• 21-11-67/01 : หมี CNN / "ROCK N ROLL" EP.89 ชื่อตอน "MAKE WAR AS U NEED" ไอ้สัส! ใส่มา ใส่กลับ ไม่มีโกง! เป็นไงล่ะ FACE TO FACE อียิวบุกถล่มเลบานอน เฮซบอเลาะห์ถล่มถึงเมืองหลวงทันที อีเสี้ยนยายิงใส่รัสเซีย ปูตินสั่งสอนจนเยี่ยวแตก หายวับ 3 ฐานวันเดียว ดูความจริง ดูให้เป็น สิ่งที่เหี้ยทำได้ แค่ผิวเผิน แต่ขั้วใหม่ โต้กลับจุดยุทธศาสตร์ทุกดอก นั่นแปลว่า อาวุธขั้วใหม่เข้าถึงใจกลางสำคัญมรึงได้ทุกเมื่อ แต่มรึงมีปัญญาฆ่าแค่ชาวบ้านเท่านั้น ภาษาการศึก เค้าเรียก "ชี้เป้าให้รู้ตัว" แล้วทำไม ไม่เก็บมันให้เกลี้ยงไปเลยล่ะ? สงครามได้แค่ทำลาย แต่ฆ่าจริงโหดกว่าคือ "สิ้นหนทางทำมาหาแดร๊ก" สิ้นวาสนา ขี้ข้าหดหาย สิ้นเครดิต ไม่มีใครคบค้า สิ้นแผ่นดิน เพราะชดใช้หนี้ไม่หมด นี่คือ "เป้าหมายแท้จริง" ของขั้วใหม่ รบกันตายไปข้าง เพื่ออะไร? มรึงตายคาที่ แต่กูอยู่รอดสบายสิ นี่สิ เค้าถึงเรียก "โคตรเซียน" ใครคิดว่า อาวุธรัสเซีย จีน อิหร่าน หมด? มรึงควายยิ่งกว่า ไม่รู้เค้า รู้เรา เค้าจะวางแผนล่วงหน้าได้อย่างไร? ไอ้เกจิไทยปลอมทั้งหลาย มองแต่เปลือก มองแต่กรอบ ขั้วใหม่เค้าเดินสายนินจาฮาโตริ มรึงยังมองไม่ออกอีกเหรอ? อาวุธทั้งหมดที่มี ถูกผลิตขึ้นรายวัน 24 ชม. NON STOP นั่นแปลว่า ขณะที่โจมตีอยู่นั่น ของใหม่ก็เข้ามาทดแทนเติมตลอดเวลา ไม่อั้น ไม่มีหมด มีกระสุนเป็น 10000000 ล้านนัด แล้วมรึงล่ะ? เหลือเท่าไหร่? วัตถุดิบการผลิต สายพาย เทคโนโลยี ขั้วใหม่มีไม่อั้น มรึงจะเอาเหี้ยอะไรมาวัดกับเค้า นี่แค่ใช้ของ BASIC น่ะ ยังไม่ถึงขั้นสูงซะทีเดียว มรึงยังจะตายโหงขนาดนี้ ดูทรงแล้ว อาร์คติค ยุโรป แคริบเบี้ยน ลาติน ปูตินเอาหมดเกลี้ยงแน่? ใครจะกล้าขวางกันล่ะ?เล่นง่ายดีเน๊าะ! ก่อนจาก อีเอ๋อสั่งลุย สาบานตน อีทรัมปป์สั่งถอย โยนขี้ให้อีทรัมปป์ไปแก้ต่อ มรึงคิดว่าปูตินจะรอให้มรึงอนุญาตก่อนมั้ยล่ะ? ยังไม่ทันไร ฐานทัพเหี้ยทั่วตะวันออกกลางทั้งซีเรีย อิรัก ยูเครน แดร๊กขีปนาวุธร่อน MADE IN RUSSIA เต็มตรีน เชิญมรึงไปเล่นละครปาหี่แถวปากน้ำเหอะ ยิงมา ยิงกลับไม่มีโกง? ไม่มีใครสนใจใครอีกแล้ว และเมื่อมรึงสั่งให้ยูเครนยิงใส่กูได้ เท่ากับประกาศสงครามโดยตรงกับรัสเซียแล้ว แผนตบหัวและลูบหลัง เชิญมรึงไปใช้กับขี้ข้าเหอะ ดอกนี้ ปูตินสวนกลับ ถึงปากท้องเหี้ยโดยตรง นั่นคือพลังงาน ที่มาว่าทำไม ไม่ส่งแร่ยูเรเนียมให้อีกต่อไป พร้อมสั่งพันธมิตร ระงับส่งแร่พลังงานทุกชนิดให้เหี้ยทั่วโลก ดอกนี้ เจ็บกว่าตาย เพราะมันคือพลังงานที่มรึงต้องมีใช้ทุกวัน ขาดแล้วจะไปหาจากที่ไหน จะก่อสงครามยิ่งยาก!สภาแพทย์ เหลือบมันเยอะ ชื่อเป็นหมอ แต่หาแดร๊กยิ่งกว่าสัดเดรัจฉาน หากินกับความตายชาวบ้าน หวังแต่คอมมิชชั่น หวังรวย จรรยาบรรณชั้นหมา ไม่ล้างบางสภาแพทย์ รับรองเหี้ยเกลื่อนแผ่นดิน หมอ 1 คน รักษาคนได้เป็น 1000 เช่นกัน หมอ 1 คน ก็ฆ่าคนได้เป็น 1000000 เหมือนกัน อะไรที่อนุมัติให้ผ่าน ให้ใช้ ความรับผิดชอบ 1 ชีวิต ต่อ 1000000 ชีวิต แลกได้มั้ย? ตั้งแต่อีวัคซีนโควิทแล้ว MRNA เชื้อตาย มันฆ่าคนได้เป็นล้าน โดยที่ไม่รู้ตัว มรึงเห็นบทเรียนแล้วน่ะ อะไรที่มาจากเหี้ยมะกัน เหี้ยสิงโต การันตี ชาติชั่วทั้งนั้น ไทยเรารอดเพราะช่วงแรกมีจีนมาช่วย รัสเซียมาอุ้ม คิวบามาเสริม อย่าหวังพึ่งพาไอ้อีตะวันตกเลย ขนาดพวกมันกันเอง ยังขโมยวัคซีน อุปกรณ์การแพทย์หน้าด้านๆ ไปถามอีเบียร์ดูสิ ไทยส่งให้ตามสั่ง แต่อีเหี้ยมะกันขโมยซึ่งหน้าไปเฉย มรึงยังคบกันอยู่อีกเหรอ อ๋อ.. ขี้ข้า นี่หว่า?กูว่าแล้ว! เป็นเรื่องระดับชาติกันไปเลย ตั้งแต่ DRAMA เต้นฮากา กลางประชุมสภากีวี กระแสแรงโคตร รากเหง้า เผ่าพันธุ์มันฟ้อง บรรพบุรุษเรียกหา ชาวกีวี แห่ลงถนนประท้วงครั้งใหญ่ ในรอบ 184 ปี ลิดรอนสิทธิ์ ทั้งผิวขาว ผิวแทน ชาวเมารี คลั่งกันทั้งแผ่นดิน กาฮา อาละวาดเต็มพื้นที่แล้ว วิญญานเมารี เข้าสิง เรียกร้องแผ่นดินกูคืน ปชต. เน่าเฟะ อีกีวี จะรอดมั้ย? แค่ตอนนี้ หนีออก ย้ายออกไปทำงานในออสซี่ ยุโรป อาเซียน แทนกันหมดแล้ว เมื่อชาวเมารีฟื้นจิตวิญญานได้สำเร็จ มรึงคิดว่า อีออสซี่จะตามมุย? อะบอริจิ้น ทำอะไรอยู่จ๊ะ หรือยังเมามัวกับแสงสีเสียงที่โลกตะวันตกมอบให้ มองดูโลก แล้วย้อนมองดูเราเอง อโยธยา ศรีรามเทพนคร ไม่เคยสิ้นคนดี ปลุกผีปู่ผีย่างวดนี้ พลังแห่งแสงมาเต็มคาราเบล รอดูการเมืองทั่วโลกพลิกขั้ว รอดูระบบกษัตริย์จะกลับคืนหวนสู่บังลังก์อีกครั้งใครจะสู้กับกู? C909 บินพาณิชย์จีนนำร่อง สู่ตลาดโลกไปไม่นาน C919 ตามมากระทืบซ้ำความสำเร็จเข้าไปอีก สั่ง 1000 ลำทั่วโลก อีโบอิ้ง อีแอร์บัส ไปไม่เป็น มรึงขายง่ายจังฟ่ะ? คำตอบคือ ถูก ดี ไม่มีสอดแนม ไม่มียัดไส้ ประสิทธิภาพ AI เงื่อนไขไม่บัดซบ อะไหล่หาง่าย ไม่มีปัญหา ตรวจสอบได้จริง ที่สำคัญ โปรไฟไหม้ บริการหลังการขายสุดยอด ยังจะมีไอ้โง่ที่ไหนสั่งมรึงอีก อะไรน่ะ ครม.อีอุ้งๆ เหรอ? เอาให้เต็มที่ ผลาญให้เต็มคราบ เพราะจะถูกตามเช็คบิลหมดเกลี้ยงทุกเม็ด ทุกดอก อย่าคิดว่าผลาญแล้วไม่ต้องชดใช้ ศาลจ้องนานแล้ว ดีออก? เมื่อบินพาณิชย์จีนยกระดับ เริ่ด หรู ราคาถูกได้ ทำไมจะผลักยอด ตระกูลบินรบ J ไม่ได้ ล่าสุด สั่งกันกระจาย J-20/J-35A อาเซียนมาเต็มคาราเบล ตะวันออกกลางแห่จอง ไอ้สัส! แล้วอียิวมันจะทำมาหาแดร๊กอะไรได้อีกเนี่ย หลอกควายมาเป็นศตวรรษแล้ว กูเจ๊งทันที!ปล.มุกเดิมหาแดร๊ก โยกย้ายกากีประจำปี ขนขี้ข้าอีเหลี่ยมมาเต็มคาราเบล หวังปูทางให้อีพ่อ อีลูกรอด แต่ช้าก่อน คนกำหนดไม่สู้ฟ้าลิขิต ฝ่ายแสงก็ใช่ย่อย สอดไส้คาราเมลเข้ามายืนหนึ่งได้เช่นกัน(ทหารสั่ง คนที่คุณคุ้นเคย) ดูภายนอก เหมือนอีตระกูลเหี้ยจัญไร อีตะกวดส่องหล้าสั่งอีกรมตำหนวดได้หมด แต่หาใช่ไม่? นี่มันปีพศ.2567 แล้วน่ะ จะข้ามปีแล้ว ตำหนวดฝ่ายทหาร เค้าจับมือกันล็อบบี้อีอุ้งๆ งานนี้มีเงิบ สยาม ม้ามืด คุมเมืองหลวง อย่าคิดว่ามีแต่ฝ่ายเหี้ยเอาอยู่ แท้จริงอีบู๊ทตรีนโตคุมมาตั้งแต่ต้น ก่อนลุงตู่จะไปนั่นแหละ รอดูต่อไป ใครจะลายออกก่อนกัน? นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า ใหญ่แค่ไหน ก็ระเบิดทั้งสถานี ทั้งสำนักงานใหญ่ได้ กร่างแค่ไหน ฉีกรัฐธรรมนูญคือจบทันที อำนาจหายวับ มันมีอะไรจริงแท้แน่นอนบ้าง? ศรีธนญชัยเล่นเป็น ค่อยๆ นวด ค่อยๆ กลืน บีบจนเหี้ยต้องคายของเก่าออกมาจนหมดเกลี้ยง ช่องหมาลอดยังมี ไปซะ อย่าอยู่ให้หนักแผ่นดินพ่อกู อย่าช้า อย่าลีลา เพราะหากเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ คือ "เอามรึงตายทั้งตระกูล" เบื้องบนให้โอกาสรอดมรึงแล้ว อย่าลีลาเยอะ ข้ามวิกแป๊บ : หมดยุคบินล่องหนแล้ว หลังจีนคิดค้นระบบใหม่ เรดาร์ใหม่ของจีน BEITOU จับได้หมดทุกบินรบเหี้ย โคตรกระจอก ไม่พัฒนาไปไหนเลย แช่อยู่กับที่มาเป็นสิบปีแล้ว คิดว่าคนอื่นตามไม่ทัน ที่ไหนได้ มรึงนั่นแหละ ล้าหลังเค้าอยู่ 20 ปี โดยเฉพาะโครงการด้านอวกาศ จุดนี้ ทำให้เงินลงทุนไปมหาศาลกับบินรบ STEALTH หมาทันที จะขายใครออกมุย? ที่สำคัญ จีนออก J-35A เซินเจิ้นมา ยอดขายดีกว่า F-35 ซะอีก ถูก ดี ไร้เงื่อนไข ประสิทธิภาพสูงกว่า และ AI ทั้งลำ หมาได้อีกมรึง? ยังไม่พอ รัสเซียโยกย้าย S-500 เข้าประจำการพรมแดนแนวหน้าแล้ว นี่มันคืออะไร? ดาวเทียมศัตรู หายวับแน่มรึง? อย่าว่านุ๊ก ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคเลย แม้แต่ UFO ยังร่วง เอาจริงดิ? ฉากหน้า ฉากหลัง สุดท้าย ต้องวัดกำลังหมี CNN(เริ่มโชว์กันออกมาให้เห็นบ้างแล้ว ของดี ไม่โชว์บ่อย ทั้งจีน รัสเซีย อิหร่าน โสมแดง อาวุธในใต้หล้า หากเทียบเป็นชั้นกระบี่ ไอ้อีเหี้ยทั้งหลาย มรึงแค่ชั้นประถม จีน รัสเซีย เค้าไปถึงขั้นมหาเทพกันหมดแล้ว งบก็มีมากกว่า อุปกรณ์ก็พร้อมกว่า อาวุธไม่ใช่คำตอบ แผนที่เดินต่างหากคือจุดชี้เป็นชี้ตาย สู้ไม่ได้ รู้ตัว แค่ยื้อเวลา แต่ขั้วใหม่ ใช้เวลาที่มีอยู่ บีบแม่งทุกทิศทาง จนเหี้ยต้องยอมเสียค่าโง่ โลกสู้ ไทยสู้ อาเซียนสู้ ชนะชัวร์!)21 พฤศจิกายน 6711.30 น.------------------------------------------------------------------------—เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnnหรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNThttps://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u**เพจหลักของหมี CNN คือ**https://www.minds.com/mheecnn2/เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnnwww.vk.com/id448335733**เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**https://twitter.com/CnnMhee**เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    21-11-67/01 : หมี CNN / "ROCK N ROLL" EP.89 ชื่อตอน "MAKE WAR AS U NEED" ไอ้สัส! ใส่มา ใส่กลับ ไม่มีโกง! เป็นไงล่ะ FACE TO FACE อียิวบุกถล่มเลบานอน เฮซบอเลาะห์ถล่มถึงเมืองหลวงทันที อีเสี้ยนยายิงใส่รัสเซีย ปูตินสั่งสอนจนเยี่ยวแตก หายวับ 3 ฐานวันเดียว ดูความจริง ดูให้เป็น สิ่งที่เหี้ยทำได้ แค่ผิวเผิน แต่ขั้วใหม่ โต้กลับจุดยุทธศาสตร์ทุกดอก นั่นแปลว่า อาวุธขั้วใหม่เข้าถึงใจกลางสำคัญมรึงได้ทุกเมื่อ แต่มรึงมีปัญญาฆ่าแค่ชาวบ้านเท่านั้น ภาษาการศึก เค้าเรียก "ชี้เป้าให้รู้ตัว" แล้วทำไม ไม่เก็บมันให้เกลี้ยงไปเลยล่ะ? สงครามได้แค่ทำลาย แต่ฆ่าจริงโหดกว่าคือ "สิ้นหนทางทำมาหาแดร๊ก" สิ้นวาสนา ขี้ข้าหดหาย สิ้นเครดิต ไม่มีใครคบค้า สิ้นแผ่นดิน เพราะชดใช้หนี้ไม่หมด นี่คือ "เป้าหมายแท้จริง" ของขั้วใหม่ รบกันตายไปข้าง เพื่ออะไร? มรึงตายคาที่ แต่กูอยู่รอดสบายสิ นี่สิ เค้าถึงเรียก "โคตรเซียน" ใครคิดว่า อาวุธรัสเซีย จีน อิหร่าน หมด? มรึงควายยิ่งกว่า ไม่รู้เค้า รู้เรา เค้าจะวางแผนล่วงหน้าได้อย่างไร? ไอ้เกจิไทยปลอมทั้งหลาย มองแต่เปลือก มองแต่กรอบ ขั้วใหม่เค้าเดินสายนินจาฮาโตริ มรึงยังมองไม่ออกอีกเหรอ? อาวุธทั้งหมดที่มี ถูกผลิตขึ้นรายวัน 24 ชม. NON STOP นั่นแปลว่า ขณะที่โจมตีอยู่นั่น ของใหม่ก็เข้ามาทดแทนเติมตลอดเวลา ไม่อั้น ไม่มีหมด มีกระสุนเป็น 10000000 ล้านนัด แล้วมรึงล่ะ? เหลือเท่าไหร่? วัตถุดิบการผลิต สายพาย เทคโนโลยี ขั้วใหม่มีไม่อั้น มรึงจะเอาเหี้ยอะไรมาวัดกับเค้า นี่แค่ใช้ของ BASIC น่ะ ยังไม่ถึงขั้นสูงซะทีเดียว มรึงยังจะตายโหงขนาดนี้ ดูทรงแล้ว อาร์คติค ยุโรป แคริบเบี้ยน ลาติน ปูตินเอาหมดเกลี้ยงแน่? ใครจะกล้าขวางกันล่ะ?เล่นง่ายดีเน๊าะ! ก่อนจาก อีเอ๋อสั่งลุย สาบานตน อีทรัมปป์สั่งถอย โยนขี้ให้อีทรัมปป์ไปแก้ต่อ มรึงคิดว่าปูตินจะรอให้มรึงอนุญาตก่อนมั้ยล่ะ? ยังไม่ทันไร ฐานทัพเหี้ยทั่วตะวันออกกลางทั้งซีเรีย อิรัก ยูเครน แดร๊กขีปนาวุธร่อน MADE IN RUSSIA เต็มตรีน เชิญมรึงไปเล่นละครปาหี่แถวปากน้ำเหอะ ยิงมา ยิงกลับไม่มีโกง? ไม่มีใครสนใจใครอีกแล้ว และเมื่อมรึงสั่งให้ยูเครนยิงใส่กูได้ เท่ากับประกาศสงครามโดยตรงกับรัสเซียแล้ว แผนตบหัวและลูบหลัง เชิญมรึงไปใช้กับขี้ข้าเหอะ ดอกนี้ ปูตินสวนกลับ ถึงปากท้องเหี้ยโดยตรง นั่นคือพลังงาน ที่มาว่าทำไม ไม่ส่งแร่ยูเรเนียมให้อีกต่อไป พร้อมสั่งพันธมิตร ระงับส่งแร่พลังงานทุกชนิดให้เหี้ยทั่วโลก ดอกนี้ เจ็บกว่าตาย เพราะมันคือพลังงานที่มรึงต้องมีใช้ทุกวัน ขาดแล้วจะไปหาจากที่ไหน จะก่อสงครามยิ่งยาก!สภาแพทย์ เหลือบมันเยอะ ชื่อเป็นหมอ แต่หาแดร๊กยิ่งกว่าสัดเดรัจฉาน หากินกับความตายชาวบ้าน หวังแต่คอมมิชชั่น หวังรวย จรรยาบรรณชั้นหมา ไม่ล้างบางสภาแพทย์ รับรองเหี้ยเกลื่อนแผ่นดิน หมอ 1 คน รักษาคนได้เป็น 1000 เช่นกัน หมอ 1 คน ก็ฆ่าคนได้เป็น 1000000 เหมือนกัน อะไรที่อนุมัติให้ผ่าน ให้ใช้ ความรับผิดชอบ 1 ชีวิต ต่อ 1000000 ชีวิต แลกได้มั้ย? ตั้งแต่อีวัคซีนโควิทแล้ว MRNA เชื้อตาย มันฆ่าคนได้เป็นล้าน โดยที่ไม่รู้ตัว มรึงเห็นบทเรียนแล้วน่ะ อะไรที่มาจากเหี้ยมะกัน เหี้ยสิงโต การันตี ชาติชั่วทั้งนั้น ไทยเรารอดเพราะช่วงแรกมีจีนมาช่วย รัสเซียมาอุ้ม คิวบามาเสริม อย่าหวังพึ่งพาไอ้อีตะวันตกเลย ขนาดพวกมันกันเอง ยังขโมยวัคซีน อุปกรณ์การแพทย์หน้าด้านๆ ไปถามอีเบียร์ดูสิ ไทยส่งให้ตามสั่ง แต่อีเหี้ยมะกันขโมยซึ่งหน้าไปเฉย มรึงยังคบกันอยู่อีกเหรอ อ๋อ.. ขี้ข้า นี่หว่า?กูว่าแล้ว! เป็นเรื่องระดับชาติกันไปเลย ตั้งแต่ DRAMA เต้นฮากา กลางประชุมสภากีวี กระแสแรงโคตร รากเหง้า เผ่าพันธุ์มันฟ้อง บรรพบุรุษเรียกหา ชาวกีวี แห่ลงถนนประท้วงครั้งใหญ่ ในรอบ 184 ปี ลิดรอนสิทธิ์ ทั้งผิวขาว ผิวแทน ชาวเมารี คลั่งกันทั้งแผ่นดิน กาฮา อาละวาดเต็มพื้นที่แล้ว วิญญานเมารี เข้าสิง เรียกร้องแผ่นดินกูคืน ปชต. เน่าเฟะ อีกีวี จะรอดมั้ย? แค่ตอนนี้ หนีออก ย้ายออกไปทำงานในออสซี่ ยุโรป อาเซียน แทนกันหมดแล้ว เมื่อชาวเมารีฟื้นจิตวิญญานได้สำเร็จ มรึงคิดว่า อีออสซี่จะตามมุย? อะบอริจิ้น ทำอะไรอยู่จ๊ะ หรือยังเมามัวกับแสงสีเสียงที่โลกตะวันตกมอบให้ มองดูโลก แล้วย้อนมองดูเราเอง อโยธยา ศรีรามเทพนคร ไม่เคยสิ้นคนดี ปลุกผีปู่ผีย่างวดนี้ พลังแห่งแสงมาเต็มคาราเบล รอดูการเมืองทั่วโลกพลิกขั้ว รอดูระบบกษัตริย์จะกลับคืนหวนสู่บังลังก์อีกครั้งใครจะสู้กับกู? C909 บินพาณิชย์จีนนำร่อง สู่ตลาดโลกไปไม่นาน C919 ตามมากระทืบซ้ำความสำเร็จเข้าไปอีก สั่ง 1000 ลำทั่วโลก อีโบอิ้ง อีแอร์บัส ไปไม่เป็น มรึงขายง่ายจังฟ่ะ? คำตอบคือ ถูก ดี ไม่มีสอดแนม ไม่มียัดไส้ ประสิทธิภาพ AI เงื่อนไขไม่บัดซบ อะไหล่หาง่าย ไม่มีปัญหา ตรวจสอบได้จริง ที่สำคัญ โปรไฟไหม้ บริการหลังการขายสุดยอด ยังจะมีไอ้โง่ที่ไหนสั่งมรึงอีก อะไรน่ะ ครม.อีอุ้งๆ เหรอ? เอาให้เต็มที่ ผลาญให้เต็มคราบ เพราะจะถูกตามเช็คบิลหมดเกลี้ยงทุกเม็ด ทุกดอก อย่าคิดว่าผลาญแล้วไม่ต้องชดใช้ ศาลจ้องนานแล้ว ดีออก? เมื่อบินพาณิชย์จีนยกระดับ เริ่ด หรู ราคาถูกได้ ทำไมจะผลักยอด ตระกูลบินรบ J ไม่ได้ ล่าสุด สั่งกันกระจาย J-20/J-35A อาเซียนมาเต็มคาราเบล ตะวันออกกลางแห่จอง ไอ้สัส! แล้วอียิวมันจะทำมาหาแดร๊กอะไรได้อีกเนี่ย หลอกควายมาเป็นศตวรรษแล้ว กูเจ๊งทันที!ปล.มุกเดิมหาแดร๊ก โยกย้ายกากีประจำปี ขนขี้ข้าอีเหลี่ยมมาเต็มคาราเบล หวังปูทางให้อีพ่อ อีลูกรอด แต่ช้าก่อน คนกำหนดไม่สู้ฟ้าลิขิต ฝ่ายแสงก็ใช่ย่อย สอดไส้คาราเมลเข้ามายืนหนึ่งได้เช่นกัน(ทหารสั่ง คนที่คุณคุ้นเคย) ดูภายนอก เหมือนอีตระกูลเหี้ยจัญไร อีตะกวดส่องหล้าสั่งอีกรมตำหนวดได้หมด แต่หาใช่ไม่? นี่มันปีพศ.2567 แล้วน่ะ จะข้ามปีแล้ว ตำหนวดฝ่ายทหาร เค้าจับมือกันล็อบบี้อีอุ้งๆ งานนี้มีเงิบ สยาม ม้ามืด คุมเมืองหลวง อย่าคิดว่ามีแต่ฝ่ายเหี้ยเอาอยู่ แท้จริงอีบู๊ทตรีนโตคุมมาตั้งแต่ต้น ก่อนลุงตู่จะไปนั่นแหละ รอดูต่อไป ใครจะลายออกก่อนกัน? นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า ใหญ่แค่ไหน ก็ระเบิดทั้งสถานี ทั้งสำนักงานใหญ่ได้ กร่างแค่ไหน ฉีกรัฐธรรมนูญคือจบทันที อำนาจหายวับ มันมีอะไรจริงแท้แน่นอนบ้าง? ศรีธนญชัยเล่นเป็น ค่อยๆ นวด ค่อยๆ กลืน บีบจนเหี้ยต้องคายของเก่าออกมาจนหมดเกลี้ยง ช่องหมาลอดยังมี ไปซะ อย่าอยู่ให้หนักแผ่นดินพ่อกู อย่าช้า อย่าลีลา เพราะหากเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ คือ "เอามรึงตายทั้งตระกูล" เบื้องบนให้โอกาสรอดมรึงแล้ว อย่าลีลาเยอะ ข้ามวิกแป๊บ : หมดยุคบินล่องหนแล้ว หลังจีนคิดค้นระบบใหม่ เรดาร์ใหม่ของจีน BEITOU จับได้หมดทุกบินรบเหี้ย โคตรกระจอก ไม่พัฒนาไปไหนเลย แช่อยู่กับที่มาเป็นสิบปีแล้ว คิดว่าคนอื่นตามไม่ทัน ที่ไหนได้ มรึงนั่นแหละ ล้าหลังเค้าอยู่ 20 ปี โดยเฉพาะโครงการด้านอวกาศ จุดนี้ ทำให้เงินลงทุนไปมหาศาลกับบินรบ STEALTH หมาทันที จะขายใครออกมุย? ที่สำคัญ จีนออก J-35A เซินเจิ้นมา ยอดขายดีกว่า F-35 ซะอีก ถูก ดี ไร้เงื่อนไข ประสิทธิภาพสูงกว่า และ AI ทั้งลำ หมาได้อีกมรึง? ยังไม่พอ รัสเซียโยกย้าย S-500 เข้าประจำการพรมแดนแนวหน้าแล้ว นี่มันคืออะไร? ดาวเทียมศัตรู หายวับแน่มรึง? อย่าว่านุ๊ก ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคเลย แม้แต่ UFO ยังร่วง เอาจริงดิ? ฉากหน้า ฉากหลัง สุดท้าย ต้องวัดกำลังหมี CNN(เริ่มโชว์กันออกมาให้เห็นบ้างแล้ว ของดี ไม่โชว์บ่อย ทั้งจีน รัสเซีย อิหร่าน โสมแดง อาวุธในใต้หล้า หากเทียบเป็นชั้นกระบี่ ไอ้อีเหี้ยทั้งหลาย มรึงแค่ชั้นประถม จีน รัสเซีย เค้าไปถึงขั้นมหาเทพกันหมดแล้ว งบก็มีมากกว่า อุปกรณ์ก็พร้อมกว่า อาวุธไม่ใช่คำตอบ แผนที่เดินต่างหากคือจุดชี้เป็นชี้ตาย สู้ไม่ได้ รู้ตัว แค่ยื้อเวลา แต่ขั้วใหม่ ใช้เวลาที่มีอยู่ บีบแม่งทุกทิศทาง จนเหี้ยต้องยอมเสียค่าโง่ โลกสู้ ไทยสู้ อาเซียนสู้ ชนะชัวร์!)21 พฤศจิกายน 6711.30 น.------------------------------------------------------------------------—เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnnหรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNThttps://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u**เพจหลักของหมี CNN คือ**https://www.minds.com/mheecnn2/เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnnwww.vk.com/id448335733**เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**https://twitter.com/CnnMhee**เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • "The Chinese Revolution"

    ฉันเป็นชาวจีน(รุ่นใหม่) ที่อุตส่าห์ตะแบง ข้ามน้ำ ข้ามทะเล..ไปเรียนหนังสือกลับมา เริ่มมีเหตุผล(มากขึ้น) สได้ก่อการปฏิวัติกับครอบครัว โดยไม่ยอมเซ่นไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ ด้วยสุราและเนื้อสัตว์...แต่ยังคงเซ่นไหว้ตามพิธีดั้งเดิม ด้วยพืชผัก ผลไม้ ไม่จุดธูป ไม่จุดเทียน แต่ใช้เทียนและธูปไฟฟ้า โอนเงินทองไปสู่ปรภพด้วยบริการทางออนไลน์ เป็นผลสำเร็จมาแล้วหลายครอบครัว

    เป็นที่ทราบโดยชัดเจนว่า #มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ซึ่งสามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์

    1) ชนิดของฟัน
    ธรรมชาติสร้างฟันมนุษย์เป็นฟันซี่เรียงแถว สำหรับกัด บด เคี้ยว #แตกต่างจากสัตว์กินเนื้อที่มีเขี้ยวสำหรับการฉีก ล่าเหยื่อ

    2) ความเป็นกรด-ด่างของน้ำลาย
    มนุษย์มีน้ำลายที่เป็นด่างสำหรับย่อยแป้งและเซลลูโลสจากพืช #ต่างจากน้ำลายสัตว์กินเนื้อที่เป็นกรด สัตว์กินเนื้อไม่ได้ล่าเหยื่อทุกวัน การล่าแต่ละครั้งสามารถกินได้หลายวัน น้ำลายที่เป็นกรดธรรมชาติประทานมาให้เพื่อใช้ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์จากบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้(ล่าเหยื่อ) และใช้ในการย่อยเนื้อสัตว์ที่บูดเน่า.

    3) ชนิดของกรดในกระเพาะอาหาร
    มนุษย์มีน้ำย่อยที่เป็นกรดอ่อน สำหรับการย่อยเซลลูโลสและแป้งในกลุ่มอะมีโลส และมีปริมาณน้ำย่อย(น้อย)ไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์
    #ต่างจากน้ำย่อยในกระเพาะสัตว์กินเนื้อ ที่เป็นเอ็มไซม์เพ็พซินและทริปซิน เป็นกรดอย่างแรงกว่า20เท่าและมีปริมาณมากกว่าน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของมนุษย์ 5เท่า สำหรับการย่อยเนื้อสัตว์และกระดูกโดยเฉพาะ

    4) สัดส่วนความยาวของลำไส้ ต่อ ความยาวลำตัว
    (ความยาวลำตัว=ความยาวปากถึงรูตูด)

    มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ธรรมชาติจึงออกแบบให้มีลำไส้ยาว 7-10เท่าของความยาวลำตัว เพื่อดูดซึมสารอาหารจากพืชได้สำเร็จใน 4-6ชั่วโมง หากมนุษย์กินเนื้อสัตว์ กระเพาะไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์ได้หมด ต่อจากนั้น..เป็นหน้าที่ของลำไส้ใช้เวลาย่อยและดูดซึมเนื้อสัตว์ 48-72ชั่วโมง ทำให้เกิดการบูดเน่า เกิดสารพิษ และจุลินทรีย์ที่เป็นโทษ แก๊สที่มีพิษ ซึ่งทำให้บั่นทอนสุขภาพ อายุสั้นด้วยโรคต่างๆและโรคมะเร็ง

    #ต่างจากลำไส้สัตว์กินเนื้อที่มีความยาวไม่เกิน3เท่าของความยาวลำตัว กิน ย่อย ถ่ายรวดเร็วไม่มีปัญหาเรื่องความเป็นพิษในลำไส้.

    ครอบครัว..ให้ความเข้าใจและหันมากินผัก ผลไม้ ทำให้มีสุขภาพที่ดี มีอายุยืน(อายุขัยวัฒนา) กันทุกๆคน เมื่อจากโลกนี้ไปก็จะไปมีชิวิตนิรันดร์ในสายคริสต์ก็ไปอยู่บนสวรรค์กับพระผู้เป็นเจ้า สายพุทธศาสนาจะเข้าสู่โหมดนิพพาน(Nirvana)ได้ไม่ยากนัก เมื่อถือศีล(บริสุทธิ์)ย่อมเกิดสมาธิได้ไม่ยากนักเพราะไม่มีความพยาบาทอาฆาตแค้นจากชีวิตสัตว์มารบกวน จึงเกิดแสงสว่างแห่งปัญญานำไปตามทางสายเอกเข้าสู่นิพพานดับสูญ..ไม่ต้องเป็นสัมภเวสี ทนทุกข์ทรมาน เร่ร่อน ขอส่วนบุญตามสถานที่ต่างๆ หรือ วนเวียน ว่าย ตาย เกิด..อยู่เช่นนี้ ไม่เบื่อ บ้างหรือ?

    พระพุทธเจ้า ห้ามกินเนื้อสัตว์(อกัปปิยมังสะ) 10 ชนิด
    #และสัตว์ที่กินได้ต้องไม่เป็น ปวัตตมังสะ(ฆ่าเพื่อตน) และไม่เป็นอุททิสมังสะ(ฆ่าเพื่อผู้อื่น) หมายความว่า #เป็นสัตว์ที่ตายเองไม่ใช่สัตว์ทื่ถูกฆ่า จึงจะกินได้.

    ***แปลเป็นไทยว่า "สัตว์ที่ตายเอง ไม่ใช่สัตว์ที่ถูกฆ่า"
    ดังนั้น..การกินเนื้อสัตว์ ผิดทั้งพระและโยม นะจ๊ะ(ชาวพุทธ)

    สัตว์..มันก็คิดได้ คิดเป็น มนุษย์ลากมันเข้าหลักประหาร สัตว์มันรู้ มันรักตัว กลัวตาย มันร้องไห้ ดิ้นรน ไม่สงสารมันบ้างหรือไร?

    สัตว์มันมองดูมนุษย์เซ่นไหว้ เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ
    ตรุษจีน สาร์ทจีน..ฆ่าพวกกูไหว้เจ้า --->ได้บุญ
    พอปลายปีเทศกาลกินเจ..ไม่ฆ่าพวกกู-->ได้บุญ
    อย่าให้สัตว์พูดว่า "ตกลงพวกมึง จะเอายังงัยกับชีวิตของพวกมึง" !!!

    อมตะวาจา ของ Yeo MING กล่าวว่า
    "When the buying stops, the killing can too"
    อาจแปลได้ว่า "ผู้กินเนื้อสัตว์..คือหุ้นส่วนร่วมฆ่า" เช่นเดียวกัน ค่ะ
    .
    .
    Pachäree Wõng
    November20,2024
    Sausalito, California.
    "The Chinese Revolution" ฉันเป็นชาวจีน(รุ่นใหม่) ที่อุตส่าห์ตะแบง ข้ามน้ำ ข้ามทะเล..ไปเรียนหนังสือกลับมา เริ่มมีเหตุผล(มากขึ้น) สได้ก่อการปฏิวัติกับครอบครัว โดยไม่ยอมเซ่นไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ ด้วยสุราและเนื้อสัตว์...แต่ยังคงเซ่นไหว้ตามพิธีดั้งเดิม ด้วยพืชผัก ผลไม้ ไม่จุดธูป ไม่จุดเทียน แต่ใช้เทียนและธูปไฟฟ้า โอนเงินทองไปสู่ปรภพด้วยบริการทางออนไลน์ เป็นผลสำเร็จมาแล้วหลายครอบครัว เป็นที่ทราบโดยชัดเจนว่า #มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ซึ่งสามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ 1) ชนิดของฟัน ธรรมชาติสร้างฟันมนุษย์เป็นฟันซี่เรียงแถว สำหรับกัด บด เคี้ยว #แตกต่างจากสัตว์กินเนื้อที่มีเขี้ยวสำหรับการฉีก ล่าเหยื่อ 2) ความเป็นกรด-ด่างของน้ำลาย มนุษย์มีน้ำลายที่เป็นด่างสำหรับย่อยแป้งและเซลลูโลสจากพืช #ต่างจากน้ำลายสัตว์กินเนื้อที่เป็นกรด สัตว์กินเนื้อไม่ได้ล่าเหยื่อทุกวัน การล่าแต่ละครั้งสามารถกินได้หลายวัน น้ำลายที่เป็นกรดธรรมชาติประทานมาให้เพื่อใช้ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์จากบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้(ล่าเหยื่อ) และใช้ในการย่อยเนื้อสัตว์ที่บูดเน่า. 3) ชนิดของกรดในกระเพาะอาหาร มนุษย์มีน้ำย่อยที่เป็นกรดอ่อน สำหรับการย่อยเซลลูโลสและแป้งในกลุ่มอะมีโลส และมีปริมาณน้ำย่อย(น้อย)ไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์ #ต่างจากน้ำย่อยในกระเพาะสัตว์กินเนื้อ ที่เป็นเอ็มไซม์เพ็พซินและทริปซิน เป็นกรดอย่างแรงกว่า20เท่าและมีปริมาณมากกว่าน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของมนุษย์ 5เท่า สำหรับการย่อยเนื้อสัตว์และกระดูกโดยเฉพาะ 4) สัดส่วนความยาวของลำไส้ ต่อ ความยาวลำตัว (ความยาวลำตัว=ความยาวปากถึงรูตูด) มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ธรรมชาติจึงออกแบบให้มีลำไส้ยาว 7-10เท่าของความยาวลำตัว เพื่อดูดซึมสารอาหารจากพืชได้สำเร็จใน 4-6ชั่วโมง หากมนุษย์กินเนื้อสัตว์ กระเพาะไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์ได้หมด ต่อจากนั้น..เป็นหน้าที่ของลำไส้ใช้เวลาย่อยและดูดซึมเนื้อสัตว์ 48-72ชั่วโมง ทำให้เกิดการบูดเน่า เกิดสารพิษ และจุลินทรีย์ที่เป็นโทษ แก๊สที่มีพิษ ซึ่งทำให้บั่นทอนสุขภาพ อายุสั้นด้วยโรคต่างๆและโรคมะเร็ง #ต่างจากลำไส้สัตว์กินเนื้อที่มีความยาวไม่เกิน3เท่าของความยาวลำตัว กิน ย่อย ถ่ายรวดเร็วไม่มีปัญหาเรื่องความเป็นพิษในลำไส้. ครอบครัว..ให้ความเข้าใจและหันมากินผัก ผลไม้ ทำให้มีสุขภาพที่ดี มีอายุยืน(อายุขัยวัฒนา) กันทุกๆคน เมื่อจากโลกนี้ไปก็จะไปมีชิวิตนิรันดร์ในสายคริสต์ก็ไปอยู่บนสวรรค์กับพระผู้เป็นเจ้า สายพุทธศาสนาจะเข้าสู่โหมดนิพพาน(Nirvana)ได้ไม่ยากนัก เมื่อถือศีล(บริสุทธิ์)ย่อมเกิดสมาธิได้ไม่ยากนักเพราะไม่มีความพยาบาทอาฆาตแค้นจากชีวิตสัตว์มารบกวน จึงเกิดแสงสว่างแห่งปัญญานำไปตามทางสายเอกเข้าสู่นิพพานดับสูญ..ไม่ต้องเป็นสัมภเวสี ทนทุกข์ทรมาน เร่ร่อน ขอส่วนบุญตามสถานที่ต่างๆ หรือ วนเวียน ว่าย ตาย เกิด..อยู่เช่นนี้ ไม่เบื่อ บ้างหรือ? พระพุทธเจ้า ห้ามกินเนื้อสัตว์(อกัปปิยมังสะ) 10 ชนิด #และสัตว์ที่กินได้ต้องไม่เป็น ปวัตตมังสะ(ฆ่าเพื่อตน) และไม่เป็นอุททิสมังสะ(ฆ่าเพื่อผู้อื่น) หมายความว่า #เป็นสัตว์ที่ตายเองไม่ใช่สัตว์ทื่ถูกฆ่า จึงจะกินได้. ***แปลเป็นไทยว่า "สัตว์ที่ตายเอง ไม่ใช่สัตว์ที่ถูกฆ่า" ดังนั้น..การกินเนื้อสัตว์ ผิดทั้งพระและโยม นะจ๊ะ(ชาวพุทธ) สัตว์..มันก็คิดได้ คิดเป็น มนุษย์ลากมันเข้าหลักประหาร สัตว์มันรู้ มันรักตัว กลัวตาย มันร้องไห้ ดิ้นรน ไม่สงสารมันบ้างหรือไร? สัตว์มันมองดูมนุษย์เซ่นไหว้ เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ ตรุษจีน สาร์ทจีน..ฆ่าพวกกูไหว้เจ้า --->ได้บุญ พอปลายปีเทศกาลกินเจ..ไม่ฆ่าพวกกู-->ได้บุญ อย่าให้สัตว์พูดว่า "ตกลงพวกมึง จะเอายังงัยกับชีวิตของพวกมึง" !!! อมตะวาจา ของ Yeo MING กล่าวว่า "When the buying stops, the killing can too" อาจแปลได้ว่า "ผู้กินเนื้อสัตว์..คือหุ้นส่วนร่วมฆ่า" เช่นเดียวกัน ค่ะ . . Pachäree Wõng November20,2024 Sausalito, California.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • #นาฬิกาชีวิต จังหวะเวลาที่กำหนดสุขภาพ
    ทุกวัน..จะชอบเขียนเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ คือ ไม่กินเนื้อสัตว์ ละเว้นการเบียดเบียนตามหลักพุทธศาสนา คือ ถือศีลข้อที่๑(บริสุทธิ์) ทำให้เลือดในร่างกายไม่เป็นกรด ปัญหาเรื่องกระดูกพรุนไม่เกิด และมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ไม่ต้องเป็นภาระทางราชการ หรือ ต้องสูญเสียเงินทองมากมายเมื่อเข้าสู่วัยชรา.
    วันนี้..ที่บ้านมีพะโล้ฟองเต้าหู้ กับ ผักกาดจอ หม้อใหญ่ๆ เป็นอาหารหลัก ทำเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา คงกินได้หลายวัน
    วันนี้จึงไม่โม้เรื่องอาหาร เพราะเคยเขียนเผยแพร่แล้ว
    วันนี้พูดเรื่องสำคัญ..มากเท่ากับเรื่องอาหาร คือ
    วินัย ของ การทำงานในร่างกาย ปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ ถูกที่ ถูกเวลา ตลอดเวลา ๒๔ชั่วโมง ก็ สำคัญมาก ซึ่งวันนี้ จะนำเสนอให้ทราบ ดังนี้
    เหตุผลตามธรรมชาติ
    #ทำไมต้องนอนสามทุ่มตื่นตีสาม?
    ต้องดื่มน้ำหลังตื่นนอน ขับถ่ายของเสีย กินอาหารให้ตรงเวลา
    #ทำไมเวลาเก้าโมงถึงสิบเอ็ดโมงเช้า(ห้ามนอน..เด็ดขาด)
    บ่ายโมงถึงบ่ายสามไม่ควรกินอาหาร
    #บ่ายสามถึงห้าโมงเย็นเป็นเวลาออกกำลังกาย
    --->สามทุ่ม(ต้อง)เข้านอน(ห่มผ้า)ให้อบอุ่น ไม่ควรอาบน้ำเย็น
    #สี่ทุ่มถึงตีสามคือเวลาของฮอร์โมนเมลาโทนิน(หลั่ง)
    --->ต้อง(ห่มผ้า)นอนหลับให้สนิท และ ปิดไฟให้มืด
    จึงจะมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง มีอายุขัยที่ยืนยาว 120 ปี
    #นาฬิกาชีวิต คือ การดูแลรักษาสุขภาพแบบธรรมชาติบำบัด ให้มีสุขภาพที่ดีอายุยืนนาน ตามศาสตร์การแพทย์จีน อายุรเวทของอินเดีย และอียิปต์โบราณได้ค้นพบ และบันทึกตรงกันว่า
    #อวัยวะในร่างกายมนุษย์ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ #อวัยวะตัน --->หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ และไต #อวัยวะกลวง --->กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ และ ระบบความร้อนในร่างกาย
    ทั้งหมดรวมได้ 12 อวัยวะ ควบคุมการไหลเวียนด้วยพลังชีวิตที่เรียกว่า.. “ #ลมปราณ” หมุนเวียนเป็นวัฏจักรทุก 2 ชั่วโมง ตามลำดับ
    ดังนั้นใน 1วัน=12อวัยวะX2ชั่วโมง จึงเท่ากับ 24ชั่วโมง (พอดีเป๊ะ)
    นี่แหละ คือ วัฏจักรของการทำงาน(ตามปกติ)ของอวัยวะในร่างกายมนุษย์ ที่เรียกว่า #นาฬิกาชีวิต นั่นเอง ค่ะ
    #ตารางการเดินลมปราณในแต่ละวัน จึงเป็นการดูแลสุขภาพอย่างง่ายๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับ..”นาฬิกาชีวิต” ได้ดังนี้...
    เวลา 01.00-03.00น. ควรเป็นเวลาของ #ตับ มีหน้าที่เป็นโรงงานกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ดังนั้นในช่วงเวลานี้ร่างกาย #ควรนอนหลับให้สนิทเพื่อให้ตับได้ขจัดสารพิษออกจากร่างกายหากไม่หลับในช่วงนี้จะทำให้สะสมพิษทำให้เกิดอาการเพลีย เหนื่อยง่าย
    โรคต่างที่เกิดจากพิษสารเคมีสะสมจะทำให้ป่วยง่าย+เรื้อรัง-ตายอย่างเวทนาและทุกข์ทรมาน นะคะ(ขอ บอก)
    เวลา 03.00-05.00น. #ควรตื่นนอน ดื่มน้ำอุ่น ฝึกกำหนดลมหายใจเข้า-ออก..ลึกๆ ช้าๆ..สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกกำลังกายยืดเส้น ยืดสาย ทำให้สุขภาพปอดและร่างกายโดยรวมจะดีไปด้วย
    #การดื่มน้ำอุ่นในช่วงนี้และการซิทอัป--->จะกระตุ้น(เร่ง)การทำงานของลำไส้ใหญ่ ซึ่งทำงานในช่วงต่อไป..
    เวลา 05.00-07.00น. เป็นช่วงเวลาของ #การทำงานลำไส้ใหญ่ บีบรัดตัวได้ดีที่สุด เป็นเวลาขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย การไม่ขับถ่ายในช่วงเวลานี้ทำให้ลำไส้ใหญ่ดูดซึมกลับไป สะสมสารพิษ สะสม ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน เวลา 05.45-06.00น.เป็นเวลาที่ดีที่สุด ของ #การฝึกสมาธิ เพราะในขณะที่ตื่นนอน ทำธุระส่วนตัว อาบน้ำ&แปรงฟัน..เสร็จ ปลอดโปร่ง..#โล่งทั้งกายและใจไม่มีเรื่องเครียด เรื่องงานมากวนใจ ฝึกนั่งสมาธิในช่วงนี้(ทุกวัน)สามารถเข้าถึงสมาธิได้สำเร็จ(ง่าย)มาก..ค่ะ
    เวลา 07.00-09.00น. คือช่วงเวลาของ #กระเพาะอาหาร ต้องกินอาหารเช้าเป็นมื้อหลักที่มีสารอาหารอย่างครบถ้วน หากไม่กินมื้อเช้า(มื้อสำคัญ)จะเป็นโรคกระเพาะอย่างรวดเร็ว และสะสมเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ในระยะยาว
    เวลา 09.00-011.00น. เป็นเวลาของ #ม้าม ควบคุมเม็ดเลือดขาว กำจัดเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ ดังนั้นผู้ที่นอนในช่วงนี้จะส่งผลให้ม้ามอ่อนแอ มี #ภูมิคุ้มกันโรคต่ำ ติดเชื้อเป็นโรคต่างๆได้ง่าย
    เวลา 11.00-13.00น. ช่วงพักเที่ยง เป็นช่วงเวลาของ #หัวใจ ควรพักผ่อน..สบายๆ งดน้ำชา กาแฟ หลีกเลี่ยงความเครียดซึ่งทำให้หัวใจเต้นแรง ทำงานหนักเกิน ส่งผลให้หัวใจวายได้อย่างง่ายๆ ในช่วงเวลาเที่ยง จ๊ะ
    เวลา 13.00-15.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ลำไส้เล็ก ในช่วงนี้ร่างกายส่งพลังงานทั้งหมดไปยังลำไส้เล็กเพื่อการดูดซึม #การกินอาหารในช่วงนี้จะไปขัดขวางโอกาสทองของระบบดูดซีมที่ต้องแบ่งพลังงานไปใช้ในการย่อยในกระเพาะอาหาร ช่วงนี้สมองในส่วนความจำจะทำงานได้ดีที่สุดในรอบวัน
    เวลา 15.00-17.00น. เวลาของ #กระเพาะปัสสาวะ และการขับเหงื่อ #จึงควรออกกำลังกายอย่างหนัก หรือ เหมาะกับการอบซาวน่าเพื่อให้เหงื่อออก สำหรับหนุ่มสาวที่ทำงานในช่วงนี้ ก็สามารถใช้ท่าการออกกำลังกายในสำนักงาน หรือเดินไป-มา ขึ้น-ลงบันได เพื่อส่งเสริมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะได้..เช่นกัน
    เวลา 17.00-19.00น. #ช่วงเวลาของไต มีหน้าที่รักษาสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย โดยกำจัดส่วนเกินออกทางปัสสาวะและเหงื่อ #เวลาช่วงนี้จึงควรทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วง ไม่หลับ เป็นช่วงCool Down หรือผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ต่อจากการออกกำลังกายอย่างหนัก..ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
    เวลา 19.00-21.00น. ช่วงนี้เป็นเวลาที่ #เยื่อหุ้มหัวใจ..บางที่สุด จึงควรระวังอารมณ์ตื่นเต้น ดีใจ ตกใจ โกรธ เสียใจ การที่ทำให้ตื่นตัวมากๆส่งผลให้เยื่อหุ้มหัวใจฉีกขาดได้ง่าย ดังนั้นในช่วงเวลานี้จึงควรปิดโทรศัพท์ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ
    เวลา 21.00-23.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ระบบความร้อนในร่างกาย ซึ่งตามธรรมชาติ..ในช่วงเวลานี้อากาศเริ่มเย็น ร่างกายคนเราต้องสร้างความร้อนขึ้น จึงไม่ควรอาบน้ำหรือดื่มน้ำเย็น และควรเข้านอนในช่วงเวลานี้ ควรดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วก่อนนอนเพื่อส่งเสริมการทำงานของถุงน้ำดีในเวลาถัดไป.
    เวลา 23.00-01.00น. เวลาของ #ถุงน้ำดี ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่หลับ ร่างกายจะอยู่ในสภาพที่ขาดน้ำ อวัยวะต่างๆจะดึงน้ำจากถุงน้ำดี..แล้วนำไปใช้ หากน้ำในถุงน้ำดีข้นเกินไปอาจส่งผลให้อวัยวะต่างๆทำงานผิดปกติได้ #หากไม่นอนในช่วงนี้จะเกิดถุงไขมันใต้ตา และไขมันพอกตับ
    .
    .
    เจริญธรรม สำนึกดี
    Pachäree Wõng
    November21, 2024
    Sausalito, California.
    #นาฬิกาชีวิต จังหวะเวลาที่กำหนดสุขภาพ ทุกวัน..จะชอบเขียนเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ คือ ไม่กินเนื้อสัตว์ ละเว้นการเบียดเบียนตามหลักพุทธศาสนา คือ ถือศีลข้อที่๑(บริสุทธิ์) ทำให้เลือดในร่างกายไม่เป็นกรด ปัญหาเรื่องกระดูกพรุนไม่เกิด และมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ไม่ต้องเป็นภาระทางราชการ หรือ ต้องสูญเสียเงินทองมากมายเมื่อเข้าสู่วัยชรา. วันนี้..ที่บ้านมีพะโล้ฟองเต้าหู้ กับ ผักกาดจอ หม้อใหญ่ๆ เป็นอาหารหลัก ทำเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา คงกินได้หลายวัน วันนี้จึงไม่โม้เรื่องอาหาร เพราะเคยเขียนเผยแพร่แล้ว วันนี้พูดเรื่องสำคัญ..มากเท่ากับเรื่องอาหาร คือ วินัย ของ การทำงานในร่างกาย ปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ ถูกที่ ถูกเวลา ตลอดเวลา ๒๔ชั่วโมง ก็ สำคัญมาก ซึ่งวันนี้ จะนำเสนอให้ทราบ ดังนี้ เหตุผลตามธรรมชาติ #ทำไมต้องนอนสามทุ่มตื่นตีสาม? ต้องดื่มน้ำหลังตื่นนอน ขับถ่ายของเสีย กินอาหารให้ตรงเวลา #ทำไมเวลาเก้าโมงถึงสิบเอ็ดโมงเช้า(ห้ามนอน..เด็ดขาด) บ่ายโมงถึงบ่ายสามไม่ควรกินอาหาร #บ่ายสามถึงห้าโมงเย็นเป็นเวลาออกกำลังกาย --->สามทุ่ม(ต้อง)เข้านอน(ห่มผ้า)ให้อบอุ่น ไม่ควรอาบน้ำเย็น #สี่ทุ่มถึงตีสามคือเวลาของฮอร์โมนเมลาโทนิน(หลั่ง) --->ต้อง(ห่มผ้า)นอนหลับให้สนิท และ ปิดไฟให้มืด จึงจะมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง มีอายุขัยที่ยืนยาว 120 ปี #นาฬิกาชีวิต คือ การดูแลรักษาสุขภาพแบบธรรมชาติบำบัด ให้มีสุขภาพที่ดีอายุยืนนาน ตามศาสตร์การแพทย์จีน อายุรเวทของอินเดีย และอียิปต์โบราณได้ค้นพบ และบันทึกตรงกันว่า #อวัยวะในร่างกายมนุษย์ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ #อวัยวะตัน --->หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ และไต #อวัยวะกลวง --->กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ และ ระบบความร้อนในร่างกาย ทั้งหมดรวมได้ 12 อวัยวะ ควบคุมการไหลเวียนด้วยพลังชีวิตที่เรียกว่า.. “ #ลมปราณ” หมุนเวียนเป็นวัฏจักรทุก 2 ชั่วโมง ตามลำดับ ดังนั้นใน 1วัน=12อวัยวะX2ชั่วโมง จึงเท่ากับ 24ชั่วโมง (พอดีเป๊ะ) นี่แหละ คือ วัฏจักรของการทำงาน(ตามปกติ)ของอวัยวะในร่างกายมนุษย์ ที่เรียกว่า #นาฬิกาชีวิต นั่นเอง ค่ะ #ตารางการเดินลมปราณในแต่ละวัน จึงเป็นการดูแลสุขภาพอย่างง่ายๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับ..”นาฬิกาชีวิต” ได้ดังนี้... เวลา 01.00-03.00น. ควรเป็นเวลาของ #ตับ มีหน้าที่เป็นโรงงานกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ดังนั้นในช่วงเวลานี้ร่างกาย #ควรนอนหลับให้สนิทเพื่อให้ตับได้ขจัดสารพิษออกจากร่างกายหากไม่หลับในช่วงนี้จะทำให้สะสมพิษทำให้เกิดอาการเพลีย เหนื่อยง่าย โรคต่างที่เกิดจากพิษสารเคมีสะสมจะทำให้ป่วยง่าย+เรื้อรัง-ตายอย่างเวทนาและทุกข์ทรมาน นะคะ(ขอ บอก) เวลา 03.00-05.00น. #ควรตื่นนอน ดื่มน้ำอุ่น ฝึกกำหนดลมหายใจเข้า-ออก..ลึกๆ ช้าๆ..สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกกำลังกายยืดเส้น ยืดสาย ทำให้สุขภาพปอดและร่างกายโดยรวมจะดีไปด้วย #การดื่มน้ำอุ่นในช่วงนี้และการซิทอัป--->จะกระตุ้น(เร่ง)การทำงานของลำไส้ใหญ่ ซึ่งทำงานในช่วงต่อไป.. เวลา 05.00-07.00น. เป็นช่วงเวลาของ #การทำงานลำไส้ใหญ่ บีบรัดตัวได้ดีที่สุด เป็นเวลาขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย การไม่ขับถ่ายในช่วงเวลานี้ทำให้ลำไส้ใหญ่ดูดซึมกลับไป สะสมสารพิษ สะสม ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน เวลา 05.45-06.00น.เป็นเวลาที่ดีที่สุด ของ #การฝึกสมาธิ เพราะในขณะที่ตื่นนอน ทำธุระส่วนตัว อาบน้ำ&แปรงฟัน..เสร็จ ปลอดโปร่ง..#โล่งทั้งกายและใจไม่มีเรื่องเครียด เรื่องงานมากวนใจ ฝึกนั่งสมาธิในช่วงนี้(ทุกวัน)สามารถเข้าถึงสมาธิได้สำเร็จ(ง่าย)มาก..ค่ะ เวลา 07.00-09.00น. คือช่วงเวลาของ #กระเพาะอาหาร ต้องกินอาหารเช้าเป็นมื้อหลักที่มีสารอาหารอย่างครบถ้วน หากไม่กินมื้อเช้า(มื้อสำคัญ)จะเป็นโรคกระเพาะอย่างรวดเร็ว และสะสมเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ในระยะยาว เวลา 09.00-011.00น. เป็นเวลาของ #ม้าม ควบคุมเม็ดเลือดขาว กำจัดเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ ดังนั้นผู้ที่นอนในช่วงนี้จะส่งผลให้ม้ามอ่อนแอ มี #ภูมิคุ้มกันโรคต่ำ ติดเชื้อเป็นโรคต่างๆได้ง่าย เวลา 11.00-13.00น. ช่วงพักเที่ยง เป็นช่วงเวลาของ #หัวใจ ควรพักผ่อน..สบายๆ งดน้ำชา กาแฟ หลีกเลี่ยงความเครียดซึ่งทำให้หัวใจเต้นแรง ทำงานหนักเกิน ส่งผลให้หัวใจวายได้อย่างง่ายๆ ในช่วงเวลาเที่ยง จ๊ะ เวลา 13.00-15.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ลำไส้เล็ก ในช่วงนี้ร่างกายส่งพลังงานทั้งหมดไปยังลำไส้เล็กเพื่อการดูดซึม #การกินอาหารในช่วงนี้จะไปขัดขวางโอกาสทองของระบบดูดซีมที่ต้องแบ่งพลังงานไปใช้ในการย่อยในกระเพาะอาหาร ช่วงนี้สมองในส่วนความจำจะทำงานได้ดีที่สุดในรอบวัน เวลา 15.00-17.00น. เวลาของ #กระเพาะปัสสาวะ และการขับเหงื่อ #จึงควรออกกำลังกายอย่างหนัก หรือ เหมาะกับการอบซาวน่าเพื่อให้เหงื่อออก สำหรับหนุ่มสาวที่ทำงานในช่วงนี้ ก็สามารถใช้ท่าการออกกำลังกายในสำนักงาน หรือเดินไป-มา ขึ้น-ลงบันได เพื่อส่งเสริมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะได้..เช่นกัน เวลา 17.00-19.00น. #ช่วงเวลาของไต มีหน้าที่รักษาสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย โดยกำจัดส่วนเกินออกทางปัสสาวะและเหงื่อ #เวลาช่วงนี้จึงควรทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วง ไม่หลับ เป็นช่วงCool Down หรือผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ต่อจากการออกกำลังกายอย่างหนัก..ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เวลา 19.00-21.00น. ช่วงนี้เป็นเวลาที่ #เยื่อหุ้มหัวใจ..บางที่สุด จึงควรระวังอารมณ์ตื่นเต้น ดีใจ ตกใจ โกรธ เสียใจ การที่ทำให้ตื่นตัวมากๆส่งผลให้เยื่อหุ้มหัวใจฉีกขาดได้ง่าย ดังนั้นในช่วงเวลานี้จึงควรปิดโทรศัพท์ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ เวลา 21.00-23.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ระบบความร้อนในร่างกาย ซึ่งตามธรรมชาติ..ในช่วงเวลานี้อากาศเริ่มเย็น ร่างกายคนเราต้องสร้างความร้อนขึ้น จึงไม่ควรอาบน้ำหรือดื่มน้ำเย็น และควรเข้านอนในช่วงเวลานี้ ควรดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วก่อนนอนเพื่อส่งเสริมการทำงานของถุงน้ำดีในเวลาถัดไป. เวลา 23.00-01.00น. เวลาของ #ถุงน้ำดี ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่หลับ ร่างกายจะอยู่ในสภาพที่ขาดน้ำ อวัยวะต่างๆจะดึงน้ำจากถุงน้ำดี..แล้วนำไปใช้ หากน้ำในถุงน้ำดีข้นเกินไปอาจส่งผลให้อวัยวะต่างๆทำงานผิดปกติได้ #หากไม่นอนในช่วงนี้จะเกิดถุงไขมันใต้ตา และไขมันพอกตับ . . เจริญธรรม สำนึกดี Pachäree Wõng November21, 2024 Sausalito, California.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • การทานอาหารตามธาตุเจ้าเรือน เป็นศาสตร์แห่งการรักษาสุขภาพด้วยการทานอาหาร ซึ่งตามทฤษฎีการแพทย์แผนไทยได้กล่าวว่า ร่างกายของคนเรานั้นล้วนประกอบขึ้นด้วยธาตุต่างๆ ได้แก่ธาตุไฟ ธาตุลม ธาตุน้ำ ธาตุดิน เมื่อธาตุทั้งสี่ในร่างกายสมดุลแล้ว จะไม่ค่อยเจ็บป่วย แต่หากขาดสมดุลแล้วจะเกิดการเจ็บป่วยจากจุดอ่อนด้านสุขภาพของคนตามธาตุเจ้าเรือน
    ธาตุไฟ คือ ผู้ที่เกิด (เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์-มีนาคม)
    ผู้ที่เกิดธาตุนี้ขี้ร้อน หงุดหงิดง่าย เป็นลมพิษ ปวดหัวบ่อย ผิวแห้งและท้องผูกบ่อย
    ดังนั้นควรรับประทานควรเป็นรสเย็น รสขม รสจืด เพื่อช่วยลดความร้อนในร่างกาย โดยเมนูตัวอย่างที่แนะนำ เช่น ต้มจืดฟักหมู ต้มจืดตำลึง แตงกวาผัดไข่ น้ำเก๊กฮวย เป็นต้น
    ธาตุลม คือ ผู้ที่เกิด (เดือนเมษายน-พฤษภาคม-มิถุนายน)
    ผู้ที่เกิดธาตุลม มักมีลมอยู่ภายในร่างกายค่อนข้างมาก ก็จะส่งผลให้มีอาการท้องอืด ปวดเส้น หน้ามืด วิงเวียน ปวดหัว นอนไม่หลับ
    ดังนั้นควรรับประทานควรเป็นรสเผ็ดร้อน เพื่อกระจายและลดธาตุลม ได้แก่ ต้มยำกุ้ง ไก่ผัดขิง ต้มข่าไก่ บัวลอยน้ำขิง เป็นต้น
    ธาตุน้ำ คือ ผู้ที่เกิด (เดือนกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน)
    ผู้ที่เกิดธาตุน้ำจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก โรคที่พบได้ค่อนข้างบ่อยสำหรับผู้ที่เกิดธาตุน้ำได้แก่ โรคภูมิแพ้ น้ำเหลืองเสีย ขาบวม อ้วน โรคเนื้องอก ซีสต์
    ดังนั้นควรรับประทานควรเป็นรสเปรี้ยว รสขม เพื่อปรับสมดุลน้ำในร่างกาย ได้แก่ ต้มจืดมะระ แกงส้มดอกแค ห่อหมกใบยอ น้ำใบบัวบก เป็นต้น
    ธาตุดิน คือ ผู้ที่เกิด (ตุลาคม-พฤศจิกายน-ธันวาคม)
    ผู้ที่เกิดธาตุดินควรรับประทานอาหารรส ฝาด หวาน มัน เค็ม เพื่อบำรุงกำลัง ได้แก่ แกงคั่วขนุน สะตอผัดกุ้ง ผัดฟัดทอง ผัดผักหวาน น้ำอ้อย เป็นต้น
    ----
    สนใจผลิตภัณฑ์และขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่…
    Line OA : https://lin.ee/MOFhjQs
    Facebook : https://www.facebook.com/qr?id=100090076934583
    #โปรโมชั่นสุดคุ้ม #ผลิตภัณฑ์สมุนไพร #ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม #สยามไภษัชย์ #วิลิตา #เฮอร์บาติก้า #Siamphaisat #Vilita #Herbatika #thaitimes
    การทานอาหารตามธาตุเจ้าเรือน เป็นศาสตร์แห่งการรักษาสุขภาพด้วยการทานอาหาร ซึ่งตามทฤษฎีการแพทย์แผนไทยได้กล่าวว่า ร่างกายของคนเรานั้นล้วนประกอบขึ้นด้วยธาตุต่างๆ ได้แก่ธาตุไฟ ธาตุลม ธาตุน้ำ ธาตุดิน เมื่อธาตุทั้งสี่ในร่างกายสมดุลแล้ว จะไม่ค่อยเจ็บป่วย แต่หากขาดสมดุลแล้วจะเกิดการเจ็บป่วยจากจุดอ่อนด้านสุขภาพของคนตามธาตุเจ้าเรือน ธาตุไฟ คือ ผู้ที่เกิด (เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์-มีนาคม) ผู้ที่เกิดธาตุนี้ขี้ร้อน หงุดหงิดง่าย เป็นลมพิษ ปวดหัวบ่อย ผิวแห้งและท้องผูกบ่อย ดังนั้นควรรับประทานควรเป็นรสเย็น รสขม รสจืด เพื่อช่วยลดความร้อนในร่างกาย โดยเมนูตัวอย่างที่แนะนำ เช่น ต้มจืดฟักหมู ต้มจืดตำลึง แตงกวาผัดไข่ น้ำเก๊กฮวย เป็นต้น ธาตุลม คือ ผู้ที่เกิด (เดือนเมษายน-พฤษภาคม-มิถุนายน) ผู้ที่เกิดธาตุลม มักมีลมอยู่ภายในร่างกายค่อนข้างมาก ก็จะส่งผลให้มีอาการท้องอืด ปวดเส้น หน้ามืด วิงเวียน ปวดหัว นอนไม่หลับ ดังนั้นควรรับประทานควรเป็นรสเผ็ดร้อน เพื่อกระจายและลดธาตุลม ได้แก่ ต้มยำกุ้ง ไก่ผัดขิง ต้มข่าไก่ บัวลอยน้ำขิง เป็นต้น ธาตุน้ำ คือ ผู้ที่เกิด (เดือนกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน) ผู้ที่เกิดธาตุน้ำจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก โรคที่พบได้ค่อนข้างบ่อยสำหรับผู้ที่เกิดธาตุน้ำได้แก่ โรคภูมิแพ้ น้ำเหลืองเสีย ขาบวม อ้วน โรคเนื้องอก ซีสต์ ดังนั้นควรรับประทานควรเป็นรสเปรี้ยว รสขม เพื่อปรับสมดุลน้ำในร่างกาย ได้แก่ ต้มจืดมะระ แกงส้มดอกแค ห่อหมกใบยอ น้ำใบบัวบก เป็นต้น ธาตุดิน คือ ผู้ที่เกิด (ตุลาคม-พฤศจิกายน-ธันวาคม) ผู้ที่เกิดธาตุดินควรรับประทานอาหารรส ฝาด หวาน มัน เค็ม เพื่อบำรุงกำลัง ได้แก่ แกงคั่วขนุน สะตอผัดกุ้ง ผัดฟัดทอง ผัดผักหวาน น้ำอ้อย เป็นต้น ---- สนใจผลิตภัณฑ์และขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่… Line OA : https://lin.ee/MOFhjQs Facebook : https://www.facebook.com/qr?id=100090076934583 #โปรโมชั่นสุดคุ้ม #ผลิตภัณฑ์สมุนไพร #ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม #สยามไภษัชย์ #วิลิตา #เฮอร์บาติก้า #Siamphaisat #Vilita #Herbatika #thaitimes
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองปราบเตรียมประสาน"พี่อ้อย" ให้ปากคำเพิ่มปม"ทนายตั้ม"วางแผนแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้จัดการมรดก เตรียมขยายผลเอาผิดผู้ร่วมขบวนการอีก 1-2 ราย

    วันนี้ (19 พ.ย. ) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และพวกร่วมกันฉ้อโกงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือพี่อ้อย จำนวน 39 ล้านบาท ว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก สอบปากคำพยานบุคคลต่าง ๆ ไปแล้วจำนวนหลายปาก รวมถึงสืบพบพยานหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมหลายอย่าง ถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่ด้วยคดีเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นที่จับตาของสังคม การดำเนินการต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องรอบคอบ ยึดข้อเท็จจริงพยานหลักฐานเป็นหลัก และอาจจะต้องมีการเรียกสอบพยานบุคคลเพิ่มเติมอีกหลายปาก เพื่อให้กระจ่างชัด

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เข้าให้ปากคำในฐานะพยานกับพนักงานสอบสวนกองปราบ เมื่อวานที่ผ่านมานั้น พบว่า ข้อมูลที่พนักงานสอบสวนได้รับค่อนข้างเป็นประโยชน์กับรูปคดีอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของการติด GPS ในรถของน.ส.จตุพร และ เรื่องขบวนการวางแผนตั้งทนายตั้ม เป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งขณะนี้ชุดคลี่คลายคดีกองปราบกำลังให้ความสนใจตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับทั้ง 2 เรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยเตรียมประสานไปยัง น.ส.จตุพร มาเข้าพบเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับทั้ง 2 เรื่องนี้อีกครั้ง

    อย่างไรก็ตามจากพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่มีอยู่ขณะนี้ เชื่อว่า การหลอกลวงเงินพี่อ้อย ของ นายษิทรา ทำกันเป็นขบวนการ และ น่าจะมีผู้เกี่ยวข้องคนอื่น ๆ ถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมอีก 1-2 ราย ซึ่งชุดคลี่คลายคดีของกองปราบเองก็ค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดทนายตั้ม กับพวก ได้อย่างแน่นอน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัด โดยในวันที่ 21 พ.ย. ที่จะถึงนี้ ทางชุดคลี่คลายคดีดังกล่าว จะมีการเรียกประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดีอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนเพิ่มมากขึ้น

    #MGROnline #พี่อ้อย #ทนายตั้ม
    กองปราบเตรียมประสาน"พี่อ้อย" ให้ปากคำเพิ่มปม"ทนายตั้ม"วางแผนแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้จัดการมรดก เตรียมขยายผลเอาผิดผู้ร่วมขบวนการอีก 1-2 ราย • วันนี้ (19 พ.ย. ) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และพวกร่วมกันฉ้อโกงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือพี่อ้อย จำนวน 39 ล้านบาท ว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก สอบปากคำพยานบุคคลต่าง ๆ ไปแล้วจำนวนหลายปาก รวมถึงสืบพบพยานหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมหลายอย่าง ถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่ด้วยคดีเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นที่จับตาของสังคม การดำเนินการต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องรอบคอบ ยึดข้อเท็จจริงพยานหลักฐานเป็นหลัก และอาจจะต้องมีการเรียกสอบพยานบุคคลเพิ่มเติมอีกหลายปาก เพื่อให้กระจ่างชัด • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เข้าให้ปากคำในฐานะพยานกับพนักงานสอบสวนกองปราบ เมื่อวานที่ผ่านมานั้น พบว่า ข้อมูลที่พนักงานสอบสวนได้รับค่อนข้างเป็นประโยชน์กับรูปคดีอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของการติด GPS ในรถของน.ส.จตุพร และ เรื่องขบวนการวางแผนตั้งทนายตั้ม เป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งขณะนี้ชุดคลี่คลายคดีกองปราบกำลังให้ความสนใจตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับทั้ง 2 เรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยเตรียมประสานไปยัง น.ส.จตุพร มาเข้าพบเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับทั้ง 2 เรื่องนี้อีกครั้ง • อย่างไรก็ตามจากพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่มีอยู่ขณะนี้ เชื่อว่า การหลอกลวงเงินพี่อ้อย ของ นายษิทรา ทำกันเป็นขบวนการ และ น่าจะมีผู้เกี่ยวข้องคนอื่น ๆ ถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมอีก 1-2 ราย ซึ่งชุดคลี่คลายคดีของกองปราบเองก็ค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดทนายตั้ม กับพวก ได้อย่างแน่นอน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัด โดยในวันที่ 21 พ.ย. ที่จะถึงนี้ ทางชุดคลี่คลายคดีดังกล่าว จะมีการเรียกประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดีอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนเพิ่มมากขึ้น • #MGROnline #พี่อ้อย #ทนายตั้ม
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อ.ปานเทพ" เข้าให้ปากคำตำรวจกองปราบ คดี "ทนายตั้ม" โกง"พี่อ้อย"แฉพยายามนำลูกมาเป็นบุตรบุญธรรมก่อนสอดไส้ตั้งตัวเองเป็นผู้จัดการมรดก เตรียมจ่อเปิดคลิปสาวไส้ในรายการสนธิทอล์ค พบปม 39 ล้าน โอนให้แก๊งสแกมเมอร์แค่ 1 แสน ที่เหลือนำมาแบ่งกัน เชื่อคดีคลี่คลายในเร็ววัน.วันนี้ (18 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เข้าให้ปากคำในฐานะพยานคดี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" ฉ้อโกง น.ส. จตุพร อุบลเลิศ หรือพี่อ้อย โดยนายปานเทพ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญมาเป็นพยาน ในฐานะที่เป็นผู้ได้รับเรื่องจาก นางจตุพร โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้นางจตุพรได้เดินทางมาที่บ้านพระอาทิตย์ เป็นครั้งที่ 3 เพื่อมาขอบคุณนายสนธิ ลิ้มทองกุล เว็บไซต์ผู้จัดการ และฝากขอบคุณสื่อมวลชนทุกค่ายที่ให้ข้อมูลเรื่องนี้.นายปานเทพ กล่าวว่านอกจากนี้ ยังมีการสัมภาษณ์เพิ่มเติมพิเศษในประเด็นอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นทำให้เราติดตามประเด็นนี้ต่อไป โดยเฉพาะคลิปที่สื่อมวลชนยังไม่ทราบ โดยเราจะเผยแพร่เป็นระยะ และจะสัมภาษณ์ น.ส.จตุพร เป็นกรณีพิเศษเพิ่มเติม รวมถึงหลังจากนี้รายการ สนธิทอล์ค จะเปิดคลิปที่เกี่ยวข้องกับคดี ในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งในขณะนี้มั่นใจแล้วว่ากรณีเงิน 39 ล้านบาท จะมีความคืบหน้าในคดีอย่างแน่นอน และจะมีความชัดเจนว่า มีการแบ่งเงินกันเท่าไหร่ และแบ่งไปให้ใครบ้าง ซึ่งทั้งหมดในขณะนี้ พี่อ้อย ได้ทราบข้อเท็จจริงแล้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทราบแล้วเช่นเดียวกัน จึงเชื่อว่าคดีนี้จะคลี่คลายในเร็ววันอย่างแน่นอน.นายปานเทพ กล่าวต่อว่าอย่างไรก็ตาม ยังมีบางประเด็นที่สังคมอาจจะยังไม่เข้าใจ กรณีที่ นายษิทรา มีความพยายามจะนำลูกมาเป็นบุตรบุญธรรมของพี่อ้อย ซึ่งพบว่า แท้ที่จริงแล้วมีขบวนการก่อนหน้านั้น คือการทำพินัยกรรม และให้นายษิทราเป็นผู้จัดการมรดก โดยเฉพาะครั้งแรกยังไม่มีผู้จัดการมรดก โดยครั้งที่ 2 สำนักงานทนายความษิทรา มีการแปลงเป็นผู้จัดการมรดก แล้วยังพบว่า มีพฤติการณ์ที่ตามมาหลังจากนั้น ทั้งเรื่องของการติด GPS ในรถของน.ส.จตุพร จนทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย และยังชวนไปในสถานที่ต่าง ๆ ที่อาจจะไม่มีสัญญาณ GPS ซึ่งนางจตุพรได้ปฏิเสธทั้งหมด.นายปานเทพ กล่าวต่อว่า แม้ขณะนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องพินัยกรรมเรียบร้อยแล้ว แต่นายษิทรายังไม่คืนพินัยกรรมฉบับก่อนไว้เลย แม้จะทวงถามไปแล้ว ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าได้ทำลายไปแล้ว แต่ก็ไม่เคยทำลายให้เห็นต่อหน้า น.ส.จตุพร ฉะนั้นข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำมาประกอบคดี ให้มีความแน่นหนามากขึ้นในข้อหาฉ้อโกงเป็นปกติธุระ ส่วนลักษณะฉ้อโกงเป็นอย่างไรจะเปิดให้ฟังในรายการสนธิทอล์คอีกครั้งหนึ่ง.
    "อ.ปานเทพ" เข้าให้ปากคำตำรวจกองปราบ คดี "ทนายตั้ม" โกง"พี่อ้อย"แฉพยายามนำลูกมาเป็นบุตรบุญธรรมก่อนสอดไส้ตั้งตัวเองเป็นผู้จัดการมรดก เตรียมจ่อเปิดคลิปสาวไส้ในรายการสนธิทอล์ค พบปม 39 ล้าน โอนให้แก๊งสแกมเมอร์แค่ 1 แสน ที่เหลือนำมาแบ่งกัน เชื่อคดีคลี่คลายในเร็ววัน.วันนี้ (18 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เข้าให้ปากคำในฐานะพยานคดี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" ฉ้อโกง น.ส. จตุพร อุบลเลิศ หรือพี่อ้อย โดยนายปานเทพ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญมาเป็นพยาน ในฐานะที่เป็นผู้ได้รับเรื่องจาก นางจตุพร โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้นางจตุพรได้เดินทางมาที่บ้านพระอาทิตย์ เป็นครั้งที่ 3 เพื่อมาขอบคุณนายสนธิ ลิ้มทองกุล เว็บไซต์ผู้จัดการ และฝากขอบคุณสื่อมวลชนทุกค่ายที่ให้ข้อมูลเรื่องนี้.นายปานเทพ กล่าวว่านอกจากนี้ ยังมีการสัมภาษณ์เพิ่มเติมพิเศษในประเด็นอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นทำให้เราติดตามประเด็นนี้ต่อไป โดยเฉพาะคลิปที่สื่อมวลชนยังไม่ทราบ โดยเราจะเผยแพร่เป็นระยะ และจะสัมภาษณ์ น.ส.จตุพร เป็นกรณีพิเศษเพิ่มเติม รวมถึงหลังจากนี้รายการ สนธิทอล์ค จะเปิดคลิปที่เกี่ยวข้องกับคดี ในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งในขณะนี้มั่นใจแล้วว่ากรณีเงิน 39 ล้านบาท จะมีความคืบหน้าในคดีอย่างแน่นอน และจะมีความชัดเจนว่า มีการแบ่งเงินกันเท่าไหร่ และแบ่งไปให้ใครบ้าง ซึ่งทั้งหมดในขณะนี้ พี่อ้อย ได้ทราบข้อเท็จจริงแล้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทราบแล้วเช่นเดียวกัน จึงเชื่อว่าคดีนี้จะคลี่คลายในเร็ววันอย่างแน่นอน.นายปานเทพ กล่าวต่อว่าอย่างไรก็ตาม ยังมีบางประเด็นที่สังคมอาจจะยังไม่เข้าใจ กรณีที่ นายษิทรา มีความพยายามจะนำลูกมาเป็นบุตรบุญธรรมของพี่อ้อย ซึ่งพบว่า แท้ที่จริงแล้วมีขบวนการก่อนหน้านั้น คือการทำพินัยกรรม และให้นายษิทราเป็นผู้จัดการมรดก โดยเฉพาะครั้งแรกยังไม่มีผู้จัดการมรดก โดยครั้งที่ 2 สำนักงานทนายความษิทรา มีการแปลงเป็นผู้จัดการมรดก แล้วยังพบว่า มีพฤติการณ์ที่ตามมาหลังจากนั้น ทั้งเรื่องของการติด GPS ในรถของน.ส.จตุพร จนทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย และยังชวนไปในสถานที่ต่าง ๆ ที่อาจจะไม่มีสัญญาณ GPS ซึ่งนางจตุพรได้ปฏิเสธทั้งหมด.นายปานเทพ กล่าวต่อว่า แม้ขณะนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องพินัยกรรมเรียบร้อยแล้ว แต่นายษิทรายังไม่คืนพินัยกรรมฉบับก่อนไว้เลย แม้จะทวงถามไปแล้ว ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าได้ทำลายไปแล้ว แต่ก็ไม่เคยทำลายให้เห็นต่อหน้า น.ส.จตุพร ฉะนั้นข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำมาประกอบคดี ให้มีความแน่นหนามากขึ้นในข้อหาฉ้อโกงเป็นปกติธุระ ส่วนลักษณะฉ้อโกงเป็นอย่างไรจะเปิดให้ฟังในรายการสนธิทอล์คอีกครั้งหนึ่ง.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔸️นับตั้งแต่ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา ปริมาณอะลูมิเนียมในวัคซีนสำหรับเด็กเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเพิ่มขึ้นเป็นสี่เท่าของปริมาณทั้งหมด
    ในขณะเดียวกัน การวินิจฉัยโรคออทิซึมก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 27,000%
    https://thepeoplesvoice.tv/aluminum-levels-in-childhood.../
    ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของอะลูมิเนียมในวัคซีนมักเกี่ยวข้องกับบทบาทของอะลูมิเนียมในฐานะสารเสริมภูมิคุ้มกัน—ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น—การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมโยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างส่วนประกอบของวัคซีนและอัตราการเกิดออทิซึมที่เพิ่มมากขึ้น
    อัตราการเกิดโรคออทิซึมในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1980 เมื่อครั้งนั้น อัตราการวินิจฉัยโรคออทิซึมโดยประมาณอยู่ที่ 1 ใน 10,000 เด็ก ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 อัตราดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 150 และข้อมูลล่าสุดจากปี 2023 ระบุว่าอัตราดังกล่าวอยู่ที่ 1 ใน 36 เด็ก
    ดร. คริส เอ็กซ์ลีย์ จากมหาวิทยาลัยคีลในอังกฤษและเพื่อนร่วมงานได้ตีพิมพ์งานวิจัยที่ทำการศึกษาเนื้อเยื่อสมองของผู้ป่วยออทิสติกเป็นครั้งแรก เพื่อตรวจสอบระดับอะลูมิเนียม (หมายเหตุ: ในสหราชอาณาจักรผู้ป่วยสะกดคำว่า “อะลูมิเนียม” เป็น “อะลูมิเนียม”) ที่พบในเนื้อเยื่อสมอง
    สำหรับใครก็ตามที่พยายามจะโน้มน้าวโลกให้เชื่อว่า “วิทยาศาสตร์ได้รับการพิสูจน์แล้วและวัคซีนไม่ได้ทำให้เกิดโรคออทิซึม” ผลการศึกษานี้ขัดแย้งกับคำกล่าวนี้อย่างมาก
    ในโพสต์บล็อกที่เขียนโดยศาสตราจารย์เอ็กซ์ลีย์ในวันที่ผลการศึกษาของเขาได้รับการตีพิมพ์
    เขาได้อธิบายผลลัพธ์อันล้ำสมัยดังต่อไปนี้:
    “…ในขณะที่ปริมาณอะลูมิเนียมในสมองของผู้ป่วยออทิสติกทั้ง 5 รายนั้นสูงอย่างน่าตกใจ แต่ตำแหน่งในเนื้อเยื่อสมองต่างหากที่เป็นจุดสังเกตที่โดดเด่น…หลักฐานใหม่ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอะลูมิเนียมเข้าสู่สมองของผู้ป่วย ASD [กลุ่มอาการออทิสติก] ผ่านทางเซลล์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบซึ่งมีอะลูมิเนียมสะสมอยู่ในเลือดและ/หรือน้ำเหลือง ซึ่งก็เหมือนกับที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในโมโนไซต์ที่บริเวณที่ฉีดวัคซีนรวมถึงสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียม”
    คำพูดของดร. เอ็กซ์ลีย์รวมถึงการอ้างถึง “โมโนไซต์ที่บริเวณฉีด” และความจริงที่ว่าปฏิสัมพันธ์ระหว่างโมโนไซต์เหล่านี้กับอะลูมิเนียมได้รับการพิสูจน์แล้วในวิทยาศาสตร์ที่ตีพิมพ์ก่อนหน้านี้
    ฉันรู้ว่ามันฟังดูเป็นเทคนิคมาก แต่ลองฟังฉันก่อน
    “โมโนไซต์” คือเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง ซึ่งโมโนไซต์ชนิดหนึ่งคือ “แมคโครฟาจ” แมคโครฟาจอาจเปรียบได้กับมนุษย์ขยะในระบบภูมิคุ้มกันที่คอยกัดกินสิ่งแปลกปลอม เศษเซลล์ ฯลฯ
    อย่างที่คุณจะสังเกตเห็นในอีกไม่ช้านี้ ดูเหมือนว่าแมคโครฟาจจะมีบทบาทสำคัญและร้ายแรงในการกระตุ้นให้เกิดออทิซึม โดยทำหน้าที่นำอะลูมิเนียมที่มนุษย์สร้างขึ้นซึ่งฉีดจากวัคซีนโดยตรงเข้าไปในสมอง ซึ่งสามารถขัดขวางการพัฒนาของสมองและกระตุ้นให้เกิดออทิซึมได้
    การศึกษาวิจัยของดร. เอ็กซ์ลีย์เรื่อง “ อะลูมิเนียมในเนื้อเยื่อสมองและออทิซึม ” ถือได้ว่าเป็นชิ้นส่วนสุดท้ายของปริศนาที่เริ่มประกอบเข้าด้วยกันในปี 2004 และได้รับความสนใจมากขึ้นหลังปี 2010 ซึ่งช่วยส่งเสริมความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์อย่างมากว่าวัคซีนสามารถกระตุ้นให้เกิดออทิซึมได้อย่างไร
    ไทม์ไลน์นี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตระหนัก เนื่องจากศาลวัคซีนในสหรัฐฯ ได้ยกฟ้องสมมติฐานเกี่ยวกับวัคซีน-ออทิซึมในปี 2009 นานก่อนที่สิ่งที่ฉันจะอธิบายต่อไปนี้จะเกิดขึ้นเสียอีก
    วิทยาศาสตร์คือความต่อเนื่อง ความจริงที่ปรากฏผ่านการศึกษาหลาย ๆ อย่างซึ่งมักต้องนำมาประกอบเข้าด้วยกันก่อนจึงจะมองเห็นภาพรวมได้ชัดเจน และบางครั้งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อาจดำเนินไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งถึงจุดที่ความจริงที่ปรากฏปรากฏขึ้นในลักษณะที่ไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไป
    ในความเห็นของฉัน การศึกษาของดร. เอ็กซ์ลีย์ให้ข้อมูลเพียงส่วนเดียวที่ขาดหายไปจากคำอธิบายที่รัดกุมเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกชายของฉันและเด็กอีกหลายๆ คน และได้ให้ "ความน่าจะเป็นทางชีววิทยา" แก่ผู้ที่ไม่เชื่อทั้งหมดว่าวัคซีนที่ฉีดเข้าที่ไหล่ของทารกสามารถกระตุ้นให้เกิดโรคออทิซึมได้อย่างไร
    สำหรับชาวอเมริกัน การแข่งขันเพื่อค้นหาสาเหตุของโรคออทิซึมทั้งหมดนั้นน่าจะชนะได้ในต่างแดน ดังที่คุณจะเห็นในไม่ช้านี้ วิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่อธิบายสาเหตุของโรคออทิซึมมาจากต่างประเทศ แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จาก Caltech จะเป็นคนผลักโดมิโนตัวแรกไปเมื่อปี 2549 ก็ตาม
    ทำไมถึงมีอะลูมิเนียมอยู่ในวัคซีน?
    อะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบสำคัญของวัคซีนส่วนใหญ่ที่ให้กับเด็ก อะลูมิเนียมทำหน้าที่เป็น “สารเสริมภูมิคุ้มกัน” ซึ่งหมายความว่าอะลูมิเนียมทำหน้าที่ “ปลุก” ระบบภูมิคุ้มกันให้ตื่นขึ้น กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันจดจำ “แอนติเจน” ในวัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่างๆ ที่วัคซีนทำหน้าที่ป้องกันโรค
    ปริมาณอะลูมิเนียมในวัคซีนที่ให้กับเด็ก ๆพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเริ่มตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1990 ด้วยสาเหตุสองประการ: 1) มีการเพิ่มวัคซีนเข้าไปในตารางวัคซีนสำหรับเด็กมากขึ้น และ 2) อัตราการฉีดวัคซีนสำหรับวัคซีนทุกชนิดที่ให้กับเด็กเพิ่มขึ้น (จาก 50–60% ของเด็ก ๆ ที่ได้รับวัคซีนในช่วงกลางทศวรรษ 1980 เป็นมากกว่า 90% ในปัจจุบัน)
    ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 เด็กจะได้รับอะลูมิเนียมจากวัคซีน 1,250 ไมโครกรัมภายในอายุ 18 เดือนหากได้รับวัคซีนครบถ้วน ปัจจุบัน ตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 4,925 ไมโครกรัม ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสี่เท่าจากปริมาณอะลูมิเนียมทั้งหมด
    คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ในผลการศึกษาที่ยอดเยี่ยม ซึ่งตีพิมพ์โดย Neil Miller
    ที่น่าประหลาดใจก็คือ อะลูมิเนียมไม่เคยผ่านการทดสอบทางชีวภาพเพื่อพิจารณาถึงความปลอดภัยในการฉีดเข้าไปในทารก เนื่องจากอะลูมิเนียมได้รับการ "ยกเว้น" ไว้ในมาตรฐานความปลอดภัยสมัยใหม่ของเรา นักวิทยาศาสตร์ชาวแคนาดา ดร. คริส ชอว์ และ ดร. ลูซิจา ทอมเยโนวิช ได้กล่าวถึงการละเว้นนี้ในการศึกษาวิจัยเชิงวิจารณ์ที่พวกเขาตีพิมพ์ในปี 2011 ในวารสารCurrent Medicinal Chemistryชื่อว่า “ สารเสริมฤทธิ์วัคซีนอะลูมิเนียม: ปลอดภัยหรือไม่ ” พวกเขาเขียนว่า:
    “อะลูมิเนียมเป็นสารพิษต่อระบบประสาทที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากการทดลองและเป็นสารเสริมฤทธิ์วัคซีนที่ใช้กันทั่วไป แม้ว่าจะมีการใช้สารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมอย่างแพร่หลายมานานเกือบ 90 ปีแล้ว แต่ความเข้าใจของวิทยาศาสตร์การแพทย์เกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ของสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมยังคงต่ำอย่างน่าตกใจนอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับพิษวิทยาและเภสัชจลนศาสตร์ของสารประกอบเหล่านี้อย่างขาดแคลน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล แม้จะเป็นเช่นนั้น แนวคิดที่ว่าอะลูมิเนียมในวัคซีนนั้นปลอดภัยก็ยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางอย่างไรก็ตาม การวิจัยเชิงทดลองแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมมีศักยภาพในการทำให้เกิดความผิดปกติทางภูมิคุ้มกันที่ร้ายแรงในมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อะลูมิเนียมในรูปแบบสารเสริมฤทธิ์มีความเสี่ยงต่อภูมิคุ้มกันตนเอง การอักเสบของสมองในระยะยาว และภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาทที่เกี่ยวข้อง และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างกว้างขวางและรุนแรง”
    ICANตัดสินใจทดสอบความสามารถของ CDC และ NIH ในการผลิตงานวิจัยใดๆ เพื่อแสดงให้เห็นความปลอดภัยของสารเสริมฤทธิ์วัคซีนผ่านการฟ้องร้องภายใต้ FOIA ตอนนี้ฉันเดาว่าคุณคงรู้ว่าคดีจบลงอย่างไร... อ่านบทความฉบับสมบูรณ์
    “คำตอบของ CDC และ NIH ต่อคำร้องขอภายใต้พระราชบัญญัติเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล (FOIA) ของ ICAN เกี่ยวกับสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมเผยให้เห็นการยอมรับที่น่าตกตะลึง นั่นคือ พวกเขาไม่มีการศึกษาแม้แต่ชิ้นเดียวที่จะสนับสนุนความปลอดภัยในการแนะนำให้ฉีดสารพิษต่อเซลล์และระบบประสาทนี้ซ้ำๆ เป็นส่วนหนึ่งของตารางการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กของ CDC”
    🔸️นับตั้งแต่ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา ปริมาณอะลูมิเนียมในวัคซีนสำหรับเด็กเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเพิ่มขึ้นเป็นสี่เท่าของปริมาณทั้งหมด ในขณะเดียวกัน การวินิจฉัยโรคออทิซึมก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 27,000% https://thepeoplesvoice.tv/aluminum-levels-in-childhood.../ ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของอะลูมิเนียมในวัคซีนมักเกี่ยวข้องกับบทบาทของอะลูมิเนียมในฐานะสารเสริมภูมิคุ้มกัน—ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น—การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมโยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างส่วนประกอบของวัคซีนและอัตราการเกิดออทิซึมที่เพิ่มมากขึ้น อัตราการเกิดโรคออทิซึมในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1980 เมื่อครั้งนั้น อัตราการวินิจฉัยโรคออทิซึมโดยประมาณอยู่ที่ 1 ใน 10,000 เด็ก ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 อัตราดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 150 และข้อมูลล่าสุดจากปี 2023 ระบุว่าอัตราดังกล่าวอยู่ที่ 1 ใน 36 เด็ก ดร. คริส เอ็กซ์ลีย์ จากมหาวิทยาลัยคีลในอังกฤษและเพื่อนร่วมงานได้ตีพิมพ์งานวิจัยที่ทำการศึกษาเนื้อเยื่อสมองของผู้ป่วยออทิสติกเป็นครั้งแรก เพื่อตรวจสอบระดับอะลูมิเนียม (หมายเหตุ: ในสหราชอาณาจักรผู้ป่วยสะกดคำว่า “อะลูมิเนียม” เป็น “อะลูมิเนียม”) ที่พบในเนื้อเยื่อสมอง สำหรับใครก็ตามที่พยายามจะโน้มน้าวโลกให้เชื่อว่า “วิทยาศาสตร์ได้รับการพิสูจน์แล้วและวัคซีนไม่ได้ทำให้เกิดโรคออทิซึม” ผลการศึกษานี้ขัดแย้งกับคำกล่าวนี้อย่างมาก ในโพสต์บล็อกที่เขียนโดยศาสตราจารย์เอ็กซ์ลีย์ในวันที่ผลการศึกษาของเขาได้รับการตีพิมพ์ เขาได้อธิบายผลลัพธ์อันล้ำสมัยดังต่อไปนี้: “…ในขณะที่ปริมาณอะลูมิเนียมในสมองของผู้ป่วยออทิสติกทั้ง 5 รายนั้นสูงอย่างน่าตกใจ แต่ตำแหน่งในเนื้อเยื่อสมองต่างหากที่เป็นจุดสังเกตที่โดดเด่น…หลักฐานใหม่ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอะลูมิเนียมเข้าสู่สมองของผู้ป่วย ASD [กลุ่มอาการออทิสติก] ผ่านทางเซลล์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบซึ่งมีอะลูมิเนียมสะสมอยู่ในเลือดและ/หรือน้ำเหลือง ซึ่งก็เหมือนกับที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในโมโนไซต์ที่บริเวณที่ฉีดวัคซีนรวมถึงสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียม” คำพูดของดร. เอ็กซ์ลีย์รวมถึงการอ้างถึง “โมโนไซต์ที่บริเวณฉีด” และความจริงที่ว่าปฏิสัมพันธ์ระหว่างโมโนไซต์เหล่านี้กับอะลูมิเนียมได้รับการพิสูจน์แล้วในวิทยาศาสตร์ที่ตีพิมพ์ก่อนหน้านี้ ฉันรู้ว่ามันฟังดูเป็นเทคนิคมาก แต่ลองฟังฉันก่อน “โมโนไซต์” คือเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง ซึ่งโมโนไซต์ชนิดหนึ่งคือ “แมคโครฟาจ” แมคโครฟาจอาจเปรียบได้กับมนุษย์ขยะในระบบภูมิคุ้มกันที่คอยกัดกินสิ่งแปลกปลอม เศษเซลล์ ฯลฯ อย่างที่คุณจะสังเกตเห็นในอีกไม่ช้านี้ ดูเหมือนว่าแมคโครฟาจจะมีบทบาทสำคัญและร้ายแรงในการกระตุ้นให้เกิดออทิซึม โดยทำหน้าที่นำอะลูมิเนียมที่มนุษย์สร้างขึ้นซึ่งฉีดจากวัคซีนโดยตรงเข้าไปในสมอง ซึ่งสามารถขัดขวางการพัฒนาของสมองและกระตุ้นให้เกิดออทิซึมได้ การศึกษาวิจัยของดร. เอ็กซ์ลีย์เรื่อง “ อะลูมิเนียมในเนื้อเยื่อสมองและออทิซึม ” ถือได้ว่าเป็นชิ้นส่วนสุดท้ายของปริศนาที่เริ่มประกอบเข้าด้วยกันในปี 2004 และได้รับความสนใจมากขึ้นหลังปี 2010 ซึ่งช่วยส่งเสริมความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์อย่างมากว่าวัคซีนสามารถกระตุ้นให้เกิดออทิซึมได้อย่างไร ไทม์ไลน์นี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตระหนัก เนื่องจากศาลวัคซีนในสหรัฐฯ ได้ยกฟ้องสมมติฐานเกี่ยวกับวัคซีน-ออทิซึมในปี 2009 นานก่อนที่สิ่งที่ฉันจะอธิบายต่อไปนี้จะเกิดขึ้นเสียอีก วิทยาศาสตร์คือความต่อเนื่อง ความจริงที่ปรากฏผ่านการศึกษาหลาย ๆ อย่างซึ่งมักต้องนำมาประกอบเข้าด้วยกันก่อนจึงจะมองเห็นภาพรวมได้ชัดเจน และบางครั้งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อาจดำเนินไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งถึงจุดที่ความจริงที่ปรากฏปรากฏขึ้นในลักษณะที่ไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไป ในความเห็นของฉัน การศึกษาของดร. เอ็กซ์ลีย์ให้ข้อมูลเพียงส่วนเดียวที่ขาดหายไปจากคำอธิบายที่รัดกุมเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกชายของฉันและเด็กอีกหลายๆ คน และได้ให้ "ความน่าจะเป็นทางชีววิทยา" แก่ผู้ที่ไม่เชื่อทั้งหมดว่าวัคซีนที่ฉีดเข้าที่ไหล่ของทารกสามารถกระตุ้นให้เกิดโรคออทิซึมได้อย่างไร สำหรับชาวอเมริกัน การแข่งขันเพื่อค้นหาสาเหตุของโรคออทิซึมทั้งหมดนั้นน่าจะชนะได้ในต่างแดน ดังที่คุณจะเห็นในไม่ช้านี้ วิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่อธิบายสาเหตุของโรคออทิซึมมาจากต่างประเทศ แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จาก Caltech จะเป็นคนผลักโดมิโนตัวแรกไปเมื่อปี 2549 ก็ตาม ทำไมถึงมีอะลูมิเนียมอยู่ในวัคซีน? อะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบสำคัญของวัคซีนส่วนใหญ่ที่ให้กับเด็ก อะลูมิเนียมทำหน้าที่เป็น “สารเสริมภูมิคุ้มกัน” ซึ่งหมายความว่าอะลูมิเนียมทำหน้าที่ “ปลุก” ระบบภูมิคุ้มกันให้ตื่นขึ้น กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันจดจำ “แอนติเจน” ในวัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่างๆ ที่วัคซีนทำหน้าที่ป้องกันโรค ปริมาณอะลูมิเนียมในวัคซีนที่ให้กับเด็ก ๆพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเริ่มตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1990 ด้วยสาเหตุสองประการ: 1) มีการเพิ่มวัคซีนเข้าไปในตารางวัคซีนสำหรับเด็กมากขึ้น และ 2) อัตราการฉีดวัคซีนสำหรับวัคซีนทุกชนิดที่ให้กับเด็กเพิ่มขึ้น (จาก 50–60% ของเด็ก ๆ ที่ได้รับวัคซีนในช่วงกลางทศวรรษ 1980 เป็นมากกว่า 90% ในปัจจุบัน) ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 เด็กจะได้รับอะลูมิเนียมจากวัคซีน 1,250 ไมโครกรัมภายในอายุ 18 เดือนหากได้รับวัคซีนครบถ้วน ปัจจุบัน ตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 4,925 ไมโครกรัม ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสี่เท่าจากปริมาณอะลูมิเนียมทั้งหมด คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ในผลการศึกษาที่ยอดเยี่ยม ซึ่งตีพิมพ์โดย Neil Miller ที่น่าประหลาดใจก็คือ อะลูมิเนียมไม่เคยผ่านการทดสอบทางชีวภาพเพื่อพิจารณาถึงความปลอดภัยในการฉีดเข้าไปในทารก เนื่องจากอะลูมิเนียมได้รับการ "ยกเว้น" ไว้ในมาตรฐานความปลอดภัยสมัยใหม่ของเรา นักวิทยาศาสตร์ชาวแคนาดา ดร. คริส ชอว์ และ ดร. ลูซิจา ทอมเยโนวิช ได้กล่าวถึงการละเว้นนี้ในการศึกษาวิจัยเชิงวิจารณ์ที่พวกเขาตีพิมพ์ในปี 2011 ในวารสารCurrent Medicinal Chemistryชื่อว่า “ สารเสริมฤทธิ์วัคซีนอะลูมิเนียม: ปลอดภัยหรือไม่ ” พวกเขาเขียนว่า: “อะลูมิเนียมเป็นสารพิษต่อระบบประสาทที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากการทดลองและเป็นสารเสริมฤทธิ์วัคซีนที่ใช้กันทั่วไป แม้ว่าจะมีการใช้สารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมอย่างแพร่หลายมานานเกือบ 90 ปีแล้ว แต่ความเข้าใจของวิทยาศาสตร์การแพทย์เกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ของสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมยังคงต่ำอย่างน่าตกใจนอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับพิษวิทยาและเภสัชจลนศาสตร์ของสารประกอบเหล่านี้อย่างขาดแคลน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล แม้จะเป็นเช่นนั้น แนวคิดที่ว่าอะลูมิเนียมในวัคซีนนั้นปลอดภัยก็ยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางอย่างไรก็ตาม การวิจัยเชิงทดลองแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมมีศักยภาพในการทำให้เกิดความผิดปกติทางภูมิคุ้มกันที่ร้ายแรงในมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อะลูมิเนียมในรูปแบบสารเสริมฤทธิ์มีความเสี่ยงต่อภูมิคุ้มกันตนเอง การอักเสบของสมองในระยะยาว และภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาทที่เกี่ยวข้อง และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างกว้างขวางและรุนแรง” ICANตัดสินใจทดสอบความสามารถของ CDC และ NIH ในการผลิตงานวิจัยใดๆ เพื่อแสดงให้เห็นความปลอดภัยของสารเสริมฤทธิ์วัคซีนผ่านการฟ้องร้องภายใต้ FOIA ตอนนี้ฉันเดาว่าคุณคงรู้ว่าคดีจบลงอย่างไร... อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ “คำตอบของ CDC และ NIH ต่อคำร้องขอภายใต้พระราชบัญญัติเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล (FOIA) ของ ICAN เกี่ยวกับสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมเผยให้เห็นการยอมรับที่น่าตกตะลึง นั่นคือ พวกเขาไม่มีการศึกษาแม้แต่ชิ้นเดียวที่จะสนับสนุนความปลอดภัยในการแนะนำให้ฉีดสารพิษต่อเซลล์และระบบประสาทนี้ซ้ำๆ เป็นส่วนหนึ่งของตารางการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กของ CDC”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17 พ.ย. 2567 – นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง จับหมาไปขังได้แล้ว!!! ผ่านเว็บไซต์ www.thaipost.net มีเนื้อหาดังนี้ถาม เห็นตัวแทนราชทัณฑ์ตอบคณะกรรมาธิการสภาว่า รับตัวทักษิณเข้าเรือนจำแล้ว ก็ส่งตัวไป รพ.ตำรวจเลย โดยอธิบายว่าทางพยาบาลได้โทรศัพท์ปรึกษากับหมอของเรือนจำแล้ว ซึ่งทางกรรมาธิการตรวจสอบข้อมูลแล้วบอกว่า ทั้งหมดนี้ทักษิณใช้เวลาอยู่ในเรือนจำแค่ ๔ นาทีเท่านั้นตรงจุดนี้ผมข้องใจจริงๆครับ อาจารย์ค้นกฎกระทรวงว่าด้วยการส่งตัวผู้ต้องขัง พ.ศ.๒๕๖๓ แล้ว เขาเปิดให้ทำกันง่ายๆอย่างนี้หรือตอบ ไม่จริงครับ ข้อ ๒ ของกฎกระทรวงระบุชัดเจนว่า นักโทษต้องรับการตรวจทางการแพทย์ก่อน“ข้อ ๒ เมื่อผู้บัญชาการเรือนจำได้รับรายงานจากเจ้าพนักงานเรือนจำว่า ผู้ต้องขังคนใดป่วย ให้ส่งตัวผู้ต้องขังคนนั้นไปรับการตรวจในสถานพยาบาล ของเรือนจำ” เมื่อไม่มีการตรวจเลยเช่นนี้ นี่จึงเป็นการละเว้นหน้าที่เป็นข้อแรก ที่ ปปช.จะขอเวชระเบียน ขอใบส่งตัวอะไรของหมอเรือนจำนั่น มันก็ไม่มีหรอกครับถาม ตามกฎกระทรวงนี้ ตรวจแล้วต้องทำยังไงต่อครับตอบ กฎกระทรวงกำหนดว่า ถ้าตรวจแล้วฝ่ายการแพทย์ของเรือนจำรายงานว่า รักษาในโรงพยาบาลเรือนจำจะไม่ทุเลาดีขึ้น ให้ดำเนินการดังนี้“(๑) กรณีผู้บัญชาการเรือนจำอนุญาต ให้เจ้าพนักงานเรือนจำพาผู้ต้องขังคนนั้นไปและกลับในวันเดียวกัน(๒) หากแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษามีความเห็นว่า สมควรรับตัวผู้ต้องขังคนนั้นไว้รักษา ให้เจ้าพนักงาน เรือนจำซึ่งพาผู้ต้องขังคนนั้นไปตรวจรักษาขอหลักฐานและความเห็นของแพทย์ผู้ทำาการตรวจรักษา ประกอบการจัดทำรายงานเสนอผู้บัญชาการเรือนจำพิจารณา ถ้าผู้บัญชาการเรือนจำเห็นด้วยกับ ความเห็นของแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา ให้มีคำสั่งอนุญาตให้รับตัวไว้รักษา”ถาม อ้าว..ตามพฤติการณ์จริงที่ปรากฏนั้น เมื่อส่งทักษิณไปถึงโรงพยาบาลตำรวจแล้ว เขาก็รับตัวไว้ ยาวไป ๖ เดือนเลยนี่ครับ โดยไม่มีการสื่อสารให้ทางราชทัณฑ์อนุญาตหรือไม่อนุญาตเลย จะอยู่จริงหรือไม่นานแค่ไหนก็ไม่มีใครยืนยันได้ตอบ นี่เป็นการละเว้นหน้าที่อย่างชัดเจนเป็นข้อที่ ๒ ดังนั้น ปปช.จะไปขอเวชระเบียน ใบส่งตัว ใบรับตัวพร้อมบันทึกการตรวจร่างกายอะไรก็ไม่มีหรอกครับ ขั้นตอนอนุญาตของ ผบ.เรือนจำข้อนี้สำคัญมากขาดไม่ได้ กฎกระทรวงระบุชัดว่า“กรณีผู้บัญชาการเรือนจำไม่เห็นด้วยกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา ให้เจ้าพนักงาน นำตัวผู้ต้องขังคนนั้นกลับเข้ารักษาพยาบาลภายในเรือนจำ”ตอบ กฎกระทรวงระบุไว้รัดกุมครับว่า“เมื่อผู้บัญชาการเรือนจำอนุญาตให้ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้จัดเจ้าพนักงานเรือนจำอย่างน้อยจำนวนสองคนควบคุมผู้ต้องขังป่วยหนึ่งคนให้อยู่ภายใน เขตที่กำหนดให้เจ้าพนักงานเรือนจำซึ่งมีหน้าที่ควบคุมผู้ต้องขังจดบันทึกข้อมูลผู้เข้าเยี่ยม และเวลา เข้าเยี่ยมโดยละเอียด และดูแลให้ผู้เข้าเยี่ยมปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำใช้สิทธิของผู้ต้องขังตามที่ทางราชการจัดให้และห้ามเข้าอยู่ในห้องพักพิเศษแยกจากผู้ป่วยทั่วไปรับประทานอาหารตามที่สถานที่รักษา ๓ จัดให้”ถาม เห็นพลตำรวจเอกเสรี เตมียเวส ท่านให้การต่อ ปปช.ว่า เมื่อไปเยี่ยมทักษิณสองครั้งนั้น ท่านไม่เห็นมีพนักงานอยู่ประจำเลย ห้องพักก็เป็นห้องพิเศษ ชั้น ๑๔ ทั้งชั้นเห็นเปิดอยู่ห้องเดียว อาหารการกินสมบูรณ์มีข้าวเหนียวมะม่วงเลี้ยงแขกด้วยนะครับตอบ นี่ก็เป็นการละเว้นหน้าที่เป็นข้อที่สามครับ พวกเขาทำจน รพ.ตำรวจกลายเป็นโรงแรมไปเลย มีนักโทษคนเดียวในประวัติศาสตร์ไทยเท่านั้นได้รับบริการอย่างนี้ถาม พอส่ง โรงพยาบาลตำรวจแล้ว ในกฎกระทรวงไม่มีการตรวจสอบอะไรอีกเลยหรือครับ อยู่นอกเรือนจำตั้ง ๖ เดือน แล้วก็พักโทษไปเลย ง่ายๆอย่างนี้เลยหรือตอบ กฎหมายเขากำหนดการตรวจสอบทางบริหารไว้อย่างนี้ครับ“- หากพักรักษาตัวเกินกว่าสามสิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องหากพักรักษาตัวเกินกว่าหกสิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้ปลัดกระทรวงทราบ-หากพักรักษาตัวเกินกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้รัฐมนตรีทราบ”ถาม แล้วเขามีหนังสือและรายงานอย่างที่ว่านี้ไหมครับตอบ รัฐมนตรี บอกว่ามี และได้เห็นผลตรวจ MRI ด้วย ผมเข้าใจได้ว่าเป็นผลการตรวจก่อนผ่าซ่อมเอ็นหัวไหล่เท่านั้น ซึ่งอาการอย่างนี้ผู้สูงอายุเป็นกันทั่วไป ผ่าวันเดียวก็กลับเรือนจำได้แล้ว เอามาอ้างอยู่นอกเรือนจำเป็น ๖ เดือนไม่ได้หรอกครับ รายงานและหลักฐานที่ว่านี้จะมีจริงไหม ถูกต้องหรือไม่ ทั้ง ปปช.และ กมธ ก็ยังไม่มีใครได้มาวิเคราะห์เลยถาม แล้วที่คุณชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ท่านร้องให้ศาลไต่สวนว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ราชทัณฑ์ต้องขอให้ศาลออกคำสั่งทุเลาการลงโทษก่อน จึงจะนอนโรงพยาบาลตำรวจได้ ถ้าไม่ผ่านศาลก็ต้องถือว่าไม่ถูกต้อง ศาลต้องออกหมายจับทักษิณมาขังให้ครบ ๑ ปี นั้น คำร้องนี้ถูกต้องให้ศาลรับวินิจฉัยได้ไหมครับตอบ มาตรานั้น ให้ศาลสั่งได้เมื่อญาติ หรือเรือนจำ ร้องขอ หรือเมื่อศาลเห็นเองว่า จำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก ก็ให้ส่งไปบำบัดรักษานอกคุกได้ แต่กรณีทักษิณนี่ เขาอธิบายว่าเป็นการรักษาตามความจำเป็น ตามอำนาจของราชทัณฑ์ ศาลไม่เกี่ยว จริงๆแล้วกฎกระทรวงน่าจะจำกัดเวลาไว้เลยว่า ถ้าต้องรักษาเกิน ๓๐ วันให้ราชทัณฑ์ไปขอคำสั่งทุเลาการลงโทษ ถ้ากำหนดอย่างนี้ศาลก็จะตรวจสอบได้ตามอำนาจในกฎหมาย โอกาสติดคุกทิพย์ก็จะจำกัดอีกมากถาม แต่เฉพาะปัญหาว่าราชทัณฑ์ทำถูกต้องหรือไม่นี่ มันพอแล้วหรือยังครับที่ ปปช.จะมีมติตั้งข้อกล่าวหาผู้รับผิดชอบว่ากระทำผิดอาญา และมีมติส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจผู้บังคับบัญชา สั่งราชทัณฑ์ให้ร้องศาลให้ออกหมายขัง นำตัวนักโทษกลับเข้าคุกด้วยตอบ เห็นเขาบอกให้หมาอยู่ส่วนหมา คนอยู่ส่วนคน ผมว่าเมื่อปล่อยออกมาโดยไม่ชอบชัดเจนจะๆ และยังพองขนอหังการคับบ้านเมืองอยู่นอกกรงอย่างนี้ ก็ควรจับไปขังได้แล้วครับ
    17 พ.ย. 2567 – นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง จับหมาไปขังได้แล้ว!!! ผ่านเว็บไซต์ www.thaipost.net มีเนื้อหาดังนี้ถาม เห็นตัวแทนราชทัณฑ์ตอบคณะกรรมาธิการสภาว่า รับตัวทักษิณเข้าเรือนจำแล้ว ก็ส่งตัวไป รพ.ตำรวจเลย โดยอธิบายว่าทางพยาบาลได้โทรศัพท์ปรึกษากับหมอของเรือนจำแล้ว ซึ่งทางกรรมาธิการตรวจสอบข้อมูลแล้วบอกว่า ทั้งหมดนี้ทักษิณใช้เวลาอยู่ในเรือนจำแค่ ๔ นาทีเท่านั้นตรงจุดนี้ผมข้องใจจริงๆครับ อาจารย์ค้นกฎกระทรวงว่าด้วยการส่งตัวผู้ต้องขัง พ.ศ.๒๕๖๓ แล้ว เขาเปิดให้ทำกันง่ายๆอย่างนี้หรือตอบ ไม่จริงครับ ข้อ ๒ ของกฎกระทรวงระบุชัดเจนว่า นักโทษต้องรับการตรวจทางการแพทย์ก่อน“ข้อ ๒ เมื่อผู้บัญชาการเรือนจำได้รับรายงานจากเจ้าพนักงานเรือนจำว่า ผู้ต้องขังคนใดป่วย ให้ส่งตัวผู้ต้องขังคนนั้นไปรับการตรวจในสถานพยาบาล ของเรือนจำ” เมื่อไม่มีการตรวจเลยเช่นนี้ นี่จึงเป็นการละเว้นหน้าที่เป็นข้อแรก ที่ ปปช.จะขอเวชระเบียน ขอใบส่งตัวอะไรของหมอเรือนจำนั่น มันก็ไม่มีหรอกครับถาม ตามกฎกระทรวงนี้ ตรวจแล้วต้องทำยังไงต่อครับตอบ กฎกระทรวงกำหนดว่า ถ้าตรวจแล้วฝ่ายการแพทย์ของเรือนจำรายงานว่า รักษาในโรงพยาบาลเรือนจำจะไม่ทุเลาดีขึ้น ให้ดำเนินการดังนี้“(๑) กรณีผู้บัญชาการเรือนจำอนุญาต ให้เจ้าพนักงานเรือนจำพาผู้ต้องขังคนนั้นไปและกลับในวันเดียวกัน(๒) หากแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษามีความเห็นว่า สมควรรับตัวผู้ต้องขังคนนั้นไว้รักษา ให้เจ้าพนักงาน เรือนจำซึ่งพาผู้ต้องขังคนนั้นไปตรวจรักษาขอหลักฐานและความเห็นของแพทย์ผู้ทำาการตรวจรักษา ประกอบการจัดทำรายงานเสนอผู้บัญชาการเรือนจำพิจารณา ถ้าผู้บัญชาการเรือนจำเห็นด้วยกับ ความเห็นของแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา ให้มีคำสั่งอนุญาตให้รับตัวไว้รักษา”ถาม อ้าว..ตามพฤติการณ์จริงที่ปรากฏนั้น เมื่อส่งทักษิณไปถึงโรงพยาบาลตำรวจแล้ว เขาก็รับตัวไว้ ยาวไป ๖ เดือนเลยนี่ครับ โดยไม่มีการสื่อสารให้ทางราชทัณฑ์อนุญาตหรือไม่อนุญาตเลย จะอยู่จริงหรือไม่นานแค่ไหนก็ไม่มีใครยืนยันได้ตอบ นี่เป็นการละเว้นหน้าที่อย่างชัดเจนเป็นข้อที่ ๒ ดังนั้น ปปช.จะไปขอเวชระเบียน ใบส่งตัว ใบรับตัวพร้อมบันทึกการตรวจร่างกายอะไรก็ไม่มีหรอกครับ ขั้นตอนอนุญาตของ ผบ.เรือนจำข้อนี้สำคัญมากขาดไม่ได้ กฎกระทรวงระบุชัดว่า“กรณีผู้บัญชาการเรือนจำไม่เห็นด้วยกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา ให้เจ้าพนักงาน นำตัวผู้ต้องขังคนนั้นกลับเข้ารักษาพยาบาลภายในเรือนจำ”ตอบ กฎกระทรวงระบุไว้รัดกุมครับว่า“เมื่อผู้บัญชาการเรือนจำอนุญาตให้ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้จัดเจ้าพนักงานเรือนจำอย่างน้อยจำนวนสองคนควบคุมผู้ต้องขังป่วยหนึ่งคนให้อยู่ภายใน เขตที่กำหนดให้เจ้าพนักงานเรือนจำซึ่งมีหน้าที่ควบคุมผู้ต้องขังจดบันทึกข้อมูลผู้เข้าเยี่ยม และเวลา เข้าเยี่ยมโดยละเอียด และดูแลให้ผู้เข้าเยี่ยมปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำใช้สิทธิของผู้ต้องขังตามที่ทางราชการจัดให้และห้ามเข้าอยู่ในห้องพักพิเศษแยกจากผู้ป่วยทั่วไปรับประทานอาหารตามที่สถานที่รักษา ๓ จัดให้”ถาม เห็นพลตำรวจเอกเสรี เตมียเวส ท่านให้การต่อ ปปช.ว่า เมื่อไปเยี่ยมทักษิณสองครั้งนั้น ท่านไม่เห็นมีพนักงานอยู่ประจำเลย ห้องพักก็เป็นห้องพิเศษ ชั้น ๑๔ ทั้งชั้นเห็นเปิดอยู่ห้องเดียว อาหารการกินสมบูรณ์มีข้าวเหนียวมะม่วงเลี้ยงแขกด้วยนะครับตอบ นี่ก็เป็นการละเว้นหน้าที่เป็นข้อที่สามครับ พวกเขาทำจน รพ.ตำรวจกลายเป็นโรงแรมไปเลย มีนักโทษคนเดียวในประวัติศาสตร์ไทยเท่านั้นได้รับบริการอย่างนี้ถาม พอส่ง โรงพยาบาลตำรวจแล้ว ในกฎกระทรวงไม่มีการตรวจสอบอะไรอีกเลยหรือครับ อยู่นอกเรือนจำตั้ง ๖ เดือน แล้วก็พักโทษไปเลย ง่ายๆอย่างนี้เลยหรือตอบ กฎหมายเขากำหนดการตรวจสอบทางบริหารไว้อย่างนี้ครับ“- หากพักรักษาตัวเกินกว่าสามสิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องหากพักรักษาตัวเกินกว่าหกสิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้ปลัดกระทรวงทราบ-หากพักรักษาตัวเกินกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้รัฐมนตรีทราบ”ถาม แล้วเขามีหนังสือและรายงานอย่างที่ว่านี้ไหมครับตอบ รัฐมนตรี บอกว่ามี และได้เห็นผลตรวจ MRI ด้วย ผมเข้าใจได้ว่าเป็นผลการตรวจก่อนผ่าซ่อมเอ็นหัวไหล่เท่านั้น ซึ่งอาการอย่างนี้ผู้สูงอายุเป็นกันทั่วไป ผ่าวันเดียวก็กลับเรือนจำได้แล้ว เอามาอ้างอยู่นอกเรือนจำเป็น ๖ เดือนไม่ได้หรอกครับ รายงานและหลักฐานที่ว่านี้จะมีจริงไหม ถูกต้องหรือไม่ ทั้ง ปปช.และ กมธ ก็ยังไม่มีใครได้มาวิเคราะห์เลยถาม แล้วที่คุณชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ท่านร้องให้ศาลไต่สวนว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ราชทัณฑ์ต้องขอให้ศาลออกคำสั่งทุเลาการลงโทษก่อน จึงจะนอนโรงพยาบาลตำรวจได้ ถ้าไม่ผ่านศาลก็ต้องถือว่าไม่ถูกต้อง ศาลต้องออกหมายจับทักษิณมาขังให้ครบ ๑ ปี นั้น คำร้องนี้ถูกต้องให้ศาลรับวินิจฉัยได้ไหมครับตอบ มาตรานั้น ให้ศาลสั่งได้เมื่อญาติ หรือเรือนจำ ร้องขอ หรือเมื่อศาลเห็นเองว่า จำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก ก็ให้ส่งไปบำบัดรักษานอกคุกได้ แต่กรณีทักษิณนี่ เขาอธิบายว่าเป็นการรักษาตามความจำเป็น ตามอำนาจของราชทัณฑ์ ศาลไม่เกี่ยว จริงๆแล้วกฎกระทรวงน่าจะจำกัดเวลาไว้เลยว่า ถ้าต้องรักษาเกิน ๓๐ วันให้ราชทัณฑ์ไปขอคำสั่งทุเลาการลงโทษ ถ้ากำหนดอย่างนี้ศาลก็จะตรวจสอบได้ตามอำนาจในกฎหมาย โอกาสติดคุกทิพย์ก็จะจำกัดอีกมากถาม แต่เฉพาะปัญหาว่าราชทัณฑ์ทำถูกต้องหรือไม่นี่ มันพอแล้วหรือยังครับที่ ปปช.จะมีมติตั้งข้อกล่าวหาผู้รับผิดชอบว่ากระทำผิดอาญา และมีมติส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจผู้บังคับบัญชา สั่งราชทัณฑ์ให้ร้องศาลให้ออกหมายขัง นำตัวนักโทษกลับเข้าคุกด้วยตอบ เห็นเขาบอกให้หมาอยู่ส่วนหมา คนอยู่ส่วนคน ผมว่าเมื่อปล่อยออกมาโดยไม่ชอบชัดเจนจะๆ และยังพองขนอหังการคับบ้านเมืองอยู่นอกกรงอย่างนี้ ก็ควรจับไปขังได้แล้วครับ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥สูตรพอลลิตินสำหรับปรับสมดุลระบบลำไส้และระบบเลือดในผู้ป่วยมะเร็งการดูแลระบบลำไส้และระบบเลือดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง เนื่องจากส่งผลโดยตรงต่อภูมิคุ้มกัน การฟื้นฟูร่างกาย และการตอบสนองต่อการรักษา สูตรนี้จึงออกแบบมาเพื่อช่วยฟื้นฟูและเสริมสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้:---💥ส่วนผสมสำคัญ ในสูตรปรับสมดุล1. วิทกราส (Wheatgrass)ล้างสารพิษในเลือดและระบบน้ำเหลืองเพิ่มการสร้างเม็ดเลือดแดงและออกซิเจนในร่างกายลดการอักเสบและสนับสนุนการฟื้นฟูระบบย่อยอาหาร2. พอลลิทรักซ์ (Pollitrix)ซินไบโอติกซ์ที่ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ส่งเสริมการดูดซึมสารอาหารและสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบลำไส้3. พอลลิทอล (Pollitol)อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ฟื้นฟูระบบเลือด และช่วยลดการอักเสบในร่างกายเสริมสร้างพลังงานและสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูร่างกาย4. พอลลิตัน (Pollitan)ช่วยฟื้นฟูและบำรุงเซลล์ในระดับลึกส่งเสริมการสร้างเนื้อเยื่อใหม่และซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายเสริมระบบไหลเวียนเลือดและการขนส่งออกซิเจน5. พอลลิแทป (Pollitap)ช่วยปรับสมดุลระบบเลือด เพิ่มการไหลเวียนและออกซิเจนบำรุงระบบประสาทและเพิ่มพลังงานในเซลล์ช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อและภูมิคุ้มกัน---🌿คุณประโยชน์เด่นของสูตรนี้👉ปรับสมดุลระบบลำไส้: สนับสนุนสุขภาพจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น👉เสริมระบบเลือด: ช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด เสริมการสร้างเม็ดเลือดแดง และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงของการรักษามะเร็ง👉ลดการอักเสบ: ช่วยลดการอักเสบในลำไส้และระบบเลือด ฟื้นฟูเซลล์ที่เสียหายจากมะเร็ง👉เพิ่มพลังงานและการฟื้นฟู: เสริมสร้างพลังงานในระดับเซลล์เพื่อรองรับการรักษาและฟื้นฟูร่างกายคำแนะนำควรใช้ พอลลิติน ควบคู่กับการรักษาทางการแพทย์แบบหลัก และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการดูแลสุขภาพและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็ง.📌สนใจสั่งซื้อ กดที่ลิงค์https://www.myhmpm.com/shopping/?sp_code=H00020333ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด☎️. 090-465-6360ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์https://lin.ee/pBbSqSD#ทางเลือกการรักษามะเร็ง #รักษามะเร็งแบบธรรมชาติ #สารอาหารต้านมะเร็ง #บำรุงสุขภาพต้านมะเร็ง #สมุนไพรบำบัดมะเร็ง #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #บำบัดด้วยอาหาร #สุขภาพและโภชนาการ #โภชนเภสัชศาสตร์ #พอลลิตินเพื่อสุขภาพ
    🔥สูตรพอลลิตินสำหรับปรับสมดุลระบบลำไส้และระบบเลือดในผู้ป่วยมะเร็งการดูแลระบบลำไส้และระบบเลือดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง เนื่องจากส่งผลโดยตรงต่อภูมิคุ้มกัน การฟื้นฟูร่างกาย และการตอบสนองต่อการรักษา สูตรนี้จึงออกแบบมาเพื่อช่วยฟื้นฟูและเสริมสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้:---💥ส่วนผสมสำคัญ ในสูตรปรับสมดุล1. วิทกราส (Wheatgrass)ล้างสารพิษในเลือดและระบบน้ำเหลืองเพิ่มการสร้างเม็ดเลือดแดงและออกซิเจนในร่างกายลดการอักเสบและสนับสนุนการฟื้นฟูระบบย่อยอาหาร2. พอลลิทรักซ์ (Pollitrix)ซินไบโอติกซ์ที่ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ส่งเสริมการดูดซึมสารอาหารและสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบลำไส้3. พอลลิทอล (Pollitol)อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ฟื้นฟูระบบเลือด และช่วยลดการอักเสบในร่างกายเสริมสร้างพลังงานและสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูร่างกาย4. พอลลิตัน (Pollitan)ช่วยฟื้นฟูและบำรุงเซลล์ในระดับลึกส่งเสริมการสร้างเนื้อเยื่อใหม่และซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายเสริมระบบไหลเวียนเลือดและการขนส่งออกซิเจน5. พอลลิแทป (Pollitap)ช่วยปรับสมดุลระบบเลือด เพิ่มการไหลเวียนและออกซิเจนบำรุงระบบประสาทและเพิ่มพลังงานในเซลล์ช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อและภูมิคุ้มกัน---🌿คุณประโยชน์เด่นของสูตรนี้👉ปรับสมดุลระบบลำไส้: สนับสนุนสุขภาพจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น👉เสริมระบบเลือด: ช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด เสริมการสร้างเม็ดเลือดแดง และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงของการรักษามะเร็ง👉ลดการอักเสบ: ช่วยลดการอักเสบในลำไส้และระบบเลือด ฟื้นฟูเซลล์ที่เสียหายจากมะเร็ง👉เพิ่มพลังงานและการฟื้นฟู: เสริมสร้างพลังงานในระดับเซลล์เพื่อรองรับการรักษาและฟื้นฟูร่างกายคำแนะนำควรใช้ พอลลิติน ควบคู่กับการรักษาทางการแพทย์แบบหลัก และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการดูแลสุขภาพและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็ง.📌สนใจสั่งซื้อ กดที่ลิงค์https://www.myhmpm.com/shopping/?sp_code=H00020333ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด☎️. 090-465-6360ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์https://lin.ee/pBbSqSD#ทางเลือกการรักษามะเร็ง #รักษามะเร็งแบบธรรมชาติ #สารอาหารต้านมะเร็ง #บำรุงสุขภาพต้านมะเร็ง #สมุนไพรบำบัดมะเร็ง #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #บำบัดด้วยอาหาร #สุขภาพและโภชนาการ #โภชนเภสัชศาสตร์ #พอลลิตินเพื่อสุขภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • ** #หน้าใส​ ไม่=​ #เซลล์ผิวหน้าแข็งแรง ! **

    ในบางครั้ง แม้ผิวของเราจะดูใส ดูสุขภาพดีเมื่อมอง จากภายนอก แต่ลึกๆแล้ว ผิวอาจกำลังเผชิญปัญหาความอ่อนแออยู่ก็เป็นได้ โดยที่เรามองไม่เห็นหรือไม่ทันสังเกต

    >>> นี่คือ​ 3 สัญญาณ​สำคัญ‼️ ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณ "อาจจะ" ไม่ได้แข็งแรง​ อย่างที่เห็น

    1. ผิว #ระคายเคืองง่าย และ #มีรอยแดง

    หากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะระคายเคืองง่าย เช่น รู้สึกแสบ คัน มีรอยแดง หรือแม้กระทั่งมีผดเล็กๆ ขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือสัมผัสกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผิวของคุณอาจจะอ่อนแอกว่าที่คิด อาการระคายเคืองง่ายนี้เกิดขึ้นจากการที่เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวไวต่อสิ่งเร้าจากภายนอก เช่น มลภาวะ ฝุ่น หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ (Purnamawati et al., 2017)

    2. ผิว #แห้ง หรือ #ขาดความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว

    อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวของคุณกำลังอ่อนแอ คือ การที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย แม้จะใช้ครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ หากผิวแห้งหรือขาดน้ำบ่อยๆ นั่นอาจแปลว่าผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ผิวสูญเสียไขมันตามธรรมชาติหรือโครงสร้างผิวไม่แข็งแรงพอ การที่ผิวแห้งกร้านง่ายทำให้เกิดริ้วรอยและผิวที่หมองคล้ำเร็วกว่าปกติ (Proksch et al., 2008).

    3. ผิว #ฟื้นตัวช้า หลัง #โดนแสงแดด หรือ #ทำความสะอาด

    ผิวที่อ่อนแอมักจะฟื้นตัวได้ช้าหลังจากเจอความรุนแรงจากภายนอก เช่น การโดนแสงแดดแรงๆ หรือการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก หากหลังจากออกแดดแล้วผิวมีรอยแดง นานกว่าปกติ หรือรู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้าโดยที่ผิวไม่คืนสภาพได้รวดเร็ว ผิวของคุณอาจกำลังส่งสัญญาณว่าต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอ่อนแอลงไปอีก (Krutmann et al., 2014).

    การดูแลผิวให้แข็งแรงจากภายในจึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้ผิวจะดูใสแต่ก็ไม่ควรละเลยสัญญาณเหล่านี้ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณอาจจะไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เห็น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ สารให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดหรือมลภาวะโดยตรง จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาแข็งแรง สดใส และสุขภาพดีอย่างแท้จริง

    -------

    ทำไม " #สารอาหารผิวในรูปแป้ง #COCON " จึงเหมาะสมต่อการ "ฟื้นฟูผิวอ่อนแอ" และ "ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ" ?

    COCON คือ #สารอาหารผิว ที่ประกอบด้วย โปรตีนจาก #PureCocoon 100% ไม่มีสารสังเคราะห์ ไม่มีสารคงตัวเจือปน ที่ผ่านกรรมวิธีเทคโนโลยีขั้นสูง จากแลปที่เชี่ยวชาญทางด้าน #TissueEngineering อันดับต้นๆของโลกที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้โมเลกุลของสารอาหาร "เป็นทรงกลม" จึงไม่บาดเซลลผิว ในตอนทา และ สามารถซึมลงไปให้เซลล์ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีอะไรตกค้าง ไม่ระคายเคืองเซลล์ผิวเลย จึงเป็นแบรนด์ที่ใช้ในวงการแพทย์ของญี่ปุ่น

    ซึ่ง มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและป้องกันผิว จากความอ่อนแอ ดังนี้

    1. ฟื้นฟูผิวอ่อนแอด้วยการซ่อมแซมเซลล์จากภายใน
    COCON เป็น สารอาหารผิวในรูปแป้งที่มี Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายได้ลึกถึงระดับ DNA ทำให้โครงสร้างผิวที่เคยถูกทำลายจากมลภาวะ แสงแดด หรือการใช้งานหนักกลับมาแข็งแรงขึ้น ผิวที่เคยอ่อนแอจึงสามารถฟื้นตัวและกลับมาดูสุขภาพดีได้อย่างเป็นธรรมชาติ

    2. ป้องกันการสูญเสียเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier)
    ด้วยคุณสมบัติของ Silk Protein ที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ COCON ช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากสิ่งเร้าภายนอก เช่น ฝุ่น มลภาวะ และสารเคมี ทำให้ผิวที่ยังแข็งแรงไม่ถูกทำลายง่าย และลดโอกาสที่ผิวจะกลายเป็นผิวอ่อนแอในอนาคต

    3. ป้องกันและลดการอักเสบขนาดเล็ก (Micro-Inflammation)
    การอักเสบขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ COCON มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับเซลล์ผิว และลดความเสี่ยงที่ผิวจะเกิดปัญหาระยะยาว เช่น การเสื่อมสภาพหรือการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

    4. เหมาะกับทุกสภาพผิว ปลอดภัย ไร้สารสังเคราะห์
    COCON เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารสังเคราะห์เจือปน จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้กระทั่งผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การใช้สารอาหารผิวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับผิวจะช่วยลดโอกาสเกิดอาการระคายเคืองและส่งเสริมสุขภาพผิวในระยะยาว

    5. ช่วยรักษาสมดุลของผิวอย่างยั่งยืน
    การใช้ COCON อย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยรักษาความสมดุลของผิว ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวที่ดีอยู่แล้วคงความสุขภาพดีไว้ได้อย่างยาวนาน

    ไม่ว่าคุณจะมีผิวที่อ่อนแอหรือผิวที่ต้องการการป้องกันไม่ให้เสื่อมสภาพ COCON คือคำตอบที่ช่วยเติมเต็มความต้องการของผิวคุณ ด้วย Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ที่ผ่านกระบวนการเทคโนโลยีขั้นสูง ที่อ่อนโยนและทรงประสิทธิภาพในการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก

    -------

    **สำหรับผู้ที่ใช้ COCON อยู่แล้ว** หากคุณใช้ COCON แล้วพบว่ามีอาการผื่นแดงขึ้น นั่นแปลว่า เซลล์ผิวของคุณอ่อนแอจากเคมีในผลิตภัณฑ์อื่นที่คุณใช้ หรือ มลภาวะที่คุณต้องเผชิญในแต่ละวัน

    ดังนั้น แนะนำให้ลองใช้ COCON เฉพาะตอนกลางคืนเพียงอย่างเดียวก่อน เพื่อให้ผิวได้พักและฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีจากครีมหรือเครื่องสำอางตัวอื่นที่อาจปิดกั้นการทำงานของ COCON

    การใช้สารอาหารผิว COCON เพียงตัวเดียวก่อนนอน จะช่วยให้เซลล์ผิวได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ และลดความเสี่ยงจากสารเคมีที่อาจทำลายเซลล์ผิวในระยะยาว เมื่อผิวกลับมาแข็งแรงแล้ว ค่อยเริ่มใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นในช่วงกลางวัน

    #TheSignature #BangkokCraftmanship #skincare #สกินแคร์ #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    ** #หน้าใส​ ไม่=​ #เซลล์ผิวหน้าแข็งแรง ! ** ในบางครั้ง แม้ผิวของเราจะดูใส ดูสุขภาพดีเมื่อมอง จากภายนอก แต่ลึกๆแล้ว ผิวอาจกำลังเผชิญปัญหาความอ่อนแออยู่ก็เป็นได้ โดยที่เรามองไม่เห็นหรือไม่ทันสังเกต >>> นี่คือ​ 3 สัญญาณ​สำคัญ‼️ ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณ "อาจจะ" ไม่ได้แข็งแรง​ อย่างที่เห็น 1. ผิว #ระคายเคืองง่าย และ #มีรอยแดง หากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะระคายเคืองง่าย เช่น รู้สึกแสบ คัน มีรอยแดง หรือแม้กระทั่งมีผดเล็กๆ ขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือสัมผัสกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผิวของคุณอาจจะอ่อนแอกว่าที่คิด อาการระคายเคืองง่ายนี้เกิดขึ้นจากการที่เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวไวต่อสิ่งเร้าจากภายนอก เช่น มลภาวะ ฝุ่น หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ (Purnamawati et al., 2017) 2. ผิว #แห้ง หรือ #ขาดความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวของคุณกำลังอ่อนแอ คือ การที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย แม้จะใช้ครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ หากผิวแห้งหรือขาดน้ำบ่อยๆ นั่นอาจแปลว่าผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ผิวสูญเสียไขมันตามธรรมชาติหรือโครงสร้างผิวไม่แข็งแรงพอ การที่ผิวแห้งกร้านง่ายทำให้เกิดริ้วรอยและผิวที่หมองคล้ำเร็วกว่าปกติ (Proksch et al., 2008). 3. ผิว #ฟื้นตัวช้า หลัง #โดนแสงแดด หรือ #ทำความสะอาด ผิวที่อ่อนแอมักจะฟื้นตัวได้ช้าหลังจากเจอความรุนแรงจากภายนอก เช่น การโดนแสงแดดแรงๆ หรือการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก หากหลังจากออกแดดแล้วผิวมีรอยแดง นานกว่าปกติ หรือรู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้าโดยที่ผิวไม่คืนสภาพได้รวดเร็ว ผิวของคุณอาจกำลังส่งสัญญาณว่าต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอ่อนแอลงไปอีก (Krutmann et al., 2014). การดูแลผิวให้แข็งแรงจากภายในจึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้ผิวจะดูใสแต่ก็ไม่ควรละเลยสัญญาณเหล่านี้ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณอาจจะไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เห็น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ สารให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดหรือมลภาวะโดยตรง จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาแข็งแรง สดใส และสุขภาพดีอย่างแท้จริง ------- ทำไม " #สารอาหารผิวในรูปแป้ง #COCON " จึงเหมาะสมต่อการ "ฟื้นฟูผิวอ่อนแอ" และ "ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ" ? COCON คือ #สารอาหารผิว ที่ประกอบด้วย โปรตีนจาก #PureCocoon 100% ไม่มีสารสังเคราะห์ ไม่มีสารคงตัวเจือปน ที่ผ่านกรรมวิธีเทคโนโลยีขั้นสูง จากแลปที่เชี่ยวชาญทางด้าน #TissueEngineering อันดับต้นๆของโลกที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้โมเลกุลของสารอาหาร "เป็นทรงกลม" จึงไม่บาดเซลลผิว ในตอนทา และ สามารถซึมลงไปให้เซลล์ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีอะไรตกค้าง ไม่ระคายเคืองเซลล์ผิวเลย จึงเป็นแบรนด์ที่ใช้ในวงการแพทย์ของญี่ปุ่น ซึ่ง มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและป้องกันผิว จากความอ่อนแอ ดังนี้ 1. ฟื้นฟูผิวอ่อนแอด้วยการซ่อมแซมเซลล์จากภายใน COCON เป็น สารอาหารผิวในรูปแป้งที่มี Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายได้ลึกถึงระดับ DNA ทำให้โครงสร้างผิวที่เคยถูกทำลายจากมลภาวะ แสงแดด หรือการใช้งานหนักกลับมาแข็งแรงขึ้น ผิวที่เคยอ่อนแอจึงสามารถฟื้นตัวและกลับมาดูสุขภาพดีได้อย่างเป็นธรรมชาติ 2. ป้องกันการสูญเสียเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ด้วยคุณสมบัติของ Silk Protein ที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ COCON ช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากสิ่งเร้าภายนอก เช่น ฝุ่น มลภาวะ และสารเคมี ทำให้ผิวที่ยังแข็งแรงไม่ถูกทำลายง่าย และลดโอกาสที่ผิวจะกลายเป็นผิวอ่อนแอในอนาคต 3. ป้องกันและลดการอักเสบขนาดเล็ก (Micro-Inflammation) การอักเสบขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ COCON มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับเซลล์ผิว และลดความเสี่ยงที่ผิวจะเกิดปัญหาระยะยาว เช่น การเสื่อมสภาพหรือการเกิดริ้วรอยก่อนวัย 4. เหมาะกับทุกสภาพผิว ปลอดภัย ไร้สารสังเคราะห์ COCON เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารสังเคราะห์เจือปน จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้กระทั่งผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การใช้สารอาหารผิวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับผิวจะช่วยลดโอกาสเกิดอาการระคายเคืองและส่งเสริมสุขภาพผิวในระยะยาว 5. ช่วยรักษาสมดุลของผิวอย่างยั่งยืน การใช้ COCON อย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยรักษาความสมดุลของผิว ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวที่ดีอยู่แล้วคงความสุขภาพดีไว้ได้อย่างยาวนาน ไม่ว่าคุณจะมีผิวที่อ่อนแอหรือผิวที่ต้องการการป้องกันไม่ให้เสื่อมสภาพ COCON คือคำตอบที่ช่วยเติมเต็มความต้องการของผิวคุณ ด้วย Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ที่ผ่านกระบวนการเทคโนโลยีขั้นสูง ที่อ่อนโยนและทรงประสิทธิภาพในการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก ------- **สำหรับผู้ที่ใช้ COCON อยู่แล้ว** หากคุณใช้ COCON แล้วพบว่ามีอาการผื่นแดงขึ้น นั่นแปลว่า เซลล์ผิวของคุณอ่อนแอจากเคมีในผลิตภัณฑ์อื่นที่คุณใช้ หรือ มลภาวะที่คุณต้องเผชิญในแต่ละวัน ดังนั้น แนะนำให้ลองใช้ COCON เฉพาะตอนกลางคืนเพียงอย่างเดียวก่อน เพื่อให้ผิวได้พักและฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีจากครีมหรือเครื่องสำอางตัวอื่นที่อาจปิดกั้นการทำงานของ COCON การใช้สารอาหารผิว COCON เพียงตัวเดียวก่อนนอน จะช่วยให้เซลล์ผิวได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ และลดความเสี่ยงจากสารเคมีที่อาจทำลายเซลล์ผิวในระยะยาว เมื่อผิวกลับมาแข็งแรงแล้ว ค่อยเริ่มใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นในช่วงกลางวัน #TheSignature #BangkokCraftmanship #skincare #สกินแคร์ #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อุตสาหกรรมที่ชี้เป็นชี้ตาย" หมายถึงกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญมากต่อเศรษฐกิจของประเทศหรือโลก และหากเกิดปัญหาในอุตสาหกรรมเหล่านี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโดยรวม โดยปกติจะหมายถึงอุตสาหกรรมหลัก เช่น:1. อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ2. อุตสาหกรรมพลังงาน3. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ4. อุตสาหกรรมการเกษตรและอาหาร5. อุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์6. อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์7. อุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์8. อุตสาหกรรมการก่อสร้าง9. อุตสาหกรรมโทรคมนาคม10. อุตสาหกรรมการธนาคารและการเงิน11. อุตสาหกรรมเหมืองแร่12. อุตสาหกรรมเหล็กและโลหะ13. อุตสาหกรรมปิโตรเคมี14. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร15. อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและอาวุธ16. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์17. อุตสาหกรรมการผลิตหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ18. อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ19. อุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอ20. อุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อ21. อุตสาหกรรมการศึกษาและการฝึกอบรม22. อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน (พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม)23. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ24. อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์25. อุตสาหกรรมสื่อดิจิทัลและแพลตฟอร์มออนไลน์26. อุตสาหกรรมเกมและการพัฒนาแอปพลิเคชัน27. อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์พิเศษ28. อุตสาหกรรมการขนส่งสาธารณะและโครงสร้างพื้นฐานนี่คืออุตสาหกรรมเพิ่มเติมที่มีความสำคัญ:29. อุตสาหกรรมการรีไซเคิลและการจัดการของเสีย30. อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ31. อุตสาหกรรมการประมงและผลิตภัณฑ์จากทะเล32. อุตสาหกรรมการผลิตวัสดุก่อสร้าง33. อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์34. อุตสาหกรรมอุปกรณ์กีฬา35. อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว36. อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และการออกแบบตกแต่งภายใน37. อุตสาหกรรมการศึกษาออนไลน์และการเรียนรู้ดิจิทัล38. อุตสาหกรรมการค้าปลีก (ทั้งแบบดั้งเดิมและออนไลน์)39. อุตสาหกรรมการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ (เช่น ข้าวสาลี, ข้าวโพด, อ้อย)40. อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ41. อุตสาหกรรมการพัฒนาและขายซอฟต์แวร์42. อุตสาหกรรมดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง43. อุตสาหกรรมบริการด้านการเงิน (เช่น บริษัทประกันภัย)44. อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์45. อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และการผลิตแบตเตอรี่46. อุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์47. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพเกษตร (เช่น พืชดัดแปลงพันธุกรรม)48. อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ49. อุตสาหกรรมการพิมพ์สามมิติ (3D Printing)50. อุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (Data Centers)51. อุตสาหกรรมการออกแบบสถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง52. อุตสาหกรรมการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)53. อุตสาหกรรมการวิเคราะห์และวิจัยตลาด54. อุตสาหกรรมการทดสอบและควบคุมคุณภาพ55. อุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์56. อุตสาหกรรมอุปกรณ์การแพทย์57. อุตสาหกรรมการแพทย์ทางเลือกและการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม58. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มการจัดการโครงข่ายพลังงาน (Smart Grid)59. อุตสาหกรรมการพัฒนาเทคโนโลยีรถไร้คนขับ60. อุตสาหกรรมโลจิสติกส์อัจฉริยะและห่วงโซ่อุปทาน61. อุตสาหกรรมการออกแบบและการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรูหรา62. อุตสาหกรรมการผลิตวัคซีนและยาชีววัตถุ63. อุตสาหกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนเทคโนโลยีสีเขียว64. อุตสาหกรรมระบบการเกษตรแบบยั่งยืนและเทคโนโลยีเกษตร (AgriTech)65. อุตสาหกรรมที่พักอาศัยและการบริการ (Hospitality)66. อุตสาหกรรมสถาบันทางการเงินระหว่างประเทศ67. อุตสาหกรรมการจัดการและบำบัดน้ำ
    "อุตสาหกรรมที่ชี้เป็นชี้ตาย" หมายถึงกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญมากต่อเศรษฐกิจของประเทศหรือโลก และหากเกิดปัญหาในอุตสาหกรรมเหล่านี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโดยรวม โดยปกติจะหมายถึงอุตสาหกรรมหลัก เช่น:1. อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ2. อุตสาหกรรมพลังงาน3. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ4. อุตสาหกรรมการเกษตรและอาหาร5. อุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์6. อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์7. อุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์8. อุตสาหกรรมการก่อสร้าง9. อุตสาหกรรมโทรคมนาคม10. อุตสาหกรรมการธนาคารและการเงิน11. อุตสาหกรรมเหมืองแร่12. อุตสาหกรรมเหล็กและโลหะ13. อุตสาหกรรมปิโตรเคมี14. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร15. อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและอาวุธ16. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์17. อุตสาหกรรมการผลิตหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ18. อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ19. อุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอ20. อุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อ21. อุตสาหกรรมการศึกษาและการฝึกอบรม22. อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน (พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม)23. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ24. อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์25. อุตสาหกรรมสื่อดิจิทัลและแพลตฟอร์มออนไลน์26. อุตสาหกรรมเกมและการพัฒนาแอปพลิเคชัน27. อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์พิเศษ28. อุตสาหกรรมการขนส่งสาธารณะและโครงสร้างพื้นฐานนี่คืออุตสาหกรรมเพิ่มเติมที่มีความสำคัญ:29. อุตสาหกรรมการรีไซเคิลและการจัดการของเสีย30. อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ31. อุตสาหกรรมการประมงและผลิตภัณฑ์จากทะเล32. อุตสาหกรรมการผลิตวัสดุก่อสร้าง33. อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์34. อุตสาหกรรมอุปกรณ์กีฬา35. อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว36. อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และการออกแบบตกแต่งภายใน37. อุตสาหกรรมการศึกษาออนไลน์และการเรียนรู้ดิจิทัล38. อุตสาหกรรมการค้าปลีก (ทั้งแบบดั้งเดิมและออนไลน์)39. อุตสาหกรรมการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ (เช่น ข้าวสาลี, ข้าวโพด, อ้อย)40. อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ41. อุตสาหกรรมการพัฒนาและขายซอฟต์แวร์42. อุตสาหกรรมดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง43. อุตสาหกรรมบริการด้านการเงิน (เช่น บริษัทประกันภัย)44. อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์45. อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และการผลิตแบตเตอรี่46. อุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์47. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพเกษตร (เช่น พืชดัดแปลงพันธุกรรม)48. อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ49. อุตสาหกรรมการพิมพ์สามมิติ (3D Printing)50. อุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (Data Centers)51. อุตสาหกรรมการออกแบบสถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง52. อุตสาหกรรมการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)53. อุตสาหกรรมการวิเคราะห์และวิจัยตลาด54. อุตสาหกรรมการทดสอบและควบคุมคุณภาพ55. อุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์56. อุตสาหกรรมอุปกรณ์การแพทย์57. อุตสาหกรรมการแพทย์ทางเลือกและการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม58. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มการจัดการโครงข่ายพลังงาน (Smart Grid)59. อุตสาหกรรมการพัฒนาเทคโนโลยีรถไร้คนขับ60. อุตสาหกรรมโลจิสติกส์อัจฉริยะและห่วงโซ่อุปทาน61. อุตสาหกรรมการออกแบบและการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรูหรา62. อุตสาหกรรมการผลิตวัคซีนและยาชีววัตถุ63. อุตสาหกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนเทคโนโลยีสีเขียว64. อุตสาหกรรมระบบการเกษตรแบบยั่งยืนและเทคโนโลยีเกษตร (AgriTech)65. อุตสาหกรรมที่พักอาศัยและการบริการ (Hospitality)66. อุตสาหกรรมสถาบันทางการเงินระหว่างประเทศ67. อุตสาหกรรมการจัดการและบำบัดน้ำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • ** #หน้าใส​ ไม่=​ #เซลล์ผิวหน้าแข็งแรง ! **

    ในบางครั้ง แม้ผิวของเราจะดูใส ดูสุขภาพดีเมื่อมอง จากภายนอก แต่ลึกๆแล้ว ผิวอาจกำลังเผชิญปัญหาความอ่อนแออยู่ก็เป็นได้ โดยที่เรามองไม่เห็นหรือไม่ทันสังเกต

    >>> นี่คือ​ 3 สัญญาณ​สำคัญ‼️ ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณ "อาจจะ" ไม่ได้แข็งแรง​ อย่างที่เห็น

    1. ผิว #ระคายเคืองง่าย และ #มีรอยแดง

    หากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะระคายเคืองง่าย เช่น รู้สึกแสบ คัน มีรอยแดง หรือแม้กระทั่งมีผดเล็กๆ ขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือสัมผัสกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผิวของคุณอาจจะอ่อนแอกว่าที่คิด อาการระคายเคืองง่ายนี้เกิดขึ้นจากการที่เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวไวต่อสิ่งเร้าจากภายนอก เช่น มลภาวะ ฝุ่น หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ (Purnamawati et al., 2017)

    2. ผิว #แห้ง หรือ #ขาดความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว

    อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวของคุณกำลังอ่อนแอ คือ การที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย แม้จะใช้ครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ หากผิวแห้งหรือขาดน้ำบ่อยๆ นั่นอาจแปลว่าผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ผิวสูญเสียไขมันตามธรรมชาติหรือโครงสร้างผิวไม่แข็งแรงพอ การที่ผิวแห้งกร้านง่ายทำให้เกิดริ้วรอยและผิวที่หมองคล้ำเร็วกว่าปกติ (Proksch et al., 2008).

    3. ผิว #ฟื้นตัวช้า หลัง #โดนแสงแดด หรือ #ทำความสะอาด

    ผิวที่อ่อนแอมักจะฟื้นตัวได้ช้าหลังจากเจอความรุนแรงจากภายนอก เช่น การโดนแสงแดดแรงๆ หรือการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก หากหลังจากออกแดดแล้วผิวมีรอยแดง นานกว่าปกติ หรือรู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้าโดยที่ผิวไม่คืนสภาพได้รวดเร็ว ผิวของคุณอาจกำลังส่งสัญญาณว่าต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอ่อนแอลงไปอีก (Krutmann et al., 2014).

    การดูแลผิวให้แข็งแรงจากภายในจึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้ผิวจะดูใสแต่ก็ไม่ควรละเลยสัญญาณเหล่านี้ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณอาจจะไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เห็น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ สารให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดหรือมลภาวะโดยตรง จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาแข็งแรง สดใส และสุขภาพดีอย่างแท้จริง

    -------

    ทำไม " #สารอาหารผิวในรูปแป้ง #COCON " จึงเหมาะสมต่อการ "ฟื้นฟูผิวอ่อนแอ" และ "ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ" ?

    COCON คือ #สารอาหารผิว ที่ประกอบด้วย โปรตีนจาก #PureCocoon 100% ไม่มีสารสังเคราะห์ ไม่มีสารคงตัวเจือปน ที่ผ่านกรรมวิธีเทคโนโลยีขั้นสูง จากแลปที่เชี่ยวชาญทางด้าน #TissueEngineering อันดับต้นๆของโลกที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้โมเลกุลของสารอาหาร "เป็นทรงกลม" จึงไม่บาดเซลลผิว ในตอนทา และ สามารถซึมลงไปให้เซลล์ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีอะไรตกค้าง ไม่ระคายเคืองเซลล์ผิวเลย จึงเป็นแบรนด์ที่ใช้ในวงการแพทย์ของญี่ปุ่น

    ซึ่ง มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและป้องกันผิว จากความอ่อนแอ ดังนี้

    1. ฟื้นฟูผิวอ่อนแอด้วยการซ่อมแซมเซลล์จากภายใน
    COCON เป็น สารอาหารผิวในรูปแป้งที่มี Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายได้ลึกถึงระดับ DNA ทำให้โครงสร้างผิวที่เคยถูกทำลายจากมลภาวะ แสงแดด หรือการใช้งานหนักกลับมาแข็งแรงขึ้น ผิวที่เคยอ่อนแอจึงสามารถฟื้นตัวและกลับมาดูสุขภาพดีได้อย่างเป็นธรรมชาติ

    2. ป้องกันการสูญเสียเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier)
    ด้วยคุณสมบัติของ Silk Protein ที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ COCON ช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากสิ่งเร้าภายนอก เช่น ฝุ่น มลภาวะ และสารเคมี ทำให้ผิวที่ยังแข็งแรงไม่ถูกทำลายง่าย และลดโอกาสที่ผิวจะกลายเป็นผิวอ่อนแอในอนาคต

    3. ป้องกันและลดการอักเสบขนาดเล็ก (Micro-Inflammation)
    การอักเสบขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ COCON มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับเซลล์ผิว และลดความเสี่ยงที่ผิวจะเกิดปัญหาระยะยาว เช่น การเสื่อมสภาพหรือการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

    4. เหมาะกับทุกสภาพผิว ปลอดภัย ไร้สารสังเคราะห์
    COCON เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารสังเคราะห์เจือปน จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้กระทั่งผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การใช้สารอาหารผิวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับผิวจะช่วยลดโอกาสเกิดอาการระคายเคืองและส่งเสริมสุขภาพผิวในระยะยาว

    5. ช่วยรักษาสมดุลของผิวอย่างยั่งยืน
    การใช้ COCON อย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยรักษาความสมดุลของผิว ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวที่ดีอยู่แล้วคงความสุขภาพดีไว้ได้อย่างยาวนาน

    ไม่ว่าคุณจะมีผิวที่อ่อนแอหรือผิวที่ต้องการการป้องกันไม่ให้เสื่อมสภาพ COCON คือคำตอบที่ช่วยเติมเต็มความต้องการของผิวคุณ ด้วย Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ที่ผ่านกระบวนการเทคโนโลยีขั้นสูง ที่อ่อนโยนและทรงประสิทธิภาพในการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก

    -------

    **สำหรับผู้ที่ใช้ COCON อยู่แล้ว** หากคุณใช้ COCON แล้วพบว่ามีอาการผื่นแดงขึ้น นั่นแปลว่า เซลล์ผิวของคุณอ่อนแอจากเคมีในผลิตภัณฑ์อื่นที่คุณใช้ หรือ มลภาวะที่คุณต้องเผชิญในแต่ละวัน

    ดังนั้น แนะนำให้ลองใช้ COCON เฉพาะตอนกลางคืนเพียงอย่างเดียวก่อน เพื่อให้ผิวได้พักและฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีจากครีมหรือเครื่องสำอางตัวอื่นที่อาจปิดกั้นการทำงานของ COCON

    การใช้สารอาหารผิว COCON เพียงตัวเดียวก่อนนอน จะช่วยให้เซลล์ผิวได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ และลดความเสี่ยงจากสารเคมีที่อาจทำลายเซลล์ผิวในระยะยาว เมื่อผิวกลับมาแข็งแรงแล้ว ค่อยเริ่มใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นในช่วงกลางวัน

    #TheSignature #BangkokCraftmanship #skincare #สกินแคร์ #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    ** #หน้าใส​ ไม่=​ #เซลล์ผิวหน้าแข็งแรง ! ** ในบางครั้ง แม้ผิวของเราจะดูใส ดูสุขภาพดีเมื่อมอง จากภายนอก แต่ลึกๆแล้ว ผิวอาจกำลังเผชิญปัญหาความอ่อนแออยู่ก็เป็นได้ โดยที่เรามองไม่เห็นหรือไม่ทันสังเกต >>> นี่คือ​ 3 สัญญาณ​สำคัญ‼️ ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณ "อาจจะ" ไม่ได้แข็งแรง​ อย่างที่เห็น 1. ผิว #ระคายเคืองง่าย และ #มีรอยแดง หากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะระคายเคืองง่าย เช่น รู้สึกแสบ คัน มีรอยแดง หรือแม้กระทั่งมีผดเล็กๆ ขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือสัมผัสกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผิวของคุณอาจจะอ่อนแอกว่าที่คิด อาการระคายเคืองง่ายนี้เกิดขึ้นจากการที่เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวไวต่อสิ่งเร้าจากภายนอก เช่น มลภาวะ ฝุ่น หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ (Purnamawati et al., 2017) 2. ผิว #แห้ง หรือ #ขาดความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวของคุณกำลังอ่อนแอ คือ การที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย แม้จะใช้ครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ หากผิวแห้งหรือขาดน้ำบ่อยๆ นั่นอาจแปลว่าผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ผิวสูญเสียไขมันตามธรรมชาติหรือโครงสร้างผิวไม่แข็งแรงพอ การที่ผิวแห้งกร้านง่ายทำให้เกิดริ้วรอยและผิวที่หมองคล้ำเร็วกว่าปกติ (Proksch et al., 2008). 3. ผิว #ฟื้นตัวช้า หลัง #โดนแสงแดด หรือ #ทำความสะอาด ผิวที่อ่อนแอมักจะฟื้นตัวได้ช้าหลังจากเจอความรุนแรงจากภายนอก เช่น การโดนแสงแดดแรงๆ หรือการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก หากหลังจากออกแดดแล้วผิวมีรอยแดง นานกว่าปกติ หรือรู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้าโดยที่ผิวไม่คืนสภาพได้รวดเร็ว ผิวของคุณอาจกำลังส่งสัญญาณว่าต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอ่อนแอลงไปอีก (Krutmann et al., 2014). การดูแลผิวให้แข็งแรงจากภายในจึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้ผิวจะดูใสแต่ก็ไม่ควรละเลยสัญญาณเหล่านี้ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณอาจจะไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เห็น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ สารให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดหรือมลภาวะโดยตรง จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาแข็งแรง สดใส และสุขภาพดีอย่างแท้จริง ------- ทำไม " #สารอาหารผิวในรูปแป้ง #COCON " จึงเหมาะสมต่อการ "ฟื้นฟูผิวอ่อนแอ" และ "ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ" ? COCON คือ #สารอาหารผิว ที่ประกอบด้วย โปรตีนจาก #PureCocoon 100% ไม่มีสารสังเคราะห์ ไม่มีสารคงตัวเจือปน ที่ผ่านกรรมวิธีเทคโนโลยีขั้นสูง จากแลปที่เชี่ยวชาญทางด้าน #TissueEngineering อันดับต้นๆของโลกที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้โมเลกุลของสารอาหาร "เป็นทรงกลม" จึงไม่บาดเซลลผิว ในตอนทา และ สามารถซึมลงไปให้เซลล์ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีอะไรตกค้าง ไม่ระคายเคืองเซลล์ผิวเลย จึงเป็นแบรนด์ที่ใช้ในวงการแพทย์ของญี่ปุ่น ซึ่ง มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและป้องกันผิว จากความอ่อนแอ ดังนี้ 1. ฟื้นฟูผิวอ่อนแอด้วยการซ่อมแซมเซลล์จากภายใน COCON เป็น สารอาหารผิวในรูปแป้งที่มี Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายได้ลึกถึงระดับ DNA ทำให้โครงสร้างผิวที่เคยถูกทำลายจากมลภาวะ แสงแดด หรือการใช้งานหนักกลับมาแข็งแรงขึ้น ผิวที่เคยอ่อนแอจึงสามารถฟื้นตัวและกลับมาดูสุขภาพดีได้อย่างเป็นธรรมชาติ 2. ป้องกันการสูญเสียเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ด้วยคุณสมบัติของ Silk Protein ที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ COCON ช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากสิ่งเร้าภายนอก เช่น ฝุ่น มลภาวะ และสารเคมี ทำให้ผิวที่ยังแข็งแรงไม่ถูกทำลายง่าย และลดโอกาสที่ผิวจะกลายเป็นผิวอ่อนแอในอนาคต 3. ป้องกันและลดการอักเสบขนาดเล็ก (Micro-Inflammation) การอักเสบขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ COCON มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับเซลล์ผิว และลดความเสี่ยงที่ผิวจะเกิดปัญหาระยะยาว เช่น การเสื่อมสภาพหรือการเกิดริ้วรอยก่อนวัย 4. เหมาะกับทุกสภาพผิว ปลอดภัย ไร้สารสังเคราะห์ COCON เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารสังเคราะห์เจือปน จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้กระทั่งผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การใช้สารอาหารผิวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับผิวจะช่วยลดโอกาสเกิดอาการระคายเคืองและส่งเสริมสุขภาพผิวในระยะยาว 5. ช่วยรักษาสมดุลของผิวอย่างยั่งยืน การใช้ COCON อย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยรักษาความสมดุลของผิว ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวที่ดีอยู่แล้วคงความสุขภาพดีไว้ได้อย่างยาวนาน ไม่ว่าคุณจะมีผิวที่อ่อนแอหรือผิวที่ต้องการการป้องกันไม่ให้เสื่อมสภาพ COCON คือคำตอบที่ช่วยเติมเต็มความต้องการของผิวคุณ ด้วย Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ที่ผ่านกระบวนการเทคโนโลยีขั้นสูง ที่อ่อนโยนและทรงประสิทธิภาพในการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก ------- **สำหรับผู้ที่ใช้ COCON อยู่แล้ว** หากคุณใช้ COCON แล้วพบว่ามีอาการผื่นแดงขึ้น นั่นแปลว่า เซลล์ผิวของคุณอ่อนแอจากเคมีในผลิตภัณฑ์อื่นที่คุณใช้ หรือ มลภาวะที่คุณต้องเผชิญในแต่ละวัน ดังนั้น แนะนำให้ลองใช้ COCON เฉพาะตอนกลางคืนเพียงอย่างเดียวก่อน เพื่อให้ผิวได้พักและฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีจากครีมหรือเครื่องสำอางตัวอื่นที่อาจปิดกั้นการทำงานของ COCON การใช้สารอาหารผิว COCON เพียงตัวเดียวก่อนนอน จะช่วยให้เซลล์ผิวได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ และลดความเสี่ยงจากสารเคมีที่อาจทำลายเซลล์ผิวในระยะยาว เมื่อผิวกลับมาแข็งแรงแล้ว ค่อยเริ่มใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นในช่วงกลางวัน #TheSignature #BangkokCraftmanship #skincare #สกินแคร์ #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 467 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต

    รัฐบาลใหม่สหรัฐ ประกาศแล้วว่าเรื่องวัคซีนมีผลกระทบข้างเคียงจะต้องยอมรับและนำไปสู่การเยียวยา

    นอกจากนั้นทหารที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนและถูกปลดรัฐบาลใหม่ประกาศแล้วว่าจะรับกลับเข้ากองทัพและจำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชย

    รัฐบาลใหม่ประกาศแล้วว่าจะทำการจัดการรื้อ องค์กรของรัฐทั้ง CDC และ FDA

    รัฐบาลใหม่ประกาศแล้วว่าจะจัดการเรื่องการสมคบคิดป้ายสี ผู้ที่ได้รับผลกระทบและผู้ที่ให้หลักฐานความเป็นจริงว่าเป็นผู้ให้ข้อมูลไม่จริง

    และจะมีการเช็คบิล และต่อจากนี้ถ้ามีการทำอีกคือไล่ออก และถ้ามีการสมคบคิดกับนักวิชาการมหาวิทยาลัยโรงเรียนแพทย์ จะจัดการยุติทุนสนับสนุนแก่นักวิจัยและมหาวิทยาลัยนั้น

    การที่สถาบันวัคซีนจะมีการประชุมและนำนักวิชาการมากล่าวว่ามีการบิดเบือนว่าวัคซีนมีผลแทรกซ้อนข้างเคียง แสดงว่ายืนข้างวัคซีนและปฏิเสธความเสียหายต่อชีวิตคนไทย
    เช่นนี้ ทางการ สถาบันวัคซีน คนที่อ้างตัวว่าเป็นนักวิชาการและจะมาพูดสมควรที่จะถูกดำเนินคดีและลงโทษหรือไม่?

    'หมอเดชา' ยืนข้าง 'หมอธีระวัฒน์' เชื่อมีข้อมูล​ผลกระทบจากการฉีดวัคซีน​โควิด https://thaipost.net/human-life-news/689671/

    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0PG782N6yBM2SWucuLViwALi4f1nmKCtmjs7cLw2H4hW7GvRNZq8W9PMoW3xwkp1Ql&id=100064749694453
    ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต รัฐบาลใหม่สหรัฐ ประกาศแล้วว่าเรื่องวัคซีนมีผลกระทบข้างเคียงจะต้องยอมรับและนำไปสู่การเยียวยา นอกจากนั้นทหารที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนและถูกปลดรัฐบาลใหม่ประกาศแล้วว่าจะรับกลับเข้ากองทัพและจำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชย รัฐบาลใหม่ประกาศแล้วว่าจะทำการจัดการรื้อ องค์กรของรัฐทั้ง CDC และ FDA  รัฐบาลใหม่ประกาศแล้วว่าจะจัดการเรื่องการสมคบคิดป้ายสี ผู้ที่ได้รับผลกระทบและผู้ที่ให้หลักฐานความเป็นจริงว่าเป็นผู้ให้ข้อมูลไม่จริง และจะมีการเช็คบิล และต่อจากนี้ถ้ามีการทำอีกคือไล่ออก และถ้ามีการสมคบคิดกับนักวิชาการมหาวิทยาลัยโรงเรียนแพทย์ จะจัดการยุติทุนสนับสนุนแก่นักวิจัยและมหาวิทยาลัยนั้น การที่สถาบันวัคซีนจะมีการประชุมและนำนักวิชาการมากล่าวว่ามีการบิดเบือนว่าวัคซีนมีผลแทรกซ้อนข้างเคียง แสดงว่ายืนข้างวัคซีนและปฏิเสธความเสียหายต่อชีวิตคนไทย เช่นนี้ ทางการ สถาบันวัคซีน คนที่อ้างตัวว่าเป็นนักวิชาการและจะมาพูดสมควรที่จะถูกดำเนินคดีและลงโทษหรือไม่? 'หมอเดชา' ยืนข้าง 'หมอธีระวัฒน์' เชื่อมีข้อมูล​ผลกระทบจากการฉีดวัคซีน​โควิด https://thaipost.net/human-life-news/689671/ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0PG782N6yBM2SWucuLViwALi4f1nmKCtmjs7cLw2H4hW7GvRNZq8W9PMoW3xwkp1Ql&id=100064749694453
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
    ถวายพระพรชัยมงคล และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายรถพยาบาล พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อทรงใช้ตามพระราชอัธยาศัย เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล
    เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
    รถพยาบาล พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าว เป็นรถพยาบาลที่สามารถใช้ในการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ช่วยชีวิต เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย ให้ได้รับการปฐมพยาบาล และการช่วยชีวิตในขั้นแรกอย่างปลอดภัยตามมาตรฐานสากล

    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida #HMSV
    วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายรถพยาบาล พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อทรงใช้ตามพระราชอัธยาศัย เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รถพยาบาล พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าว เป็นรถพยาบาลที่สามารถใช้ในการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ช่วยชีวิต เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย ให้ได้รับการปฐมพยาบาล และการช่วยชีวิตในขั้นแรกอย่างปลอดภัยตามมาตรฐานสากล #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida #HMSV
    Love
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนการเล่นลับๆ ของบริษัทยาขนาดใหญ่: การเขียนบทความ ยาผีบอก ในวารสารทางการแพทย์ชั้นนำ เพื่อผลักดันยาอันตราย

    ถึงเวลาเผชิญหน้ากับความจริงแล้ว :- บริษัทยาขนาดใหญ่ ได้เข้ายึดครองระบบการแพทย์
    สิ่งที่คุณเคยเชื่อว่าคือวิทยาศาสตร์ สิ่งที่คุณเคยเชื่อว่าเป็น "ยา" เป็นเพียงภาพลวงตาที่สร้างขึ้น เพื่อให้คุณพึ่งพาผู้อื่น

    คำโกหก ยาผีบอก : บริษัทยาขนาดใหญ่ กำหนดชะตากรรมของคุณ

    บริษัทยาขนาดใหญ่ ไม่ได้แค่มีอิทธิพล ต่อวารสารทางการแพทย์เท่านั้น แต่ยังเขียนรายงานวิจัย ที่แพทย์ใช้ในการรักษาคุณอีกด้วย บทความที่ "ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ" เหล่านี้ เป็นเพียงบทความประชาสัมพันธ์ ที่โฆษณายาที่ทั้งไม่มีประสิทธิภาพ และมีอันตราย แพทย์กำลังจ่ายยาพิษเหล่านี้ โดยเชื่อว่ายาเหล่านี้ มีพื้นฐานมาจากวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง

    แต่ความจริงแล้ว ยาเหล่านี้ถูกคิดค้นขึ้นโดยทีมประชาสัมพันธ์ ของบริษัทยาขนาดใหญ่ ด้วยข้อมูลปลอม และผลลัพธ์ที่ทำให้เข้าใจผิด ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้กำไรพุ่งสูงขึ้น

    แพทย์ชั้นนำ ได้รับเงิน เพื่อสนับสนุนการโกหก

    บริษัทยาขนาดใหญ่ จ้างบริษัทภายนอก เพื่อสร้างงานวิจัยปลอมๆ จากนั้นจึงจ่ายเงิน ให้แพทย์ที่มีชื่อเสียง เพื่อใส่ชื่อของพวกเขา ลงไปในงานวิจัยนั้น “ผู้เขียน” เหล่านี้ไม่เคยได้เห็นข้อมูลเลย พวกเขาเพียงแค่หาเงินจากคำโกหก ที่ทำให้ชื่อ และบัญชีธนาคารของพวกเขาเต็มล้น วารสารอย่าง The Lancet และ NEJM ได้กลายเป็นโฆษก ของบริษัทยาขนาดใหญ่ โดยแต่งเติมโฆษณา ให้ดูเหมือนวิทยาศาสตร์

    คุณคือหนูทดลอง 🐭

    แพทย์ทั่วโลก อ่านงานวิจัยที่เขียนโดยคนอื่นเหล่านี้ และหลงเชื่อคำโกหก ทำให้ผู้ป่วยหลายล้านคน กลายเป็นหนูทดลองของบริษัทยาขนาดใหญ่ ยาเม็ดที่แพทย์ของคุณสั่งนั้น ขึ้นอยู่กับงานวิจัยที่แต่งขึ้น ผลข้างเคียงหรืออะไรก็ตามที่ซ่อนอยู่ ประสิทธิผลหรืออะไรก็ตาม ที่เป็นของปลอม และคุณต้องจ่ายเงินเพื่อการหลอกลวงนี้ ด้วยกระเป๋าสตางค์และสุขภาพของคุณ

    การคิดค้นโรคเพื่อผลกำไร

    มันไม่ได้หยุดอยู่แค่ยา บริษัทยาขนาดใหญ่ กำลังสร้างโรค เพื่อขายยาให้ได้มากขึ้น จากอาการขาสั่น ไปจนถึงโรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ อาการเหล่านี้ไม่ได้ปรากฏขึ้นในทันใด แต่ถูกคิดค้นขึ้น เพื่อให้คุณกลายเป็นลูกค้าตลอดชีวิต ความรู้สึกปกติในปัจจุบัน กลายเป็น "ความผิดปกติ" ที่มีค่าใช้จ่าย และบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ ก็หากำไรจากสิ่งนี้ เมื่อผู้คนเริ่มพึ่งพายามากขึ้น

    จุดสิ้นสุด : การควบคุมประชากร

    นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของกำไรเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการควบคุมประชากรอีกด้วย เมื่อรัฐบาลและบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ อยู่ข้างพวกเขา เป้าหมายสูงสุดของบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ คือประชากรที่เชื่อง และพึ่งพาผู้อื่น ยาที่เพิ่มมากขึ้น การยอมปฏิบัติตามมากขึ้น และการควบคุมที่มากขึ้น ด้วย =หนังสือเดินทางด้านสุขภาพดิจิทัล= และ "การบำบัด" โดยการตัดแต่งยีน พวกเขากำลังวางรากฐาน เพื่อออกแบบชีววิทยาของคุณ และกำหนดการเข้าถึงสังคมของคุณ

    การทุจริตของ FDA : ผู้ดูแลประตูถูกซื้อตัวไปแล้ว

    FDA ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องเรา กลับอยู่ในกระเป๋าของบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ ด้วยประตูที่หมุนเวียนไปมา ระหว่างหน่วยงานกำกับดูแล และผู้บริหารบริษัทเวชภัณฑ์ พวกเขาอนุมัติยาอันตราย และเพิกเฉยต่อผลที่ตามมา เมื่อถึงเวลาที่ยาถูกดึงออก กำไรของบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ก็จะปลอดภัย ในขณะที่ผู้ป่วย ถูกทิ้งไว้เป็นความเสียหายทางอ้อม

    ความจริงขั้นสุดท้าย: หลุดพ้นจากการควบคุมของพวกเขา

    บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ ไม่ได้ต้องการรักษาคุณ พวกเขาต้องการครอบครองคุณ ยาทุกตัว งานวิจัยทุกกรณี โฆษณาทุกรายการ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของแผนการ ที่จะทำให้คุณกลายเป็นลูกค้า ที่ต้องพึ่งพาตลอดชีวิต จงตื่นขึ้น มองทะลุการหลอกลวงของพวกเขา ควบคุมสุขภาพของคุณ และปฏิเสธ =โซ่ตรวน= ที่บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ กำลังพยายามพันธนาการคุณอยู่

    ถึงเวลาที่จะหลุดพ้น และกลับมามีชีวิตของคุณอีกครั้ง
    แผนการเล่นลับๆ ของบริษัทยาขนาดใหญ่: การเขียนบทความ ยาผีบอก ในวารสารทางการแพทย์ชั้นนำ เพื่อผลักดันยาอันตราย ถึงเวลาเผชิญหน้ากับความจริงแล้ว :- บริษัทยาขนาดใหญ่ ได้เข้ายึดครองระบบการแพทย์ สิ่งที่คุณเคยเชื่อว่าคือวิทยาศาสตร์ สิ่งที่คุณเคยเชื่อว่าเป็น "ยา" เป็นเพียงภาพลวงตาที่สร้างขึ้น เพื่อให้คุณพึ่งพาผู้อื่น คำโกหก ยาผีบอก : บริษัทยาขนาดใหญ่ กำหนดชะตากรรมของคุณ บริษัทยาขนาดใหญ่ ไม่ได้แค่มีอิทธิพล ต่อวารสารทางการแพทย์เท่านั้น แต่ยังเขียนรายงานวิจัย ที่แพทย์ใช้ในการรักษาคุณอีกด้วย บทความที่ "ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ" เหล่านี้ เป็นเพียงบทความประชาสัมพันธ์ ที่โฆษณายาที่ทั้งไม่มีประสิทธิภาพ และมีอันตราย แพทย์กำลังจ่ายยาพิษเหล่านี้ โดยเชื่อว่ายาเหล่านี้ มีพื้นฐานมาจากวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง แต่ความจริงแล้ว ยาเหล่านี้ถูกคิดค้นขึ้นโดยทีมประชาสัมพันธ์ ของบริษัทยาขนาดใหญ่ ด้วยข้อมูลปลอม และผลลัพธ์ที่ทำให้เข้าใจผิด ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้กำไรพุ่งสูงขึ้น แพทย์ชั้นนำ ได้รับเงิน เพื่อสนับสนุนการโกหก บริษัทยาขนาดใหญ่ จ้างบริษัทภายนอก เพื่อสร้างงานวิจัยปลอมๆ จากนั้นจึงจ่ายเงิน ให้แพทย์ที่มีชื่อเสียง เพื่อใส่ชื่อของพวกเขา ลงไปในงานวิจัยนั้น “ผู้เขียน” เหล่านี้ไม่เคยได้เห็นข้อมูลเลย พวกเขาเพียงแค่หาเงินจากคำโกหก ที่ทำให้ชื่อ และบัญชีธนาคารของพวกเขาเต็มล้น วารสารอย่าง The Lancet และ NEJM ได้กลายเป็นโฆษก ของบริษัทยาขนาดใหญ่ โดยแต่งเติมโฆษณา ให้ดูเหมือนวิทยาศาสตร์ คุณคือหนูทดลอง 🐭 แพทย์ทั่วโลก อ่านงานวิจัยที่เขียนโดยคนอื่นเหล่านี้ และหลงเชื่อคำโกหก ทำให้ผู้ป่วยหลายล้านคน กลายเป็นหนูทดลองของบริษัทยาขนาดใหญ่ ยาเม็ดที่แพทย์ของคุณสั่งนั้น ขึ้นอยู่กับงานวิจัยที่แต่งขึ้น ผลข้างเคียงหรืออะไรก็ตามที่ซ่อนอยู่ ประสิทธิผลหรืออะไรก็ตาม ที่เป็นของปลอม และคุณต้องจ่ายเงินเพื่อการหลอกลวงนี้ ด้วยกระเป๋าสตางค์และสุขภาพของคุณ การคิดค้นโรคเพื่อผลกำไร มันไม่ได้หยุดอยู่แค่ยา บริษัทยาขนาดใหญ่ กำลังสร้างโรค เพื่อขายยาให้ได้มากขึ้น จากอาการขาสั่น ไปจนถึงโรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ อาการเหล่านี้ไม่ได้ปรากฏขึ้นในทันใด แต่ถูกคิดค้นขึ้น เพื่อให้คุณกลายเป็นลูกค้าตลอดชีวิต ความรู้สึกปกติในปัจจุบัน กลายเป็น "ความผิดปกติ" ที่มีค่าใช้จ่าย และบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ ก็หากำไรจากสิ่งนี้ เมื่อผู้คนเริ่มพึ่งพายามากขึ้น จุดสิ้นสุด : การควบคุมประชากร นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของกำไรเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการควบคุมประชากรอีกด้วย เมื่อรัฐบาลและบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ อยู่ข้างพวกเขา เป้าหมายสูงสุดของบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ คือประชากรที่เชื่อง และพึ่งพาผู้อื่น ยาที่เพิ่มมากขึ้น การยอมปฏิบัติตามมากขึ้น และการควบคุมที่มากขึ้น ด้วย =หนังสือเดินทางด้านสุขภาพดิจิทัล= และ "การบำบัด" โดยการตัดแต่งยีน พวกเขากำลังวางรากฐาน เพื่อออกแบบชีววิทยาของคุณ และกำหนดการเข้าถึงสังคมของคุณ การทุจริตของ FDA : ผู้ดูแลประตูถูกซื้อตัวไปแล้ว FDA ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องเรา กลับอยู่ในกระเป๋าของบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ ด้วยประตูที่หมุนเวียนไปมา ระหว่างหน่วยงานกำกับดูแล และผู้บริหารบริษัทเวชภัณฑ์ พวกเขาอนุมัติยาอันตราย และเพิกเฉยต่อผลที่ตามมา เมื่อถึงเวลาที่ยาถูกดึงออก กำไรของบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ก็จะปลอดภัย ในขณะที่ผู้ป่วย ถูกทิ้งไว้เป็นความเสียหายทางอ้อม ความจริงขั้นสุดท้าย: หลุดพ้นจากการควบคุมของพวกเขา บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ ไม่ได้ต้องการรักษาคุณ พวกเขาต้องการครอบครองคุณ ยาทุกตัว งานวิจัยทุกกรณี โฆษณาทุกรายการ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของแผนการ ที่จะทำให้คุณกลายเป็นลูกค้า ที่ต้องพึ่งพาตลอดชีวิต จงตื่นขึ้น มองทะลุการหลอกลวงของพวกเขา ควบคุมสุขภาพของคุณ และปฏิเสธ =โซ่ตรวน= ที่บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ กำลังพยายามพันธนาการคุณอยู่ ถึงเวลาที่จะหลุดพ้น และกลับมามีชีวิตของคุณอีกครั้ง
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 6 การแบ่งปัน 472 มุมมอง 1 รีวิว
  • ..เรา ประเทศไทยเราล่ะ,เราจะซ่อมแซมประเทศไทยเราจริงจังแบบไหน&กันเสียที.

    ..พรรคเดโมแครต ถ้าคุณสงสัยว่าทำไมอเมริกาถึงเลือกทรัมป์ ฉันขออธิบายให้ฟัง:

    ความจริงก็คือ ชาวอเมริกันเบื่อหน่ายกับเรื่องบ้าๆ ของคุณแล้ว

    คุณทำลายชาติและวัฒนธรรมของเรา คุณล้อเลียน ดูถูก และเลือกปฏิบัติต่อเราอย่างเปิดเผย จากนั้นก็เรียกเราว่าพวกเหยียดผิว เหยียดเพศ และพวกนาซี เมื่อเราเริ่มสังเกตเห็น

    คุณทำให้สถาบันอันยิ่งใหญ่ของเราเสื่อมเสียชื่อเสียงและเสื่อมทราม รวมถึงสื่อ โซเชียลมีเดีย เทคโนโลยี สถาบันการศึกษา หน่วยข่าวกรอง สุขภาพ ยา ฮอลลีวูด ความบันเทิง กีฬา ทุกอย่าง! คุณใช้ทุกแง่มุมของชีวิตชาวอเมริกันเป็นอาวุธ และใช้มันเพื่อผลักดันวาระฝ่ายซ้ายสุดโต่งของคุณให้พวกเราต้องทนทุกข์ทรมาน

    คุณบอกเราว่าทรัมป์เป็นทรัพยากรของรัสเซียที่กำลังจะก่อสงครามโลกครั้งที่ 3 และจะเลวร้ายยิ่งกว่าฮิตเลอร์ จากนั้นคุณก็ใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการแสดงความเกลียดชังต่อผู้สนับสนุนทรัมป์และก่อจลาจลบนท้องถนน คุณใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการขัดขวางและทำลายวาระแรกของทรัมป์ และกลายเป็นว่ามันเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด
    จากนั้นในช่วงโควิด คุณเรียกร้องให้เราทุกคนถูกบังคับให้ทำการทดลองทางการแพทย์โดยไม่ทดลอง คุณต้องการให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยถูกขังไว้ในคุก คุณต้องการให้เด็กๆ ถูกพรากไปจากพ่อแม่ที่ต่อต้านวัคซีน คุณต้องการให้พวกต่อต้านวัคซีนอยู่ในค่าย คุณเชียร์ให้พวกเราต้องตาย จากนั้นก็กลายเป็นว่าคุณคิดผิดเกี่ยวกับทุกอย่าง ตั้งแต่แหล่งกำเนิดที่มนุษย์สร้างขึ้น ไปจนถึงหน้ากาก วัคซีน การเว้นระยะห่างทางสังคม ไอเวอร์เมกติน HCQ ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ และทุกสิ่งทุกอย่าง

    จากนั้นในช่วงยูเครน คุณบอกเราว่ายูเครนเป็นปราการของประชาธิปไตย และพวกเขาต้องการเงินภาษีของเราทั้งหมดอย่างมาก จากนั้นก็กลายเป็นว่ายูเครนเป็นหนึ่งในประเทศที่ทุจริตมากที่สุดในโลก โดยมีกองกำลังทหารนาซีตามตัวอักษร และที่จริงแล้วเป็นเพียงปฏิบัติการฟอกเงินเพื่อขโมยเงินจากผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน คุณต้องการปกป้องพรมแดนของยูเครนมากกว่าของเราเอง คุณส่งเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ไปยังอีกฟากของโลก ในขณะที่ชาวอเมริกันต้องทนทุกข์ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนขึ้นอยู่กับคำโกหก

    นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ Epstein, Diddy และการค้ามนุษย์อีกด้วย พวกคุณทุกคนบอกเราอย่างรุนแรงว่าการค้ามนุษย์เป็นเพียงเรื่องหลอกลวง พวกคุณบอกเราว่าชายแดนปลอดภัย และพวกคุณบอกเราว่าใครก็ตามที่ตั้งคำถามถึงเรื่องนี้คือพวกนักทฤษฎีสมคบคิดที่ไถ่ถอนไม่ได้และน่ารังเกียจ (และเป็นขยะ) พวกคุณบอกว่าใครก็ตามที่ดูรายการ "Sound of Freedom" ล้วนเป็นพวกหัวรุนแรง QAnon และเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย จากนั้นมันก็กลายเป็นเรื่องจริง และชนชั้นสูงก็มีส่วนร่วมในอาชญากรรมที่เลวร้ายต่อเด็กๆ จริงๆ หลังจากที่คุณบอกเรามาหลายสิบปีว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง พวกคุณปกปิดอาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุดที่จินตนาการได้ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

    ฉันทำแบบนี้ได้เป็นวันๆ แต่ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจประเด็นแล้ว ชาวอเมริกันตื่นตัวต่อกลลวงและความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา และเราจะไม่ทนอีกต่อไป ดังนั้นเราจึงจ้างโดนัลด์ เจ. ทรัมป์และทีมผู้รักชาติของเขาเพื่อแก้ไขสถานการณ์ และนำอเมริกากลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

    นี่คือความเป็นจริงของสถานการณ์ คุณเป็นคนเลว และคุณถูกหลอก ยิ่งคุณตื่นรู้เร็วเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งสามารถเข้าร่วมกับเราในการซ่อมแซมประเทศนี้ได้เร็วขึ้นเท่านั้น หรือคุณสามารถเลือกที่จะปฏิเสธความจริง และใช้ชีวิตที่เหลือของคุณไปกับความเกลียดชังที่ขึ้นอยู่กับคำโกหก

    ทางเลือกเป็นของคุณ

    ลงชื่อ: ผู้รักชาติอเมริกันที่แท้จริง

    @realDonaldTrump ขอบคุณสำหรับความกล้าหาญและการยืนหยัดเพื่ออเมริกาและมวลมนุษยชาติ ขอพระเจ้าอวยพรอเมริกา 🙏🏼🇺🇸ฟ
    ..เรา ประเทศไทยเราล่ะ,เราจะซ่อมแซมประเทศไทยเราจริงจังแบบไหน&กันเสียที. ..พรรคเดโมแครต ถ้าคุณสงสัยว่าทำไมอเมริกาถึงเลือกทรัมป์ ฉันขออธิบายให้ฟัง: ความจริงก็คือ ชาวอเมริกันเบื่อหน่ายกับเรื่องบ้าๆ ของคุณแล้ว คุณทำลายชาติและวัฒนธรรมของเรา คุณล้อเลียน ดูถูก และเลือกปฏิบัติต่อเราอย่างเปิดเผย จากนั้นก็เรียกเราว่าพวกเหยียดผิว เหยียดเพศ และพวกนาซี เมื่อเราเริ่มสังเกตเห็น คุณทำให้สถาบันอันยิ่งใหญ่ของเราเสื่อมเสียชื่อเสียงและเสื่อมทราม รวมถึงสื่อ โซเชียลมีเดีย เทคโนโลยี สถาบันการศึกษา หน่วยข่าวกรอง สุขภาพ ยา ฮอลลีวูด ความบันเทิง กีฬา ทุกอย่าง! คุณใช้ทุกแง่มุมของชีวิตชาวอเมริกันเป็นอาวุธ และใช้มันเพื่อผลักดันวาระฝ่ายซ้ายสุดโต่งของคุณให้พวกเราต้องทนทุกข์ทรมาน คุณบอกเราว่าทรัมป์เป็นทรัพยากรของรัสเซียที่กำลังจะก่อสงครามโลกครั้งที่ 3 และจะเลวร้ายยิ่งกว่าฮิตเลอร์ จากนั้นคุณก็ใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการแสดงความเกลียดชังต่อผู้สนับสนุนทรัมป์และก่อจลาจลบนท้องถนน คุณใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการขัดขวางและทำลายวาระแรกของทรัมป์ และกลายเป็นว่ามันเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด จากนั้นในช่วงโควิด คุณเรียกร้องให้เราทุกคนถูกบังคับให้ทำการทดลองทางการแพทย์โดยไม่ทดลอง คุณต้องการให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยถูกขังไว้ในคุก คุณต้องการให้เด็กๆ ถูกพรากไปจากพ่อแม่ที่ต่อต้านวัคซีน คุณต้องการให้พวกต่อต้านวัคซีนอยู่ในค่าย คุณเชียร์ให้พวกเราต้องตาย จากนั้นก็กลายเป็นว่าคุณคิดผิดเกี่ยวกับทุกอย่าง ตั้งแต่แหล่งกำเนิดที่มนุษย์สร้างขึ้น ไปจนถึงหน้ากาก วัคซีน การเว้นระยะห่างทางสังคม ไอเวอร์เมกติน HCQ ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ และทุกสิ่งทุกอย่าง จากนั้นในช่วงยูเครน คุณบอกเราว่ายูเครนเป็นปราการของประชาธิปไตย และพวกเขาต้องการเงินภาษีของเราทั้งหมดอย่างมาก จากนั้นก็กลายเป็นว่ายูเครนเป็นหนึ่งในประเทศที่ทุจริตมากที่สุดในโลก โดยมีกองกำลังทหารนาซีตามตัวอักษร และที่จริงแล้วเป็นเพียงปฏิบัติการฟอกเงินเพื่อขโมยเงินจากผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน คุณต้องการปกป้องพรมแดนของยูเครนมากกว่าของเราเอง คุณส่งเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ไปยังอีกฟากของโลก ในขณะที่ชาวอเมริกันต้องทนทุกข์ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนขึ้นอยู่กับคำโกหก นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ Epstein, Diddy และการค้ามนุษย์อีกด้วย พวกคุณทุกคนบอกเราอย่างรุนแรงว่าการค้ามนุษย์เป็นเพียงเรื่องหลอกลวง พวกคุณบอกเราว่าชายแดนปลอดภัย และพวกคุณบอกเราว่าใครก็ตามที่ตั้งคำถามถึงเรื่องนี้คือพวกนักทฤษฎีสมคบคิดที่ไถ่ถอนไม่ได้และน่ารังเกียจ (และเป็นขยะ) พวกคุณบอกว่าใครก็ตามที่ดูรายการ "Sound of Freedom" ล้วนเป็นพวกหัวรุนแรง QAnon และเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย จากนั้นมันก็กลายเป็นเรื่องจริง และชนชั้นสูงก็มีส่วนร่วมในอาชญากรรมที่เลวร้ายต่อเด็กๆ จริงๆ หลังจากที่คุณบอกเรามาหลายสิบปีว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง พวกคุณปกปิดอาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุดที่จินตนาการได้ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ฉันทำแบบนี้ได้เป็นวันๆ แต่ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจประเด็นแล้ว ชาวอเมริกันตื่นตัวต่อกลลวงและความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา และเราจะไม่ทนอีกต่อไป ดังนั้นเราจึงจ้างโดนัลด์ เจ. ทรัมป์และทีมผู้รักชาติของเขาเพื่อแก้ไขสถานการณ์ และนำอเมริกากลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง นี่คือความเป็นจริงของสถานการณ์ คุณเป็นคนเลว และคุณถูกหลอก ยิ่งคุณตื่นรู้เร็วเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งสามารถเข้าร่วมกับเราในการซ่อมแซมประเทศนี้ได้เร็วขึ้นเท่านั้น หรือคุณสามารถเลือกที่จะปฏิเสธความจริง และใช้ชีวิตที่เหลือของคุณไปกับความเกลียดชังที่ขึ้นอยู่กับคำโกหก ทางเลือกเป็นของคุณ ลงชื่อ: ผู้รักชาติอเมริกันที่แท้จริง @realDonaldTrump ขอบคุณสำหรับความกล้าหาญและการยืนหยัดเพื่ออเมริกาและมวลมนุษยชาติ ขอพระเจ้าอวยพรอเมริกา 🙏🏼🇺🇸ฟ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11-11-67/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.44 ชื่อตอนว่า "AMERICAN SURVIVE 2(จบ)" ต่อกันเลยไม่เสียเวลาชง!

    6.อำนาจ 2 ขั้ว กองทัพ 2 เหล่า จะวัดกำลังกัน แนวร่วมที่อีทรัมปป์ดึงมาสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นชนเผ่าอินเดียนแดง 6 ล้าน คนดำที่เคยอาฆาตกรณีตำรวจฆ่าคนดำ หรือแม้แต่แรงงานต่างถิ่นที่เป็นพลเมืองไปแล้ว คะแนนที่มาแลนด์สไลด์ เพราะพลังเงียบที่ทนไม่ไหว ออกมานั่นเอง นี่ต่างหากที่อีทรัมปป์ล่ออีลาตายคาที่ ไม่ใช่แค่คะแนนจัดตั้งเหมือนที่ผ่านมา แล้วไปวัดกันที่ SWING STATE แบบนี้มันเคยโกงกูมาแล้ว ถึงได้แพ้อีเอ๋อไงล่ะ บทเรียนสอน ต้องดึงคะแนนเงียบออกมาให้เกลี้ยง ที่มาว่าทำไม ประกาศท้ารบ DEEP STATE ปลดแอกอินเดียนแดง ไล่แรงงานเถื่อน ผู้อพยพ ผู้ลี้ภัย ซึ่งส่วนใหญ่คือเด็กเหี้ย C ที่ทำงานระยำบัดซบทั่วโลก แล้วหนีเข้ามาซุกหัวในอเมริกา ดอกนี้ เป็นล้านน่ะจ๊ะ มันคือหัวคะแนนอีพรรคลาด้วยเช่นกัน จากนี้ คือการล้างบางทุกนโยบายที่อีเอ๋อ เคยทำมา เขี่ยลงถังขยะหมด เค้าเรียกล้างป่าช้า อีทรัมปป์มางวดนี้ เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทั้งสภาสูง สภาล่าง แค่สั่ง ชีวิตเปลี่ยนทันที ไม่ต้องรอใครอนุมัติ ไม่ต้องกลัวใครจะมาขัดขาได้อีก? การปะทะของ 2 ฝ่าย ทั้งหน้าฉาก หลังฉาก จะรุนแรงขึ้นจนเปิดศึกใหญ่ในที่สุด

    7.ศัตรูทรัมปป์ จะสู้กับอเมริกาทั้งแผ่นดิน ตีโจทย์ให้แตก อเมริกาไม่พร้อมจะรบกับรัสเซีย จีน อิหร่าน โสมแดง ตอนนี้ หมายังรู้? แก้เกี้ยว ซื้อเวลา ขอจัดระเบียบภายในบ้านก่อน กล่าวคือกำจัดอีลาก่อน แล้วค่อยแตกแผ่นดิน เมื่ออเมริกาแตก ก็ไม่ใช่ศัตรูรัสเซีย จีน อีกต่อไป แผ่นดินที่เหลือกูตั้งรัฐยิวใหม่ได้ ตั้ง TRUMP LAND ได้ ทั้งหมด เพื่อ "หนีหนี้" ไม่มีอเมริกา แล้วมรึงจะไปทวงเงินกับใครล่ะ? แต่เจ้าหนี้ก็ไม่โง่ เงินไม่มี จ่ายมาเป็นแผ่นดินสิจ๊ะ รูปแบบจะเป็นสัญญาเช่าก็ดี ซื้อขาดก็ดี เข้าไป TAKE OVER หนี้ รัฐยากจนเป็นเจ้าหนี้รายใหม่แทนก็ดี สุดท้าย อเมริกาก็ต้องแตก ไม่มีทางเลือกอื่น คำถามคือ อีลา จะทำยังไง เพื่อจะเอาอีทรัมปป์ลงจากอำนาจให้ได้ CIVIL WAR จะเกิดได้จริง ต้องเป็นเรื่องแยกดินแดน เมื่อ 50 รัฐ ไม่ยอมรับอำนาจรัฐบาลกลาง ภาพที่เห็นคือ "ปฎิวัติอเมริกา" อีลาดึงประชากรลา อีช้างดึงประชากรช้าง แยกกันอยู่ไปเลย อย่าลืมว่า อียิวยังมีทางเลือก อีแคนจะรับอุ้มอียิวแบบหมดหน้าตัก อเมริกาจะถูกย่อส่วน เพื่อเปิดทางให้เกิดรัฐยิวใหม่ อีกทางเลือกคือ ส่วนที่ไม่มีใครเอา อีแคนอาจจะผนวกแผ่นดินเข้าร่วมกัน โดยเฉพาะแผนดินที่ใกล้ ทั้งซีแอตเติล DC ไม่มีใครรู้ดอกว่า อียิวมันจะทำอะไรต่อ หลังย้ายจากเยรูซาเล็ม แต่ตะวันออกกลางจะเปลี่ยนโฉมหน้าทันที สงครามจะหายไป การค้าจะเฟื่องฟู ปาเลสไตน์จะกลายเป็นฮับ เชื่อมั้ยล่ะ?

    8.อเมริกาในมือทรัมปป์จะเป็นอย่างไร กับรัสเซีย จีน? ยุติสงคราม ไม่ได้เกิดเพราะทรัมปป์ชัวร์ สงครามจะจบหรือไม่ อยู่ที่ขั้วใหม่กำหนด? จำคีย์นี้ไว้ให้ดีดี ผู้ชนะ จะเป็นผู้กำหนดกติกาใหม่ทุกอย่าง แล้วอีทรัมปป์จะทำยังไงต่อ ฉากหน้าคือถอย ฉากหลังคือเติมอาวุธ ขายอาวุธ ส่งให้พวกเสี้ยนสงคราม นั่นคือ "อีโง่ยุโรป" นี่คือที่มาว่า ทำไม EU ถึงยังมีมติส่งอาวุธให้ยูเครนต่อ เพราะกลัวถูกรัสเซียกลืน ซึ่งมรึงโดนอยู่แล้ว ไม่รอด! ทำไมกูต้องส่งทหารไปตายเปล่าอีกล่ะ ในเมื่อมีไอ้โง่อยู่ทั้งฝูง หลอกให้ไปตายห่าแทน แถมขายอาวุธส่ง ทำกำไร 2 ต่อ มันคืออีกหนทางรอดของทรัมปป์ หากหักดิบมากเกินไป อาจบีบให้ DEEP STATE ซึ่งเป็นพ่อค้าอาวุธ หันมาโฟกัสฆ่ามรึงชัวร์ แต่หากยังมีผลประโยชน์ร่วม กูยังจะไม่หักมรึงซะทีเดียว ทุกอย่างคือ "ละคร" สรุปคือ ยุติสงครามในความหมายของทรัมปป์คือ อเมริกาไม่ต้องรบ ให้ยุโรปไปรบ ตายห่าแทน ขายอาวุธต่อ เสี้ยมต่อ ดอกนี้ ปูติน รู้ทัน แต่ขณะเดียวกัน อีทรัมปป์ก็ไม่โง่ ยืมมือรัสเซีย จีน ช่วยกำจัด DEEP STATE ไปด้วย โชว์สื่อโทรหาปูติน เรียกเรตติ้ง ว่ากูเดินหน้าจริง สรุปคือ อีทรัมปป์ควบทั้งเก่าและใหม่ ขอแค่กูยังอยู่ในอำนาจพอ หล่อเลี้ยงท่อน้ำเลี้ยงไม่ให้ขาด ทุกอย่างจะตามน้ำเอง ใครยังขัดขืน จ่ายหนัก เปลี่ยนทันที ทุกอย่างพูดด้วยเงิน ทุนนิยมไม่มีอะไรมากกว่า เอาเงินฟาดหัว?

    9.ภาพชัดเจน ท่าทีของขั้วใหม่ นับจากนี้ จีนจะเดินเกมส์การค้าสุดขั้ว ชนซึ่งหน้าสหรัฐ แน่นอนว่า อีทรัมปป์คลั่ง เล่นแร่แปรวิญญาน เพื่อเรียกแรงงานกลับบ้าน ที่ผ่านมา คนตกงานเยอะ แล้วอะไรจะสร้างงานล่ะ ก็ดันธุรกิจอเมริกันก่อนไงล่ะ ฟื้นฟู ภาคอุตสาหกรรมใหญ่ ไม่ให้มีคู่แข่ง หรือผูกขาดนั่นเอง ดอกนี้ จะเป็นต้นเหตุให้ WTO ตัดหางอเมริกา แล้วหันไปจูบปากจีนแทน อีทรัมปป์ไม่สนดอก แค่เอาคนในชาติรอด แค่อเมริกาฟื้น เรื่องอื่นเรื่องเล็ก ที่มันทำทั้งหมด ไม่ได้รักอเมริกา หรือภาคภูมิใจในแผ่นดินเกิด ชงต่อตั้ง TRUMP LAND ในอนาคต ตั้งตนเป็น KING หรือประมุขรัฐใหม่ พูดง่ายๆ สาวกทรัมปป์ทั่วโลก เชิญมาอยู่รวมกับกูที่นี่นั่นเอง มันคืออเมริกาใหม่ที่มีแต่ทรัมปป์ไงล่ะ? จีน รัสเซีย ไม่แคร์ดอกว่าทรัมปป์จะทำอะไร เพราะแผนพิมพ์เขียวเค้ามีรอนานแล้ว เดินหน้าต่อ ยิ่งทรัมปป์มา รัสเซีย จีน ยิ่งชอบ เพราะปากพาจน! มันง่ายที่จะคุย มันควบคุมเกมส์ง่ายขึ้น อย่าลืมน่ะว่า สิ่งที่รัสเซียจะทำจากนี้ มันคือ "สยบทั้งยุโรป" และนั่นคือสิ่งที่ทรัมปป์ต้องการเช่นกัน ศัตรูของทรัมปป์มีแต่จีน ที่ยังหาแดร๊กเก่งกว่า นี่คือจุดเปราะบาง ทำให้เกิดสงครามการค้าครั้งใหญ่ ที่แบ่งโลกกันไปเลย ลูกค้าเอเซีย ลูกค้าอเมริกา เอาให้ชัด สุดติ่ง สุดขั้ว กันไปเลย?

    10.จะใช้เวลานานแค่ไหน? อีทรัมปป์จะรอด หรืออยู่ยาว ทั้งหมด อยู่ที่หมากที่เดินอยู่ หากเดินพลาด ขั้วใหม่ขยี้ทันที โลกรองรับ อีลาพร้อมซ้ำ ดังนั้น อีทรัมปป์ต้องยึดแนวทางที่คะแนนเสียงให้มาก่อน อย่าเพิ่งรีบหักดิบกับกลุ่มผลประโยชน์มากเกินไป คราวก่อนที่มา พูดอย่าง ทำอีกอย่าง สร้างกำแพงกั้นผู้อพยพ งวดนี้ อเมริกาจะกลายเป็นคุกขนาดใหญ่ของโลก มรึงคอยดูสิ? ทรัมปป์ต้องรักษาสมดุลของอำนาจกับฝ่ายความมั่นคง กองกำลังตัวเองต้องมี และบอกเลยว่า จะค่อยๆ ดูดแสนยานุภาพกองทัพ เข้ากองทัพ(ทรัมปป์)ตัวเอง เพราะเตรียมการแตกอเมริกา มันต้องใช้อะไรล่ะ? กองทัพอีตาเพน รัฐบาลกลาง มีไม่พอ ที่จะสู้กับทั้ง 22 รัฐ ที่อีช้างครอบงำอยู่ เพราะมีสปอนเซอร์จากต่างประเทศเข้ามาไงล่ะ รัฐทำเงิน จะเกิดการแย่งชิงจากทั้ง 2 ฝ่าย รัฐยากจน คนดำ ภาคโรงงาน จะถูกทิ้ง แต่อาหรับ จีน รัสเซีย จะเข้ามาอุ้มต่อ ทำไม อีแคน ที่คิดจะเขมือบรวมแผ่นดินอยู่แล้ว ไม่เข้ามาอุ้มทั้งหมดไปเลยล่ะ เพราะมีอียิวเป็นนายทุนอยู่แล้ว สันดานยิว อะไรเสื่อม อะไรเจ๊ง ต้องฟื้นฟู มันไม่ทำ มันจะเอาท่าเดียว จ่ายไม่เอา ลงทุนไม่คุ้ม พลเมืองชั้น 3 ใครจะอยากรับไว้ CIVIL WAR จะเกิดได้เร็ว หากมีอุบัติเหตุการเมือง และนั่นคือสิ่งที่อยู่ในแผน อียิวเหี้ยไซออนนิสต์ มันเอาแน่! และขั้วใหม่ก็รออยู่เช่นกัน

    ปล.จับตาดู วงการทนาย วงการบันเทิง วงการสีกากี วงการแพทย์ วงการกรมคุก วงการสื่อ วงการพลังงาน วงการหวย วงการรับเหมา วงการอสังหาริมทรัพย์ และอีกหลายวงการ จะถูกชำแหละในไม่ช้านี้ ทุกองคาพยพที่หลอกแดร๊กคนไทยในทุกเรื่อง จะถูกเปิดออกหมดสิ้นด้วยพลังแห่งแสง ความจริง ความถูกต้อง ชอบธรรม ขบวนการต่างๆ ที่บั่นทอนชาติ เจ้าหน้าที่รัฐไม่ทำหน้าที่ ไส้ศึก ไอ้อีขายชาติ จะดาหน้ากันโผล่ออกมาจนหมด เสนอหน้าแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้แล้ว สัญญานคือ "ปลายกลียุค" เชื้อชั่วทั้งหลายจะต้องทิ้งทวนก่อนจะกลับขุมนรก รอดูอะไรดีดีอีกเยอะ ไอ้อีที่มรึงคิดว่าดี ที่เคยบูชา ที่เคยหลงใหล หางจะโผล่หมด นี่คืออิทธิฤทธิ์แห่งแสง คนดีจริง ไม่กลัวไฟ เรื่องของบ้านทรายทอง มันถึงเวลาต้องสังคายนากันใหม่ทั้งหมด ทำลายทิ้งแล้วเริ่มสร้างกันใหม่ สังคมใหม่ที่ไม่บูชาเงินเป็นพระเจ้า คนรวยเว่อร์จะหดหาย กลัวหัวหด ไม่กล้าอวดรวยกันอีกนาน เพราะสรรพากร ฟอกเงิน ปปง. ตามสืบมรึงแน่ ทุกอย่างที่มรึงเคยบ่นกัน บทเวลาจะไป มันเหมือนคลื่นสึนามิ กวาดทุกอย่างลงทะเลหมด ไปเร็วมาก จนมรึงดีใจยังไม่ทันจะหายปลื้ม ไปหมดล่ะ? ปล่อยวางซะ มรึงไม่ใช่เจ้าของจักรวาล ปล่อยให้วิถีแห่งกรรม ทำงานของมันไปเหอะ มรึงแค่รับรู้ รับทราบ และระมัดระวังตัว อย่าทำชั่วก็พอ แค่นี้ ก็ช่วยยกแผ่นดินสูงขึ้นได้แล้ว เรื่องของโลก ปล่อยให้โลกเค้าจัดการไป เรื่องของไทย ปล่อยสวรรค์เค้าจัดการเอง แค่มรึงตั้งสติ อานิสงค์แห่งบุญจะก่อเกิด จิตขุ่นเพราะไปเสพอาจม ใจฟู เพราะไปเสพธรรมะ สัจธรรม ทุกอย่างมันมีทางของมันเอง ไม่ต้องกังวลอะไรมาก มันเดินมาถูกทางแล้ว

    หมี CNN(การเปลี่ยนแปลงมาแล้ว แค่ดูอย่างตั้งสติ ไม่มีอะไรตายตัว ทุกอย่างอยู่ที่พลังแห่งกรรม โลกเค้าเปลี่ยนไปแล้ว ไทยเราก็ต้องเปลี่ยนตามเค้า ไม่มีใครต้านพลังแห่งแสงได้ดอก เหี้ยยังไง เลวแค่ไหน? ก็เปลี่ยนได้หมด สงครามแค่เปลือก อำนาจแค่แย่งชิง แต่ใครที่ทำให้โลกอุ่นใจ สบายใจ ปลอดภัย จะเป็นเป้าหมายของผู้แสวงหาความสุขเอง ไทยเรามีดีในตัว เดี๋ยวโลกจะแห่กันมาขออยู่เป็นเพื่อนมรึงเอง อียิวก็ขอย้ายมาด้วยน่ะ ไม่เป็นไร กูชี้เป้าให้เพ่น้องมุสลิมเอง ปักหมุดให้เสร็จ มาสิจ๊ะ มุสลิมปาร์ตี้รออยู่)
    11 พฤศจิกายน 67
    09.55 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    11-11-67/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.44 ชื่อตอนว่า "AMERICAN SURVIVE 2(จบ)" ต่อกันเลยไม่เสียเวลาชง! 6.อำนาจ 2 ขั้ว กองทัพ 2 เหล่า จะวัดกำลังกัน แนวร่วมที่อีทรัมปป์ดึงมาสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นชนเผ่าอินเดียนแดง 6 ล้าน คนดำที่เคยอาฆาตกรณีตำรวจฆ่าคนดำ หรือแม้แต่แรงงานต่างถิ่นที่เป็นพลเมืองไปแล้ว คะแนนที่มาแลนด์สไลด์ เพราะพลังเงียบที่ทนไม่ไหว ออกมานั่นเอง นี่ต่างหากที่อีทรัมปป์ล่ออีลาตายคาที่ ไม่ใช่แค่คะแนนจัดตั้งเหมือนที่ผ่านมา แล้วไปวัดกันที่ SWING STATE แบบนี้มันเคยโกงกูมาแล้ว ถึงได้แพ้อีเอ๋อไงล่ะ บทเรียนสอน ต้องดึงคะแนนเงียบออกมาให้เกลี้ยง ที่มาว่าทำไม ประกาศท้ารบ DEEP STATE ปลดแอกอินเดียนแดง ไล่แรงงานเถื่อน ผู้อพยพ ผู้ลี้ภัย ซึ่งส่วนใหญ่คือเด็กเหี้ย C ที่ทำงานระยำบัดซบทั่วโลก แล้วหนีเข้ามาซุกหัวในอเมริกา ดอกนี้ เป็นล้านน่ะจ๊ะ มันคือหัวคะแนนอีพรรคลาด้วยเช่นกัน จากนี้ คือการล้างบางทุกนโยบายที่อีเอ๋อ เคยทำมา เขี่ยลงถังขยะหมด เค้าเรียกล้างป่าช้า อีทรัมปป์มางวดนี้ เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทั้งสภาสูง สภาล่าง แค่สั่ง ชีวิตเปลี่ยนทันที ไม่ต้องรอใครอนุมัติ ไม่ต้องกลัวใครจะมาขัดขาได้อีก? การปะทะของ 2 ฝ่าย ทั้งหน้าฉาก หลังฉาก จะรุนแรงขึ้นจนเปิดศึกใหญ่ในที่สุด 7.ศัตรูทรัมปป์ จะสู้กับอเมริกาทั้งแผ่นดิน ตีโจทย์ให้แตก อเมริกาไม่พร้อมจะรบกับรัสเซีย จีน อิหร่าน โสมแดง ตอนนี้ หมายังรู้? แก้เกี้ยว ซื้อเวลา ขอจัดระเบียบภายในบ้านก่อน กล่าวคือกำจัดอีลาก่อน แล้วค่อยแตกแผ่นดิน เมื่ออเมริกาแตก ก็ไม่ใช่ศัตรูรัสเซีย จีน อีกต่อไป แผ่นดินที่เหลือกูตั้งรัฐยิวใหม่ได้ ตั้ง TRUMP LAND ได้ ทั้งหมด เพื่อ "หนีหนี้" ไม่มีอเมริกา แล้วมรึงจะไปทวงเงินกับใครล่ะ? แต่เจ้าหนี้ก็ไม่โง่ เงินไม่มี จ่ายมาเป็นแผ่นดินสิจ๊ะ รูปแบบจะเป็นสัญญาเช่าก็ดี ซื้อขาดก็ดี เข้าไป TAKE OVER หนี้ รัฐยากจนเป็นเจ้าหนี้รายใหม่แทนก็ดี สุดท้าย อเมริกาก็ต้องแตก ไม่มีทางเลือกอื่น คำถามคือ อีลา จะทำยังไง เพื่อจะเอาอีทรัมปป์ลงจากอำนาจให้ได้ CIVIL WAR จะเกิดได้จริง ต้องเป็นเรื่องแยกดินแดน เมื่อ 50 รัฐ ไม่ยอมรับอำนาจรัฐบาลกลาง ภาพที่เห็นคือ "ปฎิวัติอเมริกา" อีลาดึงประชากรลา อีช้างดึงประชากรช้าง แยกกันอยู่ไปเลย อย่าลืมว่า อียิวยังมีทางเลือก อีแคนจะรับอุ้มอียิวแบบหมดหน้าตัก อเมริกาจะถูกย่อส่วน เพื่อเปิดทางให้เกิดรัฐยิวใหม่ อีกทางเลือกคือ ส่วนที่ไม่มีใครเอา อีแคนอาจจะผนวกแผ่นดินเข้าร่วมกัน โดยเฉพาะแผนดินที่ใกล้ ทั้งซีแอตเติล DC ไม่มีใครรู้ดอกว่า อียิวมันจะทำอะไรต่อ หลังย้ายจากเยรูซาเล็ม แต่ตะวันออกกลางจะเปลี่ยนโฉมหน้าทันที สงครามจะหายไป การค้าจะเฟื่องฟู ปาเลสไตน์จะกลายเป็นฮับ เชื่อมั้ยล่ะ? 8.อเมริกาในมือทรัมปป์จะเป็นอย่างไร กับรัสเซีย จีน? ยุติสงคราม ไม่ได้เกิดเพราะทรัมปป์ชัวร์ สงครามจะจบหรือไม่ อยู่ที่ขั้วใหม่กำหนด? จำคีย์นี้ไว้ให้ดีดี ผู้ชนะ จะเป็นผู้กำหนดกติกาใหม่ทุกอย่าง แล้วอีทรัมปป์จะทำยังไงต่อ ฉากหน้าคือถอย ฉากหลังคือเติมอาวุธ ขายอาวุธ ส่งให้พวกเสี้ยนสงคราม นั่นคือ "อีโง่ยุโรป" นี่คือที่มาว่า ทำไม EU ถึงยังมีมติส่งอาวุธให้ยูเครนต่อ เพราะกลัวถูกรัสเซียกลืน ซึ่งมรึงโดนอยู่แล้ว ไม่รอด! ทำไมกูต้องส่งทหารไปตายเปล่าอีกล่ะ ในเมื่อมีไอ้โง่อยู่ทั้งฝูง หลอกให้ไปตายห่าแทน แถมขายอาวุธส่ง ทำกำไร 2 ต่อ มันคืออีกหนทางรอดของทรัมปป์ หากหักดิบมากเกินไป อาจบีบให้ DEEP STATE ซึ่งเป็นพ่อค้าอาวุธ หันมาโฟกัสฆ่ามรึงชัวร์ แต่หากยังมีผลประโยชน์ร่วม กูยังจะไม่หักมรึงซะทีเดียว ทุกอย่างคือ "ละคร" สรุปคือ ยุติสงครามในความหมายของทรัมปป์คือ อเมริกาไม่ต้องรบ ให้ยุโรปไปรบ ตายห่าแทน ขายอาวุธต่อ เสี้ยมต่อ ดอกนี้ ปูติน รู้ทัน แต่ขณะเดียวกัน อีทรัมปป์ก็ไม่โง่ ยืมมือรัสเซีย จีน ช่วยกำจัด DEEP STATE ไปด้วย โชว์สื่อโทรหาปูติน เรียกเรตติ้ง ว่ากูเดินหน้าจริง สรุปคือ อีทรัมปป์ควบทั้งเก่าและใหม่ ขอแค่กูยังอยู่ในอำนาจพอ หล่อเลี้ยงท่อน้ำเลี้ยงไม่ให้ขาด ทุกอย่างจะตามน้ำเอง ใครยังขัดขืน จ่ายหนัก เปลี่ยนทันที ทุกอย่างพูดด้วยเงิน ทุนนิยมไม่มีอะไรมากกว่า เอาเงินฟาดหัว? 9.ภาพชัดเจน ท่าทีของขั้วใหม่ นับจากนี้ จีนจะเดินเกมส์การค้าสุดขั้ว ชนซึ่งหน้าสหรัฐ แน่นอนว่า อีทรัมปป์คลั่ง เล่นแร่แปรวิญญาน เพื่อเรียกแรงงานกลับบ้าน ที่ผ่านมา คนตกงานเยอะ แล้วอะไรจะสร้างงานล่ะ ก็ดันธุรกิจอเมริกันก่อนไงล่ะ ฟื้นฟู ภาคอุตสาหกรรมใหญ่ ไม่ให้มีคู่แข่ง หรือผูกขาดนั่นเอง ดอกนี้ จะเป็นต้นเหตุให้ WTO ตัดหางอเมริกา แล้วหันไปจูบปากจีนแทน อีทรัมปป์ไม่สนดอก แค่เอาคนในชาติรอด แค่อเมริกาฟื้น เรื่องอื่นเรื่องเล็ก ที่มันทำทั้งหมด ไม่ได้รักอเมริกา หรือภาคภูมิใจในแผ่นดินเกิด ชงต่อตั้ง TRUMP LAND ในอนาคต ตั้งตนเป็น KING หรือประมุขรัฐใหม่ พูดง่ายๆ สาวกทรัมปป์ทั่วโลก เชิญมาอยู่รวมกับกูที่นี่นั่นเอง มันคืออเมริกาใหม่ที่มีแต่ทรัมปป์ไงล่ะ? จีน รัสเซีย ไม่แคร์ดอกว่าทรัมปป์จะทำอะไร เพราะแผนพิมพ์เขียวเค้ามีรอนานแล้ว เดินหน้าต่อ ยิ่งทรัมปป์มา รัสเซีย จีน ยิ่งชอบ เพราะปากพาจน! มันง่ายที่จะคุย มันควบคุมเกมส์ง่ายขึ้น อย่าลืมน่ะว่า สิ่งที่รัสเซียจะทำจากนี้ มันคือ "สยบทั้งยุโรป" และนั่นคือสิ่งที่ทรัมปป์ต้องการเช่นกัน ศัตรูของทรัมปป์มีแต่จีน ที่ยังหาแดร๊กเก่งกว่า นี่คือจุดเปราะบาง ทำให้เกิดสงครามการค้าครั้งใหญ่ ที่แบ่งโลกกันไปเลย ลูกค้าเอเซีย ลูกค้าอเมริกา เอาให้ชัด สุดติ่ง สุดขั้ว กันไปเลย? 10.จะใช้เวลานานแค่ไหน? อีทรัมปป์จะรอด หรืออยู่ยาว ทั้งหมด อยู่ที่หมากที่เดินอยู่ หากเดินพลาด ขั้วใหม่ขยี้ทันที โลกรองรับ อีลาพร้อมซ้ำ ดังนั้น อีทรัมปป์ต้องยึดแนวทางที่คะแนนเสียงให้มาก่อน อย่าเพิ่งรีบหักดิบกับกลุ่มผลประโยชน์มากเกินไป คราวก่อนที่มา พูดอย่าง ทำอีกอย่าง สร้างกำแพงกั้นผู้อพยพ งวดนี้ อเมริกาจะกลายเป็นคุกขนาดใหญ่ของโลก มรึงคอยดูสิ? ทรัมปป์ต้องรักษาสมดุลของอำนาจกับฝ่ายความมั่นคง กองกำลังตัวเองต้องมี และบอกเลยว่า จะค่อยๆ ดูดแสนยานุภาพกองทัพ เข้ากองทัพ(ทรัมปป์)ตัวเอง เพราะเตรียมการแตกอเมริกา มันต้องใช้อะไรล่ะ? กองทัพอีตาเพน รัฐบาลกลาง มีไม่พอ ที่จะสู้กับทั้ง 22 รัฐ ที่อีช้างครอบงำอยู่ เพราะมีสปอนเซอร์จากต่างประเทศเข้ามาไงล่ะ รัฐทำเงิน จะเกิดการแย่งชิงจากทั้ง 2 ฝ่าย รัฐยากจน คนดำ ภาคโรงงาน จะถูกทิ้ง แต่อาหรับ จีน รัสเซีย จะเข้ามาอุ้มต่อ ทำไม อีแคน ที่คิดจะเขมือบรวมแผ่นดินอยู่แล้ว ไม่เข้ามาอุ้มทั้งหมดไปเลยล่ะ เพราะมีอียิวเป็นนายทุนอยู่แล้ว สันดานยิว อะไรเสื่อม อะไรเจ๊ง ต้องฟื้นฟู มันไม่ทำ มันจะเอาท่าเดียว จ่ายไม่เอา ลงทุนไม่คุ้ม พลเมืองชั้น 3 ใครจะอยากรับไว้ CIVIL WAR จะเกิดได้เร็ว หากมีอุบัติเหตุการเมือง และนั่นคือสิ่งที่อยู่ในแผน อียิวเหี้ยไซออนนิสต์ มันเอาแน่! และขั้วใหม่ก็รออยู่เช่นกัน ปล.จับตาดู วงการทนาย วงการบันเทิง วงการสีกากี วงการแพทย์ วงการกรมคุก วงการสื่อ วงการพลังงาน วงการหวย วงการรับเหมา วงการอสังหาริมทรัพย์ และอีกหลายวงการ จะถูกชำแหละในไม่ช้านี้ ทุกองคาพยพที่หลอกแดร๊กคนไทยในทุกเรื่อง จะถูกเปิดออกหมดสิ้นด้วยพลังแห่งแสง ความจริง ความถูกต้อง ชอบธรรม ขบวนการต่างๆ ที่บั่นทอนชาติ เจ้าหน้าที่รัฐไม่ทำหน้าที่ ไส้ศึก ไอ้อีขายชาติ จะดาหน้ากันโผล่ออกมาจนหมด เสนอหน้าแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้แล้ว สัญญานคือ "ปลายกลียุค" เชื้อชั่วทั้งหลายจะต้องทิ้งทวนก่อนจะกลับขุมนรก รอดูอะไรดีดีอีกเยอะ ไอ้อีที่มรึงคิดว่าดี ที่เคยบูชา ที่เคยหลงใหล หางจะโผล่หมด นี่คืออิทธิฤทธิ์แห่งแสง คนดีจริง ไม่กลัวไฟ เรื่องของบ้านทรายทอง มันถึงเวลาต้องสังคายนากันใหม่ทั้งหมด ทำลายทิ้งแล้วเริ่มสร้างกันใหม่ สังคมใหม่ที่ไม่บูชาเงินเป็นพระเจ้า คนรวยเว่อร์จะหดหาย กลัวหัวหด ไม่กล้าอวดรวยกันอีกนาน เพราะสรรพากร ฟอกเงิน ปปง. ตามสืบมรึงแน่ ทุกอย่างที่มรึงเคยบ่นกัน บทเวลาจะไป มันเหมือนคลื่นสึนามิ กวาดทุกอย่างลงทะเลหมด ไปเร็วมาก จนมรึงดีใจยังไม่ทันจะหายปลื้ม ไปหมดล่ะ? ปล่อยวางซะ มรึงไม่ใช่เจ้าของจักรวาล ปล่อยให้วิถีแห่งกรรม ทำงานของมันไปเหอะ มรึงแค่รับรู้ รับทราบ และระมัดระวังตัว อย่าทำชั่วก็พอ แค่นี้ ก็ช่วยยกแผ่นดินสูงขึ้นได้แล้ว เรื่องของโลก ปล่อยให้โลกเค้าจัดการไป เรื่องของไทย ปล่อยสวรรค์เค้าจัดการเอง แค่มรึงตั้งสติ อานิสงค์แห่งบุญจะก่อเกิด จิตขุ่นเพราะไปเสพอาจม ใจฟู เพราะไปเสพธรรมะ สัจธรรม ทุกอย่างมันมีทางของมันเอง ไม่ต้องกังวลอะไรมาก มันเดินมาถูกทางแล้ว หมี CNN(การเปลี่ยนแปลงมาแล้ว แค่ดูอย่างตั้งสติ ไม่มีอะไรตายตัว ทุกอย่างอยู่ที่พลังแห่งกรรม โลกเค้าเปลี่ยนไปแล้ว ไทยเราก็ต้องเปลี่ยนตามเค้า ไม่มีใครต้านพลังแห่งแสงได้ดอก เหี้ยยังไง เลวแค่ไหน? ก็เปลี่ยนได้หมด สงครามแค่เปลือก อำนาจแค่แย่งชิง แต่ใครที่ทำให้โลกอุ่นใจ สบายใจ ปลอดภัย จะเป็นเป้าหมายของผู้แสวงหาความสุขเอง ไทยเรามีดีในตัว เดี๋ยวโลกจะแห่กันมาขออยู่เป็นเพื่อนมรึงเอง อียิวก็ขอย้ายมาด้วยน่ะ ไม่เป็นไร กูชี้เป้าให้เพ่น้องมุสลิมเอง ปักหมุดให้เสร็จ มาสิจ๊ะ มุสลิมปาร์ตี้รออยู่) 11 พฤศจิกายน 67 09.55 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
  • การอนุมัติใช้ยารักษาไข้หวัดใหญ่

    หลักฐานชัดเจนมีเพียงใดและแค่ไหน?

    มีการอนุมัติให้ใช้ จนกระทั่งถึงการให้สะสม stockpile ตั้งแต่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และกลายเป็นมาตรฐานสำหรับไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก จนถึงปัจจุบัน
    จากวารสารการแพทย์ของอังกฤษ British medical journal เปิดเผยและวิเคราะห์ ถึงรายงานต่างๆ ในวารสารการแพทย์ชั้นนำของโลกอื่นๆ

    พบว่าไม่มีการตรวจสอบข้อมูลในการศึกษาอย่างแท้จริง (ใช้คำว่า ไม่มี vetted underlying data = ไม่มี careful and critical examination) แต่เป็นข้อมูลจากบริษัทผู้ผลิต

    และจนกระทั่งถึงปัจจุบัน “ยังไม่สามารถยืนยันประสิทธิภาพ” ได้ว่าสามารถลดอัตราการเกิดปอดบวม และการเสียชีวิต ตามรายงานจนกระทั่งถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2019

    รายงานการศึกษาประสิทธิภาพในระยะที่ 3 ของบริษัทผู้ผลิตไม่ได้ถูกเปิดเผยหรือถูกตีพิมพ์แม้ว่าจะผ่านไป 10 ปีหลังจากที่มีการสนับสนุนให้เป็นการใช้มาตรฐาน จาก WHO CDC EMA (ยุโรป)

    Tamiflu campaign BMJ
    https://www.bmj.com/tamiflu

    ยารักษาไข้หวัดใหญ่ oseltamivir peramivir, หรือ zanamivir
    รายงานในวารสาร แลนเซท 24 สิงหาคม 2024
    (https://www.thelancet.com/journals/lancet/article/PIIS0140-6736(24)01307-2/fulltext)
    เป็น meta-analysis รายงานต่างๆที่เป็น RCT ไม่มีรายงานพิสูจน์ชัดว่าถ้าถึงกับเข้าโรงพยาบาลไปแล้วจะลดอาการหนักได้จริงอย่างชัดเจน สำหรับประสิทธิภาพในการลดระยะเวลาการเจ็บป่วยพบว่าอาจเป็นไปได้ แต่ระดับความน่าเชื่อถือยังต่ำเช่นกัน

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต
    การอนุมัติใช้ยารักษาไข้หวัดใหญ่ หลักฐานชัดเจนมีเพียงใดและแค่ไหน? มีการอนุมัติให้ใช้ จนกระทั่งถึงการให้สะสม stockpile ตั้งแต่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และกลายเป็นมาตรฐานสำหรับไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก จนถึงปัจจุบัน จากวารสารการแพทย์ของอังกฤษ British medical journal เปิดเผยและวิเคราะห์ ถึงรายงานต่างๆ ในวารสารการแพทย์ชั้นนำของโลกอื่นๆ พบว่าไม่มีการตรวจสอบข้อมูลในการศึกษาอย่างแท้จริง (ใช้คำว่า ไม่มี vetted underlying data = ไม่มี careful and critical examination) แต่เป็นข้อมูลจากบริษัทผู้ผลิต และจนกระทั่งถึงปัจจุบัน “ยังไม่สามารถยืนยันประสิทธิภาพ” ได้ว่าสามารถลดอัตราการเกิดปอดบวม และการเสียชีวิต ตามรายงานจนกระทั่งถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2019 รายงานการศึกษาประสิทธิภาพในระยะที่ 3 ของบริษัทผู้ผลิตไม่ได้ถูกเปิดเผยหรือถูกตีพิมพ์แม้ว่าจะผ่านไป 10 ปีหลังจากที่มีการสนับสนุนให้เป็นการใช้มาตรฐาน จาก WHO CDC EMA (ยุโรป) Tamiflu campaign BMJ https://www.bmj.com/tamiflu ยารักษาไข้หวัดใหญ่ oseltamivir peramivir, หรือ zanamivir รายงานในวารสาร แลนเซท 24 สิงหาคม 2024 (https://www.thelancet.com/journals/lancet/article/PIIS0140-6736(24)01307-2/fulltext) เป็น meta-analysis รายงานต่างๆที่เป็น RCT ไม่มีรายงานพิสูจน์ชัดว่าถ้าถึงกับเข้าโรงพยาบาลไปแล้วจะลดอาการหนักได้จริงอย่างชัดเจน สำหรับประสิทธิภาพในการลดระยะเวลาการเจ็บป่วยพบว่าอาจเป็นไปได้ แต่ระดับความน่าเชื่อถือยังต่ำเช่นกัน ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    Tamiflu campaign
    The BMJ’s first open data campaign aimed to pressure companies into releasing the underlying clinical trial data for two globally stockpiled anti-influenza drugs, Tamiflu and Relenza. The campaign lasted nearly 4 years and was ultimately successful, and helped galvanize a movement towards increased transparency of clinical trial data. The bottom line
    Like
    Sad
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • TikTok@wang_gao7 #มูลนิธิกาญจนบารมี #การแพทย์ #รัชการที่10 #ราชวงศ์จักรี #TikTokUni #ประวัติศาสตร์ #วังเก่า #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    TikTok@wang_gao7 #มูลนิธิกาญจนบารมี #การแพทย์ #รัชการที่10 #ราชวงศ์จักรี #TikTokUni #ประวัติศาสตร์ #วังเก่า #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 140 0 รีวิว
  • การรักษาโรคมะเร็งแบบแพทย์บูรณาการ (Integrative Medicine) เป็นการผสมผสานระหว่างการรักษามะเร็งด้วยวิธีการแพทย์แผนปัจจุบันกับการบำบัดทางเลือกหรือการรักษาทางธรรมชาติ โดยเน้นการรักษาแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทั้งร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการรักษาและบรรเทาอาการข้างเคียงจากการรักษาหลัก

    แนวทางในการรักษาแบบแพทย์บูรณาการ

    1. การรักษาหลักด้วยวิธีทางการแพทย์

    ใช้เคมีบำบัด (Chemotherapy)

    การฉายแสง (Radiation Therapy)

    การผ่าตัด (Surgery)

    การใช้ยามุ่งเป้าหรือยาชีวบำบัด (Targeted Therapy/Immunotherapy)



    2. การเสริมด้วยวิธีธรรมชาติและทางเลือก

    การรับประทานอาหารที่เหมาะสม: แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีคุณค่าสูง หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ร่างกายมีการอักเสบสูง เช่น น้ำตาลขาว อาหารแปรรูป หรือไขมันทรานส์

    การบำบัดด้วยสมุนไพร: เช่น ขมิ้นชัน เห็ดหลินจือ หรือตรีผลา สมุนไพรบางชนิดมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบหรือเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย

    การออกกำลังกายเบาๆ: เช่น โยคะ ไทเก็ก หรือการเดิน ซึ่งช่วยลดความเครียดและเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย

    การบำบัดด้านจิตใจ: เช่น การฝึกสมาธิ การทำโยคะ หรือการฝึกหายใจ เพื่อช่วยควบคุมความเครียดและความกังวลที่เกี่ยวข้องกับการรักษามะเร็ง

    การใช้วิทยาการเสริมจากธรรมชาติ: เช่น การฝังเข็ม การบำบัดด้วยกลิ่นหอม (Aromatherapy) การนวดบำบัด ซึ่งอาจช่วยลดผลข้างเคียงบางอย่างจากการรักษาหลัก เช่น คลื่นไส้ ปวด หรืออาการอ่อนเพลีย


    ประโยชน์ของการรักษาแบบแพทย์บูรณาการ

    ลดอาการข้างเคียงจากการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบัน

    เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความแข็งแรงของร่างกาย

    ลดความเครียดและสร้างความมั่นใจในการเผชิญกับโรค

    ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยในระหว่างและหลังการรักษา


    ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด
    ☎️. 090-465-6360

    ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์
    https://lin.ee/pBbSqSD

    #โรคมะเร็ง #มะเร็ง #มะเร็งปอด #มะเร็งเต้านม #มะเร็งตับ #รักษามะเร็ง #อาการมะเร็ง #ป้องกันมะเร็ง #สุขภาพ #สู้มะเร็ง #ตรวจมะเร็ง #ความรู้เรื่องมะเร็ง #มะเร็งผิวหนัง #เคมีบำบัด #การฉายรังสี #ภูมิคุ้มกันบำบัด #วิธีรักษามะเร็ง #คำแนะนำมะเร็ง #ข้อมูลสุขภาพ #ชีวิตสู้มะเร็ง
    การรักษาโรคมะเร็งแบบแพทย์บูรณาการ (Integrative Medicine) เป็นการผสมผสานระหว่างการรักษามะเร็งด้วยวิธีการแพทย์แผนปัจจุบันกับการบำบัดทางเลือกหรือการรักษาทางธรรมชาติ โดยเน้นการรักษาแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทั้งร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการรักษาและบรรเทาอาการข้างเคียงจากการรักษาหลัก แนวทางในการรักษาแบบแพทย์บูรณาการ 1. การรักษาหลักด้วยวิธีทางการแพทย์ ใช้เคมีบำบัด (Chemotherapy) การฉายแสง (Radiation Therapy) การผ่าตัด (Surgery) การใช้ยามุ่งเป้าหรือยาชีวบำบัด (Targeted Therapy/Immunotherapy) 2. การเสริมด้วยวิธีธรรมชาติและทางเลือก การรับประทานอาหารที่เหมาะสม: แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีคุณค่าสูง หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ร่างกายมีการอักเสบสูง เช่น น้ำตาลขาว อาหารแปรรูป หรือไขมันทรานส์ การบำบัดด้วยสมุนไพร: เช่น ขมิ้นชัน เห็ดหลินจือ หรือตรีผลา สมุนไพรบางชนิดมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบหรือเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย การออกกำลังกายเบาๆ: เช่น โยคะ ไทเก็ก หรือการเดิน ซึ่งช่วยลดความเครียดและเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย การบำบัดด้านจิตใจ: เช่น การฝึกสมาธิ การทำโยคะ หรือการฝึกหายใจ เพื่อช่วยควบคุมความเครียดและความกังวลที่เกี่ยวข้องกับการรักษามะเร็ง การใช้วิทยาการเสริมจากธรรมชาติ: เช่น การฝังเข็ม การบำบัดด้วยกลิ่นหอม (Aromatherapy) การนวดบำบัด ซึ่งอาจช่วยลดผลข้างเคียงบางอย่างจากการรักษาหลัก เช่น คลื่นไส้ ปวด หรืออาการอ่อนเพลีย ประโยชน์ของการรักษาแบบแพทย์บูรณาการ ลดอาการข้างเคียงจากการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบัน เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความแข็งแรงของร่างกาย ลดความเครียดและสร้างความมั่นใจในการเผชิญกับโรค ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยในระหว่างและหลังการรักษา ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด ☎️. 090-465-6360 ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์ https://lin.ee/pBbSqSD #โรคมะเร็ง #มะเร็ง #มะเร็งปอด #มะเร็งเต้านม #มะเร็งตับ #รักษามะเร็ง #อาการมะเร็ง #ป้องกันมะเร็ง #สุขภาพ #สู้มะเร็ง #ตรวจมะเร็ง #ความรู้เรื่องมะเร็ง #มะเร็งผิวหนัง #เคมีบำบัด #การฉายรังสี #ภูมิคุ้มกันบำบัด #วิธีรักษามะเร็ง #คำแนะนำมะเร็ง #ข้อมูลสุขภาพ #ชีวิตสู้มะเร็ง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 478 มุมมอง 86 0 รีวิว
  • สนธิสัญญาองค์การอนามัยโลก

    ประเทศไทยควรต้องสนใจกับข้อกำหนดสนธิสัญญากับองค์การอนามัยโลก

    รายชื่อคัดค้าน และรายละเอียด สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกที่ เมื่อตกลง ต้องทำตาม
    อย่าง บิดพริ้วไม่ได้

    ปัจจุบันมีการลงขื่อ 60,000 ราย และ รวมทั้ง มีการคัดค้านจาก สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย
    ซึ่งถือว่าเป็นประชาชนรากหญ้าและได้รับผลกระทบ
    อย่างสูงเมื่อการดำรงชีวิต การเข้าถึงยาและสมุนไพรวิถีไทยจะถูกห้าม

    รายละเอียดเหล่านี้ ส่งถึง ท่าน รมต ประธานสภา และ กระทรวง สาธารณสุข
    ตั้งแต่พฤษภาคม 2567 จนถึงปัจจุบันนี้ คนไทยยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

    และทางการ และรัฐบาล ควร ต้องชี้แจงให้คนไทยทุกคนทราบ

    และ รัฐบาล ทราบหรือไม่ว่า ควรต้องทำอะไร ทั้งๆที่ประเทศต่างๆทั่วโลกกังวล

    ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยมีทรัพยากรสมุนไพรธรรมชาติที่ใช้กันมาเนิ่นนานแล้ว แต่ถูกด้อยค่าไปตามลำดับ

    และต้องตระหนักว่าสมุนไพรเหล่านี้ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาเป็นยาและส่งกลับมาขาย ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร และตัวอื่นๆ โดยศึกษาในขั้นโมเลกุลและผลตรงกับที่บรรพบุรุษไทยได้จารึกสรรพคุณไว้ตั้งแต่สมัยต้นรัชกาล ด้วยซ้ำ
    ในตำราแพทย์ไทยนั้น

    ยกตัวอย่างเช่นรูปลักษณะของฝีดาษได้บรรยายไว้ 12 ชนิด ซึ่งตรงกับ 12 ไวรัสในตระกูลฝีดาษที่เราทราบกันในปัจจุบัน และมีการระบุสมุนไพรแต่ละประเภทตามความรุนแรงของชนิดฝีดาษ

    ข้อมูลรายละเอียดของการคัดค้าน WHO 24 พค.67
    https://drive.google.com/drive/folders/1GyWC2OcVnUkglL7YUtFRum8S_TqZvmIU

    ความสำคัญของ สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกต่อภาคีเครือข่ายรวมกระทั่งถึงประเทศไทย
    ถ้าอยู่ภายใต้ สนธิสัญญานี้ จะบิดพริ้วมิได้
    และจะเกิด ผลกระทบติดตามมากมาย หลายเรื่อง เช่น
    1- องค์การอนามัยโลกสามารถประกาศโรคระบาดใดให้เป็น สถานการณ์โรค ระบาดทั้งโลกได้ โดยไม่ต้องฟัง ข้อมูลรายละเอียดจากพื้นที่ให้ครบทุกด้าน
    2- เมื่อประกาศแล้วเราต้องทำตามทุกอย่าง และไม่สามารถทำอะไรที่ควรจะทำได้
    3- วัคซีนต้องฉีดตามองค์การอนามัยโลกสั่ง โดย องค์การอนามัยโลก ไม่ต้อง มีความรับผิดชอบ ถ้าเกิดมีผลข้างเคียง ไม่ว่าจะรุนแรงเท่าใด เพราะถือว่า ได้รับสิทธิ์และถืออำนาจสั่งการได้อย่างสมบูรณ์
    4-ยา ต้องใช้ตามที่สั่งโดยไม่บิดพลิ้ว นั่นคือยาต้องสั่งจากต่างประเทศอย่างเดียว และยาที่ผลิตจากวัตถุดิบจากประเทศในเอเชียจะถูกมองว่าไม่มีประสิทธิภาพไม่ได้มาตรฐานและมีอันตรายทันที หรือไม่
    5- สมุนไพรที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการใช้และจะมีการออกประกาศโดยกระทรวงทบวงกรมสถาบันโรงเรียนแพทย์โดยถือว่าเป็นคำสั่งหรือข้อแนะนำจากองค์การอนามัยโลกและผ่านมาทาง อย สหรัฐ ศูนย์ควบคุมป้องกันโรคของสหรัฐ
    6- สามารถที่จะเซ็นเซอร์ทุกอย่างได้ที่เกี่ยวกับข้อมูลที่ควรจะเป็น ไม่ว่าเป็นผลข้างเคียงผลแทรกซ้อนของวัคซีนและยาที่องค์การอนามัยโลกสั่ง
    ประชาชนไม่สามารถสื่อสารการใช้ยาที่คนไทยใช้อยู่แล้วในพื้นที่ และมีหน่วยงานที่เซ็นเซอร์โดยจัดให้เป็นข้อมูลเท็จ misinformation ผ่านทางหน่วยงานของรัฐ จากองค์กร และสู่ประชาชนทั้งประเทศให้เชื่อฟัง

    ทั้งนี้จะมีหน่วยงานที่สอดส่องโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์และทำการถอดถอนข้อมูล ดิสเครดิต ผู้ที่ให้ข้อมูลทันที มีหน่วยงานลักษณะนี้ รวมทั้งกระทรวงของรัฐที่ทำตามกระบวนการนี้

    สิ่งที่กล่าวนี้เกิดขึ้นแล้ว ในช่วงโควิด และเป็นที่ประจักษ์ในเรื่องของผลกระทบผลข้างเคียง ของสิ่งที่ฉีด

    โดยที่ทางการของประเทศ ไทยเองประกาศทั่วประเทศเมื่อต้นปี 2567 ว่า
    ผลกระทบร้ายแรงและถึงแก่ชีวิตทั้งประเทศมีเพียงห้าราย
    โดยที่ตัวเลขห้ารายนี้ จะเทียบกับหนึ่งในล้าน ซึ่ง
    เป็นตัวเลขที่ยอมรับได้ตามประกาศขององค์การอนามัยโลก
    ทั้งๆที่รายอื่นเป็น 10,000 เป็น 100,000 ถูกปัดว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง และถึงกระทั่งให้หาข้อพิสูจน์มา เอง โดยที่การพิสูจน์ หรือชันสูตรศพ ทาง วิทยาศาสตร์นั้นต้องการทุนไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท

    สิ่งเหล่านี้ปรากฏขึ้นแล้วและจะรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่าถ้าตกอยู่ในสนธิสัญญานี้

    วัคซีนในปัจจุบันและต่อจากนี้ในมนุษย์และสัตว์ใช้เทคโนโลยี ที่ใช้กับโควิด ทั้งนี้โดยอ้างว่า ได้ใช้กับประชาชนทั่วโลกแล้วและผลกระทบไม่ได้เกิดจากวัคซีน

    นสพ มติชน ฉบับพิมพ์
    ท็อล์กออฟเดอะทาวน์
    10 พย 2567

    กระบวนการรวบรวมรายชื่อคัดค้านและนำส่งทางการของประเทศไทยโดยกลุ่มแพทย์และประชาชนไทยพิทักษ์สิทธิ์

    รวบรวมข้อมูลโดย
    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต
    สนธิสัญญาองค์การอนามัยโลก ประเทศไทยควรต้องสนใจกับข้อกำหนดสนธิสัญญากับองค์การอนามัยโลก รายชื่อคัดค้าน และรายละเอียด สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกที่ เมื่อตกลง ต้องทำตาม อย่าง บิดพริ้วไม่ได้ ปัจจุบันมีการลงขื่อ 60,000 ราย และ รวมทั้ง มีการคัดค้านจาก สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นประชาชนรากหญ้าและได้รับผลกระทบ อย่างสูงเมื่อการดำรงชีวิต การเข้าถึงยาและสมุนไพรวิถีไทยจะถูกห้าม รายละเอียดเหล่านี้ ส่งถึง ท่าน รมต ประธานสภา และ กระทรวง สาธารณสุข ตั้งแต่พฤษภาคม 2567 จนถึงปัจจุบันนี้ คนไทยยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น และทางการ และรัฐบาล ควร ต้องชี้แจงให้คนไทยทุกคนทราบ และ รัฐบาล ทราบหรือไม่ว่า ควรต้องทำอะไร ทั้งๆที่ประเทศต่างๆทั่วโลกกังวล ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยมีทรัพยากรสมุนไพรธรรมชาติที่ใช้กันมาเนิ่นนานแล้ว แต่ถูกด้อยค่าไปตามลำดับ และต้องตระหนักว่าสมุนไพรเหล่านี้ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาเป็นยาและส่งกลับมาขาย ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร และตัวอื่นๆ โดยศึกษาในขั้นโมเลกุลและผลตรงกับที่บรรพบุรุษไทยได้จารึกสรรพคุณไว้ตั้งแต่สมัยต้นรัชกาล ด้วยซ้ำ ในตำราแพทย์ไทยนั้น ยกตัวอย่างเช่นรูปลักษณะของฝีดาษได้บรรยายไว้ 12 ชนิด ซึ่งตรงกับ 12 ไวรัสในตระกูลฝีดาษที่เราทราบกันในปัจจุบัน และมีการระบุสมุนไพรแต่ละประเภทตามความรุนแรงของชนิดฝีดาษ ข้อมูลรายละเอียดของการคัดค้าน WHO 24 พค.67 https://drive.google.com/drive/folders/1GyWC2OcVnUkglL7YUtFRum8S_TqZvmIU ความสำคัญของ สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกต่อภาคีเครือข่ายรวมกระทั่งถึงประเทศไทย ถ้าอยู่ภายใต้ สนธิสัญญานี้ จะบิดพริ้วมิได้ และจะเกิด ผลกระทบติดตามมากมาย หลายเรื่อง เช่น 1- องค์การอนามัยโลกสามารถประกาศโรคระบาดใดให้เป็น สถานการณ์โรค ระบาดทั้งโลกได้ โดยไม่ต้องฟัง ข้อมูลรายละเอียดจากพื้นที่ให้ครบทุกด้าน 2- เมื่อประกาศแล้วเราต้องทำตามทุกอย่าง และไม่สามารถทำอะไรที่ควรจะทำได้ 3- วัคซีนต้องฉีดตามองค์การอนามัยโลกสั่ง โดย องค์การอนามัยโลก ไม่ต้อง มีความรับผิดชอบ ถ้าเกิดมีผลข้างเคียง ไม่ว่าจะรุนแรงเท่าใด เพราะถือว่า ได้รับสิทธิ์และถืออำนาจสั่งการได้อย่างสมบูรณ์ 4-ยา ต้องใช้ตามที่สั่งโดยไม่บิดพลิ้ว นั่นคือยาต้องสั่งจากต่างประเทศอย่างเดียว และยาที่ผลิตจากวัตถุดิบจากประเทศในเอเชียจะถูกมองว่าไม่มีประสิทธิภาพไม่ได้มาตรฐานและมีอันตรายทันที หรือไม่ 5- สมุนไพรที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการใช้และจะมีการออกประกาศโดยกระทรวงทบวงกรมสถาบันโรงเรียนแพทย์โดยถือว่าเป็นคำสั่งหรือข้อแนะนำจากองค์การอนามัยโลกและผ่านมาทาง อย สหรัฐ ศูนย์ควบคุมป้องกันโรคของสหรัฐ 6- สามารถที่จะเซ็นเซอร์ทุกอย่างได้ที่เกี่ยวกับข้อมูลที่ควรจะเป็น ไม่ว่าเป็นผลข้างเคียงผลแทรกซ้อนของวัคซีนและยาที่องค์การอนามัยโลกสั่ง ประชาชนไม่สามารถสื่อสารการใช้ยาที่คนไทยใช้อยู่แล้วในพื้นที่ และมีหน่วยงานที่เซ็นเซอร์โดยจัดให้เป็นข้อมูลเท็จ misinformation ผ่านทางหน่วยงานของรัฐ จากองค์กร และสู่ประชาชนทั้งประเทศให้เชื่อฟัง ทั้งนี้จะมีหน่วยงานที่สอดส่องโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์และทำการถอดถอนข้อมูล ดิสเครดิต ผู้ที่ให้ข้อมูลทันที มีหน่วยงานลักษณะนี้ รวมทั้งกระทรวงของรัฐที่ทำตามกระบวนการนี้ สิ่งที่กล่าวนี้เกิดขึ้นแล้ว ในช่วงโควิด และเป็นที่ประจักษ์ในเรื่องของผลกระทบผลข้างเคียง ของสิ่งที่ฉีด โดยที่ทางการของประเทศ ไทยเองประกาศทั่วประเทศเมื่อต้นปี 2567 ว่า ผลกระทบร้ายแรงและถึงแก่ชีวิตทั้งประเทศมีเพียงห้าราย โดยที่ตัวเลขห้ารายนี้ จะเทียบกับหนึ่งในล้าน ซึ่ง เป็นตัวเลขที่ยอมรับได้ตามประกาศขององค์การอนามัยโลก ทั้งๆที่รายอื่นเป็น 10,000 เป็น 100,000 ถูกปัดว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง และถึงกระทั่งให้หาข้อพิสูจน์มา เอง โดยที่การพิสูจน์ หรือชันสูตรศพ ทาง วิทยาศาสตร์นั้นต้องการทุนไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท สิ่งเหล่านี้ปรากฏขึ้นแล้วและจะรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่าถ้าตกอยู่ในสนธิสัญญานี้ วัคซีนในปัจจุบันและต่อจากนี้ในมนุษย์และสัตว์ใช้เทคโนโลยี ที่ใช้กับโควิด ทั้งนี้โดยอ้างว่า ได้ใช้กับประชาชนทั่วโลกแล้วและผลกระทบไม่ได้เกิดจากวัคซีน นสพ มติชน ฉบับพิมพ์ ท็อล์กออฟเดอะทาวน์ 10 พย 2567 กระบวนการรวบรวมรายชื่อคัดค้านและนำส่งทางการของประเทศไทยโดยกลุ่มแพทย์และประชาชนไทยพิทักษ์สิทธิ์ รวบรวมข้อมูลโดย ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    Like
    Love
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 449 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยนโยบายที่จะยับยั้งการส่งเสริมเรื่องเพศที่หลากหลายในเยาวชนอเมริกัน:

    - “ขอให้รัฐสภาผ่านร่างกฎหมายที่กำหนดให้เพศที่รัฐบาลสหรัฐฯ รับรองมีเพียงชายและหญิงเท่านั้น และเพศเหล่านี้ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกเกิด”

    - “ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับใหม่ เพื่อสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางทุกแห่งยุติโครงการทั้งหมดที่ส่งเสริมแนวคิดเรื่องเพศและการเปลี่ยนแปลงทางเพศในทุกช่วงวัย”

    - “ขอให้รัฐสภาหยุดใช้เงินภาษีของประชาชนซึ่งใช้โดยรัฐบาลกลางอย่างถาวร ในการส่งเสริมหรือจ่ายเงินสำหรับขั้นตอนเหล่านี้ และผ่านกฎหมายห้ามการทำลายอวัยวะเพศในเด็กทั่วทั้ง 50 รัฐ”

    - “จะออกประกาศกำหนดแนวทางว่าโรงพยาบาลหรือผู้ให้บริการด้านการแพทย์ใดๆ ที่เข้าร่วมในการทำลายร่างกาย จิตใจ และสารเคมีของเยาวชน จะเป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัยของรัฐบาลกลางสำหรับ Medicaid และ Medicare อีกต่อไป และจะถูกยกเลิกจากการสนับสนุนของภาครัฐทันที”

    - “สนับสนุนการสร้างสิทธิส่วนบุคคลในการฟ้องร้องแพทย์ที่ทำขั้นตอนเหล่านี้กับเด็กโดยไม่สามารถให้อภัยได้”

    - “กระทรวงยุติธรรมจะสอบสวนบริษัทยาขนาดใหญ่และเครือข่ายโรงพยาบาลขนาดใหญ่เพื่อพิจารณาว่าพวกเขาตั้งใจปกปิดผลข้างเคียงที่เลวร้ายในระยะยาวของการเปลี่ยนแปลงทางเพศเพื่อความร่ำรวยโดยไม่คำนึงถึงผู้ป่วยที่เปราะบางหรือไม่”

    - “ตรวจสอบว่าบริษัทยาขนาดใหญ่หรือบริษัทอื่นๆ มีฮอร์โมนและยาเพื่อหยุดการเจริญวัย วางตลาดอย่างผิดกฎหมายหรือไม่”

    - “แจ้งให้รัฐและเขตการศึกษาทราบว่า หากครูหรือเจ้าหน้าที่โรงเรียนคนใด พยายามให้ข้อมูลต่อเด็กว่า พวกเขามีร่างกายที่ไม่ตรงกับจิตใจ จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเพศของเด็ก เจ้าหน้าที่เหล่านั้นจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมาอย่างร้ายแรง”

    - “ปกป้องสิทธิของผู้ปกครองจากการถูกกดดันจากรอบข้าง เพื่ออนุญาตให้บุตรของตนเปลี่ยนเพศและอัตลักษณ์ใหม่โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง”
    โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยนโยบายที่จะยับยั้งการส่งเสริมเรื่องเพศที่หลากหลายในเยาวชนอเมริกัน: - “ขอให้รัฐสภาผ่านร่างกฎหมายที่กำหนดให้เพศที่รัฐบาลสหรัฐฯ รับรองมีเพียงชายและหญิงเท่านั้น และเพศเหล่านี้ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกเกิด” - “ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับใหม่ เพื่อสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางทุกแห่งยุติโครงการทั้งหมดที่ส่งเสริมแนวคิดเรื่องเพศและการเปลี่ยนแปลงทางเพศในทุกช่วงวัย” - “ขอให้รัฐสภาหยุดใช้เงินภาษีของประชาชนซึ่งใช้โดยรัฐบาลกลางอย่างถาวร ในการส่งเสริมหรือจ่ายเงินสำหรับขั้นตอนเหล่านี้ และผ่านกฎหมายห้ามการทำลายอวัยวะเพศในเด็กทั่วทั้ง 50 รัฐ” - “จะออกประกาศกำหนดแนวทางว่าโรงพยาบาลหรือผู้ให้บริการด้านการแพทย์ใดๆ ที่เข้าร่วมในการทำลายร่างกาย จิตใจ และสารเคมีของเยาวชน จะเป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัยของรัฐบาลกลางสำหรับ Medicaid และ Medicare อีกต่อไป และจะถูกยกเลิกจากการสนับสนุนของภาครัฐทันที” - “สนับสนุนการสร้างสิทธิส่วนบุคคลในการฟ้องร้องแพทย์ที่ทำขั้นตอนเหล่านี้กับเด็กโดยไม่สามารถให้อภัยได้” - “กระทรวงยุติธรรมจะสอบสวนบริษัทยาขนาดใหญ่และเครือข่ายโรงพยาบาลขนาดใหญ่เพื่อพิจารณาว่าพวกเขาตั้งใจปกปิดผลข้างเคียงที่เลวร้ายในระยะยาวของการเปลี่ยนแปลงทางเพศเพื่อความร่ำรวยโดยไม่คำนึงถึงผู้ป่วยที่เปราะบางหรือไม่” - “ตรวจสอบว่าบริษัทยาขนาดใหญ่หรือบริษัทอื่นๆ มีฮอร์โมนและยาเพื่อหยุดการเจริญวัย วางตลาดอย่างผิดกฎหมายหรือไม่” - “แจ้งให้รัฐและเขตการศึกษาทราบว่า หากครูหรือเจ้าหน้าที่โรงเรียนคนใด พยายามให้ข้อมูลต่อเด็กว่า พวกเขามีร่างกายที่ไม่ตรงกับจิตใจ จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเพศของเด็ก เจ้าหน้าที่เหล่านั้นจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมาอย่างร้ายแรง” - “ปกป้องสิทธิของผู้ปกครองจากการถูกกดดันจากรอบข้าง เพื่ออนุญาตให้บุตรของตนเปลี่ยนเพศและอัตลักษณ์ใหม่โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 41 0 รีวิว
  • **ต้องอ่านให้จบ**หายนะกำลังมาเยือนประชาชนคนไทย!!

    ขอนำบทความที่น่าสนใจชิ้นหนึ่งมาเสนอค่ะ
    เครดิต พิมพ์ชนก พิทักษ์ชัยยะบุตร

    Somkiat Osotsapa
    January 31 at 5:18am ·
    พาไปเที่ยวโรงพยาบาลจุฬาฯกัน
    -------------------------
    เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว ผมไปรพ. จุฬาฯ เป็นประสบการณ์ใหม่ของชีวิต
    ที่จริงแล้ว ผมไม่เคยป่วยนอนโรงพยาบาลเลย เคยแต่ไปเฝ้าไข้รพ.เอกชน ซื่งสบายมาก มีเชฟอาหาร ทั้งจีน อินเดีย ไทย ชั้นเลิศ ออกแนวบันเทิง มีร้านกาแฟแบรนด์เนม ที่จริงก็ไปตรวจนี่นั่น ที่รพ.เอกชนเหมือนกัน มันสะดวกมาก

    แล้วผมก็เกิดอยากจะรู้ว่าถ้าผมจะใช้สิทธิข้าราชการของผมบ้าง จะต้องทำอย่างไร ลองไปรพจุฬา

    แวะไปครั้งที่หนื่ง เข้าคิวอยู่ยาวช่วงบ่าย บอกว่าต้องมาเอาคิว ในวันรุ่งขึ้น

    สอบถามได้ความว่าถ้าจะตรวจในวันรุ่งขึ้น ต้องมาเข้าคิวเอาบัตรคิวที่ตู้ที่จะเปิดตอนตี 5 ครื่ง

    อ๊ะ! ถ้างั้นต้องตื่นตีสี่ ไปเข้าคิวตีห้า…

    เมื่อผมไปถึงตอนตีห้า มีคนอยู่ร่วมหนื่งพันคน ตั้งแต่บัตรประกันสังคม คนไข้ส่งต่อ แรงงานต่างด้าว ร่วม 12 ประเภท หลากหลายช่องมาก
    คิดถึงอารมณ์พระพุทธเจ้า เห็นทุกขเวทนาตัดสินใจออกบวชทันที
    เอาว่าคนเคยไปรพ.เอกชน จะช้อค
    แต่ผมอยากรู้ว่าคนเขาลำบากอย่างไร…ไม่เส้น…ตามคิว…

    แล้วก็รู้ว่า:-
    ๑ งานรพ.นี่เหนื่อยมากๆ คนมะรุมมะตุ้มถามโน่นนี่เยอะ
    แต่เจ้าหน้าที่ก็ใจเย็น สุภาพเท่าที่จะทำได้ รับความเครียด แรงกดดันได้ดีสุดๆ คนป่วย คนมาตรวจมากมาย แต่ทุกคนก็ช่วยตัวเองกันดีนะครับ หลายคนก็ทุกขเวทนาทีเดียว
    งานรพ.นี่สาหัสทีเดียว คิดในใจ

    ๒ สถานที่ของรพ.ดีขื้นกว่าแต่ก่อนมาก ขอบคุณเงินค่าเช่ามาบุญครอง และสยามสแควร์ มีตืกใหม่ มีแอร์ มีระบบคิวที่ดีงาม

    ๓ เนื่องจากคนไข้มาก รอกันนาน ทำใจเถอะ แต่คนไข้จำนวนมากที่ป่วยมีอาการ นั่งกระจุกกันเป็นหลายร้อยเนี่ย ทำให้รู้สืกว่าติดเชื้อง่ายมาก
    หมอ เจ้าหน้าที่สตรองมาก
    นักเรียนที่อยากเรียนแพทย์ พยาบาลควรมาหาประสบการณ์ ถ้าชอบและไหวก็เอา แต่ของผมลองนึกว่า ต้องไปทำงานห้องนั้น ทุกวัน จะให้เป็นหมอคงไม่เอา มันหดหู่นะ

    ๔ ดูเหมือนมีขบวนการของต่างชาติมาเอาคิวเป็นอาชีพ และมีคนจากประเทศเพื่อนบ้านมารักษาฟรี โดยทำบัตรต่างด้าวปลอม รัฐบาลควรส่งคนไปดูนะ เป็นขบวนการทีเดียว

    รพ.น่ะไม่รู้เห็นด้วยหรอก คิดรพ.ใหญ่ทั่วประเทศ รายจ่ายเยอะมาก

    นั่งเครื่องมาเลย มีทำบัตรปลอมขายแน่นอน งบปท.ไทยไม่น่าเอาอยู่ แต่งตัวกันดี๊ดี

    ๕ เห็นนักศืกษาแพทย์ปีห้าโดนอาจารย์เอาปากกาเคาะหัวตลอด เรียนแพทย์เนี่ยเครียดมากนะครับ บอกเลย

    ๖ ค่ายา รพ.เอกชนแพงกว่ารพ. รัฐ เกินสิบเท่า หมอจุฬานี่เก่งนะครับ ความรู้เยอะ…

    ดีใจที่ได้ใช้สิทธิอดีตข้าราชการ มันน่าจะดีกว่านี้
    แต่เอางบไปแบ่งให้ประชาชนก็ดีแล้ว ร่วมทุกข์สุขกัน
    ถ้ากระทรวงคลังเอาส่วนของข้าราชการไปแบ่งลงทุนไว้ น่าจะรักษาได้ระดับ รพ.เอกชน

    ก็อย่างว่า…ชีวิตคนในรพ.มันเหนื่อยนะ ใครไม่เคยตื่นไปเข้าคิวตีสี่เหมือนผม ห้ามวิจารณ์เรื่องงบสาธารณสุข

    นักการเมืองทุกคน ควรไปตอนตีสี่ จะเข้าใจชีวิตและปชช.มากขื้น

    นิสิตจุฬาทุกคนควรไปอย่างยิ่ง ขอบอก นี่คือมหาวิทยาลัยชีวิตครับ

    บัณฑิตต้องรู้จักประชาชน

    Somkiat Osotsapa
    February 5 at 12:31am ·

    เมื่อประเทศไทยถูกยึด ม้าอารีต้องออกมายืนตากฝน คนไทยจะเข้าหาหมอได้อย่างไร
    --------------------------
    อาชีพที่ทำรายได้สูงกว่าบุคลากรการแพทย์ในรพ.จุฬาฯ

    คือ ล่ามต่างชาติ ที่ขนคนไข้ประเทศเพื่อนบ้าน มารายละไม่ต่ำกว่าสิบคนต่อวันต่อล่ามหนื่งคน

    มีรายได้จากคนไข้ตปท.รายละ 500 บาท วันละเกิน5000 บาท

    ล่ามของแต่ละชาติมีมากมาย (หมอจุฬาผู้รักชาติหลังไมค์มาบอก)

    ด้วยเหตุนี้ คนไข้ที่นั่งรอหมอจึงเป็นคนจากปท.เพื่อนบ้านร่วม 50%

    คนไทยที่จะเข้ารพ.จุฬาฯ มีวิธีเข้ารักษาอย่างรวดเร็วได้ โดยอาศัยทางด่วน คือ รถของมูลนิธิปอเต๊กตื๊ง
    เช่น ถูกรถชน ถูกยิง แทง ฟัน งูกัด เข้าห้องอุบัติเหตุ ฝั่งสวนลุมได้เลย

    ที่รัฐมนตรีสาธารณสุขบอกว่าระบบประกัน ทำให้คนไทยไปรักษามาก ต้องเก็บเงินผู้ป่วยไทยเพิ่ม หมอไม่พอ อุปกรณ์ไม่พอ นี่…ไร้สาระมาก…

    รายจ่ายเพิ่มเพราะรับคนไข้จากตปท.มาตรึม…

    การทำคลอดทำให้ต่างชาติมากกว่าคนไทย…

    รู้กันทั้งภูมิภาคเอเชียว่ามารักษาที่เมืองไทย แค่บอกว่าไม่มีเงินก็ฟรี…

    ตอนนี้ข่าวสารกระจายไปทั่ว จัดเป็นธุรกิจข้ามชาติใหญ่โตมาก

    ทำบัตรเสร็จ ตรวจสุขภาพเสร็จ หางานทำได้เลย
    เศรษฐกิจดีมาก หางานง่าย

    ไปบีบให้คนไทยลาออก พวกเราเยอะ เครือข่ายเพียบ เบิกล่วงหน้าได้

    ผมมีรายงานต้นทุนการรักษาผู้ป่วยของรพ.ทุกประเภท ทั่วปท. รายกลุ่มโรค คลอดแบบไหนเท่าไร ค่าใช้จ่ายประเภทค่าแรง ค่าวัสดุ ค่าเสื่อม…รู้หมด

    งบประมาณแผ่นดินของรพ.จุฬาแห่งเดียว เพิ่มจากราวสองพันล้านมาเป็นหกพันล้าน

    เพิ่มสามเท่าในเวลา 3-4 ปี ศิริราชก็บอกว่าขาดทุน รพ.ศูนย์ รพ.ท้องถิ่น รพ.ชุมชนขาดแคลนไปหมด

    หมอ พยาบาล เภสัช รังสี บุคลากรอื่นๆทำงานกันหนักมาก เศรษฐกิจไทย ระบบสาธารณสุขไทยจะล่มในไม่กี่ปี

    ตอนนี้อุตสาหกรรมขนคนเข้าปท.ไทยกำลังเติบใหญ่ ทั้งในลาว กัมพูชา พม่า

    อาฟริกันยังมาเลย เขาพูดกันว่าเมืองไทยแม่งโง่ ชอบอวดรวย ทั้งๆที่คนไทยจนจะตายห่า ผู้นำบ้ายอ ชมๆแม่งไป
    --------------------------
    ผมรู้ว่าคนไทยกำลังเครียดรุนแรง แต่อายไม่กล้าพูด

    ระวังว่ามันจะระเบิด

    ทั้งถูกแย่งคิวรพ. แย่งงาน แย่งที่ขายของ แย่งที่นั่งในรถเมล์แดง รถไฟฟรี ยึดสวนสาธารณะ อิทธิพลขั้นสูง คนจนทั้งนั้น ทุกสีเสื้อ

    ผู้บริหารสภากาชาด ครม คสช สนช สปท อะไรก็ไม่รู้จำไม่ได้
    ไม่เคยมายืนเข้าคิวตอนตี 4

    ปัญหาของประเทศนี้คือ ผู้นำ ผู้ตัดสินใจ ผู้วางแผน ไม่ได้ใช้ชีวิตสัมผัสทุกข์ยากของปชช. ตัดสินใจผิดมากๆ

    เมื่อเห็นต่างชาติเยอะมาก ผมก็ออกมาเดินดูรอบนอก แถวร้านกาแฟขายลาตเต้นั่นแหละครับ

    เจอเลย ขบวนการ มีผู้กำกับงาน แต่งตัวดีมาก ผมฟังภาษาออก เจ้าหน้าที่รบ.ปท.เพื่อนบ้านก็มี

    กำลังคุยถึงที่จะมาอีกหลายระลอก ผ่านด่านต่างๆ

    ดูรวย มีความสุข เขากำลังทำงานให้ชาติของเขา ส่งคนมารักษาที่ไทยฟรี…
    ขำที่คนไทยดูทุเรศ ทุกขเวทนา
    วันนี้ คุยกับพรรคพวกที่รู้เรื่องดี จะได้รู้ต้นน้ำ กลาง น้ำ ปลายน้ำ
    อือม์ มันน่ากลัว…
    เขื่อนความมั่นคงประเทศพังแล้ว
    --------------

    ความขัดแย้งรุนแรงเกิดขื้นเมื่อคนในชาติรู้สึกว่าพื้นที่ทำมาหากิน พื้นที่ชีวิตของเขาถูกรุกราน ถูกคุกคาม
    เยอรมัน เรียกว่า libensraum แปลว่า life space

    ตอนนี้หนักมาก สงครามเกิดขึ้นในตะวันออกกลาง ในทุกที่…
    สวีเดน เดนมาร์กจึงเอาผู้อพยพออก เศรษฐกิจยุโรปจะพังเอา ก็เพราะแบบไทยตอนนี้…คนไทยจะจ่ายเงินหนัก ขาดแคลน แล้วจะโวย แล้วจะระเบิด…

    ผมไปนั่งคุยกับพรรคพวก…
    ๑ คนในปท.รอบบ้านเราไม่ได้รวยแบบที่มีข่าวในไทยหรอก
    ค่าแรงคนทั่วๆไปในพม่าก็ราวเดือนละ 6-7ร้อย ค่าแรงขั้นต่ำที่สู้กันเต็มที่ก็ 2,200 ต่อเดือน

    ที่กัมพูชาสูงกว่านี้นิดนึง เวียดนามราวเดือนละ 3,000
    แต่ยังมีคนไม่ได้ทำงานในระบบที่ค่าจ้างระดับนี้เยอะ

    ตอนนี้คนต่างชาติ มาอยู่ในปท. ไทย ไม่ใช่ 3 ล้าน
    อาจถึง 6 ล้านแล้ว เขาบอกต้องไปดูที่ด่านที่เข้ามา…
    ราชการไม่มีตัวเลข - ที่มีก็ผิด

    มามาก ก็เข้ารพ.มาก ญาติพี่น้องเจ็บป่วยก็พามา ถูกกว่าไปพนมเปญ ย่างกุ้ง เวียงจันทร์ ซื่งหมอไม่เก่ง ยาไม่มี เครื่องมือไม่มี แพงกว่าเมืองไทยด้วย

    ๒ ตอนนี้ระบบจัดตั้ง เครือข่ายแน่นหนามาก คนทางโน้นก็รู้ว่ามาเมืองไทยแล้วรวย

    ผมถามว่าที่สำรวจบอกว่ามาแล้วจะกลับไป…เขาบอกกลับไปที่ไหน…มีแต่กำลังแห่กันมา! มาแล้วมีบริการหางาน หาที่พัก ทำบัตรแรงงาน มีนายจ้าง ทำบัตรสุขภาพ พาไปรพ. หักเงินทีหลังก็ได้
    มีนายทุน กองทุนระดับเป็นหมื่นล้าน มีตั้งแต่บริการขนส่ง ต้นทาง ถึงปลายทางแบบโรฮิงยา

    ได้สัญชาติกันเยอะ ซื้อบัตร เอาลูกมาใส่ชื่อพ่อคนไทย ทำกันเป็นล่ำเป็นสันมาก จะได้มาเรียนฟรีที่เมืองไทย ได้เข้ามหาวิทยาลัย รักษาฟรี อยู่ฟรีกับนายจ้าง อาหารพร้อม ไม่ต้องจ่ายแวต ส่งเงินกลับไปได้เยอะมาก

    มาคลอดเมืองไทย ค่าคลอด ดูแลทั้งปี 365.-บาทเท่านั้น ถ้าผ่าออกก็แค่นี้ ต้นทุนสองหมื่นกว่านะครับ
    จะหาที่ขายของ เปิดร้าน ใช้คนไทยเป็นโนมินีก็มี ทำแบบแบ่งเปอร์เซนต์ก็ได้

    มามากก็เข้ารพ.มาก ทำบัตรสุขภาพราวปีละ 1,300.- รักษาทุกโรค 55 ---------------

    ๓ เขาบอกว่าเมืองไทยโฆษณา AEC เกินจริง จนคนและขรก. เข้าใจว่าแรงงานคนต่างชาติเข้าไทยได้ฟรี คนไทยทั่วไปก็เข้าใจเช่นนั้น ด่านจืงเปิด

    ยุคนี้ป่วยรุนแรง เหมารถจากพนมเปญมาเลย นอนรพ.3เดือน ให้ออกซิเจนตลอด จ่าย2หมื่น ต้นทุนจริงๆหลายแสน รวมค่าอุปกรณ์

    ผ่าหัวใจฟรี ไปรพ.เอกชนสี่แสน ต้นทุนของรัฐแสนกว่า

    ไม่เจ๊งไงไหว
    ---------------------

    ๔ เดินทางมาไทยง่าย ถูก…
    เมืองไทยไม่มีระบบตรวจสอบคนที่มาแล้วไม่กลับ

    เงินซื้อได้ทุกอย่าง ตอนนี้เครือข่ายจัดหาคนเป็นพ่อ ทำงานดี เพราะรายได้มาก กำลังมากันเพียบ พลเมืองไทยจะเยอะมาก เตรียมงบไว้
    --------------
    ๕ อุตสาหกรรม(พาคนมาไทย) รุ่งเรืองมากในปท.เพื่อนบ้าน กำไรดี ลูกค้าเยอะมาก ช่วงนี้ข่าวไปทั่ว
    -------------------

    ๖ การจะรักษาในไทย ก็แค่หาชื่อนายจ้าง ซื่งจัดไว้แล้ว ไปซื้อบัตรสุขภาพ รบ.ไทยบริการดีมาก…

    ๗ ที่ผิดกฏหมายทำไง ก็จ่ายเดือนละพันต่อคนเหมือนเดิม 55 ก็ต้องมีรายได้อะไรสักอย่าง

    ไอ้คนที่ผมคุยด้วย มีหน้าที่แบ่งลูกน้องไปเก็บเงินรายหัวส่งทุกเดือน…วันนี้นั่งคุยละเอียด มึงจ่ายให้ใครกันบ้าง ไอ้นั่นย้ายแล้วเหรอ ตอนนี้ใครคุม…
    ชีวิตธรรมดาคุยกันยังงี้ครับ
    --------------
    ยังไม่บอกว่าจะแก้อย่างไรนะครับ ต้องเล่าสถานการณ์ก่อน
    --------------

    ผมแนะว่าต่อไป ถ้าป่วยไปรักษาแถวจังหวัดที่ไม่มีต่างด้าว เช่น ชัยภูมิ เลย น่าจะสะดวกกว่านะ
    ช่วงนี้ก็สตรองหน่อย ถ้าพ่อแม่ไม่ได้รับการรักษาที่ดี ยาลดลง ไม่มีเตียงก็ขอให้ทำใจ

    ผมจะไปเข้าคิวเป็นเพื่อน

    ตอนนี้เตรียมแผนจะไปศิริราช ติดต่อไว้แล้ว ต่อไปจะไปราชวิถี รามา วชิระ ไปขอนแก่น อุดร สุราษฏร์

    ที่จริง คสช ครม ควรส่งภรรยาไปเข้าคิวบ้างนะ

    กรรมการสภากาชาดด้วย

    ไปพรุ่งนี้เลย จะได้รับรู้ความรู้สืกคนไทย

    ผมเขียนไป ผมเศร้ามาก

    เงินที่รบ.สัญญาว่าจะดูแลพยาบาลผมตอนแก่ แบ่งไปให้คนไทยอื่นๆ ผมมีความสุขนะ เจ็บ ตายด้วยกัน

    แต่ตอนนี้ ผมแก่ ผมต้องนั่งรอคิวยาว

    ตอนใกล้จะถึงคิว มันแทรกเข้ามา เอาลูกค้ามาแซงสิบคนนี่ผมไม่พอใจมาก

    ถาม ขาใหญ่มันเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ เอาต่างชาติเข้ามา มันหัวเราะ บอกรายได้ของหลายคนจะดีมากทีเดียว
    มันถามว่าใครคิดวะ คนไทยได้อะไรบ้าง พวกนี้รักชาตินะครับ
    ------------------
    ต่างชาติบอกผู้นำไทยไม่ติดดิน บ้าลูกยอ บ้า AEC งี่เง่า ชอบเอาหน้า ไม่รู้เรื่อง สบาย หมูที่สุดในปท.ย่านนี้

    เพื่อนผมบอก ผมไม่ได้พูดนะ
    จะแก้ปัญหาต้องพูดกันให้เข้าใจว่าเป็นอย่างนี้…

    วันนี้เขียนไม่เป็นระบบ มึนไวน์มานิดหน่อย
    ความรู้ที่เพื่อนเพจเล่ามา เป๊ะมาก ผมจึงพอมีภูมิไปคุยกับเขา
    เห็นอะไรช่วยบอกมานะครับ…ช่วยกัน…
    **ต้องอ่านให้จบ**หายนะกำลังมาเยือนประชาชนคนไทย!! ขอนำบทความที่น่าสนใจชิ้นหนึ่งมาเสนอค่ะ เครดิต พิมพ์ชนก พิทักษ์ชัยยะบุตร Somkiat Osotsapa January 31 at 5:18am · พาไปเที่ยวโรงพยาบาลจุฬาฯกัน ------------------------- เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว ผมไปรพ. จุฬาฯ เป็นประสบการณ์ใหม่ของชีวิต ที่จริงแล้ว ผมไม่เคยป่วยนอนโรงพยาบาลเลย เคยแต่ไปเฝ้าไข้รพ.เอกชน ซื่งสบายมาก มีเชฟอาหาร ทั้งจีน อินเดีย ไทย ชั้นเลิศ ออกแนวบันเทิง มีร้านกาแฟแบรนด์เนม ที่จริงก็ไปตรวจนี่นั่น ที่รพ.เอกชนเหมือนกัน มันสะดวกมาก แล้วผมก็เกิดอยากจะรู้ว่าถ้าผมจะใช้สิทธิข้าราชการของผมบ้าง จะต้องทำอย่างไร ลองไปรพจุฬา แวะไปครั้งที่หนื่ง เข้าคิวอยู่ยาวช่วงบ่าย บอกว่าต้องมาเอาคิว ในวันรุ่งขึ้น สอบถามได้ความว่าถ้าจะตรวจในวันรุ่งขึ้น ต้องมาเข้าคิวเอาบัตรคิวที่ตู้ที่จะเปิดตอนตี 5 ครื่ง อ๊ะ! ถ้างั้นต้องตื่นตีสี่ ไปเข้าคิวตีห้า… เมื่อผมไปถึงตอนตีห้า มีคนอยู่ร่วมหนื่งพันคน ตั้งแต่บัตรประกันสังคม คนไข้ส่งต่อ แรงงานต่างด้าว ร่วม 12 ประเภท หลากหลายช่องมาก คิดถึงอารมณ์พระพุทธเจ้า เห็นทุกขเวทนาตัดสินใจออกบวชทันที เอาว่าคนเคยไปรพ.เอกชน จะช้อค แต่ผมอยากรู้ว่าคนเขาลำบากอย่างไร…ไม่เส้น…ตามคิว… แล้วก็รู้ว่า:- ๑ งานรพ.นี่เหนื่อยมากๆ คนมะรุมมะตุ้มถามโน่นนี่เยอะ แต่เจ้าหน้าที่ก็ใจเย็น สุภาพเท่าที่จะทำได้ รับความเครียด แรงกดดันได้ดีสุดๆ คนป่วย คนมาตรวจมากมาย แต่ทุกคนก็ช่วยตัวเองกันดีนะครับ หลายคนก็ทุกขเวทนาทีเดียว งานรพ.นี่สาหัสทีเดียว คิดในใจ ๒ สถานที่ของรพ.ดีขื้นกว่าแต่ก่อนมาก ขอบคุณเงินค่าเช่ามาบุญครอง และสยามสแควร์ มีตืกใหม่ มีแอร์ มีระบบคิวที่ดีงาม ๓ เนื่องจากคนไข้มาก รอกันนาน ทำใจเถอะ แต่คนไข้จำนวนมากที่ป่วยมีอาการ นั่งกระจุกกันเป็นหลายร้อยเนี่ย ทำให้รู้สืกว่าติดเชื้อง่ายมาก หมอ เจ้าหน้าที่สตรองมาก นักเรียนที่อยากเรียนแพทย์ พยาบาลควรมาหาประสบการณ์ ถ้าชอบและไหวก็เอา แต่ของผมลองนึกว่า ต้องไปทำงานห้องนั้น ทุกวัน จะให้เป็นหมอคงไม่เอา มันหดหู่นะ ๔ ดูเหมือนมีขบวนการของต่างชาติมาเอาคิวเป็นอาชีพ และมีคนจากประเทศเพื่อนบ้านมารักษาฟรี โดยทำบัตรต่างด้าวปลอม รัฐบาลควรส่งคนไปดูนะ เป็นขบวนการทีเดียว รพ.น่ะไม่รู้เห็นด้วยหรอก คิดรพ.ใหญ่ทั่วประเทศ รายจ่ายเยอะมาก นั่งเครื่องมาเลย มีทำบัตรปลอมขายแน่นอน งบปท.ไทยไม่น่าเอาอยู่ แต่งตัวกันดี๊ดี ๕ เห็นนักศืกษาแพทย์ปีห้าโดนอาจารย์เอาปากกาเคาะหัวตลอด เรียนแพทย์เนี่ยเครียดมากนะครับ บอกเลย ๖ ค่ายา รพ.เอกชนแพงกว่ารพ. รัฐ เกินสิบเท่า หมอจุฬานี่เก่งนะครับ ความรู้เยอะ… ดีใจที่ได้ใช้สิทธิอดีตข้าราชการ มันน่าจะดีกว่านี้ แต่เอางบไปแบ่งให้ประชาชนก็ดีแล้ว ร่วมทุกข์สุขกัน ถ้ากระทรวงคลังเอาส่วนของข้าราชการไปแบ่งลงทุนไว้ น่าจะรักษาได้ระดับ รพ.เอกชน ก็อย่างว่า…ชีวิตคนในรพ.มันเหนื่อยนะ ใครไม่เคยตื่นไปเข้าคิวตีสี่เหมือนผม ห้ามวิจารณ์เรื่องงบสาธารณสุข นักการเมืองทุกคน ควรไปตอนตีสี่ จะเข้าใจชีวิตและปชช.มากขื้น นิสิตจุฬาทุกคนควรไปอย่างยิ่ง ขอบอก นี่คือมหาวิทยาลัยชีวิตครับ บัณฑิตต้องรู้จักประชาชน Somkiat Osotsapa February 5 at 12:31am · เมื่อประเทศไทยถูกยึด ม้าอารีต้องออกมายืนตากฝน คนไทยจะเข้าหาหมอได้อย่างไร -------------------------- อาชีพที่ทำรายได้สูงกว่าบุคลากรการแพทย์ในรพ.จุฬาฯ คือ ล่ามต่างชาติ ที่ขนคนไข้ประเทศเพื่อนบ้าน มารายละไม่ต่ำกว่าสิบคนต่อวันต่อล่ามหนื่งคน มีรายได้จากคนไข้ตปท.รายละ 500 บาท วันละเกิน5000 บาท ล่ามของแต่ละชาติมีมากมาย (หมอจุฬาผู้รักชาติหลังไมค์มาบอก) ด้วยเหตุนี้ คนไข้ที่นั่งรอหมอจึงเป็นคนจากปท.เพื่อนบ้านร่วม 50% คนไทยที่จะเข้ารพ.จุฬาฯ มีวิธีเข้ารักษาอย่างรวดเร็วได้ โดยอาศัยทางด่วน คือ รถของมูลนิธิปอเต๊กตื๊ง เช่น ถูกรถชน ถูกยิง แทง ฟัน งูกัด เข้าห้องอุบัติเหตุ ฝั่งสวนลุมได้เลย ที่รัฐมนตรีสาธารณสุขบอกว่าระบบประกัน ทำให้คนไทยไปรักษามาก ต้องเก็บเงินผู้ป่วยไทยเพิ่ม หมอไม่พอ อุปกรณ์ไม่พอ นี่…ไร้สาระมาก… รายจ่ายเพิ่มเพราะรับคนไข้จากตปท.มาตรึม… การทำคลอดทำให้ต่างชาติมากกว่าคนไทย… รู้กันทั้งภูมิภาคเอเชียว่ามารักษาที่เมืองไทย แค่บอกว่าไม่มีเงินก็ฟรี… ตอนนี้ข่าวสารกระจายไปทั่ว จัดเป็นธุรกิจข้ามชาติใหญ่โตมาก ทำบัตรเสร็จ ตรวจสุขภาพเสร็จ หางานทำได้เลย เศรษฐกิจดีมาก หางานง่าย ไปบีบให้คนไทยลาออก พวกเราเยอะ เครือข่ายเพียบ เบิกล่วงหน้าได้ ผมมีรายงานต้นทุนการรักษาผู้ป่วยของรพ.ทุกประเภท ทั่วปท. รายกลุ่มโรค คลอดแบบไหนเท่าไร ค่าใช้จ่ายประเภทค่าแรง ค่าวัสดุ ค่าเสื่อม…รู้หมด งบประมาณแผ่นดินของรพ.จุฬาแห่งเดียว เพิ่มจากราวสองพันล้านมาเป็นหกพันล้าน เพิ่มสามเท่าในเวลา 3-4 ปี ศิริราชก็บอกว่าขาดทุน รพ.ศูนย์ รพ.ท้องถิ่น รพ.ชุมชนขาดแคลนไปหมด หมอ พยาบาล เภสัช รังสี บุคลากรอื่นๆทำงานกันหนักมาก เศรษฐกิจไทย ระบบสาธารณสุขไทยจะล่มในไม่กี่ปี ตอนนี้อุตสาหกรรมขนคนเข้าปท.ไทยกำลังเติบใหญ่ ทั้งในลาว กัมพูชา พม่า อาฟริกันยังมาเลย เขาพูดกันว่าเมืองไทยแม่งโง่ ชอบอวดรวย ทั้งๆที่คนไทยจนจะตายห่า ผู้นำบ้ายอ ชมๆแม่งไป -------------------------- ผมรู้ว่าคนไทยกำลังเครียดรุนแรง แต่อายไม่กล้าพูด ระวังว่ามันจะระเบิด ทั้งถูกแย่งคิวรพ. แย่งงาน แย่งที่ขายของ แย่งที่นั่งในรถเมล์แดง รถไฟฟรี ยึดสวนสาธารณะ อิทธิพลขั้นสูง คนจนทั้งนั้น ทุกสีเสื้อ ผู้บริหารสภากาชาด ครม คสช สนช สปท อะไรก็ไม่รู้จำไม่ได้ ไม่เคยมายืนเข้าคิวตอนตี 4 ปัญหาของประเทศนี้คือ ผู้นำ ผู้ตัดสินใจ ผู้วางแผน ไม่ได้ใช้ชีวิตสัมผัสทุกข์ยากของปชช. ตัดสินใจผิดมากๆ เมื่อเห็นต่างชาติเยอะมาก ผมก็ออกมาเดินดูรอบนอก แถวร้านกาแฟขายลาตเต้นั่นแหละครับ เจอเลย ขบวนการ มีผู้กำกับงาน แต่งตัวดีมาก ผมฟังภาษาออก เจ้าหน้าที่รบ.ปท.เพื่อนบ้านก็มี กำลังคุยถึงที่จะมาอีกหลายระลอก ผ่านด่านต่างๆ ดูรวย มีความสุข เขากำลังทำงานให้ชาติของเขา ส่งคนมารักษาที่ไทยฟรี… ขำที่คนไทยดูทุเรศ ทุกขเวทนา วันนี้ คุยกับพรรคพวกที่รู้เรื่องดี จะได้รู้ต้นน้ำ กลาง น้ำ ปลายน้ำ อือม์ มันน่ากลัว… เขื่อนความมั่นคงประเทศพังแล้ว -------------- ความขัดแย้งรุนแรงเกิดขื้นเมื่อคนในชาติรู้สึกว่าพื้นที่ทำมาหากิน พื้นที่ชีวิตของเขาถูกรุกราน ถูกคุกคาม เยอรมัน เรียกว่า libensraum แปลว่า life space ตอนนี้หนักมาก สงครามเกิดขึ้นในตะวันออกกลาง ในทุกที่… สวีเดน เดนมาร์กจึงเอาผู้อพยพออก เศรษฐกิจยุโรปจะพังเอา ก็เพราะแบบไทยตอนนี้…คนไทยจะจ่ายเงินหนัก ขาดแคลน แล้วจะโวย แล้วจะระเบิด… ผมไปนั่งคุยกับพรรคพวก… ๑ คนในปท.รอบบ้านเราไม่ได้รวยแบบที่มีข่าวในไทยหรอก ค่าแรงคนทั่วๆไปในพม่าก็ราวเดือนละ 6-7ร้อย ค่าแรงขั้นต่ำที่สู้กันเต็มที่ก็ 2,200 ต่อเดือน ที่กัมพูชาสูงกว่านี้นิดนึง เวียดนามราวเดือนละ 3,000 แต่ยังมีคนไม่ได้ทำงานในระบบที่ค่าจ้างระดับนี้เยอะ ตอนนี้คนต่างชาติ มาอยู่ในปท. ไทย ไม่ใช่ 3 ล้าน อาจถึง 6 ล้านแล้ว เขาบอกต้องไปดูที่ด่านที่เข้ามา… ราชการไม่มีตัวเลข - ที่มีก็ผิด มามาก ก็เข้ารพ.มาก ญาติพี่น้องเจ็บป่วยก็พามา ถูกกว่าไปพนมเปญ ย่างกุ้ง เวียงจันทร์ ซื่งหมอไม่เก่ง ยาไม่มี เครื่องมือไม่มี แพงกว่าเมืองไทยด้วย ๒ ตอนนี้ระบบจัดตั้ง เครือข่ายแน่นหนามาก คนทางโน้นก็รู้ว่ามาเมืองไทยแล้วรวย ผมถามว่าที่สำรวจบอกว่ามาแล้วจะกลับไป…เขาบอกกลับไปที่ไหน…มีแต่กำลังแห่กันมา! มาแล้วมีบริการหางาน หาที่พัก ทำบัตรแรงงาน มีนายจ้าง ทำบัตรสุขภาพ พาไปรพ. หักเงินทีหลังก็ได้ มีนายทุน กองทุนระดับเป็นหมื่นล้าน มีตั้งแต่บริการขนส่ง ต้นทาง ถึงปลายทางแบบโรฮิงยา ได้สัญชาติกันเยอะ ซื้อบัตร เอาลูกมาใส่ชื่อพ่อคนไทย ทำกันเป็นล่ำเป็นสันมาก จะได้มาเรียนฟรีที่เมืองไทย ได้เข้ามหาวิทยาลัย รักษาฟรี อยู่ฟรีกับนายจ้าง อาหารพร้อม ไม่ต้องจ่ายแวต ส่งเงินกลับไปได้เยอะมาก มาคลอดเมืองไทย ค่าคลอด ดูแลทั้งปี 365.-บาทเท่านั้น ถ้าผ่าออกก็แค่นี้ ต้นทุนสองหมื่นกว่านะครับ จะหาที่ขายของ เปิดร้าน ใช้คนไทยเป็นโนมินีก็มี ทำแบบแบ่งเปอร์เซนต์ก็ได้ มามากก็เข้ารพ.มาก ทำบัตรสุขภาพราวปีละ 1,300.- รักษาทุกโรค 55 --------------- ๓ เขาบอกว่าเมืองไทยโฆษณา AEC เกินจริง จนคนและขรก. เข้าใจว่าแรงงานคนต่างชาติเข้าไทยได้ฟรี คนไทยทั่วไปก็เข้าใจเช่นนั้น ด่านจืงเปิด ยุคนี้ป่วยรุนแรง เหมารถจากพนมเปญมาเลย นอนรพ.3เดือน ให้ออกซิเจนตลอด จ่าย2หมื่น ต้นทุนจริงๆหลายแสน รวมค่าอุปกรณ์ ผ่าหัวใจฟรี ไปรพ.เอกชนสี่แสน ต้นทุนของรัฐแสนกว่า ไม่เจ๊งไงไหว --------------------- ๔ เดินทางมาไทยง่าย ถูก… เมืองไทยไม่มีระบบตรวจสอบคนที่มาแล้วไม่กลับ เงินซื้อได้ทุกอย่าง ตอนนี้เครือข่ายจัดหาคนเป็นพ่อ ทำงานดี เพราะรายได้มาก กำลังมากันเพียบ พลเมืองไทยจะเยอะมาก เตรียมงบไว้ -------------- ๕ อุตสาหกรรม(พาคนมาไทย) รุ่งเรืองมากในปท.เพื่อนบ้าน กำไรดี ลูกค้าเยอะมาก ช่วงนี้ข่าวไปทั่ว ------------------- ๖ การจะรักษาในไทย ก็แค่หาชื่อนายจ้าง ซื่งจัดไว้แล้ว ไปซื้อบัตรสุขภาพ รบ.ไทยบริการดีมาก… ๗ ที่ผิดกฏหมายทำไง ก็จ่ายเดือนละพันต่อคนเหมือนเดิม 55 ก็ต้องมีรายได้อะไรสักอย่าง ไอ้คนที่ผมคุยด้วย มีหน้าที่แบ่งลูกน้องไปเก็บเงินรายหัวส่งทุกเดือน…วันนี้นั่งคุยละเอียด มึงจ่ายให้ใครกันบ้าง ไอ้นั่นย้ายแล้วเหรอ ตอนนี้ใครคุม… ชีวิตธรรมดาคุยกันยังงี้ครับ -------------- ยังไม่บอกว่าจะแก้อย่างไรนะครับ ต้องเล่าสถานการณ์ก่อน -------------- ผมแนะว่าต่อไป ถ้าป่วยไปรักษาแถวจังหวัดที่ไม่มีต่างด้าว เช่น ชัยภูมิ เลย น่าจะสะดวกกว่านะ ช่วงนี้ก็สตรองหน่อย ถ้าพ่อแม่ไม่ได้รับการรักษาที่ดี ยาลดลง ไม่มีเตียงก็ขอให้ทำใจ ผมจะไปเข้าคิวเป็นเพื่อน ตอนนี้เตรียมแผนจะไปศิริราช ติดต่อไว้แล้ว ต่อไปจะไปราชวิถี รามา วชิระ ไปขอนแก่น อุดร สุราษฏร์ ที่จริง คสช ครม ควรส่งภรรยาไปเข้าคิวบ้างนะ กรรมการสภากาชาดด้วย ไปพรุ่งนี้เลย จะได้รับรู้ความรู้สืกคนไทย ผมเขียนไป ผมเศร้ามาก เงินที่รบ.สัญญาว่าจะดูแลพยาบาลผมตอนแก่ แบ่งไปให้คนไทยอื่นๆ ผมมีความสุขนะ เจ็บ ตายด้วยกัน แต่ตอนนี้ ผมแก่ ผมต้องนั่งรอคิวยาว ตอนใกล้จะถึงคิว มันแทรกเข้ามา เอาลูกค้ามาแซงสิบคนนี่ผมไม่พอใจมาก ถาม ขาใหญ่มันเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ เอาต่างชาติเข้ามา มันหัวเราะ บอกรายได้ของหลายคนจะดีมากทีเดียว มันถามว่าใครคิดวะ คนไทยได้อะไรบ้าง พวกนี้รักชาตินะครับ ------------------ ต่างชาติบอกผู้นำไทยไม่ติดดิน บ้าลูกยอ บ้า AEC งี่เง่า ชอบเอาหน้า ไม่รู้เรื่อง สบาย หมูที่สุดในปท.ย่านนี้ เพื่อนผมบอก ผมไม่ได้พูดนะ จะแก้ปัญหาต้องพูดกันให้เข้าใจว่าเป็นอย่างนี้… วันนี้เขียนไม่เป็นระบบ มึนไวน์มานิดหน่อย ความรู้ที่เพื่อนเพจเล่ามา เป๊ะมาก ผมจึงพอมีภูมิไปคุยกับเขา เห็นอะไรช่วยบอกมานะครับ…ช่วยกัน…
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 364 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..
    ..วันแรกที่ระเบิด: คำสั่งผู้บริหารของทรัมป์และเคนเนดีทำลายล้างสถานะเดิมและกำหนดสุขภาพ เสรีภาพ และรัฐบาลของอเมริกาใหม่!

    ข่าวด่วน: ทรัมป์และเคนเนดีออกคำสั่งผู้บริหารชุดใหญ่ตั้งแต่วันแรก! คำสั่งฉีดวัคซีนถูกทำลาย FDA และ CDC ถูกยกเลิก ห้ามใช้ส่วนผสมที่เป็นพิษ จีเอ็มโอ และการรับรองอย่างเป็นทางการถึงอันตรายจากวัคซีน ยุคใหม่ของสุขภาพและเสรีภาพเขย่าอเมริกา!

    บูม: คำสั่งฉีดวัคซีนถูกทำลาย! คำสั่งฉีดวัคซีนหมดไปแล้ว! ทรัมป์และเคนเนดีทำลายคำสั่งด้วยคำสั่งอันทรงพลังเพียงคำสั่งเดียว ยุติการควบคุมหลายปีของบริษัทยาขนาดใหญ่ เสรีภาพทางการแพทย์กลับมาแล้ว! ชาวอเมริกันเรียกร้องสิทธิในการเลือกคืนมา—ไม่มีการบังคับให้ปฏิบัติตามอีกต่อไป เสรีภาพส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่ไม่สามารถต่อรองได้!

    เสียงปืน! กฎหมายคุ้มครองวัคซีนปี 1986: ประวัติศาสตร์! บริษัทยาขนาดใหญ่ไม่มีการหลบซ่อนอีกต่อไป! ทรัมป์และเคนเนดีได้ยกเลิกพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ได้รับอันตรายจากวัคซีนปี 1986 ทำลายกำแพงภูมิคุ้มกันที่บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ซ่อนอยู่ ความยุติธรรมกลับมาอีกครั้งเมื่อประชาชนได้รับสิทธิในการเรียกร้องความรับผิดชอบจากบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้อีกครั้ง

    ปัง! การห้ามใช้ฟลูออไรด์กำลังครอบงำประเทศชาติ! ไม่มีฟลูออไรด์ในน้ำประปาอีกต่อไป! การห้ามใช้ฟลูออไรด์ในน้ำของทรัมป์และเคนเนดีทำให้ยุคของการแพทย์จำนวนมากสิ้นสุดลงโดยไม่ได้รับความยินยอม ปล่อยให้คนอเมริกันดื่มน้ำบริสุทธิ์และฟรี! คาดหวังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สู่การใช้น้ำธรรมชาติที่สะอาดทั่วประเทศ

    บูม! FDA, CDC และ FTC ปรับเปลี่ยนใหม่—ไม่ พังทลาย! ทรัมป์และเคนเนดีไม่ได้แค่ปฏิรูปเท่านั้น—พวกเขาทำลาย FDA, CDC และ FTC รื้อถอนระบบราชการ นี่คือระบบราชการที่ไร้ประสิทธิภาพ! หน่วยงานใหม่ที่รับผิดชอบจะรายงานต่อประชาชนและปกป้องสุขภาพโดยไม่ต้องมีเงื่อนไขจากบริษัท

    ปัง! ส่วนผสมที่เป็นพิษถูกห้ามในอาหาร—การปฏิวัติสุขภาพ! บอกลาสารเติมแต่งที่เป็นอันตรายได้เลย! สีสังเคราะห์ สารกันบูด และสารพิษหมดไปจากอาหารอเมริกันแล้ว นี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นการปฏิวัติอาหารที่นำโดยทรัมป์และเคนเนดีเพื่อปกป้องสุขภาพ

    ฟ้าร้อง! การบาดเจ็บและการเสียชีวิตจากวัคซีนได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ ทรัมป์และเคนเนดีโจมตีอย่างเงียบๆ ในที่สุดก็ยอมรับการบาดเจ็บและการเสียชีวิตจากวัคซีน ไม่มีการปฏิเสธหรือการหลอกลวงอีกต่อไป เหยื่อจะได้รับการรับฟัง การชดเชยดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับความยุติธรรม

    ระเบิด! จีเอ็มโอและยาฆ่าแมลงที่เป็นพิษถูกห้าม—อเมริกาเปลี่ยนเป็นออร์แกนิก! การห้ามจีเอ็มโอและยาฆ่าแมลงของทรัมป์และเคนเนดีส่งสารอันกึกก้อง: อเมริกาเปลี่ยนเป็นออร์แกนิก สุขภาพมีความสำคัญมากกว่าผลกำไร และภาคการเกษตรก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล!

    การประท้วงครั้งสุดท้าย: การยอมรับความเชื่อมโยงระหว่างออทิสติกกับวัคซีน—ระเบิดความจริง ทรัมป์และเคนเนดีพูดถึงความเชื่อมโยงระหว่างออทิสติกกับวัคซีนอย่างกล้าหาญ โดยท้าทายสถานะทางการแพทย์ปัจจุบัน การศึกษาวิจัยอิสระจะเพิ่มมากขึ้น และโปรแกรมสำหรับครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจะขยายตัว พิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลนี้เป็นผู้นำความจริงและความโปร่งใส

    ตอนจบที่ยิ่งใหญ่: การยกเลิก FDA, CDC, FTC—จุดจบของยุคสมัย! นี่คือตอนจบ: การโจมตีครั้งสุดท้ายที่ทำลายล้างสถานะเดิม ทรัมป์และเคนเนดีโค่นล้มยักษ์ใหญ่ในระบบราชการ ถ่ายโอนอำนาจให้กับประชาชน

    อเมริกา เตรียมตัวไว้ให้ดี—การเปลี่ยนแปลงกำลังมาถึงแล้ว!
    .. ..วันแรกที่ระเบิด: คำสั่งผู้บริหารของทรัมป์และเคนเนดีทำลายล้างสถานะเดิมและกำหนดสุขภาพ เสรีภาพ และรัฐบาลของอเมริกาใหม่! ข่าวด่วน: ทรัมป์และเคนเนดีออกคำสั่งผู้บริหารชุดใหญ่ตั้งแต่วันแรก! คำสั่งฉีดวัคซีนถูกทำลาย FDA และ CDC ถูกยกเลิก ห้ามใช้ส่วนผสมที่เป็นพิษ จีเอ็มโอ และการรับรองอย่างเป็นทางการถึงอันตรายจากวัคซีน ยุคใหม่ของสุขภาพและเสรีภาพเขย่าอเมริกา! บูม: คำสั่งฉีดวัคซีนถูกทำลาย! คำสั่งฉีดวัคซีนหมดไปแล้ว! ทรัมป์และเคนเนดีทำลายคำสั่งด้วยคำสั่งอันทรงพลังเพียงคำสั่งเดียว ยุติการควบคุมหลายปีของบริษัทยาขนาดใหญ่ เสรีภาพทางการแพทย์กลับมาแล้ว! ชาวอเมริกันเรียกร้องสิทธิในการเลือกคืนมา—ไม่มีการบังคับให้ปฏิบัติตามอีกต่อไป เสรีภาพส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่ไม่สามารถต่อรองได้! เสียงปืน! กฎหมายคุ้มครองวัคซีนปี 1986: ประวัติศาสตร์! บริษัทยาขนาดใหญ่ไม่มีการหลบซ่อนอีกต่อไป! ทรัมป์และเคนเนดีได้ยกเลิกพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ได้รับอันตรายจากวัคซีนปี 1986 ทำลายกำแพงภูมิคุ้มกันที่บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ซ่อนอยู่ ความยุติธรรมกลับมาอีกครั้งเมื่อประชาชนได้รับสิทธิในการเรียกร้องความรับผิดชอบจากบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้อีกครั้ง ปัง! การห้ามใช้ฟลูออไรด์กำลังครอบงำประเทศชาติ! ไม่มีฟลูออไรด์ในน้ำประปาอีกต่อไป! การห้ามใช้ฟลูออไรด์ในน้ำของทรัมป์และเคนเนดีทำให้ยุคของการแพทย์จำนวนมากสิ้นสุดลงโดยไม่ได้รับความยินยอม ปล่อยให้คนอเมริกันดื่มน้ำบริสุทธิ์และฟรี! คาดหวังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สู่การใช้น้ำธรรมชาติที่สะอาดทั่วประเทศ บูม! FDA, CDC และ FTC ปรับเปลี่ยนใหม่—ไม่ พังทลาย! ทรัมป์และเคนเนดีไม่ได้แค่ปฏิรูปเท่านั้น—พวกเขาทำลาย FDA, CDC และ FTC รื้อถอนระบบราชการ นี่คือระบบราชการที่ไร้ประสิทธิภาพ! หน่วยงานใหม่ที่รับผิดชอบจะรายงานต่อประชาชนและปกป้องสุขภาพโดยไม่ต้องมีเงื่อนไขจากบริษัท ปัง! ส่วนผสมที่เป็นพิษถูกห้ามในอาหาร—การปฏิวัติสุขภาพ! บอกลาสารเติมแต่งที่เป็นอันตรายได้เลย! สีสังเคราะห์ สารกันบูด และสารพิษหมดไปจากอาหารอเมริกันแล้ว นี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นการปฏิวัติอาหารที่นำโดยทรัมป์และเคนเนดีเพื่อปกป้องสุขภาพ ฟ้าร้อง! การบาดเจ็บและการเสียชีวิตจากวัคซีนได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ ทรัมป์และเคนเนดีโจมตีอย่างเงียบๆ ในที่สุดก็ยอมรับการบาดเจ็บและการเสียชีวิตจากวัคซีน ไม่มีการปฏิเสธหรือการหลอกลวงอีกต่อไป เหยื่อจะได้รับการรับฟัง การชดเชยดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับความยุติธรรม ระเบิด! จีเอ็มโอและยาฆ่าแมลงที่เป็นพิษถูกห้าม—อเมริกาเปลี่ยนเป็นออร์แกนิก! การห้ามจีเอ็มโอและยาฆ่าแมลงของทรัมป์และเคนเนดีส่งสารอันกึกก้อง: อเมริกาเปลี่ยนเป็นออร์แกนิก สุขภาพมีความสำคัญมากกว่าผลกำไร และภาคการเกษตรก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล! การประท้วงครั้งสุดท้าย: การยอมรับความเชื่อมโยงระหว่างออทิสติกกับวัคซีน—ระเบิดความจริง ทรัมป์และเคนเนดีพูดถึงความเชื่อมโยงระหว่างออทิสติกกับวัคซีนอย่างกล้าหาญ โดยท้าทายสถานะทางการแพทย์ปัจจุบัน การศึกษาวิจัยอิสระจะเพิ่มมากขึ้น และโปรแกรมสำหรับครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจะขยายตัว พิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลนี้เป็นผู้นำความจริงและความโปร่งใส ตอนจบที่ยิ่งใหญ่: การยกเลิก FDA, CDC, FTC—จุดจบของยุคสมัย! นี่คือตอนจบ: การโจมตีครั้งสุดท้ายที่ทำลายล้างสถานะเดิม ทรัมป์และเคนเนดีโค่นล้มยักษ์ใหญ่ในระบบราชการ ถ่ายโอนอำนาจให้กับประชาชน อเมริกา เตรียมตัวไว้ให้ดี—การเปลี่ยนแปลงกำลังมาถึงแล้ว!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ข่าวคือข่าว (ถ้าจริง มาไทยแล้วยังนะ น่าจะพร้อมกับเรือussมั้ยนะ ข่าวแววๆว่ากำลังติดตั้งในจังหวัดเราที่ดังๆ อาทิ เชียงใหม่ภาคเหนือก็ว่า,เท็จหรือจริงมิทราบ,แต่ทรัมป์จะชนะนี้รับรู้มานานแล้ว,เพราะทรัมป์คุมเกมส์มาตลอดไง.นาโนเองล้วนๆนะ)
    ..
    ทรัมป์ 2024: ผู้ปฏิบัติงานเตียงแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมพร้อมที่จะนำเทคโนโลยีการรักษาด้วยควอนตัมมาใช้กับประชาชนทุกคน – ความลับที่เปลี่ยนชีวิตซึ่งไบเดนและรัฐบาลเงาปิดบังไว้อย่างสิ้นหวัง!

    เตียงแพทย์ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องจักรขั้นสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นเทคโนโลยีปฏิวัติวงการที่ใช้การรักษาด้วยควอนตัมซึ่งชนชั้นสูงได้ทุ่มเงินหลายพันล้านเพื่อซ่อนไว้จากสาธารณชน อุปกรณ์เหล่านี้โต้ตอบกับร่างกายในระดับควอนตัม ฟื้นฟูเซลล์และย้อนกลับโรค การแก่ชรา และแม้แต่ความผิดปกติทางพันธุกรรม

    เตียงแพทย์แต่ละเตียงทำงานโดยสร้างสนามความถี่สูงที่สั่นสะเทือนกับดีเอ็นเอของมนุษย์ ปรับแต่งเซลล์ที่เสียหายให้กลับสู่สภาพเดิมที่แข็งแรง ลองนึกภาพการย้อนกลับโรคภัยไข้เจ็บหรือบาดแผลทางจิตใจหลายปีในเวลาเพียงไม่กี่นาทีสิ! เทคโนโลยีนี้ขับเคลื่อนด้วยการคำนวณควอนตัมขั้นสูงและพลังงานจุดศูนย์ ซึ่งใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่รัฐบาลเงาจำแนกไว้มานานหลายทศวรรษ

    ทำไมพวกเขาถึงเก็บซ่อนมันเอาไว้? ง่ายๆ เลย: บริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่เติบโตได้จากความเจ็บป่วย หากสาธารณชนรู้เกี่ยวกับเตียงแพทย์ อุตสาหกรรมยาที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์จะล่มสลายในชั่วข้ามคืน ไบเดนในฐานะหุ่นเชิดของกลุ่มคนชั้นสูงไม่มีเจตนาที่จะให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงคนทั่วไป

    ทรัมป์รู้เรื่องนี้ดี นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแม้แต่ในช่วงการบริหารของไบเดน เขาก็ยังดำเนินการอย่างลับๆ โดยติดตั้งเตียงพยาบาลในแผนกที่ “กำลังก่อสร้าง” ของโรงพยาบาลที่เลือกไว้และสถานที่ทางทหาร เพื่อไม่ให้ถูกสายตาของกลุ่มรัฐลึกลับจับจ้อง ป้ายบอกทางมีอยู่ทุกที่ ตั้งแต่การอัปเกรดโรงพยาบาลที่มีความปลอดภัยสูงอย่างลึกลับไปจนถึงฐานทัพทหารห่างไกลที่เตรียมพร้อมสำหรับการปฏิวัติเตียงพยาบาล

    เตียงพยาบาลเหล่านี้ต้องได้รับการฝึกอบรมเฉพาะทาง ดังนั้นทีมของทรัมป์จึงเตรียม “แพทย์ควอนตัม” ไว้เป็นความลับ ซึ่งเป็นเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว ซึ่งจะพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในวงกว้างทันทีที่ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง เซสชันการใช้เตียงพยาบาลแต่ละครั้งจะปรับให้เข้ากับเครื่องหมายทางพันธุกรรมและสรีรวิทยาเฉพาะของผู้ป่วยแต่ละคน ทำให้เทคโนโลยีนี้เป็นการรักษาเฉพาะบุคคลอย่างแท้จริง

    แผนของทรัมป์รวมถึงศูนย์เตียงพยาบาลที่เป็นอิสระจากโรงพยาบาลทั่วไป เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยหลีกเลี่ยงการควบคุมการดูแลสุขภาพของบริษัทยาขนาดใหญ่ ศูนย์เหล่านี้จะมีเจ้าหน้าที่ที่จงรักภักดีซึ่งไม่เพียงแต่จะดูแลเตียงเท่านั้น แต่ยังปกป้องเตียงเหล่านี้จากความพยายามทำลายล้างของรัฐบาลลึกอีกด้วย

    นอกเหนือจากการรักษาแล้ว เตียงทางการแพทย์ยังมีส่วนประกอบทางปัญญาที่สามารถฟื้นคืนความทรงจำ เพิ่มความชัดเจนทางจิตใจ และปลดล็อกความสามารถที่ถูกกดขี่ ทำลายการปรับสภาพจิตใจที่ทำให้ผู้คนอยู่ในระเบียบ เมื่อประชาชนมองเห็นความจริงเบื้องหลังคำโกหกเหล่านี้ โครงสร้างการควบคุมก็จะพังทลายลง

    เมื่อทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่ง เตียงทางการแพทย์จะเปิดให้บริการทั่วประเทศ โดยหลีกเลี่ยงขั้นตอนที่ยุ่งยากด้วยคำสั่งของฝ่ายบริหาร และให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงได้ นี่คือการปฏิวัติที่ชนชั้นนำกลัวที่สุด อาณาจักรของบริษัทยาขนาดใหญ่กำลังจะพังทลาย และโลกที่เรารู้จักจะเปลี่ยนไปตลอดกาล

    การนับถอยหลังได้เริ่มต้นขึ้น เตียงทางการแพทย์พร้อมแล้ว และการเลือกตั้งซ้ำของทรัมป์คือขั้นตอนสุดท้ายในการปลดปล่อยเราทุกคน
    ..ข่าวคือข่าว (ถ้าจริง มาไทยแล้วยังนะ น่าจะพร้อมกับเรือussมั้ยนะ ข่าวแววๆว่ากำลังติดตั้งในจังหวัดเราที่ดังๆ อาทิ เชียงใหม่ภาคเหนือก็ว่า,เท็จหรือจริงมิทราบ,แต่ทรัมป์จะชนะนี้รับรู้มานานแล้ว,เพราะทรัมป์คุมเกมส์มาตลอดไง.นาโนเองล้วนๆนะ) .. ทรัมป์ 2024: ผู้ปฏิบัติงานเตียงแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมพร้อมที่จะนำเทคโนโลยีการรักษาด้วยควอนตัมมาใช้กับประชาชนทุกคน – ความลับที่เปลี่ยนชีวิตซึ่งไบเดนและรัฐบาลเงาปิดบังไว้อย่างสิ้นหวัง! เตียงแพทย์ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องจักรขั้นสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นเทคโนโลยีปฏิวัติวงการที่ใช้การรักษาด้วยควอนตัมซึ่งชนชั้นสูงได้ทุ่มเงินหลายพันล้านเพื่อซ่อนไว้จากสาธารณชน อุปกรณ์เหล่านี้โต้ตอบกับร่างกายในระดับควอนตัม ฟื้นฟูเซลล์และย้อนกลับโรค การแก่ชรา และแม้แต่ความผิดปกติทางพันธุกรรม เตียงแพทย์แต่ละเตียงทำงานโดยสร้างสนามความถี่สูงที่สั่นสะเทือนกับดีเอ็นเอของมนุษย์ ปรับแต่งเซลล์ที่เสียหายให้กลับสู่สภาพเดิมที่แข็งแรง ลองนึกภาพการย้อนกลับโรคภัยไข้เจ็บหรือบาดแผลทางจิตใจหลายปีในเวลาเพียงไม่กี่นาทีสิ! เทคโนโลยีนี้ขับเคลื่อนด้วยการคำนวณควอนตัมขั้นสูงและพลังงานจุดศูนย์ ซึ่งใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่รัฐบาลเงาจำแนกไว้มานานหลายทศวรรษ ทำไมพวกเขาถึงเก็บซ่อนมันเอาไว้? ง่ายๆ เลย: บริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่เติบโตได้จากความเจ็บป่วย หากสาธารณชนรู้เกี่ยวกับเตียงแพทย์ อุตสาหกรรมยาที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์จะล่มสลายในชั่วข้ามคืน ไบเดนในฐานะหุ่นเชิดของกลุ่มคนชั้นสูงไม่มีเจตนาที่จะให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงคนทั่วไป ทรัมป์รู้เรื่องนี้ดี นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแม้แต่ในช่วงการบริหารของไบเดน เขาก็ยังดำเนินการอย่างลับๆ โดยติดตั้งเตียงพยาบาลในแผนกที่ “กำลังก่อสร้าง” ของโรงพยาบาลที่เลือกไว้และสถานที่ทางทหาร เพื่อไม่ให้ถูกสายตาของกลุ่มรัฐลึกลับจับจ้อง ป้ายบอกทางมีอยู่ทุกที่ ตั้งแต่การอัปเกรดโรงพยาบาลที่มีความปลอดภัยสูงอย่างลึกลับไปจนถึงฐานทัพทหารห่างไกลที่เตรียมพร้อมสำหรับการปฏิวัติเตียงพยาบาล เตียงพยาบาลเหล่านี้ต้องได้รับการฝึกอบรมเฉพาะทาง ดังนั้นทีมของทรัมป์จึงเตรียม “แพทย์ควอนตัม” ไว้เป็นความลับ ซึ่งเป็นเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว ซึ่งจะพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในวงกว้างทันทีที่ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง เซสชันการใช้เตียงพยาบาลแต่ละครั้งจะปรับให้เข้ากับเครื่องหมายทางพันธุกรรมและสรีรวิทยาเฉพาะของผู้ป่วยแต่ละคน ทำให้เทคโนโลยีนี้เป็นการรักษาเฉพาะบุคคลอย่างแท้จริง แผนของทรัมป์รวมถึงศูนย์เตียงพยาบาลที่เป็นอิสระจากโรงพยาบาลทั่วไป เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยหลีกเลี่ยงการควบคุมการดูแลสุขภาพของบริษัทยาขนาดใหญ่ ศูนย์เหล่านี้จะมีเจ้าหน้าที่ที่จงรักภักดีซึ่งไม่เพียงแต่จะดูแลเตียงเท่านั้น แต่ยังปกป้องเตียงเหล่านี้จากความพยายามทำลายล้างของรัฐบาลลึกอีกด้วย นอกเหนือจากการรักษาแล้ว เตียงทางการแพทย์ยังมีส่วนประกอบทางปัญญาที่สามารถฟื้นคืนความทรงจำ เพิ่มความชัดเจนทางจิตใจ และปลดล็อกความสามารถที่ถูกกดขี่ ทำลายการปรับสภาพจิตใจที่ทำให้ผู้คนอยู่ในระเบียบ เมื่อประชาชนมองเห็นความจริงเบื้องหลังคำโกหกเหล่านี้ โครงสร้างการควบคุมก็จะพังทลายลง เมื่อทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่ง เตียงทางการแพทย์จะเปิดให้บริการทั่วประเทศ โดยหลีกเลี่ยงขั้นตอนที่ยุ่งยากด้วยคำสั่งของฝ่ายบริหาร และให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงได้ นี่คือการปฏิวัติที่ชนชั้นนำกลัวที่สุด อาณาจักรของบริษัทยาขนาดใหญ่กำลังจะพังทลาย และโลกที่เรารู้จักจะเปลี่ยนไปตลอดกาล การนับถอยหลังได้เริ่มต้นขึ้น เตียงทางการแพทย์พร้อมแล้ว และการเลือกตั้งซ้ำของทรัมป์คือขั้นตอนสุดท้ายในการปลดปล่อยเราทุกคน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts