• อเมริกาจำเป็นต้องมีกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ 🤣ที่จะเปลี่ยนท่าทีของกองกำลังสหรัฐฯออกจากการแทรกแซงทางทหารที่เน้นไปที่การสร้างชาติ, ประชาธิปไตย, หรือภัยคุกคามที่ถูกกล่าวหา🤣

    แทนที่จะเป็นเช่นนั้น, ท่าทีด้านการป้องกันประเทศควรเน้นที่ซีกโลกตะวันตก, เรียนรู้ที่จะหลีกเลี่ยงรูปแบบพฤติกรรมที่ขัดต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ

    Douglas Macgregor
    .
    America needs new national security legislation that moves the posture of U.S. forces away from military interventions focused on nation-building, democratization, or alleged threats.

    Instead, the defense posture should focus on the Western Hemisphere, learning to avoid patterns of behavior antithetical to U.S. interests.
    .
    7:28 AM · Nov 21, 2024 · 8,456 Views
    https://x.com/DougAMacgregor/status/1859393503136186542
    อเมริกาจำเป็นต้องมีกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ 🤣ที่จะเปลี่ยนท่าทีของกองกำลังสหรัฐฯออกจากการแทรกแซงทางทหารที่เน้นไปที่การสร้างชาติ, ประชาธิปไตย, หรือภัยคุกคามที่ถูกกล่าวหา🤣 แทนที่จะเป็นเช่นนั้น, ท่าทีด้านการป้องกันประเทศควรเน้นที่ซีกโลกตะวันตก, เรียนรู้ที่จะหลีกเลี่ยงรูปแบบพฤติกรรมที่ขัดต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ Douglas Macgregor . America needs new national security legislation that moves the posture of U.S. forces away from military interventions focused on nation-building, democratization, or alleged threats. Instead, the defense posture should focus on the Western Hemisphere, learning to avoid patterns of behavior antithetical to U.S. interests. . 7:28 AM · Nov 21, 2024 · 8,456 Views https://x.com/DougAMacgregor/status/1859393503136186542
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • ๔๕ นักรบปฏิวัติสีที่ได้รับทุนจากสหรัฐฯ (“สนับสนุนประชาธิปไตย”) ในฮ่องกง ถูกตัดสินจำคุก ๔-๑๐ ปี

    เช่นเดียวกับชาวอูเครน, ตัวตลกเหล่านี้ล้วนเป็นเบี้ยที่ไร้ค่า

    รักประเทศของคุณและทำงานภายในระบบ อย่าพึ่งพารัฐลึกจากต่างประเทศเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง
    .
    45 US-funded color revolution (“pro-democracy”) warriors in Hong Kong were sentenced to prison for 4-10 years.

    Just like Ukrainians, these clowns were all expendable pawns.

    Love your country & work within the system. Don’t depend on foreign deep state to do a regime change.
    .
    12:52 PM · Nov 20, 2024 · 12.1K Views
    https://x.com/Kanthan2030/status/1859112638493642829
    ๔๕ นักรบปฏิวัติสีที่ได้รับทุนจากสหรัฐฯ (“สนับสนุนประชาธิปไตย”) ในฮ่องกง ถูกตัดสินจำคุก ๔-๑๐ ปี เช่นเดียวกับชาวอูเครน, ตัวตลกเหล่านี้ล้วนเป็นเบี้ยที่ไร้ค่า รักประเทศของคุณและทำงานภายในระบบ อย่าพึ่งพารัฐลึกจากต่างประเทศเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง . 45 US-funded color revolution (“pro-democracy”) warriors in Hong Kong were sentenced to prison for 4-10 years. Just like Ukrainians, these clowns were all expendable pawns. Love your country & work within the system. Don’t depend on foreign deep state to do a regime change. . 12:52 PM · Nov 20, 2024 · 12.1K Views https://x.com/Kanthan2030/status/1859112638493642829
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้จะมีการพูดถึงประชาธิปไตยมากมาย, แต่การกระทำของรัฐบาลไบเดนที่จุดชนวนสงครามกับรัสเซียก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะขึ้นสู่อำนาจ เผยให้เห็นว่าฝ่ายซ้ายดูถูกกระบวนการประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญสหรัฐฯอย่างสิ้นเชิง

    พฤติกรรมต่อต้าน/อเมริกาในลักษณะนี้ อาจไม่เข้าข่ายการทรยศ, แต่ก็เกือบจะถึงที่สุดแล้ว..

    Douglas Macgregor
    .
    For all the talk about democracy, the action of the Biden Administration to spark a war with Russia before President Trump takes power reveals the Left’s complete and utter contempt for the democratic process and the US Constitution.

    This sort of anti/American behavior may not fit the definition of treason, but it comes damn close..
    .
    12:45 AM · Nov 19, 2024 · 114.9K Views
    https://x.com/DougAMacgregor/status/1858567216234721297
    แม้จะมีการพูดถึงประชาธิปไตยมากมาย, แต่การกระทำของรัฐบาลไบเดนที่จุดชนวนสงครามกับรัสเซียก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะขึ้นสู่อำนาจ เผยให้เห็นว่าฝ่ายซ้ายดูถูกกระบวนการประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญสหรัฐฯอย่างสิ้นเชิง พฤติกรรมต่อต้าน/อเมริกาในลักษณะนี้ อาจไม่เข้าข่ายการทรยศ, แต่ก็เกือบจะถึงที่สุดแล้ว.. Douglas Macgregor . For all the talk about democracy, the action of the Biden Administration to spark a war with Russia before President Trump takes power reveals the Left’s complete and utter contempt for the democratic process and the US Constitution. This sort of anti/American behavior may not fit the definition of treason, but it comes damn close.. . 12:45 AM · Nov 19, 2024 · 114.9K Views https://x.com/DougAMacgregor/status/1858567216234721297
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥 “เราต้องล้มล้างสถาบันนีโอคอนโลกาภิวัตน์ทั้งหมด ที่ลากเราเข้าสู่สงครามไม่รู้จบ, 🤣ในขณะที่แสร้งทำเป็นเผยแพร่เสรีภาพและประชาธิปไตย🤣”

    - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์

    ว้าว, ว้าวจริงๆ 👏🏼👏🏼👏🏼
    .
    🔥 “We need to dismantle the entire globalist neocon establishment that is perpetually dragging us into endless wars, while pretending to spread freedom and democracy.”

    - President Donald Trump

    Wow. Just wow. 👏🏼👏🏼👏🏼
    .
    2:54 AM · Nov 19, 2024 · 63.9K Views
    https://x.com/Kanthan2030/status/1858599800809419129
    🔥 “เราต้องล้มล้างสถาบันนีโอคอนโลกาภิวัตน์ทั้งหมด ที่ลากเราเข้าสู่สงครามไม่รู้จบ, 🤣ในขณะที่แสร้งทำเป็นเผยแพร่เสรีภาพและประชาธิปไตย🤣” - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ว้าว, ว้าวจริงๆ 👏🏼👏🏼👏🏼 . 🔥 “We need to dismantle the entire globalist neocon establishment that is perpetually dragging us into endless wars, while pretending to spread freedom and democracy.” - President Donald Trump Wow. Just wow. 👏🏼👏🏼👏🏼 . 2:54 AM · Nov 19, 2024 · 63.9K Views https://x.com/Kanthan2030/status/1858599800809419129
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 340 มุมมอง 6 0 รีวิว
  • สื่อเยอรมันรายงานว่า ในการประชุมของพรรคประชาธิปไตยสังคมนิยมเยอรมัน หรือ Party of Democratic Socialism (PDS) ของนายกรัฐมนตรี "โอลาฟ ชอลซ์" มีการพูดคุยถึงประเด็นการเปลี่ยนตัวโดยเสนอชื่อ "บอริส พิสโตเรียส" รัฐมนตรีกลาโหม เข้ามาแทนที่ ในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในต้นปีหน้า ซึ่งคาดว่าจะมีการยุบสภาเกิดขึ้น
    สื่อเยอรมันรายงานว่า ในการประชุมของพรรคประชาธิปไตยสังคมนิยมเยอรมัน หรือ Party of Democratic Socialism (PDS) ของนายกรัฐมนตรี "โอลาฟ ชอลซ์" มีการพูดคุยถึงประเด็นการเปลี่ยนตัวโดยเสนอชื่อ "บอริส พิสโตเรียส" รัฐมนตรีกลาโหม เข้ามาแทนที่ ในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในต้นปีหน้า ซึ่งคาดว่าจะมีการยุบสภาเกิดขึ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • จอห์น ธูน: พบกับผู้นำเสียงข้างมากคนใหม่ของวุฒิสภารีพับลิกัน

    วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ จอห์น ธูน, ซึ่งดำรงตำแหน่งวิปฝ่ายเสียงข้างน้อยภายใต้การนำของมิตช์ แม็กคอนเนลล์ อดีตผู้นำเสียงข้างน้อย เมื่อพรรคเดโมแครตควบคุมวุฒิสภา, ได้รับเลือกจากเพื่อนร่วมงานให้เป็นผู้นำเสียงข้างมากคนใหม่ของวุฒิสภา

    🔸ธูนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาในปี ๒๐๐๔ เพื่อเป็นตัวแทนของรัฐเซาท์ดาโกตา และมีประสบการณ์ในการเป็นทั้งผู้นำเสียงข้างมากและวิปฝ่ายเสียงข้างน้อย

    🔸เขาเป็นผู้สนับสนุนอย่างเปิดเผยในการช่วยเหลือยูเครนของสหรัฐฯ, โดยอ้างว่าสหรัฐฯ "ไม่สามารถถอยหนีจากเวทีโลกได้" และควรส่งอาวุธและทรัพยากรให้กับเคียฟต่อไป

    🔸ในเดือนมีนาคม ๒๐๒๒, เขาได้ยกย่องความพยายามของวอชิงตันในการ "ให้ความช่วยเหลือที่ร้ายแรง" แก่ยูเครน และในการทำให้สมาชิก NATO อื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องในความขัดแย้งในยูเครน

    🔸เขายังได้แสดงความสนับสนุนอิสราเอลและการวิพากษ์วิจารณ์อิหร่าน, โดยยืนกรานว่าเทลอาวีฟมีสิทธิที่จะป้องกันตนเอง และกล่าวหาว่าอิหร่านกำลังพยายามครอบครองอาวุธนิวเคลียร์และต้องป้องกันไม่ให้ทำเช่นนั้น

    🔸ธูนเองก็ไม่ใช่แฟนตัวยงของจีนเช่นกัน, โดยอ้างว่าในปี ๒๐๒๓ สหรัฐฯควรพิจารณาให้ความสำคัญกับความพยายามในการต่อต้านภัยคุกคามจากปักกิ่ง

    🔸“เราอยู่ในยุคของการแข่งขันกับจีน, โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีเจตนาที่จะแทนที่ผู้นำสหรัฐฯ ในอินโด-แปซิฟิก เพื่อที่จะได้บังคับใช้เจตจำนงทางเศรษฐกิจและการทหารทั่วทั้งภูมิภาคและไกลออกไป,” ธูน กล่าว

    🔸เมื่อต้นปีนี้, ธูนยังลงคะแนนเสียงให้กับแพ็คเกจความช่วยเหลือต่างประเทศมูลค่า ๙.๕ หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับยูเครน, อิสราเอล และไต้หวันอีกด้วย
    .
    JOHN THUNE: MEET THE NEW REPUBLICAN SENATE MAJORITY LEADER

    US Republican Senator John Thune, who held the position of minority whip under former minority leader Mitch McConnell when the Democrats controlled the Senate, has been elected by his peers as the new Senate majority leader.

    🔸Thune was elected to the Senate in 2004 to represent South Dakota and has the experience of being both the majority and the minority whip.

    🔸He has been a vocal proponent of US assistance to Ukraine, having claimed that the United States “cannot retreat from the world stage” and thus should keep supplying Kiev with weapons and resources.

    🔸In March 2022, he praised Washington’s efforts to provide “lethal aid” to Ukraine and to get other NATO members involved in the Ukrainian conflict.

    🔸He has also voiced his support of Israel and his criticism of Iran, insisting that Tel Aviv has a right to self-defense and alleging that Iran is trying to acquire nuclear weapons and must be prevented from doing so.

    🔸Thune is also no fan of China, claiming in 2023 that the US should consider prioritizing its efforts to counter the threat from Beijing.

    🔸“We are in an era of competition with China, with the Chinese Communist Party intent on displacing US leadership in the Indo-Pacific so that it may impose its economic and military will throughout the region and beyond,” Thune declared.

    🔸Earlier this year, Thune also voted for the $95 billion foreign aid package for Ukraine, Israel and Taiwan.
    .
    5:22 AM · Nov 14, 2024 · 8,428 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1856824930194637179
    จอห์น ธูน: พบกับผู้นำเสียงข้างมากคนใหม่ของวุฒิสภารีพับลิกัน วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ จอห์น ธูน, ซึ่งดำรงตำแหน่งวิปฝ่ายเสียงข้างน้อยภายใต้การนำของมิตช์ แม็กคอนเนลล์ อดีตผู้นำเสียงข้างน้อย เมื่อพรรคเดโมแครตควบคุมวุฒิสภา, ได้รับเลือกจากเพื่อนร่วมงานให้เป็นผู้นำเสียงข้างมากคนใหม่ของวุฒิสภา 🔸ธูนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาในปี ๒๐๐๔ เพื่อเป็นตัวแทนของรัฐเซาท์ดาโกตา และมีประสบการณ์ในการเป็นทั้งผู้นำเสียงข้างมากและวิปฝ่ายเสียงข้างน้อย 🔸เขาเป็นผู้สนับสนุนอย่างเปิดเผยในการช่วยเหลือยูเครนของสหรัฐฯ, โดยอ้างว่าสหรัฐฯ "ไม่สามารถถอยหนีจากเวทีโลกได้" และควรส่งอาวุธและทรัพยากรให้กับเคียฟต่อไป 🔸ในเดือนมีนาคม ๒๐๒๒, เขาได้ยกย่องความพยายามของวอชิงตันในการ "ให้ความช่วยเหลือที่ร้ายแรง" แก่ยูเครน และในการทำให้สมาชิก NATO อื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องในความขัดแย้งในยูเครน 🔸เขายังได้แสดงความสนับสนุนอิสราเอลและการวิพากษ์วิจารณ์อิหร่าน, โดยยืนกรานว่าเทลอาวีฟมีสิทธิที่จะป้องกันตนเอง และกล่าวหาว่าอิหร่านกำลังพยายามครอบครองอาวุธนิวเคลียร์และต้องป้องกันไม่ให้ทำเช่นนั้น 🔸ธูนเองก็ไม่ใช่แฟนตัวยงของจีนเช่นกัน, โดยอ้างว่าในปี ๒๐๒๓ สหรัฐฯควรพิจารณาให้ความสำคัญกับความพยายามในการต่อต้านภัยคุกคามจากปักกิ่ง 🔸“เราอยู่ในยุคของการแข่งขันกับจีน, โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีเจตนาที่จะแทนที่ผู้นำสหรัฐฯ ในอินโด-แปซิฟิก เพื่อที่จะได้บังคับใช้เจตจำนงทางเศรษฐกิจและการทหารทั่วทั้งภูมิภาคและไกลออกไป,” ธูน กล่าว 🔸เมื่อต้นปีนี้, ธูนยังลงคะแนนเสียงให้กับแพ็คเกจความช่วยเหลือต่างประเทศมูลค่า ๙.๕ หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับยูเครน, อิสราเอล และไต้หวันอีกด้วย . JOHN THUNE: MEET THE NEW REPUBLICAN SENATE MAJORITY LEADER US Republican Senator John Thune, who held the position of minority whip under former minority leader Mitch McConnell when the Democrats controlled the Senate, has been elected by his peers as the new Senate majority leader. 🔸Thune was elected to the Senate in 2004 to represent South Dakota and has the experience of being both the majority and the minority whip. 🔸He has been a vocal proponent of US assistance to Ukraine, having claimed that the United States “cannot retreat from the world stage” and thus should keep supplying Kiev with weapons and resources. 🔸In March 2022, he praised Washington’s efforts to provide “lethal aid” to Ukraine and to get other NATO members involved in the Ukrainian conflict. 🔸He has also voiced his support of Israel and his criticism of Iran, insisting that Tel Aviv has a right to self-defense and alleging that Iran is trying to acquire nuclear weapons and must be prevented from doing so. 🔸Thune is also no fan of China, claiming in 2023 that the US should consider prioritizing its efforts to counter the threat from Beijing. 🔸“We are in an era of competition with China, with the Chinese Communist Party intent on displacing US leadership in the Indo-Pacific so that it may impose its economic and military will throughout the region and beyond,” Thune declared. 🔸Earlier this year, Thune also voted for the $95 billion foreign aid package for Ukraine, Israel and Taiwan. . 5:22 AM · Nov 14, 2024 · 8,428 Views https://x.com/SputnikInt/status/1856824930194637179
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลแพ่งยกฟ้อง "ม.ร.ว.ปรียนันทนา"ฟ้อง"ณัฐพล-สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน" เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ เรียก 50 ล้าน ชี้ไม่มีอำนาจฟ้อง

    13 พฤศจิกายน 2567- เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ พ1135/2564 ที่ ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต เป็นโจทก์ฟ้อง ผศ.ดร.ณัฐพล ใจจริง ผู้เขียนวิทยานิพนธ์และหนังสือ เป็นจำเลยที่ 1 รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด อดีตอาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เป็นจำเลยที่ 2 นายชัยธวัช ตุลาธน บรรณาธิการหนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ เป็นจำเลยที่ 3 น.ส.อัญชลี มณีโรจน์ บรรณาธิการหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี เป็นจำเลยที่ 4 ห้างหุ้นส่วนจำกัดสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ผู้จัดพิมพ์หนังสือทั้ง 2 เล่ม เป็นจำเลยที่ 5 นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เป็นจำเลยที่ 6 ในข้อหา “ละเมิดไขข่าวด้วยข้อความฝ่าฝืนความจริง” และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท

    กรณีจำเลยเกี่ยวข้องกับวิทยานิพนธ์ การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2491-2500), หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อและ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี

    ต่อมาเมื่อเดือน มิถุนายน 2566 โจทก์ได้ถอนฟ้อง รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด

    ศาลแพ่ง พิเคราะห์ประเด็นข้อพิพาทที่ต้องวินิจฉัยประการแรกมีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งหกร่วมกันรับผิดฐานละเมิดโดยอ้างว่าร่วมกันกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง เกียรติคุณ ทางทำมาหาได้ และทางเจริญของโจทก์ การกระทำจะเป็นการละเมิดและจำเลยทั้งหกต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ ต่อเมื่อข้อความที่กล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายฝ่าฝืนความจริงและโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ซึ่งหมายถึงเป็นความเสียหายแก่โจทก์ผู้ฟ้องโดยเฉพาะ มิใช่ความเสียหายแก่ผู้อื่นผู้ใด แต่ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์กล่าวว่าเมื่อปี 2552 จนถึงปัจจุบัน จำเลยทั้งหกร่วมกันบิดเบือนข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์โดยนำข้อความอันเป็นเท็จจัดทำเอกสารไขข่าวแพร่หลายสู่สาธารณะเพื่อมุ่งประสงค์กล่าวหาให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์โดยทำเป็นกระบวนการเพื่อใช้ในการปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เริ่มจากจำเลยที่ 1 โดยความเห็นชอบและร่วมมือของจำเลยที่ 2 ปั้นแต่งความเท็จขึ้นใส่ความสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการว่าทรงประพฤติตนไม่สมต่อตำแหน่งหน้าที่ ทั้งการใช้พระราชอำนาจสนับสนุนรับรองการรัฐประหารปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการปกครองในสมัยรัฐบาลจอมพล ป.เพื่อปูทางการเมืองที่ราบรื่นให้แก่สถาบันกษัตริย์ โดยเจตนาเพื่อให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการทำวิทยานิพนธ์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และโจทก์ได้บรรยายฟ้องระบุถึงข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ หน้า 63 วรรคแรก และหน้า 105 วรรคแรก และบรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 นำข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ไปพูดในการเสวนาที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2553 กล่าวหากรมขุนชัยนาทนเรนทรว่าก้าวก่ายรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ด้วยการเข้าไปนั่งเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี อันเป็นความเท็จ และเมื่อปี 2556 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขอฝันใฝ่ในผันอันเหลือเชื่อ : ความเคลื่อนไหวของขบวนการปฏิปักษ์ปฏิวัติสยาม (พ.ศ.2475-2500) เนื้อหาโจมตีให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ต่อเนื่องจนถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ด้วยความเท็จ และโจทก์บรรยายฟ้องถึงข้อความอันเป็นเท็จ เนื้อหาหน้า 120 -121 และหน้า 124-125 และเมื่อปี 2563 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี กล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และมีข้อความโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หลายแห่ง และโจทก์บรรยายฟ้องข้อความอันเป็นเท็จที่หน้า 60,63,66,73,77และข้อความเท็จใต้ภาพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หน้า 69 และโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 แต่งความเท็จใส่ร้ายกล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และสถาบันพระมหากษัตริย์ในหนังสือต่างประเทศที่จำหน่ายทั่วโลก ชื่อ “Saying the Unsayable Monarchy and Democracy in Thailand” ใส่ร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรว่ามีส่วนร่วมในการรัฐประหาร ปี 2490 แทรกแซงการเมืองโดยการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี

    เมื่อข้อความอันเป็นเท็จตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ มิได้กล่าวพาดพิงถึงโจทก์หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของโจทก์และครอบครัว ทั้งเรื่องการรับรองรัฐประหาร ปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการเมืองสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็ไม่ปรากฏว่ามีความเกี่ยวข้องกับโจทก์ อันจะทำให้ผู้ที่อ่านข้อความในวิทยานิพนธ์และในหนังสือที่จำเลยที่ 1 เขียนดังกล่าวเข้าใจผิดในตัวโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็บรรยายฟ้องว่าการที่จำเลยที่ 1 เขียนข้อความเท็จในวิทยานิพนธ์และหนังสือดังกล่าว ทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร เป็นผู้ไม่นิยมการปกครองระบอบประชาธิปไตย ฝักใฝ่อำนาจทางการเมือง สนับสนุนการรัฐประหาร กระทำการก้าวก่ายการบริหารราชการของรัฐบาล ฟ้องของโจทก์จึงมิได้กล่าวอ้างว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ทั้งการบรรยายฟ้องของโจทก์ที่ระบุว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้รับความเสียหาย แต่เมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้สิ้นพระชนม์แล้วก่อนที่จะมีการกระทำอันเป็นละเมิดตามคำฟ้อง จึงเป็นฟ้องที่กล่าวอ้างว่ามีการกระทำละเมิดต่อหรือความเสียหายของผู้ที่ไม่มีสภาพบุคคลแล้ว แม้โจทก์เป็นหลานของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งสิ้นพระชนม์แล้วและข้อความกล่าวพาดพิงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร

    แม้หากฟังได้ว่าข้อความดังกล่าวบิดเบือนไม่เป็นความจริงตามที่โจทก์บรรยายฟ้อง และทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ก็ไม่ได้เสียหายต่อโจทก์ทายาทชั้นหลานด้วย เพราะข้อความตามคำบรรยายฟ้องมิได้กล่าวหรือแสดงเรื่องราวที่ไม่ตรงต่อความจริงเกี่ยวกับโจทก์และครอบครัวและไม่ได้สื่อความหมายเกี่ยวกับโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านว่าหนังสือขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ รวมถึงวิทยานิพนธ์ของจำเลยที่ 1 กล่าวถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ไม่ได้กล่าวถึงโจทก์และทายาทของโจทก์ ข้อเท็จจริงตามข้อความในวิทยานิพนธ์ดังกล่าวจะเป็นความจริงหรือไม่ โจทก์ไม่ทราบเนื่องจากขณะนั้นโจทก์ยังไม่เกิด ดังนั้น เมื่อข้อความที่จำเลยที่ 1 แสดงในวิทยานิพนธ์ ในหนังสือ และที่จำเลยที่ 1 นำไปพูดตามคำฟ้องไม่ได้สื่อความหมายถึงโจทก์ ย่อมไม่อาจทำให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจผิดในตัวโจทก์ซึ่งเป็นทายาทชั้นหลานอันจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือเกียรติคุณ และทางทำมาหาได้หรือทางเจริญ

    ส่วนที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมและอาฆาดมาดร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร โดยมีผู้นำสีแดงมาสาดใส่ที่พระอนุสาวรีย์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งประดิษฐานอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขนั้น เหตุการณ์ตามภาพข่าวและสถานที่เกิดเหตุไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์ ไม่ปรากฏว่าบุคคลผู้ก่อเหตุเป็นใครและการกระทำสืบเนื่องมาจากสาเหตุใด และที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนที่ถนนวิภาวดีรังสิตปลุกระดมให้มีการยกเลิกชื่อถนนซึ่งเป็นพระนามของพระเจ้าวงวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ก็มิได้ระบุว่าเป็นการชุมนุมปลุกระดมสืบเนื่องจากข้อความในวิทยานิพนธ์หรือในหนังสือคดีนี้และไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์โดยตรง

    ทั้งการฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์ โจทก์เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านถึงมูลเหตุที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000,000 บาท เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ทรงทำคุณความดีและประโยชน์ให้ประเทศไทยเป็นจำนวนมากมายมหาศาล การฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์จึงมิได้มีความสัมพันธ์กับที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าโจทก์ได้รับความเสียหาย ดังนั้น โจทก์จึงมิใช่ผู้ได้รับความเสียหายจากข้อความของจำเลยที่ 1 ตามคำฟ้องและไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิ

    ส่วนที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริงตามคำฟ้องทำให้ราชสกุลรังสิต รวมถึงโจทก์ผู้สืบราชสกุลและเป็นผู้แทนราชสกุลได้รับความเสียหายนั้น เห็นว่า ตามคำฟ้องของโจทก์มิได้ว่าระบุว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้โดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นในราชสกุลรังสิตด้วย ทั้งราชสกุลรังสิตก็ไม่ปรากฏว่ามีสภาพบุคคลตามกฎหมายทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เมื่อโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีนี้ในฐานะส่วนตัว มิได้เป็นการฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นด้วย โจทก์จึงมิอาจกล่าวอ้างความเสียหายของราชสกุลรังสิตซึ่งไม่มีสภาพบุคคล ส่วนที่โจทก์ฟ้องและเบิกความว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 ทำให้เกิดความเสื่อมศรัทธาต่อมูลนิธิวิภาวดีรังสิต ที่โจทก์เป็นประธานและมูลนิธิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ซึ่งโจทก์เป็นกรรมการ กระทบต่อการหารายได้โดยการรับบริจาคเงินจากสาธารณชนซึ่งรายได้นำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสนั้น เมื่อมูลนิธิดังกล่าวมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายต่างหากจากโจทก์ และโจทก์ฟ้องคดีนี้ในฐานะส่วนตัวไม่ได้ฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากมูลนิธิ

    โจทก์จึงไม่อาจอ้างว่ามูลนิธิดังกล่าว ซึ่งมิได้เป็นคู่ความในคดีนี้ได้รับความเสียหายเพื่อให้มีการใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ เมื่อโจทก์ไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อฟังว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแล้ว ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่นต่อไป พิพากษายกฟ้อง

    https://mgronline.com/crime/detail/9670000109449#google_vignette

    #Thaitimes
    ศาลแพ่งยกฟ้อง "ม.ร.ว.ปรียนันทนา"ฟ้อง"ณัฐพล-สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน" เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ เรียก 50 ล้าน ชี้ไม่มีอำนาจฟ้อง 13 พฤศจิกายน 2567- เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ พ1135/2564 ที่ ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต เป็นโจทก์ฟ้อง ผศ.ดร.ณัฐพล ใจจริง ผู้เขียนวิทยานิพนธ์และหนังสือ เป็นจำเลยที่ 1 รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด อดีตอาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เป็นจำเลยที่ 2 นายชัยธวัช ตุลาธน บรรณาธิการหนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ เป็นจำเลยที่ 3 น.ส.อัญชลี มณีโรจน์ บรรณาธิการหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี เป็นจำเลยที่ 4 ห้างหุ้นส่วนจำกัดสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ผู้จัดพิมพ์หนังสือทั้ง 2 เล่ม เป็นจำเลยที่ 5 นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เป็นจำเลยที่ 6 ในข้อหา “ละเมิดไขข่าวด้วยข้อความฝ่าฝืนความจริง” และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท กรณีจำเลยเกี่ยวข้องกับวิทยานิพนธ์ การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2491-2500), หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อและ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี ต่อมาเมื่อเดือน มิถุนายน 2566 โจทก์ได้ถอนฟ้อง รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด ศาลแพ่ง พิเคราะห์ประเด็นข้อพิพาทที่ต้องวินิจฉัยประการแรกมีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งหกร่วมกันรับผิดฐานละเมิดโดยอ้างว่าร่วมกันกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง เกียรติคุณ ทางทำมาหาได้ และทางเจริญของโจทก์ การกระทำจะเป็นการละเมิดและจำเลยทั้งหกต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ ต่อเมื่อข้อความที่กล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายฝ่าฝืนความจริงและโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ซึ่งหมายถึงเป็นความเสียหายแก่โจทก์ผู้ฟ้องโดยเฉพาะ มิใช่ความเสียหายแก่ผู้อื่นผู้ใด แต่ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์กล่าวว่าเมื่อปี 2552 จนถึงปัจจุบัน จำเลยทั้งหกร่วมกันบิดเบือนข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์โดยนำข้อความอันเป็นเท็จจัดทำเอกสารไขข่าวแพร่หลายสู่สาธารณะเพื่อมุ่งประสงค์กล่าวหาให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์โดยทำเป็นกระบวนการเพื่อใช้ในการปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เริ่มจากจำเลยที่ 1 โดยความเห็นชอบและร่วมมือของจำเลยที่ 2 ปั้นแต่งความเท็จขึ้นใส่ความสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการว่าทรงประพฤติตนไม่สมต่อตำแหน่งหน้าที่ ทั้งการใช้พระราชอำนาจสนับสนุนรับรองการรัฐประหารปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการปกครองในสมัยรัฐบาลจอมพล ป.เพื่อปูทางการเมืองที่ราบรื่นให้แก่สถาบันกษัตริย์ โดยเจตนาเพื่อให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการทำวิทยานิพนธ์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และโจทก์ได้บรรยายฟ้องระบุถึงข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ หน้า 63 วรรคแรก และหน้า 105 วรรคแรก และบรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 นำข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ไปพูดในการเสวนาที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2553 กล่าวหากรมขุนชัยนาทนเรนทรว่าก้าวก่ายรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ด้วยการเข้าไปนั่งเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี อันเป็นความเท็จ และเมื่อปี 2556 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขอฝันใฝ่ในผันอันเหลือเชื่อ : ความเคลื่อนไหวของขบวนการปฏิปักษ์ปฏิวัติสยาม (พ.ศ.2475-2500) เนื้อหาโจมตีให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ต่อเนื่องจนถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ด้วยความเท็จ และโจทก์บรรยายฟ้องถึงข้อความอันเป็นเท็จ เนื้อหาหน้า 120 -121 และหน้า 124-125 และเมื่อปี 2563 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี กล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และมีข้อความโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หลายแห่ง และโจทก์บรรยายฟ้องข้อความอันเป็นเท็จที่หน้า 60,63,66,73,77และข้อความเท็จใต้ภาพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หน้า 69 และโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 แต่งความเท็จใส่ร้ายกล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และสถาบันพระมหากษัตริย์ในหนังสือต่างประเทศที่จำหน่ายทั่วโลก ชื่อ “Saying the Unsayable Monarchy and Democracy in Thailand” ใส่ร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรว่ามีส่วนร่วมในการรัฐประหาร ปี 2490 แทรกแซงการเมืองโดยการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อข้อความอันเป็นเท็จตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ มิได้กล่าวพาดพิงถึงโจทก์หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของโจทก์และครอบครัว ทั้งเรื่องการรับรองรัฐประหาร ปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการเมืองสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็ไม่ปรากฏว่ามีความเกี่ยวข้องกับโจทก์ อันจะทำให้ผู้ที่อ่านข้อความในวิทยานิพนธ์และในหนังสือที่จำเลยที่ 1 เขียนดังกล่าวเข้าใจผิดในตัวโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็บรรยายฟ้องว่าการที่จำเลยที่ 1 เขียนข้อความเท็จในวิทยานิพนธ์และหนังสือดังกล่าว ทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร เป็นผู้ไม่นิยมการปกครองระบอบประชาธิปไตย ฝักใฝ่อำนาจทางการเมือง สนับสนุนการรัฐประหาร กระทำการก้าวก่ายการบริหารราชการของรัฐบาล ฟ้องของโจทก์จึงมิได้กล่าวอ้างว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ทั้งการบรรยายฟ้องของโจทก์ที่ระบุว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้รับความเสียหาย แต่เมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้สิ้นพระชนม์แล้วก่อนที่จะมีการกระทำอันเป็นละเมิดตามคำฟ้อง จึงเป็นฟ้องที่กล่าวอ้างว่ามีการกระทำละเมิดต่อหรือความเสียหายของผู้ที่ไม่มีสภาพบุคคลแล้ว แม้โจทก์เป็นหลานของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งสิ้นพระชนม์แล้วและข้อความกล่าวพาดพิงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร แม้หากฟังได้ว่าข้อความดังกล่าวบิดเบือนไม่เป็นความจริงตามที่โจทก์บรรยายฟ้อง และทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ก็ไม่ได้เสียหายต่อโจทก์ทายาทชั้นหลานด้วย เพราะข้อความตามคำบรรยายฟ้องมิได้กล่าวหรือแสดงเรื่องราวที่ไม่ตรงต่อความจริงเกี่ยวกับโจทก์และครอบครัวและไม่ได้สื่อความหมายเกี่ยวกับโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านว่าหนังสือขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ รวมถึงวิทยานิพนธ์ของจำเลยที่ 1 กล่าวถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ไม่ได้กล่าวถึงโจทก์และทายาทของโจทก์ ข้อเท็จจริงตามข้อความในวิทยานิพนธ์ดังกล่าวจะเป็นความจริงหรือไม่ โจทก์ไม่ทราบเนื่องจากขณะนั้นโจทก์ยังไม่เกิด ดังนั้น เมื่อข้อความที่จำเลยที่ 1 แสดงในวิทยานิพนธ์ ในหนังสือ และที่จำเลยที่ 1 นำไปพูดตามคำฟ้องไม่ได้สื่อความหมายถึงโจทก์ ย่อมไม่อาจทำให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจผิดในตัวโจทก์ซึ่งเป็นทายาทชั้นหลานอันจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือเกียรติคุณ และทางทำมาหาได้หรือทางเจริญ ส่วนที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมและอาฆาดมาดร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร โดยมีผู้นำสีแดงมาสาดใส่ที่พระอนุสาวรีย์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งประดิษฐานอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขนั้น เหตุการณ์ตามภาพข่าวและสถานที่เกิดเหตุไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์ ไม่ปรากฏว่าบุคคลผู้ก่อเหตุเป็นใครและการกระทำสืบเนื่องมาจากสาเหตุใด และที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนที่ถนนวิภาวดีรังสิตปลุกระดมให้มีการยกเลิกชื่อถนนซึ่งเป็นพระนามของพระเจ้าวงวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ก็มิได้ระบุว่าเป็นการชุมนุมปลุกระดมสืบเนื่องจากข้อความในวิทยานิพนธ์หรือในหนังสือคดีนี้และไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์โดยตรง ทั้งการฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์ โจทก์เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านถึงมูลเหตุที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000,000 บาท เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ทรงทำคุณความดีและประโยชน์ให้ประเทศไทยเป็นจำนวนมากมายมหาศาล การฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์จึงมิได้มีความสัมพันธ์กับที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าโจทก์ได้รับความเสียหาย ดังนั้น โจทก์จึงมิใช่ผู้ได้รับความเสียหายจากข้อความของจำเลยที่ 1 ตามคำฟ้องและไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิ ส่วนที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริงตามคำฟ้องทำให้ราชสกุลรังสิต รวมถึงโจทก์ผู้สืบราชสกุลและเป็นผู้แทนราชสกุลได้รับความเสียหายนั้น เห็นว่า ตามคำฟ้องของโจทก์มิได้ว่าระบุว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้โดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นในราชสกุลรังสิตด้วย ทั้งราชสกุลรังสิตก็ไม่ปรากฏว่ามีสภาพบุคคลตามกฎหมายทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เมื่อโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีนี้ในฐานะส่วนตัว มิได้เป็นการฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นด้วย โจทก์จึงมิอาจกล่าวอ้างความเสียหายของราชสกุลรังสิตซึ่งไม่มีสภาพบุคคล ส่วนที่โจทก์ฟ้องและเบิกความว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 ทำให้เกิดความเสื่อมศรัทธาต่อมูลนิธิวิภาวดีรังสิต ที่โจทก์เป็นประธานและมูลนิธิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ซึ่งโจทก์เป็นกรรมการ กระทบต่อการหารายได้โดยการรับบริจาคเงินจากสาธารณชนซึ่งรายได้นำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสนั้น เมื่อมูลนิธิดังกล่าวมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายต่างหากจากโจทก์ และโจทก์ฟ้องคดีนี้ในฐานะส่วนตัวไม่ได้ฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากมูลนิธิ โจทก์จึงไม่อาจอ้างว่ามูลนิธิดังกล่าว ซึ่งมิได้เป็นคู่ความในคดีนี้ได้รับความเสียหายเพื่อให้มีการใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ เมื่อโจทก์ไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อฟังว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแล้ว ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่นต่อไป พิพากษายกฟ้อง https://mgronline.com/crime/detail/9670000109449#google_vignette #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    ศาลแพ่งยกฟ้อง "ม.ร.ว.ปรียนันทนา" ฟ้อง"ณัฐพล-ฟ้าเดียวกัน" เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ ชี้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
    ศาลแพ่งยกฟ้อง ม.ร.ว.ปรียนันทนาฟ้องณัฐพล-สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ เรียก 50 ล้าน ชี้ไม่มีอำนาจฟ้อง
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 587 มุมมอง 0 รีวิว
  • ❗️ทรัมป์แต่งตั้ง ทัลซี แกบบาร์ด เป็นผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ

    โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธว่า เขาได้เลือก ทัลซี แกบบาร์ด อดีตสมาชิกพรรคเดโมแครตเป็นผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติคนต่อไป

    ทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์ว่า "ผมยินดีที่จะประกาศว่า พันโททัลซี แกบบาร์ด, อดีตสมาชิกสภาคองเกรส, จะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ,"

    ในแถลงการณ์, ทรัมป์เน้นย้ำถึง "การสนับสนุนอย่างกว้างขวาง" ที่แกบบาร์ดมีต่อทั้งสองพรรค
    .
    ❗️ TRUMP NAMES TULSI GABBARD AS INTENDED DIRECTOR OF NATIONAL INTELLIGENCE

    US President-elect Donald Trump said on Wednesday that he picked former Democrat Tulsi Gabbard to be the next Director of National Intelligence.

    "I am pleased to announce that former Congresswoman, Lieutenant Colonel Tulsi Gabbard, will serve as Director of National Intelligence," Trump said in a statement.

    In the statement, Trump highlighted "broad support" that Gabbard has in both parties.
    .
    3:24 AM · Nov 14, 2024 · 2,507 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1856795206236205494
    ❗️ทรัมป์แต่งตั้ง ทัลซี แกบบาร์ด เป็นผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธว่า เขาได้เลือก ทัลซี แกบบาร์ด อดีตสมาชิกพรรคเดโมแครตเป็นผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติคนต่อไป ทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์ว่า "ผมยินดีที่จะประกาศว่า พันโททัลซี แกบบาร์ด, อดีตสมาชิกสภาคองเกรส, จะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ," ในแถลงการณ์, ทรัมป์เน้นย้ำถึง "การสนับสนุนอย่างกว้างขวาง" ที่แกบบาร์ดมีต่อทั้งสองพรรค . ❗️ TRUMP NAMES TULSI GABBARD AS INTENDED DIRECTOR OF NATIONAL INTELLIGENCE US President-elect Donald Trump said on Wednesday that he picked former Democrat Tulsi Gabbard to be the next Director of National Intelligence. "I am pleased to announce that former Congresswoman, Lieutenant Colonel Tulsi Gabbard, will serve as Director of National Intelligence," Trump said in a statement. In the statement, Trump highlighted "broad support" that Gabbard has in both parties. . 3:24 AM · Nov 14, 2024 · 2,507 Views https://x.com/SputnikInt/status/1856795206236205494
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฉันรู้สึกประหลาดใจมากที่พรรคเดโมแครต, ซึ่งต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนักและกล้าหาญในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี ๒๐๒๐, และสามารถระดมเงินได้เป็นสถิติใหม่, กลับไม่มีเงินเหลือมากนัก ตอนนี้พวกเขากำลังถูกกดดันจากผู้ขายและคนอื่นๆ ไม่ว่าเราจะสามารถช่วยพวกเขาได้แค่ไหนในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้, ฉันขอแนะนำอย่างยิ่งว่าพวกเรา, ในฐานะพรรคการเมืองและเพื่อความสามัคคีที่จำเป็นอย่างยิ่ง, ก็ควรทำ เรามีเงินเหลืออยู่มาก เนื่องจากสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของเราในการหาเสียงคือ “สื่อที่สร้างรายได้,” และนั่นไม่ได้มีค่าใช้จ่ายมากนัก ทำให้ประเทศอเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!

    Donald J. Trump
    .
    I am very surprised that the Democrats, who fought a hard and valiant fight in the 2020 Presidential Election, raising a record amount of money, didn’t have lots of $’s left over. Now they are being squeezed by vendors and others. Whatever we can do to help them during this difficult period, I would strongly recommend we, as a Party and for the sake of desperately needed UNITY, do. We have a lot of money left over in that our biggest asset in the campaign was “Earned Media,” and that doesn’t cost very much. MAKE AMERICA GREAT AGAIN!
    .
    7:16 AM · Nov 10, 2024 · 14M Views
    https://x.com/realDonaldTrump/status/1855404088734945765
    ฉันรู้สึกประหลาดใจมากที่พรรคเดโมแครต, ซึ่งต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนักและกล้าหาญในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี ๒๐๒๐, และสามารถระดมเงินได้เป็นสถิติใหม่, กลับไม่มีเงินเหลือมากนัก ตอนนี้พวกเขากำลังถูกกดดันจากผู้ขายและคนอื่นๆ ไม่ว่าเราจะสามารถช่วยพวกเขาได้แค่ไหนในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้, ฉันขอแนะนำอย่างยิ่งว่าพวกเรา, ในฐานะพรรคการเมืองและเพื่อความสามัคคีที่จำเป็นอย่างยิ่ง, ก็ควรทำ เรามีเงินเหลืออยู่มาก เนื่องจากสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของเราในการหาเสียงคือ “สื่อที่สร้างรายได้,” และนั่นไม่ได้มีค่าใช้จ่ายมากนัก ทำให้ประเทศอเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง! Donald J. Trump . I am very surprised that the Democrats, who fought a hard and valiant fight in the 2020 Presidential Election, raising a record amount of money, didn’t have lots of $’s left over. Now they are being squeezed by vendors and others. Whatever we can do to help them during this difficult period, I would strongly recommend we, as a Party and for the sake of desperately needed UNITY, do. We have a lot of money left over in that our biggest asset in the campaign was “Earned Media,” and that doesn’t cost very much. MAKE AMERICA GREAT AGAIN! . 7:16 AM · Nov 10, 2024 · 14M Views https://x.com/realDonaldTrump/status/1855404088734945765
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🧵ชัยชนะของทรัมป์ทำให้โซรอสต้องโศกเศร้า: นี่คือสาเหตุ

    กองทุนป้องกันความเสี่ยงมหาเศรษฐี จากฉลามที่ผันตัวมาเป็น “นักการกุศล” เสรีนิยมที่มีแนวคิดฉ้อฉล ผลประโยชน์ทางการเงินของจอร์จ โซรอส และโครงการทางการเมืองอาจประสบปัญหาเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์กลับมาที่ทำเนียบขาว.
    .
    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา, Bloomberg รายงานว่า Soros Fund Management มีแผนจะปิดสำนักงานในฮ่องกง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "การปรับโครงสร้างองค์กร" แบบกะทันหัน หลังจากดำเนินกิจการมาเป็นเวลา ๑๔ ปี
    .
    ในขณะเดียวกัน, แคมเปญของเฒ่าโซรอสผู้เป็นพ่อและอเล็กซ์ลูกชายของเขาเพื่อให้พรรคเดโมแครตยังคงอยู่ในทำเนียบขาวก็ล้มเหลวในการจ่ายเงินปันผล, แม้ว่ากองทุนเพื่อการปฏิรูปนโยบายของโซรอสจะโอนเงิน ๖๐ ล้านดอลลาร์ให้กับ Future Forward, ซึ่งเป็นกลุ่มซูเปอร์ PAC ที่บริจาคเงินมืดสนับสนุนพรรคเดโมแครต นอกเหนือจากเงินบริจาค ๑๕ ล้านดอลลาร์จากบริษัทในเครือ Open Society Foundations ในปี ๒๐๒๓
    .
    นอกจากเงินแล้ว ครอบครัว Soros ยังได้ลงทุนส่วนตัวจำนวนมากในการรณรงค์ต่อต้าน “พรรครีพับลิกันแบบ MAGA” ในปี ๒๐๒๔ ในช่วงต้นปี ๒๐๒๓, Alex Soros ได้ประกาศลดขนาดการดำเนินงานของ OSF ในยุโรปตะวันตกลงอย่างมาก เพื่อมุ่งเน้นไปที่ยูเครน, มอลโดวา, บอลข่านตะวันตก, และสหรัฐอเมริกา โดยพยายามหยุดยั้งไม่ให้ทรัมป์กลายเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด
    .
    จอร์จ โซรอส ส่งสัญญาณเตือนภัยเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ “อเมริกาต้องมาก่อน” ของทรัมป์เป็นครั้งแรกในปี ๒๐๑๖, เมื่อเขาทุ่มเงินหลายล้านดอลลาร์ให้กับแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของฮิลลารี คลินตัน หลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง, โซรอสได้ให้ทุนสนับสนุน “ขบวนการต่อต้าน” ต่อต้านทรัมป์ โดยแสดงออกผ่านการประท้วงบนท้องถนน, การท้าทายวาระในประเทศของทรัมป์ในศาล, การล็อบบี้ลับๆ ของสมาชิกในรัฐบาลของเขา, การสนับสนุนสมาชิกรัฐสภาที่ส่งเสริมนโยบายต่างประเทศแบบเสรีนิยมใหม่, และแม้แต่เงินสด ๑ ล้านดอลลาร์ที่ใช้ไปกับเอกสาร “สมคบคิดระหว่างทรัมป์-รัสเซีย” ที่ฉาวโฉ่
    .
    ในช่วงวาระแรกของทรัมป์, โซรอสได้ล็อบบี้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ให้ควบคุมโซเชียลมีเดีย จัดหาเงินทุนสำหรับแคมเปญเพื่อสนับสนุนอัยการและผู้พิพากษาสายเสรีนิยม, ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ, ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา, และเจ้าหน้าที่ระดับรัฐและท้องถิ่นอื่นๆ หลายสิบหรือหลายร้อยคนในปี ๒๐๑๘ และ ๒๐๒๐
    .
    การเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดของ Soros และ OSF จากการแทรกแซงในต่างประเทศไปสู่การแทรกแซงการเมืองภายในประเทศของสหรัฐฯ ทำให้ผู้สนับสนุนทรัมป์โกรธแค้น, ซึ่งพยายามประกาศว่าเขาเป็น “ผู้ก่อการร้ายในประเทศ,” ริบทรัพย์สินของเขา, และขับไล่มหาเศรษฐีชาวฮังการีผู้นี้ออกจากประเทศ
    .
    เมื่อโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งในปี ๒๐๒๐, กลุ่มนักวิจัยที่เชื่อมโยงกับโซรอสได้ล็อบบี้รัฐบาลของเขาให้สนับสนุนนโยบายที่สนับสนุนหลักการ OSF ในนโยบายด้านที่แตกต่างกันเกือบสองโหล, และจัดสรรเงิน ๒๐ ล้านดอลลาร์เพื่อจัดตั้ง "องค์กรระดับรากหญ้า" เพื่อขายร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า ๑.๒ ล้านล้านดอลลาร์ของไบเดน
    .
    ในปี ๒๐๒๒, โซรอสได้จัดสรรเงิน ๑๒๕ ล้านเหรียญสหรัฐฯให้กับ “Democracy PAC” เพื่อสนับสนุนผู้สมัครที่ต่อต้าน MAGA ในช่วงกลางเทอม
    .
    ในปี ๒๐๒๓, เมื่อเริ่มมีการฟ้องร้องทางอาญากับทรัมป์, อดีตประธานาธิบดีเชื่อมโยงการ "ล่าแม่มด" ทางการเมืองต่อตัวเขาเข้ากับโซรอส และอัลวิน แบร็กก์ อัยการแมนฮัตตันที่ "คัดเลือกและจัดหาเงินทุนเอง" ของเขาทันที ซึ่งแคมเปญหาเสียงในปี ๒๐๒๑ โซรอสเป็นที่รู้จักว่าบริจาคเงินให้อย่างน้อย ๑ ล้านดอลลาร์
    .
    “ผมคาดว่าทรัมป์จะถูกตัดสินว่ามีความผิดอย่างน้อยในบางกรณี, และจะต้องติดคุกในวันเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน ๒๐๒๔,” โซรอสกล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนสิงหาคม ๒๐๒๓ “ถ้าผมพูดถูก, เขาไม่น่าจะชนะการเลือกตั้ง แต่ถ้าผมพูดผิด, สหรัฐฯ จะเผชิญกับวิกฤตรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน”
    .
    ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างผิดพลาดอย่างร้ายแรงในการคำนวณของมหาเศรษฐี, โดยอดีตผู้จัดการด้านการเงินของโซรอส, สแตน ดรัคเคนมิลเลอร์, ได้เตือนเมื่อกลางเดือนตุลาคมว่าตลาด "มั่นใจมาก" ว่าทรัมป์จะชนะ
    .
    🧵TRUMP’S TRIUMPH SOWS SORROW FOR SOROS: HERE’S WHY

    Billionaire hedge fund shark-turned liberal “philanthropist” George Soros’ financial interests and political projects may be in trouble when Donald Trump returns to the Oval Office.
    .
    On Friday, Bloomberg reported that Soros Fund Management plans to shut down its Hong Kong office as part of a surprise “administrative reorganization” after 14 years of operations.
    .
    Meanwhile, the campaign by the elder Soros and his son Alex to keep a Democrat in the White House has failed to pay dividends, despite the Soros’ Fund for Policy Reform’s transfer of $60 million to Future Forward, a pro-Democrat dark money super PAC. That’s on top of a $15 million donation by an Open Society Foundations subsidiary in 2023.
    .
    Along with money, the Soros family invested significant personal capital into the campaign against “MAGA-style Republicans” in 2024. In early 2023, Alex Soros announced a dramatic scaling back of the OSF’s operations in Western Europe to focus on Ukraine, Moldova, the Western Balkans, and the United States, with the effort to stop Trump becoming a top priority.
    .
    George Soros first sounded the alarm over Trump’s “America First” foreign policy in 2016, when he pumped millions into Hillary Clinton’s presidential campaign. After Trump won, Soros funded an anti-Trump “resistance movement,” manifesting itself in street protests, court challenges to his domestic agenda, secret lobbying of members of his administration, support for lawmakers promoting a neoliberal foreign policy, and even $1 million in cash spent on the infamous “Trump-Russia collusion” dossier.
    .
    During Trump’s first term, Soros lobbied tech giants to regulate social media, funded a campaign to support dozens, if not hundreds, of liberal prosecutors and judges, gubernatorial candidates, congressional hopefuls, and other state and local officials in 2018 and 2020.
    .
    Soros and the OSF’s noticeable shift away from meddling abroad to interfering in US domestic politics earned the ire of Trump backers, who sought to declare him a “domestic terrorist,” strip him of his assets, and expel the Hungarian-born billionaire from the country.
    .
    When Joe Biden won in 2020, a Soros-linked think tank lobbied his administration to support policies favoring OSF principles in nearly two dozen different policy areas, and laid out $20 million to create “grass roots organizations” to sell Biden’s $1.2 trillion infrastructure bill.
    .
    In 2022, Soros channeled $125 million into a “Democracy PAC” to support anti-MAGA candidates in the midterms.
    .
    In 2023, as criminal indictments began to come down on Trump, the former president immediately linked the political “witch hunt” against him to Soros and his “hand-picked and funded” Manhattan DA Alvin Bragg, to whose 2021 campaign Soros is known to have donated at least $1 million.
    .
    “I expect that Trump will be found guilty at least in some cases, and will be in jail by election day in November 2024,” Soros said in an August 2023 interview. “If I am right, he is unlikely to win the election. But if I am wrong, the US will face a constitutional crisis that is likely to bring on an economic crisis as well.”
    .
    Something seems to have gone terribly wrong in the billionaire’s calculations, with Soros’ ex-money manager, Stan Druckenmiller, warning in mid-October that the markets were “very convinced” that Trump would win.
    .
    8:20 PM · Nov 9, 2024 · 28.4K Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1855239000606265400
    🧵ชัยชนะของทรัมป์ทำให้โซรอสต้องโศกเศร้า: นี่คือสาเหตุ กองทุนป้องกันความเสี่ยงมหาเศรษฐี จากฉลามที่ผันตัวมาเป็น “นักการกุศล” เสรีนิยมที่มีแนวคิดฉ้อฉล ผลประโยชน์ทางการเงินของจอร์จ โซรอส และโครงการทางการเมืองอาจประสบปัญหาเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์กลับมาที่ทำเนียบขาว. . เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา, Bloomberg รายงานว่า Soros Fund Management มีแผนจะปิดสำนักงานในฮ่องกง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "การปรับโครงสร้างองค์กร" แบบกะทันหัน หลังจากดำเนินกิจการมาเป็นเวลา ๑๔ ปี . ในขณะเดียวกัน, แคมเปญของเฒ่าโซรอสผู้เป็นพ่อและอเล็กซ์ลูกชายของเขาเพื่อให้พรรคเดโมแครตยังคงอยู่ในทำเนียบขาวก็ล้มเหลวในการจ่ายเงินปันผล, แม้ว่ากองทุนเพื่อการปฏิรูปนโยบายของโซรอสจะโอนเงิน ๖๐ ล้านดอลลาร์ให้กับ Future Forward, ซึ่งเป็นกลุ่มซูเปอร์ PAC ที่บริจาคเงินมืดสนับสนุนพรรคเดโมแครต นอกเหนือจากเงินบริจาค ๑๕ ล้านดอลลาร์จากบริษัทในเครือ Open Society Foundations ในปี ๒๐๒๓ . นอกจากเงินแล้ว ครอบครัว Soros ยังได้ลงทุนส่วนตัวจำนวนมากในการรณรงค์ต่อต้าน “พรรครีพับลิกันแบบ MAGA” ในปี ๒๐๒๔ ในช่วงต้นปี ๒๐๒๓, Alex Soros ได้ประกาศลดขนาดการดำเนินงานของ OSF ในยุโรปตะวันตกลงอย่างมาก เพื่อมุ่งเน้นไปที่ยูเครน, มอลโดวา, บอลข่านตะวันตก, และสหรัฐอเมริกา โดยพยายามหยุดยั้งไม่ให้ทรัมป์กลายเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด . จอร์จ โซรอส ส่งสัญญาณเตือนภัยเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ “อเมริกาต้องมาก่อน” ของทรัมป์เป็นครั้งแรกในปี ๒๐๑๖, เมื่อเขาทุ่มเงินหลายล้านดอลลาร์ให้กับแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของฮิลลารี คลินตัน หลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง, โซรอสได้ให้ทุนสนับสนุน “ขบวนการต่อต้าน” ต่อต้านทรัมป์ โดยแสดงออกผ่านการประท้วงบนท้องถนน, การท้าทายวาระในประเทศของทรัมป์ในศาล, การล็อบบี้ลับๆ ของสมาชิกในรัฐบาลของเขา, การสนับสนุนสมาชิกรัฐสภาที่ส่งเสริมนโยบายต่างประเทศแบบเสรีนิยมใหม่, และแม้แต่เงินสด ๑ ล้านดอลลาร์ที่ใช้ไปกับเอกสาร “สมคบคิดระหว่างทรัมป์-รัสเซีย” ที่ฉาวโฉ่ . ในช่วงวาระแรกของทรัมป์, โซรอสได้ล็อบบี้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ให้ควบคุมโซเชียลมีเดีย จัดหาเงินทุนสำหรับแคมเปญเพื่อสนับสนุนอัยการและผู้พิพากษาสายเสรีนิยม, ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ, ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา, และเจ้าหน้าที่ระดับรัฐและท้องถิ่นอื่นๆ หลายสิบหรือหลายร้อยคนในปี ๒๐๑๘ และ ๒๐๒๐ . การเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดของ Soros และ OSF จากการแทรกแซงในต่างประเทศไปสู่การแทรกแซงการเมืองภายในประเทศของสหรัฐฯ ทำให้ผู้สนับสนุนทรัมป์โกรธแค้น, ซึ่งพยายามประกาศว่าเขาเป็น “ผู้ก่อการร้ายในประเทศ,” ริบทรัพย์สินของเขา, และขับไล่มหาเศรษฐีชาวฮังการีผู้นี้ออกจากประเทศ . เมื่อโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งในปี ๒๐๒๐, กลุ่มนักวิจัยที่เชื่อมโยงกับโซรอสได้ล็อบบี้รัฐบาลของเขาให้สนับสนุนนโยบายที่สนับสนุนหลักการ OSF ในนโยบายด้านที่แตกต่างกันเกือบสองโหล, และจัดสรรเงิน ๒๐ ล้านดอลลาร์เพื่อจัดตั้ง "องค์กรระดับรากหญ้า" เพื่อขายร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า ๑.๒ ล้านล้านดอลลาร์ของไบเดน . ในปี ๒๐๒๒, โซรอสได้จัดสรรเงิน ๑๒๕ ล้านเหรียญสหรัฐฯให้กับ “Democracy PAC” เพื่อสนับสนุนผู้สมัครที่ต่อต้าน MAGA ในช่วงกลางเทอม . ในปี ๒๐๒๓, เมื่อเริ่มมีการฟ้องร้องทางอาญากับทรัมป์, อดีตประธานาธิบดีเชื่อมโยงการ "ล่าแม่มด" ทางการเมืองต่อตัวเขาเข้ากับโซรอส และอัลวิน แบร็กก์ อัยการแมนฮัตตันที่ "คัดเลือกและจัดหาเงินทุนเอง" ของเขาทันที ซึ่งแคมเปญหาเสียงในปี ๒๐๒๑ โซรอสเป็นที่รู้จักว่าบริจาคเงินให้อย่างน้อย ๑ ล้านดอลลาร์ . “ผมคาดว่าทรัมป์จะถูกตัดสินว่ามีความผิดอย่างน้อยในบางกรณี, และจะต้องติดคุกในวันเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน ๒๐๒๔,” โซรอสกล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนสิงหาคม ๒๐๒๓ “ถ้าผมพูดถูก, เขาไม่น่าจะชนะการเลือกตั้ง แต่ถ้าผมพูดผิด, สหรัฐฯ จะเผชิญกับวิกฤตรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน” . ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างผิดพลาดอย่างร้ายแรงในการคำนวณของมหาเศรษฐี, โดยอดีตผู้จัดการด้านการเงินของโซรอส, สแตน ดรัคเคนมิลเลอร์, ได้เตือนเมื่อกลางเดือนตุลาคมว่าตลาด "มั่นใจมาก" ว่าทรัมป์จะชนะ . 🧵TRUMP’S TRIUMPH SOWS SORROW FOR SOROS: HERE’S WHY Billionaire hedge fund shark-turned liberal “philanthropist” George Soros’ financial interests and political projects may be in trouble when Donald Trump returns to the Oval Office. . On Friday, Bloomberg reported that Soros Fund Management plans to shut down its Hong Kong office as part of a surprise “administrative reorganization” after 14 years of operations. . Meanwhile, the campaign by the elder Soros and his son Alex to keep a Democrat in the White House has failed to pay dividends, despite the Soros’ Fund for Policy Reform’s transfer of $60 million to Future Forward, a pro-Democrat dark money super PAC. That’s on top of a $15 million donation by an Open Society Foundations subsidiary in 2023. . Along with money, the Soros family invested significant personal capital into the campaign against “MAGA-style Republicans” in 2024. In early 2023, Alex Soros announced a dramatic scaling back of the OSF’s operations in Western Europe to focus on Ukraine, Moldova, the Western Balkans, and the United States, with the effort to stop Trump becoming a top priority. . George Soros first sounded the alarm over Trump’s “America First” foreign policy in 2016, when he pumped millions into Hillary Clinton’s presidential campaign. After Trump won, Soros funded an anti-Trump “resistance movement,” manifesting itself in street protests, court challenges to his domestic agenda, secret lobbying of members of his administration, support for lawmakers promoting a neoliberal foreign policy, and even $1 million in cash spent on the infamous “Trump-Russia collusion” dossier. . During Trump’s first term, Soros lobbied tech giants to regulate social media, funded a campaign to support dozens, if not hundreds, of liberal prosecutors and judges, gubernatorial candidates, congressional hopefuls, and other state and local officials in 2018 and 2020. . Soros and the OSF’s noticeable shift away from meddling abroad to interfering in US domestic politics earned the ire of Trump backers, who sought to declare him a “domestic terrorist,” strip him of his assets, and expel the Hungarian-born billionaire from the country. . When Joe Biden won in 2020, a Soros-linked think tank lobbied his administration to support policies favoring OSF principles in nearly two dozen different policy areas, and laid out $20 million to create “grass roots organizations” to sell Biden’s $1.2 trillion infrastructure bill. . In 2022, Soros channeled $125 million into a “Democracy PAC” to support anti-MAGA candidates in the midterms. . In 2023, as criminal indictments began to come down on Trump, the former president immediately linked the political “witch hunt” against him to Soros and his “hand-picked and funded” Manhattan DA Alvin Bragg, to whose 2021 campaign Soros is known to have donated at least $1 million. . “I expect that Trump will be found guilty at least in some cases, and will be in jail by election day in November 2024,” Soros said in an August 2023 interview. “If I am right, he is unlikely to win the election. But if I am wrong, the US will face a constitutional crisis that is likely to bring on an economic crisis as well.” . Something seems to have gone terribly wrong in the billionaire’s calculations, with Soros’ ex-money manager, Stan Druckenmiller, warning in mid-October that the markets were “very convinced” that Trump would win. . 8:20 PM · Nov 9, 2024 · 28.4K Views https://x.com/SputnikInt/status/1855239000606265400
    Like
    Haha
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 474 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปูตินเตือนถึงการผจญภัยของชาติตะวันตกและความเสี่ยงของการเพิ่มระดับนิวเคลียร์

    ปูตินกล่าวว่า ประชาธิปไตยกำลังถูกตีความมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเป็นการปกครองโดยชนกลุ่มน้อย, ไม่ใช่ชนกลุ่มใหญ่ เขาวิพากษ์วิจารณ์เสรีนิยมในโลกตะวันตก, โดยกล่าวว่ามันทำให้เกิดความไม่ยอมรับและการรุกรานอย่างรุนแรง, และเตือนว่าเรากำลังเข้าใกล้ขีดจำกัดที่อันตราย

    การเรียกร้องให้เอาชนะรัสเซียสะท้อนให้เห็นถึงการผจญภัยที่บ้าบิ่นของนักการเมืองบางคน, ปูตินกล่าวเสริม, และเตือนว่าความเชื่ออย่างงมงายของโลกตะวันตกในการไม่ต้องรับโทษของตนเองอาจนำไปสู่โศกนาฏกรรมได้ นอกจากนี้ เขายังแสดงความกังวล, โดยระบุว่า ไม่มีการรับประกันว่าโลกตะวันตกจะไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์
    .
    Putin warns of Western adventurism and risk of nuclear escalation

    Putin remarked that democracy is increasingly being interpreted as the rule of the minority, not the majority. He criticized Western liberalism, saying it has led to extreme intolerance and aggression, and warned that we are approaching a dangerous threshold.

    Calls to defeat Russia reflect the reckless adventurism of certain politicians, Putin added, cautioning that the West's blind belief in its own impunity could lead to tragedy. He also raised concerns, noting that there is no guarantee nuclear weapons will not be used by the West.
    .
    11:56 PM · Nov 7, 2024 · 4,463 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1854568729503256910
    ปูตินเตือนถึงการผจญภัยของชาติตะวันตกและความเสี่ยงของการเพิ่มระดับนิวเคลียร์ ปูตินกล่าวว่า ประชาธิปไตยกำลังถูกตีความมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเป็นการปกครองโดยชนกลุ่มน้อย, ไม่ใช่ชนกลุ่มใหญ่ เขาวิพากษ์วิจารณ์เสรีนิยมในโลกตะวันตก, โดยกล่าวว่ามันทำให้เกิดความไม่ยอมรับและการรุกรานอย่างรุนแรง, และเตือนว่าเรากำลังเข้าใกล้ขีดจำกัดที่อันตราย การเรียกร้องให้เอาชนะรัสเซียสะท้อนให้เห็นถึงการผจญภัยที่บ้าบิ่นของนักการเมืองบางคน, ปูตินกล่าวเสริม, และเตือนว่าความเชื่ออย่างงมงายของโลกตะวันตกในการไม่ต้องรับโทษของตนเองอาจนำไปสู่โศกนาฏกรรมได้ นอกจากนี้ เขายังแสดงความกังวล, โดยระบุว่า ไม่มีการรับประกันว่าโลกตะวันตกจะไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ . Putin warns of Western adventurism and risk of nuclear escalation Putin remarked that democracy is increasingly being interpreted as the rule of the minority, not the majority. He criticized Western liberalism, saying it has led to extreme intolerance and aggression, and warned that we are approaching a dangerous threshold. Calls to defeat Russia reflect the reckless adventurism of certain politicians, Putin added, cautioning that the West's blind belief in its own impunity could lead to tragedy. He also raised concerns, noting that there is no guarantee nuclear weapons will not be used by the West. . 11:56 PM · Nov 7, 2024 · 4,463 Views https://x.com/SputnikInt/status/1854568729503256910
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • SHERRY DUCK [ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก]
    เพลง เธอ คนดี
    https://youtu.be/moc6Ro0OJrY
    คำร้อง - น้องโอ สุภาฎา
    ทำนอง - ชอว์ พิชิต
    เรียบเรียง SHERRY DUCK
    มิกซ์ดาวน์ - HIDEKI MRI
    มาสเตอร์ - ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก
    โปรดิวเซอร์ - ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก

    ถ่ายทำ/กล้อง/ตัดต่อ - เฮียชอว์ & ครูวิน dude

    #เธอคนดี #shawsherryduck #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต#Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord
    SHERRY DUCK [ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก] เพลง เธอ คนดี https://youtu.be/moc6Ro0OJrY คำร้อง - น้องโอ สุภาฎา ทำนอง - ชอว์ พิชิต เรียบเรียง SHERRY DUCK มิกซ์ดาวน์ - HIDEKI MRI มาสเตอร์ - ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก โปรดิวเซอร์ - ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก ถ่ายทำ/กล้อง/ตัดต่อ - เฮียชอว์ & ครูวิน dude #เธอคนดี #shawsherryduck #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต​ #Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 343 มุมมอง 0 รีวิว
  • 06-11-67/01 : หมี CNN / "FCUK DEMOCRAZY" ละครปาหี่ลวงโลก ฝีมือกำกับโดยอียิวเหี้ยไซออนนิสต์! ใครรอฟังผลเลือกตั้งอเมริกา? ไม่ต้องลุ้น เพราะเหี้ยมันจัดวางไว้แล้ว จะให้ละครฉากใหญ่ออกหน้าไหน? เพื่อนำไปสู่การแตกแผ่นดิน อเมริกาไม่แตก อียิวจะไร้บ้านอยู่? จำเอาไว้ว่า ใครสร้างระบบปชต.โกหกตอแหลนี้ขึ้นมากันล่ะ? อียิวทั้งนั้น ดังนั้น ไม่มีดอก อะไรที่มันควบคุมไม่ได้? เลือกตั้งคือเรื่องตอแหล ใครตรวจสอบได้จริง? ทุกครั้งแค่จัดฉาก งานถนัดเหี้ยมัน! ตอแหลตั้งแต่เที่ยงคืน เมืองเล็กติดชายแดนอีแคน เขตนี้เลือกตั้ง มีแค่ 6 ตัว ผลเสมอ หมายังรู้? ทำให้ดูน่าตื่นเต้น ควายอเมริกันลุ้นจนเยี่ยวแตก หารู้ไม่ ใครมาก็ไม่สำคัญ เพราะมันเตรียมแตกอเมริกาต่างหากล่ะ? บ้านเราก็ตอแหลไม่แพ้กัน กระแสปั่นควาย ชอบจุงเบย ขนาด "หมูเด้ง" ยังเลือกอีทรัมปป์ ส่วนอีแม่ เลือกอีกะลา เลือกตั้งมันมีจริงซะที่ไหน? ปชต.หาแดร๊กควาย ตื่นกันหมดแล้ว? ทุกครั้งหากมรึงสังเกตุ จะจับโป๊ะแตกได้ทันที ไม่ว่าใครจะนำ ใครจะตาม แต่พอก่อนเลือกตั้ง ทุกอย่างจะ RESET สูสีกันหมด โพลใคร โพลมัน ปั่นให้ควายตื่นเต้นว่ามีส่วนร่วม? DEEP STATE ที่ว่ากันเนี่ย มันวางหมากให้เดิน อเมริกาไม่มีตัวตน แค่หุ่นกระบอกให้อียิวเชิด ถึงเวลาก็ต้องกลับบ้านเก่า บ้านที่ไปปล้นอินเดียนแดงเค้ามา เวลาบ้านแตก อินเดียนแดงจะเรียกร้องเอาคืนทั้งหมดชัวร์! อเมริกาแตก ใครซวย อีแคนไงจ๊ะ? แต่มันรู้ล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะอีแคน คือเยรูซาเล็ม แห่งที่ 2 นั่นเอง อียิวมันจัดตั้งรัฐยิวใหม่แน่ เพราะสายพันธุ์เสนียดจัญไรโลกจะไม่มีวันหายสาปสูญ เพราะโลกต้องมี หยิน หยาง! เวลาวิเคราะห์ เกจิ กุนซือ บ้านเรา มักจะดูจากสิ่งเกิดขึ้นจากการกระทำของขี้ข้าผ่านสื่อตอแหล มรึงจะหลงทางทันที? ให้ดู สิ่งที่อียิวเหี้ยมันต้องการ แล้วมรึงจะได้คำตอบ จุดหมายปลายทาง ว่ามันจะสุดทางตรงไหน? เพราะบอกเลยว่า ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมายังไง? ทั้ง 2 ฝ่ายต่างไม่ยอมรับอยู่แล้ว เพราะเค้าสั่งมาไงล่ะ? ต้องแตกอเมริกาเท่านั้น คือทางรอดอเมริกา พูดให้ชัดคือ ย่ออเมริกาให้เล็กลง เพราะบ้านใหม่อียิวคือ อีแคนาดา นั่นแหละ! สุดท้ายอาจรวมแผ่นดิน เพื่อตั้งรัฐยิวใหม่ ทวีปอเมริกาเหนือคือดินแดนเหี้ย อีก 20 ปี มรึงจะเข้าใจในสิ่งที่กูพูดวันนี้! หนีหนี้ แค่แผนขั้นต้น แผนการใหญ่มันคือแบ่งโลกออกเป็น 2 ขั้วอำนาจ รอวันฟื้นคืนชีพ แล้วฝั่งขั้วใหม่ไม่รู้เหรอ? รู้ซะยิ่งกว่ารู้ โคตรเหี้ยเก่งแค่ไหน ฉลาดแค่ไหน ก็แค่รองตรีนปูติน สีจิ้นผิง เค้าอ่านมรึงออก 3 ชั้น จนหมดเกลี้ยง อียิวครองโลกผ่านอเมริกา ต่อไปอียิวจะเผยร่างแท้จริงออกมา รัฐยิวใหม่ จะใช้ชื่อเหี้ยอะไรก็ช่าง แต่เจ้าของยังเป็นตัวเดิมเป๊ะเด๊ะ 100 ปี เจอกันใหม่ วังวนจักรวาล มรึงคิดได้ ทำไม ขั้วใหม่จะคิดไม่ได้ สิ่งที่ปูติน สีจิ้นผิง คาเมเนอี JOHN KIM ทำวันนี้ คือปูทางอีก 100 ปีเช่นกัน รู้ทางกันดี? CIVIL WAR แค่เครื่องมือผลัดเปลี่ยนแผ่นดินเหี้ย เมื่อตะวันออกกลางมันไม่ได้ผล ก็ต้องไปตั้งหลักใหม่ที่อเมริกาเหนือ ส่วนอียุโรปหน้าโง่ ก็ต้องล่มสลายไปในที่สุด รวมถึงการแตกสลายของเครือราชอาณาจักรอังกฤษเช่นกัน เมื่อมรึงเห็นภาพใหญ่ทั้งหมดแล้ว ละครปาหี่ ก็ดูกันให้สนุกสนานไปซะ อย่าอิน อย่าซีเรียส เพราะโลกคือละคร ยังไม่ตื่นกันอีกเหรอ? อเมริกาคือเรื่องโกหกตอแหล เหมือนที่มันทำฮอลีวู๊ดเอาไว้หลอกควายนั่นแหละ! อีทรัมปป์อยากเกิด อยากเป็น KING ส่วนอีกะลา แค่อีนู๋โคมแดง หมารับใช้ยิวเหี้ยไซออนนิสต์สุดตัว เครือข่ายบริษัทค้าอาวุธ อเมริกาไม่ขายอาวุธแดร๊ก มันก็ไม่มีเหี้ยอะไรจะขายแล้ว เพราะจีน รัสเซีย เอาไปแดร๊กหมด! มรึงเห็นรึยังล่ะว่า "ปชต.แค่ทางผ่าน" นายทุนอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น ไม่มีดอก เพื่อประชาชน เพื่อแผ่นดิน มีแค่เพื่อยิวเหี้ยไซออนนิสต์เท่านั้น เพราะขนาดแผ่นดินมรึงก็ยังไปปล้นเค้ามา ประสาอะไรจะมีความมั่นคง ปล้นเค้ามา ก็ต้องคืนเค้าไป ความรุนแรง สูญเสีย ต้องมี อียิวมันไม่สนผลลัพธ์ดอก เพราะคนตายไม่ใช่มัน ด้วยเหตุนี้ อิหร่านถึงได้สั่งสอนอียิวไงล่ะ ไล่ฆ่าสายพันธุ์ยิวสัดนรก เพื่อทำให้โลกเบาขึ้น? ยิวมันเหี้ยกว่าที่มรึงคิดไว้เยอะ! ยิ่งแผ่นดินพ่อกูหอมหวาน มันอยากจะแดร๊กใจจะขาด แต่ดันซวย เจอลูกหลานบางระจัน ลูกหลานเสรีไทย 2 ย้อนเกล็ดเหี้ยไปหลายดอก วังจะแข็งแกร่งเพราะศรัทธาเท่านั้น ไม่ว่าอียิวมันจะเล่นแร่แปรวิญญานท่าไหน ก็ไม่สามารถรวบแดร๊กแผ่นดินพ่อได้ เพราะแผ่นดินนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่ใช่ที่ที่เหี้ยจะอยู่ได้ มันคือแผ่นดินแห่งธรรม แสงสว่างไสว เหี้ยไอ้อีหน้าไหนก็อยู่ไม่ได้ หากสังเกตุ ไทยเราเดินตามรัสเซีย จีน โมเดล หลายเรื่อง พึ่งพาตัวเองตามคำสอนพ่อร.9 พอเพียง อดออม ประหยัด คลังไทยถึงมั่งคั่งติด TOP10 โลก อย่าคิดว่าอียุ่นปี่รวย หนี้ทั้งนั้น แบกดอลล่าร์จนหลังหัก เทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ไทยเราหนี้น้อยที่สุด แต่เสือกมีทองคำเท่าภูเขา เชื่อมั้ยล่ะ?

    ปล.มาตามสูตร! อีเนรคุณทันยา ไล่รมต.กลาโหมออกทันที ผลงานนต่ำตม ไอ้สัส! ใครจะมาก็แพ้ยับ เพราะเสือกไม่ดูตัวเอง กระจอกแล้วยังเสือกซ่าส์ สุดท้าย แผนหาแพะมาเต็มตรีน โยนบาปให้อีเนรคุณทันยา ชาวยิวกู้แผ่นดิน ขับไล่ทรราชย์? อุปส์! สามัคคีคือพลัง เชิญไปตอแหลแถวช่อง 3 รับยาช่อง 9 ต่อเหอะจ๊ะ? อย่าปฎิเสธ อย่าตีเนียน ทุกการกระทำของอิสราเอล ไอ้อีชาวยิวต้องรับผิดชอบทั้งหมด เพราะเกือบครึ่งศตวรรษ ที่มรึงไปรุกรานดินแดนคานาอันมาโดยตลอด มรึงรู้เห็นเต็มใจ กับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ วันนี้ เค้ามาไล่ฆ่ามรึง ลงแขกมรึง เป็นไปตามวิถีแห่งกรรมถูกต้องแล้ว โลกกำลังโฟกัสไปที่เลือกตั้งปาหี่ต้มเปื่อยควาย ความโกลาหลจะเกิดขึ้นแน่ เพราะแต่ละรัฐ มันเตรียมแยกตัวทั้งนั้น ไม่มีใครฟังอำนาจรัฐบาลกลางอีกแล้ว เพราะกูตั้งตนเป็นใหญ่เองได้ จะรองตรีนมรึงไปทำไม? อเมริกาแตก ใครได้ประโยชน์สูงสุดแถวนั้น อีแคนจะรับเละช่วงแรก แบกรับผู้อพยพหนีตาย แต่ในความเป็นจริง อยู่ในแผนรวมชาติพันธุ์เหี้ย ก่อตั้งรัฐยิวใหม่ขึ้นมา หากดูแผนที่ภูมิภาค โลกขั้วเก่าอยู่ดินแดนไกลโพ้น โลกขั้วใหม่คือโลกนั่นเอง แยกกันเดิน แล้วมาดูว่าใครจะรอด? ด้านประเทศกูมี สาละวนอยู่กับเรื่องปาหี่ตอแหล เค้าปล่อยให้มรึงล่อกันเอง กัดกันเอง แฉกันเอง แล้วค่อยเก็บกวาด ดังนั้น อย่าเพิ่งรีบฟูมฟาย ทุกอย่างมันคือเกมส์ เราสนใจแค่ตัวเราเองก็พอ และให้รู้ไว้ว่า นี่แค่ "เพิ่งจะเริ่มเกมส์ล้างบางโลก" หลังเลือกตั้งปาหี่เหี้ย อะไรใหม่ๆ จะเกิดขึ้นมาอีกเยอะ อะไรที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยเจอ มรึงจะได้เห็นเต็ม 2 ตา เพราะแสงทำงานเต็มกำลังเมื่อไหร่ เหี้ยดิ้นพล่านทั่วแผ่นดิน อีตาเพน มันจ้องจะปฎิวัติอยู่แล้ว รอแค่มีตัวชง คนลงถนน แบกปืนไปไล่ฆ่ากันอย่างเมามันส์ ทหารออกจะมีตายห่ากันเป็นแสน เพราะแต่ละรัฐ อาวุธครบมือ ของใหญ่ ของหนัก มาเต็ม ใครหนุนล่ะ? ก็อียิวไงล่ะ จัดฉากทหารฆ่าประชาชน จัดฉาก มะกันโง่ฆ่ากันเอง ทั้งหมดเพื่อ RESET ใครจะตามเก็บหนี้มรึง? คงต้องใช้กำลังเข้ามายึดต่อไงล่ะ? อเมริกามัน NOBODY แล้ว แค่เยเมนยังชนะขาดลอย ไม่ต้องถึงมือปูติน สีจิ้นผิง ให้เสียตรีนดอกน่ะ JOHN KIM ผู้เดียว ก็เอาอยู่หมัด ฉากในหนังกำลังจะกลายเป็นจริง โสมแดงปักธงกลางทำเนียบขาว อยากเกิดต้องได้เกิด! มหากาพย์ละครฉากใหญ่เปลี่ยนแผ่นดินอเมริกาได้เริ่มขึ้นแล้ว ไม่แรงไม่จบ ไม่สุดทางไม่ได้แผ่นดินใหม่ อีทรัมปป์จะอยู่หรือไป คำตอบอยู่ที่ "ปากกระบอกปืน" ประกาศเอกราช แยกดินแดนชัวร์! เอาเลย ให้ว่อง ให้ไว กูอยากเห็นเหี้ยตายเกลื่อนแผ่นดิน โง่บัดซบทั้งแผ่นดิน อยู่ไปก็หนักแผ่นดินโลก! ตายห่าไปซะน่ะ อเมริกันหน้าควายทั้งหลาย คนดีดี ใครจะไปอยู่? ปิดตำนาน เสรีภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ทั้งหมดคือ "เรื่องตอแหล"

    หมี CNN(ฆ่ากันเหอะ อย่าเสือกเสียเวลามาเลือกเลย ผลออกยังไง มรึงก็จ้องจะฆ่ากันอยู่แล้ว อเมริกันมันเก่งแต่ใช้กำลังกับผู้อ่อนแอกว่า เจอของจริง หมาไม่เลิก ฆ่ากันเองง่ายกว่า เพราะไม่ตายโหงทั้งแผ่นดิน ปูตินไม่ต้อง สีจิ้นผิงไม่ยุ่ง เดี๋ยวกูจะฆ่ากันเองโชว์ให้มรึงดู ถูกใจกด LIKE ให้น่ะจ๊ะ)
    06 พฤศจิกายน 67
    11.05 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    06-11-67/01 : หมี CNN / "FCUK DEMOCRAZY" ละครปาหี่ลวงโลก ฝีมือกำกับโดยอียิวเหี้ยไซออนนิสต์! ใครรอฟังผลเลือกตั้งอเมริกา? ไม่ต้องลุ้น เพราะเหี้ยมันจัดวางไว้แล้ว จะให้ละครฉากใหญ่ออกหน้าไหน? เพื่อนำไปสู่การแตกแผ่นดิน อเมริกาไม่แตก อียิวจะไร้บ้านอยู่? จำเอาไว้ว่า ใครสร้างระบบปชต.โกหกตอแหลนี้ขึ้นมากันล่ะ? อียิวทั้งนั้น ดังนั้น ไม่มีดอก อะไรที่มันควบคุมไม่ได้? เลือกตั้งคือเรื่องตอแหล ใครตรวจสอบได้จริง? ทุกครั้งแค่จัดฉาก งานถนัดเหี้ยมัน! ตอแหลตั้งแต่เที่ยงคืน เมืองเล็กติดชายแดนอีแคน เขตนี้เลือกตั้ง มีแค่ 6 ตัว ผลเสมอ หมายังรู้? ทำให้ดูน่าตื่นเต้น ควายอเมริกันลุ้นจนเยี่ยวแตก หารู้ไม่ ใครมาก็ไม่สำคัญ เพราะมันเตรียมแตกอเมริกาต่างหากล่ะ? บ้านเราก็ตอแหลไม่แพ้กัน กระแสปั่นควาย ชอบจุงเบย ขนาด "หมูเด้ง" ยังเลือกอีทรัมปป์ ส่วนอีแม่ เลือกอีกะลา เลือกตั้งมันมีจริงซะที่ไหน? ปชต.หาแดร๊กควาย ตื่นกันหมดแล้ว? ทุกครั้งหากมรึงสังเกตุ จะจับโป๊ะแตกได้ทันที ไม่ว่าใครจะนำ ใครจะตาม แต่พอก่อนเลือกตั้ง ทุกอย่างจะ RESET สูสีกันหมด โพลใคร โพลมัน ปั่นให้ควายตื่นเต้นว่ามีส่วนร่วม? DEEP STATE ที่ว่ากันเนี่ย มันวางหมากให้เดิน อเมริกาไม่มีตัวตน แค่หุ่นกระบอกให้อียิวเชิด ถึงเวลาก็ต้องกลับบ้านเก่า บ้านที่ไปปล้นอินเดียนแดงเค้ามา เวลาบ้านแตก อินเดียนแดงจะเรียกร้องเอาคืนทั้งหมดชัวร์! อเมริกาแตก ใครซวย อีแคนไงจ๊ะ? แต่มันรู้ล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะอีแคน คือเยรูซาเล็ม แห่งที่ 2 นั่นเอง อียิวมันจัดตั้งรัฐยิวใหม่แน่ เพราะสายพันธุ์เสนียดจัญไรโลกจะไม่มีวันหายสาปสูญ เพราะโลกต้องมี หยิน หยาง! เวลาวิเคราะห์ เกจิ กุนซือ บ้านเรา มักจะดูจากสิ่งเกิดขึ้นจากการกระทำของขี้ข้าผ่านสื่อตอแหล มรึงจะหลงทางทันที? ให้ดู สิ่งที่อียิวเหี้ยมันต้องการ แล้วมรึงจะได้คำตอบ จุดหมายปลายทาง ว่ามันจะสุดทางตรงไหน? เพราะบอกเลยว่า ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมายังไง? ทั้ง 2 ฝ่ายต่างไม่ยอมรับอยู่แล้ว เพราะเค้าสั่งมาไงล่ะ? ต้องแตกอเมริกาเท่านั้น คือทางรอดอเมริกา พูดให้ชัดคือ ย่ออเมริกาให้เล็กลง เพราะบ้านใหม่อียิวคือ อีแคนาดา นั่นแหละ! สุดท้ายอาจรวมแผ่นดิน เพื่อตั้งรัฐยิวใหม่ ทวีปอเมริกาเหนือคือดินแดนเหี้ย อีก 20 ปี มรึงจะเข้าใจในสิ่งที่กูพูดวันนี้! หนีหนี้ แค่แผนขั้นต้น แผนการใหญ่มันคือแบ่งโลกออกเป็น 2 ขั้วอำนาจ รอวันฟื้นคืนชีพ แล้วฝั่งขั้วใหม่ไม่รู้เหรอ? รู้ซะยิ่งกว่ารู้ โคตรเหี้ยเก่งแค่ไหน ฉลาดแค่ไหน ก็แค่รองตรีนปูติน สีจิ้นผิง เค้าอ่านมรึงออก 3 ชั้น จนหมดเกลี้ยง อียิวครองโลกผ่านอเมริกา ต่อไปอียิวจะเผยร่างแท้จริงออกมา รัฐยิวใหม่ จะใช้ชื่อเหี้ยอะไรก็ช่าง แต่เจ้าของยังเป็นตัวเดิมเป๊ะเด๊ะ 100 ปี เจอกันใหม่ วังวนจักรวาล มรึงคิดได้ ทำไม ขั้วใหม่จะคิดไม่ได้ สิ่งที่ปูติน สีจิ้นผิง คาเมเนอี JOHN KIM ทำวันนี้ คือปูทางอีก 100 ปีเช่นกัน รู้ทางกันดี? CIVIL WAR แค่เครื่องมือผลัดเปลี่ยนแผ่นดินเหี้ย เมื่อตะวันออกกลางมันไม่ได้ผล ก็ต้องไปตั้งหลักใหม่ที่อเมริกาเหนือ ส่วนอียุโรปหน้าโง่ ก็ต้องล่มสลายไปในที่สุด รวมถึงการแตกสลายของเครือราชอาณาจักรอังกฤษเช่นกัน เมื่อมรึงเห็นภาพใหญ่ทั้งหมดแล้ว ละครปาหี่ ก็ดูกันให้สนุกสนานไปซะ อย่าอิน อย่าซีเรียส เพราะโลกคือละคร ยังไม่ตื่นกันอีกเหรอ? อเมริกาคือเรื่องโกหกตอแหล เหมือนที่มันทำฮอลีวู๊ดเอาไว้หลอกควายนั่นแหละ! อีทรัมปป์อยากเกิด อยากเป็น KING ส่วนอีกะลา แค่อีนู๋โคมแดง หมารับใช้ยิวเหี้ยไซออนนิสต์สุดตัว เครือข่ายบริษัทค้าอาวุธ อเมริกาไม่ขายอาวุธแดร๊ก มันก็ไม่มีเหี้ยอะไรจะขายแล้ว เพราะจีน รัสเซีย เอาไปแดร๊กหมด! มรึงเห็นรึยังล่ะว่า "ปชต.แค่ทางผ่าน" นายทุนอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น ไม่มีดอก เพื่อประชาชน เพื่อแผ่นดิน มีแค่เพื่อยิวเหี้ยไซออนนิสต์เท่านั้น เพราะขนาดแผ่นดินมรึงก็ยังไปปล้นเค้ามา ประสาอะไรจะมีความมั่นคง ปล้นเค้ามา ก็ต้องคืนเค้าไป ความรุนแรง สูญเสีย ต้องมี อียิวมันไม่สนผลลัพธ์ดอก เพราะคนตายไม่ใช่มัน ด้วยเหตุนี้ อิหร่านถึงได้สั่งสอนอียิวไงล่ะ ไล่ฆ่าสายพันธุ์ยิวสัดนรก เพื่อทำให้โลกเบาขึ้น? ยิวมันเหี้ยกว่าที่มรึงคิดไว้เยอะ! ยิ่งแผ่นดินพ่อกูหอมหวาน มันอยากจะแดร๊กใจจะขาด แต่ดันซวย เจอลูกหลานบางระจัน ลูกหลานเสรีไทย 2 ย้อนเกล็ดเหี้ยไปหลายดอก วังจะแข็งแกร่งเพราะศรัทธาเท่านั้น ไม่ว่าอียิวมันจะเล่นแร่แปรวิญญานท่าไหน ก็ไม่สามารถรวบแดร๊กแผ่นดินพ่อได้ เพราะแผ่นดินนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่ใช่ที่ที่เหี้ยจะอยู่ได้ มันคือแผ่นดินแห่งธรรม แสงสว่างไสว เหี้ยไอ้อีหน้าไหนก็อยู่ไม่ได้ หากสังเกตุ ไทยเราเดินตามรัสเซีย จีน โมเดล หลายเรื่อง พึ่งพาตัวเองตามคำสอนพ่อร.9 พอเพียง อดออม ประหยัด คลังไทยถึงมั่งคั่งติด TOP10 โลก อย่าคิดว่าอียุ่นปี่รวย หนี้ทั้งนั้น แบกดอลล่าร์จนหลังหัก เทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ไทยเราหนี้น้อยที่สุด แต่เสือกมีทองคำเท่าภูเขา เชื่อมั้ยล่ะ? ปล.มาตามสูตร! อีเนรคุณทันยา ไล่รมต.กลาโหมออกทันที ผลงานนต่ำตม ไอ้สัส! ใครจะมาก็แพ้ยับ เพราะเสือกไม่ดูตัวเอง กระจอกแล้วยังเสือกซ่าส์ สุดท้าย แผนหาแพะมาเต็มตรีน โยนบาปให้อีเนรคุณทันยา ชาวยิวกู้แผ่นดิน ขับไล่ทรราชย์? อุปส์! สามัคคีคือพลัง เชิญไปตอแหลแถวช่อง 3 รับยาช่อง 9 ต่อเหอะจ๊ะ? อย่าปฎิเสธ อย่าตีเนียน ทุกการกระทำของอิสราเอล ไอ้อีชาวยิวต้องรับผิดชอบทั้งหมด เพราะเกือบครึ่งศตวรรษ ที่มรึงไปรุกรานดินแดนคานาอันมาโดยตลอด มรึงรู้เห็นเต็มใจ กับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ วันนี้ เค้ามาไล่ฆ่ามรึง ลงแขกมรึง เป็นไปตามวิถีแห่งกรรมถูกต้องแล้ว โลกกำลังโฟกัสไปที่เลือกตั้งปาหี่ต้มเปื่อยควาย ความโกลาหลจะเกิดขึ้นแน่ เพราะแต่ละรัฐ มันเตรียมแยกตัวทั้งนั้น ไม่มีใครฟังอำนาจรัฐบาลกลางอีกแล้ว เพราะกูตั้งตนเป็นใหญ่เองได้ จะรองตรีนมรึงไปทำไม? อเมริกาแตก ใครได้ประโยชน์สูงสุดแถวนั้น อีแคนจะรับเละช่วงแรก แบกรับผู้อพยพหนีตาย แต่ในความเป็นจริง อยู่ในแผนรวมชาติพันธุ์เหี้ย ก่อตั้งรัฐยิวใหม่ขึ้นมา หากดูแผนที่ภูมิภาค โลกขั้วเก่าอยู่ดินแดนไกลโพ้น โลกขั้วใหม่คือโลกนั่นเอง แยกกันเดิน แล้วมาดูว่าใครจะรอด? ด้านประเทศกูมี สาละวนอยู่กับเรื่องปาหี่ตอแหล เค้าปล่อยให้มรึงล่อกันเอง กัดกันเอง แฉกันเอง แล้วค่อยเก็บกวาด ดังนั้น อย่าเพิ่งรีบฟูมฟาย ทุกอย่างมันคือเกมส์ เราสนใจแค่ตัวเราเองก็พอ และให้รู้ไว้ว่า นี่แค่ "เพิ่งจะเริ่มเกมส์ล้างบางโลก" หลังเลือกตั้งปาหี่เหี้ย อะไรใหม่ๆ จะเกิดขึ้นมาอีกเยอะ อะไรที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยเจอ มรึงจะได้เห็นเต็ม 2 ตา เพราะแสงทำงานเต็มกำลังเมื่อไหร่ เหี้ยดิ้นพล่านทั่วแผ่นดิน อีตาเพน มันจ้องจะปฎิวัติอยู่แล้ว รอแค่มีตัวชง คนลงถนน แบกปืนไปไล่ฆ่ากันอย่างเมามันส์ ทหารออกจะมีตายห่ากันเป็นแสน เพราะแต่ละรัฐ อาวุธครบมือ ของใหญ่ ของหนัก มาเต็ม ใครหนุนล่ะ? ก็อียิวไงล่ะ จัดฉากทหารฆ่าประชาชน จัดฉาก มะกันโง่ฆ่ากันเอง ทั้งหมดเพื่อ RESET ใครจะตามเก็บหนี้มรึง? คงต้องใช้กำลังเข้ามายึดต่อไงล่ะ? อเมริกามัน NOBODY แล้ว แค่เยเมนยังชนะขาดลอย ไม่ต้องถึงมือปูติน สีจิ้นผิง ให้เสียตรีนดอกน่ะ JOHN KIM ผู้เดียว ก็เอาอยู่หมัด ฉากในหนังกำลังจะกลายเป็นจริง โสมแดงปักธงกลางทำเนียบขาว อยากเกิดต้องได้เกิด! มหากาพย์ละครฉากใหญ่เปลี่ยนแผ่นดินอเมริกาได้เริ่มขึ้นแล้ว ไม่แรงไม่จบ ไม่สุดทางไม่ได้แผ่นดินใหม่ อีทรัมปป์จะอยู่หรือไป คำตอบอยู่ที่ "ปากกระบอกปืน" ประกาศเอกราช แยกดินแดนชัวร์! เอาเลย ให้ว่อง ให้ไว กูอยากเห็นเหี้ยตายเกลื่อนแผ่นดิน โง่บัดซบทั้งแผ่นดิน อยู่ไปก็หนักแผ่นดินโลก! ตายห่าไปซะน่ะ อเมริกันหน้าควายทั้งหลาย คนดีดี ใครจะไปอยู่? ปิดตำนาน เสรีภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ทั้งหมดคือ "เรื่องตอแหล" หมี CNN(ฆ่ากันเหอะ อย่าเสือกเสียเวลามาเลือกเลย ผลออกยังไง มรึงก็จ้องจะฆ่ากันอยู่แล้ว อเมริกันมันเก่งแต่ใช้กำลังกับผู้อ่อนแอกว่า เจอของจริง หมาไม่เลิก ฆ่ากันเองง่ายกว่า เพราะไม่ตายโหงทั้งแผ่นดิน ปูตินไม่ต้อง สีจิ้นผิงไม่ยุ่ง เดี๋ยวกูจะฆ่ากันเองโชว์ให้มรึงดู ถูกใจกด LIKE ให้น่ะจ๊ะ) 06 พฤศจิกายน 67 11.05 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 388 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚡️หน่วยเลือกตั้งแรกปิดทำการในการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี ๒๐๒๔

    หน่วยเลือกตั้งแรกๆในสหรัฐอเมริกาจะเริ่มปิดทำการในเวลา ๑๘.๐๐ น. ตามเวลาตะวันออก (๒๓.๐๐ น. GMT) ขณะที่ประเทศกำลังเลือกประธานาธิบดีคนต่อไป

    หน่วยเลือกตั้งของรัฐแรกที่จะปิดทำการนั้นอยู่ในเขตทางตะวันออกของรัฐอินเดียนาและรัฐเคนตักกี้, ในขณะที่หน่วยเลือกตั้งของรัฐสุดท้ายจะปิดทำการในฮาวาย (เที่ยงคืน) และอลาสก้า (เที่ยงคืน-๐๑.๐๐ น. ตามเวลาตะวันออก)

    รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน, กมลา แฮร์ริส, ซึ่งเป็นพรรคเดโมแครต, และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นพรรครีพับลิกัน, กำลังแข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งสูงสุดของประเทศ โดยคาดว่าการแข่งขันที่สูสีนี้จะลงเอยที่รัฐที่เป็นสมรภูมิรบไม่กี่รัฐ ได้แก่ เพนซิลเวเนีย, นอร์ทแคโรไลนา, จอร์เจีย, มิชิแกน, แอริโซนา, วิสคอนซิน, และเนวาดา

    ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรทั้ง ๔๓๕ ที่นั่ง และวุฒิสภา ๓๔ ที่นั่งจากทั้งหมด ๑๐๐ ที่นั่ง จะมีการเลือกตั้งในวันที่ ๕ พฤศจิกายนเช่นกัน
    .
    ⚡️FIRST POLLING STATIONS CLOSE IN 2024 US ELECTION

    The first polling stations start closing in the United States at 6:00 p.m. Eastern time (23:00 GMT) as the country is electing its next president.

    The first state polls to close are located in the eastern counties of Indiana and Kentucky, while the final state polls are set to close in Hawaii (midnight) and Alaska (midnight-01:00 a.m. ET).

    The incumbent vice president, Kamala Harris, a Democrat, and former President Donald Trump, a Republican, are vying for the country's top job. The close race is expected to come down to a handful of battleground states - Pennsylvania, North Carolina, Georgia, Michigan, Arizona, Wisconsin, and Nevada.

    All 435 seats in the House of Representatives and 34 of the 100 seats in the Senate are also up for election on November 5.
    .
    6:05 AM · Nov 6, 2024 · 2,090 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1853936673781923945
    ⚡️หน่วยเลือกตั้งแรกปิดทำการในการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี ๒๐๒๔ หน่วยเลือกตั้งแรกๆในสหรัฐอเมริกาจะเริ่มปิดทำการในเวลา ๑๘.๐๐ น. ตามเวลาตะวันออก (๒๓.๐๐ น. GMT) ขณะที่ประเทศกำลังเลือกประธานาธิบดีคนต่อไป หน่วยเลือกตั้งของรัฐแรกที่จะปิดทำการนั้นอยู่ในเขตทางตะวันออกของรัฐอินเดียนาและรัฐเคนตักกี้, ในขณะที่หน่วยเลือกตั้งของรัฐสุดท้ายจะปิดทำการในฮาวาย (เที่ยงคืน) และอลาสก้า (เที่ยงคืน-๐๑.๐๐ น. ตามเวลาตะวันออก) รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน, กมลา แฮร์ริส, ซึ่งเป็นพรรคเดโมแครต, และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นพรรครีพับลิกัน, กำลังแข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งสูงสุดของประเทศ โดยคาดว่าการแข่งขันที่สูสีนี้จะลงเอยที่รัฐที่เป็นสมรภูมิรบไม่กี่รัฐ ได้แก่ เพนซิลเวเนีย, นอร์ทแคโรไลนา, จอร์เจีย, มิชิแกน, แอริโซนา, วิสคอนซิน, และเนวาดา ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรทั้ง ๔๓๕ ที่นั่ง และวุฒิสภา ๓๔ ที่นั่งจากทั้งหมด ๑๐๐ ที่นั่ง จะมีการเลือกตั้งในวันที่ ๕ พฤศจิกายนเช่นกัน . ⚡️FIRST POLLING STATIONS CLOSE IN 2024 US ELECTION The first polling stations start closing in the United States at 6:00 p.m. Eastern time (23:00 GMT) as the country is electing its next president. The first state polls to close are located in the eastern counties of Indiana and Kentucky, while the final state polls are set to close in Hawaii (midnight) and Alaska (midnight-01:00 a.m. ET). The incumbent vice president, Kamala Harris, a Democrat, and former President Donald Trump, a Republican, are vying for the country's top job. The close race is expected to come down to a handful of battleground states - Pennsylvania, North Carolina, Georgia, Michigan, Arizona, Wisconsin, and Nevada. All 435 seats in the House of Representatives and 34 of the 100 seats in the Senate are also up for election on November 5. . 6:05 AM · Nov 6, 2024 · 2,090 Views https://x.com/SputnikInt/status/1853936673781923945
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤣ระบบทุนนิยมตลาดเสรี-ที่ไม่เสรี🤣

    ในสหรัฐฯ, คนอเมริกัน ๑๐% อันดับสูงสุดเป็นเจ้าของ:

    🔹๗๐% ของความมั่งคั่งในครัวเรือน

    🔹๙๐% ของตลาดหุ้น

    คน “ล่างสุด” ๙๐% แบ่งออกเป็นพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน, ดังนั้นพวกเขาจึงต่อสู้กันเองต่อไป
    .
    Not-free market capitalism.

    In the US, the top 10% of Americans own:

    🔹70% of household wealth

    🔹90% of the stock market

    The “bottom” 90% of the people are divided into Democrats and Republicans, so that they keep fighting one another.
    .
    11:53 AM · Nov 5, 2024 · 5,280 Views
    https://x.com/Kanthan2030/status/1853661901798138308
    🤣ระบบทุนนิยมตลาดเสรี-ที่ไม่เสรี🤣 ในสหรัฐฯ, คนอเมริกัน ๑๐% อันดับสูงสุดเป็นเจ้าของ: 🔹๗๐% ของความมั่งคั่งในครัวเรือน 🔹๙๐% ของตลาดหุ้น คน “ล่างสุด” ๙๐% แบ่งออกเป็นพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน, ดังนั้นพวกเขาจึงต่อสู้กันเองต่อไป . Not-free market capitalism. In the US, the top 10% of Americans own: 🔹70% of household wealth 🔹90% of the stock market The “bottom” 90% of the people are divided into Democrats and Republicans, so that they keep fighting one another. . 11:53 AM · Nov 5, 2024 · 5,280 Views https://x.com/Kanthan2030/status/1853661901798138308
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤣เกรตา ทุนเบิร์ก สาวโง่และหลงผิดต่อเนื่อง🤣 ได้ปรากฏตัวที่กรุงทบิลิซีเพื่อเข้าร่วม "การประท้วง" ที่จัดขึ้นเพื่อต่อต้านรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งอย่างถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย

    🤣เธอทำเรื่องบ้าๆบอๆมากจริงๆ🤣
    .
    Serial idiot and delusionist Greta Thunberg has turned up in Tblisis to take part in the choreographed "protests" against the democratically elected government.

    She's really scraping the barrel.
    .
    2:08 AM · Nov 5, 2024 · 81.2K Views
    https://x.com/BowesChay/status/1853514669811716278
    🤣เกรตา ทุนเบิร์ก สาวโง่และหลงผิดต่อเนื่อง🤣 ได้ปรากฏตัวที่กรุงทบิลิซีเพื่อเข้าร่วม "การประท้วง" ที่จัดขึ้นเพื่อต่อต้านรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งอย่างถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย 🤣เธอทำเรื่องบ้าๆบอๆมากจริงๆ🤣 . Serial idiot and delusionist Greta Thunberg has turned up in Tblisis to take part in the choreographed "protests" against the democratically elected government. She's really scraping the barrel. . 2:08 AM · Nov 5, 2024 · 81.2K Views https://x.com/BowesChay/status/1853514669811716278
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 35 0 รีวิว
  • หม่อมโจ้
    สิ่งที่ควรรู้เรื่องอิสราเอลหม่อมโจ้ โต้ทูตอิสราเอล ยันต้องเปิดความจริง ช่วยคนไทยพ้นภาวะทาส
    เพื่อนๆคงจะรู้จัก คุณปุ๊ก อาภัสรา หงสกุล อดีตนางงามจักรวาลชาวไทยคนแรก ที่เรียกว่ามิสยูนิเวอร์ส คุณอาภัสราจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.ศ.3) ปี 2506 จาก ร.ร.ศึกษาวิทยา ถนนสีลม แล้วไปเรียนอาชีวศึกษาที่ ร.ร.เลขานุการที่นครรัฐปีนัง ในมาเลเซีย จบชั้นปีที่ 2 เธอมาประกวดนางสาวไทย ได้ตำแหน่งปี 2507 จากนั้นไปเรียนต่อแล้วกลับมาปี 2508 เดินทางไปประกวดมิสยูนิเวอร์สที่นครไมอามี่ รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ได้ตำแหน่งขณะมีอายุ18ปี คุณปุ๊กเกิดวันที่16 มกราคม 2490 ปีกุนปีเดียวกับผม ปี 2510 ขณะมีอายุ 20ปีได้สมรสครั้งแรกกับหม่อมราชวงศ์เกียรติคุณ กิติยากร มีบุตรชายคนแรกคือหม่อมหลวงรุ่งคุณ กิติยากร
    ปัจจุบัน หม่อมโจ้ บุตรชายคนแรกของคุณปุ๊ก อายุได้ 53 ปีแล้ว หม่อมโจ้เรียนจบจากต่างประเทศที่สหรัฐอเมริกาในระดับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจเคยทำงานบริษัทต่างประเทศจนได้ลาออกไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุในสายวัดป่าอยู่หลายปีได้มาซื้อที่ดินที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 45 ไร่ ปลูกพืชและผลไม้สายพันธุ์ของต่างประเทศที่ไม่มีใครทำมาก่อนจนผลไม้ขายได้ในราคาสูง หม่อมหลวงรุ่งคุณได้ศึกษาและวิเคราะห์เขียนหนังสือหลายเรื่องเกี่ยวกับอิสราเอล ไว้มากจนเป็นข่าวตอบโต้กับเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยดังนี้
    เรียน ท่านเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย นายไซม่อน โรดเด็ด
    ข้าพเจ้ารับทราบถึงความไม่พอใจของท่านกับบทความของข้าพเจ้า ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่ข้าพเจ้าได้เขียน เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของข้าพเจ้าโดยบริสุทธิ์ใจ อันเป็นสิทธิที่ข้าพเจ้าจะแสดงได้ โดยความเห็นของข้าพเจ้านั้น เป็นไปตามข้อมูลหลักฐานอันมีจริงทางประวัติศาสตร์ที่ได้มีความพยายามในการกลบและบิดเบือน
    แม้กระนั้น ท่านอาจแปลกใจคิดว่า แล้วไฉนทั้งที่ข้าพเจ้าและประเทศไทยที่ไม่ได้มีส่วนได้เสีย ข้าพเจ้าจึงต้องไปเขียนในเรื่องราวสร้างความบาดหมางให้แก่ท่าน ข้าพเจ้าจึงใคร่ที่จะชี้แจงตรงนี้ว่า ข้าพเจ้าไม่ได้เขียนเพื่อที่จะก่อความบาดหมางให้แก่ท่านหรือแก่ผู้ใด และ เรื่องราวที่ข้าพเจ้าเขียนนั้น มีความเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าและต่อประเทศไทยอย่างไรบ้าง
    อย่างแรก 'กลุ่มทุนธนาคารยิว Zionist' ที่ข้าพเจ้าได้กล่าวถึงนั้น ข้าพเจ้ากล่าวถึงคนเพียงกลุ่มหนึ่ง มิใช่ชาวยิวทั้งหมด โดยคำว่า 'Zionist' แม้แต่ชาวยิวแท้ Orthodox Jews ที่ยึดมั่นใน Torah จำนวนมากก็ไม่ได้เห็นด้วยเลย ดังที่พวกเขาได้ออกมาประท้วง ประกาศว่า 'Zionism' ไม่ใช่ 'Judaism' เอง ท่านทูตน่าจะพอทราบอยู่ เพราะใน Israel ก็มีการจับชาวยิวแท้ ที่มีอัธยาศัยดีเหล่านี้ ไปจำคุกอยู่จำนวนหนึ่ง
    'ทุนธนาคาร Zionist' ที่ข้าพเจ้าพูดถึง หมายถึงกลุ่มทุนธนาคารที่เป็นผู้มีอำนาจที่สุดในโลก มีอำนาจเหนือรัฐหลายรัฐ รวมถึงมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา เขาคุมการเงินโดยกลุ่มของเขาเอง เป็นเจ้าของ Federal Reserve Bank ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา ที่พิมพ์เงินให้รัฐบาลสหรัฐฯต้องกู้ มิใช่ของประชาชนชาวอเมริกันตามที่ควรจะเป็นแต่อย่างใด กลุ่มทุนธนาคารของเขาเป็นหุ้นใหญ่ในบริษัทยักษ์ใหญ่แทบทั้งสิ้นทั่วโลก รวมถึง 6 บริษัทที่คุม 90% ของสื่อในสหรัฐอเมริกา เขาคุมแหล่งนํ้ามันและก๊าซหลัก ๆ ทั่วโลก และกำลังรุกเพื่อควบคุมผูกขาดอาหารของโลกโดยการผลิต GMO แม้แต่องค์กรโลก เช่น UN ที่ให้กำเนิด World Bank และ IMF ล้วนเป็นองค์กรที่พวกเขาจัดตั้งขึ้น และควบคุมทั้งสิ้น
    ชื่อตระกูลที่โดดเด่นมีอิทธิพลสูงสุดใน 'ทุนธนาคาร Zionist' นี้ ได้แก่ 'Rothschild' และ 'Rockefeller' ชื่อ 'Rothschild' ท่านทูตย่อมรู้จักเป็นอย่างดี โดยใน 'Independence Hall' ที่ Tel Aviv เมืองหลวงของท่านเอง ก็มีนิทรรศการเอกสารชิ้นสำคัญมากชิ้นหนึ่งเรียกว่า 'The Balfour Declaration' เป็นจดหมายจากรัฐบาลอังกฤษ จ่าหัวถึง 'Lord Rothschild' ใน 1917 แสดงถึงการที่รัฐบาลอังกฤษสนับสนุนให้เกิด บ้านอยู่ (national home) ของชาวยิว ที่ Palestine แก่ 'Lord Rothschild' Baron Edmond (Abraham Benjamin) Rothschild จึงมีสถานะเป็น "the Father of the Settlements" (Avi ha-Yishuv) หรือบิดาแห่งอิสราเอล
    ใน4บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลก หรือ 'The Four Horsemen of Oil' ที่อยู่เบื้องหลังนโยบายการครอบครองน้ำมันของสหรัฐฯ 2 บริษัท คือ BP Amoco และ Royal Dutch/Shell อยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูล Rothschild ที่ถือหุ้นใหญ่ ส่วน อีกสอง Exxon Mobil และ Chevron คือ บริษัทที่มาจาก Standard Oil ของ John D. Rockefeller โดยกรรมการของบริษัทน้ำมันเหล่านี้จำนวนหนึ่ง ไขว้กันเองเป็นใย และไขว้เป็นกรรมการของธนาคารยักษ์ใหญ่ เช่น JP Morgan Chase ของ Rockefeller และ Citigroup, Bank of America, Wells Fargo, N. M. Rothschild & Sons โดยตระกูล Rothschild ควบคุม และมีการเชื่อมโยงถือหุ้นไขว้กันกับกลุ่มทุนนอมินียักษ์ เช่น BlackRock, State Street, Vanguard และ Fidelity ที่ถือหุ้นใหญ่บริษัทยักษ์ใหญ่ แทบทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย
    ในการสร้างอำนาจเหนือรัฐต่าง ๆ 'ทุนธนาคาร Zionist' เหล่านี้ ได้จัดตั้งองค์กร Front ของเขา เช่น The Bilderberg Group, Council on Foreign Relations (CFR) และ The Trilateral Commission (TC) โดยองค์กรเหล่านี้จะรวมกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' และบรรดาผู้มีอิทธิผล เช่น อดีตประธานาธิบดี บริวารมือขวาของเขา Henry Kissinger นักการเมืองทุกขั้ว ทหาร หัวหน้าหน่วยงานลับ ของประเทศสำคัญในยุโรป และสหรัฐฯ โดยใน Trilateral Commission จะมีสมาชิกเป็นบุคคลสำคัญของประเทศในทวีปเอเชียต่าง ๆ ที่รับใช้พวกเขา 'ทุนธนาคาร Zionist' จึงมีอิทธิพลอำนาจเหนือรัฐ เช่นมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา
    ด้วยความละโมบของพวกเขา ในการล่าอาณานิคมยุคใหม่ โดยกำลังก็ดี โดยวิธีแห่งการให้สินบนแก่ผู้ขายชาติตนเองก็ดี โดยการบีบบังคับด้วยหนี้สินก็ดี โดยการแทรกแซงการเมืองภายในก็ดี 'ทุนธนาคาร Zionist' เหล่านี้ ได้เข้ายึดครองทรัพยากร พลังงาน เศรษฐกิจ และการเงิน ของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้ประชาชนของประเทศนั้น ๆ ตกเป็นทาสของพวกเขา โดยในประเทศไทยเอง ปรากฏหลักฐานชัดเจนถึงการกระทำ ที่ 'ทุนธนาคาร Zionist' พร้อมการร่วมมือของ 'คนไทย' ที่ได้ขายตัวขายจิตวิญญาณให้พวกเขา ได้ร่วมกระทำ ดังต่อไปนี้ (1) การปล้นโกงน้ำมันและก๊าซ จากประชาชนคนไทย (2) การทำให้ประเทศไทยเป็นหนี้ ตามด้วยการยึดครองเศรษฐกิจการเงิน (3) การชักใยอยู่เบื้องหลังทุกฝ่าย ในการสร้างความแตกแยก ตามยุทธศาสตร์ 'แบ่งแยกแล้วปกครอง' เพื่อการยึดครองประเทศเป็นเมืองขึ้นยิ่งขึ้นไป มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ :
    (1) การปล้นโกงน้ำมันและก๊าซ จากประชาชนคนไทย โดย 'ทุนธนาคาร Zionist'
    ทั้งที่ประเทศไทย มีอธิปไตยของตนเอง โดยอธิปไตย นั้นเป็นของปวงชนชาวไทย อันหมายความว่าทรัพยากรของชาตินั้นเป็นของประชาชนคนไทย แต่ปรากฏว่า กฎหมายว่าด้วยน้ำมันและก๊าซ (พ.ร.บ.ปิโตรเลียม 2514) มิได้มีการเขียนขึ้นไม่ว่าจะ 'โดย' ประชาชน หรือ 'เพื่อ' ประชาชน แต่อย่างใด แต่ได้ถูกเขียนขึ้นโดย Walter James Levi สมาชิกทั้ง CFR และ The Trilateral Commission ผู้ทำงานให้รัฐบาลสหรัฐฯ ขั้นขึ้นชื่อว่าเป็น หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์พลังงานของสหรัฐอเมริกา (the dean of United States oil economists) และ ได้เป็นผู้บริหารบริษัทของตระกูล Rockefeller เองคือ Standard Oil Company of New York หรือ Socony (ปัจจุบันคือ Exxon) คนที่เขียนกฎหมายนี้ของประเทศไทย ไม่ใช่คนไทย แต่คือคนของ 'ทุนธนาคาร Zionist'
    เนื้อหาของกฎหมายดังกล่าวเอง ก็เป็นไปเพื่อประโยชน์ของ 'ทุนธนาคาร Zionist' โดยมีลักษณะของกฎหมายสำหรับเมืองขึ้นอันไม่เป็นธรรม คือ น้ำมันและก๊าซทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับสัมปทาน การได้สัมปทานเป็นไปโดยไม่มีการประมูลอย่างโปร่งใส ค่าตอบแทนเป็นไปอย่างต่ำ และ ประชาชนคนไทยที่เป็นเจ้าของโดยแท้จริง ไม่สามารถตรวจสอบรับทราบความจริงได้เลย โดยวิธีที่สามารถจะเรียกว่าโปร่งใสได้ ว่าปริมาณทรัพยากรที่มีการขุดไปนั้นมีปริมาณที่แท้จริงมากน้อยเพียงใด ประเทศไทยมีพลังงานมากน้อยแค่ไหนโดยต้องยอมรับตามตัวเลข ที่บริษัทพลังงานต่าง ๆ แจ้งเท่านั้น
    การปล้นอธิปไตยโดย 'ทุนธนาคาร Zionist' เป็นไปได้ด้วยการข่มขู่ไม่ให้ความร่วมมือ พร้อมการให้สินบนแก่ 'คนไทยที่ขายชาติตัวเอง' ซึ่งจากนั้นมา การรุกครอบครองน้ำมันและก๊าซของประชาชนคนไทย โดยวิธีการดังกล่าวได้ขยายไปเรื่อย ๆ มีการแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติม ให้เอื้ออำนวยแก่ผู้รับสัมปทานอย่างล้นพ้นโดยภายหลังจะเห็นได้ชัดเจนถึงผู้เข้ามามีอำนาจในไทย ไม่ว่าขั้วไหน เข้ามาด้วยวิธีใด ได้สานต่อไปในทาง 'ขายชาติตัวเอง' ให้แก่ 'ทุนธนาคาร Zionist' เหล่านี้เพื่อค่าคอมมิสชั่น ถึงขั้นร่วมกันชง ส่งลูกกันข้ามรัฐบาล ยกดินแดนไทยให้กัมพูชา อันส่งผลให้พื้นที่ไทยในทะเลอ่าวไทย 27,000 ตารางกิโลเมตรอันอุดมด้วยน้ำมันและก๊าซที่สุดแห่งหนึ่ง ต้องตกกลายเป็นพื้นที่พิพาท ระหว่างไทยกับกัมพูชา
    ซึ่งในพื้นที่นี้ บริษัท Chevron คือบริษัทที่จ่อล็อกจะถือสัมปทานจากทั้ง 2 ประเทศ ในกรณีนี้ที่มีการพิพาทเรื่องพื้นที่ในอ่าวไทย หากไทยและกัมพูชา ให้สัมปทานในพื้นที่นี้ ผู้ที่จะมีอิทธิพลสูงสุดในการครอบครอง ย่อมมิใช่ไทยหรือกัมพูชาอีกทั้งนั้น แต่จะเป็นสหรัฐอเมริกาภายใต้กลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' เพราะสัมปทานจะเป็นของ Chevron โดยเอกฉันท์ ฝ่ายใดที่ให้ประโยชน์แก่สหรัฐฯ สูงสุด สหรัฐฯ ย่อมสนับสนุนฝ่ายนั้น
    ในปัจจุบัน การถูกปล้นอธิปไตย การตกเป็นอาณานิคมของ 'ทุนธนาคาร Zionist' อย่างเต็มรูปแบบในเรื่องพลังงาน ก็ประจักษ์ชัดเจนอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยในปัจจุบัน นาย ณรงค์ชัย อัครเศรณี ผู้เข้ามาดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ก่อนเข้ามารับตำแหน่ง ได้เป็นสมาชิก The Trilateral Commission (TC) องค์กรของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' ยาวนานถึง 30 ปี โดยเมื่อเข้ามาแล้ว ก็ไม่รีรอที่จะประกาศผลักดันเปิดสัมปทานในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเต็มที่ โดยไม่สนใจ และไม่มีการชี้แจงอันใดเกี่ยวกับการเสียดินแดนของประเทศไทย ทั้งที่มีการคัดค้าน
    ด้วยประการฉะนี้ การปล้นโกงน้ำมันและก๊าซ โดย 'ทุนธนาคาร Zionist' จึงมิได้ครอบคลุมเพียงแค่น้ำมันและก๊าซอีกต่อไป แต่ได้ขยายไปเป็นการปล้นดินแดนไทย จากประชาชนคนไทย ไปโดยเรียบร้อย
    (2) การทำให้ประเทศไทยเป็นหนี้ ตามด้วยการยึดครองเศรษฐกิจการเงินของประเทศ
    การที่เถ้าแก่สามานย์รายใดจะต้องการยึดที่ดินสวย ๆ ของชาวนา วิธีที่เขาจะกระทำคือ ให้ชาวนากู้เงิน ทำให้จ่ายหนี้ไม่ได้ เมื่อจ่ายช้าก็อายัดที่ดินนั้น บังคับขายในราคาต่ำกว่าจริงสิบเท่า แล้วเข้าซื้อเอง
    วิธีการของ 'ทุนธนาคาร Zionist' ก็เป็นเช่นนั้น ทำให้ประเทศเป็นหนี้ หลังการปล่อยกู้เงินให้แก่ประเทศไทยจำนวนมากให้คน น้อยกว่า 1% อย่างฟุ่มเฟือย George Soros สมาชิกอาวุโส CFR ได้นำกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' มาโจมตีค่าเงินบาท จาก 25 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ กลายเป็น 56 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ เพราะกู้เงินจากต่างชาติมามาก เศรษฐกิจไทยได้เข้าสู่วิกฤต มีการล่มสลายของธุรกิจจำนวนมาก(ในปี 2540 – 2542)
    ต่อมาก็เป็นไปตามแบบแผนวิธีการของ IMF และ World Bank ที่ 51% เป็นของ US Treasury ควบคุมโดย 'ทุนธนาคาร Zionist' ของ Rothschild ตามขั้นตอนที่ Joseph Stiglitz ผู้เป็นอดีตประธานที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจของ President Bill Clinton อดีตรองประธาน และ Chief Economist ของ World Bank ได้เปิดโปงให้แก่หนังสือ The Observer และ Newsweek หลังมีเอกสารลับหลุดออกมาจาก World Bank คือในการขอความช่วยเหลือทางการเงิน จำต้องเซ็นสัญญา โดยในสัญญาจะตกลงใน (a) Privatization การแปรรูป โดยรัฐจะต้องยินยอมขายสมบัติของชาติเกี่ยวเนื่องกับสิ่งจำเป็น เช่น น้ำ ไฟฟ้า น้ำมันและก๊าซ (b) Capital Market Liberalization การเปิดให้ทุนไหลเข้าออก โดยส่วนใหญ่มักจะไหลออก (c) Market-based pricing การขึ้นราคา อาหาร ไฟฟ้า น้ำมันและก๊าซ โดยอ้างว่าเป็นราคาตลาดโลก (d) Free Trade การค้าเสรี ตามกฎของ WTO และ World Bank
    Stiglitz ได้ระบุในการสัมภาษณ์อย่างชัดเจนว่า การยินยอมในการตกลงนั้นเกิดขึ้นไม่ยากโดย (ก) World Bank IMF สามารถสั่ง Financial Blockage การกีดกันทางการเงินหากไม่ร่วมมือ และ (ข) นักการเมืองในประเทศนั้น ๆ ยินดีที่จะยกบริษัท น้ำ ไฟฟ้า น้ำมันและก๊าซ ให้โดย 'เขาจะตาโตกันเลย เมือเขานึกถึงค่าคอมมิสชั่นที่เขาจะได้กัน จากการลดราคาเป็นพัน ๆ ล้านในการแปรรูป' โดยเขาจะสามารถใช้ข้ออ้างว่า ถูก World Bank IMF บังคับ
    แล้วการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ก็ได้ตามมา พร้อมการขายสมบัติชาติแบบล็อกสเปคในราคาที่ต่ำกว่าทุนถึง 5 เท่า ตามด้วยการแปรรูปบริษัทน้ำมัน-ก๊าซของชาติ โดยสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ว่าจะในกรณี การยกดินแดนให้ต่างชาติ หรือ การแปรรูป จะเกิดขึ้นโดยการร่วมมือของมากกว่าหนึ่งรัฐบาล โดยฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายชง อีกฝ่ายเป็นฝ่ายจัดการ ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นไปเพื่อการสามารถโยนความผิดกันไปมาได้ โดยไม่มีใครผิดเต็ม ๆ โดยในกรณีนี้ แม้ขั้วนักการเมืองกลุ่มที่รับข้อตกลงรับรายละเอียดในการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับจาก 'ทุนธนาคาร Zionist' นี้พยายามจะโยนความผิดให้ผู้ริเริ่มการตกลง แต่ก็ปรากฏให้เห็นได้ถึงการตอบแทน เมื่อคนของเขาได้ไปนั่งเป็นผู้อำนวยการใหญ่ WTO
    โดยการโจมตีค่าเงิน การบีบข่มขู่ การให้สินบนแก่ผู้เข้ามามีอำนาจทุกขั้ว ที่ร่วมกันขายชาติตนเอง 'ทุนธนาคาร Zionist' เช่น JP Morgan Chase, BlackRock, State Street, Vanguard และ Fidelity ได้เข้ามายึดครองควบคุม บริษัทน้ำมันก๊าซ ธนาคาร และ เศรษฐกิจการเงินของประเทศไทย ไปจากคนไทย และยังรุกคืบยิ่ง ณ ปัจจุบัน ตามข่าวการแปรรูปที่ปรากฏอยู่
    (3) การชักใยอยู่เบื้องหลัง ในการสร้างความแตกแยก ตามยุทธศาสตร์ 'แบ่งแยกแล้วปกครอง' (Divide and Conquer) เพื่อการยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จ
    เป็นที่ประจักษ์ว่าไม่ว่าจะขั้วไหน เข้ามาด้วยวิธีใด ที่เข้ามามีอำนาจ ล้วนให้ความร่วมมือกับ 'ทุนธนาคาร Zionist' ในการขายทำลายชาติ โดยมีค่าคอมมิสชั่น ทั้งในทรัพยากรและในการแปรรูป เป็นตัวเชื่อม สามารถควบคุม ชักใยได้ทุกฝ่าย ยุทธศาสตร์ แบ่งแยกแล้วปกครอง เป็นยุทธศาสตร์ที่มีตัวอย่างเห็นได้ในโลกปัจจุบันมากมายในการเข้ายึดครองประเทศต่าง ๆ ของ 'ทุนธนาคาร Zionist' โดยการยุยงให้เหยื่อตีกันเอง บางกรณีให้อาวุธทั้ง 2 ฝ่าย ทำลายภูมิคุ้มกันความสามัคคีของชนชาตินั้น ๆ สร้างความแตกแยก โดยเมื่อมีรอยแตก ก็สามารถจะแทรกเข้าไป ยึดครองประเทศนั้น ๆ
    ความแตกแยก ปัญหาความขัดแย้งเสื้อสี ที่ปรากฏอยู่ในประเทศไทย ล้วนมีการชักใย มีการสนับสนุน ทั้ง 2 ฝ่ายการเมือง โดยมีกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนักการเมืองทั้ง 2 ขั้ว โดยทั้ง 2 ขั้ว นั้นล้วนมีผลประโยชน์ในเรื่องคอมมิสชั่น จากกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' และถูกชักใยให้ปลุกปั่นประชาชน ให้มาตีกันเองโดยการรู้ไม่เท่าทันของประชาชน ว่าโดยแท้จริงแล้ว นักการเมืองและผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะขั้วไหน เข้ามาด้วยวิธีใด ล้วนให้ความร่วมมือ ขายชาติตนเองแก่ 'ทุนธนาคาร Zionist' ทั้งสิ้น
    หลักฐานปรากฏชัดเจนว่าสมาชิก CFR ของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' อาทิ (a) Robert Blackville สมาชิก CFR มือขวาการต่างประเทศของ Henry Kissinger จาก Barbour Griffif & Rogers (CFR) (b) Keneth Adelman สมาชิก CFR อดีตทูต UN ของสหรัฐ จาก Baker & Botts Robert (CFR) (c) Robert Amsterdam จาก Amsterdam & Peroff (Chatham House) ได้ทำหน้าที่เป็น lobbyist ให้อดีตนักการเมืองที่หลบอยู่ที่ Dubai และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการเสื้อแดง และองค์กร NED ได้ให้เงินสนับสนุน Website ของเสื้อแดงจำนวนมาก โดยต้องเป็นที่กล่าวว่า นักการเมืองไทยที่หลบหนีอยู่ที่ Dubai นั้น โดยแท้จริงแล้วเป็นเพียงหุ่นเชิด ที่ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' ชักใยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งโดยลำพังเขาไม่สามารถที่จะทำเองได้เลย (นั่นคือทักษิณ ชินวัตร)
    ส่วนนักการเมืองผู้เข้ามามีอำนาจ ฝ่ายอื่น ๆ ที่โหน อ้าง ปกป้อง สถาบันสำคัญ ๆ ฝ่ายนี้ โดยการขายตัวขายชาติ การปรารถนาได้ค่าคอมมิสชั่น ทั้งในน้ำมันก๊าซ และในการแปรรูป เป็นตัวเชื่อม ก็ไม่พ้นการอยู่ภายใต้อำนาจการชักใยของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' ที่เป็นผู้กำกับการแสดง จูงทั้งสองสามฝ่าย ให้ชงและส่งลูกให้กัน เสี้ยมให้ชาติ ล่มสลาย เพื่อการปล้นยึดครองอย่างเบ็ดเสร็จ ในระหว่างที่สหรัฐ แขนขวาของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' สนับสนุนฝ่ายหนึ่ง แขนซ้าย ก็ทำตัวเข้าสนับสนุนอีกฝ่าย
    ข้าพเจ้าจึงจะประกาศ ณ ที่นี้ว่าข้าพเจ้ามิได้รังเกียจประชาชนของชนชาติใด จะเป็นชาวอเมริกันหรือชาวยิวหรือชาติใด ๆ ทั้งสิ้น แต่สิ่งที่ข้าพเจ้ารังเกียจ คือพฤติกรรม เอาเปรียบ เบียดเบียน แทรกแซง ปล้นทั้งทรัพยากรและดินแดน ทำลายชาติอื่น ที่ 'ทุนธนาคาร Zionist' นี้ได้กระทำทั่วโลก
    ดังนั้น กับคำกล่าวของท่านว่าข้าพเจ้าเหยียดชนชาติ เมื่อความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นข้าพเจ้าจึงไม่เดือดร้อนใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ว่าในโลกปัจจุบัน เท่าที่ข้าพเจ้าทราบ ข้าพเจ้าไม่เห็นว่าจะมีค่ายนักโทษอันใดที่กระทำความทารุณโหดร้ายเท่ากับที่สถานที่ชื่อ Gaza และในเมื่อประเทศของท่านเองยังกระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาว Palestine อย่างที่กระทำอยู่ ท่านยังจะกล้าบังอาจเรียกผู้ใดว่าเหยียดชนชาติได้เสียอย่างไร
    จะเรียกใครว่าอย่างไรท่านจงมองตัวเองบ้างเสียเถิด ท่านจงสำเหนียกเสียบ้างเถิดว่า พฤติกรรมร้องทำจะเป็นจะตายว่าพวกตนถูกทำร้าย ทั้งที่พวกตนนั่นแหละคือผู้ที่กระทำชำเราเขาไปทั่ว ท่านคิดว่าอย่างไร พฤติกรรมนี้เป็นพฤติกรรมที่น่าสมเพชหรือไม่
    ไม่ว่าจะประชาชนชนชาติใด เขาก็ย่อมปรารถนาความสงบสุข เขาย่อมปรารถนาอธิปไตยในชาติของเขาเอง เขาย่อมปรารถนาที่จะตัดสินอนาคตเขาเอง เขาย่อมปรารถนาว่าทรัพยากรของเขาจะถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของเขาด้วยความเป็นธรรม เขาย่อมไม่ต้องการให้ใครมาเอาดินแดนของเขาไป แต่ในประเทศไทย ด้วยการชักใย การซื้อคนไทยที่ขายชาติตนเองทุกขั้ว การซื้อสื่อ การปลุกปั้นโดย 'ทุนธนาคาร Zionist' เป็นอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น
    ผลคือ คนไทย แทนที่จะรักใครสามัคคีกัน แทนที่จะได้รับผลประโยชน์จากสมบัติอันมีค่าของเขา แทนที่จะมีรัฐสวัสดิการ การรักษาพยาบาล การศึกษา ที่มีคุณภาพ แทนที่จะมีชีวิตที่มีคุณภาพความสุขที่พวกเขาควรได้รับ เขากลับต้องมาเกลียดชังกันเอง ทะเลาะสู้กันเอง เขากลับต้องมาเป็นทาสของ 'ทุนธนาคาร Zionist' ต้องมาเป็นทาสที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายสู้กันเอง แทนที่จะสามัคคีกันเพื่อปลดปล่อยพวกตนจากความเป็นทาส เพราะความไม่รู้เท่าทัน เพราะการหลอกลวงโดยนักการเมือง ผู้เข้ามามีอำนาจที่หิวโหย ที่ล้วนทำเพื่อตนเอง โดยรับใช้ ถูกชักใยจากนายคนเดียวกันคือ 'ทุนธนาคาร Zionist' ทั้งนั้น
    ข้าพเจ้าจึงมีความจำเป็นที่จะเปิดเผยความจริง ความจริงโดยรอบด้าน และความจริงที่จริงที่สุด โดย เมื่อประชาชนชาวไทยตื่นรู้กับความจริง การเป็นทาสที่ถูกหลอกให้สู้กันเองย่อมหมดไป ความสามัคคีย่อมกลับมา โดยสิ่งนี้สิ่งเดียว คือ การตื่นรู้เท่านั้น ที่จะทำให้ชนชาติไทยรอดพ้นภัยไปได้
    ทั้งนี้ทั้งนั้น มิใช่ว่าประชาชนชาวไทยจะต้องไปเป็นศัตรูกับใคร การตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดังฉันใด และ เมื่อคนไทยตื่นรู้เลิกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเป็นหนึ่งอันเดียวกัน รวมกันปราบปรามเหล่าคนไทยที่ขายชาติตนเองทั้งหลายแล้ว ประเทศและประชาชนชาวไทยย่อมพ้นจากการเป็นอาณานิคม พ้นจากการเป็นเป็นทาส ไม่ว่าจะเป็น ทาสของ 'ทุนธนาคาร Zionist' หรือ กลุ่มทุนอื่นใด
    จึงเรียนมาเพื่อทราบ
    ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร
    หม่อมโจ้ สิ่งที่ควรรู้เรื่องอิสราเอลหม่อมโจ้ โต้ทูตอิสราเอล ยันต้องเปิดความจริง ช่วยคนไทยพ้นภาวะทาส เพื่อนๆคงจะรู้จัก คุณปุ๊ก อาภัสรา หงสกุล อดีตนางงามจักรวาลชาวไทยคนแรก ที่เรียกว่ามิสยูนิเวอร์ส คุณอาภัสราจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.ศ.3) ปี 2506 จาก ร.ร.ศึกษาวิทยา ถนนสีลม แล้วไปเรียนอาชีวศึกษาที่ ร.ร.เลขานุการที่นครรัฐปีนัง ในมาเลเซีย จบชั้นปีที่ 2 เธอมาประกวดนางสาวไทย ได้ตำแหน่งปี 2507 จากนั้นไปเรียนต่อแล้วกลับมาปี 2508 เดินทางไปประกวดมิสยูนิเวอร์สที่นครไมอามี่ รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ได้ตำแหน่งขณะมีอายุ18ปี คุณปุ๊กเกิดวันที่16 มกราคม 2490 ปีกุนปีเดียวกับผม ปี 2510 ขณะมีอายุ 20ปีได้สมรสครั้งแรกกับหม่อมราชวงศ์เกียรติคุณ กิติยากร มีบุตรชายคนแรกคือหม่อมหลวงรุ่งคุณ กิติยากร ปัจจุบัน หม่อมโจ้ บุตรชายคนแรกของคุณปุ๊ก อายุได้ 53 ปีแล้ว หม่อมโจ้เรียนจบจากต่างประเทศที่สหรัฐอเมริกาในระดับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจเคยทำงานบริษัทต่างประเทศจนได้ลาออกไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุในสายวัดป่าอยู่หลายปีได้มาซื้อที่ดินที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 45 ไร่ ปลูกพืชและผลไม้สายพันธุ์ของต่างประเทศที่ไม่มีใครทำมาก่อนจนผลไม้ขายได้ในราคาสูง หม่อมหลวงรุ่งคุณได้ศึกษาและวิเคราะห์เขียนหนังสือหลายเรื่องเกี่ยวกับอิสราเอล ไว้มากจนเป็นข่าวตอบโต้กับเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยดังนี้ เรียน ท่านเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย นายไซม่อน โรดเด็ด ข้าพเจ้ารับทราบถึงความไม่พอใจของท่านกับบทความของข้าพเจ้า ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่ข้าพเจ้าได้เขียน เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของข้าพเจ้าโดยบริสุทธิ์ใจ อันเป็นสิทธิที่ข้าพเจ้าจะแสดงได้ โดยความเห็นของข้าพเจ้านั้น เป็นไปตามข้อมูลหลักฐานอันมีจริงทางประวัติศาสตร์ที่ได้มีความพยายามในการกลบและบิดเบือน แม้กระนั้น ท่านอาจแปลกใจคิดว่า แล้วไฉนทั้งที่ข้าพเจ้าและประเทศไทยที่ไม่ได้มีส่วนได้เสีย ข้าพเจ้าจึงต้องไปเขียนในเรื่องราวสร้างความบาดหมางให้แก่ท่าน ข้าพเจ้าจึงใคร่ที่จะชี้แจงตรงนี้ว่า ข้าพเจ้าไม่ได้เขียนเพื่อที่จะก่อความบาดหมางให้แก่ท่านหรือแก่ผู้ใด และ เรื่องราวที่ข้าพเจ้าเขียนนั้น มีความเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าและต่อประเทศไทยอย่างไรบ้าง อย่างแรก 'กลุ่มทุนธนาคารยิว Zionist' ที่ข้าพเจ้าได้กล่าวถึงนั้น ข้าพเจ้ากล่าวถึงคนเพียงกลุ่มหนึ่ง มิใช่ชาวยิวทั้งหมด โดยคำว่า 'Zionist' แม้แต่ชาวยิวแท้ Orthodox Jews ที่ยึดมั่นใน Torah จำนวนมากก็ไม่ได้เห็นด้วยเลย ดังที่พวกเขาได้ออกมาประท้วง ประกาศว่า 'Zionism' ไม่ใช่ 'Judaism' เอง ท่านทูตน่าจะพอทราบอยู่ เพราะใน Israel ก็มีการจับชาวยิวแท้ ที่มีอัธยาศัยดีเหล่านี้ ไปจำคุกอยู่จำนวนหนึ่ง 'ทุนธนาคาร Zionist' ที่ข้าพเจ้าพูดถึง หมายถึงกลุ่มทุนธนาคารที่เป็นผู้มีอำนาจที่สุดในโลก มีอำนาจเหนือรัฐหลายรัฐ รวมถึงมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา เขาคุมการเงินโดยกลุ่มของเขาเอง เป็นเจ้าของ Federal Reserve Bank ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา ที่พิมพ์เงินให้รัฐบาลสหรัฐฯต้องกู้ มิใช่ของประชาชนชาวอเมริกันตามที่ควรจะเป็นแต่อย่างใด กลุ่มทุนธนาคารของเขาเป็นหุ้นใหญ่ในบริษัทยักษ์ใหญ่แทบทั้งสิ้นทั่วโลก รวมถึง 6 บริษัทที่คุม 90% ของสื่อในสหรัฐอเมริกา เขาคุมแหล่งนํ้ามันและก๊าซหลัก ๆ ทั่วโลก และกำลังรุกเพื่อควบคุมผูกขาดอาหารของโลกโดยการผลิต GMO แม้แต่องค์กรโลก เช่น UN ที่ให้กำเนิด World Bank และ IMF ล้วนเป็นองค์กรที่พวกเขาจัดตั้งขึ้น และควบคุมทั้งสิ้น ชื่อตระกูลที่โดดเด่นมีอิทธิพลสูงสุดใน 'ทุนธนาคาร Zionist' นี้ ได้แก่ 'Rothschild' และ 'Rockefeller' ชื่อ 'Rothschild' ท่านทูตย่อมรู้จักเป็นอย่างดี โดยใน 'Independence Hall' ที่ Tel Aviv เมืองหลวงของท่านเอง ก็มีนิทรรศการเอกสารชิ้นสำคัญมากชิ้นหนึ่งเรียกว่า 'The Balfour Declaration' เป็นจดหมายจากรัฐบาลอังกฤษ จ่าหัวถึง 'Lord Rothschild' ใน 1917 แสดงถึงการที่รัฐบาลอังกฤษสนับสนุนให้เกิด บ้านอยู่ (national home) ของชาวยิว ที่ Palestine แก่ 'Lord Rothschild' Baron Edmond (Abraham Benjamin) Rothschild จึงมีสถานะเป็น "the Father of the Settlements" (Avi ha-Yishuv) หรือบิดาแห่งอิสราเอล ใน4บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลก หรือ 'The Four Horsemen of Oil' ที่อยู่เบื้องหลังนโยบายการครอบครองน้ำมันของสหรัฐฯ 2 บริษัท คือ BP Amoco และ Royal Dutch/Shell อยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูล Rothschild ที่ถือหุ้นใหญ่ ส่วน อีกสอง Exxon Mobil และ Chevron คือ บริษัทที่มาจาก Standard Oil ของ John D. Rockefeller โดยกรรมการของบริษัทน้ำมันเหล่านี้จำนวนหนึ่ง ไขว้กันเองเป็นใย และไขว้เป็นกรรมการของธนาคารยักษ์ใหญ่ เช่น JP Morgan Chase ของ Rockefeller และ Citigroup, Bank of America, Wells Fargo, N. M. Rothschild & Sons โดยตระกูล Rothschild ควบคุม และมีการเชื่อมโยงถือหุ้นไขว้กันกับกลุ่มทุนนอมินียักษ์ เช่น BlackRock, State Street, Vanguard และ Fidelity ที่ถือหุ้นใหญ่บริษัทยักษ์ใหญ่ แทบทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ในการสร้างอำนาจเหนือรัฐต่าง ๆ 'ทุนธนาคาร Zionist' เหล่านี้ ได้จัดตั้งองค์กร Front ของเขา เช่น The Bilderberg Group, Council on Foreign Relations (CFR) และ The Trilateral Commission (TC) โดยองค์กรเหล่านี้จะรวมกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' และบรรดาผู้มีอิทธิผล เช่น อดีตประธานาธิบดี บริวารมือขวาของเขา Henry Kissinger นักการเมืองทุกขั้ว ทหาร หัวหน้าหน่วยงานลับ ของประเทศสำคัญในยุโรป และสหรัฐฯ โดยใน Trilateral Commission จะมีสมาชิกเป็นบุคคลสำคัญของประเทศในทวีปเอเชียต่าง ๆ ที่รับใช้พวกเขา 'ทุนธนาคาร Zionist' จึงมีอิทธิพลอำนาจเหนือรัฐ เช่นมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา ด้วยความละโมบของพวกเขา ในการล่าอาณานิคมยุคใหม่ โดยกำลังก็ดี โดยวิธีแห่งการให้สินบนแก่ผู้ขายชาติตนเองก็ดี โดยการบีบบังคับด้วยหนี้สินก็ดี โดยการแทรกแซงการเมืองภายในก็ดี 'ทุนธนาคาร Zionist' เหล่านี้ ได้เข้ายึดครองทรัพยากร พลังงาน เศรษฐกิจ และการเงิน ของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้ประชาชนของประเทศนั้น ๆ ตกเป็นทาสของพวกเขา โดยในประเทศไทยเอง ปรากฏหลักฐานชัดเจนถึงการกระทำ ที่ 'ทุนธนาคาร Zionist' พร้อมการร่วมมือของ 'คนไทย' ที่ได้ขายตัวขายจิตวิญญาณให้พวกเขา ได้ร่วมกระทำ ดังต่อไปนี้ (1) การปล้นโกงน้ำมันและก๊าซ จากประชาชนคนไทย (2) การทำให้ประเทศไทยเป็นหนี้ ตามด้วยการยึดครองเศรษฐกิจการเงิน (3) การชักใยอยู่เบื้องหลังทุกฝ่าย ในการสร้างความแตกแยก ตามยุทธศาสตร์ 'แบ่งแยกแล้วปกครอง' เพื่อการยึดครองประเทศเป็นเมืองขึ้นยิ่งขึ้นไป มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ : (1) การปล้นโกงน้ำมันและก๊าซ จากประชาชนคนไทย โดย 'ทุนธนาคาร Zionist' ทั้งที่ประเทศไทย มีอธิปไตยของตนเอง โดยอธิปไตย นั้นเป็นของปวงชนชาวไทย อันหมายความว่าทรัพยากรของชาตินั้นเป็นของประชาชนคนไทย แต่ปรากฏว่า กฎหมายว่าด้วยน้ำมันและก๊าซ (พ.ร.บ.ปิโตรเลียม 2514) มิได้มีการเขียนขึ้นไม่ว่าจะ 'โดย' ประชาชน หรือ 'เพื่อ' ประชาชน แต่อย่างใด แต่ได้ถูกเขียนขึ้นโดย Walter James Levi สมาชิกทั้ง CFR และ The Trilateral Commission ผู้ทำงานให้รัฐบาลสหรัฐฯ ขั้นขึ้นชื่อว่าเป็น หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์พลังงานของสหรัฐอเมริกา (the dean of United States oil economists) และ ได้เป็นผู้บริหารบริษัทของตระกูล Rockefeller เองคือ Standard Oil Company of New York หรือ Socony (ปัจจุบันคือ Exxon) คนที่เขียนกฎหมายนี้ของประเทศไทย ไม่ใช่คนไทย แต่คือคนของ 'ทุนธนาคาร Zionist' เนื้อหาของกฎหมายดังกล่าวเอง ก็เป็นไปเพื่อประโยชน์ของ 'ทุนธนาคาร Zionist' โดยมีลักษณะของกฎหมายสำหรับเมืองขึ้นอันไม่เป็นธรรม คือ น้ำมันและก๊าซทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับสัมปทาน การได้สัมปทานเป็นไปโดยไม่มีการประมูลอย่างโปร่งใส ค่าตอบแทนเป็นไปอย่างต่ำ และ ประชาชนคนไทยที่เป็นเจ้าของโดยแท้จริง ไม่สามารถตรวจสอบรับทราบความจริงได้เลย โดยวิธีที่สามารถจะเรียกว่าโปร่งใสได้ ว่าปริมาณทรัพยากรที่มีการขุดไปนั้นมีปริมาณที่แท้จริงมากน้อยเพียงใด ประเทศไทยมีพลังงานมากน้อยแค่ไหนโดยต้องยอมรับตามตัวเลข ที่บริษัทพลังงานต่าง ๆ แจ้งเท่านั้น การปล้นอธิปไตยโดย 'ทุนธนาคาร Zionist' เป็นไปได้ด้วยการข่มขู่ไม่ให้ความร่วมมือ พร้อมการให้สินบนแก่ 'คนไทยที่ขายชาติตัวเอง' ซึ่งจากนั้นมา การรุกครอบครองน้ำมันและก๊าซของประชาชนคนไทย โดยวิธีการดังกล่าวได้ขยายไปเรื่อย ๆ มีการแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติม ให้เอื้ออำนวยแก่ผู้รับสัมปทานอย่างล้นพ้นโดยภายหลังจะเห็นได้ชัดเจนถึงผู้เข้ามามีอำนาจในไทย ไม่ว่าขั้วไหน เข้ามาด้วยวิธีใด ได้สานต่อไปในทาง 'ขายชาติตัวเอง' ให้แก่ 'ทุนธนาคาร Zionist' เหล่านี้เพื่อค่าคอมมิสชั่น ถึงขั้นร่วมกันชง ส่งลูกกันข้ามรัฐบาล ยกดินแดนไทยให้กัมพูชา อันส่งผลให้พื้นที่ไทยในทะเลอ่าวไทย 27,000 ตารางกิโลเมตรอันอุดมด้วยน้ำมันและก๊าซที่สุดแห่งหนึ่ง ต้องตกกลายเป็นพื้นที่พิพาท ระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งในพื้นที่นี้ บริษัท Chevron คือบริษัทที่จ่อล็อกจะถือสัมปทานจากทั้ง 2 ประเทศ ในกรณีนี้ที่มีการพิพาทเรื่องพื้นที่ในอ่าวไทย หากไทยและกัมพูชา ให้สัมปทานในพื้นที่นี้ ผู้ที่จะมีอิทธิพลสูงสุดในการครอบครอง ย่อมมิใช่ไทยหรือกัมพูชาอีกทั้งนั้น แต่จะเป็นสหรัฐอเมริกาภายใต้กลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' เพราะสัมปทานจะเป็นของ Chevron โดยเอกฉันท์ ฝ่ายใดที่ให้ประโยชน์แก่สหรัฐฯ สูงสุด สหรัฐฯ ย่อมสนับสนุนฝ่ายนั้น ในปัจจุบัน การถูกปล้นอธิปไตย การตกเป็นอาณานิคมของ 'ทุนธนาคาร Zionist' อย่างเต็มรูปแบบในเรื่องพลังงาน ก็ประจักษ์ชัดเจนอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยในปัจจุบัน นาย ณรงค์ชัย อัครเศรณี ผู้เข้ามาดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ก่อนเข้ามารับตำแหน่ง ได้เป็นสมาชิก The Trilateral Commission (TC) องค์กรของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' ยาวนานถึง 30 ปี โดยเมื่อเข้ามาแล้ว ก็ไม่รีรอที่จะประกาศผลักดันเปิดสัมปทานในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเต็มที่ โดยไม่สนใจ และไม่มีการชี้แจงอันใดเกี่ยวกับการเสียดินแดนของประเทศไทย ทั้งที่มีการคัดค้าน ด้วยประการฉะนี้ การปล้นโกงน้ำมันและก๊าซ โดย 'ทุนธนาคาร Zionist' จึงมิได้ครอบคลุมเพียงแค่น้ำมันและก๊าซอีกต่อไป แต่ได้ขยายไปเป็นการปล้นดินแดนไทย จากประชาชนคนไทย ไปโดยเรียบร้อย (2) การทำให้ประเทศไทยเป็นหนี้ ตามด้วยการยึดครองเศรษฐกิจการเงินของประเทศ การที่เถ้าแก่สามานย์รายใดจะต้องการยึดที่ดินสวย ๆ ของชาวนา วิธีที่เขาจะกระทำคือ ให้ชาวนากู้เงิน ทำให้จ่ายหนี้ไม่ได้ เมื่อจ่ายช้าก็อายัดที่ดินนั้น บังคับขายในราคาต่ำกว่าจริงสิบเท่า แล้วเข้าซื้อเอง วิธีการของ 'ทุนธนาคาร Zionist' ก็เป็นเช่นนั้น ทำให้ประเทศเป็นหนี้ หลังการปล่อยกู้เงินให้แก่ประเทศไทยจำนวนมากให้คน น้อยกว่า 1% อย่างฟุ่มเฟือย George Soros สมาชิกอาวุโส CFR ได้นำกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' มาโจมตีค่าเงินบาท จาก 25 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ กลายเป็น 56 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ เพราะกู้เงินจากต่างชาติมามาก เศรษฐกิจไทยได้เข้าสู่วิกฤต มีการล่มสลายของธุรกิจจำนวนมาก(ในปี 2540 – 2542) ต่อมาก็เป็นไปตามแบบแผนวิธีการของ IMF และ World Bank ที่ 51% เป็นของ US Treasury ควบคุมโดย 'ทุนธนาคาร Zionist' ของ Rothschild ตามขั้นตอนที่ Joseph Stiglitz ผู้เป็นอดีตประธานที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจของ President Bill Clinton อดีตรองประธาน และ Chief Economist ของ World Bank ได้เปิดโปงให้แก่หนังสือ The Observer และ Newsweek หลังมีเอกสารลับหลุดออกมาจาก World Bank คือในการขอความช่วยเหลือทางการเงิน จำต้องเซ็นสัญญา โดยในสัญญาจะตกลงใน (a) Privatization การแปรรูป โดยรัฐจะต้องยินยอมขายสมบัติของชาติเกี่ยวเนื่องกับสิ่งจำเป็น เช่น น้ำ ไฟฟ้า น้ำมันและก๊าซ (b) Capital Market Liberalization การเปิดให้ทุนไหลเข้าออก โดยส่วนใหญ่มักจะไหลออก (c) Market-based pricing การขึ้นราคา อาหาร ไฟฟ้า น้ำมันและก๊าซ โดยอ้างว่าเป็นราคาตลาดโลก (d) Free Trade การค้าเสรี ตามกฎของ WTO และ World Bank Stiglitz ได้ระบุในการสัมภาษณ์อย่างชัดเจนว่า การยินยอมในการตกลงนั้นเกิดขึ้นไม่ยากโดย (ก) World Bank IMF สามารถสั่ง Financial Blockage การกีดกันทางการเงินหากไม่ร่วมมือ และ (ข) นักการเมืองในประเทศนั้น ๆ ยินดีที่จะยกบริษัท น้ำ ไฟฟ้า น้ำมันและก๊าซ ให้โดย 'เขาจะตาโตกันเลย เมือเขานึกถึงค่าคอมมิสชั่นที่เขาจะได้กัน จากการลดราคาเป็นพัน ๆ ล้านในการแปรรูป' โดยเขาจะสามารถใช้ข้ออ้างว่า ถูก World Bank IMF บังคับ แล้วการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ก็ได้ตามมา พร้อมการขายสมบัติชาติแบบล็อกสเปคในราคาที่ต่ำกว่าทุนถึง 5 เท่า ตามด้วยการแปรรูปบริษัทน้ำมัน-ก๊าซของชาติ โดยสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ว่าจะในกรณี การยกดินแดนให้ต่างชาติ หรือ การแปรรูป จะเกิดขึ้นโดยการร่วมมือของมากกว่าหนึ่งรัฐบาล โดยฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายชง อีกฝ่ายเป็นฝ่ายจัดการ ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นไปเพื่อการสามารถโยนความผิดกันไปมาได้ โดยไม่มีใครผิดเต็ม ๆ โดยในกรณีนี้ แม้ขั้วนักการเมืองกลุ่มที่รับข้อตกลงรับรายละเอียดในการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับจาก 'ทุนธนาคาร Zionist' นี้พยายามจะโยนความผิดให้ผู้ริเริ่มการตกลง แต่ก็ปรากฏให้เห็นได้ถึงการตอบแทน เมื่อคนของเขาได้ไปนั่งเป็นผู้อำนวยการใหญ่ WTO โดยการโจมตีค่าเงิน การบีบข่มขู่ การให้สินบนแก่ผู้เข้ามามีอำนาจทุกขั้ว ที่ร่วมกันขายชาติตนเอง 'ทุนธนาคาร Zionist' เช่น JP Morgan Chase, BlackRock, State Street, Vanguard และ Fidelity ได้เข้ามายึดครองควบคุม บริษัทน้ำมันก๊าซ ธนาคาร และ เศรษฐกิจการเงินของประเทศไทย ไปจากคนไทย และยังรุกคืบยิ่ง ณ ปัจจุบัน ตามข่าวการแปรรูปที่ปรากฏอยู่ (3) การชักใยอยู่เบื้องหลัง ในการสร้างความแตกแยก ตามยุทธศาสตร์ 'แบ่งแยกแล้วปกครอง' (Divide and Conquer) เพื่อการยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จ เป็นที่ประจักษ์ว่าไม่ว่าจะขั้วไหน เข้ามาด้วยวิธีใด ที่เข้ามามีอำนาจ ล้วนให้ความร่วมมือกับ 'ทุนธนาคาร Zionist' ในการขายทำลายชาติ โดยมีค่าคอมมิสชั่น ทั้งในทรัพยากรและในการแปรรูป เป็นตัวเชื่อม สามารถควบคุม ชักใยได้ทุกฝ่าย ยุทธศาสตร์ แบ่งแยกแล้วปกครอง เป็นยุทธศาสตร์ที่มีตัวอย่างเห็นได้ในโลกปัจจุบันมากมายในการเข้ายึดครองประเทศต่าง ๆ ของ 'ทุนธนาคาร Zionist' โดยการยุยงให้เหยื่อตีกันเอง บางกรณีให้อาวุธทั้ง 2 ฝ่าย ทำลายภูมิคุ้มกันความสามัคคีของชนชาตินั้น ๆ สร้างความแตกแยก โดยเมื่อมีรอยแตก ก็สามารถจะแทรกเข้าไป ยึดครองประเทศนั้น ๆ ความแตกแยก ปัญหาความขัดแย้งเสื้อสี ที่ปรากฏอยู่ในประเทศไทย ล้วนมีการชักใย มีการสนับสนุน ทั้ง 2 ฝ่ายการเมือง โดยมีกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนักการเมืองทั้ง 2 ขั้ว โดยทั้ง 2 ขั้ว นั้นล้วนมีผลประโยชน์ในเรื่องคอมมิสชั่น จากกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' และถูกชักใยให้ปลุกปั่นประชาชน ให้มาตีกันเองโดยการรู้ไม่เท่าทันของประชาชน ว่าโดยแท้จริงแล้ว นักการเมืองและผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะขั้วไหน เข้ามาด้วยวิธีใด ล้วนให้ความร่วมมือ ขายชาติตนเองแก่ 'ทุนธนาคาร Zionist' ทั้งสิ้น หลักฐานปรากฏชัดเจนว่าสมาชิก CFR ของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' อาทิ (a) Robert Blackville สมาชิก CFR มือขวาการต่างประเทศของ Henry Kissinger จาก Barbour Griffif & Rogers (CFR) (b) Keneth Adelman สมาชิก CFR อดีตทูต UN ของสหรัฐ จาก Baker & Botts Robert (CFR) (c) Robert Amsterdam จาก Amsterdam & Peroff (Chatham House) ได้ทำหน้าที่เป็น lobbyist ให้อดีตนักการเมืองที่หลบอยู่ที่ Dubai และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการเสื้อแดง และองค์กร NED ได้ให้เงินสนับสนุน Website ของเสื้อแดงจำนวนมาก โดยต้องเป็นที่กล่าวว่า นักการเมืองไทยที่หลบหนีอยู่ที่ Dubai นั้น โดยแท้จริงแล้วเป็นเพียงหุ่นเชิด ที่ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' ชักใยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งโดยลำพังเขาไม่สามารถที่จะทำเองได้เลย (นั่นคือทักษิณ ชินวัตร) ส่วนนักการเมืองผู้เข้ามามีอำนาจ ฝ่ายอื่น ๆ ที่โหน อ้าง ปกป้อง สถาบันสำคัญ ๆ ฝ่ายนี้ โดยการขายตัวขายชาติ การปรารถนาได้ค่าคอมมิสชั่น ทั้งในน้ำมันก๊าซ และในการแปรรูป เป็นตัวเชื่อม ก็ไม่พ้นการอยู่ภายใต้อำนาจการชักใยของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' ที่เป็นผู้กำกับการแสดง จูงทั้งสองสามฝ่าย ให้ชงและส่งลูกให้กัน เสี้ยมให้ชาติ ล่มสลาย เพื่อการปล้นยึดครองอย่างเบ็ดเสร็จ ในระหว่างที่สหรัฐ แขนขวาของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' สนับสนุนฝ่ายหนึ่ง แขนซ้าย ก็ทำตัวเข้าสนับสนุนอีกฝ่าย ข้าพเจ้าจึงจะประกาศ ณ ที่นี้ว่าข้าพเจ้ามิได้รังเกียจประชาชนของชนชาติใด จะเป็นชาวอเมริกันหรือชาวยิวหรือชาติใด ๆ ทั้งสิ้น แต่สิ่งที่ข้าพเจ้ารังเกียจ คือพฤติกรรม เอาเปรียบ เบียดเบียน แทรกแซง ปล้นทั้งทรัพยากรและดินแดน ทำลายชาติอื่น ที่ 'ทุนธนาคาร Zionist' นี้ได้กระทำทั่วโลก ดังนั้น กับคำกล่าวของท่านว่าข้าพเจ้าเหยียดชนชาติ เมื่อความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นข้าพเจ้าจึงไม่เดือดร้อนใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ว่าในโลกปัจจุบัน เท่าที่ข้าพเจ้าทราบ ข้าพเจ้าไม่เห็นว่าจะมีค่ายนักโทษอันใดที่กระทำความทารุณโหดร้ายเท่ากับที่สถานที่ชื่อ Gaza และในเมื่อประเทศของท่านเองยังกระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาว Palestine อย่างที่กระทำอยู่ ท่านยังจะกล้าบังอาจเรียกผู้ใดว่าเหยียดชนชาติได้เสียอย่างไร จะเรียกใครว่าอย่างไรท่านจงมองตัวเองบ้างเสียเถิด ท่านจงสำเหนียกเสียบ้างเถิดว่า พฤติกรรมร้องทำจะเป็นจะตายว่าพวกตนถูกทำร้าย ทั้งที่พวกตนนั่นแหละคือผู้ที่กระทำชำเราเขาไปทั่ว ท่านคิดว่าอย่างไร พฤติกรรมนี้เป็นพฤติกรรมที่น่าสมเพชหรือไม่ ไม่ว่าจะประชาชนชนชาติใด เขาก็ย่อมปรารถนาความสงบสุข เขาย่อมปรารถนาอธิปไตยในชาติของเขาเอง เขาย่อมปรารถนาที่จะตัดสินอนาคตเขาเอง เขาย่อมปรารถนาว่าทรัพยากรของเขาจะถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของเขาด้วยความเป็นธรรม เขาย่อมไม่ต้องการให้ใครมาเอาดินแดนของเขาไป แต่ในประเทศไทย ด้วยการชักใย การซื้อคนไทยที่ขายชาติตนเองทุกขั้ว การซื้อสื่อ การปลุกปั้นโดย 'ทุนธนาคาร Zionist' เป็นอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น ผลคือ คนไทย แทนที่จะรักใครสามัคคีกัน แทนที่จะได้รับผลประโยชน์จากสมบัติอันมีค่าของเขา แทนที่จะมีรัฐสวัสดิการ การรักษาพยาบาล การศึกษา ที่มีคุณภาพ แทนที่จะมีชีวิตที่มีคุณภาพความสุขที่พวกเขาควรได้รับ เขากลับต้องมาเกลียดชังกันเอง ทะเลาะสู้กันเอง เขากลับต้องมาเป็นทาสของ 'ทุนธนาคาร Zionist' ต้องมาเป็นทาสที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายสู้กันเอง แทนที่จะสามัคคีกันเพื่อปลดปล่อยพวกตนจากความเป็นทาส เพราะความไม่รู้เท่าทัน เพราะการหลอกลวงโดยนักการเมือง ผู้เข้ามามีอำนาจที่หิวโหย ที่ล้วนทำเพื่อตนเอง โดยรับใช้ ถูกชักใยจากนายคนเดียวกันคือ 'ทุนธนาคาร Zionist' ทั้งนั้น ข้าพเจ้าจึงมีความจำเป็นที่จะเปิดเผยความจริง ความจริงโดยรอบด้าน และความจริงที่จริงที่สุด โดย เมื่อประชาชนชาวไทยตื่นรู้กับความจริง การเป็นทาสที่ถูกหลอกให้สู้กันเองย่อมหมดไป ความสามัคคีย่อมกลับมา โดยสิ่งนี้สิ่งเดียว คือ การตื่นรู้เท่านั้น ที่จะทำให้ชนชาติไทยรอดพ้นภัยไปได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น มิใช่ว่าประชาชนชาวไทยจะต้องไปเป็นศัตรูกับใคร การตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดังฉันใด และ เมื่อคนไทยตื่นรู้เลิกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเป็นหนึ่งอันเดียวกัน รวมกันปราบปรามเหล่าคนไทยที่ขายชาติตนเองทั้งหลายแล้ว ประเทศและประชาชนชาวไทยย่อมพ้นจากการเป็นอาณานิคม พ้นจากการเป็นเป็นทาส ไม่ว่าจะเป็น ทาสของ 'ทุนธนาคาร Zionist' หรือ กลุ่มทุนอื่นใด จึงเรียนมาเพื่อทราบ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 505 มุมมอง 0 รีวิว
  • นาย ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ แสดงทัศนะประเด็นอดีตโฆษกทร. สนับสนุน MOU44 ว่าดูละเอียดหรือยัง? เนื้อหาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนระบุว่า

    “ผมท้าทาย เชิญชวน นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม และรัฐมนตรีต่างประเทศ ให้ออกมาโต้แย้งประเด็นเทคนิคที่ทีมพรรคพลังประชารัฐเปิดเผยปัญหาแก่ประชาชนเรื่อง MOU44

    ยังไม่มีคนใดคนหนึ่งออกมาชี้แจง มีแต่พลเรือเอกจุมพล ลุมพิกานนท์ อดีตโฆษกกองทัพเรือ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการรักษาประโยชน์ของชาติทางทะเล ติดต่อขอให้ข้อมูลแก่ PPTV ในคลิปข้างล่าง PPTV ระบุว่า

    หลังจากที่ PPTV นำเสนอเรื่องข้อตกลงความร่วมมือ MOU44 ระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่หลายคนออกมาให้ความเห็นว่า อาจจะทำให้ไทยเสียเขตแดนทางทะเลให้กับกัมพูชาในอนาคต ซึ่งรวมถึงเกาะกูดด้วย เพราะเส้นเขตแดนที่ทางกัมพูชาลากมามันข้ามเกาะกูดมาเลย หลายคนจึงอยากจะให้ยกเลิก MOU44 ฉบับนี้ แต่ล่าสุด หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ ออกมาให้ความเห็นอีกทาง ว่าไม่ควรจะยกเลิก MOU44 เพราะไม่ได้ทำให้ไทยเสียเปรียบ ตรงกันข้าม นี่คือสารตั้งต้นที่จะทำให้เกิดการเจรจา แต่ถ้ายกเลิกต่างหากอาจจะมีผลเสียตามมาเพียบ

    ผมเชื่อว่าพลเรือเอกจุมพล ในฐานะเจ้าหน้าที่กองทัพเรือระดับสูง ย่อมมีเลือดรักชาติอยู่เต็มเปี่ยม แต่ขอเรียนด้วยความเคารพว่า คนไทยไม่ควรฝากความหวังไว้กับนักการเมืองมากเกินไป

    รูป 1 ท่านกล่าวว่า ชัดเจนว่าเกาะกูดเป็นของไทย จบตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ห้า มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์บันทึกไว้ชัดเจน ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ. 1907

    รูป 2 แสดงขั้นตอนเวลาที่เวียดนาม กัมพูชา และไทยประกาศเขตแดนไหล่ทวีป

    รูป 3 ท่านกล่าวว่า MOU44 ฉบับนี้จะเป็นกรอบที่ทั้งสองประเทศจะหยิบขึ้นมาเจรจากันต่อว่า เขตแดนทางทะเลของใครควรจะอยู่ตรงไหน รวมถึงเจรจาผลประโยชน์ในเขตพื้นที่พัฒนาร่วมกัน

    รูป 4 แสดงเขตพื้นที่พัฒนาร่วมกัน Joint Development Area (สีแดง) ส่วนพื้นที่ที่อยู่เหนือเส้นรุ้งที่ 11 องศา (สีน้ำเงิน) เป็นพื้นที่ทำการแบ่งเขต

    ผมให้ข้อสังเกตแก่ท่านพลเรือเอกจุมพล ในประเด็นจุดแยบยลทางกฎหมาย ดังนี้

    **หนึ่ง MOU44 ยอมรับกรอบขอบเขต boundaries พื้นที่สีแดงไปแล้ว

    ในรูป 5 จะเห็นได้ว่า คำบรรยายพื้นที่สีน้ำเงิน ข้อ 2 (ข) คือเพื่อกำหนดเขตแดนทางทะเลของใครควรจะอยู่ตรงไหน ตามที่ท่านว่า ส่วนคำบรรยายพื้นที่สีแดง ข้อ 2 (ก) คือเพื่อเจรจาผลประโยชน์

    ถ้อยคำในรูป 5 ไม่มีข้อใดที่สามารถอ่านได้ว่า สำหรับพื้นที่สีแดงนั้น "เพื่อกำหนดเขตแดนทางทะเลของใครควรจะอยู่ตรงไหน"

    ในรูป 6 จะเห็นได้ว่า คำบรรยายหน้าที่ของคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค พื้นที่สีน้ำเงิน ข้อ 3 (ข) คือเพื่อกำหนดเขตแดนทางทะเลของใครควรจะอยู่ตรงไหน ตามที่ท่านว่า ส่วนคำบรรยายพื้นที่สีแดง ข้อ 3 (ก) คือเพื่อเจรจาผลประโยชน์ล้วนๆ

    ถ้อยคำในรูป 6 ไม่มีข้อใดที่สามารถอ่านได้ว่า สำหรับพื้นที่สีแดงนั้น "เพื่อกำหนดเขตแดนทางทะเลของใครควรจะอยู่ตรงไหน"

    สรุปแล้ว ใน MOU44 ทั้งสองประเทศได้กำหนด "พื้นที่พัฒนาร่วม" "Joint Development Area" ขึ้นมา มิใช่ "เพื่อกำหนดเขตแดนทางทะเลของใครควรจะอยู่ตรงไหน" แต่ "เพื่อเจรจาผลประโยชน์"

    ดังนั้น ใน MOU44 ทั้งสองประเทศจึงพอใจในกรอบขอบเขต boundaries ของพื้นที่พัฒนาร่วมไปแล้ว

    **สอง กรอบขอบเขตของพื้นที่พัฒนาร่วมที่ยอมรับกันไปแล้วนั้น ไม่ตรงตามสนธิสัญญาฯ

    ทั้งนี้ กรอบขอบเขต boundaries ของพื้นที่พัฒนาร่วม ด้านทิศตะวันตก ในรูป 7 เส้นสีแดง นั้น เส้นสีแดงดังกล่าว เกิดขึ้นได้ มีสารตั้งต้น มีต้นกำเนิด เกิดจากเส้นแบ่งเขตที่กัมพูชาลากผ่านเกาะกูด ซึ่งขัดกับเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาฯ

    อธิบายแบบชาวบ้าน ถ้าไม่มีเส้นแบ่งเขตที่กัมพูชาลากผ่านเกาะกูดไปจนถึงตำแหน่ง P เส้นแบ่งเขตทิศเหนือ-ใต้ ย่อมไม่สามารถตั้งต้นจากตำแหน่ง P เกิดขึ้นได้

    ดังนั้น เส้นแบ่งเขตทิศเหนือ-ใต้ ที่ตั้งต้นจากตำแหน่ง P จึงไม่ตรงตามจุดเริ่มต้นในสนธิสัญญาฯ และ

    การที่รัฐบาลไทยไปยอมรับเส้นแบ่งเขตสีแดงดังกล่าว ก็ย่อมแสดงว่า ** ไม่ขัดข้องกับตำแหน่ง P ** ทั้งที่ไม่ตรงตามจุดเริ่มต้นในสนธิสัญญาฯ **

    **สาม JDA ตีกรอบขอบเขต boundaries ด้วยเส้นเขตแดน

    ถ้าดูแผนที่ JDA ไทย-มาเลเซีย จะเห็นได้ว่า ตีกรอบขอบเขต boundaries ด้วยเส้นเขตแดน ที่ทั้งสองประเทศอ้างอนุสัญญาสหประชาชาติฯ แตกต่างกัน โดยไทยถือโขดหิน โลซิน เป็นเกาะ ที่สามารถใช้วางอาณาเขตกินแดนได้ แต่มาเลเซียไม่ถือว่าเป็นเกาะ

    ต่อมามีการแก้ไขอนุสัญญาสหประชาชาติฯ ไม่ถือโขดหิน โลซิน เป็นเกาะ ที่สามารถใช้วางอาณาเขตกินแดนได้ แต่เนื่องจาก JDA ไทย-มาเลเซียได้เกิดขึ้นลงนามไปก่อนหน้า ไทยจึงได้ประโยชน์ระหว่างที่ JDA มีผลบังคับ

    แต่กรณีเส้นที่กัมพูชาลากผ่านเกาะกูดนั้น เป็นการลากเส้นโดยอ้างสนธิสัญญาฯ อย่างที่ไม่ถูกต้อง

    ดังนั้น บัดนี้เมื่อคนไทยทราบถึงปัญหา จึงย่อมต้องเรียกร้องให้ ยกเลิกการอ้างที่ไม่ถูกต้อง การลากเส้นที่ขัดเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาฯ ออกไปก่อนเริ่มต้นเจรจาแบ่งผลประโยชน์

    ทั้งนี้ การเจรจาแบ่งผลประโยชน์ จะสามารถทำได้เร็วถ้าทั้งสองประเทศยึดมั่นในความเป็นธรรม ไม่จำเป็นต้องอาศัยความสัมพันธ์ครอบครัว แต่ถ้ามีวาระซ่อนเร้น ถ้าคนไทยจะเสียเปรียบ ผมก็จะคัดค้านต่อไป

    ผมจึงขอสรุปว่า ประชาชนคนไทยไม่ควรฝากความหวังไว้กับนักการเมืองที่ไปเจรจาโดยยอมรับสิ่งที่กัมพูชา ดำเนินการไปผิดกับเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาฯ

    MOU44 ยอมรับพื้นที่พัฒนาร่วมที่กินล้ำทะเลจากตำแหน่ง P ที่ทำให้ไทยเสียประโยชน์ในทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นของประชาชนทุกคน

    การยอมรับเส้นกรอบขอบเขตของพื้นที่พัฒนาร่วม ที่เริ่มจากตำแหน่ง P อันสืบเนื่องมากจากเส้นที่ผิดเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาฯ ย่อมจะทำให้ไทยเสี่ยงเสียดินแดนได้ในอนาคต

    ถ้าท่านพลเรือเอกจุมพลไม่เชื่อผม ขอให้ท่านอ่านถ้อยคำใน MOU44 เองได้เลยครับ”

    วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567

    นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ

    https://youtu.be/PEArT6M-wDE?si=NuuT8XefJDmOCmnO

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/1EgDTTKTHn/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    นาย ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ แสดงทัศนะประเด็นอดีตโฆษกทร. สนับสนุน MOU44 ว่าดูละเอียดหรือยัง? เนื้อหาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนระบุว่า “ผมท้าทาย เชิญชวน นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม และรัฐมนตรีต่างประเทศ ให้ออกมาโต้แย้งประเด็นเทคนิคที่ทีมพรรคพลังประชารัฐเปิดเผยปัญหาแก่ประชาชนเรื่อง MOU44 ยังไม่มีคนใดคนหนึ่งออกมาชี้แจง มีแต่พลเรือเอกจุมพล ลุมพิกานนท์ อดีตโฆษกกองทัพเรือ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการรักษาประโยชน์ของชาติทางทะเล ติดต่อขอให้ข้อมูลแก่ PPTV ในคลิปข้างล่าง PPTV ระบุว่า หลังจากที่ PPTV นำเสนอเรื่องข้อตกลงความร่วมมือ MOU44 ระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่หลายคนออกมาให้ความเห็นว่า อาจจะทำให้ไทยเสียเขตแดนทางทะเลให้กับกัมพูชาในอนาคต ซึ่งรวมถึงเกาะกูดด้วย เพราะเส้นเขตแดนที่ทางกัมพูชาลากมามันข้ามเกาะกูดมาเลย หลายคนจึงอยากจะให้ยกเลิก MOU44 ฉบับนี้ แต่ล่าสุด หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ ออกมาให้ความเห็นอีกทาง ว่าไม่ควรจะยกเลิก MOU44 เพราะไม่ได้ทำให้ไทยเสียเปรียบ ตรงกันข้าม นี่คือสารตั้งต้นที่จะทำให้เกิดการเจรจา แต่ถ้ายกเลิกต่างหากอาจจะมีผลเสียตามมาเพียบ ผมเชื่อว่าพลเรือเอกจุมพล ในฐานะเจ้าหน้าที่กองทัพเรือระดับสูง ย่อมมีเลือดรักชาติอยู่เต็มเปี่ยม แต่ขอเรียนด้วยความเคารพว่า คนไทยไม่ควรฝากความหวังไว้กับนักการเมืองมากเกินไป รูป 1 ท่านกล่าวว่า ชัดเจนว่าเกาะกูดเป็นของไทย จบตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ห้า มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์บันทึกไว้ชัดเจน ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ. 1907 รูป 2 แสดงขั้นตอนเวลาที่เวียดนาม กัมพูชา และไทยประกาศเขตแดนไหล่ทวีป รูป 3 ท่านกล่าวว่า MOU44 ฉบับนี้จะเป็นกรอบที่ทั้งสองประเทศจะหยิบขึ้นมาเจรจากันต่อว่า เขตแดนทางทะเลของใครควรจะอยู่ตรงไหน รวมถึงเจรจาผลประโยชน์ในเขตพื้นที่พัฒนาร่วมกัน รูป 4 แสดงเขตพื้นที่พัฒนาร่วมกัน Joint Development Area (สีแดง) ส่วนพื้นที่ที่อยู่เหนือเส้นรุ้งที่ 11 องศา (สีน้ำเงิน) เป็นพื้นที่ทำการแบ่งเขต ผมให้ข้อสังเกตแก่ท่านพลเรือเอกจุมพล ในประเด็นจุดแยบยลทางกฎหมาย ดังนี้ **หนึ่ง MOU44 ยอมรับกรอบขอบเขต boundaries พื้นที่สีแดงไปแล้ว ในรูป 5 จะเห็นได้ว่า คำบรรยายพื้นที่สีน้ำเงิน ข้อ 2 (ข) คือเพื่อกำหนดเขตแดนทางทะเลของใครควรจะอยู่ตรงไหน ตามที่ท่านว่า ส่วนคำบรรยายพื้นที่สีแดง ข้อ 2 (ก) คือเพื่อเจรจาผลประโยชน์ ถ้อยคำในรูป 5 ไม่มีข้อใดที่สามารถอ่านได้ว่า สำหรับพื้นที่สีแดงนั้น "เพื่อกำหนดเขตแดนทางทะเลของใครควรจะอยู่ตรงไหน" ในรูป 6 จะเห็นได้ว่า คำบรรยายหน้าที่ของคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค พื้นที่สีน้ำเงิน ข้อ 3 (ข) คือเพื่อกำหนดเขตแดนทางทะเลของใครควรจะอยู่ตรงไหน ตามที่ท่านว่า ส่วนคำบรรยายพื้นที่สีแดง ข้อ 3 (ก) คือเพื่อเจรจาผลประโยชน์ล้วนๆ ถ้อยคำในรูป 6 ไม่มีข้อใดที่สามารถอ่านได้ว่า สำหรับพื้นที่สีแดงนั้น "เพื่อกำหนดเขตแดนทางทะเลของใครควรจะอยู่ตรงไหน" สรุปแล้ว ใน MOU44 ทั้งสองประเทศได้กำหนด "พื้นที่พัฒนาร่วม" "Joint Development Area" ขึ้นมา มิใช่ "เพื่อกำหนดเขตแดนทางทะเลของใครควรจะอยู่ตรงไหน" แต่ "เพื่อเจรจาผลประโยชน์" ดังนั้น ใน MOU44 ทั้งสองประเทศจึงพอใจในกรอบขอบเขต boundaries ของพื้นที่พัฒนาร่วมไปแล้ว **สอง กรอบขอบเขตของพื้นที่พัฒนาร่วมที่ยอมรับกันไปแล้วนั้น ไม่ตรงตามสนธิสัญญาฯ ทั้งนี้ กรอบขอบเขต boundaries ของพื้นที่พัฒนาร่วม ด้านทิศตะวันตก ในรูป 7 เส้นสีแดง นั้น เส้นสีแดงดังกล่าว เกิดขึ้นได้ มีสารตั้งต้น มีต้นกำเนิด เกิดจากเส้นแบ่งเขตที่กัมพูชาลากผ่านเกาะกูด ซึ่งขัดกับเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาฯ อธิบายแบบชาวบ้าน ถ้าไม่มีเส้นแบ่งเขตที่กัมพูชาลากผ่านเกาะกูดไปจนถึงตำแหน่ง P เส้นแบ่งเขตทิศเหนือ-ใต้ ย่อมไม่สามารถตั้งต้นจากตำแหน่ง P เกิดขึ้นได้ ดังนั้น เส้นแบ่งเขตทิศเหนือ-ใต้ ที่ตั้งต้นจากตำแหน่ง P จึงไม่ตรงตามจุดเริ่มต้นในสนธิสัญญาฯ และ การที่รัฐบาลไทยไปยอมรับเส้นแบ่งเขตสีแดงดังกล่าว ก็ย่อมแสดงว่า ** ไม่ขัดข้องกับตำแหน่ง P ** ทั้งที่ไม่ตรงตามจุดเริ่มต้นในสนธิสัญญาฯ ** **สาม JDA ตีกรอบขอบเขต boundaries ด้วยเส้นเขตแดน ถ้าดูแผนที่ JDA ไทย-มาเลเซีย จะเห็นได้ว่า ตีกรอบขอบเขต boundaries ด้วยเส้นเขตแดน ที่ทั้งสองประเทศอ้างอนุสัญญาสหประชาชาติฯ แตกต่างกัน โดยไทยถือโขดหิน โลซิน เป็นเกาะ ที่สามารถใช้วางอาณาเขตกินแดนได้ แต่มาเลเซียไม่ถือว่าเป็นเกาะ ต่อมามีการแก้ไขอนุสัญญาสหประชาชาติฯ ไม่ถือโขดหิน โลซิน เป็นเกาะ ที่สามารถใช้วางอาณาเขตกินแดนได้ แต่เนื่องจาก JDA ไทย-มาเลเซียได้เกิดขึ้นลงนามไปก่อนหน้า ไทยจึงได้ประโยชน์ระหว่างที่ JDA มีผลบังคับ แต่กรณีเส้นที่กัมพูชาลากผ่านเกาะกูดนั้น เป็นการลากเส้นโดยอ้างสนธิสัญญาฯ อย่างที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น บัดนี้เมื่อคนไทยทราบถึงปัญหา จึงย่อมต้องเรียกร้องให้ ยกเลิกการอ้างที่ไม่ถูกต้อง การลากเส้นที่ขัดเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาฯ ออกไปก่อนเริ่มต้นเจรจาแบ่งผลประโยชน์ ทั้งนี้ การเจรจาแบ่งผลประโยชน์ จะสามารถทำได้เร็วถ้าทั้งสองประเทศยึดมั่นในความเป็นธรรม ไม่จำเป็นต้องอาศัยความสัมพันธ์ครอบครัว แต่ถ้ามีวาระซ่อนเร้น ถ้าคนไทยจะเสียเปรียบ ผมก็จะคัดค้านต่อไป ผมจึงขอสรุปว่า ประชาชนคนไทยไม่ควรฝากความหวังไว้กับนักการเมืองที่ไปเจรจาโดยยอมรับสิ่งที่กัมพูชา ดำเนินการไปผิดกับเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาฯ MOU44 ยอมรับพื้นที่พัฒนาร่วมที่กินล้ำทะเลจากตำแหน่ง P ที่ทำให้ไทยเสียประโยชน์ในทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นของประชาชนทุกคน การยอมรับเส้นกรอบขอบเขตของพื้นที่พัฒนาร่วม ที่เริ่มจากตำแหน่ง P อันสืบเนื่องมากจากเส้นที่ผิดเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาฯ ย่อมจะทำให้ไทยเสี่ยงเสียดินแดนได้ในอนาคต ถ้าท่านพลเรือเอกจุมพลไม่เชื่อผม ขอให้ท่านอ่านถ้อยคำใน MOU44 เองได้เลยครับ” วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ https://youtu.be/PEArT6M-wDE?si=NuuT8XefJDmOCmnO ที่มา https://www.facebook.com/share/p/1EgDTTKTHn/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 627 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเยือน #จอร์เจีย อย่างเป็นทางการ สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกตั้งในสุดสัปดาห์นี้: ประชาชนของจอร์เจียลงคะแนนเสียงเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นประชาธิปไตย เราอยู่ที่นี่เพื่อสนับสนุนความพยายามบูรณาการยุโรปของจอร์เจียและเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 🇭🇺🇬🇪

    ขอบคุณสำหรับการต้อนรับ, นายกรัฐมนตรี @PM_Kobakhidze!

    Orbán Viktor
    .
    Official visit to #Georgia. One thing is clear about this weekend’s elections: the people of Georgia voted for peace and prosperity in free and democratic elections. We are here to support Georgia’s European integration efforts and to strengthen 🇭🇺🇬🇪 relations.

    Thank you for your hospitality, Prime Minister @PM_Kobakhidze!
    .
    2:50 PM · Oct 29, 2024 · 15.6K Views
    https://x.com/PM_ViktorOrban/status/1851169649548992671
    การเยือน #จอร์เจีย อย่างเป็นทางการ สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกตั้งในสุดสัปดาห์นี้: ประชาชนของจอร์เจียลงคะแนนเสียงเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นประชาธิปไตย เราอยู่ที่นี่เพื่อสนับสนุนความพยายามบูรณาการยุโรปของจอร์เจียและเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 🇭🇺🇬🇪 ขอบคุณสำหรับการต้อนรับ, นายกรัฐมนตรี @PM_Kobakhidze! Orbán Viktor . Official visit to #Georgia. One thing is clear about this weekend’s elections: the people of Georgia voted for peace and prosperity in free and democratic elections. We are here to support Georgia’s European integration efforts and to strengthen 🇭🇺🇬🇪 relations. Thank you for your hospitality, Prime Minister @PM_Kobakhidze! . 2:50 PM · Oct 29, 2024 · 15.6K Views https://x.com/PM_ViktorOrban/status/1851169649548992671
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • ❗️BIG: 🇷🇺🇰🇵สภาผู้แทนราษฎรแห่งรัสเซีย, สภาดูมาแห่งรัฐ, ได้ให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาว่าด้วยความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมระหว่างสหพันธรัฐรัสเซียและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK)

    ตามเอกสารดังกล่าว, ทั้งสองฝ่ายจะรักษาและพัฒนาความสัมพันธ์ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมอย่างต่อเนื่อง, โดยคำนึงถึงกฎหมายของประเทศของตนและพันธกรณีระหว่างประเทศของตน

    ความสัมพันธ์เหล่านี้มีพื้นฐานอยู่บนหลักการเคารพซึ่งกันและกันในอำนาจอธิปไตยของรัฐและบูรณภาพแห่งดินแดน, การไม่แทรกแซงกิจการภายใน, ความเท่าเทียม, และหลักการอื่นๆของกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ฉันมิตรและความร่วมมือระหว่างประเทศ
    .
    ❗️BIG: 🇷🇺🇰🇵THE LOWER HOUSE OF THE RUSSIAN PARLIAMENT, THE STATE DUMA, HAS RATIFIED THE TREATY ON COMPREHENSIVE STRATEGIC PARTNERSHIP BETWEEN THE RUSSIAN FEDERATION AND THE DEMOCRATIC PEOPLE'S REPUBLIC OF KOREA (DPRK).

    According to the document, both parties will continuously maintain and develop comprehensive strategic partnership relations, taking into account the laws of their respective countries and their international obligations.

    These relations are based on the principles of mutual respect for state sovereignty and territorial integrity, non-interference in internal affairs, equality, and other principles of international law concerning friendly relations and cooperation between states.
    .
    4:22 PM · Oct 24, 2024 · 4,683 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1849381028013441316
    ❗️BIG: 🇷🇺🇰🇵สภาผู้แทนราษฎรแห่งรัสเซีย, สภาดูมาแห่งรัฐ, ได้ให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาว่าด้วยความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมระหว่างสหพันธรัฐรัสเซียและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK) ตามเอกสารดังกล่าว, ทั้งสองฝ่ายจะรักษาและพัฒนาความสัมพันธ์ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมอย่างต่อเนื่อง, โดยคำนึงถึงกฎหมายของประเทศของตนและพันธกรณีระหว่างประเทศของตน ความสัมพันธ์เหล่านี้มีพื้นฐานอยู่บนหลักการเคารพซึ่งกันและกันในอำนาจอธิปไตยของรัฐและบูรณภาพแห่งดินแดน, การไม่แทรกแซงกิจการภายใน, ความเท่าเทียม, และหลักการอื่นๆของกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ฉันมิตรและความร่วมมือระหว่างประเทศ . ❗️BIG: 🇷🇺🇰🇵THE LOWER HOUSE OF THE RUSSIAN PARLIAMENT, THE STATE DUMA, HAS RATIFIED THE TREATY ON COMPREHENSIVE STRATEGIC PARTNERSHIP BETWEEN THE RUSSIAN FEDERATION AND THE DEMOCRATIC PEOPLE'S REPUBLIC OF KOREA (DPRK). According to the document, both parties will continuously maintain and develop comprehensive strategic partnership relations, taking into account the laws of their respective countries and their international obligations. These relations are based on the principles of mutual respect for state sovereignty and territorial integrity, non-interference in internal affairs, equality, and other principles of international law concerning friendly relations and cooperation between states. . 4:22 PM · Oct 24, 2024 · 4,683 Views https://x.com/SputnikInt/status/1849381028013441316
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇺🇨🇳 ประธานาธิบดีปูติน กล่าวว่า รัสเซียและจีนกำลังปกป้องระเบียบโลกที่เป็นประชาธิปไตย
    .
    🇷🇺🇨🇳 President Putin says Russia and China are defending democratic world order.
    .
    11:35 PM · Oct 19, 2024 · 250K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1847678013409841628
    🇷🇺🇨🇳 ประธานาธิบดีปูติน กล่าวว่า รัสเซียและจีนกำลังปกป้องระเบียบโลกที่เป็นประชาธิปไตย . 🇷🇺🇨🇳 President Putin says Russia and China are defending democratic world order. . 11:35 PM · Oct 19, 2024 · 250K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1847678013409841628
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇨🇴 🇮🇱 ประธานาธิบดีกุสตาโว เปโตร แห่งโคลอมเบียกล่าวว่า การทดลองในฉนวนกาซามีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ, ยุโรป, และอิสราเอล สามารถปราบปรามกบฏใดๆในโลกที่ยากจนได้

    "พวกเขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับความป่าเถื่อนทั่วโลก ที่ประชาธิปไตยจะต้องสูญสลาย"
    .
    JUST IN: 🇨🇴 🇮🇱 Colombian President Gustavo Petro says the experiment in Gaza aims to show that the US, Europe, and Israel can crush any rebellion in the poor world.

    "They are preparing for a global barbarism where democracy will die."
    .
    12:52 PM · Oct 15, 2024 · 84.2K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1846066651424338182
    🇨🇴 🇮🇱 ประธานาธิบดีกุสตาโว เปโตร แห่งโคลอมเบียกล่าวว่า การทดลองในฉนวนกาซามีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ, ยุโรป, และอิสราเอล สามารถปราบปรามกบฏใดๆในโลกที่ยากจนได้ "พวกเขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับความป่าเถื่อนทั่วโลก ที่ประชาธิปไตยจะต้องสูญสลาย" . JUST IN: 🇨🇴 🇮🇱 Colombian President Gustavo Petro says the experiment in Gaza aims to show that the US, Europe, and Israel can crush any rebellion in the poor world. "They are preparing for a global barbarism where democracy will die." . 12:52 PM · Oct 15, 2024 · 84.2K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1846066651424338182
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • Salvatore Ferragamo
    Men’s Navy Suede Moccasins Shoes
    (A883-1)
    Size. EUR 45 /29(30) cm
    🔥 Price : 890฿
    Salvatore Ferragamo Men’s Navy Suede Moccasins Shoes (A883-1) Size. EUR 45 /29(30) cm 🔥 Price : 890฿
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • Salvatore Ferragamo
    Gancini Moccasins with Hook Ornament
    (88689)
    Size. EUR 41 (วัดความยาวด้านในได้ 26 cm)

    🔥 Price : 1,390฿

    รองเท้าโลฟเฟอร์หนังลูกวัวพันธุ์ Bos Taurus 100% ของ Ferragamo ทรงหัวมนยาวเล็กน้อย ส้นตึกทำจากหนัง ตกแต่งด้วยโลโก้ Gancini อันเป็นเอกลักษณ์สามมิติที่ด้านหน้า พื้นรองเท้าด้านในประดับหมุดโลโก้
    Salvatore Ferragamo Gancini Moccasins with Hook Ornament (88689) Size. EUR 41 (วัดความยาวด้านในได้ 26 cm) 🔥 Price : 1,390฿ รองเท้าโลฟเฟอร์หนังลูกวัวพันธุ์ Bos Taurus 100% ของ Ferragamo ทรงหัวมนยาวเล็กน้อย ส้นตึกทำจากหนัง ตกแต่งด้วยโลโก้ Gancini อันเป็นเอกลักษณ์สามมิติที่ด้านหน้า พื้นรองเท้าด้านในประดับหมุดโลโก้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงสัยมั้ยทำไมสื่อหลักของไทยและพรรคการเมืองบางพรรคถึงโจมตีวัคซีนจีน

    ปฏิบัติการ Mockingbird คือการที่ CIA ได้เข้าควบคุมสื่อต่างๆไว้หมด เพื่อใช้ล้างสมองคนทั้งโลก

    “ใครคุมสื่อ คนนั้นคุมความคิดคนได้”

    เรากลัว…เพราะสิ่งนั้นถูกทำให้เราเห็น
    ซ้ำแล้วซ้ำอีก ใช่หรือไม่???

    เรากลัว…เพราะสื่อ…ใช่หรือไม่??
    เราเชื่อ…เพราะสื่อ…ใช่หรือไม่??
    สงสัยมั้ยทำไมสื่อหลักของไทยและพรรคการเมืองบางพรรคถึงโจมตีวัคซีนจีน ปฏิบัติการ Mockingbird คือการที่ CIA ได้เข้าควบคุมสื่อต่างๆไว้หมด เพื่อใช้ล้างสมองคนทั้งโลก “ใครคุมสื่อ คนนั้นคุมความคิดคนได้” เรากลัว…เพราะสิ่งนั้นถูกทำให้เราเห็น ซ้ำแล้วซ้ำอีก ใช่หรือไม่??? เรากลัว…เพราะสื่อ…ใช่หรือไม่?? เราเชื่อ…เพราะสื่อ…ใช่หรือไม่??
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 86 0 รีวิว
Pages Boosts