวๆว่ามีเงื่อนไขการเช่า 999 ปี ถึงวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 3009 มีคู่สัญญา (Parties) สองฝ่าย ได้แก่ 1.Tropic Offshore Holdings Inc และ 2. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร,นายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร ในส่วนทะเบียนกรรมสิทธิ์ระบุว่า มีผู้เป็นเจ้าของหรือProprietor ได้แก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร,นายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร  โดยราคานอกเหนือจากค่าเช่าที่ระบุไว้ว่าได้จ่ายจากการให้สัญญาเช่าคือ 1 ปอนด์ (The Price, other than rents,  stated to have been paid on the grant of the lease was 1 Pound) สำหรับรายละเอียด บริษัท Tropic Offshore Holdings Inc ปรากฏข้อมูลจากเอกสารข่าวปานามาเปเปอร์ส ซึ่งเป็นการตีแผ่ข้อมูลการถือครองบริษัทนอกอาณาเขต (offshore company) ที่อยู่ในฐานข้อมูลของสำนักกฎหมายชื่อ มอสแซค ฟอนเซก้า (Mossack Fonceka) ที่เป็นบริษัทรับจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทนอกอาณาเขตที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ปานามา และมีสาขาอยู่ใน 42 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ฐานข้อมูลดังกล่าวเป็นฐานข้อมูลเรื่องการถือครองบริษัทนอกอาณาเขตที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ตกถึงมือของสื่อมวลชน โดยมีขนาดความจุ 2.6 เทราไบต์ มีเอกสารทั้งหมด 11.5 ล้านชิ้น ประกอบไปด้วยข้อมูลของบริษัทนอกอาณาเขตทั้งหมด 214,000 บริษัท โดยการขุดคุ้ยและวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดของเอกสารที่ให้ชื่อว่า “ปานามาลีก” (Panama Leak) นี้เป็นความร่วมมือกันของผู้สื่อข่าวจำนวน 370 คนจาก 78 ประเทศ)  เอกสารข่าวปานามาเปเปอร์ส ระบุว่า เมื่อปี 2549 นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ประธานกรรมการบริษัท โรงพยาบาลพระราม 9 จำกัด (มหาชน) พี่ชายบุญธรรม ของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ได้ดำเนินการเข้าซื้อและจดทะเบียนเป็นเจ้าของผู้รับผลประโยชน์แต่เพียงผู้เดียว อย่างไรก็ตาม ชื่อเจ้าของผู้รับผลประโยชน์ได้เปลี่ยนจากนายบรรณพจน์เป็นนาย กาลิด โมฮัมหมัด กาดฟอร์ อัลเมไฮรี (Khalid Mohamad Kadfoor Almehairi) ในปี 2550 ข้อมูลบริคณห์สนธิบริษัทฯ ระบุว่า บริษัท Tropic Offshore Holdings Inc ถูกจัดตั้งโดยบริษัทในสิงคโปร์ชื่อว่าบริษัท UBS AG สิงคโปร์ โดยการจัดตั้งบริษัทนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2549 และมีการขายบริษัทไปเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2549 และบริษัทมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็น 1,681,675 บาท ตามค่าเงินปัจจุบัน) โดยผู้ถือหุ้นและผู้อำนวยการบริษัทในปัจจุบัน คือ บริษัท NWT Directors Limited ซึ่งเข้ามาเป็นทั้งผู้ถือหุ้นและผู้อำนวยการเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2550 สำหรับที่อยู่ปัจจุบันของบริษัทฯ อยู่ที่ One Raffles Quay#50-01 North TowerSINGAPORE 048583 ทั้งหมดนี้ คือ ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับบริษัทที่เป็นคู่สัญญาที่เกี่ยวข้องกับสิทธิในการเช่าที่ Flat 6, 14 Montpelier street London ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่มีการแจ้งบัญชีทรัพย์และหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567  ที่มา https://www.isranews.org/article/isranews/135213-isranews-Panamaaart.html?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR2nLggEACbFIpzdcfGrZHzXUZThT8iizlgvTwRRYpTn4EOauqjWa9YuLWk_aem_NcAfeRGv0VtwZQuV8JHOxA#a76xjgtso0awrd0kdad0xn25e74459qj
    WWW.ISRANEWS.ORG
    เปิดตัวบริษัทในเอกสารปานามา คู่สัญญานายกฯได้กรรมสิทธิ์เช่าอะพาร์ตเมนต์ลอนดอน เฉียดพันปี
    เอกสารข่าวปานามาเปเปอร์ส ระบุว่า เมื่อปี 2549 นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ประธานกรรมการบริษัท โรงพยาบาลพระราม 9 จำกัด (มหาชน) พี่ชายคนโตของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ได้ดำเนินการเข้าซื้อและจดทะเบียนเป็นเจ้าของผู้รับผลประโยชน์แต่เพียงผู้เดียว อย่างไรก็ตาม ชื่อเจ้าของผู้รับผลประโยชน์ได้เปลี่ยนจากนายบรรณพจน์เป็นนาย กาลิด โมฮัมหมัด กาดฟอร์ อัลเมไฮรี (Khalid Mohamad Kadfoor Almehairi) ในปี 2550
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • พิลึก! ประมูลพิมพ์แบบเรียนปี 68 มีเอกชนยื่นราคาแค่รายเดียว
    สกสค.ถูกฟ้องกีดกัน-ล็อกสเปก
    .
    ประมูลพิมพ์แบบเรียนปี 68 งบฯกว่า 1 พันล้านบ.ของ “องค์การของ สกสค.” ส่อล่ม หลังมีเอกชนยื่นราคาแค่รายเดียว คาดต้องยกเลิกประกวดราคา ”พัฒนะ“ ยังมั่นใจเสร็จทันเปิดเทอม เผยมีคดีโดนฟ้องที่ศาล ปค.ฐานกีดกัน-ล็อกสเปก
    .
    รายงานข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการแจ้งว่า วันนี้ (28 ม.ค.68) มีการยื่นประกวดราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ วงเงินกว่า 1 พันล้านบาท ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
    .
    โดย นายพัฒนะ พัฒนะทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. เปิดเผยถึงการจัดพิมพ์แบบเรียนในปีการศึกษา 2568 ว่า กระบวนการสรรหาบริษัทที่จะเข้ามารับจ้างงานพิมพ์แบบเรียนปี 2568
    เปิดกว้างทุกสำนักพิมพ์ที่มีความพร้อม โดยในปีนี้ค้าดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ e–bidding ซึ่งทุกขั้นตอนมีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้
    .
    “คาดว่ากระบวนการสรรหาผู้รับจ้างพิมพ์แบบเรียนปีการศึกษา 2568 จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในช่วงปลายเดือน ม.ค.หรือช่วงต้นเดือน ก.พ.นี้ ต่อจากนั้นก็จะเริ่มกระบวนการพิมพ์แบบเรียนทันที และจัดส่งแบบเรียนได้ในช่วงปลายเดือน เม.ย.หรือประมาณต้นเดือน พ.ค.” นายพัฒนะ ระบุ
    .
    นายพัฒนะ กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดพิมพ์แบบเรียนปีการศึกษา 2568 นี้ จะสามารถจัดส่งแบบเรียนให้ถึงโรงเรียนก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 แม้ว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ จะ
    มีแนวทางที่จะขยับการเปิดและปิดภาคเรียนใหม่ จากเดิมเปิดภาคเรียนวันที่ 16 พ.ค.จะขยับเป็นวันที่ 1 พ.ค. ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความคิดเห็น และการประชุมร่วมกับสถานศึกษาสังกัดอื่นๆ แต่ไม่ว่าจะมีการขยับเปิดและปิดภาคเรียนตามหรือไม่ องค์การค้าของ สกสค.ขอยืนยันว่า จะไม่มีปัญหาเรื่องกระบวนการจัดพิมพ์แบบเรียนและการจัดส่งแบบเรียนอย่างแน่นอน
    .
    “การขยับการเปิดภาคเรียนใหม่ยังต้องดำเนินการอีกหลายส่วน มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกว่า 10 ฉบับที่จะต้องปรับแก้ เพราะเกี่ยวข้องกับการนับอายุเด็กตาม พ.ร.บ.การศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.2545 ที่เด็กจะเข้าเรียนการศึกษาภาคบังคับได้ต้องมีอายุครบ 3 ปีในวันที่ 16 พ.ค. รวมถึงเกณฑ์การเบิกจ่ายรายหัว ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขตามกฎหมายที่กำหนดไว้ แต่ข้อดีก็คือจะสะดวกต่อการบริหารงบประมาณและอัตรากำลังงานด้านบุคคลได้ลงตัว ทั้งนี้จึงต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง” นายพัฒนะ กล่าว
    .
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. ซึ่งเป็นเวลาปิดรับข้อเสนอราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ ของ สกสค. โดย กรมบัญชีกลาง ได้สรุปข้อมูลการเสนอราคาเบื้องต้น ปรากฎว่า มีผู้เสนอราคาเพียง 1 รายเท่านั้น ซึ่งตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ระบุว่า หากมีผู้ยื่นเสนอราคารายเดียว และคณะกรรมการพิจารณาผลฯ เห็นสมควรยกเลิกการประกวดราคาครั้งนั้น ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานโดยไม่ต้องพิจารณาในเสนอราคาและเอกสารของผู้เสนอราคารายเดียวนั้น หรือหากคณะกรรมการพิจารณาผลฯ เห็นสมควรดำเนินการต่อ ก็ต้องลงลายมือชื่อกำกับในเอกสารของผู้เสนอราคารายเดียวนั้น
    .
    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีบริษัทเอกชนยื่นฟ้องคณะกรรมการ สกสค.และพวก ต่อ ศาลปกครอง เพื่อให้พิจารณาโครงการจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ ของ สกสค.ว่า อาจเข้าข่ายกีดกัน และล็อกสเปก เป็นคดีดำที่ 27/2568 โดยเบื้องต้นศาลปกครองไม่ได้มีคำสั่งทุเลาโครงการตามที่เอกชนยื่นขอคุ้มครองชั่วคราวไป.
    ............
    Sondhi X
    พิลึก! ประมูลพิมพ์แบบเรียนปี 68 มีเอกชนยื่นราคาแค่รายเดียว สกสค.ถูกฟ้องกีดกัน-ล็อกสเปก . ประมูลพิมพ์แบบเรียนปี 68 งบฯกว่า 1 พันล้านบ.ของ “องค์การของ สกสค.” ส่อล่ม หลังมีเอกชนยื่นราคาแค่รายเดียว คาดต้องยกเลิกประกวดราคา ”พัฒนะ“ ยังมั่นใจเสร็จทันเปิดเทอม เผยมีคดีโดนฟ้องที่ศาล ปค.ฐานกีดกัน-ล็อกสเปก . รายงานข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการแจ้งว่า วันนี้ (28 ม.ค.68) มีการยื่นประกวดราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ วงเงินกว่า 1 พันล้านบาท ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) . โดย นายพัฒนะ พัฒนะทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. เปิดเผยถึงการจัดพิมพ์แบบเรียนในปีการศึกษา 2568 ว่า กระบวนการสรรหาบริษัทที่จะเข้ามารับจ้างงานพิมพ์แบบเรียนปี 2568 เปิดกว้างทุกสำนักพิมพ์ที่มีความพร้อม โดยในปีนี้ค้าดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ e–bidding ซึ่งทุกขั้นตอนมีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ . “คาดว่ากระบวนการสรรหาผู้รับจ้างพิมพ์แบบเรียนปีการศึกษา 2568 จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในช่วงปลายเดือน ม.ค.หรือช่วงต้นเดือน ก.พ.นี้ ต่อจากนั้นก็จะเริ่มกระบวนการพิมพ์แบบเรียนทันที และจัดส่งแบบเรียนได้ในช่วงปลายเดือน เม.ย.หรือประมาณต้นเดือน พ.ค.” นายพัฒนะ ระบุ . นายพัฒนะ กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดพิมพ์แบบเรียนปีการศึกษา 2568 นี้ จะสามารถจัดส่งแบบเรียนให้ถึงโรงเรียนก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 แม้ว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ จะ มีแนวทางที่จะขยับการเปิดและปิดภาคเรียนใหม่ จากเดิมเปิดภาคเรียนวันที่ 16 พ.ค.จะขยับเป็นวันที่ 1 พ.ค. ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความคิดเห็น และการประชุมร่วมกับสถานศึกษาสังกัดอื่นๆ แต่ไม่ว่าจะมีการขยับเปิดและปิดภาคเรียนตามหรือไม่ องค์การค้าของ สกสค.ขอยืนยันว่า จะไม่มีปัญหาเรื่องกระบวนการจัดพิมพ์แบบเรียนและการจัดส่งแบบเรียนอย่างแน่นอน . “การขยับการเปิดภาคเรียนใหม่ยังต้องดำเนินการอีกหลายส่วน มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกว่า 10 ฉบับที่จะต้องปรับแก้ เพราะเกี่ยวข้องกับการนับอายุเด็กตาม พ.ร.บ.การศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.2545 ที่เด็กจะเข้าเรียนการศึกษาภาคบังคับได้ต้องมีอายุครบ 3 ปีในวันที่ 16 พ.ค. รวมถึงเกณฑ์การเบิกจ่ายรายหัว ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขตามกฎหมายที่กำหนดไว้ แต่ข้อดีก็คือจะสะดวกต่อการบริหารงบประมาณและอัตรากำลังงานด้านบุคคลได้ลงตัว ทั้งนี้จึงต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง” นายพัฒนะ กล่าว . ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. ซึ่งเป็นเวลาปิดรับข้อเสนอราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ ของ สกสค. โดย กรมบัญชีกลาง ได้สรุปข้อมูลการเสนอราคาเบื้องต้น ปรากฎว่า มีผู้เสนอราคาเพียง 1 รายเท่านั้น ซึ่งตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ระบุว่า หากมีผู้ยื่นเสนอราคารายเดียว และคณะกรรมการพิจารณาผลฯ เห็นสมควรยกเลิกการประกวดราคาครั้งนั้น ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานโดยไม่ต้องพิจารณาในเสนอราคาและเอกสารของผู้เสนอราคารายเดียวนั้น หรือหากคณะกรรมการพิจารณาผลฯ เห็นสมควรดำเนินการต่อ ก็ต้องลงลายมือชื่อกำกับในเอกสารของผู้เสนอราคารายเดียวนั้น . ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีบริษัทเอกชนยื่นฟ้องคณะกรรมการ สกสค.และพวก ต่อ ศาลปกครอง เพื่อให้พิจารณาโครงการจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ ของ สกสค.ว่า อาจเข้าข่ายกีดกัน และล็อกสเปก เป็นคดีดำที่ 27/2568 โดยเบื้องต้นศาลปกครองไม่ได้มีคำสั่งทุเลาโครงการตามที่เอกชนยื่นขอคุ้มครองชั่วคราวไป. ............ Sondhi X
    Like
    Angry
    Sad
    12
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1022 มุมมอง 0 รีวิว
  • อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเทคโนโลยี แนะนำให้สหรัฐฯ เปลี่ยนชื่อช่องแคบอังกฤษเป็น "ช่องแคบจอร์จ วอชิงตัน" เพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีคนแรกของอเมริกา หลังจากก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เพิ่งเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา
    .
    ในข้อความที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของเขาเองเมื่อวันเสาร์ (25 ม.ค.) มัสก์ เสนอ "ชื่อใหม่สำหรับน่านน้ำที่กั้นกลางระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส" โดยแชร์ภาพถ่ายของช่องแคบแห่งนี้ พร้อมกับเขียนข้อความ "ช่องแคบจอร์จ วอชิงตัน" ทับบนช่องแคบ
    .
    ดูเหมือนว่าโพสต์ข้อมัสก์จะเป็นการล้อเล่นขำๆ แต่มันมีขึ้นไม่ถึง 1 สัปดาห์หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ พันธมิตรทางการเมืองใกล้ชิดของมัสก์ ออกคำสั่งให้เปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา และเปลี่ยนชื่อยอดเขาเดนาลี ในรัฐอะแลสกา กลับมาเป็นภูเขาแม็คคินลีย์ ซึ่งเป็นชื่อเดิมช่วงก่อนหน้าปี 2015 ซึ่งการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เหล่านั้น ได้รับการยืนยันจากกระทรวงมหาดไทยของอเมริกาเมื่อวันศุกร์ (24 ม.ค.)
    .
    นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังประกาศซ้ำๆ ถึงความตั้งใจให้ได้มาซึ่งเกาะกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก ความเคลื่อนไหวที่จะเป็นการขยายชายฝั่งทะเลอาร์กติกของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมาก ล่าสุด ทรัมป์ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันเสาร์ (25 ม.ค.) หลังพูดคุยทางโทรศัพท์กับ เมตเต เฟรเดอริกเซน​​ นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ว่า "ผมคิดว่าเรากำลังได้มันมา"
    .
    ขณะเดียวกัน ทรัมป์ ยังชี้แนะหลายต่อหลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ว่า แคนาดา ควรเข้ามาเป็นรัฐหนึ่งของอเมริกา
    .
    ชาวโรมันเรียกช่องแคบอังกฤษว่า "Mare Britannicum" หรือ "ทะเลของชาวบริตัน" มันถูกเรียกกันทั่วไปว่าช่องแคบอังกฤษตั้งแต่ยุคกลาง แม้ว่าในฝรั่งเศสจะเรียกว่า "La Manche" หรือ "The Sleeve" เนื่องจากรูปทรงของมัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008691
    ..............
    Sondhi X
    อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเทคโนโลยี แนะนำให้สหรัฐฯ เปลี่ยนชื่อช่องแคบอังกฤษเป็น "ช่องแคบจอร์จ วอชิงตัน" เพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีคนแรกของอเมริกา หลังจากก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เพิ่งเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา . ในข้อความที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของเขาเองเมื่อวันเสาร์ (25 ม.ค.) มัสก์ เสนอ "ชื่อใหม่สำหรับน่านน้ำที่กั้นกลางระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส" โดยแชร์ภาพถ่ายของช่องแคบแห่งนี้ พร้อมกับเขียนข้อความ "ช่องแคบจอร์จ วอชิงตัน" ทับบนช่องแคบ . ดูเหมือนว่าโพสต์ข้อมัสก์จะเป็นการล้อเล่นขำๆ แต่มันมีขึ้นไม่ถึง 1 สัปดาห์หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ พันธมิตรทางการเมืองใกล้ชิดของมัสก์ ออกคำสั่งให้เปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา และเปลี่ยนชื่อยอดเขาเดนาลี ในรัฐอะแลสกา กลับมาเป็นภูเขาแม็คคินลีย์ ซึ่งเป็นชื่อเดิมช่วงก่อนหน้าปี 2015 ซึ่งการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เหล่านั้น ได้รับการยืนยันจากกระทรวงมหาดไทยของอเมริกาเมื่อวันศุกร์ (24 ม.ค.) . นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังประกาศซ้ำๆ ถึงความตั้งใจให้ได้มาซึ่งเกาะกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก ความเคลื่อนไหวที่จะเป็นการขยายชายฝั่งทะเลอาร์กติกของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมาก ล่าสุด ทรัมป์ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันเสาร์ (25 ม.ค.) หลังพูดคุยทางโทรศัพท์กับ เมตเต เฟรเดอริกเซน​​ นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ว่า "ผมคิดว่าเรากำลังได้มันมา" . ขณะเดียวกัน ทรัมป์ ยังชี้แนะหลายต่อหลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ว่า แคนาดา ควรเข้ามาเป็นรัฐหนึ่งของอเมริกา . ชาวโรมันเรียกช่องแคบอังกฤษว่า "Mare Britannicum" หรือ "ทะเลของชาวบริตัน" มันถูกเรียกกันทั่วไปว่าช่องแคบอังกฤษตั้งแต่ยุคกลาง แม้ว่าในฝรั่งเศสจะเรียกว่า "La Manche" หรือ "The Sleeve" เนื่องจากรูปทรงของมัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008691 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 772 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดนมาร์กเปิดเผย จะทุ่มงบประมาณ 14,600 ล้านโครเนอเดนมาร์ก (ประมาณ 2,050 ล้านดอลลาร์ หรือ 69,000 ล้านบาท) เสริมประจำการทางทหารในอาร์กติก ตามหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แสดงความสนใจซ้ำๆ ที่จะเข้าควบคุมกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก และเย้ยหยันโคเปนเฮเกน ว่าไม่มีศักยภาพพอที่จะปกป้องเกาะแห่งนี้
    .
    ในเดือนนี้ ทรัมป์ บอกว่ากรีนแลนด์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ และเดนมาร์กต้องปล่อยมือจากการควบคุมเกาะอาร์กติกที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้
    .
    หลังจากปรับลดการใช้จ่ายด้านการป้องกันตนเองลงอย่างมากมานานกว่า 1 ทศวรรษ เดนมาร์ก แถลงในวันจันทร์ (27 ม.ค.) ว่าจะใช้จ่ายเงิน 14,600 ล้านโครเนอ ในการเสริมความมั่นคงในภูมิภาคอาร์กติก ดินแดนยุทธศาสตร์ใกล้กับทั้งสหรัฐฯ และรัสเซีย
    .
    "เราต้องเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริงที่ว่า มีความท้าทายร้ายแรงในเรื่องความมั่นคงและด้านการป้องกันตนเองในอาร์กติกและนอร์ทแอตแลนติก" โทรเอลส์ ลุนด์ โพลเซน รัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กระบุในถ้อยแถลง
    .
    ในขณะที่ เดนมาร์ก รับผิดชอบมอบความมั่นคงและการป้องกันตนเองแก่กรีนแลนด์ แต่พวกเขากลับมีแสนยานุภาพทางทหารอย่างจำกัดบนเกาะที่ใหญ่โตแห่งนี้ จนถึงมองอย่างกว้างว่าเป็นหลุมดำด้านความมั่นคง
    .
    ณ ปัจจุบัน ศักยภาพของเดนมาร์กนั้นมีเพียงแค่เรือตรวจการณ์เก่าเก็บ 4 ลำ เครื่องบินลาดตระเวนชาลเลนเจอร์ 1 ลำ และสุนัขลากเลื่อนลาดตระเวน 12 ตัว ซึ่งทั้งหมดมีหน้าที่รับผิดชอบตรวจการณ์ทั่วเกาะ ที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่าฝรั่งเศสถึง 4 เท่า
    .
    ในงบประมาณใหม่นี้ รวมไปถึงเงินทุนสำหรับเรือราชนาวีอาร์กติกใหม่ 3 ลำ เพิ่มโดรนตรวจการณ์ระยะไกลที่วางแผนไว้อีกเท่าตัวเป็น 4 ลำ เช่นเดียวกับดาวเทียวสอดแนม ถ้อยแถลงรัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กระบุ
    .
    รายงานข่าวระบุว่า บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ของเดนมาร์ก เห็นพ้องกันจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับอาร์กติก ในข้อตกลงหนึ่งๆ ที่จะนำเสนอในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้
    .
    ในด้านกองทัพสหรัฐฯ พวกเขามีกำลังพลประจำการถาวรอยู่ ณ ฐานทัพอวกาศพิทัฟฟิก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะกรีนแลนด์ ตำแหน่งยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของระบบแจ้งเตือนขีปนาวุธล่วงหน้า ในขณะที่จุดดังกล่าวเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดสำหรับเดินทางจากยุโรปไปยังอเมริกาเหนือ ผ่านเกาะแห่งนี้
    .
    ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (25 ม.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน บอกว่า เดนมาร์กไม่มีแสนยานุภาพเพียงพอที่จะปกป้องเกาะกรีนแลนด์ ดินแดนที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ความเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนเป็นการเย้ยยันข่าวลือที่หลุดออกมาว่า เดนมาร์กมีแผนเพิ่มประจำการทางทหารบนเกาะในอาร์กติกแห่งนี้
    .
    ทรัมป์ เคยหยิบยกความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์ ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรก และรื้อฟื้นความคิดดังกล่าวหลังได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
    .
    ผู้นำอเมริการายนี้เน้นย้ำว่ากรีนแลนด์มีความสำคัญในด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง ในขณะที่เดนมาร์กปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าเกาะแห่งนี้ไม่ได้มีไว้ขาย
    .
    ทรัมป์ กล่าวว่า "ผมเชื่อว่าเกาะกรีนแลนด์ เราจะได้มันมา เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำจริงๆ เพื่อเสรีภาพของโลก มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับสหรัฐฯ เหนือสิ่งอื่นใดที่เรามีคือ สามารถมอบเสรีภาพ เดนมาร์กไม่สามารถมอบให้ได้ พวกเขาส่งสุนัขลากเลื่อนเข้าไปอีก 2 ตัวเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน พวกเขาคิดหรือว่านั่นเป็นการป้องกัน" ทรัมป์บอกกับไฟแนนเชียลไทม์ส
    .
    ดูเหมือนว่า ทรัมป์ จะพาดพิงถึงถ้อยแถลงของรัฐมนตรีกลาโหมของเดนมาร์ก ที่บอกว่าโคเปนเฮเกนมีแผนเพิ่มเติมเรือตรวจการณ์ 2 ลำ โดรน 2 ลำ และสุนัขลากเลื่อนลาดตระเวน 2 ตัว เข้าไปเสริมกองกำลังพล 75 นาย เรือ 4 ลำ และเครื่องบินลาดตระเวน 1 ลำ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
    .
    "ผมไม่รู้ว่า เดนมาร์ก จะอ้างว่าอย่างไร แต่มันจะเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตรมากๆ หากพวกเขาไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น" ทรัมป์บอกเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ พร้อมอ้างว่า "ประชาชนชาวกรีนแลนด์ต้องการเข้าร่วมกับเรา"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008692
    ..............
    Sondhi X
    เดนมาร์กเปิดเผย จะทุ่มงบประมาณ 14,600 ล้านโครเนอเดนมาร์ก (ประมาณ 2,050 ล้านดอลลาร์ หรือ 69,000 ล้านบาท) เสริมประจำการทางทหารในอาร์กติก ตามหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แสดงความสนใจซ้ำๆ ที่จะเข้าควบคุมกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก และเย้ยหยันโคเปนเฮเกน ว่าไม่มีศักยภาพพอที่จะปกป้องเกาะแห่งนี้ . ในเดือนนี้ ทรัมป์ บอกว่ากรีนแลนด์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ และเดนมาร์กต้องปล่อยมือจากการควบคุมเกาะอาร์กติกที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้ . หลังจากปรับลดการใช้จ่ายด้านการป้องกันตนเองลงอย่างมากมานานกว่า 1 ทศวรรษ เดนมาร์ก แถลงในวันจันทร์ (27 ม.ค.) ว่าจะใช้จ่ายเงิน 14,600 ล้านโครเนอ ในการเสริมความมั่นคงในภูมิภาคอาร์กติก ดินแดนยุทธศาสตร์ใกล้กับทั้งสหรัฐฯ และรัสเซีย . "เราต้องเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริงที่ว่า มีความท้าทายร้ายแรงในเรื่องความมั่นคงและด้านการป้องกันตนเองในอาร์กติกและนอร์ทแอตแลนติก" โทรเอลส์ ลุนด์ โพลเซน รัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กระบุในถ้อยแถลง . ในขณะที่ เดนมาร์ก รับผิดชอบมอบความมั่นคงและการป้องกันตนเองแก่กรีนแลนด์ แต่พวกเขากลับมีแสนยานุภาพทางทหารอย่างจำกัดบนเกาะที่ใหญ่โตแห่งนี้ จนถึงมองอย่างกว้างว่าเป็นหลุมดำด้านความมั่นคง . ณ ปัจจุบัน ศักยภาพของเดนมาร์กนั้นมีเพียงแค่เรือตรวจการณ์เก่าเก็บ 4 ลำ เครื่องบินลาดตระเวนชาลเลนเจอร์ 1 ลำ และสุนัขลากเลื่อนลาดตระเวน 12 ตัว ซึ่งทั้งหมดมีหน้าที่รับผิดชอบตรวจการณ์ทั่วเกาะ ที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่าฝรั่งเศสถึง 4 เท่า . ในงบประมาณใหม่นี้ รวมไปถึงเงินทุนสำหรับเรือราชนาวีอาร์กติกใหม่ 3 ลำ เพิ่มโดรนตรวจการณ์ระยะไกลที่วางแผนไว้อีกเท่าตัวเป็น 4 ลำ เช่นเดียวกับดาวเทียวสอดแนม ถ้อยแถลงรัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กระบุ . รายงานข่าวระบุว่า บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ของเดนมาร์ก เห็นพ้องกันจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับอาร์กติก ในข้อตกลงหนึ่งๆ ที่จะนำเสนอในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ . ในด้านกองทัพสหรัฐฯ พวกเขามีกำลังพลประจำการถาวรอยู่ ณ ฐานทัพอวกาศพิทัฟฟิก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะกรีนแลนด์ ตำแหน่งยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของระบบแจ้งเตือนขีปนาวุธล่วงหน้า ในขณะที่จุดดังกล่าวเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดสำหรับเดินทางจากยุโรปไปยังอเมริกาเหนือ ผ่านเกาะแห่งนี้ . ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (25 ม.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน บอกว่า เดนมาร์กไม่มีแสนยานุภาพเพียงพอที่จะปกป้องเกาะกรีนแลนด์ ดินแดนที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ความเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนเป็นการเย้ยยันข่าวลือที่หลุดออกมาว่า เดนมาร์กมีแผนเพิ่มประจำการทางทหารบนเกาะในอาร์กติกแห่งนี้ . ทรัมป์ เคยหยิบยกความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์ ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรก และรื้อฟื้นความคิดดังกล่าวหลังได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา . ผู้นำอเมริการายนี้เน้นย้ำว่ากรีนแลนด์มีความสำคัญในด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง ในขณะที่เดนมาร์กปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าเกาะแห่งนี้ไม่ได้มีไว้ขาย . ทรัมป์ กล่าวว่า "ผมเชื่อว่าเกาะกรีนแลนด์ เราจะได้มันมา เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำจริงๆ เพื่อเสรีภาพของโลก มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับสหรัฐฯ เหนือสิ่งอื่นใดที่เรามีคือ สามารถมอบเสรีภาพ เดนมาร์กไม่สามารถมอบให้ได้ พวกเขาส่งสุนัขลากเลื่อนเข้าไปอีก 2 ตัวเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน พวกเขาคิดหรือว่านั่นเป็นการป้องกัน" ทรัมป์บอกกับไฟแนนเชียลไทม์ส . ดูเหมือนว่า ทรัมป์ จะพาดพิงถึงถ้อยแถลงของรัฐมนตรีกลาโหมของเดนมาร์ก ที่บอกว่าโคเปนเฮเกนมีแผนเพิ่มเติมเรือตรวจการณ์ 2 ลำ โดรน 2 ลำ และสุนัขลากเลื่อนลาดตระเวน 2 ตัว เข้าไปเสริมกองกำลังพล 75 นาย เรือ 4 ลำ และเครื่องบินลาดตระเวน 1 ลำ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน . "ผมไม่รู้ว่า เดนมาร์ก จะอ้างว่าอย่างไร แต่มันจะเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตรมากๆ หากพวกเขาไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น" ทรัมป์บอกเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ พร้อมอ้างว่า "ประชาชนชาวกรีนแลนด์ต้องการเข้าร่วมกับเรา" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008692 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Wow
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 793 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นจำนวนเรือนหมื่นเรือนแสน หลั่งไหลกันเดินทางไปตามถนนสายหลัก เพื่อมุ่งหน้ากลับสู่ตอนเหนือของฉนวนกาซาแล้วเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) หลังจากกลุ่มฮามาสตกลงส่งมอบตัวประกันชาวอิสราเอลอีก 3 คนในช่วงต่อไปของสัปดาห์นี้ และกองทหารรัฐยิวก็เริ่มถอนกำลังออกจากการปิดกั้นช่องทางซึ่งสกัดไม่ให้ผู้พลัดถิ่นเหล่านี้ได้เดินทาง
    .
    ประชาชนจำนวนมากมาย บางคนอุ้มทารกเอาไว้ในอ้อมแขน หรือไม่แบกสมบัติข้าวของที่ยังเหลืออยู่เอาไว้บนบ่า มุ่งหน้าเดินเท้าขึ้นเหนือ ไปตามถนนสายที่ทอดยาวเลียบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
    .
    “มันเหมือนกับฉันเกิดใหม่ขึ้นครั้ง และเราได้รับชัยชนะอีกครั้ง” เป็นคำกล่าวของ อุมม์ โมฮัมเหม็ด อาลี คุณแม่ชาวปาเลสไตน์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของฝูงชนซึ่งเดินตามกันไปอย่างช้าๆ เป็นแถวยาวเหยียดหลายกิโลเมตรบนถนนเลียบทะเลสายดังกล่าว
    .
    พวกผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ชาวบ้านคนแรกเดินมาถึงเมืองกาซาซิตี้ในตอนเช้าตรู่ หลังจากจุดข้ามจากตอนใต้ของกาซา เปิดขึ้นเมื่อเวลา 7 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเที่ยงวัน เวลาเมืองไทย) สำหรับจุดข้ามอีกจุดหนึ่งเปิดขึ้นในอีก 3 ชั่วโมงถัดมา โดยเป็นทางสำหรับยวดยานต่างๆ
    .
    “หัวใจผมกำลังเต้นแรง ผมคิดว่าผมจะไม่ได้กลับมาอีกแล้ว” เป็นคำพูดของ โอซามา วัย 50 ปี ซึ่งเป็นข้าราชการพลเรือนและเป็นคุณพ่อของลูก 5 คน ขณะที่เขาเดินทางถึงกาซาซิตี้ “ไม่ว่าการหยุดยิงนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เราก็จะไม่ยอมออกจากกาซาซิตี้และทางตอนเหนือนี่อีกแล้ว ถึงแม้อิสราเอลจะส่งรถถังมาเล่นงานพวกเราแต่ละคนก็ตาม ไม่มีการพลัดถิ่นที่อยู่กันอีกแล้ว”
    .
    หลังจากถูกสั่งให้ออกจากที่พำนักชั่วคราวซ้ำแล้วซ้ำอีกตลอดระยะเวลา 15 เดือนของสงครามครั้งนี้ ก็มีเสียงเชียร์เสียงโห่ร้องยินดีปะทุขึ้นจากที่พักพิงหลบภัยและเต็นท์ค่ายพักต่างๆ เมื่อครอบครัวชาวปาเลสไตน์ได้ยินข่าวที่ว่าจุดข้ามจะเปิดให้เดินทางผ่านแล้ว
    .
    “นอนไม่หลับเลย ฉันเก็บข้าวของทุกอย่างและพร้อมเดินทางตั้งแต่แสงตะวันแรกของวันแล้ว” เป็นคำกล่าวของ กอดา คุณแม่ลูก 5 “อย่างน้อยที่สุดเราก็กำลังจะกลับบ้าน ตอนนี้ฉันพูดได้แล้วว่าสงครามยุติแล้ว และฉันหวังว่ามันจะอยู่ในความสงบต่อไปอีก” เธอบอกกับรอยเตอร์ผ่านแอปแชต
    .
    ทั้งพวกเจ้าหน้าที่ฮามาสและชาวกาซาที่เป็นประชาชนธรรมดา ต่างปฏิเสธไม่เอาด้วยกับคำแนะนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่เรียกร้องให้จอร์แดนและอียิปต์ รับชาวปาเลไสตน์จากดินแดนที่พินาศยับเยินจากสงครามแห่งนี้ อพยพเข้าไปพำนักอาศัยให้มากขึ้น มิหนำซ้ำยังเป็นการกระตุ้นความหวาดกลัวซึ่งมีมายาวนานของชาวปาเลสไตน์ที่ว่า พวกเขากำลังจะถูกผลักไสให้ออกจากบ้านของพวกเขาไปตลอดกาล
    .
    ตามเงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิงที่กระทำกันคราวนี้ ผู้ที่พำนักอาศัยในตอนเหนือกาซา จะได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ท่ผ่านมา ทว่าในวันอาทิตย์ (26 ) อิสราเอลขัดขวางเรื่องนี้ โดยกล่าวหาฮามาสละเมิดเงื่อนไขในข้อตกลง
    .
    อย่างไรก็ดี ถึงตอนค่ำวันเดียวกัน สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงว่า สามารถตกลงกับฮามาสได้แล้ว โดยฮามาสจะปล่อย อาร์เบล เยฮุด ตัวประกันที่เป็นพลเรือนหญิงที่เดิมคาดว่า จะได้รับการปล่อยตัวตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมกับตัวประกันอีก 3 คนในวันพฤหัสฯ (30) และปล่อยเพิ่มอีก 3 คนในวันเสาร์ (1 ก.พ.)
    .
    คำแถลงยังระบุว่า อิสราเอลจะอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์เดินทางได้ตั้งแต่เช้าวันจันทร์ ซึ่งฮามาสระบุว่าเป็น “ชัยชนะสำหรับชาวปาเลสไตน์ และสัญญาณความล้มเหลวของแผนการยึดครองและบังคับย้ายถิ่นฐาน”
    .
    สำหรับคำแนะนำของทรัมป์นั้น อยู่ในลักษณะของการที่เขาเสนอไอเดียกับพวกผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางบนเครื่องบินประจำตำแหน่งแอร์ฟอร์ซ วัน เมื่อวันเสาร์ (25) ว่า จอร์แดนและอียิปต์ ควรอ้าแขนรับชาวปาเลสไตน์ราว 2.4 ล้านคนจากกาซาที่พังพินาศจากสงครามที่ทำให้ประชาชนนับหมื่นเสียชีวิตและนำไปสู่วิกฤตมนุษยธรรมเลวร้าย
    .
    ประมุขทำเนียบขาวเสริมว่า จะดึงชาติอาหรับบางชาติเข้ามามีส่วนร่วม และสร้างที่พักอาศัยเพื่อให้ชาวปาเลสไตน์ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ ก่อนสำทับว่า แนวทางนี้อาจเป็นได้ทั้งแนวทางชั่วคราวหรือถาวร
    .
    ปัจจุบัน จอร์แดนรองรับชาวปาเลสไตน์หลายล้านคนอยู่แล้ว ขณะที่มีชาวปาเลสไตน์อีกหลายหมื่นคนอาศัยอยู่ในอียิปต์ อย่างไรก็ดี ทั้งสองประเทศรวมถึงชาติอาหรับอื่นๆ ต่างปฏิเสธแนวคิดในการย้ายชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซาไปยังประเทศอื่นๆ ขณะเดียวกันชาวปาเลสไตน์ก็ต้องการให้กาซาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต
    .
    ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ก็แสดงท่าทีคัดค้านแนวคิดดังกล่าว ทางด้าน เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังอิสราเอลที่สังกัดพรรคขวาจัด บอกว่า “การคิดนอกกรอบ” เท่านั้นที่จะทำให้เกิดสันติภาพได้จริง และกล่าวยกย่องข้อเสนอของทรัมป์เป็น “ไอเดียเยี่ยมยอด” ซึ่งจะทำให้ชาวปาเลสไตน์มีโอกาสสร้างชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นในประเทศอื่น พร้อมเสริมว่า จะวางแผนเพื่อดำเนินการตามข้อเสนอนี้
    .
    สำหรับ ฟรานเชสกา อัลบานีส ผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การกวาดล้างเผ่าพันธุ์ก็เป็นการคิดนอกกรอบ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยรูปแบบไหนก็ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม และไร้ความรับผิดชอบ
    .
    บาเซม นาอิม สมาชิกกลุ่มการเมืองของฮามาส ยืนกรานว่า ชาวปาเลสไตน์ไม่มีวันยอมรับข้อเสนอของทรัมป์ที่ดูเหมือนเจตนาดีภายใต้ข้ออ้างในการฟื้นฟูกาซา ขณะที่ซามี อาบู ซูฮ์รี เจ้าหน้าที่อีกคน เรียกร้องทรัมป์ไม่ให้เสนอไอเดียผิดพลาดแบบที่อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคยพยายามมาก่อน
    .
    สันนิบาตอาหรับคัดค้านไอเดียของทรัมป์เช่นเดียวกัน โดยเตือนว่า ความพยายามบังคับให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากถิ่นฐานเท่ากับเป็นการกวาดล้างเผ่าพันธุ์
    .
    อัยมาน ซาฟาดี รัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดน รวมทั้งกระทรวงต่างประเทศอียิปต์ ยืนยันจุดยืนในการต่อต้านการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาไม่ว่าระยะยาวหรือระยะสั้น
    .
    ประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาสของปาเลสไตน์ที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก ประณามไอเดียของทรัมป์ และประกาศว่า ชาวปาเลสไตน์จะไม่ยอมทิ้งบ้านเกิดอย่างแน่นอน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008688
    ..............
    Sondhi X
    ชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นจำนวนเรือนหมื่นเรือนแสน หลั่งไหลกันเดินทางไปตามถนนสายหลัก เพื่อมุ่งหน้ากลับสู่ตอนเหนือของฉนวนกาซาแล้วเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) หลังจากกลุ่มฮามาสตกลงส่งมอบตัวประกันชาวอิสราเอลอีก 3 คนในช่วงต่อไปของสัปดาห์นี้ และกองทหารรัฐยิวก็เริ่มถอนกำลังออกจากการปิดกั้นช่องทางซึ่งสกัดไม่ให้ผู้พลัดถิ่นเหล่านี้ได้เดินทาง . ประชาชนจำนวนมากมาย บางคนอุ้มทารกเอาไว้ในอ้อมแขน หรือไม่แบกสมบัติข้าวของที่ยังเหลืออยู่เอาไว้บนบ่า มุ่งหน้าเดินเท้าขึ้นเหนือ ไปตามถนนสายที่ทอดยาวเลียบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน . “มันเหมือนกับฉันเกิดใหม่ขึ้นครั้ง และเราได้รับชัยชนะอีกครั้ง” เป็นคำกล่าวของ อุมม์ โมฮัมเหม็ด อาลี คุณแม่ชาวปาเลสไตน์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของฝูงชนซึ่งเดินตามกันไปอย่างช้าๆ เป็นแถวยาวเหยียดหลายกิโลเมตรบนถนนเลียบทะเลสายดังกล่าว . พวกผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ชาวบ้านคนแรกเดินมาถึงเมืองกาซาซิตี้ในตอนเช้าตรู่ หลังจากจุดข้ามจากตอนใต้ของกาซา เปิดขึ้นเมื่อเวลา 7 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเที่ยงวัน เวลาเมืองไทย) สำหรับจุดข้ามอีกจุดหนึ่งเปิดขึ้นในอีก 3 ชั่วโมงถัดมา โดยเป็นทางสำหรับยวดยานต่างๆ . “หัวใจผมกำลังเต้นแรง ผมคิดว่าผมจะไม่ได้กลับมาอีกแล้ว” เป็นคำพูดของ โอซามา วัย 50 ปี ซึ่งเป็นข้าราชการพลเรือนและเป็นคุณพ่อของลูก 5 คน ขณะที่เขาเดินทางถึงกาซาซิตี้ “ไม่ว่าการหยุดยิงนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เราก็จะไม่ยอมออกจากกาซาซิตี้และทางตอนเหนือนี่อีกแล้ว ถึงแม้อิสราเอลจะส่งรถถังมาเล่นงานพวกเราแต่ละคนก็ตาม ไม่มีการพลัดถิ่นที่อยู่กันอีกแล้ว” . หลังจากถูกสั่งให้ออกจากที่พำนักชั่วคราวซ้ำแล้วซ้ำอีกตลอดระยะเวลา 15 เดือนของสงครามครั้งนี้ ก็มีเสียงเชียร์เสียงโห่ร้องยินดีปะทุขึ้นจากที่พักพิงหลบภัยและเต็นท์ค่ายพักต่างๆ เมื่อครอบครัวชาวปาเลสไตน์ได้ยินข่าวที่ว่าจุดข้ามจะเปิดให้เดินทางผ่านแล้ว . “นอนไม่หลับเลย ฉันเก็บข้าวของทุกอย่างและพร้อมเดินทางตั้งแต่แสงตะวันแรกของวันแล้ว” เป็นคำกล่าวของ กอดา คุณแม่ลูก 5 “อย่างน้อยที่สุดเราก็กำลังจะกลับบ้าน ตอนนี้ฉันพูดได้แล้วว่าสงครามยุติแล้ว และฉันหวังว่ามันจะอยู่ในความสงบต่อไปอีก” เธอบอกกับรอยเตอร์ผ่านแอปแชต . ทั้งพวกเจ้าหน้าที่ฮามาสและชาวกาซาที่เป็นประชาชนธรรมดา ต่างปฏิเสธไม่เอาด้วยกับคำแนะนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่เรียกร้องให้จอร์แดนและอียิปต์ รับชาวปาเลไสตน์จากดินแดนที่พินาศยับเยินจากสงครามแห่งนี้ อพยพเข้าไปพำนักอาศัยให้มากขึ้น มิหนำซ้ำยังเป็นการกระตุ้นความหวาดกลัวซึ่งมีมายาวนานของชาวปาเลสไตน์ที่ว่า พวกเขากำลังจะถูกผลักไสให้ออกจากบ้านของพวกเขาไปตลอดกาล . ตามเงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิงที่กระทำกันคราวนี้ ผู้ที่พำนักอาศัยในตอนเหนือกาซา จะได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ท่ผ่านมา ทว่าในวันอาทิตย์ (26 ) อิสราเอลขัดขวางเรื่องนี้ โดยกล่าวหาฮามาสละเมิดเงื่อนไขในข้อตกลง . อย่างไรก็ดี ถึงตอนค่ำวันเดียวกัน สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงว่า สามารถตกลงกับฮามาสได้แล้ว โดยฮามาสจะปล่อย อาร์เบล เยฮุด ตัวประกันที่เป็นพลเรือนหญิงที่เดิมคาดว่า จะได้รับการปล่อยตัวตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมกับตัวประกันอีก 3 คนในวันพฤหัสฯ (30) และปล่อยเพิ่มอีก 3 คนในวันเสาร์ (1 ก.พ.) . คำแถลงยังระบุว่า อิสราเอลจะอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์เดินทางได้ตั้งแต่เช้าวันจันทร์ ซึ่งฮามาสระบุว่าเป็น “ชัยชนะสำหรับชาวปาเลสไตน์ และสัญญาณความล้มเหลวของแผนการยึดครองและบังคับย้ายถิ่นฐาน” . สำหรับคำแนะนำของทรัมป์นั้น อยู่ในลักษณะของการที่เขาเสนอไอเดียกับพวกผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางบนเครื่องบินประจำตำแหน่งแอร์ฟอร์ซ วัน เมื่อวันเสาร์ (25) ว่า จอร์แดนและอียิปต์ ควรอ้าแขนรับชาวปาเลสไตน์ราว 2.4 ล้านคนจากกาซาที่พังพินาศจากสงครามที่ทำให้ประชาชนนับหมื่นเสียชีวิตและนำไปสู่วิกฤตมนุษยธรรมเลวร้าย . ประมุขทำเนียบขาวเสริมว่า จะดึงชาติอาหรับบางชาติเข้ามามีส่วนร่วม และสร้างที่พักอาศัยเพื่อให้ชาวปาเลสไตน์ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ ก่อนสำทับว่า แนวทางนี้อาจเป็นได้ทั้งแนวทางชั่วคราวหรือถาวร . ปัจจุบัน จอร์แดนรองรับชาวปาเลสไตน์หลายล้านคนอยู่แล้ว ขณะที่มีชาวปาเลสไตน์อีกหลายหมื่นคนอาศัยอยู่ในอียิปต์ อย่างไรก็ดี ทั้งสองประเทศรวมถึงชาติอาหรับอื่นๆ ต่างปฏิเสธแนวคิดในการย้ายชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซาไปยังประเทศอื่นๆ ขณะเดียวกันชาวปาเลสไตน์ก็ต้องการให้กาซาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต . ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ก็แสดงท่าทีคัดค้านแนวคิดดังกล่าว ทางด้าน เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังอิสราเอลที่สังกัดพรรคขวาจัด บอกว่า “การคิดนอกกรอบ” เท่านั้นที่จะทำให้เกิดสันติภาพได้จริง และกล่าวยกย่องข้อเสนอของทรัมป์เป็น “ไอเดียเยี่ยมยอด” ซึ่งจะทำให้ชาวปาเลสไตน์มีโอกาสสร้างชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นในประเทศอื่น พร้อมเสริมว่า จะวางแผนเพื่อดำเนินการตามข้อเสนอนี้ . สำหรับ ฟรานเชสกา อัลบานีส ผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การกวาดล้างเผ่าพันธุ์ก็เป็นการคิดนอกกรอบ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยรูปแบบไหนก็ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม และไร้ความรับผิดชอบ . บาเซม นาอิม สมาชิกกลุ่มการเมืองของฮามาส ยืนกรานว่า ชาวปาเลสไตน์ไม่มีวันยอมรับข้อเสนอของทรัมป์ที่ดูเหมือนเจตนาดีภายใต้ข้ออ้างในการฟื้นฟูกาซา ขณะที่ซามี อาบู ซูฮ์รี เจ้าหน้าที่อีกคน เรียกร้องทรัมป์ไม่ให้เสนอไอเดียผิดพลาดแบบที่อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคยพยายามมาก่อน . สันนิบาตอาหรับคัดค้านไอเดียของทรัมป์เช่นเดียวกัน โดยเตือนว่า ความพยายามบังคับให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากถิ่นฐานเท่ากับเป็นการกวาดล้างเผ่าพันธุ์ . อัยมาน ซาฟาดี รัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดน รวมทั้งกระทรวงต่างประเทศอียิปต์ ยืนยันจุดยืนในการต่อต้านการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาไม่ว่าระยะยาวหรือระยะสั้น . ประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาสของปาเลสไตน์ที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก ประณามไอเดียของทรัมป์ และประกาศว่า ชาวปาเลสไตน์จะไม่ยอมทิ้งบ้านเกิดอย่างแน่นอน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008688 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 842 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝรั่งเศสระบุว่าสหภาพยุโรปจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรซีเรียบางส่วน

    หลังจากประเทศยุโรปตบเท้าเข้าพบผู้นำซีเรียกันอย่างถ้วนหน้าได้ไม่นาน ขณะนี้กำลังมีการพิจารณายกเลิกมาตรการคว่ำบาตรซีเรียบางส่วน

    ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ฝรั่งเศสจะเสนอต่อสหภาพยุโรปเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่อิหร่านที่กักขังพลเมืองฝรั่งเศสในอิหร่านด้วย
    ฝรั่งเศสระบุว่าสหภาพยุโรปจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรซีเรียบางส่วน หลังจากประเทศยุโรปตบเท้าเข้าพบผู้นำซีเรียกันอย่างถ้วนหน้าได้ไม่นาน ขณะนี้กำลังมีการพิจารณายกเลิกมาตรการคว่ำบาตรซีเรียบางส่วน ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ฝรั่งเศสจะเสนอต่อสหภาพยุโรปเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่อิหร่านที่กักขังพลเมืองฝรั่งเศสในอิหร่านด้วย
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามเย็น 'กริพเพน-เอฟ16' กองทัพอากาศ ย้ำจุดยืน เสนอครม.อนุมัติเม.ย.-พ.ค.
    .
    ประเด็นเรื่องการจัดซื้อเครื่องขับไล่ฝูงใหม่ของกองทัพอากาศยังคงเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ภายหลังมีความเคลื่อนไหวที่ออกมาจากพล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ซึ่งระบุว่าเงื่อนไขการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพนของประเทศสวีเดน ยังคงดีที่สุด ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเยี่ยมชมเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งจอดอยู่บริเวณอ่าวไทย จังหวัดชลบุรี
    .
    พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ระบุว่า ปัจจุบันอยู่ในช่วงของการพิจารณาดูในรายละเอียดที่เพิ่มเติมมา ซึ่งโครงการจะแบ่งเป็นแพคเกจหลัก เรื่องขีดความสามารถสมรรถนะส่วนนี้ไม่ได้กังวลอะไร และการชดเชยที่สัมพันธ์กับมูลค่าโครงการโดยตรง (direct offset) การนำเข้าอุปกรณ์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี การให้ลิขสิทธิ์ทางปัญญาเกี่ยวกับระบบTactical data link ที่จะสามารถต่อยอดไปยังหน่วยงานอื่นได้ โดยนับตั้งแต่คัดเลือกจาก 22 แบบ เหลือ 6 แบบ จาก 6 แบบเหลือ 2 แบบคือ F-16 กับ กริพเพน ซึ่งมีใช้งานอยู่ในกองทัพอากาศ และมีขีดความสามารถในการซ่อมบำรุง กำลังพลมีความคุ้นเคย ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้มาก จนมาเหลือ 1 แบบคือกริพเพนซึ่งเรามองว่าเหมาะสมที่สุด เราให้น้ำหนักเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการเพิ่มขีดความสามารถเป็นหลัก รวมทั้งเรื่องชดเชยการนำเข้า โดยตามที่สวีเดนเสนอมานั้นมีมูลค่ากว่าเครื่องบินที่ไทยจะจัดซื้อ ถือว่าเป็นสิ่งที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติ แต่ก็จำเป็นต้องรอบคอบและละเอียดรวมทั้งมีความชัดเจนในเรื่องการประกอบสัญญาก่อนที่จะลงนาม
    .
    ผบ.ทอ. กล่าวว่า คาดว่าในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568 จะเสนอเข้า ครม.ให้อนุมัติแบบ เพราะขณะนี้ต้องจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจน ซึ่งมีคณะกรรมการที่พูดคุยกับทางสวีเดนอย่างต่อเนื่องทุกวัน และเสนอความต้องการเพิ่มเติม เพราะยังมีเรื่องเงื่อนไขตอบแทนที่เป็นนามธรรมอยู่จะต้องทำให้เป็นรูปธรรม ซึ่งไทย-สวีเดนถือว่ามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในทุกระดับอยู่แล้ว
    .
    ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม นำคณะผู้แทนกระทรวงกลาโหม ประกอบด้วย พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัศมี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ณัฐพลนาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย ผู้แทนเหล่าทัพ และ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ร่วมเดินทางเยี่ยมชมเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งจอดอยู่บริเวณอ่าวไทย จังหวัดชลบุรี
    .
    นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในการเดินทางขึ้นเรือ USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้เห็นถึงศักยภาพ และการใช้อาวุธทางยุทธวิธี และแสนยานุภาพ ที่แข็งแกร่ง ของกองทัพเรือสหรัฐฯ โดยได้ พาตนชมทุกชั้นของเรือ ดูสะพานเดินเรือ ดูห้องบัญชาการของเรือ และได้มีโอกาสดูเครื่องบิน F-16 และ F-35 ที่ประจำอยู่บนเรือ รวมทั้งได้แสดงโชว์ การบินขึ้น-ลงของเครื่องบินรบที่อยู่ประจำบนเรือ
    .
    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่อง F-16 หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้คุยกันในเรื่องนี้ คุยกันในเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีที่มาเยือนประเทศไทย และการได้มาทำภารกิจต่างๆ
    ..............
    Sondhi X
    สงครามเย็น 'กริพเพน-เอฟ16' กองทัพอากาศ ย้ำจุดยืน เสนอครม.อนุมัติเม.ย.-พ.ค. . ประเด็นเรื่องการจัดซื้อเครื่องขับไล่ฝูงใหม่ของกองทัพอากาศยังคงเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ภายหลังมีความเคลื่อนไหวที่ออกมาจากพล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ซึ่งระบุว่าเงื่อนไขการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพนของประเทศสวีเดน ยังคงดีที่สุด ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเยี่ยมชมเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งจอดอยู่บริเวณอ่าวไทย จังหวัดชลบุรี . พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ระบุว่า ปัจจุบันอยู่ในช่วงของการพิจารณาดูในรายละเอียดที่เพิ่มเติมมา ซึ่งโครงการจะแบ่งเป็นแพคเกจหลัก เรื่องขีดความสามารถสมรรถนะส่วนนี้ไม่ได้กังวลอะไร และการชดเชยที่สัมพันธ์กับมูลค่าโครงการโดยตรง (direct offset) การนำเข้าอุปกรณ์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี การให้ลิขสิทธิ์ทางปัญญาเกี่ยวกับระบบTactical data link ที่จะสามารถต่อยอดไปยังหน่วยงานอื่นได้ โดยนับตั้งแต่คัดเลือกจาก 22 แบบ เหลือ 6 แบบ จาก 6 แบบเหลือ 2 แบบคือ F-16 กับ กริพเพน ซึ่งมีใช้งานอยู่ในกองทัพอากาศ และมีขีดความสามารถในการซ่อมบำรุง กำลังพลมีความคุ้นเคย ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้มาก จนมาเหลือ 1 แบบคือกริพเพนซึ่งเรามองว่าเหมาะสมที่สุด เราให้น้ำหนักเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการเพิ่มขีดความสามารถเป็นหลัก รวมทั้งเรื่องชดเชยการนำเข้า โดยตามที่สวีเดนเสนอมานั้นมีมูลค่ากว่าเครื่องบินที่ไทยจะจัดซื้อ ถือว่าเป็นสิ่งที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติ แต่ก็จำเป็นต้องรอบคอบและละเอียดรวมทั้งมีความชัดเจนในเรื่องการประกอบสัญญาก่อนที่จะลงนาม . ผบ.ทอ. กล่าวว่า คาดว่าในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568 จะเสนอเข้า ครม.ให้อนุมัติแบบ เพราะขณะนี้ต้องจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจน ซึ่งมีคณะกรรมการที่พูดคุยกับทางสวีเดนอย่างต่อเนื่องทุกวัน และเสนอความต้องการเพิ่มเติม เพราะยังมีเรื่องเงื่อนไขตอบแทนที่เป็นนามธรรมอยู่จะต้องทำให้เป็นรูปธรรม ซึ่งไทย-สวีเดนถือว่ามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในทุกระดับอยู่แล้ว . ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม นำคณะผู้แทนกระทรวงกลาโหม ประกอบด้วย พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัศมี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ณัฐพลนาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย ผู้แทนเหล่าทัพ และ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ร่วมเดินทางเยี่ยมชมเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งจอดอยู่บริเวณอ่าวไทย จังหวัดชลบุรี . นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในการเดินทางขึ้นเรือ USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้เห็นถึงศักยภาพ และการใช้อาวุธทางยุทธวิธี และแสนยานุภาพ ที่แข็งแกร่ง ของกองทัพเรือสหรัฐฯ โดยได้ พาตนชมทุกชั้นของเรือ ดูสะพานเดินเรือ ดูห้องบัญชาการของเรือ และได้มีโอกาสดูเครื่องบิน F-16 และ F-35 ที่ประจำอยู่บนเรือ รวมทั้งได้แสดงโชว์ การบินขึ้น-ลงของเครื่องบินรบที่อยู่ประจำบนเรือ . เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่อง F-16 หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้คุยกันในเรื่องนี้ คุยกันในเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีที่มาเยือนประเทศไทย และการได้มาทำภารกิจต่างๆ .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    10
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1005 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลจะไม่ถอนกำลังออกจากเลบานอนตอนใต้หลังจาก 60 วันตามที่ระบุในข้อตกลงหยุดยิง

    นายบารัค ราวิด (Barak Ravid) ผู้สื่อข่าวของแอ็กซิโอส (Axios) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวในสหรัฐโพสต์ผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) โดยอ้างแหล่งข่าวว่า:

    “เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลแจ้งต่อสหรัฐอเมริกาว่า อิสราเอลมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอนและตั้งใจที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างครบถ้วน แต่ต้องการเวลาเพิ่มเติมอย่างน้อยอีก 60 วัน ตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลงหยุดยิง”

    ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 พฤศจิกายน เป็นระยะเวลา 60 วัน ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม เวลา 04.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
    อิสราเอลจะไม่ถอนกำลังออกจากเลบานอนตอนใต้หลังจาก 60 วันตามที่ระบุในข้อตกลงหยุดยิง นายบารัค ราวิด (Barak Ravid) ผู้สื่อข่าวของแอ็กซิโอส (Axios) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวในสหรัฐโพสต์ผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) โดยอ้างแหล่งข่าวว่า: “เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลแจ้งต่อสหรัฐอเมริกาว่า อิสราเอลมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอนและตั้งใจที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างครบถ้วน แต่ต้องการเวลาเพิ่มเติมอย่างน้อยอีก 60 วัน ตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลงหยุดยิง” ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 พฤศจิกายน เป็นระยะเวลา 60 วัน ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม เวลา 04.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • บอร์ดประกันสังคมเห็นชอบ ปรับเพดานค่าจ้าง ส่งเงินสมทบ บันได 3 ขั้น สูงสุด 23,000 บาท ตั้งแต่ปี 2569-2575 เป็นต้นไป เตรียมเข้าขั้นตอน ชง ครม. ก่อนเริ่มใช้ปี 2569

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 มีการประชุมคณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชุดที่ 14) ครั้งที่ 1/2568 หนึ่งในวาระที่น่าสนใจคือการรับทราบ สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงเพดานค่าจ้างขั้นต่ำและขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคม และเห็นชอบหลักการของร่างกฎกระกรวงกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. …. และให้ดำเนินการตามขั้นตอนของการเสนอร่างกฎหมายต่อไป

    การปรับปรุงเพดานค่าจ้าง เพื่อคำนวณเงินสมทบประกันสังคม จะเป็นรูปแบบบันได 3 ขั้น จากเพดานค่าจ้างสูงสุดเดิม 15,000 บาท เป็น 17,500 บาทในปี 2569-2571 จากนั้นปรับเป็น 20,000 บาทในปี 2572-2574 และสูงสุด 23,000 บาท ตั้งแต่ปี 2575 เป็นต้นไป โดยก่อนหน้านี้มีการเปิดรับฟังความเห็นประเด็นดังกล่าวจากภาคส่วนต่าง ๆ และผู้แสดงความเห็นมากกว่า 2 แสนคน ในจำนวนดังกล่าวมีผู้เห็นด้วยในสัดส่วนถึง 95%

    นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) กล่าวว่า หลังจากบอร์ดเห็นชอบแล้ว จะส่งกฎกระทรวงเข้าคณะกรรมการกฎหมายของกระทรวงแรงงาน ก่อนนำเสนอต่อ รมว.แรงงาน พิจารณา และนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ต่อไป ซึ่งคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายใน 4-5 เดือนนี้ และจะเริ่มดำเนินการในปี 2569 ซึ่งกฎกระทรวงต้องออกมาก่อนการบังคับใช้ 6 เดือน

    สำหรับสิทธิประโยชน์ จะมีการปรับเพิ่มขึ้นตามการปรับเพดานค่าจ้างที่ปรับขึ้นแบบขั้นบันได ดังนี้

    ปี 2569-2571

    ส่งเงินสมทบสูงสุด 875 บาทต่อเดือน
    เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 8,750 บาทต่อเดือน (291 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 52,500 บาท)
    เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 26,250 บาทต่อครั้ง
    เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 8,750 บาทต่อเดือน
    เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 105,000 บาท
    เงินทดแทนกรณีว่างงาน 8,750 บาทต่อเดือน
    เงินบำนาญ สูงสุด 6,125 บาทต่อเดือน

    ปี 2572-2574

    ส่งเงินสมทบสูงสุด 1,000 บาทต่อเดือน
    เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 10,000 บาทต่อเดือน (333 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 60,000 บาท)
    เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 30,000 บาทต่อครั้ง
    เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 10,000 บาทต่อเดือน
    เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 120,000 บาท
    เงินทดแทนกรณีว่างงาน 10,000 บาทต่อเดือน
    เงินบำนาญ สูงสุด 7,000 บาทต่อเดือน

    ปี 2575 เป็นต้นไป

    ส่งเงินสมทบสูงสุด 1,150 บาทต่อเดือน
    เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 11,500 บาทต่อเดือน (383 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 69,000 บาท)
    เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 34,500 บาทต่อครั้ง
    เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 11,500 บาทต่อเดือน
    เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 138,000 บาท
    เงินทดแทนกรณีว่างงาน 11,500 บาทต่อเดือน
    เงินบำนาญ สูงสุด 8,050 บาทต่อเดือน

    ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
    https://www.prachachat.net/sd-plus/sdplus-hr/news-1739962
    บอร์ดประกันสังคมเห็นชอบ ปรับเพดานค่าจ้าง ส่งเงินสมทบ บันได 3 ขั้น สูงสุด 23,000 บาท ตั้งแต่ปี 2569-2575 เป็นต้นไป เตรียมเข้าขั้นตอน ชง ครม. ก่อนเริ่มใช้ปี 2569 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 มีการประชุมคณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชุดที่ 14) ครั้งที่ 1/2568 หนึ่งในวาระที่น่าสนใจคือการรับทราบ สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงเพดานค่าจ้างขั้นต่ำและขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคม และเห็นชอบหลักการของร่างกฎกระกรวงกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. …. และให้ดำเนินการตามขั้นตอนของการเสนอร่างกฎหมายต่อไป การปรับปรุงเพดานค่าจ้าง เพื่อคำนวณเงินสมทบประกันสังคม จะเป็นรูปแบบบันได 3 ขั้น จากเพดานค่าจ้างสูงสุดเดิม 15,000 บาท เป็น 17,500 บาทในปี 2569-2571 จากนั้นปรับเป็น 20,000 บาทในปี 2572-2574 และสูงสุด 23,000 บาท ตั้งแต่ปี 2575 เป็นต้นไป โดยก่อนหน้านี้มีการเปิดรับฟังความเห็นประเด็นดังกล่าวจากภาคส่วนต่าง ๆ และผู้แสดงความเห็นมากกว่า 2 แสนคน ในจำนวนดังกล่าวมีผู้เห็นด้วยในสัดส่วนถึง 95% นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) กล่าวว่า หลังจากบอร์ดเห็นชอบแล้ว จะส่งกฎกระทรวงเข้าคณะกรรมการกฎหมายของกระทรวงแรงงาน ก่อนนำเสนอต่อ รมว.แรงงาน พิจารณา และนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ต่อไป ซึ่งคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายใน 4-5 เดือนนี้ และจะเริ่มดำเนินการในปี 2569 ซึ่งกฎกระทรวงต้องออกมาก่อนการบังคับใช้ 6 เดือน สำหรับสิทธิประโยชน์ จะมีการปรับเพิ่มขึ้นตามการปรับเพดานค่าจ้างที่ปรับขึ้นแบบขั้นบันได ดังนี้ ปี 2569-2571 ส่งเงินสมทบสูงสุด 875 บาทต่อเดือน เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 8,750 บาทต่อเดือน (291 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 52,500 บาท) เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 26,250 บาทต่อครั้ง เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 8,750 บาทต่อเดือน เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 105,000 บาท เงินทดแทนกรณีว่างงาน 8,750 บาทต่อเดือน เงินบำนาญ สูงสุด 6,125 บาทต่อเดือน ปี 2572-2574 ส่งเงินสมทบสูงสุด 1,000 บาทต่อเดือน เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 10,000 บาทต่อเดือน (333 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 60,000 บาท) เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 30,000 บาทต่อครั้ง เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 10,000 บาทต่อเดือน เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 120,000 บาท เงินทดแทนกรณีว่างงาน 10,000 บาทต่อเดือน เงินบำนาญ สูงสุด 7,000 บาทต่อเดือน ปี 2575 เป็นต้นไป ส่งเงินสมทบสูงสุด 1,150 บาทต่อเดือน เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย 11,500 บาทต่อเดือน (383 บาทต่อวัน สูงสุด 180 วัน รวม 69,000 บาท) เงินสงเคราะห์คลอดบุตร 34,500 บาทต่อครั้ง เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ 11,500 บาทต่อเดือน เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 138,000 บาท เงินทดแทนกรณีว่างงาน 11,500 บาทต่อเดือน เงินบำนาญ สูงสุด 8,050 บาทต่อเดือน ที่มา ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/sd-plus/sdplus-hr/news-1739962
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปานามาร้องเรียนไปยังสหประชาชาติ ต่อคำขู่ "ที่น่ากังวล" ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เกี่ยวกับการยึดคลองปานามา แต่ขณะเดียวก็ได้ลงมือตรวจสอบบัญชี "บริษัทแห่งหนึ่งที่มีความเชื่อมโยงกับฮ่องกง" ซึ่งเป็นผู้ควบคุมท่าเรือ 2 แห่งในน่านน้ำที่เชื่อมมหาสมุทรแห่งนี้ ตอบสนองต่อเสียงโวยวายของผู้นำอเมริกา
    .
    ในหนังสือที่ส่งถึง อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ทางรัฐบาลปานามาอ้างถึงมาตราหนึ่งของกฎบัตรสหประชาชาติ ที่ห้ามสมาชิกรายใดก็ตามจากการข่มขู่หรือใช้กำลังกับบูรณภาพแห่งดินแดนหรือความเป็นอิสระทางการเมืองของประเทศอื่น
    .
    หนังสือที่แจกจ่ายไปยังพวกผู้สื่อข่าวด้วยในวันอังคาร(21ม.ค.) เรียกร้องให้ กูเตอร์เรส หยิบยกประเด็นนี้เข้าสู่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่ไม่ได้ร้องขอให้มีการเรียกประชุมใดๆ
    .
    ทรัมป์ กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งเมื่อวันจันทร์(20ม.ค.) เน้นย้ำว่า จีน เสมือนเป็นผู้ปฏิบัติการคลองปานามา ผ่านการปรากฏตัวมากขึ้นเรื่อยๆแถวๆน่านน้ำแห่งนี้ ที่ทางสหรัฐฯส่งมอบให้แก่ปานามา ในช่วงปลายปี 1999 "เราไม่ได้มอบมันให้จีน เรามอบมันให้ปานามา และเรากำลังทวงคืน" ทรัมป์ระบุ
    .
    โฮเซ ราอูล มูลิโน ประธานาธิบดีปานามา ตอบโต้กลับระหว่างร่วมประชุม ณ เวทีสัมมนาเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศกร้าวว่าคลองแห่งนี้ไม่ได้เป็นของขวัญจากสหรัฐฯ "เราปฏิเสธทุกอย่างทั้งหมดที่ทรัมป์พูด ลำดับแรกเลยมันเป็นเท็จ และลำดับที่ 2 เพราะว่าคลองปานามาเป็นของปานามา และจะยังคงเป็นของปานามาต่อไป"
    .
    ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีปานามา เคยออกมาปฏิเสธแล้วว่า ไม่มีประเทศอื่นกำลังแทรกแซงคลองปานามา ที่เขาบอกว่าปฏิบัติการภายใต้หลักการของความเป็นกลาง
    .
    เมื่อพวกผู้สื่อข่าวสอบถามเกี่ยวกับประเด็นถกเถียงนี้ในวันพุธ(22ม.ค.) ทางจีนยืนกรานว่าไม่เคยแทรกแซงใดๆในคลองแห่งนี้ "จีนเคารพอำนาจอธิปไตยของปานามาเหนือคลองปานามา มาตลอด และยอมรับคลองแห่งนี้ ในฐานะน่านน้ำระหว่างประเทศที่เป็นกลางอย่างถาวร" เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุ
    .
    สำนักงานการควบคุมแห่งปานามา ซึ่งกำกับดูแลองค์กรรัฐทั้งหลาย แถลงว่าจะเริ่มตรวจสอบบัญชีอย่างละเอียดถี่ถ้วนกับบริษัทปานามา พอร์ทส์ โดยมีเป้าหมายเพื่อรับประกันการใช้ทรัพยากรของรัฐอย่างมีประสิทธิภาพแลความโปร่งใส
    .
    บริษัทแห่งนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ฮัตชิสัน พอร์ทส์ เป็นบริษัทลูกของ ซีเค ฮัตชิสัน โฮลดิ้ง กลุ่มบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในฮ่องกง และเป็นผู้ดูแลท่าเรือบัลเบาและคริสโตบาล ที่ตั้งอยู่บริเวณทั้ง 2 ด้านของคลองปานามา
    .
    ทางสำนักงานการควบคุมแห่งปานามา บอกว่าการตรวจสอบนี้มีเป้าหมายเพื่อสรุปว่าทางบริษัทปฏิบัติตามข้อตกลงต่างๆตามสัมปทานหรือไม่ ในนั้นรวมถึงรายงานเกี่ยวกับรายได้ การจ่ายเงินและการเกี่ยวข้องกับภาครัฐ
    .
    ฮัตชิสัน พอร์ทส์ พีพีซี ระบุในถ้อยแถลงว่า พวกเขาธำรงไว้ซึ่งและจะเดินหน้าคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ที่โปร่งใสและเต็มไปด้วยความร่วมมือกับพวกเจ้าหน้าที่ปานามา
    .
    ทรัมป์ ยกระดับกดดันเกี่ยวกับคลองปานามา มาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ในนั้นรวมถึงไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารยึดคืนมัน
    .
    ทั้งนี้ข้อตกลงสัมปทานของปานามา พอร์ทส์ เพิ่งถูกขยายออกไปเมื่อปี 2021 มีอายุถึง 25 ปี คลองแห่งนี้เป็นเส้นทางการสัญจรของตู้สินค้าของสหรัฐฯราวๆ 40% ทำให้สหรัฐฯเป็นผู้ใช้รายหลักของคลองปานามา ตามมาด้วยจีน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000007003
    ..............
    Sondhi X
    ปานามาร้องเรียนไปยังสหประชาชาติ ต่อคำขู่ "ที่น่ากังวล" ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เกี่ยวกับการยึดคลองปานามา แต่ขณะเดียวก็ได้ลงมือตรวจสอบบัญชี "บริษัทแห่งหนึ่งที่มีความเชื่อมโยงกับฮ่องกง" ซึ่งเป็นผู้ควบคุมท่าเรือ 2 แห่งในน่านน้ำที่เชื่อมมหาสมุทรแห่งนี้ ตอบสนองต่อเสียงโวยวายของผู้นำอเมริกา . ในหนังสือที่ส่งถึง อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ทางรัฐบาลปานามาอ้างถึงมาตราหนึ่งของกฎบัตรสหประชาชาติ ที่ห้ามสมาชิกรายใดก็ตามจากการข่มขู่หรือใช้กำลังกับบูรณภาพแห่งดินแดนหรือความเป็นอิสระทางการเมืองของประเทศอื่น . หนังสือที่แจกจ่ายไปยังพวกผู้สื่อข่าวด้วยในวันอังคาร(21ม.ค.) เรียกร้องให้ กูเตอร์เรส หยิบยกประเด็นนี้เข้าสู่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่ไม่ได้ร้องขอให้มีการเรียกประชุมใดๆ . ทรัมป์ กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งเมื่อวันจันทร์(20ม.ค.) เน้นย้ำว่า จีน เสมือนเป็นผู้ปฏิบัติการคลองปานามา ผ่านการปรากฏตัวมากขึ้นเรื่อยๆแถวๆน่านน้ำแห่งนี้ ที่ทางสหรัฐฯส่งมอบให้แก่ปานามา ในช่วงปลายปี 1999 "เราไม่ได้มอบมันให้จีน เรามอบมันให้ปานามา และเรากำลังทวงคืน" ทรัมป์ระบุ . โฮเซ ราอูล มูลิโน ประธานาธิบดีปานามา ตอบโต้กลับระหว่างร่วมประชุม ณ เวทีสัมมนาเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศกร้าวว่าคลองแห่งนี้ไม่ได้เป็นของขวัญจากสหรัฐฯ "เราปฏิเสธทุกอย่างทั้งหมดที่ทรัมป์พูด ลำดับแรกเลยมันเป็นเท็จ และลำดับที่ 2 เพราะว่าคลองปานามาเป็นของปานามา และจะยังคงเป็นของปานามาต่อไป" . ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีปานามา เคยออกมาปฏิเสธแล้วว่า ไม่มีประเทศอื่นกำลังแทรกแซงคลองปานามา ที่เขาบอกว่าปฏิบัติการภายใต้หลักการของความเป็นกลาง . เมื่อพวกผู้สื่อข่าวสอบถามเกี่ยวกับประเด็นถกเถียงนี้ในวันพุธ(22ม.ค.) ทางจีนยืนกรานว่าไม่เคยแทรกแซงใดๆในคลองแห่งนี้ "จีนเคารพอำนาจอธิปไตยของปานามาเหนือคลองปานามา มาตลอด และยอมรับคลองแห่งนี้ ในฐานะน่านน้ำระหว่างประเทศที่เป็นกลางอย่างถาวร" เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุ . สำนักงานการควบคุมแห่งปานามา ซึ่งกำกับดูแลองค์กรรัฐทั้งหลาย แถลงว่าจะเริ่มตรวจสอบบัญชีอย่างละเอียดถี่ถ้วนกับบริษัทปานามา พอร์ทส์ โดยมีเป้าหมายเพื่อรับประกันการใช้ทรัพยากรของรัฐอย่างมีประสิทธิภาพแลความโปร่งใส . บริษัทแห่งนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ฮัตชิสัน พอร์ทส์ เป็นบริษัทลูกของ ซีเค ฮัตชิสัน โฮลดิ้ง กลุ่มบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในฮ่องกง และเป็นผู้ดูแลท่าเรือบัลเบาและคริสโตบาล ที่ตั้งอยู่บริเวณทั้ง 2 ด้านของคลองปานามา . ทางสำนักงานการควบคุมแห่งปานามา บอกว่าการตรวจสอบนี้มีเป้าหมายเพื่อสรุปว่าทางบริษัทปฏิบัติตามข้อตกลงต่างๆตามสัมปทานหรือไม่ ในนั้นรวมถึงรายงานเกี่ยวกับรายได้ การจ่ายเงินและการเกี่ยวข้องกับภาครัฐ . ฮัตชิสัน พอร์ทส์ พีพีซี ระบุในถ้อยแถลงว่า พวกเขาธำรงไว้ซึ่งและจะเดินหน้าคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ที่โปร่งใสและเต็มไปด้วยความร่วมมือกับพวกเจ้าหน้าที่ปานามา . ทรัมป์ ยกระดับกดดันเกี่ยวกับคลองปานามา มาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ในนั้นรวมถึงไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารยึดคืนมัน . ทั้งนี้ข้อตกลงสัมปทานของปานามา พอร์ทส์ เพิ่งถูกขยายออกไปเมื่อปี 2021 มีอายุถึง 25 ปี คลองแห่งนี้เป็นเส้นทางการสัญจรของตู้สินค้าของสหรัฐฯราวๆ 40% ทำให้สหรัฐฯเป็นผู้ใช้รายหลักของคลองปานามา ตามมาด้วยจีน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000007003 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Yay
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1492 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนประกาศปกป้อง "ผลประโยชน์ของประเทศชาติ" จากคำขู่รีดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังผู้นำอเมริกาเตือนว่าเขาอาจรีดภาษี 10% สินค้านำเข้าจากแดนมังกร เริ่มตั้งแต่ปลายสัปดาห์หน้า
    .
    ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว หนึ่งวันหลังเข้าพิธีสาบานตน นอกจากคำขู่รีดภาษีจีนแล้ว เขายังส่งเสียงเตือนไปยังสหภาพยุโรปว่าอาจต้องเจอกับเพดานภาษีที่แข็งกร้าวเช่นกัน พร้อมหันกลับมาโจมตีปักกิ่งอีกรอบ เกี่ยวกับการลักลอบส่งออกยาเฟนทานิล
    .
    "พวกเขาปฏิบัติกับเราแย่มากๆ ดังนั้นพวกเขากำลังอยู่ในแผนรีดภาษีด้วย" ทรัมป์กล่าวถึงอียู "คุณจะไม่ได้รับความยุติธรรม จนกว่าคุณจะมีความยุติธรรม"
    .
    หนึ่งวันก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ กล่าวหาทางกลุ่มว่า ไม่นำเข้าผลิตภัณฑ์ของอเมริกามากพอ พร้อมบอกว่าเขาจะทำสิ่งนี้ให้เข้าที่เข้าทางด้วยการกำหนดมาตรการรีดภาษี หรือไม่ก็เรียกร้องให้ซื้อน้ำมันและก๊าซเพิ่มมากขึ้น
    .
    ในส่วนของจีน ทรัมป์เน้นย้ำคำขู่เมื่อวันอังคาร (21 ม.ค.) ในการกำหนดเพดานภาษี 10% บอกว่า "มันอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ว่า พวกเขากำลังส่งยาเฟนทานิลไปยังเม็กซิโกและแคนาดา"
    .
    เมื่อถามว่าอีกนานแค่ไหนที่มาตรการรีดภาษีนี้จะมีผลบังคับใช้ ทรัมป์ตอบว่า "บางที วันที่ 1 กุมภาพันธ์ คือวันที่เรากำลังมองถึงความเป็นไปได้"
    .
    ในวันดังกล่าว ทรัมป์เคยบอกว่าจะกำหนดมาตรการรีดภาษี 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก กล่าวหาพวกเขาว่าล้มเหลวในการหยุดยั้งผู้อพยพผิดกฎหมายและการลักลอบขนยาเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐฯ
    .
    ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ กระตุ้นให้ ปักกิ่ง ในวันพุธ (22 ม.ค.) ออกมาประกาศปกป้อง "ผลประโยชน์ของประเทศชาติ" ตอบโต้คำขู่ของทรัมป์ "เราเชื่อมาเสมอว่าจะไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้าหรือสงครามรีดภาษีใดๆ" เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุ
    .
    โฆษกหญิงรายนี้บอกต่อว่า "ปักกิ่งมีความตั้งใจคงไว้ซึ่งการติดต่อสื่อสารกับสหรัฐฯ รับมือความเห็นต่างอย่างเหมาะสม ขยายขอบเขตความร่วมมือผลประโยชน์ร่วม และส่งเสริมเสถียรภาพ ความเข้มแข็งและพัฒนาการอันยั่งยืน ในความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ"
    .
    ทำเนียบขาวภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ เคยกำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ครั้งดำรงตำแหน่งสมัยแรก อ้างถึงแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่ไม่ยุติธรรมโดยปักกิ่ง จากนั้น โจ ไบเดน ผู้สืบทอดของเขา ก็ยังคงไว้ซึ่งแรงกดดันด้วยการกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ อย่างกว้างขวาง โดยมีเป้าหมายเพื่อจำกัดจีนจากการเข้าถึงชิปไฮเทค
    .
    ทรัมป์ ยกระดับคำขู่หนักหน่วงกว่าเดิมระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ประกาศถึงขั้นว่าจะปรับเพิ่มเพดานภาษีหากเขาได้กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย
    .
    เศรษฐกิจของจีนยังคงต้องพึ่งพิงการส่งออกอย่างหนักสำหรับขับเคลื่อนการเติบโต แม้มีความพยายามอย่างเป็นทางการในการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ
    .
    ในส่วนของคณะกรรมธิการด้านเศรษฐกิจของอียู ก็ประกาศเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ว่าทางกลุ่มพร้อมที่จะปกป้องผลประโยชน์ของตนเองเช่นกัน แม้อีกด้านหนึ่งทาง อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป บอกว่าอียูพร้อมเจรจากับทรัมป์ และเน้นย้ำว่าวอชิงตันยังคงเป็นคู่หูที่สำคัญของพวกเขา
    .
    เมื่อวันจันทร์ (20 ม.ค.) ทรัมป์ ประกาศยกระบบการค้าของสหรัฐฯ ในทันที สัญญาว่าจะรีดภาษีและเรียกเก็บภาษี "เหล่าประเทศต่างชาติทั้งหลาย เพื่อสร้างความร่ำรวยแก่พลเมืองของเรา"
    .
    เขาลงนามในคำสั่งให้หน่วยงานต่างๆ ศึกษาประเด็นทางการค้าต่างๆ ในนั้นรวมถึงการขาดดุลทางการค้า แนวทางปฏิบัติทางการค้าที่ไม่ยุติธรรม และการบิดเบือนค่าเงิน ซึ่งการตรวบสอบนี้อาจเปิดทางสำหรับการใช้มาตรการทางภาษีเล่นงานเพิ่มเติม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000007002
    ..............
    Sondhi X

    จีนประกาศปกป้อง "ผลประโยชน์ของประเทศชาติ" จากคำขู่รีดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังผู้นำอเมริกาเตือนว่าเขาอาจรีดภาษี 10% สินค้านำเข้าจากแดนมังกร เริ่มตั้งแต่ปลายสัปดาห์หน้า . ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว หนึ่งวันหลังเข้าพิธีสาบานตน นอกจากคำขู่รีดภาษีจีนแล้ว เขายังส่งเสียงเตือนไปยังสหภาพยุโรปว่าอาจต้องเจอกับเพดานภาษีที่แข็งกร้าวเช่นกัน พร้อมหันกลับมาโจมตีปักกิ่งอีกรอบ เกี่ยวกับการลักลอบส่งออกยาเฟนทานิล . "พวกเขาปฏิบัติกับเราแย่มากๆ ดังนั้นพวกเขากำลังอยู่ในแผนรีดภาษีด้วย" ทรัมป์กล่าวถึงอียู "คุณจะไม่ได้รับความยุติธรรม จนกว่าคุณจะมีความยุติธรรม" . หนึ่งวันก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ กล่าวหาทางกลุ่มว่า ไม่นำเข้าผลิตภัณฑ์ของอเมริกามากพอ พร้อมบอกว่าเขาจะทำสิ่งนี้ให้เข้าที่เข้าทางด้วยการกำหนดมาตรการรีดภาษี หรือไม่ก็เรียกร้องให้ซื้อน้ำมันและก๊าซเพิ่มมากขึ้น . ในส่วนของจีน ทรัมป์เน้นย้ำคำขู่เมื่อวันอังคาร (21 ม.ค.) ในการกำหนดเพดานภาษี 10% บอกว่า "มันอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ว่า พวกเขากำลังส่งยาเฟนทานิลไปยังเม็กซิโกและแคนาดา" . เมื่อถามว่าอีกนานแค่ไหนที่มาตรการรีดภาษีนี้จะมีผลบังคับใช้ ทรัมป์ตอบว่า "บางที วันที่ 1 กุมภาพันธ์ คือวันที่เรากำลังมองถึงความเป็นไปได้" . ในวันดังกล่าว ทรัมป์เคยบอกว่าจะกำหนดมาตรการรีดภาษี 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก กล่าวหาพวกเขาว่าล้มเหลวในการหยุดยั้งผู้อพยพผิดกฎหมายและการลักลอบขนยาเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐฯ . ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ กระตุ้นให้ ปักกิ่ง ในวันพุธ (22 ม.ค.) ออกมาประกาศปกป้อง "ผลประโยชน์ของประเทศชาติ" ตอบโต้คำขู่ของทรัมป์ "เราเชื่อมาเสมอว่าจะไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้าหรือสงครามรีดภาษีใดๆ" เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุ . โฆษกหญิงรายนี้บอกต่อว่า "ปักกิ่งมีความตั้งใจคงไว้ซึ่งการติดต่อสื่อสารกับสหรัฐฯ รับมือความเห็นต่างอย่างเหมาะสม ขยายขอบเขตความร่วมมือผลประโยชน์ร่วม และส่งเสริมเสถียรภาพ ความเข้มแข็งและพัฒนาการอันยั่งยืน ในความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ" . ทำเนียบขาวภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ เคยกำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ครั้งดำรงตำแหน่งสมัยแรก อ้างถึงแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่ไม่ยุติธรรมโดยปักกิ่ง จากนั้น โจ ไบเดน ผู้สืบทอดของเขา ก็ยังคงไว้ซึ่งแรงกดดันด้วยการกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ อย่างกว้างขวาง โดยมีเป้าหมายเพื่อจำกัดจีนจากการเข้าถึงชิปไฮเทค . ทรัมป์ ยกระดับคำขู่หนักหน่วงกว่าเดิมระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ประกาศถึงขั้นว่าจะปรับเพิ่มเพดานภาษีหากเขาได้กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย . เศรษฐกิจของจีนยังคงต้องพึ่งพิงการส่งออกอย่างหนักสำหรับขับเคลื่อนการเติบโต แม้มีความพยายามอย่างเป็นทางการในการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ . ในส่วนของคณะกรรมธิการด้านเศรษฐกิจของอียู ก็ประกาศเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ว่าทางกลุ่มพร้อมที่จะปกป้องผลประโยชน์ของตนเองเช่นกัน แม้อีกด้านหนึ่งทาง อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป บอกว่าอียูพร้อมเจรจากับทรัมป์ และเน้นย้ำว่าวอชิงตันยังคงเป็นคู่หูที่สำคัญของพวกเขา . เมื่อวันจันทร์ (20 ม.ค.) ทรัมป์ ประกาศยกระบบการค้าของสหรัฐฯ ในทันที สัญญาว่าจะรีดภาษีและเรียกเก็บภาษี "เหล่าประเทศต่างชาติทั้งหลาย เพื่อสร้างความร่ำรวยแก่พลเมืองของเรา" . เขาลงนามในคำสั่งให้หน่วยงานต่างๆ ศึกษาประเด็นทางการค้าต่างๆ ในนั้นรวมถึงการขาดดุลทางการค้า แนวทางปฏิบัติทางการค้าที่ไม่ยุติธรรม และการบิดเบือนค่าเงิน ซึ่งการตรวบสอบนี้อาจเปิดทางสำหรับการใช้มาตรการทางภาษีเล่นงานเพิ่มเติม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000007002 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1441 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘ปูติน-สี’ วิดีโอคอลชื่นมื่นนานกว่าชั่วโมงครึ่ง ย้ำความสัมพันธ์แนบแน่น เผยพร้อมติดต่อกับคณะบริหารทรัมป์ภายใต้หลักการเอื้อผลประโยชน์ร่วมกันและการเคารพกันและกัน นอกจากนั้น ประมุขวังเครมลินยังเผยว่า พร้อมเจรจาเรื่องยูเครน แต่ย้ำว่า อเมริกาต้องเคารพผลประโยชน์ของรัสเซีย รวมทั้งจัดการกับต้นตอของวิกฤตเพื่อให้เกิดสันติภาพระยะยาว ไม่ใช่หวังผลแค่ข้อตกลงหยุดยิงช่วงสั้นๆ
    .
    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย พัฒนาความสัมพันธ์ส่วนตัวแน่นแฟ้นและยิ่งแนบแน่นมากขึ้นหลังจากปูตินส่งทหารบุกยูเครนในปี 2022 นอกจากนี้ จีนยังกลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สั่งซื้อน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย เวลาเดียวกันก็เป็นแหล่งเทคโนโลยีสำคัญของแดนหมีขาว ขณะที่มอสโกถูกตะวันตกรุมแซงก์ชัน
    .
    ระหว่างการวิดีโอคอลกับสีคราวนี้ ที่กินเวลานานกว่าชั่วโมงครึ่งเมื่อวันอังคาร (21 ม.ค.) หรือหนึ่งวันหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้น ปูตินย้ำว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับจีนอยู่บนพื้นฐานของการมีผลประโยชน์ร่วมกัน ความเท่าเทียม และการเอื้อประโยชน์แก่กันและกัน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยการเมืองภายในหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ
    .
    ประมุขวังเครมลินเสริมว่า รัสเซียและจีนสนับสนุนการพัฒนาระเบียบโลกแบบมีหลายขั้วที่มีความเป็นธรรมมากขึ้น และดำเนินการเพื่อรับประกันความมั่นคงที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ในอาณาบริเวณยูเรเซียและทั่วโลก ก่อนสำทับว่า ความพยายามร่วมกันระหว่างสองประเทศมีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพกิจการโลก
    .
    ทางด้าน สี ยกย่องความร่วมมือใกล้ชิดระหว่างกันเช่นเดียวกัน และแสดงความพร้อมในการร่วมกับปูตินยกระดับความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย รวมทั้งรับมือความไม่แน่นอนของสถานการณ์ภายนอก ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างกันที่มีเสถียรภาพและยืดหยุ่น และปกป้องความเป็นกลางและความยุติธรรมระหว่างประเทศ
    .
    ผู้นำแดนมังกรย้ำว่า รัสเซียและจีนควรกระชับความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ สนับสนุนกันและกันอย่างมั่นคง และปกป้องผลประโยชน์อันชอบธรรมของสองประเทศต่อไป
    .
    แม้ไม่ได้เอ่ยถึงทรัมป์โดยตรง แต่เครมลินระบุว่า สีและปูตินพูดคุยกันเรื่องการติดต่อกับคณะบริหารใหม่ของอเมริกาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
    .
    ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ (17 ม.ค.) สี ได้คุยกับ ทรัมป์ ทางโทรศัพท์และแสดงความหวังว่า ความสัมพันธ์สองประเทศจะเป็นไปในแง่ดี
    .
    อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทรัมป์ขู่เก็บภาษีศุลกากรและใช้มาตรการอื่นๆ กับจีนหากได้กลับสู่ทำเนียบขาว แต่ขณะเดียวกันก็แย้มว่า สองชาติมหาอำนาจที่เป็นคู่แข่งกันอาจร่วมมือกันได้ในบางประเด็น เช่น ความขัดแย้งระดับภูมิภาค และการจำกัดการส่งออกสารที่ใช้ในการผลิตเฟนทานิล
    .
    ทางด้าน ยูริ ยูชาคอฟ ที่ปรึกษาด้านต่างประเทศของปูติน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การหารือระหว่าง ปูติน กับ สี ครั้งนี้ มีการเตรียมการล่วงหน้าเอาไว้ก่อนแล้ว โดยไม่เกี่ยวข้องกับการเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่า สีได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวสั้นๆ กับปูติน และผู้นำทั้งสองยังหารือกันในบางประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเป็นไปได้ในการติดต่อกับคณะบริหารชุดใหม่ของอเมริกา โดยทั้ง ปูติน และ สีต่างแสดงความพร้อมในการพัฒนาความสัมพันธ์กับวอชิงตัน บนหลักการของผลประโยชน์ร่วมกันและการเคารพกันและกัน
    .
    อนึ่ง ระหว่างการประชุมสภาความมั่นคงของรัสเซียที่มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ในวันจันทร์ ไม่นานก่อนที่ทรัมป์จะทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ปูตินได้กล่าวแสดงความยินดีและตอบรับความตั้งใจของผู้นำสหรัฐฯ ในการหารือกับมอสโก รวมทั้งบอกว่า รัสเซียเปิดกว้างในการเจรจาเรื่องยูเครน แต่ย้ำว่าอเมริกาต้องเคารพผลประโยชน์ของรัสเซีย และต้องจัดการกับต้นตอของวิกฤตเพื่อให้เกิดสันติภาพระยะยาวที่อิงกับผลประโยชน์อันชอบธรรมของประชาชนและทุกประเทศที่อยู่ในภูมิภาคนี้ ไม่ใช่หวังผลแค่ข้อตกลงหยุดยิงช่วงสั้นๆ
    .
    ขณะที่ทางด้านทรัมป์ ระหว่างการแถลงข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ (20) ภายหลังสาบานตัวรับตำแหน่งแล้ว ได้พูดถึงเรื่องสงครามยูเครนว่า ได้รับแจ้งจากประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนว่า ต้องการทำข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย
    .
    ทรัมป์ยังแสดงความหวังว่า ปูตินจะเห็นพ้อง ก่อนสำทับว่า ประมุขวังเครมลินกำลังทำลายรัสเซียด้วยการปฏิเสธการทำข้อตกลง โดยเขาอ้างอิงถึงปัญหาเศรษฐกิจของรัสเซียที่รวมถึงภาวะเงินเฟ้อ
    .
    จากนั้นในวันอังคาร (21) ทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่า อาจเพิ่มมาตรการแซงก์ชันรัสเซีย หากปูตินยังไม่ยอมเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006995
    ..............
    Sondhi X
    ‘ปูติน-สี’ วิดีโอคอลชื่นมื่นนานกว่าชั่วโมงครึ่ง ย้ำความสัมพันธ์แนบแน่น เผยพร้อมติดต่อกับคณะบริหารทรัมป์ภายใต้หลักการเอื้อผลประโยชน์ร่วมกันและการเคารพกันและกัน นอกจากนั้น ประมุขวังเครมลินยังเผยว่า พร้อมเจรจาเรื่องยูเครน แต่ย้ำว่า อเมริกาต้องเคารพผลประโยชน์ของรัสเซีย รวมทั้งจัดการกับต้นตอของวิกฤตเพื่อให้เกิดสันติภาพระยะยาว ไม่ใช่หวังผลแค่ข้อตกลงหยุดยิงช่วงสั้นๆ . ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย พัฒนาความสัมพันธ์ส่วนตัวแน่นแฟ้นและยิ่งแนบแน่นมากขึ้นหลังจากปูตินส่งทหารบุกยูเครนในปี 2022 นอกจากนี้ จีนยังกลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สั่งซื้อน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย เวลาเดียวกันก็เป็นแหล่งเทคโนโลยีสำคัญของแดนหมีขาว ขณะที่มอสโกถูกตะวันตกรุมแซงก์ชัน . ระหว่างการวิดีโอคอลกับสีคราวนี้ ที่กินเวลานานกว่าชั่วโมงครึ่งเมื่อวันอังคาร (21 ม.ค.) หรือหนึ่งวันหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้น ปูตินย้ำว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับจีนอยู่บนพื้นฐานของการมีผลประโยชน์ร่วมกัน ความเท่าเทียม และการเอื้อประโยชน์แก่กันและกัน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยการเมืองภายในหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ . ประมุขวังเครมลินเสริมว่า รัสเซียและจีนสนับสนุนการพัฒนาระเบียบโลกแบบมีหลายขั้วที่มีความเป็นธรรมมากขึ้น และดำเนินการเพื่อรับประกันความมั่นคงที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ในอาณาบริเวณยูเรเซียและทั่วโลก ก่อนสำทับว่า ความพยายามร่วมกันระหว่างสองประเทศมีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพกิจการโลก . ทางด้าน สี ยกย่องความร่วมมือใกล้ชิดระหว่างกันเช่นเดียวกัน และแสดงความพร้อมในการร่วมกับปูตินยกระดับความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย รวมทั้งรับมือความไม่แน่นอนของสถานการณ์ภายนอก ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างกันที่มีเสถียรภาพและยืดหยุ่น และปกป้องความเป็นกลางและความยุติธรรมระหว่างประเทศ . ผู้นำแดนมังกรย้ำว่า รัสเซียและจีนควรกระชับความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ สนับสนุนกันและกันอย่างมั่นคง และปกป้องผลประโยชน์อันชอบธรรมของสองประเทศต่อไป . แม้ไม่ได้เอ่ยถึงทรัมป์โดยตรง แต่เครมลินระบุว่า สีและปูตินพูดคุยกันเรื่องการติดต่อกับคณะบริหารใหม่ของอเมริกาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต . ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ (17 ม.ค.) สี ได้คุยกับ ทรัมป์ ทางโทรศัพท์และแสดงความหวังว่า ความสัมพันธ์สองประเทศจะเป็นไปในแง่ดี . อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทรัมป์ขู่เก็บภาษีศุลกากรและใช้มาตรการอื่นๆ กับจีนหากได้กลับสู่ทำเนียบขาว แต่ขณะเดียวกันก็แย้มว่า สองชาติมหาอำนาจที่เป็นคู่แข่งกันอาจร่วมมือกันได้ในบางประเด็น เช่น ความขัดแย้งระดับภูมิภาค และการจำกัดการส่งออกสารที่ใช้ในการผลิตเฟนทานิล . ทางด้าน ยูริ ยูชาคอฟ ที่ปรึกษาด้านต่างประเทศของปูติน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การหารือระหว่าง ปูติน กับ สี ครั้งนี้ มีการเตรียมการล่วงหน้าเอาไว้ก่อนแล้ว โดยไม่เกี่ยวข้องกับการเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่า สีได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวสั้นๆ กับปูติน และผู้นำทั้งสองยังหารือกันในบางประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเป็นไปได้ในการติดต่อกับคณะบริหารชุดใหม่ของอเมริกา โดยทั้ง ปูติน และ สีต่างแสดงความพร้อมในการพัฒนาความสัมพันธ์กับวอชิงตัน บนหลักการของผลประโยชน์ร่วมกันและการเคารพกันและกัน . อนึ่ง ระหว่างการประชุมสภาความมั่นคงของรัสเซียที่มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ในวันจันทร์ ไม่นานก่อนที่ทรัมป์จะทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ปูตินได้กล่าวแสดงความยินดีและตอบรับความตั้งใจของผู้นำสหรัฐฯ ในการหารือกับมอสโก รวมทั้งบอกว่า รัสเซียเปิดกว้างในการเจรจาเรื่องยูเครน แต่ย้ำว่าอเมริกาต้องเคารพผลประโยชน์ของรัสเซีย และต้องจัดการกับต้นตอของวิกฤตเพื่อให้เกิดสันติภาพระยะยาวที่อิงกับผลประโยชน์อันชอบธรรมของประชาชนและทุกประเทศที่อยู่ในภูมิภาคนี้ ไม่ใช่หวังผลแค่ข้อตกลงหยุดยิงช่วงสั้นๆ . ขณะที่ทางด้านทรัมป์ ระหว่างการแถลงข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ (20) ภายหลังสาบานตัวรับตำแหน่งแล้ว ได้พูดถึงเรื่องสงครามยูเครนว่า ได้รับแจ้งจากประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนว่า ต้องการทำข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย . ทรัมป์ยังแสดงความหวังว่า ปูตินจะเห็นพ้อง ก่อนสำทับว่า ประมุขวังเครมลินกำลังทำลายรัสเซียด้วยการปฏิเสธการทำข้อตกลง โดยเขาอ้างอิงถึงปัญหาเศรษฐกิจของรัสเซียที่รวมถึงภาวะเงินเฟ้อ . จากนั้นในวันอังคาร (21) ทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่า อาจเพิ่มมาตรการแซงก์ชันรัสเซีย หากปูตินยังไม่ยอมเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006995 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1326 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกมเก็บเหรียญ Jagat น่าสงสัยความเสี่ยงสูง

    Jagat ภาษาอินโดนีเซียแปลว่าจักรวาล ระบุตัวเองว่าเป็นแอปพลิเคชันค้นหาครอบครัวและเพื่อน แต่มีกิจกรรมที่ชื่อว่า Jagat Coin Hunt เปิดให้ทำภารกิจล่าเหรียญเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และเชียงราย โดยนำเหรียญที่จัดทำขึ้นไปซุกซ่อนตามสถานที่ต่างๆ แล้วให้คนที่เล่นเกมไปตามหาเหรียญบนแผนที่ เปิดระบบตั้งแต่เวลา 08.00-24.00 น. เมื่อพบเหรียญจะต้องกรอกรหัสบนเหรียญ ถ่ายคลิปและภาพนิ่งลงในติ๊กต็อกพร้อมแฮชแท็กที่กำหนด จะได้เงินรางวัลตั้งแต่ 500 บาท ถึง 200,000 บาท

    เมื่อมีการโปรโมตเกมผ่านติ๊กต็อก ทำให้วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน รวมทั้งคนที่ทำอาชีพอิสระ เช่น ไรเดอร์ ออกตามหาเหรียญโดยรวมตัวกันในสถานที่ซึ่งถูกบอกใบ้ว่ามีเหรียญซ่อนอยู่จำนวนมาก และบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคลสร้างความเดือดร้อนรำคาญ หรือบางคนรื้อสถานที่สาธารณะทั้งต้นไม้ใบหญ้า งัดฝาท่อ งัดอิฐตัวหนอน งัดเก้าอี้ ทรัพย์สินเสียหาย ที่น่าเป็นห่วงคือเยาวชนต่างโดดเรียนเพื่อตามหาเหรียญโดยไม่บอกผู้ปกครอง ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายต่อสังคม

    แอปพลิเคชัน Jagat พัฒนาโดยบริษัท JAGAT TECHNOLOGY PTE. LTD. จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ ใช้ที่อยู่ในอาคาร OUE Downtown ข้อมูลจาก RocketReach ระบุว่าประธานบริษัทคือ Barry Beagen อยู่ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และซีอีโอคือ Xing Loy อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ มีพนักงานจำนวน 19 คน จากการค้นหาเว็บไซต์ LinkedIn พบว่าพนักงานมีทั้งอยู่ในอินโดนีเซีย ประเทศจีน (เมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน) สิงคโปร์ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม แต่ไม่พบว่าจดทะเบียนหรือประกอบธุรกิจในประเทศไทย

    ที่น่าเป็นห่วงก็คือ จากการนำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 พบว่าไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง อาทิ การให้เสียเงินจำนวนมากเพื่อบอกคำใบ้ที่ซ่อนเหรียญ เริ่มต้นที่ 149 บาท ถ้าต้องการคำใบ้เพิ่ม ต้องซื้อเพิ่มตั้งแต่ 29 ถึง 300 บาท ซึ่งมีเยาวชนจำนวนมากเสียเงินเพื่อซื้อคำใบ้ ส่วนผู้สื่อข่าวพอพบเหรียญกลับถูกยกเลิกเพราะผู้ดูแลระบบรู้ว่าเป็นผู้สื่อข่าว การเพิ่มเพื่อนที่พบว่ามีข้อมูลส่วนบุคคลหลายอย่าง อีกฝ่ายสามารถติดตามได้ถ้าเสียเงินสมัครสมาชิก ทั้งการเคลื่อนย้าย พิกัดโลเกชัน การใช้โทรศัพท์ การชาร์จแบตเตอรี แม้กระทั่งการนอนหลับและการตื่นนอน ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับคนที่ประสงค์ร้ายต่อเด็ก

    ล่าสุดพบว่าการโอนเงินรางวัลผ่านทรูวอลเล็ตไม่ใช่บัญชีบริษัท แต่เป็นบุคคลสัญชาติไทย และมีผู้ได้รับเงินรางวัลรายหนึ่ง ไปให้การกับตำรวจไซเบอร์ตามหมายเรียก แล้วถูกผู้ดูแลระบบตัดออกจากเกม

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    เกมเก็บเหรียญ Jagat น่าสงสัยความเสี่ยงสูง Jagat ภาษาอินโดนีเซียแปลว่าจักรวาล ระบุตัวเองว่าเป็นแอปพลิเคชันค้นหาครอบครัวและเพื่อน แต่มีกิจกรรมที่ชื่อว่า Jagat Coin Hunt เปิดให้ทำภารกิจล่าเหรียญเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และเชียงราย โดยนำเหรียญที่จัดทำขึ้นไปซุกซ่อนตามสถานที่ต่างๆ แล้วให้คนที่เล่นเกมไปตามหาเหรียญบนแผนที่ เปิดระบบตั้งแต่เวลา 08.00-24.00 น. เมื่อพบเหรียญจะต้องกรอกรหัสบนเหรียญ ถ่ายคลิปและภาพนิ่งลงในติ๊กต็อกพร้อมแฮชแท็กที่กำหนด จะได้เงินรางวัลตั้งแต่ 500 บาท ถึง 200,000 บาท เมื่อมีการโปรโมตเกมผ่านติ๊กต็อก ทำให้วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน รวมทั้งคนที่ทำอาชีพอิสระ เช่น ไรเดอร์ ออกตามหาเหรียญโดยรวมตัวกันในสถานที่ซึ่งถูกบอกใบ้ว่ามีเหรียญซ่อนอยู่จำนวนมาก และบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคลสร้างความเดือดร้อนรำคาญ หรือบางคนรื้อสถานที่สาธารณะทั้งต้นไม้ใบหญ้า งัดฝาท่อ งัดอิฐตัวหนอน งัดเก้าอี้ ทรัพย์สินเสียหาย ที่น่าเป็นห่วงคือเยาวชนต่างโดดเรียนเพื่อตามหาเหรียญโดยไม่บอกผู้ปกครอง ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายต่อสังคม แอปพลิเคชัน Jagat พัฒนาโดยบริษัท JAGAT TECHNOLOGY PTE. LTD. จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ ใช้ที่อยู่ในอาคาร OUE Downtown ข้อมูลจาก RocketReach ระบุว่าประธานบริษัทคือ Barry Beagen อยู่ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และซีอีโอคือ Xing Loy อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ มีพนักงานจำนวน 19 คน จากการค้นหาเว็บไซต์ LinkedIn พบว่าพนักงานมีทั้งอยู่ในอินโดนีเซีย ประเทศจีน (เมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน) สิงคโปร์ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม แต่ไม่พบว่าจดทะเบียนหรือประกอบธุรกิจในประเทศไทย ที่น่าเป็นห่วงก็คือ จากการนำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 พบว่าไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง อาทิ การให้เสียเงินจำนวนมากเพื่อบอกคำใบ้ที่ซ่อนเหรียญ เริ่มต้นที่ 149 บาท ถ้าต้องการคำใบ้เพิ่ม ต้องซื้อเพิ่มตั้งแต่ 29 ถึง 300 บาท ซึ่งมีเยาวชนจำนวนมากเสียเงินเพื่อซื้อคำใบ้ ส่วนผู้สื่อข่าวพอพบเหรียญกลับถูกยกเลิกเพราะผู้ดูแลระบบรู้ว่าเป็นผู้สื่อข่าว การเพิ่มเพื่อนที่พบว่ามีข้อมูลส่วนบุคคลหลายอย่าง อีกฝ่ายสามารถติดตามได้ถ้าเสียเงินสมัครสมาชิก ทั้งการเคลื่อนย้าย พิกัดโลเกชัน การใช้โทรศัพท์ การชาร์จแบตเตอรี แม้กระทั่งการนอนหลับและการตื่นนอน ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับคนที่ประสงค์ร้ายต่อเด็ก ล่าสุดพบว่าการโอนเงินรางวัลผ่านทรูวอลเล็ตไม่ใช่บัญชีบริษัท แต่เป็นบุคคลสัญชาติไทย และมีผู้ได้รับเงินรางวัลรายหนึ่ง ไปให้การกับตำรวจไซเบอร์ตามหมายเรียก แล้วถูกผู้ดูแลระบบตัดออกจากเกม #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 359 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าเขาอาจกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ หากว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ปฏิเสธเจรจาข้อตกลงยุติสงครามกับยูเครน
    .
    "ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น" ทรัมป์ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว เมื่อถูกถามว่าสหรัฐฯจะใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมกับรัสเซียหรือไม่ หากว่าประธานาธิบดีรัสเซียไม่ยอมเข้าสู่โต๊ะเจรจา
    .
    ก่อนหน้าเข้าพิธีสาบานตนในวันจันทร์(20ม.ค.) ทรัมป์ เคยประกาศกร้าว่าจะยุติสงครามยูเครนในทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง เพิ่มความคาดหมายว่าเขาอาจจะใช้เงินช่วยเหลือเป็นตัวงัดข้อบีบบังคับให้เคียฟเป็นฝ่ายยอมทำตามรัสเซีย ซึ่งเปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
    .
    ในความเห็นที่ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ปูติน แบบที่ไม่พบเห็นบ่อยนัก ทรัมป์ระบุในวันจันทร์(20ม.ค.) ว่าประธานาธิบดีรัสเซีย ควรทำข้อตกลง "ผมคิดว่าเขากำลังทำลายรัสเซีย ด้วยการไม่ทำข้อตกลง"
    .
    ทรัมป์ เผยอีกว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน บอกกับเขาว่าต้องการข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงคราม
    .
    ทั้งนี้ระหว่างตอบคำถามผู้สื่อข่าวในวันอังคาร(21ม.ค.) ทรัมป์ ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมที่อาจกำหนดเล่นงานรัสเซีย ในขณะที่สหรัฐฯคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซียอย่างหนักไปก่อนหน้าแล้ว ลงโทษกรณีที่รุกรานยูเครน
    .
    ขณะเดียวกัน ทรัมป์ เผยว่ารัฐบาลของเขากำลังหาพิจารณาประเด็นเกี่ยวกับการส่งมอบอาวุธแก่ยูเครน พร้อมบอกว่าจากมุมมองของเขา พวกสหภาพยุโรปควรดำเนินการสนับสนุนยูเครนมากกว่าที่เป็นอยู่
    .
    "เรากำลังพูดคุยกับเซเลนสกี เรากำลังจะพูดคุยกับประธานาธิบดีปูตินเร็วๆนี้ "ทรัมป์กล่าว "เรากำลังพินิจพิจารณามัน"
    .
    นกอจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังเผยด้วยว่าเขาได้กดดันประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เรียกร้องให้เข้าแทรกแซงเพื่อยุติสงครามยูเครน "เขาไม่ทำอะไรเท่าไหร่ในเรื่องนี้ เขามีอำนาจมากมาย เช่นเดียวกับเราที่มีอำนาจมากมาย ผมบอกกับเขาไปว่า คุณควรจะหาทางออกให้เรื่องนี้ เราหารือกันในเรื่องดังกล่าว"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006643
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าเขาอาจกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ หากว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ปฏิเสธเจรจาข้อตกลงยุติสงครามกับยูเครน . "ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น" ทรัมป์ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว เมื่อถูกถามว่าสหรัฐฯจะใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมกับรัสเซียหรือไม่ หากว่าประธานาธิบดีรัสเซียไม่ยอมเข้าสู่โต๊ะเจรจา . ก่อนหน้าเข้าพิธีสาบานตนในวันจันทร์(20ม.ค.) ทรัมป์ เคยประกาศกร้าว่าจะยุติสงครามยูเครนในทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง เพิ่มความคาดหมายว่าเขาอาจจะใช้เงินช่วยเหลือเป็นตัวงัดข้อบีบบังคับให้เคียฟเป็นฝ่ายยอมทำตามรัสเซีย ซึ่งเปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 . ในความเห็นที่ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ปูติน แบบที่ไม่พบเห็นบ่อยนัก ทรัมป์ระบุในวันจันทร์(20ม.ค.) ว่าประธานาธิบดีรัสเซีย ควรทำข้อตกลง "ผมคิดว่าเขากำลังทำลายรัสเซีย ด้วยการไม่ทำข้อตกลง" . ทรัมป์ เผยอีกว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน บอกกับเขาว่าต้องการข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงคราม . ทั้งนี้ระหว่างตอบคำถามผู้สื่อข่าวในวันอังคาร(21ม.ค.) ทรัมป์ ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมที่อาจกำหนดเล่นงานรัสเซีย ในขณะที่สหรัฐฯคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซียอย่างหนักไปก่อนหน้าแล้ว ลงโทษกรณีที่รุกรานยูเครน . ขณะเดียวกัน ทรัมป์ เผยว่ารัฐบาลของเขากำลังหาพิจารณาประเด็นเกี่ยวกับการส่งมอบอาวุธแก่ยูเครน พร้อมบอกว่าจากมุมมองของเขา พวกสหภาพยุโรปควรดำเนินการสนับสนุนยูเครนมากกว่าที่เป็นอยู่ . "เรากำลังพูดคุยกับเซเลนสกี เรากำลังจะพูดคุยกับประธานาธิบดีปูตินเร็วๆนี้ "ทรัมป์กล่าว "เรากำลังพินิจพิจารณามัน" . นกอจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังเผยด้วยว่าเขาได้กดดันประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เรียกร้องให้เข้าแทรกแซงเพื่อยุติสงครามยูเครน "เขาไม่ทำอะไรเท่าไหร่ในเรื่องนี้ เขามีอำนาจมากมาย เช่นเดียวกับเราที่มีอำนาจมากมาย ผมบอกกับเขาไปว่า คุณควรจะหาทางออกให้เรื่องนี้ เราหารือกันในเรื่องดังกล่าว" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006643 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    Yay
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1265 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตัวเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยสองอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (20 ม.ค.) โดยกล่าวปราศรัยประกาศว่า “ยุคทอง” ของอเมริกาเริ่มต้นขึ้นแล้ว จากนั้นก็ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่มีเนื้อหาสร้างความแตกแยกจำนวนหลายสิบฉบับ ซึ่งมีทั้งการให้อภัยโทษพวกผู้สนับสนุนเขาที่ใช้ความรุนแรงบุกโจมตีอาคารรัฐสภา ไปจนถึงการออกมาตรการคุมเข้มผู้อพยพ และการยุตินโยบายรับมือปัญหาโลกร้อน และถึงแม้ยังไม่มีการขึ้นภาษีศุลกากรใดๆ ในวันแรกของการครองตำแหน่งคราวนี้ แต่เขาก็ขู่รีดภาษีแคนาดาและเม็กซิโก 25% ตั้งแต่ 1 ก.พ.ขณะที่แสดงท่าทีแปลกกรณีสงครามยูเครน โดยหันมาวิพากษ์วลาดิมีร์ ปูติน ว่ากำลังทำลายรัสเซียจากการไม่ยอมทำข้อตกลงยุติศึก
    .
    ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวปราศรัยหลังทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งต้องจัดขึ้นภายในอาคารรัฐสภา เนื่องจากอากาศข้างนอกหนาวจัด โดยบอกว่า การตกต่ำของอเมริกายุติลงแล้ว ซึ่งหมายถึงช่วงเวลา 4 ปีภายใต้คณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครต และประกาศการเริ่มต้นยุคทองของอเมริกาซึ่งจะมีความมั่งคั่งรุ่งเรืองและเป็นที่เคารพของทั่วโลกอีกครั้ง
    .
    จากนั้น ทรัมป์ซึ่งอยู่ในวัย 78 ปี จึงสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดขณะสาบานตนรับตำแหน่ง ได้เดินทางไปยังที่ชุมนุมของพวกผู้สนับสนุนเขา ณ สนามกีฬาในร่มแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน ซึ่งเขาได้กล่าวปราศรัยในสไตล์หาเสียง ก่อนโยนปากกาที่ใช้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารหลายฉบับในรอบแรกไปแล้วหมาดๆ ให้ฝูงชนที่อัดแน่นคอยต้อนรับเขา
    .
    ถัดมา ทรัมป์จึงได้เดินทางกลับไปยังทำเนียบในแบบผู้พิชิต 4 ปีหลังจากที่เขาต้องจากไปด้วยความเสื่อมเสียเกียรติ เป็นการเสร็จสิ้นครบถ้วนการหวนกลับคืนมาได้อย่างโดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของสหรัฐฯ
    .
    ณ ห้องทำงานรูปไข่ ของทำเนียบขาว ทรัมป์จัดให้มีการแถลงข่าวเป็นเวลาราว 50 นาทีโดยไม่มีการเตรียมการล่วงหน้า พร้อมกับลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพิ่ม ซึ่งรวมถึงการอภัยโทษผู้ก่อจลาจลราว 1,500 คนที่บุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2021 เพื่อพยายามขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดน
    .
    ทรัมป์ยังลงนามคำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณชายแดนติดกับเม็กซิโก และระบุว่า จะส่งทหารไปจัดการการลักลอบเข้าเมือง ซึ่งเป็นประเด็นหาเสียงสำคัญที่ทำให้เขาชนะอดีตรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต
    .
    ทรัมป์ยังไฟเขียวให้ขยายการขุดเจาะน้ำมัน รวมทั้งยกเลิกกฎระเบียบที่ต้องการโน้มน้าวให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า
    .
    นอกจากนั้น เขาประกาศนำสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก และข้อตกลงปารีสที่นานาประเทศรวมทั้งอเมริกาให้สัญญาระบุเป้าหมายของตนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
    .
    ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันผู้นี้แสดงการเชิดชูลัทธิชาตินิยม ด้วยการประกาศเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา และขู่ยึดคลองปานานาคืนหลังจากยกสิทธิการควบคุมให้ปานามาตั้งแต่ปี 1999 โดยอ้างว่า จีนเป็นผู้ควบคุมคลองปานามาตัวจริง ทั้งที่ในความเป็นจริงคือ บริษัทที่จดทะเบียนในฮ่องกงซึ่งชนะการประมูล ได้สิทธิเข้าบริหารดำเนินงานคลองสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้
    .
    ทรัมป์ยังประกาศว่าไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเข้ายึดเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์กที่เป็นสมาชิกนาโตเช่นเดียวกับอเมริกา ขณะที่รัสเซียเข้าไปดำเนินการในบริเวณดังกล่าวมากขึ้นหลังจากน้ำแข็งละลายอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    .
    อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ลดความขึงขังเรื่องยูเครนจากที่เคยสัญญาว่า จะผลักดันข้อตกลงสันติภาพให้ลุล่วงก่อนเข้ารับตำแหน่ง และเปลี่ยนท่าทีจากที่เคยชื่นชมก็มาวิจารณ์ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียว่า กำลังทำลายรัสเซียด้วยการไม่ยอมทำข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน โดยเขาอ้างอิงสถานะเศรษฐกิจและการสูญเสียในสนามรบของรัสเซีย แต่ยังคงยืนยันว่า จะพบปะหารือกับปูตินโดยเร็ว
    .
    ขณะเดียวกัน เมื่อผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวถามว่า จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากทุกประเทศอย่างที่ประกาศเอาไว้หรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า อาจจะ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ และเมื่อถามถึงการขึ้นภาษีศุลกากรจากสินค้าของแคนาดาและเม็กซิโก ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ตอบว่า เล็งเรียกเก็บภาษีราว 25% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. เนื่องจากสองประเทศนี้ปล่อยให้มีผู้อพยพผิดกฎหมายจำนวนมากแอบเดินทางเข้าสหรัฐฯ รวมทั้งปล่อยให้มีการการขนส่งยาเสพติดเฟนทานิล เข้าสู่อเมริกา
    .
    ทั้งนี้ ตามรายละเอียดในบันทึกช่วยจำของประธานาธิบดีนั้น ทรัมป์สั่งให้กระทรวงการคลังและพาณิชย์ รวมถึงสำนักงานการค้าสหรัฐฯ ตรวจสอบความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติจากการขาดดุลการค้าจำนวนมหาศาล พร้อมเสนอแนะมาตรการที่เหมาะสม เช่น การเรียกเก็บภาษีศุลกากรทั่วโลกหรือนโยบายอื่นๆ เพื่อแก้ไขการขาดดุลการค้า
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006612
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตัวเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยสองอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (20 ม.ค.) โดยกล่าวปราศรัยประกาศว่า “ยุคทอง” ของอเมริกาเริ่มต้นขึ้นแล้ว จากนั้นก็ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่มีเนื้อหาสร้างความแตกแยกจำนวนหลายสิบฉบับ ซึ่งมีทั้งการให้อภัยโทษพวกผู้สนับสนุนเขาที่ใช้ความรุนแรงบุกโจมตีอาคารรัฐสภา ไปจนถึงการออกมาตรการคุมเข้มผู้อพยพ และการยุตินโยบายรับมือปัญหาโลกร้อน และถึงแม้ยังไม่มีการขึ้นภาษีศุลกากรใดๆ ในวันแรกของการครองตำแหน่งคราวนี้ แต่เขาก็ขู่รีดภาษีแคนาดาและเม็กซิโก 25% ตั้งแต่ 1 ก.พ.ขณะที่แสดงท่าทีแปลกกรณีสงครามยูเครน โดยหันมาวิพากษ์วลาดิมีร์ ปูติน ว่ากำลังทำลายรัสเซียจากการไม่ยอมทำข้อตกลงยุติศึก . ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวปราศรัยหลังทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งต้องจัดขึ้นภายในอาคารรัฐสภา เนื่องจากอากาศข้างนอกหนาวจัด โดยบอกว่า การตกต่ำของอเมริกายุติลงแล้ว ซึ่งหมายถึงช่วงเวลา 4 ปีภายใต้คณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครต และประกาศการเริ่มต้นยุคทองของอเมริกาซึ่งจะมีความมั่งคั่งรุ่งเรืองและเป็นที่เคารพของทั่วโลกอีกครั้ง . จากนั้น ทรัมป์ซึ่งอยู่ในวัย 78 ปี จึงสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดขณะสาบานตนรับตำแหน่ง ได้เดินทางไปยังที่ชุมนุมของพวกผู้สนับสนุนเขา ณ สนามกีฬาในร่มแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน ซึ่งเขาได้กล่าวปราศรัยในสไตล์หาเสียง ก่อนโยนปากกาที่ใช้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารหลายฉบับในรอบแรกไปแล้วหมาดๆ ให้ฝูงชนที่อัดแน่นคอยต้อนรับเขา . ถัดมา ทรัมป์จึงได้เดินทางกลับไปยังทำเนียบในแบบผู้พิชิต 4 ปีหลังจากที่เขาต้องจากไปด้วยความเสื่อมเสียเกียรติ เป็นการเสร็จสิ้นครบถ้วนการหวนกลับคืนมาได้อย่างโดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของสหรัฐฯ . ณ ห้องทำงานรูปไข่ ของทำเนียบขาว ทรัมป์จัดให้มีการแถลงข่าวเป็นเวลาราว 50 นาทีโดยไม่มีการเตรียมการล่วงหน้า พร้อมกับลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพิ่ม ซึ่งรวมถึงการอภัยโทษผู้ก่อจลาจลราว 1,500 คนที่บุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2021 เพื่อพยายามขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดน . ทรัมป์ยังลงนามคำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณชายแดนติดกับเม็กซิโก และระบุว่า จะส่งทหารไปจัดการการลักลอบเข้าเมือง ซึ่งเป็นประเด็นหาเสียงสำคัญที่ทำให้เขาชนะอดีตรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต . ทรัมป์ยังไฟเขียวให้ขยายการขุดเจาะน้ำมัน รวมทั้งยกเลิกกฎระเบียบที่ต้องการโน้มน้าวให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า . นอกจากนั้น เขาประกาศนำสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก และข้อตกลงปารีสที่นานาประเทศรวมทั้งอเมริกาให้สัญญาระบุเป้าหมายของตนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ . ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันผู้นี้แสดงการเชิดชูลัทธิชาตินิยม ด้วยการประกาศเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา และขู่ยึดคลองปานานาคืนหลังจากยกสิทธิการควบคุมให้ปานามาตั้งแต่ปี 1999 โดยอ้างว่า จีนเป็นผู้ควบคุมคลองปานามาตัวจริง ทั้งที่ในความเป็นจริงคือ บริษัทที่จดทะเบียนในฮ่องกงซึ่งชนะการประมูล ได้สิทธิเข้าบริหารดำเนินงานคลองสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้ . ทรัมป์ยังประกาศว่าไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเข้ายึดเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์กที่เป็นสมาชิกนาโตเช่นเดียวกับอเมริกา ขณะที่รัสเซียเข้าไปดำเนินการในบริเวณดังกล่าวมากขึ้นหลังจากน้ำแข็งละลายอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ . อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ลดความขึงขังเรื่องยูเครนจากที่เคยสัญญาว่า จะผลักดันข้อตกลงสันติภาพให้ลุล่วงก่อนเข้ารับตำแหน่ง และเปลี่ยนท่าทีจากที่เคยชื่นชมก็มาวิจารณ์ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียว่า กำลังทำลายรัสเซียด้วยการไม่ยอมทำข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน โดยเขาอ้างอิงสถานะเศรษฐกิจและการสูญเสียในสนามรบของรัสเซีย แต่ยังคงยืนยันว่า จะพบปะหารือกับปูตินโดยเร็ว . ขณะเดียวกัน เมื่อผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวถามว่า จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากทุกประเทศอย่างที่ประกาศเอาไว้หรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า อาจจะ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ และเมื่อถามถึงการขึ้นภาษีศุลกากรจากสินค้าของแคนาดาและเม็กซิโก ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ตอบว่า เล็งเรียกเก็บภาษีราว 25% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. เนื่องจากสองประเทศนี้ปล่อยให้มีผู้อพยพผิดกฎหมายจำนวนมากแอบเดินทางเข้าสหรัฐฯ รวมทั้งปล่อยให้มีการการขนส่งยาเสพติดเฟนทานิล เข้าสู่อเมริกา . ทั้งนี้ ตามรายละเอียดในบันทึกช่วยจำของประธานาธิบดีนั้น ทรัมป์สั่งให้กระทรวงการคลังและพาณิชย์ รวมถึงสำนักงานการค้าสหรัฐฯ ตรวจสอบความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติจากการขาดดุลการค้าจำนวนมหาศาล พร้อมเสนอแนะมาตรการที่เหมาะสม เช่น การเรียกเก็บภาษีศุลกากรทั่วโลกหรือนโยบายอื่นๆ เพื่อแก้ไขการขาดดุลการค้า . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006612 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1354 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงนามยกเลิกคำสั่งไบเดนแล้ว 78 ฉบับ เผยเริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าแคนาดา-เม็กซิโก 1 กุมภาพันธ์นี้

    บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานความเคลื่อนไหววันแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) หลังเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม 2025 ว่า ทรัมป์ยังดำเนินแผนการอันทะเยอทะยานของเขาต่อไป โดยลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมาก

    บลูมเบิร์กระบุว่า ณ เวลาประมาณ 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐ (ช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง) โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งในนั้นเป็นการเพิกถอนคำสั่งหรือแผนริเริ่มต่าง ๆ ในยุคของประธานาธิบดี โจ ไบเดน (Joe Biden) ถึง 78 ฉบับ ต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากที่สนามกีฬาแคปิตอลวัน (Capital One Arena)

    บรรดาคำสั่งที่ทรัมป์ยกเลิกคำสั่งของไบเดนนั้น รวมถึงการถอนตัวจากความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Paris Agreement), คำสั่งให้ทุกกระทรวงจัดการกับภาวะเงินเฟ้อ, การดำเนินการเรียกพนักงานของรัฐบาลกลางกลับเข้าทำงาน และคำสั่งคืนเสรีภาพในการพูดและป้องกันไม่ให้รัฐบาลเซ็นเซอร์เสรีภาพในการพูดในอนาคต

    ต่อจากนั้นทรัมป์ย้ายไปที่ห้องทำงานรูปไข่ (The Oval Office) ในทำเนียบขาว แล้วลงนามคำสั่งต่อไป ซึ่งคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับแรกที่ทรัมป์ลงนามในห้องทำงานรูปไข่ คือการอภัยโทษให้กับผู้คนจำนวน 1,500 คน ที่ได้รับโทษจากการปิดล้อมอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021

    จากนั้นในเวลาประมาณ 19.50 น. บลูมเบิร์กรายงานว่า ทรัมป์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามถึงเรื่องภาษีศุลกากรว่า “เราคิดอัตราภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาจะอยู่ที่ 25% ผมคิดว่าเราจะดำเนินการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์”

    ในเวลาเดียวกัน ทรัมป์กล่าวถึงจีนว่า จะประชุมและโทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ของจีน

    นอกจากนั้น ทรัมป์กล่าวว่าประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ต้องใช้จ่ายงบประมาณ 5% ของจีดีพี สำหรับการป้องกันประเทศ

    ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ทำเนียบขาว (The White House) หรือสำนักงานประธานาธิบดีสหหรัฐ พบว่า ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมากที่จะส่งผลกระทบต่อต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น

    -ถอนสหรัฐออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ยุติรายจ่ายที่เป็นภาระและไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐอเมริกา ยกเลิกการเจรจาข้อตกลงว่าด้วยโรคระบาด (Pandemic Agreement) และการแปรญัตติกฎอนามัยระหว่างประเทศ (International Health Regulations)

    -ประกาศใช้นโยบายการค้าที่ให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรก (America First Trade Policy) หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องกำหนดนโยบายการค้าที่ส่งเสริมการลงทุนในประเทศ แก้ไขการค้าที่ไม่เป็นธรรมและไม่สมดุล โดยใช้มาตรการที่เหมาะสม อย่างเช่น ภาษีศุลกากร

    -ปรับโครงสร้างโครงการรับผู้ลี้ภัยของสหรัฐ (USRAP) ใหม่ และระงับการรับผู้ลี้ภัยผ่าน USRAP จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าการเข้าสู่สหรัฐอเมริกาของผู้ลี้ภัยจะสอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐ

    -ยกเลิกการให้สถานะพลเมืองอเมริกันโดยกำเนิด เด็กที่เกิดในสหรัฐอเมริกาแต่เกิดจากพ่อและแม่ที่ไม่ใช่พลเมืองอเมริกัน จะไม่ได้สถานะพลเมืองโดยกำเนิดอีกต่อไป

    -เพิ่มการรักษาความปลอดภัยชายแดน โดยสร้างกำแพงและสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่มีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่และการใช้เทคโนโลยี เพื่อขัดขวางและป้องกันการเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย และดำเนินการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยมีกระบวนการคุมขังระหว่างรอส่งตัวออกจากประเทศ

    -ลดการให้ความช่วยเหลือต่างประเทศ โดยจะหยุดให้ความช่วยเหลือต่างประเทศที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีสหรัฐ 90 วันเพื่อประเมินประสิทธิภาพโครงการและความสอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐว่าควรได้รับการช่วยเหลือต่อไปหรือไม่

    ​ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
    โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงนามยกเลิกคำสั่งไบเดนแล้ว 78 ฉบับ เผยเริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าแคนาดา-เม็กซิโก 1 กุมภาพันธ์นี้ บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานความเคลื่อนไหววันแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) หลังเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม 2025 ว่า ทรัมป์ยังดำเนินแผนการอันทะเยอทะยานของเขาต่อไป โดยลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมาก บลูมเบิร์กระบุว่า ณ เวลาประมาณ 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐ (ช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง) โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งในนั้นเป็นการเพิกถอนคำสั่งหรือแผนริเริ่มต่าง ๆ ในยุคของประธานาธิบดี โจ ไบเดน (Joe Biden) ถึง 78 ฉบับ ต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากที่สนามกีฬาแคปิตอลวัน (Capital One Arena) บรรดาคำสั่งที่ทรัมป์ยกเลิกคำสั่งของไบเดนนั้น รวมถึงการถอนตัวจากความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Paris Agreement), คำสั่งให้ทุกกระทรวงจัดการกับภาวะเงินเฟ้อ, การดำเนินการเรียกพนักงานของรัฐบาลกลางกลับเข้าทำงาน และคำสั่งคืนเสรีภาพในการพูดและป้องกันไม่ให้รัฐบาลเซ็นเซอร์เสรีภาพในการพูดในอนาคต ต่อจากนั้นทรัมป์ย้ายไปที่ห้องทำงานรูปไข่ (The Oval Office) ในทำเนียบขาว แล้วลงนามคำสั่งต่อไป ซึ่งคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับแรกที่ทรัมป์ลงนามในห้องทำงานรูปไข่ คือการอภัยโทษให้กับผู้คนจำนวน 1,500 คน ที่ได้รับโทษจากการปิดล้อมอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 จากนั้นในเวลาประมาณ 19.50 น. บลูมเบิร์กรายงานว่า ทรัมป์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามถึงเรื่องภาษีศุลกากรว่า “เราคิดอัตราภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาจะอยู่ที่ 25% ผมคิดว่าเราจะดำเนินการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์” ในเวลาเดียวกัน ทรัมป์กล่าวถึงจีนว่า จะประชุมและโทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ของจีน นอกจากนั้น ทรัมป์กล่าวว่าประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ต้องใช้จ่ายงบประมาณ 5% ของจีดีพี สำหรับการป้องกันประเทศ ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ทำเนียบขาว (The White House) หรือสำนักงานประธานาธิบดีสหหรัฐ พบว่า ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมากที่จะส่งผลกระทบต่อต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น -ถอนสหรัฐออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ยุติรายจ่ายที่เป็นภาระและไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐอเมริกา ยกเลิกการเจรจาข้อตกลงว่าด้วยโรคระบาด (Pandemic Agreement) และการแปรญัตติกฎอนามัยระหว่างประเทศ (International Health Regulations) -ประกาศใช้นโยบายการค้าที่ให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรก (America First Trade Policy) หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องกำหนดนโยบายการค้าที่ส่งเสริมการลงทุนในประเทศ แก้ไขการค้าที่ไม่เป็นธรรมและไม่สมดุล โดยใช้มาตรการที่เหมาะสม อย่างเช่น ภาษีศุลกากร -ปรับโครงสร้างโครงการรับผู้ลี้ภัยของสหรัฐ (USRAP) ใหม่ และระงับการรับผู้ลี้ภัยผ่าน USRAP จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าการเข้าสู่สหรัฐอเมริกาของผู้ลี้ภัยจะสอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐ -ยกเลิกการให้สถานะพลเมืองอเมริกันโดยกำเนิด เด็กที่เกิดในสหรัฐอเมริกาแต่เกิดจากพ่อและแม่ที่ไม่ใช่พลเมืองอเมริกัน จะไม่ได้สถานะพลเมืองโดยกำเนิดอีกต่อไป -เพิ่มการรักษาความปลอดภัยชายแดน โดยสร้างกำแพงและสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่มีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่และการใช้เทคโนโลยี เพื่อขัดขวางและป้องกันการเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย และดำเนินการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยมีกระบวนการคุมขังระหว่างรอส่งตัวออกจากประเทศ -ลดการให้ความช่วยเหลือต่างประเทศ โดยจะหยุดให้ความช่วยเหลือต่างประเทศที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีสหรัฐ 90 วันเพื่อประเมินประสิทธิภาพโครงการและความสอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐว่าควรได้รับการช่วยเหลือต่อไปหรือไม่ ​ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • นครพนม ​- หวย 12 ล้านบาทที่นครพนมเริ่มอลเวง "ผู้กองเข้ม" แจ้งจับ "ยายแหล่" ฐานยักยอกทรัพย์ ยันไม่ได้แบ่งล็อตเตอรี่ 1 ใบให้เพื่อจ่ายหนี้ค่าลาบ 120 บาท แค่ฝากไว้และตกลงกันถ้าถูกจะแบ่งคนละครึ่ง 3 ล้าน พอหวยออกตามทวงถามกลับหนีหาย ล่าสุดทราบว่าขึ้นเงินแล้วไปอิตาลี ส่วนผู้กองก็โดนทวงหนี้เหมือนกัน

    จากกรณีนางบุญล้อม มิควาฬ อายุ 68 ปี หรือ ยายแหล่ เจ้าของร้านลาบก้อยยายใน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ถูกลอตเตอรี่ หมายเลข 807777 งวดวันที่ 17 ม.ค.68 ได้เงินรางวัล 6 ล้านบาท อ้างว่าลอตเตอรี่ใบนี้ ผู้กองเข้มนำมาใช้หนี้ติดค่าลาบก้อย 120 บาท โดยนำมาขึ้นเงินรางวัลที่ร้านทองแห่งหนึ่ง อ.ธาตุพนม ขณะที่ผู้กองเข้ม ก็ได้นำสลากที่ถูกรางวัลมาขึ้นเงินที่ร้านทองเดียวกัน

    ความคืบหน้า วันนี้( 21 ม.ค.) ร.ต.อ.ฐิติพัฒน์ พัฒนภูมิเศรษฐ์ อายุ 65 ปี หรือ ผู้กองเข้ม อดีตตำรวจ ตชด.235 นำหวยที่ซื้อ 7 ใบในจำนวน 9 ใบที่สลักหลังชื่อเข้มมาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมเปิดเผยว่า ตนได้ไปซื้อลอตเตอรี่กับแม่ค้าเร่ ขี่จักรยานมาขายให้ที่บ้านหนองหอย ซื้อทั้งหมด 9 ใบเป็นเลขชุด 2 ใบเลขเดี่ยว 1 ใบ เป็นเงิน 900 บาท ในจำนวนนี้มีถูกรางวัลที่ 1 รวม 2 ใบมูลค่า 12 ล้านบาท ตรวจดูวันประกาศผลรางวัลในแอปพิเคชั่นทางโทรศัพท์ช่วง 5 โมงเย็นจึงรู้ว่าถูกได้โชคก้อนใหญ่ จึงรีบนำลอตเตอรี่ที่ถูก 1 ใบมาแจ้งความไว้ที่ สภ.ธาตุพนม เพื่อเป็นหลักฐาน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000006469

    #MGROnline #นครพนม ​#หวย #12ล้านบาท #นครพนม #ผู้กองเข้ม #ยายแหล่ #ค่าลาบ
    นครพนม ​- หวย 12 ล้านบาทที่นครพนมเริ่มอลเวง "ผู้กองเข้ม" แจ้งจับ "ยายแหล่" ฐานยักยอกทรัพย์ ยันไม่ได้แบ่งล็อตเตอรี่ 1 ใบให้เพื่อจ่ายหนี้ค่าลาบ 120 บาท แค่ฝากไว้และตกลงกันถ้าถูกจะแบ่งคนละครึ่ง 3 ล้าน พอหวยออกตามทวงถามกลับหนีหาย ล่าสุดทราบว่าขึ้นเงินแล้วไปอิตาลี ส่วนผู้กองก็โดนทวงหนี้เหมือนกัน • จากกรณีนางบุญล้อม มิควาฬ อายุ 68 ปี หรือ ยายแหล่ เจ้าของร้านลาบก้อยยายใน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ถูกลอตเตอรี่ หมายเลข 807777 งวดวันที่ 17 ม.ค.68 ได้เงินรางวัล 6 ล้านบาท อ้างว่าลอตเตอรี่ใบนี้ ผู้กองเข้มนำมาใช้หนี้ติดค่าลาบก้อย 120 บาท โดยนำมาขึ้นเงินรางวัลที่ร้านทองแห่งหนึ่ง อ.ธาตุพนม ขณะที่ผู้กองเข้ม ก็ได้นำสลากที่ถูกรางวัลมาขึ้นเงินที่ร้านทองเดียวกัน • ความคืบหน้า วันนี้( 21 ม.ค.) ร.ต.อ.ฐิติพัฒน์ พัฒนภูมิเศรษฐ์ อายุ 65 ปี หรือ ผู้กองเข้ม อดีตตำรวจ ตชด.235 นำหวยที่ซื้อ 7 ใบในจำนวน 9 ใบที่สลักหลังชื่อเข้มมาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมเปิดเผยว่า ตนได้ไปซื้อลอตเตอรี่กับแม่ค้าเร่ ขี่จักรยานมาขายให้ที่บ้านหนองหอย ซื้อทั้งหมด 9 ใบเป็นเลขชุด 2 ใบเลขเดี่ยว 1 ใบ เป็นเงิน 900 บาท ในจำนวนนี้มีถูกรางวัลที่ 1 รวม 2 ใบมูลค่า 12 ล้านบาท ตรวจดูวันประกาศผลรางวัลในแอปพิเคชั่นทางโทรศัพท์ช่วง 5 โมงเย็นจึงรู้ว่าถูกได้โชคก้อนใหญ่ จึงรีบนำลอตเตอรี่ที่ถูก 1 ใบมาแจ้งความไว้ที่ สภ.ธาตุพนม เพื่อเป็นหลักฐาน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000006469 • #MGROnline #นครพนม ​#หวย #12ล้านบาท #นครพนม #ผู้กองเข้ม #ยายแหล่ #ค่าลาบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • "คุณแม๊" พลิกแล้ว ยอมให้รื้อคดี
    ยัน "แตงโม"ถูกฆาตกรรม
    ลั่น "มาฆ่าลูกชั้นทำไม?"
    .
    วันนี้ (17 ม.ค.) รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ หลังไมค์ ทางช่อง 3 ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของ “แตงโม” นิดา พัชรวีระพงศ์ เกี่ยวกับการจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของ "แตงโม" เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) โดยทีมงานของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม, นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์, อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และทีมงานรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ โดยนางภนิดาระบุว่า ตนยินดีให้รื้อคดีแตงโม หากมีพยานหลักฐานใหม่ ระบุจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่สูญเปล่า และเชื่อว่าสามารถช่วยในการคลี่คลายคดีได้
    .
    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเห็นแย้งกับการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่? นายภนิดาระบุว่า เห็นด้วย และเป็นสิ่งที่ดี
    "ไม่เลยค่ะ เห็นดี เห็นดี สิ่งที่ดีทำไปเถอะลูก น้องโมก็มาช่วยด้วยล่ะ ช่วยบอก 1-2-3 (หัวเราะ) ... มันก็ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลนะ ทำไปเถอะ ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ว่ามันจะแสวงหาอะไรได้หรือไม่เนี่ย มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง สมมติว่าเจอหลักฐานใหม่ที่เขาว่า ต้องเป็นหลักฐานที่ใหม่เอี่ยมเลยที่ไม่ซ้ำเก่า"
    .
    นางภนิดายังระบุด้วยว่า ตนเชื่อว่าแตงโมถูกฆาตกรรมบนเรือ โดยตนเก็บข้อมูลมาตลอด บางเรื่องยังไม่ได้เปิดเผย ซึ่งอยู่ที่ตนเก็บไว้หมด โดยจะเอาหลักฐานไปให้นายอัจฉริยะ ทั้งนี้่ตนยอมรับว่านายอัจฉริยะเก่ง จริง ๆ เป็นเรื่องเก่าเล่าใหม่ แต่เมื่อ 3 ปี ที่ผ่านมาไม่มีคนสืบแบบนี้ ตำรวจก็ไม่ได้สืบเหมือนทีม อาจารย์ปานเทพ และนายอัจฉริยะ ที่เอาจริงเอาจัง
    .
    นางภนิดา กล่าวกับทีมข่าวช่อง 3 ด้วยว่า ตอนนี้ทีมนายอัจฉริยะ เดินหน้าเรื่องฆาตกรรม ประชาชนก็มองออกว่าแตงโมเสียชีวิตเพราะอะไร แต่ยังต้องสืบว่าแตงโม เสียชีวิตแบบไหน ใครทำ เสียชีวิตด้วยวิธีใด ต้องเอาคนบนเรือทั้งหมดมาสอบใหม่เพราะทำร้ายแตงโมทุกคน มีบาดแผลกันทุกคน อย่าง ’แซน วิศาพัช’ ก็โดนนายอัจฉริยะ เปิดเผยอึกอักมาหลายวัน
    .
    ส่วนกรณีที่ "ปอ" ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ และ "แซน" นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ และเป็นจำเลยในคดีการเสียชีวิตของ "แตงโม" ออกมาตั้งโต๊ะแถลงตอบโต้ว่าการจำลองเหตุการณ์นั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง มารดาของแตงโม ตอบว่า ตนไม่รู้ว่า "ปอ" กับ "แซน" จะพูดเรื่องนี้ทำไม เพราะมันตลกสิ้นดี
    .
    "(หัวเราะ) เขาจะพูดคำพวกนี้ทำไม มันตลกสิ้นดี เขาจะพูดทำไมว่ามันไม่ตรง มันจะตรงหรือไม่ตรง ไม่สนใจหรอกนะ เอาเป็นว่า คุณฆ่าแตงโมทำไมดีกว่า? ไอ้กระโดดเรือข้างซ้ายข้างขวา มันไม่ใช่ประเด็นการตายของน้องโม
    .
    "คือมันทำร้ายกันจริงๆ อันนี้เรื่องจริงลูก ต้องเชื่อคุณแม่เลยว่า เรื่องจริงมันเป็นเช่นนี้ และมันรุนแรงมาก คุณแม่มีสติพูดได้ขนาดนี้ ไม่อยากมีสติหรอก จริงๆ มันต้องพูดอ่ะเนอะ" นางภนิดากล่าว
    .
    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคุณแม่เชื่อว่าเหตุการณ์เสียชีวิตของแตงโมเป็นการฆาตกรรมหรือไม่? นางภนิดาตอบว่า แน่นอน
    "อ๊ะ! ก็ฆ่าลูกเราในเรือ ฆาตกรรมไหมล่ะ? ก็ฆ่าลูกเรา เขาเรียกว่าอะไรล่ะ ฆาตกรรม คำว่าอำพรางมันหมายความว่ายังไง? แกล้งฆ่าเหรอ หรือ แอบๆ ฆ่า มันไม่ต้องใช้คำว่าอำพรางแล้ว ตอนนั้น วันนั้นมันไม่มีหลักฐานจริง ๆ แต่วันนี้มีแล้ว วันนี้มีเยอะด้วย"
    .
    เมื่อถามว่ามีคำพูดอะไรอยากฝากถึง ปอ แซน และโรเบิร์ต (นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์) บ้างหรือไม่ นางภนิดาตอบว่า ไม่พูดได้ไหม เพราะตอนนี้คนเหล่านี้ก็น่าจะหนาวแย่แล้ว ตนไม่ชอบทับถมใคร ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกาลเวลา เพราะคนพวกนี้รู้อยู่แล้วว่าจะต้องโดนอะไร
    .
    ส่วนกรณีที่ แซน วิศาพัช ออกมาตอบโต้คนโน้นคนนี้ผ่านสื่อนั้น นางภนิดาระบุว่า "ใช่ ต้องเรียกว่าปากแซ๋บ ปากแจ๋ว โอ้โห! เถียงไม่หยุดเลย ผิดกับแซนเมื่อก่อน แซนเมื่อปีที่แล้วเงียบ ๆ แต่แซนเวลานี้พูดเยอะมาก"
    .
    คลิกชม >> "แม่ภนิดา" ยินดีรื้อคดี "แตงโม" ถ้ามีหลักฐานใหม่ ไม่สน "แซน-ปอ" โต้แย้ง ลั่น "ฆ่าลูกฉันทำไม" https://www.youtube.com/watch?v=_BOMPCebicE
    "คุณแม๊" พลิกแล้ว ยอมให้รื้อคดี ยัน "แตงโม"ถูกฆาตกรรม ลั่น "มาฆ่าลูกชั้นทำไม?" . วันนี้ (17 ม.ค.) รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ หลังไมค์ ทางช่อง 3 ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของ “แตงโม” นิดา พัชรวีระพงศ์ เกี่ยวกับการจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของ "แตงโม" เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) โดยทีมงานของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม, นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์, อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และทีมงานรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ โดยนางภนิดาระบุว่า ตนยินดีให้รื้อคดีแตงโม หากมีพยานหลักฐานใหม่ ระบุจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่สูญเปล่า และเชื่อว่าสามารถช่วยในการคลี่คลายคดีได้ . เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเห็นแย้งกับการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่? นายภนิดาระบุว่า เห็นด้วย และเป็นสิ่งที่ดี "ไม่เลยค่ะ เห็นดี เห็นดี สิ่งที่ดีทำไปเถอะลูก น้องโมก็มาช่วยด้วยล่ะ ช่วยบอก 1-2-3 (หัวเราะ) ... มันก็ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลนะ ทำไปเถอะ ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ว่ามันจะแสวงหาอะไรได้หรือไม่เนี่ย มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง สมมติว่าเจอหลักฐานใหม่ที่เขาว่า ต้องเป็นหลักฐานที่ใหม่เอี่ยมเลยที่ไม่ซ้ำเก่า" . นางภนิดายังระบุด้วยว่า ตนเชื่อว่าแตงโมถูกฆาตกรรมบนเรือ โดยตนเก็บข้อมูลมาตลอด บางเรื่องยังไม่ได้เปิดเผย ซึ่งอยู่ที่ตนเก็บไว้หมด โดยจะเอาหลักฐานไปให้นายอัจฉริยะ ทั้งนี้่ตนยอมรับว่านายอัจฉริยะเก่ง จริง ๆ เป็นเรื่องเก่าเล่าใหม่ แต่เมื่อ 3 ปี ที่ผ่านมาไม่มีคนสืบแบบนี้ ตำรวจก็ไม่ได้สืบเหมือนทีม อาจารย์ปานเทพ และนายอัจฉริยะ ที่เอาจริงเอาจัง . นางภนิดา กล่าวกับทีมข่าวช่อง 3 ด้วยว่า ตอนนี้ทีมนายอัจฉริยะ เดินหน้าเรื่องฆาตกรรม ประชาชนก็มองออกว่าแตงโมเสียชีวิตเพราะอะไร แต่ยังต้องสืบว่าแตงโม เสียชีวิตแบบไหน ใครทำ เสียชีวิตด้วยวิธีใด ต้องเอาคนบนเรือทั้งหมดมาสอบใหม่เพราะทำร้ายแตงโมทุกคน มีบาดแผลกันทุกคน อย่าง ’แซน วิศาพัช’ ก็โดนนายอัจฉริยะ เปิดเผยอึกอักมาหลายวัน . ส่วนกรณีที่ "ปอ" ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ และ "แซน" นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ และเป็นจำเลยในคดีการเสียชีวิตของ "แตงโม" ออกมาตั้งโต๊ะแถลงตอบโต้ว่าการจำลองเหตุการณ์นั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง มารดาของแตงโม ตอบว่า ตนไม่รู้ว่า "ปอ" กับ "แซน" จะพูดเรื่องนี้ทำไม เพราะมันตลกสิ้นดี . "(หัวเราะ) เขาจะพูดคำพวกนี้ทำไม มันตลกสิ้นดี เขาจะพูดทำไมว่ามันไม่ตรง มันจะตรงหรือไม่ตรง ไม่สนใจหรอกนะ เอาเป็นว่า คุณฆ่าแตงโมทำไมดีกว่า? ไอ้กระโดดเรือข้างซ้ายข้างขวา มันไม่ใช่ประเด็นการตายของน้องโม . "คือมันทำร้ายกันจริงๆ อันนี้เรื่องจริงลูก ต้องเชื่อคุณแม่เลยว่า เรื่องจริงมันเป็นเช่นนี้ และมันรุนแรงมาก คุณแม่มีสติพูดได้ขนาดนี้ ไม่อยากมีสติหรอก จริงๆ มันต้องพูดอ่ะเนอะ" นางภนิดากล่าว . เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคุณแม่เชื่อว่าเหตุการณ์เสียชีวิตของแตงโมเป็นการฆาตกรรมหรือไม่? นางภนิดาตอบว่า แน่นอน "อ๊ะ! ก็ฆ่าลูกเราในเรือ ฆาตกรรมไหมล่ะ? ก็ฆ่าลูกเรา เขาเรียกว่าอะไรล่ะ ฆาตกรรม คำว่าอำพรางมันหมายความว่ายังไง? แกล้งฆ่าเหรอ หรือ แอบๆ ฆ่า มันไม่ต้องใช้คำว่าอำพรางแล้ว ตอนนั้น วันนั้นมันไม่มีหลักฐานจริง ๆ แต่วันนี้มีแล้ว วันนี้มีเยอะด้วย" . เมื่อถามว่ามีคำพูดอะไรอยากฝากถึง ปอ แซน และโรเบิร์ต (นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์) บ้างหรือไม่ นางภนิดาตอบว่า ไม่พูดได้ไหม เพราะตอนนี้คนเหล่านี้ก็น่าจะหนาวแย่แล้ว ตนไม่ชอบทับถมใคร ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกาลเวลา เพราะคนพวกนี้รู้อยู่แล้วว่าจะต้องโดนอะไร . ส่วนกรณีที่ แซน วิศาพัช ออกมาตอบโต้คนโน้นคนนี้ผ่านสื่อนั้น นางภนิดาระบุว่า "ใช่ ต้องเรียกว่าปากแซ๋บ ปากแจ๋ว โอ้โห! เถียงไม่หยุดเลย ผิดกับแซนเมื่อก่อน แซนเมื่อปีที่แล้วเงียบ ๆ แต่แซนเวลานี้พูดเยอะมาก" . คลิกชม >> "แม่ภนิดา" ยินดีรื้อคดี "แตงโม" ถ้ามีหลักฐานใหม่ ไม่สน "แซน-ปอ" โต้แย้ง ลั่น "ฆ่าลูกฉันทำไม" https://www.youtube.com/watch?v=_BOMPCebicE
    Haha
    Like
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 509 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พุดเดิ้ล ยุพดี” เพื่อนสนิท “แอนนา ทีวีพูล” ยันที่ผ่านมาไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกง ถูกเรียกสอบ 3 ครั้ง ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี น้อยใจถูกสังคมโจมตีจนเก็บตัว เปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนไลน์ ลั่นแอนนาดีใจจะมีการรื้อคดีการตายของ “แตงโม” พร้อมโต้แตงโมตาย วิ่งหาแสง แอนนา ติดคุก ทิ้งเพื่อน

    เป็นทั้งเพื่อนสนิทและผู้จัดการให้กับ “แอนนา ทีวีพูล” วรินทร วัตรสังข์ สำหรับ “พุดเดิ้ล ยุพดี” ก่อนที่แอนนาจะเดินเข้าเรือนจำเอง ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาข่าวคราวของพุดเดิ้ล ยุพดี ก็หายเงียบไปด้วย ล่าสุดผู้สื่อข่าวเจอเจ้าตัวในงานประกวด มิสแกรนด์เลย 2025 พุดเดิ้ลก็ได้เผยชีวิตในช่วงนี้ให้ฟังว่า

    “ที่ผ่านมาไม่ค่อยเห็นเราได้ออกงาน จะพูดยังไงดี คือเราสนิทกับแอนนามาก มีพุดเดิ้ลก็ต้องมีแอนนา ตอนนี้พี่แอนนาอยู่ในเรือนจำ หลายคนก็มองว่าพุดเดิ้ลจะไปยังไงต่อดี บางคนก็มองว่า เรามีส่วนรู้เห็นไหมกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น ตอนนี้มันอยู่ในกระบวนการของกฎหมาย พุดเดิ้ลเป็นผู้จัดการแอนนา เป็นเพื่อน เป็นคนสนิท เรื่องบางเรื่อง พุดเดิ้ลไม่เคยรับรู้ และก็ไม่ได้รับทราบ กับสิ่งที่มันเกิดขึ้น พุดเดิ้ลทราบในเรื่องของพุดเดิ้ลเอง สังคมก็โจมตีว่าเราต้องมีส่วนรู้เห็นแน่นอน ต้องทำเป็นกระบวนการ ซึ่งสิ่งที่มันเกิดขึ้น ตำรวจได้เรียกพุดเดิ้ล ไปสอบสวนว่ารายละเอียดเป็นยังไง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000004148

    #MGROnline #พุดเดิ้ล #แอนนาทีวีพูล
    “พุดเดิ้ล ยุพดี” เพื่อนสนิท “แอนนา ทีวีพูล” ยันที่ผ่านมาไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกง ถูกเรียกสอบ 3 ครั้ง ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี น้อยใจถูกสังคมโจมตีจนเก็บตัว เปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนไลน์ ลั่นแอนนาดีใจจะมีการรื้อคดีการตายของ “แตงโม” พร้อมโต้แตงโมตาย วิ่งหาแสง แอนนา ติดคุก ทิ้งเพื่อน • เป็นทั้งเพื่อนสนิทและผู้จัดการให้กับ “แอนนา ทีวีพูล” วรินทร วัตรสังข์ สำหรับ “พุดเดิ้ล ยุพดี” ก่อนที่แอนนาจะเดินเข้าเรือนจำเอง ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาข่าวคราวของพุดเดิ้ล ยุพดี ก็หายเงียบไปด้วย ล่าสุดผู้สื่อข่าวเจอเจ้าตัวในงานประกวด มิสแกรนด์เลย 2025 พุดเดิ้ลก็ได้เผยชีวิตในช่วงนี้ให้ฟังว่า • “ที่ผ่านมาไม่ค่อยเห็นเราได้ออกงาน จะพูดยังไงดี คือเราสนิทกับแอนนามาก มีพุดเดิ้ลก็ต้องมีแอนนา ตอนนี้พี่แอนนาอยู่ในเรือนจำ หลายคนก็มองว่าพุดเดิ้ลจะไปยังไงต่อดี บางคนก็มองว่า เรามีส่วนรู้เห็นไหมกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น ตอนนี้มันอยู่ในกระบวนการของกฎหมาย พุดเดิ้ลเป็นผู้จัดการแอนนา เป็นเพื่อน เป็นคนสนิท เรื่องบางเรื่อง พุดเดิ้ลไม่เคยรับรู้ และก็ไม่ได้รับทราบ กับสิ่งที่มันเกิดขึ้น พุดเดิ้ลทราบในเรื่องของพุดเดิ้ลเอง สังคมก็โจมตีว่าเราต้องมีส่วนรู้เห็นแน่นอน ต้องทำเป็นกระบวนการ ซึ่งสิ่งที่มันเกิดขึ้น ตำรวจได้เรียกพุดเดิ้ล ไปสอบสวนว่ารายละเอียดเป็นยังไง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000004148 • #MGROnline #พุดเดิ้ล #แอนนาทีวีพูล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิศรา เผย นายกฯส่อขัดจริยธรรมร้ายแรง ปูดข้อมูลลับ “ชาดา” เซ็นทิ้งทวนเพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์แล้ว ลงนามคำสั่งก่อนพ้นเก้าอี้รมช.มท. 3 วัน ระบุเป็นหน้าที่ต้องพิจารณา หลังกฤษฎีกา-ศาล มีคำวินิจฉัยให้ที่ดินตกเป็นธรณีสงฆ์ แยกเยียวยาแก้ปัญหาออกจากกัน

    วันนี้ (14 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าการดำเนินการเพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ กลับเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหาร เพื่อเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน หลังก่อนหน้านี้ ลูกบ้านโครงการอัลไพน์ 2 ได้ร้องขอให้กระทรวงมหาดไทย เพิกถอนโฉนดที่ดินที่อยู่ในที่ธรณีสงฆ์ และจ่ายเงินเยียวยาแทน หลังเกิดปัญหาการทุจริตนาน 20 ปี แต่ไม่มีการเยียวยา

    ล่าสุด แหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 67 ก่อนที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรมช.มหาดไทย จะพ้นตำแหน่งรมช.มหาดไทย ในวันที่ 6 ก.ย. 67 ได้ลงนามคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ กลับเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหารเป็นทางการแล้ว ตามที่กรมที่ดินเสนอ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000004151

    #MGROnline #ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ #ที่ธรณีสงฆ์ #วัดธรรมิการามวรวิหาร
    อิศรา เผย นายกฯส่อขัดจริยธรรมร้ายแรง ปูดข้อมูลลับ “ชาดา” เซ็นทิ้งทวนเพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์แล้ว ลงนามคำสั่งก่อนพ้นเก้าอี้รมช.มท. 3 วัน ระบุเป็นหน้าที่ต้องพิจารณา หลังกฤษฎีกา-ศาล มีคำวินิจฉัยให้ที่ดินตกเป็นธรณีสงฆ์ แยกเยียวยาแก้ปัญหาออกจากกัน • วันนี้ (14 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าการดำเนินการเพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ กลับเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหาร เพื่อเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน หลังก่อนหน้านี้ ลูกบ้านโครงการอัลไพน์ 2 ได้ร้องขอให้กระทรวงมหาดไทย เพิกถอนโฉนดที่ดินที่อยู่ในที่ธรณีสงฆ์ และจ่ายเงินเยียวยาแทน หลังเกิดปัญหาการทุจริตนาน 20 ปี แต่ไม่มีการเยียวยา • ล่าสุด แหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 67 ก่อนที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรมช.มหาดไทย จะพ้นตำแหน่งรมช.มหาดไทย ในวันที่ 6 ก.ย. 67 ได้ลงนามคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ กลับเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหารเป็นทางการแล้ว ตามที่กรมที่ดินเสนอ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000004151 • #MGROnline #ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ #ที่ธรณีสงฆ์ #วัดธรรมิการามวรวิหาร
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 393 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมาชิกระดับสูงของรีพับลิกันในสภาคองเกรส กำลังพิจารณากำหนดเงื่อนไขต่างๆสำหรับงบช่วยเหลือด้านภัยพิบัติ ที่จะมอบแก่ชุมชนต่างๆของลอสแองเจลิสที่ถูกทำลายล้างจากไฟป่าหายนะ หลังว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาพวกเจ้าหน้าที่ระดับรัฐและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น บริหารจัดการสถานการณ์ผิดพลาด
    .
    ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันจันทร์(13ม.ค.) ตำหนิพวกเจ้าหน้าระดับแกนนำในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่นำโดยเดโมแครต บริหารจัดการทรัพยากรน้ำและผืนป่าผิดพลาดในพื้นที่ลองแองเจลิส ก่อนเกิดไฟไหม้ในเวลาไล่เลี่ยกัน 6 จุด โหมกระพือทำลายล้าวทั่วเมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของสหรัฐฯ คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 24 ราย
    .
    "สำหรับเราแล้ว มันดูเหมือนว่าพวกผู้นำในระดับรัฐและท้องถิ่น จะละทิ้งหน้าที่ในหลายๆเรื่อง ดังนั้นจึงมีบางอย่างจำเป็นต้องนับรวมเข้าไป" จอห์นสัน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่อาคารรัฐสภา "บางทีอาจต้องมีเงื่อนไขต่างๆสำหรับความช่วยเหลือ นั่นคือมุมมองส่วนตัวของผม เราจะได้เห็นกันว่าฉันทามติจะออกมาแบบไหน"
    .
    จอห์นสัน บอกต่อว่าสมาชิกรีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฏรยังไม่ได้หารือเกี่ยวกับความช่วยเหลือภัยพิบัติที่จะมอบแก่ภาคส่วนต่างๆของแคลิฟอร์เนียที่ทุกข์ทรมานจากไฟป่า และบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรมีกำหนดประชุมลับกันในช่วงเช้าวันอังคาร(14ม.ค.)
    .
    ด้วยที่ ทรัมป์ มีกำหนดเข้ารับตำแหน่งในช่วงต้นสัปดาห์หน้า และรีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฏรและวุฒิสภา มันจึงเปิดทางให้พรรครีพับลิกันสามารถควบคุมการใช้จ่ายได้อย่างเต็มที่ ในนั้นรวมถึงทั้งรูปแบบและปริมาณความช่วยเหลือบรรเทาภัยหายนะ
    .
    ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โวยวายใส่พวกผู้นำเดโมแครตทั้งในแคลิฟอร์เนียและลอสแองเจลิส ว่าเป็นพวกหัวหลักหัวตอที่ไร้ความสามารถ โดยเขาโพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับไฟป่า อ้างว่าพวกผู้นำเดโมแครตในแคลิฟอร์เนียและลอสแองเจลิส "ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะดับไฟอย่างไร"
    .
    จอห์น บาร์รัสโซ แกนนำหมายเลข 2 ของรีพับลิกันในวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์กับรายงาน "เฟซออฟเนชัน" ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสเมื่อวันอาทิตย์(12ม.ค.) คาดหมายว่า "จะมีเงื่อนไขต่างๆที่แนบไปกับเงินช่วยเหลือ ที่ท้ายที่สุดแล้วจะได้รับการอนุมัติ และมันจำเป็นต้องทำพร้อมๆกับเตรียมพร้อมสำหรับคราวต่อไป เพราะว่าในครั้งนี้ มันล้มเหลวโดยสิ้นเชิง"
    .
    จอห์นสัน กล่าวว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจากรีพับลิกัน กำลังหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะผูกโยงเงินช่วยเหลือแคลิฟอร์เนีย เข้ากับความพยายามเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ จากระดับปัจจุบัน 36 ล้านล้านดอลลาร์
    .
    หนึ่งในอุปสรรคขัดขวางงบประมาณบรรเทาภัยหายนะในสภาคองเกรส ก็คือกลุ่มก้อนพวกอนุรักษ์นิยมหัวแข็งกร้าวที่หาทางกัดเซาะการใช้จ่ายใหม่ๆใดๆ
    .
    เมื่อเดือนที่แล้ว สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมาก และวุฒิสภาที่นำโดยเดโมแครต อนุมัติวงเงิน 100,000 ล้านดอลาร์ ในงบประมาณฉุกเฉินรอบใหม่ สำหรับช่วยฟื้นฟูรัฐต่างๆในนั้นรวมถึงนอร์ทแคโรไลนาแลฟลอริดา ที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติเฮอร์ริเคน
    .
    แม้ผู้รับความช่วยเหลือจำนวนมากพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ของรีพับลิกัน แต่สมาชิกบางส่วนของพรรคในทั้ง 2 สภา ได้พยายามจำกัดงบประมาณความช่วยเหลือ ให้เหลือเพียงแค่ 40,000 ล้านดอลลาร์ ทว่าไม่ประสบความสำเร็จ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003919
    ..............
    Sondhi X
    สมาชิกระดับสูงของรีพับลิกันในสภาคองเกรส กำลังพิจารณากำหนดเงื่อนไขต่างๆสำหรับงบช่วยเหลือด้านภัยพิบัติ ที่จะมอบแก่ชุมชนต่างๆของลอสแองเจลิสที่ถูกทำลายล้างจากไฟป่าหายนะ หลังว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาพวกเจ้าหน้าที่ระดับรัฐและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น บริหารจัดการสถานการณ์ผิดพลาด . ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันจันทร์(13ม.ค.) ตำหนิพวกเจ้าหน้าระดับแกนนำในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่นำโดยเดโมแครต บริหารจัดการทรัพยากรน้ำและผืนป่าผิดพลาดในพื้นที่ลองแองเจลิส ก่อนเกิดไฟไหม้ในเวลาไล่เลี่ยกัน 6 จุด โหมกระพือทำลายล้าวทั่วเมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของสหรัฐฯ คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 24 ราย . "สำหรับเราแล้ว มันดูเหมือนว่าพวกผู้นำในระดับรัฐและท้องถิ่น จะละทิ้งหน้าที่ในหลายๆเรื่อง ดังนั้นจึงมีบางอย่างจำเป็นต้องนับรวมเข้าไป" จอห์นสัน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่อาคารรัฐสภา "บางทีอาจต้องมีเงื่อนไขต่างๆสำหรับความช่วยเหลือ นั่นคือมุมมองส่วนตัวของผม เราจะได้เห็นกันว่าฉันทามติจะออกมาแบบไหน" . จอห์นสัน บอกต่อว่าสมาชิกรีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฏรยังไม่ได้หารือเกี่ยวกับความช่วยเหลือภัยพิบัติที่จะมอบแก่ภาคส่วนต่างๆของแคลิฟอร์เนียที่ทุกข์ทรมานจากไฟป่า และบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรมีกำหนดประชุมลับกันในช่วงเช้าวันอังคาร(14ม.ค.) . ด้วยที่ ทรัมป์ มีกำหนดเข้ารับตำแหน่งในช่วงต้นสัปดาห์หน้า และรีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฏรและวุฒิสภา มันจึงเปิดทางให้พรรครีพับลิกันสามารถควบคุมการใช้จ่ายได้อย่างเต็มที่ ในนั้นรวมถึงทั้งรูปแบบและปริมาณความช่วยเหลือบรรเทาภัยหายนะ . ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โวยวายใส่พวกผู้นำเดโมแครตทั้งในแคลิฟอร์เนียและลอสแองเจลิส ว่าเป็นพวกหัวหลักหัวตอที่ไร้ความสามารถ โดยเขาโพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับไฟป่า อ้างว่าพวกผู้นำเดโมแครตในแคลิฟอร์เนียและลอสแองเจลิส "ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะดับไฟอย่างไร" . จอห์น บาร์รัสโซ แกนนำหมายเลข 2 ของรีพับลิกันในวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์กับรายงาน "เฟซออฟเนชัน" ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสเมื่อวันอาทิตย์(12ม.ค.) คาดหมายว่า "จะมีเงื่อนไขต่างๆที่แนบไปกับเงินช่วยเหลือ ที่ท้ายที่สุดแล้วจะได้รับการอนุมัติ และมันจำเป็นต้องทำพร้อมๆกับเตรียมพร้อมสำหรับคราวต่อไป เพราะว่าในครั้งนี้ มันล้มเหลวโดยสิ้นเชิง" . จอห์นสัน กล่าวว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจากรีพับลิกัน กำลังหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะผูกโยงเงินช่วยเหลือแคลิฟอร์เนีย เข้ากับความพยายามเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ จากระดับปัจจุบัน 36 ล้านล้านดอลลาร์ . หนึ่งในอุปสรรคขัดขวางงบประมาณบรรเทาภัยหายนะในสภาคองเกรส ก็คือกลุ่มก้อนพวกอนุรักษ์นิยมหัวแข็งกร้าวที่หาทางกัดเซาะการใช้จ่ายใหม่ๆใดๆ . เมื่อเดือนที่แล้ว สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมาก และวุฒิสภาที่นำโดยเดโมแครต อนุมัติวงเงิน 100,000 ล้านดอลาร์ ในงบประมาณฉุกเฉินรอบใหม่ สำหรับช่วยฟื้นฟูรัฐต่างๆในนั้นรวมถึงนอร์ทแคโรไลนาแลฟลอริดา ที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติเฮอร์ริเคน . แม้ผู้รับความช่วยเหลือจำนวนมากพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ของรีพับลิกัน แต่สมาชิกบางส่วนของพรรคในทั้ง 2 สภา ได้พยายามจำกัดงบประมาณความช่วยเหลือ ให้เหลือเพียงแค่ 40,000 ล้านดอลลาร์ ทว่าไม่ประสบความสำเร็จ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003919 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1490 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ บอกสื่อให้รอสัมภาษณ์เรื่อง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ หลังประชุม ครม.

    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ม.ค. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุมผู้สื่อข่าวสอบถามว่าจะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ในที่ประชุม ครม.หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวรอสัมภาษณ์หลังประชุม ครม.

    เมื่อถามอีกว่าต่อไปนี้จะลงพื้นที่บ่อยๆ ใช่หรือไม่ นายกฯ ตอบเช่นเดิมว่า ไว้รอสัมภาษณ์หลังประชุม ครม.

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้มีรัฐมนตรีแจ้งลาการประชุม 6 คน ได้แก่ 1.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย 2.นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา 3.นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน 4.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม 5.นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ 6.น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ลา ครม.เนื่องจากติดภารกิจตรวจติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาเกาะสีชัง จ.ชลบุรี อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 10.30 น.นายอนุทิน ได้เดินทางกลับมาประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ไปหลังเสร็จภารกิจที่จังหวัดชลบุรี

    #MGROnline #เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์
    นายกฯ บอกสื่อให้รอสัมภาษณ์เรื่อง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ หลังประชุม ครม. • เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ม.ค. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุมผู้สื่อข่าวสอบถามว่าจะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ในที่ประชุม ครม.หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวรอสัมภาษณ์หลังประชุม ครม. • เมื่อถามอีกว่าต่อไปนี้จะลงพื้นที่บ่อยๆ ใช่หรือไม่ นายกฯ ตอบเช่นเดิมว่า ไว้รอสัมภาษณ์หลังประชุม ครม. • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้มีรัฐมนตรีแจ้งลาการประชุม 6 คน ได้แก่ 1.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย 2.นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา 3.นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน 4.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม 5.นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ 6.น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ลา ครม.เนื่องจากติดภารกิจตรวจติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาเกาะสีชัง จ.ชลบุรี อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 10.30 น.นายอนุทิน ได้เดินทางกลับมาประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ไปหลังเสร็จภารกิจที่จังหวัดชลบุรี • #MGROnline #เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพชรบูรณ์ - น้ำหนาวสุดยะเยือก..ล่าสุดอุณหภูมิเช้ามืดวันนี้ติดลบ 3 องศาฯ แม่คะนิ้งลงขาวโพลนเกาะทั้งยอดหญ้า-หลังคารถ กลางหมู่บ้านหนาวสุดของเพชรบูรณ์ เผยปี 66 เคยติดลบถึง 5 องศาฯมาแล้ว

    ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Pui Surachai”ได้โพสต์ข้อความว่า “ตี4 -3° โอ่ยนอนไม่หลับโคตรหนาววๆๆๆๆ พร้อมกันนี้ได้โพสต์ภาพและคลิปวีดิโอแม่คะนิ้งที่เกาะอยู่ตามพื้น-ยอดหญ้ารวมทั้งเกล็ดน้ำค้างแข็งที่เกาะอยู่บนหลังคารถจนขาวโพลนไปทั้งคัน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่บ้านห้วยหญ้าเครือ หมู่ 1 ต.น้ำหนาว อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์

    วันนี้(13 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวซึ่งเล่าให้ฟังว่าช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาอากาศค่อนข้างเย็นจัดประกอบกับมีลมพัดค่อนข้างแรงจึงทำให้ไม่เกิดแม่คะนิ้ง แต่อุณหภูมิในช่วงกลางดึกจะอยู่ที่ 1-2 องศาเซลเซียส

    แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา(12-13 ม.ค.)ลมสงบอากาศเริ่มเย็นมากขึ้น ช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่มอุณหภูมิจะอยู่ที่ 2 องศาเซลเซียส ซึ่งตนคาดว่าคืนนี้น่าจะติดลบอย่างแน่นอน เราะพถ้าวันไหนอากาศเย็นจัดและไม่มีลมพัดก็อุณหภูมิส่วนมากจะติดลบ กระทั่งเวลาประมาณ 04.00 น.ตนตื่นขึ้นมาพบว่าอุณหภูมิอยู่ที่ -3 องศาเซลเซียส จึงได้ลงมาจากบ้านเพื่อถ่ายภาพแม่คะนิ้ง-เกล็ดน้ำค้างแข็ง ที่เกาะอยู่ตามพื้นและหลังคารถ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000003552

    #MGROnline #เพชรบูรณ์ #น้ำหนาว #แม่คะนิ้ง
    เพชรบูรณ์ - น้ำหนาวสุดยะเยือก..ล่าสุดอุณหภูมิเช้ามืดวันนี้ติดลบ 3 องศาฯ แม่คะนิ้งลงขาวโพลนเกาะทั้งยอดหญ้า-หลังคารถ กลางหมู่บ้านหนาวสุดของเพชรบูรณ์ เผยปี 66 เคยติดลบถึง 5 องศาฯมาแล้ว • ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Pui Surachai”ได้โพสต์ข้อความว่า “ตี4 -3° โอ่ยนอนไม่หลับโคตรหนาววๆๆๆๆ พร้อมกันนี้ได้โพสต์ภาพและคลิปวีดิโอแม่คะนิ้งที่เกาะอยู่ตามพื้น-ยอดหญ้ารวมทั้งเกล็ดน้ำค้างแข็งที่เกาะอยู่บนหลังคารถจนขาวโพลนไปทั้งคัน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่บ้านห้วยหญ้าเครือ หมู่ 1 ต.น้ำหนาว อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ • วันนี้(13 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวซึ่งเล่าให้ฟังว่าช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาอากาศค่อนข้างเย็นจัดประกอบกับมีลมพัดค่อนข้างแรงจึงทำให้ไม่เกิดแม่คะนิ้ง แต่อุณหภูมิในช่วงกลางดึกจะอยู่ที่ 1-2 องศาเซลเซียส • แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา(12-13 ม.ค.)ลมสงบอากาศเริ่มเย็นมากขึ้น ช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่มอุณหภูมิจะอยู่ที่ 2 องศาเซลเซียส ซึ่งตนคาดว่าคืนนี้น่าจะติดลบอย่างแน่นอน เราะพถ้าวันไหนอากาศเย็นจัดและไม่มีลมพัดก็อุณหภูมิส่วนมากจะติดลบ กระทั่งเวลาประมาณ 04.00 น.ตนตื่นขึ้นมาพบว่าอุณหภูมิอยู่ที่ -3 องศาเซลเซียส จึงได้ลงมาจากบ้านเพื่อถ่ายภาพแม่คะนิ้ง-เกล็ดน้ำค้างแข็ง ที่เกาะอยู่ตามพื้นและหลังคารถ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000003552 • #MGROnline #เพชรบูรณ์ #น้ำหนาว #แม่คะนิ้ง
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลย- เช้านี้หนาวจัดที่บ้านหินสอ อ.ภูเรือ อุณหภูมิลดเหลือ 0 องศาฯ เกิดปรากฎการณ์แม่คะนิ้งหรือน้ำค้างแข็งขาวโพลนบนยอดหญ้าเป็นลานกว้าง ชาวบ้านต้องผิงไฟไล่หนาว ขณะที่แม่ค้าตลาดเช้าเทศบาลเมืองเลยพากัน สวมเสื้อกันหนาว 3 ชั้น เผยหนาวเย็นสุดๆในรอบ 30 ปี โดยพื้นที่ราบเฉลี่ย 6-7 องศาฯ

    ผู้สื่อข่าวรายงานในพื้นที่จังหวัดเลยอากาศค่อนข้างหนาวเย็นมากเพราะโอบล้อมไปด้วยภูเขา ประชาชนตามชุมชน หมู่บ้านต่างก่อไฟผิงให้ความอบอุ่นกับร่างกาย ล่าสุดเช้าวันนี้(13ม.ค.)มีรายงานว่า ที่บริเวณหมู่บ้านหินสอ ต.ปลาบ่า อ.ภูเรือ ได้เกิดปรากฎการณ์แม่คะนิ้งหรือน้ำค้างแข็งบริเวนท้ายหมู่บ้าน เกิดบริเวณลานหญ้า และบนฟางข้าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000003547

    #MGROnline #เลย #แม่คะนิ้ง #น้ำค้างแข็ง
    เลย- เช้านี้หนาวจัดที่บ้านหินสอ อ.ภูเรือ อุณหภูมิลดเหลือ 0 องศาฯ เกิดปรากฎการณ์แม่คะนิ้งหรือน้ำค้างแข็งขาวโพลนบนยอดหญ้าเป็นลานกว้าง ชาวบ้านต้องผิงไฟไล่หนาว ขณะที่แม่ค้าตลาดเช้าเทศบาลเมืองเลยพากัน สวมเสื้อกันหนาว 3 ชั้น เผยหนาวเย็นสุดๆในรอบ 30 ปี โดยพื้นที่ราบเฉลี่ย 6-7 องศาฯ • ผู้สื่อข่าวรายงานในพื้นที่จังหวัดเลยอากาศค่อนข้างหนาวเย็นมากเพราะโอบล้อมไปด้วยภูเขา ประชาชนตามชุมชน หมู่บ้านต่างก่อไฟผิงให้ความอบอุ่นกับร่างกาย ล่าสุดเช้าวันนี้(13ม.ค.)มีรายงานว่า ที่บริเวณหมู่บ้านหินสอ ต.ปลาบ่า อ.ภูเรือ ได้เกิดปรากฎการณ์แม่คะนิ้งหรือน้ำค้างแข็งบริเวนท้ายหมู่บ้าน เกิดบริเวณลานหญ้า และบนฟางข้าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000003547 • #MGROnline #เลย #แม่คะนิ้ง #น้ำค้างแข็ง
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังพิจารณาประกาศนิรโทษกรรมล่วงหน้าให้บุคคลต่างๆ ที่อาจตกเป็นเป้าหมายของรัฐบาลว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
    .
    ทรัมป์ ซึ่งเอาชนะ กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน จากพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 เตรียมหวนคืนสู่เก้าอี้ทำเนียบขาวในวันที่ 20 มกราคมนี้
    .
    "มันยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ยังไม่มีการตัดสินใจ" ไบเดน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (10 ม.ค.) ตอบคำถามหนึ่งในเรื่องเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะนิรโทษกรรมล่วงหน้า
    .
    ไบเดน ถอนตัวจากศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 ในเดือนกรกฎาคม ท่ามกลางความกังวลที่โผล่ขึ้นมาภายในพรรคเดโมแครต ตามหลังผลงานการดีเบตกับทรัมป์ ที่ก่อความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนพรรค ท้ายที่สุดแล้วเขาก็หันไปรับรองแฮร์ริส แต่ว่าเธอก็พ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งให้ทรัมป์
    .
    ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงถึงเจตนาจะเอาผิดกับทุกคนที่เขามองเป็นศัตรู "ในนั้นรวมถึงแฮร์ริส และโจ ไบเดน บุคคลที่เขามองว่าเป็นประธานาธิบดีคอร์รัปชันเลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา รวมถึงครอบครัวอาชญากรของเขาด้วย"
    .
    นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังวิพากษ์วิจารณ์ไบเดน สำหรับกรณีนิรโทษกรรมให้ ฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายตนเองในเดือนธันวาคม กลับลำจากที่เคยประกาศไว้ว่าจะไม่ทำเช่นนนั้น ทั้งนี้ ไบเดน อภัยโทษให้ ฮันเตอร์ แม้ถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษีและความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน และศาลมีกำหนดตัดสินระวางโทษในเดือนธันวาคม
    .
    ทรัมป์ เรียกการตัดสินใจดังกล่าวว่าเป็น "การบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม" และหยิบยกเรื่องนี้พาดพิงถึงบรรดาผู้สนับสนุนของเขาที่ถูกจำคุกฐานก่อจลาจลบุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 "การนิรโทษกรรมที่ไบเดนมอบให้ฮันเตอร์ ได้นับรวมกลุ่ม J-6 Hostages ด้วยหรือเปล่า เวลานี้พวกเขาถูกคุมขังมานานหลายปีแล้ว มันเป็นการละเมิดและบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม!" ทรัมป์เขียนบนทรัสต์โซเชียล
    .
    นอกจากนี้ ว่าที่ประธานาธิบดียังเรียกร้องให้สืบสวนอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา และลิซ เชนีย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกัน ที่ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์มาตลอด
    .
    ก่อนหน้าศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 ทรัมป์ขู่ดำเนินคดีอย่างที่ไม่มีมาก่อน กับบุคคลต่างๆ ที่เขากล่าวหาว่าโกงเลือกตั้ง "ขอให้ทราบว่าความเสี่ยงถูกดำเนินการทางกฎหมายนี้ ครอบคลุมถึงพวกทนายความ พวกผู้ใช้อุบายในทางการเมือง บรรดาผู้บริจาค ผู้ใช้สิทธิใช้เสียงแบบผิดกฎหมายและพวกเจ้าหน้าที่เลือกตั้งที่คอร์รัปชัน" ทรัมป์โพสต์บนทรัสต์โซเชียล หลังจากก่อนหน้านี้เขาเคยกล่าวอ้างว่ามีการโกงเลือกตั้งอย่างกว้างขวางในปี 2020
    .
    ทรัมป์ ยังได้เน้นย้ำเมื่อปีที่แล้ว ว่าเขาจะไล่ออก แจ็ค สมิธ ที่ปรึกษาพิเศษของกระทรวงยุติธรรม ที่กำกับดูแลการสืบสวนว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากรีพับลิกันรายนี้ จนกระทั่ง สมิธ ตัดสินใจลาออกเมื่อวันศุกร์ (10 ม.ค.)
    .
    เมื่อถามว่าเขาจะนิรโทษกรรมให้ตนเองหรือไม่ ทาง ไบเดน ปฏิเสธความคิดนี้ โดยบอกว่า "ผมไม่ได้ทำอะไรผิด"
    .
    มีความเป็นไปได้ว่าประธานาธิบดีอาจมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญที่จะประกาศนิรโทษกรรมล่วงหน้าอย่างกว้างขวาง ต่อการกระทำผิดใดๆ ตามกฎหมายรัฐบาลกลางในอดีตที่ผ่านมา แม้กระทั่งยังไม่ถูกยื่นฟ้องดำเนินคดีก็ตาม อย่างไรก็ตาม อำนาจนี้ไม่สามารถใช้กับความผิดทางอาญาตามกฎหมายในแต่ละรัฐหรือความผิดใดๆ ในอนาคต
    .
    ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่ารูปแบบการนิรโทษกรรมที่ไบเดนกำลังพิจารณาอยู่นั้น น่าจะเป็นการนิรโทษกรรมภายใต้ขอบเขตอำนาจพิเศษของประธานาธิบดี
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003513
    ..............
    Sondhi X
    โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังพิจารณาประกาศนิรโทษกรรมล่วงหน้าให้บุคคลต่างๆ ที่อาจตกเป็นเป้าหมายของรัฐบาลว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ . ทรัมป์ ซึ่งเอาชนะ กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน จากพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 เตรียมหวนคืนสู่เก้าอี้ทำเนียบขาวในวันที่ 20 มกราคมนี้ . "มันยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ยังไม่มีการตัดสินใจ" ไบเดน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (10 ม.ค.) ตอบคำถามหนึ่งในเรื่องเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะนิรโทษกรรมล่วงหน้า . ไบเดน ถอนตัวจากศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 ในเดือนกรกฎาคม ท่ามกลางความกังวลที่โผล่ขึ้นมาภายในพรรคเดโมแครต ตามหลังผลงานการดีเบตกับทรัมป์ ที่ก่อความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนพรรค ท้ายที่สุดแล้วเขาก็หันไปรับรองแฮร์ริส แต่ว่าเธอก็พ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งให้ทรัมป์ . ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงถึงเจตนาจะเอาผิดกับทุกคนที่เขามองเป็นศัตรู "ในนั้นรวมถึงแฮร์ริส และโจ ไบเดน บุคคลที่เขามองว่าเป็นประธานาธิบดีคอร์รัปชันเลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา รวมถึงครอบครัวอาชญากรของเขาด้วย" . นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังวิพากษ์วิจารณ์ไบเดน สำหรับกรณีนิรโทษกรรมให้ ฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายตนเองในเดือนธันวาคม กลับลำจากที่เคยประกาศไว้ว่าจะไม่ทำเช่นนนั้น ทั้งนี้ ไบเดน อภัยโทษให้ ฮันเตอร์ แม้ถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษีและความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน และศาลมีกำหนดตัดสินระวางโทษในเดือนธันวาคม . ทรัมป์ เรียกการตัดสินใจดังกล่าวว่าเป็น "การบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม" และหยิบยกเรื่องนี้พาดพิงถึงบรรดาผู้สนับสนุนของเขาที่ถูกจำคุกฐานก่อจลาจลบุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 "การนิรโทษกรรมที่ไบเดนมอบให้ฮันเตอร์ ได้นับรวมกลุ่ม J-6 Hostages ด้วยหรือเปล่า เวลานี้พวกเขาถูกคุมขังมานานหลายปีแล้ว มันเป็นการละเมิดและบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม!" ทรัมป์เขียนบนทรัสต์โซเชียล . นอกจากนี้ ว่าที่ประธานาธิบดียังเรียกร้องให้สืบสวนอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา และลิซ เชนีย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกัน ที่ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์มาตลอด . ก่อนหน้าศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 ทรัมป์ขู่ดำเนินคดีอย่างที่ไม่มีมาก่อน กับบุคคลต่างๆ ที่เขากล่าวหาว่าโกงเลือกตั้ง "ขอให้ทราบว่าความเสี่ยงถูกดำเนินการทางกฎหมายนี้ ครอบคลุมถึงพวกทนายความ พวกผู้ใช้อุบายในทางการเมือง บรรดาผู้บริจาค ผู้ใช้สิทธิใช้เสียงแบบผิดกฎหมายและพวกเจ้าหน้าที่เลือกตั้งที่คอร์รัปชัน" ทรัมป์โพสต์บนทรัสต์โซเชียล หลังจากก่อนหน้านี้เขาเคยกล่าวอ้างว่ามีการโกงเลือกตั้งอย่างกว้างขวางในปี 2020 . ทรัมป์ ยังได้เน้นย้ำเมื่อปีที่แล้ว ว่าเขาจะไล่ออก แจ็ค สมิธ ที่ปรึกษาพิเศษของกระทรวงยุติธรรม ที่กำกับดูแลการสืบสวนว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากรีพับลิกันรายนี้ จนกระทั่ง สมิธ ตัดสินใจลาออกเมื่อวันศุกร์ (10 ม.ค.) . เมื่อถามว่าเขาจะนิรโทษกรรมให้ตนเองหรือไม่ ทาง ไบเดน ปฏิเสธความคิดนี้ โดยบอกว่า "ผมไม่ได้ทำอะไรผิด" . มีความเป็นไปได้ว่าประธานาธิบดีอาจมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญที่จะประกาศนิรโทษกรรมล่วงหน้าอย่างกว้างขวาง ต่อการกระทำผิดใดๆ ตามกฎหมายรัฐบาลกลางในอดีตที่ผ่านมา แม้กระทั่งยังไม่ถูกยื่นฟ้องดำเนินคดีก็ตาม อย่างไรก็ตาม อำนาจนี้ไม่สามารถใช้กับความผิดทางอาญาตามกฎหมายในแต่ละรัฐหรือความผิดใดๆ ในอนาคต . ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่ารูปแบบการนิรโทษกรรมที่ไบเดนกำลังพิจารณาอยู่นั้น น่าจะเป็นการนิรโทษกรรมภายใต้ขอบเขตอำนาจพิเศษของประธานาธิบดี . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003513 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Angry
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1270 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts