ผู้ป่วยรายที่ 7 เข้าสู่ภาวะทุเลา HIV ยาวนาน จุดประกายความหวังใหม่ในการรักษา

นักวิจัยรายงานกรณีผู้ป่วยชายชาวเยอรมันที่ได้รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เพื่อรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว และเข้าสู่ภาวะทุเลา HIV ต่อเนื่องยาวนานกว่า 6 ปีโดยไม่ต้องใช้ยาต้านไวรัส (ART) นับเป็นผู้ป่วยรายที่ 7 ของโลกที่สามารถควบคุมเชื้อ HIV ได้ในระยะยาวหลังการรักษาด้วยวิธีนี้ กรณีนี้ถูกเรียกว่า Berlin Patient 2 (B2) และสร้างความตื่นเต้นในวงการแพทย์ เพราะผู้บริจาคสเต็มเซลล์มีเพียงหนึ่งชุดของยีนกลายพันธุ์ CCR5 Δ32 ซึ่งแตกต่างจากผู้ป่วยรายก่อน ๆ ที่ได้รับสองชุดเต็ม

สิ่งที่น่าสนใจคือแม้จะมีเพียงหนึ่งชุดของยีน CCR5 Δ32 แต่ระบบภูมิคุ้มกันใหม่ที่สร้างขึ้นหลังการปลูกถ่ายสามารถกำจัดแหล่งซ่อนเชื้อ HIV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลนี้ชี้ให้เห็นว่า “การทุเลา” อาจเกิดขึ้นได้แม้ไม่ต้องพึ่งพาผู้บริจาคที่มีการกลายพันธุ์หายากแบบสองชุดเต็ม ซึ่งเป็นการเปิดประตูสู่แนวทางการรักษาที่กว้างขึ้นและไม่จำกัดเฉพาะผู้บริจาคที่หายากมาก

อย่างไรก็ตาม การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เป็นกระบวนการที่รุนแรงและมีความเสี่ยงสูง ทั้งต่อสุขภาพระยะยาวและอัตราการเสียชีวิต จึงไม่สามารถใช้เป็นวิธีรักษามาตรฐานสำหรับผู้ติดเชื้อ HIV ทั่วไปได้ แต่ความสำเร็จนี้ช่วยให้แพทย์และนักวิจัยเข้าใจกลไกใหม่ ๆ เช่น graft-versus-reservoir response ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนายาและวิธีการรักษาที่ปลอดภัยกว่าในอนาคต

กรณี B2 และผู้ป่วยจากเจนีวาที่เข้าสู่ภาวะทุเลาโดยไม่มีการกลายพันธุ์ CCR5 Δ32 เลย ยิ่งตอกย้ำว่าการกำจัดแหล่งซ่อนเชื้อ HIV อาจทำได้หลายวิธี ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการกลายพันธุ์หายากเพียงอย่างเดียว งานวิจัยนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่อาจนำไปสู่การรักษา HIV แบบหายขาดในอนาคต

สรุปประเด็นสำคัญ
กรณีผู้ป่วยรายที่ 7 (Berlin Patient 2)
อยู่ในภาวะทุเลา HIV ต่อเนื่องกว่า 6 ปีโดยไม่ใช้ ART
ได้รับสเต็มเซลล์จากผู้บริจาคที่มีเพียงหนึ่งชุดของยีน CCR5 Δ32

กลไกที่ค้นพบ
ระบบภูมิคุ้มกันใหม่ช่วยกำจัดแหล่งซ่อนเชื้อ HIV
ชี้ว่าการทุเลาไม่จำเป็นต้องใช้ผู้บริจาคที่มีสองชุดของ CCR5 Δ32

ความหมายต่อการแพทย์
เปิดแนวทางใหม่ในการรักษา HIV โดยไม่จำกัดผู้บริจาคหายาก
ช่วยให้เข้าใจกลไก graft-versus-reservoir response ที่อาจนำไปสู่การพัฒนายาใหม่

ข้อควรระวัง
การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์มีความเสี่ยงสูงและไม่เหมาะเป็นการรักษามาตรฐาน
ต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาวิธีที่ปลอดภัยและใช้ได้กับผู้ติดเชื้อทั่วไป
ผู้ป่วยบางรายที่ได้รับสเต็มเซลล์จากผู้บริจาค CCR5 ปกติยังมีการกลับมาของเชื้อ HIV

https://www.sciencealert.com/7th-hiv-remission-raises-hope-of-long-lasting-treatment-for-more-people
🌟 ผู้ป่วยรายที่ 7 เข้าสู่ภาวะทุเลา HIV ยาวนาน จุดประกายความหวังใหม่ในการรักษา นักวิจัยรายงานกรณีผู้ป่วยชายชาวเยอรมันที่ได้รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เพื่อรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว และเข้าสู่ภาวะทุเลา HIV ต่อเนื่องยาวนานกว่า 6 ปีโดยไม่ต้องใช้ยาต้านไวรัส (ART) นับเป็นผู้ป่วยรายที่ 7 ของโลกที่สามารถควบคุมเชื้อ HIV ได้ในระยะยาวหลังการรักษาด้วยวิธีนี้ กรณีนี้ถูกเรียกว่า Berlin Patient 2 (B2) และสร้างความตื่นเต้นในวงการแพทย์ เพราะผู้บริจาคสเต็มเซลล์มีเพียงหนึ่งชุดของยีนกลายพันธุ์ CCR5 Δ32 ซึ่งแตกต่างจากผู้ป่วยรายก่อน ๆ ที่ได้รับสองชุดเต็ม สิ่งที่น่าสนใจคือแม้จะมีเพียงหนึ่งชุดของยีน CCR5 Δ32 แต่ระบบภูมิคุ้มกันใหม่ที่สร้างขึ้นหลังการปลูกถ่ายสามารถกำจัดแหล่งซ่อนเชื้อ HIV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลนี้ชี้ให้เห็นว่า “การทุเลา” อาจเกิดขึ้นได้แม้ไม่ต้องพึ่งพาผู้บริจาคที่มีการกลายพันธุ์หายากแบบสองชุดเต็ม ซึ่งเป็นการเปิดประตูสู่แนวทางการรักษาที่กว้างขึ้นและไม่จำกัดเฉพาะผู้บริจาคที่หายากมาก อย่างไรก็ตาม การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เป็นกระบวนการที่รุนแรงและมีความเสี่ยงสูง ทั้งต่อสุขภาพระยะยาวและอัตราการเสียชีวิต จึงไม่สามารถใช้เป็นวิธีรักษามาตรฐานสำหรับผู้ติดเชื้อ HIV ทั่วไปได้ แต่ความสำเร็จนี้ช่วยให้แพทย์และนักวิจัยเข้าใจกลไกใหม่ ๆ เช่น graft-versus-reservoir response ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนายาและวิธีการรักษาที่ปลอดภัยกว่าในอนาคต กรณี B2 และผู้ป่วยจากเจนีวาที่เข้าสู่ภาวะทุเลาโดยไม่มีการกลายพันธุ์ CCR5 Δ32 เลย ยิ่งตอกย้ำว่าการกำจัดแหล่งซ่อนเชื้อ HIV อาจทำได้หลายวิธี ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการกลายพันธุ์หายากเพียงอย่างเดียว งานวิจัยนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่อาจนำไปสู่การรักษา HIV แบบหายขาดในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ กรณีผู้ป่วยรายที่ 7 (Berlin Patient 2) ➡️ อยู่ในภาวะทุเลา HIV ต่อเนื่องกว่า 6 ปีโดยไม่ใช้ ART ➡️ ได้รับสเต็มเซลล์จากผู้บริจาคที่มีเพียงหนึ่งชุดของยีน CCR5 Δ32 ✅ กลไกที่ค้นพบ ➡️ ระบบภูมิคุ้มกันใหม่ช่วยกำจัดแหล่งซ่อนเชื้อ HIV ➡️ ชี้ว่าการทุเลาไม่จำเป็นต้องใช้ผู้บริจาคที่มีสองชุดของ CCR5 Δ32 ✅ ความหมายต่อการแพทย์ ➡️ เปิดแนวทางใหม่ในการรักษา HIV โดยไม่จำกัดผู้บริจาคหายาก ➡️ ช่วยให้เข้าใจกลไก graft-versus-reservoir response ที่อาจนำไปสู่การพัฒนายาใหม่ ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์มีความเสี่ยงสูงและไม่เหมาะเป็นการรักษามาตรฐาน ⛔ ต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาวิธีที่ปลอดภัยและใช้ได้กับผู้ติดเชื้อทั่วไป ⛔ ผู้ป่วยบางรายที่ได้รับสเต็มเซลล์จากผู้บริจาค CCR5 ปกติยังมีการกลับมาของเชื้อ HIV https://www.sciencealert.com/7th-hiv-remission-raises-hope-of-long-lasting-treatment-for-more-people
WWW.SCIENCEALERT.COM
7th HIV Remission Raises Hope of Long-Lasting Treatment For More People
A German man remains in remission from HIV an incredible six years after he received a stem cell transplant to treat an aggressive form of leukemia.
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว