• 6G ตัวเปลี่ยนเกมและวิถีสงครามโลกยุคใหม่
    .
    หัวเว่ยกำลังสร้างนวัตกรรม 6G และเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลก หลังจากต้องเผชิญกับความมืดมน ความไม่แน่นอน และความพ่ายแพ้นับไม่ถ้วน แต่ก็ได้พบกับปาฏิหาริย์ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่ทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ กลายเป็นไปได้ ตามคำกล่าวของเมิ่ง หว่านโจว ลูกสาวของ เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้ง CEO ของหัวเว่ย ที่หลายปีก่อนเธอถูกจับเป็นตัวประกันที่แคนาดา ในสงครามเทคโนโลยีระหว่างจีนกับอเมริกา
    .
    หัวเว่ยจะเป็นบริษัทแรกในโลกนี้ที่นำ 6G มาใช้ในเชิงพาณิชย์ ผมเคยพูดไว้แล้วในรายการตอน213เมื่อ29ตุลาคม2566 เกือบสองปีแล้วที่ผมวิเคราะห์ว่าเรื่อง Super Network 6G อนาคตโลกในมือจีน วันนี้หัวเว่ยประกาศว่าระบบการสื่อสารแบบ 6G จะมีการเปิดใช้เชิงพาณิชย์ ภายในปี 2573 อีกห้าปีข้างหน้า เร็วมาก ชีวิตประจำวันของคนเราจะเปลี่ยนไปโดย 6G ของหัวเว่ย ซึ่งได้รวมการสื่อสารภาคพื้นดิน อวกาศ ดาวเทียม และทะเล เข้าด้วยกัน นำไปใช้ในอุปกรณ์อย่างเช่น IoT: Internet of Things ใช้ในอุตสาหกรรมการขับขี่ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โรงงานที่เป็น Smart Factory และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
    .
    ขณะนี้รัฐบาลจีนได้อนุมัติใช้คลื่นความถี่ 6 กิกะเฮิร์ตซ เพื่อรองรับไว้แล้ว และจะปฏิวัติเทคโนโลยีการสื่อสารไปอีกขั้น เพราะ 6G มีความเร็วกว่า 5G ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ถึง 100 เท่า ปานสายฟ้าแลบและใช้พลังงานน้อยกว่าแบตเตอรีน้อยกว่า 5G ถึง 10 เท่า ทำให้หัวเว่ยเป็นผู้นำการพัฒนา 6G ทิ้งห่างประเทศตะวันตกอย่างยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น
    .
    หัวเว่ยมีสิทธิบัตรทาง 6G มากที่สุดในโลกถึง 12,700 ฉบับหรือประมาณ 35% ของทั่วโลก พิสูจน์ให้เห็นถึงความรุนแรงของสงคราม 6G ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ความสำเร็จของหัวเว่ยคือชัยชนะของนวัตกรรม หรือเป็นจุดเปลี่ยนในการต่อสู้กับมหาอำนาจอเมริกา และชาติตะวันตก ที่ตั้งใจจะบดขยี้หัวเว่ยให้จมดิน
    .
    ดังนั้น 6G กับแสนยานุภาพทางการทหารจีนที่จีนพุ่งเป้านำเทคโนโลยี 6G ไปใช้ในการทหารก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจากสำหรับกองทัพแล้ว ประสิทธิภาพมีความสำคัญ และนี่คือสมรภูมิการแข่งขันที่มีความสำคัญ สมรภูมิการแข่งขันด้านเทคโนโลยีอาวุธและสนามรบด้านแสนยานุภาพของการทหารอีกด้วย
    .
    รายงานล่าสุดจากสำนักข่าวซินหัว เมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ระบุว่า จีนตอนนี้มีสถานีฐาน 5G 4.1 ล้านแห่งแล้ว สถานี 5G 4 ล้านกว่าแห่ง เป้าหมายต่อไปใน 2 ปีข้างหน้า 2570 ผู้ใช้เครือข่ายไร้สายในประเทศจีน ซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลมากกว่า 85% จะต้องเข้าถึงโครงข่าย 5G อีกสามปีข้างหน้านั่นเองและก็ถึงเวลาที่จะต้องเปิด 6G
    .
    จาก 5G ไปถึง 6G เทคโนโลยีที่เปรียบเทียบได้กับการแข่งขันทางอวกาศระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพโซเวียต แต่เป้าหมายในการแข่งขันนั้นไม่ใช่เรื่องการลงจอดบนดวงจันทร์อีกต่อไป แต่มันเป็นเรื่องการสร้างรากฐานของการเชื่อมต่อสำหรับทศวรรษหน้าที่กำลังจะมาถึง
    .
    จะเห็นได้ว่าการแข่งขันเพื่อ 6G ของหัวเว่ยนั้น มีความหมายมากกว่าความเร็วของอินเทอร์เน็ต แต่ยังเกี่ยวกับการที่ประเทศจีนกำลังจะเป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม และสารสนเทศในอนาคต ซึ่งไม่เพียงแต่กำหนดนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภูมิรัฐศาสตร์ด้วย ซึ่งจีน อเมริกา และยุโรป กำลังแข่งขันกันเพื่อครองความได้เปรียบบนพื้นที่โลกดิจิทัลในอนาคต เป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ของเกมเทคโนโลยีอันเป็นกุญแจสำคัญที่สุดที่จะนำพาประเทศนั้นๆ สังคมนั้นๆ ไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองระยะยาว
    6G ตัวเปลี่ยนเกมและวิถีสงครามโลกยุคใหม่ . หัวเว่ยกำลังสร้างนวัตกรรม 6G และเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลก หลังจากต้องเผชิญกับความมืดมน ความไม่แน่นอน และความพ่ายแพ้นับไม่ถ้วน แต่ก็ได้พบกับปาฏิหาริย์ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่ทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ กลายเป็นไปได้ ตามคำกล่าวของเมิ่ง หว่านโจว ลูกสาวของ เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้ง CEO ของหัวเว่ย ที่หลายปีก่อนเธอถูกจับเป็นตัวประกันที่แคนาดา ในสงครามเทคโนโลยีระหว่างจีนกับอเมริกา . หัวเว่ยจะเป็นบริษัทแรกในโลกนี้ที่นำ 6G มาใช้ในเชิงพาณิชย์ ผมเคยพูดไว้แล้วในรายการตอน213เมื่อ29ตุลาคม2566 เกือบสองปีแล้วที่ผมวิเคราะห์ว่าเรื่อง Super Network 6G อนาคตโลกในมือจีน วันนี้หัวเว่ยประกาศว่าระบบการสื่อสารแบบ 6G จะมีการเปิดใช้เชิงพาณิชย์ ภายในปี 2573 อีกห้าปีข้างหน้า เร็วมาก ชีวิตประจำวันของคนเราจะเปลี่ยนไปโดย 6G ของหัวเว่ย ซึ่งได้รวมการสื่อสารภาคพื้นดิน อวกาศ ดาวเทียม และทะเล เข้าด้วยกัน นำไปใช้ในอุปกรณ์อย่างเช่น IoT: Internet of Things ใช้ในอุตสาหกรรมการขับขี่ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โรงงานที่เป็น Smart Factory และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง . ขณะนี้รัฐบาลจีนได้อนุมัติใช้คลื่นความถี่ 6 กิกะเฮิร์ตซ เพื่อรองรับไว้แล้ว และจะปฏิวัติเทคโนโลยีการสื่อสารไปอีกขั้น เพราะ 6G มีความเร็วกว่า 5G ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ถึง 100 เท่า ปานสายฟ้าแลบและใช้พลังงานน้อยกว่าแบตเตอรีน้อยกว่า 5G ถึง 10 เท่า ทำให้หัวเว่ยเป็นผู้นำการพัฒนา 6G ทิ้งห่างประเทศตะวันตกอย่างยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น . หัวเว่ยมีสิทธิบัตรทาง 6G มากที่สุดในโลกถึง 12,700 ฉบับหรือประมาณ 35% ของทั่วโลก พิสูจน์ให้เห็นถึงความรุนแรงของสงคราม 6G ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ความสำเร็จของหัวเว่ยคือชัยชนะของนวัตกรรม หรือเป็นจุดเปลี่ยนในการต่อสู้กับมหาอำนาจอเมริกา และชาติตะวันตก ที่ตั้งใจจะบดขยี้หัวเว่ยให้จมดิน . ดังนั้น 6G กับแสนยานุภาพทางการทหารจีนที่จีนพุ่งเป้านำเทคโนโลยี 6G ไปใช้ในการทหารก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจากสำหรับกองทัพแล้ว ประสิทธิภาพมีความสำคัญ และนี่คือสมรภูมิการแข่งขันที่มีความสำคัญ สมรภูมิการแข่งขันด้านเทคโนโลยีอาวุธและสนามรบด้านแสนยานุภาพของการทหารอีกด้วย . รายงานล่าสุดจากสำนักข่าวซินหัว เมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ระบุว่า จีนตอนนี้มีสถานีฐาน 5G 4.1 ล้านแห่งแล้ว สถานี 5G 4 ล้านกว่าแห่ง เป้าหมายต่อไปใน 2 ปีข้างหน้า 2570 ผู้ใช้เครือข่ายไร้สายในประเทศจีน ซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลมากกว่า 85% จะต้องเข้าถึงโครงข่าย 5G อีกสามปีข้างหน้านั่นเองและก็ถึงเวลาที่จะต้องเปิด 6G . จาก 5G ไปถึง 6G เทคโนโลยีที่เปรียบเทียบได้กับการแข่งขันทางอวกาศระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพโซเวียต แต่เป้าหมายในการแข่งขันนั้นไม่ใช่เรื่องการลงจอดบนดวงจันทร์อีกต่อไป แต่มันเป็นเรื่องการสร้างรากฐานของการเชื่อมต่อสำหรับทศวรรษหน้าที่กำลังจะมาถึง . จะเห็นได้ว่าการแข่งขันเพื่อ 6G ของหัวเว่ยนั้น มีความหมายมากกว่าความเร็วของอินเทอร์เน็ต แต่ยังเกี่ยวกับการที่ประเทศจีนกำลังจะเป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม และสารสนเทศในอนาคต ซึ่งไม่เพียงแต่กำหนดนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภูมิรัฐศาสตร์ด้วย ซึ่งจีน อเมริกา และยุโรป กำลังแข่งขันกันเพื่อครองความได้เปรียบบนพื้นที่โลกดิจิทัลในอนาคต เป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ของเกมเทคโนโลยีอันเป็นกุญแจสำคัญที่สุดที่จะนำพาประเทศนั้นๆ สังคมนั้นๆ ไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองระยะยาว
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 343 มุมมอง 0 รีวิว
  • 122 ปี ปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา-เมืองหลวงพระบาง: ฝ่าอิทธิพลจักรวรรดินิยม รักษาเอกราช ทวงคืนอธิปไตยจันทบุรี

    📅 ย้อนกลับไปเมื่อ 122 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 (ค.ศ. 1903) ถือเป็นหมุดหมายสำคัญ ในประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭 เมื่อไทยและฝรั่งเศส 🇫🇷 ลงนามในสัญญาปักปันเขตแดน ระหว่างไทย-กัมพูชา และเมืองหลวงพระบาง ซึ่งเป็นดินแดน ที่อยู่ภายใต้การปกครอง ของฝรั่งเศสในขณะนั้น

    ภายใต้ข้อตกลงนี้ ไทยต้องยกดินแดน ฝั่งขวาของแม่น้ำโขง ที่อยู่ตรงข้ามเมืองหลวงพระบาง ให้แก่ฝรั่งเศส เพื่อแลกกับการถอนทหารฝรั่งเศส ออกจากจังหวัดจันทบุรี ซึ่งถูกยึดครองมา ตั้งแต่เหตุการณ์ วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 หรือสงครามฝรั่งเศส-สยาม (พ.ศ. 2436)

    อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแรงกดดัน จากจักรวรรดินิยมฝรั่งเศส ไทยต้องเผชิญกับ การบีบบังคับทางการเมืองเพิ่มเติม จนต้องยอมเสียเมืองตราด และหมู่เกาะใกล้เคียง เพื่อแลกกับการได้จันทบุรีคืน 📌

    🌍 กระแสล่าอาณานิคมของฝรั่งเศส ในอินโดจีน 🔹
    ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จักรวรรดิฝรั่งเศส ได้ขยายอิทธิพลอย่างรวดเร็ว ในภูมิภาคอินโดจีน โดยสามารถยึดครองเวียดนาม ลาว และกัมพูชา ได้สำเร็จ ทำให้ไทยกลายเป็นรัฐกันชน ที่ต้องเผชิญแรงกดดันจากฝรั่งเศส ทางด้านตะวันออก

    💡 ฝรั่งเศสต้องการควบคุมดินแดน แถบลุ่มแม่น้ำโขงทั้งหมด เพื่อสร้างเส้นทางการค้าจากจีน ลงมาสู่อินโดจีนของตน ในขณะที่ไทย ต้องพยายามรักษาเอกราช และดินแดนของตนไว้

    🇹🇭 ไทยภายใต้รัชกาลที่ 5 พยายามรักษาเอกราช
    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงตระหนักถึงภัยคุกคาม จากจักรวรรดินิยม และพยายามใช้นโยบายการทูตเชิงรุก เพื่อรักษาความเป็นอิสระของไทย ทรงดำเนินแผนการ ปรับปรุงประเทศให้ทันสมัย เพื่อลดข้ออ้างของมหาอำนาจตะวันตก ในการเข้ามาแทรกแซง

    อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสใช้ข้ออ้างเรื่องอธิปไตย เหนือดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง เป็นเหตุผลในการเรียกร้องดินแดนเพิ่มเติมจากไทย

    🔹 วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 จุดเริ่มต้นของการเสียเปรียบทางดินแดน
    📍 วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) เป็นเหตุการณ์ที่ฝรั่งเศส ใช้กำลังทหารเรือ บุกรุกปากแม่น้ำเจ้าพระยา และปะทะกับทหารไทย จนเป็นเหตุให้รัฐบาลไทย ต้องยอมลงนามในสนธิสัญญา ที่เสียเปรียบ

    📜 ข้อกำหนดสำคัญของสนธิสัญญา ร.ศ. 112
    ✔ ไทยต้องยกดินแดน ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงทั้งหมด รวมถึงลาว ให้แก่ฝรั่งเศส
    ✔ ฝรั่งเศสเข้ายึดจังหวัดจันทบุรี เป็นหลักประกันบังคับให้ไทย ปฏิบัติตามสัญญา
    ✔ ไทยต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมหาศาล ให้ฝรั่งเศส

    🛑 นี่เป็นครั้งแรกที่ไทย ต้องเสียดินแดนจำนวนมาก ให้แก่จักรวรรดินิยมฝรั่งเศส และทำให้สถานการณ์ของไทยในภูมิภาคนี้ ล่อแหลมยิ่งขึ้น

    🔹 สนธิสัญญา พ.ศ. 2446 การทวงคืนจันทบุรี แต่ต้องแลกด้วยดินแดนเพิ่ม
    หลังจากไทย ถูกฝรั่งเศสยึดครองจันทบุรี ไว้นานถึง 10 ปี รัฐบาลไทยพยายามเจรจา ขอคืนจันทบุรี แต่ต้องแลกด้วย การยอมมอบดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง ที่ตรงข้ามกับเมืองหลวงพระบาง ให้แก่ฝรั่งเศส

    📌 สนธิสัญญานี้ ลงนามเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 ทำให้ไทยได้รับจันทบุรีคืน แต่ฝรั่งเศสกลับยื่นเงื่อนไข ให้ไทยต้องยกเมืองตราด และหมู่เกาะอื่นๆ แทน

    🌏 ผลลัพธ์ของสนธิสัญญานี้
    ✅ ไทยได้จันทบุรีคืนจากฝรั่งเศส
    ❌ ไทยเสียเมืองตราด และหมู่เกาะให้ฝรั่งเศส
    ✅ ไทยยังสามารถรักษาเอกราชไว้ได้ แต่ต้องจำยอมต่ออำนาจ ของมหาอำนาจตะวันตก

    🔹 ไทยทวงคืนเมืองตราดสำเร็จในปี พ.ศ. 2450
    4 ปี ต่อมา ในปี พ.ศ. 2450 (ค.ศ. 1907) ไทยสามารถทวงคืนเมืองตราด กลับมาได้สำเร็จ โดยแลกกับดินแดนพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ ที่อยู่ทางฝั่งกัมพูชา ให้ฝรั่งเศสแทน

    นี่เป็นอีกหนึ่งครั้ง ที่ไทยต้องเสียสละดินแดน เพื่อให้สามารถปกป้อง เอกราชของตนเองเอาไว้

    🧐 จากเหตุการณ์ ปักปันเขตแดนในปี พ.ศ. 2446 ไทยได้เรียนรู้ว่า
    ✔ อำนาจทางการทูต มีความสำคัญอย่างยิ่ง ไทยสามารถใช้การเจรจา เพื่อลดความเสียหายได้ แม้ว่าจะต้องยอมเสียดินแดนบางส่วน
    ✔ จักรวรรดินิยมฝรั่งเศส ไม่เคยหยุดกดดันไทย ต้องอาศัยนโยบายเชิงรุก เพื่อรักษาเอกราช
    ✔ ไทยต้องพัฒนาประเทศให้ทันสมัย เพื่อป้องกันการถูกรุกรานในอนาคต

    🎯 แม้ว่าไทยจะต้องยอม สูญเสียดินแดนบางส่วน แต่ก็สามารถรักษา ความเป็นเอกราชเอาไว้ได้ ซึ่งแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ตกเป็นอาณานิคม ของจักรวรรดินิยมในช่วงเวลานั้น

    🔹 122 ปี แห่งความเปลี่ยนแปลงทางดินแดน และอธิปไตยของไทย
    🌏 ผ่านไป 122 ปี นับตั้งแต่สนธิสัญญา ปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา-เมืองหลวงพระบาง เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นบทเรียนสำคัญ ทางประวัติศาสตร์ของไทย 🇹🇭

    📌 ถึงแม้ไทยจะเสียดินแดนไปบางส่วน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไทยยังคงรักษาเอกราชไว้ได้ ไม่ต้องตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก เหมือนประเทศเพื่อนบ้าน 💬

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 131208 ก.พ. 2568

    #ประวัติศาสตร์ไทย #ไทยฝรั่งเศส #อธิปไตย #วิกฤติการณ์รศ112 #เอกราชไทย
    122 ปี ปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา-เมืองหลวงพระบาง: ฝ่าอิทธิพลจักรวรรดินิยม รักษาเอกราช ทวงคืนอธิปไตยจันทบุรี 📅 ย้อนกลับไปเมื่อ 122 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 (ค.ศ. 1903) ถือเป็นหมุดหมายสำคัญ ในประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭 เมื่อไทยและฝรั่งเศส 🇫🇷 ลงนามในสัญญาปักปันเขตแดน ระหว่างไทย-กัมพูชา และเมืองหลวงพระบาง ซึ่งเป็นดินแดน ที่อยู่ภายใต้การปกครอง ของฝรั่งเศสในขณะนั้น ภายใต้ข้อตกลงนี้ ไทยต้องยกดินแดน ฝั่งขวาของแม่น้ำโขง ที่อยู่ตรงข้ามเมืองหลวงพระบาง ให้แก่ฝรั่งเศส เพื่อแลกกับการถอนทหารฝรั่งเศส ออกจากจังหวัดจันทบุรี ซึ่งถูกยึดครองมา ตั้งแต่เหตุการณ์ วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 หรือสงครามฝรั่งเศส-สยาม (พ.ศ. 2436) อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแรงกดดัน จากจักรวรรดินิยมฝรั่งเศส ไทยต้องเผชิญกับ การบีบบังคับทางการเมืองเพิ่มเติม จนต้องยอมเสียเมืองตราด และหมู่เกาะใกล้เคียง เพื่อแลกกับการได้จันทบุรีคืน 📌 🌍 กระแสล่าอาณานิคมของฝรั่งเศส ในอินโดจีน 🔹 ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จักรวรรดิฝรั่งเศส ได้ขยายอิทธิพลอย่างรวดเร็ว ในภูมิภาคอินโดจีน โดยสามารถยึดครองเวียดนาม ลาว และกัมพูชา ได้สำเร็จ ทำให้ไทยกลายเป็นรัฐกันชน ที่ต้องเผชิญแรงกดดันจากฝรั่งเศส ทางด้านตะวันออก 💡 ฝรั่งเศสต้องการควบคุมดินแดน แถบลุ่มแม่น้ำโขงทั้งหมด เพื่อสร้างเส้นทางการค้าจากจีน ลงมาสู่อินโดจีนของตน ในขณะที่ไทย ต้องพยายามรักษาเอกราช และดินแดนของตนไว้ 🇹🇭 ไทยภายใต้รัชกาลที่ 5 พยายามรักษาเอกราช พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงตระหนักถึงภัยคุกคาม จากจักรวรรดินิยม และพยายามใช้นโยบายการทูตเชิงรุก เพื่อรักษาความเป็นอิสระของไทย ทรงดำเนินแผนการ ปรับปรุงประเทศให้ทันสมัย เพื่อลดข้ออ้างของมหาอำนาจตะวันตก ในการเข้ามาแทรกแซง อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสใช้ข้ออ้างเรื่องอธิปไตย เหนือดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง เป็นเหตุผลในการเรียกร้องดินแดนเพิ่มเติมจากไทย 🔹 วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 จุดเริ่มต้นของการเสียเปรียบทางดินแดน 📍 วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) เป็นเหตุการณ์ที่ฝรั่งเศส ใช้กำลังทหารเรือ บุกรุกปากแม่น้ำเจ้าพระยา และปะทะกับทหารไทย จนเป็นเหตุให้รัฐบาลไทย ต้องยอมลงนามในสนธิสัญญา ที่เสียเปรียบ 📜 ข้อกำหนดสำคัญของสนธิสัญญา ร.ศ. 112 ✔ ไทยต้องยกดินแดน ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงทั้งหมด รวมถึงลาว ให้แก่ฝรั่งเศส ✔ ฝรั่งเศสเข้ายึดจังหวัดจันทบุรี เป็นหลักประกันบังคับให้ไทย ปฏิบัติตามสัญญา ✔ ไทยต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมหาศาล ให้ฝรั่งเศส 🛑 นี่เป็นครั้งแรกที่ไทย ต้องเสียดินแดนจำนวนมาก ให้แก่จักรวรรดินิยมฝรั่งเศส และทำให้สถานการณ์ของไทยในภูมิภาคนี้ ล่อแหลมยิ่งขึ้น 🔹 สนธิสัญญา พ.ศ. 2446 การทวงคืนจันทบุรี แต่ต้องแลกด้วยดินแดนเพิ่ม หลังจากไทย ถูกฝรั่งเศสยึดครองจันทบุรี ไว้นานถึง 10 ปี รัฐบาลไทยพยายามเจรจา ขอคืนจันทบุรี แต่ต้องแลกด้วย การยอมมอบดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง ที่ตรงข้ามกับเมืองหลวงพระบาง ให้แก่ฝรั่งเศส 📌 สนธิสัญญานี้ ลงนามเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 ทำให้ไทยได้รับจันทบุรีคืน แต่ฝรั่งเศสกลับยื่นเงื่อนไข ให้ไทยต้องยกเมืองตราด และหมู่เกาะอื่นๆ แทน 🌏 ผลลัพธ์ของสนธิสัญญานี้ ✅ ไทยได้จันทบุรีคืนจากฝรั่งเศส ❌ ไทยเสียเมืองตราด และหมู่เกาะให้ฝรั่งเศส ✅ ไทยยังสามารถรักษาเอกราชไว้ได้ แต่ต้องจำยอมต่ออำนาจ ของมหาอำนาจตะวันตก 🔹 ไทยทวงคืนเมืองตราดสำเร็จในปี พ.ศ. 2450 4 ปี ต่อมา ในปี พ.ศ. 2450 (ค.ศ. 1907) ไทยสามารถทวงคืนเมืองตราด กลับมาได้สำเร็จ โดยแลกกับดินแดนพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ ที่อยู่ทางฝั่งกัมพูชา ให้ฝรั่งเศสแทน นี่เป็นอีกหนึ่งครั้ง ที่ไทยต้องเสียสละดินแดน เพื่อให้สามารถปกป้อง เอกราชของตนเองเอาไว้ 🧐 จากเหตุการณ์ ปักปันเขตแดนในปี พ.ศ. 2446 ไทยได้เรียนรู้ว่า ✔ อำนาจทางการทูต มีความสำคัญอย่างยิ่ง ไทยสามารถใช้การเจรจา เพื่อลดความเสียหายได้ แม้ว่าจะต้องยอมเสียดินแดนบางส่วน ✔ จักรวรรดินิยมฝรั่งเศส ไม่เคยหยุดกดดันไทย ต้องอาศัยนโยบายเชิงรุก เพื่อรักษาเอกราช ✔ ไทยต้องพัฒนาประเทศให้ทันสมัย เพื่อป้องกันการถูกรุกรานในอนาคต 🎯 แม้ว่าไทยจะต้องยอม สูญเสียดินแดนบางส่วน แต่ก็สามารถรักษา ความเป็นเอกราชเอาไว้ได้ ซึ่งแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ตกเป็นอาณานิคม ของจักรวรรดินิยมในช่วงเวลานั้น 🔹 122 ปี แห่งความเปลี่ยนแปลงทางดินแดน และอธิปไตยของไทย 🌏 ผ่านไป 122 ปี นับตั้งแต่สนธิสัญญา ปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา-เมืองหลวงพระบาง เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นบทเรียนสำคัญ ทางประวัติศาสตร์ของไทย 🇹🇭 📌 ถึงแม้ไทยจะเสียดินแดนไปบางส่วน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไทยยังคงรักษาเอกราชไว้ได้ ไม่ต้องตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก เหมือนประเทศเพื่อนบ้าน 💬 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 131208 ก.พ. 2568 #ประวัติศาสตร์ไทย #ไทยฝรั่งเศส #อธิปไตย #วิกฤติการณ์รศ112 #เอกราชไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียยื่นข้อเสนอเปิดสายการผลิต Sukhoi Su-57 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่สเตลธ์รุ่นทันสมัยที่สุดของแดนหมีขาวในแดนภารตะ เพื่อส่งมอบเข้าประจำการในกองทัพอากาศอินเดีย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่สะท้อนถึงการกระชับสัมพันธ์ด้านกลาโหมระหว่าง 2 มหาอำนาจ
    .
    ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา รัสเซียถือเป็นซัปพลายเออร์อาวุธหลักของอินเดียซึ่งเป็นชาติผู้นำเข้าอาวุธรายใหญ่ที่สุดในโลกด้วย และเครื่องบินขับไล่จากแดนหมีขาวก็เป็นองค์ประกอบสำคัญในฝูงบินกองทัพอากาศอินเดีย ทว่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้ความสามารถในการส่งออกอาวุธของรัสเซียลดลงไปมากจากผลของสงครามในยูเครน ซึ่งทำให้อินเดียต้องหันไปพึ่งตะวันตกมากขึ้น
    .
    โฆษก Rosoboronexport ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจส่งออกอาวุธของรัสเซียให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า โครงการผลิตเครื่องบินขับไล่ Su-57 อาจเริ่มได้ภายในปีนี้ หากรัฐบาลอินเดียรับข้อเสนอของมอสโก
    .
    กระทรวงกลาโหมอินเดียยังไม่ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมอาวุธรัสเซียและเจ้าหน้าที่อินเดียคนหนึ่งระบุว่า รัสเซียได้ยื่นข้อเสนอแบบไม่เป็นทางการระหว่างพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดีย และผู้แทนจากบริษัท Hindustan Aeronautics ซึ่งเป็นบริษัทด้านอวกาศและการป้องกันประเทศที่รัฐบาลอินเดียเป็นเจ้าของ
    .
    กองทัพอากาศอินเดียกำลังพยายามหาวิธีเติมเต็มฝูงบินขับไล่ซึ่งปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 31 ฝูงบิน จากเป้าหมาย 42 ฝูงบิน ในขณะที่มหาอำนาจคู่แข่งอย่าง “จีน” มีการเพิ่มจำนวนฝูงบินทหารอย่างต่อเนื่อง
    .
    โฆษก Rosoboronexport ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวในงานแสดงการบิน Aero India ที่เมืองบังกาลอร์ว่า การเปิดสายผลิตเครื่องบินรบในอินเดียโดยมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบจะช่วยให้มั่นใจได้ว่า กระบวนการผลิตจะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการแซงก์ชันรัสเซียของตะวันตก
    .
    เขายังบอกด้วยว่า ในการผลิตเครื่องบินขับไล่ Su-57 อาจจะใช้วิธีปรับปรุงสายการผลิต Sukhoi Su-30 ที่มีอยู่แล้วในอินเดีย ซึ่งปัจจุบันกองทัพอากาศอินเดียมีเครื่องบินรบรุ่นนี้ใช้งานอยู่ทั้งสิ้น 260 ลำ
    .
    ทั้ง Su-57 และเครื่องบินขับไล่ F-35 Lightning II ของค่ายล็อกฮีดมาร์ตินจากสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นคู่แข่งที่มีศักยภาพใกล้เคียงกัน ต่างถูกนำมาแสดงในงาน Aero India ด้วยกันทั้งคู่
    .
    แม้จะได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นเครื่องบินขับไล่รุ่นที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพพอฟัดพอเหวี่ยงกับเครื่องบินรบของสหรัฐฯ ทว่า Su-57 ก็เคยประสบปัญหาล่าช้าในช่วงของการพัฒนา และเคยเกิดอุบัติเหตุตกเมื่อปี 2019
    .
    ตามข้อมูลจากบริษัทผู้ผลิต เครื่องบินขับไล่ Su-57 เริ่มเดินสายการผลิตแบบต่อเนื่อง (serial production) เมื่อปี 2022
    .
    ปีที่แล้วรัสเซียได้ส่ง Su-57 ไปเข้าร่วมในงานแสดงการบินที่เมืองจูไห่ของจีน ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวในต่างแดนครั้งแรก และยังเป็นการประกาศความร่วมมือระหว่างจีน-รัสเซียให้ชาติตะวันตกได้เห็นกลายๆ ด้วย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000014303
    ..............
    Sondhi X
    รัสเซียยื่นข้อเสนอเปิดสายการผลิต Sukhoi Su-57 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่สเตลธ์รุ่นทันสมัยที่สุดของแดนหมีขาวในแดนภารตะ เพื่อส่งมอบเข้าประจำการในกองทัพอากาศอินเดีย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่สะท้อนถึงการกระชับสัมพันธ์ด้านกลาโหมระหว่าง 2 มหาอำนาจ . ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา รัสเซียถือเป็นซัปพลายเออร์อาวุธหลักของอินเดียซึ่งเป็นชาติผู้นำเข้าอาวุธรายใหญ่ที่สุดในโลกด้วย และเครื่องบินขับไล่จากแดนหมีขาวก็เป็นองค์ประกอบสำคัญในฝูงบินกองทัพอากาศอินเดีย ทว่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้ความสามารถในการส่งออกอาวุธของรัสเซียลดลงไปมากจากผลของสงครามในยูเครน ซึ่งทำให้อินเดียต้องหันไปพึ่งตะวันตกมากขึ้น . โฆษก Rosoboronexport ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจส่งออกอาวุธของรัสเซียให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า โครงการผลิตเครื่องบินขับไล่ Su-57 อาจเริ่มได้ภายในปีนี้ หากรัฐบาลอินเดียรับข้อเสนอของมอสโก . กระทรวงกลาโหมอินเดียยังไม่ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมอาวุธรัสเซียและเจ้าหน้าที่อินเดียคนหนึ่งระบุว่า รัสเซียได้ยื่นข้อเสนอแบบไม่เป็นทางการระหว่างพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดีย และผู้แทนจากบริษัท Hindustan Aeronautics ซึ่งเป็นบริษัทด้านอวกาศและการป้องกันประเทศที่รัฐบาลอินเดียเป็นเจ้าของ . กองทัพอากาศอินเดียกำลังพยายามหาวิธีเติมเต็มฝูงบินขับไล่ซึ่งปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 31 ฝูงบิน จากเป้าหมาย 42 ฝูงบิน ในขณะที่มหาอำนาจคู่แข่งอย่าง “จีน” มีการเพิ่มจำนวนฝูงบินทหารอย่างต่อเนื่อง . โฆษก Rosoboronexport ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวในงานแสดงการบิน Aero India ที่เมืองบังกาลอร์ว่า การเปิดสายผลิตเครื่องบินรบในอินเดียโดยมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบจะช่วยให้มั่นใจได้ว่า กระบวนการผลิตจะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการแซงก์ชันรัสเซียของตะวันตก . เขายังบอกด้วยว่า ในการผลิตเครื่องบินขับไล่ Su-57 อาจจะใช้วิธีปรับปรุงสายการผลิต Sukhoi Su-30 ที่มีอยู่แล้วในอินเดีย ซึ่งปัจจุบันกองทัพอากาศอินเดียมีเครื่องบินรบรุ่นนี้ใช้งานอยู่ทั้งสิ้น 260 ลำ . ทั้ง Su-57 และเครื่องบินขับไล่ F-35 Lightning II ของค่ายล็อกฮีดมาร์ตินจากสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นคู่แข่งที่มีศักยภาพใกล้เคียงกัน ต่างถูกนำมาแสดงในงาน Aero India ด้วยกันทั้งคู่ . แม้จะได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นเครื่องบินขับไล่รุ่นที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพพอฟัดพอเหวี่ยงกับเครื่องบินรบของสหรัฐฯ ทว่า Su-57 ก็เคยประสบปัญหาล่าช้าในช่วงของการพัฒนา และเคยเกิดอุบัติเหตุตกเมื่อปี 2019 . ตามข้อมูลจากบริษัทผู้ผลิต เครื่องบินขับไล่ Su-57 เริ่มเดินสายการผลิตแบบต่อเนื่อง (serial production) เมื่อปี 2022 . ปีที่แล้วรัสเซียได้ส่ง Su-57 ไปเข้าร่วมในงานแสดงการบินที่เมืองจูไห่ของจีน ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวในต่างแดนครั้งแรก และยังเป็นการประกาศความร่วมมือระหว่างจีน-รัสเซียให้ชาติตะวันตกได้เห็นกลายๆ ด้วย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000014303 .............. Sondhi X
    Like
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1958 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📌นักปรัชญาและนักทฤษฎีชาวรัสเซียที่มีชื่อเสียง วิเคราะห์ : จุดจบของอำนาจครอบงำของอเมริกา !!

    Alexander Dugin นักปรัชญาและนักทฤษฎีชาวรัสเซียที่มีชื่อเสียง เชื่อว่าโลกกำลังเปลี่ยนจากโครงสร้างขั้วเดียวไปเป็นโครงสร้างหลายขั้ว และผู้มีบทบาทต่างๆ เช่น อิหร่านและรัสเซียจะต้องเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์นี้

    Alexander Dugin นักปรัชญาและนักทฤษฎีชื่อดังชาวรัสเซีย ได้วิเคราะห์ถึงการพัฒนาทางภูมิรัฐศาสตร์ในโลก การกลับมามีอำนาจของทรัมป์ ตำแหน่งของอิหร่านและรัสเซียในระเบียบโลกใหม่ และการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งในนโยบายต่างประเทศของอเมริกา ในบทสัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Sahab Broadcasting Network ของรัสเซีย

    ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ Alexander Dugin วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในกลยุทธ์ของอเมริกาและเชื่อว่ายุคที่วอชิงตันสร้างอำนาจเหนือบนพื้นฐานของอุดมการณ์เสรีนิยมและโลกาภิวัตน์นั้นสิ้นสุดลงแล้ว โมเดลนี้ซึ่งมีพื้นฐานมาจากอิทธิพลทางวัฒนธรรม การบ่อนทำลายอำนาจอธิปไตยของรัฐเอกราช และการออกแบบการปฏิวัติสี ปัจจุบันได้หลีกทางให้กับลัทธิชาตินิยมจักรวรรดินิยม ซึ่งอเมริกาพยายามที่จะรักษาผลประโยชน์ของตนเอง ไม่ใช่ในฐานะผู้นำโลก แต่เป็นจักรวรรดิที่เป็นอิสระ

    Alexander Dugin เน้นย้ำว่า ทรัมป์พยายามที่จะกำหนดระเบียบโลกใหม่โดยให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และละทิ้งนโยบายโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงนี้หมายถึงการลดการพึ่งพาพันธมิตรแบบดั้งเดิมและมุ่งเน้นไปที่การฉายอำนาจโดยตรงของอเมริกาในภูมิภาคเชิงยุทธศาสตร์ ในขณะเดียวกัน รัสเซียและอิหร่านซึ่งเป็นสองมหาอำนาจอิสระที่ได้รับผลกระทบจากรูปแบบเดิมของการครอบงำของชาติตะวันตก สามารถได้รับประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงนี้

    ในส่วนอื่นของการสัมภาษณ์ เขากล่าวถึงนโยบายของทรัมป์ต่ออิหร่าน ตามที่ Alexander Dugin กล่าว แม้ว่าทรัมป์จะยังคงดำเนินนโยบายต่อต้านอิหร่านต่อไป แต่แนวทางที่เขามีต่อเตหะรานก็จะแตกต่างจากของไบเดน ต่างจากฝ่ายบริหารพรรคเดโมแครตซึ่งใช้ยุทธศาสตร์ "การกัดเซาะอย่างค่อยเป็นค่อยไป" ทรัมป์จะพยายามสร้างแรงกดดันโดยตรงและรวดเร็ว

    Alexander Dugin ยังอ้างถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และอิสราเอล โดยอธิบายว่าทรัมป์จะทำให้อิสราเอลเป็นนโยบายต่างประเทศลำดับแรกของเขา นั่นหมายความว่าแรงกดดันของวอชิงตันต่อแกนต่อต้านและอิหร่านจะเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าภายในกระแสฝ่ายขวาที่สนับสนุนทรัมป์ ก็ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการสนับสนุนอิสราเอลอย่างไม่มีเงื่อนไขอีกด้วย

    เขาชี้ถึงความสำคัญของพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ระหว่างอิหร่านและรัสเซีย และถือว่าข้อตกลงทางยุทธศาสตร์ระหว่างทั้งสองประเทศเป็นหนึ่งในพัฒนาการทางภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ข้อตกลงนี้อาจนำไปสู่ความร่วมมือที่กว้างขวางยิ่งขึ้นในด้านการทหารและเศรษฐกิจ

    Alexander Dugin เสนอว่าอิหร่านควรได้รับการจัดให้อยู่ภายใต้การควบคุมทางนิวเคลียร์ของรัสเซีย และในทางกลับกัน รัสเซียควรใช้ประโยชน์จากศักยภาพทางภูมิรัฐศาสตร์ของอิหร่านในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงในอ่าวเปอร์เซียและเอเชียใต้ เขาเห็นพันธมิตรนี้ไม่เพียงแต่เป็นสิ่งจำเป็นเชิงยุทธศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงอารยธรรมที่สามารถต้านทานแรงกดดันจากชาติตะวันตกได้อีกด้วย

    เขาชี้ถึงสงครามฉนวนกาซาและการพัฒนาต่างๆ ที่เกิดขึ้นล่าสุดในปาเลสไตน์ โดยเน้นย้ำว่าความขัดแย้งครั้งนี้ได้นำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ของอิสราเอลในความคิดเห็นสาธารณะทั่วโลกมากกว่าที่เคยเป็นมา ตามที่เขากล่าว อิสราเอลประสบความสำเร็จในการสร้างภาพตัวเองให้เป็นประเทศเหยื่อในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่การโจมตีอย่างโหดร้ายในฉนวนกาซาและการสังหารพลเรือนได้ท้าทายเรื่องเล่านี้และปลุกระดมความคิดเห็นสาธารณะทั่วโลกให้ต่อต้านระบอบการปกครอง

    เขาเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงในมุมมองของโลกเกี่ยวกับอิสราเอลคือความล้มเหลวทางยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ที่สุดของระบอบการปกครองในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และยังทำให้การสนับสนุนแบบเดิมของอเมริกาต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ อีกด้วย

    Alexander Dugin ได้นำเสนอภาพที่ชัดเจนของอนาคตของระเบียบโลก ซึ่งในความเชื่อของเขา ยุคแห่งการครอบงำโลกอย่างไม่มีข้อโต้แย้งของอเมริกาสิ้นสุดลงแล้ว และประเทศต่างๆ เช่น จีน รัสเซีย อิหร่าน และอินเดีย จะมีบทบาทมากขึ้นในทางการเมืองระหว่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงทางอารยธรรมด้วย ซึ่งจะรวมถึงการฟื้นคืนค่านิยมดั้งเดิม การเผชิญหน้ากับเสรีนิยมโลก และการก่อตั้งขั้วอำนาจอิสระ

    Alexander Dugin เน้นย้ำว่า อิหร่านและรัสเซียควรคว้าโอกาสทางประวัติศาสตร์นี้และเสริมสร้างพันธมิตรของพวกเขา เขาถือว่าความร่วมมือนี้อยู่เหนือข้อตกลงทางการทูตและถือเป็นรากฐานสำหรับการสร้างระเบียบโลกใหม่ คำสั่งที่ฝ่ายตะวันตกจะไม่เป็นผู้มีบทบาทครอบงำแต่ผู้เดียวอีกต่อไป
    📌นักปรัชญาและนักทฤษฎีชาวรัสเซียที่มีชื่อเสียง วิเคราะห์ : จุดจบของอำนาจครอบงำของอเมริกา !! Alexander Dugin นักปรัชญาและนักทฤษฎีชาวรัสเซียที่มีชื่อเสียง เชื่อว่าโลกกำลังเปลี่ยนจากโครงสร้างขั้วเดียวไปเป็นโครงสร้างหลายขั้ว และผู้มีบทบาทต่างๆ เช่น อิหร่านและรัสเซียจะต้องเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์นี้ Alexander Dugin นักปรัชญาและนักทฤษฎีชื่อดังชาวรัสเซีย ได้วิเคราะห์ถึงการพัฒนาทางภูมิรัฐศาสตร์ในโลก การกลับมามีอำนาจของทรัมป์ ตำแหน่งของอิหร่านและรัสเซียในระเบียบโลกใหม่ และการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งในนโยบายต่างประเทศของอเมริกา ในบทสัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Sahab Broadcasting Network ของรัสเซีย ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ Alexander Dugin วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในกลยุทธ์ของอเมริกาและเชื่อว่ายุคที่วอชิงตันสร้างอำนาจเหนือบนพื้นฐานของอุดมการณ์เสรีนิยมและโลกาภิวัตน์นั้นสิ้นสุดลงแล้ว โมเดลนี้ซึ่งมีพื้นฐานมาจากอิทธิพลทางวัฒนธรรม การบ่อนทำลายอำนาจอธิปไตยของรัฐเอกราช และการออกแบบการปฏิวัติสี ปัจจุบันได้หลีกทางให้กับลัทธิชาตินิยมจักรวรรดินิยม ซึ่งอเมริกาพยายามที่จะรักษาผลประโยชน์ของตนเอง ไม่ใช่ในฐานะผู้นำโลก แต่เป็นจักรวรรดิที่เป็นอิสระ Alexander Dugin เน้นย้ำว่า ทรัมป์พยายามที่จะกำหนดระเบียบโลกใหม่โดยให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และละทิ้งนโยบายโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงนี้หมายถึงการลดการพึ่งพาพันธมิตรแบบดั้งเดิมและมุ่งเน้นไปที่การฉายอำนาจโดยตรงของอเมริกาในภูมิภาคเชิงยุทธศาสตร์ ในขณะเดียวกัน รัสเซียและอิหร่านซึ่งเป็นสองมหาอำนาจอิสระที่ได้รับผลกระทบจากรูปแบบเดิมของการครอบงำของชาติตะวันตก สามารถได้รับประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ในส่วนอื่นของการสัมภาษณ์ เขากล่าวถึงนโยบายของทรัมป์ต่ออิหร่าน ตามที่ Alexander Dugin กล่าว แม้ว่าทรัมป์จะยังคงดำเนินนโยบายต่อต้านอิหร่านต่อไป แต่แนวทางที่เขามีต่อเตหะรานก็จะแตกต่างจากของไบเดน ต่างจากฝ่ายบริหารพรรคเดโมแครตซึ่งใช้ยุทธศาสตร์ "การกัดเซาะอย่างค่อยเป็นค่อยไป" ทรัมป์จะพยายามสร้างแรงกดดันโดยตรงและรวดเร็ว Alexander Dugin ยังอ้างถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และอิสราเอล โดยอธิบายว่าทรัมป์จะทำให้อิสราเอลเป็นนโยบายต่างประเทศลำดับแรกของเขา นั่นหมายความว่าแรงกดดันของวอชิงตันต่อแกนต่อต้านและอิหร่านจะเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าภายในกระแสฝ่ายขวาที่สนับสนุนทรัมป์ ก็ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการสนับสนุนอิสราเอลอย่างไม่มีเงื่อนไขอีกด้วย เขาชี้ถึงความสำคัญของพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ระหว่างอิหร่านและรัสเซีย และถือว่าข้อตกลงทางยุทธศาสตร์ระหว่างทั้งสองประเทศเป็นหนึ่งในพัฒนาการทางภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ข้อตกลงนี้อาจนำไปสู่ความร่วมมือที่กว้างขวางยิ่งขึ้นในด้านการทหารและเศรษฐกิจ Alexander Dugin เสนอว่าอิหร่านควรได้รับการจัดให้อยู่ภายใต้การควบคุมทางนิวเคลียร์ของรัสเซีย และในทางกลับกัน รัสเซียควรใช้ประโยชน์จากศักยภาพทางภูมิรัฐศาสตร์ของอิหร่านในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงในอ่าวเปอร์เซียและเอเชียใต้ เขาเห็นพันธมิตรนี้ไม่เพียงแต่เป็นสิ่งจำเป็นเชิงยุทธศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงอารยธรรมที่สามารถต้านทานแรงกดดันจากชาติตะวันตกได้อีกด้วย เขาชี้ถึงสงครามฉนวนกาซาและการพัฒนาต่างๆ ที่เกิดขึ้นล่าสุดในปาเลสไตน์ โดยเน้นย้ำว่าความขัดแย้งครั้งนี้ได้นำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ของอิสราเอลในความคิดเห็นสาธารณะทั่วโลกมากกว่าที่เคยเป็นมา ตามที่เขากล่าว อิสราเอลประสบความสำเร็จในการสร้างภาพตัวเองให้เป็นประเทศเหยื่อในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่การโจมตีอย่างโหดร้ายในฉนวนกาซาและการสังหารพลเรือนได้ท้าทายเรื่องเล่านี้และปลุกระดมความคิดเห็นสาธารณะทั่วโลกให้ต่อต้านระบอบการปกครอง เขาเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงในมุมมองของโลกเกี่ยวกับอิสราเอลคือความล้มเหลวทางยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ที่สุดของระบอบการปกครองในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และยังทำให้การสนับสนุนแบบเดิมของอเมริกาต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ อีกด้วย Alexander Dugin ได้นำเสนอภาพที่ชัดเจนของอนาคตของระเบียบโลก ซึ่งในความเชื่อของเขา ยุคแห่งการครอบงำโลกอย่างไม่มีข้อโต้แย้งของอเมริกาสิ้นสุดลงแล้ว และประเทศต่างๆ เช่น จีน รัสเซีย อิหร่าน และอินเดีย จะมีบทบาทมากขึ้นในทางการเมืองระหว่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงทางอารยธรรมด้วย ซึ่งจะรวมถึงการฟื้นคืนค่านิยมดั้งเดิม การเผชิญหน้ากับเสรีนิยมโลก และการก่อตั้งขั้วอำนาจอิสระ Alexander Dugin เน้นย้ำว่า อิหร่านและรัสเซียควรคว้าโอกาสทางประวัติศาสตร์นี้และเสริมสร้างพันธมิตรของพวกเขา เขาถือว่าความร่วมมือนี้อยู่เหนือข้อตกลงทางการทูตและถือเป็นรากฐานสำหรับการสร้างระเบียบโลกใหม่ คำสั่งที่ฝ่ายตะวันตกจะไม่เป็นผู้มีบทบาทครอบงำแต่ผู้เดียวอีกต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ส่งอาวุธนิวเคลียร์ให้เรา"
    เซเลนสกีเพิ่งให้สัมภาษณ์ในรายการของเพียร์ส มอร์แกน โดยเรียกร้องให้ชาติตะวันตกจัดหา "อาวุธนิวเคลียร์" ให้กับยูเครน!

    เซเลนสกีระบุว่าเขาต้องการให้ชาติตะวันตกสนับสนุนงบประมาณด้านนิวเคลียร์ของเขาให้เต็มที่ เพื่อปกป้องประเทศจากภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องของวลาดิมีร์ ปูติน

    เซเลนสกีเน้นย้ำถึงความจำเป็นของการรับประกันความปลอดภัยและความเป็นไปได้ในการเป็นสมาชิกนาโต เซเลนสกีตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของการสนับสนุนทางทหารในปัจจุบัน และเรียกร้องว่ายูเครนอาจต้องการอาวุธนิวเคลียร์เพื่อยับยั้งรัสเซีย หากยูเครนไม่ได้เข้าร่วมนาโตในเร็วๆนี้

    เซเลนสกียังต้องการให้สหรัฐ ให้คำมั่นที่จะส่งยูเครนเป็นสมาชิกนาโตในที่สุด และรัสเซียต้องถอนกำลังทั้งหมดออกจากดินแดนยูเครน และยังต้องชดเชยทางการเงินสำหรับความสูญเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมดอีกด้วย
    "ส่งอาวุธนิวเคลียร์ให้เรา" เซเลนสกีเพิ่งให้สัมภาษณ์ในรายการของเพียร์ส มอร์แกน โดยเรียกร้องให้ชาติตะวันตกจัดหา "อาวุธนิวเคลียร์" ให้กับยูเครน! เซเลนสกีระบุว่าเขาต้องการให้ชาติตะวันตกสนับสนุนงบประมาณด้านนิวเคลียร์ของเขาให้เต็มที่ เพื่อปกป้องประเทศจากภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องของวลาดิมีร์ ปูติน เซเลนสกีเน้นย้ำถึงความจำเป็นของการรับประกันความปลอดภัยและความเป็นไปได้ในการเป็นสมาชิกนาโต เซเลนสกีตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของการสนับสนุนทางทหารในปัจจุบัน และเรียกร้องว่ายูเครนอาจต้องการอาวุธนิวเคลียร์เพื่อยับยั้งรัสเซีย หากยูเครนไม่ได้เข้าร่วมนาโตในเร็วๆนี้ เซเลนสกียังต้องการให้สหรัฐ ให้คำมั่นที่จะส่งยูเครนเป็นสมาชิกนาโตในที่สุด และรัสเซียต้องถอนกำลังทั้งหมดออกจากดินแดนยูเครน และยังต้องชดเชยทางการเงินสำหรับความสูญเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมดอีกด้วย
    Love
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 21 0 รีวิว
  • ซีเรีย ในยุคการปกครองของอัสซาด คืออีกหนึ่งประเทศที่เป็น "เหยื่อ" ของการบ่อนทำลาย โดยการสนับสนุนเงินทุนจาก USAID ครั้งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 21 และในครั้งนี้ พวกเขาประสบความสำเร็จ

    USAID ทุ่มเงิน 15,000 ล้านดอลลาร์เข้าซีเรียเพื่อโค่นล้มอัสซาด

    “เอ็นจีโอถูกใช้เพื่อก่อความไม่สงบในซีเรีย พวกเขาแสร้งทำเป็นให้ความช่วยเหลือ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ”
    — บาชาร์ อัล-อัสซาด เคยกล่าวไว้ตั้งแต่ปี 2018

    เป็นเวลากว่าทศวรรษที่ USAID, NED และเอ็นจีโอที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกมีบทบาทสำคัญในสงครามซีเรีย โดยให้เงินทุนแก่กลุ่มฝ่ายค้าน ผลิตโฆษณาชวนเชื่อ และดำเนินการข่าวกรองภายใต้ข้ออ้างของ “ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและพัฒนาประชาธิปไตย” ในปี 2024 หลังจากหลายปีของการโค่นล้ม การคว่ำบาตร และแรงกดดันทางทหารที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก ในที่สุดอัสซาดก็ถูกโค่นล้ม

    .

    "เอ็นจีโอ" แท้จริงแล้วคืออาวุธของ USAID

    USAID:
    • ทุ่มเงินกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์เข้าไปในซีเรีย โดยการให้เงินทุนลับแก่เครือข่ายฝ่ายค้านเพื่อใช้ในปฏิบัติการต่อต้านรัฐบาล
    • ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มหมวกขาว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกเปิดโปงว่าร่วมมือกับอัลกออิดะห์และจัดฉากวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อเพื่อพิสูจน์ว่าสหรัฐฯ เข้าแทรกแซง
    • ให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์แก่กลุ่มฝ่ายค้านในต่างแดน ช่วยสร้างรัฐบาลเงาที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ

    .
    มูลนิธิ National Endowment for Democracy (NED) – “ภาคประชาสังคม” เป็นเครื่องมือในการปกปิดความไม่มั่นคง:

    • ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ Barada TV ซึ่งเป็นสื่อฝ่ายค้านที่มีฐานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อในการต่อต้านรัฐบาลอัสซาด
    • ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ NGO ที่สนับสนุนประชาธิปไตย ซึ่งต่อมาได้จัดสรรทรัพยากรให้แก่กลุ่มญิฮาด รวมถึงกองทัพซีเรียเสรี (FSA)
    • ให้การสนับสนุนนักเคลื่อนไหวชาวซีเรียในต่างแดน เพื่อเตรียมพวกเขาให้พร้อมที่จะยึดอำนาจเมื่ออัสซาดถูกปลดออกจากอำนาจ

    .
    มูลนิธิ Open Society Foundations (OSF) โซรอสในซีเรีย:
    • เผยแพร่เรื่องราวต่อต้านอัสซาดในสื่อระดับโลก โดยบรรยายถึงสงครามว่าเป็นการลุกฮือจากความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่ออัสซาด มากกว่าการรัฐประหารที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก
    • ประสานงานกับกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในความพยายามเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง
    • เรียกร้องให้มีนโยบายการอพยพระหว่างประเทศจำนวนมากซึ่งกดดันให้ประเทศต่างๆ ในยุโรปยอมรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียหลายล้านคน ซึ่งเป็นวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นโดยตรงจากสงครามที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ

    .
    ที่ผ่านมาอัสซาดพยายามต่อต้านอย่างหนัก แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ เขาก็ถูกโค่นล้มไปก่อน:

    ✅ 2014 – ขับไล่ NGO ที่ได้รับการสนับสนุนจาก USAID ออกไปหลังจากเปิดเผยความสัมพันธ์ทางการเงินของพวกเขาต่อกลุ่มกบฏ
    ✅ 2016 – เปิดเผยความร่วมมือระหว่างกลุ่ม White Helmets กับกลุ่มญิฮาด พร้อมเตือนถึงข้อมูลเท็จที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก
    ✅ 2018 – กล่าวหากระทรวงต่างประเทศของอังกฤษและ USAID ต่อสาธารณะว่าให้ทุนสนับสนุนปฏิบัติการโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านรัฐบาล
    ✅ 2023 – บรรลุข้อตกลงการฟื้นฟูหลังสงครามกับรัสเซียและจีนเพื่อลดอิทธิพลของตะวันตก

    แม้อัสซาดจะมีความพยายามมากเพียงใด แต่ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับสหรัฐฯ และพันธมิตรที่ไม่เคยละทิ้งภารกิจในการโค่นล้มอัสซาด

    ซีเรีย ในยุคการปกครองของอัสซาด คืออีกหนึ่งประเทศที่เป็น "เหยื่อ" ของการบ่อนทำลาย โดยการสนับสนุนเงินทุนจาก USAID ครั้งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 21 และในครั้งนี้ พวกเขาประสบความสำเร็จ USAID ทุ่มเงิน 15,000 ล้านดอลลาร์เข้าซีเรียเพื่อโค่นล้มอัสซาด “เอ็นจีโอถูกใช้เพื่อก่อความไม่สงบในซีเรีย พวกเขาแสร้งทำเป็นให้ความช่วยเหลือ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ” — บาชาร์ อัล-อัสซาด เคยกล่าวไว้ตั้งแต่ปี 2018 เป็นเวลากว่าทศวรรษที่ USAID, NED และเอ็นจีโอที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกมีบทบาทสำคัญในสงครามซีเรีย โดยให้เงินทุนแก่กลุ่มฝ่ายค้าน ผลิตโฆษณาชวนเชื่อ และดำเนินการข่าวกรองภายใต้ข้ออ้างของ “ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและพัฒนาประชาธิปไตย” ในปี 2024 หลังจากหลายปีของการโค่นล้ม การคว่ำบาตร และแรงกดดันทางทหารที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก ในที่สุดอัสซาดก็ถูกโค่นล้ม . "เอ็นจีโอ" แท้จริงแล้วคืออาวุธของ USAID USAID: • ทุ่มเงินกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์เข้าไปในซีเรีย โดยการให้เงินทุนลับแก่เครือข่ายฝ่ายค้านเพื่อใช้ในปฏิบัติการต่อต้านรัฐบาล • ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มหมวกขาว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกเปิดโปงว่าร่วมมือกับอัลกออิดะห์และจัดฉากวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อเพื่อพิสูจน์ว่าสหรัฐฯ เข้าแทรกแซง • ให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์แก่กลุ่มฝ่ายค้านในต่างแดน ช่วยสร้างรัฐบาลเงาที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ . มูลนิธิ National Endowment for Democracy (NED) – “ภาคประชาสังคม” เป็นเครื่องมือในการปกปิดความไม่มั่นคง: • ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ Barada TV ซึ่งเป็นสื่อฝ่ายค้านที่มีฐานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อในการต่อต้านรัฐบาลอัสซาด • ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ NGO ที่สนับสนุนประชาธิปไตย ซึ่งต่อมาได้จัดสรรทรัพยากรให้แก่กลุ่มญิฮาด รวมถึงกองทัพซีเรียเสรี (FSA) • ให้การสนับสนุนนักเคลื่อนไหวชาวซีเรียในต่างแดน เพื่อเตรียมพวกเขาให้พร้อมที่จะยึดอำนาจเมื่ออัสซาดถูกปลดออกจากอำนาจ . มูลนิธิ Open Society Foundations (OSF) โซรอสในซีเรีย: • เผยแพร่เรื่องราวต่อต้านอัสซาดในสื่อระดับโลก โดยบรรยายถึงสงครามว่าเป็นการลุกฮือจากความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่ออัสซาด มากกว่าการรัฐประหารที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก • ประสานงานกับกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในความพยายามเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง • เรียกร้องให้มีนโยบายการอพยพระหว่างประเทศจำนวนมากซึ่งกดดันให้ประเทศต่างๆ ในยุโรปยอมรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียหลายล้านคน ซึ่งเป็นวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นโดยตรงจากสงครามที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ . ที่ผ่านมาอัสซาดพยายามต่อต้านอย่างหนัก แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ เขาก็ถูกโค่นล้มไปก่อน: ✅ 2014 – ขับไล่ NGO ที่ได้รับการสนับสนุนจาก USAID ออกไปหลังจากเปิดเผยความสัมพันธ์ทางการเงินของพวกเขาต่อกลุ่มกบฏ ✅ 2016 – เปิดเผยความร่วมมือระหว่างกลุ่ม White Helmets กับกลุ่มญิฮาด พร้อมเตือนถึงข้อมูลเท็จที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก ✅ 2018 – กล่าวหากระทรวงต่างประเทศของอังกฤษและ USAID ต่อสาธารณะว่าให้ทุนสนับสนุนปฏิบัติการโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านรัฐบาล ✅ 2023 – บรรลุข้อตกลงการฟื้นฟูหลังสงครามกับรัสเซียและจีนเพื่อลดอิทธิพลของตะวันตก แม้อัสซาดจะมีความพยายามมากเพียงใด แต่ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับสหรัฐฯ และพันธมิตรที่ไม่เคยละทิ้งภารกิจในการโค่นล้มอัสซาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 391 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ต้องการให้ยูเครนมอบแร่หายาก (rare earth) แก่อเมริกา ที่มีอยู่มากมายในดินแดนของยูเครน

    ทรัมป์ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ว่าในที่สุดยูเครนจะต้องยอมรับเงื่อนไขนี้ ซึ่งสหรัฐต้องการแร่หายากจากยูเครน โดยใช้เป็นรูปแบบหนึ่งของการชำระเงินคืนในจำนวนเงินที่เท่าเทียมกับที่สหรัฐจ่ายไปเกือบ 300,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยในการทำสงครามกับรัสเซียที่ผ่านมา

    เมื่อปี 2024 ลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันเคยกล่าวเกี่ยวกับแร่หายากในยูเครนไว้ว่า แร่ธาตุที่สำคัญที่มีมูลค่าสูงถึง 10 - 12 ล้านล้านดอลลาร์ ควรถูกนำมาใช้โดยยูเครนและชาติตะวันตก ไม่ใช่มอบให้กับปูตินหรือแม้แต่จีน

    “ผมต้องการเปลี่ยนแพ็คเกจความช่วยเหลือ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระเงินกู้ของเรา เรามีหนี้อยู่ 34 ล้านล้านดอลลาร์ ยูเครนมีแร่ธาตุ พวกเขามีทรัพยากรมากมาย เราน่าจะใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้ ทรัมป์ก็เคยคิดแบบนี้ หากเรานำมาใช้ได้จริง คิดว่าเราน่าจะได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนมากมาย (สำหรับการให้ความช่วยเหลือแก่เคียฟ) ในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา” เกรแฮม กล่าวไว้เมื่อปี 2024
    ทรัมป์ต้องการให้ยูเครนมอบแร่หายาก (rare earth) แก่อเมริกา ที่มีอยู่มากมายในดินแดนของยูเครน ทรัมป์ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ว่าในที่สุดยูเครนจะต้องยอมรับเงื่อนไขนี้ ซึ่งสหรัฐต้องการแร่หายากจากยูเครน โดยใช้เป็นรูปแบบหนึ่งของการชำระเงินคืนในจำนวนเงินที่เท่าเทียมกับที่สหรัฐจ่ายไปเกือบ 300,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยในการทำสงครามกับรัสเซียที่ผ่านมา เมื่อปี 2024 ลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันเคยกล่าวเกี่ยวกับแร่หายากในยูเครนไว้ว่า แร่ธาตุที่สำคัญที่มีมูลค่าสูงถึง 10 - 12 ล้านล้านดอลลาร์ ควรถูกนำมาใช้โดยยูเครนและชาติตะวันตก ไม่ใช่มอบให้กับปูตินหรือแม้แต่จีน “ผมต้องการเปลี่ยนแพ็คเกจความช่วยเหลือ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระเงินกู้ของเรา เรามีหนี้อยู่ 34 ล้านล้านดอลลาร์ ยูเครนมีแร่ธาตุ พวกเขามีทรัพยากรมากมาย เราน่าจะใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้ ทรัมป์ก็เคยคิดแบบนี้ หากเรานำมาใช้ได้จริง คิดว่าเราน่าจะได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนมากมาย (สำหรับการให้ความช่วยเหลือแก่เคียฟ) ในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา” เกรแฮม กล่าวไว้เมื่อปี 2024
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียเปิดตัวสื่อการสอนเล่มใหม่ด้านประวัติศาสตร์การทหาร ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนด้วย

    สื่อการสอนชุดใหม่นี้ จะช่วยให้เด็กนักเรียนเข้าใจอดีตได้ดีขึ้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การทหารของรัสเซีย ซึ่งประกอบไปด้วยหนังสือ 3 เล่ม เริ่มเรียนตั้งแต่เกรด 6 จนถึงเกรด 11

    หนังสือ "ประวัติศาสตร์ด้านการทหารของรัสเซีย" ทั้ง 3 เล่มได้รับการแก้ไขโดยวลาดิเมียร์ เมดินสกี (Vladimir Medinsky) ผู้ช่วยของปูติน และยังเป็นผู้ร่วมเขียนตำราประวัติศาสตร์หลักของรัสเซียอีกด้วย

    บางส่วนของหนังสือเรียนทั้งสามเล่มนี้ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนด้วย ซึ่งรัสเซียถูกกดดันให้เข้าสู่ปฏิบัติการครั้งนี้ โดยกล่าวถึงสาเหตุของการต่อสู้ ว่าเกิดขึ้นอย่างไร ความกล้าหาญในสนามรบของทหารรัสเซีย และกลยุทธของกองทัพรัสเซียสมัยใหม่ที่บางครั้งนำวิธีการในยุคกองทัพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมาประยุกต์ใช้

    ในหนังสือยังได้อ้างถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยกล่าวว่า สงครามครั้งนี้ซึ่งรัสเซียเรียกอย่างเป็นทางการว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร" เป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากแต่มีความจำเป็นต้องเปิดศึกกับยูเครน ที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต สงครามครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้เพื่อขยายอิทธิพลของชาติตะวันตกที่กำลังเสื่อมโทรม ซึ่งพยายามทำลายและแบ่งแยกรัสเซียออกเป็นชิ้น

    นอกจากนี้ ในหนังสือยังบรรยายถึงวิธีการโค่นล้มประธานาธิบดีของยูเครนที่เป็นมิตรกับรัสเซียโดยได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกในปี 2557 ซึ่งส่งผลให้ยูเครนกลายเป็นที่มั่นของยุโรปเพื่อต่อต้านรัสเซียอย่างรุนแรง
    รัสเซียเปิดตัวสื่อการสอนเล่มใหม่ด้านประวัติศาสตร์การทหาร ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนด้วย สื่อการสอนชุดใหม่นี้ จะช่วยให้เด็กนักเรียนเข้าใจอดีตได้ดีขึ้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การทหารของรัสเซีย ซึ่งประกอบไปด้วยหนังสือ 3 เล่ม เริ่มเรียนตั้งแต่เกรด 6 จนถึงเกรด 11 หนังสือ "ประวัติศาสตร์ด้านการทหารของรัสเซีย" ทั้ง 3 เล่มได้รับการแก้ไขโดยวลาดิเมียร์ เมดินสกี (Vladimir Medinsky) ผู้ช่วยของปูติน และยังเป็นผู้ร่วมเขียนตำราประวัติศาสตร์หลักของรัสเซียอีกด้วย บางส่วนของหนังสือเรียนทั้งสามเล่มนี้ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนด้วย ซึ่งรัสเซียถูกกดดันให้เข้าสู่ปฏิบัติการครั้งนี้ โดยกล่าวถึงสาเหตุของการต่อสู้ ว่าเกิดขึ้นอย่างไร ความกล้าหาญในสนามรบของทหารรัสเซีย และกลยุทธของกองทัพรัสเซียสมัยใหม่ที่บางครั้งนำวิธีการในยุคกองทัพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมาประยุกต์ใช้ ในหนังสือยังได้อ้างถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยกล่าวว่า สงครามครั้งนี้ซึ่งรัสเซียเรียกอย่างเป็นทางการว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร" เป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากแต่มีความจำเป็นต้องเปิดศึกกับยูเครน ที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต สงครามครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้เพื่อขยายอิทธิพลของชาติตะวันตกที่กำลังเสื่อมโทรม ซึ่งพยายามทำลายและแบ่งแยกรัสเซียออกเป็นชิ้น นอกจากนี้ ในหนังสือยังบรรยายถึงวิธีการโค่นล้มประธานาธิบดีของยูเครนที่เป็นมิตรกับรัสเซียโดยได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกในปี 2557 ซึ่งส่งผลให้ยูเครนกลายเป็นที่มั่นของยุโรปเพื่อต่อต้านรัสเซียอย่างรุนแรง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • อังกฤษ-ยูเครนลงนามข้อตกลงการเป็นหุ้นส่วนด้านความมั่นคงและวัฒนธรรมกับยูเครนเป็นเวลา 100 ปี!!!

    สตาร์เมอร์เดินทางเยือนยูเครนครั้งแรกนับตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว มีกำหนดลงนามความเป็นหุ้นส่วน 100 ปีกับยูเครน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทั้งด้านความมั่นคงและวัฒนธรรม

    สำหรับข้อตกลงและปฏิญญาทางการเมืองดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการทหารเป็นสำคัญ เพื่อสนับสนุนงานด้านความมั่นคงในทะเลบอลติก ทะเลดำ และทะเลอาซอฟ รวมทั้งป้องกันการรุกรานของรัสเซียและประเด็นอื่นๆ เช่น ภาคพลังงาน แร่ธาตุสำคัญ และการผลิตเหล็กเขียว หรือการผลิตเหล็กกล้าโดยไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล

    เซเลนสกีและสตาร์เมอร์ มีความเห็นตรงกันว่าทั้งสองมีความปรารถนาที่จะให้มีกองกำลังรักษาสันติภาพของชาติตะวันตกประจำการในยูเครนเมื่อสงครามยูเครนกับรัสเซียยุติลง โดยอังกฤษพร้อมจะมีบทบาทที่สำคัญในเรื่องนี้อย่างเต็มที่


    อังกฤษ-ยูเครนลงนามข้อตกลงการเป็นหุ้นส่วนด้านความมั่นคงและวัฒนธรรมกับยูเครนเป็นเวลา 100 ปี!!! สตาร์เมอร์เดินทางเยือนยูเครนครั้งแรกนับตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว มีกำหนดลงนามความเป็นหุ้นส่วน 100 ปีกับยูเครน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทั้งด้านความมั่นคงและวัฒนธรรม สำหรับข้อตกลงและปฏิญญาทางการเมืองดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการทหารเป็นสำคัญ เพื่อสนับสนุนงานด้านความมั่นคงในทะเลบอลติก ทะเลดำ และทะเลอาซอฟ รวมทั้งป้องกันการรุกรานของรัสเซียและประเด็นอื่นๆ เช่น ภาคพลังงาน แร่ธาตุสำคัญ และการผลิตเหล็กเขียว หรือการผลิตเหล็กกล้าโดยไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เซเลนสกีและสตาร์เมอร์ มีความเห็นตรงกันว่าทั้งสองมีความปรารถนาที่จะให้มีกองกำลังรักษาสันติภาพของชาติตะวันตกประจำการในยูเครนเมื่อสงครามยูเครนกับรัสเซียยุติลง โดยอังกฤษพร้อมจะมีบทบาทที่สำคัญในเรื่องนี้อย่างเต็มที่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 395 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'รัสเซียกำลังจะตายจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก' นี่คือสิ่งที่สื่อตะวันตกพยายามป้อนข้อมูลให้คนทั้งโลก

    แต่ในความเป็นจริง เมื่อนักการเมืองชาวสโลวาเกีย Andrej Danko ซึ่งเป็นรองประธานรัฐสภาผู้แทนราษฎรสโลวาเกีย เดินทางเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตระหว่างการมาเยือนมอสโก เขาต้องตกตะลึงเมื่อพบกับสินค้ามากมายหลายชนิด


    "เนยฟินแลนด์ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.30 ถึง 2.80 ยูโร ผมคงต้องซื้อมันแล้วล่ะ ในนี้แค่พื้นที่ประมาณ 6 เมตร แต่มีเนยมากมายกว่า 50 ประเภท" Danko กล่าวด้วยความอึ้งในการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก
    'รัสเซียกำลังจะตายจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก' นี่คือสิ่งที่สื่อตะวันตกพยายามป้อนข้อมูลให้คนทั้งโลก แต่ในความเป็นจริง เมื่อนักการเมืองชาวสโลวาเกีย Andrej Danko ซึ่งเป็นรองประธานรัฐสภาผู้แทนราษฎรสโลวาเกีย เดินทางเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตระหว่างการมาเยือนมอสโก เขาต้องตกตะลึงเมื่อพบกับสินค้ามากมายหลายชนิด "เนยฟินแลนด์ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.30 ถึง 2.80 ยูโร ผมคงต้องซื้อมันแล้วล่ะ ในนี้แค่พื้นที่ประมาณ 6 เมตร แต่มีเนยมากมายกว่า 50 ประเภท" Danko กล่าวด้วยความอึ้งในการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 349 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • ก่วนจือ ปรัชญาเศรษฐศาสตร์สมัยฉิน

    สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดูถึงตอนจบของเรื่อง <ทำนองรักกังวานแดนดิน> คงได้ผ่านตาฉากที่องค์ไทฮองไทเฮาทรงสอนให้อิงหวางทุ่มเทความสามารถเพื่อรับใช้ชาติและฮ่องเต้น้อยได้ตรัสออกมาหลายวรรค ฟังดูเป็นหลักปรัชญาการปกครอง วันนี้เรามาคุยเรื่องนี้กัน

    Storyฯ ไม่ได้ดูภาคซับไทยก็ไม่ทราบว่าแปลกันไว้ว่าอย่างไร ขอแปลเองง่ายๆ อย่างนี้
    “รัฐรุ่งเรืองได้ เมื่อตามใจชน
    รัฐล่มสลายได้ เมื่อขัดใจชน
    ประชาชนชังความเหนื่อยยากวิตกกังวล ควรทำให้พวกเขาสุขใจสบายกาย
    ประชาชนชังความยากจน ควรทำให้พวกเขาร่ำรวย
    ประชาชนชังภยันตราย ควรทำให้พวกเขาปลอดภัย”

    วรรคเหล่านี้มาจากหนังสือที่ชื่อว่า ‘ก่วนจือ’ (管子) เป็นหนังสือปรัชญาการปกครองและเศรษฐศาสตร์ที่ถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นในสมัยฉินโดยอัครมหาเสนาบดีก่วนจ้งแห่งแคว้นฉี นักปราชญ์และนักการเมืองผู้เลื่องชื่อแห่งยุคสมัยชุนชิว (ไม่ทราบปีเกิด มรณะปี 645 ก่อนคริสตกาล) เรียกได้ว่าเป็นหนังสือปรัชญาการปกครองและเศรษฐศาสตร์ที่มีขึ้นก่อนฝั่งชาติตะวันตกหลายร้อยปี ปัจจุบันได้ถูกแปลไปหลากหลายภาษาทั่วโลก เป็นหนังสือที่โด่งดังเล่มหนึ่งของโลก

    ก่วนจือมีเนื้อหาครอบคลุมทั้งหลักการปกครอง เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ ฯลฯ โดยมีพื้นฐานจากแนวคิดที่ว่า การที่ประเทศจะพัฒนาและรุ่งเรืองได้ ปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ และมีการลงรายละเอียดว่าด้วยการบริหารจัดการด้านการเกษตรและการค้าขาย หนังสือเล่มนี้ยาว 86 บรรพ แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 76 บรรพ อีก 10 บรรพสูญหายไปเหลือไว้ให้เห็นแค่สารบัญ มีบทความไทยและอังกฤษหลายบทความที่คุยถึงก่วนจือนี้ในหลากหลายมุมมอง (เนื่องจากเนื้อหาของหนังสือกว้าง) รวมถึงกล่าวถึงชีวประวัติของก่วนจ้ง Storyฯ ยกตัวอย่างแปะลิ้งค์ไว้ข้างล่าง เชิญเข้าไปอ่านเพิ่มเติมกันเองได้

    และวรรคที่ซีรีส์ <ทำนองรักกังวานแดนดิน> ยกมานี้ อยู่ในบรรพแรกที่เรียกว่า ‘มู่หมิน’ (牧民 / Shepherding the People / การดูแลประชาชน) ซึ่งแบ่งเป็นหลายตอนย่อย โดยมาจากตอนที่เรียกว่า ‘สี่คล้อยตาม’ (四顺 / ซื่อซุ่น) เนื้อหาของตอนนี้ก็คือว่า ผู้มีอำนาจปกครองต้องเข้าใจว่าประชาชนโดยทั่วไปมี ‘สี่ชัง’ คือชังความยากลำบาก ความจน การต้องอยู่ท่ามกลางภยันตราย และการถูกกวาดล้างฆ่า และมี ‘สี่อยาก’ คืออยากสุขสบาย ร่ำรวย ปลอดภัย และได้ตั้งรกรากสร้างครอบครัวมีลูกหลาน และเมื่อผู้มีอำนาจปกครองเข้าใจถึง ‘สี่ชัง’ และ ‘สี่อยาก’ แล้ว หากสามารถจัดการบริหารบ้านเมืองและสังคมให้สอดคล้องกัน บ้านเมืองก็จะเจริญก้าวหน้าประเทศรุ่งเรือง หรือที่เรียกว่า ‘สี่คล้อยตาม’ นั่นเอง

    คงจะกล่าวได้ว่า ความคิดที่ถูกกลั่นกรองเรียบเรียงเป็นบทหนังสือมาสองสามพันปีแล้วนี้ ยังคงสะท้อนถึงแก่นแท้ของจิตใจคนและปัญหาความยากในการบริหารบ้านเมืองที่ยังเป็นอยู่ในปัจจุบันไม่ว่าในประเทศใด

    นอกจากนี้ “รัฐรุ่งเรืองได้ เมื่อตามใจชน รัฐล่มสลายได้ เมื่อขัดใจชน” ยังได้กลายมาเป็นวลีเด็ดผ่านกาลสมัย ถูกนำไปใช้ในหลายโอกาส มันเคยปรากฏในสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงในการประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีนอีกด้วย

    โดยส่วนตัวแล้ว Storyฯ ไม่ค่อยชอบพล็อตเรื่องของ <ทำนองรักกังวานแดนดิน> สักเท่าไหร่ แต่ยอมรับเลยว่ามันแฝงปรัชญาข้อคิดหลายอย่าง โดยเฉพาะผ่านคำพูดของไทฮองไทเฮา ที่เป็นประโยชน์ต่อการเป็นผู้นำและการเป็นผู้ตามที่พึงกระทำในหน้าที่ของตน ไม่ใช่แค่ในบริบทของการบริหารบ้านเมือง แต่ยังใช้ได้ในบริบทขององค์กรบริษัทต่างๆ ได้อีกด้วย

    สุดท้าย ขอต้อนรับปีใหม่พร้อมกับคำอวยพรให้เพื่อนเพจได้พบเจอกับ ‘สี่อยาก’ และห่างไกลจาก ‘สี่ชัง’ ค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    ลิ้งค์ไปบทความเกี่ยวกับก่วนจ้งและหนังสือก่วนจือ:
    https://www.arsomsiam.com/guanzhong/
    https://mgronline.com/china/detail/9570000117129
    http://www.inewhorizon.net/8456123-2/

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    http://www.brtvent.com/?list_4/2430.html
    https://dzrb.dzng.com/articleContent/1158_759894.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://ctext.org/guanzi/mu-min/zhs
    https://baike.baidu.com/item/管子·牧民/19831172
    https://www.sohu.com/a/604599137_121124389
    http://www.chinaknowledge.de/Literature/Diverse/guanzi.html

    #ทำนองรักกังวานแดนดิน #ก่วนจือ #ก่วนจ้ง #ปรัชญาเศรษฐศาสตร์ #สาระจีน
    ก่วนจือ ปรัชญาเศรษฐศาสตร์สมัยฉิน สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดูถึงตอนจบของเรื่อง <ทำนองรักกังวานแดนดิน> คงได้ผ่านตาฉากที่องค์ไทฮองไทเฮาทรงสอนให้อิงหวางทุ่มเทความสามารถเพื่อรับใช้ชาติและฮ่องเต้น้อยได้ตรัสออกมาหลายวรรค ฟังดูเป็นหลักปรัชญาการปกครอง วันนี้เรามาคุยเรื่องนี้กัน Storyฯ ไม่ได้ดูภาคซับไทยก็ไม่ทราบว่าแปลกันไว้ว่าอย่างไร ขอแปลเองง่ายๆ อย่างนี้ “รัฐรุ่งเรืองได้ เมื่อตามใจชน รัฐล่มสลายได้ เมื่อขัดใจชน ประชาชนชังความเหนื่อยยากวิตกกังวล ควรทำให้พวกเขาสุขใจสบายกาย ประชาชนชังความยากจน ควรทำให้พวกเขาร่ำรวย ประชาชนชังภยันตราย ควรทำให้พวกเขาปลอดภัย” วรรคเหล่านี้มาจากหนังสือที่ชื่อว่า ‘ก่วนจือ’ (管子) เป็นหนังสือปรัชญาการปกครองและเศรษฐศาสตร์ที่ถูกรวบรวมและเรียบเรียงขึ้นในสมัยฉินโดยอัครมหาเสนาบดีก่วนจ้งแห่งแคว้นฉี นักปราชญ์และนักการเมืองผู้เลื่องชื่อแห่งยุคสมัยชุนชิว (ไม่ทราบปีเกิด มรณะปี 645 ก่อนคริสตกาล) เรียกได้ว่าเป็นหนังสือปรัชญาการปกครองและเศรษฐศาสตร์ที่มีขึ้นก่อนฝั่งชาติตะวันตกหลายร้อยปี ปัจจุบันได้ถูกแปลไปหลากหลายภาษาทั่วโลก เป็นหนังสือที่โด่งดังเล่มหนึ่งของโลก ก่วนจือมีเนื้อหาครอบคลุมทั้งหลักการปกครอง เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ ฯลฯ โดยมีพื้นฐานจากแนวคิดที่ว่า การที่ประเทศจะพัฒนาและรุ่งเรืองได้ ปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ และมีการลงรายละเอียดว่าด้วยการบริหารจัดการด้านการเกษตรและการค้าขาย หนังสือเล่มนี้ยาว 86 บรรพ แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 76 บรรพ อีก 10 บรรพสูญหายไปเหลือไว้ให้เห็นแค่สารบัญ มีบทความไทยและอังกฤษหลายบทความที่คุยถึงก่วนจือนี้ในหลากหลายมุมมอง (เนื่องจากเนื้อหาของหนังสือกว้าง) รวมถึงกล่าวถึงชีวประวัติของก่วนจ้ง Storyฯ ยกตัวอย่างแปะลิ้งค์ไว้ข้างล่าง เชิญเข้าไปอ่านเพิ่มเติมกันเองได้ และวรรคที่ซีรีส์ <ทำนองรักกังวานแดนดิน> ยกมานี้ อยู่ในบรรพแรกที่เรียกว่า ‘มู่หมิน’ (牧民 / Shepherding the People / การดูแลประชาชน) ซึ่งแบ่งเป็นหลายตอนย่อย โดยมาจากตอนที่เรียกว่า ‘สี่คล้อยตาม’ (四顺 / ซื่อซุ่น) เนื้อหาของตอนนี้ก็คือว่า ผู้มีอำนาจปกครองต้องเข้าใจว่าประชาชนโดยทั่วไปมี ‘สี่ชัง’ คือชังความยากลำบาก ความจน การต้องอยู่ท่ามกลางภยันตราย และการถูกกวาดล้างฆ่า และมี ‘สี่อยาก’ คืออยากสุขสบาย ร่ำรวย ปลอดภัย และได้ตั้งรกรากสร้างครอบครัวมีลูกหลาน และเมื่อผู้มีอำนาจปกครองเข้าใจถึง ‘สี่ชัง’ และ ‘สี่อยาก’ แล้ว หากสามารถจัดการบริหารบ้านเมืองและสังคมให้สอดคล้องกัน บ้านเมืองก็จะเจริญก้าวหน้าประเทศรุ่งเรือง หรือที่เรียกว่า ‘สี่คล้อยตาม’ นั่นเอง คงจะกล่าวได้ว่า ความคิดที่ถูกกลั่นกรองเรียบเรียงเป็นบทหนังสือมาสองสามพันปีแล้วนี้ ยังคงสะท้อนถึงแก่นแท้ของจิตใจคนและปัญหาความยากในการบริหารบ้านเมืองที่ยังเป็นอยู่ในปัจจุบันไม่ว่าในประเทศใด นอกจากนี้ “รัฐรุ่งเรืองได้ เมื่อตามใจชน รัฐล่มสลายได้ เมื่อขัดใจชน” ยังได้กลายมาเป็นวลีเด็ดผ่านกาลสมัย ถูกนำไปใช้ในหลายโอกาส มันเคยปรากฏในสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงในการประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีนอีกด้วย โดยส่วนตัวแล้ว Storyฯ ไม่ค่อยชอบพล็อตเรื่องของ <ทำนองรักกังวานแดนดิน> สักเท่าไหร่ แต่ยอมรับเลยว่ามันแฝงปรัชญาข้อคิดหลายอย่าง โดยเฉพาะผ่านคำพูดของไทฮองไทเฮา ที่เป็นประโยชน์ต่อการเป็นผู้นำและการเป็นผู้ตามที่พึงกระทำในหน้าที่ของตน ไม่ใช่แค่ในบริบทของการบริหารบ้านเมือง แต่ยังใช้ได้ในบริบทขององค์กรบริษัทต่างๆ ได้อีกด้วย สุดท้าย ขอต้อนรับปีใหม่พร้อมกับคำอวยพรให้เพื่อนเพจได้พบเจอกับ ‘สี่อยาก’ และห่างไกลจาก ‘สี่ชัง’ ค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) ลิ้งค์ไปบทความเกี่ยวกับก่วนจ้งและหนังสือก่วนจือ: https://www.arsomsiam.com/guanzhong/ https://mgronline.com/china/detail/9570000117129 http://www.inewhorizon.net/8456123-2/ Credit รูปภาพจากในละครและจาก: http://www.brtvent.com/?list_4/2430.html https://dzrb.dzng.com/articleContent/1158_759894.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://ctext.org/guanzi/mu-min/zhs https://baike.baidu.com/item/管子·牧民/19831172 https://www.sohu.com/a/604599137_121124389 http://www.chinaknowledge.de/Literature/Diverse/guanzi.html #ทำนองรักกังวานแดนดิน #ก่วนจือ #ก่วนจ้ง #ปรัชญาเศรษฐศาสตร์ #สาระจีน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 694 มุมมอง 0 รีวิว
  • เตือนข่าวสด อย่าตกเป็นเครื่องมือตะวันตก
    ปั่นกระแส“ว้าแดงรุกล้ำ ปลุกไทยสู้รบ”
    .
    ข่าวการรุกล้ำดินแดนไทยของทหารว้าเกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์ความขัดแย้งในภาคเหนือของรัฐฉานกำลังเริ่มจะคลี่คลาย มีสัญญาณบวกเกิดขึ้นหลายสัญญาณ หลังจากที่จีนออกหน้าเป็นตัวกลางให้มีการเจรจาสันติภาพกันระหว่างกองทัพพม่า กับกองทัพโกก้าง และกองทัพตะอาง ที่สู้รบกันดุเดือดมาตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน
    .
    การมีการสู้รบทางภาคเหนือของรัฐฉาน เชื่อกันว่ามีอเมริกาและประเทศตะวันตกอยู่เบื้องหลัง เพราะพื้นที่สู้รบอยู่บนเส้นทางคมนาคมหลักของระเบียงเศรษฐกิจจีน พม่า ที่จีนตั้งใจจะใช้เป็นทางออกทะเลสู่มหาสมุทรอินเดีย
    .
    กองทัพว้า เป็นกองทัพขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อกองทัพโกก้าง และกองทัพตะอาง เรียกว่าเป็นพี่ใหญ่ของกองทัพทั้งสองที่กำลังรบอยู่กับกองทัพพม่า
    .
    กองทัพว้า มีความใกล้ชิดกับทั้งจีนและกองทัพพม่า ในกระบวนการเจรจาสันติภาพในภาคเหนือของรัฐฉานที่มีจีนเป็นตัวกลาง กองทัพว้ามีบทบาทร่วมกดดันให้กองทัพโกก้าง และกองทัพตะอาง ยุติการสู้รบกับกองทัพพม่า โดยใช้วิธีตัดความช่วยเหลือทุกด้านที่กองทัพว้าเคยให้กับกองทัพทั้งสองตามคำร้องขอของจีน
    .
    เรื่องกองกำลังว้าแดงแถวแม่ฮ่องสอนรุกเข้ามาที่ไทย เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่าตกใจ เป็นเรื่องที่เราเคยล้ำเส้นเขา เขาล้ำเส้นเรา ว้าแดงคือคนพื้นที่ที่อยู่ตรงนั้นมานานแล้ว อาวุธยุทโธปกรณ์ก็ใช้เทคโนโลยีจีน มีรถถัง มีขีปนาวุธ เพราะจีนหนุนว้าแดงเพื่อให้ปราบชนกลุ่มน้อยที่ไปเข้ายืนข้างทางตะวันตก แล้วหนังสือพิมพ์ ข่าวสด ก็ตกเป็นเครื่องมือของทางตะวันตกอย่างเต็มตัว
    .
    ข่าวสด ครับ ฟังทางนี้นะครับ หรือกล่าวอย่างง่ายๆ ว่า วิทยุเอเชียเสรี เป็นสื่อโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) ของรัฐบาลสหรัฐฯ นี่เอง แท้จริงแล้วไม่ใช่สื่อเสรี แต่เป็นสื่อทำตามธงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ นั่นเอง
    .
    ในภาพใหญ่ เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์ที่สหรัฐฯ และชาติตะวันตกใช้เพื่อดำเนินการกดดันและปิดล้อมการแผ่อิทธิพลของจีนอย่างแน่นอน โดยใช้ประเทศไทยเราเป็นหมากเบี้ย ปั่นให้เราทะเลาะกับว้านั่นเอง น่าเสียดายที่หนังสือพิมพ์ ข่าวสด ตกเป็นเครื่องมือของตะวันตกโดยไม่รู้ตัว
    เตือนข่าวสด อย่าตกเป็นเครื่องมือตะวันตก ปั่นกระแส“ว้าแดงรุกล้ำ ปลุกไทยสู้รบ” . ข่าวการรุกล้ำดินแดนไทยของทหารว้าเกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์ความขัดแย้งในภาคเหนือของรัฐฉานกำลังเริ่มจะคลี่คลาย มีสัญญาณบวกเกิดขึ้นหลายสัญญาณ หลังจากที่จีนออกหน้าเป็นตัวกลางให้มีการเจรจาสันติภาพกันระหว่างกองทัพพม่า กับกองทัพโกก้าง และกองทัพตะอาง ที่สู้รบกันดุเดือดมาตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน . การมีการสู้รบทางภาคเหนือของรัฐฉาน เชื่อกันว่ามีอเมริกาและประเทศตะวันตกอยู่เบื้องหลัง เพราะพื้นที่สู้รบอยู่บนเส้นทางคมนาคมหลักของระเบียงเศรษฐกิจจีน พม่า ที่จีนตั้งใจจะใช้เป็นทางออกทะเลสู่มหาสมุทรอินเดีย . กองทัพว้า เป็นกองทัพขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อกองทัพโกก้าง และกองทัพตะอาง เรียกว่าเป็นพี่ใหญ่ของกองทัพทั้งสองที่กำลังรบอยู่กับกองทัพพม่า . กองทัพว้า มีความใกล้ชิดกับทั้งจีนและกองทัพพม่า ในกระบวนการเจรจาสันติภาพในภาคเหนือของรัฐฉานที่มีจีนเป็นตัวกลาง กองทัพว้ามีบทบาทร่วมกดดันให้กองทัพโกก้าง และกองทัพตะอาง ยุติการสู้รบกับกองทัพพม่า โดยใช้วิธีตัดความช่วยเหลือทุกด้านที่กองทัพว้าเคยให้กับกองทัพทั้งสองตามคำร้องขอของจีน . เรื่องกองกำลังว้าแดงแถวแม่ฮ่องสอนรุกเข้ามาที่ไทย เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่าตกใจ เป็นเรื่องที่เราเคยล้ำเส้นเขา เขาล้ำเส้นเรา ว้าแดงคือคนพื้นที่ที่อยู่ตรงนั้นมานานแล้ว อาวุธยุทโธปกรณ์ก็ใช้เทคโนโลยีจีน มีรถถัง มีขีปนาวุธ เพราะจีนหนุนว้าแดงเพื่อให้ปราบชนกลุ่มน้อยที่ไปเข้ายืนข้างทางตะวันตก แล้วหนังสือพิมพ์ ข่าวสด ก็ตกเป็นเครื่องมือของทางตะวันตกอย่างเต็มตัว . ข่าวสด ครับ ฟังทางนี้นะครับ หรือกล่าวอย่างง่ายๆ ว่า วิทยุเอเชียเสรี เป็นสื่อโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) ของรัฐบาลสหรัฐฯ นี่เอง แท้จริงแล้วไม่ใช่สื่อเสรี แต่เป็นสื่อทำตามธงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ นั่นเอง . ในภาพใหญ่ เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์ที่สหรัฐฯ และชาติตะวันตกใช้เพื่อดำเนินการกดดันและปิดล้อมการแผ่อิทธิพลของจีนอย่างแน่นอน โดยใช้ประเทศไทยเราเป็นหมากเบี้ย ปั่นให้เราทะเลาะกับว้านั่นเอง น่าเสียดายที่หนังสือพิมพ์ ข่าวสด ตกเป็นเครื่องมือของตะวันตกโดยไม่รู้ตัว
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 472 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพแรกจากเจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งฟินแลนด์ที่เข้ายึดเรือ Eagle S (Orel S) ซึ่งติดธงชาติของหมู่เกาะคุก และคาดว่าเป็นส่วนหนึ่งใน “กองเรือเงา” (shadow fleet) ของรัสเซีย เพื่อหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก

    ฟินแลนด์สงสัยว่า เรือลำนี้อาจเป็นสาเหตุทำให้สายเคเบิลพลังงานใต้ทะเลที่เชื่อมต่อกับฟินแลนด์กับเอสโตเนีย ล้มเหลวในการจ่ายไฟฟ้า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และทำให้สายอินเทอร์เน็ตเสียหาย 4 เส้นด้วย

    เรือลำดังกล่าว จดทะเบียนกับทางการของหมู่เกาะคุก มีชื่อว่า “อีเกิล เอส” (Eagle S) แล่นผ่านสายเคเบิลเชื่อมระหว่างประเทศ “เอสต์ลิงก์ 2” (Estlink 2) เมื่อเวลา 10.26 น. วันพุธที่ 25 ธ.ค. ตามเวลามาตรฐานกรีนิช (GMT) ซึ่งตรงกับเวลาที่ฟินแลนด์ระบุว่าเหตุไฟดับเริ่มขึ้น

    บริษัท “ฟินกริด” (Fingrid) ผู้ให้บริการไฟฟ้าในฟินแลนด์ระบุว่า การซ่อมแซมสายเคเบิล เอสต์ลิงก์ 2 ที่ได้รับความเสียหาย อาจต้องใช้เวลานานหลายเดือน และการล้มเหลวในการจ่ายกระแสไฟฟ้า จะเพิ่มความเสี่ยงแหล่งพลังงานในช่วงฤดูหนาว

    ทางด้าน "Mark Rutte" เลขาธิการนาโต ประกาศพร้อมช่วยเหลือและสนับสนุนในการติดตามการสืบสวนของฟินแลนด์อย่างเต็มที่
    ภาพแรกจากเจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งฟินแลนด์ที่เข้ายึดเรือ Eagle S (Orel S) ซึ่งติดธงชาติของหมู่เกาะคุก และคาดว่าเป็นส่วนหนึ่งใน “กองเรือเงา” (shadow fleet) ของรัสเซีย เพื่อหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก ฟินแลนด์สงสัยว่า เรือลำนี้อาจเป็นสาเหตุทำให้สายเคเบิลพลังงานใต้ทะเลที่เชื่อมต่อกับฟินแลนด์กับเอสโตเนีย ล้มเหลวในการจ่ายไฟฟ้า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และทำให้สายอินเทอร์เน็ตเสียหาย 4 เส้นด้วย เรือลำดังกล่าว จดทะเบียนกับทางการของหมู่เกาะคุก มีชื่อว่า “อีเกิล เอส” (Eagle S) แล่นผ่านสายเคเบิลเชื่อมระหว่างประเทศ “เอสต์ลิงก์ 2” (Estlink 2) เมื่อเวลา 10.26 น. วันพุธที่ 25 ธ.ค. ตามเวลามาตรฐานกรีนิช (GMT) ซึ่งตรงกับเวลาที่ฟินแลนด์ระบุว่าเหตุไฟดับเริ่มขึ้น บริษัท “ฟินกริด” (Fingrid) ผู้ให้บริการไฟฟ้าในฟินแลนด์ระบุว่า การซ่อมแซมสายเคเบิล เอสต์ลิงก์ 2 ที่ได้รับความเสียหาย อาจต้องใช้เวลานานหลายเดือน และการล้มเหลวในการจ่ายกระแสไฟฟ้า จะเพิ่มความเสี่ยงแหล่งพลังงานในช่วงฤดูหนาว ทางด้าน "Mark Rutte" เลขาธิการนาโต ประกาศพร้อมช่วยเหลือและสนับสนุนในการติดตามการสืบสวนของฟินแลนด์อย่างเต็มที่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • 27-12-67/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.46 ชื่อตอนว่า "OPEN SESAME" มันส์ล่ะมรึง! เปิดหมดทุกหน้าทุกหมากบนกระดาน? อีทรัมปป์จัดเต็ม แตกอเมริกามาแน่ ขยี้ศัตรูการเมือง ส่ง NATO EU ไปตายห่ายกเข่ง ขี้ข้าตายโหง ฉลาดพอ ไหวตัวทัน ชิ่งทันทีซะ? อียิวชาติหมา เตรียมหาบ้านใหม่ ลาตินก็จะเอา ยุโรปก็จะอยู่ เอเซียก็จะเข้า โลกมุสลิมถามกลับ มรึงอยู่ไหน กูอยู่ด้วย "จะตามไปฆ่ามรึงไงล่ะ ดีออก?" ไม่ได้พูดเล่น แผนยึดยุโรปมาเต็มตรีน รู้มั้ยว่า มีมุสลิมในชาติตะวันตกกี่ล้าน? ที่กระจายไปทั่วทวีป ช้อนซื้อก็ดี เข้าตีก็ได้ ทั้งหมด มันไม่จบแค่สงครามครูเสด แต่จะให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดจริง ต้องเข้ามายึดแผ่นดินอีฝรั่งควายถึงที่ ทุนจีน ทุนอาหรับ แห่กันช้อนซื้อ เพราะมรึงเจ๊งกันหมดแล้ว ขอบคุณปูตินที่ทุบอีโง่ยุโรปจนไม่มีชิ้นดี เศรษฐกิจพัง อุตสาหกรรมตายสนิท ขี้ยา โจร เกลื่อนเมือง ตำนานยุโรปกลายเป็นหมาเพียงไม่กี่วัน? เพราะปชต.หอมหวานมรึงไงล่ะ EGO แรงกันนักชิมิ? ยังโง่ได้อีก ยังควายได้ต่อ กูล่ะชอบ!

    ไทยและเพื่อนอาเซียน เข้า BRICS อย่างเป็นทางการแล้ว อะไรจะตามมา? สิ่งแรกที่เราจะทำคือ เทดอลล่าร์ และช้อนหยวน รูเบิล ทองคำ ตุนเอาไว้ เราถูกวางให้เป็นฮับอาเซียน การค้าทวิภาคีจะมีเพิ่มขึ้นจนหัวกระไดบ้านไม่แห้ง ผู้เล่นรายใหม่จะโผล่มา ทั้งอิหร่าน โสมแดง รวมถึงชาติลาติน แอฟริกา ไทยเรามีดีตรงที่เป็น อู่ข้าว อู่น้ำ แหล่งแร่สำคัญ แม้แต่ทองคำยังมี หากไม่มีไอ้อีขายชาติ อีเหี้ยจิงโจ้จะได้แดร๊กสัมปทานเหมืองย่อยไปเหรอ? แต่ช้าก่อน หากคุณโทรหาเราภายใน 5 นาที เรามีโปรแถมให้ ซื้อ 1 แถมควายให้อีก 1 ตัว ทองคำจริง เหมืองทองคำใหญ่ เราไม่ปล่อยสัมปทานให้ใครทั้งนั้น ยังอยู่ครบ ไอ้ที่เจาะ แค่ส่วนน้อย อุปส์! ความลับน่ะเนี่ย? อะไรบนแผ่นดินนี้ มีเหรอ วังไม่รู้ รู้หมดแค่ไม่พูด ไม่งั้นจะเห็นหางเหี้ยพวกมรึงเหรอ? เดี๋ยวมรึงดู แกนโลกเอียงก่อนน่ะ จะไหลเข้ามาอโยธยาศรีรามเทพนครแบบไม่ยั้ง? รวย รวย รวย ไอ้อีคลั่งปชต.ไม่ได้แดร๊กดอกน่ะ เพราะคงตายห่า หนีคุกกันหมดแผ่นดินไปนานแล้ว

    ยุทธศาสตร์โลกปรับเปลี่ยนใหม่หมด ยุโรป อเมริกา จะไม่ใช่ศูนย์กลางคมนาคม เศรษฐกิจ การคลังโลกอีกต่อไป ทั้งหมดโลกจะโฟกัสอยู่ที่ปักกิ่ง เครมลิน อาเซียนคือปากท้อง แอฟริกาคือแหล่งแร่ ตะวันออกกลางคือพลังงาน ลาตินคือตลาดโลกใหม่ เหี้ยตะวันตกเป็นได้แค่ผู้ตาม แถมยังไม่ได้มีส่วนร่วมในโลกยุคใหม่ จนขี้ข้าต้องทิ้งนายใหญ่ เอาตัวรอดทุกชาติพันธุ์ ทรัพย์อยู่ที่ไหน โลกจะไปรวมอยู่ที่นั่น ด้านแสนยานุภาพ เป็นเอกฉันท์ เอเซียคือเบอร์ 1 ใน 3 โลก องค์กรสากลโลกปรับใหม่หมด สกุลเงิน BRICS จะเข้ามาแทนดอลล่าร์ โดยมีหยวนเป็นเรือธง นวตกรรมโลกยุคใหม่ MADE IN CHINA มาเต็มตรีน ทั้งโลกจะใช้สินค้าจีนหมด ถูก ดี เร็ว แรง ได้ผล ทุกอย่างที่เคยมี เคยเป็นมา จะกลับตาลปัตร ซีเรีย ปาเลสไตน์ แอฟริกาที่ยากจน จะกลายร่างเป็นเจ้าสัวน้อยทันที เพราะแหล่งพลังงานถูกแบ่งปันกระจายไปทั่ว ไม่ใช่ยุคเก่า ที่เก็บเอาไว้ให้เครือข่ายเหี้ยเท่านั้น ประชากรโลกหลังศึกใหญ่ จะลดลง เพราะควายโลกตายห่าไปเยอะ ทั้งสงคราม ไวรัส ปากท้อง เอาจนเหี้ยสูญพันธุ์ โลกจะรวมเป็นหนึ่ง เฉพาะชาติที่เป็นมิตร

    ผีอีโม ออกอาละวาดหนัก ดลใจเหี้ยหางโผล่ อีแม่โรคจิต โรคปราสาทแดร๊กเหรอ? อิ่มไปแล้ว 15 ล้าน ถึงเวลาชดใช้ยังจ๊ะ? ไม่อยากให้รื้อ เดี๋ยว 15 ล้านกูโดนด้วย "คนไม่ปกติเน๊าะ" กลัวติดคุกเป็นด้วย? ให้การเท็จก็ไม่รอดน่ะจ๊ะ! เพ่อัจ เล่นไม่เลิก ล่อไม่ยั้ง อัยกวยเหรอ เดี๋ยวกูตบบ้องหูสั่งสอนแม่งซะเลย แถจนควายอาย? รื้อไม่รื้อ ไม่สำคัญอีกต่อไป ความจริงปรากฎ ไอ้อีที่อุ้มคดี แพะที่รับบาป สัดนรกที่มีส่วนรู้เห็น มรึงจะถูกเช็คบิลหมด ชั้น 14 ก็ไม่รอด ล่อคำสั่งศาลเป็นที่สุด อำนาจสั่งให้ทำ แต่อีกรมคุกเลี่ยงบาลี ไม่ทำ โดนสอยหมดทั้งยวง สว.ลงชื่อ เตรียมไล่เช็คบิลแล้ว ไปหมดทั้งหมอ ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐขายชาติ "พระราชโองการ" ให้ได้ ก็เอาคืนได้ เหมือนที่เพิ่งสั่งถอดยศนายพล อย่าคิดว่าวังไม่รู้ รู้ดีกว่าใคร? เมื่อกล้ารับเศษเงินเหี้ย ก็ต้องกล้าตายสิจ๊ะ อย่าแต๋วแตก ไอ้สัส! ดิ ไอ(คอน)สัส มหากาพย์ ยังลากต่อยาวได้อีก สืบไปมา โดนหมดทั้งวงการบันเทิง รับเงินหน้าบาน หมายศาลมาหน้าเหี่ยวเชียวมรึง? ด้านอีเหลี่ยมชาติชั่ว อย่าคิดว่าจะลอยนวล ดอกนี้ เค้าเว้นไว้ให้บูทตรีนโตสั่งเก็บโดยเฉพาะ ไม่ฆ่ามรึงซึ่งหน้าดอกน่ะ แต่อะไรจะเกิดขึ้นในคุก กูไม่รู้ กูไม่เห็น มรึงโดนย้อนเวลาแน่ ต้องกลับไปชดใช้ในคุก 1 ปี ตามเวลาที่กำหนดจริง ไม่ใช่ในโรงพยาบาล คิดว่ามันจะยอมกลับเข้าไปอีกเหรอ "เผ่นไงจ๊ะ" นั่นแหละ ทางรอดเดียว ที่เค้าเปิดให้มรึงออก จ่ายคือจบ

    ปล.ไอ้สัส! เล่นกันจัง รู้งานกันดีเน๊าะ เกจิ ซินแส แห่กันผ่าดวงเมือง ฟัน ลุงตู่คัมแบ็ค ปี 69 หลังเศรษฐกิจตายยกครัว แม้แต่ควายไทยบัดซบยังต้องร้องขอชีวิต 14 ล้านควาย ยังสบายดีอยู่มั้ยจ๊ะ? ยังจะควายต่อได้อีกน่ะ? ใครชง ไม่ต้องถาม ไม่ว่าใครจะมา? มาเพื่อเปลี่ยนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งหมด และต้องเป็นโปรบู๊ทเขียวตรีนโตเท่านั้น สูตรเดาไม่ยากดอก เพราะเค้าเตรียมการเอาไว้นานแล้ว หมดยุคปชต.หาแดร๊ก เข้าสู่ยุค พ่อปกครองลูกแบบประยุกต์ การผ่องถ่ายย่อมมี การล้างบางย่อมมา งานนี้ ต้อง HAITER สูตรเข้มข้นเท่านั้น มรึงแทบจะไม่เชื่อว่า ถูกเช็คบิลนับล้านตัว ทั้งข้าราชการ และฝ่ายการเมือง กว่า 92 ปี ที่เหี้ยยิวเข้ามาไข่ เข้ามาล้างสมองควายไทย บทจะชำระ แม่งแป๊บเดียว แค่เปลี่ยนหัวปกครอง ตามหัวเมือง ตามท้องถิ่น ตามหมู่บ้าน เปลี่ยนแนวคิดปุ๊บ ชีวิตใหม่มาทันที หมดตำนานแดง เหลือง ส้ม เขียว ฟ้า เข้าสู่ยุคพ่อปกครองลูก ไม่มีแบ่ง กฎหมายเดียว ใช้เหมือนกันหมด ไม่มี 2 มาตรฐาน ระบบข้าราชการไทยปรับใหม่หมด ปรับศูนย์รวมอำนาจ ไม่ให้ใหญ่เกินสร้างบารมี ไม่ให้ใครจูงจมูกได้ เมื่อปชต.มันรวบอำนาจ พ่อปกครองลูก จึงต้องกระจายอำนาจ ควายไทยจะหมดราคา การเมืองจะเป็นเรื่องของปัญญาชน ไม่ใช่เอาหมามาเป็นนายกก็ได้ เหมือนที่ผ่านมา พรรคการเมืองจะถูกลดบทบาทลง สัญญานกลืนปชต.ควายหายเข้ากลีบเมฆ

    ปล.2 ไอ้สัส! มรึงจะเทพไปไหน? แหกตาดูตี 3 เห็นแต่หมอก ดีออก! ครึ่งแรกให้เสียวเล่น กลัวคนดูหลับคาจอรึจ๊ะ? เล่นไปเรื่อยๆ 2-3-4 มาเอง ถามจริง ทั้งฤดูกาล มรึงคิดจะแพ้แค่นัดเดียวเหรอ? เทพไปป่ะ? 22 นัดไร้พ่าย นี่มันการ์ตูนชัดๆ อีสล็อต มรึงดังเกินตัวไปแล้วน่ะ? อีอาเซอร์ไบจาน เครื่องตก อ้างขีปนาวุธรัสเซียยิง เครมลินไล่ตบบ้องหูทันที "อย่าตอแหล" รับงานเหี้ยมาเสี้ยม มุกเดิม หาแดร๊ก ชั้นเชิงขี้หมารึจ๊ะ? มรึงดู เหี้ยมันดิ้นพล่าน จัดฉาก สร้างสถานการณ์ไปทั่ว เรื่องราวทั้งหมดที่มรึงรู้เห็น แผนเสี้ยมอาเซียนตีกัน ก็ CIA แผนเสี้ยมยุโรปกัดกันก็ CIA แผนลอบกัด ก็เหี้ย CIA อะไรเหี้ยๆ มรึงตีไว้เลย 100% MADE IN CIA เพราะมันทำดีเป็นที่ไหนกันล่ะ? จับตาแพแตก พรรคร่วมหักหลัง ขี้ข้าเก่าแฉยับ ใบเสร็จมีครบ รอเพ่ขียวบู๊ทตรีนโตเขยิบ เลือกตั้งใหม่ก็วังวนเดิม แจกเงินควายป่า ทหารเค้าไม่เดินทางเก่าแล้ว คิดใหม่ ทำใหม่ งานนี้ มีวางยา หลงเข้ามา "คากองตรีน" ปชต.ใกล้จุดจบ

    หมี CNN(บอกให้ฟัง เผื่อมรึงไม่รู้ ทหารเค้าสอดไส้คาราเมลมานานแล้ว สว.เด็กใคร? ฝ่ายการเมือง หน่วยสอดแนมทั้งนั้น ไม่ว่าเหี้ยจะเดินเกมส์ไหน ทหารเค้ารู้หมด คนสีเขียวอยู่กระจายทุกหน่วยงาน ซ่อนเร้น นินจาฮาโตริ ถึงเวลา ข้อมูลจริง หลักฐานมัด ดิ้นไม่หลุด เก็บเอาไว้ต่อรอง จะออกดีดี หรือต้องให้กูกระทืบให้ยับซะก่อน ศรีธนญชัย ชื่อนี้ ไม่ใช่โชคช่วย ไม่พริ้ม ไม่ไหวตาม ไม่เนียน จะหลอกเหี้ยได้เหรอจ๊ะ? ขนาดอีเหี้ย CIA ที่ว่าแน่ๆ ยังแค่ขี้ตรีน KGB เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือพสุธา ยังมี หมี CNN ไงล่ะ ไอ้สัส!)
    27 ธันวาคม 67(เดี๋ยว 31 ธค. มหากาพย์บทสรุปจะตามมา ม้วนเดียวจบ)
    11.35 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง"
    https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    27-12-67/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.46 ชื่อตอนว่า "OPEN SESAME" มันส์ล่ะมรึง! เปิดหมดทุกหน้าทุกหมากบนกระดาน? อีทรัมปป์จัดเต็ม แตกอเมริกามาแน่ ขยี้ศัตรูการเมือง ส่ง NATO EU ไปตายห่ายกเข่ง ขี้ข้าตายโหง ฉลาดพอ ไหวตัวทัน ชิ่งทันทีซะ? อียิวชาติหมา เตรียมหาบ้านใหม่ ลาตินก็จะเอา ยุโรปก็จะอยู่ เอเซียก็จะเข้า โลกมุสลิมถามกลับ มรึงอยู่ไหน กูอยู่ด้วย "จะตามไปฆ่ามรึงไงล่ะ ดีออก?" ไม่ได้พูดเล่น แผนยึดยุโรปมาเต็มตรีน รู้มั้ยว่า มีมุสลิมในชาติตะวันตกกี่ล้าน? ที่กระจายไปทั่วทวีป ช้อนซื้อก็ดี เข้าตีก็ได้ ทั้งหมด มันไม่จบแค่สงครามครูเสด แต่จะให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดจริง ต้องเข้ามายึดแผ่นดินอีฝรั่งควายถึงที่ ทุนจีน ทุนอาหรับ แห่กันช้อนซื้อ เพราะมรึงเจ๊งกันหมดแล้ว ขอบคุณปูตินที่ทุบอีโง่ยุโรปจนไม่มีชิ้นดี เศรษฐกิจพัง อุตสาหกรรมตายสนิท ขี้ยา โจร เกลื่อนเมือง ตำนานยุโรปกลายเป็นหมาเพียงไม่กี่วัน? เพราะปชต.หอมหวานมรึงไงล่ะ EGO แรงกันนักชิมิ? ยังโง่ได้อีก ยังควายได้ต่อ กูล่ะชอบ! ไทยและเพื่อนอาเซียน เข้า BRICS อย่างเป็นทางการแล้ว อะไรจะตามมา? สิ่งแรกที่เราจะทำคือ เทดอลล่าร์ และช้อนหยวน รูเบิล ทองคำ ตุนเอาไว้ เราถูกวางให้เป็นฮับอาเซียน การค้าทวิภาคีจะมีเพิ่มขึ้นจนหัวกระไดบ้านไม่แห้ง ผู้เล่นรายใหม่จะโผล่มา ทั้งอิหร่าน โสมแดง รวมถึงชาติลาติน แอฟริกา ไทยเรามีดีตรงที่เป็น อู่ข้าว อู่น้ำ แหล่งแร่สำคัญ แม้แต่ทองคำยังมี หากไม่มีไอ้อีขายชาติ อีเหี้ยจิงโจ้จะได้แดร๊กสัมปทานเหมืองย่อยไปเหรอ? แต่ช้าก่อน หากคุณโทรหาเราภายใน 5 นาที เรามีโปรแถมให้ ซื้อ 1 แถมควายให้อีก 1 ตัว ทองคำจริง เหมืองทองคำใหญ่ เราไม่ปล่อยสัมปทานให้ใครทั้งนั้น ยังอยู่ครบ ไอ้ที่เจาะ แค่ส่วนน้อย อุปส์! ความลับน่ะเนี่ย? อะไรบนแผ่นดินนี้ มีเหรอ วังไม่รู้ รู้หมดแค่ไม่พูด ไม่งั้นจะเห็นหางเหี้ยพวกมรึงเหรอ? เดี๋ยวมรึงดู แกนโลกเอียงก่อนน่ะ จะไหลเข้ามาอโยธยาศรีรามเทพนครแบบไม่ยั้ง? รวย รวย รวย ไอ้อีคลั่งปชต.ไม่ได้แดร๊กดอกน่ะ เพราะคงตายห่า หนีคุกกันหมดแผ่นดินไปนานแล้ว ยุทธศาสตร์โลกปรับเปลี่ยนใหม่หมด ยุโรป อเมริกา จะไม่ใช่ศูนย์กลางคมนาคม เศรษฐกิจ การคลังโลกอีกต่อไป ทั้งหมดโลกจะโฟกัสอยู่ที่ปักกิ่ง เครมลิน อาเซียนคือปากท้อง แอฟริกาคือแหล่งแร่ ตะวันออกกลางคือพลังงาน ลาตินคือตลาดโลกใหม่ เหี้ยตะวันตกเป็นได้แค่ผู้ตาม แถมยังไม่ได้มีส่วนร่วมในโลกยุคใหม่ จนขี้ข้าต้องทิ้งนายใหญ่ เอาตัวรอดทุกชาติพันธุ์ ทรัพย์อยู่ที่ไหน โลกจะไปรวมอยู่ที่นั่น ด้านแสนยานุภาพ เป็นเอกฉันท์ เอเซียคือเบอร์ 1 ใน 3 โลก องค์กรสากลโลกปรับใหม่หมด สกุลเงิน BRICS จะเข้ามาแทนดอลล่าร์ โดยมีหยวนเป็นเรือธง นวตกรรมโลกยุคใหม่ MADE IN CHINA มาเต็มตรีน ทั้งโลกจะใช้สินค้าจีนหมด ถูก ดี เร็ว แรง ได้ผล ทุกอย่างที่เคยมี เคยเป็นมา จะกลับตาลปัตร ซีเรีย ปาเลสไตน์ แอฟริกาที่ยากจน จะกลายร่างเป็นเจ้าสัวน้อยทันที เพราะแหล่งพลังงานถูกแบ่งปันกระจายไปทั่ว ไม่ใช่ยุคเก่า ที่เก็บเอาไว้ให้เครือข่ายเหี้ยเท่านั้น ประชากรโลกหลังศึกใหญ่ จะลดลง เพราะควายโลกตายห่าไปเยอะ ทั้งสงคราม ไวรัส ปากท้อง เอาจนเหี้ยสูญพันธุ์ โลกจะรวมเป็นหนึ่ง เฉพาะชาติที่เป็นมิตร ผีอีโม ออกอาละวาดหนัก ดลใจเหี้ยหางโผล่ อีแม่โรคจิต โรคปราสาทแดร๊กเหรอ? อิ่มไปแล้ว 15 ล้าน ถึงเวลาชดใช้ยังจ๊ะ? ไม่อยากให้รื้อ เดี๋ยว 15 ล้านกูโดนด้วย "คนไม่ปกติเน๊าะ" กลัวติดคุกเป็นด้วย? ให้การเท็จก็ไม่รอดน่ะจ๊ะ! เพ่อัจ เล่นไม่เลิก ล่อไม่ยั้ง อัยกวยเหรอ เดี๋ยวกูตบบ้องหูสั่งสอนแม่งซะเลย แถจนควายอาย? รื้อไม่รื้อ ไม่สำคัญอีกต่อไป ความจริงปรากฎ ไอ้อีที่อุ้มคดี แพะที่รับบาป สัดนรกที่มีส่วนรู้เห็น มรึงจะถูกเช็คบิลหมด ชั้น 14 ก็ไม่รอด ล่อคำสั่งศาลเป็นที่สุด อำนาจสั่งให้ทำ แต่อีกรมคุกเลี่ยงบาลี ไม่ทำ โดนสอยหมดทั้งยวง สว.ลงชื่อ เตรียมไล่เช็คบิลแล้ว ไปหมดทั้งหมอ ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐขายชาติ "พระราชโองการ" ให้ได้ ก็เอาคืนได้ เหมือนที่เพิ่งสั่งถอดยศนายพล อย่าคิดว่าวังไม่รู้ รู้ดีกว่าใคร? เมื่อกล้ารับเศษเงินเหี้ย ก็ต้องกล้าตายสิจ๊ะ อย่าแต๋วแตก ไอ้สัส! ดิ ไอ(คอน)สัส มหากาพย์ ยังลากต่อยาวได้อีก สืบไปมา โดนหมดทั้งวงการบันเทิง รับเงินหน้าบาน หมายศาลมาหน้าเหี่ยวเชียวมรึง? ด้านอีเหลี่ยมชาติชั่ว อย่าคิดว่าจะลอยนวล ดอกนี้ เค้าเว้นไว้ให้บูทตรีนโตสั่งเก็บโดยเฉพาะ ไม่ฆ่ามรึงซึ่งหน้าดอกน่ะ แต่อะไรจะเกิดขึ้นในคุก กูไม่รู้ กูไม่เห็น มรึงโดนย้อนเวลาแน่ ต้องกลับไปชดใช้ในคุก 1 ปี ตามเวลาที่กำหนดจริง ไม่ใช่ในโรงพยาบาล คิดว่ามันจะยอมกลับเข้าไปอีกเหรอ "เผ่นไงจ๊ะ" นั่นแหละ ทางรอดเดียว ที่เค้าเปิดให้มรึงออก จ่ายคือจบ ปล.ไอ้สัส! เล่นกันจัง รู้งานกันดีเน๊าะ เกจิ ซินแส แห่กันผ่าดวงเมือง ฟัน ลุงตู่คัมแบ็ค ปี 69 หลังเศรษฐกิจตายยกครัว แม้แต่ควายไทยบัดซบยังต้องร้องขอชีวิต 14 ล้านควาย ยังสบายดีอยู่มั้ยจ๊ะ? ยังจะควายต่อได้อีกน่ะ? ใครชง ไม่ต้องถาม ไม่ว่าใครจะมา? มาเพื่อเปลี่ยนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งหมด และต้องเป็นโปรบู๊ทเขียวตรีนโตเท่านั้น สูตรเดาไม่ยากดอก เพราะเค้าเตรียมการเอาไว้นานแล้ว หมดยุคปชต.หาแดร๊ก เข้าสู่ยุค พ่อปกครองลูกแบบประยุกต์ การผ่องถ่ายย่อมมี การล้างบางย่อมมา งานนี้ ต้อง HAITER สูตรเข้มข้นเท่านั้น มรึงแทบจะไม่เชื่อว่า ถูกเช็คบิลนับล้านตัว ทั้งข้าราชการ และฝ่ายการเมือง กว่า 92 ปี ที่เหี้ยยิวเข้ามาไข่ เข้ามาล้างสมองควายไทย บทจะชำระ แม่งแป๊บเดียว แค่เปลี่ยนหัวปกครอง ตามหัวเมือง ตามท้องถิ่น ตามหมู่บ้าน เปลี่ยนแนวคิดปุ๊บ ชีวิตใหม่มาทันที หมดตำนานแดง เหลือง ส้ม เขียว ฟ้า เข้าสู่ยุคพ่อปกครองลูก ไม่มีแบ่ง กฎหมายเดียว ใช้เหมือนกันหมด ไม่มี 2 มาตรฐาน ระบบข้าราชการไทยปรับใหม่หมด ปรับศูนย์รวมอำนาจ ไม่ให้ใหญ่เกินสร้างบารมี ไม่ให้ใครจูงจมูกได้ เมื่อปชต.มันรวบอำนาจ พ่อปกครองลูก จึงต้องกระจายอำนาจ ควายไทยจะหมดราคา การเมืองจะเป็นเรื่องของปัญญาชน ไม่ใช่เอาหมามาเป็นนายกก็ได้ เหมือนที่ผ่านมา พรรคการเมืองจะถูกลดบทบาทลง สัญญานกลืนปชต.ควายหายเข้ากลีบเมฆ ปล.2 ไอ้สัส! มรึงจะเทพไปไหน? แหกตาดูตี 3 เห็นแต่หมอก ดีออก! ครึ่งแรกให้เสียวเล่น กลัวคนดูหลับคาจอรึจ๊ะ? เล่นไปเรื่อยๆ 2-3-4 มาเอง ถามจริง ทั้งฤดูกาล มรึงคิดจะแพ้แค่นัดเดียวเหรอ? เทพไปป่ะ? 22 นัดไร้พ่าย นี่มันการ์ตูนชัดๆ อีสล็อต มรึงดังเกินตัวไปแล้วน่ะ? อีอาเซอร์ไบจาน เครื่องตก อ้างขีปนาวุธรัสเซียยิง เครมลินไล่ตบบ้องหูทันที "อย่าตอแหล" รับงานเหี้ยมาเสี้ยม มุกเดิม หาแดร๊ก ชั้นเชิงขี้หมารึจ๊ะ? มรึงดู เหี้ยมันดิ้นพล่าน จัดฉาก สร้างสถานการณ์ไปทั่ว เรื่องราวทั้งหมดที่มรึงรู้เห็น แผนเสี้ยมอาเซียนตีกัน ก็ CIA แผนเสี้ยมยุโรปกัดกันก็ CIA แผนลอบกัด ก็เหี้ย CIA อะไรเหี้ยๆ มรึงตีไว้เลย 100% MADE IN CIA เพราะมันทำดีเป็นที่ไหนกันล่ะ? จับตาแพแตก พรรคร่วมหักหลัง ขี้ข้าเก่าแฉยับ ใบเสร็จมีครบ รอเพ่ขียวบู๊ทตรีนโตเขยิบ เลือกตั้งใหม่ก็วังวนเดิม แจกเงินควายป่า ทหารเค้าไม่เดินทางเก่าแล้ว คิดใหม่ ทำใหม่ งานนี้ มีวางยา หลงเข้ามา "คากองตรีน" ปชต.ใกล้จุดจบ หมี CNN(บอกให้ฟัง เผื่อมรึงไม่รู้ ทหารเค้าสอดไส้คาราเมลมานานแล้ว สว.เด็กใคร? ฝ่ายการเมือง หน่วยสอดแนมทั้งนั้น ไม่ว่าเหี้ยจะเดินเกมส์ไหน ทหารเค้ารู้หมด คนสีเขียวอยู่กระจายทุกหน่วยงาน ซ่อนเร้น นินจาฮาโตริ ถึงเวลา ข้อมูลจริง หลักฐานมัด ดิ้นไม่หลุด เก็บเอาไว้ต่อรอง จะออกดีดี หรือต้องให้กูกระทืบให้ยับซะก่อน ศรีธนญชัย ชื่อนี้ ไม่ใช่โชคช่วย ไม่พริ้ม ไม่ไหวตาม ไม่เนียน จะหลอกเหี้ยได้เหรอจ๊ะ? ขนาดอีเหี้ย CIA ที่ว่าแน่ๆ ยังแค่ขี้ตรีน KGB เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือพสุธา ยังมี หมี CNN ไงล่ะ ไอ้สัส!) 27 ธันวาคม 67(เดี๋ยว 31 ธค. มหากาพย์บทสรุปจะตามมา ม้วนเดียวจบ) 11.35 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง" https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 796 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิกเตอร์ ออร์บัน นายกรัฐมนตรีฮังการี ตอกย้ำถึงความสิ้นเปลืองและล้มเหลวจากจำนวนเงิน 300,000 ล้านยูโร ที่ชาติตะวันตกและอเมริกาทุ่มให้กับยูเครนนั้นล้มเหลวและสูญเปล่า

    ออร์บันวิจารณ์ว่าเงิน 300,000 ล้านยูโร หากใช้เพื่อพัฒนายุโรป จะมีประโยชน์มากกว่า

    "อเมริกาและยุโรปใช้เงินไปประมาณ 300,000 ล้านยูโรกับสงคราม ด้วยเงินจำนวนนี้ เราสามารถยกระดับมาตรฐานการครองชีพในยุโรปได้อย่างรวดเร็ว เราสามารถยกระดับคาบสมุทรบอลข่านทั้งหมดให้เทียบเท่ากับการพัฒนาในยุโรป เราสามารถสร้างระบบป้องกันยุโรปใหม่ทั้งหมดได้ แต่เงินจำนวนนี้ถูกใช้ไปอย่างสูญเปล่า"
    วิกเตอร์ ออร์บัน นายกรัฐมนตรีฮังการี ตอกย้ำถึงความสิ้นเปลืองและล้มเหลวจากจำนวนเงิน 300,000 ล้านยูโร ที่ชาติตะวันตกและอเมริกาทุ่มให้กับยูเครนนั้นล้มเหลวและสูญเปล่า ออร์บันวิจารณ์ว่าเงิน 300,000 ล้านยูโร หากใช้เพื่อพัฒนายุโรป จะมีประโยชน์มากกว่า "อเมริกาและยุโรปใช้เงินไปประมาณ 300,000 ล้านยูโรกับสงคราม ด้วยเงินจำนวนนี้ เราสามารถยกระดับมาตรฐานการครองชีพในยุโรปได้อย่างรวดเร็ว เราสามารถยกระดับคาบสมุทรบอลข่านทั้งหมดให้เทียบเท่ากับการพัฒนาในยุโรป เราสามารถสร้างระบบป้องกันยุโรปใหม่ทั้งหมดได้ แต่เงินจำนวนนี้ถูกใช้ไปอย่างสูญเปล่า"
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇺 ประธานาธิบดีรัสเซีย ปูติน ท้าทายยูเครนและนาโต้

    ขีปนาวุธ Oreshnik ความเร็วเหนือเสียงของรัสเซีย เทียบกับอาวุธป้องกันประเทศของชาติตะวันตก เลือกสถานที่ในเคียฟ, นำมาประลองกัน แล้วดูว่าใครจะชนะ
    .
    JUST IN: 🇷🇺 Russian President Putin offers challenge to Ukraine and NATO.

    Russia's Hypersonic Oreshnik Missiles vs the West's defense weapons. Choose a facility in Kiev, put them up against each other and see who wins.
    .
    12:58 AM · Dec 20, 2024 · 181.4K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1869804458856854000
    🇷🇺 ประธานาธิบดีรัสเซีย ปูติน ท้าทายยูเครนและนาโต้ ขีปนาวุธ Oreshnik ความเร็วเหนือเสียงของรัสเซีย เทียบกับอาวุธป้องกันประเทศของชาติตะวันตก เลือกสถานที่ในเคียฟ, นำมาประลองกัน แล้วดูว่าใครจะชนะ . JUST IN: 🇷🇺 Russian President Putin offers challenge to Ukraine and NATO. Russia's Hypersonic Oreshnik Missiles vs the West's defense weapons. Choose a facility in Kiev, put them up against each other and see who wins. . 12:58 AM · Dec 20, 2024 · 181.4K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1869804458856854000
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 463 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • ผู้แทนยูเอ็นเตือนความขัดแย้งในซีเรีย “ยังไม่จบ” แม้ระบอบอัสซาดล่มสลาย พร้อมเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการตั้งถิ่นฐานในที่ราบสูงโกลัน รวมทั้งยุติการโจมตีอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรียและสำทับว่า การยกเลิกมาตรการแซงก์ชันคือกุญแจสำคัญในการช่วยเหลือซีเรีย
    .
    เกียร์ เพเดอร์เซน ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประจำซีเรีย แถลงในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นเมื่อวันอังคาร (17 ธ.ค.) เกี่ยวกับกลุ่มนักรบที่ได้รับการสนับสนุนจากตุรกีและกลุ่มนักรบเคิร์ด โดยเตือนว่า มีการสู้รบกันอย่างหนักในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และขณะนี้มีการต่ออายุข้อตกลงออกไปอีก 5 วัน แต่เขายังกังวลเกี่ยวกับรายงานการสู้รบที่รุนแรงขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นหายนะ
    .
    หลังการแถลงของเพเดอร์เซนไม่นาน อเมริกาประกาศว่า ได้ผลักดันให้มีการขยายข้อตกลงหยุดยิงระหว่างนักรบที่สนับสนุนตุรกีกับนักรบเคิร์ดในซีเรียที่เมืองแมนบิจไปจนถึงสิ้นสัปดาห์นี้
    .
    เพเดอร์เซนตั้งข้อสังเกตว่า อิสราเอลโจมตีซีเรียกว่า 350 ระลอกภายหลังรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดล่ม ซึ่งทำให้พลเรือนเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น และบ่อนทำลายแนวโน้มการผ่องถ่ายอำนาจทางการเมืองอย่างราบรื่น
    .
    เขายังเรียกร้องให้อิสราเอลยุติกิจกรรมการตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ยึดครองในที่ราบสูงโกลันในซีเรียตามที่คณะรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศก่อนหน้านี้ซึ่งผิดกฎหมาย รวมทั้งขอให้ยุติการโจมตีอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรีย
    .
    เพเดอร์เซนเสริมว่า เขาได้พบผู้นำใหม่ของซีเรีย รวมทั้งเดินทางไปตรวจสอบคุกใต้ดินและสถานที่ทรมานและประหารชีวิตในเรือนจำเซดนายาภายใต้ระบอบอัสซาด
    .
    ผู้แทนพิเศษของยูเอ็นผู้นี้เรียกร้องการสนับสนุนอย่างกว้างขวางสำหรับซีเรีย และยุติมาตรการแซงก์ชันเพื่อเปิดทางสำหรับการฟื้นฟูบูรณะประเทศที่ย่อยยับจากสงคราม
    .
    ขณะเดียวกัน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นเรียกร้องให้มีการดำเนินการกระบวนการทางการเมืองที่รวมคนทุกกลุ่มและนำโดยชาวซีเรีย หลังจากกลุ่มกบฏโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด
    .
    ขณะนี้ ชาติตะวันตกหลายแห่งรีบรุดติดต่อกับกลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) ที่เป็นแกนนำเข้ายึดกรุงดามัสกัส แม้กลุ่มกบฏนี้มีรากเหง้ามาจากเครือข่ายอัล-กออิดะห์สาขาซีเรีย รวมทั้งยังถูกชาติตะวันตกส่วนใหญ่ขึ้นบัญชีเป็นกลุ่มก่อการร้ายก็ตาม
    .
    ทอม เฟลตเชอร์ ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนคนใหม่ของยูเอ็น แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงว่า การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในสนามรบในซีเรียไม่ได้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ความยากลำบากของประชาชนเกือบ 13 ล้านคนที่เผชิญความไม่มั่นคงด้านอาหารเฉียบพลัน นอกจากนั้นชาวซีเรียกว่า 1 ล้านคนยังต้องทิ้งถิ่นฐานในช่วงเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์
    .
    เฟลตเชอร์เสริมว่า ได้พบผู้ปกครองใหม่ของซีเรียที่แสดงความมุ่งมั่นในการขยายโครงการสนับสนุนด้านมนุษยธรรมที่สำคัญ อย่างไรก็ดี เขาเตือนว่า สถานการณ์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียมีความรุนแรงมากขึ้นซึ่งอาจส่งผลกระทบด้านมนุษยธรรม และจำเป็นต้องหาทางคลี่คลายสถานการณ์ดังกล่าว
    .
    ทางด้านลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตอเมริกาประจำยูเอ็น แสดงความยินดีกับการล่มสลายของระบอบอัสซาด แต่เตือนว่า ซีเรียอาจกลายเป็นที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายอย่างกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอซิส)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121639
    ..............
    Sondhi X
    ผู้แทนยูเอ็นเตือนความขัดแย้งในซีเรีย “ยังไม่จบ” แม้ระบอบอัสซาดล่มสลาย พร้อมเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการตั้งถิ่นฐานในที่ราบสูงโกลัน รวมทั้งยุติการโจมตีอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรียและสำทับว่า การยกเลิกมาตรการแซงก์ชันคือกุญแจสำคัญในการช่วยเหลือซีเรีย . เกียร์ เพเดอร์เซน ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประจำซีเรีย แถลงในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นเมื่อวันอังคาร (17 ธ.ค.) เกี่ยวกับกลุ่มนักรบที่ได้รับการสนับสนุนจากตุรกีและกลุ่มนักรบเคิร์ด โดยเตือนว่า มีการสู้รบกันอย่างหนักในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และขณะนี้มีการต่ออายุข้อตกลงออกไปอีก 5 วัน แต่เขายังกังวลเกี่ยวกับรายงานการสู้รบที่รุนแรงขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นหายนะ . หลังการแถลงของเพเดอร์เซนไม่นาน อเมริกาประกาศว่า ได้ผลักดันให้มีการขยายข้อตกลงหยุดยิงระหว่างนักรบที่สนับสนุนตุรกีกับนักรบเคิร์ดในซีเรียที่เมืองแมนบิจไปจนถึงสิ้นสัปดาห์นี้ . เพเดอร์เซนตั้งข้อสังเกตว่า อิสราเอลโจมตีซีเรียกว่า 350 ระลอกภายหลังรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดล่ม ซึ่งทำให้พลเรือนเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น และบ่อนทำลายแนวโน้มการผ่องถ่ายอำนาจทางการเมืองอย่างราบรื่น . เขายังเรียกร้องให้อิสราเอลยุติกิจกรรมการตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ยึดครองในที่ราบสูงโกลันในซีเรียตามที่คณะรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศก่อนหน้านี้ซึ่งผิดกฎหมาย รวมทั้งขอให้ยุติการโจมตีอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรีย . เพเดอร์เซนเสริมว่า เขาได้พบผู้นำใหม่ของซีเรีย รวมทั้งเดินทางไปตรวจสอบคุกใต้ดินและสถานที่ทรมานและประหารชีวิตในเรือนจำเซดนายาภายใต้ระบอบอัสซาด . ผู้แทนพิเศษของยูเอ็นผู้นี้เรียกร้องการสนับสนุนอย่างกว้างขวางสำหรับซีเรีย และยุติมาตรการแซงก์ชันเพื่อเปิดทางสำหรับการฟื้นฟูบูรณะประเทศที่ย่อยยับจากสงคราม . ขณะเดียวกัน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นเรียกร้องให้มีการดำเนินการกระบวนการทางการเมืองที่รวมคนทุกกลุ่มและนำโดยชาวซีเรีย หลังจากกลุ่มกบฏโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด . ขณะนี้ ชาติตะวันตกหลายแห่งรีบรุดติดต่อกับกลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) ที่เป็นแกนนำเข้ายึดกรุงดามัสกัส แม้กลุ่มกบฏนี้มีรากเหง้ามาจากเครือข่ายอัล-กออิดะห์สาขาซีเรีย รวมทั้งยังถูกชาติตะวันตกส่วนใหญ่ขึ้นบัญชีเป็นกลุ่มก่อการร้ายก็ตาม . ทอม เฟลตเชอร์ ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนคนใหม่ของยูเอ็น แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงว่า การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในสนามรบในซีเรียไม่ได้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ความยากลำบากของประชาชนเกือบ 13 ล้านคนที่เผชิญความไม่มั่นคงด้านอาหารเฉียบพลัน นอกจากนั้นชาวซีเรียกว่า 1 ล้านคนยังต้องทิ้งถิ่นฐานในช่วงเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ . เฟลตเชอร์เสริมว่า ได้พบผู้ปกครองใหม่ของซีเรียที่แสดงความมุ่งมั่นในการขยายโครงการสนับสนุนด้านมนุษยธรรมที่สำคัญ อย่างไรก็ดี เขาเตือนว่า สถานการณ์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียมีความรุนแรงมากขึ้นซึ่งอาจส่งผลกระทบด้านมนุษยธรรม และจำเป็นต้องหาทางคลี่คลายสถานการณ์ดังกล่าว . ทางด้านลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตอเมริกาประจำยูเอ็น แสดงความยินดีกับการล่มสลายของระบอบอัสซาด แต่เตือนว่า ซีเรียอาจกลายเป็นที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายอย่างกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอซิส) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121639 .............. Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 849 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่ออังกฤษป้ายสีนักธุรกิจจีนว่าเป็นสายลับ บิดคำพิพากษาของศาล กรณีของเจ้าชายแอนดรูว์และ “สายลับจีน” โดยบทวิเคราะห์ของArnaud Bertrand เขียนในXระบุว่า การดำเนินการของสื่อของอังกฤษ ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่น่าหวาดระแวงเกี่ยวกับ “ภัยสีเหลือง” ที่สุดที่เคยพบเห็นเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้ว จะพบว่าเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่น่าเชื่ออย่างยิ่ง ในทางปฏิบัติแล้ว หมายความว่าชาวจีนทุกคน - ไม่จำเป็นต้องเป็นคนจีนด้วยซ้ำ อาจเป็นใครก็ได้ที่มีความเชื่อมโยงกับจีน - จะถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวร หากพวกเขามีความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในสหราชอาณาจักรก่อนอื่น มาดูกันว่าสื่อมีแนวคิดเกี่ยวกับกรณีนี้อย่างไร พาดหัวข่าวระบุว่า “สายลับจีนเชื่อมโยงกับเจ้าชายแอนดรูว์ ส.ส. เตือนว่าเขาไม่ใช่หมาป่าเดียวดาย” (The Independent: independent.co.uk/news/uk/politi… ) “เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับสายลับกับเจ้าชายแอนดรูว์อาจทำให้มีการเปิดโปงภัยคุกคามจากจีนมากขึ้น”(The Guardian: theguardian.com/world/2024/dec… ) "'สายลับ' ชาวจีนที่เชื่อมโยงกับเจ้าชายแอนดรูว์เป็นเพียง 'ส่วนเล็กๆ ของภูเขาน้ำแข็ง' เท่านั้น" (Politico: politico.eu/article/china-… )สื่อหลักทุกสำนักข่าวของอังกฤษที่รายงานเกี่ยวกับเรื่อง "สายลับจีน" ต่างพากันวาดภาพอันชั่วร้ายของการแทรกซึมเข้าสู่ระดับสูงสุดของสังคมอังกฤษ โดยถือเป็น "หลักฐาน" ของ "ภัยคุกคามอันเลวร้ายจากจีน"ทั้งหมดนี้ไม่เป็นความความจริและเหลือเชื่อ เมื่อคุณพิจารณาความเป็นจริงของคดี (อ่านคำพิพากษาของศาลได้ที่นี่: judiciary.uk/judgments/h6-v… ) ข้อกล่าวหาเหล่านี้ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง ไม่มีหลักฐานใดๆ ของการจารกรรม ไม่มีหลักฐานของการกระทำผิดใดๆ เลย จริงๆ แล้วไม่มีข้อกล่าวหาใดๆ เลยเกี่ยวกับการกระทำผิดที่เกิดขึ้น ไม่มีเลย ไม่มีเลย ไม่มีเลยแต่ในความเป็นจริงแล้วคดีของรัฐบาลประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้:- นายหยางมีความเชื่อมโยงกับสถาบันของจีน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนกงานแนวร่วมและพรรคคอมมิวนิสต์) ซึ่งศาลเองก็ยอมรับว่า "อาจใช้ได้กับนักธุรกิจชาวจีนทุกคน"- เขาถูกกล่าวหาว่าไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเหล่านี้และป้ายสีว่าเขาโกหกเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยซ้ำ - ทั้ๆที่เขายอมรับว่าความเชื่อมโยงดังกล่าวเป็นสิ่งที่ "หลีกเลี่ยงไม่ได้" สำหรับนักธุรกิจจีน (ซึ่งเป็นเพียงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวิธีการดำเนินธุรกิจในจีน)แม้ว่าศาลจะยอมรับในคำพิพากษาว่า "ไม่มีหลักฐานมากมาย" ที่สนับสนุนความเชื่อมโยงเหล่านี้ในตอนแรก- เขาสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญของอังกฤษ (โดยเฉพาะเจ้าชายแอนดรูว์) ผ่านทางโครงการธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Pitch@Palace ซึ่งรัฐบาลอังกฤษโต้แย้งว่า "สามารถนำมาใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลในบางจุดในอนาคตได้ แม้ว่าศาลจะเขียนว่า "อาจเป็นเพียงแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจปกติ" ก็ตามนั่นแหละ นั่นคือกรณีทั้งหมดจริงๆสามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน: judiciary.uk/judgments/h6-v… นั่นคือกรณีทั้งหมดจริงๆไม่มีหลักฐานหรือข้อกล่าวหา (!), เกี่ยวกับการจารกรรมในคดีที่สื่อทั้งหมดนำเสนอว่าเป็น "สายลับจีน" ความผิดของนายหยางคือการเป็นนักธุรกิจชาวจีนที่มีความเชื่อมโยงกับสถาบันของจีน ซึ่งศาลเองก็ยอมรับว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์กับชนชั้นนำอังกฤษผ่านการร่วมทุนทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเพียงแค่ความจริงที่ว่าความสัมพันธ์เหล่านี้สามารถ "ใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลในบางจุดในอนาคต  แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวร แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าเขาตั้งใจจะทำเช่นนั้นหรือทำอะไรที่ไม่เหมาะสมก็ตามและนี่คือจุดที่ทุกอย่างกลายเป็นโลกดิสโทเปียอย่างแท้จริง นายหยางถูกห้ามเข้าสหราชอาณาจักรอย่างถาวรโดยไม่ได้อ้างกฎหมายหรือหลักฐานการกระทำผิดใดๆ แต่อยู่ภายใต้อำนาจของกษัตริย์โบราณที่เรียกว่า "พระราชอำนาจพิเศษ" รัฐบาลไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ด้วยซ้ำว่าเขาทำอะไรผิด พวกเขาเพียงแค่ต้องโต้แย้งว่าเป็นเรื่อง "สมเหตุสมผล" ที่จะคิดว่าความสัมพันธ์ทางธุรกิจของเขาสามารถนำมาใช้เพื่อสร้างอิทธิพลในสักวันหนึ่งลองคิดดูว่าสิ่งนี้มีความหมายอย่างไรในทางปฏิบัติ นักธุรกิจชาวจีนที่:- พัฒนาความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในสหราชอาณาจักร (ซึ่งมักจำเป็นต่อการทำธุรกิจ)- มีความสัมพันธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กับสถาบันของจีน (ซึ่งมักจะเป็นเช่นนี้เกือบเสมอ)- ถือเป็นการไม่แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเหล่านี้อาจถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวรโดยไม่ต้องก่ออาชญากรรมหรือกระทำผิดใดๆ รัฐบาลเพียงแค่ต้องโบกไม้กายสิทธิ์แห่ง "ความมั่นคงแห่งชาติ" และเสนอแนะความเสี่ยงในอนาคตตามทฤษฎีสิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือสื่อตะวันตกล้มเหลวในการตรวจสอบเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง แทนที่จะตั้งคำถามว่าทำไมคนๆ หนึ่งจึงถูกตราหน้าว่าเป็น "สายลับ" และถูกห้ามเข้าประเทศเพียงเพราะไม่มีหลักฐานใดๆ เกี่ยวกับการจารกรรม พวกเขากลับขยายความหวาดระแวงด้วยพาดหัวข่าวที่สร้างความตื่นตระหนกและอ้างคำพูดของสมาชิกรัฐสภาที่เตือนว่านี่เป็นเพียง "ส่วนเล็กๆ ของเรื่องใหญ่" และเขา "ไม่ใช่หมาป่าเดียวดาย"โดยพื้นฐานแล้ว เรากำลังเฝ้าดูการสร้างกรอบกฎหมายสำหรับการเลือกปฏิบัติต่อพลเมืองจีน (และอาจรวมถึงผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับจีนด้วย) โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเขาทำ แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่รัฐบาลคิดว่าพวกเขาอาจทำในอนาคตโดยอาศัยพื้นฐานง่ายๆ ว่าพวกเขาเป็นชาวจีน ในขณะที่สื่อมวลชนก็เชียร์การกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายและศีลธรรมพื้นฐานนี้ด้วยวาทกรรม "สายลับ" ที่ยั่วยุและไม่มีหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นผลงานของคาฟคาทั้งสิ้นลองนึกภาพดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากจีนเริ่มสั่งห้ามนักธุรกิจชาวอังกฤษเข้าประเทศอย่างถาวร เนื่องจากพวกเขามีความสัมพันธ์กับสถาบันของอังกฤษ และพัฒนาความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่จีนที่ "สามารถใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลได้ ซึ่งหมายถึงนักธุรกิจชาวอังกฤษเกือบทั้งหมดในจีนที่มีอาวุโสในระดับหนึ่ง ดังนั้น เราจะต้องเผชิญหน้ากับการเนรเทศชุมชนธุรกิจชาวอังกฤษออกจากจีนเกือบทั้งหมด...แม้แต่จากมุมมองของผลประโยชน์ของชาติอังกฤษแล้ว ก็ไม่สมเหตุสมผลเลย พวกเขาควรต้องการให้นักธุรกิจชาวจีนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีมาทำธุรกิจที่นั่น เพราะความสัมพันธ์เหล่านี้มีความสำคัญต่อธุรกิจ หากพวกเขากังวลว่าความสัมพันธ์เหล่านี้อาจถูกนำมาใช้เพื่อมีอิทธิพลที่ไม่เหมาะสม การตอบสนองของพวกเขาควรเสริมสร้างมาตรการต่อต้านการทุจริตในประเทศ ไม่ใช่ห้ามนักธุรกิจชาวจีนสร้างความสัมพันธ์ที่เอื้อต่อการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ แนวทางนี้ไม่ได้ปกป้องผลประโยชน์ของอังกฤษ แต่กลับสร้างความเสียหายให้กับพวกเขาโดยสร้างผลกระทบเชิงลบต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศคดีของหยาง เติงโป ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่น่าเศร้าอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ชาติตะวันตกต้องคลี่คลายสิ่งที่ชาติตะวันตกอ้างว่าเป็น "ค่านิยมพื้นฐาน" ของตน เมื่อเราเริ่มลงโทษผู้คนไม่ใช่เพราะสิ่งที่พวกเขาทำ แต่เพราะสิ่งที่พวกเขาอาจทำในทางทฤษฎีเพราะสัญชาติของพวกเขา เรากำลังก้าวข้ามเส้นที่ควรทำให้ผู้ที่เชื่อในหลักนิติธรรมและความยุติธรรมขั้นพื้นฐานวิตกกังวล สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เราปลอดภัยและเจริญรุ่งเรืองขึ้น แต่ทำให้เรามีความยุติธรรมน้อยลงเท่านั้น หากสิ่งนี้ไม่ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับทิศทางที่เรากำลังมุ่งหน้าไป ฉันก็ไม่รู้ว่าอะไรจะทำให้เกิดขึ้นได้
    สื่ออังกฤษป้ายสีนักธุรกิจจีนว่าเป็นสายลับ บิดคำพิพากษาของศาล กรณีของเจ้าชายแอนดรูว์และ “สายลับจีน” โดยบทวิเคราะห์ของArnaud Bertrand เขียนในXระบุว่า การดำเนินการของสื่อของอังกฤษ ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่น่าหวาดระแวงเกี่ยวกับ “ภัยสีเหลือง” ที่สุดที่เคยพบเห็นเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้ว จะพบว่าเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่น่าเชื่ออย่างยิ่ง ในทางปฏิบัติแล้ว หมายความว่าชาวจีนทุกคน - ไม่จำเป็นต้องเป็นคนจีนด้วยซ้ำ อาจเป็นใครก็ได้ที่มีความเชื่อมโยงกับจีน - จะถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวร หากพวกเขามีความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในสหราชอาณาจักรก่อนอื่น มาดูกันว่าสื่อมีแนวคิดเกี่ยวกับกรณีนี้อย่างไร พาดหัวข่าวระบุว่า “สายลับจีนเชื่อมโยงกับเจ้าชายแอนดรูว์ ส.ส. เตือนว่าเขาไม่ใช่หมาป่าเดียวดาย” (The Independent: independent.co.uk/news/uk/politi… ) “เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับสายลับกับเจ้าชายแอนดรูว์อาจทำให้มีการเปิดโปงภัยคุกคามจากจีนมากขึ้น”(The Guardian: theguardian.com/world/2024/dec… ) "'สายลับ' ชาวจีนที่เชื่อมโยงกับเจ้าชายแอนดรูว์เป็นเพียง 'ส่วนเล็กๆ ของภูเขาน้ำแข็ง' เท่านั้น" (Politico: politico.eu/article/china-… )สื่อหลักทุกสำนักข่าวของอังกฤษที่รายงานเกี่ยวกับเรื่อง "สายลับจีน" ต่างพากันวาดภาพอันชั่วร้ายของการแทรกซึมเข้าสู่ระดับสูงสุดของสังคมอังกฤษ โดยถือเป็น "หลักฐาน" ของ "ภัยคุกคามอันเลวร้ายจากจีน"ทั้งหมดนี้ไม่เป็นความความจริและเหลือเชื่อ เมื่อคุณพิจารณาความเป็นจริงของคดี (อ่านคำพิพากษาของศาลได้ที่นี่: judiciary.uk/judgments/h6-v… ) ข้อกล่าวหาเหล่านี้ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง ไม่มีหลักฐานใดๆ ของการจารกรรม ไม่มีหลักฐานของการกระทำผิดใดๆ เลย จริงๆ แล้วไม่มีข้อกล่าวหาใดๆ เลยเกี่ยวกับการกระทำผิดที่เกิดขึ้น ไม่มีเลย ไม่มีเลย ไม่มีเลยแต่ในความเป็นจริงแล้วคดีของรัฐบาลประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้:- นายหยางมีความเชื่อมโยงกับสถาบันของจีน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนกงานแนวร่วมและพรรคคอมมิวนิสต์) ซึ่งศาลเองก็ยอมรับว่า "อาจใช้ได้กับนักธุรกิจชาวจีนทุกคน"- เขาถูกกล่าวหาว่าไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเหล่านี้และป้ายสีว่าเขาโกหกเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยซ้ำ - ทั้ๆที่เขายอมรับว่าความเชื่อมโยงดังกล่าวเป็นสิ่งที่ "หลีกเลี่ยงไม่ได้" สำหรับนักธุรกิจจีน (ซึ่งเป็นเพียงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวิธีการดำเนินธุรกิจในจีน)แม้ว่าศาลจะยอมรับในคำพิพากษาว่า "ไม่มีหลักฐานมากมาย" ที่สนับสนุนความเชื่อมโยงเหล่านี้ในตอนแรก- เขาสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญของอังกฤษ (โดยเฉพาะเจ้าชายแอนดรูว์) ผ่านทางโครงการธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Pitch@Palace ซึ่งรัฐบาลอังกฤษโต้แย้งว่า "สามารถนำมาใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลในบางจุดในอนาคตได้ แม้ว่าศาลจะเขียนว่า "อาจเป็นเพียงแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจปกติ" ก็ตามนั่นแหละ นั่นคือกรณีทั้งหมดจริงๆสามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน: judiciary.uk/judgments/h6-v… นั่นคือกรณีทั้งหมดจริงๆไม่มีหลักฐานหรือข้อกล่าวหา (!), เกี่ยวกับการจารกรรมในคดีที่สื่อทั้งหมดนำเสนอว่าเป็น "สายลับจีน" ความผิดของนายหยางคือการเป็นนักธุรกิจชาวจีนที่มีความเชื่อมโยงกับสถาบันของจีน ซึ่งศาลเองก็ยอมรับว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์กับชนชั้นนำอังกฤษผ่านการร่วมทุนทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเพียงแค่ความจริงที่ว่าความสัมพันธ์เหล่านี้สามารถ "ใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลในบางจุดในอนาคต  แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวร แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าเขาตั้งใจจะทำเช่นนั้นหรือทำอะไรที่ไม่เหมาะสมก็ตามและนี่คือจุดที่ทุกอย่างกลายเป็นโลกดิสโทเปียอย่างแท้จริง นายหยางถูกห้ามเข้าสหราชอาณาจักรอย่างถาวรโดยไม่ได้อ้างกฎหมายหรือหลักฐานการกระทำผิดใดๆ แต่อยู่ภายใต้อำนาจของกษัตริย์โบราณที่เรียกว่า "พระราชอำนาจพิเศษ" รัฐบาลไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ด้วยซ้ำว่าเขาทำอะไรผิด พวกเขาเพียงแค่ต้องโต้แย้งว่าเป็นเรื่อง "สมเหตุสมผล" ที่จะคิดว่าความสัมพันธ์ทางธุรกิจของเขาสามารถนำมาใช้เพื่อสร้างอิทธิพลในสักวันหนึ่งลองคิดดูว่าสิ่งนี้มีความหมายอย่างไรในทางปฏิบัติ นักธุรกิจชาวจีนที่:- พัฒนาความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในสหราชอาณาจักร (ซึ่งมักจำเป็นต่อการทำธุรกิจ)- มีความสัมพันธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กับสถาบันของจีน (ซึ่งมักจะเป็นเช่นนี้เกือบเสมอ)- ถือเป็นการไม่แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความเชื่อมโยงเหล่านี้อาจถูกแบนจากสหราชอาณาจักรอย่างถาวรโดยไม่ต้องก่ออาชญากรรมหรือกระทำผิดใดๆ รัฐบาลเพียงแค่ต้องโบกไม้กายสิทธิ์แห่ง "ความมั่นคงแห่งชาติ" และเสนอแนะความเสี่ยงในอนาคตตามทฤษฎีสิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือสื่อตะวันตกล้มเหลวในการตรวจสอบเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง แทนที่จะตั้งคำถามว่าทำไมคนๆ หนึ่งจึงถูกตราหน้าว่าเป็น "สายลับ" และถูกห้ามเข้าประเทศเพียงเพราะไม่มีหลักฐานใดๆ เกี่ยวกับการจารกรรม พวกเขากลับขยายความหวาดระแวงด้วยพาดหัวข่าวที่สร้างความตื่นตระหนกและอ้างคำพูดของสมาชิกรัฐสภาที่เตือนว่านี่เป็นเพียง "ส่วนเล็กๆ ของเรื่องใหญ่" และเขา "ไม่ใช่หมาป่าเดียวดาย"โดยพื้นฐานแล้ว เรากำลังเฝ้าดูการสร้างกรอบกฎหมายสำหรับการเลือกปฏิบัติต่อพลเมืองจีน (และอาจรวมถึงผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับจีนด้วย) โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเขาทำ แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่รัฐบาลคิดว่าพวกเขาอาจทำในอนาคตโดยอาศัยพื้นฐานง่ายๆ ว่าพวกเขาเป็นชาวจีน ในขณะที่สื่อมวลชนก็เชียร์การกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายและศีลธรรมพื้นฐานนี้ด้วยวาทกรรม "สายลับ" ที่ยั่วยุและไม่มีหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นผลงานของคาฟคาทั้งสิ้นลองนึกภาพดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากจีนเริ่มสั่งห้ามนักธุรกิจชาวอังกฤษเข้าประเทศอย่างถาวร เนื่องจากพวกเขามีความสัมพันธ์กับสถาบันของอังกฤษ และพัฒนาความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่จีนที่ "สามารถใช้ประโยชน์" เพื่อสร้างอิทธิพลได้ ซึ่งหมายถึงนักธุรกิจชาวอังกฤษเกือบทั้งหมดในจีนที่มีอาวุโสในระดับหนึ่ง ดังนั้น เราจะต้องเผชิญหน้ากับการเนรเทศชุมชนธุรกิจชาวอังกฤษออกจากจีนเกือบทั้งหมด...แม้แต่จากมุมมองของผลประโยชน์ของชาติอังกฤษแล้ว ก็ไม่สมเหตุสมผลเลย พวกเขาควรต้องการให้นักธุรกิจชาวจีนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีมาทำธุรกิจที่นั่น เพราะความสัมพันธ์เหล่านี้มีความสำคัญต่อธุรกิจ หากพวกเขากังวลว่าความสัมพันธ์เหล่านี้อาจถูกนำมาใช้เพื่อมีอิทธิพลที่ไม่เหมาะสม การตอบสนองของพวกเขาควรเสริมสร้างมาตรการต่อต้านการทุจริตในประเทศ ไม่ใช่ห้ามนักธุรกิจชาวจีนสร้างความสัมพันธ์ที่เอื้อต่อการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ แนวทางนี้ไม่ได้ปกป้องผลประโยชน์ของอังกฤษ แต่กลับสร้างความเสียหายให้กับพวกเขาโดยสร้างผลกระทบเชิงลบต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศคดีของหยาง เติงโป ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่น่าเศร้าอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ชาติตะวันตกต้องคลี่คลายสิ่งที่ชาติตะวันตกอ้างว่าเป็น "ค่านิยมพื้นฐาน" ของตน เมื่อเราเริ่มลงโทษผู้คนไม่ใช่เพราะสิ่งที่พวกเขาทำ แต่เพราะสิ่งที่พวกเขาอาจทำในทางทฤษฎีเพราะสัญชาติของพวกเขา เรากำลังก้าวข้ามเส้นที่ควรทำให้ผู้ที่เชื่อในหลักนิติธรรมและความยุติธรรมขั้นพื้นฐานวิตกกังวล สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เราปลอดภัยและเจริญรุ่งเรืองขึ้น แต่ทำให้เรามีความยุติธรรมน้อยลงเท่านั้น หากสิ่งนี้ไม่ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับทิศทางที่เรากำลังมุ่งหน้าไป ฉันก็ไม่รู้ว่าอะไรจะทำให้เกิดขึ้นได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 681 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายพลระดับท็อปของรัสเซีย ที่ถูกยูเครนกล่าวหาอยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน ถูกลอบสังหารอุกอาจด้วยระเบิดในกรุงมอสโกเมื่อเช้าวันอังคาร (17 ธ.ค.) โดยที่หน่วยข่าวกรอง เอสยูบี ของยูเครนกระพือข่าวว่าเป็นฝีมือของตน ซึ่งหากเป็นจริงก็ถือว่าเป็นการก่อเหตุเข่นฆ่าลักษณะนี้ครั้งอึกทึกครึกโครมที่สุดทีเดียว
    .
    พลโทอิกอร์ คิริลลอฟ ผู้บัญชาการกองทหารหน่วยอาวุธรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพของรัสเซีย พร้อมผู้ช่วยคนหนึ่งของเขา เสียชีวิตจากระเบิดซึ่งซุกซ่อนอยู่ในรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่จอดอยู่ใกล้ทางเข้าอพาร์ตเมนต์บนถนนรยาแซนสกี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโกเมื่อเช้าวันอังคาร ทั้งนี้ตามการแถลงคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของรัสเซีย ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการสืบสวนคดีอุกฉกรรจ์ โดยระบุว่าได้เปิดการสอบสวนเหตุการณ์นี้แล้ว คาดกันว่าคดีนี้จะถูกจัดให้เป็นคดีก่อการร้าย
    .
    เวลาเดียวกัน สื่อมวลชนหลายแห่ง รวมทั้งสำนักข่าวรอยเตอร์ และสำนักข่าวเอเอฟพี ต่างอ้างอิงแหล่งข่าวรายหนึ่งในหน่วยข่าวกรองเอสบียูของยูเครน ได้ยืนยันว่า เอสบียูอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ โดยถือเป็นการปฏิบัติการพิเศษเพื่อสังหารอาชญากรสงคราม เนื่องจากคิริลลอฟเป็นผู้ออกคำสั่งให้ใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน โดยที่เมื่อวันจันทร์ (16) เช่นกัน เอสบียูเพิ่งกล่าวหารัสเซียใช้กระสุนที่เป็นอาวุธเคมีโจมตีใส่ทหารยูเครนมากกว่า 4,800 กรณี นับตั้งแต่เริ่มต้นรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
    .
    ก่อนหน้านี้ ชาติตะวันตกที่เป็นพันธมิตรของเคียฟ อย่างสหราชอาณาจักรและอเมริกา ก็ได้กล่าวหาว่ารัสเซียใช้สารพิษคลอโรพิกรินกับทหารยูเครน ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาห้ามใช้อาวุธเคมี และเมื่อเดือนตุลาคมสหราชอาณาจักรยังได้ประกาศแซงก์ชันคว่ำบาตร คิริลลอฟและหน่วยงานใต้บังคับบัญชาของเขา ในข้อหาช่วยเหลือให้มีการใช้อาวุธร้ายแรงเหล่านั้น
    .
    สำหรับกองทหารหน่วยอาวุธรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพของรัสเซีย ที่คิริลลอฟ เป็นผู้บังคับบัญชา และเป็นที่รู้จักกันด้วยชื่อย่อว่า RKhBZ นั้น ทางรัสเซียระบุว่าเป็นกองกำลังพิเศษซึ่งปฏิบัติการภายใต้สภาพที่เกิดการปนเปื้อนทางรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพ และภารกิจของทหารหน่วยนี้คือการพิทักษ์ปกป้องพวกกองกำลังภาคพื้นดินที่กำลังปฏิบัติการในสภาพเงื่อนไขแบบสุดขั้ว
    .
    ถ้าหากการกล่าวอ้างของเคียฟได้รับการยืนยัน คิริลลอฟ วัย 54 ปี ก็จะถือเป็นนายทหารอาวุโสที่สุดที่ถูกยูเครนลอบสังหารในรัสเซีย และมีแนวโน้มว่า เหตุการณ์นี้จะกระตุ้นให้รัสเซียทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยนายทหารระดับสูงของกองทัพ รวมทั้งหาวิธีแก้แค้น
    .
    สำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียรายงานว่า ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีที่ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของรัสเซีย ประกาศว่า จะชำระแค้นเอากับผู้นำกองทัพและรัฐบาลยูเครนเร็วๆ นี้
    .
    รัสเซียยังปฏิเสธข้อกล่าวหาของยูเครนเรื่องการใช้อาวุธเคมีในสนามรบในยูเครน โดยบางครั้งคิริลลอฟเองได้บรรยายสรุปทางสถานีทีวีของรัฐบาล กล่าวหาตอบโต้กลับว่า ยูเครนและฝ่ายตะวันตกมีเครือข่ายห้องปฏิบัติการชีววิทยาลับ ที่พัฒนาอาวุธเคมีต้องห้ามทั่วยูเครน
    .
    ด้าน มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แถลงยกย่องคิริลลอฟว่า อุทิศตนให้ประเทศชาติอย่างกล้าหาญในการเปิดโปงอาชญากรรมสงครามที่เกี่ยวข้องกับอาวุธเคมีและโครงการลับของฝ่ายตะวันตกทั้งในซีเรียและประเทศอื่นๆ
    .
    ก่อนหน้าคิริลลอฟเสียชีวิต 1 วัน อัยการรัฐบาลยูเครนได้ตั้งข้อหานายทหารรัสเซียผู้นี้ใช้อาวุธเคมีที่ถูกนานาชาติห้ามใช้ นอกจากนั้นคิริลลอฟยังมีชื่ออยู่ในฐานข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการของบุคคลที่ถือเป็นศัตรูของยูเครน
    .
    การลอบสังหารคิริลลอฟยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (16) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อวดอ้างว่า ปีนี้เป็นปีสำคัญของปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียในยูเครน โดยที่กองทหารรัสเซียอยู่ในสถานะได้เปรียบในทุกสมรภูมิ
    .
    ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ มอสโกเชื่อว่า เคียฟอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารบุคคลสำคัญของรัสเซียมาแล้วหลายคนเพื่อทำลายขวัญและกำลังใจของแดนหมีขาว รวมทั้งเพื่อลงโทษผู้ที่เคียฟระบุว่า มีบทบาทในอาชญากรรมสงคราม โดยยูเครนประกาศชัดเจนว่า การสังหารคนเหล่านั้นเป็นการกระทำอันชอบธรรม
    .
    บุคคลที่เป็นที่รู้จักซึ่งถูกลอบสังหารนับจากที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อต้นปี 2022 มีอาทิ ดาร์ยา ดูกินา นักเขียนแนวชาตินิยมและเป็นบุตรสาวของนักปรัชญาการเมืองชื่อดัง อเล็กซานเดอร์ ดูกิน โดยเธอถูกโจมตีด้วยคาร์บอมบ์นอกมอสโก, วลาเดน ตาตาร์สกี บล็อกเกอร์ที่สนับสนุนสงครามยูเครนซึ่งเสียชีวิตจากการลอบวางระเบิดคาเฟ่ในปี 2023 และการลอบยิงผู้บังคับการเรือดำน้ำรัสเซียที่ถูกเคียฟกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงครามเมื่อปีที่แล้ว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121236
    ..............
    Sondhi X
    นายพลระดับท็อปของรัสเซีย ที่ถูกยูเครนกล่าวหาอยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน ถูกลอบสังหารอุกอาจด้วยระเบิดในกรุงมอสโกเมื่อเช้าวันอังคาร (17 ธ.ค.) โดยที่หน่วยข่าวกรอง เอสยูบี ของยูเครนกระพือข่าวว่าเป็นฝีมือของตน ซึ่งหากเป็นจริงก็ถือว่าเป็นการก่อเหตุเข่นฆ่าลักษณะนี้ครั้งอึกทึกครึกโครมที่สุดทีเดียว . พลโทอิกอร์ คิริลลอฟ ผู้บัญชาการกองทหารหน่วยอาวุธรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพของรัสเซีย พร้อมผู้ช่วยคนหนึ่งของเขา เสียชีวิตจากระเบิดซึ่งซุกซ่อนอยู่ในรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่จอดอยู่ใกล้ทางเข้าอพาร์ตเมนต์บนถนนรยาแซนสกี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโกเมื่อเช้าวันอังคาร ทั้งนี้ตามการแถลงคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของรัสเซีย ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการสืบสวนคดีอุกฉกรรจ์ โดยระบุว่าได้เปิดการสอบสวนเหตุการณ์นี้แล้ว คาดกันว่าคดีนี้จะถูกจัดให้เป็นคดีก่อการร้าย . เวลาเดียวกัน สื่อมวลชนหลายแห่ง รวมทั้งสำนักข่าวรอยเตอร์ และสำนักข่าวเอเอฟพี ต่างอ้างอิงแหล่งข่าวรายหนึ่งในหน่วยข่าวกรองเอสบียูของยูเครน ได้ยืนยันว่า เอสบียูอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ โดยถือเป็นการปฏิบัติการพิเศษเพื่อสังหารอาชญากรสงคราม เนื่องจากคิริลลอฟเป็นผู้ออกคำสั่งให้ใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน โดยที่เมื่อวันจันทร์ (16) เช่นกัน เอสบียูเพิ่งกล่าวหารัสเซียใช้กระสุนที่เป็นอาวุธเคมีโจมตีใส่ทหารยูเครนมากกว่า 4,800 กรณี นับตั้งแต่เริ่มต้นรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 . ก่อนหน้านี้ ชาติตะวันตกที่เป็นพันธมิตรของเคียฟ อย่างสหราชอาณาจักรและอเมริกา ก็ได้กล่าวหาว่ารัสเซียใช้สารพิษคลอโรพิกรินกับทหารยูเครน ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาห้ามใช้อาวุธเคมี และเมื่อเดือนตุลาคมสหราชอาณาจักรยังได้ประกาศแซงก์ชันคว่ำบาตร คิริลลอฟและหน่วยงานใต้บังคับบัญชาของเขา ในข้อหาช่วยเหลือให้มีการใช้อาวุธร้ายแรงเหล่านั้น . สำหรับกองทหารหน่วยอาวุธรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพของรัสเซีย ที่คิริลลอฟ เป็นผู้บังคับบัญชา และเป็นที่รู้จักกันด้วยชื่อย่อว่า RKhBZ นั้น ทางรัสเซียระบุว่าเป็นกองกำลังพิเศษซึ่งปฏิบัติการภายใต้สภาพที่เกิดการปนเปื้อนทางรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพ และภารกิจของทหารหน่วยนี้คือการพิทักษ์ปกป้องพวกกองกำลังภาคพื้นดินที่กำลังปฏิบัติการในสภาพเงื่อนไขแบบสุดขั้ว . ถ้าหากการกล่าวอ้างของเคียฟได้รับการยืนยัน คิริลลอฟ วัย 54 ปี ก็จะถือเป็นนายทหารอาวุโสที่สุดที่ถูกยูเครนลอบสังหารในรัสเซีย และมีแนวโน้มว่า เหตุการณ์นี้จะกระตุ้นให้รัสเซียทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยนายทหารระดับสูงของกองทัพ รวมทั้งหาวิธีแก้แค้น . สำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียรายงานว่า ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีที่ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของรัสเซีย ประกาศว่า จะชำระแค้นเอากับผู้นำกองทัพและรัฐบาลยูเครนเร็วๆ นี้ . รัสเซียยังปฏิเสธข้อกล่าวหาของยูเครนเรื่องการใช้อาวุธเคมีในสนามรบในยูเครน โดยบางครั้งคิริลลอฟเองได้บรรยายสรุปทางสถานีทีวีของรัฐบาล กล่าวหาตอบโต้กลับว่า ยูเครนและฝ่ายตะวันตกมีเครือข่ายห้องปฏิบัติการชีววิทยาลับ ที่พัฒนาอาวุธเคมีต้องห้ามทั่วยูเครน . ด้าน มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แถลงยกย่องคิริลลอฟว่า อุทิศตนให้ประเทศชาติอย่างกล้าหาญในการเปิดโปงอาชญากรรมสงครามที่เกี่ยวข้องกับอาวุธเคมีและโครงการลับของฝ่ายตะวันตกทั้งในซีเรียและประเทศอื่นๆ . ก่อนหน้าคิริลลอฟเสียชีวิต 1 วัน อัยการรัฐบาลยูเครนได้ตั้งข้อหานายทหารรัสเซียผู้นี้ใช้อาวุธเคมีที่ถูกนานาชาติห้ามใช้ นอกจากนั้นคิริลลอฟยังมีชื่ออยู่ในฐานข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการของบุคคลที่ถือเป็นศัตรูของยูเครน . การลอบสังหารคิริลลอฟยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (16) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อวดอ้างว่า ปีนี้เป็นปีสำคัญของปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียในยูเครน โดยที่กองทหารรัสเซียอยู่ในสถานะได้เปรียบในทุกสมรภูมิ . ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ มอสโกเชื่อว่า เคียฟอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารบุคคลสำคัญของรัสเซียมาแล้วหลายคนเพื่อทำลายขวัญและกำลังใจของแดนหมีขาว รวมทั้งเพื่อลงโทษผู้ที่เคียฟระบุว่า มีบทบาทในอาชญากรรมสงคราม โดยยูเครนประกาศชัดเจนว่า การสังหารคนเหล่านั้นเป็นการกระทำอันชอบธรรม . บุคคลที่เป็นที่รู้จักซึ่งถูกลอบสังหารนับจากที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อต้นปี 2022 มีอาทิ ดาร์ยา ดูกินา นักเขียนแนวชาตินิยมและเป็นบุตรสาวของนักปรัชญาการเมืองชื่อดัง อเล็กซานเดอร์ ดูกิน โดยเธอถูกโจมตีด้วยคาร์บอมบ์นอกมอสโก, วลาเดน ตาตาร์สกี บล็อกเกอร์ที่สนับสนุนสงครามยูเครนซึ่งเสียชีวิตจากการลอบวางระเบิดคาเฟ่ในปี 2023 และการลอบยิงผู้บังคับการเรือดำน้ำรัสเซียที่ถูกเคียฟกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงครามเมื่อปีที่แล้ว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121236 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 886 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇺 ประธานาธิบดีรัสเซีย ปูติน กล่าวว่า ชาติตะวันตกโกหกเรา ๑๐ ครั้งติดต่อกันว่าไม่ขยายนาโต้ไปทางตะวันออก
    .
    🇷🇺 Russian President Putin says the West lied to us ten times in a row about not expanding NATO east.
    .
    2:38 AM · Dec 16, 2024 · 895.8K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1868380079367073817
    🇷🇺 ประธานาธิบดีรัสเซีย ปูติน กล่าวว่า ชาติตะวันตกโกหกเรา ๑๐ ครั้งติดต่อกันว่าไม่ขยายนาโต้ไปทางตะวันออก . 🇷🇺 Russian President Putin says the West lied to us ten times in a row about not expanding NATO east. . 2:38 AM · Dec 16, 2024 · 895.8K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1868380079367073817
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇺 ประธานาธิบดีรัสเซีย ปูติน กล่าวว่า ความพยายามของชาติตะวันตกเพื่อปราบปรามรัสเซียจะไม่มีวันประสบความสำเร็จ
    .
    JUST IN: 🇷🇺 Russian President Putin says the West's efforts to suppress Russia will never succeed.
    .
    1:40 AM · Dec 15, 2024 · 140.6K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1868003238416712011
    🇷🇺 ประธานาธิบดีรัสเซีย ปูติน กล่าวว่า ความพยายามของชาติตะวันตกเพื่อปราบปรามรัสเซียจะไม่มีวันประสบความสำเร็จ . JUST IN: 🇷🇺 Russian President Putin says the West's efforts to suppress Russia will never succeed. . 1:40 AM · Dec 15, 2024 · 140.6K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1868003238416712011
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • Newsweek เผยแผนที่แนวรบสงครามโลกครั้งที่ 3 📌 พาดผ่าน 7 ชาติยุโรป เชื่อมทะเลบอลติก-ทะเลดำ ส่อเค้าขยายวงกว้างจากสงครามยูเครน 📌ชี้จุดเสี่ยงพื้นที่ Suwalki - ท่ามกลางความตึงเครียด NATO-รัสเซีย และการปฏิเสธข้อกล่าวหาของปูติน 📌แต่กิจกรรมทางทหารที่เพิ่มขึ้นของทั้งสองฝ่ายบริเวณชายแดนสร้างความกังวลต่อการปะทุของความขัดแย้งครั้งใหม่👉นิตยสาร Newsweek เปิดเผยการวิเคราะห์แผนที่แนวรบที่เป็นไปได้ในกรณีเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 โดยระบุว่าแนวรบในยุโรปอาจทอดยาวจากพรมแดนรัสเซีย-ฟินแลนด์ ผ่านเอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย สวีเดน และโปแลนด์ ไปจนถึงเยอรมนี โดยเฉพาะเส้นทาง Suwalki ระหว่างโปแลนด์และลิทัวเนียที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นความขัดแย้ง เนื่องจากตั้งอยู่ระหว่างภูมิภาคคาลินินกราดและเบลารุส 👉นอกจากนี้ยังระบุถึงความเป็นไปได้ของการสู้รบในทะเลดำและทะเลอะซอฟ อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของชาติตะวันตกที่ว่ารัสเซียมีแผนโจมตีสมาชิก NATO โดยระบุว่าเป็นเพียงการปล่อยข่าวเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาภายในของชาติตะวันตกเอง ขณะที่มอสโกแสดงความกังวลต่อการปรากฏตัวของกำลังทหาร NATO ที่เพิ่มขึ้นบริเวณพรมแดนด้านตะวันตก แม้พันธมิตรจะอ้างว่าเป็นเพียงการป้องกันการรุกรานจากรัสเซีย #imctnews รายงาน
    Newsweek เผยแผนที่แนวรบสงครามโลกครั้งที่ 3 📌 พาดผ่าน 7 ชาติยุโรป เชื่อมทะเลบอลติก-ทะเลดำ ส่อเค้าขยายวงกว้างจากสงครามยูเครน 📌ชี้จุดเสี่ยงพื้นที่ Suwalki - ท่ามกลางความตึงเครียด NATO-รัสเซีย และการปฏิเสธข้อกล่าวหาของปูติน 📌แต่กิจกรรมทางทหารที่เพิ่มขึ้นของทั้งสองฝ่ายบริเวณชายแดนสร้างความกังวลต่อการปะทุของความขัดแย้งครั้งใหม่👉นิตยสาร Newsweek เปิดเผยการวิเคราะห์แผนที่แนวรบที่เป็นไปได้ในกรณีเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 โดยระบุว่าแนวรบในยุโรปอาจทอดยาวจากพรมแดนรัสเซีย-ฟินแลนด์ ผ่านเอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย สวีเดน และโปแลนด์ ไปจนถึงเยอรมนี โดยเฉพาะเส้นทาง Suwalki ระหว่างโปแลนด์และลิทัวเนียที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นความขัดแย้ง เนื่องจากตั้งอยู่ระหว่างภูมิภาคคาลินินกราดและเบลารุส 👉นอกจากนี้ยังระบุถึงความเป็นไปได้ของการสู้รบในทะเลดำและทะเลอะซอฟ อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของชาติตะวันตกที่ว่ารัสเซียมีแผนโจมตีสมาชิก NATO โดยระบุว่าเป็นเพียงการปล่อยข่าวเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาภายในของชาติตะวันตกเอง ขณะที่มอสโกแสดงความกังวลต่อการปรากฏตัวของกำลังทหาร NATO ที่เพิ่มขึ้นบริเวณพรมแดนด้านตะวันตก แม้พันธมิตรจะอ้างว่าเป็นเพียงการป้องกันการรุกรานจากรัสเซีย #imctnews รายงาน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇺🇺🇦 รัสเซียกำลังเตรียมโจมตีตอบโต้ยูเครนครั้งใหญ่

    “การโจมตีด้วยอาวุธระยะไกลของชาติตะวันตกครั้งนี้ จะไม่ถูกปล่อยทิ้งร้าง และจะมีการใช้มาตรการที่เหมาะสม”
    .
    JUST IN: 🇷🇺🇺🇦 Russia is preparing a major retaliation attack on Ukraine.

    "This attack by Western long-range weapons will not go unanswered and appropriate measures will be taken."
    .
    11:29 PM · Dec 11, 2024 · 338.8K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1866883106671603920
    🇷🇺🇺🇦 รัสเซียกำลังเตรียมโจมตีตอบโต้ยูเครนครั้งใหญ่ “การโจมตีด้วยอาวุธระยะไกลของชาติตะวันตกครั้งนี้ จะไม่ถูกปล่อยทิ้งร้าง และจะมีการใช้มาตรการที่เหมาะสม” . JUST IN: 🇷🇺🇺🇦 Russia is preparing a major retaliation attack on Ukraine. "This attack by Western long-range weapons will not go unanswered and appropriate measures will be taken." . 11:29 PM · Dec 11, 2024 · 338.8K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1866883106671603920
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยกตัวอย่างได้ถูกประเทศดีมาก!
    ผู้เชี่ยวชาญรัสเซียเผย 'Oreshnik' ไม่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศใดหยุดยั้งได้ ไม่ว่าจะเป็น THAAD ของสหรัฐฯ หรือ Arrow 3 ของอิสราเอลก็ยังพ่ายยับ

    ยูริ คนูตอฟ(Yuri Knutov) ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารของกองกำลังป้องกันภัยทางอากาศรัสเซีย ออกมาตอบโต้อเมริกาและชาติตะวันตกที่ว่าระบบ THAAD สามารถสกัดกั้นขีปนาวุธ Oreshnik ได้นั้น เป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อ "เพื่อปลอบใจตัวเองว่าไม่ได้ล้าหลังกว่ารัสเซีย"

    คนูตอฟ อธิบายว่าทำไม THAAD จึงไม่สามารถหยุดยั้ง Oreshnik ได้:
    🔸 ในทางเทคนิค THAAD สามารถโจมตีเป้าหมายที่บินด้วยความเร็วสูงถึงมัค 14 ได้ แต่เป้าหมายนั่นจะต้องบินอยู่ในระดับขอบอวกาศเท่านั้น ซึ่งเป็นระดับที่ความสูงจากพื้นดินมากๆ ส่วนระดับความสูงเพียง 40 ถึง 70 กม. ความสามารถของ THAAD จะลดลงอย่างมาก

    🔸 หัวรบความเร็วเหนือเสียงของ Oreshnik ถูกล้อมรอบด้วยฟองพลาสม่าซึ่งดูดซับสัญญาณจากเรดาร์นำทางจากระบบของศัตรู ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้

    🔸 THAAD ได้รับการออกแบบมาเพื่อสกัดกั้นขีปนาวุธพิสัยใกล้ในช่วงสุดท้ายของการบิน ดีที่สุดคือขณะอยู่บนขอบฟ้าใกล้อวกาศ และความสามารถจะลดลงเรื่อยๆ เมื่อเป้าหมายอยู่ในระดับต่ำลงมา ผิดกับ Oreshnik ที่เข้าใกล้เห้าหมายด้วยระดับความเร็วเหนือเสียง

    🔸 ยิ่งเป็นระบบต่อต้านขีปนาวุธพิสัยใกล้ความเร็วเหนือเสียงนอกชั้นบรรยากาศ Arrow 3 ของอิสราเอล ไม่ต้องพูดถึงเลย ไม่มีทางสกัดกั้น Oreshnik ได้อย่างแน่นอน ขนาดขีปนาวุธ Fatah-1 และ Fatah-2 ของอิหร่าน ซึ่งจัดอยู่ในตระกูลขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ยังสามารถทะลุทะลวงน่านฟ้าอิสราเอลได้อย่างง่ายดาย
    ยกตัวอย่างได้ถูกประเทศดีมาก! ผู้เชี่ยวชาญรัสเซียเผย 'Oreshnik' ไม่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศใดหยุดยั้งได้ ไม่ว่าจะเป็น THAAD ของสหรัฐฯ หรือ Arrow 3 ของอิสราเอลก็ยังพ่ายยับ ยูริ คนูตอฟ(Yuri Knutov) ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารของกองกำลังป้องกันภัยทางอากาศรัสเซีย ออกมาตอบโต้อเมริกาและชาติตะวันตกที่ว่าระบบ THAAD สามารถสกัดกั้นขีปนาวุธ Oreshnik ได้นั้น เป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อ "เพื่อปลอบใจตัวเองว่าไม่ได้ล้าหลังกว่ารัสเซีย" คนูตอฟ อธิบายว่าทำไม THAAD จึงไม่สามารถหยุดยั้ง Oreshnik ได้: 🔸 ในทางเทคนิค THAAD สามารถโจมตีเป้าหมายที่บินด้วยความเร็วสูงถึงมัค 14 ได้ แต่เป้าหมายนั่นจะต้องบินอยู่ในระดับขอบอวกาศเท่านั้น ซึ่งเป็นระดับที่ความสูงจากพื้นดินมากๆ ส่วนระดับความสูงเพียง 40 ถึง 70 กม. ความสามารถของ THAAD จะลดลงอย่างมาก 🔸 หัวรบความเร็วเหนือเสียงของ Oreshnik ถูกล้อมรอบด้วยฟองพลาสม่าซึ่งดูดซับสัญญาณจากเรดาร์นำทางจากระบบของศัตรู ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ 🔸 THAAD ได้รับการออกแบบมาเพื่อสกัดกั้นขีปนาวุธพิสัยใกล้ในช่วงสุดท้ายของการบิน ดีที่สุดคือขณะอยู่บนขอบฟ้าใกล้อวกาศ และความสามารถจะลดลงเรื่อยๆ เมื่อเป้าหมายอยู่ในระดับต่ำลงมา ผิดกับ Oreshnik ที่เข้าใกล้เห้าหมายด้วยระดับความเร็วเหนือเสียง 🔸 ยิ่งเป็นระบบต่อต้านขีปนาวุธพิสัยใกล้ความเร็วเหนือเสียงนอกชั้นบรรยากาศ Arrow 3 ของอิสราเอล ไม่ต้องพูดถึงเลย ไม่มีทางสกัดกั้น Oreshnik ได้อย่างแน่นอน ขนาดขีปนาวุธ Fatah-1 และ Fatah-2 ของอิหร่าน ซึ่งจัดอยู่ในตระกูลขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ยังสามารถทะลุทะลวงน่านฟ้าอิสราเอลได้อย่างง่ายดาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเมืองของอังกฤษกำลังน่าสนใจไม่น้อยเมื่อ "นิค แคนดี้" (Nick Candy) มหาเศรษฐีชาวอังกฤษผู้บริจาคหลักของพรรคอนุรักษ์นิยม (Conservatives - พรรคของริชี ซูนัค อดีตนายกฯอังกฤษ) ประกาศหันมาสนับสนุนพรรคปฏิรูปอังกฤษ (Reform UK) ซึ่งมี ไนเจล ฟาร์ราจ (Nigel Farage) เป็นผู้นำพรรค

    นิค แคนดี้ ประกาศว่า "ผมจะระดมเงินให้กับพรรครีฟอร์มมากกว่าพรรคการเมืองใดๆ ในสหราชอาณาจักรที่เคยทำได้ ไนเจล ฟาราจจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนต่อไป!"

    "ไนเจล ฟาร์ราจ" ผู้นำพรรคปฏิรูปยูเคของอังกฤษ (Reform UK) เพิ่งได้รับเลือกตั้งเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงกลางปีนี้ หลังความพยายามทั้งหมด 7 ครั้ง ในที่สุดประสบผลสำเร็จในครั้งที่ 8

    ฟาร์ราจ เป็นที่รู้จักอย่างดีจากการเป็นหนึ่งในแกนนำ ในความพยายามให้อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit
    นอกจากนี้ เขายังมีแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง โดยการต่อต้านผู้ลี้ภัยในอังกฤษ

    ช่วงการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาของอังกลฤษเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ไนเจล ฟาร์ราจ ให้สัมภาษณ์ผ่าน BBC กล่าวหาว่าชาติตะวันตกเป็นฝ่าย “ยั่วยุ” รัสเซียให้รุกรานยูเครนก่อน โดยการขยายตัวของสหภาพยุโรปและนาโตทำให้วลาดิมีร์ ปูตินมีข้ออ้างให้เกิดสงครามส่งผลถึงอังกฤษด้วย

    การเมืองของอังกฤษกำลังน่าสนใจไม่น้อยเมื่อ "นิค แคนดี้" (Nick Candy) มหาเศรษฐีชาวอังกฤษผู้บริจาคหลักของพรรคอนุรักษ์นิยม (Conservatives - พรรคของริชี ซูนัค อดีตนายกฯอังกฤษ) ประกาศหันมาสนับสนุนพรรคปฏิรูปอังกฤษ (Reform UK) ซึ่งมี ไนเจล ฟาร์ราจ (Nigel Farage) เป็นผู้นำพรรค นิค แคนดี้ ประกาศว่า "ผมจะระดมเงินให้กับพรรครีฟอร์มมากกว่าพรรคการเมืองใดๆ ในสหราชอาณาจักรที่เคยทำได้ ไนเจล ฟาราจจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนต่อไป!" "ไนเจล ฟาร์ราจ" ผู้นำพรรคปฏิรูปยูเคของอังกฤษ (Reform UK) เพิ่งได้รับเลือกตั้งเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงกลางปีนี้ หลังความพยายามทั้งหมด 7 ครั้ง ในที่สุดประสบผลสำเร็จในครั้งที่ 8 ฟาร์ราจ เป็นที่รู้จักอย่างดีจากการเป็นหนึ่งในแกนนำ ในความพยายามให้อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit นอกจากนี้ เขายังมีแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง โดยการต่อต้านผู้ลี้ภัยในอังกฤษ ช่วงการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาของอังกลฤษเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ไนเจล ฟาร์ราจ ให้สัมภาษณ์ผ่าน BBC กล่าวหาว่าชาติตะวันตกเป็นฝ่าย “ยั่วยุ” รัสเซียให้รุกรานยูเครนก่อน โดยการขยายตัวของสหภาพยุโรปและนาโตทำให้วลาดิมีร์ ปูตินมีข้ออ้างให้เกิดสงครามส่งผลถึงอังกฤษด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts