• "ลูกแหง่ ฮุนเซน" ปั่นกระแส! ขึ้นป้ายใหญ่โตอวยตัวเอง ทั่วกรุงพนมเปญ! บอกเขมรด้วยกัน "เราทุกคนไว้วางใจรัฐบาลและกองกำลังทหารของเรา"
    https://www.thai-tai.tv/news/20912/
    .
    #ฮุนมาเนต #ป้ายโฆษณา #กัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าวการเมือง #ไทยไท
    "ลูกแหง่ ฮุนเซน" ปั่นกระแส! ขึ้นป้ายใหญ่โตอวยตัวเอง ทั่วกรุงพนมเปญ! บอกเขมรด้วยกัน "เราทุกคนไว้วางใจรัฐบาลและกองกำลังทหารของเรา" https://www.thai-tai.tv/news/20912/ . #ฮุนมาเนต #ป้ายโฆษณา #กัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าวการเมือง #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • 2 พระสังฆราชกัมพูชา ทั้งมหานิกายและธรรมยุติกนิกาย นำพระสงฆ์ 2,569 รูป เดินธรรมยาตรา เรียกร้องกองทัพไทยปล่อยเชลยศึก 18 นาย และให้เคารพข้อตกลงหยุดยิง พร้อมแสดงความขอบคุณ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประกาศพระเขมร 7 หมื่นรูปสนับสนุนให้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ

    สื่อมวลชนกัมพูชา รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา พระสงฆ์กัมพูชาจำนวน 2,569 รูป จาก 18 วัด พร้อมด้วยฆราวาสหลายร้อยคน เดินขบวนธรรมยาตรา จากวัดพนม กลางกรุงพนมเปญ ไปยังอนุสาวรีย์วิมานเอกราช เพื่อเรียกร้องให้มีการหยุดยิงอย่างถาวรระหว่างกัมพูชาและไทย

    ภายใต้การนำของ สมเด็จพระอภิสิริสุกันธะ มหาสังฆราชธิบดี บูรกรี สมเด็จพระสังฆราชแห่งธรรมยุติกนิกายแห่งกัมพูชา สมเด็จพระมหาสุเมธาธิราช โอม ลิมเฮง สมเด็จพระสังฆราชแห่งมหานิกาย และสมเด็จพระมหาอริยวงษาบันดิต ยอน เส็ง เยียธ ร่วมเดินขบวนเรียกร้องให้ยุติการสู้รบ และปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นายที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในประเทศไทยโดยทันที

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000076241

    #MGROnline #TruthFromThailand #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    2 พระสังฆราชกัมพูชา ทั้งมหานิกายและธรรมยุติกนิกาย นำพระสงฆ์ 2,569 รูป เดินธรรมยาตรา เรียกร้องกองทัพไทยปล่อยเชลยศึก 18 นาย และให้เคารพข้อตกลงหยุดยิง พร้อมแสดงความขอบคุณ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประกาศพระเขมร 7 หมื่นรูปสนับสนุนให้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ • สื่อมวลชนกัมพูชา รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา พระสงฆ์กัมพูชาจำนวน 2,569 รูป จาก 18 วัด พร้อมด้วยฆราวาสหลายร้อยคน เดินขบวนธรรมยาตรา จากวัดพนม กลางกรุงพนมเปญ ไปยังอนุสาวรีย์วิมานเอกราช เพื่อเรียกร้องให้มีการหยุดยิงอย่างถาวรระหว่างกัมพูชาและไทย • ภายใต้การนำของ สมเด็จพระอภิสิริสุกันธะ มหาสังฆราชธิบดี บูรกรี สมเด็จพระสังฆราชแห่งธรรมยุติกนิกายแห่งกัมพูชา สมเด็จพระมหาสุเมธาธิราช โอม ลิมเฮง สมเด็จพระสังฆราชแห่งมหานิกาย และสมเด็จพระมหาอริยวงษาบันดิต ยอน เส็ง เยียธ ร่วมเดินขบวนเรียกร้องให้ยุติการสู้รบ และปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นายที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในประเทศไทยโดยทันที • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000076241 • #MGROnline #TruthFromThailand #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    0 Comments 1 Shares 304 Views 0 Reviews
  • ใครเป็นเจ้าของสตาร์บัคส์ กัมพูชา เครื่องดื่มแก้วโปรดของฮุน เซน

    นับตั้งแต่การปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา เฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา พบว่ามักจะโพสต์ภาพคู่กับกาแฟแก้วโปรดยี่ห้อสตาร์บัคส์ (Starbucks) ซึ่งเป็นแบรนด์กาแฟสัญชาติอเมริกันอยู่ข้างกาย พร้อมบอกเล่าประสบการณ์ที่ตนเองพยายามลดปริมาณความหวานของน้ำตาลจาก 100% ก่อนลดลงมาเหลือ 0% เพื่อสุขภาพ

    แม้แบรนด์กาแฟสัญชาติอเมริกัน อาจไม่เกี่ยวข้องกับการส่งสัญญาณสนับสนุนสหรัฐอเมริกาของกัมพูชา หลังเข้ามามีบทบาทให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิง และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอชื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ แต่ก็คงมีคนสงสัยว่า ร้านสตาร์บัคส์ในกัมพูชาเป็นของใคร?

    ร้านสตาร์บัคส์ กัมพูชาบริหารงานโดย คอฟฟี่ คอนเซ็ปต์ (แคมโบเดีย) บริษัทในเครือฮ่องกง แม็กซิมส์ กรุ๊ป (Hong Kong Maxim's Group) เปิดสาขาแรกในกัมพูชาเมื่อปี 2558 ภายในท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญ ปัจจุบันมี 47 สาขา ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญและปริมณฑล นอกนั้นจะมีจังหวัดพระสีหนุ เสียมราฐ บันเตียเมียนเจย (ปอยเปต) พระตะบอง และกัมปอต

    ในภูมิภาคอาเซียน กลุ่มฮ่องกง แม็กซิมส์ กรุ๊ป บริหารร้านสตาร์บัคส์ในเวียดนาม กัมพูชา ไทย ลาว และสิงคโปร์ โดยร้านสตาร์บัคส์ ประเทศไทย บริหารงานโดย บริษัท คอฟฟี่ คอนเซ็ปต์ รีเทล จำกัด ร่วมทุนระหว่างกลุ่มฮ่องกง แม็กซิมส์ กรุ๊ป กับกลุ่มไทยเบฟ รับสิทธิการบริหารธุรกิจค้าปลีกของร้านสตาร์บัคส์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน

    ร้านสตาร์บัคส์ มาเลเซีย และร้านสตาร์บัคส์ บรูไน บริหารงานโดย เบอร์จายา คอร์ปอเรชัน (Berjaya Corporation) ประกอบธุรกิจค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ โรงแรมและการบริการ (Hospitality) ใน 8 ประเทศ ผู้ครองสิทธิ์แฟรนไชส์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในมาเลเซีย ร้านคริสปี้ครีม และธุรกิจลอตเตอรี่ Sports Toto

    ร้านสตาร์บัคส์ อินโดนีเซีย บริหารงานโดยกลุ่มมิตรา อาดิเพอร์คาซา ทีบีเค (Mitra Adiperkasa Tbk.) ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าเครื่องกีฬา แฟชั่น บริหารงานห้างสรรพสินค้าโซโก้ในอินโดนีเซีย และบริหารแบรนด์ร้านอาหารชั้นนำอย่างร้านเบอร์เกอร์คิง ร้านคริสปี้ครีม ร้านซับเวย์ เป็นต้น

    ร้านสตาร์บัคส์ ฟิลิปปินส์ บริหารงานโดย รัสตัน คอฟฟี่ คอร์ปอเรชั่น (Rustan Coffee Corporation) ในเครือรัสตัน ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้า ร้านบูติกระดับไฮเอนด์ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ต่างประเทศกว่า 2,000 แบรนด์ และเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟชั้นนำทางตอนใต้ของมะนิลา

    #Newskit

    (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ลงใน Facebook และ Instagram วันพุธที่ 13 ส.ค. 2568)
    ใครเป็นเจ้าของสตาร์บัคส์ กัมพูชา เครื่องดื่มแก้วโปรดของฮุน เซน นับตั้งแต่การปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา เฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา พบว่ามักจะโพสต์ภาพคู่กับกาแฟแก้วโปรดยี่ห้อสตาร์บัคส์ (Starbucks) ซึ่งเป็นแบรนด์กาแฟสัญชาติอเมริกันอยู่ข้างกาย พร้อมบอกเล่าประสบการณ์ที่ตนเองพยายามลดปริมาณความหวานของน้ำตาลจาก 100% ก่อนลดลงมาเหลือ 0% เพื่อสุขภาพ แม้แบรนด์กาแฟสัญชาติอเมริกัน อาจไม่เกี่ยวข้องกับการส่งสัญญาณสนับสนุนสหรัฐอเมริกาของกัมพูชา หลังเข้ามามีบทบาทให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิง และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอชื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ แต่ก็คงมีคนสงสัยว่า ร้านสตาร์บัคส์ในกัมพูชาเป็นของใคร? ร้านสตาร์บัคส์ กัมพูชาบริหารงานโดย คอฟฟี่ คอนเซ็ปต์ (แคมโบเดีย) บริษัทในเครือฮ่องกง แม็กซิมส์ กรุ๊ป (Hong Kong Maxim's Group) เปิดสาขาแรกในกัมพูชาเมื่อปี 2558 ภายในท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญ ปัจจุบันมี 47 สาขา ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญและปริมณฑล นอกนั้นจะมีจังหวัดพระสีหนุ เสียมราฐ บันเตียเมียนเจย (ปอยเปต) พระตะบอง และกัมปอต ในภูมิภาคอาเซียน กลุ่มฮ่องกง แม็กซิมส์ กรุ๊ป บริหารร้านสตาร์บัคส์ในเวียดนาม กัมพูชา ไทย ลาว และสิงคโปร์ โดยร้านสตาร์บัคส์ ประเทศไทย บริหารงานโดย บริษัท คอฟฟี่ คอนเซ็ปต์ รีเทล จำกัด ร่วมทุนระหว่างกลุ่มฮ่องกง แม็กซิมส์ กรุ๊ป กับกลุ่มไทยเบฟ รับสิทธิการบริหารธุรกิจค้าปลีกของร้านสตาร์บัคส์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน ร้านสตาร์บัคส์ มาเลเซีย และร้านสตาร์บัคส์ บรูไน บริหารงานโดย เบอร์จายา คอร์ปอเรชัน (Berjaya Corporation) ประกอบธุรกิจค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ โรงแรมและการบริการ (Hospitality) ใน 8 ประเทศ ผู้ครองสิทธิ์แฟรนไชส์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในมาเลเซีย ร้านคริสปี้ครีม และธุรกิจลอตเตอรี่ Sports Toto ร้านสตาร์บัคส์ อินโดนีเซีย บริหารงานโดยกลุ่มมิตรา อาดิเพอร์คาซา ทีบีเค (Mitra Adiperkasa Tbk.) ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าเครื่องกีฬา แฟชั่น บริหารงานห้างสรรพสินค้าโซโก้ในอินโดนีเซีย และบริหารแบรนด์ร้านอาหารชั้นนำอย่างร้านเบอร์เกอร์คิง ร้านคริสปี้ครีม ร้านซับเวย์ เป็นต้น ร้านสตาร์บัคส์ ฟิลิปปินส์ บริหารงานโดย รัสตัน คอฟฟี่ คอร์ปอเรชั่น (Rustan Coffee Corporation) ในเครือรัสตัน ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้า ร้านบูติกระดับไฮเอนด์ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ต่างประเทศกว่า 2,000 แบรนด์ และเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟชั้นนำทางตอนใต้ของมะนิลา #Newskit (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ลงใน Facebook และ Instagram วันพุธที่ 13 ส.ค. 2568)
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 1 Shares 457 Views 0 Reviews
  • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์ได้เปิดเผยข้อมูลกรณี รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา เคยร่วมคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเกริก เดินทางไปมอบ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการสื่อสารทางการเมือง ให้กับ “สมเด็จฮุน เซน” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 ถึงกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยขณะนั้น รศ.ดร.นันทนา ดำรงตำแหน่งเป็นคณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000075720

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์ได้เปิดเผยข้อมูลกรณี รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา เคยร่วมคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเกริก เดินทางไปมอบ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการสื่อสารทางการเมือง ให้กับ “สมเด็จฮุน เซน” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 ถึงกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยขณะนั้น รศ.ดร.นันทนา ดำรงตำแหน่งเป็นคณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000075720 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    Sad
    2
    0 Comments 0 Shares 505 Views 0 Reviews
  • ผอ.ศูนย์ข้อมูลเขมรเรีกร้องสอบสวน “แม่ทัพภาคที่ 2” อ้างมีส่วนสังหารทหารกัมพูชาที่ไม่มีอาวุธ ทรมานเชลยศึก แสดงเจตนายึดกรุงพนมเปญ ด้านเจ้าตัวบอก มีสิทธิจะกล่าวหา ไม่มีอะไร ตนทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000075103

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ผอ.ศูนย์ข้อมูลเขมรเรีกร้องสอบสวน “แม่ทัพภาคที่ 2” อ้างมีส่วนสังหารทหารกัมพูชาที่ไม่มีอาวุธ ทรมานเชลยศึก แสดงเจตนายึดกรุงพนมเปญ ด้านเจ้าตัวบอก มีสิทธิจะกล่าวหา ไม่มีอะไร ตนทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000075103 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    8
    2 Comments 0 Shares 525 Views 0 Reviews
  • เริ่มแล้ว ! ไทย–กัมพูชา ประชุม GBC ระหว่างวันที่ 4 – 6 ส.ค. 68 ที่มาเลเซีย โดยที่ฝ่ายเลขานุการจะประชุมกันเพื่อเตรียมกรอบการประชุม ก่อนที่ในวันที่ 7 ส.ค. 68 รมว.กลาโหม ทั้งสองฝ่ายจะเดินทางมาพบกัน

    การประชุมจะแบ่งออกเป็นสองช่วง คือ:
    1.ส่วนที่หนึ่ง วันที่ 4-6 ส.ค.68 จะเป็นในส่วนของคณะกองเลขานุการ GBC ฝ่ายไทยที่เดินทางถึงประเทศมาเลเซียตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็น (วันที่ 3 ส.ค. 2568) โดยวันนี้จะเริ่มประชุมกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อกำหนดกรอบ และตกลงหัวข้อการประชุม คณะของฝ่ายไทยประกอบด้วย:
    เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เป็นเลขานุการคณะกรรมชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา
    ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ (กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และกรมเอเชียตะวันออก)
    ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย 
    ผู้แทน สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
    ผู้แทนกระทรวงกลาโหม (สำนักนโยบายและแผน กรมพระธรรมนูญ)
    ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) (กรมข่าวทหาร กรมยุทธการ)
    ผู้แทนกองทัพบก (ทบ.) (กรมยุทธการทหารบก กรมข่าวทหารบก กองทัพภาคที่ 1, 2 กองกำลังสุรนารี)
    ผู้แทนกองทัพเรือ (ทร.) (กรมยุทธการทหารเรือ กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด)
    ผู้แทนกองทัพอากาศ (ทอ.)
    ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    ผู้ช่วยทูตทหารบก ทหารอากาศไทย ประจำกรุงพนมเปญ

    2. ส่วนที่สองจะเป็นวันที่ 7 ส.ค. 68 โดยคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีฝ่ายทหารระดับรมว.กลาโหม นำคณะโดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรมว.กลาโหม ส่วนฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.อ.เตีย เซรยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชา
    เริ่มแล้ว ! ไทย–กัมพูชา ประชุม GBC ระหว่างวันที่ 4 – 6 ส.ค. 68 ที่มาเลเซีย โดยที่ฝ่ายเลขานุการจะประชุมกันเพื่อเตรียมกรอบการประชุม ก่อนที่ในวันที่ 7 ส.ค. 68 รมว.กลาโหม ทั้งสองฝ่ายจะเดินทางมาพบกัน การประชุมจะแบ่งออกเป็นสองช่วง คือ: 👉1.ส่วนที่หนึ่ง วันที่ 4-6 ส.ค.68 จะเป็นในส่วนของคณะกองเลขานุการ GBC ฝ่ายไทยที่เดินทางถึงประเทศมาเลเซียตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็น (วันที่ 3 ส.ค. 2568) โดยวันนี้จะเริ่มประชุมกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อกำหนดกรอบ และตกลงหัวข้อการประชุม คณะของฝ่ายไทยประกอบด้วย: 🔘เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เป็นเลขานุการคณะกรรมชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา 🔘ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ (กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และกรมเอเชียตะวันออก) 🔘ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย  🔘ผู้แทน สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) 🔘ผู้แทนกระทรวงกลาโหม (สำนักนโยบายและแผน กรมพระธรรมนูญ) 🔘ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) (กรมข่าวทหาร กรมยุทธการ) 🔘ผู้แทนกองทัพบก (ทบ.) (กรมยุทธการทหารบก กรมข่าวทหารบก กองทัพภาคที่ 1, 2 กองกำลังสุรนารี) 🔘ผู้แทนกองทัพเรือ (ทร.) (กรมยุทธการทหารเรือ กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด) 🔘ผู้แทนกองทัพอากาศ (ทอ.) 🔘ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 🔘ผู้ช่วยทูตทหารบก ทหารอากาศไทย ประจำกรุงพนมเปญ 👉2. ส่วนที่สองจะเป็นวันที่ 7 ส.ค. 68 โดยคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีฝ่ายทหารระดับรมว.กลาโหม นำคณะโดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรมว.กลาโหม ส่วนฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.อ.เตีย เซรยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชา
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 403 Views 0 Reviews
  • “บิ๊กเล็ก” ไม่ไปเขมร ขอเปลี่ยนที่ประชุม GBC ในกรุงพนมเปญ เป็นมาเลเซีย และขยายเวลาประชุมเป็นวันที่ 4-7 ส.ค.

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000072511

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    “บิ๊กเล็ก” ไม่ไปเขมร ขอเปลี่ยนที่ประชุม GBC ในกรุงพนมเปญ เป็นมาเลเซีย และขยายเวลาประชุมเป็นวันที่ 4-7 ส.ค. อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000072511 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    4
    0 Comments 0 Shares 424 Views 0 Reviews
  • วันนี้(24 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.46 น. เพจ “Army Military Force - สำรอง” โพสต์ภาพและข้อความว่า “มีรายงานล่าสุด เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวสมเด็จ ฮุนเซน Hawker 800XP เดินทางออกจากกรุงพนมเปญ มุ่งหน้าไปยังประเทศจีน”

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000069778

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    วันนี้(24 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.46 น. เพจ “Army Military Force - สำรอง” โพสต์ภาพและข้อความว่า “มีรายงานล่าสุด เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวสมเด็จ ฮุนเซน Hawker 800XP เดินทางออกจากกรุงพนมเปญ มุ่งหน้าไปยังประเทศจีน” อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000069778 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 484 Views 0 Reviews
  • “พระยาละแวก” นักตีท้ายครัวในประวัติศาสตร์! ถูกชำระแค้นจนเมืองละแวกหายไปทั้งเมือง!!

    “พระยาละแวก” เป็นคำที่พงศาวดารไทยเรียกกษัตริย์เขมรที่ครองราชย์เมืองละแวก ส่วนใหญ่แล้วเขมรจะตั้งเมืองหลวงอยู่ที่พนมเปญและอุดงมีชัย ในปี ๒๐๔๖ สมเด็จพระศรีสุคนธบท ครองราชย์อยู่เมืองพนมเปญ ถูกกบฏปลงพระชนม์ แต่ นักองค์จัน ผู้เป็นอนุชา หนีมาพึ่งกรุงศรีอยุธยาและได้กองทัพไทยไปช่วยปราบปรามจนได้ราชสมบัติคืนใน พ.ศ.๒๐๕๙ สถาปนานักองค์จันขึ้นครองราชย์ เป็น พระบรมราชาที่ ๓ และได้ย้ายเมืองหลวงมาอยู่เมืองละแวก เหนือกรุงพนมเปญขึ้นไป

    ใน พ.ศ.๒๑๐๙ นักพระสัตถา พระราชโอรส ขึ้นครองราชย์ต่อ เป็น พระบรมราชา ที่ ๔ ใน พ.ศ.๒๑๑๙ ทรงสถาปนา พระราชโองการ พระราชโอรสขึ้นเป็นพระบรมราชาที่ ๕

    จนถึง พ.ศ.๒๑๓๖ หลังจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงจัดการกับพม่าเรียบร้อยแล้ว ก็หันมาชำระแค้นกับพระยาละแวกที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวมาตลอด เผาเมืองละแวกจนย่อยยับ กลายเป็นแค่อำเภอหนึ่งในจังหวัดกำปงชนังของกัมพูชาขณะนี้

    แม้ไทยจะช่วยกษัตริย์เขมรมาตลอด แต่ความไม่ไว้วางใจและความแค้นฝังใจที่ขอมเคยเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในย่านนี้มาก่อน แต่ถูกกรุงศรีอยุธยาทำลายจนย่อยยับมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าสามพระยา ซึ่งเขมรก็ไม่อาจแก้แค้นได้เพราะความเข้มแข็งต่างกันมาก จนเมื่อใดที่ไทยอ่อนแอลง เขมรจึงถือเป็นโอกาส อย่างสมัยที่เสียกรุงครั้งที่ ๑ ถูกพม่ายึดอาวุธไปหมด ผู้คนส่วนใหญ่หนีไปหลบซ่อนอยู่ในป่า ยังไม่ทันกลับเข้าเมือง จึงเป็นโอกาสดีของเขมร ในปี ๒๑๑๓ พระบรมราชาที่ ๔ ได้นำกำลัง ๓๐,๐๐๐ คนมุ่งมาตีกรุงศรีอยุธยา ฝ่ายไทยเห็นว่าไม่มีกำลังจะสู้เขมรได้ คิดจะถอยขึ้นไปเมืองพิษณุโลก แต่มาทราบว่าเจ้าเมืองเพชรบูรณ์คนเก่าตั้งกองโจรดักปล้นอยู่กลางทาง จึงต้องตัดสินใจปักหลักสู้พระยาละแวกที่กรุงศรีอยุธยา แต่พอสู้กันจริงๆ กองทัพพระยาละแวกก็แหยงฝีมือไทย ถอยกลับไปโดยกวาดต้อนผู้คนรายทางกลับไปมาก

    ต่อมาอีก ๕ ปี พระบรมราชที่ ๔ เจ้าเก่า ได้ข่าวว่าสมเด็จพระมหาธรรมราชายกกองทัพไปช่วยพระเจ้ากรุงหงสาวดีตีกรุงศรีสัตนาคนหุต จึงยกกองทัพเรือเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยาถึงวัดพนัญเชิง แต่เผอิญสมเด็จพระนเรศวรซึ่งติดตามพระราชบิดาไปทัพด้วย เกิดเป็นไข้ทรพิษกลางทาง พระเจ้าบุเรงนองเลยให้กองทัพไทยกลับมาก่อน มาเจอเอากองทัพของพระยาละแวกแอบเข้ามาตีท้ายครัวเข้าพอดี เลยตีเสียกระเจิง แต่ตอนถอยออกไปพระยาละแวกก็ถือโอกาสขนเอาเทวรูปสัมฤทธิ์ ๒ องค์ที่เมืองพระประแดงและกวาดต้อนราษฎรไทยตามหัวเมืองชายทะเลกลับไปอีก

    รุ่งขึ้นอีกปี ใน พ.ศ.๒๑๑๔ พระบรมราชาธิราชที่ ๕ ขึ้นครองราชย์เมืองละแวก ได้ยกกองทัพเรือมีกำลังถึง ๗๐,๐๐๐ คนข้ามทะเลมาตีเมืองเพชรบุรี ล้อมถึง ๓ วันก็ไม่สามารถเข้าเมืองได้ เสียทหารไปเป็นจำนวนมาก พระยาละแวกต้องถอยไปตั้งหลักใหม่ และตัดสินใจเข้าตีอีกครั้ง หากไม่สำเร็จก็จะกลับ แต่การตั้งรับศึกครั้งใหม่แม่ทัพไทยเกิดแตกคอกัน ต่างคนต่างตั้งรับด้านของตัวไม่ยอมประสานกัน พระยาละแวกเลยเข้าเมืองได้ ๓ แม่ทัพไทยที่แตกคอกันเองตายในที่รบ พระยาละแวกกวาดต้อนผู้คนไปอีกมาก

    ต่อมาอีก ๒ ปี เขมรก็เอาอีก เพราะช่วงนั้นไทยยังไม่พ้นความอ่อนแอ พระยาละแวกก็ส่งกองทัพม้าทัพช้าง ๕,๐๐๐ คนมาลาดตระเวนด้านตะวันออกของไทย สมเด็จพระนเรศวรทราบข่าวขณะประทับอยู่เมืองพิษณุโลก รับสั่งให้กองทัพเมืองชัยบุรีและเมืองถมอรัตน์ (เพชรบูรณ์) ป้องกันด้านในด่านไว้ ส่วนพระองค์นำทหาร ๓,๐๐๐ คนเข้าขับไล่กองทัพพระยาละแวกจนถอยกลับไป
    หลังการประกาศอิสรภาพ สมเด็จพระนเรศวรทรงปรับปรุงกองทัพไทยให้เข้มแข็ง เมื่อพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงกรีฑาทัพมาปราบ ก็ต้องแตกพ่ายไป ในปี พ.ศ.๒๑๒๘ พระบรมราชาที่ ๕ ที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวเป็นประจำ กลัวว่าจะถูกคิดบัญชีแค้น จึงแต่งราชทูตและถือศุภอักษรเข้ามาขอเป็นไมตรี สมเด็จพระนเรศวรทรงเห็นว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับพม่า หากสงบศึกกับเขมรได้ ก็ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง จึงทรงรับเป็นไมตรี

    เมื่อไทยเกิดศึกกับกรุงหงสาวดีครั้งที่ ๒ พระบรมราชาที่ ๕ ได้ส่งพระศรีสุพรรณมาธิราช พระอนุชา คุมกำลังเข้ามาช่วย แต่พระศรีสุพรรณมาธิราชกลับแสดงกิริยากระด้างกระเดื่อง ตอนพระนเรศวรทรงเรือพระที่นั่งกลับมาจากชนะศึกที่เชียงใหม่ ขณะที่ผ่านกองเรือเขมร พระศรีสุพรรณฯก็นั่งอยู่ในเรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ยอมแสดงความเคารพ ทำให้พระองค์ดำทรงพิโรธ รับสั่งให้ตัดศีรษะเชลยศึกที่จับมาไปเสียบไว้ที่กราบเรือพระศรีสุพรรณฯ

    ในปี พ.ศ.๒๑๓๐ ขณะพระเจ้ากรุงหงสาวดีส่งกำลังมาล้อมกรุงศรีอยุธยาอีก พระบรมราชาที่ ๕ ซึ่งเคยส่งกำลังมาช่วย ได้ส่งฟ้าทะละหะนำกำลังเข้ามาตีเมืองปราจีน สมเด็จพระนเรศวรทรงส่งพระยาศรีไสยณรงค์กับพระยาสีหราชเดโชชัยยกกองทัพไปป้องกัน พอถึงเมืองนครนายกก็ปะทะกับกองทัพเขมร จึงเข้าตีจนแตกพ่าย และตามตีจนพ้นเขตแดนไทย

    เมื่อสมเด็จพระนเรศวรขึ้นครองราชย์แล้ว ศึกทางพม่าว่างเว้น ทรงเห็นว่าจะต้องกำราบเขมรที่คอยตีท้ายครัวให้เข็ดหลาบเสียที ทรงร่วมกับสมเด็จพระเอกาทศรถยกกองทัพไป ให้พระราชมนูเป็นกองทัพหน้า พระยาละแวกยกมาสกัดที่เมืองโพธิสัตว์และพระตะบอง พระราชมนูถลำเข้าไปไม่รู้ตัว เลยถูกตีถอยมาถึงทัพหลวง สมเด็จพระนเรศวรทรงพิโรธจะให้ประหารชีวิตแม่ทัพเสีย แต่สมเด็จพระเอกาทศรถทูลขอชีวิตให้โอกาสแก้ตัว พระราชมนูจึงกลับไปตีเมืองโพธิสัตว์และพระตะบองได้ กองทัพหลวงเข้าล้อมเมืองละแวก แต่ก็ขาดเสบียงอาหาร จึงต้องยกกลับ

    ในปี พ.ศ.๒๑๓๖ สมเด็จพระนเรศวรทรงนำกองทัพไปตีเมืองละแวกเป็นครั้งที่ ๒ จับพระยาละแวกได้ แล้วทำพิธีกรรมให้ประหารชีวิตเอาโลหิตล้างพระบาท

    แต่มีบันทึกของบาทหลวงฝรั่งเศสกล่าวว่า พระบรมราชาที่ ๕ ไม่ได้ถูกสมเด็จพระนเรศวรประหาร แต่ได้หนีข้ามแดนไปอยู่ที่เมืองเชียงแตงในลาวพร้อมกับพระราชบุตร ๒ องค์ กองทัพไทยได้เผาเมืองละแวกวอดและกวาดต้อนผู้คนมา ต่อมาพระบรมราชาที่ ๕ พร้อมพระราชบุตรทั้ง ๒ ได้สิ้นพระชนม์ที่เมืองเชียงแตง

    การทำพิธีกรรมเอาโลหิตล้างพระบาท จึงอาจคลาดเคลื่อนมาจากพิธีกรรมอย่างอื่นก็เป็นได้ หรือเป็นรสชาติของประวัติศาสตร์ตามเจตนาของคนบันทึก

    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000124260
    “พระยาละแวก” นักตีท้ายครัวในประวัติศาสตร์! ถูกชำระแค้นจนเมืองละแวกหายไปทั้งเมือง!! “พระยาละแวก” เป็นคำที่พงศาวดารไทยเรียกกษัตริย์เขมรที่ครองราชย์เมืองละแวก ส่วนใหญ่แล้วเขมรจะตั้งเมืองหลวงอยู่ที่พนมเปญและอุดงมีชัย ในปี ๒๐๔๖ สมเด็จพระศรีสุคนธบท ครองราชย์อยู่เมืองพนมเปญ ถูกกบฏปลงพระชนม์ แต่ นักองค์จัน ผู้เป็นอนุชา หนีมาพึ่งกรุงศรีอยุธยาและได้กองทัพไทยไปช่วยปราบปรามจนได้ราชสมบัติคืนใน พ.ศ.๒๐๕๙ สถาปนานักองค์จันขึ้นครองราชย์ เป็น พระบรมราชาที่ ๓ และได้ย้ายเมืองหลวงมาอยู่เมืองละแวก เหนือกรุงพนมเปญขึ้นไป ใน พ.ศ.๒๑๐๙ นักพระสัตถา พระราชโอรส ขึ้นครองราชย์ต่อ เป็น พระบรมราชา ที่ ๔ ใน พ.ศ.๒๑๑๙ ทรงสถาปนา พระราชโองการ พระราชโอรสขึ้นเป็นพระบรมราชาที่ ๕ จนถึง พ.ศ.๒๑๓๖ หลังจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงจัดการกับพม่าเรียบร้อยแล้ว ก็หันมาชำระแค้นกับพระยาละแวกที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวมาตลอด เผาเมืองละแวกจนย่อยยับ กลายเป็นแค่อำเภอหนึ่งในจังหวัดกำปงชนังของกัมพูชาขณะนี้ แม้ไทยจะช่วยกษัตริย์เขมรมาตลอด แต่ความไม่ไว้วางใจและความแค้นฝังใจที่ขอมเคยเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในย่านนี้มาก่อน แต่ถูกกรุงศรีอยุธยาทำลายจนย่อยยับมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าสามพระยา ซึ่งเขมรก็ไม่อาจแก้แค้นได้เพราะความเข้มแข็งต่างกันมาก จนเมื่อใดที่ไทยอ่อนแอลง เขมรจึงถือเป็นโอกาส อย่างสมัยที่เสียกรุงครั้งที่ ๑ ถูกพม่ายึดอาวุธไปหมด ผู้คนส่วนใหญ่หนีไปหลบซ่อนอยู่ในป่า ยังไม่ทันกลับเข้าเมือง จึงเป็นโอกาสดีของเขมร ในปี ๒๑๑๓ พระบรมราชาที่ ๔ ได้นำกำลัง ๓๐,๐๐๐ คนมุ่งมาตีกรุงศรีอยุธยา ฝ่ายไทยเห็นว่าไม่มีกำลังจะสู้เขมรได้ คิดจะถอยขึ้นไปเมืองพิษณุโลก แต่มาทราบว่าเจ้าเมืองเพชรบูรณ์คนเก่าตั้งกองโจรดักปล้นอยู่กลางทาง จึงต้องตัดสินใจปักหลักสู้พระยาละแวกที่กรุงศรีอยุธยา แต่พอสู้กันจริงๆ กองทัพพระยาละแวกก็แหยงฝีมือไทย ถอยกลับไปโดยกวาดต้อนผู้คนรายทางกลับไปมาก ต่อมาอีก ๕ ปี พระบรมราชที่ ๔ เจ้าเก่า ได้ข่าวว่าสมเด็จพระมหาธรรมราชายกกองทัพไปช่วยพระเจ้ากรุงหงสาวดีตีกรุงศรีสัตนาคนหุต จึงยกกองทัพเรือเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยาถึงวัดพนัญเชิง แต่เผอิญสมเด็จพระนเรศวรซึ่งติดตามพระราชบิดาไปทัพด้วย เกิดเป็นไข้ทรพิษกลางทาง พระเจ้าบุเรงนองเลยให้กองทัพไทยกลับมาก่อน มาเจอเอากองทัพของพระยาละแวกแอบเข้ามาตีท้ายครัวเข้าพอดี เลยตีเสียกระเจิง แต่ตอนถอยออกไปพระยาละแวกก็ถือโอกาสขนเอาเทวรูปสัมฤทธิ์ ๒ องค์ที่เมืองพระประแดงและกวาดต้อนราษฎรไทยตามหัวเมืองชายทะเลกลับไปอีก รุ่งขึ้นอีกปี ใน พ.ศ.๒๑๑๔ พระบรมราชาธิราชที่ ๕ ขึ้นครองราชย์เมืองละแวก ได้ยกกองทัพเรือมีกำลังถึง ๗๐,๐๐๐ คนข้ามทะเลมาตีเมืองเพชรบุรี ล้อมถึง ๓ วันก็ไม่สามารถเข้าเมืองได้ เสียทหารไปเป็นจำนวนมาก พระยาละแวกต้องถอยไปตั้งหลักใหม่ และตัดสินใจเข้าตีอีกครั้ง หากไม่สำเร็จก็จะกลับ แต่การตั้งรับศึกครั้งใหม่แม่ทัพไทยเกิดแตกคอกัน ต่างคนต่างตั้งรับด้านของตัวไม่ยอมประสานกัน พระยาละแวกเลยเข้าเมืองได้ ๓ แม่ทัพไทยที่แตกคอกันเองตายในที่รบ พระยาละแวกกวาดต้อนผู้คนไปอีกมาก ต่อมาอีก ๒ ปี เขมรก็เอาอีก เพราะช่วงนั้นไทยยังไม่พ้นความอ่อนแอ พระยาละแวกก็ส่งกองทัพม้าทัพช้าง ๕,๐๐๐ คนมาลาดตระเวนด้านตะวันออกของไทย สมเด็จพระนเรศวรทราบข่าวขณะประทับอยู่เมืองพิษณุโลก รับสั่งให้กองทัพเมืองชัยบุรีและเมืองถมอรัตน์ (เพชรบูรณ์) ป้องกันด้านในด่านไว้ ส่วนพระองค์นำทหาร ๓,๐๐๐ คนเข้าขับไล่กองทัพพระยาละแวกจนถอยกลับไป หลังการประกาศอิสรภาพ สมเด็จพระนเรศวรทรงปรับปรุงกองทัพไทยให้เข้มแข็ง เมื่อพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงกรีฑาทัพมาปราบ ก็ต้องแตกพ่ายไป ในปี พ.ศ.๒๑๒๘ พระบรมราชาที่ ๕ ที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวเป็นประจำ กลัวว่าจะถูกคิดบัญชีแค้น จึงแต่งราชทูตและถือศุภอักษรเข้ามาขอเป็นไมตรี สมเด็จพระนเรศวรทรงเห็นว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับพม่า หากสงบศึกกับเขมรได้ ก็ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง จึงทรงรับเป็นไมตรี เมื่อไทยเกิดศึกกับกรุงหงสาวดีครั้งที่ ๒ พระบรมราชาที่ ๕ ได้ส่งพระศรีสุพรรณมาธิราช พระอนุชา คุมกำลังเข้ามาช่วย แต่พระศรีสุพรรณมาธิราชกลับแสดงกิริยากระด้างกระเดื่อง ตอนพระนเรศวรทรงเรือพระที่นั่งกลับมาจากชนะศึกที่เชียงใหม่ ขณะที่ผ่านกองเรือเขมร พระศรีสุพรรณฯก็นั่งอยู่ในเรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ยอมแสดงความเคารพ ทำให้พระองค์ดำทรงพิโรธ รับสั่งให้ตัดศีรษะเชลยศึกที่จับมาไปเสียบไว้ที่กราบเรือพระศรีสุพรรณฯ ในปี พ.ศ.๒๑๓๐ ขณะพระเจ้ากรุงหงสาวดีส่งกำลังมาล้อมกรุงศรีอยุธยาอีก พระบรมราชาที่ ๕ ซึ่งเคยส่งกำลังมาช่วย ได้ส่งฟ้าทะละหะนำกำลังเข้ามาตีเมืองปราจีน สมเด็จพระนเรศวรทรงส่งพระยาศรีไสยณรงค์กับพระยาสีหราชเดโชชัยยกกองทัพไปป้องกัน พอถึงเมืองนครนายกก็ปะทะกับกองทัพเขมร จึงเข้าตีจนแตกพ่าย และตามตีจนพ้นเขตแดนไทย เมื่อสมเด็จพระนเรศวรขึ้นครองราชย์แล้ว ศึกทางพม่าว่างเว้น ทรงเห็นว่าจะต้องกำราบเขมรที่คอยตีท้ายครัวให้เข็ดหลาบเสียที ทรงร่วมกับสมเด็จพระเอกาทศรถยกกองทัพไป ให้พระราชมนูเป็นกองทัพหน้า พระยาละแวกยกมาสกัดที่เมืองโพธิสัตว์และพระตะบอง พระราชมนูถลำเข้าไปไม่รู้ตัว เลยถูกตีถอยมาถึงทัพหลวง สมเด็จพระนเรศวรทรงพิโรธจะให้ประหารชีวิตแม่ทัพเสีย แต่สมเด็จพระเอกาทศรถทูลขอชีวิตให้โอกาสแก้ตัว พระราชมนูจึงกลับไปตีเมืองโพธิสัตว์และพระตะบองได้ กองทัพหลวงเข้าล้อมเมืองละแวก แต่ก็ขาดเสบียงอาหาร จึงต้องยกกลับ ในปี พ.ศ.๒๑๓๖ สมเด็จพระนเรศวรทรงนำกองทัพไปตีเมืองละแวกเป็นครั้งที่ ๒ จับพระยาละแวกได้ แล้วทำพิธีกรรมให้ประหารชีวิตเอาโลหิตล้างพระบาท แต่มีบันทึกของบาทหลวงฝรั่งเศสกล่าวว่า พระบรมราชาที่ ๕ ไม่ได้ถูกสมเด็จพระนเรศวรประหาร แต่ได้หนีข้ามแดนไปอยู่ที่เมืองเชียงแตงในลาวพร้อมกับพระราชบุตร ๒ องค์ กองทัพไทยได้เผาเมืองละแวกวอดและกวาดต้อนผู้คนมา ต่อมาพระบรมราชาที่ ๕ พร้อมพระราชบุตรทั้ง ๒ ได้สิ้นพระชนม์ที่เมืองเชียงแตง การทำพิธีกรรมเอาโลหิตล้างพระบาท จึงอาจคลาดเคลื่อนมาจากพิธีกรรมอย่างอื่นก็เป็นได้ หรือเป็นรสชาติของประวัติศาสตร์ตามเจตนาของคนบันทึก https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000124260
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 522 Views 0 Reviews
  • กู่ไม่กลับ! 'ธนาธร' ชี้ทหารไม่ควรให้ความเห็นเรื่องชายแดน ต้องฟังรัฐบาลพลเรือน

    ///////////

    "ธนาธร" เชื่อยังไม่สายเกินไป แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ขอทั้งสองฝ่ายร่วมกันส่งเสียงดังๆ ต้องการความร่วมมือ-สันติภาพ แนะรัฐบาลต้องอดทน แม้ถูกยั่วยุ ย้ำโต๊ะเจรจา JBC ยังจำเป็น เพื่อทำให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ รับประชาชนเรียกร้องนายกฯที่เป็นทหาร เหตุรัฐบาลพลเรือนคุมสถานการณ์ไม่ได้

    18 กรกฎาคม 2568 - ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวผ่านรายการ Exclusive Talk : ผ่าทางตัน ซึ่งจัดโดยเครือเนชั่น ถึงปัญหาชายแดนไทย กัมพูชาในขณะนี้ คิดว่าจะบานปลายหรือไม่ หรือควรแก้ไขสถานการณ์อย่างไร ว่า ตนไม่กลัวเบื้องหลัง กลัวเบื้องหน้ามากกว่า ขอเกมของกัมพูชา คือต้องการสร้างความได้เปรียบในเวทีโลก ผ่านศาลโลก
    หรือกระบวนการของ UNGA UNHC ซึ่งเขาต้องการดันไปสู่จุดนั้น โดยใช้การสร้างความชอบธรรม

    ดังนั้น สิ่งที่เขาต้องการคือการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงอยู่แล้ว ท่าทีของรัฐบาลไทย หรือกองทัพไทย จึงต้องอดทนอดกลั้น เป็นผู้ใหญ่ และไม่ไปตกหลุมเขา เราต้องไม่เริ่มก่อน ไม่เช่นนั้นจะทำให้ความขัดแย้งก่อตัวขึ้น มีการปะทะ จนนำมาสู่การบาดเจ็บล้นตาย เกิดการใช้ความรุนแรง ซึ่งก็จะเข้าทางเขา
    นายธนาธร มองว่า ความสำคัญของเรื่องนี้ ในวันนี้คือเบื้องหน้า ไม่ใช่เบื้องหลัง คือเราจะทำอย่างไร ให้สถานการณ์อ่อนลง ทำให้สถานการณ์กลับไปเป็นปกติได้เร็วที่สุด จึงจำเป็นต้องใช้รัฐบาลพลเรือน ผ่านกลไก JBC ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาพูดคุยกัน เพื่อทำให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ
    นายธนาธร ระบุว่า การที่สถานการณ์ตึงเครียด เป็นเพราะรัฐบาลพลาดในกรณีคลิปเสียง ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาทางการเมือง ซึ่งเป็นโจทย์ของตัวเอง จึงต้องทำท่าทีขึงขัง และนี่ก็เป็นสิ่งที่ตนกลัว เพราะถ้าทีขึงขังนี้ เกิดจากการที่ต้องการแก้ปัญหาทางการเมืองของตัวเอง แต่สิ่งที่เราต้องการคือต้องการลดความตึงเครียด ลดความรุนแรง ผ่านโต๊ะเจรจา เพราะหากเกิดอะไรขึ้น จะกลายเป็นข้ออ้าง ที่เขาสามารถใช้ในเวทีโลก และทำให้เราเสียเปรียบ ส่วนแปลกใจหรือไม่ ที่ผลโพลล่าสุด ออกมาว่านายกรัฐมนตรีที่ประชาชนต้องการ คือพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นทหาร นายธนาธร ระบุว่า ตนติดใจเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกัน มากกว่าเรื่องนี้ คือเรื่องการกลับเข้ามาไว้วางใจทหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนกังวล เนื่องจากประเทศไทยมีความหลากหลายเยอะมาก หลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรมเต็มไปหมด สิ่งที่เราต้องการคือสันติภาพ การอยู่ร่วมกัน การเคารพในตัวตน และศรัทธาของกันและกัน เราไม่ได้ต้องการสงคราม
    ดังนั้น สิ่งที่ตนเป็นกังวลก็คือ การใช้ความรู้สึก หรือสถานการณ์มาสร้างอารมณ์ความรู้สึก ชาตินิยมที่ล้นเกิน ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความเกลียดชังในสังคม เมื่อเมล็ดพันธุ์ของความเกลียดชังเบ่งบาน ก็จะเอาไม่ลง เพราะหากเมล็ดพันธุ์การแบ่งแยกผู้คน ที่ทำให้ผู้คนเกลียดกลัวกัน ระแวงกัน ด้วยการใช้ศาสนา ชาติพันธุ์ หรืออะไรก็ตาม มันนำมาสู่ ความเกลียดชังกันเอง ซึ่งไม่เป็นผลดีกับใคร และสิ่งที่สำคัญที่สุดคนที่เดือดร้อน คือคนตัวเล็กตัวน้อยหน้างานของทั้งสองฝั่ง แต่คนที่ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์
    จากการเบ่งบานของเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง ที่นั่งอยู่ที่กรุงพนมเปญ ที่กรุงเทพฯ ไม่ได้เสียอะไร

    เมื่อถามว่า ไม่ได้คิดบ้างหรือว่าเนื่องด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่ประชาชนพึ่งพาไม่ได้เช่นนี้ จึงทำให้คนโหยหาทหาร นายธนาธร กล่าวว่า แน่นอนที่สุดเราไม่ปฏิเสธว่า การที่รัฐบาลตอบโต้กัมพูชาในช่วงหลายเดือนก่อน น้อยเกินไป ช้าเกินไป แน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้าง
    หากจะให้พูดกันตรงๆ คือทหารไม่สามารถออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ได้ และไม่ควรจะให้ความเห็น ต้องฟังรัฐบาลพลเรือน ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้ สะท้อนปัญหาการเมืองไทย ว่ารัฐบาลพลเรือนไม่สามารถแก้ปัญหาสถานการณ์กองทัพได้ แม้ว่าขณะนี้ รัฐบาลพลเรือนจะแก้ข้อผิดพลาดด้วยการมอบอำนาจให้กับทหาร
    เรื่องนี้ยังไม่สายเกินไป ว่าเราต้องการสันติภาพ นี่คือพี่น้องกัน เดินข้ามถนน เดินข้ามพรมแดน ก็พี่น้องกันแล้ว ความร่วมมือจะนำมาซึ่งการสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และความมั่นคงทางวัฒนธรรมที่ดีกว่า เราอยากเห็นความสัมพันธ์ของเรากับเพื่อนบ้านเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เป็นความสัมพันธ์ที่เผชิญหน้ากัน ดังนั้น เราต้องส่งเสียงทั้งสองฝ่าย ว่าสิ่งที่เราแสวงหารร่วมกัน คือ ความร่วมมือ และสันติภาพ ไม่ใช่ความเกลียดชัง และ
    สงคราม ส่งเสียงให้ดังๆ" นายธนาธร กล่าว
    กู่ไม่กลับ! 'ธนาธร' ชี้ทหารไม่ควรให้ความเห็นเรื่องชายแดน ต้องฟังรัฐบาลพลเรือน /////////// "ธนาธร" เชื่อยังไม่สายเกินไป แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ขอทั้งสองฝ่ายร่วมกันส่งเสียงดังๆ ต้องการความร่วมมือ-สันติภาพ แนะรัฐบาลต้องอดทน แม้ถูกยั่วยุ ย้ำโต๊ะเจรจา JBC ยังจำเป็น เพื่อทำให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ รับประชาชนเรียกร้องนายกฯที่เป็นทหาร เหตุรัฐบาลพลเรือนคุมสถานการณ์ไม่ได้ 18 กรกฎาคม 2568 - ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวผ่านรายการ Exclusive Talk : ผ่าทางตัน ซึ่งจัดโดยเครือเนชั่น ถึงปัญหาชายแดนไทย กัมพูชาในขณะนี้ คิดว่าจะบานปลายหรือไม่ หรือควรแก้ไขสถานการณ์อย่างไร ว่า ตนไม่กลัวเบื้องหลัง กลัวเบื้องหน้ามากกว่า ขอเกมของกัมพูชา คือต้องการสร้างความได้เปรียบในเวทีโลก ผ่านศาลโลก หรือกระบวนการของ UNGA UNHC ซึ่งเขาต้องการดันไปสู่จุดนั้น โดยใช้การสร้างความชอบธรรม ดังนั้น สิ่งที่เขาต้องการคือการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงอยู่แล้ว ท่าทีของรัฐบาลไทย หรือกองทัพไทย จึงต้องอดทนอดกลั้น เป็นผู้ใหญ่ และไม่ไปตกหลุมเขา เราต้องไม่เริ่มก่อน ไม่เช่นนั้นจะทำให้ความขัดแย้งก่อตัวขึ้น มีการปะทะ จนนำมาสู่การบาดเจ็บล้นตาย เกิดการใช้ความรุนแรง ซึ่งก็จะเข้าทางเขา นายธนาธร มองว่า ความสำคัญของเรื่องนี้ ในวันนี้คือเบื้องหน้า ไม่ใช่เบื้องหลัง คือเราจะทำอย่างไร ให้สถานการณ์อ่อนลง ทำให้สถานการณ์กลับไปเป็นปกติได้เร็วที่สุด จึงจำเป็นต้องใช้รัฐบาลพลเรือน ผ่านกลไก JBC ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาพูดคุยกัน เพื่อทำให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ นายธนาธร ระบุว่า การที่สถานการณ์ตึงเครียด เป็นเพราะรัฐบาลพลาดในกรณีคลิปเสียง ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาทางการเมือง ซึ่งเป็นโจทย์ของตัวเอง จึงต้องทำท่าทีขึงขัง และนี่ก็เป็นสิ่งที่ตนกลัว เพราะถ้าทีขึงขังนี้ เกิดจากการที่ต้องการแก้ปัญหาทางการเมืองของตัวเอง แต่สิ่งที่เราต้องการคือต้องการลดความตึงเครียด ลดความรุนแรง ผ่านโต๊ะเจรจา เพราะหากเกิดอะไรขึ้น จะกลายเป็นข้ออ้าง ที่เขาสามารถใช้ในเวทีโลก และทำให้เราเสียเปรียบ ส่วนแปลกใจหรือไม่ ที่ผลโพลล่าสุด ออกมาว่านายกรัฐมนตรีที่ประชาชนต้องการ คือพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นทหาร นายธนาธร ระบุว่า ตนติดใจเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกัน มากกว่าเรื่องนี้ คือเรื่องการกลับเข้ามาไว้วางใจทหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนกังวล เนื่องจากประเทศไทยมีความหลากหลายเยอะมาก หลายชาติพันธุ์ วัฒนธรรมเต็มไปหมด สิ่งที่เราต้องการคือสันติภาพ การอยู่ร่วมกัน การเคารพในตัวตน และศรัทธาของกันและกัน เราไม่ได้ต้องการสงคราม ดังนั้น สิ่งที่ตนเป็นกังวลก็คือ การใช้ความรู้สึก หรือสถานการณ์มาสร้างอารมณ์ความรู้สึก ชาตินิยมที่ล้นเกิน ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความเกลียดชังในสังคม เมื่อเมล็ดพันธุ์ของความเกลียดชังเบ่งบาน ก็จะเอาไม่ลง เพราะหากเมล็ดพันธุ์การแบ่งแยกผู้คน ที่ทำให้ผู้คนเกลียดกลัวกัน ระแวงกัน ด้วยการใช้ศาสนา ชาติพันธุ์ หรืออะไรก็ตาม มันนำมาสู่ ความเกลียดชังกันเอง ซึ่งไม่เป็นผลดีกับใคร และสิ่งที่สำคัญที่สุดคนที่เดือดร้อน คือคนตัวเล็กตัวน้อยหน้างานของทั้งสองฝั่ง แต่คนที่ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ จากการเบ่งบานของเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง ที่นั่งอยู่ที่กรุงพนมเปญ ที่กรุงเทพฯ ไม่ได้เสียอะไร เมื่อถามว่า ไม่ได้คิดบ้างหรือว่าเนื่องด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่ประชาชนพึ่งพาไม่ได้เช่นนี้ จึงทำให้คนโหยหาทหาร นายธนาธร กล่าวว่า แน่นอนที่สุดเราไม่ปฏิเสธว่า การที่รัฐบาลตอบโต้กัมพูชาในช่วงหลายเดือนก่อน น้อยเกินไป ช้าเกินไป แน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้าง หากจะให้พูดกันตรงๆ คือทหารไม่สามารถออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ได้ และไม่ควรจะให้ความเห็น ต้องฟังรัฐบาลพลเรือน ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้ สะท้อนปัญหาการเมืองไทย ว่ารัฐบาลพลเรือนไม่สามารถแก้ปัญหาสถานการณ์กองทัพได้ แม้ว่าขณะนี้ รัฐบาลพลเรือนจะแก้ข้อผิดพลาดด้วยการมอบอำนาจให้กับทหาร เรื่องนี้ยังไม่สายเกินไป ว่าเราต้องการสันติภาพ นี่คือพี่น้องกัน เดินข้ามถนน เดินข้ามพรมแดน ก็พี่น้องกันแล้ว ความร่วมมือจะนำมาซึ่งการสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และความมั่นคงทางวัฒนธรรมที่ดีกว่า เราอยากเห็นความสัมพันธ์ของเรากับเพื่อนบ้านเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เป็นความสัมพันธ์ที่เผชิญหน้ากัน ดังนั้น เราต้องส่งเสียงทั้งสองฝ่าย ว่าสิ่งที่เราแสวงหารร่วมกัน คือ ความร่วมมือ และสันติภาพ ไม่ใช่ความเกลียดชัง และ สงคราม ส่งเสียงให้ดังๆ" นายธนาธร กล่าว
    0 Comments 0 Shares 544 Views 0 Reviews
  • สื่อเขมรวอนชาวโลกอย่าตัดสินกัมพูชาจากปัญหาในอดีตว่าเป็นศูนย์กลางแก๊งสแกมเมอร์ ขอให้ดูการกระทำปัจจุบันและวิสัยทัศน์ในอนาคตของรัฐบาล ยันมุ่งมั่นกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์จริงจัง ไม่ใช่แค่สร้างภาพ กัมพูชาไม่ใช่ปัญหาแต่จะเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาระดับโลก

    ภายหลังจากนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลงนามในคำสั่งกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในกัมพูชา เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีการจับกุมแก๊งอชญากรรมออนไลน์ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เช่น ในกรุงพนมเปญ เมืองสีหนุวิลล์ เมืองปอยเปต จังหวัดกระแจะ จังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดกัมปงสปือ เป็นต้น ล่าสุด วันนี้(18 ก.ค.) สำนักข่าว Khmer Times เผยแพร่รายงานพิเศษในหัวข้อ “สงครามอันไม่หยุดยั้งของกัมพูชาต่อการฉ้อโกงออนไลน์: จากวิกฤตชาติสู่ความรับผิดชอบระดับโลก” มีใจความว่า ปัจจุบันกัมพูชากำลังมุ่งมั่นและเป็นกำลังสำคัญระดับแนวหน้าของการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ระดับโลก ในยุคที่กลุ่มอาชญากรใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากกลุ่มเปราะบาง ฟอกเงินจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย และลักลอบค้ามนุษย์ข้ามพรมแดน รัฐบาลกัมพูชา ภายใต้การนำอันเข้มแข็งของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ได้ริเริ่มการรณรงค์อย่างไม่ลดละและต่อเนื่องเพื่อกำจัดภัยร้ายนี้ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินกัมพูชา

    นี่ไม่ใช่การแสดงออกทางการเมืองชั่วคราว แต่เป็นการระดมกำลังจากรัฐบาลทั้งหมด ซึ่งได้รับการประสานงาน การบังคับบัญชา และการหนุนหลังจากผู้มีอำนาจสูงสุด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000067683

    #Thaitimes #MGROnline #ศูนย์กลางแก๊งสแกมเมอร์ #กัมพูชา
    สื่อเขมรวอนชาวโลกอย่าตัดสินกัมพูชาจากปัญหาในอดีตว่าเป็นศูนย์กลางแก๊งสแกมเมอร์ ขอให้ดูการกระทำปัจจุบันและวิสัยทัศน์ในอนาคตของรัฐบาล ยันมุ่งมั่นกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์จริงจัง ไม่ใช่แค่สร้างภาพ กัมพูชาไม่ใช่ปัญหาแต่จะเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาระดับโลก • ภายหลังจากนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลงนามในคำสั่งกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในกัมพูชา เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีการจับกุมแก๊งอชญากรรมออนไลน์ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เช่น ในกรุงพนมเปญ เมืองสีหนุวิลล์ เมืองปอยเปต จังหวัดกระแจะ จังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดกัมปงสปือ เป็นต้น ล่าสุด วันนี้(18 ก.ค.) สำนักข่าว Khmer Times เผยแพร่รายงานพิเศษในหัวข้อ “สงครามอันไม่หยุดยั้งของกัมพูชาต่อการฉ้อโกงออนไลน์: จากวิกฤตชาติสู่ความรับผิดชอบระดับโลก” มีใจความว่า ปัจจุบันกัมพูชากำลังมุ่งมั่นและเป็นกำลังสำคัญระดับแนวหน้าของการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ระดับโลก ในยุคที่กลุ่มอาชญากรใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากกลุ่มเปราะบาง ฟอกเงินจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย และลักลอบค้ามนุษย์ข้ามพรมแดน รัฐบาลกัมพูชา ภายใต้การนำอันเข้มแข็งของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ได้ริเริ่มการรณรงค์อย่างไม่ลดละและต่อเนื่องเพื่อกำจัดภัยร้ายนี้ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินกัมพูชา • นี่ไม่ใช่การแสดงออกทางการเมืองชั่วคราว แต่เป็นการระดมกำลังจากรัฐบาลทั้งหมด ซึ่งได้รับการประสานงาน การบังคับบัญชา และการหนุนหลังจากผู้มีอำนาจสูงสุด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000067683 • #Thaitimes #MGROnline #ศูนย์กลางแก๊งสแกมเมอร์ #กัมพูชา
    0 Comments 0 Shares 537 Views 0 Reviews
  • ตัวแทนทีมฟุตบอลกัมพูชาออลสตาร์ ที่สวมหมวกอีกใบเป็นเลขาฯ ครม.เขมร ประกาศจัดม็อบใหญ่ 19 ก.ค.ในกรุงพนมเปญ แสดงพลังต่อต้านการรุกรานของไทย ส่งกำลังใจให้ทหารแนวหน้า อ้างไทยคือศัตรูผู้บุกรุก ชายแดนไม่สงบลงง่ายๆ เขมรต้องสามัคคีกันปกป้องอธิปไตย

    วันนี้(12 ก.ค.) เฟซบุ๊กของ Kampuchea Thmey Daily ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการแถลงข่าวของนายกุช เวงสรุน เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกัมพูชา และตัวแทนของทีมฟุตบอลกัมพูชาออลสตาร์ โดยกล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังคงรุกรานดินแดนกัมพูชา ดังนั้นประชาชนกัมพูชาจึงต้องปลูกฝังความรักชาติ ปกป้องชาติและดินแดนของเราด้วย

    นายกุช กล่าวว่า สิ่งที่ยิ่งใหญ่การแข่งขันฟุตบอลก็คือจิตวิญญาณแห่งความรักชาติอยู่ เพราะเราต่างรู้ดีว่าความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทยจะไม่จบลงง่ายๆ ศัตรูของเรายังคงตั้งใจจะรุกรานดินแดนของเราต่อไป หากเราไม่พร้อม นั่นหมายความว่า เรายังไม่มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน และยังไม่มีสันติภาพที่แท้จริงร่วมกันบริเวณชายแดนทั้งสองฝั่ง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000065595

    #Thaitimes #MGROnline #ฟุตบอลกัมพูชาออลสตาร์ #กัมพูชา #กรุงพนมเปญ #ม็อบใหญ่
    ตัวแทนทีมฟุตบอลกัมพูชาออลสตาร์ ที่สวมหมวกอีกใบเป็นเลขาฯ ครม.เขมร ประกาศจัดม็อบใหญ่ 19 ก.ค.ในกรุงพนมเปญ แสดงพลังต่อต้านการรุกรานของไทย ส่งกำลังใจให้ทหารแนวหน้า อ้างไทยคือศัตรูผู้บุกรุก ชายแดนไม่สงบลงง่ายๆ เขมรต้องสามัคคีกันปกป้องอธิปไตย • วันนี้(12 ก.ค.) เฟซบุ๊กของ Kampuchea Thmey Daily ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการแถลงข่าวของนายกุช เวงสรุน เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกัมพูชา และตัวแทนของทีมฟุตบอลกัมพูชาออลสตาร์ โดยกล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังคงรุกรานดินแดนกัมพูชา ดังนั้นประชาชนกัมพูชาจึงต้องปลูกฝังความรักชาติ ปกป้องชาติและดินแดนของเราด้วย • นายกุช กล่าวว่า สิ่งที่ยิ่งใหญ่การแข่งขันฟุตบอลก็คือจิตวิญญาณแห่งความรักชาติอยู่ เพราะเราต่างรู้ดีว่าความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทยจะไม่จบลงง่ายๆ ศัตรูของเรายังคงตั้งใจจะรุกรานดินแดนของเราต่อไป หากเราไม่พร้อม นั่นหมายความว่า เรายังไม่มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน และยังไม่มีสันติภาพที่แท้จริงร่วมกันบริเวณชายแดนทั้งสองฝั่ง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000065595 • #Thaitimes #MGROnline #ฟุตบอลกัมพูชาออลสตาร์ #กัมพูชา #กรุงพนมเปญ #ม็อบใหญ่
    0 Comments 0 Shares 453 Views 0 Reviews
  • สินค้าไทยในซูเปอร์มาร์เกตกรุงพนมเปญเริ่มขาดแคลน ขณะผู้บริโภคต้องปรับตัวให้คุ้นเคยกับสินค้ายี่ห้อท้องถิ่นหรือที่นำเข้าจากประเทศอื่น บางคนบอกเศร้าหาซื้อนมดัชมิลล์ไม่ได้แล้ว รสชาติอาหารเช้าคงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ขณะครูศรีลังกาที่มาสอนในกัมพูชาเผยยังนึกไม่ออกว่าจะอยู่ได้โดยไม่กิน “มาม่า” อย่างไร

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000064782

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    สินค้าไทยในซูเปอร์มาร์เกตกรุงพนมเปญเริ่มขาดแคลน ขณะผู้บริโภคต้องปรับตัวให้คุ้นเคยกับสินค้ายี่ห้อท้องถิ่นหรือที่นำเข้าจากประเทศอื่น บางคนบอกเศร้าหาซื้อนมดัชมิลล์ไม่ได้แล้ว รสชาติอาหารเช้าคงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ขณะครูศรีลังกาที่มาสอนในกัมพูชาเผยยังนึกไม่ออกว่าจะอยู่ได้โดยไม่กิน “มาม่า” อย่างไร อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000064782 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    5
    1 Comments 0 Shares 663 Views 0 Reviews
  • 2 นายพล หน่วยอารักขา “ฮุน เซน” ถูกศาลฝรั่งเศสฟ้อง ฐานอยู่เบื้องหลังการสังหารหมู่กลางกรุงพนมเปญ12 มีนาคม 2568ศาลฝรั่งเศสเปิดคดี “ฆ่าหมู่ 1997” กลางกรุงพนมเปญ — 2 นายพลเขมร อดีตบอดี้การ์ดของ “ฮุน เซน” ถูกไต่สวน!ฆ่าหมู่กลางกรุงพนมเปญ 1997 — ไม่มีใครถูกจับแม้แต่คนเดียว!30 มีนาคม 1997 — ผู้ประท้วงรวมตัวที่สวนสาธารณะฝั่งตรงข้ามรัฐสภากัมพูชา เพื่อเรียกร้องให้ยุติ “ตุลาการใต้ตีน” ของระบอบฮุน เซนจู่ ๆ เกิดระเบิดหลายลูกปะทุใส่ฝูงชนเสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 150 ราย — เลือดสาดทั่วสวนพยานหลายคนเล่าว่า “มือระเบิดวิ่งเข้าไปหาหน่วยอารักขาฮุน เซน” ที่ใส่ชุดปราบจลาจลครบมือ — แต่กลับปล่อยให้พวกเขาหลบหนี!รอน แอบนีย์ พลเมืองสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในผู้บาดเจ็บสาหัส ทำให้ FBI ส่งทีมสอบสวนทันทีรายงาน FBI ถูกเปิดเผยในปี 2009แต่…ไม่มีใครถูกจับแม้แต่คนเดียว!จนกระทั่งปี 2021 ศาลฝรั่งเศสออกหมายจับ:• ฮิง บุน เหียง — รองผู้บัญชาการกองทัพ และหัวหน้าหน่วยอารักขาครอบครัวฮุน เซน• ฮุย พิเซธ — รัฐมนตรีช่วยกลาโหม และรองหัวหน้าคณะที่ปรึกษาของ “ฮุน มาเนต” ลูกชายฮุน เซนคดีนี้เริ่มจากคำร้องของ “แซม เรนซี” และภรรยาในฝรั่งเศสศาลฝรั่งเศสเคยออกหมายเรียกตัว “ฮุน เซน” ด้วยแต่รัฐบาลฝรั่งเศสกลับบล็อก โดยอ้างว่า “ผู้นำรัฐบาลมีเอกสิทธิ์คุ้มกันตามกฎหมาย”Brad Adams อดีตเจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชนแห่ง UN เล่าว่า“ผมไปถึงสวนหลังเหตุระเบิดแค่ 10 นาที…ศพเกลื่อนพื้นทหารยังขัดขวางไม่ให้ช่วยคนเจ็บตำรวจมาถึงทีหลังก็ยืนดูเฉย ๆ…สุดท้าย คนธรรมดานั่นแหละที่ช่วยกันหามคนเจ็บ”ฮิง บุน เหียง ยืนยันกับ RFA ว่า “จะไม่ไปศาล และไม่ส่งทนาย”พร้อมท้าทายว่า: “ไม่มีรูปผมโยนระเบิด แล้วคุณจะจับผมได้ยังไง?”ปี 2018 สหรัฐฯ คว่ำบาตร “ฮิง บุน เหียง” จากเหตุการณ์นี้ รวมถึงอีกหลายคดีทำร้ายประชาชนมือเปล่าขณะที่ฮุย พิเซธ ยอมรับกับ FBI ว่าเขาคือคนสั่งส่งกำลังทหารจากกองพลที่ 70 มาล้อมสวนในวันเกิดเหตุ⸻ฆ่าหมู่ต่อหน้าประชาชน — แต่ไม่มีใครต้องรับผิดรัฐบาลฮุน เซนไม่เคยสอบสวนใคร — มีแต่ปิดปากแต่โลกไม่ลืม — และความจริงจะไม่ตาย#CSI_LA #ฆ่าหมู่1997 #ฝรั่งเศสลากขึ้นศาล #ฮุนเซน #หน่วยฆ่าประชาชน #CambodiaMassacre #GrenadeAttack2 Generals from Hun Sen’s Bodyguard Unit Indicted by French Court for Role in Phnom Penh MassacreMarch 12, 2025A French court has officially opened a case over the 1997 Phnom Penh massacre — putting two Cambodian generals, both former bodyguards of Hun Sen, on trial in absentia.Phnom Penh Massacre, 1997 — Not a Single Person Has Ever Been ArrestedMarch 30, 1997 — Protesters gathered at a park across from the Cambodian National Assembly to denounce Hun Sen’s authoritarian judiciary.Suddenly, several grenades were hurled into the crowd.At least 16 people were killed and more than 150 were injured — blood stained the ground.Eyewitnesses say the grenade-throwers ran toward Hun Sen’s fully equipped bodyguards, who allowed them to escape without pursuit.Ron Abney, a U.S. citizen, was among those seriously injured — prompting the FBI to send investigators to Cambodia.The FBI report was declassified in 2009.But no one was ever arrested.It wasn’t until 2021 that France issued arrest warrants for:• Hing Bun Hieng — Now Deputy Commander-in-Chief of the Armed Forces and head of Hun Sen’s family bodyguard unit• Huy Piseth — Secretary of State at the Ministry of Defense and Deputy Chief of Staff to Hun Manet, Hun Sen’s son→ The case was launched after a legal complaint by Sam Rainsy and his wife, both living in exile in France.The French court initially summoned Hun Sen himself — but the French government blocked the warrant, citing diplomatic immunity laws protecting heads of government.Brad Adams, a former U.N. human rights officer, recalled:“I arrived at the park about 10 minutes after the blast — bodies were everywhere.Soldiers interfered with rescue efforts.Police arrived later but just stood around.It was civilians who carried the injured to safety.”Hing Bun Hieng told RFA he will not appear in court or send a lawyer, saying:“Sam Rainsy has accused me for over 30 years with no real evidence.Are there any photos of me ordering the grenade attack?”In 2018, the U.S. government sanctioned Hing Bun Hieng over this attack and other incidents involving violence against unarmed civilians.Meanwhile, Huy Piseth admitted to the FBI that he had ordered the 70th Brigade to be deployed to the park on the day of the attack.⸻A massacre in broad daylight — and no one has been held accountable.The Hun Sen regime never investigated — only silenced.But the world has not forgotten — and the truth will not die.#CSI_LA #PhnomPenhMassacre1997 #FranceOpensTrial #HunSen #Impunity #Cambodia #GrenadeAttack #JusticeDelayed
    2 นายพล หน่วยอารักขา “ฮุน เซน” ถูกศาลฝรั่งเศสฟ้อง ฐานอยู่เบื้องหลังการสังหารหมู่กลางกรุงพนมเปญ12 มีนาคม 2568ศาลฝรั่งเศสเปิดคดี “ฆ่าหมู่ 1997” กลางกรุงพนมเปญ — 2 นายพลเขมร อดีตบอดี้การ์ดของ “ฮุน เซน” ถูกไต่สวน!ฆ่าหมู่กลางกรุงพนมเปญ 1997 — ไม่มีใครถูกจับแม้แต่คนเดียว!30 มีนาคม 1997 — ผู้ประท้วงรวมตัวที่สวนสาธารณะฝั่งตรงข้ามรัฐสภากัมพูชา เพื่อเรียกร้องให้ยุติ “ตุลาการใต้ตีน” ของระบอบฮุน เซนจู่ ๆ เกิดระเบิดหลายลูกปะทุใส่ฝูงชนเสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 150 ราย — เลือดสาดทั่วสวนพยานหลายคนเล่าว่า “มือระเบิดวิ่งเข้าไปหาหน่วยอารักขาฮุน เซน” ที่ใส่ชุดปราบจลาจลครบมือ — แต่กลับปล่อยให้พวกเขาหลบหนี!รอน แอบนีย์ พลเมืองสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในผู้บาดเจ็บสาหัส ทำให้ FBI ส่งทีมสอบสวนทันทีรายงาน FBI ถูกเปิดเผยในปี 2009แต่…ไม่มีใครถูกจับแม้แต่คนเดียว!จนกระทั่งปี 2021 ศาลฝรั่งเศสออกหมายจับ:• ฮิง บุน เหียง — รองผู้บัญชาการกองทัพ และหัวหน้าหน่วยอารักขาครอบครัวฮุน เซน• ฮุย พิเซธ — รัฐมนตรีช่วยกลาโหม และรองหัวหน้าคณะที่ปรึกษาของ “ฮุน มาเนต” ลูกชายฮุน เซนคดีนี้เริ่มจากคำร้องของ “แซม เรนซี” และภรรยาในฝรั่งเศสศาลฝรั่งเศสเคยออกหมายเรียกตัว “ฮุน เซน” ด้วยแต่รัฐบาลฝรั่งเศสกลับบล็อก โดยอ้างว่า “ผู้นำรัฐบาลมีเอกสิทธิ์คุ้มกันตามกฎหมาย”Brad Adams อดีตเจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชนแห่ง UN เล่าว่า“ผมไปถึงสวนหลังเหตุระเบิดแค่ 10 นาที…ศพเกลื่อนพื้นทหารยังขัดขวางไม่ให้ช่วยคนเจ็บตำรวจมาถึงทีหลังก็ยืนดูเฉย ๆ…สุดท้าย คนธรรมดานั่นแหละที่ช่วยกันหามคนเจ็บ”ฮิง บุน เหียง ยืนยันกับ RFA ว่า “จะไม่ไปศาล และไม่ส่งทนาย”พร้อมท้าทายว่า: “ไม่มีรูปผมโยนระเบิด แล้วคุณจะจับผมได้ยังไง?”ปี 2018 สหรัฐฯ คว่ำบาตร “ฮิง บุน เหียง” จากเหตุการณ์นี้ รวมถึงอีกหลายคดีทำร้ายประชาชนมือเปล่าขณะที่ฮุย พิเซธ ยอมรับกับ FBI ว่าเขาคือคนสั่งส่งกำลังทหารจากกองพลที่ 70 มาล้อมสวนในวันเกิดเหตุ⸻ฆ่าหมู่ต่อหน้าประชาชน — แต่ไม่มีใครต้องรับผิดรัฐบาลฮุน เซนไม่เคยสอบสวนใคร — มีแต่ปิดปากแต่โลกไม่ลืม — และความจริงจะไม่ตาย#CSI_LA #ฆ่าหมู่1997 #ฝรั่งเศสลากขึ้นศาล #ฮุนเซน #หน่วยฆ่าประชาชน #CambodiaMassacre #GrenadeAttack2 Generals from Hun Sen’s Bodyguard Unit Indicted by French Court for Role in Phnom Penh MassacreMarch 12, 2025A French court has officially opened a case over the 1997 Phnom Penh massacre — putting two Cambodian generals, both former bodyguards of Hun Sen, on trial in absentia.Phnom Penh Massacre, 1997 — Not a Single Person Has Ever Been ArrestedMarch 30, 1997 — Protesters gathered at a park across from the Cambodian National Assembly to denounce Hun Sen’s authoritarian judiciary.Suddenly, several grenades were hurled into the crowd.At least 16 people were killed and more than 150 were injured — blood stained the ground.Eyewitnesses say the grenade-throwers ran toward Hun Sen’s fully equipped bodyguards, who allowed them to escape without pursuit.Ron Abney, a U.S. citizen, was among those seriously injured — prompting the FBI to send investigators to Cambodia.The FBI report was declassified in 2009.But no one was ever arrested.It wasn’t until 2021 that France issued arrest warrants for:• Hing Bun Hieng — Now Deputy Commander-in-Chief of the Armed Forces and head of Hun Sen’s family bodyguard unit• Huy Piseth — Secretary of State at the Ministry of Defense and Deputy Chief of Staff to Hun Manet, Hun Sen’s son→ The case was launched after a legal complaint by Sam Rainsy and his wife, both living in exile in France.The French court initially summoned Hun Sen himself — but the French government blocked the warrant, citing diplomatic immunity laws protecting heads of government.Brad Adams, a former U.N. human rights officer, recalled:“I arrived at the park about 10 minutes after the blast — bodies were everywhere.Soldiers interfered with rescue efforts.Police arrived later but just stood around.It was civilians who carried the injured to safety.”Hing Bun Hieng told RFA he will not appear in court or send a lawyer, saying:“Sam Rainsy has accused me for over 30 years with no real evidence.Are there any photos of me ordering the grenade attack?”In 2018, the U.S. government sanctioned Hing Bun Hieng over this attack and other incidents involving violence against unarmed civilians.Meanwhile, Huy Piseth admitted to the FBI that he had ordered the 70th Brigade to be deployed to the park on the day of the attack.⸻A massacre in broad daylight — and no one has been held accountable.The Hun Sen regime never investigated — only silenced.But the world has not forgotten — and the truth will not die.#CSI_LA #PhnomPenhMassacre1997 #FranceOpensTrial #HunSen #Impunity #Cambodia #GrenadeAttack #JusticeDelayed
    0 Comments 0 Shares 846 Views 0 Reviews
  • (TOR) ปี 2546 ไทยยอมรับแผนที่ 1 : 200000 แล้วรัฐบาลไทยไปตกลงยินยอมตกลงตาม ใน JBC ครั้งล่าุด ตามข้อ (2) Approval of the Amendment of 2003 Terms of Reference and Master Plan for the Joint Survey and Demarcation of Land Boundary between Thailand and Cambodia, (TOR 2003) to incorporate LiDAR technology into the Orthophoto Maps production step.

    แปล (2)การอนุมัติการแก้ไขขอบเขตงานและแผนแม่บทการสำรวจและกำหนดแนวเขตร่วมระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา พ.ศ. 2546 (TOR 2003) เพื่อรวมเทคโนโลยี LiDAR เข้าในขั้นตอนการผลิตแผนที่ออร์โธโฟโต หมายถึงจะกำหนดเขตแดนดาวเทียมให้เป็นกับแผนที่ 1 : 200000 ใช่หรือไม่


    15 มิถุนายน 2568 ผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) เรื่องการกำหนดแนวเขตที่ดินและการวางหลักเขตชายแดน การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 14-15 มิถุนายน

    สื่อท้องถิ่นของกัมพูชา รายงานว่า ทั้งสองฝ่ายยังคงหารือกันต่อในระหว่างการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) และเห็นพ้องที่จะอนุมัติวาระสำคัญ 4 ประเด็น ดังต่อไปนี้

    1. การอนุมัติบันทึกการประชุมคณะอนุกรรมการเทคนิคร่วมครั้งที่ 4 (JTSC) ที่จัดขึ้นที่เสียมเรียบ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

    2. การอนุมัติการแก้ไขขอบเขตงานและแผนแม่บทการสำรวจและกำหนดแนวเขตร่วมระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา พ.ศ. 2546 (TOR 2003) เพื่อรวมเทคโนโลยี LiDAR เข้าในขั้นตอนการผลิตแผนที่ออร์โธโฟโต

    3. การอนุมัติการจัดวางคณะสำรวจร่วมเพื่อดำเนินการตรวจสอบภาคสนามและกำหนดเขตแดน

    4. การหารือแนวทางการสำรวจในเขตพื้นที่ 6
    (TOR) ปี 2546 ไทยยอมรับแผนที่ 1 : 200000 แล้วรัฐบาลไทยไปตกลงยินยอมตกลงตาม ใน JBC ครั้งล่าุด ตามข้อ (2) Approval of the Amendment of 2003 Terms of Reference and Master Plan for the Joint Survey and Demarcation of Land Boundary between Thailand and Cambodia, (TOR 2003) to incorporate LiDAR technology into the Orthophoto Maps production step. แปล (2)การอนุมัติการแก้ไขขอบเขตงานและแผนแม่บทการสำรวจและกำหนดแนวเขตร่วมระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา พ.ศ. 2546 (TOR 2003) เพื่อรวมเทคโนโลยี LiDAR เข้าในขั้นตอนการผลิตแผนที่ออร์โธโฟโต หมายถึงจะกำหนดเขตแดนดาวเทียมให้เป็นกับแผนที่ 1 : 200000 ใช่หรือไม่ 15 มิถุนายน 2568 ผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) เรื่องการกำหนดแนวเขตที่ดินและการวางหลักเขตชายแดน การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 14-15 มิถุนายน สื่อท้องถิ่นของกัมพูชา รายงานว่า ทั้งสองฝ่ายยังคงหารือกันต่อในระหว่างการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) และเห็นพ้องที่จะอนุมัติวาระสำคัญ 4 ประเด็น ดังต่อไปนี้ 1. การอนุมัติบันทึกการประชุมคณะอนุกรรมการเทคนิคร่วมครั้งที่ 4 (JTSC) ที่จัดขึ้นที่เสียมเรียบ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 2. การอนุมัติการแก้ไขขอบเขตงานและแผนแม่บทการสำรวจและกำหนดแนวเขตร่วมระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา พ.ศ. 2546 (TOR 2003) เพื่อรวมเทคโนโลยี LiDAR เข้าในขั้นตอนการผลิตแผนที่ออร์โธโฟโต 3. การอนุมัติการจัดวางคณะสำรวจร่วมเพื่อดำเนินการตรวจสอบภาคสนามและกำหนดเขตแดน 4. การหารือแนวทางการสำรวจในเขตพื้นที่ 6
    0 Comments 0 Shares 329 Views 0 Reviews
  • ห้องนอนแขก "บ้านฮุนเซน" ที่ปิดไว้ไม่ได้ใช้มีไว้สำหรับรองรับอดีตนายกเมืองไทยเท่านั้น

    กับ

    ห้องนั่งเล่นในบ้านมูลค่า 1.8 ล้าน usd (เกือบ 59 ล้านบาท) ในกรุงพนมเปญ

    ห้องนั่งเล่นบ้าน 60 ล้านยังเล็กกว่าห้องนอนแขกที่ปิดไว้ของบ้านฮุนเซน...

    คนกัมพูชาจะรู้สึกอะไรไหม?

    ‐-------‐-----------------------------

    ជាភាសากម្ពុជា៖
    បន្ទប់គេងភ្ញៀវ "ផ្ទះសម្តេចហ៊ុន សែន" ដែលបិទទុកមិនប្រើ គឺសម្រាប់តែទទួលអតីតនាយករដ្ឋមន្ត្រីថៃប៉ុណ្ណោះ។
    ជាមួយ៖
    បន្ទប់ទទួលភ្ញៀវក្នុងផ្ទះតម្លៃ ១,៨ លានដុល្លារ (ជិត ៥៩ លានបាត) នៅទីក្រុងភ្នំពេញ។
    បន្ទប់ទទួលភ្ញៀវផ្ទះ ៦០ លានបាត នៅតែតូចជាងបន្ទប់គេងភ្ញៀវដែលបិទទុករបស់ផ្ទះសម្តេចហ៊ុន សែន...
    តើប្រជាជនកម្ពុជានឹងមានអារម្មណ៍យ៉ាងណាដែរ?
    ห้องนอนแขก "บ้านฮุนเซน" ที่ปิดไว้ไม่ได้ใช้มีไว้สำหรับรองรับอดีตนายกเมืองไทยเท่านั้น กับ ห้องนั่งเล่นในบ้านมูลค่า 1.8 ล้าน usd (เกือบ 59 ล้านบาท) ในกรุงพนมเปญ ห้องนั่งเล่นบ้าน 60 ล้านยังเล็กกว่าห้องนอนแขกที่ปิดไว้ของบ้านฮุนเซน... คนกัมพูชาจะรู้สึกอะไรไหม? ‐-------‐----------------------------- ជាភាសากម្ពុជា៖ បន្ទប់គេងភ្ញៀវ "ផ្ទះសម្តេចហ៊ុន សែន" ដែលបិទទុកមិនប្រើ គឺសម្រាប់តែទទួលអតីតនាយករដ្ឋមន្ត្រីថៃប៉ុណ្ណោះ។ ជាមួយ៖ បន្ទប់ទទួលភ្ញៀវក្នុងផ្ទះតម្លៃ ១,៨ លានដុល្លារ (ជិត ៥៩ លានបាត) នៅទីក្រុងភ្នំពេញ។ បន្ទប់ទទួលភ្ញៀវផ្ទះ ៦០ លានបាត នៅតែតូចជាងបន្ទប់គេងភ្ញៀវដែលបិទទុករបស់ផ្ទះសម្តេចហ៊ុន សែន... តើប្រជាជនកម្ពុជានឹងមានអារម្មណ៍យ៉ាងណាដែរ?
    0 Comments 0 Shares 161 Views 0 Reviews
  • สำนักข่าว Al Jazeera แฉคลิปเสียงหลุด!ฮุนเซน สั่ง “นายฮวด” ไล่ล่าคนเห็นต่างในไทย — ไม่สนว่าจับได้จะ “เป็นหรือตาย”!นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาภายในกัมพูชา —แต่คือคำสั่งจากผู้นำต่างชาติ ที่ล้ำเส้นเข้ามายัง “แผ่นดินไทย”!ในคลิปเสียงดังกล่าว ฮุนเซนได้สั่งตรงถึง “นายเคลียง ฮวด”ให้ดำเนินการ “ตามล่าคนที่วิพากษ์วิจารณ์ตน แม้จะอยู่ในประเทศไทย”พร้อมกำชับชัดเจนว่า“ไม่ต้องสนใจว่าจับมาได้จะ ‘เป็นหรือตาย’”การลอบสังหารนักการเมืองระดับสูงในกัมพูชา ในปี 2016 นายเขม ไลย์ นักวิจารณ์การเมืองซึ่งเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์ฮุน เซน ชื่อดัง ถูกยิงเสียชีวิตในกรุงพนมเปญ และในปี 2012 นายจุ๊ต วุตติ นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมก็ถูกสังหารด้วยเช่นกันล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ กรณีสังหารนายลิม กิมยา อดีตสมาชิกรัฐสภาวัย 73 ปี ของพรรคแกนนำฝ่ายค้านของกัมพูชาที่ชื่อว่าพรรคกู้ชาติกัมพูชา หรือ ซีเอ็นอาร์พี (Cambodia National Rescue Party - CNRP) ซึ่งพรรคนี้ถูกแบนไปเมื่อปี 2017 จากรายงานของตำรวจไทย เขาถูกยิงด้วยกระสุน 2 นัดบริเวณหน้าอก ทั้งที่เพิ่งเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ด้วยรถบัสจากกัมพูชา พร้อมกับภรรยาที่บริเวณหน้าวัดบวรนิเวศ บางลำพู เขตพระนคร กรุงเทพนายเอกลักษณ์ แพน้อย ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงนายลิม กิมยา อดีต สส. ฝ่ายค้านกัมพูชา ถูกจับตัวได้ที่ จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา หลังหลบหนีออกจากไทย และถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทยแล้วเมื่อวันที่ 11 ม.ค.2568ที่ผ่านมาแล้วเรื่องก็เงียบhttps://youtu.be/FR39vs42N9I
    สำนักข่าว Al Jazeera แฉคลิปเสียงหลุด!ฮุนเซน สั่ง “นายฮวด” ไล่ล่าคนเห็นต่างในไทย — ไม่สนว่าจับได้จะ “เป็นหรือตาย”!นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาภายในกัมพูชา —แต่คือคำสั่งจากผู้นำต่างชาติ ที่ล้ำเส้นเข้ามายัง “แผ่นดินไทย”!ในคลิปเสียงดังกล่าว ฮุนเซนได้สั่งตรงถึง “นายเคลียง ฮวด”ให้ดำเนินการ “ตามล่าคนที่วิพากษ์วิจารณ์ตน แม้จะอยู่ในประเทศไทย”พร้อมกำชับชัดเจนว่า“ไม่ต้องสนใจว่าจับมาได้จะ ‘เป็นหรือตาย’”การลอบสังหารนักการเมืองระดับสูงในกัมพูชา ในปี 2016 นายเขม ไลย์ นักวิจารณ์การเมืองซึ่งเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์ฮุน เซน ชื่อดัง ถูกยิงเสียชีวิตในกรุงพนมเปญ และในปี 2012 นายจุ๊ต วุตติ นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมก็ถูกสังหารด้วยเช่นกันล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ กรณีสังหารนายลิม กิมยา อดีตสมาชิกรัฐสภาวัย 73 ปี ของพรรคแกนนำฝ่ายค้านของกัมพูชาที่ชื่อว่าพรรคกู้ชาติกัมพูชา หรือ ซีเอ็นอาร์พี (Cambodia National Rescue Party - CNRP) ซึ่งพรรคนี้ถูกแบนไปเมื่อปี 2017 จากรายงานของตำรวจไทย เขาถูกยิงด้วยกระสุน 2 นัดบริเวณหน้าอก ทั้งที่เพิ่งเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ด้วยรถบัสจากกัมพูชา พร้อมกับภรรยาที่บริเวณหน้าวัดบวรนิเวศ บางลำพู เขตพระนคร กรุงเทพนายเอกลักษณ์ แพน้อย ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงนายลิม กิมยา อดีต สส. ฝ่ายค้านกัมพูชา ถูกจับตัวได้ที่ จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา หลังหลบหนีออกจากไทย และถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทยแล้วเมื่อวันที่ 11 ม.ค.2568ที่ผ่านมาแล้วเรื่องก็เงียบhttps://youtu.be/FR39vs42N9I
    Like
    1
    0 Comments 1 Shares 531 Views 0 Reviews
  • จากกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร และสมเด็จ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่เป็นประเด็นร้อนแรงถึงเนื้อหาและความเหมาะสมนั้น วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการสื่อสารนี้ นั่นคือ "ล่ามปริศนา" ที่ทำหน้าที่แปลภาษาไทย-เขมร และเขมร-ไทย ให้ผู้นำทั้งสองเข้าใจกันได้อย่างลึกซึ้ง“พี่ฮวด” เขาคือใคร?จากการตรวจสอบของ "เนชั่นทีวี" ล่ามผู้นี้คือ นาย เคลียง ฮวด หรือที่คนใกล้ชิดในตระกูลชินวัตรเรียกขานอย่างสนิทสนมว่า "ผอ.ฮวด" หรือ "พี่ฮวด" ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีตำแหน่งปัจจุบันของเขาไม่ใช่ธรรมดา เพราะเป็นถึงนายกเทศมนตรีของเขตจรอย จองวา และรองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ช่วยคนสนิทของสมเด็จ ฮุน เซน ตั้งแต่สมัยที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาแหล่งข่าวจากอดีตคนใกล้ชิดของตระกูลชินวัตรเล่าว่า "พี่ฮวด" ถือเป็นเหมือนเลขาฯ ส่วนตัวและผู้ช่วยใกล้ชิดของสมเด็จ ฮุน เซน มานานแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย เนื่องจากเขาสามารถพูดและฟังภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่วมาก ทำให้เขารับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานหลักระหว่างฮุน เซน และฝ่ายไทยมาโดยตลอด"พี่ฮวด" ไม่เพียงแค่สนิทสนมกับสมเด็จ ฮุน เซน เท่านั้น แต่เขายังรู้จักและสนิทกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นอย่างดี เคยให้ความช่วยเหลืออดีตนายกฯ ทักษิณ ในช่วงที่หลบหนีคดีในต่างประเทศ คอยประสานงานต่างๆ ให้อย่างใกล้ชิด และรับบทบาทเป็นล่ามให้ทั้งสองฝ่าย คือทั้งของสมเด็จ ฮุน เซน และของตระกูลชินวัตรแสดงให้เห็นว่า "พี่ฮวด" หรือ "ผอ.ฮวด" เป็นบุคคลที่สมเด็จ ฮุน เซน ไว้วางใจอย่างมาก มักจะปรึกษาหารือและสอบถามในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับประเทศไทย
    จากกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร และสมเด็จ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่เป็นประเด็นร้อนแรงถึงเนื้อหาและความเหมาะสมนั้น วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการสื่อสารนี้ นั่นคือ "ล่ามปริศนา" ที่ทำหน้าที่แปลภาษาไทย-เขมร และเขมร-ไทย ให้ผู้นำทั้งสองเข้าใจกันได้อย่างลึกซึ้ง“พี่ฮวด” เขาคือใคร?จากการตรวจสอบของ "เนชั่นทีวี" ล่ามผู้นี้คือ นาย เคลียง ฮวด หรือที่คนใกล้ชิดในตระกูลชินวัตรเรียกขานอย่างสนิทสนมว่า "ผอ.ฮวด" หรือ "พี่ฮวด" ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีตำแหน่งปัจจุบันของเขาไม่ใช่ธรรมดา เพราะเป็นถึงนายกเทศมนตรีของเขตจรอย จองวา และรองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ช่วยคนสนิทของสมเด็จ ฮุน เซน ตั้งแต่สมัยที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาแหล่งข่าวจากอดีตคนใกล้ชิดของตระกูลชินวัตรเล่าว่า "พี่ฮวด" ถือเป็นเหมือนเลขาฯ ส่วนตัวและผู้ช่วยใกล้ชิดของสมเด็จ ฮุน เซน มานานแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย เนื่องจากเขาสามารถพูดและฟังภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่วมาก ทำให้เขารับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานหลักระหว่างฮุน เซน และฝ่ายไทยมาโดยตลอด"พี่ฮวด" ไม่เพียงแค่สนิทสนมกับสมเด็จ ฮุน เซน เท่านั้น แต่เขายังรู้จักและสนิทกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นอย่างดี เคยให้ความช่วยเหลืออดีตนายกฯ ทักษิณ ในช่วงที่หลบหนีคดีในต่างประเทศ คอยประสานงานต่างๆ ให้อย่างใกล้ชิด และรับบทบาทเป็นล่ามให้ทั้งสองฝ่าย คือทั้งของสมเด็จ ฮุน เซน และของตระกูลชินวัตรแสดงให้เห็นว่า "พี่ฮวด" หรือ "ผอ.ฮวด" เป็นบุคคลที่สมเด็จ ฮุน เซน ไว้วางใจอย่างมาก มักจะปรึกษาหารือและสอบถามในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับประเทศไทย
    3 Comments 0 Shares 337 Views 0 Reviews
  • ♣ ฮุน มานี น้องชายฮุน มาเนต ปลุกม็อบ
    เดินขบวนกลางกรุงพนมเปญ
    หวังยกระดับกระแสต่อต้านไทยเรื่องชายแดน เข้าเค้าอดีตที่เคยปลุกม็อบเผาทำลายสถานทูตและธุรกิจไทยในกัมพูชา
    #7ดอกจิก
    ♣ ฮุน มานี น้องชายฮุน มาเนต ปลุกม็อบ เดินขบวนกลางกรุงพนมเปญ หวังยกระดับกระแสต่อต้านไทยเรื่องชายแดน เข้าเค้าอดีตที่เคยปลุกม็อบเผาทำลายสถานทูตและธุรกิจไทยในกัมพูชา #7ดอกจิก
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 167 Views 0 Reviews
  • ## เขมรเดินเกมยึดแผ่นดินไทย ขณะที่ ในประเทศไทยอาจมีไส้ศึก...!!! ##
    ..
    ..
    จากการประมวลข้อมูลทั้งหมด สรุปได้ดังนี้...
    .
    ประเทศไทยยึดถือแค่ แผ่นที่ 1:50,000 ซึ่งละเอียดและแม่นยำกว่ามาก...
    .
    ประเทศไทย ไม่เคยยอมรับแผนที่ 1:200,000 ซึ่ง หยาบ มีความคาดเคลื่อนอย่างน้อย 200 เมตร ทำให้เกิดความขัดแย้ง และ เขมร ลุกล้ำดนแดนไทยตลอด 25 ปีที่ผ่านมา
    .
    เมื่อครั้งที่เสียตัวปราสาทพระวิหารด้วยกฎหมายปิดปาก บนศาลโล และ ครั้งที่เสียพื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร ก็เพราะแผนที่ 1:200,000 ที่ฝรั่งเศส จัดทำไว้แต่ฝ่ายเดียว และ วางยาประเทศไทยไว้...!!!
    .
    MOU43-MOU44 ระบุว่าจะปักปันเขตแดนตามแผนที่ 1:200,000 ทั้งๆที่ การปักปันจริงๆ เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่สมัยรัชการลที่ 5 ด้วยสนธิสัญญา สยาม-ฝรั่งเศส 1904-1907 คือแผนที่ 1:500,000 นั่นเอง (บางส่วนไม่ต้องปักหมุด เพราะสภาพพื้นที่สันปันน้ำมันชัด เป็นขอบหน้าผาชัดเจน)
    .
    เพียงแต่ บางส่วนปัจจุบัน หลักหมุดมันหายไป ให้ทำให้สมบูรณ์เท่านั้น และ ปัจจุบัน เทคโนโลยีดาวเทียมมันละเอียดมาก ทำได้ง่ายๆอยู่แล้ว
    ....
    ....
    ในรายการ News Hour มี การแฉ แชทกลุ่ม ของ กระทรวงการต่างประเทศ ว่า...
    .
    นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) พิมพ์ในไลน์กลุ่มประมาณว่า จะยึดถือแผนที่ 1:200,000 เพราะประเทศไทยจะได้เปรียบ และ ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผูกพันธ์ทางกฎหมาย
    .
    คำว่า "ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมาย" คำๆนี้ ผิดเต็มๆครับ
    .
    ต้องบอกก่อนเลยว่า ประเทศไทยไม่ได้รับอำนาจศาลโลก โดยประเทศไทย ได้เคยสงวนสิทธิ์ที่จะทวงคืนตัวปราสาทพระวิหารในอนาคตไว้แล้วด้วย
    .
    และ ที่สำคัญ ศาลโลกไม่ได้ ตัดสินในเรื่องของแผนที่และเขตแดน (เขมร ขอ แต่ศาลไม่ได้ตัดสิน บอกให้พวกคุณไปคุยกันเอาเอง)
    .
    แต่ ศาลตัดสินเรื่องตัวปราสาทพระวิหาร และ ตีความเพิ่มเรื่อง พื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร เพราะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศรายนึง ไปยอมให้ เขมร ขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว
    .
    ดังนั้น เมื่อเราไม่ได้เป็นสมาชิกศาลโลกแล้ว ไม่ว่าศาลโลก จะพูด จะพ่น จะถ่มถุยอะไร ออกมา สิ่งนั้น ไม่มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมายต่อประเทศไทย
    .
    และ ในรายการ News Hour มีกาาแฉต่อว่า นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ คนนี้...!!!
    .
    คือคนที่ ไปชี้หน้าด่า นาย วีระ สมความคิด ว่าเป็นตวปัญหา และ บีบให้คนไทย 7 คน รวมทั้ง นาย วีระ สมความคิด ให้ยอมรับ และ เซ็นในเอกสาร ว่า นาย วีระ สมความคิด และ พวก รุกล้ำพื้นที่ แผ่นดินเขมร ทั้งๆที่ นาย วีระ สมความคิด และ พวก ถูกจับในผืนแผ่นดินไทย...!!!
    .
    ดังนั้นจึงชี้ให้เห็นพฤติการณ์ที่ นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย มีแนวควมคิดที่ ยอมรับพื้นที่เขมร แต่ไม่ยอมรับพื้นที่ประเทศไทย และ มีแนวคิด ยอมรับแผนที่ 1:200,000 ด้วย...!!!
    .
    ดังนั้น...
    .
    ถ้า Chat นี้เป็นของจริง นี่เท่ากับว่า เราเจอ ขบวนการขายชาติของแท้ แล้วใช่หรือไม่...???
    ...
    ...
    เท่าที่ทั้งฟังทั้งอ่านมา ผมยังไม่เคยเห็นผู้รู้ท่านไหนเคยพูดซักครั้งเดียวว่า แผนที่ 1:200,000 ทำให้ประเทสไทยได้เปรียบ
    ....
    ....
    ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 โทษประหารชีวิต เพราะทำใหสูญเสียดินแดน สมควรนำออกมาใช้แล้วหรือไม่ ในยามนี้...???
    .
    https://youtu.be/cSyAF_g4BiQ?si=ppZ15Ve6ZYuigbAC
    ## เขมรเดินเกมยึดแผ่นดินไทย ขณะที่ ในประเทศไทยอาจมีไส้ศึก...!!! ## .. .. จากการประมวลข้อมูลทั้งหมด สรุปได้ดังนี้... . ประเทศไทยยึดถือแค่ แผ่นที่ 1:50,000 ซึ่งละเอียดและแม่นยำกว่ามาก... . ประเทศไทย ไม่เคยยอมรับแผนที่ 1:200,000 ซึ่ง หยาบ มีความคาดเคลื่อนอย่างน้อย 200 เมตร ทำให้เกิดความขัดแย้ง และ เขมร ลุกล้ำดนแดนไทยตลอด 25 ปีที่ผ่านมา . เมื่อครั้งที่เสียตัวปราสาทพระวิหารด้วยกฎหมายปิดปาก บนศาลโล และ ครั้งที่เสียพื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร ก็เพราะแผนที่ 1:200,000 ที่ฝรั่งเศส จัดทำไว้แต่ฝ่ายเดียว และ วางยาประเทศไทยไว้...!!! . MOU43-MOU44 ระบุว่าจะปักปันเขตแดนตามแผนที่ 1:200,000 ทั้งๆที่ การปักปันจริงๆ เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่สมัยรัชการลที่ 5 ด้วยสนธิสัญญา สยาม-ฝรั่งเศส 1904-1907 คือแผนที่ 1:500,000 นั่นเอง (บางส่วนไม่ต้องปักหมุด เพราะสภาพพื้นที่สันปันน้ำมันชัด เป็นขอบหน้าผาชัดเจน) . เพียงแต่ บางส่วนปัจจุบัน หลักหมุดมันหายไป ให้ทำให้สมบูรณ์เท่านั้น และ ปัจจุบัน เทคโนโลยีดาวเทียมมันละเอียดมาก ทำได้ง่ายๆอยู่แล้ว .... .... ในรายการ News Hour มี การแฉ แชทกลุ่ม ของ กระทรวงการต่างประเทศ ว่า... . นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) พิมพ์ในไลน์กลุ่มประมาณว่า จะยึดถือแผนที่ 1:200,000 เพราะประเทศไทยจะได้เปรียบ และ ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผูกพันธ์ทางกฎหมาย . คำว่า "ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมาย" คำๆนี้ ผิดเต็มๆครับ . ต้องบอกก่อนเลยว่า ประเทศไทยไม่ได้รับอำนาจศาลโลก โดยประเทศไทย ได้เคยสงวนสิทธิ์ที่จะทวงคืนตัวปราสาทพระวิหารในอนาคตไว้แล้วด้วย . และ ที่สำคัญ ศาลโลกไม่ได้ ตัดสินในเรื่องของแผนที่และเขตแดน (เขมร ขอ แต่ศาลไม่ได้ตัดสิน บอกให้พวกคุณไปคุยกันเอาเอง) . แต่ ศาลตัดสินเรื่องตัวปราสาทพระวิหาร และ ตีความเพิ่มเรื่อง พื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร เพราะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศรายนึง ไปยอมให้ เขมร ขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว . ดังนั้น เมื่อเราไม่ได้เป็นสมาชิกศาลโลกแล้ว ไม่ว่าศาลโลก จะพูด จะพ่น จะถ่มถุยอะไร ออกมา สิ่งนั้น ไม่มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมายต่อประเทศไทย . และ ในรายการ News Hour มีกาาแฉต่อว่า นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ คนนี้...!!! . คือคนที่ ไปชี้หน้าด่า นาย วีระ สมความคิด ว่าเป็นตวปัญหา และ บีบให้คนไทย 7 คน รวมทั้ง นาย วีระ สมความคิด ให้ยอมรับ และ เซ็นในเอกสาร ว่า นาย วีระ สมความคิด และ พวก รุกล้ำพื้นที่ แผ่นดินเขมร ทั้งๆที่ นาย วีระ สมความคิด และ พวก ถูกจับในผืนแผ่นดินไทย...!!! . ดังนั้นจึงชี้ให้เห็นพฤติการณ์ที่ นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย มีแนวควมคิดที่ ยอมรับพื้นที่เขมร แต่ไม่ยอมรับพื้นที่ประเทศไทย และ มีแนวคิด ยอมรับแผนที่ 1:200,000 ด้วย...!!! . ดังนั้น... . ถ้า Chat นี้เป็นของจริง นี่เท่ากับว่า เราเจอ ขบวนการขายชาติของแท้ แล้วใช่หรือไม่...??? ... ... เท่าที่ทั้งฟังทั้งอ่านมา ผมยังไม่เคยเห็นผู้รู้ท่านไหนเคยพูดซักครั้งเดียวว่า แผนที่ 1:200,000 ทำให้ประเทสไทยได้เปรียบ .... .... ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 โทษประหารชีวิต เพราะทำใหสูญเสียดินแดน สมควรนำออกมาใช้แล้วหรือไม่ ในยามนี้...??? . https://youtu.be/cSyAF_g4BiQ?si=ppZ15Ve6ZYuigbAC
    0 Comments 0 Shares 507 Views 0 Reviews
  • ฝีเริ่มแตก ขบวนการขายชาติมานาน จะเริ่มผุดออกมาจากน้ำหนอง และไม่เกินความคาดหมายว่า การประชุม JBC ก็เป็นแค่ละคร ยื้อเวลาของสองตระกูล ที่กำลังเดินหมากมาถึงทางตัน

    ไทยไม่เคยรับอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ปี 2503
    ไทยไม่เคยรับแผนที่ ที่มาตราส่วน1:200,000 ของเขมร

    แต่ตระกูลชิน ที่ไม่ใช่คนรักชาติและกลุ่มขบวนการขายชาติ ยอมรับทั้งอำนาจศาลโลกและแอบลงนาม MOU ยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ของเขมร จนทำให้ไทยต้องเสียตัวปราสาทเขาพระวิหาร ให้กับเขมร และทำให้นาย วีระ สมความคิด ต้องติดคุกในเขมร และพรรคประชาธิปัตย์ ที่นำโดยนาย อภิสิทธิ์ ต้องยอมทำตามเงื่อนไขของเขมร แค่เพื่อช่วยเหลือ สส.ตนเองไม่ให้ติดคุกที่เขมร ทำให้คนไทยเจ็บปวดใจกันทั้งประเทศ ยกเว้นแค่พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง ที่ดีใจที่เห็นไทยเสียตัวปราสาทเขาพระวิหารให้กับเขมร

    ขบวนการขายชาติ มีทั้งอดีตนักการฑูตไทย ที่ประจำอยู่ประเทศเขมร และนักการฑูตในปัจจุบัน รวมไปถึง รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง อัยการ ศาลและกลุ่มนายทุนเจ้าสัวเชื้อจีน ที่ขายชาติ ที่ทำงานรับใช้สองตระกูลชินกับตระกูลฮุนมานาน

    การแอบใช้เล่ห์เหลี่ยม หลอกคนไทยว่า หากเราลงนาม MOUกับเขมรและยอมรับแผนที่ของเขมรที่เขียนขึ้นมาเอง ที่อัตราส่วน 1:200,000 ไทยจะได้ประโยชน์ จากพื้นที่เขมรเพิ่มขึ้นถึง 100ตารางวา
    แต่ในความเป็นจริงคนพวกนี้ วางแผนให้เขมรได้พื้นที่ประเทศไทยทั้งแนวตะเข็บชายแดน รวมกันมากถึงกว่า 2 ล้านไร่ หากไทยยอมรับแผนที่ของเขมร ที่เขียนขึ้นมาเอง แต่พรรคเพื่อไทยและตระกูลชิน ยอมรับเงื่อนไขของเขมรทั้งหมด เพราะเป็นญาติกัน

    การประชุม JBC ให้ยืดเยื้อออกไปเรื่อยๆ ก็แค่เล่นละครปาหี่ เพื่อประวิงเวลาหาทางส่งทักษิณ หนีออกนอกประเทศไปทางเขมรให้ได้เท่านั้น ในขณะที่ลิ่วล้อของทักษิณ ที่มีทั้งรัฐมนตรีและข้าราชการขายชาติ อัยการและศาล บางกลุ่มบางตัว ในประเทศไทย ก็พยายามดิ้นรน หาวิธีช่วยเหลือทักษิณ จนสุดความสามารถ แต่ดูเหมือนว่า เกมนี้จะมีคนมองออกกันหมด และถึงเวลาที่จะจัดการสองตระกูลนี้ให้สาสม ที่บังอาจทำตัวขายชาติ จนไทยต้องเสียตัวปราสาทเขาพระวิหารให้กับเขมร

    ***รอยแค้นนี้ฝังใจลึกมาช้านาน และใกล้จะถึงเวลากวาดล้างสองตระกูลนี้ให้สิ้นซากลง แบบหมดจรดและถาวร***

    ปัญหาของตระกูลชิน คือ ทักษิณ ต้องติดคุก และ ปปช.ชี้มูลความผิดต่อแพทองธาร ในคดีดิจิตอล วอลเล็ต ที่มีความผิดชัดเจน ที่เอาเงินภาษีรัฐไปแจก และทุจริตในเชิงนโยบาย ใช้เงินภาษีแผ่นดินไปแจกหาเสียงให้พรรคตนเอง และมีเจตนาทำผิดต่อเสถียรภาพทางการเงินและการคลัง

    ประเด็นมีสองทางคือ พ่อติดคุกและตามมาด้วยลูกสาวก็ต้องติดคุกตามพ่อ

    หรือ ต้องหนีออกนอกประเทศ ทั้งพ่อและลูกสาว และยอมให้รัฐบาลใหม่ ยึดทรัพย์ทั้งหมดของตระกูล ไปเป็นสมบัติของชาติ และตามไล่เช็ดปัดกวาด ลิ่วล้อลูกกระจ๊อก พวกกลุ่มขบวนการขายชาติ ให้หมดเกลี้ยง

    นี่คือทางตันของตระกูลชิน ที่กำลังเดินทางมาถึงปากเหว แม้จะพยายามสร้างภาพว่าตระกูลของตน ยังคงมีอำนาจทางการเมืองอยู่ก็ตาม ด้วยการสร้างภาพว่า กำลังปรับ ครม.อยู่ในตอนนี้ และพรรคเพื่อไทยยังมีอิทธิพลทางการเมืองอยู่ แต่เกมนี้ก็เป็นได้แค่เพียงฉากละครสั้นๆ ที่อีกไม่นาน ละครทั้งหมดก็ต้องถึงตอนจบในอีกไม่นาน อนุทิน จะเล่นเกมไปเป็นฝ่ายค้าน หากพรรคเพื่อไทย บีบจะเอากระทรวงมหาดไทยให้ได้ และบีบให้พรรคเพื่อไทยไปจับมือกับพรรคสีส้มแทน เพื่อขึ้นมาเป็นรัฐบาล และนั่นคือระเบิดเวลา ที่จะใช้โอกาสทำลายทั้งสองพรรคในคราเดียวกัน

    พรรคสีส้มเมื่อรวมกับพรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาล พรรคสีส้มจะกลายเป็นสัญลักษณ์พรรคขายชาติในทันทีในสายตาของประชาชน และผลงานสุดห่วยแตกของพรรคเพื่อไทย กำลังดิ่งลงเหวอย่างหนัก หากพรรคไหนยังอยากจับมือกับพรรคนี้ โอกาสสูญพันธุ์ทางการเมืองมีสูงมาก

    และพรรคเพื่อไทยก็รู้ดีว่า หากเพื่อไทยรวมกับพรรคสีส้มเมื่อไหร่ และพรรคสีส้มก็รู้ดีไม่แพ้กันว่า****โอกาสสูงมาก หากสองพรรคนี้มารวมตัวกัน การปฏิวัติรัฐประหารจะเกิดขึ้นสูงมาก***

    นี่คือเกมที่พรรคเพื่อไทยกำลังถูกบีบ ให้กลายเป็นผีสัมภเวสีทางการเมือง ในขณะที่ภาคประชาชนและกองทัพ ก็กำลังเพ่งเล็ง ถึงพฤติกรรมของแพทองธารกับนายภูมิธรรม ต่อเจตนาและมีพฤติกรรมขายชาติและเอื้อผลประโยชน์ให้กับเขมร และกำลังเดินมาจนมุม เมื่อตระกูลฮุน ญาติฝั่งเขมร ก็กำลังจะพังพินาสทั้งตระกูลเช่นกัน

    และก็เป็นความจริงตามที่คาดการณ์เอาไว้ เขมรกำลังเผชิญน้ำท่วมอย่างหนักในหลายพื้นที่ จากปรากฏการณ์ Red Rain เข้าถล่มในหลายเมือง ทำให้อาวุธของเขมรจำนวนมาก ไปติดหล่มเคลื่อนที่ไม่ได้ กองทิ้งเป็นภูเขา แถมยังเกิดตึกถล่มอีก ไฟฟ้าเริ่มติดๆขัดๆ อินเตอร์เนตก็เริ่มใช้ไม่ได้ ผู้คนและกองทัพเขมรเริ่มขาดแคลนอาหารอย่างหนัก โรคมาลาเลียและไข้เลือดออก กำลังแพร่กระจายอย่างหนักกับทหารเขมรที่อยู่แนวหน้า บ่อนคาสิโนเริ่มร้าง
    คนเขมรไม่สามารถออกมาล่าสัตว์ป่าและอาหารป่าที่จะนำไปขายได้ในฝั่งไทย ผู้คนขาดเงินอย่างหนักที่จะเดินทางไปรักษาโรคได้ สะเบียงอาหารในประเทศก็เริ่มหร่อยหรอลง

    ล่าสุดฮุนมาเนต ก็โดนประธาน EU เรียกมาด่าและตำหนิอย่างรุนแรงว่า ชอบนำภาพที่ถ่ายคู่ผู้นำไปลงfacebook แล้วสร้างภาพเท็จและหลอกลวงคนเขมร และผู้นำฝรั่งเศส ก็ไม่เคยรับรู้แผนที่กระโปกของเขมร ที่อ้างเอาชื่อฝรั่งเศส มาเขียนแผนที่อัตราส่วน 1:200,000 กับไทย แล้วบอกว่าฝรั่งเศสเป็นคนเขียเอง ซึ่งไม่เป็นความจริงสักอย่าง แถมเมื่อสืบสาวไปเรื่อยๆ ผู้นำฝรั่งเศสเอง เป็นผู้เตือนฮุนมาเนตอย่างแรง ที่เมืองนีซ ว่า ระวังจะเสียตัวปราสาทเขาพระวิหารคืนให้กับประเทศไทยนะ เพราะไทยมีลายลักษณ์อักษร ในสัญญาแบ่งเขตแดนมาตั้งแต่สมัยยุคของ ร.5 แล้ว มีเสาแบ่งเขตแดนชัดเจนร่วมกัน และฝรั่งเศสก็จะไม่ยอมรับพื้นที่อัตราส่วน 1:200,000 ของเขมรที่เขียนขึ้นมาเองด้วย

    ในขณะที่ประธาน UN ก็ออกมาซ้ำเติมตระกูลฮุนว่า เป็นเผด็จการทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุดในภูมิภาคอาเซี่ยน เป็นตระกูลที่ผูกขาดอำนาจมานาน ใส่ร้ายและคอยทำร้ายฝ่ายค้าน เพื่ออำนาจของตระกูลตนเอง และถูก UN งดความช่วยเหลือเขมรในทุกด้านด้วย ซวยซ้ำซวยซ้อน

    ตระกูลฮุน กำลังทำให้บ้านเมืองตนเอง กำลังจะล่มจม หวังพึ่งมหาอำนาจก็ไม่มีใครสนใจสักประเทศ

    ผู้นำจีน แสดงความชัดเจน ไม่เข้าร่วมซ้อมรบทางทะเลกับเขมร เพราะรู้ไส้รู้พุงเขมรแล้ว ว่า ตระกูลฮุน ต้องเอาชื่อเสียงของจีน มาสร้างภาพให้เกิดความขัดแย้งกับไทย เลยสั่งสอนตบกะบาลตระกูลฮุน ด้วยการประกาศจะเข้าร่วมฝึกซ้อมเครื่องบินรบกับไทยในทันที

    และตามมาด้วยผู้นำอินโดนีเซีย ประกาศมีแผนจะเข้าร่วมซ้อมรบกับกองทัพไทยในอีกไม่นาน

    แต่ช้ากว่าผู้นำมาเลเซีย ที่ออกมาประกาศชัดเจนว่า จะขอเข้ามาทำการซ้อมรบทางทะเลกับกองทัพเรือไทย แถมใจดีเปิดด่านถาวรให้ไทย จากปัญหาเรื่องยาเสพติดที่มาเลเซียสั่งปิดด่านมานาน และยังขยายความร่วมมือทางการแพทย์ตามแนวชายแดนร่วมกันด้วย

    และในอีกไม่นาน การฝึกรบร่วมกันของกลุ่มประเทศอาเซี่ยน ที่จัดขึ้นในประเทศไทย ที่ไม่มีเขมร ก็กำลังจะเกิดขึ้นตามมา

    แถมยังมีข่าวดีว่า รัสเซีย พร้อมจะส่งขีปนาวุธวิสัยไกล มาให้ไทยใช้ทดสอบแข่งกับอาวุธของค่ายตะวันตก ลองยิงไปสัก3-4 ลูก ลงไปที่กรุงพนมเปญ คงจะดีนะ

    และมีข่าวแว่วๆ ที่จะเป็นจริงว่า สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ อาจเลือกกองทัพไทยเข้าฝึกซ้อมรบพิเศษร่วมกัน เหมือนจะวางรากฐานสร้างกลุ่ม NATO ในเขตภูมิถาคเอเซียในอนาคต

    ทะเลาะกับเขมรในช่วงนี้ มีแต่เรื่องดี้ดี เพราะมหาอำนาจโลกและกลุ่มประเทศของเอเซียและในอาเซี่ยน ยอมรับแสนยานุภาพทางทหารไทยกันหมดแล้ว

    ดูไปดูมา ไม่ได้มีแค่ไทย แต่เหมือนทั้งโลก กำลังช่วยกัน ถล่มซ้ำสองตระกูลนี้ ให้จมธรณีตายไปเลย
    ว่าไหม.

    CR. เดชา นฤนารท.
    15/6/68 10.32 น.
    ฝีเริ่มแตก ขบวนการขายชาติมานาน จะเริ่มผุดออกมาจากน้ำหนอง และไม่เกินความคาดหมายว่า การประชุม JBC ก็เป็นแค่ละคร ยื้อเวลาของสองตระกูล ที่กำลังเดินหมากมาถึงทางตัน ไทยไม่เคยรับอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ปี 2503 ไทยไม่เคยรับแผนที่ ที่มาตราส่วน1:200,000 ของเขมร แต่ตระกูลชิน ที่ไม่ใช่คนรักชาติและกลุ่มขบวนการขายชาติ ยอมรับทั้งอำนาจศาลโลกและแอบลงนาม MOU ยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ของเขมร จนทำให้ไทยต้องเสียตัวปราสาทเขาพระวิหาร ให้กับเขมร และทำให้นาย วีระ สมความคิด ต้องติดคุกในเขมร และพรรคประชาธิปัตย์ ที่นำโดยนาย อภิสิทธิ์ ต้องยอมทำตามเงื่อนไขของเขมร แค่เพื่อช่วยเหลือ สส.ตนเองไม่ให้ติดคุกที่เขมร ทำให้คนไทยเจ็บปวดใจกันทั้งประเทศ ยกเว้นแค่พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง ที่ดีใจที่เห็นไทยเสียตัวปราสาทเขาพระวิหารให้กับเขมร ขบวนการขายชาติ มีทั้งอดีตนักการฑูตไทย ที่ประจำอยู่ประเทศเขมร และนักการฑูตในปัจจุบัน รวมไปถึง รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง อัยการ ศาลและกลุ่มนายทุนเจ้าสัวเชื้อจีน ที่ขายชาติ ที่ทำงานรับใช้สองตระกูลชินกับตระกูลฮุนมานาน การแอบใช้เล่ห์เหลี่ยม หลอกคนไทยว่า หากเราลงนาม MOUกับเขมรและยอมรับแผนที่ของเขมรที่เขียนขึ้นมาเอง ที่อัตราส่วน 1:200,000 ไทยจะได้ประโยชน์ จากพื้นที่เขมรเพิ่มขึ้นถึง 100ตารางวา แต่ในความเป็นจริงคนพวกนี้ วางแผนให้เขมรได้พื้นที่ประเทศไทยทั้งแนวตะเข็บชายแดน รวมกันมากถึงกว่า 2 ล้านไร่ หากไทยยอมรับแผนที่ของเขมร ที่เขียนขึ้นมาเอง แต่พรรคเพื่อไทยและตระกูลชิน ยอมรับเงื่อนไขของเขมรทั้งหมด เพราะเป็นญาติกัน การประชุม JBC ให้ยืดเยื้อออกไปเรื่อยๆ ก็แค่เล่นละครปาหี่ เพื่อประวิงเวลาหาทางส่งทักษิณ หนีออกนอกประเทศไปทางเขมรให้ได้เท่านั้น ในขณะที่ลิ่วล้อของทักษิณ ที่มีทั้งรัฐมนตรีและข้าราชการขายชาติ อัยการและศาล บางกลุ่มบางตัว ในประเทศไทย ก็พยายามดิ้นรน หาวิธีช่วยเหลือทักษิณ จนสุดความสามารถ แต่ดูเหมือนว่า เกมนี้จะมีคนมองออกกันหมด และถึงเวลาที่จะจัดการสองตระกูลนี้ให้สาสม ที่บังอาจทำตัวขายชาติ จนไทยต้องเสียตัวปราสาทเขาพระวิหารให้กับเขมร ***รอยแค้นนี้ฝังใจลึกมาช้านาน และใกล้จะถึงเวลากวาดล้างสองตระกูลนี้ให้สิ้นซากลง แบบหมดจรดและถาวร*** ปัญหาของตระกูลชิน คือ ทักษิณ ต้องติดคุก และ ปปช.ชี้มูลความผิดต่อแพทองธาร ในคดีดิจิตอล วอลเล็ต ที่มีความผิดชัดเจน ที่เอาเงินภาษีรัฐไปแจก และทุจริตในเชิงนโยบาย ใช้เงินภาษีแผ่นดินไปแจกหาเสียงให้พรรคตนเอง และมีเจตนาทำผิดต่อเสถียรภาพทางการเงินและการคลัง ประเด็นมีสองทางคือ พ่อติดคุกและตามมาด้วยลูกสาวก็ต้องติดคุกตามพ่อ หรือ ต้องหนีออกนอกประเทศ ทั้งพ่อและลูกสาว และยอมให้รัฐบาลใหม่ ยึดทรัพย์ทั้งหมดของตระกูล ไปเป็นสมบัติของชาติ และตามไล่เช็ดปัดกวาด ลิ่วล้อลูกกระจ๊อก พวกกลุ่มขบวนการขายชาติ ให้หมดเกลี้ยง นี่คือทางตันของตระกูลชิน ที่กำลังเดินทางมาถึงปากเหว แม้จะพยายามสร้างภาพว่าตระกูลของตน ยังคงมีอำนาจทางการเมืองอยู่ก็ตาม ด้วยการสร้างภาพว่า กำลังปรับ ครม.อยู่ในตอนนี้ และพรรคเพื่อไทยยังมีอิทธิพลทางการเมืองอยู่ แต่เกมนี้ก็เป็นได้แค่เพียงฉากละครสั้นๆ ที่อีกไม่นาน ละครทั้งหมดก็ต้องถึงตอนจบในอีกไม่นาน อนุทิน จะเล่นเกมไปเป็นฝ่ายค้าน หากพรรคเพื่อไทย บีบจะเอากระทรวงมหาดไทยให้ได้ และบีบให้พรรคเพื่อไทยไปจับมือกับพรรคสีส้มแทน เพื่อขึ้นมาเป็นรัฐบาล และนั่นคือระเบิดเวลา ที่จะใช้โอกาสทำลายทั้งสองพรรคในคราเดียวกัน พรรคสีส้มเมื่อรวมกับพรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาล พรรคสีส้มจะกลายเป็นสัญลักษณ์พรรคขายชาติในทันทีในสายตาของประชาชน และผลงานสุดห่วยแตกของพรรคเพื่อไทย กำลังดิ่งลงเหวอย่างหนัก หากพรรคไหนยังอยากจับมือกับพรรคนี้ โอกาสสูญพันธุ์ทางการเมืองมีสูงมาก และพรรคเพื่อไทยก็รู้ดีว่า หากเพื่อไทยรวมกับพรรคสีส้มเมื่อไหร่ และพรรคสีส้มก็รู้ดีไม่แพ้กันว่า****โอกาสสูงมาก หากสองพรรคนี้มารวมตัวกัน การปฏิวัติรัฐประหารจะเกิดขึ้นสูงมาก*** นี่คือเกมที่พรรคเพื่อไทยกำลังถูกบีบ ให้กลายเป็นผีสัมภเวสีทางการเมือง ในขณะที่ภาคประชาชนและกองทัพ ก็กำลังเพ่งเล็ง ถึงพฤติกรรมของแพทองธารกับนายภูมิธรรม ต่อเจตนาและมีพฤติกรรมขายชาติและเอื้อผลประโยชน์ให้กับเขมร และกำลังเดินมาจนมุม เมื่อตระกูลฮุน ญาติฝั่งเขมร ก็กำลังจะพังพินาสทั้งตระกูลเช่นกัน และก็เป็นความจริงตามที่คาดการณ์เอาไว้ เขมรกำลังเผชิญน้ำท่วมอย่างหนักในหลายพื้นที่ จากปรากฏการณ์ Red Rain เข้าถล่มในหลายเมือง ทำให้อาวุธของเขมรจำนวนมาก ไปติดหล่มเคลื่อนที่ไม่ได้ กองทิ้งเป็นภูเขา แถมยังเกิดตึกถล่มอีก ไฟฟ้าเริ่มติดๆขัดๆ อินเตอร์เนตก็เริ่มใช้ไม่ได้ ผู้คนและกองทัพเขมรเริ่มขาดแคลนอาหารอย่างหนัก โรคมาลาเลียและไข้เลือดออก กำลังแพร่กระจายอย่างหนักกับทหารเขมรที่อยู่แนวหน้า บ่อนคาสิโนเริ่มร้าง คนเขมรไม่สามารถออกมาล่าสัตว์ป่าและอาหารป่าที่จะนำไปขายได้ในฝั่งไทย ผู้คนขาดเงินอย่างหนักที่จะเดินทางไปรักษาโรคได้ สะเบียงอาหารในประเทศก็เริ่มหร่อยหรอลง ล่าสุดฮุนมาเนต ก็โดนประธาน EU เรียกมาด่าและตำหนิอย่างรุนแรงว่า ชอบนำภาพที่ถ่ายคู่ผู้นำไปลงfacebook แล้วสร้างภาพเท็จและหลอกลวงคนเขมร และผู้นำฝรั่งเศส ก็ไม่เคยรับรู้แผนที่กระโปกของเขมร ที่อ้างเอาชื่อฝรั่งเศส มาเขียนแผนที่อัตราส่วน 1:200,000 กับไทย แล้วบอกว่าฝรั่งเศสเป็นคนเขียเอง ซึ่งไม่เป็นความจริงสักอย่าง แถมเมื่อสืบสาวไปเรื่อยๆ ผู้นำฝรั่งเศสเอง เป็นผู้เตือนฮุนมาเนตอย่างแรง ที่เมืองนีซ ว่า ระวังจะเสียตัวปราสาทเขาพระวิหารคืนให้กับประเทศไทยนะ เพราะไทยมีลายลักษณ์อักษร ในสัญญาแบ่งเขตแดนมาตั้งแต่สมัยยุคของ ร.5 แล้ว มีเสาแบ่งเขตแดนชัดเจนร่วมกัน และฝรั่งเศสก็จะไม่ยอมรับพื้นที่อัตราส่วน 1:200,000 ของเขมรที่เขียนขึ้นมาเองด้วย ในขณะที่ประธาน UN ก็ออกมาซ้ำเติมตระกูลฮุนว่า เป็นเผด็จการทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุดในภูมิภาคอาเซี่ยน เป็นตระกูลที่ผูกขาดอำนาจมานาน ใส่ร้ายและคอยทำร้ายฝ่ายค้าน เพื่ออำนาจของตระกูลตนเอง และถูก UN งดความช่วยเหลือเขมรในทุกด้านด้วย ซวยซ้ำซวยซ้อน ตระกูลฮุน กำลังทำให้บ้านเมืองตนเอง กำลังจะล่มจม หวังพึ่งมหาอำนาจก็ไม่มีใครสนใจสักประเทศ ผู้นำจีน แสดงความชัดเจน ไม่เข้าร่วมซ้อมรบทางทะเลกับเขมร เพราะรู้ไส้รู้พุงเขมรแล้ว ว่า ตระกูลฮุน ต้องเอาชื่อเสียงของจีน มาสร้างภาพให้เกิดความขัดแย้งกับไทย เลยสั่งสอนตบกะบาลตระกูลฮุน ด้วยการประกาศจะเข้าร่วมฝึกซ้อมเครื่องบินรบกับไทยในทันที และตามมาด้วยผู้นำอินโดนีเซีย ประกาศมีแผนจะเข้าร่วมซ้อมรบกับกองทัพไทยในอีกไม่นาน แต่ช้ากว่าผู้นำมาเลเซีย ที่ออกมาประกาศชัดเจนว่า จะขอเข้ามาทำการซ้อมรบทางทะเลกับกองทัพเรือไทย แถมใจดีเปิดด่านถาวรให้ไทย จากปัญหาเรื่องยาเสพติดที่มาเลเซียสั่งปิดด่านมานาน และยังขยายความร่วมมือทางการแพทย์ตามแนวชายแดนร่วมกันด้วย และในอีกไม่นาน การฝึกรบร่วมกันของกลุ่มประเทศอาเซี่ยน ที่จัดขึ้นในประเทศไทย ที่ไม่มีเขมร ก็กำลังจะเกิดขึ้นตามมา แถมยังมีข่าวดีว่า รัสเซีย พร้อมจะส่งขีปนาวุธวิสัยไกล มาให้ไทยใช้ทดสอบแข่งกับอาวุธของค่ายตะวันตก ลองยิงไปสัก3-4 ลูก ลงไปที่กรุงพนมเปญ คงจะดีนะ และมีข่าวแว่วๆ ที่จะเป็นจริงว่า สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ อาจเลือกกองทัพไทยเข้าฝึกซ้อมรบพิเศษร่วมกัน เหมือนจะวางรากฐานสร้างกลุ่ม NATO ในเขตภูมิถาคเอเซียในอนาคต ทะเลาะกับเขมรในช่วงนี้ มีแต่เรื่องดี้ดี เพราะมหาอำนาจโลกและกลุ่มประเทศของเอเซียและในอาเซี่ยน ยอมรับแสนยานุภาพทางทหารไทยกันหมดแล้ว ดูไปดูมา ไม่ได้มีแค่ไทย แต่เหมือนทั้งโลก กำลังช่วยกัน ถล่มซ้ำสองตระกูลนี้ ให้จมธรณีตายไปเลย ว่าไหม. CR. เดชา นฤนารท. 15/6/68 10.32 น.
    0 Comments 0 Shares 728 Views 0 Reviews
  • “วีระ” แฉ “ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย” ประธาน JBC ฝ่ายไทย อดีตทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ เคยบีบบังคับให้ตนยอมรับผิดว่าบุกรุกดินแดนเขมร แถมด่าว่าเป็นตัวปัญหาทำให้กลับมาฉลองปีใหม่ที่กรุงเทพฯ ไม่ได้ จี้เปลี่ยนตัวด่วน หวั่นทำประเทศไทยเสียหาย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000054440

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    “วีระ” แฉ “ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย” ประธาน JBC ฝ่ายไทย อดีตทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ เคยบีบบังคับให้ตนยอมรับผิดว่าบุกรุกดินแดนเขมร แถมด่าว่าเป็นตัวปัญหาทำให้กลับมาฉลองปีใหม่ที่กรุงเทพฯ ไม่ได้ จี้เปลี่ยนตัวด่วน หวั่นทำประเทศไทยเสียหาย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000054440 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    Wow
    7
    0 Comments 0 Shares 493 Views 1 Reviews
  • นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยจุดยืนรัฐบาลไทยต่อความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันใช้กลไก 3 ฝ่าย สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กองทัพบก และกระทรวงการต่างประเทศ หลีกเลี่ยงความรุนแรง รักษาอธิปไตยของชาติเต็มที่ ส่วนความพยายามดึงเรื่องขึ้นศาลโลก รัฐบาลไม่ตกหลุมพราง ต้องใช้กรอบเอ็มโอยู 2543 หาข้อยุติร่วมกัน โดยจะประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 14 มิ.ย. นี้ ที่กรุงพนมเปญ ยืนยันไม่ปลดแม่ทัพภาคที่ 2 อย่าเชื่อข่าวปลุกปั่น ความสัมพันธ์กับทหารไม่ขัดแย้ง ทุกอย่างคุยกันได้หมด ยังไม่ถึงเวลาปิดด่าน แม้ทหารกัมพูชาล้ำเขตแดนไทยถึง 200 เมตร ต้องพิจารณาจากแผนที่ ยอมรับ ทหารอึดอัดต่อสถานการณ์ แต่ทุกฝ่ายเข้าใจดีว่านี่คือยุทธศาสตร์เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่อาจกระทบเอกราชชาติไทย

    -ฉุนถูกจี้ถามกัมพูชาล้ำแดน
    -ไล่กวดภาพ AI
    -แก๊งศูนย์เหรียญตั้งฟรีโซน
    -สารพัดปัญหาเศรษฐกิจไทย
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยจุดยืนรัฐบาลไทยต่อความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันใช้กลไก 3 ฝ่าย สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กองทัพบก และกระทรวงการต่างประเทศ หลีกเลี่ยงความรุนแรง รักษาอธิปไตยของชาติเต็มที่ ส่วนความพยายามดึงเรื่องขึ้นศาลโลก รัฐบาลไม่ตกหลุมพราง ต้องใช้กรอบเอ็มโอยู 2543 หาข้อยุติร่วมกัน โดยจะประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 14 มิ.ย. นี้ ที่กรุงพนมเปญ ยืนยันไม่ปลดแม่ทัพภาคที่ 2 อย่าเชื่อข่าวปลุกปั่น ความสัมพันธ์กับทหารไม่ขัดแย้ง ทุกอย่างคุยกันได้หมด ยังไม่ถึงเวลาปิดด่าน แม้ทหารกัมพูชาล้ำเขตแดนไทยถึง 200 เมตร ต้องพิจารณาจากแผนที่ ยอมรับ ทหารอึดอัดต่อสถานการณ์ แต่ทุกฝ่ายเข้าใจดีว่านี่คือยุทธศาสตร์เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่อาจกระทบเอกราชชาติไทย -ฉุนถูกจี้ถามกัมพูชาล้ำแดน -ไล่กวดภาพ AI -แก๊งศูนย์เหรียญตั้งฟรีโซน -สารพัดปัญหาเศรษฐกิจไทย
    Like
    Haha
    Angry
    6
    0 Comments 0 Shares 751 Views 38 0 Reviews
  • ยังไม่ถึงเวลาปิดด่าน รอหลักฐานกัมพูชาล้ำแดน : [THE MESSAGE]

    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยจุดยืนรัฐบาลไทยต่อความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันใช้กลไก 3 ฝ่าย สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กองทัพบก และกระทรวงการต่างประเทศ หลีกเลี่ยงความรุนแรง รักษาอธิปไตยของชาติเต็มที่ ส่วนความพยายามดึงเรื่องขึ้นศาลโลก รัฐบาลไม่ตกหลุมพรางใช้กรอบเอ็มโอยู 2543 หาข้อยุติร่วมกัน โดยจะประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 14 มิ.ย.นี้ ที่กรุงพนมเปญ ยืนยันไม่ปลดแม่ทัพภาคที่ 2 อย่าหลงเชื่อข่าวปลุกปั่น ความสัมพันธ์กับทหารไม่มีความขัดแย้ง ทุกอย่างคุยกันได้หมด ยังไม่ถึงเวลาปิดด่าน แม้ทหารกัมพูชาเคลื่อนกำลังล้ำเขตแดนไทยถึง 200 เมตร ต้องใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ประเมินสถานการณ์รายวันรอบด้าน
    ยังไม่ถึงเวลาปิดด่าน รอหลักฐานกัมพูชาล้ำแดน : [THE MESSAGE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผยจุดยืนรัฐบาลไทยต่อความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันใช้กลไก 3 ฝ่าย สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กองทัพบก และกระทรวงการต่างประเทศ หลีกเลี่ยงความรุนแรง รักษาอธิปไตยของชาติเต็มที่ ส่วนความพยายามดึงเรื่องขึ้นศาลโลก รัฐบาลไม่ตกหลุมพรางใช้กรอบเอ็มโอยู 2543 หาข้อยุติร่วมกัน โดยจะประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 14 มิ.ย.นี้ ที่กรุงพนมเปญ ยืนยันไม่ปลดแม่ทัพภาคที่ 2 อย่าหลงเชื่อข่าวปลุกปั่น ความสัมพันธ์กับทหารไม่มีความขัดแย้ง ทุกอย่างคุยกันได้หมด ยังไม่ถึงเวลาปิดด่าน แม้ทหารกัมพูชาเคลื่อนกำลังล้ำเขตแดนไทยถึง 200 เมตร ต้องใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ประเมินสถานการณ์รายวันรอบด้าน
    Haha
    Angry
    4
    0 Comments 0 Shares 607 Views 24 0 Reviews
  • "ภูมิธรรม" ยันไม่ปลดแม่ทัพภาคที่ 2 จวกรูป "ฮุนเซน" ลูบหัว ใช้ AI ปั่นกระแส ติง "เท้ง-กัณวีร์" ยั่วยุเล่นเกมการเมือง ลั่นรัฐบาลยึดมั่นรักษาอธิปไตยเต็มที่ เตรียมลงพื้นที่ ทภ.2 ปลุกขวัญกำลังใจ ได้ฤกษ์ถกเจบีซี 14 มิ.ย.นี้ ที่กรุงพนมเปญ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000052042

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes

    "ภูมิธรรม" ยันไม่ปลดแม่ทัพภาคที่ 2 จวกรูป "ฮุนเซน" ลูบหัว ใช้ AI ปั่นกระแส ติง "เท้ง-กัณวีร์" ยั่วยุเล่นเกมการเมือง ลั่นรัฐบาลยึดมั่นรักษาอธิปไตยเต็มที่ เตรียมลงพื้นที่ ทภ.2 ปลุกขวัญกำลังใจ ได้ฤกษ์ถกเจบีซี 14 มิ.ย.นี้ ที่กรุงพนมเปญ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000052042 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Haha
    Like
    5
    0 Comments 1 Shares 547 Views 0 Reviews
More Results