• คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 2.50 เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที

    16 ตุลาคม 2567-รายงานผลการประชุม กนง. ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 ด้านกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้มีแนวโน้มเกิดขึ้นต่อเนื่อง คณะกรรมการฯ เห็นว่าจุดยืนของนโยบายการเงินที่เป็นกลางยังเหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปีในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้บ้าง โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ภายใต้บริบทที่สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงอยู่ในระดับที่ยังเป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ ขณะที่กรรมการ 2 ท่าน เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมยังสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ และให้น้ำหนักกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมถึงการรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า

    เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ร้อยละ 2.7 และ 2.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชนซึ่งได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งออกที่ปรับดีขึ้นตามความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ เศรษฐกิจฟื้นตัวแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วน โดยการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม รวมถึง SMEs ยังถูกกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง

    อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2567 และ 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 1.2 ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากสภาพอากาศที่ผันผวน และอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากผลของฐาน ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 0.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง อาทิ การแข่งขันด้านราคาที่อยู่ในระดับสูงจากสินค้านำเข้า ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับกรอบเป้าหมาย และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567

    ภาวะการเงินโดยรวมตึงตัวขึ้นบ้าง อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์ สรอ. ปรับแข็งค่า ตามทิศทางนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักและปัจจัยเฉพาะในประเทศ ด้านต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนผ่านธนาคารพาณิชย์และตลาดตราสารหนี้ยังทรงตัวใกล้เคียงเดิม สินเชื่อโดยรวมชะลอลง โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจ SMEs กลุ่มธุรกิจที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้าง รวมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อและบัตรเครดิต ด้านคุณภาพสินเชื่อปรับด้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากลูกหนี้ที่เคยได้รับความช่วยเหลือทางการเงินในช่วงที่ผ่านมา และธุรกิจ SMEs และครัวเรือนที่รายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และมีภาระหนี้สูง คณะกรรมการฯ ยังสนับสนุนนโยบายของ ธปท. ที่ให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาภาระหนี้ที่ตรงจุดและมีส่วนช่วยกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ทั้งนี้ ต้องติดตามผลกระทบของคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงต่อต้นทุนการกู้ยืมและการขยายตัวของสินเชื่อในภาพรวม รวมถึงนัยต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

    ภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังควรอยู่ในระดับที่เป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ รวมทั้งไม่ต่ำเกินไปจนนำไปสู่การสะสมความไม่สมดุลทางการเงินในระยะยาว

    ธนาคารแห่งประเทศไทย
    16 ตุลาคม 2567

    #Thaitimes
    คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 2.50 เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที 16 ตุลาคม 2567-รายงานผลการประชุม กนง. ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 ด้านกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้มีแนวโน้มเกิดขึ้นต่อเนื่อง คณะกรรมการฯ เห็นว่าจุดยืนของนโยบายการเงินที่เป็นกลางยังเหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปีในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้บ้าง โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ภายใต้บริบทที่สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงอยู่ในระดับที่ยังเป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ ขณะที่กรรมการ 2 ท่าน เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมยังสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ และให้น้ำหนักกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมถึงการรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ร้อยละ 2.7 และ 2.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชนซึ่งได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งออกที่ปรับดีขึ้นตามความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ เศรษฐกิจฟื้นตัวแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วน โดยการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม รวมถึง SMEs ยังถูกกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2567 และ 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 1.2 ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากสภาพอากาศที่ผันผวน และอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากผลของฐาน ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 0.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง อาทิ การแข่งขันด้านราคาที่อยู่ในระดับสูงจากสินค้านำเข้า ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับกรอบเป้าหมาย และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 ภาวะการเงินโดยรวมตึงตัวขึ้นบ้าง อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์ สรอ. ปรับแข็งค่า ตามทิศทางนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักและปัจจัยเฉพาะในประเทศ ด้านต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนผ่านธนาคารพาณิชย์และตลาดตราสารหนี้ยังทรงตัวใกล้เคียงเดิม สินเชื่อโดยรวมชะลอลง โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจ SMEs กลุ่มธุรกิจที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้าง รวมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อและบัตรเครดิต ด้านคุณภาพสินเชื่อปรับด้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากลูกหนี้ที่เคยได้รับความช่วยเหลือทางการเงินในช่วงที่ผ่านมา และธุรกิจ SMEs และครัวเรือนที่รายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และมีภาระหนี้สูง คณะกรรมการฯ ยังสนับสนุนนโยบายของ ธปท. ที่ให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาภาระหนี้ที่ตรงจุดและมีส่วนช่วยกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ทั้งนี้ ต้องติดตามผลกระทบของคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงต่อต้นทุนการกู้ยืมและการขยายตัวของสินเชื่อในภาพรวม รวมถึงนัยต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังควรอยู่ในระดับที่เป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ รวมทั้งไม่ต่ำเกินไปจนนำไปสู่การสะสมความไม่สมดุลทางการเงินในระยะยาว ธนาคารแห่งประเทศไทย 16 ตุลาคม 2567 #Thaitimes
    Like
    Love
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • มติ กนง. 5 ต่อ 2 ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี มีผลทันที
    .
    วันนี้ (16 ต.ค.) นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ระบุว่า คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 2.50 เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที
    .
    โดยเห็นว่าเศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป จะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 ด้านกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ มีแนวโน้มเกิดขึ้นต่อเนื่อง คณะกรรมการฯ เห็นว่า จุดยืนของนโยบายการเงินที่เป็นกลางยังเหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้บ้าง โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ภายใต้บริบทที่สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงอยู่ในระดับที่ยังเป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ ขณะที่กรรมการ 2 ท่าน เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมยังสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ และให้น้ำหนักกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมถึงการรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า
    .
    เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ร้อยละ 2.7 และ 2.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลําดับ โดยมีแรงขับเคลื่อนสําคัญมาจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งออกที่ปรับดีขึ้นตามความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ เศรษฐกิจฟื้นตัวแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วน โดยการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม รวมถึง SMEs ยังถูกกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง
    .
    อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2567 และ 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 1.2 ตามลําดับ โดยอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากสภาพอากาศที่ผันผวน และอัตราเงินเฟ้อ หมวดพลังงานมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากผลของฐาน ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 0.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลําดับ โดยอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง อาทิ การแข่งขันด้านราคาที่อยู่ในระดับสูงจากสินค้านําเข้า ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับกรอบเป้าหมาย และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567
    .
    ภาวะการเงินโดยรวมตึงตัวขึ้นบ้าง อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับแข็งค่า ตามทิศทางนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลัก และปัจจัยเฉพาะในประเทศ ด้านต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนผ่านธนาคารพาณิชย์และตลาดตราสารหนี้ยังทรงตัวใกล้เคียงเดิม สินเชื่อโดยรวมชะลอลง โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจ SMEs กลุ่มธุรกิจที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้าง รวมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อและบัตรเครดิต ด้านคุณภาพสินเชื่อปรับน้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากลูกหนี้ที่เคยได้รับความช่วยเหลือทางการเงินในช่วงที่ผ่านมา และธุรกิจ SMEs และครัวเรือนที่รายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และมีภาระหนี้สูง คณะกรรมการฯ ยังสนับสนุน นโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาภาระหนี้ที่ตรงจุด และมีส่วนช่วยกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ทั้งนี้ ต้องติดตามผลกระทบของคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงต่อต้นทุนการกู้ยืมและการขยายตัวของสินเชื่อในภาพรวม รวมถึงนัยต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
    .
    ภายใต้กรอบการดําเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังควรอยู่ในระดับที่เป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ รวมทั้งไม่ต่ำเกินไปจนนําไปสู่การสะสมความไม่สมดุลทางการเงินในระยะยาว
    .............
    Sondhi X
    มติ กนง. 5 ต่อ 2 ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี มีผลทันที . วันนี้ (16 ต.ค.) นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ระบุว่า คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 2.50 เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที . โดยเห็นว่าเศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป จะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 ด้านกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ มีแนวโน้มเกิดขึ้นต่อเนื่อง คณะกรรมการฯ เห็นว่า จุดยืนของนโยบายการเงินที่เป็นกลางยังเหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้บ้าง โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ภายใต้บริบทที่สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงอยู่ในระดับที่ยังเป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ ขณะที่กรรมการ 2 ท่าน เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมยังสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ และให้น้ำหนักกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมถึงการรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า . เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ร้อยละ 2.7 และ 2.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลําดับ โดยมีแรงขับเคลื่อนสําคัญมาจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งออกที่ปรับดีขึ้นตามความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ เศรษฐกิจฟื้นตัวแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วน โดยการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม รวมถึง SMEs ยังถูกกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง . อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2567 และ 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 1.2 ตามลําดับ โดยอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากสภาพอากาศที่ผันผวน และอัตราเงินเฟ้อ หมวดพลังงานมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากผลของฐาน ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 0.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลําดับ โดยอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง อาทิ การแข่งขันด้านราคาที่อยู่ในระดับสูงจากสินค้านําเข้า ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับกรอบเป้าหมาย และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 . ภาวะการเงินโดยรวมตึงตัวขึ้นบ้าง อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับแข็งค่า ตามทิศทางนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลัก และปัจจัยเฉพาะในประเทศ ด้านต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนผ่านธนาคารพาณิชย์และตลาดตราสารหนี้ยังทรงตัวใกล้เคียงเดิม สินเชื่อโดยรวมชะลอลง โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจ SMEs กลุ่มธุรกิจที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้าง รวมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อและบัตรเครดิต ด้านคุณภาพสินเชื่อปรับน้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากลูกหนี้ที่เคยได้รับความช่วยเหลือทางการเงินในช่วงที่ผ่านมา และธุรกิจ SMEs และครัวเรือนที่รายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และมีภาระหนี้สูง คณะกรรมการฯ ยังสนับสนุน นโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาภาระหนี้ที่ตรงจุด และมีส่วนช่วยกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ทั้งนี้ ต้องติดตามผลกระทบของคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงต่อต้นทุนการกู้ยืมและการขยายตัวของสินเชื่อในภาพรวม รวมถึงนัยต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ . ภายใต้กรอบการดําเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังควรอยู่ในระดับที่เป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ รวมทั้งไม่ต่ำเกินไปจนนําไปสู่การสะสมความไม่สมดุลทางการเงินในระยะยาว ............. Sondhi X
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 703 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนสิบห้า……พี่ปูเค้าเหมือนมีสิบมือ…รับได้หมดทุกงาน……ติ่งว่ามะ………!!!!!!!

    หลังจากที่ปูตินได้กล่าวแสดงความเสียใจกับโศกนาฏกรรมที่ ได้เกิดขึ้นที่ Beslan ในวันที่ 4 กันยายน (2004)

    ค่ำคืนของวันที่ 5 Viktor Yushchenko ตัวเต็งในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดียูเครนได้เดินทางไปแบบอำพรางตัว
    ไปนัดเจรจากับ นายพล Igor Smeshko ผู้อำนวยการ SBU
    (เทียบเท่ากับ FSB ของรัสเซีย)
    เจ้าภาพที่เป็นทั้งเชฟเตรียมอาหาร คือ รองผู้อำนวยการ SBU
    Volodymyr Satsyuk ที่มีเมนูคือ สลัดกุ้ง พร้อม เบียร์ วอดก้า คอนยัค
    ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย วิตเตอร์กลับถึงบ้านเวลาตีสองของวันต่อมา
    พอสายๆ……เขารู้สึกตัวว่าไม่สบาย ปวดหัวปานระเบิด ไล่ลงมาถึงไขสันหลัง หน้าตาหล่อๆของเขาเริ่มเปลี่ยนสี และมีตุ่มขึ้นเหมือนฝีดาษไปทั่วไปหน้า เจ็บปวดไปทั้งตัว
    วิคเตอร์รู้ได้ทันทีว่าเขาโดนยาพิษ จึงรีบบินไปออสเตรีย ในวันที่ 10 เพื่อเข้ารับการรักษา
    ซึ่งยืนยันแน่นอนว่า เขาได้รับสาร Dioxin เข้าไปเป็นจำนวนมาก จากอาหารอย่างแน่นอน

    การเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม ที่ประชาชนล้วนแต่อยากจะเปลี่ยนประธานาธิบดีเต็มที่ เพราะนาย Leonid Kuchma ได้นั่งอยู่ในตำแหน่งมานานนับสิบปี เพราะตั้งแต่ 1994 ที่ได้รับเลือกมาเพื่อที่จะจัดระเบียบให้กับยูเครนที่ถือว่าเป็นประเทศใหม่เอี่ยม
    แต่ที่ไหนได้……ยูเครนได้กลายมาเป็นแหล่งคอร์รัปชั่นที่ใหญ่ที่สุด ตามมาด้วย อาชญากรรม และ การค้าของเถื่อน
    ยูเครนเป็นพื้นที่ที่ใหญ่เป็นที่สองของโซเวียต เป็นแหล่งเพาะปลูก แหล่งอุตสาหกรรม ที่บอบช้ำมาตั้งแต่สมัยสตาลิน
    เพราะเพียงแค่แสดงความจำนงค์ว่าอยากจะเป็นเอกเทศเพียงเบาๆ
    สตาลินได้สั่งสอนด้วยวิธียึดอาหารออกไปจากพื้นที่ทั้งหมด จนเกิดเป็นการล้างเผ่าพันธุ์ด้วยวิธีให้อดตาย (Holodomor)
    พอสงครามโลกครั้งที่สอง ยูเครนก็คือสนามรบหน้าด่านในการต้านนาซี ที่สูญเสียทหารไปกว่าสามล้านนาย (หนึ่งในหกของประชากร)
    นี่คือ……ความเจ็บฝังใจของชาวยูเครน

    แต่……นั่นก็คือส่วนหนึ่ง เพราะในพื้นที่ตามภูมิศาสตร์พร้อมประวัติศาสตร์แล้ว ยูเครนก็คือสลาพเผ่าพันธุ์เดียวกันกับรัสเซีย ที่ประชาชนยังถือเป็นพี่เป็นน้องกัน ฝั่งที่ใกล้กับรัสเซียก็ยังสวามิภักดิ์กับรัสเซีย
    ส่วนยูเครเนี่ยนสมัยประชาธิปไตยเบิกบาน ก็มองไกลไปถึงตะวันตก และ ยิ่งเห็นเพื่อนบ้านอย่าง Lithuania, Latvia, Estonia เดินตบแถวเข้าเป็นสมาชิกนาโต้
    และได้เป็นสมาชิกอียูที่แสนโก้หรูอีกเล่า………
    นั่นน่าจะเป็นอนาคตที่สดใสกว่า……ดีไม่ดี……สักวันหนึ่งอาจจะล้มช้างอย่างรัสเซียได้ด้วย

    ประธานาธิบดี Kuchma รู้ดีว่าการเมืองของยูเครนมีทั้งสองฝั่ง
    เขาจึงพยายามเหยียบไว้ทั้งสองแคม เอาใจรัสเซีย และ เป็นมิตรกับนาโต้ ถึงขนาดส่งทหารไปช่วยรบในอิรัค เพื่อล้มล้างซัดดัม ฮุดเซน
    แต่คุชมา……ทำได้แค่หันไปทางทิศทางลม เขาไม่มีความมุ่งมั่นและความสามารถในการที่ควบคุมคน
    ดังนั้น รัฐบาลของคุชมา จึงกลายเป็นสนามเล่นของเหล่ามาเฟียการเมืองที่เข้ามากอบโกยแบบแบ่งกันกิน แบ่งกันใช้

    ดังนั้น จากฐานทางการเมืองที่อ่อนยวบยาบ ประชาธิปไตยที่ยูเครนอยากได้ จึงแทบเป็นไปไม่ได้ ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งเข้ามา
    ฝ่ายตรงข้ามได้ตีกระหน่ำในเรื่องคดีฆาตกรรมนักข่าวคนสำคัญ Georgy Gongadez ที่ถูกอุ้มฆ่าเพราะตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับรัฐบาล เป็นการฆาตกรรมที่มีหลักฐานทิ้งไว้ให้สาวถึงตัวได้มากมาย
    ถึงแม้ว่าคุชมาจะปฎิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ความนิยมของเขาได้ลดลงฮวบฮาบ
    ทุกคนได้เกรงว่า……เขาอาจเปลี่ยนรัฐธรรมนูญหาช่องว่างเพื่อที่จะนั่งในตำแหน่งต่อไป
    การเมืองยูเครนในช่วงนั้น จึงต้องเล่นงานประธานาธิบดีคุชมาแบบถาโถมในทุกเม็ด……จนเขาขยับตัวทำอะไรอื่นไม่ได้
    นอกจากที่จะต้องยอมรับสภาพ……

    ปูตินเฝ้าดูการเป็นไปของยูเครนอย่างใกล้ชิด และไม่ใช่ยูเครนอย่างเดียว เขาได้เกาะติดกับการเมืองที่ Georgia ด้วย
    Georgia เป็นประเทศที่แตกออกไปจากการล่มสลายของโซเวียต (1991) อยู่ทางชายคอเคซัส ที่มีประชากรเพียงห้าล้านคน Eduard Shevardnadze
    เป็นประธานาธิบดี ที่เคยเป็นอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของโซเวียตมาก่อน เขาเป็นหนึ่งในคนสนิทของกอร์บาเชฟ ที่กว่าจะมาเป็นประธานาธิบดีได้ ในปี 1995 ก็ผ่านการลอบสังหารมาถึงสามครั้ง
    ประธานาธิบดี เอดวารด์ กำลังจะหมดวาระในปี 2003
    เดือนพฤศจิกายน มีการก่อหวอดต่อต้าน (ด้วยเกรงว่าจะมีการสืบทอดอำนาจจากรัสเซีย) กลุ่มผู้ต่อต้านออกมาเนืองแน่นบนท้องถนน
    และบุกเข้าไปในสถานที่ราชการ นำโดย Mikhail Saakashvili
    (ที่มี George Soros สนับสนุนทุนอยู่เบื้องหลัง)
    เอดวารด์ ได้โทรหาปูตินเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งปูตินได้ส่ง
    ให้ Igor Ivanov บินไปที่เมืองหลวง Tbilisi เพื่อไปดูไม่ให้เกิดเป็นสงครามกลางเมือง
    แต่……ปูตินไม่ต้องการโศกนาฏกรรมติดๆกันหลายรายการจนเกินไป เขาจึงสั่งให้แค่สังเกตุการณ์อย่างใกล้ชิด
    ในที่สุด……เอดวารด์ จึงยอมลาออกเพื่อรักษาความสงบ

    ในเดือนมกราคม 2004 จอร์เจียจึงมีประธานาธิบดีคนใหม่ คือ Mikhail Saakashvili ที่คิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตยที่ใหญ่คับฟ้า สิ่งแรกที่เขาทำคือ บินไปมอสโคว์เพื่อที่จะเจรจาหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการเมืองกับปูติน
    ซึ่ง……เขาไม่รู้เลยว่า ทางรัสเซียได้จัดอันดับ จอร์เจีย เทียบเท่ากับยูเครน
    อันดับนั้นคือ……พวกสวามิภักดิ์ตะวันตก

    แต่ปูตินไม่ได้เห็นว่า จอร์เจียเป็นสิ่งที่กังวล(ในตอนนั้น) เพราะเขาพุ่งเป้าไปที่ยูเครนมากกว่า เพราะยูเครนเป็นพื้นที่ที่ก่อเกิดของเลือดเนื้อรัสเซียในปัจจุบัน เมื่อครั้งสมัย Vladimir the Great ที่รับศาสนาคริสเตียนเข้ามาในปี 988
    ซาร์วลาดิเมียร์ ได้ตั้งชื่อดินแดนส่วนนี้ว่า Ukraine ที่แปลว่า
    ขอบเขตแดน
    ขอบเขตแดนนี้ได้เปลี่ยนไปมาตามสถานการณ์โลก โปแลนด์เคยล้ำเข้ามาในสมัย Austro-Hungarian , สตาลินได้นำกลับคืนในการทำสนธิสัญญากับฮิตเลอร์ (1939) และยูเครนก็คือส่วนหนึ่งของโซเวียต (Ukraine Soviet Socialist) เป็นเช่นนั้นจน ประธานาธิบดี ครุสเชพ ได้มอบดินแดนเพิ่มให้ คือ ไครเมีย
    ในปี 1954
    ไม่มีใครเคยคาดคิดว่า……สักวันหนึ่ง ยูเครน พร้อมด้วยไครเมียจะหลุดลอยไปจากความเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย

    ในเดือน กรกฎาคม 2004 สามเดือนก่อนที่ยูเครนจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี
    ปูตินได้บินไปที่Yalta (ไครเมีย) เพื่อพบปะกับ Kuchma (ประธานาธิบดี) และ Viktor Yanukovych (นายกรัฐมนตรี)
    ที่พระราชวัง Livadia (ที่เคยเป็นที่พบปะ ระหว่าง เชอร์ชิลล์,
    สตาลิน และ รูสเวลส์)
    ปูตินได้เตือนและกดดันให้คุชมาเลิกทำตัวสอพลอกับพวกตะวันตก โดยเฉพาะกับ NATO ที่ค่อยๆก้าวล่วงเข้ามาทุกที จากที่เป็นชาติสมาชิก 19 ตอนนี้มาเป็น 26 นอกจากจะเก็บกลุ่มยุโรปตะวันออกแล้ว ยังคืบมากวาดเอาฝั่งบอลติกไปด้วย
    ที่ปูตินคิดว่า……น่าจะหยุดได้เพียงแค่นั้น……แต่นี่กำลังมุ่งหน้ามาที่จอร์เจียและยูเครน….ที่เขาจะจะไม่ทนอีกต่อไป!!
    และถ้าจะหมายถึงสงคราม………เขาก็ยินดี………!!!
    ปูตินยังย้ำเสมอว่า ในสัญญาของลูกผู้ชาย ที่กลุ่มนาโต้ได้บอกกับกอร์บาเชพในปี 1989 ว่า นาโต้จะไม่ก้าวคืบเข้าไปในอาณาจักรที่เป็นของโซเวียตแม้แต่คืบเดียว

    มันเป็นคำสั่งที่เป็นการตบหัวทิ่ม แต่ก็มีการลูบหลัง นั่นคือ
    รัสเซีย-ยูเครนจะตั้งบริษัทพลังงานขึ้นมา ชื่อว่า RosUkrEnergo ที่ไม่ชี้แจงชัดว่าใครคือเข้าของ แต่ Gazprom
    จะเป็นเจ้าของครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่ง เป็นเจ้าของโดยผ่านนอมินี
    คือ Raiffeisen International Bank (อยู่ที่ Switzerland)
    ในการดำเนินงานส่งก๊าสผ่านท่อไปขายที่ยุโรปผ่านยูเครน……

    เมื่อคุชมากำลังจะหมดสิ้นวาระ ตัวเต็ง Viktor Andriyovych Yushchenko (จะเรียกว่า VAY เขาเป็นฝ่ายโปรตะวันตก) ก็มาโดนยาพิษที่เร่งทำการรักษากันแบบพลิกตำรา
    เขาได้ประกาศให้ทั่วโลกได้รับรู้ว่า เขาได้รับการประทุษร้ายจากฝ่ายตรงข้ามที่เป็นฝ่ายอำนาจเก่า นั่นคือ พุ่งตรงไปที่คุชมา
    การหาเสียงของเขา มีสัญญลักษณ์เป็น “สีส้ม” และมีฝ่ายทุนที่หนุนหลังคือ Yulia Tymoshenko อภิมหาเศรษฐีสาว เธอมีบทบาทเด่นในทางการเมืองของยูเครน ในการต่อสู้เพื่อตะวันตก โปรนาโต้ ทำหน้าที่หาเสียงอย่างแข็งขันให้กับ VAY ในขณะที่รักษาตัว
    ถ้าจะเทียบเธอ……ก็ใกล้เคียงกับเป็น อองซาน ซูจี แห่งยูเครน

    การเลือกตั้งใกล้เข้ามา ความนิยมในตัว VAY ได้เพิ่มขึ้น
    มันเป็นสัญญาณที่บอกกับปูตินว่า อิทธิพลของตะวันตกกำลังจะล้อมกรอบ บีบรัสเซียให้แคบเข้าไปทุกวัน
    ตั้งแต่โซเวียตล่มสลายไป กลุ่มทุนตะวันตกได้เข้ามามีอิทธิพลในฝั่งตะวันออกหนาตาขึ้น โดยเฉพาะองค์กร NGO ที่ได้มีสาขาในทุกแห่งหน

    ทางรัสเซียได้หนุนหลัง Viktor Yanukovych ( Viktor Fedorovych Yanukovych นายกรัฐมนตรี จะใช้ชื่อย่อว่า VFY)
    ในการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีด้วย
    การหาเสียงเป็นไปอย่างดุเดือด เหมือนกับว่าประชาชนจะเลือก
    บุช หรือ ปูติน
    ปูตินได้ทำทีไปเยี่ยมเยียนถึงเคียฟ เพราะมีเด็กคนหนึ่ง ได้เขียนจดหมายว่า มีความฝันว่าอยากจะถ่ายรูปกับ Vladimir Vladimirovich……ชาตินี้จะมีโอกาสไหมหนอ?
    ผลคือ เด็กน้อย Andrei ได้ถูกเชิญไปที่ทำเนียบ ไปพบกับปูติน
    ที่ได้ยื่นของขวัญเป็นแลปท๊อปให้ด้วยสีหน้าชื่นมื่น

    การหาเสียงเป็นไปอย่างดุเดือดและสูสี ปูตินบินไปเคียฟบ่อยกว่าปรกติ
    ผลออกมาคือ VFY (โปรรัสเซีย) ได้ 49% และ VAY (โปรตะวันตก) ได้ 46%
    แต่.……ความไม่สงบได้ก่อตัวขึ้น ฝ่ายสีส้มได้ทำการต่อต้านในทุกรูปแบบ มีการนัดชุมนุมที่เข้าขั้นปฏิวัติ ถนนได้เปลี่ยนเป็นทะเลสีส้มแสบตาไปทั้งเมือง
    กลุ่มต่อต้านไม่ยอมรับคะแนนเลือกตั้ง
    ปูตินบินกลับจากจากอเมริกาใต้ เข้าสู่กรุงบลัสเซลส์โดยด่วน เพื่อพบปะกับกลุ่มอียู……ที่ตัวแทนทุกคนได้ลงมติว่าการเลือกตั้งในยูเครนไม่โปร่งใส ……แต่ไม่สนใจที่จะให้มีการตรวจสอบ
    ความสัมพันธ์ทางการค้าพลังงานที่ปูตินพยายามที่จะประสานกับอียูนั้น เหลือริบหรี่…;
    เขาประกาศว่า……เราไม่เคยไปยุ่งกับเรื่องภายในของพวกอียู
    แต่ตอนนี้มันชัดเจนแล้วว่า……พวกคุณได้เข้ามาเสี้ยม แทรกแซงกับการเมืองในประเทศที่อยู่นอกระบบ เพื่อสร้างความร้าวฉานให้พวกเรา……!!

    สภายูเครนเริ่มเห็นแล้วว่าน่าจะรักษาความสงบไว้ไม่ได้
    จึงได้ลงมติให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
    VFY ได้หลบความวุ่นวายที่อาจนำไปสู่ความเป็นอันตรายต่อตัวเองไปอยู่ที่ Luhansk

    วันที่ 2 ธันวาคม ปูตินได้เรียกคุชมาเข้าไปพบที่มอสโคว์
    ก่อนที่ปูตินจะเดินทางอินเดียในไม่กี่ชั่วโมง เพื่อปรึกษาในเรื่องของการที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ ที่เขาเชื่อว่า ทางฝ่าย VAY น่าจะมาแรง และจะปล่อยไปตามนั้น เพราะไม่เช่นนั้นก็จะต้องมีม็อบชนม็อบ เลือกตั้งกันครั้งที่สาม ที่สี่ ไม่จบไม่สิ้น เสียเวลาเปล่าๆ……ปล่อยไปก่อน……เรายังมีเวลา!!

    ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น VAY ชนะด้วยคะแนน 52% ส่วน VFY 44%
    ที่มีการเฉลิมฉลองกันใหญ่โต
    ชาวสีส้มทุกคนต่างยินดีปรีดาที่จะได้เข้าไปสู่อ้อมอกของตะวันตก เป็นอารยะประเทศ มีที่นั่งในสภายูโรเปี้ยน และ เป็นหนึ่งสมาชิกนาโต้
    และที่สำคัญที่สุด…..คือ ได้เอาชนะปูติน………!!!

    ใครจะไปรู้เล่าว่า……นั่นคือเกมที่ปูตินจะลากมาสับทีละคนเมื่อถึงเวลา………!!

    Wiwanda W. Vichit
    ตอนสิบห้า……พี่ปูเค้าเหมือนมีสิบมือ…รับได้หมดทุกงาน……ติ่งว่ามะ………!!!!!!! หลังจากที่ปูตินได้กล่าวแสดงความเสียใจกับโศกนาฏกรรมที่ ได้เกิดขึ้นที่ Beslan ในวันที่ 4 กันยายน (2004) ค่ำคืนของวันที่ 5 Viktor Yushchenko ตัวเต็งในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดียูเครนได้เดินทางไปแบบอำพรางตัว ไปนัดเจรจากับ นายพล Igor Smeshko ผู้อำนวยการ SBU (เทียบเท่ากับ FSB ของรัสเซีย) เจ้าภาพที่เป็นทั้งเชฟเตรียมอาหาร คือ รองผู้อำนวยการ SBU Volodymyr Satsyuk ที่มีเมนูคือ สลัดกุ้ง พร้อม เบียร์ วอดก้า คอนยัค ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย วิตเตอร์กลับถึงบ้านเวลาตีสองของวันต่อมา พอสายๆ……เขารู้สึกตัวว่าไม่สบาย ปวดหัวปานระเบิด ไล่ลงมาถึงไขสันหลัง หน้าตาหล่อๆของเขาเริ่มเปลี่ยนสี และมีตุ่มขึ้นเหมือนฝีดาษไปทั่วไปหน้า เจ็บปวดไปทั้งตัว วิคเตอร์รู้ได้ทันทีว่าเขาโดนยาพิษ จึงรีบบินไปออสเตรีย ในวันที่ 10 เพื่อเข้ารับการรักษา ซึ่งยืนยันแน่นอนว่า เขาได้รับสาร Dioxin เข้าไปเป็นจำนวนมาก จากอาหารอย่างแน่นอน การเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม ที่ประชาชนล้วนแต่อยากจะเปลี่ยนประธานาธิบดีเต็มที่ เพราะนาย Leonid Kuchma ได้นั่งอยู่ในตำแหน่งมานานนับสิบปี เพราะตั้งแต่ 1994 ที่ได้รับเลือกมาเพื่อที่จะจัดระเบียบให้กับยูเครนที่ถือว่าเป็นประเทศใหม่เอี่ยม แต่ที่ไหนได้……ยูเครนได้กลายมาเป็นแหล่งคอร์รัปชั่นที่ใหญ่ที่สุด ตามมาด้วย อาชญากรรม และ การค้าของเถื่อน ยูเครนเป็นพื้นที่ที่ใหญ่เป็นที่สองของโซเวียต เป็นแหล่งเพาะปลูก แหล่งอุตสาหกรรม ที่บอบช้ำมาตั้งแต่สมัยสตาลิน เพราะเพียงแค่แสดงความจำนงค์ว่าอยากจะเป็นเอกเทศเพียงเบาๆ สตาลินได้สั่งสอนด้วยวิธียึดอาหารออกไปจากพื้นที่ทั้งหมด จนเกิดเป็นการล้างเผ่าพันธุ์ด้วยวิธีให้อดตาย (Holodomor) พอสงครามโลกครั้งที่สอง ยูเครนก็คือสนามรบหน้าด่านในการต้านนาซี ที่สูญเสียทหารไปกว่าสามล้านนาย (หนึ่งในหกของประชากร) นี่คือ……ความเจ็บฝังใจของชาวยูเครน แต่……นั่นก็คือส่วนหนึ่ง เพราะในพื้นที่ตามภูมิศาสตร์พร้อมประวัติศาสตร์แล้ว ยูเครนก็คือสลาพเผ่าพันธุ์เดียวกันกับรัสเซีย ที่ประชาชนยังถือเป็นพี่เป็นน้องกัน ฝั่งที่ใกล้กับรัสเซียก็ยังสวามิภักดิ์กับรัสเซีย ส่วนยูเครเนี่ยนสมัยประชาธิปไตยเบิกบาน ก็มองไกลไปถึงตะวันตก และ ยิ่งเห็นเพื่อนบ้านอย่าง Lithuania, Latvia, Estonia เดินตบแถวเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ และได้เป็นสมาชิกอียูที่แสนโก้หรูอีกเล่า……… นั่นน่าจะเป็นอนาคตที่สดใสกว่า……ดีไม่ดี……สักวันหนึ่งอาจจะล้มช้างอย่างรัสเซียได้ด้วย ประธานาธิบดี Kuchma รู้ดีว่าการเมืองของยูเครนมีทั้งสองฝั่ง เขาจึงพยายามเหยียบไว้ทั้งสองแคม เอาใจรัสเซีย และ เป็นมิตรกับนาโต้ ถึงขนาดส่งทหารไปช่วยรบในอิรัค เพื่อล้มล้างซัดดัม ฮุดเซน แต่คุชมา……ทำได้แค่หันไปทางทิศทางลม เขาไม่มีความมุ่งมั่นและความสามารถในการที่ควบคุมคน ดังนั้น รัฐบาลของคุชมา จึงกลายเป็นสนามเล่นของเหล่ามาเฟียการเมืองที่เข้ามากอบโกยแบบแบ่งกันกิน แบ่งกันใช้ ดังนั้น จากฐานทางการเมืองที่อ่อนยวบยาบ ประชาธิปไตยที่ยูเครนอยากได้ จึงแทบเป็นไปไม่ได้ ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งเข้ามา ฝ่ายตรงข้ามได้ตีกระหน่ำในเรื่องคดีฆาตกรรมนักข่าวคนสำคัญ Georgy Gongadez ที่ถูกอุ้มฆ่าเพราะตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับรัฐบาล เป็นการฆาตกรรมที่มีหลักฐานทิ้งไว้ให้สาวถึงตัวได้มากมาย ถึงแม้ว่าคุชมาจะปฎิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ความนิยมของเขาได้ลดลงฮวบฮาบ ทุกคนได้เกรงว่า……เขาอาจเปลี่ยนรัฐธรรมนูญหาช่องว่างเพื่อที่จะนั่งในตำแหน่งต่อไป การเมืองยูเครนในช่วงนั้น จึงต้องเล่นงานประธานาธิบดีคุชมาแบบถาโถมในทุกเม็ด……จนเขาขยับตัวทำอะไรอื่นไม่ได้ นอกจากที่จะต้องยอมรับสภาพ…… ปูตินเฝ้าดูการเป็นไปของยูเครนอย่างใกล้ชิด และไม่ใช่ยูเครนอย่างเดียว เขาได้เกาะติดกับการเมืองที่ Georgia ด้วย Georgia เป็นประเทศที่แตกออกไปจากการล่มสลายของโซเวียต (1991) อยู่ทางชายคอเคซัส ที่มีประชากรเพียงห้าล้านคน Eduard Shevardnadze เป็นประธานาธิบดี ที่เคยเป็นอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของโซเวียตมาก่อน เขาเป็นหนึ่งในคนสนิทของกอร์บาเชฟ ที่กว่าจะมาเป็นประธานาธิบดีได้ ในปี 1995 ก็ผ่านการลอบสังหารมาถึงสามครั้ง ประธานาธิบดี เอดวารด์ กำลังจะหมดวาระในปี 2003 เดือนพฤศจิกายน มีการก่อหวอดต่อต้าน (ด้วยเกรงว่าจะมีการสืบทอดอำนาจจากรัสเซีย) กลุ่มผู้ต่อต้านออกมาเนืองแน่นบนท้องถนน และบุกเข้าไปในสถานที่ราชการ นำโดย Mikhail Saakashvili (ที่มี George Soros สนับสนุนทุนอยู่เบื้องหลัง) เอดวารด์ ได้โทรหาปูตินเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งปูตินได้ส่ง ให้ Igor Ivanov บินไปที่เมืองหลวง Tbilisi เพื่อไปดูไม่ให้เกิดเป็นสงครามกลางเมือง แต่……ปูตินไม่ต้องการโศกนาฏกรรมติดๆกันหลายรายการจนเกินไป เขาจึงสั่งให้แค่สังเกตุการณ์อย่างใกล้ชิด ในที่สุด……เอดวารด์ จึงยอมลาออกเพื่อรักษาความสงบ ในเดือนมกราคม 2004 จอร์เจียจึงมีประธานาธิบดีคนใหม่ คือ Mikhail Saakashvili ที่คิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตยที่ใหญ่คับฟ้า สิ่งแรกที่เขาทำคือ บินไปมอสโคว์เพื่อที่จะเจรจาหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการเมืองกับปูติน ซึ่ง……เขาไม่รู้เลยว่า ทางรัสเซียได้จัดอันดับ จอร์เจีย เทียบเท่ากับยูเครน อันดับนั้นคือ……พวกสวามิภักดิ์ตะวันตก แต่ปูตินไม่ได้เห็นว่า จอร์เจียเป็นสิ่งที่กังวล(ในตอนนั้น) เพราะเขาพุ่งเป้าไปที่ยูเครนมากกว่า เพราะยูเครนเป็นพื้นที่ที่ก่อเกิดของเลือดเนื้อรัสเซียในปัจจุบัน เมื่อครั้งสมัย Vladimir the Great ที่รับศาสนาคริสเตียนเข้ามาในปี 988 ซาร์วลาดิเมียร์ ได้ตั้งชื่อดินแดนส่วนนี้ว่า Ukraine ที่แปลว่า ขอบเขตแดน ขอบเขตแดนนี้ได้เปลี่ยนไปมาตามสถานการณ์โลก โปแลนด์เคยล้ำเข้ามาในสมัย Austro-Hungarian , สตาลินได้นำกลับคืนในการทำสนธิสัญญากับฮิตเลอร์ (1939) และยูเครนก็คือส่วนหนึ่งของโซเวียต (Ukraine Soviet Socialist) เป็นเช่นนั้นจน ประธานาธิบดี ครุสเชพ ได้มอบดินแดนเพิ่มให้ คือ ไครเมีย ในปี 1954 ไม่มีใครเคยคาดคิดว่า……สักวันหนึ่ง ยูเครน พร้อมด้วยไครเมียจะหลุดลอยไปจากความเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ในเดือน กรกฎาคม 2004 สามเดือนก่อนที่ยูเครนจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี ปูตินได้บินไปที่Yalta (ไครเมีย) เพื่อพบปะกับ Kuchma (ประธานาธิบดี) และ Viktor Yanukovych (นายกรัฐมนตรี) ที่พระราชวัง Livadia (ที่เคยเป็นที่พบปะ ระหว่าง เชอร์ชิลล์, สตาลิน และ รูสเวลส์) ปูตินได้เตือนและกดดันให้คุชมาเลิกทำตัวสอพลอกับพวกตะวันตก โดยเฉพาะกับ NATO ที่ค่อยๆก้าวล่วงเข้ามาทุกที จากที่เป็นชาติสมาชิก 19 ตอนนี้มาเป็น 26 นอกจากจะเก็บกลุ่มยุโรปตะวันออกแล้ว ยังคืบมากวาดเอาฝั่งบอลติกไปด้วย ที่ปูตินคิดว่า……น่าจะหยุดได้เพียงแค่นั้น……แต่นี่กำลังมุ่งหน้ามาที่จอร์เจียและยูเครน….ที่เขาจะจะไม่ทนอีกต่อไป!! และถ้าจะหมายถึงสงคราม………เขาก็ยินดี………!!! ปูตินยังย้ำเสมอว่า ในสัญญาของลูกผู้ชาย ที่กลุ่มนาโต้ได้บอกกับกอร์บาเชพในปี 1989 ว่า นาโต้จะไม่ก้าวคืบเข้าไปในอาณาจักรที่เป็นของโซเวียตแม้แต่คืบเดียว มันเป็นคำสั่งที่เป็นการตบหัวทิ่ม แต่ก็มีการลูบหลัง นั่นคือ รัสเซีย-ยูเครนจะตั้งบริษัทพลังงานขึ้นมา ชื่อว่า RosUkrEnergo ที่ไม่ชี้แจงชัดว่าใครคือเข้าของ แต่ Gazprom จะเป็นเจ้าของครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่ง เป็นเจ้าของโดยผ่านนอมินี คือ Raiffeisen International Bank (อยู่ที่ Switzerland) ในการดำเนินงานส่งก๊าสผ่านท่อไปขายที่ยุโรปผ่านยูเครน…… เมื่อคุชมากำลังจะหมดสิ้นวาระ ตัวเต็ง Viktor Andriyovych Yushchenko (จะเรียกว่า VAY เขาเป็นฝ่ายโปรตะวันตก) ก็มาโดนยาพิษที่เร่งทำการรักษากันแบบพลิกตำรา เขาได้ประกาศให้ทั่วโลกได้รับรู้ว่า เขาได้รับการประทุษร้ายจากฝ่ายตรงข้ามที่เป็นฝ่ายอำนาจเก่า นั่นคือ พุ่งตรงไปที่คุชมา การหาเสียงของเขา มีสัญญลักษณ์เป็น “สีส้ม” และมีฝ่ายทุนที่หนุนหลังคือ Yulia Tymoshenko อภิมหาเศรษฐีสาว เธอมีบทบาทเด่นในทางการเมืองของยูเครน ในการต่อสู้เพื่อตะวันตก โปรนาโต้ ทำหน้าที่หาเสียงอย่างแข็งขันให้กับ VAY ในขณะที่รักษาตัว ถ้าจะเทียบเธอ……ก็ใกล้เคียงกับเป็น อองซาน ซูจี แห่งยูเครน การเลือกตั้งใกล้เข้ามา ความนิยมในตัว VAY ได้เพิ่มขึ้น มันเป็นสัญญาณที่บอกกับปูตินว่า อิทธิพลของตะวันตกกำลังจะล้อมกรอบ บีบรัสเซียให้แคบเข้าไปทุกวัน ตั้งแต่โซเวียตล่มสลายไป กลุ่มทุนตะวันตกได้เข้ามามีอิทธิพลในฝั่งตะวันออกหนาตาขึ้น โดยเฉพาะองค์กร NGO ที่ได้มีสาขาในทุกแห่งหน ทางรัสเซียได้หนุนหลัง Viktor Yanukovych ( Viktor Fedorovych Yanukovych นายกรัฐมนตรี จะใช้ชื่อย่อว่า VFY) ในการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีด้วย การหาเสียงเป็นไปอย่างดุเดือด เหมือนกับว่าประชาชนจะเลือก บุช หรือ ปูติน ปูตินได้ทำทีไปเยี่ยมเยียนถึงเคียฟ เพราะมีเด็กคนหนึ่ง ได้เขียนจดหมายว่า มีความฝันว่าอยากจะถ่ายรูปกับ Vladimir Vladimirovich……ชาตินี้จะมีโอกาสไหมหนอ? ผลคือ เด็กน้อย Andrei ได้ถูกเชิญไปที่ทำเนียบ ไปพบกับปูติน ที่ได้ยื่นของขวัญเป็นแลปท๊อปให้ด้วยสีหน้าชื่นมื่น การหาเสียงเป็นไปอย่างดุเดือดและสูสี ปูตินบินไปเคียฟบ่อยกว่าปรกติ ผลออกมาคือ VFY (โปรรัสเซีย) ได้ 49% และ VAY (โปรตะวันตก) ได้ 46% แต่.……ความไม่สงบได้ก่อตัวขึ้น ฝ่ายสีส้มได้ทำการต่อต้านในทุกรูปแบบ มีการนัดชุมนุมที่เข้าขั้นปฏิวัติ ถนนได้เปลี่ยนเป็นทะเลสีส้มแสบตาไปทั้งเมือง กลุ่มต่อต้านไม่ยอมรับคะแนนเลือกตั้ง ปูตินบินกลับจากจากอเมริกาใต้ เข้าสู่กรุงบลัสเซลส์โดยด่วน เพื่อพบปะกับกลุ่มอียู……ที่ตัวแทนทุกคนได้ลงมติว่าการเลือกตั้งในยูเครนไม่โปร่งใส ……แต่ไม่สนใจที่จะให้มีการตรวจสอบ ความสัมพันธ์ทางการค้าพลังงานที่ปูตินพยายามที่จะประสานกับอียูนั้น เหลือริบหรี่…; เขาประกาศว่า……เราไม่เคยไปยุ่งกับเรื่องภายในของพวกอียู แต่ตอนนี้มันชัดเจนแล้วว่า……พวกคุณได้เข้ามาเสี้ยม แทรกแซงกับการเมืองในประเทศที่อยู่นอกระบบ เพื่อสร้างความร้าวฉานให้พวกเรา……!! สภายูเครนเริ่มเห็นแล้วว่าน่าจะรักษาความสงบไว้ไม่ได้ จึงได้ลงมติให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ VFY ได้หลบความวุ่นวายที่อาจนำไปสู่ความเป็นอันตรายต่อตัวเองไปอยู่ที่ Luhansk วันที่ 2 ธันวาคม ปูตินได้เรียกคุชมาเข้าไปพบที่มอสโคว์ ก่อนที่ปูตินจะเดินทางอินเดียในไม่กี่ชั่วโมง เพื่อปรึกษาในเรื่องของการที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ ที่เขาเชื่อว่า ทางฝ่าย VAY น่าจะมาแรง และจะปล่อยไปตามนั้น เพราะไม่เช่นนั้นก็จะต้องมีม็อบชนม็อบ เลือกตั้งกันครั้งที่สาม ที่สี่ ไม่จบไม่สิ้น เสียเวลาเปล่าๆ……ปล่อยไปก่อน……เรายังมีเวลา!! ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น VAY ชนะด้วยคะแนน 52% ส่วน VFY 44% ที่มีการเฉลิมฉลองกันใหญ่โต ชาวสีส้มทุกคนต่างยินดีปรีดาที่จะได้เข้าไปสู่อ้อมอกของตะวันตก เป็นอารยะประเทศ มีที่นั่งในสภายูโรเปี้ยน และ เป็นหนึ่งสมาชิกนาโต้ และที่สำคัญที่สุด…..คือ ได้เอาชนะปูติน………!!! ใครจะไปรู้เล่าว่า……นั่นคือเกมที่ปูตินจะลากมาสับทีละคนเมื่อถึงเวลา………!! Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 887 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด SMEs3x10.50 ม. เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นการแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ ราคาเริ่มต้น 1.65 แสนบาท (ผลิตได้รอบละ 300 กิโล) เพิ่มระบบ เพิ่มระบบ Gas Burner ได้. #อยากใช้พลังงานแสงอาทิตย์.com
    #ระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด SMEs3x10.50 ม. เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นการแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ ราคาเริ่มต้น 1.65 แสนบาท (ผลิตได้รอบละ 300 กิโล) เพิ่มระบบ เพิ่มระบบ Gas Burner ได้. #อยากใช้พลังงานแสงอาทิตย์.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด SMEs3x6.10 ม. เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นการแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ ราคาเริ่มต้น 1.3 แสนบาท (เพิ่มระบบ Gas Burner ได้). #อยากใช้พลังงานแสงอาทิตย์.com
    #ระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด SMEs3x6.10 ม. เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นการแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ ราคาเริ่มต้น 1.3 แสนบาท (เพิ่มระบบ Gas Burner ได้). #อยากใช้พลังงานแสงอาทิตย์.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • WHY STRATEGY Implementation (NOT) WORK!!!!!

    แบรนด์ 10X Consulting และแบรนด์ Life Alignmentor แบรนด์ในเครือเดชฤทธิ์ กรุ๊ป ขอขอบคุณองค์กร ทีม และผู้นำ และผู้บริหารที่มอบความไว้วางให้เราได้ร่วมส่งมอบการพัฒนาบุคลากร ทีม และองค์กรอย่างต่อเนื่อง

    ถึงวันนี้เราเชื่อมั่นว่า Know-How "พัฒนาคนให้เก่ง สร้างทีมแกร่ง กระบวนการเยี่ยม ผลลัพธ์ยอด" ที่ผสานทั้งศิลป์และศาสตร์ข้ามแขนงสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยอดเยี่ยมเปี่ยมพลังในเชิงประจักษ์ และเรายังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อส่งมอบบริการคุณภาพเกินความคาดหวังแก่ทุกๆ องค์กร ทีม และผู้นำ และผู้บริหารที่มอบความไว้วางให้เรา

    www.10-xconsulting.com
    www.lifealignmentor.com

    #พัฒนาคนให้เก่ง #สร้างทีมแกร่ง #กระบวนการเยี่ยม #ผลลัพธ์ยอด #เดชฤทธิ์กรุ๊ป #10XCONSULTING #LIFEALIGNMENTOR #STRATEGYIMPLEMENTATION #OKR #TEAMBUILDING #พัฒนาองค์กร #COACHING #MENTORING #NLP #SMEs

    10X Consulting and Life Alignmentor brands, under the Dechrit Group, would like to thank the organizations, teams, leaders, and executives who have trusted us to continuously deliver the development of our people, teams, and organizations.

    Today, we believe that the Know-How of "Developing People to be Good, Building Strong Teams, Excellent Processes, and Excellent Results" that combines both arts and sciences across disciplines can create remarkable and powerful changes tangibly. We continue to develop continuously to deliver quality services that exceed expectations to every organization, team, leader, and executive who has trusted us.

    www.10-xconsulting.com
    www.lifealignmentor.com

    #พัฒนาคนให้เก่ง #สร้างทีมแกร่ง #กระบวนการเยี่ยม #ผลลัพธ์ยอด #เดชฤทธิ์กรุ๊ป #10XCONSULTING #LIFEALIGNMENTOR #STRATEGYIMPLEMENTATION #OKR #TEAMBUILDING #พัฒนาองค์กร #COACHING #MENTORING #NLP #SMEs
    WHY STRATEGY Implementation (NOT) WORK!!!!! แบรนด์ 10X Consulting และแบรนด์ Life Alignmentor แบรนด์ในเครือเดชฤทธิ์ กรุ๊ป ขอขอบคุณองค์กร ทีม และผู้นำ และผู้บริหารที่มอบความไว้วางให้เราได้ร่วมส่งมอบการพัฒนาบุคลากร ทีม และองค์กรอย่างต่อเนื่อง ถึงวันนี้เราเชื่อมั่นว่า Know-How "พัฒนาคนให้เก่ง สร้างทีมแกร่ง กระบวนการเยี่ยม ผลลัพธ์ยอด" ที่ผสานทั้งศิลป์และศาสตร์ข้ามแขนงสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยอดเยี่ยมเปี่ยมพลังในเชิงประจักษ์ และเรายังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อส่งมอบบริการคุณภาพเกินความคาดหวังแก่ทุกๆ องค์กร ทีม และผู้นำ และผู้บริหารที่มอบความไว้วางให้เรา www.10-xconsulting.com www.lifealignmentor.com #พัฒนาคนให้เก่ง #สร้างทีมแกร่ง #กระบวนการเยี่ยม #ผลลัพธ์ยอด #เดชฤทธิ์กรุ๊ป #10XCONSULTING #LIFEALIGNMENTOR #STRATEGYIMPLEMENTATION #OKR #TEAMBUILDING #พัฒนาองค์กร #COACHING #MENTORING #NLP #SMEs 10X Consulting and Life Alignmentor brands, under the Dechrit Group, would like to thank the organizations, teams, leaders, and executives who have trusted us to continuously deliver the development of our people, teams, and organizations. Today, we believe that the Know-How of "Developing People to be Good, Building Strong Teams, Excellent Processes, and Excellent Results" that combines both arts and sciences across disciplines can create remarkable and powerful changes tangibly. We continue to develop continuously to deliver quality services that exceed expectations to every organization, team, leader, and executive who has trusted us. www.10-xconsulting.com www.lifealignmentor.com #พัฒนาคนให้เก่ง #สร้างทีมแกร่ง #กระบวนการเยี่ยม #ผลลัพธ์ยอด #เดชฤทธิ์กรุ๊ป #10XCONSULTING #LIFEALIGNMENTOR #STRATEGYIMPLEMENTATION #OKR #TEAMBUILDING #พัฒนาองค์กร #COACHING #MENTORING #NLP #SMEs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 518 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • WHY STRATEGY Implementation (NOT) WORK!!!!!

    แบรนด์ 10X Consulting และแบรนด์ Life Alignmentor แบรนด์ในเครือเดชฤทธิ์ กรุ๊ป ขอขอบคุณองค์กร ทีม และผู้นำ และผู้บริหารที่มอบความไว้วางให้เราได้ร่วมส่งมอบการพัฒนาบุคลากร ทีม และองค์กรอย่างต่อเนื่อง

    ถึงวันนี้เราเชื่อมั่นว่า Know-How "พัฒนาคนให้เก่ง สร้างทีมแกร่ง กระบวนการเยี่ยม ผลลัพธ์ยอด" ที่ผสานทั้งศิลป์และศาสตร์ข้ามแขนงสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยอดเยี่ยมเปี่ยมพลังในเชิงประจักษ์ และเรายังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อส่งมอบบริการคุณภาพเกินความคาดหวังแก่ทุกๆ องค์กร ทีม และผู้นำ และผู้บริหารที่มอบความไว้วางให้เรา

    www.10-xconsulting.com
    www.lifealignmentor.com

    #พัฒนาคนให้เก่ง #สร้างทีมแกร่ง #กระบวนการเยี่ยม #ผลลัพธ์ยอด #เดชฤทธิ์กรุ๊ป #10XCONSULTING #LIFEALIGNMENTOR #STRATEGYIMPLEMENTATION #OKR #TEAMBUILDING #พัฒนาองค์กร #COACHING #MENTORING #NLP #SMEs

    10X Consulting and Life Alignmentor brands, under the Dechrit Group, would like to thank the organizations, teams, leaders, and executives who have trusted us to continuously deliver the development of our people, teams, and organizations.

    Today, we believe that the Know-How of "Developing People to be Good, Building Strong Teams, Excellent Processes, and Excellent Results" that combines both arts and sciences across disciplines can create remarkable and powerful changes tangibly. We continue to develop continuously to deliver quality services that exceed expectations to every organization, team, leader, and executive who has trusted us.

    www.10-xconsulting.com
    www.lifealignmentor.com

    #พัฒนาคนให้เก่ง #สร้างทีมแกร่ง #กระบวนการเยี่ยม #ผลลัพธ์ยอด #เดชฤทธิ์กรุ๊ป #10XCONSULTING #LIFEALIGNMENTOR #STRATEGYIMPLEMENTATION #OKR #TEAMBUILDING #พัฒนาองค์กร #COACHING #MENTORING #NLP #SMEs
    WHY STRATEGY Implementation (NOT) WORK!!!!! แบรนด์ 10X Consulting และแบรนด์ Life Alignmentor แบรนด์ในเครือเดชฤทธิ์ กรุ๊ป ขอขอบคุณองค์กร ทีม และผู้นำ และผู้บริหารที่มอบความไว้วางให้เราได้ร่วมส่งมอบการพัฒนาบุคลากร ทีม และองค์กรอย่างต่อเนื่อง ถึงวันนี้เราเชื่อมั่นว่า Know-How "พัฒนาคนให้เก่ง สร้างทีมแกร่ง กระบวนการเยี่ยม ผลลัพธ์ยอด" ที่ผสานทั้งศิลป์และศาสตร์ข้ามแขนงสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยอดเยี่ยมเปี่ยมพลังในเชิงประจักษ์ และเรายังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อส่งมอบบริการคุณภาพเกินความคาดหวังแก่ทุกๆ องค์กร ทีม และผู้นำ และผู้บริหารที่มอบความไว้วางให้เรา www.10-xconsulting.com www.lifealignmentor.com #พัฒนาคนให้เก่ง #สร้างทีมแกร่ง #กระบวนการเยี่ยม #ผลลัพธ์ยอด #เดชฤทธิ์กรุ๊ป #10XCONSULTING #LIFEALIGNMENTOR #STRATEGYIMPLEMENTATION #OKR #TEAMBUILDING #พัฒนาองค์กร #COACHING #MENTORING #NLP #SMEs 10X Consulting and Life Alignmentor brands, under the Dechrit Group, would like to thank the organizations, teams, leaders, and executives who have trusted us to continuously deliver the development of our people, teams, and organizations. Today, we believe that the Know-How of "Developing People to be Good, Building Strong Teams, Excellent Processes, and Excellent Results" that combines both arts and sciences across disciplines can create remarkable and powerful changes tangibly. We continue to develop continuously to deliver quality services that exceed expectations to every organization, team, leader, and executive who has trusted us. www.10-xconsulting.com www.lifealignmentor.com #พัฒนาคนให้เก่ง #สร้างทีมแกร่ง #กระบวนการเยี่ยม #ผลลัพธ์ยอด #เดชฤทธิ์กรุ๊ป #10XCONSULTING #LIFEALIGNMENTOR #STRATEGYIMPLEMENTATION #OKR #TEAMBUILDING #พัฒนาองค์กร #COACHING #MENTORING #NLP #SMEs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 557 มุมมอง 79 0 รีวิว
  • แบรนด์ 10X Consulting และแบรนด์ Life Alignmentor แบรนด์ในเครือเดชฤทธิ์ กรุ๊ป ขอขอบคุณองค์กร ทีม และผู้นำ และผู้บริหารที่มอบความไว้วางให้เราได้ร่วมส่งมอบการพัฒนาบุคลากร ทีม และองค์กรอย่างต่อเนื่อง

    ถึงวันนี้เราเชื่อมั่นว่า Know-How "พัฒนาคนให้เก่ง สร้างทีมแกร่ง กระบวนการเยี่ยม ผลลัพธ์ยอด" ที่ผสานทั้งศิลป์และศาสตร์ข้ามแขนงสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยอดเยี่ยมเปี่ยมพลังในเชิงประจักษ์ และเรายังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อส่งมอบบริการคุณภาพเกินความคาดหวังแก่ทุกๆ องค์กร ทีม และผู้นำ และผู้บริหารที่มอบความไว้วางให้เรา

    10X Consulting and Life Alignmentor brands, under the Dechrit Group, would like to thank the organizations, teams, leaders, and executives who have trusted us to continuously deliver the development of our people, teams, and organizations.

    Today, we believe that the Know-How of "Developing People to be Good, Building Strong Teams, Excellent Processes, and Excellent Results" that combines both arts and sciences across disciplines can create remarkable and powerful changes tangibly. We continue to develop continuously to deliver quality services that exceed expectations to every organization, team, leader, and executive who has trusted us.

    www.10-xconsulting.com
    www.lifealignmentor.com

    #พัฒนาคนให้เก่ง #สร้างทีมแกร่ง #กระบวนการเยี่ยม #ผลลัพธ์ยอด #เดชฤทธิ์กรุ๊ป #10XCONSULTING #LIFEALIGNMENTOR #TEAMBUILDING #พัฒนาองค์กร #COACHING #MENTORING #NLP #SMEs
    แบรนด์ 10X Consulting และแบรนด์ Life Alignmentor แบรนด์ในเครือเดชฤทธิ์ กรุ๊ป ขอขอบคุณองค์กร ทีม และผู้นำ และผู้บริหารที่มอบความไว้วางให้เราได้ร่วมส่งมอบการพัฒนาบุคลากร ทีม และองค์กรอย่างต่อเนื่อง ถึงวันนี้เราเชื่อมั่นว่า Know-How "พัฒนาคนให้เก่ง สร้างทีมแกร่ง กระบวนการเยี่ยม ผลลัพธ์ยอด" ที่ผสานทั้งศิลป์และศาสตร์ข้ามแขนงสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยอดเยี่ยมเปี่ยมพลังในเชิงประจักษ์ และเรายังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อส่งมอบบริการคุณภาพเกินความคาดหวังแก่ทุกๆ องค์กร ทีม และผู้นำ และผู้บริหารที่มอบความไว้วางให้เรา 10X Consulting and Life Alignmentor brands, under the Dechrit Group, would like to thank the organizations, teams, leaders, and executives who have trusted us to continuously deliver the development of our people, teams, and organizations. Today, we believe that the Know-How of "Developing People to be Good, Building Strong Teams, Excellent Processes, and Excellent Results" that combines both arts and sciences across disciplines can create remarkable and powerful changes tangibly. We continue to develop continuously to deliver quality services that exceed expectations to every organization, team, leader, and executive who has trusted us. www.10-xconsulting.com www.lifealignmentor.com #พัฒนาคนให้เก่ง #สร้างทีมแกร่ง #กระบวนการเยี่ยม #ผลลัพธ์ยอด #เดชฤทธิ์กรุ๊ป #10XCONSULTING #LIFEALIGNMENTOR #TEAMBUILDING #พัฒนาองค์กร #COACHING #MENTORING #NLP #SMEs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 520 มุมมอง 67 0 รีวิว
  • แบรนด์ 10X Consulting และแบรนด์ Life Alignmentor แบรนด์ในเครือเดชฤทธิ์ กรุ๊ป ขอขอบคุณองค์กร ทีม และผู้นำ และผู้บริหารที่มอบความไว้วางให้เราได้ร่วมส่งมอบการพัฒนาบุคลากร ทีม และองค์กรอย่างต่อเนื่อง

    ถึงวันนี้เราเชื่อมั่นว่า Know-How "พัฒนาคนให้เก่ง สร้างทีมแกร่ง กระบวนการเยี่ยม ผลลัพธ์ยอด" ที่ผสานทั้งศิลป์และศาสตร์ข้ามแขนงสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยอดเยี่ยมเปี่ยมพลังในเชิงประจักษ์ และเรายังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อส่งมอบบริการคุณภาพเกินความคาดหวังแก่ทุกๆ องค์กร ทีม และผู้นำ และผู้บริหารที่มอบความไว้วางให้เรา

    10X Consulting and Life Alignmentor brands, under the Dechrit Group, would like to thank the organizations, teams, leaders, and executives who have trusted us to continuously deliver the development of our people, teams, and organizations.

    Today, we believe that the Know-How of "Developing People to be Good, Building Strong Teams, Excellent Processes, and Excellent Results" that combines both arts and sciences across disciplines can create remarkable and powerful changes tangibly. We continue to develop continuously to deliver quality services that exceed expectations to every organization, team, leader, and executive who has trusted us.

    www.10-xconsulting.com
    www.lifealignmentor.com

    #พัฒนาคนให้เก่ง #สร้างทีมแกร่ง #กระบวนการเยี่ยม #ผลลัพธ์ยอด #เดชฤทธิ์กรุ๊ป #10XCONSULTING #LIFEALIGNMENTOR #TEAMBUILDING #พัฒนาองค์กร #COACHING #MENTORING #NLP #SMEs
    แบรนด์ 10X Consulting และแบรนด์ Life Alignmentor แบรนด์ในเครือเดชฤทธิ์ กรุ๊ป ขอขอบคุณองค์กร ทีม และผู้นำ และผู้บริหารที่มอบความไว้วางให้เราได้ร่วมส่งมอบการพัฒนาบุคลากร ทีม และองค์กรอย่างต่อเนื่อง ถึงวันนี้เราเชื่อมั่นว่า Know-How "พัฒนาคนให้เก่ง สร้างทีมแกร่ง กระบวนการเยี่ยม ผลลัพธ์ยอด" ที่ผสานทั้งศิลป์และศาสตร์ข้ามแขนงสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยอดเยี่ยมเปี่ยมพลังในเชิงประจักษ์ และเรายังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อส่งมอบบริการคุณภาพเกินความคาดหวังแก่ทุกๆ องค์กร ทีม และผู้นำ และผู้บริหารที่มอบความไว้วางให้เรา 10X Consulting and Life Alignmentor brands, under the Dechrit Group, would like to thank the organizations, teams, leaders, and executives who have trusted us to continuously deliver the development of our people, teams, and organizations. Today, we believe that the Know-How of "Developing People to be Good, Building Strong Teams, Excellent Processes, and Excellent Results" that combines both arts and sciences across disciplines can create remarkable and powerful changes tangibly. We continue to develop continuously to deliver quality services that exceed expectations to every organization, team, leader, and executive who has trusted us. www.10-xconsulting.com www.lifealignmentor.com #พัฒนาคนให้เก่ง #สร้างทีมแกร่ง #กระบวนการเยี่ยม #ผลลัพธ์ยอด #เดชฤทธิ์กรุ๊ป #10XCONSULTING #LIFEALIGNMENTOR #TEAMBUILDING #พัฒนาองค์กร #COACHING #MENTORING #NLP #SMEs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 476 มุมมอง 31 0 รีวิว