• สื่ออังกฤษป้ายสีนักธุรกิจจีนว่าเป็นสายลับ บิดคำพิพากษาของศาล กรณีของเจ้าชายแอนดรูว์และ “สายลับจีน” โดยบทวิเคราะห์ของArnaud Bertrand เขียนในXระบุว่า การดำเนินการของสื่อของอังกฤษ ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่น่าหวาดระแวงเกี่ยวกับ “ภัยสีเหลือง” ที่สุดที่เคยพบเห็นเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้ว จะพบว่าเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่น่าเชื่ออย่างยิ่ง ในทางปฏิบัติแล้ว หมายความว่าชาวจีนทุกคน - ไม่จำเป็นต้องเป็นคนจีนด้วยซ้ำ อาจเป็นใครก็ได้ที่มีความเชื่อมโยงกับจีน - จะถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวร หากพวกเขามีความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในสหราชอาณาจักรก่อนอื่น มาดูกันว่าสื่อมีแนวคิดเกี่ยวกับกรณีนี้อย่างไร พาดหัวข่าวระบุว่า “สายลับจีนเชื่อมโยงกับเจ้าชายแอนดรูว์ ส.ส. เตือนว่าเขาไม่ใช่หมาป่าเดียวดาย” (The Independent: independent.co.uk/news/uk/politi… ) “เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับสายลับกับเจ้าชายแอนดรูว์อาจทำให้มีการเปิดโปงภัยคุกคามจากจีนมากขึ้น”(The Guardian: theguardian.com/world/2024/dec… ) "'สายลับ' ชาวจีนที่เชื่อมโยงกับเจ้าชายแอนดรูว์เป็นเพียง 'ส่วนเล็กๆ ของภูเขาน้ำแข็ง' เท่านั้น" (Politico: politico.eu/article/china-… )สื่อหลักทุกสำนักข่าวของอังกฤษที่รายงานเกี่ยวกับเรื่อง "สายลับจีน" ต่างพากันวาดภาพอันชั่วร้ายของการแทรกซึมเข้าสู่ระดับสูงสุดของสังคมอังกฤษ โดยถือเป็น "หลักฐาน" ของ "ภัยคุกคามอันเลวร้ายจากจีน"ทั้งหมดนี้ไม่เป็นความความจริและเหลือเชื่อ เมื่อคุณพิจารณาความเป็นจริงของคดี (อ่านคำพิพากษาของศาลได้ที่นี่: judiciary.uk/judgments/h6-v… ) ข้อกล่าวหาเหล่านี้ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง ไม่มีหลักฐานใดๆ ของการจารกรรม ไม่มีหลักฐานของการกระทำผิดใดๆ เลย จริงๆ แล้วไม่มีข้อกล่าวหาใดๆ เลยเกี่ยวกับการกระทำผิดที่เกิดขึ้น ไม่มีเลย ไม่มีเลย ไม่มีเลยแต่ในความเป็นจริงแล้วคดีของรัฐบาลประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้:- นายหยางมีความเชื่อมโยงกับสถาบันของจีน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนกงานแนวร่วมและพรรคคอมมิวนิสต์) ซึ่งศาลเองก็ยอมรับว่า "อาจใช้ได้กับนักธุรกิจชาวจีนทุกคน"- เขาถูกกล่าวหาว่าไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเหล่านี้และป้ายสีว่าเขาโกหกเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยซ้ำ - ทั้ๆที่เขายอมรับว่าความเชื่อมโยงดังกล่าวเป็นสิ่งที่ "หลีกเลี่ยงไม่ได้" สำหรับนักธุรกิจจีน (ซึ่งเป็นเพียงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวิธีการดำเนินธุรกิจในจีน)แม้ว่าศาลจะยอมรับในคำพิพากษาว่า "ไม่มีหลักฐานมากมาย" ที่สนับสนุนความเชื่อมโยงเหล่านี้ในตอนแรก- เขาสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญของอังกฤษ (โดยเฉพาะเจ้าชายแอนดรูว์) ผ่านทางโครงการธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Pitch@Palace ซึ่งรัฐบาลอังกฤษโต้แย้งว่า "สามารถนำมาใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลในบางจุดในอนาคตได้ แม้ว่าศาลจะเขียนว่า "อาจเป็นเพียงแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจปกติ" ก็ตามนั่นแหละ นั่นคือกรณีทั้งหมดจริงๆสามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน: judiciary.uk/judgments/h6-v… นั่นคือกรณีทั้งหมดจริงๆไม่มีหลักฐานหรือข้อกล่าวหา (!), เกี่ยวกับการจารกรรมในคดีที่สื่อทั้งหมดนำเสนอว่าเป็น "สายลับจีน" ความผิดของนายหยางคือการเป็นนักธุรกิจชาวจีนที่มีความเชื่อมโยงกับสถาบันของจีน ซึ่งศาลเองก็ยอมรับว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์กับชนชั้นนำอังกฤษผ่านการร่วมทุนทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเพียงแค่ความจริงที่ว่าความสัมพันธ์เหล่านี้สามารถ "ใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลในบางจุดในอนาคต  แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวร แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าเขาตั้งใจจะทำเช่นนั้นหรือทำอะไรที่ไม่เหมาะสมก็ตามและนี่คือจุดที่ทุกอย่างกลายเป็นโลกดิสโทเปียอย่างแท้จริง นายหยางถูกห้ามเข้าสหราชอาณาจักรอย่างถาวรโดยไม่ได้อ้างกฎหมายหรือหลักฐานการกระทำผิดใดๆ แต่อยู่ภายใต้อำนาจของกษัตริย์โบราณที่เรียกว่า "พระราชอำนาจพิเศษ" รัฐบาลไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ด้วยซ้ำว่าเขาทำอะไรผิด พวกเขาเพียงแค่ต้องโต้แย้งว่าเป็นเรื่อง "สมเหตุสมผล" ที่จะคิดว่าความสัมพันธ์ทางธุรกิจของเขาสามารถนำมาใช้เพื่อสร้างอิทธิพลในสักวันหนึ่งลองคิดดูว่าสิ่งนี้มีความหมายอย่างไรในทางปฏิบัติ นักธุรกิจชาวจีนที่:- พัฒนาความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในสหราชอาณาจักร (ซึ่งมักจำเป็นต่อการทำธุรกิจ)- มีความสัมพันธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กับสถาบันของจีน (ซึ่งมักจะเป็นเช่นนี้เกือบเสมอ)- ถือเป็นการไม่แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเหล่านี้อาจถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวรโดยไม่ต้องก่ออาชญากรรมหรือกระทำผิดใดๆ รัฐบาลเพียงแค่ต้องโบกไม้กายสิทธิ์แห่ง "ความมั่นคงแห่งชาติ" และเสนอแนะความเสี่ยงในอนาคตตามทฤษฎีสิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือสื่อตะวันตกล้มเหลวในการตรวจสอบเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง แทนที่จะตั้งคำถามว่าทำไมคนๆ หนึ่งจึงถูกตราหน้าว่าเป็น "สายลับ" และถูกห้ามเข้าประเทศเพียงเพราะไม่มีหลักฐานใดๆ เกี่ยวกับการจารกรรม พวกเขากลับขยายความหวาดระแวงด้วยพาดหัวข่าวที่สร้างความตื่นตระหนกและอ้างคำพูดของสมาชิกรัฐสภาที่เตือนว่านี่เป็นเพียง "ส่วนเล็กๆ ของเรื่องใหญ่" และเขา "ไม่ใช่หมาป่าเดียวดาย"โดยพื้นฐานแล้ว เรากำลังเฝ้าดูการสร้างกรอบกฎหมายสำหรับการเลือกปฏิบัติต่อพลเมืองจีน (และอาจรวมถึงผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับจีนด้วย) โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเขาทำ แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่รัฐบาลคิดว่าพวกเขาอาจทำในอนาคตโดยอาศัยพื้นฐานง่ายๆ ว่าพวกเขาเป็นชาวจีน ในขณะที่สื่อมวลชนก็เชียร์การกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายและศีลธรรมพื้นฐานนี้ด้วยวาทกรรม "สายลับ" ที่ยั่วยุและไม่มีหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นผลงานของคาฟคาทั้งสิ้นลองนึกภาพดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากจีนเริ่มสั่งห้ามนักธุรกิจชาวอังกฤษเข้าประเทศอย่างถาวร เนื่องจากพวกเขามีความสัมพันธ์กับสถาบันของอังกฤษ และพัฒนาความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่จีนที่ "สามารถใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลได้ ซึ่งหมายถึงนักธุรกิจชาวอังกฤษเกือบทั้งหมดในจีนที่มีอาวุโสในระดับหนึ่ง ดังนั้น เราจะต้องเผชิญหน้ากับการเนรเทศชุมชนธุรกิจชาวอังกฤษออกจากจีนเกือบทั้งหมด...แม้แต่จากมุมมองของผลประโยชน์ของชาติอังกฤษแล้ว ก็ไม่สมเหตุสมผลเลย พวกเขาควรต้องการให้นักธุรกิจชาวจีนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีมาทำธุรกิจที่นั่น เพราะความสัมพันธ์เหล่านี้มีความสำคัญต่อธุรกิจ หากพวกเขากังวลว่าความสัมพันธ์เหล่านี้อาจถูกนำมาใช้เพื่อมีอิทธิพลที่ไม่เหมาะสม การตอบสนองของพวกเขาควรเสริมสร้างมาตรการต่อต้านการทุจริตในประเทศ ไม่ใช่ห้ามนักธุรกิจชาวจีนสร้างความสัมพันธ์ที่เอื้อต่อการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ แนวทางนี้ไม่ได้ปกป้องผลประโยชน์ของอังกฤษ แต่กลับสร้างความเสียหายให้กับพวกเขาโดยสร้างผลกระทบเชิงลบต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศคดีของหยาง เติงโป ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่น่าเศร้าอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ชาติตะวันตกต้องคลี่คลายสิ่งที่ชาติตะวันตกอ้างว่าเป็น "ค่านิยมพื้นฐาน" ของตน เมื่อเราเริ่มลงโทษผู้คนไม่ใช่เพราะสิ่งที่พวกเขาทำ แต่เพราะสิ่งที่พวกเขาอาจทำในทางทฤษฎีเพราะสัญชาติของพวกเขา เรากำลังก้าวข้ามเส้นที่ควรทำให้ผู้ที่เชื่อในหลักนิติธรรมและความยุติธรรมขั้นพื้นฐานวิตกกังวล สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เราปลอดภัยและเจริญรุ่งเรืองขึ้น แต่ทำให้เรามีความยุติธรรมน้อยลงเท่านั้น หากสิ่งนี้ไม่ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับทิศทางที่เรากำลังมุ่งหน้าไป ฉันก็ไม่รู้ว่าอะไรจะทำให้เกิดขึ้นได้
    สื่ออังกฤษป้ายสีนักธุรกิจจีนว่าเป็นสายลับ บิดคำพิพากษาของศาล กรณีของเจ้าชายแอนดรูว์และ “สายลับจีน” โดยบทวิเคราะห์ของArnaud Bertrand เขียนในXระบุว่า การดำเนินการของสื่อของอังกฤษ ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่น่าหวาดระแวงเกี่ยวกับ “ภัยสีเหลือง” ที่สุดที่เคยพบเห็นเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้ว จะพบว่าเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่น่าเชื่ออย่างยิ่ง ในทางปฏิบัติแล้ว หมายความว่าชาวจีนทุกคน - ไม่จำเป็นต้องเป็นคนจีนด้วยซ้ำ อาจเป็นใครก็ได้ที่มีความเชื่อมโยงกับจีน - จะถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวร หากพวกเขามีความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในสหราชอาณาจักรก่อนอื่น มาดูกันว่าสื่อมีแนวคิดเกี่ยวกับกรณีนี้อย่างไร พาดหัวข่าวระบุว่า “สายลับจีนเชื่อมโยงกับเจ้าชายแอนดรูว์ ส.ส. เตือนว่าเขาไม่ใช่หมาป่าเดียวดาย” (The Independent: independent.co.uk/news/uk/politi… ) “เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับสายลับกับเจ้าชายแอนดรูว์อาจทำให้มีการเปิดโปงภัยคุกคามจากจีนมากขึ้น”(The Guardian: theguardian.com/world/2024/dec… ) "'สายลับ' ชาวจีนที่เชื่อมโยงกับเจ้าชายแอนดรูว์เป็นเพียง 'ส่วนเล็กๆ ของภูเขาน้ำแข็ง' เท่านั้น" (Politico: politico.eu/article/china-… )สื่อหลักทุกสำนักข่าวของอังกฤษที่รายงานเกี่ยวกับเรื่อง "สายลับจีน" ต่างพากันวาดภาพอันชั่วร้ายของการแทรกซึมเข้าสู่ระดับสูงสุดของสังคมอังกฤษ โดยถือเป็น "หลักฐาน" ของ "ภัยคุกคามอันเลวร้ายจากจีน"ทั้งหมดนี้ไม่เป็นความความจริและเหลือเชื่อ เมื่อคุณพิจารณาความเป็นจริงของคดี (อ่านคำพิพากษาของศาลได้ที่นี่: judiciary.uk/judgments/h6-v… ) ข้อกล่าวหาเหล่านี้ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง ไม่มีหลักฐานใดๆ ของการจารกรรม ไม่มีหลักฐานของการกระทำผิดใดๆ เลย จริงๆ แล้วไม่มีข้อกล่าวหาใดๆ เลยเกี่ยวกับการกระทำผิดที่เกิดขึ้น ไม่มีเลย ไม่มีเลย ไม่มีเลยแต่ในความเป็นจริงแล้วคดีของรัฐบาลประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้:- นายหยางมีความเชื่อมโยงกับสถาบันของจีน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนกงานแนวร่วมและพรรคคอมมิวนิสต์) ซึ่งศาลเองก็ยอมรับว่า "อาจใช้ได้กับนักธุรกิจชาวจีนทุกคน"- เขาถูกกล่าวหาว่าไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเหล่านี้และป้ายสีว่าเขาโกหกเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยซ้ำ - ทั้ๆที่เขายอมรับว่าความเชื่อมโยงดังกล่าวเป็นสิ่งที่ "หลีกเลี่ยงไม่ได้" สำหรับนักธุรกิจจีน (ซึ่งเป็นเพียงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวิธีการดำเนินธุรกิจในจีน)แม้ว่าศาลจะยอมรับในคำพิพากษาว่า "ไม่มีหลักฐานมากมาย" ที่สนับสนุนความเชื่อมโยงเหล่านี้ในตอนแรก- เขาสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญของอังกฤษ (โดยเฉพาะเจ้าชายแอนดรูว์) ผ่านทางโครงการธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Pitch@Palace ซึ่งรัฐบาลอังกฤษโต้แย้งว่า "สามารถนำมาใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลในบางจุดในอนาคตได้ แม้ว่าศาลจะเขียนว่า "อาจเป็นเพียงแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจปกติ" ก็ตามนั่นแหละ นั่นคือกรณีทั้งหมดจริงๆสามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน: judiciary.uk/judgments/h6-v… นั่นคือกรณีทั้งหมดจริงๆไม่มีหลักฐานหรือข้อกล่าวหา (!), เกี่ยวกับการจารกรรมในคดีที่สื่อทั้งหมดนำเสนอว่าเป็น "สายลับจีน" ความผิดของนายหยางคือการเป็นนักธุรกิจชาวจีนที่มีความเชื่อมโยงกับสถาบันของจีน ซึ่งศาลเองก็ยอมรับว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์กับชนชั้นนำอังกฤษผ่านการร่วมทุนทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเพียงแค่ความจริงที่ว่าความสัมพันธ์เหล่านี้สามารถ "ใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลในบางจุดในอนาคต  แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวร แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าเขาตั้งใจจะทำเช่นนั้นหรือทำอะไรที่ไม่เหมาะสมก็ตามและนี่คือจุดที่ทุกอย่างกลายเป็นโลกดิสโทเปียอย่างแท้จริง นายหยางถูกห้ามเข้าสหราชอาณาจักรอย่างถาวรโดยไม่ได้อ้างกฎหมายหรือหลักฐานการกระทำผิดใดๆ แต่อยู่ภายใต้อำนาจของกษัตริย์โบราณที่เรียกว่า "พระราชอำนาจพิเศษ" รัฐบาลไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ด้วยซ้ำว่าเขาทำอะไรผิด พวกเขาเพียงแค่ต้องโต้แย้งว่าเป็นเรื่อง "สมเหตุสมผล" ที่จะคิดว่าความสัมพันธ์ทางธุรกิจของเขาสามารถนำมาใช้เพื่อสร้างอิทธิพลในสักวันหนึ่งลองคิดดูว่าสิ่งนี้มีความหมายอย่างไรในทางปฏิบัติ นักธุรกิจชาวจีนที่:- พัฒนาความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในสหราชอาณาจักร (ซึ่งมักจำเป็นต่อการทำธุรกิจ)- มีความสัมพันธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กับสถาบันของจีน (ซึ่งมักจะเป็นเช่นนี้เกือบเสมอ)- ถือเป็นการไม่แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเหล่านี้อาจถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวรโดยไม่ต้องก่ออาชญากรรมหรือกระทำผิดใดๆ รัฐบาลเพียงแค่ต้องโบกไม้กายสิทธิ์แห่ง "ความมั่นคงแห่งชาติ" และเสนอแนะความเสี่ยงในอนาคตตามทฤษฎีสิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือสื่อตะวันตกล้มเหลวในการตรวจสอบเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง แทนที่จะตั้งคำถามว่าทำไมคนๆ หนึ่งจึงถูกตราหน้าว่าเป็น "สายลับ" และถูกห้ามเข้าประเทศเพียงเพราะไม่มีหลักฐานใดๆ เกี่ยวกับการจารกรรม พวกเขากลับขยายความหวาดระแวงด้วยพาดหัวข่าวที่สร้างความตื่นตระหนกและอ้างคำพูดของสมาชิกรัฐสภาที่เตือนว่านี่เป็นเพียง "ส่วนเล็กๆ ของเรื่องใหญ่" และเขา "ไม่ใช่หมาป่าเดียวดาย"โดยพื้นฐานแล้ว เรากำลังเฝ้าดูการสร้างกรอบกฎหมายสำหรับการเลือกปฏิบัติต่อพลเมืองจีน (และอาจรวมถึงผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับจีนด้วย) โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเขาทำ แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่รัฐบาลคิดว่าพวกเขาอาจทำในอนาคตโดยอาศัยพื้นฐานง่ายๆ ว่าพวกเขาเป็นชาวจีน ในขณะที่สื่อมวลชนก็เชียร์การกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายและศีลธรรมพื้นฐานนี้ด้วยวาทกรรม "สายลับ" ที่ยั่วยุและไม่มีหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นผลงานของคาฟคาทั้งสิ้นลองนึกภาพดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากจีนเริ่มสั่งห้ามนักธุรกิจชาวอังกฤษเข้าประเทศอย่างถาวร เนื่องจากพวกเขามีความสัมพันธ์กับสถาบันของอังกฤษ และพัฒนาความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่จีนที่ "สามารถใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลได้ ซึ่งหมายถึงนักธุรกิจชาวอังกฤษเกือบทั้งหมดในจีนที่มีอาวุโสในระดับหนึ่ง ดังนั้น เราจะต้องเผชิญหน้ากับการเนรเทศชุมชนธุรกิจชาวอังกฤษออกจากจีนเกือบทั้งหมด...แม้แต่จากมุมมองของผลประโยชน์ของชาติอังกฤษแล้ว ก็ไม่สมเหตุสมผลเลย พวกเขาควรต้องการให้นักธุรกิจชาวจีนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีมาทำธุรกิจที่นั่น เพราะความสัมพันธ์เหล่านี้มีความสำคัญต่อธุรกิจ หากพวกเขากังวลว่าความสัมพันธ์เหล่านี้อาจถูกนำมาใช้เพื่อมีอิทธิพลที่ไม่เหมาะสม การตอบสนองของพวกเขาควรเสริมสร้างมาตรการต่อต้านการทุจริตในประเทศ ไม่ใช่ห้ามนักธุรกิจชาวจีนสร้างความสัมพันธ์ที่เอื้อต่อการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ แนวทางนี้ไม่ได้ปกป้องผลประโยชน์ของอังกฤษ แต่กลับสร้างความเสียหายให้กับพวกเขาโดยสร้างผลกระทบเชิงลบต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศคดีของหยาง เติงโป ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่น่าเศร้าอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ชาติตะวันตกต้องคลี่คลายสิ่งที่ชาติตะวันตกอ้างว่าเป็น "ค่านิยมพื้นฐาน" ของตน เมื่อเราเริ่มลงโทษผู้คนไม่ใช่เพราะสิ่งที่พวกเขาทำ แต่เพราะสิ่งที่พวกเขาอาจทำในทางทฤษฎีเพราะสัญชาติของพวกเขา เรากำลังก้าวข้ามเส้นที่ควรทำให้ผู้ที่เชื่อในหลักนิติธรรมและความยุติธรรมขั้นพื้นฐานวิตกกังวล สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เราปลอดภัยและเจริญรุ่งเรืองขึ้น แต่ทำให้เรามีความยุติธรรมน้อยลงเท่านั้น หากสิ่งนี้ไม่ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับทิศทางที่เรากำลังมุ่งหน้าไป ฉันก็ไม่รู้ว่าอะไรจะทำให้เกิดขึ้นได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 465 มุมมอง 0 รีวิว
  • สิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรียวันนี้ถือว่า "หักปากกาเซียน" แบบไม่เคยมีมาก่อน จนถึงขณะนี้การวิเคราะห์ก็ยังแตกเป็นหลายกระแส ต่างจากสถานการณ์ที่อื่นที่มักจะวิเคราะห์ต่างกันไม่กี่สาย นั่นหมายความไม่มีใครรู้จริงว่าเบื้องหลังการโค่นล้มรัฐบาลซีเรียคือใครแผนที่นี้ผมยืมมาจาก Council on Foreign Relations (CFR) ระบุพื้นที่ของกลุ่มต่างๆ ก่อนการยึดดามัสกัส เราจะเห็น 1) สีส้มของรัฐบาลอัสซาด 2) สีชมพูกลุ่ม HTS กองกำลังอัลกออิดะห์เดิมที่เข้ายึดดามัสกัสได้ 3.) สีเหลืองคือพื้นที่ตุรกีคุมไว้รวมกลุ่มถึง SNA ที่ตุรกีหนุน 4.) พื้นที่ยึดครองของชาวเคิร์ด และยังมีฐานกำลังของสหรัฐฯ (เทา) กับรัสเซีย (แดง)บทวิเคราะห์ของ CFR ให้น้ำหนักไปที่การแทรกแซงโดยตุรกี เพราะกลุ่ม HTS ได้รับการหนุนด้านอาวุธจากตุรกี และกลุ่มติดอาวุธซีเรียที่ตุรกีหนุนก็มาเป็นแนวร่วมให้ HTS เป้าหมายการหนุนก็เพื่อทำลายรัฐบาลอัสซาดที่เป็นภัยคุกคามต่อตุรกี และเพื่อสร้างแนวร่วมต่อต้านพวกเคิร์ด ซึ่งต้องการแยกดินแดนในซีเรียและตุรกีและในอิรักมาตั้งเป็นประเทศเอกราชแต่ถึงที่สุดแล้ว CFR ก็ฟันธงไม่ได้ว่าตุรกีอยู่เบื้องหลัง 100% เพราะแม้ตุรกีจะได้ประโยชน์ แต่โทษของการแทรกแซงก็มี นั่นคือจะเกิดความไร้เสถียรภาพในซีเรียอย่างหนัก (กลุ่มต่างๆ ฆ่าฟันกันเองหลังจากนี้เพราะไม่มีเป้าหมายร่วมกันอีกต่อไป) จากนั้นคลื่นผู้อพยพจะทะลักเข้าไปในตุรกี แม้จะเป็นได้สูงที่ตุรกีอยู่เบื้องหลัง อย่างที่สื่อตุรกีอ้างผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อว่าการโจมตีของกลุ่ม HTS จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากตุรกีไม่อนุมัติ การสนับสนุนกองทัพแห่งชาติซีเรีย (SNA) ซึ่งสนับสนุนกลุ่มที่เป็นกองหนุนให้กับ HTS ในการรุกยึดประเทศจนสำเร็จแต่สื่อตุรกี คือ Medyascope กลับกังวลมากกว่ากับการแทรกแซง โดยบอกว่า "ที่สำคัญกว่านั้น เมื่อคุณดูแผนที่ ซีเรียจะถูกปกครองโดยองค์กรสองแห่งที่ตุรกีมองว่าเป็นองค์กรก่อการร้าย (HTS อัลกออิดะห์เก่า และ PYD กลุ่มชาวเคิร์ดที่รัฐบาลตุรกีถือว่าช่วยชาวเคิร์ดในตุรกีแยกดินแดน) เราต้องการสถานที่ที่องค์กรก่อการร้ายทั้งหมดกำลังก่อความวุ่นวายในซีเรียซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเราหรือไม่ ตุรกีได้รับอะไรจากเรื่องนี้? การก่อตั้งรัฐก่อการร้ายแห่งใหม่งั้นหรือ?"ดังนั้น การฟันธงว่าตุรกีมีแต่ได้จากสถานการณ์นี้น่าจะไม่ถูกต้องทั้งหมด ดังนั้นคำถามก็คือใครก็แน่นที่น่าจะได้ประโยชน์?โดนัลก์ ทรัมป์ บอกว่าแค่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรีย Not our war แต่มันจริงแค่ไหน? ก็ในเมื่อกองทัพสหรัฐฯ อยู่ที่นั่น และสนับสนุกองต่างๆ รวมถึงกองกำลังเคิร์ดมีมุมมองที่น่าใจจากฝ่ายค้านของตุรกี คือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งตุรกี (TKP) ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยระบุว่าแผนการแบ่งซีเรียที่จักรวรรดินิยมสหรัฐและกลุ่มปฏิกิริยาในภูมิภาคที่เริ่มต้นเมื่อประมาณ 15 ปีก่อนประสบความสำเร็จเมื่อวานนี้ และ 'ผู้ชนะ' ทั้งหมดในซีเรียล้วนเป็นพันธมิตรของสหรัฐและอิสราเอล' และเน้นย้ำว่าเสถียรภาพและสันติภาพจะไม่เกิดขึ้นกับซีเรีย "ตรงกันข้าม ช่วงเวลาแห่งความป่าเถื่อนจะเริ่มต้นขึ้นในซีเรีย ซึ่งการสังหารหมู่ การยึดครอง การปล้นสะดม และการขัดแย้งไม่รู้จบเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว เนื่องจากกองกำลังต่อต้านกลุ่มสุดท้ายที่คอยสกัดกั้นสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดได้ถูกกำจัดออกไปแล้ว"ในแถลงการณ์ของ TKP ได้เน้นย้ำว่าผู้ชนะในภาพในซีเรียคืออิสราเอล "ในตอนนี้" และได้รับการพิสูจน์อีกครั้งแล้วว่าปัญหาอิสราเอลไม่ใช่ปัญหาทางศาสนา "กลุ่มญิฮาด (หมายถึง HTS) และอิสราเอลได้ทำงานร่วมกันอย่างสอดประสานกันเพื่อยึดครองซีเรีย รัฐบาลตุรกีเป็นองค์ประกอบที่รับประกันความกลมเกลียวนี้การที่อิสราเอลชนะก็คือการที่จักรวรรดินิยมของสหรัฐฯ ชนะ ในปัจจุบัน ผู้ชนะทั้งหมดในซีเรียเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ และอิสราเอล บางทีการปะทะกันอย่างนองเลือดอาจเกิดขึ้นระหว่าง "ผู้ชนะ" หรือบางที "ความกลมกลืน" ที่เห็นบนภาคพื้นดินเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์อาจได้รับการสถาปนาโดยสหรัฐฯแต่ "สันติภาพ" ของสหรัฐฯ นั้นเต็มไปด้วยเลือดเสมอและเต็มไปด้วยความขัดแย้งใหม่ๆ เสมอ สันติภาพ เสถียรภาพ และความสงบสุขสามารถสถาปนาได้ในซีเรียก็ต่อเมื่อจักรวรรดินิยมและญิฮาดพ่ายแพ้เท่านั้น"แน่นอนว่าจะมีการต่อต้านจักรวรรดินิยมและลัทธิไซออนิสต์ในซีเรีย การต่อต้านนี้จะดำเนินการด้วยมุมมองปฏิวัติ ปกป้องลัทธิฆราวาส และสร้างความเป็นหนึ่งเดียวโดยไม่ต้องพึ่งพาอำนาจระหว่างประเทศอื่น ๆ หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพัฒนาในตุรกีในระดับหนึ่ง”'ประเทศของเรา (ตุรกี) และพลเมืองของเรากำลังเผชิญกับการทดสอบครั้งใหญ่'********************ป.ล. - ยังมีอีกกระแสการวิเคราะห์หนึ่ง เช่น BBC บอกว่าตุรกีกับรัสเซียน่าจะตกลงกันไม่ได้ในการประชุมระหว่างผู้นำตุรกีกับรัสเซียเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นำไปสู่การเผด็จศึกดามัสกัสในที่สุดแต่สื่อตุรกีก็แย้งว่า รัสเซียไม่มีแรงช่วยรัฐบาลอัสซาดอีกต่อไปเพราะต้องแบกสงครามยูเครนที่จู่ๆ ก็หนักขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่อิหร่านที่ช่วยฐบาลอัสซาดมาโดยตลอด ตอนนี้ก็ช่วยไม่ไหวเพราะกรำศึกกับอิสราเอลจนงอม (ทั้งรบกันโดยตรงและผ่านกลุ่มฮิซบอลลอฮ์ในเลบานอนเป็นต้น)ดังนั้น แต่ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายนเป็นต้นมา อันเป็นวันที่ฝ่ายต่อต้าน "เสียงปืนแตก" อีกครั้งหลายเงียบมา 4 ปี ในเวลานั้นอัสซาดไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างที่เขาคาดหวังจากอิหร่านหรือรัสเซียเลยKornkit Disthan
    สิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรียวันนี้ถือว่า "หักปากกาเซียน" แบบไม่เคยมีมาก่อน จนถึงขณะนี้การวิเคราะห์ก็ยังแตกเป็นหลายกระแส ต่างจากสถานการณ์ที่อื่นที่มักจะวิเคราะห์ต่างกันไม่กี่สาย นั่นหมายความไม่มีใครรู้จริงว่าเบื้องหลังการโค่นล้มรัฐบาลซีเรียคือใครแผนที่นี้ผมยืมมาจาก Council on Foreign Relations (CFR) ระบุพื้นที่ของกลุ่มต่างๆ ก่อนการยึดดามัสกัส เราจะเห็น 1) สีส้มของรัฐบาลอัสซาด 2) สีชมพูกลุ่ม HTS กองกำลังอัลกออิดะห์เดิมที่เข้ายึดดามัสกัสได้ 3.) สีเหลืองคือพื้นที่ตุรกีคุมไว้รวมกลุ่มถึง SNA ที่ตุรกีหนุน 4.) พื้นที่ยึดครองของชาวเคิร์ด และยังมีฐานกำลังของสหรัฐฯ (เทา) กับรัสเซีย (แดง)บทวิเคราะห์ของ CFR ให้น้ำหนักไปที่การแทรกแซงโดยตุรกี เพราะกลุ่ม HTS ได้รับการหนุนด้านอาวุธจากตุรกี และกลุ่มติดอาวุธซีเรียที่ตุรกีหนุนก็มาเป็นแนวร่วมให้ HTS เป้าหมายการหนุนก็เพื่อทำลายรัฐบาลอัสซาดที่เป็นภัยคุกคามต่อตุรกี และเพื่อสร้างแนวร่วมต่อต้านพวกเคิร์ด ซึ่งต้องการแยกดินแดนในซีเรียและตุรกีและในอิรักมาตั้งเป็นประเทศเอกราชแต่ถึงที่สุดแล้ว CFR ก็ฟันธงไม่ได้ว่าตุรกีอยู่เบื้องหลัง 100% เพราะแม้ตุรกีจะได้ประโยชน์ แต่โทษของการแทรกแซงก็มี นั่นคือจะเกิดความไร้เสถียรภาพในซีเรียอย่างหนัก (กลุ่มต่างๆ ฆ่าฟันกันเองหลังจากนี้เพราะไม่มีเป้าหมายร่วมกันอีกต่อไป) จากนั้นคลื่นผู้อพยพจะทะลักเข้าไปในตุรกี แม้จะเป็นได้สูงที่ตุรกีอยู่เบื้องหลัง อย่างที่สื่อตุรกีอ้างผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อว่าการโจมตีของกลุ่ม HTS จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากตุรกีไม่อนุมัติ การสนับสนุนกองทัพแห่งชาติซีเรีย (SNA) ซึ่งสนับสนุนกลุ่มที่เป็นกองหนุนให้กับ HTS ในการรุกยึดประเทศจนสำเร็จแต่สื่อตุรกี คือ Medyascope กลับกังวลมากกว่ากับการแทรกแซง โดยบอกว่า "ที่สำคัญกว่านั้น เมื่อคุณดูแผนที่ ซีเรียจะถูกปกครองโดยองค์กรสองแห่งที่ตุรกีมองว่าเป็นองค์กรก่อการร้าย (HTS อัลกออิดะห์เก่า และ PYD กลุ่มชาวเคิร์ดที่รัฐบาลตุรกีถือว่าช่วยชาวเคิร์ดในตุรกีแยกดินแดน) เราต้องการสถานที่ที่องค์กรก่อการร้ายทั้งหมดกำลังก่อความวุ่นวายในซีเรียซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเราหรือไม่ ตุรกีได้รับอะไรจากเรื่องนี้? การก่อตั้งรัฐก่อการร้ายแห่งใหม่งั้นหรือ?"ดังนั้น การฟันธงว่าตุรกีมีแต่ได้จากสถานการณ์นี้น่าจะไม่ถูกต้องทั้งหมด ดังนั้นคำถามก็คือใครก็แน่นที่น่าจะได้ประโยชน์?โดนัลก์ ทรัมป์ บอกว่าแค่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรีย Not our war แต่มันจริงแค่ไหน? ก็ในเมื่อกองทัพสหรัฐฯ อยู่ที่นั่น และสนับสนุกองต่างๆ รวมถึงกองกำลังเคิร์ดมีมุมมองที่น่าใจจากฝ่ายค้านของตุรกี คือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งตุรกี (TKP) ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยระบุว่าแผนการแบ่งซีเรียที่จักรวรรดินิยมสหรัฐและกลุ่มปฏิกิริยาในภูมิภาคที่เริ่มต้นเมื่อประมาณ 15 ปีก่อนประสบความสำเร็จเมื่อวานนี้ และ 'ผู้ชนะ' ทั้งหมดในซีเรียล้วนเป็นพันธมิตรของสหรัฐและอิสราเอล' และเน้นย้ำว่าเสถียรภาพและสันติภาพจะไม่เกิดขึ้นกับซีเรีย "ตรงกันข้าม ช่วงเวลาแห่งความป่าเถื่อนจะเริ่มต้นขึ้นในซีเรีย ซึ่งการสังหารหมู่ การยึดครอง การปล้นสะดม และการขัดแย้งไม่รู้จบเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว เนื่องจากกองกำลังต่อต้านกลุ่มสุดท้ายที่คอยสกัดกั้นสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดได้ถูกกำจัดออกไปแล้ว"ในแถลงการณ์ของ TKP ได้เน้นย้ำว่าผู้ชนะในภาพในซีเรียคืออิสราเอล "ในตอนนี้" และได้รับการพิสูจน์อีกครั้งแล้วว่าปัญหาอิสราเอลไม่ใช่ปัญหาทางศาสนา "กลุ่มญิฮาด (หมายถึง HTS) และอิสราเอลได้ทำงานร่วมกันอย่างสอดประสานกันเพื่อยึดครองซีเรีย รัฐบาลตุรกีเป็นองค์ประกอบที่รับประกันความกลมเกลียวนี้การที่อิสราเอลชนะก็คือการที่จักรวรรดินิยมของสหรัฐฯ ชนะ ในปัจจุบัน ผู้ชนะทั้งหมดในซีเรียเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ และอิสราเอล บางทีการปะทะกันอย่างนองเลือดอาจเกิดขึ้นระหว่าง "ผู้ชนะ" หรือบางที "ความกลมกลืน" ที่เห็นบนภาคพื้นดินเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์อาจได้รับการสถาปนาโดยสหรัฐฯแต่ "สันติภาพ" ของสหรัฐฯ นั้นเต็มไปด้วยเลือดเสมอและเต็มไปด้วยความขัดแย้งใหม่ๆ เสมอ สันติภาพ เสถียรภาพ และความสงบสุขสามารถสถาปนาได้ในซีเรียก็ต่อเมื่อจักรวรรดินิยมและญิฮาดพ่ายแพ้เท่านั้น"แน่นอนว่าจะมีการต่อต้านจักรวรรดินิยมและลัทธิไซออนิสต์ในซีเรีย การต่อต้านนี้จะดำเนินการด้วยมุมมองปฏิวัติ ปกป้องลัทธิฆราวาส และสร้างความเป็นหนึ่งเดียวโดยไม่ต้องพึ่งพาอำนาจระหว่างประเทศอื่น ๆ หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพัฒนาในตุรกีในระดับหนึ่ง”'ประเทศของเรา (ตุรกี) และพลเมืองของเรากำลังเผชิญกับการทดสอบครั้งใหญ่'********************ป.ล. - ยังมีอีกกระแสการวิเคราะห์หนึ่ง เช่น BBC บอกว่าตุรกีกับรัสเซียน่าจะตกลงกันไม่ได้ในการประชุมระหว่างผู้นำตุรกีกับรัสเซียเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นำไปสู่การเผด็จศึกดามัสกัสในที่สุดแต่สื่อตุรกีก็แย้งว่า รัสเซียไม่มีแรงช่วยรัฐบาลอัสซาดอีกต่อไปเพราะต้องแบกสงครามยูเครนที่จู่ๆ ก็หนักขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่อิหร่านที่ช่วยฐบาลอัสซาดมาโดยตลอด ตอนนี้ก็ช่วยไม่ไหวเพราะกรำศึกกับอิสราเอลจนงอม (ทั้งรบกันโดยตรงและผ่านกลุ่มฮิซบอลลอฮ์ในเลบานอนเป็นต้น)ดังนั้น แต่ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายนเป็นต้นมา อันเป็นวันที่ฝ่ายต่อต้าน "เสียงปืนแตก" อีกครั้งหลายเงียบมา 4 ปี ในเวลานั้นอัสซาดไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างที่เขาคาดหวังจากอิหร่านหรือรัสเซียเลยKornkit Disthan
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทวิเคราะห์เจาะลึกของ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ต่อกรณีเรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทยที่อาจจะล้วงล้ำอาณาเขต ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ หรือต่อกรณีกองทัพสหรัฐว้า (United Wa State Army: UWSA) ที่เกี่ยวพันกับขบวนการผลิตและค้ายาเสพติด และอาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการล้วงล้ำอธิปไตยของประเทศไทย ผมเคยเขียนวิเคราะห์เรื่องเหล่านี้ไปแล้วตั้งแต่ กลางปี 2023 ขอนำกลับมานำเสนอใหม่อีกรอบนะครับ.Zomia ตอนที่ 4: ประเทศไทยต้องอยู่อย่างไรกับความขัดแย้งในดินแดนแห่งนี้.https://www.the101.world/zomia-4/
    บทวิเคราะห์เจาะลึกของ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ต่อกรณีเรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทยที่อาจจะล้วงล้ำอาณาเขต ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ หรือต่อกรณีกองทัพสหรัฐว้า (United Wa State Army: UWSA) ที่เกี่ยวพันกับขบวนการผลิตและค้ายาเสพติด และอาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการล้วงล้ำอธิปไตยของประเทศไทย ผมเคยเขียนวิเคราะห์เรื่องเหล่านี้ไปแล้วตั้งแต่ กลางปี 2023 ขอนำกลับมานำเสนอใหม่อีกรอบนะครับ.Zomia ตอนที่ 4: ประเทศไทยต้องอยู่อย่างไรกับความขัดแย้งในดินแดนแห่งนี้.https://www.the101.world/zomia-4/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • Between The Line สี จิ้นผิงถึงโดนัลด์ ทรัมป์.สารที่สี จิ้นผิง ส่งให้กับโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น มีความสำคัญอยู่ 4 ข้อความ ผมเชื่อว่าไม่ค่อยมีใครมานั่งวิเคราะห์เรื่องนี้ ผมน่าจะเป็นคนเดียวที่นั่งวิเคราะห์สารของสี จิ้นผิงที่มีนัยลึกซึ้งมาก และ สี จิ้นผิง พูดถึงสายสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ว่าควรมีลักษณะ 3 อย่าง เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และ ยั่งยืน นัยของคำพูดนี้คือการเตือนสตินายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ควรจะมีความสม่ำเสมอในนโยบาย ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานะอารมณ์ของผู้นำ พรรคการเมือง หรือกลุ่มผลประโยชน์ .สี จิ้นผิง กล่าวว่า ประวัติศาสตร์สอนว่าจีนและสหรัฐฯ จะได้ประโยชน์จากความร่วมมือ และจะสูญเสียจากการเผชิญหน้า.ถ้าหากนายทรัมป์ ใช้นโยบาย 'Make America Great Again' คือทำให้อเมริกายิ่งใหญ่กลับมาเหมือนเดิม ด้วยการโดดเดี่ยวและทอดทิ้งชาติพันธมิตร ก็ยิ่งเปิดโอกาสให้จีนหาเพื่อนเพิ่มได้มากขึ้น และจีนก็จะเป็นผู้นำในด้านที่นายทรัมป์ ทอดทิ้ง เช่น พลังงานใหม่ เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือระดับพหุภาคี รวมทั้งการสร้างสันติภาพในภูมิภาคต่างๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นในระดับอาเซียน ตะวันออกกลาง แอฟริกา ลาตินอเมริกา อาจจะรวมถึงยุโรป เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นด้วย เสียด้วยซ้ำ.ข้อสุดท้ายคือการเตรียมทางหนีทีไล่ แม้ว่าจีนคาดหวังจะเจรจานายโดนัลด์ ทรัมป์ แต่จีนก็ได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้เช่นกัน โดยเฉพาะมาตรการการขึ้นภาษี ถ้าสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้าจากจีน ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าจีนจะทำอย่างไร ? ถ้าเป็นภาษาแถวบ้านผม วัยรุ่นสมัยนี้ ก็คือ แค่ยักไหล่แล้วก็เดินหน้าต่อ เพราะจีนเตรียมการย้ายการผลิตไปยังภูมิภาคอื่นไว้ล่วงหน้าแล้ว จีนไม่ได้แค่เตรียมจะทำ แต่ได้ทำแล้ว บริษัทต่างๆ ของประเทศจีนที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรมานานกว่า 8 ปี ไม่มีใครล้มหายตายจาก แต่กลับมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อพึ่งพาตัวเองมากขึ้น จนวันหนึ่งสามารถตัดขาดการใช้เทคโนโลยีต่างชาติได้ เหมือนกับที่หัวเว่ยประกาศ.จะเห็นได้ชัดว่าช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ยุคนายทรัมป์สมัยแรก มาถึงนายโจ ไบเดน เมื่ออเมริกาจุดประเด็นเรื่องสงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี จีนก็เริ่มสร้างตลาดอันใหม่เพื่อมุ่งไปยังตลาดกลุ่มประเทศโลกใต้ที่สามารถทดแทน ชดเชยรายได้จากการส่งออกไปอเมริกาเป็นจำนวนมหาศาล.สรุป ถึงแม้ว่าที่ผ่านๆ มา นายทรัมป์ จะแสดงท่าทีต่อต้านจีนอย่างมาก แต่ว่าเมื่อพูดถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แล้ว นายทรัมป์ กลับมีความเคารพอยู่มาก เคยบอกว่า สี จิ้นผิง เป็นผู้นำที่ชาญฉลาด มีความสามารถในการปกครองประชาชน 1,400 ล้านคน .แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เพิ่งตระหนักว่า ในภาษาจีนยังมีภาษิตอีกสำนวนหนึ่ง ชื่อ เซี่ยนหลี่โฮ่วปิง มีความหมายว่า ใช้ความสุภาพก่อน หากไม่ได้ผลค่อยใช้ไม้แข็งหรือใช้กำลัง.นี่คือบทวิเคราะห์ของผม สนธิ ลิ้มทองกุล ถึงสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสองมหาอำนาจ ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่กำลังจะดำเนินต่อไปในอนาคต
    Between The Line สี จิ้นผิงถึงโดนัลด์ ทรัมป์.สารที่สี จิ้นผิง ส่งให้กับโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น มีความสำคัญอยู่ 4 ข้อความ ผมเชื่อว่าไม่ค่อยมีใครมานั่งวิเคราะห์เรื่องนี้ ผมน่าจะเป็นคนเดียวที่นั่งวิเคราะห์สารของสี จิ้นผิงที่มีนัยลึกซึ้งมาก และ สี จิ้นผิง พูดถึงสายสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ว่าควรมีลักษณะ 3 อย่าง เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และ ยั่งยืน นัยของคำพูดนี้คือการเตือนสตินายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ควรจะมีความสม่ำเสมอในนโยบาย ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานะอารมณ์ของผู้นำ พรรคการเมือง หรือกลุ่มผลประโยชน์ .สี จิ้นผิง กล่าวว่า ประวัติศาสตร์สอนว่าจีนและสหรัฐฯ จะได้ประโยชน์จากความร่วมมือ และจะสูญเสียจากการเผชิญหน้า.ถ้าหากนายทรัมป์ ใช้นโยบาย 'Make America Great Again' คือทำให้อเมริกายิ่งใหญ่กลับมาเหมือนเดิม ด้วยการโดดเดี่ยวและทอดทิ้งชาติพันธมิตร ก็ยิ่งเปิดโอกาสให้จีนหาเพื่อนเพิ่มได้มากขึ้น และจีนก็จะเป็นผู้นำในด้านที่นายทรัมป์ ทอดทิ้ง เช่น พลังงานใหม่ เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือระดับพหุภาคี รวมทั้งการสร้างสันติภาพในภูมิภาคต่างๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นในระดับอาเซียน ตะวันออกกลาง แอฟริกา ลาตินอเมริกา อาจจะรวมถึงยุโรป เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นด้วย เสียด้วยซ้ำ.ข้อสุดท้ายคือการเตรียมทางหนีทีไล่ แม้ว่าจีนคาดหวังจะเจรจานายโดนัลด์ ทรัมป์ แต่จีนก็ได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้เช่นกัน โดยเฉพาะมาตรการการขึ้นภาษี ถ้าสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้าจากจีน ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าจีนจะทำอย่างไร ? ถ้าเป็นภาษาแถวบ้านผม วัยรุ่นสมัยนี้ ก็คือ แค่ยักไหล่แล้วก็เดินหน้าต่อ เพราะจีนเตรียมการย้ายการผลิตไปยังภูมิภาคอื่นไว้ล่วงหน้าแล้ว จีนไม่ได้แค่เตรียมจะทำ แต่ได้ทำแล้ว บริษัทต่างๆ ของประเทศจีนที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรมานานกว่า 8 ปี ไม่มีใครล้มหายตายจาก แต่กลับมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อพึ่งพาตัวเองมากขึ้น จนวันหนึ่งสามารถตัดขาดการใช้เทคโนโลยีต่างชาติได้ เหมือนกับที่หัวเว่ยประกาศ.จะเห็นได้ชัดว่าช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ยุคนายทรัมป์สมัยแรก มาถึงนายโจ ไบเดน เมื่ออเมริกาจุดประเด็นเรื่องสงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี จีนก็เริ่มสร้างตลาดอันใหม่เพื่อมุ่งไปยังตลาดกลุ่มประเทศโลกใต้ที่สามารถทดแทน ชดเชยรายได้จากการส่งออกไปอเมริกาเป็นจำนวนมหาศาล.สรุป ถึงแม้ว่าที่ผ่านๆ มา นายทรัมป์ จะแสดงท่าทีต่อต้านจีนอย่างมาก แต่ว่าเมื่อพูดถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แล้ว นายทรัมป์ กลับมีความเคารพอยู่มาก เคยบอกว่า สี จิ้นผิง เป็นผู้นำที่ชาญฉลาด มีความสามารถในการปกครองประชาชน 1,400 ล้านคน .แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เพิ่งตระหนักว่า ในภาษาจีนยังมีภาษิตอีกสำนวนหนึ่ง ชื่อ เซี่ยนหลี่โฮ่วปิง มีความหมายว่า ใช้ความสุภาพก่อน หากไม่ได้ผลค่อยใช้ไม้แข็งหรือใช้กำลัง.นี่คือบทวิเคราะห์ของผม สนธิ ลิ้มทองกุล ถึงสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสองมหาอำนาจ ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่กำลังจะดำเนินต่อไปในอนาคต
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 605 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทวิเคราะห์ข่าว: สวิตเซอร์แลนด์เปิดกว้างสำหรับการเป็นเจ้าภาพการเจรจาระหว่างปูติน-ทรัมป์ ขณะที่นาโตและสหภาพยุโรปสนับสนุนยูเครน ข่าวเด่นจากสื่อรัสเซียในวันศุกร์, ที่ ๑๕ พฤศจิกายน:
    .
    Press review: Switzerland open to hosting Putin-Trump talks as NATO and EU back Ukraine. Top stories from the Russian press on Friday, November 15th:
    https://tass.com/pressreview/1872655
    .
    5:52 PM · Nov 15, 2024 · 2,980 Views
    https://x.com/tassagency_en/status/1857375999140282387
    บทวิเคราะห์ข่าว: สวิตเซอร์แลนด์เปิดกว้างสำหรับการเป็นเจ้าภาพการเจรจาระหว่างปูติน-ทรัมป์ ขณะที่นาโตและสหภาพยุโรปสนับสนุนยูเครน ข่าวเด่นจากสื่อรัสเซียในวันศุกร์, ที่ ๑๕ พฤศจิกายน: . Press review: Switzerland open to hosting Putin-Trump talks as NATO and EU back Ukraine. Top stories from the Russian press on Friday, November 15th: https://tass.com/pressreview/1872655 . 5:52 PM · Nov 15, 2024 · 2,980 Views https://x.com/tassagency_en/status/1857375999140282387
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา, กลยุทธ์การพัฒนากองทัพเรือรัสเซีย, และสายตรงของ วลาดิมีร์ ปูติน กับประเทศ เรื่องราวเหล่านี้กลายเป็นพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์ทั่วรัสเซีย:

    บทวิเคราะห์ข่าว: สหรัฐฯจะรักษาความช่วยเหลือแก่อิสราเอล ขณะที่ระบอบเคียฟเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความช่วยเหลือ
    .
    US President-elect Donald Trump’s potential cabinet, the development strategy for the Russian Navy, and Vladimir Putin’s Direct Line with the country. These stories topped the headlines in newspapers across Russia:

    Press review: US to maintain aid to Israel while Kiev regime faces challenge to retain it
    https://tass.com/pressreview/1872115
    .
    5:22 PM · Nov 14, 2024 · 2,404 Views
    https://x.com/tassagency_en/status/1857006252603130161
    คณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา, กลยุทธ์การพัฒนากองทัพเรือรัสเซีย, และสายตรงของ วลาดิมีร์ ปูติน กับประเทศ เรื่องราวเหล่านี้กลายเป็นพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์ทั่วรัสเซีย: บทวิเคราะห์ข่าว: สหรัฐฯจะรักษาความช่วยเหลือแก่อิสราเอล ขณะที่ระบอบเคียฟเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความช่วยเหลือ . US President-elect Donald Trump’s potential cabinet, the development strategy for the Russian Navy, and Vladimir Putin’s Direct Line with the country. These stories topped the headlines in newspapers across Russia: Press review: US to maintain aid to Israel while Kiev regime faces challenge to retain it https://tass.com/pressreview/1872115 . 5:22 PM · Nov 14, 2024 · 2,404 Views https://x.com/tassagency_en/status/1857006252603130161
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 352 มุมมอง 0 รีวิว
  • 07-11-67/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.43 ชื่อตอนว่า "AMERICAN SURVIVE" ไอ้สัส! ไม่ได้รอดเพราะแก้ไขเศรษฐกิจดีดอกน่ะ แต่รอดตายจากส้นตรีนขาใหญ่เครมลิน ปักกิ่ง ต่างหากล่ะ? ใครรอฟังบทวิเคราะห์หมีอยู่ โปรดอ่านและตีความให้กระจ่าง? อะไรคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ กูบอกเลยว่า "มันส์พะยะค่ะ" อียิวมันรู้ตัวแล้วว่า "ชนขั้วใหม่คือตายโหงสถานเดียว" เลือกตั้งใหญ่เหี้ย มันไม่ได้มีแค่เลือกปธน.น่ะจ๊ะ ผู้ว่าการรัฐสำคัญมุย? สส.สำคัญมุย? สว.สำคัญมุย? สภาสูง สภาล่าง ล้วนมีผลต่อการขับเคลื่อน ผลักดันกฎหมายให้เป็นรูปธรรมและใช้ได้จริง เกิดผลทันที ประเด็นคือ "อีทรัมปป์แลนด์สไลด์มาตามคาด" กวาดหมดทุกอณูฐานเสียง เป็นของอีช้างแดร๊กเรียบวุธ อำนาจเบ็ดเสร็จ อย่างงี้ มันง่ายที่จะ DO SOMETHING และเกิดพลังขับเคลื่อนพร้อมกันหมด! เอาล่ะ มันจะเกิดอะไรนับจากนี้ กูจะไล่เรียงคิวไปทีละข้อ อ่านให้เข้าใจ ตีโจทย์ให้แตก มรึงจะดวงตาแห่งธรรม?

    1.ไม่เอาสงคราม ดอกนี้ ส่งสัญญานตรงถึง NATO และฐานทัพเหี้ยทั่วโลก อาจมีการยุบบางแห่ง และโยกย้ายกำลังพลกลับแผ่นดินแม่ เพราะเปลืองงบประมาณโดยไม่ได้ประโยชน์เหี้ยอะไรเลย ที่ทำมาตลอด ก็แค่เพื่อสนองตัณหาให้บริษัทค้าอาวุธยิวเท่านั้นเอง ดอกนี้ เท่ากับหยุดความตายให้ทหารมะกันนั่นเอง โลกปฎิเสธอเมริกาแล้ว มรึงจะอยู่ต่อทำพ่อง ให้เค้ามาขับไล่เสียหมาเหรอ ไปเองดูดีกว่าเยอะ อเมริกาสิ้นเปลืองตรงจุดนี้มหาศาล นี่คือเอาเงินไปใช้อย่างอื่นดีกว่า แปลว่าอะไร อีเสี้ยนยา อีโปล อีเยรูซาเล็ม หนาวเหน็บ ใครจะป้อนอาวุธให้กูล่ะ กำลังเสริมใครจะส่ง เงินใครจะเติม? ภาษาชาวบ้านคือ "ทิ้งมรึงไงล่ะ" เมื่ออเมริกาไม่หนุน ก่อสงครามไปก็ตายห่าฟรี มันคือการเปิดโต๊ะเจรจา ไม่ใช่เพื่ออียิวรอด แต่หมายถึง อเมริกา NATO ก็จะรอดด้วย ยกชัยชนะเบ็ดเสร็จให้ขั้วใหม่ไปเลย เพราะกูจะต้องหาแดร๊กแล้ว มัวแต่ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำมาหลายปี ดอกนี้ อีทรัมปป์พาอเมริการอดตาย!

    2.สงครามการค้ามาเต็มตรีน แต่จีนฉลุย อเมริกาจะเสียค่าโง่ครั้งใหญ่ โปรดฟัง! ที่ผ่านมา มาเฟียหมารุมกินโต๊ะ เที่ยวคว่ำบาตร เที่ยวแบนสินค้าชาวบ้านเค้า เพราะหมาขี้ข้ามีเยอะ แต่วันนี้ ตอนนี้ หมาขี้ข้าหายหัวหมดเกลี้ยง เหลือแค่ขี้ข้าหมารับใช้ไม่กี่ชาติ การคว่ำบาตรของเหี้ยอ่อนกำลังลงไปเยอะ แทบไม่มีผล เพราะอะไร? โลกแห่เข้า BRICS กันหมด เพราะมันคือโรงงานผลิตโลก พลังงานโลก ทรัพยากรโลก อยู่ที่นั่น หาใช่อเมริกา ยุโรป อีกต่อไป เอเซียคือผู้กำหนดเกมส์การค้าโลก เศรษฐกิจโลกเต็มตัวไปแล้ว ดังนั้น แผนอีทรัมปป์ที่จะล่อจีน เป้าหมายจริงคือ "เอาตัวรอด" ต่างหาก จากที่ต้องเคยไปอุ้มไอ้ขี้ข้าทั้งหลาย กูชิ่งหนี เอาตัวกูเองรอดฝ่ายเดียว ไม่จ่าย NATO ไม่จ่ายก่อการร้าย ไม่ก่อสงคราม ทั้งหมดเพื่อเอาเงินที่เหลือไปผลักดันปากท้องตัวเองให้อิ่มก่อน ทำไมมันจะไม่รู้ โคตรชาติหมา 100 ชาติ ก็คว่ำบาตรจีน รัสเซีย ไม่อยู่ เพราะเค้าไม่ได้อาศัยจมูกคนอื่นหายใจ เหมือนที่พวกมรึงเป็นอยู่นั่นเอง ดูให้ดีดี สงครามการค้าแค่หน้าฉาก มันคือการสลัดภาระของอเมริกาที่ผ่านมาทั้งหมดนั่นเอง โยงสอดคล้องแผนกำจัดผู้อพยพ ลี้ภัย(ไอ้พวกขี้ข้าเหี้ย C ที่หลบหนีในอเมริกา หมดประโยชน์เตรียมถูกเฉดหัว อี 3 นิ้วครึ่ง อีล้มเจ้า มีหนาว) การค้าของขั้วใหม่คือโลกทั้งใบ แต่การค้าของอเมริกาคือกูคนเดียว นี่คือความแตกต่าง แล้วใครจะรอด? เพราะ BRICS เชื่อมโลกเข้าหากัน แต่เหี้ยเอาเฉพาะชาติบริวาร เหลือเท่าไหร่ นับหัวได้?

    3.นโยบายต่างประเทศเปลี่ยนไป อเมริกามุ่งเอาตัวเองรอดก่อน ไม่มีเวลาสนใจ ทำเรื่องไร้สาระที่ผ่านมา ใครจะได้ประโยชน์? ใครจะได้ปลดแอกเหี้ย? ดอกนี้ อีตาเพน เหี้ย C แค้นอีทรัมปป์แน่ งบประมาณหาแดร๊กกูหายชัวร์? ประเด็นคืออเมริกาไม่เหลือเงินไปคุ้มครองใครได้อีก อย่าเรียกคุ้มครองเลย เรียกค่าไถ่จะดีกว่า? ต่อให้มรึงสู้ ก็แพ้ยับ หมายังรู้! อย่าคิดว่าจะจบง่ายดาย มีเหรอ ไอ้พวกที่หาแดร๊กกับอาวุธ หากินกับความตาย มันคงจะปล่อยให้อีทรัมปป์ลอยนวลดอกน่ะ ถึงจะมีอำนาจในมือเต็มเปี่ยมก็ตาม แผนปฎิวัติใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น เมื่อทหารเหี้ยไม่ได้แดร๊ก เมื่อพ่อค้าอาวุธอดอยากปากแห้ง จะเปลี่ยนการปกครองได้ยังไง? เมื่อแม่งมาแบบแลนด์สไลด์ เกมส์นี้ถึงต้องพึ่ง CIVIL WAR เข้ามาเพื่อบ่อนทำลายฐานอำนาจอีช้าง ไม่ต้องถามใครวางแผน อีแม่มดขาวคลินตันเนี่ยแหละ ตัวน่ากลัว! แท้จริง..มันจะลงแข่งแทนอีกะลาก็ได้ แต่กระแสอีทรัมปป์มาแรงทะลุนรก ขืนลงไปเสียของ แปลว่ามันรอเสียบหากเกิดอุบัติเหตุการเมือง แล้วใครล่ะจะจัดฉากให้เกิด ก็อีตาเพน กับเหี้ย C เนี่ยแหละ ชะตากรรมมาทรงเดียวกับอี JFK เป๊ะเด๊ะ คลื่นใต้น้ำยังมี อย่าคิดว่าปลอดภัย ทุกอย่างแค่เพิ่งจะเริ่มเท่านั้น?

    4.หมากขั้วเก่าล้มไม่เป็นท่า แผนชงไต้หวัน แผนยื้อยูเครน แผนย้ายบ้านอียิว ทั้งหมดมันถูกโยงเป็นเรื่องเดียวกัน อีไต้หวันรู้ชะตากรรมดี เฉกเช่นเดียวกับอีเสี้ยนยา รวมถึงอีเนรคุณทันยา สภาพหมาจนตรอก เมื่อเมริกาไม่รบกับรัสเซีย จีน ทางตรง เท่ากับเชิญมรึงขย่มเหี้ยให้เต็มที่ ตามสบายนั่นเอง อะไรที่เคยคุยกันไว้ รับปากไว้ เป็นโมฆะ เพราะเจ้ามือเปลี่ยนคน เกมส์บีบให้อียิวต้องเล่นให้หนัก บีบให้อีไต้หวันไม่มีทางเลือก เพราะจีน รัสเซีย เค้าอ่านออกขาดกระจุยมาตั้งแต่ต้น กูไม่จำเป็นต้องลงมือเอง เดี๋ยวพวกมรึงก็ฆ่ากันเอง "โคตรอัจฉริยะ" เมื่อยูเครนไม่มีท่อน้ำเลี้ยงส่ง อาวุธไม่มา กำลังพลไม่มี แต่รัสเซียก็ยังไม่ยอมตีเคียฟให้แตกทันที มรึงเข้าใจยัง? ฆ่าเหี้ยมันง่ายนิดเดียว แต่ให้เหี้ยเดินมากราบตรีน ยอมศิโรราบ ถวายตัว ถวายหัวรับใช้ มันเรียก "โคตรเทพ" พลิกตำราแทบไม่ทัน อียูเครนจะเจรจา ยอมหั่นครึ่งแผ่นดินให้รัสเซีย รับรอง อย่างเป็นทางการ เท่ากับรัสเซียชนะแล้ว เมื่อยุโรปไม่มีเจ้ามือเหี้ย มรึงว่ามันจะหันไปหาใครได้อีกล่ะ? ดอกนี้ จะทำให้รัสเซียเขมือบยุโรปแบบสบายตรีนด้วยความสมัครใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นพลังงาน อาหาร การค้า ล้วนต้องมีรัสเซีย เพราะเป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงยุโรป NATO จึงต้องแตกในไม่ช้า EU จึงต้องแยกย้ายในอีก 10 ปี เพราะถึงตอนนั้น BRICS เชื่อมโลกทั้งใบสำเร็จแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องแบ่งเป็นขั้วทวีปอีกต่อไป เพราะ ชาติเล็กๆ ไปอุ้มชาติใหญ่ต่อไม่ไหวนั่นเอง เมื่อคุยตรงกับเจ้ามือได้ ทำไมกูต้องจ่ายเบี้ยค่าคุ้มครองต่ออีกล่ะ? เข้า BRICS ไม่ได้จบแค่การค้า แต่มันเป็นใบการันตี พ่วงกองทัพโลกมาด้วย SCO ใหญ่ที่สุดใน 3 โลก อเมริกาแค่ขี้ตรีน!

    5.CIVIL WAR จะตามมาในไม่ช้า หากอีทรัมปป์ยิ่งเข้าเกมส์เร็ว ปรับเปลี่ยน ย่อประเทศให้เล็กลงเพื่อความอยู่รอด? ฝ่ายขั้วเก่าที่เคยแดร๊กอิ่ม แดร๊กดุ จะหาเรื่องเอง? ไม่ว่าใครจะมา แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ คือ "หนี้มหาศาล" ต่อให้โคตรพ่อทรัมปป์จะมีแผนดีอย่างไร ก็ไม่สามารถจัดการหนี้ก้อนใหญ่มหึมานี้ได้ ทางออกมีเพียงทางเดียวคือ "ล้มกระดาน" แต่จะไม่สู้โดยตรงให้ไปตายห่าฟรีดอกน่ะ แตกอเมริกาง่ายกว่าเยอะ มรึงตามไปทวงหนี้กันเองสิ ดีออก? เท็กซัส แคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ค ไปแน่ อลาสก้า ฮาวาย กลับบ้านเก่า ใครจะรู้ ที่อเมริกาเลือกทรัมปป์มา ก็เพื่อปิดเกมส์หนีหนี้เนี่ยแหละ? อีแคนเตรียมรองรับอียิว 20 ล้านตัวทั่วโลกได้เลย แผ่นดินกว้างใหญ่ เชิญไปสุมหัวอยู่ได้เลย หลายชาติขี้ข้าจะประกาศตัวเป็นเอกราช อีวิสกี้ อีไอร์เหนือ จิงโจ้ กีวี คาตาลัน อียุ่นปี่ อีโสมขาว และอีกเยอะ มันถึงเวลาแยกตัวแล้วเพื่อน? รัฐยากจนใครจะอุ้ม คำตอบคือ เมื่ออเมริกาแตกเป็นเสี่ยงๆ ชาติอาหรับ จีน รัสเซีย จะเข้ามาช้อนซื้อเอาไว้นั่นเอง เหตุผลเดียวง่ายๆ "ความมั่นคง" เหมือนที่อียิวสอดไส้คาราเมลมาอยู่ในแผ่นดินคานาอันนั่นแหละ หนามยอกเอาหนามบ่ง จีนถึงต้องการฮาวาย รัสเซียต้องการอลาสก้าคืน ส่วน JOHN KIM ยังนึกไม่ออก กูจะเอาส่วนไหนดี แต่ชอบห้องรูปไข่ อาจจะขอทำเนียบขาวเอาไว้เป็นบ้านพักตากอากาศ ส่วนอิหร่านจ้องเมืองท่าซีแอตเติ้ล เพราะใกล้อีแคน มรึงอย่าคิดว่ากูจะปล่อยมรึงไปง่ายๆ มรึงอยู่ที่ไหน กูก็จะตามไปอยู่เป็นเพื่อน เอาศัตรูใกล้ตัว คือกลยุทธสยบมาร CIVIL WAR จะเกิดขึ้นก่อน ประกาศภาวะฉุกเฉินจะตามมา แล้วจบที่การปฎิวัติอเมริกา จบตำนานประเทศประชาธิปไตย เสรีภาพ สิทธิมนุษยชนตอแหล ภาค 1 ไปสร้างต่อที่อีแคนภาค 2

    ปล.ยังไม่จบ ยังมีต่อ โปรดติดตามตอนต่อไป ในคัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.44 "AMERICAN SURVIVE 2" ในสัปดาห์หน้า เพื่อรวบรวมความเป็นไป การเปลี่ยนแปลง กระแสโลก ที่จะเกิดขึ้นตลอดสัปดาห์นี้ ทุกอย่างแค่จุดเริ่มต้น หากไม่มีการปลดแอกโลกจากขั้วใหม่ มรึงจะไม่มีวันได้เห็นอเมริกาในสภาพนี้เด็ดขาด ขอบคุณ "ขั้วใหม่" และที่สำคัญ เค้ารู้ล่วงหน้าแล้วว่าอีทรัมปป์จะมา แผนการรับมือ และเดินหน้าต่อ มีรอไว้นานแล้ว ก็บอกแล้วว่า ปูติน สีจิ้นผิง ไม่ใช่รัฐบุรุษโลกธรรมดา แต่เป็น "ขงเบ้งกลับชาติมาเกิดใหม่" เค้าวางดอก 2..3..4..5 รอไว้นานแล้ว คิดทีเดียว 3 ชั้นครึ่ง หมุนเกลียวอีก 5 รอบ เหี้ยไอ้อีตัวไหนจะสู้ได้ เจ้ามือโลกใหม่ซะอย่าง อำนาจเปลี่ยนมือ ไม่มีอะไรง่ายดายเหมือนก่อนอีกแล้ว เหี้ยจ๋า? รอดูความเป็นไป ของไอ้อีขี้ข้าเหี้ย C ทั่วโลก ดิ้นพล่าน วิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น ใบเสร็จตามเก็บเพี๊ยบ ใครรู้เยอะ ก็ตายห่าก่อนเพื่อน? ศรีธนญชัย 2024 เดินอย่างรัดกุม ไม่เร่งรีบ เพราะเมื่อแสงทำงาน เหี้ยมันจะเดินไปตายห่าติดกับดักเอง WWIII ยังไม่จบน่ะ อย่าคิดว่าจะไม่เกิด เพราะอย่าลืมว่า อีกฝ่าย เหี้ยซาตาน มันไม่ยอมให้โลกสงบสุขดอก อุบัติเหตุการเมืองโลกเกิดขึ้นได้เสมอ อเมริกาไม่ได้มีแค่ DEEP STATE อีเหี้ยสิงโตยังมีอีเหี้ยเรปทีเรี่ยนอยู่ มรึงคอยดูว่ามันจะดิ้นยังไง? บั๊คกิ้งแฮม เสื่อมศรัทธาแล้ว ธาตุแท้เผย ชาร์ลผู้พ่ออาจไม่ได้อยู่ต่อ วิลเลี่ยมคือร่างแท้จริงของอีเรปทีเรี่ยน อยากรู้เหมือนกัน มรึงจะมีปัญหาเอาชนะรัสเซียมั้ย? เพราะเค้าล่อมรึงแน่ กูการันตี ทนมานานแล้ว! ส่วนไอ้อีตัวประกอบ โลกเปลี่ยน มันก็เดินตามเอง เพราะหมารับใช้ ไม่มีนายใหญ่ถาวร วงจรขี้ข้า เป็นเช่นนี้มานานหลายศตวรรษแล้ว ยังมีอะไรให้มรึงช็อคกันอีกเยอะ อย่าเพิ่งรีบด่วนสรุป สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งรีบนับศพเหี้ย?

    หมี CNN(ฟ้าแจ้งจางปาง อ่านซ้ำ หากยังไม่ GET ทุกอย่างมันคือเส้นทางลิขิต ใครกำหนด ใครปลดปล่อย เหมือนบทสคริปต์จากสรวงสวรรค์ โลกผลัดใบ ไม่มีดอก ไม่เสียเลือดเนื้อ แต่ไม่ใช่ในสยามประเทศแน่ เพราะพ่อร.10 ท่านใช้พระเดชเมื่อถึงยามจำเป็นเท่านั้น ตอนนี้ให้บู๊ททหารตรีนโตนวดไปก่อน แค่นี้ เหี้ยก็อ่วมแล้ว ไม่มีอะไรง่ายดาย ทุกอย่างใช้เวลาเยียวยา)
    07 พฤศจิกายน 67
    10.25 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    07-11-67/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.43 ชื่อตอนว่า "AMERICAN SURVIVE" ไอ้สัส! ไม่ได้รอดเพราะแก้ไขเศรษฐกิจดีดอกน่ะ แต่รอดตายจากส้นตรีนขาใหญ่เครมลิน ปักกิ่ง ต่างหากล่ะ? ใครรอฟังบทวิเคราะห์หมีอยู่ โปรดอ่านและตีความให้กระจ่าง? อะไรคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ กูบอกเลยว่า "มันส์พะยะค่ะ" อียิวมันรู้ตัวแล้วว่า "ชนขั้วใหม่คือตายโหงสถานเดียว" เลือกตั้งใหญ่เหี้ย มันไม่ได้มีแค่เลือกปธน.น่ะจ๊ะ ผู้ว่าการรัฐสำคัญมุย? สส.สำคัญมุย? สว.สำคัญมุย? สภาสูง สภาล่าง ล้วนมีผลต่อการขับเคลื่อน ผลักดันกฎหมายให้เป็นรูปธรรมและใช้ได้จริง เกิดผลทันที ประเด็นคือ "อีทรัมปป์แลนด์สไลด์มาตามคาด" กวาดหมดทุกอณูฐานเสียง เป็นของอีช้างแดร๊กเรียบวุธ อำนาจเบ็ดเสร็จ อย่างงี้ มันง่ายที่จะ DO SOMETHING และเกิดพลังขับเคลื่อนพร้อมกันหมด! เอาล่ะ มันจะเกิดอะไรนับจากนี้ กูจะไล่เรียงคิวไปทีละข้อ อ่านให้เข้าใจ ตีโจทย์ให้แตก มรึงจะดวงตาแห่งธรรม? 1.ไม่เอาสงคราม ดอกนี้ ส่งสัญญานตรงถึง NATO และฐานทัพเหี้ยทั่วโลก อาจมีการยุบบางแห่ง และโยกย้ายกำลังพลกลับแผ่นดินแม่ เพราะเปลืองงบประมาณโดยไม่ได้ประโยชน์เหี้ยอะไรเลย ที่ทำมาตลอด ก็แค่เพื่อสนองตัณหาให้บริษัทค้าอาวุธยิวเท่านั้นเอง ดอกนี้ เท่ากับหยุดความตายให้ทหารมะกันนั่นเอง โลกปฎิเสธอเมริกาแล้ว มรึงจะอยู่ต่อทำพ่อง ให้เค้ามาขับไล่เสียหมาเหรอ ไปเองดูดีกว่าเยอะ อเมริกาสิ้นเปลืองตรงจุดนี้มหาศาล นี่คือเอาเงินไปใช้อย่างอื่นดีกว่า แปลว่าอะไร อีเสี้ยนยา อีโปล อีเยรูซาเล็ม หนาวเหน็บ ใครจะป้อนอาวุธให้กูล่ะ กำลังเสริมใครจะส่ง เงินใครจะเติม? ภาษาชาวบ้านคือ "ทิ้งมรึงไงล่ะ" เมื่ออเมริกาไม่หนุน ก่อสงครามไปก็ตายห่าฟรี มันคือการเปิดโต๊ะเจรจา ไม่ใช่เพื่ออียิวรอด แต่หมายถึง อเมริกา NATO ก็จะรอดด้วย ยกชัยชนะเบ็ดเสร็จให้ขั้วใหม่ไปเลย เพราะกูจะต้องหาแดร๊กแล้ว มัวแต่ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำมาหลายปี ดอกนี้ อีทรัมปป์พาอเมริการอดตาย! 2.สงครามการค้ามาเต็มตรีน แต่จีนฉลุย อเมริกาจะเสียค่าโง่ครั้งใหญ่ โปรดฟัง! ที่ผ่านมา มาเฟียหมารุมกินโต๊ะ เที่ยวคว่ำบาตร เที่ยวแบนสินค้าชาวบ้านเค้า เพราะหมาขี้ข้ามีเยอะ แต่วันนี้ ตอนนี้ หมาขี้ข้าหายหัวหมดเกลี้ยง เหลือแค่ขี้ข้าหมารับใช้ไม่กี่ชาติ การคว่ำบาตรของเหี้ยอ่อนกำลังลงไปเยอะ แทบไม่มีผล เพราะอะไร? โลกแห่เข้า BRICS กันหมด เพราะมันคือโรงงานผลิตโลก พลังงานโลก ทรัพยากรโลก อยู่ที่นั่น หาใช่อเมริกา ยุโรป อีกต่อไป เอเซียคือผู้กำหนดเกมส์การค้าโลก เศรษฐกิจโลกเต็มตัวไปแล้ว ดังนั้น แผนอีทรัมปป์ที่จะล่อจีน เป้าหมายจริงคือ "เอาตัวรอด" ต่างหาก จากที่ต้องเคยไปอุ้มไอ้ขี้ข้าทั้งหลาย กูชิ่งหนี เอาตัวกูเองรอดฝ่ายเดียว ไม่จ่าย NATO ไม่จ่ายก่อการร้าย ไม่ก่อสงคราม ทั้งหมดเพื่อเอาเงินที่เหลือไปผลักดันปากท้องตัวเองให้อิ่มก่อน ทำไมมันจะไม่รู้ โคตรชาติหมา 100 ชาติ ก็คว่ำบาตรจีน รัสเซีย ไม่อยู่ เพราะเค้าไม่ได้อาศัยจมูกคนอื่นหายใจ เหมือนที่พวกมรึงเป็นอยู่นั่นเอง ดูให้ดีดี สงครามการค้าแค่หน้าฉาก มันคือการสลัดภาระของอเมริกาที่ผ่านมาทั้งหมดนั่นเอง โยงสอดคล้องแผนกำจัดผู้อพยพ ลี้ภัย(ไอ้พวกขี้ข้าเหี้ย C ที่หลบหนีในอเมริกา หมดประโยชน์เตรียมถูกเฉดหัว อี 3 นิ้วครึ่ง อีล้มเจ้า มีหนาว) การค้าของขั้วใหม่คือโลกทั้งใบ แต่การค้าของอเมริกาคือกูคนเดียว นี่คือความแตกต่าง แล้วใครจะรอด? เพราะ BRICS เชื่อมโลกเข้าหากัน แต่เหี้ยเอาเฉพาะชาติบริวาร เหลือเท่าไหร่ นับหัวได้? 3.นโยบายต่างประเทศเปลี่ยนไป อเมริกามุ่งเอาตัวเองรอดก่อน ไม่มีเวลาสนใจ ทำเรื่องไร้สาระที่ผ่านมา ใครจะได้ประโยชน์? ใครจะได้ปลดแอกเหี้ย? ดอกนี้ อีตาเพน เหี้ย C แค้นอีทรัมปป์แน่ งบประมาณหาแดร๊กกูหายชัวร์? ประเด็นคืออเมริกาไม่เหลือเงินไปคุ้มครองใครได้อีก อย่าเรียกคุ้มครองเลย เรียกค่าไถ่จะดีกว่า? ต่อให้มรึงสู้ ก็แพ้ยับ หมายังรู้! อย่าคิดว่าจะจบง่ายดาย มีเหรอ ไอ้พวกที่หาแดร๊กกับอาวุธ หากินกับความตาย มันคงจะปล่อยให้อีทรัมปป์ลอยนวลดอกน่ะ ถึงจะมีอำนาจในมือเต็มเปี่ยมก็ตาม แผนปฎิวัติใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น เมื่อทหารเหี้ยไม่ได้แดร๊ก เมื่อพ่อค้าอาวุธอดอยากปากแห้ง จะเปลี่ยนการปกครองได้ยังไง? เมื่อแม่งมาแบบแลนด์สไลด์ เกมส์นี้ถึงต้องพึ่ง CIVIL WAR เข้ามาเพื่อบ่อนทำลายฐานอำนาจอีช้าง ไม่ต้องถามใครวางแผน อีแม่มดขาวคลินตันเนี่ยแหละ ตัวน่ากลัว! แท้จริง..มันจะลงแข่งแทนอีกะลาก็ได้ แต่กระแสอีทรัมปป์มาแรงทะลุนรก ขืนลงไปเสียของ แปลว่ามันรอเสียบหากเกิดอุบัติเหตุการเมือง แล้วใครล่ะจะจัดฉากให้เกิด ก็อีตาเพน กับเหี้ย C เนี่ยแหละ ชะตากรรมมาทรงเดียวกับอี JFK เป๊ะเด๊ะ คลื่นใต้น้ำยังมี อย่าคิดว่าปลอดภัย ทุกอย่างแค่เพิ่งจะเริ่มเท่านั้น? 4.หมากขั้วเก่าล้มไม่เป็นท่า แผนชงไต้หวัน แผนยื้อยูเครน แผนย้ายบ้านอียิว ทั้งหมดมันถูกโยงเป็นเรื่องเดียวกัน อีไต้หวันรู้ชะตากรรมดี เฉกเช่นเดียวกับอีเสี้ยนยา รวมถึงอีเนรคุณทันยา สภาพหมาจนตรอก เมื่อเมริกาไม่รบกับรัสเซีย จีน ทางตรง เท่ากับเชิญมรึงขย่มเหี้ยให้เต็มที่ ตามสบายนั่นเอง อะไรที่เคยคุยกันไว้ รับปากไว้ เป็นโมฆะ เพราะเจ้ามือเปลี่ยนคน เกมส์บีบให้อียิวต้องเล่นให้หนัก บีบให้อีไต้หวันไม่มีทางเลือก เพราะจีน รัสเซีย เค้าอ่านออกขาดกระจุยมาตั้งแต่ต้น กูไม่จำเป็นต้องลงมือเอง เดี๋ยวพวกมรึงก็ฆ่ากันเอง "โคตรอัจฉริยะ" เมื่อยูเครนไม่มีท่อน้ำเลี้ยงส่ง อาวุธไม่มา กำลังพลไม่มี แต่รัสเซียก็ยังไม่ยอมตีเคียฟให้แตกทันที มรึงเข้าใจยัง? ฆ่าเหี้ยมันง่ายนิดเดียว แต่ให้เหี้ยเดินมากราบตรีน ยอมศิโรราบ ถวายตัว ถวายหัวรับใช้ มันเรียก "โคตรเทพ" พลิกตำราแทบไม่ทัน อียูเครนจะเจรจา ยอมหั่นครึ่งแผ่นดินให้รัสเซีย รับรอง อย่างเป็นทางการ เท่ากับรัสเซียชนะแล้ว เมื่อยุโรปไม่มีเจ้ามือเหี้ย มรึงว่ามันจะหันไปหาใครได้อีกล่ะ? ดอกนี้ จะทำให้รัสเซียเขมือบยุโรปแบบสบายตรีนด้วยความสมัครใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นพลังงาน อาหาร การค้า ล้วนต้องมีรัสเซีย เพราะเป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงยุโรป NATO จึงต้องแตกในไม่ช้า EU จึงต้องแยกย้ายในอีก 10 ปี เพราะถึงตอนนั้น BRICS เชื่อมโลกทั้งใบสำเร็จแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องแบ่งเป็นขั้วทวีปอีกต่อไป เพราะ ชาติเล็กๆ ไปอุ้มชาติใหญ่ต่อไม่ไหวนั่นเอง เมื่อคุยตรงกับเจ้ามือได้ ทำไมกูต้องจ่ายเบี้ยค่าคุ้มครองต่ออีกล่ะ? เข้า BRICS ไม่ได้จบแค่การค้า แต่มันเป็นใบการันตี พ่วงกองทัพโลกมาด้วย SCO ใหญ่ที่สุดใน 3 โลก อเมริกาแค่ขี้ตรีน! 5.CIVIL WAR จะตามมาในไม่ช้า หากอีทรัมปป์ยิ่งเข้าเกมส์เร็ว ปรับเปลี่ยน ย่อประเทศให้เล็กลงเพื่อความอยู่รอด? ฝ่ายขั้วเก่าที่เคยแดร๊กอิ่ม แดร๊กดุ จะหาเรื่องเอง? ไม่ว่าใครจะมา แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ คือ "หนี้มหาศาล" ต่อให้โคตรพ่อทรัมปป์จะมีแผนดีอย่างไร ก็ไม่สามารถจัดการหนี้ก้อนใหญ่มหึมานี้ได้ ทางออกมีเพียงทางเดียวคือ "ล้มกระดาน" แต่จะไม่สู้โดยตรงให้ไปตายห่าฟรีดอกน่ะ แตกอเมริกาง่ายกว่าเยอะ มรึงตามไปทวงหนี้กันเองสิ ดีออก? เท็กซัส แคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ค ไปแน่ อลาสก้า ฮาวาย กลับบ้านเก่า ใครจะรู้ ที่อเมริกาเลือกทรัมปป์มา ก็เพื่อปิดเกมส์หนีหนี้เนี่ยแหละ? อีแคนเตรียมรองรับอียิว 20 ล้านตัวทั่วโลกได้เลย แผ่นดินกว้างใหญ่ เชิญไปสุมหัวอยู่ได้เลย หลายชาติขี้ข้าจะประกาศตัวเป็นเอกราช อีวิสกี้ อีไอร์เหนือ จิงโจ้ กีวี คาตาลัน อียุ่นปี่ อีโสมขาว และอีกเยอะ มันถึงเวลาแยกตัวแล้วเพื่อน? รัฐยากจนใครจะอุ้ม คำตอบคือ เมื่ออเมริกาแตกเป็นเสี่ยงๆ ชาติอาหรับ จีน รัสเซีย จะเข้ามาช้อนซื้อเอาไว้นั่นเอง เหตุผลเดียวง่ายๆ "ความมั่นคง" เหมือนที่อียิวสอดไส้คาราเมลมาอยู่ในแผ่นดินคานาอันนั่นแหละ หนามยอกเอาหนามบ่ง จีนถึงต้องการฮาวาย รัสเซียต้องการอลาสก้าคืน ส่วน JOHN KIM ยังนึกไม่ออก กูจะเอาส่วนไหนดี แต่ชอบห้องรูปไข่ อาจจะขอทำเนียบขาวเอาไว้เป็นบ้านพักตากอากาศ ส่วนอิหร่านจ้องเมืองท่าซีแอตเติ้ล เพราะใกล้อีแคน มรึงอย่าคิดว่ากูจะปล่อยมรึงไปง่ายๆ มรึงอยู่ที่ไหน กูก็จะตามไปอยู่เป็นเพื่อน เอาศัตรูใกล้ตัว คือกลยุทธสยบมาร CIVIL WAR จะเกิดขึ้นก่อน ประกาศภาวะฉุกเฉินจะตามมา แล้วจบที่การปฎิวัติอเมริกา จบตำนานประเทศประชาธิปไตย เสรีภาพ สิทธิมนุษยชนตอแหล ภาค 1 ไปสร้างต่อที่อีแคนภาค 2 ปล.ยังไม่จบ ยังมีต่อ โปรดติดตามตอนต่อไป ในคัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.44 "AMERICAN SURVIVE 2" ในสัปดาห์หน้า เพื่อรวบรวมความเป็นไป การเปลี่ยนแปลง กระแสโลก ที่จะเกิดขึ้นตลอดสัปดาห์นี้ ทุกอย่างแค่จุดเริ่มต้น หากไม่มีการปลดแอกโลกจากขั้วใหม่ มรึงจะไม่มีวันได้เห็นอเมริกาในสภาพนี้เด็ดขาด ขอบคุณ "ขั้วใหม่" และที่สำคัญ เค้ารู้ล่วงหน้าแล้วว่าอีทรัมปป์จะมา แผนการรับมือ และเดินหน้าต่อ มีรอไว้นานแล้ว ก็บอกแล้วว่า ปูติน สีจิ้นผิง ไม่ใช่รัฐบุรุษโลกธรรมดา แต่เป็น "ขงเบ้งกลับชาติมาเกิดใหม่" เค้าวางดอก 2..3..4..5 รอไว้นานแล้ว คิดทีเดียว 3 ชั้นครึ่ง หมุนเกลียวอีก 5 รอบ เหี้ยไอ้อีตัวไหนจะสู้ได้ เจ้ามือโลกใหม่ซะอย่าง อำนาจเปลี่ยนมือ ไม่มีอะไรง่ายดายเหมือนก่อนอีกแล้ว เหี้ยจ๋า? รอดูความเป็นไป ของไอ้อีขี้ข้าเหี้ย C ทั่วโลก ดิ้นพล่าน วิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น ใบเสร็จตามเก็บเพี๊ยบ ใครรู้เยอะ ก็ตายห่าก่อนเพื่อน? ศรีธนญชัย 2024 เดินอย่างรัดกุม ไม่เร่งรีบ เพราะเมื่อแสงทำงาน เหี้ยมันจะเดินไปตายห่าติดกับดักเอง WWIII ยังไม่จบน่ะ อย่าคิดว่าจะไม่เกิด เพราะอย่าลืมว่า อีกฝ่าย เหี้ยซาตาน มันไม่ยอมให้โลกสงบสุขดอก อุบัติเหตุการเมืองโลกเกิดขึ้นได้เสมอ อเมริกาไม่ได้มีแค่ DEEP STATE อีเหี้ยสิงโตยังมีอีเหี้ยเรปทีเรี่ยนอยู่ มรึงคอยดูว่ามันจะดิ้นยังไง? บั๊คกิ้งแฮม เสื่อมศรัทธาแล้ว ธาตุแท้เผย ชาร์ลผู้พ่ออาจไม่ได้อยู่ต่อ วิลเลี่ยมคือร่างแท้จริงของอีเรปทีเรี่ยน อยากรู้เหมือนกัน มรึงจะมีปัญหาเอาชนะรัสเซียมั้ย? เพราะเค้าล่อมรึงแน่ กูการันตี ทนมานานแล้ว! ส่วนไอ้อีตัวประกอบ โลกเปลี่ยน มันก็เดินตามเอง เพราะหมารับใช้ ไม่มีนายใหญ่ถาวร วงจรขี้ข้า เป็นเช่นนี้มานานหลายศตวรรษแล้ว ยังมีอะไรให้มรึงช็อคกันอีกเยอะ อย่าเพิ่งรีบด่วนสรุป สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งรีบนับศพเหี้ย? หมี CNN(ฟ้าแจ้งจางปาง อ่านซ้ำ หากยังไม่ GET ทุกอย่างมันคือเส้นทางลิขิต ใครกำหนด ใครปลดปล่อย เหมือนบทสคริปต์จากสรวงสวรรค์ โลกผลัดใบ ไม่มีดอก ไม่เสียเลือดเนื้อ แต่ไม่ใช่ในสยามประเทศแน่ เพราะพ่อร.10 ท่านใช้พระเดชเมื่อถึงยามจำเป็นเท่านั้น ตอนนี้ให้บู๊ททหารตรีนโตนวดไปก่อน แค่นี้ เหี้ยก็อ่วมแล้ว ไม่มีอะไรง่ายดาย ทุกอย่างใช้เวลาเยียวยา) 07 พฤศจิกายน 67 10.25 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 886 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อธิปไตยของไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน“ บทวิเคราะห์ของ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ในรายการคนเคาะข่าวเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567

    https://youtu.be/vWZAe-PSqnQ?si=wnU_c7dK-vYiNCy0

    #Thaitimes
    “อธิปไตยของไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน“ บทวิเคราะห์ของ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ในรายการคนเคาะข่าวเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 https://youtu.be/vWZAe-PSqnQ?si=wnU_c7dK-vYiNCy0 #Thaitimes
    Like
    Love
    Yay
    13
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 882 มุมมอง 1 รีวิว
  • บทวิเคราะห์ UGC (User-Generated Content )เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” โดย ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน เจ้าของนามปากกา “นกป่า อุษาคเนย์” อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนมา 25 ปี เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า

    “หากนำทฤษฎี UGC มาจับกับปรากฏการณ์ “หมูเด้ง” ก็จะเห็นได้ว่า กระแสความโด่งดังของ “หมูเด้ง” ตรงตามรูปแบบของการทำ UGC ทุกประการ

    แม้ในตอนเริ่มต้น ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อครั้งที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” จัดประกวดตั้งชื่อ “หมูเด้ง” ในช่วงแรก ที่ชื่อ “หมูเด้ง” ชนะ VOTE “หมูแดง” และ “หมูสับ” ด้วยคะแนน 20,000 กว่า เรียกได้ว่าขาดลอย

    ในช่วงนั้น ยังไม่เกิดกระแส “หมูเด้ง” แต่อย่างใด มิหนำซ้ำ หลังจากได้ชื่อแล้ว ก็เหลือคนสนใจ “หมูเด้ง” น้อยมาก

    เพราะค่าเฉลี่ยความสนใจลูกสัตว์เกิดใหม่ จะมีอยู่เพียงสั้นๆ คือประมาณ 7 วัน ที่ประชาชนให้ความสนใจ ทำให้สื่อมวลชนต้องคอยตามติดในช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นก็จะเริ่มซาลง และเริ่มห่างหาย จนกระแสเงียบไปในที่สุด

    ซึ่งทาง “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ก็อาจมีการนำเสนอลูกสัตว์เกิดใหม่รายอื่นๆ ตามมาอีกเรื่อยๆ พอผลตัดสินการประกวดจบสิ้นลงแล้ว กระแสก็จะกลับไปเงียบอีกครั้ง วนเวียนอยู่เช่นนี้

    ต่างจาก “หมูเด้ง” โดยสิ้นเชิง

    เป็นเพราะว่า “หมูเด้ง” เกิดในยุคที่ทุกคนบนโลกเข้าถึง Social Media โดยเรื่องราวที่น่าสนใจจะไม่จำกัดอยู่ภายในประเทศใดประเทศหนึ่งอีกต่อไป ไม่เหมือนกระแสลูกสัตว์เกิดใหม่ที่ผ่านมาของ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว”

    แต่ทันทีที่ “อรรถพล หนุนดี” หรือ “พี่เบนซ์” เจ้าของ Facebook Fanpage “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ได้เริ่มทำ Content “หมูเด้ง” กระแส “หมูเด้ง” ก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น

    ฐาน “แฟนคลับ” ที่เหนียวแน่น หรือที่เรียกว่า “ลูกเพจ” ดั้งเดิมของ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ที่มีปริมาณมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มี Empathy หรือ “ความผูกพัน” อย่างสูง ยิ่งช่วยต่อยอด Content ในแบบฉบับ UGC ได้เป็นอย่างดี

    ผนวกกับการที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” อยู่ใกล้ศรีราชา จุดที่มีชาวญี่ปุ่นพำนักในเมืองไทยเป็นชุมชน ทำให้มีการแชร์ Content “หมูเด้ง” ต่อๆ กันไปในหมู่ชาวญี่ปุ่น จากเมืองไทยไปญี่ปุ่น และแพร่กระจายไปทั่วโลก

    สำทับด้วยสำนักข่าวตะวันตก ได้แห่กันมาทำข่าว “หมูเด้ง” ติดๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น AP, AFP, BBC, VOA, CNN ก็ยิ่งช่วยสร้าง UGC ให้กับ “หมูเด้ง” จนกลายเป็น Viral ระดับโลกไปแล้ว

    จากความน่ารัก น่าเอ็นดู การสัมผัสได้ถึงการไม่มีผลประโยชน์ใดแอบแฝงใน Content เนื่องจากเป็นลูกสัตว์เกิดใหม่ในสวนสัตว์ที่ค่าเข้าชมไม่ได้มากมายอะไร และการขายสินค้าของสวนสัตว์ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึกต่างๆ ก็ไม่ได้มีราคาค่างวดที่แพงจนจับต้องไม่ได้

    แปลไทยเป็นไทยก็คือ Brand “หมูเด้ง” เป็น Brand บริสุทธิ์ ผนวกกับความทะลึ่ง สะดีดสะดิ้ง น่ารักน่าชัง เมื่อรวมกับบุคลิกดั้งเดิมของ “หมูเด้ง” ที่เป็นลูกฮิปโปแคระที่มีลีลาตลกเป็นพื้นเพอยู่แล้ว ยิ่งเรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความประทับใจได้ไม่ยาก

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรู้สึกลึกๆ ในใจมนุษย์เกี่ยวกับ “ลูกสัตว์” หรือ Baby Animal ทั้งลูกมนุษย์ด้วยกันที่ถือเป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง และลูกสัตว์ต่างๆ ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกน่ารัก น่าเอ็นดู อยากอุ้ม อยากเลี้ยง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์เป็นทุนเดิม

    ประกอบกับคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ที่แอบเกรี้ยวกราด น่ารัก น่าหยิก ทำให้เป็น UGC ที่ถูกนำไปต่อยอดได้ง่ายใน “วัฒนธรรมมีม” หรือ Meme Culture

    ยกระดับสู่การเป็น “วัฒนธรรมร่วม” ผ่าน Social Media

    เบื้องหลังความสำเร็จของ UGC “หมูเด้ง” คงต้องยกเครดิตให้ “พี่เบนซ์” ไปเต็มๆ ที่สามารถดึงคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ออกมาเล่าได้อย่างน่ารัก

    พูดอีกแบบก็คือ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” มาถูกที่ ถูกเวลา และเล่นได้ถูกจุด จับจุด อารมณ์ร่วมของผู้คนได้อยู่หมัด สร้างการเชื่อมต่อ และเชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน เข้ากับ “หมูเด้ง” ได้ตรงจุด

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เสพ Social Media ที่อยู่ไกลจาก “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ที่ไม่สะดวกเดินทางมาสัมผัสกับ “หมูเด้ง” ได้ด้วยตัวเอง

    ตอบสนองธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความรักสัตว์เป็นทุนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ลูกสัตว์” น่ารัก ที่ตนไม่สามารถเลี้ยงเอาไว้ในบ้านได้

    จึงสามารถสรุปได้ว่า UGC อยู่เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง”

    https://www.salika.co/2024/10/04/user-generated-content-moodeng/

    #Thaitimes
    บทวิเคราะห์ UGC (User-Generated Content )เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” โดย ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน เจ้าของนามปากกา “นกป่า อุษาคเนย์” อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนมา 25 ปี เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า “หากนำทฤษฎี UGC มาจับกับปรากฏการณ์ “หมูเด้ง” ก็จะเห็นได้ว่า กระแสความโด่งดังของ “หมูเด้ง” ตรงตามรูปแบบของการทำ UGC ทุกประการ แม้ในตอนเริ่มต้น ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อครั้งที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” จัดประกวดตั้งชื่อ “หมูเด้ง” ในช่วงแรก ที่ชื่อ “หมูเด้ง” ชนะ VOTE “หมูแดง” และ “หมูสับ” ด้วยคะแนน 20,000 กว่า เรียกได้ว่าขาดลอย ในช่วงนั้น ยังไม่เกิดกระแส “หมูเด้ง” แต่อย่างใด มิหนำซ้ำ หลังจากได้ชื่อแล้ว ก็เหลือคนสนใจ “หมูเด้ง” น้อยมาก เพราะค่าเฉลี่ยความสนใจลูกสัตว์เกิดใหม่ จะมีอยู่เพียงสั้นๆ คือประมาณ 7 วัน ที่ประชาชนให้ความสนใจ ทำให้สื่อมวลชนต้องคอยตามติดในช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นก็จะเริ่มซาลง และเริ่มห่างหาย จนกระแสเงียบไปในที่สุด ซึ่งทาง “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ก็อาจมีการนำเสนอลูกสัตว์เกิดใหม่รายอื่นๆ ตามมาอีกเรื่อยๆ พอผลตัดสินการประกวดจบสิ้นลงแล้ว กระแสก็จะกลับไปเงียบอีกครั้ง วนเวียนอยู่เช่นนี้ ต่างจาก “หมูเด้ง” โดยสิ้นเชิง เป็นเพราะว่า “หมูเด้ง” เกิดในยุคที่ทุกคนบนโลกเข้าถึง Social Media โดยเรื่องราวที่น่าสนใจจะไม่จำกัดอยู่ภายในประเทศใดประเทศหนึ่งอีกต่อไป ไม่เหมือนกระแสลูกสัตว์เกิดใหม่ที่ผ่านมาของ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” แต่ทันทีที่ “อรรถพล หนุนดี” หรือ “พี่เบนซ์” เจ้าของ Facebook Fanpage “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ได้เริ่มทำ Content “หมูเด้ง” กระแส “หมูเด้ง” ก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ฐาน “แฟนคลับ” ที่เหนียวแน่น หรือที่เรียกว่า “ลูกเพจ” ดั้งเดิมของ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ที่มีปริมาณมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มี Empathy หรือ “ความผูกพัน” อย่างสูง ยิ่งช่วยต่อยอด Content ในแบบฉบับ UGC ได้เป็นอย่างดี ผนวกกับการที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” อยู่ใกล้ศรีราชา จุดที่มีชาวญี่ปุ่นพำนักในเมืองไทยเป็นชุมชน ทำให้มีการแชร์ Content “หมูเด้ง” ต่อๆ กันไปในหมู่ชาวญี่ปุ่น จากเมืองไทยไปญี่ปุ่น และแพร่กระจายไปทั่วโลก สำทับด้วยสำนักข่าวตะวันตก ได้แห่กันมาทำข่าว “หมูเด้ง” ติดๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น AP, AFP, BBC, VOA, CNN ก็ยิ่งช่วยสร้าง UGC ให้กับ “หมูเด้ง” จนกลายเป็น Viral ระดับโลกไปแล้ว จากความน่ารัก น่าเอ็นดู การสัมผัสได้ถึงการไม่มีผลประโยชน์ใดแอบแฝงใน Content เนื่องจากเป็นลูกสัตว์เกิดใหม่ในสวนสัตว์ที่ค่าเข้าชมไม่ได้มากมายอะไร และการขายสินค้าของสวนสัตว์ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึกต่างๆ ก็ไม่ได้มีราคาค่างวดที่แพงจนจับต้องไม่ได้ แปลไทยเป็นไทยก็คือ Brand “หมูเด้ง” เป็น Brand บริสุทธิ์ ผนวกกับความทะลึ่ง สะดีดสะดิ้ง น่ารักน่าชัง เมื่อรวมกับบุคลิกดั้งเดิมของ “หมูเด้ง” ที่เป็นลูกฮิปโปแคระที่มีลีลาตลกเป็นพื้นเพอยู่แล้ว ยิ่งเรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความประทับใจได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรู้สึกลึกๆ ในใจมนุษย์เกี่ยวกับ “ลูกสัตว์” หรือ Baby Animal ทั้งลูกมนุษย์ด้วยกันที่ถือเป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง และลูกสัตว์ต่างๆ ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกน่ารัก น่าเอ็นดู อยากอุ้ม อยากเลี้ยง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์เป็นทุนเดิม ประกอบกับคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ที่แอบเกรี้ยวกราด น่ารัก น่าหยิก ทำให้เป็น UGC ที่ถูกนำไปต่อยอดได้ง่ายใน “วัฒนธรรมมีม” หรือ Meme Culture ยกระดับสู่การเป็น “วัฒนธรรมร่วม” ผ่าน Social Media เบื้องหลังความสำเร็จของ UGC “หมูเด้ง” คงต้องยกเครดิตให้ “พี่เบนซ์” ไปเต็มๆ ที่สามารถดึงคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ออกมาเล่าได้อย่างน่ารัก พูดอีกแบบก็คือ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” มาถูกที่ ถูกเวลา และเล่นได้ถูกจุด จับจุด อารมณ์ร่วมของผู้คนได้อยู่หมัด สร้างการเชื่อมต่อ และเชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน เข้ากับ “หมูเด้ง” ได้ตรงจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เสพ Social Media ที่อยู่ไกลจาก “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ที่ไม่สะดวกเดินทางมาสัมผัสกับ “หมูเด้ง” ได้ด้วยตัวเอง ตอบสนองธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความรักสัตว์เป็นทุนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ลูกสัตว์” น่ารัก ที่ตนไม่สามารถเลี้ยงเอาไว้ในบ้านได้ จึงสามารถสรุปได้ว่า UGC อยู่เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” https://www.salika.co/2024/10/04/user-generated-content-moodeng/ #Thaitimes
    WWW.SALIKA.CO
    UGC เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง”
    User-Generated Content (UGC) หมายถึง Story ที่ผู้บริโภค หรือลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมาย สร้างขึ้นมาเอง โดยผู้คนเหล่านั้น จะพูดถึงเรื่องราวที่พวกเขาประทับใจ หรือให้ความสนใจ โดยที่ต้นเรื่องไม่ต้องเสียเงินจ้างแม้แต่บาทเดียว
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1047 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธรรมะในนิยายจีนจากเรื่อง แปดเทพอสูรมังกรฟ้า

    .

    ตัวละครเอกตัวหนึ่งของเรื่องที่เป็นตัวละครหลักหนึ่งในสาม คือ องค์ชายต้วนอี้ รัชทายาทแห่งอาณาจักร ต้าหลี่ หรือแถบยูนนานของจีนปัจจุบัน นับเป็นตัวละครที่มีความเป็นบุคคลที่หาได้ยากมากในเหล่าชาวยุทธ หรือตัวเอกในอาณาจักรนิยายจีนมากมายเท่าที่เคยผ่านสมองและสองตามา

    .
    .

    แรกทีเดียวที่ข้าพเจ้าได้อ่านเรื่องนี้ในสมัยเรียนชั้นมัธยมต้น กว่าสามสิบปีมาแล้วนั้น รู้สึกไม่ชอบพระเอกที่ชื่อต้วนอี้นี้เลย ออกจะรำคาญ และเบื่อในความเหลาะแหละ โลเล ใจไม่อยู่กับร่องกับรอย เป็นพวกชอบเพ้อฝัน บัณฑิตที่โง่งมยึดอยู่กับตำราเหมือนนักศึกษาที่จะสอบเป็นจอหงวน ตัดสินใจไม่เด็ดขาด อ่อนแอ รักหยกถนอมบุบผา คือมีความนุ่มนิ่มตุ้งติ้ง สุภาพเรียบร้อย โดยเฉพาะกับสตรีเพศยิ่งเข้ากลุ่มไปสนทนาร่วมด้วยอย่างค่อนข้างกลมกลืนเป็นเนื้อเดียว ไม่สมชายชาตรี

    .
    .

    ฝึกวิชาก็ไม่เอาไหน ทั้งที่มีประสบการณ์ปาฏิหาริย์ โชคนำพาวาสนาส่งให้ได้มีโอกาสไขว่คว้าตำรายุทธ์ หรือร่ำเรียนวิชาสุดยอดฝีมือที่เรียกได้ว่าเป็นยอดวิทยายุทธ์ในใต้หล้า ที่น้อยคนจะได้พานพบ ทว่ากลับเหมือนลิงได้แหวน ไก่ได้พลอย มีของดีกับตัวแต่ไม่ใช้ ไม่ฝึกฝน ปล่อยเสียของไปอย่างเปล่าดาย หรือถ้าฝึกก็อย่างขอไปที หรือเหตุการณ์บังคับ ไม่กระตือรือร้นที่จะพาตนให้กลายเป็นคนเก่ง หรือจอมยุทธ์อันดับหนึ่ง เช่นที่พระเอกควรจะเก่งและควรจะเป็น

    .
    .

    ไม่เหมือนเฉียวฟง ประมุขพรรคกระยาจก ที่แม้นไม่หล่อเหลา แต่มีบุคลิกองอาจกล้าหาญ ฮึกเหิม และมีวิทยายุทธ์สูงส่งเป็นไต้เฮียบ หรือผู้กล้าอันดับหนึ่งในแผ่นดิน ได้รับการยกย่องขนานนามเป็น เฉียวฟงเหนือ มู่หยงใต้ เรียกได้ว่าต้วนอี้เป็นหนึ่งในตัวละครเอกของจักรวาลนิยายกำลังภายในของกิมย้ง ที่ไม่น่าประทับใจเลย

    ทว่า แท้จริงข้าพเจ้ามองต้วนอี้ตื้นเขินเกินไปในเวลานั้น ด้วยวัยที่ยังไม่สามารถวิเคราะห์เรื่องราวได้เหมือนดังปัจจุบัน

    .
    .

    แท้จริง องค์ชายต้วน หรือคุณชายต้วน เป็นตัวละครที่น่ายกย่องในหลายด้าน เขาเป็นผู้ที่มีจิตใจดีงามฝังอยู่ในกมลสันดาน ที่ไม่นิยมการฝึกวิชายุทธ์ ก็เพราะไม่อยากจะเกี่ยวข้องทำร้ายคน ไม่ชอบการเข่นฆ่า พยายามหลีกเลี่ยงอย่างถึงที่สุด โดยกลับไปชอบถึงขั้นหลงใหลในด้านศิลปะแทน ไม่ว่าจะเป็นความรู้ในทางดนตรี บทกวี การเขียนอักษรจีน การวาดภาพ และการเล่นหมากล้อม

    .
    .

    เขามีจิตใจอ่อนโยน แม้กระทั่งกับศัตรูที่คิดจะฆ่าตัวเองให้ตาย แต่เขาก็ไม่ยอมที่จะเป็นฝ่ายกระทำตอบ แม้นในเมื่อตนมีโอกาส ยามศัตรูพลั้งพลาด จนในที่สุดความดีของเขาสามารถเอาชนะใจจอมโฉดอันดับสาม จากสี่จอมโฉด คือ หนานไห่เอ้อเซิน จนยอมเรียกต้วนอี้ว่าอาจารย์ และยอมเป็นศิษย์แม้นด้วยความจำนน จากการแพ้เดิมพันก็ตาม (ถือว่าเป็นจอมโฉดที่มีจิตใจดีงามอยู่หลายส่วน มากกว่าพี่น้องร่วมสาบานคนอื่น โดยเฉพาะความสัตย์ซื่อ)

    .
    .

    นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ให้โอกาสคนอื่น ไม่เหยียบย่ำซ้ำเติม มีน้ำใจต่อคนแทบทุกชนชั้น เห็นใจแม้กระทั่งคนชั่วที่คนอื่นเกลียด ชอบช่วยเหลือ ชอบคบค้าสมาคมกับคนจำนวนมาก เป็นผู้มีบุคลิกภายนอกที่อาจไม่ต้องใจสาวงามที่ชมชอบบุรุษเข้มแข็ง อีกทั้งก็ไม่ได้หล่อเหลา แม้นจะไม่ขี้เหร่ แต่ด้วยความเป็นคนมาดคุณชายหนอนหนังสือ จึงไม่ได้รับการใส่ใจจากหญิงที่ตนรัก

    .
    .

    โดยรวมแล้ว แม้ต้วนอี้จะมีข้อด้อยหลายประการ แต่ข้อด้อยเหล่านั้น บางข้อก็ถือเป็นข้อดีหากเรามองในอีกแง่มุมหนึ่ง จึงเป็นเรื่องที่ให้แง่คิดกับเราได้ว่า การจะวิเคราะห์หรือมองคนคนหนึ่งให้ทะลุนั้น เราจะมองแต่แค่แง่ใดหรือบางแง่หาได้ไม่ เพราะเบื้องหลังความเป็นมาของแต่ละคนที่บ่มเพาะให้คนคนนั้น กลายเป็นคนที่มีบุคลิก หรืออุปนิสัยเช่นไร เป็นความซับซ้อนหลายชั้น

    ในความเป็นคนดี ก็ยังมีความชั่วแฝงซ่อนอยู่ หรือกระทั่งจอมโฉดชั่วสุดสามานย์ ก็ยังมีมุมที่น่าเห็นใจ น่าสงสาร ไปจนกระทั่งน่ารักอยู่ไม่น้อย สมดังชื่อเรื่องที่มีทั้งเทพและมารอยู่รวมกัน

    .

    แต่ที่เห็นได้ชัดคือ คนที่พยายามอยากได้ในสิ่งที่ตนต้องการ ด้วยการทำทุกวิธีแม้จะต้องผิดต่อมโนธรรม คุณธรรม และศีลธรรม มักจะต้องผิดหวัง

    .

    ทว่าคนที่ยิ่งไม่ต้องการ ยิ่งไม่อยากได้ในสิ่งที่คนอื่นอยาก มักจะเป็นผู้ที่ได้รับในสิ่งซึ่งตนไม่ต้องการอยู่เสมอ

    ดังเช่นชีวิตขององค์ชายต้วนอี้ เป็นต้น ซึ่งได้พบกับความสุขสมหวังในช่วงท้าย ต่างจากมู่หยงฟู่ที่ไขว่คว้าตลอด แต่ต้องสูญสิ้นทุกอย่างจนกลายเป็นบ้า

    ............

    บทความโดย ชลธิศ รมณียางกูร

    ป.ล. ฉบับนิยายที่อ่านเป็นฉบับที่ยังไม่มีการปรับปรุงแก้ไขใหม่โดยผู้แต่งในภายหลัง

    รูปภาพประกอบจากกูเกิ้ล เวอร์ชั่นปี 1982 คุณชายต้วน รับบทโดย ทัง เจิ้นเยี่ย (จีนตัวย่อ: 汤镇业; จีนตัวเต็ม: 湯鎮業; พินอิน: Tāng Zhènyè)ข้อมูลชื่อจีน และคำอ่านจากวิกิพีเดีย

    #แปดเทพอสูรมังกรฟ้า
    #ต้วนอี้
    #นิยายกำลังภายใน
    #นิยายจีน
    #กิมย้ง
    #thaitimes
    #บทวิเคราะห์
    #บทความ
    #ข้อคิด
    #นิยายแปล
    ธรรมะในนิยายจีนจากเรื่อง แปดเทพอสูรมังกรฟ้า . ตัวละครเอกตัวหนึ่งของเรื่องที่เป็นตัวละครหลักหนึ่งในสาม คือ องค์ชายต้วนอี้ รัชทายาทแห่งอาณาจักร ต้าหลี่ หรือแถบยูนนานของจีนปัจจุบัน นับเป็นตัวละครที่มีความเป็นบุคคลที่หาได้ยากมากในเหล่าชาวยุทธ หรือตัวเอกในอาณาจักรนิยายจีนมากมายเท่าที่เคยผ่านสมองและสองตามา . . แรกทีเดียวที่ข้าพเจ้าได้อ่านเรื่องนี้ในสมัยเรียนชั้นมัธยมต้น กว่าสามสิบปีมาแล้วนั้น รู้สึกไม่ชอบพระเอกที่ชื่อต้วนอี้นี้เลย ออกจะรำคาญ และเบื่อในความเหลาะแหละ โลเล ใจไม่อยู่กับร่องกับรอย เป็นพวกชอบเพ้อฝัน บัณฑิตที่โง่งมยึดอยู่กับตำราเหมือนนักศึกษาที่จะสอบเป็นจอหงวน ตัดสินใจไม่เด็ดขาด อ่อนแอ รักหยกถนอมบุบผา คือมีความนุ่มนิ่มตุ้งติ้ง สุภาพเรียบร้อย โดยเฉพาะกับสตรีเพศยิ่งเข้ากลุ่มไปสนทนาร่วมด้วยอย่างค่อนข้างกลมกลืนเป็นเนื้อเดียว ไม่สมชายชาตรี . . ฝึกวิชาก็ไม่เอาไหน ทั้งที่มีประสบการณ์ปาฏิหาริย์ โชคนำพาวาสนาส่งให้ได้มีโอกาสไขว่คว้าตำรายุทธ์ หรือร่ำเรียนวิชาสุดยอดฝีมือที่เรียกได้ว่าเป็นยอดวิทยายุทธ์ในใต้หล้า ที่น้อยคนจะได้พานพบ ทว่ากลับเหมือนลิงได้แหวน ไก่ได้พลอย มีของดีกับตัวแต่ไม่ใช้ ไม่ฝึกฝน ปล่อยเสียของไปอย่างเปล่าดาย หรือถ้าฝึกก็อย่างขอไปที หรือเหตุการณ์บังคับ ไม่กระตือรือร้นที่จะพาตนให้กลายเป็นคนเก่ง หรือจอมยุทธ์อันดับหนึ่ง เช่นที่พระเอกควรจะเก่งและควรจะเป็น . . ไม่เหมือนเฉียวฟง ประมุขพรรคกระยาจก ที่แม้นไม่หล่อเหลา แต่มีบุคลิกองอาจกล้าหาญ ฮึกเหิม และมีวิทยายุทธ์สูงส่งเป็นไต้เฮียบ หรือผู้กล้าอันดับหนึ่งในแผ่นดิน ได้รับการยกย่องขนานนามเป็น เฉียวฟงเหนือ มู่หยงใต้ เรียกได้ว่าต้วนอี้เป็นหนึ่งในตัวละครเอกของจักรวาลนิยายกำลังภายในของกิมย้ง ที่ไม่น่าประทับใจเลย ทว่า แท้จริงข้าพเจ้ามองต้วนอี้ตื้นเขินเกินไปในเวลานั้น ด้วยวัยที่ยังไม่สามารถวิเคราะห์เรื่องราวได้เหมือนดังปัจจุบัน . . แท้จริง องค์ชายต้วน หรือคุณชายต้วน เป็นตัวละครที่น่ายกย่องในหลายด้าน เขาเป็นผู้ที่มีจิตใจดีงามฝังอยู่ในกมลสันดาน ที่ไม่นิยมการฝึกวิชายุทธ์ ก็เพราะไม่อยากจะเกี่ยวข้องทำร้ายคน ไม่ชอบการเข่นฆ่า พยายามหลีกเลี่ยงอย่างถึงที่สุด โดยกลับไปชอบถึงขั้นหลงใหลในด้านศิลปะแทน ไม่ว่าจะเป็นความรู้ในทางดนตรี บทกวี การเขียนอักษรจีน การวาดภาพ และการเล่นหมากล้อม . . เขามีจิตใจอ่อนโยน แม้กระทั่งกับศัตรูที่คิดจะฆ่าตัวเองให้ตาย แต่เขาก็ไม่ยอมที่จะเป็นฝ่ายกระทำตอบ แม้นในเมื่อตนมีโอกาส ยามศัตรูพลั้งพลาด จนในที่สุดความดีของเขาสามารถเอาชนะใจจอมโฉดอันดับสาม จากสี่จอมโฉด คือ หนานไห่เอ้อเซิน จนยอมเรียกต้วนอี้ว่าอาจารย์ และยอมเป็นศิษย์แม้นด้วยความจำนน จากการแพ้เดิมพันก็ตาม (ถือว่าเป็นจอมโฉดที่มีจิตใจดีงามอยู่หลายส่วน มากกว่าพี่น้องร่วมสาบานคนอื่น โดยเฉพาะความสัตย์ซื่อ) . . นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ให้โอกาสคนอื่น ไม่เหยียบย่ำซ้ำเติม มีน้ำใจต่อคนแทบทุกชนชั้น เห็นใจแม้กระทั่งคนชั่วที่คนอื่นเกลียด ชอบช่วยเหลือ ชอบคบค้าสมาคมกับคนจำนวนมาก เป็นผู้มีบุคลิกภายนอกที่อาจไม่ต้องใจสาวงามที่ชมชอบบุรุษเข้มแข็ง อีกทั้งก็ไม่ได้หล่อเหลา แม้นจะไม่ขี้เหร่ แต่ด้วยความเป็นคนมาดคุณชายหนอนหนังสือ จึงไม่ได้รับการใส่ใจจากหญิงที่ตนรัก . . โดยรวมแล้ว แม้ต้วนอี้จะมีข้อด้อยหลายประการ แต่ข้อด้อยเหล่านั้น บางข้อก็ถือเป็นข้อดีหากเรามองในอีกแง่มุมหนึ่ง จึงเป็นเรื่องที่ให้แง่คิดกับเราได้ว่า การจะวิเคราะห์หรือมองคนคนหนึ่งให้ทะลุนั้น เราจะมองแต่แค่แง่ใดหรือบางแง่หาได้ไม่ เพราะเบื้องหลังความเป็นมาของแต่ละคนที่บ่มเพาะให้คนคนนั้น กลายเป็นคนที่มีบุคลิก หรืออุปนิสัยเช่นไร เป็นความซับซ้อนหลายชั้น ในความเป็นคนดี ก็ยังมีความชั่วแฝงซ่อนอยู่ หรือกระทั่งจอมโฉดชั่วสุดสามานย์ ก็ยังมีมุมที่น่าเห็นใจ น่าสงสาร ไปจนกระทั่งน่ารักอยู่ไม่น้อย สมดังชื่อเรื่องที่มีทั้งเทพและมารอยู่รวมกัน . แต่ที่เห็นได้ชัดคือ คนที่พยายามอยากได้ในสิ่งที่ตนต้องการ ด้วยการทำทุกวิธีแม้จะต้องผิดต่อมโนธรรม คุณธรรม และศีลธรรม มักจะต้องผิดหวัง . ทว่าคนที่ยิ่งไม่ต้องการ ยิ่งไม่อยากได้ในสิ่งที่คนอื่นอยาก มักจะเป็นผู้ที่ได้รับในสิ่งซึ่งตนไม่ต้องการอยู่เสมอ ดังเช่นชีวิตขององค์ชายต้วนอี้ เป็นต้น ซึ่งได้พบกับความสุขสมหวังในช่วงท้าย ต่างจากมู่หยงฟู่ที่ไขว่คว้าตลอด แต่ต้องสูญสิ้นทุกอย่างจนกลายเป็นบ้า ............ บทความโดย ชลธิศ รมณียางกูร ป.ล. ฉบับนิยายที่อ่านเป็นฉบับที่ยังไม่มีการปรับปรุงแก้ไขใหม่โดยผู้แต่งในภายหลัง รูปภาพประกอบจากกูเกิ้ล เวอร์ชั่นปี 1982 คุณชายต้วน รับบทโดย ทัง เจิ้นเยี่ย (จีนตัวย่อ: 汤镇业; จีนตัวเต็ม: 湯鎮業; พินอิน: Tāng Zhènyè)ข้อมูลชื่อจีน และคำอ่านจากวิกิพีเดีย #แปดเทพอสูรมังกรฟ้า #ต้วนอี้ #นิยายกำลังภายใน #นิยายจีน #กิมย้ง #thaitimes #บทวิเคราะห์ #บทความ #ข้อคิด #นิยายแปล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 987 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศไทยใช้งบฯ น้ำท่วมไปทำอะไรบ้าง

    11 กันยายน 2567-เพจเฟซบุ๊ก Rocket Media Lab เผยแพร่บทวิเคราะห์ประเด็น “งบน้ำท่วม ใช้ไปทำอะไร ผ่านกระทรวงไหนบ้าง ” รายงานว่า หากพิจารณาโครงการที่เกี่ยวกับน้ำท่วม ตามลักษณะงานออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1) การก่อสร้าง 2) การบำรุงรักษา 3) การวางแผน 4) การเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล และ 5) การบริหารจัดการ

    งบประมาณที่เกี่ยวกับน้ำท่วม ประจำปีงบประมาณ 2566 เป็นงบประมาณก่อสร้างมากที่สุดคิดเป็น 76.99% หรือเกิน 3 ใน 4 ของงบประมาณทั้งหมด จำนวน 41,093,465,100 บาท รองลงมาเป็นงบที่เกี่ยวกับการบำรุงรักษา 21.77% จำนวน 11,621,051,300 บาท งบประมาณส่วนที่เหลือสามารถจำแนกได้เป็น งบด้านการวางแผน 0.46% จำนวน 247,422,200 บาท งบที่เกี่ยวกับการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล 0.40% จำนวน 211,766,700 บาทและงบด้านบริหารจัดการ 0.38% จำนวน 203,852,200 บาท

    ที่มา : https://rocketmedialab.co/flood-budget/

    #Thaitimes
    ประเทศไทยใช้งบฯ น้ำท่วมไปทำอะไรบ้าง 11 กันยายน 2567-เพจเฟซบุ๊ก Rocket Media Lab เผยแพร่บทวิเคราะห์ประเด็น “งบน้ำท่วม ใช้ไปทำอะไร ผ่านกระทรวงไหนบ้าง ” รายงานว่า หากพิจารณาโครงการที่เกี่ยวกับน้ำท่วม ตามลักษณะงานออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1) การก่อสร้าง 2) การบำรุงรักษา 3) การวางแผน 4) การเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล และ 5) การบริหารจัดการ งบประมาณที่เกี่ยวกับน้ำท่วม ประจำปีงบประมาณ 2566 เป็นงบประมาณก่อสร้างมากที่สุดคิดเป็น 76.99% หรือเกิน 3 ใน 4 ของงบประมาณทั้งหมด จำนวน 41,093,465,100 บาท รองลงมาเป็นงบที่เกี่ยวกับการบำรุงรักษา 21.77% จำนวน 11,621,051,300 บาท งบประมาณส่วนที่เหลือสามารถจำแนกได้เป็น งบด้านการวางแผน 0.46% จำนวน 247,422,200 บาท งบที่เกี่ยวกับการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล 0.40% จำนวน 211,766,700 บาทและงบด้านบริหารจัดการ 0.38% จำนวน 203,852,200 บาท ที่มา : https://rocketmedialab.co/flood-budget/ #Thaitimes
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 625 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทักษิณผู้สร้าง ศ-รั-ต-รู มอบให้ลูก ครบ 10 ทิศ
    ไม่เคยมีบุคคลที่เป็นนักการเมืองคนไหนในประวัติศาสตร์
    ที่จะสร้าง ศ-รั-ต-รู ในระยะเวลาอันรวดเร็ว และมากมายได้ขนาดนี้
    เป็นพ่อที่ส่งลูกขึ้นสู่อำนาจ แต่กลับวางอำนาจบาดใหญ่
    ซึ่งรู้ทั้งรู้ ว่าแต่ละคนไม่ใช่คนที่จะด้อยค่าได้
    สุภาษิตถึงกับสอนกันมารุ่นสู่รุ่น ว่าขนาดตีหมา ต้องให้ทางหนี
    เพราะเวลาหมาจนตรอก อาจสร้างความเสียหายได้อย่างไม่คาดคิด
    แต่บุคคลที่โทนี่ ข้ามหัวในเวลานี้ คือคนการเมืองระดับเทพ
    ที่ต่างมีเหลี่ยม มีคม มีบารมีเป็นของตัวเอง
    และแม้กระทั่ง พรรคที่ตัวเองดึงเอาไปร่วมรัฐบาล
    ก็ใช่ว่า จะเป็นแมวเชื่อง เพียงแค่รอโอกาสที่พอเหมาะพอดีเท่านั้น
    เรียกได้ว่า เมิงอย่าพลาดเด็ดขาด
    แต่ลูกศรทุกดอก พุ่งยังไงก็ไม่พ้นลูกสาว
    ที่คนเป็นแม่ ยืนยันว่าลูกยังไม่พร้อม
    แต่คนเป็นพ่อ รอเวลาไม่ได้ คล้ายกับมีอาการวิปลาศที่อยากจะโชว์บารมี
    โดยไม่สนใจว่า อนาคตอันใกล้ลูกสาวจะต้องพบเจอกับอะไร
    แม้ว่า สายข่าวของพี่คิงส์ จะยืนยันว่า ทักษิณได้คุมทุกอย่างไว้
    อย่างเบร็ดเสร็จเด็ดขาดแล้วก็ตาม แต่ในประสบการณ์ของพี่คิงส์โพธิ์แดง
    ก็ยังเชื่อว่า สิ่งที่ทักษิณทำในเวลานี้ คือการนับถอยหลัง
    ทั้งชีวิต และอนาคตของตัวเอง และพ่วงด้วยลูกสาวที่กำลังจะดิ่งลงเหว
    ทักษิณ กับอายุตอนนี้ จะอยู่ได้อีกกี่ปี ต่อให้อายุยืนหน่อย
    แต่เรี่ยวแรงก็ต้องถดต้องถอย ซึ่งสังขาลมันคือจุดเปลี่ยน
    ของคนในอดีตที่ยิ่งใหญ่ มาไม่รู้กี่ยุคกี่สมัย
    แล้วในเวลานั้น ชินวัตรในวันที่ไม่มีทักษิณ
    แต่ศัตรูที่พ่อสร้าง มีอยู่มากมายแทบทั้งแผ่นดิน
    นอกจากนักการเมืองตัวเป้งๆที่ทักษิณเหยียบหัว
    ก็ยังมีการย่ำหัวใจของทั้งมวลชน คนเสื้อแดง
    ที่ยอมสู้ถวายจิตวิญญาณ เพื่อทักษิณ และคู่ตรงข้ามตลอดการคือพรรคประชาธิปปัตย์ ซึ่งกลุ่มมวลชนเหล่านี้ มีพลังอย่างประเมินไม่ได้
    ดังนั้น บทวิเคราะห์ของพี่คิงส์โพธิ์แดงในวันนี้ ขอสรุปว่า
    ถ้าเปรียบเทียบกับสามก๊ก ทักษิณ ไม่ใช่โจโฉ ไม่ใช่แม้กระทั่งสุมาอี้
    แต่เวลานี้ ทักษิณ จะนำพาตัวเองไปมีจุดจบเหมือนกับเตียวหุย
    ที่ไม่ได้เฝ้ารากมะม่วงอย่างไม่สมัครใจโดยนายทัพที่ไหน
    แต่จะจบด้วยน้ำมือพลทหาร เบี้ยตัวเล็กๆนอกสายตา
    รวมกับข้าเก่าเต่าเลี้ยง เมื่อทักษิณไม่ยอมเปิดทางให้ใครเดิน
    ผลักให้เกิดกลุ่มก้อนใหม่ นั่นคือ "พรรคฝ่ายแค้น"
    นับถอยหลังสู่จุดจบที่จะสะเทือนทั้งตระกูล
    ฟันธง!!
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ทักษิณผู้สร้าง ศ-รั-ต-รู มอบให้ลูก ครบ 10 ทิศ ไม่เคยมีบุคคลที่เป็นนักการเมืองคนไหนในประวัติศาสตร์ ที่จะสร้าง ศ-รั-ต-รู ในระยะเวลาอันรวดเร็ว และมากมายได้ขนาดนี้ เป็นพ่อที่ส่งลูกขึ้นสู่อำนาจ แต่กลับวางอำนาจบาดใหญ่ ซึ่งรู้ทั้งรู้ ว่าแต่ละคนไม่ใช่คนที่จะด้อยค่าได้ สุภาษิตถึงกับสอนกันมารุ่นสู่รุ่น ว่าขนาดตีหมา ต้องให้ทางหนี เพราะเวลาหมาจนตรอก อาจสร้างความเสียหายได้อย่างไม่คาดคิด แต่บุคคลที่โทนี่ ข้ามหัวในเวลานี้ คือคนการเมืองระดับเทพ ที่ต่างมีเหลี่ยม มีคม มีบารมีเป็นของตัวเอง และแม้กระทั่ง พรรคที่ตัวเองดึงเอาไปร่วมรัฐบาล ก็ใช่ว่า จะเป็นแมวเชื่อง เพียงแค่รอโอกาสที่พอเหมาะพอดีเท่านั้น เรียกได้ว่า เมิงอย่าพลาดเด็ดขาด แต่ลูกศรทุกดอก พุ่งยังไงก็ไม่พ้นลูกสาว ที่คนเป็นแม่ ยืนยันว่าลูกยังไม่พร้อม แต่คนเป็นพ่อ รอเวลาไม่ได้ คล้ายกับมีอาการวิปลาศที่อยากจะโชว์บารมี โดยไม่สนใจว่า อนาคตอันใกล้ลูกสาวจะต้องพบเจอกับอะไร แม้ว่า สายข่าวของพี่คิงส์ จะยืนยันว่า ทักษิณได้คุมทุกอย่างไว้ อย่างเบร็ดเสร็จเด็ดขาดแล้วก็ตาม แต่ในประสบการณ์ของพี่คิงส์โพธิ์แดง ก็ยังเชื่อว่า สิ่งที่ทักษิณทำในเวลานี้ คือการนับถอยหลัง ทั้งชีวิต และอนาคตของตัวเอง และพ่วงด้วยลูกสาวที่กำลังจะดิ่งลงเหว ทักษิณ กับอายุตอนนี้ จะอยู่ได้อีกกี่ปี ต่อให้อายุยืนหน่อย แต่เรี่ยวแรงก็ต้องถดต้องถอย ซึ่งสังขาลมันคือจุดเปลี่ยน ของคนในอดีตที่ยิ่งใหญ่ มาไม่รู้กี่ยุคกี่สมัย แล้วในเวลานั้น ชินวัตรในวันที่ไม่มีทักษิณ แต่ศัตรูที่พ่อสร้าง มีอยู่มากมายแทบทั้งแผ่นดิน นอกจากนักการเมืองตัวเป้งๆที่ทักษิณเหยียบหัว ก็ยังมีการย่ำหัวใจของทั้งมวลชน คนเสื้อแดง ที่ยอมสู้ถวายจิตวิญญาณ เพื่อทักษิณ และคู่ตรงข้ามตลอดการคือพรรคประชาธิปปัตย์ ซึ่งกลุ่มมวลชนเหล่านี้ มีพลังอย่างประเมินไม่ได้ ดังนั้น บทวิเคราะห์ของพี่คิงส์โพธิ์แดงในวันนี้ ขอสรุปว่า ถ้าเปรียบเทียบกับสามก๊ก ทักษิณ ไม่ใช่โจโฉ ไม่ใช่แม้กระทั่งสุมาอี้ แต่เวลานี้ ทักษิณ จะนำพาตัวเองไปมีจุดจบเหมือนกับเตียวหุย ที่ไม่ได้เฝ้ารากมะม่วงอย่างไม่สมัครใจโดยนายทัพที่ไหน แต่จะจบด้วยน้ำมือพลทหาร เบี้ยตัวเล็กๆนอกสายตา รวมกับข้าเก่าเต่าเลี้ยง เมื่อทักษิณไม่ยอมเปิดทางให้ใครเดิน ผลักให้เกิดกลุ่มก้อนใหม่ นั่นคือ "พรรคฝ่ายแค้น" นับถอยหลังสู่จุดจบที่จะสะเทือนทั้งตระกูล ฟันธง!! #คิงส์โพธิ์แดง
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 467 มุมมอง 0 รีวิว