• ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือพิมพ์ South China Morning Post (SCMP) รายงานว่า ทางการจีนตรวจพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโควิด-19 ในค้างคาว โดยไวรัสดังกล่าวจัดอยู่ในสายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ HKU5 ซึ่งถูกระบุในฮ่องกงในค้างคาวสายพันธุ์ Japanese pigistrelle โดยนักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า ผลการวิจัยเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ไวรัสเมอร์เบโคในค้างคาวมีความเสี่ยงสูงที่จะแพร่กระจายสู่มนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นผ่านการถ่ายทอดโดยตรงหรือผ่านโฮสต์ตัวกลาง อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ไวรัสยังไม่ถือว่ากำลังแพร่ระบาด แต่นักวิจัยได้ย้ำถึงความจำเป็นในการวิจัยอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น

    -ชาวนาขอประกัน 1.2 หมื่น
    -ภาระสูงหยุดจับแก๊งคอล
    -นี่หรือเมืองพุทธ
    -ค้านทรัมป์ยึดฉนวนกาซา
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือพิมพ์ South China Morning Post (SCMP) รายงานว่า ทางการจีนตรวจพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโควิด-19 ในค้างคาว โดยไวรัสดังกล่าวจัดอยู่ในสายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ HKU5 ซึ่งถูกระบุในฮ่องกงในค้างคาวสายพันธุ์ Japanese pigistrelle โดยนักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า ผลการวิจัยเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ไวรัสเมอร์เบโคในค้างคาวมีความเสี่ยงสูงที่จะแพร่กระจายสู่มนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นผ่านการถ่ายทอดโดยตรงหรือผ่านโฮสต์ตัวกลาง อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ไวรัสยังไม่ถือว่ากำลังแพร่ระบาด แต่นักวิจัยได้ย้ำถึงความจำเป็นในการวิจัยอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น -ชาวนาขอประกัน 1.2 หมื่น -ภาระสูงหยุดจับแก๊งคอล -นี่หรือเมืองพุทธ -ค้านทรัมป์ยึดฉนวนกาซา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • ตำรวจไซเบอร์ เช็กบิลสนธิญาณ

    ปฏิบัติการสายฟ้าแลบที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ นำกำลังนับสิบนาย ตรวจค้นบ้านในชุมชนเล็กๆ บนถนนชัยพฤกษ์ เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ก่อนควบคุมตัว น.ส.ไญยิกา อธิคุปต์ธนวัฒ ผู้ประกาศข่าวสำนักข่าวเดอะครีติก (The Critics) ไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้การในฐานะพยานที่ บก.สอท. เมืองทองธานี และตรวจยึดโทรศัพท์มือถือไปด้วย เหตุเกิดเมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 20 ก.พ. กำลังเป็นที่วิจารณ์ว่า เล่นใหญ่เกินไปหรือไม่?

    ว่ากันว่าตำรวจไซเบอร์พุ่งเป้าไปที่ นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้ก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย และเจ้าของสำนักข่าวเดอะครีติก ที่เป็นสื่อมวลชนฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยอ้างถึงกรณีที่นายทักษิณมอบหมายให้นายวิญญัติ ชาติมนตรี แจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาทและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีวีดีโอคลิป "ทักษิณผู้นำเลวสุดในโลก มอนเตฯ ริบสัญชาติเพราะโกง" ทำให้นายทักษิณได้รับความเสียหาย และกรณีที่ น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้ก่อตั้งสำนักข่าวเดอะรีพอตเตอร์ (The Reporter) ถูกกล่าวหาด้วยข้อความบิดเบือน ต่อว่า ให้ร้าย แต่ตนเองยังอยู่ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จะเดินทางเข้าแจ้งความ

    แม้ว่าสำนักข่าวเดอะครีติก ที่ผลิตรายการลงในช่องยูทูบ "สถาบันทิศทางไทย" มีผู้ติดตาม 479,000 ราย จะเป็นที่วิจารณ์ถึงการนำเสนอข่าวอย่างไร มีผู้ที่ถูกพาดพิงไม่พอใจหรือไม่ก็เป็นสิทธิที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่คำถามที่ตามมาก็คือ “ไซเบอร์อรรถ จัดเต็ม” จำเป็นหรือไม่ที่ต้องเล่นใหญ่เล่นโต เอาตำรวจนับสิบบุกบ้านในชุมชนเล็กๆ แต่เช้าตรู่ ที่คนในบ้านอยู่กันสามคนพ่อแม่ลูก เพียงเพื่อนำตัวไปเป็นพยาน ราวกับเป็นอาชญากรสงคราม นับว่ายังดีที่พ่อของพยานซึ่งมีโรคประจำตัวเข้าโรงพยาบาล หากอยู่ในเหตุการณ์น่าเป็นห่วงว่าจะบานปลายขนาดไหน และการที่ตำรวจไซเบอร์ทำแบบนี้เพื่อเอาใจใคร?

    น.ส.บุญระดม จิตรดอน ผู้สื่อข่าวการเมืองและนักจัดรายการวิทยุ โพสต์เฟซบุ๊กว่า เศร้าใจที่ต้องทำถึงขนาดนี้ อาชญากรร้ายแรงก็ไม่ใช่ โจรก็ไม่ใช่ แล้วเขาคิดว่ากำลังบุกจับใคร จากนี้ตนจะเป็นรายต่อไปไหม ที่ตำรวจยกกำลังมาบุกจับถึงบ้าน ขนาดพยานยังเอาตำรวจบุกไปเป็นสิบ แล้วถ้าเป็นจำเลยจะขนาดไหน ที่สำคัญเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากที่นายทักษิณได้มอบหมายให้ทนายความแจ้งความเมื่อคืนก่อนหน้านี้เอง ตำรวจทำงานได้รวดเร็วมาก ผิดขั้นตอนและกฎระเบียบหรือไม่ตำรวจคงทราบดี

    "นายทักษิณได้เริ่มจุดพลุประกาศศึกกับฝ่ายตรงข้ามแล้ว เตรียมตัวกันให้ดี" น.ส.บุญระดม ระบุ

    #Newskit
    ตำรวจไซเบอร์ เช็กบิลสนธิญาณ ปฏิบัติการสายฟ้าแลบที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ นำกำลังนับสิบนาย ตรวจค้นบ้านในชุมชนเล็กๆ บนถนนชัยพฤกษ์ เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ก่อนควบคุมตัว น.ส.ไญยิกา อธิคุปต์ธนวัฒ ผู้ประกาศข่าวสำนักข่าวเดอะครีติก (The Critics) ไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้การในฐานะพยานที่ บก.สอท. เมืองทองธานี และตรวจยึดโทรศัพท์มือถือไปด้วย เหตุเกิดเมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 20 ก.พ. กำลังเป็นที่วิจารณ์ว่า เล่นใหญ่เกินไปหรือไม่? ว่ากันว่าตำรวจไซเบอร์พุ่งเป้าไปที่ นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้ก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย และเจ้าของสำนักข่าวเดอะครีติก ที่เป็นสื่อมวลชนฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยอ้างถึงกรณีที่นายทักษิณมอบหมายให้นายวิญญัติ ชาติมนตรี แจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาทและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีวีดีโอคลิป "ทักษิณผู้นำเลวสุดในโลก มอนเตฯ ริบสัญชาติเพราะโกง" ทำให้นายทักษิณได้รับความเสียหาย และกรณีที่ น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้ก่อตั้งสำนักข่าวเดอะรีพอตเตอร์ (The Reporter) ถูกกล่าวหาด้วยข้อความบิดเบือน ต่อว่า ให้ร้าย แต่ตนเองยังอยู่ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จะเดินทางเข้าแจ้งความ แม้ว่าสำนักข่าวเดอะครีติก ที่ผลิตรายการลงในช่องยูทูบ "สถาบันทิศทางไทย" มีผู้ติดตาม 479,000 ราย จะเป็นที่วิจารณ์ถึงการนำเสนอข่าวอย่างไร มีผู้ที่ถูกพาดพิงไม่พอใจหรือไม่ก็เป็นสิทธิที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่คำถามที่ตามมาก็คือ “ไซเบอร์อรรถ จัดเต็ม” จำเป็นหรือไม่ที่ต้องเล่นใหญ่เล่นโต เอาตำรวจนับสิบบุกบ้านในชุมชนเล็กๆ แต่เช้าตรู่ ที่คนในบ้านอยู่กันสามคนพ่อแม่ลูก เพียงเพื่อนำตัวไปเป็นพยาน ราวกับเป็นอาชญากรสงคราม นับว่ายังดีที่พ่อของพยานซึ่งมีโรคประจำตัวเข้าโรงพยาบาล หากอยู่ในเหตุการณ์น่าเป็นห่วงว่าจะบานปลายขนาดไหน และการที่ตำรวจไซเบอร์ทำแบบนี้เพื่อเอาใจใคร? น.ส.บุญระดม จิตรดอน ผู้สื่อข่าวการเมืองและนักจัดรายการวิทยุ โพสต์เฟซบุ๊กว่า เศร้าใจที่ต้องทำถึงขนาดนี้ อาชญากรร้ายแรงก็ไม่ใช่ โจรก็ไม่ใช่ แล้วเขาคิดว่ากำลังบุกจับใคร จากนี้ตนจะเป็นรายต่อไปไหม ที่ตำรวจยกกำลังมาบุกจับถึงบ้าน ขนาดพยานยังเอาตำรวจบุกไปเป็นสิบ แล้วถ้าเป็นจำเลยจะขนาดไหน ที่สำคัญเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากที่นายทักษิณได้มอบหมายให้ทนายความแจ้งความเมื่อคืนก่อนหน้านี้เอง ตำรวจทำงานได้รวดเร็วมาก ผิดขั้นตอนและกฎระเบียบหรือไม่ตำรวจคงทราบดี "นายทักษิณได้เริ่มจุดพลุประกาศศึกกับฝ่ายตรงข้ามแล้ว เตรียมตัวกันให้ดี" น.ส.บุญระดม ระบุ #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • -รายงานข่าว 20 กุมภาพันธ์ 2568-

    วันนี้ครบรอบ 1 เดือน (20 มกราคม-20 กุมภาพันธ์ 2568) ของการบริหารงานของนายโดนัล เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐอเมริกา นางคาโรไลน์ เลวิทท์ โฆษกทำเนียบขาว ออกมารายงานผลความคืบหน้าของทรัมป์ 2.0 ว่า มีคำสั่งอำนาจบริหารออกมารวม 73 ฉบับ มากกว่ายุคไบเดนและยุคโอบามา 2-3 เท่า...ครม.ของทรัมป์ยุคนี้ได้รับการไว้วางใจโวตยอมรับจากสภาสูงซีเนทมากถึง 18 คน มากกว่ายุคโอบามาปี 2009 และยุคไบเดนปี 2021...และนายทรัมป์จะประชุมคณะรัฐมนตรีทั้งหมดในวันอังคารหน้าที่จะถึงนี้ โดยที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะมาเยือนในวันจันทร์ ตามด้วยนายกรัฐมนตรีอังกฤษในวันพฤหัสบดี...ขณะรายงานข่าวทำเนียบขาวนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ของกระทรวง Homeland Security ที่ปรึกษากฏหมายฝ่ายเศรษฐกิจแห่งชาติ และที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ เข้าร่วมแถลงข่าวด้วย นายไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติหรือ National Security Advisor ตอบคำถามผู้สื่อข่าวประเด็นยุติสงครามในยูเครนว่า สงครามยูเครนต้องจบแน่นอน เพราะสหรัฐฯไม่ต้องการนำเงินภาษีของคนอเมริกันไปช่วยเหลือสงครามยูเครนอีกต่อไปแล้ว โดยสหรัฐฯจะเข้าไปเจรจากับนายปูตินผู้นำรัสเซียในเร็ววันนี้..ข่าวล่าสุดในวันนี้ เมื่อตอนบ่าย สภาสูงหรือซีเนทของคองเกรส ได้ลงมติด้วยคะแนนชนะ 51:49 ให้นายแคช ปาเทล (Kash Patel) ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเอฟบีไอ หรือสำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง ดูแลงานการสอบสวนและปราบปรามได้ทั่วประเทศ ซึ่งขึ้นอยู่กับกระทรวงยุติธรรมของคุณ แพม บอนดิ และเอฟบีไอยังต้องรายงานข่าวโดยตรงให้กับผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติกับคุณ ทุลซี แก็บบาร์ด ให้รับทราบอีกด้วย
    -รายงานข่าว 20 กุมภาพันธ์ 2568- วันนี้ครบรอบ 1 เดือน (20 มกราคม-20 กุมภาพันธ์ 2568) ของการบริหารงานของนายโดนัล เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐอเมริกา นางคาโรไลน์ เลวิทท์ โฆษกทำเนียบขาว ออกมารายงานผลความคืบหน้าของทรัมป์ 2.0 ว่า มีคำสั่งอำนาจบริหารออกมารวม 73 ฉบับ มากกว่ายุคไบเดนและยุคโอบามา 2-3 เท่า...ครม.ของทรัมป์ยุคนี้ได้รับการไว้วางใจโวตยอมรับจากสภาสูงซีเนทมากถึง 18 คน มากกว่ายุคโอบามาปี 2009 และยุคไบเดนปี 2021...และนายทรัมป์จะประชุมคณะรัฐมนตรีทั้งหมดในวันอังคารหน้าที่จะถึงนี้ โดยที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะมาเยือนในวันจันทร์ ตามด้วยนายกรัฐมนตรีอังกฤษในวันพฤหัสบดี...ขณะรายงานข่าวทำเนียบขาวนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ของกระทรวง Homeland Security ที่ปรึกษากฏหมายฝ่ายเศรษฐกิจแห่งชาติ และที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ เข้าร่วมแถลงข่าวด้วย นายไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติหรือ National Security Advisor ตอบคำถามผู้สื่อข่าวประเด็นยุติสงครามในยูเครนว่า สงครามยูเครนต้องจบแน่นอน เพราะสหรัฐฯไม่ต้องการนำเงินภาษีของคนอเมริกันไปช่วยเหลือสงครามยูเครนอีกต่อไปแล้ว โดยสหรัฐฯจะเข้าไปเจรจากับนายปูตินผู้นำรัสเซียในเร็ววันนี้..ข่าวล่าสุดในวันนี้ เมื่อตอนบ่าย สภาสูงหรือซีเนทของคองเกรส ได้ลงมติด้วยคะแนนชนะ 51:49 ให้นายแคช ปาเทล (Kash Patel) ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเอฟบีไอ หรือสำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง ดูแลงานการสอบสวนและปราบปรามได้ทั่วประเทศ ซึ่งขึ้นอยู่กับกระทรวงยุติธรรมของคุณ แพม บอนดิ และเอฟบีไอยังต้องรายงานข่าวโดยตรงให้กับผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติกับคุณ ทุลซี แก็บบาร์ด ให้รับทราบอีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนชนะกี่โมง? ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์"
    ฟันธงรัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ
    .
    ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์" ยอดนักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศสายส้ม วิเคราะห์สงครามยูเครนแบบมั่นหน้า ด้วยการฟันธงว่า รัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ ปูตินจะถูกรัฐประหารเงียบ จนชาวเน็ตผู้มาจากอนาคตเข้าไปรุมคอมเมนต์เดือด เตือนความทรงจำ ถามเมื่อไหร่รัสเซียจะแพ้-ยูเครนจะชนะ?
    .
    ในสถานการณ์ทางการเมืองโลกที่ผันผวนภายหลังการยกหูโทรศัพท์พูดคุยกันนานกว่า 90 นาทีระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เมื่อวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 โดยในประเด็นสงครามยูเครนนั้น นายทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะยุติสงครามไร้สาระนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยการสังหารและการทำลายล้างที่ไม่จำเป็นเลย ขอพระเจ้าอวยพรประชาชนชาวรัสเซียและยูเครน!”
    .
    การเริ่มต้นพูดคุยระหว่าง ทรัมป์และปูติน อันนำมาสู่เหตุการณ์เมื่อ วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 สหรัฐฯ และรัสเซียนำโดย นายมาร์ค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งดำเนินการเปิดโต๊ะการเจรจาเกี่ยวกับยูเครนกันเพียง 2 ฝ่าย อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยปราศจากตัวแทนของยูเครน และชาติต่าง ๆ ในยุโรปร่วมโต๊ะเลย แม้แต่คนเดียว
    .
    สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความเดือดดาลให้กับนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนและผู้นำชาติต่างๆ ในยุโรปอย่างมาก เพราะการเปิดโต๊ะเจรจาดังกล่าวเป็นสัญญาณว่า ยูเครนและยุโรปน่าจะต้องตกเป็นเบี้ยล่าง และพ่ายแพ้ถูกทิ้งไว้ท่ามกลางซากปรักหักพัง รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่เข้ารุมเร้าทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ การแย่งชิงบีบบังคับเอาทรัพยากรเพื่อชดใช้เงินช่วยเหลือในสงคราม ความวุ่นวายทางการเมืองภายใน รวมไปถึงปัญหาสังคมและผู้อพยพ ฯลฯ
    .
    ในส่วนของผู้ที่ติดตามข่าวสารเรื่องสงครามยูเครนในประเทศไทยส่วนหนึ่ง ได้มีผู้ย้อนไปหยิบยกการวิเคราะห์สถานการณ์สงครามยูเครนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ และอดีตเป็นพิธีกรรายการข่าวทางช่องวอยซ์ทีวี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งโฆษกคณะก้าวหน้า ซึ่งเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 หรือเกือบ 3 ปีที่แล้ว ได้วิเคราะห์เรื่องนี้เอาไว้ในยูทูปช่อง คณะก้าวหน้า - Progressive Movement ความยาวกว่า 25 นาที ในหัวเรื่องว่า "ช่อฟันธง! รัสเซียแพ้ย่อยยับ ปูตินชักศึกเข้าบ้าน!" (ลิงก์ >> https://www.youtube.com/watch?v=ytfIw1BHnEM)
    .
    ทั้งนี้ในรายการดังกล่าว "ช่อ พรรณิการ์" แห่งคณะก้าวหน้าได้กล่าวในตอนต้นว่า "ดิฉันขอฟันธง รัสเซียเธอแพ้แน่นอน นับวันแพ้ ทำไมถึงจะแพ้ เป็นเพราะอะไรเกิดอะไรขึ้น เป็นเพราะอะไร?"
    .
    จากนั้น อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ได้กล่าววิเคราะห์ต่อว่า สาเหตุที่รัสเซียจะพ่ายแพ้ต่อยูเครนและชาติพันธมิตรยุโรปนั้นมาจาก การบีบบังคับด้วยการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ-การเงินต่อยุโรป
    "มาตรการหลัก ๆ ที่ตอนนี้นำโดยสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ใช้อยู่จริง ๆ คือ มาตรการการเงิน ซึ่งมากไปกว่า มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจการค้านะ แต่เรียกว่าเป็นการทุบค่าเงินและตัดตอนทางการเงินแบบขนานใหญ่ อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา นานาประเทศตัดรัสเซียออกจากระบบการโอนเงินระหว่างประเทศ S.W.I.F.T., ระบบการเงินของธนาคารต่าง ๆ, มีการฟรีซแอสเสท หรือสินทรัพย์ของรัสเซียที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงประกาศไม่ให้มีการค้าขายกับรัสเซีย ..." น.ส.พรรณิการ์กล่าว และวิเคราะห์ต่อว่า นี่เองเป็นสาเหตุที่ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียตกต่ำลงอย่างมาก จนแทบจะไม่มีค่า แทบจะกลายเป็นเศษกระดาษ
    .
    นอกจากนี้ ช่อ พรรณิการ์ ยังวิเคราะห์ต่ออย่างออกรสด้วยว่า ความเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุดคือ ท่าทีของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เลือกจะทำตามมาตรการคว่ำบาตรของอียู คือ การอายัดทรัพย์สินของรัสเซียที่อยู่ในแบงก์สวิตเซอร์แลนด์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไม่ใช่แค่การอายัดเฉพาะทรัพย์สินของรัฐ แต่เป็นทรัพย์สินของเอกชน และมหาเศรษฐีต่าง ๆ ของรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับนายปูตินด้วยจะเป็นปัจจัยชี้ขายให้รัสเซียและนายปูตินพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
    .
    "ดิฉันคิดว่า เมื่อสวิตเซอร์แลนด์ทำขนาดนี้แล้ว ปูตินนับวันแพ้ได้เลยนะคะ" โฆษกคณะก้าวหน้าฟันธง
    .
    ล่วงเลยมาถึงวันนี้ เมื่อทีมงาน Sondhi X กลับไปสำรวจความเห็นของผู้ที่เข้ามาชมคลิปการวิเคราะห์สถานการณ์โลกดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ ทางยูทูปของคณะก้าวหน้าแล้วก็พบว่า มีผู้เข้าไปย้อนดูคลิปดังกล่าวและแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น
    • สวัสดีเรามาจากอนาคต 2025 ตอนนี้ทรัมป์กับปูตินเจรจากันแล้วนะเรื่องยูเครนโดยไม่มีไอ้กี้ หรือใช้คำว่าไม่เห็นหัวไอ้กี้ ก็คงไม่ผิดนัก ส่วนไอ้กี้ก็หัวซุกหัวซุนเกาะยุโรปที่เหลืออย่างแนบแน่น จริงแล้วตอนนี้ ยูเครนต้องเลือกปธน.ใหม่แล้วนะ แต่ไอ้กี้ไม่ยอม และไม่ฟังเสียงปชช.เลย โคจรหวงอำนาจเลย ยังไงรบกวนคุณช่อประท้วงแทนปชช.ชาวยูเครนด้วยนะ หรือส่งให้ว่าที่ เลขา UN ด้วยนะครับ
    • เมื่อไรจะแพ้ รออยู่นะคับ
    • ทายแค่ ซ้ายขวายังผิดยังคิดจะมาบริหารประเทศ อายมั้ยส้ม
    • 20-2-2025 ทายผิดจนขนลุก ยูเครนเละโดนรุมทึ้งแบ่งเค้กผลประโยชน์ของชาติ แถมไม่มีสิทธิแม้แต่เข้าร่วมเจรจาสันติภาพเลือกชะตากรรมของชาติตัวเอง 😂
    • ยูเครนชนะยังครับ รอจนเมื่อยแล้ว
    • สรุปทำไมวิเคราะห์ผิดหมดเลย ไม่มีข้อมูลเพียงพอรอบด้าน หรือไม่มีศักยภาพในการวิเคราะห์ ถ้าได้บริหารประเทศวิเคราะห์ผิดแบบนี้แย่แน่นอน
    • สวัสดีเรามาจากอนาคต สภาพ ผิดทุกเรื่องตรงข้ามทุกอย่าง 5555
    • วิเคราะห์มาถึงขนาดนี้ ปัจจุบันคุณเห็นหรือยังใครเป็นคนทำสงคราม นาโต้ทำสงครามกับรัสเซีย ยูเครนเป็นสนามรบ ผู้สนับสนุนหลักคืออเมริกา
    รัสเซียบุกยูเครน ก็เพราะนาโต้ขยายอาณาเขตเข้ามาในยูเครน รัสเซียแค่ป้องกันตนเองจากกลุ่มนาโต้ มีหัวเรือเป็นสหรัฐอเมริกา ตัวตลกยูเครนคือหุ่นเชิด
    • ธงหักหมดแล้ว จากคนเคยเลือกและลาขาด
    .
    สำหรับคลิปการวิเคราะห์ดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ เรื่องสงครามยูเครน นับถึงเวลา 20.00น. ที่ผ่านมาของวันที่ 20 ก.พ. 68 มีผู้เข้าชมแล้วกว่า 1.49 ล้านครั้ง
    ยูเครนชนะกี่โมง? ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์" ฟันธงรัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ . ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์" ยอดนักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศสายส้ม วิเคราะห์สงครามยูเครนแบบมั่นหน้า ด้วยการฟันธงว่า รัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ ปูตินจะถูกรัฐประหารเงียบ จนชาวเน็ตผู้มาจากอนาคตเข้าไปรุมคอมเมนต์เดือด เตือนความทรงจำ ถามเมื่อไหร่รัสเซียจะแพ้-ยูเครนจะชนะ? . ในสถานการณ์ทางการเมืองโลกที่ผันผวนภายหลังการยกหูโทรศัพท์พูดคุยกันนานกว่า 90 นาทีระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เมื่อวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 โดยในประเด็นสงครามยูเครนนั้น นายทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะยุติสงครามไร้สาระนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยการสังหารและการทำลายล้างที่ไม่จำเป็นเลย ขอพระเจ้าอวยพรประชาชนชาวรัสเซียและยูเครน!” . การเริ่มต้นพูดคุยระหว่าง ทรัมป์และปูติน อันนำมาสู่เหตุการณ์เมื่อ วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 สหรัฐฯ และรัสเซียนำโดย นายมาร์ค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งดำเนินการเปิดโต๊ะการเจรจาเกี่ยวกับยูเครนกันเพียง 2 ฝ่าย อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยปราศจากตัวแทนของยูเครน และชาติต่าง ๆ ในยุโรปร่วมโต๊ะเลย แม้แต่คนเดียว . สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความเดือดดาลให้กับนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนและผู้นำชาติต่างๆ ในยุโรปอย่างมาก เพราะการเปิดโต๊ะเจรจาดังกล่าวเป็นสัญญาณว่า ยูเครนและยุโรปน่าจะต้องตกเป็นเบี้ยล่าง และพ่ายแพ้ถูกทิ้งไว้ท่ามกลางซากปรักหักพัง รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่เข้ารุมเร้าทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ การแย่งชิงบีบบังคับเอาทรัพยากรเพื่อชดใช้เงินช่วยเหลือในสงคราม ความวุ่นวายทางการเมืองภายใน รวมไปถึงปัญหาสังคมและผู้อพยพ ฯลฯ . ในส่วนของผู้ที่ติดตามข่าวสารเรื่องสงครามยูเครนในประเทศไทยส่วนหนึ่ง ได้มีผู้ย้อนไปหยิบยกการวิเคราะห์สถานการณ์สงครามยูเครนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ และอดีตเป็นพิธีกรรายการข่าวทางช่องวอยซ์ทีวี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งโฆษกคณะก้าวหน้า ซึ่งเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 หรือเกือบ 3 ปีที่แล้ว ได้วิเคราะห์เรื่องนี้เอาไว้ในยูทูปช่อง คณะก้าวหน้า - Progressive Movement ความยาวกว่า 25 นาที ในหัวเรื่องว่า "ช่อฟันธง! รัสเซียแพ้ย่อยยับ ปูตินชักศึกเข้าบ้าน!" (ลิงก์ >> https://www.youtube.com/watch?v=ytfIw1BHnEM) . ทั้งนี้ในรายการดังกล่าว "ช่อ พรรณิการ์" แห่งคณะก้าวหน้าได้กล่าวในตอนต้นว่า "ดิฉันขอฟันธง รัสเซียเธอแพ้แน่นอน นับวันแพ้ ทำไมถึงจะแพ้ เป็นเพราะอะไรเกิดอะไรขึ้น เป็นเพราะอะไร?" . จากนั้น อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ได้กล่าววิเคราะห์ต่อว่า สาเหตุที่รัสเซียจะพ่ายแพ้ต่อยูเครนและชาติพันธมิตรยุโรปนั้นมาจาก การบีบบังคับด้วยการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ-การเงินต่อยุโรป "มาตรการหลัก ๆ ที่ตอนนี้นำโดยสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ใช้อยู่จริง ๆ คือ มาตรการการเงิน ซึ่งมากไปกว่า มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจการค้านะ แต่เรียกว่าเป็นการทุบค่าเงินและตัดตอนทางการเงินแบบขนานใหญ่ อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา นานาประเทศตัดรัสเซียออกจากระบบการโอนเงินระหว่างประเทศ S.W.I.F.T., ระบบการเงินของธนาคารต่าง ๆ, มีการฟรีซแอสเสท หรือสินทรัพย์ของรัสเซียที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงประกาศไม่ให้มีการค้าขายกับรัสเซีย ..." น.ส.พรรณิการ์กล่าว และวิเคราะห์ต่อว่า นี่เองเป็นสาเหตุที่ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียตกต่ำลงอย่างมาก จนแทบจะไม่มีค่า แทบจะกลายเป็นเศษกระดาษ . นอกจากนี้ ช่อ พรรณิการ์ ยังวิเคราะห์ต่ออย่างออกรสด้วยว่า ความเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุดคือ ท่าทีของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เลือกจะทำตามมาตรการคว่ำบาตรของอียู คือ การอายัดทรัพย์สินของรัสเซียที่อยู่ในแบงก์สวิตเซอร์แลนด์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไม่ใช่แค่การอายัดเฉพาะทรัพย์สินของรัฐ แต่เป็นทรัพย์สินของเอกชน และมหาเศรษฐีต่าง ๆ ของรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับนายปูตินด้วยจะเป็นปัจจัยชี้ขายให้รัสเซียและนายปูตินพ่ายแพ้อย่างแน่นอน . "ดิฉันคิดว่า เมื่อสวิตเซอร์แลนด์ทำขนาดนี้แล้ว ปูตินนับวันแพ้ได้เลยนะคะ" โฆษกคณะก้าวหน้าฟันธง . ล่วงเลยมาถึงวันนี้ เมื่อทีมงาน Sondhi X กลับไปสำรวจความเห็นของผู้ที่เข้ามาชมคลิปการวิเคราะห์สถานการณ์โลกดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ ทางยูทูปของคณะก้าวหน้าแล้วก็พบว่า มีผู้เข้าไปย้อนดูคลิปดังกล่าวและแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น • สวัสดีเรามาจากอนาคต 2025 ตอนนี้ทรัมป์กับปูตินเจรจากันแล้วนะเรื่องยูเครนโดยไม่มีไอ้กี้ หรือใช้คำว่าไม่เห็นหัวไอ้กี้ ก็คงไม่ผิดนัก ส่วนไอ้กี้ก็หัวซุกหัวซุนเกาะยุโรปที่เหลืออย่างแนบแน่น จริงแล้วตอนนี้ ยูเครนต้องเลือกปธน.ใหม่แล้วนะ แต่ไอ้กี้ไม่ยอม และไม่ฟังเสียงปชช.เลย โคจรหวงอำนาจเลย ยังไงรบกวนคุณช่อประท้วงแทนปชช.ชาวยูเครนด้วยนะ หรือส่งให้ว่าที่ เลขา UN ด้วยนะครับ • เมื่อไรจะแพ้ รออยู่นะคับ • ทายแค่ ซ้ายขวายังผิดยังคิดจะมาบริหารประเทศ อายมั้ยส้ม • 20-2-2025 ทายผิดจนขนลุก ยูเครนเละโดนรุมทึ้งแบ่งเค้กผลประโยชน์ของชาติ แถมไม่มีสิทธิแม้แต่เข้าร่วมเจรจาสันติภาพเลือกชะตากรรมของชาติตัวเอง 😂 • ยูเครนชนะยังครับ รอจนเมื่อยแล้ว • สรุปทำไมวิเคราะห์ผิดหมดเลย ไม่มีข้อมูลเพียงพอรอบด้าน หรือไม่มีศักยภาพในการวิเคราะห์ ถ้าได้บริหารประเทศวิเคราะห์ผิดแบบนี้แย่แน่นอน • สวัสดีเรามาจากอนาคต สภาพ ผิดทุกเรื่องตรงข้ามทุกอย่าง 5555 • วิเคราะห์มาถึงขนาดนี้ ปัจจุบันคุณเห็นหรือยังใครเป็นคนทำสงคราม นาโต้ทำสงครามกับรัสเซีย ยูเครนเป็นสนามรบ ผู้สนับสนุนหลักคืออเมริกา รัสเซียบุกยูเครน ก็เพราะนาโต้ขยายอาณาเขตเข้ามาในยูเครน รัสเซียแค่ป้องกันตนเองจากกลุ่มนาโต้ มีหัวเรือเป็นสหรัฐอเมริกา ตัวตลกยูเครนคือหุ่นเชิด • ธงหักหมดแล้ว จากคนเคยเลือกและลาขาด . สำหรับคลิปการวิเคราะห์ดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ เรื่องสงครามยูเครน นับถึงเวลา 20.00น. ที่ผ่านมาของวันที่ 20 ก.พ. 68 มีผู้เข้าชมแล้วกว่า 1.49 ล้านครั้ง
    Haha
    Like
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ (20ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์​ มะทา​ ประธานสภาผู้แทนราษฎร​ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ในช่วงเปิดให้สมาชิกหารือ ได้มีกระรอกตัวหนึ่งโผล่มาวิ่งเล่น บริเวณผนังด้านข้างใต้ชายคาโซนชั้น 2 จุดที่ให้สื่อมวลชนสามารถเข้าไปถ่ายภาพได้ ภายในห้องประชุมพระสุริยัน ทำให้ไม่มี สส.​คนใดเห็นกระรอก​ ตัวดังกล่าวและไม่ทราบว่าเข้ามาได้อย่างไร แต่มีรูที่ทำให้กระรอกมุดไปมาได้ 2 ฝั่ง​ ทำให้ช่างภาพสื่อมวลชนที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับงงว่ามาได้อย่างไร

    อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ เคยมีเหตุการณ์กระป๋องนมตกลงมากลางห้องประชุมระหว่างการประชุมร่วมรัฐสภา เมื่อวันที่ 14 ​ม.ค. ขณะพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภามาแล้ว

    #MGROnline #การประชุมสภาผู้แทนราษฎร #ห้องประชุมพระสุริยัน
    วันนี้ (20ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์​ มะทา​ ประธานสภาผู้แทนราษฎร​ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ในช่วงเปิดให้สมาชิกหารือ ได้มีกระรอกตัวหนึ่งโผล่มาวิ่งเล่น บริเวณผนังด้านข้างใต้ชายคาโซนชั้น 2 จุดที่ให้สื่อมวลชนสามารถเข้าไปถ่ายภาพได้ ภายในห้องประชุมพระสุริยัน ทำให้ไม่มี สส.​คนใดเห็นกระรอก​ ตัวดังกล่าวและไม่ทราบว่าเข้ามาได้อย่างไร แต่มีรูที่ทำให้กระรอกมุดไปมาได้ 2 ฝั่ง​ ทำให้ช่างภาพสื่อมวลชนที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับงงว่ามาได้อย่างไร • อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ เคยมีเหตุการณ์กระป๋องนมตกลงมากลางห้องประชุมระหว่างการประชุมร่วมรัฐสภา เมื่อวันที่ 14 ​ม.ค. ขณะพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภามาแล้ว • #MGROnline #การประชุมสภาผู้แทนราษฎร #ห้องประชุมพระสุริยัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตาก – รัฐบาลจีนนำเครื่องบินลงแม่สอด รับชาวจีนที่ถูกช่วยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทุนเทาเมียวดี บินกลับระลอกแรก 100 คน

    วันนี้(20 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีทางการจีน ได้จัดเที่ยวบิน China Southern Airlines รับตัวชาวจีนทั้งที่เป็นเหยื่อ-ผู้ร่วมขบวนการ หรือเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ แก๊งอาชญากรรมออนไลน์ ที่ถูกกองกำลังพิทักษ์ชายแดนเมียวดี (BGF)-ทางการเมียนมา จับกุม/ช่วยเหลือออกมาได้ และจะส่งตัวข้ามแดนจากเมียวดีเข้าแม่สอด เพื่อส่งตัวกลับ สป.จีน

    ซึ่ง สป.จีน ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบข้อมูล และขนย้ายจากเมียนมา ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 ตรงเข้าท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด วันนี้(20 ก.พ.) จำนวน 4 เที่ยวบิน , 21 และ 22 ก.พ. วันละ 6 เที่ยวบิน รวม 3 วัน 16 เที่ยวบิน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000016867

    #MGROnline #ตาก #รัฐบาลจีน #แม่สอด #ชาวจีน #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ทุนเทาเมียวดี
    ตาก – รัฐบาลจีนนำเครื่องบินลงแม่สอด รับชาวจีนที่ถูกช่วยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทุนเทาเมียวดี บินกลับระลอกแรก 100 คน • วันนี้(20 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีทางการจีน ได้จัดเที่ยวบิน China Southern Airlines รับตัวชาวจีนทั้งที่เป็นเหยื่อ-ผู้ร่วมขบวนการ หรือเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ แก๊งอาชญากรรมออนไลน์ ที่ถูกกองกำลังพิทักษ์ชายแดนเมียวดี (BGF)-ทางการเมียนมา จับกุม/ช่วยเหลือออกมาได้ และจะส่งตัวข้ามแดนจากเมียวดีเข้าแม่สอด เพื่อส่งตัวกลับ สป.จีน • ซึ่ง สป.จีน ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบข้อมูล และขนย้ายจากเมียนมา ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 ตรงเข้าท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด วันนี้(20 ก.พ.) จำนวน 4 เที่ยวบิน , 21 และ 22 ก.พ. วันละ 6 เที่ยวบิน รวม 3 วัน 16 เที่ยวบิน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000016867 • #MGROnline #ตาก #รัฐบาลจีน #แม่สอด #ชาวจีน #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ทุนเทาเมียวดี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • กาญจนบุรี - จ.กาญจน์ พบจุดความร้อนทั้งจังหวัดลดเหลือแค่ 4 จุด หลังกรมฝนหลวงและการบินเกษตร บินทำฝนหลวงระหว่าง 18-19 ก.พ.หลายพื้นที่ฝนตกชุ่มฉ่ำ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีสถานการณ์ไฟป่าในกลุ่มป่าตะวันตกvรือกลุ่มป่าที่ 12 รอบเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี มีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เดินเท้าเข้าไปดับไฟป่าที่เกิดขึ้นบนยอดเขาที่สูงชัน บางพื้นที่มีหน้าผาที่ค่อนข้างอันตราย อีกทั้งต้องสุ่มเสี่ยงต่อการเผชิญกับสัตว์ป่าที่ดุร้าย โดยเฉพาะช้างป่า จากสถานการณ์การเกิดไฟป่า จึงจำเป็นที่จะต้องพึ่งพากรมฝนหลวงและการบินเกษตร นำเครื่องบินมาทำฝนเทียมหรือฝนหลวงขึ้นในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยเฉพาะในพื้นที่กลุ่มป่าที่ 12 รอบเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000016874

    #MGROnline #กาญจนบุรี #จุดความร้อน #กรมฝนหลวงและการบินเกษตร #ฝนหลวง
    กาญจนบุรี - จ.กาญจน์ พบจุดความร้อนทั้งจังหวัดลดเหลือแค่ 4 จุด หลังกรมฝนหลวงและการบินเกษตร บินทำฝนหลวงระหว่าง 18-19 ก.พ.หลายพื้นที่ฝนตกชุ่มฉ่ำ • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีสถานการณ์ไฟป่าในกลุ่มป่าตะวันตกvรือกลุ่มป่าที่ 12 รอบเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี มีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เดินเท้าเข้าไปดับไฟป่าที่เกิดขึ้นบนยอดเขาที่สูงชัน บางพื้นที่มีหน้าผาที่ค่อนข้างอันตราย อีกทั้งต้องสุ่มเสี่ยงต่อการเผชิญกับสัตว์ป่าที่ดุร้าย โดยเฉพาะช้างป่า จากสถานการณ์การเกิดไฟป่า จึงจำเป็นที่จะต้องพึ่งพากรมฝนหลวงและการบินเกษตร นำเครื่องบินมาทำฝนเทียมหรือฝนหลวงขึ้นในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยเฉพาะในพื้นที่กลุ่มป่าที่ 12 รอบเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000016874 • #MGROnline #กาญจนบุรี #จุดความร้อน #กรมฝนหลวงและการบินเกษตร #ฝนหลวง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนกล่าวหา โดนัลด์ ทรัมป์ ว่า เอาแต่เชื่อฟัง “ข้อมูลข่าวสารเท็จ” ของฝ่ายรัสเซีย เป็นการตอบโต้ผู้นำสหรัฐฯ ที่พูดเมื่อ 1 วันก่อนหน้านั้น โจมตีประมุขเคียฟกลายๆ ว่า เขาเป็นต้นตอปล่อยให้ความขัดแย้งกับรัสเซียเริ่มต้นขึ้นมาและลุกลามบานปลายอย่างไม่จำเป็น การโจมตีใส่กันเช่นนี้ส่อแสดงให้เห็นว่ายูเครนกับคณะบริหารใหม่ของอเมริกายิ่งมองหน้ากันไม่ติด หลังจากคณะผู้แทนทางการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ และรัสเซียเปิดการหารือกันอย่างชื่นมื่นที่ซาอุดีอาระเบีย ในเรื่องหนทางยุติสงครามในยูเครนและการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างแดนอินทรีกับแดนหมีขาว โดยที่ไม่เชิญยูเครนหรือชาติยุโรปซึ่งหนุนหลังเคียฟเข้าร่วมด้วย
    .
    ระหว่างการแถลงข่าวสื่อมวลชนเมื่อวันอังคาร (18) ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวย้ำประเด็นจำนวนมากที่ฝ่ายรัสเซียได้พูดเอาไว้ในช่วง 3 ปีที่เกิดสงครามในยูเครน โดยประณามเคียฟว่าเป็นผู้เริ่มต้นทำให้เกิดการสู้รบขึ้นมาอย่างไม่จำเป็น พร้อมกับย้ำว่า บรรดาผู้นำในเคียฟไม่ควรปล่อยให้เกิดการสู้รบขัดแย้งขึ้นมาตั้งแต่แรก ทั้งนี้คำพูดเช่นนี้ของเขาอาจตีความได้ว่า เขาเห็นว่ายูเครนน่าจะยอมโอนอ่อนผ่อนตามแดนหมีขาว ก่อนที่รัสเซียจะยกทัพบุกเมื่อต้นปี 2022 นอกจากนั้น ทรัมป์ยังเสนอแนะว่าเซเลนสกีกำลังไม่เป็นที่นิยมชมชื่นของประชาชนชาวยูเครน
    .
    เซเลนสกีกล่าวตอบโต้กลับในวันพุธ โดยบอกว่า “โชคร้าย ท่านประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้ซึ่งเรามีความเคารพอย่างใหญ่หลวงในฐานะเป็นผู้นำของประชาชนชาวอเมริกัน ... มีชีวิตอยู่ในท่ามกลางแวดวงข้อมูลข่าวสารเท็จเช่นนี้”
    .
    “ผมเชื่อว่าสหรัฐฯ ได้ช่วยเหลือให้ปูตินสามารถทลายการถูกโดดเดี่ยวมาเป็นเวลาหลายปี” เซเลนสกี กล่าว
    .
    ในวันอังคาร ทรัมป์กล่าวตำหนิทางยูเครนที่ส่งเสียงคร่ำครวญกรณีถูกกีดกันออกจากการเจรจาของสหรัฐฯ กับรัสเซีย ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในวันเดียวกัน
    .
    "ผมผิดหวังอย่างมาก ผมได้ยินว่าพวกเขาอารมณ์เสียที่ไม่มีที่นั่งบนโต๊ะเจรจา" ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่รีสอร์ตมาร์-อา-ลาโก ของเขาในฟลอริดา หลังถูกสอบถามเกี่ยวกับปฏิกิริยาของยูเครน
    .
    "วันนี้ผมได้ยิน (ทางยูเครนพูด) ว่า โอ้ เราไม่ได้รับเชิญ ก็แน่นอนล่ะ คุณอยู่ตรงนั้นมา 3 ปี แต่คุณไม่เคยเริ่มมันเลย คุณควรทำข้อตกลง (กับรัสเซีย)" เขากล่าว
    .
    ในการแถลงข่าว ทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่า อาจพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ก่อนสิ้นเดือนนี้ที่ซาอุดีอาระเบีย เวลาเดียวกันเขาก็เพิ่มความกดดันให้เซเลนสกีต้องจัดการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องสำคัญของรัสเซีย ทั้งนี้ เนื่องจากเซเลนสกีรับตำแหน่งเกิน 5 ปีตามกำหนดวาระแล้ว แต่ยังไม่จัดการเลือกตั้งโดยอ้างว่า ยูเครนยังคงอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก
    .
    "พวกเขา (พวกผู้นำยูเครน) ต้องการเก้าอี้บนโต๊ะเจรจา แต่คุณสามารถพูดได้ว่า มันอาจไม่ใช่เสียงของประชาชนชวยูเครน มันนานมาแล้วนะที่เขามีการเลือกตั้ง" ทรัมป์ระบุ พร้อมกับกล่าวว่า "นี่ไม่ใช่เรื่องของรัสเซีย มันเป็นบางอย่างที่ออกมาจากเรา มาจากประเทศอื่นๆ"
    .
    ผู้นำสหรัฐฯ ยังบอกว่า มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นว่า ตนเองมีอำนาจในการหยุดยั้งสงครามในยูเครน ภายหลังการหารือของคณะผู้แทนของสหรัฐฯ และรัสเซียที่กรุงริยาด ซึ่งเป็นการประชุมระดับสูงอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับจากเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ที่รัสเซียยกทัพบุกยูเครนนั้น
    .
    ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า ในการหารือที่ริยาดที่ใช้เวลายาวนานราว 4 ชั่วโมงครึ่ง รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โค รูบิโอ ของสหรัฐฯ ที่เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายอเมริกา และรัฐมนตรีต่างประเทศ เซียร์เก ลาฟรอฟ ของรัสเซีย ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะของฝ่ายแดนหมีขาว ได้ตกลงที่จะจัดตั้งคณะทำงานระดับสูงเพื่อหารือกันถึงเกี่ยวกับวิธีการยุติสงครามในยูเครนโดยเร็วที่สุด แต่ยังไม่ระบุชัดเจนว่าจะประชุมกันครั้งแรกเมื่อใด
    .
    ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องสร้างกลไกการหารือเพื่อจัดการ “สิ่งที่สร้างความระคายเคือง” ต่อความสัมพันธ์สองประเทศ และวางรากฐานสำหรับการร่วมมือในอนาคต
    .
    ด้าน ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ซึ่งร่วมเจรจาที่ริยาดด้วย เสริมว่า ประเด็นด้านดินแดนและการรับประกันความมั่นคงจะเป็นส่วนหนึ่งในการหารือ
    .
    สำหรับ คิริลล์ ดมิทริฟ ผู้เจรจาด้านเศรษฐกิจของรัสเซีย กล่าวว่า ความพยายามของตะวันตกในการโดดเดี่ยวรัสเซียล้มเหลวอย่างชัดเจน และเสริมว่า รัสเซียและอเมริกาควรพัฒนาโครงการพลังงานร่วมกัน ซึ่งรวมถึงในอาร์กติกและภูมิภาคอื่นๆ
    .
    ด้านลาฟรอฟแสดงความเชื่อมั่นว่า อเมริกาเข้าใจจุดยืนของรัสเซียดีขึ้น และยังย้ำว่า มอสโกคัดค้านการนำกองกำลังนาโตไปประจำการในยูเครนภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้นำยุโรปกำลังถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016776
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนกล่าวหา โดนัลด์ ทรัมป์ ว่า เอาแต่เชื่อฟัง “ข้อมูลข่าวสารเท็จ” ของฝ่ายรัสเซีย เป็นการตอบโต้ผู้นำสหรัฐฯ ที่พูดเมื่อ 1 วันก่อนหน้านั้น โจมตีประมุขเคียฟกลายๆ ว่า เขาเป็นต้นตอปล่อยให้ความขัดแย้งกับรัสเซียเริ่มต้นขึ้นมาและลุกลามบานปลายอย่างไม่จำเป็น การโจมตีใส่กันเช่นนี้ส่อแสดงให้เห็นว่ายูเครนกับคณะบริหารใหม่ของอเมริกายิ่งมองหน้ากันไม่ติด หลังจากคณะผู้แทนทางการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ และรัสเซียเปิดการหารือกันอย่างชื่นมื่นที่ซาอุดีอาระเบีย ในเรื่องหนทางยุติสงครามในยูเครนและการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างแดนอินทรีกับแดนหมีขาว โดยที่ไม่เชิญยูเครนหรือชาติยุโรปซึ่งหนุนหลังเคียฟเข้าร่วมด้วย . ระหว่างการแถลงข่าวสื่อมวลชนเมื่อวันอังคาร (18) ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวย้ำประเด็นจำนวนมากที่ฝ่ายรัสเซียได้พูดเอาไว้ในช่วง 3 ปีที่เกิดสงครามในยูเครน โดยประณามเคียฟว่าเป็นผู้เริ่มต้นทำให้เกิดการสู้รบขึ้นมาอย่างไม่จำเป็น พร้อมกับย้ำว่า บรรดาผู้นำในเคียฟไม่ควรปล่อยให้เกิดการสู้รบขัดแย้งขึ้นมาตั้งแต่แรก ทั้งนี้คำพูดเช่นนี้ของเขาอาจตีความได้ว่า เขาเห็นว่ายูเครนน่าจะยอมโอนอ่อนผ่อนตามแดนหมีขาว ก่อนที่รัสเซียจะยกทัพบุกเมื่อต้นปี 2022 นอกจากนั้น ทรัมป์ยังเสนอแนะว่าเซเลนสกีกำลังไม่เป็นที่นิยมชมชื่นของประชาชนชาวยูเครน . เซเลนสกีกล่าวตอบโต้กลับในวันพุธ โดยบอกว่า “โชคร้าย ท่านประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้ซึ่งเรามีความเคารพอย่างใหญ่หลวงในฐานะเป็นผู้นำของประชาชนชาวอเมริกัน ... มีชีวิตอยู่ในท่ามกลางแวดวงข้อมูลข่าวสารเท็จเช่นนี้” . “ผมเชื่อว่าสหรัฐฯ ได้ช่วยเหลือให้ปูตินสามารถทลายการถูกโดดเดี่ยวมาเป็นเวลาหลายปี” เซเลนสกี กล่าว . ในวันอังคาร ทรัมป์กล่าวตำหนิทางยูเครนที่ส่งเสียงคร่ำครวญกรณีถูกกีดกันออกจากการเจรจาของสหรัฐฯ กับรัสเซีย ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในวันเดียวกัน . "ผมผิดหวังอย่างมาก ผมได้ยินว่าพวกเขาอารมณ์เสียที่ไม่มีที่นั่งบนโต๊ะเจรจา" ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่รีสอร์ตมาร์-อา-ลาโก ของเขาในฟลอริดา หลังถูกสอบถามเกี่ยวกับปฏิกิริยาของยูเครน . "วันนี้ผมได้ยิน (ทางยูเครนพูด) ว่า โอ้ เราไม่ได้รับเชิญ ก็แน่นอนล่ะ คุณอยู่ตรงนั้นมา 3 ปี แต่คุณไม่เคยเริ่มมันเลย คุณควรทำข้อตกลง (กับรัสเซีย)" เขากล่าว . ในการแถลงข่าว ทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่า อาจพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ก่อนสิ้นเดือนนี้ที่ซาอุดีอาระเบีย เวลาเดียวกันเขาก็เพิ่มความกดดันให้เซเลนสกีต้องจัดการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องสำคัญของรัสเซีย ทั้งนี้ เนื่องจากเซเลนสกีรับตำแหน่งเกิน 5 ปีตามกำหนดวาระแล้ว แต่ยังไม่จัดการเลือกตั้งโดยอ้างว่า ยูเครนยังคงอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก . "พวกเขา (พวกผู้นำยูเครน) ต้องการเก้าอี้บนโต๊ะเจรจา แต่คุณสามารถพูดได้ว่า มันอาจไม่ใช่เสียงของประชาชนชวยูเครน มันนานมาแล้วนะที่เขามีการเลือกตั้ง" ทรัมป์ระบุ พร้อมกับกล่าวว่า "นี่ไม่ใช่เรื่องของรัสเซีย มันเป็นบางอย่างที่ออกมาจากเรา มาจากประเทศอื่นๆ" . ผู้นำสหรัฐฯ ยังบอกว่า มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นว่า ตนเองมีอำนาจในการหยุดยั้งสงครามในยูเครน ภายหลังการหารือของคณะผู้แทนของสหรัฐฯ และรัสเซียที่กรุงริยาด ซึ่งเป็นการประชุมระดับสูงอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับจากเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ที่รัสเซียยกทัพบุกยูเครนนั้น . ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า ในการหารือที่ริยาดที่ใช้เวลายาวนานราว 4 ชั่วโมงครึ่ง รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โค รูบิโอ ของสหรัฐฯ ที่เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายอเมริกา และรัฐมนตรีต่างประเทศ เซียร์เก ลาฟรอฟ ของรัสเซีย ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะของฝ่ายแดนหมีขาว ได้ตกลงที่จะจัดตั้งคณะทำงานระดับสูงเพื่อหารือกันถึงเกี่ยวกับวิธีการยุติสงครามในยูเครนโดยเร็วที่สุด แต่ยังไม่ระบุชัดเจนว่าจะประชุมกันครั้งแรกเมื่อใด . ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องสร้างกลไกการหารือเพื่อจัดการ “สิ่งที่สร้างความระคายเคือง” ต่อความสัมพันธ์สองประเทศ และวางรากฐานสำหรับการร่วมมือในอนาคต . ด้าน ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ซึ่งร่วมเจรจาที่ริยาดด้วย เสริมว่า ประเด็นด้านดินแดนและการรับประกันความมั่นคงจะเป็นส่วนหนึ่งในการหารือ . สำหรับ คิริลล์ ดมิทริฟ ผู้เจรจาด้านเศรษฐกิจของรัสเซีย กล่าวว่า ความพยายามของตะวันตกในการโดดเดี่ยวรัสเซียล้มเหลวอย่างชัดเจน และเสริมว่า รัสเซียและอเมริกาควรพัฒนาโครงการพลังงานร่วมกัน ซึ่งรวมถึงในอาร์กติกและภูมิภาคอื่นๆ . ด้านลาฟรอฟแสดงความเชื่อมั่นว่า อเมริกาเข้าใจจุดยืนของรัสเซียดีขึ้น และยังย้ำว่า มอสโกคัดค้านการนำกองกำลังนาโตไปประจำการในยูเครนภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้นำยุโรปกำลังถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016776 .............. Sondhi X
    Like
    10
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1177 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ทิ้งบอมบ์รอบใหม่ ขู่รีดภาษีศุลกากรรถนำเข้า 25% และจัดเก็บในระดับเดียวกันหรือสูงกว่าสำหรับผลิตภัณฑ์ยาและเซมิคอนดักเตอร์ ด้านจีนประณามมาตรการภาษีและการข่มขู่ของทรัมป์ระหว่างการประชุมองค์การการค้าโลกว่า เป็นการคุกคามระบบการค้าและทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอย
    .
    นับจากเข้ารับตำแหน่งปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้สั่งเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าของพวกประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดบางแห่งโดยอ้างว่า เพื่อตอบโต้กับแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่เอาเปรียบและไม่เป็นธรรมกับสหรัฐฯ นอกจากนั้น ในหลายกรณีก็ระบุเหตุผลว่าเพื่อผลักดันนโยบายสำคัญของอเมริกา อย่างเช่นการปราบปรามการอพยพเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศรีดภาษีศุลกากรจากสินค้านำเข้าทุกรายการจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 10% และปักกิ่งได้ตอบโต้ด้วยมาตรการทำนองเดียวกันในขนาดขอบเขตที่แคบกว่า จากนั้นทรัมป์ยังสั่งขึ้นภาษีที่เก็บจากเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมนำเข้าจากทุกประเทศในอัตรา 25%
    .
    ล่าสุดในวันอังคาร (18 ก.พ.) ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จะขึ้นภาษีศุลกากรที่จะเรียกเก็บจากอุตสาหกรรมรถยนต์ในอัตราประมาณ 25% โดยจะบังคับใช้ในราววันที่ 2 เมษายน
    .
    สำหรับสินค้าพวกยาและเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งทรัมป์เคยบอกไว้ว่าจะพิจารณาเพิ่มภาษีในช่วงเวลาเดียวกับรถยนต์นั้น ทรัมป์ขยายความในคราวนี้ว่า จะเก็บสูงขึ้นในอัตรา 25% หรือสูงกว่านั้น แล้วจากนั้นจะเพิ่มขึ้นสูงมากภายใน 1 ปี แต่เขายังไม่ระบุว่าจะเริ่มเมื่อใด
    .
    เขายังบอกว่า ต้องการให้เวลาพวกบริษัทที่ได้รับผลกระทบ เพื่อจะได้กลับลำมาทำธุรกิจในอเมริกา และเสริมด้วยว่า ประเทศคู่ค้าของวอชิงตันก็สามารถหลีกเลี่ยงการถูกเก็บภาษีเพิ่มได้ด้วยการเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานในอเมริกา
    .
    อย่างไรก็ตาม พวกผู้เชี่ยวชาญย้ำคำเตือนที่ได้ให้ไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ที่ว่ามาตรการเพิ่มภาษีศุลกาการจากสินค้านำเข้านั้น คนอเมริกันเองมีแนวโน้มต้องแบกรับมากกว่าพวกผู้ส่งออกต่างชาติ เนื่องจากคนที่ต้องควักเงินจ่ายภาษีจริงๆ ก็คือผู้นำเข้าในอเมริกา และพวกเขาก็มักแบ่งเบาภาระนี้ด้วยการขึ้นราคาสินค้าที่จำหน่ายในสหรัฐฯ
    .
    เฉพาะรถยนต์นั้น ปัจจุบันรถยนต์ราว 50% ที่ขายในอเมริกาเป็นรถที่ผลิตภายในประเทศ ขณะที่รถนำเข้าประมาณครึ่งหนึ่งเป็นรถจากเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกแบรนด์ระดับอินเตอร์ไปตั้งโรงงานประกอบกันที่นั่น นอกจากนั้นยังมีญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเยอรมนีที่เป็นซัปพลายเออร์รายสำคัญ
    .
    เอเชียจับตามาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์อย่างระมัดระวังมาก เนื่องจากมีซัปพลายเออร์หลักบางแห่งของอุตสาหกรรมรถยนต์ของอเมริกาตั้งอยู่
    .
    โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพุธว่า ญี่ปุ่นได้หยิบยกประเด็นภาษีศุลกากรรถยนต์หารือกับอเมริกาแล้ว และรัฐบาลจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมควบคู่กับการตรวจสอบรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงของมาตรการภาษีดังกล่าว
    .
    ทางด้านไต้หวันที่เป็นฮับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของโลกและถูกทรัมป์กล่าวหาว่า ปล้นอุตสาหกรรมชิปไปจากอเมริกานั้น ก็แสดงท่าทีตื่นตัวเฝ้าระวัง ถึงแม้กระทรวงเศรษฐกิจแถลงว่า ขอบเขตผลิตภัณฑ์ที่จะถูกเรียกเก็บภาษียังไม่มีความชัดเจน และรัฐบาลจะติดตามทิศทางนโยบายของอเมริกาต่อไป รวมทั้งจะให้ความช่วยเหลือแก่อุตสาหกรรมท้องถิ่นที่ได้รับความเดือดร้อน
    .
    ก่อนหน้านี้ไทเปประกาศแล้วว่า จะเพิ่มการลงทุนในอเมริกาเพื่อหาทางหลีกเลี่ยงมาตรการภาษีของทรัมป์
    .
    ผู้นำอเมริกายังแสดงความยินดีที่สหภาพยุโรป ลดภาษีศุลกากรรถยนต์จาก 10% เหลือ 2.5% เท่ากับอเมริกา และบอกว่า ถ้าทุกประเทศทำแบบนี้ การค้าทั่วโลกจะแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง หลี่ เฉิงกัง เอกอัครราชทูตจีนประจำองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ได้ประณามมาตรการภาษีศุลกากรและการข่มขู่ของทรัมป์ ในระหว่างการประชุมคณะมนตรีใหญ่ดับเบิลยูทีโอในวันอังคารโดยระบุว่า การขึ้นภาษีอย่างแรงและการดำเนินการฝ่ายเดียวของทรัมป์เช่นนี้ ส่งผลกระทบหนักหน่วงต่อระบบการค้าโลก ทำให้เศรษฐกิจไร้ความแน่นอนมากขึ้น การค้าโลกสะดุด เสี่ยงเกิดภาวะเฟ้อในอเมริกา บิดเบือนตลาด หรือแม้กระทั่งทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย
    .
    ทว่า เดวิด บิสบี นักการทูตของอเมริกาตอบโต้ว่า เศรษฐกิจจีนเป็นระบบเศรษฐกิจนักล่าที่ไม่ได้อิงกับตลาด และเสริมว่า ตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษที่เข้าเป็นสมาชิก จีนละเมิด เพิกเฉย และหลบเลี่ยงกฎของดับเบิลยูทีโอมาหลายครั้ง
    .
    ทั้งนี้ ความขัดแย้งระหว่างสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในดับเบิลยูทีโอเกิดขึ้นมานานแล้ว โดยปักกิ่งกล่าวหาวอชิงตันละเมิดกฎ ขณะที่วอชิงตันระบุว่า ปักกิ่งไม่สมควรได้รับสถานะประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งได้รับการปฏิบัติพิเศษภายใต้กฎของดับเบิลยูทีโอ
    .
    นอกจากนั้น การที่คณะบริหารของทรัมป์ประกาศแผนถอนตัวจากองค์กรระดับโลกหลายแห่ง ยังเท่ากับว่า ดับเบิลยูทีโอไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่ทำเนียบขาวคำนึงถึงมากนัก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016777
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์ทิ้งบอมบ์รอบใหม่ ขู่รีดภาษีศุลกากรรถนำเข้า 25% และจัดเก็บในระดับเดียวกันหรือสูงกว่าสำหรับผลิตภัณฑ์ยาและเซมิคอนดักเตอร์ ด้านจีนประณามมาตรการภาษีและการข่มขู่ของทรัมป์ระหว่างการประชุมองค์การการค้าโลกว่า เป็นการคุกคามระบบการค้าและทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอย . นับจากเข้ารับตำแหน่งปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้สั่งเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าของพวกประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดบางแห่งโดยอ้างว่า เพื่อตอบโต้กับแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่เอาเปรียบและไม่เป็นธรรมกับสหรัฐฯ นอกจากนั้น ในหลายกรณีก็ระบุเหตุผลว่าเพื่อผลักดันนโยบายสำคัญของอเมริกา อย่างเช่นการปราบปรามการอพยพเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย . ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศรีดภาษีศุลกากรจากสินค้านำเข้าทุกรายการจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 10% และปักกิ่งได้ตอบโต้ด้วยมาตรการทำนองเดียวกันในขนาดขอบเขตที่แคบกว่า จากนั้นทรัมป์ยังสั่งขึ้นภาษีที่เก็บจากเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมนำเข้าจากทุกประเทศในอัตรา 25% . ล่าสุดในวันอังคาร (18 ก.พ.) ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จะขึ้นภาษีศุลกากรที่จะเรียกเก็บจากอุตสาหกรรมรถยนต์ในอัตราประมาณ 25% โดยจะบังคับใช้ในราววันที่ 2 เมษายน . สำหรับสินค้าพวกยาและเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งทรัมป์เคยบอกไว้ว่าจะพิจารณาเพิ่มภาษีในช่วงเวลาเดียวกับรถยนต์นั้น ทรัมป์ขยายความในคราวนี้ว่า จะเก็บสูงขึ้นในอัตรา 25% หรือสูงกว่านั้น แล้วจากนั้นจะเพิ่มขึ้นสูงมากภายใน 1 ปี แต่เขายังไม่ระบุว่าจะเริ่มเมื่อใด . เขายังบอกว่า ต้องการให้เวลาพวกบริษัทที่ได้รับผลกระทบ เพื่อจะได้กลับลำมาทำธุรกิจในอเมริกา และเสริมด้วยว่า ประเทศคู่ค้าของวอชิงตันก็สามารถหลีกเลี่ยงการถูกเก็บภาษีเพิ่มได้ด้วยการเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานในอเมริกา . อย่างไรก็ตาม พวกผู้เชี่ยวชาญย้ำคำเตือนที่ได้ให้ไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ที่ว่ามาตรการเพิ่มภาษีศุลกาการจากสินค้านำเข้านั้น คนอเมริกันเองมีแนวโน้มต้องแบกรับมากกว่าพวกผู้ส่งออกต่างชาติ เนื่องจากคนที่ต้องควักเงินจ่ายภาษีจริงๆ ก็คือผู้นำเข้าในอเมริกา และพวกเขาก็มักแบ่งเบาภาระนี้ด้วยการขึ้นราคาสินค้าที่จำหน่ายในสหรัฐฯ . เฉพาะรถยนต์นั้น ปัจจุบันรถยนต์ราว 50% ที่ขายในอเมริกาเป็นรถที่ผลิตภายในประเทศ ขณะที่รถนำเข้าประมาณครึ่งหนึ่งเป็นรถจากเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกแบรนด์ระดับอินเตอร์ไปตั้งโรงงานประกอบกันที่นั่น นอกจากนั้นยังมีญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเยอรมนีที่เป็นซัปพลายเออร์รายสำคัญ . เอเชียจับตามาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์อย่างระมัดระวังมาก เนื่องจากมีซัปพลายเออร์หลักบางแห่งของอุตสาหกรรมรถยนต์ของอเมริกาตั้งอยู่ . โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพุธว่า ญี่ปุ่นได้หยิบยกประเด็นภาษีศุลกากรรถยนต์หารือกับอเมริกาแล้ว และรัฐบาลจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมควบคู่กับการตรวจสอบรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงของมาตรการภาษีดังกล่าว . ทางด้านไต้หวันที่เป็นฮับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของโลกและถูกทรัมป์กล่าวหาว่า ปล้นอุตสาหกรรมชิปไปจากอเมริกานั้น ก็แสดงท่าทีตื่นตัวเฝ้าระวัง ถึงแม้กระทรวงเศรษฐกิจแถลงว่า ขอบเขตผลิตภัณฑ์ที่จะถูกเรียกเก็บภาษียังไม่มีความชัดเจน และรัฐบาลจะติดตามทิศทางนโยบายของอเมริกาต่อไป รวมทั้งจะให้ความช่วยเหลือแก่อุตสาหกรรมท้องถิ่นที่ได้รับความเดือดร้อน . ก่อนหน้านี้ไทเปประกาศแล้วว่า จะเพิ่มการลงทุนในอเมริกาเพื่อหาทางหลีกเลี่ยงมาตรการภาษีของทรัมป์ . ผู้นำอเมริกายังแสดงความยินดีที่สหภาพยุโรป ลดภาษีศุลกากรรถยนต์จาก 10% เหลือ 2.5% เท่ากับอเมริกา และบอกว่า ถ้าทุกประเทศทำแบบนี้ การค้าทั่วโลกจะแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม . ในอีกด้านหนึ่ง หลี่ เฉิงกัง เอกอัครราชทูตจีนประจำองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ได้ประณามมาตรการภาษีศุลกากรและการข่มขู่ของทรัมป์ ในระหว่างการประชุมคณะมนตรีใหญ่ดับเบิลยูทีโอในวันอังคารโดยระบุว่า การขึ้นภาษีอย่างแรงและการดำเนินการฝ่ายเดียวของทรัมป์เช่นนี้ ส่งผลกระทบหนักหน่วงต่อระบบการค้าโลก ทำให้เศรษฐกิจไร้ความแน่นอนมากขึ้น การค้าโลกสะดุด เสี่ยงเกิดภาวะเฟ้อในอเมริกา บิดเบือนตลาด หรือแม้กระทั่งทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย . ทว่า เดวิด บิสบี นักการทูตของอเมริกาตอบโต้ว่า เศรษฐกิจจีนเป็นระบบเศรษฐกิจนักล่าที่ไม่ได้อิงกับตลาด และเสริมว่า ตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษที่เข้าเป็นสมาชิก จีนละเมิด เพิกเฉย และหลบเลี่ยงกฎของดับเบิลยูทีโอมาหลายครั้ง . ทั้งนี้ ความขัดแย้งระหว่างสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในดับเบิลยูทีโอเกิดขึ้นมานานแล้ว โดยปักกิ่งกล่าวหาวอชิงตันละเมิดกฎ ขณะที่วอชิงตันระบุว่า ปักกิ่งไม่สมควรได้รับสถานะประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งได้รับการปฏิบัติพิเศษภายใต้กฎของดับเบิลยูทีโอ . นอกจากนั้น การที่คณะบริหารของทรัมป์ประกาศแผนถอนตัวจากองค์กรระดับโลกหลายแห่ง ยังเท่ากับว่า ดับเบิลยูทีโอไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่ทำเนียบขาวคำนึงถึงมากนัก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016777 .............. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1174 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกี้กล่าวว่าทรัมป์อาศัยอยู่บน 'พื้นที่ข้อมูลบิดเบือน'

    โวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวหาโดนัลด์ ทรัมป์ว่าให้ข้อมูลเท็จซ้ำแล้วซ้ำเล่า หนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวหายูเครนอย่างเท็จว่าเริ่มสงครามกับรัสเซีย

    - ความคิดเห็นของเซเลนสกี้ เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่กำลังก่อตัวเป็นการแลกเปลี่ยนข้อกล่าวหาต่อสาธารณะมากที่สุดระหว่างเคียฟและวอชิงตัน นับตั้งแต่สงครามเต็มรูปแบบเริ่มต้นขึ้นเมื่อเกือบ 3 ปีก่อน
    .
    - เมื่อพูดคุยกับผู้สื่อข่าวในกรุงเคียฟ เซเลนสกีได้โต้แย้งคำกล่าวอ้างที่ไม่มีมูลความจริงหลายกรณีที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคาร ขณะเดียวกันก็ย้ำจุดยืนของยูเครนว่าข้อตกลงยุติสงครามต้องได้รับการมีส่วนร่วมจากยูเครน
    .
    - “น่าเสียดายที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ผมเคารพเขามากในฐานะผู้นำของประเทศที่เราเคารพนับถืออย่างยิ่ง ประชาชนชาวอเมริกันที่สนับสนุนเราเสมอ น่าเสียดายที่เขาต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งข้อมูลบิดเบือน” เซเลนสกีกล่าว
    .
    - เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ และรัสเซียได้จัดการเจรจาระดับสูงเพื่อยุติสงครามในยูเครน ณ กรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันอังคาร โดยการประชุมครั้งนี้ไม่ได้จัดขึ้นที่กรุงเคียฟ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องแต่งตั้งคณะทำงานระดับสูงเพื่อเจรจายุติสงคราม และกล่าวว่าพวกเขากำลังดำเนินการเพื่อสร้างช่องทางการทูตขึ้นใหม่
    .
    - เซเลนสกีกล่าวว่า แม้ประเทศใดๆ ก็มีสิทธิที่จะหารือเรื่องปัญหาทวิภาคีกับซาอุดีอาระเบีย แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าสหรัฐฯ จัดการเจรจาโดยตรงกับรัสเซียนั้น “ช่วยให้ปูตินพ้นจากความโดดเดี่ยวอันยาวนานได้”
    .
    - การร้องเรียนของเคียฟเรื่องการถูกปิดกั้นไม่ให้เข้าร่วมการเจรจาเป็นชนวนให้ทรัมป์ออกมาโจมตีด้วยความเท็จในวันอังคาร
    .
    - ทรัมป์กล่าวเมื่อช่วงดึกของวันอังคารว่า “วันนี้ผมได้ยินว่า ‘โอ้ เราไม่ได้รับเชิญเลย คุณอยู่ที่นั่นมาสามปีแล้ว คุณควรยุติเรื่องนี้หลังจากสามปี คุณไม่ควรเริ่มเรื่องนี้เลย คุณควรทำข้อตกลงได้แล้ว”
    .
    - ความคิดเห็นของทรัมป์ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในกรุงมอสโก โดยที่รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ชื่นชมประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่สะท้อนคำพูดของเครมลิน และกล่าวต่อรัฐสภารัสเซีย หรือดูมา ว่าทรัมป์ดูเหมือนจะ "เข้าใจจุดยืนของพวกเรา"
    .
    - “ผมคิดว่าทรัมป์เป็นผู้นำตะวันตกคนแรกที่ออกมาพูดต่อสาธารณะว่าสาเหตุของความขัดแย้งในยูเครนคือความพยายามของรัฐบาลชุดก่อนที่จะขยายนาโต” ลาฟรอฟกล่าวกับสมาชิกรัฐสภาเมื่อวันพุธ “ไม่มีผู้นำตะวันตกคนใดเคยพูดแบบนั้นมาก่อน ดังนั้น นั่นจึงเป็นสัญญาณว่าเขาเข้าใจจุดยืนของเราแล้ว”
    .
    - รัสเซียโต้แย้งมานานแล้วว่าการขยายตัวของนาโต้ไปทางตะวันออกทำให้ความมั่นคงของประเทศตกอยู่ในอันตราย โดยผู้นำนาโต้สัญญากับรัสเซียว่าพันธมิตรป้องกันประเทศจะไม่ขยายตัวหลังจากสงครามเย็นสิ้นสุดลง นาโต้มีนโยบายเปิดประตูต้อนรับรัฐในยุโรปทุกรัฐให้เข้าร่วมตราบใดที่รัฐเหล่านั้นตรงตามเกณฑ์การเข้าร่วม
    .
    - แต่ทรัมป์ไม่ได้หยุดเพียงแค่ตั้งคำถามว่าใครเป็นคนเริ่มสงครามในยูเครน โดยทรัมป์ยังคงตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของเซเลนสกี โดยเขาพูดซ้ำแนวทางที่เครมลินมักจะเสนออยู่เสมอ
    .
    - เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เซเลนสกีระบุโดยเฉพาะว่าการอ้างว่าคะแนนนิยมของเขาอยู่ที่ 4% มาจากรัสเซีย และเคียฟก็มีหลักฐานบางอย่างที่บ่งชี้ว่าตัวเลขดังกล่าวได้รับการหารือกันระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียแล้ว
    -------
    CNN
    เซเลนสกี้กล่าวว่าทรัมป์อาศัยอยู่บน 'พื้นที่ข้อมูลบิดเบือน' โวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวหาโดนัลด์ ทรัมป์ว่าให้ข้อมูลเท็จซ้ำแล้วซ้ำเล่า หนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวหายูเครนอย่างเท็จว่าเริ่มสงครามกับรัสเซีย - ความคิดเห็นของเซเลนสกี้ เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่กำลังก่อตัวเป็นการแลกเปลี่ยนข้อกล่าวหาต่อสาธารณะมากที่สุดระหว่างเคียฟและวอชิงตัน นับตั้งแต่สงครามเต็มรูปแบบเริ่มต้นขึ้นเมื่อเกือบ 3 ปีก่อน . - เมื่อพูดคุยกับผู้สื่อข่าวในกรุงเคียฟ เซเลนสกีได้โต้แย้งคำกล่าวอ้างที่ไม่มีมูลความจริงหลายกรณีที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคาร ขณะเดียวกันก็ย้ำจุดยืนของยูเครนว่าข้อตกลงยุติสงครามต้องได้รับการมีส่วนร่วมจากยูเครน . - “น่าเสียดายที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ผมเคารพเขามากในฐานะผู้นำของประเทศที่เราเคารพนับถืออย่างยิ่ง ประชาชนชาวอเมริกันที่สนับสนุนเราเสมอ น่าเสียดายที่เขาต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งข้อมูลบิดเบือน” เซเลนสกีกล่าว . - เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ และรัสเซียได้จัดการเจรจาระดับสูงเพื่อยุติสงครามในยูเครน ณ กรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันอังคาร โดยการประชุมครั้งนี้ไม่ได้จัดขึ้นที่กรุงเคียฟ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องแต่งตั้งคณะทำงานระดับสูงเพื่อเจรจายุติสงคราม และกล่าวว่าพวกเขากำลังดำเนินการเพื่อสร้างช่องทางการทูตขึ้นใหม่ . - เซเลนสกีกล่าวว่า แม้ประเทศใดๆ ก็มีสิทธิที่จะหารือเรื่องปัญหาทวิภาคีกับซาอุดีอาระเบีย แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าสหรัฐฯ จัดการเจรจาโดยตรงกับรัสเซียนั้น “ช่วยให้ปูตินพ้นจากความโดดเดี่ยวอันยาวนานได้” . - การร้องเรียนของเคียฟเรื่องการถูกปิดกั้นไม่ให้เข้าร่วมการเจรจาเป็นชนวนให้ทรัมป์ออกมาโจมตีด้วยความเท็จในวันอังคาร . - ทรัมป์กล่าวเมื่อช่วงดึกของวันอังคารว่า “วันนี้ผมได้ยินว่า ‘โอ้ เราไม่ได้รับเชิญเลย คุณอยู่ที่นั่นมาสามปีแล้ว คุณควรยุติเรื่องนี้หลังจากสามปี คุณไม่ควรเริ่มเรื่องนี้เลย คุณควรทำข้อตกลงได้แล้ว” . - ความคิดเห็นของทรัมป์ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในกรุงมอสโก โดยที่รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ชื่นชมประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่สะท้อนคำพูดของเครมลิน และกล่าวต่อรัฐสภารัสเซีย หรือดูมา ว่าทรัมป์ดูเหมือนจะ "เข้าใจจุดยืนของพวกเรา" . - “ผมคิดว่าทรัมป์เป็นผู้นำตะวันตกคนแรกที่ออกมาพูดต่อสาธารณะว่าสาเหตุของความขัดแย้งในยูเครนคือความพยายามของรัฐบาลชุดก่อนที่จะขยายนาโต” ลาฟรอฟกล่าวกับสมาชิกรัฐสภาเมื่อวันพุธ “ไม่มีผู้นำตะวันตกคนใดเคยพูดแบบนั้นมาก่อน ดังนั้น นั่นจึงเป็นสัญญาณว่าเขาเข้าใจจุดยืนของเราแล้ว” . - รัสเซียโต้แย้งมานานแล้วว่าการขยายตัวของนาโต้ไปทางตะวันออกทำให้ความมั่นคงของประเทศตกอยู่ในอันตราย โดยผู้นำนาโต้สัญญากับรัสเซียว่าพันธมิตรป้องกันประเทศจะไม่ขยายตัวหลังจากสงครามเย็นสิ้นสุดลง นาโต้มีนโยบายเปิดประตูต้อนรับรัฐในยุโรปทุกรัฐให้เข้าร่วมตราบใดที่รัฐเหล่านั้นตรงตามเกณฑ์การเข้าร่วม . - แต่ทรัมป์ไม่ได้หยุดเพียงแค่ตั้งคำถามว่าใครเป็นคนเริ่มสงครามในยูเครน โดยทรัมป์ยังคงตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของเซเลนสกี โดยเขาพูดซ้ำแนวทางที่เครมลินมักจะเสนออยู่เสมอ . - เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เซเลนสกีระบุโดยเฉพาะว่าการอ้างว่าคะแนนนิยมของเขาอยู่ที่ 4% มาจากรัสเซีย และเคียฟก็มีหลักฐานบางอย่างที่บ่งชี้ว่าตัวเลขดังกล่าวได้รับการหารือกันระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียแล้ว ------- CNN
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บ่งชี้ว่ายูเครนอาจจำเป็นต้องจัดเลือกตั้งใหม่ และเน้นย้ำว่า โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำโดยพฤตินัยของเคียฟในปัจจุบัน ไม่เป็นที่นิยมนัก
    .
    ทรัมป์ แสดงความคิดเห็นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากคณะผู้เจรจาของสหรัฐฯและรัสเซีย พบปะกันในกรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย เพื่อหารือถึงแนวทางต่างๆในการยุติความขัดแย้งในยูเครน มันถือเป็นการพูดคุยกัยครั้งแรกนับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำอเมริกาคนก่อนหน้าทรัมป์ ระงับการติดต่อทั้งหมดกับมอสโกในปี 2022
    .
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เน้นย้ำมาตลอดว่ามอสโกมองว่า เซเลนสกี ไม่มีความชอบธรรมทางกฎหมายมานานแล้ว สืบเนื่องจากวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปีของเขา สิ้นสุดลงไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2024 และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีการจัดเลือกตั้งใหม่ ก็เพราะกฎอัยการศึกที่ประกาศโดยเซเลนสกี
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในวันอังคาร(18ก.พ.) ทรัมป์เน้นย้ำว่าเซเลนสกี ไม่เป็นที่นิยมอย่างมากภายในประเทศของตนเอง "ผู้นำในยูเครน ผมไม่อยากพูดเลยว่า เขามีคะแนนนิยมลดต่ำอยู่แค่ระดับ 4%" ทรัมป์ระบุ
    .
    "ตอนที่พวกเขาบอกว่าต้องการเก้าอี้ในโต๊ะเจรจา คุณอาจพูดได้ว่า มันอาจไม่ใช่เสียงของประชาชนชาวยูเครน มันนานมาแล้วนับตั้งแต่เรามีการเลือกตั้ง" ทรัมป์เน้นย้ำ "มันไม่ใช่เรื่องของรัสเซีย มันเป็นบางอย่างที่ออกมาจากผม และออกมาจากประเทศอื่นๆหลายชาติเช่นกัน"
    .
    พวกเจ้าที่ยูเครนยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการเลือกตั้งใหม่ในระหว่างที่ความขัดแย้งกับรัสเซียยังคงดำเนินอยู่
    .
    คะแนนิยมของเซเลนสกี พุ่งทะลุฟ้าแตะระดับ 90% ในช่วงเดือนแรกๆของความขัดแย้งในปี 2022 แต่นับตั้งแต่นั้นก็ร่วลงสู่ระดับ 50%
    .
    ตามหลังความพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องในสมรภูมิรบและปัญหารื้อรังในด้านเศรษฐกิจ เมื่อเดือนที่แล้ว สื่อมวลชนยูเครนอ้างผลสำรวจของสำนักโพล Socis poll พบว่าเหลือชาวยูเครนแค่ 40% ที่ยังคงเชื่อมั่นในเซเลนสกี ผิดกับ วาเลรี ซาลูซนีย์ อดีตนายพลแห่งกองทัพยูเครน ที่เวลานี้เป็นเอกอัครราชทูตประจำลอนดอน ที่ได้รับความเชื่อมั่นเกือบๆ 72%
    .
    ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลินบอกในวันอังคาร(18ก.พ.) ว่า ปูติน เปิดกว้างที่จะเจรจากับ เซเลนสกี แต่ก็ต่อเมื่อประเด็นเกี่ยวกับความชอบธรรมของผู้นำยูเครนได้รับการคลี่คลายแล้วเท่านั้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016369
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บ่งชี้ว่ายูเครนอาจจำเป็นต้องจัดเลือกตั้งใหม่ และเน้นย้ำว่า โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำโดยพฤตินัยของเคียฟในปัจจุบัน ไม่เป็นที่นิยมนัก . ทรัมป์ แสดงความคิดเห็นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากคณะผู้เจรจาของสหรัฐฯและรัสเซีย พบปะกันในกรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย เพื่อหารือถึงแนวทางต่างๆในการยุติความขัดแย้งในยูเครน มันถือเป็นการพูดคุยกัยครั้งแรกนับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำอเมริกาคนก่อนหน้าทรัมป์ ระงับการติดต่อทั้งหมดกับมอสโกในปี 2022 . ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เน้นย้ำมาตลอดว่ามอสโกมองว่า เซเลนสกี ไม่มีความชอบธรรมทางกฎหมายมานานแล้ว สืบเนื่องจากวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปีของเขา สิ้นสุดลงไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2024 และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีการจัดเลือกตั้งใหม่ ก็เพราะกฎอัยการศึกที่ประกาศโดยเซเลนสกี . ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในวันอังคาร(18ก.พ.) ทรัมป์เน้นย้ำว่าเซเลนสกี ไม่เป็นที่นิยมอย่างมากภายในประเทศของตนเอง "ผู้นำในยูเครน ผมไม่อยากพูดเลยว่า เขามีคะแนนนิยมลดต่ำอยู่แค่ระดับ 4%" ทรัมป์ระบุ . "ตอนที่พวกเขาบอกว่าต้องการเก้าอี้ในโต๊ะเจรจา คุณอาจพูดได้ว่า มันอาจไม่ใช่เสียงของประชาชนชาวยูเครน มันนานมาแล้วนับตั้งแต่เรามีการเลือกตั้ง" ทรัมป์เน้นย้ำ "มันไม่ใช่เรื่องของรัสเซีย มันเป็นบางอย่างที่ออกมาจากผม และออกมาจากประเทศอื่นๆหลายชาติเช่นกัน" . พวกเจ้าที่ยูเครนยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการเลือกตั้งใหม่ในระหว่างที่ความขัดแย้งกับรัสเซียยังคงดำเนินอยู่ . คะแนนิยมของเซเลนสกี พุ่งทะลุฟ้าแตะระดับ 90% ในช่วงเดือนแรกๆของความขัดแย้งในปี 2022 แต่นับตั้งแต่นั้นก็ร่วลงสู่ระดับ 50% . ตามหลังความพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องในสมรภูมิรบและปัญหารื้อรังในด้านเศรษฐกิจ เมื่อเดือนที่แล้ว สื่อมวลชนยูเครนอ้างผลสำรวจของสำนักโพล Socis poll พบว่าเหลือชาวยูเครนแค่ 40% ที่ยังคงเชื่อมั่นในเซเลนสกี ผิดกับ วาเลรี ซาลูซนีย์ อดีตนายพลแห่งกองทัพยูเครน ที่เวลานี้เป็นเอกอัครราชทูตประจำลอนดอน ที่ได้รับความเชื่อมั่นเกือบๆ 72% . ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลินบอกในวันอังคาร(18ก.พ.) ว่า ปูติน เปิดกว้างที่จะเจรจากับ เซเลนสกี แต่ก็ต่อเมื่อประเด็นเกี่ยวกับความชอบธรรมของผู้นำยูเครนได้รับการคลี่คลายแล้วเท่านั้น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016369 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1318 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุมาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บกับรถยนต์นำเข้าจะอยู่ที่ราว 25% ความเคลื่อนไหวที่เป็นการมอบข้อมูลใหม่ในด้านภาษี ที่คาดหมายว่าเขาจะมีการเปิดตัวราววันที่ 2 เมษายน
    .
    "มันจะอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับ 25%" ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่รีสอร์ตมาร์อาลาโก พร้อมกับเน้นว่ามาตรการรีดภาษีอย่างเจาะจงนี้จะมีการเปิดตัวในเดือนเมษายน
    .
    เมื่อถูกถามว่าเขามีความคิดรีดภาษีภาคอื่นอย่างเช่นยา ด้วยหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า "มันจะอยู่ที่ 25% หรือสูงกว่านั้น และมันจะอยู่ในระดับสูงมากๆ ตลอดทั้งปี" อย่างไรก็ตามทรัมป์บอกว่าเขาต้องการให้เวลาบริษัทต่างๆ ในการหวนคืนสู่ตลาดสหรัฐฯ
    .
    ในวันอังคาร (18 ก.พ.) ทรัมป์เผยว่าเขาได้รับการติดต่อจากบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ที่ต้องการกลับเข้าสู่สหรัฐฯ สืบเนื่องจากท่าทีของวอชิงตันในด้านการรีดภาษีและมาตรการจูงใจทางภาษี
    .
    ทรัมป์ แถลงมาตรการทางภาษีต่างๆ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ขู่เล่นงานทั้งมิตรและศัตรูไม่ต่างกัน
    .
    เขาไม่ได้ให้รายละเอียดมากมายนักเกี่ยวกับแผนรีดภาษียานยนต์ หรือภาคอื่นๆ ที่อาจถูกเล่นงานด้วย อย่างเช่นเซมิคอนดักเตอร์และยา
    .
    พวกผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าบ่อยครั้งที่กลายเป็นชาวอเมริกันเองที่ต้องเป็นคนชดใช้มาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐฯ แทนที่จะเป็นผู้ส่งออกต่างชาติ
    .
    ทั้งนี้ ราว 50% ของรถยนต์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ เป็นรถยนต์ที่ผลิตภายในประเทศ นอกเหนือจากนั้นเป็นการนำเข้า โดยราวครึ่งหนึ่งของรถยนต์นำเข้ามาจากเม็กซิโกและแคนาดา ส่วนที่เหลือมาจากชาติผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่เจ้าอื่นๆ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016368
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุมาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บกับรถยนต์นำเข้าจะอยู่ที่ราว 25% ความเคลื่อนไหวที่เป็นการมอบข้อมูลใหม่ในด้านภาษี ที่คาดหมายว่าเขาจะมีการเปิดตัวราววันที่ 2 เมษายน . "มันจะอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับ 25%" ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่รีสอร์ตมาร์อาลาโก พร้อมกับเน้นว่ามาตรการรีดภาษีอย่างเจาะจงนี้จะมีการเปิดตัวในเดือนเมษายน . เมื่อถูกถามว่าเขามีความคิดรีดภาษีภาคอื่นอย่างเช่นยา ด้วยหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า "มันจะอยู่ที่ 25% หรือสูงกว่านั้น และมันจะอยู่ในระดับสูงมากๆ ตลอดทั้งปี" อย่างไรก็ตามทรัมป์บอกว่าเขาต้องการให้เวลาบริษัทต่างๆ ในการหวนคืนสู่ตลาดสหรัฐฯ . ในวันอังคาร (18 ก.พ.) ทรัมป์เผยว่าเขาได้รับการติดต่อจากบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ที่ต้องการกลับเข้าสู่สหรัฐฯ สืบเนื่องจากท่าทีของวอชิงตันในด้านการรีดภาษีและมาตรการจูงใจทางภาษี . ทรัมป์ แถลงมาตรการทางภาษีต่างๆ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ขู่เล่นงานทั้งมิตรและศัตรูไม่ต่างกัน . เขาไม่ได้ให้รายละเอียดมากมายนักเกี่ยวกับแผนรีดภาษียานยนต์ หรือภาคอื่นๆ ที่อาจถูกเล่นงานด้วย อย่างเช่นเซมิคอนดักเตอร์และยา . พวกผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าบ่อยครั้งที่กลายเป็นชาวอเมริกันเองที่ต้องเป็นคนชดใช้มาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐฯ แทนที่จะเป็นผู้ส่งออกต่างชาติ . ทั้งนี้ ราว 50% ของรถยนต์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ เป็นรถยนต์ที่ผลิตภายในประเทศ นอกเหนือจากนั้นเป็นการนำเข้า โดยราวครึ่งหนึ่งของรถยนต์นำเข้ามาจากเม็กซิโกและแคนาดา ส่วนที่เหลือมาจากชาติผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่เจ้าอื่นๆ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016368 .............. Sondhi X
    Haha
    Like
    Love
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1277 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ กับรัสเซียเห็นพ้องกันที่จะเริ่มต้นทำงานเพื่อยุติสงครามในยูเครน และปรับปรุงสายสัมพันธ์ทางการทูตและทางเศรษฐกิจระหว่างกัน รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โค รูบิโอ ของสหรัฐฯ ระบุภายหลังการเจรจากันของคณะผู้แทนสหรัฐฯ ที่นำโดยตัวเขา กับคณะของรัสเซียซึ่งมีรัฐมนตรีต่างประเทศ เซียร์เก ลาฟรอฟ เป็นผู้นำ ที่กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย โดยที่ไม่มีตัวแทนจากยูเครนหรือทางยุโรปเข้าร่วมด้วย
    .
    ในการให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอพีภายหลังการเจรจากับฝ่ายรัสเซีย รูบิโอกล่าวว่าทั้งสองฝ่ายมีการตกลงกันอย่างกว้างๆ ที่จะมุ่งหน้าไปสู่เป้าหมาย 3 ด้าน ได้แก่ การหวนคืนในเรื่องการให้เจ้าหน้าที่ของแต่ละฝ่ายได้กลับเข้าประจำทำงานในสถานเอกอัครราชทูตของกันและกันในกรุงวอชิงตันและกรุงมอสโก การก่อตั้งทีมงานระดับสูงเพื่อสนับสนุนการเจรจาสันติภาพยูเครน และการสำรวจลู่ทางเพื่อให้มีความสัมพันธ์และความร่วมมือกันในทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น
    .
    อย่างไรก็ดี เขาย้ำว่า การพูดจาคราวนี้ถือเป็นหลักหมายของการเริ่มต้นสนทนากัน และยังจำเป็นจะต้องทำงานกันต่อไปอีกมาก
    .
    ทั้งนี้ สายสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียได้ตกลงมาสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบหลายสิบปีระหว่างที่เกิดสงครามในยูเครน โดยที่สถานเอกอัครราชทูตของแต่ละฝ่ายซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหลวงของอีกฝ่ายหนึ่ง ต่างได้รับความกระทบกระเทือนหนักจากการที่ต่างฝ่ายต่างสั่งขับไล่นักการทูตของกันและกันเป็นจำนวนมากหลายๆ ระลอกในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมา และจากการที่สหรัฐฯ จับมือกับยุโรปในการประกาศใช้มาตรการแซงก์ชันด้านต่างๆ กับรัสเซีย
    .
    รูบิโอ ยังกล่าวแสดงความหวังให้การสู้รบขัดแย้งในยูเครนเดินเข้าสู่จุดจบที่สามารถยอมรับกันได้ และสหรัฐฯ กับรัสเซียจะมีโอกาสอันน่าเชื่อถือที่จะจับมือกันในทางภูมิรัฐศาสตร์ในประเด็นต่างๆ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน ตลอดจนในทางเศรษฐกิจด้วยประเด็นซึ่งจะเป็นผลดีต่อโลกและก็จะปรับปรุงความสัมพันธ์ของสองประเทศในระยะยาว
    .
    การหารือในวันอังคารคราวนี้ ยังมุ่งหมายที่จะแผ้วถางทางให้แก่การประชุมซัมมิตระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ทว่าภายหลังการเจรจาสิ้นสุดลง ยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาฝ่ายกิจการต่างประเทศของปูติน ซึ่งอยู่ในคณะของฝ่ายรัสเซีย บอกกับสถานีโทรทัศน์แชนเนลวัน ของรัสเซียว่า ยังไม่มีการกำหนดวันแน่นอนสำหรับซัมมิตดังที่ว่านี้ และ “ไม่น่าเป็นไปได้” ที่จะเกิดขึ้นมาในสัปดาห์หน้า
    .
    ในส่วนของ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เขากล่าวกับพวกผู้สื่อข่าวหลังการหารือว่า “การสนทนากันคราวนี้เป็นประโยชน์มาก” โดยที่เขาอ้างอิงถึงเป้าหมาย 3 ประการเช่นเดียวกับที่รูบิโอพูด และบอกว่าวอชิงตันกับมอสโกตกลงกันที่จะแต่งตั้งคณะตัวแทนที่จะดำเนินการ “การปรึกษาหารืออย่างเป็นประจำ” ในเรื่องยูเครนขึ้นมา
    .
    “เราไม่เพียงแค่รับฟัง แต่ยังได้ยินกันและกันอีกด้วย” ลาฟรอฟบอก “และผมมีเหตุผลที่จะเชื่อว่าฝ่ายอเมริกันได้เริ่มต้นที่จะเข้าอกเข้าใจจุดยืนของเราดีขึ้นแล้ว ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราได้พูดสรุปโดยมีการลงรายละเอียด ใช้ตัวอย่างเฉพาะเจาะจงต่างๆ โดยยึดโยงอยู่กับคำปราศรัยครั้งแล้วครั้งเล่าของประธานาธิบดีปูติน”
    .
    ก่อนหน้าการเจรจาคราวนี้ ทั้งสองฝ่ายดูจะมีความพยายามเน้นย้ำไมให้เกิดการตั้งความหวังมากจนเกินความเป็นจริง
    .
    ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน แถลงเมื่อวันจันทร์ (17 ก.พ.) ว่า การหารือคราวนี้มุ่งเน้นการฟื้นฟูความสัมพันธ์วอชิงตัน-มอสโกเป็นหลัก ตลอดจนถึงการเตรียมพร้อมสำหรับการเจรจาที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับยูเครน และการจัดเตรียมการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
    .
    ส่วน แทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า การประชุมที่ซาอุดีอาระเบียมีเป้าหมายในการพิจารณาว่า รัสเซียจริงจังกับข้อตกลงสันติภาพแค่ไหน และจะเริ่มต้นการเจรจาอย่างละเอียดได้หรือไม่
    .
    บรูซเสริมว่า แม้ยูเครนไม่ได้รับเชิญให้ร่วมการหารือในวันอังคาร แต่การเจรจาสันติภาพที่แท้จริงจะต้องมีเคียฟร่วมวงด้วย
    .
    การเจรจาคราวนี้จัดขึ้นที่ที่พระราชวังดิริยาห์ในกรุงริยาด โดยคณะของฝ่ายของสหรัฐฯ นอกจากรัฐมนตรีต่างประเทาศรูบิโอ แล้ว ยังมี ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว และสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษด้านตะวันออกกลาง ขณะที่ฝ่ายรัสเซีย ได้แก่ เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศ และยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยอาวุโสของปูติน
    .
    รายงานข่าวระบุว่า การหารือเริ่มต้นขึ้นโดยไม่มีการจับมือหรือการแถลงใดๆ แต่มีเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮัน และมูซาอัด บิน โมฮัมหมัด อัล-ไอบาน รัฐมนตรีต่างประเทศและที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของซาอุดีอาระเบียตามลำดับร่วมอยู่ด้วย
    .
    การหารือครั้งนี้ถือเป็นการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสองชาติครั้งแรกนับจากที่รัสเซียบุกยูเครน และยังถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศครั้งใหญ่ของอเมริกา
    .
    เปสคอฟแถลงเมื่อวันอังคารระหว่างที่การหารือในริยาดดำเนินอยู่ว่า การแก้ไขวิกฤตยูเครนอย่างยั่งยืนไม่มีทางเป็นไปได้หากไม่พิจารณาสถานการณ์ความมั่นคงของยุโรป และสำทับว่า ยูเครนมีสิทธิอธิปไตยในการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป แต่รัสเซียคัดค้านการเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ของเคียฟ
    .
    โฆษกเครมลินเสริมว่า ปูตินพร้อมคุยกับเซเลนสกีถ้าจำเป็น
    .
    รัสเซียยังระบุก่อนการหารือว่า ปูตินและทรัมป์ต้องการออกจาก “ความสัมพันธ์ที่ผิดปกติ” และไม่เห็นความจำเป็นที่ยุโรปจะต้องร่วมเจรจาใดๆ
    .
    คิริลล์ ดมิทริฟ ผู้เจรจาด้านเศรษฐกิจและประธานกองทุนการลงทุนโดยตรงของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์สถานีทีวีของทางการรัสเซียเมื่อวันอังคารว่า เขาคาดหวังว่า จะมีความคืบหน้าภายในเวลา 2-3 เดือน
    .
    ในส่วนความคืบหน้าที่อาจนำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนนั้นยังไม่มีความชัดเจน โดยทั้งอเมริกาและรัสเซียต่างออกตัวว่า การหารือในวันอังคารเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการที่ยาวนานเท่านั้น
    .
    บรูซ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า การหารือที่ริยาดไม่ควรถูกคาดหวังว่า จะมีรายละเอียดหรือมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาหยุดยิง
    .
    ขณะที่อูชาคอฟให้สัมภาษณ์สื่อของทางการรัสเซียว่า การพูดคุยในวันอังคารเป็นเพียงการหารือถึงวิธีเริ่มต้นการเจรจาเกี่ยวกับยูเครน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016365
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯ กับรัสเซียเห็นพ้องกันที่จะเริ่มต้นทำงานเพื่อยุติสงครามในยูเครน และปรับปรุงสายสัมพันธ์ทางการทูตและทางเศรษฐกิจระหว่างกัน รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โค รูบิโอ ของสหรัฐฯ ระบุภายหลังการเจรจากันของคณะผู้แทนสหรัฐฯ ที่นำโดยตัวเขา กับคณะของรัสเซียซึ่งมีรัฐมนตรีต่างประเทศ เซียร์เก ลาฟรอฟ เป็นผู้นำ ที่กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย โดยที่ไม่มีตัวแทนจากยูเครนหรือทางยุโรปเข้าร่วมด้วย . ในการให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอพีภายหลังการเจรจากับฝ่ายรัสเซีย รูบิโอกล่าวว่าทั้งสองฝ่ายมีการตกลงกันอย่างกว้างๆ ที่จะมุ่งหน้าไปสู่เป้าหมาย 3 ด้าน ได้แก่ การหวนคืนในเรื่องการให้เจ้าหน้าที่ของแต่ละฝ่ายได้กลับเข้าประจำทำงานในสถานเอกอัครราชทูตของกันและกันในกรุงวอชิงตันและกรุงมอสโก การก่อตั้งทีมงานระดับสูงเพื่อสนับสนุนการเจรจาสันติภาพยูเครน และการสำรวจลู่ทางเพื่อให้มีความสัมพันธ์และความร่วมมือกันในทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น . อย่างไรก็ดี เขาย้ำว่า การพูดจาคราวนี้ถือเป็นหลักหมายของการเริ่มต้นสนทนากัน และยังจำเป็นจะต้องทำงานกันต่อไปอีกมาก . ทั้งนี้ สายสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียได้ตกลงมาสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบหลายสิบปีระหว่างที่เกิดสงครามในยูเครน โดยที่สถานเอกอัครราชทูตของแต่ละฝ่ายซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหลวงของอีกฝ่ายหนึ่ง ต่างได้รับความกระทบกระเทือนหนักจากการที่ต่างฝ่ายต่างสั่งขับไล่นักการทูตของกันและกันเป็นจำนวนมากหลายๆ ระลอกในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมา และจากการที่สหรัฐฯ จับมือกับยุโรปในการประกาศใช้มาตรการแซงก์ชันด้านต่างๆ กับรัสเซีย . รูบิโอ ยังกล่าวแสดงความหวังให้การสู้รบขัดแย้งในยูเครนเดินเข้าสู่จุดจบที่สามารถยอมรับกันได้ และสหรัฐฯ กับรัสเซียจะมีโอกาสอันน่าเชื่อถือที่จะจับมือกันในทางภูมิรัฐศาสตร์ในประเด็นต่างๆ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน ตลอดจนในทางเศรษฐกิจด้วยประเด็นซึ่งจะเป็นผลดีต่อโลกและก็จะปรับปรุงความสัมพันธ์ของสองประเทศในระยะยาว . การหารือในวันอังคารคราวนี้ ยังมุ่งหมายที่จะแผ้วถางทางให้แก่การประชุมซัมมิตระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ทว่าภายหลังการเจรจาสิ้นสุดลง ยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาฝ่ายกิจการต่างประเทศของปูติน ซึ่งอยู่ในคณะของฝ่ายรัสเซีย บอกกับสถานีโทรทัศน์แชนเนลวัน ของรัสเซียว่า ยังไม่มีการกำหนดวันแน่นอนสำหรับซัมมิตดังที่ว่านี้ และ “ไม่น่าเป็นไปได้” ที่จะเกิดขึ้นมาในสัปดาห์หน้า . ในส่วนของ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เขากล่าวกับพวกผู้สื่อข่าวหลังการหารือว่า “การสนทนากันคราวนี้เป็นประโยชน์มาก” โดยที่เขาอ้างอิงถึงเป้าหมาย 3 ประการเช่นเดียวกับที่รูบิโอพูด และบอกว่าวอชิงตันกับมอสโกตกลงกันที่จะแต่งตั้งคณะตัวแทนที่จะดำเนินการ “การปรึกษาหารืออย่างเป็นประจำ” ในเรื่องยูเครนขึ้นมา . “เราไม่เพียงแค่รับฟัง แต่ยังได้ยินกันและกันอีกด้วย” ลาฟรอฟบอก “และผมมีเหตุผลที่จะเชื่อว่าฝ่ายอเมริกันได้เริ่มต้นที่จะเข้าอกเข้าใจจุดยืนของเราดีขึ้นแล้ว ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราได้พูดสรุปโดยมีการลงรายละเอียด ใช้ตัวอย่างเฉพาะเจาะจงต่างๆ โดยยึดโยงอยู่กับคำปราศรัยครั้งแล้วครั้งเล่าของประธานาธิบดีปูติน” . ก่อนหน้าการเจรจาคราวนี้ ทั้งสองฝ่ายดูจะมีความพยายามเน้นย้ำไมให้เกิดการตั้งความหวังมากจนเกินความเป็นจริง . ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน แถลงเมื่อวันจันทร์ (17 ก.พ.) ว่า การหารือคราวนี้มุ่งเน้นการฟื้นฟูความสัมพันธ์วอชิงตัน-มอสโกเป็นหลัก ตลอดจนถึงการเตรียมพร้อมสำหรับการเจรจาที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับยูเครน และการจัดเตรียมการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ . ส่วน แทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า การประชุมที่ซาอุดีอาระเบียมีเป้าหมายในการพิจารณาว่า รัสเซียจริงจังกับข้อตกลงสันติภาพแค่ไหน และจะเริ่มต้นการเจรจาอย่างละเอียดได้หรือไม่ . บรูซเสริมว่า แม้ยูเครนไม่ได้รับเชิญให้ร่วมการหารือในวันอังคาร แต่การเจรจาสันติภาพที่แท้จริงจะต้องมีเคียฟร่วมวงด้วย . การเจรจาคราวนี้จัดขึ้นที่ที่พระราชวังดิริยาห์ในกรุงริยาด โดยคณะของฝ่ายของสหรัฐฯ นอกจากรัฐมนตรีต่างประเทาศรูบิโอ แล้ว ยังมี ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว และสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษด้านตะวันออกกลาง ขณะที่ฝ่ายรัสเซีย ได้แก่ เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศ และยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยอาวุโสของปูติน . รายงานข่าวระบุว่า การหารือเริ่มต้นขึ้นโดยไม่มีการจับมือหรือการแถลงใดๆ แต่มีเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮัน และมูซาอัด บิน โมฮัมหมัด อัล-ไอบาน รัฐมนตรีต่างประเทศและที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของซาอุดีอาระเบียตามลำดับร่วมอยู่ด้วย . การหารือครั้งนี้ถือเป็นการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสองชาติครั้งแรกนับจากที่รัสเซียบุกยูเครน และยังถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศครั้งใหญ่ของอเมริกา . เปสคอฟแถลงเมื่อวันอังคารระหว่างที่การหารือในริยาดดำเนินอยู่ว่า การแก้ไขวิกฤตยูเครนอย่างยั่งยืนไม่มีทางเป็นไปได้หากไม่พิจารณาสถานการณ์ความมั่นคงของยุโรป และสำทับว่า ยูเครนมีสิทธิอธิปไตยในการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป แต่รัสเซียคัดค้านการเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ของเคียฟ . โฆษกเครมลินเสริมว่า ปูตินพร้อมคุยกับเซเลนสกีถ้าจำเป็น . รัสเซียยังระบุก่อนการหารือว่า ปูตินและทรัมป์ต้องการออกจาก “ความสัมพันธ์ที่ผิดปกติ” และไม่เห็นความจำเป็นที่ยุโรปจะต้องร่วมเจรจาใดๆ . คิริลล์ ดมิทริฟ ผู้เจรจาด้านเศรษฐกิจและประธานกองทุนการลงทุนโดยตรงของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์สถานีทีวีของทางการรัสเซียเมื่อวันอังคารว่า เขาคาดหวังว่า จะมีความคืบหน้าภายในเวลา 2-3 เดือน . ในส่วนความคืบหน้าที่อาจนำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนนั้นยังไม่มีความชัดเจน โดยทั้งอเมริกาและรัสเซียต่างออกตัวว่า การหารือในวันอังคารเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการที่ยาวนานเท่านั้น . บรูซ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า การหารือที่ริยาดไม่ควรถูกคาดหวังว่า จะมีรายละเอียดหรือมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาหยุดยิง . ขณะที่อูชาคอฟให้สัมภาษณ์สื่อของทางการรัสเซียว่า การพูดคุยในวันอังคารเป็นเพียงการหารือถึงวิธีเริ่มต้นการเจรจาเกี่ยวกับยูเครน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016365 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1327 มุมมอง 0 รีวิว
  • “องค์การค้า สกสค.” ถอย! ยกเลิกประกาศผู้ชนะ งานพิมพ์แบบเรียนปี 68 “ก.บัญชีกลาง” ชี้ไม่สมบูรณ์
    .
    “องค์การค้า สกสค.” จ๋อย! ถูก “กรมบัญชีกลาง” สั่งยกเลิกประกาศผู้ชนะงานพิมพ์แบบเรียนปี 68 งบฯพันล้าน ที่เพิ่งประกาศให้ “วรรณชาติเพรส” ผู้ยื่นประมูลรายเดียวกวาดเรียบ 145 รายการ ชี้การแข่งขันไม่สมบูรณ์ เผย “รมว.ศธ.” เคยสั่งให้ยกเลิกแล้ว เหตุมีปัญหาในระบบจัดซื้อฯ แต่องค์การค้าฯกลับเดินหน้าต่อ จนถูก “กรมบัญชีกลาง” เบรกหัวทิ่ม
    .
    จากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (องค์การค้าของ สกสค.) เปิดประกวดราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ วงเงินงบประมาณ 1,060 ล้านบาท ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) เมื่อวันที่ 28 ม.ค.68 และต่อมาเมื่อวันที่ 7 ก.พ.68 ได้ประกาศให้ บริษัท วรรณชาติเพรส (2020) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ยื่นเสนอราคาเพียงรายเดียว เป็นผู้ชนะการประกวดราคาจ้างพิมพ์ฯทั้ง 145 รายการนั้น
    .
    วันนี้ (17 ก.พ.68) องค์การค้าของ สกสค.ได้ออกประกาศเรื่อง ยกเลิกประกาศรายชื่อผู้ชนะการเสนอราคา จ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ลงนามโดย นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ รองเลขาธิการ สกสค. รักษาการแทนเลขาธิการ สกสค.
    .
    โดยเนื้อหาระบุว่า ตามประกาศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสติภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (องค์การค้าของ สกสค.) เรื่อง ประกวดราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ตามเอกสารประกวดราคาเลขที่ D64.1/2567 ลงวันที่ 25 ธ.ค.67 ซึ่งกำหนดยื่นเสนอราคาในวันที่ 28 ม.ค.68 ปรากฏว่ามีผู้ยื่นเอกสารเสนอราคาเพียงรายเดียว และได้ประกาศผู้ชนะการเสนอราคาในวันที่ 7 ก.พ.68
    .
    องค์การค้าของ สกสค.พิจารณาตามหนังสือ
    คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด
    ที่ กค (กวจ) 0405.3/ว350 ลงวันที่ 23 ก.ค.62 ประกอบหนังสือคณะกรรมการวิวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.4/5774 ลงวันที่ 11 ก.พ.68 โดยเห็นควรยกเลิกเนื่องจากเห็นว่าเป็นการแข่งขันไม่สมบูรณ์ องค์การค้าของ สกสค. จึงขอยกเลิกประกาศผู้ชนะการเสนอราคาดังกล่าว ประกาศ ณ วันที่ 17 ก.พ.68
    .
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 ม.ค.68 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ ก็ได้แนวทางการดำเนินการหลังทราบว่า มีผู้ยื่นเสนอราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 เพียงรายเดียวว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ได้สั่งการยกเลิกประกวดราคาฯครั้งนี้ เพื่อความโปร่งใส เนื่องจากเกิดจากปัญหาในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และมีรายงานว่า องค์การค้าของ สกสค. ได้ทำหนังสือสอบถาม กรมบัญชีกลาง เพื่อขอคำปรึกษาในเรื่องของการจัดพิมพ์หนังสือแบบเรียนประจำปี 2568 ที่มีผู้ยื่นเสนอราคาเพียงรายเดียวด้วย
    .
    อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 7 ก.พ.68 องค์การค้าของ สกสค. กลับออกมีประกาศลงนามโดย นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. ให้ บริษัท วรรณชาติเพรส (2020) จำกัด เป็นผู้ชนะการเสนอราคาประกวดราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ กระทั่ง คณะกรรมการวิวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง ได้มีหลังสือลงวันที่ 11 ก.พ.68 เห็นควรยกเลิก เนื่องจากเห็นว่าเป็นการแข่งขันไม่สมบูรณ์ทางองค์การค้าของ สกสค.จึงออกประกาศยกเลิกในที่สุด.
    ..............
    Sondhi X
    “องค์การค้า สกสค.” ถอย! ยกเลิกประกาศผู้ชนะ งานพิมพ์แบบเรียนปี 68 “ก.บัญชีกลาง” ชี้ไม่สมบูรณ์ . “องค์การค้า สกสค.” จ๋อย! ถูก “กรมบัญชีกลาง” สั่งยกเลิกประกาศผู้ชนะงานพิมพ์แบบเรียนปี 68 งบฯพันล้าน ที่เพิ่งประกาศให้ “วรรณชาติเพรส” ผู้ยื่นประมูลรายเดียวกวาดเรียบ 145 รายการ ชี้การแข่งขันไม่สมบูรณ์ เผย “รมว.ศธ.” เคยสั่งให้ยกเลิกแล้ว เหตุมีปัญหาในระบบจัดซื้อฯ แต่องค์การค้าฯกลับเดินหน้าต่อ จนถูก “กรมบัญชีกลาง” เบรกหัวทิ่ม . จากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (องค์การค้าของ สกสค.) เปิดประกวดราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ วงเงินงบประมาณ 1,060 ล้านบาท ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) เมื่อวันที่ 28 ม.ค.68 และต่อมาเมื่อวันที่ 7 ก.พ.68 ได้ประกาศให้ บริษัท วรรณชาติเพรส (2020) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ยื่นเสนอราคาเพียงรายเดียว เป็นผู้ชนะการประกวดราคาจ้างพิมพ์ฯทั้ง 145 รายการนั้น . วันนี้ (17 ก.พ.68) องค์การค้าของ สกสค.ได้ออกประกาศเรื่อง ยกเลิกประกาศรายชื่อผู้ชนะการเสนอราคา จ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ลงนามโดย นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ รองเลขาธิการ สกสค. รักษาการแทนเลขาธิการ สกสค. . โดยเนื้อหาระบุว่า ตามประกาศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสติภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (องค์การค้าของ สกสค.) เรื่อง ประกวดราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ตามเอกสารประกวดราคาเลขที่ D64.1/2567 ลงวันที่ 25 ธ.ค.67 ซึ่งกำหนดยื่นเสนอราคาในวันที่ 28 ม.ค.68 ปรากฏว่ามีผู้ยื่นเอกสารเสนอราคาเพียงรายเดียว และได้ประกาศผู้ชนะการเสนอราคาในวันที่ 7 ก.พ.68 . องค์การค้าของ สกสค.พิจารณาตามหนังสือ คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.3/ว350 ลงวันที่ 23 ก.ค.62 ประกอบหนังสือคณะกรรมการวิวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.4/5774 ลงวันที่ 11 ก.พ.68 โดยเห็นควรยกเลิกเนื่องจากเห็นว่าเป็นการแข่งขันไม่สมบูรณ์ องค์การค้าของ สกสค. จึงขอยกเลิกประกาศผู้ชนะการเสนอราคาดังกล่าว ประกาศ ณ วันที่ 17 ก.พ.68 . ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 ม.ค.68 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ ก็ได้แนวทางการดำเนินการหลังทราบว่า มีผู้ยื่นเสนอราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 เพียงรายเดียวว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ได้สั่งการยกเลิกประกวดราคาฯครั้งนี้ เพื่อความโปร่งใส เนื่องจากเกิดจากปัญหาในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และมีรายงานว่า องค์การค้าของ สกสค. ได้ทำหนังสือสอบถาม กรมบัญชีกลาง เพื่อขอคำปรึกษาในเรื่องของการจัดพิมพ์หนังสือแบบเรียนประจำปี 2568 ที่มีผู้ยื่นเสนอราคาเพียงรายเดียวด้วย . อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 7 ก.พ.68 องค์การค้าของ สกสค. กลับออกมีประกาศลงนามโดย นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. ให้ บริษัท วรรณชาติเพรส (2020) จำกัด เป็นผู้ชนะการเสนอราคาประกวดราคาจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียน ปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ กระทั่ง คณะกรรมการวิวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง ได้มีหลังสือลงวันที่ 11 ก.พ.68 เห็นควรยกเลิก เนื่องจากเห็นว่าเป็นการแข่งขันไม่สมบูรณ์ทางองค์การค้าของ สกสค.จึงออกประกาศยกเลิกในที่สุด. .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1250 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ดีเอสไอ” ใช้เครื่องเลเซอร์สแกนนิ่ง สแกน ภูมิประเทศบริเวณวัดค้างคาวนำไปประมวลผลเป็นภาพ 3 มิติเทียบเคียงข้อมูลจำลองเหตุการณ์วันเกิดเหตุ เทียบ GPS เรือ-โทรศัพท์ พบจอดเรือ บริเวณวัดค้างคาว กว่า 1 ชั่วโมง

    วันนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 9.30 น. พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พร้อมคณะพนักงานสอบสวน พาตัวแทนสื่อมวลชนลงเรือสปีดโบ๊ท โดยวันนี้ได้มีการเตรียมเรือ ที่จะใช้ในการตรวจสอบจุดต่างๆ ตลอดลำน้ำเจ้าพระยาทั้งหมด 5 ลำ

    โดยเรือทั้งหมดเคลื่อนตัวออกจากท่าเรือบ้านเรือเล็ก มุ่งหน้าทางทิศใต้ ลอดใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรนุสรณ์ ผ่านสะพานพระราม 5 มุ่งหน้าไปจุดแรกที่เจ้าหน้าที่จะเริ่มทำการสแกนพื้นที่ คือ บริเวณท่าทรายใกล้เคียงกับ บริษัท พูนพิพัฒน์ จำกัด โดยจุดนี้ได้นำโดรนบินสำรวจสแกนเหนือลำน้ำเจ้าพระยา เพื่อนำภาพมุมสูงไปประกอบประมวลเป็นภาพสามมิติเส้นทางที่เรือลำเกิดเหตุแล่น ตามข้อมูล GPS เรือ

    จากนั้นเรือได้และมุ่งหน้าต่อไปทางทิศใต้ลอดใต้สะพาน พระราม 7 มาจอดบริเวณกลางลำน้ำเจ้าพระยา บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 ตรงข้ามกับหน้าอาคารรัฐสภา โดยบริเวณจุดนี้เจ้าหน้าที่ได้จอดให้คณะพนักงานสอบสวนและสื่อมวลชนบันทึกภาพและใช้เครื่องมือสแกนบริเวณโดยรอบพื้นที่รวมถึงสแกนหาวัตถุใต้ผิวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยบริเวณจุดนี้เรือชะลอความเร็วเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือที่เตรียมมาสแกน ทั้งทางอากาศและทางน้ำ รวมถึงมาจำลองตามคำกล่าวอ้างที่มีภาพถ่ายปรากฏอยู่ในโทรศัพท์ของแตงโม (นิดา) โดยบริเวณจุดที่ตรงกับปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 เรือลำของนายแพทย์ธวัชชัยให้ความสนใจ และใช้เวลาลอยลำอยู่ตรงจุดนี้ประมาณ 15 นาที ส่วนทางคณะพนักงานสอบสวนกลุ่มสอบสวนคดีพิเศษได้นำเรือลอยลำสำรวจตามจุดต่างๆ ล่วงหน้า ทั้งหมด 8 จุดตามที่แจ้งกับสื่อมวลชนไว้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015736

    #MGROnline #ดีเอสไอ
    “ดีเอสไอ” ใช้เครื่องเลเซอร์สแกนนิ่ง สแกน ภูมิประเทศบริเวณวัดค้างคาวนำไปประมวลผลเป็นภาพ 3 มิติเทียบเคียงข้อมูลจำลองเหตุการณ์วันเกิดเหตุ เทียบ GPS เรือ-โทรศัพท์ พบจอดเรือ บริเวณวัดค้างคาว กว่า 1 ชั่วโมง • วันนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 9.30 น. พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พร้อมคณะพนักงานสอบสวน พาตัวแทนสื่อมวลชนลงเรือสปีดโบ๊ท โดยวันนี้ได้มีการเตรียมเรือ ที่จะใช้ในการตรวจสอบจุดต่างๆ ตลอดลำน้ำเจ้าพระยาทั้งหมด 5 ลำ • โดยเรือทั้งหมดเคลื่อนตัวออกจากท่าเรือบ้านเรือเล็ก มุ่งหน้าทางทิศใต้ ลอดใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรนุสรณ์ ผ่านสะพานพระราม 5 มุ่งหน้าไปจุดแรกที่เจ้าหน้าที่จะเริ่มทำการสแกนพื้นที่ คือ บริเวณท่าทรายใกล้เคียงกับ บริษัท พูนพิพัฒน์ จำกัด โดยจุดนี้ได้นำโดรนบินสำรวจสแกนเหนือลำน้ำเจ้าพระยา เพื่อนำภาพมุมสูงไปประกอบประมวลเป็นภาพสามมิติเส้นทางที่เรือลำเกิดเหตุแล่น ตามข้อมูล GPS เรือ • จากนั้นเรือได้และมุ่งหน้าต่อไปทางทิศใต้ลอดใต้สะพาน พระราม 7 มาจอดบริเวณกลางลำน้ำเจ้าพระยา บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 ตรงข้ามกับหน้าอาคารรัฐสภา โดยบริเวณจุดนี้เจ้าหน้าที่ได้จอดให้คณะพนักงานสอบสวนและสื่อมวลชนบันทึกภาพและใช้เครื่องมือสแกนบริเวณโดยรอบพื้นที่รวมถึงสแกนหาวัตถุใต้ผิวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยบริเวณจุดนี้เรือชะลอความเร็วเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือที่เตรียมมาสแกน ทั้งทางอากาศและทางน้ำ รวมถึงมาจำลองตามคำกล่าวอ้างที่มีภาพถ่ายปรากฏอยู่ในโทรศัพท์ของแตงโม (นิดา) โดยบริเวณจุดที่ตรงกับปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 เรือลำของนายแพทย์ธวัชชัยให้ความสนใจ และใช้เวลาลอยลำอยู่ตรงจุดนี้ประมาณ 15 นาที ส่วนทางคณะพนักงานสอบสวนกลุ่มสอบสวนคดีพิเศษได้นำเรือลอยลำสำรวจตามจุดต่างๆ ล่วงหน้า ทั้งหมด 8 จุดตามที่แจ้งกับสื่อมวลชนไว้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015736 • #MGROnline #ดีเอสไอ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ระบุว่าอิสราเอลจะสามารถ "จบงาน" กับอิหร่าน ภายใต้แรงสนับสนุนของสหรัฐฯ ระหว่างแถลงข่าวในเยรูซาเลม ร่วมกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาผู้มาเยือน
    .
    "ช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา อิสราเอลก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่อักษะก่อการร้ายของอิหร่าน ภายใต้ผู้นำที่เข้มแข็งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และภายใต้การสนับสนุนอย่างไม่ย่อท้อของคุณ ผมไม่สงสัยเลยว่าเราสามารถและจะจบงานนี้" เนทันยาฮูระบุ
    .
    ตามหลังเหตุการณ์พวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 อิสราเอลสู้รบทำสงครามกับนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ในกาซา และพวกฮิซบอลเลาะห์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเตหะราน ในเลบานอน
    .
    นอกจากนี้ อิสราเอลยังเผชิญการโจมตีจากบรรดากลุ่มติดอาวุธทั้งหลายในเยเมนและอิรัก ที่อิหร่านสนับสนุน สำหรับแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ "อิสราเอลและอเมริกา ยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่กันในการตอบโต้ภัยคุกคามจากอิหร่าน" นายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุ
    .
    เนทันยาฮู แสดงความยินดีต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ซึ่งหวนคืนสถานะนโยบาย "กดดันขั้นสูงสุด" กับอิหร่านทันทีทันใด แบบเดียวกับที่เคยใช้ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก จากคำกล่าวหาประเทศแห่งนี้กำลังแสวงหาศักยภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์
    .
    มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) ว่าอิหร่านจะไม่มีวันได้กลายมาเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ และเรียกสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้ว่าเป็นต้นตอสำคัญที่บั่นทอนเสถียรภาพในตะวันออกกลาง
    .
    "จะไม่มีทางมีนิวเคลียร์อิหร่าน หากมีนิวเคลียร์อิหร่าน เมื่อนั้นพวกเขาจะได้รับภูมิคุ้มกันจากแรงกดดันและการกระทำต่างๆ ซึ่งไม่มีทางปล่อยให้เกิดขึ้นได้" รูบิโอแถลงกับผู้สื่อข่าวร่วมกับเนทันยาฮู "ไม่ว่าเราจะพูดถึงฮามาสหรือพูดถึงฮิซบอลเลาะห์ พูดถึงความรุนแรงในเวสต์แบงก์ พูดถึงภาวะไร้เสถียรภาพในซีเรีย หรือพูดเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ พวกติดอาวุธในอิรัก ผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดทั้งมวลคือ อิหร่าน"
    .
    อิหร่านและอิสราเอลโจมตีกันโดยตรงกันไปมาเมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นการโจมตีกันโดยตรงเป็นครั้งแรก ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาค ที่โหมกระพือขึ้นจากสงครามกาซา
    .
    เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม อิสราเอลทิ้งบอมบ์ใส่ที่ตั้งทางทหารในอิหร่าน สังหารกำลังพลไป 4 ราย ตอบโต้กรณีที่เตหะรานรัวยิงห่าขีปนาวุธกว่า 200 ลูก เข้าใส่
    .
    ก่อนหน้านั้นในวันที่ 13 เมษายน อิหร่านปล่อยโดรนและยิงขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอล แก้แค้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศนองเลือดถล่มสถานทูตอิหร่านประจำกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เมษายน ซึ่งทางเตหะรานกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015546
    ..............
    Sondhi X
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ระบุว่าอิสราเอลจะสามารถ "จบงาน" กับอิหร่าน ภายใต้แรงสนับสนุนของสหรัฐฯ ระหว่างแถลงข่าวในเยรูซาเลม ร่วมกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาผู้มาเยือน . "ช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา อิสราเอลก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่อักษะก่อการร้ายของอิหร่าน ภายใต้ผู้นำที่เข้มแข็งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และภายใต้การสนับสนุนอย่างไม่ย่อท้อของคุณ ผมไม่สงสัยเลยว่าเราสามารถและจะจบงานนี้" เนทันยาฮูระบุ . ตามหลังเหตุการณ์พวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 อิสราเอลสู้รบทำสงครามกับนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ในกาซา และพวกฮิซบอลเลาะห์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเตหะราน ในเลบานอน . นอกจากนี้ อิสราเอลยังเผชิญการโจมตีจากบรรดากลุ่มติดอาวุธทั้งหลายในเยเมนและอิรัก ที่อิหร่านสนับสนุน สำหรับแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ "อิสราเอลและอเมริกา ยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่กันในการตอบโต้ภัยคุกคามจากอิหร่าน" นายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุ . เนทันยาฮู แสดงความยินดีต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ซึ่งหวนคืนสถานะนโยบาย "กดดันขั้นสูงสุด" กับอิหร่านทันทีทันใด แบบเดียวกับที่เคยใช้ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก จากคำกล่าวหาประเทศแห่งนี้กำลังแสวงหาศักยภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์ . มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) ว่าอิหร่านจะไม่มีวันได้กลายมาเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ และเรียกสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้ว่าเป็นต้นตอสำคัญที่บั่นทอนเสถียรภาพในตะวันออกกลาง . "จะไม่มีทางมีนิวเคลียร์อิหร่าน หากมีนิวเคลียร์อิหร่าน เมื่อนั้นพวกเขาจะได้รับภูมิคุ้มกันจากแรงกดดันและการกระทำต่างๆ ซึ่งไม่มีทางปล่อยให้เกิดขึ้นได้" รูบิโอแถลงกับผู้สื่อข่าวร่วมกับเนทันยาฮู "ไม่ว่าเราจะพูดถึงฮามาสหรือพูดถึงฮิซบอลเลาะห์ พูดถึงความรุนแรงในเวสต์แบงก์ พูดถึงภาวะไร้เสถียรภาพในซีเรีย หรือพูดเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ พวกติดอาวุธในอิรัก ผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดทั้งมวลคือ อิหร่าน" . อิหร่านและอิสราเอลโจมตีกันโดยตรงกันไปมาเมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นการโจมตีกันโดยตรงเป็นครั้งแรก ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาค ที่โหมกระพือขึ้นจากสงครามกาซา . เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม อิสราเอลทิ้งบอมบ์ใส่ที่ตั้งทางทหารในอิหร่าน สังหารกำลังพลไป 4 ราย ตอบโต้กรณีที่เตหะรานรัวยิงห่าขีปนาวุธกว่า 200 ลูก เข้าใส่ . ก่อนหน้านั้นในวันที่ 13 เมษายน อิหร่านปล่อยโดรนและยิงขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอล แก้แค้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศนองเลือดถล่มสถานทูตอิหร่านประจำกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เมษายน ซึ่งทางเตหะรานกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015546 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1119 มุมมอง 0 รีวิว
  • กำแพงเพชร - ตำรวจเรียก “โน๊ต” ผู้ต้องหายิง 3 พ่อแม่ลูกหมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างคลองขลุงสอบอีก ด้านญาติผู้ตายคาใจ ถ้าแค่เรื่องเงินทำไมต้องยิง ขึ้นโรงพักขอคุยแบบลูกผู้ชาย

    วันนี้(16 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน สภ.คลองขลุง นำตัว “โน๊ต-ศิวกร” ผู้ต้องหามือยิง 3 พาอแม่ลูก หมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างริมถนนคลองขลุง มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีภรรยาพร้อมทนายร่วมฟัง

    ทั้งนี้พบว่า “โน๊ต”มีสีหน้าเรียบเฉยไม่เหมือนเช่นเคย และระหว่างสอบสวนอยู่นั้นได้มีญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาขอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอพูดคุยกับผู้ก่อเหตุเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น เพราะยังมีเรื่องคาใจในหลายประเด็น

    ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายสุพัฒน์ สุบิน ลูกพี่ลูกน้องของนายใหม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางญาติยังสงสัยในประเด็นต่างๆหหลายประเด็น โดยเฉพาะเส้นทางที่ไปกันนั้น ไปกับใคร ไปด้วยกันได้อย่างไร ทำไมถึงต้องยิงกัน ทรัพย์สินมีอะไรบ้างจริงๆแล้วมีเท่าไหร่ รวมทั้งอาวุธปืนเอาไปไว้ไหน อยากให้พูดมาให้หมดมันจะได้ง่ายต่อคดี

    และตนยังมองว่าจากคำให้การเรื่องนี้มันแปลก ที่อยู่ๆ จะชวนกันไปกลางทุ่งนา เรื่องเงินคุยที่ไหนก็คุยได้ที่บ้านก็คุยได้ ทำไมต้องไปยังจุดนั้น

    อีกทั้งยังมองว่าคนที่ลงมือฆ่าเป็นทั้งสองคนอยู่แล้ว คนเดียวทำไม่ได้ เพราะอีกคนจะให้เขาชวนไปได้ยังไง วันนี้พร้อมที่จะคุยกันตรงๆ แบบลูกผู้ชาย

    #MGROnline #กำแพงเพชร #โน๊ต #ผู้ต้องหา #บ้านร้างคลองขลุง
    กำแพงเพชร - ตำรวจเรียก “โน๊ต” ผู้ต้องหายิง 3 พ่อแม่ลูกหมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างคลองขลุงสอบอีก ด้านญาติผู้ตายคาใจ ถ้าแค่เรื่องเงินทำไมต้องยิง ขึ้นโรงพักขอคุยแบบลูกผู้ชาย • วันนี้(16 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน สภ.คลองขลุง นำตัว “โน๊ต-ศิวกร” ผู้ต้องหามือยิง 3 พาอแม่ลูก หมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างริมถนนคลองขลุง มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีภรรยาพร้อมทนายร่วมฟัง • ทั้งนี้พบว่า “โน๊ต”มีสีหน้าเรียบเฉยไม่เหมือนเช่นเคย และระหว่างสอบสวนอยู่นั้นได้มีญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาขอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอพูดคุยกับผู้ก่อเหตุเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น เพราะยังมีเรื่องคาใจในหลายประเด็น • ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายสุพัฒน์ สุบิน ลูกพี่ลูกน้องของนายใหม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางญาติยังสงสัยในประเด็นต่างๆหหลายประเด็น โดยเฉพาะเส้นทางที่ไปกันนั้น ไปกับใคร ไปด้วยกันได้อย่างไร ทำไมถึงต้องยิงกัน ทรัพย์สินมีอะไรบ้างจริงๆแล้วมีเท่าไหร่ รวมทั้งอาวุธปืนเอาไปไว้ไหน อยากให้พูดมาให้หมดมันจะได้ง่ายต่อคดี • และตนยังมองว่าจากคำให้การเรื่องนี้มันแปลก ที่อยู่ๆ จะชวนกันไปกลางทุ่งนา เรื่องเงินคุยที่ไหนก็คุยได้ที่บ้านก็คุยได้ ทำไมต้องไปยังจุดนั้น • อีกทั้งยังมองว่าคนที่ลงมือฆ่าเป็นทั้งสองคนอยู่แล้ว คนเดียวทำไม่ได้ เพราะอีกคนจะให้เขาชวนไปได้ยังไง วันนี้พร้อมที่จะคุยกันตรงๆ แบบลูกผู้ชาย • #MGROnline #กำแพงเพชร #โน๊ต #ผู้ต้องหา #บ้านร้างคลองขลุง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอลอีก 3 รายในวันเสาร์ (15 ก.พ.) แลกกับการที่อิสราเอลปล่อยตัวผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์ราวๆ 369 คน เสร็จสิ้นการแลกตัวรอบที่ 6 แม้มีความกังวลว่าข้อตกลงหยุดยิงกาซาที่เปราะบางอย่างมาก ใกล้พังครืนลง ท่ามกลางเส้นตายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เตือน "นรกแตก" หากไม่ปล่อยตัวประกันทั้งหมด
    .
    ผู้สื่อข่าวพบเห็นกลุ่มมือปืนฮามาสที่สวมหน้ากาก พาตัวประกันขึ้นไปบนเวทีหนึ่ง ในเมืองข่าน ยูนิส ทางใต้ของกาซา หลังจากนั้นตัวประกันทั้ง 3 คน ที่ประกอบด้วย ซากุย เดเคล-เชิน ชาวอเมริกันเชื้อสายอิสราเอล ชาซา ทรูปานอฟ ชาวรัสเซียเชื้อสายอิสราเอล และยาอีร์ ฮอร์น ชาวอาร์เจนตินาเชื้อสายอิสราเอล ได้ทำการแถลงผ่านไมโครโฟน ก่อนมีการส่งมอบตัวแก่สภากาชาดและจากนั้นก็ถูกนำกลับสู่ดินแดนอิสราเอล หลังถูกควบคุมตัวนานกว่า 16 เดือน
    .
    ตัวประกันชายทั้ง 3 คน ในมือกุมถุงของขวัญที่ได้รับจากพวกที่ควบคุมตัวและขนาบข้างด้วยพวกนักรบ ได้เรียกร้องให้เดินหน้าการแลกตัวประกันเพิ่มเติมให้เสร็จสมบูรณ์ ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง
    .
    ไม่นานหลังจากนั้น อีกด้านหนึ่งรถบัสขนผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์ ก็ออกจากเรือนจำโอเฟอร์ของอิสราเอล และได้รับเสียงเชียร์ต้อนรับจากฝูงชน หลังเดินทางมาถึงเมืองรามัลเลาะห์ ในเขตยึดครองเวสต์แบงก์ ตามรายงานของเอเอฟพี ขณะเดียวกันรถบัสบางส่วนได้นำพานักโทษจากเรือนจำแห่งหนึ่งของอิสราเอล ในทะเลทรายเนเกฟ ไปยังฉนวนกาซา
    .
    การแลกเปลี่ยนในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ถือเป็นครั้งที่ 6 นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 มกราคม ขณะที่มันเกิดขึ้นหลังจากฮามาสขู่ระงับการปล่อยตัวประกัน จากคำกล่าวหาอิสราเอลละเมิดข้อตกลง กระตุ้นให้ทางอิสราเอลขู่ว่าจะกลับมาทำสงครามหากว่าฮามาสทำเช่นนั้น
    .
    ในบรรดาตัวประกัน 251 คน ที่ถูกพวกฮามาสจับตัวไประหว่างปฏิบัติการจู่โจมเล่นงานอิสราเอลสายฟ้าแลบ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 โหมกระพือสงคราม เหลืออีก 70 คนที่ยังอยู่ในกาซา ในนั้นรวมถึง 35 ราย ที่ทางกองทัพอิสราเอลเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว
    .
    ความเคลื่อนไหวปล่อยตัวล่าสุด นำมาเสียงน้ำตาแห่งความยินดีของเพื่อนๆ และสมาชิกในครอบครัวของตัวประกัน
    .
    หลังจากนั้นในวันเดียวกัน ชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนที่ได้รับการปล่อยตัวจากอิสราเอล ได้เดินทางถึงข่าน ยูนิส ทางใต้ของกาซา ระหว่างนั้นพวกเขาชู 2 นิ้วและโบกไม้โบกมือให้ฝูงชนที่ออกมารอต้อนรับด้วยความยินดี
    .
    อ้างอิงข้อมูลจากกลุ่มทนายความองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Palestinian Prisoners' Club พบว่าในบรรดาผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวนั้น มีอยู่ 36 คน ที่โดนลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ในนั้น 24 คน จะถูกเนรเทศภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิง
    .
    คาดหมายว่าการเจรจาในขั้นที่ 2 ของข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งมีเจตนาวางกรอบก้าวย่างต่างๆ สำหรับหยุดสงครามอย่างถาวร จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า
    .
    มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ชาติผู้สนับสนุนรายสำคัญของอิสราเอลและหนึ่งในชาติคนกลางการเจรจา ได้เดินทางถึงอิสราเอลในช่วงค่ำวันเสาร์ (15 ก.พ.) ก่อนมีกำหนดเข้าพบปะหารือกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง
    .
    เนทันยาฮู ขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันเสาร์ (15 ก.พ.) สำหรับแรงสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง ท่ามกลางการเผชิญหน้ากับฮามาส ในสัปดาห์นี้
    .
    คำขอบคุณนี้มีขึ้นหลังจาก ทรัมป์ เตือนว่าทุกขุมนรกจะแตกออกหากว่าตัวประกันอิสราเอลทุกคนไม่ได้รับการปล่อยตัวออกจากกาซา ภยในเที่ยงวันของวันเสาร์ (15 ก.พ.)
    .
    "จุดยืนหนักแน่นของประธานาธิบดีทรัมป์ นำมาซึ่งการปล่อยตัวประกันของเรา 3 คนในวันนี้ แม้ก่อนหน้านี้ ฮามาส เคยปฏิเสธปล่อยตัวพวกเขา" ทำเนียบนายกรัฐมนตรีของเนทันยาฮูกล่าว ในขณะที่ ฮาเซม กัสเซม โฆษกของพวกฮามาส บอกว่าอเมริกา "ต้องบีบบังคับ" ให้อิสราเอลยึดถือข้อตกลงหยุดยิง "หากว่าพวกเขาแคร์อย่างแท้จริงเกี่ยวกับชีวิตของนักโทษ (ตัวประกัน)"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015319
    ..................
    Sondhi X
    ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอลอีก 3 รายในวันเสาร์ (15 ก.พ.) แลกกับการที่อิสราเอลปล่อยตัวผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์ราวๆ 369 คน เสร็จสิ้นการแลกตัวรอบที่ 6 แม้มีความกังวลว่าข้อตกลงหยุดยิงกาซาที่เปราะบางอย่างมาก ใกล้พังครืนลง ท่ามกลางเส้นตายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เตือน "นรกแตก" หากไม่ปล่อยตัวประกันทั้งหมด . ผู้สื่อข่าวพบเห็นกลุ่มมือปืนฮามาสที่สวมหน้ากาก พาตัวประกันขึ้นไปบนเวทีหนึ่ง ในเมืองข่าน ยูนิส ทางใต้ของกาซา หลังจากนั้นตัวประกันทั้ง 3 คน ที่ประกอบด้วย ซากุย เดเคล-เชิน ชาวอเมริกันเชื้อสายอิสราเอล ชาซา ทรูปานอฟ ชาวรัสเซียเชื้อสายอิสราเอล และยาอีร์ ฮอร์น ชาวอาร์เจนตินาเชื้อสายอิสราเอล ได้ทำการแถลงผ่านไมโครโฟน ก่อนมีการส่งมอบตัวแก่สภากาชาดและจากนั้นก็ถูกนำกลับสู่ดินแดนอิสราเอล หลังถูกควบคุมตัวนานกว่า 16 เดือน . ตัวประกันชายทั้ง 3 คน ในมือกุมถุงของขวัญที่ได้รับจากพวกที่ควบคุมตัวและขนาบข้างด้วยพวกนักรบ ได้เรียกร้องให้เดินหน้าการแลกตัวประกันเพิ่มเติมให้เสร็จสมบูรณ์ ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง . ไม่นานหลังจากนั้น อีกด้านหนึ่งรถบัสขนผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์ ก็ออกจากเรือนจำโอเฟอร์ของอิสราเอล และได้รับเสียงเชียร์ต้อนรับจากฝูงชน หลังเดินทางมาถึงเมืองรามัลเลาะห์ ในเขตยึดครองเวสต์แบงก์ ตามรายงานของเอเอฟพี ขณะเดียวกันรถบัสบางส่วนได้นำพานักโทษจากเรือนจำแห่งหนึ่งของอิสราเอล ในทะเลทรายเนเกฟ ไปยังฉนวนกาซา . การแลกเปลี่ยนในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ถือเป็นครั้งที่ 6 นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 มกราคม ขณะที่มันเกิดขึ้นหลังจากฮามาสขู่ระงับการปล่อยตัวประกัน จากคำกล่าวหาอิสราเอลละเมิดข้อตกลง กระตุ้นให้ทางอิสราเอลขู่ว่าจะกลับมาทำสงครามหากว่าฮามาสทำเช่นนั้น . ในบรรดาตัวประกัน 251 คน ที่ถูกพวกฮามาสจับตัวไประหว่างปฏิบัติการจู่โจมเล่นงานอิสราเอลสายฟ้าแลบ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 โหมกระพือสงคราม เหลืออีก 70 คนที่ยังอยู่ในกาซา ในนั้นรวมถึง 35 ราย ที่ทางกองทัพอิสราเอลเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว . ความเคลื่อนไหวปล่อยตัวล่าสุด นำมาเสียงน้ำตาแห่งความยินดีของเพื่อนๆ และสมาชิกในครอบครัวของตัวประกัน . หลังจากนั้นในวันเดียวกัน ชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนที่ได้รับการปล่อยตัวจากอิสราเอล ได้เดินทางถึงข่าน ยูนิส ทางใต้ของกาซา ระหว่างนั้นพวกเขาชู 2 นิ้วและโบกไม้โบกมือให้ฝูงชนที่ออกมารอต้อนรับด้วยความยินดี . อ้างอิงข้อมูลจากกลุ่มทนายความองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Palestinian Prisoners' Club พบว่าในบรรดาผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวนั้น มีอยู่ 36 คน ที่โดนลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ในนั้น 24 คน จะถูกเนรเทศภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิง . คาดหมายว่าการเจรจาในขั้นที่ 2 ของข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งมีเจตนาวางกรอบก้าวย่างต่างๆ สำหรับหยุดสงครามอย่างถาวร จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า . มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ชาติผู้สนับสนุนรายสำคัญของอิสราเอลและหนึ่งในชาติคนกลางการเจรจา ได้เดินทางถึงอิสราเอลในช่วงค่ำวันเสาร์ (15 ก.พ.) ก่อนมีกำหนดเข้าพบปะหารือกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง . เนทันยาฮู ขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันเสาร์ (15 ก.พ.) สำหรับแรงสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง ท่ามกลางการเผชิญหน้ากับฮามาส ในสัปดาห์นี้ . คำขอบคุณนี้มีขึ้นหลังจาก ทรัมป์ เตือนว่าทุกขุมนรกจะแตกออกหากว่าตัวประกันอิสราเอลทุกคนไม่ได้รับการปล่อยตัวออกจากกาซา ภยในเที่ยงวันของวันเสาร์ (15 ก.พ.) . "จุดยืนหนักแน่นของประธานาธิบดีทรัมป์ นำมาซึ่งการปล่อยตัวประกันของเรา 3 คนในวันนี้ แม้ก่อนหน้านี้ ฮามาส เคยปฏิเสธปล่อยตัวพวกเขา" ทำเนียบนายกรัฐมนตรีของเนทันยาฮูกล่าว ในขณะที่ ฮาเซม กัสเซม โฆษกของพวกฮามาส บอกว่าอเมริกา "ต้องบีบบังคับ" ให้อิสราเอลยึดถือข้อตกลงหยุดยิง "หากว่าพวกเขาแคร์อย่างแท้จริงเกี่ยวกับชีวิตของนักโทษ (ตัวประกัน)" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015319 .................. Sondhi X
    Like
    Love
    Wow
    16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1400 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอนุญาต “ทักษิณ” เดินทางออกนอกประเทศครั้งที่ 2 ไปบรูไน ประชุมอาเซียน ตามคำเชิญ “อันวาร์” ผ่านสถานทูต 18-19 ก.พ.นี้ โดยให้วางเงินค้ำประกัน 5 ล้านบาท เเต่ไม่อนุญาตไปเวียดนาม-กัมพูชาในช่วงเวลาเดียวกัน เพราะไม่ได้เชิญในนามรัฐบาล

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตในคำร้องที่ นายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพื่อไปร่วมประชุมอาเซียน ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ที่จะจัดการประชุมระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ. ที่ประเทศบรูไน โดยมีรายงานว่าการขออนุญาตศาลในครั้งนี้ มาจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน มีหนังสือเชิญ ผ่านสถานทูต ผ่านกระทรวงต่างประเทศ เพื่อเชิญไปหารือต่อเนื่องจากครั้งที่เเล้ว

    ซึ่งนายทักษิณยื่นคำร้องตั้งเเต่วันที่ 13 ก.พ.2568 ศาลอาญานัดไต่สวนวันที่ 14 ก.พ.2569 มีการไต่สวนพยาน 2 ปาก คือนายทักษิณ เเละ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ พิจารณาเเล้วมีเหตุจำเป็นตามคำร้องมีคำสั่งอนุญาตออกนอกประเทศระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ.2568 ให้วางหลักประกันตามที่เสนอ( 5 ล้านบาทเท่าเดิม ) และให้มารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ

    ภายหลังศาลอาญาอนุญาตนายทักษิณก็ได้ทำสัญญาในช่วงเย็นวันดังกล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015199

    #MGROnline #ทักษิณ
    ศาลอนุญาต “ทักษิณ” เดินทางออกนอกประเทศครั้งที่ 2 ไปบรูไน ประชุมอาเซียน ตามคำเชิญ “อันวาร์” ผ่านสถานทูต 18-19 ก.พ.นี้ โดยให้วางเงินค้ำประกัน 5 ล้านบาท เเต่ไม่อนุญาตไปเวียดนาม-กัมพูชาในช่วงเวลาเดียวกัน เพราะไม่ได้เชิญในนามรัฐบาล • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตในคำร้องที่ นายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพื่อไปร่วมประชุมอาเซียน ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ที่จะจัดการประชุมระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ. ที่ประเทศบรูไน โดยมีรายงานว่าการขออนุญาตศาลในครั้งนี้ มาจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน มีหนังสือเชิญ ผ่านสถานทูต ผ่านกระทรวงต่างประเทศ เพื่อเชิญไปหารือต่อเนื่องจากครั้งที่เเล้ว • ซึ่งนายทักษิณยื่นคำร้องตั้งเเต่วันที่ 13 ก.พ.2568 ศาลอาญานัดไต่สวนวันที่ 14 ก.พ.2569 มีการไต่สวนพยาน 2 ปาก คือนายทักษิณ เเละ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ พิจารณาเเล้วมีเหตุจำเป็นตามคำร้องมีคำสั่งอนุญาตออกนอกประเทศระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ.2568 ให้วางหลักประกันตามที่เสนอ( 5 ล้านบาทเท่าเดิม ) และให้มารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ • ภายหลังศาลอาญาอนุญาตนายทักษิณก็ได้ทำสัญญาในช่วงเย็นวันดังกล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015199 • #MGROnline #ทักษิณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ หยุดจ่ายเงิน BBC หันมาชมจีน

    หลายวันก่อน อีลอน มัสก์ปิดองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (USAID)โดยตรง มิเพียงแต่เลิกจ้างพนักงานทั่วโลกจำนวนกว่าหมื่นคนเท่านั้น และยังตัดงบประมาณที่มียอดกว่า 50,000ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
    เรื่องนี้ทำให้ BBC โกรธมาก และหันมาชมจีนอย่างเต็มที่

    ทีมงานของอีลอน มัสก์เปิดโปงว่าแต่ละปี สื่อจำนวนมากของสหรัฐอเมริกาและยุโรปล้วนได้เงินไม่น้อยจาก USAID
    ส่วน BBC ที่บอกว่าตัวเองเป็นสื่ออิสระและเป็นกลางนั้น ก็มีค่าตอบแทนเช่นกัน โดยแต่ละปีจะได้รับจากUSAIDหลายสิบล้านเหรียญสหรัฐ

    เมื่อ 1 เดือนก่อน สารคดีของ BBC ส่วนใหญ่บอกว่าจีนแย่แล้ว จีนจะพังแล้ว

    แต่หลังจากวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่อีลอน มัสก์ตัดงบฯ แล้ว ทำให้ BBC โกรธมาก จึงเร่งพนักงานผลิตสารคดีเรื่อง “โครงการเมดอินไชน่า 2025”ภายในเวลาไม่กี่วัน และออกอากาศด้วย

    สารคดีเรื่องนี้ชมจีนอย่างเต็มที่ อย่างเช่นโดรนทันสมัยนำหน้าของจีน รถยนต์พลังงานใหม่ของ BYD โครงการโซลาร์เซลล์ และ Deepseek เป็นต้น โดยไม่มีคำตำหนิใส่ร้ายใดๆ มีแต่พูดเรื่องดีๆเท่านั้น

    สุดท้าย พิธีกรได้คำสรุปว่า “โครงการเมดอินไชน่า 2025”ของจีนประสบความสำเร็จอย่างบริบูรณ์ สาเหตุคือ ระบบของจีน ความอดทนและการวางแผนระยะยาวของรัฐบาลจีน

    BBC ชอบรายงานจีนในเชิงลบ กระทั่งสร้างข่าวปลอมเกี่ยวกับจีน อย่างเช่นเหตุการณ์ผ้าฝ้ายซินเจียง แต่หลังจากอีลอน มัสก์ตัดงบฯ แล้ว BBC เปลี่ยนท่าทีจากผู้ต้านจีนมาเป็นผู้สนิทกับจีนทันที

    ดิฉันคิดว่า BBC ทำสารคดีดังกล่าว คงไม่ใช่สนิทกับจีนจริงๆ แต่เป็นการเตือนสหรัฐฯ ว่า ถ้าไม่จ่ายเงินต่อ วันหลังก็จะไม่ทำตามคำสั่งอีกแล้ว

    ทีมงานของอีลอน มัสก์โพสต์ข้อความและยืนยันว่า USAIDให้เงินสนับสนุนแก่ผู้สื่อข่าวจำนวนกว่า 6,200 คน สื่อ 707 แห่ง และองค์การภาคเอกชน 279 แห่งของ 30 ประเทศ
    .
    https://web.facebook.com/share/p/1B1cgCWZib/
    สหรัฐฯ หยุดจ่ายเงิน BBC หันมาชมจีน หลายวันก่อน อีลอน มัสก์ปิดองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (USAID)โดยตรง มิเพียงแต่เลิกจ้างพนักงานทั่วโลกจำนวนกว่าหมื่นคนเท่านั้น และยังตัดงบประมาณที่มียอดกว่า 50,000ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี เรื่องนี้ทำให้ BBC โกรธมาก และหันมาชมจีนอย่างเต็มที่ ทีมงานของอีลอน มัสก์เปิดโปงว่าแต่ละปี สื่อจำนวนมากของสหรัฐอเมริกาและยุโรปล้วนได้เงินไม่น้อยจาก USAID ส่วน BBC ที่บอกว่าตัวเองเป็นสื่ออิสระและเป็นกลางนั้น ก็มีค่าตอบแทนเช่นกัน โดยแต่ละปีจะได้รับจากUSAIDหลายสิบล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อ 1 เดือนก่อน สารคดีของ BBC ส่วนใหญ่บอกว่าจีนแย่แล้ว จีนจะพังแล้ว แต่หลังจากวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่อีลอน มัสก์ตัดงบฯ แล้ว ทำให้ BBC โกรธมาก จึงเร่งพนักงานผลิตสารคดีเรื่อง “โครงการเมดอินไชน่า 2025”ภายในเวลาไม่กี่วัน และออกอากาศด้วย สารคดีเรื่องนี้ชมจีนอย่างเต็มที่ อย่างเช่นโดรนทันสมัยนำหน้าของจีน รถยนต์พลังงานใหม่ของ BYD โครงการโซลาร์เซลล์ และ Deepseek เป็นต้น โดยไม่มีคำตำหนิใส่ร้ายใดๆ มีแต่พูดเรื่องดีๆเท่านั้น สุดท้าย พิธีกรได้คำสรุปว่า “โครงการเมดอินไชน่า 2025”ของจีนประสบความสำเร็จอย่างบริบูรณ์ สาเหตุคือ ระบบของจีน ความอดทนและการวางแผนระยะยาวของรัฐบาลจีน BBC ชอบรายงานจีนในเชิงลบ กระทั่งสร้างข่าวปลอมเกี่ยวกับจีน อย่างเช่นเหตุการณ์ผ้าฝ้ายซินเจียง แต่หลังจากอีลอน มัสก์ตัดงบฯ แล้ว BBC เปลี่ยนท่าทีจากผู้ต้านจีนมาเป็นผู้สนิทกับจีนทันที ดิฉันคิดว่า BBC ทำสารคดีดังกล่าว คงไม่ใช่สนิทกับจีนจริงๆ แต่เป็นการเตือนสหรัฐฯ ว่า ถ้าไม่จ่ายเงินต่อ วันหลังก็จะไม่ทำตามคำสั่งอีกแล้ว ทีมงานของอีลอน มัสก์โพสต์ข้อความและยืนยันว่า USAIDให้เงินสนับสนุนแก่ผู้สื่อข่าวจำนวนกว่า 6,200 คน สื่อ 707 แห่ง และองค์การภาคเอกชน 279 แห่งของ 30 ประเทศ . https://web.facebook.com/share/p/1B1cgCWZib/
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 0 รีวิว
  • กาญจนบุรี - จีนเทาเริ่มย้ายออกจากเมืองพญาตองซูแล้ว พบอาคารที่จีนเทาเคยเช่าดำเนินธุรกิจสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ หลายแหล่งถูกปิด และขนย้ายอุปกรณ์ออกจากอาคาร เพราะเจ้าของบอกเลิกสัญญาเช่า

    ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงไปยังเมืองพยาตองซู เพื่อสำรวจสถานที่ที่ระบุว่าเป็นอาคารที่คนจีนเช่าประกอบธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ และสแกมเมอร์ จากข้อมูลของแหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงพบว่าหลังจากทางการไทยตัดไฟฟ้า และสัญญาณโทรศัพท์ เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อทำลายธุรกิจของแก็งจีนเทาและกดดันให้กลุ่มคนเหล่านี้ย้ายออกจากพื้นที่เมืองพญาตองซู ประเทศเมียนมาต่อมาในวันที่ 9 ก.พ. "พันเอกซอเอวัน" ผู้บังคับการยุทธวิธีที่ 2 กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไต (DKBA) ได้ออกหนังสือแจ้งให้จีนเทาในเมืองพญาตองซู ออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 28 ก.พ.นี้ หลังจากมาตรการตัดไฟ สัญญาณอินเตอร์เน็ตของรัฐบาลไทย สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในเมืองพม่าตองซู กว่า 50,000 คน

    วันนี้(12 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากผู้ที่ให้จีนเทาเช่าอาคาร และตึก ในเมืองพญาตองซู มากกว่า 4 แห่ง โดยแต่ละแห่งได้ค่าตอบแทนตั้งแต่เดือนละ 200,000-800,000 บาท โดยคนจีนเหล่านี้มาขอเช่านานกว่า 1 ปี ที่ผ่านมา โดยทำสัญญาเช่าครั้งละ 6 เดือน ซึ่งหลังจากเช่าแล้วผู้เช่าจะทำการตกแต่ง ต่อเติม บ้านและอาคารเหล่านั้นเป็นที่พักและที่ทำงาน พร้อมทั้งจัดเวรยามเฝ้าอย่างเข้มงวด โดยเจ้าของไม่สามารถเข้าไปดูหรือควบคุมได้ โดยจะมีคนจีนอยู่อาศัยอยู่ประมาณ 200-300 คน มีคนงานชาวจีนดูแลเรื่องอาหาร และรักษาความปลอดภัยในอาคารตลอด 24 ชม.

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000014258

    #MGROnline #จีนเทา #พญาตองซู
    กาญจนบุรี - จีนเทาเริ่มย้ายออกจากเมืองพญาตองซูแล้ว พบอาคารที่จีนเทาเคยเช่าดำเนินธุรกิจสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ หลายแหล่งถูกปิด และขนย้ายอุปกรณ์ออกจากอาคาร เพราะเจ้าของบอกเลิกสัญญาเช่า • ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงไปยังเมืองพยาตองซู เพื่อสำรวจสถานที่ที่ระบุว่าเป็นอาคารที่คนจีนเช่าประกอบธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ และสแกมเมอร์ จากข้อมูลของแหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงพบว่าหลังจากทางการไทยตัดไฟฟ้า และสัญญาณโทรศัพท์ เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อทำลายธุรกิจของแก็งจีนเทาและกดดันให้กลุ่มคนเหล่านี้ย้ายออกจากพื้นที่เมืองพญาตองซู ประเทศเมียนมาต่อมาในวันที่ 9 ก.พ. "พันเอกซอเอวัน" ผู้บังคับการยุทธวิธีที่ 2 กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไต (DKBA) ได้ออกหนังสือแจ้งให้จีนเทาในเมืองพญาตองซู ออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 28 ก.พ.นี้ หลังจากมาตรการตัดไฟ สัญญาณอินเตอร์เน็ตของรัฐบาลไทย สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในเมืองพม่าตองซู กว่า 50,000 คน • วันนี้(12 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากผู้ที่ให้จีนเทาเช่าอาคาร และตึก ในเมืองพญาตองซู มากกว่า 4 แห่ง โดยแต่ละแห่งได้ค่าตอบแทนตั้งแต่เดือนละ 200,000-800,000 บาท โดยคนจีนเหล่านี้มาขอเช่านานกว่า 1 ปี ที่ผ่านมา โดยทำสัญญาเช่าครั้งละ 6 เดือน ซึ่งหลังจากเช่าแล้วผู้เช่าจะทำการตกแต่ง ต่อเติม บ้านและอาคารเหล่านั้นเป็นที่พักและที่ทำงาน พร้อมทั้งจัดเวรยามเฝ้าอย่างเข้มงวด โดยเจ้าของไม่สามารถเข้าไปดูหรือควบคุมได้ โดยจะมีคนจีนอยู่อาศัยอยู่ประมาณ 200-300 คน มีคนงานชาวจีนดูแลเรื่องอาหาร และรักษาความปลอดภัยในอาคารตลอด 24 ชม. • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000014258 • #MGROnline #จีนเทา #พญาตองซู
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ ไม่หนีสภา พร้อมเผชิญหน้าฝ่ายค้าน 'เท้ง' เมินถูกฟ้องปิดปาก
    .
    วันอภิปรายไม่ไว้วางใจใกล้เข้ามาทุกที ทำให้ความเคลื่อนไหวทางการเมืองเข้มข้นถึงทุกขณะ ซึ่งล่าสุดน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ยืนยันว่า จะเดินทางไปที่รัฐสภาเพื่อตอบชี้แจงการอภิปรายของฝ่ายค้านด้วยตัวเอง พร้อมกับระบุว่ายังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรีในห้วงเวลานี้
    .
    “โอ๊ย ดิฉันพร้อมตอบทุกเรื่อง เป็นนายกฯต้องพร้อมตอบทุกเรื่อง” นายกฯตอบคำถามผู้สื่อข่าว
    .
    สำหรับการปรับครม. นายกฯ ระบุว่า “มีโผออกมาว่ายังไง โผเป็นทางการดิฉันเซ็นหรือเปล่า ถ้ายังไม่เซ็นก็ไม่ใช่โผ”
    .
    ด้าน นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ในช่วงสมัยประชุมจะต้องมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ครั้งนี้จะมีการยื่นและอภิปลายในช่วงปลายเดือนก.พ.68 ส่วนในระยะเวลาที่ของยื่นอภิปราย 5 วัน จะต้องตกลงระหว่างวิปทั้ง 2 ฝ่ายขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับวิปทั้ง3ฝ่าย แต่คงจะต้องพูดคุยกัน
    .
    “หากมีประเด็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทย เราจะต้องตอบ แต่หากพาดพิงไปในส่วนบุคคล ก็เป็นหน้าที่ของนายทักษิณเองในการฟ้องร้องซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องรับฟังว่าประเด็นหรือข้อมูลของฝ่ายค้านที่จะหยิบยกขึ้นอภิปรายนั้น มีอะไรบ้าง” นายสรวศ์ ย้ำ
    .
    นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่า ไม่มีข้อกังวล เพราะการอภิปรายในสภาได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง พวกเราคงทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการเตรียมทีมอภิปรายไว้ค่อนข้างครบครัน และจากการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเมื่อวานก่อน ตอนนี้รอเรื่องการจัดสรรเวลา
    ..............
    Sondhi X
    นายกฯ ไม่หนีสภา พร้อมเผชิญหน้าฝ่ายค้าน 'เท้ง' เมินถูกฟ้องปิดปาก . วันอภิปรายไม่ไว้วางใจใกล้เข้ามาทุกที ทำให้ความเคลื่อนไหวทางการเมืองเข้มข้นถึงทุกขณะ ซึ่งล่าสุดน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ยืนยันว่า จะเดินทางไปที่รัฐสภาเพื่อตอบชี้แจงการอภิปรายของฝ่ายค้านด้วยตัวเอง พร้อมกับระบุว่ายังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรีในห้วงเวลานี้ . “โอ๊ย ดิฉันพร้อมตอบทุกเรื่อง เป็นนายกฯต้องพร้อมตอบทุกเรื่อง” นายกฯตอบคำถามผู้สื่อข่าว . สำหรับการปรับครม. นายกฯ ระบุว่า “มีโผออกมาว่ายังไง โผเป็นทางการดิฉันเซ็นหรือเปล่า ถ้ายังไม่เซ็นก็ไม่ใช่โผ” . ด้าน นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ในช่วงสมัยประชุมจะต้องมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ครั้งนี้จะมีการยื่นและอภิปลายในช่วงปลายเดือนก.พ.68 ส่วนในระยะเวลาที่ของยื่นอภิปราย 5 วัน จะต้องตกลงระหว่างวิปทั้ง 2 ฝ่ายขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับวิปทั้ง3ฝ่าย แต่คงจะต้องพูดคุยกัน . “หากมีประเด็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทย เราจะต้องตอบ แต่หากพาดพิงไปในส่วนบุคคล ก็เป็นหน้าที่ของนายทักษิณเองในการฟ้องร้องซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องรับฟังว่าประเด็นหรือข้อมูลของฝ่ายค้านที่จะหยิบยกขึ้นอภิปรายนั้น มีอะไรบ้าง” นายสรวศ์ ย้ำ . นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่า ไม่มีข้อกังวล เพราะการอภิปรายในสภาได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง พวกเราคงทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการเตรียมทีมอภิปรายไว้ค่อนข้างครบครัน และจากการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเมื่อวานก่อน ตอนนี้รอเรื่องการจัดสรรเวลา .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1960 มุมมอง 0 รีวิว
  • กาญจนบุรี - ด่วน! อธิบดีกรมอุทยานฯ ลงนามคำสั่งย้าย 4 เจ้าหน้าที่ สบอ.3 บ้านโป่ง เผยเพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ในการปฏิบัติราชการ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 ก.พ.) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงนามในคำสั่ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่อง ให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ในการปฏิบัติราชการ ด้วยการอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ฉบับที่ 5 พ.ศ.2545 จำนวน 4 ราย ให้มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000013771

    #MGROnline #กรมอุทยานแห่งชาติ
    กาญจนบุรี - ด่วน! อธิบดีกรมอุทยานฯ ลงนามคำสั่งย้าย 4 เจ้าหน้าที่ สบอ.3 บ้านโป่ง เผยเพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ในการปฏิบัติราชการ • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 ก.พ.) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงนามในคำสั่ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่อง ให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ในการปฏิบัติราชการ ด้วยการอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ฉบับที่ 5 พ.ศ.2545 จำนวน 4 ราย ให้มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000013771 • #MGROnline #กรมอุทยานแห่งชาติ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ประกาศยังมุ่งมั่นที่จะซื้อดินแดนกาซามาครอบครอง ถึงแม้เจอเสียงประณามคัดค้านตั้งแต่ชาวปาเลสไตน์ ไปถึงชาติอาหรับ โลกมุสลิม และกระทั่งพวกประเทศตะวันตก เพียงแต่อาจปรับเปลี่ยนแผนไปบ้าง โดยอาจแบ่งสรรพื้นที่บางส่วนให้ประเทศในตะวันออกกลางเข้าไปเป็นผู้ฟื้นฟูบูรณะ รวมถึงอาจรับชาวปาเลสไตน์ลี้ภัยในอเมริกาแต่ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป ขณะที่ทางด้านเนทันยาฮู ก็ถูกจวกแหลก หลังปล่อยมุกเสนอไอเดียให้จัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ขึ้นในซาอุดีอาระเบีย
    .
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ (9 ก.พ.) ขณะอยู่บนเครื่องบินประจำตำแหน่ง “แอร์ ฟอร์ซ วัน” มุ่งหน้าไปชมการแข่งขันชิงแชมป์ซูเปอร์โบลในเทิอวนิวออร์ลีนส์ โดยย้ำว่าตัวเขายังคงมีความมุ่งมั่นเข้าซื้อและครอบครองฉนวนกาซา เพื่อให้มั่นใจว่าพวกนักรบฮามาสจะไม่ย้อนกลับไปอีก แต่อาจจะเปิดโอกาสให้ประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลางเข้าร่วมการบูรณะฟื้นฟูดินแดนแห่งนี้ที่ถูกทำลายยับเยินในสงคราม
    .
    ก่อนหน้านี้ ระหว่างแถลงไอเดียเรื่องนี้ครั้งแรกสุดในสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์บรรยายแผนการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาเป็นการถาวร โดยให้ไปตั้งรกรากในประเทศอาหรับอื่นๆ อย่างอียิปต์และจอร์แดน เพื่อที่อเมริกาจะเข้าไปครอบครองดินแดนชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้ เพื่อสร้างให้เป็น “ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง” ทว่าในวันอาทิตย์ เขาบอกว่า อาจอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์บางส่วนเดินทางไปตั้งรกรากในอเมริกา แต่สำทับว่า จะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป
    .
    การเสนอไอเดียทั้งหมดของทรัมป์ ยังไม่ได้ให้รายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของชาวปาเลสไตน์ที่ต้องเผชิญการถล่มโจมตีทิ้งระเบิดจากอิสราเอลมานานกว่า 15 เดือน นับจากวันที่ 7 ต.ค. 2023 ที่นักรบฮามาสแอบข้ามแดนเข้าไปโจมตีอิสราเอลและเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกาซาที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 48,181 คน
    .
    นอกจากนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า อเมริกาจะอ้างสิทธิ์อะไรในการเข้าไปยึดกาซา
    .
    เอซซาต เอล ราชก์ สมาชิกสายการเมืองของกลุ่มฮามาส ประณามแผนการของทรัมป์โดยระบุว่า กาซาไม่ใช่โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีไว้ซื้อขาย แต่เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง และปาเลสไตน์จะทำลายแผนการบังคับย้ายถิ่นฐานของผู้นำสหรัฐฯ
    .
    ขณะที่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็นบิ๊กรายหนึ่งในโลกอาหรับและตะวันออกกลาง รวมทั้งบรรดาผู้นำทั่วโลกก็คัดค้านแผนการของทรัมป์ กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่สองแห่งจอร์แดน เตรียมเตือนทรัมป์ระหว่างเยือนวอชิงตันในวันอังคาร (11) ว่า แผนการเช่นนี้จะปลุกเร้าให้ลัทธิหัวรุนแรงแพร่ขยายไปทั่วตะวันออกกลาง และสั่นคลอนสันติภาพระหว่างจอร์แดนกับอิสราเอล
    .
    ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอันของตุรกี และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์แห่งเยอรมนี เป็นผู้นำโลกสองคนล่าสุดที่ประณามแผนการของทรัมป์เมื่อวันอาทิตย์ (9) ที่ผ่านมา โดยแอร์โดอันบอกว่า ไม่มีใครมีอำนาจย้ายประชาชนในกาซาออกจากบ้านเกิดเมืองนอน และเสริมว่า กาซา เวสต์แบงก์ และเยรูซาเลมตะวันออกเป็นของชาวปาเลสไตน์
    .
    ด้านชอลซ์โจมตีแผนการของทรัมป์ว่าเป็น “กรณีสุดอื้อฉาว” และสำทับว่า การบังคับประชาชนย้ายถิ่นฐานเป็นสิ่งที่รับไม่ได้และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
    .
    ขณะที่ตะวันออกกลางเดือดเป็นฟื้นเป็นไฟกับข้อเสนอของทรัมป์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ดูจะเป็นผู้นำระดับชาติเพียงคนเดียวที่เชิดชูแผนการของประมุขทำเนียบขาวในการซื้อกาซาและย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนดังกล่าวว่า เป็นแนวทางที่สร้างสรรค์ และเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ที่แตกต่างออกไปจากกรอบเดิมอย่างชัดเจนและเป็นสิ่งที่ดีขึ้นสำหรับอิสราเอล
    .
    นอกจากนั้นเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เขายังอยู่ในกรุงวอชิงตัน เนทันยาฮูได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีโปรอิสราเอลในสหรัฐฯ โดยที่ผู้สื่อข่าวได้พูดผิด เรียกเป็น "รัฐซาอุดีอาระเบีย" แทนที่จะเป็น "รัฐปาเลสไตน์" เนทันยาฮูก็แก้ไขให้โดยบอกว่า "รัฐปาเลสไตน์" จากนั้นเขาก็กล่าวต่อเป็นเชิงปล่อยมุกตลกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า "เว้นแต่เสียว่าคุณต้องการให้รัฐปาเลสไตน์อยู่ในซาอุดีอาระเบีย พวกเขามีดินแดนมากมาย"
    .
    ปรากฏว่าเรื่องนี้ บรรดาชาติอาหรับและโลกมุสลิมไม่ได้ขำด้วย โดยที่อียิปต์และจอร์แดนออกมาประณามคำพูดเช่นนี้ของเนทันยาฮู ไคโรนั้นถึงขั้นมองความคิดนี้ว่าเป็นการ "ละเมิดอธิปไตยของซาอุดีอาระเบียโดยตรง" ทีเดียว
    .
    ด้านซาอุดีอาระเบียเอง บอกว่าพวกเขารู้สึกนับถือเป็นอย่างยิ่งต่อรัฐพี่น้องทั้ง 2 ที่รุดออกมาปฏิเสธความคิดเห็นของเนทันยาฮู และกล่าวต่อไปว่า "แนวคิดหัวรุนแรงซึ่งมุ่งที่การยึดครองนี้ ไม่ได้ตระหนักและเข้าถึงว่าดินแดนปาเลสไตน์มีความหมายกับประชาชนพี่น้องปาเลสไตน์มากแค่ไหน เช่นเดียวกับความเกี่ยวข้องกันทั้งในแง่มโนธรรม ประวัติศาสตร์และทางกฎหมาย กับดินแดนแห่งนี้" ถ้อยแถลงระบุ
    .
    ขณะที่อาเหม็ด อาบูล เกอิต ผู้นำกลุ่มสันนิบาตอาหรับ วิจารณ์ว่า ไอเดียของผู้นำยิวเป็นแค่ความเพ้อฝันหรือภาพลวงตาเท่านั้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013540
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์ประกาศยังมุ่งมั่นที่จะซื้อดินแดนกาซามาครอบครอง ถึงแม้เจอเสียงประณามคัดค้านตั้งแต่ชาวปาเลสไตน์ ไปถึงชาติอาหรับ โลกมุสลิม และกระทั่งพวกประเทศตะวันตก เพียงแต่อาจปรับเปลี่ยนแผนไปบ้าง โดยอาจแบ่งสรรพื้นที่บางส่วนให้ประเทศในตะวันออกกลางเข้าไปเป็นผู้ฟื้นฟูบูรณะ รวมถึงอาจรับชาวปาเลสไตน์ลี้ภัยในอเมริกาแต่ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป ขณะที่ทางด้านเนทันยาฮู ก็ถูกจวกแหลก หลังปล่อยมุกเสนอไอเดียให้จัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ขึ้นในซาอุดีอาระเบีย . ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ (9 ก.พ.) ขณะอยู่บนเครื่องบินประจำตำแหน่ง “แอร์ ฟอร์ซ วัน” มุ่งหน้าไปชมการแข่งขันชิงแชมป์ซูเปอร์โบลในเทิอวนิวออร์ลีนส์ โดยย้ำว่าตัวเขายังคงมีความมุ่งมั่นเข้าซื้อและครอบครองฉนวนกาซา เพื่อให้มั่นใจว่าพวกนักรบฮามาสจะไม่ย้อนกลับไปอีก แต่อาจจะเปิดโอกาสให้ประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลางเข้าร่วมการบูรณะฟื้นฟูดินแดนแห่งนี้ที่ถูกทำลายยับเยินในสงคราม . ก่อนหน้านี้ ระหว่างแถลงไอเดียเรื่องนี้ครั้งแรกสุดในสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์บรรยายแผนการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาเป็นการถาวร โดยให้ไปตั้งรกรากในประเทศอาหรับอื่นๆ อย่างอียิปต์และจอร์แดน เพื่อที่อเมริกาจะเข้าไปครอบครองดินแดนชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้ เพื่อสร้างให้เป็น “ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง” ทว่าในวันอาทิตย์ เขาบอกว่า อาจอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์บางส่วนเดินทางไปตั้งรกรากในอเมริกา แต่สำทับว่า จะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป . การเสนอไอเดียทั้งหมดของทรัมป์ ยังไม่ได้ให้รายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของชาวปาเลสไตน์ที่ต้องเผชิญการถล่มโจมตีทิ้งระเบิดจากอิสราเอลมานานกว่า 15 เดือน นับจากวันที่ 7 ต.ค. 2023 ที่นักรบฮามาสแอบข้ามแดนเข้าไปโจมตีอิสราเอลและเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกาซาที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 48,181 คน . นอกจากนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า อเมริกาจะอ้างสิทธิ์อะไรในการเข้าไปยึดกาซา . เอซซาต เอล ราชก์ สมาชิกสายการเมืองของกลุ่มฮามาส ประณามแผนการของทรัมป์โดยระบุว่า กาซาไม่ใช่โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีไว้ซื้อขาย แต่เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง และปาเลสไตน์จะทำลายแผนการบังคับย้ายถิ่นฐานของผู้นำสหรัฐฯ . ขณะที่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็นบิ๊กรายหนึ่งในโลกอาหรับและตะวันออกกลาง รวมทั้งบรรดาผู้นำทั่วโลกก็คัดค้านแผนการของทรัมป์ กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่สองแห่งจอร์แดน เตรียมเตือนทรัมป์ระหว่างเยือนวอชิงตันในวันอังคาร (11) ว่า แผนการเช่นนี้จะปลุกเร้าให้ลัทธิหัวรุนแรงแพร่ขยายไปทั่วตะวันออกกลาง และสั่นคลอนสันติภาพระหว่างจอร์แดนกับอิสราเอล . ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอันของตุรกี และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์แห่งเยอรมนี เป็นผู้นำโลกสองคนล่าสุดที่ประณามแผนการของทรัมป์เมื่อวันอาทิตย์ (9) ที่ผ่านมา โดยแอร์โดอันบอกว่า ไม่มีใครมีอำนาจย้ายประชาชนในกาซาออกจากบ้านเกิดเมืองนอน และเสริมว่า กาซา เวสต์แบงก์ และเยรูซาเลมตะวันออกเป็นของชาวปาเลสไตน์ . ด้านชอลซ์โจมตีแผนการของทรัมป์ว่าเป็น “กรณีสุดอื้อฉาว” และสำทับว่า การบังคับประชาชนย้ายถิ่นฐานเป็นสิ่งที่รับไม่ได้และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ . ขณะที่ตะวันออกกลางเดือดเป็นฟื้นเป็นไฟกับข้อเสนอของทรัมป์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ดูจะเป็นผู้นำระดับชาติเพียงคนเดียวที่เชิดชูแผนการของประมุขทำเนียบขาวในการซื้อกาซาและย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนดังกล่าวว่า เป็นแนวทางที่สร้างสรรค์ และเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ที่แตกต่างออกไปจากกรอบเดิมอย่างชัดเจนและเป็นสิ่งที่ดีขึ้นสำหรับอิสราเอล . นอกจากนั้นเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เขายังอยู่ในกรุงวอชิงตัน เนทันยาฮูได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีโปรอิสราเอลในสหรัฐฯ โดยที่ผู้สื่อข่าวได้พูดผิด เรียกเป็น "รัฐซาอุดีอาระเบีย" แทนที่จะเป็น "รัฐปาเลสไตน์" เนทันยาฮูก็แก้ไขให้โดยบอกว่า "รัฐปาเลสไตน์" จากนั้นเขาก็กล่าวต่อเป็นเชิงปล่อยมุกตลกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า "เว้นแต่เสียว่าคุณต้องการให้รัฐปาเลสไตน์อยู่ในซาอุดีอาระเบีย พวกเขามีดินแดนมากมาย" . ปรากฏว่าเรื่องนี้ บรรดาชาติอาหรับและโลกมุสลิมไม่ได้ขำด้วย โดยที่อียิปต์และจอร์แดนออกมาประณามคำพูดเช่นนี้ของเนทันยาฮู ไคโรนั้นถึงขั้นมองความคิดนี้ว่าเป็นการ "ละเมิดอธิปไตยของซาอุดีอาระเบียโดยตรง" ทีเดียว . ด้านซาอุดีอาระเบียเอง บอกว่าพวกเขารู้สึกนับถือเป็นอย่างยิ่งต่อรัฐพี่น้องทั้ง 2 ที่รุดออกมาปฏิเสธความคิดเห็นของเนทันยาฮู และกล่าวต่อไปว่า "แนวคิดหัวรุนแรงซึ่งมุ่งที่การยึดครองนี้ ไม่ได้ตระหนักและเข้าถึงว่าดินแดนปาเลสไตน์มีความหมายกับประชาชนพี่น้องปาเลสไตน์มากแค่ไหน เช่นเดียวกับความเกี่ยวข้องกันทั้งในแง่มโนธรรม ประวัติศาสตร์และทางกฎหมาย กับดินแดนแห่งนี้" ถ้อยแถลงระบุ . ขณะที่อาเหม็ด อาบูล เกอิต ผู้นำกลุ่มสันนิบาตอาหรับ วิจารณ์ว่า ไอเดียของผู้นำยิวเป็นแค่ความเพ้อฝันหรือภาพลวงตาเท่านั้น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013540 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1599 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ๊พรีมมือสาดน้ำซุปร้อน พร้อมคู่หู ยังนอนในห้องขัง สภ.คลองหลวง ตร.เผยมีเจ้าทุกข์ เดินทางเข้าแจ้งความเพิ่มแล้ว 5 ราย คุมตัวฝากขังพร้อมแก๊งโอรีโอ้พรุ่งนี้

    เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 ก.พ.68 พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายรษิภา หรือพรีม สัจวรรณ์ อายุ 22 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีเลขที่ 132/2568 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ต้องหาว่าความผิดฐาน ”ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจของผู้อื่นนั้น” โดยจับกุมได้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และนายชคัทพล หรือโอชิ วชิรวรรณ อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีเลขที่133/2568 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ต้องหาว่าความผิดฐาน ”ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจของผู้อื่นนั้น”

    โดยกล่าวว่าเกี่ยวกับเรื่องเคสแก็งโอริโอ้และเคส LGBTQ และได้ประชุมกันว่าจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังในวันพรุ่งนี้พราะค่ำคืนที่ผ่านมาก็ยังมีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความอีก เราจึงประชุมกันว่าจะมีการฝากขังพรุ่งนี้เวลา 09.00 น.ได้มีการเตรียมพนักงานสอบสวนในการสอบปากคำเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา สำหรับเคส LGBTQ มีผู้เข้าแจ้งความแล้ว 4 คดีและค่ำคืนที่ผ่านมาอีก 1 คดี ในวันนี้คาดว่าจะมีมาเพิ่มอีก สำหรับผู้ต้องหาเรามีแจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ ส่วนข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรตอนนี้ยังไม่เข้าข้อกฎหมายองค์กรอาชญากรรม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000013364

    #MGROnline #LGBTQ #สาดน้ำร้อน #เจ๊พรีม
    เจ๊พรีมมือสาดน้ำซุปร้อน พร้อมคู่หู ยังนอนในห้องขัง สภ.คลองหลวง ตร.เผยมีเจ้าทุกข์ เดินทางเข้าแจ้งความเพิ่มแล้ว 5 ราย คุมตัวฝากขังพร้อมแก๊งโอรีโอ้พรุ่งนี้ • เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 ก.พ.68 พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายรษิภา หรือพรีม สัจวรรณ์ อายุ 22 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีเลขที่ 132/2568 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ต้องหาว่าความผิดฐาน ”ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจของผู้อื่นนั้น” โดยจับกุมได้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และนายชคัทพล หรือโอชิ วชิรวรรณ อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีเลขที่133/2568 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ต้องหาว่าความผิดฐาน ”ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจของผู้อื่นนั้น” • โดยกล่าวว่าเกี่ยวกับเรื่องเคสแก็งโอริโอ้และเคส LGBTQ และได้ประชุมกันว่าจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังในวันพรุ่งนี้พราะค่ำคืนที่ผ่านมาก็ยังมีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความอีก เราจึงประชุมกันว่าจะมีการฝากขังพรุ่งนี้เวลา 09.00 น.ได้มีการเตรียมพนักงานสอบสวนในการสอบปากคำเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา สำหรับเคส LGBTQ มีผู้เข้าแจ้งความแล้ว 4 คดีและค่ำคืนที่ผ่านมาอีก 1 คดี ในวันนี้คาดว่าจะมีมาเพิ่มอีก สำหรับผู้ต้องหาเรามีแจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ ส่วนข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรตอนนี้ยังไม่เข้าข้อกฎหมายองค์กรอาชญากรรม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000013364 • #MGROnline #LGBTQ #สาดน้ำร้อน #เจ๊พรีม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts