• 2 ปัจจัยหนุน SET บวกต่อวันนี้ (16/07/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย
    2 ปัจจัยหนุน SET บวกต่อวันนี้ (16/07/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกเกมพกพา: AMD Ryzen Z2 Extreme—ชิปเล็กพลังใหญ่ที่ท้าชนโน้ตบุ๊กเกม

    AMD เปิดตัว Ryzen Z2 Extreme ซึ่งเป็นชิป SoC สำหรับเครื่องเกมพกพาโดยเฉพาะ โดยใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 ผสม Zen 5C รวมกัน 8 คอร์ 16 เธรด พร้อม iGPU Radeon 890M ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 3.5

    ชิปนี้ถูกทดสอบบน MSI Claw A8 ที่มาพร้อม RAM LPDDR5X 24GB และผลลัพธ์จาก Geekbench ก็ออกมาน่าประทับใจมาก:
    - คะแนน single-thread สูงสุดในกลุ่ม Strix Point
    - คะแนน multi-thread เทียบเท่าชิป 10 คอร์ Ryzen AI 9 365
    - ประสิทธิภาพกราฟิกเทียบเท่า Radeon 890M บนโน้ตบุ๊ก

    Ryzen Z2 Extreme ยังรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของ AMD เช่น FSR, Frame Generation และ Fluid Motion Frames และจะมีรุ่นที่มาพร้อม NPU 50 TOPS สำหรับงาน AI โดยเฉพาะ

    AMD เปิดตัว Ryzen Z2 Extreme SoC สำหรับเครื่องเกมพกพา
    ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 + Zen 5C รวม 8 คอร์ 16 เธรด

    ใช้ iGPU Radeon 890M สถาปัตยกรรม RDNA 3.5
    มี 16 compute units ความเร็ว 2.9 GHz

    รองรับ LPDDR5X-8000 และมีแคชรวม 24MB (L2 + L3)
    เหมาะกับงานกราฟิกและเกมที่ต้องการแบนด์วิดท์สูง

    ทดสอบบน MSI Claw A8 ได้คะแนน Geekbench สูงมาก
    Single-thread สูงสุดในกลุ่ม Strix Point / Multi-thread เทียบ Ryzen AI 9 365

    ประสิทธิภาพกราฟิกเทียบเท่าโน้ตบุ๊กที่ใช้ Radeon 890M
    เหนือกว่า Ryzen Z1 Extreme ถึง 30%+

    รองรับเทคโนโลยี AMD ล่าสุด เช่น FSR, Frame-Gen, Fluid Motion
    เตรียมใช้งานใน ASUS ROG Ally X และอุปกรณ์อื่นเร็ว ๆ นี้

    ยังไม่ระบุ TDP ที่ใช้ในการทดสอบ Geekbench
    อาจเป็น 35W ซึ่งสูงสุดของช่วงที่กำหนด (15–35W)

    ประสิทธิภาพอาจลดลงเมื่อใช้งานในโหมดประหยัดพลังงาน
    โดยเฉพาะในเครื่องที่มีข้อจำกัดด้านระบายความร้อน

    iGPU แม้จะทรงพลัง แต่ยังไม่เทียบเท่า GPU แยกระดับสูง
    เหมาะกับเกมระดับกลางมากกว่าการเล่น AAA แบบ ultra settings

    SOC รุ่นนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการใช้งานจริง
    ต้องรอการทดสอบในสภาพแวดล้อมจริงก่อนสรุปประสิทธิภาพโดยรวม

    https://wccftech.com/amd-ryzen-z2-extreme-soc-handhelds-benchmark-msi-claw-a8-top-notch-cpu-gpu-performance/
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกเกมพกพา: AMD Ryzen Z2 Extreme—ชิปเล็กพลังใหญ่ที่ท้าชนโน้ตบุ๊กเกม AMD เปิดตัว Ryzen Z2 Extreme ซึ่งเป็นชิป SoC สำหรับเครื่องเกมพกพาโดยเฉพาะ โดยใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 ผสม Zen 5C รวมกัน 8 คอร์ 16 เธรด พร้อม iGPU Radeon 890M ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 3.5 ชิปนี้ถูกทดสอบบน MSI Claw A8 ที่มาพร้อม RAM LPDDR5X 24GB และผลลัพธ์จาก Geekbench ก็ออกมาน่าประทับใจมาก: - คะแนน single-thread สูงสุดในกลุ่ม Strix Point - คะแนน multi-thread เทียบเท่าชิป 10 คอร์ Ryzen AI 9 365 - ประสิทธิภาพกราฟิกเทียบเท่า Radeon 890M บนโน้ตบุ๊ก Ryzen Z2 Extreme ยังรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของ AMD เช่น FSR, Frame Generation และ Fluid Motion Frames และจะมีรุ่นที่มาพร้อม NPU 50 TOPS สำหรับงาน AI โดยเฉพาะ ✅ AMD เปิดตัว Ryzen Z2 Extreme SoC สำหรับเครื่องเกมพกพา ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 + Zen 5C รวม 8 คอร์ 16 เธรด ✅ ใช้ iGPU Radeon 890M สถาปัตยกรรม RDNA 3.5 ➡️ มี 16 compute units ความเร็ว 2.9 GHz ✅ รองรับ LPDDR5X-8000 และมีแคชรวม 24MB (L2 + L3) ➡️ เหมาะกับงานกราฟิกและเกมที่ต้องการแบนด์วิดท์สูง ✅ ทดสอบบน MSI Claw A8 ได้คะแนน Geekbench สูงมาก ➡️ Single-thread สูงสุดในกลุ่ม Strix Point / Multi-thread เทียบ Ryzen AI 9 365 ✅ ประสิทธิภาพกราฟิกเทียบเท่าโน้ตบุ๊กที่ใช้ Radeon 890M ➡️ เหนือกว่า Ryzen Z1 Extreme ถึง 30%+ ✅ รองรับเทคโนโลยี AMD ล่าสุด เช่น FSR, Frame-Gen, Fluid Motion ➡️ เตรียมใช้งานใน ASUS ROG Ally X และอุปกรณ์อื่นเร็ว ๆ นี้ ‼️ ยังไม่ระบุ TDP ที่ใช้ในการทดสอบ Geekbench ⛔ อาจเป็น 35W ซึ่งสูงสุดของช่วงที่กำหนด (15–35W) ‼️ ประสิทธิภาพอาจลดลงเมื่อใช้งานในโหมดประหยัดพลังงาน ⛔ โดยเฉพาะในเครื่องที่มีข้อจำกัดด้านระบายความร้อน ‼️ iGPU แม้จะทรงพลัง แต่ยังไม่เทียบเท่า GPU แยกระดับสูง ⛔ เหมาะกับเกมระดับกลางมากกว่าการเล่น AAA แบบ ultra settings ‼️ SOC รุ่นนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการใช้งานจริง ⛔ ต้องรอการทดสอบในสภาพแวดล้อมจริงก่อนสรุปประสิทธิภาพโดยรวม https://wccftech.com/amd-ryzen-z2-extreme-soc-handhelds-benchmark-msi-claw-a8-top-notch-cpu-gpu-performance/
    WCCFTECH.COM
    AMD's Top Ryzen Z2 Extreme SoC For Handhelds Benchmarked On MSI's Claw A8, Delivers Top-Notch CPU & GPU Performance
    AMD's fastest handheld SoC, the Ryzen Z2 Extreme, has been benchmarked on Geekbench and showcases strong CPU & GPU performance.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกโอเพ่นซอร์ส: Plasma Bigscreen คืนชีพสู่จอทีวี

    จำโปรเจกต์ Plasma Bigscreen ได้ไหม? มันเคยเป็นความพยายามของ KDE ที่จะสร้างระบบสำหรับทีวีแบบโอเพ่นซอร์ส โดยใช้ Plasma shell ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับจอใหญ่ และเคยรองรับผู้ช่วยเสียง Mycroft ที่ตอนนี้เลิกพัฒนาไปแล้ว

    หลังจากถูกทิ้งไว้ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ Plasma 6 เพราะไม่มีใครพอร์ตให้ทันเวลา ล่าสุด Devin ผู้พัฒนา Plasma Mobile ได้กลับมาปลุกชีพโปรเจกต์นี้อีกครั้งในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์! เขาเริ่มจากการล้างโค้ดเก่า แล้วออกแบบ UI ใหม่ให้ทันสมัยขึ้น โดยใช้แนวคิดจาก Breeze mockups

    ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่:
    - หน้าโฮมแบบเรียบง่าย ไม่มีพื้นหลังของแผง
    - เอฟเฟกต์เบลอพื้นหลังขณะนำทางเมนู
    - ระบบค้นหาใหม่ผ่าน KRunner
    - Settings แบบสองแถบ พร้อม sidebar
    - โมดูล Wi-Fi และ KDE Connect ที่ได้รับการแก้ไข
    - แอนิเมชันตอนเปิดแอปแบบเดียวกับ Plasma Mobile

    แม้ยังไม่สมบูรณ์ เช่น ยังไม่มีคีย์บอร์ดเสมือนที่ใช้ลูกศรนำทางได้ และยังไม่มีทิศทางชัดเจนหลังจาก Mycroft หายไป แต่เป้าหมายคือการนำกลับเข้าสู่ตารางออกเวอร์ชันของ Plasma อีกครั้งในเวอร์ชัน 6.5

    https://www.neowin.net/news/kdes-android-tv-alternative-plasma-bigscreen-rises-from-the-dead-with-a-better-ui/
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกโอเพ่นซอร์ส: Plasma Bigscreen คืนชีพสู่จอทีวี 📺 จำโปรเจกต์ Plasma Bigscreen ได้ไหม? มันเคยเป็นความพยายามของ KDE ที่จะสร้างระบบสำหรับทีวีแบบโอเพ่นซอร์ส โดยใช้ Plasma shell ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับจอใหญ่ และเคยรองรับผู้ช่วยเสียง Mycroft ที่ตอนนี้เลิกพัฒนาไปแล้ว หลังจากถูกทิ้งไว้ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ Plasma 6 เพราะไม่มีใครพอร์ตให้ทันเวลา ล่าสุด Devin ผู้พัฒนา Plasma Mobile ได้กลับมาปลุกชีพโปรเจกต์นี้อีกครั้งในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์! เขาเริ่มจากการล้างโค้ดเก่า แล้วออกแบบ UI ใหม่ให้ทันสมัยขึ้น โดยใช้แนวคิดจาก Breeze mockups ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่: - หน้าโฮมแบบเรียบง่าย ไม่มีพื้นหลังของแผง - เอฟเฟกต์เบลอพื้นหลังขณะนำทางเมนู - ระบบค้นหาใหม่ผ่าน KRunner - Settings แบบสองแถบ พร้อม sidebar - โมดูล Wi-Fi และ KDE Connect ที่ได้รับการแก้ไข - แอนิเมชันตอนเปิดแอปแบบเดียวกับ Plasma Mobile แม้ยังไม่สมบูรณ์ เช่น ยังไม่มีคีย์บอร์ดเสมือนที่ใช้ลูกศรนำทางได้ และยังไม่มีทิศทางชัดเจนหลังจาก Mycroft หายไป แต่เป้าหมายคือการนำกลับเข้าสู่ตารางออกเวอร์ชันของ Plasma อีกครั้งในเวอร์ชัน 6.5 https://www.neowin.net/news/kdes-android-tv-alternative-plasma-bigscreen-rises-from-the-dead-with-a-better-ui/
    WWW.NEOWIN.NET
    KDE's Android TV alternative, Plasma Bigscreen, rises from the dead with a better UI
    Another KDE project, Plasma Bigscreen, is back from the dead with a much better UI spread across the entire shell.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel Diamond Rapids – ซีพียูเซิร์ฟเวอร์ 192 คอร์ พร้อมรองรับ AI และงานหนักระดับองค์กร

    Intel เตรียมเปิดตัวซีพียูเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ Diamond Rapids ในปี 2026 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Oak Stream โดยใช้สถาปัตยกรรม Panther Cove และกระบวนการผลิต Intel 18A ที่ทันสมัยที่สุดของบริษัท

    รุ่นสูงสุดของ Diamond Rapids จะมี 4 compute tiles โดยแต่ละ tile มี 48 คอร์ รวมเป็น 192 คอร์ต่อซ็อกเก็ต และสามารถใช้งานแบบ quad-socket ได้ ทำให้เซิร์ฟเวอร์หนึ่งเครื่องมีคอร์รวมสูงสุดถึง 768 คอร์

    รองรับเทคโนโลยีใหม่:
    - ซ็อกเก็ตใหม่ LGA 9324
    - PCIe 6.0 และ CXL 3.0 สำหรับเชื่อมต่อ accelerator และ storage
    - รองรับ DDR5 แบบ 16 ช่อง พร้อม MRDIMM ที่ความเร็ว 12800MT/s
    - Instruction set ใหม่ Intel APX และ AMX engine รุ่นอัปเกรด
    - รองรับการประมวลผล AI inference ด้วย native FP8 และ TF32

    Intel ยังเตรียมเปิดตัว Jaguar Shores AI accelerator ควบคู่กัน เพื่อสร้างแพลตฟอร์มเซิร์ฟเวอร์ที่พร้อมใช้งานกับ AI เต็มรูปแบบ

    https://www.techradar.com/pro/want-a-quad-socket-server-with-768-cores-sure-intels-192-core-diamond-rapids-xeon-cpu-will-deliver-that-in-2026-but-i-wonder-whether-it-will-be-too-little-too-late
    Intel Diamond Rapids – ซีพียูเซิร์ฟเวอร์ 192 คอร์ พร้อมรองรับ AI และงานหนักระดับองค์กร 🏢 Intel เตรียมเปิดตัวซีพียูเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ Diamond Rapids ในปี 2026 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Oak Stream โดยใช้สถาปัตยกรรม Panther Cove และกระบวนการผลิต Intel 18A ที่ทันสมัยที่สุดของบริษัท รุ่นสูงสุดของ Diamond Rapids จะมี 4 compute tiles โดยแต่ละ tile มี 48 คอร์ รวมเป็น 192 คอร์ต่อซ็อกเก็ต และสามารถใช้งานแบบ quad-socket ได้ ทำให้เซิร์ฟเวอร์หนึ่งเครื่องมีคอร์รวมสูงสุดถึง 768 คอร์ รองรับเทคโนโลยีใหม่: - ซ็อกเก็ตใหม่ LGA 9324 - PCIe 6.0 และ CXL 3.0 สำหรับเชื่อมต่อ accelerator และ storage - รองรับ DDR5 แบบ 16 ช่อง พร้อม MRDIMM ที่ความเร็ว 12800MT/s - Instruction set ใหม่ Intel APX และ AMX engine รุ่นอัปเกรด - รองรับการประมวลผล AI inference ด้วย native FP8 และ TF32 Intel ยังเตรียมเปิดตัว Jaguar Shores AI accelerator ควบคู่กัน เพื่อสร้างแพลตฟอร์มเซิร์ฟเวอร์ที่พร้อมใช้งานกับ AI เต็มรูปแบบ https://www.techradar.com/pro/want-a-quad-socket-server-with-768-cores-sure-intels-192-core-diamond-rapids-xeon-cpu-will-deliver-that-in-2026-but-i-wonder-whether-it-will-be-too-little-too-late
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากเงียบหายไปนานกว่า 30 ปี Commodore กลับมาอีกครั้งภายใต้การบริหารใหม่โดยกลุ่มผู้หลงใหลในเทคโนโลยีย้อนยุค นำโดย Christian ‘Peri Fractic’ Simpson ผู้ก่อตั้งช่อง Retro Recipes ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO ชั่วคราวของบริษัท

    Commodore 64 Ultimate เป็นคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่ไม่ใช่การจำลองด้วยซอฟต์แวร์ แต่ใช้ชิป AMD Artix-7 FPGA เพื่อสร้างเมนบอร์ดแบบดั้งเดิมขึ้นมาใหม่ ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับเกม ตลับ และอุปกรณ์เสริมกว่า 10,000 รายการจากยุค 80s/90s ได้จริง

    มีให้เลือก 3 รุ่น:
    - BASIC Beige ($299): รุ่นพื้นฐาน ไม่มีไฟตกแต่ง
    - Starlight Edition ($349): เคสโปร่งแสง พร้อมคีย์บอร์ดเรืองแสงแบบโต้ตอบเสียง
    - Founders Edition ($499): เคสโปร่งแสงสีอำพัน พร้อมของสะสมทองคำ 24k และหมายเลขซีเรียลพิเศษ

    สเปกเด่น:
    - RAM 128MB DDR2, Flash 16MB
    - รองรับไฟล์ .D64, .TAP, .PRG ฯลฯ
    - วิดีโอ HDMI 1080p, S-Video, RGB
    - เสียง SID แท้ + FPGA emulation
    - พอร์ตครบ: USB-A, USB-C, MicroSD, Ethernet, Wi-Fi, Cartridge, Joystick ฯลฯ
    - คีย์บอร์ดกลไก Gateron Pro 3.0 พร้อมไฟ RGB 70 จุด

    แถมฟรี:
    - คู่มือแบบเข้าใจง่าย
    - USB Cassette Drive 64GB พร้อมเกมคลาสสิกกว่า 50 เกม
    - สติกเกอร์และของสะสม

    แม้จะเปิดให้พรีออเดอร์แล้ว แต่การจัดส่งจะเริ่มเร็วที่สุดในเดือนตุลาคม และยังมีความไม่แน่นอนเรื่องการซื้อกิจการ Commodore ที่ยังไม่ปิดดีลอย่างสมบูรณ์

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/the-commodore-64-ultimate-computer-is-the-companys-first-hardware-release-in-over-30-years-pre-orders-start-at-usd299
    หลังจากเงียบหายไปนานกว่า 30 ปี Commodore กลับมาอีกครั้งภายใต้การบริหารใหม่โดยกลุ่มผู้หลงใหลในเทคโนโลยีย้อนยุค นำโดย Christian ‘Peri Fractic’ Simpson ผู้ก่อตั้งช่อง Retro Recipes ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO ชั่วคราวของบริษัท Commodore 64 Ultimate เป็นคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่ไม่ใช่การจำลองด้วยซอฟต์แวร์ แต่ใช้ชิป AMD Artix-7 FPGA เพื่อสร้างเมนบอร์ดแบบดั้งเดิมขึ้นมาใหม่ ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับเกม ตลับ และอุปกรณ์เสริมกว่า 10,000 รายการจากยุค 80s/90s ได้จริง มีให้เลือก 3 รุ่น: - BASIC Beige ($299): รุ่นพื้นฐาน ไม่มีไฟตกแต่ง - Starlight Edition ($349): เคสโปร่งแสง พร้อมคีย์บอร์ดเรืองแสงแบบโต้ตอบเสียง - Founders Edition ($499): เคสโปร่งแสงสีอำพัน พร้อมของสะสมทองคำ 24k และหมายเลขซีเรียลพิเศษ สเปกเด่น: - RAM 128MB DDR2, Flash 16MB - รองรับไฟล์ .D64, .TAP, .PRG ฯลฯ - วิดีโอ HDMI 1080p, S-Video, RGB - เสียง SID แท้ + FPGA emulation - พอร์ตครบ: USB-A, USB-C, MicroSD, Ethernet, Wi-Fi, Cartridge, Joystick ฯลฯ - คีย์บอร์ดกลไก Gateron Pro 3.0 พร้อมไฟ RGB 70 จุด แถมฟรี: - คู่มือแบบเข้าใจง่าย - USB Cassette Drive 64GB พร้อมเกมคลาสสิกกว่า 50 เกม - สติกเกอร์และของสะสม แม้จะเปิดให้พรีออเดอร์แล้ว แต่การจัดส่งจะเริ่มเร็วที่สุดในเดือนตุลาคม และยังมีความไม่แน่นอนเรื่องการซื้อกิจการ Commodore ที่ยังไม่ปิดดีลอย่างสมบูรณ์ https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/the-commodore-64-ultimate-computer-is-the-companys-first-hardware-release-in-over-30-years-pre-orders-start-at-usd299
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    The Commodore 64 Ultimate computer is the company's first hardware release in over 30 years — pre-orders start at $299
    No software emulation, this 'faithful recreation of the original motherboard' runs on an AMD Artix 7 FPGA.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในช่วงที่ผู้ใช้ Windows 10 ต้องตัดสินใจว่าจะอัปเกรดเป็น Windows 11 หรือเปลี่ยนไปใช้ระบบอื่น ข่าวนี้จึงเปิดเผยว่าไม่ว่าจะเลือก Windows 10 หรือ 11 ระบบจะเก็บข้อมูลจากผู้ใช้ในลักษณะเดียวกัน โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก:

    1. ข้อมูลที่จำเป็น (Required data)
     – ใช้เพื่อรักษาความปลอดภัย อัปเดตระบบ และให้บริการคลาวด์ เช่น Find My Device, Windows Search, Defender, Voice typing ฯลฯ
     – รวมถึงข้อมูลการตั้งค่าเครื่อง, การเชื่อมต่อเครือข่าย, ประสิทธิภาพระบบ, รายการแอปและไดรเวอร์ที่ติดตั้ง

    2. ข้อมูลเพิ่มเติม (Optional data)
     – ผู้ใช้สามารถเลือกส่งได้ เช่น ประวัติการใช้งานเบราว์เซอร์, การพิมพ์, การเขียน, การใช้แอป, การตั้งค่าระบบ
     – Microsoft ใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์และแก้ไขปัญหา

    ผู้ใช้ทั่วไปสามารถปรับระดับการส่งข้อมูลได้ใน Settings > Privacy > Diagnostics and feedback และเปิดเครื่องมือ Diagnostic Data Viewer เพื่อดูข้อมูลที่ถูกส่งออกไป ซึ่งจะใช้พื้นที่ประมาณ 1GB

    อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ทั่วไปมีสิทธิ์จำกัดในการควบคุมข้อมูลที่ส่งออก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับลูกค้าองค์กรที่สามารถจัดการได้ละเอียดกว่า

    ข้อมูลจากข่าว
    - Windows 10 และ 11 มีนโยบายการเก็บข้อมูลแบบเดียวกันตั้งแต่เวอร์ชัน 1903 ขึ้นไป
    - ข้อมูลแบ่งเป็น 2 ประเภท: Required และ Optional
    - Required data รวมถึงข้อมูลการตั้งค่าเครื่อง, การเชื่อมต่อ, ประสิทธิภาพ และรายการแอป
    - Optional data รวมถึงประวัติการใช้งานเบราว์เซอร์, การพิมพ์, การใช้แอป และการตั้งค่า
    - ผู้ใช้สามารถปรับระดับการส่งข้อมูลได้ใน Settings > Privacy > Diagnostics and feedback
    - Diagnostic Data Viewer ช่วยให้ผู้ใช้ดูข้อมูลที่ถูกส่งออกไปได้
    - ลูกค้าองค์กรมีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลได้ละเอียดกว่าผู้ใช้ทั่วไป

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - ผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถปิดการส่งข้อมูลทั้งหมดได้ มีเพียงการเลือก “น้อยที่สุด” เท่านั้น
    - การใช้บริการที่เชื่อมต่อกับคลาวด์ เช่น Find My Device หรือ Voice typing จะส่งข้อมูลเพิ่มเติมโดยอัตโนมัติ
    - การเปิด Diagnostic Data Viewer จะใช้พื้นที่ในเครื่องประมาณ 1GB
    - ผู้ใช้ที่ไม่เข้าใจระบบ telemetry อาจไม่รู้ว่าข้อมูลส่วนตัวถูกส่งออกไป
    - การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใน Windows ต้องปรับด้วยตัวเอง มิฉะนั้นระบบจะใช้ค่าเริ่มต้นที่อาจไม่ปลอดภัย

    https://www.neowin.net/news/this-is-the-data-windows-collects-about-you/
    ในช่วงที่ผู้ใช้ Windows 10 ต้องตัดสินใจว่าจะอัปเกรดเป็น Windows 11 หรือเปลี่ยนไปใช้ระบบอื่น ข่าวนี้จึงเปิดเผยว่าไม่ว่าจะเลือก Windows 10 หรือ 11 ระบบจะเก็บข้อมูลจากผู้ใช้ในลักษณะเดียวกัน โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก: 1. ข้อมูลที่จำเป็น (Required data)  – ใช้เพื่อรักษาความปลอดภัย อัปเดตระบบ และให้บริการคลาวด์ เช่น Find My Device, Windows Search, Defender, Voice typing ฯลฯ  – รวมถึงข้อมูลการตั้งค่าเครื่อง, การเชื่อมต่อเครือข่าย, ประสิทธิภาพระบบ, รายการแอปและไดรเวอร์ที่ติดตั้ง 2. ข้อมูลเพิ่มเติม (Optional data)  – ผู้ใช้สามารถเลือกส่งได้ เช่น ประวัติการใช้งานเบราว์เซอร์, การพิมพ์, การเขียน, การใช้แอป, การตั้งค่าระบบ  – Microsoft ใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์และแก้ไขปัญหา ผู้ใช้ทั่วไปสามารถปรับระดับการส่งข้อมูลได้ใน Settings > Privacy > Diagnostics and feedback และเปิดเครื่องมือ Diagnostic Data Viewer เพื่อดูข้อมูลที่ถูกส่งออกไป ซึ่งจะใช้พื้นที่ประมาณ 1GB อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ทั่วไปมีสิทธิ์จำกัดในการควบคุมข้อมูลที่ส่งออก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับลูกค้าองค์กรที่สามารถจัดการได้ละเอียดกว่า ✅ ข้อมูลจากข่าว - Windows 10 และ 11 มีนโยบายการเก็บข้อมูลแบบเดียวกันตั้งแต่เวอร์ชัน 1903 ขึ้นไป - ข้อมูลแบ่งเป็น 2 ประเภท: Required และ Optional - Required data รวมถึงข้อมูลการตั้งค่าเครื่อง, การเชื่อมต่อ, ประสิทธิภาพ และรายการแอป - Optional data รวมถึงประวัติการใช้งานเบราว์เซอร์, การพิมพ์, การใช้แอป และการตั้งค่า - ผู้ใช้สามารถปรับระดับการส่งข้อมูลได้ใน Settings > Privacy > Diagnostics and feedback - Diagnostic Data Viewer ช่วยให้ผู้ใช้ดูข้อมูลที่ถูกส่งออกไปได้ - ลูกค้าองค์กรมีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลได้ละเอียดกว่าผู้ใช้ทั่วไป ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - ผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถปิดการส่งข้อมูลทั้งหมดได้ มีเพียงการเลือก “น้อยที่สุด” เท่านั้น - การใช้บริการที่เชื่อมต่อกับคลาวด์ เช่น Find My Device หรือ Voice typing จะส่งข้อมูลเพิ่มเติมโดยอัตโนมัติ - การเปิด Diagnostic Data Viewer จะใช้พื้นที่ในเครื่องประมาณ 1GB - ผู้ใช้ที่ไม่เข้าใจระบบ telemetry อาจไม่รู้ว่าข้อมูลส่วนตัวถูกส่งออกไป - การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใน Windows ต้องปรับด้วยตัวเอง มิฉะนั้นระบบจะใช้ค่าเริ่มต้นที่อาจไม่ปลอดภัย https://www.neowin.net/news/this-is-the-data-windows-collects-about-you/
    WWW.NEOWIN.NET
    This is the data Windows collects about you
    From crashes to clicks, here's what Windows knows about you, and how much control you really have over this data harvesting.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • ESMA เตือนบริษัทคริปโต – อย่าใช้คำว่า “ถูกกำกับดูแล” หลอกผู้บริโภค

    เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2025 ESMA (European Securities and Markets Authority) ได้ออกแถลงการณ์เตือนบริษัทคริปโตทั่วสหภาพยุโรปว่าไม่ควรใช้สถานะ “ได้รับใบอนุญาต” ภายใต้กฎ MiCA (Markets in Crypto-Assets) เป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้บริโภค

    หลายบริษัทคริปโต (CASPs) เสนอทั้งผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ MiCA บนแพลตฟอร์มเดียวกัน เช่น การลงทุนในทองคำหรือการให้กู้ยืมคริปโต ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าทุกบริการได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย

    ESMA ระบุว่าบางบริษัทถึงขั้นใช้ใบอนุญาต MiCA เป็น “เครื่องมือส่งเสริมการขาย” และสร้างความสับสนระหว่างผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการกำกับกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับการกำกับ

    นอกจากนี้ ESMA ยังออกแนวทางใหม่เกี่ยวกับความรู้และความสามารถของพนักงานที่ทำหน้าที่ประเมินบริษัทคริปโต เพื่อให้การออกใบอนุญาตมีความรัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากพบว่า Malta Financial Services Authority มีการประเมินความเสี่ยงของบริษัทคริปโตบางแห่งอย่างไม่ละเอียดพอ

    ข้อมูลจากข่าว
    - ESMA เตือนบริษัทคริปโตว่าไม่ควรใช้สถานะ “ได้รับการกำกับ” เป็นเครื่องมือทางการตลาด
    - กฎ MiCA ของ EU มีข้อกำหนดด้านการคุ้มครองผู้ลงทุน เช่น การจัดการสินทรัพย์และการรับเรื่องร้องเรียน
    - CASPs บางแห่งเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ MiCA เช่น การลงทุนในทองคำหรือการให้กู้ยืมคริปโต
    - ESMA ระบุว่าการเสนอผลิตภัณฑ์ทั้งแบบกำกับและไม่กำกับบนแพลตฟอร์มเดียวกันสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภค
    - ESMA ออกแนวทางใหม่เกี่ยวกับความรู้ของพนักงานที่ประเมินบริษัทคริปโต
    - การตรวจสอบในมอลตาพบว่ามีการอนุญาตบริษัทคริปโตโดยไม่ประเมินความเสี่ยงอย่างละเอียด

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - ผู้บริโภคอาจเข้าใจผิดว่าทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทคริปโตได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
    - การใช้ใบอนุญาต MiCA เป็นเครื่องมือส่งเสริมการขายอาจนำไปสู่การหลอกลวง
    - ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ MiCA เช่น crypto lending ไม่มีการคุ้มครองหากเกิดปัญหา
    - การออกใบอนุญาตที่ไม่รัดกุมอาจเปิดช่องให้บริษัทที่มีความเสี่ยงสูงเข้าสู่ตลาด
    - นักลงทุนควรตรวจสอบว่าแต่ละบริการของบริษัทคริปโตอยู่ภายใต้กฎ MiCA หรือไม่ ก่อนตัดสินใจลงทุน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/11/european-securities-regulator-warns-about-crypto-firms-misleading-customers
    ESMA เตือนบริษัทคริปโต – อย่าใช้คำว่า “ถูกกำกับดูแล” หลอกผู้บริโภค เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2025 ESMA (European Securities and Markets Authority) ได้ออกแถลงการณ์เตือนบริษัทคริปโตทั่วสหภาพยุโรปว่าไม่ควรใช้สถานะ “ได้รับใบอนุญาต” ภายใต้กฎ MiCA (Markets in Crypto-Assets) เป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้บริโภค หลายบริษัทคริปโต (CASPs) เสนอทั้งผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ MiCA บนแพลตฟอร์มเดียวกัน เช่น การลงทุนในทองคำหรือการให้กู้ยืมคริปโต ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าทุกบริการได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ESMA ระบุว่าบางบริษัทถึงขั้นใช้ใบอนุญาต MiCA เป็น “เครื่องมือส่งเสริมการขาย” และสร้างความสับสนระหว่างผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการกำกับกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับการกำกับ นอกจากนี้ ESMA ยังออกแนวทางใหม่เกี่ยวกับความรู้และความสามารถของพนักงานที่ทำหน้าที่ประเมินบริษัทคริปโต เพื่อให้การออกใบอนุญาตมีความรัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากพบว่า Malta Financial Services Authority มีการประเมินความเสี่ยงของบริษัทคริปโตบางแห่งอย่างไม่ละเอียดพอ ✅ ข้อมูลจากข่าว - ESMA เตือนบริษัทคริปโตว่าไม่ควรใช้สถานะ “ได้รับการกำกับ” เป็นเครื่องมือทางการตลาด - กฎ MiCA ของ EU มีข้อกำหนดด้านการคุ้มครองผู้ลงทุน เช่น การจัดการสินทรัพย์และการรับเรื่องร้องเรียน - CASPs บางแห่งเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ MiCA เช่น การลงทุนในทองคำหรือการให้กู้ยืมคริปโต - ESMA ระบุว่าการเสนอผลิตภัณฑ์ทั้งแบบกำกับและไม่กำกับบนแพลตฟอร์มเดียวกันสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภค - ESMA ออกแนวทางใหม่เกี่ยวกับความรู้ของพนักงานที่ประเมินบริษัทคริปโต - การตรวจสอบในมอลตาพบว่ามีการอนุญาตบริษัทคริปโตโดยไม่ประเมินความเสี่ยงอย่างละเอียด ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - ผู้บริโภคอาจเข้าใจผิดว่าทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทคริปโตได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย - การใช้ใบอนุญาต MiCA เป็นเครื่องมือส่งเสริมการขายอาจนำไปสู่การหลอกลวง - ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ MiCA เช่น crypto lending ไม่มีการคุ้มครองหากเกิดปัญหา - การออกใบอนุญาตที่ไม่รัดกุมอาจเปิดช่องให้บริษัทที่มีความเสี่ยงสูงเข้าสู่ตลาด - นักลงทุนควรตรวจสอบว่าแต่ละบริการของบริษัทคริปโตอยู่ภายใต้กฎ MiCA หรือไม่ ก่อนตัดสินใจลงทุน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/11/european-securities-regulator-warns-about-crypto-firms-misleading-customers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    European securities regulator warns about crypto firms misleading customers
    PARIS (Reuters) -Europe's securities regulator warned crypto companies on Friday not to mislead customers about the extent to which their products are regulated - the latest sign of European authorities trying to limit crypto-related risks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • MIPS จากตำนาน RISC สู่การเริ่มต้นใหม่ในอ้อมแขนของ GlobalFoundries

    ย้อนกลับไปในยุค 1980s MIPS คือหนึ่งในผู้บุกเบิกสถาปัตยกรรม RISC (Reduced Instruction Set Computing) โดยมี John Hennessy จาก Stanford เป็นผู้ร่วมออกแบบ และเปิดตัว CPU รุ่นแรกคือ R2000 ซึ่งมีเพียง 110,000 ทรานซิสเตอร์ แต่สามารถทำงานได้เร็วถึง 15MHz

    MIPS เคยเป็นคู่แข่งของ Intel และ Arm และมีบทบาทสำคัญในอุปกรณ์ระดับสูง เช่น:
    - Workstation ของ Silicon Graphics
    - เครื่องเล่นเกม Sony PlayStation รุ่นแรก
    - ยานสำรวจอวกาศ New Horizons ของ NASA

    แต่หลังจากนั้น MIPS ก็เปลี่ยนมือหลายครั้ง—ผ่าน Silicon Graphics, Imagination Technologies, Tallwood Ventures และ Wave Computing ก่อนจะล้มละลายและกลับมาอีกครั้งในปี 2020 โดยหันไปใช้สถาปัตยกรรม RISC-V แบบโอเพนซอร์ส

    แม้จะเปิดตัวซีรีส์ eVocore และ Atlas Explorer เพื่อเจาะตลาด AI และ edge computing แต่ก็ไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมได้มากนัก จนล่าสุด GlobalFoundries เข้าซื้อกิจการ และจะให้ MIPS ดำเนินงานเป็นหน่วยธุรกิจอิสระที่เน้น AI, อุตสาหกรรม และระบบอัตโนมัติ

    ข้อมูลจากข่าว
    - MIPS เคยเป็นผู้นำด้าน RISC และอยู่เบื้องหลัง PlayStation รุ่นแรกและภารกิจของ NASA
    - เปิดตัว CPU รุ่นแรก R2000 ในปี 1986 และ R3000 ในปี 1988
    - ถูกซื้อโดย GlobalFoundries ซึ่งเคยเป็นโรงงานผลิตชิปของ AMD
    - MIPS จะดำเนินงานเป็นหน่วยธุรกิจอิสระภายใต้ GlobalFoundries
    - เป้าหมายใหม่คือ AI, ระบบอัตโนมัติ และ edge computing
    - เคยเปลี่ยนมาใช้ RISC-V architecture เพื่อกลับเข้าสู่ตลาด
    - CEO ของ MIPS มองว่าการเข้าร่วม GlobalFoundries คือ “การเริ่มต้นบทใหม่ที่กล้าหาญ”

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - แม้จะมีประวัติยิ่งใหญ่ แต่ MIPS ยังไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมในตลาด AI ได้จริง
    - การเปลี่ยนมือบ่อยครั้งสะท้อนถึงความไม่มั่นคงของโมเดลธุรกิจ
    - RISC-V แม้จะเป็นมาตรฐานเปิด แต่ยังมีความไม่แน่นอนในด้าน ecosystem และการสนับสนุนเชิงพาณิชย์
    - การพึ่งพา GlobalFoundries อาจทำให้ MIPS ต้องปรับตัวตามกลยุทธ์ของบริษัทแม่
    - ผู้พัฒนาและองค์กรที่ใช้ IP ของ MIPS ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบในระยะยาว

    https://www.techradar.com/pro/arms-legendary-rival-was-in-the-original-playstation-now-in-a-twist-of-fate-mips-has-been-sold-to-amds-former-foundry
    MIPS จากตำนาน RISC สู่การเริ่มต้นใหม่ในอ้อมแขนของ GlobalFoundries ย้อนกลับไปในยุค 1980s MIPS คือหนึ่งในผู้บุกเบิกสถาปัตยกรรม RISC (Reduced Instruction Set Computing) โดยมี John Hennessy จาก Stanford เป็นผู้ร่วมออกแบบ และเปิดตัว CPU รุ่นแรกคือ R2000 ซึ่งมีเพียง 110,000 ทรานซิสเตอร์ แต่สามารถทำงานได้เร็วถึง 15MHz MIPS เคยเป็นคู่แข่งของ Intel และ Arm และมีบทบาทสำคัญในอุปกรณ์ระดับสูง เช่น: - Workstation ของ Silicon Graphics - เครื่องเล่นเกม Sony PlayStation รุ่นแรก - ยานสำรวจอวกาศ New Horizons ของ NASA แต่หลังจากนั้น MIPS ก็เปลี่ยนมือหลายครั้ง—ผ่าน Silicon Graphics, Imagination Technologies, Tallwood Ventures และ Wave Computing ก่อนจะล้มละลายและกลับมาอีกครั้งในปี 2020 โดยหันไปใช้สถาปัตยกรรม RISC-V แบบโอเพนซอร์ส แม้จะเปิดตัวซีรีส์ eVocore และ Atlas Explorer เพื่อเจาะตลาด AI และ edge computing แต่ก็ไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมได้มากนัก จนล่าสุด GlobalFoundries เข้าซื้อกิจการ และจะให้ MIPS ดำเนินงานเป็นหน่วยธุรกิจอิสระที่เน้น AI, อุตสาหกรรม และระบบอัตโนมัติ ✅ ข้อมูลจากข่าว - MIPS เคยเป็นผู้นำด้าน RISC และอยู่เบื้องหลัง PlayStation รุ่นแรกและภารกิจของ NASA - เปิดตัว CPU รุ่นแรก R2000 ในปี 1986 และ R3000 ในปี 1988 - ถูกซื้อโดย GlobalFoundries ซึ่งเคยเป็นโรงงานผลิตชิปของ AMD - MIPS จะดำเนินงานเป็นหน่วยธุรกิจอิสระภายใต้ GlobalFoundries - เป้าหมายใหม่คือ AI, ระบบอัตโนมัติ และ edge computing - เคยเปลี่ยนมาใช้ RISC-V architecture เพื่อกลับเข้าสู่ตลาด - CEO ของ MIPS มองว่าการเข้าร่วม GlobalFoundries คือ “การเริ่มต้นบทใหม่ที่กล้าหาญ” ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - แม้จะมีประวัติยิ่งใหญ่ แต่ MIPS ยังไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมในตลาด AI ได้จริง - การเปลี่ยนมือบ่อยครั้งสะท้อนถึงความไม่มั่นคงของโมเดลธุรกิจ - RISC-V แม้จะเป็นมาตรฐานเปิด แต่ยังมีความไม่แน่นอนในด้าน ecosystem และการสนับสนุนเชิงพาณิชย์ - การพึ่งพา GlobalFoundries อาจทำให้ MIPS ต้องปรับตัวตามกลยุทธ์ของบริษัทแม่ - ผู้พัฒนาและองค์กรที่ใช้ IP ของ MIPS ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบในระยะยาว https://www.techradar.com/pro/arms-legendary-rival-was-in-the-original-playstation-now-in-a-twist-of-fate-mips-has-been-sold-to-amds-former-foundry
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • SilverStone Seta H2 – เคสยักษ์สำหรับคนรักข้อมูล

    ในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินล้ำค่า SilverStone เปิดตัวเคสรุ่น Seta H2 ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานระดับเวิร์กสเตชันหรือเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก จุดเด่นที่สุดคือความสามารถในการติดตั้งฮาร์ดดิสก์หรือ SSD ได้มากถึง 15 ลูก! ถ้าใช้ HDD ขนาด 24TB เต็มทุกช่อง ก็สามารถสร้างระบบที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่า 300TB ได้เลย

    Seta H2 รองรับเมนบอร์ดตั้งแต่ ATX ไปจนถึง SSI-EEB และสามารถติดตั้งการ์ดจอขนาดใหญ่ถึง 428.9 มม. (เมื่อใช้พัดลมหน้าแบบ 25 มม.) รองรับระบบระบายความร้อนทั้งแบบลมและน้ำ รวมถึงติดตั้งหม้อน้ำหลายจุดได้

    ตัวเคสทำจากเหล็ก มีขนาด 244.9 x 528.3 x 543.2 มม. และหนักถึง 15.2 กก. เมื่อยังไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ติดตั้ง—เรียกได้ว่าไม่เหมาะกับการพกไปงาน LAN party แน่นอน

    ดีไซน์ของเคสเน้นความเรียบง่ายแบบคลาสสิก ไม่มีไฟ RGB หรือหน้าต่างใสเหมือนเคสเกมมิ่งทั่วไป แต่มีพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน เช่น USB-C, USB 3.0 และช่องเสียงแบบ combo jack พร้อมแผงกรองฝุ่นและระบบจัดการสายไฟ

    ราคาจำหน่ายอยู่ที่ $209.99 บน Amazon และยังมีรุ่นเล็กชื่อ Seta H2M ที่รองรับ SSD ได้ 8 ลูก ราคาเพียง $119.99

    ข้อมูลจากข่าว
    - SilverStone เปิดตัวเคส Seta H2 รองรับฮาร์ดดิสก์/SSD ได้สูงสุด 15 ลูก
    - รองรับเมนบอร์ดตั้งแต่ ATX ถึง SSI-EEB และการ์ดจอยาวถึง 428.9 มม.
    - รองรับระบบระบายความร้อนทั้งแบบลมและน้ำ รวมถึงหม้อน้ำหลายจุด
    - ตัวเคสทำจากเหล็ก ขนาดใหญ่และหนักถึง 15.2 กก. (ยังไม่รวมอุปกรณ์)
    - ดีไซน์เรียบง่าย ไม่มีไฟ RGB หรือหน้าต่างใส
    - มีพอร์ต USB-C, USB 3.0 และช่องเสียงแบบ combo jack
    - ราคา $209.99 บน Amazon และมีรุ่นเล็ก Seta H2M ราคา $119.99

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - น้ำหนักของเคสเมื่อใส่อุปกรณ์ครบอาจเกิน 25–30 กก. ไม่เหมาะกับการเคลื่อนย้ายบ่อย
    - ไม่มีระบบระบายความร้อนแบบ active สำหรับฮาร์ดดิสก์จำนวนมาก อาจต้องติดตั้งเพิ่มเอง
    - ดีไซน์เรียบอาจไม่ถูกใจผู้ใช้ที่ชอบเคสสไตล์เกมมิ่งหรือโชว์อุปกรณ์ภายใน
    - การติดตั้งฮาร์ดดิสก์จำนวนมากต้องใช้พาวเวอร์ซัพพลายที่มีกำลังเพียงพอและระบบสายไฟที่ดี
    - ไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลระดับหลายร้อย TB

    https://www.techspot.com/news/108628-silverstone-seta-h2-monster-pc-case-room-15.html
    SilverStone Seta H2 – เคสยักษ์สำหรับคนรักข้อมูล ในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินล้ำค่า SilverStone เปิดตัวเคสรุ่น Seta H2 ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานระดับเวิร์กสเตชันหรือเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก จุดเด่นที่สุดคือความสามารถในการติดตั้งฮาร์ดดิสก์หรือ SSD ได้มากถึง 15 ลูก! ถ้าใช้ HDD ขนาด 24TB เต็มทุกช่อง ก็สามารถสร้างระบบที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่า 300TB ได้เลย Seta H2 รองรับเมนบอร์ดตั้งแต่ ATX ไปจนถึง SSI-EEB และสามารถติดตั้งการ์ดจอขนาดใหญ่ถึง 428.9 มม. (เมื่อใช้พัดลมหน้าแบบ 25 มม.) รองรับระบบระบายความร้อนทั้งแบบลมและน้ำ รวมถึงติดตั้งหม้อน้ำหลายจุดได้ ตัวเคสทำจากเหล็ก มีขนาด 244.9 x 528.3 x 543.2 มม. และหนักถึง 15.2 กก. เมื่อยังไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ติดตั้ง—เรียกได้ว่าไม่เหมาะกับการพกไปงาน LAN party แน่นอน 😅 ดีไซน์ของเคสเน้นความเรียบง่ายแบบคลาสสิก ไม่มีไฟ RGB หรือหน้าต่างใสเหมือนเคสเกมมิ่งทั่วไป แต่มีพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน เช่น USB-C, USB 3.0 และช่องเสียงแบบ combo jack พร้อมแผงกรองฝุ่นและระบบจัดการสายไฟ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ $209.99 บน Amazon และยังมีรุ่นเล็กชื่อ Seta H2M ที่รองรับ SSD ได้ 8 ลูก ราคาเพียง $119.99 ✅ ข้อมูลจากข่าว - SilverStone เปิดตัวเคส Seta H2 รองรับฮาร์ดดิสก์/SSD ได้สูงสุด 15 ลูก - รองรับเมนบอร์ดตั้งแต่ ATX ถึง SSI-EEB และการ์ดจอยาวถึง 428.9 มม. - รองรับระบบระบายความร้อนทั้งแบบลมและน้ำ รวมถึงหม้อน้ำหลายจุด - ตัวเคสทำจากเหล็ก ขนาดใหญ่และหนักถึง 15.2 กก. (ยังไม่รวมอุปกรณ์) - ดีไซน์เรียบง่าย ไม่มีไฟ RGB หรือหน้าต่างใส - มีพอร์ต USB-C, USB 3.0 และช่องเสียงแบบ combo jack - ราคา $209.99 บน Amazon และมีรุ่นเล็ก Seta H2M ราคา $119.99 ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - น้ำหนักของเคสเมื่อใส่อุปกรณ์ครบอาจเกิน 25–30 กก. ไม่เหมาะกับการเคลื่อนย้ายบ่อย - ไม่มีระบบระบายความร้อนแบบ active สำหรับฮาร์ดดิสก์จำนวนมาก อาจต้องติดตั้งเพิ่มเอง - ดีไซน์เรียบอาจไม่ถูกใจผู้ใช้ที่ชอบเคสสไตล์เกมมิ่งหรือโชว์อุปกรณ์ภายใน - การติดตั้งฮาร์ดดิสก์จำนวนมากต้องใช้พาวเวอร์ซัพพลายที่มีกำลังเพียงพอและระบบสายไฟที่ดี - ไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลระดับหลายร้อย TB https://www.techspot.com/news/108628-silverstone-seta-h2-monster-pc-case-room-15.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    SilverStone's Seta H2 is a monster PC case with room for 15 drives
    The case accepts a standard ATX power supply measuring up to 220mm in length, but storage capacity is the major selling point here.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • แวะจอดเรือที่ Cannes แล้วต้องไปที่ไหน? รวม 4 จุดไฮไลต์หรูหราและมีเสน่ห์ของเมืองคานส์
    จากถนนคนดังระดับโลก สู่งานเทศกาลหนังระดับนานาชาติ เดินเล่นย่านเมืองเก่า ช้อปของสดท้องถิ่น — ครบทุกไฮไลท์ในวันเดียว!

    La Croisette - ถนนลา ครัวแซตต์
    ถนนเลียบชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองคานส์ สองฝั่งถนนเรียงรายไปด้วยโรงแรมหรูระดับโลก เช่น Hôtel Martinez และ InterContinental Carlton

    Palais des Festivals et des Congrès - ศูนย์จัดเทศกาลและการประชุมเมืองคานส์
    อาคารที่มีชื่อเสียงระดับโลกในฐานะสถานที่จัดงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ งานพรมแดงที่ดาราฮอลลีวูดและนักสร้างภาพยนตร์ทั่วโลก

    Le Suquet - ย่านเมืองเก่าเลอ ซูเคต์
    ย่านเมืองเก่าที่ตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งมีเสน่ห์แบบโบราณ เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยที่ปูด้วยหินและบ้านเรือนเก่าแก่ในสไตล์ฝรั่งเศสดั้งเดิม

    Marché Forville - ตลาดฟอร์วิลล์
    ตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยอาหารสด เช่น ผลไม้ ผัก อาหารทะเล ชีส และขนมปัง สถานที่ยอดนิยมสำหรับชาวเมืองและนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตและรสชาติของคานส์

    สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที!
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #CannesCruisePort #France #LaCroisette #PalaisdesFestivalsetdesCongrès #LeSuquet #MarchéForville #port #cruisedomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    แวะจอดเรือที่ Cannes แล้วต้องไปที่ไหน? รวม 4 จุดไฮไลต์หรูหราและมีเสน่ห์ของเมืองคานส์ 🌴✨ จากถนนคนดังระดับโลก สู่งานเทศกาลหนังระดับนานาชาติ เดินเล่นย่านเมืองเก่า ช้อปของสดท้องถิ่น — ครบทุกไฮไลท์ในวันเดียว! ☑️ La Croisette - ถนนลา ครัวแซตต์ ถนนเลียบชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองคานส์ สองฝั่งถนนเรียงรายไปด้วยโรงแรมหรูระดับโลก เช่น Hôtel Martinez และ InterContinental Carlton ☑️ Palais des Festivals et des Congrès - ศูนย์จัดเทศกาลและการประชุมเมืองคานส์ อาคารที่มีชื่อเสียงระดับโลกในฐานะสถานที่จัดงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ งานพรมแดงที่ดาราฮอลลีวูดและนักสร้างภาพยนตร์ทั่วโลก ☑️ Le Suquet - ย่านเมืองเก่าเลอ ซูเคต์ ย่านเมืองเก่าที่ตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งมีเสน่ห์แบบโบราณ เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยที่ปูด้วยหินและบ้านเรือนเก่าแก่ในสไตล์ฝรั่งเศสดั้งเดิม ☑️ Marché Forville - ตลาดฟอร์วิลล์ ตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยอาหารสด เช่น ผลไม้ ผัก อาหารทะเล ชีส และขนมปัง สถานที่ยอดนิยมสำหรับชาวเมืองและนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตและรสชาติของคานส์ 📩 สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที! https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #CannesCruisePort #France #LaCroisette #PalaisdesFestivalsetdesCongrès #LeSuquet #MarchéForville #port #cruisedomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • เศรษฐกิจในปี 2024 ไม่ได้โตจากรถสิบล้อวิ่งเข้าโรงงานอีกต่อไป…แต่โตจาก “การเทเงินเข้าไปที่ซอฟต์แวร์, โมเดล AI และสิทธิบัตรทางปัญญา” → รายงานร่วมจาก UN + Luiss Business School เผยว่า ประเทศกว่า 27 แห่งลงทุนในทรัพย์สินแบบไม่มีตัวตนถึง 7.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ → โตขึ้นจากปีที่แล้ว (~7.4 ล้านล้าน) แม้เศรษฐกิจโลกจะซบเซา!

    ประเทศที่ทุ่มสุดคือ สหรัฐฯ → ลงทุนมากกว่าฝรั่งเศส, เยอรมนี, ญี่ปุ่น และอังกฤษรวมกัน → ส่วน “ประเทศที่เข้มข้นที่สุด” ในแง่สัดส่วน GDP คือ สวีเดน ที่การลงทุนแบบ intangible กินพื้นที่เศรษฐกิจถึง 16% → ตามด้วยสหรัฐฯ, ฝรั่งเศส และฟินแลนด์ (15%) → และอินเดียก็ขยับแซงหลายชาติ EU แล้วด้วยตัวเลขเกือบ 10%

    สิ่งที่โตเร็วที่สุดไม่ใช่แค่โมเดล AI → แต่คือ ซอฟต์แวร์ + ฐานข้อมูล ซึ่งโตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ปี 2013–2022 → เพราะระบบ AI ต้องการ “ดาต้าที่สะอาดและมีลิขสิทธิ์ชัดเจน” มาป้อนให้โมเดลเรียนรู้ → ซึ่งกลายเป็นหัวใจของมูลค่าทรัพย์สินใหม่โลกเทคโนโลยี

    นักวิจัย UN ยังทิ้งท้ายว่า… → ตอนนี้คือ “จุดเริ่มต้นของยุค AI” ไม่ใช่จุดกลางหรือจุดท้าย → ความเปลี่ยนแปลงที่ลึกกว่านี้อาจยังมาไม่ถึง แต่ต้องเตรียมรับตั้งแต่วันนี้

    การลงทุนในทรัพย์สินไม่มีตัวตน (intangible assets) โต 3 เท่าเมื่อเทียบกับทรัพย์สินจริง (machinery, buildings) ปี 2024  
    • รวมมูลค่าประมาณ $7.6T จาก 27 ประเทศ (โตจาก $7.4T ปี 2023)  
    • ปัจจัยที่ฉุด tangible asset = ดอกเบี้ยสูง, เศรษฐกิจฟื้นช้า

    ประเทศที่ลงทุนสูงสุดใน absolute คือ สหรัฐอเมริกา → มากกว่าทุกประเทศในกลุ่ม G7

    ประเทศที่มีความเข้มข้นสูงสุดด้านทรัพย์สินไร้ตัวตนต่อ GDP:  
    • สวีเดน (16%), สหรัฐฯ–ฝรั่งเศส–ฟินแลนด์ (15%), อินเดีย (~10%)

    ซอฟต์แวร์และฐานข้อมูล เป็นกลุ่มที่โตเร็วที่สุดในกลุ่ม intangible assets (โตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ 2013–2022)

    โมเดล AI ช่วยเร่งการลงทุนแบบ intangible → โดยเฉพาะด้านฐานข้อมูล, ทรัพย์สินทางปัญญา, และการเรียนรู้เชิงลึก

    การโตของ intangible asset มีความเสถียรตลอดช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น ปี 2008 หรือช่วงโควิด (โตเฉลี่ย 4% ต่อปี)

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/10/un-investments-rise-in-data-ai-outpacing-physical-assets
    เศรษฐกิจในปี 2024 ไม่ได้โตจากรถสิบล้อวิ่งเข้าโรงงานอีกต่อไป…แต่โตจาก “การเทเงินเข้าไปที่ซอฟต์แวร์, โมเดล AI และสิทธิบัตรทางปัญญา” → รายงานร่วมจาก UN + Luiss Business School เผยว่า ประเทศกว่า 27 แห่งลงทุนในทรัพย์สินแบบไม่มีตัวตนถึง 7.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ → โตขึ้นจากปีที่แล้ว (~7.4 ล้านล้าน) แม้เศรษฐกิจโลกจะซบเซา! ประเทศที่ทุ่มสุดคือ สหรัฐฯ → ลงทุนมากกว่าฝรั่งเศส, เยอรมนี, ญี่ปุ่น และอังกฤษรวมกัน → ส่วน “ประเทศที่เข้มข้นที่สุด” ในแง่สัดส่วน GDP คือ สวีเดน ที่การลงทุนแบบ intangible กินพื้นที่เศรษฐกิจถึง 16% → ตามด้วยสหรัฐฯ, ฝรั่งเศส และฟินแลนด์ (15%) → และอินเดียก็ขยับแซงหลายชาติ EU แล้วด้วยตัวเลขเกือบ 10% สิ่งที่โตเร็วที่สุดไม่ใช่แค่โมเดล AI → แต่คือ ซอฟต์แวร์ + ฐานข้อมูล ซึ่งโตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ปี 2013–2022 → เพราะระบบ AI ต้องการ “ดาต้าที่สะอาดและมีลิขสิทธิ์ชัดเจน” มาป้อนให้โมเดลเรียนรู้ → ซึ่งกลายเป็นหัวใจของมูลค่าทรัพย์สินใหม่โลกเทคโนโลยี นักวิจัย UN ยังทิ้งท้ายว่า… → ตอนนี้คือ “จุดเริ่มต้นของยุค AI” ไม่ใช่จุดกลางหรือจุดท้าย → ความเปลี่ยนแปลงที่ลึกกว่านี้อาจยังมาไม่ถึง แต่ต้องเตรียมรับตั้งแต่วันนี้ ✅ การลงทุนในทรัพย์สินไม่มีตัวตน (intangible assets) โต 3 เท่าเมื่อเทียบกับทรัพย์สินจริง (machinery, buildings) ปี 2024   • รวมมูลค่าประมาณ $7.6T จาก 27 ประเทศ (โตจาก $7.4T ปี 2023)   • ปัจจัยที่ฉุด tangible asset = ดอกเบี้ยสูง, เศรษฐกิจฟื้นช้า ✅ ประเทศที่ลงทุนสูงสุดใน absolute คือ สหรัฐอเมริกา → มากกว่าทุกประเทศในกลุ่ม G7 ✅ ประเทศที่มีความเข้มข้นสูงสุดด้านทรัพย์สินไร้ตัวตนต่อ GDP:   • สวีเดน (16%), สหรัฐฯ–ฝรั่งเศส–ฟินแลนด์ (15%), อินเดีย (~10%) ✅ ซอฟต์แวร์และฐานข้อมูล เป็นกลุ่มที่โตเร็วที่สุดในกลุ่ม intangible assets (โตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ 2013–2022) ✅ โมเดล AI ช่วยเร่งการลงทุนแบบ intangible → โดยเฉพาะด้านฐานข้อมูล, ทรัพย์สินทางปัญญา, และการเรียนรู้เชิงลึก ✅ การโตของ intangible asset มีความเสถียรตลอดช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น ปี 2008 หรือช่วงโควิด (โตเฉลี่ย 4% ต่อปี) https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/10/un-investments-rise-in-data-ai-outpacing-physical-assets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครกำลังมองหามื้ออร่อย บรรยากาศดี แวะมาที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 𝐂𝐚𝐟𝐞' & 𝐄𝐚𝐭𝐞𝐫𝐲 นะคะ

    𝐅𝐨𝐫 𝐭𝐡𝐨𝐬𝐞 𝐬𝐞𝐞𝐤𝐢𝐧𝐠 𝐚 𝐝𝐞𝐥𝐢𝐜𝐢𝐨𝐮𝐬 𝐦𝐞𝐚𝐥 𝐢𝐧 𝐚 𝐰𝐨𝐧𝐝𝐞𝐫𝐟𝐮𝐥 𝐚𝐭𝐦𝐨𝐬𝐩𝐡𝐞𝐫𝐞, 𝐜𝐨𝐦𝐞 𝐯𝐢𝐬𝐢𝐭 Ao Luek Ocean View

    ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น.
    • Call: 065-081-0581
    รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้
    ...................................
    #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover #sky
    ใครกำลังมองหามื้ออร่อย บรรยากาศดี แวะมาที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 𝐂𝐚𝐟𝐞' & 𝐄𝐚𝐭𝐞𝐫𝐲 ⛱️ นะคะ 😊 𝐅𝐨𝐫 𝐭𝐡𝐨𝐬𝐞 𝐬𝐞𝐞𝐤𝐢𝐧𝐠 𝐚 𝐝𝐞𝐥𝐢𝐜𝐢𝐨𝐮𝐬 𝐦𝐞𝐚𝐥 𝐢𝐧 𝐚 𝐰𝐨𝐧𝐝𝐞𝐫𝐟𝐮𝐥 𝐚𝐭𝐦𝐨𝐬𝐩𝐡𝐞𝐫𝐞, 𝐜𝐨𝐦𝐞 𝐯𝐢𝐬𝐢𝐭 Ao Luek Ocean View 📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น. • Call: 065-081-0581 🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้ ................................... #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover #sky
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถือทอง-บิตคอยน์ ลดเสี่ยง SET (09/07/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #บิตคอยน์
    ถือทอง-บิตคอยน์ ลดเสี่ยง SET (09/07/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #บิตคอยน์
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 452 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • SET รอคอยบทสรุปภาษี 09/07/68 #SET #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #ภาษีทรัมป์
    SET รอคอยบทสรุปภาษี 09/07/68 #SET #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #ภาษีทรัมป์
    Like
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 388 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • นักวิเคราะห์พบเบาะแสของชิป 7 ตัวนี้ในโค้ด iOS 18 รุ่นทดสอบ (internal build) ที่หลุดออกมาทาง Bilibili แล้วถูกถอดรหัสบน YouTube → เป็นครั้งแรกที่เห็นชื่อรหัส–เลข CPID และ “หน้าที่ของแต่ละชิป” พร้อมกันแบบนี้

    แต่ที่น่าสนใจคือ… Apple ไม่ได้แค่เตรียม A19 สำหรับ iPhone 17 → แต่ยังซุ่มทำ A19 Pro, ชิป M5 สำหรับ MacBook Pro รุ่นใหม่, ชิป Bora สำหรับ Apple Watch, ชิป Proxima ที่รวม Wi-Fi + Bluetooth ไว้ในตัวเดียว และแม้แต่ โมเด็ม 5G C2 รุ่นใหม่ของตัวเอง เพื่อปลดพันธนาการจาก Qualcomm ด้วย

    A19 (Codename: Tilos)  
    • เตรียมใช้กับ iPhone 17 Air (หรือรุ่นพื้นฐานของซีรีส์ iPhone 17)

    A19 Pro (Codename: Thera / CPID T8150)  
    • เตรียมใช้กับ iPhone 17 Pro และ Pro Max  
    • อาจมาพร้อม Neural Engine และ ISP ที่รองรับ AI และการประมวลผลภาพถ่ายขั้นสูง

    M5 / M5 Pro (Codename: Hidra / Sotra)  
    • ใช้กับ MacBook Pro รุ่นใหม่ (14 และ 16 นิ้ว)  
    • คาดว่าจะเปิดตัวหลัง iPhone 17 ไม่นาน

    Bora (CPID T8320)  
    • อิงจาก A18 → ใช้กับ Apple Watch Series 11  
    • อาจเพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพ–อัลกอริธึมที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น

    Proxima (Wi-Fi + Bluetooth integration)  
    • เป็นชิปที่รวม Wi-Fi และ Bluetooth เข้าด้วยกันเป็น SoC  
    • ช่วยลดต้นทุน ลดการใช้พลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อในอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น AirPods หรือ Vision Pro รุ่นถัดไป

    C2 Modem (5G)  
    • เป็นโมเด็ม 5G ที่ Apple พัฒนาเอง (รุ่นที่ 2 ต่อจาก C1)  
    • คาดว่าจะใช้ใน iPhone 17e ปีหน้า แทนที่โมเด็มจาก Qualcomm

    https://wccftech.com/apple-working-on-seven-different-custom-chipsets-reveals-early-ios-18-code/
    นักวิเคราะห์พบเบาะแสของชิป 7 ตัวนี้ในโค้ด iOS 18 รุ่นทดสอบ (internal build) ที่หลุดออกมาทาง Bilibili แล้วถูกถอดรหัสบน YouTube → เป็นครั้งแรกที่เห็นชื่อรหัส–เลข CPID และ “หน้าที่ของแต่ละชิป” พร้อมกันแบบนี้ แต่ที่น่าสนใจคือ… Apple ไม่ได้แค่เตรียม A19 สำหรับ iPhone 17 → แต่ยังซุ่มทำ A19 Pro, ชิป M5 สำหรับ MacBook Pro รุ่นใหม่, ชิป Bora สำหรับ Apple Watch, ชิป Proxima ที่รวม Wi-Fi + Bluetooth ไว้ในตัวเดียว และแม้แต่ โมเด็ม 5G C2 รุ่นใหม่ของตัวเอง เพื่อปลดพันธนาการจาก Qualcomm ด้วย ✅ A19 (Codename: Tilos)   • เตรียมใช้กับ iPhone 17 Air (หรือรุ่นพื้นฐานของซีรีส์ iPhone 17) ✅ A19 Pro (Codename: Thera / CPID T8150)   • เตรียมใช้กับ iPhone 17 Pro และ Pro Max   • อาจมาพร้อม Neural Engine และ ISP ที่รองรับ AI และการประมวลผลภาพถ่ายขั้นสูง ✅ M5 / M5 Pro (Codename: Hidra / Sotra)   • ใช้กับ MacBook Pro รุ่นใหม่ (14 และ 16 นิ้ว)   • คาดว่าจะเปิดตัวหลัง iPhone 17 ไม่นาน ✅ Bora (CPID T8320)   • อิงจาก A18 → ใช้กับ Apple Watch Series 11   • อาจเพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพ–อัลกอริธึมที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น ✅ Proxima (Wi-Fi + Bluetooth integration)   • เป็นชิปที่รวม Wi-Fi และ Bluetooth เข้าด้วยกันเป็น SoC   • ช่วยลดต้นทุน ลดการใช้พลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อในอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น AirPods หรือ Vision Pro รุ่นถัดไป ✅ C2 Modem (5G)   • เป็นโมเด็ม 5G ที่ Apple พัฒนาเอง (รุ่นที่ 2 ต่อจาก C1)   • คาดว่าจะใช้ใน iPhone 17e ปีหน้า แทนที่โมเด็มจาก Qualcomm https://wccftech.com/apple-working-on-seven-different-custom-chipsets-reveals-early-ios-18-code/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าคุณเคยรู้สึกว่าเวลาเข้าไปที่หน้า Settings หรือเปิดหน้า Split Screen ใน Microsoft Edge แล้วมันช้า ๆ หน่วง ๆ นิด ๆ ตอนนี้แหละคือจุดเปลี่ยนใหญ่แล้วครับ → เพราะ Microsoft พัฒนาเบื้องหลังของเบราว์เซอร์ใหม่เรียกว่า WebUI 2.0 → ใช้เทคนิคโหลดหน้าจอแบบเบา–รวดเร็ว ทำให้ “First Contentful Paint (FCP)” หรือความเร็วที่ UI ปรากฏครั้งแรก เร็วขึ้นเหลือต่ำกว่า 300 มิลลิวินาที

    แปลว่าผู้ใช้แทบไม่รู้สึกว่า “รอ” อยู่เลยในหลาย ๆ เมนู → และจากการวัดผลโดย Microsoft เอง ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Edge เช่น Split Screen, Workspaces, Read Aloud และ Settings ก็โหลดเร็วขึ้น เฉลี่ย 40%

    นี่ไม่ใช่แค่ตัวเลขสวยงาม เพราะ Microsoft ยังโชว์วิดีโอเปรียบเทียบให้ดูว่า → หน้า Settings ตอนนี้ “โผล่มาแทบจะทันที” → และประกาศว่าอีกหลายส่วนของเบราว์เซอร์ อย่าง Print Preview และ Extensions กำลังจะย้ายมาใช้ WebUI 2.0 ต่อในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

    สิ่งนี้สะท้อนว่า Microsoft กำลัง “ฟังเสียงผู้ใช้” และไม่ใช่แค่ใส่ฟีเจอร์ที่น่ารำคาญอย่างโฆษณาหรือป๊อปอัปอีกต่อไป

    Microsoft Edge โหลด UI ได้เร็วขึ้นแบบรู้สึกได้ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ WebUI 2.0  
    • FCP ต่ำกว่า 300ms → ประสบการณ์ใช้งานลื่นขึ้นชัดเจน  
    • ตามมาตรฐาน “ความเร็วสมัยใหม่” เทียบชั้นเบราว์เซอร์คู่แข่ง

    หลังอัปเดต WebUI 2.0 ไปยัง 13 ฟีเจอร์ พบว่าโหลดเร็วขึ้นเฉลี่ย 40%  
    • เช่น Settings, Read Aloud, Split Screen, Workspaces

    Microsoft เผยแผนจะขยาย WebUI 2.0 ไปยังส่วนอื่น เช่น Print Preview และ Extensions  
    • คาดว่าจะมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

    การตัด “bloat” ใน Edge ช่วยให้เบราว์เซอร์เร็วขึ้นโดยรวม  
    • Microsoft เน้นว่าไม่ได้แค่เพิ่มความเร็ว แต่ยังลดการรบกวนผู้ใช้ (โฆษณา, ป๊อปอัป ฯลฯ)


    https://www.neowin.net/news/microsoft-edge-is-now-significantly-faster-than-before/
    ถ้าคุณเคยรู้สึกว่าเวลาเข้าไปที่หน้า Settings หรือเปิดหน้า Split Screen ใน Microsoft Edge แล้วมันช้า ๆ หน่วง ๆ นิด ๆ ตอนนี้แหละคือจุดเปลี่ยนใหญ่แล้วครับ → เพราะ Microsoft พัฒนาเบื้องหลังของเบราว์เซอร์ใหม่เรียกว่า WebUI 2.0 → ใช้เทคนิคโหลดหน้าจอแบบเบา–รวดเร็ว ทำให้ “First Contentful Paint (FCP)” หรือความเร็วที่ UI ปรากฏครั้งแรก เร็วขึ้นเหลือต่ำกว่า 300 มิลลิวินาที แปลว่าผู้ใช้แทบไม่รู้สึกว่า “รอ” อยู่เลยในหลาย ๆ เมนู → และจากการวัดผลโดย Microsoft เอง ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Edge เช่น Split Screen, Workspaces, Read Aloud และ Settings ก็โหลดเร็วขึ้น เฉลี่ย 40% นี่ไม่ใช่แค่ตัวเลขสวยงาม เพราะ Microsoft ยังโชว์วิดีโอเปรียบเทียบให้ดูว่า → หน้า Settings ตอนนี้ “โผล่มาแทบจะทันที” → และประกาศว่าอีกหลายส่วนของเบราว์เซอร์ อย่าง Print Preview และ Extensions กำลังจะย้ายมาใช้ WebUI 2.0 ต่อในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า สิ่งนี้สะท้อนว่า Microsoft กำลัง “ฟังเสียงผู้ใช้” และไม่ใช่แค่ใส่ฟีเจอร์ที่น่ารำคาญอย่างโฆษณาหรือป๊อปอัปอีกต่อไป ✅ Microsoft Edge โหลด UI ได้เร็วขึ้นแบบรู้สึกได้ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ WebUI 2.0   • FCP ต่ำกว่า 300ms → ประสบการณ์ใช้งานลื่นขึ้นชัดเจน   • ตามมาตรฐาน “ความเร็วสมัยใหม่” เทียบชั้นเบราว์เซอร์คู่แข่ง ✅ หลังอัปเดต WebUI 2.0 ไปยัง 13 ฟีเจอร์ พบว่าโหลดเร็วขึ้นเฉลี่ย 40%   • เช่น Settings, Read Aloud, Split Screen, Workspaces ✅ Microsoft เผยแผนจะขยาย WebUI 2.0 ไปยังส่วนอื่น เช่น Print Preview และ Extensions   • คาดว่าจะมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ✅ การตัด “bloat” ใน Edge ช่วยให้เบราว์เซอร์เร็วขึ้นโดยรวม   • Microsoft เน้นว่าไม่ได้แค่เพิ่มความเร็ว แต่ยังลดการรบกวนผู้ใช้ (โฆษณา, ป๊อปอัป ฯลฯ) https://www.neowin.net/news/microsoft-edge-is-now-significantly-faster-than-before/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft Edge is now significantly faster than before
    Recent changes in Microsoft Edge have made the browser significantly faster, giving users a valid reason to stay away from other browsers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • SET จะมึนๆหน่อย รอผลเจรจา 07/07/68 #SET #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #เศรษฐกิจ
    SET จะมึนๆหน่อย รอผลเจรจา 07/07/68 #SET #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #เศรษฐกิจ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 0 รีวิว


  • อนาคตถ้าเรามีนายกฯใหม่ที่ดีที่เก่งเฉลียวฉลาด,ด้วยสมบัติทรัพยากรไทยธรรมชาติที่ไม่แพ้ชาติใดๆในโลกตลอดวัตถุดิบที่มากมายหลากหลายที่ซ่อนอยู่อีกมาก,เราสามารถวิวัฒนาการตนเองพัฒนาบุคลากรภายในประเทศเยาวชนเราคนรุ่นต่อไปพร้อมก้าวรับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคสมัยใหม่ได้สบาย, อาทิ เป็นฮับสร้างยานบินภายในประเทศ ภายในโลกหรือยานบินอวกาศแบบยานufoได้อย่างเปิดเผยโดยขนส่งวัตถุดิบการผลิตจากทุกๆมุมโลกได้สบายผ่านทางทะเลทางเรือในคลองคอดกระเราที่อาจขุดคลองด้วย สร้างแลนด์บริดจ์คู่ขนานคลองด้วยอรรถประโยชน์สูงสุดเลย,สร้างเครื่องบินก็ได้ส่งออกทั่วโลก,สร้างยานบินอวกาศก็ได้ส่งออกทั่วโลกหรือจักรวาล,สร้างเรือบรรทุกขนาดเล็ก ขนาดกลางขนาดใหญ่ก็ได้ เป็นฮับสาระพัดบนบริเวณพื้นที่บริหารจัดการสากลนี้ซึ่งเป็นของไทยเรา100%จึงนายกฯคนใหม่ต้องระดมแจกหุ้นฟรีๆให้คนไทยถือครองเป็นเจ้าของร่วมกันจริงจับต้องได้เป็นรูปธรรม มิใช่อ้างว่ารัฐบาลเป็นเจ้าของตัวแทนให้แล้วไง จะเรียกร้องอะไรอีก มันมิใช่การเรียกร้องแต่คืออธิปไตยคุณประโยชน์จริงแก่สิทธิของคนไทยทุกๆคนร่วมกันบนแผ่นดินไทยเรานี้ มิใช่รัฐบาลไปฮั่วผลประโยชน์กันเองทั้งแก่กิจการบริษัททุนเอกชนภายในเองและถึงขั้นยกสิทธิขาดแก่เอกชนนายทุนต่างชาติก็เคยทำมาแล้วแบบสัมปทานบ่อปิโตรเลียมสุดท้ายคนไทยทั้งประเทศได้จ่ายค่าน้ำมันราคาแพงค่าครองชีพแพงสาระพัดค่าใช้จ่ายแพงเป็นการตอบแทนคืนมาและยิ่งปตท.เข้าsetอีกยิ่งอนาถโคตรๆกว่าก่อนจะเข้าตลาดหุ้นอีก,นี้คือการปกครองบริหารจัดการที่ไม่ชอบต่อคนไทยทั้งประเทศและไม่ยอมทุบทิ้งกฎหมายที่ทำร้ายทำลายคนไทยจริงจังอะไรด้วย,ปฏิวัตการปกครองล้างระบบเก่าโมฆะระบบทาสเก่าจึงสมควรจริงๆ,ถ้านายกฯใหม่มาจริงก็จะติดกับดักหมากในกระดานมันกรอบมันจึงต้องทำลายกรอบซาตานนีัจึงอิสระเสรีก้าวรุ่งโรจน์ต่อไปได้จริง,
    ..ประเทศไทยถ้าเอาเฉพาะผลิตเครื่องบินรบหรือขับไล่ เราสามารถทำได้แน่นอน เตรียมคนไทยบุคลากรเรารอรับหน้างานก็ทันกาลด้วย,อนาคตต้องเข้าร่วมสภากาแล็กติกจักรวาลอยู่แล้วต้องชัดเจนเปิดตัวให้คนไทยพร้อมมุ่งหมายไปด้วยกันให้เต็มที่ในรอบมิติรอบด้านต่างๆนั้น,ขีปนาวุธยิงระยะไกลสำคัญที่สุดในยุคนี้,ทำลายชัดเจนแบบอิหร่านยิงระเบิดอิสราเอลนั้นล่ะ,เครื่องบินแทบไร้ประโยชน์ไร้ค่า,ดาวเทียมตัวพ่อล็อกเป้าแล้วบนโลกต้องมีเป็นของตัวเอง,ตลอดดาวเทียมยิงจากอวกาศลงสู่พื้นโลกด้วยยิ่งตัวเทพ,ปืนดาวเทียมความถี่สูงปล่อยคลื่นทำลายโดรนทุกๆชนิดทางสงครามแก่ศัตรูก็ได้,เครื่องบินเจออาจตกง่ายๆทุกรุ่นทุกเครื่องล่ะที่แน่ๆจะบินถึง2-3มัคพื้นๆหรือ6-10มัคกลางๆหรือยานบินufoมากว่า10มัคก็ไม่รอด,ยิ่งยานบินต่างดาวใช้จิตบังคับ คลื่นความถี่ยิงใส่สมองต่างดาวมีรวนอาจตกดับอนาถอย่างหลายๆที่ที่พบยานตกก็ได้นอกจากยิงกันเองก็ว่า,ปืนดาวเทียมลักษณะนี้อันตรายมาก สามารถยิงควบคุมได้ตกผิวโลกก็ได้ กำหนดชั้นบรรยากาศก็ได้อีก ห่างจากผิวโลกแค่10เมตรนับจากผิวดินขึ้นมา,อะไรเกินสูงกว่า10เมตรกระทบคลื่นนี้มีอักเสบหมด,คือกำหนดการทำลายล้างได้สาระพัดรูปแบบ ยิงทัังทวีปก็ได้ ยิงครอบคลุมตามอาณาเขตประเทศที่ขีดเป็นเส้นคตเคียวได้หมด,คืออาการหนักหากโดน โดยเฉพาะเครื่องบินมีตกดับอนาถแน่นอน,เราคนไทยสามารถพัฒนาเทคโนโลยีนี้สบายแลกเปลี่ยนกับจักรวาลอื่นได้แน่นอนผ่านจิตวิญญาณทะลุจักรวาลอื่นนั้นล่ะ,เพราะคนไทยหลายคนบรรลุไปแล้วไม่น้อยแต่จะมาชี้แนะหรือเปล่าแค่นั้นหรือปลีกวิเวกทางธรรมสถานะเดียวก็ว่า,แต่อนาคตคนไทยจะเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณโดยมาก,จึงสบายแน่นอน,ย่อมาปัจจุบัน เราร่ำรวยอยู่แล้วจริงๆ จึงสามารถซื้อหรือผลิตเครื่องบินได้หมดล่ะ,แต่จะทำมั้ย,เพื่อป้องกันตนเอง ป้องกันอาเชียน ป้องกันเอเชีย ผลิตป้องกันพิทักษ์โลกเข้าร่วมกับกองกำลังพิทักษ์โลกมีพร้อมรับหากยานอวกาศต่างดาวจากโลกอื่นมารุกรานเรา,นี้มิใช่จะไม่เกิด แต่จะเกิดแน่นอนในเวลาอันใกล้นี้ เพราะทั่วจักรวาลรับรู้นานแล้วว่าที่โลกเรามีทรัพยากรสำคัญที่ช่วยเหลือโลกเขาได้ในแต่ละแร่ธาตุนัันๆบางคนมาปล้นโลกเราเพื่อยึดไปขายทั่วจักรวาลก็มี,ชาวโลกเราจึงต้องเตรียมความพร้อมตลอดเวลา,สงครามจักรวาลมีแน่เกิดแน่นอน,ยิ่งหากเราช้าเข้าร่วมสภากาแล็กติกอีกจะตายเดียวทันที,ไทยเราต้องร่วมมือกับมิตรสหายดีจริงๆ เพราะสุดท้ายเรานี้ล่ะจะเป็นผู้ถ่ายทอดเทคโนโลยีล้ำๆนั้นแก่หลายๆประเทศมิตรสหายเรานั้นแทน,นายกฯคนใหม่หรือผู้ปกครองประเทศไทยเราจะผิดพลาดอีกไม่ได้จริงๆห้ามพวกกากๆกระจอก บ้าบอทางการเมืองเล่นการเมืองหมายแดกหมายโกงห้ามเข้ามาเด็ดขาดเพราะโลกในอนาคตภายหน้ายุคต่อไปนี้ ไม่ใช่ของเล่นๆแล้ว,พังพินาศคือพังจริงๆ,คือชื่อประเทศและประชากรอาจไม่หลงเหลือเลย,คัดออกจากโลกใบนี้จริงๆ.คือทุกๆคนในประเทศนั้นล่ะ,จะผู้นำผู้ปกครองหรือประชาชนก็ไปหมด,แบบเรามองหมากัดกันนั้นล่ะ,เราคือต่างจักรวาลอารยะธรรมสูงกว่าเขาเบื่อหน่ายคนบนโลกนี้เขาลงมติระเบิดทิ้งมันจบเลยนะ,เขามองว่าเราคือสัตว์ตัวหนึ่ง หมาสีดำ หมาสีขวา หมาด่อนหมาลายหมาแดงหมาเผือกหมาเหลืองหมาใดๆมันมองเราคือหมากัดกันนะ หมาในโลกนี้ไร้อารยะธรรมเอาแต่กัดกันมันว่า,มันไม่สนใจว่าหมาเหลืองถูก หมาขาวกัดก่อนนะ,มันไม่สนใจ มันทำลายบ้านหมานี้ทิ้ง ไล่หนีฆ่าทิ้งก็ได้นะคือระเบิดทิ้งนั้นล่ะ,กลัวโรคหมาบ้าไปติดคนจักรวาลมันก็ว่าหรือข้ามกำแพงน้ำแข็งไปก็ได้หรือระเบิดนิวเคลียร์ทำลายโลกซวยคือสมดุลจักรวาลพังไปด้วย มันกลัวตายด้วยเลยลงมากำจัดเราเสียทั้งหมดก็ได้,นี้มโนนะ,
    ..ประเทศไทยเราจริงๆถึงเวลาสร้างเครื่องบินรบเป็นของตนเองได้แล้วเพื่อทดลองมือเพิ่มทักษะในอนาคตต่อการสร้างยานบินอวกาศได้ ตลอดเตรียมบุคลากรคนไทยไว้รองรับขับยานบินได้ทุกๆคนด้วย หรือเครื่องบินรบจอดอยู่คนไทยคนไหนก็ขับออกไปสู้รบได้ทันทีนั้นเอง,เราต้องสร้างสิ่งนี้ลักษณะนี้จริงๆ ผู้นำไหนตายลง เราผลักดันผู้นำคนดีคนใหม่พร้อมนำทัพได้ทันทีนั้นล่ะ,ต้องเลิกมักใหญ่ใฝ่กอดตำแหน่งเก้าอี้ตนเองไว้ได้แล้ว,ขาดคุณสมบัติถีบออกทันทีเป็นต้น.

    https://youtu.be/YEKK-Qutymo?si=7IwCsCHZAMWOAaOa
    อนาคตถ้าเรามีนายกฯใหม่ที่ดีที่เก่งเฉลียวฉลาด,ด้วยสมบัติทรัพยากรไทยธรรมชาติที่ไม่แพ้ชาติใดๆในโลกตลอดวัตถุดิบที่มากมายหลากหลายที่ซ่อนอยู่อีกมาก,เราสามารถวิวัฒนาการตนเองพัฒนาบุคลากรภายในประเทศเยาวชนเราคนรุ่นต่อไปพร้อมก้าวรับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคสมัยใหม่ได้สบาย, อาทิ เป็นฮับสร้างยานบินภายในประเทศ ภายในโลกหรือยานบินอวกาศแบบยานufoได้อย่างเปิดเผยโดยขนส่งวัตถุดิบการผลิตจากทุกๆมุมโลกได้สบายผ่านทางทะเลทางเรือในคลองคอดกระเราที่อาจขุดคลองด้วย สร้างแลนด์บริดจ์คู่ขนานคลองด้วยอรรถประโยชน์สูงสุดเลย,สร้างเครื่องบินก็ได้ส่งออกทั่วโลก,สร้างยานบินอวกาศก็ได้ส่งออกทั่วโลกหรือจักรวาล,สร้างเรือบรรทุกขนาดเล็ก ขนาดกลางขนาดใหญ่ก็ได้ เป็นฮับสาระพัดบนบริเวณพื้นที่บริหารจัดการสากลนี้ซึ่งเป็นของไทยเรา100%จึงนายกฯคนใหม่ต้องระดมแจกหุ้นฟรีๆให้คนไทยถือครองเป็นเจ้าของร่วมกันจริงจับต้องได้เป็นรูปธรรม มิใช่อ้างว่ารัฐบาลเป็นเจ้าของตัวแทนให้แล้วไง จะเรียกร้องอะไรอีก มันมิใช่การเรียกร้องแต่คืออธิปไตยคุณประโยชน์จริงแก่สิทธิของคนไทยทุกๆคนร่วมกันบนแผ่นดินไทยเรานี้ มิใช่รัฐบาลไปฮั่วผลประโยชน์กันเองทั้งแก่กิจการบริษัททุนเอกชนภายในเองและถึงขั้นยกสิทธิขาดแก่เอกชนนายทุนต่างชาติก็เคยทำมาแล้วแบบสัมปทานบ่อปิโตรเลียมสุดท้ายคนไทยทั้งประเทศได้จ่ายค่าน้ำมันราคาแพงค่าครองชีพแพงสาระพัดค่าใช้จ่ายแพงเป็นการตอบแทนคืนมาและยิ่งปตท.เข้าsetอีกยิ่งอนาถโคตรๆกว่าก่อนจะเข้าตลาดหุ้นอีก,นี้คือการปกครองบริหารจัดการที่ไม่ชอบต่อคนไทยทั้งประเทศและไม่ยอมทุบทิ้งกฎหมายที่ทำร้ายทำลายคนไทยจริงจังอะไรด้วย,ปฏิวัตการปกครองล้างระบบเก่าโมฆะระบบทาสเก่าจึงสมควรจริงๆ,ถ้านายกฯใหม่มาจริงก็จะติดกับดักหมากในกระดานมันกรอบมันจึงต้องทำลายกรอบซาตานนีัจึงอิสระเสรีก้าวรุ่งโรจน์ต่อไปได้จริง, ..ประเทศไทยถ้าเอาเฉพาะผลิตเครื่องบินรบหรือขับไล่ เราสามารถทำได้แน่นอน เตรียมคนไทยบุคลากรเรารอรับหน้างานก็ทันกาลด้วย,อนาคตต้องเข้าร่วมสภากาแล็กติกจักรวาลอยู่แล้วต้องชัดเจนเปิดตัวให้คนไทยพร้อมมุ่งหมายไปด้วยกันให้เต็มที่ในรอบมิติรอบด้านต่างๆนั้น,ขีปนาวุธยิงระยะไกลสำคัญที่สุดในยุคนี้,ทำลายชัดเจนแบบอิหร่านยิงระเบิดอิสราเอลนั้นล่ะ,เครื่องบินแทบไร้ประโยชน์ไร้ค่า,ดาวเทียมตัวพ่อล็อกเป้าแล้วบนโลกต้องมีเป็นของตัวเอง,ตลอดดาวเทียมยิงจากอวกาศลงสู่พื้นโลกด้วยยิ่งตัวเทพ,ปืนดาวเทียมความถี่สูงปล่อยคลื่นทำลายโดรนทุกๆชนิดทางสงครามแก่ศัตรูก็ได้,เครื่องบินเจออาจตกง่ายๆทุกรุ่นทุกเครื่องล่ะที่แน่ๆจะบินถึง2-3มัคพื้นๆหรือ6-10มัคกลางๆหรือยานบินufoมากว่า10มัคก็ไม่รอด,ยิ่งยานบินต่างดาวใช้จิตบังคับ คลื่นความถี่ยิงใส่สมองต่างดาวมีรวนอาจตกดับอนาถอย่างหลายๆที่ที่พบยานตกก็ได้นอกจากยิงกันเองก็ว่า,ปืนดาวเทียมลักษณะนี้อันตรายมาก สามารถยิงควบคุมได้ตกผิวโลกก็ได้ กำหนดชั้นบรรยากาศก็ได้อีก ห่างจากผิวโลกแค่10เมตรนับจากผิวดินขึ้นมา,อะไรเกินสูงกว่า10เมตรกระทบคลื่นนี้มีอักเสบหมด,คือกำหนดการทำลายล้างได้สาระพัดรูปแบบ ยิงทัังทวีปก็ได้ ยิงครอบคลุมตามอาณาเขตประเทศที่ขีดเป็นเส้นคตเคียวได้หมด,คืออาการหนักหากโดน โดยเฉพาะเครื่องบินมีตกดับอนาถแน่นอน,เราคนไทยสามารถพัฒนาเทคโนโลยีนี้สบายแลกเปลี่ยนกับจักรวาลอื่นได้แน่นอนผ่านจิตวิญญาณทะลุจักรวาลอื่นนั้นล่ะ,เพราะคนไทยหลายคนบรรลุไปแล้วไม่น้อยแต่จะมาชี้แนะหรือเปล่าแค่นั้นหรือปลีกวิเวกทางธรรมสถานะเดียวก็ว่า,แต่อนาคตคนไทยจะเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณโดยมาก,จึงสบายแน่นอน,ย่อมาปัจจุบัน เราร่ำรวยอยู่แล้วจริงๆ จึงสามารถซื้อหรือผลิตเครื่องบินได้หมดล่ะ,แต่จะทำมั้ย,เพื่อป้องกันตนเอง ป้องกันอาเชียน ป้องกันเอเชีย ผลิตป้องกันพิทักษ์โลกเข้าร่วมกับกองกำลังพิทักษ์โลกมีพร้อมรับหากยานอวกาศต่างดาวจากโลกอื่นมารุกรานเรา,นี้มิใช่จะไม่เกิด แต่จะเกิดแน่นอนในเวลาอันใกล้นี้ เพราะทั่วจักรวาลรับรู้นานแล้วว่าที่โลกเรามีทรัพยากรสำคัญที่ช่วยเหลือโลกเขาได้ในแต่ละแร่ธาตุนัันๆบางคนมาปล้นโลกเราเพื่อยึดไปขายทั่วจักรวาลก็มี,ชาวโลกเราจึงต้องเตรียมความพร้อมตลอดเวลา,สงครามจักรวาลมีแน่เกิดแน่นอน,ยิ่งหากเราช้าเข้าร่วมสภากาแล็กติกอีกจะตายเดียวทันที,ไทยเราต้องร่วมมือกับมิตรสหายดีจริงๆ เพราะสุดท้ายเรานี้ล่ะจะเป็นผู้ถ่ายทอดเทคโนโลยีล้ำๆนั้นแก่หลายๆประเทศมิตรสหายเรานั้นแทน,นายกฯคนใหม่หรือผู้ปกครองประเทศไทยเราจะผิดพลาดอีกไม่ได้จริงๆห้ามพวกกากๆกระจอก บ้าบอทางการเมืองเล่นการเมืองหมายแดกหมายโกงห้ามเข้ามาเด็ดขาดเพราะโลกในอนาคตภายหน้ายุคต่อไปนี้ ไม่ใช่ของเล่นๆแล้ว,พังพินาศคือพังจริงๆ,คือชื่อประเทศและประชากรอาจไม่หลงเหลือเลย,คัดออกจากโลกใบนี้จริงๆ.คือทุกๆคนในประเทศนั้นล่ะ,จะผู้นำผู้ปกครองหรือประชาชนก็ไปหมด,แบบเรามองหมากัดกันนั้นล่ะ,เราคือต่างจักรวาลอารยะธรรมสูงกว่าเขาเบื่อหน่ายคนบนโลกนี้เขาลงมติระเบิดทิ้งมันจบเลยนะ,เขามองว่าเราคือสัตว์ตัวหนึ่ง หมาสีดำ หมาสีขวา หมาด่อนหมาลายหมาแดงหมาเผือกหมาเหลืองหมาใดๆมันมองเราคือหมากัดกันนะ หมาในโลกนี้ไร้อารยะธรรมเอาแต่กัดกันมันว่า,มันไม่สนใจว่าหมาเหลืองถูก หมาขาวกัดก่อนนะ,มันไม่สนใจ มันทำลายบ้านหมานี้ทิ้ง ไล่หนีฆ่าทิ้งก็ได้นะคือระเบิดทิ้งนั้นล่ะ,กลัวโรคหมาบ้าไปติดคนจักรวาลมันก็ว่าหรือข้ามกำแพงน้ำแข็งไปก็ได้หรือระเบิดนิวเคลียร์ทำลายโลกซวยคือสมดุลจักรวาลพังไปด้วย มันกลัวตายด้วยเลยลงมากำจัดเราเสียทั้งหมดก็ได้,นี้มโนนะ, ..ประเทศไทยเราจริงๆถึงเวลาสร้างเครื่องบินรบเป็นของตนเองได้แล้วเพื่อทดลองมือเพิ่มทักษะในอนาคตต่อการสร้างยานบินอวกาศได้ ตลอดเตรียมบุคลากรคนไทยไว้รองรับขับยานบินได้ทุกๆคนด้วย หรือเครื่องบินรบจอดอยู่คนไทยคนไหนก็ขับออกไปสู้รบได้ทันทีนั้นเอง,เราต้องสร้างสิ่งนี้ลักษณะนี้จริงๆ ผู้นำไหนตายลง เราผลักดันผู้นำคนดีคนใหม่พร้อมนำทัพได้ทันทีนั้นล่ะ,ต้องเลิกมักใหญ่ใฝ่กอดตำแหน่งเก้าอี้ตนเองไว้ได้แล้ว,ขาดคุณสมบัติถีบออกทันทีเป็นต้น. https://youtu.be/YEKK-Qutymo?si=7IwCsCHZAMWOAaOa
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC เคยประกาศลงทุนกว่า $100,000 ล้านในสหรัฐฯ และล่าสุดตามรายงานของ Wall Street Journal ดูเหมือนว่าพวกเขา “ไม่เพียงแค่ลงทุน” แต่ถึงขั้น “ปรับลำดับความสำคัญทั่วโลก” → โรงงานใหม่ในญี่ปุ่นถูกชะลอแบบไม่มีกำหนด → โครงการในเยอรมนีและที่อื่นก็ถูกเบรก → ทั้งหมดเพื่อเทงบ–ทรัพยากร–ทีมงานลงที่โรงงานในแอริโซนา ที่ตอนนี้ผลิตชิปรุ่นล่าสุด และจ่อขยายไปถึงระดับ 1.4nm ภายในปี 2030

    เหตุผลสำคัญไม่ใช่แค่การตามลูกค้าอย่าง Apple, Nvidia หรือ Microsoft เท่านั้น แต่คือ แรงกดดันจากฝ่ายการเมืองอเมริกัน โดยเฉพาะแผนของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่อาจตั้งภาษีชิปนำเข้าสูงถึง 100% หากผลิตนอกสหรัฐฯ

    TSMC ปรับลำดับความสำคัญระดับโลก → เทน้ำหนักไปที่โรงงานในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา  
    • ชะลอโครงการโรงงานแห่งที่ 2 ในญี่ปุ่นแบบไม่มีกำหนด  
    • ชะลอแผนในเยอรมนีด้วย  
    • โรงงานในแอริโซนาเป็นแห่งเดียวในต่างประเทศที่ผลิตชิปขั้นสูงนอกไต้หวัน

    แหล่งข่าวเผยว่าแรงผลักดันหลักคือความกลัว “ภาษีทรัมป์” ที่อาจตั้งขึ้นมาใหม่หาก Trump กลับมาเป็นประธานาธิบดี  
    • มีรายงานว่าเตรียมใช้มาตรการขึ้นภาษีชิปนำเข้าสูงสุดถึง 100%  
    • ผลักดันยุทธศาสตร์ “Made in USA” ของฝ่ายอนุรักษนิยม

    TSMC Arizona Fab ได้รับความสนใจจากลูกค้าใหญ่ ๆ เช่น Nvidia, Apple, Microsoft  
    • โรงงานจ่อขยายไปถึงระดับ 1.4nm ภายในทศวรรษนี้  
    • สั่งผลิตเต็มทุกไลน์แล้วในปัจจุบัน

    บริษัทร่วมในห่วงโซ่ เช่น Foxconn และ Quanta ก็กำลังย้ายฐานการผลิตมายังอเมริกาเพื่อลดความเสี่ยง

    https://wccftech.com/tsmc-has-reportedly-prioritized-setting-up-plants-in-the-us-over-other-region/
    TSMC เคยประกาศลงทุนกว่า $100,000 ล้านในสหรัฐฯ และล่าสุดตามรายงานของ Wall Street Journal ดูเหมือนว่าพวกเขา “ไม่เพียงแค่ลงทุน” แต่ถึงขั้น “ปรับลำดับความสำคัญทั่วโลก” → โรงงานใหม่ในญี่ปุ่นถูกชะลอแบบไม่มีกำหนด → โครงการในเยอรมนีและที่อื่นก็ถูกเบรก → ทั้งหมดเพื่อเทงบ–ทรัพยากร–ทีมงานลงที่โรงงานในแอริโซนา ที่ตอนนี้ผลิตชิปรุ่นล่าสุด และจ่อขยายไปถึงระดับ 1.4nm ภายในปี 2030 เหตุผลสำคัญไม่ใช่แค่การตามลูกค้าอย่าง Apple, Nvidia หรือ Microsoft เท่านั้น แต่คือ แรงกดดันจากฝ่ายการเมืองอเมริกัน โดยเฉพาะแผนของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่อาจตั้งภาษีชิปนำเข้าสูงถึง 100% หากผลิตนอกสหรัฐฯ ✅ TSMC ปรับลำดับความสำคัญระดับโลก → เทน้ำหนักไปที่โรงงานในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา   • ชะลอโครงการโรงงานแห่งที่ 2 ในญี่ปุ่นแบบไม่มีกำหนด   • ชะลอแผนในเยอรมนีด้วย   • โรงงานในแอริโซนาเป็นแห่งเดียวในต่างประเทศที่ผลิตชิปขั้นสูงนอกไต้หวัน ✅ แหล่งข่าวเผยว่าแรงผลักดันหลักคือความกลัว “ภาษีทรัมป์” ที่อาจตั้งขึ้นมาใหม่หาก Trump กลับมาเป็นประธานาธิบดี   • มีรายงานว่าเตรียมใช้มาตรการขึ้นภาษีชิปนำเข้าสูงสุดถึง 100%   • ผลักดันยุทธศาสตร์ “Made in USA” ของฝ่ายอนุรักษนิยม ✅ TSMC Arizona Fab ได้รับความสนใจจากลูกค้าใหญ่ ๆ เช่น Nvidia, Apple, Microsoft   • โรงงานจ่อขยายไปถึงระดับ 1.4nm ภายในทศวรรษนี้   • สั่งผลิตเต็มทุกไลน์แล้วในปัจจุบัน ✅ บริษัทร่วมในห่วงโซ่ เช่น Foxconn และ Quanta ก็กำลังย้ายฐานการผลิตมายังอเมริกาเพื่อลดความเสี่ยง https://wccftech.com/tsmc-has-reportedly-prioritized-setting-up-plants-in-the-us-over-other-region/
    WCCFTECH.COM
    TSMC Has Reportedly Prioritized Setting Up Plants in the U.S. Over Other Regions Due to Fears of "Trump Tariffs"
    TSMC has decided to prioritize America over all other nations where it is building facilities, as it is pouring massive funds into it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว

  • ..นักวิชาการมากมายเป็ยฝ่ายมืดแอบแฝงมิน้อย มีแต่คนเก่งๆทั้งนั้นและสามารถชี้นำสังคมได้โดยปูทางให้สามารถเข้ามามีชื่อเสียงรอไว้ในอดีตก็มาก ปะปนในทุกๆวงการทั่วไทยโดยเฉพาะศูนย์กลางอำนาจ.
    ..ส่วนตัวก็ติดตามท่านมาสักพักช่วงหนึ่งนานมาแล้ว แต่หลังๆแปลกๆบอกไม่ถูก เชียร์พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศสุดๆ ซึ่งฝ่ายแสงต่างเห็นต่างชัดเจนทั่วโลก เผลอโน้นโลกเย็นลงต่างหากและถ้าประเทศไทยไม่เตรียมรับมือเราอาจหนาวตายแน่นอนติดลบกว่า-200องศากันเลย เลยเริ่มลุกลามคุกคามมาเรื่อยๆในตอนบนของไทย ยุโรปหลายประเทศติดลบกว่า60-70องศาแล้วซึ่งเขาอยู่มมาตลอดชีวิตยังยืนยันว่าหนาวผิดปกติ,HAARPสามารถสร้างสาระพัดต่างๆได้หมดก็ด้วย,รวมภัยธรรมชาติพื้นฐานซ้ำเติมด้วยที่ฝ่ายมืดทำให้ทั่วโลกเสียสมดุลจากการรบกวนชั้นบรรยากาศโลกด้วยความถี่คลื่นสาระพัดอย่าง,ใต้ดินอีกเครื่องทำแผ่นดินไหวก็ด้วยกระจายทั่วโลกของฝ่ายมืดใต้เปลือกโลก,จึงน่าจะสมคบคิดบิดเบือนมากกว่า สมมุติฐานมโนให้เข้าใจง่ายๆคือจีนนำร่องเตรียมดวงอาทิตย์เทียมแล้วซึ่งแน่นอนจีนท่องเวลาผ่านประตูมิติไปเห็นอนาคตมาแล้ว แล้วกลับมารับมือในไทม์ไลน์ที่จะมาถึงเร็วๆนี้,และเรา..ประเทศไทยก็ร่วมมือกับจีนได้รับการถ่ายทอดสิ่งนี้ด้วย จนมีข่าวการสร้างดวงอาทิตย์เทียมในไทยถึงว่าเข้าขั้นสำเร็จได้ไม่ยากด้วย วิสัยทัศน์พระมหากษัตริย์เราและความสัมพันธ์อันดีกับจีนดีเรื่อยมาจึงมีสิ่งดีๆนี้เกิดขึ้นเพื่อปกป้องคนไทยเราหรือทั้งอาเชียนมิให้หนาวตายด้วยดวงอาทิตย์เทียม,จีนก็ดูแลฝั่งตะวันออก,เราก็ดูแลฝั่งเอเชียกลางเป็นต้น,ตลอดอนาคตเราเข้าเป็นสมาชิกสภากาแล็กติกอย่างเป็นทางการอาจสาระพัดการช่วยเหลือจะมากมายกว่านี้,นี้ก็เข้าเป็นสมาชิกกองทัพพิทักษ์โลกแล้ว สามารถสร้างยานบินอวกาศในไทยได้สบายหรืออนาคตไทยเราจะเป็นฮับฐานหลักอีกที่ในการเป็นประเทศที่ผลิตยานบินอวกาศนั้นเอง.,เรามีนักวิชาการที่บิดเบือนทำคนไทยให้หลงทางมากเกินไปจริงๆ,ไม่มีความจริงใจอะไรในความซื่อสัตย์เลย,น่าผิดหวังมากๆ,ยุคใหม่ไม่สมควรมีนักวิชาการที่รับใช้ฝ่ายมืดในประเทศจริงๆ,พรบ.คาร์บอนเครดิตดีๆนี้ล่ะ,เครือข่ายกิจการเจ้าสัวในไทยของสมุนขี้ข้าซาตานประจำประเทศไทยต่างเตรียมพร้อมกอบโกยรับมือสิมิว่า,ปั่นเครดิตคาร์บอนตรึม,ปล่อยกู้เครดิตคาร์บอนอีก,ทำธุรกรรมใดๆคนไทยต้องมีเครดิตคาร์บอน,ลาพักเที่ยวมี10เครดิตคาร์บอนเที่ยวได้2วันก็ว่าโน้น,ชาวนาตอนแรกใช้ป่าเป็นเครดิตคาร์บอนรับฟรีที่100เครดิตต่อไร่,แต่จะทำนาทำสวนต้องจ่าย150เครดิตคาร์บอนจึงมีสถานะได้ใบอนุญาตทำนาทำสวนทำไร่ได้โน้น,กู้ตังกูเครดิตคาร์บอนเพิ่มจากแบงค์ซาตานแบบเดิมที่ประชาชนกู้ตังนั้นล่ะ,มันแจกจ่ายให้เครดิตคาร์บอนแต่ละแบงค์รอเหยื่อโง่ๆแบบมนุษย์ในยุคใหม่นี้ล่ะ หากินมุกๆใหม่ๆ,อาจแจกให้แบงค์ละ1ล้านล้านเครดิตคาร์บอนฟรีๆแบบในเครือมันตาอเมริกาในอดีตพิมพ์ตังขึ้นมาเองไร้ทองคำค้ำประกันนั้นล่ะ,ซวยคือประชาชนนี้ล่ะ,จะเลี้ยงแมวที่มีชีวิตหมาที่มีชีวิตต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการเลี้ยงหมาแมวต่อปีที่ตัวละ300เครดิตคาร์บอนเพราะปลดปล่อยคาร์บอนมากไป,แล้วก็มนุษย์เองก็ต้องจ่ายเครดิตคาร์บอนค่าหายใจค่าตดออกมาปลดปล่อยคาร์บอนออกมาก็ว่าเฉลี่ยต่อปีคนละ10,000เครดิตคาร์บอน,นี้คือวิธีวิถีควบคุมมนุษย์ในอนาคตยุคใหม่หรือทาสมนุษย์ผ่านเครดิตคาร์บอนหรือพรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนั้นล่ะ ใน17ประกาศของแผนagenda2030นั้น,สังเกตุสิ ผลัดดันเพศสีรุ่งเต็มที่มั้ยเพราะมันก็คือ1ใน17ประการแผนนโยบายหลักมันด้วย.,พรบ.นี้จริงๆต้องฉีกทำลายทิ้งทันที,นัยยะทาสทั้งประเทศชัดเจนรวมถึงจับกุมสถาบันกษัตริย์ไปร่วมเป็นทาสใต้ระบบมันด้วย.พวกนี้ธรรมดาที่ไหน.,พรบ.นี้คือแม่บนของทุกๆประการ ตัวหลักในการจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคนไทยทั้งหมดและคนทั่วโลก มันจึงส่งออกให้ถึงประเทศไปทำให้สำเร็จ,เทียบกบฎ2475ก็ไม่ต่างกัน รับงานมาเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองวิถีชีวิตของประเทศนั้นๆ เช่น จีนก็ส่งออกระบบคอมมิวนิสต์ให้เพราะประเทศใหญ่โตควบคุมต้องเด็ดขาด ไทยประเทศเล็กๆส่งออกให้มันใส่เป็นระบบประชาธิปไตยแทน,สมุนขี้ข้าคณะกบฎ2475จึงรับงานมาทำ จีนก็สำเร็จแบบจีน ไทยก็สำเร็จแบบไทยจนถึงปัจจุบัน เป็นต้น คำตอบขี้ข้าที่ถูกต้องและชัดเจนว่า ไม่ว่านายกฯคนไหนขึ้นบริหารล้วนคือคนของมัน ไม่แตะบ่อน้ำมันเลยที่มันเอาไปทำสาระพัดประโยชน์กำไร,และต้องรีบเร่งแจกจ่ายอยู่เนื่องๆหรือยกให้พวกมันชนิดให้ฟรีๆสไตล์ทาสใต้ปกครองนั้นล่ะ,ค่าภาคหลวงน้อยนิด,เนื้อปิโตรเลียมใดๆก็ไม่มีเป็นของตนเองจริง,มโนแค่ผักชีโชว์หรูวลีข้อความเท็จเท่านั้น,ราคาน้ำมันถ้าเป็นของตนเองต้องกำหนดและควบคุมราคาได้,แต่ถึงปัจจุบันไม่มีฝีมือความสามารถอะไร,มันสั่งไม่กี่คำ ขึ้นลงเป็นว่าเล่นนั้นเอง,คือทำกำไรปั่นกำไรในsetง่ายๆนั้นเอง.
    ..นี้คือวิถีปกครองที่พังจริงล้มเหลวจริงทั้งระบบ.

    https://youtu.be/2zua862k5MQ?si=7V9N5o9jQtfLN43H
    ..นักวิชาการมากมายเป็ยฝ่ายมืดแอบแฝงมิน้อย มีแต่คนเก่งๆทั้งนั้นและสามารถชี้นำสังคมได้โดยปูทางให้สามารถเข้ามามีชื่อเสียงรอไว้ในอดีตก็มาก ปะปนในทุกๆวงการทั่วไทยโดยเฉพาะศูนย์กลางอำนาจ. ..ส่วนตัวก็ติดตามท่านมาสักพักช่วงหนึ่งนานมาแล้ว แต่หลังๆแปลกๆบอกไม่ถูก เชียร์พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศสุดๆ ซึ่งฝ่ายแสงต่างเห็นต่างชัดเจนทั่วโลก เผลอโน้นโลกเย็นลงต่างหากและถ้าประเทศไทยไม่เตรียมรับมือเราอาจหนาวตายแน่นอนติดลบกว่า-200องศากันเลย เลยเริ่มลุกลามคุกคามมาเรื่อยๆในตอนบนของไทย ยุโรปหลายประเทศติดลบกว่า60-70องศาแล้วซึ่งเขาอยู่มมาตลอดชีวิตยังยืนยันว่าหนาวผิดปกติ,HAARPสามารถสร้างสาระพัดต่างๆได้หมดก็ด้วย,รวมภัยธรรมชาติพื้นฐานซ้ำเติมด้วยที่ฝ่ายมืดทำให้ทั่วโลกเสียสมดุลจากการรบกวนชั้นบรรยากาศโลกด้วยความถี่คลื่นสาระพัดอย่าง,ใต้ดินอีกเครื่องทำแผ่นดินไหวก็ด้วยกระจายทั่วโลกของฝ่ายมืดใต้เปลือกโลก,จึงน่าจะสมคบคิดบิดเบือนมากกว่า สมมุติฐานมโนให้เข้าใจง่ายๆคือจีนนำร่องเตรียมดวงอาทิตย์เทียมแล้วซึ่งแน่นอนจีนท่องเวลาผ่านประตูมิติไปเห็นอนาคตมาแล้ว แล้วกลับมารับมือในไทม์ไลน์ที่จะมาถึงเร็วๆนี้,และเรา..ประเทศไทยก็ร่วมมือกับจีนได้รับการถ่ายทอดสิ่งนี้ด้วย จนมีข่าวการสร้างดวงอาทิตย์เทียมในไทยถึงว่าเข้าขั้นสำเร็จได้ไม่ยากด้วย วิสัยทัศน์พระมหากษัตริย์เราและความสัมพันธ์อันดีกับจีนดีเรื่อยมาจึงมีสิ่งดีๆนี้เกิดขึ้นเพื่อปกป้องคนไทยเราหรือทั้งอาเชียนมิให้หนาวตายด้วยดวงอาทิตย์เทียม,จีนก็ดูแลฝั่งตะวันออก,เราก็ดูแลฝั่งเอเชียกลางเป็นต้น,ตลอดอนาคตเราเข้าเป็นสมาชิกสภากาแล็กติกอย่างเป็นทางการอาจสาระพัดการช่วยเหลือจะมากมายกว่านี้,นี้ก็เข้าเป็นสมาชิกกองทัพพิทักษ์โลกแล้ว สามารถสร้างยานบินอวกาศในไทยได้สบายหรืออนาคตไทยเราจะเป็นฮับฐานหลักอีกที่ในการเป็นประเทศที่ผลิตยานบินอวกาศนั้นเอง.,เรามีนักวิชาการที่บิดเบือนทำคนไทยให้หลงทางมากเกินไปจริงๆ,ไม่มีความจริงใจอะไรในความซื่อสัตย์เลย,น่าผิดหวังมากๆ,ยุคใหม่ไม่สมควรมีนักวิชาการที่รับใช้ฝ่ายมืดในประเทศจริงๆ,พรบ.คาร์บอนเครดิตดีๆนี้ล่ะ,เครือข่ายกิจการเจ้าสัวในไทยของสมุนขี้ข้าซาตานประจำประเทศไทยต่างเตรียมพร้อมกอบโกยรับมือสิมิว่า,ปั่นเครดิตคาร์บอนตรึม,ปล่อยกู้เครดิตคาร์บอนอีก,ทำธุรกรรมใดๆคนไทยต้องมีเครดิตคาร์บอน,ลาพักเที่ยวมี10เครดิตคาร์บอนเที่ยวได้2วันก็ว่าโน้น,ชาวนาตอนแรกใช้ป่าเป็นเครดิตคาร์บอนรับฟรีที่100เครดิตต่อไร่,แต่จะทำนาทำสวนต้องจ่าย150เครดิตคาร์บอนจึงมีสถานะได้ใบอนุญาตทำนาทำสวนทำไร่ได้โน้น,กู้ตังกูเครดิตคาร์บอนเพิ่มจากแบงค์ซาตานแบบเดิมที่ประชาชนกู้ตังนั้นล่ะ,มันแจกจ่ายให้เครดิตคาร์บอนแต่ละแบงค์รอเหยื่อโง่ๆแบบมนุษย์ในยุคใหม่นี้ล่ะ หากินมุกๆใหม่ๆ,อาจแจกให้แบงค์ละ1ล้านล้านเครดิตคาร์บอนฟรีๆแบบในเครือมันตาอเมริกาในอดีตพิมพ์ตังขึ้นมาเองไร้ทองคำค้ำประกันนั้นล่ะ,ซวยคือประชาชนนี้ล่ะ,จะเลี้ยงแมวที่มีชีวิตหมาที่มีชีวิตต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการเลี้ยงหมาแมวต่อปีที่ตัวละ300เครดิตคาร์บอนเพราะปลดปล่อยคาร์บอนมากไป,แล้วก็มนุษย์เองก็ต้องจ่ายเครดิตคาร์บอนค่าหายใจค่าตดออกมาปลดปล่อยคาร์บอนออกมาก็ว่าเฉลี่ยต่อปีคนละ10,000เครดิตคาร์บอน,นี้คือวิธีวิถีควบคุมมนุษย์ในอนาคตยุคใหม่หรือทาสมนุษย์ผ่านเครดิตคาร์บอนหรือพรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนั้นล่ะ ใน17ประกาศของแผนagenda2030นั้น,สังเกตุสิ ผลัดดันเพศสีรุ่งเต็มที่มั้ยเพราะมันก็คือ1ใน17ประการแผนนโยบายหลักมันด้วย.,พรบ.นี้จริงๆต้องฉีกทำลายทิ้งทันที,นัยยะทาสทั้งประเทศชัดเจนรวมถึงจับกุมสถาบันกษัตริย์ไปร่วมเป็นทาสใต้ระบบมันด้วย.พวกนี้ธรรมดาที่ไหน.,พรบ.นี้คือแม่บนของทุกๆประการ ตัวหลักในการจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคนไทยทั้งหมดและคนทั่วโลก มันจึงส่งออกให้ถึงประเทศไปทำให้สำเร็จ,เทียบกบฎ2475ก็ไม่ต่างกัน รับงานมาเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองวิถีชีวิตของประเทศนั้นๆ เช่น จีนก็ส่งออกระบบคอมมิวนิสต์ให้เพราะประเทศใหญ่โตควบคุมต้องเด็ดขาด ไทยประเทศเล็กๆส่งออกให้มันใส่เป็นระบบประชาธิปไตยแทน,สมุนขี้ข้าคณะกบฎ2475จึงรับงานมาทำ จีนก็สำเร็จแบบจีน ไทยก็สำเร็จแบบไทยจนถึงปัจจุบัน เป็นต้น คำตอบขี้ข้าที่ถูกต้องและชัดเจนว่า ไม่ว่านายกฯคนไหนขึ้นบริหารล้วนคือคนของมัน ไม่แตะบ่อน้ำมันเลยที่มันเอาไปทำสาระพัดประโยชน์กำไร,และต้องรีบเร่งแจกจ่ายอยู่เนื่องๆหรือยกให้พวกมันชนิดให้ฟรีๆสไตล์ทาสใต้ปกครองนั้นล่ะ,ค่าภาคหลวงน้อยนิด,เนื้อปิโตรเลียมใดๆก็ไม่มีเป็นของตนเองจริง,มโนแค่ผักชีโชว์หรูวลีข้อความเท็จเท่านั้น,ราคาน้ำมันถ้าเป็นของตนเองต้องกำหนดและควบคุมราคาได้,แต่ถึงปัจจุบันไม่มีฝีมือความสามารถอะไร,มันสั่งไม่กี่คำ ขึ้นลงเป็นว่าเล่นนั้นเอง,คือทำกำไรปั่นกำไรในsetง่ายๆนั้นเอง. ..นี้คือวิถีปกครองที่พังจริงล้มเหลวจริงทั้งระบบ. https://youtu.be/2zua862k5MQ?si=7V9N5o9jQtfLN43H
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 349 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Your” vs. “You’re”: How To Choose The Right Word

    Did you know English is frequently cited as a very hard language to learn? Hmm, we wonder why?

    Well, its difficulty explains the mistakes we all make when speaking. But writing in English has its own unique set of challenges. One of the most common mistakes is telling you’re and your apart.

    They look similar, right? Even if they sound the same and look like fraternal twins, they serve two distinct and different purposes.

    When to use you’re

    Let’s take a look at you’re first.

    You’re is a contraction of the phrase you are. Easy enough to remember. Here’s how it looks in a few sentences:

    • You’re my best friend!
    • I think you’re the perfect match for the job.
    • Make sure you’re healthy.

    Any of these sentences would read the exact same way if you are replaced you’re.

    When to use your

    Your is a possessive adjective used to show ownership. It is not a contraction. Your is usually followed by a noun (including gerunds).

    Take these sentences, for example:

    • Your hair looks great today!
    • I wish I had your energy.
    • Has all your running around made you tired?

    If you added you are in the place of your in these sentences, they would not make sense.

    Why isn’t there an apostrophe for the possessive your?

    A big reason why people get these confused is the association of apostrophes with possession, such as:

    • That is George’s dog.
    • Susan’s cake won the baking competition.

    And that makes it easy to forget the differences between your and you’re when in the thick of writing. But don’t fret, there are ways to remember whether you need your or you’re.

    Tips

    Your first line of defense is to stop the mistake before it reaches the page. Identify which of the words has the apostrophe.

    Step 2: reread your writing and say “you are” instead of using the contraction. This editing tip will snuff out most misuse of the two words.

    Let’s test your new skills. Can you identify if your and you’re are used correctly in these sentences?

    • Your so talented at playing you’re piano.
    • It’s important you express your emotions.
    • Washing your clothes is necessary.

    Both your and you’re are incorrectly used in the first sentence; they should be switched. It should look like this instead: You’re so talented at playing your piano. In the second sentence, your is the correct word to use. The third sentence is correct. How did you do?

    Thankfully, once you understand the key differences, the correct use of these terms should be the least of your worries. You can move on to other more challenging and frequently mixed-up pairs, like affect vs. effect, complement vs. compliment, or even infamous vs. notorious!

    In no time, you’ll have conquered the English language.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    “Your” vs. “You’re”: How To Choose The Right Word Did you know English is frequently cited as a very hard language to learn? Hmm, we wonder why? Well, its difficulty explains the mistakes we all make when speaking. But writing in English has its own unique set of challenges. One of the most common mistakes is telling you’re and your apart. They look similar, right? Even if they sound the same and look like fraternal twins, they serve two distinct and different purposes. When to use you’re Let’s take a look at you’re first. You’re is a contraction of the phrase you are. Easy enough to remember. Here’s how it looks in a few sentences: • You’re my best friend! • I think you’re the perfect match for the job. • Make sure you’re healthy. Any of these sentences would read the exact same way if you are replaced you’re. When to use your Your is a possessive adjective used to show ownership. It is not a contraction. Your is usually followed by a noun (including gerunds). Take these sentences, for example: • Your hair looks great today! • I wish I had your energy. • Has all your running around made you tired? If you added you are in the place of your in these sentences, they would not make sense. Why isn’t there an apostrophe for the possessive your? A big reason why people get these confused is the association of apostrophes with possession, such as: • That is George’s dog. • Susan’s cake won the baking competition. And that makes it easy to forget the differences between your and you’re when in the thick of writing. But don’t fret, there are ways to remember whether you need your or you’re. Tips Your first line of defense is to stop the mistake before it reaches the page. Identify which of the words has the apostrophe. Step 2: reread your writing and say “you are” instead of using the contraction. This editing tip will snuff out most misuse of the two words. Let’s test your new skills. Can you identify if your and you’re are used correctly in these sentences? • Your so talented at playing you’re piano. • It’s important you express your emotions. • Washing your clothes is necessary. Both your and you’re are incorrectly used in the first sentence; they should be switched. It should look like this instead: You’re so talented at playing your piano. In the second sentence, your is the correct word to use. The third sentence is correct. How did you do? Thankfully, once you understand the key differences, the correct use of these terms should be the least of your worries. You can move on to other more challenging and frequently mixed-up pairs, like affect vs. effect, complement vs. compliment, or even infamous vs. notorious! In no time, you’ll have conquered the English language. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองนึกภาพว่าบริษัทของเราวางระบบบางส่วนไว้ที่ AWS เพราะคุ้นมือ บางแอปก็ใช้อยู่บน Azure หรือ Google Cloud เพราะลูกค้าหรือแผนกอื่นต้องการ → ถ้าเราไม่มีระบบมองภาพรวมที่ดีพอ...ความเสี่ยงก็ตามมาแบบเงียบ ๆ เลยครับ เช่น

    - เห็น Logs ฝั่งนึงชัด แต่อีกฝั่งกลับไม่รู้ว่าเกิดอะไร
    - Security policy ไม่เสมอกัน → สุดท้ายเกิด “ช่องโหว่จุดเดียวทำลายทั้งองค์กร” ได้
    - แอดมินที่เก่ง AWS อาจทำอะไรไม่ถูกใน Azure (เพราะ CLI, API, IAM ต่างกันหมด)
    - มี API ฝังไว้หลายตัวแต่ไม่มีใครจำได้ว่าเคยให้สิทธิ์อะไรไป

    บทความนี้สรุป 5 ปัจจัยหลักที่ CISO (Chief Information Security Officer) ต้องรับมือให้ได้ พร้อมเสนอแนวทางคร่าว ๆ ที่นำไปปรับใช้ได้เลยครับ

    สรุป 5 ความท้าทายหลักในการจัดการ Multicloud Security:
    1️⃣. ขาดมุมมองภาพรวม (Visibility) ที่ครอบคลุมทุกคลาวด์  
    • องค์กรมักเริ่มจากคลาวด์เดียวที่คุ้นเคย → มี Visibility ดี  
    • แต่พอขยายไปหลายผู้ให้บริการ → เริ่มมองไม่เห็นภาพรวม
    • ข้อมูลกระจัดกระจายตาม Tool ของแต่ละคลาวด์  
    • แนะนำ: ใช้ Cloud-Native Application Protection Platform (CNAPP) เพื่อรวมภาพรวมการเฝ้าระวัง

    2️⃣. จะใช้ Security Program แบบรวมศูนย์หรือแยกตามคลาวด์ดี?  
    • แบบรวมศูนย์: สะดวกแต่อาจไม่ได้ใช้ความสามารถเฉพาะของคลาวด์นั้น ๆ  
    • แบบแยกตามคลาวด์: ได้ประสิทธิภาพแต่ต้องจัดการหลายทีม หลายกระบวนการ  
    • แนะนำ: เลือกกลยุทธ์ตาม tradeoff ที่เหมาะกับโครงสร้างคน + ความเสี่ยงขององค์กร

    3️⃣. ขาดทักษะหลากหลายให้ครอบคลุมทุกคลาวด์  
    • ทีมที่เก่ง AWS อาจไม่คุ้น Azure/GCP  
    • Logs, API, IAM ในแต่ละคลาวด์มีโครงสร้างต่างกัน  
    • แนะนำ: ลงทุนอบรมทีมให้เชี่ยวชาญหลากหลาย หรือใช้ทีมเฉพาะทางแยกตามคลาวด์

    4️⃣. การตั้งค่าผิดพลาด (Misconfigurations)  
    • คลาวด์แต่ละรายมี API, ระบบ, ชื่อเรียก และ Policy ไม่เหมือนกัน  
    • บ่อยครั้งเกิดจากการเข้าใจผิด หรือใช้ default setting  
    • เคยมีรายงานว่า 23% ของ Incident บนคลาวด์เกิดจาก “misconfiguration”  
    • แนะนำ: ใช้เครื่องมือ automation ที่ตรวจสอบ config ได้แบบ cross-cloud เช่น CSPM

    5️⃣. การจัดการ “ตัวตน” และสิทธิ์เข้าถึง (Identity & Access Management – IAM)  
    • IAM บนแต่ละคลาวด์ไม่เหมือนกัน → สร้าง Policy รวมยาก  
    • ต้องดูแลทั้ง User, Role, Token, API, Service Account  
    • แนะนำ: สร้างระบบ IAM แบบรวมศูนย์ พร้อมกำหนดผู้รับผิดชอบชัดเจน → เน้น privileged access ก่อน

    https://www.csoonline.com/article/4009247/5-multicloud-security-challenges-and-how-to-address-them.html
    ลองนึกภาพว่าบริษัทของเราวางระบบบางส่วนไว้ที่ AWS เพราะคุ้นมือ บางแอปก็ใช้อยู่บน Azure หรือ Google Cloud เพราะลูกค้าหรือแผนกอื่นต้องการ → ถ้าเราไม่มีระบบมองภาพรวมที่ดีพอ...ความเสี่ยงก็ตามมาแบบเงียบ ๆ เลยครับ เช่น - เห็น Logs ฝั่งนึงชัด แต่อีกฝั่งกลับไม่รู้ว่าเกิดอะไร - Security policy ไม่เสมอกัน → สุดท้ายเกิด “ช่องโหว่จุดเดียวทำลายทั้งองค์กร” ได้ - แอดมินที่เก่ง AWS อาจทำอะไรไม่ถูกใน Azure (เพราะ CLI, API, IAM ต่างกันหมด) - มี API ฝังไว้หลายตัวแต่ไม่มีใครจำได้ว่าเคยให้สิทธิ์อะไรไป บทความนี้สรุป 5 ปัจจัยหลักที่ CISO (Chief Information Security Officer) ต้องรับมือให้ได้ พร้อมเสนอแนวทางคร่าว ๆ ที่นำไปปรับใช้ได้เลยครับ ✅ สรุป 5 ความท้าทายหลักในการจัดการ Multicloud Security: 1️⃣. ขาดมุมมองภาพรวม (Visibility) ที่ครอบคลุมทุกคลาวด์   • องค์กรมักเริ่มจากคลาวด์เดียวที่คุ้นเคย → มี Visibility ดี   • แต่พอขยายไปหลายผู้ให้บริการ → เริ่มมองไม่เห็นภาพรวม • ข้อมูลกระจัดกระจายตาม Tool ของแต่ละคลาวด์   • แนะนำ: ใช้ Cloud-Native Application Protection Platform (CNAPP) เพื่อรวมภาพรวมการเฝ้าระวัง 2️⃣. จะใช้ Security Program แบบรวมศูนย์หรือแยกตามคลาวด์ดี?   • แบบรวมศูนย์: สะดวกแต่อาจไม่ได้ใช้ความสามารถเฉพาะของคลาวด์นั้น ๆ   • แบบแยกตามคลาวด์: ได้ประสิทธิภาพแต่ต้องจัดการหลายทีม หลายกระบวนการ   • แนะนำ: เลือกกลยุทธ์ตาม tradeoff ที่เหมาะกับโครงสร้างคน + ความเสี่ยงขององค์กร 3️⃣. ขาดทักษะหลากหลายให้ครอบคลุมทุกคลาวด์   • ทีมที่เก่ง AWS อาจไม่คุ้น Azure/GCP   • Logs, API, IAM ในแต่ละคลาวด์มีโครงสร้างต่างกัน   • แนะนำ: ลงทุนอบรมทีมให้เชี่ยวชาญหลากหลาย หรือใช้ทีมเฉพาะทางแยกตามคลาวด์ 4️⃣. การตั้งค่าผิดพลาด (Misconfigurations)   • คลาวด์แต่ละรายมี API, ระบบ, ชื่อเรียก และ Policy ไม่เหมือนกัน   • บ่อยครั้งเกิดจากการเข้าใจผิด หรือใช้ default setting   • เคยมีรายงานว่า 23% ของ Incident บนคลาวด์เกิดจาก “misconfiguration”   • แนะนำ: ใช้เครื่องมือ automation ที่ตรวจสอบ config ได้แบบ cross-cloud เช่น CSPM 5️⃣. การจัดการ “ตัวตน” และสิทธิ์เข้าถึง (Identity & Access Management – IAM)   • IAM บนแต่ละคลาวด์ไม่เหมือนกัน → สร้าง Policy รวมยาก   • ต้องดูแลทั้ง User, Role, Token, API, Service Account   • แนะนำ: สร้างระบบ IAM แบบรวมศูนย์ พร้อมกำหนดผู้รับผิดชอบชัดเจน → เน้น privileged access ก่อน https://www.csoonline.com/article/4009247/5-multicloud-security-challenges-and-how-to-address-them.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    5 multicloud security challenges — and how to address them
    From inadequate visibility to access management complexity, multicloud environments take baseline cloud security issues to another level.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้ไหมครับว่า PowerShell 2.0 คือเวอร์ชันดั้งเดิมที่อยู่คู่ Windows มาตั้งแต่ยุค Windows 7? แต่มันก็เก่ามากแล้วและ ไม่ปลอดภัยสำหรับยุคใหม่ → Microsoft เลยถอดออกจาก Build ล่าสุดของ Windows 11 → นี่คือสัญญาณชัดว่า ผู้ใช้และองค์กรควรเปลี่ยนไปใช้ PowerShell 5.x หรือ PowerShell Core/7 ขึ้นไป แทนโดยด่วน

    ใน Build 27891 ยังมีการปรับปรุง Store เวอร์ชันใหม่ (22406) ที่ให้คุณ กดติดตั้งแอปจากหน้าแรกได้เลยโดยไม่ต้องเปิดหน้ารายละเอียด → เป็นแนวทางที่ชัดว่า Microsoft กำลังเน้นลด friction ใน user journey

    ส่วนอีกหลายจุดที่ได้รับการแก้บั๊ก เช่น:
    - การรีเซ็ตเครื่องไม่ได้ในเวอร์ชันก่อน
    - Taskbar ไม่แสดงความโปร่งใส (acrylic)
    - Task Manager อ่านภาษากลุ่มอักขระ non-A–Z ไม่ถูกต้อง
    - ปัญหาเสียง system sound หายหมด แม้เสียงอื่นจะยังปกติ
    - ตัวอย่างคำผิดที่มี: space แสดงเป็นเลข 2 ในภาษาไทย, จุดในภาษาฮีบรูแสดงเป็นเลข 3 (!)

    PowerShell 2.0 ถูกถอดออกจาก Windows 11 Build 27891 แล้ว (Canary Channel)  
    • Microsoft เคยประกาศ deprecate ไปตั้งแต่ Windows 10 v1709  
    • เป็นเวอร์ชันที่เก่ากว่า PowerShell 5.1 และ PowerShell 7  
    • เสี่ยงช่องโหว่ – ไม่รองรับคำสั่งใหม่ – ไม่ปลอดภัย

    Microsoft Store เวอร์ชัน 22406 เพิ่มฟีเจอร์ “ติดตั้งได้ทันทีจากหน้าแรก”  
    • ไม่ต้องคลิกเข้าไปดูหน้ารายละเอียดก่อน  
    • ใช้ได้กับ Canary และ Dev Channel

    มีการแก้ไขบั๊กทั่วไปในหลายจุด:  
    • Reset This PC  
    • การแสดงผล taskbar  
    • ตัวอักษรภาษาต่าง ๆ (ไทย, ฮีบรู, เวียดนาม ฯลฯ)  
    • Animation ต่าง ๆ  
    • Task Manager (เช่น ค่า CPU utility กับ System Idle Process)

    แก้ปัญหาเสียงหาย ทั้งเสียง system เช่น notification, click slider ฯลฯ

    แก้ปัญหา Settings crash เมื่อตั้งค่าบลูทูธ / ไมโครโฟน ในบางภาษา

    แก้การแสดงผลผิดใน Print Preview, Media Player, LDAP queries และฟอนต์ในเมนูของแอปบางตัว

    https://www.neowin.net/news/microsoft-removes-powershell-20-from-windows-11-in-build-27891/
    รู้ไหมครับว่า PowerShell 2.0 คือเวอร์ชันดั้งเดิมที่อยู่คู่ Windows มาตั้งแต่ยุค Windows 7? แต่มันก็เก่ามากแล้วและ ไม่ปลอดภัยสำหรับยุคใหม่ → Microsoft เลยถอดออกจาก Build ล่าสุดของ Windows 11 → นี่คือสัญญาณชัดว่า ผู้ใช้และองค์กรควรเปลี่ยนไปใช้ PowerShell 5.x หรือ PowerShell Core/7 ขึ้นไป แทนโดยด่วน ใน Build 27891 ยังมีการปรับปรุง Store เวอร์ชันใหม่ (22406) ที่ให้คุณ กดติดตั้งแอปจากหน้าแรกได้เลยโดยไม่ต้องเปิดหน้ารายละเอียด → เป็นแนวทางที่ชัดว่า Microsoft กำลังเน้นลด friction ใน user journey ส่วนอีกหลายจุดที่ได้รับการแก้บั๊ก เช่น: - การรีเซ็ตเครื่องไม่ได้ในเวอร์ชันก่อน - Taskbar ไม่แสดงความโปร่งใส (acrylic) - Task Manager อ่านภาษากลุ่มอักขระ non-A–Z ไม่ถูกต้อง - ปัญหาเสียง system sound หายหมด แม้เสียงอื่นจะยังปกติ - ตัวอย่างคำผิดที่มี: space แสดงเป็นเลข 2 ในภาษาไทย, จุดในภาษาฮีบรูแสดงเป็นเลข 3 (!) ✅ PowerShell 2.0 ถูกถอดออกจาก Windows 11 Build 27891 แล้ว (Canary Channel)   • Microsoft เคยประกาศ deprecate ไปตั้งแต่ Windows 10 v1709   • เป็นเวอร์ชันที่เก่ากว่า PowerShell 5.1 และ PowerShell 7   • เสี่ยงช่องโหว่ – ไม่รองรับคำสั่งใหม่ – ไม่ปลอดภัย ✅ Microsoft Store เวอร์ชัน 22406 เพิ่มฟีเจอร์ “ติดตั้งได้ทันทีจากหน้าแรก”   • ไม่ต้องคลิกเข้าไปดูหน้ารายละเอียดก่อน   • ใช้ได้กับ Canary และ Dev Channel ✅ มีการแก้ไขบั๊กทั่วไปในหลายจุด:   • Reset This PC   • การแสดงผล taskbar   • ตัวอักษรภาษาต่าง ๆ (ไทย, ฮีบรู, เวียดนาม ฯลฯ)   • Animation ต่าง ๆ   • Task Manager (เช่น ค่า CPU utility กับ System Idle Process) ✅ แก้ปัญหาเสียงหาย ทั้งเสียง system เช่น notification, click slider ฯลฯ ✅ แก้ปัญหา Settings crash เมื่อตั้งค่าบลูทูธ / ไมโครโฟน ในบางภาษา ✅ แก้การแสดงผลผิดใน Print Preview, Media Player, LDAP queries และฟอนต์ในเมนูของแอปบางตัว https://www.neowin.net/news/microsoft-removes-powershell-20-from-windows-11-in-build-27891/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft removes PowerShell 2.0 from Windows 11 in build 27891
    Microsoft has released a new Windows 11 build with some fixes, a new feature for the Microsoft Store, and PowerShell changes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • Vivaldi นั้นขึ้นชื่อเรื่อง “การให้ผู้ใช้ควบคุมหน้าตา–ฟีเจอร์ได้ละเอียดสุดในโลกเบราว์เซอร์” และในเวอร์ชัน 7.5 นี้ ก็เน้นการปรับปรุงจากเสียงเรียกร้องของผู้ใช้จริง

    ไฮไลต์ของรอบนี้คือ:
    - Colorful Tab Stacks: ปกติการรวมแท็บในกลุ่มจะช่วยลดความรก แต่ตอนนี้เราสามารถใส่สีให้แต่ละกลุ่มได้ด้วย — ยิ่งถ้าคุณเปิดแท็บสิบยี่สิบเว็บพร้อมกัน (แบบผมเวลาเปิดหาข่าวให้คุณนี่แหละ ) สีจะช่วยให้ตาเราจับกลุ่มได้ง่ายขึ้น → คลิกขวาที่ Stack → Edit Stack → ตั้งชื่อ + สีเองได้เลย
    - Tab Context Menu ที่ปรับใหม่: เมนูคลิกขวาที่แท็บตอนนี้อ่านง่ายขึ้น จัดระเบียบใหม่ → ไม่ต้องไล่หาเมนูเล็ก ๆ ให้ปวดหัว

    นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงเบื้องหลังอีกหลายจุด เช่น:
    - รองรับ DNS over HTTPS แบบกำหนดเอง เพื่อความเป็นส่วนตัว
    - ปรับ UI ของ Settings, แถบ Quick Command, และการลากวาง bookmarks
    - ปรับปรุงระบบ Email, Calendar, Dashboard, Ad blocker ฯลฯ ให้ลื่นขึ้น

    https://www.neowin.net/news/vivaldi-75-is-out-with-colorful-tab-stacks-improved-tab-menu-and-more/
    Vivaldi นั้นขึ้นชื่อเรื่อง “การให้ผู้ใช้ควบคุมหน้าตา–ฟีเจอร์ได้ละเอียดสุดในโลกเบราว์เซอร์” และในเวอร์ชัน 7.5 นี้ ก็เน้นการปรับปรุงจากเสียงเรียกร้องของผู้ใช้จริง ไฮไลต์ของรอบนี้คือ: - Colorful Tab Stacks: ปกติการรวมแท็บในกลุ่มจะช่วยลดความรก แต่ตอนนี้เราสามารถใส่สีให้แต่ละกลุ่มได้ด้วย — ยิ่งถ้าคุณเปิดแท็บสิบยี่สิบเว็บพร้อมกัน (แบบผมเวลาเปิดหาข่าวให้คุณนี่แหละ 😆) สีจะช่วยให้ตาเราจับกลุ่มได้ง่ายขึ้น → คลิกขวาที่ Stack → Edit Stack → ตั้งชื่อ + สีเองได้เลย - Tab Context Menu ที่ปรับใหม่: เมนูคลิกขวาที่แท็บตอนนี้อ่านง่ายขึ้น จัดระเบียบใหม่ → ไม่ต้องไล่หาเมนูเล็ก ๆ ให้ปวดหัว นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงเบื้องหลังอีกหลายจุด เช่น: - รองรับ DNS over HTTPS แบบกำหนดเอง เพื่อความเป็นส่วนตัว - ปรับ UI ของ Settings, แถบ Quick Command, และการลากวาง bookmarks - ปรับปรุงระบบ Email, Calendar, Dashboard, Ad blocker ฯลฯ ให้ลื่นขึ้น https://www.neowin.net/news/vivaldi-75-is-out-with-colorful-tab-stacks-improved-tab-menu-and-more/
    WWW.NEOWIN.NET
    Vivaldi 7.5 is out with colorful tab stacks, improved tab menu, and more
    Vivaldi has been updated to version 7.5 with some much-requested features, privacy improvements, and plenty of fixes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft เริ่มใช้นโยบายชื่อว่า Block device code flow (DCF) เป็นส่วนหนึ่งของ Secure Future Initiative เพื่อบล็อกการล็อกอินแบบ “Device Code Flow” ที่อ่อนแอกว่า OAuth ปกติ ซึ่งถูกแฮกเกอร์ใช้โจมตีได้ง่าย → แต่นโยบายนี้ดันไปกระทบกับ อุปกรณ์ Teams Android เช่น Teams Rooms, Teams Phones, Teams Panels และ Displays เพราะอุปกรณ์พวกนี้ยังใช้วิธีล็อกอินแบบ DCF อยู่ → พอระบบบล็อกเข้าให้ อุปกรณ์ก็ หลุดล็อกอิน ทันที และล็อกอินกลับเข้าไปไม่ได้ง่าย ๆ เพราะไม่ได้เตรียมไว้ก่อน

    Microsoft ยืนยันว่า “ไม่ใช่บั๊ก” แต่คือ “ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย” ที่ผู้ดูแลระบบอาจพลาดการอ่านคำเตือนก่อนหน้านี้ จึงไม่ได้ตั้งอุปกรณ์ Android ให้อยู่ในรายชื่อยกเว้น (exclude list)

    โชคดีคือ Microsoft ให้คำแนะนำขั้นตอนแก้ไขไว้เรียบร้อย → แต่ถ้าอุปกรณ์อยู่ไกลหรือไม่มีคนดูแล ต้องรีสตาร์ท 3 รอบ, ล็อกอินเองใหม่ หรือสุดท้ายก็ต้อง factory reset

    Microsoft เริ่มบังคับนโยบาย Block Device Code Flow (DCF) บน Entra ID เพื่อเพิ่มความปลอดภัย  
    • เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Secure Future Initiative  
    • ปิดการใช้งานการล็อกอินแบบ DCF ซึ่งเสี่ยงต่อ phishing และ token reuse

    ส่งผลให้อุปกรณ์ Android สำหรับ Microsoft Teams ถูกบล็อกและหลุดล็อกอินจำนวนมาก  
    • ได้แก่: Teams Rooms on Android, Teams Phone, Teams Panels, Teams Displays

    Microsoft แนะนำวิธีแก้ไขดังนี้:  
    • เข้าระบบ Entra ID → ไปที่ Conditional Access Policies  
    • แก้ชื่อ policy “Block device code flow” ให้เป็น "Report-Only" หรือปิด (Off)  
    • รีสตาร์ทอุปกรณ์ Android 1–3 ครั้งเพื่อบังคับให้ล็อกอินใหม่  
    • หากไม่ได้ผล: ล็อกอินด้วยบัญชี resource account เอง หรือ factory reset

    รุ่นล่าสุดของแอป Teams สำหรับ Android ที่ควรติดตั้ง:  
    • Teams Room: 1449/1.0.96.2025205603  
    • Teams Phone: 1449/1.0.94.2025165302  
    • Teams Panel: 1449/1.0.97.2025086303  
    • Teams Display: 1449/1.0.95.2024062804

    แนะนำให้เพิ่มอุปกรณ์ Teams Android ลงในรายชื่อยกเว้นก่อนเปิดใช้นโยบายนี้อีกครั้ง

    https://www.neowin.net/news/microsoft-changes-hit-teams-android-devices-disable-entra-id-policy-to-restore-sign-in/
    Microsoft เริ่มใช้นโยบายชื่อว่า Block device code flow (DCF) เป็นส่วนหนึ่งของ Secure Future Initiative เพื่อบล็อกการล็อกอินแบบ “Device Code Flow” ที่อ่อนแอกว่า OAuth ปกติ ซึ่งถูกแฮกเกอร์ใช้โจมตีได้ง่าย → แต่นโยบายนี้ดันไปกระทบกับ อุปกรณ์ Teams Android เช่น Teams Rooms, Teams Phones, Teams Panels และ Displays เพราะอุปกรณ์พวกนี้ยังใช้วิธีล็อกอินแบบ DCF อยู่ → พอระบบบล็อกเข้าให้ อุปกรณ์ก็ หลุดล็อกอิน ทันที และล็อกอินกลับเข้าไปไม่ได้ง่าย ๆ เพราะไม่ได้เตรียมไว้ก่อน Microsoft ยืนยันว่า “ไม่ใช่บั๊ก” แต่คือ “ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย” ที่ผู้ดูแลระบบอาจพลาดการอ่านคำเตือนก่อนหน้านี้ จึงไม่ได้ตั้งอุปกรณ์ Android ให้อยู่ในรายชื่อยกเว้น (exclude list) โชคดีคือ Microsoft ให้คำแนะนำขั้นตอนแก้ไขไว้เรียบร้อย → แต่ถ้าอุปกรณ์อยู่ไกลหรือไม่มีคนดูแล ต้องรีสตาร์ท 3 รอบ, ล็อกอินเองใหม่ หรือสุดท้ายก็ต้อง factory reset 😖 ✅ Microsoft เริ่มบังคับนโยบาย Block Device Code Flow (DCF) บน Entra ID เพื่อเพิ่มความปลอดภัย   • เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Secure Future Initiative   • ปิดการใช้งานการล็อกอินแบบ DCF ซึ่งเสี่ยงต่อ phishing และ token reuse ✅ ส่งผลให้อุปกรณ์ Android สำหรับ Microsoft Teams ถูกบล็อกและหลุดล็อกอินจำนวนมาก   • ได้แก่: Teams Rooms on Android, Teams Phone, Teams Panels, Teams Displays ✅ Microsoft แนะนำวิธีแก้ไขดังนี้:   • เข้าระบบ Entra ID → ไปที่ Conditional Access Policies   • แก้ชื่อ policy “Block device code flow” ให้เป็น "Report-Only" หรือปิด (Off)   • รีสตาร์ทอุปกรณ์ Android 1–3 ครั้งเพื่อบังคับให้ล็อกอินใหม่   • หากไม่ได้ผล: ล็อกอินด้วยบัญชี resource account เอง หรือ factory reset ✅ รุ่นล่าสุดของแอป Teams สำหรับ Android ที่ควรติดตั้ง:   • Teams Room: 1449/1.0.96.2025205603   • Teams Phone: 1449/1.0.94.2025165302   • Teams Panel: 1449/1.0.97.2025086303   • Teams Display: 1449/1.0.95.2024062804 ✅ แนะนำให้เพิ่มอุปกรณ์ Teams Android ลงในรายชื่อยกเว้นก่อนเปิดใช้นโยบายนี้อีกครั้ง https://www.neowin.net/news/microsoft-changes-hit-teams-android-devices-disable-entra-id-policy-to-restore-sign-in/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft changes hit Teams Android devices: Disable Entra ID policy to restore sign-in
    Microsoft has enabled a new policy in Entra ID that has caused many Teams-certified Android devices to be logged out, here's how to log them in again.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts