• ปีใหม่ 69 เปิดมอเตอร์เวย์ M6 วิ่งฉิวบางปะอินถึงนครราชสีมา

    ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา จะเปิดให้ประชาชนสัญจรเป็นการชั่วคราว ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ช่วงบางปะอิน-ปากช่อง-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2568 ถึง 5 ม.ค. 2569 โดยไม่เก็บค่าผ่านทาง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ลดความแออัดของเส้นทางหลักอย่างถนนพหลโยธิน และถนนมิตรภาพ รวมทั้งแบ่งเบาภาระการจราจรสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    โดยทิศทางขาออกกรุงเทพฯ จากด่านบางปะอิน-ปากช่อง เปิดให้สัญจรระหว่างวันที่ 26 ธ.ค. 2568 เวลา 00.01 น. ถึง 1 ม.ค. 2569 เวลา 24.00 น. เท่านั้น เนื่องจากการก่อสร้างตอน 4 (สะพานข้ามหนองน้ำ) ยังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องเบี่ยงการจราจรตั้งแต่กิโลเมตรที่ 10+150 ถึง 30+800 หลังจากนั้นทิศทางขาเข้ากรุงเทพฯ จากปากช่อง-บางปะอิน เปิดให้สัญจรระหว่างวันที่ 2 ม.ค. 2569 เวลา 06.00 น. ถึง 5 ม.ค. 2569 เวลา 24.00 น. ส่วนช่วงปากช่อง-นครราชสีมา เปิดให้สัญจรสองทิศทางตลอด 24 ชั่วโมง

    สำหรับทางเข้า-ออกด่านบางปะอินจะมี 3 ทิศทาง ได้แก่ 1. ด้านถนนกาญจนาภิเษก (ทางหลวงหมายเลข 9) เลยทางแยกต่างระดับเชียงราก (ทางหลวงหมายเลข 347) มุ่งหน้าบางปะอินเล็กน้อย 2. ด้านถนนพหลโยธิน เลยปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านใหญ่วังน้อย ขาขึ้น กม.54 3. ด้านทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9 ก่อนถึงทางออกบางปะอิน โปรดสังเกตป้ายบอกทางสีน้ำเงิน ระบุว่า "มอเตอร์เวย์ M6 ปากช่อง นครราชสีมา" เนื่องจากแอปพลิเคชันบอกทางอาจยังไม่อัปเดตเส้นทาง

    เนื่องจากการเปิดใช้มอเตอร์เวย์ครั้งนี้ยังไม่เต็มรูปแบบ เพราะฉะนั้นใช้ได้เฉพาะรถยนต์ 4 ล้อ อีกทั้งไม่มีปั๊มน้ำมันหรือ EV Charger กลางทาง จึงควรเติมน้ำมันหรือชาร์จไฟให้เพียงพอต่อการเดินทางระยะยาว ถ้ามาจากถนนพหลโยธิน เมื่อเลยทางแยกต่างระดับบางปะอิน กม.53-54 จะมีปั๊มน้ำมันเชลล์, บางจาก และ PTT Station แต่ถ้ามาจากมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 เลยทางแยกต่างระดับธัญบุรีไปแล้ว ใช้ทางออก 2 (คลองหลวง-หนองเสือ) จะมีปั๊มน้ำมัน PTT Station, บางจาก และคาลเท็กซ์ ที่เข้า-ออกทางหลักได้

    สำหรับผู้ที่มาจากภาคใต้ ผ่านถนนพระรามที่ 2 และจังหวัดสมุทรสาคร สามารถใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 ที่ด่านมหาชัย 1 ต่อเนื่องทางพิเศษกาญจนาภิเษกที่ด่านบางขุนเทียน ต่อเนื่องมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ที่ด่านบางแก้ว เสียค่าผ่านทางที่ด่านทับช้าง และด่านธัญบุรี เพื่อเข้ามอเตอร์เวย์หมายเลข 6 ได้ ซึ่งจากด่านมหาชัย 1 ถึงจังหวัดนครราชสีมา คิดเป็นระยะทางประมาณ 320 กิโลเมตร

    #Newskit
    ปีใหม่ 69 เปิดมอเตอร์เวย์ M6 วิ่งฉิวบางปะอินถึงนครราชสีมา ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา จะเปิดให้ประชาชนสัญจรเป็นการชั่วคราว ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ช่วงบางปะอิน-ปากช่อง-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2568 ถึง 5 ม.ค. 2569 โดยไม่เก็บค่าผ่านทาง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ลดความแออัดของเส้นทางหลักอย่างถนนพหลโยธิน และถนนมิตรภาพ รวมทั้งแบ่งเบาภาระการจราจรสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยทิศทางขาออกกรุงเทพฯ จากด่านบางปะอิน-ปากช่อง เปิดให้สัญจรระหว่างวันที่ 26 ธ.ค. 2568 เวลา 00.01 น. ถึง 1 ม.ค. 2569 เวลา 24.00 น. เท่านั้น เนื่องจากการก่อสร้างตอน 4 (สะพานข้ามหนองน้ำ) ยังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องเบี่ยงการจราจรตั้งแต่กิโลเมตรที่ 10+150 ถึง 30+800 หลังจากนั้นทิศทางขาเข้ากรุงเทพฯ จากปากช่อง-บางปะอิน เปิดให้สัญจรระหว่างวันที่ 2 ม.ค. 2569 เวลา 06.00 น. ถึง 5 ม.ค. 2569 เวลา 24.00 น. ส่วนช่วงปากช่อง-นครราชสีมา เปิดให้สัญจรสองทิศทางตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับทางเข้า-ออกด่านบางปะอินจะมี 3 ทิศทาง ได้แก่ 1. ด้านถนนกาญจนาภิเษก (ทางหลวงหมายเลข 9) เลยทางแยกต่างระดับเชียงราก (ทางหลวงหมายเลข 347) มุ่งหน้าบางปะอินเล็กน้อย 2. ด้านถนนพหลโยธิน เลยปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านใหญ่วังน้อย ขาขึ้น กม.54 3. ด้านทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9 ก่อนถึงทางออกบางปะอิน โปรดสังเกตป้ายบอกทางสีน้ำเงิน ระบุว่า "มอเตอร์เวย์ M6 ปากช่อง นครราชสีมา" เนื่องจากแอปพลิเคชันบอกทางอาจยังไม่อัปเดตเส้นทาง เนื่องจากการเปิดใช้มอเตอร์เวย์ครั้งนี้ยังไม่เต็มรูปแบบ เพราะฉะนั้นใช้ได้เฉพาะรถยนต์ 4 ล้อ อีกทั้งไม่มีปั๊มน้ำมันหรือ EV Charger กลางทาง จึงควรเติมน้ำมันหรือชาร์จไฟให้เพียงพอต่อการเดินทางระยะยาว ถ้ามาจากถนนพหลโยธิน เมื่อเลยทางแยกต่างระดับบางปะอิน กม.53-54 จะมีปั๊มน้ำมันเชลล์, บางจาก และ PTT Station แต่ถ้ามาจากมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 เลยทางแยกต่างระดับธัญบุรีไปแล้ว ใช้ทางออก 2 (คลองหลวง-หนองเสือ) จะมีปั๊มน้ำมัน PTT Station, บางจาก และคาลเท็กซ์ ที่เข้า-ออกทางหลักได้ สำหรับผู้ที่มาจากภาคใต้ ผ่านถนนพระรามที่ 2 และจังหวัดสมุทรสาคร สามารถใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 ที่ด่านมหาชัย 1 ต่อเนื่องทางพิเศษกาญจนาภิเษกที่ด่านบางขุนเทียน ต่อเนื่องมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ที่ด่านบางแก้ว เสียค่าผ่านทางที่ด่านทับช้าง และด่านธัญบุรี เพื่อเข้ามอเตอร์เวย์หมายเลข 6 ได้ ซึ่งจากด่านมหาชัย 1 ถึงจังหวัดนครราชสีมา คิดเป็นระยะทางประมาณ 320 กิโลเมตร #Newskit
    1 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 2

    “ข่าวลือ ข่าวลวง’
    ตอนสุดท้าย 2
    ซาอุดิอารเบีย เริ่มถล่มเยเมนไปแล้วตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม แต่ใบตองแห้งไม่มีออกมาโวย แถมมีข่าวว่า จรวดซาอุ ดันลงไปที่ฐานทัพของหน่วยรบพิเศษของอเมริกา ตายกันระเนระนาดอีกด้วย อเมริกาก็ยังหุบปากเงียบ ไม่แอะออกมา ไปเปิดกูเกิลอ่านได้เลยครับ เพราะฉะนั้น ประเด็นเรื่องอเมริกาไม่พอใจ ที่ซาอุดิอารเบีย ไปถล่มเยเมน ก็ตัดทิ้งไปได้ ไม่ว่าจะเป็นไก่อ่อนสั่ง หรือเก๋าเขี้ยวยาวพันธ์ไหนสั่ง มันต้องได้ไฟเขียวจากอเมริกาแน่นอน
    แล้วมีการปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับราชวงศ์ ออกมาทำไม เรื่องมงกูฏราชกุมารก็ พอรับได้ เรื่องเยเมนก็ไม่มีปัญหา
    กลับมาดู ช่วงเวลาของการปล่อยข่าวลืออีกที
    การปล่อยข่าวชุดแรก เริ่มมีขึ้น “หลัง” วันที่ 29 เมษายน ค.ศ.2015 ซึ่งเป็นวันที่กษัตริย์ซาลมานออกประกาศช๊อคผู้คนทั้งซาอุดิอารเบีย และตะวันออกกลาง และที่อาจจะช็อคมากกว่าตะวันออกกลางคือ ที่ทำเนียบขาวของอเมริกา
    เช้ามืดของวันที่ 29 เมษายน ค.ศ.2015 กษัตริย์ซาลมาน ออกประกาศ ปลดมงกุฏราชกุมารลำดับ 1 คือ เจ้าชายมุคริน ออกจากตำแหน่ง โดยไม่ให้เหตุผลและ แต่งตั้งให้ เจ้าชาย บิน นาเยฟ ขึ้นเป็นมงกุฏราชกุมารลำดับ 1 แทน พร้อมกับแต่งตั้งเจ้าชาย บิน ซาลมาน ลูกชาย วัยไม่ถึง 30 ของกษัตริย์ซาลมาน ให้เป็นมงกฏราชกุมารลำดับ 2 พร้อมกับให้ดูแลกิจการน้ำมันของซาอุดิอารเบียอีกด้วย
    ข่าวนี้ ทำให้ได้เห็นฝรั่งเล่นงิ้วเต็มทางเดินในทำเนียบที่วอชิงตัน
    อันที่จริงอเมริกาน่าจะพอใจ ที่ได้บิน นาเนฟ ที่อเมริกาชื่นชมนักหนาว่าปราบพวกบิน ลาเดน จนหดหายหมดไปจากซาอุดิอารเบีย แต่ทำไมข่าวนี้ทำให้อเมริกาออกงิ้ว แถมเป็นงิ้วใบ้ ออกท่า แต่ไม่ออกเสียงให้คนนอกทำเนียบได้ยินมากนัก สงสัยอะไรคงจุกอยู่ในอกจนพูดไม่ออก
    ที่จุกอกอเมริกา น่าจะเป็นการตั้งไก่อ่อนมาเป็นมงกุฏราชกุมารลำดับ 2 นั่นแหละ
    อเมริการู้นิสัยซาอุดิอารเบียดีว่า มักจะมีเรื่องต่อว่า เพื่อต่อรอง หรือประท้วงอเมริกาเสมอ แต่อเมริกา ที่เบ่งได้กับทั้งโลก แต่เบ่งไม่ออกกับซาอุดิอารเบียหรอกครับ การเปลี่ยนตัวมงกุฏราชกุมาร โดยเอาลูกชายขึ้นมาเป็นมงกุฏราชกุมารอันดับ 2 คุมทั้งกลาโหม เป็น “เกม” ที่กษัตริย์ซัลมานกำลัง “เล่น” ใส่อเมริกา ที่ช่วงนั่น ประมาณเดือนมีนา เมษา ถ้าจำกันได้ อเมริกาพยายามที่จะสรุปเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ท่ามกลางเสียงค้านมาจากรอบทิศ โดยเฉพาะ จากซาอุดิอารเบียและอิสราเอล เพราะจะทำให้อิหร่านติดปีก ได้เปรียบคู่แข่งทั้ง 2 ในตะวันออกกลาง ทั้งซาอุ ทั้งอิสราเอล ประสานเสียงประท้วงใบตองแห้ง แต่ใบตองแห้งทำไขสือ
    ซาอุดิอารเบีย จึงประท้วง หรือประชด ด้วยการแต่งตั้งลูกชายวัยละอ่อนมานั่งคุมอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญของซาอุดิอา รเบีย โดย ” ไม่ปรึกษา” อเมริกา มึงไม่ฟังกู กูก็ไม่ฟังมึง แน่จริงๆ มีน้ำมันมาก ทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด ไม่ถูกด่า
    แต่ในฐานะพี่เบิ้มใบตองแห้ง จะให้คนขี่อูฐมาขู่แฟดจนชาวโลกหัวร่อเย้ย คงเสียหน้าเอาเรื่อง อเมริกาก็เลยต้องตอบโต้บ้าง ในระดับกำลังดีว่า ซาอุดิอารเบีย กำลังลงเหว จากการตัดสินใจของตัวเอง น่าเอ็นดูนะครับ ด่ากลับ ได้เจ็บจัง ฮาชะมัด
    สรุปว่า ข่าวลือในช่วงปลายเมษายนต่อต้นพฤษภาคม เกี่ยวกับราชวงศ์ และ เรื่องการถล่มเยเมนของซาอุดิอารเบีย น่าจะเป็นสงครามน้ำลาย ระหว่าง คู่รัก คู่ขุด (น้ำมัน)
    แต่ข่าวลือชุด 2 ที่ออกมาช่วงปลายเดือนกันยายน เกี่ยวกับเรื่อง จะทำการปฏิวัติโค่นกษัตริย์ซัลมานบ้าง เรื่องพวกราชวงศ์เองทำหนังสือประท้วงกษัตริย์ ไม่พอใจการแต่งตั้งลูกชาย ไม่พอใจเรื่องนโยบายน้ำมัน ไม่พอใจเรื่องรบในเยเมนที่ไม่เห็นทางว่าชนะ ฯลฯ ข่าวลือชุดนี้ต่างหาก ที่น่าสนใจ และบอกเล่า หลายอย่าง เกี่ยวกับสภาพของอเมริกา และซาอุดิอารเบีย
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 2 “ข่าวลือ ข่าวลวง’ ตอนสุดท้าย 2 ซาอุดิอารเบีย เริ่มถล่มเยเมนไปแล้วตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม แต่ใบตองแห้งไม่มีออกมาโวย แถมมีข่าวว่า จรวดซาอุ ดันลงไปที่ฐานทัพของหน่วยรบพิเศษของอเมริกา ตายกันระเนระนาดอีกด้วย อเมริกาก็ยังหุบปากเงียบ ไม่แอะออกมา ไปเปิดกูเกิลอ่านได้เลยครับ เพราะฉะนั้น ประเด็นเรื่องอเมริกาไม่พอใจ ที่ซาอุดิอารเบีย ไปถล่มเยเมน ก็ตัดทิ้งไปได้ ไม่ว่าจะเป็นไก่อ่อนสั่ง หรือเก๋าเขี้ยวยาวพันธ์ไหนสั่ง มันต้องได้ไฟเขียวจากอเมริกาแน่นอน แล้วมีการปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับราชวงศ์ ออกมาทำไม เรื่องมงกูฏราชกุมารก็ พอรับได้ เรื่องเยเมนก็ไม่มีปัญหา กลับมาดู ช่วงเวลาของการปล่อยข่าวลืออีกที การปล่อยข่าวชุดแรก เริ่มมีขึ้น “หลัง” วันที่ 29 เมษายน ค.ศ.2015 ซึ่งเป็นวันที่กษัตริย์ซาลมานออกประกาศช๊อคผู้คนทั้งซาอุดิอารเบีย และตะวันออกกลาง และที่อาจจะช็อคมากกว่าตะวันออกกลางคือ ที่ทำเนียบขาวของอเมริกา เช้ามืดของวันที่ 29 เมษายน ค.ศ.2015 กษัตริย์ซาลมาน ออกประกาศ ปลดมงกุฏราชกุมารลำดับ 1 คือ เจ้าชายมุคริน ออกจากตำแหน่ง โดยไม่ให้เหตุผลและ แต่งตั้งให้ เจ้าชาย บิน นาเยฟ ขึ้นเป็นมงกุฏราชกุมารลำดับ 1 แทน พร้อมกับแต่งตั้งเจ้าชาย บิน ซาลมาน ลูกชาย วัยไม่ถึง 30 ของกษัตริย์ซาลมาน ให้เป็นมงกฏราชกุมารลำดับ 2 พร้อมกับให้ดูแลกิจการน้ำมันของซาอุดิอารเบียอีกด้วย ข่าวนี้ ทำให้ได้เห็นฝรั่งเล่นงิ้วเต็มทางเดินในทำเนียบที่วอชิงตัน อันที่จริงอเมริกาน่าจะพอใจ ที่ได้บิน นาเนฟ ที่อเมริกาชื่นชมนักหนาว่าปราบพวกบิน ลาเดน จนหดหายหมดไปจากซาอุดิอารเบีย แต่ทำไมข่าวนี้ทำให้อเมริกาออกงิ้ว แถมเป็นงิ้วใบ้ ออกท่า แต่ไม่ออกเสียงให้คนนอกทำเนียบได้ยินมากนัก สงสัยอะไรคงจุกอยู่ในอกจนพูดไม่ออก ที่จุกอกอเมริกา น่าจะเป็นการตั้งไก่อ่อนมาเป็นมงกุฏราชกุมารลำดับ 2 นั่นแหละ อเมริการู้นิสัยซาอุดิอารเบียดีว่า มักจะมีเรื่องต่อว่า เพื่อต่อรอง หรือประท้วงอเมริกาเสมอ แต่อเมริกา ที่เบ่งได้กับทั้งโลก แต่เบ่งไม่ออกกับซาอุดิอารเบียหรอกครับ การเปลี่ยนตัวมงกุฏราชกุมาร โดยเอาลูกชายขึ้นมาเป็นมงกุฏราชกุมารอันดับ 2 คุมทั้งกลาโหม เป็น “เกม” ที่กษัตริย์ซัลมานกำลัง “เล่น” ใส่อเมริกา ที่ช่วงนั่น ประมาณเดือนมีนา เมษา ถ้าจำกันได้ อเมริกาพยายามที่จะสรุปเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ท่ามกลางเสียงค้านมาจากรอบทิศ โดยเฉพาะ จากซาอุดิอารเบียและอิสราเอล เพราะจะทำให้อิหร่านติดปีก ได้เปรียบคู่แข่งทั้ง 2 ในตะวันออกกลาง ทั้งซาอุ ทั้งอิสราเอล ประสานเสียงประท้วงใบตองแห้ง แต่ใบตองแห้งทำไขสือ ซาอุดิอารเบีย จึงประท้วง หรือประชด ด้วยการแต่งตั้งลูกชายวัยละอ่อนมานั่งคุมอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญของซาอุดิอา รเบีย โดย ” ไม่ปรึกษา” อเมริกา มึงไม่ฟังกู กูก็ไม่ฟังมึง แน่จริงๆ มีน้ำมันมาก ทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด ไม่ถูกด่า แต่ในฐานะพี่เบิ้มใบตองแห้ง จะให้คนขี่อูฐมาขู่แฟดจนชาวโลกหัวร่อเย้ย คงเสียหน้าเอาเรื่อง อเมริกาก็เลยต้องตอบโต้บ้าง ในระดับกำลังดีว่า ซาอุดิอารเบีย กำลังลงเหว จากการตัดสินใจของตัวเอง น่าเอ็นดูนะครับ ด่ากลับ ได้เจ็บจัง ฮาชะมัด สรุปว่า ข่าวลือในช่วงปลายเมษายนต่อต้นพฤษภาคม เกี่ยวกับราชวงศ์ และ เรื่องการถล่มเยเมนของซาอุดิอารเบีย น่าจะเป็นสงครามน้ำลาย ระหว่าง คู่รัก คู่ขุด (น้ำมัน) แต่ข่าวลือชุด 2 ที่ออกมาช่วงปลายเดือนกันยายน เกี่ยวกับเรื่อง จะทำการปฏิวัติโค่นกษัตริย์ซัลมานบ้าง เรื่องพวกราชวงศ์เองทำหนังสือประท้วงกษัตริย์ ไม่พอใจการแต่งตั้งลูกชาย ไม่พอใจเรื่องนโยบายน้ำมัน ไม่พอใจเรื่องรบในเยเมนที่ไม่เห็นทางว่าชนะ ฯลฯ ข่าวลือชุดนี้ต่างหาก ที่น่าสนใจ และบอกเล่า หลายอย่าง เกี่ยวกับสภาพของอเมริกา และซาอุดิอารเบีย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 ต.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 1

    “ข่าวลือ ข่าวลวง’
    ตอนสุดท้าย ( มี 5 ตอน)
    ตอนสุดท้าย 1
    ตกลงข่าวเรื่องกษัตริย์ซาลมานป่วยหนัก รวมทั้งข่าวปฏิวัติในซาอุดิอารเบีย ที่ออกมาเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ มันเป็นข่าวลือ ข่าวลวง โดยใคร และ หวังผลอะไร
    ข่าวที่ว่ากษัตริย์ป่วยหนัก ถึงขนาดไม่รู้ตัว ความจำเสื่อม ทำร้ายตัวเอง จนต้องเอาเข้าไปรักษาตัวในโรง พยาบาล น่าจะเป็นข่าวลือแบบโคมลอย จากผู้ที่ไม่ประสงค์ดี ต่อทั้งตัวกษัตริย์เอง ราชวงศ์ และประเทศซาอุดิอารเบีย เพราะจริงๆแล้ว เมื่อ 2 วันนี้เอง มีข่าวว่ากษัตริย์ซาลมานเพิ่งพูดโทรศัพท์กับคุณพี่ปูตินของรัสเซีย เกี่ยวกับเรื่องซีเรีย และอื่นๆ
    ใครล่ะ ที่จะได้ประโยชน์จากข่าวลือทำนองนี้ ก็เป็นได้ทั้งจากภายในซาอุเอง จากฝ่ายที่เสียประโยชน์เสียอำนาจ ที่มีตั้งแต่พวกราชวงศ์ด้วยกัน และ ไม่ใช่พวกราชวงศ์ แต่เคยมีอำนาจและเสียอำนาจ จากคำสั่งของกษัตริย์ซาลมาน ที่เปลี่ยนแปลงผู้มีหน้าที่สำคัญหลายคน ทั้งในเดือนมกราคม และเดือนเมษายน
    ส่วนจากภายนอกประเทศ อเมริกาคงไม่แคล้วตกเป็นจำเลย ตัวการให้ปล่อยข่าว เพราะสื่อที่ลงข่าวลือ รายแรกคืออิสราเอล ตามมาด้วยสื่อในตะวันออกกลางและสื่ออังกฤษ ก็เป็นพรรคพวกของของอเมริการะดับชั้นต่างๆ ทั้งนั้น
    ถ้าอเมริกาให้ปล่อยข่าวลือ หรือข่าวลวงนี้ แปลว่า อเมริกาต้องมีความไม่พอใจหรือ ต้องการกดดัน ซาอุดิอารเบีย ถ้าพิจารณาจาก บทความของคุณซีไอเอเขี้ยวยาวแล้ว คงพอเห็นอาการเฟืองขัดเกลียวบิ่น ระหว่างซาอุดิ อารเบียกับอเมริกา ค่อนข้างชัดเจน แม้คำชม หรือคำบอกเล่า ก็ยังมีการแฝงหลายนัย เกินกว่าที่จะแปลว่า เขารักกันจริง คงเป็นแค่ ยังทิ้งกันไม่ได้มากกว่า
    และถ้ามีความไม่พอใจ อเมริกาไม่พอใจซาอุดิอารเบีย เกี่ยวกับการเรื่องราชวงศ์ หรือไม่พอใจ ที่ซาอุดิอารเบีย ไปถล่มเยเมน หรืออเมริกาไม่พอใจ ทั้ง 2 เรื่อง
    คงต้องทำความเข้าใจ กับวิธีการคิดของอเมริกาเสียก่อน อเมริกาไม่ได้สนใจการเปลี่ยนแปลงในซาอุดิอารเบียว่า จะดีหรือไม่ดีกับซาอุดิอารเบียอย่างไร อเมริกามองกลับทางว่า การเปลี่ยนแปลงนั้น กระทบกับผลประโยชน์ตัวเองหรือไม่ อย่างไร มากกว่า และด้วยความคิดอย่างนี้ อเมริกาจึงให้ความ “สนใจ” กับความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับราชวงศ์ ซาอุดิอารเบียในระดับสูงมาก เพราะราชวงศ์ซาอูด คือ “อำนาจ” ของซาอุดิอารเบีย และอเมริกา กับซาอุดิอารเบีย ก็มีเรื่องเกี่ยวพันกันมากมาย การเปลี่ยนแปลงของ “อำนาจ” ในซาอุดิอารเบีย จึงอาจจะกระทบกับอเมริกามาก มันไม่ใช่เรื่องอเมริกา ชอบ ไม่ชอบใคร
    จะว่าไป อเมริกาก็สนใจมองความเปลี่ยนแปลง ในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเกี่ยวกับ “อำนาจ” ของทุกประเทศ ในวิธีคิดอย่างนี้แหละ สนใจมากน้อย ก็แล้วแต่ “ประโยชน์” ที่อเมริกาจะได้จะเสียในประเทศนั้น มีมากน้อยแค่ไหน และถ้าเราไม่ทำความเข้าใจในความคิดนี้ หรือ “สันดาน” ที่แท้จริงของอเมริกาว่าเป็นอย่างนี้ เราก็คงจะสับสน ไม่เข้าใจพฤติกรรมของอเมริกา และเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญ ถ้าเรื่องนั้นมาเกี่ยวกับบ้านเรา และเราสับสนในพฤติกรรมและสันดานของอเมริกาแล้ว เราก็ไม่แคล้ว ที่จะตกเป็นเหยื่อ หรือ ถูกใช้เป็นพรมเช็ดเท้าของอเมริกา อย่างที่เป็นๆกัน
    เริ่มที่ผู้ปกครองคนใหม่ของซาอุดิอารเบีย ไม่ว่าบทความจะเขียนโดยใคร จากถังขยะความคิด หรือหน่วยงานใดของรัฐบาลอเมริกัน สิ่งที่สรุปได้ คือ อเมริกาอยากรู้ว่า จะพูดกับคนที่มาใหม่รู้เรื่องไหม คนมาใหม่ เชื่อฟังอเมริกาแค่ไหน นโยบายใหม่ของคนใหม่ สอดคล้องกับความต้องการของอเมริกาไหม หรือเอาให้ชัดๆ อเมริกา จะ “สั่ง” หรือ “กำกับ” คนปกครองใหม่ ได้มากน้อยแค่ไหน
    เมื่อขึ้นครองราชย์ในเดือนมกราคม ต้นปี ค.ศ.2015 กษัตริย์ซาลมานอายุ 79 ปีแล้ว อเมริกาจึงมองไปที่มงกุฏราชกุมาร อันดับ 1 และอันดับ 2 กับตำแหน่งสำคัญๆ เช่น รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีต่างประเทศ ผู้ที่คุมความมั่นคง และผู้ที่คุมนโยบายน้ำมันของซาอุดิอารเบีย เพราะตำแหน่งเหล่านี้ มีผลกระทบกับผลประโยชน์ของอเมริกา ทั้งในซาอุดิอารเบีย และในอเมริกาเองด้วย (หมายเหตุ: ตามธรรมเนียม กษัตริย์ซาอุดิอารเบียจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเอง)
    สำหรับเจ้าชายมุคริน อายุ 70 ปี มงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 1 อเมริกาคุ้นเคยดี และเห็นว่า “คุย” กันได้ น่าจะมีแนวคิดปฏิรูป ตามที่อเมริกาต้องการ
    มงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 2 เจ้าชาย บิน นาเยฟ อายุ 55 ปี อเมริกาก็คุ้นเคยอีก แม้จะไม่ชอบพ่อ แต่คิดว่า คุยกับลูกได้
    รัฐมนตรีส่วนใหญ่ไม่มีเปลี่ยนแปลง มีเพียงด้านความมั่นคง ที่กษัตริย์ซาลมาน แต่งตั้งให้ลูกชาย คือ เจ้าชาย บิน ซาลมาน คุมด้านความมั่นคง อเมริกาบอก เป็นไก่อ่อน ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่อเมริกาก็ยังไม่ขยับอะไร เพราะอาจสั่งไก่อ่อนซ้ายหัน ขวาหันง่ายดี
    กษัตริย์ใหม่ครองราชย์ยังไม่ถึง 3 เดือนดี ปลายเดือนมีนาคม ค.ศ.2015 ซาอุดิอารเบีย ก็สั่งรวมพล พรรคพวก มีอียิปต์ มอรอคโค จอร์แดน อามิเรต คูเวต การ์ตา บาห์เรน รวมไปถึงซูดาน เพื่อโจมตีพวกฮูตติ ที่ยึดครองเยเมนได้ จากสงครามกลางเมืองในเยเมนที่ยืดเยื้อมาปีกว่า และไล่รัฐบาลเยเมน ที่ซาอุสนับสนุนกระเจิงออกไป
    ซาอุดิอารเบีย ยอมให้พวกฮูตติครอบครองเยเมนไม่ได้ เพราะพวกฮูตตินี้ ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน คู่แข่งสำคัญของซาอุดิ และเยเมนก็อยู่ติดกับซาอุดิอารเบีย ขนาดมองเห็นขนจมูกกัน วันที่ 26 มีนาคม ซาอุอารเบีย จึงสั่งยิงจรวดใส่ฐานทัพอากาศของฮูตติ ที่เมือง Taiz และเมือง Sa’dah
    การยิงจรวดถล่มเยเมน รายการดังกล่าว อเมริการู้เรื่องดี เพราะเป็นคนให้ข้อมูลข่าวกรอง และบอกสภาพพื้นที่แก่ซาอุดิอารเบีย อย่างนี้น่าจะไม่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนเรื่องเป็นประชาธิปไตย ไม่ต้องพูด เพราะพวกราชวงศ์ซาอูดบอกแล้วว่า ยังไม่อยากเป็นเหมือนควีนเอลิ ซาเบธของอังกฤษ รัฐธรรมนูญก็ยังไม่รู้จัก แต่ก็ไม่เป็นไร มีน้ำมันแยะแบบนี้ จะทำอะไรก็ได้ อเมริกาไม่สั่งคว่ำบาตร ไม่ตัดสัมพันธ์ ไม่เดินสายให้นานาชาติช่วยกันด่า แน่นอน รักกันฉิบหายเลย
    คุณทหารช่วยจำไว้นะครับ เคลื่อนทัพคราวหน้า อย่าทำแค่ปฏิวัติ ปิดช่องแคบมะละกามันด้วยเลย หมดเรื่อง
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 1 “ข่าวลือ ข่าวลวง’ ตอนสุดท้าย ( มี 5 ตอน) ตอนสุดท้าย 1 ตกลงข่าวเรื่องกษัตริย์ซาลมานป่วยหนัก รวมทั้งข่าวปฏิวัติในซาอุดิอารเบีย ที่ออกมาเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ มันเป็นข่าวลือ ข่าวลวง โดยใคร และ หวังผลอะไร ข่าวที่ว่ากษัตริย์ป่วยหนัก ถึงขนาดไม่รู้ตัว ความจำเสื่อม ทำร้ายตัวเอง จนต้องเอาเข้าไปรักษาตัวในโรง พยาบาล น่าจะเป็นข่าวลือแบบโคมลอย จากผู้ที่ไม่ประสงค์ดี ต่อทั้งตัวกษัตริย์เอง ราชวงศ์ และประเทศซาอุดิอารเบีย เพราะจริงๆแล้ว เมื่อ 2 วันนี้เอง มีข่าวว่ากษัตริย์ซาลมานเพิ่งพูดโทรศัพท์กับคุณพี่ปูตินของรัสเซีย เกี่ยวกับเรื่องซีเรีย และอื่นๆ ใครล่ะ ที่จะได้ประโยชน์จากข่าวลือทำนองนี้ ก็เป็นได้ทั้งจากภายในซาอุเอง จากฝ่ายที่เสียประโยชน์เสียอำนาจ ที่มีตั้งแต่พวกราชวงศ์ด้วยกัน และ ไม่ใช่พวกราชวงศ์ แต่เคยมีอำนาจและเสียอำนาจ จากคำสั่งของกษัตริย์ซาลมาน ที่เปลี่ยนแปลงผู้มีหน้าที่สำคัญหลายคน ทั้งในเดือนมกราคม และเดือนเมษายน ส่วนจากภายนอกประเทศ อเมริกาคงไม่แคล้วตกเป็นจำเลย ตัวการให้ปล่อยข่าว เพราะสื่อที่ลงข่าวลือ รายแรกคืออิสราเอล ตามมาด้วยสื่อในตะวันออกกลางและสื่ออังกฤษ ก็เป็นพรรคพวกของของอเมริการะดับชั้นต่างๆ ทั้งนั้น ถ้าอเมริกาให้ปล่อยข่าวลือ หรือข่าวลวงนี้ แปลว่า อเมริกาต้องมีความไม่พอใจหรือ ต้องการกดดัน ซาอุดิอารเบีย ถ้าพิจารณาจาก บทความของคุณซีไอเอเขี้ยวยาวแล้ว คงพอเห็นอาการเฟืองขัดเกลียวบิ่น ระหว่างซาอุดิ อารเบียกับอเมริกา ค่อนข้างชัดเจน แม้คำชม หรือคำบอกเล่า ก็ยังมีการแฝงหลายนัย เกินกว่าที่จะแปลว่า เขารักกันจริง คงเป็นแค่ ยังทิ้งกันไม่ได้มากกว่า และถ้ามีความไม่พอใจ อเมริกาไม่พอใจซาอุดิอารเบีย เกี่ยวกับการเรื่องราชวงศ์ หรือไม่พอใจ ที่ซาอุดิอารเบีย ไปถล่มเยเมน หรืออเมริกาไม่พอใจ ทั้ง 2 เรื่อง คงต้องทำความเข้าใจ กับวิธีการคิดของอเมริกาเสียก่อน อเมริกาไม่ได้สนใจการเปลี่ยนแปลงในซาอุดิอารเบียว่า จะดีหรือไม่ดีกับซาอุดิอารเบียอย่างไร อเมริกามองกลับทางว่า การเปลี่ยนแปลงนั้น กระทบกับผลประโยชน์ตัวเองหรือไม่ อย่างไร มากกว่า และด้วยความคิดอย่างนี้ อเมริกาจึงให้ความ “สนใจ” กับความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับราชวงศ์ ซาอุดิอารเบียในระดับสูงมาก เพราะราชวงศ์ซาอูด คือ “อำนาจ” ของซาอุดิอารเบีย และอเมริกา กับซาอุดิอารเบีย ก็มีเรื่องเกี่ยวพันกันมากมาย การเปลี่ยนแปลงของ “อำนาจ” ในซาอุดิอารเบีย จึงอาจจะกระทบกับอเมริกามาก มันไม่ใช่เรื่องอเมริกา ชอบ ไม่ชอบใคร จะว่าไป อเมริกาก็สนใจมองความเปลี่ยนแปลง ในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเกี่ยวกับ “อำนาจ” ของทุกประเทศ ในวิธีคิดอย่างนี้แหละ สนใจมากน้อย ก็แล้วแต่ “ประโยชน์” ที่อเมริกาจะได้จะเสียในประเทศนั้น มีมากน้อยแค่ไหน และถ้าเราไม่ทำความเข้าใจในความคิดนี้ หรือ “สันดาน” ที่แท้จริงของอเมริกาว่าเป็นอย่างนี้ เราก็คงจะสับสน ไม่เข้าใจพฤติกรรมของอเมริกา และเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญ ถ้าเรื่องนั้นมาเกี่ยวกับบ้านเรา และเราสับสนในพฤติกรรมและสันดานของอเมริกาแล้ว เราก็ไม่แคล้ว ที่จะตกเป็นเหยื่อ หรือ ถูกใช้เป็นพรมเช็ดเท้าของอเมริกา อย่างที่เป็นๆกัน เริ่มที่ผู้ปกครองคนใหม่ของซาอุดิอารเบีย ไม่ว่าบทความจะเขียนโดยใคร จากถังขยะความคิด หรือหน่วยงานใดของรัฐบาลอเมริกัน สิ่งที่สรุปได้ คือ อเมริกาอยากรู้ว่า จะพูดกับคนที่มาใหม่รู้เรื่องไหม คนมาใหม่ เชื่อฟังอเมริกาแค่ไหน นโยบายใหม่ของคนใหม่ สอดคล้องกับความต้องการของอเมริกาไหม หรือเอาให้ชัดๆ อเมริกา จะ “สั่ง” หรือ “กำกับ” คนปกครองใหม่ ได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อขึ้นครองราชย์ในเดือนมกราคม ต้นปี ค.ศ.2015 กษัตริย์ซาลมานอายุ 79 ปีแล้ว อเมริกาจึงมองไปที่มงกุฏราชกุมาร อันดับ 1 และอันดับ 2 กับตำแหน่งสำคัญๆ เช่น รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีต่างประเทศ ผู้ที่คุมความมั่นคง และผู้ที่คุมนโยบายน้ำมันของซาอุดิอารเบีย เพราะตำแหน่งเหล่านี้ มีผลกระทบกับผลประโยชน์ของอเมริกา ทั้งในซาอุดิอารเบีย และในอเมริกาเองด้วย (หมายเหตุ: ตามธรรมเนียม กษัตริย์ซาอุดิอารเบียจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเอง) สำหรับเจ้าชายมุคริน อายุ 70 ปี มงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 1 อเมริกาคุ้นเคยดี และเห็นว่า “คุย” กันได้ น่าจะมีแนวคิดปฏิรูป ตามที่อเมริกาต้องการ มงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 2 เจ้าชาย บิน นาเยฟ อายุ 55 ปี อเมริกาก็คุ้นเคยอีก แม้จะไม่ชอบพ่อ แต่คิดว่า คุยกับลูกได้ รัฐมนตรีส่วนใหญ่ไม่มีเปลี่ยนแปลง มีเพียงด้านความมั่นคง ที่กษัตริย์ซาลมาน แต่งตั้งให้ลูกชาย คือ เจ้าชาย บิน ซาลมาน คุมด้านความมั่นคง อเมริกาบอก เป็นไก่อ่อน ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่อเมริกาก็ยังไม่ขยับอะไร เพราะอาจสั่งไก่อ่อนซ้ายหัน ขวาหันง่ายดี กษัตริย์ใหม่ครองราชย์ยังไม่ถึง 3 เดือนดี ปลายเดือนมีนาคม ค.ศ.2015 ซาอุดิอารเบีย ก็สั่งรวมพล พรรคพวก มีอียิปต์ มอรอคโค จอร์แดน อามิเรต คูเวต การ์ตา บาห์เรน รวมไปถึงซูดาน เพื่อโจมตีพวกฮูตติ ที่ยึดครองเยเมนได้ จากสงครามกลางเมืองในเยเมนที่ยืดเยื้อมาปีกว่า และไล่รัฐบาลเยเมน ที่ซาอุสนับสนุนกระเจิงออกไป ซาอุดิอารเบีย ยอมให้พวกฮูตติครอบครองเยเมนไม่ได้ เพราะพวกฮูตตินี้ ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน คู่แข่งสำคัญของซาอุดิ และเยเมนก็อยู่ติดกับซาอุดิอารเบีย ขนาดมองเห็นขนจมูกกัน วันที่ 26 มีนาคม ซาอุอารเบีย จึงสั่งยิงจรวดใส่ฐานทัพอากาศของฮูตติ ที่เมือง Taiz และเมือง Sa’dah การยิงจรวดถล่มเยเมน รายการดังกล่าว อเมริการู้เรื่องดี เพราะเป็นคนให้ข้อมูลข่าวกรอง และบอกสภาพพื้นที่แก่ซาอุดิอารเบีย อย่างนี้น่าจะไม่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนเรื่องเป็นประชาธิปไตย ไม่ต้องพูด เพราะพวกราชวงศ์ซาอูดบอกแล้วว่า ยังไม่อยากเป็นเหมือนควีนเอลิ ซาเบธของอังกฤษ รัฐธรรมนูญก็ยังไม่รู้จัก แต่ก็ไม่เป็นไร มีน้ำมันแยะแบบนี้ จะทำอะไรก็ได้ อเมริกาไม่สั่งคว่ำบาตร ไม่ตัดสัมพันธ์ ไม่เดินสายให้นานาชาติช่วยกันด่า แน่นอน รักกันฉิบหายเลย คุณทหารช่วยจำไว้นะครับ เคลื่อนทัพคราวหน้า อย่าทำแค่ปฏิวัติ ปิดช่องแคบมะละกามันด้วยเลย หมดเรื่อง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 ต.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 12 Views 0 Reviews
  • ศุกร์สีฟ้า "เปิดฟ้าใหม่" ฟังเสียงคนไทยไม่ทน : [THE MESSAGE]
    ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เผยถึงการเปิดตัวแคมเปญ ศุกร์สีฟ้า “เปิดฟ้าใหม่” ช่วยกันส่งเสียงว่าประเทศไทยจะไม่ทน เป็นแคมเปญแรกของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผ่านมาการเมืองสีเทาทำให้คนไทยถูกทอดทิ้ง ประชาธิปัตย์จึงอยากเชิญทุกคนมาร่วมสร้างการเมืองที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยใน 2-3 วันนี้ พรรคจะรณรงค์เปิดโพลรับฟังเสียงจากประชาชนว่า สิ่งที่แต่ละคนต้องทนในอดีตมีอะไรบ้าง และจะไม่ทนกับอะไรอีกต่อไป ซึ่งวันที่ 22 ธ.ค. นี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นผู้นำแถลงสิ่งที่พรรคจะดำเนินการต่อ ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ ต้องเป็นสมาชิกพรรค มองแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของทุกพรรคมีความหลากหลาย หลายพรรคยังไม่มีความชัดเจน สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์นำเสนอ ครอบคลุมทุกมิติ มองว่า “ไม่แพ้แน่นอน” แคนดิเดตพรรคประชาธิปัตย์สามารถทำภารกิจสำคัญของประเทศชาติได้อย่างดี
    ศุกร์สีฟ้า "เปิดฟ้าใหม่" ฟังเสียงคนไทยไม่ทน : [THE MESSAGE] ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เผยถึงการเปิดตัวแคมเปญ ศุกร์สีฟ้า “เปิดฟ้าใหม่” ช่วยกันส่งเสียงว่าประเทศไทยจะไม่ทน เป็นแคมเปญแรกของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผ่านมาการเมืองสีเทาทำให้คนไทยถูกทอดทิ้ง ประชาธิปัตย์จึงอยากเชิญทุกคนมาร่วมสร้างการเมืองที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยใน 2-3 วันนี้ พรรคจะรณรงค์เปิดโพลรับฟังเสียงจากประชาชนว่า สิ่งที่แต่ละคนต้องทนในอดีตมีอะไรบ้าง และจะไม่ทนกับอะไรอีกต่อไป ซึ่งวันที่ 22 ธ.ค. นี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นผู้นำแถลงสิ่งที่พรรคจะดำเนินการต่อ ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ ต้องเป็นสมาชิกพรรค มองแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของทุกพรรคมีความหลากหลาย หลายพรรคยังไม่มีความชัดเจน สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์นำเสนอ ครอบคลุมทุกมิติ มองว่า “ไม่แพ้แน่นอน” แคนดิเดตพรรคประชาธิปัตย์สามารถทำภารกิจสำคัญของประเทศชาติได้อย่างดี
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.47

    คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถือเป็นองค์กรที่มีสถานะทางกฎหมายระหว่างประเทศที่โดดเด่นและมีอำนาจหน้าที่สูงสุดในเชิงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงมวลมนุษยชาติภายใต้อาณัติของกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งเปรียบเสมือนธรรมนูญสูงสุดของประชาคมโลก ความแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่งซึ่งทำให้องค์กรนี้มีความพิเศษกว่าองค์กรอื่นในระบบสหประชาชาติคืออำนาจในการออกข้อมติที่มีผลผูกพันทางกฎหมายต่อรัฐสมาชิกทั้งหมดตามมาตรายี่สิบห้าแห่งกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งระบุให้รัฐสมาชิกตกลงยอมรับและปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะมนตรีความมั่นคง อันเป็นการโอนอ่อนอำนาจอธิปไตยบางส่วนในเชิงความมั่นคงมาไว้ที่การตัดสินใจร่วมกันในระดับพหุภาคีเพื่อป้องกันมิให้เกิดความขัดแย้งลุกลามจนกลายเป็นสงครามวงกว้าง โดยโครงสร้างทางกฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างอำนาจของรัฐมหาอำนาจที่มีสถานะเป็นสมาชิกถาวรห้าประเทศกับสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งอีกสิบประเทศ แม้ว่าในเชิงนิติศาสตร์มักมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เท่าเทียมจากสิทธิยับยั้งหรือวีโต้ที่สมาชิกถาวรครอบครองอยู่แต่ในอีกมุมหนึ่งโครงสร้างนี้คือกลไกเชิงประจักษ์ที่รักษาเสถียรภาพระหว่างมหาอำนาจเพื่อไม่ให้ระบบกฎหมายโลกพังทลายลงเหมือนเช่นในอดีต

    กระบวนการบังคับใช้กฎหมายของคณะมนตรีความมั่นคงนั้นดำเนินไปตามลำดับขั้นตอนที่ระบุไว้ในหมวดที่หกและหมวดที่เจ็ดของกฎบัตรสหประชาชาติโดยเริ่มต้นจากการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีผ่านการสืบสวนและการประนีประนอมแต่หากสถานการณ์บานปลายจนกลายเป็นการคุกคามต่อสันติภาพหรือการกระทำอันเป็นการรุกรานคณะมนตรีความมั่นคงมีอำนาจตามหมวดที่เจ็ดในการใช้มาตรการบังคับซึ่งรวมถึงมาตรการที่มิใช่การใช้กำลังทางทหารเช่นการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการจำกัดการคมนาคมขนส่งไปจนถึงมาตรการขั้นสูงสุดคือการอนุญาตให้ใช้กำลังทางทหารเพื่อรักษาสันติภาพกลับคืนมาการตัดสินใจเหล่านี้ต้องผ่านกระบวนการตีความกฎหมายและการประเมินข้อเท็จจริงอย่างถี่ถ้วนเนื่องจากมีผลกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ของรัฐอธิปไตยอย่างรุนแรงอำนาจหน้าที่เชิงนิติบัญญัติและนิติบริหารของคณะมนตรีความมั่นคงจึงถือเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการกำหนดทิศทางของกฎหมายระหว่างประเทศสมัยใหม่ซึ่งรวมไปถึงการกำหนดนิยามของการก่อการร้ายและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในระดับร้ายแรงที่ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงสากล

    บทสรุปของบทบาทคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในมิติทางกฎหมายจึงมิได้เป็นเพียงแค่เวทีสำหรับการเจรจาต่อรองทางการเมืองเท่านั้นแต่คือเสาหลักของการบังคับใช้ระเบียบโลกที่อาศัยหลักนิติธรรมเป็นเครื่องนำทางท่ามกลางความผันผวนของภูมิรัฐศาสตร์โลกในปัจจุบันแม้ว่าความท้าทายใหม่ๆเช่นอาชญากรรมทางไซเบอร์หรือความขัดแย้งในรูปแบบพันทางจะขยายขอบเขตออกไปเกินกว่าที่ผู้ร่างกฎบัตรเมื่อแปดสิบปีก่อนจะคาดคิดแต่คณะมนตรีความมั่นคงยังคงต้องปรับตัวและตีความกฎหมายที่มีอยู่ให้สอดรับกับพลวัตของโลกเพื่อให้มั่นใจว่าเจตนารมณ์สูงสุดในการพิทักษ์สันติภาพจะยังคงศักดิ์สิทธิ์และมีผลในทางปฏิบัติอย่างยั่งยืนสืบไปความสำเร็จขององค์กรนี้จึงขึ้นอยู่กับความร่วมมือของรัฐสมาชิกในการปฏิบัติตามพันธกรณีทางกฎหมายและการเคารพในมติที่ออกมาเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวมของมวลมนุษยชาติมากกว่าผลประโยชน์เฉพาะหน้าของรัฐใดรัฐหนึ่งเพียงลำพังอันจะเป็นรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในเวทีโลกอย่างแท้จริง
    บทความกฎหมาย EP.47 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถือเป็นองค์กรที่มีสถานะทางกฎหมายระหว่างประเทศที่โดดเด่นและมีอำนาจหน้าที่สูงสุดในเชิงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงมวลมนุษยชาติภายใต้อาณัติของกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งเปรียบเสมือนธรรมนูญสูงสุดของประชาคมโลก ความแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่งซึ่งทำให้องค์กรนี้มีความพิเศษกว่าองค์กรอื่นในระบบสหประชาชาติคืออำนาจในการออกข้อมติที่มีผลผูกพันทางกฎหมายต่อรัฐสมาชิกทั้งหมดตามมาตรายี่สิบห้าแห่งกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งระบุให้รัฐสมาชิกตกลงยอมรับและปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะมนตรีความมั่นคง อันเป็นการโอนอ่อนอำนาจอธิปไตยบางส่วนในเชิงความมั่นคงมาไว้ที่การตัดสินใจร่วมกันในระดับพหุภาคีเพื่อป้องกันมิให้เกิดความขัดแย้งลุกลามจนกลายเป็นสงครามวงกว้าง โดยโครงสร้างทางกฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างอำนาจของรัฐมหาอำนาจที่มีสถานะเป็นสมาชิกถาวรห้าประเทศกับสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งอีกสิบประเทศ แม้ว่าในเชิงนิติศาสตร์มักมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เท่าเทียมจากสิทธิยับยั้งหรือวีโต้ที่สมาชิกถาวรครอบครองอยู่แต่ในอีกมุมหนึ่งโครงสร้างนี้คือกลไกเชิงประจักษ์ที่รักษาเสถียรภาพระหว่างมหาอำนาจเพื่อไม่ให้ระบบกฎหมายโลกพังทลายลงเหมือนเช่นในอดีต กระบวนการบังคับใช้กฎหมายของคณะมนตรีความมั่นคงนั้นดำเนินไปตามลำดับขั้นตอนที่ระบุไว้ในหมวดที่หกและหมวดที่เจ็ดของกฎบัตรสหประชาชาติโดยเริ่มต้นจากการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีผ่านการสืบสวนและการประนีประนอมแต่หากสถานการณ์บานปลายจนกลายเป็นการคุกคามต่อสันติภาพหรือการกระทำอันเป็นการรุกรานคณะมนตรีความมั่นคงมีอำนาจตามหมวดที่เจ็ดในการใช้มาตรการบังคับซึ่งรวมถึงมาตรการที่มิใช่การใช้กำลังทางทหารเช่นการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการจำกัดการคมนาคมขนส่งไปจนถึงมาตรการขั้นสูงสุดคือการอนุญาตให้ใช้กำลังทางทหารเพื่อรักษาสันติภาพกลับคืนมาการตัดสินใจเหล่านี้ต้องผ่านกระบวนการตีความกฎหมายและการประเมินข้อเท็จจริงอย่างถี่ถ้วนเนื่องจากมีผลกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ของรัฐอธิปไตยอย่างรุนแรงอำนาจหน้าที่เชิงนิติบัญญัติและนิติบริหารของคณะมนตรีความมั่นคงจึงถือเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการกำหนดทิศทางของกฎหมายระหว่างประเทศสมัยใหม่ซึ่งรวมไปถึงการกำหนดนิยามของการก่อการร้ายและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในระดับร้ายแรงที่ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงสากล บทสรุปของบทบาทคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในมิติทางกฎหมายจึงมิได้เป็นเพียงแค่เวทีสำหรับการเจรจาต่อรองทางการเมืองเท่านั้นแต่คือเสาหลักของการบังคับใช้ระเบียบโลกที่อาศัยหลักนิติธรรมเป็นเครื่องนำทางท่ามกลางความผันผวนของภูมิรัฐศาสตร์โลกในปัจจุบันแม้ว่าความท้าทายใหม่ๆเช่นอาชญากรรมทางไซเบอร์หรือความขัดแย้งในรูปแบบพันทางจะขยายขอบเขตออกไปเกินกว่าที่ผู้ร่างกฎบัตรเมื่อแปดสิบปีก่อนจะคาดคิดแต่คณะมนตรีความมั่นคงยังคงต้องปรับตัวและตีความกฎหมายที่มีอยู่ให้สอดรับกับพลวัตของโลกเพื่อให้มั่นใจว่าเจตนารมณ์สูงสุดในการพิทักษ์สันติภาพจะยังคงศักดิ์สิทธิ์และมีผลในทางปฏิบัติอย่างยั่งยืนสืบไปความสำเร็จขององค์กรนี้จึงขึ้นอยู่กับความร่วมมือของรัฐสมาชิกในการปฏิบัติตามพันธกรณีทางกฎหมายและการเคารพในมติที่ออกมาเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวมของมวลมนุษยชาติมากกว่าผลประโยชน์เฉพาะหน้าของรัฐใดรัฐหนึ่งเพียงลำพังอันจะเป็นรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในเวทีโลกอย่างแท้จริง
    0 Comments 0 Shares 42 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251218 #securityonline


    Mozilla เปิดยุคใหม่: Firefox เตรียมกลายเป็นเบราว์เซอร์พลัง AI
    Mozilla ประกาศแผนการใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Anthony Enzor-DeMeo ที่จะเปลี่ยน Firefox จากเบราว์เซอร์แบบดั้งเดิมให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI จุดมุ่งหมายคือการทำให้ Firefox ไม่ใช่แค่เครื่องมือท่องเว็บ แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่เข้าใจผู้ใช้และสามารถปรับแต่งประสบการณ์ออนไลน์ได้อย่างลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Mozilla ที่จะกลับมาแข่งขันในตลาดเบราว์เซอร์ที่ถูกครอบงำโดย Chrome และ Edge
    https://securityonline.info/mozillas-new-chapter-ceo-anthony-enzor-demeo-to-transform-firefox-into-an-ai-powered-powerhouse

    Let’s Encrypt ปรับระบบ TLS ใหม่: ใบรับรองสั้นลงเหลือ 45 วัน
    Let’s Encrypt ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการออกใบรับรอง TLS โดยลดอายุการใช้งานจาก 90 วันเหลือเพียง 45 วัน พร้อมเปิดตัวโครงสร้างใหม่ที่เรียกว่า Generation Y Hierarchy และการรองรับ TLS แบบใช้ IP โดยตรง การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากใบรับรองที่ถูกขโมยหรือไม่ได้อัปเดต และทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แม้จะเพิ่มภาระให้ผู้ดูแลระบบ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเว็บทั่วโลก
    https://securityonline.info/the-45-day-era-begins-lets-encrypt-unveils-generation-y-hierarchy-and-ip-based-tls

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Commons Text เสี่ยงถูกยึดเซิร์ฟเวอร์
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในไลบรารี Java ที่ชื่อ Apache Commons Text ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในการจัดการข้อความ ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-46295 และมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 เต็ม 10 จุดอันตรายอยู่ที่ฟังก์ชัน string interpolation ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาและทำให้เกิดการรันคำสั่งจากระยะไกลได้ ลักษณะนี้คล้ายกับเหตุการณ์ Log4Shell ที่เคยสร้างความเสียหายใหญ่ในอดีต ทีมพัฒนา FileMaker Server ได้รีบแก้ไขโดยอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ที่ปลอดภัยแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่
    https://securityonline.info/cve-2025-46295-cvss-9-8-critical-apache-commons-text-flaw-risks-total-server-takeover

    หลอกด้วยใบสั่งจราจรปลอม: แอป RTO Challan ดูดข้อมูลและเงิน
    ในอินเดียมีการโจมตีใหม่ที่ใช้ความกลัวการโดนใบสั่งจราจรมาเป็นเครื่องมือ หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป “RTO Challan” ผ่าน WhatsApp โดยอ้างว่าเป็นแอปทางการเพื่อดูหลักฐานการกระทำผิด แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ซ่อนตัวและสร้าง VPN ปลอมเพื่อส่งข้อมูลออกไปโดยไม่ถูกตรวจจับ มันสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว ตั้งแต่บัตร Aadhaar, PAN ไปจนถึงข้อมูลธนาคาร และยังหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตพร้อมรหัส PIN เพื่อทำธุรกรรมปลอมแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่ผสมผสานทั้งวิศวกรรมสังคมและเทคนิคขั้นสูง ผู้ใช้ถูกเตือนให้ระวังข้อความจากเบอร์แปลกและไม่ดาวน์โหลดแอปจากลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://securityonline.info/rto-challan-scam-how-a-fake-traffic-ticket-and-a-malicious-vpn-can-drain-your-bank-account

    Node.js systeminformation พบช่องโหว่เสี่ยง RCE บน Windows
    ไลบรารีชื่อดัง systeminformation ที่ถูกดาวน์โหลดกว่า 16 ล้านครั้งต่อเดือน ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-68154 โดยเฉพาะบน Windows ฟังก์ชัน fsSize() ที่ใช้ตรวจสอบขนาดดิสก์ไม่ได้กรองข้อมูลอินพุต ทำให้ผู้โจมตีสามารถใส่คำสั่ง PowerShell แทนตัวอักษรไดรฟ์ และรันคำสั่งอันตรายได้ทันที ผลกระทบคือการเข้าควบคุมระบบ อ่านข้อมูลลับ หรือแม้กระทั่งปล่อย ransomware นักพัฒนาถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 5.27.14 ที่แก้ไขแล้วโดยด่วน
    https://securityonline.info/node-js-alert-systeminformation-flaw-risks-windows-rce-for-16m-monthly-users

    OpenAI เจรจา Amazon ขอทุนเพิ่ม 10 พันล้าน พร้อมเงื่อนไขใช้ชิป AI ของ Amazon
    มีรายงานว่า OpenAI กำลังเจรจากับ Amazon เพื่อระดมทุนมหาศาลถึง 10 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ OpenAI ต้องใช้ชิป AI ของ Amazon เช่น Trainium และ Inferentia แทนการพึ่งพา NVIDIA ที่ราคาแพงและขาดตลาด หากดีลนี้เกิดขึ้นจริงจะเป็นการพลิกเกมครั้งใหญ่ เพราะจะทำให้ Amazon ได้การยืนยันคุณภาพชิปจากผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในวงการ AI และยังช่วยให้ OpenAI ลดต้นทุนการประมวลผล ขณะเดียวกันก็สร้างสมดุลระหว่าง Microsoft และ Amazon ในการเป็นพันธมิตรด้านคลาวด์
    https://securityonline.info/the-10b-pivot-openai-in-talks-for-massive-amazon-funding-but-theres-a-silicon-catch

    Cloudflare เผยรายงานปี 2025: สงครามบอท AI และการจราจรอินเทอร์เน็ตพุ่ง 19%
    รายงานประจำปีของ Cloudflare ชี้ให้เห็นว่าปี 2025 อินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้น 19% และเกิด “สงครามบอท AI” ที่แข่งขันกันเก็บข้อมูลออนไลน์ โดย Google ครองอันดับหนึ่งด้านการเก็บข้อมูลผ่าน crawler เพื่อใช้ฝึกโมเดล AI อย่าง Gemini ขณะเดียวกันองค์กรไม่แสวงหากำไรกลับกลายเป็นเป้าหมายโจมตีไซเบอร์มากที่สุด เนื่องจากมีข้อมูลอ่อนไหวแต่ขาดทรัพยากรป้องกัน รายงานยังระบุว่ามีการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่กว่า 25 ครั้งในปีเดียว และครึ่งหนึ่งของการหยุดชะงักอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเกิดจากการกระทำของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนทั้งความก้าวหน้าและความเปราะบางของโลกออนไลน์
    https://securityonline.info/the-internet-rewired-cloudflare-2025-review-unveils-the-ai-bot-war-and-a-19-traffic-surge

    Locked Out of the Cloud: เมื่อแฮกเกอร์ใช้ AWS Termination Protection ปล้นพลังประมวลผลไปขุดคริปโต
    เรื่องนี้เป็นการโจมตีที่ซับซ้อนมากในโลกคลาวด์ แฮกเกอร์เจาะเข้ามาในระบบ AWS โดยใช้บัญชีที่ถูกขโมย แล้วรีบ deploy เครื่องขุดคริปโตภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที จุดที่น่ากลัวคือพวกเขาใช้ฟีเจอร์ DryRun เพื่อตรวจสอบสิทธิ์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และเมื่อเครื่องขุดถูกสร้างขึ้น พวกเขาเปิดการป้องกันการลบ (termination protection) ทำให้เจ้าของระบบไม่สามารถลบเครื่องได้ทันที ต้องปิดการป้องกันก่อนถึงจะจัดการได้ นั่นทำให้แฮกเกอร์มีเวลาขุดคริปโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการสร้าง backdoor ผ่าน AWS Lambda และเตรียมใช้ Amazon SES เพื่อส่งอีเมลฟิชชิ่งต่อไป เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การเจาะ AWS โดยตรง แต่เป็นการใช้ credential ที่ถูกขโมยไปอย่างชาญฉลาด
    https://securityonline.info/locked-out-of-the-cloud-hackers-use-aws-termination-protection-to-hijack-ecs-for-unstoppable-crypto-mining

    Blurred Deception: กลยุทธ์ฟิชชิ่งของกลุ่ม APT
    รัสเซียที่ใช้ “เอกสารเบลอ” กลุ่ม APT จากรัสเซียส่งอีเมลปลอมในชื่อคำสั่งจากประธานาธิบดี Transnistria โดยแนบไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทางการ แต่เนื้อหาถูกทำให้เบลอด้วย CSS filter ผู้รับจึงต้องใส่อีเมลและรหัสผ่านเพื่อ “ปลดล็อก” เอกสาร ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการหลอกขโมยข้อมูลเข้าสู่ระบบ ฟังก์ชัน JavaScript ที่ใช้ยังมีลูกเล่นคือไม่ว่ารหัสผ่านจะถูกหรือผิดก็ถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์อยู่ดี แคมเปญนี้ไม่ได้หยุดแค่ Transnistria แต่ยังขยายไปยังประเทศในยุโรปตะวันออกและหน่วยงาน NATO ด้วย ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความเร่งด่วนและความอยากรู้อยากเห็นของเหยื่อเป็นตัวล่อ
    https://securityonline.info/blurred-deception-russian-apt-targets-transnistria-and-nato-with-high-pressure-phishing-lures

    “Better Auth” Framework Alert: ช่องโหว่ Double-Slash ที่ทำให้ระบบป้องกันพัง
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Better Auth ซึ่งเป็น framework ยอดนิยมสำหรับ TypeScript ที่ใช้กันกว้างขวาง ปัญหาคือ router ภายในชื่อ rou3 มอง URL ที่มีหลาย slash เช่น //sign-in/email ว่าเหมือนกับ /sign-in/email แต่ระบบป้องกันบางอย่างไม่ได้ normalize URL แบบเดียวกัน ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง path ที่ถูกปิดไว้ หรือเลี่ยง rate limit ได้ง่าย ๆ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.6 และกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การแก้ไขคืออัปเดตเวอร์ชันใหม่ หรือปรับ proxy ให้ normalize URL ก่อนถึงระบบ หากไม่ทำก็เสี่ยงที่ระบบจะถูกเจาะผ่านช่องโหว่เล็ก ๆ แต่ร้ายแรงนี้
    https://securityonline.info/better-auth-framework-alert-the-double-slash-trick-that-bypasses-security-controls

    Ink Dragon’s Global Mesh: เมื่อเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลถูกเปลี่ยนเป็นโหนดสอดแนม
    กลุ่มสอดแนมไซเบอร์จากจีนที่ชื่อ Ink Dragon ใช้เทคนิคใหม่ในการสร้างเครือข่ายสั่งการ โดยเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลที่ถูกเจาะให้กลายเป็นโหนด relay ส่งต่อคำสั่งและข้อมูลไปยังเป้าหมายอื่น ๆ ผ่านโมดูล ShadowPad IIS Listener ทำให้การติดตามแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะคำสั่งอาจวิ่งผ่านหลายองค์กรก่อนถึงเป้าหมายจริง พวกเขายังใช้ช่องโหว่ IIS ที่รู้จักกันมานานและ misconfiguration ของ ASP.NET เพื่อเข้ามา จากนั้นติดตั้ง malware รุ่นใหม่ที่ซ่อนการสื่อสารผ่าน Microsoft Graph API การขยายเป้าหมายไปยังยุโรปทำให้ภัยนี้ไม่ใช่แค่ระดับภูมิภาค แต่เป็นโครงสร้างสอดแนมข้ามชาติที่ใช้โครงสร้างของเหยื่อเองเป็นเครื่องมือ
    https://securityonline.info/ink-dragons-global-mesh-how-chinese-spies-turn-compromised-government-servers-into-c2-relay-nodes

    Academic Ambush: เมื่อกลุ่ม APT ปลอมรายงาน “Plagiarism” เพื่อเจาะระบบนักวิชาการ
    นี่คือแคมเปญที่ใช้ความกังวลของนักวิชาการเป็นตัวล่อ แฮกเกอร์ส่งอีเมลปลอมในชื่อ “Forum Troll APT” โดยอ้างว่าผลงานของเหยื่อถูกตรวจพบการลอกเลียนแบบ พร้อมแนบไฟล์ Word ที่ดูเหมือนรายงานตรวจสอบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเอกสารที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ โค้ดจะถูกเรียกใช้เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เข้ามาในเครื่องทันที การโจมตีนี้เล่นกับความกลัวเรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในวงวิชาการ ทำให้ผู้รับมีแนวโน้มเปิดไฟล์โดยไม่ระวัง ถือเป็นการใช้ “แรงกดดันทางสังคม” เป็นอาวุธไซเบอร์
    https://securityonline.info/academic-ambush-how-the-forum-troll-apt-hijacks-scholars-systems-via-fake-plagiarism-reports

    GitHub ยอมถอย หลังนักพัฒนารวมพลังต้านค่าธรรมเนียม Self-Hosted Runner
    เรื่องนี้เริ่มจาก GitHub ประกาศว่าจะเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการใช้งาน self-hosted runner ใน GitHub Actions ตั้งแต่มีนาคม 2026 โดยคิดนาทีละ 0.002 ดอลลาร์ แม้ผู้ใช้จะลงทุนเครื่องเองแล้วก็ตาม ข่าวนี้ทำให้ชุมชนนักพัฒนาลุกฮือทันที เสียงวิจารณ์ดังไปทั่วว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฟังเสียงผู้ใช้ สุดท้าย GitHub ต้องออกมาประกาศเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมออกไป พร้อมลดราคาสำหรับ runner ที่ GitHub โฮสต์เองลงถึง 39% ตั้งแต่ต้นปี 2026 และย้ำว่าจะกลับไปฟังเสียงนักพัฒนาให้มากขึ้นก่อนปรับแผนใหม่ เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของชุมชนสามารถกดดันให้แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ต้องทบทวนการตัดสินใจได้
    https://securityonline.info/the-developer-win-github-postpones-self-hosted-runner-fee-after-massive-community-outcry

    ช่องโหว่ร้ายแรง HPE OneView เปิดทางให้ยึดศูนย์ข้อมูลได้ทันที
    Hewlett Packard Enterprise (HPE) แจ้งเตือนช่องโหว่ CVE-2025-37164 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด 10.0 ในซอฟต์แวร์ OneView ซึ่งเป็นหัวใจในการจัดการเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ต้องล็อกอินสามารถสั่งรันโค้ดจากระยะไกลได้ทันที เท่ากับว่าสามารถยึดศูนย์ข้อมูลทั้งระบบได้เลย HPE รีบออกแพตช์ v11.00 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน สำหรับผู้ที่ยังใช้เวอร์ชันเก่า มี hotfix ให้ แต่ต้องระวังว่าหลังอัปเกรดบางเวอร์ชันต้องติดตั้งซ้ำอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะยังเสี่ยงอยู่
    https://securityonline.info/cve-2025-37164-cvss-10-0-unauthenticated-hpe-oneview-rce-grants-total-control-over-data-centers

    CISA เตือนด่วน แฮ็กเกอร์จีนใช้ช่องโหว่ Cisco และ SonicWall โจมตีจริงแล้ว
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเพิ่มช่องโหว่ร้ายแรงเข้ารายการ KEV หลังพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ Cisco Secure Email Gateway ที่มีคะแนน 10 เต็มในการเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน พร้อมติดตั้งมัลแวร์ AquaShell และ AquaPurge เพื่อซ่อนร่องรอย นอกจากนี้ยังพบการโจมตี SonicWall SMA1000 โดยใช้ช่องโหว่เดิมร่วมกับช่องโหว่ใหม่เพื่อยึดระบบได้ทั้งหมด และยังมีการนำช่องโหว่เก่าใน ASUS Live Update ที่หมดการสนับสนุนแล้วกลับมาใช้โจมตีในลักษณะ supply chain อีกด้วย ทำให้หน่วยงานรัฐต้องเร่งแพตช์ก่อนเส้นตาย 24 ธันวาคม 2025 https://securityonline.info/cisa-alert-chinese-hackers-weaponize-cvss-10-cisco-zero-day-sonicwall-exploit-chains

    แฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 ใช้มัลแวร์ Aqua เจาะ Cisco Secure Email
    Cisco Talos เปิดเผยว่ากลุ่ม UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ CVE-2025-20393 ใน Cisco Secure Email Gateway และ Web Manager เพื่อเข้าถึงระบบในระดับ root โดยอาศัยการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Spam Quarantine ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งหากเปิดไว้จะกลายเป็นช่องทางให้โจมตีได้ทันที เมื่อเข้ามาแล้วพวกเขาติดตั้งมัลแวร์ชุด “Aqua” ได้แก่ AquaShell ที่ฝังตัวในไฟล์เซิร์ฟเวอร์, AquaPurge ที่ลบหลักฐานใน log และ AquaTunnel ที่สร้างการเชื่อมต่อย้อนกลับเพื่อรักษาการเข้าถึง แม้แก้ช่องโหว่แล้วก็ยังไม่พ้นภัย เพราะมัลแวร์ฝังลึกจน Cisco แนะนำว่าหากถูกเจาะแล้วต้อง rebuild เครื่องใหม่เท่านั้น
    https://securityonline.info/cisco-zero-day-siege-chinese-group-uat-9686-deploys-aqua-malware-via-cvss-10-root-exploit

    SonicWall เตือนช่องโหว่ใหม่ถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่เดิม ยึดระบบได้แบบ root
    SonicWall ออกประกาศด่วนเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-40602 ในอุปกรณ์ SMA1000 แม้คะแนน CVSS เพียง 6.6 แต่เมื่อถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่ CVE-2025-23006 ที่ร้ายแรงกว่า จะกลายเป็นการโจมตีแบบ chain ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องล็อกอิน และยกระดับสิทธิ์เป็น root ได้ทันที เท่ากับยึดระบบทั้งองค์กรได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน SonicWall ได้ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที หากไม่สามารถทำได้ควรปิดการเข้าถึง AMC และ SSH จากอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันการโจมตี
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/zero-day-warning-hackers-chain-sonicwall-sma1000-flaws-for-unauthenticated-root-rce
    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251218 #securityonline 🦊 Mozilla เปิดยุคใหม่: Firefox เตรียมกลายเป็นเบราว์เซอร์พลัง AI Mozilla ประกาศแผนการใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Anthony Enzor-DeMeo ที่จะเปลี่ยน Firefox จากเบราว์เซอร์แบบดั้งเดิมให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI จุดมุ่งหมายคือการทำให้ Firefox ไม่ใช่แค่เครื่องมือท่องเว็บ แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่เข้าใจผู้ใช้และสามารถปรับแต่งประสบการณ์ออนไลน์ได้อย่างลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Mozilla ที่จะกลับมาแข่งขันในตลาดเบราว์เซอร์ที่ถูกครอบงำโดย Chrome และ Edge 🔗 https://securityonline.info/mozillas-new-chapter-ceo-anthony-enzor-demeo-to-transform-firefox-into-an-ai-powered-powerhouse 🔒 Let’s Encrypt ปรับระบบ TLS ใหม่: ใบรับรองสั้นลงเหลือ 45 วัน Let’s Encrypt ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการออกใบรับรอง TLS โดยลดอายุการใช้งานจาก 90 วันเหลือเพียง 45 วัน พร้อมเปิดตัวโครงสร้างใหม่ที่เรียกว่า Generation Y Hierarchy และการรองรับ TLS แบบใช้ IP โดยตรง การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากใบรับรองที่ถูกขโมยหรือไม่ได้อัปเดต และทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แม้จะเพิ่มภาระให้ผู้ดูแลระบบ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเว็บทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/the-45-day-era-begins-lets-encrypt-unveils-generation-y-hierarchy-and-ip-based-tls 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Commons Text เสี่ยงถูกยึดเซิร์ฟเวอร์ เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในไลบรารี Java ที่ชื่อ Apache Commons Text ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในการจัดการข้อความ ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-46295 และมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 เต็ม 10 จุดอันตรายอยู่ที่ฟังก์ชัน string interpolation ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาและทำให้เกิดการรันคำสั่งจากระยะไกลได้ ลักษณะนี้คล้ายกับเหตุการณ์ Log4Shell ที่เคยสร้างความเสียหายใหญ่ในอดีต ทีมพัฒนา FileMaker Server ได้รีบแก้ไขโดยอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ที่ปลอดภัยแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่ 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-46295-cvss-9-8-critical-apache-commons-text-flaw-risks-total-server-takeover 🚦 หลอกด้วยใบสั่งจราจรปลอม: แอป RTO Challan ดูดข้อมูลและเงิน ในอินเดียมีการโจมตีใหม่ที่ใช้ความกลัวการโดนใบสั่งจราจรมาเป็นเครื่องมือ หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป “RTO Challan” ผ่าน WhatsApp โดยอ้างว่าเป็นแอปทางการเพื่อดูหลักฐานการกระทำผิด แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ซ่อนตัวและสร้าง VPN ปลอมเพื่อส่งข้อมูลออกไปโดยไม่ถูกตรวจจับ มันสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว ตั้งแต่บัตร Aadhaar, PAN ไปจนถึงข้อมูลธนาคาร และยังหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตพร้อมรหัส PIN เพื่อทำธุรกรรมปลอมแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่ผสมผสานทั้งวิศวกรรมสังคมและเทคนิคขั้นสูง ผู้ใช้ถูกเตือนให้ระวังข้อความจากเบอร์แปลกและไม่ดาวน์โหลดแอปจากลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://securityonline.info/rto-challan-scam-how-a-fake-traffic-ticket-and-a-malicious-vpn-can-drain-your-bank-account 💻 Node.js systeminformation พบช่องโหว่เสี่ยง RCE บน Windows ไลบรารีชื่อดัง systeminformation ที่ถูกดาวน์โหลดกว่า 16 ล้านครั้งต่อเดือน ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-68154 โดยเฉพาะบน Windows ฟังก์ชัน fsSize() ที่ใช้ตรวจสอบขนาดดิสก์ไม่ได้กรองข้อมูลอินพุต ทำให้ผู้โจมตีสามารถใส่คำสั่ง PowerShell แทนตัวอักษรไดรฟ์ และรันคำสั่งอันตรายได้ทันที ผลกระทบคือการเข้าควบคุมระบบ อ่านข้อมูลลับ หรือแม้กระทั่งปล่อย ransomware นักพัฒนาถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 5.27.14 ที่แก้ไขแล้วโดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/node-js-alert-systeminformation-flaw-risks-windows-rce-for-16m-monthly-users 💰 OpenAI เจรจา Amazon ขอทุนเพิ่ม 10 พันล้าน พร้อมเงื่อนไขใช้ชิป AI ของ Amazon มีรายงานว่า OpenAI กำลังเจรจากับ Amazon เพื่อระดมทุนมหาศาลถึง 10 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ OpenAI ต้องใช้ชิป AI ของ Amazon เช่น Trainium และ Inferentia แทนการพึ่งพา NVIDIA ที่ราคาแพงและขาดตลาด หากดีลนี้เกิดขึ้นจริงจะเป็นการพลิกเกมครั้งใหญ่ เพราะจะทำให้ Amazon ได้การยืนยันคุณภาพชิปจากผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในวงการ AI และยังช่วยให้ OpenAI ลดต้นทุนการประมวลผล ขณะเดียวกันก็สร้างสมดุลระหว่าง Microsoft และ Amazon ในการเป็นพันธมิตรด้านคลาวด์ 🔗 https://securityonline.info/the-10b-pivot-openai-in-talks-for-massive-amazon-funding-but-theres-a-silicon-catch 🌐 Cloudflare เผยรายงานปี 2025: สงครามบอท AI และการจราจรอินเทอร์เน็ตพุ่ง 19% รายงานประจำปีของ Cloudflare ชี้ให้เห็นว่าปี 2025 อินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้น 19% และเกิด “สงครามบอท AI” ที่แข่งขันกันเก็บข้อมูลออนไลน์ โดย Google ครองอันดับหนึ่งด้านการเก็บข้อมูลผ่าน crawler เพื่อใช้ฝึกโมเดล AI อย่าง Gemini ขณะเดียวกันองค์กรไม่แสวงหากำไรกลับกลายเป็นเป้าหมายโจมตีไซเบอร์มากที่สุด เนื่องจากมีข้อมูลอ่อนไหวแต่ขาดทรัพยากรป้องกัน รายงานยังระบุว่ามีการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่กว่า 25 ครั้งในปีเดียว และครึ่งหนึ่งของการหยุดชะงักอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเกิดจากการกระทำของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนทั้งความก้าวหน้าและความเปราะบางของโลกออนไลน์ 🔗 https://securityonline.info/the-internet-rewired-cloudflare-2025-review-unveils-the-ai-bot-war-and-a-19-traffic-surge 🖥️ Locked Out of the Cloud: เมื่อแฮกเกอร์ใช้ AWS Termination Protection ปล้นพลังประมวลผลไปขุดคริปโต เรื่องนี้เป็นการโจมตีที่ซับซ้อนมากในโลกคลาวด์ แฮกเกอร์เจาะเข้ามาในระบบ AWS โดยใช้บัญชีที่ถูกขโมย แล้วรีบ deploy เครื่องขุดคริปโตภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที จุดที่น่ากลัวคือพวกเขาใช้ฟีเจอร์ DryRun เพื่อตรวจสอบสิทธิ์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และเมื่อเครื่องขุดถูกสร้างขึ้น พวกเขาเปิดการป้องกันการลบ (termination protection) ทำให้เจ้าของระบบไม่สามารถลบเครื่องได้ทันที ต้องปิดการป้องกันก่อนถึงจะจัดการได้ นั่นทำให้แฮกเกอร์มีเวลาขุดคริปโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการสร้าง backdoor ผ่าน AWS Lambda และเตรียมใช้ Amazon SES เพื่อส่งอีเมลฟิชชิ่งต่อไป เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การเจาะ AWS โดยตรง แต่เป็นการใช้ credential ที่ถูกขโมยไปอย่างชาญฉลาด 🔗 https://securityonline.info/locked-out-of-the-cloud-hackers-use-aws-termination-protection-to-hijack-ecs-for-unstoppable-crypto-mining 📧 Blurred Deception: กลยุทธ์ฟิชชิ่งของกลุ่ม APT รัสเซียที่ใช้ “เอกสารเบลอ” กลุ่ม APT จากรัสเซียส่งอีเมลปลอมในชื่อคำสั่งจากประธานาธิบดี Transnistria โดยแนบไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทางการ แต่เนื้อหาถูกทำให้เบลอด้วย CSS filter ผู้รับจึงต้องใส่อีเมลและรหัสผ่านเพื่อ “ปลดล็อก” เอกสาร ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการหลอกขโมยข้อมูลเข้าสู่ระบบ ฟังก์ชัน JavaScript ที่ใช้ยังมีลูกเล่นคือไม่ว่ารหัสผ่านจะถูกหรือผิดก็ถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์อยู่ดี แคมเปญนี้ไม่ได้หยุดแค่ Transnistria แต่ยังขยายไปยังประเทศในยุโรปตะวันออกและหน่วยงาน NATO ด้วย ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความเร่งด่วนและความอยากรู้อยากเห็นของเหยื่อเป็นตัวล่อ 🔗 https://securityonline.info/blurred-deception-russian-apt-targets-transnistria-and-nato-with-high-pressure-phishing-lures 🔐 “Better Auth” Framework Alert: ช่องโหว่ Double-Slash ที่ทำให้ระบบป้องกันพัง มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Better Auth ซึ่งเป็น framework ยอดนิยมสำหรับ TypeScript ที่ใช้กันกว้างขวาง ปัญหาคือ router ภายในชื่อ rou3 มอง URL ที่มีหลาย slash เช่น //sign-in/email ว่าเหมือนกับ /sign-in/email แต่ระบบป้องกันบางอย่างไม่ได้ normalize URL แบบเดียวกัน ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง path ที่ถูกปิดไว้ หรือเลี่ยง rate limit ได้ง่าย ๆ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.6 และกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การแก้ไขคืออัปเดตเวอร์ชันใหม่ หรือปรับ proxy ให้ normalize URL ก่อนถึงระบบ หากไม่ทำก็เสี่ยงที่ระบบจะถูกเจาะผ่านช่องโหว่เล็ก ๆ แต่ร้ายแรงนี้ 🔗 https://securityonline.info/better-auth-framework-alert-the-double-slash-trick-that-bypasses-security-controls 🐉 Ink Dragon’s Global Mesh: เมื่อเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลถูกเปลี่ยนเป็นโหนดสอดแนม กลุ่มสอดแนมไซเบอร์จากจีนที่ชื่อ Ink Dragon ใช้เทคนิคใหม่ในการสร้างเครือข่ายสั่งการ โดยเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลที่ถูกเจาะให้กลายเป็นโหนด relay ส่งต่อคำสั่งและข้อมูลไปยังเป้าหมายอื่น ๆ ผ่านโมดูล ShadowPad IIS Listener ทำให้การติดตามแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะคำสั่งอาจวิ่งผ่านหลายองค์กรก่อนถึงเป้าหมายจริง พวกเขายังใช้ช่องโหว่ IIS ที่รู้จักกันมานานและ misconfiguration ของ ASP.NET เพื่อเข้ามา จากนั้นติดตั้ง malware รุ่นใหม่ที่ซ่อนการสื่อสารผ่าน Microsoft Graph API การขยายเป้าหมายไปยังยุโรปทำให้ภัยนี้ไม่ใช่แค่ระดับภูมิภาค แต่เป็นโครงสร้างสอดแนมข้ามชาติที่ใช้โครงสร้างของเหยื่อเองเป็นเครื่องมือ 🔗 https://securityonline.info/ink-dragons-global-mesh-how-chinese-spies-turn-compromised-government-servers-into-c2-relay-nodes 📚 Academic Ambush: เมื่อกลุ่ม APT ปลอมรายงาน “Plagiarism” เพื่อเจาะระบบนักวิชาการ นี่คือแคมเปญที่ใช้ความกังวลของนักวิชาการเป็นตัวล่อ แฮกเกอร์ส่งอีเมลปลอมในชื่อ “Forum Troll APT” โดยอ้างว่าผลงานของเหยื่อถูกตรวจพบการลอกเลียนแบบ พร้อมแนบไฟล์ Word ที่ดูเหมือนรายงานตรวจสอบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเอกสารที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ โค้ดจะถูกเรียกใช้เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เข้ามาในเครื่องทันที การโจมตีนี้เล่นกับความกลัวเรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในวงวิชาการ ทำให้ผู้รับมีแนวโน้มเปิดไฟล์โดยไม่ระวัง ถือเป็นการใช้ “แรงกดดันทางสังคม” เป็นอาวุธไซเบอร์ 🔗 https://securityonline.info/academic-ambush-how-the-forum-troll-apt-hijacks-scholars-systems-via-fake-plagiarism-reports 🛠️ GitHub ยอมถอย หลังนักพัฒนารวมพลังต้านค่าธรรมเนียม Self-Hosted Runner เรื่องนี้เริ่มจาก GitHub ประกาศว่าจะเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการใช้งาน self-hosted runner ใน GitHub Actions ตั้งแต่มีนาคม 2026 โดยคิดนาทีละ 0.002 ดอลลาร์ แม้ผู้ใช้จะลงทุนเครื่องเองแล้วก็ตาม ข่าวนี้ทำให้ชุมชนนักพัฒนาลุกฮือทันที เสียงวิจารณ์ดังไปทั่วว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฟังเสียงผู้ใช้ สุดท้าย GitHub ต้องออกมาประกาศเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมออกไป พร้อมลดราคาสำหรับ runner ที่ GitHub โฮสต์เองลงถึง 39% ตั้งแต่ต้นปี 2026 และย้ำว่าจะกลับไปฟังเสียงนักพัฒนาให้มากขึ้นก่อนปรับแผนใหม่ เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของชุมชนสามารถกดดันให้แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ต้องทบทวนการตัดสินใจได้ 🔗 https://securityonline.info/the-developer-win-github-postpones-self-hosted-runner-fee-after-massive-community-outcry ⚠️ ช่องโหว่ร้ายแรง HPE OneView เปิดทางให้ยึดศูนย์ข้อมูลได้ทันที Hewlett Packard Enterprise (HPE) แจ้งเตือนช่องโหว่ CVE-2025-37164 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด 10.0 ในซอฟต์แวร์ OneView ซึ่งเป็นหัวใจในการจัดการเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ต้องล็อกอินสามารถสั่งรันโค้ดจากระยะไกลได้ทันที เท่ากับว่าสามารถยึดศูนย์ข้อมูลทั้งระบบได้เลย HPE รีบออกแพตช์ v11.00 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน สำหรับผู้ที่ยังใช้เวอร์ชันเก่า มี hotfix ให้ แต่ต้องระวังว่าหลังอัปเกรดบางเวอร์ชันต้องติดตั้งซ้ำอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะยังเสี่ยงอยู่ 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-37164-cvss-10-0-unauthenticated-hpe-oneview-rce-grants-total-control-over-data-centers 🚨 CISA เตือนด่วน แฮ็กเกอร์จีนใช้ช่องโหว่ Cisco และ SonicWall โจมตีจริงแล้ว หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเพิ่มช่องโหว่ร้ายแรงเข้ารายการ KEV หลังพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ Cisco Secure Email Gateway ที่มีคะแนน 10 เต็มในการเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน พร้อมติดตั้งมัลแวร์ AquaShell และ AquaPurge เพื่อซ่อนร่องรอย นอกจากนี้ยังพบการโจมตี SonicWall SMA1000 โดยใช้ช่องโหว่เดิมร่วมกับช่องโหว่ใหม่เพื่อยึดระบบได้ทั้งหมด และยังมีการนำช่องโหว่เก่าใน ASUS Live Update ที่หมดการสนับสนุนแล้วกลับมาใช้โจมตีในลักษณะ supply chain อีกด้วย ทำให้หน่วยงานรัฐต้องเร่งแพตช์ก่อนเส้นตาย 24 ธันวาคม 2025 🔗 https://securityonline.info/cisa-alert-chinese-hackers-weaponize-cvss-10-cisco-zero-day-sonicwall-exploit-chains 🐚 แฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 ใช้มัลแวร์ Aqua เจาะ Cisco Secure Email Cisco Talos เปิดเผยว่ากลุ่ม UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ CVE-2025-20393 ใน Cisco Secure Email Gateway และ Web Manager เพื่อเข้าถึงระบบในระดับ root โดยอาศัยการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Spam Quarantine ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งหากเปิดไว้จะกลายเป็นช่องทางให้โจมตีได้ทันที เมื่อเข้ามาแล้วพวกเขาติดตั้งมัลแวร์ชุด “Aqua” ได้แก่ AquaShell ที่ฝังตัวในไฟล์เซิร์ฟเวอร์, AquaPurge ที่ลบหลักฐานใน log และ AquaTunnel ที่สร้างการเชื่อมต่อย้อนกลับเพื่อรักษาการเข้าถึง แม้แก้ช่องโหว่แล้วก็ยังไม่พ้นภัย เพราะมัลแวร์ฝังลึกจน Cisco แนะนำว่าหากถูกเจาะแล้วต้อง rebuild เครื่องใหม่เท่านั้น 🔗 https://securityonline.info/cisco-zero-day-siege-chinese-group-uat-9686-deploys-aqua-malware-via-cvss-10-root-exploit 🔒 SonicWall เตือนช่องโหว่ใหม่ถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่เดิม ยึดระบบได้แบบ root SonicWall ออกประกาศด่วนเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-40602 ในอุปกรณ์ SMA1000 แม้คะแนน CVSS เพียง 6.6 แต่เมื่อถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่ CVE-2025-23006 ที่ร้ายแรงกว่า จะกลายเป็นการโจมตีแบบ chain ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องล็อกอิน และยกระดับสิทธิ์เป็น root ได้ทันที เท่ากับยึดระบบทั้งองค์กรได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน SonicWall ได้ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที หากไม่สามารถทำได้ควรปิดการเข้าถึง AMC และ SSH จากอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันการโจมตี ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/zero-day-warning-hackers-chain-sonicwall-sma1000-flaws-for-unauthenticated-root-rce
    0 Comments 0 Shares 189 Views 0 Reviews
  • Pixel 10: Tensor G5 SoC ได้รับการอัปเดตเพิ่มประสิทธิภาพ

    รายงานจาก Wccftech ระบุว่า Google Pixel 10 ที่ใช้ชิป Tensor G5 SoC ได้รับการอัปเดตไดรเวอร์ใหม่ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้การประมวลผล AI และการจัดการพลังงาน การอัปเดตนี้ถือเป็นการแก้ไขข้อจำกัดที่ผู้ใช้บางส่วนพบในช่วงแรกของการเปิดตัว

    Tensor G5 ถูกออกแบบโดย Google และผลิตโดย TSMC บนกระบวนการ 3nm ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากรุ่นก่อนที่ใช้ Samsung Foundry จุดเด่นของ G5 คือการรวมหน่วยประมวลผล AI เข้ากับ CPU และ GPU เพื่อรองรับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ Pixel เช่น การถ่ายภาพอัจฉริยะ การประมวลผลเสียง และการทำงานแบบเรียลไทม์ที่ต้องใช้ Machine Learning

    การอัปเดตล่าสุดช่วยให้ Pixel 10 มีประสิทธิภาพสูงขึ้นทั้งในด้านการตอบสนองและการจัดการพลังงาน โดยผู้ใช้คาดว่าจะเห็นการปรับปรุงในงานประจำวัน เช่น การเปิดแอปเร็วขึ้น การประมวลผลภาพที่ลื่นไหลกว่าเดิม และการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นการยกระดับประสบการณ์ใช้งานให้ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนเรือธงจากคู่แข่งรายใหญ่

    อย่างไรก็ตาม แม้ Tensor G5 จะได้รับการปรับปรุง แต่ Google ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจาก Apple และ Qualcomm ที่มีชิป A-series และ Snapdragon รุ่นล่าสุดซึ่งโดดเด่นด้านประสิทธิภาพและการจัดการพลังงาน การอัปเดตครั้งนี้จึงเป็นเพียงก้าวแรกของ Google ในการสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ใช้และนักพัฒนา

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน

    Tensor G5 ได้รับการอัปเดตไดรเวอร์
    เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการจัดการพลังงานใน Pixel 10

    การออกแบบและการผลิต
    ผลิตโดย TSMC บนกระบวนการ 3nm แทน Samsung Foundry

    การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้
    เปิดแอปเร็วขึ้น ประมวลผลภาพลื่นไหล และใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    การแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟน
    ต้องเผชิญกับคู่แข่งอย่าง Apple และ Qualcomm ที่มีชิปประสิทธิภาพสูง

    คำเตือนด้านการแข่งขัน
    แม้จะปรับปรุงแล้ว แต่ Tensor G5 ยังต้องพิสูจน์ความสามารถเทียบกับ A-series และ Snapdragon
    หากการพัฒนาไม่ต่อเนื่อง อาจทำให้ Pixel เสียเปรียบในตลาดเรือธงccftech.com/pixel-10s-tensor-g5-soc-gets-a-performance-boost/
    📱 Pixel 10: Tensor G5 SoC ได้รับการอัปเดตเพิ่มประสิทธิภาพ รายงานจาก Wccftech ระบุว่า Google Pixel 10 ที่ใช้ชิป Tensor G5 SoC ได้รับการอัปเดตไดรเวอร์ใหม่ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้การประมวลผล AI และการจัดการพลังงาน การอัปเดตนี้ถือเป็นการแก้ไขข้อจำกัดที่ผู้ใช้บางส่วนพบในช่วงแรกของการเปิดตัว Tensor G5 ถูกออกแบบโดย Google และผลิตโดย TSMC บนกระบวนการ 3nm ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากรุ่นก่อนที่ใช้ Samsung Foundry จุดเด่นของ G5 คือการรวมหน่วยประมวลผล AI เข้ากับ CPU และ GPU เพื่อรองรับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ Pixel เช่น การถ่ายภาพอัจฉริยะ การประมวลผลเสียง และการทำงานแบบเรียลไทม์ที่ต้องใช้ Machine Learning การอัปเดตล่าสุดช่วยให้ Pixel 10 มีประสิทธิภาพสูงขึ้นทั้งในด้านการตอบสนองและการจัดการพลังงาน โดยผู้ใช้คาดว่าจะเห็นการปรับปรุงในงานประจำวัน เช่น การเปิดแอปเร็วขึ้น การประมวลผลภาพที่ลื่นไหลกว่าเดิม และการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นการยกระดับประสบการณ์ใช้งานให้ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนเรือธงจากคู่แข่งรายใหญ่ อย่างไรก็ตาม แม้ Tensor G5 จะได้รับการปรับปรุง แต่ Google ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจาก Apple และ Qualcomm ที่มีชิป A-series และ Snapdragon รุ่นล่าสุดซึ่งโดดเด่นด้านประสิทธิภาพและการจัดการพลังงาน การอัปเดตครั้งนี้จึงเป็นเพียงก้าวแรกของ Google ในการสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ใช้และนักพัฒนา 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ Tensor G5 ได้รับการอัปเดตไดรเวอร์ ➡️ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการจัดการพลังงานใน Pixel 10 ✅ การออกแบบและการผลิต ➡️ ผลิตโดย TSMC บนกระบวนการ 3nm แทน Samsung Foundry ✅ การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ ➡️ เปิดแอปเร็วขึ้น ประมวลผลภาพลื่นไหล และใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ การแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟน ➡️ ต้องเผชิญกับคู่แข่งอย่าง Apple และ Qualcomm ที่มีชิปประสิทธิภาพสูง ‼️ คำเตือนด้านการแข่งขัน ⛔ แม้จะปรับปรุงแล้ว แต่ Tensor G5 ยังต้องพิสูจน์ความสามารถเทียบกับ A-series และ Snapdragon ⛔ หากการพัฒนาไม่ต่อเนื่อง อาจทำให้ Pixel เสียเปรียบในตลาดเรือธงccftech.com/pixel-10s-tensor-g5-soc-gets-a-performance-boost/
    WCCFTECH.COM
    Pixel 10's Tensor G5 SoC Gets A Performance Boost
    Imagination's IMG PowerVR DXT-48-1536 GPU within Pixel 10's Tensor G5 chip is now finally getting a critical driver update.
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • AI ดันราคา DRAM พุ่งสูง: G.Skill เตือนผู้ซื้อ

    หนึ่งในผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ G.Skill ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงถึงสาเหตุที่ราคา DRAM โดยเฉพาะ DDR5 พุ่งสูงขึ้นอย่างผิดปกติ โดยระบุว่า ความต้องการจากอุตสาหกรรม AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเป็นตัวการสำคัญ ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนทั่วโลกและผลักดันให้ต้นทุนการจัดหาชิปสูงขึ้นตามไปด้วย

    ราคาของ DDR5 ในหลายภูมิภาคเพิ่มขึ้นถึง 3–4 เท่า ภายในเวลาเพียงสองเดือน ส่งผลให้การประกอบพีซีใหม่กลายเป็นเรื่องยากขึ้นอย่างมาก เนื่องจากค่าใช้จ่ายของ RAM บางชุดสูงเกือบเทียบเท่ากับการ์ดจอระดับสูง ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์คาดว่าราคาที่พุ่งสูงนี้จะยังคงดำเนินต่อไปอย่างน้อยจนถึงปี 2026–2028

    G.Skill ระบุว่าต้นทุนการจัดหาชิปจากผู้ผลิต IC เพิ่มขึ้นอย่างมาก และราคาที่บริษัทตั้งจำหน่ายสะท้อนถึงต้นทุนที่สูงขึ้นในตลาดโลก โดยแนะนำให้ผู้ซื้อ “ระมัดระวัง” และตรวจสอบราคาก่อนตัดสินใจซื้อ เนื่องจากสถานการณ์ยังมีความผันผวนสูงและอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่แจ้งล่วงหน้า

    แม้บางฝ่ายเชื่อว่าราคาอาจเริ่มทรงตัวภายใน 6–8 เดือน แต่การกลับไปสู่ระดับราคาก่อนหน้านี้ยังคงเป็นเรื่องยากและอาจใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้ตลาดพีซีและผู้บริโภคทั่วไปต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านต้นทุนต่อเนื่อง

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    สาเหตุราคาพุ่งสูง
    ความต้องการจากอุตสาหกรรม AI ทำให้เกิดภาวะขาดแคลน DRAM ทั่วโลก

    การเพิ่มขึ้นของราคา DDR5
    ราคาพุ่งขึ้น 3–4 เท่าในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา

    ผลกระทบต่อผู้บริโภค
    RAM DDR5 บางชุดมีราคาสูงเกือบเท่ากับการ์ดจอระดับสูง

    คำแนะนำจาก G.Skill
    ผู้ซื้อควรระมัดระวังและตรวจสอบราคาก่อนตัดสินใจ

    คำเตือนด้านแนวโน้มราคา
    ราคามีแนวโน้มผันผวนต่อเนื่องไปจนถึงปี 2026–2028
    แม้บางฝ่ายคาดว่าจะทรงตัวใน 6–8 เดือน แต่การกลับไปสู่ระดับเดิมอาจใช้เวลานานมาก

    https://wccftech.com/g-skill-blames-ai-industry-for-sky-high-dram-prices/
    💾 AI ดันราคา DRAM พุ่งสูง: G.Skill เตือนผู้ซื้อ หนึ่งในผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ G.Skill ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงถึงสาเหตุที่ราคา DRAM โดยเฉพาะ DDR5 พุ่งสูงขึ้นอย่างผิดปกติ โดยระบุว่า ความต้องการจากอุตสาหกรรม AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเป็นตัวการสำคัญ ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนทั่วโลกและผลักดันให้ต้นทุนการจัดหาชิปสูงขึ้นตามไปด้วย ราคาของ DDR5 ในหลายภูมิภาคเพิ่มขึ้นถึง 3–4 เท่า ภายในเวลาเพียงสองเดือน ส่งผลให้การประกอบพีซีใหม่กลายเป็นเรื่องยากขึ้นอย่างมาก เนื่องจากค่าใช้จ่ายของ RAM บางชุดสูงเกือบเทียบเท่ากับการ์ดจอระดับสูง ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์คาดว่าราคาที่พุ่งสูงนี้จะยังคงดำเนินต่อไปอย่างน้อยจนถึงปี 2026–2028 G.Skill ระบุว่าต้นทุนการจัดหาชิปจากผู้ผลิต IC เพิ่มขึ้นอย่างมาก และราคาที่บริษัทตั้งจำหน่ายสะท้อนถึงต้นทุนที่สูงขึ้นในตลาดโลก โดยแนะนำให้ผู้ซื้อ “ระมัดระวัง” และตรวจสอบราคาก่อนตัดสินใจซื้อ เนื่องจากสถานการณ์ยังมีความผันผวนสูงและอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่แจ้งล่วงหน้า แม้บางฝ่ายเชื่อว่าราคาอาจเริ่มทรงตัวภายใน 6–8 เดือน แต่การกลับไปสู่ระดับราคาก่อนหน้านี้ยังคงเป็นเรื่องยากและอาจใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้ตลาดพีซีและผู้บริโภคทั่วไปต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านต้นทุนต่อเนื่อง 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ สาเหตุราคาพุ่งสูง ➡️ ความต้องการจากอุตสาหกรรม AI ทำให้เกิดภาวะขาดแคลน DRAM ทั่วโลก ✅ การเพิ่มขึ้นของราคา DDR5 ➡️ ราคาพุ่งขึ้น 3–4 เท่าในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ✅ ผลกระทบต่อผู้บริโภค ➡️ RAM DDR5 บางชุดมีราคาสูงเกือบเท่ากับการ์ดจอระดับสูง ✅ คำแนะนำจาก G.Skill ➡️ ผู้ซื้อควรระมัดระวังและตรวจสอบราคาก่อนตัดสินใจ ‼️ คำเตือนด้านแนวโน้มราคา ⛔ ราคามีแนวโน้มผันผวนต่อเนื่องไปจนถึงปี 2026–2028 ⛔ แม้บางฝ่ายคาดว่าจะทรงตัวใน 6–8 เดือน แต่การกลับไปสู่ระดับเดิมอาจใช้เวลานานมาก https://wccftech.com/g-skill-blames-ai-industry-for-sky-high-dram-prices/
    WCCFTECH.COM
    G.Skill Blames AI Industry For Sky-High DRAM Prices; Says "Purchasers Should Be Mindful" Of Prices
    G.Skill has released a short statement regarding the sky-high DRAM prices. It blamed the AI industry for such memory volatility.
    0 Comments 0 Shares 77 Views 0 Reviews
  • วิกฤติหน่วยความจำ: Micron เตือน DRAM ขาดตลาดยาวถึงปี 2026

    Micron รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2026 พร้อมยืนยันว่าแม้จะปิดแบรนด์ Crucial ไปแล้ว แต่ความต้องการ DRAM และ NAND ยังคงสูงมาก โดยเฉพาะจากศูนย์ข้อมูล AI ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว บริษัททำรายได้สูงถึง 13.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 57% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ก็ยอมรับว่าจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้เต็มที่ และคาดว่าการขาดแคลนจะยืดเยื้อต่อไปหลังปี 2026

    หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือการเติบโตของ HBM (High Bandwidth Memory) ซึ่งใช้พื้นที่เวเฟอร์มากกว่า DDR5 ถึงสามเท่า ทำให้ทรัพยากรการผลิตตึงตัวมากขึ้น Micron คาดว่าตลาด HBM จะมีมูลค่าถึง 100 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 ซึ่งจะกลายเป็นตลาดใหญ่กว่าทั้ง DRAM ในปี 2024 การแข่งขันด้านการผลิตจึงเข้มข้นขึ้น และผู้ผลิตหลายรายเริ่มทำสัญญาระยะยาวเพื่อรักษาซัพพลาย

    Micron กำลังลงทุนสร้างโรงงานใหม่ในไอดาโฮและนิวยอร์ก โดยโรงงานแรกจะเริ่มผลิตกลางปี 2027 ส่วนอีกแห่งจะเริ่มก่อสร้างในปี 2026 และคาดว่าจะผลิตจริงราวปี 2030 อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการขยายกำลังผลิต บริษัทก็ยังคาดว่าจะสามารถตอบสนองได้เพียงครึ่งถึงสองในสามของความต้องการลูกค้าหลักเท่านั้น

    ผลกระทบต่อผู้บริโภคเริ่มเห็นชัดเจนแล้ว ราคาของ DDR5 พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ผลิตบางรายเช่น Kingston เตือนว่าราคาจะยังคงปรับขึ้น ส่วน Sapphire คาดว่าราคาจะเริ่มทรงตัวในอีก 6–8 เดือน แต่ก็อาจไม่ใช่ระดับราคาที่ผู้ใช้ต้องการ นอกจากนี้ยังมีปัญหาสินค้าปลอมและการฉ้อโกงในตลาดออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นตามแรงกดดันของราคา

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    ผลประกอบการ Micron
    รายได้ไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2026 สูงถึง 13.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 57%

    การขาดแคลน DRAM ต่อเนื่อง
    Micron คาดว่าปัญหาจะยืดเยื้อไปหลังปี 2026 และตอบสนองได้เพียง 50–66% ของความต้องการ

    การเติบโตของตลาด HBM
    ใช้พื้นที่เวเฟอร์มากกว่า DDR5 ถึง 3 เท่า และคาดว่ามูลค่าตลาดจะถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2028

    การลงทุนโรงงานใหม่
    โรงงานในไอดาโฮจะเริ่มผลิตปี 2027 และโรงงานนิวยอร์กคาดว่าจะผลิตจริงราวปี 2030

    ผลกระทบต่อผู้บริโภค
    ราคาของ DDR5 พุ่งสูงขึ้น และผู้ผลิตบางรายเตือนว่าราคาจะยังคงเพิ่มต่อไป

    คำเตือนด้านราคาและตลาด
    ราคาหน่วยความจำอาจไม่กลับไปสู่ระดับที่ผู้ใช้คาดหวัง แม้จะเริ่มทรงตัว
    ความเสี่ยงจากสินค้าปลอมและการฉ้อโกงออนไลน์เพิ่มขึ้นตามแรงกดดันของราคา

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/micron-outlines-grim-outlook-for-dram-supply-in-first-earnings-call-since-killing-crucial-memory-and-ssd-brand-ceo-says-it-can-only-meet-half-to-two-thirds-of-demand
    🖥️ วิกฤติหน่วยความจำ: Micron เตือน DRAM ขาดตลาดยาวถึงปี 2026 Micron รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2026 พร้อมยืนยันว่าแม้จะปิดแบรนด์ Crucial ไปแล้ว แต่ความต้องการ DRAM และ NAND ยังคงสูงมาก โดยเฉพาะจากศูนย์ข้อมูล AI ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว บริษัททำรายได้สูงถึง 13.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 57% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ก็ยอมรับว่าจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้เต็มที่ และคาดว่าการขาดแคลนจะยืดเยื้อต่อไปหลังปี 2026 หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือการเติบโตของ HBM (High Bandwidth Memory) ซึ่งใช้พื้นที่เวเฟอร์มากกว่า DDR5 ถึงสามเท่า ทำให้ทรัพยากรการผลิตตึงตัวมากขึ้น Micron คาดว่าตลาด HBM จะมีมูลค่าถึง 100 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 ซึ่งจะกลายเป็นตลาดใหญ่กว่าทั้ง DRAM ในปี 2024 การแข่งขันด้านการผลิตจึงเข้มข้นขึ้น และผู้ผลิตหลายรายเริ่มทำสัญญาระยะยาวเพื่อรักษาซัพพลาย Micron กำลังลงทุนสร้างโรงงานใหม่ในไอดาโฮและนิวยอร์ก โดยโรงงานแรกจะเริ่มผลิตกลางปี 2027 ส่วนอีกแห่งจะเริ่มก่อสร้างในปี 2026 และคาดว่าจะผลิตจริงราวปี 2030 อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการขยายกำลังผลิต บริษัทก็ยังคาดว่าจะสามารถตอบสนองได้เพียงครึ่งถึงสองในสามของความต้องการลูกค้าหลักเท่านั้น ผลกระทบต่อผู้บริโภคเริ่มเห็นชัดเจนแล้ว ราคาของ DDR5 พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ผลิตบางรายเช่น Kingston เตือนว่าราคาจะยังคงปรับขึ้น ส่วน Sapphire คาดว่าราคาจะเริ่มทรงตัวในอีก 6–8 เดือน แต่ก็อาจไม่ใช่ระดับราคาที่ผู้ใช้ต้องการ นอกจากนี้ยังมีปัญหาสินค้าปลอมและการฉ้อโกงในตลาดออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นตามแรงกดดันของราคา 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ ผลประกอบการ Micron ➡️ รายได้ไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2026 สูงถึง 13.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 57% ✅ การขาดแคลน DRAM ต่อเนื่อง ➡️ Micron คาดว่าปัญหาจะยืดเยื้อไปหลังปี 2026 และตอบสนองได้เพียง 50–66% ของความต้องการ ✅ การเติบโตของตลาด HBM ➡️ ใช้พื้นที่เวเฟอร์มากกว่า DDR5 ถึง 3 เท่า และคาดว่ามูลค่าตลาดจะถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2028 ✅ การลงทุนโรงงานใหม่ ➡️ โรงงานในไอดาโฮจะเริ่มผลิตปี 2027 และโรงงานนิวยอร์กคาดว่าจะผลิตจริงราวปี 2030 ✅ ผลกระทบต่อผู้บริโภค ➡️ ราคาของ DDR5 พุ่งสูงขึ้น และผู้ผลิตบางรายเตือนว่าราคาจะยังคงเพิ่มต่อไป ‼️ คำเตือนด้านราคาและตลาด ⛔ ราคาหน่วยความจำอาจไม่กลับไปสู่ระดับที่ผู้ใช้คาดหวัง แม้จะเริ่มทรงตัว ⛔ ความเสี่ยงจากสินค้าปลอมและการฉ้อโกงออนไลน์เพิ่มขึ้นตามแรงกดดันของราคา https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/micron-outlines-grim-outlook-for-dram-supply-in-first-earnings-call-since-killing-crucial-memory-and-ssd-brand-ceo-says-it-can-only-meet-half-to-two-thirds-of-demand
    0 Comments 0 Shares 116 Views 0 Reviews
  • ใช้ Raspberry Pi เป็น Desktop – เลือก OS ที่เหมาะสม

    บทความจาก It’s FOSS ชี้ให้เห็นว่า Raspberry Pi แม้จะไม่ใช่เครื่องที่ทรงพลัง แต่ก็สามารถใช้เป็น desktop computer ได้ หากเลือกระบบปฏิบัติการ (OS) ที่เหมาะสม โดยมีหลายตัวเลือกที่ตอบโจทย์ต่างกัน ตั้งแต่ OS ที่เบามากไปจนถึง OS ที่ให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกับเครื่อง PC จริง.

    หนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นคือ DietPi ซึ่งเป็น Debian-based distro ที่เบามาก ใช้ทรัพยากรน้อย เหมาะกับ Pi ที่มี RAM เพียง 1 GB แต่ต้องเลือก desktop environment เอง เช่น LXDE หรือ XFCE อีกตัวคือ Twister OS ที่มีจุดขายด้าน “ThemeTwister” ให้ผู้ใช้เปลี่ยนหน้าตาเป็น Windows 95, XP, 7, 10 หรือ macOS ได้ พร้อม emulator Box86/Box64 สำหรับรันแอป x86 และ Chromium Media Edition สำหรับดู Netflix หรือ Disney+.

    สำหรับผู้ที่ต้องการความหลากหลายของ desktop environment มี Armbian ที่รองรับ XFCE, GNOME และ Cinnamon พร้อม community support ที่แข็งแรง ส่วน piCore (Tiny Core Linux) เป็นตัวเลือกที่เล็กมาก (image เพียง 40 MB) เหมาะกับ Pi รุ่นเล็ก เช่น Pi Zero แต่ไม่เหมาะกับงานหนัก ขณะที่ RISC OS ถือเป็นระบบดั้งเดิมของ ARM ที่ย้อนกลับไปถึงปี 1987 แม้จะไม่ใช่ mainstream แต่ยังมี community พัฒนาต่อ.

    นอกจากนี้ยังมี ARM version ของ Linux distro ยอดนิยม เช่น Ubuntu, Pop!_OS, Manjaro และ Kali ที่ให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกับ PC จริง แต่บทสรุปของผู้เขียนคือ Raspberry Pi OS ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป เพราะ ecosystem ที่ครบถ้วนและมีเอกสาร/คู่มือมากที่สุด.

    สรุปสาระสำคัญ
    DietPi – เบาและเร็ว
    Debian-based, ใช้ทรัพยากรต่ำ
    ต้องเลือก desktop environment เอง

    Twister OS – สนุกและหลากหลาย
    ThemeTwister เปลี่ยนหน้าตาเป็น Windows/macOS
    มี emulator และ Chromium Media Edition

    Armbian – ยืดหยุ่นและ community แข็งแรง
    รองรับ XFCE, GNOME, Cinnamon
    มีเครื่องมือ armbian-config สำหรับตั้งค่า

    piCore – เล็กมากสำหรับ Pi รุ่นเล็ก
    image เพียง 40 MB
    เหมาะกับงานเบา ไม่รองรับ modern apps

    RISC OS – ระบบดั้งเดิมของ ARM
    เริ่มตั้งแต่ปี 1987 โดย Acorn Computers
    community ยังพัฒนาต่อ แต่ไม่ใช่ mainstream

    Linux distro ARM version
    Ubuntu, Pop!_OS, Manjaro, Kali รองรับ Raspberry Pi
    Fedora ยังไม่รองรับ Pi 5

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    Raspberry Pi อาจช้ากับงานหนัก เช่น เล่นวิดีโอ HD หรือ multitasking
    OS บางตัว experimental เช่น RISC OS อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป

    https://itsfoss.com/raspberry-pi-desktop-os/
    🖥️ ใช้ Raspberry Pi เป็น Desktop – เลือก OS ที่เหมาะสม บทความจาก It’s FOSS ชี้ให้เห็นว่า Raspberry Pi แม้จะไม่ใช่เครื่องที่ทรงพลัง แต่ก็สามารถใช้เป็น desktop computer ได้ หากเลือกระบบปฏิบัติการ (OS) ที่เหมาะสม โดยมีหลายตัวเลือกที่ตอบโจทย์ต่างกัน ตั้งแต่ OS ที่เบามากไปจนถึง OS ที่ให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกับเครื่อง PC จริง. หนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นคือ DietPi ซึ่งเป็น Debian-based distro ที่เบามาก ใช้ทรัพยากรน้อย เหมาะกับ Pi ที่มี RAM เพียง 1 GB แต่ต้องเลือก desktop environment เอง เช่น LXDE หรือ XFCE อีกตัวคือ Twister OS ที่มีจุดขายด้าน “ThemeTwister” ให้ผู้ใช้เปลี่ยนหน้าตาเป็น Windows 95, XP, 7, 10 หรือ macOS ได้ พร้อม emulator Box86/Box64 สำหรับรันแอป x86 และ Chromium Media Edition สำหรับดู Netflix หรือ Disney+. สำหรับผู้ที่ต้องการความหลากหลายของ desktop environment มี Armbian ที่รองรับ XFCE, GNOME และ Cinnamon พร้อม community support ที่แข็งแรง ส่วน piCore (Tiny Core Linux) เป็นตัวเลือกที่เล็กมาก (image เพียง 40 MB) เหมาะกับ Pi รุ่นเล็ก เช่น Pi Zero แต่ไม่เหมาะกับงานหนัก ขณะที่ RISC OS ถือเป็นระบบดั้งเดิมของ ARM ที่ย้อนกลับไปถึงปี 1987 แม้จะไม่ใช่ mainstream แต่ยังมี community พัฒนาต่อ. นอกจากนี้ยังมี ARM version ของ Linux distro ยอดนิยม เช่น Ubuntu, Pop!_OS, Manjaro และ Kali ที่ให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกับ PC จริง แต่บทสรุปของผู้เขียนคือ Raspberry Pi OS ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป เพราะ ecosystem ที่ครบถ้วนและมีเอกสาร/คู่มือมากที่สุด. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ DietPi – เบาและเร็ว ➡️ Debian-based, ใช้ทรัพยากรต่ำ ➡️ ต้องเลือก desktop environment เอง ✅ Twister OS – สนุกและหลากหลาย ➡️ ThemeTwister เปลี่ยนหน้าตาเป็น Windows/macOS ➡️ มี emulator และ Chromium Media Edition ✅ Armbian – ยืดหยุ่นและ community แข็งแรง ➡️ รองรับ XFCE, GNOME, Cinnamon ➡️ มีเครื่องมือ armbian-config สำหรับตั้งค่า ✅ piCore – เล็กมากสำหรับ Pi รุ่นเล็ก ➡️ image เพียง 40 MB ➡️ เหมาะกับงานเบา ไม่รองรับ modern apps ✅ RISC OS – ระบบดั้งเดิมของ ARM ➡️ เริ่มตั้งแต่ปี 1987 โดย Acorn Computers ➡️ community ยังพัฒนาต่อ แต่ไม่ใช่ mainstream ✅ Linux distro ARM version ➡️ Ubuntu, Pop!_OS, Manjaro, Kali รองรับ Raspberry Pi ➡️ Fedora ยังไม่รองรับ Pi 5 ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ Raspberry Pi อาจช้ากับงานหนัก เช่น เล่นวิดีโอ HD หรือ multitasking ⛔ OS บางตัว experimental เช่น RISC OS อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป https://itsfoss.com/raspberry-pi-desktop-os/
    ITSFOSS.COM
    Your Raspberry Pi Can Be a Real Desktop (If You Pick the Right OS)
    Here are the operating system choices when you want to use Raspberry Pi in a desktop setup.
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • มุมมองใหม่ต่อ “Fragmentation” ของ Linux – ความหลากหลายคือพลัง

    บทความจาก It’s FOSS ชี้ให้เห็นว่า การที่ Linux ถูกมองว่ามี “fragmentation” หรือแตกเป็นหลายส่วน ไม่ใช่จุดอ่อน แต่กลับเป็นจุดแข็งของระบบนิเวศโอเพนซอร์สนี้ เพราะ Linux ไม่ใช่แพลตฟอร์มเดียว แต่เป็น ecosystem ที่ประกอบด้วยหลายแพลตฟอร์มย่อย เช่น ดิสโทร (Ubuntu, Fedora, Arch), เดสก์ท็อปเอนจิน (GNOME, KDE, XFCE), และระบบแพ็กเกจ (Flatpak, Snap, AppImage) ซึ่งทั้งหมดร่วมกันสร้างความยืดหยุ่นและทางเลือกให้ผู้ใช้.

    ผู้เขียนอธิบายว่า ความหลากหลายนี้ทำให้ Linux สามารถทดลองสิ่งใหม่ ๆ ได้โดยไม่เสี่ยงต่อการล่มสลายของทั้ง ecosystem เช่น เมื่อ GNOME 3 และ KDE 4 เปิดตัว แม้จะมีเสียงวิจารณ์ แต่ก็เกิดเดสก์ท็อปใหม่ ๆ อย่าง Cinnamon, MATE และ Cosmic ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้กลุ่มต่าง ๆ นี่คือพลังของการกระจายตัวที่ไม่ทำลาย แต่กลับสร้างนวัตกรรมต่อเนื่อง.

    แน่นอนว่า fragmentation ก็มีข้อเสีย เช่น ความสับสนสำหรับผู้ใช้ใหม่, ปัญหาการสื่อสารแบรนด์ “Linux” ที่ไม่ชัดเจน, และความไม่สอดคล้องกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างเดสก์ท็อป (เช่น ธีมไม่ตรงกัน, ปัญหา tray icon, หรือ portal quirks) แต่ชุมชนกำลังแก้ไขด้วยมาตรฐานร่วม เช่น FreeDesktop.org specifications, การใช้ systemd และ PipeWire เป็นฐานกลาง รวมถึงการผลักดัน Wayland ให้เป็นมาตรฐานการแสดงผล.

    บทสรุปคือ Linux ไม่ได้ “แตกเป็นชิ้นส่วนที่เสียหาย” แต่เป็นระบบที่หลากหลายโดยตั้งใจ ความหลากหลายนี้ทำให้ Linux ยืดหยุ่น แข็งแรง และเปิดกว้างต่อผู้ใช้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะต้องการความเสถียร ความทันสมัย หรือการปรับแต่งขั้นสูง ก็มีดิสโทรและเดสก์ท็อปที่ตอบโจทย์.

    สรุปสาระสำคัญ
    Linux คือ ecosystem ไม่ใช่แพลตฟอร์มเดียว
    ประกอบด้วยดิสโทร, เดสก์ท็อปเอนจิน, ระบบแพ็กเกจ
    แต่ละส่วนพัฒนาไปตามแนวทางของตัวเอง

    Fragmentation สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ
    GNOME 3 และ KDE 4 จุดประกาย Cinnamon, MATE, Cosmic
    ความหลากหลายทำให้ผู้ใช้เลือกสิ่งที่เหมาะกับตนเอง

    การแก้ปัญหาความไม่สอดคล้อง
    ใช้มาตรฐาน FreeDesktop.org
    รวมศูนย์ด้วย systemd, PipeWire และ Wayland

    คำเตือนและข้อท้าทาย
    ผู้ใช้ใหม่อาจสับสนกับดิสโทรและเดสก์ท็อปที่หลากหลาย
    การสื่อสารแบรนด์ “Linux” ยังไม่ชัดเจนและอาจลดการยอมรับในตลาดหลัก

    https://itsfoss.com/linux-fragmentation-as-positive/
    🐧 มุมมองใหม่ต่อ “Fragmentation” ของ Linux – ความหลากหลายคือพลัง บทความจาก It’s FOSS ชี้ให้เห็นว่า การที่ Linux ถูกมองว่ามี “fragmentation” หรือแตกเป็นหลายส่วน ไม่ใช่จุดอ่อน แต่กลับเป็นจุดแข็งของระบบนิเวศโอเพนซอร์สนี้ เพราะ Linux ไม่ใช่แพลตฟอร์มเดียว แต่เป็น ecosystem ที่ประกอบด้วยหลายแพลตฟอร์มย่อย เช่น ดิสโทร (Ubuntu, Fedora, Arch), เดสก์ท็อปเอนจิน (GNOME, KDE, XFCE), และระบบแพ็กเกจ (Flatpak, Snap, AppImage) ซึ่งทั้งหมดร่วมกันสร้างความยืดหยุ่นและทางเลือกให้ผู้ใช้. ผู้เขียนอธิบายว่า ความหลากหลายนี้ทำให้ Linux สามารถทดลองสิ่งใหม่ ๆ ได้โดยไม่เสี่ยงต่อการล่มสลายของทั้ง ecosystem เช่น เมื่อ GNOME 3 และ KDE 4 เปิดตัว แม้จะมีเสียงวิจารณ์ แต่ก็เกิดเดสก์ท็อปใหม่ ๆ อย่าง Cinnamon, MATE และ Cosmic ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้กลุ่มต่าง ๆ นี่คือพลังของการกระจายตัวที่ไม่ทำลาย แต่กลับสร้างนวัตกรรมต่อเนื่อง. แน่นอนว่า fragmentation ก็มีข้อเสีย เช่น ความสับสนสำหรับผู้ใช้ใหม่, ปัญหาการสื่อสารแบรนด์ “Linux” ที่ไม่ชัดเจน, และความไม่สอดคล้องกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างเดสก์ท็อป (เช่น ธีมไม่ตรงกัน, ปัญหา tray icon, หรือ portal quirks) แต่ชุมชนกำลังแก้ไขด้วยมาตรฐานร่วม เช่น FreeDesktop.org specifications, การใช้ systemd และ PipeWire เป็นฐานกลาง รวมถึงการผลักดัน Wayland ให้เป็นมาตรฐานการแสดงผล. บทสรุปคือ Linux ไม่ได้ “แตกเป็นชิ้นส่วนที่เสียหาย” แต่เป็นระบบที่หลากหลายโดยตั้งใจ ความหลากหลายนี้ทำให้ Linux ยืดหยุ่น แข็งแรง และเปิดกว้างต่อผู้ใช้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะต้องการความเสถียร ความทันสมัย หรือการปรับแต่งขั้นสูง ก็มีดิสโทรและเดสก์ท็อปที่ตอบโจทย์. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Linux คือ ecosystem ไม่ใช่แพลตฟอร์มเดียว ➡️ ประกอบด้วยดิสโทร, เดสก์ท็อปเอนจิน, ระบบแพ็กเกจ ➡️ แต่ละส่วนพัฒนาไปตามแนวทางของตัวเอง ✅ Fragmentation สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ➡️ GNOME 3 และ KDE 4 จุดประกาย Cinnamon, MATE, Cosmic ➡️ ความหลากหลายทำให้ผู้ใช้เลือกสิ่งที่เหมาะกับตนเอง ✅ การแก้ปัญหาความไม่สอดคล้อง ➡️ ใช้มาตรฐาน FreeDesktop.org ➡️ รวมศูนย์ด้วย systemd, PipeWire และ Wayland ‼️ คำเตือนและข้อท้าทาย ⛔ ผู้ใช้ใหม่อาจสับสนกับดิสโทรและเดสก์ท็อปที่หลากหลาย ⛔ การสื่อสารแบรนด์ “Linux” ยังไม่ชัดเจนและอาจลดการยอมรับในตลาดหลัก https://itsfoss.com/linux-fragmentation-as-positive/
    ITSFOSS.COM
    Linux Desktop is Fragmented (And That's NOT a Bad Thing)
    Linux desktop is often described as fragmented, but with the right perspective, it becomes clear that this description only makes sense if you see Linux as a single, unified product, and expect it act like one. It isn't, and so it doesn't.
    0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • เดนมาร์กเริ่มต้นการย้ายออกจาก Microsoft – จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

    รัฐบาลเดนมาร์กประกาศเดินหน้าโครงการ SIA Open ที่นำโดย Statens IT (หน่วยงาน IT ของรัฐบาล) เพื่อแทนที่บริการของ Microsoft ด้วยซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส หน่วยงานแรกที่เข้าร่วมคือ Færdselsstyrelsen หรือสำนักงานการจราจรทางถนน ซึ่งจะเปลี่ยนทั้งระบบปฏิบัติการ Windows และชุดโปรแกรม Microsoft Office (Word, Excel, Teams, Outlook) ไปใช้ทางเลือกโอเพนซอร์ส แม้ยังไม่เปิดเผยว่าซอฟต์แวร์ใดจะถูกเลือกมาแทน.

    การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงความกังวลเรื่อง vendor lock-in และการควบคุมข้อมูลที่สำคัญของรัฐ โดย Stefan Søsted ผู้อำนวยการ Færdselsstyrelsen ระบุว่า หน่วยงานต้องการ “เป็นเจ้าของบ้านของตัวเอง” และมั่นใจว่าข้อมูลสำคัญอยู่ภายใต้การควบคุมเต็มที่ พร้อมเตือนว่าการพึ่งพาผู้ให้บริการรายเดียว เช่น Microsoft อาจทำให้รัฐถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายสูงเกินควร.

    แม้การทดลองนี้จะครอบคลุมเพียงบางส่วนของพนักงาน 600 คน แต่ Statens IT มีแผนขยายไปยังหน่วยงานรัฐอื่น ๆ รวมกว่า 15,000 ผู้ใช้ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระดับประเทศ หากสำเร็จ เดนมาร์กจะเป็นหนึ่งในประเทศแรกที่ลดการพึ่งพา Microsoft อย่างจริงจังในภาครัฐ.

    ด้าน Microsoft Denmark ตอบกลับด้วยถ้อยแถลงเชิง PR ว่าบริการของตนมีราคาแข่งขันได้และเป็นที่นิยมในภาครัฐ เนื่องจากผสมผสานความปลอดภัยสูง นวัตกรรม และการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพ พร้อมย้ำว่า “โอเพนซอร์สและ Microsoft ไม่จำเป็นต้องขัดแย้งกัน”.

    สรุปสาระสำคัญ
    โครงการ SIA Open ของรัฐบาลเดนมาร์ก
    นำโดย Statens IT เพื่อแทนที่ Microsoft ด้วยโอเพนซอร์ส
    หน่วยงานแรกคือ Færdselsstyrelsen (สำนักงานการจราจรทางถนน)

    การเปลี่ยนแปลงที่ครอบคลุม
    เปลี่ยนทั้ง Windows และ Microsoft Office ไปใช้โอเพนซอร์ส
    มีแผนขยายไปยัง 15,000 ผู้ใช้ในหลายหน่วยงานรัฐ

    เหตุผลหลักของการย้ายออกจาก Microsoft
    ลดความเสี่ยงจาก vendor lock-in
    ควบคุมข้อมูลสำคัญของรัฐได้เต็มที่

    คำเตือนและข้อท้าทาย
    ยังไม่เปิดเผยว่าโอเพนซอร์สใดจะถูกเลือกมาแทน
    การเปลี่ยนผ่านอาจกระทบต่อการทำงานและต้องใช้เวลาในการปรับตัว

    https://itsfoss.com/news/denmark-road-traffic-authority-ditches-microsoft/
    🇩🇰 เดนมาร์กเริ่มต้นการย้ายออกจาก Microsoft – จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง รัฐบาลเดนมาร์กประกาศเดินหน้าโครงการ SIA Open ที่นำโดย Statens IT (หน่วยงาน IT ของรัฐบาล) เพื่อแทนที่บริการของ Microsoft ด้วยซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส หน่วยงานแรกที่เข้าร่วมคือ Færdselsstyrelsen หรือสำนักงานการจราจรทางถนน ซึ่งจะเปลี่ยนทั้งระบบปฏิบัติการ Windows และชุดโปรแกรม Microsoft Office (Word, Excel, Teams, Outlook) ไปใช้ทางเลือกโอเพนซอร์ส แม้ยังไม่เปิดเผยว่าซอฟต์แวร์ใดจะถูกเลือกมาแทน. การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงความกังวลเรื่อง vendor lock-in และการควบคุมข้อมูลที่สำคัญของรัฐ โดย Stefan Søsted ผู้อำนวยการ Færdselsstyrelsen ระบุว่า หน่วยงานต้องการ “เป็นเจ้าของบ้านของตัวเอง” และมั่นใจว่าข้อมูลสำคัญอยู่ภายใต้การควบคุมเต็มที่ พร้อมเตือนว่าการพึ่งพาผู้ให้บริการรายเดียว เช่น Microsoft อาจทำให้รัฐถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายสูงเกินควร. แม้การทดลองนี้จะครอบคลุมเพียงบางส่วนของพนักงาน 600 คน แต่ Statens IT มีแผนขยายไปยังหน่วยงานรัฐอื่น ๆ รวมกว่า 15,000 ผู้ใช้ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระดับประเทศ หากสำเร็จ เดนมาร์กจะเป็นหนึ่งในประเทศแรกที่ลดการพึ่งพา Microsoft อย่างจริงจังในภาครัฐ. ด้าน Microsoft Denmark ตอบกลับด้วยถ้อยแถลงเชิง PR ว่าบริการของตนมีราคาแข่งขันได้และเป็นที่นิยมในภาครัฐ เนื่องจากผสมผสานความปลอดภัยสูง นวัตกรรม และการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพ พร้อมย้ำว่า “โอเพนซอร์สและ Microsoft ไม่จำเป็นต้องขัดแย้งกัน”. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ โครงการ SIA Open ของรัฐบาลเดนมาร์ก ➡️ นำโดย Statens IT เพื่อแทนที่ Microsoft ด้วยโอเพนซอร์ส ➡️ หน่วยงานแรกคือ Færdselsstyrelsen (สำนักงานการจราจรทางถนน) ✅ การเปลี่ยนแปลงที่ครอบคลุม ➡️ เปลี่ยนทั้ง Windows และ Microsoft Office ไปใช้โอเพนซอร์ส ➡️ มีแผนขยายไปยัง 15,000 ผู้ใช้ในหลายหน่วยงานรัฐ ✅ เหตุผลหลักของการย้ายออกจาก Microsoft ➡️ ลดความเสี่ยงจาก vendor lock-in ➡️ ควบคุมข้อมูลสำคัญของรัฐได้เต็มที่ ‼️ คำเตือนและข้อท้าทาย ⛔ ยังไม่เปิดเผยว่าโอเพนซอร์สใดจะถูกเลือกมาแทน ⛔ การเปลี่ยนผ่านอาจกระทบต่อการทำงานและต้องใช้เวลาในการปรับตัว https://itsfoss.com/news/denmark-road-traffic-authority-ditches-microsoft/
    ITSFOSS.COM
    Denmark Begins its Exit from Microsoft — and This is Just the Beginning
    The move is part of a government-wide effort to reduce dependency on Microsoft software. The traffic department's move is just the beginning.
    0 Comments 0 Shares 83 Views 0 Reviews
  • Armbian Imager – เครื่องมือแฟลช OS สำหรับ SBC กว่า 300 รุ่น

    ผู้ใช้ Raspberry Pi คุ้นเคยกับ Raspberry Pi Imager ที่ช่วยดาวน์โหลดและติดตั้งระบบปฏิบัติการได้สะดวก แต่สำหรับผู้ใช้บอร์ด SBC อื่น ๆ เช่น ArmSom AIM7 ตอนนี้มีทางเลือกใหม่คือ Armbian Imager ซึ่งถูกพัฒนาโดยทีม Armbian เพื่อให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกัน โดยรองรับบอร์ดกว่า 300 รุ่นจาก 70+ ผู้ผลิต.

    Armbian Imager ทำงานแบบครบวงจร ตั้งแต่เลือกบอร์ด เลือกประเภท image (desktop, server, minimal) ไปจนถึงดาวน์โหลดและแฟลชลง SD card พร้อมตรวจสอบความถูกต้องด้วย SHA256 checksum เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ยังรองรับ custom images ในหลายรูปแบบ เช่น .img, .img.xz, .img.gz, .img.bz2, และ .img.zst.

    สิ่งที่โดดเด่นคือ Armbian Imager ถูกสร้างด้วย Tauri และ Rust แทนที่จะใช้ Electron ทำให้ไฟล์ติดตั้งมีขนาดเพียง ~15 MB ซึ่งเล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับแอป Electron ที่มักมีขนาด 150–200 MB เนื่องจากต้องบรรจุ Chromium มาด้วย ฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์มก็ถูกใส่มา เช่น UDisks2 + pkexec บน Linux, UAC prompt บน Windows และ Touch ID บน macOS.

    แม้ยังอยู่ในช่วง Public Preview และยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้จาก GitHub แล้วทดลองใช้งานได้ทันที จุดนี้สะท้อนว่า Armbian กำลังทดสอบตลาดก่อนเปิดตัวเต็มรูปแบบ และเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ SBC ที่ไม่ใช่ Raspberry Pi มีเครื่องมือแฟลช OS ที่สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น.

    สรุปสาระสำคัญ
    Armbian Imager เปิดตัวสำหรับ SBC
    รองรับกว่า 300 บอร์ดจาก 70+ ผู้ผลิต
    เลือก image ได้ทั้ง desktop, server, minimal

    ฟีเจอร์ความปลอดภัยและความสะดวก
    ตรวจสอบไฟล์ด้วย SHA256 checksum
    รองรับ custom image หลายรูปแบบ

    เทคโนโลยีเบาและทันสมัย
    ใช้ Tauri + Rust ทำให้ไฟล์ติดตั้งเพียง ~15 MB
    มีฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์ม เช่น UAC, Touch ID

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ยังอยู่ในช่วง Public Preview อาจมีบั๊กหรือปัญหาการใช้งาน
    ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและติดตามอัปเดตจากทีม Armbian

    https://itsfoss.com/news/armbian-imager-quietly-debuts/
    🛠️ Armbian Imager – เครื่องมือแฟลช OS สำหรับ SBC กว่า 300 รุ่น ผู้ใช้ Raspberry Pi คุ้นเคยกับ Raspberry Pi Imager ที่ช่วยดาวน์โหลดและติดตั้งระบบปฏิบัติการได้สะดวก แต่สำหรับผู้ใช้บอร์ด SBC อื่น ๆ เช่น ArmSom AIM7 ตอนนี้มีทางเลือกใหม่คือ Armbian Imager ซึ่งถูกพัฒนาโดยทีม Armbian เพื่อให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกัน โดยรองรับบอร์ดกว่า 300 รุ่นจาก 70+ ผู้ผลิต. Armbian Imager ทำงานแบบครบวงจร ตั้งแต่เลือกบอร์ด เลือกประเภท image (desktop, server, minimal) ไปจนถึงดาวน์โหลดและแฟลชลง SD card พร้อมตรวจสอบความถูกต้องด้วย SHA256 checksum เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ยังรองรับ custom images ในหลายรูปแบบ เช่น .img, .img.xz, .img.gz, .img.bz2, และ .img.zst. สิ่งที่โดดเด่นคือ Armbian Imager ถูกสร้างด้วย Tauri และ Rust แทนที่จะใช้ Electron ทำให้ไฟล์ติดตั้งมีขนาดเพียง ~15 MB ซึ่งเล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับแอป Electron ที่มักมีขนาด 150–200 MB เนื่องจากต้องบรรจุ Chromium มาด้วย ฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์มก็ถูกใส่มา เช่น UDisks2 + pkexec บน Linux, UAC prompt บน Windows และ Touch ID บน macOS. แม้ยังอยู่ในช่วง Public Preview และยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้จาก GitHub แล้วทดลองใช้งานได้ทันที จุดนี้สะท้อนว่า Armbian กำลังทดสอบตลาดก่อนเปิดตัวเต็มรูปแบบ และเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ SBC ที่ไม่ใช่ Raspberry Pi มีเครื่องมือแฟลช OS ที่สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Armbian Imager เปิดตัวสำหรับ SBC ➡️ รองรับกว่า 300 บอร์ดจาก 70+ ผู้ผลิต ➡️ เลือก image ได้ทั้ง desktop, server, minimal ✅ ฟีเจอร์ความปลอดภัยและความสะดวก ➡️ ตรวจสอบไฟล์ด้วย SHA256 checksum ➡️ รองรับ custom image หลายรูปแบบ ✅ เทคโนโลยีเบาและทันสมัย ➡️ ใช้ Tauri + Rust ทำให้ไฟล์ติดตั้งเพียง ~15 MB ➡️ มีฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์ม เช่น UAC, Touch ID ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ยังอยู่ในช่วง Public Preview อาจมีบั๊กหรือปัญหาการใช้งาน ⛔ ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและติดตามอัปเดตจากทีม Armbian https://itsfoss.com/news/armbian-imager-quietly-debuts/
    ITSFOSS.COM
    The Upcoming Armbian Imager Tool is a Godsend for Non-Raspberry Pi SBC Owners
    Official Armbian utility supports over 300 boards with smart image filtering and verified writes.
    0 Comments 0 Shares 70 Views 0 Reviews
  • Astral เปิดตัว ty – Type Checker ที่เร็วที่สุดสำหรับ Python

    Astral ผู้พัฒนาเครื่องมือดังอย่าง uv (package manager) และ Ruff (linter/formatter) ประกาศเปิดตัว ty ในสถานะ Beta รุ่นใหม่ที่ถูกออกแบบมาเป็น extremely fast Python type checker และ language server เขียนด้วย Rust เพื่อเป็นทางเลือกแทน mypy, Pyright และ Pylance โดยทีมงานยืนยันว่าได้ใช้ ty ในโปรเจกต์จริงแล้ว และพร้อมแนะนำให้ผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงนำไปใช้ใน production.

    จุดเด่นของ ty คือ ความเร็วเหนือชั้น โดยไม่ใช้ caching ก็ยังเร็วกว่า mypy และ Pyright ถึง 10–60 เท่า และเมื่อใช้งานใน editor ความต่างยิ่งชัดเจน เช่น การแก้ไขไฟล์สำคัญใน PyTorch repository ty ใช้เวลาเพียง 4.7ms ในการ recompute diagnostics เทียบกับ Pyright ที่ใช้ 386ms และ Pyrefly ที่ใช้ 2.38 วินาที นั่นหมายถึงการตอบสนองแบบ real-time ที่แทบไม่สะดุดสำหรับนักพัฒนา.

    นอกจากความเร็วแล้ว ty ยังมาพร้อม ฟีเจอร์เชิงทฤษฎีขั้นสูง เช่น intersection types, type narrowing และ reachability analysis ที่ช่วยลด false positives และให้ feedback ที่แม่นยำกว่าเดิม ระบบ diagnostic ได้แรงบันดาลใจจาก Rust compiler โดยสามารถอธิบายปัญหาแบบ cross-file และเสนอแนวทางแก้ไข ทำให้ผู้ใช้เข้าใจได้ทั้ง “อะไรผิด” และ “ทำไมผิด”.

    ty รองรับ Language Server Protocol เต็มรูปแบบ เช่น Go to Definition, Auto-Complete, Semantic Highlighting และ Inlay Hints พร้อม extension สำหรับ VS Code และ Cursor ทีม Astral ตั้งเป้าออก Stable release ในปีหน้า โดยจะเพิ่มการรองรับ third-party libraries อย่าง Pydantic และ Django รวมถึงฟีเจอร์เชิง semantic เช่น dead code elimination, CVE reachability analysis และ type-aware linting เพื่อผลักดัน Python ให้เป็น ecosystem ที่ productive ที่สุด.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    เปิดตัว ty Beta โดย Astral
    เขียนด้วย Rust เป็นทางเลือกแทน mypy, Pyright, Pylance
    ใช้งานจริงแล้วในโปรเจกต์ของทีม Astral

    ความเร็วเหนือคู่แข่ง
    เร็วกว่า mypy และ Pyright 10–60 เท่า
    Recompute diagnostics ใน PyTorch repository เพียง 4.7ms

    ฟีเจอร์เชิงทฤษฎีและระบบ Diagnostic
    Intersection types, type narrowing, reachability analysis
    Diagnostic อธิบายปัญหาแบบ cross-file พร้อมแนวทางแก้ไข

    รองรับการใช้งานใน Editor และ Ecosystem
    รองรับ LSP เต็มรูปแบบ (Auto-Complete, Go to Definition ฯลฯ)
    เตรียมเพิ่มการรองรับ Pydantic, Django และฟีเจอร์ semantic อื่น ๆ

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    ยังอยู่ในสถานะ Beta อาจมีบั๊กและต้องการเสถียรภาพเพิ่ม
    การใช้งานกับ third-party libraries ยังไม่สมบูรณ์ ต้องรอ Stable release

    https://astral.sh/blog/ty
    🚀 Astral เปิดตัว ty – Type Checker ที่เร็วที่สุดสำหรับ Python Astral ผู้พัฒนาเครื่องมือดังอย่าง uv (package manager) และ Ruff (linter/formatter) ประกาศเปิดตัว ty ในสถานะ Beta รุ่นใหม่ที่ถูกออกแบบมาเป็น extremely fast Python type checker และ language server เขียนด้วย Rust เพื่อเป็นทางเลือกแทน mypy, Pyright และ Pylance โดยทีมงานยืนยันว่าได้ใช้ ty ในโปรเจกต์จริงแล้ว และพร้อมแนะนำให้ผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงนำไปใช้ใน production. จุดเด่นของ ty คือ ความเร็วเหนือชั้น โดยไม่ใช้ caching ก็ยังเร็วกว่า mypy และ Pyright ถึง 10–60 เท่า และเมื่อใช้งานใน editor ความต่างยิ่งชัดเจน เช่น การแก้ไขไฟล์สำคัญใน PyTorch repository ty ใช้เวลาเพียง 4.7ms ในการ recompute diagnostics เทียบกับ Pyright ที่ใช้ 386ms และ Pyrefly ที่ใช้ 2.38 วินาที นั่นหมายถึงการตอบสนองแบบ real-time ที่แทบไม่สะดุดสำหรับนักพัฒนา. นอกจากความเร็วแล้ว ty ยังมาพร้อม ฟีเจอร์เชิงทฤษฎีขั้นสูง เช่น intersection types, type narrowing และ reachability analysis ที่ช่วยลด false positives และให้ feedback ที่แม่นยำกว่าเดิม ระบบ diagnostic ได้แรงบันดาลใจจาก Rust compiler โดยสามารถอธิบายปัญหาแบบ cross-file และเสนอแนวทางแก้ไข ทำให้ผู้ใช้เข้าใจได้ทั้ง “อะไรผิด” และ “ทำไมผิด”. ty รองรับ Language Server Protocol เต็มรูปแบบ เช่น Go to Definition, Auto-Complete, Semantic Highlighting และ Inlay Hints พร้อม extension สำหรับ VS Code และ Cursor ทีม Astral ตั้งเป้าออก Stable release ในปีหน้า โดยจะเพิ่มการรองรับ third-party libraries อย่าง Pydantic และ Django รวมถึงฟีเจอร์เชิง semantic เช่น dead code elimination, CVE reachability analysis และ type-aware linting เพื่อผลักดัน Python ให้เป็น ecosystem ที่ productive ที่สุด. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ เปิดตัว ty Beta โดย Astral ➡️ เขียนด้วย Rust เป็นทางเลือกแทน mypy, Pyright, Pylance ➡️ ใช้งานจริงแล้วในโปรเจกต์ของทีม Astral ✅ ความเร็วเหนือคู่แข่ง ➡️ เร็วกว่า mypy และ Pyright 10–60 เท่า ➡️ Recompute diagnostics ใน PyTorch repository เพียง 4.7ms ✅ ฟีเจอร์เชิงทฤษฎีและระบบ Diagnostic ➡️ Intersection types, type narrowing, reachability analysis ➡️ Diagnostic อธิบายปัญหาแบบ cross-file พร้อมแนวทางแก้ไข ✅ รองรับการใช้งานใน Editor และ Ecosystem ➡️ รองรับ LSP เต็มรูปแบบ (Auto-Complete, Go to Definition ฯลฯ) ➡️ เตรียมเพิ่มการรองรับ Pydantic, Django และฟีเจอร์ semantic อื่น ๆ ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ ยังอยู่ในสถานะ Beta อาจมีบั๊กและต้องการเสถียรภาพเพิ่ม ⛔ การใช้งานกับ third-party libraries ยังไม่สมบูรณ์ ต้องรอ Stable release https://astral.sh/blog/ty
    ASTRAL.SH
    ty: An extremely fast Python type checker and language server
    ty is an extremely fast Python type checker and language server, written in Rust, and designed as an alternative to mypy, Pyright, and Pylance.
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • Waterfox โต้กลับทิศทางใหม่ของ Mozilla

    Alex Kontos ผู้สร้าง Waterfox เขียนบทความตอบโต้การประกาศของ CEO Mozilla ที่จะวาง AI เป็นหัวใจของเบราว์เซอร์ Firefox โดยชี้ว่า “AI-first browsing” ทำให้เกิดคำถามพื้นฐานว่าเบราว์เซอร์ควรทำหน้าที่อะไร เขามองว่าเบราว์เซอร์คือ user agent ที่ทำงานแทนผู้ใช้ ไม่ใช่ระบบที่คิดแทนหรือปรับเปลี่ยนประสบการณ์โดยที่ผู้ใช้ไม่เข้าใจ.

    Kontos ยอมรับว่าเทคโนโลยี Machine Learning เช่นโครงการ Bergamot (การแปลข้อความแบบ local) มีประโยชน์จริง เพราะมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ แต่เขาแยกชัดเจนว่า Large Language Models (LLMs) เป็น “black box” ที่ไม่สามารถตรวจสอบหรือเข้าใจได้อย่างแท้จริง การนำ LLMs มาอยู่ใจกลางเบราว์เซอร์จึงเป็นการบั่นทอนความเชื่อมั่นและความโปร่งใสที่ Mozilla เคยยึดถือ.

    เขาเตือนว่าการให้ AI เป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับเว็บ อาจทำให้เกิด “user agent ของ user agent” ที่เข้ามาจัดการแท็บ เขียนใหม่ประวัติการใช้งาน และปรับสิ่งที่ผู้ใช้เห็นโดยที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ แม้ Mozilla จะสัญญาว่า AI จะเป็นตัวเลือกที่ปิดได้ แต่การมีฟีเจอร์ที่ลึกถึงขั้นต้องมี opt-out แสดงให้เห็นว่า AI ถูกฝังในระดับแกนกลางของ Firefox แล้ว.

    Waterfox ยืนยันว่าจะไม่รวม LLMs เข้ามา โดยเน้นการเป็นเบราว์เซอร์ที่โปร่งใสและควบคุมได้เต็มที่ พร้อมชี้ว่าจุดแข็งของ Mozilla เดิมคือชุมชนผู้ใช้ที่เป็นนักพัฒนาและผู้สนับสนุนความเป็นส่วนตัว แต่การไล่ตามตลาดผู้ใช้ทั่วไปแบบ Chrome กลับทำให้ Firefox สูญเสียฐานผู้ใช้หลักไปเรื่อย ๆ Waterfox จึงวางตัวเป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเรียบง่าย โปร่งใส และไม่ถูก AI ควบคุม.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Mozilla หันสู่ AI-first browsing
    CEO ประกาศวาง AI เป็นแกนกลางของ Firefox
    สัญญาว่าผู้ใช้สามารถปิดฟีเจอร์ได้ แต่ยังคงฝังลึกในระบบ

    Waterfox แยกแยะ ML กับ LLMs
    ML เช่น Bergamot มีประโยชน์และตรวจสอบได้
    LLMs เป็น black box ไม่โปร่งใสและไม่สามารถตรวจสอบได้

    ความเสี่ยงของ AI ในเบราว์เซอร์
    AI อาจจัดการแท็บ เขียนใหม่ประวัติ และปรับสิ่งที่ผู้ใช้เห็น
    ผู้ใช้ต้องแบกรับภาระในการตรวจสอบระบบที่ไม่โปร่งใส

    จุดยืนของ Waterfox
    ไม่รวม LLMs ในเบราว์เซอร์
    เน้นความโปร่งใส การควบคุม และการตอบสนองต่อชุมชนผู้ใช้

    คำเตือนต่อ Mozilla
    การไล่ตามตลาดผู้ใช้ทั่วไปอาจทำให้สูญเสียฐานผู้ใช้ที่เป็นนักพัฒนาและผู้สนับสนุนความเป็นส่วนตัว
    การฝัง AI ที่ไม่โปร่งใสอาจบั่นทอนความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์เรื่อง “trust” ที่ Mozilla เคยยึดถือ

    https://www.waterfox.com/blog/no-ai-here-response-to-mozilla/
    🌐 Waterfox โต้กลับทิศทางใหม่ของ Mozilla Alex Kontos ผู้สร้าง Waterfox เขียนบทความตอบโต้การประกาศของ CEO Mozilla ที่จะวาง AI เป็นหัวใจของเบราว์เซอร์ Firefox โดยชี้ว่า “AI-first browsing” ทำให้เกิดคำถามพื้นฐานว่าเบราว์เซอร์ควรทำหน้าที่อะไร เขามองว่าเบราว์เซอร์คือ user agent ที่ทำงานแทนผู้ใช้ ไม่ใช่ระบบที่คิดแทนหรือปรับเปลี่ยนประสบการณ์โดยที่ผู้ใช้ไม่เข้าใจ. Kontos ยอมรับว่าเทคโนโลยี Machine Learning เช่นโครงการ Bergamot (การแปลข้อความแบบ local) มีประโยชน์จริง เพราะมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ แต่เขาแยกชัดเจนว่า Large Language Models (LLMs) เป็น “black box” ที่ไม่สามารถตรวจสอบหรือเข้าใจได้อย่างแท้จริง การนำ LLMs มาอยู่ใจกลางเบราว์เซอร์จึงเป็นการบั่นทอนความเชื่อมั่นและความโปร่งใสที่ Mozilla เคยยึดถือ. เขาเตือนว่าการให้ AI เป็นตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับเว็บ อาจทำให้เกิด “user agent ของ user agent” ที่เข้ามาจัดการแท็บ เขียนใหม่ประวัติการใช้งาน และปรับสิ่งที่ผู้ใช้เห็นโดยที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ แม้ Mozilla จะสัญญาว่า AI จะเป็นตัวเลือกที่ปิดได้ แต่การมีฟีเจอร์ที่ลึกถึงขั้นต้องมี opt-out แสดงให้เห็นว่า AI ถูกฝังในระดับแกนกลางของ Firefox แล้ว. Waterfox ยืนยันว่าจะไม่รวม LLMs เข้ามา โดยเน้นการเป็นเบราว์เซอร์ที่โปร่งใสและควบคุมได้เต็มที่ พร้อมชี้ว่าจุดแข็งของ Mozilla เดิมคือชุมชนผู้ใช้ที่เป็นนักพัฒนาและผู้สนับสนุนความเป็นส่วนตัว แต่การไล่ตามตลาดผู้ใช้ทั่วไปแบบ Chrome กลับทำให้ Firefox สูญเสียฐานผู้ใช้หลักไปเรื่อย ๆ Waterfox จึงวางตัวเป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเรียบง่าย โปร่งใส และไม่ถูก AI ควบคุม. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Mozilla หันสู่ AI-first browsing ➡️ CEO ประกาศวาง AI เป็นแกนกลางของ Firefox ➡️ สัญญาว่าผู้ใช้สามารถปิดฟีเจอร์ได้ แต่ยังคงฝังลึกในระบบ ✅ Waterfox แยกแยะ ML กับ LLMs ➡️ ML เช่น Bergamot มีประโยชน์และตรวจสอบได้ ➡️ LLMs เป็น black box ไม่โปร่งใสและไม่สามารถตรวจสอบได้ ✅ ความเสี่ยงของ AI ในเบราว์เซอร์ ➡️ AI อาจจัดการแท็บ เขียนใหม่ประวัติ และปรับสิ่งที่ผู้ใช้เห็น ➡️ ผู้ใช้ต้องแบกรับภาระในการตรวจสอบระบบที่ไม่โปร่งใส ✅ จุดยืนของ Waterfox ➡️ ไม่รวม LLMs ในเบราว์เซอร์ ➡️ เน้นความโปร่งใส การควบคุม และการตอบสนองต่อชุมชนผู้ใช้ ‼️ คำเตือนต่อ Mozilla ⛔ การไล่ตามตลาดผู้ใช้ทั่วไปอาจทำให้สูญเสียฐานผู้ใช้ที่เป็นนักพัฒนาและผู้สนับสนุนความเป็นส่วนตัว ⛔ การฝัง AI ที่ไม่โปร่งใสอาจบั่นทอนความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์เรื่อง “trust” ที่ Mozilla เคยยึดถือ https://www.waterfox.com/blog/no-ai-here-response-to-mozilla/
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • AI กำลังทำให้ Formal Verification กลายเป็นกระแสหลักในซอฟต์แวร์

    Formal Verification หรือการพิสูจน์ความถูกต้องของซอฟต์แวร์ด้วยหลักคณิตศาสตร์ เคยเป็นเรื่องที่ใช้เฉพาะในงานวิจัยหรือระบบที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ระบบการบินหรือการเข้ารหัสข้อมูล เนื่องจากต้องใช้เวลาและความเชี่ยวชาญสูงมาก เช่น กรณี seL4 microkernel ที่ใช้เวลาถึง 20 ปีคนในการพิสูจน์ความถูกต้องของโค้ดเพียงไม่กี่พันบรรทัด. แต่ปัจจุบัน AI โดยเฉพาะ LLM-based coding assistants กำลังเข้ามาช่วยลดภาระนี้อย่างมหาศาล.

    AI ไม่เพียงแต่ช่วยเขียนโค้ด แต่ยังสามารถสร้าง proof scripts เพื่อยืนยันว่าโค้ดนั้นสอดคล้องกับสเปกที่กำหนดไว้ Proof checkers อย่าง Isabelle หรือ Lean จะทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้อง ทำให้แม้ AI จะ “หลอน” หรือสร้างโค้ดผิดพลาด ก็ไม่สามารถผ่านการตรวจสอบได้ สิ่งนี้เปลี่ยนสมการทางเศรษฐศาสตร์ของการพัฒนา เพราะต้นทุนการพิสูจน์ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับต้นทุนของบั๊กที่อาจสร้างความเสียหาย.

    นอกจากการลดต้นทุนแล้ว AI ยังสร้าง “ความจำเป็นใหม่” ในการใช้ Formal Verification เนื่องจากโค้ดที่สร้างโดย AI มีความเร็วสูงแต่เสี่ยงต่อข้อผิดพลาดที่มนุษย์อาจตรวจไม่พบ การให้ AI พิสูจน์ความถูกต้องของโค้ดที่มันสร้างเอง จึงเป็นวิธีที่น่าเชื่อถือกว่าการตรวจสอบด้วยสายตามนุษย์ และอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม.

    อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังอยู่ที่การเขียน formal specification หรือการกำหนดคุณสมบัติที่ต้องการให้โค้ดมี ซึ่งยังต้องใช้ความเชี่ยวชาญและการตีความที่ถูกต้อง หากสเปกไม่ชัดเจน การพิสูจน์ก็ไม่มีความหมาย นักวิจัยบางส่วนจึงมองว่า AI อาจช่วยแปลสเปกจากภาษาธรรมชาติเป็นภาษาทางการได้ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงเรื่องการตีความผิดพลาดที่ต้องระวัง.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    AI กำลังทำให้ Formal Verification เข้าสู่กระแสหลัก
    Proof assistants เช่น Lean, Isabelle, Agda ถูกใช้ร่วมกับ AI เพื่อลดภาระการเขียน proof scripts
    ต้นทุนการพิสูจน์ลดลง ทำให้การตรวจสอบโค้ดมีความคุ้มค่ามากขึ้น

    AI สร้างความจำเป็นใหม่ในการตรวจสอบโค้ด
    โค้ดที่สร้างโดย LLMs มีความเร็วสูงแต่เสี่ยงต่อบั๊ก
    Proof checkers สามารถป้องกันข้อผิดพลาดที่มนุษย์อาจมองไม่เห็น

    การเปลี่ยนแปลงเชิงเศรษฐศาสตร์และมาตรฐานอุตสาหกรรม
    ต้นทุนบั๊กสูงกว่าต้นทุนการพิสูจน์ ทำให้ Formal Verification มีความคุ้มค่า
    อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในซอฟต์แวร์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง

    ความท้าทายและข้อควรระวัง
    การเขียน formal specification ยังต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง หากผิดพลาดจะทำให้การพิสูจน์ไร้ค่า
    การใช้ AI แปลสเปกจากภาษาธรรมชาติอาจเสี่ยงต่อการตีความผิดพลาด

    https://martin.kleppmann.com/2025/12/08/ai-formal-verification.html
    🧩 AI กำลังทำให้ Formal Verification กลายเป็นกระแสหลักในซอฟต์แวร์ Formal Verification หรือการพิสูจน์ความถูกต้องของซอฟต์แวร์ด้วยหลักคณิตศาสตร์ เคยเป็นเรื่องที่ใช้เฉพาะในงานวิจัยหรือระบบที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ระบบการบินหรือการเข้ารหัสข้อมูล เนื่องจากต้องใช้เวลาและความเชี่ยวชาญสูงมาก เช่น กรณี seL4 microkernel ที่ใช้เวลาถึง 20 ปีคนในการพิสูจน์ความถูกต้องของโค้ดเพียงไม่กี่พันบรรทัด. แต่ปัจจุบัน AI โดยเฉพาะ LLM-based coding assistants กำลังเข้ามาช่วยลดภาระนี้อย่างมหาศาล. AI ไม่เพียงแต่ช่วยเขียนโค้ด แต่ยังสามารถสร้าง proof scripts เพื่อยืนยันว่าโค้ดนั้นสอดคล้องกับสเปกที่กำหนดไว้ Proof checkers อย่าง Isabelle หรือ Lean จะทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้อง ทำให้แม้ AI จะ “หลอน” หรือสร้างโค้ดผิดพลาด ก็ไม่สามารถผ่านการตรวจสอบได้ สิ่งนี้เปลี่ยนสมการทางเศรษฐศาสตร์ของการพัฒนา เพราะต้นทุนการพิสูจน์ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับต้นทุนของบั๊กที่อาจสร้างความเสียหาย. นอกจากการลดต้นทุนแล้ว AI ยังสร้าง “ความจำเป็นใหม่” ในการใช้ Formal Verification เนื่องจากโค้ดที่สร้างโดย AI มีความเร็วสูงแต่เสี่ยงต่อข้อผิดพลาดที่มนุษย์อาจตรวจไม่พบ การให้ AI พิสูจน์ความถูกต้องของโค้ดที่มันสร้างเอง จึงเป็นวิธีที่น่าเชื่อถือกว่าการตรวจสอบด้วยสายตามนุษย์ และอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม. อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังอยู่ที่การเขียน formal specification หรือการกำหนดคุณสมบัติที่ต้องการให้โค้ดมี ซึ่งยังต้องใช้ความเชี่ยวชาญและการตีความที่ถูกต้อง หากสเปกไม่ชัดเจน การพิสูจน์ก็ไม่มีความหมาย นักวิจัยบางส่วนจึงมองว่า AI อาจช่วยแปลสเปกจากภาษาธรรมชาติเป็นภาษาทางการได้ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงเรื่องการตีความผิดพลาดที่ต้องระวัง. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ AI กำลังทำให้ Formal Verification เข้าสู่กระแสหลัก ➡️ Proof assistants เช่น Lean, Isabelle, Agda ถูกใช้ร่วมกับ AI เพื่อลดภาระการเขียน proof scripts ➡️ ต้นทุนการพิสูจน์ลดลง ทำให้การตรวจสอบโค้ดมีความคุ้มค่ามากขึ้น ✅ AI สร้างความจำเป็นใหม่ในการตรวจสอบโค้ด ➡️ โค้ดที่สร้างโดย LLMs มีความเร็วสูงแต่เสี่ยงต่อบั๊ก ➡️ Proof checkers สามารถป้องกันข้อผิดพลาดที่มนุษย์อาจมองไม่เห็น ✅ การเปลี่ยนแปลงเชิงเศรษฐศาสตร์และมาตรฐานอุตสาหกรรม ➡️ ต้นทุนบั๊กสูงกว่าต้นทุนการพิสูจน์ ทำให้ Formal Verification มีความคุ้มค่า ➡️ อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในซอฟต์แวร์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง ‼️ ความท้าทายและข้อควรระวัง ⛔ การเขียน formal specification ยังต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง หากผิดพลาดจะทำให้การพิสูจน์ไร้ค่า ⛔ การใช้ AI แปลสเปกจากภาษาธรรมชาติอาจเสี่ยงต่อการตีความผิดพลาด https://martin.kleppmann.com/2025/12/08/ai-formal-verification.html
    0 Comments 0 Shares 70 Views 0 Reviews
  • กองทัพอากาศชี้แจงกรณีการปฏิบัติการทางอากาศต่อเป้าหมายใกล้เมืองปอยเปต ภายหลังมีกระแสข่าวการโจมตีในพื้นที่ดังกล่าว ยืนยันว่าเป็นการโจมตีเป้าหมายทางทหารที่ผ่านการพิสูจน์ทราบด้านการข่าวอย่างรอบคอบ
    .
    โฆษกกองทัพอากาศระบุว่า เป้าหมายดังกล่าวเป็นคลังเก็บอาวุธ กระสุน วัตถุระเบิด และจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งถูกใช้เป็นศูนย์โลจิสติกส์ในการโจมตีพื้นที่ฝั่งไทย โดยจากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ ไม่พบพลเรือนอาศัยอยู่ในบริเวณเป้าหมาย
    .
    กองทัพอากาศย้ำว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ดำเนินการภายใต้หลักมนุษยธรรม ความจำเป็น และความได้สัดส่วน มุ่งโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหาร เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประเทศ
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122084
    .
    #News1live #News1 #กองทัพอากาศ #สถานการณ์ชายแดน #ปอยเปต #ความมั่นคง
    กองทัพอากาศชี้แจงกรณีการปฏิบัติการทางอากาศต่อเป้าหมายใกล้เมืองปอยเปต ภายหลังมีกระแสข่าวการโจมตีในพื้นที่ดังกล่าว ยืนยันว่าเป็นการโจมตีเป้าหมายทางทหารที่ผ่านการพิสูจน์ทราบด้านการข่าวอย่างรอบคอบ . โฆษกกองทัพอากาศระบุว่า เป้าหมายดังกล่าวเป็นคลังเก็บอาวุธ กระสุน วัตถุระเบิด และจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งถูกใช้เป็นศูนย์โลจิสติกส์ในการโจมตีพื้นที่ฝั่งไทย โดยจากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ ไม่พบพลเรือนอาศัยอยู่ในบริเวณเป้าหมาย . กองทัพอากาศย้ำว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ดำเนินการภายใต้หลักมนุษยธรรม ความจำเป็น และความได้สัดส่วน มุ่งโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหาร เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประเทศ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122084 . #News1live #News1 #กองทัพอากาศ #สถานการณ์ชายแดน #ปอยเปต #ความมั่นคง
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 187 Views 0 Reviews
  • ตำรวจกองปราบปรามจับกุมหญิงสาววัย 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในข้อหาเกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชีม้าให้ขบวนการหลอกลงทุนหุ้นปลอม หลังมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินลงทุน สูญเงินรวมกว่า 3 ล้านบาท
    .
    คดีนี้ผู้เสียหายถูกชักชวนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนหุ้น และใช้แพลตฟอร์มปลอมแสดงผลลักษณะคล้ายการซื้อขายจริง จนเกิดความเชื่อถือและโอนเงินหลายครั้ง
    .
    จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การว่าได้เปิดบัญชีธนาคารหลายบัญชีและนำไปมอบให้ขบวนการสแกมเมอร์ โดยได้รับค่าตอบแทน ก่อนที่บัญชีดังกล่าวจะถูกนำไปใช้หลอกลวงประชาชน ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลติดตามผู้เกี่ยวข้องรายอื่นเพิ่มเติม
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122050
    .
    #News1live #News1 #กองปราบ #บัญชีม้า #หุ้นทิพย์ #สแกมเมอร์ #อาชญากรรมออนไลน์
    ตำรวจกองปราบปรามจับกุมหญิงสาววัย 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในข้อหาเกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชีม้าให้ขบวนการหลอกลงทุนหุ้นปลอม หลังมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินลงทุน สูญเงินรวมกว่า 3 ล้านบาท . คดีนี้ผู้เสียหายถูกชักชวนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนหุ้น และใช้แพลตฟอร์มปลอมแสดงผลลักษณะคล้ายการซื้อขายจริง จนเกิดความเชื่อถือและโอนเงินหลายครั้ง . จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การว่าได้เปิดบัญชีธนาคารหลายบัญชีและนำไปมอบให้ขบวนการสแกมเมอร์ โดยได้รับค่าตอบแทน ก่อนที่บัญชีดังกล่าวจะถูกนำไปใช้หลอกลวงประชาชน ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลติดตามผู้เกี่ยวข้องรายอื่นเพิ่มเติม . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122050 . #News1live #News1 #กองปราบ #บัญชีม้า #หุ้นทิพย์ #สแกมเมอร์ #อาชญากรรมออนไลน์
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 184 Views 0 Reviews
  • สุนทรพจน์ทรัมป์ชูแจกโบนัสทหาร กู้คะแนนนิยมดิ่ง : คนเคาะข่าว
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=5X3qAOHS2PQ
    สุนทรพจน์ทรัมป์ชูแจกโบนัสทหาร กู้คะแนนนิยมดิ่ง : คนเคาะข่าว . https://www.youtube.com/watch?v=5X3qAOHS2PQ
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 36 Views 0 Reviews
  • ตำรวจ สภ.บางพลีน้อย อายัดตัวคนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ สอบปากคำ หลังเกิดอุบัติเหตุดัมพ์กระบะท้ายยกขึ้นชนสะพานลอย บนถนนบางนา-ตราด กม.34 ส่งผลให้คานสะพานขาดหล่นทับรถยนต์ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
    .
    เหตุเกิดช่วงกลางวันของวันที่ 18 ธ.ค. โดยคานสะพานลอยถล่มลงมาทับรถบรรทุกพ่วงขนดิน และรถกระบะบรรทุกไข่ ทำให้นายสังเวียน อายุ 59 ปี ผู้ขับขี่รถกระบะบรรทุกไข่ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคนขับรถบรรทุกพ่วงได้รับบาดเจ็บและถูกนำส่งโรงพยาบาล
    .
    จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบว่ารถบรรทุกพ่วงมีการยกดัมพ์กระบะขึ้นระหว่างขับขี่ ก่อนจะชนโครงสร้างสะพานลอยจนพังถล่ม ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการและกรมทางหลวงอยู่ระหว่างเร่งเคลื่อนย้ายซากสะพาน พร้อมแนะนำประชาชนเลี่ยงเส้นทาง และเตรียมซ่อมแซมความเสียหายโดยเร็ว
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000121889
    .
    #News1live #News1 #อุบัติเหตุ #สะพานลอยถล่ม #บางนาตราด #สมุทรปราการ #ตำรวจสอบสวน
    ตำรวจ สภ.บางพลีน้อย อายัดตัวคนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ สอบปากคำ หลังเกิดอุบัติเหตุดัมพ์กระบะท้ายยกขึ้นชนสะพานลอย บนถนนบางนา-ตราด กม.34 ส่งผลให้คานสะพานขาดหล่นทับรถยนต์ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย . เหตุเกิดช่วงกลางวันของวันที่ 18 ธ.ค. โดยคานสะพานลอยถล่มลงมาทับรถบรรทุกพ่วงขนดิน และรถกระบะบรรทุกไข่ ทำให้นายสังเวียน อายุ 59 ปี ผู้ขับขี่รถกระบะบรรทุกไข่ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคนขับรถบรรทุกพ่วงได้รับบาดเจ็บและถูกนำส่งโรงพยาบาล . จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบว่ารถบรรทุกพ่วงมีการยกดัมพ์กระบะขึ้นระหว่างขับขี่ ก่อนจะชนโครงสร้างสะพานลอยจนพังถล่ม ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการและกรมทางหลวงอยู่ระหว่างเร่งเคลื่อนย้ายซากสะพาน พร้อมแนะนำประชาชนเลี่ยงเส้นทาง และเตรียมซ่อมแซมความเสียหายโดยเร็ว . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000121889 . #News1live #News1 #อุบัติเหตุ #สะพานลอยถล่ม #บางนาตราด #สมุทรปราการ #ตำรวจสอบสวน
    0 Comments 0 Shares 319 Views 0 Reviews
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 8
    “ข่าวลือ ข่าวลวง”

    ตอน 8

    เยเมน เป็นเหมือนหนามตำตีน ซาอุดิอารเบียมาตลอดเวลากว่า 70 ปีมาแล้ว

    อิบน์ ซาอูด เคยยกพลไปทำสงครามกับเยเมน เมื่อปี ค.ศ.1934 กองทัพซาอุ ยึดพื้นที่ริมทะเลแดงได้ แต่ไม่สามารถยึดพื้นที่ตามแนวภูเขาและตัวเมืองชั้นในได้สัญญาสงบศึกระหว่าง 2 ประเทศ ที่ทำขึ้น ทำให้เยเมนต้องเสียหลายเมืองตามแนวเขตแดนให้แก่ซาอุดิอารเบีย และทำให้ขบวนการทวงดินแดนของเยเมนไม่เคยหมดไป

    เมื่อตอนปี ค.ศ.1960 ซาอุ สนับสนุนราชวงศ์เซดี ที่ปกครองเยเมน ในการต่อสู้กับฝ่ายอียิปต์ ที่ให้การสนับสนุนขบวนการเป็นสาธารณรัฐของเยเมน ที่ประกาศว่า จะโค่นล้มระบบกษัตริย์ทั้งคาบสมุทรอารเบีย

    แต่พอถึงเดือนมีนาคมปีนี้ (2015) ฝ่ายซาอุ ดันยิงจรวดเข้าถล่มกลุ่มฮูตติ ที่เป็นพวกกับกบฏเซดี ซึ่งกำลังรุกเข้าไปครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในเยเมนได้ และขับไล่รัฐบาลเยเมนที่พวกซาอุดิอารเบียสนับสนุน พ่ายแพ้หนีออกไปจากเมืองซานะ เข้าไปพึ่งใบบุญของซาอุดิอารเบีย ตั้งแต่ปีที่แล้ว

    โอ้ย วุ่นกันฉิบหาย…. อย่าเพิ่งงงนะครับ อ่านช้าๆ หลายหนก็ได้ เพราะนี่เรากำลังจะเข้าไปสู่จุดชี้ชะตา ของซาอุดิอารเบีย และก็อาจจะเป็นจุดชี้ชะตา ของอเมริกาด้วยก็ได้….

    เขาว่า ซาอุ ตัดสินใจส่งจรวดให้เยเมน เพียงเพราะฝ่ายซาอุไปได้ข่าวมาว่า พวกเซดีตกลงใจที่จะให้เส้นทางบินแก่อิหร่าน ที่จะบินตรงจากเตหะรานมาเยเมน และเยเมนยังตกลงใจที่จะให้อิหร่านใช้ท่าเรือฮูเดดาห์ Hudaydah ของเยเมน แถมกำลังมีการเจรจาจะซื้อน้ำมันราคาถูกระหว่างเยเมนกับอิหร่านอีกด้วย

    สรุปว่า เยเมนได้รับจรวด เพราะซาอุดิอารเบียประสาทกินเรื่องอิหร่าน

    เรื่องนี้ทำให้ซาอุ ออกแขกจริงๆ และไปรวบรวมเพื่อนขี่อูฐด้วยกัน ให้มาไล่ถล่มเยเมน นอกจากพรรคพวกแถวอ่าวแล้ว ยังมี จอร์แดน โมรอคโค และอิยิปต์บอกเอาด้วย แต่ที่น่าสนใจ โอมานและปากีสถาน เพื่อนเก่าบอก ไม่เอากับซาอุด้วย เออ น่าคิด

    สำหรับโอมาน เข้าใจว่าพยายามจะวางตัวเป็นกลาง เพราะยืนอยู่ใกล้ปากอิหร่านเหลือเกิน และยิ่งเป็นอิหร่านที่กำลังมาแรงเสียด้วย ก็ไม่แปลกเท่าไหร่ ที่โอมานจะทิ้งระยะห่างจากซาอุ

    แต่สำหรับปากีสถาน ซึ่งเคยว่าไงว่ากันกับอเมริกา และ อยู่ในบัญชี ประเภทสามารถรูดบัตรเติมเงินกับซาอุดิอารเบียได้มาตลอดนี่ … ยิ่งกว่าน่าสนใจ

    อเมริกาอ้างว่า ตัวเองให้การสนับสนุนซาอุในเรื่องยิงจรวดใส่เยเมนเฉพาะ ด้านงานข่าวกรอง และด้านสภาพพื้นที่ในเยเมน แม้ว่าทางริยาร์ดจะแจ้งทางอเมริกาล่วงหน้า ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะยิงจรวดลูกแรกใส่เยเมน

    การบุกเยเมนในครั้งนี้ของซาอุดิอารเบีย ถือเป็นนโยบายต่างประเทศเชิงรุก มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของซาอุดิอารเบีย ที่ผ่านๆมา ซาอุ จะทำอย่างไม่เปิดเผย แถมซ่อนไปซ้อนมาเสียอีกด้วยซ้ำ

    ในความเห็นของอเมริกา การที่ซาอุดิอารเบียยิงจรวดใส่เยเมนในครั้งนี้ นับว่าเป็นเรื่องอันตรายกับซาอุเองอย่างยิ่ง

    …อ้าว แล้วทำไมไม่เตือนเพื่อนรักกันเลย จริงๆ ต้องด่าด้วยซ้ำ อยู่ๆจะไปยิงจรวดใส่บ้านคนอื่นเขาง่ายๆ อย่างนี้ได้ไงวะ ที่แค่ยังไม่มีการเลือกตั้ง มึงยังเสือกปากเข้ามาไม่เลิก…
    และจนถึงทุกวันนี้ การสู้รบที่เยเมน ก็ไม่ได้เกิดผลดีกับซาอุแต่อย่างใด ต่างฝ่ายต่างยังยันกันอยู่ ฝ่ายซาอุกับพวกอ้างว่าคุมได้แล้วทางอากาศ ชายฝั่งและท่าเรือทางใต้ของเอเดน ขณะที่ฝ่ายซาดีฮูตติและพวก ก็อ้างว่าควบคุมทางเหนือของเยเมนได้เกือบหมดแล้ว

    และระหว่างที่ซาอุและพวกฟาดฟันยุ่งอยู่กับพวกฮูตติ จึงเป็นโอกาสให้อัลไดดาขยายฐานเข้าไปยึดได้เมืองใหญ่ ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นถิ่นเดิม ที่พ่อของบิน ลาเดน เคยอยู่มาก่อนที่จะอพยพไปอยู่ในซาอุดิอารเบีย

    สงครามเยเมน จึงเสมือนเป็นบททดสอบ บทแรกของกษัตริย์ซัลมาน เกี่ยวกับกิจการต่างประเทศ ที่อาจจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงของซาอุดิอารเบีย คาบสมุทรอารเบีย และรวมไปถึงภูมิภาคด้วย

    การรบเยเมน มีทั้งมิติเรื่องระหว่างนิกาย และเรื่องชิงความเป็นใหญ่ในภูมิภาค ระหว่างซาอุกับอิหร่าน แต่ที่สำคัญ ในความคิดของอเมริกา สงครามเยเมนยังเป็นสงครามที่แสดงให้เห็นว่า เทศกาลอาหรับสปริง ที่ซาอุดิอารเบียต่อต้านมาตลอดนั้น ยังไม่จบลง…

    อเมริกาเชื่อว่า การต่อสู้ที่เยเมน จะดึงฝ่ายอื่นๆเข้ามาร่วมรายการเพิ่มขึ้นอีก จะยืดเยื้อ และขยายวงออกไปนอกเยเมนถึงประเทศอื่นๆอีกด้วย …เป็นการวิจารณ์ ที่ทำให้มองเห็น เยเมน กำลังเป็นไฟลามทุ่ง….

    นอกจากนี้ อเมริกายังคาดการณ์ เหมือนเป็นลางร้ายอีกว่า เยเมนอาจจบลง อย่างเป็นจุดด่างของการครองราชย์ของกษัตริย์ซาลมาน และเป็นการจบสิ้นของความทะเยอทะยานของทั้ง บิน นาเยฟ และ บิน ซาลมาน ไม่ว่าทั้ง 2 คน จะได้มีส่วนร่วมกับสงครามนี้อย่างไร ชัดเจนว่า บิน ซาลมานที่เป็นรัฐมนตรีกลาโหม คงเป็นคนที่สูญเสียมากที่สุด ที่ผ่านมา เขาเป็นคนที่พ่อเชื่อใจมาก เป็นตัวแทนพ่อ ไปเยี่ยมรัสเซียและฝรั่งเศส และเมื่อกษัตริย์ซาลมาน ยกเลิกแผนที่จะไปพบโอบามา ที่แคมป์เดวิด เพื่อที่จะไปบอกกับโอบามา ว่าตนเองขุ่นเคืองขนาดไหน เกี่ยวกับเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่าน กษัตริย์ซัลมาน ก็ส่งเจ้าชายทั้ง 2 คน ทั้ง MBN และ MBS ไปพบโอบามาแทนตน ซึ่งโอบามา กลับพูดเร่งรัดเรื่องการปฏิรูปประเทศ แต่ก็สนับสนุนเรื่องสงครามกับเยเมน

    และในที่สุด เมื่อถึงเวลาที่กษัตริย์ซัลมานเดินทางไปวอชิงตันเข้าจริงๆ การสนทนากลับสั้น และฝ่ายซาอุกลับเป็นฝ่าย (ต้อง)ฟัง และการสนทนากลับเน้นไปที่ลูกมากกว่าพ่อ

    …แต่ โปรดสังเกตดูรูปภาพการสนทนา ระหว่างนายโอบามา กับ กษัตริย์ซาลมาน ที่ผมเอามาลงประกอบนิทานตอนนี้ ผมกลับเห็นสวนทาง กับไอ้เขี้ยวซีไอเอ ผมดูว่า ใบตองแห้งน่าจะเป็นฝ่าย ใกล้จะลงไปนั่งกับพื้น พนมมือพูดกับกษัตริย์ซาลมานร่อมร่อแล้ว เหมือนกับเป็นตัวปลอม คนละคน กับที่พูด กับคุณพี่ปูติน หรือ อาเฮียสี ช่วงวันประชุมสหประชาชาติ อย่างไม่น่าเชื่อ น่าสนใจนะครับ

    ไอ้เขี้ยวยาวซีไอเอ ยังบอกว่า บิน นาเยฟ อาจจะเป็นคนที่เข้ากับอเมริกันได้มากที่สุด ในจำนวนผู้ที่อยู่ในเส้นทางที่จะครองบัลลังค์ซาอูด และเขาอาจจะเป็นคนที่เก่งเรื่องข่าวกรองมากที่สุดในโลกตะวันออกกลาง ที่อเมริกาชื่นชม ถึงขนาดบอกว่า ฉลาดที่สุดในรุ่นเดียวกัน และต่างกับพ่อของเขา the Black Price และ บิน นาเยฟ ดูเหมือนจะพอทำงานร่วมกับอเมริกันได้ และเข้ากับโอบามาได้ดี ที่แคมป์เดวิด แต่ บิน นาเยฟ มีเรื่องต้องรับผิดชอบมากกว่าทุกคนในรุ่นเดียวกัน และมันจะมากขึ้น หลังเทศกาลอาหรับสปริงจบจริงๆ ในตะวันออกกลาง อเมริกาบอกว่า บิน นาเยฟ น่าจะรู้ดีว่า เขาต้องมีเพื่อนในยามนั้น…

    ที่เล่ามาทั้ง 8 ตอนนี้ สรุปได้ว่า เป็นรายการ ทั้งขู่เข็ญ ทั้งเปิดโปง ทั้งปิดปาก ของอเมริกา ต่อเพื่อนรัก ที่คบกันมากว่า 70 ปี อย่างน่าชื่นชมในฝีมือการเขียน
    ซีไอเอเก๋า เขี้ยวยาวเจ้าของบทความขู่สท้านโลก ตบท้ายว่า…. แต่วอชิงตัน จะทำใจยอมรับ อย่างไม่หลอกตัวเอง ไม่มีภาพลวงตา หรือเหมาเอาเอง ได้หรือไม่ว่า ซาอุดิอารเบียที่เป็นประเทศ ที่ยังปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชที่ใหญ่ที่สุด ที่ยังเหลืออยู่ในโลก กับราชวงศ์ซาอูด จะไม่มีวันยอมเปลี่ยนแปลง การปกครองประเทศของตน ไปจากแบบที่เป็นอยู่ปัจจุบันอย่างง่ายๆ และราชวงศ์ซาอูด ก็จะไม่มีวันตัดขาดกับกลุ่มวะฮาบีและเปลี่ยนแปลงความเชื่อของเขา และไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ซัลมาน เจ้าชายบิน นาเยฟ หรือเจ้าชายบิน ซาลมาน รวมทั้งราชวงศ์ที่เหลือทุกคน ต่างมีความเชื่อว่า พวกเขาอยู่รอดมาได้เช่นนี้กว่า 250 ปีแล้ว ท่ามกลางการเมืองที่ร้อนระอุ และรุนแรง และพวกเขาก็คิดว่า จะอยู่รอดแบบนี้ ต่อไป…

    ซาอุดิอารเบียและอเมริกา จะจับมือกันต่อไปไหม จะจับมือแบบอยู่รอดด้วยกัน หรือจับมือฉิบหายไปด้วยกัน หรือพวกเขาจะแยกทางกันเดิน และแยกทางกันเละ … รออ่านตอนสุดท้ายของนิทานเรื่องนี้ อย่าพลาดนะครับ!

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    24 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 8 “ข่าวลือ ข่าวลวง” ตอน 8 เยเมน เป็นเหมือนหนามตำตีน ซาอุดิอารเบียมาตลอดเวลากว่า 70 ปีมาแล้ว อิบน์ ซาอูด เคยยกพลไปทำสงครามกับเยเมน เมื่อปี ค.ศ.1934 กองทัพซาอุ ยึดพื้นที่ริมทะเลแดงได้ แต่ไม่สามารถยึดพื้นที่ตามแนวภูเขาและตัวเมืองชั้นในได้สัญญาสงบศึกระหว่าง 2 ประเทศ ที่ทำขึ้น ทำให้เยเมนต้องเสียหลายเมืองตามแนวเขตแดนให้แก่ซาอุดิอารเบีย และทำให้ขบวนการทวงดินแดนของเยเมนไม่เคยหมดไป เมื่อตอนปี ค.ศ.1960 ซาอุ สนับสนุนราชวงศ์เซดี ที่ปกครองเยเมน ในการต่อสู้กับฝ่ายอียิปต์ ที่ให้การสนับสนุนขบวนการเป็นสาธารณรัฐของเยเมน ที่ประกาศว่า จะโค่นล้มระบบกษัตริย์ทั้งคาบสมุทรอารเบีย แต่พอถึงเดือนมีนาคมปีนี้ (2015) ฝ่ายซาอุ ดันยิงจรวดเข้าถล่มกลุ่มฮูตติ ที่เป็นพวกกับกบฏเซดี ซึ่งกำลังรุกเข้าไปครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในเยเมนได้ และขับไล่รัฐบาลเยเมนที่พวกซาอุดิอารเบียสนับสนุน พ่ายแพ้หนีออกไปจากเมืองซานะ เข้าไปพึ่งใบบุญของซาอุดิอารเบีย ตั้งแต่ปีที่แล้ว โอ้ย วุ่นกันฉิบหาย…. อย่าเพิ่งงงนะครับ อ่านช้าๆ หลายหนก็ได้ เพราะนี่เรากำลังจะเข้าไปสู่จุดชี้ชะตา ของซาอุดิอารเบีย และก็อาจจะเป็นจุดชี้ชะตา ของอเมริกาด้วยก็ได้…. เขาว่า ซาอุ ตัดสินใจส่งจรวดให้เยเมน เพียงเพราะฝ่ายซาอุไปได้ข่าวมาว่า พวกเซดีตกลงใจที่จะให้เส้นทางบินแก่อิหร่าน ที่จะบินตรงจากเตหะรานมาเยเมน และเยเมนยังตกลงใจที่จะให้อิหร่านใช้ท่าเรือฮูเดดาห์ Hudaydah ของเยเมน แถมกำลังมีการเจรจาจะซื้อน้ำมันราคาถูกระหว่างเยเมนกับอิหร่านอีกด้วย สรุปว่า เยเมนได้รับจรวด เพราะซาอุดิอารเบียประสาทกินเรื่องอิหร่าน เรื่องนี้ทำให้ซาอุ ออกแขกจริงๆ และไปรวบรวมเพื่อนขี่อูฐด้วยกัน ให้มาไล่ถล่มเยเมน นอกจากพรรคพวกแถวอ่าวแล้ว ยังมี จอร์แดน โมรอคโค และอิยิปต์บอกเอาด้วย แต่ที่น่าสนใจ โอมานและปากีสถาน เพื่อนเก่าบอก ไม่เอากับซาอุด้วย เออ น่าคิด สำหรับโอมาน เข้าใจว่าพยายามจะวางตัวเป็นกลาง เพราะยืนอยู่ใกล้ปากอิหร่านเหลือเกิน และยิ่งเป็นอิหร่านที่กำลังมาแรงเสียด้วย ก็ไม่แปลกเท่าไหร่ ที่โอมานจะทิ้งระยะห่างจากซาอุ แต่สำหรับปากีสถาน ซึ่งเคยว่าไงว่ากันกับอเมริกา และ อยู่ในบัญชี ประเภทสามารถรูดบัตรเติมเงินกับซาอุดิอารเบียได้มาตลอดนี่ … ยิ่งกว่าน่าสนใจ อเมริกาอ้างว่า ตัวเองให้การสนับสนุนซาอุในเรื่องยิงจรวดใส่เยเมนเฉพาะ ด้านงานข่าวกรอง และด้านสภาพพื้นที่ในเยเมน แม้ว่าทางริยาร์ดจะแจ้งทางอเมริกาล่วงหน้า ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะยิงจรวดลูกแรกใส่เยเมน การบุกเยเมนในครั้งนี้ของซาอุดิอารเบีย ถือเป็นนโยบายต่างประเทศเชิงรุก มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของซาอุดิอารเบีย ที่ผ่านๆมา ซาอุ จะทำอย่างไม่เปิดเผย แถมซ่อนไปซ้อนมาเสียอีกด้วยซ้ำ ในความเห็นของอเมริกา การที่ซาอุดิอารเบียยิงจรวดใส่เยเมนในครั้งนี้ นับว่าเป็นเรื่องอันตรายกับซาอุเองอย่างยิ่ง …อ้าว แล้วทำไมไม่เตือนเพื่อนรักกันเลย จริงๆ ต้องด่าด้วยซ้ำ อยู่ๆจะไปยิงจรวดใส่บ้านคนอื่นเขาง่ายๆ อย่างนี้ได้ไงวะ ที่แค่ยังไม่มีการเลือกตั้ง มึงยังเสือกปากเข้ามาไม่เลิก… และจนถึงทุกวันนี้ การสู้รบที่เยเมน ก็ไม่ได้เกิดผลดีกับซาอุแต่อย่างใด ต่างฝ่ายต่างยังยันกันอยู่ ฝ่ายซาอุกับพวกอ้างว่าคุมได้แล้วทางอากาศ ชายฝั่งและท่าเรือทางใต้ของเอเดน ขณะที่ฝ่ายซาดีฮูตติและพวก ก็อ้างว่าควบคุมทางเหนือของเยเมนได้เกือบหมดแล้ว และระหว่างที่ซาอุและพวกฟาดฟันยุ่งอยู่กับพวกฮูตติ จึงเป็นโอกาสให้อัลไดดาขยายฐานเข้าไปยึดได้เมืองใหญ่ ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นถิ่นเดิม ที่พ่อของบิน ลาเดน เคยอยู่มาก่อนที่จะอพยพไปอยู่ในซาอุดิอารเบีย สงครามเยเมน จึงเสมือนเป็นบททดสอบ บทแรกของกษัตริย์ซัลมาน เกี่ยวกับกิจการต่างประเทศ ที่อาจจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงของซาอุดิอารเบีย คาบสมุทรอารเบีย และรวมไปถึงภูมิภาคด้วย การรบเยเมน มีทั้งมิติเรื่องระหว่างนิกาย และเรื่องชิงความเป็นใหญ่ในภูมิภาค ระหว่างซาอุกับอิหร่าน แต่ที่สำคัญ ในความคิดของอเมริกา สงครามเยเมนยังเป็นสงครามที่แสดงให้เห็นว่า เทศกาลอาหรับสปริง ที่ซาอุดิอารเบียต่อต้านมาตลอดนั้น ยังไม่จบลง… อเมริกาเชื่อว่า การต่อสู้ที่เยเมน จะดึงฝ่ายอื่นๆเข้ามาร่วมรายการเพิ่มขึ้นอีก จะยืดเยื้อ และขยายวงออกไปนอกเยเมนถึงประเทศอื่นๆอีกด้วย …เป็นการวิจารณ์ ที่ทำให้มองเห็น เยเมน กำลังเป็นไฟลามทุ่ง…. นอกจากนี้ อเมริกายังคาดการณ์ เหมือนเป็นลางร้ายอีกว่า เยเมนอาจจบลง อย่างเป็นจุดด่างของการครองราชย์ของกษัตริย์ซาลมาน และเป็นการจบสิ้นของความทะเยอทะยานของทั้ง บิน นาเยฟ และ บิน ซาลมาน ไม่ว่าทั้ง 2 คน จะได้มีส่วนร่วมกับสงครามนี้อย่างไร ชัดเจนว่า บิน ซาลมานที่เป็นรัฐมนตรีกลาโหม คงเป็นคนที่สูญเสียมากที่สุด ที่ผ่านมา เขาเป็นคนที่พ่อเชื่อใจมาก เป็นตัวแทนพ่อ ไปเยี่ยมรัสเซียและฝรั่งเศส และเมื่อกษัตริย์ซาลมาน ยกเลิกแผนที่จะไปพบโอบามา ที่แคมป์เดวิด เพื่อที่จะไปบอกกับโอบามา ว่าตนเองขุ่นเคืองขนาดไหน เกี่ยวกับเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่าน กษัตริย์ซัลมาน ก็ส่งเจ้าชายทั้ง 2 คน ทั้ง MBN และ MBS ไปพบโอบามาแทนตน ซึ่งโอบามา กลับพูดเร่งรัดเรื่องการปฏิรูปประเทศ แต่ก็สนับสนุนเรื่องสงครามกับเยเมน และในที่สุด เมื่อถึงเวลาที่กษัตริย์ซัลมานเดินทางไปวอชิงตันเข้าจริงๆ การสนทนากลับสั้น และฝ่ายซาอุกลับเป็นฝ่าย (ต้อง)ฟัง และการสนทนากลับเน้นไปที่ลูกมากกว่าพ่อ …แต่ โปรดสังเกตดูรูปภาพการสนทนา ระหว่างนายโอบามา กับ กษัตริย์ซาลมาน ที่ผมเอามาลงประกอบนิทานตอนนี้ ผมกลับเห็นสวนทาง กับไอ้เขี้ยวซีไอเอ ผมดูว่า ใบตองแห้งน่าจะเป็นฝ่าย ใกล้จะลงไปนั่งกับพื้น พนมมือพูดกับกษัตริย์ซาลมานร่อมร่อแล้ว เหมือนกับเป็นตัวปลอม คนละคน กับที่พูด กับคุณพี่ปูติน หรือ อาเฮียสี ช่วงวันประชุมสหประชาชาติ อย่างไม่น่าเชื่อ น่าสนใจนะครับ ไอ้เขี้ยวยาวซีไอเอ ยังบอกว่า บิน นาเยฟ อาจจะเป็นคนที่เข้ากับอเมริกันได้มากที่สุด ในจำนวนผู้ที่อยู่ในเส้นทางที่จะครองบัลลังค์ซาอูด และเขาอาจจะเป็นคนที่เก่งเรื่องข่าวกรองมากที่สุดในโลกตะวันออกกลาง ที่อเมริกาชื่นชม ถึงขนาดบอกว่า ฉลาดที่สุดในรุ่นเดียวกัน และต่างกับพ่อของเขา the Black Price และ บิน นาเยฟ ดูเหมือนจะพอทำงานร่วมกับอเมริกันได้ และเข้ากับโอบามาได้ดี ที่แคมป์เดวิด แต่ บิน นาเยฟ มีเรื่องต้องรับผิดชอบมากกว่าทุกคนในรุ่นเดียวกัน และมันจะมากขึ้น หลังเทศกาลอาหรับสปริงจบจริงๆ ในตะวันออกกลาง อเมริกาบอกว่า บิน นาเยฟ น่าจะรู้ดีว่า เขาต้องมีเพื่อนในยามนั้น… ที่เล่ามาทั้ง 8 ตอนนี้ สรุปได้ว่า เป็นรายการ ทั้งขู่เข็ญ ทั้งเปิดโปง ทั้งปิดปาก ของอเมริกา ต่อเพื่อนรัก ที่คบกันมากว่า 70 ปี อย่างน่าชื่นชมในฝีมือการเขียน ซีไอเอเก๋า เขี้ยวยาวเจ้าของบทความขู่สท้านโลก ตบท้ายว่า…. แต่วอชิงตัน จะทำใจยอมรับ อย่างไม่หลอกตัวเอง ไม่มีภาพลวงตา หรือเหมาเอาเอง ได้หรือไม่ว่า ซาอุดิอารเบียที่เป็นประเทศ ที่ยังปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชที่ใหญ่ที่สุด ที่ยังเหลืออยู่ในโลก กับราชวงศ์ซาอูด จะไม่มีวันยอมเปลี่ยนแปลง การปกครองประเทศของตน ไปจากแบบที่เป็นอยู่ปัจจุบันอย่างง่ายๆ และราชวงศ์ซาอูด ก็จะไม่มีวันตัดขาดกับกลุ่มวะฮาบีและเปลี่ยนแปลงความเชื่อของเขา และไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ซัลมาน เจ้าชายบิน นาเยฟ หรือเจ้าชายบิน ซาลมาน รวมทั้งราชวงศ์ที่เหลือทุกคน ต่างมีความเชื่อว่า พวกเขาอยู่รอดมาได้เช่นนี้กว่า 250 ปีแล้ว ท่ามกลางการเมืองที่ร้อนระอุ และรุนแรง และพวกเขาก็คิดว่า จะอยู่รอดแบบนี้ ต่อไป… ซาอุดิอารเบียและอเมริกา จะจับมือกันต่อไปไหม จะจับมือแบบอยู่รอดด้วยกัน หรือจับมือฉิบหายไปด้วยกัน หรือพวกเขาจะแยกทางกันเดิน และแยกทางกันเละ … รออ่านตอนสุดท้ายของนิทานเรื่องนี้ อย่าพลาดนะครับ! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 24 ต.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 7

    “ข่าวลือ ข่าวลวง”
    ตอน 7
    อเมริกาบอกว่า อิสลามกลุ่มวะฮาบีของซาอุดิอารเบีย เป็นอิสลามนิกายสุนนี ที่เคร่งครัดที่สุดในภูมิภาค แต่บัดนี้ กลับมีพวกเคร่งศาสนาอย่างสุดขั้ว ที่ไม่ยอมรับและเกลียดชาวต่างชาติ รุนแรงกว่าพวกวะฮาบี โผล่ขึ้นมาอีก คือ พวกรัฐอิสลาม Islamic State หรือที่เรารู้จักพวกเขาในชื่อ IS พวกนี้ก่อตัวขึ้นในอิรัค และซีเรียในช่วงปี ค.ศ.2014 เป็นกลุ่มใหม่ที่ออกมาท้าทายโลก และอเมริกาเหน็บว่า ดูเหมือนจะท้าทายโครงการฟื้นฟูผู้ก่อการร้ายของ เจ้าชาย บิน นาเยฟ เสียด้วยซ้ำ
    กลุ่ม IS นี้ มีรากมาจากพวกอัลไคดาในเมโสโปเตเมีย (อาณาจักรออโตมานเดิม) และดำดินแอบอยู่เมื่อตอนที่อเมริกาบุกอิรัค ในช่วงปี ค.ศ.2007 จนเมื่ออเมริกาถอยกองกำลังต่างชาติออกไป พวก IS จึงโผล่ขึ้นมาและมีประโคมข่าวการปรากฏตัวของพวกเขาน่าดู
    ในช่วงปี ค.ศ.2012- 2013 พวก IS บุกเข้าไปทลายคุกในอิรัก ที่พวกผู้ก่อการร้ายอัลไคดาถูกคุมขังอยู่ หลังจากคุกแตก ก็มีการรวมตัวมาสร้างฐานใหม่ ขยายออกมาทางซีเรีย
    ในช่วงหน้าร้อนของปี ค.ศ.2014 กลุ่ม IS บุกอย่างรวดเร็ว แบบสายฟ้าแลบ เข้าไปยึดเมืองโมซุล Mosul เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรัคได้ และตั้งเป็นรัฐที่มีผู้นำทางศาสนาเป็นผู้ปกครอง caliphate เพื่อปกครองอิสลามทั้งปวง (และเมืองนี้ ก็เป็นเมืองที่มีน้ำมันมากที่สุดเมืองหนึ่งของอิรัค อันนี้ผมเพิ่มเติมให้ เพราะเห็นใบตองแห้งทำเป็นลืมใส่ เรื่องสำคัญ)
    ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2014 กลุ่ม IS ประกาศว่าพวกเขาจะยึดมัสยิดต่างๆ ในนครเมกกะและเมดินา และจะขับไล่พวกราชวงศ์ซาอูด ออกไปให้หมด
    หลังจากนั้น สื่อตะวันตกลงภาพวิหารกะบะห์ Kaaba ในนครเมกกะ ที่มีธงสีดำของกลุ่ม IS ที่โบกไสวอยู่ด้านบน กองกำลังของกลุ่ม IS ยังโจมตีด่านป้องกันของซาอุดิอารเบียมาตลอดแนวเขตแดนอิรัค และยังส่งนักรบพลีชีพเข้าไปโจมตีมัสยิดของพวกชีอะ ที่อยู่ในซาอุอิอารเบียอีกด้วย เพื่อให้ทั้ง 2 นิกายตีกันเองอีกต่อหนึ่ง
    บิน นาเยฟ ในฐานะรัฐมนตรีมหาดไทย ได้จับกุมกลุ่ม IS ได้หลายร้อยคน และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กลุ่ม IS บุกเข้ามาในซาอุดิอารเบีย บิน นาเยฟ ให้สร้างรั้วยาว 600 ไมล์ ตลอดแนวเขตแดน ระหว่างซาอุดิอารเบียกับอิรัค เช่นเดียวกับที่สร้างรั้วกั้นแนวเขต ระหว่างซาอุดิอารเบียกับเยเมน ยาว 1 พันไมล์ เพื่อกันให้อัลไคดาออกไปจากคาบสมุทรอารเบีย
    …อ่านเผินๆ เหมือน อเมริกาจะชมวิธีวิธีการปราบ IS ของซาอุดิอารเบีย แต่ อ่านอีกที น่าจะตรงข้ามกันมากกว่า….
    ระหว่างที่ยังครองราชย์ กษัตริย์อับดุลลาห์ (ที่สิ้นพระชนม์เมื่อเดือนมกราคม ต้นปี ค.ศ.2015) ได้ตั้งน้องต่างมารดา เป็นมงกุฎราชกุมารไป แล้ว 2 คน คือ เจ้าชายสุลต่าน และเจ้าชายนาเยฟ the Black Prince แต่ปรากฏว่า ทั้ง 2 คน กลับสิ้นพระชนม์ก่อนกษัตริย์อับดุลลาห์เสียอีก กษัตริย์ิอับดุลลาห์ จึงตั้งเจ้าชายมุคริน น้องต่าง มารดาอีกคน ขึ้นเป็นมงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 2 ในปี ค.ศ.2012 ต่อจากมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 1 คือ เจ้าชายซาลมาน
    ในความเข้าใจของอเมริกา เจ้าชายมุคริน ค่อนข้างใกล้ชิดกับกษัตริยอับดุลลาห์ และเป็นแนวร่วมในการคิดปฏิรูปประเทศเช่นเดียวกัน
    เมื่อเจ้าชายซาลมาน ขึ้นครองราชย์เมื่อเดือนมกราคม ต้นปีนี้ (2015) ก็ตั้ง เจ้าชามุคริน เป็นมงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 1 และแต่งตั้งเจ้าชาย บิน นาเยฟ เป็นมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 2 และมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยนายกรัฐมนตรี เป็นที่คาดหมายกันว่า เจ้าชายมุคริน ลูกชายคนที่ 35 ของ อิบน์ ซาอูด จะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อไป และนำประเทศสู่ยุคใหม่ จากรุ่นลูก สู่รุ่นหลาน
    แต่แล้วก็มีข่าวเกี่ยวกับราชวงศ์ซาอูดเกิดขึ้น ที่ทำให้ทั้งในตะวันออกกลางและในตะวันตก โดยเฉพาะที่วอชิงตัน สั่นเสทือนอย่างไม่เคยมีมาก่อน
    เช้ามืดของวันที่ 29 เมษายน ค.ศ.2015 กษัตริย์ซาลมานประกาศปลดเจ้าชายมุคริน ออกจากตำแหน่งมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 1 และแต่งตั้งให้เจ้าชาย บิน นาเยฟ ขึ้นเป็นมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 1 แทน และแต่งตั้งลูกชายตนเอง เจ้าชาย มูฮะหมัด บิน ซาลมาน เป็นมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 2
    นี่เป็นครั้งแรก ที่มีการปลดมงกุฏราชกุมาร และโดยไม่มีการบอกเหตุผล
    อเมริกาให้ความสนใจรายการแต่งตั้งนี้มาก เพราะ บิน นาเยฟ มงกุฏราชกุมารลำดับที่ 1 ไม่มีลูกชาย มีแต่ลูกสาว 2 คน และ บิน ซาลมาน ก็อายุยังไม่ถึง 30 บิน ซาลมาน จึง มีโอกาสสูงมาก ที่จะเป็นกษัตริย์คนต่อไป และมีคนคาดการเอาไว้แล้วด้วยซ้ำว่า ไม่แน่หรอกว่า บิน นาเยฟ จะได้ขึ้นครองราชย์ แม้จะเป็นลำดับ 1 วันใดวันหนึ่งเขาก็อาจถูกปลดได้ เพื่อให้แน่ใจ บิน ซาลมาน จะได้ขึ้นมาครองราชย์แน่นอน … เสี้ยมล่วงหน้าเลยนะพี่..
    เจ้าชาย บิน ซาลมาน หรือที่อเมริกาเรียกว่า MBS ละอ่อนวัยไม่ถึง 30 ไม่เป็นที่ปลื้มของญาติพี่น้องด้วยกัน เพราะเขาว่ากันว่า มีนิสัยโหด ยะโส โอหัง นอกจากนี้ บินซาลมาน ยังได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลนโยบายน้ำมัน ที่เขาไม่มีประสพการณ์เลย แค่นั้นก็ทำให้ญาติๆ และอเมริกา หรี่ตามองแล้ว กษัตริย์ซาลมานยังให้ บิน ซาลมาน คุมความมั่นคง คือดูแลกิจการพระราชวัง และเป็นรัฐมนตรีกลาโหมอีกด้วย
    แล้วรัฐมนตรีกลาโหมใหม่ ก็ฉลองตำแหน่งด้วยการสั่งถล่มเยเมน อย่างที่ซาอุดิ อารเบีย ไม่เคยทำมานานกว่า 70 ปีแล้ว ละอ่อนหนุ่มเลือดพลุ่งแรงจริง
    และสุ้มเสียงของอเมริกา ก็ดูเหมือนจะไม่ปลื้มละอ่อนหนุ่มเอาเสียเลย
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    23 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 7 “ข่าวลือ ข่าวลวง” ตอน 7 อเมริกาบอกว่า อิสลามกลุ่มวะฮาบีของซาอุดิอารเบีย เป็นอิสลามนิกายสุนนี ที่เคร่งครัดที่สุดในภูมิภาค แต่บัดนี้ กลับมีพวกเคร่งศาสนาอย่างสุดขั้ว ที่ไม่ยอมรับและเกลียดชาวต่างชาติ รุนแรงกว่าพวกวะฮาบี โผล่ขึ้นมาอีก คือ พวกรัฐอิสลาม Islamic State หรือที่เรารู้จักพวกเขาในชื่อ IS พวกนี้ก่อตัวขึ้นในอิรัค และซีเรียในช่วงปี ค.ศ.2014 เป็นกลุ่มใหม่ที่ออกมาท้าทายโลก และอเมริกาเหน็บว่า ดูเหมือนจะท้าทายโครงการฟื้นฟูผู้ก่อการร้ายของ เจ้าชาย บิน นาเยฟ เสียด้วยซ้ำ กลุ่ม IS นี้ มีรากมาจากพวกอัลไคดาในเมโสโปเตเมีย (อาณาจักรออโตมานเดิม) และดำดินแอบอยู่เมื่อตอนที่อเมริกาบุกอิรัค ในช่วงปี ค.ศ.2007 จนเมื่ออเมริกาถอยกองกำลังต่างชาติออกไป พวก IS จึงโผล่ขึ้นมาและมีประโคมข่าวการปรากฏตัวของพวกเขาน่าดู ในช่วงปี ค.ศ.2012- 2013 พวก IS บุกเข้าไปทลายคุกในอิรัก ที่พวกผู้ก่อการร้ายอัลไคดาถูกคุมขังอยู่ หลังจากคุกแตก ก็มีการรวมตัวมาสร้างฐานใหม่ ขยายออกมาทางซีเรีย ในช่วงหน้าร้อนของปี ค.ศ.2014 กลุ่ม IS บุกอย่างรวดเร็ว แบบสายฟ้าแลบ เข้าไปยึดเมืองโมซุล Mosul เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรัคได้ และตั้งเป็นรัฐที่มีผู้นำทางศาสนาเป็นผู้ปกครอง caliphate เพื่อปกครองอิสลามทั้งปวง (และเมืองนี้ ก็เป็นเมืองที่มีน้ำมันมากที่สุดเมืองหนึ่งของอิรัค อันนี้ผมเพิ่มเติมให้ เพราะเห็นใบตองแห้งทำเป็นลืมใส่ เรื่องสำคัญ) ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2014 กลุ่ม IS ประกาศว่าพวกเขาจะยึดมัสยิดต่างๆ ในนครเมกกะและเมดินา และจะขับไล่พวกราชวงศ์ซาอูด ออกไปให้หมด หลังจากนั้น สื่อตะวันตกลงภาพวิหารกะบะห์ Kaaba ในนครเมกกะ ที่มีธงสีดำของกลุ่ม IS ที่โบกไสวอยู่ด้านบน กองกำลังของกลุ่ม IS ยังโจมตีด่านป้องกันของซาอุดิอารเบียมาตลอดแนวเขตแดนอิรัค และยังส่งนักรบพลีชีพเข้าไปโจมตีมัสยิดของพวกชีอะ ที่อยู่ในซาอุอิอารเบียอีกด้วย เพื่อให้ทั้ง 2 นิกายตีกันเองอีกต่อหนึ่ง บิน นาเยฟ ในฐานะรัฐมนตรีมหาดไทย ได้จับกุมกลุ่ม IS ได้หลายร้อยคน และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กลุ่ม IS บุกเข้ามาในซาอุดิอารเบีย บิน นาเยฟ ให้สร้างรั้วยาว 600 ไมล์ ตลอดแนวเขตแดน ระหว่างซาอุดิอารเบียกับอิรัค เช่นเดียวกับที่สร้างรั้วกั้นแนวเขต ระหว่างซาอุดิอารเบียกับเยเมน ยาว 1 พันไมล์ เพื่อกันให้อัลไคดาออกไปจากคาบสมุทรอารเบีย …อ่านเผินๆ เหมือน อเมริกาจะชมวิธีวิธีการปราบ IS ของซาอุดิอารเบีย แต่ อ่านอีกที น่าจะตรงข้ามกันมากกว่า…. ระหว่างที่ยังครองราชย์ กษัตริย์อับดุลลาห์ (ที่สิ้นพระชนม์เมื่อเดือนมกราคม ต้นปี ค.ศ.2015) ได้ตั้งน้องต่างมารดา เป็นมงกุฎราชกุมารไป แล้ว 2 คน คือ เจ้าชายสุลต่าน และเจ้าชายนาเยฟ the Black Prince แต่ปรากฏว่า ทั้ง 2 คน กลับสิ้นพระชนม์ก่อนกษัตริย์อับดุลลาห์เสียอีก กษัตริย์ิอับดุลลาห์ จึงตั้งเจ้าชายมุคริน น้องต่าง มารดาอีกคน ขึ้นเป็นมงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 2 ในปี ค.ศ.2012 ต่อจากมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 1 คือ เจ้าชายซาลมาน ในความเข้าใจของอเมริกา เจ้าชายมุคริน ค่อนข้างใกล้ชิดกับกษัตริยอับดุลลาห์ และเป็นแนวร่วมในการคิดปฏิรูปประเทศเช่นเดียวกัน เมื่อเจ้าชายซาลมาน ขึ้นครองราชย์เมื่อเดือนมกราคม ต้นปีนี้ (2015) ก็ตั้ง เจ้าชามุคริน เป็นมงกุฏราชกุมาร ลำดับที่ 1 และแต่งตั้งเจ้าชาย บิน นาเยฟ เป็นมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 2 และมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยนายกรัฐมนตรี เป็นที่คาดหมายกันว่า เจ้าชายมุคริน ลูกชายคนที่ 35 ของ อิบน์ ซาอูด จะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อไป และนำประเทศสู่ยุคใหม่ จากรุ่นลูก สู่รุ่นหลาน แต่แล้วก็มีข่าวเกี่ยวกับราชวงศ์ซาอูดเกิดขึ้น ที่ทำให้ทั้งในตะวันออกกลางและในตะวันตก โดยเฉพาะที่วอชิงตัน สั่นเสทือนอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช้ามืดของวันที่ 29 เมษายน ค.ศ.2015 กษัตริย์ซาลมานประกาศปลดเจ้าชายมุคริน ออกจากตำแหน่งมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 1 และแต่งตั้งให้เจ้าชาย บิน นาเยฟ ขึ้นเป็นมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 1 แทน และแต่งตั้งลูกชายตนเอง เจ้าชาย มูฮะหมัด บิน ซาลมาน เป็นมงกุฏราชกุมารลำดับที่ 2 นี่เป็นครั้งแรก ที่มีการปลดมงกุฏราชกุมาร และโดยไม่มีการบอกเหตุผล อเมริกาให้ความสนใจรายการแต่งตั้งนี้มาก เพราะ บิน นาเยฟ มงกุฏราชกุมารลำดับที่ 1 ไม่มีลูกชาย มีแต่ลูกสาว 2 คน และ บิน ซาลมาน ก็อายุยังไม่ถึง 30 บิน ซาลมาน จึง มีโอกาสสูงมาก ที่จะเป็นกษัตริย์คนต่อไป และมีคนคาดการเอาไว้แล้วด้วยซ้ำว่า ไม่แน่หรอกว่า บิน นาเยฟ จะได้ขึ้นครองราชย์ แม้จะเป็นลำดับ 1 วันใดวันหนึ่งเขาก็อาจถูกปลดได้ เพื่อให้แน่ใจ บิน ซาลมาน จะได้ขึ้นมาครองราชย์แน่นอน … เสี้ยมล่วงหน้าเลยนะพี่.. เจ้าชาย บิน ซาลมาน หรือที่อเมริกาเรียกว่า MBS ละอ่อนวัยไม่ถึง 30 ไม่เป็นที่ปลื้มของญาติพี่น้องด้วยกัน เพราะเขาว่ากันว่า มีนิสัยโหด ยะโส โอหัง นอกจากนี้ บินซาลมาน ยังได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลนโยบายน้ำมัน ที่เขาไม่มีประสพการณ์เลย แค่นั้นก็ทำให้ญาติๆ และอเมริกา หรี่ตามองแล้ว กษัตริย์ซาลมานยังให้ บิน ซาลมาน คุมความมั่นคง คือดูแลกิจการพระราชวัง และเป็นรัฐมนตรีกลาโหมอีกด้วย แล้วรัฐมนตรีกลาโหมใหม่ ก็ฉลองตำแหน่งด้วยการสั่งถล่มเยเมน อย่างที่ซาอุดิ อารเบีย ไม่เคยทำมานานกว่า 70 ปีแล้ว ละอ่อนหนุ่มเลือดพลุ่งแรงจริง และสุ้มเสียงของอเมริกา ก็ดูเหมือนจะไม่ปลื้มละอ่อนหนุ่มเอาเสียเลย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 23 ต.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำถามสำหรับการออกเสียงประชามติ เพื่อขอความเห็นชอบจากประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกำหนดคำถามว่า “ท่านเห็นชอบว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่”
    .
    รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า การออกเสียงประชามติจะจัดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เพื่อใช้ทรัพยากรของรัฐอย่างคุ้มค่า ลดภาระงบประมาณ และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนใช้สิทธิในคราวเดียว
    .
    ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดทำข้อมูลประกอบการออกเสียงประชามติให้มีความชัดเจน ก่อนส่งให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการเผยแพร่ตามขั้นตอนของกฎหมาย
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121864
    .
    #News1live #News1 #ครม #ประชามติ #รัฐธรรมนูญใหม่ #เลือกตั้ง2569 #การเมืองไทย
    คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำถามสำหรับการออกเสียงประชามติ เพื่อขอความเห็นชอบจากประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกำหนดคำถามว่า “ท่านเห็นชอบว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่” . รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า การออกเสียงประชามติจะจัดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เพื่อใช้ทรัพยากรของรัฐอย่างคุ้มค่า ลดภาระงบประมาณ และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนใช้สิทธิในคราวเดียว . ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดทำข้อมูลประกอบการออกเสียงประชามติให้มีความชัดเจน ก่อนส่งให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการเผยแพร่ตามขั้นตอนของกฎหมาย . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121864 . #News1live #News1 #ครม #ประชามติ #รัฐธรรมนูญใหม่ #เลือกตั้ง2569 #การเมืองไทย
    0 Comments 0 Shares 200 Views 0 Reviews
  • “อนุทิน” เผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำถามประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว และได้ส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาดำเนินการต่อไป โดยย้ำต้องทำให้ถูกต้องตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อป้องกันปัญหาการตีความในภายหลัง
    .
    นายอนุทิน ระบุว่า ครม.อยากให้การทำประชามติเกิดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้ง สส. วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เพื่อความสะดวกและช่วยประหยัดงบประมาณ ซึ่งคาดว่าจะประหยัดได้ราว 4,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กกต.
    .
    ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยอมรับว่า หากไม่สามารถทำประชามติยกเลิกเอ็มโอยู 43-44 ได้ในช่วงนี้ พรรคภูมิใจไทยอาจนำประเด็นดังกล่าวไปใช้เป็นนโยบายหาเสียง เนื่องจากเป็นจุดยืนของพรรคมาโดยตลอด
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000121814
    .
    #News1live #News1 #อนุทิน #ครม #ประชามติ #แก้รัฐธรรมนูญ #เลือกตั้ง2569 #ภูมิใจไทย #MOU43 #MOU44
    “อนุทิน” เผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำถามประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว และได้ส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาดำเนินการต่อไป โดยย้ำต้องทำให้ถูกต้องตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อป้องกันปัญหาการตีความในภายหลัง . นายอนุทิน ระบุว่า ครม.อยากให้การทำประชามติเกิดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้ง สส. วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เพื่อความสะดวกและช่วยประหยัดงบประมาณ ซึ่งคาดว่าจะประหยัดได้ราว 4,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กกต. . ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยอมรับว่า หากไม่สามารถทำประชามติยกเลิกเอ็มโอยู 43-44 ได้ในช่วงนี้ พรรคภูมิใจไทยอาจนำประเด็นดังกล่าวไปใช้เป็นนโยบายหาเสียง เนื่องจากเป็นจุดยืนของพรรคมาโดยตลอด . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000121814 . #News1live #News1 #อนุทิน #ครม #ประชามติ #แก้รัฐธรรมนูญ #เลือกตั้ง2569 #ภูมิใจไทย #MOU43 #MOU44
    0 Comments 0 Shares 174 Views 0 Reviews
  • กองทัพไทยเปิดเผยผลปฏิบัติการจากเหตุปะทะไทย–กัมพูชา โดยได้โจมตีและทำลายอาคารกาสิโนและโรงแรมที่ถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการของเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ ซึ่งหลอกลวงเหยื่อจำนวนมาก รวมถึงพลเมืองสหรัฐฯ
    .
    รายงานระบุว่า จนถึงวันที่ 14 ธันวาคม ได้ทำลายเป้าหมายลักษณะดังกล่าวแล้วไม่น้อยกว่า 6 แห่ง โดยในจำนวนนี้มีอย่างน้อย 2 อาคารที่เคยถูกสหรัฐอเมริกาคว่ำบาตรทางการเงินและยึดทรัพย์มาก่อน จากการพัวพันกับธุรกรรมหลอกลวงชาวอเมริกัน
    .
    กองทัพไทยย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ควบคู่กับภารกิจรักษาความมั่นคงและอธิปไตยของประเทศ
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121752
    .
    #News1live #News1 #กองทัพไทย #สแกมเมอร์ #อาชญากรรมข้ามชาติ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    กองทัพไทยเปิดเผยผลปฏิบัติการจากเหตุปะทะไทย–กัมพูชา โดยได้โจมตีและทำลายอาคารกาสิโนและโรงแรมที่ถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการของเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ ซึ่งหลอกลวงเหยื่อจำนวนมาก รวมถึงพลเมืองสหรัฐฯ . รายงานระบุว่า จนถึงวันที่ 14 ธันวาคม ได้ทำลายเป้าหมายลักษณะดังกล่าวแล้วไม่น้อยกว่า 6 แห่ง โดยในจำนวนนี้มีอย่างน้อย 2 อาคารที่เคยถูกสหรัฐอเมริกาคว่ำบาตรทางการเงินและยึดทรัพย์มาก่อน จากการพัวพันกับธุรกรรมหลอกลวงชาวอเมริกัน . กองทัพไทยย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ควบคู่กับภารกิจรักษาความมั่นคงและอธิปไตยของประเทศ . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121752 . #News1live #News1 #กองทัพไทย #สแกมเมอร์ #อาชญากรรมข้ามชาติ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    0 Comments 0 Shares 132 Views 0 Reviews
More Results