• ..ข้อคิดจากข่าว
    ..ยุคนี้คนชั่วครองประเทศไทย,มุกกฎหมายมากมายที่ออกตีตรามามันอ้างประชาชนบังหน้า,แต่แท้จริงมันปกป้องความทำชั่วมันเองให้ทำชั่วสะดวกและห้ามเปิดเผยข้อมูลชื่อกูที่เป็นแหล่งที่มาของการกระทำชั่ว,ไม่กระทบผลประโยชน์กูด้วยเพราะคนอื่นไม่รู้ สื่อถูกห้ามเปิดเผยชื่อในกิจการกู,ตลอดพวกนี้ห้ามเปิดเผยใบหน้าตัวตนจริงจนถึงที่สุดของศาลก็ว่าแต่สุดท้ายมันก็เขียนให้ศาลห้ามเปิดเผยอีกแม้ศาลตัดสินไปแล้ว,นี้คือวิถีทำลายคนดี รักษาคนไม่ดีให้มีที่ยืนเพื่อดำรงความชั่วเลวได้ต่อเนื่องได้,สำนึกดีชั่วเลวชั่งหัวใครมัน สื่อไม่สามารถระบุตัวตนชื่อกิจการบริษัทได้หรือระบุเจ้าสัวตัวตนเจ้าของกิจการตรงๆได้,กฎหมายมีเขียนออกมาตีตราใช้บังคับคนโง่และประชาชนตาดำๆอย่างเดียว,ไม่เคยเขียนประจานประฌามตรงๆแก่คนมีส่วนร่วมคู่กรณีอะไรเลย,แบรนด์ดังๆหน่อยก็เอาข้อกฎหมายกดปิดปากเขา,ประชาชนซวยแบบยายๆนี้ล่ะ,และมากมายประชาชนซวยแบบนีัตรึม,
    ..โจรมันเยอะจริงๆปล้นได้ทุกๆสถานที่,ทัังปล้นชิงแบบชอบธรรมปล้นชิงไม่ชอบธรรมและไม่สามารถเอาผิดได้,ตลอดเทียบเคียงลักเล็กขโมยทีละน้อยๆก็ได้,สังคมเรายิ่งมีเหตุกรณีทรัพย์สินหายเยอะมากๆ,แก้ไขเพื่อชี้เป้าคนไม่ดีได้ชัดคือต่างชาติต่างด้าวเยอะไปในประเทศไทย,ต้องผลักดันออกไปทัังหมดก่อน,จะเหลือจับผิดแค่คนไทยง่ายๆขึ้น,ใครลักทรัพย์ ของหายเวลาไหน กระทำการผ่านอะไร เทียบเวลาดูก็รู้ ใครทำธุรกรรมบัญชีใครมีโค้ตเจ้าหน้าที่หมด,ประชาชนลักขโมยของกันในชุมชนกลางทุ่งกลางป่าในหมู่บ้านขุมชน มีกล้องมีมือถทอตรวจจับพิกัดสัญญาณ โจรอาจถูกจับง่ายขึ้น,คนดีคนชั่วมีปะปนในสังคมชุมชนไทยเรา,หากสมมุติว่าฝังชิปจริงๆนะ ใครทำชั่วๆตรงจุดไหน หลักฐานวันเวลานอที่หายตรวจสอบย้อนหลังได้หมด เช่นชาวบ้านทำไร่ทำนา ฝังชิปทุกๆคน ขิปที่ปลอดภัยสูงไม่กระทบสุขภาพร่างกายบอดี้คน,เขาทิ้งของไว้สาระพัดสิ่งในไร่ในนาเขาปกติทิ้งอะไรไว้หายหมดเพราะไม่สามารถตรวจสอบสืบหาใดๆได้เลยที่รวดเร็ว เห็นผลชัด พอมีฝังชิปและรับรู้พิกัดย้อนหลังและเรียลไทม์จากดาวเทียมอีก ใครเข้าเขตส่วนบุคคลตนใครมันมีสิทธิ์ตรวจสอบสถานะชิปที่บริเวณตนเป็นเจ้าของได้และหาบุคคลต้องสงสัยมาสอบปากคำเพิ่มเติมได้ นายAและพวกกว่า2-3คนไปอยู่ช่วงเวลากลางดึกในไร่นาที่ของหายโดยมีสถานะชิปยืนยันการดำรงอยู่จริงอีกและไม่มีใครชิปใครร่วมปรากฎในบริเวณนั้นอีก สามารถฟันธง99%ได้เลยว่า มันคือขโมยลักเล็กขโมยน้อยแน่นอนในหมู่บ้านชุมชนที่ไร่ที่นานั้นก็ว่า,ตังคนฝากหายความผิดเต็มๆคือธนาคาร มีโค้ตเจ้าหน้าที่คีย์มำธุรกรรมโอนหรือถอนแน่นอน,มาอ้างรับผิดชอบแค่1ล้านค้ำประกันเงินฝากมันฟังไม่ขึ้นหรอก,เพราะเจ้าของบัญชีหากมิได้ยินยอมมอบฉันทะใครๆมาทำธุรกรรมแทนอีก ธนาคารนั้นต้องมีจิตสำนึกรับผิดชอบทันที,
    ..นีัคือการเขียนกฎหมายปกป้องคนชั่ว จะอ้างมุกกลั่นแกล้งแล้วมาอ้างเพื่อเขียนกฎหมายลักษณะนี้ เสมือนไม่ร่วมส่งเสริมในการลงโทษจากประชาชนข้อหาผิดจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมชั่วดีไม่ออก,ซึ่งไส้ในจริงๆใครผิดถูกไม่ทราบแต่ศาลบอกให้ยายเบิกได้ แบงค์ทำแบบนี้ไม่ให้เบิกมันก็ผิดปกติมาก,ปัจจุบันจบหรือยังไม่ทราบรู้,แต่เคสนีัมันบ่งบอกว่า กฎหมายเราสามารถเผาทิ้งในหลายตัวพร้อมๆกันได้เลยในเวลาใกล้เคียงกันที่ออกๆมาของข้อกฎหมายอื่นๆก็ว่าที่ออกมาพร้อมกฎหมายห้ามเปิดเผยตัวตนชื่อกิจการบริษัทคนที่ร่วมเป็นคู่ความของข่าวแบบๆนี้ก็ว่า,นำเสนอผีบ้าแค่ด้านเดียว,คนไม่ดีชื่อพนักงานอะไร อยู่ธนาคารชื่อไหน สาขาอะไร นี้ต้องระบุชัดเจนเตือนภัยประชาชนเจาะจงได้เสือกเขียนกฎหมายไม่ให้ระบุชื่อมันกิจการมัน,กฎหมายประเทศเราออกโดยพวกผีบ้านานเกินไปแล้วและไม่เคยยกเลิกกฎหมายผีบ้านั้นๆจริงจังสักที,ตย.ชัดคือกฎหมายผีบ้าที่ยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติไปหมด,กฎหมายผีบ้าที่ไม่เอาเรื่องบ่อน้ำมันเข้าสภาอภิปรายให้ประชาชนรับรู้และเปิดเผยค่าจริงความจริงทั้งหมดแก่ประชาชนคนไทย ,ลึกลับทำกันเองในกระทรวงทบวงกรมตนหรืออธิบดีมีอำนาจเต็มโน้น,สภาสส.สว.กากกระจอกไร้ค่าไร้ราคาอย่ามีส่วนร่วมอย่ามาร่วมตัดสินใจห่าอะไรใดๆด้วยกากและกระจอกมือไม่ถึงโง่ไม่ฉลาดด้านบ่อน้ำมันและพลังงานทั้งสภาหรอก,เก่งกาจคนเดียวคืออธิบดีนี้หมดทั้งประเทศ สุดยอดแค่เจ้าเดียวเท่านั้นมันว่า,จึงอนุญาตไม่ต้องเข้าสภาสส.สว.มาเสือกอภิปรายใดๆขัดขวางปากท้องกูทำการแดกให้ง่ายๆได้,จริงๆจึงสมควรเริ่มเผาทิ้งฉีกทิ้งจากกฎหมายปิโตรเลียมนี้ก่อนเลย,ทุกๆฉบับแล้วจะโมฆะทันที,อาจยุบกระทรวงทบวงกรมก็ได้อีก โมฆะอัตโนมัติแน่นอนก็ว่า,พวกนี้ต้องเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมดเพราะที่กระทรวงนี้ถูกยุบสามารถระบุข้อหาชัดเจนได้ว่าคือกบฎและกระทรวงทรยศของแผ่นดินไทยไม่ซื่อสัตย์อย่างร้ายแรงบวกคือภัยคุกคามความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทยด้วยประกอบเป็นตัวปั่นราคาให้สินค้าบริการแพงทั้งแผ่นดินกระทบเป็นเครือข่ายลูกโซ่จริงด้วย ค่าขนส่งขึ้น ราคาสินค้าขึ้นเพราะน้ำมันขึ้น เป็นต้น.

    https://youtube.com/shorts/SkTnVeSeAvY?si=-XJOKJ3BO983QToA
    ..ข้อคิดจากข่าว ..ยุคนี้คนชั่วครองประเทศไทย,มุกกฎหมายมากมายที่ออกตีตรามามันอ้างประชาชนบังหน้า,แต่แท้จริงมันปกป้องความทำชั่วมันเองให้ทำชั่วสะดวกและห้ามเปิดเผยข้อมูลชื่อกูที่เป็นแหล่งที่มาของการกระทำชั่ว,ไม่กระทบผลประโยชน์กูด้วยเพราะคนอื่นไม่รู้ สื่อถูกห้ามเปิดเผยชื่อในกิจการกู,ตลอดพวกนี้ห้ามเปิดเผยใบหน้าตัวตนจริงจนถึงที่สุดของศาลก็ว่าแต่สุดท้ายมันก็เขียนให้ศาลห้ามเปิดเผยอีกแม้ศาลตัดสินไปแล้ว,นี้คือวิถีทำลายคนดี รักษาคนไม่ดีให้มีที่ยืนเพื่อดำรงความชั่วเลวได้ต่อเนื่องได้,สำนึกดีชั่วเลวชั่งหัวใครมัน สื่อไม่สามารถระบุตัวตนชื่อกิจการบริษัทได้หรือระบุเจ้าสัวตัวตนเจ้าของกิจการตรงๆได้,กฎหมายมีเขียนออกมาตีตราใช้บังคับคนโง่และประชาชนตาดำๆอย่างเดียว,ไม่เคยเขียนประจานประฌามตรงๆแก่คนมีส่วนร่วมคู่กรณีอะไรเลย,แบรนด์ดังๆหน่อยก็เอาข้อกฎหมายกดปิดปากเขา,ประชาชนซวยแบบยายๆนี้ล่ะ,และมากมายประชาชนซวยแบบนีัตรึม, ..โจรมันเยอะจริงๆปล้นได้ทุกๆสถานที่,ทัังปล้นชิงแบบชอบธรรมปล้นชิงไม่ชอบธรรมและไม่สามารถเอาผิดได้,ตลอดเทียบเคียงลักเล็กขโมยทีละน้อยๆก็ได้,สังคมเรายิ่งมีเหตุกรณีทรัพย์สินหายเยอะมากๆ,แก้ไขเพื่อชี้เป้าคนไม่ดีได้ชัดคือต่างชาติต่างด้าวเยอะไปในประเทศไทย,ต้องผลักดันออกไปทัังหมดก่อน,จะเหลือจับผิดแค่คนไทยง่ายๆขึ้น,ใครลักทรัพย์ ของหายเวลาไหน กระทำการผ่านอะไร เทียบเวลาดูก็รู้ ใครทำธุรกรรมบัญชีใครมีโค้ตเจ้าหน้าที่หมด,ประชาชนลักขโมยของกันในชุมชนกลางทุ่งกลางป่าในหมู่บ้านขุมชน มีกล้องมีมือถทอตรวจจับพิกัดสัญญาณ โจรอาจถูกจับง่ายขึ้น,คนดีคนชั่วมีปะปนในสังคมชุมชนไทยเรา,หากสมมุติว่าฝังชิปจริงๆนะ ใครทำชั่วๆตรงจุดไหน หลักฐานวันเวลานอที่หายตรวจสอบย้อนหลังได้หมด เช่นชาวบ้านทำไร่ทำนา ฝังชิปทุกๆคน ขิปที่ปลอดภัยสูงไม่กระทบสุขภาพร่างกายบอดี้คน,เขาทิ้งของไว้สาระพัดสิ่งในไร่ในนาเขาปกติทิ้งอะไรไว้หายหมดเพราะไม่สามารถตรวจสอบสืบหาใดๆได้เลยที่รวดเร็ว เห็นผลชัด พอมีฝังชิปและรับรู้พิกัดย้อนหลังและเรียลไทม์จากดาวเทียมอีก ใครเข้าเขตส่วนบุคคลตนใครมันมีสิทธิ์ตรวจสอบสถานะชิปที่บริเวณตนเป็นเจ้าของได้และหาบุคคลต้องสงสัยมาสอบปากคำเพิ่มเติมได้ นายAและพวกกว่า2-3คนไปอยู่ช่วงเวลากลางดึกในไร่นาที่ของหายโดยมีสถานะชิปยืนยันการดำรงอยู่จริงอีกและไม่มีใครชิปใครร่วมปรากฎในบริเวณนั้นอีก สามารถฟันธง99%ได้เลยว่า มันคือขโมยลักเล็กขโมยน้อยแน่นอนในหมู่บ้านชุมชนที่ไร่ที่นานั้นก็ว่า,ตังคนฝากหายความผิดเต็มๆคือธนาคาร มีโค้ตเจ้าหน้าที่คีย์มำธุรกรรมโอนหรือถอนแน่นอน,มาอ้างรับผิดชอบแค่1ล้านค้ำประกันเงินฝากมันฟังไม่ขึ้นหรอก,เพราะเจ้าของบัญชีหากมิได้ยินยอมมอบฉันทะใครๆมาทำธุรกรรมแทนอีก ธนาคารนั้นต้องมีจิตสำนึกรับผิดชอบทันที, ..นีัคือการเขียนกฎหมายปกป้องคนชั่ว จะอ้างมุกกลั่นแกล้งแล้วมาอ้างเพื่อเขียนกฎหมายลักษณะนี้ เสมือนไม่ร่วมส่งเสริมในการลงโทษจากประชาชนข้อหาผิดจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมชั่วดีไม่ออก,ซึ่งไส้ในจริงๆใครผิดถูกไม่ทราบแต่ศาลบอกให้ยายเบิกได้ แบงค์ทำแบบนี้ไม่ให้เบิกมันก็ผิดปกติมาก,ปัจจุบันจบหรือยังไม่ทราบรู้,แต่เคสนีัมันบ่งบอกว่า กฎหมายเราสามารถเผาทิ้งในหลายตัวพร้อมๆกันได้เลยในเวลาใกล้เคียงกันที่ออกๆมาของข้อกฎหมายอื่นๆก็ว่าที่ออกมาพร้อมกฎหมายห้ามเปิดเผยตัวตนชื่อกิจการบริษัทคนที่ร่วมเป็นคู่ความของข่าวแบบๆนี้ก็ว่า,นำเสนอผีบ้าแค่ด้านเดียว,คนไม่ดีชื่อพนักงานอะไร อยู่ธนาคารชื่อไหน สาขาอะไร นี้ต้องระบุชัดเจนเตือนภัยประชาชนเจาะจงได้เสือกเขียนกฎหมายไม่ให้ระบุชื่อมันกิจการมัน,กฎหมายประเทศเราออกโดยพวกผีบ้านานเกินไปแล้วและไม่เคยยกเลิกกฎหมายผีบ้านั้นๆจริงจังสักที,ตย.ชัดคือกฎหมายผีบ้าที่ยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติไปหมด,กฎหมายผีบ้าที่ไม่เอาเรื่องบ่อน้ำมันเข้าสภาอภิปรายให้ประชาชนรับรู้และเปิดเผยค่าจริงความจริงทั้งหมดแก่ประชาชนคนไทย ,ลึกลับทำกันเองในกระทรวงทบวงกรมตนหรืออธิบดีมีอำนาจเต็มโน้น,สภาสส.สว.กากกระจอกไร้ค่าไร้ราคาอย่ามีส่วนร่วมอย่ามาร่วมตัดสินใจห่าอะไรใดๆด้วยกากและกระจอกมือไม่ถึงโง่ไม่ฉลาดด้านบ่อน้ำมันและพลังงานทั้งสภาหรอก,เก่งกาจคนเดียวคืออธิบดีนี้หมดทั้งประเทศ สุดยอดแค่เจ้าเดียวเท่านั้นมันว่า,จึงอนุญาตไม่ต้องเข้าสภาสส.สว.มาเสือกอภิปรายใดๆขัดขวางปากท้องกูทำการแดกให้ง่ายๆได้,จริงๆจึงสมควรเริ่มเผาทิ้งฉีกทิ้งจากกฎหมายปิโตรเลียมนี้ก่อนเลย,ทุกๆฉบับแล้วจะโมฆะทันที,อาจยุบกระทรวงทบวงกรมก็ได้อีก โมฆะอัตโนมัติแน่นอนก็ว่า,พวกนี้ต้องเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมดเพราะที่กระทรวงนี้ถูกยุบสามารถระบุข้อหาชัดเจนได้ว่าคือกบฎและกระทรวงทรยศของแผ่นดินไทยไม่ซื่อสัตย์อย่างร้ายแรงบวกคือภัยคุกคามความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทยด้วยประกอบเป็นตัวปั่นราคาให้สินค้าบริการแพงทั้งแผ่นดินกระทบเป็นเครือข่ายลูกโซ่จริงด้วย ค่าขนส่งขึ้น ราคาสินค้าขึ้นเพราะน้ำมันขึ้น เป็นต้น. https://youtube.com/shorts/SkTnVeSeAvY?si=-XJOKJ3BO983QToA
    0 Comments 0 Shares 23 Views 0 Reviews
  • ..มีกฎหมายกระทรวงทบวงกรมของไทยข้อไหนบ้างว่าห้ามปตท.ขายน้ำมันเกินลิตรละ10บาท,หรือห้ามขายเกินราคาก่อนสมัยเข้าตลาดหลักทรัพย์คือต้องบริหารจัดการควบคุมองค์รวมราคาน้ำมันทั้งประเทศให้ได้,แล้วใครทำไม่ได้ ปั้มไหนหรือปตท.ทำไม่ได้ จะมีโทษปรับลิตรละ2,000บาททุกๆการขายออกไปของยอดวันนั้นๆทันที,มิใช่กระทรวงทบวงกรมเขียนแต่กฎหมายลักษณะดูดตังออกจากกระเป๋าประชาชนคนไทยแบบกฎหมายปรับ2,000บาทหากคนขี่มอไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อคและคนนั่งมาด้วยก็ว่าไม่สวมอีกเสือกปรับเอาตังชาวบ้านชาวบ้านประชาขนคนธรรมดาอีก2เท่า,เก่งกาจกล้าหาญมากในการออกกฎหมายห่วงใยประชาชน,ไม่ออกกฎหมายห่วงใยเอกชนต่างชาติหรือเอกชนไทยบ้างอาทิห่วงใยในกำไรมากพอแล้ว เขียนกฎหมายให้ขายในประเทศลิตรละไม่เกิน10บาท,ห้ามส่งออกน้ำมันที่ดูดบนอ่าวไทยบนแผ่นดินไทยในราชอาณาจักรไทยไปต่างประเทศทุกๆกรณีทุกๆบริษัทสัมปทานหากไม่สามารถขายน้ำมันในราคาที่รัฐบาลไทยกำหนดให้ขายไม่ได้ในราคาต่ำกว่าลิตรละ10บาทยิ่งดี เป็นต้น

    ..https://youtube.com/shorts/7QPouq_qJDo?si=CnYh0SMf4zAap9zH
    ..มีกฎหมายกระทรวงทบวงกรมของไทยข้อไหนบ้างว่าห้ามปตท.ขายน้ำมันเกินลิตรละ10บาท,หรือห้ามขายเกินราคาก่อนสมัยเข้าตลาดหลักทรัพย์คือต้องบริหารจัดการควบคุมองค์รวมราคาน้ำมันทั้งประเทศให้ได้,แล้วใครทำไม่ได้ ปั้มไหนหรือปตท.ทำไม่ได้ จะมีโทษปรับลิตรละ2,000บาททุกๆการขายออกไปของยอดวันนั้นๆทันที,มิใช่กระทรวงทบวงกรมเขียนแต่กฎหมายลักษณะดูดตังออกจากกระเป๋าประชาชนคนไทยแบบกฎหมายปรับ2,000บาทหากคนขี่มอไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อคและคนนั่งมาด้วยก็ว่าไม่สวมอีกเสือกปรับเอาตังชาวบ้านชาวบ้านประชาขนคนธรรมดาอีก2เท่า,เก่งกาจกล้าหาญมากในการออกกฎหมายห่วงใยประชาชน,ไม่ออกกฎหมายห่วงใยเอกชนต่างชาติหรือเอกชนไทยบ้างอาทิห่วงใยในกำไรมากพอแล้ว เขียนกฎหมายให้ขายในประเทศลิตรละไม่เกิน10บาท,ห้ามส่งออกน้ำมันที่ดูดบนอ่าวไทยบนแผ่นดินไทยในราชอาณาจักรไทยไปต่างประเทศทุกๆกรณีทุกๆบริษัทสัมปทานหากไม่สามารถขายน้ำมันในราคาที่รัฐบาลไทยกำหนดให้ขายไม่ได้ในราคาต่ำกว่าลิตรละ10บาทยิ่งดี เป็นต้น ..https://youtube.com/shorts/7QPouq_qJDo?si=CnYh0SMf4zAap9zH
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • ตรวจตะกอนดินแม่น้ำกกพบสารหนูเกินมาตรฐานเกือบทุกจุด เตือนชาวบ้านกินปลาเป็นประจำอันตรายต่อสุขภาพ
    https://www.thai-tai.tv/news/19147/
    ตรวจตะกอนดินแม่น้ำกกพบสารหนูเกินมาตรฐานเกือบทุกจุด เตือนชาวบ้านกินปลาเป็นประจำอันตรายต่อสุขภาพ https://www.thai-tai.tv/news/19147/
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • ปีพศ.2519 ช่วงเวลาที่สงครามระหว่างทางการไทยกับพรรคคอมมิวนิสต์ไทยที่ต้องการยึดประเทศ ล้มล้างการปกครอง กำลังขึ้นถึงจุดสูงสุดของความรุนแรง มีเหตุการณ์การสู้รบรุนแรงระหว่างหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ที่ฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย
    .
    บ้านหมากแข้ง เป็นหมู่บ้านตั้งอยู่ในหุบเขาไม่ห่างจากภูหินร่องกล้า เป็นหมู่บ้านเดียวในขณะนั้นที่ไม่เข้าร่วมกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ จึงถูกโจมตีอย่างหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านเสียชีวิตจำนวนมาก ขนสดที่เฮลิคอปเตอร์ของทางการถูกยิงตก ชาวบ้านต้องอพยพหนีภัยการสู้รบ
    .
    หลังจากนั้น มีการจัดตั้งกลุ่มปฏิบัติการพิเศษชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ และชาวบ้านที่อาสาร่วมรบ การสู้รบดำเนินต่อไปจนกระทั่งสามารถปกป้องหมู่บ้านจากการโจมตีได้สำเร็จ ตราบจนสถานการณ์สงครามในประเทศกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์สิ้นสุดลงในปีพศ. 2525
    ปัจจุบันฐานปฏิบัติการสู้รบแห่งนี้ได้รับการดูแลรักษา โดยกองทัพภาคที่ 3 ได้สร้างเป็นอุทยานเพื่อเป็นเกียรติแก่นายทหารผู้นำการสู้รบ
    .
    นายทหารผู้นั้น ในขณะนั้นอายุไม่ถึง 24 ปีเต็ม เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว รับราชการทหารด้วยยศร้อยเอก นำชุดคุ้มครองพิเศษสู้รบอย่างกล้าหาญจนสามารถผลักดันกองกำลังผู้ก่อการร้ายออกไปได้ ชาวบ้านสามารถพาครอบครัวกลับดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัยต่อไป ไม่ต้องอพยพหนีไปไหนอีก
    .
    48 ปีผ่านไป ปัจจุบันนายทหารนายนั้นดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย เป็นพระประมุขแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี ของพสกนิกรชาวไทย
    .
    ในวาระวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯในหลวง รัชกาลที่ 10 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ปกป้องแผ่นดินไทย ปวงชนชาวไทย ต่อไปยาวนานด้วยเทอญ
    .
    - สมภพ พอดี -
    ปีพศ.2519 ช่วงเวลาที่สงครามระหว่างทางการไทยกับพรรคคอมมิวนิสต์ไทยที่ต้องการยึดประเทศ ล้มล้างการปกครอง กำลังขึ้นถึงจุดสูงสุดของความรุนแรง มีเหตุการณ์การสู้รบรุนแรงระหว่างหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ที่ฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย . บ้านหมากแข้ง เป็นหมู่บ้านตั้งอยู่ในหุบเขาไม่ห่างจากภูหินร่องกล้า เป็นหมู่บ้านเดียวในขณะนั้นที่ไม่เข้าร่วมกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ จึงถูกโจมตีอย่างหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านเสียชีวิตจำนวนมาก ขนสดที่เฮลิคอปเตอร์ของทางการถูกยิงตก ชาวบ้านต้องอพยพหนีภัยการสู้รบ . หลังจากนั้น มีการจัดตั้งกลุ่มปฏิบัติการพิเศษชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ และชาวบ้านที่อาสาร่วมรบ การสู้รบดำเนินต่อไปจนกระทั่งสามารถปกป้องหมู่บ้านจากการโจมตีได้สำเร็จ ตราบจนสถานการณ์สงครามในประเทศกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์สิ้นสุดลงในปีพศ. 2525 ปัจจุบันฐานปฏิบัติการสู้รบแห่งนี้ได้รับการดูแลรักษา โดยกองทัพภาคที่ 3 ได้สร้างเป็นอุทยานเพื่อเป็นเกียรติแก่นายทหารผู้นำการสู้รบ . นายทหารผู้นั้น ในขณะนั้นอายุไม่ถึง 24 ปีเต็ม เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว รับราชการทหารด้วยยศร้อยเอก นำชุดคุ้มครองพิเศษสู้รบอย่างกล้าหาญจนสามารถผลักดันกองกำลังผู้ก่อการร้ายออกไปได้ ชาวบ้านสามารถพาครอบครัวกลับดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัยต่อไป ไม่ต้องอพยพหนีไปไหนอีก . 48 ปีผ่านไป ปัจจุบันนายทหารนายนั้นดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย เป็นพระประมุขแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี ของพสกนิกรชาวไทย . ในวาระวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯในหลวง รัชกาลที่ 10 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ปกป้องแผ่นดินไทย ปวงชนชาวไทย ต่อไปยาวนานด้วยเทอญ . - สมภพ พอดี -
    0 Comments 0 Shares 107 Views 0 Reviews
  • ลูกอมเนื้อว่านหลวงพ่อแดง 5 แชะ วัดศรีมหาโพธิ์ จ.ปัตตานี
    ลูกอมเนื้อว่าน(ติดจีวร +โค็ดระฆัง) หลวงพ่อแดง 5 แชะ วัดศรีมหาโพธิ์ จ.ปัตตานี //ติดจีวรหลวงปู่แดง สร้างแจกคนใกล้ชิด ญาติและลูกๆหลานๆของท่าน ไม่มีจำหน่ายให้บูชาครับ หายากมากครับ //พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเด่นทางคงกระพันชาตรี ฟันแทงไม่เข้า เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันภัยอันตรายจากศาสตราวุธทั้งหลาย เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ดีนัก. เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย >>

    ** หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์ จ.ปัตตานี วัตถุมงคลของท่านได้รับความนิยมทุกรุ่น และหนึ่งรุ่นที่ฮือฮาสุดๆ ก็คือ พระหลวงพ่อทวดพิมพ์พิเศษ รุ่นประสบการณ์ หรือที่เรียกกันว่า "รุ่น 5 แชะ" ซึ่งโด่งดังเป็นข่าวหน้าหนึ่งทั่วประเทศเมื่อปี พ.ศ.2539 ใช่ว่าจะมีเพียงวัตถุมงคลเท่านั้น สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ชาวบ้านก็ประสบกับตัวเองมามาก เช่น การบนบานศาลกล่าวขอความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา เมื่อเห็นผลแล้วก็มักจะมา ขอปิดแผ่นทองคำเปลวที่ตัวท่านเสมอ วันหนึ่งๆ มีคนมาขอแก้บนหลายๆ ราย แม้ภายหลังมรณภาพแล้ว ก็กล่าวได้ว่าความศักดิ์สิทธิ์ในตัวท่าน ยังคงศักดิ์สิทธิ์มิเสื่อมคลายมาจนทุกวันนี้ ซึ่งไม่มีใครรู้ดีไปกว่า ผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์ท่านอย่างแน่นอน!!! >>


    * พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    ลูกอมเนื้อว่านหลวงพ่อแดง 5 แชะ วัดศรีมหาโพธิ์ จ.ปัตตานี ลูกอมเนื้อว่าน(ติดจีวร +โค็ดระฆัง) หลวงพ่อแดง 5 แชะ วัดศรีมหาโพธิ์ จ.ปัตตานี //ติดจีวรหลวงปู่แดง สร้างแจกคนใกล้ชิด ญาติและลูกๆหลานๆของท่าน ไม่มีจำหน่ายให้บูชาครับ หายากมากครับ //พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเด่นทางคงกระพันชาตรี ฟันแทงไม่เข้า เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันภัยอันตรายจากศาสตราวุธทั้งหลาย เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ดีนัก. เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย >> ** หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์ จ.ปัตตานี วัตถุมงคลของท่านได้รับความนิยมทุกรุ่น และหนึ่งรุ่นที่ฮือฮาสุดๆ ก็คือ พระหลวงพ่อทวดพิมพ์พิเศษ รุ่นประสบการณ์ หรือที่เรียกกันว่า "รุ่น 5 แชะ" ซึ่งโด่งดังเป็นข่าวหน้าหนึ่งทั่วประเทศเมื่อปี พ.ศ.2539 ใช่ว่าจะมีเพียงวัตถุมงคลเท่านั้น สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ชาวบ้านก็ประสบกับตัวเองมามาก เช่น การบนบานศาลกล่าวขอความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา เมื่อเห็นผลแล้วก็มักจะมา ขอปิดแผ่นทองคำเปลวที่ตัวท่านเสมอ วันหนึ่งๆ มีคนมาขอแก้บนหลายๆ ราย แม้ภายหลังมรณภาพแล้ว ก็กล่าวได้ว่าความศักดิ์สิทธิ์ในตัวท่าน ยังคงศักดิ์สิทธิ์มิเสื่อมคลายมาจนทุกวันนี้ ซึ่งไม่มีใครรู้ดีไปกว่า ผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์ท่านอย่างแน่นอน!!! >> * พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 122 Views 0 Reviews
  • ..มนุษย์โง่ลงจริงๆนั้นล่ะ,โง่จากกระบวนการปกครองเพื่อปกครองคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,ใช่กฎหมายปกครองคนโง่สะดวกสบายกว่าคนไม่โง่,ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,คนโง่มีลักษณะความเป็นทาสที่เชื่อฟังมากกว่าคนไม่โง่ในสายตาของชนชั้นปกครองแบบรัฐบาลที่ปกครองประเทศนั้นๆ,ปัจจุบันอีลิทdeep stateชั่วเลวได้ควบคุมปกครองผู้นำผู้ปกครองในแต่ละประเทศทั่วโลกแล้ว,จึงเป็นไปเพื่อปกครองมนุษย์ให้โง่แบบเชิงฝูงชนได้ง่าย ไปไหนไปด้วยกันไปทางเดียวกันแบบเหมือนคนโง่เข้าใจว่าตนเองตัดสินใจเองไร้บังคับและเต็มใจทำอย่างชาญฉลาดแล้วก็ว่าแต่หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักในกรอบความโง่ขององค์รวมทั้งหมดรอบโลกหรือทั่วโลก,ใครที่หลุดงานฉลาดคิดค้นความฉลาดออกมาสาระพัดจะถูกรัฐบาลประเทศนั้นๆกำจัดทิ้งหรือปิดกั้นหรือสร้างเงื่อนไขกติกามิให้มีบริบทออกสู่สาธารณะเพื่อกระจายความฉลาดสร้งสรรค์ให้ขยายกว้างขวางหรือต่อยอดใดๆได้,จะปล่อยควบคุมให้รู้หรือไม่ให้รู้จากรัฐบาลสแกนก่อนเท่านัันจึงจะให้เผยแผ่ออกสู่สาธารณะได้,หรือสร้างกลไกราคาสิ่งนั้นๆแพงมหาศาลโดยอ้างความคิดสร้างสรรค์นัันทำราคารายได้หาผลประโยชน์แก่มันได้,นี้คือตย.วิถีปกครองควบคุมมนุษย์อีกมุมด้าน ทำโง่ลงแบบไม่รู้ตัวทีละนิดให้สะดวกแก่การปกครอง ใครต่อต้านไม่เห็นด้วยก็เอากฎหมายเขียนดักการกระทำลงโทษกำจัดคนแบบนั้นเนียนๆอย่างชอบธรรมในสายตาคนทั่วไปว่าปกครองตามกติกาซึ่งกติกาต่างๆมันเองตีตราออกมาเพื่อมิให้คนคัดค้านเพื่อมิให้เห็นต่างเพื่อสะดวกต่อการทำคนให้โง่ลงเรื่อยๆได้ดีผ่านกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยจนควบคุมเบ็ดเสร็จ,ยิ่งถ้าไทยเราหรือย่อมาไทยหากdeep stateโลกปกครองประเทศไทยหลังฉากจริง เช่นบ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยมันก็ยึดครอบครองเอาเองแทนคนไทยหมดบนแผ่นดินไทยที่อ้างว่าต่างชาติมาลงทุนในนามได้สัมปทานแดกจากต่างชาติ นักวิชาการเต็มบ้านเต็มเมืองไม่กล้าออกมาพูดผ่านสื่อหลักไทยสักแอะ,ข้าราชการและสส.เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ออกมาประชุมบอกความจริงอะไรแก่ประชาชนว่าคนไทยภูกเอาเปรียบและเสียเปรียบแต่แรก,ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์กำไรกลับทำกำไรดีขึ้นเสมอ,แต่ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเสีย สินค้าทั่วประเทศแบะบริการแพงทั่วหน้าพร้อมกันในทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพื่อทำกำไร,เมื่อผิดพลาดก็ไม่เอาปตท.ออกจากตลาดSETหรือยุบการทำหน้าที่ของปตท.ไปมิให้มีบทบาทใดๆต่อพลังงานไทยเพราะเสมือนเอกชนเต็มตัวไปแล้วในความเป็นจริงเช่นนั้นโรงเรียนหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆก็เข้าตลาดsetไปหมดแล้ว,ตลาดsetจริงๆคือเอกชนเท่านั้นเข้าไปเล่น,หน่วยงานรัฐทุกๆกรณีห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกๆกรณี,เพราะในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบมันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ,นี้คือวิถีทำประชาชนให้โง่ให้การปกครองทำได้สำเร็จอีกมุม,ทรัพยากรมากมายมีค่าของประเทศไทยด้วยวิถีปกครองที่deep stateสากลโลกข้ามชาติปกครองหลังฉากเรื่อยมาจึงเป็นอันมากถูกผ่องถ่ายทัังความมั่งคั่งร่ำรวยจนมั่นคงจากประชาชนไทยไปเป็นของต่างชาติหรือเอกชนไทยเองที่เลวชั่วหรือเป็นสมุนรับใช้หรือเป็นนอมินีในหมากมุกอีกตัวในวางสนุ๊คสร้างภาพว่ามิใช่ของต่างชาตินะก็ว่า,ตลอดวิถีการออกกฎหมายมากมายเป็นไปเพื่อควบคุมทาสควบคุมให้คนโง่ขึ้น ตัดขาการพึ่งพาตนเอง และทำให้ยากจนยิ่งสะดวกปกครอง,อาทิ ค่าปรับมากๆในกฎหมายจราจรที่คนใช้มากๆง่ายๆวันนี้ปรับ2,000บาททั้งคนขับขี่และคนนั่งมาด้วยหากไม่สวมหมวกกันน็อค,จริงๆมันชีวิตเขา เขาสามารถทำวิถีชีวิตเขาอิสระเสรีได้หมด อยากใส่หรือไม่อยากใส่คือสิทธิ์อธิไปไตยส่วนตัวเขา ความเสี่ยงปัจเจกบุคคลเขา จะเป็นจะตายเขารับทราบรับรู้เองคนใช้มากๆคือกำไรคือผลประโยชน์แน่นอน ค่าไฟฟ้าเอยที่รัฐบาลผ่องถ่ายการผลิตไฟฟ้าหรือรับซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนมาขายให้ครัวเรือนคนไทยแพงๆแทนได้ซึ่งกูรูมากมายออกมาแฉแล้ว ราคาน้ำมันขึ้นเอย การห้ามเผาฟางในนาข้าวอีกควบคุมคนทีละน้อยมิให้รู้ตัว หรือห้ามจับปลาของชาวบ้านในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเองยิ่งในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงทำมาหากินลำบากเศรษฐกิจทั่วโลกพัง ตังขาดมือ ร่ำรวยหนี้สิน ตังหาลำบาก ทองแพงขึ้น คนตกงานมากมหาศาล โรงงานย้ายฐานการผลิตและปิดตัวในไทยมากมาย ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมากปิดตัวลงเรื่อยๆคนตกงานในอัตราเร่งผิดปกติในขณะที่รายได้คนลงลดทันทีแน่นอน จำเป็นต้องพึ่งตนเองและธรรมชาติในอีกมุมมองของปากท้องของชาวบ้านเสือกห้ามพึ่งพาตนเองหากินในแหล่งธรรมชาติ มุกอีลิทปกครองต่อคนโง่จึงสร้างกติกาเนียนๆมากมายจริงๆนะ ลดบทบาทมิให้ผู้คนหากินพึ่งตนเองได้ ยิ่งคนชาวบ้านยากจนยิ่งสะดวกต่อเอาอ้างข้อกฎหมายเขียนกฎหมายออกมาไปบังคับใช้ประชาชน,เก็บเห็ดในป่าสงวนเอยกลัวคนเข้าไปเห็นการกระทำชั่วในป่า,อดีตถ้าพรบ.เมล็ดพันธ์เกิดขึ้นได้จริงประชาชนยิ่งอาจปลูกนั้นนี้กินเองลำบากอาจติดคุกอีกหากเอกชนเล่นงานเหมือนต่างชาติ ฉีกเมล็ดพันธ์เอกชนไว้ทำพันธ์ุปลูกต่อเป็นการผิดกฎหมายละอองเกษรปลิวไปผสมพันธุ์ไร่นาชาวบ้านต่างชาติมันยังฟ้องว่าชาวบ้านผิดได้,นี้เกิดในยุคยึดอำนาจนะถ้าพรบ.นี้ผ่านออกมาได้ ประชาชนประท้วงจึงถอนทิ้ง,พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอีกหรือพรบ.คาร์เครดิตก็ด้วยตัวควบคุมทาสมนุษย์อีกตัว ช่วงหนึ่งแบงค์โปรมาก หมายเอาคาร์บอนเครดิตใช้ร่วมกับการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้เลยล่ะและอนาคตพวกมันเครือข่ายเอกชนในหลายๆวงการอุตสาหกรรมพร้อมใจกันร่วมเอาไปใช้เลยล่ะ คุณมีคาร์บอนเครดิตเท่าไรก็ว่า,แทนตังในอนาคตก็ว่าอีก,
    ..มันคือภัยเนียนๆที่ร้ายกาจมาก มิใช่คนโง่ลงแต่ถูกทำให้โง่ลงผ่านกระบวนการกฎหมาย ,และกฎหมายถูกบรรญัติขึ้นสมมุติขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้ควบคุมผู้คนและอ้างว่าใช้บังคับร่วมกัน,จริงๆใช้บังคับคนโง่เพื่อควบคุมผู้คนปกครอง,ปกครองในวิถีปกครองได้ง่ายขึ้นของชนชั้นdeep stateอีลิทและเดอะแก๊งมันทั้งหมด.

    https://youtube.com/shorts/3ZRqhoMbdV4?si=kuUTM-AlatbhznZ_
    ..มนุษย์โง่ลงจริงๆนั้นล่ะ,โง่จากกระบวนการปกครองเพื่อปกครองคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,ใช่กฎหมายปกครองคนโง่สะดวกสบายกว่าคนไม่โง่,ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,คนโง่มีลักษณะความเป็นทาสที่เชื่อฟังมากกว่าคนไม่โง่ในสายตาของชนชั้นปกครองแบบรัฐบาลที่ปกครองประเทศนั้นๆ,ปัจจุบันอีลิทdeep stateชั่วเลวได้ควบคุมปกครองผู้นำผู้ปกครองในแต่ละประเทศทั่วโลกแล้ว,จึงเป็นไปเพื่อปกครองมนุษย์ให้โง่แบบเชิงฝูงชนได้ง่าย ไปไหนไปด้วยกันไปทางเดียวกันแบบเหมือนคนโง่เข้าใจว่าตนเองตัดสินใจเองไร้บังคับและเต็มใจทำอย่างชาญฉลาดแล้วก็ว่าแต่หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักในกรอบความโง่ขององค์รวมทั้งหมดรอบโลกหรือทั่วโลก,ใครที่หลุดงานฉลาดคิดค้นความฉลาดออกมาสาระพัดจะถูกรัฐบาลประเทศนั้นๆกำจัดทิ้งหรือปิดกั้นหรือสร้างเงื่อนไขกติกามิให้มีบริบทออกสู่สาธารณะเพื่อกระจายความฉลาดสร้งสรรค์ให้ขยายกว้างขวางหรือต่อยอดใดๆได้,จะปล่อยควบคุมให้รู้หรือไม่ให้รู้จากรัฐบาลสแกนก่อนเท่านัันจึงจะให้เผยแผ่ออกสู่สาธารณะได้,หรือสร้างกลไกราคาสิ่งนั้นๆแพงมหาศาลโดยอ้างความคิดสร้างสรรค์นัันทำราคารายได้หาผลประโยชน์แก่มันได้,นี้คือตย.วิถีปกครองควบคุมมนุษย์อีกมุมด้าน ทำโง่ลงแบบไม่รู้ตัวทีละนิดให้สะดวกแก่การปกครอง ใครต่อต้านไม่เห็นด้วยก็เอากฎหมายเขียนดักการกระทำลงโทษกำจัดคนแบบนั้นเนียนๆอย่างชอบธรรมในสายตาคนทั่วไปว่าปกครองตามกติกาซึ่งกติกาต่างๆมันเองตีตราออกมาเพื่อมิให้คนคัดค้านเพื่อมิให้เห็นต่างเพื่อสะดวกต่อการทำคนให้โง่ลงเรื่อยๆได้ดีผ่านกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยจนควบคุมเบ็ดเสร็จ,ยิ่งถ้าไทยเราหรือย่อมาไทยหากdeep stateโลกปกครองประเทศไทยหลังฉากจริง เช่นบ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยมันก็ยึดครอบครองเอาเองแทนคนไทยหมดบนแผ่นดินไทยที่อ้างว่าต่างชาติมาลงทุนในนามได้สัมปทานแดกจากต่างชาติ นักวิชาการเต็มบ้านเต็มเมืองไม่กล้าออกมาพูดผ่านสื่อหลักไทยสักแอะ,ข้าราชการและสส.เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ออกมาประชุมบอกความจริงอะไรแก่ประชาชนว่าคนไทยภูกเอาเปรียบและเสียเปรียบแต่แรก,ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์กำไรกลับทำกำไรดีขึ้นเสมอ,แต่ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเสีย สินค้าทั่วประเทศแบะบริการแพงทั่วหน้าพร้อมกันในทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพื่อทำกำไร,เมื่อผิดพลาดก็ไม่เอาปตท.ออกจากตลาดSETหรือยุบการทำหน้าที่ของปตท.ไปมิให้มีบทบาทใดๆต่อพลังงานไทยเพราะเสมือนเอกชนเต็มตัวไปแล้วในความเป็นจริงเช่นนั้นโรงเรียนหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆก็เข้าตลาดsetไปหมดแล้ว,ตลาดsetจริงๆคือเอกชนเท่านั้นเข้าไปเล่น,หน่วยงานรัฐทุกๆกรณีห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกๆกรณี,เพราะในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบมันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ,นี้คือวิถีทำประชาชนให้โง่ให้การปกครองทำได้สำเร็จอีกมุม,ทรัพยากรมากมายมีค่าของประเทศไทยด้วยวิถีปกครองที่deep stateสากลโลกข้ามชาติปกครองหลังฉากเรื่อยมาจึงเป็นอันมากถูกผ่องถ่ายทัังความมั่งคั่งร่ำรวยจนมั่นคงจากประชาชนไทยไปเป็นของต่างชาติหรือเอกชนไทยเองที่เลวชั่วหรือเป็นสมุนรับใช้หรือเป็นนอมินีในหมากมุกอีกตัวในวางสนุ๊คสร้างภาพว่ามิใช่ของต่างชาตินะก็ว่า,ตลอดวิถีการออกกฎหมายมากมายเป็นไปเพื่อควบคุมทาสควบคุมให้คนโง่ขึ้น ตัดขาการพึ่งพาตนเอง และทำให้ยากจนยิ่งสะดวกปกครอง,อาทิ ค่าปรับมากๆในกฎหมายจราจรที่คนใช้มากๆง่ายๆวันนี้ปรับ2,000บาททั้งคนขับขี่และคนนั่งมาด้วยหากไม่สวมหมวกกันน็อค,จริงๆมันชีวิตเขา เขาสามารถทำวิถีชีวิตเขาอิสระเสรีได้หมด อยากใส่หรือไม่อยากใส่คือสิทธิ์อธิไปไตยส่วนตัวเขา ความเสี่ยงปัจเจกบุคคลเขา จะเป็นจะตายเขารับทราบรับรู้เองคนใช้มากๆคือกำไรคือผลประโยชน์แน่นอน ค่าไฟฟ้าเอยที่รัฐบาลผ่องถ่ายการผลิตไฟฟ้าหรือรับซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนมาขายให้ครัวเรือนคนไทยแพงๆแทนได้ซึ่งกูรูมากมายออกมาแฉแล้ว ราคาน้ำมันขึ้นเอย การห้ามเผาฟางในนาข้าวอีกควบคุมคนทีละน้อยมิให้รู้ตัว หรือห้ามจับปลาของชาวบ้านในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเองยิ่งในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงทำมาหากินลำบากเศรษฐกิจทั่วโลกพัง ตังขาดมือ ร่ำรวยหนี้สิน ตังหาลำบาก ทองแพงขึ้น คนตกงานมากมหาศาล โรงงานย้ายฐานการผลิตและปิดตัวในไทยมากมาย ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมากปิดตัวลงเรื่อยๆคนตกงานในอัตราเร่งผิดปกติในขณะที่รายได้คนลงลดทันทีแน่นอน จำเป็นต้องพึ่งตนเองและธรรมชาติในอีกมุมมองของปากท้องของชาวบ้านเสือกห้ามพึ่งพาตนเองหากินในแหล่งธรรมชาติ มุกอีลิทปกครองต่อคนโง่จึงสร้างกติกาเนียนๆมากมายจริงๆนะ ลดบทบาทมิให้ผู้คนหากินพึ่งตนเองได้ ยิ่งคนชาวบ้านยากจนยิ่งสะดวกต่อเอาอ้างข้อกฎหมายเขียนกฎหมายออกมาไปบังคับใช้ประชาชน,เก็บเห็ดในป่าสงวนเอยกลัวคนเข้าไปเห็นการกระทำชั่วในป่า,อดีตถ้าพรบ.เมล็ดพันธ์เกิดขึ้นได้จริงประชาชนยิ่งอาจปลูกนั้นนี้กินเองลำบากอาจติดคุกอีกหากเอกชนเล่นงานเหมือนต่างชาติ ฉีกเมล็ดพันธ์เอกชนไว้ทำพันธ์ุปลูกต่อเป็นการผิดกฎหมายละอองเกษรปลิวไปผสมพันธุ์ไร่นาชาวบ้านต่างชาติมันยังฟ้องว่าชาวบ้านผิดได้,นี้เกิดในยุคยึดอำนาจนะถ้าพรบ.นี้ผ่านออกมาได้ ประชาชนประท้วงจึงถอนทิ้ง,พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอีกหรือพรบ.คาร์เครดิตก็ด้วยตัวควบคุมทาสมนุษย์อีกตัว ช่วงหนึ่งแบงค์โปรมาก หมายเอาคาร์บอนเครดิตใช้ร่วมกับการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้เลยล่ะและอนาคตพวกมันเครือข่ายเอกชนในหลายๆวงการอุตสาหกรรมพร้อมใจกันร่วมเอาไปใช้เลยล่ะ คุณมีคาร์บอนเครดิตเท่าไรก็ว่า,แทนตังในอนาคตก็ว่าอีก, ..มันคือภัยเนียนๆที่ร้ายกาจมาก มิใช่คนโง่ลงแต่ถูกทำให้โง่ลงผ่านกระบวนการกฎหมาย ,และกฎหมายถูกบรรญัติขึ้นสมมุติขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้ควบคุมผู้คนและอ้างว่าใช้บังคับร่วมกัน,จริงๆใช้บังคับคนโง่เพื่อควบคุมผู้คนปกครอง,ปกครองในวิถีปกครองได้ง่ายขึ้นของชนชั้นdeep stateอีลิทและเดอะแก๊งมันทั้งหมด. https://youtube.com/shorts/3ZRqhoMbdV4?si=kuUTM-AlatbhznZ_
    0 Comments 0 Shares 222 Views 0 Reviews
  • **ภาพวาด 24 กตัญญู**

    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงฉากที่พระนางในเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> สวมหน้ากากร่วมทายปริศนากันในเทศกาลโคมไฟ วันนี้มาคุยกันต่ออีกนิดเกี่ยวกับฉากนี้ ในเนื้อเรื่องนางเอกชนะได้โคมไฟหนึ่งใบซึ่งนางมอบให้พระเอกและพระเอกให้คนส่งต่อไปให้พ่อของเขา โดยโคมไฟใบนี้เป็นลายภาพที่นางเอกเรียกว่า ‘ภาพวาด 24 กตัญญู’

    ‘24 กตัญญู’ (二十四孝/เอ้อร์สือซื่อเซี่ยว) เป็นเรื่องราวความกตัญญูยี่สิบสี่เรื่องที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในสมัยหยวนโดยกัวจวีจิ้ง บัณฑิตชนบทธรรดาจากหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าความกตัญญูในประวัติศาสตร์จากหลายแหล่งมาเรียบเรียงเป็นประโยคกลอนสั้นประมาณสี่วรรค ทำให้ง่ายต่อการเล่าต่อและจดจำ จึงกลายเป็นหนึ่งในนิทานสอนเด็กที่ชาวบ้านนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาถูกหยิบยกมาเป็นเนื้อหาของภาพวาดหรืองานแกะสลักโดยหลากหลายศิลปินหลายยุคสมัย

    เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทกวี 24 กตัญญูมีที่มาจาก ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ (孝子传/เซี่ยวจื่อจ้วน) ซึ่งถูกประพันธ์ขึ้นโดยหลิวเซี่ยง ราชนิกุลและนักประวัติศาสตร์อักษรศาสตร์สมัยฮั่นตะวันตก เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่สะท้อนแนวคำสอนและปรัชญาของขงจื๊อ และต่อมา ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ ถูกนำไปรวมอยู่ในอีกหลากหลายบทประพันธ์ในอีกหลายยุคสมัย หนึ่งในนั้นคือบันทึกเรื่องเล่าความกตัญญูยาวกว่าห้าม้วนที่ถูกค้นพบในห้องศิลาที่ตุนหวง

    24 กตัญญูกล่าวถึงอะไรบ้าง บทความยาวหน่อยนะคะ สรุปโดยสั้นได้ดังนี้ (ดูรูปประกอบ):

    1. กตัญญูสะเทือนสวรรค์: เป็นเรื่องราวของจักรพรรดิซุ่นกว่าสี่พันปีที่แล้ว (เป็นหนึ่งในสามราชันห้าจักรพรรดิในตำนาน) เมื่อครั้งเขายังเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ถูกพ่อ แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดาให้ร้ายสารพัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาไม่คิดแค้นเคืองและยังคงดูแลพวกเขาอย่างดี จนสวรรค์เห็นใจจึงบันดาลให้มีช้างมาช่วยปรับผิวดินและมีนกมาช่วยหว่านเมล็ดพืชจนทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ต่อมาจักรพรรดิ์เหยาได้ยินกิตติศัพท์ความกตัญญูของเขาก็รับเป็นราชบุตรเขยและสุดท้ายให้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป

    2. แบกข้าวให้บุพการี: กล่าวถึงจงโหยว (นามรองจื่อลู่) หนึ่งในศิษย์เอกของขงจื๊อ ขุนนางชื่อดังแห่งแคว้นเว่ยในยุคสมัยชุนชิว เขามีพื้นเพยากจน ทุกวันจะกินแต่ผักผลไม้ป่าเพื่อประหยัดเงิน แต่ยอมเดินทางไกลกว่าร้อยหลี่เพื่อไปหาซื้อข้าวแบกกลับมาให้พ่อแม่กิน ต่อมาเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ดีมีอันจะกินก็มักจะพร่ำเสียดายที่พ่อแม่ไม่มีชีวิตอยู่ดีกินดีกับเขา

    3. ฮ่องเต้ชิมยา: เป็นเรื่องราวของฮั่นเหวินตี้หลิวเหิง บุตรของป๋อไทเฮา ที่คอยดูแลป๋อไทเฮาในยามป่วยตลอดสามปีด้วยตนเองแม้จะเป็นถึงฮ่องเต้มีข้าราชบริพารมากมาย โดยจะชิมยาของแม่ก่อนป้อนให้แม่ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่ายานั้นอุ่นกำลังดีไม่ร้อนเกินไป

    4. ขายตัวฝังศพพ่อ: เป็นเรื่องราวของบุรุษนามว่าตงหย่งในสมัยฮั่นที่กำพร้าแม่แต่เด็ก ต่อมาเมื่อพ่อเสียชีวิตก็ไม่มีเงินทำศพพ่อจึงยอมขายตัวเองไปเป็นทาส วันหนึ่งพบเข้ากับสตรีกำพร้าไร้ที่ไป นางขอให้เขาช่วยแต่งงานอยู่กินกันโดยนางยินดีเข้าไปช่วยทำงานที่เรือนเศรษฐีด้วย เศรษฐีตกลงว่าเมื่อนางทอผ้าได้ครบสามร้อยพับก็จะอนุญาตให้ทั้งคู่ไถ่ตัวได้ นางใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ทำสำเร็จ ต่อมานางบอกความจริงว่านางเป็นเทพธิดาและสวรรค์ซาบซึ้งกับความกตัญญูของเขาจึงมอบหมายให้มาช่วยเขา จากนั้นก็อำลาจากไป

    5. สีสันบันเทิงเพื่อบุพการี: กล่าวถึงเหล่าช่ายจื่อ หนึ่งในบัณฑิตมากความรู้ที่เร้นกายอยู่ในป่าในสมัยชุนชิว เขารักพ่อแม่มากอยากให้พ่อแม่เบิกบานใจทุกวัน ถึงขนาดว่าตัวเองอยู่ในวัย 70 ปีแล้วแต่ก็ยังแต่งตัวสีสันฉูดฉาดเล่นเป็นเด็ก หกล้มลงก็แกล้งทำเป็นกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่วัยเฒ่าหัวเราะแทนที่จะตกใจเสียใจ

    6. นิ้วแม่เชื่อมใจลูก: เป็นเรื่องราวของเจิงจื่อ นักปรัชญาแห่งราชสำนักโจวและลูกศิษย์ของขงจื๊อ ที่วันหนึ่งออกไปเก็บฟืน แต่มีแขกมาเยือน แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวก็กระวนกระวายไม่รู้ว่าจะต้อนรับขับสู้อย่างไรดี จนถึงขนาดกัดนิ้วตนเองด้วยความเครียด เจิงจื่อที่อยู่ในป่ากลับรู้สึกได้ถึงความเจ็บนั้น จึงรีบรุดกลับบ้านมาดูแม่และรับรองแขกด้วยตนเอง บ่งบอกถึงสายใยเหนียวแน่นของแม่ลูก

    7. คัดผลไม้ให้แม่กิน: เป็นเรื่องราวของไช่ซุ่นในสมัยฮั่น เขาอาศัยเก็บผลหม่อนกินประทังชีวิตเพราะยากจนมากและข้าวของราคาแพงเพราะสงคราม อยู่มาวันหนึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่นำขบวนทหารผ่านมาเห็นเขาแยกผลหม่อน ถามได้ความว่าเขาแยกผลสุกสีเข้มให้แม่กิน ส่วนตัวเองกินที่สีแดงที่ยังเปรี้ยวเฝื่อน นายทหารเห็นแก่ความกตัญญูของเขาจึงแบ่งปันเสบียงทหารให้ชายหนุ่ม

    8. กราบไหว้รูปสลักบุพการี: กล่าวถึงบุรุษสมัยฮั่นตะวันออกนามว่าหลันติงที่กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก เขาแกะสลักรูปปั้นพ่อแม่ตั้งไว้ในบ้านกราบไหว้ทุกวันเพราะละอายใจที่ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณ ไม่เพียงกราบไหว้สามมื้อก่อนจะกินข้าว แต่มีเรื่องอะไรก็จะไปนั่งคุยให้รูปปั้นฟัง หนักเข้าภรรยาก็รำคาญ เลยลองเอาเข็มไปจิ้มรูปปั้น เมื่อเขากลับมาบ้านพบว่ารูปปั้นน้ำตาไหล เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้แล้วเขาก็เลิกกับภรรยา

    9. น้ำนมกวางเพื่อบุพการี: กล่าวถึงถานจื่อ ประมุขแคว้นถานซึ่งเป็นแคว้นเล็กในสมัยราชวงศ์โจว ในสมัยเด็กเขายากจนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราแล้วและตาไม่ดี ต้องกินนมกวางช่วยบำรุงรักษา เขามักจะใช้หนังกวางคลุมตัวแล้วย่องเข้าไปปะปนอยู่ในฝูงกวางเพื่อเอานมกวางมาให้พ่อแม่กิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกือบโดนนายพรานยิง แต่เมื่อนายพรานได้ยินเรื่องราวความจำเป็นของเขาก็ยกนมกวางให้และยังส่งเขากลับบ้านด้วยตนเอง

    10. สวมเสื้อไส้ใยกก: เป็นเรื่องของหมินสุ่น (นามรองจื่อเชียน) หนึ่งในลูกศิษย์ของขงจื๊อ เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อแต่งภรรยาใหม่มีลูกชายอีกสองคน เขาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ต้องสวมเสื้อใยกกในขณะที่น้องๆ ได้สวมเสื้อบุฝ้ายในยามหนาว วันหนึ่งเขาช่วยจูงรถให้พ่อแต่หนาวจนทำให้เชือกหลุดมือ พ่อบันดาลโทสะเฆี่ยนจนเสื้อขาดจึงพบว่าลูกชายคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยกันหนาว พ่อโกรธแม่เลี้ยงมากถึงกับเอ่ยปากบอกเลิกทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่หมินสุ่นอ้อนวอนขออภัยแทนแม่เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้มีลูกเพียงคนเดียวที่ลำบาก แต่ถ้าแม่เลี้ยงไม่อยู่จะมีลูกถึงสามคนที่ลำบาก สุดท้ายแม่เลี้ยงได้รับการให้อภัย นางจึงกลับตัวกลับใจดูแลหมินสุ่นอย่างดีนับแต่นั้นมา

    11. ฝังลูกเพื่อแม่: กล่าวถึงบุรุษนามว่ากัวจวี้ในสมัยฮั่น เขามีฐานะยากจน เมื่อพ่อเสียก็แลแม่เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อภรรยาคลอดบุตร เขาก็รู้สึกว่าเลี้ยงดูไม่ไหวและไม่อยากให้แม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อไปกับเขา จึงตัดสินใจจะฝังลูกเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยา แต่เมื่อขุดดินลงไปกลับพบทองคำหนึ่งไห เรื่องราวจบลงด้วยดีโดยเขาไม่ต้องฆ่าลูกตัวเองและมีฐานะดีขึ้น

    12. ปลากระโดดจากบ่อน้ำ: กล่าวถึงบุรุษนามว่าเจียงซือในสมัยฮั่น เขามีภรรยาแซ่ผางที่กตัญญูกับแม่สามีมาก แม่สามีชอบกินปลาก็ออกไปจับปลามาให้กิน อยู่มาวันหนึ่งอากาศไม่ดีกว่านางแซ่ผางจะกลับถึงบ้านก็ดึกจึงถูกเจียงซือไล่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจผิดว่านางตั้งใจละเลยแม่ของเขา เมื่อแม่ของเจียงซือรู้เรื่องให้เจียงซือไปรับนางกลับมา และตั้งแต่วันที่นางกลับเข้าบ้านมาก็ปรากฏปลาหลีฮื้อสองตัวกระโดดออกมาจากบ่อน้ำกลางบ้านทุกวัน ทำให้นางไม่ต้องไปจับปลาในแม่น้ำอีกต่อไป

    13. ซุกส้มให้แม่: เป็นเรื่องราวของลู่จี้ ขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย กล่าวถึงเมื่อตอนเขาอายุหกขวบ ได้มีโอกาสติดตามพ่อไปพบแม่ทัพท่านหนึ่งที่จวน ครั้นพอเขาคารวะอำลากลับ ส้มสองลูกที่เขาซุกไว้อยู่ในแขนเสื้อกลิ้งหล่นออกมา สอบถามได้ใจความว่าเขาเห็นแม่ชอบกินส้มจึงตั้งใจเก็บเอาไปให้แม่กิน ทำให้แม่ทัพรู้สึกประหลาดใจและชมชอบในความกตัญญูของเด็กคนนี้

    14. ยินเสียงฟ้าร้องปลอบแม่ที่หลุมศพ: กล่าวถึงบัณฑิตหนุ่มจากแคว้นเว่ยนามว่าหวางโผว แม่ของเขาเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องมาก แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ฝนตกหนักฟ้าร้อง หวางโผวจะไปกราบหลุมศพนางพร้อมกับปลอบให้นางไม่ต้องกลัว

    15. กอดเสือช่วยพ่อ: กล่าวถึงสตรีนางหนึ่งในสมัยราชวงศ์จิ้นนามว่าหยางเซียง เมื่อครั้งนางมีอายุสิบสี่ปีได้ออกไปทำนากับพ่อ แต่พลันปรากฏเสือตัวหนึ่งกระโจนใส่พ่อจนล้มไป นางไม่มีอาวุธใดแต่ก็กระโดดกอดคอเสือแน่นเพื่อไม่ให้เสือกัดพ่อ สุดท้ายเสือยอมแพ้ปล่อยพ่อของนางแล้วหนีไป

    16. ให้นมย่าทวด: เป็นเรื่องราวความกตัญญูของย่าของเจี๋ยตู้สื่อชุยซานหนานในสมัยถัง เล่าถึงเมื่อครั้งที่ย่าทวดของชุยซานหนานทั้งแก่ทั้งไม่สบายจนเคี้ยวอาหารหยาบไม่ได้เลย ย่าของเขาคอยดูแลโดยใช้น้ำนมของตนป้อนจนย่าทวดอิ่ม ต่อมาทั้งครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขและรุ่นลูกรุ่นหลานล้วนแสดงความกตัญญูต่อย่าของเขาเช่นกัน

    17. พัดหมอนอุ่นผ้าห่ม: เป็นเรื่องราวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยฮั่นนามว่าหวงเซียง เขากำพร้าแม่แต่เด็กและคอยดูแลพ่อ แม้ด้วยวัยเพียงเก้าขวบก็รู้จักพัดหมอนของพ่อให้คลายร้อนในหน้าร้อนและนอนอุ่นผ้าห่มของพ่อในหน้าหนาวเพื่อว่าพ่อของเขาจะได้นอนหลับสบาย

    18. ร่ำไห้จนเกิดหน่อไม้: กล่าวถึงขุนนางสมัยสามก๊กนามว่าเมิ่งจง เขากำพร้าพ่อแต่เด็ก เมื่อครั้งยังหนุ่มต้องดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนัก หมอบอกว่าต้องให้แม่กินหน่อไม้สด แต่จนใจเป็นฤดูหนาว เขาหาจนทั่วก็ไม่มีจึงเสียใจคุกเข่าร้องไห้กลางป่า ปรากฏว่าอยู่ดีๆ พื้นดินก็แยกออกแล้วมีหน่อไม้ผุดขึ้นมาให้เขาเก็บกลับบ้านให้แม่กินจนหายป่วย

    19. ล่อยุงแทนพ่อ: กล่าวถึงอู๋เหมิ่ง นักพรตในสมัยสามก๊ก ที่ในสมัยเด็กครอบครัวยากจนไม่มีแม้แต่มุ้งจะกางนอน เขามักจะถอดเสื้อนอนล่อให้ยุงมากัด เพื่อว่าพ่อแม่จะได้นอนหลับสบาย

    20. ล้างกระโถนให้แม่: เป็นเรื่องราวของกวีและนักเขียนอักษรชื่อดังสมัยซ่งเหนือนามว่าหวงถิงเจียน เขาดูแลแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าจะมีฐานะดี และจะเอากระโถนของแม่ไปเทล้างด้วยตนเองทุกวันไม่เคยขาด

    21. แบกแม่หลบภัย: กล่าวถึงเจียงเก๋อ ขุนนางตงฉินชื่อดังผู้ถูกยกย่องเป็นขุนนางยอดกตัญญูในรัชสมัยของกษัตริย์อู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์เหนือใต้ เจียงเก๋อกำพร้าพ่อแต่เด็กและกตัญญูต่อแม่มาก ครั้งหนึ่งเคยแบกแม่เดินทางหนีสงคราม พบเข้ากับโจรภูเขา เขาอ้อนวอนว่าถ้าเขาตายไป แม่ผู้ชราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายโจรภูเขาเลยย้อมไว้ชีวิตปล่อยตัวไปทั้งเขาและแม่

    22. ขอปลาบนน้ำแข็ง: เป็นเรื่องของหวางเสียง หนึ่งในขุนนางระดับสูงของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เขากำพร้าแม่แต่เด็ก มีแม่เลี้ยงก็ถูกแม่เลี้ยงใส่ไฟจนพ่อไม่รัก อยู่มาวันหนึ่งแม่เลี้ยงไม่สบายมากเขาก็ดูแลนางอย่างใกล้ชิด ครั้นเห็นนางอยากกินปลาจึงออกไปจับปลา แต่จนใจอากาศหนาวจัดจนผิวน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อลงนอนทาบน้ำแข็งโดยหวังว่ามันจะทำให้น้ำแข็งละลาย แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น น้ำแข็งละลายจริงและมีปลาโดดออกมาให้เขาจับกลับบ้าน เมื่อแม่เลี้ยงได้กินปลาก็หายป่วย

    23. ชิมอุจจาระดูอาการป่วยพ่อ: เป็นเรื่องของขุนนางสมัยฉีใต้นามว่าอวี่เฉียนโหลว อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกใจคอว้าวุ่นคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านนอก จึงตัดสินใจลาเกษียณกลับไปดูแลพ่อที่ชรามากแล้ว เมื่อถึงบ้านก็พบว่าพ่อของเขาไม่สบายมาก หมอบอกว่าอาการของพ่อเขาสาหัสมาก หากอุจจาระมีรสขมก็จะดีมีโอกาสหาย เขาจึงแอบชิมอุจจาระพ่อ พบว่ามันมีรสหวานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กราบไหว้ฟ้าขอให้พ่อให้และยอมแลกด้วยชีวิตตัวเองแทน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อของเขาก็สิ้นใจ

    24. ออกจากราชการเพื่อตามหาแม่: กล่าวถึงขุนนางสมัยซ่งนามว่าจูโซ่วชาง เมื่อครั้งเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ แม่ของเขาที่มีสถานะเป็นอนุภรรยาได้ถูกภรรยาเอกของพ่อบีบให้ต้องแต่งงานไปกับคนอื่นจนเขาต้องพลัดพรากจากแม่โดยไม่มีข่าวคราว แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะสืบหาแม่ของเขา ต่อมาห้าสิบปีให้หลังเขาได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแม่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งขุนนางระดับสูงเพื่อออกตามหาแม่พร้อมประกาศกร้าวว่าถ้าไม่พบแม่จะไม่กลับเมืองหลวงอีก และเขาก็ทำสำเร็จพบแม่ที่มีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้วและพานางกลับเมืองหลวงด้วยกัน

    อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องราว 24 กตัญญูถูกเรียบเรียงเป็นกลอนสั้น แต่ละเรื่องยาวเพียงสี่วรรค ง่ายต่อการจดจำ เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายท่านคงรู้สึกไม่อินกับบางเรื่อง และที่ประเทศจีนเองก็มีการถกกันในวงกว้างว่า การกระทำต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องราวเหล่านี้ยังเหมาะสมต่อบริบทสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเพื่อนเพจอ่านแล้วคงพอเห็นภาพว่า เหตุใดเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกยกเป็นตัวอย่างเพื่อสะท้อนความดีงามของความกตัญญูต่อพ่อแม่และเป็นตัวอย่างของการทำดีแล้วได้ดี

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://news.qq.com/rain/a/20241216A05PWX00
    http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.chinakongzi.org/zt/3419/tp/201705/t20170510_135104.htm
    http://www.chinaknowledge.de/Literature/Historiography/xiaozizhuan.html
    http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1
    https://www.8bei8.com/book/24xiao_1.html

    #จิ่วฉงจื่อ #24กตัญญู #เรื่องเล่าจีนโบราณ #สาระจีน
    **ภาพวาด 24 กตัญญู** สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงฉากที่พระนางในเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> สวมหน้ากากร่วมทายปริศนากันในเทศกาลโคมไฟ วันนี้มาคุยกันต่ออีกนิดเกี่ยวกับฉากนี้ ในเนื้อเรื่องนางเอกชนะได้โคมไฟหนึ่งใบซึ่งนางมอบให้พระเอกและพระเอกให้คนส่งต่อไปให้พ่อของเขา โดยโคมไฟใบนี้เป็นลายภาพที่นางเอกเรียกว่า ‘ภาพวาด 24 กตัญญู’ ‘24 กตัญญู’ (二十四孝/เอ้อร์สือซื่อเซี่ยว) เป็นเรื่องราวความกตัญญูยี่สิบสี่เรื่องที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในสมัยหยวนโดยกัวจวีจิ้ง บัณฑิตชนบทธรรดาจากหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าความกตัญญูในประวัติศาสตร์จากหลายแหล่งมาเรียบเรียงเป็นประโยคกลอนสั้นประมาณสี่วรรค ทำให้ง่ายต่อการเล่าต่อและจดจำ จึงกลายเป็นหนึ่งในนิทานสอนเด็กที่ชาวบ้านนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาถูกหยิบยกมาเป็นเนื้อหาของภาพวาดหรืองานแกะสลักโดยหลากหลายศิลปินหลายยุคสมัย เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทกวี 24 กตัญญูมีที่มาจาก ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ (孝子传/เซี่ยวจื่อจ้วน) ซึ่งถูกประพันธ์ขึ้นโดยหลิวเซี่ยง ราชนิกุลและนักประวัติศาสตร์อักษรศาสตร์สมัยฮั่นตะวันตก เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่สะท้อนแนวคำสอนและปรัชญาของขงจื๊อ และต่อมา ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ ถูกนำไปรวมอยู่ในอีกหลากหลายบทประพันธ์ในอีกหลายยุคสมัย หนึ่งในนั้นคือบันทึกเรื่องเล่าความกตัญญูยาวกว่าห้าม้วนที่ถูกค้นพบในห้องศิลาที่ตุนหวง 24 กตัญญูกล่าวถึงอะไรบ้าง บทความยาวหน่อยนะคะ สรุปโดยสั้นได้ดังนี้ (ดูรูปประกอบ): 1. กตัญญูสะเทือนสวรรค์: เป็นเรื่องราวของจักรพรรดิซุ่นกว่าสี่พันปีที่แล้ว (เป็นหนึ่งในสามราชันห้าจักรพรรดิในตำนาน) เมื่อครั้งเขายังเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ถูกพ่อ แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดาให้ร้ายสารพัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาไม่คิดแค้นเคืองและยังคงดูแลพวกเขาอย่างดี จนสวรรค์เห็นใจจึงบันดาลให้มีช้างมาช่วยปรับผิวดินและมีนกมาช่วยหว่านเมล็ดพืชจนทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ต่อมาจักรพรรดิ์เหยาได้ยินกิตติศัพท์ความกตัญญูของเขาก็รับเป็นราชบุตรเขยและสุดท้ายให้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป 2. แบกข้าวให้บุพการี: กล่าวถึงจงโหยว (นามรองจื่อลู่) หนึ่งในศิษย์เอกของขงจื๊อ ขุนนางชื่อดังแห่งแคว้นเว่ยในยุคสมัยชุนชิว เขามีพื้นเพยากจน ทุกวันจะกินแต่ผักผลไม้ป่าเพื่อประหยัดเงิน แต่ยอมเดินทางไกลกว่าร้อยหลี่เพื่อไปหาซื้อข้าวแบกกลับมาให้พ่อแม่กิน ต่อมาเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ดีมีอันจะกินก็มักจะพร่ำเสียดายที่พ่อแม่ไม่มีชีวิตอยู่ดีกินดีกับเขา 3. ฮ่องเต้ชิมยา: เป็นเรื่องราวของฮั่นเหวินตี้หลิวเหิง บุตรของป๋อไทเฮา ที่คอยดูแลป๋อไทเฮาในยามป่วยตลอดสามปีด้วยตนเองแม้จะเป็นถึงฮ่องเต้มีข้าราชบริพารมากมาย โดยจะชิมยาของแม่ก่อนป้อนให้แม่ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่ายานั้นอุ่นกำลังดีไม่ร้อนเกินไป 4. ขายตัวฝังศพพ่อ: เป็นเรื่องราวของบุรุษนามว่าตงหย่งในสมัยฮั่นที่กำพร้าแม่แต่เด็ก ต่อมาเมื่อพ่อเสียชีวิตก็ไม่มีเงินทำศพพ่อจึงยอมขายตัวเองไปเป็นทาส วันหนึ่งพบเข้ากับสตรีกำพร้าไร้ที่ไป นางขอให้เขาช่วยแต่งงานอยู่กินกันโดยนางยินดีเข้าไปช่วยทำงานที่เรือนเศรษฐีด้วย เศรษฐีตกลงว่าเมื่อนางทอผ้าได้ครบสามร้อยพับก็จะอนุญาตให้ทั้งคู่ไถ่ตัวได้ นางใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ทำสำเร็จ ต่อมานางบอกความจริงว่านางเป็นเทพธิดาและสวรรค์ซาบซึ้งกับความกตัญญูของเขาจึงมอบหมายให้มาช่วยเขา จากนั้นก็อำลาจากไป 5. สีสันบันเทิงเพื่อบุพการี: กล่าวถึงเหล่าช่ายจื่อ หนึ่งในบัณฑิตมากความรู้ที่เร้นกายอยู่ในป่าในสมัยชุนชิว เขารักพ่อแม่มากอยากให้พ่อแม่เบิกบานใจทุกวัน ถึงขนาดว่าตัวเองอยู่ในวัย 70 ปีแล้วแต่ก็ยังแต่งตัวสีสันฉูดฉาดเล่นเป็นเด็ก หกล้มลงก็แกล้งทำเป็นกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่วัยเฒ่าหัวเราะแทนที่จะตกใจเสียใจ 6. นิ้วแม่เชื่อมใจลูก: เป็นเรื่องราวของเจิงจื่อ นักปรัชญาแห่งราชสำนักโจวและลูกศิษย์ของขงจื๊อ ที่วันหนึ่งออกไปเก็บฟืน แต่มีแขกมาเยือน แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวก็กระวนกระวายไม่รู้ว่าจะต้อนรับขับสู้อย่างไรดี จนถึงขนาดกัดนิ้วตนเองด้วยความเครียด เจิงจื่อที่อยู่ในป่ากลับรู้สึกได้ถึงความเจ็บนั้น จึงรีบรุดกลับบ้านมาดูแม่และรับรองแขกด้วยตนเอง บ่งบอกถึงสายใยเหนียวแน่นของแม่ลูก 7. คัดผลไม้ให้แม่กิน: เป็นเรื่องราวของไช่ซุ่นในสมัยฮั่น เขาอาศัยเก็บผลหม่อนกินประทังชีวิตเพราะยากจนมากและข้าวของราคาแพงเพราะสงคราม อยู่มาวันหนึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่นำขบวนทหารผ่านมาเห็นเขาแยกผลหม่อน ถามได้ความว่าเขาแยกผลสุกสีเข้มให้แม่กิน ส่วนตัวเองกินที่สีแดงที่ยังเปรี้ยวเฝื่อน นายทหารเห็นแก่ความกตัญญูของเขาจึงแบ่งปันเสบียงทหารให้ชายหนุ่ม 8. กราบไหว้รูปสลักบุพการี: กล่าวถึงบุรุษสมัยฮั่นตะวันออกนามว่าหลันติงที่กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก เขาแกะสลักรูปปั้นพ่อแม่ตั้งไว้ในบ้านกราบไหว้ทุกวันเพราะละอายใจที่ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณ ไม่เพียงกราบไหว้สามมื้อก่อนจะกินข้าว แต่มีเรื่องอะไรก็จะไปนั่งคุยให้รูปปั้นฟัง หนักเข้าภรรยาก็รำคาญ เลยลองเอาเข็มไปจิ้มรูปปั้น เมื่อเขากลับมาบ้านพบว่ารูปปั้นน้ำตาไหล เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้แล้วเขาก็เลิกกับภรรยา 9. น้ำนมกวางเพื่อบุพการี: กล่าวถึงถานจื่อ ประมุขแคว้นถานซึ่งเป็นแคว้นเล็กในสมัยราชวงศ์โจว ในสมัยเด็กเขายากจนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราแล้วและตาไม่ดี ต้องกินนมกวางช่วยบำรุงรักษา เขามักจะใช้หนังกวางคลุมตัวแล้วย่องเข้าไปปะปนอยู่ในฝูงกวางเพื่อเอานมกวางมาให้พ่อแม่กิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกือบโดนนายพรานยิง แต่เมื่อนายพรานได้ยินเรื่องราวความจำเป็นของเขาก็ยกนมกวางให้และยังส่งเขากลับบ้านด้วยตนเอง 10. สวมเสื้อไส้ใยกก: เป็นเรื่องของหมินสุ่น (นามรองจื่อเชียน) หนึ่งในลูกศิษย์ของขงจื๊อ เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อแต่งภรรยาใหม่มีลูกชายอีกสองคน เขาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ต้องสวมเสื้อใยกกในขณะที่น้องๆ ได้สวมเสื้อบุฝ้ายในยามหนาว วันหนึ่งเขาช่วยจูงรถให้พ่อแต่หนาวจนทำให้เชือกหลุดมือ พ่อบันดาลโทสะเฆี่ยนจนเสื้อขาดจึงพบว่าลูกชายคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยกันหนาว พ่อโกรธแม่เลี้ยงมากถึงกับเอ่ยปากบอกเลิกทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่หมินสุ่นอ้อนวอนขออภัยแทนแม่เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้มีลูกเพียงคนเดียวที่ลำบาก แต่ถ้าแม่เลี้ยงไม่อยู่จะมีลูกถึงสามคนที่ลำบาก สุดท้ายแม่เลี้ยงได้รับการให้อภัย นางจึงกลับตัวกลับใจดูแลหมินสุ่นอย่างดีนับแต่นั้นมา 11. ฝังลูกเพื่อแม่: กล่าวถึงบุรุษนามว่ากัวจวี้ในสมัยฮั่น เขามีฐานะยากจน เมื่อพ่อเสียก็แลแม่เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อภรรยาคลอดบุตร เขาก็รู้สึกว่าเลี้ยงดูไม่ไหวและไม่อยากให้แม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อไปกับเขา จึงตัดสินใจจะฝังลูกเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยา แต่เมื่อขุดดินลงไปกลับพบทองคำหนึ่งไห เรื่องราวจบลงด้วยดีโดยเขาไม่ต้องฆ่าลูกตัวเองและมีฐานะดีขึ้น 12. ปลากระโดดจากบ่อน้ำ: กล่าวถึงบุรุษนามว่าเจียงซือในสมัยฮั่น เขามีภรรยาแซ่ผางที่กตัญญูกับแม่สามีมาก แม่สามีชอบกินปลาก็ออกไปจับปลามาให้กิน อยู่มาวันหนึ่งอากาศไม่ดีกว่านางแซ่ผางจะกลับถึงบ้านก็ดึกจึงถูกเจียงซือไล่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจผิดว่านางตั้งใจละเลยแม่ของเขา เมื่อแม่ของเจียงซือรู้เรื่องให้เจียงซือไปรับนางกลับมา และตั้งแต่วันที่นางกลับเข้าบ้านมาก็ปรากฏปลาหลีฮื้อสองตัวกระโดดออกมาจากบ่อน้ำกลางบ้านทุกวัน ทำให้นางไม่ต้องไปจับปลาในแม่น้ำอีกต่อไป 13. ซุกส้มให้แม่: เป็นเรื่องราวของลู่จี้ ขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย กล่าวถึงเมื่อตอนเขาอายุหกขวบ ได้มีโอกาสติดตามพ่อไปพบแม่ทัพท่านหนึ่งที่จวน ครั้นพอเขาคารวะอำลากลับ ส้มสองลูกที่เขาซุกไว้อยู่ในแขนเสื้อกลิ้งหล่นออกมา สอบถามได้ใจความว่าเขาเห็นแม่ชอบกินส้มจึงตั้งใจเก็บเอาไปให้แม่กิน ทำให้แม่ทัพรู้สึกประหลาดใจและชมชอบในความกตัญญูของเด็กคนนี้ 14. ยินเสียงฟ้าร้องปลอบแม่ที่หลุมศพ: กล่าวถึงบัณฑิตหนุ่มจากแคว้นเว่ยนามว่าหวางโผว แม่ของเขาเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องมาก แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ฝนตกหนักฟ้าร้อง หวางโผวจะไปกราบหลุมศพนางพร้อมกับปลอบให้นางไม่ต้องกลัว 15. กอดเสือช่วยพ่อ: กล่าวถึงสตรีนางหนึ่งในสมัยราชวงศ์จิ้นนามว่าหยางเซียง เมื่อครั้งนางมีอายุสิบสี่ปีได้ออกไปทำนากับพ่อ แต่พลันปรากฏเสือตัวหนึ่งกระโจนใส่พ่อจนล้มไป นางไม่มีอาวุธใดแต่ก็กระโดดกอดคอเสือแน่นเพื่อไม่ให้เสือกัดพ่อ สุดท้ายเสือยอมแพ้ปล่อยพ่อของนางแล้วหนีไป 16. ให้นมย่าทวด: เป็นเรื่องราวความกตัญญูของย่าของเจี๋ยตู้สื่อชุยซานหนานในสมัยถัง เล่าถึงเมื่อครั้งที่ย่าทวดของชุยซานหนานทั้งแก่ทั้งไม่สบายจนเคี้ยวอาหารหยาบไม่ได้เลย ย่าของเขาคอยดูแลโดยใช้น้ำนมของตนป้อนจนย่าทวดอิ่ม ต่อมาทั้งครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขและรุ่นลูกรุ่นหลานล้วนแสดงความกตัญญูต่อย่าของเขาเช่นกัน 17. พัดหมอนอุ่นผ้าห่ม: เป็นเรื่องราวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยฮั่นนามว่าหวงเซียง เขากำพร้าแม่แต่เด็กและคอยดูแลพ่อ แม้ด้วยวัยเพียงเก้าขวบก็รู้จักพัดหมอนของพ่อให้คลายร้อนในหน้าร้อนและนอนอุ่นผ้าห่มของพ่อในหน้าหนาวเพื่อว่าพ่อของเขาจะได้นอนหลับสบาย 18. ร่ำไห้จนเกิดหน่อไม้: กล่าวถึงขุนนางสมัยสามก๊กนามว่าเมิ่งจง เขากำพร้าพ่อแต่เด็ก เมื่อครั้งยังหนุ่มต้องดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนัก หมอบอกว่าต้องให้แม่กินหน่อไม้สด แต่จนใจเป็นฤดูหนาว เขาหาจนทั่วก็ไม่มีจึงเสียใจคุกเข่าร้องไห้กลางป่า ปรากฏว่าอยู่ดีๆ พื้นดินก็แยกออกแล้วมีหน่อไม้ผุดขึ้นมาให้เขาเก็บกลับบ้านให้แม่กินจนหายป่วย 19. ล่อยุงแทนพ่อ: กล่าวถึงอู๋เหมิ่ง นักพรตในสมัยสามก๊ก ที่ในสมัยเด็กครอบครัวยากจนไม่มีแม้แต่มุ้งจะกางนอน เขามักจะถอดเสื้อนอนล่อให้ยุงมากัด เพื่อว่าพ่อแม่จะได้นอนหลับสบาย 20. ล้างกระโถนให้แม่: เป็นเรื่องราวของกวีและนักเขียนอักษรชื่อดังสมัยซ่งเหนือนามว่าหวงถิงเจียน เขาดูแลแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าจะมีฐานะดี และจะเอากระโถนของแม่ไปเทล้างด้วยตนเองทุกวันไม่เคยขาด 21. แบกแม่หลบภัย: กล่าวถึงเจียงเก๋อ ขุนนางตงฉินชื่อดังผู้ถูกยกย่องเป็นขุนนางยอดกตัญญูในรัชสมัยของกษัตริย์อู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์เหนือใต้ เจียงเก๋อกำพร้าพ่อแต่เด็กและกตัญญูต่อแม่มาก ครั้งหนึ่งเคยแบกแม่เดินทางหนีสงคราม พบเข้ากับโจรภูเขา เขาอ้อนวอนว่าถ้าเขาตายไป แม่ผู้ชราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายโจรภูเขาเลยย้อมไว้ชีวิตปล่อยตัวไปทั้งเขาและแม่ 22. ขอปลาบนน้ำแข็ง: เป็นเรื่องของหวางเสียง หนึ่งในขุนนางระดับสูงของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เขากำพร้าแม่แต่เด็ก มีแม่เลี้ยงก็ถูกแม่เลี้ยงใส่ไฟจนพ่อไม่รัก อยู่มาวันหนึ่งแม่เลี้ยงไม่สบายมากเขาก็ดูแลนางอย่างใกล้ชิด ครั้นเห็นนางอยากกินปลาจึงออกไปจับปลา แต่จนใจอากาศหนาวจัดจนผิวน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อลงนอนทาบน้ำแข็งโดยหวังว่ามันจะทำให้น้ำแข็งละลาย แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น น้ำแข็งละลายจริงและมีปลาโดดออกมาให้เขาจับกลับบ้าน เมื่อแม่เลี้ยงได้กินปลาก็หายป่วย 23. ชิมอุจจาระดูอาการป่วยพ่อ: เป็นเรื่องของขุนนางสมัยฉีใต้นามว่าอวี่เฉียนโหลว อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกใจคอว้าวุ่นคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านนอก จึงตัดสินใจลาเกษียณกลับไปดูแลพ่อที่ชรามากแล้ว เมื่อถึงบ้านก็พบว่าพ่อของเขาไม่สบายมาก หมอบอกว่าอาการของพ่อเขาสาหัสมาก หากอุจจาระมีรสขมก็จะดีมีโอกาสหาย เขาจึงแอบชิมอุจจาระพ่อ พบว่ามันมีรสหวานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กราบไหว้ฟ้าขอให้พ่อให้และยอมแลกด้วยชีวิตตัวเองแทน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อของเขาก็สิ้นใจ 24. ออกจากราชการเพื่อตามหาแม่: กล่าวถึงขุนนางสมัยซ่งนามว่าจูโซ่วชาง เมื่อครั้งเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ แม่ของเขาที่มีสถานะเป็นอนุภรรยาได้ถูกภรรยาเอกของพ่อบีบให้ต้องแต่งงานไปกับคนอื่นจนเขาต้องพลัดพรากจากแม่โดยไม่มีข่าวคราว แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะสืบหาแม่ของเขา ต่อมาห้าสิบปีให้หลังเขาได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแม่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งขุนนางระดับสูงเพื่อออกตามหาแม่พร้อมประกาศกร้าวว่าถ้าไม่พบแม่จะไม่กลับเมืองหลวงอีก และเขาก็ทำสำเร็จพบแม่ที่มีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้วและพานางกลับเมืองหลวงด้วยกัน อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องราว 24 กตัญญูถูกเรียบเรียงเป็นกลอนสั้น แต่ละเรื่องยาวเพียงสี่วรรค ง่ายต่อการจดจำ เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายท่านคงรู้สึกไม่อินกับบางเรื่อง และที่ประเทศจีนเองก็มีการถกกันในวงกว้างว่า การกระทำต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องราวเหล่านี้ยังเหมาะสมต่อบริบทสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเพื่อนเพจอ่านแล้วคงพอเห็นภาพว่า เหตุใดเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกยกเป็นตัวอย่างเพื่อสะท้อนความดีงามของความกตัญญูต่อพ่อแม่และเป็นตัวอย่างของการทำดีแล้วได้ดี (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://news.qq.com/rain/a/20241216A05PWX00 http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.chinakongzi.org/zt/3419/tp/201705/t20170510_135104.htm http://www.chinaknowledge.de/Literature/Historiography/xiaozizhuan.html http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1 https://www.8bei8.com/book/24xiao_1.html #จิ่วฉงจื่อ #24กตัญญู #เรื่องเล่าจีนโบราณ #สาระจีน
    NEWS.QQ.COM
    《九重紫》暴露了他好身材,长相人畜无害,却脱衣有肉穿衣显瘦_腾讯新闻
    由孟子义、李昀锐主演的电视剧《九重紫》,自开播以来,热度迅速攀升,播到15集,站内热度破了29000,有望展望30000了。 这个成绩在今年古装剧中是相当牛了,要知道,腾讯今年的古装剧热度....
    3 Comments 0 Shares 311 Views 0 Reviews
  • เหรียญรุ่น1หลวงพ่อคงหลังหลวงพ่อขัน วัดราษฎร์รังสรรค์ จ.กระบี่
    เหรียญรุ่น1หลวงพ่อคงหลังหลวงพ่อขัน วัดราษฎร์รังสรรค์ จ.กระบี่ // พระดีพิธีใหญ๋ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย อยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยม โชคลาภ ร่ำรวย และคุ้มกันภัยพิบัติอันตรายทั้งปวง >>

    ** วัดราษฎร์รังสรรค์ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย อยู่ในตำบลอ่าวลึกใต้ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ วัดราษฎร์รังสรรค์ เดิมมีชื่อว่า วัดบ้านอ่าวลึกใต้ต้นประดู่ แต่ชาวบ้านเรียกว่า วัดหลาดใต้ (ตลาดใต้) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2456 โดยรองอำมาตย์ตรีลาวัณวุฒิกร (เอียด บุรนันท์) ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2516 นายรังสรรค์ บรรณกิจพีรพล นายอำเภอในขณะนั้น ได้อาราธนาพระครูสุเมธีธรรมประสาท (คง ฐิตธมฺโม) จากวัดในอำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา มาเป็นเจ้าอาวาส รวมถึงได้เปลี่ยนชื่อวัดมาเป็น "วัดราษฎร์รังสรรค์" >>

    * พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญรุ่น1หลวงพ่อคงหลังหลวงพ่อขัน วัดราษฎร์รังสรรค์ จ.กระบี่ เหรียญรุ่น1หลวงพ่อคงหลังหลวงพ่อขัน วัดราษฎร์รังสรรค์ จ.กระบี่ // พระดีพิธีใหญ๋ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย อยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยม โชคลาภ ร่ำรวย และคุ้มกันภัยพิบัติอันตรายทั้งปวง >> ** วัดราษฎร์รังสรรค์ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย อยู่ในตำบลอ่าวลึกใต้ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ วัดราษฎร์รังสรรค์ เดิมมีชื่อว่า วัดบ้านอ่าวลึกใต้ต้นประดู่ แต่ชาวบ้านเรียกว่า วัดหลาดใต้ (ตลาดใต้) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2456 โดยรองอำมาตย์ตรีลาวัณวุฒิกร (เอียด บุรนันท์) ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2516 นายรังสรรค์ บรรณกิจพีรพล นายอำเภอในขณะนั้น ได้อาราธนาพระครูสุเมธีธรรมประสาท (คง ฐิตธมฺโม) จากวัดในอำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา มาเป็นเจ้าอาวาส รวมถึงได้เปลี่ยนชื่อวัดมาเป็น "วัดราษฎร์รังสรรค์" >> * พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 123 Views 0 Reviews
  • Storyฯ ดูละครเรื่อง <วังเดียวดาย> ไม่จบ แต่ได้อ่านนิยายและรู้สึกเตะตากับสิ่งที่เรียกว่า “เฉาเป้า” (朝报)
    ความมีอยู่ว่า
    ... สามวันให้หลัง จางเฉิงเจ้ายื่นหนังสือเฉาเป้าให้ข้าพเจ้า พลางเอ่ยอย่างดีใจว่า “องค์ฮ่องเต้ (กวนเจีย) ทรงมีบรมราชานุญาติให้หวางก่งเฉินกลับอิ๋งโจวแล้ว”
    หนังสือเฉาเป้าเป็นหนังสือข่าวที่จัดทำขึ้นโดยหน่วยงานจิ้งโจ้วย่วน มีการจดบันทึกพระราชโองการล่าสุดขององค์ฮ่องเต้ รวมถึงข่าวสำคัญในพระราชวัง การปรับเปลี่ยนแต่งตั้งโยกย้ายขุนนาง ข่าวสถานการณ์ศึก เป็นต้น หลังจากมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลแล้ว จิ้งโจ้วย่วนจึงจัดคัดลอกขึ้นเพื่อประกาศต่อสาธารณะชน โดยส่งมอบให้ข้าราชสำนักหน่วยงานต่างๆ ไว้อ่าน...
    - จากเรื่อง <จองจำเดียวดายในนคร> ผู้แต่ง หมี่หลานเลดี้ (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า)
    (หมายเหตุ ละครเรื่อง <วังเดียวดาย> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    เพื่อนเพจแฟนละครจีนโบราณต้องคุ้นเคยกับประกาศติดบอร์ดให้ชาวบ้านอ่าน เมื่อได้มาอ่านนิยายเรื่องนี้ Storyฯ จึงรู้ว่า จริงๆ แล้วจีนโบราณมีสิ่งที่คล้ายคลึงกับหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน ซึ่งก็คือ ‘เฉาเป้า’ นี้เอง

    คำว่า ‘เฉา’ ในที่นี่หมายถึงราชสำนักดังนั้น ‘เฉาเป้า’ จึงเป็นเอกสารที่สรุปย่อข่าวสารจากราชสำนัก โดยมีสาระสำคัญคือพระราชกรณียกิจของฮ่องเต้ ข่าวราชทูต และข่าวอื่นๆ ดังที่กล่าวถึงในบทความจากนิยายข้างต้น หน้าตาคล้ายคลึงกับหนังสือพิมพ์ปัจจุบันคือเป็นกระดาษหนึ่งหรือสองแผ่นพับทบเอา

    เรื่อง <วังเดียวดาย> นี้เป็นเรื่องราวในยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง Storyฯ จึงเกิดความเอ๊ะว่า เฉาเป้ามีมาตั้งแต่เมื่อใด?

    ‘เฉาเป้า’ แรกปรากฏในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ประมาณปี 202 ก่อนคริตสกาลจนถึงค.ศ. 220) เรียกว่า ‘ตี่เป้า’ (邸报) หรือ ‘ตี่เช้า’ (邸抄) เริ่มแรกเขียนบนไม้ไผ่ ต่อมาเมื่อมีการคิดค้นกระดาษแล้วก็เปลี่ยนมาเขียนบนกระดาษ

    จากนั้นมาก็มีใช้กันต่อเนื่องมาตลอดยุคสมัยราชวงศ์ถัง ซ่ง หยวน หมิงและชิง โดยวัตถุประสงค์และเนื้อหาสาระยังคล้ายคลึงเดิม การจัดทำเฉาเป้าสิ้นสุดลงเมื่อปีค.ศ. 1912 เมื่อฮ่องเต้องค์สุดท้ายของจีนทรงสละราชสมบัติ

    ในสมัยราชวงศ์ถังนั้น การจัดทำตี่เป้าเป็นหน้าที่ของหน่วยงาน ‘จิ้งโจ้วกวน’ (进奏官) ซึ่งข่าวสารจากแต่ละพื้นที่จะส่งมายังขุนนางตัวแทนพื้นที่ที่ประจำอยู่ในเมืองหลวงก่อนส่งต่อให้จิ้งโจ้วกวนเป็นผู้รวมรวมและเรียบเรียงก่อนจะคัดลอกขึ้นเป็นหลายฉบับด้วยมือ แต่ระบบการจัดทำแบบนี้ต้องผ่านตัวแทนของแต่ละพื้นที่ในเมืองหลวง ทำให้เกิดความไม่สมบูรณ์ของข่าวเมื่อผ่านตัวกลางที่อาจเพิกเฉยต่อข้อมูลที่ได้รับ

    ดังนั้นในรัชสมัยของฮ่องเต้ไท่จง (ฮ่องเต้องค์ที่สองของราชวงศ์ซ่ง) จึงมีการก่อตั้งหน่วยงานจิ้งโจ้วย่วนขึ้นโดยสังกัด ‘เหมินเซี่ยเสิ่ง’ (หรือ ‘แผนกใต้ประตู’ ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบราชการ ตรวจราชโองการและคำสั่งราชการ ถวายความเห็นต่อฮ่องเต้) มีคนในสังกัดตรง จึงรวบรวมข่าวจากทุกพื้นที่โดยตรง ส่วนปริมาณเนื้อหาก็เพิ่มขึ้นโดยรวมถึงบทความถวายฮ่องเต้ที่น่าสนใจ ประกาศชื่นชมหรือตกรางวัลขุนนาง ฯลฯ เดิมเป็นหนังสือประกาศรายเดือน ต่อมาจึงจัดทำเป็นรายวัน

    จิ้งโจ้วย่วนนี้มีหน้าที่รวมรวม ตรวจทานและอนุมัติบทความก่อนที่จะเผยแพร่ ซึ่งก็คือการเซ็นเซอร์โดยรัฐบาลกลางนั่นเอง อะไรบ้างที่โดนเซ็นเซอร์? มีรายละเอียดข้อพิพาทระหว่างรัฐและข่าวสารการศึกที่ลับ ข่าวเกี่ยวกับอาเพศหรือภัยพิบัติในแผ่นดิน ข่าวเกี่ยวกับวังหลังหรือเรื่องส่วนพระองค์ของฮ่องเต้ และข่าวเกี่ยวกับฎีกาที่ยังไม่ได้รับการพิจารณาอนุมัติ

    ในสมัยซ่งนี้เริ่มมีการใช้ปั๊มพิมพ์แทนการคัดมือและเกิดสิ่งพิมพ์อีกแบบที่ฮ็อตสุดๆ ออกมาวางขาย มีชื่อเรียกว่า ‘เสี่ยวเป้า’ ซึ่งตีพิมพ์เรื่องซุบซิบที่ไม่ผ่านการเซ็นเซอร์และรัฐบาลกวาดล้างไม่หมด ว่ากันว่าเรื่องบางเรื่องเพิ่งมีมติในที่ประชุมท้องพระโรง ยังไม่ได้รายงานในเฉาเป้า แต่เสี่ยวเป้าก็รายงานจนรู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว

    ต่อมาเมื่อถึงสมัยปลายราชวงศ์หมิงจึงใช้ระบบการจัดพิมพ์เฉาเป้าแบบฝรั่ง และเมื่อถึงสมัยปลายราชวงศ์ชิงก็มีการจัดทำเอกสารข่าวของทางการขึ้นเพิ่มอีกหนึ่งฉบับซึ่งมีข้อมูลมากขึ้น เรียกว่า ‘จิงเป้า’ (京报)

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://www.chinadaily.com.cn/a/202005/12/WS5eba135da310a8b241155126_4.html
    https://new.qq.com/omn/20190726/20190726A0A62F00.html
    http://history.sina.com.cn/bk/gds/2014-08-17/182397940.shtml
    http://www.xinhuanet.com/zgjx/2010-10/08/c_13546664.htm
    https://new.qq.com/omn/20201215/20201215A005FX00.html

    #วังเดียวดาย #เฉาเป้า #ตี่เป้า #เสี่ยวเป้า #จิงเป้า #หนังสือพิมพ์จีนโบราณ #จิ้งโจ้วย่วน #จิ้งโจ้วกวน #ราชวงศ์ถัง #ราชวงศ์ซ่ง
    Storyฯ ดูละครเรื่อง <วังเดียวดาย> ไม่จบ แต่ได้อ่านนิยายและรู้สึกเตะตากับสิ่งที่เรียกว่า “เฉาเป้า” (朝报) ความมีอยู่ว่า ... สามวันให้หลัง จางเฉิงเจ้ายื่นหนังสือเฉาเป้าให้ข้าพเจ้า พลางเอ่ยอย่างดีใจว่า “องค์ฮ่องเต้ (กวนเจีย) ทรงมีบรมราชานุญาติให้หวางก่งเฉินกลับอิ๋งโจวแล้ว” หนังสือเฉาเป้าเป็นหนังสือข่าวที่จัดทำขึ้นโดยหน่วยงานจิ้งโจ้วย่วน มีการจดบันทึกพระราชโองการล่าสุดขององค์ฮ่องเต้ รวมถึงข่าวสำคัญในพระราชวัง การปรับเปลี่ยนแต่งตั้งโยกย้ายขุนนาง ข่าวสถานการณ์ศึก เป็นต้น หลังจากมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลแล้ว จิ้งโจ้วย่วนจึงจัดคัดลอกขึ้นเพื่อประกาศต่อสาธารณะชน โดยส่งมอบให้ข้าราชสำนักหน่วยงานต่างๆ ไว้อ่าน... - จากเรื่อง <จองจำเดียวดายในนคร> ผู้แต่ง หมี่หลานเลดี้ (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า) (หมายเหตุ ละครเรื่อง <วังเดียวดาย> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) เพื่อนเพจแฟนละครจีนโบราณต้องคุ้นเคยกับประกาศติดบอร์ดให้ชาวบ้านอ่าน เมื่อได้มาอ่านนิยายเรื่องนี้ Storyฯ จึงรู้ว่า จริงๆ แล้วจีนโบราณมีสิ่งที่คล้ายคลึงกับหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน ซึ่งก็คือ ‘เฉาเป้า’ นี้เอง คำว่า ‘เฉา’ ในที่นี่หมายถึงราชสำนักดังนั้น ‘เฉาเป้า’ จึงเป็นเอกสารที่สรุปย่อข่าวสารจากราชสำนัก โดยมีสาระสำคัญคือพระราชกรณียกิจของฮ่องเต้ ข่าวราชทูต และข่าวอื่นๆ ดังที่กล่าวถึงในบทความจากนิยายข้างต้น หน้าตาคล้ายคลึงกับหนังสือพิมพ์ปัจจุบันคือเป็นกระดาษหนึ่งหรือสองแผ่นพับทบเอา เรื่อง <วังเดียวดาย> นี้เป็นเรื่องราวในยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง Storyฯ จึงเกิดความเอ๊ะว่า เฉาเป้ามีมาตั้งแต่เมื่อใด? ‘เฉาเป้า’ แรกปรากฏในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ประมาณปี 202 ก่อนคริตสกาลจนถึงค.ศ. 220) เรียกว่า ‘ตี่เป้า’ (邸报) หรือ ‘ตี่เช้า’ (邸抄) เริ่มแรกเขียนบนไม้ไผ่ ต่อมาเมื่อมีการคิดค้นกระดาษแล้วก็เปลี่ยนมาเขียนบนกระดาษ จากนั้นมาก็มีใช้กันต่อเนื่องมาตลอดยุคสมัยราชวงศ์ถัง ซ่ง หยวน หมิงและชิง โดยวัตถุประสงค์และเนื้อหาสาระยังคล้ายคลึงเดิม การจัดทำเฉาเป้าสิ้นสุดลงเมื่อปีค.ศ. 1912 เมื่อฮ่องเต้องค์สุดท้ายของจีนทรงสละราชสมบัติ ในสมัยราชวงศ์ถังนั้น การจัดทำตี่เป้าเป็นหน้าที่ของหน่วยงาน ‘จิ้งโจ้วกวน’ (进奏官) ซึ่งข่าวสารจากแต่ละพื้นที่จะส่งมายังขุนนางตัวแทนพื้นที่ที่ประจำอยู่ในเมืองหลวงก่อนส่งต่อให้จิ้งโจ้วกวนเป็นผู้รวมรวมและเรียบเรียงก่อนจะคัดลอกขึ้นเป็นหลายฉบับด้วยมือ แต่ระบบการจัดทำแบบนี้ต้องผ่านตัวแทนของแต่ละพื้นที่ในเมืองหลวง ทำให้เกิดความไม่สมบูรณ์ของข่าวเมื่อผ่านตัวกลางที่อาจเพิกเฉยต่อข้อมูลที่ได้รับ ดังนั้นในรัชสมัยของฮ่องเต้ไท่จง (ฮ่องเต้องค์ที่สองของราชวงศ์ซ่ง) จึงมีการก่อตั้งหน่วยงานจิ้งโจ้วย่วนขึ้นโดยสังกัด ‘เหมินเซี่ยเสิ่ง’ (หรือ ‘แผนกใต้ประตู’ ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบราชการ ตรวจราชโองการและคำสั่งราชการ ถวายความเห็นต่อฮ่องเต้) มีคนในสังกัดตรง จึงรวบรวมข่าวจากทุกพื้นที่โดยตรง ส่วนปริมาณเนื้อหาก็เพิ่มขึ้นโดยรวมถึงบทความถวายฮ่องเต้ที่น่าสนใจ ประกาศชื่นชมหรือตกรางวัลขุนนาง ฯลฯ เดิมเป็นหนังสือประกาศรายเดือน ต่อมาจึงจัดทำเป็นรายวัน จิ้งโจ้วย่วนนี้มีหน้าที่รวมรวม ตรวจทานและอนุมัติบทความก่อนที่จะเผยแพร่ ซึ่งก็คือการเซ็นเซอร์โดยรัฐบาลกลางนั่นเอง อะไรบ้างที่โดนเซ็นเซอร์? มีรายละเอียดข้อพิพาทระหว่างรัฐและข่าวสารการศึกที่ลับ ข่าวเกี่ยวกับอาเพศหรือภัยพิบัติในแผ่นดิน ข่าวเกี่ยวกับวังหลังหรือเรื่องส่วนพระองค์ของฮ่องเต้ และข่าวเกี่ยวกับฎีกาที่ยังไม่ได้รับการพิจารณาอนุมัติ ในสมัยซ่งนี้เริ่มมีการใช้ปั๊มพิมพ์แทนการคัดมือและเกิดสิ่งพิมพ์อีกแบบที่ฮ็อตสุดๆ ออกมาวางขาย มีชื่อเรียกว่า ‘เสี่ยวเป้า’ ซึ่งตีพิมพ์เรื่องซุบซิบที่ไม่ผ่านการเซ็นเซอร์และรัฐบาลกวาดล้างไม่หมด ว่ากันว่าเรื่องบางเรื่องเพิ่งมีมติในที่ประชุมท้องพระโรง ยังไม่ได้รายงานในเฉาเป้า แต่เสี่ยวเป้าก็รายงานจนรู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว ต่อมาเมื่อถึงสมัยปลายราชวงศ์หมิงจึงใช้ระบบการจัดพิมพ์เฉาเป้าแบบฝรั่ง และเมื่อถึงสมัยปลายราชวงศ์ชิงก็มีการจัดทำเอกสารข่าวของทางการขึ้นเพิ่มอีกหนึ่งฉบับซึ่งมีข้อมูลมากขึ้น เรียกว่า ‘จิงเป้า’ (京报) (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก: http://www.chinadaily.com.cn/a/202005/12/WS5eba135da310a8b241155126_4.html https://new.qq.com/omn/20190726/20190726A0A62F00.html http://history.sina.com.cn/bk/gds/2014-08-17/182397940.shtml http://www.xinhuanet.com/zgjx/2010-10/08/c_13546664.htm https://new.qq.com/omn/20201215/20201215A005FX00.html #วังเดียวดาย #เฉาเป้า #ตี่เป้า #เสี่ยวเป้า #จิงเป้า #หนังสือพิมพ์จีนโบราณ #จิ้งโจ้วย่วน #จิ้งโจ้วกวน #ราชวงศ์ถัง #ราชวงศ์ซ่ง
    1 Comments 0 Shares 310 Views 0 Reviews
  • เนื้อว่านท่านมหาลอย รุ่นแรก วัดแหลมจาก จ.สงขลา ปี2504
    เนื้อว่านท่านมหาลอย รุ่นแรก เนื้อผงผสมเถ้ากระดูกของท่านมหาลอย วัดแหลมจาก จ.สงขลา ปี2504 // พระประสบการณ์ดีน่าใช้มีเกจิหลายท่านปลุกเสกเช่น หลวงพ่อสงค์ วัดคงคาวดี อาจารย์ศรีแก้ว วัดไทรใหญ่ หลวงพ่อเล็ก วัดจุ้มปะ หลวงปู่ไชย วัดควนโส //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านทั้งคงกระพันชาตรี มหาอุต แคล้วคลาด ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง เมตตามหานิยม ค้าขายดี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภ เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** ตำนานหลวงพ่อ “พระมหาลอย” วัดแหลมจาก พระเถราจารย์ยุคเก่า วัดแหลมจากสร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ พ.ศ. 2440 โดยมีพระมหาลอย จนทสโร เป็นผู้ริเริ่มสร้างวัดนี้ ชาวบ้านเรียกว่า “วัดแหลม” ท่านมหาลอยเ ท่านเป็นพระที่มีศีลจารวัตรงดงามมากท่านเป็นพระที่เคร่งครัดก็จริง แต่วาจาอ่อนหวานไพเราะน่าฟังและน่ายำเกรงเป็นพระมหานิกายที่เคร่งต่อวัตรปฏิบัติ และมีปฏิปทาที่น่าเลี่ยมใส สำหรับความรู้ทางพระเวทย์หรือวิชาอาคม พ่อท่านลาวเล่าว่าเคยเห็นมหาลอยหยิบต้นคัมภีร์พระเวทย์และอาคมมาให้ดูและบอกว่าเป็นของโยมพ่อที่ตกทอดมาจากปู่ของท่านซึ่งได้รับตกทอดมาจากพระยาพัทลุง(ขุน ณ พัทลุง) อดีตเจ้าเมืองพัทลุง ที่ชาวพัทลุงรู้จักกันดีนามว่า “ขุนคางเหล็ก” ท่านมหาลอยเองก็ได้ติดต่อไปมาหาสู่สำนักวัดเขาอ้อเป็นประจำ วิชา ไสยศาสตร์คาถาอาคม วิชาโหราศาสตร์และวิชาแพทย์แผนโบราณท่านได้ศึกษาจากสำนักวัดเขาอ้อและจากตำราที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษซึ่งเป็นตำราของสำนักวัดเขาอ้อเช่นกัน >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายาก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เนื้อว่านท่านมหาลอย รุ่นแรก วัดแหลมจาก จ.สงขลา ปี2504 เนื้อว่านท่านมหาลอย รุ่นแรก เนื้อผงผสมเถ้ากระดูกของท่านมหาลอย วัดแหลมจาก จ.สงขลา ปี2504 // พระประสบการณ์ดีน่าใช้มีเกจิหลายท่านปลุกเสกเช่น หลวงพ่อสงค์ วัดคงคาวดี อาจารย์ศรีแก้ว วัดไทรใหญ่ หลวงพ่อเล็ก วัดจุ้มปะ หลวงปู่ไชย วัดควนโส //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านทั้งคงกระพันชาตรี มหาอุต แคล้วคลาด ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง เมตตามหานิยม ค้าขายดี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภ เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** ตำนานหลวงพ่อ “พระมหาลอย” วัดแหลมจาก พระเถราจารย์ยุคเก่า วัดแหลมจากสร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ พ.ศ. 2440 โดยมีพระมหาลอย จนทสโร เป็นผู้ริเริ่มสร้างวัดนี้ ชาวบ้านเรียกว่า “วัดแหลม” ท่านมหาลอยเ ท่านเป็นพระที่มีศีลจารวัตรงดงามมากท่านเป็นพระที่เคร่งครัดก็จริง แต่วาจาอ่อนหวานไพเราะน่าฟังและน่ายำเกรงเป็นพระมหานิกายที่เคร่งต่อวัตรปฏิบัติ และมีปฏิปทาที่น่าเลี่ยมใส สำหรับความรู้ทางพระเวทย์หรือวิชาอาคม พ่อท่านลาวเล่าว่าเคยเห็นมหาลอยหยิบต้นคัมภีร์พระเวทย์และอาคมมาให้ดูและบอกว่าเป็นของโยมพ่อที่ตกทอดมาจากปู่ของท่านซึ่งได้รับตกทอดมาจากพระยาพัทลุง(ขุน ณ พัทลุง) อดีตเจ้าเมืองพัทลุง ที่ชาวพัทลุงรู้จักกันดีนามว่า “ขุนคางเหล็ก” ท่านมหาลอยเองก็ได้ติดต่อไปมาหาสู่สำนักวัดเขาอ้อเป็นประจำ วิชา ไสยศาสตร์คาถาอาคม วิชาโหราศาสตร์และวิชาแพทย์แผนโบราณท่านได้ศึกษาจากสำนักวัดเขาอ้อและจากตำราที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษซึ่งเป็นตำราของสำนักวัดเขาอ้อเช่นกัน >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายาก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 174 Views 0 Reviews
  • วันนี้คุยต่อเรื่องราวสมัยราชวงศ์ซ่งอีกสักหน่อย สมัยนั้นมีการเผยแพร่วัฒนธรรมการดื่มชาไปในวงกว้าง ทำให้การดื่มชาเป็นที่นิยมทั่วไป แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า การชงชาในสมัยราชวงศ์ซ่งเป็นอย่างไร

    ความมีอยู่ว่า
    ... “ตำราจากราชวงศ์ก่อนน่ะรึ เป็นการต้มชา แต่ตอนนี้การชงชาต้องตีผสม ตำราจากราชวงศ์ก่อนย่อมบรรยายไม่ได้ชัด” นางสกุลหลินกล่าวต่อม่อหลันผู้เป็นลูกสาว...
    - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า)

    จากบทสนทนาข้างต้นก็พอจะรู้แล้วว่าการชงชาในสมัยราชวงศ์ซ่งแตกต่างจากราชวงศ์ถัง

    ไม่ทราบว่าเพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้จะสะดุดตาบ้างไหมกับการชงชาของตัวละครที่มีให้เห็นตลอดทั้งเรื่อง เป็นการใช้ช้อนไม้เล็กด้ามยาวตักผงชาลงในชามเล็ก เติมน้ำร้อนเล็กน้อย ใช้แปรงตีจนละลายเข้าเป็นน้ำชาข้น เติมน้ำอีก ตีอีกจนเป็นฟอง เติมน้ำอีก ตีอีก ทำอย่างนี้จนชาเปลี่ยนสีแล้วเทใส่ถ้วยที่มีจานรองแบบมีขาตั้งสูง (ดูจากรูปกรรมวิธี) หน้าตาของชาจะคล้ายกับชาญี่ปุ่นมัทฉะที่ตีเป็นฟองที่เรายังเห็นได้ในปัจจุบัน วิธีการชงชาแบบนี้เรียกว่า ‘เตี่ยนฉา’ (点茶)

    ศิลปะการชงชาแบบเตี่ยนฉาไม่ใช่เพียงชงเพื่อดื่ม หากแต่เป็นการฝึกความใจเย็น และในยุคนั้นหนึ่งในกิจกรรมสังสรรค์ยอดนิยมคือการแข่งชงชากัน (เรียกว่า ‘โต้วฉา’ / 斗茶) โดยจะเริ่มตั้งแต่การเอาชาอัดก้อนมาอังไฟให้หอม แล้วเอาก้อนชามาทุบละเอียด ชาที่ทุบแล้วก็ต้องนำมาโม่บดจนละเอียดมากขึ้นอีก เวลาจะกินก็ตักออกมาสักช้อนสองช้อนแล้วก็ชงตามกรรมวิธี

    ชงชาแบบเตี่ยนฉาอย่างไรจึงเรียกว่าดี? เขาว่าชาที่ดีนั้น เนื้อชาจะกระจายไปในน้ำอย่างสม่ำเสมอและเข้มข้นกำลังดี สีของน้ำชาที่ดีที่สุดคือขาวนวล รองลงมาคือขาวอมเขียว ขาวอมเทา หรือขาวอมเหลือง ถ้วยชาที่ใช้จึงมักเป็นสีดำเพื่อให้เห็นน้ำชาได้ชัดเจน

    ว่ากันว่าญี่ปุ่นได้วิธีชงชาแบบนี้จากพระและนักแสวงบุญที่เข้ามายังประเทศจีนในสมัยซ่งแล้วนำกลับไปทำที่ญี่ปุ่น แต่ Storyฯ ไม่ได้ไปศึกษาข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เพิ่มในประเด็นนี้

    แล้วยุคสมัยอื่นล่ะ? การดื่มชาในยุคสมัยก่อนราชวงศ์ถังนั้นเป็นการนำชามาต้มกับเครื่องอย่างอื่น เช่นขิง ดอกหอมหมื่นลี้ พริกไทยเป็นต้น ดื่มกินเหมือนน้ำแกง ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์สุยและถังจึงใช้เป็นการ ‘แช่’ ชาในน้ำร้อน (เหมือนที่เราเห็นในปัจจุบัน) สมัยนั้นจึงเรียกเป็นการต้มชาหรือว่า ‘จู่ฉา’ (煎茶)

    กรรมวิธีชงชาแบบเตี่ยนฉาสิ้นสุดลงเมื่อเข้าสู่ราชวงศ์หมิง ด้วยความที่มันยุ่งยากใช้คนมากในการหมักเก็บชามาอัดเป็นก้อน ไหนจะต้องทุบและบดก่อนกิน องค์จูหยวนจางทรงเห็นว่าการต้มชาใบร่วงง่ายและเหมาะกับชีวิตประจำวันของชาวบ้านธรรมดามากกว่า ในยุคสมัยนั้นการจัดจำหน่ายชาจึงเน้นเป็นรูปแบบใบชา ดังนั้นก้อนชาและวิธีชงแบบเตี่ยนฉาจึงค่อยๆ หายไป

    Storyฯ เล่าแบบง่ายๆ แต่จริงๆ แล้ว การชงชาในแต่ละยุคสมัยนั้นไม่ง่ายเลย มันมีขั้นตอนที่ละเมียดละไมและมีอุปกรณ์เฉพาะหลายชิ้น ใครที่เป็นคอชาจะทราบดี Storyฯ ไม่ได้เป็นคอชา รอเพื่อนเพจท่านใดที่ใช่ มาเล่าสู่กันฟังหน่อยนะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจากในละครและจาก:
    https://itw01.com/YNKQ3E4.html
    https://wantubizhi.com/image350909350928.html
    https://kknews.cc/zh-sg/culture/rr3kjxo.html
    http://www.tuanjiewang.cn/2019-11/04/content_8853866.htm
    http://www.guanfujianzhan.com/8119.html
    http://food.china.com.cn/2020-07/09/content_76253576.htm
    ดูกรรมวิธีการชงได้ที่ https://m.puercn.com/zhishi/97265/

    #หมิงหลัน #พิธีชงชาจีนโบราณ #เตี่ยนฉา #ราชวงศ์ซ่ง
    วันนี้คุยต่อเรื่องราวสมัยราชวงศ์ซ่งอีกสักหน่อย สมัยนั้นมีการเผยแพร่วัฒนธรรมการดื่มชาไปในวงกว้าง ทำให้การดื่มชาเป็นที่นิยมทั่วไป แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า การชงชาในสมัยราชวงศ์ซ่งเป็นอย่างไร ความมีอยู่ว่า ... “ตำราจากราชวงศ์ก่อนน่ะรึ เป็นการต้มชา แต่ตอนนี้การชงชาต้องตีผสม ตำราจากราชวงศ์ก่อนย่อมบรรยายไม่ได้ชัด” นางสกุลหลินกล่าวต่อม่อหลันผู้เป็นลูกสาว... - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า) จากบทสนทนาข้างต้นก็พอจะรู้แล้วว่าการชงชาในสมัยราชวงศ์ซ่งแตกต่างจากราชวงศ์ถัง ไม่ทราบว่าเพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้จะสะดุดตาบ้างไหมกับการชงชาของตัวละครที่มีให้เห็นตลอดทั้งเรื่อง เป็นการใช้ช้อนไม้เล็กด้ามยาวตักผงชาลงในชามเล็ก เติมน้ำร้อนเล็กน้อย ใช้แปรงตีจนละลายเข้าเป็นน้ำชาข้น เติมน้ำอีก ตีอีกจนเป็นฟอง เติมน้ำอีก ตีอีก ทำอย่างนี้จนชาเปลี่ยนสีแล้วเทใส่ถ้วยที่มีจานรองแบบมีขาตั้งสูง (ดูจากรูปกรรมวิธี) หน้าตาของชาจะคล้ายกับชาญี่ปุ่นมัทฉะที่ตีเป็นฟองที่เรายังเห็นได้ในปัจจุบัน วิธีการชงชาแบบนี้เรียกว่า ‘เตี่ยนฉา’ (点茶) ศิลปะการชงชาแบบเตี่ยนฉาไม่ใช่เพียงชงเพื่อดื่ม หากแต่เป็นการฝึกความใจเย็น และในยุคนั้นหนึ่งในกิจกรรมสังสรรค์ยอดนิยมคือการแข่งชงชากัน (เรียกว่า ‘โต้วฉา’ / 斗茶) โดยจะเริ่มตั้งแต่การเอาชาอัดก้อนมาอังไฟให้หอม แล้วเอาก้อนชามาทุบละเอียด ชาที่ทุบแล้วก็ต้องนำมาโม่บดจนละเอียดมากขึ้นอีก เวลาจะกินก็ตักออกมาสักช้อนสองช้อนแล้วก็ชงตามกรรมวิธี ชงชาแบบเตี่ยนฉาอย่างไรจึงเรียกว่าดี? เขาว่าชาที่ดีนั้น เนื้อชาจะกระจายไปในน้ำอย่างสม่ำเสมอและเข้มข้นกำลังดี สีของน้ำชาที่ดีที่สุดคือขาวนวล รองลงมาคือขาวอมเขียว ขาวอมเทา หรือขาวอมเหลือง ถ้วยชาที่ใช้จึงมักเป็นสีดำเพื่อให้เห็นน้ำชาได้ชัดเจน ว่ากันว่าญี่ปุ่นได้วิธีชงชาแบบนี้จากพระและนักแสวงบุญที่เข้ามายังประเทศจีนในสมัยซ่งแล้วนำกลับไปทำที่ญี่ปุ่น แต่ Storyฯ ไม่ได้ไปศึกษาข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เพิ่มในประเด็นนี้ แล้วยุคสมัยอื่นล่ะ? การดื่มชาในยุคสมัยก่อนราชวงศ์ถังนั้นเป็นการนำชามาต้มกับเครื่องอย่างอื่น เช่นขิง ดอกหอมหมื่นลี้ พริกไทยเป็นต้น ดื่มกินเหมือนน้ำแกง ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์สุยและถังจึงใช้เป็นการ ‘แช่’ ชาในน้ำร้อน (เหมือนที่เราเห็นในปัจจุบัน) สมัยนั้นจึงเรียกเป็นการต้มชาหรือว่า ‘จู่ฉา’ (煎茶) กรรมวิธีชงชาแบบเตี่ยนฉาสิ้นสุดลงเมื่อเข้าสู่ราชวงศ์หมิง ด้วยความที่มันยุ่งยากใช้คนมากในการหมักเก็บชามาอัดเป็นก้อน ไหนจะต้องทุบและบดก่อนกิน องค์จูหยวนจางทรงเห็นว่าการต้มชาใบร่วงง่ายและเหมาะกับชีวิตประจำวันของชาวบ้านธรรมดามากกว่า ในยุคสมัยนั้นการจัดจำหน่ายชาจึงเน้นเป็นรูปแบบใบชา ดังนั้นก้อนชาและวิธีชงแบบเตี่ยนฉาจึงค่อยๆ หายไป Storyฯ เล่าแบบง่ายๆ แต่จริงๆ แล้ว การชงชาในแต่ละยุคสมัยนั้นไม่ง่ายเลย มันมีขั้นตอนที่ละเมียดละไมและมีอุปกรณ์เฉพาะหลายชิ้น ใครที่เป็นคอชาจะทราบดี Storyฯ ไม่ได้เป็นคอชา รอเพื่อนเพจท่านใดที่ใช่ มาเล่าสู่กันฟังหน่อยนะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจากในละครและจาก: https://itw01.com/YNKQ3E4.html https://wantubizhi.com/image350909350928.html https://kknews.cc/zh-sg/culture/rr3kjxo.html http://www.tuanjiewang.cn/2019-11/04/content_8853866.htm http://www.guanfujianzhan.com/8119.html http://food.china.com.cn/2020-07/09/content_76253576.htm ดูกรรมวิธีการชงได้ที่ https://m.puercn.com/zhishi/97265/ #หมิงหลัน #พิธีชงชาจีนโบราณ #เตี่ยนฉา #ราชวงศ์ซ่ง
    ITW01.COM
    IT Tools - Handy online tools for developers
    Collection of handy online tools for developers, with great UX. IT Tools is a free and open-source collection of handy online tools for developers & people working in IT.
    2 Comments 0 Shares 243 Views 0 Reviews
  • เหรียญพระยายเขียด วัดยางแดง จ.ปัตตานี ปี2551
    เหรียญพระยายเขียด พิมพ์หยดน้ำ (ขนาดเล็ก) วัดยางแดง อำเภอโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ปี2551 // พระดีพิธีใหญ่ พระมีขนาดเล็ก!! สุดยอด...แห่งความเหนียว ปลุกเสกโดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    "" เหรียญขนาดเล็ก เหมาะก็บเด็ก ผู้หญิง หรือ ลูกหลาน ไว้คุ้มครอง คนที่ท่านห่วงใย ครับ ""^o^

    ** พุทธคุณ อันดับ1 ของสามจังหวัดชายแดนใต้ คงกระพันชาตรี มหาอุด ทั้งปืนและระเบิด จังงัง แคล้วคลาด และป้องกันอันตรายต่าง ๆ และเมตตามหานิยม ประสบการณ์ด้านคงกระพัน กับทหาร ตำรวจ และชาวบ้าน มีมากมายครับ ใครมีต่างหวงแหนกันมาก >>

    เหรียญพระยายเขียด วัดยางแดง ประสบการณ์อีกมากมาย ขวัญใจ เจ้าหน้าที่ ทหาร-ตำรวจ ในสามจังหวัดชายแดนใต้ ยิงไม่เข้า มหาอุด เกจิอาจารย์ที่ร่วมพิธีปลุกเสก อ.พล วัดนาประดู่ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ พ่อท่านหย่วน วัดช้างให้ อาจารย์จวน วัดยางแดง หลวงพ่อหวาน วัดสะบ้าย้อน และเกจิอื่นๆอีกมากมาย ร่วมปลุกเสก... >>


    * พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    +
    เหรียญพระยายเขียด วัดยางแดง จ.ปัตตานี ปี2551 เหรียญพระยายเขียด พิมพ์หยดน้ำ (ขนาดเล็ก) วัดยางแดง อำเภอโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ปี2551 // พระดีพิธีใหญ่ พระมีขนาดเล็ก!! สุดยอด...แห่งความเหนียว ปลุกเสกโดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> "" เหรียญขนาดเล็ก เหมาะก็บเด็ก ผู้หญิง หรือ ลูกหลาน ไว้คุ้มครอง คนที่ท่านห่วงใย ครับ ""^o^ ** พุทธคุณ อันดับ1 ของสามจังหวัดชายแดนใต้ คงกระพันชาตรี มหาอุด ทั้งปืนและระเบิด จังงัง แคล้วคลาด และป้องกันอันตรายต่าง ๆ และเมตตามหานิยม ประสบการณ์ด้านคงกระพัน กับทหาร ตำรวจ และชาวบ้าน มีมากมายครับ ใครมีต่างหวงแหนกันมาก >> เหรียญพระยายเขียด วัดยางแดง ประสบการณ์อีกมากมาย ขวัญใจ เจ้าหน้าที่ ทหาร-ตำรวจ ในสามจังหวัดชายแดนใต้ ยิงไม่เข้า มหาอุด เกจิอาจารย์ที่ร่วมพิธีปลุกเสก อ.พล วัดนาประดู่ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ พ่อท่านหย่วน วัดช้างให้ อาจารย์จวน วัดยางแดง หลวงพ่อหวาน วัดสะบ้าย้อน และเกจิอื่นๆอีกมากมาย ร่วมปลุกเสก... >> * พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131 +
    0 Comments 0 Shares 165 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงพ่อไกร รุ่นแรก วัดลำพะยา จ.ยะลา ปี2507
    เหรียญหลวงพ่อไกร รุ่นแรก เนื้ออัลปาก้า(นิยม) วัดลำพะยา อำเภอเมืองยะลา จ.ยะลา ปี2507 //พระดีพิธีใหญ๋ อ.ทิม วัดช้างไห้ ท่านอาจารย์นอง วัดทรายขาว, อ.ทอง วัดสำเภาเชย และเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวด-สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสก เหรียญดีมีประสบการณ์มาก !! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณบนบานสารกล่าวอะไรกับท่านก็สมหวังกันมาก มหาลาภ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ทำมาค้าขายดี ถ้ารับราชการก็จะได้เลือนยศ เลือนขั้น ศัตรูที่คิดร้ายจะกลายเป็นมิตร แคล้วคาลปลอดถัย >>

    ** พระดีพิธีใหญ๋ อ.ทิม วัดช้างไห้ ท่านอาจารย์นอง วัดทรายขาว, อ.ทอง วัดสำเภาเชย และเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวด-สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสก เหรียญดีมีประสบการณ์มาก !!

    ** เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อไกร วัดลำพระยา เนื้ออัลปาก้า ปี 2507 จ.ยะลา เมื่อประมาณปี 2505-2506 มีการดำเนินงานย้ายกระดูกพ่อท่านไกรจากวัดเก่าไปไว้ที่วัดลำพะยาในขบวนแห่ด้วยความดีใจชาวบ้านจึงยิงปืนข้ามขบวนแห่แต่ปืนไม่สามารถยิงออกได้จึงเป็นที่กล่าวขานต่อกันมาในพิธี โดยพระอาจารย์ทิม แห่งวัดช้างให้ได้มาเป็นประธานอัญเชิญอัฐิพ่อท่านไกร เมื่อเสร็จสิ้นพิธีอัญเชิญอัฐิเรียบร้อยแล้วก็ได้มีการอัญเชิญวิญญาณของหลวงพ่อไกรมาประทับทรงอีกครั้งหนึ่ง และได้ขออนุญาตวิญญาณของท่านสร้างพระเครื่อง วัตถุมงคล ซึ่งวิญญาณของหลวงพ่อไกรในร่างทรง ได้อนุญาตโดยให้สร้างเป็นรูปเหมือนของท่านนั่งบนหลังเสือ และมีงูจงอางสองตัวขนาบข้างซ้ายขวา จากคำบอกเล่าที่เล่าสู่กันมาในอดีต มีหลายตำนาน >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อไกร รุ่นแรก วัดลำพะยา จ.ยะลา ปี2507 เหรียญหลวงพ่อไกร รุ่นแรก เนื้ออัลปาก้า(นิยม) วัดลำพะยา อำเภอเมืองยะลา จ.ยะลา ปี2507 //พระดีพิธีใหญ๋ อ.ทิม วัดช้างไห้ ท่านอาจารย์นอง วัดทรายขาว, อ.ทอง วัดสำเภาเชย และเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวด-สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสก เหรียญดีมีประสบการณ์มาก !! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณบนบานสารกล่าวอะไรกับท่านก็สมหวังกันมาก มหาลาภ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ทำมาค้าขายดี ถ้ารับราชการก็จะได้เลือนยศ เลือนขั้น ศัตรูที่คิดร้ายจะกลายเป็นมิตร แคล้วคาลปลอดถัย >> ** พระดีพิธีใหญ๋ อ.ทิม วัดช้างไห้ ท่านอาจารย์นอง วัดทรายขาว, อ.ทอง วัดสำเภาเชย และเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวด-สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสก เหรียญดีมีประสบการณ์มาก !! ** เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อไกร วัดลำพระยา เนื้ออัลปาก้า ปี 2507 จ.ยะลา เมื่อประมาณปี 2505-2506 มีการดำเนินงานย้ายกระดูกพ่อท่านไกรจากวัดเก่าไปไว้ที่วัดลำพะยาในขบวนแห่ด้วยความดีใจชาวบ้านจึงยิงปืนข้ามขบวนแห่แต่ปืนไม่สามารถยิงออกได้จึงเป็นที่กล่าวขานต่อกันมาในพิธี โดยพระอาจารย์ทิม แห่งวัดช้างให้ได้มาเป็นประธานอัญเชิญอัฐิพ่อท่านไกร เมื่อเสร็จสิ้นพิธีอัญเชิญอัฐิเรียบร้อยแล้วก็ได้มีการอัญเชิญวิญญาณของหลวงพ่อไกรมาประทับทรงอีกครั้งหนึ่ง และได้ขออนุญาตวิญญาณของท่านสร้างพระเครื่อง วัตถุมงคล ซึ่งวิญญาณของหลวงพ่อไกรในร่างทรง ได้อนุญาตโดยให้สร้างเป็นรูปเหมือนของท่านนั่งบนหลังเสือ และมีงูจงอางสองตัวขนาบข้างซ้ายขวา จากคำบอกเล่าที่เล่าสู่กันมาในอดีต มีหลายตำนาน >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงปู่ดี วัดสุวรรณาราม ปี2536
    เหรียญหลวงปู่ดี โชค ทรัพย์ พูลทวี วัดสุวรรณาราม อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ปี2536 // หลวงปู่ดี ท่านเป็นพระอยู่ในหัวใจชาวบ้านย่านตำบลศาลายามาช้านาน //พระสถาพสวย ผิงหิ้ง พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพัน โชคลาภ ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ ภูตผี กันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร >>

    ** หลวงพ่อดี วัดสุวรรณ ท่านเป็นพระเถระองค์หนึ่ง ซึ่งดีเด่นอยู่ในหัวใจชาวบ้านย่านตำบลศาลายามาช้านาน กล่าวขานกันเฉพาะบรรดาท่านที่รู้จักมักคุ้น และสานุศิษย์เท่านั้น ท่านมีชีวิตอยู่อย่างเรียบๆ ง่ายๆ เต็มไปด้วยความสงบสุข สันโดษ แต่เจิดจ้าด้วยเมตตาธรรมซึ่งล้ำค่า ยากที่จะหาได้พบบ่อยนัก ศีล-สมาธิ -ปัญญา ซึ่งท่านเฝ้าเพียรปฏิบัติตลอดมากว่า 60 พรรษานั้น ได้เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความเลื่อมใสแก่บรรดาชาวบ้านทั่วไปที่พบเห็นท่าน เพราะท่านสมเป็นพุทธบุตรโดยแท้ เป็นเนื้อนาบุญที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นเถระที่บริสุทธิ์ด้วยศีลาจารวัตรงดงาม ควรค่าแก่การกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ >>

    ** พระสถาพสวย ผิงหิ้ง พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงปู่ดี วัดสุวรรณาราม ปี2536 เหรียญหลวงปู่ดี โชค ทรัพย์ พูลทวี วัดสุวรรณาราม อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ปี2536 // หลวงปู่ดี ท่านเป็นพระอยู่ในหัวใจชาวบ้านย่านตำบลศาลายามาช้านาน //พระสถาพสวย ผิงหิ้ง พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพัน โชคลาภ ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ ภูตผี กันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร >> ** หลวงพ่อดี วัดสุวรรณ ท่านเป็นพระเถระองค์หนึ่ง ซึ่งดีเด่นอยู่ในหัวใจชาวบ้านย่านตำบลศาลายามาช้านาน กล่าวขานกันเฉพาะบรรดาท่านที่รู้จักมักคุ้น และสานุศิษย์เท่านั้น ท่านมีชีวิตอยู่อย่างเรียบๆ ง่ายๆ เต็มไปด้วยความสงบสุข สันโดษ แต่เจิดจ้าด้วยเมตตาธรรมซึ่งล้ำค่า ยากที่จะหาได้พบบ่อยนัก ศีล-สมาธิ -ปัญญา ซึ่งท่านเฝ้าเพียรปฏิบัติตลอดมากว่า 60 พรรษานั้น ได้เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความเลื่อมใสแก่บรรดาชาวบ้านทั่วไปที่พบเห็นท่าน เพราะท่านสมเป็นพุทธบุตรโดยแท้ เป็นเนื้อนาบุญที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นเถระที่บริสุทธิ์ด้วยศีลาจารวัตรงดงาม ควรค่าแก่การกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ >> ** พระสถาพสวย ผิงหิ้ง พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • สส.ป๊อบ ไม่ทน! หลังชาวบ้านร้อง
    แหล่งน้ำสายหลัก น้ำมีสีดำ ส่งกลิ่นเหม็น
    เร่งประสานหน่วยงานจังหวัดฯ เก็บตัวอย่างน้ำตรวจสอบทันที!!
    “สส.ป๊อบ” นิกร โสมกลาง ลงพื้นที่บริเวณแหล่งน้ำสาธารณะเร่งตรวจสอบหาต้นตอของปัญหา หลังชาวบ้านร้องน้ำมีสีดำ ส่งกลิ่นเหม็น เผย เป็นแหล่งน้ำสายหลักของชาวบ้านพื้นที่ ต.ดงใหญ่ อ.พิมาย และ ต.ประสุข อ.ชุมพวง ที่ใช้ในการอุปโภคและใช้สำหรับการเกษตรมายาวนาน เมื่อเกิดปัญหาดังกล่าวจึงต้องเร่งตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป เพราะความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนรอไม่ได้
    นายนิกร โสมกลาง สส.นครราชสีมา เขต 8 ลงพื้นที่พร้อมผู้นำชุมชน และผู้นำท้องถิ่น ของ บ.กล้วย ต.ดงใหญ่ อ.พิมาย และ บ.ประสุข ต.ประสุข อ.ชุมพวง เพื่อดูแหล่งน้ำหลังจากที่มีชาวบ้านได้ร้องเรียนเข้ามาว่าน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะดังกล่าว มีสีดำ ส่งกลิ่นเหม็นเน่า ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เป็นปัญหาที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของคนในชุมชน ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ ทำให้ได้รับฟังและสะท้อนถึงปัญหาด้วยตนเอง
    ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง ต้องดูว่าคุณภาพน้ำใช้ได้เป็นอย่างไร ยังสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้หรือไม่ ถ้านำมาใช้จะเกิดอันตรายหรือไม่ เราจะต้องสืบหาต้นทางและแหล่งที่มาของปัญหาน้ำเป็นสีดำ มีกลิ่นเหม็น ที่สำคัญที่สุดคือในอนาคตเราจะป้องกันและแก้ไขปัญหานี้อย่างไร เบื้องต้น แจ้งไปยัง นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รอง ผวจ.นครราชสีมา โดย รองผู้ว่าฯ ได้ประสานทางอุตสาหกรรมจังหวัดให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อนำมาตรวจนสอบ ส่วนตนเองจะประสานเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพื่อให้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำอีกครั้ง และจะติดตามผลการตรวจสอบตัวอย่างน้ำให้เร็วที่สุด รวมถึงจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขให้เร็วที่สุด เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนต่อไป
    สส.ป๊อบ ไม่ทน! หลังชาวบ้านร้อง แหล่งน้ำสายหลัก น้ำมีสีดำ ส่งกลิ่นเหม็น เร่งประสานหน่วยงานจังหวัดฯ เก็บตัวอย่างน้ำตรวจสอบทันที!! “สส.ป๊อบ” นิกร โสมกลาง ลงพื้นที่บริเวณแหล่งน้ำสาธารณะเร่งตรวจสอบหาต้นตอของปัญหา หลังชาวบ้านร้องน้ำมีสีดำ ส่งกลิ่นเหม็น เผย เป็นแหล่งน้ำสายหลักของชาวบ้านพื้นที่ ต.ดงใหญ่ อ.พิมาย และ ต.ประสุข อ.ชุมพวง ที่ใช้ในการอุปโภคและใช้สำหรับการเกษตรมายาวนาน เมื่อเกิดปัญหาดังกล่าวจึงต้องเร่งตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป เพราะความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนรอไม่ได้ นายนิกร โสมกลาง สส.นครราชสีมา เขต 8 ลงพื้นที่พร้อมผู้นำชุมชน และผู้นำท้องถิ่น ของ บ.กล้วย ต.ดงใหญ่ อ.พิมาย และ บ.ประสุข ต.ประสุข อ.ชุมพวง เพื่อดูแหล่งน้ำหลังจากที่มีชาวบ้านได้ร้องเรียนเข้ามาว่าน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะดังกล่าว มีสีดำ ส่งกลิ่นเหม็นเน่า ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เป็นปัญหาที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของคนในชุมชน ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ ทำให้ได้รับฟังและสะท้อนถึงปัญหาด้วยตนเอง ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง ต้องดูว่าคุณภาพน้ำใช้ได้เป็นอย่างไร ยังสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้หรือไม่ ถ้านำมาใช้จะเกิดอันตรายหรือไม่ เราจะต้องสืบหาต้นทางและแหล่งที่มาของปัญหาน้ำเป็นสีดำ มีกลิ่นเหม็น ที่สำคัญที่สุดคือในอนาคตเราจะป้องกันและแก้ไขปัญหานี้อย่างไร เบื้องต้น แจ้งไปยัง นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รอง ผวจ.นครราชสีมา โดย รองผู้ว่าฯ ได้ประสานทางอุตสาหกรรมจังหวัดให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อนำมาตรวจนสอบ ส่วนตนเองจะประสานเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพื่อให้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำอีกครั้ง และจะติดตามผลการตรวจสอบตัวอย่างน้ำให้เร็วที่สุด รวมถึงจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขให้เร็วที่สุด เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนต่อไป
    0 Comments 0 Shares 172 Views 0 Reviews
  • สส.ป๊อบ ไม่ทน! หลังชาวบ้านร้อง
    แหล่งน้ำสายหลัก น้ำมีสีดำ ส่งกลิ่นเหม็น
    เร่งประสานหน่วยงานจังหวัดฯ เก็บตัวอย่างน้ำตรวจสอบทันที!!
    “สส.ป๊อบ” นิกร โสมกลาง ลงพื้นที่บริเวณแหล่งน้ำสาธารณะเร่งตรวจสอบหาต้นตอของปัญหา หลังชาวบ้านร้องน้ำมีสีดำ ส่งกลิ่นเหม็น เผย เป็นแหล่งน้ำสายหลักของชาวบ้านพื้นที่ ต.ดงใหญ่ อ.พิมาย และ ต.ประสุข อ.ชุมพวง ที่ใช้ในการอุปโภคและใช้สำหรับการเกษตรมายาวนาน เมื่อเกิดปัญหาดังกล่าวจึงต้องเร่งตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป เพราะความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนรอไม่ได้
    นายนิกร โสมกลาง สส.นครราชสีมา เขต 8 ลงพื้นที่พร้อมผู้นำชุมชน และผู้นำท้องถิ่น ของ บ.กล้วย ต.ดงใหญ่ อ.พิมาย และ บ.ประสุข ต.ประสุข อ.ชุมพวง เพื่อดูแหล่งน้ำหลังจากที่มีชาวบ้านได้ร้องเรียนเข้ามาว่าน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะดังกล่าว มีสีดำ ส่งกลิ่นเหม็นเน่า ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เป็นปัญหาที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของคนในชุมชน ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ ทำให้ได้รับฟังและสะท้อนถึงปัญหาด้วยตนเอง
    ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง ต้องดูว่าคุณภาพน้ำใช้ได้เป็นอย่างไร ยังสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้หรือไม่ ถ้านำมาใช้จะเกิดอันตรายหรือไม่ เราจะต้องสืบหาต้นทางและแหล่งที่มาของปัญหาน้ำเป็นสีดำ มีกลิ่นเหม็น ที่สำคัญที่สุดคือในอนาคตเราจะป้องกันและแก้ไขปัญหานี้อย่างไร เบื้องต้น แจ้งไปยัง นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รอง ผวจ.นครราชสีมา โดย รองผู้ว่าฯ ได้ประสานทางอุตสาหกรรมจังหวัดให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อนำมาตรวจนสอบ ส่วนตนเองจะประสานเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพื่อให้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำอีกครั้ง และจะติดตามผลการตรวจสอบตัวอย่างน้ำให้เร็วที่สุด รวมถึงจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขให้เร็วที่สุด เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนต่อไป
    สส.ป๊อบ ไม่ทน! หลังชาวบ้านร้อง แหล่งน้ำสายหลัก น้ำมีสีดำ ส่งกลิ่นเหม็น เร่งประสานหน่วยงานจังหวัดฯ เก็บตัวอย่างน้ำตรวจสอบทันที!! “สส.ป๊อบ” นิกร โสมกลาง ลงพื้นที่บริเวณแหล่งน้ำสาธารณะเร่งตรวจสอบหาต้นตอของปัญหา หลังชาวบ้านร้องน้ำมีสีดำ ส่งกลิ่นเหม็น เผย เป็นแหล่งน้ำสายหลักของชาวบ้านพื้นที่ ต.ดงใหญ่ อ.พิมาย และ ต.ประสุข อ.ชุมพวง ที่ใช้ในการอุปโภคและใช้สำหรับการเกษตรมายาวนาน เมื่อเกิดปัญหาดังกล่าวจึงต้องเร่งตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป เพราะความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนรอไม่ได้ นายนิกร โสมกลาง สส.นครราชสีมา เขต 8 ลงพื้นที่พร้อมผู้นำชุมชน และผู้นำท้องถิ่น ของ บ.กล้วย ต.ดงใหญ่ อ.พิมาย และ บ.ประสุข ต.ประสุข อ.ชุมพวง เพื่อดูแหล่งน้ำหลังจากที่มีชาวบ้านได้ร้องเรียนเข้ามาว่าน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะดังกล่าว มีสีดำ ส่งกลิ่นเหม็นเน่า ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เป็นปัญหาที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของคนในชุมชน ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ ทำให้ได้รับฟังและสะท้อนถึงปัญหาด้วยตนเอง ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง ต้องดูว่าคุณภาพน้ำใช้ได้เป็นอย่างไร ยังสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้หรือไม่ ถ้านำมาใช้จะเกิดอันตรายหรือไม่ เราจะต้องสืบหาต้นทางและแหล่งที่มาของปัญหาน้ำเป็นสีดำ มีกลิ่นเหม็น ที่สำคัญที่สุดคือในอนาคตเราจะป้องกันและแก้ไขปัญหานี้อย่างไร เบื้องต้น แจ้งไปยัง นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รอง ผวจ.นครราชสีมา โดย รองผู้ว่าฯ ได้ประสานทางอุตสาหกรรมจังหวัดให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อนำมาตรวจนสอบ ส่วนตนเองจะประสานเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพื่อให้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำอีกครั้ง และจะติดตามผลการตรวจสอบตัวอย่างน้ำให้เร็วที่สุด รวมถึงจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขให้เร็วที่สุด เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนต่อไป
    0 Comments 0 Shares 154 Views 0 Reviews
  • เนื้อว่านหลวงพ่อทวดหนอน รุ่นแรก วัดเขามะรวด ปี2505
    เนื้อว่านหลวงพ่อทวดหนอน รุ่นแรก (#พิมพ์ใหญ่ หายาก!! ) วัดเขามะรวด จังหวัดปัตตานี ปี2505 //พระดี พิธีใหญ๋ อ.ทิม วัดช้างไห้ , อ.ทอง วัดสำเภาเชย และเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวด-สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสก ทำพิธีถูกต้องตามกรรมวิธีการสร้างพระเนื้อว่าน และมีส่วนผสมของว่านที่เหลืจากการสร้างหลวงปู่วด รุ่นแรก ในปี 2497 วัดช้างไห้ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณบนบานสารกล่าวอะไรกับท่านก็สมหวังกันมาก มหาลาภ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ทำมาค้าขายดี ถ้ารับราชการก็จะได้เลือนยศ เลือนขั้น ศัตรูที่คิดร้ายจะกลายเป็นมิตร แคล้วคาลปลอดถัย >>

    ** พระดี พิธีใหญ่ ปลุกเสก​โดย ​พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้​ อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย​ หลวงพ่อดำ วัดตุยง​ พ่อท่านหมุน หลวงพ่อปาล และสายเขาอ้อ หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์ อาจารย์นองวัดทรายขาว ร่วมปลุกเสก จัดเป็นพระที่มีประสบการณ์พื้นที่ ใครมีต่างหวงแหน หายากสุดยอดประสบการณ์ >>

    ** หลวงพ่อทวดหนอน สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน คู่เมืองอำเภอปะนาเระ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวใต้ พระดีพิธีใหญ่ เกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก หลายท่าน มี อ.ทิม วัดช้างให้ อ.ทอง วัดสำเภาเชย ลพ.ลิ่ม วัดดอน(ผู้สร้าง) รวมกันปลุกเสก กรรมวิธีการสร้างพระเนื้อว่าน และมีส่วนผสมของว่านที่เหลือจากการสร้างหลวงปู่ทวด รุ่นแรก ในปี 2497 ด้วย หลวงพ่อทวดหนอน หรือที่ชาวบ้านปะนาเระ มักเรียกว่า“ท่านสมภาร หรือ สมภารท่านหนอน”ท่านเป็นพรระเถระผู้ขมังเวท ยุคเดียวกับหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เนื้อว่านหลวงพ่อทวดหนอน รุ่นแรก วัดเขามะรวด ปี2505 เนื้อว่านหลวงพ่อทวดหนอน รุ่นแรก (#พิมพ์ใหญ่ หายาก!! ) วัดเขามะรวด จังหวัดปัตตานี ปี2505 //พระดี พิธีใหญ๋ อ.ทิม วัดช้างไห้ , อ.ทอง วัดสำเภาเชย และเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวด-สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสก ทำพิธีถูกต้องตามกรรมวิธีการสร้างพระเนื้อว่าน และมีส่วนผสมของว่านที่เหลืจากการสร้างหลวงปู่วด รุ่นแรก ในปี 2497 วัดช้างไห้ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณบนบานสารกล่าวอะไรกับท่านก็สมหวังกันมาก มหาลาภ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ทำมาค้าขายดี ถ้ารับราชการก็จะได้เลือนยศ เลือนขั้น ศัตรูที่คิดร้ายจะกลายเป็นมิตร แคล้วคาลปลอดถัย >> ** พระดี พิธีใหญ่ ปลุกเสก​โดย ​พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้​ อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย​ หลวงพ่อดำ วัดตุยง​ พ่อท่านหมุน หลวงพ่อปาล และสายเขาอ้อ หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์ อาจารย์นองวัดทรายขาว ร่วมปลุกเสก จัดเป็นพระที่มีประสบการณ์พื้นที่ ใครมีต่างหวงแหน หายากสุดยอดประสบการณ์ >> ** หลวงพ่อทวดหนอน สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน คู่เมืองอำเภอปะนาเระ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวใต้ พระดีพิธีใหญ่ เกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก หลายท่าน มี อ.ทิม วัดช้างให้ อ.ทอง วัดสำเภาเชย ลพ.ลิ่ม วัดดอน(ผู้สร้าง) รวมกันปลุกเสก กรรมวิธีการสร้างพระเนื้อว่าน และมีส่วนผสมของว่านที่เหลือจากการสร้างหลวงปู่ทวด รุ่นแรก ในปี 2497 ด้วย หลวงพ่อทวดหนอน หรือที่ชาวบ้านปะนาเระ มักเรียกว่า“ท่านสมภาร หรือ สมภารท่านหนอน”ท่านเป็นพรระเถระผู้ขมังเวท ยุคเดียวกับหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • นิพิฏฐ์ สรุปเป็น “ภาษาชาวบ้าน” คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด "ยิ่งลักษณ์" ต้องจ่าย 10,028 ล้านบาท ชี้ "ผู้รู้มาก" ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก
    https://www.thai-tai.tv/news/18960/
    นิพิฏฐ์ สรุปเป็น “ภาษาชาวบ้าน” คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด "ยิ่งลักษณ์" ต้องจ่าย 10,028 ล้านบาท ชี้ "ผู้รู้มาก" ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก https://www.thai-tai.tv/news/18960/
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • เหลือเชื่อ พรรคที่มักอ้างเสียงประชาชน เช่น เอาชาวบ้านมาปกป้องฮุบเขากระโดง วันนี้กลับปกป้องปฏิทินประกันสังคม รวมหัวข้าราชกากถลุงเงินผู้ประกันตน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ปฏิทินประกันสังคม
    เหลือเชื่อ พรรคที่มักอ้างเสียงประชาชน เช่น เอาชาวบ้านมาปกป้องฮุบเขากระโดง วันนี้กลับปกป้องปฏิทินประกันสังคม รวมหัวข้าราชกากถลุงเงินผู้ประกันตน #คิงส์โพธิ์แดง #ปฏิทินประกันสังคม
    0 Comments 0 Shares 151 Views 0 Reviews
  • ..ความเห็นส่วนตัวครับ,ยามเฝ้าแผ่นดิน(เราคือประชาชน,ทหารภาคประชาชน)วงเล็บแบบนี้ไปด้วย เสมือนใส่จิตวิญญาณในสถานะว่าเราคือคนของแผ่นดินไทยแบบชัดเจนทันทีไปในตัวเลย.
    ..อนาคตสามารถต่อยอดสถานะตัวแทนภาคประชาชนไปได้หลากหลายลักษณะ หรือเสมือนทัพใหญ่มีกองกำลังทางทหารภาคประชาชนที่40-50ล้านคน,จัดเป็นทัพย่อยต่างๆสาระพัดทัพ,อาทิ ทัพตัวแทนภาคการปกครอง,ทำหน้าที่ยึดฐานอำนาจภาคการปกครองของประเทศปกป้องประชาชนคนทั้งประเทศระดับแรกต้นและหลัก,วางรากฐานทัพย่อยๆให้มั่นคง สร้างทหารภาคประชาชนรุ่นใหม่ๆได้ต่อเนื่อง,ใช้สัก20-30ล้านคนกาลงคะแนนเสียงสนับสนุนตัวแทนภาคประชาชนจริงขึ้นไปปกครองประเทศกำหนดทิศทางประเทศในทางที่ดีได้เต็มที่สมบูรณ์สุดซอยชัดเจนด้วย.,ทัพย่อยอื่นๆสร้างสรรค์จัดทัพตามสภาวะการณ์สงครามทั้งระยะสั้น กลาง ยาว อนาคต ก็ว่าไปหรือเร่งด่วนฉุกเฉินก็จัดทัพประสานกำลังคนได้ทันที,
    ..การประท้วงหรือชุมนุม เรามันยุคน้ำหมากแล้วจะไปประท้วงชุมนุมแบบเก่าๆสมัยขับไล่โทนี่คงไม่ไหวแล้วบวกมีมุกพรบ.ชุมนุมในที่สาธารณะมาสร้างกำแพงเบรคปิดกั้นประชาชนอีกของคนไม่ดีคิดหมากมาแก้ห้ามไล่ห้ามขับกูไล่กูออกง่ายๆก็ว่า,เหนื่อยร่วมชุมนุมขับไล่ก็แย่แล้วมาเจอมุกเบรคห้ามไล่กูคนชั่วง่ายๆอีก อ้างว่าเพื่อความสงบเรียบร้อยพะนะ,มุกซาตานมันกลัวถูกคนดีๆมาไล่มันนัันล่ะ,จึงต้องจัดหมากนี้เลย,คือกลุ่มภาคประชาชนจริงๆ.
    ..มีทุนมีตังสนับสนุนหน่อยคงดีมากๆอาทิ มี878อำเภอ มีสำนักงานรอรับประสานงานระดับอำเภอพอสัก878ที่,สมาชิกมีตัวยืนในแต่ละหมู่บ้านสักหมู่บ้านหรือชุมชนนั้นๆ1ถึง2คนก็คงดี สมาชิกในหมู่บ้านและหรือชุมชนนั้นๆอาจกว่า100คนก็ตาม,คนเหล่านี้อาจช่วยเชื่อมประสานงานกับระดับอำเภอแทนสะดวกได้นอกจากทางตรงเรียลไทม์แบบในเน็ต,หรือด้านธุรกรรมเอกสารนั้นเองก็ว่าประสานงานอาจดีกว่า,มี7-8หมื่นหมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศ 100กว่าคนสมาชิกแต่ละหมู่บ้านชุมชนก็พื้นๆคือ7-8ล้านคนสมาชิกกันเลย,มีอะไรๆข่าวสารข้อมูลค่าจริงไหนๆก็แจ้งลงไป ประสานงานทำความเข้าใจประชุมกันระดับหมู่บ้านได้,อาทิ ได้นายกฯจากภาคประชาชนแล้ว,นายกฯประสานสำนักงานประชุมหมู่บ้านทุกๆหมู่บ้านทั่วประเทศพร้อมกัน เรื่องรับเงินสนับสนุนประกอบสัมมาอาชีพยืนด้วยขาตนเอง งบลงไปในทุกๆหมู่บ้านและชุมชนคนละ10ล้านบาทหรือ7-8แสนล้านบาททั่วประเทศ,ประชาชนคนไหนสนใจประกอบสัมมาอาชีพอะไรมายืมตังไม่เสียดอกเบี้ยได้,บริหารจัดการโดยสำนักงานตัวแทนนี้ภาคประชาชน,ช่วยคนหมู่บ้านนั้นๆได้ทันที1,000คนหากยืมคนละ10,000บาท,ช่วยได้100คนหากยืมคนละ100,000บาท,ช่วย200คนหากยืมคนละ50,000บาท,หรือเกือบทั้งหมู่บ้านเลยนะ,ใกล้ชิดปัญหา สามารถบริหารจัดการปัญหาทันทีผ่านสำนักงานนั้นๆ,ประชุมการข่าวอื่นๆใดๆหรือภัยใดๆที่เกี่ยวกับความมั่นคั่งใดๆของชาติจะรวดเร็วทันทีด้วย,เช่นภัยคนต่างด้าวมามากไป สามารถลงมติผลักดันกลับทั้งหมดก่อนได้,เคลียร์คนไทยล้วนๆไว้ก่อน,ปัญหาภัยมั่งคั่งของชาติต่างๆจะคลายแก้ไขทันทีอย่างมากเช่นการรักษาพยายาลคนต่างด้าวต่างชาติที่มาแย่งชิงบุคลากรพยาบาลเราจนไม่พอก็จะหมดไปทันที ยาที่เพียงพอต่อคนไทยตนเองก่อน,และสาระพัดปัญหาโกลาหลใดๆที่เป็นเครื่องมือคนไม่ดีจะหมดไปทันทีด้วยเป็นต้น,นี้ก็ประชุมแจ้งค่าจริงได้หรือประชุมลงมติยึดบ่อน้ำมันคืนทั้งหมดในประเทศก็ได้ แจ้งรายละเอียดความจริงทัังหมดผ่านการประชุมของหมู่บ้านในหัวข้อสำคัญทั้งหมดและเอกสารออนไลน์หรือเอกสารรายละเอียดได้,เมื่อต้นเหตุปัญหาถูกจัดการ ต้นทุนถูกๆจะเกิดขึ้น ค่าน้ำมัน ซื้อในราคาถูกๆลิตรละ1-2บาทในประเทศแบบอิหร่าน,ราคาปุ๋ยเกษตรกรไทยอาจซื้อถูกๆของ21-0-0จากการกลั่นปิโตรเลียมที่กระสอบ30กก.กระสอบละ3-5บาทเป็นต้น เฉพาะคนไทยเราและภายในประเทศเท่านั้น,ค่าไฟฟ้าจะถูกลงทั่วประเทศด้วยทันที ค่าขนส่งต่างๆจะถูงลงทันที การขนส่งสินค้าจะไม่แพง ข้าวของจะราคาถูก คนจะใช้จ่ายไม่แพง ต้นทุนทั้งประเทศถูกหมด ส่งออกจะขายในราคาตลาดโลก สินค้าไทยเราจะแข่งขันได้ในทันที ภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายจะหมดไปถูกลง,กำไรจะเกิดแก่ทุกๆคนไทย,ไม่รวมร้านค้ากองทุนหมู่บ้านอีกที่ตังชาวบ้านคนไทยจะหมุนเวียนจริงภายในชุมชนและภายในประเทศไทย ประชาชนจะมีความรู้จริงถึงตังที่ออกไปนอกประเทศและความเสียหายที่เกิดขึ้น,ตลอดถึงทุกๆคนไทยมีกองทุนหมู่บ้านจริงเป็นของตนเองและรัฐฐะอัดตังสนับสนุนจริงเข้าไปในแต่ละหมู่บ้านชุมชนผ่านกองทุนตน,ตังที่ประชาชนนำฝากเองเข้ากองทุนอีกที่ทำสัมมาอาชีพต่างๆมีรายได้มีกำไรเกิดขึ้นอาจฝากรวมกันทั้งค้าขายออนไลน์ออฟไลน์มีร้านค้ามีตลาดชุมชนตน อาจกว่าคนละ1ล้านบาทต่อปี 40-50ล้านคน อาจสะพัดจริงในรากพื้นฐานหรือพื้นๆคือ40-50ล้านล้านบาทต่อปีของจริงมิใช่เอาพวกกิจการบริษัทต่างๆทั้งมหาชนและไม่ใช่มหาชนมาคิดมาเฉลี่ยคำนวนด้วยเลย,แต่มาจากการสะพัดตังจริงของชาวบ้านประชาชนคนไทยภายในประเทศจริงๆก็ว่า,นี้ไม่รวมรายได้รายรับจากภาครัฐบาลของประชาชนทำรายได้ตังจริงจากทรัพยากรมีค่ามากมายที่ยึดคืนมาทำเองจากเอกชนต่างชาติและเอกชนไทยที่ผูกขาดเหมือนในอดีตอีกนะ,อาจกว่า100ล้านล้านบาทต่อปีอีกแบบบันทึกบัญชีจริงมิใช่แอบๆหลบๆซ่อนคตโกงทุจริตแบบในอดีตที่ปกครองกากๆที่เคยเป็นมา.
    ..ตอนนี้ประชาชนถูกทำลายให้อ่อนแอจากการปกครองของdeep stateข้ามชาติประจำประเทศไทยจากอดีตคือคณะกบฎ2475ถึงปัจจุบันก็ว่า,ปกครองให้ยากจน ให้โง่ ให้อ่อนแอ ให้เป็นหนี้ท่วมหัวล้นพ้นตัวเช่นหนี้กยศ.อยากเรียนต้องเป็นหนี้,มันมุ่งทำลายไทยตั้งแต่เยาวชนไทยกันเลยก็ว่า,กลุ่มภาคมหาประชาชนจึงต้องถือกำเนิดขึ้น,กบฎคนไทยรุ่นสุดท้ายต้องจบสิ้นในรุ่นเรา.,บ้านเมืองไทยต้องเคลียร์เราเองก่อน,และสิ้นแรกนี้จะเกิดได้ ไม่มีเหี้ยใครมาวุ่นวายในการจัดการคือถีบต่างชาติต่างด้าวทั้งหมดออกจากประเทศไทยไปในทุกๆกรณีนี้ก่อน,เปิดบ้านรับคนอื่นคนนอกมาอยู่ในบ้านตนเองนานพอแล้ว,จากนั้นย่อมสะดวกเคลียร์อะไรทำความสะอาดแบบใดๆย่อมทำง่ายขึ้นทันที.,อย่าเข้าใจผิดว่าปัญหาต่างๆไม่ได้มาจากต่างชาติต่างด้าว นัยยะปัญหามากมายหรือส่วนเกินไม่น้อยมาจากต่างด้าวต่างชาตินีัสะสมมูลเหตุเรื่อยมา,บริษัทกิจการใดๆอยากได้แรงงานถูกต่างด้าวต้องย้ายฐานย้ายโรงงานตามมันไปเลย,ชาติไทยต้องมาก่อน ทรัมป์มันยังเอาอเมริกามันก่อนนะ,เม็กซิโกมันยังสร้างกำแพงปิดพรมแดนเลย,ประเทศไทยเราปกครองเลอะเทอะนานแล้ว ผีบ้าแบบยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาตินั้นล่ะ.
    ..วิถีปกครองที่ล้มเหลว รัฐฐะล้มเหลว ผู้ปกครองผู้มีอำนาจไร้ฝีมือ มือไม่ถึง ขี้ขลาดหวาดกลัว,ประชาชนจึงมั่นคงดักดานในความยากจนไร้ยุติธรรมค้ำชูแผ่นดินตรดำรงไว้ในความยุติธรรมนั้นความดีนั้นๆ,ทหารยึดอำนาจก็เสียของ จนผีบ้าสร้างการเลือกนายกฯเสือกไม่ต้องเลือกตั้งตรงจากประชาชนได้,นายกฯไม่ซื่อสัตย์พรรคนั้นๆเสือกไม่โดยยุบเพราะเลือกนายกฯมาจากพรรคตนๆนั้นล่ะ,เสือกยังได้เสนอนายกฯคนใหม่คนต่อๆไปได้อีกโน้น,ประเทศไทยเราเหี้ยจริงๆนะ,เหีัยไม่เหี้ยดูบ่อน้ำมันไทยตนถ้าทำเองทัังหมดร่ำรวยในคนไทยทุกๆคนนานแล้ว,บ่อทองคำอีก ขุดเข้าคลังสำรองประเทศไทยตนเองมันมั่นคั่งโคตรๆเลยแล้ว,เรามีผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจที่ทรยศเป็นกบฎต่อประชาชนคนไทยตนเองเสียเองจริงๆนะ.,แม้แต่คนเรียนจบสูงๆที่มีเต็มทั่วทั้งประเทศ ส่วนใหญ่ยิ่งไร้ค่านัก ตำแหน่งมากมายเต็มระบบราชการไทยแต่มิอาจปกป้องอธิปไตยแผ่นดินดินไทยบนตำแหน่งอำนาจหน้าที่ที่ตนเองปฎิบัติทำงานบนแผ่นดินไทยตนเองนีัได้เลย,แดกตังแผ่นดิน,กินเงินหลวงกินเงินเดือนงบประมาณแผ่นดินตนชั่งเสียของนัก.
    ..ความเห็นส่วนตัวครับ,ยามเฝ้าแผ่นดิน(เราคือประชาชน,ทหารภาคประชาชน)วงเล็บแบบนี้ไปด้วย เสมือนใส่จิตวิญญาณในสถานะว่าเราคือคนของแผ่นดินไทยแบบชัดเจนทันทีไปในตัวเลย. ..อนาคตสามารถต่อยอดสถานะตัวแทนภาคประชาชนไปได้หลากหลายลักษณะ หรือเสมือนทัพใหญ่มีกองกำลังทางทหารภาคประชาชนที่40-50ล้านคน,จัดเป็นทัพย่อยต่างๆสาระพัดทัพ,อาทิ ทัพตัวแทนภาคการปกครอง,ทำหน้าที่ยึดฐานอำนาจภาคการปกครองของประเทศปกป้องประชาชนคนทั้งประเทศระดับแรกต้นและหลัก,วางรากฐานทัพย่อยๆให้มั่นคง สร้างทหารภาคประชาชนรุ่นใหม่ๆได้ต่อเนื่อง,ใช้สัก20-30ล้านคนกาลงคะแนนเสียงสนับสนุนตัวแทนภาคประชาชนจริงขึ้นไปปกครองประเทศกำหนดทิศทางประเทศในทางที่ดีได้เต็มที่สมบูรณ์สุดซอยชัดเจนด้วย.,ทัพย่อยอื่นๆสร้างสรรค์จัดทัพตามสภาวะการณ์สงครามทั้งระยะสั้น กลาง ยาว อนาคต ก็ว่าไปหรือเร่งด่วนฉุกเฉินก็จัดทัพประสานกำลังคนได้ทันที, ..การประท้วงหรือชุมนุม เรามันยุคน้ำหมากแล้วจะไปประท้วงชุมนุมแบบเก่าๆสมัยขับไล่โทนี่คงไม่ไหวแล้วบวกมีมุกพรบ.ชุมนุมในที่สาธารณะมาสร้างกำแพงเบรคปิดกั้นประชาชนอีกของคนไม่ดีคิดหมากมาแก้ห้ามไล่ห้ามขับกูไล่กูออกง่ายๆก็ว่า,เหนื่อยร่วมชุมนุมขับไล่ก็แย่แล้วมาเจอมุกเบรคห้ามไล่กูคนชั่วง่ายๆอีก อ้างว่าเพื่อความสงบเรียบร้อยพะนะ,มุกซาตานมันกลัวถูกคนดีๆมาไล่มันนัันล่ะ,จึงต้องจัดหมากนี้เลย,คือกลุ่มภาคประชาชนจริงๆ. ..มีทุนมีตังสนับสนุนหน่อยคงดีมากๆอาทิ มี878อำเภอ มีสำนักงานรอรับประสานงานระดับอำเภอพอสัก878ที่,สมาชิกมีตัวยืนในแต่ละหมู่บ้านสักหมู่บ้านหรือชุมชนนั้นๆ1ถึง2คนก็คงดี สมาชิกในหมู่บ้านและหรือชุมชนนั้นๆอาจกว่า100คนก็ตาม,คนเหล่านี้อาจช่วยเชื่อมประสานงานกับระดับอำเภอแทนสะดวกได้นอกจากทางตรงเรียลไทม์แบบในเน็ต,หรือด้านธุรกรรมเอกสารนั้นเองก็ว่าประสานงานอาจดีกว่า,มี7-8หมื่นหมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศ 100กว่าคนสมาชิกแต่ละหมู่บ้านชุมชนก็พื้นๆคือ7-8ล้านคนสมาชิกกันเลย,มีอะไรๆข่าวสารข้อมูลค่าจริงไหนๆก็แจ้งลงไป ประสานงานทำความเข้าใจประชุมกันระดับหมู่บ้านได้,อาทิ ได้นายกฯจากภาคประชาชนแล้ว,นายกฯประสานสำนักงานประชุมหมู่บ้านทุกๆหมู่บ้านทั่วประเทศพร้อมกัน เรื่องรับเงินสนับสนุนประกอบสัมมาอาชีพยืนด้วยขาตนเอง งบลงไปในทุกๆหมู่บ้านและชุมชนคนละ10ล้านบาทหรือ7-8แสนล้านบาททั่วประเทศ,ประชาชนคนไหนสนใจประกอบสัมมาอาชีพอะไรมายืมตังไม่เสียดอกเบี้ยได้,บริหารจัดการโดยสำนักงานตัวแทนนี้ภาคประชาชน,ช่วยคนหมู่บ้านนั้นๆได้ทันที1,000คนหากยืมคนละ10,000บาท,ช่วยได้100คนหากยืมคนละ100,000บาท,ช่วย200คนหากยืมคนละ50,000บาท,หรือเกือบทั้งหมู่บ้านเลยนะ,ใกล้ชิดปัญหา สามารถบริหารจัดการปัญหาทันทีผ่านสำนักงานนั้นๆ,ประชุมการข่าวอื่นๆใดๆหรือภัยใดๆที่เกี่ยวกับความมั่นคั่งใดๆของชาติจะรวดเร็วทันทีด้วย,เช่นภัยคนต่างด้าวมามากไป สามารถลงมติผลักดันกลับทั้งหมดก่อนได้,เคลียร์คนไทยล้วนๆไว้ก่อน,ปัญหาภัยมั่งคั่งของชาติต่างๆจะคลายแก้ไขทันทีอย่างมากเช่นการรักษาพยายาลคนต่างด้าวต่างชาติที่มาแย่งชิงบุคลากรพยาบาลเราจนไม่พอก็จะหมดไปทันที ยาที่เพียงพอต่อคนไทยตนเองก่อน,และสาระพัดปัญหาโกลาหลใดๆที่เป็นเครื่องมือคนไม่ดีจะหมดไปทันทีด้วยเป็นต้น,นี้ก็ประชุมแจ้งค่าจริงได้หรือประชุมลงมติยึดบ่อน้ำมันคืนทั้งหมดในประเทศก็ได้ แจ้งรายละเอียดความจริงทัังหมดผ่านการประชุมของหมู่บ้านในหัวข้อสำคัญทั้งหมดและเอกสารออนไลน์หรือเอกสารรายละเอียดได้,เมื่อต้นเหตุปัญหาถูกจัดการ ต้นทุนถูกๆจะเกิดขึ้น ค่าน้ำมัน ซื้อในราคาถูกๆลิตรละ1-2บาทในประเทศแบบอิหร่าน,ราคาปุ๋ยเกษตรกรไทยอาจซื้อถูกๆของ21-0-0จากการกลั่นปิโตรเลียมที่กระสอบ30กก.กระสอบละ3-5บาทเป็นต้น เฉพาะคนไทยเราและภายในประเทศเท่านั้น,ค่าไฟฟ้าจะถูกลงทั่วประเทศด้วยทันที ค่าขนส่งต่างๆจะถูงลงทันที การขนส่งสินค้าจะไม่แพง ข้าวของจะราคาถูก คนจะใช้จ่ายไม่แพง ต้นทุนทั้งประเทศถูกหมด ส่งออกจะขายในราคาตลาดโลก สินค้าไทยเราจะแข่งขันได้ในทันที ภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายจะหมดไปถูกลง,กำไรจะเกิดแก่ทุกๆคนไทย,ไม่รวมร้านค้ากองทุนหมู่บ้านอีกที่ตังชาวบ้านคนไทยจะหมุนเวียนจริงภายในชุมชนและภายในประเทศไทย ประชาชนจะมีความรู้จริงถึงตังที่ออกไปนอกประเทศและความเสียหายที่เกิดขึ้น,ตลอดถึงทุกๆคนไทยมีกองทุนหมู่บ้านจริงเป็นของตนเองและรัฐฐะอัดตังสนับสนุนจริงเข้าไปในแต่ละหมู่บ้านชุมชนผ่านกองทุนตน,ตังที่ประชาชนนำฝากเองเข้ากองทุนอีกที่ทำสัมมาอาชีพต่างๆมีรายได้มีกำไรเกิดขึ้นอาจฝากรวมกันทั้งค้าขายออนไลน์ออฟไลน์มีร้านค้ามีตลาดชุมชนตน อาจกว่าคนละ1ล้านบาทต่อปี 40-50ล้านคน อาจสะพัดจริงในรากพื้นฐานหรือพื้นๆคือ40-50ล้านล้านบาทต่อปีของจริงมิใช่เอาพวกกิจการบริษัทต่างๆทั้งมหาชนและไม่ใช่มหาชนมาคิดมาเฉลี่ยคำนวนด้วยเลย,แต่มาจากการสะพัดตังจริงของชาวบ้านประชาชนคนไทยภายในประเทศจริงๆก็ว่า,นี้ไม่รวมรายได้รายรับจากภาครัฐบาลของประชาชนทำรายได้ตังจริงจากทรัพยากรมีค่ามากมายที่ยึดคืนมาทำเองจากเอกชนต่างชาติและเอกชนไทยที่ผูกขาดเหมือนในอดีตอีกนะ,อาจกว่า100ล้านล้านบาทต่อปีอีกแบบบันทึกบัญชีจริงมิใช่แอบๆหลบๆซ่อนคตโกงทุจริตแบบในอดีตที่ปกครองกากๆที่เคยเป็นมา. ..ตอนนี้ประชาชนถูกทำลายให้อ่อนแอจากการปกครองของdeep stateข้ามชาติประจำประเทศไทยจากอดีตคือคณะกบฎ2475ถึงปัจจุบันก็ว่า,ปกครองให้ยากจน ให้โง่ ให้อ่อนแอ ให้เป็นหนี้ท่วมหัวล้นพ้นตัวเช่นหนี้กยศ.อยากเรียนต้องเป็นหนี้,มันมุ่งทำลายไทยตั้งแต่เยาวชนไทยกันเลยก็ว่า,กลุ่มภาคมหาประชาชนจึงต้องถือกำเนิดขึ้น,กบฎคนไทยรุ่นสุดท้ายต้องจบสิ้นในรุ่นเรา.,บ้านเมืองไทยต้องเคลียร์เราเองก่อน,และสิ้นแรกนี้จะเกิดได้ ไม่มีเหี้ยใครมาวุ่นวายในการจัดการคือถีบต่างชาติต่างด้าวทั้งหมดออกจากประเทศไทยไปในทุกๆกรณีนี้ก่อน,เปิดบ้านรับคนอื่นคนนอกมาอยู่ในบ้านตนเองนานพอแล้ว,จากนั้นย่อมสะดวกเคลียร์อะไรทำความสะอาดแบบใดๆย่อมทำง่ายขึ้นทันที.,อย่าเข้าใจผิดว่าปัญหาต่างๆไม่ได้มาจากต่างชาติต่างด้าว นัยยะปัญหามากมายหรือส่วนเกินไม่น้อยมาจากต่างด้าวต่างชาตินีัสะสมมูลเหตุเรื่อยมา,บริษัทกิจการใดๆอยากได้แรงงานถูกต่างด้าวต้องย้ายฐานย้ายโรงงานตามมันไปเลย,ชาติไทยต้องมาก่อน ทรัมป์มันยังเอาอเมริกามันก่อนนะ,เม็กซิโกมันยังสร้างกำแพงปิดพรมแดนเลย,ประเทศไทยเราปกครองเลอะเทอะนานแล้ว ผีบ้าแบบยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาตินั้นล่ะ. ..วิถีปกครองที่ล้มเหลว รัฐฐะล้มเหลว ผู้ปกครองผู้มีอำนาจไร้ฝีมือ มือไม่ถึง ขี้ขลาดหวาดกลัว,ประชาชนจึงมั่นคงดักดานในความยากจนไร้ยุติธรรมค้ำชูแผ่นดินตรดำรงไว้ในความยุติธรรมนั้นความดีนั้นๆ,ทหารยึดอำนาจก็เสียของ จนผีบ้าสร้างการเลือกนายกฯเสือกไม่ต้องเลือกตั้งตรงจากประชาชนได้,นายกฯไม่ซื่อสัตย์พรรคนั้นๆเสือกไม่โดยยุบเพราะเลือกนายกฯมาจากพรรคตนๆนั้นล่ะ,เสือกยังได้เสนอนายกฯคนใหม่คนต่อๆไปได้อีกโน้น,ประเทศไทยเราเหี้ยจริงๆนะ,เหีัยไม่เหี้ยดูบ่อน้ำมันไทยตนถ้าทำเองทัังหมดร่ำรวยในคนไทยทุกๆคนนานแล้ว,บ่อทองคำอีก ขุดเข้าคลังสำรองประเทศไทยตนเองมันมั่นคั่งโคตรๆเลยแล้ว,เรามีผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจที่ทรยศเป็นกบฎต่อประชาชนคนไทยตนเองเสียเองจริงๆนะ.,แม้แต่คนเรียนจบสูงๆที่มีเต็มทั่วทั้งประเทศ ส่วนใหญ่ยิ่งไร้ค่านัก ตำแหน่งมากมายเต็มระบบราชการไทยแต่มิอาจปกป้องอธิปไตยแผ่นดินดินไทยบนตำแหน่งอำนาจหน้าที่ที่ตนเองปฎิบัติทำงานบนแผ่นดินไทยตนเองนีัได้เลย,แดกตังแผ่นดิน,กินเงินหลวงกินเงินเดือนงบประมาณแผ่นดินตนชั่งเสียของนัก.
    ความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 2/2568
    ประเทศไทยไร้ทางออก คนเลวต้องไม่มีที่ยืนในสังคม...(uncut)
    สนธิ ลิ้มทองกุล

    สมัครสมาชิกยามเฝ้าแผ่นดิน
    "ทวงความถูกต้องให้คนไทย"
    คลิ๊กลิงค์ : https://shorturl.asia/ksaHh
    0 Comments 0 Shares 317 Views 182 0 Reviews
  • รัฐไทยพ่ายหมดรูป BRN ฆ่าคนรายวัน แล้วใครจะคุ้มครองชาวบ้าน : ถอนหมุดข่าว 26/05/68
    รัฐไทยพ่ายหมดรูป BRN ฆ่าคนรายวัน แล้วใครจะคุ้มครองชาวบ้าน : ถอนหมุดข่าว 26/05/68
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 159 Views 3 0 Reviews
  • พระปิดตารุ่น1 วัดใหม่ปากบาง อยุธยา ปี2541
    พระปิดตาเสาร์๕ รุ่น1 วัดใหม่ปากบาง อำเภอมหาราช อยุธยา ปี2541 //พระดีพิธีใหญ๋ ที่ระลืกฉลองศาลาการเปรียญ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพมาก หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี และแคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภเพิ่มพูล เมตตาค้าขาย เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง กันเสนียดจัญไร >>

    ** ...วัดใหม่ปากบาง ตั้งอยู่ที่ ตำบลท่าตอ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่เดิมวัดนี้มีชื่อว่า "วัดสกุณีเทศฐาราม" ที่ตั้งของวัด เดิมเป็นที่ดินของ คุณย่านกเทศ ต่อมาได้ถวายเป็นที่ธรณีสงฆ์ ซึ่งในสมัยนั้นได้มีพระภิกษุ 2 รูป ธุดงค์มาในแถบตำบลท่าตออยู่เสมอ ชาวบ้านแถบนั้นต่างก็เลื่อมใสในปฏิปทาของท่านเป็นอันมาก จึงนิมนต์ให้ท่านอยู่จำพรรษา โดยคุณย่านกเทศได้สร้างกุฏิสงฆ์หลังเล็กๆ ซึ่งอยู่ในที่ดินของคุณย่านกเทศ และต่อมาจึงได้มอบที่ดินให้ตั้งเป็นสำนักสงฆ์ พระภิกษุรูปแรกนั้นมีชื่อว่า ทรัพย์ ส่วนอีกรูปไม่มีใครจำชื่อได้ หลวงปู่ทรัพย์ท่านได้อยู่จำพรรษา ณ สำนักสงฆ์แห่งนี้ และได้ก่อสร้างเป็นวัดขึ้นมา และตั้งชื่อวัดนี้ว่า วัดสกุณีเทศฐาราม โดยเอานามของคุณย่านกเทศมาตั้งชื่อวัด กาลต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดใหม่ปากบาง" เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อหมู่บ้านในภายหลัง >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพมาก หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระปิดตารุ่น1 วัดใหม่ปากบาง อยุธยา ปี2541 พระปิดตาเสาร์๕ รุ่น1 วัดใหม่ปากบาง อำเภอมหาราช อยุธยา ปี2541 //พระดีพิธีใหญ๋ ที่ระลืกฉลองศาลาการเปรียญ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพมาก หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านคงกระพันชาตรี และแคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภเพิ่มพูล เมตตาค้าขาย เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง กันเสนียดจัญไร >> ** ...วัดใหม่ปากบาง ตั้งอยู่ที่ ตำบลท่าตอ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่เดิมวัดนี้มีชื่อว่า "วัดสกุณีเทศฐาราม" ที่ตั้งของวัด เดิมเป็นที่ดินของ คุณย่านกเทศ ต่อมาได้ถวายเป็นที่ธรณีสงฆ์ ซึ่งในสมัยนั้นได้มีพระภิกษุ 2 รูป ธุดงค์มาในแถบตำบลท่าตออยู่เสมอ ชาวบ้านแถบนั้นต่างก็เลื่อมใสในปฏิปทาของท่านเป็นอันมาก จึงนิมนต์ให้ท่านอยู่จำพรรษา โดยคุณย่านกเทศได้สร้างกุฏิสงฆ์หลังเล็กๆ ซึ่งอยู่ในที่ดินของคุณย่านกเทศ และต่อมาจึงได้มอบที่ดินให้ตั้งเป็นสำนักสงฆ์ พระภิกษุรูปแรกนั้นมีชื่อว่า ทรัพย์ ส่วนอีกรูปไม่มีใครจำชื่อได้ หลวงปู่ทรัพย์ท่านได้อยู่จำพรรษา ณ สำนักสงฆ์แห่งนี้ และได้ก่อสร้างเป็นวัดขึ้นมา และตั้งชื่อวัดนี้ว่า วัดสกุณีเทศฐาราม โดยเอานามของคุณย่านกเทศมาตั้งชื่อวัด กาลต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดใหม่ปากบาง" เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อหมู่บ้านในภายหลัง >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพมาก หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นฉลองสมณศักดิ์ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2548
    เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นฉลองสมณศักดิ์ ( เลื่อน48 ) วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2548 //พระดีพิธีใหญ่ (กะแสกำลังมาเเรง) #จำนวนจัดสร้าง 500 เหรียญน้อยมากๆ // พุทธาภิเษกโดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด -สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสกหลายท่าน //พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านเมตตาหานิยม โภคทรัพย์ เรียกทรัพย์และคุ้มครองป้องกันภัย.จะเจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย โชคลาภ เรียกทรัพย์หนุนดวง โชคลาภมหาสมบัติค้าขายร่ำรวย อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงาน คุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด >>

    ** เหรียญฉลองสมณศักดิ์ พ่อท่านหย่วน วัดช้างให้ ซึ่งท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์จากพระครูสังฆรักษ์สายัณต์ จนฺทสโร.เป็นพระครูปริยัติกิจโสภณเมื่อปี พ.ศ.2547.จึงได้จัดสร้างเหรียญเสมาเล็กแจกให้แก่พรเเละญาติโยมคนสนิทจำนวนหนึ่งต่อมาปี2548ได้จัดสร้างเหรียญฉลองสมณศักดิ์ (#เลื่อน48) ขึ้นมาเพื่อเเจกพระเณรชาวบ้านในพื้นที่เเละคนใกล้ชิดวัตถุประสงค์การสร้างดีสร้างเเจกไม่เปิดให้เช่าบูชาสร้างน้อยมากๆหายากจึงไม่เพียงพอความต้องการขอนักสะสมเป็นอีกรุ่นที่น่าสะสม

    ** เหรียญฉลองสมณศักดิ์2548 เป็นที่ห่วงเเหนของชาวบ้านเเละคนในพื้นที่เเละผู้ที่มีไว้ในครอบครองเป็นอย่างมากยากที่จะปล่อยให้หลุดมือปัจจุบันมีหมุนเวียนในตลาดน้อยมากๆจึงทำให้ราคาร้อนเเรงมากๆใครมีอยู่ในมือเก็บไว้ให้เเน่นนะครับอีกไม่นานคงพลิกเเผ่นดินหา ปัจจุบันนี้ราคายังจับต้องได้เเละยังพอมีให้เห็นหมุนเวียนในตลาดเก็บก่อนที่จะหาเก็บไม่ไม่ได้บางสิ่งบางอย่างมีเงินมากสักเเค่ไหนถ้าไม่มีคนขายท่านก็ซื้อไม่ได้ >>

    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นฉลองสมณศักดิ์ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2548 เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นฉลองสมณศักดิ์ ( เลื่อน48 ) วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2548 //พระดีพิธีใหญ่ (กะแสกำลังมาเเรง) #จำนวนจัดสร้าง 500 เหรียญน้อยมากๆ // พุทธาภิเษกโดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด -สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสกหลายท่าน //พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านเมตตาหานิยม โภคทรัพย์ เรียกทรัพย์และคุ้มครองป้องกันภัย.จะเจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย โชคลาภ เรียกทรัพย์หนุนดวง โชคลาภมหาสมบัติค้าขายร่ำรวย อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงาน คุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด >> ** เหรียญฉลองสมณศักดิ์ พ่อท่านหย่วน วัดช้างให้ ซึ่งท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์จากพระครูสังฆรักษ์สายัณต์ จนฺทสโร.เป็นพระครูปริยัติกิจโสภณเมื่อปี พ.ศ.2547.จึงได้จัดสร้างเหรียญเสมาเล็กแจกให้แก่พรเเละญาติโยมคนสนิทจำนวนหนึ่งต่อมาปี2548ได้จัดสร้างเหรียญฉลองสมณศักดิ์ (#เลื่อน48) ขึ้นมาเพื่อเเจกพระเณรชาวบ้านในพื้นที่เเละคนใกล้ชิดวัตถุประสงค์การสร้างดีสร้างเเจกไม่เปิดให้เช่าบูชาสร้างน้อยมากๆหายากจึงไม่เพียงพอความต้องการขอนักสะสมเป็นอีกรุ่นที่น่าสะสม ** เหรียญฉลองสมณศักดิ์2548 เป็นที่ห่วงเเหนของชาวบ้านเเละคนในพื้นที่เเละผู้ที่มีไว้ในครอบครองเป็นอย่างมากยากที่จะปล่อยให้หลุดมือปัจจุบันมีหมุนเวียนในตลาดน้อยมากๆจึงทำให้ราคาร้อนเเรงมากๆใครมีอยู่ในมือเก็บไว้ให้เเน่นนะครับอีกไม่นานคงพลิกเเผ่นดินหา ปัจจุบันนี้ราคายังจับต้องได้เเละยังพอมีให้เห็นหมุนเวียนในตลาดเก็บก่อนที่จะหาเก็บไม่ไม่ได้บางสิ่งบางอย่างมีเงินมากสักเเค่ไหนถ้าไม่มีคนขายท่านก็ซื้อไม่ได้ >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 160 Views 0 Reviews
  • งานวิ่งทิพย์ 18 มงกุฎผุดอีเวนต์

    กระแสออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ทำให้งานวิ่งได้รับความนิยม ตั้งแต่มินิมาราธอนยันไตรกีฬา แต่บางครั้งงานวิ่งกลายเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ ที่สุดท้ายนักวิ่งต้องรอเก้อเพราะงานวิ่งไม่เกิดขึ้นจริง เฉกเช่นงาน Run for Destination 2025 ที่สวนหลวง ร.๙ วันที่ 25 พ.ค. ปรากฎว่าพอถึงวันงานจริงมีเพียงแต่ซุ้มประตู และนักวิ่งจำนวนมากต่างรอคอยด้วยความงุนงง พอรู้ว่าถูกหลอกก็เสียความรู้สึก ต่างแจ้งความดำเนินคดีกับผู้จัดงานที่ สน.ประเวศ

    มลฤดี อายุ 42 ปี และ สุชานันท์ อายุ 31 ปี กรรมการห้างหุ้นส่วนจำกัด ต้นสนเก้าเก้า สปอร์ตคอมเพล็กซ์ เข้าให้ปากคำกับตำรวจ ก่อนเปิดเผยว่าจัดงานวิ่งเป็นครั้งแรก ขออนุญาตสำนักงานเขตและสวนหลวง ร.๙ เรียบร้อย อ้างว่าขาดประสบการณ์ เพราะว่าจ้างออแกไนซ์รายหนึ่งแต่กลับยกเลิกกะทันหัน และไม่มีบริษัทไหนรับงาน จึงพยายามหาส่วนต่างๆ เองเพื่อให้งานเดินต่อ ส่วนการเยียวยาขอหารือก่อนแต่ก็ต้องทยอยชดเชย เพราะการจัดงานมีต้นทุน ยอมรับว่าความเชื่อมั่นบริษัทหายไปแล้ว แต่ยืนยันว่าจะดำเนินธุรกิจต่อ

    อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนและกระแสโซเชียลฯ ต่างขุดค้นข้อมูลเกี่ยวกับนิติบุคคลผู้จัดงาน พบว่าเพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท อีกทั้งยังเตรียมจัดแข่งขันแบดมินตันอีกด้วย อีกด้านหนึ่งพบว่าชื่อกรรมการยังเชื่อมโยงกับขบวนการมิจฉาชีพในคราบนายหน้าติวเตอร์ กรรมการรายหนึ่งถูกระบุว่าฉ้อโกงค่านายหน้าติวเตอร์ 2 ครั้ง ยอดรวม 2,250 บาท อีกรายหนึ่งเคยเป็นนายหน้ามาก่อน ติวเตอร์ระบุว่างานที่ได้รับมาส่วนมากเด็กหายไป ขาดบ่อย ตอนเรียนก็เงียบ และยังพบว่าเป็นหนึ่งในขบวนการที่เคยหลอกลวงติวเตอร์รายหนึ่งมาแล้ว จากบัญชีที่คืนเงิน

    กรณีงานวิ่งทิพย์ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2560 เคยมีการจัดงานเนินมะปราง ซีนิค มาราธอน ที่ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ปรากฎว่ายกเลิกแบบไม่แจ้งล่วงหน้า ทำให้นักวิ่งกว่า 1,200 คนได้รับผลกระทบ ชาวบ้านจึงร่วมกันจัดงานปลอบใจนักวิ่งเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว ส่วนผู้จัด นายเวหา แสนชนชนะศึก ประกาศแจ้งให้ขอคืนเงินค่าสมัครผ่านทางอีเมล แต่นักวิ่งไม่ได้เงินคืน คดีนี้ศาลจังหวัดพิษณุโลกพิพากษาจำคุก 2 ปี ปรับ 25,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี ปัจจุบันถูกดำเนินคดีข้อหามาตรา 112 ทั้งหมด 3 คดี

    งานวิ่งทิพย์เป็นอีกบทเรียนหนึ่งสำหรับผู้สมัครงานวิ่งต่างๆ ถ้าหากงานวิ่งใดไม่ใช้บริการระบบรับสมัครงานวิ่งจากบริษัทโดยเฉพาะ แต่ให้โอนเงินโดยตรง ควรพิจารณาด้วยความระมัดระวัง หากเจอผู้จัดงานที่ไม่มีโปร์ไฟล์ ไม่น่าเชื่อถือ งานวิ่งอาจไม่มีจริง

    #Newskit
    งานวิ่งทิพย์ 18 มงกุฎผุดอีเวนต์ กระแสออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ทำให้งานวิ่งได้รับความนิยม ตั้งแต่มินิมาราธอนยันไตรกีฬา แต่บางครั้งงานวิ่งกลายเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ ที่สุดท้ายนักวิ่งต้องรอเก้อเพราะงานวิ่งไม่เกิดขึ้นจริง เฉกเช่นงาน Run for Destination 2025 ที่สวนหลวง ร.๙ วันที่ 25 พ.ค. ปรากฎว่าพอถึงวันงานจริงมีเพียงแต่ซุ้มประตู และนักวิ่งจำนวนมากต่างรอคอยด้วยความงุนงง พอรู้ว่าถูกหลอกก็เสียความรู้สึก ต่างแจ้งความดำเนินคดีกับผู้จัดงานที่ สน.ประเวศ มลฤดี อายุ 42 ปี และ สุชานันท์ อายุ 31 ปี กรรมการห้างหุ้นส่วนจำกัด ต้นสนเก้าเก้า สปอร์ตคอมเพล็กซ์ เข้าให้ปากคำกับตำรวจ ก่อนเปิดเผยว่าจัดงานวิ่งเป็นครั้งแรก ขออนุญาตสำนักงานเขตและสวนหลวง ร.๙ เรียบร้อย อ้างว่าขาดประสบการณ์ เพราะว่าจ้างออแกไนซ์รายหนึ่งแต่กลับยกเลิกกะทันหัน และไม่มีบริษัทไหนรับงาน จึงพยายามหาส่วนต่างๆ เองเพื่อให้งานเดินต่อ ส่วนการเยียวยาขอหารือก่อนแต่ก็ต้องทยอยชดเชย เพราะการจัดงานมีต้นทุน ยอมรับว่าความเชื่อมั่นบริษัทหายไปแล้ว แต่ยืนยันว่าจะดำเนินธุรกิจต่อ อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนและกระแสโซเชียลฯ ต่างขุดค้นข้อมูลเกี่ยวกับนิติบุคคลผู้จัดงาน พบว่าเพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท อีกทั้งยังเตรียมจัดแข่งขันแบดมินตันอีกด้วย อีกด้านหนึ่งพบว่าชื่อกรรมการยังเชื่อมโยงกับขบวนการมิจฉาชีพในคราบนายหน้าติวเตอร์ กรรมการรายหนึ่งถูกระบุว่าฉ้อโกงค่านายหน้าติวเตอร์ 2 ครั้ง ยอดรวม 2,250 บาท อีกรายหนึ่งเคยเป็นนายหน้ามาก่อน ติวเตอร์ระบุว่างานที่ได้รับมาส่วนมากเด็กหายไป ขาดบ่อย ตอนเรียนก็เงียบ และยังพบว่าเป็นหนึ่งในขบวนการที่เคยหลอกลวงติวเตอร์รายหนึ่งมาแล้ว จากบัญชีที่คืนเงิน กรณีงานวิ่งทิพย์ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2560 เคยมีการจัดงานเนินมะปราง ซีนิค มาราธอน ที่ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ปรากฎว่ายกเลิกแบบไม่แจ้งล่วงหน้า ทำให้นักวิ่งกว่า 1,200 คนได้รับผลกระทบ ชาวบ้านจึงร่วมกันจัดงานปลอบใจนักวิ่งเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว ส่วนผู้จัด นายเวหา แสนชนชนะศึก ประกาศแจ้งให้ขอคืนเงินค่าสมัครผ่านทางอีเมล แต่นักวิ่งไม่ได้เงินคืน คดีนี้ศาลจังหวัดพิษณุโลกพิพากษาจำคุก 2 ปี ปรับ 25,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี ปัจจุบันถูกดำเนินคดีข้อหามาตรา 112 ทั้งหมด 3 คดี งานวิ่งทิพย์เป็นอีกบทเรียนหนึ่งสำหรับผู้สมัครงานวิ่งต่างๆ ถ้าหากงานวิ่งใดไม่ใช้บริการระบบรับสมัครงานวิ่งจากบริษัทโดยเฉพาะ แต่ให้โอนเงินโดยตรง ควรพิจารณาด้วยความระมัดระวัง หากเจอผู้จัดงานที่ไม่มีโปร์ไฟล์ ไม่น่าเชื่อถือ งานวิ่งอาจไม่มีจริง #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 273 Views 0 Reviews
  • เชียงราย – น้ำสายทะลักท่วมระลอกล่าสุด แม้ลดแล้ว แต่ชาวบ้านยิ่งวิตกสารพิษปนเปื้อนเพิ่ม..ภาค ปชช.เดินหน้านัดรวมตัวปลุกพลังเรียกร้องรัฐบาล 3 ชาติ ทั้งไทย-เมียนมา-จีน รวมทั้งว้าแดง แก้ปัญหาเหมืองทอง-แรร์เอิร์ธ-แมงกานิส ต้นน้ำทิ้งสายหนู/โลหะหนัก ปนเปื้อนน้ำกก-น้ำสาย-น้ำรวก ยันน้ำโขง
    .
    ขณะที่น้ำสายขุ่นคลั่ก ทะลักล้นพนัง-บิ๊กแบ็ค เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ตั้งแต่ต้นฤดูฝนปีนี้แล้ว 2 รอบ ยิ่งทำให้ผู้คนในลุ่มน้ำกก-น้ำสาย-น้ำรวก รวมถึงน้ำโขงลุ่มสามเหลี่ยมทองคำ บางส่วน ยิ่งวิตกกับปัญหาสารพิษในน้ำ แต่ละสายที่ขุ่นมากผิดปกติมาตั้งแต่ต้นปี 68 รวมทั้งมีการตรวจพบสารหนู-โลหะหนัก ปนเปื้อนเกินมาตรฐาน ซึ่งเชื่อกันว่า เกิดจากการทำเหมืองทอง-แรร์เอิร์ธ ในพื้นที่ต้นแม่น้ำเขตว้าแดงตอนใต้ของกลุ่มทุนจีน
    .
    คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/local/detail/9680000048747
    .
    #MGROnline #เชียงราย #สารพิษปนเปื้อน
    เชียงราย – น้ำสายทะลักท่วมระลอกล่าสุด แม้ลดแล้ว แต่ชาวบ้านยิ่งวิตกสารพิษปนเปื้อนเพิ่ม..ภาค ปชช.เดินหน้านัดรวมตัวปลุกพลังเรียกร้องรัฐบาล 3 ชาติ ทั้งไทย-เมียนมา-จีน รวมทั้งว้าแดง แก้ปัญหาเหมืองทอง-แรร์เอิร์ธ-แมงกานิส ต้นน้ำทิ้งสายหนู/โลหะหนัก ปนเปื้อนน้ำกก-น้ำสาย-น้ำรวก ยันน้ำโขง . ขณะที่น้ำสายขุ่นคลั่ก ทะลักล้นพนัง-บิ๊กแบ็ค เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ตั้งแต่ต้นฤดูฝนปีนี้แล้ว 2 รอบ ยิ่งทำให้ผู้คนในลุ่มน้ำกก-น้ำสาย-น้ำรวก รวมถึงน้ำโขงลุ่มสามเหลี่ยมทองคำ บางส่วน ยิ่งวิตกกับปัญหาสารพิษในน้ำ แต่ละสายที่ขุ่นมากผิดปกติมาตั้งแต่ต้นปี 68 รวมทั้งมีการตรวจพบสารหนู-โลหะหนัก ปนเปื้อนเกินมาตรฐาน ซึ่งเชื่อกันว่า เกิดจากการทำเหมืองทอง-แรร์เอิร์ธ ในพื้นที่ต้นแม่น้ำเขตว้าแดงตอนใต้ของกลุ่มทุนจีน . คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/local/detail/9680000048747 . #MGROnline #เชียงราย #สารพิษปนเปื้อน
    MGRONLINE.COM
    น้ำขุ่นคลั่กทะลักยิ่งวิตกเพิ่ม!ภาค ปชช.เดินหน้าปลุกพลังรวมตัวจี้รัฐ 3 ชาติ-ว้า ปิดเหมือง/แก้ปมสารพิษปนเปื้อน
    เชียงราย – น้ำสายทะลักท่วมระลอกล่าสุด แม้ลดแล้ว แต่ชาวบ้านยิ่งวิตกสารพิษปนเปื้อนเพิ่ม..ภาค ปชช.เดินหน้านัดรวมตัวปลุกพลังเรียกร้องรัฐบาล 3 ชาติ ทั้งไทย-เมียนมา-จีน รวมทั้งว้าแดง แก้ปัญหาเหมืองทอง-แรร์เอิร์ธ-แมงกานิส ต้นน้ำทิ้งสายหน
    0 Comments 0 Shares 319 Views 0 Reviews
More Results