• ด่วน! 16.35 น. เพจ Army Military Force เผยภาพ JAS 39 Gripen ของกองทัพอากาศไทย ออกปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายทางทหารของกัมพูชา พร้อมบรรทุกอาวุธเต็มลำ
    .
    ถือเป็นอีกปีกำลังรบที่เข้าสู้ภารกิจวันนี้ หลังสถานการณ์ชายแดนตึงตัวต่อเนื่อง
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000118304
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพอากาศไทย #Gripen #ปฏิบัติการทางอากาศ
    ด่วน! 16.35 น. เพจ Army Military Force เผยภาพ JAS 39 Gripen ของกองทัพอากาศไทย ออกปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายทางทหารของกัมพูชา พร้อมบรรทุกอาวุธเต็มลำ . ถือเป็นอีกปีกำลังรบที่เข้าสู้ภารกิจวันนี้ หลังสถานการณ์ชายแดนตึงตัวต่อเนื่อง . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000118304 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพอากาศไทย #Gripen #ปฏิบัติการทางอากาศ
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอากาศย้ำความชอบธรรม ใช้ F-16 และ Gripen ปฏิบัติการทางอากาศต่อเป้าหมายทางทหารในกัมพูชา เป็นไปตามสิทธิป้องกันตนเอง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000098708

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    กองทัพอากาศย้ำความชอบธรรม ใช้ F-16 และ Gripen ปฏิบัติการทางอากาศต่อเป้าหมายทางทหารในกัมพูชา เป็นไปตามสิทธิป้องกันตนเอง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000098708 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 410 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้กัมพูชาโกหกอะไร!! กองทัพอากาศไทยสวนกลับสื่อกัมพูชา...ยันไม่เคยมีแผนสังหารผู้นำ...ชี้ปฏิบัติการทางอากาศทำตาม "กฎหมายสากล" เท่านั้น!
    https://www.thai-tai.tv/news/20759/
    .
    #กองทัพอากาศ #ข่าวปลอม #กัมพูชา #สหประชาชาติ #ความมั่นคง #กฎหมายสากล #ไทยไท
    วันนี้กัมพูชาโกหกอะไร!! กองทัพอากาศไทยสวนกลับสื่อกัมพูชา...ยันไม่เคยมีแผนสังหารผู้นำ...ชี้ปฏิบัติการทางอากาศทำตาม "กฎหมายสากล" เท่านั้น! https://www.thai-tai.tv/news/20759/ . #กองทัพอากาศ #ข่าวปลอม #กัมพูชา #สหประชาชาติ #ความมั่นคง #กฎหมายสากล #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • “นายพลเบิร์ด” ชี้เขมรขยับขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. ถือว่าข่มขู่และเป็นภัยคุกคาม หากไทยทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม ลั่นถ้ายิงมา พร้อมใช้ปฏิบัติการทางอากาศถล่มกลับทันทีเพื่อคลี่คลายสถานการณ์โดยเร็ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000070623

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “นายพลเบิร์ด” ชี้เขมรขยับขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. ถือว่าข่มขู่และเป็นภัยคุกคาม หากไทยทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม ลั่นถ้ายิงมา พร้อมใช้ปฏิบัติการทางอากาศถล่มกลับทันทีเพื่อคลี่คลายสถานการณ์โดยเร็ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000070623 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 415 มุมมอง 0 รีวิว
  • กัมพูชา มี KS-1C ของจีน ซึ่งเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางถึงระยะไกล ไว้ต่อกรกับ F-16 โดยได้เข้าประจำการเมื่อปี 2023 สำหรับการรบครั้งนี้ยังไม่เห็นกัมพูชานำออกมาใช้ตอบโต้ปฏิบัติการทางอากาศ F-16 ของไทย

    สำหรับ KS-1C หรือชื่อเต็มว่า Kaishan-1C เป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางถึงระยะไกลที่พัฒนาโดย China Aerospace Science and Industry Corporation (CASIC) ของจีน เป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงจากระบบ Hongqi-12 (HQ-12) และถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการป้องกันภัยทางอากาศ โดยสามารถจัดการกับเป้าหมาย เช่น เครื่องบิน, โดรน (UAVs), เฮลิคอปเตอร์ รวมถึงขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธพิสัยไกลที่มีความเร็วเกิน Mach 3

    คุณสมบัติหลักของ KS-1C:
    1. เรดาร์: ใช้เรดาร์แบบ H-200 phased-array ซึ่งมีระยะตรวจจับสูงสุดถึง 120 กิโลเมตร และสามารถติดตามเป้าหมายได้หลายเป้าพร้อมกัน

    2. ขีปนาวุธ: ใช้ระบบยิงแบบ canister-launched missiles (แทนรางยิงในรุ่นก่อนหน้า) มีพิสัยการยิงสูงสุด 70 กิโลเมตร และความสูงในการสกัดกั้นสูงสุด 27 กิโลเมตร

    3. โครงสร้างกองร้อย: ประกอบด้วยเรดาร์ phased-array, รถยิง 4 คัน (คันละ 2 ขีปนาวุธ), ขีปนาวุธสำรอง 16 ลูก, หน่วยควบคุมและสั่งการ และหน่วยจ่ายพลังงาน

    4. เปรียบเทียบ: มีสมรรถนะใกล้เคียงกับระบบ MIM-23 Hawk ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้า Patriot missile system

    5. การใช้งาน: ออกแบบมาเพื่อป้องกันภัยทางอากาศและสามารถใช้เป็นระบบป้องกันขีปนาวุธได้ในบางสถานการณ์

    การใช้งานในกองทัพ:
    • กองทัพกัมพูชา: ได้รับมอบระบบ KS-1C จากจีนเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2023 เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศ

    • กองทัพอากาศไทย: ประเทศไทยได้จัดหาและนำ KS-1C เข้าประจำการในกองพันทหารอากาศโยธินที่กองบิน 4 ตาคลี และกองบิน 7 สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ปี 2016 โดยมีการแสดงต่อสาธารณะครั้งแรกในงานวันเด็กแห่งชาติปี 2560

    • การส่งออก: นอกจากกัมพูชาและไทย ระบบนี้ยังถูกส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ เช่น เมียนมาร์และเติร์กเมนิสถาน
    กัมพูชา มี KS-1C ของจีน ซึ่งเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางถึงระยะไกล ไว้ต่อกรกับ F-16 โดยได้เข้าประจำการเมื่อปี 2023 สำหรับการรบครั้งนี้ยังไม่เห็นกัมพูชานำออกมาใช้ตอบโต้ปฏิบัติการทางอากาศ F-16 ของไทย สำหรับ KS-1C หรือชื่อเต็มว่า Kaishan-1C เป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางถึงระยะไกลที่พัฒนาโดย China Aerospace Science and Industry Corporation (CASIC) ของจีน เป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงจากระบบ Hongqi-12 (HQ-12) และถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการป้องกันภัยทางอากาศ โดยสามารถจัดการกับเป้าหมาย เช่น เครื่องบิน, โดรน (UAVs), เฮลิคอปเตอร์ รวมถึงขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธพิสัยไกลที่มีความเร็วเกิน Mach 3 👉คุณสมบัติหลักของ KS-1C: 1. เรดาร์: ใช้เรดาร์แบบ H-200 phased-array ซึ่งมีระยะตรวจจับสูงสุดถึง 120 กิโลเมตร และสามารถติดตามเป้าหมายได้หลายเป้าพร้อมกัน 2. ขีปนาวุธ: ใช้ระบบยิงแบบ canister-launched missiles (แทนรางยิงในรุ่นก่อนหน้า) มีพิสัยการยิงสูงสุด 70 กิโลเมตร และความสูงในการสกัดกั้นสูงสุด 27 กิโลเมตร 3. โครงสร้างกองร้อย: ประกอบด้วยเรดาร์ phased-array, รถยิง 4 คัน (คันละ 2 ขีปนาวุธ), ขีปนาวุธสำรอง 16 ลูก, หน่วยควบคุมและสั่งการ และหน่วยจ่ายพลังงาน 4. เปรียบเทียบ: มีสมรรถนะใกล้เคียงกับระบบ MIM-23 Hawk ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้า Patriot missile system 5. การใช้งาน: ออกแบบมาเพื่อป้องกันภัยทางอากาศและสามารถใช้เป็นระบบป้องกันขีปนาวุธได้ในบางสถานการณ์ 👉การใช้งานในกองทัพ: • กองทัพกัมพูชา: ได้รับมอบระบบ KS-1C จากจีนเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2023 เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศ • กองทัพอากาศไทย: ประเทศไทยได้จัดหาและนำ KS-1C เข้าประจำการในกองพันทหารอากาศโยธินที่กองบิน 4 ตาคลี และกองบิน 7 สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ปี 2016 โดยมีการแสดงต่อสาธารณะครั้งแรกในงานวันเด็กแห่งชาติปี 2560 • การส่งออก: นอกจากกัมพูชาและไทย ระบบนี้ยังถูกส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ เช่น เมียนมาร์และเติร์กเมนิสถาน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 722 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพบกเผยแพร่ภาพปฏิบัติการทางอากาศหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษ ใช้โดรนของกองทัพบกปฏิบัติการ บริเวณคลังเก็บอาวุธของทางฝ่ายทหารกัมพูชา ที่บริเวณภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ
    กองทัพบกเผยแพร่ภาพปฏิบัติการทางอากาศหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษ ใช้โดรนของกองทัพบกปฏิบัติการ บริเวณคลังเก็บอาวุธของทางฝ่ายทหารกัมพูชา ที่บริเวณภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา อิสราเอลเปิดปฏิบัติการม้าศึกกิเดียน (Operation Gideon’s Chariots) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามของอิสราเอลในการเข้ายึดครอง และปรับเปลี่ยนฉนวนกาซาทางตอนเหนือ:

    รายละเอียดเบื้องต้น:
    กองกำลังอิสราเอลเปิดฉากปฏิบัติการเพื่อยึดครองฉนวนกาซาทางตอนเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่สูง
    รถถังเคลื่อนพลไปทางตะวันออกของค่ายจาบาเลีย
    สื่อปาเลสไตน์รายงานว่าอิสราเอลส่ง “หุ่นยนต์พลีชีพ” ซึ่งน่าจะเป็นยานยนต์ไร้คนขับ M113 Zelda ที่ใช้เป็นอาวุธโจมตีทางอากาศใกล้กับเทลอัลซาตาร์
    ปฏิบัติการทางอากาศเป้าหมายเพื่อทำลายโครงสร้างพื้นฐานของชาวปาเลสไตน์

    ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา อิสราเอลเปิดปฏิบัติการม้าศึกกิเดียน (Operation Gideon’s Chariots) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามของอิสราเอลในการเข้ายึดครอง และปรับเปลี่ยนฉนวนกาซาทางตอนเหนือ: รายละเอียดเบื้องต้น: 👉กองกำลังอิสราเอลเปิดฉากปฏิบัติการเพื่อยึดครองฉนวนกาซาทางตอนเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่สูง 👉รถถังเคลื่อนพลไปทางตะวันออกของค่ายจาบาเลีย 👉สื่อปาเลสไตน์รายงานว่าอิสราเอลส่ง “หุ่นยนต์พลีชีพ” ซึ่งน่าจะเป็นยานยนต์ไร้คนขับ M113 Zelda ที่ใช้เป็นอาวุธโจมตีทางอากาศใกล้กับเทลอัลซาตาร์ 👉ปฏิบัติการทางอากาศเป้าหมายเพื่อทำลายโครงสร้างพื้นฐานของชาวปาเลสไตน์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • 7 มีนาคม 2568-เมื่อเวลา 08.55 น.วันที่ 7 มีนาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในฉลองพระองค์ชุดนักบิน เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ไปทอดพระเนตรการแสดงการบิน เนื่องในโอกาสครบ 88 ปี กองทัพอากาศ ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 กองทัพอากาศ เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานครเมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ พลอากาศเอก เสกสรร คันธา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ ประธานจัดงานการแสดงการบินเนื่องในโอกาสครบ 88 ปี กองทัพอากาศ พร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และข้าราชการทหารอากาศ เฝ้าฯ รับเสด็จจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังที่ประทับหน้าอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพอากาศ แล้วพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลอากาศเอก คิดควร สดับ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ และนางวริสรา สดับ ภริยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสร็จแล้ว ผู้บัญชาการทหารอากาศ กราบบังคมทูลรายงานการจัดการแสดงการบินเนื่องในโอกาสครบ 88 ปี กองทัพอากาศจากนั้น ทอดพระเนตรการแสดงการบิน ชุดที่ 1 ประกอบด้วย “การบินฟอร์เมชัน ดิสเพลย์ วิธ เนชันแนล คัลเลอร์ส สโมค” (Formation Display with National Colors Smoke) โดยเครื่องบิน AU-23, T-50TH และเครื่องบิน F-16MLU จากกองทัพอากาศไทย “การบินกริพเพน เดโม” (Gripen Demo) จากกองทัพอากาศไทย “การบินออกัสท์ เฟิร์ธ” (August 1ST) โดยเครื่องบิน J-10C จากกองทัพอากาศสาธารณรัฐประชาชนจีน และ “การบินเอฟ-35เอ เดโม” (F-35A Demo) จากกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาภายหลังจบการแสดงการบินชุดที่ 1 แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จเข้าภายในอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ และภริยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึกจากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการและวีดิทัศน์ภารกิจเครื่องบิน “กริพเพน” (Gripen) บินลงจอดบนถนนในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งทำการวิ่งขึ้นจาก สนามบินหาดใหญ่บินไปตามจุดที่กำหนดเพื่อทำการลงสนามแบบ Straight in approach โดยในเที่ยวแรกได้ทำ Low approach เพื่อทำความคุ้นเคยและในเที่ยวบินที่2 จึงทำการลงสนามจริง นิทรรศการพระมหากษัตริย์นักบินแห่งราชวงศ์จักรี ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระราชหฤทัย และทรงพระปรีชาสามารถด้านการบินทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างเชี่ยวชาญ หลังจากที่ทรงสำเร็จการศึกษาทางการทหารเมื่อพุทธศักราช 2522 ทรงเริ่มเข้ารับการฝึกบินหลักสูตรเฮลิคอปเตอร์โจมตีติดอาวุธ (Gunship) ของกองทัพบก เมื่อพุทธศักราช 2523 และทรงฝึกบินหลักสูตรเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอากาศ ทรงสำเร็จตามหลักสูตร เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2523 และได้ทรงบินเฮลิคอปเตอร์ด้วยพระองค์เอง เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนนายเรืออากาศ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2523 ซึ่งปัจจุบันคือโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช และทรงรับพระราชทานประดับเครื่องหมายแสดงความสามารถในการบินของกองทัพอากาศ จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อันเป็นความภูมิใจของกำลังพลของกองทัพอากาศ และพสกนิกรชาวไทยที่ได้มีพระมหากษัตริย์นักบิน เป็นมิ่งขวัญของแผ่นดินภายหลังจากทอดพระเนตรนิทรรศการเสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี เสด็จฯ ไปยังหน้าอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 ทอดพระเนตรเครื่องบินขับไล่ไอพ่นแบบ เอฟ-5อี (F-5E) และทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์กับเครื่องบิน ที-50 อากาศยานไอพ่นความเร็วเหนือเสียง และเป็นอากาศยานโจมตี จากกองบิน 4 ตาคลี จ.นครสวรรค์ด้วยพระราชปณิธานในการเป็นนักบิน ทรงเข้ารับการถวายการฝึกบินกับอากาศยานปีกตรึงโดยกองทัพอากาศ และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาเทคนิคการบินจากฐานทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ได้แก่ ฐานทัพอากาศเล็คแลนด์ เมืองแซนเอนโทนิโอ รัฐเท็กซัส ทรงจบหลักสูตรการบินขับไล่ไอพ่น ยุทธวิธีขั้นพื้นฐานจากฝูงบินขับไล่ยุทธวิธีที่ 425 ฐานบินวิลเลียมส์ รัฐแอริโซนา ทรงเข้าศึกษาฝึกบินกับเครื่องบินขับไล่ไอพ่นแบบ เอฟ-5อี (F-5E) ในหลักสูตรการบินขับไล่ไอพ่นทางยุทธวิธีชั้นสูง ทรงเข้าประจำการ ณ กองปฏิบัติการทางอากาศพิเศษ การทำลายและยุทธวิธีรบนอกแบบ กับทรงศึกษาหลักสูตรทางทหารเพิ่มเติม เช่น หลักสูตรต้นหนชั้นสูง การลาดตระเวน หลักสูตรส่งทางอากาศ หลักสูตรการบิ เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปแบบ ยูเอช-1เอช (UH-1H) ของกองทัพบกสหรัฐอเมริกา ณ ฟอร์ท แบรกก์ รัฐนอร์ธ แคโรไลนา และหลักสูตรเฮลิคอปเตอร์โจมตีติดอาวุธแบบ เอเอช-1เอส คอบรา (AH-1S COBRA) ทรงฝึกฝนการบินอย่างสม่ำเสมอ และยังได้ทรงเข้าร่วมการแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธีของกองทัพอากาศที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยทรงเข้าร่วมแข่งขันระหว่างพุทธศักราช 2526 ถึง 2530 ณ สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จ.ลพบุรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักบินขับไล่ไอพ่นพระองค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี ที่ทรงทำการบินกับเครื่องบินกองทัพอากาศได้เกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นอากาศยานปีกหมุน อากาศยานปีกตรึงแบบใบพัด และเครื่องยนต์ไอพ่น และด้วยพระปรีชาสามารถ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นนักบินขับไล่ที่มีชั่วโมงบินต่อเนื่องมากกว่า 2,800 ชั่วโมงบิน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ยากยิ่งสำหรับนักบินขับไล่ทั่วโลกที่จะทำได้ และด้วยพระราชหฤทัยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา ทรงถ่ายทอดประสบการณ์ที่ทรงมี ปฏิบัติหน้าที่ครูการบิน พระราชทานการฝึกสอนทั้งวิชาการภาคพื้นและการฝึกบินให้แก่นักบินขับไล่ของกองทัพอากาศ แสดงถึงพระปรีชาสามารถที่ทรงตั้งพระราชหฤทัยพัฒนาและยกระดับการบินของชาติให้ทัดเทียมนานาประเทศ ทรงอุปถัมภ์งานด้านการบินอย่างต่อเนื่อง นับเป็นคุณูปการแก่กองทัพอากาศไทย และกิจการการบินของประเทศเป็นอย่างยิ่งจากนั้นทอดพระเนตรนิทรรศการเครื่องบินฝึกจำลอง (Gripen E/F Simulator) ของเครื่องบิน Gripen ด้วยความสนพระราชหฤทัย ในโอกาสนี้ มีพระราชปฏิสันถารกับนักบินในฝูงบินจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และสหรัฐอเมริกาเสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังที่ประทับหน้าอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 ทอดพระเนตรการแสดงการบิน ชุดที่ 2 “การบินสูรยกิรัณ” (Suryakiran) จากกองทัพอากาศสาธารณรัฐอินเดีย ภายหลังจบการแสดงการบิน เสด็จออกจากที่ประทับหน้าอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกองทัพอากาศ จัดการแสดงการบินเนื่องในโอกาสครบ 88 ปี เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวาระที่กระทรวงกลาโหมได้ยกฐานะกรมทหารอากาศ ขึ้นเป็นกองทัพอากาศ ตั้งแต่พุทธศักราช 2480 ซึ่งปฏิบัติภารกิจอย่างมุ่งมั่นเพื่อรักษาความมั่นคง ของชาติ และดํารงความพร้อมของกําลังทางอากาศ เพื่อรับมือกับภัยคุกคาม ทุกรูปแบบ รวมทั้งการใช้ขีดความสามารถของ กองทัพอากาศทุกมิติ เพื่อช่วยเหลือ ประชาชนอย่างเต็มความสามารถตลอด 88 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น จึงจัดงานขึ้นภายใต้แนวคิด “AIR SOVEREIGNTY THROUGH UNBEATABLE COLLABORATION” หรือ “อธิปไตยเหนือน่านฟ้า ผ่านความร่วมมืออันแข็งแกร่ง” เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงเกียรติประวัติความภาคภูมิใจ ในเกียรติภูมิของกองทัพอากาศ และแสดงถึงขีดความสามารถของ กองทัพอากาศ ในการปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคง การสนับสนุนหน่วยงาน ภาครัฐและเอกชน การใช้ขีดความสามารถในทุกด้านเพื่อช่วยเหลือประชาชน ตลอดจนแสดงถึงแผนการพัฒนากองทัพอากาศในอนาคต แสดงถึงความพร้อมของกองทัพอากาศ ในด้านการส่งเสริม ภาคอุตสาหกรรมการบิน และภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ อันนำไปสู่ การเป็นศูนย์กลางทางการบินในภูมิภาคตามนโยบายรัฐบาล ที่ส่งเสริมและกระชับความร่วมมือภายในประเทศ และเสริมสร้างมิตรภาพความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกองทัพอากาศ กับกองทัพอากาศมิตรประเทศโดยปีนี้ได้จัดแสดงอากาศยานของกองทัพอากาศไทย และกองทัพอากาศมิตรประเทศ ทั้ง 3 ประเทศด้วยกัน ประกอบด้วย กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา , กองทัพอากาศสาธารณรัฐอินเดีย และกองทัพอากาศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 7 - 8 มีนาคม ณ กองบิน 6 ท่าอากาศยานทหารดอนเมือง
    7 มีนาคม 2568-เมื่อเวลา 08.55 น.วันที่ 7 มีนาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในฉลองพระองค์ชุดนักบิน เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ไปทอดพระเนตรการแสดงการบิน เนื่องในโอกาสครบ 88 ปี กองทัพอากาศ ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 กองทัพอากาศ เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานครเมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ พลอากาศเอก เสกสรร คันธา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ ประธานจัดงานการแสดงการบินเนื่องในโอกาสครบ 88 ปี กองทัพอากาศ พร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และข้าราชการทหารอากาศ เฝ้าฯ รับเสด็จจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังที่ประทับหน้าอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพอากาศ แล้วพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลอากาศเอก คิดควร สดับ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ และนางวริสรา สดับ ภริยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสร็จแล้ว ผู้บัญชาการทหารอากาศ กราบบังคมทูลรายงานการจัดการแสดงการบินเนื่องในโอกาสครบ 88 ปี กองทัพอากาศจากนั้น ทอดพระเนตรการแสดงการบิน ชุดที่ 1 ประกอบด้วย “การบินฟอร์เมชัน ดิสเพลย์ วิธ เนชันแนล คัลเลอร์ส สโมค” (Formation Display with National Colors Smoke) โดยเครื่องบิน AU-23, T-50TH และเครื่องบิน F-16MLU จากกองทัพอากาศไทย “การบินกริพเพน เดโม” (Gripen Demo) จากกองทัพอากาศไทย “การบินออกัสท์ เฟิร์ธ” (August 1ST) โดยเครื่องบิน J-10C จากกองทัพอากาศสาธารณรัฐประชาชนจีน และ “การบินเอฟ-35เอ เดโม” (F-35A Demo) จากกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาภายหลังจบการแสดงการบินชุดที่ 1 แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จเข้าภายในอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ และภริยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึกจากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการและวีดิทัศน์ภารกิจเครื่องบิน “กริพเพน” (Gripen) บินลงจอดบนถนนในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งทำการวิ่งขึ้นจาก สนามบินหาดใหญ่บินไปตามจุดที่กำหนดเพื่อทำการลงสนามแบบ Straight in approach โดยในเที่ยวแรกได้ทำ Low approach เพื่อทำความคุ้นเคยและในเที่ยวบินที่2 จึงทำการลงสนามจริง นิทรรศการพระมหากษัตริย์นักบินแห่งราชวงศ์จักรี ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระราชหฤทัย และทรงพระปรีชาสามารถด้านการบินทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างเชี่ยวชาญ หลังจากที่ทรงสำเร็จการศึกษาทางการทหารเมื่อพุทธศักราช 2522 ทรงเริ่มเข้ารับการฝึกบินหลักสูตรเฮลิคอปเตอร์โจมตีติดอาวุธ (Gunship) ของกองทัพบก เมื่อพุทธศักราช 2523 และทรงฝึกบินหลักสูตรเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอากาศ ทรงสำเร็จตามหลักสูตร เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2523 และได้ทรงบินเฮลิคอปเตอร์ด้วยพระองค์เอง เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนนายเรืออากาศ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2523 ซึ่งปัจจุบันคือโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช และทรงรับพระราชทานประดับเครื่องหมายแสดงความสามารถในการบินของกองทัพอากาศ จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อันเป็นความภูมิใจของกำลังพลของกองทัพอากาศ และพสกนิกรชาวไทยที่ได้มีพระมหากษัตริย์นักบิน เป็นมิ่งขวัญของแผ่นดินภายหลังจากทอดพระเนตรนิทรรศการเสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี เสด็จฯ ไปยังหน้าอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 ทอดพระเนตรเครื่องบินขับไล่ไอพ่นแบบ เอฟ-5อี (F-5E) และทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์กับเครื่องบิน ที-50 อากาศยานไอพ่นความเร็วเหนือเสียง และเป็นอากาศยานโจมตี จากกองบิน 4 ตาคลี จ.นครสวรรค์ด้วยพระราชปณิธานในการเป็นนักบิน ทรงเข้ารับการถวายการฝึกบินกับอากาศยานปีกตรึงโดยกองทัพอากาศ และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาเทคนิคการบินจากฐานทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ได้แก่ ฐานทัพอากาศเล็คแลนด์ เมืองแซนเอนโทนิโอ รัฐเท็กซัส ทรงจบหลักสูตรการบินขับไล่ไอพ่น ยุทธวิธีขั้นพื้นฐานจากฝูงบินขับไล่ยุทธวิธีที่ 425 ฐานบินวิลเลียมส์ รัฐแอริโซนา ทรงเข้าศึกษาฝึกบินกับเครื่องบินขับไล่ไอพ่นแบบ เอฟ-5อี (F-5E) ในหลักสูตรการบินขับไล่ไอพ่นทางยุทธวิธีชั้นสูง ทรงเข้าประจำการ ณ กองปฏิบัติการทางอากาศพิเศษ การทำลายและยุทธวิธีรบนอกแบบ กับทรงศึกษาหลักสูตรทางทหารเพิ่มเติม เช่น หลักสูตรต้นหนชั้นสูง การลาดตระเวน หลักสูตรส่งทางอากาศ หลักสูตรการบิ เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปแบบ ยูเอช-1เอช (UH-1H) ของกองทัพบกสหรัฐอเมริกา ณ ฟอร์ท แบรกก์ รัฐนอร์ธ แคโรไลนา และหลักสูตรเฮลิคอปเตอร์โจมตีติดอาวุธแบบ เอเอช-1เอส คอบรา (AH-1S COBRA) ทรงฝึกฝนการบินอย่างสม่ำเสมอ และยังได้ทรงเข้าร่วมการแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธีของกองทัพอากาศที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยทรงเข้าร่วมแข่งขันระหว่างพุทธศักราช 2526 ถึง 2530 ณ สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จ.ลพบุรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักบินขับไล่ไอพ่นพระองค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี ที่ทรงทำการบินกับเครื่องบินกองทัพอากาศได้เกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นอากาศยานปีกหมุน อากาศยานปีกตรึงแบบใบพัด และเครื่องยนต์ไอพ่น และด้วยพระปรีชาสามารถ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นนักบินขับไล่ที่มีชั่วโมงบินต่อเนื่องมากกว่า 2,800 ชั่วโมงบิน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ยากยิ่งสำหรับนักบินขับไล่ทั่วโลกที่จะทำได้ และด้วยพระราชหฤทัยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา ทรงถ่ายทอดประสบการณ์ที่ทรงมี ปฏิบัติหน้าที่ครูการบิน พระราชทานการฝึกสอนทั้งวิชาการภาคพื้นและการฝึกบินให้แก่นักบินขับไล่ของกองทัพอากาศ แสดงถึงพระปรีชาสามารถที่ทรงตั้งพระราชหฤทัยพัฒนาและยกระดับการบินของชาติให้ทัดเทียมนานาประเทศ ทรงอุปถัมภ์งานด้านการบินอย่างต่อเนื่อง นับเป็นคุณูปการแก่กองทัพอากาศไทย และกิจการการบินของประเทศเป็นอย่างยิ่งจากนั้นทอดพระเนตรนิทรรศการเครื่องบินฝึกจำลอง (Gripen E/F Simulator) ของเครื่องบิน Gripen ด้วยความสนพระราชหฤทัย ในโอกาสนี้ มีพระราชปฏิสันถารกับนักบินในฝูงบินจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และสหรัฐอเมริกาเสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังที่ประทับหน้าอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 ทอดพระเนตรการแสดงการบิน ชุดที่ 2 “การบินสูรยกิรัณ” (Suryakiran) จากกองทัพอากาศสาธารณรัฐอินเดีย ภายหลังจบการแสดงการบิน เสด็จออกจากที่ประทับหน้าอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกองทัพอากาศ จัดการแสดงการบินเนื่องในโอกาสครบ 88 ปี เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวาระที่กระทรวงกลาโหมได้ยกฐานะกรมทหารอากาศ ขึ้นเป็นกองทัพอากาศ ตั้งแต่พุทธศักราช 2480 ซึ่งปฏิบัติภารกิจอย่างมุ่งมั่นเพื่อรักษาความมั่นคง ของชาติ และดํารงความพร้อมของกําลังทางอากาศ เพื่อรับมือกับภัยคุกคาม ทุกรูปแบบ รวมทั้งการใช้ขีดความสามารถของ กองทัพอากาศทุกมิติ เพื่อช่วยเหลือ ประชาชนอย่างเต็มความสามารถตลอด 88 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น จึงจัดงานขึ้นภายใต้แนวคิด “AIR SOVEREIGNTY THROUGH UNBEATABLE COLLABORATION” หรือ “อธิปไตยเหนือน่านฟ้า ผ่านความร่วมมืออันแข็งแกร่ง” เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงเกียรติประวัติความภาคภูมิใจ ในเกียรติภูมิของกองทัพอากาศ และแสดงถึงขีดความสามารถของ กองทัพอากาศ ในการปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคง การสนับสนุนหน่วยงาน ภาครัฐและเอกชน การใช้ขีดความสามารถในทุกด้านเพื่อช่วยเหลือประชาชน ตลอดจนแสดงถึงแผนการพัฒนากองทัพอากาศในอนาคต แสดงถึงความพร้อมของกองทัพอากาศ ในด้านการส่งเสริม ภาคอุตสาหกรรมการบิน และภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ อันนำไปสู่ การเป็นศูนย์กลางทางการบินในภูมิภาคตามนโยบายรัฐบาล ที่ส่งเสริมและกระชับความร่วมมือภายในประเทศ และเสริมสร้างมิตรภาพความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกองทัพอากาศ กับกองทัพอากาศมิตรประเทศโดยปีนี้ได้จัดแสดงอากาศยานของกองทัพอากาศไทย และกองทัพอากาศมิตรประเทศ ทั้ง 3 ประเทศด้วยกัน ประกอบด้วย กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา , กองทัพอากาศสาธารณรัฐอินเดีย และกองทัพอากาศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 7 - 8 มีนาคม ณ กองบิน 6 ท่าอากาศยานทหารดอนเมือง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1639 มุมมอง 0 รีวิว
  • 52 ปี ข้อตกลงสันติภาพปารีส ปิดฉากสงครามเวียดนาม บทบาทของไทยในสงครามเย็น

    สงครามเวียดนาม เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุด ในศตวรรษที่ 20 ซึ่งไม่ได้เพียงแค่ แสดงถึงความขัดแย้ง ระหว่างสองขั้วอำนาจของโลก ในยุคสงครามเย็น แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนที่ส่งผลกระทบ ต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยโดยตรง การลงนามในข้อตกลงสันติภาพปารีส เมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2516 นับเป็นจุดสิ้นสุดของสงครามเวียดนาม ซึ่งกินระยะเวลายาวนานถึง 18 ปี

    จุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง
    สงครามเวียดนาม เริ่มต้นจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ ระหว่างระบอบคอมมิวนิสต์ และเสรีนิยม ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เวียดนามเหนือ ได้รับการสนับสนุนจาก สหภาพโซเวียต และจีน ในขณะที่เวียดนามใต้ มีสหรัฐอเมริกา เป็นพันธมิตรสำคัญ

    นโยบายของสหรัฐ สกัดกั้นคอมมิวนิสต์
    สหรัฐตัดสินใจ เข้ามามีบทบาทในเวียดนาม ตั้งแต่ช่วง พ.ศ. 2493 ด้วยเป้าหมายในการ "หยุดยั้งการขยายตัวของคอมมิวนิสต์" (Containment Policy) โดยมองว่า หากเวียดนามเหนือ ตกอยู่ใต้อิทธิพลคอมมิวนิสต์ ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็อาจถูกครอบงำด้วยเช่นกัน หรือที่เรียกว่า "ทฤษฎีโดมิโน"

    ประเทศไทย พันธมิตรสำคัญของสหรัฐ
    ในยุคสงครามเย็น ประเทศไทย ได้กลายเป็นพันธมิตรสำคัญ ของสหรัฐอเมริกา ในการต่อสู้กับภัยคอมมิวนิสต์ เนื่องจากไทย ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ใกล้กับเวียดนามและลาว

    รัฐบาลไทยในยุคนั้น โดยเฉพาะภายใต้การนำของ "จอมพลถนอม กิตติขจร" และ "จอมพลประภาส จารุเสถียร" ให้การสนับสนุนสหรัฐเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้ใช้ ฐานทัพในประเทศไทย หรือการส่งทหารไทยเข้าร่วมในสงคราม

    ฐานทัพในไทย ศูนย์กลางปฏิบัติการ
    สหรัฐได้ตั้งฐานทัพในประเทศไทยถึง 7 แห่ง ได้แก่
    - ดอนเมือง
    - นครราชสีมา
    - ตาคลี
    - อุบลราชธานี
    - อุดรธานี
    - นครพนม
    - อู่ตะเภา

    ฐานทัพเหล่านี้ เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ สำหรับการทิ้งระเบิด ในเวียดนามเหนือ และการดำเนินปฏิบัติการทางอากาศ โดยมีการประมาณว่า 80% ของการโจมตีทางอากาศของสหรัฐ ในเวียดนามเหนือ มาจากฐานทัพในประเทศไทย

    ข้อตกลงสันติภาพปารีส จุดสิ้นสุดของสงคราม
    ข้อตกลงสันติภาพปารีส ที่ลงนามในวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2516 เป็นข้อตกลงสำคัญ ที่มีเป้าหมายเพื่อยุติสงคราม และฟื้นฟูสันติภาพในเวียดนาม ข้อตกลงนี้ลงนามระหว่าง

    - รัฐบาลสหรัฐ
    - รัฐบาลเวียดนามเหนือ
    - รัฐบาลเวียดนามใต้
    - รัฐบาลปฏิวัติเฉพาะกาล แห่งสาธารณรัฐเวียดนามใต้

    เนื้อหาสำคัญ ได้แก่
    - การยุติการแทรกแซงทางทหาร ของสหรัฐในเวียดนาม
    - การถอนทหารอเมริกันทั้งหมด ออกจากเวียดนาม
    - การแลกเปลี่ยนนักโทษสงคราม
    - การยอมรับสถานะของรัฐบาล เวียดนามเหนือและใต้

    ผลกระทบจากข้อตกลง
    การลงนามในข้อตกลงนี้ ส่งผลให้สหรัฐ ถอนกำลังออกจากเวียดนาม อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างเวียดนามเหนือและใต้ ยังคงดำเนินต่อไป และสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2518 เมื่อเวียดนามเหนือ เข้ายึดครองไซง่อน

    ผลกระทบนามต่อประเทศไทย
    1. ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และเศรษฐกิจ
    - ความช่วยเหลือจากสหรัฐ การสนับสนุนสหรัฐ ในสงครามเวียดนาม นำมาซึ่งการลงทุน ด้านโครงสร้างพื้นฐานในไทย เช่น ถนน สนามบิน และเทคโนโลยีทางการทหาร
    - ผลกระทบทางเศรษฐกิจ การที่ไทยเป็นฐานทัพ นำไปสู่การเติบโตของธุรกิจในท้องถิ่น เช่น โรงแรม บาร์ และธุรกิจบริการ

    2. การสูญเสียเอกราช
    มีข้อถกเถียงว่า การที่ไทยอนุญาตให้สหรัฐ ใช้พื้นที่เป็นฐานทัพ และมีทหารจำนวนมาก ประจำอยู่ในประเทศ เป็นการละเมิด อธิปไตยของชาติ และทำให้เกิดความไม่พอใจ ในกลุ่มนักวิชาการ และนักศึกษา

    3. ผลกระทบทางสังคม
    การมีทหารอเมริกันในไทย ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม เช่น การนำวัฒนธรรมตะวันตก เข้ามาในสังคมไทย ซึ่งทั้งส่งผลดี และผลเสียในระยะยาว

    สงครามเวียดนาม และบทบาทของไทยในยุคนั้นเ ป็นตัวอย่างที่สำคัญ ของการดำเนินนโยบาย ในยุคสงครามเย็น แม้จะมีผลกระทบทางลบในด้านสังคม และการสูญเสียเอกราชบางส่วน แต่การสนับสนุนสหรัฐ ในสงครามเวียดนาม ก็ช่วยให้ไทยรอดพ้นจากการคุกคาม ของคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค

    การลงนามในข้อตกลงสันติภาพปารีส เป็นการเตือนให้เราตระหนัก ถึงความสำคัญของสันติภาพ และการเจรจา เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในอนาคต

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 270827 ม.ค. 2568

    #สงครามเวียดนาม #ข้อตกลงปารีส #การเมืองโลก #สงครามเย็น #บทบาทไทยในสงคราม #ประวัติศาสตร์เอเชีย #ฐานทัพสหรัฐในไทย #การเจรจาสันติภาพ #การเมืองระหว่างประเทศ #ประวัติศาสตร์สงคราม

    52 ปี ข้อตกลงสันติภาพปารีส ปิดฉากสงครามเวียดนาม บทบาทของไทยในสงครามเย็น สงครามเวียดนาม เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุด ในศตวรรษที่ 20 ซึ่งไม่ได้เพียงแค่ แสดงถึงความขัดแย้ง ระหว่างสองขั้วอำนาจของโลก ในยุคสงครามเย็น แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนที่ส่งผลกระทบ ต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยโดยตรง การลงนามในข้อตกลงสันติภาพปารีส เมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2516 นับเป็นจุดสิ้นสุดของสงครามเวียดนาม ซึ่งกินระยะเวลายาวนานถึง 18 ปี 🌏 จุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง สงครามเวียดนาม เริ่มต้นจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ ระหว่างระบอบคอมมิวนิสต์ และเสรีนิยม ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เวียดนามเหนือ ได้รับการสนับสนุนจาก สหภาพโซเวียต และจีน ในขณะที่เวียดนามใต้ มีสหรัฐอเมริกา เป็นพันธมิตรสำคัญ นโยบายของสหรัฐ สกัดกั้นคอมมิวนิสต์ สหรัฐตัดสินใจ เข้ามามีบทบาทในเวียดนาม ตั้งแต่ช่วง พ.ศ. 2493 ด้วยเป้าหมายในการ "หยุดยั้งการขยายตัวของคอมมิวนิสต์" (Containment Policy) โดยมองว่า หากเวียดนามเหนือ ตกอยู่ใต้อิทธิพลคอมมิวนิสต์ ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็อาจถูกครอบงำด้วยเช่นกัน หรือที่เรียกว่า "ทฤษฎีโดมิโน" ประเทศไทย พันธมิตรสำคัญของสหรัฐ ในยุคสงครามเย็น ประเทศไทย ได้กลายเป็นพันธมิตรสำคัญ ของสหรัฐอเมริกา ในการต่อสู้กับภัยคอมมิวนิสต์ เนื่องจากไทย ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ใกล้กับเวียดนามและลาว รัฐบาลไทยในยุคนั้น โดยเฉพาะภายใต้การนำของ "จอมพลถนอม กิตติขจร" และ "จอมพลประภาส จารุเสถียร" ให้การสนับสนุนสหรัฐเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้ใช้ ฐานทัพในประเทศไทย หรือการส่งทหารไทยเข้าร่วมในสงคราม ฐานทัพในไทย ศูนย์กลางปฏิบัติการ สหรัฐได้ตั้งฐานทัพในประเทศไทยถึง 7 แห่ง ได้แก่ - ดอนเมือง - นครราชสีมา - ตาคลี - อุบลราชธานี - อุดรธานี - นครพนม - อู่ตะเภา ฐานทัพเหล่านี้ เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ สำหรับการทิ้งระเบิด ในเวียดนามเหนือ และการดำเนินปฏิบัติการทางอากาศ โดยมีการประมาณว่า 80% ของการโจมตีทางอากาศของสหรัฐ ในเวียดนามเหนือ มาจากฐานทัพในประเทศไทย ข้อตกลงสันติภาพปารีส จุดสิ้นสุดของสงคราม ข้อตกลงสันติภาพปารีส ที่ลงนามในวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2516 เป็นข้อตกลงสำคัญ ที่มีเป้าหมายเพื่อยุติสงคราม และฟื้นฟูสันติภาพในเวียดนาม ข้อตกลงนี้ลงนามระหว่าง - รัฐบาลสหรัฐ - รัฐบาลเวียดนามเหนือ - รัฐบาลเวียดนามใต้ - รัฐบาลปฏิวัติเฉพาะกาล แห่งสาธารณรัฐเวียดนามใต้ เนื้อหาสำคัญ ได้แก่ - การยุติการแทรกแซงทางทหาร ของสหรัฐในเวียดนาม - การถอนทหารอเมริกันทั้งหมด ออกจากเวียดนาม - การแลกเปลี่ยนนักโทษสงคราม - การยอมรับสถานะของรัฐบาล เวียดนามเหนือและใต้ ผลกระทบจากข้อตกลง การลงนามในข้อตกลงนี้ ส่งผลให้สหรัฐ ถอนกำลังออกจากเวียดนาม อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างเวียดนามเหนือและใต้ ยังคงดำเนินต่อไป และสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2518 เมื่อเวียดนามเหนือ เข้ายึดครองไซง่อน ผลกระทบนามต่อประเทศไทย 1. ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และเศรษฐกิจ - ความช่วยเหลือจากสหรัฐ การสนับสนุนสหรัฐ ในสงครามเวียดนาม นำมาซึ่งการลงทุน ด้านโครงสร้างพื้นฐานในไทย เช่น ถนน สนามบิน และเทคโนโลยีทางการทหาร - ผลกระทบทางเศรษฐกิจ การที่ไทยเป็นฐานทัพ นำไปสู่การเติบโตของธุรกิจในท้องถิ่น เช่น โรงแรม บาร์ และธุรกิจบริการ 2. การสูญเสียเอกราช มีข้อถกเถียงว่า การที่ไทยอนุญาตให้สหรัฐ ใช้พื้นที่เป็นฐานทัพ และมีทหารจำนวนมาก ประจำอยู่ในประเทศ เป็นการละเมิด อธิปไตยของชาติ และทำให้เกิดความไม่พอใจ ในกลุ่มนักวิชาการ และนักศึกษา 3. ผลกระทบทางสังคม การมีทหารอเมริกันในไทย ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม เช่น การนำวัฒนธรรมตะวันตก เข้ามาในสังคมไทย ซึ่งทั้งส่งผลดี และผลเสียในระยะยาว สงครามเวียดนาม และบทบาทของไทยในยุคนั้นเ ป็นตัวอย่างที่สำคัญ ของการดำเนินนโยบาย ในยุคสงครามเย็น แม้จะมีผลกระทบทางลบในด้านสังคม และการสูญเสียเอกราชบางส่วน แต่การสนับสนุนสหรัฐ ในสงครามเวียดนาม ก็ช่วยให้ไทยรอดพ้นจากการคุกคาม ของคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค การลงนามในข้อตกลงสันติภาพปารีส เป็นการเตือนให้เราตระหนัก ถึงความสำคัญของสันติภาพ และการเจรจา เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในอนาคต ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 270827 ม.ค. 2568 #สงครามเวียดนาม #ข้อตกลงปารีส #การเมืองโลก #สงครามเย็น #บทบาทไทยในสงคราม #ประวัติศาสตร์เอเชีย #ฐานทัพสหรัฐในไทย #การเจรจาสันติภาพ #การเมืองระหว่างประเทศ #ประวัติศาสตร์สงคราม 🎯
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1989 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทเปกล่าวหาจีนขยายการซ้อมรบรอบไต้หวันในเวลานี้ เพื่อขีด “เส้นแดง” ห้ามเข้ามายุ่งเกี่ยว เป็นการต้อนรับว่าที่ประธานาธิบดีใหม่ของอเมริกา พร้อมตราหน้าปักกิ่งเป็น “ตัวก่อปัญหา” ขณะที่จีนฟาดกลับ บอก “คนนอก” และ “พวกแบ่งแยกดินแดน” กำลังบ่อนทำลายเสถียรภาพช่องแคบไต้หวัน ย้ำพร้อมทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ
    .
    ไต้หวันกำลังเร่งออกมากล่าวหาว่า จีนกำลังซ้อมรบทางทะเลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี โดยมีการจำลองสถานการณ์ทั้งการโจมตีเรือต่างชาติเพื่อไม่ให้ล่วงล้ำเข้ามาแทรกแซง และการปิดเส้นทางเดินเรือรอบเกาะไต้หวัน
    .
    กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันแถลงเมื่อวันพุธ (11 ธ.ค.)ว่า การที่จีนเพิ่มกิจกรรมทางทหารรอบเกาะไต้หวันเช่นนี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่า ปักกิ่งเป็น “ตัวก่อปัญหา”
    .
    ส่วนเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านความมั่นคงแห่งชาติคนหนึ่งของไต้หวันกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธ เช่นกันว่า จีนเริ่มวางแผนการซ้อมรบนี้มาตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยมีเป้าหมายเพื่อโชว์ว่า จีนสามารถปิดล้อมไต้หวันและ “ขีดเส้นแดง” ห้ามชาติภายนอกเข้ามาล่วงล้ำแทรกแซง ก่อนหน้าที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้นปีหน้า
    .
    เจ้าหน้าที่อาวุโสไต้หวันผู้นี้อธิบายว่า ในการซ้อมรบคราวนี้ เรือของกองทัพจีนได้ฝึกซ้อมจำลองการโจมตีเรือต่างชาติที่จะรุกล้ำเข้ามา ขณะที่เรือหน่วยยามฝั่งฝึกการสกัดเรือสินค้า และขัดขวางและปิดกั้นเส้นทางเดินเรือ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ผู้นี้สำทับว่า จีนยังได้ร่วมซ้อมรบกับรัสเซียเมื่อเดือนที่แล้ว
    .
    ไทเประบุว่า การซ้อมรบทางทะเลครั้งนี้ใหญ่กว่าเมื่อปี 2022 ที่ปักกิ่งตอบโต้การเยือนไต้หวันของแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในขณะนั้น ซึ่งถือเป็นการซ้อมรบใหญ่ที่สุดของจีนรอบเกาะไต้หวัน
    .
    ด้าน ชู เสี่ยวหวง นักวิเคราะห์ทางการทหารในไทเป ชี้ว่า การซ้อมรบของจีนเป็นการประกาศความพร้อมในการสู้รบอย่างแท้จริง โดยในทะเลจีนตะวันออกนั้น ดูเหมือนจีนกำลังเตรียมปฏิบัติการทางอากาศขนาดใหญ่เพื่อเผชิญหน้ากับกองทัพเรืออเมริกา ขณะที่การเคลื่อนกองเรือขนาดใหญ่เข้ามาทางตะวันออกของไต้หวัน บ่งชี้ยุทธศาสตร์การปิดล้อมเกาะ ตัดขาดชีพจรทางเศรษฐกิจและทรัพยากรสำคัญ
    .
    กระนั้น เจ้าหน้าที่ทหารคนหนึ่งของอเมริกา กล่าวว่า เวลานี้จีนเพิ่มการเคลื่อนพลเข้ามาในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้จริงๆ แต่ยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับการซ้อมรบใหญ่หลายครั้งที่ผ่านมา
    .
    เห็นกันว่าการเยือนประเทศในแถบแปซิฟิกของประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ของไต้หวันก่อนหน้านี้ ที่มีการแวะที่ฮาวายและเกาะกวมของสหรัฐฯ ก็เป็นเรื่องที่สร้างความเดือดดาลให้ปักกิ่งที่อ้ากรรมสิทธิ์เหนือไต้หวัน
    .
    อย่างไรก็ดี สำหรับฝ่ายปักกิ่งเองนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประกาศจากกองทัพจีนหรือสื่อของทางการปักกิ่ง เกี่ยวกับการเพิ่มกิจกรรมทางทหารอย่างคึกคัก ทั้งในทะเลจีนตะวันออก ช่องแคบไต้หวัน ทะเลจีนใต้ หรือมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกคราวนี้
    .
    ปกติแล้วจีนมักประกาศแจ้งล่วงหน้าเรื่องการซ้อมรบ แต่เจ้าหน้าที่ไต้หวันอธิบายว่า การที่ปักกิ่งนิ่งเงียบในครั้งนี้อาจเนื่องมาจากไม่ต้องการบดบังความสำคัญของการประชุมทบทวนผลงานทางเศรษฐกิจประจำปี ซึ่งเป็นการประชุมแบบปิดลับของพวกผู้นำจีนที่กำหนดจัดขึ้นในวันพุธ (11 )
    .
    สำหรับปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการของปักกิ่งนั้น เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวตามปกติเมื่อวันพุธว่า การก่อกวนสันติภาพและเสถียรภาพช่องแคบไต้หวันเป็นงานของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในไต้หวันที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติ
    .
    เมื่อถูกถามว่า การซ้อมรบเป็นการขีดเส้นแดงก่อนที่ทรัมป์จะกลับสู่ทำเนียบขาวหรือไม่ เหมาตอบว่า ประเด็นไต้หวันถือเป็นเส้นตายในความสัมพันธ์ปักกิ่ง-วอชิงตันที่ไม่ควรก้าวล่วงอยู่แล้ว และเป็นจุดยืนอันถาวรของจีน
    .
    วันเดียวกันนั้น ทางด้าน จู เฟิ่งเหลียน โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีน เมื่อถูกถามเกี่ยวกับกิจกรรมทางทหารที่เพิ่มขึ้นในระยะนี้ ได้กล่าวตอบว่า จีนจะดำเนินมาตรการทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศ และสำทับว่า รัฐบาลจีนเพิ่มการเฝ้าระวังแนวโน้มที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนในไต้หวันกำลังสมคบคิดกับต่างชาติ
    .
    ไต้หวันระบุว่า จีนเวลานี้กำลังซ้อมรบทางทะเลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยมีการระดมเรือจากองทัพเรือจำนวน 60 ลำและเรือของหน่วยยามฝั่งอีก 30 ลำ เคลื่อนเข้ามาใกล้แนว “ห่วงโซ่เกาะชั้นที่หนึ่ง” ตั้งแต่หมู่เกาะทางใต้ของญี่ปุ่น ลงมาจนถึงทะเลจีนใต้
    .
    ขณะที่กระทรวงกลาโหมไต้หวัน แถลงว่า ในวันพุธได้ตรวจพบเครื่องบินจีนรอบเกาะไต้หวัน 53 ลำ เพิ่มขึ้นจาก 47 ลำเมื่อวันอังคาร
    .
    คาเรน กัว โฆษกสำนักงานประธานาธิบดีไต้หวัน แถลงว่า กิจกรรมทางทหารของจีนเป็นอุปสรรคต่อเสถียรภาพในภูมิภาคอย่างโจ่งแจ้ง และปักกิ่งควรยุติการยั่วยุทั้งหมดทันที พร้อมย้ำว่า การเดินทางไปต่างประเทศของประธานาธิบดีไต้หวันเป็นธรรมเนียมปกติ และจีนไม่ควรใช้เป็นข้ออ้างในการยั่วยุ
    .
    วันเดียวกันนั้น ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวจากฐานทัพอเมริกันในญี่ปุ่นว่า อเมริกากำลังจับตากิจกรรมล่าสุดของจีน และรับประกันว่า จะไม่มีใครทำอะไรที่ทำให้สถานะดั้งเดิมในช่องแคบไต้หวันเปลี่ยนแปลง รวมทั้งจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยให้ไต้หวันสามารถป้องกันตนเอง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000119170
    ..............
    Sondhi X
    ไทเปกล่าวหาจีนขยายการซ้อมรบรอบไต้หวันในเวลานี้ เพื่อขีด “เส้นแดง” ห้ามเข้ามายุ่งเกี่ยว เป็นการต้อนรับว่าที่ประธานาธิบดีใหม่ของอเมริกา พร้อมตราหน้าปักกิ่งเป็น “ตัวก่อปัญหา” ขณะที่จีนฟาดกลับ บอก “คนนอก” และ “พวกแบ่งแยกดินแดน” กำลังบ่อนทำลายเสถียรภาพช่องแคบไต้หวัน ย้ำพร้อมทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ . ไต้หวันกำลังเร่งออกมากล่าวหาว่า จีนกำลังซ้อมรบทางทะเลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี โดยมีการจำลองสถานการณ์ทั้งการโจมตีเรือต่างชาติเพื่อไม่ให้ล่วงล้ำเข้ามาแทรกแซง และการปิดเส้นทางเดินเรือรอบเกาะไต้หวัน . กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันแถลงเมื่อวันพุธ (11 ธ.ค.)ว่า การที่จีนเพิ่มกิจกรรมทางทหารรอบเกาะไต้หวันเช่นนี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่า ปักกิ่งเป็น “ตัวก่อปัญหา” . ส่วนเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านความมั่นคงแห่งชาติคนหนึ่งของไต้หวันกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธ เช่นกันว่า จีนเริ่มวางแผนการซ้อมรบนี้มาตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยมีเป้าหมายเพื่อโชว์ว่า จีนสามารถปิดล้อมไต้หวันและ “ขีดเส้นแดง” ห้ามชาติภายนอกเข้ามาล่วงล้ำแทรกแซง ก่อนหน้าที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้นปีหน้า . เจ้าหน้าที่อาวุโสไต้หวันผู้นี้อธิบายว่า ในการซ้อมรบคราวนี้ เรือของกองทัพจีนได้ฝึกซ้อมจำลองการโจมตีเรือต่างชาติที่จะรุกล้ำเข้ามา ขณะที่เรือหน่วยยามฝั่งฝึกการสกัดเรือสินค้า และขัดขวางและปิดกั้นเส้นทางเดินเรือ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ผู้นี้สำทับว่า จีนยังได้ร่วมซ้อมรบกับรัสเซียเมื่อเดือนที่แล้ว . ไทเประบุว่า การซ้อมรบทางทะเลครั้งนี้ใหญ่กว่าเมื่อปี 2022 ที่ปักกิ่งตอบโต้การเยือนไต้หวันของแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในขณะนั้น ซึ่งถือเป็นการซ้อมรบใหญ่ที่สุดของจีนรอบเกาะไต้หวัน . ด้าน ชู เสี่ยวหวง นักวิเคราะห์ทางการทหารในไทเป ชี้ว่า การซ้อมรบของจีนเป็นการประกาศความพร้อมในการสู้รบอย่างแท้จริง โดยในทะเลจีนตะวันออกนั้น ดูเหมือนจีนกำลังเตรียมปฏิบัติการทางอากาศขนาดใหญ่เพื่อเผชิญหน้ากับกองทัพเรืออเมริกา ขณะที่การเคลื่อนกองเรือขนาดใหญ่เข้ามาทางตะวันออกของไต้หวัน บ่งชี้ยุทธศาสตร์การปิดล้อมเกาะ ตัดขาดชีพจรทางเศรษฐกิจและทรัพยากรสำคัญ . กระนั้น เจ้าหน้าที่ทหารคนหนึ่งของอเมริกา กล่าวว่า เวลานี้จีนเพิ่มการเคลื่อนพลเข้ามาในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้จริงๆ แต่ยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับการซ้อมรบใหญ่หลายครั้งที่ผ่านมา . เห็นกันว่าการเยือนประเทศในแถบแปซิฟิกของประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ของไต้หวันก่อนหน้านี้ ที่มีการแวะที่ฮาวายและเกาะกวมของสหรัฐฯ ก็เป็นเรื่องที่สร้างความเดือดดาลให้ปักกิ่งที่อ้ากรรมสิทธิ์เหนือไต้หวัน . อย่างไรก็ดี สำหรับฝ่ายปักกิ่งเองนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประกาศจากกองทัพจีนหรือสื่อของทางการปักกิ่ง เกี่ยวกับการเพิ่มกิจกรรมทางทหารอย่างคึกคัก ทั้งในทะเลจีนตะวันออก ช่องแคบไต้หวัน ทะเลจีนใต้ หรือมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกคราวนี้ . ปกติแล้วจีนมักประกาศแจ้งล่วงหน้าเรื่องการซ้อมรบ แต่เจ้าหน้าที่ไต้หวันอธิบายว่า การที่ปักกิ่งนิ่งเงียบในครั้งนี้อาจเนื่องมาจากไม่ต้องการบดบังความสำคัญของการประชุมทบทวนผลงานทางเศรษฐกิจประจำปี ซึ่งเป็นการประชุมแบบปิดลับของพวกผู้นำจีนที่กำหนดจัดขึ้นในวันพุธ (11 ) . สำหรับปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการของปักกิ่งนั้น เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวตามปกติเมื่อวันพุธว่า การก่อกวนสันติภาพและเสถียรภาพช่องแคบไต้หวันเป็นงานของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในไต้หวันที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติ . เมื่อถูกถามว่า การซ้อมรบเป็นการขีดเส้นแดงก่อนที่ทรัมป์จะกลับสู่ทำเนียบขาวหรือไม่ เหมาตอบว่า ประเด็นไต้หวันถือเป็นเส้นตายในความสัมพันธ์ปักกิ่ง-วอชิงตันที่ไม่ควรก้าวล่วงอยู่แล้ว และเป็นจุดยืนอันถาวรของจีน . วันเดียวกันนั้น ทางด้าน จู เฟิ่งเหลียน โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีน เมื่อถูกถามเกี่ยวกับกิจกรรมทางทหารที่เพิ่มขึ้นในระยะนี้ ได้กล่าวตอบว่า จีนจะดำเนินมาตรการทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศ และสำทับว่า รัฐบาลจีนเพิ่มการเฝ้าระวังแนวโน้มที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนในไต้หวันกำลังสมคบคิดกับต่างชาติ . ไต้หวันระบุว่า จีนเวลานี้กำลังซ้อมรบทางทะเลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยมีการระดมเรือจากองทัพเรือจำนวน 60 ลำและเรือของหน่วยยามฝั่งอีก 30 ลำ เคลื่อนเข้ามาใกล้แนว “ห่วงโซ่เกาะชั้นที่หนึ่ง” ตั้งแต่หมู่เกาะทางใต้ของญี่ปุ่น ลงมาจนถึงทะเลจีนใต้ . ขณะที่กระทรวงกลาโหมไต้หวัน แถลงว่า ในวันพุธได้ตรวจพบเครื่องบินจีนรอบเกาะไต้หวัน 53 ลำ เพิ่มขึ้นจาก 47 ลำเมื่อวันอังคาร . คาเรน กัว โฆษกสำนักงานประธานาธิบดีไต้หวัน แถลงว่า กิจกรรมทางทหารของจีนเป็นอุปสรรคต่อเสถียรภาพในภูมิภาคอย่างโจ่งแจ้ง และปักกิ่งควรยุติการยั่วยุทั้งหมดทันที พร้อมย้ำว่า การเดินทางไปต่างประเทศของประธานาธิบดีไต้หวันเป็นธรรมเนียมปกติ และจีนไม่ควรใช้เป็นข้ออ้างในการยั่วยุ . วันเดียวกันนั้น ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวจากฐานทัพอเมริกันในญี่ปุ่นว่า อเมริกากำลังจับตากิจกรรมล่าสุดของจีน และรับประกันว่า จะไม่มีใครทำอะไรที่ทำให้สถานะดั้งเดิมในช่องแคบไต้หวันเปลี่ยนแปลง รวมทั้งจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยให้ไต้หวันสามารถป้องกันตนเอง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000119170 .............. Sondhi X
    Like
    Yay
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1748 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนฝรั่งเศส ว่า กองทัพอิสราเอลพบอาวุธล้ำสมัยของรัสเซีย ระหว่างปฏิบัติการตรวจค้นฐานที่มั่นต่างๆ ของพวกฮิซบอลเลาะห์ ทางใต้ของเลบานอน เหตุการณ์ที่อาจทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายเกินกว่าจินตนาการ
    .
    เนทันยาฮู เน้นย้ำกับหนังสือพิมพ์เลอ ฟิกาโร ในการสัมภาษณ์ที่มีการเผยแพร่ในวันพุธ (16 ต.ค.) ว่า ภายใต้มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อปี 2006 มีเพียงแค่ทหารเลบานอนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธบริเวณทางใต้ของแม่น้ำลิตานี แม่น้ำสายหลักของประเทศ
    .
    "อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่นี้พวกฮิซบอลเลาะห์ขุดอุโมงค์และที่ซ่อนนับร้อย ซึ่งเราเพิ่งพบอาวุธล้ำสมัยของรัสเซียจำนวนหนึ่ง" เนทันยาฮูให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส
    .
    ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ของสหรัฐฯ เคยกล่าวอ้างเจ้าหน้าที่อิสราเอล รายงานว่าอิสราเอลพบอาวุธต่อต้านรถถังของรัสเซียและจีน ระหว่างปฏิบัติการจู่โจมภายในเลบานอน นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างพวกเขากับพวกฮิซบอลเลาะห์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านลุกลามขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว
    .
    กองทัพอิสราเอลยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวของเอเอฟพี เกี่ยวกับคำกล่าวอ้างของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู
    .
    อิสราเอลบอกว่ายุทธการทางทหารของพวกเขาในการจัดการกับพวกฮิซบอลเลาะห์มีเป้าประสงค์คือทำให้พื้นที่แถบดังกล่าวมีความปลอดภัยมากขึ้น เพื่อเปิดทางให้พลเรือนที่อพยพหลบหนีจากทางเหนือของอิสราเอลกว่า 60,000 คน สามารถกลับสู่ถิ่นฐานได้
    .
    พลเมืองจำนวนมากต้องหลบหนีออกจากถิ่นฐานของตนเอง สืบเนื่องจากเหตุยิงปะทะข้ามชายแดนระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเกิดขึ้นทันทีตามหลังอิสราเอลเปิดปฏิบัติการโจมตีและรุกรานฉนวนกาซา แก้แค้นกรณีที่พวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมสายฟ้าแลบเล่นงานอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีก่อน
    .
    "สงครามกลางเมืองครั้งใหม่ในเลบานอนจะเป็นเรื่องน่าเศร้า แน่นอนว่าเราไม่มีเป้าหมายยั่วยุให้เกิดขึ้นอีกรอบ อิสราเอลไม่ได้มีเจตนาแทรกแซงกิจการภายในของเลบานอน" เนทันยาฮูบอกกับสื่อมวลชนฝรั่งเศส "เป้าหมายของเราคือเปิดทางให้พลเมืองของเราที่อยู่ตามแนวหน้าติดกับเลบานอน กลับบ้านและรู้สึกถึงความปลอดภัย"
    .
    ฮิซบอลเลาะห์และอิสราเอลยกระดับการสู้รบดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตามหลังการรุกรานอิสราเอลของพวกฮามาส จุดชนวนสงครามในกาซา
    .
    ทั้งนี้ ฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวดหลายพันลูกเข้าใส่อิสราเอลตลอดขวบปีที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนพันธมิตรอย่างนักรบฮามาส ที่สู้รบกับอิสราเอลในกาซา ทำให้ชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนต้องไร้ถิ่นฐาน
    .
    อิสราเอลยกระดับปฏิบัติการทางอากาศถล่มพวกฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนเป็นต้นมา จากนั้นก็เปิดปฏิบัติการรุกรานทางภาคพื้นในอีก 1 สัปดาห์ให้หลัง อ้างว่าเป็นความพยายามผลักดันให้พวกนักรบติดอาวุธล่าถอยออกห่างชายแดนทางเหนือ
    .
    นับตั้งแต่อิสราเอลเริ่มจู่โจมฮิซบอลเลาะห์ มีผู้คนอย่างน้อย 1,373 รายแล้ว ที่เสียชีวิตในเลบานอน จากการนับของเอเอฟพีต่อข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเลบานอน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000100026
    ..............
    Sondhi X
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนฝรั่งเศส ว่า กองทัพอิสราเอลพบอาวุธล้ำสมัยของรัสเซีย ระหว่างปฏิบัติการตรวจค้นฐานที่มั่นต่างๆ ของพวกฮิซบอลเลาะห์ ทางใต้ของเลบานอน เหตุการณ์ที่อาจทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายเกินกว่าจินตนาการ . เนทันยาฮู เน้นย้ำกับหนังสือพิมพ์เลอ ฟิกาโร ในการสัมภาษณ์ที่มีการเผยแพร่ในวันพุธ (16 ต.ค.) ว่า ภายใต้มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อปี 2006 มีเพียงแค่ทหารเลบานอนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธบริเวณทางใต้ของแม่น้ำลิตานี แม่น้ำสายหลักของประเทศ . "อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่นี้พวกฮิซบอลเลาะห์ขุดอุโมงค์และที่ซ่อนนับร้อย ซึ่งเราเพิ่งพบอาวุธล้ำสมัยของรัสเซียจำนวนหนึ่ง" เนทันยาฮูให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส . ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ของสหรัฐฯ เคยกล่าวอ้างเจ้าหน้าที่อิสราเอล รายงานว่าอิสราเอลพบอาวุธต่อต้านรถถังของรัสเซียและจีน ระหว่างปฏิบัติการจู่โจมภายในเลบานอน นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างพวกเขากับพวกฮิซบอลเลาะห์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านลุกลามขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว . กองทัพอิสราเอลยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวของเอเอฟพี เกี่ยวกับคำกล่าวอ้างของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู . อิสราเอลบอกว่ายุทธการทางทหารของพวกเขาในการจัดการกับพวกฮิซบอลเลาะห์มีเป้าประสงค์คือทำให้พื้นที่แถบดังกล่าวมีความปลอดภัยมากขึ้น เพื่อเปิดทางให้พลเรือนที่อพยพหลบหนีจากทางเหนือของอิสราเอลกว่า 60,000 คน สามารถกลับสู่ถิ่นฐานได้ . พลเมืองจำนวนมากต้องหลบหนีออกจากถิ่นฐานของตนเอง สืบเนื่องจากเหตุยิงปะทะข้ามชายแดนระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเกิดขึ้นทันทีตามหลังอิสราเอลเปิดปฏิบัติการโจมตีและรุกรานฉนวนกาซา แก้แค้นกรณีที่พวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมสายฟ้าแลบเล่นงานอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีก่อน . "สงครามกลางเมืองครั้งใหม่ในเลบานอนจะเป็นเรื่องน่าเศร้า แน่นอนว่าเราไม่มีเป้าหมายยั่วยุให้เกิดขึ้นอีกรอบ อิสราเอลไม่ได้มีเจตนาแทรกแซงกิจการภายในของเลบานอน" เนทันยาฮูบอกกับสื่อมวลชนฝรั่งเศส "เป้าหมายของเราคือเปิดทางให้พลเมืองของเราที่อยู่ตามแนวหน้าติดกับเลบานอน กลับบ้านและรู้สึกถึงความปลอดภัย" . ฮิซบอลเลาะห์และอิสราเอลยกระดับการสู้รบดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตามหลังการรุกรานอิสราเอลของพวกฮามาส จุดชนวนสงครามในกาซา . ทั้งนี้ ฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวดหลายพันลูกเข้าใส่อิสราเอลตลอดขวบปีที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนพันธมิตรอย่างนักรบฮามาส ที่สู้รบกับอิสราเอลในกาซา ทำให้ชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนต้องไร้ถิ่นฐาน . อิสราเอลยกระดับปฏิบัติการทางอากาศถล่มพวกฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนเป็นต้นมา จากนั้นก็เปิดปฏิบัติการรุกรานทางภาคพื้นในอีก 1 สัปดาห์ให้หลัง อ้างว่าเป็นความพยายามผลักดันให้พวกนักรบติดอาวุธล่าถอยออกห่างชายแดนทางเหนือ . นับตั้งแต่อิสราเอลเริ่มจู่โจมฮิซบอลเลาะห์ มีผู้คนอย่างน้อย 1,373 รายแล้ว ที่เสียชีวิตในเลบานอน จากการนับของเอเอฟพีต่อข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเลบานอน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000100026 .............. Sondhi X
    Like
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1760 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ปฏิเสธแนวคิดเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอน ที่จะปล่อยให้ฮิซบอลเลาะห์อยู่ใกล้ชายแดนทางเหนือของประเทศ หลังจากพวกนักรบกลุ่มนี้ขู่ยกระดับการโจมตี
    .
    ความเห็นของเนทันยาฮู มีขึ้นในขณะที่ สหรัฐฯ ยกระดับกดดันอิสราเอลต่อแนวทางการทำสงครามในเลบานอนและฉนวนกาซา โดยวิพากษ์วิจารณ์ปฏิบัติการทิ้งบอมบ์ถล่มกรุงเบรุตเมื่อเร็วๆ นี้ และเรียกร้องให้เปิดทางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ดินแดนของปาเลสไตน์มากยิ่งขึ้น
    .
    ระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์กับ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ทางเนทันยาฮู บอกว่าเขาคัดค้านการหยุดยิงฝ่ายเดียว ที่จะไม่เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ความมั่นคงในเลบานอน และสุดท้ายแล้วมันก็จะกลับสู่หนทางเดิมเหมือนที่เป็นอยู่ จากถ้อยแถลงของทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิสราเอล
    .
    เนทันยาฮู และกองทัพอิสราเอลยืนยันว่าจำเป็นต้องมีแนวกันชนตามชายแดนของอิสราเอลติดกับเลบานอน บริเวณที่ต้องไม่มีพวกนักรบฮิซบอลเลาะห์ปรากฏตัว "นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู พูดชัดเจนว่าอิสราเอลจะไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงใดๆ ที่ไม่มอบเขตกันชนนี้ ซึ่งจะไม่สามารถหยุดพวกฮิซบอลเลาะห์จากการเติมอาวุธและรวมกลุ่มกันใหม่" ถ้อยแถลงระบุ
    .
    ก่อนหน้านี้ ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านสถานีโทรทัศน์ นาอิม กัสเซม รองหัวหน้ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ บอกว่าทางออกเดียวคือข้อตกลงหยุดยิง แต่ขณะเดียวกันเขาได้ขู่ขยายขอบเขตการยิงขีปนาวุธโจมตีทั่วอิสราเอล "เนื่องด้วยศัตรูอิสรเอลเล็งเป้าหมายทั่วเลบานอน เราจึงมีสิทธิจากฐานะป้องกันตนเอง เล็งเป้าหมายในทุกๆ พื้นที่ในอิสราเอลเช่นกัน" เขากล่าว
    .
    ในอีกวันของการสู้รบ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เผยว่าได้ยิงห่าขีปนาวุธเข้าใส่เมืองไฮฟา ทางเหนือของอิสราเอล และเล็งเป้าเล่นงานยานเกราะและรถถังของอิสราเอลที่อยู่ใกล้ชายแดน
    .
    อีกด้านหนึ่ง กองทัพอิสราเอลได้ทิ้งบอมบ์ถล่มหลายพื้นที่ในทางภาคใต้และตะวันออกของเลบานอนในวันอังคาร (15 ต.ค.) ในนั้นรวมถึงหุบเขาเบคา ทำให้โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองบาอัลเบค ต้องหยุดปฏิบัติการ ตามรายงานของสำนักข่าวแห่งชาติเลบานอน ขณะที่กองทัพอิสราเอลเผยด้วยว่าสามารถจับกุมนักรบฮิซบอลเลาะห์ได้ 3 ราย ทางใต้ของเลบานอน
    .
    กระทรวงสาธารณสุขเลบานอน ระบุมีผู้เสียชีวิต 9 ราย ในเหตุโจมตีทางใต้ของประเทศในช่วงเย็นวันอังคาร (15 ต.ค.) และมีผู้เสียชีวิตอีก 5 คนในทางภาคเหนือ ในนั้นรวมถึงเด็ก 3 คน
    .
    ครั้งถูกถามเกี่ยวกับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในเลบานอน ซึ่งพุ่งโดนอาคารที่พักอาศัยในย่านใจกลางกรุงเบรุต เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ทางกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างเปิดเผย "เราแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน ว่าเราคัดค้านยุทธการในแนวทางแบบเดียวกับที่เราพบเห็นพวกเขาดำเนินการในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา" แมตธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาบอกกับผู้สื่อข่าว
    .
    ในหนังสือที่ส่งถึงรัฐบาลอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศ และลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เตือนด้วยว่า อเมริกาอาจระงับการส่งมอบอาวุธ จนกว่าความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจะถูกส่งมอบแก่ชาวปาเลสไตน์ในกาซาเพิ่มเติม
    .
    อิสราเอลยกระดับปฏิบัติการทางอากาศถล่มพวกฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนเป็นต้นมา จากนั้นก็เปิดปฏิบัติการรุกรานทางภาคพื้นในอีก 1 สัปดาห์ให้หลัง อ้างว่าเป็นความพยายามผลักดันให้พวกนักรบติดอาวุธล่าถอยออกห่างชายแดนทางเหนือ
    .
    ฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวดหลายพันลูกเข้าใส่อิสราเอลตลอดขวบปีที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนพันธมิตรอย่างนักรบฮามาส ที่สู้รบกับอิสราเอลในกาซา ทำให้ชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนต้องไร้ถิ่นฐาน
    .
    มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1,356 ราย ในเลบานอน นับตั้งแต่อิสราเอลยกระดับการทิ้งบอมบ์เมื่อเดือนที่แล้ว ขณะเดียวกัน สงครามในเลบานอน ชาติที่ทุกข์ทรมานมาจากวิกฤตเศรษฐกิจมานานหลายปี ก็ส่งผลให้มีชาวบ้านต้องไร้ถิ่นฐานอย่างน้อย 690,000 ราย
    .
    นอกเหนือจากปฏิบัติการโจมตีตอบโต้กันไปมาระหว่าง 2 ฝ่ายแล้ว อิสราเอลยังกำลังชั่งใจเกี่ยวกับแนวทางเอาคืนอิหร่าน ต่อกรณีที่เตหะรานรัวยิงขีปนาวุธมากกว่า 200 ลูก เข้าใส่ประเทศของพวกเขาเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม
    .
    ทำเนียบนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู บอกว่าอิสราเอลจะเป็นคนตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางการตอบโต้เอาคืน ไม่ใช่พันธมิตรอย่างสหรัฐฯ "เรารับฟังความเห็นจากสหรัฐฯ แต่เราจะตัดสินใจขั้นสุดท้ายบนพื้นฐานของผลประโยชน์แห่งชาติของเรา" ถ้อยแถลงระบุ
    .
    อิหร่านรัวยิงห่าขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอล แก้แค้นอิสราเอลที่ปฏิบัติการโจมตีในกรุงเบรุต สังหาร ฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ และนายพลระดับสูงของอิหร่านรายหนึ่ง เมื่อวันที่ 27 กันยายน
    .
    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ รัฐบาลผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่ป้อนแก่อิสราเอล เตือนอิสราเอลต่อการคิดโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์และน้ำมันของอิหร่าน และล่าสุดหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวันจันทร์ (14 ต.ค.) อ้างอิงเจ้าหน้าที่อเมริกาที่ไม่ประสงค์เอ่ยนาม เผยว่า เนทันยาฮู รับปากกับทำเนียบขาว ว่าอิสราเอลจะพิจารณาโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000099600
    ..............
    Sondhi X
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ปฏิเสธแนวคิดเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอน ที่จะปล่อยให้ฮิซบอลเลาะห์อยู่ใกล้ชายแดนทางเหนือของประเทศ หลังจากพวกนักรบกลุ่มนี้ขู่ยกระดับการโจมตี . ความเห็นของเนทันยาฮู มีขึ้นในขณะที่ สหรัฐฯ ยกระดับกดดันอิสราเอลต่อแนวทางการทำสงครามในเลบานอนและฉนวนกาซา โดยวิพากษ์วิจารณ์ปฏิบัติการทิ้งบอมบ์ถล่มกรุงเบรุตเมื่อเร็วๆ นี้ และเรียกร้องให้เปิดทางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ดินแดนของปาเลสไตน์มากยิ่งขึ้น . ระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์กับ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ทางเนทันยาฮู บอกว่าเขาคัดค้านการหยุดยิงฝ่ายเดียว ที่จะไม่เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ความมั่นคงในเลบานอน และสุดท้ายแล้วมันก็จะกลับสู่หนทางเดิมเหมือนที่เป็นอยู่ จากถ้อยแถลงของทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิสราเอล . เนทันยาฮู และกองทัพอิสราเอลยืนยันว่าจำเป็นต้องมีแนวกันชนตามชายแดนของอิสราเอลติดกับเลบานอน บริเวณที่ต้องไม่มีพวกนักรบฮิซบอลเลาะห์ปรากฏตัว "นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู พูดชัดเจนว่าอิสราเอลจะไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงใดๆ ที่ไม่มอบเขตกันชนนี้ ซึ่งจะไม่สามารถหยุดพวกฮิซบอลเลาะห์จากการเติมอาวุธและรวมกลุ่มกันใหม่" ถ้อยแถลงระบุ . ก่อนหน้านี้ ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านสถานีโทรทัศน์ นาอิม กัสเซม รองหัวหน้ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ บอกว่าทางออกเดียวคือข้อตกลงหยุดยิง แต่ขณะเดียวกันเขาได้ขู่ขยายขอบเขตการยิงขีปนาวุธโจมตีทั่วอิสราเอล "เนื่องด้วยศัตรูอิสรเอลเล็งเป้าหมายทั่วเลบานอน เราจึงมีสิทธิจากฐานะป้องกันตนเอง เล็งเป้าหมายในทุกๆ พื้นที่ในอิสราเอลเช่นกัน" เขากล่าว . ในอีกวันของการสู้รบ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เผยว่าได้ยิงห่าขีปนาวุธเข้าใส่เมืองไฮฟา ทางเหนือของอิสราเอล และเล็งเป้าเล่นงานยานเกราะและรถถังของอิสราเอลที่อยู่ใกล้ชายแดน . อีกด้านหนึ่ง กองทัพอิสราเอลได้ทิ้งบอมบ์ถล่มหลายพื้นที่ในทางภาคใต้และตะวันออกของเลบานอนในวันอังคาร (15 ต.ค.) ในนั้นรวมถึงหุบเขาเบคา ทำให้โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองบาอัลเบค ต้องหยุดปฏิบัติการ ตามรายงานของสำนักข่าวแห่งชาติเลบานอน ขณะที่กองทัพอิสราเอลเผยด้วยว่าสามารถจับกุมนักรบฮิซบอลเลาะห์ได้ 3 ราย ทางใต้ของเลบานอน . กระทรวงสาธารณสุขเลบานอน ระบุมีผู้เสียชีวิต 9 ราย ในเหตุโจมตีทางใต้ของประเทศในช่วงเย็นวันอังคาร (15 ต.ค.) และมีผู้เสียชีวิตอีก 5 คนในทางภาคเหนือ ในนั้นรวมถึงเด็ก 3 คน . ครั้งถูกถามเกี่ยวกับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในเลบานอน ซึ่งพุ่งโดนอาคารที่พักอาศัยในย่านใจกลางกรุงเบรุต เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ทางกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างเปิดเผย "เราแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน ว่าเราคัดค้านยุทธการในแนวทางแบบเดียวกับที่เราพบเห็นพวกเขาดำเนินการในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา" แมตธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาบอกกับผู้สื่อข่าว . ในหนังสือที่ส่งถึงรัฐบาลอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศ และลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เตือนด้วยว่า อเมริกาอาจระงับการส่งมอบอาวุธ จนกว่าความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจะถูกส่งมอบแก่ชาวปาเลสไตน์ในกาซาเพิ่มเติม . อิสราเอลยกระดับปฏิบัติการทางอากาศถล่มพวกฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนเป็นต้นมา จากนั้นก็เปิดปฏิบัติการรุกรานทางภาคพื้นในอีก 1 สัปดาห์ให้หลัง อ้างว่าเป็นความพยายามผลักดันให้พวกนักรบติดอาวุธล่าถอยออกห่างชายแดนทางเหนือ . ฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวดหลายพันลูกเข้าใส่อิสราเอลตลอดขวบปีที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนพันธมิตรอย่างนักรบฮามาส ที่สู้รบกับอิสราเอลในกาซา ทำให้ชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนต้องไร้ถิ่นฐาน . มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1,356 ราย ในเลบานอน นับตั้งแต่อิสราเอลยกระดับการทิ้งบอมบ์เมื่อเดือนที่แล้ว ขณะเดียวกัน สงครามในเลบานอน ชาติที่ทุกข์ทรมานมาจากวิกฤตเศรษฐกิจมานานหลายปี ก็ส่งผลให้มีชาวบ้านต้องไร้ถิ่นฐานอย่างน้อย 690,000 ราย . นอกเหนือจากปฏิบัติการโจมตีตอบโต้กันไปมาระหว่าง 2 ฝ่ายแล้ว อิสราเอลยังกำลังชั่งใจเกี่ยวกับแนวทางเอาคืนอิหร่าน ต่อกรณีที่เตหะรานรัวยิงขีปนาวุธมากกว่า 200 ลูก เข้าใส่ประเทศของพวกเขาเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม . ทำเนียบนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู บอกว่าอิสราเอลจะเป็นคนตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางการตอบโต้เอาคืน ไม่ใช่พันธมิตรอย่างสหรัฐฯ "เรารับฟังความเห็นจากสหรัฐฯ แต่เราจะตัดสินใจขั้นสุดท้ายบนพื้นฐานของผลประโยชน์แห่งชาติของเรา" ถ้อยแถลงระบุ . อิหร่านรัวยิงห่าขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอล แก้แค้นอิสราเอลที่ปฏิบัติการโจมตีในกรุงเบรุต สังหาร ฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ และนายพลระดับสูงของอิหร่านรายหนึ่ง เมื่อวันที่ 27 กันยายน . ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ รัฐบาลผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่ป้อนแก่อิสราเอล เตือนอิสราเอลต่อการคิดโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์และน้ำมันของอิหร่าน และล่าสุดหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวันจันทร์ (14 ต.ค.) อ้างอิงเจ้าหน้าที่อเมริกาที่ไม่ประสงค์เอ่ยนาม เผยว่า เนทันยาฮู รับปากกับทำเนียบขาว ว่าอิสราเอลจะพิจารณาโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000099600 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1514 มุมมอง 0 รีวิว