• ตอน 9

    ระหว่างที่สงครามเวียตนามกำลังเริ่มเข้าขั้นโคม่า ตั้งแต่ปี พ.ศ.2510 (ค.ศ.1967) พี่เบิ้มเริ่มเป็นฝ่ายรับ พี่เบิ้มจึงเปลี่ยนมาใช้แผน 2 (แผน 2 หน้า)
    หน้าหนึ่งก็เริ่มให้มีการเดินสายเล่นบทเจรจา ระหว่างรัฐมนตรีตปท.คนสำคัญของพี่เบิ้มกับทางเวียตนาม คนมีเสน่ห์ เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ (Henry Kissinger) รมต ตปท ของพี่เบิ้มสมัยนั้น เดินทางเป็นว่าเล่น เหมือนคุณนาย คลินตัน (Clinton) ตอนรัฐบาลโอบามา (Obama 1) นั่นแหละ
    อีกหน้าหนึ่งก็ส่งให้ลูกกะเป๋งทั้งหลาย ก็ใครล่ะ นึกให้ดีนะ ลุยเข้าไปถล่มคอมมี่ต่อ (โปรดสังเกตพวกพี่เบิ้ม เวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน รมต.ตปท. ชีพจรลงเท้าทั้งนั้น ตอนนี้ก็เห็นบินกันว่อน ตามดูรอบตัวเรากันบ้างนะครับ)
    ดังนั้นปฏิบัติการลับในประเทศลาว ซึ่งฝ่ายไทยนำโดย รหัสเทพ 333 (ไปหาเอาเองนะครับว่าเป็นใคร) กับฝ่าย CIA อเมริกา จึงทำงานหนัก บินกระหน่ำถล่มคอมมิวนิสต์ที่ลาว ผลลาวแตกเป็น 2 ฝ่าย เมื่อปี พ.ศ.2518 (ค.ศ.1975) พี่น้องเจ้าลาวถูกเสี้ยมให้แตกกันเอง เจ้าสุวรรณภูมา ผู้พี่ วิ่งไปอยู่ในอ้อมกอดของพี่เบิ้มอเมริกา เจ้าสุภานุวงศ์ คนน้อง เหม็นฝรั่ง จึงไปซบกับฝ่ายจีน
    แล้วลาวก็เปลี่ยนจากประเทศที่ปกครองโดยระบอบกษัตริย์ เป็นประเทศที่ปกครองโดยระบอบสังคมนิยม ตั้งแต่ครั้งนั้น ฝีมือใครครับ โปรดไปศึกษาต่อน่าสนใจมาก ไม่ใช่เฉพาะที่ลาว ในสงครามเวียตนามเอง หลัง จากทุ่มเงินไปกว่าพันล้านเหรียญ (ใช้เงินมากกว่าตอนอเมริการบในสงครามโลกครั้งที่ 2 !) ใช้ทหารไปรบประมาณ 500,000 นาย เสียชีวิตไประหว่างรบทั้งหมดเกือบ 60,000 คน ยังไม่นับที่สูญหาย ทุพพลภาพทางกายและจิตใจ อเมริกาก็ออกอาการ ยืนพิงเชือก
    ปี พ.ศ.2512 (ค.ศ.1969) อเมริกาเสนอขอเจรจาสงบศึกกับเวียตนาม !!!!
    มันจะเป็นไปได้ยังไง อเมริกา (อ้างว่า) ลงทุนกับสงครามอินโดจีนมากมาย ทั้งด้านอาวุธ กำลังพล และกำลังทรัพย์ …ชาวประชาก็เป็นมึน กำลังรบกันเข้าฝัก ดันถอยทัพเสียอย่างนั้น
    ไทยแลนด์งงเป็นไก่ตาฟาง นักวิ่งผลัดวิ่งพล่านชนกันเอง เฮ้ย เฮ้ย เอาไงวะ พวก! มันเป็นไปแล้ว ก็บอกว่า เล่นแผน 2 วันที่ 25 ก.ค. พ.ศ.2512 ประธานาธิบดีนิกสันก็ประกาศ Guam Doctrine สรุปว่า พี่เบิ้มเปลี่ยนจากเหยี่ยวเป็นพิราบ (เปลี่ยนง่ายดีนะ ลูกกะเป๋งปรับตัวกันไม่ทันเลยว่ะ) จะไม่ส่งทหารไปช่วยทำสงครามกับประเทศที่ถูกรุกราน (โดยคอมมิวนิสต์)
    แต่จะให้ความช่วยเหลือประเทศพันธมิตรด้านเศรษฐกิจ (ฮั่นแน่!) และการทหารแทน
    แหม! นี่มันพิราบติดกรงเล็บเหยี่ยวนี่นา หลอกใครไม่รู้
    แล้วไงล่ะ ไทยแลนด์ตอนให้เขาเข้ามาในบ้าน ใช้เป็นฐานทัพ เขาก็ไม่ถาม ไม่เซ็นสัญญา พอเขาจะไป เขาก็ไม่ปรึกษา บทจะไปก็เก็บฉากไปซะยังงั้น  นักวิ่งผลัดก็หน้ามืดละซิ ที่นี้จะเอาไงดี เงิน MAP ที่พี่เบิ้มเขาเคยให้ปีละ 100 ล้านเหรียญ เขาก็ลดลงเหลือ 20 กว่า ล้านเหรียญ
    ต๊าย ตาย ลดเยอะนะพวกเรา เดี๋ยวตอผุด เอายังไงดี
    อเมริกาก็ยังเป็นอเมริกา ปากบอกว่าถอนทหาร ถอยทัพ แต่ตาก็ขยิบ สั่งให้ลูกกะเป๋งไปถล่มเขมร ก็บินไปจากฐานทัพในไทยนั่นแหละ …เหล่านักวิ่งผลัด ก็เลยเห็นโอกาส ยังไม่อยากให้ยี่เกปิดฉาก นายพลเจ้าของสวนทุเรียน (ไปหาชื่อกันเองแล้วกันนะ เขียนมานี่ก็เสียวหลายเรื่องแล้ว) ก็เลยรับหน้าที่ไปเจรจากับพี่เบิ้ม
    ได้ไง! ยูสั่งให้ไอบิน ไอก็บิน สั่งให้ไอถล่ม ไอก็ถล่ม บอกไม่ทำสัญญา ไอก็ O.K ทหารยูทำผู้หญิงไทยท้อง ชกไอ้หนูหน้าดำผอมเกร็งแถวอีสานจนงอม ไม่ยอมขึ้นศาลไทย ไอก็ยอมหมดแล้ว …แต่เรื่องจะมาลด MAP นี่เรื่องใหญ่นะ (ของมันเคยได้น่ะ) แล้วต่อไปนี้สั่งใครเขาก็ลำบากนะ…ทุกอย่างมันต้องใช้เงินทั้ง นั้นนะ (เอะ เดี๋ยว ๆ นี่มันเรื่องสงครามเวียตนาม หรือสงครามไพร่ครองเมืองนะ คนเล่านิทานชักงง เรื่องมันคล้ายๆ กัน 555)
    ระหว่างเจรจาต่อรองกัน การเจรจาสันติภาพที่ปารีสเกิดสะดุด ฮานอยไม่ยอม อย่านึกว่าหมูนะ พญาอินทรี ที่พยายามจะแปลงกายเป็นนกพิราบก็เลยยั๊วะ งั้นสั่งรบต่อก็ได้ (วะ) คราวนี้ไม่รบแค่ในเวียตนาม ไอ้พวกญวนแดงอยากหนุนเขมรแดงดีนัก บอมบ์เขมรแม่มซะเลย คราวนี้กำลังรำคาญพี่ไทยที่มาแบมือขอเงินเพิ่ม พี่เบิ้มก็เลยใช้เกาะกวมเป็นฐานทัพ
    เจ้าของสวนทุเรียนได้ข่าว ก็รีบถลาไปเจรจาใหม่ (เขาเรียกว่าตื๊อน่ะ ถ้าจะให้พูดตรงๆ) ยูก้อ เราก็คบกันมานาน รู้ใจกัน จะเอาอะไรก็บอก ไอก็จะพยายาม ยูบินจากกวมน่ะ  มันไกลนะ เปลืองน้ำมัน กลับมาใช้ฐานทัพเราเหมือนเดิมเหอะ แต่ไอ้ MAP น่ะ ลดเหลือ 20 ล้าน มันก็เกินไปนะ ไปคิดใหม่ไป๊!
    ไอ้นิสัยที่ชอบใช้แผน 2 (2 หน้า) ของอเมริกานี่แหละ ก็ไม่ใช่ว่า จะรอดหูรอดตาประชาชนและสื่อของตนเองได้ การปฏิบัติการลับในเขมรจึงรั่วออกไปนิวยอร์ก ไทม์ส (N.Y Times) ลงข่าวใส่สีครบ ทำให้สภาสูงของอเมริกาซักฟอกเรื่องนี้ มีการถามถึงแผนตากสิน (Project 22) และบทบาทของไทยในลาวรวมทั้ง ข้อตกลงThanant Rusk
    ถึงกับมีประโยคอมตะออกมาเกี่ยวกับไทยว่า ไทยเป็นพันธมิตรดีสุดที่เงินซื้อได้ (“the Thai are the best allies money can buy”) อันนี้ปรากฏอยู่ในรายงานของอเมริกาเอง ผมไม่ได้แต่งเติม
    เห็นชัดหรือยังเขามองผู้บริหาร หรือรัฐบาลของเราอย่างไร ที่ผ่านมามีอะไรเปลี่ยนบ้าง ได้แต่เดินกุมตามก้นเขา แบมือขอเงินเขา เขาต้มแล้วต้มอีก ยังไม่รู้ตัว ล่าสุด ยังแถมไปยืนกระแดะยิ้มเยิ้มให้เขาจนลือกันไปทั้งโลกไม่มียางเหลือเลยนะ
    ระหว่างปี พ.ศ. 2512-2516 (ค.ศ.1969-1973) การเมืองไทยเริ่มมีปัญหาอีกครั้ง
    เริ่มจากนายถนัด คอมันตร์ รมต.ตปท.ของไทยเร่งให้อเมริกาถอนฐานทัพจากไทย เนื่องจากนายถนัด รู้อยู่แก่ใจว่าไอ้ข้อตกลง Thanant Rusk นี่มันของเก๊
    ประโยชน์จริงๆ ของไทยอยู่ตรงไหนหาไม่เจอ อเมริกายิ่งอยู่นานไทยแลนด์ก็ยิ่งตกอยู่ในกรงอินทรีลึกเข้าไปทุกที กระดิกกระเดี้ยไม่ออก จะเป็นง่อยเปลี้ยเสียขาซะด้วยซ้ำ แต่ด้านรัฐบาลนายกถนอม กลับยังต้องการให้อเมริกาคงฐานทัพและเงินช่วยเหลือต่อไป เพราะอะไร ก็คงพอเข้าใจกัน อย่าให้ต้องพูดชัดกว่านี้เลยนะ
    อเมริกาเองก็ถูกบีบจากสภาสูง (Congress) ให้รีบเร่งลงนามสัญญาสันติภาพกับเวียตนาม.. เพราะที่ลง ทุนไปสร้างเรื่องรบกับเวียตนามเอาใจนักค้าอาวุธที่ควบคุมรัฐบาลอเมริกาอยู่อีกต่อหนึ่งนั่นน่ะ มันชักจะไม่คุ้ม นักค้าอาวุธได้เงินก็จริง แต่ประชาชนชาวดอกไม้บานในอเมริกาเริ่มจะโวยไม่หยุด เพราะทหารอเมริกันตายเป็นเบือ
    แล้วอเมริกาลงนามสัญญาสันติภาพที่ปารีส เมื่อ 28 ม.ค. พ.ศ.2516 (ค.ศ.1973) ขณะเดียวกันยังคงกองกำลังทางอากาศขนาดใหญ่และกองเรือในภูมิภาคต่อไป แต่การให้ความช่วยเหลือไทยถูกตัดลดจากปีละ 100 ล้านเหรียญ เหลือปีละ 38 ล้านเหรียญ!  มันเป็นการลดฮวบ ที่เหล่านักวิ่งผลัด ช็อกจนพูดไม่ออก นักวิ่งผลัดเริ่มแตกคอกัน นักศึกษาและสื่อ เริ่มประท้วงเรื่องรัฐบาลทหารเผด็จการ ต้องการรัฐบาลประชาธิปไตย
    แปลกดีนะ หลังจากเป็นเผด็จการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2504 นะ 12 ปี ไม่เคยมีใครประท้วง วันดีคืนดีการประท้วงก็เกิดขึ้น! เริ่มมีนักวิชาการ นักศึกษา เรียกร้องหาประชาธิปไตยของจริง ที่สำคัญมีหมายเหตุในรายงานทูตอเมริกันในไทย ถึงกระทรวงตปท.อเมริกัน บอกว่า นักศึกษาชุมนุมเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ไม่มีใครออกมาโวยเรื่องฐานทัพอเมริกาในไทย จังหวะเวลามันให้บังเอิญดีจริงนึกให้ดีๆ แล้วลองตีโจทก์กันเองบ้าง
    นอกจากนี้ ในรายงานของ CIA ระบุว่า นายคิสซิงเจอร์ ในฐานะรมว. ตปท. อเมริกาได้สนทนากับนายลี กวน ยู นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ขณะนั้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2516
    นายลีบอกว่า สถานการณ์ไทยน่าเป็นห่วงนะ ถ้าเขมรไป ไอว่าถนอม ประภาส คงอยู่ได้ไม่เกิน 18 เดือน ก่อนเก็บของเปิดก้นวิ่งหนีแน่ ยูควรบอกเขานะ ว่ายูจะดูแลเขา ไอคุยกับชาติชายไปแล้ว ว่ายูจะดูแลเขา แต่ยูบอกเองดีกว่า
    นายคิสซิงเจอร์บอกว่า นี่ท่านนายก (ลี) เราก็พยายามอดทนมากนะ เราก็ต้องผ่านความยากลำบากมาเหมือน กัน เราก็ต้องคิดว่าเราจะตัดสินใจอย่างไร
    นายลีบอก ยูต้องบอกให้ถนอม ประภาส รู้เรื่องนะ ว่ายูไม่สนับสนุนปฏิวัติ หรือยูจะดำเนินการอื่น นายคิสซิงเจอร์ บอกว่า เราไม่สนับสนุนปฏิวัติหรอก แต่เราจะดูหนทางดำเนินการอื่น…(ไม่ได้นั่งเทียนเขียนขึ้นมาเองนะ ครับ บทสนทนาข้างต้นน่ะ อยู่ในรายงานของ CIA ล้วนๆ)


    คนเล่านิทาน
    ๘-๖

    ของแถมประจำวันนี้

    เป็นเอกสารบันทึกการประชุม ที่มีนาย Henry Kissinger รมว ตปท อเมริกา
    กับ คณะ การสนทนาส่วนหนึ่ง ทำให้เราเห็นชัดว่า การที่อเมริกาเข้ามาใช้บ้านเราเป็น
    ฐานทัพนั้น ไม่มีสัญญา เป็นทางการกับเรา
    นาย Habib ผู้ชี้แจง คือ นาย Philip Habib นักการทูต ผู้ชำนาญเกีี่ยวกับเอเซีย
    และมีอิทธิพลสูงในช่วงสงครามเวียตนาม
    ๙-๒
    ของแถมอีกชิ้น
    เอกสาร อันนี้เป็น Memorandum เมื่อ February 27, 1967
    จาก Asst Secretary of State ถึง Secreatary of State Rusk
    เกี่ยวกับการใช้ฐานทัพไทย แบบใช้ของเถื่อน ไม่มีหลักฐาน
    เชิญอ่านกันครับ อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร บอกกันบ้าง
    ๙-๓-1
    ของแถมชิ้นโปรด
    รายงาน ชนิดลับสุดยอด ข้อความกลายแห่งถูกตัดออก
    แต่พอ อ่านได้ ถึงประโยคทอง ..”trust us, we know what to do”
    จาก ทูต Unger ถึง กระทรวง ตปท อเมริกา เมื่อ August 9, 1968
     ตอน 9 ระหว่างที่สงครามเวียตนามกำลังเริ่มเข้าขั้นโคม่า ตั้งแต่ปี พ.ศ.2510 (ค.ศ.1967) พี่เบิ้มเริ่มเป็นฝ่ายรับ พี่เบิ้มจึงเปลี่ยนมาใช้แผน 2 (แผน 2 หน้า) หน้าหนึ่งก็เริ่มให้มีการเดินสายเล่นบทเจรจา ระหว่างรัฐมนตรีตปท.คนสำคัญของพี่เบิ้มกับทางเวียตนาม คนมีเสน่ห์ เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ (Henry Kissinger) รมต ตปท ของพี่เบิ้มสมัยนั้น เดินทางเป็นว่าเล่น เหมือนคุณนาย คลินตัน (Clinton) ตอนรัฐบาลโอบามา (Obama 1) นั่นแหละ อีกหน้าหนึ่งก็ส่งให้ลูกกะเป๋งทั้งหลาย ก็ใครล่ะ นึกให้ดีนะ ลุยเข้าไปถล่มคอมมี่ต่อ (โปรดสังเกตพวกพี่เบิ้ม เวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน รมต.ตปท. ชีพจรลงเท้าทั้งนั้น ตอนนี้ก็เห็นบินกันว่อน ตามดูรอบตัวเรากันบ้างนะครับ) ดังนั้นปฏิบัติการลับในประเทศลาว ซึ่งฝ่ายไทยนำโดย รหัสเทพ 333 (ไปหาเอาเองนะครับว่าเป็นใคร) กับฝ่าย CIA อเมริกา จึงทำงานหนัก บินกระหน่ำถล่มคอมมิวนิสต์ที่ลาว ผลลาวแตกเป็น 2 ฝ่าย เมื่อปี พ.ศ.2518 (ค.ศ.1975) พี่น้องเจ้าลาวถูกเสี้ยมให้แตกกันเอง เจ้าสุวรรณภูมา ผู้พี่ วิ่งไปอยู่ในอ้อมกอดของพี่เบิ้มอเมริกา เจ้าสุภานุวงศ์ คนน้อง เหม็นฝรั่ง จึงไปซบกับฝ่ายจีน แล้วลาวก็เปลี่ยนจากประเทศที่ปกครองโดยระบอบกษัตริย์ เป็นประเทศที่ปกครองโดยระบอบสังคมนิยม ตั้งแต่ครั้งนั้น ฝีมือใครครับ โปรดไปศึกษาต่อน่าสนใจมาก ไม่ใช่เฉพาะที่ลาว ในสงครามเวียตนามเอง หลัง จากทุ่มเงินไปกว่าพันล้านเหรียญ (ใช้เงินมากกว่าตอนอเมริการบในสงครามโลกครั้งที่ 2 !) ใช้ทหารไปรบประมาณ 500,000 นาย เสียชีวิตไประหว่างรบทั้งหมดเกือบ 60,000 คน ยังไม่นับที่สูญหาย ทุพพลภาพทางกายและจิตใจ อเมริกาก็ออกอาการ ยืนพิงเชือก ปี พ.ศ.2512 (ค.ศ.1969) อเมริกาเสนอขอเจรจาสงบศึกกับเวียตนาม !!!! มันจะเป็นไปได้ยังไง อเมริกา (อ้างว่า) ลงทุนกับสงครามอินโดจีนมากมาย ทั้งด้านอาวุธ กำลังพล และกำลังทรัพย์ …ชาวประชาก็เป็นมึน กำลังรบกันเข้าฝัก ดันถอยทัพเสียอย่างนั้น ไทยแลนด์งงเป็นไก่ตาฟาง นักวิ่งผลัดวิ่งพล่านชนกันเอง เฮ้ย เฮ้ย เอาไงวะ พวก! มันเป็นไปแล้ว ก็บอกว่า เล่นแผน 2 วันที่ 25 ก.ค. พ.ศ.2512 ประธานาธิบดีนิกสันก็ประกาศ Guam Doctrine สรุปว่า พี่เบิ้มเปลี่ยนจากเหยี่ยวเป็นพิราบ (เปลี่ยนง่ายดีนะ ลูกกะเป๋งปรับตัวกันไม่ทันเลยว่ะ) จะไม่ส่งทหารไปช่วยทำสงครามกับประเทศที่ถูกรุกราน (โดยคอมมิวนิสต์) แต่จะให้ความช่วยเหลือประเทศพันธมิตรด้านเศรษฐกิจ (ฮั่นแน่!) และการทหารแทน แหม! นี่มันพิราบติดกรงเล็บเหยี่ยวนี่นา หลอกใครไม่รู้ แล้วไงล่ะ ไทยแลนด์ตอนให้เขาเข้ามาในบ้าน ใช้เป็นฐานทัพ เขาก็ไม่ถาม ไม่เซ็นสัญญา พอเขาจะไป เขาก็ไม่ปรึกษา บทจะไปก็เก็บฉากไปซะยังงั้น  นักวิ่งผลัดก็หน้ามืดละซิ ที่นี้จะเอาไงดี เงิน MAP ที่พี่เบิ้มเขาเคยให้ปีละ 100 ล้านเหรียญ เขาก็ลดลงเหลือ 20 กว่า ล้านเหรียญ ต๊าย ตาย ลดเยอะนะพวกเรา เดี๋ยวตอผุด เอายังไงดี อเมริกาก็ยังเป็นอเมริกา ปากบอกว่าถอนทหาร ถอยทัพ แต่ตาก็ขยิบ สั่งให้ลูกกะเป๋งไปถล่มเขมร ก็บินไปจากฐานทัพในไทยนั่นแหละ …เหล่านักวิ่งผลัด ก็เลยเห็นโอกาส ยังไม่อยากให้ยี่เกปิดฉาก นายพลเจ้าของสวนทุเรียน (ไปหาชื่อกันเองแล้วกันนะ เขียนมานี่ก็เสียวหลายเรื่องแล้ว) ก็เลยรับหน้าที่ไปเจรจากับพี่เบิ้ม ได้ไง! ยูสั่งให้ไอบิน ไอก็บิน สั่งให้ไอถล่ม ไอก็ถล่ม บอกไม่ทำสัญญา ไอก็ O.K ทหารยูทำผู้หญิงไทยท้อง ชกไอ้หนูหน้าดำผอมเกร็งแถวอีสานจนงอม ไม่ยอมขึ้นศาลไทย ไอก็ยอมหมดแล้ว …แต่เรื่องจะมาลด MAP นี่เรื่องใหญ่นะ (ของมันเคยได้น่ะ) แล้วต่อไปนี้สั่งใครเขาก็ลำบากนะ…ทุกอย่างมันต้องใช้เงินทั้ง นั้นนะ (เอะ เดี๋ยว ๆ นี่มันเรื่องสงครามเวียตนาม หรือสงครามไพร่ครองเมืองนะ คนเล่านิทานชักงง เรื่องมันคล้ายๆ กัน 555) ระหว่างเจรจาต่อรองกัน การเจรจาสันติภาพที่ปารีสเกิดสะดุด ฮานอยไม่ยอม อย่านึกว่าหมูนะ พญาอินทรี ที่พยายามจะแปลงกายเป็นนกพิราบก็เลยยั๊วะ งั้นสั่งรบต่อก็ได้ (วะ) คราวนี้ไม่รบแค่ในเวียตนาม ไอ้พวกญวนแดงอยากหนุนเขมรแดงดีนัก บอมบ์เขมรแม่มซะเลย คราวนี้กำลังรำคาญพี่ไทยที่มาแบมือขอเงินเพิ่ม พี่เบิ้มก็เลยใช้เกาะกวมเป็นฐานทัพ เจ้าของสวนทุเรียนได้ข่าว ก็รีบถลาไปเจรจาใหม่ (เขาเรียกว่าตื๊อน่ะ ถ้าจะให้พูดตรงๆ) ยูก้อ เราก็คบกันมานาน รู้ใจกัน จะเอาอะไรก็บอก ไอก็จะพยายาม ยูบินจากกวมน่ะ  มันไกลนะ เปลืองน้ำมัน กลับมาใช้ฐานทัพเราเหมือนเดิมเหอะ แต่ไอ้ MAP น่ะ ลดเหลือ 20 ล้าน มันก็เกินไปนะ ไปคิดใหม่ไป๊! ไอ้นิสัยที่ชอบใช้แผน 2 (2 หน้า) ของอเมริกานี่แหละ ก็ไม่ใช่ว่า จะรอดหูรอดตาประชาชนและสื่อของตนเองได้ การปฏิบัติการลับในเขมรจึงรั่วออกไปนิวยอร์ก ไทม์ส (N.Y Times) ลงข่าวใส่สีครบ ทำให้สภาสูงของอเมริกาซักฟอกเรื่องนี้ มีการถามถึงแผนตากสิน (Project 22) และบทบาทของไทยในลาวรวมทั้ง ข้อตกลงThanant Rusk ถึงกับมีประโยคอมตะออกมาเกี่ยวกับไทยว่า ไทยเป็นพันธมิตรดีสุดที่เงินซื้อได้ (“the Thai are the best allies money can buy”) อันนี้ปรากฏอยู่ในรายงานของอเมริกาเอง ผมไม่ได้แต่งเติม เห็นชัดหรือยังเขามองผู้บริหาร หรือรัฐบาลของเราอย่างไร ที่ผ่านมามีอะไรเปลี่ยนบ้าง ได้แต่เดินกุมตามก้นเขา แบมือขอเงินเขา เขาต้มแล้วต้มอีก ยังไม่รู้ตัว ล่าสุด ยังแถมไปยืนกระแดะยิ้มเยิ้มให้เขาจนลือกันไปทั้งโลกไม่มียางเหลือเลยนะ ระหว่างปี พ.ศ. 2512-2516 (ค.ศ.1969-1973) การเมืองไทยเริ่มมีปัญหาอีกครั้ง เริ่มจากนายถนัด คอมันตร์ รมต.ตปท.ของไทยเร่งให้อเมริกาถอนฐานทัพจากไทย เนื่องจากนายถนัด รู้อยู่แก่ใจว่าไอ้ข้อตกลง Thanant Rusk นี่มันของเก๊ ประโยชน์จริงๆ ของไทยอยู่ตรงไหนหาไม่เจอ อเมริกายิ่งอยู่นานไทยแลนด์ก็ยิ่งตกอยู่ในกรงอินทรีลึกเข้าไปทุกที กระดิกกระเดี้ยไม่ออก จะเป็นง่อยเปลี้ยเสียขาซะด้วยซ้ำ แต่ด้านรัฐบาลนายกถนอม กลับยังต้องการให้อเมริกาคงฐานทัพและเงินช่วยเหลือต่อไป เพราะอะไร ก็คงพอเข้าใจกัน อย่าให้ต้องพูดชัดกว่านี้เลยนะ อเมริกาเองก็ถูกบีบจากสภาสูง (Congress) ให้รีบเร่งลงนามสัญญาสันติภาพกับเวียตนาม.. เพราะที่ลง ทุนไปสร้างเรื่องรบกับเวียตนามเอาใจนักค้าอาวุธที่ควบคุมรัฐบาลอเมริกาอยู่อีกต่อหนึ่งนั่นน่ะ มันชักจะไม่คุ้ม นักค้าอาวุธได้เงินก็จริง แต่ประชาชนชาวดอกไม้บานในอเมริกาเริ่มจะโวยไม่หยุด เพราะทหารอเมริกันตายเป็นเบือ แล้วอเมริกาลงนามสัญญาสันติภาพที่ปารีส เมื่อ 28 ม.ค. พ.ศ.2516 (ค.ศ.1973) ขณะเดียวกันยังคงกองกำลังทางอากาศขนาดใหญ่และกองเรือในภูมิภาคต่อไป แต่การให้ความช่วยเหลือไทยถูกตัดลดจากปีละ 100 ล้านเหรียญ เหลือปีละ 38 ล้านเหรียญ!  มันเป็นการลดฮวบ ที่เหล่านักวิ่งผลัด ช็อกจนพูดไม่ออก นักวิ่งผลัดเริ่มแตกคอกัน นักศึกษาและสื่อ เริ่มประท้วงเรื่องรัฐบาลทหารเผด็จการ ต้องการรัฐบาลประชาธิปไตย แปลกดีนะ หลังจากเป็นเผด็จการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2504 นะ 12 ปี ไม่เคยมีใครประท้วง วันดีคืนดีการประท้วงก็เกิดขึ้น! เริ่มมีนักวิชาการ นักศึกษา เรียกร้องหาประชาธิปไตยของจริง ที่สำคัญมีหมายเหตุในรายงานทูตอเมริกันในไทย ถึงกระทรวงตปท.อเมริกัน บอกว่า นักศึกษาชุมนุมเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ไม่มีใครออกมาโวยเรื่องฐานทัพอเมริกาในไทย จังหวะเวลามันให้บังเอิญดีจริงนึกให้ดีๆ แล้วลองตีโจทก์กันเองบ้าง นอกจากนี้ ในรายงานของ CIA ระบุว่า นายคิสซิงเจอร์ ในฐานะรมว. ตปท. อเมริกาได้สนทนากับนายลี กวน ยู นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ขณะนั้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2516 นายลีบอกว่า สถานการณ์ไทยน่าเป็นห่วงนะ ถ้าเขมรไป ไอว่าถนอม ประภาส คงอยู่ได้ไม่เกิน 18 เดือน ก่อนเก็บของเปิดก้นวิ่งหนีแน่ ยูควรบอกเขานะ ว่ายูจะดูแลเขา ไอคุยกับชาติชายไปแล้ว ว่ายูจะดูแลเขา แต่ยูบอกเองดีกว่า นายคิสซิงเจอร์บอกว่า นี่ท่านนายก (ลี) เราก็พยายามอดทนมากนะ เราก็ต้องผ่านความยากลำบากมาเหมือน กัน เราก็ต้องคิดว่าเราจะตัดสินใจอย่างไร นายลีบอก ยูต้องบอกให้ถนอม ประภาส รู้เรื่องนะ ว่ายูไม่สนับสนุนปฏิวัติ หรือยูจะดำเนินการอื่น นายคิสซิงเจอร์ บอกว่า เราไม่สนับสนุนปฏิวัติหรอก แต่เราจะดูหนทางดำเนินการอื่น…(ไม่ได้นั่งเทียนเขียนขึ้นมาเองนะ ครับ บทสนทนาข้างต้นน่ะ อยู่ในรายงานของ CIA ล้วนๆ) คนเล่านิทาน ๘-๖ ของแถมประจำวันนี้ เป็นเอกสารบันทึกการประชุม ที่มีนาย Henry Kissinger รมว ตปท อเมริกา กับ คณะ การสนทนาส่วนหนึ่ง ทำให้เราเห็นชัดว่า การที่อเมริกาเข้ามาใช้บ้านเราเป็น ฐานทัพนั้น ไม่มีสัญญา เป็นทางการกับเรา นาย Habib ผู้ชี้แจง คือ นาย Philip Habib นักการทูต ผู้ชำนาญเกีี่ยวกับเอเซีย และมีอิทธิพลสูงในช่วงสงครามเวียตนาม ๙-๒ ของแถมอีกชิ้น เอกสาร อันนี้เป็น Memorandum เมื่อ February 27, 1967 จาก Asst Secretary of State ถึง Secreatary of State Rusk เกี่ยวกับการใช้ฐานทัพไทย แบบใช้ของเถื่อน ไม่มีหลักฐาน เชิญอ่านกันครับ อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร บอกกันบ้าง ๙-๓-1 ของแถมชิ้นโปรด รายงาน ชนิดลับสุดยอด ข้อความกลายแห่งถูกตัดออก แต่พอ อ่านได้ ถึงประโยคทอง ..”trust us, we know what to do” จาก ทูต Unger ถึง กระทรวง ตปท อเมริกา เมื่อ August 9, 1968
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอน 7
    ไม่ช้าไม่นาน สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ก็ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2502 (ค.ศ.1959) สภาพัฒน์ฯ ควรบันทึกไว้ด้วยว่า เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ คนแรก ชื่อนายพจน์ สารสิน (พจน์ อีกแล้ว!)
    อย่างที่เล่าไว้ตอนแรกๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฉบับที่ 1 ได้ถูกทำขึ้นโดยใช้วิธีแปลรายงานของธนาคารโลก (World Bank) ทั้งฉบับเป็นภาษาไทย ฝ่ายไทยไม่ต้องออกแรงเปลืองหัวสมองเท่าเม็ดถั่ว แค่แปลแล้วนำก็มาใช้เป็นแผนแม่ บทของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ก็เท่านั้นเอง
    รายการที่ไทยแลนด์ต้องพัฒนาเป็นการด่วน คือระบบสาธารณูปโภค ด้านไฟฟ้า น้ำประปา ปรับปรุงระบบขน ส่ง สร้างถนน สร้างท่าเรือ สร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ำ และสร้างสนามบิน! ฟังดูดี๊ดีนะครับ แต่ลองสังเกตอีกที  สิ่งที่พี่เบิ้มเขาให้เราทำน่ะ มันอะไรกันแน่
    แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาปรับปรุงระบบต่างๆ มาก่อสร้างตามรายการ และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผน มันเกินกว่างบประมาณไปหลายจี๋นะ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นคนเคยรวยเร็วไปหน่อยมั้ย คุณป๋ารำพึงดังๆ
    แน่นอน พีเบิ้มหูไว ก็ติดเครื่องดักฟังไว้ทั่วราชอาณาจักรไทย ได้ยินดังนั้นก็บอกว่า สมันน้อยไม่ต้องห่วง เดี๋ยวไอจัดให้ !
    ไอหาเงินกู้ดอกถูกไว้ให้ยูแล้ว ของธนาคารโลก ไงล่ะ สำรวจเอง เขียนเอง ให้กู้เอง ไม่รู้สึกแปลกกันบ้างเหรอไง ว่าแล้วชาวเราก็กระโดดลงหม้อตุ๋นด้วยความขอบคุณ
    โปรดรับทราบว่า ไทยสร้างสนามบินตามแผนพัฒนาฯ ด้วยเงินกู้ทั้งหมด 7 แห่ง คือ อู่ตะเภา ตาคลี อุบล อุดร โคราช น้ำพอง และนครพนม พัฒนาประเทศไทยจริงๆ ชาวบ้านยังขี่สองล้อ สามล้อกันอยู่เลย คุณพ่อให้สร้างสนามบิน เฮ้อ เกินจะบรรยาย มันจะให้กู ขี้สามล้อ วิ่งเล่นในสนามบินหรือไงนะเนี่ย
    สาธารณูปโภคที่สร้างก็อยู่ในจังหวัดที่สร้างสนามบินหรือใกล้เคียง นั่นแหละเช่น ถนนสายอู่ตะเภา โคราช สายพิษณุโลกขอนแก่น ถนนพวกนี้ตามรายงานของ ซีไอเอ เขาเรียกว่า ถนนยุทธศาสตร์! พัฒนาประเทศไทยจริงๆ
    นอกจากนี้ยังสร้าง สถานีเรดาร์ที่อุดร อุบล ศรีราชา ฯลฯ
    สถานีเรดาร์ใหญ่ที่สุดอยู่ที่อุดร ชื่อสถานีรามสูร มีอุปกรณ์ตรวจสอบครบเครื่อง บริเวณกว้างขวางขนาดมีสนามกอล์ฟ 9 หลุม สระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิคฯลฯ มีพนักงานชาวอเมริกัน 1,000 คนและลูกจ้างชาวไทยอีก1,400 คน รวมพนักงานทั้งหมด 2,400 คน มันจะเอาไว้ดักฟังสัญญาณดาวอังคารหรือไงวุ้ย
    ที่สำคัญ สถานีนี้ไม่อนุญาตให้คนไทยทั่วไปเข้าในบริเวณ แล้วมันอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ได้ไงเนี่ย
    หลังสงครามเวียตนามเลิก อเมริกาถอนทัพออกจากประเทศไทย แต่ลืมถอนสถานีรามสูรกลับไปด้วย ยังฝากไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งของประเทศไทย เอาไว้ดักฟังหนุ่มสาวไทยจีบกันหรือไงไม่รู้ เพราะฉะนั้นทุกเรื่องที่เรากระซิบกันน่ะ พี่เขารู้หมดน่ะ เรื่องนี้ ผมเล่าแล้วก็เสี่ยงกับการกลายเป็นมนุษย์ล่องหนอย่างยิ่ง
    คิดออก มองเห็นหรือยัง อเมริกามหามิตรมอบของขวัญแบบไหนให้ไทยแลนด์ ประเภทล้วงกระเป๋าเรา เอาไปซื้อของของขวัญให้เราน่ะ หลงดีใจจนเนื้อเต้น
    ที่นี้เข้าใจหรือยัง ไอ้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ น่ะ มันวางไว้ก่อนแล้ว มันเตรียมการพัฒนาบ้านเรา เพื่อใช้บ้านเราเป็นฐานไปรบกับคอมมี่ที่เวียตนาม จะเอารถบรรทุกทหารหัวทองวิ่งมาบนท้องนาได้ไง บางแห่งถนนยังไม่มี มีแต่ทางเกวียน สนุกจริงๆ
    อย่าลืมถนนมิตรภาพ ที่อเมริกาสร้างให้ไทย ที่คนไทยภูมิใจหนักหนาด้วยล่ะ  วันเปิดถนนทำพิธีใหญ่โต ไปยืนตบมือกันเปาะแปะ เอารถไปทดลองวิ่งกันเป็นแถว แหม! มันเรียบดีนะ เอาถ้วยกาแฟวางหน้ารถไม่หกเลยจ๊ะ เฮ้ย! ไม่ทันคิดว่าถนนนี้เป็นเส้นทางหลักที่พี่เบิ้มเขาจะใช้ในการลำเลียงพลและอาวุธยุทโธปกรณ์เอาไว้ไปรบกะเวียตนาม
    มันคล้ายๆ บ้านเรายังกินข้าวด้วยมือเปิบอยู่ แต่วันดีคืนร้าย ดันมีคนให้ของขวัญ เราก็ดีใจเปิดกล่องของขวัญออกมา อ้าวตาย กลายเป็น มีดกับส้อม เขาบอกว่า…เอาไว้ใช้เวลาไอมาทานข้าวบ้านยูไง ของขวัญแบบนั่นน่ะ เข้าใจไหมครับ
    หลังจากเตรียมการเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ไทยแลนด์แดนสวรรค์มีถนน มีน้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี (แต่ยังไม่มีงานทำ 555) สนามบินก็สร้างแล้ว ตำรวจสารพัดนึกก็มีแล้ว เหลืออะไรล่ะที่เรายังไม่ได้ให้ไทยแลนด์ทำกองทัพไงจ้ะ ไทยแลนด์ต้องมีกองทัพอันเกรียงไกร เอาไว้ป้องกันประเทศ เอาไว้กันไม่ให้พวกคอมมี่ มันขยายตัวแหลมหัวเข้ามาแถวนี้
    ตั้งแต่ พ.ศ.2504 ถึง พ.ศ.2515 ตลอดเวลาที่อเมริกา นำทัพสู้ในสงครามเวียตนาม ไทยมีส่วนสำคัญ ในการรบเคียงขาเคียงบ่าเคียงไหล่กับอเมริกา รวมไปถึงการรบในลาวและกัมพูชา ตลอดเวลาดังกล่าว มีทหารอเมริกันอยู่ในประเทศไทย น้อยสุด 50,000 นาย และมากสุดถึง 200,000 นาย มีเครื่องบินขึ้นลงทั้งหมดไม่น้อยกว่า 70, 000 เที่ยว บินไปปฏิบัติการรบทั้งที่ เวียตนาม ลาวและกัมพูชา
    ที่น่าสนใจ การที่อเมริกาเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพ โจมตีเวียตนามและเพื่อนบ้าน อเมริกาไม่เคยทำข้อตกลงอย่างเป็นรูปธรรมกับไทย มันเป็นความพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายอเมริกาก็ไม่ต้องการมีข้อผูกมัด แค่มาใช้บ้านเขาเฉยๆ เอง มาเมื่อไหร่ ไปเมื่อไหร่ ไม่มีข้อผูกพัน… ฝ่ายเจ้าของบ้านคือรัฐบาลก็ O.K งุบๆ งิบๆ อย่างนี้ดีกว่า …ไม่มีใครรู้เงินช่วยเหลือเข้ามาเท่าไหร่ ส่วนไหนของวัด ส่วนไหนของกรรมการ อู้ฟู้กันเป็นแถวๆ
    และที่เหลือเชื่อไปกว่านั้น พี่เบิ้มอ้างว่า ปฏิบัติการที่ใช้ไทยเป็นฐานทัพน่ะ เป็นปฏิบัติการลับเสีย 99% เพราะฉะนั้นเกือบทุกครั้งที่เครื่องบินรบของพี่เขาจะบินขึ้นจากฐานทัพ (ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย) พี่เขาไม่ต้องขออนุญาตไทย …ไทยแลนด์ยูไม่ต้องยุ่ง… เดี๋ยวความลับรั่วไหลเหมือนท่อน้ำประปาบ้านยู
    ทหารไทยก็ใจกว้าง ตกลงงั้นไอมอบอำนาจให้ยูอนุมัติบินได้เลยนะ ทูตอเมริกันประจำไทย ขณะนั้น นายมาร์ติน (Martin) จึงเป็นคนอนุมัติ กดปุ่ม O.K.!
    สิทธิสภาพนอกอาณาเขตยุคสงครามเวียตนาม ประชาชนคนไทยรู้ไหมเป็นเมืองขึ้นเขาไปแล้ว! แล้วจะไม่บอกว่า ทหารไทยนี่เป็นยอดดวงใจของพี่เบิ้มอเมริกาได้ยังไง ยังไม่จบเรื่องยอดดวงใจนี้ มีหลายภาค ค่อยๆ อ่านไป
    เห็นชัดหรือยังครับ ลองเรียบเรียงดูการสำรวจของธนาคารโลก (World Bank) แผนพัฒนาเศรษฐกิจ การตั้งสภาพัฒน์ การพัฒนาประเทศ การให้ความช่วยเหลือโดย CIA แก่กรมตำรวจ การให้ความช่วยเหลือแก่กอง ทัพไทย การควบ คุมจัดตั้งการเลือกตั้ง การควบคุมการเมืองไทยทั้งทางตรงทางอ้อม มันโยงกันไหมและทำเพื่ออะไร ผลประ โยชน์ของใคร อาจมีผู้เห็นแย้งว่า ไทยก็ได้ประโยชน์ ป้องกันไม่ให้ระบอบคอม มิวนิสต์เข้ายึดครองประเทศไทย แต่ถามว่า แล้วเรามีวิธีป้องกันด้วยวิธีอื่นหรือไม่ ที่ไม่ต้องเปลี่ยนประ เทศกลับหัวกลับหางหกคะเมนตีลังกาเช่นนี้
    เมื่ออเมริกาถอนฐานทัพออกไปจากไทยเมื่อปี พ.ศ.2517 (ค.ศ.1974) ประเทศไทยมีสภาพเป็นอย่างไร ผู้ที่เกิดไม่ทันสมัยนั้น ลองไปหาประวัติศาสตร์อ่านกันดูหน่อย รีบๆ ทำความรู้จักไว้ เพราะเหตุการณ์เช่น สงครามเวียตนาม ฐานทัพ และวัฒนธรรมอเมริกัน การควบคุมชีวิตของคนไทยโดยการเมืองและกองทัพของอเมริกา อาจกลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้ถ้ากลับมาอีก ไทยเรายังจะมีประเทศเหลือหรือเปล่า ไม่แน่ใจ
    หยิบกระดาษมา 1 แผ่น ด้านซ้ายเขียนต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ ด้านขวาเขียนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ เพื่อนำเข้าทุนนิยมเสรี เปลี่ยนประเทศทำเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรม ดูทีละด้าน ก็ไม่รู้ว่าเรื่องเดียวกัน แต่ลองเอามาร้อยเรียงกัน เหมือนต่อจิกซอว์ เราน่าจะเห็นว่า นี่มันคือการล่าอาณานิคมยุคใหม่ ที่แนบเนียน ชนิดถ้าไม่ทำ CSI ก็จับผู้ร้ายไม่ได้เด็ดขาด
    ชาวไทยที่รักทั้งหลาย จงอย่างดูอะไรที่ละด้าน ที่ละชิ้น …หัดมองภาพรวม หัดต่อภาพให้เป็น แล้วจะได้เห็นภาพใหญ่ พวกสื่อเขาไม่ทำให้เราหรอกครับ เขาเสนอทีละภาพ ทีละเหตุการณ์ จิกซอว์ที่ละตัว เราก็เห็นก็ตามเท่าที่เขาเสนอให้ดู แล้วยิ่งถ้ามันเสนอแบบฟอกย้อมล่ะ จะรู้ได้ยังไง ว่าที่สีฟ้าๆ น่ะ มันน้ำหรือท้องฟ้า สีเขียว ๆ น่ะมันดอลลาร์ หรือใบตองที่แน่สีทองๆ อย่านึกว่าเป็นทอง อาจเป็นอย่างอื่นก็ได้นะ
    ภายใต้ Pax Americana หรือการขยายระบบทุนนิยมของอเมริกา ไทยแลนด์แดนเนรมิต ต้องแต่งตัวใหม่ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง เพื่อให้ทุนนิยมอุตสาหกรรมเข้ามาในบ้านเราได้เต็มที่ พี่เบิ้มจึงทั้งบีบทั้งบี้ ถึงขนาดขู่ว่า ถ้าไม่เป็นเด็กดีจะตัดงบช่วยเหลือ พวก good boy เลย ต้องออกพรบ.ให้พี่เบิ้มเต็มพิกัดในพ.ศ.2505 เช่น พรบ.ส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม เป็นการจูงใจให้นักลง ทุน ต ด (แปลว่าต่างด้าว) เต็มที่ พรบ.งบประมาณ และตั้งสนง.งบประมาณ ไทยแลนด์ ยูจะได้ไม่เอาเงินช่วยเหลือไปใช้จ่ายรุ่ยร่าย เงินของไอนะ พรบ.ธนาคารพาณิชย์ จะได้เข้ามาตรฐาน ต ด (ต่างด้าว) เปิดทางให้ ต ด มาลงทุน
    แล้วดูตอนนี้ซิ ลงทุนกันไปถึงไหน ธนาคารชื่อไทยน่ะ ทุนไทยเหลือแค่ไหน เป็นของฝรั่งตาน้ำข้าวหัวทอง ตาตี่หัวดำ อย่างสิงคโปร์ขี้ข้าฝรั่งเข้าไปเท่าไหร่ ถ้าอยากรู้ตัวเลขจริงๆ ทำใจแข็งไปขอดูรายงานของ ธปท.เลยครับ รู้แล้วอย่าเป็นลมก็แล้วกัน!
    เรื่องนี้ ถ้าเล่าขบวนการสมคบอันชั่วร้ายของขบวนการทุนนิยมเสรีแล้ว
    ท่านผู้อ่านอาจอยากเปลี่ยนใจไปใช้เงินพดด้วง!
    นอกจากนี้พี้เบิ้มยังแนะนำ (บังคับ!) ให้สมันน้อยยกเลิกรัฐวิสาหกิจ 150 แห่ง ที่ตั้งมาตั้งกะสมัยคณะราษฎร (อันนี้มันส์พะยะค่ะ เล่นเอาพวกปล้นเจ้า หน้าจ๋อยไปเลย) เพราะว่าการเป็นรัฐวิสาหกิจ หมายความว่า รัฐเป็นผู้ดำเนินกิจการเอง ควบคุมเอง ทุนต่างด้าว ทุนนิยมเสรีจะเข้ามาค้าแล้วรวยได้อย่างไร มันก็เหมือนเล่นไพ่กับเจ้ามือ มันจะไปได้กินเจ้ามืออย่างไร ดังนั้นพี่เบิ้มเลยบังคับให้มีทั้งการตัด การตอนรัฐวิสาหกิจให้หดและหายไปในที่สุด …ไอ้ทฤษฏีตอนไม่ให้โตน่ะ แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก็ยังใช้เล่นต่อ เนื่องมาถึงทุกวันนี้ เห็นฤทธิ์ทุนนิยมเสรีหรือยัง มันมาทั้งได้ในรูปทุนนิยมต่างด้าว และทุนนิยมเผด็จการไทย
    ชาวบ้านอย่างเราๆ ก็มีแต่จนแห้งตายซาก ทั้งขึ้น ทั้งล่อง


    คนเล่านิทาน
    ตอน 7 ไม่ช้าไม่นาน สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ก็ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2502 (ค.ศ.1959) สภาพัฒน์ฯ ควรบันทึกไว้ด้วยว่า เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ คนแรก ชื่อนายพจน์ สารสิน (พจน์ อีกแล้ว!) อย่างที่เล่าไว้ตอนแรกๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฉบับที่ 1 ได้ถูกทำขึ้นโดยใช้วิธีแปลรายงานของธนาคารโลก (World Bank) ทั้งฉบับเป็นภาษาไทย ฝ่ายไทยไม่ต้องออกแรงเปลืองหัวสมองเท่าเม็ดถั่ว แค่แปลแล้วนำก็มาใช้เป็นแผนแม่ บทของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ก็เท่านั้นเอง รายการที่ไทยแลนด์ต้องพัฒนาเป็นการด่วน คือระบบสาธารณูปโภค ด้านไฟฟ้า น้ำประปา ปรับปรุงระบบขน ส่ง สร้างถนน สร้างท่าเรือ สร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ำ และสร้างสนามบิน! ฟังดูดี๊ดีนะครับ แต่ลองสังเกตอีกที  สิ่งที่พี่เบิ้มเขาให้เราทำน่ะ มันอะไรกันแน่ แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาปรับปรุงระบบต่างๆ มาก่อสร้างตามรายการ และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผน มันเกินกว่างบประมาณไปหลายจี๋นะ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นคนเคยรวยเร็วไปหน่อยมั้ย คุณป๋ารำพึงดังๆ แน่นอน พีเบิ้มหูไว ก็ติดเครื่องดักฟังไว้ทั่วราชอาณาจักรไทย ได้ยินดังนั้นก็บอกว่า สมันน้อยไม่ต้องห่วง เดี๋ยวไอจัดให้ ! ไอหาเงินกู้ดอกถูกไว้ให้ยูแล้ว ของธนาคารโลก ไงล่ะ สำรวจเอง เขียนเอง ให้กู้เอง ไม่รู้สึกแปลกกันบ้างเหรอไง ว่าแล้วชาวเราก็กระโดดลงหม้อตุ๋นด้วยความขอบคุณ โปรดรับทราบว่า ไทยสร้างสนามบินตามแผนพัฒนาฯ ด้วยเงินกู้ทั้งหมด 7 แห่ง คือ อู่ตะเภา ตาคลี อุบล อุดร โคราช น้ำพอง และนครพนม พัฒนาประเทศไทยจริงๆ ชาวบ้านยังขี่สองล้อ สามล้อกันอยู่เลย คุณพ่อให้สร้างสนามบิน เฮ้อ เกินจะบรรยาย มันจะให้กู ขี้สามล้อ วิ่งเล่นในสนามบินหรือไงนะเนี่ย สาธารณูปโภคที่สร้างก็อยู่ในจังหวัดที่สร้างสนามบินหรือใกล้เคียง นั่นแหละเช่น ถนนสายอู่ตะเภา โคราช สายพิษณุโลกขอนแก่น ถนนพวกนี้ตามรายงานของ ซีไอเอ เขาเรียกว่า ถนนยุทธศาสตร์! พัฒนาประเทศไทยจริงๆ นอกจากนี้ยังสร้าง สถานีเรดาร์ที่อุดร อุบล ศรีราชา ฯลฯ สถานีเรดาร์ใหญ่ที่สุดอยู่ที่อุดร ชื่อสถานีรามสูร มีอุปกรณ์ตรวจสอบครบเครื่อง บริเวณกว้างขวางขนาดมีสนามกอล์ฟ 9 หลุม สระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิคฯลฯ มีพนักงานชาวอเมริกัน 1,000 คนและลูกจ้างชาวไทยอีก1,400 คน รวมพนักงานทั้งหมด 2,400 คน มันจะเอาไว้ดักฟังสัญญาณดาวอังคารหรือไงวุ้ย ที่สำคัญ สถานีนี้ไม่อนุญาตให้คนไทยทั่วไปเข้าในบริเวณ แล้วมันอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ได้ไงเนี่ย หลังสงครามเวียตนามเลิก อเมริกาถอนทัพออกจากประเทศไทย แต่ลืมถอนสถานีรามสูรกลับไปด้วย ยังฝากไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งของประเทศไทย เอาไว้ดักฟังหนุ่มสาวไทยจีบกันหรือไงไม่รู้ เพราะฉะนั้นทุกเรื่องที่เรากระซิบกันน่ะ พี่เขารู้หมดน่ะ เรื่องนี้ ผมเล่าแล้วก็เสี่ยงกับการกลายเป็นมนุษย์ล่องหนอย่างยิ่ง คิดออก มองเห็นหรือยัง อเมริกามหามิตรมอบของขวัญแบบไหนให้ไทยแลนด์ ประเภทล้วงกระเป๋าเรา เอาไปซื้อของของขวัญให้เราน่ะ หลงดีใจจนเนื้อเต้น ที่นี้เข้าใจหรือยัง ไอ้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ น่ะ มันวางไว้ก่อนแล้ว มันเตรียมการพัฒนาบ้านเรา เพื่อใช้บ้านเราเป็นฐานไปรบกับคอมมี่ที่เวียตนาม จะเอารถบรรทุกทหารหัวทองวิ่งมาบนท้องนาได้ไง บางแห่งถนนยังไม่มี มีแต่ทางเกวียน สนุกจริงๆ อย่าลืมถนนมิตรภาพ ที่อเมริกาสร้างให้ไทย ที่คนไทยภูมิใจหนักหนาด้วยล่ะ  วันเปิดถนนทำพิธีใหญ่โต ไปยืนตบมือกันเปาะแปะ เอารถไปทดลองวิ่งกันเป็นแถว แหม! มันเรียบดีนะ เอาถ้วยกาแฟวางหน้ารถไม่หกเลยจ๊ะ เฮ้ย! ไม่ทันคิดว่าถนนนี้เป็นเส้นทางหลักที่พี่เบิ้มเขาจะใช้ในการลำเลียงพลและอาวุธยุทโธปกรณ์เอาไว้ไปรบกะเวียตนาม มันคล้ายๆ บ้านเรายังกินข้าวด้วยมือเปิบอยู่ แต่วันดีคืนร้าย ดันมีคนให้ของขวัญ เราก็ดีใจเปิดกล่องของขวัญออกมา อ้าวตาย กลายเป็น มีดกับส้อม เขาบอกว่า…เอาไว้ใช้เวลาไอมาทานข้าวบ้านยูไง ของขวัญแบบนั่นน่ะ เข้าใจไหมครับ หลังจากเตรียมการเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ไทยแลนด์แดนสวรรค์มีถนน มีน้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี (แต่ยังไม่มีงานทำ 555) สนามบินก็สร้างแล้ว ตำรวจสารพัดนึกก็มีแล้ว เหลืออะไรล่ะที่เรายังไม่ได้ให้ไทยแลนด์ทำกองทัพไงจ้ะ ไทยแลนด์ต้องมีกองทัพอันเกรียงไกร เอาไว้ป้องกันประเทศ เอาไว้กันไม่ให้พวกคอมมี่ มันขยายตัวแหลมหัวเข้ามาแถวนี้ ตั้งแต่ พ.ศ.2504 ถึง พ.ศ.2515 ตลอดเวลาที่อเมริกา นำทัพสู้ในสงครามเวียตนาม ไทยมีส่วนสำคัญ ในการรบเคียงขาเคียงบ่าเคียงไหล่กับอเมริกา รวมไปถึงการรบในลาวและกัมพูชา ตลอดเวลาดังกล่าว มีทหารอเมริกันอยู่ในประเทศไทย น้อยสุด 50,000 นาย และมากสุดถึง 200,000 นาย มีเครื่องบินขึ้นลงทั้งหมดไม่น้อยกว่า 70, 000 เที่ยว บินไปปฏิบัติการรบทั้งที่ เวียตนาม ลาวและกัมพูชา ที่น่าสนใจ การที่อเมริกาเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพ โจมตีเวียตนามและเพื่อนบ้าน อเมริกาไม่เคยทำข้อตกลงอย่างเป็นรูปธรรมกับไทย มันเป็นความพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายอเมริกาก็ไม่ต้องการมีข้อผูกมัด แค่มาใช้บ้านเขาเฉยๆ เอง มาเมื่อไหร่ ไปเมื่อไหร่ ไม่มีข้อผูกพัน… ฝ่ายเจ้าของบ้านคือรัฐบาลก็ O.K งุบๆ งิบๆ อย่างนี้ดีกว่า …ไม่มีใครรู้เงินช่วยเหลือเข้ามาเท่าไหร่ ส่วนไหนของวัด ส่วนไหนของกรรมการ อู้ฟู้กันเป็นแถวๆ และที่เหลือเชื่อไปกว่านั้น พี่เบิ้มอ้างว่า ปฏิบัติการที่ใช้ไทยเป็นฐานทัพน่ะ เป็นปฏิบัติการลับเสีย 99% เพราะฉะนั้นเกือบทุกครั้งที่เครื่องบินรบของพี่เขาจะบินขึ้นจากฐานทัพ (ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย) พี่เขาไม่ต้องขออนุญาตไทย …ไทยแลนด์ยูไม่ต้องยุ่ง… เดี๋ยวความลับรั่วไหลเหมือนท่อน้ำประปาบ้านยู ทหารไทยก็ใจกว้าง ตกลงงั้นไอมอบอำนาจให้ยูอนุมัติบินได้เลยนะ ทูตอเมริกันประจำไทย ขณะนั้น นายมาร์ติน (Martin) จึงเป็นคนอนุมัติ กดปุ่ม O.K.! สิทธิสภาพนอกอาณาเขตยุคสงครามเวียตนาม ประชาชนคนไทยรู้ไหมเป็นเมืองขึ้นเขาไปแล้ว! แล้วจะไม่บอกว่า ทหารไทยนี่เป็นยอดดวงใจของพี่เบิ้มอเมริกาได้ยังไง ยังไม่จบเรื่องยอดดวงใจนี้ มีหลายภาค ค่อยๆ อ่านไป เห็นชัดหรือยังครับ ลองเรียบเรียงดูการสำรวจของธนาคารโลก (World Bank) แผนพัฒนาเศรษฐกิจ การตั้งสภาพัฒน์ การพัฒนาประเทศ การให้ความช่วยเหลือโดย CIA แก่กรมตำรวจ การให้ความช่วยเหลือแก่กอง ทัพไทย การควบ คุมจัดตั้งการเลือกตั้ง การควบคุมการเมืองไทยทั้งทางตรงทางอ้อม มันโยงกันไหมและทำเพื่ออะไร ผลประ โยชน์ของใคร อาจมีผู้เห็นแย้งว่า ไทยก็ได้ประโยชน์ ป้องกันไม่ให้ระบอบคอม มิวนิสต์เข้ายึดครองประเทศไทย แต่ถามว่า แล้วเรามีวิธีป้องกันด้วยวิธีอื่นหรือไม่ ที่ไม่ต้องเปลี่ยนประ เทศกลับหัวกลับหางหกคะเมนตีลังกาเช่นนี้ เมื่ออเมริกาถอนฐานทัพออกไปจากไทยเมื่อปี พ.ศ.2517 (ค.ศ.1974) ประเทศไทยมีสภาพเป็นอย่างไร ผู้ที่เกิดไม่ทันสมัยนั้น ลองไปหาประวัติศาสตร์อ่านกันดูหน่อย รีบๆ ทำความรู้จักไว้ เพราะเหตุการณ์เช่น สงครามเวียตนาม ฐานทัพ และวัฒนธรรมอเมริกัน การควบคุมชีวิตของคนไทยโดยการเมืองและกองทัพของอเมริกา อาจกลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้ถ้ากลับมาอีก ไทยเรายังจะมีประเทศเหลือหรือเปล่า ไม่แน่ใจ หยิบกระดาษมา 1 แผ่น ด้านซ้ายเขียนต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ ด้านขวาเขียนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ เพื่อนำเข้าทุนนิยมเสรี เปลี่ยนประเทศทำเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรม ดูทีละด้าน ก็ไม่รู้ว่าเรื่องเดียวกัน แต่ลองเอามาร้อยเรียงกัน เหมือนต่อจิกซอว์ เราน่าจะเห็นว่า นี่มันคือการล่าอาณานิคมยุคใหม่ ที่แนบเนียน ชนิดถ้าไม่ทำ CSI ก็จับผู้ร้ายไม่ได้เด็ดขาด ชาวไทยที่รักทั้งหลาย จงอย่างดูอะไรที่ละด้าน ที่ละชิ้น …หัดมองภาพรวม หัดต่อภาพให้เป็น แล้วจะได้เห็นภาพใหญ่ พวกสื่อเขาไม่ทำให้เราหรอกครับ เขาเสนอทีละภาพ ทีละเหตุการณ์ จิกซอว์ที่ละตัว เราก็เห็นก็ตามเท่าที่เขาเสนอให้ดู แล้วยิ่งถ้ามันเสนอแบบฟอกย้อมล่ะ จะรู้ได้ยังไง ว่าที่สีฟ้าๆ น่ะ มันน้ำหรือท้องฟ้า สีเขียว ๆ น่ะมันดอลลาร์ หรือใบตองที่แน่สีทองๆ อย่านึกว่าเป็นทอง อาจเป็นอย่างอื่นก็ได้นะ ภายใต้ Pax Americana หรือการขยายระบบทุนนิยมของอเมริกา ไทยแลนด์แดนเนรมิต ต้องแต่งตัวใหม่ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง เพื่อให้ทุนนิยมอุตสาหกรรมเข้ามาในบ้านเราได้เต็มที่ พี่เบิ้มจึงทั้งบีบทั้งบี้ ถึงขนาดขู่ว่า ถ้าไม่เป็นเด็กดีจะตัดงบช่วยเหลือ พวก good boy เลย ต้องออกพรบ.ให้พี่เบิ้มเต็มพิกัดในพ.ศ.2505 เช่น พรบ.ส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม เป็นการจูงใจให้นักลง ทุน ต ด (แปลว่าต่างด้าว) เต็มที่ พรบ.งบประมาณ และตั้งสนง.งบประมาณ ไทยแลนด์ ยูจะได้ไม่เอาเงินช่วยเหลือไปใช้จ่ายรุ่ยร่าย เงินของไอนะ พรบ.ธนาคารพาณิชย์ จะได้เข้ามาตรฐาน ต ด (ต่างด้าว) เปิดทางให้ ต ด มาลงทุน แล้วดูตอนนี้ซิ ลงทุนกันไปถึงไหน ธนาคารชื่อไทยน่ะ ทุนไทยเหลือแค่ไหน เป็นของฝรั่งตาน้ำข้าวหัวทอง ตาตี่หัวดำ อย่างสิงคโปร์ขี้ข้าฝรั่งเข้าไปเท่าไหร่ ถ้าอยากรู้ตัวเลขจริงๆ ทำใจแข็งไปขอดูรายงานของ ธปท.เลยครับ รู้แล้วอย่าเป็นลมก็แล้วกัน! เรื่องนี้ ถ้าเล่าขบวนการสมคบอันชั่วร้ายของขบวนการทุนนิยมเสรีแล้ว ท่านผู้อ่านอาจอยากเปลี่ยนใจไปใช้เงินพดด้วง! นอกจากนี้พี้เบิ้มยังแนะนำ (บังคับ!) ให้สมันน้อยยกเลิกรัฐวิสาหกิจ 150 แห่ง ที่ตั้งมาตั้งกะสมัยคณะราษฎร (อันนี้มันส์พะยะค่ะ เล่นเอาพวกปล้นเจ้า หน้าจ๋อยไปเลย) เพราะว่าการเป็นรัฐวิสาหกิจ หมายความว่า รัฐเป็นผู้ดำเนินกิจการเอง ควบคุมเอง ทุนต่างด้าว ทุนนิยมเสรีจะเข้ามาค้าแล้วรวยได้อย่างไร มันก็เหมือนเล่นไพ่กับเจ้ามือ มันจะไปได้กินเจ้ามืออย่างไร ดังนั้นพี่เบิ้มเลยบังคับให้มีทั้งการตัด การตอนรัฐวิสาหกิจให้หดและหายไปในที่สุด …ไอ้ทฤษฏีตอนไม่ให้โตน่ะ แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก็ยังใช้เล่นต่อ เนื่องมาถึงทุกวันนี้ เห็นฤทธิ์ทุนนิยมเสรีหรือยัง มันมาทั้งได้ในรูปทุนนิยมต่างด้าว และทุนนิยมเผด็จการไทย ชาวบ้านอย่างเราๆ ก็มีแต่จนแห้งตายซาก ทั้งขึ้น ทั้งล่อง คนเล่านิทาน
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานีโทรทัศน์รัสเซียอ้างว่าอาเซอร์ไบจานมีส่วนช่วยเหลือยูเครนในการทำลายฐานทัพรัสเซียผ่านปฏิบัติการลับที่เรียกว่าปฏิบัติการ "สไปเดอร์เว็บ"

    รายงานระบุว่า เครือข่ายสายยลับอาเซอร์ไบจานที่แฝงตัวในรัสเซียให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์แก่สายลับของยูเครน
    สถานีโทรทัศน์รัสเซียอ้างว่าอาเซอร์ไบจานมีส่วนช่วยเหลือยูเครนในการทำลายฐานทัพรัสเซียผ่านปฏิบัติการลับที่เรียกว่าปฏิบัติการ "สไปเดอร์เว็บ" รายงานระบุว่า เครือข่ายสายยลับอาเซอร์ไบจานที่แฝงตัวในรัสเซียให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์แก่สายลับของยูเครน
    Like
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: Salt Typhoon แฮกเข้า US National Guard แบบเนียน 9 เดือนเต็ม

    ตั้งแต่มีนาคมถึงธันวาคม 2024 กลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนชื่อว่า Salt Typhoon ได้เจาะเข้าเครือข่ายของกองกำลังพิทักษ์แห่งชาติสหรัฐ โดยไม่มีการตรวจจับได้นานถึง 9 เดือนเต็ม

    ข้อมูลที่ถูกขโมยประกอบด้วย:
    - สิทธิ์ผู้ดูแลระบบ (admin credentials)
    - ผังการจราจรบนเครือข่าย (network traffic diagrams)
    - แผนที่ทางภูมิศาสตร์
    - ข้อมูลส่วนตัวของทหาร (PII)

    ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่ม Salt Typhoon ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลการติดต่อระหว่างเครือข่ายของรัฐต่าง ๆ และอีก 4 ดินแดนของสหรัฐ แปลว่าพวกเขาอาจ “กระจายการโจมตี” ต่อไปยังระบบอื่น ๆ ได้โดยง่าย

    ถึงแม้รายงานจะไม่เปิดเผยวิธีการเจาะระบบครั้งนี้โดยตรง แต่ Department of Homeland Security เชื่อว่า Salt Typhoonอาจใช้ช่องโหว่ในอุปกรณ์เครือข่าย เช่น Cisco routers ที่ไม่ได้รับการอัปเดต (CVE exploitation)

    กลุ่ม Salt Typhoon ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “Typhoon collective” ที่รวมถึง Brass Typhoon, Volt Typhoon ฯลฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อแทรกซึมเข้าสู่โครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐทั้งด้านทหาร การสื่อสาร และพลังงาน เพื่อใช้เป็นช่องทางโจมตีหากเกิดความตึงเครียดทางการทูต โดยเฉพาะประเด็น ไต้หวัน ระหว่างจีน-สหรัฐ

    Salt Typhoon แฮกเข้าเครือข่ายของ US National Guard นานถึง 9 เดือน
    ตั้งแต่มีนาคมถึงธันวาคม 2024 โดยไม่มีการตรวจพบ

    ขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น admin credentials และ PII ของทหาร
    รวมถึงผังเครือข่าย แผนที่ และข้อมูลการสื่อสารระหว่างรัฐ

    สามารถเข้าถึงข้อมูลจากเครือข่ายระหว่างรัฐและดินแดนอื่นอีก 4 แห่ง
    อาจเป็นช่องทางในการกระจายการโจมตีเพิ่มเติมไปยังองค์กรอื่น

    DHS คาดว่ากลุ่มนี้ใช้ช่องโหว่ของอุปกรณ์ Cisco ในการเจาะระบบ
    โดยใช้มัลแวร์เช่น JumblePath และ GhostSpider ที่ใช้ในปฏิบัติการก่อนหน้า

    Salt Typhoon เป็นกลุ่มที่มีการโจมตีองค์กรอื่น ๆ มาแล้ว เช่น AT&T, Viasat
    แสดงถึงความต่อเนื่องและความสามารถในการบุกระบบเชิงลึก

    จุดประสงค์หลักคือเตรียมการสำหรับความขัดแย้งเรื่องไต้หวัน
    เพื่อให้พร้อมโจมตีหรือรบกวนระบบของสหรัฐในกรณีเกิดสงคราม

    การเจาะระบบระดับหน่วยงานทหารนานถึง 9 เดือนโดยไม่มีใครพบ
    แสดงถึงช่องโหว่ด้านการตรวจจับภัย (threat detection) ในระบบราชการ

    การละเมิดข้อมูลส่วนตัวของทหาร (PII) อาจนำไปสู่การถูกโจมตีเจาะจงในอนาคต
    เช่น phishing หรือการขู่กรรโชกแบบ targeted

    ช่องโหว่ของอุปกรณ์ที่ไม่ได้แพตช์ยังเป็นปัญหาใหญ่
    ต้องเร่งอัปเดตซอฟต์แวร์และควบคุมการใช้อุปกรณ์เครือข่ายให้ดีกว่านี้

    ปฏิบัติการลับของแฮกเกอร์ที่รอให้เกิดความขัดแย้งแล้วค่อยโจมตี
    เป็นภัยคุกคามระดับชาติที่ต้องการความร่วมมือจากหลายหน่วยงานเพื่อป้องกัน

    https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-were-able-to-breach-us-national-guard-and-stay-undetected-for-months
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: Salt Typhoon แฮกเข้า US National Guard แบบเนียน 9 เดือนเต็ม ตั้งแต่มีนาคมถึงธันวาคม 2024 กลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนชื่อว่า Salt Typhoon ได้เจาะเข้าเครือข่ายของกองกำลังพิทักษ์แห่งชาติสหรัฐ โดยไม่มีการตรวจจับได้นานถึง 9 เดือนเต็ม 🧠 ข้อมูลที่ถูกขโมยประกอบด้วย: - สิทธิ์ผู้ดูแลระบบ (admin credentials) - ผังการจราจรบนเครือข่าย (network traffic diagrams) - แผนที่ทางภูมิศาสตร์ - ข้อมูลส่วนตัวของทหาร (PII) ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่ม Salt Typhoon ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลการติดต่อระหว่างเครือข่ายของรัฐต่าง ๆ และอีก 4 ดินแดนของสหรัฐ แปลว่าพวกเขาอาจ “กระจายการโจมตี” ต่อไปยังระบบอื่น ๆ ได้โดยง่าย ถึงแม้รายงานจะไม่เปิดเผยวิธีการเจาะระบบครั้งนี้โดยตรง แต่ Department of Homeland Security เชื่อว่า Salt Typhoonอาจใช้ช่องโหว่ในอุปกรณ์เครือข่าย เช่น Cisco routers ที่ไม่ได้รับการอัปเดต (CVE exploitation) กลุ่ม Salt Typhoon ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “Typhoon collective” ที่รวมถึง Brass Typhoon, Volt Typhoon ฯลฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อแทรกซึมเข้าสู่โครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐทั้งด้านทหาร การสื่อสาร และพลังงาน เพื่อใช้เป็นช่องทางโจมตีหากเกิดความตึงเครียดทางการทูต โดยเฉพาะประเด็น ไต้หวัน ระหว่างจีน-สหรัฐ ✅ Salt Typhoon แฮกเข้าเครือข่ายของ US National Guard นานถึง 9 เดือน ➡️ ตั้งแต่มีนาคมถึงธันวาคม 2024 โดยไม่มีการตรวจพบ ✅ ขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น admin credentials และ PII ของทหาร ➡️ รวมถึงผังเครือข่าย แผนที่ และข้อมูลการสื่อสารระหว่างรัฐ ✅ สามารถเข้าถึงข้อมูลจากเครือข่ายระหว่างรัฐและดินแดนอื่นอีก 4 แห่ง ➡️ อาจเป็นช่องทางในการกระจายการโจมตีเพิ่มเติมไปยังองค์กรอื่น ✅ DHS คาดว่ากลุ่มนี้ใช้ช่องโหว่ของอุปกรณ์ Cisco ในการเจาะระบบ ➡️ โดยใช้มัลแวร์เช่น JumblePath และ GhostSpider ที่ใช้ในปฏิบัติการก่อนหน้า ✅ Salt Typhoon เป็นกลุ่มที่มีการโจมตีองค์กรอื่น ๆ มาแล้ว เช่น AT&T, Viasat ➡️ แสดงถึงความต่อเนื่องและความสามารถในการบุกระบบเชิงลึก ✅ จุดประสงค์หลักคือเตรียมการสำหรับความขัดแย้งเรื่องไต้หวัน ➡️ เพื่อให้พร้อมโจมตีหรือรบกวนระบบของสหรัฐในกรณีเกิดสงคราม ‼️ การเจาะระบบระดับหน่วยงานทหารนานถึง 9 เดือนโดยไม่มีใครพบ ⛔ แสดงถึงช่องโหว่ด้านการตรวจจับภัย (threat detection) ในระบบราชการ ‼️ การละเมิดข้อมูลส่วนตัวของทหาร (PII) อาจนำไปสู่การถูกโจมตีเจาะจงในอนาคต ⛔ เช่น phishing หรือการขู่กรรโชกแบบ targeted ‼️ ช่องโหว่ของอุปกรณ์ที่ไม่ได้แพตช์ยังเป็นปัญหาใหญ่ ⛔ ต้องเร่งอัปเดตซอฟต์แวร์และควบคุมการใช้อุปกรณ์เครือข่ายให้ดีกว่านี้ ‼️ ปฏิบัติการลับของแฮกเกอร์ที่รอให้เกิดความขัดแย้งแล้วค่อยโจมตี ⛔ เป็นภัยคุกคามระดับชาติที่ต้องการความร่วมมือจากหลายหน่วยงานเพื่อป้องกัน https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-were-able-to-breach-us-national-guard-and-stay-undetected-for-months
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 372 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยังมีสมาชิกบางท่าน เพิกเฉยต่อบทบาทของ CIA ที่มีต่อประเทศไทย
    อยู่ นี่คือการสรุปย่อๆเท่าที่หามาได้ ในอนาคตจะพูดเรื่องความสำคัญของไทยในสายตา CIA

    การเคลื่อนไหวของ CIA ในประเทศไทย เป็นเรื่องที่มีทั้งข้อมูลที่เปิดเผยและข้อมูลที่เป็นความลับมาก ซึ่งบางส่วนถูกเปิดโปงผ่านเอกสารประวัติศาสตร์ หรือแหล่งข่าวอย่าง Wikileaks, บันทึกของนักข่าวสายความมั่นคง และงานวิชาการ



    สรุป “การเคลื่อนไหวของ CIA ในไทย” แบ่งเป็น 3 ยุคหลัก



    1. ยุคสงครามเย็น (1950s–1980s): ฐานข่าวกรอง-ฐานทัพลับ

    จุดประสงค์หลัก: ต่อต้านคอมมิวนิสต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
    ไทย = พันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในภูมิภาค
    • CIA ใช้ไทยเป็น “ฐานปฏิบัติการลับ (covert ops base)” เพื่อ:
    • สนับสนุนฝ่ายต่อต้านคอมมิวนิสต์ใน ลาว–เวียดนาม–กัมพูชา
    • ส่งกำลังทางอากาศ ลำเลียงข่าวกรอง และฝึกกองกำลังลับ

    ตัวอย่างที่เป็นที่รู้กัน:
    • ฐานทัพ อุดรธานี (เรียกในบางวงว่า “Udon CIA base”) ใช้เป็นที่ตั้งของ Air America สายการบินลับของ CIA
    • การฝึก “กองกำลังเงา” ในลาว-เขมร โดยมีเจ้าหน้าที่ CIA ประจำที่ไทย
    • ปฏิบัติการ Operation Cold Chop / Operation Hardnose: ส่งสายลับเข้าไปในจีนตอนใต้จากชายแดนไทย-พม่า



    2. ยุคหลังสงครามเย็น – 9/11 (1990s–2000s): ข่าวกรองและต่อต้านก่อการร้าย

    จุดประสงค์หลัก: ปราบก่อการร้าย-เครือข่ายอิสลามหัวรุนแรง
    • หลังเหตุการณ์ 9/11 สหรัฐฯ เริ่มจับตาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฐานะแหล่งกบดานของกลุ่มหัวรุนแรง
    • CIA ร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิด เช่น:
    • แลกเปลี่ยนข่าวกรองกับตำรวจไทยและหน่วยข่าวทหาร
    • ติดตามเครือข่ายอัลกออิดะห์ในเอเชีย
    • ปฏิบัติการลับเพื่อจับกุมหรือสอบสวนผู้ต้องสงสัย

    กรณีที่ถูกเปิดเผย:
    • ปี 2002–2003: CIA ใช้สถานที่ลับในไทยเป็น “black site” (คุกลับนอกอเมริกา) เพื่อสอบสวนผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย เช่น อับู ซูไบดะห์ (Abu Zubaydah)
    • สถานที่นี้เชื่อกันว่าอยู่ทางภาคตะวันออกของไทย
    • ถูกเปิดเผยในรายงานวุฒิสภาสหรัฐฯ ปี 2014 ว่าใช้ “enhanced interrogation techniques” (การทรมาน)
    • CIA มีบทบาทร่วมในการล่าและส่งตัวผู้ต้องสงสัยจากไทยไปยังประเทศที่สาม (extraordinary rendition)



    3. ยุคใหม่ (2010s–ปัจจุบัน): แข่งอิทธิพลจีน-ไซเบอร์-การเมือง

    จุดประสงค์หลัก:
    1. จับตาจีนในไทย (BRI, 5G, การทหาร, ดิจิทัล)
    2. สกัดรัสเซียในเอเชีย
    3. ติดตามการเคลื่อนไหวทางการเมือง–กลุ่มเคลื่อนไหว
    4. ร่วมมือด้านไซเบอร์/ต่อต้านการแทรกแซง

    รูปแบบที่ปรากฏ:
    • การติดต่อกับนักการเมือง-นักเคลื่อนไหว ที่สนับสนุนเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน (เช่น NGO, นักศึกษาบางกลุ่ม)
    • ติดตามการลงทุนของจีน ในโครงการอย่างรถไฟความเร็วสูง, EEC, ท่าเรือน้ำลึก
    • ใช้ สถานทูตและหน่วยงานต่างประเทศ (USAID, IRI, NED) เป็นช่องทางซัพพอร์ตทางอ้อม
    • ปี 2020s: สื่อรายงานว่ารัสเซียและจีนพยายามตั้ง “สถานีดักฟัง” และ CIA พยายามห้ามไทยอนุญาต



    มุมที่คนไทยหลายคนอาจไม่รู้:
    • CIA ไม่จำเป็นต้อง “ลงมือ” เองทุกครั้ง แต่ใช้ Soft Power + ปฏิบัติการผ่านหน่วยงานในพื้นที่
    • ความร่วมมือข่าวกรองไทย–สหรัฐฯ เข้มแข็งต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับ สันติบาล, หน่วยข่าวทหาร, ปอท.
    • CIA ในไทยมักมี “เจ้าหน้าที่ภายใต้สถานทูต” (official cover) ซึ่งไม่ได้แสดงตัวเป็น CIA โดยตรง



    สรุปภาพรวม:

    CIA เคยมีและอาจยังคงมีบทบาทในไทย
    โดยเป้าหมายเปลี่ยนไปตามยุคสมัย:
    ยุคคอมมิวนิสต์ → ต่อต้านพรรคแดงในอินโดจีน
    ยุคหลัง 9/11 → ก่อการร้าย-จับผู้ต้องสงสัย
    ยุคปัจจุบัน → แข่งกับจีน-รัสเซีย, ไซเบอร์, การเมืองภายในไทย
    ยังมีสมาชิกบางท่าน เพิกเฉยต่อบทบาทของ CIA ที่มีต่อประเทศไทย อยู่ นี่คือการสรุปย่อๆเท่าที่หามาได้ ในอนาคตจะพูดเรื่องความสำคัญของไทยในสายตา CIA การเคลื่อนไหวของ CIA ในประเทศไทย เป็นเรื่องที่มีทั้งข้อมูลที่เปิดเผยและข้อมูลที่เป็นความลับมาก ซึ่งบางส่วนถูกเปิดโปงผ่านเอกสารประวัติศาสตร์ หรือแหล่งข่าวอย่าง Wikileaks, บันทึกของนักข่าวสายความมั่นคง และงานวิชาการ ⸻ 🔍 สรุป “การเคลื่อนไหวของ CIA ในไทย” แบ่งเป็น 3 ยุคหลัก ⸻ 🇺🇸 1. ยุคสงครามเย็น (1950s–1980s): ฐานข่าวกรอง-ฐานทัพลับ จุดประสงค์หลัก: ต่อต้านคอมมิวนิสต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ • 🇹🇭 ไทย = พันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในภูมิภาค • CIA ใช้ไทยเป็น “ฐานปฏิบัติการลับ (covert ops base)” เพื่อ: • สนับสนุนฝ่ายต่อต้านคอมมิวนิสต์ใน ลาว–เวียดนาม–กัมพูชา • ส่งกำลังทางอากาศ ลำเลียงข่าวกรอง และฝึกกองกำลังลับ 💥 ตัวอย่างที่เป็นที่รู้กัน: • ฐานทัพ อุดรธานี (เรียกในบางวงว่า “Udon CIA base”) ใช้เป็นที่ตั้งของ Air America สายการบินลับของ CIA • การฝึก “กองกำลังเงา” ในลาว-เขมร โดยมีเจ้าหน้าที่ CIA ประจำที่ไทย • ปฏิบัติการ Operation Cold Chop / Operation Hardnose: ส่งสายลับเข้าไปในจีนตอนใต้จากชายแดนไทย-พม่า ⸻ 🕵️‍♂️ 2. ยุคหลังสงครามเย็น – 9/11 (1990s–2000s): ข่าวกรองและต่อต้านก่อการร้าย จุดประสงค์หลัก: ปราบก่อการร้าย-เครือข่ายอิสลามหัวรุนแรง • หลังเหตุการณ์ 9/11 สหรัฐฯ เริ่มจับตาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฐานะแหล่งกบดานของกลุ่มหัวรุนแรง • CIA ร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิด เช่น: • แลกเปลี่ยนข่าวกรองกับตำรวจไทยและหน่วยข่าวทหาร • ติดตามเครือข่ายอัลกออิดะห์ในเอเชีย • ปฏิบัติการลับเพื่อจับกุมหรือสอบสวนผู้ต้องสงสัย 💣 กรณีที่ถูกเปิดเผย: • ปี 2002–2003: CIA ใช้สถานที่ลับในไทยเป็น “black site” (คุกลับนอกอเมริกา) เพื่อสอบสวนผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย เช่น อับู ซูไบดะห์ (Abu Zubaydah) • สถานที่นี้เชื่อกันว่าอยู่ทางภาคตะวันออกของไทย • ถูกเปิดเผยในรายงานวุฒิสภาสหรัฐฯ ปี 2014 ว่าใช้ “enhanced interrogation techniques” (การทรมาน) • CIA มีบทบาทร่วมในการล่าและส่งตัวผู้ต้องสงสัยจากไทยไปยังประเทศที่สาม (extraordinary rendition) ⸻ 🌐 3. ยุคใหม่ (2010s–ปัจจุบัน): แข่งอิทธิพลจีน-ไซเบอร์-การเมือง จุดประสงค์หลัก: 1. จับตาจีนในไทย (BRI, 5G, การทหาร, ดิจิทัล) 2. สกัดรัสเซียในเอเชีย 3. ติดตามการเคลื่อนไหวทางการเมือง–กลุ่มเคลื่อนไหว 4. ร่วมมือด้านไซเบอร์/ต่อต้านการแทรกแซง รูปแบบที่ปรากฏ: • การติดต่อกับนักการเมือง-นักเคลื่อนไหว ที่สนับสนุนเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน (เช่น NGO, นักศึกษาบางกลุ่ม) • ติดตามการลงทุนของจีน ในโครงการอย่างรถไฟความเร็วสูง, EEC, ท่าเรือน้ำลึก • ใช้ สถานทูตและหน่วยงานต่างประเทศ (USAID, IRI, NED) เป็นช่องทางซัพพอร์ตทางอ้อม • ปี 2020s: สื่อรายงานว่ารัสเซียและจีนพยายามตั้ง “สถานีดักฟัง” และ CIA พยายามห้ามไทยอนุญาต ⸻ 🧭 มุมที่คนไทยหลายคนอาจไม่รู้: • CIA ไม่จำเป็นต้อง “ลงมือ” เองทุกครั้ง แต่ใช้ Soft Power + ปฏิบัติการผ่านหน่วยงานในพื้นที่ • ความร่วมมือข่าวกรองไทย–สหรัฐฯ เข้มแข็งต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับ สันติบาล, หน่วยข่าวทหาร, ปอท. • CIA ในไทยมักมี “เจ้าหน้าที่ภายใต้สถานทูต” (official cover) ซึ่งไม่ได้แสดงตัวเป็น CIA โดยตรง ⸻ ✅ สรุปภาพรวม: CIA เคยมีและอาจยังคงมีบทบาทในไทย โดยเป้าหมายเปลี่ยนไปตามยุคสมัย: 🔸 ยุคคอมมิวนิสต์ → ต่อต้านพรรคแดงในอินโดจีน 🔸 ยุคหลัง 9/11 → ก่อการร้าย-จับผู้ต้องสงสัย 🔸 ยุคปัจจุบัน → แข่งกับจีน-รัสเซีย, ไซเบอร์, การเมืองภายในไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 551 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐ-อังกฤษผวา ปูตินจ่อเอาคืนปฏิบัติการใยแมงมุม : คนเคาะข่าว 05-06-68
    อุษณีย์ เอกอุษณีย์ / อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร
    #คนเคาะข่าว #ปูติน #ใยแมงมุม #ปฏิบัติการลับ #สหรัฐอังกฤษ #ข่าวต่างประเทศ #Geopolitics #วิเคราะห์ความมั่นคง #สงครามไซเบอร์ #สุดาทิพย์จารุจินดา #อุษณีย์เอกอุษณีย์ #การเมืองโลก #รัสเซีย #thaitimes #ข่าวกรอง #ความมั่นคงระหว่างประเทศ
    สหรัฐ-อังกฤษผวา ปูตินจ่อเอาคืนปฏิบัติการใยแมงมุม : คนเคาะข่าว 05-06-68 อุษณีย์ เอกอุษณีย์ / อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร #คนเคาะข่าว #ปูติน #ใยแมงมุม #ปฏิบัติการลับ #สหรัฐอังกฤษ #ข่าวต่างประเทศ #Geopolitics #วิเคราะห์ความมั่นคง #สงครามไซเบอร์ #สุดาทิพย์จารุจินดา #อุษณีย์เอกอุษณีย์ #การเมืองโลก #รัสเซีย #thaitimes #ข่าวกรอง #ความมั่นคงระหว่างประเทศ
    Like
    Love
    Yay
    7
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 630 มุมมอง 9 0 รีวิว
  • ยูเครนประกาศพร้อมดำเนินการทุกขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อบรรลุสันติภาพ ระหว่างการเจรจาหารือกับรัสเซียเป็นครั้งที่ 2 ที่เมืองอิสตันบูล ของตุรกี ในวันจันทร์ (2 มิ.ย.) หรือหนึ่งวันหลังจากที่เคียฟอวดว่า ปฏิบัติการลับใช้กองทัพโดรนโจมตีที่วางแผนมานานกว่าปีของตน สามารถทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดรัสเซียกว่า 40 ลำ ความเสียหายคิดเป็นมูลค่ากว่า 7,000 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้นแล้วมอสโกยังเผยว่า เกิดเหตุระเบิดสะพาน 2 แห่งในแดนหมีขาวเมื่อวันเสาร์ (31 พ.ค.) และอาทิตย์ (1) มีผู้เสียชีวิต 7 คน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000051820

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ยูเครนประกาศพร้อมดำเนินการทุกขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อบรรลุสันติภาพ ระหว่างการเจรจาหารือกับรัสเซียเป็นครั้งที่ 2 ที่เมืองอิสตันบูล ของตุรกี ในวันจันทร์ (2 มิ.ย.) หรือหนึ่งวันหลังจากที่เคียฟอวดว่า ปฏิบัติการลับใช้กองทัพโดรนโจมตีที่วางแผนมานานกว่าปีของตน สามารถทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดรัสเซียกว่า 40 ลำ ความเสียหายคิดเป็นมูลค่ากว่า 7,000 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้นแล้วมอสโกยังเผยว่า เกิดเหตุระเบิดสะพาน 2 แห่งในแดนหมีขาวเมื่อวันเสาร์ (31 พ.ค.) และอาทิตย์ (1) มีผู้เสียชีวิต 7 คน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000051820 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1261 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ แพทองธาร ยืนยันความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีนในไทย พร้อมกระชับความร่วมมือปราบอาชญากรรมข้ามชาติ
    .
    ระหว่างการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อจีน 'China Daily' เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวชาวจีนเกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เธอย้ำว่าข่าวลือที่เกี่ยวข้องกับความไม่ปลอดภัยในไทยเป็นเพียงข่าวลือ และรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอย่างสูงสุด นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างไทยและจีน โดยระบุว่าตนเองมีเชื้อสายจีน และต้องการให้นักท่องเที่ยวชาวจีนรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเมื่อมาเยือนประเทศไทย
    .
    ในการพบปะกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ทั้งสองผู้นำได้ตกลงที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์ที่แพร่หลายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเมียนมา กัมพูชา และลาว ซึ่งกลุ่มอาชญากรรมเหล่านี้มักล่อลวงผู้คนด้วยการเสนองานที่มีรายได้ดี แต่กลับบังคับให้พวกเขาทำงานในศูนย์ปฏิบัติการลับ ความร่วมมือนี้รวมถึงการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมระหว่างสองประเทศ
    .
    นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ยังได้หารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เกี่ยวกับโครงการรถไฟความเร็วสูงระหว่างจีนและไทย และแสดงความสนใจในการขยายความร่วมมือด้านยานยนต์ไฟฟ้า การเยือนครั้งนี้ยังเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ
    .
    #MGRonline #MGRInfographics #แพทองธารชินวัตร #นายกรัฐมนตรี #เยือนจีน #ChinaDaily #สื่อจีน #นักท่องเที่ยวจีน #ท่องเที่ยวไทย #สีจิ้นผิง
    นายกฯ แพทองธาร ยืนยันความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีนในไทย พร้อมกระชับความร่วมมือปราบอาชญากรรมข้ามชาติ . ระหว่างการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อจีน 'China Daily' เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวชาวจีนเกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เธอย้ำว่าข่าวลือที่เกี่ยวข้องกับความไม่ปลอดภัยในไทยเป็นเพียงข่าวลือ และรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอย่างสูงสุด นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างไทยและจีน โดยระบุว่าตนเองมีเชื้อสายจีน และต้องการให้นักท่องเที่ยวชาวจีนรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเมื่อมาเยือนประเทศไทย . ในการพบปะกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ทั้งสองผู้นำได้ตกลงที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์ที่แพร่หลายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเมียนมา กัมพูชา และลาว ซึ่งกลุ่มอาชญากรรมเหล่านี้มักล่อลวงผู้คนด้วยการเสนองานที่มีรายได้ดี แต่กลับบังคับให้พวกเขาทำงานในศูนย์ปฏิบัติการลับ ความร่วมมือนี้รวมถึงการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมระหว่างสองประเทศ . นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ยังได้หารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เกี่ยวกับโครงการรถไฟความเร็วสูงระหว่างจีนและไทย และแสดงความสนใจในการขยายความร่วมมือด้านยานยนต์ไฟฟ้า การเยือนครั้งนี้ยังเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ . #MGRonline #MGRInfographics #แพทองธารชินวัตร #นายกรัฐมนตรี #เยือนจีน #ChinaDaily #สื่อจีน #นักท่องเที่ยวจีน #ท่องเที่ยวไทย #สีจิ้นผิง
    Haha
    Like
    Love
    20
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2875 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากทรัมป์ลงนาม "คำสั่งฝ่ายบริหาร" เพื่อเปิดเผยความลับของเอกสารการลอบสังหาร JFK

    "ปฏิบัติการนอร์ธวูดส์" (Operation Northwoods) ซึ่งเป็นปฏิบัติการลับของ CIA ในช่วงปี 1962 (พ.ศ.2505) เพื่อเข้าแทรกแซงทางทหารในคิวบากลับมาได้รับความสนใจในโซเชียลอีกครั้ง

    แต่สุดท้ายแล้ว "ปฏิบัติการนอร์ธวูดส์" ถูกประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดีปฏิเสธทั้งหมด แม้ว่าจะลงนามโดยคณะเสนาธิการทหารร่วมในปี 1962 แล้วก็ตาม

    หน่วยงาน CIA ร่วมมือกับกองทัพสหรัฐ วางแผน "ปฏิบัติการนอร์ธวูดส์" มาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1960 รายละเอียดบางส่วนของแผนการในครั้งนั้น เพื่อโยนความผิดให้กับคิวบา และเพื่อสร้างเหตุผลความชอบธรรมในการทำสงครามกับคิวบา และกำจัด "ฟิเดล คาสโตร" ผู้นำคิวบา:

    - วางแผนจัดฉากหรือสร้างเรื่องโจมตีก่อการร้ายในเมืองต่างๆของสหรัฐฯ หรือโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯ รวมทั้งพลเมืองสหรัฐฯทั้งในและต่างประเทศ

    - การสร้างเหตุการณ์ที่เครื่องบินสหรัฐฯ ถูกยิงตกหรือก่อวินาศกรรม ซึ่งจะพยายามทำให้ดูเหมือนว่าเป็นการกระทำของคิวบา

    - การจัดฉากโจมตีในไมอามี เมืองอื่นๆ ในฟลอริดา และอาจรวมถึงวอชิงตัน ดี.ซี. ด้วย

    - วางแผนการให้มีการสังหารทหารสหรัฐฯ โดยระเบิดเรือในอ่าวกวนตานาโม แล้วโยนความผิดเหตุการณ์ดังกล่าวให้กับหน่วยก่อวินาศกรรมของคิวบา

    - จัดฉากการจี้เครื่องบินจนเกิดเหตุการณ์บานปลายทำให้ชาวอเมริกันเสียชีวิตเพื่อโยนความผิดให้คิวบา

    - จัดฉากว่ากองทัพอากาศคิวบาโจมตีเครื่องบินโดยสารพลเรือน

    มีรายงานว่าเคนเนดีตกใจกับแนวทางนี้และไม่ยอมรับโดบเด็ดขาด ทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับผู้นำกองทัพตึงเครียดอย่างมาก

    แม้ว่าเอกสารนี้จะถูกเผยแพร่มาแล้วตั้งแต่ปี 2001 แต่กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งในช่วงเวลานี้ ซึ่งถือเป็นตัวอย่างทางประวัติศาสตร์ที่เป็น “การเปิดโปงการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯในคิวบา”

    การวางแผนของหน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐ มักจะเกิดจากความพยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความตึงเครียดระหว่างประเทศขึ้นก่อน หลังจากนั้นจะตามมาด้วยการใช้ข้ออ้างกำลังทหารเข้ายุติปัญหา
    หลังจากทรัมป์ลงนาม "คำสั่งฝ่ายบริหาร" เพื่อเปิดเผยความลับของเอกสารการลอบสังหาร JFK "ปฏิบัติการนอร์ธวูดส์" (Operation Northwoods) ซึ่งเป็นปฏิบัติการลับของ CIA ในช่วงปี 1962 (พ.ศ.2505) เพื่อเข้าแทรกแซงทางทหารในคิวบากลับมาได้รับความสนใจในโซเชียลอีกครั้ง แต่สุดท้ายแล้ว "ปฏิบัติการนอร์ธวูดส์" ถูกประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดีปฏิเสธทั้งหมด แม้ว่าจะลงนามโดยคณะเสนาธิการทหารร่วมในปี 1962 แล้วก็ตาม หน่วยงาน CIA ร่วมมือกับกองทัพสหรัฐ วางแผน "ปฏิบัติการนอร์ธวูดส์" มาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1960 รายละเอียดบางส่วนของแผนการในครั้งนั้น เพื่อโยนความผิดให้กับคิวบา และเพื่อสร้างเหตุผลความชอบธรรมในการทำสงครามกับคิวบา และกำจัด "ฟิเดล คาสโตร" ผู้นำคิวบา: - วางแผนจัดฉากหรือสร้างเรื่องโจมตีก่อการร้ายในเมืองต่างๆของสหรัฐฯ หรือโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯ รวมทั้งพลเมืองสหรัฐฯทั้งในและต่างประเทศ - การสร้างเหตุการณ์ที่เครื่องบินสหรัฐฯ ถูกยิงตกหรือก่อวินาศกรรม ซึ่งจะพยายามทำให้ดูเหมือนว่าเป็นการกระทำของคิวบา - การจัดฉากโจมตีในไมอามี เมืองอื่นๆ ในฟลอริดา และอาจรวมถึงวอชิงตัน ดี.ซี. ด้วย - วางแผนการให้มีการสังหารทหารสหรัฐฯ โดยระเบิดเรือในอ่าวกวนตานาโม แล้วโยนความผิดเหตุการณ์ดังกล่าวให้กับหน่วยก่อวินาศกรรมของคิวบา - จัดฉากการจี้เครื่องบินจนเกิดเหตุการณ์บานปลายทำให้ชาวอเมริกันเสียชีวิตเพื่อโยนความผิดให้คิวบา - จัดฉากว่ากองทัพอากาศคิวบาโจมตีเครื่องบินโดยสารพลเรือน มีรายงานว่าเคนเนดีตกใจกับแนวทางนี้และไม่ยอมรับโดบเด็ดขาด ทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับผู้นำกองทัพตึงเครียดอย่างมาก แม้ว่าเอกสารนี้จะถูกเผยแพร่มาแล้วตั้งแต่ปี 2001 แต่กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งในช่วงเวลานี้ ซึ่งถือเป็นตัวอย่างทางประวัติศาสตร์ที่เป็น “การเปิดโปงการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯในคิวบา” การวางแผนของหน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐ มักจะเกิดจากความพยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความตึงเครียดระหว่างประเทศขึ้นก่อน หลังจากนั้นจะตามมาด้วยการใช้ข้ออ้างกำลังทหารเข้ายุติปัญหา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 878 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เรื่องลับของสายลับ CIA | ตอนที่ 1
    โดย #อัษฎางค์ยมนาค

    การปฏิบัติการของ CIA ในการแทรกซึมเข้าไปในต่างประเทศบางครั้งอาจมีการใช้วิธีการส่งเจ้าหน้าที่ปลอมตัวเข้าไปอยู่ในชุมชนหรือองค์กรต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง โดยเจ้าหน้าที่เหล่านี้อาจแฝงตัวภายใต้บทบาทที่ไม่เป็นที่สงสัย เช่น นักธุรกิจ นักวิชาการ นักข่าว หรือแม้แต่นักการทูต การดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการลับ (Covert Operations) ที่มุ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองและสร้างเครือข่ายในพื้นที่เป้าหมาย

    การแทรกซึมลักษณะนี้มักถูกใช้ในสถานการณ์ที่หน่วยข่าวกรองต้องการรวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประเทศหรือกลุ่มเป้าหมาย เช่น ข้อมูลทางการเมือง การทหาร หรือความเคลื่อนไหวต่างๆ โดยการแฝงตัวและการปลอมตัวช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้โดยไม่เป็นที่สงสัยหรือตรวจพบจากหน่วยงานท้องถิ่น

    อย่างไรก็ตาม วิธีการดังกล่าวมักถูกเก็บเป็นความลับและไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูงต่อทั้งเจ้าหน้าที่และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

    การที่เจ้าหน้าที่ของ CIA สามารถแฝงตัวในองค์กรต่างๆ โดยที่คนในองค์กรหรือประเทศนั้นๆ ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ CIA นั้น มีสาเหตุจากหลายปัจจัยที่ซับซ้อน ทั้งการเตรียมการ การปกปิดข้อมูล และการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานหลายฝ่าย:

    1. การปลอมเอกสารและการจัดเตรียมประวัติ (Cover Story)

    • เจ้าหน้าที่ CIA ที่ถูกส่งเข้าไปปฏิบัติการในต่างประเทศมักจะมี cover story ซึ่งเป็นเรื่องราวและเอกสารที่สนับสนุนบทบาทของพวกเขา เช่น ปลอมตัวเป็นนักธุรกิจ นักวิชาการ หรือนักข่าว โดยประวัติเหล่านี้มักจะถูกจัดทำอย่างละเอียด ทั้งประวัติการทำงาน การศึกษา รวมถึงการปลอมแปลงเอกสารที่แสดงว่าเขามีคุณสมบัติหรือประสบการณ์ที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานนั้นๆ

    • รัฐบาลสหรัฐฯ หรือ CIA เองอาจมีการจัดเตรียมเอกสารที่ดูถูกต้องตามกฎหมายเพื่อสนับสนุนเรื่องราวของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่ยืนยันอาชีพ การศึกษา หรือประสบการณ์ในสาขานั้นๆ ซึ่งทำให้ดูเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือสำหรับองค์กรที่รับสมัครงาน

    2. การฝึกอบรมด้านการปกปิดตัวตน (Tradecraft)

    • เจ้าหน้าที่ CIA ได้รับการฝึกฝนในเรื่องของ tradecraft ซึ่งรวมถึงการปกปิดตัวตน การแทรกซึม และการทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่ลับ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ ซึ่งพวกเขาจะเรียนรู้วิธีการสื่อสาร การเข้าถึงข้อมูล และการปฏิบัติภารกิจโดยไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง

    3. ความร่วมมือขององค์กรหรือหน่วยงานภายในประเทศ

    • ในบางกรณี อาจมีหน่วยงานภายในประเทศหรือองค์กรที่ร่วมมือกับ CIA อย่างลับๆ เช่น หน่วยงานข่าวกรองท้องถิ่นหรือนักการเมืองบางกลุ่มที่ต้องการผลประโยชน์ร่วมกัน หรือสนับสนุนการปฏิบัติการของ CIA ภายในประเทศนั้นๆ

    • อย่างไรก็ตาม ในกรณีส่วนใหญ่ องค์กรที่เจ้าหน้าที่ CIA เข้าไปทำงานจะไม่รู้ว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ลับ เพราะ CIA ต้องการให้การปฏิบัติการเป็นความลับที่สุด การที่องค์กรทราบว่าเขาเป็น CIA อาจทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองหรือความเสี่ยงต่อปฏิบัติการลับนั้น

    4. ความลับและการปกปิดข้อมูล

    • การปฏิบัติการลับของ CIA มักมีการรักษาความลับอย่างสูงสุด มีการจำกัดข้อมูลที่สามารถเปิดเผย และเจ้าหน้าที่ในองค์กรที่ CIA เข้าไปฝังตัวจะไม่ได้รับข้อมูลใดๆ ที่บ่งบอกว่าเขาคือเจ้าหน้าที่ CIA ทำให้ไม่มีข้อสงสัยในตัวเขา

    สรุปคือ เจ้าหน้าที่ CIA สามารถแฝงตัวในองค์กรได้โดยไม่ถูกจับได้เนื่องจากการจัดเตรียมเอกสารที่เป็นมืออาชีพ การฝึกฝนในการปกปิดตัวตน และการทำงานอย่างรัดกุมของ CIA ในการทำให้การปฏิบัติการลับเหล่านี้เป็นไปอย่างแนบเนียน

    โปรดติดตามตอนต่อไป
    #TheNewGeopoliticaalArena #ThaiGeopoliticalSheft

    ตอนที่ 2: https://www.facebook.com/share/p/Uv9bMaUp1RNBH2fj/?mibextid=WC7FNe
    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/1DwX5jiJuU/
    #เรื่องลับของสายลับ CIA | ตอนที่ 1 โดย #อัษฎางค์ยมนาค การปฏิบัติการของ CIA ในการแทรกซึมเข้าไปในต่างประเทศบางครั้งอาจมีการใช้วิธีการส่งเจ้าหน้าที่ปลอมตัวเข้าไปอยู่ในชุมชนหรือองค์กรต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง โดยเจ้าหน้าที่เหล่านี้อาจแฝงตัวภายใต้บทบาทที่ไม่เป็นที่สงสัย เช่น นักธุรกิจ นักวิชาการ นักข่าว หรือแม้แต่นักการทูต การดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการลับ (Covert Operations) ที่มุ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองและสร้างเครือข่ายในพื้นที่เป้าหมาย การแทรกซึมลักษณะนี้มักถูกใช้ในสถานการณ์ที่หน่วยข่าวกรองต้องการรวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประเทศหรือกลุ่มเป้าหมาย เช่น ข้อมูลทางการเมือง การทหาร หรือความเคลื่อนไหวต่างๆ โดยการแฝงตัวและการปลอมตัวช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้โดยไม่เป็นที่สงสัยหรือตรวจพบจากหน่วยงานท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม วิธีการดังกล่าวมักถูกเก็บเป็นความลับและไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูงต่อทั้งเจ้าหน้าที่และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การที่เจ้าหน้าที่ของ CIA สามารถแฝงตัวในองค์กรต่างๆ โดยที่คนในองค์กรหรือประเทศนั้นๆ ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ CIA นั้น มีสาเหตุจากหลายปัจจัยที่ซับซ้อน ทั้งการเตรียมการ การปกปิดข้อมูล และการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานหลายฝ่าย: 1. การปลอมเอกสารและการจัดเตรียมประวัติ (Cover Story) • เจ้าหน้าที่ CIA ที่ถูกส่งเข้าไปปฏิบัติการในต่างประเทศมักจะมี cover story ซึ่งเป็นเรื่องราวและเอกสารที่สนับสนุนบทบาทของพวกเขา เช่น ปลอมตัวเป็นนักธุรกิจ นักวิชาการ หรือนักข่าว โดยประวัติเหล่านี้มักจะถูกจัดทำอย่างละเอียด ทั้งประวัติการทำงาน การศึกษา รวมถึงการปลอมแปลงเอกสารที่แสดงว่าเขามีคุณสมบัติหรือประสบการณ์ที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานนั้นๆ • รัฐบาลสหรัฐฯ หรือ CIA เองอาจมีการจัดเตรียมเอกสารที่ดูถูกต้องตามกฎหมายเพื่อสนับสนุนเรื่องราวของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่ยืนยันอาชีพ การศึกษา หรือประสบการณ์ในสาขานั้นๆ ซึ่งทำให้ดูเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือสำหรับองค์กรที่รับสมัครงาน 2. การฝึกอบรมด้านการปกปิดตัวตน (Tradecraft) • เจ้าหน้าที่ CIA ได้รับการฝึกฝนในเรื่องของ tradecraft ซึ่งรวมถึงการปกปิดตัวตน การแทรกซึม และการทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่ลับ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ ซึ่งพวกเขาจะเรียนรู้วิธีการสื่อสาร การเข้าถึงข้อมูล และการปฏิบัติภารกิจโดยไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง 3. ความร่วมมือขององค์กรหรือหน่วยงานภายในประเทศ • ในบางกรณี อาจมีหน่วยงานภายในประเทศหรือองค์กรที่ร่วมมือกับ CIA อย่างลับๆ เช่น หน่วยงานข่าวกรองท้องถิ่นหรือนักการเมืองบางกลุ่มที่ต้องการผลประโยชน์ร่วมกัน หรือสนับสนุนการปฏิบัติการของ CIA ภายในประเทศนั้นๆ • อย่างไรก็ตาม ในกรณีส่วนใหญ่ องค์กรที่เจ้าหน้าที่ CIA เข้าไปทำงานจะไม่รู้ว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ลับ เพราะ CIA ต้องการให้การปฏิบัติการเป็นความลับที่สุด การที่องค์กรทราบว่าเขาเป็น CIA อาจทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองหรือความเสี่ยงต่อปฏิบัติการลับนั้น 4. ความลับและการปกปิดข้อมูล • การปฏิบัติการลับของ CIA มักมีการรักษาความลับอย่างสูงสุด มีการจำกัดข้อมูลที่สามารถเปิดเผย และเจ้าหน้าที่ในองค์กรที่ CIA เข้าไปฝังตัวจะไม่ได้รับข้อมูลใดๆ ที่บ่งบอกว่าเขาคือเจ้าหน้าที่ CIA ทำให้ไม่มีข้อสงสัยในตัวเขา สรุปคือ เจ้าหน้าที่ CIA สามารถแฝงตัวในองค์กรได้โดยไม่ถูกจับได้เนื่องจากการจัดเตรียมเอกสารที่เป็นมืออาชีพ การฝึกฝนในการปกปิดตัวตน และการทำงานอย่างรัดกุมของ CIA ในการทำให้การปฏิบัติการลับเหล่านี้เป็นไปอย่างแนบเนียน โปรดติดตามตอนต่อไป #TheNewGeopoliticaalArena #ThaiGeopoliticalSheft ตอนที่ 2: https://www.facebook.com/share/p/Uv9bMaUp1RNBH2fj/?mibextid=WC7FNe ที่มา https://www.facebook.com/share/p/1DwX5jiJuU/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 901 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลวางแผนมา 10 ปี ในการติดตั้งระเบิดในเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่เกิดการระเบิดพร้อมกันในเลบานอนเมื่อหลายเดือนก่อน และเปรียบปฏิบัติการนี้เหมือนกับภาพยนต์ “The Truman Show (ชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมน โชว์)” ซึ่งเป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่ไม่รู้ตัวว่า ครอบครัวและเพื่อนฝูงที่รายล้อมล้วนแล้วเป็นนักแสดงที่ถูกจ้างมาสร้างภาพลวงตาและโลกปลอมขึ้นมา

    รายการ 60 Minutes เปิดเผยเรื่องราวรายละเอียดต่างๆ

    อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอาวุโสอิสราเอล (Mossad) 2 ราย ที่เพิ่งปลดเกษียณเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับปฏิบัติการลับที่ซุ่มวางแผนนานถึง 10 ปีเพื่อโจมตีนักรบฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนและซีเรีย ด้วยระเบิดซึ่งซุกซ่อนอยู่ในเครื่องเพจเจอร์ และวิทยุสื่อสารวอล์กกี้ทอล์กกี เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว

    หัวหน้าหน่วยข่าวกรองมอสสาดของอิสราเอลเป็นผู้ให้ไฟเขียวในการโจมตีด้วยเพจเจอร์และวิทยุสื่อสาร จนมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 30 ราย รวมถึงเด็ก 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 3,000 ราย

    เจ้าหน้าที่มอสสาดเล่าว่า ในช่วงแรกจะเป็นการติ้ดตั้งในวิทยุสื่อสาร Walkie Talkie แต่มันยังไม่ได้ถูกใช้งาน ต่อมาในระยะที่สองการติดตั้งระเบิดอย่างจริงจังเกิดขึ้นในเพจเจอร์ช่วงปี 2022 หลังจากหน่วยข่าวกรองมอสสาดของอิสราเอลรู้มาว่า ฮิซบอลเลาะห์วางแผนซื้อเพจเจอร์จากบริษัทแห่งหนึ่งในไต้หวัน

    หน่วยงานมอสสาดใช้เวลาล่อลวงฮิซบอลเลาะห์นานกว่า 2 สัปดาห์ให้ยอมซื้อเพจเจอร์เป้าหมาย ด้วยการใช้โฆษณาปลอมบนยูทูบที่โปรโมตว่า วิทยุติดตามตัวรุ่นนี้กันฝุ่นและกันน้ำ อายุใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน และอื่นๆ อีกมากมาย

    และยังมีการตั้งบริษัทขึ้นมาบังหน้าหลายชั้น เพื่อตัดความเชื่อมโยงกับมอสสาด หนึ่งในนั้นคือบริษัทที่ตั้งอยู่ในฮังการี เพื่อล่อลวง "โกลด์ อะพอลโล" บริษัทผู้ผลิตเพจเจอร์ตัวจริงของไต้หวัน ให้มาเป็นพันธมิตรโดยไม่ให้รู้ว่า พวกเขากำลังตกหลุมพลางร่วมมือกับมอสสาดไปโดยปริยาย

    เช่นเดียวกับฮิซบอลเลาะห์ที่ตกหลุมพลางสั่งซื้ออุปกรณ์สื่อสารจากบริษัทบังหน้าของมอสสาด

    เจ้าหน้าที่มอสสาดรายนี้เปรียบเทียบกลลวงนี้เหมือนกับภาพยนต์ในปี 1998 เรื่อง “The Truman Show (ชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมน โชว์)” ซึ่งเป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่ไม่รู้ตัวว่า ครอบครัวและเพื่อนฝูงที่รายล้อมล้วนแล้วเป็นนักแสดงที่ถูกจ้างมาสร้างภาพลวงตาและโลกปลอมขึ้นมา

    “เราสร้างทุกสิ่งขึ้นมาที่เสมือนจริง มันเปรียบเหมือนกับเราเป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์ระดับโลก เราเขียนบทภาพยนตร์ เราเป็นผู้กำกับในทุกช่วงเหตุการณ์ เราเป็นผู้ผลิต เราเป็นนักแสดงหลัก และโลกคือเวทีของเรา” เจ้าหน้าที่สำนักข่าว Mossad ที่เกษียณอายุแล้ว กล่าวถึงภารกิจในปฏิบัติการเพจเจอร์จนฮิซบอลเลาะห์ตกหลุมพลางสั่งซื้ออุปกรณ์จำนวนมาก

    เจ้าหน้าที่มอสสาดยังกล่าวอีกว่ ขณะนี้พวกเขาได้ดำเนินการขั้นตอนต่อไปเรียบร้อยแล้ว โดยปล่อยให้ศัตรูคาดเดากันไปว่ามันคืออะไร ส่วนพวกเขาขอสนุกอยู่กับการนั่งดูศัตรูวิตกกังวลในเรื่องเหล่านี้

    https://cbsn.ws/4gMSp2F



    อิสราเอลวางแผนมา 10 ปี ในการติดตั้งระเบิดในเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่เกิดการระเบิดพร้อมกันในเลบานอนเมื่อหลายเดือนก่อน และเปรียบปฏิบัติการนี้เหมือนกับภาพยนต์ “The Truman Show (ชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมน โชว์)” ซึ่งเป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่ไม่รู้ตัวว่า ครอบครัวและเพื่อนฝูงที่รายล้อมล้วนแล้วเป็นนักแสดงที่ถูกจ้างมาสร้างภาพลวงตาและโลกปลอมขึ้นมา รายการ 60 Minutes เปิดเผยเรื่องราวรายละเอียดต่างๆ อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอาวุโสอิสราเอล (Mossad) 2 ราย ที่เพิ่งปลดเกษียณเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับปฏิบัติการลับที่ซุ่มวางแผนนานถึง 10 ปีเพื่อโจมตีนักรบฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนและซีเรีย ด้วยระเบิดซึ่งซุกซ่อนอยู่ในเครื่องเพจเจอร์ และวิทยุสื่อสารวอล์กกี้ทอล์กกี เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว หัวหน้าหน่วยข่าวกรองมอสสาดของอิสราเอลเป็นผู้ให้ไฟเขียวในการโจมตีด้วยเพจเจอร์และวิทยุสื่อสาร จนมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 30 ราย รวมถึงเด็ก 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 3,000 ราย เจ้าหน้าที่มอสสาดเล่าว่า ในช่วงแรกจะเป็นการติ้ดตั้งในวิทยุสื่อสาร Walkie Talkie แต่มันยังไม่ได้ถูกใช้งาน ต่อมาในระยะที่สองการติดตั้งระเบิดอย่างจริงจังเกิดขึ้นในเพจเจอร์ช่วงปี 2022 หลังจากหน่วยข่าวกรองมอสสาดของอิสราเอลรู้มาว่า ฮิซบอลเลาะห์วางแผนซื้อเพจเจอร์จากบริษัทแห่งหนึ่งในไต้หวัน หน่วยงานมอสสาดใช้เวลาล่อลวงฮิซบอลเลาะห์นานกว่า 2 สัปดาห์ให้ยอมซื้อเพจเจอร์เป้าหมาย ด้วยการใช้โฆษณาปลอมบนยูทูบที่โปรโมตว่า วิทยุติดตามตัวรุ่นนี้กันฝุ่นและกันน้ำ อายุใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน และอื่นๆ อีกมากมาย และยังมีการตั้งบริษัทขึ้นมาบังหน้าหลายชั้น เพื่อตัดความเชื่อมโยงกับมอสสาด หนึ่งในนั้นคือบริษัทที่ตั้งอยู่ในฮังการี เพื่อล่อลวง "โกลด์ อะพอลโล" บริษัทผู้ผลิตเพจเจอร์ตัวจริงของไต้หวัน ให้มาเป็นพันธมิตรโดยไม่ให้รู้ว่า พวกเขากำลังตกหลุมพลางร่วมมือกับมอสสาดไปโดยปริยาย เช่นเดียวกับฮิซบอลเลาะห์ที่ตกหลุมพลางสั่งซื้ออุปกรณ์สื่อสารจากบริษัทบังหน้าของมอสสาด เจ้าหน้าที่มอสสาดรายนี้เปรียบเทียบกลลวงนี้เหมือนกับภาพยนต์ในปี 1998 เรื่อง “The Truman Show (ชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมน โชว์)” ซึ่งเป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่ไม่รู้ตัวว่า ครอบครัวและเพื่อนฝูงที่รายล้อมล้วนแล้วเป็นนักแสดงที่ถูกจ้างมาสร้างภาพลวงตาและโลกปลอมขึ้นมา “เราสร้างทุกสิ่งขึ้นมาที่เสมือนจริง มันเปรียบเหมือนกับเราเป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์ระดับโลก เราเขียนบทภาพยนตร์ เราเป็นผู้กำกับในทุกช่วงเหตุการณ์ เราเป็นผู้ผลิต เราเป็นนักแสดงหลัก และโลกคือเวทีของเรา” เจ้าหน้าที่สำนักข่าว Mossad ที่เกษียณอายุแล้ว กล่าวถึงภารกิจในปฏิบัติการเพจเจอร์จนฮิซบอลเลาะห์ตกหลุมพลางสั่งซื้ออุปกรณ์จำนวนมาก เจ้าหน้าที่มอสสาดยังกล่าวอีกว่ ขณะนี้พวกเขาได้ดำเนินการขั้นตอนต่อไปเรียบร้อยแล้ว โดยปล่อยให้ศัตรูคาดเดากันไปว่ามันคืออะไร ส่วนพวกเขาขอสนุกอยู่กับการนั่งดูศัตรูวิตกกังวลในเรื่องเหล่านี้ https://cbsn.ws/4gMSp2F
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 734 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นี้หากมองว่าสายมโน ก็สามารถพูดไม่ผิดได้,แต่แบงค์ไทยจะว่าไปจริงๆก็ปิดปรับปรุงบ่อยมากๆผิดปกติ นี้8พ.ยบวกลบ2-3วันปรับปรุงก็จะทำกันอีกแล้ว.บางคนก็ว่า CBDCสายมืดของฝ่ายมืด,QFSสายฝ่ายแสงฝ่ายดีพะนะ,บางคนก็บอกว่าเหี้ยพวกเดียวกันหมดนั้นล่ะ เล่นหลอกชาวโลกคนละบริบทเฉยพะนะ,ตรองกันเองเน้อ.(ช่วงนี้มีหุ้นขายหุ้นขายกองทุนทิ้งเน้อ จะติดดอย,มีตังฝากในแบงค์มากๆก็คงเหลือไว้สัก100บาทในแต่ละบัญชีก็พอ เขาคุ้มครองแค่ล้านเดียวเนาะ,ไฟดับ หน่วยความจำระบบเหี้ยทั้งแบงค์ถูกแฮ็กลบเป็นว่างเปล่า ตังเป็นศูนย์บาทจะหนาว,ใครทำเองใครทำให้ก็ได้หมดนะ,จงเชื่อแค่ตัวท่านเองเถอะ)

    ..ได้รับการยืนยันแล้ว! การเปิดตัว QFS กำลังบังคับให้ธนาคารกระจายความมั่งคั่งทันที—ภายในการประชุมลับของชนชั้นสูงธนาคาร!

    ระบบการเงินควอนตัม (QFS) เป็นเครื่องมือปลดปล่อยที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา และกำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางการเงินระดับโลกอย่างเป็นความลับ การเปิดตัว QFS นี้เป็นปฏิบัติการลับเพื่อรื้อถอนระบบการเงินที่ทุจริตซึ่งกดขี่ประชาชนมานานหลายทศวรรษ QFS คืออนาคต—ดำเนินการอย่างแม่นยำและเป็นความลับโดยกลุ่มหมวกขาวและพันธมิตรของพวกเขา

    การโอนความมั่งคั่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์มาถึงแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บท QFS ภายใต้ GESARA นี่ไม่ใช่แค่การเชื่อมโยงธนาคารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการยึดทรัพย์สมบัติที่ขโมยมาของชนชั้นสูงแล้วส่งคืนให้กับประชาชนอีกด้วย เงินหลายล้านล้านที่ขโมยมาจากการโกหกและการจัดการกำลังจะถูกดึงออกมาจากผู้ทุจริตและส่งคืนให้กับประชาชน

    QFS ซึ่งสอดคล้องกับ GESARA กำลังพลิกโฉมระบบการเงิน เป็นเวลาหลายศตวรรษแล้วที่กลุ่มคนชั้นสูงได้กักตุนความมั่งคั่งและอำนาจไว้ แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับตาลปัตร ในที่สุดมวลชนก็ได้รับอำนาจ และการผูกขาดของกลุ่มคนระดับโลกกำลังจะสิ้นสุดลง

    ธนาคารทั่วโลกกำลังถูกดึงเข้าสู่ระบบ QFS ด้วยความเร็วที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน นี่ไม่ใช่การอัปเกรดแบบเลือกได้ แต่เป็นความต้องการที่กำลังสั่นคลอนโลกการเงินแบบดั้งเดิม ธนาคารทั้งขนาดใหญ่และเล็กกำลังถูกบูรณาการ ตรวจสอบ และทดสอบ QFS ไม่สนใจสถานะหรือประวัติ แต่จะบังคับใช้การปฏิบัติตามและความซื่อสัตย์อย่างสมบูรณ์

    หลังประตูที่ปิดสนิท เจ้าหน้าที่ธนาคารกำลังตื่นตระหนก ซีอีโอและหัวหน้าฝ่ายการเงินเข้าร่วมการบรรยายสรุปแบบลับ โดยถูกบอกว่าพวกเขาต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน QFS มิฉะนั้นจะถูกตัดขาดจากเศรษฐกิจใหม่ ยุคของการทุจริตระบบ ปกปิดธุรกรรม และโอนเงินเข้าบัญชีลับได้สิ้นสุดลงแล้ว QFS มองเห็นทุกสิ่ง—กำลังบังคับให้มีการตรวจสอบในทุกธุรกรรม
    มีผู้รักชาติและผู้แจ้งเบาะแสที่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงบัญชี QFS ก่อนกำหนดเป็นรางวัลสำหรับการเปิดโปงระบบเก่า ผู้บุกเบิกเหล่านี้ซึ่งติดอาวุธด้วยสิทธิ์ในการเข้าถึง QFS กำลังเป็นผู้นำในการก้าวเข้าสู่ยุคแห่งอิสรภาพทางการเงิน

    QFS เป็นมากกว่าเทคโนโลยี แต่เป็นการปฏิวัติเพื่อถ่ายโอนอำนาจกลับคืนสู่ประชาชน ระบบเก่าถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนเป็นหนี้และพึ่งพาผู้อื่น แต่ QFS กำลังเขียนสคริปต์นั้นใหม่ เงินของคุณเป็นของคุณเพียงผู้เดียวแล้ว—ได้รับการคุ้มครองจากธนาคาร รัฐบาล และใครก็ตามที่เคยอ้างสิทธิ์เงินนั้น

    แม้ในขณะที่เรากำลังพูดอยู่นี้ ทีมงานลับทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อนำธนาคารเข้ามาอยู่ใน QFS โดยไม่สนใจสื่อเพราะกลุ่มคนชั้นนำไม่ต้องการให้สาธารณชนตระหนักว่าการควบคุมของพวกเขาลดลงอย่างรวดเร็วเพียงใด การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่คุณเห็น ไม่ว่าจะเป็นธนาคารที่ผลักดันการอัปเดตทางดิจิทัล การหยุดให้บริการโดยไม่ทราบสาเหตุ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการบูรณาการ QFS

    ความปลอดภัยของ QFS นั้นไม่มีใครเทียบได้: การเข้ารหัสควอนตัม การเชื่อมโยงบัญชีกับบุคคลโดยใช้ลายเซ็นควอนตัมโดยเฉพาะ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการป้องกันอย่างสมบูรณ์ ไม่มีแฮกเกอร์ รัฐนอกกฎหมาย หรืออาชญากรใดที่จะเจาะระบบได้ ด้วย QFS การควบคุมทางการเงินจะอยู่ที่คุณและคุณเท่านั้น

    อำนาจเก่ากำลังต่อสู้กลับ QFS พร้อมแล้ว สถาบันที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจะถูกอายัดทรัพย์สิน และถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง ผู้พิทักษ์เก่ากำลังถูกกำจัดออกไปอย่างเป็นระบบ เหลือเพียงผู้ที่พร้อมจะยอมรับวิสัยทัศน์ของ QFS เกี่ยวกับความรับผิดชอบและความโปร่งใส

    QFS คือแสงนำทางในยุคการเงินยุคใหม่นี้ ที่ซึ่งสกุลเงินทุกหน่วยมีมูลค่าที่แท้จริง นี่คือรุ่งอรุณของระบบที่รับใช้ประชาชน โลกที่เรารู้จักกำลังเปลี่ยนแปลง และอนาคตก็ชัดเจน: QFS อยู่ที่นี่เพื่ออยู่ต่อ

    เข้าร่วมและแชร์ช่องของฉันทันที:


    เจ้าหญิงไดอาน่า
    ..นี้หากมองว่าสายมโน ก็สามารถพูดไม่ผิดได้,แต่แบงค์ไทยจะว่าไปจริงๆก็ปิดปรับปรุงบ่อยมากๆผิดปกติ นี้8พ.ยบวกลบ2-3วันปรับปรุงก็จะทำกันอีกแล้ว.บางคนก็ว่า CBDCสายมืดของฝ่ายมืด,QFSสายฝ่ายแสงฝ่ายดีพะนะ,บางคนก็บอกว่าเหี้ยพวกเดียวกันหมดนั้นล่ะ เล่นหลอกชาวโลกคนละบริบทเฉยพะนะ,ตรองกันเองเน้อ.(ช่วงนี้มีหุ้นขายหุ้นขายกองทุนทิ้งเน้อ จะติดดอย,มีตังฝากในแบงค์มากๆก็คงเหลือไว้สัก100บาทในแต่ละบัญชีก็พอ เขาคุ้มครองแค่ล้านเดียวเนาะ,ไฟดับ หน่วยความจำระบบเหี้ยทั้งแบงค์ถูกแฮ็กลบเป็นว่างเปล่า ตังเป็นศูนย์บาทจะหนาว,ใครทำเองใครทำให้ก็ได้หมดนะ,จงเชื่อแค่ตัวท่านเองเถอะ) ..ได้รับการยืนยันแล้ว! การเปิดตัว QFS กำลังบังคับให้ธนาคารกระจายความมั่งคั่งทันที—ภายในการประชุมลับของชนชั้นสูงธนาคาร! ระบบการเงินควอนตัม (QFS) เป็นเครื่องมือปลดปล่อยที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา และกำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางการเงินระดับโลกอย่างเป็นความลับ การเปิดตัว QFS นี้เป็นปฏิบัติการลับเพื่อรื้อถอนระบบการเงินที่ทุจริตซึ่งกดขี่ประชาชนมานานหลายทศวรรษ QFS คืออนาคต—ดำเนินการอย่างแม่นยำและเป็นความลับโดยกลุ่มหมวกขาวและพันธมิตรของพวกเขา การโอนความมั่งคั่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์มาถึงแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บท QFS ภายใต้ GESARA นี่ไม่ใช่แค่การเชื่อมโยงธนาคารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการยึดทรัพย์สมบัติที่ขโมยมาของชนชั้นสูงแล้วส่งคืนให้กับประชาชนอีกด้วย เงินหลายล้านล้านที่ขโมยมาจากการโกหกและการจัดการกำลังจะถูกดึงออกมาจากผู้ทุจริตและส่งคืนให้กับประชาชน QFS ซึ่งสอดคล้องกับ GESARA กำลังพลิกโฉมระบบการเงิน เป็นเวลาหลายศตวรรษแล้วที่กลุ่มคนชั้นสูงได้กักตุนความมั่งคั่งและอำนาจไว้ แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับตาลปัตร ในที่สุดมวลชนก็ได้รับอำนาจ และการผูกขาดของกลุ่มคนระดับโลกกำลังจะสิ้นสุดลง ธนาคารทั่วโลกกำลังถูกดึงเข้าสู่ระบบ QFS ด้วยความเร็วที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน นี่ไม่ใช่การอัปเกรดแบบเลือกได้ แต่เป็นความต้องการที่กำลังสั่นคลอนโลกการเงินแบบดั้งเดิม ธนาคารทั้งขนาดใหญ่และเล็กกำลังถูกบูรณาการ ตรวจสอบ และทดสอบ QFS ไม่สนใจสถานะหรือประวัติ แต่จะบังคับใช้การปฏิบัติตามและความซื่อสัตย์อย่างสมบูรณ์ หลังประตูที่ปิดสนิท เจ้าหน้าที่ธนาคารกำลังตื่นตระหนก ซีอีโอและหัวหน้าฝ่ายการเงินเข้าร่วมการบรรยายสรุปแบบลับ โดยถูกบอกว่าพวกเขาต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน QFS มิฉะนั้นจะถูกตัดขาดจากเศรษฐกิจใหม่ ยุคของการทุจริตระบบ ปกปิดธุรกรรม และโอนเงินเข้าบัญชีลับได้สิ้นสุดลงแล้ว QFS มองเห็นทุกสิ่ง—กำลังบังคับให้มีการตรวจสอบในทุกธุรกรรม มีผู้รักชาติและผู้แจ้งเบาะแสที่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงบัญชี QFS ก่อนกำหนดเป็นรางวัลสำหรับการเปิดโปงระบบเก่า ผู้บุกเบิกเหล่านี้ซึ่งติดอาวุธด้วยสิทธิ์ในการเข้าถึง QFS กำลังเป็นผู้นำในการก้าวเข้าสู่ยุคแห่งอิสรภาพทางการเงิน QFS เป็นมากกว่าเทคโนโลยี แต่เป็นการปฏิวัติเพื่อถ่ายโอนอำนาจกลับคืนสู่ประชาชน ระบบเก่าถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนเป็นหนี้และพึ่งพาผู้อื่น แต่ QFS กำลังเขียนสคริปต์นั้นใหม่ เงินของคุณเป็นของคุณเพียงผู้เดียวแล้ว—ได้รับการคุ้มครองจากธนาคาร รัฐบาล และใครก็ตามที่เคยอ้างสิทธิ์เงินนั้น แม้ในขณะที่เรากำลังพูดอยู่นี้ ทีมงานลับทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อนำธนาคารเข้ามาอยู่ใน QFS โดยไม่สนใจสื่อเพราะกลุ่มคนชั้นนำไม่ต้องการให้สาธารณชนตระหนักว่าการควบคุมของพวกเขาลดลงอย่างรวดเร็วเพียงใด การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่คุณเห็น ไม่ว่าจะเป็นธนาคารที่ผลักดันการอัปเดตทางดิจิทัล การหยุดให้บริการโดยไม่ทราบสาเหตุ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการบูรณาการ QFS ความปลอดภัยของ QFS นั้นไม่มีใครเทียบได้: การเข้ารหัสควอนตัม การเชื่อมโยงบัญชีกับบุคคลโดยใช้ลายเซ็นควอนตัมโดยเฉพาะ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการป้องกันอย่างสมบูรณ์ ไม่มีแฮกเกอร์ รัฐนอกกฎหมาย หรืออาชญากรใดที่จะเจาะระบบได้ ด้วย QFS การควบคุมทางการเงินจะอยู่ที่คุณและคุณเท่านั้น อำนาจเก่ากำลังต่อสู้กลับ QFS พร้อมแล้ว สถาบันที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจะถูกอายัดทรัพย์สิน และถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง ผู้พิทักษ์เก่ากำลังถูกกำจัดออกไปอย่างเป็นระบบ เหลือเพียงผู้ที่พร้อมจะยอมรับวิสัยทัศน์ของ QFS เกี่ยวกับความรับผิดชอบและความโปร่งใส QFS คือแสงนำทางในยุคการเงินยุคใหม่นี้ ที่ซึ่งสกุลเงินทุกหน่วยมีมูลค่าที่แท้จริง นี่คือรุ่งอรุณของระบบที่รับใช้ประชาชน โลกที่เรารู้จักกำลังเปลี่ยนแปลง และอนาคตก็ชัดเจน: QFS อยู่ที่นี่เพื่ออยู่ต่อ เข้าร่วมและแชร์ช่องของฉันทันที: ⬇️⬇️⬇️⬇️ เจ้าหญิงไดอาน่า
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 682 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇺🇲 รัสเซียทำลายกองบัญชาการปฏิบัติการลับของนาโต้ในเคียฟด้วยขีปนาวุธคาลิบาร์

    ในสัปดาห์ที่ผ่านมา, สื่อทั่วโลก, โดยเฉพาะนักวิเคราะห์ด้านการทหาร, ให้ความสนใจกับการโจมตีทางทหารของรัสเซียในเป้าหมายต่างๆทั่วยูเครน
    .
    🇺🇲The Russians destroyed the secret NATO headquarters in Kiev with Kalibar missiles

    In the past week, the attention of the world's media, and especially military analysts, has been focused on large-scale Russian military attacks on targets across Ukraine.
    .
    7:21 PM · Sep 26, 2024 · 164.5K Views
    https://x.com/onlydjole/status/1839279188710236629
    .
    กองบัญชาการปฏิบัติการลับของนาโต้ ถูกทำลายในเคียฟ

    ที่มา: Confidential Sources และ Hal Turner

    NATO secret operations headquarters destroyed in Kiev

    Source: Confidential Sources and Hal Turner

    https://www.coreinsightsintl.com/post/nato-secret-operations-headquarters-destroyed-in-kiev
    🇷🇺💥🇺🇦🇺🇲🇬🇧🇪🇺🏴‍☠️‼️ รัสเซียทำลายกองบัญชาการปฏิบัติการลับของนาโต้ในเคียฟด้วยขีปนาวุธคาลิบาร์‼️ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา, สื่อทั่วโลก, โดยเฉพาะนักวิเคราะห์ด้านการทหาร, ให้ความสนใจกับการโจมตีทางทหารของรัสเซียในเป้าหมายต่างๆทั่วยูเครน 👇 . 🇷🇺💥🇺🇦🇺🇲🇬🇧🇪🇺🏴‍☠️‼️The Russians destroyed the secret NATO headquarters in Kiev with Kalibar missiles‼️ In the past week, the attention of the world's media, and especially military analysts, has been focused on large-scale Russian military attacks on targets across Ukraine. 👇 . 7:21 PM · Sep 26, 2024 · 164.5K Views https://x.com/onlydjole/status/1839279188710236629 . กองบัญชาการปฏิบัติการลับของนาโต้ ถูกทำลายในเคียฟ ที่มา: Confidential Sources และ Hal Turner NATO secret operations headquarters destroyed in Kiev Source: Confidential Sources and Hal Turner https://www.coreinsightsintl.com/post/nato-secret-operations-headquarters-destroyed-in-kiev
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว