• โค้งสุดท้ายมาเลเซีย ไกล่เกลี่ยไทย-กัมพูชา

    ในวันที่ 22 ธ.ค. มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน จะจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน ระหว่างกัมพูชาและไทย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ จะเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว หลังจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เห็นชอบร่วมกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีของไทย และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายของมาเลเซีย ก่อนหมดวาระและส่งต่อหน้าที่ประธานอาเซียน ให้กับประเทศฟิลิปปินส์ในปี 2569

    ก่อนหน้านี้ นายอันวาร์โทรศัพท์ไปยังนายอนุทิน และนายฮุน มาเนต ก่อนที่จะกล่าวว่า ขอย้ำถึงความสําคัญสําหรับกัมพูชาและประเทศไทย เพื่อยึดมั่นในจิตวิญญาณของการสนทนา ภูมิปัญญาและความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อที่จะยุติความตึงเครียดและรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค การประชุมดังกล่าวเป็นรูปแบบที่เหมาะสมและสร้างสรรค์ เพื่อให้ทั้งสองประเทศสามารถเจรจาต่อรองได้อย่างเปิดเผย แก้ไขความต่างได้อย่างสันติ และบรรลุทางออกที่เป็นธรรมและยั่งยืน

    อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นับตั้งแต่กัมพูชาเปิดฉากยิงจรวด BM-21 ไปยังเป้าหมายพลเรือนในประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 ก.ค. เสียชีวิต 12 ราย ถึงบัดนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง ก่อนหน้านี้นายอันวาร์ทำหน้าที่เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิง และลงนามปฎิญญาสันติภาพ โดยมีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นสักขีพยาน แต่กัมพูชายังคงลักลอบวางทุ่นระเบิด ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บและพิการ กลายเป็นการปะทะรอบสองตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. แม้นายอันวาร์จะประกาศให้หยุดยิง โดยมีนายฮุน มาเนตตอบรับ แต่เมื่อถึงเวลากลับยังมีการปะทะอยู่ นายอันวาร์หน้าแตกมาแล้วถึงสองครั้ง พร้อมกับถูกตั้งคำถามว่าการเข้าแทรกแซงเหมาะสมหรือไม่

    หลังพ้นจากตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2568 ทิศทางการเมืองของรัฐบาลนายอันวาร์ จะกลับไปสู่ความสนใจการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการปฎิรูปการเมือง และการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 16 (General Election หรือ GE16) ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในต้นปี 2571 ซึ่งนายอันวาร์ กล่าวว่า การเลือกตั้งทั่วไปยังเหลืออีกนาน ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย ก่อนหน้านี้กลุ่มการเมืองปากาตันฮาราปัน (Pakatan Harapan) ของนายอันวาร์ พ่ายแพ้การเลือกตั้งระดับรัฐแบบยับเยินที่รัฐซาบาห์ และในปี 2569 กำลังจะมีการเลือกตั้งระดับรัฐในรัฐมะละกาและรัฐยะโฮร์

    #Newskit
    โค้งสุดท้ายมาเลเซีย ไกล่เกลี่ยไทย-กัมพูชา ในวันที่ 22 ธ.ค. มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน จะจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน ระหว่างกัมพูชาและไทย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ จะเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว หลังจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เห็นชอบร่วมกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีของไทย และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายของมาเลเซีย ก่อนหมดวาระและส่งต่อหน้าที่ประธานอาเซียน ให้กับประเทศฟิลิปปินส์ในปี 2569 ก่อนหน้านี้ นายอันวาร์โทรศัพท์ไปยังนายอนุทิน และนายฮุน มาเนต ก่อนที่จะกล่าวว่า ขอย้ำถึงความสําคัญสําหรับกัมพูชาและประเทศไทย เพื่อยึดมั่นในจิตวิญญาณของการสนทนา ภูมิปัญญาและความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อที่จะยุติความตึงเครียดและรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค การประชุมดังกล่าวเป็นรูปแบบที่เหมาะสมและสร้างสรรค์ เพื่อให้ทั้งสองประเทศสามารถเจรจาต่อรองได้อย่างเปิดเผย แก้ไขความต่างได้อย่างสันติ และบรรลุทางออกที่เป็นธรรมและยั่งยืน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นับตั้งแต่กัมพูชาเปิดฉากยิงจรวด BM-21 ไปยังเป้าหมายพลเรือนในประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 ก.ค. เสียชีวิต 12 ราย ถึงบัดนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง ก่อนหน้านี้นายอันวาร์ทำหน้าที่เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิง และลงนามปฎิญญาสันติภาพ โดยมีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นสักขีพยาน แต่กัมพูชายังคงลักลอบวางทุ่นระเบิด ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บและพิการ กลายเป็นการปะทะรอบสองตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. แม้นายอันวาร์จะประกาศให้หยุดยิง โดยมีนายฮุน มาเนตตอบรับ แต่เมื่อถึงเวลากลับยังมีการปะทะอยู่ นายอันวาร์หน้าแตกมาแล้วถึงสองครั้ง พร้อมกับถูกตั้งคำถามว่าการเข้าแทรกแซงเหมาะสมหรือไม่ หลังพ้นจากตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2568 ทิศทางการเมืองของรัฐบาลนายอันวาร์ จะกลับไปสู่ความสนใจการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการปฎิรูปการเมือง และการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 16 (General Election หรือ GE16) ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในต้นปี 2571 ซึ่งนายอันวาร์ กล่าวว่า การเลือกตั้งทั่วไปยังเหลืออีกนาน ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย ก่อนหน้านี้กลุ่มการเมืองปากาตันฮาราปัน (Pakatan Harapan) ของนายอันวาร์ พ่ายแพ้การเลือกตั้งระดับรัฐแบบยับเยินที่รัฐซาบาห์ และในปี 2569 กำลังจะมีการเลือกตั้งระดับรัฐในรัฐมะละกาและรัฐยะโฮร์ #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง แตกคอ แตกคอ
    “แตกคอ แตกคอก”
    ตอน 1
    กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน เหตุการณ์แถวบ้านยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย แต่วงพนันแถวบ้านผม เขาเอียงไปทางออกก้อยมากกว่านะ เอะ พูดถึงใครกันลุง ก็จะใครเสียอีกล่ะ เสี่ยปั๊มคนใหญ่ คนถูกข่าวลือเล่นใส่นั่นไงครับ วันนี้มาอีกแล้ว สื่ออังกฤษยังเล่นไม่เลิก บอกว่าพระญาติพระวงศ์กำลังร่วมกันทำหนังสือ เสนอให้ปลดกษัตริย์ ซาลมาน จากตำแหน่งกษัตริย์ คราวนี้ในหนังสือบอกชื่อมาเลยว่า ต้องการใครมาแทน แน่จริงๆ แถม 2 วันนี้ ยังเพิ่มข่าวให้อีกว่า มีเจ้าชายชาวซาอุดิ หลานกษัตริย์ ถูกจับที่เลบานอน เพราะขนยาบ้าหนักกว่า 2 ตัน มาในเครื่องบินส่วนตัว
    เล่นกันแรงจริง กลัวคุณพี่ปูตินเขาจะฉกเอาปั๊มไปครองก่อนหรือครับ
    ตะวันออกกลางกำลังระส่ำจริงๆ เอาแค่เฉพาะพวกที่ลากกันมาจับมือ เมื่อปี ค.ศ.1981 ต้ังก๊วนชาวอ่าว the Gulf Cooperation Council (GCC) กันไม่ให้ใครออกอ่าวไปลำพัง ดูเผินๆ เหมือนรักกันจัง แต่เขาว่า นั้นมันหน้าฉาก ของจริงไม่ใช่อย่างที่ภาพออกมาหรอก
    ก๊วนริมอ่าวมีกัน 6 ประเทศ ลูกพี่ใหญ่ หรือปั๊มใหญ่สุด ก็ซาอุดิอารเบียนั่นเอง ที่มีเพื่อนรักในก๊วนอีกราย เป็นเหมือนลูกกระเดือกติดคอหอยคือ บาห์เรน 2 เสี่ยปั๊มนี่ เกลียดอิหร่านอย่างที่สุด มองว่าอิหร่านคือ นักล่า… อ้าว นั่นมันสมญาคู่รักคู่ขุด ของเสี่ยเองนะครับ อย่าไปปนกัน เดี๋ยวงอนผิดคน (ฮา) 2 เสี่ยปั๊มใหญ่บอกว่า อิหร่านเป็นตัวร้าย ความปั่นป่วนในตะวันกลางน่ะ มาจากฝีมือของอิหร่านทั้งนั้น เชื่อถือไม่ได้ ไว้ใจไม่ลง ถึงขนาดนั้นเอาเลย
    ซาอุดิ ถูกหลอนทั้งเวลาหลับเวลาตื่นว่า อิหร่านคู่แข่งตัวสำคัญ ในตะวันออกกลาง ทำทุกอย่างเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ ในตะวันออกกลางไปจากซาอุดิอารเบีย ยิ่งอเมริกาไปเสียเวลามากมาย ในการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซาอุก็มองว่า อเมริกากำลังอ่อนข้อ แถมเสียเชิงให้อิหร่านไปแล้วด้วย ทำเอาเสี่ยปั๊มใหญ่งอนกับอเมริกา จนถูกนินทาไปค่อนโลก
    แต่ชาวอ่าวอีก 3 รายคือ โอมาน การ์ตา และเอมิเรต ดูไบ บอกว่า เรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นนะ อิหร่านตกลงหยุดผลิตนิวเคลียร์ ก็ดีกับพวกเราไม่ใช่หรือ เราน่าคุยกับอิหร่านดีๆ ยังไงก็เป็นชาวตะวันออกกลางด้วยกัน จับมือกัน ทำการค้าด้วยกัน แบ่งพลังงานกันใช้ (ฮั่นแน่..) และร่วมมือกันเรื่องความมั่นคง
    ตั้งแต่มีกลุ่ม Islamic State หรือ IS เกิดขึ้นในอิรัคและซีเรีย ซึ่งนับว่าเป็นการคุกคาม ทั้งฝ่ายก๊วนชาวอ่าว ทั้งฝ่ายอิหร่าน ก็ทำให้บางประเทศในก๊วนชาวอ่าวเอง พยายามหาทางจับมือคุยกับอิหร่าน แหม ใครจะอยากเปิดศึกมันทุกด้าน
    เมื่อ ฮัสซัน รูฮานี่ Hassan Rouhani เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่าน เมื่อปี ค.ศ.2013 เขาบอกว่าภาระกิจสำคัญอันดับแรกของเขาคือ การพยายามที่จะคุยกับประเทศเล็กๆในก๊วนชาวอ่าว ให้มาร่วมมือกับอิหร่าน ในการแก้ปัญหาความมั่นคงของภูมิภาค และคูเวต เป็นประเทศแรกใน
ก๊วนชาวอ่าว ที่ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านไปเยี่ยม หลังจากเสร็จการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับกลุ่มพี่เบิ้ม แต่ถ้าดูแผนที่ ว่าคูเวต ตั้งอยู่ที่ไหนแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า อิหร่านคิดไกล…
    อิหร่านบอกกับคูเวตว่า ประเทศเดียวจะแก้ปัญหาของภูมิภาคไม่ได้หรอก มันต้องร่วมมือกัน และต้องถือว่าการคุกคามประเทศใด คือการคุกคามทั้งภูมิภาค เราจึงต้องร่วมต่อสู้ด้วยกัน
    แต่การบอกกล่าวแบบนี้ของอิหร่าน กลับเจอศอกกลับ จากบางเสี้ยวของก๊วนชาวอ่าว ที่ซัดกลับว่า อิหร่านต่างหาก เป็นผู้สนับสนุนอาวุธ และให้การฝึกกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ที่กำลังแซะความมั่นคงของบางประเทศในก๊วนชาวอ่าว แล้วแบบนี้จะพูดกันรู้เรื่องไหม อย่าว่าแต่จะร่วมมือกันเลย
    และอเมริกาก็คงยิ้มอยู่ในหน้า โอกาสเอาแต่ปั้มไม่เอาคน ยิ่งใกล้ความเป็นจริง … ถ้ารัสเซียไม่โผล่เข้ามาแทรกเรื่องซีเรียเสียก่อน อย่างไม่ทันรู้ตัว ตื่นไม่ทัน
    ###############
ตอน 2
    เมื่อซาอุดิอารเบีย เกิดอาการหน้ามืด ขานชื่อเรียกรวมพล เพื่อถล่มเยเมน ในปลายเดือนมีนาคม ต้นปี ค.ศ.2015 นั้น มีก๊วนชาวอ่าว 1 ราย คือ โอมาน ไม่มาร่วมรายการด้วย เรื่องนี้น่าสนใจมาก มันทำให้เห็นว่า แม้ในตะวันออกกลางเอง ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับขั้วอำนาจ
    โอมานเป็นประเทศไม่ใหญ่ ไม่เล็ก แต่โดยสภาพภูมิศาสตร์ถือว่า อยู่ในจุดที่ทั้งสำคัญและอันตราย เพราะโอมานอยู่ตรงปากอ่าวโอมาน ฝั่งตรงกันข้ามกับอิหร่าน คุมเชิงช่องแคบฮอร์มุส เส้นทางเดินของน้ำมัน ที่แออัดที่สุดในโลกด้วยกัน
    โอมาน แม้จะสังกัดก๊วนชาวอ่าว แต่การที่โอมานอยู่ฝั่งตรงกันข้าม กับปากอิหร่าน โอมานจึงมีสภาพเหมือนคนขี่รถจักรยานสองล้อ ถีบอยู่ตรงกลาง ระหว่างรถสิบล้อ 2 คัน ที่กำลังวิ่งแข่งกัน รักษาระยะไม่ดี มีหวังถูกเบียดบี้แหลกคาถนน แต่โอมาน ก็ดูเหมือนจะรักษาระยะได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะหลังจากเกิดเทศกาลอาหรับสปริง ที่เสี่ยปั้มใหญ่ซาอุดิอารเบีย พยายามบีบมือชาวอ่าวตัวเล็กๆให้แน่นขึ้น เพราะไม่ไว้ใจ กลัวจะหลุดมือไปอิงฝั่งอิหร่าน ถึงขนาดยอมควักกระเป๋าหลายหน เพื่อสนับสนุนทั้งด้านอาวุธและด้านเศรษฐกิจให้ชาวอ่าวตัวเล็กๆ
    แต่โอมาน ถึงจะไม่รวย และเหมือนอยู่ใต้มือของซาอุ และแถมยังเป็นเพื่อนกับอเมริกาอีกด้วย แต่โอมานน่าจะขี่จักรยานระหว่างทางแคบเก่ง จึงยังคงค้าขาย และผูกสัมพันธ์กับอิหร่านไว้สม่ำเสมอ แม้อเมริกาจะพยายามทัดทาน ไม่ให้โอมานไปมีสัมพันธ์กับอิหร่าน แต่ดูเหมือนอเมริกาก็จะห้ามไม่สำเร็จ ยิ่งจะไปถามว่า เมื่อไหร่โอมานจะเป็นประชาธิปไตย เมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง อเมริกาคงไม่กล้าเสือก เพราะอะไร ก็ลองนึกดูกันนะครับ ใครมีของดี ก็ต้องรู้ตัว รู้จักใช้
    เพราะฉะนั้นใครที่ว่าอเมริกายิ่งใหญ่ เป็นพี่เบิ้ม แห่งค่ายประชาธิปไตย ใครไม่เป็นประชาธิปไตย กูคว่ำบาตรหมด ผมว่าน่าทุเรศครับ ถ้ามีใครมาเสือกยุ่ง ถามว่า เมื่อไหร่แดนสยามเราจะมีการเลือกตั้ง ฝากลุงตู่ศอกกลับด้วยนะครับ ว่า ไอ้ 6 ประเทศชาวอ่าว นอกจากไม่มีเลือกตั้ง ไม่รู้จักรัฐธรรมนูญ ยังใช้การปกครองแบบ ที่ผู้มีอำนาจปกครอง เป็นกษัตริย์ หรือสุลต่าน มีอำนาจสูงสุด ยิ่งกว่าเผด็จการเสียอีก ทำไมพวกมีงไม่ชวนกันไปคว่ำบาตรให้หมด มายุ่งอะไรกับประเทศผม
    จากข้อมูลของ Oil and Gas Journal ระบุว่า โอมานมีแหล่งพลังงานมากเป็นอันดับที่ 23 ของโลก แต่โอมานเอาไว้ขายเป็นรายได้ให้ประเทศ มากกว่าจะเอามาใช้ในประเทศ ย้อนไปตั้งแต่ ปี ค.ศ.2005 โอมานเรื่มซื้อแก๊สจากอิหร่านแล้ว และในปี ค.ศ.2007 โอมานก็ซื้อแก๊ส LNG จากอิหร่านด้วย ในช่วงนั้น โอมานเป็น 1 ใน 3 ประเทศ ที่ยังคงค้าขายกับอิหร่าน ขี่จักรยานในทางแคบไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจการกดดันของอเมริกา ที่จะให้โอมานไปซื้อแก๊สจากการ์ตาแทน
    และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่า โอมานกับอิหร่านกำลังเดินหน้า ที่จะร่วมมือกันสร้างท่อส่งแก๊ส วิ่งตรงระหว่าง 2 ประเทศ ยาว 173 ไมล์ รอดใต้ทะเล เรื่องนี้เป็นข่าวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.2013 ว่า ทั้ง 2 ประเทศ ทำบันทึกความเข้าใจกันไว้ แต่ยังไม่ได้ลงมือ
    แค่ไม่กี่วันหลังจาก การลงนามเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ โอมานก็ทำบันทึกข้อตกลงที่จะซื้อแก๊สจากอิหร่านประมาณ 20 ล้านคิวบิกเมตรต่อวัน เป็นระยะเวลา 25 ปี คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 6 หมื่นล้านเหรียญ! และตัวเลขนี้คงมีการเพิ่มขึ้นอีกมาก เมื่อท่อส่งแก๊สสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2018 ค่าก่อสร้างท่อประมาณมูลค่า 1 พันล้านเหรียญ เป็นการลงทุนของโอมาน ที่เหมือนโอมานตัดสินใจโหนสิบล้อยี่ห้ออิหร่านไปแล้ว
    ###############
ตอน 3
    ปัจจุบัน ซาอุดิอารเบียขายทั้งน้ำมันและแก๊สให้แก่โอมาน มูลค่าประมาณ 1 พันล้านเหรียญต่อปี ไม่มีการลดราคา ไม่มีการแบ่งส่วนกำไร เสี่ยปั๊มใหญ่ หน้าใหญ่จริงเพื่อความมั่นคงของตัว แต่เค็มจังเวลาค้าขาย โอมานคงคิดแล้วว่า จ่ายค่าน้ำมันแก๊สทุกปีอย่างนี้ให้ลูกพี่ใหญ่ ก็คงอยู่เท่านี้ แต่ข้อเสนอของอิหร่าน เป็นการร่วมลงทุนในบริษัทที่จะตั้งร่วมกัน เพื่อขายแก็สอิหร่านที่ส่งมาตามท่อส่ง กำไรจากการขายแก๊สก็แบ่งกัน ด้วยวิธีนี้ โอมานจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการขายแก๊ส และมีแก๊สพอใช้ในประเทศด้วย
    สรุปว่า ค่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน ใช้แผนยุทธศาสตร์ สู่ด้วยท่อส่งเหมือนกัน ท่อส่งไปที่ไหน เจ้าของบริเวณที่ท่อส่งไปถึง ที่เป็นเจ้าของร่วมกัน ก็ต้องช่วยดูแลให้ เพราะเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน แบบนี้ น่าจะดีกว่า สร้างขบวนการจราจล การแตกแยกขึ้นในประเทศเขา ระหว่างเขารบกัน ก็ถือโอกาสปล้นทรัพยากรเขาไปจนเกลี้ยง
    การที่โอมานไปตกลงกับอิหร่านแบบนี้ แน่นอน คงยิ่งทำให้ซาอุดิอารเบียหงุดหงิด อาการหลอนเรื่องอิหร่าน ยิ่งกำเริบหนัก แต่หลอนเรื่องอิหร่านจะเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะไม่น่าเสียวไส้เท่าเรื่อง กระเป๋าเสี่ยปั๊มใหญ่จะเบาหวิว…
    หลายปีที่ผ่านมา เสี่ยปั๊มใหญ่ถือว่ามีน้ำมันแยะ ขยายตลาดไปทั่ว และในราคาที่สูงลิ่ว ไม่มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม เสี่ยปั๊มใหญ่เล่นเต็มอัตรา ถือว่าน้ำกำลังขึ้น แต่วันนี้ ดูเหมือนน้ำจะเริ่มลงเสียแล้ว น้ำมันเหลือประมาณ 44.2 และ 46.65 ต่อบาเรล (เป็นราคาที่แสดงของ ICE และ NYMEX ซึ่งปรากฏอยู่ในข้อมูลลงวันที่ 6 ตุลาคมที่ผมอ่าน ครับ) และทำให้ บัญชีรายรับของซาอุดิอารเบีย เริ่มแสดงรายการ ขาดทุน !!!
    แต่น้ำมันและแก๊สของอิหร่าน กำลังจะมีตลาดเพิ่มขึ้น (ขณะนี้ EU ยกเลิก การคว่ำบาตร ให้ผู้ผลิตน้ำมันของอิหร่านไป 2 รายแล้ว) ไม่ใช่แค่ว่า จะเป็นการเข้ามาเบียดตลาดของซาอุดิอารเบียเท่านั้น ถ้าอิหร่านยังสามารถรักษา ราคาขายที่ต่ำในระดับนี้ได้ต่อไปอีก ซาอุดิอารเบียมีหวังกระอัก และจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจของซาอุดิอารเบีย อย่างรุนแรง เพราะเศรษฐกิจของซาอุ พึ่งอยู่กับการขายน้ำมันอย่างเดียว และตอนนี้ เริ่มมีนักวิเคราะห์ ประเมินสถานะของซาอุแล้วว่า ถ้าสภาพตลาดน้ำมันยังเป็นอยู่เช่นนี้ต่อไปอีก 2 ปี โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง คงได้เห็นเสี่ยปั๊มใหญ่ ซาอุดิอารเบีย ล้มละลายแน่นอน….ฮู้ย….เดี๋ยวได้ขายอูฐแน่
    การจับมือระหว่างโอมานกับอิหร่าน สร้างท่อส่งแก๊ส จึงเหมือนหมัดชกใส่หน้าเสี่ยปั๊มใหญ่ แม้ไม่คว่ำ แต่ทำให้เซเหมือนกัน โอมาน เป็นที่ยอมรับจากผู้คนส่วนใหญ่ในความเป็นกลาง แต่ตอนนี้ เหมือนโอมาน จะเอียงออกมานอกกลุ่มชาวอ่าวค่อนข้างชัด เมื่อตอนที่เสี่ยปั๊มใหญ่เรียก ระดมพลไปถล่มเยเมน โอมานไม่ไปร่วม พอมีข้ออ้างได้ว่า โอมานเป็นกลาง ไม่อยากเข้าไปยุ่งในกิจการบ้านคนอื่น แต่การที่โอมานตกลงจับมือกับอิหร่าน เพื่อสร้างท่อส่งเแก๊ส นี่ เหมือนโอมานกำลังบอกใครว่า การคบกับอิหร่าน นอกจากไม่เป็นการคุกคามบ้านตัวแล้ว ดูเหมือนจะดีกับเศรษฐกิจของบ้านตัวเองเสียอีกด้วย
    เรื่องโอมาน คงไม่ทำให้ซาอุดิอารเบียกลุ้มใจรายเดียว คู่รักคู่ขุด ก็น่าจะกลุ้มใจด้วย ถ้าโอมานเอียงไปจับมือกับอิหร่าน โอกาสที่อเมริกาจะควบคุม ช่องแคบฮอร์มุส คงแทบจะเป็นเรื่องเพ้อ และเรื่องกลับเข้าไปใหญ่ในตะวันออกกลาง อาจจะเป็นเรื่องหลอนอเมริกาบ้าง คราวนี้ จะได้สมเป็นคู่รักคู่หลอนกันเลย ฮาจังวุ้ย
    แค่เรื่องโอมานนี่ ก็ทำให้เสียปั้มใหญ่เซแล้วนะ แต่เขาว่าข่าวร้ายเวลามา มันไม่มาเรื่องเดียวหรอก
    การ์ตา เสี่ยปั้มซ่าหนุ่มสำอางค์ ตอนแรกทำคึกคักไปร่วมกับเสี่ยปั้มใหญ่ ไล่ถล่มซีเรียจนเละ มาวันนี้ วันที่คุณพี่ปูตินเดินท่าหล่อ พากองทัพเรือ บก อากาศ ยาตราเข้าเข้ามาในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า ที่กำลังถูกรุมทึ้ง เขาว่า ตอนนี้การ์ตาเอง ก็กำลังเตรียมกลับลำ แอบไปเจรจากับอิหร่านแล้ว
    …พี่ครับ หลุมแก๊สเราหลุมเดียวกันนะครับ ลงทุนทำท่อส่งแก๊สร่วมกัน รวยด้วยกัน แทนที่จะรบกัน ดีไหมครับ เอาแบบ แฟร์ แฟร์ เลยนะพี่นะ ( นี่ผมเดาเอานะ ว่า เสี่ยรุ่นใหม่เขาคงจะพูดแบบนี้)
    ส่วน อินเดีย อีนี่ ก็มีข่าวว่า กำลังเจรจากับอิหร่านและโอมาน ให้ต่อท่อส่งแก๊ส ยาวไปถึงฝั่งอินเดียเสียด้วยเลย ตัดหน้าปากีสถาน ที่ก็มีแผนสร้างท่อส่งเหมือนกัน
    โอ้ย… ตอนนี้ใครไม่รู้จักยุทธศาสตร์ท่อส่ง โน่น ไปอยู่หลังเขา กับค่ายประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งได้เลย เชยฉิบหาย โลกหมุนไปทุกวัน มึงคิดได้แต่ทวงเมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง….
    ซาอุดิอารเบีย ส่งน้ำมันให้อินเดียประมาณ ปีละ 29.2 พันล้านเหรียญ เงินจำนวนนี้ อาจหายไปจากบัญชีรายรับของเสี่ยปั้มใหญ่ และก็คงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับซาอุ อ๋อ…. มิน่า เสี่ยปั๊มใหญ่ถึงไม่พอใจ ดิ้นเร้าๆ ….. ผมนี่คิดช้าจัง ถ้าเขาตกลงเรื่องนิวเคลียร์กันได้ และมีการยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านก็ติดปีก ยึดตลาดพลังงาน ซาอุดิอารเบีย ก็คงถลาลงดิน และอีก อ๋อ… มิน่า ตอนนี้อเมริกา ถึงเอาใจอีนี่แขกอินเดียจัง แต่เรื่องแขกอินเดียนี่ สุภาษิตไทยว่าไว้อย่างไร อเมริกาคงไม่รู้จัก ฮา อีกแล้ว แหม เขียนเรื่องนี้สนุกดีจัง เห็นความฉลาดของคุณพ่ออเมริกาของใครไม่รู้ หายเหี้ยนเลย
    ตลอดเวลาที่ผ่านมา ซาอุดิอารเบียกล่าวหาว่าอิหร่านยุแยงเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง นี่ถ้าเรื่องการ์ตาจะไปจับมือกับอิหร่าน เป็นจริง อาจมีชาวอ่าว ทะยอยแตกคอก ออกไปอีก มันไม่ใช่เรื่องประสาทหลอนแล้ว เรื่องหลอนจะกลายเป็นเรื่องจริง อย่างน้อยๆ การที่รัสเซียเดินเข้ามายืนเคียงอิหร่านในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า และอื่นๆ ผมว่า แค่นี้ก็คงทำให้เสี่ยปั๊มใหญ่ ระทมอยู่ในอกเอาเรื่อง นอกจากไม่มีเพื่อนรัก คู่รักมายืนเคียงแล้ว ยังมีแต่ข่าวลือ ข่าวร้ายออกมาเพิ่มไม่จบ เสี่ยปั๊มใหญ่จะทนระทมต่อไปไหวหรือครับ เป็นผมมีคู่รักใจจืดใส่ ยามยากแบบนี้ ถีบให้ตกเตียงไปเลยครับ
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
30 ต.ค. 2558
    เรื่อง แตกคอ แตกคอ “แตกคอ แตกคอก” ตอน 1 กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน เหตุการณ์แถวบ้านยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย แต่วงพนันแถวบ้านผม เขาเอียงไปทางออกก้อยมากกว่านะ เอะ พูดถึงใครกันลุง ก็จะใครเสียอีกล่ะ เสี่ยปั๊มคนใหญ่ คนถูกข่าวลือเล่นใส่นั่นไงครับ วันนี้มาอีกแล้ว สื่ออังกฤษยังเล่นไม่เลิก บอกว่าพระญาติพระวงศ์กำลังร่วมกันทำหนังสือ เสนอให้ปลดกษัตริย์ ซาลมาน จากตำแหน่งกษัตริย์ คราวนี้ในหนังสือบอกชื่อมาเลยว่า ต้องการใครมาแทน แน่จริงๆ แถม 2 วันนี้ ยังเพิ่มข่าวให้อีกว่า มีเจ้าชายชาวซาอุดิ หลานกษัตริย์ ถูกจับที่เลบานอน เพราะขนยาบ้าหนักกว่า 2 ตัน มาในเครื่องบินส่วนตัว เล่นกันแรงจริง กลัวคุณพี่ปูตินเขาจะฉกเอาปั๊มไปครองก่อนหรือครับ ตะวันออกกลางกำลังระส่ำจริงๆ เอาแค่เฉพาะพวกที่ลากกันมาจับมือ เมื่อปี ค.ศ.1981 ต้ังก๊วนชาวอ่าว the Gulf Cooperation Council (GCC) กันไม่ให้ใครออกอ่าวไปลำพัง ดูเผินๆ เหมือนรักกันจัง แต่เขาว่า นั้นมันหน้าฉาก ของจริงไม่ใช่อย่างที่ภาพออกมาหรอก ก๊วนริมอ่าวมีกัน 6 ประเทศ ลูกพี่ใหญ่ หรือปั๊มใหญ่สุด ก็ซาอุดิอารเบียนั่นเอง ที่มีเพื่อนรักในก๊วนอีกราย เป็นเหมือนลูกกระเดือกติดคอหอยคือ บาห์เรน 2 เสี่ยปั๊มนี่ เกลียดอิหร่านอย่างที่สุด มองว่าอิหร่านคือ นักล่า… อ้าว นั่นมันสมญาคู่รักคู่ขุด ของเสี่ยเองนะครับ อย่าไปปนกัน เดี๋ยวงอนผิดคน (ฮา) 2 เสี่ยปั๊มใหญ่บอกว่า อิหร่านเป็นตัวร้าย ความปั่นป่วนในตะวันกลางน่ะ มาจากฝีมือของอิหร่านทั้งนั้น เชื่อถือไม่ได้ ไว้ใจไม่ลง ถึงขนาดนั้นเอาเลย ซาอุดิ ถูกหลอนทั้งเวลาหลับเวลาตื่นว่า อิหร่านคู่แข่งตัวสำคัญ ในตะวันออกกลาง ทำทุกอย่างเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ ในตะวันออกกลางไปจากซาอุดิอารเบีย ยิ่งอเมริกาไปเสียเวลามากมาย ในการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซาอุก็มองว่า อเมริกากำลังอ่อนข้อ แถมเสียเชิงให้อิหร่านไปแล้วด้วย ทำเอาเสี่ยปั๊มใหญ่งอนกับอเมริกา จนถูกนินทาไปค่อนโลก แต่ชาวอ่าวอีก 3 รายคือ โอมาน การ์ตา และเอมิเรต ดูไบ บอกว่า เรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นนะ อิหร่านตกลงหยุดผลิตนิวเคลียร์ ก็ดีกับพวกเราไม่ใช่หรือ เราน่าคุยกับอิหร่านดีๆ ยังไงก็เป็นชาวตะวันออกกลางด้วยกัน จับมือกัน ทำการค้าด้วยกัน แบ่งพลังงานกันใช้ (ฮั่นแน่..) และร่วมมือกันเรื่องความมั่นคง ตั้งแต่มีกลุ่ม Islamic State หรือ IS เกิดขึ้นในอิรัคและซีเรีย ซึ่งนับว่าเป็นการคุกคาม ทั้งฝ่ายก๊วนชาวอ่าว ทั้งฝ่ายอิหร่าน ก็ทำให้บางประเทศในก๊วนชาวอ่าวเอง พยายามหาทางจับมือคุยกับอิหร่าน แหม ใครจะอยากเปิดศึกมันทุกด้าน เมื่อ ฮัสซัน รูฮานี่ Hassan Rouhani เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่าน เมื่อปี ค.ศ.2013 เขาบอกว่าภาระกิจสำคัญอันดับแรกของเขาคือ การพยายามที่จะคุยกับประเทศเล็กๆในก๊วนชาวอ่าว ให้มาร่วมมือกับอิหร่าน ในการแก้ปัญหาความมั่นคงของภูมิภาค และคูเวต เป็นประเทศแรกใน
ก๊วนชาวอ่าว ที่ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านไปเยี่ยม หลังจากเสร็จการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับกลุ่มพี่เบิ้ม แต่ถ้าดูแผนที่ ว่าคูเวต ตั้งอยู่ที่ไหนแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า อิหร่านคิดไกล… อิหร่านบอกกับคูเวตว่า ประเทศเดียวจะแก้ปัญหาของภูมิภาคไม่ได้หรอก มันต้องร่วมมือกัน และต้องถือว่าการคุกคามประเทศใด คือการคุกคามทั้งภูมิภาค เราจึงต้องร่วมต่อสู้ด้วยกัน แต่การบอกกล่าวแบบนี้ของอิหร่าน กลับเจอศอกกลับ จากบางเสี้ยวของก๊วนชาวอ่าว ที่ซัดกลับว่า อิหร่านต่างหาก เป็นผู้สนับสนุนอาวุธ และให้การฝึกกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ที่กำลังแซะความมั่นคงของบางประเทศในก๊วนชาวอ่าว แล้วแบบนี้จะพูดกันรู้เรื่องไหม อย่าว่าแต่จะร่วมมือกันเลย และอเมริกาก็คงยิ้มอยู่ในหน้า โอกาสเอาแต่ปั้มไม่เอาคน ยิ่งใกล้ความเป็นจริง … ถ้ารัสเซียไม่โผล่เข้ามาแทรกเรื่องซีเรียเสียก่อน อย่างไม่ทันรู้ตัว ตื่นไม่ทัน ###############
ตอน 2 เมื่อซาอุดิอารเบีย เกิดอาการหน้ามืด ขานชื่อเรียกรวมพล เพื่อถล่มเยเมน ในปลายเดือนมีนาคม ต้นปี ค.ศ.2015 นั้น มีก๊วนชาวอ่าว 1 ราย คือ โอมาน ไม่มาร่วมรายการด้วย เรื่องนี้น่าสนใจมาก มันทำให้เห็นว่า แม้ในตะวันออกกลางเอง ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับขั้วอำนาจ โอมานเป็นประเทศไม่ใหญ่ ไม่เล็ก แต่โดยสภาพภูมิศาสตร์ถือว่า อยู่ในจุดที่ทั้งสำคัญและอันตราย เพราะโอมานอยู่ตรงปากอ่าวโอมาน ฝั่งตรงกันข้ามกับอิหร่าน คุมเชิงช่องแคบฮอร์มุส เส้นทางเดินของน้ำมัน ที่แออัดที่สุดในโลกด้วยกัน โอมาน แม้จะสังกัดก๊วนชาวอ่าว แต่การที่โอมานอยู่ฝั่งตรงกันข้าม กับปากอิหร่าน โอมานจึงมีสภาพเหมือนคนขี่รถจักรยานสองล้อ ถีบอยู่ตรงกลาง ระหว่างรถสิบล้อ 2 คัน ที่กำลังวิ่งแข่งกัน รักษาระยะไม่ดี มีหวังถูกเบียดบี้แหลกคาถนน แต่โอมาน ก็ดูเหมือนจะรักษาระยะได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะหลังจากเกิดเทศกาลอาหรับสปริง ที่เสี่ยปั้มใหญ่ซาอุดิอารเบีย พยายามบีบมือชาวอ่าวตัวเล็กๆให้แน่นขึ้น เพราะไม่ไว้ใจ กลัวจะหลุดมือไปอิงฝั่งอิหร่าน ถึงขนาดยอมควักกระเป๋าหลายหน เพื่อสนับสนุนทั้งด้านอาวุธและด้านเศรษฐกิจให้ชาวอ่าวตัวเล็กๆ แต่โอมาน ถึงจะไม่รวย และเหมือนอยู่ใต้มือของซาอุ และแถมยังเป็นเพื่อนกับอเมริกาอีกด้วย แต่โอมานน่าจะขี่จักรยานระหว่างทางแคบเก่ง จึงยังคงค้าขาย และผูกสัมพันธ์กับอิหร่านไว้สม่ำเสมอ แม้อเมริกาจะพยายามทัดทาน ไม่ให้โอมานไปมีสัมพันธ์กับอิหร่าน แต่ดูเหมือนอเมริกาก็จะห้ามไม่สำเร็จ ยิ่งจะไปถามว่า เมื่อไหร่โอมานจะเป็นประชาธิปไตย เมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง อเมริกาคงไม่กล้าเสือก เพราะอะไร ก็ลองนึกดูกันนะครับ ใครมีของดี ก็ต้องรู้ตัว รู้จักใช้ เพราะฉะนั้นใครที่ว่าอเมริกายิ่งใหญ่ เป็นพี่เบิ้ม แห่งค่ายประชาธิปไตย ใครไม่เป็นประชาธิปไตย กูคว่ำบาตรหมด ผมว่าน่าทุเรศครับ ถ้ามีใครมาเสือกยุ่ง ถามว่า เมื่อไหร่แดนสยามเราจะมีการเลือกตั้ง ฝากลุงตู่ศอกกลับด้วยนะครับ ว่า ไอ้ 6 ประเทศชาวอ่าว นอกจากไม่มีเลือกตั้ง ไม่รู้จักรัฐธรรมนูญ ยังใช้การปกครองแบบ ที่ผู้มีอำนาจปกครอง เป็นกษัตริย์ หรือสุลต่าน มีอำนาจสูงสุด ยิ่งกว่าเผด็จการเสียอีก ทำไมพวกมีงไม่ชวนกันไปคว่ำบาตรให้หมด มายุ่งอะไรกับประเทศผม จากข้อมูลของ Oil and Gas Journal ระบุว่า โอมานมีแหล่งพลังงานมากเป็นอันดับที่ 23 ของโลก แต่โอมานเอาไว้ขายเป็นรายได้ให้ประเทศ มากกว่าจะเอามาใช้ในประเทศ ย้อนไปตั้งแต่ ปี ค.ศ.2005 โอมานเรื่มซื้อแก๊สจากอิหร่านแล้ว และในปี ค.ศ.2007 โอมานก็ซื้อแก๊ส LNG จากอิหร่านด้วย ในช่วงนั้น โอมานเป็น 1 ใน 3 ประเทศ ที่ยังคงค้าขายกับอิหร่าน ขี่จักรยานในทางแคบไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจการกดดันของอเมริกา ที่จะให้โอมานไปซื้อแก๊สจากการ์ตาแทน และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่า โอมานกับอิหร่านกำลังเดินหน้า ที่จะร่วมมือกันสร้างท่อส่งแก๊ส วิ่งตรงระหว่าง 2 ประเทศ ยาว 173 ไมล์ รอดใต้ทะเล เรื่องนี้เป็นข่าวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.2013 ว่า ทั้ง 2 ประเทศ ทำบันทึกความเข้าใจกันไว้ แต่ยังไม่ได้ลงมือ แค่ไม่กี่วันหลังจาก การลงนามเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ โอมานก็ทำบันทึกข้อตกลงที่จะซื้อแก๊สจากอิหร่านประมาณ 20 ล้านคิวบิกเมตรต่อวัน เป็นระยะเวลา 25 ปี คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 6 หมื่นล้านเหรียญ! และตัวเลขนี้คงมีการเพิ่มขึ้นอีกมาก เมื่อท่อส่งแก๊สสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2018 ค่าก่อสร้างท่อประมาณมูลค่า 1 พันล้านเหรียญ เป็นการลงทุนของโอมาน ที่เหมือนโอมานตัดสินใจโหนสิบล้อยี่ห้ออิหร่านไปแล้ว ###############
ตอน 3 ปัจจุบัน ซาอุดิอารเบียขายทั้งน้ำมันและแก๊สให้แก่โอมาน มูลค่าประมาณ 1 พันล้านเหรียญต่อปี ไม่มีการลดราคา ไม่มีการแบ่งส่วนกำไร เสี่ยปั๊มใหญ่ หน้าใหญ่จริงเพื่อความมั่นคงของตัว แต่เค็มจังเวลาค้าขาย โอมานคงคิดแล้วว่า จ่ายค่าน้ำมันแก๊สทุกปีอย่างนี้ให้ลูกพี่ใหญ่ ก็คงอยู่เท่านี้ แต่ข้อเสนอของอิหร่าน เป็นการร่วมลงทุนในบริษัทที่จะตั้งร่วมกัน เพื่อขายแก็สอิหร่านที่ส่งมาตามท่อส่ง กำไรจากการขายแก๊สก็แบ่งกัน ด้วยวิธีนี้ โอมานจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการขายแก๊ส และมีแก๊สพอใช้ในประเทศด้วย สรุปว่า ค่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน ใช้แผนยุทธศาสตร์ สู่ด้วยท่อส่งเหมือนกัน ท่อส่งไปที่ไหน เจ้าของบริเวณที่ท่อส่งไปถึง ที่เป็นเจ้าของร่วมกัน ก็ต้องช่วยดูแลให้ เพราะเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน แบบนี้ น่าจะดีกว่า สร้างขบวนการจราจล การแตกแยกขึ้นในประเทศเขา ระหว่างเขารบกัน ก็ถือโอกาสปล้นทรัพยากรเขาไปจนเกลี้ยง การที่โอมานไปตกลงกับอิหร่านแบบนี้ แน่นอน คงยิ่งทำให้ซาอุดิอารเบียหงุดหงิด อาการหลอนเรื่องอิหร่าน ยิ่งกำเริบหนัก แต่หลอนเรื่องอิหร่านจะเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะไม่น่าเสียวไส้เท่าเรื่อง กระเป๋าเสี่ยปั๊มใหญ่จะเบาหวิว… หลายปีที่ผ่านมา เสี่ยปั๊มใหญ่ถือว่ามีน้ำมันแยะ ขยายตลาดไปทั่ว และในราคาที่สูงลิ่ว ไม่มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม เสี่ยปั๊มใหญ่เล่นเต็มอัตรา ถือว่าน้ำกำลังขึ้น แต่วันนี้ ดูเหมือนน้ำจะเริ่มลงเสียแล้ว น้ำมันเหลือประมาณ 44.2 และ 46.65 ต่อบาเรล (เป็นราคาที่แสดงของ ICE และ NYMEX ซึ่งปรากฏอยู่ในข้อมูลลงวันที่ 6 ตุลาคมที่ผมอ่าน ครับ) และทำให้ บัญชีรายรับของซาอุดิอารเบีย เริ่มแสดงรายการ ขาดทุน !!! แต่น้ำมันและแก๊สของอิหร่าน กำลังจะมีตลาดเพิ่มขึ้น (ขณะนี้ EU ยกเลิก การคว่ำบาตร ให้ผู้ผลิตน้ำมันของอิหร่านไป 2 รายแล้ว) ไม่ใช่แค่ว่า จะเป็นการเข้ามาเบียดตลาดของซาอุดิอารเบียเท่านั้น ถ้าอิหร่านยังสามารถรักษา ราคาขายที่ต่ำในระดับนี้ได้ต่อไปอีก ซาอุดิอารเบียมีหวังกระอัก และจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจของซาอุดิอารเบีย อย่างรุนแรง เพราะเศรษฐกิจของซาอุ พึ่งอยู่กับการขายน้ำมันอย่างเดียว และตอนนี้ เริ่มมีนักวิเคราะห์ ประเมินสถานะของซาอุแล้วว่า ถ้าสภาพตลาดน้ำมันยังเป็นอยู่เช่นนี้ต่อไปอีก 2 ปี โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง คงได้เห็นเสี่ยปั๊มใหญ่ ซาอุดิอารเบีย ล้มละลายแน่นอน….ฮู้ย….เดี๋ยวได้ขายอูฐแน่ การจับมือระหว่างโอมานกับอิหร่าน สร้างท่อส่งแก๊ส จึงเหมือนหมัดชกใส่หน้าเสี่ยปั๊มใหญ่ แม้ไม่คว่ำ แต่ทำให้เซเหมือนกัน โอมาน เป็นที่ยอมรับจากผู้คนส่วนใหญ่ในความเป็นกลาง แต่ตอนนี้ เหมือนโอมาน จะเอียงออกมานอกกลุ่มชาวอ่าวค่อนข้างชัด เมื่อตอนที่เสี่ยปั๊มใหญ่เรียก ระดมพลไปถล่มเยเมน โอมานไม่ไปร่วม พอมีข้ออ้างได้ว่า โอมานเป็นกลาง ไม่อยากเข้าไปยุ่งในกิจการบ้านคนอื่น แต่การที่โอมานตกลงจับมือกับอิหร่าน เพื่อสร้างท่อส่งเแก๊ส นี่ เหมือนโอมานกำลังบอกใครว่า การคบกับอิหร่าน นอกจากไม่เป็นการคุกคามบ้านตัวแล้ว ดูเหมือนจะดีกับเศรษฐกิจของบ้านตัวเองเสียอีกด้วย เรื่องโอมาน คงไม่ทำให้ซาอุดิอารเบียกลุ้มใจรายเดียว คู่รักคู่ขุด ก็น่าจะกลุ้มใจด้วย ถ้าโอมานเอียงไปจับมือกับอิหร่าน โอกาสที่อเมริกาจะควบคุม ช่องแคบฮอร์มุส คงแทบจะเป็นเรื่องเพ้อ และเรื่องกลับเข้าไปใหญ่ในตะวันออกกลาง อาจจะเป็นเรื่องหลอนอเมริกาบ้าง คราวนี้ จะได้สมเป็นคู่รักคู่หลอนกันเลย ฮาจังวุ้ย แค่เรื่องโอมานนี่ ก็ทำให้เสียปั้มใหญ่เซแล้วนะ แต่เขาว่าข่าวร้ายเวลามา มันไม่มาเรื่องเดียวหรอก การ์ตา เสี่ยปั้มซ่าหนุ่มสำอางค์ ตอนแรกทำคึกคักไปร่วมกับเสี่ยปั้มใหญ่ ไล่ถล่มซีเรียจนเละ มาวันนี้ วันที่คุณพี่ปูตินเดินท่าหล่อ พากองทัพเรือ บก อากาศ ยาตราเข้าเข้ามาในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า ที่กำลังถูกรุมทึ้ง เขาว่า ตอนนี้การ์ตาเอง ก็กำลังเตรียมกลับลำ แอบไปเจรจากับอิหร่านแล้ว …พี่ครับ หลุมแก๊สเราหลุมเดียวกันนะครับ ลงทุนทำท่อส่งแก๊สร่วมกัน รวยด้วยกัน แทนที่จะรบกัน ดีไหมครับ เอาแบบ แฟร์ แฟร์ เลยนะพี่นะ ( นี่ผมเดาเอานะ ว่า เสี่ยรุ่นใหม่เขาคงจะพูดแบบนี้) ส่วน อินเดีย อีนี่ ก็มีข่าวว่า กำลังเจรจากับอิหร่านและโอมาน ให้ต่อท่อส่งแก๊ส ยาวไปถึงฝั่งอินเดียเสียด้วยเลย ตัดหน้าปากีสถาน ที่ก็มีแผนสร้างท่อส่งเหมือนกัน โอ้ย… ตอนนี้ใครไม่รู้จักยุทธศาสตร์ท่อส่ง โน่น ไปอยู่หลังเขา กับค่ายประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งได้เลย เชยฉิบหาย โลกหมุนไปทุกวัน มึงคิดได้แต่ทวงเมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง…. ซาอุดิอารเบีย ส่งน้ำมันให้อินเดียประมาณ ปีละ 29.2 พันล้านเหรียญ เงินจำนวนนี้ อาจหายไปจากบัญชีรายรับของเสี่ยปั้มใหญ่ และก็คงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับซาอุ อ๋อ…. มิน่า เสี่ยปั๊มใหญ่ถึงไม่พอใจ ดิ้นเร้าๆ ….. ผมนี่คิดช้าจัง ถ้าเขาตกลงเรื่องนิวเคลียร์กันได้ และมีการยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านก็ติดปีก ยึดตลาดพลังงาน ซาอุดิอารเบีย ก็คงถลาลงดิน และอีก อ๋อ… มิน่า ตอนนี้อเมริกา ถึงเอาใจอีนี่แขกอินเดียจัง แต่เรื่องแขกอินเดียนี่ สุภาษิตไทยว่าไว้อย่างไร อเมริกาคงไม่รู้จัก ฮา อีกแล้ว แหม เขียนเรื่องนี้สนุกดีจัง เห็นความฉลาดของคุณพ่ออเมริกาของใครไม่รู้ หายเหี้ยนเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมา ซาอุดิอารเบียกล่าวหาว่าอิหร่านยุแยงเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง นี่ถ้าเรื่องการ์ตาจะไปจับมือกับอิหร่าน เป็นจริง อาจมีชาวอ่าว ทะยอยแตกคอก ออกไปอีก มันไม่ใช่เรื่องประสาทหลอนแล้ว เรื่องหลอนจะกลายเป็นเรื่องจริง อย่างน้อยๆ การที่รัสเซียเดินเข้ามายืนเคียงอิหร่านในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า และอื่นๆ ผมว่า แค่นี้ก็คงทำให้เสี่ยปั๊มใหญ่ ระทมอยู่ในอกเอาเรื่อง นอกจากไม่มีเพื่อนรัก คู่รักมายืนเคียงแล้ว ยังมีแต่ข่าวลือ ข่าวร้ายออกมาเพิ่มไม่จบ เสี่ยปั๊มใหญ่จะทนระทมต่อไปไหวหรือครับ เป็นผมมีคู่รักใจจืดใส่ ยามยากแบบนี้ ถีบให้ตกเตียงไปเลยครับ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
30 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดเหตุเรือนำนักท่องเที่ยวล่มกลางแม่น้ำโขง บริเวณหน้าถ้ำติ่ง ตรงข้ามบ้านปากอู ใกล้เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว หลังเรือช้าที่ล่องมาจากเมืองปากแบ่ง ชนแก่งหินกลางลำน้ำ ส่งผลให้เรือค่อย ๆ จมลง
    .
    เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม เวลาประมาณ 15.40 น. บนเรือลำดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปราว 120 คน รวมถึงผู้โดยสารชาวลาว โดยหลังเกิดเหตุมีเรือและชาวบ้านเข้าช่วยเหลือ สามารถอพยพนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งได้เกือบทั้งหมด
    .
    อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าผู้โดยสารชาวลาวเพศหญิง 1 ราย พร้อมบุตรสาวอายุ 3 ปี และ 1 ปี สูญหายไปในกระแสน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยประดาน้ำจากกาชาดแขวงหลวงพระบางได้เร่งค้นหาต่อเนื่อง แต่จนถึงช่วงเย็นของวันที่ 19 ธันวาคม ยังไม่พบผู้สูญหายทั้ง 3 คน
    .
    การล่องเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำโขงถือเป็นเส้นทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะเส้นทางจากเมืองปากแบ่งและเมืองห้วยซายมายังหลวงพระบาง
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122601
    .
    #News1live #News1 #หลวงพระบาง #แม่น้ำโขง #เรือล่ม #ข่าวต่างประเทศ #อุบัติเหตุ
    เกิดเหตุเรือนำนักท่องเที่ยวล่มกลางแม่น้ำโขง บริเวณหน้าถ้ำติ่ง ตรงข้ามบ้านปากอู ใกล้เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว หลังเรือช้าที่ล่องมาจากเมืองปากแบ่ง ชนแก่งหินกลางลำน้ำ ส่งผลให้เรือค่อย ๆ จมลง . เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม เวลาประมาณ 15.40 น. บนเรือลำดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปราว 120 คน รวมถึงผู้โดยสารชาวลาว โดยหลังเกิดเหตุมีเรือและชาวบ้านเข้าช่วยเหลือ สามารถอพยพนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งได้เกือบทั้งหมด . อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าผู้โดยสารชาวลาวเพศหญิง 1 ราย พร้อมบุตรสาวอายุ 3 ปี และ 1 ปี สูญหายไปในกระแสน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยประดาน้ำจากกาชาดแขวงหลวงพระบางได้เร่งค้นหาต่อเนื่อง แต่จนถึงช่วงเย็นของวันที่ 19 ธันวาคม ยังไม่พบผู้สูญหายทั้ง 3 คน . การล่องเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำโขงถือเป็นเส้นทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะเส้นทางจากเมืองปากแบ่งและเมืองห้วยซายมายังหลวงพระบาง . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122601 . #News1live #News1 #หลวงพระบาง #แม่น้ำโขง #เรือล่ม #ข่าวต่างประเทศ #อุบัติเหตุ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 5

    “ข่าวลือ ข่าวลวง’
    ตอนสุดท้าย 5
    กลับมาดูภูมิศาสตร์ตะวันออกกลางอีกหน่อย จุดยุทธศาสตร์สำคัญที่คุมตะวันออกกลาง ให้กลายเป็นง่อย ปั้มขึ้นสนิมทั้งหมด มีอยู่ 3 จุด (เหมือนจุดเพราะฉะนั้น จำง่ายดีครับ)
    จุดแรกคือ ช่องแคบฮอร์มุส ที่วันนี้ กองทัพเรืออิหร่านคุมเรียบร้อย จนโอมานที่อยู่ตรงกันข้าม ถึงกับขออยู่เป็นกลาง ขยับห่างจากซาอุดิอย่างไม่เกรงใจ ไม่ยุ่งเรื่องเยเมนด้วย (แต่ผมก็ยังไม่ค่อยวางใจโอมาน เรื่องนี้ต้องดูกันต่อ)
    จุดที่ 2 คือ ช่องแคบที่อ่าวเอเดนของเยเมน วันนี้ ซึ่งอาจจะกลายเป็นสมรภูมิใหม่ในตะวันออกกลาง นอกเหนือจากที่ซีเรีย เพราะรับรองว่าอเมริกาไม่ปล่อยมือเยเมนและไม่ปล่อยให้ซาอุเล่นเองอีกต่อไป ขณะเดียวกันอิหร่าน รัสเซีย ก็คงไม่ดูเหตุการณ์ในเยเมนอยู่เฉยๆเหมือนกัน
    จุดที่ 3 คือ บริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียนรอบซีเรีย และคงพอเข้าใจว่าทำไมในการเข้าไปปฏิบัติการณ์ช่วยซีเรีย รัสเซีย จึงใช้ทั้งฐานทัพที่ Latika และ Tartus วันนี้ ใครจะเคลื่อนทัพเรือเข้าใกล้ตะวันออกกลางด้านเมดิเตอร์เรเนียน ก็คงต้องเจอกับฝูงเครื่องบินรบ และกองทัพเรือของรัสเซีย และน่าจะรวมของจีน ที่ไปฝึกร่วมกันกับรัสเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม ถ้าจำกันได้ และจนบัดนี้ กองเรือของทั้ง 2 เขี้ยว ยังไม่ได้กลับบ้านเลย ยังอาบแดด อยู่แถวเมดิเตอร์เรเนียนนั่นแหละ
    หัวโจกใหญ่ในตะวันออกกลาง มี 3 เจ้า อิหร่าน อิสราเอล และซาอุดิอารเบีย
    รายแรกคืออิหร่าน ไม่ต้องพูด อเมริกาคงรู้ตัวแล้วว่า ตัวเองถูกตุ๋นจนเปื่อยยุ่ย เสียเวลาไป 2 ปี ตอนนี้ไม่มีใครพูดเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ดีล ปี๊บคลุมหัวคงขาดแคลนแถวทำเนียบขาว กับแถวอียู นักเจรจา ที่ทำหน้าว่ากูเก่งนัก หายหัวไปไหนหมด
    รายที่ 2 อิสราเอล ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูดถึงมาก เก่งแต่ปาก วันนี้แค่เห็นฝูงบินของรัสเซียโฉบผ่าน ก็กลับบ้านนอนคลุมโปงแล้ว ส่วนอเมริกาก็คงยังนึกไม่ออกว่า จะให้อิสราเอลรับบทไหน แค่กันไม่ให้กลุ่มฮามาส กับฮิสบอลเลาะห์เข้ามาถล่มหลังบ้านตัว อิสราเอลก็ไข้ขึ้นแล้ว แต่พอตั้งตัวได้ ก็คงมีบทบาทเอง เพราะอิสราเอลกับอเมริกา มันก็เหมือนคนเดียวกัน ประเทศเดียวกันอยู่แล้ว ถึงจะมีการหลอกใช้กัน แต่ก็ได้สมประโยชน์ด้วยกันถึงทุกวันนี้ แม้จะรำคาญหู แต่ก็ยังคงไม่ถึงตัดขาดกันตอนนี้ (แต่ต่อไป ไม่แน่ครับ)
    สำหรับรายที่ 3 ซาอุดิอารเบีย ดูเผินๆ เหมือนหมูในอวย อูฐในคอก แต่เอาเข้าจริง มันไม่แน่เสมอไป อเมริกาที่ว่าแน่ๆ บังคับเขาไปทั่วโลก ให้เป็นประชาธิปไตย ให้มีสิทธิเสรีภาพ ใครไม่เป็นอย่างที่อเมริกาต้องการ อเมริกาจัดการได้หมด จนวันนี้ อเมริกายังเปลี่ยนแนวคิด แนวปกครองซาอุดิอารเบียไม่ได้เลยจนนิดเดียว อเมริกาได้แต่นินทา เยาะเย้ย วันนี้ผู้หญิงชาวซาอุ ยังไม่มีสิทธิขับรถ แล้วมึงมาบังคับเรื่องประชาธิปไตย กับเสรีภาพอะไรกับบ้านผม
    เราอาจได้เห็นภาพ อเมริกาไปคุกเข่า เช็ดรองเท้าให้กษัตริย์ซาอุอีกที ดูรูปตอน 1 ที่ผมเอามาลงดีๆ อีกทีเถิดครับ เคยเห็นอเมริกานอบน้อมกับผู้ปกครองประเทศไหนเท่านี้บ้าง ตกลงไม่รู้ใครเป็นพรมเช็ดเท้าให้ใครกันแน่
    อเมริกาคงคิดหนัก จะไม่เอาคน เอาแต่ปั้ม อย่างที่วางแผนให้ตะวันออกกลางรบกันจนเละ ตายเกลี้ยงอย่างเดิมแล้วค่อยไปเอาปั้มอย่างเดิม แผนนี้อเมริกาชักไม่แน่ใจ ไอ้ที่ว่าถอนกองกำลังออกมาจากตะวันออกกลางแล้ว จะไม่ส่งกองทัพภาคพื้นดินเข้าไปยุ่ง คุณหน้าเต้าหู้ยี้ รัฐมนตรีกลาโหม ถึงออกมาแถลงข่าวแบบคนยังไม่สร่าง พูดไม่รู้เรื่อง ก็เพราะยังไม่รู้จะว่า พี่เบิ้มใบตองแห้ง จะใช้ยุทธศาสตร์อย่างไรดี
    ระหว่างที่อเมริกากำลังปวดหัว กับเดินหมากซีเรียของคุณพี่ปูติน ซาอุดิอารเบีย ก็เกิดเล่นบทแปลก ส่งเจ้าชายละอ่อน ไปเที่ยวรัสเซียเสีย 2 รอบ ไม่รู้คุยอะไรกันบ้าง แต่ออกข่าวว่า มีการทำสัญญาร่วมมือกัน 6,7 ฉบับ แบบนี้ ข่าวลือรอบ 2 ในปลายเดือนกันยายน จึงต้องออกมา เป็นการปรามว่า ให้เห็นหัวกันบ้าง เรื่องเยเมนก็เกือบจะเสร็จอิหร่านไปแล้ว นี่ซาอุกำลังจะเดินเข้าปากรัสเซียอีกหรือ
    แต่กษัตริย์ซัลมานก็ยังเล่นเกมต่อ แม้จะโดนข่าวลือแรง และรู้ว่า ข่าวลือมาจากไหน สำหรับซาอุดิอารเบีย อาจจะมีทางเลือก วันนี้ไม่ไปซบอเมริกา ไม่พลัดกันเช็ดรองเท้าให้กัน แต่อิหร่านและรัสเซีย จะรับซาอุได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับคนตะวันออกกลาง คุยกันเองรู้เรื่องไหม อยากปกครองกันเอง หรือให้คนนอกมากำกับตลอดไป แต่ผมคิดว่า อิหร่านคงไม่ได้พูดง่ายๆ ซาอุเอง ถ้าเรื่องมาก เล่นบทผิด คราวนี้แม้แต่อูฐก็อาจจะไม่เหลือ
    แต่สำหรับอเมริกา ที่จะกลับเข้ามาใหญ่ในตะวันออกกลางเหมือนเดิม บอกได้คำเดียวว่า เหนื่อย จะกลับเข้ามาทางไหน ถ้าซาอุดิอารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่ไม่เอาด้วยปั๊มเล็กปั๊มน้อย ก็ต้องเปลี่ยนท่าที และอย่าลืมจุดยุทธศาสตร์เพราะฉะนั้นของผม ถ้าฝ่ายไหนยึด 3 จุดนั้นได้ ฝ่ายนั้น ได้ตะวันออกกลางครับ
    เยเมนและเมดิเตอร์เรเนียน จึงน่าจะร้อนระอุขึ้นมา ถ้าพี่เบิ้มใบตองแห้ง ไม่คิดเหลือแต่ชื่อ…
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 5 “ข่าวลือ ข่าวลวง’ ตอนสุดท้าย 5 กลับมาดูภูมิศาสตร์ตะวันออกกลางอีกหน่อย จุดยุทธศาสตร์สำคัญที่คุมตะวันออกกลาง ให้กลายเป็นง่อย ปั้มขึ้นสนิมทั้งหมด มีอยู่ 3 จุด (เหมือนจุดเพราะฉะนั้น จำง่ายดีครับ) จุดแรกคือ ช่องแคบฮอร์มุส ที่วันนี้ กองทัพเรืออิหร่านคุมเรียบร้อย จนโอมานที่อยู่ตรงกันข้าม ถึงกับขออยู่เป็นกลาง ขยับห่างจากซาอุดิอย่างไม่เกรงใจ ไม่ยุ่งเรื่องเยเมนด้วย (แต่ผมก็ยังไม่ค่อยวางใจโอมาน เรื่องนี้ต้องดูกันต่อ) จุดที่ 2 คือ ช่องแคบที่อ่าวเอเดนของเยเมน วันนี้ ซึ่งอาจจะกลายเป็นสมรภูมิใหม่ในตะวันออกกลาง นอกเหนือจากที่ซีเรีย เพราะรับรองว่าอเมริกาไม่ปล่อยมือเยเมนและไม่ปล่อยให้ซาอุเล่นเองอีกต่อไป ขณะเดียวกันอิหร่าน รัสเซีย ก็คงไม่ดูเหตุการณ์ในเยเมนอยู่เฉยๆเหมือนกัน จุดที่ 3 คือ บริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียนรอบซีเรีย และคงพอเข้าใจว่าทำไมในการเข้าไปปฏิบัติการณ์ช่วยซีเรีย รัสเซีย จึงใช้ทั้งฐานทัพที่ Latika และ Tartus วันนี้ ใครจะเคลื่อนทัพเรือเข้าใกล้ตะวันออกกลางด้านเมดิเตอร์เรเนียน ก็คงต้องเจอกับฝูงเครื่องบินรบ และกองทัพเรือของรัสเซีย และน่าจะรวมของจีน ที่ไปฝึกร่วมกันกับรัสเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม ถ้าจำกันได้ และจนบัดนี้ กองเรือของทั้ง 2 เขี้ยว ยังไม่ได้กลับบ้านเลย ยังอาบแดด อยู่แถวเมดิเตอร์เรเนียนนั่นแหละ หัวโจกใหญ่ในตะวันออกกลาง มี 3 เจ้า อิหร่าน อิสราเอล และซาอุดิอารเบีย รายแรกคืออิหร่าน ไม่ต้องพูด อเมริกาคงรู้ตัวแล้วว่า ตัวเองถูกตุ๋นจนเปื่อยยุ่ย เสียเวลาไป 2 ปี ตอนนี้ไม่มีใครพูดเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ดีล ปี๊บคลุมหัวคงขาดแคลนแถวทำเนียบขาว กับแถวอียู นักเจรจา ที่ทำหน้าว่ากูเก่งนัก หายหัวไปไหนหมด รายที่ 2 อิสราเอล ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูดถึงมาก เก่งแต่ปาก วันนี้แค่เห็นฝูงบินของรัสเซียโฉบผ่าน ก็กลับบ้านนอนคลุมโปงแล้ว ส่วนอเมริกาก็คงยังนึกไม่ออกว่า จะให้อิสราเอลรับบทไหน แค่กันไม่ให้กลุ่มฮามาส กับฮิสบอลเลาะห์เข้ามาถล่มหลังบ้านตัว อิสราเอลก็ไข้ขึ้นแล้ว แต่พอตั้งตัวได้ ก็คงมีบทบาทเอง เพราะอิสราเอลกับอเมริกา มันก็เหมือนคนเดียวกัน ประเทศเดียวกันอยู่แล้ว ถึงจะมีการหลอกใช้กัน แต่ก็ได้สมประโยชน์ด้วยกันถึงทุกวันนี้ แม้จะรำคาญหู แต่ก็ยังคงไม่ถึงตัดขาดกันตอนนี้ (แต่ต่อไป ไม่แน่ครับ) สำหรับรายที่ 3 ซาอุดิอารเบีย ดูเผินๆ เหมือนหมูในอวย อูฐในคอก แต่เอาเข้าจริง มันไม่แน่เสมอไป อเมริกาที่ว่าแน่ๆ บังคับเขาไปทั่วโลก ให้เป็นประชาธิปไตย ให้มีสิทธิเสรีภาพ ใครไม่เป็นอย่างที่อเมริกาต้องการ อเมริกาจัดการได้หมด จนวันนี้ อเมริกายังเปลี่ยนแนวคิด แนวปกครองซาอุดิอารเบียไม่ได้เลยจนนิดเดียว อเมริกาได้แต่นินทา เยาะเย้ย วันนี้ผู้หญิงชาวซาอุ ยังไม่มีสิทธิขับรถ แล้วมึงมาบังคับเรื่องประชาธิปไตย กับเสรีภาพอะไรกับบ้านผม เราอาจได้เห็นภาพ อเมริกาไปคุกเข่า เช็ดรองเท้าให้กษัตริย์ซาอุอีกที ดูรูปตอน 1 ที่ผมเอามาลงดีๆ อีกทีเถิดครับ เคยเห็นอเมริกานอบน้อมกับผู้ปกครองประเทศไหนเท่านี้บ้าง ตกลงไม่รู้ใครเป็นพรมเช็ดเท้าให้ใครกันแน่ อเมริกาคงคิดหนัก จะไม่เอาคน เอาแต่ปั้ม อย่างที่วางแผนให้ตะวันออกกลางรบกันจนเละ ตายเกลี้ยงอย่างเดิมแล้วค่อยไปเอาปั้มอย่างเดิม แผนนี้อเมริกาชักไม่แน่ใจ ไอ้ที่ว่าถอนกองกำลังออกมาจากตะวันออกกลางแล้ว จะไม่ส่งกองทัพภาคพื้นดินเข้าไปยุ่ง คุณหน้าเต้าหู้ยี้ รัฐมนตรีกลาโหม ถึงออกมาแถลงข่าวแบบคนยังไม่สร่าง พูดไม่รู้เรื่อง ก็เพราะยังไม่รู้จะว่า พี่เบิ้มใบตองแห้ง จะใช้ยุทธศาสตร์อย่างไรดี ระหว่างที่อเมริกากำลังปวดหัว กับเดินหมากซีเรียของคุณพี่ปูติน ซาอุดิอารเบีย ก็เกิดเล่นบทแปลก ส่งเจ้าชายละอ่อน ไปเที่ยวรัสเซียเสีย 2 รอบ ไม่รู้คุยอะไรกันบ้าง แต่ออกข่าวว่า มีการทำสัญญาร่วมมือกัน 6,7 ฉบับ แบบนี้ ข่าวลือรอบ 2 ในปลายเดือนกันยายน จึงต้องออกมา เป็นการปรามว่า ให้เห็นหัวกันบ้าง เรื่องเยเมนก็เกือบจะเสร็จอิหร่านไปแล้ว นี่ซาอุกำลังจะเดินเข้าปากรัสเซียอีกหรือ แต่กษัตริย์ซัลมานก็ยังเล่นเกมต่อ แม้จะโดนข่าวลือแรง และรู้ว่า ข่าวลือมาจากไหน สำหรับซาอุดิอารเบีย อาจจะมีทางเลือก วันนี้ไม่ไปซบอเมริกา ไม่พลัดกันเช็ดรองเท้าให้กัน แต่อิหร่านและรัสเซีย จะรับซาอุได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับคนตะวันออกกลาง คุยกันเองรู้เรื่องไหม อยากปกครองกันเอง หรือให้คนนอกมากำกับตลอดไป แต่ผมคิดว่า อิหร่านคงไม่ได้พูดง่ายๆ ซาอุเอง ถ้าเรื่องมาก เล่นบทผิด คราวนี้แม้แต่อูฐก็อาจจะไม่เหลือ แต่สำหรับอเมริกา ที่จะกลับเข้ามาใหญ่ในตะวันออกกลางเหมือนเดิม บอกได้คำเดียวว่า เหนื่อย จะกลับเข้ามาทางไหน ถ้าซาอุดิอารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่ไม่เอาด้วยปั๊มเล็กปั๊มน้อย ก็ต้องเปลี่ยนท่าที และอย่าลืมจุดยุทธศาสตร์เพราะฉะนั้นของผม ถ้าฝ่ายไหนยึด 3 จุดนั้นได้ ฝ่ายนั้น ได้ตะวันออกกลางครับ เยเมนและเมดิเตอร์เรเนียน จึงน่าจะร้อนระอุขึ้นมา ถ้าพี่เบิ้มใบตองแห้ง ไม่คิดเหลือแต่ชื่อ… สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 4

    “ข่าวลือ ข่าวลวง’
    ตอนสุดท้าย 4
    เยเมน ประเทศเล็กๆ ที่อยู่ติดกับทางใต้ของซาอุดิอารเบีย มีทะเลแดงอยู่ทางทิศตะวันตก มีอ่าวเอเดนอยู่ทางใต้ เป็นปากทางออกไปสู่ทะเลอารเบียน อ่าวเอเดน เป็นจุดที่มีเรือบรรทุกน้ำมันแล่นผ่านมากที่สุด รองจาก ช่องแคบฮอร์มุส ที่อิหร่านคุมอยู่ แม้จะเทียบกับฮอร์มุสไม่ได้ ในด้านการเป็นเส้นทางส่งน้ำมันที่แออัด แต่อเมริกาก็จะปล่อยให้ใครมาคุมอ่าวเอเดน และเยเมนไม่ได้อยู่ดี เพราะเยเมนยังมีความสำคัญในเชิงภูมิศาสตร์การเมือง โดยเฉพาะในยามนี้….
    ความสำคัญของเยเมน คือสภาพภูมิศาสตร์ที่ตั้ง ที่เรารู้กันแล้วว่า เยเมนคุมจุดรัดคอ choke point ที่ทะเลแดง Bab el-Mandeb อันเป็นเส้นทางส่งน้ำมันสำคัญของซาอุดิอารเบีย ที่จะออกมาสู่มหาสมุทรอินเดีย เพื่อส่งให้ลูกค้าทางตะวันออกและแปซิฟิก และวิ่งขึ้นเหนือไปยังคลองสุเอซของอิยิปต์ เพื่อข้ามไปเมดิเตอร์เรเนียน ส่งให้กับลูกค้าทางยุโรป
    ความไม่สงบแถบจุดรัดคอ อาจทำให้เส้นทางไปคลองสุเอซเป็นอัมพาต รวมทั้งเส้นทางที่จะออกทางทะเลแดงด้วย เคยมีการประมาณว่า น้ำมันที่ผ่านช่องแคบนี้ไปยุโรป อเมริกาและเอเซีย ตกประมาณ 3.8 ล้านบาเรลต่อวัน
    นอกจากมีความสำคัญในด้านการส่งออกน้ำมันแล้ว ขณะนี้เยเมนยังอยู่ในสภาพที่เหมือนฝังไว้ด้วยระเบิดเวลา ที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกวัน เยเมนเป็นประเทศเล็ก มีพลเมืองมากถึง 26 ล้านคน และ 63% ของพลเมือง เป็นคนวัย 20 กว่า แบ่งเป็นสุนนี่ 65 % เป็นชีอะ 35 % ทั้ง 2 ฝ่ายยากจน กว่าครึ่งไม่มีงานทำ จึงเป็นเรื่องไม่ยาก ที่เยเมนกำลังถูกใช้เป็นสายชนวน ให้เกิดสงครามระหว่างนิกายของอิสลาม
    ถ้าสายชนวนนี้จุดติด เยเมนจะมีสภาพไม่ต่างกับอิรัคหรือซีเรีย และด้วยการมีอาณาเขตที่ยาวติดกับซาอุดิอารเบียถึงประมาณ 1 พันกิโลเมตร เยเมนที่เละวุ่นวาย คงไม่ใช่สิ่งที่ซาอุดิอารเบียต้องการ แต่ไม่แน่ว่า เป็นสิ่งที่อเมริกาต้องการหรือไม่
    แต่เดิม อเมริกาอาจต้องการเยเมนที่เละ และซาอุดิอารเบียที่เละ ตามทฤษฏีที่น่าเชื่อว่า อเมริกาตั้งใจสร้างสงครามและความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยการสร้างเรื่องต่างๆ ตั้งแต่กำจัดผู้นำเผด็จการ การสร้างเทศกาลอาหรับสปริง การสร้างผู้ก่อการร้ายสาระพัดพันธุ์ จนถึงสงครามระหว่างนิกาย เพื่อจะเอาแต่ปั้มน้ำมัน ไม่เอาคน
    แต่ตะวันออกกลาง ในวันที่อเมริกาคิดจะเอาแต่ปั้ม ไม่เอาคน กับตะวันออกกลางหลังวันนี้ ต่างกันคนละเรื่องแล้ว
    ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ.2015 วันที่คุณพี่ปูติน ส่งฝูงบินและกองเรือ เข้าไปในซีเรีย เพื่อจะไปช่วยซีเรียปราบกบฏและผู้ก่อการร้าย จะพันธุ์ไหนก็ตาม มันเป็นวันที่อำนาจการต่อรองในโลกนี้ เปลี่ยนจนเกือบจะกลับหลังหัน ถ้าเป็นวงการพนันขันต่อ เจ้ามืออาจเจ๊งเป็นแถวๆ
    วันนั้น ทำเนียบขาวน่าจะเงียบผิดปรกติ มันคงเกินฝรั่งออกงิ้ว อเมริการู้ว่า รัสเซียฟื้นเร็วเกิดคิด จีนโตเร็วเกินคาด และอิหร่านฉลาดกว่าที่(อเมริกา)
    จะหลอกซ้ำ และอเมริการู้ว่า ทั้ง 3 เขี้ยว จับมือกัน อเมริกาจึงวางแผนสาระพัด ที่จะเสี้ยม จะแยง จะอะไรก็ได้ ที่ให้ 3 เขี้ยวหลุดมือกัน อเมริกาเสียเวลาหลอกล่อเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์อยู่เกือบ 2 ปี และระหว่างนั้น อเมริกาก็วางแผนทำลายซีเรีย จุดสำคัญของ 3 เขี้ยวในตะวันออกกลาง
    แต่อเมริกา นึกไม่ถึงว่า แผนที่อเมริกาคิด และแผนที่อเมริกาจะใช้ ก็มีคนอื่นคิด และใช้เป็น และใช้ได้ผลกว่าอเมริกา วันนี้ ถ้าอเมริกาทิ้งคนในตะวันออกกลาง เพื่อเอาแต่ปั้ม รับรองมีคนเอาปั้มไปก่อนอเมริกาแน่
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 4 “ข่าวลือ ข่าวลวง’ ตอนสุดท้าย 4 เยเมน ประเทศเล็กๆ ที่อยู่ติดกับทางใต้ของซาอุดิอารเบีย มีทะเลแดงอยู่ทางทิศตะวันตก มีอ่าวเอเดนอยู่ทางใต้ เป็นปากทางออกไปสู่ทะเลอารเบียน อ่าวเอเดน เป็นจุดที่มีเรือบรรทุกน้ำมันแล่นผ่านมากที่สุด รองจาก ช่องแคบฮอร์มุส ที่อิหร่านคุมอยู่ แม้จะเทียบกับฮอร์มุสไม่ได้ ในด้านการเป็นเส้นทางส่งน้ำมันที่แออัด แต่อเมริกาก็จะปล่อยให้ใครมาคุมอ่าวเอเดน และเยเมนไม่ได้อยู่ดี เพราะเยเมนยังมีความสำคัญในเชิงภูมิศาสตร์การเมือง โดยเฉพาะในยามนี้…. ความสำคัญของเยเมน คือสภาพภูมิศาสตร์ที่ตั้ง ที่เรารู้กันแล้วว่า เยเมนคุมจุดรัดคอ choke point ที่ทะเลแดง Bab el-Mandeb อันเป็นเส้นทางส่งน้ำมันสำคัญของซาอุดิอารเบีย ที่จะออกมาสู่มหาสมุทรอินเดีย เพื่อส่งให้ลูกค้าทางตะวันออกและแปซิฟิก และวิ่งขึ้นเหนือไปยังคลองสุเอซของอิยิปต์ เพื่อข้ามไปเมดิเตอร์เรเนียน ส่งให้กับลูกค้าทางยุโรป ความไม่สงบแถบจุดรัดคอ อาจทำให้เส้นทางไปคลองสุเอซเป็นอัมพาต รวมทั้งเส้นทางที่จะออกทางทะเลแดงด้วย เคยมีการประมาณว่า น้ำมันที่ผ่านช่องแคบนี้ไปยุโรป อเมริกาและเอเซีย ตกประมาณ 3.8 ล้านบาเรลต่อวัน นอกจากมีความสำคัญในด้านการส่งออกน้ำมันแล้ว ขณะนี้เยเมนยังอยู่ในสภาพที่เหมือนฝังไว้ด้วยระเบิดเวลา ที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกวัน เยเมนเป็นประเทศเล็ก มีพลเมืองมากถึง 26 ล้านคน และ 63% ของพลเมือง เป็นคนวัย 20 กว่า แบ่งเป็นสุนนี่ 65 % เป็นชีอะ 35 % ทั้ง 2 ฝ่ายยากจน กว่าครึ่งไม่มีงานทำ จึงเป็นเรื่องไม่ยาก ที่เยเมนกำลังถูกใช้เป็นสายชนวน ให้เกิดสงครามระหว่างนิกายของอิสลาม ถ้าสายชนวนนี้จุดติด เยเมนจะมีสภาพไม่ต่างกับอิรัคหรือซีเรีย และด้วยการมีอาณาเขตที่ยาวติดกับซาอุดิอารเบียถึงประมาณ 1 พันกิโลเมตร เยเมนที่เละวุ่นวาย คงไม่ใช่สิ่งที่ซาอุดิอารเบียต้องการ แต่ไม่แน่ว่า เป็นสิ่งที่อเมริกาต้องการหรือไม่ แต่เดิม อเมริกาอาจต้องการเยเมนที่เละ และซาอุดิอารเบียที่เละ ตามทฤษฏีที่น่าเชื่อว่า อเมริกาตั้งใจสร้างสงครามและความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยการสร้างเรื่องต่างๆ ตั้งแต่กำจัดผู้นำเผด็จการ การสร้างเทศกาลอาหรับสปริง การสร้างผู้ก่อการร้ายสาระพัดพันธุ์ จนถึงสงครามระหว่างนิกาย เพื่อจะเอาแต่ปั้มน้ำมัน ไม่เอาคน แต่ตะวันออกกลาง ในวันที่อเมริกาคิดจะเอาแต่ปั้ม ไม่เอาคน กับตะวันออกกลางหลังวันนี้ ต่างกันคนละเรื่องแล้ว ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ.2015 วันที่คุณพี่ปูติน ส่งฝูงบินและกองเรือ เข้าไปในซีเรีย เพื่อจะไปช่วยซีเรียปราบกบฏและผู้ก่อการร้าย จะพันธุ์ไหนก็ตาม มันเป็นวันที่อำนาจการต่อรองในโลกนี้ เปลี่ยนจนเกือบจะกลับหลังหัน ถ้าเป็นวงการพนันขันต่อ เจ้ามืออาจเจ๊งเป็นแถวๆ วันนั้น ทำเนียบขาวน่าจะเงียบผิดปรกติ มันคงเกินฝรั่งออกงิ้ว อเมริการู้ว่า รัสเซียฟื้นเร็วเกิดคิด จีนโตเร็วเกินคาด และอิหร่านฉลาดกว่าที่(อเมริกา) จะหลอกซ้ำ และอเมริการู้ว่า ทั้ง 3 เขี้ยว จับมือกัน อเมริกาจึงวางแผนสาระพัด ที่จะเสี้ยม จะแยง จะอะไรก็ได้ ที่ให้ 3 เขี้ยวหลุดมือกัน อเมริกาเสียเวลาหลอกล่อเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์อยู่เกือบ 2 ปี และระหว่างนั้น อเมริกาก็วางแผนทำลายซีเรีย จุดสำคัญของ 3 เขี้ยวในตะวันออกกลาง แต่อเมริกา นึกไม่ถึงว่า แผนที่อเมริกาคิด และแผนที่อเมริกาจะใช้ ก็มีคนอื่นคิด และใช้เป็น และใช้ได้ผลกว่าอเมริกา วันนี้ ถ้าอเมริกาทิ้งคนในตะวันออกกลาง เพื่อเอาแต่ปั้ม รับรองมีคนเอาปั้มไปก่อนอเมริกาแน่ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 3

    “ข่าวลือ ข่าวลวง’
    ตอนสุดท้าย 3
    เรามาทำความเข้าใจ กับเรื่องเส้นทางขนส่งน้ำมันของตะวันออกกลางกันอีกทีก่อน ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจความจุกอกของอเมริกา และซาอุดิอารเบีย ชัดเจนขึ้น
    ตะวันออกกลางผลิตน้ำมันรวมกันทั้งหมดประมาณ 32 % ของ ปริมาณน้ำมันโลก ตามตัวเลขในปี ค.ศ.2013 เท่ากับประมาณ 28.3 พันล้านบาเรลต่อ วัน (bbl/d) และน้ำมันทั้งหมดดังกล่าว ส่งออกจากตะวันออกกลาง 2 ทาง
    ทางหนึ่งคือ ช่องแคบฮอร์มุส ที่เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่แออัด ที่สุดในโลก ตัวเลขของ Energy Information Administration (EIA) ที่รายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2014 ระบุว่า มีน้ำมันประมาณ 167 ล้านบาเรล ต่อวัน ผ่านช่องแคบนี้
    และ 85% ของน้ำมันที่ผ่านช่องแคบฮอร์มุสนี้ ส่งต่อไปยังตลาดเอเซีย ที่มีลูกค้ารายใหญ่คือ ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ และจีน
    ส่วนที่แคบที่สุดของช่องแคบฮอร์มุส หรือที่เรียกกันว่า จุดรัดคอ choke point กว้างแค่ 21 ไมล์ แต่มีส่วนที่มีความลึกพอให้เรือบรรทุกแล่นผ่านไป มา 2 ด้าน กว้างด้านละแค่ 2 ไมล์ โดยมีช่องห่างระหว่างกัน 2 ไมล์
    ถ้าไม่ใช้เรือขนส่งน้ำมัน ก็ต้องขนส่งทางท่อส่ง และในกลุ่มซาอุมีเพียง 2 ประเทศ ที่จะมีทางเลือกไปใช้ท่อส่งน้ำมันได้คือ ซาอุดิอารเบียกับเอมิเรตส์ เท่านั้น และน้ำมันที่จะส่งผ่านท่อรวมกัน 2 ประเทศ ได้แค่จำนวนไม่เกิน 4.3 ล้านบาเรลต่อวันเท่านั้น นอกจากนี้ท่อส่งของทั้ง 2 ประเทศไม่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้สมบูรณ์ เนื่องจากความด้อยในการดูแลรักษา และเส้นทางท่อส่งก็จะต้องผ่านไปในเขตการต่อสู้ ที่มีอยู่มากมายในแถบนั้น
    ยิ่งไปกว่านั้น ท่อส่งอาจเจออุปสรรคอย่างอื่นอีกด้วย ท่อส่งของซาอุดิอารเบีย ส่งออกทางทะเลแดง ซึ่งยังมีปัญหาเกี่ยวกับเยเมน จึงมีความไม่แน่นอนว่า น้ำมันจะส่งผ่านทะเลแดงออกไปได้ไหม ส่วนท่อส่งของเอมิเรตส์ ก็ไปออกที่อ่าวของโอมาน ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะทำตัวเป็นกลาง เพราะเมื่อ ซาอุ เรียกให้มาถล่มร่วมเยเมนเมื่อเดือนมีนาคม โอมานบอกไม่ว่างไป …มาแปลกนี่
    แปลว่าน้ำมันของตะวันออกกลาง แม้จะผลิตได้มาก แต่ต้องพึ่งการขนส่ง ผ่านเส้นทางที่ผ่านช่องแคบฮอร์มุสสูงอย่างน่าตกใจ และที่น่าตกใจกว่าสำหรับอเมริกาคือ อเมริกายังไม่สามารถควบคุมช่องแคบฮอร์มุสได้ ….และดูเหมือนจะกลายเป็นฝ่ายอิหร่าน ที่ตอนนี้ คุมอยู่….
    อเมริการู้จุดอ่อนของตัว และความเสี่ยงนี้ดีอยู่แก่ใจ จึงพยายามลดการนำเข้าน้ำมันในประเทศตัว แต่จากรายงานของ EIA เมื่อต้นปี ค.ศ.2015 นี้เอง ระบุว่าในปี ค.ศ.2014 อเมริกายังนำเข้าน้ำมันเป็นจำนวน 27% ของการใช้ และจาก Annual Energy Outlook บอกว่า อเมริกายังจะต้องมีการนำเข้าเชื้อเพลิงชนิดเหลว ซึ่งจำเป็นสำหรับการขนส่งภายในประเทศของอเมริกา ต่อไปอีกถึงงปี ค.ศ.2040 และตัวเลขที่นำเข้า กลับจะเพิ่มเอาด้วยซ้ำ
    ตัวเลขเหล่านี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์
    แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนของอเมริกาคือ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของอเมริกา ยังจะต้องผูกติดอยู่กับการนำเข้าสินค้าทางอุตสาหกรรม เพราะอเมริกาแทบจะไม่ได้เป็นผู้ผลิตสินค้าส่วนใหญ่แล้ว และแม้ตัวเลขพวกนี้อาจต่างกันตามแหล่งที่มา แต่จากรายงานของ ซีไอเอ ที่ออกมาล่าสุด เมื่อ วันที่ 15 มีนาคม ค.ศ.2015 แสดงตัวเลขนำเข้าสินค้าของอเมริกา สูงถึง 2.27 ล้านล้านเหรียญ ในปี ค.ศ.2013 ซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดที่นำมาแสดงของอเมริกา
    (การนำเข้าจำนวนดังกล่าว เท่ากับ 13.6 % ของจีดีพีรวมจำนวน 16.72 ล้านล้านเหรียญ )
    การนำเข้าของอเมริกา แม้จะเป็นน้ำมันเพียง 8.2% แต่อีก 86.9 % เป็นสินค้า ที่เป็นผลผลิตทางอุตสาหกรรม และอย่างน้อย ประมาณ 35% ของสินค้านั้น ผลิตจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งประเทศเหล่านี้ ต้องพึ่งน้ำมันจากตะวันออกกลาง
    ฮู้ย… พี่เบิ้ม ไหงใหญ่แบบ กลวงอย่างนี้ครับ
    (การพึ่งน้ำมันในทางอ้อม จากการนำเข้าของอเมริกาในจำนวนขนาดนี้ มีผลกระทบกับเศรษฐกิจของอเมริกา โดยติดลบสุทธิจากการนำเข้าสินค้า เป็นจำนวน 690 พันล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับติดลบสุทธิการนำเข้าน้ำมันดิบจำนวน 186 พันล้านเหรียญ)
    ดูเหมือน เมื่อตอนที่อเมริกา เปลี่ยนนโยบาย (จริง หรือ หลอก) ที่จะไม่อุ้มตะวันออกกลาง คนร่างนโยบายของพี่เบิ้ม ใบตองแห้ง นักล่าผู้ยิ่งใหญ่ คงลืมไปว่า กำลังใช้เสื้อผ้า เข้าของ เครื่องมือเครื่องใช้ ฯลฯ ที่ผลิตนอกอเมริกาทั้งสิ้น เวร…
    ปัจจุบัน สินค้าที่อเมริกายังผลิตอยู่เองเป็นเรื่องเป็นราว ดูเหมือนจะมีแต่กระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ อาวุธตรานกอินทรีย์ ยาตรานกอินทรีย์ กับสื่อและการบันเทิงตรานกอินทรีย์ เท่านั้นเอง
    แต่จะผลิตกระดาษสีเขียวต่อ ก็ต้องมีอำนาจกับเศรษฐกิจหนุน ไม่ใช่มีแต่ลมปาก ตอนนี้อำนาจก็กำลังถูกท้าทาย ถ้าเศรษฐกิจดันสะดุด เพราะถูกเขาปิดเส้นทางส่งน้ำมัน… คิดแค่นี้ ผมก็เสียวแทนพี่เบิ้มใบตองแห้งจัง
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 3 “ข่าวลือ ข่าวลวง’ ตอนสุดท้าย 3 เรามาทำความเข้าใจ กับเรื่องเส้นทางขนส่งน้ำมันของตะวันออกกลางกันอีกทีก่อน ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจความจุกอกของอเมริกา และซาอุดิอารเบีย ชัดเจนขึ้น ตะวันออกกลางผลิตน้ำมันรวมกันทั้งหมดประมาณ 32 % ของ ปริมาณน้ำมันโลก ตามตัวเลขในปี ค.ศ.2013 เท่ากับประมาณ 28.3 พันล้านบาเรลต่อ วัน (bbl/d) และน้ำมันทั้งหมดดังกล่าว ส่งออกจากตะวันออกกลาง 2 ทาง ทางหนึ่งคือ ช่องแคบฮอร์มุส ที่เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่แออัด ที่สุดในโลก ตัวเลขของ Energy Information Administration (EIA) ที่รายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2014 ระบุว่า มีน้ำมันประมาณ 167 ล้านบาเรล ต่อวัน ผ่านช่องแคบนี้ และ 85% ของน้ำมันที่ผ่านช่องแคบฮอร์มุสนี้ ส่งต่อไปยังตลาดเอเซีย ที่มีลูกค้ารายใหญ่คือ ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ และจีน ส่วนที่แคบที่สุดของช่องแคบฮอร์มุส หรือที่เรียกกันว่า จุดรัดคอ choke point กว้างแค่ 21 ไมล์ แต่มีส่วนที่มีความลึกพอให้เรือบรรทุกแล่นผ่านไป มา 2 ด้าน กว้างด้านละแค่ 2 ไมล์ โดยมีช่องห่างระหว่างกัน 2 ไมล์ ถ้าไม่ใช้เรือขนส่งน้ำมัน ก็ต้องขนส่งทางท่อส่ง และในกลุ่มซาอุมีเพียง 2 ประเทศ ที่จะมีทางเลือกไปใช้ท่อส่งน้ำมันได้คือ ซาอุดิอารเบียกับเอมิเรตส์ เท่านั้น และน้ำมันที่จะส่งผ่านท่อรวมกัน 2 ประเทศ ได้แค่จำนวนไม่เกิน 4.3 ล้านบาเรลต่อวันเท่านั้น นอกจากนี้ท่อส่งของทั้ง 2 ประเทศไม่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้สมบูรณ์ เนื่องจากความด้อยในการดูแลรักษา และเส้นทางท่อส่งก็จะต้องผ่านไปในเขตการต่อสู้ ที่มีอยู่มากมายในแถบนั้น ยิ่งไปกว่านั้น ท่อส่งอาจเจออุปสรรคอย่างอื่นอีกด้วย ท่อส่งของซาอุดิอารเบีย ส่งออกทางทะเลแดง ซึ่งยังมีปัญหาเกี่ยวกับเยเมน จึงมีความไม่แน่นอนว่า น้ำมันจะส่งผ่านทะเลแดงออกไปได้ไหม ส่วนท่อส่งของเอมิเรตส์ ก็ไปออกที่อ่าวของโอมาน ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะทำตัวเป็นกลาง เพราะเมื่อ ซาอุ เรียกให้มาถล่มร่วมเยเมนเมื่อเดือนมีนาคม โอมานบอกไม่ว่างไป …มาแปลกนี่ แปลว่าน้ำมันของตะวันออกกลาง แม้จะผลิตได้มาก แต่ต้องพึ่งการขนส่ง ผ่านเส้นทางที่ผ่านช่องแคบฮอร์มุสสูงอย่างน่าตกใจ และที่น่าตกใจกว่าสำหรับอเมริกาคือ อเมริกายังไม่สามารถควบคุมช่องแคบฮอร์มุสได้ ….และดูเหมือนจะกลายเป็นฝ่ายอิหร่าน ที่ตอนนี้ คุมอยู่…. อเมริการู้จุดอ่อนของตัว และความเสี่ยงนี้ดีอยู่แก่ใจ จึงพยายามลดการนำเข้าน้ำมันในประเทศตัว แต่จากรายงานของ EIA เมื่อต้นปี ค.ศ.2015 นี้เอง ระบุว่าในปี ค.ศ.2014 อเมริกายังนำเข้าน้ำมันเป็นจำนวน 27% ของการใช้ และจาก Annual Energy Outlook บอกว่า อเมริกายังจะต้องมีการนำเข้าเชื้อเพลิงชนิดเหลว ซึ่งจำเป็นสำหรับการขนส่งภายในประเทศของอเมริกา ต่อไปอีกถึงงปี ค.ศ.2040 และตัวเลขที่นำเข้า กลับจะเพิ่มเอาด้วยซ้ำ ตัวเลขเหล่านี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนของอเมริกาคือ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของอเมริกา ยังจะต้องผูกติดอยู่กับการนำเข้าสินค้าทางอุตสาหกรรม เพราะอเมริกาแทบจะไม่ได้เป็นผู้ผลิตสินค้าส่วนใหญ่แล้ว และแม้ตัวเลขพวกนี้อาจต่างกันตามแหล่งที่มา แต่จากรายงานของ ซีไอเอ ที่ออกมาล่าสุด เมื่อ วันที่ 15 มีนาคม ค.ศ.2015 แสดงตัวเลขนำเข้าสินค้าของอเมริกา สูงถึง 2.27 ล้านล้านเหรียญ ในปี ค.ศ.2013 ซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดที่นำมาแสดงของอเมริกา (การนำเข้าจำนวนดังกล่าว เท่ากับ 13.6 % ของจีดีพีรวมจำนวน 16.72 ล้านล้านเหรียญ ) การนำเข้าของอเมริกา แม้จะเป็นน้ำมันเพียง 8.2% แต่อีก 86.9 % เป็นสินค้า ที่เป็นผลผลิตทางอุตสาหกรรม และอย่างน้อย ประมาณ 35% ของสินค้านั้น ผลิตจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งประเทศเหล่านี้ ต้องพึ่งน้ำมันจากตะวันออกกลาง ฮู้ย… พี่เบิ้ม ไหงใหญ่แบบ กลวงอย่างนี้ครับ (การพึ่งน้ำมันในทางอ้อม จากการนำเข้าของอเมริกาในจำนวนขนาดนี้ มีผลกระทบกับเศรษฐกิจของอเมริกา โดยติดลบสุทธิจากการนำเข้าสินค้า เป็นจำนวน 690 พันล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับติดลบสุทธิการนำเข้าน้ำมันดิบจำนวน 186 พันล้านเหรียญ) ดูเหมือน เมื่อตอนที่อเมริกา เปลี่ยนนโยบาย (จริง หรือ หลอก) ที่จะไม่อุ้มตะวันออกกลาง คนร่างนโยบายของพี่เบิ้ม ใบตองแห้ง นักล่าผู้ยิ่งใหญ่ คงลืมไปว่า กำลังใช้เสื้อผ้า เข้าของ เครื่องมือเครื่องใช้ ฯลฯ ที่ผลิตนอกอเมริกาทั้งสิ้น เวร… ปัจจุบัน สินค้าที่อเมริกายังผลิตอยู่เองเป็นเรื่องเป็นราว ดูเหมือนจะมีแต่กระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ อาวุธตรานกอินทรีย์ ยาตรานกอินทรีย์ กับสื่อและการบันเทิงตรานกอินทรีย์ เท่านั้นเอง แต่จะผลิตกระดาษสีเขียวต่อ ก็ต้องมีอำนาจกับเศรษฐกิจหนุน ไม่ใช่มีแต่ลมปาก ตอนนี้อำนาจก็กำลังถูกท้าทาย ถ้าเศรษฐกิจดันสะดุด เพราะถูกเขาปิดเส้นทางส่งน้ำมัน… คิดแค่นี้ ผมก็เสียวแทนพี่เบิ้มใบตองแห้งจัง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงปู่สังข์ วัดดอนตรอ จ.นครศรีธรรมราช ปี2000
    เหรียญหลวงปู่สังข์ อายุ93 ปี เนื้อกะหลั่ยทอง วัดดอนตรอ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ปี2000 // พระดีพิธีใหญ๋ เหรียญมีประสบการณ์มาก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณ เข้มขลัง สุดยอดยิ่งนัก เมตตามหานิยม มีเสน่ห์ในการผูกไมตรีกับผู้คน การเจรจาค้าความเป็นเลิศ อยู่เย็นเป็นสุข ประสบโชคชัยสวัสดี ทำกิจการอันใดมีแต่เจริญรุ่งเรือง หายจากอาการเจ็บป่วยไข้ และให้มีโชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง **

    ** พ่อท่านสังข์ วัดดอนตรอ ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียงให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ยกย่องและตั้งฉายาให้ท่านว่า”เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำปากพนัง” ท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่มีวามศักดิ์สิทธิ์มีความเมตตาสูง ไม่สนใจโลกภายนอก ท่านมีอายุร้อยกว่าปี ในอดีตจะนิมนต์ท่านทำพิธีกรรมพุทธาพิเศกวัตถุมงคลและจุดเทียนชัยในพิธีต่างๆ และบ่อยครั้งที่ได้นิมนต์ท่านไปทำพิธีเจิมเครื่องบิน หลวงพ่อ สังข์ อตีตเจ้าอาวาสวัดดอนตรอ นอกจากท่านเป็นพระที่มีคุณธรรมสูง คือมีเมตตาต่อทุกคนที่ไปกราบท่านอย่างไม่เลือกชั้นวรรณะแล้ว หลวงพ่อ สังข์ยังเป็นพระที่บริจาคให้ทานแก่ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากอย่างไม่เลือกหน้าด้วย จะเห็นอยู่บ่อยๆว่าของทุกอย่างที่ท่านได้มาโดยชอบหลวงพ่อจะไม่เก็บสะสมไว้เป็นสมบัติโดยส่วนตัว แต่ของทุกอย่างท่านจะประกาศแจกจ่ายให้แก่ลูกศิษย์ที่ยากจนโดยเฉพาะผู้ ** ประสบเคราะห์กรรม

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงปู่สังข์ วัดดอนตรอ จ.นครศรีธรรมราช ปี2000 เหรียญหลวงปู่สังข์ อายุ93 ปี เนื้อกะหลั่ยทอง วัดดอนตรอ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ปี2000 // พระดีพิธีใหญ๋ เหรียญมีประสบการณ์มาก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ เข้มขลัง สุดยอดยิ่งนัก เมตตามหานิยม มีเสน่ห์ในการผูกไมตรีกับผู้คน การเจรจาค้าความเป็นเลิศ อยู่เย็นเป็นสุข ประสบโชคชัยสวัสดี ทำกิจการอันใดมีแต่เจริญรุ่งเรือง หายจากอาการเจ็บป่วยไข้ และให้มีโชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง ** ** พ่อท่านสังข์ วัดดอนตรอ ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียงให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ยกย่องและตั้งฉายาให้ท่านว่า”เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำปากพนัง” ท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่มีวามศักดิ์สิทธิ์มีความเมตตาสูง ไม่สนใจโลกภายนอก ท่านมีอายุร้อยกว่าปี ในอดีตจะนิมนต์ท่านทำพิธีกรรมพุทธาพิเศกวัตถุมงคลและจุดเทียนชัยในพิธีต่างๆ และบ่อยครั้งที่ได้นิมนต์ท่านไปทำพิธีเจิมเครื่องบิน หลวงพ่อ สังข์ อตีตเจ้าอาวาสวัดดอนตรอ นอกจากท่านเป็นพระที่มีคุณธรรมสูง คือมีเมตตาต่อทุกคนที่ไปกราบท่านอย่างไม่เลือกชั้นวรรณะแล้ว หลวงพ่อ สังข์ยังเป็นพระที่บริจาคให้ทานแก่ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากอย่างไม่เลือกหน้าด้วย จะเห็นอยู่บ่อยๆว่าของทุกอย่างที่ท่านได้มาโดยชอบหลวงพ่อจะไม่เก็บสะสมไว้เป็นสมบัติโดยส่วนตัว แต่ของทุกอย่างท่านจะประกาศแจกจ่ายให้แก่ลูกศิษย์ที่ยากจนโดยเฉพาะผู้ ** ประสบเคราะห์กรรม ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปีใหม่ 69 เปิดมอเตอร์เวย์ M6 วิ่งฉิวบางปะอินถึงนครราชสีมา

    ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา จะเปิดให้ประชาชนสัญจรเป็นการชั่วคราว ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ช่วงบางปะอิน-ปากช่อง-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2568 ถึง 5 ม.ค. 2569 โดยไม่เก็บค่าผ่านทาง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ลดความแออัดของเส้นทางหลักอย่างถนนพหลโยธิน และถนนมิตรภาพ รวมทั้งแบ่งเบาภาระการจราจรสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    โดยทิศทางขาออกกรุงเทพฯ จากด่านบางปะอิน-ปากช่อง เปิดให้สัญจรระหว่างวันที่ 26 ธ.ค. 2568 เวลา 00.01 น. ถึง 1 ม.ค. 2569 เวลา 24.00 น. เท่านั้น เนื่องจากการก่อสร้างตอน 4 (สะพานข้ามหนองน้ำ) ยังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องเบี่ยงการจราจรตั้งแต่กิโลเมตรที่ 10+150 ถึง 30+800 หลังจากนั้นทิศทางขาเข้ากรุงเทพฯ จากปากช่อง-บางปะอิน เปิดให้สัญจรระหว่างวันที่ 2 ม.ค. 2569 เวลา 06.00 น. ถึง 5 ม.ค. 2569 เวลา 24.00 น. ส่วนช่วงปากช่อง-นครราชสีมา เปิดให้สัญจรสองทิศทางตลอด 24 ชั่วโมง

    สำหรับทางเข้า-ออกด่านบางปะอินจะมี 3 ทิศทาง ได้แก่ 1. ด้านถนนกาญจนาภิเษก (ทางหลวงหมายเลข 9) เลยทางแยกต่างระดับเชียงราก (ทางหลวงหมายเลข 347) มุ่งหน้าบางปะอินเล็กน้อย 2. ด้านถนนพหลโยธิน เลยปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านใหญ่วังน้อย ขาขึ้น กม.54 3. ด้านทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9 ก่อนถึงทางออกบางปะอิน โปรดสังเกตป้ายบอกทางสีน้ำเงิน ระบุว่า "มอเตอร์เวย์ M6 ปากช่อง นครราชสีมา" เนื่องจากแอปพลิเคชันบอกทางอาจยังไม่อัปเดตเส้นทาง

    เนื่องจากการเปิดใช้มอเตอร์เวย์ครั้งนี้ยังไม่เต็มรูปแบบ เพราะฉะนั้นใช้ได้เฉพาะรถยนต์ 4 ล้อ อีกทั้งไม่มีปั๊มน้ำมันหรือ EV Charger กลางทาง จึงควรเติมน้ำมันหรือชาร์จไฟให้เพียงพอต่อการเดินทางระยะยาว ถ้ามาจากถนนพหลโยธิน เมื่อเลยทางแยกต่างระดับบางปะอิน กม.53-54 จะมีปั๊มน้ำมันเชลล์, บางจาก และ PTT Station แต่ถ้ามาจากมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 เลยทางแยกต่างระดับธัญบุรีไปแล้ว ใช้ทางออก 2 (คลองหลวง-หนองเสือ) จะมีปั๊มน้ำมัน PTT Station, บางจาก และคาลเท็กซ์ ที่เข้า-ออกทางหลักได้

    สำหรับผู้ที่มาจากภาคใต้ ผ่านถนนพระรามที่ 2 และจังหวัดสมุทรสาคร สามารถใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 ที่ด่านมหาชัย 1 ต่อเนื่องทางพิเศษกาญจนาภิเษกที่ด่านบางขุนเทียน ต่อเนื่องมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ที่ด่านบางแก้ว เสียค่าผ่านทางที่ด่านทับช้าง และด่านธัญบุรี เพื่อเข้ามอเตอร์เวย์หมายเลข 6 ได้ ซึ่งจากด่านมหาชัย 1 ถึงจังหวัดนครราชสีมา คิดเป็นระยะทางประมาณ 320 กิโลเมตร

    #Newskit
    ปีใหม่ 69 เปิดมอเตอร์เวย์ M6 วิ่งฉิวบางปะอินถึงนครราชสีมา ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา จะเปิดให้ประชาชนสัญจรเป็นการชั่วคราว ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ช่วงบางปะอิน-ปากช่อง-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2568 ถึง 5 ม.ค. 2569 โดยไม่เก็บค่าผ่านทาง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ลดความแออัดของเส้นทางหลักอย่างถนนพหลโยธิน และถนนมิตรภาพ รวมทั้งแบ่งเบาภาระการจราจรสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยทิศทางขาออกกรุงเทพฯ จากด่านบางปะอิน-ปากช่อง เปิดให้สัญจรระหว่างวันที่ 26 ธ.ค. 2568 เวลา 00.01 น. ถึง 1 ม.ค. 2569 เวลา 24.00 น. เท่านั้น เนื่องจากการก่อสร้างตอน 4 (สะพานข้ามหนองน้ำ) ยังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องเบี่ยงการจราจรตั้งแต่กิโลเมตรที่ 10+150 ถึง 30+800 หลังจากนั้นทิศทางขาเข้ากรุงเทพฯ จากปากช่อง-บางปะอิน เปิดให้สัญจรระหว่างวันที่ 2 ม.ค. 2569 เวลา 06.00 น. ถึง 5 ม.ค. 2569 เวลา 24.00 น. ส่วนช่วงปากช่อง-นครราชสีมา เปิดให้สัญจรสองทิศทางตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับทางเข้า-ออกด่านบางปะอินจะมี 3 ทิศทาง ได้แก่ 1. ด้านถนนกาญจนาภิเษก (ทางหลวงหมายเลข 9) เลยทางแยกต่างระดับเชียงราก (ทางหลวงหมายเลข 347) มุ่งหน้าบางปะอินเล็กน้อย 2. ด้านถนนพหลโยธิน เลยปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านใหญ่วังน้อย ขาขึ้น กม.54 3. ด้านทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9 ก่อนถึงทางออกบางปะอิน โปรดสังเกตป้ายบอกทางสีน้ำเงิน ระบุว่า "มอเตอร์เวย์ M6 ปากช่อง นครราชสีมา" เนื่องจากแอปพลิเคชันบอกทางอาจยังไม่อัปเดตเส้นทาง เนื่องจากการเปิดใช้มอเตอร์เวย์ครั้งนี้ยังไม่เต็มรูปแบบ เพราะฉะนั้นใช้ได้เฉพาะรถยนต์ 4 ล้อ อีกทั้งไม่มีปั๊มน้ำมันหรือ EV Charger กลางทาง จึงควรเติมน้ำมันหรือชาร์จไฟให้เพียงพอต่อการเดินทางระยะยาว ถ้ามาจากถนนพหลโยธิน เมื่อเลยทางแยกต่างระดับบางปะอิน กม.53-54 จะมีปั๊มน้ำมันเชลล์, บางจาก และ PTT Station แต่ถ้ามาจากมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 เลยทางแยกต่างระดับธัญบุรีไปแล้ว ใช้ทางออก 2 (คลองหลวง-หนองเสือ) จะมีปั๊มน้ำมัน PTT Station, บางจาก และคาลเท็กซ์ ที่เข้า-ออกทางหลักได้ สำหรับผู้ที่มาจากภาคใต้ ผ่านถนนพระรามที่ 2 และจังหวัดสมุทรสาคร สามารถใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 ที่ด่านมหาชัย 1 ต่อเนื่องทางพิเศษกาญจนาภิเษกที่ด่านบางขุนเทียน ต่อเนื่องมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ที่ด่านบางแก้ว เสียค่าผ่านทางที่ด่านทับช้าง และด่านธัญบุรี เพื่อเข้ามอเตอร์เวย์หมายเลข 6 ได้ ซึ่งจากด่านมหาชัย 1 ถึงจังหวัดนครราชสีมา คิดเป็นระยะทางประมาณ 320 กิโลเมตร #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 2

    “ข่าวลือ ข่าวลวง’
    ตอนสุดท้าย 2
    ซาอุดิอารเบีย เริ่มถล่มเยเมนไปแล้วตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม แต่ใบตองแห้งไม่มีออกมาโวย แถมมีข่าวว่า จรวดซาอุ ดันลงไปที่ฐานทัพของหน่วยรบพิเศษของอเมริกา ตายกันระเนระนาดอีกด้วย อเมริกาก็ยังหุบปากเงียบ ไม่แอะออกมา ไปเปิดกูเกิลอ่านได้เลยครับ เพราะฉะนั้น ประเด็นเรื่องอเมริกาไม่พอใจ ที่ซาอุดิอารเบีย ไปถล่มเยเมน ก็ตัดทิ้งไปได้ ไม่ว่าจะเป็นไก่อ่อนสั่ง หรือเก๋าเขี้ยวยาวพันธ์ไหนสั่ง มันต้องได้ไฟเขียวจากอเมริกาแน่นอน
    แล้วมีการปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับราชวงศ์ ออกมาทำไม เรื่องมงกูฏราชกุมารก็ พอรับได้ เรื่องเยเมนก็ไม่มีปัญหา
    กลับมาดู ช่วงเวลาของการปล่อยข่าวลืออีกที
    การปล่อยข่าวชุดแรก เริ่มมีขึ้น “หลัง” วันที่ 29 เมษายน ค.ศ.2015 ซึ่งเป็นวันที่กษัตริย์ซาลมานออกประกาศช๊อคผู้คนทั้งซาอุดิอารเบีย และตะวันออกกลาง และที่อาจจะช็อคมากกว่าตะวันออกกลางคือ ที่ทำเนียบขาวของอเมริกา
    เช้ามืดของวันที่ 29 เมษายน ค.ศ.2015 กษัตริย์ซาลมาน ออกประกาศ ปลดมงกุฏราชกุมารลำดับ 1 คือ เจ้าชายมุคริน ออกจากตำแหน่ง โดยไม่ให้เหตุผลและ แต่งตั้งให้ เจ้าชาย บิน นาเยฟ ขึ้นเป็นมงกุฏราชกุมารลำดับ 1 แทน พร้อมกับแต่งตั้งเจ้าชาย บิน ซาลมาน ลูกชาย วัยไม่ถึง 30 ของกษัตริย์ซาลมาน ให้เป็นมงกฏราชกุมารลำดับ 2 พร้อมกับให้ดูแลกิจการน้ำมันของซาอุดิอารเบียอีกด้วย
    ข่าวนี้ ทำให้ได้เห็นฝรั่งเล่นงิ้วเต็มทางเดินในทำเนียบที่วอชิงตัน
    อันที่จริงอเมริกาน่าจะพอใจ ที่ได้บิน นาเนฟ ที่อเมริกาชื่นชมนักหนาว่าปราบพวกบิน ลาเดน จนหดหายหมดไปจากซาอุดิอารเบีย แต่ทำไมข่าวนี้ทำให้อเมริกาออกงิ้ว แถมเป็นงิ้วใบ้ ออกท่า แต่ไม่ออกเสียงให้คนนอกทำเนียบได้ยินมากนัก สงสัยอะไรคงจุกอยู่ในอกจนพูดไม่ออก
    ที่จุกอกอเมริกา น่าจะเป็นการตั้งไก่อ่อนมาเป็นมงกุฏราชกุมารลำดับ 2 นั่นแหละ
    อเมริการู้นิสัยซาอุดิอารเบียดีว่า มักจะมีเรื่องต่อว่า เพื่อต่อรอง หรือประท้วงอเมริกาเสมอ แต่อเมริกา ที่เบ่งได้กับทั้งโลก แต่เบ่งไม่ออกกับซาอุดิอารเบียหรอกครับ การเปลี่ยนตัวมงกุฏราชกุมาร โดยเอาลูกชายขึ้นมาเป็นมงกุฏราชกุมารอันดับ 2 คุมทั้งกลาโหม เป็น “เกม” ที่กษัตริย์ซัลมานกำลัง “เล่น” ใส่อเมริกา ที่ช่วงนั่น ประมาณเดือนมีนา เมษา ถ้าจำกันได้ อเมริกาพยายามที่จะสรุปเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ท่ามกลางเสียงค้านมาจากรอบทิศ โดยเฉพาะ จากซาอุดิอารเบียและอิสราเอล เพราะจะทำให้อิหร่านติดปีก ได้เปรียบคู่แข่งทั้ง 2 ในตะวันออกกลาง ทั้งซาอุ ทั้งอิสราเอล ประสานเสียงประท้วงใบตองแห้ง แต่ใบตองแห้งทำไขสือ
    ซาอุดิอารเบีย จึงประท้วง หรือประชด ด้วยการแต่งตั้งลูกชายวัยละอ่อนมานั่งคุมอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญของซาอุดิอา รเบีย โดย ” ไม่ปรึกษา” อเมริกา มึงไม่ฟังกู กูก็ไม่ฟังมึง แน่จริงๆ มีน้ำมันมาก ทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด ไม่ถูกด่า
    แต่ในฐานะพี่เบิ้มใบตองแห้ง จะให้คนขี่อูฐมาขู่แฟดจนชาวโลกหัวร่อเย้ย คงเสียหน้าเอาเรื่อง อเมริกาก็เลยต้องตอบโต้บ้าง ในระดับกำลังดีว่า ซาอุดิอารเบีย กำลังลงเหว จากการตัดสินใจของตัวเอง น่าเอ็นดูนะครับ ด่ากลับ ได้เจ็บจัง ฮาชะมัด
    สรุปว่า ข่าวลือในช่วงปลายเมษายนต่อต้นพฤษภาคม เกี่ยวกับราชวงศ์ และ เรื่องการถล่มเยเมนของซาอุดิอารเบีย น่าจะเป็นสงครามน้ำลาย ระหว่าง คู่รัก คู่ขุด (น้ำมัน)
    แต่ข่าวลือชุด 2 ที่ออกมาช่วงปลายเดือนกันยายน เกี่ยวกับเรื่อง จะทำการปฏิวัติโค่นกษัตริย์ซัลมานบ้าง เรื่องพวกราชวงศ์เองทำหนังสือประท้วงกษัตริย์ ไม่พอใจการแต่งตั้งลูกชาย ไม่พอใจเรื่องนโยบายน้ำมัน ไม่พอใจเรื่องรบในเยเมนที่ไม่เห็นทางว่าชนะ ฯลฯ ข่าวลือชุดนี้ต่างหาก ที่น่าสนใจ และบอกเล่า หลายอย่าง เกี่ยวกับสภาพของอเมริกา และซาอุดิอารเบีย
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 2 “ข่าวลือ ข่าวลวง’ ตอนสุดท้าย 2 ซาอุดิอารเบีย เริ่มถล่มเยเมนไปแล้วตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม แต่ใบตองแห้งไม่มีออกมาโวย แถมมีข่าวว่า จรวดซาอุ ดันลงไปที่ฐานทัพของหน่วยรบพิเศษของอเมริกา ตายกันระเนระนาดอีกด้วย อเมริกาก็ยังหุบปากเงียบ ไม่แอะออกมา ไปเปิดกูเกิลอ่านได้เลยครับ เพราะฉะนั้น ประเด็นเรื่องอเมริกาไม่พอใจ ที่ซาอุดิอารเบีย ไปถล่มเยเมน ก็ตัดทิ้งไปได้ ไม่ว่าจะเป็นไก่อ่อนสั่ง หรือเก๋าเขี้ยวยาวพันธ์ไหนสั่ง มันต้องได้ไฟเขียวจากอเมริกาแน่นอน แล้วมีการปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับราชวงศ์ ออกมาทำไม เรื่องมงกูฏราชกุมารก็ พอรับได้ เรื่องเยเมนก็ไม่มีปัญหา กลับมาดู ช่วงเวลาของการปล่อยข่าวลืออีกที การปล่อยข่าวชุดแรก เริ่มมีขึ้น “หลัง” วันที่ 29 เมษายน ค.ศ.2015 ซึ่งเป็นวันที่กษัตริย์ซาลมานออกประกาศช๊อคผู้คนทั้งซาอุดิอารเบีย และตะวันออกกลาง และที่อาจจะช็อคมากกว่าตะวันออกกลางคือ ที่ทำเนียบขาวของอเมริกา เช้ามืดของวันที่ 29 เมษายน ค.ศ.2015 กษัตริย์ซาลมาน ออกประกาศ ปลดมงกุฏราชกุมารลำดับ 1 คือ เจ้าชายมุคริน ออกจากตำแหน่ง โดยไม่ให้เหตุผลและ แต่งตั้งให้ เจ้าชาย บิน นาเยฟ ขึ้นเป็นมงกุฏราชกุมารลำดับ 1 แทน พร้อมกับแต่งตั้งเจ้าชาย บิน ซาลมาน ลูกชาย วัยไม่ถึง 30 ของกษัตริย์ซาลมาน ให้เป็นมงกฏราชกุมารลำดับ 2 พร้อมกับให้ดูแลกิจการน้ำมันของซาอุดิอารเบียอีกด้วย ข่าวนี้ ทำให้ได้เห็นฝรั่งเล่นงิ้วเต็มทางเดินในทำเนียบที่วอชิงตัน อันที่จริงอเมริกาน่าจะพอใจ ที่ได้บิน นาเนฟ ที่อเมริกาชื่นชมนักหนาว่าปราบพวกบิน ลาเดน จนหดหายหมดไปจากซาอุดิอารเบีย แต่ทำไมข่าวนี้ทำให้อเมริกาออกงิ้ว แถมเป็นงิ้วใบ้ ออกท่า แต่ไม่ออกเสียงให้คนนอกทำเนียบได้ยินมากนัก สงสัยอะไรคงจุกอยู่ในอกจนพูดไม่ออก ที่จุกอกอเมริกา น่าจะเป็นการตั้งไก่อ่อนมาเป็นมงกุฏราชกุมารลำดับ 2 นั่นแหละ อเมริการู้นิสัยซาอุดิอารเบียดีว่า มักจะมีเรื่องต่อว่า เพื่อต่อรอง หรือประท้วงอเมริกาเสมอ แต่อเมริกา ที่เบ่งได้กับทั้งโลก แต่เบ่งไม่ออกกับซาอุดิอารเบียหรอกครับ การเปลี่ยนตัวมงกุฏราชกุมาร โดยเอาลูกชายขึ้นมาเป็นมงกุฏราชกุมารอันดับ 2 คุมทั้งกลาโหม เป็น “เกม” ที่กษัตริย์ซัลมานกำลัง “เล่น” ใส่อเมริกา ที่ช่วงนั่น ประมาณเดือนมีนา เมษา ถ้าจำกันได้ อเมริกาพยายามที่จะสรุปเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ท่ามกลางเสียงค้านมาจากรอบทิศ โดยเฉพาะ จากซาอุดิอารเบียและอิสราเอล เพราะจะทำให้อิหร่านติดปีก ได้เปรียบคู่แข่งทั้ง 2 ในตะวันออกกลาง ทั้งซาอุ ทั้งอิสราเอล ประสานเสียงประท้วงใบตองแห้ง แต่ใบตองแห้งทำไขสือ ซาอุดิอารเบีย จึงประท้วง หรือประชด ด้วยการแต่งตั้งลูกชายวัยละอ่อนมานั่งคุมอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญของซาอุดิอา รเบีย โดย ” ไม่ปรึกษา” อเมริกา มึงไม่ฟังกู กูก็ไม่ฟังมึง แน่จริงๆ มีน้ำมันมาก ทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด ไม่ถูกด่า แต่ในฐานะพี่เบิ้มใบตองแห้ง จะให้คนขี่อูฐมาขู่แฟดจนชาวโลกหัวร่อเย้ย คงเสียหน้าเอาเรื่อง อเมริกาก็เลยต้องตอบโต้บ้าง ในระดับกำลังดีว่า ซาอุดิอารเบีย กำลังลงเหว จากการตัดสินใจของตัวเอง น่าเอ็นดูนะครับ ด่ากลับ ได้เจ็บจัง ฮาชะมัด สรุปว่า ข่าวลือในช่วงปลายเมษายนต่อต้นพฤษภาคม เกี่ยวกับราชวงศ์ และ เรื่องการถล่มเยเมนของซาอุดิอารเบีย น่าจะเป็นสงครามน้ำลาย ระหว่าง คู่รัก คู่ขุด (น้ำมัน) แต่ข่าวลือชุด 2 ที่ออกมาช่วงปลายเดือนกันยายน เกี่ยวกับเรื่อง จะทำการปฏิวัติโค่นกษัตริย์ซัลมานบ้าง เรื่องพวกราชวงศ์เองทำหนังสือประท้วงกษัตริย์ ไม่พอใจการแต่งตั้งลูกชาย ไม่พอใจเรื่องนโยบายน้ำมัน ไม่พอใจเรื่องรบในเยเมนที่ไม่เห็นทางว่าชนะ ฯลฯ ข่าวลือชุดนี้ต่างหาก ที่น่าสนใจ และบอกเล่า หลายอย่าง เกี่ยวกับสภาพของอเมริกา และซาอุดิอารเบีย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมทางหลวง ปรับแผนเปิดทดลองใช้มอเตอร์เวย์ M6
    ช่วงบางปะอิน–นครราชสีมา เร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิม
    รองรับการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569
    .
    เปิดให้ใช้บริการฟรี ระหว่างวันที่
    26 ธันวาคม 2568 – 5 มกราคม 2569 รวม 11 วัน
    โดยช่วงบางปะอิน–ปากช่อง เปิดสลับทิศทางการเดินรถ
    ขาออกจากกรุงเทพฯ 26 ธ.ค. 68 – 1 ม.ค. 69
    ขาเข้ากรุงเทพฯ 2 ม.ค. 69 – 5 ม.ค. 69
    .
    ขณะที่ช่วงปากช่อง–นครราชสีมา
    เปิดให้สัญจรได้ 2 ทิศทาง ตลอด 24 ชั่วโมง
    อนุญาตเฉพาะรถยนต์ 4 ล้อ
    กำหนดความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม.
    .
    กรมทางหลวงขอความร่วมมือผู้ใช้ทาง
    ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจร
    เพื่อความปลอดภัยตลอดการเดินทาง
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122117
    .
    #News1live #News1 #มอเตอร์เวย์M6 #ปีใหม่2569 #เดินทางภาคอีสาน
    กรมทางหลวง ปรับแผนเปิดทดลองใช้มอเตอร์เวย์ M6 ช่วงบางปะอิน–นครราชสีมา เร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิม รองรับการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 . เปิดให้ใช้บริการฟรี ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2568 – 5 มกราคม 2569 รวม 11 วัน โดยช่วงบางปะอิน–ปากช่อง เปิดสลับทิศทางการเดินรถ ขาออกจากกรุงเทพฯ 26 ธ.ค. 68 – 1 ม.ค. 69 ขาเข้ากรุงเทพฯ 2 ม.ค. 69 – 5 ม.ค. 69 . ขณะที่ช่วงปากช่อง–นครราชสีมา เปิดให้สัญจรได้ 2 ทิศทาง ตลอด 24 ชั่วโมง อนุญาตเฉพาะรถยนต์ 4 ล้อ กำหนดความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. . กรมทางหลวงขอความร่วมมือผู้ใช้ทาง ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อความปลอดภัยตลอดการเดินทาง . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122117 . #News1live #News1 #มอเตอร์เวย์M6 #ปีใหม่2569 #เดินทางภาคอีสาน
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจ สภ.บางพลีน้อย อายัดตัวคนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ สอบปากคำ หลังเกิดอุบัติเหตุดัมพ์กระบะท้ายยกขึ้นชนสะพานลอย บนถนนบางนา-ตราด กม.34 ส่งผลให้คานสะพานขาดหล่นทับรถยนต์ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
    .
    เหตุเกิดช่วงกลางวันของวันที่ 18 ธ.ค. โดยคานสะพานลอยถล่มลงมาทับรถบรรทุกพ่วงขนดิน และรถกระบะบรรทุกไข่ ทำให้นายสังเวียน อายุ 59 ปี ผู้ขับขี่รถกระบะบรรทุกไข่ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคนขับรถบรรทุกพ่วงได้รับบาดเจ็บและถูกนำส่งโรงพยาบาล
    .
    จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบว่ารถบรรทุกพ่วงมีการยกดัมพ์กระบะขึ้นระหว่างขับขี่ ก่อนจะชนโครงสร้างสะพานลอยจนพังถล่ม ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการและกรมทางหลวงอยู่ระหว่างเร่งเคลื่อนย้ายซากสะพาน พร้อมแนะนำประชาชนเลี่ยงเส้นทาง และเตรียมซ่อมแซมความเสียหายโดยเร็ว
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000121889
    .
    #News1live #News1 #อุบัติเหตุ #สะพานลอยถล่ม #บางนาตราด #สมุทรปราการ #ตำรวจสอบสวน
    ตำรวจ สภ.บางพลีน้อย อายัดตัวคนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ สอบปากคำ หลังเกิดอุบัติเหตุดัมพ์กระบะท้ายยกขึ้นชนสะพานลอย บนถนนบางนา-ตราด กม.34 ส่งผลให้คานสะพานขาดหล่นทับรถยนต์ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย . เหตุเกิดช่วงกลางวันของวันที่ 18 ธ.ค. โดยคานสะพานลอยถล่มลงมาทับรถบรรทุกพ่วงขนดิน และรถกระบะบรรทุกไข่ ทำให้นายสังเวียน อายุ 59 ปี ผู้ขับขี่รถกระบะบรรทุกไข่ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคนขับรถบรรทุกพ่วงได้รับบาดเจ็บและถูกนำส่งโรงพยาบาล . จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบว่ารถบรรทุกพ่วงมีการยกดัมพ์กระบะขึ้นระหว่างขับขี่ ก่อนจะชนโครงสร้างสะพานลอยจนพังถล่ม ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการและกรมทางหลวงอยู่ระหว่างเร่งเคลื่อนย้ายซากสะพาน พร้อมแนะนำประชาชนเลี่ยงเส้นทาง และเตรียมซ่อมแซมความเสียหายโดยเร็ว . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000121889 . #News1live #News1 #อุบัติเหตุ #สะพานลอยถล่ม #บางนาตราด #สมุทรปราการ #ตำรวจสอบสวน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 466 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 8
    “ข่าวลือ ข่าวลวง”

    ตอน 8

    เยเมน เป็นเหมือนหนามตำตีน ซาอุดิอารเบียมาตลอดเวลากว่า 70 ปีมาแล้ว

    อิบน์ ซาอูด เคยยกพลไปทำสงครามกับเยเมน เมื่อปี ค.ศ.1934 กองทัพซาอุ ยึดพื้นที่ริมทะเลแดงได้ แต่ไม่สามารถยึดพื้นที่ตามแนวภูเขาและตัวเมืองชั้นในได้สัญญาสงบศึกระหว่าง 2 ประเทศ ที่ทำขึ้น ทำให้เยเมนต้องเสียหลายเมืองตามแนวเขตแดนให้แก่ซาอุดิอารเบีย และทำให้ขบวนการทวงดินแดนของเยเมนไม่เคยหมดไป

    เมื่อตอนปี ค.ศ.1960 ซาอุ สนับสนุนราชวงศ์เซดี ที่ปกครองเยเมน ในการต่อสู้กับฝ่ายอียิปต์ ที่ให้การสนับสนุนขบวนการเป็นสาธารณรัฐของเยเมน ที่ประกาศว่า จะโค่นล้มระบบกษัตริย์ทั้งคาบสมุทรอารเบีย

    แต่พอถึงเดือนมีนาคมปีนี้ (2015) ฝ่ายซาอุ ดันยิงจรวดเข้าถล่มกลุ่มฮูตติ ที่เป็นพวกกับกบฏเซดี ซึ่งกำลังรุกเข้าไปครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในเยเมนได้ และขับไล่รัฐบาลเยเมนที่พวกซาอุดิอารเบียสนับสนุน พ่ายแพ้หนีออกไปจากเมืองซานะ เข้าไปพึ่งใบบุญของซาอุดิอารเบีย ตั้งแต่ปีที่แล้ว

    โอ้ย วุ่นกันฉิบหาย…. อย่าเพิ่งงงนะครับ อ่านช้าๆ หลายหนก็ได้ เพราะนี่เรากำลังจะเข้าไปสู่จุดชี้ชะตา ของซาอุดิอารเบีย และก็อาจจะเป็นจุดชี้ชะตา ของอเมริกาด้วยก็ได้….

    เขาว่า ซาอุ ตัดสินใจส่งจรวดให้เยเมน เพียงเพราะฝ่ายซาอุไปได้ข่าวมาว่า พวกเซดีตกลงใจที่จะให้เส้นทางบินแก่อิหร่าน ที่จะบินตรงจากเตหะรานมาเยเมน และเยเมนยังตกลงใจที่จะให้อิหร่านใช้ท่าเรือฮูเดดาห์ Hudaydah ของเยเมน แถมกำลังมีการเจรจาจะซื้อน้ำมันราคาถูกระหว่างเยเมนกับอิหร่านอีกด้วย

    สรุปว่า เยเมนได้รับจรวด เพราะซาอุดิอารเบียประสาทกินเรื่องอิหร่าน

    เรื่องนี้ทำให้ซาอุ ออกแขกจริงๆ และไปรวบรวมเพื่อนขี่อูฐด้วยกัน ให้มาไล่ถล่มเยเมน นอกจากพรรคพวกแถวอ่าวแล้ว ยังมี จอร์แดน โมรอคโค และอิยิปต์บอกเอาด้วย แต่ที่น่าสนใจ โอมานและปากีสถาน เพื่อนเก่าบอก ไม่เอากับซาอุด้วย เออ น่าคิด

    สำหรับโอมาน เข้าใจว่าพยายามจะวางตัวเป็นกลาง เพราะยืนอยู่ใกล้ปากอิหร่านเหลือเกิน และยิ่งเป็นอิหร่านที่กำลังมาแรงเสียด้วย ก็ไม่แปลกเท่าไหร่ ที่โอมานจะทิ้งระยะห่างจากซาอุ

    แต่สำหรับปากีสถาน ซึ่งเคยว่าไงว่ากันกับอเมริกา และ อยู่ในบัญชี ประเภทสามารถรูดบัตรเติมเงินกับซาอุดิอารเบียได้มาตลอดนี่ … ยิ่งกว่าน่าสนใจ

    อเมริกาอ้างว่า ตัวเองให้การสนับสนุนซาอุในเรื่องยิงจรวดใส่เยเมนเฉพาะ ด้านงานข่าวกรอง และด้านสภาพพื้นที่ในเยเมน แม้ว่าทางริยาร์ดจะแจ้งทางอเมริกาล่วงหน้า ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะยิงจรวดลูกแรกใส่เยเมน

    การบุกเยเมนในครั้งนี้ของซาอุดิอารเบีย ถือเป็นนโยบายต่างประเทศเชิงรุก มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของซาอุดิอารเบีย ที่ผ่านๆมา ซาอุ จะทำอย่างไม่เปิดเผย แถมซ่อนไปซ้อนมาเสียอีกด้วยซ้ำ

    ในความเห็นของอเมริกา การที่ซาอุดิอารเบียยิงจรวดใส่เยเมนในครั้งนี้ นับว่าเป็นเรื่องอันตรายกับซาอุเองอย่างยิ่ง

    …อ้าว แล้วทำไมไม่เตือนเพื่อนรักกันเลย จริงๆ ต้องด่าด้วยซ้ำ อยู่ๆจะไปยิงจรวดใส่บ้านคนอื่นเขาง่ายๆ อย่างนี้ได้ไงวะ ที่แค่ยังไม่มีการเลือกตั้ง มึงยังเสือกปากเข้ามาไม่เลิก…
    และจนถึงทุกวันนี้ การสู้รบที่เยเมน ก็ไม่ได้เกิดผลดีกับซาอุแต่อย่างใด ต่างฝ่ายต่างยังยันกันอยู่ ฝ่ายซาอุกับพวกอ้างว่าคุมได้แล้วทางอากาศ ชายฝั่งและท่าเรือทางใต้ของเอเดน ขณะที่ฝ่ายซาดีฮูตติและพวก ก็อ้างว่าควบคุมทางเหนือของเยเมนได้เกือบหมดแล้ว

    และระหว่างที่ซาอุและพวกฟาดฟันยุ่งอยู่กับพวกฮูตติ จึงเป็นโอกาสให้อัลไดดาขยายฐานเข้าไปยึดได้เมืองใหญ่ ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นถิ่นเดิม ที่พ่อของบิน ลาเดน เคยอยู่มาก่อนที่จะอพยพไปอยู่ในซาอุดิอารเบีย

    สงครามเยเมน จึงเสมือนเป็นบททดสอบ บทแรกของกษัตริย์ซัลมาน เกี่ยวกับกิจการต่างประเทศ ที่อาจจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงของซาอุดิอารเบีย คาบสมุทรอารเบีย และรวมไปถึงภูมิภาคด้วย

    การรบเยเมน มีทั้งมิติเรื่องระหว่างนิกาย และเรื่องชิงความเป็นใหญ่ในภูมิภาค ระหว่างซาอุกับอิหร่าน แต่ที่สำคัญ ในความคิดของอเมริกา สงครามเยเมนยังเป็นสงครามที่แสดงให้เห็นว่า เทศกาลอาหรับสปริง ที่ซาอุดิอารเบียต่อต้านมาตลอดนั้น ยังไม่จบลง…

    อเมริกาเชื่อว่า การต่อสู้ที่เยเมน จะดึงฝ่ายอื่นๆเข้ามาร่วมรายการเพิ่มขึ้นอีก จะยืดเยื้อ และขยายวงออกไปนอกเยเมนถึงประเทศอื่นๆอีกด้วย …เป็นการวิจารณ์ ที่ทำให้มองเห็น เยเมน กำลังเป็นไฟลามทุ่ง….

    นอกจากนี้ อเมริกายังคาดการณ์ เหมือนเป็นลางร้ายอีกว่า เยเมนอาจจบลง อย่างเป็นจุดด่างของการครองราชย์ของกษัตริย์ซาลมาน และเป็นการจบสิ้นของความทะเยอทะยานของทั้ง บิน นาเยฟ และ บิน ซาลมาน ไม่ว่าทั้ง 2 คน จะได้มีส่วนร่วมกับสงครามนี้อย่างไร ชัดเจนว่า บิน ซาลมานที่เป็นรัฐมนตรีกลาโหม คงเป็นคนที่สูญเสียมากที่สุด ที่ผ่านมา เขาเป็นคนที่พ่อเชื่อใจมาก เป็นตัวแทนพ่อ ไปเยี่ยมรัสเซียและฝรั่งเศส และเมื่อกษัตริย์ซาลมาน ยกเลิกแผนที่จะไปพบโอบามา ที่แคมป์เดวิด เพื่อที่จะไปบอกกับโอบามา ว่าตนเองขุ่นเคืองขนาดไหน เกี่ยวกับเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่าน กษัตริย์ซัลมาน ก็ส่งเจ้าชายทั้ง 2 คน ทั้ง MBN และ MBS ไปพบโอบามาแทนตน ซึ่งโอบามา กลับพูดเร่งรัดเรื่องการปฏิรูปประเทศ แต่ก็สนับสนุนเรื่องสงครามกับเยเมน

    และในที่สุด เมื่อถึงเวลาที่กษัตริย์ซัลมานเดินทางไปวอชิงตันเข้าจริงๆ การสนทนากลับสั้น และฝ่ายซาอุกลับเป็นฝ่าย (ต้อง)ฟัง และการสนทนากลับเน้นไปที่ลูกมากกว่าพ่อ

    …แต่ โปรดสังเกตดูรูปภาพการสนทนา ระหว่างนายโอบามา กับ กษัตริย์ซาลมาน ที่ผมเอามาลงประกอบนิทานตอนนี้ ผมกลับเห็นสวนทาง กับไอ้เขี้ยวซีไอเอ ผมดูว่า ใบตองแห้งน่าจะเป็นฝ่าย ใกล้จะลงไปนั่งกับพื้น พนมมือพูดกับกษัตริย์ซาลมานร่อมร่อแล้ว เหมือนกับเป็นตัวปลอม คนละคน กับที่พูด กับคุณพี่ปูติน หรือ อาเฮียสี ช่วงวันประชุมสหประชาชาติ อย่างไม่น่าเชื่อ น่าสนใจนะครับ

    ไอ้เขี้ยวยาวซีไอเอ ยังบอกว่า บิน นาเยฟ อาจจะเป็นคนที่เข้ากับอเมริกันได้มากที่สุด ในจำนวนผู้ที่อยู่ในเส้นทางที่จะครองบัลลังค์ซาอูด และเขาอาจจะเป็นคนที่เก่งเรื่องข่าวกรองมากที่สุดในโลกตะวันออกกลาง ที่อเมริกาชื่นชม ถึงขนาดบอกว่า ฉลาดที่สุดในรุ่นเดียวกัน และต่างกับพ่อของเขา the Black Price และ บิน นาเยฟ ดูเหมือนจะพอทำงานร่วมกับอเมริกันได้ และเข้ากับโอบามาได้ดี ที่แคมป์เดวิด แต่ บิน นาเยฟ มีเรื่องต้องรับผิดชอบมากกว่าทุกคนในรุ่นเดียวกัน และมันจะมากขึ้น หลังเทศกาลอาหรับสปริงจบจริงๆ ในตะวันออกกลาง อเมริกาบอกว่า บิน นาเยฟ น่าจะรู้ดีว่า เขาต้องมีเพื่อนในยามนั้น…

    ที่เล่ามาทั้ง 8 ตอนนี้ สรุปได้ว่า เป็นรายการ ทั้งขู่เข็ญ ทั้งเปิดโปง ทั้งปิดปาก ของอเมริกา ต่อเพื่อนรัก ที่คบกันมากว่า 70 ปี อย่างน่าชื่นชมในฝีมือการเขียน
    ซีไอเอเก๋า เขี้ยวยาวเจ้าของบทความขู่สท้านโลก ตบท้ายว่า…. แต่วอชิงตัน จะทำใจยอมรับ อย่างไม่หลอกตัวเอง ไม่มีภาพลวงตา หรือเหมาเอาเอง ได้หรือไม่ว่า ซาอุดิอารเบียที่เป็นประเทศ ที่ยังปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชที่ใหญ่ที่สุด ที่ยังเหลืออยู่ในโลก กับราชวงศ์ซาอูด จะไม่มีวันยอมเปลี่ยนแปลง การปกครองประเทศของตน ไปจากแบบที่เป็นอยู่ปัจจุบันอย่างง่ายๆ และราชวงศ์ซาอูด ก็จะไม่มีวันตัดขาดกับกลุ่มวะฮาบีและเปลี่ยนแปลงความเชื่อของเขา และไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ซัลมาน เจ้าชายบิน นาเยฟ หรือเจ้าชายบิน ซาลมาน รวมทั้งราชวงศ์ที่เหลือทุกคน ต่างมีความเชื่อว่า พวกเขาอยู่รอดมาได้เช่นนี้กว่า 250 ปีแล้ว ท่ามกลางการเมืองที่ร้อนระอุ และรุนแรง และพวกเขาก็คิดว่า จะอยู่รอดแบบนี้ ต่อไป…

    ซาอุดิอารเบียและอเมริกา จะจับมือกันต่อไปไหม จะจับมือแบบอยู่รอดด้วยกัน หรือจับมือฉิบหายไปด้วยกัน หรือพวกเขาจะแยกทางกันเดิน และแยกทางกันเละ … รออ่านตอนสุดท้ายของนิทานเรื่องนี้ อย่าพลาดนะครับ!

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    24 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 8 “ข่าวลือ ข่าวลวง” ตอน 8 เยเมน เป็นเหมือนหนามตำตีน ซาอุดิอารเบียมาตลอดเวลากว่า 70 ปีมาแล้ว อิบน์ ซาอูด เคยยกพลไปทำสงครามกับเยเมน เมื่อปี ค.ศ.1934 กองทัพซาอุ ยึดพื้นที่ริมทะเลแดงได้ แต่ไม่สามารถยึดพื้นที่ตามแนวภูเขาและตัวเมืองชั้นในได้สัญญาสงบศึกระหว่าง 2 ประเทศ ที่ทำขึ้น ทำให้เยเมนต้องเสียหลายเมืองตามแนวเขตแดนให้แก่ซาอุดิอารเบีย และทำให้ขบวนการทวงดินแดนของเยเมนไม่เคยหมดไป เมื่อตอนปี ค.ศ.1960 ซาอุ สนับสนุนราชวงศ์เซดี ที่ปกครองเยเมน ในการต่อสู้กับฝ่ายอียิปต์ ที่ให้การสนับสนุนขบวนการเป็นสาธารณรัฐของเยเมน ที่ประกาศว่า จะโค่นล้มระบบกษัตริย์ทั้งคาบสมุทรอารเบีย แต่พอถึงเดือนมีนาคมปีนี้ (2015) ฝ่ายซาอุ ดันยิงจรวดเข้าถล่มกลุ่มฮูตติ ที่เป็นพวกกับกบฏเซดี ซึ่งกำลังรุกเข้าไปครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในเยเมนได้ และขับไล่รัฐบาลเยเมนที่พวกซาอุดิอารเบียสนับสนุน พ่ายแพ้หนีออกไปจากเมืองซานะ เข้าไปพึ่งใบบุญของซาอุดิอารเบีย ตั้งแต่ปีที่แล้ว โอ้ย วุ่นกันฉิบหาย…. อย่าเพิ่งงงนะครับ อ่านช้าๆ หลายหนก็ได้ เพราะนี่เรากำลังจะเข้าไปสู่จุดชี้ชะตา ของซาอุดิอารเบีย และก็อาจจะเป็นจุดชี้ชะตา ของอเมริกาด้วยก็ได้…. เขาว่า ซาอุ ตัดสินใจส่งจรวดให้เยเมน เพียงเพราะฝ่ายซาอุไปได้ข่าวมาว่า พวกเซดีตกลงใจที่จะให้เส้นทางบินแก่อิหร่าน ที่จะบินตรงจากเตหะรานมาเยเมน และเยเมนยังตกลงใจที่จะให้อิหร่านใช้ท่าเรือฮูเดดาห์ Hudaydah ของเยเมน แถมกำลังมีการเจรจาจะซื้อน้ำมันราคาถูกระหว่างเยเมนกับอิหร่านอีกด้วย สรุปว่า เยเมนได้รับจรวด เพราะซาอุดิอารเบียประสาทกินเรื่องอิหร่าน เรื่องนี้ทำให้ซาอุ ออกแขกจริงๆ และไปรวบรวมเพื่อนขี่อูฐด้วยกัน ให้มาไล่ถล่มเยเมน นอกจากพรรคพวกแถวอ่าวแล้ว ยังมี จอร์แดน โมรอคโค และอิยิปต์บอกเอาด้วย แต่ที่น่าสนใจ โอมานและปากีสถาน เพื่อนเก่าบอก ไม่เอากับซาอุด้วย เออ น่าคิด สำหรับโอมาน เข้าใจว่าพยายามจะวางตัวเป็นกลาง เพราะยืนอยู่ใกล้ปากอิหร่านเหลือเกิน และยิ่งเป็นอิหร่านที่กำลังมาแรงเสียด้วย ก็ไม่แปลกเท่าไหร่ ที่โอมานจะทิ้งระยะห่างจากซาอุ แต่สำหรับปากีสถาน ซึ่งเคยว่าไงว่ากันกับอเมริกา และ อยู่ในบัญชี ประเภทสามารถรูดบัตรเติมเงินกับซาอุดิอารเบียได้มาตลอดนี่ … ยิ่งกว่าน่าสนใจ อเมริกาอ้างว่า ตัวเองให้การสนับสนุนซาอุในเรื่องยิงจรวดใส่เยเมนเฉพาะ ด้านงานข่าวกรอง และด้านสภาพพื้นที่ในเยเมน แม้ว่าทางริยาร์ดจะแจ้งทางอเมริกาล่วงหน้า ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะยิงจรวดลูกแรกใส่เยเมน การบุกเยเมนในครั้งนี้ของซาอุดิอารเบีย ถือเป็นนโยบายต่างประเทศเชิงรุก มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของซาอุดิอารเบีย ที่ผ่านๆมา ซาอุ จะทำอย่างไม่เปิดเผย แถมซ่อนไปซ้อนมาเสียอีกด้วยซ้ำ ในความเห็นของอเมริกา การที่ซาอุดิอารเบียยิงจรวดใส่เยเมนในครั้งนี้ นับว่าเป็นเรื่องอันตรายกับซาอุเองอย่างยิ่ง …อ้าว แล้วทำไมไม่เตือนเพื่อนรักกันเลย จริงๆ ต้องด่าด้วยซ้ำ อยู่ๆจะไปยิงจรวดใส่บ้านคนอื่นเขาง่ายๆ อย่างนี้ได้ไงวะ ที่แค่ยังไม่มีการเลือกตั้ง มึงยังเสือกปากเข้ามาไม่เลิก… และจนถึงทุกวันนี้ การสู้รบที่เยเมน ก็ไม่ได้เกิดผลดีกับซาอุแต่อย่างใด ต่างฝ่ายต่างยังยันกันอยู่ ฝ่ายซาอุกับพวกอ้างว่าคุมได้แล้วทางอากาศ ชายฝั่งและท่าเรือทางใต้ของเอเดน ขณะที่ฝ่ายซาดีฮูตติและพวก ก็อ้างว่าควบคุมทางเหนือของเยเมนได้เกือบหมดแล้ว และระหว่างที่ซาอุและพวกฟาดฟันยุ่งอยู่กับพวกฮูตติ จึงเป็นโอกาสให้อัลไดดาขยายฐานเข้าไปยึดได้เมืองใหญ่ ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นถิ่นเดิม ที่พ่อของบิน ลาเดน เคยอยู่มาก่อนที่จะอพยพไปอยู่ในซาอุดิอารเบีย สงครามเยเมน จึงเสมือนเป็นบททดสอบ บทแรกของกษัตริย์ซัลมาน เกี่ยวกับกิจการต่างประเทศ ที่อาจจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงของซาอุดิอารเบีย คาบสมุทรอารเบีย และรวมไปถึงภูมิภาคด้วย การรบเยเมน มีทั้งมิติเรื่องระหว่างนิกาย และเรื่องชิงความเป็นใหญ่ในภูมิภาค ระหว่างซาอุกับอิหร่าน แต่ที่สำคัญ ในความคิดของอเมริกา สงครามเยเมนยังเป็นสงครามที่แสดงให้เห็นว่า เทศกาลอาหรับสปริง ที่ซาอุดิอารเบียต่อต้านมาตลอดนั้น ยังไม่จบลง… อเมริกาเชื่อว่า การต่อสู้ที่เยเมน จะดึงฝ่ายอื่นๆเข้ามาร่วมรายการเพิ่มขึ้นอีก จะยืดเยื้อ และขยายวงออกไปนอกเยเมนถึงประเทศอื่นๆอีกด้วย …เป็นการวิจารณ์ ที่ทำให้มองเห็น เยเมน กำลังเป็นไฟลามทุ่ง…. นอกจากนี้ อเมริกายังคาดการณ์ เหมือนเป็นลางร้ายอีกว่า เยเมนอาจจบลง อย่างเป็นจุดด่างของการครองราชย์ของกษัตริย์ซาลมาน และเป็นการจบสิ้นของความทะเยอทะยานของทั้ง บิน นาเยฟ และ บิน ซาลมาน ไม่ว่าทั้ง 2 คน จะได้มีส่วนร่วมกับสงครามนี้อย่างไร ชัดเจนว่า บิน ซาลมานที่เป็นรัฐมนตรีกลาโหม คงเป็นคนที่สูญเสียมากที่สุด ที่ผ่านมา เขาเป็นคนที่พ่อเชื่อใจมาก เป็นตัวแทนพ่อ ไปเยี่ยมรัสเซียและฝรั่งเศส และเมื่อกษัตริย์ซาลมาน ยกเลิกแผนที่จะไปพบโอบามา ที่แคมป์เดวิด เพื่อที่จะไปบอกกับโอบามา ว่าตนเองขุ่นเคืองขนาดไหน เกี่ยวกับเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่าน กษัตริย์ซัลมาน ก็ส่งเจ้าชายทั้ง 2 คน ทั้ง MBN และ MBS ไปพบโอบามาแทนตน ซึ่งโอบามา กลับพูดเร่งรัดเรื่องการปฏิรูปประเทศ แต่ก็สนับสนุนเรื่องสงครามกับเยเมน และในที่สุด เมื่อถึงเวลาที่กษัตริย์ซัลมานเดินทางไปวอชิงตันเข้าจริงๆ การสนทนากลับสั้น และฝ่ายซาอุกลับเป็นฝ่าย (ต้อง)ฟัง และการสนทนากลับเน้นไปที่ลูกมากกว่าพ่อ …แต่ โปรดสังเกตดูรูปภาพการสนทนา ระหว่างนายโอบามา กับ กษัตริย์ซาลมาน ที่ผมเอามาลงประกอบนิทานตอนนี้ ผมกลับเห็นสวนทาง กับไอ้เขี้ยวซีไอเอ ผมดูว่า ใบตองแห้งน่าจะเป็นฝ่าย ใกล้จะลงไปนั่งกับพื้น พนมมือพูดกับกษัตริย์ซาลมานร่อมร่อแล้ว เหมือนกับเป็นตัวปลอม คนละคน กับที่พูด กับคุณพี่ปูติน หรือ อาเฮียสี ช่วงวันประชุมสหประชาชาติ อย่างไม่น่าเชื่อ น่าสนใจนะครับ ไอ้เขี้ยวยาวซีไอเอ ยังบอกว่า บิน นาเยฟ อาจจะเป็นคนที่เข้ากับอเมริกันได้มากที่สุด ในจำนวนผู้ที่อยู่ในเส้นทางที่จะครองบัลลังค์ซาอูด และเขาอาจจะเป็นคนที่เก่งเรื่องข่าวกรองมากที่สุดในโลกตะวันออกกลาง ที่อเมริกาชื่นชม ถึงขนาดบอกว่า ฉลาดที่สุดในรุ่นเดียวกัน และต่างกับพ่อของเขา the Black Price และ บิน นาเยฟ ดูเหมือนจะพอทำงานร่วมกับอเมริกันได้ และเข้ากับโอบามาได้ดี ที่แคมป์เดวิด แต่ บิน นาเยฟ มีเรื่องต้องรับผิดชอบมากกว่าทุกคนในรุ่นเดียวกัน และมันจะมากขึ้น หลังเทศกาลอาหรับสปริงจบจริงๆ ในตะวันออกกลาง อเมริกาบอกว่า บิน นาเยฟ น่าจะรู้ดีว่า เขาต้องมีเพื่อนในยามนั้น… ที่เล่ามาทั้ง 8 ตอนนี้ สรุปได้ว่า เป็นรายการ ทั้งขู่เข็ญ ทั้งเปิดโปง ทั้งปิดปาก ของอเมริกา ต่อเพื่อนรัก ที่คบกันมากว่า 70 ปี อย่างน่าชื่นชมในฝีมือการเขียน ซีไอเอเก๋า เขี้ยวยาวเจ้าของบทความขู่สท้านโลก ตบท้ายว่า…. แต่วอชิงตัน จะทำใจยอมรับ อย่างไม่หลอกตัวเอง ไม่มีภาพลวงตา หรือเหมาเอาเอง ได้หรือไม่ว่า ซาอุดิอารเบียที่เป็นประเทศ ที่ยังปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชที่ใหญ่ที่สุด ที่ยังเหลืออยู่ในโลก กับราชวงศ์ซาอูด จะไม่มีวันยอมเปลี่ยนแปลง การปกครองประเทศของตน ไปจากแบบที่เป็นอยู่ปัจจุบันอย่างง่ายๆ และราชวงศ์ซาอูด ก็จะไม่มีวันตัดขาดกับกลุ่มวะฮาบีและเปลี่ยนแปลงความเชื่อของเขา และไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ซัลมาน เจ้าชายบิน นาเยฟ หรือเจ้าชายบิน ซาลมาน รวมทั้งราชวงศ์ที่เหลือทุกคน ต่างมีความเชื่อว่า พวกเขาอยู่รอดมาได้เช่นนี้กว่า 250 ปีแล้ว ท่ามกลางการเมืองที่ร้อนระอุ และรุนแรง และพวกเขาก็คิดว่า จะอยู่รอดแบบนี้ ต่อไป… ซาอุดิอารเบียและอเมริกา จะจับมือกันต่อไปไหม จะจับมือแบบอยู่รอดด้วยกัน หรือจับมือฉิบหายไปด้วยกัน หรือพวกเขาจะแยกทางกันเดิน และแยกทางกันเละ … รออ่านตอนสุดท้ายของนิทานเรื่องนี้ อย่าพลาดนะครับ! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 24 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชวนคุณผู้อ่าน ลองพิจารณาตาม ช่วงนี้ได้ยินเสียงรถประชาสัมพันธ์เลือกตั้ง อบต. แล้วมีข้อความที่ใช้ภาษาศาสตร์มาพิจารณาดังนี้
    "ส่งเสริม" เรื่องโน้นนี้ หลายๆ ส่งเสริม คำว่า "ส่งเสริม" ตามความเห็นผม มันน้ำหนักน้อยกว่าจะทำโน้นนี้ ในช่วงเวลาใด แสดงว่านโยบายกับวิสัยทัศน์ ผู้สมัครเขายังไม่เข้าใจ หรือพูดออกไปให้ดูมากๆ ไม่มีใครจำได้หรอก เมื่อไรหนอผู้สมัครจะบอกว่าตัวเองจะทำอะไรในเวลาปีที่ หนึ่ง สอง สาม และจะทำประมาณอย่างไร ไม่ใช่มีแต่รูปกับเบอร์

    เข้าเรื่อง "ส่งเสริม" หากผู้ปกครองเด็ก บอกส่งเสริม คือถ้าเด็กสนใจกีฬาและหวังแข่งขัน หากผู้ปกครองมีกำลังสนับสนุน ก็ส่งเสริมได้ แต่ถ้าบอกส่งเสริมให้เรียนสูงๆ แต่เด็ก ไม่เรียน ไม่ชอบกีฬา ไม่ชอบเล่นเครื่องดนตรี ปากบอกส่งเสริมไป ก็ไม่เกิดชิ้นงาน เห็นภาพใช่ไหมครับ ส่งเสริม แต่ไม่มีชาวบ้านเริ่มก่อน ไม่มีนโยบายส่งงบฉีดวัคซีนกันโรคระบาด ต่อให้ส่งเสริม มันก็เกิดไม่ได้

    นโยบายส่งเสริมสุขภาพชุมชน แต่รถแห่เปิดเสียงดังมากๆ เกินพอดี แล้วจะไม่เรียกว่าเห็นแก่ประโยชน์ตน ไม่คำนึงถึงระดับเสียงเดซิเบล เกินความปลอดภัยหรือ
    ชวนคุณผู้อ่าน ลองพิจารณาตาม ช่วงนี้ได้ยินเสียงรถประชาสัมพันธ์เลือกตั้ง อบต. แล้วมีข้อความที่ใช้ภาษาศาสตร์มาพิจารณาดังนี้ "ส่งเสริม" เรื่องโน้นนี้ หลายๆ ส่งเสริม คำว่า "ส่งเสริม" ตามความเห็นผม มันน้ำหนักน้อยกว่าจะทำโน้นนี้ ในช่วงเวลาใด แสดงว่านโยบายกับวิสัยทัศน์ ผู้สมัครเขายังไม่เข้าใจ หรือพูดออกไปให้ดูมากๆ ไม่มีใครจำได้หรอก เมื่อไรหนอผู้สมัครจะบอกว่าตัวเองจะทำอะไรในเวลาปีที่ หนึ่ง สอง สาม และจะทำประมาณอย่างไร ไม่ใช่มีแต่รูปกับเบอร์ เข้าเรื่อง "ส่งเสริม" หากผู้ปกครองเด็ก บอกส่งเสริม คือถ้าเด็กสนใจกีฬาและหวังแข่งขัน หากผู้ปกครองมีกำลังสนับสนุน ก็ส่งเสริมได้ แต่ถ้าบอกส่งเสริมให้เรียนสูงๆ แต่เด็ก ไม่เรียน ไม่ชอบกีฬา ไม่ชอบเล่นเครื่องดนตรี ปากบอกส่งเสริมไป ก็ไม่เกิดชิ้นงาน เห็นภาพใช่ไหมครับ ส่งเสริม แต่ไม่มีชาวบ้านเริ่มก่อน ไม่มีนโยบายส่งงบฉีดวัคซีนกันโรคระบาด ต่อให้ส่งเสริม มันก็เกิดไม่ได้ นโยบายส่งเสริมสุขภาพชุมชน แต่รถแห่เปิดเสียงดังมากๆ เกินพอดี แล้วจะไม่เรียกว่าเห็นแก่ประโยชน์ตน ไม่คำนึงถึงระดับเสียงเดซิเบล เกินความปลอดภัยหรือ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิธีเปลี่ยนเข็มสปาร์คเตาแก็ส
    ซื้อเข็มจากช้อปปี้ จากจีน ไทยไม่มีขายเดี่ยว
    ยอมตัดสายแก๊สตรงหางปลาไหลเข้าเตา
    แล้วเอามาแกะตัวยึดเข็ม ต้องใช้ไขควงปากแบนงัดตัวเขี้ยวยึดก่อน แล้วกว้างพองัดเข็มออกมาถอดเปลี่ยน

    https://youtu.be/nSCFpu8YrX4?si=-5ZTk4UAEa9bLKmc
    วิธีเปลี่ยนเข็มสปาร์คเตาแก็ส ซื้อเข็มจากช้อปปี้ จากจีน ไทยไม่มีขายเดี่ยว ยอมตัดสายแก๊สตรงหางปลาไหลเข้าเตา แล้วเอามาแกะตัวยึดเข็ม ต้องใช้ไขควงปากแบนงัดตัวเขี้ยวยึดก่อน แล้วกว้างพองัดเข็มออกมาถอดเปลี่ยน https://youtu.be/nSCFpu8YrX4?si=-5ZTk4UAEa9bLKmc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัว “จิรัฏฐ์” อดีต สส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน ระหว่างอุทธรณ์คดี ใช้ใบเกณฑ์ทหารหรือ สด.43 ปลอม วงเงินประกัน 1 แสนบาท หลังศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา
    .
    คดีดังกล่าวศาลชี้ชัดว่าจำเลยมีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอม แม้จำเลยจะให้การปฏิเสธและต่อสู้คดีมาโดยตลอด โดยคดีนี้มีพยานฝ่ายโจทก์เป็นเจ้าหน้าที่ทหารเข้าเบิกความหลายปาก
    .
    ภายหลังฟังคำพิพากษา จำเลยแสดงความผิดหวังต่อคำตัดสิน ก่อนทนายความยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ซึ่งศาลอนุญาตโดยไม่กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม
    .
    อ่านต่อ >>> https://news1live.com/detail/9680000121022
    .
    #News1live #News1 #ศาลอาญา #จิรัฏฐ์ #สด43 #ใบเกณฑ์ทหาร #คดีการเมือง
    ศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัว “จิรัฏฐ์” อดีต สส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน ระหว่างอุทธรณ์คดี ใช้ใบเกณฑ์ทหารหรือ สด.43 ปลอม วงเงินประกัน 1 แสนบาท หลังศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา . คดีดังกล่าวศาลชี้ชัดว่าจำเลยมีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอม แม้จำเลยจะให้การปฏิเสธและต่อสู้คดีมาโดยตลอด โดยคดีนี้มีพยานฝ่ายโจทก์เป็นเจ้าหน้าที่ทหารเข้าเบิกความหลายปาก . ภายหลังฟังคำพิพากษา จำเลยแสดงความผิดหวังต่อคำตัดสิน ก่อนทนายความยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ซึ่งศาลอนุญาตโดยไม่กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม . อ่านต่อ >>> https://news1live.com/detail/9680000121022 . #News1live #News1 #ศาลอาญา #จิรัฏฐ์ #สด43 #ใบเกณฑ์ทหาร #คดีการเมือง
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 3

    “ข่าวลือ ข่าวลวง”
    ตอน 3
    ในปี ค.ศ.1979 ราชวงศ์ซาอูดถูกท้าทาย จากการบุกยึดมัสยิดใหญ่ที่สุดในโลก ที่นครเมกกะ โดยกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง ที่เชื่อว่าวันสุดท้ายของความชั่วร้ายมาถึงแล้ว การต่อสู้เพื่อยึดเอามัสยิดกลับ ดำเนินอยู่หลายสัปดาห์ โดยฝ่ายราชวงศ์ใช้กองทัพ ที่อำนวยการโดยกระทรวงมหาดไทย และมีหน่วยคอมมานโดของฝรั่งเศส ที่ราชวงศ์จ้างไว้เป็นพิเศษคอยช่วยเหลือ รวมทั้งมีการใช้อาวุธเคมีด้วย ฝ่ายราชวงศ์จึงยึดมัสยิดใหญ่กลับคืนมาได้
    รายการท้าทายนี้ ทำให้ราชวงศ์และรัฐบาลซาอุเสียหน้าอย่างมาก และที่ทำให้อึกอักหนักขึ้น เมื่อผลการสอบสวนตัวการท้าทายทั้งหลาย กลายเป็นว่า หลายคนรู้จักดี กับรัฐมนตรีมหาดไทย the Black Prince และหลังจากการสอบสวน แม้ว่าหลายคนจะถูกกักขัง แต่ในที่สุด ด้วยคำแนะนำของฝ่ายศาสนาที่ใกล้ชิดกับรัฐมนตรีมหาดไทย พวกยึดมัสยิดก็ได้รับการปล่อยตัว
    The Black Prince ไม่หมองมัวจากเรื่องการบุกยึดมัสยิด คนที่ต้องรับผิดชอบกลับเป็นเจ้าชายอีกคน ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ว่าการนครเมกกะ อเมริกาปากยาวตามเคย บอกว่า เรื่องนี้ฝ่ายราชวงศ์แสดงความอ่อนแอ ยอมตามความต้องการของฝ่ายศาสนามากเกินไป และทำให้การปฏิรูปประเทศของซาอุดิอารเบีย ยังย่ำเท้าอยู่กับที่ หรือจะเดินถอยหลังเอาด้วยซ้ำ
    และเมื่อราชวงศ์เริ่มให้การสนับสนุนกับกลุ่มกองทัพอิสลามหัวรุนแรง ที่เริ่มปฏิบัติการณ์ในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะ เมื่อซาอุดิอารเบียร่วมมือกับอเมริกา สนับสนุนกองกำลังอาฟกัน มูจาฮีดีน ต่อสู้กับกองกำลังของสหภาพโซเวียตที่อาฟกานิสถาน ในช่วงปี ค.ศ.1979 – 1989 อเมริกาก็วิจารณ์อีกว่า ฝ่ายราชวงศ์นับวันจะยิ่งขยับไปใกล้กับฝ่ายศาสนามากขึ้นทุกที
    ….เออ อันนี้เอ็งไม่น่าพูดมากเลยนะ ก็จับมือเล่นด้วยกันไม่ใช่หรือ เขารู้กันทั้งนั้น….
    ในช่วงนั้น กษัตริย์ซาลมาน (ผู้ที่ปกครองซาอุดิ อารเบียในปัจจุบัน) รับหน้าที่เป็นผู้จัดหาทุนเป็นการภายใน ระหว่างราชวงศ์และพวกเศรษฐีซาอุทั้งหลาย ได้เงินเป็นหลายๆ สิบล้านเหรียญ เพื่อนำไปสนับสนุนกองกำลังมูจาฮิดีน ในการรบที่อาฟกานิสถาน รวมทั้งการรบของกองกำลังมุสลิมในบอสเนีย และปาเลสไตน์ด้วย
    …. การที่อเมริกาเอาเรื่องนี้ของราชวงศ์ซาอูดมาแฉ แสดงว่าอเมริกาน่าจะกำลังอาการหนัก เลยรีบประทับตราราชวงศ์ซาอูด ให้โลกเห็นพฤติกรรม จะได้หนีไปใช้ผงซักฟอกยี่ห้ออื่นยาก….
    และเมื่อ อุซามะ บิน ลาเดน ก่อตั้งกลุ่มอัลไคดา เจ้าชายนาเยฟเอง ก็นับเป็นมิตรที่ดีกับ บิน ลาเดน และเห็นว่า การที่โซเวียตพ่ายแพ้ถอยออกไปจากอาฟกานิสถานนั้น เป็นผลงานของ บิน ลาเดน ทีเดียว นาเยฟ มีความเห็นว่า ในตอนหลังที่มีการกล่าวหาว่า บิน ลาเดน เป็นผู้ก่อการร้ายนั้น มาจากการป้ายสีของอเมริกาทั้งสิ้น และ บิน ลาเดน ไม่มีความประสงค์ร้ายต่อซาอุดิอารเบีย หรือราชวงศ์ซาอูดแต่อย่างใด และก็เป็นความเห็น ที่ไม่ต่างกับความเห็นของราชวงศ์ซาอูด เองด้วย
    เมื่อ George Tenet ผู้อำนวยการซีไอเอ และเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านข่าวกรอง เตือนเจ้าชายนาเยฟว่า กลุ่มอัลไคดาสร้างอุโมงค์เครือข่ายใต้ดินอยู่เต็มซาอุดิ อารเบีย นาเยฟไม่เชื่อ เพราะนาเยฟ ไม่เคยวางใจการเข้ามาในซาอุดิอารเบีย ของอเมริกาเลยจนนิดเดียว นาเยฟ สุภาพกับเจ้าหน้าที่อเมริกันก็จริง แต่ส่วนใหญ่เขาไม่ให้ความร่วมมือกับอเมริกา
    เมื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายชีอะ วางระเบิดฐานทัพอเมริกาที่ Khobar Tower ที่เมือง Dhahran ในปี ค.ศ.1996 ทำให้มีเจ้าหน้าที่การบินตายไป 19 คน นาเยฟ ไม่ยอมบอกข้อมูลกับฝ่ายอเมริกันว่า ผู้ก่อการร้ายอาจมีส่วนเกี่ยวพัน กับอิหร่าน เขาอ้างว่า ทางวอชิงตันอาจนำข้อมูลนี้มาใช้อ้างในการกล่าวหาอิหร่าน และลากเอาซาอุดิอารเบีย เข้าสู่สงครามกับอิหร่านไปด้วย แต่ฝ่ายอเมริกันบอกว่า นาเยฟ คงเกลียดอเมริกันมากกว่า เกลียดอิหร่านเสียอีก
    ….นี่ก็เป็นการเขียนบทความ “ดักคอ” ซาอุดิอารเบีย ของซีไอเอเก๋าอีกรายการ ที่น่าสนใจ….
    อเมริกาบอกว่า นาเยฟ ยังไม่สนใจคำเตือนของฝ่ายอเมริกัน เกี่ยวกับเรื่อง
    อัลไคดาต่อไปอีกหลายปี แต่ในที่สุด จะไม่สนใจอีกต่อไป ไม่ได้แล้ว และคนที่ต้องมาจัดการเรื่องอัลไคดา ก็คือ บิน นาเยฟ หรือ MBN ลูกชายของ นาเยฟ นั่นเอง
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    19 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 3 “ข่าวลือ ข่าวลวง” ตอน 3 ในปี ค.ศ.1979 ราชวงศ์ซาอูดถูกท้าทาย จากการบุกยึดมัสยิดใหญ่ที่สุดในโลก ที่นครเมกกะ โดยกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง ที่เชื่อว่าวันสุดท้ายของความชั่วร้ายมาถึงแล้ว การต่อสู้เพื่อยึดเอามัสยิดกลับ ดำเนินอยู่หลายสัปดาห์ โดยฝ่ายราชวงศ์ใช้กองทัพ ที่อำนวยการโดยกระทรวงมหาดไทย และมีหน่วยคอมมานโดของฝรั่งเศส ที่ราชวงศ์จ้างไว้เป็นพิเศษคอยช่วยเหลือ รวมทั้งมีการใช้อาวุธเคมีด้วย ฝ่ายราชวงศ์จึงยึดมัสยิดใหญ่กลับคืนมาได้ รายการท้าทายนี้ ทำให้ราชวงศ์และรัฐบาลซาอุเสียหน้าอย่างมาก และที่ทำให้อึกอักหนักขึ้น เมื่อผลการสอบสวนตัวการท้าทายทั้งหลาย กลายเป็นว่า หลายคนรู้จักดี กับรัฐมนตรีมหาดไทย the Black Prince และหลังจากการสอบสวน แม้ว่าหลายคนจะถูกกักขัง แต่ในที่สุด ด้วยคำแนะนำของฝ่ายศาสนาที่ใกล้ชิดกับรัฐมนตรีมหาดไทย พวกยึดมัสยิดก็ได้รับการปล่อยตัว The Black Prince ไม่หมองมัวจากเรื่องการบุกยึดมัสยิด คนที่ต้องรับผิดชอบกลับเป็นเจ้าชายอีกคน ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ว่าการนครเมกกะ อเมริกาปากยาวตามเคย บอกว่า เรื่องนี้ฝ่ายราชวงศ์แสดงความอ่อนแอ ยอมตามความต้องการของฝ่ายศาสนามากเกินไป และทำให้การปฏิรูปประเทศของซาอุดิอารเบีย ยังย่ำเท้าอยู่กับที่ หรือจะเดินถอยหลังเอาด้วยซ้ำ และเมื่อราชวงศ์เริ่มให้การสนับสนุนกับกลุ่มกองทัพอิสลามหัวรุนแรง ที่เริ่มปฏิบัติการณ์ในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะ เมื่อซาอุดิอารเบียร่วมมือกับอเมริกา สนับสนุนกองกำลังอาฟกัน มูจาฮีดีน ต่อสู้กับกองกำลังของสหภาพโซเวียตที่อาฟกานิสถาน ในช่วงปี ค.ศ.1979 – 1989 อเมริกาก็วิจารณ์อีกว่า ฝ่ายราชวงศ์นับวันจะยิ่งขยับไปใกล้กับฝ่ายศาสนามากขึ้นทุกที ….เออ อันนี้เอ็งไม่น่าพูดมากเลยนะ ก็จับมือเล่นด้วยกันไม่ใช่หรือ เขารู้กันทั้งนั้น…. ในช่วงนั้น กษัตริย์ซาลมาน (ผู้ที่ปกครองซาอุดิ อารเบียในปัจจุบัน) รับหน้าที่เป็นผู้จัดหาทุนเป็นการภายใน ระหว่างราชวงศ์และพวกเศรษฐีซาอุทั้งหลาย ได้เงินเป็นหลายๆ สิบล้านเหรียญ เพื่อนำไปสนับสนุนกองกำลังมูจาฮิดีน ในการรบที่อาฟกานิสถาน รวมทั้งการรบของกองกำลังมุสลิมในบอสเนีย และปาเลสไตน์ด้วย …. การที่อเมริกาเอาเรื่องนี้ของราชวงศ์ซาอูดมาแฉ แสดงว่าอเมริกาน่าจะกำลังอาการหนัก เลยรีบประทับตราราชวงศ์ซาอูด ให้โลกเห็นพฤติกรรม จะได้หนีไปใช้ผงซักฟอกยี่ห้ออื่นยาก…. และเมื่อ อุซามะ บิน ลาเดน ก่อตั้งกลุ่มอัลไคดา เจ้าชายนาเยฟเอง ก็นับเป็นมิตรที่ดีกับ บิน ลาเดน และเห็นว่า การที่โซเวียตพ่ายแพ้ถอยออกไปจากอาฟกานิสถานนั้น เป็นผลงานของ บิน ลาเดน ทีเดียว นาเยฟ มีความเห็นว่า ในตอนหลังที่มีการกล่าวหาว่า บิน ลาเดน เป็นผู้ก่อการร้ายนั้น มาจากการป้ายสีของอเมริกาทั้งสิ้น และ บิน ลาเดน ไม่มีความประสงค์ร้ายต่อซาอุดิอารเบีย หรือราชวงศ์ซาอูดแต่อย่างใด และก็เป็นความเห็น ที่ไม่ต่างกับความเห็นของราชวงศ์ซาอูด เองด้วย เมื่อ George Tenet ผู้อำนวยการซีไอเอ และเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านข่าวกรอง เตือนเจ้าชายนาเยฟว่า กลุ่มอัลไคดาสร้างอุโมงค์เครือข่ายใต้ดินอยู่เต็มซาอุดิ อารเบีย นาเยฟไม่เชื่อ เพราะนาเยฟ ไม่เคยวางใจการเข้ามาในซาอุดิอารเบีย ของอเมริกาเลยจนนิดเดียว นาเยฟ สุภาพกับเจ้าหน้าที่อเมริกันก็จริง แต่ส่วนใหญ่เขาไม่ให้ความร่วมมือกับอเมริกา เมื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายชีอะ วางระเบิดฐานทัพอเมริกาที่ Khobar Tower ที่เมือง Dhahran ในปี ค.ศ.1996 ทำให้มีเจ้าหน้าที่การบินตายไป 19 คน นาเยฟ ไม่ยอมบอกข้อมูลกับฝ่ายอเมริกันว่า ผู้ก่อการร้ายอาจมีส่วนเกี่ยวพัน กับอิหร่าน เขาอ้างว่า ทางวอชิงตันอาจนำข้อมูลนี้มาใช้อ้างในการกล่าวหาอิหร่าน และลากเอาซาอุดิอารเบีย เข้าสู่สงครามกับอิหร่านไปด้วย แต่ฝ่ายอเมริกันบอกว่า นาเยฟ คงเกลียดอเมริกันมากกว่า เกลียดอิหร่านเสียอีก ….นี่ก็เป็นการเขียนบทความ “ดักคอ” ซาอุดิอารเบีย ของซีไอเอเก๋าอีกรายการ ที่น่าสนใจ…. อเมริกาบอกว่า นาเยฟ ยังไม่สนใจคำเตือนของฝ่ายอเมริกัน เกี่ยวกับเรื่อง อัลไคดาต่อไปอีกหลายปี แต่ในที่สุด จะไม่สนใจอีกต่อไป ไม่ได้แล้ว และคนที่ต้องมาจัดการเรื่องอัลไคดา ก็คือ บิน นาเยฟ หรือ MBN ลูกชายของ นาเยฟ นั่นเอง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 19 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • รูปหล่อสมเด็จเจ้าพะโคะ หลวงปู่ทวด วัดพะโคะ จ.สงขลา
    รูปหล่อสมเด็จเจ้าพะโคะ เนื้อตะกั่วกะไหล่ทอง หลวงปู่ทวด วัดพะโคะ จ.สงขลา // พระดีพิธีใหญ๋ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย **

    ** สมเด็จพะโคะ หรือหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเล พระเกจิอาจารย์ที่ประชาชนให้ความนับถือมากมาย วัดแห่งนี้คือที่จำพรรษาของสมเด็จพะโคะ หรือหลวงพ่อทวด ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็นชื่อวัดราชประดิษฐาน แต่ชาวบ้านก็ยังคงนิยมเรียกกันติดปากว่าวัดพะโคะอยู่อย่างนั้น **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    รูปหล่อสมเด็จเจ้าพะโคะ หลวงปู่ทวด วัดพะโคะ จ.สงขลา รูปหล่อสมเด็จเจ้าพะโคะ เนื้อตะกั่วกะไหล่ทอง หลวงปู่ทวด วัดพะโคะ จ.สงขลา // พระดีพิธีใหญ๋ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย ** ** สมเด็จพะโคะ หรือหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเล พระเกจิอาจารย์ที่ประชาชนให้ความนับถือมากมาย วัดแห่งนี้คือที่จำพรรษาของสมเด็จพะโคะ หรือหลวงพ่อทวด ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็นชื่อวัดราชประดิษฐาน แต่ชาวบ้านก็ยังคงนิยมเรียกกันติดปากว่าวัดพะโคะอยู่อย่างนั้น ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยังปากกล้า! รมต.เขมรออกมาดูแคลนกองทัพไทย อ้างหากไม่มีเครื่องบินรบ กองทัพไทยไม่ใช่คู่ต่อกรของทหารกัมพูชา
    .
    เขียว รามี รัฐมนตรีอาวุโสและประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กโจมตีการปฏิบัติการของไทย พร้อมยกย่องความกล้าหาญของทหารกัมพูชา และอ้างว่ากองทัพไทยจะยอมจำนน หากไม่ได้ใช้เครื่องบินขับไล่สนับสนุน
    .
    รมต.เขมรยังกล่าวหาว่า ไทยขาดประสบการณ์การทำสงคราม และจะเกิดความแตกแยกภายใน พร้อมปลุกระดมให้ทหารกัมพูชาเดินหน้าสู้ต่อไป ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนที่ยังตึงเครียด
    .
    ขณะเดียวกัน สื่อกัมพูชาบางสำนักยังเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน กล่าวหาไทยใช้อาวุธหนักโจมตีพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งฝ่ายไทยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และยึดหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120788
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพไทย #ข่าวต่างประเทศ #สงครามข้อมูลข่าวสาร
    ยังปากกล้า! รมต.เขมรออกมาดูแคลนกองทัพไทย อ้างหากไม่มีเครื่องบินรบ กองทัพไทยไม่ใช่คู่ต่อกรของทหารกัมพูชา . เขียว รามี รัฐมนตรีอาวุโสและประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กโจมตีการปฏิบัติการของไทย พร้อมยกย่องความกล้าหาญของทหารกัมพูชา และอ้างว่ากองทัพไทยจะยอมจำนน หากไม่ได้ใช้เครื่องบินขับไล่สนับสนุน . รมต.เขมรยังกล่าวหาว่า ไทยขาดประสบการณ์การทำสงคราม และจะเกิดความแตกแยกภายใน พร้อมปลุกระดมให้ทหารกัมพูชาเดินหน้าสู้ต่อไป ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนที่ยังตึงเครียด . ขณะเดียวกัน สื่อกัมพูชาบางสำนักยังเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน กล่าวหาไทยใช้อาวุธหนักโจมตีพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งฝ่ายไทยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และยึดหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120788 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพไทย #ข่าวต่างประเทศ #สงครามข้อมูลข่าวสาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปฏิบัติการซินดูร์ จีนใช้โอกาสทดสอบอาวุธกับขีปนาวุธและเครื่องบินรบที่สร้างโดยรัสเซียและฝรั่งเศส คลังแสงของปากีสถานเต็มไปด้วยยุทโธปกรณ์ของปักกิ่ง และมันถูกใช้ทดสอบกับเครื่องบินรบราฟาลของอินเดียและระบบป้องกันขีปนาวุธ S-400 เช่นเดียวกับอื่นๆ ในความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาก็เช่นกัน มันมอบโอกาสให้จีนวิเคราะห์ว่าจรวดและขีปนาวุธของพวกเขา มีประสิทธิภาพแค่ไหนในการต่อกรกับยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ตามรายงานของนิตยสารเดอะวีค สื่อมวลชนที่มีสำนักงานในนิวยอร์ก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000120797

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ปฏิบัติการซินดูร์ จีนใช้โอกาสทดสอบอาวุธกับขีปนาวุธและเครื่องบินรบที่สร้างโดยรัสเซียและฝรั่งเศส คลังแสงของปากีสถานเต็มไปด้วยยุทโธปกรณ์ของปักกิ่ง และมันถูกใช้ทดสอบกับเครื่องบินรบราฟาลของอินเดียและระบบป้องกันขีปนาวุธ S-400 เช่นเดียวกับอื่นๆ ในความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาก็เช่นกัน มันมอบโอกาสให้จีนวิเคราะห์ว่าจรวดและขีปนาวุธของพวกเขา มีประสิทธิภาพแค่ไหนในการต่อกรกับยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ตามรายงานของนิตยสารเดอะวีค สื่อมวลชนที่มีสำนักงานในนิวยอร์ก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000120797 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 432 มุมมอง 0 รีวิว
  • อธิบดีกรมศิลปากร ย้ำชัด “ปราสาทตาควาย” แม้ได้รับความเสียหายจากการสู้รบ ก็สามารถบูรณะซ่อมแซมกลับคืนมาได้ หากยังอยู่ภายใต้อธิปไตยของประเทศไทย พร้อมชี้ชัดว่าการใช้โบราณสถานเป็นที่มั่นทางทหาร ถือเป็นการละเมิดกติกาสากลอย่างร้ายแรง
    .
    อธิบดีกรมศิลป์ ระบุว่า ไทยเคยบูรณะโบราณสถานที่มีความซับซ้อนกว่ามาก เช่น ปราสาทพิมาย และพนมรุ้ง สำเร็จมาแล้วตั้งแต่กว่า 50 ปีก่อน ทั้งที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้าเท่าปัจจุบัน ยืนยันองค์ความรู้และศักยภาพของกรมศิลปากรสามารถฟื้นฟูปราสาทตาควายได้อย่างแน่นอน
    .
    พร้อมย้ำว่า หัวใจสำคัญที่สุดคือการรักษาผืนแผ่นดินและอธิปไตยของชาติ เพราะหากโบราณสถานอยู่นอกอธิปไตยไทย จะไม่สามารถเข้าดำเนินการบูรณะใด ๆ ได้
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000120506
    .
    #News1live #News1 #ปราสาทตาควาย #กรมศิลปากร #อธิปไตยไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #โบราณสถาน #ละเมิดกติกาสากล #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    อธิบดีกรมศิลปากร ย้ำชัด “ปราสาทตาควาย” แม้ได้รับความเสียหายจากการสู้รบ ก็สามารถบูรณะซ่อมแซมกลับคืนมาได้ หากยังอยู่ภายใต้อธิปไตยของประเทศไทย พร้อมชี้ชัดว่าการใช้โบราณสถานเป็นที่มั่นทางทหาร ถือเป็นการละเมิดกติกาสากลอย่างร้ายแรง . อธิบดีกรมศิลป์ ระบุว่า ไทยเคยบูรณะโบราณสถานที่มีความซับซ้อนกว่ามาก เช่น ปราสาทพิมาย และพนมรุ้ง สำเร็จมาแล้วตั้งแต่กว่า 50 ปีก่อน ทั้งที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้าเท่าปัจจุบัน ยืนยันองค์ความรู้และศักยภาพของกรมศิลปากรสามารถฟื้นฟูปราสาทตาควายได้อย่างแน่นอน . พร้อมย้ำว่า หัวใจสำคัญที่สุดคือการรักษาผืนแผ่นดินและอธิปไตยของชาติ เพราะหากโบราณสถานอยู่นอกอธิปไตยไทย จะไม่สามารถเข้าดำเนินการบูรณะใด ๆ ได้ . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000120506 . #News1live #News1 #ปราสาทตาควาย #กรมศิลปากร #อธิปไตยไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #โบราณสถาน #ละเมิดกติกาสากล #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • "หนึ่งหญิงสองชาย" ไวรัลสะใภ้มาเลเซีย

    กลายเป็นที่ฮือฮาแก่ชาวเน็ตมาเลเซีย เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Ekin Derahim (เอคิน เดราฮิม) ออกมาโพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ระบุว่า น้องสะใภ้ของตน ซึ่งมาจากรัฐตรังกานู แต่งงานกับพี่ชายอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นเวลา 1 ปี 1 เดือน และอยู่กินฉันสามีภรรยามา 3 ปีแล้ว แต่กลับพบว่าน้องสะใภ้ไปอยู่กับชายอื่น ที่แต่งงานด้วยกันที่จังหวัดสงขลา ประเทศไทย เป็นเวลา 1 ปี 1 เดือน โดยสลับไปอยู่บ้านชายอื่นที่บ้านเช่าในรัฐยะโฮร์ตอนกลางวัน เมื่อพี่ชายออกไปทำงาน แล้วกลับมาอยู่บ้านพี่ชายเวลากลางคืน ซึ่งห่างกัน 19 กิโลเมตร

    เธอกล่าวว่า แม้จะถูกจับได้ น้องสะใภ้ก็ยังคงหลอกลวงและเล่นเกมกับครอบครัวตน อีกทั้งยังไปแจ้งความเท็จใส่ร้าย กล่าวหาว่าไปรบกวน ส่งผลกระทบต่อครอบครัวอย่างหนัก ส่วนพี่ชายกลับเชื่อคำพูดของน้องสะใภ้ เพราะคอยอ้อนวอนและโทรศัพท์หาพี่ชายอยู่ตลอด ถามว่าทำไมตลอดระยะเวลา 1 ปี 1 เดือน น้องสะใภ้ถึงโกหกพี่ชายและครอบครัวโดยไม่พูดความจริงตั้งแต่แรก? ขอความกรุณาช่วยอธิษฐานให้พี่ชายกลับคืนสู่ครอบครัวด้วย ตอนนี้น้องสะใภ้ยังดื้อดึงไม่ยอมออกจากบ้านพี่ชาย และผ่านมาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จากสำนักงานศาสนาเลย

    โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์จากบรรดาชาวเน็ตมาเลเซียและวิจารณ์อย่างกว้างขวาง รวมทั้งสื่อมวลชนทั้งในมาเลเซียและต่างประเทศต่างนำเสนอข่าวนี้ เนื่องจากตามบทบัญญัติทางศาสนาอิสลามของมาเลเซีย แม้จะสามารถมีคู่สมรสได้มากกว่า 1 คน แต่ต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสคนแรก แต่ที่ผ่านมา คนที่มีความสัมพันธ์ซ้อนกันโดยคู่สมรสคนแรกไม่ยินยอม หรือไปมีคนรักใหม่โดยไม่อยากทำเรื่องหย่าให้ยุ่งยาก มักจะใช้วิธีข้ามพรมแดนไปประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดสงขลาและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบพิธีนิกะห์ เพื่อหลีกเลี่ยงการขออนุญาตแต่งงาน หรือหย่าร้างที่ไม่ได้รับการรับรองในมาเลเซีย

    กรมกิจการศาสนาอิสลามของรัฐกลันตัน ระบุเมื่อวันอาทิตย์ (14 ธ.ค.) ว่า ได้สอบปากคำหญิงรายดังกล่าวแล้ว ที่สำนักงานศาสนาเขตตันห์เมอราห์ เพื่อประกอบการสอบสวน ด้านกรมกิจการศาสนาแห่งรัฐตรังกานู กำลังอยู่ในระหว่างเรียกสองสามีภรรยามาชี้แจง ส่วนชาวเน็ตมาเลเซียวิจารณ์ว่าการแต่งงานลักษณะเช่นนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย และถือเป็นบาปต่อศาสนา

    อนึ่ง ตามกฎหมายครอบครัวอิสลามของมาเลเซีย หญิงชาวมุสลิมที่แต่งงานกับชายอื่นในขณะที่ยังมีสถานะสมรสตามกฎหมาย อาจต้องรับโทษทางอาญา ส่วนชายชาวมุสลิมต้องได้รับอนุญาตล่วงหน้าจากศาลชารีอะห์ หากไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับหลายพันริงกิต จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ

    #Newskit
    "หนึ่งหญิงสองชาย" ไวรัลสะใภ้มาเลเซีย กลายเป็นที่ฮือฮาแก่ชาวเน็ตมาเลเซีย เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Ekin Derahim (เอคิน เดราฮิม) ออกมาโพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ระบุว่า น้องสะใภ้ของตน ซึ่งมาจากรัฐตรังกานู แต่งงานกับพี่ชายอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นเวลา 1 ปี 1 เดือน และอยู่กินฉันสามีภรรยามา 3 ปีแล้ว แต่กลับพบว่าน้องสะใภ้ไปอยู่กับชายอื่น ที่แต่งงานด้วยกันที่จังหวัดสงขลา ประเทศไทย เป็นเวลา 1 ปี 1 เดือน โดยสลับไปอยู่บ้านชายอื่นที่บ้านเช่าในรัฐยะโฮร์ตอนกลางวัน เมื่อพี่ชายออกไปทำงาน แล้วกลับมาอยู่บ้านพี่ชายเวลากลางคืน ซึ่งห่างกัน 19 กิโลเมตร เธอกล่าวว่า แม้จะถูกจับได้ น้องสะใภ้ก็ยังคงหลอกลวงและเล่นเกมกับครอบครัวตน อีกทั้งยังไปแจ้งความเท็จใส่ร้าย กล่าวหาว่าไปรบกวน ส่งผลกระทบต่อครอบครัวอย่างหนัก ส่วนพี่ชายกลับเชื่อคำพูดของน้องสะใภ้ เพราะคอยอ้อนวอนและโทรศัพท์หาพี่ชายอยู่ตลอด ถามว่าทำไมตลอดระยะเวลา 1 ปี 1 เดือน น้องสะใภ้ถึงโกหกพี่ชายและครอบครัวโดยไม่พูดความจริงตั้งแต่แรก? ขอความกรุณาช่วยอธิษฐานให้พี่ชายกลับคืนสู่ครอบครัวด้วย ตอนนี้น้องสะใภ้ยังดื้อดึงไม่ยอมออกจากบ้านพี่ชาย และผ่านมาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จากสำนักงานศาสนาเลย โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์จากบรรดาชาวเน็ตมาเลเซียและวิจารณ์อย่างกว้างขวาง รวมทั้งสื่อมวลชนทั้งในมาเลเซียและต่างประเทศต่างนำเสนอข่าวนี้ เนื่องจากตามบทบัญญัติทางศาสนาอิสลามของมาเลเซีย แม้จะสามารถมีคู่สมรสได้มากกว่า 1 คน แต่ต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสคนแรก แต่ที่ผ่านมา คนที่มีความสัมพันธ์ซ้อนกันโดยคู่สมรสคนแรกไม่ยินยอม หรือไปมีคนรักใหม่โดยไม่อยากทำเรื่องหย่าให้ยุ่งยาก มักจะใช้วิธีข้ามพรมแดนไปประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดสงขลาและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบพิธีนิกะห์ เพื่อหลีกเลี่ยงการขออนุญาตแต่งงาน หรือหย่าร้างที่ไม่ได้รับการรับรองในมาเลเซีย กรมกิจการศาสนาอิสลามของรัฐกลันตัน ระบุเมื่อวันอาทิตย์ (14 ธ.ค.) ว่า ได้สอบปากคำหญิงรายดังกล่าวแล้ว ที่สำนักงานศาสนาเขตตันห์เมอราห์ เพื่อประกอบการสอบสวน ด้านกรมกิจการศาสนาแห่งรัฐตรังกานู กำลังอยู่ในระหว่างเรียกสองสามีภรรยามาชี้แจง ส่วนชาวเน็ตมาเลเซียวิจารณ์ว่าการแต่งงานลักษณะเช่นนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย และถือเป็นบาปต่อศาสนา อนึ่ง ตามกฎหมายครอบครัวอิสลามของมาเลเซีย หญิงชาวมุสลิมที่แต่งงานกับชายอื่นในขณะที่ยังมีสถานะสมรสตามกฎหมาย อาจต้องรับโทษทางอาญา ส่วนชายชาวมุสลิมต้องได้รับอนุญาตล่วงหน้าจากศาลชารีอะห์ หากไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับหลายพันริงกิต จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ #Newskit
    Love
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปราสาทตาควาย อยู่ให้เป็น-เย็นให้พอ-รอทวงคืน

    หลังจากที่ประเทศไทยต้องสูญเสียปราสาทตาควาย ชายแดนไทย-กัมพูชา อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ตามข้อตกลงหยุดยิงที่นำโดย นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เมื่อเที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา ผลจากทหารกัมพูชายึดตัวปราสาท แลมีทหารไทยหลายนายต้องสูญเสียเลือดเนื้อและชีวิตบนพื้นที่แห่งนี้ ผ่านไปกว่า 4 เดือน ในที่สุดวันนี้ที่รอคอยก็มาถึง 15 ธ.ค. ทหารไทยสามารถผลักดันทหารกัมพูชาออกจากบริเวณพื้นที่ตัวปราสาทตาควาย และเข้าควบคุมพื้นที่ได้แล้ว นับเป็นข่าวดีแก่คนไทยผู้รักชาติรักแผ่นดินทุกคน

    ที่ผ่านมาการทวงคืนปราสาทตาควายของกองทัพไทยเป็นไปได้ยาก เพราะตัวปราสาทตั้งอยู่บริเวณตีนเนิน 350 ซึ่งเป็นจุดสูงข่ม และมีทหารกัมพูชาคอยวางกำลังอยู่บนนั้น รวมทั้งการยิงสนับสนุนจากกัมพูชา ทั้งการใช้จรวด BM-21 และอาวุธอื่นๆ คอยระดมยิงใส่ทหารไทยไม่มีหยุด อีกทั้งทหารกัมพูชายังตั้งบังเกอร์มากมาย และวางทุ่นระเบิด คอยกันไม่ให้ทหารไทยแทรกซึมเข้าไป ทำให้ในช่วงที่มีข้อตกลงหยุดยิง ทหารไทยทำได้แค่วางกำลัง ห่างจากตัวปราสาทเพียง 30 เมตร ขณะที่ทหารกัมพูชากลับใช้ปราสาทตาควายเป็นฐานปฏิบัติการทางทหารอยู่ด้านใน พร้อมกับติดตั้งทุ่นระเบิดโดยรอบตัวปราสาท

    อย่างไรก็ตาม ผลของการปะทะครั้งล่าสุดระหว่างไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ทำให้ตัวปราสาทได้รับความเสียหาย แม้กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์ของกัมพูชาจะประท้วง แต่กองทัพบกไทยยืนยันว่า แม้อนุสัญญากรุงเฮก ค.ศ. 1954 จะห้ามโจมตีโบราณสถาน แต่ฝ่ายกัมพูชานำโบราณสถานไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร เช่น การตั้งฐานที่มั่น การควบคุมการปฏิบัติการ การเป็นจุดซุ่มยิง หรือใช้เป็นพื้นที่เตรียมการโจมตี เข้าข่ายเป็นพื้นที่ "สูญเสียความคุ้มครองชั่วคราว" ฝ่ายไทยจึงมีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะปกป้องภัยคุกคาม ตามความเหมาะสมและได้สัดส่วนตามหลักกติกาสากล เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้บีบบังคับ

    ส่วนความกังวลเกี่ยวกับตัวปราสาทที่ได้รับความเสียหาย นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร แสดงจุดยืนว่า แม้ไม่ควรมีโบราณสถานแห่งใดในโลก ได้รับความเสียหายจากสงคราม แต่เมื่อกัมพูชาละเลยกติกา เป็นธรรมดาที่ทางฝ่ายไทยต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร เป็นไปตามความจำเป็น ซึ่งก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงความเสียหายได้ แต่กรมศิลปากรยืนยันว่า สามารถบูรณะปราสาทตาควายหรือปราสาทใดๆ ที่เป็นของไทยได้อย่างแน่นอน และก่อนหน้านี้ปราสาทหินพนมรุ้ง ปราสาทหินพิมาย และปราสาทหินสด๊กก๊อกธม ที่มีความสลับซับซ้อน มีลวดลายอันวิจิตรมากกว่าปราสาทตาควาย ก็สามารถซ่อมกลับมาได้

    #Newskit
    ปราสาทตาควาย อยู่ให้เป็น-เย็นให้พอ-รอทวงคืน หลังจากที่ประเทศไทยต้องสูญเสียปราสาทตาควาย ชายแดนไทย-กัมพูชา อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ตามข้อตกลงหยุดยิงที่นำโดย นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เมื่อเที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา ผลจากทหารกัมพูชายึดตัวปราสาท แลมีทหารไทยหลายนายต้องสูญเสียเลือดเนื้อและชีวิตบนพื้นที่แห่งนี้ ผ่านไปกว่า 4 เดือน ในที่สุดวันนี้ที่รอคอยก็มาถึง 15 ธ.ค. ทหารไทยสามารถผลักดันทหารกัมพูชาออกจากบริเวณพื้นที่ตัวปราสาทตาควาย และเข้าควบคุมพื้นที่ได้แล้ว นับเป็นข่าวดีแก่คนไทยผู้รักชาติรักแผ่นดินทุกคน ที่ผ่านมาการทวงคืนปราสาทตาควายของกองทัพไทยเป็นไปได้ยาก เพราะตัวปราสาทตั้งอยู่บริเวณตีนเนิน 350 ซึ่งเป็นจุดสูงข่ม และมีทหารกัมพูชาคอยวางกำลังอยู่บนนั้น รวมทั้งการยิงสนับสนุนจากกัมพูชา ทั้งการใช้จรวด BM-21 และอาวุธอื่นๆ คอยระดมยิงใส่ทหารไทยไม่มีหยุด อีกทั้งทหารกัมพูชายังตั้งบังเกอร์มากมาย และวางทุ่นระเบิด คอยกันไม่ให้ทหารไทยแทรกซึมเข้าไป ทำให้ในช่วงที่มีข้อตกลงหยุดยิง ทหารไทยทำได้แค่วางกำลัง ห่างจากตัวปราสาทเพียง 30 เมตร ขณะที่ทหารกัมพูชากลับใช้ปราสาทตาควายเป็นฐานปฏิบัติการทางทหารอยู่ด้านใน พร้อมกับติดตั้งทุ่นระเบิดโดยรอบตัวปราสาท อย่างไรก็ตาม ผลของการปะทะครั้งล่าสุดระหว่างไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ทำให้ตัวปราสาทได้รับความเสียหาย แม้กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์ของกัมพูชาจะประท้วง แต่กองทัพบกไทยยืนยันว่า แม้อนุสัญญากรุงเฮก ค.ศ. 1954 จะห้ามโจมตีโบราณสถาน แต่ฝ่ายกัมพูชานำโบราณสถานไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร เช่น การตั้งฐานที่มั่น การควบคุมการปฏิบัติการ การเป็นจุดซุ่มยิง หรือใช้เป็นพื้นที่เตรียมการโจมตี เข้าข่ายเป็นพื้นที่ "สูญเสียความคุ้มครองชั่วคราว" ฝ่ายไทยจึงมีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะปกป้องภัยคุกคาม ตามความเหมาะสมและได้สัดส่วนตามหลักกติกาสากล เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้บีบบังคับ ส่วนความกังวลเกี่ยวกับตัวปราสาทที่ได้รับความเสียหาย นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร แสดงจุดยืนว่า แม้ไม่ควรมีโบราณสถานแห่งใดในโลก ได้รับความเสียหายจากสงคราม แต่เมื่อกัมพูชาละเลยกติกา เป็นธรรมดาที่ทางฝ่ายไทยต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร เป็นไปตามความจำเป็น ซึ่งก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงความเสียหายได้ แต่กรมศิลปากรยืนยันว่า สามารถบูรณะปราสาทตาควายหรือปราสาทใดๆ ที่เป็นของไทยได้อย่างแน่นอน และก่อนหน้านี้ปราสาทหินพนมรุ้ง ปราสาทหินพิมาย และปราสาทหินสด๊กก๊อกธม ที่มีความสลับซับซ้อน มีลวดลายอันวิจิตรมากกว่าปราสาทตาควาย ก็สามารถซ่อมกลับมาได้ #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 1

    “ข่าวลือ ข่าวลวง”
    ตอน 1
    เมื่อต้นเตือนตุลาคมนี้ (ค.ศ.2015) สื่ออิสราเอล ประเภทเกาะติดการเมืองและการทหาร ลงข่าวว่า กษัตริย์ซาลมาน ของซาอุดิอารเบีย ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล และมีข่าวว่า อาจเกิดการปฏิวัติภายในซาอุดิอารเบียด้วย เป็นข่าวสั้นๆ หลังจากนั้น ไม่มีข่าวคืบหน้า ส่วนสื่อตะวันตก และอัลจาซีรา ของการ์ต้า เล็กแต่แสบ ไม่แง้มปากออกมาเลย
    ข่าวเรื่องกษัตริย์ ซาอุป่วย กับข่าวปฏิวัติซาอุนี่ สื่อต่างประเทศ เล่นกันมาเป็นระรอก ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ปีนี้แล้ว เรื่องแบบนี่ไม่มีบังเอิญหรอก ครับ บทชั่วๆอย่างนี้ ไอ้ใบตองแห้งชอบใช้นัก อยู่ดีๆมีข่าวปล่อยแบบนี้ แปลว่า มันต้องมีแผนชั่วคิดอยู่ จะชั่วขนาดไหน ต้องตามกันหน่อย
    ขณะนี้ ในตะวันออกกลาง นอกเหนือจากการรบในซีเรีย ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างเข้มข้นแล้ว ประเทศที่จะเป็นตัวแปร ที่ไม่นับทางฝั่งของรัสเซีย ที่มีอิหร่าน ซีเรียจับมือร่วมกับบางส่วนของ อิรัค บางส่วนของเยเมน และอีก 2 กองกำลังติดอาวุธ คือ กลุ่มเฮสบอลเลาะห์ กับกลุ่มฮามาส แล้วซาอุดิ อารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่ ที่รักๆงอนๆกับอเมริกา เป็นประเทศที่เราต้องจับตาดูดีๆ การเป็น การป่วย การป่วน การปฏิวัติ รวมถึง การ “ไป” ไม่ว่า จะเป็น “ป” ไหนของซาอุดิ อารเบีย มีความหมายกับตะวันออกกลาง กับอเมริกา และกับความเป็นไปในโลกนี้ อย่างมาก
    ซาอุดิอารเบียจะเอียง ไปทางไหน จะเป็นอย่างไร คงเป็นเรื่องใหญ่ อเมริกาจะเดินยุทธศาสตร์แบบไหน จะปล่อยมือ หรือจะบีบให้คาที่ เป็นผลลบ หรือ ผลเป็นผลบวก กับฝ่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน
    เราคงต้องตามไปดูเรื่องในซาอุ ดิอารเบีย ย้อนหลังเสียหน่อย ย้อนไปถึงต้นปี ค.ศ.2015 นี่ น่าจะพอ ไม่ต้องย้อนกันเป็นศตวรรษ ลุงนิทานจะเล่าอะไร ต้องขอถอยย้อนหลังไปนิด รู้อดีตหน่อย จะได้เข้าใจปัจจุบัน ส่วนจะทำให้มองเห็นอนาคตไหม นั่นก็แล้วความซับซ้อนของเรื่องราว และความคมชัดของสายตาของแต่ละคนนะครับ
    จากบทความ ของนาย Bruce Riedel ซีไอเอ เก๋าเขี้ยวลาก ระดับสูง ที่เคยเป็นผู้ช่วยพิเศษด้านความมั่นคง ของประธานาธิบดีคลินตัน ด้านตะวันออกใกล้และเอเซียใต้ ที่เขียนเรื่องในซาอุดิอารเบีย เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา คงพอทำให้เราเข้าใจความคิดของไอ้ใบตองแห้ง เกี่ยวกับเรื่องซาอุดิอารเบีย เพิ่มขึ้นบ้าง และโปรดสังเกตระยะเวลาของการเขียนบทความ กับ เวลาที่เกิดข่าวลือด้วย
    บทความเขาเริ่มว่า ซาอุดิอารเบีย ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ที่สุดของอเมริกา ในตะวันออกกลาง กำลังถึงจุดเปลี่ยนประเทศ โดยเตรียมให้คนอีกรุ่นหนึ่งขึ้นมาปกครอง ซึ่งนับเป็นการผลัดเปลี่ยน อย่างสำคัญเป็นประวัติการณ์
    หลังจาก การสิ้นพระชนม์ของ กษัตริย์อับดุลลา Abdullah เมื่อเดือน มกราคม ค.ศ.2015 กษัตริย์ ซาลมาน Salmam bin Abdul-Aziz Al Saud น้องชายต่างมารดา วัย 79 ปี ก็ขึ้นมาครองราชย์แทน และจะเป็นคนรุ่นเก่าคนสุดท้าย ของรุ่นที่สร้างประเทศซาอุดิ อารเบีย จากประเทศจนๆ ในทะเลทราย ให้กลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยจากแหล่งน้ำมันอันมหาศาลของตัวเอง แต่ก็ยังอนุรักษ์นิยมอย่างสุดขั้ว
    อนาคตของซาอุดิอารเบียจะเป็นอย่างไรต่อไป เป็นเรื่องที่วอชิงตันให้ความสนใจอย่างยิ่ง เพียงไม่กี่เดือนหลังจากขึ้นมา ครองราชย์ กษัตริย์ซาลมาน ก็เหมือนจะพาซาอุ เดินเข้าไป “ติดหล่ม” ในสงครามกับเยเมน ที่ซาอุ ถลาเข้าไปเอง …นี่เป็นคำสรรเสริญจากใบตองแห้งคนใกล้ชิดกันนะครับ แถมด้วยคำพูดว่า นี่เป็นการยืนยัน ว่า ซาอุดิอารเบีย ยังเดินตามคำแนะนำของกลุ่มเคร่งทางศานา ที่ไม่เห็นพ้องกับการปฏิรูปประเทศ ตามที่อเมริกาบอกว่าซาอุดิอารเบียจำเป็นต้องทำ ถ้าซาอุดิ
    อารเบีย ยังอยากจะเป็นพันธมิตรที่มั่นคง กับอเมริกาต่อไป
    โห…เพื่อนรัก วิจารณ์กันแบบนี้ ขนาดผมไม่ชอบขี่อูฐ ผมยังเคืองแทนเลยนะ มันกร่าง เป็นการดูถูก และข่มขู่เขาพร้อมกันไปด้วย ไม่รู้ทนกันได้ไง
    อเมริกาบอกว่า ซาลมาน เริ่มต้นได้ไม่สวยเลย แต่ที่พอกู้หน้าได้ และที่อเมริกาต้อนรับด้วยความยินดี คือการเปลี่ยนแปลงผู้ที่เป็นรัชทายาทของกษัตริย์ คือ การเปลี่ยนตัวจากน้องชายต่างมารดา คือ เจ้าชาย มุคริน Muqrin bin Abdul-Aziz มาเป็น หลานชายชื่อ เจ้าชาย บิน นาเยฟ Muhammad bin Nayef วัย 56 ปี
    องค์รัชทายาทคนใหม่ บิน นาเยฟ หรือที่พวกตะวันตก เรียกกันว่า MBN นับเป็นเจ้ารุ่นใหม่ (รุ่นหลาน) ที่จะปกครองอาณาจักรซาอุดิอารเบีย เว้นแต่จะ ซาลมานจะเปลี่ยนใจอีก ซึ่งอเมริกาบอกว่า เราขอว่า อย่าเปลี่ยนเลยนะ เพราะ MBN นี่ เป็นขวัญใจของอเมริกา ที่ให้ความร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของอเมริกาอย่างดีเยี่ยม ในปราบปรามผู้ก่อการร้าย ตั้งแต่สมัยที่ MBN เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีมหาดไทย จนมาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยเอง ซึ่งต่างกับพ่อของเขา ซึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยอยู่นานมาก ก่อนส่งต่อตำแหน่งให้ลูก
    คุณพ่อ นี่ ไม่ธรรมดาเลย แม้จะมีคนบอกว่า คุณพ่อ นี่โปรอเมริกามากกว่า ราชวงศ์คนอื่นๆ แต่ คุณพ่อก็ถูกอเมริกา ขนานนามว่าเป็น ” the Black Prince” จะหมายความว่า เป็นแกะดำของราชวงค์ หรือ เป็นคนโหด หรือ เป็นคนนอกคอก ผมยังไม่รู้คำแปลของ อเมริกาในเรื่องนี้
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    18 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 1 “ข่าวลือ ข่าวลวง” ตอน 1 เมื่อต้นเตือนตุลาคมนี้ (ค.ศ.2015) สื่ออิสราเอล ประเภทเกาะติดการเมืองและการทหาร ลงข่าวว่า กษัตริย์ซาลมาน ของซาอุดิอารเบีย ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล และมีข่าวว่า อาจเกิดการปฏิวัติภายในซาอุดิอารเบียด้วย เป็นข่าวสั้นๆ หลังจากนั้น ไม่มีข่าวคืบหน้า ส่วนสื่อตะวันตก และอัลจาซีรา ของการ์ต้า เล็กแต่แสบ ไม่แง้มปากออกมาเลย ข่าวเรื่องกษัตริย์ ซาอุป่วย กับข่าวปฏิวัติซาอุนี่ สื่อต่างประเทศ เล่นกันมาเป็นระรอก ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ปีนี้แล้ว เรื่องแบบนี่ไม่มีบังเอิญหรอก ครับ บทชั่วๆอย่างนี้ ไอ้ใบตองแห้งชอบใช้นัก อยู่ดีๆมีข่าวปล่อยแบบนี้ แปลว่า มันต้องมีแผนชั่วคิดอยู่ จะชั่วขนาดไหน ต้องตามกันหน่อย ขณะนี้ ในตะวันออกกลาง นอกเหนือจากการรบในซีเรีย ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างเข้มข้นแล้ว ประเทศที่จะเป็นตัวแปร ที่ไม่นับทางฝั่งของรัสเซีย ที่มีอิหร่าน ซีเรียจับมือร่วมกับบางส่วนของ อิรัค บางส่วนของเยเมน และอีก 2 กองกำลังติดอาวุธ คือ กลุ่มเฮสบอลเลาะห์ กับกลุ่มฮามาส แล้วซาอุดิ อารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่ ที่รักๆงอนๆกับอเมริกา เป็นประเทศที่เราต้องจับตาดูดีๆ การเป็น การป่วย การป่วน การปฏิวัติ รวมถึง การ “ไป” ไม่ว่า จะเป็น “ป” ไหนของซาอุดิ อารเบีย มีความหมายกับตะวันออกกลาง กับอเมริกา และกับความเป็นไปในโลกนี้ อย่างมาก ซาอุดิอารเบียจะเอียง ไปทางไหน จะเป็นอย่างไร คงเป็นเรื่องใหญ่ อเมริกาจะเดินยุทธศาสตร์แบบไหน จะปล่อยมือ หรือจะบีบให้คาที่ เป็นผลลบ หรือ ผลเป็นผลบวก กับฝ่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน เราคงต้องตามไปดูเรื่องในซาอุ ดิอารเบีย ย้อนหลังเสียหน่อย ย้อนไปถึงต้นปี ค.ศ.2015 นี่ น่าจะพอ ไม่ต้องย้อนกันเป็นศตวรรษ ลุงนิทานจะเล่าอะไร ต้องขอถอยย้อนหลังไปนิด รู้อดีตหน่อย จะได้เข้าใจปัจจุบัน ส่วนจะทำให้มองเห็นอนาคตไหม นั่นก็แล้วความซับซ้อนของเรื่องราว และความคมชัดของสายตาของแต่ละคนนะครับ จากบทความ ของนาย Bruce Riedel ซีไอเอ เก๋าเขี้ยวลาก ระดับสูง ที่เคยเป็นผู้ช่วยพิเศษด้านความมั่นคง ของประธานาธิบดีคลินตัน ด้านตะวันออกใกล้และเอเซียใต้ ที่เขียนเรื่องในซาอุดิอารเบีย เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา คงพอทำให้เราเข้าใจความคิดของไอ้ใบตองแห้ง เกี่ยวกับเรื่องซาอุดิอารเบีย เพิ่มขึ้นบ้าง และโปรดสังเกตระยะเวลาของการเขียนบทความ กับ เวลาที่เกิดข่าวลือด้วย บทความเขาเริ่มว่า ซาอุดิอารเบีย ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ที่สุดของอเมริกา ในตะวันออกกลาง กำลังถึงจุดเปลี่ยนประเทศ โดยเตรียมให้คนอีกรุ่นหนึ่งขึ้นมาปกครอง ซึ่งนับเป็นการผลัดเปลี่ยน อย่างสำคัญเป็นประวัติการณ์ หลังจาก การสิ้นพระชนม์ของ กษัตริย์อับดุลลา Abdullah เมื่อเดือน มกราคม ค.ศ.2015 กษัตริย์ ซาลมาน Salmam bin Abdul-Aziz Al Saud น้องชายต่างมารดา วัย 79 ปี ก็ขึ้นมาครองราชย์แทน และจะเป็นคนรุ่นเก่าคนสุดท้าย ของรุ่นที่สร้างประเทศซาอุดิ อารเบีย จากประเทศจนๆ ในทะเลทราย ให้กลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยจากแหล่งน้ำมันอันมหาศาลของตัวเอง แต่ก็ยังอนุรักษ์นิยมอย่างสุดขั้ว อนาคตของซาอุดิอารเบียจะเป็นอย่างไรต่อไป เป็นเรื่องที่วอชิงตันให้ความสนใจอย่างยิ่ง เพียงไม่กี่เดือนหลังจากขึ้นมา ครองราชย์ กษัตริย์ซาลมาน ก็เหมือนจะพาซาอุ เดินเข้าไป “ติดหล่ม” ในสงครามกับเยเมน ที่ซาอุ ถลาเข้าไปเอง …นี่เป็นคำสรรเสริญจากใบตองแห้งคนใกล้ชิดกันนะครับ แถมด้วยคำพูดว่า นี่เป็นการยืนยัน ว่า ซาอุดิอารเบีย ยังเดินตามคำแนะนำของกลุ่มเคร่งทางศานา ที่ไม่เห็นพ้องกับการปฏิรูปประเทศ ตามที่อเมริกาบอกว่าซาอุดิอารเบียจำเป็นต้องทำ ถ้าซาอุดิ อารเบีย ยังอยากจะเป็นพันธมิตรที่มั่นคง กับอเมริกาต่อไป โห…เพื่อนรัก วิจารณ์กันแบบนี้ ขนาดผมไม่ชอบขี่อูฐ ผมยังเคืองแทนเลยนะ มันกร่าง เป็นการดูถูก และข่มขู่เขาพร้อมกันไปด้วย ไม่รู้ทนกันได้ไง อเมริกาบอกว่า ซาลมาน เริ่มต้นได้ไม่สวยเลย แต่ที่พอกู้หน้าได้ และที่อเมริกาต้อนรับด้วยความยินดี คือการเปลี่ยนแปลงผู้ที่เป็นรัชทายาทของกษัตริย์ คือ การเปลี่ยนตัวจากน้องชายต่างมารดา คือ เจ้าชาย มุคริน Muqrin bin Abdul-Aziz มาเป็น หลานชายชื่อ เจ้าชาย บิน นาเยฟ Muhammad bin Nayef วัย 56 ปี องค์รัชทายาทคนใหม่ บิน นาเยฟ หรือที่พวกตะวันตก เรียกกันว่า MBN นับเป็นเจ้ารุ่นใหม่ (รุ่นหลาน) ที่จะปกครองอาณาจักรซาอุดิอารเบีย เว้นแต่จะ ซาลมานจะเปลี่ยนใจอีก ซึ่งอเมริกาบอกว่า เราขอว่า อย่าเปลี่ยนเลยนะ เพราะ MBN นี่ เป็นขวัญใจของอเมริกา ที่ให้ความร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของอเมริกาอย่างดีเยี่ยม ในปราบปรามผู้ก่อการร้าย ตั้งแต่สมัยที่ MBN เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีมหาดไทย จนมาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยเอง ซึ่งต่างกับพ่อของเขา ซึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยอยู่นานมาก ก่อนส่งต่อตำแหน่งให้ลูก คุณพ่อ นี่ ไม่ธรรมดาเลย แม้จะมีคนบอกว่า คุณพ่อ นี่โปรอเมริกามากกว่า ราชวงศ์คนอื่นๆ แต่ คุณพ่อก็ถูกอเมริกา ขนานนามว่าเป็น ” the Black Prince” จะหมายความว่า เป็นแกะดำของราชวงค์ หรือ เป็นคนโหด หรือ เป็นคนนอกคอก ผมยังไม่รู้คำแปลของ อเมริกาในเรื่องนี้ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 18 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอเชิญไอ้ทัศนัย เฒ่าสามกีบ ศิลปินกักขฬะศิลปะเลอะเลือน ไปบุกงัดประตูด่านชายแดนเรียกร้องสันติภาพหน่อย อย่าดีแต่ปากกับนิ้วกดโพส
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ขอเชิญไอ้ทัศนัย เฒ่าสามกีบ ศิลปินกักขฬะศิลปะเลอะเลือน ไปบุกงัดประตูด่านชายแดนเรียกร้องสันติภาพหน่อย อย่าดีแต่ปากกับนิ้วกดโพส #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สีหศักดิ์" ตอกกลับกัมพูชา ปากบอกอยากหยุดยิง แต่การกระทำกลับยิงจรวดใส่พลเรือนไทย ลั่นหากจะเจรจาต้องจริงใจและพิสูจน์ด้วยการกระทำ ขณะที่กองทัพเรือปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่อธิปไตยที่ตราดสำเร็จ ย้ำไทยแค่ปกป้องผลประโยชน์ ไม่ได้ก้าวร้าว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000120395

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    "สีหศักดิ์" ตอกกลับกัมพูชา ปากบอกอยากหยุดยิง แต่การกระทำกลับยิงจรวดใส่พลเรือนไทย ลั่นหากจะเจรจาต้องจริงใจและพิสูจน์ด้วยการกระทำ ขณะที่กองทัพเรือปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่อธิปไตยที่ตราดสำเร็จ ย้ำไทยแค่ปกป้องผลประโยชน์ ไม่ได้ก้าวร้าว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000120395 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 439 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts