• แพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 รายเอื้อ “ทักษิณ” นอนชั้น 14 เป็นการ พักใช้ใบอนุญาต 2 ราย ฐานให้ข้อมูลไม่ตรงความจริง เพราะไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าป่วยวิกฤติตามที่แถลง อีก 1 รายว่ากล่าวตักเตือน ฐานประกอบวิชาชีพไม่ได้มาตรฐานเกี่ยวกับการออกใบส่งตัว โดยต้องส่งมติไปขอความเห็นชอบจาก รมว.สธ.อีกครั้ง

    วันนี้(8 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.45 น. ที่อาคารมหิตลาธิเบศร กระทรวงสาธารณสุข ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 แถลงภายหลังจากทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ ประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งมีวาระสำคัญ คือการนำเสนอผลสรุปการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกลั่นกรองของแพทยสภา กรณีการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ

    ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ แถลงว่า วันนี้ มีการประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 5/2568 ประจําเดือนพฤษภาคม มีวาระสําคัญคือการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตํารวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ได้มีมติลงโทษแพทย์ 3 คน เป็นการประกาศตักเตือน 1 คน ในกรณีประกาศวิชาชีพเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน มีการพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูลและเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000043152

    #MGROnline #แพทยสภา
    แพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 รายเอื้อ “ทักษิณ” นอนชั้น 14 เป็นการ พักใช้ใบอนุญาต 2 ราย ฐานให้ข้อมูลไม่ตรงความจริง เพราะไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าป่วยวิกฤติตามที่แถลง อีก 1 รายว่ากล่าวตักเตือน ฐานประกอบวิชาชีพไม่ได้มาตรฐานเกี่ยวกับการออกใบส่งตัว โดยต้องส่งมติไปขอความเห็นชอบจาก รมว.สธ.อีกครั้ง • วันนี้(8 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.45 น. ที่อาคารมหิตลาธิเบศร กระทรวงสาธารณสุข ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 แถลงภายหลังจากทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ ประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งมีวาระสำคัญ คือการนำเสนอผลสรุปการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกลั่นกรองของแพทยสภา กรณีการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ • ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ แถลงว่า วันนี้ มีการประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 5/2568 ประจําเดือนพฤษภาคม มีวาระสําคัญคือการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตํารวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ได้มีมติลงโทษแพทย์ 3 คน เป็นการประกาศตักเตือน 1 คน ในกรณีประกาศวิชาชีพเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน มีการพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูลและเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000043152 • #MGROnline #แพทยสภา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • การท่องอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในอนาคตจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เปลี่ยนโฉมการเชื่อมต่อและประสบการณ์ออนไลน์ของผู้ใช้ โดยมีแนวโน้มสำคัญดังนี้:

    ### 1. **เทคโนโลยีเครือข่ายขั้นสูง**
    - **5G และ 6G**: ความเร็วสูงถึง **หลายสิบ Gbps** (เร็วกว่า 4G เป็นร้อยเท่า) พร้อม latency ต่ำสุด **1 ms** หรือน้อยกว่า เหมาะสำหรับ VR/AR, การแพทย์ทางไกล และรถยนต์อิสระ
    - **ดาวเทียมความเร็วสูง**: เช่น Starlink (SpaceX), Project Kuiper (Amazon) ให้ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกลด้วยความเร็ว **100 Mbps–1 Gbps**

    ### 2. **โครงสร้างพื้นฐานใหม่**
    - **ไฟเบอร์ออปติกทั่วถึง**: เคเบิลใยแก้ว **Terabit-class** (เช่นเทคโนโลยี **Alcatel Lucent's 1.6 Tbps**) จะเชื่อมต่อเมืองใหญ่และชนบท
    - **Li-Fi**: ใช้แสงส่องสว่างส่งข้อมูลด้วยความเร็ว **สูงถึง 224 Gbps** ในห้องปฏิบัติการ

    ### 3. **การประมวลผลแบบกระจายศูนย์**
    - **Edge Computing**: ลด latency โดยประมวลผลข้อมูลใกล้ผู้ใช้ (เช่น ศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กในเมือง)
    - **Quantum Networking**: การสื่อสารควอนตัมผ่าน **Quantum Key Distribution (QKD)** ป้องกันการแฮก 100%

    ### 4. **แอปพลิเคชันแห่งอนาคต**
    - **Metaverse**: โลกเสมือนจริงที่ต้องการ **ความเร็ว ≥ 50 Mbps/คน** และ latency ≤ 10 ms
    - **Holographic Communication**: การสตรีมโฮโลแกรม 3D ใช้แบนด์วิธ **≥ 1 Tbps/วินาที** (ทดสอบโดย MIT Media Lab)
    - **AI Real-Time Processing**: เช่นรถยนต์ไร้คนขับวิเคราะห์ข้อมูล **4 TB/วัน/คัน**

    ### 5. **ความท้าทาย**
    - **ค่าใช้จ่าย**: การติดตั้งโครงสร้าง 6G อาจใช้งบ **3-5 เท่าของ 5G**
    - **ความปลอดภัย**: การโจมตีแบบ **DDoS ขนาด > 100 Tbps** (เทียบกับ 2.3 Tbps ในปี 2020)
    - **Digital Divide**: 30% ของประชากรโลกยังขาดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตพื้นฐาน (ข้อมูล ITU 2023)

    ### 6. **ตัวเลขที่น่าสนใจ**
    - ปี 2030 คาดการณ์:
    - อุปกรณ์ IoT ทั่วโลก **> 50,000 ล้านชิ้น**
    - ปริมาณข้อมูลโลก **> 5,000 EB/ปี** (1 EB = 1 ล้าน TB)
    - ความเร็วเฉลี่ยทั่วโลก **> 500 Mbps** (จาก 100 Mbps ในปี 2025)

    อนาคตอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะไม่ใช่แค่การโหลดเร็วขึ้น แต่เป็นพื้นฐานของ **Smart Cities, Digital Twins, และเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก** ที่ต้องการการเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์สมบูรณ์แบบ โดยอาจเห็นการใช้งานทั่วไปภายใน **ปี 2030-2035**
    การท่องอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในอนาคตจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เปลี่ยนโฉมการเชื่อมต่อและประสบการณ์ออนไลน์ของผู้ใช้ โดยมีแนวโน้มสำคัญดังนี้: ### 1. **เทคโนโลยีเครือข่ายขั้นสูง** - **5G และ 6G**: ความเร็วสูงถึง **หลายสิบ Gbps** (เร็วกว่า 4G เป็นร้อยเท่า) พร้อม latency ต่ำสุด **1 ms** หรือน้อยกว่า เหมาะสำหรับ VR/AR, การแพทย์ทางไกล และรถยนต์อิสระ - **ดาวเทียมความเร็วสูง**: เช่น Starlink (SpaceX), Project Kuiper (Amazon) ให้ครอบคลุมพื้นที่ห่างไกลด้วยความเร็ว **100 Mbps–1 Gbps** ### 2. **โครงสร้างพื้นฐานใหม่** - **ไฟเบอร์ออปติกทั่วถึง**: เคเบิลใยแก้ว **Terabit-class** (เช่นเทคโนโลยี **Alcatel Lucent's 1.6 Tbps**) จะเชื่อมต่อเมืองใหญ่และชนบท - **Li-Fi**: ใช้แสงส่องสว่างส่งข้อมูลด้วยความเร็ว **สูงถึง 224 Gbps** ในห้องปฏิบัติการ ### 3. **การประมวลผลแบบกระจายศูนย์** - **Edge Computing**: ลด latency โดยประมวลผลข้อมูลใกล้ผู้ใช้ (เช่น ศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กในเมือง) - **Quantum Networking**: การสื่อสารควอนตัมผ่าน **Quantum Key Distribution (QKD)** ป้องกันการแฮก 100% ### 4. **แอปพลิเคชันแห่งอนาคต** - **Metaverse**: โลกเสมือนจริงที่ต้องการ **ความเร็ว ≥ 50 Mbps/คน** และ latency ≤ 10 ms - **Holographic Communication**: การสตรีมโฮโลแกรม 3D ใช้แบนด์วิธ **≥ 1 Tbps/วินาที** (ทดสอบโดย MIT Media Lab) - **AI Real-Time Processing**: เช่นรถยนต์ไร้คนขับวิเคราะห์ข้อมูล **4 TB/วัน/คัน** ### 5. **ความท้าทาย** - **ค่าใช้จ่าย**: การติดตั้งโครงสร้าง 6G อาจใช้งบ **3-5 เท่าของ 5G** - **ความปลอดภัย**: การโจมตีแบบ **DDoS ขนาด > 100 Tbps** (เทียบกับ 2.3 Tbps ในปี 2020) - **Digital Divide**: 30% ของประชากรโลกยังขาดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตพื้นฐาน (ข้อมูล ITU 2023) ### 6. **ตัวเลขที่น่าสนใจ** - ปี 2030 คาดการณ์: - อุปกรณ์ IoT ทั่วโลก **> 50,000 ล้านชิ้น** - ปริมาณข้อมูลโลก **> 5,000 EB/ปี** (1 EB = 1 ล้าน TB) - ความเร็วเฉลี่ยทั่วโลก **> 500 Mbps** (จาก 100 Mbps ในปี 2025) อนาคตอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะไม่ใช่แค่การโหลดเร็วขึ้น แต่เป็นพื้นฐานของ **Smart Cities, Digital Twins, และเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก** ที่ต้องการการเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์สมบูรณ์แบบ โดยอาจเห็นการใช้งานทั่วไปภายใน **ปี 2030-2035**
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (FDA) กำลังหารือเกี่ยวกับ การใช้ AI ในการประเมินยา ซึ่งอาจเป็นก้าวสำคัญในการ ปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบและอนุมัติยาให้รวดเร็วและแม่นยำขึ้น

    แหล่งข่าวระบุว่า ทีมเล็ก ๆ จาก OpenAI ได้พบกับ FDA และตัวแทนจาก "Department of Government Efficiency" ของ Elon Musk หลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อหารือเกี่ยวกับ ศักยภาพของ AI ในการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์และการทดลองทางคลินิก

    ✅ OpenAI และ FDA กำลังหารือเกี่ยวกับการใช้ AI ในการประเมินยา
    - อาจช่วยให้ กระบวนการตรวจสอบและอนุมัติยาเร็วขึ้น
    - ลด ข้อผิดพลาดในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์

    ✅ ทีมจาก OpenAI ได้พบกับ FDA และตัวแทนจาก "Department of Government Efficiency" ของ Elon Musk
    - มีการหารือเกี่ยวกับ ศักยภาพของ AI ในการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์
    - อาจช่วยให้ การทดลองทางคลินิกมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ AI อาจช่วยให้ FDA สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลได้รวดเร็วขึ้น
    - ลด ระยะเวลาการอนุมัติยาใหม่
    - เพิ่ม ความแม่นยำในการตรวจสอบผลข้างเคียงของยา

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/openai-and-us-fda-hold-talks-about-using-ai-in-drug-evaluation-wired-reports
    OpenAI และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (FDA) กำลังหารือเกี่ยวกับ การใช้ AI ในการประเมินยา ซึ่งอาจเป็นก้าวสำคัญในการ ปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบและอนุมัติยาให้รวดเร็วและแม่นยำขึ้น แหล่งข่าวระบุว่า ทีมเล็ก ๆ จาก OpenAI ได้พบกับ FDA และตัวแทนจาก "Department of Government Efficiency" ของ Elon Musk หลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อหารือเกี่ยวกับ ศักยภาพของ AI ในการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์และการทดลองทางคลินิก ✅ OpenAI และ FDA กำลังหารือเกี่ยวกับการใช้ AI ในการประเมินยา - อาจช่วยให้ กระบวนการตรวจสอบและอนุมัติยาเร็วขึ้น - ลด ข้อผิดพลาดในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ ✅ ทีมจาก OpenAI ได้พบกับ FDA และตัวแทนจาก "Department of Government Efficiency" ของ Elon Musk - มีการหารือเกี่ยวกับ ศักยภาพของ AI ในการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ - อาจช่วยให้ การทดลองทางคลินิกมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ AI อาจช่วยให้ FDA สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลได้รวดเร็วขึ้น - ลด ระยะเวลาการอนุมัติยาใหม่ - เพิ่ม ความแม่นยำในการตรวจสอบผลข้างเคียงของยา https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/openai-and-us-fda-hold-talks-about-using-ai-in-drug-evaluation-wired-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    OpenAI and US FDA hold talks about using AI in drug evaluation, Wired reports
    (Reuters) -OpenAI and the U.S. Food and Drug Administration have been meeting to discuss the health regulator's use of AI, technology news platform Wired reported on Wednesday, citing sources with knowledge of the meetings.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาสัมพันธ์การเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าศึกษาหลักสูตรสรีรวิทยาการแพทย์ (นานาชาติ) ประจำปีการศึกษา 2568

    ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต และ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสรีรวิทยาการแพทย์ (นานาชาติ) โดยเปิดรับสมัครผู้สนใจศึกษาในหลักสูตรฯ ปีการศึกษา 2568 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พฤษภาคม 2568 ทางเว็บไซต์บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล https://graduate.mahidol.ac.th/thai

    สอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณสุนทรี มีชำนาญ
    โทร. 0-2419-8770
    email: soontaree.mee@mahidol.ac.th
    ประชาสัมพันธ์การเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าศึกษาหลักสูตรสรีรวิทยาการแพทย์ (นานาชาติ) ประจำปีการศึกษา 2568 ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต และ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสรีรวิทยาการแพทย์ (นานาชาติ) โดยเปิดรับสมัครผู้สนใจศึกษาในหลักสูตรฯ ปีการศึกษา 2568 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พฤษภาคม 2568 ทางเว็บไซต์บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล https://graduate.mahidol.ac.th/thai สอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณสุนทรี มีชำนาญ โทร. 0-2419-8770 email: soontaree.mee@mahidol.ac.th
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานจาก QNX ระบุว่า 77% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีทั่วโลกเชื่อมั่นในหุ่นยนต์สำหรับการทำงานที่สำคัญ และคาดการณ์ว่า หนึ่งในห้าของแรงงานอาจถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ภายในทศวรรษหน้า

    แม้ว่าการนำหุ่นยนต์มาใช้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ 32% ของผู้จัดการระบุว่าสถานที่ทำงานยังไม่พร้อมสำหรับหุ่นยนต์ และ 29% เคยประสบปัญหาด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์

    ✅ 77% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีเชื่อมั่นในหุ่นยนต์สำหรับการทำงานที่สำคัญ
    - คาดว่า หนึ่งในห้าของแรงงานอาจถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ภายในทศวรรษหน้า
    - 71% ขององค์กรกำลังใช้หรือวางแผนที่จะใช้หุ่นยนต์เร็ว ๆ นี้

    ✅ ตลาดหุ่นยนต์ทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตถึง $163.9 พันล้านภายในปี 2030
    - เพิ่มขึ้นจาก $51 พันล้านในปี 2024

    ✅ การใช้งานหุ่นยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่
    - 50% ใช้สำหรับระบบอัตโนมัติ
    - 46% ใช้ในการผลิต
    - 36% ใช้ในงานสนับสนุน
    - 28% ใช้ในงานที่มีความเสี่ยงสูง

    ✅ ผู้จัดการมีระดับความสบายใจที่แตกต่างกันในการใช้หุ่นยนต์ในแต่ละงาน
    - 77% สบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานประกอบชิ้นส่วน
    - 73% สบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานขนส่งวัสดุ
    - 70% สบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานโลจิสติกส์และการส่งสินค้า
    - 51% ไม่ค่อยสบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานทางการแพทย์
    - 55% ไม่ค่อยสบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานบริการลูกค้า
    - 63% ไม่ค่อยสบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานซ่อมบำรุง

    ✅ 90% ของผู้จัดการเห็นว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีช่วยผลักดันการใช้หุ่นยนต์
    - 86% เชื่อว่าการปรับปรุงด้านความปลอดภัยช่วยให้หุ่นยนต์ได้รับการยอมรับมากขึ้น

    ‼️ 32% ของผู้จัดการระบุว่าสถานที่ทำงานยังไม่พร้อมสำหรับหุ่นยนต์
    - อาจต้องมี การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและการฝึกอบรมพนักงาน

    ‼️ 29% ขององค์กรเคยประสบปัญหาด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์
    - ต้องมี มาตรการป้องกันและการตรวจสอบความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น

    ‼️ 58% ของผู้จัดการมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของระบบหุ่นยนต์
    - อาจต้องมี การพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดความเสี่ยงในการใช้งาน

    ‼️ 92% ของผู้จัดการเชื่อว่าพนักงานควรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้หุ่นยนต์
    - เพื่อให้เกิด ความเข้าใจและการยอมรับที่ดีขึ้นในองค์กร

    https://www.techradar.com/pro/companies-are-becoming-more-accepting-of-robotics-in-the-workplace-survey-finds-but-for-how-much-longer
    รายงานจาก QNX ระบุว่า 77% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีทั่วโลกเชื่อมั่นในหุ่นยนต์สำหรับการทำงานที่สำคัญ และคาดการณ์ว่า หนึ่งในห้าของแรงงานอาจถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ภายในทศวรรษหน้า แม้ว่าการนำหุ่นยนต์มาใช้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ 32% ของผู้จัดการระบุว่าสถานที่ทำงานยังไม่พร้อมสำหรับหุ่นยนต์ และ 29% เคยประสบปัญหาด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์ ✅ 77% ของผู้นำด้านเทคโนโลยีเชื่อมั่นในหุ่นยนต์สำหรับการทำงานที่สำคัญ - คาดว่า หนึ่งในห้าของแรงงานอาจถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ภายในทศวรรษหน้า - 71% ขององค์กรกำลังใช้หรือวางแผนที่จะใช้หุ่นยนต์เร็ว ๆ นี้ ✅ ตลาดหุ่นยนต์ทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตถึง $163.9 พันล้านภายในปี 2030 - เพิ่มขึ้นจาก $51 พันล้านในปี 2024 ✅ การใช้งานหุ่นยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ - 50% ใช้สำหรับระบบอัตโนมัติ - 46% ใช้ในการผลิต - 36% ใช้ในงานสนับสนุน - 28% ใช้ในงานที่มีความเสี่ยงสูง ✅ ผู้จัดการมีระดับความสบายใจที่แตกต่างกันในการใช้หุ่นยนต์ในแต่ละงาน - 77% สบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานประกอบชิ้นส่วน - 73% สบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานขนส่งวัสดุ - 70% สบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานโลจิสติกส์และการส่งสินค้า - 51% ไม่ค่อยสบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานทางการแพทย์ - 55% ไม่ค่อยสบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานบริการลูกค้า - 63% ไม่ค่อยสบายใจในการใช้หุ่นยนต์ในงานซ่อมบำรุง ✅ 90% ของผู้จัดการเห็นว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีช่วยผลักดันการใช้หุ่นยนต์ - 86% เชื่อว่าการปรับปรุงด้านความปลอดภัยช่วยให้หุ่นยนต์ได้รับการยอมรับมากขึ้น ‼️ 32% ของผู้จัดการระบุว่าสถานที่ทำงานยังไม่พร้อมสำหรับหุ่นยนต์ - อาจต้องมี การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและการฝึกอบรมพนักงาน ‼️ 29% ขององค์กรเคยประสบปัญหาด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์ - ต้องมี มาตรการป้องกันและการตรวจสอบความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น ‼️ 58% ของผู้จัดการมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของระบบหุ่นยนต์ - อาจต้องมี การพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดความเสี่ยงในการใช้งาน ‼️ 92% ของผู้จัดการเชื่อว่าพนักงานควรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้หุ่นยนต์ - เพื่อให้เกิด ความเข้าใจและการยอมรับที่ดีขึ้นในองค์กร https://www.techradar.com/pro/companies-are-becoming-more-accepting-of-robotics-in-the-workplace-survey-finds-but-for-how-much-longer
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึง การใช้ AI เพื่อช่วยชะลอวัยและส่งเสริมสุขภาพ โดยเปรียบเทียบคำแนะนำจาก AI หลายตัว เช่น ChatGPT, Copilot, Gemini และ Claude AI เพื่อดูว่าแต่ละระบบให้คำแนะนำอย่างไรเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและการชะลอวัย

    นักเขียนได้ตั้งคำถามว่า "วิธีที่ดีที่สุดในการชะลอวัยคืออะไร?" และพบว่า AI แต่ละตัวให้คำตอบที่แตกต่างกันไป เช่น ChatGPT เน้นการออกกำลังกายและโภชนาการ, Copilot เน้นการดูแลสุขภาพจิตและการมีสังคม, Claude AI ให้คำตอบเชิงวิชาการเกี่ยวกับโภชนาการและการจัดการความเครียด, และ Gemini เน้นย้ำว่าควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพ

    นอกจากนี้ บทความยังกล่าวถึง Bryan Johnson นักธุรกิจที่ลงทุนมหาศาลเพื่อยืดอายุขัยของตัวเอง โดยใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลร่างกายของเขาเพื่อปรับปรุงสุขภาพ

    ✅ AI หลายตัวให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและการชะลอวัย
    - ChatGPT เน้น การออกกำลังกายและโภชนาการ
    - Copilot เน้น สุขภาพจิตและการมีสังคม
    - Claude AI ให้คำตอบเชิงวิชาการเกี่ยวกับ โภชนาการและการจัดการความเครียด
    - Gemini เน้นย้ำว่า ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพ

    ✅ Bryan Johnson ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลร่างกายเพื่อปรับปรุงสุขภาพ
    - เชื่อว่า AI อาจให้คำแนะนำที่ดีกว่าแพทย์ในอนาคต
    - ลงทุนมหาศาลเพื่อ ยืดอายุขัยของตัวเอง

    ✅ AI อาจมีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพในอนาคต
    - อาจช่วย วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพและให้คำแนะนำเฉพาะบุคคล
    - อาจเปลี่ยนแปลงแนวคิดเกี่ยวกับ ศาสนาและการดูแลร่างกาย

    ℹ️ AI ไม่สามารถแทนที่แพทย์ได้ในปัจจุบัน
    - AI อาจให้คำแนะนำทั่วไป แต่ ไม่สามารถวินิจฉัยโรคหรือให้คำปรึกษาทางการแพทย์ได้

    ℹ️ ข้อมูลที่ AI ใช้อาจไม่เหมาะกับทุกคน
    - AI ไม่สามารถรู้ข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล เช่น อาการแพ้หรือข้อจำกัดทางร่างกาย

    ℹ️ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต
    - หาก AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพได้แม่นยำขึ้น อาจทำให้ การดูแลสุขภาพมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/i-asked-chatgpt-gemini-and-other-ais-how-to-combat-aging-and-only-one-did-the-right-thing
    บทความนี้กล่าวถึง การใช้ AI เพื่อช่วยชะลอวัยและส่งเสริมสุขภาพ โดยเปรียบเทียบคำแนะนำจาก AI หลายตัว เช่น ChatGPT, Copilot, Gemini และ Claude AI เพื่อดูว่าแต่ละระบบให้คำแนะนำอย่างไรเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและการชะลอวัย นักเขียนได้ตั้งคำถามว่า "วิธีที่ดีที่สุดในการชะลอวัยคืออะไร?" และพบว่า AI แต่ละตัวให้คำตอบที่แตกต่างกันไป เช่น ChatGPT เน้นการออกกำลังกายและโภชนาการ, Copilot เน้นการดูแลสุขภาพจิตและการมีสังคม, Claude AI ให้คำตอบเชิงวิชาการเกี่ยวกับโภชนาการและการจัดการความเครียด, และ Gemini เน้นย้ำว่าควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพ นอกจากนี้ บทความยังกล่าวถึง Bryan Johnson นักธุรกิจที่ลงทุนมหาศาลเพื่อยืดอายุขัยของตัวเอง โดยใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลร่างกายของเขาเพื่อปรับปรุงสุขภาพ ✅ AI หลายตัวให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและการชะลอวัย - ChatGPT เน้น การออกกำลังกายและโภชนาการ - Copilot เน้น สุขภาพจิตและการมีสังคม - Claude AI ให้คำตอบเชิงวิชาการเกี่ยวกับ โภชนาการและการจัดการความเครียด - Gemini เน้นย้ำว่า ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพ ✅ Bryan Johnson ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลร่างกายเพื่อปรับปรุงสุขภาพ - เชื่อว่า AI อาจให้คำแนะนำที่ดีกว่าแพทย์ในอนาคต - ลงทุนมหาศาลเพื่อ ยืดอายุขัยของตัวเอง ✅ AI อาจมีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพในอนาคต - อาจช่วย วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพและให้คำแนะนำเฉพาะบุคคล - อาจเปลี่ยนแปลงแนวคิดเกี่ยวกับ ศาสนาและการดูแลร่างกาย ℹ️ AI ไม่สามารถแทนที่แพทย์ได้ในปัจจุบัน - AI อาจให้คำแนะนำทั่วไป แต่ ไม่สามารถวินิจฉัยโรคหรือให้คำปรึกษาทางการแพทย์ได้ ℹ️ ข้อมูลที่ AI ใช้อาจไม่เหมาะกับทุกคน - AI ไม่สามารถรู้ข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล เช่น อาการแพ้หรือข้อจำกัดทางร่างกาย ℹ️ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต - หาก AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพได้แม่นยำขึ้น อาจทำให้ การดูแลสุขภาพมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/i-asked-chatgpt-gemini-and-other-ais-how-to-combat-aging-and-only-one-did-the-right-thing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • อยากทราบว่ามีข้าราชการแพทย์เคยได้ยศ พลตำรวจเอก และ พลอากาศเอกมาก่อนไหมครับ?
    อยากทราบว่ามีข้าราชการแพทย์เคยได้ยศ พลตำรวจเอก และ พลอากาศเอกมาก่อนไหมครับ?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึง ความเครียดในอุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์ และวิธีที่นักวิทยาศาสตร์ด้านสมองแนะนำให้ใช้ "Neurohacks" เพื่อลดผลกระทบของความเครียดและช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น

    จากการสำรวจของ ISACA ปี 2024 พบว่า 60% ของผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์รู้สึกว่าความเครียดในงานเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจาก ภัยคุกคามที่ซับซ้อนขึ้น, งบประมาณที่จำกัด, การขาดแคลนบุคลากร และปัญหาการรักษาพนักงาน

    นักประสาทวิทยา Dr. Lila Landowski อธิบายว่าความเครียดในงานด้านไซเบอร์มีลักษณะคล้ายกับ สถานการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์ ซึ่งอาจส่งผลต่อ โครงสร้างสมอง ทำให้ ความสามารถในการตัดสินใจลดลง, ความจำแย่ลง และมีอารมณ์รุนแรงขึ้น

    ✅ ผลกระทบของความเครียดต่อสมอง
    - ความเครียดเรื้อรังทำให้ ฮิปโปแคมปัสหดตัว ส่งผลต่อความจำและการเรียนรู้
    - อะมิกดาลาโตขึ้น ทำให้มีอารมณ์รุนแรงและตอบสนองต่อความเครียดมากขึ้น
    - คอร์เทกซ์ส่วนหน้า ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการตัดสินใจ อาจทำงานผิดปกติ

    ✅ สาเหตุของความเครียดในงานด้านไซเบอร์
    - 60% ของผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์รู้สึกว่าความเครียดเพิ่มขึ้น
    - สาเหตุหลักมาจาก ภัยคุกคามที่ซับซ้อนขึ้น, งบประมาณที่จำกัด และการขาดแคลนบุคลากร

    ✅ Neurohacks เพื่อลดความเครียด
    - การเข้าสังคมแบบพบหน้ากัน ช่วยลดระดับ คอร์ติซอล และเพิ่ม ออกซิโทซิน
    - การทำสมาธิวันละ 13 นาที เป็นเวลา 8 สัปดาห์ช่วยลดขนาดอะมิกดาลา
    - การออกกำลังกาย ช่วยให้ร่างกายมีความทนทานต่อความเครียดทางจิตใจ

    ✅ แนวทางของนักวิทยาศาสตร์ด้านสมอง
    - Moran Cerf อดีตแฮกเกอร์และนักประสาทวิทยาแนะนำให้ เข้าใจว่าความเครียดมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
    - การจัดการทีมโดยใช้ สภาวะที่เหมาะสมกับสมองของแต่ละคน ช่วยลดความเครียดและเพิ่มประสิทธิภาพ

    https://www.csoonline.com/article/3973070/neurohacks-to-outsmart-stress-and-make-better-cybersecurity-decisions.html
    บทความนี้กล่าวถึง ความเครียดในอุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์ และวิธีที่นักวิทยาศาสตร์ด้านสมองแนะนำให้ใช้ "Neurohacks" เพื่อลดผลกระทบของความเครียดและช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น จากการสำรวจของ ISACA ปี 2024 พบว่า 60% ของผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์รู้สึกว่าความเครียดในงานเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจาก ภัยคุกคามที่ซับซ้อนขึ้น, งบประมาณที่จำกัด, การขาดแคลนบุคลากร และปัญหาการรักษาพนักงาน นักประสาทวิทยา Dr. Lila Landowski อธิบายว่าความเครียดในงานด้านไซเบอร์มีลักษณะคล้ายกับ สถานการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์ ซึ่งอาจส่งผลต่อ โครงสร้างสมอง ทำให้ ความสามารถในการตัดสินใจลดลง, ความจำแย่ลง และมีอารมณ์รุนแรงขึ้น ✅ ผลกระทบของความเครียดต่อสมอง - ความเครียดเรื้อรังทำให้ ฮิปโปแคมปัสหดตัว ส่งผลต่อความจำและการเรียนรู้ - อะมิกดาลาโตขึ้น ทำให้มีอารมณ์รุนแรงและตอบสนองต่อความเครียดมากขึ้น - คอร์เทกซ์ส่วนหน้า ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการตัดสินใจ อาจทำงานผิดปกติ ✅ สาเหตุของความเครียดในงานด้านไซเบอร์ - 60% ของผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์รู้สึกว่าความเครียดเพิ่มขึ้น - สาเหตุหลักมาจาก ภัยคุกคามที่ซับซ้อนขึ้น, งบประมาณที่จำกัด และการขาดแคลนบุคลากร ✅ Neurohacks เพื่อลดความเครียด - การเข้าสังคมแบบพบหน้ากัน ช่วยลดระดับ คอร์ติซอล และเพิ่ม ออกซิโทซิน - การทำสมาธิวันละ 13 นาที เป็นเวลา 8 สัปดาห์ช่วยลดขนาดอะมิกดาลา - การออกกำลังกาย ช่วยให้ร่างกายมีความทนทานต่อความเครียดทางจิตใจ ✅ แนวทางของนักวิทยาศาสตร์ด้านสมอง - Moran Cerf อดีตแฮกเกอร์และนักประสาทวิทยาแนะนำให้ เข้าใจว่าความเครียดมีทั้งข้อดีและข้อเสีย - การจัดการทีมโดยใช้ สภาวะที่เหมาะสมกับสมองของแต่ละคน ช่วยลดความเครียดและเพิ่มประสิทธิภาพ https://www.csoonline.com/article/3973070/neurohacks-to-outsmart-stress-and-make-better-cybersecurity-decisions.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Neurohacks to outsmart stress and make better cybersecurity decisions
    Understanding how stress rewires the brain could be the key to avoiding burnout and unlocking peak performance among cyber pros.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนเรียน มธ.หลงเชื่อข้อมูลผิดๆ ไม่ชอบ ร.๑๐ จนไม่เข้ารับปริญญา ทั้งๆที่ได้ #เกียรตินิยม รู้สึกเสียใจและเสียดายจนถึงทุกวันนี้...
    และ เพราะอะไรถึงกลับมารัก ร.๑๐ อย่างสุดหัวใจ 🙏💛
    ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ 'ดร.นิว' นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา

    ได้โพสเฟซบุ๊ค ดังนี้
    .
    ผมเป็นคนหนึ่งที่เรียน มธ. รหัส 53 และเคยได้รับข้อมูลผิด ๆ จนไม่ชอบในหลวง ร.10 มาก ๆ ถึงขั้นไม่เข้ารับพระราชทานปริญญาทั้ง ๆ ที่ผมจบเกียรตินิยม ผมไม่ได้เข้ารับของจริง ถ้าไม่เชื่อก็ไปเช็กได้เลยครับ ผมจึงยังคงเสียใจและเสียดายมาจนถึงทุกวันนี้ แต่พอได้ศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องด้วยตนเองในช่วงเรียนปริญญาเอกที่สิงคโปร์ จากที่ไม่ชอบก็กลายเป็นรักและเห็นใจพระองค์ท่านมาก ๆ
    .
    พบว่าสิ่งที่เคยได้ยินจากสามนิ้วล้มเจ้าในยุคนั้นล้วนเป็นความเท็จและไม่มีประโยชน์ เห็นได้ชัดเจนมาก ๆ ว่าการบิดเบือนให้ร้ายในหลวง ร.10 เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน เพื่อเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจ โดยมักบิดเบือนให้ร้ายสร้างมโนภาพต่าง ๆ ให้ในหลวง ร.10 กลายเป็นคนไม่ดี เป็นยักษ์ เป็นมาร เป็นจอมวายร้าย
    .
    แต่ทว่าในความเป็นจริง แม้ในหลวง ร.10 จะเป็นคนเคร่งครัดมากในระเบียบวินัยแบบทหาร แต่พระองค์ท่านก็เป็นคนที่มีเมตตาสูงมาก ขนาดชีวิตสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย ท่านยังให้ความเมตตาแบบสุด ๆ ผมเคยได้ยินเรื่องหนึ่งที่เชื่อถือได้อย่างแน่ชัด เวลามีสัตว์หลงเข้ามาในลานฝึก ทหารที่ฝึกกับพระองค์ท่านจะต้องหยิบมันไปปล่อยอย่างเหมาะสม ใครจะไปนึกว่าในหลวง ร.10 จะทรงน่ารักขนาดนี้
    .
    ผมยังจำได้ดี ตอนผมจบปริญญาเอกปี 2561 ในวัย 26 ปี ในปีนั้นเพื่อนชาวสิงคโปร์ของผมชื่อ ‘ยองเจีย’ วัย 25 ปี เคยแสดงความคิดเห็นให้ผมฟังว่า "สถาบันพระมหากษัตริย์คือจุดแข็งที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษอันหาได้ยากยิ่ง ลองคิดดูนะ กว่าประเทศอื่นจะรวมผู้คนให้สามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่ประเทศไทยสามารถทำได้แค่ในชั่วพริบตา เพราะมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คน ดังนั้นถ้าหากมีใครต้องการทำลายประเทศไทย หรือแทรกแซงประเทศไทยเพื่อผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง จึงไม่แปลกที่เขาต้องทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์"
    .
    ผมโชคดีที่ตาสว่างกว่า ไม่เช่นนั้นตอนนี้ผมอาจติดคุกหรือไม่ก็ได้ดิบได้ดีในพรรคการเมืองหนึ่ง พรรคที่มีรากเหง้ามาจากสามนิ้วล้มเจ้าใน มธ. ชอบอ้างอย่างปลอมเปลือกว่าอยากให้สถาบันพระมหากษัตริย์มั่นคงสถาพร แต่ในความเป็นจริงแม้แต่ถวายพระพรก็ยังไม่มีเลย สุดท้ายเมื่อผมออกจาก Echo Chamber ของการลือตาม ๆ กันอย่างเสียสติ ไม่ต่างจากนกแก้วนกขุนทอง ไม่หลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อบิดเบือนให้ร้ายพระองค์ท่านอีกต่อไป ผมจึงตาสว่างยิ่งกว่าตาสว่างและรักพระองค์ท่านสุดหัวใจ

    ดร.นิว ศุภณัฐ

    การที่บุคคล เห็นโทษ โดยความเป็นโทษ แล้วทำ คืนตามธรรม ถึงความสำรวมระวังต่อไป นี้เป็นความเจริญในอริยวินัย ของผู้นั้น
    #ตถาคตภาษิต
    ตอนเรียน มธ.หลงเชื่อข้อมูลผิดๆ ไม่ชอบ ร.๑๐ จนไม่เข้ารับปริญญา ทั้งๆที่ได้ #เกียรตินิยม รู้สึกเสียใจและเสียดายจนถึงทุกวันนี้... และ เพราะอะไรถึงกลับมารัก ร.๑๐ อย่างสุดหัวใจ 🙏💛 ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ 'ดร.นิว' นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสเฟซบุ๊ค ดังนี้ . ผมเป็นคนหนึ่งที่เรียน มธ. รหัส 53 และเคยได้รับข้อมูลผิด ๆ จนไม่ชอบในหลวง ร.10 มาก ๆ ถึงขั้นไม่เข้ารับพระราชทานปริญญาทั้ง ๆ ที่ผมจบเกียรตินิยม ผมไม่ได้เข้ารับของจริง ถ้าไม่เชื่อก็ไปเช็กได้เลยครับ ผมจึงยังคงเสียใจและเสียดายมาจนถึงทุกวันนี้ แต่พอได้ศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องด้วยตนเองในช่วงเรียนปริญญาเอกที่สิงคโปร์ จากที่ไม่ชอบก็กลายเป็นรักและเห็นใจพระองค์ท่านมาก ๆ . พบว่าสิ่งที่เคยได้ยินจากสามนิ้วล้มเจ้าในยุคนั้นล้วนเป็นความเท็จและไม่มีประโยชน์ เห็นได้ชัดเจนมาก ๆ ว่าการบิดเบือนให้ร้ายในหลวง ร.10 เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน เพื่อเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจ โดยมักบิดเบือนให้ร้ายสร้างมโนภาพต่าง ๆ ให้ในหลวง ร.10 กลายเป็นคนไม่ดี เป็นยักษ์ เป็นมาร เป็นจอมวายร้าย . แต่ทว่าในความเป็นจริง แม้ในหลวง ร.10 จะเป็นคนเคร่งครัดมากในระเบียบวินัยแบบทหาร แต่พระองค์ท่านก็เป็นคนที่มีเมตตาสูงมาก ขนาดชีวิตสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย ท่านยังให้ความเมตตาแบบสุด ๆ ผมเคยได้ยินเรื่องหนึ่งที่เชื่อถือได้อย่างแน่ชัด เวลามีสัตว์หลงเข้ามาในลานฝึก ทหารที่ฝึกกับพระองค์ท่านจะต้องหยิบมันไปปล่อยอย่างเหมาะสม ใครจะไปนึกว่าในหลวง ร.10 จะทรงน่ารักขนาดนี้ . ผมยังจำได้ดี ตอนผมจบปริญญาเอกปี 2561 ในวัย 26 ปี ในปีนั้นเพื่อนชาวสิงคโปร์ของผมชื่อ ‘ยองเจีย’ วัย 25 ปี เคยแสดงความคิดเห็นให้ผมฟังว่า "สถาบันพระมหากษัตริย์คือจุดแข็งที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษอันหาได้ยากยิ่ง ลองคิดดูนะ กว่าประเทศอื่นจะรวมผู้คนให้สามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่ประเทศไทยสามารถทำได้แค่ในชั่วพริบตา เพราะมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คน ดังนั้นถ้าหากมีใครต้องการทำลายประเทศไทย หรือแทรกแซงประเทศไทยเพื่อผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง จึงไม่แปลกที่เขาต้องทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์" . ผมโชคดีที่ตาสว่างกว่า ไม่เช่นนั้นตอนนี้ผมอาจติดคุกหรือไม่ก็ได้ดิบได้ดีในพรรคการเมืองหนึ่ง พรรคที่มีรากเหง้ามาจากสามนิ้วล้มเจ้าใน มธ. ชอบอ้างอย่างปลอมเปลือกว่าอยากให้สถาบันพระมหากษัตริย์มั่นคงสถาพร แต่ในความเป็นจริงแม้แต่ถวายพระพรก็ยังไม่มีเลย สุดท้ายเมื่อผมออกจาก Echo Chamber ของการลือตาม ๆ กันอย่างเสียสติ ไม่ต่างจากนกแก้วนกขุนทอง ไม่หลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อบิดเบือนให้ร้ายพระองค์ท่านอีกต่อไป ผมจึงตาสว่างยิ่งกว่าตาสว่างและรักพระองค์ท่านสุดหัวใจ ดร.นิว ศุภณัฐ การที่บุคคล เห็นโทษ โดยความเป็นโทษ แล้วทำ คืนตามธรรม ถึงความสำรวมระวังต่อไป นี้เป็นความเจริญในอริยวินัย ของผู้นั้น #ตถาคตภาษิต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกำลังเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โดยดึงดูดนักวิจัยจากต่างประเทศ ล่าสุด Lee Young-hee นักวิจัยชาวเกาหลีใต้ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัมที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย หลังจากไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้

    ศูนย์วิจัยนี้มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาอุตสาหกรรมในมณฑลหูเป่ย

    การแต่งตั้ง Lee Young-hee เป็นหนึ่งในหลายกรณีที่จีน ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านเซมิคอนดักเตอร์ แม้ว่าการวิจัยของเขาอาจไม่ได้ส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน แต่มีแนวโน้มจะมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า

    ✅ Lee Young-hee ได้รับตำแหน่งหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัม
    - ศูนย์วิจัยตั้งอยู่ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย
    - มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์

    ✅ เหตุผลที่ Lee Young-hee ย้ายไปจีน
    - ไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้หลังเกษียณ
    - เคยเสนอแผนวิจัยให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ของเกาหลีใต้ แต่ไม่ได้รับการตอบรับ

    ✅ แนวโน้มของจีนในการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ
    - มีรายงานว่าจีน ดึงดูดวิศวกรจาก Apple และ TSMC ด้วยข้อเสนอเงินเดือนสูง
    - Huawei เคยเสนอเงินเดือน สามเท่า ให้กับพนักงาน TSMC เพื่อดึงดูดให้ย้ายไปทำงานในจีน

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - การวิจัยวัสดุควอนตัมอาจมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า
    - อาจช่วยให้จีนลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

    https://wccftech.com/china-appoints-south-korean-semiconductor-research-for-quantum-materials-research/
    จีนกำลังเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โดยดึงดูดนักวิจัยจากต่างประเทศ ล่าสุด Lee Young-hee นักวิจัยชาวเกาหลีใต้ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัมที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย หลังจากไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้ ศูนย์วิจัยนี้มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาอุตสาหกรรมในมณฑลหูเป่ย การแต่งตั้ง Lee Young-hee เป็นหนึ่งในหลายกรณีที่จีน ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความสามารถด้านเซมิคอนดักเตอร์ แม้ว่าการวิจัยของเขาอาจไม่ได้ส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน แต่มีแนวโน้มจะมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า ✅ Lee Young-hee ได้รับตำแหน่งหัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุควอนตัม - ศูนย์วิจัยตั้งอยู่ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหูเป่ย - มุ่งเน้นไปที่ วัสดุใหม่, พลังงานใหม่, ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวการแพทย์ ✅ เหตุผลที่ Lee Young-hee ย้ายไปจีน - ไม่สามารถหาตำแหน่งที่เหมาะสมในเกาหลีใต้หลังเกษียณ - เคยเสนอแผนวิจัยให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ของเกาหลีใต้ แต่ไม่ได้รับการตอบรับ ✅ แนวโน้มของจีนในการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ - มีรายงานว่าจีน ดึงดูดวิศวกรจาก Apple และ TSMC ด้วยข้อเสนอเงินเดือนสูง - Huawei เคยเสนอเงินเดือน สามเท่า ให้กับพนักงาน TSMC เพื่อดึงดูดให้ย้ายไปทำงานในจีน ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - การวิจัยวัสดุควอนตัมอาจมีบทบาทสำคัญในทศวรรษหน้า - อาจช่วยให้จีนลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ https://wccftech.com/china-appoints-south-korean-semiconductor-research-for-quantum-materials-research/
    WCCFTECH.COM
    China Has Recruited South Korean Semiconductor Researcher And Appointed Him Head Of Quantum Materials Research After He Was Unable To Find A Suitable Position In His Home Country
    After being unable to find a suitable research position in his home country, a South Korean semiconductor expert has been recruited by China
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • IBM Cloud กลายเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกที่นำ Intel Gaudi 3 AI accelerators มาใช้ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้เทคโนโลยี AI ทรงพลังเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และลดต้นทุนของฮาร์ดแวร์ AI ที่มีราคาสูง

    การเปิดตัวนี้ถือเป็นการใช้งานเชิงพาณิชย์ครั้งแรกของ Intel Gaudi 3 ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับ Generative AI (GenAI), large model inferencing และ model fine-tuning โดยมีโครงสร้างที่เปิดกว้างสำหรับนักพัฒนา

    IBM Cloud ให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรในอุตสาหกรรมที่มีการกำกับดูแล เช่น การเงิน, การดูแลสุขภาพ และภาครัฐ โดยใช้ AI ในการตรวจจับการฉ้อโกง, การวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ และการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง

    Intel Gaudi 3 พร้อมให้บริการใน IBM Cloud regions ได้แก่ แฟรงก์เฟิร์ต (เยอรมนี), วอชิงตัน ดี.ซี. และดัลลัส (สหรัฐฯ) และจะถูกนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ IBM ในอนาคต

    ✅ IBM Cloud เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่ใช้ Intel Gaudi 3
    - ช่วยให้ AI ทรงพลังเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
    - ลดต้นทุนของฮาร์ดแวร์ AI ที่มีราคาสูง

    ✅ คุณสมบัติของ Intel Gaudi 3
    - รองรับ Generative AI, large model inferencing และ model fine-tuning
    - มีโครงสร้างที่เปิดกว้างสำหรับนักพัฒนา

    ✅ การใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ
    - การเงิน: ตรวจจับการฉ้อโกงและให้บริการลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล
    - การดูแลสุขภาพ: วิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์และพัฒนาแพลตฟอร์ม telemedicine
    - ภาครัฐ: ใช้ AI ในการบริหารจัดการข้อมูลและความปลอดภัย

    ✅ พื้นที่ให้บริการของ Intel Gaudi 3
    - พร้อมใช้งานใน แฟรงก์เฟิร์ต, วอชิงตัน ดี.ซี. และดัลลัส
    - จะถูกนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ IBM ในอนาคต

    https://www.techpowerup.com/336224/ibm-cloud-is-first-service-provider-to-deploy-intel-gaudi-3
    IBM Cloud กลายเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกที่นำ Intel Gaudi 3 AI accelerators มาใช้ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้เทคโนโลยี AI ทรงพลังเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และลดต้นทุนของฮาร์ดแวร์ AI ที่มีราคาสูง การเปิดตัวนี้ถือเป็นการใช้งานเชิงพาณิชย์ครั้งแรกของ Intel Gaudi 3 ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับ Generative AI (GenAI), large model inferencing และ model fine-tuning โดยมีโครงสร้างที่เปิดกว้างสำหรับนักพัฒนา IBM Cloud ให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรในอุตสาหกรรมที่มีการกำกับดูแล เช่น การเงิน, การดูแลสุขภาพ และภาครัฐ โดยใช้ AI ในการตรวจจับการฉ้อโกง, การวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ และการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง Intel Gaudi 3 พร้อมให้บริการใน IBM Cloud regions ได้แก่ แฟรงก์เฟิร์ต (เยอรมนี), วอชิงตัน ดี.ซี. และดัลลัส (สหรัฐฯ) และจะถูกนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ IBM ในอนาคต ✅ IBM Cloud เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่ใช้ Intel Gaudi 3 - ช่วยให้ AI ทรงพลังเข้าถึงได้ง่ายขึ้น - ลดต้นทุนของฮาร์ดแวร์ AI ที่มีราคาสูง ✅ คุณสมบัติของ Intel Gaudi 3 - รองรับ Generative AI, large model inferencing และ model fine-tuning - มีโครงสร้างที่เปิดกว้างสำหรับนักพัฒนา ✅ การใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ - การเงิน: ตรวจจับการฉ้อโกงและให้บริการลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล - การดูแลสุขภาพ: วิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์และพัฒนาแพลตฟอร์ม telemedicine - ภาครัฐ: ใช้ AI ในการบริหารจัดการข้อมูลและความปลอดภัย ✅ พื้นที่ให้บริการของ Intel Gaudi 3 - พร้อมใช้งานใน แฟรงก์เฟิร์ต, วอชิงตัน ดี.ซี. และดัลลัส - จะถูกนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ IBM ในอนาคต https://www.techpowerup.com/336224/ibm-cloud-is-first-service-provider-to-deploy-intel-gaudi-3
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    IBM Cloud is First Service Provider to Deploy Intel Gaudi 3
    IBM is the first cloud service provider to make Intel Gaudi 3 AI accelerators available to customers, a move designed to make powerful artificial intelligence capabilities more accessible and to directly address the high cost of specialized AI hardware. For Intel, the rollout on IBM Cloud marks the ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • การค้นหาข้อมูลทางการแพทย์บนอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะเมื่อ AI มีบทบาทมากขึ้นในการให้คำตอบ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการค้นหาข้อมูลที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดความวิตกกังวลโดยไม่จำเป็น และอาจนำไปสู่การวินิจฉัยที่ผิดพลาด

    แพทย์แนะนำให้ผู้ใช้เลือกแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น Mayo Clinic หรือ Centers for Disease Control and Prevention (CDC) แทนที่จะคลิกที่ลิงก์แรกที่ปรากฏในผลการค้นหา เนื่องจากบางเว็บไซต์อาจได้รับการโปรโมตผ่านโฆษณาและไม่ได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง

    นอกจากนี้ การใช้ AI เพื่อค้นหาข้อมูลทางการแพทย์ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจาก AI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่มีแหล่งอ้างอิง หรือเกิด "hallucinations" ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่ทำให้ AI สร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

    แพทย์ยังแนะนำให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลตามอาการแทนที่จะพยายามวินิจฉัยโรคด้วยตนเอง เช่น ควรถามว่า "อะไรเป็นสาเหตุของก้อนเนื้อใต้ผิวหนัง?" แทนที่จะถามว่า "ก้อนเนื้อใต้ผิวหนังเป็นมะเร็งหรือไม่?" เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมมากขึ้น

    ✅ เลือกแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
    - ใช้เว็บไซต์ของ Mayo Clinic หรือ CDC
    - หลีกเลี่ยงเว็บไซต์ที่ได้รับการโปรโมตผ่านโฆษณา

    ✅ ข้อควรระวังในการใช้ AI
    - AI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่มีแหล่งอ้างอิง
    - ระวัง hallucinations ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่ทำให้ AI สร้างข้อมูลผิดพลาด

    ✅ วิธีการค้นหาข้อมูลที่ถูกต้อง
    - ค้นหาข้อมูลตามอาการแทนที่จะพยายามวินิจฉัยโรคเอง
    - ใช้คำถามที่เปิดกว้าง เช่น "อะไรเป็นสาเหตุของอาการนี้?"

    ✅ สถานการณ์ที่ควรไปพบแพทย์ทันที
    - อาการเจ็บหน้าอก
    - เวียนศีรษะรุนแรง
    - สัญญาณของโรคหลอดเลือดสมอง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/02/whats-that-rash-put-some-thought-into-asking-google-for-medical-help
    การค้นหาข้อมูลทางการแพทย์บนอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะเมื่อ AI มีบทบาทมากขึ้นในการให้คำตอบ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการค้นหาข้อมูลที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดความวิตกกังวลโดยไม่จำเป็น และอาจนำไปสู่การวินิจฉัยที่ผิดพลาด แพทย์แนะนำให้ผู้ใช้เลือกแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น Mayo Clinic หรือ Centers for Disease Control and Prevention (CDC) แทนที่จะคลิกที่ลิงก์แรกที่ปรากฏในผลการค้นหา เนื่องจากบางเว็บไซต์อาจได้รับการโปรโมตผ่านโฆษณาและไม่ได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง นอกจากนี้ การใช้ AI เพื่อค้นหาข้อมูลทางการแพทย์ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจาก AI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่มีแหล่งอ้างอิง หรือเกิด "hallucinations" ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่ทำให้ AI สร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แพทย์ยังแนะนำให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลตามอาการแทนที่จะพยายามวินิจฉัยโรคด้วยตนเอง เช่น ควรถามว่า "อะไรเป็นสาเหตุของก้อนเนื้อใต้ผิวหนัง?" แทนที่จะถามว่า "ก้อนเนื้อใต้ผิวหนังเป็นมะเร็งหรือไม่?" เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมมากขึ้น ✅ เลือกแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ - ใช้เว็บไซต์ของ Mayo Clinic หรือ CDC - หลีกเลี่ยงเว็บไซต์ที่ได้รับการโปรโมตผ่านโฆษณา ✅ ข้อควรระวังในการใช้ AI - AI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่มีแหล่งอ้างอิง - ระวัง hallucinations ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่ทำให้ AI สร้างข้อมูลผิดพลาด ✅ วิธีการค้นหาข้อมูลที่ถูกต้อง - ค้นหาข้อมูลตามอาการแทนที่จะพยายามวินิจฉัยโรคเอง - ใช้คำถามที่เปิดกว้าง เช่น "อะไรเป็นสาเหตุของอาการนี้?" ✅ สถานการณ์ที่ควรไปพบแพทย์ทันที - อาการเจ็บหน้าอก - เวียนศีรษะรุนแรง - สัญญาณของโรคหลอดเลือดสมอง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/02/whats-that-rash-put-some-thought-into-asking-google-for-medical-help
    WWW.THESTAR.COM.MY
    What's that rash? Put some thought into asking Google for medical help
    Dr Google is often on call for worried patients, but it may not give the best advice.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกำลังเผชิญกับกระแสความนิยมของ DeepSeek ซึ่งเป็นแชตบอท AI ที่พัฒนาโดยบริษัทจีน และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์เตือนว่า การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

    Qi Xiangdong ประธานบริษัท Qi An Xin (QAX) ซึ่งเป็นบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ในปักกิ่ง ได้กล่าวในงาน Digital China Summit ว่า AI ขนาดใหญ่มีความท้าทายด้านความปลอดภัย และอาจถูกใช้โดยแฮกเกอร์เพื่อโจมตีระบบ หรือแม้แต่ "วางยาข้อมูล" เพื่อเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของโมเดล AI

    รัฐบาลจีนได้สนับสนุนการใช้ AI อย่างแพร่หลาย โดยมีการนำ DeepSeek ไปใช้ในหลายภาคส่วน เช่น การแปลภาษา, การเขียนบทความ, การให้คำแนะนำด้านการเลี้ยงดูเด็ก และแม้แต่การแพทย์ อย่างไรก็ตาม มณฑลหูหนาน ได้สั่งห้ามโรงพยาบาลใช้ AI ในการออกใบสั่งยา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความแม่นยำของข้อมูล

    นอกจากนี้ สำนักงานบริหารไซเบอร์ของจีน ได้ประกาศ แคมเปญควบคุม AI เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อตรวจสอบบริการ AI ที่ให้คำแนะนำทางการแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการเผยแพร่ข้อมูลผิดพลาดเกี่ยวกับการลงทุนและข่าวสารสาธารณะ

    ✅ ความนิยมของ DeepSeek ในจีน
    - DeepSeek เป็นแชตบอท AI ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน
    - ถูกนำไปใช้ในหลายภาคส่วน เช่น การแปลภาษา, การเขียนบทความ และการแพทย์

    ✅ คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์
    - Qi Xiangdong เตือนว่า AI อาจถูกใช้โดยแฮกเกอร์เพื่อโจมตีระบบ
    - มีความเสี่ยงจากการ "วางยาข้อมูล" เพื่อเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของ AI

    ✅ การควบคุมการใช้ AI ในจีน
    - มณฑลหูหนานสั่งห้ามโรงพยาบาลใช้ AI ในการออกใบสั่งยา
    - สำนักงานบริหารไซเบอร์ของจีนประกาศแคมเปญควบคุม AI เป็นเวลา 3 เดือน

    ✅ การใช้ AI ในภาครัฐ
    - รัฐบาลจีนใช้ AI ในการร่างเอกสารและตรวจสอบข้อมูล
    - มีการนำ AI ไปใช้ร่วมกับกล้องวงจรปิดเพื่อช่วยค้นหาผู้สูญหาย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/01/relying-on-ai-carries-risks-cybersecurity-expert-warns-amid-chinas-deepseek-craze
    จีนกำลังเผชิญกับกระแสความนิยมของ DeepSeek ซึ่งเป็นแชตบอท AI ที่พัฒนาโดยบริษัทจีน และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์เตือนว่า การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย Qi Xiangdong ประธานบริษัท Qi An Xin (QAX) ซึ่งเป็นบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ในปักกิ่ง ได้กล่าวในงาน Digital China Summit ว่า AI ขนาดใหญ่มีความท้าทายด้านความปลอดภัย และอาจถูกใช้โดยแฮกเกอร์เพื่อโจมตีระบบ หรือแม้แต่ "วางยาข้อมูล" เพื่อเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของโมเดล AI รัฐบาลจีนได้สนับสนุนการใช้ AI อย่างแพร่หลาย โดยมีการนำ DeepSeek ไปใช้ในหลายภาคส่วน เช่น การแปลภาษา, การเขียนบทความ, การให้คำแนะนำด้านการเลี้ยงดูเด็ก และแม้แต่การแพทย์ อย่างไรก็ตาม มณฑลหูหนาน ได้สั่งห้ามโรงพยาบาลใช้ AI ในการออกใบสั่งยา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความแม่นยำของข้อมูล นอกจากนี้ สำนักงานบริหารไซเบอร์ของจีน ได้ประกาศ แคมเปญควบคุม AI เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อตรวจสอบบริการ AI ที่ให้คำแนะนำทางการแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการเผยแพร่ข้อมูลผิดพลาดเกี่ยวกับการลงทุนและข่าวสารสาธารณะ ✅ ความนิยมของ DeepSeek ในจีน - DeepSeek เป็นแชตบอท AI ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน - ถูกนำไปใช้ในหลายภาคส่วน เช่น การแปลภาษา, การเขียนบทความ และการแพทย์ ✅ คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ - Qi Xiangdong เตือนว่า AI อาจถูกใช้โดยแฮกเกอร์เพื่อโจมตีระบบ - มีความเสี่ยงจากการ "วางยาข้อมูล" เพื่อเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของ AI ✅ การควบคุมการใช้ AI ในจีน - มณฑลหูหนานสั่งห้ามโรงพยาบาลใช้ AI ในการออกใบสั่งยา - สำนักงานบริหารไซเบอร์ของจีนประกาศแคมเปญควบคุม AI เป็นเวลา 3 เดือน ✅ การใช้ AI ในภาครัฐ - รัฐบาลจีนใช้ AI ในการร่างเอกสารและตรวจสอบข้อมูล - มีการนำ AI ไปใช้ร่วมกับกล้องวงจรปิดเพื่อช่วยค้นหาผู้สูญหาย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/01/relying-on-ai-carries-risks-cybersecurity-expert-warns-amid-chinas-deepseek-craze
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Relying on AI carries risks, cybersecurity expert warns amid China’s DeepSeek craze
    Political adviser cautions against dependence on AI for decision-making, calls for security mechanism to monitor and intercept threats.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ใช่แค่รัฐบาลไทยที่โทษเกมนะครับ ฮา...

    บทความนี้กล่าวถึงการที่รัฐบาลรัสเซียได้กล่าวหาว่าเกม World of Tanks และบริษัทผู้พัฒนา Wargaming มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ถูกมองว่าเป็น "กลุ่มหัวรุนแรง" โดยมีการข่มขู่ที่จะยึดทรัพย์สินของบริษัทในรัสเซีย แม้ว่า Wargaming จะยืนยันว่าได้ถอนตัวจากตลาดรัสเซียและเบลารุสตั้งแต่ปี 2022 หลังจากการรุกรานยูเครน

    Wargaming ซึ่งเป็นบริษัทที่มีต้นกำเนิดในเบลารุสและปัจจุบันตั้งอยู่ในไซปรัส ได้โอนการดำเนินงานในรัสเซียให้กับบริษัท Lesta Games โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และยืนยันว่าไม่มีทรัพย์สินใดในรัสเซียที่สามารถถูกยึดได้

    นอกจากนี้ Wargaming ยังได้แสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครนอย่างชัดเจน โดยบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์ ให้กับกาชาดยูเครนเพื่อช่วยเหลือด้านการแพทย์และการขนส่ง

    ✅ การถอนตัวจากตลาดรัสเซียและเบลารุส
    - Wargaming ถอนตัวจากตลาดรัสเซียและเบลารุสตั้งแต่ปี 2022
    - โอนการดำเนินงานในรัสเซียให้กับ Lesta Games โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

    ✅ ข้อกล่าวหาจากรัฐบาลรัสเซีย
    - รัฐบาลรัสเซียกล่าวหาว่า Wargaming มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมหัวรุนแรง
    - มีการข่มขู่ที่จะยึดทรัพย์สินของบริษัทในรัสเซีย

    ✅ การสนับสนุนยูเครน
    - Wargaming บริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์ให้กับกาชาดยูเครน
    - เกม World of Tanks ได้รับความนิยมในหมู่ทหารยูเครน

    ✅ ผลกระทบต่อบริษัท
    - Wargaming สูญเสียรายได้กว่า 30% ของตลาดหลังถอนตัวจากรัสเซีย

    https://www.techspot.com/news/107729-russian-authorities-threaten-world-tanks-developer-alleged-extremist.html
    ไม่ใช่แค่รัฐบาลไทยที่โทษเกมนะครับ ฮา... บทความนี้กล่าวถึงการที่รัฐบาลรัสเซียได้กล่าวหาว่าเกม World of Tanks และบริษัทผู้พัฒนา Wargaming มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ถูกมองว่าเป็น "กลุ่มหัวรุนแรง" โดยมีการข่มขู่ที่จะยึดทรัพย์สินของบริษัทในรัสเซีย แม้ว่า Wargaming จะยืนยันว่าได้ถอนตัวจากตลาดรัสเซียและเบลารุสตั้งแต่ปี 2022 หลังจากการรุกรานยูเครน Wargaming ซึ่งเป็นบริษัทที่มีต้นกำเนิดในเบลารุสและปัจจุบันตั้งอยู่ในไซปรัส ได้โอนการดำเนินงานในรัสเซียให้กับบริษัท Lesta Games โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และยืนยันว่าไม่มีทรัพย์สินใดในรัสเซียที่สามารถถูกยึดได้ นอกจากนี้ Wargaming ยังได้แสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครนอย่างชัดเจน โดยบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์ ให้กับกาชาดยูเครนเพื่อช่วยเหลือด้านการแพทย์และการขนส่ง ✅ การถอนตัวจากตลาดรัสเซียและเบลารุส - Wargaming ถอนตัวจากตลาดรัสเซียและเบลารุสตั้งแต่ปี 2022 - โอนการดำเนินงานในรัสเซียให้กับ Lesta Games โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ✅ ข้อกล่าวหาจากรัฐบาลรัสเซีย - รัฐบาลรัสเซียกล่าวหาว่า Wargaming มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมหัวรุนแรง - มีการข่มขู่ที่จะยึดทรัพย์สินของบริษัทในรัสเซีย ✅ การสนับสนุนยูเครน - Wargaming บริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์ให้กับกาชาดยูเครน - เกม World of Tanks ได้รับความนิยมในหมู่ทหารยูเครน ✅ ผลกระทบต่อบริษัท - Wargaming สูญเสียรายได้กว่า 30% ของตลาดหลังถอนตัวจากรัสเซีย https://www.techspot.com/news/107729-russian-authorities-threaten-world-tanks-developer-alleged-extremist.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Russian authorities threaten World of Tanks developer for its alleged "extremist activities"
    Russian authorities have branded World of Tanks-related operations "extremist" and are threatening to confiscate property held by Wargaming executives. The case involves Lesta Games, a Moscow-based studio...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • Geoffrey Hinton ผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็น "Godfather of AI" ได้ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงที่ AI อาจเข้าควบคุมมนุษย์ในอนาคต โดยเขาประเมินว่ามีโอกาส 10-20% ที่ AI จะสามารถควบคุมมนุษย์ได้หากไม่มีการกำกับดูแลที่เหมาะสม Hinton ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สร้างรากฐานเทคโนโลยี AI เช่น ChatGPT ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการพัฒนา AI ที่รวดเร็วและขาดการควบคุม โดยเฉพาะการนำ AI ไปใช้ในอาวุธและยานพาหนะทางทหาร

    Hinton ยังวิจารณ์บริษัทเทคโนโลยีที่ให้ความสำคัญกับผลกำไรมากกว่าความปลอดภัย โดยเขาเสนอให้บริษัทจัดสรรทรัพยากรประมาณ หนึ่งในสาม เพื่อการวิจัยด้านความปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันมีการจัดสรรเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ เขายังผิดหวังกับ Google ที่เปลี่ยนนโยบาย AI เพื่ออนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีในอาวุธทางทหาร

    แม้ว่า Hinton จะเตือนถึงความเสี่ยง แต่เขายังเชื่อว่า AI มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงการศึกษา การแพทย์ และการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ

    ✅ ความเสี่ยงของ AI
    - มีโอกาส 10-20% ที่ AI จะเข้าควบคุมมนุษย์ในอนาคต
    - การพัฒนา AI ที่รวดเร็วและขาดการควบคุมอาจนำไปสู่เหตุการณ์ระดับการสูญพันธุ์

    ✅ การใช้ AI ในอาวุธทางทหาร
    - บริษัทเทคโนโลยีให้ความสำคัญกับผลกำไรมากกว่าความปลอดภัย
    - Google เปลี่ยนนโยบาย AI เพื่ออนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีในอาวุธทางทหาร

    ✅ ข้อเสนอของ Hinton
    - บริษัทควรจัดสรรทรัพยากรประมาณหนึ่งในสามเพื่อการวิจัยด้านความปลอดภัย
    - AI มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงการศึกษา การแพทย์ และการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ

    ✅ เป้าหมายของคำเตือน
    - กระตุ้นให้มีการกำกับดูแลและการวิจัยด้านความปลอดภัยของ AI

    https://www.techspot.com/news/107706-godfather-ai-geoffrey-hinton-warns-there-10-20.html
    Geoffrey Hinton ผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็น "Godfather of AI" ได้ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงที่ AI อาจเข้าควบคุมมนุษย์ในอนาคต โดยเขาประเมินว่ามีโอกาส 10-20% ที่ AI จะสามารถควบคุมมนุษย์ได้หากไม่มีการกำกับดูแลที่เหมาะสม Hinton ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สร้างรากฐานเทคโนโลยี AI เช่น ChatGPT ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการพัฒนา AI ที่รวดเร็วและขาดการควบคุม โดยเฉพาะการนำ AI ไปใช้ในอาวุธและยานพาหนะทางทหาร Hinton ยังวิจารณ์บริษัทเทคโนโลยีที่ให้ความสำคัญกับผลกำไรมากกว่าความปลอดภัย โดยเขาเสนอให้บริษัทจัดสรรทรัพยากรประมาณ หนึ่งในสาม เพื่อการวิจัยด้านความปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันมีการจัดสรรเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ เขายังผิดหวังกับ Google ที่เปลี่ยนนโยบาย AI เพื่ออนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีในอาวุธทางทหาร แม้ว่า Hinton จะเตือนถึงความเสี่ยง แต่เขายังเชื่อว่า AI มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงการศึกษา การแพทย์ และการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ✅ ความเสี่ยงของ AI - มีโอกาส 10-20% ที่ AI จะเข้าควบคุมมนุษย์ในอนาคต - การพัฒนา AI ที่รวดเร็วและขาดการควบคุมอาจนำไปสู่เหตุการณ์ระดับการสูญพันธุ์ ✅ การใช้ AI ในอาวุธทางทหาร - บริษัทเทคโนโลยีให้ความสำคัญกับผลกำไรมากกว่าความปลอดภัย - Google เปลี่ยนนโยบาย AI เพื่ออนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีในอาวุธทางทหาร ✅ ข้อเสนอของ Hinton - บริษัทควรจัดสรรทรัพยากรประมาณหนึ่งในสามเพื่อการวิจัยด้านความปลอดภัย - AI มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงการศึกษา การแพทย์ และการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ✅ เป้าหมายของคำเตือน - กระตุ้นให้มีการกำกับดูแลและการวิจัยด้านความปลอดภัยของ AI https://www.techspot.com/news/107706-godfather-ai-geoffrey-hinton-warns-there-10-20.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    "Godfather of AI" warns there's a 10 to 20% chance AI could seize control
    Speaking during an interview earlier this month that was aired on CBS Saturday morning, Hinton, who jointly won the Nobel Prize in physics last year, issued a...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • บินเล็กตกทะเลหัวหิน ตำรวจพลีชีพ 5 นาย เร่งยื้อชีวิตนักบิน "ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์" เครื่องใหม่ลำแรกของรุ่น เพิ่งประจำการ ตร. แค่ 4 ปี 🚨✈️

    ความสูญเสียกลางภารกิจที่ไม่มีวันลืม วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2568 ช่วงเช้า 08.15 น. 🌅 ที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เกิดเหตุการณ์สลดใจ เครื่องบินเล็ก DHC-6 Twin Otter หมายเลข 36964 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสบอุบัติเหตุตกลงในทะเล ขณะกำลังทำภารกิจทดสอบการบิน 🌊

    โศกนาฏกรรมครั้งนี้ คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 5 นาย 😢 เหลือเพียง ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน ที่รอดชีวิตมาได้ แม้จะบาดเจ็บสาหัส และยังต้องเฝ้าระวังอาการใกล้ชิด ในโรงพยาบาลหัวหิน

    ลำดับเหตุการณ์ เครื่องตกกลางภารกิจทดสอบการบิน 🚁 เหตุเกิดเช้าวันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2568 เวลา 08.15 น. ที่ชายหาดเบบิ้แกรนด์ ใกล้สนามบินบ่อฝ้าย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อยู่บนเครื่องมีทั้งหมด 6 นาย ได้แก่...

    พ.ต.อ.ประธาน เขียวขำ นักบิน เสียชีวิต
    พ.ต.ท.ปานเทพ มณิวชิรางกูร นักบิน เสียชีวิต
    ร.ต.ท.ธนวรรษ เมฆประเสริฐสุข วิศวกร เสียชีวิต
    จ.ส.ต.ประวัติ พลหงษ์สา ช่างเครื่อง เสียชีวิต
    ส.ต.ต.จิราวัฒน์ มากสาขา ช่างเครื่อง เสียชีวิต

    ส่วน ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน รอดชีวิต บาดเจ็บสาหัส

    🆘 การช่วยเหลือเกิดขึ้นทันทีหลังเครื่องตก โดยมีการปฏิบัติการกู้ชีพ จากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และชาวบ้านในพื้นที่ อย่างทันท่วงที

    สภาพเครื่องบินก่อนเกิดเหตุ ซ่อมบำรุง-ทดสอบ-แต่ตกสู่โศกนาฏกรรม ⚙️ การซ่อมบำรุงก่อนบิน

    🔧 เครื่องบินลำนี้ เพิ่งได้รับการซ่อมบำรุงเพียง 2-3 วัน ก่อนเกิดเหตุ
    🔍 มีการทดสอบภาคพื้นดินอย่างละเอียด ซึ่งผลการตรวจสอบ ไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ

    ภารกิจในวันเกิดเหตุ ทดสอบการบิน เพื่อเตรียมความพร้อมฝึกกระโดดร่ม ตรวจสอบสภาพอากาศ และสภาวะแวดล้อม ช่วงเวลาขึ้นบินประมาณ 1 นาที เครื่องเกิดเสียการทรงตัว ก่อนตกลงทะเล

    ⛅ สภาพอากาศในวันนั้น มีลมอ่อนถึงปานกลาง แต่ยังไม่ชัดเจนว่า เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุหรือไม่

    ข้อมูลเครื่องบิน DHC-6-400 Twin Otter หมายเลข 36964 📚✈️ ผู้ผลิตคืออ Viking Air Ltd. 🇨🇦 เข้าประจำการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2564 หมายเลขเครื่อง MSN 964 ทะเบียนเดิมในแคนาดาคือ C-FMVQ ก่อนที่จะถูกส่งมอบให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เครื่องบินลำนี้ไม่ได้ถูกใช้งาน โดยสายการบิน หรือหน่วยงานอื่นใด ถือเป็นเครื่องบินใหม่ ที่ยังไม่เคยประจำการที่ไหนมาก่อน

    ลักษณะการใช้งาน เครื่องลำเลียงทางยุทธวิธี เช่น ฝึกกระโดดร่ม ลาดตระเวนชายแดน ส่งกลับสายการแพทย์ 🚑

    สเปกทางเทคนิค ความยาว 15.77 เมตร ช่วงปีก 19.81 เมตร ความสูง 5.94 เมตร น้ำหนักเปล่า 3,380 กก. น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด (MTOW) 5,670 กก. ความเร็วเดินทาง 338 กม./ชม. พิสัยการบิน1,427 กม. เพดานบิน 25,000 ฟุต ระบบขับเคลื่อน 2 × Pratt & Whitney PT6A-34 (750 SHP/ข้าง)

    🛬 ด้วยคุณสมบัติการขึ้น-ลงระยะสั้น (STOL) ทำให้เครื่องบินรุ่นนี้ เหมาะสมกับภารกิจ ในพื้นที่ทุรกันดารอย่างมาก

    จุดเด่น ข้อจำกัดของ DHC-6-400 Twin Otter 🔥

    จุดเด่น 👍
    ✅ ขึ้นลงได้ในพื้นที่สั้น ดิน หญ้า หิมะ หรือน้ำ
    ✅ ทนทานสูง ซ่อมบำรุงง่าย
    ✅ ระบบ Glass Cockpit ทันสมัย
    ✅ รองรับภารกิจหลากหลาย ตั้งแต่พลเรือนไปจนถึงทหาร

    ข้อจำกัด 👎
    ⚠️ ไม่มีระบบความดันภายในห้องโดยสาร
    ⚠️ เสียงเครื่องยนต์ดังมาก
    ⚠️ ระบบตรวจจับสภาพอากาศพื้นฐาน อาจไม่เพียงพอในสภาพอากาศเลวร้าย
    ⚠️ ไม่มีระบบ Fly-by-wire หรือ Auto-throttle ช่วยนักบิน
    ⚠️ โครงสร้างหลักพัฒนาจากแบบดั้งเดิม (1960s)

    ✨ แม้ว่าจะมีข้อจำกัด แต่ในแง่ความแข็งแกร่ง DHC-6-400 ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องบินลำเลียง ที่น่าเชื่อถือมากที่สุด

    การช่วยเหลือ ภารกิจหลังอุบัติเหตุ 🚑🤝 หน่วยกู้ภัยในพื้นที่ ดำเนินการค้นหาและกู้ชีพทันที ร.ต.อ.จตุรงค์ ถูกนำส่งโรงพยาบาลหัวหิน และยังอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิต และจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ 🎖️

    👩‍⚕️ การสอบสวนหาสาเหตุอุบัติเหตุ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยเน้นการเก็บข้อมูลจากกล่องดำ (Black Box) พยานแวดล้อม ข้อมูลสภาพเครื่องบิน และสภาพอากาศวันเกิดเหตุ

    โศกนาฏกรรมที่ต้องจดจำ บทเรียนเพื่ออนาคต 🕊️ เหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเสียสละ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทำหน้าที่เพื่อประเทศอย่างแท้จริง 🇹🇭 ขณะเดียวกัน ยังเป็นสัญญาณเตือนให้ทุกฝ่าย หันมาใส่ใจในมาตรฐานความปลอดภัย ในการบินอย่างจริงจังยิ่งขึ้น

    ขอร่วมไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตทุกนาย และขอให้ "ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์" ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ❤️‍🩹

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 252128 เม.ย. 2568

    🌟 #อุบัติเหตุเครื่องบิน #หัวหิน #ตำรวจไทย #เครื่องบินตก #DHC6TwinOtter #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #รำลึกผู้เสียชีวิต #ภารกิจตำรวจ #ข่าวด่วน #ข่าวประจวบคีรีขันธ์
    บินเล็กตกทะเลหัวหิน ตำรวจพลีชีพ 5 นาย เร่งยื้อชีวิตนักบิน "ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์" เครื่องใหม่ลำแรกของรุ่น เพิ่งประจำการ ตร. แค่ 4 ปี 🚨✈️ ความสูญเสียกลางภารกิจที่ไม่มีวันลืม วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2568 ช่วงเช้า 08.15 น. 🌅 ที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เกิดเหตุการณ์สลดใจ เครื่องบินเล็ก DHC-6 Twin Otter หมายเลข 36964 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสบอุบัติเหตุตกลงในทะเล ขณะกำลังทำภารกิจทดสอบการบิน 🌊 โศกนาฏกรรมครั้งนี้ คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 5 นาย 😢 เหลือเพียง ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน ที่รอดชีวิตมาได้ แม้จะบาดเจ็บสาหัส และยังต้องเฝ้าระวังอาการใกล้ชิด ในโรงพยาบาลหัวหิน ลำดับเหตุการณ์ เครื่องตกกลางภารกิจทดสอบการบิน 🚁 เหตุเกิดเช้าวันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2568 เวลา 08.15 น. ที่ชายหาดเบบิ้แกรนด์ ใกล้สนามบินบ่อฝ้าย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อยู่บนเครื่องมีทั้งหมด 6 นาย ได้แก่... พ.ต.อ.ประธาน เขียวขำ นักบิน เสียชีวิต พ.ต.ท.ปานเทพ มณิวชิรางกูร นักบิน เสียชีวิต ร.ต.ท.ธนวรรษ เมฆประเสริฐสุข วิศวกร เสียชีวิต จ.ส.ต.ประวัติ พลหงษ์สา ช่างเครื่อง เสียชีวิต ส.ต.ต.จิราวัฒน์ มากสาขา ช่างเครื่อง เสียชีวิต ส่วน ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน รอดชีวิต บาดเจ็บสาหัส 🆘 การช่วยเหลือเกิดขึ้นทันทีหลังเครื่องตก โดยมีการปฏิบัติการกู้ชีพ จากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และชาวบ้านในพื้นที่ อย่างทันท่วงที สภาพเครื่องบินก่อนเกิดเหตุ ซ่อมบำรุง-ทดสอบ-แต่ตกสู่โศกนาฏกรรม ⚙️ การซ่อมบำรุงก่อนบิน 🔧 เครื่องบินลำนี้ เพิ่งได้รับการซ่อมบำรุงเพียง 2-3 วัน ก่อนเกิดเหตุ 🔍 มีการทดสอบภาคพื้นดินอย่างละเอียด ซึ่งผลการตรวจสอบ ไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ ภารกิจในวันเกิดเหตุ ทดสอบการบิน เพื่อเตรียมความพร้อมฝึกกระโดดร่ม ตรวจสอบสภาพอากาศ และสภาวะแวดล้อม ช่วงเวลาขึ้นบินประมาณ 1 นาที เครื่องเกิดเสียการทรงตัว ก่อนตกลงทะเล ⛅ สภาพอากาศในวันนั้น มีลมอ่อนถึงปานกลาง แต่ยังไม่ชัดเจนว่า เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุหรือไม่ ข้อมูลเครื่องบิน DHC-6-400 Twin Otter หมายเลข 36964 📚✈️ ผู้ผลิตคืออ Viking Air Ltd. 🇨🇦 เข้าประจำการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2564 หมายเลขเครื่อง MSN 964 ทะเบียนเดิมในแคนาดาคือ C-FMVQ ก่อนที่จะถูกส่งมอบให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เครื่องบินลำนี้ไม่ได้ถูกใช้งาน โดยสายการบิน หรือหน่วยงานอื่นใด ถือเป็นเครื่องบินใหม่ ที่ยังไม่เคยประจำการที่ไหนมาก่อน ลักษณะการใช้งาน เครื่องลำเลียงทางยุทธวิธี เช่น ฝึกกระโดดร่ม ลาดตระเวนชายแดน ส่งกลับสายการแพทย์ 🚑 สเปกทางเทคนิค ความยาว 15.77 เมตร ช่วงปีก 19.81 เมตร ความสูง 5.94 เมตร น้ำหนักเปล่า 3,380 กก. น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด (MTOW) 5,670 กก. ความเร็วเดินทาง 338 กม./ชม. พิสัยการบิน1,427 กม. เพดานบิน 25,000 ฟุต ระบบขับเคลื่อน 2 × Pratt & Whitney PT6A-34 (750 SHP/ข้าง) 🛬 ด้วยคุณสมบัติการขึ้น-ลงระยะสั้น (STOL) ทำให้เครื่องบินรุ่นนี้ เหมาะสมกับภารกิจ ในพื้นที่ทุรกันดารอย่างมาก จุดเด่น ข้อจำกัดของ DHC-6-400 Twin Otter 🔥 จุดเด่น 👍 ✅ ขึ้นลงได้ในพื้นที่สั้น ดิน หญ้า หิมะ หรือน้ำ ✅ ทนทานสูง ซ่อมบำรุงง่าย ✅ ระบบ Glass Cockpit ทันสมัย ✅ รองรับภารกิจหลากหลาย ตั้งแต่พลเรือนไปจนถึงทหาร ข้อจำกัด 👎 ⚠️ ไม่มีระบบความดันภายในห้องโดยสาร ⚠️ เสียงเครื่องยนต์ดังมาก ⚠️ ระบบตรวจจับสภาพอากาศพื้นฐาน อาจไม่เพียงพอในสภาพอากาศเลวร้าย ⚠️ ไม่มีระบบ Fly-by-wire หรือ Auto-throttle ช่วยนักบิน ⚠️ โครงสร้างหลักพัฒนาจากแบบดั้งเดิม (1960s) ✨ แม้ว่าจะมีข้อจำกัด แต่ในแง่ความแข็งแกร่ง DHC-6-400 ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องบินลำเลียง ที่น่าเชื่อถือมากที่สุด การช่วยเหลือ ภารกิจหลังอุบัติเหตุ 🚑🤝 หน่วยกู้ภัยในพื้นที่ ดำเนินการค้นหาและกู้ชีพทันที ร.ต.อ.จตุรงค์ ถูกนำส่งโรงพยาบาลหัวหิน และยังอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิต และจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ 🎖️ 👩‍⚕️ การสอบสวนหาสาเหตุอุบัติเหตุ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยเน้นการเก็บข้อมูลจากกล่องดำ (Black Box) พยานแวดล้อม ข้อมูลสภาพเครื่องบิน และสภาพอากาศวันเกิดเหตุ โศกนาฏกรรมที่ต้องจดจำ บทเรียนเพื่ออนาคต 🕊️ เหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเสียสละ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทำหน้าที่เพื่อประเทศอย่างแท้จริง 🇹🇭 ขณะเดียวกัน ยังเป็นสัญญาณเตือนให้ทุกฝ่าย หันมาใส่ใจในมาตรฐานความปลอดภัย ในการบินอย่างจริงจังยิ่งขึ้น ขอร่วมไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตทุกนาย และขอให้ "ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์" ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ❤️‍🩹 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 252128 เม.ย. 2568 🌟 #อุบัติเหตุเครื่องบิน #หัวหิน #ตำรวจไทย #เครื่องบินตก #DHC6TwinOtter #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #รำลึกผู้เสียชีวิต #ภารกิจตำรวจ #ข่าวด่วน #ข่าวประจวบคีรีขันธ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ดร.เอ้' ขอพลังใจและธารน้ำใจร่วมบริจาค ทำบุญ ให้เครื่องมือเพื่อการแพทย์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร
    https://www.thai-tai.tv/news/18323/
    'ดร.เอ้' ขอพลังใจและธารน้ำใจร่วมบริจาค ทำบุญ ให้เครื่องมือเพื่อการแพทย์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร https://www.thai-tai.tv/news/18323/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลักฐานเพียบตึก สตง.ส่อทุจริตตั้งแต่เริ่ม : [NEWS UPDATE]

    นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พานายณรัฐนันทน์ วิภากรวิทย์ อดีตข้าราชการในสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ในฐานะพยาน นำหลักฐานเอกสารการประชุมในการก่อสร้างตึก สตง. แห่งใหม่ ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พิจารณาดำเนินคดี มีทั้งเอกสาร คลิปวิดีโอ คลิปเสียงสนทนา จำนวนมากที่รวบรวมตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน ตั้ง 3 ข้อสงสัย 1.การออกแบบอาคารมีปัญหาตั้งแต่ต้น เป็นไปด้วยความโปร่งใสหรือไม่ 2.กระบวนการคัดเลือกผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน การก่อสร้าง และ 3.ระหว่างก่อสร้างมีการแก้ไขแบบหลายครั้ง มีวิศวกรอ้างถูกปลอมลายเซ็น ซึ่งเมื่อเปลี่ยนแปลงการออกแบบต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สตง. ด้วย

    -เชื่อผู้บริหารเอี่ยวเกิน 10 คน

    -ลักลอบผลิตเหล็กคาตา

    -แกะรอยก๊วนขโมยข้อสอบ

    -ทุจริตสหกรณ์รัฐสภา 14 ล้าน
    หลักฐานเพียบตึก สตง.ส่อทุจริตตั้งแต่เริ่ม : [NEWS UPDATE] นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พานายณรัฐนันทน์ วิภากรวิทย์ อดีตข้าราชการในสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ในฐานะพยาน นำหลักฐานเอกสารการประชุมในการก่อสร้างตึก สตง. แห่งใหม่ ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พิจารณาดำเนินคดี มีทั้งเอกสาร คลิปวิดีโอ คลิปเสียงสนทนา จำนวนมากที่รวบรวมตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน ตั้ง 3 ข้อสงสัย 1.การออกแบบอาคารมีปัญหาตั้งแต่ต้น เป็นไปด้วยความโปร่งใสหรือไม่ 2.กระบวนการคัดเลือกผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน การก่อสร้าง และ 3.ระหว่างก่อสร้างมีการแก้ไขแบบหลายครั้ง มีวิศวกรอ้างถูกปลอมลายเซ็น ซึ่งเมื่อเปลี่ยนแปลงการออกแบบต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สตง. ด้วย -เชื่อผู้บริหารเอี่ยวเกิน 10 คน -ลักลอบผลิตเหล็กคาตา -แกะรอยก๊วนขโมยข้อสอบ -ทุจริตสหกรณ์รัฐสภา 14 ล้าน
    Like
    Love
    9
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 613 มุมมอง 40 0 รีวิว
  • นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พานายณรัฐนันทน์ วิภากรวิทย์ อดีตข้าราชการในสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ในฐานะพยาน นำหลักฐานเอกสารการประชุมในการก่อสร้างตึก สตง. แห่งใหม่ ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พิจารณาดำเนินคดี มีทั้งเอกสาร คลิปวิดีโอ คลิปเสียงสนทนา ซึ่งเป็นหลักฐานจำนวนมากรวบรวมตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน โดยได้มาจากอดีตข้าราชการ สตง. และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตั้ง 3 ข้อสงสัย 1.การออกแบบอาคารมีปัญหาตั้งแต่ต้น โปร่งใสหรือไม่ 2.กระบวนการคัดเลือกผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน การก่อสร้าง และ 3.ระหว่างก่อสร้างแก้ไขแบบหลายครั้ง มีวิศวกรอ้างถูกปลอมลายเซ็น ซึ่งเมื่อเปลี่ยนแบบต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สตง. ด้วย ด้านนายณรัฐนันทน์ เผย ทำงานที่ สตง. มา 18 ปี เคยใกล้ชิด ทำงานให้ผู้บริหาร สตง. จึงรู้พฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริตในการสร้างตึก สตง. ได้ถูกใช้งานหลายอย่างที่อาจเป็นเรื่องไม่สุจริตโปร่งใส ได้รับทราบข้อเท็จจริงเรื่องกระบวนการคัดเลือกผู้ออกแบบ ผู้รับจ้าง การก่อสร้าง ที่อาจมีเบื้องลึกเบื้องหลัง มีผู้บริหารเกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 10 คน พบสัญญาจ้างผู้ควบคุมงานที่ สตง. เป็นผู้ว่าจ้าง ลงนามโดยอดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และปัจจุบันผู้บริหารบางคนก็ยังมีอำนาจอยู่
    นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พานายณรัฐนันทน์ วิภากรวิทย์ อดีตข้าราชการในสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ในฐานะพยาน นำหลักฐานเอกสารการประชุมในการก่อสร้างตึก สตง. แห่งใหม่ ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พิจารณาดำเนินคดี มีทั้งเอกสาร คลิปวิดีโอ คลิปเสียงสนทนา ซึ่งเป็นหลักฐานจำนวนมากรวบรวมตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน โดยได้มาจากอดีตข้าราชการ สตง. และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตั้ง 3 ข้อสงสัย 1.การออกแบบอาคารมีปัญหาตั้งแต่ต้น โปร่งใสหรือไม่ 2.กระบวนการคัดเลือกผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน การก่อสร้าง และ 3.ระหว่างก่อสร้างแก้ไขแบบหลายครั้ง มีวิศวกรอ้างถูกปลอมลายเซ็น ซึ่งเมื่อเปลี่ยนแบบต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สตง. ด้วย ด้านนายณรัฐนันทน์ เผย ทำงานที่ สตง. มา 18 ปี เคยใกล้ชิด ทำงานให้ผู้บริหาร สตง. จึงรู้พฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริตในการสร้างตึก สตง. ได้ถูกใช้งานหลายอย่างที่อาจเป็นเรื่องไม่สุจริตโปร่งใส ได้รับทราบข้อเท็จจริงเรื่องกระบวนการคัดเลือกผู้ออกแบบ ผู้รับจ้าง การก่อสร้าง ที่อาจมีเบื้องลึกเบื้องหลัง มีผู้บริหารเกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 10 คน พบสัญญาจ้างผู้ควบคุมงานที่ สตง. เป็นผู้ว่าจ้าง ลงนามโดยอดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และปัจจุบันผู้บริหารบางคนก็ยังมีอำนาจอยู่
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 620 มุมมอง 47 0 รีวิว
  • ..เขายืนยันตามนั้นอย่างกล้ามากเก่งมากจริงๆ.
    ..ผลบาดเจ็บจากจึกๆที่ผ่านมาทั้งวูบทั้งตุยมากมาย อักเสบเรื้อรังก็มากโดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ทหาร ตำรวจที่ดีๆของพวกเรา.นอนเฝ้าบ้านลาป่วยตรึมกระจายเต็มประเทศ,เอดส์ที่มาพร้อมกับเข็มที่จึกๆยุคโควิดที่เริ่มออกฤทธิ์แสดงเดชให้เห็นแล้วกว่าแสนกว่าล้านรายแน่นอนหรืออนาคตครบตามจำนวนเป้าที่ฉีดๆไปคือกว่า60ล้านคน,การทำลายเด็กและเยาวชนคนเผ่านั้นๆคือไทยมันอาจสำเร็จเร็วๆนี้,แล้วเอาพม่า เขมร ลาว เจ๊กแกวมอญมาลายูแขกมายึดครองกลืนกินออกลูกออกหลานมันๆบนแผ่นดินไทยบวกได้สัญชาติไทยยึดประเทศไทยแบบไม่ต้องใช้ปืนดาบสักอัน ใช้เวลาพอ แผน20ปียุทธศาสตร์ยึดประเทศไทยก็ว่า,คนพวกนี้เกิดครบอายุเลือกตั้งมันก็เลือกพม่าเขมรลาวแกวเจ๊กแขกมาลายูขึ้นปกครองแบ่งประเทศไทยโดยง่ายล่ะ,แต่เราตัดตอนสบายๆคือนับตั้งแต่ปี2559พ้นร.9เรามา.ใครเกิดหลังปี2559คือ2560 ห้ามคนต่างชาติต่างด้าวทั้งหมดแม้เกิดในประเทศไทยก็ไม่สามารถได้สัญชาติไทยทุกๆกรณี,ตัดตอนปัญหาจากการโยกย้ายคนของอีลิทdeep stateค้าแรงงานค้ามนุษย์ค้าทาสรับใช้เสรีได้ทันที.ใครที่ได้สัญชาติไทยแล้วไม่กลับใจรักชาติไทยตนตามที่ต้องการสัญชาติไทยจากเคยเป็นคนต่างชาติต่างบ้านต่างเมืองต่างด้าวเมื่อทรยศแผ่นดิน สิทธินั้นยึดคืนทันทีและขับออกจากราชอาณาจักรไทยทันที.
    ..เขายืนยันตามนั้นอย่างกล้ามากเก่งมากจริงๆ. ..ผลบาดเจ็บจากจึกๆที่ผ่านมาทั้งวูบทั้งตุยมากมาย อักเสบเรื้อรังก็มากโดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ทหาร ตำรวจที่ดีๆของพวกเรา.นอนเฝ้าบ้านลาป่วยตรึมกระจายเต็มประเทศ,เอดส์ที่มาพร้อมกับเข็มที่จึกๆยุคโควิดที่เริ่มออกฤทธิ์แสดงเดชให้เห็นแล้วกว่าแสนกว่าล้านรายแน่นอนหรืออนาคตครบตามจำนวนเป้าที่ฉีดๆไปคือกว่า60ล้านคน,การทำลายเด็กและเยาวชนคนเผ่านั้นๆคือไทยมันอาจสำเร็จเร็วๆนี้,แล้วเอาพม่า เขมร ลาว เจ๊กแกวมอญมาลายูแขกมายึดครองกลืนกินออกลูกออกหลานมันๆบนแผ่นดินไทยบวกได้สัญชาติไทยยึดประเทศไทยแบบไม่ต้องใช้ปืนดาบสักอัน ใช้เวลาพอ แผน20ปียุทธศาสตร์ยึดประเทศไทยก็ว่า,คนพวกนี้เกิดครบอายุเลือกตั้งมันก็เลือกพม่าเขมรลาวแกวเจ๊กแขกมาลายูขึ้นปกครองแบ่งประเทศไทยโดยง่ายล่ะ,แต่เราตัดตอนสบายๆคือนับตั้งแต่ปี2559พ้นร.9เรามา.ใครเกิดหลังปี2559คือ2560 ห้ามคนต่างชาติต่างด้าวทั้งหมดแม้เกิดในประเทศไทยก็ไม่สามารถได้สัญชาติไทยทุกๆกรณี,ตัดตอนปัญหาจากการโยกย้ายคนของอีลิทdeep stateค้าแรงงานค้ามนุษย์ค้าทาสรับใช้เสรีได้ทันที.ใครที่ได้สัญชาติไทยแล้วไม่กลับใจรักชาติไทยตนตามที่ต้องการสัญชาติไทยจากเคยเป็นคนต่างชาติต่างบ้านต่างเมืองต่างด้าวเมื่อทรยศแผ่นดิน สิทธินั้นยึดคืนทันทีและขับออกจากราชอาณาจักรไทยทันที.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพนน์สเตตได้พัฒนา สติกเกอร์อัจฉริยะ ที่สามารถตรวจจับอารมณ์ที่แท้จริงของผู้ใช้ได้ โดยอุปกรณ์นี้สามารถวัดสัญญาณสำคัญของร่างกาย เช่น อุณหภูมิผิว ความชื้น อัตราการเต้นของหัวใจ และระดับออกซิเจนในเลือด (SpO₂) พร้อมทั้งใช้ AI วิเคราะห์การแสดงออกทางสีหน้าร่วมกับข้อมูลทางกายภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ

    ✅ สติกเกอร์สามารถตรวจจับอารมณ์ได้แบบเรียลไทม์
    - ใช้เซ็นเซอร์แยกส่วนและโมดูลไร้สายในการวัดข้อมูล
    - ออกแบบให้สวมใส่สบายและมีขนาดกะทัดรัด

    ✅ AI วิเคราะห์การแสดงออกทางสีหน้าร่วมกับข้อมูลทางกายภาพ
    - ทดสอบกับอาสาสมัครที่แสดงอารมณ์ 6 แบบ เช่น ความสุข ความกลัว และความโกรธ
    - AI สามารถระบุอารมณ์ที่แสดงออกได้ถูกต้องถึง 96.28% และอารมณ์ที่แท้จริง 88.83%

    ✅ ช่วยในการตรวจสอบสุขภาพจิตและการแพทย์ทางไกล
    - ส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์มือถือและคลาวด์เพื่อการติดตามระยะไกล
    - มีศักยภาพในการตรวจจับความวิตกกังวลหรือภาวะซึมเศร้าในระยะแรก

    ✅ การใช้งานที่หลากหลายนอกเหนือจากสุขภาพจิต
    - ช่วยผู้ป่วยที่ไม่สามารถสื่อสารได้
    - ติดตามสัญญาณเริ่มต้นของภาวะสมองเสื่อม
    - ใช้ในกีฬาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ

    https://www.neowin.net/news/scientists-invent-sticker-said-to-reveal-your-true-emotions-no-matter-how-hard-you-hide-it/
    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพนน์สเตตได้พัฒนา สติกเกอร์อัจฉริยะ ที่สามารถตรวจจับอารมณ์ที่แท้จริงของผู้ใช้ได้ โดยอุปกรณ์นี้สามารถวัดสัญญาณสำคัญของร่างกาย เช่น อุณหภูมิผิว ความชื้น อัตราการเต้นของหัวใจ และระดับออกซิเจนในเลือด (SpO₂) พร้อมทั้งใช้ AI วิเคราะห์การแสดงออกทางสีหน้าร่วมกับข้อมูลทางกายภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ ✅ สติกเกอร์สามารถตรวจจับอารมณ์ได้แบบเรียลไทม์ - ใช้เซ็นเซอร์แยกส่วนและโมดูลไร้สายในการวัดข้อมูล - ออกแบบให้สวมใส่สบายและมีขนาดกะทัดรัด ✅ AI วิเคราะห์การแสดงออกทางสีหน้าร่วมกับข้อมูลทางกายภาพ - ทดสอบกับอาสาสมัครที่แสดงอารมณ์ 6 แบบ เช่น ความสุข ความกลัว และความโกรธ - AI สามารถระบุอารมณ์ที่แสดงออกได้ถูกต้องถึง 96.28% และอารมณ์ที่แท้จริง 88.83% ✅ ช่วยในการตรวจสอบสุขภาพจิตและการแพทย์ทางไกล - ส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์มือถือและคลาวด์เพื่อการติดตามระยะไกล - มีศักยภาพในการตรวจจับความวิตกกังวลหรือภาวะซึมเศร้าในระยะแรก ✅ การใช้งานที่หลากหลายนอกเหนือจากสุขภาพจิต - ช่วยผู้ป่วยที่ไม่สามารถสื่อสารได้ - ติดตามสัญญาณเริ่มต้นของภาวะสมองเสื่อม - ใช้ในกีฬาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ https://www.neowin.net/news/scientists-invent-sticker-said-to-reveal-your-true-emotions-no-matter-how-hard-you-hide-it/
    WWW.NEOWIN.NET
    Scientists invent 'sticker' said to reveal your true emotions no matter how hard you hide it
    Reading the actual emotions of people can be a real hard task if not an impossible one, but not any more. Thanks to science, we now have a sticker that can identify real emotions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..บทความจากข่าว,เท็จจริงมิทราบ,แต่ไม่สมควรให้ชาวโลกรอนานไปแล้ว,ควรจบตั้งแต่หลังยุคโควิดแล้วโน้น.2019,2020&จบ2021,ไม่ควรปล่อยวุ่นวายถึง2025เลย.
    ..
    ..

    การตื่นขึ้นไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น โซ่ตรวนแห่งมายาภาพกำลังขาดออก และโลกที่เรารู้จักกำลังเลือนหายไปจากประวัติศาสตร์

    • รัฐบาลกำลังถูกเปิดโปงว่าเป็นหุ่นเชิดของวาระที่ยิ่งใหญ่กว่า
    • ระบบต่างๆ ที่เราพึ่งพา (การแพทย์ การศึกษา ระบบยุติธรรม) กำลังเปิดเผยแก่นแท้อันทุจริตของพวกเขา
    • เสียงกระซิบของเรื่องราวที่ถูกปิดบังกำลังกลายเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้

    ถึงเวลาแล้วที่ต้องเอาชนะความกลัวและโอบรับพลังแห่งจิตสำนึก
    • กำลังเกิดชุมชนที่ปฏิเสธคำโกหกและสร้างเครือข่ายที่สามารถพึ่งพาตนเองได้
    • ความรู้ที่ถูกฝังไว้มานานกำลังถูกขุดค้นขึ้นมา ช่วยให้มวลชนสามารถทวงอำนาจอธิปไตยของตนกลับคืนมาได้
    • ผู้พิทักษ์คนเก่าเกาะติดการควบคุมอย่างสิ้นหวัง แต่การยึดเกาะของพวกเขาก็อ่อนลงทุก ๆ ช่วงเวลาที่ผ่านไป

    สังเกตสัญญาณต่างๆ รอบตัวคุณ:
    • การลาออกจำนวนมากของผู้ที่ไม่อาจทำหน้าที่ตามวาระได้อีกต่อไป
    • คลื่นแห่งการเปิดเผยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนซึ่งสั่นคลอนรากฐานของสังคม
    • ความเข้าใจร่วมกันว่าความสามัคคี ไม่ใช่ความแตกแยก ถือเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อแผนการของพวกเขา

    นี่คือช่วงเวลาที่มนุษยชาติกำลังรอคอย: การล่มสลายของโลกเก่าและการถือกำเนิดของสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า ยืนหยัด เชื่อมั่นในกระบวนการ และจงรู้ว่าเมื่อความจริงถูกเปิดเผยแล้ว จะไม่สามารถแก้ไขได้

    รุ่งอรุณกำลังส่องแสง และไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้

    cr.นายพูล
    ..บทความจากข่าว,เท็จจริงมิทราบ,แต่ไม่สมควรให้ชาวโลกรอนานไปแล้ว,ควรจบตั้งแต่หลังยุคโควิดแล้วโน้น.2019,2020&จบ2021,ไม่ควรปล่อยวุ่นวายถึง2025เลย. .. .. การตื่นขึ้นไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น โซ่ตรวนแห่งมายาภาพกำลังขาดออก และโลกที่เรารู้จักกำลังเลือนหายไปจากประวัติศาสตร์ • รัฐบาลกำลังถูกเปิดโปงว่าเป็นหุ่นเชิดของวาระที่ยิ่งใหญ่กว่า • ระบบต่างๆ ที่เราพึ่งพา (การแพทย์ การศึกษา ระบบยุติธรรม) กำลังเปิดเผยแก่นแท้อันทุจริตของพวกเขา • เสียงกระซิบของเรื่องราวที่ถูกปิดบังกำลังกลายเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ถึงเวลาแล้วที่ต้องเอาชนะความกลัวและโอบรับพลังแห่งจิตสำนึก • กำลังเกิดชุมชนที่ปฏิเสธคำโกหกและสร้างเครือข่ายที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ • ความรู้ที่ถูกฝังไว้มานานกำลังถูกขุดค้นขึ้นมา ช่วยให้มวลชนสามารถทวงอำนาจอธิปไตยของตนกลับคืนมาได้ • ผู้พิทักษ์คนเก่าเกาะติดการควบคุมอย่างสิ้นหวัง แต่การยึดเกาะของพวกเขาก็อ่อนลงทุก ๆ ช่วงเวลาที่ผ่านไป สังเกตสัญญาณต่างๆ รอบตัวคุณ: • การลาออกจำนวนมากของผู้ที่ไม่อาจทำหน้าที่ตามวาระได้อีกต่อไป • คลื่นแห่งการเปิดเผยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนซึ่งสั่นคลอนรากฐานของสังคม • ความเข้าใจร่วมกันว่าความสามัคคี ไม่ใช่ความแตกแยก ถือเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อแผนการของพวกเขา นี่คือช่วงเวลาที่มนุษยชาติกำลังรอคอย: การล่มสลายของโลกเก่าและการถือกำเนิดของสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า ยืนหยัด เชื่อมั่นในกระบวนการ และจงรู้ว่าเมื่อความจริงถูกเปิดเผยแล้ว จะไม่สามารถแก้ไขได้ รุ่งอรุณกำลังส่องแสง และไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ cr.นายพูล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไร้คนประณาม!

    หลังจากผ่านไปร่วมหนึ่งเดือน ในที่สุดอิสราเอลเพิ่งออกมายอมรับข้อผิดพลาดเหตุยิงถล่มขบวนรถหน่วยฉุกเฉินและกาชาดของปาเลสไตน์ แต่ยังยืนยันไม่เคยคิดปกปิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น

    อิสราเอล ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 20 เมษายน ว่า ผลจากการตรวจสอบข้อมูลของกรณีการสังหารเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉิน 15 คน ในฉนวนกาซ่า เมื่อเดือนที่แล้ว พบว่าเป็นความผิดพลาดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่อิสราเอล โดยมีการละเมิดคำสั่ง

    เหตุการณ์เกิดขึ้นคืนเมื่อวันที่ 23 มีนาคม กลุ่มขบวนรถของเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของปาเลสไตน์ ถูกยิงเสียชีวิตรวม 15 คน ใกล้เมืองราฟาห์ ทางใต้ของฉนวนกาซ่า ก่อนจะถูกฝังกลบแบบเร่งรีบหลุมตื้นๆ โดยร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดถูกค้นพบในอีก1สัปดาห์ต่อมา

    👉 ขณะที่ภาพคลิปเหตุการณ์ที่กู้มาจากมือถือของหนึ่งในกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ทรี่เสียชีวิต เผยให้เห็นว่าบรรดาเจ้าหน้าที่สวมเครื่องแบบทางการแพทย์และมีป้ายบอกชัดเจนติดที่รถพยาบาลและรถบรรทุก พร้อมเปิดไฟหน้ารถชัดเจน ซึ่งขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงจากข้อแก้ตัวของอิสราเอลก่อนหน้าคลิปจะถูกเปิดเผย ที่ระบุว่าขบวนรถหน่วยฉุกเฉินและกาชาดของปาเลสไตน์ วิ่งเข้ามาใกล้อย่างน่าสงสัย "รวมทั้งไม่เปิดไฟหน้ารถ" จึงยิงสกัดออกไปและยังอ้างด้วยว่าในขบวนรถของเจ้าหน้าที่แพทย์ มีสมาชิกกลุ่มฮามาสอยู่ในขบวนรถด้วย
    ไร้คนประณาม! หลังจากผ่านไปร่วมหนึ่งเดือน ในที่สุดอิสราเอลเพิ่งออกมายอมรับข้อผิดพลาดเหตุยิงถล่มขบวนรถหน่วยฉุกเฉินและกาชาดของปาเลสไตน์ แต่ยังยืนยันไม่เคยคิดปกปิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น อิสราเอล ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 20 เมษายน ว่า ผลจากการตรวจสอบข้อมูลของกรณีการสังหารเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉิน 15 คน ในฉนวนกาซ่า เมื่อเดือนที่แล้ว พบว่าเป็นความผิดพลาดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่อิสราเอล โดยมีการละเมิดคำสั่ง เหตุการณ์เกิดขึ้นคืนเมื่อวันที่ 23 มีนาคม กลุ่มขบวนรถของเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของปาเลสไตน์ ถูกยิงเสียชีวิตรวม 15 คน ใกล้เมืองราฟาห์ ทางใต้ของฉนวนกาซ่า ก่อนจะถูกฝังกลบแบบเร่งรีบหลุมตื้นๆ โดยร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดถูกค้นพบในอีก1สัปดาห์ต่อมา 👉 ขณะที่ภาพคลิปเหตุการณ์ที่กู้มาจากมือถือของหนึ่งในกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ทรี่เสียชีวิต เผยให้เห็นว่าบรรดาเจ้าหน้าที่สวมเครื่องแบบทางการแพทย์และมีป้ายบอกชัดเจนติดที่รถพยาบาลและรถบรรทุก พร้อมเปิดไฟหน้ารถชัดเจน ซึ่งขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงจากข้อแก้ตัวของอิสราเอลก่อนหน้าคลิปจะถูกเปิดเผย ที่ระบุว่าขบวนรถหน่วยฉุกเฉินและกาชาดของปาเลสไตน์ วิ่งเข้ามาใกล้อย่างน่าสงสัย "รวมทั้งไม่เปิดไฟหน้ารถ" จึงยิงสกัดออกไปและยังอ้างด้วยว่าในขบวนรถของเจ้าหน้าที่แพทย์ มีสมาชิกกลุ่มฮามาสอยู่ในขบวนรถด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • ลุ้น! แพทยสภา ถก 8 พ.ค. ปมชั้น 14 ‘หมอตุลย์’ ชี้หากไม่ผิดมาตรฐานจริยธรรม เรื่องใหญ่วงการแพทย์
    https://www.thai-tai.tv/news/18239/
    ลุ้น! แพทยสภา ถก 8 พ.ค. ปมชั้น 14 ‘หมอตุลย์’ ชี้หากไม่ผิดมาตรฐานจริยธรรม เรื่องใหญ่วงการแพทย์ https://www.thai-tai.tv/news/18239/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌿 20 เมษา “วันกัญชาโลก” เดอะวอลโดส โค้ดลับ โฟร์ทเวนตี ต่างชาติหลงใหลกัญชาไทย เสน่ห์ใหม่ หรือว่า… ปัญหางอก! จากรหัสลับ สู่สนามถกเถียงระดับโลก

    จากเรื่องเล่ากลุ่มวัยรุ่น The Waldos สู่กระแสร่วมสมัยในไทย การใช้กัญชาควรเป็นเสรีภาพเพื่อสุขภาพ หรือแค่แฟชั่นเสพติด?

    🔍 หากเคยเห็นคำว่า “420” หรือ “4/20” บนเสื้อผ้า โซเชียลมีเดีย หรือในบทสนทนาระหว่างกลุ่มวัยรุ่น และสงสัยว่า... หมายถึงอะไร? คำตอบคือ 420 คือรหัสลับของผู้ใช้กัญชาทั่วโลก ที่ถูกยกระดับให้กลายเป็น "วันกัญชาโลก" หรือ "World Cannabis Day" 🗓️

    ทุกวันที่ 20 เมษายน (20/4) ของทุกปี กลายเป็นวันเฉลิมฉลอง ของผู้สนับสนุนเสรีภาพในการใช้กัญชา ทั้งในด้านการแพทย์ การพักผ่อน และการรณรงค์ให้กฎหมายในแต่ละประเทศ เปิดใจยอมรับพืชชนิดนี้มากขึ้น 📢

    แต่... การเฉลิมฉลองนั้น ควรมีขอบเขตแค่ไหน? เสรีภาพจะพาไปสู่โอกาส หรือปัญหางอกไม่รู้จบ?

    🧠 จุดเริ่มต้นจากกลุ่ม The Waldos สู่วัฒนธรรมสมัยนิยม เรื่องราวของ “420” เริ่มต้นในปี 2514 จากกลุ่มวัยรุ่นชื่อ "The Waldos" ที่เมืองซานราฟาเอล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขานัดเจอกันทุกวันเวลา 16.20 น. หรือ 4:20 PM เพื่อออกตามหาต้นกัญชาลึกลับ ในค่ายทหาร "abandoned" โดยใช้เวลา 4:20 เป็นรหัสลับระหว่างกัน 🕓

    แม้จะไม่เจอต้นกัญชานั้นจริงๆ แต่คำว่า “420” กลายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ใช้กัญชา โดยถูกผลักดันจากวงดนตรี "Grateful Dead" และต่อมากลายเป็นวัฒนธรรมย่อย ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก 🌍

    📅 วันที่ 20 เมษายน หรือ “4/20” ตามรูปแบบการเขียนเดือนและวัน ของสหรัฐฯ ถูกยกระดับให้เป็น วันแห่งการเฉลิมฉลองกัญชา โดยผู้ใช้กัญชาทั่วโลก จะออกมารวมตัวจัดกิจกรรม สังสรรค์ หรือแม้แต่ประท้วง เรียกร้องให้มีการออกกฎหมายที่เป็นธรรม เกี่ยวกับการใช้กัญชา ✊

    🌿 ประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์ แม้กัญชาจะเคยถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษ แต่ด้วยการวิจัยทางการแพทย์ล่าสุด กัญชาถูกมองใหม่ในฐานะ “สมุนไพรทางเลือก” ที่มี CBD และ THC เป็นสารออกฤทธิ์สำคัญ ซึ่งช่วยรักษาอาการ ได้หลายประเภท 🧪

    ✅ ประโยชน์ที่ได้รับการยอมรับ ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด 🤢 บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง เช่น ปวดประสาท ปวดข้อ 🤕 ช่วยให้ผู้ป่วยหลับสบายขึ้น 💤 ลดอาการวิตกกังวล เฉพาะบางกรณี 😟➡️🙂

    📌 ทั้งนี้.... การใช้ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น

    ❌ ความเสี่ยงที่ต้องเข้าใจ กัญชาไม่ใช่ยาวิเศษ เพราะมันมีผลข้างเคียงหากใช้อย่างไม่ถูกต้อง เสี่ยงต่อการเสพติด หากใช้ต่อเนื่องในปริมาณมาก 🔄 ส่งผลต่อสมอง โดยเฉพาะในวัยรุ่น 🧠 อาจก่อให้เกิดความจำสั้น สมาธิสั้น และอารมณ์แปรปรวน 😵 มีความเสี่ยงต่อภาวะจิตประสาท ในบางราย 🧨

    🇹🇭 "กัญชาไทย" จากปลดล็อกสู่การควบคุม ปี 2565 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลประกาศ “ปลดล็อกกัญชา” ออกจากบัญชียาเสพติด เพื่อเปิดโอกาสให้ใช้เพื่อการแพทย์ และเศรษฐกิจภายในครัวเรือน 👩‍⚕️🏠

    แต่เมื่อขาดกฎหมายควบคุมที่ชัดเจน ปัญหาจึงตามมา เยาวชนเข้าถึงได้ง่ายเกินไป 👦👧 โฆษณาเกินจริงบนโลกออนไลน์ 💻 และการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่ตระหนักถึงผลเสีย 🚬

    📈 ธุรกิจกัญชาไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว มีมูลค่าตลาดคาดการณ์สูงถึง 20,000 ล้านบาท หากสามารถจัดการได้ดี 💸

    🧩 เสรีภาพ กับความปลอดภัย สมดุลที่ต้องคิดให้รอบด้าน คำถามใหญ่ที่สังคมไทยกำลังเผชิญในปี 2568 คือ...

    “กัญชาเป็นเสรีภาพใหม่ หรือปัญหางอก?”

    แม้หลายฝ่ายจะชูธงเรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่กลุ่มทางการแพทย์และผู้ปกครอง กลับกังวลถึงผลกระทบระยะยาวต่อเด็ก และเยาวชน โดยเฉพาะเมื่อไม่มีพระราชบัญญัติ ควบคุมที่ชัดเจน 😰

    🔒 ล่าสุด รัฐบาลมีแนวโน้มจะออก "พระราชบัญญัติกัญชา" เพื่อควบคุมให้ใช้เพื่อสุขภาพ และการแพทย์เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อความบันเทิง

    👶 เยาวชนคือกลุ่มเสี่ยงที่สุด ผลกระทบต่อสมองและพฤติกรรม การพัฒนาสมองถูกรบกวนโดยสาร THC 🧠 เพิ่มความเสี่ยงโรคซึมเศร้า โรคจิตเภท และอาการหลอน 😨 พฤติกรรมเสี่ยงมากขึ้น เช่น การลองยาเสพติดอื่น 🔗

    แนวทางป้องกันคือ ให้ความรู้ในโรงเรียน 🏫 ควบคุมการโฆษณา และจำหน่ายอย่างเคร่งครัด 🔞 จำกัดอายุขั้นต่ำ ในการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา 🚫

    ✈️ ต่างชาติหลงใหล “กัญชาไทย” หรือแค่... โบนัสท่องเที่ยว? หลังปลดล็อกกัญชาในปี 2565 ไทยกลายเป็น “จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวสายเขียว” 🌍💚

    โดยเฉพาะจากประเทศที่มีกฎหมายยาเสพติดเข้มงวด เช่น 🇯🇵 ญี่ปุ่น 🇰🇷 เกาหลีใต้ นักท่องเที่ยวบางคนมองว่า กัญชาไทยเป็นเสน่ห์ใหม่ ของการท่องเที่ยว แต่บางส่วนกลับกังวลว่า อาจบ่อนทำลายภาพลักษณ์ไทย ในสายตาชาวโลก

    📢 กฎหมายของไทย อาจไม่ตรงกับกฎหมายในประเทศต้นทาง นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา!

    💼 เศรษฐกิจกัญชา โอกาสทองหรือความเสี่ยงซ่อนเร้น? ประเทศที่ปลดล็อกกัญชาแล้วประสบความสำเร็จ เช่น 🇨🇦 แคนาดา 🇺🇾 อุรุกวัย 🇲🇹 มอลตา ล้วนมีระบบควบคุมกัญชาเข้มงวด ควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจ

    📉 หากไม่มีการควบคุมที่ดี เศรษฐกิจกัญชาจะกลายเป็นดาบสองคม ทำให้ปัญหาสังคมลุกลาม และลดความน่าเชื่อถือของประเทศได้

    🧑‍⚕️ แพทย์เตือน กัญชาเป็น “เครื่องมือ” ไม่ใช่ “ของเล่น” วงการแพทย์ย้ำว่า...

    “กัญชาใช้รักษาโรคได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุม และไม่ควรใช้แบบสันทนาการทั่วไป”

    กลุ่มโรคที่อาจได้ประโยชน์จากกัญชาคือ ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ที่ปวดเรื้อรัง ผู้ที่นอนไม่หลับ และผู้ป่วยจิตเวชบางกลุ่ม

    อย่างไรก็ตาม การใช้ต้องอาศัยการวินิจฉัยจากแพทย์ และข้อมูลวิจัยเพิ่มเติม 🔍

    📚 ควรฉลองหรือทบทวน? วันกัญชาโลก (420) คือโอกาสให้เราหยุดคิด ทบทวน และสร้างบทสนทนาที่มีคุณภาพ ในสังคมไทย ไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง 🎉

    สิ่งที่สังคมควรย้ำคือ

    ✅ สนับสนุนการใช้กัญชา เพื่อการแพทย์และสุขภาพ

    ❌ ต่อต้านการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่มีการควบคุม

    ⚖️ สร้างสมดุลระหว่างสิทธิเสรีภาพ และความปลอดภัยของสาธารณชน

    "กัญชาอาจเป็นพืชมหัศจรรย์... ถ้าเราใช้ด้วยความรู้ ไม่ใช่แค่ตามกระแส" 🌱

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200924 เม.ย. 2568

    📌 #วันกัญชาโลก #420ไทย #โฟร์ทเวนตี้ #กัญชาเพื่อการแพทย์
    #กัญชาไทย #เสรีภาพไม่ใช่สันทนาการ #TheWaldos #กัญชากับเยาวชน
    #สังคมกับกัญชา #กัญชาอย่างปลอดภัย
    🌿 20 เมษา “วันกัญชาโลก” เดอะวอลโดส โค้ดลับ โฟร์ทเวนตี ต่างชาติหลงใหลกัญชาไทย เสน่ห์ใหม่ หรือว่า… ปัญหางอก! จากรหัสลับ สู่สนามถกเถียงระดับโลก จากเรื่องเล่ากลุ่มวัยรุ่น The Waldos สู่กระแสร่วมสมัยในไทย การใช้กัญชาควรเป็นเสรีภาพเพื่อสุขภาพ หรือแค่แฟชั่นเสพติด? 🔍 หากเคยเห็นคำว่า “420” หรือ “4/20” บนเสื้อผ้า โซเชียลมีเดีย หรือในบทสนทนาระหว่างกลุ่มวัยรุ่น และสงสัยว่า... หมายถึงอะไร? คำตอบคือ 420 คือรหัสลับของผู้ใช้กัญชาทั่วโลก ที่ถูกยกระดับให้กลายเป็น "วันกัญชาโลก" หรือ "World Cannabis Day" 🗓️ ทุกวันที่ 20 เมษายน (20/4) ของทุกปี กลายเป็นวันเฉลิมฉลอง ของผู้สนับสนุนเสรีภาพในการใช้กัญชา ทั้งในด้านการแพทย์ การพักผ่อน และการรณรงค์ให้กฎหมายในแต่ละประเทศ เปิดใจยอมรับพืชชนิดนี้มากขึ้น 📢 แต่... การเฉลิมฉลองนั้น ควรมีขอบเขตแค่ไหน? เสรีภาพจะพาไปสู่โอกาส หรือปัญหางอกไม่รู้จบ? 🧠 จุดเริ่มต้นจากกลุ่ม The Waldos สู่วัฒนธรรมสมัยนิยม เรื่องราวของ “420” เริ่มต้นในปี 2514 จากกลุ่มวัยรุ่นชื่อ "The Waldos" ที่เมืองซานราฟาเอล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขานัดเจอกันทุกวันเวลา 16.20 น. หรือ 4:20 PM เพื่อออกตามหาต้นกัญชาลึกลับ ในค่ายทหาร "abandoned" โดยใช้เวลา 4:20 เป็นรหัสลับระหว่างกัน 🕓 แม้จะไม่เจอต้นกัญชานั้นจริงๆ แต่คำว่า “420” กลายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ใช้กัญชา โดยถูกผลักดันจากวงดนตรี "Grateful Dead" และต่อมากลายเป็นวัฒนธรรมย่อย ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก 🌍 📅 วันที่ 20 เมษายน หรือ “4/20” ตามรูปแบบการเขียนเดือนและวัน ของสหรัฐฯ ถูกยกระดับให้เป็น วันแห่งการเฉลิมฉลองกัญชา โดยผู้ใช้กัญชาทั่วโลก จะออกมารวมตัวจัดกิจกรรม สังสรรค์ หรือแม้แต่ประท้วง เรียกร้องให้มีการออกกฎหมายที่เป็นธรรม เกี่ยวกับการใช้กัญชา ✊ 🌿 ประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์ แม้กัญชาจะเคยถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษ แต่ด้วยการวิจัยทางการแพทย์ล่าสุด กัญชาถูกมองใหม่ในฐานะ “สมุนไพรทางเลือก” ที่มี CBD และ THC เป็นสารออกฤทธิ์สำคัญ ซึ่งช่วยรักษาอาการ ได้หลายประเภท 🧪 ✅ ประโยชน์ที่ได้รับการยอมรับ ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด 🤢 บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง เช่น ปวดประสาท ปวดข้อ 🤕 ช่วยให้ผู้ป่วยหลับสบายขึ้น 💤 ลดอาการวิตกกังวล เฉพาะบางกรณี 😟➡️🙂 📌 ทั้งนี้.... การใช้ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น ❌ ความเสี่ยงที่ต้องเข้าใจ กัญชาไม่ใช่ยาวิเศษ เพราะมันมีผลข้างเคียงหากใช้อย่างไม่ถูกต้อง เสี่ยงต่อการเสพติด หากใช้ต่อเนื่องในปริมาณมาก 🔄 ส่งผลต่อสมอง โดยเฉพาะในวัยรุ่น 🧠 อาจก่อให้เกิดความจำสั้น สมาธิสั้น และอารมณ์แปรปรวน 😵 มีความเสี่ยงต่อภาวะจิตประสาท ในบางราย 🧨 🇹🇭 "กัญชาไทย" จากปลดล็อกสู่การควบคุม ปี 2565 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลประกาศ “ปลดล็อกกัญชา” ออกจากบัญชียาเสพติด เพื่อเปิดโอกาสให้ใช้เพื่อการแพทย์ และเศรษฐกิจภายในครัวเรือน 👩‍⚕️🏠 แต่เมื่อขาดกฎหมายควบคุมที่ชัดเจน ปัญหาจึงตามมา เยาวชนเข้าถึงได้ง่ายเกินไป 👦👧 โฆษณาเกินจริงบนโลกออนไลน์ 💻 และการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่ตระหนักถึงผลเสีย 🚬 📈 ธุรกิจกัญชาไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว มีมูลค่าตลาดคาดการณ์สูงถึง 20,000 ล้านบาท หากสามารถจัดการได้ดี 💸 🧩 เสรีภาพ กับความปลอดภัย สมดุลที่ต้องคิดให้รอบด้าน คำถามใหญ่ที่สังคมไทยกำลังเผชิญในปี 2568 คือ... “กัญชาเป็นเสรีภาพใหม่ หรือปัญหางอก?” แม้หลายฝ่ายจะชูธงเรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่กลุ่มทางการแพทย์และผู้ปกครอง กลับกังวลถึงผลกระทบระยะยาวต่อเด็ก และเยาวชน โดยเฉพาะเมื่อไม่มีพระราชบัญญัติ ควบคุมที่ชัดเจน 😰 🔒 ล่าสุด รัฐบาลมีแนวโน้มจะออก "พระราชบัญญัติกัญชา" เพื่อควบคุมให้ใช้เพื่อสุขภาพ และการแพทย์เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อความบันเทิง 👶 เยาวชนคือกลุ่มเสี่ยงที่สุด ผลกระทบต่อสมองและพฤติกรรม การพัฒนาสมองถูกรบกวนโดยสาร THC 🧠 เพิ่มความเสี่ยงโรคซึมเศร้า โรคจิตเภท และอาการหลอน 😨 พฤติกรรมเสี่ยงมากขึ้น เช่น การลองยาเสพติดอื่น 🔗 แนวทางป้องกันคือ ให้ความรู้ในโรงเรียน 🏫 ควบคุมการโฆษณา และจำหน่ายอย่างเคร่งครัด 🔞 จำกัดอายุขั้นต่ำ ในการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา 🚫 ✈️ ต่างชาติหลงใหล “กัญชาไทย” หรือแค่... โบนัสท่องเที่ยว? หลังปลดล็อกกัญชาในปี 2565 ไทยกลายเป็น “จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวสายเขียว” 🌍💚 โดยเฉพาะจากประเทศที่มีกฎหมายยาเสพติดเข้มงวด เช่น 🇯🇵 ญี่ปุ่น 🇰🇷 เกาหลีใต้ นักท่องเที่ยวบางคนมองว่า กัญชาไทยเป็นเสน่ห์ใหม่ ของการท่องเที่ยว แต่บางส่วนกลับกังวลว่า อาจบ่อนทำลายภาพลักษณ์ไทย ในสายตาชาวโลก 📢 กฎหมายของไทย อาจไม่ตรงกับกฎหมายในประเทศต้นทาง นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา! 💼 เศรษฐกิจกัญชา โอกาสทองหรือความเสี่ยงซ่อนเร้น? ประเทศที่ปลดล็อกกัญชาแล้วประสบความสำเร็จ เช่น 🇨🇦 แคนาดา 🇺🇾 อุรุกวัย 🇲🇹 มอลตา ล้วนมีระบบควบคุมกัญชาเข้มงวด ควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจ 📉 หากไม่มีการควบคุมที่ดี เศรษฐกิจกัญชาจะกลายเป็นดาบสองคม ทำให้ปัญหาสังคมลุกลาม และลดความน่าเชื่อถือของประเทศได้ 🧑‍⚕️ แพทย์เตือน กัญชาเป็น “เครื่องมือ” ไม่ใช่ “ของเล่น” วงการแพทย์ย้ำว่า... “กัญชาใช้รักษาโรคได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุม และไม่ควรใช้แบบสันทนาการทั่วไป” กลุ่มโรคที่อาจได้ประโยชน์จากกัญชาคือ ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ที่ปวดเรื้อรัง ผู้ที่นอนไม่หลับ และผู้ป่วยจิตเวชบางกลุ่ม อย่างไรก็ตาม การใช้ต้องอาศัยการวินิจฉัยจากแพทย์ และข้อมูลวิจัยเพิ่มเติม 🔍 📚 ควรฉลองหรือทบทวน? วันกัญชาโลก (420) คือโอกาสให้เราหยุดคิด ทบทวน และสร้างบทสนทนาที่มีคุณภาพ ในสังคมไทย ไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง 🎉 สิ่งที่สังคมควรย้ำคือ ✅ สนับสนุนการใช้กัญชา เพื่อการแพทย์และสุขภาพ ❌ ต่อต้านการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่มีการควบคุม ⚖️ สร้างสมดุลระหว่างสิทธิเสรีภาพ และความปลอดภัยของสาธารณชน "กัญชาอาจเป็นพืชมหัศจรรย์... ถ้าเราใช้ด้วยความรู้ ไม่ใช่แค่ตามกระแส" 🌱 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200924 เม.ย. 2568 📌 #วันกัญชาโลก #420ไทย #โฟร์ทเวนตี้ #กัญชาเพื่อการแพทย์ #กัญชาไทย #เสรีภาพไม่ใช่สันทนาการ #TheWaldos #กัญชากับเยาวชน #สังคมกับกัญชา #กัญชาอย่างปลอดภัย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 614 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts