• แกะรอยนักล่า ตอนที่ 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (2)
    ขณะที่เขียนนิทานนี้ การขับไล่รัฐบาลนังมารร้าย ของมวลมหาประชาชนยังไม่สำเร็จ มะม่วงแม้จะขั้วเน่า จุดดำขึ้นเต็มลูก ก็ยังไม่ร่วงหล่น ลุงกำนันใช้ลมปากเท่าใดก็ไม่เป็นผล และแม้จะมีนักวิชาการดาหน้ากันมาบอกว่า การเป็นรัฐบาลรักษาการของรัฐบาลนังมารร้ายได้สิ้นสุดไปแล้ว ก็เหมือนพูดกับคนหูหนวก ไม่รู้เรื่อง แถมนังมารร้ายออกมาพูดจาเลอะเทอะ ทำน้ำตาคลอ ดูอาการเหมือนคนใกล้จะวิปลาส และแม้จะมีศาลจะออกมาชี้มูลความผิด หรือแม้ว่าจะมีคุณหมอคนใดจริงใจและใจถึงออกมาบอกว่า นังมารร้ายวิปลาสไปแล้ว หล่อนก็ยังคงไม่รู้ร้อนรู้หนาวเกาะเก้าอี้ห้อยต่องแต่งต่อไป จำเป็นจะต้องรอให้มีปัจจัยอื่น ที่จะมาปลิดมะม่วงให้หล่น
    ปัจจัยภายในคือคุณพี่ทหาร ซึ่งขณะนี้ได้แสดงท่าทีว่าจวนจะหาจุดยืนถูก “ที่” แล้ว รออีกสักหน่อย ตอนนี้ยังยุ่งกับการแต่งบังเกอร์ให้หวานแหววอยู่ ส่วนปัจจัยภายนอกคือนักล่า ซึ่งได้ปล่อยข่าวผ่านสำนักหมอ ดู CSIS (Centre for Strategic and International Studies) เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ไปแล้วว่า มันควรต้องมีการประนีประนอมด้วยการเจรจา และตกลงตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง เลือกเอาจากที่ผู้คนยอมรับนับถือแบบนายอานันท์ ปันยารชุน
    แหม ! ข่าวแบบนี้เล่นเอาร้านตัดเสื้องานเข้า เขาว่ามีคนแอบไปตัดชุดขาวหลายคน (แอบลุ้นกันทั้งนั้น) บางคนก็เอาชุดเดิมไปแก้ เพราะว่าคอมันคับไป แก่แล้ว น้ำหนักมันขึ้น (ฮา)
    แม้เราจะยังไม่แน่ใจว่า นักล่าจะเล่นไพ่ใบไหน มันกะล่อนจะตาย จะเชื่อกันง่าย ๆ ก็ ฉ.ห. กันหมด แต่เมื่อลองไปแกะรอย ตามดูว่านักล่าเดินไปทางไหน มันก็พอจะบอกอะไรเพิ่มเติมได้บ้าง
    อเมริกามีหน่วยงานหนึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ ทำรายงานเกี่ยวกับความเป็นไปของแต่ละประเทศแต่ละเหตุการณ์ในโลก เพื่อส่งให้สภาสูง เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอเมริกา เหมือนคุณครูประจำชั้นเขียนสมุดพก ประจำตัวนักเรียนแต่ละคน รายงานผู้ปกครอง สมัยเราเรียนหนังสือนั่นละ หน่วยงานที่ออกสมุดพกพวกนี้เรียกว่า Congressional Research Services (CRS) คุณครูจะออกสมุดพกของแต่ละประเทศ เป็นรายปีในกรณีปกติ หรือมากกว่านั้น ขึ้นกับเหตุการณ์และความสำคัญ เช่นถ้าอเมริกากำลังวิ่งเล่นโยนระเบิดอยู่แถวอิรัค สมุดพกของอิรัคอาจออกเป็นรายชั่วโมง (ฮา) หรือของยูเครนตอนนี้คงออกเป็นรายครึ่งวัน เพราะลงทุนส่งสมุนไปปลุกเศกการปฏิวัติประชาชนซะจนประเทศเขากำลังจะแตกเป็นเสี่ยง
    สำหรับประเทศไทย ที่เปิดเผยคือสมุดพกออกเป็นราย ปี แต่ที่ปกปิด ตามรายงานของคุณนายฑูต อาจออกเป็นรายวัน ดูสมัยเสื้อแดงเผาเมือง ฑูตสมัยนั้นรายงานทุกวัน 3 เวลาหลังอาหาร (อ่านจาก Wikileaks ที่ได้อภินันทนาการแจกกันทั่วโลกครับ) สมุดพกที่ว่านี้ปรกติของนักเรียนไทยแต่ละปี จะออกช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน แต่สำหรับปีค.ศ. 2013 ที่ผ่านมา ผ่านไปครึ่งปีคุณครูคงยังไม่สามารถสรุป ความประพฤติของนักเรียนไทยได้ เพราะเริ่มมีอาการปวดหัว ตัวร้อน มีการโดดเรียน หรือเริ่มมั่วสุมนอกห้องเรียน เพราะหงุดหงิดจากพวกแก๊งขี้โกงเสนอร่างพรบ.นิรโทษกรรมเข้าไปพิจารณาในสภา คุณครู CRS เลยถ่วงเวลามาออกเอาเดือนสุดท้ายของปี คือออกรายงานเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2013
    รายงานคราวนี้ยาวกว่าปรกติ โดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์ด้านการเมือง คุณครูรายงานถี่ยิบ ใส่ทุกเรื่องทุกฝ่าย
    รายงานส่วนที่สำคัญบอกว่า ไทยแลนด์เป็นพันธมิตรเก่าแก่ของอเมริกา ตั้งแต่ ค.ศ. 1954 (นานจัง) และได้รับการชื่นชมมาโดยตลอดว่าเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จ ทั้งด้านเศรษฐกิจและการดำรงความเป็นประเทศในระบอบประชาธิปไตย (อ้าว ! ไหนประนามกันเรื่อยว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย เดี๋ยวฟ้องคุณครูเลย ! ) สัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศแน่นแฟ้นในช่วงสงครามเย็น และได้ขยายไปทั้งด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคง ไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของอเมริกา และการที่อเมริกาสามารถเข้าไปใช้บริการ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ของกองทัพไทย (เช่น สนามบิน ! ) ทำให้ประเทศไทยเป็นส่วนสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอเมริกาในการจะดำรงคงอยู่ในภูมิภาค Asia Pacific นี้ได้ (แหม ! จะหลอกใช้สนามบินของเค้าอีกแล้ว)
    คุณครูบอกว่าความมั่นคงและความเจริญเติบโตของประเทศไทย เริ่มสั่นคลอนหลังจากรัฐประหารในไทย เมื่อ ค.ศ. 2006 สร้างความแตกแยกในสังคมไทยอย่างร้าวลึกและยาวนาน และขณะนี้ได้ลุกลามไปจนกลายเป็น การประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก และให้มีการปกครอง ที่มีบางส่วนอาจมองได้ว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองของประเทศ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของไทย ก็ยังเติบโตแม้จะมีวิกฤติการเมือง และยังเป็นประเทศที่รายได้ของชนชั้นกลาง ยังมีการขยายต่อได้อีก และยังเป็นพันธมิตรที่มั่นคงของอเมริกา (แปลว่าเรื่องกระเป๋าตังค์นี่ เป็นประเด็นที่นักล่าสนใจนะ)
    ประเทศไทยที่สงบและมีความมั่นคง มีนัยอย่างสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอเมริกา เพราะประเทศไทยซึ่งมีสถานะเป็นพันธมิตรของอเมริกา ตั้งอยู่บนพื้นแผ่นดินในบริเวณที่เหมาะสมของภูมิภาคอาเซียอาคเณย์นี้ (จุดได้เปรียบของไทย จำกันไว้ให้ดี !)
    คุณครูรายงานต่อไปว่า สภาสูงของอเมริกากำลังลำบากใจที่ต้องเผชิญกับภาวะที่ดูไม่ประชาธิปไตยของไทย และจะมีปฏิกิริยาตอบรับอย่างไร กับประเด็นการดุลอำนาจระหว่างพลเรือนและทหารที่เป็นอยู่ในสังคมไทย (พูดง่าย ๆ ว่ายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาพลเรือนนำทหาร หรือจะเอาทหารนำพลเรือนใช่ไหมคุณครู) นอกจากนี้ยังมีนักวิเคราะห์หลายรายบอกว่า การที่ไทยมัววุ่นอยู่กับปัญหาภายในประเทศของตนนานเกินไป ทำให้อิทธิพลของตนเองที่เคยมีอยู่ในภูมิภาคนี้ด้อยลงด้วย อย่างไรก็ตามแม้ในระดับการปฏิบัติการร่วมกัน ยังคงราบรื่นอยู่ แต่การริเริ่มใหม่ ๆ ดูเหมือนจะเฉื่อยชาไป (แหม ! นายท่านพวกกระผม กำลังวุ่นกับการไล่รัฐบาลโจร จะให้มัวไปเช็ดรองเท้าพวกท่านก็กรุณารอก่อนนะขอรับ ขอโทษครับ ขอเขียนแดกพวกขี้ข้าฝรั่งหน่อย อดไม่ได้)
    เมื่อรัฐบาล Obama ประกาศเปลี่ยนแปลงดุลยภาพของอเมริกา (Rebalancing) โดยให้ความสำคัญกับ Asia Pacific เป็นอันดับสำคัญ ซึ่งจำเป็นต้องมีการขับเคลื่อนร่วมมือจากประเทศที่เรียกว่าเป็นพันธมิตรในภูมิภาคนี้ด้วยนั้น เห็นชัดว่าอเมริกากับไทย ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ และประเทศไทยก็ไม่ได้ เข้าเป็นคู่สัญญาในการริเริ่มขบวนการตาม Trans Pacific Partnership (TPP) (ไทยตกรถไฟขบวน TPP น่าจะแปลว่าดีกับไทยนะ เพราะยังไม่เห็นประโยชน์อะไรกับไทยเลย !)
    แต่ประเด็นที่เป็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการเมืองไทย ที่อเมริกาเป็นห่วง คือโอกาสที่ทักษิณจะกลับมาอยู่ในประเทศไทย มีมากน้อยเพียงใด (แปลว่าไม่อยากได้ทักษิณใช่ไหม ทักษิณเป็นตัวปัญหาใช่ไหม คุณครู) เพราะทักษิณยังเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ และตัวทักษิณเองได้พูดไปทั่วว่า ตนเองยังได้รับการสนับสนุนจากคนไทยอยู่มาก และจะกลับบ้านในเร็ว ๆ นี้ ร่างกฎหมาย นิรโทษกรรมที่จะล้างผิดให้ทักษิณเป็นต้นเหตุ ให้เกิดการประท้วงใหญ่ ตั้งแต่ตุลาคม ค.ศ. 2013 เป็นต้นมา
    อีกประเด็นที่สำคัญคือคำถามเกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระชนมายุ 86 แล้ว และมีรายงานว่าไม่ทรงแข็งแรง พระองค์ทรงเป็นที่เคารพอย่างสูงสุด ของประชาชนมาตลอด 60 ปี ที่ผ่านมา และสถาบันกษัตริย์เป็นที่ยอมรับว่า เป็นสถาบันที่มั่นคงที่สุดในไทย แต่ขณะนี้คำถามเกี่ยวกับการสืบสันตติวงศ์เริ่มใกล้เข้ามา ซึ่งทำให้ความมั่นคงของไทยในส่วนนี้ เป็นเรื่องที่ห่วงกันอยู่
    สาเหตุหลักที่อเมริกาจะต้องพยายามรักษาสัมพันธ์กับประเทศไทยไว้ คือ การแข่งขันในการมีอิทธิพลในอาเซียอาคเณย์ระหว่างอเมริกากับจีน (ฮั่นแน่ ! เรื่องสำคัญ มาแอบอยู่ตรงนี้เองแหละ) ไทยมีชื่อเสียงมานานในความสามารถรักษาสัมพันธ์กับทุกฝ่าย ไม่ว่าด้านธุรกิจ การเมือง และวัฒนธรรม ไทยสามารถจัดการได้ดีทั้งกับจีนและอเมริกา
    ประเทศไทยที่แข็งแรง และมองออกไปนอกตัวเองมากขึ้น จะช่วยให้ได้รับการสนับสนุน ในการเข้าร่วมกระบวนการ “Rebalancing” ของอเมริกา วิกฤตการเมืองของไทย ทำให้ไทยเสียโอกาสอย่างมาก เพราะเมื่อรัฐบาล Obama ประกาศนโยบายต่างประเทศ Rebalancing ของอเมริกามาทางเอเซีย ไทยไม่ได้รับบทบาทสำคัญ (ไม่ได้เป็นพระเอก) และวอชิงตันได้มองไปที่ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และคบหุ้นส่วนใหม่ เช่น อินโดนีเซีย และเวียตนาม (พวกตัวประกอบผักชีโรยหน้า)
    อย่างไรก็ตามฝ่ายกองทัพของสหรัฐ ยังอยากที่จะคบค้าสานสัมพันธ์กับกองทัพไทยต่อไป (Mil to Mil relationship) โดยเฉพาะการสามารถเข้าไปใช้เครื่องมือเครื่องใช้อำนวยความสะดวก รวมทั้งฐานทัพของไทย ในกรณีที่เกิดปัญหาความตึงเครียดในภูมิภาคนี้
    นักวิเคราะห์ระดับภูมิภาคประโลมใจว่า แม้ประเทศไทยจะไม่วิเศษสมบูรณ์ แต่พันธมิตรที่เป็นประชาธิปไตยในภูมิภาค มีความสำคัญยิ่งในการแสดงให้เห็นถึงความผูกพันธ์ของอเมริกาในภูมิภาคนี้ (คุณนายฑูตคริสตี้ ช่วยอ่านรายงานคุณครู CRS ตอนนี้ให้เข้าไปในหัวหน่อย และถ้าคุณนายซึ่งเป็นฑูตตัวแทนประเทศตัวเอง แล้วยังตั้งหน้าตอแหลบิดเบือนต่อไปอีก ครูใหญ่ Obama ช่วยเรียกตัวกลับไปกวาดพื้นโรงเรียนประถมในอเมริกา จะเหมาะสมกับคุณนายมากกว่า และอาจจะทำให้อเมริกาถูกรังเกียจน้อยลงไปบ้าง)
    ขณะเดียวกัน มีผู้ท้วงติงว่า การที่อเมริกาพยายามจะให้ไทยใช้วิธีการบริหารประเทศ โดยให้พลเรือนควบคุมกองทัพ ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผล ดูจากเหตุการณ์ไม่กี่ปีที่ผ่านมา (แปลว่าอยากได้ทหารเป็นผู้บริหารประเทศ มากกว่าพลเรือนหรือไง ?) และแม้ว่าการจะใช้สนามบินของไทยเป็นเรื่องสำคัญสำหรับกองทัพอเมริกา ก็มีผู้สงสัยเช่นกันว่า ไทยจะยอมให้ใช้หรือไม่ หากมีความขัดแย้งกันเกิดขึ้น (เริ่มจะรู้ตัวแล้วหรือนักล่า ว่าสมันน้อยก็มีเขี้ยวเล็บเหมือนกัน)

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยนักล่า ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (2) ขณะที่เขียนนิทานนี้ การขับไล่รัฐบาลนังมารร้าย ของมวลมหาประชาชนยังไม่สำเร็จ มะม่วงแม้จะขั้วเน่า จุดดำขึ้นเต็มลูก ก็ยังไม่ร่วงหล่น ลุงกำนันใช้ลมปากเท่าใดก็ไม่เป็นผล และแม้จะมีนักวิชาการดาหน้ากันมาบอกว่า การเป็นรัฐบาลรักษาการของรัฐบาลนังมารร้ายได้สิ้นสุดไปแล้ว ก็เหมือนพูดกับคนหูหนวก ไม่รู้เรื่อง แถมนังมารร้ายออกมาพูดจาเลอะเทอะ ทำน้ำตาคลอ ดูอาการเหมือนคนใกล้จะวิปลาส และแม้จะมีศาลจะออกมาชี้มูลความผิด หรือแม้ว่าจะมีคุณหมอคนใดจริงใจและใจถึงออกมาบอกว่า นังมารร้ายวิปลาสไปแล้ว หล่อนก็ยังคงไม่รู้ร้อนรู้หนาวเกาะเก้าอี้ห้อยต่องแต่งต่อไป จำเป็นจะต้องรอให้มีปัจจัยอื่น ที่จะมาปลิดมะม่วงให้หล่น ปัจจัยภายในคือคุณพี่ทหาร ซึ่งขณะนี้ได้แสดงท่าทีว่าจวนจะหาจุดยืนถูก “ที่” แล้ว รออีกสักหน่อย ตอนนี้ยังยุ่งกับการแต่งบังเกอร์ให้หวานแหววอยู่ ส่วนปัจจัยภายนอกคือนักล่า ซึ่งได้ปล่อยข่าวผ่านสำนักหมอ ดู CSIS (Centre for Strategic and International Studies) เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ไปแล้วว่า มันควรต้องมีการประนีประนอมด้วยการเจรจา และตกลงตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง เลือกเอาจากที่ผู้คนยอมรับนับถือแบบนายอานันท์ ปันยารชุน แหม ! ข่าวแบบนี้เล่นเอาร้านตัดเสื้องานเข้า เขาว่ามีคนแอบไปตัดชุดขาวหลายคน (แอบลุ้นกันทั้งนั้น) บางคนก็เอาชุดเดิมไปแก้ เพราะว่าคอมันคับไป แก่แล้ว น้ำหนักมันขึ้น (ฮา) แม้เราจะยังไม่แน่ใจว่า นักล่าจะเล่นไพ่ใบไหน มันกะล่อนจะตาย จะเชื่อกันง่าย ๆ ก็ ฉ.ห. กันหมด แต่เมื่อลองไปแกะรอย ตามดูว่านักล่าเดินไปทางไหน มันก็พอจะบอกอะไรเพิ่มเติมได้บ้าง อเมริกามีหน่วยงานหนึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ ทำรายงานเกี่ยวกับความเป็นไปของแต่ละประเทศแต่ละเหตุการณ์ในโลก เพื่อส่งให้สภาสูง เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอเมริกา เหมือนคุณครูประจำชั้นเขียนสมุดพก ประจำตัวนักเรียนแต่ละคน รายงานผู้ปกครอง สมัยเราเรียนหนังสือนั่นละ หน่วยงานที่ออกสมุดพกพวกนี้เรียกว่า Congressional Research Services (CRS) คุณครูจะออกสมุดพกของแต่ละประเทศ เป็นรายปีในกรณีปกติ หรือมากกว่านั้น ขึ้นกับเหตุการณ์และความสำคัญ เช่นถ้าอเมริกากำลังวิ่งเล่นโยนระเบิดอยู่แถวอิรัค สมุดพกของอิรัคอาจออกเป็นรายชั่วโมง (ฮา) หรือของยูเครนตอนนี้คงออกเป็นรายครึ่งวัน เพราะลงทุนส่งสมุนไปปลุกเศกการปฏิวัติประชาชนซะจนประเทศเขากำลังจะแตกเป็นเสี่ยง สำหรับประเทศไทย ที่เปิดเผยคือสมุดพกออกเป็นราย ปี แต่ที่ปกปิด ตามรายงานของคุณนายฑูต อาจออกเป็นรายวัน ดูสมัยเสื้อแดงเผาเมือง ฑูตสมัยนั้นรายงานทุกวัน 3 เวลาหลังอาหาร (อ่านจาก Wikileaks ที่ได้อภินันทนาการแจกกันทั่วโลกครับ) สมุดพกที่ว่านี้ปรกติของนักเรียนไทยแต่ละปี จะออกช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน แต่สำหรับปีค.ศ. 2013 ที่ผ่านมา ผ่านไปครึ่งปีคุณครูคงยังไม่สามารถสรุป ความประพฤติของนักเรียนไทยได้ เพราะเริ่มมีอาการปวดหัว ตัวร้อน มีการโดดเรียน หรือเริ่มมั่วสุมนอกห้องเรียน เพราะหงุดหงิดจากพวกแก๊งขี้โกงเสนอร่างพรบ.นิรโทษกรรมเข้าไปพิจารณาในสภา คุณครู CRS เลยถ่วงเวลามาออกเอาเดือนสุดท้ายของปี คือออกรายงานเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2013 รายงานคราวนี้ยาวกว่าปรกติ โดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์ด้านการเมือง คุณครูรายงานถี่ยิบ ใส่ทุกเรื่องทุกฝ่าย รายงานส่วนที่สำคัญบอกว่า ไทยแลนด์เป็นพันธมิตรเก่าแก่ของอเมริกา ตั้งแต่ ค.ศ. 1954 (นานจัง) และได้รับการชื่นชมมาโดยตลอดว่าเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จ ทั้งด้านเศรษฐกิจและการดำรงความเป็นประเทศในระบอบประชาธิปไตย (อ้าว ! ไหนประนามกันเรื่อยว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย เดี๋ยวฟ้องคุณครูเลย ! ) สัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศแน่นแฟ้นในช่วงสงครามเย็น และได้ขยายไปทั้งด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคง ไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของอเมริกา และการที่อเมริกาสามารถเข้าไปใช้บริการ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ของกองทัพไทย (เช่น สนามบิน ! ) ทำให้ประเทศไทยเป็นส่วนสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอเมริกาในการจะดำรงคงอยู่ในภูมิภาค Asia Pacific นี้ได้ (แหม ! จะหลอกใช้สนามบินของเค้าอีกแล้ว) คุณครูบอกว่าความมั่นคงและความเจริญเติบโตของประเทศไทย เริ่มสั่นคลอนหลังจากรัฐประหารในไทย เมื่อ ค.ศ. 2006 สร้างความแตกแยกในสังคมไทยอย่างร้าวลึกและยาวนาน และขณะนี้ได้ลุกลามไปจนกลายเป็น การประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก และให้มีการปกครอง ที่มีบางส่วนอาจมองได้ว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองของประเทศ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของไทย ก็ยังเติบโตแม้จะมีวิกฤติการเมือง และยังเป็นประเทศที่รายได้ของชนชั้นกลาง ยังมีการขยายต่อได้อีก และยังเป็นพันธมิตรที่มั่นคงของอเมริกา (แปลว่าเรื่องกระเป๋าตังค์นี่ เป็นประเด็นที่นักล่าสนใจนะ) ประเทศไทยที่สงบและมีความมั่นคง มีนัยอย่างสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอเมริกา เพราะประเทศไทยซึ่งมีสถานะเป็นพันธมิตรของอเมริกา ตั้งอยู่บนพื้นแผ่นดินในบริเวณที่เหมาะสมของภูมิภาคอาเซียอาคเณย์นี้ (จุดได้เปรียบของไทย จำกันไว้ให้ดี !) คุณครูรายงานต่อไปว่า สภาสูงของอเมริกากำลังลำบากใจที่ต้องเผชิญกับภาวะที่ดูไม่ประชาธิปไตยของไทย และจะมีปฏิกิริยาตอบรับอย่างไร กับประเด็นการดุลอำนาจระหว่างพลเรือนและทหารที่เป็นอยู่ในสังคมไทย (พูดง่าย ๆ ว่ายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาพลเรือนนำทหาร หรือจะเอาทหารนำพลเรือนใช่ไหมคุณครู) นอกจากนี้ยังมีนักวิเคราะห์หลายรายบอกว่า การที่ไทยมัววุ่นอยู่กับปัญหาภายในประเทศของตนนานเกินไป ทำให้อิทธิพลของตนเองที่เคยมีอยู่ในภูมิภาคนี้ด้อยลงด้วย อย่างไรก็ตามแม้ในระดับการปฏิบัติการร่วมกัน ยังคงราบรื่นอยู่ แต่การริเริ่มใหม่ ๆ ดูเหมือนจะเฉื่อยชาไป (แหม ! นายท่านพวกกระผม กำลังวุ่นกับการไล่รัฐบาลโจร จะให้มัวไปเช็ดรองเท้าพวกท่านก็กรุณารอก่อนนะขอรับ ขอโทษครับ ขอเขียนแดกพวกขี้ข้าฝรั่งหน่อย อดไม่ได้) เมื่อรัฐบาล Obama ประกาศเปลี่ยนแปลงดุลยภาพของอเมริกา (Rebalancing) โดยให้ความสำคัญกับ Asia Pacific เป็นอันดับสำคัญ ซึ่งจำเป็นต้องมีการขับเคลื่อนร่วมมือจากประเทศที่เรียกว่าเป็นพันธมิตรในภูมิภาคนี้ด้วยนั้น เห็นชัดว่าอเมริกากับไทย ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ และประเทศไทยก็ไม่ได้ เข้าเป็นคู่สัญญาในการริเริ่มขบวนการตาม Trans Pacific Partnership (TPP) (ไทยตกรถไฟขบวน TPP น่าจะแปลว่าดีกับไทยนะ เพราะยังไม่เห็นประโยชน์อะไรกับไทยเลย !) แต่ประเด็นที่เป็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการเมืองไทย ที่อเมริกาเป็นห่วง คือโอกาสที่ทักษิณจะกลับมาอยู่ในประเทศไทย มีมากน้อยเพียงใด (แปลว่าไม่อยากได้ทักษิณใช่ไหม ทักษิณเป็นตัวปัญหาใช่ไหม คุณครู) เพราะทักษิณยังเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ และตัวทักษิณเองได้พูดไปทั่วว่า ตนเองยังได้รับการสนับสนุนจากคนไทยอยู่มาก และจะกลับบ้านในเร็ว ๆ นี้ ร่างกฎหมาย นิรโทษกรรมที่จะล้างผิดให้ทักษิณเป็นต้นเหตุ ให้เกิดการประท้วงใหญ่ ตั้งแต่ตุลาคม ค.ศ. 2013 เป็นต้นมา อีกประเด็นที่สำคัญคือคำถามเกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระชนมายุ 86 แล้ว และมีรายงานว่าไม่ทรงแข็งแรง พระองค์ทรงเป็นที่เคารพอย่างสูงสุด ของประชาชนมาตลอด 60 ปี ที่ผ่านมา และสถาบันกษัตริย์เป็นที่ยอมรับว่า เป็นสถาบันที่มั่นคงที่สุดในไทย แต่ขณะนี้คำถามเกี่ยวกับการสืบสันตติวงศ์เริ่มใกล้เข้ามา ซึ่งทำให้ความมั่นคงของไทยในส่วนนี้ เป็นเรื่องที่ห่วงกันอยู่ สาเหตุหลักที่อเมริกาจะต้องพยายามรักษาสัมพันธ์กับประเทศไทยไว้ คือ การแข่งขันในการมีอิทธิพลในอาเซียอาคเณย์ระหว่างอเมริกากับจีน (ฮั่นแน่ ! เรื่องสำคัญ มาแอบอยู่ตรงนี้เองแหละ) ไทยมีชื่อเสียงมานานในความสามารถรักษาสัมพันธ์กับทุกฝ่าย ไม่ว่าด้านธุรกิจ การเมือง และวัฒนธรรม ไทยสามารถจัดการได้ดีทั้งกับจีนและอเมริกา ประเทศไทยที่แข็งแรง และมองออกไปนอกตัวเองมากขึ้น จะช่วยให้ได้รับการสนับสนุน ในการเข้าร่วมกระบวนการ “Rebalancing” ของอเมริกา วิกฤตการเมืองของไทย ทำให้ไทยเสียโอกาสอย่างมาก เพราะเมื่อรัฐบาล Obama ประกาศนโยบายต่างประเทศ Rebalancing ของอเมริกามาทางเอเซีย ไทยไม่ได้รับบทบาทสำคัญ (ไม่ได้เป็นพระเอก) และวอชิงตันได้มองไปที่ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และคบหุ้นส่วนใหม่ เช่น อินโดนีเซีย และเวียตนาม (พวกตัวประกอบผักชีโรยหน้า) อย่างไรก็ตามฝ่ายกองทัพของสหรัฐ ยังอยากที่จะคบค้าสานสัมพันธ์กับกองทัพไทยต่อไป (Mil to Mil relationship) โดยเฉพาะการสามารถเข้าไปใช้เครื่องมือเครื่องใช้อำนวยความสะดวก รวมทั้งฐานทัพของไทย ในกรณีที่เกิดปัญหาความตึงเครียดในภูมิภาคนี้ นักวิเคราะห์ระดับภูมิภาคประโลมใจว่า แม้ประเทศไทยจะไม่วิเศษสมบูรณ์ แต่พันธมิตรที่เป็นประชาธิปไตยในภูมิภาค มีความสำคัญยิ่งในการแสดงให้เห็นถึงความผูกพันธ์ของอเมริกาในภูมิภาคนี้ (คุณนายฑูตคริสตี้ ช่วยอ่านรายงานคุณครู CRS ตอนนี้ให้เข้าไปในหัวหน่อย และถ้าคุณนายซึ่งเป็นฑูตตัวแทนประเทศตัวเอง แล้วยังตั้งหน้าตอแหลบิดเบือนต่อไปอีก ครูใหญ่ Obama ช่วยเรียกตัวกลับไปกวาดพื้นโรงเรียนประถมในอเมริกา จะเหมาะสมกับคุณนายมากกว่า และอาจจะทำให้อเมริกาถูกรังเกียจน้อยลงไปบ้าง) ขณะเดียวกัน มีผู้ท้วงติงว่า การที่อเมริกาพยายามจะให้ไทยใช้วิธีการบริหารประเทศ โดยให้พลเรือนควบคุมกองทัพ ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผล ดูจากเหตุการณ์ไม่กี่ปีที่ผ่านมา (แปลว่าอยากได้ทหารเป็นผู้บริหารประเทศ มากกว่าพลเรือนหรือไง ?) และแม้ว่าการจะใช้สนามบินของไทยเป็นเรื่องสำคัญสำหรับกองทัพอเมริกา ก็มีผู้สงสัยเช่นกันว่า ไทยจะยอมให้ใช้หรือไม่ หากมีความขัดแย้งกันเกิดขึ้น (เริ่มจะรู้ตัวแล้วหรือนักล่า ว่าสมันน้อยก็มีเขี้ยวเล็บเหมือนกัน) คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • เฉิงตู สี่ดรุณี 6,888

    🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน
    ✈ VZ-ไทยเวียดเจ็ท แอร์
    พักโรงแรม

    ภูเขาสี่ดรุณี
    หุบเขาซวงเฉียวโกว (รวมรถประจำทางในอุทยาน)
    สะพานหนานเฉียว
    แพนด้าเซลฟี่
    ถนนคนเดินชุนซีลู่
    แพนด้ายักษ์ปีนตึก IFS
    ถนนคนเดินไท่กู่หลี่

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์จีน #เฉิงตู #china #chengdu #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เฉิงตู สี่ดรุณี 🍁🍀 6,888 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน ✈ VZ-ไทยเวียดเจ็ท แอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐ 📍 ภูเขาสี่ดรุณี 📍 หุบเขาซวงเฉียวโกว (รวมรถประจำทางในอุทยาน) 📍 สะพานหนานเฉียว 📍 แพนด้าเซลฟี่ 📍 ถนนคนเดินชุนซีลู่ 📍 แพนด้ายักษ์ปีนตึก IFS 📍 ถนนคนเดินไท่กู่หลี่ รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จีน #เฉิงตู #china #chengdu #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 Comments 0 Shares 31 Views 0 0 Reviews
  • นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีหนังสือด่วนที่สุดถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แจ้งเรื่องระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มเติม โดยบรรจุเรื่องด่วนที่ 8 พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพิ่มเติมในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 20 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 เป็นพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2568 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ที่ประชุมวิป 2 ฝ่าย ไม่สามารถตกลงกันได้

    -ไร้ปัญหาข้อกฎหมาย
    -ไม่มีคำตอบจาก"ภูมิธรรม"
    -ภาค 1 ซีลชายแดน 16 กม.
    -การเมืองเซกระทบเบิกงบ
    นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีหนังสือด่วนที่สุดถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แจ้งเรื่องระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มเติม โดยบรรจุเรื่องด่วนที่ 8 พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพิ่มเติมในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 20 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 เป็นพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2568 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ที่ประชุมวิป 2 ฝ่าย ไม่สามารถตกลงกันได้ -ไร้ปัญหาข้อกฎหมาย -ไม่มีคำตอบจาก"ภูมิธรรม" -ภาค 1 ซีลชายแดน 16 กม. -การเมืองเซกระทบเบิกงบ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 0 Reviews
  • รัสเซียจะช่วยจีนให้แซงหน้าสหรัฐฯ ในฐานะผู้ผลิตพลังงานนิวเคลียร์รายหญ่ที่สุดของโลก จากการเปิดเผยของประธานบริษัทนิวคลียร์แห่งรัฐัสเซีย 'โรซาตอม' ระหว่างแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อมวลชนแห่งรัฐ ตามหลังการพบปะพูดคุยกันในปักกิ่ง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000084492

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    รัสเซียจะช่วยจีนให้แซงหน้าสหรัฐฯ ในฐานะผู้ผลิตพลังงานนิวเคลียร์รายหญ่ที่สุดของโลก จากการเปิดเผยของประธานบริษัทนิวคลียร์แห่งรัฐัสเซีย 'โรซาตอม' ระหว่างแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อมวลชนแห่งรัฐ ตามหลังการพบปะพูดคุยกันในปักกิ่ง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000084492 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • ทรัมป์โว ไม่ได้กังวลที่รัสเซียกับจีนกระชับสัมพันธ์แนบแน่นขึ้น แต่ก็ไม่วายแขวะพิธีสวนสนามใหญ่ในกรุงปักกิ่ง พร้อมระบุว่าปูตินกับคิมจองอึนกำลังสมคบคิดกันต่อต้านอเมริกา ซึ่งทำเนียบเครมลินออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ในเวลาต่อมา โดยโบ้ยว่าผู้นำสหรัฐฯอาจแค่ประชด อย่างไรก็ตาม ประมุขทำเนียบขาวยังลั่นปากชัดๆ ด้วยว่า “ผิดหวังมาก” กับประมุขเครมลินที่ไม่ทำอะไรคืบหน้าเรื่องยูเครน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000084486

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทรัมป์โว ไม่ได้กังวลที่รัสเซียกับจีนกระชับสัมพันธ์แนบแน่นขึ้น แต่ก็ไม่วายแขวะพิธีสวนสนามใหญ่ในกรุงปักกิ่ง พร้อมระบุว่าปูตินกับคิมจองอึนกำลังสมคบคิดกันต่อต้านอเมริกา ซึ่งทำเนียบเครมลินออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ในเวลาต่อมา โดยโบ้ยว่าผู้นำสหรัฐฯอาจแค่ประชด อย่างไรก็ตาม ประมุขทำเนียบขาวยังลั่นปากชัดๆ ด้วยว่า “ผิดหวังมาก” กับประมุขเครมลินที่ไม่ทำอะไรคืบหน้าเรื่องยูเครน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000084486 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • อาเซียนฮีลใจ ปันน้ำใจให้ไรเดอร์ และร้านอาหารในอินโดนีเซีย

    ผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างออนไลน์ หรือ โอโจล (Ojol) ในอินโดนีเซีย รวมถึงร้านอาหาร และผู้ค้าอาหารรายย่อย ต่างดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด ท่ามกลางเศรษฐกิจตกต่ำ ปัญหาข้าวยากหมากแพง ความไม่เป็นธรรมจากรัฐบาลและนักการเมือง นำไปสู่การชุมนุมของชาวอินโดนีเซีย

    การแสดงน้ำใจแม้เพียงเล็กน้อย ก็เป็นพลังให้พวกเขายืนหยัดสู้ชีวิตต่อไป ผู้ใช้งาน Grab ในไทย รวมถึงมาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และอื่นๆ สามารถสั่งออเดอร์อาหารหรือสิ่งของจำเป็น ไปยังไรเดอร์ชาวอินโดนีเซีย เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขาในยามที่ยากลำบาก พร้อมกับช่วยเหลือร้านอาหาร และร้านค้ารายย่อย ที่ยอดขายหายไปจากสภาวะเศรษฐกิจ

    #BravePinkHeroGreen
    อาเซียนฮีลใจ ปันน้ำใจให้ไรเดอร์ และร้านอาหารในอินโดนีเซีย ผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างออนไลน์ หรือ โอโจล (Ojol) ในอินโดนีเซีย รวมถึงร้านอาหาร และผู้ค้าอาหารรายย่อย ต่างดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด ท่ามกลางเศรษฐกิจตกต่ำ ปัญหาข้าวยากหมากแพง ความไม่เป็นธรรมจากรัฐบาลและนักการเมือง นำไปสู่การชุมนุมของชาวอินโดนีเซีย การแสดงน้ำใจแม้เพียงเล็กน้อย ก็เป็นพลังให้พวกเขายืนหยัดสู้ชีวิตต่อไป ผู้ใช้งาน Grab ในไทย รวมถึงมาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และอื่นๆ สามารถสั่งออเดอร์อาหารหรือสิ่งของจำเป็น ไปยังไรเดอร์ชาวอินโดนีเซีย เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขาในยามที่ยากลำบาก พร้อมกับช่วยเหลือร้านอาหาร และร้านค้ารายย่อย ที่ยอดขายหายไปจากสภาวะเศรษฐกิจ #BravePinkHeroGreen
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews
  • หนึ่งในเทสต์ที่ ตรวจหาปัญหาจาก โปรตีนหนาม (spike protein) คือการวัดระดับ แอนตี้บอดี้ (SARS CoV2 spike Ab quantitative) ว่า มีมากน้อยแค่ไหน
    คำถามคือ แล้ว จะ"แปลผล"อย่างไร?
    * < 1000 iu/ml สบายใจได้ ไม่น่าเป็นอะไร
    * 1000-5000 iu/ml ถ้ามีอาการไม่สบายใดๆ เป็นไปได้ว่า อาการเหล่านั้นอาจจะเกิดจาก โปรตีนหนาม
    * 5000-10000 iu/ml มีโปรตีนหนามวนเวียนอยู่ในกระแสเลือด
    * 10000- 25000 iu/ml อาการที่ผิดปกติเป็นจากโปรตีนหนาม จากวัคซีนแน่นอน
    > 25000 iu/ml รีบล้างพิษ ด่วน !!!
    https://www.facebook.com/share/1Yympuyn1o/
    ✍️หนึ่งในเทสต์ที่ ตรวจหาปัญหาจาก โปรตีนหนาม (spike protein) คือการวัดระดับ แอนตี้บอดี้ (SARS CoV2 spike Ab quantitative) ว่า มีมากน้อยแค่ไหน คำถามคือ แล้ว จะ"แปลผล"อย่างไร? * < 1000 iu/ml สบายใจได้ ไม่น่าเป็นอะไร * 1000-5000 iu/ml ถ้ามีอาการไม่สบายใดๆ เป็นไปได้ว่า อาการเหล่านั้นอาจจะเกิดจาก โปรตีนหนาม * 5000-10000 iu/ml มีโปรตีนหนามวนเวียนอยู่ในกระแสเลือด * 10000- 25000 iu/ml อาการที่ผิดปกติเป็นจากโปรตีนหนาม จากวัคซีนแน่นอน > 25000 iu/ml รีบล้างพิษ ด่วน !!! https://www.facebook.com/share/1Yympuyn1o/
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก BlazeCore: เมื่อ CPU ที่ยังไม่เปิดตัวถูกใส่ไว้ในเครื่องขายจริง

    ต้นเดือนกันยายน 2025 มีผู้พบว่า BlazeCore ซึ่งเป็นผู้ผลิตพีซีเกมมิ่งแบบประกอบล่วงหน้า ได้ระบุ “Ryzen 7 9700F” ไว้ในรายละเอียดของเครื่องรุ่นหนึ่งที่ขายผ่านร้าน Microless ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยในหน้าสเปกหลักยังคงระบุว่าใช้ Ryzen 7 9700X แต่เมื่อเลื่อนลงไปอ่านรายละเอียดกลับพบชื่อ 9700F โผล่ขึ้นมา

    Ryzen 7 9700F เป็นรุ่นที่ยังไม่มีการเปิดตัวจาก AMD แต่มีข้อมูลหลุดออกมาก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนึ่งในสองรุ่นใหม่ในตระกูล Zen 5 ที่ไม่มีกราฟิกในตัว (F-series) โดยอีกตัวคือ Ryzen 5 9500F

    จากข้อมูลที่หลุดออกมา Ryzen 7 9700F มีสเปกใกล้เคียงกับ 9700X ทุกประการ: 8 คอร์ 16 เธรด, base clock 3.8 GHz, L3 cache 32MB แต่ boost clock ต่ำกว่าเล็กน้อยที่ 5.4 GHz (9700X อยู่ที่ 5.5 GHz) และไม่มี iGPU ซึ่งทำให้ราคาควรจะถูกกว่า แต่ในรายการสินค้ากลับตั้งไว้ที่ $294 ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้

    เมื่อดูจาก benchmark ล่าสุด พบว่า 9700F มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ 9700X ทั้งในงาน multi-core และ single-core โดยต่างกันเพียงเล็กน้อยในคะแนน Cinebench และ Geekbench ซึ่งหมายความว่าในงานจริง เช่น การเล่นเกมหรือการตัดต่อวิดีโอ ความแตกต่างแทบไม่รู้สึกได้ หากใช้ GPU แยก

    การปรากฏตัวของ Ryzen 7 9700F
    ถูกระบุในรายละเอียดของเครื่อง BlazeCore บนร้าน Microless
    ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก AMD
    อาจเป็นการเตรียมเปลี่ยนสเปก หรือพิมพ์ผิดจากผู้ประกอบ

    สเปกของ Ryzen 7 9700F เทียบกับ 9700X
    8 คอร์ 16 เธรด, base clock 3.8 GHz, L3 cache 32MB เท่ากัน
    boost clock ต่ำกว่า 9700X เล็กน้อย (5.4 GHz vs 5.5 GHz)
    ไม่มี iGPU ซึ่งทำให้ราคาควรต่ำกว่า แต่กลับตั้งไว้ที่ $294

    ประสิทธิภาพจาก benchmark ล่าสุด
    คะแนน Cinebench และ Geekbench ต่างกันเพียง ~2% ใน single-core
    multi-core performance เท่ากันทุกประการ
    เหมาะกับผู้ใช้ที่มี GPU แยกและไม่ต้องการ iGPU

    บริบทของ Zen 5 และ F-series
    Ryzen 7 9700F และ 9500F เป็นรุ่นแรกของ Zen 5 ที่ไม่มีกราฟิกในตัว
    เหมาะกับตลาดที่เน้นประสิทธิภาพต่อราคา เช่น เกมมิ่งและ workstation
    อาจเป็นกลยุทธ์ของ AMD เพื่อลดต้นทุนและแข่งขันกับ Intel F-series

    https://wccftech.com/system-integrator-mentions-ryzen-7-9700f-with-boost-clock-of-5-4-ghz-configuration-still-boasts-9700x/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก BlazeCore: เมื่อ CPU ที่ยังไม่เปิดตัวถูกใส่ไว้ในเครื่องขายจริง ต้นเดือนกันยายน 2025 มีผู้พบว่า BlazeCore ซึ่งเป็นผู้ผลิตพีซีเกมมิ่งแบบประกอบล่วงหน้า ได้ระบุ “Ryzen 7 9700F” ไว้ในรายละเอียดของเครื่องรุ่นหนึ่งที่ขายผ่านร้าน Microless ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยในหน้าสเปกหลักยังคงระบุว่าใช้ Ryzen 7 9700X แต่เมื่อเลื่อนลงไปอ่านรายละเอียดกลับพบชื่อ 9700F โผล่ขึ้นมา Ryzen 7 9700F เป็นรุ่นที่ยังไม่มีการเปิดตัวจาก AMD แต่มีข้อมูลหลุดออกมาก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนึ่งในสองรุ่นใหม่ในตระกูล Zen 5 ที่ไม่มีกราฟิกในตัว (F-series) โดยอีกตัวคือ Ryzen 5 9500F จากข้อมูลที่หลุดออกมา Ryzen 7 9700F มีสเปกใกล้เคียงกับ 9700X ทุกประการ: 8 คอร์ 16 เธรด, base clock 3.8 GHz, L3 cache 32MB แต่ boost clock ต่ำกว่าเล็กน้อยที่ 5.4 GHz (9700X อยู่ที่ 5.5 GHz) และไม่มี iGPU ซึ่งทำให้ราคาควรจะถูกกว่า แต่ในรายการสินค้ากลับตั้งไว้ที่ $294 ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ เมื่อดูจาก benchmark ล่าสุด พบว่า 9700F มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ 9700X ทั้งในงาน multi-core และ single-core โดยต่างกันเพียงเล็กน้อยในคะแนน Cinebench และ Geekbench ซึ่งหมายความว่าในงานจริง เช่น การเล่นเกมหรือการตัดต่อวิดีโอ ความแตกต่างแทบไม่รู้สึกได้ หากใช้ GPU แยก ✅ การปรากฏตัวของ Ryzen 7 9700F ➡️ ถูกระบุในรายละเอียดของเครื่อง BlazeCore บนร้าน Microless ➡️ ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก AMD ➡️ อาจเป็นการเตรียมเปลี่ยนสเปก หรือพิมพ์ผิดจากผู้ประกอบ ✅ สเปกของ Ryzen 7 9700F เทียบกับ 9700X ➡️ 8 คอร์ 16 เธรด, base clock 3.8 GHz, L3 cache 32MB เท่ากัน ➡️ boost clock ต่ำกว่า 9700X เล็กน้อย (5.4 GHz vs 5.5 GHz) ➡️ ไม่มี iGPU ซึ่งทำให้ราคาควรต่ำกว่า แต่กลับตั้งไว้ที่ $294 ✅ ประสิทธิภาพจาก benchmark ล่าสุด ➡️ คะแนน Cinebench และ Geekbench ต่างกันเพียง ~2% ใน single-core ➡️ multi-core performance เท่ากันทุกประการ ➡️ เหมาะกับผู้ใช้ที่มี GPU แยกและไม่ต้องการ iGPU ✅ บริบทของ Zen 5 และ F-series ➡️ Ryzen 7 9700F และ 9500F เป็นรุ่นแรกของ Zen 5 ที่ไม่มีกราฟิกในตัว ➡️ เหมาะกับตลาดที่เน้นประสิทธิภาพต่อราคา เช่น เกมมิ่งและ workstation ➡️ อาจเป็นกลยุทธ์ของ AMD เพื่อลดต้นทุนและแข่งขันกับ Intel F-series https://wccftech.com/system-integrator-mentions-ryzen-7-9700f-with-boost-clock-of-5-4-ghz-configuration-still-boasts-9700x/
    WCCFTECH.COM
    System Integrator Mentions Ryzen 7 9700F With Boost Clock Of 5.4 GHz; Configuration Still Boasts 9700X
    AMD's Ryzen 7 9700F with 5.4 GHz boost listed at $294 in pre-built systems, features identical specs to 9700X but lacks integrated graphics
    0 Comments 0 Shares 48 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากเหมืองมูลค่า 175,000 ล้านดอลลาร์: เมื่อมาเลเซียกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของมหาอำนาจด้านแร่หายาก

    ในปี 2025 มาเลเซียค้นพบแหล่งแร่หายากขนาดมหึมา มูลค่าประเมินกว่า 175,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์, พลังงานสะอาด, และเทคโนโลยีทางทหาร โดยเฉพาะในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ AI และ EV

    จีนซึ่งครองตลาดแร่หายากมากกว่า 90% ของการแปรรูปทั่วโลก เสนอให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคแก่มาเลเซียในการพัฒนาโรงงานแปรรูป แต่มีเงื่อนไขสำคัญ: ต้องร่วมมือเฉพาะกับรัฐวิสาหกิจของมาเลเซียเท่านั้น เพื่อป้องกันการรั่วไหลของเทคโนโลยีไปยังตะวันตก

    ข้อเสนอของจีนเกิดขึ้นหลังจากที่ปิดกั้นสหรัฐฯ จากการเข้าถึงแร่หายาก และเริ่มใช้มาตรการควบคุมการส่งออกแม่เหล็กถาวรและแร่บางชนิด ทำให้มาเลเซียกลายเป็น “ตัวกลาง” ที่ทั้งจีนและสหรัฐฯ ต้องการดึงเข้าฝั่ง

    แม้จะยังไม่มีการลงนามข้อตกลงอย่างเป็นทางการ แต่รัฐบาลมาเลเซียยืนยันว่าจะพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเน้นความเป็นกลางและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศ เช่น การสร้างโรงงานแปรรูป, การจ้างงานกว่า 4,000 ตำแหน่ง, และการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

    ขณะเดียวกัน มาเลเซียก็ยังเจรจากับสหรัฐฯ โดยเสนอว่าจะใช้มาตรฐานเดียวกันกับทุกฝ่าย และใช้ทรัพยากรที่ค้นพบเป็น “แต้มต่อ” ในการต่อรองเรื่องภาษีนำเข้าและการซื้อเทคโนโลยีจากอเมริกา

    ข้อเสนอจากจีน
    เสนอความช่วยเหลือทางเทคนิคในการแปรรูปแร่หายาก
    จำกัดความร่วมมือเฉพาะกับรัฐวิสาหกิจของมาเลเซีย
    หวังป้องกันการรั่วไหลของเทคโนโลยีไปยังตะวันตก

    สถานะของแร่หายากในมาเลเซีย
    พบแหล่งแร่หายากมูลค่ากว่า 175,000 ล้านดอลลาร์
    คาดว่าจะสร้างงานกว่า 4,000 ตำแหน่ง
    มีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการแปรรูปนอกประเทศจีน

    การเจรจากับสหรัฐฯ
    มาเลเซียเสนอความเป็นกลางและมาตรฐานเดียวกับทุกฝ่าย
    ใช้ทรัพยากรเป็นแต้มต่อในการต่อรองเรื่องภาษีนำเข้า
    สหรัฐฯ กำลังหาทางลดการพึ่งพาจีนใน supply chain

    โครงสร้างอุตสาหกรรมในประเทศ
    Lynas Malaysia เป็นโรงงานแปรรูปแร่หายากที่ใหญ่ที่สุดนอกจีน
    มีแผนสร้างโรงงานใหม่และดึงดูดนักลงทุนจากเกาหลีใต้และออสเตรเลีย
    รัฐบาลวางแผนพัฒนาโรงงานแปรรูปในหลายรัฐ เช่น เประและกลันตัน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/after-locking-out-the-u-s-china-offers-rare-earth-development-assistance-to-malaysia-insists-on-partnering-with-state-owned-companies-only
    🎙️ เรื่องเล่าจากเหมืองมูลค่า 175,000 ล้านดอลลาร์: เมื่อมาเลเซียกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของมหาอำนาจด้านแร่หายาก ในปี 2025 มาเลเซียค้นพบแหล่งแร่หายากขนาดมหึมา มูลค่าประเมินกว่า 175,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์, พลังงานสะอาด, และเทคโนโลยีทางทหาร โดยเฉพาะในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ AI และ EV จีนซึ่งครองตลาดแร่หายากมากกว่า 90% ของการแปรรูปทั่วโลก เสนอให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคแก่มาเลเซียในการพัฒนาโรงงานแปรรูป แต่มีเงื่อนไขสำคัญ: ต้องร่วมมือเฉพาะกับรัฐวิสาหกิจของมาเลเซียเท่านั้น เพื่อป้องกันการรั่วไหลของเทคโนโลยีไปยังตะวันตก ข้อเสนอของจีนเกิดขึ้นหลังจากที่ปิดกั้นสหรัฐฯ จากการเข้าถึงแร่หายาก และเริ่มใช้มาตรการควบคุมการส่งออกแม่เหล็กถาวรและแร่บางชนิด ทำให้มาเลเซียกลายเป็น “ตัวกลาง” ที่ทั้งจีนและสหรัฐฯ ต้องการดึงเข้าฝั่ง แม้จะยังไม่มีการลงนามข้อตกลงอย่างเป็นทางการ แต่รัฐบาลมาเลเซียยืนยันว่าจะพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเน้นความเป็นกลางและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศ เช่น การสร้างโรงงานแปรรูป, การจ้างงานกว่า 4,000 ตำแหน่ง, และการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ขณะเดียวกัน มาเลเซียก็ยังเจรจากับสหรัฐฯ โดยเสนอว่าจะใช้มาตรฐานเดียวกันกับทุกฝ่าย และใช้ทรัพยากรที่ค้นพบเป็น “แต้มต่อ” ในการต่อรองเรื่องภาษีนำเข้าและการซื้อเทคโนโลยีจากอเมริกา ✅ ข้อเสนอจากจีน ➡️ เสนอความช่วยเหลือทางเทคนิคในการแปรรูปแร่หายาก ➡️ จำกัดความร่วมมือเฉพาะกับรัฐวิสาหกิจของมาเลเซีย ➡️ หวังป้องกันการรั่วไหลของเทคโนโลยีไปยังตะวันตก ✅ สถานะของแร่หายากในมาเลเซีย ➡️ พบแหล่งแร่หายากมูลค่ากว่า 175,000 ล้านดอลลาร์ ➡️ คาดว่าจะสร้างงานกว่า 4,000 ตำแหน่ง ➡️ มีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการแปรรูปนอกประเทศจีน ✅ การเจรจากับสหรัฐฯ ➡️ มาเลเซียเสนอความเป็นกลางและมาตรฐานเดียวกับทุกฝ่าย ➡️ ใช้ทรัพยากรเป็นแต้มต่อในการต่อรองเรื่องภาษีนำเข้า ➡️ สหรัฐฯ กำลังหาทางลดการพึ่งพาจีนใน supply chain ✅ โครงสร้างอุตสาหกรรมในประเทศ ➡️ Lynas Malaysia เป็นโรงงานแปรรูปแร่หายากที่ใหญ่ที่สุดนอกจีน ➡️ มีแผนสร้างโรงงานใหม่และดึงดูดนักลงทุนจากเกาหลีใต้และออสเตรเลีย ➡️ รัฐบาลวางแผนพัฒนาโรงงานแปรรูปในหลายรัฐ เช่น เประและกลันตัน https://www.tomshardware.com/tech-industry/after-locking-out-the-u-s-china-offers-rare-earth-development-assistance-to-malaysia-insists-on-partnering-with-state-owned-companies-only
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากคูปองพลังประมวลผล: เมื่อรัฐบาลจีนแจกเครดิตให้บริษัทเล็ก ๆ ใช้ GPU ระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์

    ในปี 2025 รัฐบาลจีนเริ่มขยายโครงการ “คูปองพลังประมวลผล” ไปยังหลายเมืองทั่วประเทศ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู เซินเจิ้น หนิงโป และซานตง โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) เข้าถึงการฝึกโมเดล AI ได้ในราคาที่ถูกลงอย่างมาก

    ตัวอย่างเช่น เซี่ยงไฮ้จัดสรรงบประมาณกว่า 600 ล้านหยวน (~84 ล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนค่าเช่า GPU สูงสุดถึง 80% สำหรับการฝึกโมเดล AI และยังมีอีก 100 ล้านหยวนสำหรับการฝึก LLM โดยเฉพาะ ส่วนเฉิงตูซึ่งเป็นเมืองนำร่องตั้งแต่ปี 2023 ก็ขยายโครงการไปยังสถาบันวิจัยด้วยงบอีก 100 ล้านหยวน

    คูปองเหล่านี้สามารถนำไปใช้กับศูนย์ข้อมูลระดับชาติหรือท้องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตะวันตกของจีนตามยุทธศาสตร์ “Eastern Data, Western Computing” ที่ใช้ไฟฟ้าราคาถูกในตะวันตกเพื่อรองรับความต้องการจากเมืองชายฝั่ง

    โครงการนี้เกิดจากนโยบาย “Implementation Opinions on Promoting the High-Quality Development of the Data Labeling Industry” ที่ประกาศในเดือนธันวาคม 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุน R&D ของบริษัทเล็ก และเพิ่มการใช้ประโยชน์จากศูนย์ข้อมูลที่ยังว่างอยู่มากถึง 70–80%

    โครงการคูปองพลังประมวลผลของจีน
    แจกคูปองให้ SMEs ใช้ GPU สำหรับฝึกโมเดล AI ในราคาถูก
    ครอบคลุมเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู เซินเจิ้น หนิงโป ซานตง
    เซี่ยงไฮ้ให้ส่วนลดสูงสุด 80% และมีงบเฉพาะสำหรับ LLM training

    เป้าหมายของโครงการ
    ลดต้นทุน R&D สำหรับบริษัทขนาดเล็ก
    เพิ่มการใช้ประโยชน์จากศูนย์ข้อมูลที่ยังว่างอยู่
    สนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรม AI ภายในประเทศ

    โครงสร้างพื้นฐานที่รองรับ
    ใช้ศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ตะวันตกของจีนตามยุทธศาสตร์ “Eastern Data, Western Computing”
    ศูนย์ข้อมูลบางแห่งมีการใช้งานเพียง 20–30% ก่อนโครงการนี้
    มีแผนสร้างเครือข่าย unified compute ระดับประเทศเพื่อกระจายโหลด

    การขยายตัวของโครงการ
    เฉิงตูขยายคูปองไปยังสถาบันวิจัยด้วยงบ 100 ล้านหยวน
    ซานตงจัดสรรงบเบื้องต้น 30 ล้านหยวน และเตรียมเพิ่มอีก 1 พันล้านหยวน
    ปักกิ่งเริ่มเปิดรับสมัครผู้ขอรับคูปองแล้ว

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/china-subsidizes-ai-computing-for-small-domestic-companies-computing-power-vouchers-spread-across-multiple-chinese-cities
    🎙️ เรื่องเล่าจากคูปองพลังประมวลผล: เมื่อรัฐบาลจีนแจกเครดิตให้บริษัทเล็ก ๆ ใช้ GPU ระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ในปี 2025 รัฐบาลจีนเริ่มขยายโครงการ “คูปองพลังประมวลผล” ไปยังหลายเมืองทั่วประเทศ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู เซินเจิ้น หนิงโป และซานตง โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) เข้าถึงการฝึกโมเดล AI ได้ในราคาที่ถูกลงอย่างมาก ตัวอย่างเช่น เซี่ยงไฮ้จัดสรรงบประมาณกว่า 600 ล้านหยวน (~84 ล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนค่าเช่า GPU สูงสุดถึง 80% สำหรับการฝึกโมเดล AI และยังมีอีก 100 ล้านหยวนสำหรับการฝึก LLM โดยเฉพาะ ส่วนเฉิงตูซึ่งเป็นเมืองนำร่องตั้งแต่ปี 2023 ก็ขยายโครงการไปยังสถาบันวิจัยด้วยงบอีก 100 ล้านหยวน คูปองเหล่านี้สามารถนำไปใช้กับศูนย์ข้อมูลระดับชาติหรือท้องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตะวันตกของจีนตามยุทธศาสตร์ “Eastern Data, Western Computing” ที่ใช้ไฟฟ้าราคาถูกในตะวันตกเพื่อรองรับความต้องการจากเมืองชายฝั่ง โครงการนี้เกิดจากนโยบาย “Implementation Opinions on Promoting the High-Quality Development of the Data Labeling Industry” ที่ประกาศในเดือนธันวาคม 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุน R&D ของบริษัทเล็ก และเพิ่มการใช้ประโยชน์จากศูนย์ข้อมูลที่ยังว่างอยู่มากถึง 70–80% ✅ โครงการคูปองพลังประมวลผลของจีน ➡️ แจกคูปองให้ SMEs ใช้ GPU สำหรับฝึกโมเดล AI ในราคาถูก ➡️ ครอบคลุมเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู เซินเจิ้น หนิงโป ซานตง ➡️ เซี่ยงไฮ้ให้ส่วนลดสูงสุด 80% และมีงบเฉพาะสำหรับ LLM training ✅ เป้าหมายของโครงการ ➡️ ลดต้นทุน R&D สำหรับบริษัทขนาดเล็ก ➡️ เพิ่มการใช้ประโยชน์จากศูนย์ข้อมูลที่ยังว่างอยู่ ➡️ สนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรม AI ภายในประเทศ ✅ โครงสร้างพื้นฐานที่รองรับ ➡️ ใช้ศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ตะวันตกของจีนตามยุทธศาสตร์ “Eastern Data, Western Computing” ➡️ ศูนย์ข้อมูลบางแห่งมีการใช้งานเพียง 20–30% ก่อนโครงการนี้ ➡️ มีแผนสร้างเครือข่าย unified compute ระดับประเทศเพื่อกระจายโหลด ✅ การขยายตัวของโครงการ ➡️ เฉิงตูขยายคูปองไปยังสถาบันวิจัยด้วยงบ 100 ล้านหยวน ➡️ ซานตงจัดสรรงบเบื้องต้น 30 ล้านหยวน และเตรียมเพิ่มอีก 1 พันล้านหยวน ➡️ ปักกิ่งเริ่มเปิดรับสมัครผู้ขอรับคูปองแล้ว https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/china-subsidizes-ai-computing-for-small-domestic-companies-computing-power-vouchers-spread-across-multiple-chinese-cities
    0 Comments 0 Shares 54 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากการแลกเปลี่ยนในเงา: เมื่อคริปโตกลายเป็นสกุลเงินหลักในประเทศที่ถูกตัดขาดจากระบบการเงินโลก

    ในปี 2025 เวเนซุเอลายังคงเผชิญกับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการจำกัดการส่งออกน้ำมัน ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศ ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐขาดแคลนอย่างหนัก และธุรกิจเอกชนไม่สามารถซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศได้ตามปกติ

    รัฐบาลเวเนซุเอลาจึงเริ่ม “เปิดช่องทางใหม่” โดยอนุญาตให้ใช้คริปโตเคอร์เรนซีที่ผูกกับดอลลาร์ เช่น USDT (Tether) ในการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างเอกชน โดยมีธนาคารบางแห่งที่ได้รับอนุญาตให้ขาย USDT แลกกับโบลิวาร์ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐ

    บริษัทน้ำมันแห่งชาติ PDVSA ก็เริ่มเปลี่ยนการรับชำระเงินจากลูกค้าต่างประเทศมาเป็น USDT ตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านการชำระเงินผ่านระบบธนาคาร ซึ่งถูกควบคุมโดยสหรัฐฯ

    แม้จะไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจากธนาคารกลางหรือกระทรวงการคลัง แต่รองประธานาธิบดี Delcy Rodriguez ได้กล่าวในที่ประชุมกับภาคธุรกิจว่า “เรากำลังใช้กลไกที่ไม่เป็นทางการในการบริหารตลาดแลกเปลี่ยน” ซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวของการใช้คริปโตในภาคเอกชน

    ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ในประเทศระบุว่า มีการขายคริปโตให้กับภาคเอกชนมากถึง 119 ล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคมเพียงเดือนเดียว ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของคริปโตในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ

    การเปลี่ยนผ่านจากดอลลาร์สู่คริปโต
    รัฐบาลเวเนซุเอลาอนุญาตให้ใช้ USDT ในการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างเอกชน
    ธนาคารบางแห่งสามารถขาย USDT แลกกับโบลิวาร์ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ได้รับอนุมัติ
    เป็นการตอบสนองต่อการขาดแคลนดอลลาร์จากการคว่ำบาตรด้านน้ำมัน

    บทบาทของ PDVSA และภาคธุรกิจ
    บริษัทน้ำมันแห่งชาติ PDVSA เริ่มรับชำระเงินเป็น USDT ตั้งแต่ปีที่แล้ว
    ธุรกิจเอกชนใช้ USDT เพื่อซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศ
    การใช้คริปโตช่วยให้เศรษฐกิจยังคงดำเนินต่อได้แม้ถูกตัดขาดจากระบบธนาคาร

    การยอมรับเชิงนโยบายโดยรัฐบาล
    รองประธานาธิบดีกล่าวถึง “กลไกที่ไม่เป็นทางการ” ในการบริหารตลาดแลกเปลี่ยน
    ไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจากธนาคารกลางหรือกระทรวงการคลัง
    การใช้คริปโตยังจำกัดเฉพาะธุรกิจที่ได้รับอนุญาตและมี wallet ที่ผ่านการตรวจสอบ

    ข้อมูลจากภาควิเคราะห์
    มีการขายคริปโตให้กับภาคเอกชนมากถึง 119 ล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม
    แสดงถึงการขยายตัวของคริปโตในระบบเศรษฐกิจของเวเนซุเอลา
    เป็นการปรับตัวเชิงโครงสร้างเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดจากต่างประเทศ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/03/with-dollars-scarce-venezuela-currency-exchanges-turn-to-crypto
    🎙️ เรื่องเล่าจากการแลกเปลี่ยนในเงา: เมื่อคริปโตกลายเป็นสกุลเงินหลักในประเทศที่ถูกตัดขาดจากระบบการเงินโลก ในปี 2025 เวเนซุเอลายังคงเผชิญกับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการจำกัดการส่งออกน้ำมัน ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศ ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐขาดแคลนอย่างหนัก และธุรกิจเอกชนไม่สามารถซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศได้ตามปกติ รัฐบาลเวเนซุเอลาจึงเริ่ม “เปิดช่องทางใหม่” โดยอนุญาตให้ใช้คริปโตเคอร์เรนซีที่ผูกกับดอลลาร์ เช่น USDT (Tether) ในการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างเอกชน โดยมีธนาคารบางแห่งที่ได้รับอนุญาตให้ขาย USDT แลกกับโบลิวาร์ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐ บริษัทน้ำมันแห่งชาติ PDVSA ก็เริ่มเปลี่ยนการรับชำระเงินจากลูกค้าต่างประเทศมาเป็น USDT ตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านการชำระเงินผ่านระบบธนาคาร ซึ่งถูกควบคุมโดยสหรัฐฯ แม้จะไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจากธนาคารกลางหรือกระทรวงการคลัง แต่รองประธานาธิบดี Delcy Rodriguez ได้กล่าวในที่ประชุมกับภาคธุรกิจว่า “เรากำลังใช้กลไกที่ไม่เป็นทางการในการบริหารตลาดแลกเปลี่ยน” ซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวของการใช้คริปโตในภาคเอกชน ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ในประเทศระบุว่า มีการขายคริปโตให้กับภาคเอกชนมากถึง 119 ล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคมเพียงเดือนเดียว ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของคริปโตในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ✅ การเปลี่ยนผ่านจากดอลลาร์สู่คริปโต ➡️ รัฐบาลเวเนซุเอลาอนุญาตให้ใช้ USDT ในการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างเอกชน ➡️ ธนาคารบางแห่งสามารถขาย USDT แลกกับโบลิวาร์ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ได้รับอนุมัติ ➡️ เป็นการตอบสนองต่อการขาดแคลนดอลลาร์จากการคว่ำบาตรด้านน้ำมัน ✅ บทบาทของ PDVSA และภาคธุรกิจ ➡️ บริษัทน้ำมันแห่งชาติ PDVSA เริ่มรับชำระเงินเป็น USDT ตั้งแต่ปีที่แล้ว ➡️ ธุรกิจเอกชนใช้ USDT เพื่อซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศ ➡️ การใช้คริปโตช่วยให้เศรษฐกิจยังคงดำเนินต่อได้แม้ถูกตัดขาดจากระบบธนาคาร ✅ การยอมรับเชิงนโยบายโดยรัฐบาล ➡️ รองประธานาธิบดีกล่าวถึง “กลไกที่ไม่เป็นทางการ” ในการบริหารตลาดแลกเปลี่ยน ➡️ ไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจากธนาคารกลางหรือกระทรวงการคลัง ➡️ การใช้คริปโตยังจำกัดเฉพาะธุรกิจที่ได้รับอนุญาตและมี wallet ที่ผ่านการตรวจสอบ ✅ ข้อมูลจากภาควิเคราะห์ ➡️ มีการขายคริปโตให้กับภาคเอกชนมากถึง 119 ล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม ➡️ แสดงถึงการขยายตัวของคริปโตในระบบเศรษฐกิจของเวเนซุเอลา ➡️ เป็นการปรับตัวเชิงโครงสร้างเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดจากต่างประเทศ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/03/with-dollars-scarce-venezuela-currency-exchanges-turn-to-crypto
    WWW.THESTAR.COM.MY
    With dollars scarce, Venezuela currency exchanges turn to crypto
    (Reuters) -Venezuela's government is slowly allowing the use of dollar-tied cryptocurrencies in currency exchanges for the private sector, a dozen sources said, as U.S. restrictions on oil exports reduce available foreign currency.
    0 Comments 0 Shares 48 Views 0 Reviews
  • ภาพเหตุการณ์ทหารยูเครนแสร้งทำเป็น "มิตร" กับทหารรัสเซีย 2 นาย ก่อนที่จะแอบสังหารทหารรัสเซียช่วงเผลอ

    สงคราม หากคุณพลาด นั่นหมายถึงชีวิต!
    ภาพเหตุการณ์ทหารยูเครนแสร้งทำเป็น "มิตร" กับทหารรัสเซีย 2 นาย ก่อนที่จะแอบสังหารทหารรัสเซียช่วงเผลอ สงคราม หากคุณพลาด นั่นหมายถึงชีวิต!
    0 Comments 0 Shares 310 Views 0 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    ตอนที่ 5
    อเมริกาสมเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง สิงห์โตซุ่มจริง ๆ ขณะที่หน้าฉากยังไม่ชัดเจน ว่าจะ
เล่นเรื่องอะไร มีข่าวหลุดออกมาจาก Pentagon เมื่อ ค.ศ. 2012 ว่าอเมริกามีแผนจะปรับโฉมหน้าของฐานทัพ ที่มีอยู่ต่างประเทศเสียใหม่ เรียกว่าทำ face lift อัพหน้ากันใหม่ ตามยุทธการ “กบกระโดด” เพราะการมีฐานทัพกระจายทั่วโลก เป็นปัญหาทั้งด้านกระเป๋าที่ยังรั่วอยู่ และเป็นเป้าสายตาของชาวโลก ขยับตัวทีเขารู้แผนกันหมดทั้งคู่หู คู่แข่ง
สมัยนายบุชตัวลูก ก็ปวดขมอง คิดจะปิดฐานทัพไปสัก 1 ใน 3 แต่ตัดสินใจไม่ขาด จะเปิดอันไหน ปิดอันไหน คิดยังไม่ทันตก ดันหมดเทอมซะก่อน
มาถึงนายโอบามา ปัญหานี้จะทู่ซี้ต่อไป อาจจะไม่ได้ไปนั่งเท่ในทำเนียบขาว หรือถ้าได้นั่ง ก็อยู่ไม่ยาว ตอนหาเสียงเลยเล่นมุก ท่องมันไปทุกเวที Change Change Change
    เอาเข้าจริง เป็นพี่เบิ้มนักล่าถ้าเก็บเครื่องมือล่าทิ้งลงถังขยะ แล้วจะไปล่าเหยื่อได้ยังไง แบบนี้ เพื่อนซี้ เพื่อนกิน ลูกหาบก็หลบหน้า ลี้กายหายไปหมด เลยต้องเรียกเด็ก ๆ
เฮ้ย ! มาทำการบ้านใหม่โว้ย !
ตกลงนักล่ามันเปลี่ยนสันดานไหม มัน Change ไหม ?
    กบกระโดดครับนาย กบกระโดดคือคำตอบ กบจะกระโดดในสระกว้างต้องมีใบบัวรองรับ
สระกว้างใหญ่ มีใบบัวเต็มไปหมด คนมองก็ไม่รู้สึกแปลก
แต่ถ้าดันสร้างเป็น swimming pool ขนาดโอลิมปิก กบจะกระโดดไหวหรือ กลายเป็นกบพุ่งหลาวจมไม่โผล่ละซิ ส่วนที่คิดจะเอาใบบัวไปลอย ใน swimming pool น่ะ แบบนั้น มันฉากละครทีวีช่องคุณหญิงคุณชายนะ Hollywood เขาไม่ทำกัน
มันต้องทำให้เนียน ๆ
    เพราะฉะนั้นเอาฐานทัพเก่า ๆ มาดัดแปลงเสียใหม่ ไม่ให้คนสังเกต หรือแถบไหน (ของ
ประเทศคนอื่น) ที่มันเล็ก ๆ ไม่เด่นก็ไปแอบสร้าง เอาให้มันกลมกลืนกับธรรมชาติ แต่แฝงด้วยอาวุธทันสมัยติดไว้ให้เพียบ แบบนี้ก็เรียบร้อย นักล่าบอกน่าสนใจ (มาก)
    เอะ ! แล้วนี่ ที่นักล่าเขาหลอกให้เราเฝ้าแต่อู่ตะเภา แล้วถ้าเขาไปสร้างใบบัวให้กบมัน
กระโดดแถวชุมพร นี่สมันน้อยจะรู้ไหมนะ ! ?
    ด้วยยุทธศาสตร์กบกระโดดบนใบบัว อเมริกาสามารถสร้างฐานทัพให้ กระจายแบบโรยไว้ทั่ว (peppering) บริเวณ Asia Pacific ถ้าอเมริกาทำได้จริง มันก็ไม่ต่างกับการควบคุมจีนทางอ้อม (containment) และก็เหมือนเป็นการเอาฉากสงครามเย็น สมัยที่อเมริกาจัดการกับสหภาพโซเวียตมาเล่นใหม่ !
    ลองคิดดูช่วง 2-3 ปีนี้ อเมริกาเดินแผนอย่างไร กับทุกประเทศในภูมิภาคนี้ ไม่มีหลุด
สักเม็ด เค้าของสงครามโลกครั้งที่ 3 พอมองได้เห็นลาง ๆ
    – ออสเตรเลีย : อเมริกา เจรจาที่จะร่วมใช้ฐานทัพที่ Darwin และกำลังเริ่มแผนใช้
drone (เครื่องบินประเภทไร้คนขับ บังคับด้วยเรดาร์) โดยใช้ฐานทัพของออสเตรเลียที่เกาะ Cocos เป็นฐานพัก รวมทั้งการจัดกองกำลังเตรียมพร้อมไว้ แถว Brisbane และ Perth ด้วย
    – ราชอาณาจักรไทย : แน่นอนจะใช้อู่ตะเภา หรือสร้างใบบัวให้กบกระโดดที่ชุมพร หรือ
ที่ไหนอีก ตามสัญญาผูกคอทาส ทำได้สารพัด
    – ฟิลิปปินส์ : ตกลงไปแล้วให้อเมริกาฟื้นสนามบิน Clark และฐานทัพเรือ Subic Bay ที่ปิดไปชั่วคราวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 กว่า ๆ (แต่หลังจากปี ค.ศ. 2002 ก็ยอมให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษของอเมริกาเข้ามาใช้ใหม่บางกรณี !)
    – เวียตนาม : ทำสัญญาตกลงให้อเมริกาเพิ่มกองเรือ เข้าไปใช้ท่าเรือของเวียตนาม และ
จะขยายท่าเรือ เพื่อให้เฉพาะกองทัพเรืออเมริกาจอด
    – เกาะกวม : อเมริกาเตรียมสร้าง runway เพิ่มที่เกาะ Tinian ใกล้กับเกาะกวม และเตรียมสร้างฐานทัพ และ runwayสำหรับเครื่องบินลง ที่เกาะไซปัน (Saipan) ที่ห่างจากเกาะกวมไปประมาณ190 กม. เพื่อเป็นฐานทัพรองรับ หากกวมโดนโจมตี
    – มาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไน : อเมริกาเจรจาที่จะสร้างฐานทัพเพิ่ม
    – เกาหลีใต้ : ตกลงกับอเมริกาที่จะสร้างฐานทัพเพิ่ม ให้อเมริกาใช้ที่เกาะ Jeju
    – อินเดีย : อเมริกาทำข้อตกลงเพิ่มความร่วมมือทางการทหารไปแล้ว
    นี่ยังไม่ได้นับฐานทัพอีกประมาณ 200 แห่ง ที่อเมริกามีกระจายอยู่ แล้วที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เกาะกวม Diego Garcia และฮาวาย ถ้าใบบัวงอกทั้งหมดนี้ อาเฮียแทบไม่มีทางออกทะเล ต้องใช้บินอย่างเดียว (ฮา !)
    ยุทธศาสตร์กบกระโดด บนใบบัวนี้ แสดงให้เห็นว่าลึก ๆ อเมริกาคิดอะไรอยู่ เป็นแผนล่า
เหยื่อของนักล่าตัวจริง ในเมื่อการสร้างฐานทัพใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ นอกจากราคาแพงแล้ว ยังเป็นทั้งเป้าสายตาและเป้าอาวุธ แต่ถ้าแอบสร้างฐานเล็ก ๆ แบบใบบัว ให้กบกระโดด หลาย ๆแห่ง ทำได้เร็ว และไม่สร้างความอึกทึกให้โลกและเจ้าของบ้าน (ที่นักล่าหลอกไว้) ให้รู้ตัว นักยุทธศาสตร์การรบบอกว่า ฐานทัพรุ่นใบบัวนี้ ถ้าติดเครื่องมือทันสมัยให้เพียบ ใช้ควบคู่กับหน่วยรบพิเศษ (special operation forces) กบรุ่นใหม่เคลื่อนที่เร็ว แบบกบมหัศจรรย์ กับการใช้ droneสอดแนมและข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพ (อย่าลืมว่าหน่วยปฎิบัติการในภาวะภัยพิบัตินั้น เป็นงาน
พรางตัวที่ดีที่สุด ของกองทัพในการทำงานข่าวกรอง) ร่วมกับการปฎิบัติทางโลก Cyber และมีการร่วมมือระหว่างกองทัพ กับหน่วยงานพลเรือนอย่างดี คุณสามารถทำการปฎิวัติ หรือบุกยึดเมืองใด หรือทำการรบในยุทธภูมิใดก็ได้ผลเกินคาด รวดเร็วกว่าการใช้กองทัพใหญ่ ๆ ที่เคลื่อนตัวอย่างอุ้ยอ้าย มันหมดสมัยแล้ว !
    อเมริกาปรับปรุงฐานทัพจากการขยายหรือสร้างฐานทัพใหญ่ เป็นเตรียมการสร้างฐานทัพรูปแบบใบบัว (Lily Pad) เพื่อให้กบกระโดไทั่ว แค่นั้นยังไม่พอ เพื่อให้การล่าเหยื่อเบ็ดเสร็จสมใจ อเมริกา จึงปรับปรุงการกระโดดของกบด้วย โดยแบ่งซอยกองกำลังออกมาเรียกว่า หน่วยปฎิบัติการพิเศษ
(เหมือนชายชุดดำนะครับ เอ๊ะ ! หน่วยเดียวกันหรือเปล่า ?!) Special Operation Forces (SOF)
(หรือมันเอาอย่างกัน หวังว่าไม่ถึงขนาดฝึกให้กันเลยนะ !)
    SOF นี้ เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1980 เมื่อเจ้าหน้าที่สถานฑูตอเมริกาถูกจับเป็นตัวประกันที่อิหร่าน (ก็ผลงานของนักล่าเอง !) ทำให้ตัวประกันตายไป 8 คน
อเมริกาแค้นจัด ตั้งหน่วย Special Operation Command (SOCOM) ขึ้นมา
โดยคัดหัวกะทิมาจากหน่วย Seals, Rangers, Special Operation Aviators และ Green Beret มาฝึกหนัก จริง ๆ ก็คือฝึกเป็น Rambo เหมือนในหนังน่ะ
พวก SOF นี้ ถูกใช้ให้ไปปฎิบัติการลับ ในที่ต่าง ๆ ที่เป็นความลับ
มีรายงานว่าน่าจะมี SOF ประมาณกว่า 70,000 คนในปี ค.ศ. 2014 กระจายอยู่ทั่วโลก ปฎิบัติการอยู่ในต่างประเทศ ประมาณ 70-80 ประเทศ เช่น ลิเบีย โซมาเลีย อาฟกานิสถาน ปากีสถาน หลายประเทศในอาหรับ
และลาตินอเมริกา และเอเซีย และยุโรป ฯลฯ
    สรุปแล้ว การจัดการให้มีฐานทัพแบบใบบัว (Lily Pad) และ กองกำลังแบบ SOF ตามยุทธการกบกระโดด อยู่ในบ้านเมืองใคร อเมริกาบอกว่า มันก็เหมือนเราไปอยู่ในบ้านนั้น (ยึด!) เรียบร้อยแล้วล่ะ (de facto presence) ดังนั้นเราจะต้องให้มี ฐานทัพใบบัวนี้ให้มากที่สุดให้ได้ (lots and lots of Lily pad bases!)

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” ตอนที่ 5 อเมริกาสมเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง สิงห์โตซุ่มจริง ๆ ขณะที่หน้าฉากยังไม่ชัดเจน ว่าจะ
เล่นเรื่องอะไร มีข่าวหลุดออกมาจาก Pentagon เมื่อ ค.ศ. 2012 ว่าอเมริกามีแผนจะปรับโฉมหน้าของฐานทัพ ที่มีอยู่ต่างประเทศเสียใหม่ เรียกว่าทำ face lift อัพหน้ากันใหม่ ตามยุทธการ “กบกระโดด” เพราะการมีฐานทัพกระจายทั่วโลก เป็นปัญหาทั้งด้านกระเป๋าที่ยังรั่วอยู่ และเป็นเป้าสายตาของชาวโลก ขยับตัวทีเขารู้แผนกันหมดทั้งคู่หู คู่แข่ง
สมัยนายบุชตัวลูก ก็ปวดขมอง คิดจะปิดฐานทัพไปสัก 1 ใน 3 แต่ตัดสินใจไม่ขาด จะเปิดอันไหน ปิดอันไหน คิดยังไม่ทันตก ดันหมดเทอมซะก่อน
มาถึงนายโอบามา ปัญหานี้จะทู่ซี้ต่อไป อาจจะไม่ได้ไปนั่งเท่ในทำเนียบขาว หรือถ้าได้นั่ง ก็อยู่ไม่ยาว ตอนหาเสียงเลยเล่นมุก ท่องมันไปทุกเวที Change Change Change เอาเข้าจริง เป็นพี่เบิ้มนักล่าถ้าเก็บเครื่องมือล่าทิ้งลงถังขยะ แล้วจะไปล่าเหยื่อได้ยังไง แบบนี้ เพื่อนซี้ เพื่อนกิน ลูกหาบก็หลบหน้า ลี้กายหายไปหมด เลยต้องเรียกเด็ก ๆ
เฮ้ย ! มาทำการบ้านใหม่โว้ย !
ตกลงนักล่ามันเปลี่ยนสันดานไหม มัน Change ไหม ? กบกระโดดครับนาย กบกระโดดคือคำตอบ กบจะกระโดดในสระกว้างต้องมีใบบัวรองรับ
สระกว้างใหญ่ มีใบบัวเต็มไปหมด คนมองก็ไม่รู้สึกแปลก
แต่ถ้าดันสร้างเป็น swimming pool ขนาดโอลิมปิก กบจะกระโดดไหวหรือ กลายเป็นกบพุ่งหลาวจมไม่โผล่ละซิ ส่วนที่คิดจะเอาใบบัวไปลอย ใน swimming pool น่ะ แบบนั้น มันฉากละครทีวีช่องคุณหญิงคุณชายนะ Hollywood เขาไม่ทำกัน
มันต้องทำให้เนียน ๆ เพราะฉะนั้นเอาฐานทัพเก่า ๆ มาดัดแปลงเสียใหม่ ไม่ให้คนสังเกต หรือแถบไหน (ของ
ประเทศคนอื่น) ที่มันเล็ก ๆ ไม่เด่นก็ไปแอบสร้าง เอาให้มันกลมกลืนกับธรรมชาติ แต่แฝงด้วยอาวุธทันสมัยติดไว้ให้เพียบ แบบนี้ก็เรียบร้อย นักล่าบอกน่าสนใจ (มาก) เอะ ! แล้วนี่ ที่นักล่าเขาหลอกให้เราเฝ้าแต่อู่ตะเภา แล้วถ้าเขาไปสร้างใบบัวให้กบมัน
กระโดดแถวชุมพร นี่สมันน้อยจะรู้ไหมนะ ! ? ด้วยยุทธศาสตร์กบกระโดดบนใบบัว อเมริกาสามารถสร้างฐานทัพให้ กระจายแบบโรยไว้ทั่ว (peppering) บริเวณ Asia Pacific ถ้าอเมริกาทำได้จริง มันก็ไม่ต่างกับการควบคุมจีนทางอ้อม (containment) และก็เหมือนเป็นการเอาฉากสงครามเย็น สมัยที่อเมริกาจัดการกับสหภาพโซเวียตมาเล่นใหม่ ! ลองคิดดูช่วง 2-3 ปีนี้ อเมริกาเดินแผนอย่างไร กับทุกประเทศในภูมิภาคนี้ ไม่มีหลุด
สักเม็ด เค้าของสงครามโลกครั้งที่ 3 พอมองได้เห็นลาง ๆ – ออสเตรเลีย : อเมริกา เจรจาที่จะร่วมใช้ฐานทัพที่ Darwin และกำลังเริ่มแผนใช้
drone (เครื่องบินประเภทไร้คนขับ บังคับด้วยเรดาร์) โดยใช้ฐานทัพของออสเตรเลียที่เกาะ Cocos เป็นฐานพัก รวมทั้งการจัดกองกำลังเตรียมพร้อมไว้ แถว Brisbane และ Perth ด้วย – ราชอาณาจักรไทย : แน่นอนจะใช้อู่ตะเภา หรือสร้างใบบัวให้กบกระโดดที่ชุมพร หรือ
ที่ไหนอีก ตามสัญญาผูกคอทาส ทำได้สารพัด – ฟิลิปปินส์ : ตกลงไปแล้วให้อเมริกาฟื้นสนามบิน Clark และฐานทัพเรือ Subic Bay ที่ปิดไปชั่วคราวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 กว่า ๆ (แต่หลังจากปี ค.ศ. 2002 ก็ยอมให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษของอเมริกาเข้ามาใช้ใหม่บางกรณี !) – เวียตนาม : ทำสัญญาตกลงให้อเมริกาเพิ่มกองเรือ เข้าไปใช้ท่าเรือของเวียตนาม และ
จะขยายท่าเรือ เพื่อให้เฉพาะกองทัพเรืออเมริกาจอด – เกาะกวม : อเมริกาเตรียมสร้าง runway เพิ่มที่เกาะ Tinian ใกล้กับเกาะกวม และเตรียมสร้างฐานทัพ และ runwayสำหรับเครื่องบินลง ที่เกาะไซปัน (Saipan) ที่ห่างจากเกาะกวมไปประมาณ190 กม. เพื่อเป็นฐานทัพรองรับ หากกวมโดนโจมตี – มาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไน : อเมริกาเจรจาที่จะสร้างฐานทัพเพิ่ม – เกาหลีใต้ : ตกลงกับอเมริกาที่จะสร้างฐานทัพเพิ่ม ให้อเมริกาใช้ที่เกาะ Jeju – อินเดีย : อเมริกาทำข้อตกลงเพิ่มความร่วมมือทางการทหารไปแล้ว นี่ยังไม่ได้นับฐานทัพอีกประมาณ 200 แห่ง ที่อเมริกามีกระจายอยู่ แล้วที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เกาะกวม Diego Garcia และฮาวาย ถ้าใบบัวงอกทั้งหมดนี้ อาเฮียแทบไม่มีทางออกทะเล ต้องใช้บินอย่างเดียว (ฮา !) ยุทธศาสตร์กบกระโดด บนใบบัวนี้ แสดงให้เห็นว่าลึก ๆ อเมริกาคิดอะไรอยู่ เป็นแผนล่า
เหยื่อของนักล่าตัวจริง ในเมื่อการสร้างฐานทัพใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ นอกจากราคาแพงแล้ว ยังเป็นทั้งเป้าสายตาและเป้าอาวุธ แต่ถ้าแอบสร้างฐานเล็ก ๆ แบบใบบัว ให้กบกระโดด หลาย ๆแห่ง ทำได้เร็ว และไม่สร้างความอึกทึกให้โลกและเจ้าของบ้าน (ที่นักล่าหลอกไว้) ให้รู้ตัว นักยุทธศาสตร์การรบบอกว่า ฐานทัพรุ่นใบบัวนี้ ถ้าติดเครื่องมือทันสมัยให้เพียบ ใช้ควบคู่กับหน่วยรบพิเศษ (special operation forces) กบรุ่นใหม่เคลื่อนที่เร็ว แบบกบมหัศจรรย์ กับการใช้ droneสอดแนมและข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพ (อย่าลืมว่าหน่วยปฎิบัติการในภาวะภัยพิบัตินั้น เป็นงาน
พรางตัวที่ดีที่สุด ของกองทัพในการทำงานข่าวกรอง) ร่วมกับการปฎิบัติทางโลก Cyber และมีการร่วมมือระหว่างกองทัพ กับหน่วยงานพลเรือนอย่างดี คุณสามารถทำการปฎิวัติ หรือบุกยึดเมืองใด หรือทำการรบในยุทธภูมิใดก็ได้ผลเกินคาด รวดเร็วกว่าการใช้กองทัพใหญ่ ๆ ที่เคลื่อนตัวอย่างอุ้ยอ้าย มันหมดสมัยแล้ว ! อเมริกาปรับปรุงฐานทัพจากการขยายหรือสร้างฐานทัพใหญ่ เป็นเตรียมการสร้างฐานทัพรูปแบบใบบัว (Lily Pad) เพื่อให้กบกระโดไทั่ว แค่นั้นยังไม่พอ เพื่อให้การล่าเหยื่อเบ็ดเสร็จสมใจ อเมริกา จึงปรับปรุงการกระโดดของกบด้วย โดยแบ่งซอยกองกำลังออกมาเรียกว่า หน่วยปฎิบัติการพิเศษ
(เหมือนชายชุดดำนะครับ เอ๊ะ ! หน่วยเดียวกันหรือเปล่า ?!) Special Operation Forces (SOF)
(หรือมันเอาอย่างกัน หวังว่าไม่ถึงขนาดฝึกให้กันเลยนะ !) SOF นี้ เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1980 เมื่อเจ้าหน้าที่สถานฑูตอเมริกาถูกจับเป็นตัวประกันที่อิหร่าน (ก็ผลงานของนักล่าเอง !) ทำให้ตัวประกันตายไป 8 คน
อเมริกาแค้นจัด ตั้งหน่วย Special Operation Command (SOCOM) ขึ้นมา
โดยคัดหัวกะทิมาจากหน่วย Seals, Rangers, Special Operation Aviators และ Green Beret มาฝึกหนัก จริง ๆ ก็คือฝึกเป็น Rambo เหมือนในหนังน่ะ
พวก SOF นี้ ถูกใช้ให้ไปปฎิบัติการลับ ในที่ต่าง ๆ ที่เป็นความลับ
มีรายงานว่าน่าจะมี SOF ประมาณกว่า 70,000 คนในปี ค.ศ. 2014 กระจายอยู่ทั่วโลก ปฎิบัติการอยู่ในต่างประเทศ ประมาณ 70-80 ประเทศ เช่น ลิเบีย โซมาเลีย อาฟกานิสถาน ปากีสถาน หลายประเทศในอาหรับ
และลาตินอเมริกา และเอเซีย และยุโรป ฯลฯ สรุปแล้ว การจัดการให้มีฐานทัพแบบใบบัว (Lily Pad) และ กองกำลังแบบ SOF ตามยุทธการกบกระโดด อยู่ในบ้านเมืองใคร อเมริกาบอกว่า มันก็เหมือนเราไปอยู่ในบ้านนั้น (ยึด!) เรียบร้อยแล้วล่ะ (de facto presence) ดังนั้นเราจะต้องให้มี ฐานทัพใบบัวนี้ให้มากที่สุดให้ได้ (lots and lots of Lily pad bases!) คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    ตอนที่ 4
    ยุทธศาสตร์ความมั่นคง National Security Strategy สำหรับปี ค.ศ. 2014 ยังไม่คลอดคาด ว่าจะคลอดประมาณเดือนเมษายน, พฤษภาคม แต่อย่างน้อย อเมริกาก็ใบ้หวยมาหลายครั้งแล้ว คือ
    – เมื่อกลางปี ค.ศ. 2012 อเมริกาบอกว่า จะมีการปรับกองกำลังของอเมริการะหว่าง
    แอตแลนติกกับแปซิฟิก จากที่เคยวางไว้ที่ 50:50 เป็น 40:60 แปลว่าให้น้ำหนักทางแปซิฟิก มากขึ้น
    – มาปลายปี ค.ศ. 2013 อเมริกาย้ำซ้ำว่า เราจะทำการปรับดุลยอำนาจในแถวเอเซีย
    แปซิฟิกเสียใหม่
    – พอต้นปี ค.ศ. 2014 มีข่าวปล่อยว่า อเมริกาอาจจะพิจารณาผ่อนคลายการคว่ำบาตรอิหร่าน แบบนี้เซียนการเมืองต่อรองกันน่าดู ฝ่ายที่เล่นว่าอเมริกาไม่พร้อมจะก่อศึก 2 ด้านพร้อมกัน รู้ข่าววงในหรือไง !
    มาดูฝ่ายเหล่าเสือร้ายลายก้างขวางคอกันบ้าง กำลังภายในภายนอก รวมกันแล้วน่า
    ตีมือตบ เป่านกหวีดให้แค่ไหน
    ด้านอิหร่าน ถ้ารวมตัวกับรัสเซีย ซีเรียและพวกที่มีแยะ แต่ยังไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัว
    ขณะนี้ ร่วมกันเล่นมวยหมู่ นักล่าก็จุกได้เหมือนกัน
    ส่วนด้านจีน ถ้ารวมกับกลุ่มเจ้าพ่อเซียงไฮ้ (Shanghai Corporation Organization ซึ่งมีรัสเซียรวมอยู่ด้วย) บวกกับเด็กแสบแห่งเกาหลีเหนือ
    คราวนี้อเมริกาไม่ใช่แค่จุก แต่อาจจะถึงกับเดี้ยงไปเลย เพราะเกาหลีเหนือพร้อม
    ทุกเมื่อ ที่จะส่งของขวัญ แบบส่งตรงไม่ต้องฝากใคร ไปให้อเมริกาถึงหน้าทำเนียบขาว หรือวอชิงตันดีซี (ไม่รู้ราคาคุยของเด็กแสบหรือเปล่า)
    คิดแบบนี้ นักล่าก็น่าจะคลายมือที่บีบคออิหร่านออกมาสัก 1 หุน และหันมาโชว์พาวใช้โปรแกรมขย่มขวัญอาเฮีย ด้าน Asia Pacific น่าจะเข้าท่ากว่า แล้วนี่ ถ้าบรรดาพวกก้าง เขารวมหัวกันหมด นักล่าจะใช้โปรแกรมไหนเอ่ย นึกว่าเขาไม่คิดรวม หรือไม่กล้าเล่นหรือไง
    ไม่ว่านักล่าตัดสินใจมาทาง Asia Pacific หรือล่ามันทั้งโลก โปรแกรมที่เลือกใช้
    ไม่ว่าโปรแกรมใด แน่นอนต้องมีไทยแลนด์ แดนสมันน้อย เข้าไปเกี่ยวด้วยทุกรายการ สมันน้อย ถูกสัญญาทาสผูกคอมาตั้งแต่สมัยจอมพลคนแปลก หลวมตัวทำเอาไว้ในปี พ.ศ. 2493 (ค.ศ. 1950)ที่เราเรียกกันว่าสัญญา JUSMAC ท่านใดที่ลืมเรื่องนี้ โปรดกลับไปอ่านจิกโก๋ปากซอย นะครับ สัญญานี้ยังมีอายุอยู่ และเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 (ค.ศ. 2012) นาย Leon Panetta รมว.กลาโหมของนักล่า ขณะนั้น ก็คว้ามือคุณพี่สุกำพล รมว.กลาโหมไทยขณะนั้น
    เอาแปะโป้งซ้ำอีกรอบ ใน Joint Vision Statement ระหว่างอเมริกากับไทย พร้อมออกข่าวแถลงด้วยความดีใจ ว่าเป็นทาสเขาไปอีกรอบแล้ว
    ภายใต้สัญญา JUSMAC อเมริกาสามารถตั้งฐานทัพ ในราชอาณาจักรไทยได้
    เมื่อไทยขอร้อง หรือเมื่ออเมริกาเห็นว่าไทยถูกคุกคาม ไอ้ฉากแบบนี้น่ะ มันสร้างยากนักหรือ เพราะฉะนั้น พี่น้องก็เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ อย่ามัวแต่นั่งโลกสวย คอยอธิบายแก้ข่าวที่พวกนักล่ามันแกล้งให้ สื่อเฮงซวยลงข่าวบ้านเราผิด ๆ ประเภท ประเทศไทยกำลังทำลายประชาธิปไตย ด้วยการประท้วงไม่ให้มีการเลือกตั้ง ฯลฯ
    เลิกไปอธิบายซ้ำซากกับพวกสื่อต่างชาติได้แล้ว มันรู้อยู่แล้วว่าอะไร เป็นอะไร แต่มันแกล้งสร้างข่าว เพื่อเบนความสนใจของเราไปจากเรื่องจริง คือการมาใช้ฐานทัพและ
    การขะโมยทรัพยากรของเรา ดังนั้นหัดคิดในเชิงรุกกันบ้าง ว่าเราจะป้องกันอย่างไร ไม่ให้มันมาสาระแนในบ้านเรา เดี๋ยวจะว่าไม่เตือนกัน
    ข่าวลือมันมีมาตลอดว่า อเมริกาจะมาใช้ฐานทัพอู่ตะเภาของไทย ตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2555(ค.ศ. 2012) ข่าวนี้แรกหลุดมาจากการประชุม Shangrila Dialogue ประมาณเดือนมิถุนายน ปีค.ศ. 2012 ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีของ International Institute for Strategic Studies (IISS)
    ซึ่งเป็นหน่วยงานประเภท think tank ระหว่างรัฐบาลด้านความมั่นคง (ก็หน่วยงานของพวก CFRนั่นแหละ !) ที่ประชุมกันที่โรงแรม Shangrila สิงคโปร์ทุกปี มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002
    ฝ่ายไทยที่ไปร่วมประชุม จะมีตัวแทนเป็นนักวิชาการด้านความมั่นคงบ้าง ผู้แทนจากกระทรวงต่างประเทศและผู้แทนจากกองทัพ เท่าที่จำได้ (จากเอกสารครับ ไม่เคยไป !) ขาประจำผูกขาดที่ไปประชุม ชื่อ นิพัท ทองเล็ก
    ในปี พ.ศ. 2555 คุณพี่สุกำพล ควงกะคุณน้องนิพัท ไปนั่งกระหนุง กระหนิง กับนาย Leon Panetta ในที่ประชุม กลับมาเมืองไทยไม่กี่เดือน ก็ยืนคู่กันถ่ายรูปประกาศการลงนามสัญญา Joint Vision Statement!

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” ตอนที่ 4 ยุทธศาสตร์ความมั่นคง National Security Strategy สำหรับปี ค.ศ. 2014 ยังไม่คลอดคาด ว่าจะคลอดประมาณเดือนเมษายน, พฤษภาคม แต่อย่างน้อย อเมริกาก็ใบ้หวยมาหลายครั้งแล้ว คือ – เมื่อกลางปี ค.ศ. 2012 อเมริกาบอกว่า จะมีการปรับกองกำลังของอเมริการะหว่าง แอตแลนติกกับแปซิฟิก จากที่เคยวางไว้ที่ 50:50 เป็น 40:60 แปลว่าให้น้ำหนักทางแปซิฟิก มากขึ้น – มาปลายปี ค.ศ. 2013 อเมริกาย้ำซ้ำว่า เราจะทำการปรับดุลยอำนาจในแถวเอเซีย แปซิฟิกเสียใหม่ – พอต้นปี ค.ศ. 2014 มีข่าวปล่อยว่า อเมริกาอาจจะพิจารณาผ่อนคลายการคว่ำบาตรอิหร่าน แบบนี้เซียนการเมืองต่อรองกันน่าดู ฝ่ายที่เล่นว่าอเมริกาไม่พร้อมจะก่อศึก 2 ด้านพร้อมกัน รู้ข่าววงในหรือไง ! มาดูฝ่ายเหล่าเสือร้ายลายก้างขวางคอกันบ้าง กำลังภายในภายนอก รวมกันแล้วน่า ตีมือตบ เป่านกหวีดให้แค่ไหน ด้านอิหร่าน ถ้ารวมตัวกับรัสเซีย ซีเรียและพวกที่มีแยะ แต่ยังไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัว ขณะนี้ ร่วมกันเล่นมวยหมู่ นักล่าก็จุกได้เหมือนกัน ส่วนด้านจีน ถ้ารวมกับกลุ่มเจ้าพ่อเซียงไฮ้ (Shanghai Corporation Organization ซึ่งมีรัสเซียรวมอยู่ด้วย) บวกกับเด็กแสบแห่งเกาหลีเหนือ คราวนี้อเมริกาไม่ใช่แค่จุก แต่อาจจะถึงกับเดี้ยงไปเลย เพราะเกาหลีเหนือพร้อม ทุกเมื่อ ที่จะส่งของขวัญ แบบส่งตรงไม่ต้องฝากใคร ไปให้อเมริกาถึงหน้าทำเนียบขาว หรือวอชิงตันดีซี (ไม่รู้ราคาคุยของเด็กแสบหรือเปล่า) คิดแบบนี้ นักล่าก็น่าจะคลายมือที่บีบคออิหร่านออกมาสัก 1 หุน และหันมาโชว์พาวใช้โปรแกรมขย่มขวัญอาเฮีย ด้าน Asia Pacific น่าจะเข้าท่ากว่า แล้วนี่ ถ้าบรรดาพวกก้าง เขารวมหัวกันหมด นักล่าจะใช้โปรแกรมไหนเอ่ย นึกว่าเขาไม่คิดรวม หรือไม่กล้าเล่นหรือไง ไม่ว่านักล่าตัดสินใจมาทาง Asia Pacific หรือล่ามันทั้งโลก โปรแกรมที่เลือกใช้ ไม่ว่าโปรแกรมใด แน่นอนต้องมีไทยแลนด์ แดนสมันน้อย เข้าไปเกี่ยวด้วยทุกรายการ สมันน้อย ถูกสัญญาทาสผูกคอมาตั้งแต่สมัยจอมพลคนแปลก หลวมตัวทำเอาไว้ในปี พ.ศ. 2493 (ค.ศ. 1950)ที่เราเรียกกันว่าสัญญา JUSMAC ท่านใดที่ลืมเรื่องนี้ โปรดกลับไปอ่านจิกโก๋ปากซอย นะครับ สัญญานี้ยังมีอายุอยู่ และเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 (ค.ศ. 2012) นาย Leon Panetta รมว.กลาโหมของนักล่า ขณะนั้น ก็คว้ามือคุณพี่สุกำพล รมว.กลาโหมไทยขณะนั้น เอาแปะโป้งซ้ำอีกรอบ ใน Joint Vision Statement ระหว่างอเมริกากับไทย พร้อมออกข่าวแถลงด้วยความดีใจ ว่าเป็นทาสเขาไปอีกรอบแล้ว ภายใต้สัญญา JUSMAC อเมริกาสามารถตั้งฐานทัพ ในราชอาณาจักรไทยได้ เมื่อไทยขอร้อง หรือเมื่ออเมริกาเห็นว่าไทยถูกคุกคาม ไอ้ฉากแบบนี้น่ะ มันสร้างยากนักหรือ เพราะฉะนั้น พี่น้องก็เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ อย่ามัวแต่นั่งโลกสวย คอยอธิบายแก้ข่าวที่พวกนักล่ามันแกล้งให้ สื่อเฮงซวยลงข่าวบ้านเราผิด ๆ ประเภท ประเทศไทยกำลังทำลายประชาธิปไตย ด้วยการประท้วงไม่ให้มีการเลือกตั้ง ฯลฯ เลิกไปอธิบายซ้ำซากกับพวกสื่อต่างชาติได้แล้ว มันรู้อยู่แล้วว่าอะไร เป็นอะไร แต่มันแกล้งสร้างข่าว เพื่อเบนความสนใจของเราไปจากเรื่องจริง คือการมาใช้ฐานทัพและ การขะโมยทรัพยากรของเรา ดังนั้นหัดคิดในเชิงรุกกันบ้าง ว่าเราจะป้องกันอย่างไร ไม่ให้มันมาสาระแนในบ้านเรา เดี๋ยวจะว่าไม่เตือนกัน ข่าวลือมันมีมาตลอดว่า อเมริกาจะมาใช้ฐานทัพอู่ตะเภาของไทย ตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2555(ค.ศ. 2012) ข่าวนี้แรกหลุดมาจากการประชุม Shangrila Dialogue ประมาณเดือนมิถุนายน ปีค.ศ. 2012 ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีของ International Institute for Strategic Studies (IISS) ซึ่งเป็นหน่วยงานประเภท think tank ระหว่างรัฐบาลด้านความมั่นคง (ก็หน่วยงานของพวก CFRนั่นแหละ !) ที่ประชุมกันที่โรงแรม Shangrila สิงคโปร์ทุกปี มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 ฝ่ายไทยที่ไปร่วมประชุม จะมีตัวแทนเป็นนักวิชาการด้านความมั่นคงบ้าง ผู้แทนจากกระทรวงต่างประเทศและผู้แทนจากกองทัพ เท่าที่จำได้ (จากเอกสารครับ ไม่เคยไป !) ขาประจำผูกขาดที่ไปประชุม ชื่อ นิพัท ทองเล็ก ในปี พ.ศ. 2555 คุณพี่สุกำพล ควงกะคุณน้องนิพัท ไปนั่งกระหนุง กระหนิง กับนาย Leon Panetta ในที่ประชุม กลับมาเมืองไทยไม่กี่เดือน ก็ยืนคู่กันถ่ายรูปประกาศการลงนามสัญญา Joint Vision Statement! คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • ดาวเหินจรคู่ผสมระหว่างปีและเดือน ประจำเดือนกันยายน 2568

    ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 7 เดือนกันยายน ไปจนถึง วันอังคารที่ 7 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2568 เป็นเดือนระกาไม้ 乙酉 (อิ๊กอิ้ว) ธาตุน้ำ มีกระแสพลังดาวคู่ผสมสี่เขียว四綠 (ซี๊เล็ก) ธาตุไม้ ดาวแห่งวิชาการความรู้ และดาวจอหงวนและดาวสองดำ 二黑 (หยี่เฮก) ธาตุดิน ดาวป่วยไข้ ดาวแห่งโรคภัย ดาวแห่ง ความเสื่อมถดถอย ประจำอยู่ใน ปีจรมะเส็งไม้ 乙巳 (อิกจี๋) ธาตุไฟ

    ส่งกระแสพลังความขัดแย้งต่อกันทำให้เกิดผลกระทบต่อแนวความคิดที่เป็นจุดจบบทสรุปของบ้านของเมืองให้เบ็ดเสร็จเป็นที่ยอมรับได้ยาก จะเกิดความขัดแย้ง แตกแยก ไม่เข้าใจต่อกัน ถึงแม้จะมีความพยายามมอบความสงบสุขให้แก่ประเทศชาติมากเพียงไรก็ตาม แต่ยังคงมีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่ไม่คิดเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นตัวตั้ง หวังแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก ประเทศชาติก็ยังคงต้องอมทุกข์เมื่อผู้ป่วยไข้ที่นอนรอรับการรักษาต่อไปเฉกเช่นเศรษฐกิจและสังคมที่ดำรงคงอยู่ในปัจจุบันทุกวันนี้ ดังนั้นควรครองตนบนพื้นฐานแห่งความไม่ประมาท แม้นการเดินทางจะขึ้นเหนือหรือล่องใต้ จะโดยสารเครื่องบิน เรือยนต์ หรือรถยนต์ ก็ควรตรวจสอบสภาพภูมิอากาศก่อนการเดินทางทุกครั้งเพื่อระมัดระวังอุบัติเหตุเภทภัย

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ดาวเหินจรคู่ผสมระหว่างปีและเดือน ประจำเดือนกันยายน 2568 ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 7 เดือนกันยายน ไปจนถึง วันอังคารที่ 7 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2568 เป็นเดือนระกาไม้ 乙酉 (อิ๊กอิ้ว) ธาตุน้ำ มีกระแสพลังดาวคู่ผสมสี่เขียว四綠 (ซี๊เล็ก) ธาตุไม้ ดาวแห่งวิชาการความรู้ และดาวจอหงวนและดาวสองดำ 二黑 (หยี่เฮก) ธาตุดิน ดาวป่วยไข้ ดาวแห่งโรคภัย ดาวแห่ง ความเสื่อมถดถอย ประจำอยู่ใน ปีจรมะเส็งไม้ 乙巳 (อิกจี๋) ธาตุไฟ ส่งกระแสพลังความขัดแย้งต่อกันทำให้เกิดผลกระทบต่อแนวความคิดที่เป็นจุดจบบทสรุปของบ้านของเมืองให้เบ็ดเสร็จเป็นที่ยอมรับได้ยาก จะเกิดความขัดแย้ง แตกแยก ไม่เข้าใจต่อกัน ถึงแม้จะมีความพยายามมอบความสงบสุขให้แก่ประเทศชาติมากเพียงไรก็ตาม แต่ยังคงมีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่ไม่คิดเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นตัวตั้ง หวังแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก ประเทศชาติก็ยังคงต้องอมทุกข์เมื่อผู้ป่วยไข้ที่นอนรอรับการรักษาต่อไปเฉกเช่นเศรษฐกิจและสังคมที่ดำรงคงอยู่ในปัจจุบันทุกวันนี้ ดังนั้นควรครองตนบนพื้นฐานแห่งความไม่ประมาท แม้นการเดินทางจะขึ้นเหนือหรือล่องใต้ จะโดยสารเครื่องบิน เรือยนต์ หรือรถยนต์ ก็ควรตรวจสอบสภาพภูมิอากาศก่อนการเดินทางทุกครั้งเพื่อระมัดระวังอุบัติเหตุเภทภัย ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 Comments 0 Shares 58 Views 0 Reviews
  • ชอบรสชาติเยี่ยงนี้ ปรุงรสออกมาดีย์ถูกใจ #น้ำจิ้มซีฟู๊ด #ชาบูชิ #บิ๊กซีสมุทรปราการ #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #กิน #อร่อย #อาหาร #ชาบูสุกี้ #eat #food #foodie #delicious #thaifood #streetfood #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    ชอบรสชาติเยี่ยงนี้ ปรุงรสออกมาดีย์ถูกใจ #น้ำจิ้มซีฟู๊ด #ชาบูชิ #บิ๊กซีสมุทรปราการ #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #กิน #อร่อย #อาหาร #ชาบูสุกี้ #eat #food #foodie #delicious #thaifood #streetfood #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก Linux Kernel: เมื่อการอัปเดตไดรเวอร์ฟลอปปี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการไม่ยอมลืมอดีต

    ในยุคที่ SSD ความจุหลายเทราไบต์และ cloud storage ครองโลก การพูดถึงแผ่นฟลอปปี้ขนาด 1.44MB อาจฟังดูเป็นเรื่องตลก แต่ในเดือนกันยายน 2025 นักพัฒนา Linux อย่าง Andy Shevchenko ได้ส่ง patch ใหม่เข้า kernel เพื่อ “ทำความสะอาด” โค้ดของไดรเวอร์ฟลอปปี้—เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี

    การอัปเดตนี้ไม่ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ แต่เป็นการลบ macro ที่ไม่ได้ใช้, แก้ constant ที่ล้าสมัย และจัดเรียง header ใหม่ให้โค้ดอ่านง่ายขึ้น จุดประสงค์คือเพื่อให้โค้ดสะอาดและดูแลรักษาได้ง่าย แม้ว่าไดรเวอร์นี้จะถูกมองว่า “ถูกทอดทิ้ง” มานานแล้ว

    แต่การที่ Linux ยังเก็บไดรเวอร์ฟลอปปี้ไว้ใน kernel ก็สะท้อนถึงความยืดหยุ่นและความเคารพต่อ legacy system ที่ยังมีอยู่จริงในบางกรณี เช่น ในเรือนจำรัฐนิวเจอร์ซีย์ นักโทษยังใช้แผ่นฟลอปปี้ในการเก็บข้อมูลคดี เพราะอุปกรณ์อื่นถูกห้ามใช้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย

    แม้ Sony จะหยุดผลิตแผ่นฟลอปปี้ตั้งแต่ปี 2010 และผู้ขายรายสุดท้ายอย่าง Tom Persky ก็เคยกล่าวว่า “อุตสาหกรรมนี้น่าจะอยู่ได้อีกแค่ 4 ปี” แต่การที่ Linux ยังรองรับฟลอปปี้ก็เหมือนการบอกว่า “เรายังไม่ลืมคุณ”

    การอัปเดตไดรเวอร์ฟลอปปี้ใน Linux
    นำโดย Andy Shevchenko เพื่อทำความสะอาดโค้ด
    ลบ macro ที่ไม่ได้ใช้, แก้ constant ที่ล้าสมัย, จัดเรียง header ใหม่
    ไม่มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หรือปรับปรุงการทำงาน

    เหตุผลที่ยังคงรองรับฟลอปปี้
    ยังมีการใช้งานในบางกรณี เช่น เรือนจำที่ห้ามใช้อุปกรณ์อื่น
    Linux มีแนวทางที่เคารพ legacy system และความเข้ากันได้ย้อนหลัง
    การลบไดรเวอร์อาจกระทบผู้ใช้เฉพาะกลุ่มที่ยังพึ่งพาระบบนี้

    สถานะของอุตสาหกรรมฟลอปปี้
    Sony หยุดผลิตตั้งแต่ปี 2010
    ผู้ขายรายสุดท้ายอย่าง floppydisk.com ดำเนินการจาก stock เดิม
    คาดว่า supply จะหมดภายในไม่กี่ปีข้างหน้า

    บริบทของเทคโนโลยีปัจจุบัน
    SSD มีความจุหลายเทราไบต์และราคาถูกลงเรื่อย ๆ
    Cloud storage ทำให้การใช้ physical media ไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    ฟลอปปี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความคลาสสิกมากกว่าการใช้งานจริง

    https://www.techradar.com/pro/floppy-disks-live-on-linux-drivers-get-first-update-for-years-perhaps-signalling-a-comeback-for-the-much-loved-system
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Linux Kernel: เมื่อการอัปเดตไดรเวอร์ฟลอปปี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการไม่ยอมลืมอดีต ในยุคที่ SSD ความจุหลายเทราไบต์และ cloud storage ครองโลก การพูดถึงแผ่นฟลอปปี้ขนาด 1.44MB อาจฟังดูเป็นเรื่องตลก แต่ในเดือนกันยายน 2025 นักพัฒนา Linux อย่าง Andy Shevchenko ได้ส่ง patch ใหม่เข้า kernel เพื่อ “ทำความสะอาด” โค้ดของไดรเวอร์ฟลอปปี้—เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี การอัปเดตนี้ไม่ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ แต่เป็นการลบ macro ที่ไม่ได้ใช้, แก้ constant ที่ล้าสมัย และจัดเรียง header ใหม่ให้โค้ดอ่านง่ายขึ้น จุดประสงค์คือเพื่อให้โค้ดสะอาดและดูแลรักษาได้ง่าย แม้ว่าไดรเวอร์นี้จะถูกมองว่า “ถูกทอดทิ้ง” มานานแล้ว แต่การที่ Linux ยังเก็บไดรเวอร์ฟลอปปี้ไว้ใน kernel ก็สะท้อนถึงความยืดหยุ่นและความเคารพต่อ legacy system ที่ยังมีอยู่จริงในบางกรณี เช่น ในเรือนจำรัฐนิวเจอร์ซีย์ นักโทษยังใช้แผ่นฟลอปปี้ในการเก็บข้อมูลคดี เพราะอุปกรณ์อื่นถูกห้ามใช้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย แม้ Sony จะหยุดผลิตแผ่นฟลอปปี้ตั้งแต่ปี 2010 และผู้ขายรายสุดท้ายอย่าง Tom Persky ก็เคยกล่าวว่า “อุตสาหกรรมนี้น่าจะอยู่ได้อีกแค่ 4 ปี” แต่การที่ Linux ยังรองรับฟลอปปี้ก็เหมือนการบอกว่า “เรายังไม่ลืมคุณ” ✅ การอัปเดตไดรเวอร์ฟลอปปี้ใน Linux ➡️ นำโดย Andy Shevchenko เพื่อทำความสะอาดโค้ด ➡️ ลบ macro ที่ไม่ได้ใช้, แก้ constant ที่ล้าสมัย, จัดเรียง header ใหม่ ➡️ ไม่มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หรือปรับปรุงการทำงาน ✅ เหตุผลที่ยังคงรองรับฟลอปปี้ ➡️ ยังมีการใช้งานในบางกรณี เช่น เรือนจำที่ห้ามใช้อุปกรณ์อื่น ➡️ Linux มีแนวทางที่เคารพ legacy system และความเข้ากันได้ย้อนหลัง ➡️ การลบไดรเวอร์อาจกระทบผู้ใช้เฉพาะกลุ่มที่ยังพึ่งพาระบบนี้ ✅ สถานะของอุตสาหกรรมฟลอปปี้ ➡️ Sony หยุดผลิตตั้งแต่ปี 2010 ➡️ ผู้ขายรายสุดท้ายอย่าง floppydisk.com ดำเนินการจาก stock เดิม ➡️ คาดว่า supply จะหมดภายในไม่กี่ปีข้างหน้า ✅ บริบทของเทคโนโลยีปัจจุบัน ➡️ SSD มีความจุหลายเทราไบต์และราคาถูกลงเรื่อย ๆ ➡️ Cloud storage ทำให้การใช้ physical media ไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ➡️ ฟลอปปี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความคลาสสิกมากกว่าการใช้งานจริง https://www.techradar.com/pro/floppy-disks-live-on-linux-drivers-get-first-update-for-years-perhaps-signalling-a-comeback-for-the-much-loved-system
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก Kazeta: เมื่อ Linux กลายเป็นคอนโซลยุค 90 ที่ไม่ต้องต่อเน็ต ไม่ต้องล็อกอิน แค่เสียบแล้วเล่น

    ในยุคที่เกมพีซีเต็มไปด้วย launcher, DRM, cloud save, subscription และ UI ที่ซับซ้อน Kazeta OS กลับเลือกเดินทางย้อนยุค—พัฒนา Linux OS ที่ให้ประสบการณ์แบบ “เสียบตลับ กดเปิด แล้วเล่น” เหมือนเครื่องเกมในยุค 1990s โดยไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ต ไม่ต้องล็อกอิน และไม่ต้องอัปเดตอะไรทั้งสิ้น

    Kazeta พัฒนาโดย Alesh Slovak ผู้สร้าง ChimeraOS มาก่อน โดยมีเป้าหมายเพื่อผู้เล่นที่เบื่อความซับซ้อนของ SteamOS หรือ digital storefronts และอยากเก็บเกมแบบ physical media ที่จับต้องได้ Kazeta จึงอนุญาตให้ผู้ใช้แปลงเกม DRM-free เช่นจาก GOG หรือ itch.io ให้กลายเป็น “ตลับเกม” บน SD card ที่เสียบแล้วเล่นได้ทันที

    เมื่อไม่มีตลับเสียบ เครื่องจะบูตเข้าสู่ BIOS สไตล์เรโทรที่ให้ผู้เล่นจัดการเซฟเกมได้อย่างง่ายดาย โดยเซฟจะเก็บไว้ในเครื่อง ส่วนตลับเกมจะเป็น read-only เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของไฟล์เกม

    แม้จะฟังดูเรียบง่าย แต่ Kazeta รองรับทั้งเกมใหม่และเกมเก่าผ่าน emulator และสามารถใช้กับพีซีทั่วไปที่มี GPU ระดับกลางขึ้นไป โดยมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ไม่รองรับ dual boot, VM, hybrid graphics หรือ Bluetooth controller (แต่จะรองรับในอนาคต)

    แนวคิดหลักของ Kazeta OS
    สร้างประสบการณ์ “เสียบตลับแล้วเล่น” แบบคอนโซลยุค 90
    ไม่ต้องล็อกอิน, ไม่ต้องต่อเน็ต, ไม่มี launcher หรือ subscription
    รองรับเกม DRM-free จาก GOG, itch.io และ emulator

    วิธีใช้งาน
    ติดตั้ง Kazeta OS บนพีซีที่มีสเปกพอประมาณ
    เตรียม SD card เป็น “ตลับเกม” โดยใส่เกม DRM-free ทีละเกม
    เสียบ SD card แล้วเปิดเครื่องเพื่อเข้าเกมทันที
    หากไม่มีตลับ จะเข้าสู่ BIOS สไตล์เรโทรเพื่อจัดการเซฟเกม

    จุดเด่นด้านการเก็บเกม
    ตลับเกมเป็น read-only เพื่อรักษาไฟล์เกม
    เซฟเกมเก็บไว้ในเครื่อง และสามารถแบ็กอัปออกไปได้
    เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บเกมแบบ physical media

    ความเข้ากันได้ของระบบ
    รองรับ GPU: AMD RX 400+, NVIDIA GTX 1600+, Intel Gen 9+ (แต่ไม่แนะนำ)
    รองรับ controller: 8Bitdo Ultimate 2C (ผ่าน dongle หรือสาย)
    ไม่รองรับ VM, dual boot, hybrid graphics, Bluetooth controller (ยังไม่พร้อม)

    https://www.tomshardware.com/software/linux/linux-gaming-os-kazeta-promises-console-gaming-experience-of-the-1990s-for-pc-users-supports-almost-any-drm-free-game-past-or-present
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Kazeta: เมื่อ Linux กลายเป็นคอนโซลยุค 90 ที่ไม่ต้องต่อเน็ต ไม่ต้องล็อกอิน แค่เสียบแล้วเล่น ในยุคที่เกมพีซีเต็มไปด้วย launcher, DRM, cloud save, subscription และ UI ที่ซับซ้อน Kazeta OS กลับเลือกเดินทางย้อนยุค—พัฒนา Linux OS ที่ให้ประสบการณ์แบบ “เสียบตลับ กดเปิด แล้วเล่น” เหมือนเครื่องเกมในยุค 1990s โดยไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ต ไม่ต้องล็อกอิน และไม่ต้องอัปเดตอะไรทั้งสิ้น Kazeta พัฒนาโดย Alesh Slovak ผู้สร้าง ChimeraOS มาก่อน โดยมีเป้าหมายเพื่อผู้เล่นที่เบื่อความซับซ้อนของ SteamOS หรือ digital storefronts และอยากเก็บเกมแบบ physical media ที่จับต้องได้ Kazeta จึงอนุญาตให้ผู้ใช้แปลงเกม DRM-free เช่นจาก GOG หรือ itch.io ให้กลายเป็น “ตลับเกม” บน SD card ที่เสียบแล้วเล่นได้ทันที เมื่อไม่มีตลับเสียบ เครื่องจะบูตเข้าสู่ BIOS สไตล์เรโทรที่ให้ผู้เล่นจัดการเซฟเกมได้อย่างง่ายดาย โดยเซฟจะเก็บไว้ในเครื่อง ส่วนตลับเกมจะเป็น read-only เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของไฟล์เกม แม้จะฟังดูเรียบง่าย แต่ Kazeta รองรับทั้งเกมใหม่และเกมเก่าผ่าน emulator และสามารถใช้กับพีซีทั่วไปที่มี GPU ระดับกลางขึ้นไป โดยมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ไม่รองรับ dual boot, VM, hybrid graphics หรือ Bluetooth controller (แต่จะรองรับในอนาคต) ✅ แนวคิดหลักของ Kazeta OS ➡️ สร้างประสบการณ์ “เสียบตลับแล้วเล่น” แบบคอนโซลยุค 90 ➡️ ไม่ต้องล็อกอิน, ไม่ต้องต่อเน็ต, ไม่มี launcher หรือ subscription ➡️ รองรับเกม DRM-free จาก GOG, itch.io และ emulator ✅ วิธีใช้งาน ➡️ ติดตั้ง Kazeta OS บนพีซีที่มีสเปกพอประมาณ ➡️ เตรียม SD card เป็น “ตลับเกม” โดยใส่เกม DRM-free ทีละเกม ➡️ เสียบ SD card แล้วเปิดเครื่องเพื่อเข้าเกมทันที ➡️ หากไม่มีตลับ จะเข้าสู่ BIOS สไตล์เรโทรเพื่อจัดการเซฟเกม ✅ จุดเด่นด้านการเก็บเกม ➡️ ตลับเกมเป็น read-only เพื่อรักษาไฟล์เกม ➡️ เซฟเกมเก็บไว้ในเครื่อง และสามารถแบ็กอัปออกไปได้ ➡️ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บเกมแบบ physical media ✅ ความเข้ากันได้ของระบบ ➡️ รองรับ GPU: AMD RX 400+, NVIDIA GTX 1600+, Intel Gen 9+ (แต่ไม่แนะนำ) ➡️ รองรับ controller: 8Bitdo Ultimate 2C (ผ่าน dongle หรือสาย) ➡️ ไม่รองรับ VM, dual boot, hybrid graphics, Bluetooth controller (ยังไม่พร้อม) https://www.tomshardware.com/software/linux/linux-gaming-os-kazeta-promises-console-gaming-experience-of-the-1990s-for-pc-users-supports-almost-any-drm-free-game-past-or-present
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • อาเซียนฮีลใจ สั่งแกร็บเลี้ยงไรเดอร์อินโดฯ

    แม้การชุมนุมในอินโดนีเซียจะนำมาซึ่งความสูญเสีย แต่ก็เกิดธารน้ำใจหลั่งไหลสู่ไรเดอร์ ที่ชาวอินโดนีเซียเรียกว่าโอโจล (Ojol) ในภาวะที่ยากลำบาก พร้อมกับช่วยเหลือร้านอาหารขนาดเล็กในอินโดนีเซีย ที่ยอดขายหายไปจากสภาวะเศรษฐกิจ และผลจากการบริหารประเทศของประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต เมื่อผู้ใช้แพลตฟอร์มสั่งอาหารออนไลน์ แกร็บ (Grab) และโกเจ็ก (Gojek) ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และประเทศอื่นๆ สั่งอาหารจากร้านอาหารขนาดเล็กในอินโดนีเซียเพื่อเลี้ยงไรเดอร์

    ที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ใช้งานแกร็บและโกเจ็กในหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ต่างช่วยเหลือไรเดอร์ และร้านอาหารในอินโดนีเซีย รวมทั้งบางคนซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคให้ไรเดอร์ผ่านบริการ Grabmart ของแกร็บ หรือ GoMart ของโกเจ็ก โดยไรเดอร์ที่ได้รับอาหารต่างขอบคุณและอวยพรกลับมา ทั้งส่งข้อความส่วนตัวในแพลตฟอร์ม หรือโพสต์คลิปลงในแพลตฟอร์มโซเชียลฯ เช่น เอ็กซ์ ติ๊กต็อก เธรด อินสตาแกรม ฯลฯ เพื่อเป็นหลักฐานว่าได้รับอาหารแล้ว และขอบคุณในน้ำใจที่มีให้ แสดงให้เห็นว่าน้ำใจเกิดขึ้นได้โดยไม่มีพรมแดน และกระชับความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนร่วมชาติสมาชิกประชาคมอาเซียน

    ผู้ใช้งานแกร็บในประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไทย เมียนมา และกัมพูชา สามารถเลือกประเทศอินโดนีเซีย เพื่อสั่งอาหารช่วยเหลือไรเดอร์ข้ามประเทศได้ โดยชำระผ่านบัตรเครดิต ระบุข้อความถึงร้านอาหาร และข้อความถึงคนขับ เป็นภาษาอินโดนีเซียว่า "Pak/Bu, makanannya untuk abang/kakak driver & teman-teman" (คุณครับ อาหารนี้สำหรับคนขับและเพื่อนๆ ครับ) เพื่อให้ทราบว่าอาหารดังกล่าวสำหรับคนขับไรเดอร์และเพื่อนๆ

    อีกด้านหนึ่ง เมื่อวันที่ 1 ก.ย. นายแอนโทนี ตัน (Anthony Tan) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งแกร็บ เดินทางจากสิงคโปร์มายังเมืองมากัสซาร์ จังหวัดซูลาเวซีใต้ เพื่อเยี่ยมครอบครัวของนายรุสดัมเดียนสยาห์ (Rusdamdiansyah) หรือ ดันดี (Dandi) ชายวัย 26 ปี ไรเดอร์แกร็บซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 ส.ค. โดยจะให้การช่วยเหลือทางการเงินและอื่นๆ ในระยะยาว พร้อมกันนี้ยังได้เปิดสายด่วนฉุกเฉินเกอร์เซป (GERCEP หรือ Grab Respon Cepat) และโครงการตรักเตียร์ ไดร์ฟเวอร์ (Traktir Driver) ให้ผู้ใช้งานสามารถซื้ออาหารให้กับไรเดอร์โดยตรงได้อีกด้วย

    สำหรับผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมอย่างน้อย 6 คน นอกจากนายรุสดัมเดียนสยาห์แล้ว ยังมีนายอัฟฟาน คูรเนียวัน (Affan Kurniawan) วัย 21 ปี ผู้ขับขี่แพลตฟอร์มโกเจ็ก ถูกรถหุ้มเกราะควบคุมฝูงชน (Brimob) พุ่งชนเสียชีวิตเมื่อค่ำวันที่ 28 ส.ค.ที่ที่กรุงจาการ์ตา

    #Newskit
    อาเซียนฮีลใจ สั่งแกร็บเลี้ยงไรเดอร์อินโดฯ แม้การชุมนุมในอินโดนีเซียจะนำมาซึ่งความสูญเสีย แต่ก็เกิดธารน้ำใจหลั่งไหลสู่ไรเดอร์ ที่ชาวอินโดนีเซียเรียกว่าโอโจล (Ojol) ในภาวะที่ยากลำบาก พร้อมกับช่วยเหลือร้านอาหารขนาดเล็กในอินโดนีเซีย ที่ยอดขายหายไปจากสภาวะเศรษฐกิจ และผลจากการบริหารประเทศของประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต เมื่อผู้ใช้แพลตฟอร์มสั่งอาหารออนไลน์ แกร็บ (Grab) และโกเจ็ก (Gojek) ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และประเทศอื่นๆ สั่งอาหารจากร้านอาหารขนาดเล็กในอินโดนีเซียเพื่อเลี้ยงไรเดอร์ ที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ใช้งานแกร็บและโกเจ็กในหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ต่างช่วยเหลือไรเดอร์ และร้านอาหารในอินโดนีเซีย รวมทั้งบางคนซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคให้ไรเดอร์ผ่านบริการ Grabmart ของแกร็บ หรือ GoMart ของโกเจ็ก โดยไรเดอร์ที่ได้รับอาหารต่างขอบคุณและอวยพรกลับมา ทั้งส่งข้อความส่วนตัวในแพลตฟอร์ม หรือโพสต์คลิปลงในแพลตฟอร์มโซเชียลฯ เช่น เอ็กซ์ ติ๊กต็อก เธรด อินสตาแกรม ฯลฯ เพื่อเป็นหลักฐานว่าได้รับอาหารแล้ว และขอบคุณในน้ำใจที่มีให้ แสดงให้เห็นว่าน้ำใจเกิดขึ้นได้โดยไม่มีพรมแดน และกระชับความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนร่วมชาติสมาชิกประชาคมอาเซียน ผู้ใช้งานแกร็บในประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไทย เมียนมา และกัมพูชา สามารถเลือกประเทศอินโดนีเซีย เพื่อสั่งอาหารช่วยเหลือไรเดอร์ข้ามประเทศได้ โดยชำระผ่านบัตรเครดิต ระบุข้อความถึงร้านอาหาร และข้อความถึงคนขับ เป็นภาษาอินโดนีเซียว่า "Pak/Bu, makanannya untuk abang/kakak driver & teman-teman" (คุณครับ อาหารนี้สำหรับคนขับและเพื่อนๆ ครับ) เพื่อให้ทราบว่าอาหารดังกล่าวสำหรับคนขับไรเดอร์และเพื่อนๆ อีกด้านหนึ่ง เมื่อวันที่ 1 ก.ย. นายแอนโทนี ตัน (Anthony Tan) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งแกร็บ เดินทางจากสิงคโปร์มายังเมืองมากัสซาร์ จังหวัดซูลาเวซีใต้ เพื่อเยี่ยมครอบครัวของนายรุสดัมเดียนสยาห์ (Rusdamdiansyah) หรือ ดันดี (Dandi) ชายวัย 26 ปี ไรเดอร์แกร็บซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 ส.ค. โดยจะให้การช่วยเหลือทางการเงินและอื่นๆ ในระยะยาว พร้อมกันนี้ยังได้เปิดสายด่วนฉุกเฉินเกอร์เซป (GERCEP หรือ Grab Respon Cepat) และโครงการตรักเตียร์ ไดร์ฟเวอร์ (Traktir Driver) ให้ผู้ใช้งานสามารถซื้ออาหารให้กับไรเดอร์โดยตรงได้อีกด้วย สำหรับผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมอย่างน้อย 6 คน นอกจากนายรุสดัมเดียนสยาห์แล้ว ยังมีนายอัฟฟาน คูรเนียวัน (Affan Kurniawan) วัย 21 ปี ผู้ขับขี่แพลตฟอร์มโกเจ็ก ถูกรถหุ้มเกราะควบคุมฝูงชน (Brimob) พุ่งชนเสียชีวิตเมื่อค่ำวันที่ 28 ส.ค.ที่ที่กรุงจาการ์ตา #Newskit
    1 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • ทานเล่นก็ดี ทานกับข้าวก็เลิศ อร่อยกว่านี้ไม่มีอีกแล้ววววปลาเกล็ดขาวสามรส กรอบ อร่อยเลิศ ทานได้ทั้งตัว ทานได้ทั้งครอบครัว ทานดี ทานเพลินนนนนน หมดถุงไม่รู้ตัวค่าาาาอดใจไหวเหรอ… ปลาเกล็ดขาวสามรส …กรอบ สะอาด อร่อยเกินไป …แกะปุ๊ป หมดปั๊บมองหาของทานเล่น ที่ทานแล้วมีประโยชน์คูณสองอยู่ใช่ไหมคะ… ดีต่อใจ แถมได้แคลเซียมจากปลาทั้งตัว … แนะนำจานนี้เลยค่าาา ปลาเกล็ดขาวสามรส … ⭕️ น่าทานมากกกกกกค่าาาปลาเกล็ดขาวสามรส ใน TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSMvrQaKM/ปลาเกล็ดขาวสามรส ใน Shopee: https://th.shp.ee/FRA2CR2เลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา #ถุงใส่กับข้าว #ถุงppหนา #ถุงพลาสติก #ถุงร้อน#ถุงเย็น #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ปลาข้าวสารแห้ง #อาหารทะเลแห้ง #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา#ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ถุงเย็น #ถุงหูหิ้ว #ถุงร้อน #ถุงพีพีใบใหญ่ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ปลาเกล็ดขาวสามรส #ปลาจิ้งจั้งทอดกรอบ #กุนเชียง #ปลาเกล็ดขาว
    ทานเล่นก็ดี ทานกับข้าวก็เลิศ อร่อยกว่านี้ไม่มีอีกแล้ววววปลาเกล็ดขาวสามรส กรอบ อร่อยเลิศ ทานได้ทั้งตัว ทานได้ทั้งครอบครัว ทานดี ทานเพลินนนนนน หมดถุงไม่รู้ตัวค่าาาาอดใจไหวเหรอ… ปลาเกล็ดขาวสามรส …กรอบ สะอาด อร่อยเกินไป …แกะปุ๊ป หมดปั๊บมองหาของทานเล่น ที่ทานแล้วมีประโยชน์คูณสองอยู่ใช่ไหมคะ… ดีต่อใจ แถมได้แคลเซียมจากปลาทั้งตัว … แนะนำจานนี้เลยค่าาา ปลาเกล็ดขาวสามรส … 🌶️♨️⭕️ น่าทานมากกกกกกค่าาาปลาเกล็ดขาวสามรส 🙂 ใน TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSMvrQaKM/ปลาเกล็ดขาวสามรส 🙂 ใน Shopee: https://th.shp.ee/FRA2CR2เลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา #ถุงใส่กับข้าว #ถุงppหนา #ถุงพลาสติก #ถุงร้อน#ถุงเย็น #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ปลาข้าวสารแห้ง #อาหารทะเลแห้ง #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา#ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ถุงเย็น #ถุงหูหิ้ว #ถุงร้อน #ถุงพีพีใบใหญ่ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ปลาเกล็ดขาวสามรส #ปลาจิ้งจั้งทอดกรอบ #กุนเชียง #ปลาเกล็ดขาว
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    ตอนที่ 3
    จะแสดงอภิมหาแสนยานุภาพทั้งที ต้องดูตาถี่ตาห่าง ทบทวนกันหน่อยว่าตอนนี้
    ใครเป็นมิตร ใครเป็นศัตรู ใครเป็นพวกใคร น้ำหนักเท่าไหร่ ความไวเป็นอย่างไร จุดเป็น จุดตาย จุดอ่อนจุดแข็ง อยู่ตรงไหน โลกมันเปลี่ยนไปเร็ว เห็นตัวอย่างจากการโตเร็วของอาเฮียแดนมังกรแล้ว ไม่ทำการบ้านให้ดี ถลาเข้ามาเดินเชิดหน้าพองขน ดันโดนรุมสกรัม พุ่งถลาหน้าแหก คงไม่สง่างามสมกับเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่งของโลก
    เอ้า วัดสัดส่วนเทียบทุกจุดแล้ว โผออกมาดังนี้
    1. กลุ่มที่จะกระทบกับผลประโยชน์ของอเมริกาและพวก คือ
    – จีน และ เกาหลีเหนือ สำหรับ กลุ่มพวกเอเซีย
    – อิหร่านและซีเรีย (และกลุ่มหัวรุนแรง ที่ไม่ประกาศสัญชาติ) สำหรับ กลุ่ม
    ตะวันออกกลาง
    – รัสเซีย สำหรับ กลุ่มเอเซีย และยุโรป
    2. คู่แข่งในการแสดงอำนาจและบารมีของอเมริกาในภูมิภาคต่าง ๆ
    – จีน ในเอเซียตะวันออก เอเซียกลาง และอาฟริกา (โปรดสังเกต ไม่มีเอเซีย
    ตะวันออกเฉียงใต้ แสดงว่าประเทศแถวนี้ มันหมูในอวย หรือลูกหาบตลอดการของนักล่า หือไม่ขึ้นแล้ว อาเฮียลื้ออย่ามาเกี้ยวให้เสียเวลาเลย ฮา !)
    – อิหร่าน ในตะวันออกกลาง
    – รัสเซีย ในเอเซียกลาง และบริเวณใกล้เคียง
    3. คู่แข่งในเรื่องกองทัพและอาวุธ
    – จีน และเกาหลีเหนือ
    – อิหร่าน
    (เอะ ! ทำไมตัวละครมันซ้ำ ๆ กันแบบนี้ คนทำการบ้านวิเคราะห์ถูกหรือเปล่านะ คนเล่า
    นิทานชักเบื่อ ไม่เห็นมีอะไรใหม่เลย)
    รู้มิตร รู้ศัตรู รู้หน้าตาคู่แข่ง พวกก้างขวางคอ แล้วอเมริกาจะจัดการอย่างไรกับฐานทัพและกองทัพ ที่กระจายกันอยู่ทั่วโลก เพื่อรุกไปขย่มขวัญอาเฮียใน Asia Pacific และรับมือกับบรรดาก้างขวางคอ
    ผู้ทำแผนการล่าเหยื่อบอกไม่มีปัญหา เรามีแผนจัดเป็นโปรแกรม โปรดเลือกเอาตาม
    สะดวก ชอบโปรแกรมไหน กดไป ใช้ได้เลย เสียดายไม่ยักกะมีเพลงประจำ แต่ละโปรแกรมมาด้วย
    – โปรแกรมขย่มขวัญ
    จัดให้เพื่อแสดงบทขย่มขวัญจีนและเกาหลีเหนือโดยเฉพาะ และให้พรรคพวกอุ่นใจ
    ว่านักล่ายังฟันคมกริบ กรงเล็บแข็ง ตะปบแม่น ถ้าอเมริกาต้องการแสดงแสนยานุภาพ
    ไปทางเอเซียอย่างเต็มที่ ! มันต้องยังงั้น ! ไปท้าทายเขาถึงหน้าบ้านเลย ดูซิว่าจีนกับเกาหลีเหนือ จะยืนเกาหัวมึนไป หรือนักล่าจะถูกดักตีหัวแบะเอง ให้มันรู้กันไป เป็นจิกโก๋ต้องใจสู้ เข้าไปท้าชิงในถิ่นเขาเลย !
    การจะใช้โปรแกรมขย่มขวัญ อเมริกาต้องขยายฐานทัพ และสร้างภาพให้โลก โดยเฉพาะ
    ผู้ที่อเมริกาอยากขย่มขวัญ เห็นว่าอเมริกามาแล้ว มาอยู่ตรงนี้จริง ๆ (permanent presence) ดังนั้นควรมีการขยายฐานทัพ/สร้างฐานทัพ ของพวกลูกหาบ เช่น ในฟิลิปปินส์ ไทยแลนด์ (ของสมันน้อยไงจ๊ะ ! ) สิงคโปร์และออสเตรเลียเพิ่มขึ้น
    และหาทางเจรจาสร้างฐานทัพกับมาเลเซียเวียตนาม และอินโดนีเซีย (พวกผักชีโรยหน้า) เพื่อเป็นการรองรับปัญหาที่อาจจะมาจากกรณีทะเลจีนใต้ (ที่ตนเองไปเสี้ยมไว้) ขณะเดียวกัน ก็ต้องเพิ่มการฝึกซ้อมรบร่วมกันทั้งทางอากาศและทางทะเล กับพวกลูกหาบให้บ่อยมากขึ้น
    ส่วนฐานทัพที่อยู่ในอเมริกาไม่ต้องทำอะไร แค่ดูให้มั่นใจว่ารับศึกที่จะมาคุกคาม พรรคพวกแถวยุโรปกับอาหรับได้เป็นพอ
    (เรียกว่าเป็นโปรแกรมใหญ่ ค่าตั๋วน่าจะแพง กินงบประมาณแผ่นดินกันถ้วนหน้า ถ้าชิงรางวัลใหญ่ไม่ได้ อาจกลายเป็นเสียเมืองแทน
    พวกลูกหาบระวังตัวให้ดีแล้วกัน)
    – โปรแกรมรับมือ
    เป็นการเตรียมรับมือในกรณี เกิดความไม่มั่นคงในตะวันออกกลาง เพราะทะเลาะกันเอง
    หรือการเมือง เศรษฐกิจของหลายประเทศไม่มั่นคง (ก็เกิดจากการเสี้ยมของอเมริกานั่นแหละ ไม่ต้องวิเคราะห์มากให้ปวดหัว)
    รายการนี้ต้องใช้ฐานทัพและกองกำลังของอเมริกาเป็นตัวหลัก
    ยุทธศาสตร์นี้จะใช้ต่อเมื่อจีนไม่มีปฎิกริยาโต้ตอบกับอเมริกา เหมือนเป็นกองกำลังกงเต๊ก ส่วนในยุโรปก็ไม่มีผู้ท้าชิง ในทางตรงกันข้าม อิหร่านเกิดบ้าเลือดมาแรง เผลอ ๆ จะได้เห็นนิวเคลียร์ยี่ห้ออิหร่านลงแอลเอ ! ดังนั้น กองกำลังที่อยู่ในยุโรปและในอเมริกาเองจะต้องปรับ เพื่อให้คล่องตัวในการเล่นศึกกับอิหร่าน สำหรับเอเซีย การปรับเปลี่ยนกองกำลังและฐานทัพ จะเป็นเช่นเดียวกับโปรแกรมขย่มขวัญ
    (โปรแกรมนี้ดูมันไม่ค่อยมีเหตุผลนะ แต่ก็อยากเห็น ระเบิดลงหัวนักล่า
    เหมือนกันแหละ !)
    – โปรแกรมนักล่าตัวจริง
    กรณีนี้ใช้สำหรับนักล่าตัวจริง หมายเลข 1 ของโลก ที่จะล่ามันไปทั่วทั้งบริเวณ
    East Asia, ยุโรป และตะวันออกกลาง และขยายฐานที่มีอยู่ใน Southeast Asia ไปจนถึงตะวันออกกลาง ทั้งในด้านการเมืองและการเงิน
    ถ้าเลือกโปรแกรมนี้ นักล่าต้องฟิตหนัก เพราะต้องเตรียมตัวรับ กับ การขยายตัวทางการทหารจากจีน และเกาหลีเหนือ (ก็ยื่นหน้าไปเบ่งกล้ามใส่เขา คิดว่าเขา
    จะอยู่เฉยหรือไง !) และยังต้องมีกองกำลังในตะวันออกกลาง เพื่อเตรียมรับมือกับอิหร่านอีกด้วย
    และต้องพร้อมที่จะชนะการปะทะแถวยุโรป เพื่อแสดงให้เด็ก ๆ แถว Nato เห็นว่าลูกพี่ยังแน่อยู่
    กองทัพแถวยุโรป จึงต้องยังมีและพร้อมอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุม นักล่าต้องทำให้น่าเชื่อว่าตัวเอง ดูแลอย่างใกล้ชิดประเทศในแถบ GCC (Gulf Cooperation Council) สร้างภาพให้เป็นที่เชื่อถือ มีภาพตัวเองติดอยู่ในแถบ GCC (ติดรูปไว้ทุกเสาไฟฟ้าเลยนะ)
    และควรมีการทำข้อตกลงกับ Saudi Arabia และ India ที่จะใช้ฐานทัพในแถบนั้นได้ ในกรณีวิกฤติ (อันนี้ไม่ใช่ผักชีโรย แต่เป็นอาหารจานหลักนี่หว่า หลอกแขกชัด ๆ) ส่วนกองกำลังปะทะ (combat) และกองกำลังเคลื่อนที่ จะต้องมีอยู่ในฐานทัพต่าง ๆ ของอเมริกา
    (นี่มันโปรแกรมฝันกลางวัน เอ ! หรือนักล่าเอาจริง ! )
    แล้วตกลงอเมริกาจะเลือกใช้โปรแกรมไหน น่าสังเกตว่าทุกโปรแกรม ยุโรปเหมือนเป็นตัว
    ประกอบราคาถูก หรือไม่กล้าใช้นายเหนืออีกทีกันแน่
    แต่ที่น่าสนใจฝ่ายวางแผนล่าเหยื่อบอกว่า อเมริกาต้องตัดสินใจ ว่าจะจัดการกับกองกำลังและฐานทัพที่เกลื่อนอยู่ทั่วโลกอย่างไร มันใช้เงินโขอยู่ ตอนนี้ก็ไม่ได้รวยอย่างที่โม้ไว้ เพราะฉะนั้นเลือกเลยว่า จะแค่ขย่มขวัญ รับมือ หรือเป็นนักล่าตัวจริง ใหญ่ค้ำโลก
    การเลือกของอเมริกาในเรื่องนี้ มันจะแสดงให้เห็นอนาคตของโลกนี้ว่า
    กระบวนยุทธครั้งนี้ของอเมริกา เป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ไหม ขณะนี้อเมริกายังไม่พูดให้ชัดว่าจะเล่นแค่ Asia Pacific เป็นฉากหน้า แต่ของจริงล่าทั้งโลก ส่วนไอ้เรื่องโปรแกรมรับมือน่ะ ไม่มีทาง เขียนมาให้โวยเล่น นักล่าหรือจะคิดแค่รับมือ!

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” ตอนที่ 3 จะแสดงอภิมหาแสนยานุภาพทั้งที ต้องดูตาถี่ตาห่าง ทบทวนกันหน่อยว่าตอนนี้ ใครเป็นมิตร ใครเป็นศัตรู ใครเป็นพวกใคร น้ำหนักเท่าไหร่ ความไวเป็นอย่างไร จุดเป็น จุดตาย จุดอ่อนจุดแข็ง อยู่ตรงไหน โลกมันเปลี่ยนไปเร็ว เห็นตัวอย่างจากการโตเร็วของอาเฮียแดนมังกรแล้ว ไม่ทำการบ้านให้ดี ถลาเข้ามาเดินเชิดหน้าพองขน ดันโดนรุมสกรัม พุ่งถลาหน้าแหก คงไม่สง่างามสมกับเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่งของโลก เอ้า วัดสัดส่วนเทียบทุกจุดแล้ว โผออกมาดังนี้ 1. กลุ่มที่จะกระทบกับผลประโยชน์ของอเมริกาและพวก คือ – จีน และ เกาหลีเหนือ สำหรับ กลุ่มพวกเอเซีย – อิหร่านและซีเรีย (และกลุ่มหัวรุนแรง ที่ไม่ประกาศสัญชาติ) สำหรับ กลุ่ม ตะวันออกกลาง – รัสเซีย สำหรับ กลุ่มเอเซีย และยุโรป 2. คู่แข่งในการแสดงอำนาจและบารมีของอเมริกาในภูมิภาคต่าง ๆ – จีน ในเอเซียตะวันออก เอเซียกลาง และอาฟริกา (โปรดสังเกต ไม่มีเอเซีย ตะวันออกเฉียงใต้ แสดงว่าประเทศแถวนี้ มันหมูในอวย หรือลูกหาบตลอดการของนักล่า หือไม่ขึ้นแล้ว อาเฮียลื้ออย่ามาเกี้ยวให้เสียเวลาเลย ฮา !) – อิหร่าน ในตะวันออกกลาง – รัสเซีย ในเอเซียกลาง และบริเวณใกล้เคียง 3. คู่แข่งในเรื่องกองทัพและอาวุธ – จีน และเกาหลีเหนือ – อิหร่าน (เอะ ! ทำไมตัวละครมันซ้ำ ๆ กันแบบนี้ คนทำการบ้านวิเคราะห์ถูกหรือเปล่านะ คนเล่า นิทานชักเบื่อ ไม่เห็นมีอะไรใหม่เลย) รู้มิตร รู้ศัตรู รู้หน้าตาคู่แข่ง พวกก้างขวางคอ แล้วอเมริกาจะจัดการอย่างไรกับฐานทัพและกองทัพ ที่กระจายกันอยู่ทั่วโลก เพื่อรุกไปขย่มขวัญอาเฮียใน Asia Pacific และรับมือกับบรรดาก้างขวางคอ ผู้ทำแผนการล่าเหยื่อบอกไม่มีปัญหา เรามีแผนจัดเป็นโปรแกรม โปรดเลือกเอาตาม สะดวก ชอบโปรแกรมไหน กดไป ใช้ได้เลย เสียดายไม่ยักกะมีเพลงประจำ แต่ละโปรแกรมมาด้วย – โปรแกรมขย่มขวัญ จัดให้เพื่อแสดงบทขย่มขวัญจีนและเกาหลีเหนือโดยเฉพาะ และให้พรรคพวกอุ่นใจ ว่านักล่ายังฟันคมกริบ กรงเล็บแข็ง ตะปบแม่น ถ้าอเมริกาต้องการแสดงแสนยานุภาพ ไปทางเอเซียอย่างเต็มที่ ! มันต้องยังงั้น ! ไปท้าทายเขาถึงหน้าบ้านเลย ดูซิว่าจีนกับเกาหลีเหนือ จะยืนเกาหัวมึนไป หรือนักล่าจะถูกดักตีหัวแบะเอง ให้มันรู้กันไป เป็นจิกโก๋ต้องใจสู้ เข้าไปท้าชิงในถิ่นเขาเลย ! การจะใช้โปรแกรมขย่มขวัญ อเมริกาต้องขยายฐานทัพ และสร้างภาพให้โลก โดยเฉพาะ ผู้ที่อเมริกาอยากขย่มขวัญ เห็นว่าอเมริกามาแล้ว มาอยู่ตรงนี้จริง ๆ (permanent presence) ดังนั้นควรมีการขยายฐานทัพ/สร้างฐานทัพ ของพวกลูกหาบ เช่น ในฟิลิปปินส์ ไทยแลนด์ (ของสมันน้อยไงจ๊ะ ! ) สิงคโปร์และออสเตรเลียเพิ่มขึ้น และหาทางเจรจาสร้างฐานทัพกับมาเลเซียเวียตนาม และอินโดนีเซีย (พวกผักชีโรยหน้า) เพื่อเป็นการรองรับปัญหาที่อาจจะมาจากกรณีทะเลจีนใต้ (ที่ตนเองไปเสี้ยมไว้) ขณะเดียวกัน ก็ต้องเพิ่มการฝึกซ้อมรบร่วมกันทั้งทางอากาศและทางทะเล กับพวกลูกหาบให้บ่อยมากขึ้น ส่วนฐานทัพที่อยู่ในอเมริกาไม่ต้องทำอะไร แค่ดูให้มั่นใจว่ารับศึกที่จะมาคุกคาม พรรคพวกแถวยุโรปกับอาหรับได้เป็นพอ (เรียกว่าเป็นโปรแกรมใหญ่ ค่าตั๋วน่าจะแพง กินงบประมาณแผ่นดินกันถ้วนหน้า ถ้าชิงรางวัลใหญ่ไม่ได้ อาจกลายเป็นเสียเมืองแทน พวกลูกหาบระวังตัวให้ดีแล้วกัน) – โปรแกรมรับมือ เป็นการเตรียมรับมือในกรณี เกิดความไม่มั่นคงในตะวันออกกลาง เพราะทะเลาะกันเอง หรือการเมือง เศรษฐกิจของหลายประเทศไม่มั่นคง (ก็เกิดจากการเสี้ยมของอเมริกานั่นแหละ ไม่ต้องวิเคราะห์มากให้ปวดหัว) รายการนี้ต้องใช้ฐานทัพและกองกำลังของอเมริกาเป็นตัวหลัก ยุทธศาสตร์นี้จะใช้ต่อเมื่อจีนไม่มีปฎิกริยาโต้ตอบกับอเมริกา เหมือนเป็นกองกำลังกงเต๊ก ส่วนในยุโรปก็ไม่มีผู้ท้าชิง ในทางตรงกันข้าม อิหร่านเกิดบ้าเลือดมาแรง เผลอ ๆ จะได้เห็นนิวเคลียร์ยี่ห้ออิหร่านลงแอลเอ ! ดังนั้น กองกำลังที่อยู่ในยุโรปและในอเมริกาเองจะต้องปรับ เพื่อให้คล่องตัวในการเล่นศึกกับอิหร่าน สำหรับเอเซีย การปรับเปลี่ยนกองกำลังและฐานทัพ จะเป็นเช่นเดียวกับโปรแกรมขย่มขวัญ (โปรแกรมนี้ดูมันไม่ค่อยมีเหตุผลนะ แต่ก็อยากเห็น ระเบิดลงหัวนักล่า เหมือนกันแหละ !) – โปรแกรมนักล่าตัวจริง กรณีนี้ใช้สำหรับนักล่าตัวจริง หมายเลข 1 ของโลก ที่จะล่ามันไปทั่วทั้งบริเวณ East Asia, ยุโรป และตะวันออกกลาง และขยายฐานที่มีอยู่ใน Southeast Asia ไปจนถึงตะวันออกกลาง ทั้งในด้านการเมืองและการเงิน ถ้าเลือกโปรแกรมนี้ นักล่าต้องฟิตหนัก เพราะต้องเตรียมตัวรับ กับ การขยายตัวทางการทหารจากจีน และเกาหลีเหนือ (ก็ยื่นหน้าไปเบ่งกล้ามใส่เขา คิดว่าเขา จะอยู่เฉยหรือไง !) และยังต้องมีกองกำลังในตะวันออกกลาง เพื่อเตรียมรับมือกับอิหร่านอีกด้วย และต้องพร้อมที่จะชนะการปะทะแถวยุโรป เพื่อแสดงให้เด็ก ๆ แถว Nato เห็นว่าลูกพี่ยังแน่อยู่ กองทัพแถวยุโรป จึงต้องยังมีและพร้อมอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุม นักล่าต้องทำให้น่าเชื่อว่าตัวเอง ดูแลอย่างใกล้ชิดประเทศในแถบ GCC (Gulf Cooperation Council) สร้างภาพให้เป็นที่เชื่อถือ มีภาพตัวเองติดอยู่ในแถบ GCC (ติดรูปไว้ทุกเสาไฟฟ้าเลยนะ) และควรมีการทำข้อตกลงกับ Saudi Arabia และ India ที่จะใช้ฐานทัพในแถบนั้นได้ ในกรณีวิกฤติ (อันนี้ไม่ใช่ผักชีโรย แต่เป็นอาหารจานหลักนี่หว่า หลอกแขกชัด ๆ) ส่วนกองกำลังปะทะ (combat) และกองกำลังเคลื่อนที่ จะต้องมีอยู่ในฐานทัพต่าง ๆ ของอเมริกา (นี่มันโปรแกรมฝันกลางวัน เอ ! หรือนักล่าเอาจริง ! ) แล้วตกลงอเมริกาจะเลือกใช้โปรแกรมไหน น่าสังเกตว่าทุกโปรแกรม ยุโรปเหมือนเป็นตัว ประกอบราคาถูก หรือไม่กล้าใช้นายเหนืออีกทีกันแน่ แต่ที่น่าสนใจฝ่ายวางแผนล่าเหยื่อบอกว่า อเมริกาต้องตัดสินใจ ว่าจะจัดการกับกองกำลังและฐานทัพที่เกลื่อนอยู่ทั่วโลกอย่างไร มันใช้เงินโขอยู่ ตอนนี้ก็ไม่ได้รวยอย่างที่โม้ไว้ เพราะฉะนั้นเลือกเลยว่า จะแค่ขย่มขวัญ รับมือ หรือเป็นนักล่าตัวจริง ใหญ่ค้ำโลก การเลือกของอเมริกาในเรื่องนี้ มันจะแสดงให้เห็นอนาคตของโลกนี้ว่า กระบวนยุทธครั้งนี้ของอเมริกา เป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ไหม ขณะนี้อเมริกายังไม่พูดให้ชัดว่าจะเล่นแค่ Asia Pacific เป็นฉากหน้า แต่ของจริงล่าทั้งโลก ส่วนไอ้เรื่องโปรแกรมรับมือน่ะ ไม่มีทาง เขียนมาให้โวยเล่น นักล่าหรือจะคิดแค่รับมือ! คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    ตอนที่ 2
    จะดูว่านักล่ามันใหญ่จริงไหม ดูง่าย ๆ มีชาติไหนบ้างที่สามารถตั้งฐานทัพของตัวเอง
    ไว้ในประเทศอื่นได้บ้าง เอาประเทศที่ว่าใหญ่ ๆ นะ เล็ก ๆ ไม่ต้องเสนอหน้า
    อินเดียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่แค่ไหน พลเมืองมากเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับอเมริกา
    แขกก็กำลังรวย แอบสร้างอาวุธนิวเคลียร์ (เอ๊ะ ! ที่ยังงี้ทำไมไม่เห็นมีใครเสนอ ส่งหน่วยตรวจสอบจาก UN มาเลยนะ เอ้าคนอ่านนิทานลองคิดหาคำตอบกันเองบ้าง) เกือบมีฐานทัพในบ้านคนอื่น คือ Tajikistan แต่แค่เกือบแปลว่ายังไม่สำเร็จ แขกยังต้มไม่เก่งเท่านักล่า
    แล้วจีนล่ะ อาเฮียรวยจะตาย เศรษฐกิจโตพุ่งพรวดเป็นอันดับ 2 ของดวงดาวนี้ ขยายบ้านสร้างเมือง ไปเซียงไฮ้ นึกว่าไปปารีส (ฮา !) แล้วไง มีไหมฐานทัพในประเทศอื่น ของจริงยังม่ายมี ! มีแต่ข่าวว่าจะไป ตั้งที่เกาะเล็ก ๆ เกาะหนึ่ง แถวหมู่เกาะ
    Seychelles ในมหาสมุทรอินเดีย จิกโก๋บอกโถ ! แค่นี้ยังไม่มีปัญญา อย่ามาทำซ่ากะไอนะ !
    เอ้า ! รัสเซียของพี่ปูจอมอึด ว่าไง มีไหม ! อย่านะ ยุ่งกะจีนเรื่องนึง แต่รัสเซียของพี่ปูนี่ก็อีกเรื่องนึง ไม่จำเป็นอย่ายุ่ง สงครามเย็นน่ะ มันทำให้เหนื่อย ให้จนกันขนาดไหน ยังไม่เข็ดหรือไง ขอโทษ ! นึกว่าพี่ปูไม่มีหรือไง พี่ปูก็มีนะอยู่แถวเอเซียกลาง ฐานเล็ก ๆ 4,5 ฐาน ก็จริงอยู่ แต่ต่อไปอาจจะมีใครตาละห้อยมอง เพราะ the Great Great Game ศึกชิงน้ำมันกำลังเข้มข้นอยู่แถวนั้น
    อังกฤษล่ะ ในฐานะนักล่ารุ่นเก่าต้องรักษาฟอร์ม มีอยู่บ้างในอาฟกานิสถาน และตามเมืองขี้ข้าเก่า ของตนเองประมาณ 10 ฐาน เป็นฐานขนาดเล็กที่เยอรมันกับ Falkland ที่เหลือเป็นขนาดจ้อย ๆ
    ส่วนฝรั่งเศสก็มาฟอร์มเดี๋ยวกับอังกฤษ มีฐานเล็ก จิ๋ว ๆ ตามเมืองขี้ข้าเก่า ประมาณ
    10 ฐาน มีกำลังประจำฐานละไม่กี่ร้อยคน บางฐานมี 15 คน (ฮา !)
    ญี่ปุ่นเองมี 1 ฐานที่ Djiboutiเป็นฐานเล็กเอาไว้สู้กับโจรสลัด
    และอีกประเทศคือ ตุรกีมี 1 ฐาน อยู่ที่ไซปรัส หมดแล้วทั้งโลกนี้นะ
    เบ่งกล้ามกันได้เท่านี้ แล้วจะไปสู้อะไรกับพี่เบิ้มนักล่าหมายเลขหนึ่งได้
    แล้วพี่เบิ้มเองมีเท่าไหร่ อยู่ที่ไหนบ้าง
    รายงานของแต่ละหน่วยงานของอเมริกา บอกตัวเลขไม่เหมือนกัน (ฝรั่งก็แต่งตัวเลข
    เหมือนกันน่า แต่งเก่งด้วย มันชอบเขียนให้ดูยุ่งยาก ต้องเอาบวกมาลบมารวมและมา
    แยกใหม่ อะไรทำนองนี้ ถึงจะได้ของจริง)
    รายงานของ Pentagon ผู้ที่น่าจะมีตัวเลขครบ แต่ไม่มีวันจะบอกความจริงกับโลก
    ตัวเลขของ Pentagon เมื่อปี ค.ศ. 2010 บอกว่าอเมริกามีฐานทัพในต่างประเทศ 662 แห่งใน 38 ประเทศทั่วโลก แปลว่าของจริง ต้องมีมากกว่านั้น คำถามคือมากกว่าอีกเท่าไหร่
    ในปี ค.ศ. 1955 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จบไปแล้ว 10 ปี หนังสือพิมพ์ Chicago Daily Tribune สำรวจฐานทัพของอเมริกาแถบยุโรปและแปซิฟิกและรายงานว่า ธงชาติอเมริกันปลิวไสวอยู่บนเสาใน 300 กว่า ฐานทัพที่อยู่ต่างประเทศ ประมาณ 63 ประเทศ เออ ! ปี 1955 มันเข้าไป 63 ประเทศ พอ ค.ศ. 2010 เหลือ 38 ประเทศ ! มึน !
    ปัจจุบัน สรุปจากเอกสารประกอบเกือบ 10 สถาบัน ตัวเลขที่น่าเป็นไปได้ที่สุด คือ อเมริกามีประมาณ 1,077 ฐานทัพในประมาณ 130 ประเทศทั่วโลก !
    โฆษกของ US – led International Security Assistance Force (ISAF) บอกว่าในปี ค.ศ.2010 แค่ในอาฟกานิสถานเอง มีฐานทัพอเมริกาเกือบ 400 แห่ง นี่ยังไม่นับฐานลับ ที่อเมริกามีแอบในอิรักอีกเป็น 100 แห่ง
    สำหรับฐานทัพขนาดใหญ่ของอเมริกาตามรายงานของ Pentagon บอกว่าบางแห่งมีบ้านและโรงเรียนสำหรับครอบครัวทหาร โรงแรมแบบรีสอร์ท (ใช่ ! กระทรวงกลาโหมมีได้ มีปัญหาไหม ? ) ลานเล่นสกี (ใช่ ! มีได้เช่นกัน) และสนามกอล์ฟ ทหารอเมริกาคุยว่า พวกเขามีประมาณ 172 สนามกอล์ฟ ขนาดต่าง ๆ (ใช่ ! มิได้เช่นกัน อิจฉาไหม !)
    ใหญ่เสียขนาดนี้ สยายปีกเหยี่ยวไปทั่วโลก ตอนนี้บอกจะปรับกระบวนยุทธใหม่ มุ่งชิง
    รางวัลใหญ่ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก ฝ่ายวิเคราะห์ก็ต้องทำการบ้าน อย่าลืม Research and Development หน่วยงานฝ่ายวิเคราะห์และวางแผนของอเมริกา คือ ผู้ทำแผนการล่าเหยื่อนั่นเอง
    คราวนี้ใช้บริการของ Rand Corporation ซึ่งถือว่าเป็น think tank มือเก๋าของ Pentagon เรียกว่าใช้กันมานาน รู้ว่าเจ้านายต้องการให้เขียนอะไร

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” ตอนที่ 2 จะดูว่านักล่ามันใหญ่จริงไหม ดูง่าย ๆ มีชาติไหนบ้างที่สามารถตั้งฐานทัพของตัวเอง ไว้ในประเทศอื่นได้บ้าง เอาประเทศที่ว่าใหญ่ ๆ นะ เล็ก ๆ ไม่ต้องเสนอหน้า อินเดียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่แค่ไหน พลเมืองมากเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับอเมริกา แขกก็กำลังรวย แอบสร้างอาวุธนิวเคลียร์ (เอ๊ะ ! ที่ยังงี้ทำไมไม่เห็นมีใครเสนอ ส่งหน่วยตรวจสอบจาก UN มาเลยนะ เอ้าคนอ่านนิทานลองคิดหาคำตอบกันเองบ้าง) เกือบมีฐานทัพในบ้านคนอื่น คือ Tajikistan แต่แค่เกือบแปลว่ายังไม่สำเร็จ แขกยังต้มไม่เก่งเท่านักล่า แล้วจีนล่ะ อาเฮียรวยจะตาย เศรษฐกิจโตพุ่งพรวดเป็นอันดับ 2 ของดวงดาวนี้ ขยายบ้านสร้างเมือง ไปเซียงไฮ้ นึกว่าไปปารีส (ฮา !) แล้วไง มีไหมฐานทัพในประเทศอื่น ของจริงยังม่ายมี ! มีแต่ข่าวว่าจะไป ตั้งที่เกาะเล็ก ๆ เกาะหนึ่ง แถวหมู่เกาะ Seychelles ในมหาสมุทรอินเดีย จิกโก๋บอกโถ ! แค่นี้ยังไม่มีปัญญา อย่ามาทำซ่ากะไอนะ ! เอ้า ! รัสเซียของพี่ปูจอมอึด ว่าไง มีไหม ! อย่านะ ยุ่งกะจีนเรื่องนึง แต่รัสเซียของพี่ปูนี่ก็อีกเรื่องนึง ไม่จำเป็นอย่ายุ่ง สงครามเย็นน่ะ มันทำให้เหนื่อย ให้จนกันขนาดไหน ยังไม่เข็ดหรือไง ขอโทษ ! นึกว่าพี่ปูไม่มีหรือไง พี่ปูก็มีนะอยู่แถวเอเซียกลาง ฐานเล็ก ๆ 4,5 ฐาน ก็จริงอยู่ แต่ต่อไปอาจจะมีใครตาละห้อยมอง เพราะ the Great Great Game ศึกชิงน้ำมันกำลังเข้มข้นอยู่แถวนั้น อังกฤษล่ะ ในฐานะนักล่ารุ่นเก่าต้องรักษาฟอร์ม มีอยู่บ้างในอาฟกานิสถาน และตามเมืองขี้ข้าเก่า ของตนเองประมาณ 10 ฐาน เป็นฐานขนาดเล็กที่เยอรมันกับ Falkland ที่เหลือเป็นขนาดจ้อย ๆ ส่วนฝรั่งเศสก็มาฟอร์มเดี๋ยวกับอังกฤษ มีฐานเล็ก จิ๋ว ๆ ตามเมืองขี้ข้าเก่า ประมาณ 10 ฐาน มีกำลังประจำฐานละไม่กี่ร้อยคน บางฐานมี 15 คน (ฮา !) ญี่ปุ่นเองมี 1 ฐานที่ Djiboutiเป็นฐานเล็กเอาไว้สู้กับโจรสลัด และอีกประเทศคือ ตุรกีมี 1 ฐาน อยู่ที่ไซปรัส หมดแล้วทั้งโลกนี้นะ เบ่งกล้ามกันได้เท่านี้ แล้วจะไปสู้อะไรกับพี่เบิ้มนักล่าหมายเลขหนึ่งได้ แล้วพี่เบิ้มเองมีเท่าไหร่ อยู่ที่ไหนบ้าง รายงานของแต่ละหน่วยงานของอเมริกา บอกตัวเลขไม่เหมือนกัน (ฝรั่งก็แต่งตัวเลข เหมือนกันน่า แต่งเก่งด้วย มันชอบเขียนให้ดูยุ่งยาก ต้องเอาบวกมาลบมารวมและมา แยกใหม่ อะไรทำนองนี้ ถึงจะได้ของจริง) รายงานของ Pentagon ผู้ที่น่าจะมีตัวเลขครบ แต่ไม่มีวันจะบอกความจริงกับโลก ตัวเลขของ Pentagon เมื่อปี ค.ศ. 2010 บอกว่าอเมริกามีฐานทัพในต่างประเทศ 662 แห่งใน 38 ประเทศทั่วโลก แปลว่าของจริง ต้องมีมากกว่านั้น คำถามคือมากกว่าอีกเท่าไหร่ ในปี ค.ศ. 1955 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จบไปแล้ว 10 ปี หนังสือพิมพ์ Chicago Daily Tribune สำรวจฐานทัพของอเมริกาแถบยุโรปและแปซิฟิกและรายงานว่า ธงชาติอเมริกันปลิวไสวอยู่บนเสาใน 300 กว่า ฐานทัพที่อยู่ต่างประเทศ ประมาณ 63 ประเทศ เออ ! ปี 1955 มันเข้าไป 63 ประเทศ พอ ค.ศ. 2010 เหลือ 38 ประเทศ ! มึน ! ปัจจุบัน สรุปจากเอกสารประกอบเกือบ 10 สถาบัน ตัวเลขที่น่าเป็นไปได้ที่สุด คือ อเมริกามีประมาณ 1,077 ฐานทัพในประมาณ 130 ประเทศทั่วโลก ! โฆษกของ US – led International Security Assistance Force (ISAF) บอกว่าในปี ค.ศ.2010 แค่ในอาฟกานิสถานเอง มีฐานทัพอเมริกาเกือบ 400 แห่ง นี่ยังไม่นับฐานลับ ที่อเมริกามีแอบในอิรักอีกเป็น 100 แห่ง สำหรับฐานทัพขนาดใหญ่ของอเมริกาตามรายงานของ Pentagon บอกว่าบางแห่งมีบ้านและโรงเรียนสำหรับครอบครัวทหาร โรงแรมแบบรีสอร์ท (ใช่ ! กระทรวงกลาโหมมีได้ มีปัญหาไหม ? ) ลานเล่นสกี (ใช่ ! มีได้เช่นกัน) และสนามกอล์ฟ ทหารอเมริกาคุยว่า พวกเขามีประมาณ 172 สนามกอล์ฟ ขนาดต่าง ๆ (ใช่ ! มิได้เช่นกัน อิจฉาไหม !) ใหญ่เสียขนาดนี้ สยายปีกเหยี่ยวไปทั่วโลก ตอนนี้บอกจะปรับกระบวนยุทธใหม่ มุ่งชิง รางวัลใหญ่ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก ฝ่ายวิเคราะห์ก็ต้องทำการบ้าน อย่าลืม Research and Development หน่วยงานฝ่ายวิเคราะห์และวางแผนของอเมริกา คือ ผู้ทำแผนการล่าเหยื่อนั่นเอง คราวนี้ใช้บริการของ Rand Corporation ซึ่งถือว่าเป็น think tank มือเก๋าของ Pentagon เรียกว่าใช้กันมานาน รู้ว่าเจ้านายต้องการให้เขียนอะไร คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 110 Views 0 Reviews
  • ยุทธการกบกระโดด ตอนที่ 1
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    ตอนที่ 1
    อเมริกากำลังปรับกระบวนยุทธใหม่ เพื่อมุ่งไปสู่การเป็นศูนย์อำนาจ เป็นสุดยอดนักล่า
(Strategic Pivot) ในภูมิภาค Asia Pacific แต่เพื่อให้ฟังนุ่มหู อเมริกาบอกว่าเป็นการปรับดุลยอำนาจ (Rebalancing) ในภูมิภาคนี้ใหม่ กระบวนยุทธใหม่นี้ นายโอบามา พูดถึงเป็นครั้งแรกที่กรุง Canberra Australia เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011 หลังจากนั้น อเมริกาเริ่มปฎิบัติการอย่างเงียบ ๆ มาตลอดเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา เราชาวโลกควรให้ความสนใจกัน เพราะต่อไปนี้
ละครฉากสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการค้า การรบ การคบ การเคี้ยว จะอยู่ตรงแถวนี้แหละ ตรงที่เรียกว่า Asia Pacific
    สิ่งที่อเมริกาเดินหน้าทำเป็นเรื่องแรก ในช่วงปรับกระบวนยุทธ คือ ทำให้ประเทศที่
เรียกว่าเป็นพันธมิตร ทั้งระดับชิดและระดับห่าง แถวภูมิภาค Asia Pacific (Alliances) เชื่อว่าเรายังเป็นก๊วนกันอยู่นะ แม้ตัวจะไกล แต่ใจแนบแน่น เพราะฉะนั้นไอกระดิกนิ้วเรียกเมื่อไหร่ ต้องวิ่งมากันเลยนะ
    อเมริกาลงทุนเดินไปเคาะประตูบ้านเกือบทุกบาน ของพันธมิตร (ลูกหาบ !) จับมือ เขย่าแขน กอดคอ หอมแก้ม ผู้นำเกือบทุกคนในภูมิภาคนี้ โดยใช้นักแสดงนำ เช่น คุณนาย Clintonรมว.ตปท. นาย Robert Gates รมว.กลาโหม นาย Leon Panetta ที่มาเป็นรมว. กลาโหมคนต่อมา รวมทั้งที่ปรึกษาความมั่นคง เช่น นาย Tom Donjion และบรรดาแม่ทัพนายกอง แถวกองทัพภาคที่ 7 ยังถูกเกณฑ์ออกมาเดินสาย ที่สำคัญตัวพระเอกเอง คือ ประธานาธิบดี Obamaก็ไม่เว้น ออกเดินสายเคาะประตูบ้านด้วยเช่นกัน
    – อันดับแรก แน่นอน ญี่ปุ่นลูกเลี้ยง ประเทศที่อเมริกาถล่มเขาซะหายไปทั้งเมือง ทำให้
ต้องกระเตงเลี้ยงกันไปตลอด ทั้งช่วยทั้งใช้ (แต่รู้สึกอย่างหลังจะมากกว่านะ) อเมริกาเข้าไปปรับปรุงยุ่งถึงในมุ้งการเมืองของญี่ปุ่น ได้นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดมา 1 คน เพื่อให้ดำเนินนโยบายประเทศให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ใหม่ของอเมริกา และเพื่อโชว์ให้โลกเห็นว่าอเมริกาเป็นพ่อพระใจดีใจกว้าง ไม่ได้ทอดทิ้งยามยาก เช่น คราวญี่ปุ่นแผ่นดินไหว เกิดซึนามิและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์รั่ว ในปี ค.ศ. 2011 (จริง ๆ แล้วมันอยากไปดูว่าของจริง ฉ.ห แค่ไหน จะได้คิดย้ายฐานทัพของตัวออกมาน่ะ) อเมริกาก็ช่วยไป แต่งข่าวผ่าน CNN ไป ชาวเราก็ได้เรื่องจริงมาน้อยกว่าเรื่องแต่ง
    – อันดับสอง เกาหลีใต้ อเมริกาพยายามโปรโมทเกาหลีใต้ขึ้นมาแข่งกับญี่ปุ่นนานแล้ว
Toyota แพ้ Hyundai Sony แพ้ Samsung ฝีมือใคร เอ๊ะ ทำได้ไงกับลูกเลี้ยง ก็เพราะอเมริกันต้องการให้เกาหลีใต้แข็งแรง เป็นกำแพงกั้นเกาหลีเหนือ เอาความเจริญใส่เข้าไปมาก ๆ จะได้เห็นความแตกต่าง ๆ ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ มันจะได้ยากที่จะรวมกัน เดี๋ยวมันจะเอาอย่างเยอรมันตะวันออกกับตะวันตก ไอไม่ใจดีขนาดนั้นหรอก ลงทุนไปแยะ มาถึงตอนนี้ไม่ต้องทำอะไรมาก โปรโมทเข้าไปหนัก ๆ ยูดี ยูเก่ง ยูเจริญ ที่สุดในเอเซีย ใคร ๆ ก็อยากมี look แบบเกาหลีกันทั้งนั้น โอบซ้าย โอบขวา เชียร์กังนัมมันไปเรื่อย ๆ แค่นี้ก็พอถมเถ ชาวเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ ก็ใช่ว่าจะอยากไปอยู่กับเด็กแสบของเกาหลีเหนือ คราวนี้พักเรื่องกังนัมสักครู่ แล้วมาคุยกันเรื่องสร้างฐานทัพให้ลูกพี่จอดเรือรบก่อนนะ
    – อันดับสาม ฟิลิปปินส์ ซึ่งอเมริกาเลี้ยงดูมาหลายสิบปี มีอะไรก็ถมให้ไปหมด ขนาด
เศรษฐีโคตรรวย Rockefeller ยังพยายามทั้งผลักทั้งดัน ให้ฟิลิปปินส์เป็นเมืองเอกในเอเซีย ลงทุนตั้งมหาวิทยาลัยให้ทั้งหลัง หน่วยงานสำคัญ ๆ ก็ไปไว้ที่นั่น ADB ไง Asian for DevelopmentBank ลูกของ World Bank สำนักงานใหญ่ก็อยู่ที่นี่แหละ แต่เด็กมันไม่ค่อยรักดี ถ้าไม่โกงกันระเบิด ก็เอาระเบิดมาถล่มกันเองอยู่เรื่อย แต่ก็ยังทิ้งกันไม่ลง ก็ลงทุนสร้างฐานทัพทิ้งไว้ที่เกาะนี้เต็มไปหมด งวดนี้กัดฟันไปคุยกันใหม่ เพราะต้องใช้ฟิลิปปินส์ เป็นม้าใช้ลอยคอไปยันกับจีนแถวทะเลจีนใต้ รื้อฟื้นฐานทัพเก่าที่เคยสร้างไว้มาปัดฝุ่นใช้กันใหม่
    – อันดับสี่ ไทยแลนด์แดนสมันน้อย แหม ! นึกว่าเป็นลูกรักอยู่อันดับหนึ่ง ที่แท้อยู่โหล่
เลย ฉะนั้นอย่างสำคัญตนผิด แต่ขอโทษ คุณพี่ Obama มาเอง เพราะไทยแลนด์เป็นพันธมิตรเก่าแก่ในภูมิภาคนี้ ร่วมรบ หลอกตุ๋นกันมาตั้งกะสมัยสงครามเวียตนาม แต่พักหลังนี้ มันเล่นกีฬาสีกันแยะ จนลูกพี่ชักงง จะชอบจะใช้สีไหนดีนะ เอาที่มันใช้ง่าย ๆ น่ะ มาคราวนี้เลยบีบมือนางสมันน้อยแน่นนาน อย่าลืมนะ นางสาวแสนโง่ ! สัญญาทาสผูกคอของเราสองยังมีอยู่นะ เรียกเมื่อไหร่อย่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง เรื่องอื่นไม่รู้เรื่องไม่เป็นไร แต่เรื่องนี้ห้ามโง่นะ ว่าแล้วก็ทำตาเยิ้มใส่กัน ฮา !
    แม้จะใช้นักแสดงนำรุ่นใหญ่ขนาดนั้น แต่ความที่บทมันไม่ชัดเหมือนดูหนังจนจบแล้ว คนดู
ยังไม่แน่ใจว่า เป็นหนังบู๊หรือหนังตลก พระเอกชักปืนจะมายิงผู้ร้ายทีไร ดันยิงเข้าหัวแม่เท้าตัวเองทุกที แบบนั้นแหละ แถมนักแสดงบางคนก็เล่นไม่เนียน ถ้าไม่หน้าใหม่ ก็หน้าโหด ดูอย่างหน้าคุณนาย Clinton ซิ ปากยิ้ม แต่ลูกตายังกะนางสิงห์กำลังจ้องจะขม้ำเหยื่อ ชาวบ้านก็เลยมึน นี่มันเรื่องจริงหรือเปล่านะ ไหนเขาลือกันว่ากระเป๋ายังโหว่อยู่ ไม่ใช่หรือ เงินเดือนจะจ่ายคนทำงานยังไม่พอเลย เป็นข่าวไปทั่วโลก จะ shut down shut up อะไรนั่น นี่มันรายการเกทับบลัฟแหลก ประเภทหน้าไพ่มีคิงแต่ข้างในกบแปดหรือเปล่านะ เล่นมุกนี้แถว Asia Pacific น่ะไม่หมูนะ อาเฮียกับพวกนี่เขาธรรมดาที่ไหน ชาวบ้านเขาก็วิจารณ์กันทั่วโลก (ยกเว้นไทยแลนด์ของสมัย
น้อยแหละ ที่ดีใจหนักหนา พี่เขากลับมาแล้ว)
    ขนาดพวกนักวิเคราะห์บางค่าย เช่น CFR (พวกกันเอง) ยังถามเลยว่ามาทาง Asia
Pacific แน่หรือ แล้วทาง Middle East ว่าอย่างไร มันยัง spring หลุดกันอยู่เลยนะ บางค่ายก็บอกว่า อเมริกาต้องมาทางนี้แหละ เพราะว่าภูมิภาคนี้ ต้องมีอเมริกามายืนผงาด ให้พวกอาเฮียรู้บางว่าใครเป็นใคร เป็นการดุลยอำนาจไงล่ะ แต่ที่แหลได้ใจ คือ นักวิเคราะห์จากค่ายลูกพี่นักล่า Chatham House บอกว่างงกันไปได้ ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกใหม่อะไรเลย อเมริกาก็เป็นพี่เบิ้มวนเวียนอยู่ทางนี้มากว่าครึ่งศตวรรษแล้ว และไม่ว่าจะป็นพรรค Democrat หรือ Republican ทั้ง 2 พรรค ก็มีนโยบายเหมือนกันแหละ (คือให้ใครมาใหญ่กว่าตัวไม่ได้ทั้งนั้น) และที่สำคัญเข้าใจกันให้ถูกนะ อเมริกาไม่เคย “ไปจาก” ภูมิภาคนี้เลยต่างหาก แค่กร่างมากกร่างน้อยเท่านั้นเอง อันหลังนี้คนเขียน นิทานเพิ่มเองครับ
    ทั้งหมดนี้อเมริกาทำทำไม ไม่ต้องถามโหรระดับแม่หมอฟองสนานหรอก คนอ่านนิทาน
ทุกคนตอบได้หมด ถ้าไม่แน่ใจโปรด กลับไปอ่านจิกโก๋ปากซอย หรือยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุกใหม่นะครับ อเมริกาหมุนเข็มทิศมาทางAsia Pacific ด้วยเหตุผล 2 อย่าง เป็นเหตุผลเดิม ๆ ที่ไม่ว่าอเมริกา หรือชาติมหาอำนาจใด หรือชาติเล็กชาติน้อย หรือใครที่มันคิดจะเป็นใหญ่มันก็คิดกันอยู่แค่นี้ทั้งนั้นแหละ “อำนาจกับทุน” สูตรสำเร็จเดิม ๆ จำไม่ได้หรือไง อเมริกามาแถบนี้ เพราะต้องการให้ทุกชาติ โดยเฉพาะจีนจำใส่หัวสมองไว้ว่า อเมริกายังมีอำนาจเต็มเปี่ยม ทั้งในภูมิภาคนี้และในโลกใบนี้ ใครที่คิดว่ารวยแล้วนึกว่าตัวเองใหญ่ แบบอาเฮียเศรษฐีใหม่น่ะ คิดใหม่นะกับอีกอย่างที่อเมริกาต้องการจนน้ำลายไหลฟูมปาก คือ ทรัพยากรที่ยังเหลือเฟืออยู่ในภูมิภาคนี้และกำลังมีการหักเหลี่ยม เล่นเชิงกันอย่างเข้มข้น ทั้งใน Asia Pacific และ Central Asia แต่นิทานวันนี้จะยังไม่เล่าเรื่องทรัพยากรนะครับ จะเน้นกันเรื่องกองทัพกองกำลัง ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อนักล่า ที่อเมริกากำลังเบ่งให้ดู

    คนเล่านิทาน
    ยุทธการกบกระโดด ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” ตอนที่ 1 อเมริกากำลังปรับกระบวนยุทธใหม่ เพื่อมุ่งไปสู่การเป็นศูนย์อำนาจ เป็นสุดยอดนักล่า
(Strategic Pivot) ในภูมิภาค Asia Pacific แต่เพื่อให้ฟังนุ่มหู อเมริกาบอกว่าเป็นการปรับดุลยอำนาจ (Rebalancing) ในภูมิภาคนี้ใหม่ กระบวนยุทธใหม่นี้ นายโอบามา พูดถึงเป็นครั้งแรกที่กรุง Canberra Australia เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011 หลังจากนั้น อเมริกาเริ่มปฎิบัติการอย่างเงียบ ๆ มาตลอดเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา เราชาวโลกควรให้ความสนใจกัน เพราะต่อไปนี้
ละครฉากสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการค้า การรบ การคบ การเคี้ยว จะอยู่ตรงแถวนี้แหละ ตรงที่เรียกว่า Asia Pacific สิ่งที่อเมริกาเดินหน้าทำเป็นเรื่องแรก ในช่วงปรับกระบวนยุทธ คือ ทำให้ประเทศที่
เรียกว่าเป็นพันธมิตร ทั้งระดับชิดและระดับห่าง แถวภูมิภาค Asia Pacific (Alliances) เชื่อว่าเรายังเป็นก๊วนกันอยู่นะ แม้ตัวจะไกล แต่ใจแนบแน่น เพราะฉะนั้นไอกระดิกนิ้วเรียกเมื่อไหร่ ต้องวิ่งมากันเลยนะ อเมริกาลงทุนเดินไปเคาะประตูบ้านเกือบทุกบาน ของพันธมิตร (ลูกหาบ !) จับมือ เขย่าแขน กอดคอ หอมแก้ม ผู้นำเกือบทุกคนในภูมิภาคนี้ โดยใช้นักแสดงนำ เช่น คุณนาย Clintonรมว.ตปท. นาย Robert Gates รมว.กลาโหม นาย Leon Panetta ที่มาเป็นรมว. กลาโหมคนต่อมา รวมทั้งที่ปรึกษาความมั่นคง เช่น นาย Tom Donjion และบรรดาแม่ทัพนายกอง แถวกองทัพภาคที่ 7 ยังถูกเกณฑ์ออกมาเดินสาย ที่สำคัญตัวพระเอกเอง คือ ประธานาธิบดี Obamaก็ไม่เว้น ออกเดินสายเคาะประตูบ้านด้วยเช่นกัน – อันดับแรก แน่นอน ญี่ปุ่นลูกเลี้ยง ประเทศที่อเมริกาถล่มเขาซะหายไปทั้งเมือง ทำให้
ต้องกระเตงเลี้ยงกันไปตลอด ทั้งช่วยทั้งใช้ (แต่รู้สึกอย่างหลังจะมากกว่านะ) อเมริกาเข้าไปปรับปรุงยุ่งถึงในมุ้งการเมืองของญี่ปุ่น ได้นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดมา 1 คน เพื่อให้ดำเนินนโยบายประเทศให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ใหม่ของอเมริกา และเพื่อโชว์ให้โลกเห็นว่าอเมริกาเป็นพ่อพระใจดีใจกว้าง ไม่ได้ทอดทิ้งยามยาก เช่น คราวญี่ปุ่นแผ่นดินไหว เกิดซึนามิและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์รั่ว ในปี ค.ศ. 2011 (จริง ๆ แล้วมันอยากไปดูว่าของจริง ฉ.ห แค่ไหน จะได้คิดย้ายฐานทัพของตัวออกมาน่ะ) อเมริกาก็ช่วยไป แต่งข่าวผ่าน CNN ไป ชาวเราก็ได้เรื่องจริงมาน้อยกว่าเรื่องแต่ง – อันดับสอง เกาหลีใต้ อเมริกาพยายามโปรโมทเกาหลีใต้ขึ้นมาแข่งกับญี่ปุ่นนานแล้ว
Toyota แพ้ Hyundai Sony แพ้ Samsung ฝีมือใคร เอ๊ะ ทำได้ไงกับลูกเลี้ยง ก็เพราะอเมริกันต้องการให้เกาหลีใต้แข็งแรง เป็นกำแพงกั้นเกาหลีเหนือ เอาความเจริญใส่เข้าไปมาก ๆ จะได้เห็นความแตกต่าง ๆ ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ มันจะได้ยากที่จะรวมกัน เดี๋ยวมันจะเอาอย่างเยอรมันตะวันออกกับตะวันตก ไอไม่ใจดีขนาดนั้นหรอก ลงทุนไปแยะ มาถึงตอนนี้ไม่ต้องทำอะไรมาก โปรโมทเข้าไปหนัก ๆ ยูดี ยูเก่ง ยูเจริญ ที่สุดในเอเซีย ใคร ๆ ก็อยากมี look แบบเกาหลีกันทั้งนั้น โอบซ้าย โอบขวา เชียร์กังนัมมันไปเรื่อย ๆ แค่นี้ก็พอถมเถ ชาวเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ ก็ใช่ว่าจะอยากไปอยู่กับเด็กแสบของเกาหลีเหนือ คราวนี้พักเรื่องกังนัมสักครู่ แล้วมาคุยกันเรื่องสร้างฐานทัพให้ลูกพี่จอดเรือรบก่อนนะ – อันดับสาม ฟิลิปปินส์ ซึ่งอเมริกาเลี้ยงดูมาหลายสิบปี มีอะไรก็ถมให้ไปหมด ขนาด
เศรษฐีโคตรรวย Rockefeller ยังพยายามทั้งผลักทั้งดัน ให้ฟิลิปปินส์เป็นเมืองเอกในเอเซีย ลงทุนตั้งมหาวิทยาลัยให้ทั้งหลัง หน่วยงานสำคัญ ๆ ก็ไปไว้ที่นั่น ADB ไง Asian for DevelopmentBank ลูกของ World Bank สำนักงานใหญ่ก็อยู่ที่นี่แหละ แต่เด็กมันไม่ค่อยรักดี ถ้าไม่โกงกันระเบิด ก็เอาระเบิดมาถล่มกันเองอยู่เรื่อย แต่ก็ยังทิ้งกันไม่ลง ก็ลงทุนสร้างฐานทัพทิ้งไว้ที่เกาะนี้เต็มไปหมด งวดนี้กัดฟันไปคุยกันใหม่ เพราะต้องใช้ฟิลิปปินส์ เป็นม้าใช้ลอยคอไปยันกับจีนแถวทะเลจีนใต้ รื้อฟื้นฐานทัพเก่าที่เคยสร้างไว้มาปัดฝุ่นใช้กันใหม่ – อันดับสี่ ไทยแลนด์แดนสมันน้อย แหม ! นึกว่าเป็นลูกรักอยู่อันดับหนึ่ง ที่แท้อยู่โหล่
เลย ฉะนั้นอย่างสำคัญตนผิด แต่ขอโทษ คุณพี่ Obama มาเอง เพราะไทยแลนด์เป็นพันธมิตรเก่าแก่ในภูมิภาคนี้ ร่วมรบ หลอกตุ๋นกันมาตั้งกะสมัยสงครามเวียตนาม แต่พักหลังนี้ มันเล่นกีฬาสีกันแยะ จนลูกพี่ชักงง จะชอบจะใช้สีไหนดีนะ เอาที่มันใช้ง่าย ๆ น่ะ มาคราวนี้เลยบีบมือนางสมันน้อยแน่นนาน อย่าลืมนะ นางสาวแสนโง่ ! สัญญาทาสผูกคอของเราสองยังมีอยู่นะ เรียกเมื่อไหร่อย่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง เรื่องอื่นไม่รู้เรื่องไม่เป็นไร แต่เรื่องนี้ห้ามโง่นะ ว่าแล้วก็ทำตาเยิ้มใส่กัน ฮา ! แม้จะใช้นักแสดงนำรุ่นใหญ่ขนาดนั้น แต่ความที่บทมันไม่ชัดเหมือนดูหนังจนจบแล้ว คนดู
ยังไม่แน่ใจว่า เป็นหนังบู๊หรือหนังตลก พระเอกชักปืนจะมายิงผู้ร้ายทีไร ดันยิงเข้าหัวแม่เท้าตัวเองทุกที แบบนั้นแหละ แถมนักแสดงบางคนก็เล่นไม่เนียน ถ้าไม่หน้าใหม่ ก็หน้าโหด ดูอย่างหน้าคุณนาย Clinton ซิ ปากยิ้ม แต่ลูกตายังกะนางสิงห์กำลังจ้องจะขม้ำเหยื่อ ชาวบ้านก็เลยมึน นี่มันเรื่องจริงหรือเปล่านะ ไหนเขาลือกันว่ากระเป๋ายังโหว่อยู่ ไม่ใช่หรือ เงินเดือนจะจ่ายคนทำงานยังไม่พอเลย เป็นข่าวไปทั่วโลก จะ shut down shut up อะไรนั่น นี่มันรายการเกทับบลัฟแหลก ประเภทหน้าไพ่มีคิงแต่ข้างในกบแปดหรือเปล่านะ เล่นมุกนี้แถว Asia Pacific น่ะไม่หมูนะ อาเฮียกับพวกนี่เขาธรรมดาที่ไหน ชาวบ้านเขาก็วิจารณ์กันทั่วโลก (ยกเว้นไทยแลนด์ของสมัย
น้อยแหละ ที่ดีใจหนักหนา พี่เขากลับมาแล้ว) ขนาดพวกนักวิเคราะห์บางค่าย เช่น CFR (พวกกันเอง) ยังถามเลยว่ามาทาง Asia
Pacific แน่หรือ แล้วทาง Middle East ว่าอย่างไร มันยัง spring หลุดกันอยู่เลยนะ บางค่ายก็บอกว่า อเมริกาต้องมาทางนี้แหละ เพราะว่าภูมิภาคนี้ ต้องมีอเมริกามายืนผงาด ให้พวกอาเฮียรู้บางว่าใครเป็นใคร เป็นการดุลยอำนาจไงล่ะ แต่ที่แหลได้ใจ คือ นักวิเคราะห์จากค่ายลูกพี่นักล่า Chatham House บอกว่างงกันไปได้ ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกใหม่อะไรเลย อเมริกาก็เป็นพี่เบิ้มวนเวียนอยู่ทางนี้มากว่าครึ่งศตวรรษแล้ว และไม่ว่าจะป็นพรรค Democrat หรือ Republican ทั้ง 2 พรรค ก็มีนโยบายเหมือนกันแหละ (คือให้ใครมาใหญ่กว่าตัวไม่ได้ทั้งนั้น) และที่สำคัญเข้าใจกันให้ถูกนะ อเมริกาไม่เคย “ไปจาก” ภูมิภาคนี้เลยต่างหาก แค่กร่างมากกร่างน้อยเท่านั้นเอง อันหลังนี้คนเขียน นิทานเพิ่มเองครับ ทั้งหมดนี้อเมริกาทำทำไม ไม่ต้องถามโหรระดับแม่หมอฟองสนานหรอก คนอ่านนิทาน
ทุกคนตอบได้หมด ถ้าไม่แน่ใจโปรด กลับไปอ่านจิกโก๋ปากซอย หรือยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุกใหม่นะครับ อเมริกาหมุนเข็มทิศมาทางAsia Pacific ด้วยเหตุผล 2 อย่าง เป็นเหตุผลเดิม ๆ ที่ไม่ว่าอเมริกา หรือชาติมหาอำนาจใด หรือชาติเล็กชาติน้อย หรือใครที่มันคิดจะเป็นใหญ่มันก็คิดกันอยู่แค่นี้ทั้งนั้นแหละ “อำนาจกับทุน” สูตรสำเร็จเดิม ๆ จำไม่ได้หรือไง อเมริกามาแถบนี้ เพราะต้องการให้ทุกชาติ โดยเฉพาะจีนจำใส่หัวสมองไว้ว่า อเมริกายังมีอำนาจเต็มเปี่ยม ทั้งในภูมิภาคนี้และในโลกใบนี้ ใครที่คิดว่ารวยแล้วนึกว่าตัวเองใหญ่ แบบอาเฮียเศรษฐีใหม่น่ะ คิดใหม่นะกับอีกอย่างที่อเมริกาต้องการจนน้ำลายไหลฟูมปาก คือ ทรัพยากรที่ยังเหลือเฟืออยู่ในภูมิภาคนี้และกำลังมีการหักเหลี่ยม เล่นเชิงกันอย่างเข้มข้น ทั้งใน Asia Pacific และ Central Asia แต่นิทานวันนี้จะยังไม่เล่าเรื่องทรัพยากรนะครับ จะเน้นกันเรื่องกองทัพกองกำลัง ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อนักล่า ที่อเมริกากำลังเบ่งให้ดู คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 130 Views 0 Reviews
  • เหรียญพระอาจารย์จำเนียรหลังพระสิวลี วัดถ้ำเสือ กระบี่
    เหรียญพระอาจารย์จำเนียรหลังพระสิวลี วัดถ้ำเสือ จังหวัดกระบี่ // พระดีพิธีขลัง !! บูชาแล้วยิ่งรวย เสริมโชคลาภ เรียกทรัพย์ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณ โภคทรัพย์ เมตตามหานิยม โชคลาภ และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >>

    ** พระอาจารย์จำเนียร ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่งประจําภาคใต้ ปฏิปทาในองค์ท่านงดงามนุ่มนวล ถือ เคร่งครัดในการปฏิบัติพระธรรม วินัยมากที่สุด เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง >>

    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระอาจารย์จำเนียรหลังพระสิวลี วัดถ้ำเสือ กระบี่ เหรียญพระอาจารย์จำเนียรหลังพระสิวลี วัดถ้ำเสือ จังหวัดกระบี่ // พระดีพิธีขลัง !! บูชาแล้วยิ่งรวย เสริมโชคลาภ เรียกทรัพย์ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ โภคทรัพย์ เมตตามหานิยม โชคลาภ และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >> ** พระอาจารย์จำเนียร ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่งประจําภาคใต้ ปฏิปทาในองค์ท่านงดงามนุ่มนวล ถือ เคร่งครัดในการปฏิบัติพระธรรม วินัยมากที่สุด เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เผยตั้งแต่แพทองธารหลุดเก้าอี้ ไม่มีใครติดต่อมาหาให้เตรียมตัวเลย แต่ไม่ว่าอะไร ใช้ให้ทำถ้าทำได้ก็ยินดีทำ แต่แย้มอาจมีอัศวินม้าขาวจากพรรคอื่นก็ได้ เตือนพรรคเพื่อไทยตกลงอะไรต้องบอกก่อน รับปากซี้ซั้วไม่ได้ มีผลเสียหาย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000083842

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เผยตั้งแต่แพทองธารหลุดเก้าอี้ ไม่มีใครติดต่อมาหาให้เตรียมตัวเลย แต่ไม่ว่าอะไร ใช้ให้ทำถ้าทำได้ก็ยินดีทำ แต่แย้มอาจมีอัศวินม้าขาวจากพรรคอื่นก็ได้ เตือนพรรคเพื่อไทยตกลงอะไรต้องบอกก่อน รับปากซี้ซั้วไม่ได้ มีผลเสียหาย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000083842 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 Comments 1 Shares 364 Views 0 Reviews
More Results