• “ความไม่จริงใจในการใช้ AI เขียนบทความ”

    บทความนี้สะท้อนความรู้สึกของผู้เขียนที่ผิดหวังและไม่พอใจเมื่อพบว่าเนื้อหาที่ตนอ่านนั้นถูกสร้างขึ้นโดย AI โดยไม่มีความพยายามหรือความตั้งใจจากผู้เขียนเลย ผู้เขียนมองว่า การใช้ AI เขียนบทความโดยไม่ใส่ความเป็นตัวตนหรือประสบการณ์จริงของมนุษย์ เป็นการลดคุณค่าของการสื่อสาร และทำให้ผู้อ่านรู้สึกเหมือนถูกหลอก

    คุณค่าของการเขียนด้วยตัวเอง
    การเขียนด้วยตนเองสะท้อนความคิด ประสบการณ์ และอารมณ์ที่แท้จริง
    ความผิดพลาดในการเขียนคือโอกาสในการเรียนรู้และเติบโต
    การกล้าแสดงความไม่สมบูรณ์แบบคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีเสน่ห์

    ความสำคัญของการขอความช่วยเหลือ
    ไม่ควรกลัวที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
    การเรียนรู้ร่วมกันทำให้เกิดความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดี

    ความสัมพันธ์ระหว่างผู้เขียนกับผู้อ่าน
    ผู้อ่านต้องการรู้จัก “ตัวตน” ของผู้เขียน ไม่ใช่แค่เนื้อหาที่ถูกสร้างขึ้นอย่างไร้จิตวิญญาณ
    การเขียนคือการเปิดใจ ไม่ใช่แค่การส่งข้อมูล

    สิ่งที่ไม่ควรทำตาม
    ใช้ AI เขียนบทความทั้งหมดโดยไม่ใส่ความคิดหรือประสบการณ์ของตนเอง
    หลีกเลี่ยงการเขียนเพียงเพื่อ “ให้มีเนื้อหา” โดยไม่สนใจคุณภาพหรือความจริงใจ
    ปิดกั้นตัวเองจากการเรียนรู้ผ่านความผิดพลาด เพราะกลัวจะดูไม่สมบูรณ์

    ข้อคิดจากบทความนี้: AI เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่ไม่ควรใช้แทน “หัวใจ” ของผู้เขียน การเขียนที่ดีไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แต่ต้อง “จริงใจ” และ “มีตัวตน” เพราะนั่นคือสิ่งที่เชื่อมโยงเรากับผู้อ่านได้ดีที่สุด

    https://blog.pabloecortez.com/its-insulting-to-read-your-ai-generated-blog-post/
    📝 “ความไม่จริงใจในการใช้ AI เขียนบทความ” บทความนี้สะท้อนความรู้สึกของผู้เขียนที่ผิดหวังและไม่พอใจเมื่อพบว่าเนื้อหาที่ตนอ่านนั้นถูกสร้างขึ้นโดย AI โดยไม่มีความพยายามหรือความตั้งใจจากผู้เขียนเลย ผู้เขียนมองว่า การใช้ AI เขียนบทความโดยไม่ใส่ความเป็นตัวตนหรือประสบการณ์จริงของมนุษย์ เป็นการลดคุณค่าของการสื่อสาร และทำให้ผู้อ่านรู้สึกเหมือนถูกหลอก ✅ คุณค่าของการเขียนด้วยตัวเอง ➡️ การเขียนด้วยตนเองสะท้อนความคิด ประสบการณ์ และอารมณ์ที่แท้จริง ➡️ ความผิดพลาดในการเขียนคือโอกาสในการเรียนรู้และเติบโต ➡️ การกล้าแสดงความไม่สมบูรณ์แบบคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีเสน่ห์ ✅ ความสำคัญของการขอความช่วยเหลือ ➡️ ไม่ควรกลัวที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น ➡️ การเรียนรู้ร่วมกันทำให้เกิดความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดี ✅ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้เขียนกับผู้อ่าน ➡️ ผู้อ่านต้องการรู้จัก “ตัวตน” ของผู้เขียน ไม่ใช่แค่เนื้อหาที่ถูกสร้างขึ้นอย่างไร้จิตวิญญาณ ➡️ การเขียนคือการเปิดใจ ไม่ใช่แค่การส่งข้อมูล ‼️ สิ่งที่ไม่ควรทำตาม ⛔ ใช้ AI เขียนบทความทั้งหมดโดยไม่ใส่ความคิดหรือประสบการณ์ของตนเอง ⛔ หลีกเลี่ยงการเขียนเพียงเพื่อ “ให้มีเนื้อหา” โดยไม่สนใจคุณภาพหรือความจริงใจ ⛔ ปิดกั้นตัวเองจากการเรียนรู้ผ่านความผิดพลาด เพราะกลัวจะดูไม่สมบูรณ์ 💡 ข้อคิดจากบทความนี้: AI เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่ไม่ควรใช้แทน “หัวใจ” ของผู้เขียน การเขียนที่ดีไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แต่ต้อง “จริงใจ” และ “มีตัวตน” เพราะนั่นคือสิ่งที่เชื่อมโยงเรากับผู้อ่านได้ดีที่สุด https://blog.pabloecortez.com/its-insulting-to-read-your-ai-generated-blog-post/
    BLOG.PABLOECORTEZ.COM
    It's insulting to read your AI-generated blog post
    It seems so rude and careless to make me, a person with thoughts, ideas, humor, contradictions and life experience to read something spit out by the equivale...
    0 Comments 0 Shares 0 Views 0 Reviews
  • Claude for Excel คือฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์และจัดการข้อมูลใน Excel ได้อย่างชาญฉลาด โดยเข้าใจสูตรซับซ้อนและความสัมพันธ์ระหว่างแผ่นงาน

    Claude for Excel เป็นฟีเจอร์ที่อยู่ในช่วงทดลอง (beta) โดย Anthropic ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานกับไฟล์ Excel ได้ง่ายขึ้นผ่านการใช้ AI ที่เข้าใจบริบทของข้อมูลในระดับเซลล์และสูตรที่ซับซ้อน

    Claude for Excel ไม่ใช่แค่ผู้ช่วยในการคำนวณ แต่เป็น “นักวิเคราะห์ข้อมูล” ที่สามารถเข้าใจโครงสร้างของไฟล์ Excel ทั้งสูตรที่ซ้อนกันหลายชั้นและความสัมพันธ์ระหว่างหลายแผ่นงาน เช่น ถ้าคุณมีไฟล์ที่ใช้สูตร VLOOKUP เชื่อมโยงข้อมูลจากหลายแท็บ Claude สามารถอธิบายได้ว่าแต่ละเซลล์ทำงานอย่างไร และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณเปลี่ยนค่าบางจุด

    ฟีเจอร์นี้ยังสามารถ:
    อธิบายสูตรแบบละเอียด พร้อมบอกว่าแต่ละส่วนของสูตรทำหน้าที่อะไร
    ตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูล เช่น “ยอดขายเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมเท่าไหร่?”
    ช่วยปรับสูตรหรือแก้ไขข้อผิดพลาดโดยไม่ต้องเขียนใหม่ทั้งหมด
    อัปเดตสมมติฐานในไฟล์โดยไม่ทำให้สูตรเสีย

    Claude for Excel ยังอยู่ในช่วงทดลองใช้งานแบบจำกัด และเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วม waitlist เพื่อทดลองใช้ในอนาคต

    ความสามารถของ Claude for Excel
    เข้าใจสูตรซับซ้อนและความสัมพันธ์ระหว่างแผ่นงาน
    อธิบายสูตรแบบละเอียดในระดับเซลล์
    ตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูลในไฟล์ Excel
    ปรับสมมติฐานโดยไม่ทำให้สูตรเสีย

    สถานะการใช้งาน
    อยู่ในช่วง beta แบบจำกัด
    เปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วม waitlist

    จุดเด่นที่เหนือกว่าผู้ช่วยทั่วไป
    วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากหลายแท็บ
    ช่วยแก้ไขสูตรและข้อผิดพลาดแบบอัตโนมัติ
    เหมาะกับงานวิเคราะห์ทางการเงินและธุรกิจ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน
    ยังไม่เปิดให้ใช้งานทั่วไป ต้องลงทะเบียน waitlist
    ควรตรวจสอบผลลัพธ์จาก AI ก่อนนำไปใช้จริง
    ไม่ควรใช้กับข้อมูลที่มีความอ่อนไหวโดยไม่มีการเข้ารหัสหรือป้องกัน

    https://www.claude.com/claude-for-excel
    🧠 Claude for Excel คือฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์และจัดการข้อมูลใน Excel ได้อย่างชาญฉลาด โดยเข้าใจสูตรซับซ้อนและความสัมพันธ์ระหว่างแผ่นงาน Claude for Excel เป็นฟีเจอร์ที่อยู่ในช่วงทดลอง (beta) โดย Anthropic ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานกับไฟล์ Excel ได้ง่ายขึ้นผ่านการใช้ AI ที่เข้าใจบริบทของข้อมูลในระดับเซลล์และสูตรที่ซับซ้อน Claude for Excel ไม่ใช่แค่ผู้ช่วยในการคำนวณ แต่เป็น “นักวิเคราะห์ข้อมูล” ที่สามารถเข้าใจโครงสร้างของไฟล์ Excel ทั้งสูตรที่ซ้อนกันหลายชั้นและความสัมพันธ์ระหว่างหลายแผ่นงาน เช่น ถ้าคุณมีไฟล์ที่ใช้สูตร VLOOKUP เชื่อมโยงข้อมูลจากหลายแท็บ Claude สามารถอธิบายได้ว่าแต่ละเซลล์ทำงานอย่างไร และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณเปลี่ยนค่าบางจุด ฟีเจอร์นี้ยังสามารถ: 📐 อธิบายสูตรแบบละเอียด พร้อมบอกว่าแต่ละส่วนของสูตรทำหน้าที่อะไร 📐 ตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูล เช่น “ยอดขายเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมเท่าไหร่?” 📐 ช่วยปรับสูตรหรือแก้ไขข้อผิดพลาดโดยไม่ต้องเขียนใหม่ทั้งหมด 📐 อัปเดตสมมติฐานในไฟล์โดยไม่ทำให้สูตรเสีย Claude for Excel ยังอยู่ในช่วงทดลองใช้งานแบบจำกัด และเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วม waitlist เพื่อทดลองใช้ในอนาคต ✅ ความสามารถของ Claude for Excel ➡️ เข้าใจสูตรซับซ้อนและความสัมพันธ์ระหว่างแผ่นงาน ➡️ อธิบายสูตรแบบละเอียดในระดับเซลล์ ➡️ ตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูลในไฟล์ Excel ➡️ ปรับสมมติฐานโดยไม่ทำให้สูตรเสีย ✅ สถานะการใช้งาน ➡️ อยู่ในช่วง beta แบบจำกัด ➡️ เปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วม waitlist ✅ จุดเด่นที่เหนือกว่าผู้ช่วยทั่วไป ➡️ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากหลายแท็บ ➡️ ช่วยแก้ไขสูตรและข้อผิดพลาดแบบอัตโนมัติ ➡️ เหมาะกับงานวิเคราะห์ทางการเงินและธุรกิจ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน ⛔ ยังไม่เปิดให้ใช้งานทั่วไป ต้องลงทะเบียน waitlist ⛔ ควรตรวจสอบผลลัพธ์จาก AI ก่อนนำไปใช้จริง ⛔ ไม่ควรใช้กับข้อมูลที่มีความอ่อนไหวโดยไม่มีการเข้ารหัสหรือป้องกัน https://www.claude.com/claude-for-excel
    WWW.CLAUDE.COM
    Claude for Excel
    Claude understands your entire workbook—from nested formulas to multiple tab dependencies.
    0 Comments 0 Shares 0 Views 0 Reviews
  • สหรัฐฯคาดหวังว่าไทยจะทำงานร่วมกับกัมพูชา สำหรับเริ่มปล่อยตัวทหาร 18 นายในทันที จากคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาในวันจันทร์(27ต.ค.) หลังจากผู้นำทั้ง 2 ชาติ ลงนามในข้อตกลงหยุดยิงฉบับปรับปรุงเมื่อวันอาทิตย์(28ต.ค.) ต่อหน้าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000102700

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    สหรัฐฯคาดหวังว่าไทยจะทำงานร่วมกับกัมพูชา สำหรับเริ่มปล่อยตัวทหาร 18 นายในทันที จากคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาในวันจันทร์(27ต.ค.) หลังจากผู้นำทั้ง 2 ชาติ ลงนามในข้อตกลงหยุดยิงฉบับปรับปรุงเมื่อวันอาทิตย์(28ต.ค.) ต่อหน้าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000102700 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    0 Comments 0 Shares 5 Views 0 Reviews
  • Apache Tomcat ออกแพตช์ด่วน อุดช่องโหว่ URL Rewrite Bypass เสี่ยงถูกเจาะระบบและฉีดคำสั่งผ่าน Console

    Apache Software Foundation ได้ออกแพตช์ความปลอดภัยสำหรับ Apache Tomcat เพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรง 3 รายการ ได้แก่ CVE-2025-55752, CVE-2025-55754 และ CVE-2025-61795 ซึ่งอาจนำไปสู่การเจาะระบบจากระยะไกล (RCE), การฉีดคำสั่งผ่าน Console และการทำให้ระบบล่มจากการอัปโหลดไฟล์

    ช่องโหว่ที่ร้ายแรงที่สุดคือ CVE-2025-55752 เกิดจากการจัดการ URL rewrite ที่ผิดพลาด โดยระบบจะ normalize URL ก่อน decode ซึ่งเปิดช่องให้แฮกเกอร์สามารถหลบเลี่ยงข้อจำกัดด้านความปลอดภัย เช่น การเข้าถึงโฟลเดอร์ /WEB-INF/ และ /META-INF/ ได้

    หากระบบเปิดให้ใช้ HTTP PUT ร่วมกับ rewrite URI ก็อาจถูกใช้ในการอัปโหลดไฟล์อันตรายเข้าสู่เซิร์ฟเวอร์ และนำไปสู่การเจาะระบบจากระยะไกล (RCE) ได้ แม้ Apache จะระบุว่าการโจมตีลักษณะนี้ “ไม่น่าจะเกิดขึ้น” ในการตั้งค่าทั่วไป แต่ก็ยังถือว่าเป็นความเสี่ยงที่ต้องรีบอุด

    อีกช่องโหว่ CVE-2025-55754 เกิดขึ้นในระบบ Console บน Windows ที่รองรับ ANSI escape sequences ซึ่งแฮกเกอร์สามารถใช้ URL ที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อฉีดคำสั่งลงใน Console และ Clipboard ได้

    ช่องโหว่สุดท้าย CVE-2025-61795 เกิดจากการจัดการไฟล์ multipart upload ที่ผิดพลาด โดยไฟล์ชั่วคราวที่อัปโหลดจะไม่ถูกลบทันทีเมื่อเกิดข้อผิดพลาด ทำให้พื้นที่จัดเก็บอาจเต็มจนระบบล่มได้

    ช่องโหว่ CVE-2025-55752
    เกิดจากการจัดการ URL rewrite ที่ผิดพลาด
    เปิดช่องให้หลบเลี่ยงข้อจำกัดด้านความปลอดภัย
    เสี่ยงถูกอัปโหลดไฟล์อันตรายผ่าน HTTP PUT
    อาจนำไปสู่การเจาะระบบจากระยะไกล (RCE)

    ช่องโหว่ CVE-2025-55754
    Console บน Windows รองรับ ANSI escape sequences
    แฮกเกอร์สามารถฉีดคำสั่งผ่าน URL ที่ออกแบบเฉพาะ
    ส่งผลต่อ Console และ Clipboard ของผู้ดูแลระบบ

    ช่องโหว่ CVE-2025-61795
    เกิดจากการจัดการไฟล์ multipart upload ที่ผิดพลาด
    ไฟล์ชั่วคราวไม่ถูกลบทันทีเมื่อเกิดข้อผิดพลาด
    เสี่ยงทำให้พื้นที่จัดเก็บเต็มและระบบล่ม

    เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ
    Tomcat 9.0.0.M11 ถึง 9.0.108
    Tomcat 10.1.0-M1 ถึง 10.1.44
    Tomcat 11.0.0-M1 ถึง 11.0.10

    เวอร์ชันที่ควรอัปเดต
    Tomcat 9.0.109
    Tomcat 10.1.45
    Tomcat 11.0.11 (หรือใหม่กว่า)

    คำเตือนสำหรับผู้ดูแลระบบ
    ควรอัปเดต Tomcat เป็นเวอร์ชันล่าสุดทันที
    หลีกเลี่ยงการเปิดใช้ HTTP PUT ร่วมกับ rewrite URI
    ตรวจสอบการตั้งค่า Console บน Windows ที่รองรับ ANSI
    ควรมีระบบจัดการไฟล์ชั่วคราวที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

    https://securityonline.info/apache-tomcat-patches-url-rewrite-bypass-cve-2025-55752-risking-rce-and-console-ansi-injection/
    🚨 Apache Tomcat ออกแพตช์ด่วน อุดช่องโหว่ URL Rewrite Bypass เสี่ยงถูกเจาะระบบและฉีดคำสั่งผ่าน Console Apache Software Foundation ได้ออกแพตช์ความปลอดภัยสำหรับ Apache Tomcat เพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรง 3 รายการ ได้แก่ CVE-2025-55752, CVE-2025-55754 และ CVE-2025-61795 ซึ่งอาจนำไปสู่การเจาะระบบจากระยะไกล (RCE), การฉีดคำสั่งผ่าน Console และการทำให้ระบบล่มจากการอัปโหลดไฟล์ ช่องโหว่ที่ร้ายแรงที่สุดคือ CVE-2025-55752 เกิดจากการจัดการ URL rewrite ที่ผิดพลาด โดยระบบจะ normalize URL ก่อน decode ซึ่งเปิดช่องให้แฮกเกอร์สามารถหลบเลี่ยงข้อจำกัดด้านความปลอดภัย เช่น การเข้าถึงโฟลเดอร์ /WEB-INF/ และ /META-INF/ ได้ หากระบบเปิดให้ใช้ HTTP PUT ร่วมกับ rewrite URI ก็อาจถูกใช้ในการอัปโหลดไฟล์อันตรายเข้าสู่เซิร์ฟเวอร์ และนำไปสู่การเจาะระบบจากระยะไกล (RCE) ได้ แม้ Apache จะระบุว่าการโจมตีลักษณะนี้ “ไม่น่าจะเกิดขึ้น” ในการตั้งค่าทั่วไป แต่ก็ยังถือว่าเป็นความเสี่ยงที่ต้องรีบอุด อีกช่องโหว่ CVE-2025-55754 เกิดขึ้นในระบบ Console บน Windows ที่รองรับ ANSI escape sequences ซึ่งแฮกเกอร์สามารถใช้ URL ที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อฉีดคำสั่งลงใน Console และ Clipboard ได้ ช่องโหว่สุดท้าย CVE-2025-61795 เกิดจากการจัดการไฟล์ multipart upload ที่ผิดพลาด โดยไฟล์ชั่วคราวที่อัปโหลดจะไม่ถูกลบทันทีเมื่อเกิดข้อผิดพลาด ทำให้พื้นที่จัดเก็บอาจเต็มจนระบบล่มได้ ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-55752 ➡️ เกิดจากการจัดการ URL rewrite ที่ผิดพลาด ➡️ เปิดช่องให้หลบเลี่ยงข้อจำกัดด้านความปลอดภัย ➡️ เสี่ยงถูกอัปโหลดไฟล์อันตรายผ่าน HTTP PUT ➡️ อาจนำไปสู่การเจาะระบบจากระยะไกล (RCE) ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-55754 ➡️ Console บน Windows รองรับ ANSI escape sequences ➡️ แฮกเกอร์สามารถฉีดคำสั่งผ่าน URL ที่ออกแบบเฉพาะ ➡️ ส่งผลต่อ Console และ Clipboard ของผู้ดูแลระบบ ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-61795 ➡️ เกิดจากการจัดการไฟล์ multipart upload ที่ผิดพลาด ➡️ ไฟล์ชั่วคราวไม่ถูกลบทันทีเมื่อเกิดข้อผิดพลาด ➡️ เสี่ยงทำให้พื้นที่จัดเก็บเต็มและระบบล่ม ✅ เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ ➡️ Tomcat 9.0.0.M11 ถึง 9.0.108 ➡️ Tomcat 10.1.0-M1 ถึง 10.1.44 ➡️ Tomcat 11.0.0-M1 ถึง 11.0.10 ✅ เวอร์ชันที่ควรอัปเดต ➡️ Tomcat 9.0.109 ➡️ Tomcat 10.1.45 ➡️ Tomcat 11.0.11 (หรือใหม่กว่า) ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ดูแลระบบ ⛔ ควรอัปเดต Tomcat เป็นเวอร์ชันล่าสุดทันที ⛔ หลีกเลี่ยงการเปิดใช้ HTTP PUT ร่วมกับ rewrite URI ⛔ ตรวจสอบการตั้งค่า Console บน Windows ที่รองรับ ANSI ⛔ ควรมีระบบจัดการไฟล์ชั่วคราวที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ https://securityonline.info/apache-tomcat-patches-url-rewrite-bypass-cve-2025-55752-risking-rce-and-console-ansi-injection/
    SECURITYONLINE.INFO
    Apache Tomcat Patches URL Rewrite Bypass (CVE-2025-55752) Risking RCE and Console ANSI Injection
    Apache patched three flaws in Tomcat 9/10/11: CVE-2025-55752 risks RCE by bypassing security constraints. CVE-2025-55754 allows ANSI escape sequence injection in Windows logs.
    0 Comments 0 Shares 0 Views 0 Reviews
  • Google Gemini Canvas เพิ่มฟีเจอร์สร้างสไลด์อัตโนมัติ — แค่พิมพ์หรืออัปโหลดไฟล์ ก็ได้พรีเซนต์พร้อมใช้ทันที

    Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Gemini Canvas ที่สามารถสร้างสไลด์พรีเซนเทชันได้อัตโนมัติจากข้อความหรือไฟล์ที่ผู้ใช้ให้มา โดยไม่ต้องใช้ PowerPoint หรือ Google Slides ตั้งแต่ต้นอีกต่อไป ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อช่วยนักเรียนและมืออาชีพให้ทำงานนำเสนอได้เร็วขึ้นและดูดีขึ้น

    Gemini Canvas เป็นพื้นที่ทำงานแบบอินเทอร์แอคทีฟที่เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม 2025 โดยให้ผู้ใช้สามารถวางข้อความยาวหรือโค้ดเพื่อให้ Gemini ช่วยแก้ไขหรือปรับแต่งได้ทันที ล่าสุด Google เพิ่มฟีเจอร์ “Instant Slides” ที่ให้ผู้ใช้สร้างสไลด์พรีเซนต์ได้ง่าย ๆ ด้วย 2 วิธี:

    1️⃣ พิมพ์คำสั่ง เช่น “สร้างพรีเซนต์เรื่องการท่องเที่ยวในอังกฤษ” แล้ว Gemini จะสร้างสไลด์พร้อมภาพและธีมให้ทันที 2️⃣ อัปโหลดไฟล์ เช่น เอกสาร Word, Excel หรือ PDF แล้วให้ Gemini สร้างสไลด์จากเนื้อหาในไฟล์นั้น

    หลังจากสร้างสไลด์แล้ว ผู้ใช้สามารถส่งออกไปยัง Google Slides เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมหรือแชร์กับทีมได้ทันที

    ฟีเจอร์นี้จะทยอยเปิดให้ใช้งานในบัญชี Google ส่วนตัวและ Google Workspace ทั้งภาคธุรกิจและการศึกษา เริ่มตั้งแต่วันนี้

    นอกจากนี้ Gemini ยังอัปเดตฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น:

    Veo 3.1 สำหรับสร้างวิดีโอคุณภาพสูง
    Gemini 2.5 Flash ที่ให้คำแนะนำแบบละเอียด
    การแสดงผล LaTeX ที่ดีขึ้น
    Gemini บน Google TV ที่ช่วยค้นหารายการด้วยเสียง

    ฟีเจอร์ Instant Slides ใน Gemini Canvas
    สร้างสไลด์จากข้อความหรือไฟล์ที่อัปโหลด
    มีภาพประกอบและธีมอัตโนมัติ
    ส่งออกไปยัง Google Slides ได้ทันที

    วิธีใช้งาน
    พิมพ์คำสั่ง เช่น “สร้างพรีเซนต์เรื่อง…”
    อัปโหลดไฟล์เอกสารหรือข้อมูลเพื่อให้ Gemini สร้างสไลด์

    การเปิดใช้งาน
    เริ่มทยอยเปิดให้ใช้ในบัญชี Google ส่วนตัวและ Workspace
    รองรับทั้งภาคธุรกิจและการศึกษา

    ฟีเจอร์อื่นที่อัปเดตใน Gemini
    Veo 3.1 สำหรับสร้างวิดีโอคุณภาพสูง
    Gemini 2.5 Flash ให้คำแนะนำแบบละเอียด
    รองรับ LaTeX และ PDF ที่สวยงาม
    Gemini บน Google TV ช่วยค้นหารายการด้วยเสียง

    https://securityonline.info/instant-slides-google-gemini-canvas-can-now-auto-generate-presentations/
    🖼️ Google Gemini Canvas เพิ่มฟีเจอร์สร้างสไลด์อัตโนมัติ — แค่พิมพ์หรืออัปโหลดไฟล์ ก็ได้พรีเซนต์พร้อมใช้ทันที Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Gemini Canvas ที่สามารถสร้างสไลด์พรีเซนเทชันได้อัตโนมัติจากข้อความหรือไฟล์ที่ผู้ใช้ให้มา โดยไม่ต้องใช้ PowerPoint หรือ Google Slides ตั้งแต่ต้นอีกต่อไป ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อช่วยนักเรียนและมืออาชีพให้ทำงานนำเสนอได้เร็วขึ้นและดูดีขึ้น Gemini Canvas เป็นพื้นที่ทำงานแบบอินเทอร์แอคทีฟที่เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม 2025 โดยให้ผู้ใช้สามารถวางข้อความยาวหรือโค้ดเพื่อให้ Gemini ช่วยแก้ไขหรือปรับแต่งได้ทันที ล่าสุด Google เพิ่มฟีเจอร์ “Instant Slides” ที่ให้ผู้ใช้สร้างสไลด์พรีเซนต์ได้ง่าย ๆ ด้วย 2 วิธี: 1️⃣ พิมพ์คำสั่ง เช่น “สร้างพรีเซนต์เรื่องการท่องเที่ยวในอังกฤษ” แล้ว Gemini จะสร้างสไลด์พร้อมภาพและธีมให้ทันที 2️⃣ อัปโหลดไฟล์ เช่น เอกสาร Word, Excel หรือ PDF แล้วให้ Gemini สร้างสไลด์จากเนื้อหาในไฟล์นั้น หลังจากสร้างสไลด์แล้ว ผู้ใช้สามารถส่งออกไปยัง Google Slides เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมหรือแชร์กับทีมได้ทันที ฟีเจอร์นี้จะทยอยเปิดให้ใช้งานในบัญชี Google ส่วนตัวและ Google Workspace ทั้งภาคธุรกิจและการศึกษา เริ่มตั้งแต่วันนี้ นอกจากนี้ Gemini ยังอัปเดตฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น: 🎗️ Veo 3.1 สำหรับสร้างวิดีโอคุณภาพสูง 🎗️ Gemini 2.5 Flash ที่ให้คำแนะนำแบบละเอียด 🎗️ การแสดงผล LaTeX ที่ดีขึ้น 🎗️ Gemini บน Google TV ที่ช่วยค้นหารายการด้วยเสียง ✅ ฟีเจอร์ Instant Slides ใน Gemini Canvas ➡️ สร้างสไลด์จากข้อความหรือไฟล์ที่อัปโหลด ➡️ มีภาพประกอบและธีมอัตโนมัติ ➡️ ส่งออกไปยัง Google Slides ได้ทันที ✅ วิธีใช้งาน ➡️ พิมพ์คำสั่ง เช่น “สร้างพรีเซนต์เรื่อง…” ➡️ อัปโหลดไฟล์เอกสารหรือข้อมูลเพื่อให้ Gemini สร้างสไลด์ ✅ การเปิดใช้งาน ➡️ เริ่มทยอยเปิดให้ใช้ในบัญชี Google ส่วนตัวและ Workspace ➡️ รองรับทั้งภาคธุรกิจและการศึกษา ✅ ฟีเจอร์อื่นที่อัปเดตใน Gemini ➡️ Veo 3.1 สำหรับสร้างวิดีโอคุณภาพสูง ➡️ Gemini 2.5 Flash ให้คำแนะนำแบบละเอียด ➡️ รองรับ LaTeX และ PDF ที่สวยงาม ➡️ Gemini บน Google TV ช่วยค้นหารายการด้วยเสียง https://securityonline.info/instant-slides-google-gemini-canvas-can-now-auto-generate-presentations/
    SECURITYONLINE.INFO
    Instant Slides: Google Gemini Canvas Can Now Auto-Generate Presentations
    Google Gemini's Canvas workspace now uses AI to automatically generate presentation slides from a prompt or uploaded documents, ready for export to Google Slides.
    0 Comments 0 Shares 0 Views 0 Reviews
  • รมว.ต่างประเทศ แจง MOU "แร่ธาตุสำคัญ" ไทย-สหรัฐฯ ไม่มีผลผูกมัดทางกฎหมาย เน้นถ่ายทอดเทคโนโลยี
    https://www.thai-tai.tv/news/22076/
    .
    #ไทยไท #สีหศักดิ์พวงเกตุแก้ว #แร่ธาตุสำคัญ #MOUไทยสหรัฐฯ #ห่วงโซ่อุปทาน #อัตราภาษีนำเข้า
    รมว.ต่างประเทศ แจง MOU "แร่ธาตุสำคัญ" ไทย-สหรัฐฯ ไม่มีผลผูกมัดทางกฎหมาย เน้นถ่ายทอดเทคโนโลยี https://www.thai-tai.tv/news/22076/ . #ไทยไท #สีหศักดิ์พวงเกตุแก้ว #แร่ธาตุสำคัญ #MOUไทยสหรัฐฯ #ห่วงโซ่อุปทาน #อัตราภาษีนำเข้า
    0 Comments 0 Shares 0 Views 0 Reviews
  • OpenAI จับมือ Juilliard สร้างเครื่องมือ AI แต่งเพลงจากข้อความ — เตรียมพลิกโฉมวงการดนตรี

    OpenAI กำลังพัฒนาเครื่องมือสร้างเพลงด้วย AI ที่สามารถแต่งเพลงจากข้อความหรือเสียง โดยร่วมมือกับนักเรียนจาก Juilliard School เพื่อฝึกโมเดลด้วยข้อมูลระดับมืออาชีพ เป้าหมายคือการสร้างเพลงคุณภาพสูงจากคำอธิบายง่าย ๆ เช่น “อยากได้เพลงเศร้าแบบเปียโน” หรือ “จังหวะสนุกสไตล์เร็กเก้”

    OpenAI เคยทดลองสร้างเพลงด้วย AI มาแล้วในโปรเจกต์ MuseNet และ Jukebox แต่ครั้งนี้กลับมาใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำกว่าเดิม โดยใช้โมเดลมัลติโหมดที่สามารถรับคำสั่งเป็นข้อความหรือเสียง แล้วสร้างเพลงที่ตรงกับอารมณ์และสไตล์ที่ผู้ใช้ต้องการ

    เพื่อให้โมเดลเรียนรู้ได้อย่างแม่นยำ OpenAI ได้ร่วมมือกับนักเรียนจาก Juilliard ซึ่งเป็นโรงเรียนดนตรีระดับโลก โดยให้นักเรียนช่วย “annotate” หรือใส่คำอธิบายให้กับโน้ตเพลง เพื่อให้ AI เข้าใจโครงสร้างดนตรี เครื่องดนตรี และอารมณ์ของแต่ละท่อน

    เครื่องมือนี้อาจถูกนำไปใช้ในหลายรูปแบบ เช่น:
    สร้างเพลงประกอบวิดีโอ YouTube หรือโฆษณา
    เติมเสียงดนตรีให้กับเสียงร้องที่มีอยู่แล้ว
    สร้างเพลงประกอบเกมหรือพอดแคสต์แบบอัตโนมัติ

    แม้ยังไม่มีวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าเครื่องมือนี้อาจถูกผนวกเข้ากับ ChatGPT หรือ Sora ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสร้างวิดีโอของ OpenAI

    จุดเด่นของเครื่องมือ AI สร้างเพลง
    สร้างเพลงจากข้อความหรือเสียงได้โดยตรง
    รองรับการกำหนดอารมณ์ จังหวะ และสไตล์
    ใช้ข้อมูลจาก Juilliard เพื่อฝึกโมเดลให้เข้าใจดนตรีระดับมืออาชีพ

    ความร่วมมือกับ Juilliard
    นักเรียนช่วยใส่คำอธิบายให้โน้ตเพลงเพื่อฝึก AI
    เพิ่มความแม่นยำในการเข้าใจโครงสร้างและอารมณ์ของเพลง
    ผสานความรู้ดนตรีคลาสสิกกับเทคโนโลยีล้ำสมัย

    การใช้งานที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
    สร้างเพลงประกอบวิดีโอ โฆษณา หรือเกม
    เติมเสียงดนตรีให้กับเสียงร้องที่มีอยู่
    สร้างเพลงแบบอัตโนมัติสำหรับครีเอเตอร์อิสระ

    คำเตือนเกี่ยวกับ AI ดนตรี
    อาจเกิดปัญหาลิขสิทธิ์หาก AI เลียนแบบเพลงที่มีอยู่
    ศิลปินบางคนกังวลว่า AI อาจลดคุณค่าของงานสร้างสรรค์
    มีกรณีที่ผู้ไม่หวังดีใช้ AI สร้างเพลงปลอมเพื่อหารายได้จากสตรีมมิ่ง

    https://securityonline.info/openai-is-developing-an-ai-music-generator-with-help-from-juilliard/
    🎼 OpenAI จับมือ Juilliard สร้างเครื่องมือ AI แต่งเพลงจากข้อความ — เตรียมพลิกโฉมวงการดนตรี OpenAI กำลังพัฒนาเครื่องมือสร้างเพลงด้วย AI ที่สามารถแต่งเพลงจากข้อความหรือเสียง โดยร่วมมือกับนักเรียนจาก Juilliard School เพื่อฝึกโมเดลด้วยข้อมูลระดับมืออาชีพ เป้าหมายคือการสร้างเพลงคุณภาพสูงจากคำอธิบายง่าย ๆ เช่น “อยากได้เพลงเศร้าแบบเปียโน” หรือ “จังหวะสนุกสไตล์เร็กเก้” OpenAI เคยทดลองสร้างเพลงด้วย AI มาแล้วในโปรเจกต์ MuseNet และ Jukebox แต่ครั้งนี้กลับมาใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำกว่าเดิม โดยใช้โมเดลมัลติโหมดที่สามารถรับคำสั่งเป็นข้อความหรือเสียง แล้วสร้างเพลงที่ตรงกับอารมณ์และสไตล์ที่ผู้ใช้ต้องการ เพื่อให้โมเดลเรียนรู้ได้อย่างแม่นยำ OpenAI ได้ร่วมมือกับนักเรียนจาก Juilliard ซึ่งเป็นโรงเรียนดนตรีระดับโลก โดยให้นักเรียนช่วย “annotate” หรือใส่คำอธิบายให้กับโน้ตเพลง เพื่อให้ AI เข้าใจโครงสร้างดนตรี เครื่องดนตรี และอารมณ์ของแต่ละท่อน เครื่องมือนี้อาจถูกนำไปใช้ในหลายรูปแบบ เช่น: 🎵 สร้างเพลงประกอบวิดีโอ YouTube หรือโฆษณา 🎵 เติมเสียงดนตรีให้กับเสียงร้องที่มีอยู่แล้ว 🎵 สร้างเพลงประกอบเกมหรือพอดแคสต์แบบอัตโนมัติ แม้ยังไม่มีวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าเครื่องมือนี้อาจถูกผนวกเข้ากับ ChatGPT หรือ Sora ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสร้างวิดีโอของ OpenAI ✅ จุดเด่นของเครื่องมือ AI สร้างเพลง ➡️ สร้างเพลงจากข้อความหรือเสียงได้โดยตรง ➡️ รองรับการกำหนดอารมณ์ จังหวะ และสไตล์ ➡️ ใช้ข้อมูลจาก Juilliard เพื่อฝึกโมเดลให้เข้าใจดนตรีระดับมืออาชีพ ✅ ความร่วมมือกับ Juilliard ➡️ นักเรียนช่วยใส่คำอธิบายให้โน้ตเพลงเพื่อฝึก AI ➡️ เพิ่มความแม่นยำในการเข้าใจโครงสร้างและอารมณ์ของเพลง ➡️ ผสานความรู้ดนตรีคลาสสิกกับเทคโนโลยีล้ำสมัย ✅ การใช้งานที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ➡️ สร้างเพลงประกอบวิดีโอ โฆษณา หรือเกม ➡️ เติมเสียงดนตรีให้กับเสียงร้องที่มีอยู่ ➡️ สร้างเพลงแบบอัตโนมัติสำหรับครีเอเตอร์อิสระ ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับ AI ดนตรี ⛔ อาจเกิดปัญหาลิขสิทธิ์หาก AI เลียนแบบเพลงที่มีอยู่ ⛔ ศิลปินบางคนกังวลว่า AI อาจลดคุณค่าของงานสร้างสรรค์ ⛔ มีกรณีที่ผู้ไม่หวังดีใช้ AI สร้างเพลงปลอมเพื่อหารายได้จากสตรีมมิ่ง https://securityonline.info/openai-is-developing-an-ai-music-generator-with-help-from-juilliard/
    SECURITYONLINE.INFO
    OpenAI is Developing an AI Music Generator with Help from Juilliard
    OpenAI is reportedly developing a text/audio-to-music AI generator and is collaborating with students from The Juilliard School to train its models.
    0 Comments 0 Shares 0 Views 0 Reviews
  • แก๊งคอลตั้งฐานในไทย เปิดพฤติกรรมต้องสงสัย : [NEWS UPDATE]

    พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยพฤติกรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พบแฝงตัวตั้งฐานปฏิบัติการในที่พักอาศัย เช่น คอนโดมิเนียม หมู่บ้านจัดสรร หรือบ้านเช่า เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ ใช้โทรศัพท์ สื่อสังคมออนไลน์หลอกเหยื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย 4 พฤติกรรมต้องสงสัย ได้แก่ 1.ชาวต่างชาติอยู่รวมกัน ไม่ปรากฏอาชีพชัดเจน มักมาเป็นกลุ่ม เช่าพักระยะสั้น ไม่สุงสิงกับคนในชุมชน เข้า-ออกไม่เป็นเวลา 2.มีเสียงพูดโทรศัพท์ภาษาต่างประเทศตลอดเวลา ลักษณะเหมือนอ่านสคริปต์ซ้ำๆ หลอกเหยื่อ 3.ปิดม่านตลอดเวลา ไม่เปิดไฟตอนกลางวัน แต่เปิดไฟตลอดคืน ตามเวลาประเทศต้นทางของเหยื่อ และ 4.มีอุปกรณ์สายไฟ เครื่องมือสื่อสารจำนวนมาก มีคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ เราเตอร์หลายเครื่อง และมักมีคนมาซ่อมหรือขนของเข้าออกบ่อยครั้ง

    -แร่แรร์เอิร์ธกระจายทั่วไทย

    -ซัดเพื่อไทยเพิ่งลุกจากโคลน

    -เก็บภาษีวืดเป้า 6.4 หมื่นล้าน

    -รับมืออากาศแปรปรวน
    แก๊งคอลตั้งฐานในไทย เปิดพฤติกรรมต้องสงสัย : [NEWS UPDATE] พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยพฤติกรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พบแฝงตัวตั้งฐานปฏิบัติการในที่พักอาศัย เช่น คอนโดมิเนียม หมู่บ้านจัดสรร หรือบ้านเช่า เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ ใช้โทรศัพท์ สื่อสังคมออนไลน์หลอกเหยื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย 4 พฤติกรรมต้องสงสัย ได้แก่ 1.ชาวต่างชาติอยู่รวมกัน ไม่ปรากฏอาชีพชัดเจน มักมาเป็นกลุ่ม เช่าพักระยะสั้น ไม่สุงสิงกับคนในชุมชน เข้า-ออกไม่เป็นเวลา 2.มีเสียงพูดโทรศัพท์ภาษาต่างประเทศตลอดเวลา ลักษณะเหมือนอ่านสคริปต์ซ้ำๆ หลอกเหยื่อ 3.ปิดม่านตลอดเวลา ไม่เปิดไฟตอนกลางวัน แต่เปิดไฟตลอดคืน ตามเวลาประเทศต้นทางของเหยื่อ และ 4.มีอุปกรณ์สายไฟ เครื่องมือสื่อสารจำนวนมาก มีคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ เราเตอร์หลายเครื่อง และมักมีคนมาซ่อมหรือขนของเข้าออกบ่อยครั้ง -แร่แรร์เอิร์ธกระจายทั่วไทย -ซัดเพื่อไทยเพิ่งลุกจากโคลน -เก็บภาษีวืดเป้า 6.4 หมื่นล้าน -รับมืออากาศแปรปรวน
    0 Comments 0 Shares 7 Views 0 0 Reviews
  • iPad Pro รุ่นใหม่จะมาพร้อมระบบระบายความร้อน Vapor Chamber และชิป M6 เปิดตัวปี 2027

    Apple เตรียมเปิดตัว iPad Pro รุ่นถัดไปที่ใช้ชิป M6 พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber ซึ่งจะช่วยลดปัญหาเครื่องร้อนและประสิทธิภาพตกเมื่อใช้งานหนัก เช่น การตัดต่อวิดีโอหรือเรนเดอร์ 3D โดยคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2027

    Apple กำลังพัฒนา iPad Pro รุ่นใหม่ที่ใช้ชิป M6 ซึ่งจะมาพร้อมเทคโนโลยีระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber (VC) ที่เคยใช้ใน iPhone 17 Pro โดยระบบนี้จะช่วยลดความร้อนสะสมและป้องกันการลดประสิทธิภาพเมื่อใช้งานหนัก

    การใช้ Vapor Chamber ถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะ iPad Pro เริ่มถูกใช้ในงานระดับมืออาชีพมากขึ้น เช่น ตัดต่อวิดีโอ 4K, สร้างโมเดล 3D หรือทำงานกราฟิก ซึ่งต้องการความเสถียรและประสิทธิภาพสูงอย่างต่อเนื่อง

    หากการใช้งาน VC ใน iPhone และ iPad Pro ได้ผลดี Apple อาจขยายไปยังอุปกรณ์อื่นที่ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ passive เช่น MacBook Air ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีพัดลม

    Apple ยังคงรักษารอบการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไว้ที่ประมาณ 18 เดือน ทำให้ iPad Pro รุ่นใหม่ที่ใช้ชิป M6 และระบบ VC น่าจะเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2027

    iPad Pro รุ่นใหม่
    ใช้ชิป M6 ที่มีประสิทธิภาพสูง
    มาพร้อมระบบระบายความร้อน Vapor Chamber
    ลดปัญหาเครื่องร้อนและประสิทธิภาพตก

    ประโยชน์ของ Vapor Chamber
    ป้องกัน thermal throttling เมื่อใช้งานหนัก
    เหมาะกับงานระดับมืออาชีพ เช่น ตัดต่อวิดีโอและเรนเดอร์ 3D
    เพิ่มความเสถียรในการทำงานต่อเนื่อง

    แนวโน้มการขยายเทคโนโลยี
    หากได้ผลดี อาจนำไปใช้กับ MacBook Air และอุปกรณ์อื่น
    รองรับการใช้งานที่ต้องการระบบ passive cooling

    กำหนดการเปิดตัว
    คาดว่าจะเปิดตัวในฤดูใบไม้ผลิปี 2027
    อยู่ในรอบการรีเฟรชผลิตภัณฑ์ทุก 18 เดือน

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้งานระดับมืออาชีพ
    หากใช้งานหนักโดยไม่มีระบบระบายความร้อนที่ดี อาจทำให้เครื่องร้อนและช้าลง
    อุปกรณ์ที่ไม่มีพัดลมอาจไม่เหมาะกับงานที่ใช้ทรัพยากรสูงต่อเนื่อง

    https://securityonline.info/next-gen-power-ipad-pro-gets-vapor-chamber-cooling-for-m6-chip/
    📱 iPad Pro รุ่นใหม่จะมาพร้อมระบบระบายความร้อน Vapor Chamber และชิป M6 เปิดตัวปี 2027 Apple เตรียมเปิดตัว iPad Pro รุ่นถัดไปที่ใช้ชิป M6 พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber ซึ่งจะช่วยลดปัญหาเครื่องร้อนและประสิทธิภาพตกเมื่อใช้งานหนัก เช่น การตัดต่อวิดีโอหรือเรนเดอร์ 3D โดยคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2027 Apple กำลังพัฒนา iPad Pro รุ่นใหม่ที่ใช้ชิป M6 ซึ่งจะมาพร้อมเทคโนโลยีระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber (VC) ที่เคยใช้ใน iPhone 17 Pro โดยระบบนี้จะช่วยลดความร้อนสะสมและป้องกันการลดประสิทธิภาพเมื่อใช้งานหนัก การใช้ Vapor Chamber ถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะ iPad Pro เริ่มถูกใช้ในงานระดับมืออาชีพมากขึ้น เช่น ตัดต่อวิดีโอ 4K, สร้างโมเดล 3D หรือทำงานกราฟิก ซึ่งต้องการความเสถียรและประสิทธิภาพสูงอย่างต่อเนื่อง หากการใช้งาน VC ใน iPhone และ iPad Pro ได้ผลดี Apple อาจขยายไปยังอุปกรณ์อื่นที่ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ passive เช่น MacBook Air ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีพัดลม Apple ยังคงรักษารอบการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไว้ที่ประมาณ 18 เดือน ทำให้ iPad Pro รุ่นใหม่ที่ใช้ชิป M6 และระบบ VC น่าจะเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2027 ✅ iPad Pro รุ่นใหม่ ➡️ ใช้ชิป M6 ที่มีประสิทธิภาพสูง ➡️ มาพร้อมระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ➡️ ลดปัญหาเครื่องร้อนและประสิทธิภาพตก ✅ ประโยชน์ของ Vapor Chamber ➡️ ป้องกัน thermal throttling เมื่อใช้งานหนัก ➡️ เหมาะกับงานระดับมืออาชีพ เช่น ตัดต่อวิดีโอและเรนเดอร์ 3D ➡️ เพิ่มความเสถียรในการทำงานต่อเนื่อง ✅ แนวโน้มการขยายเทคโนโลยี ➡️ หากได้ผลดี อาจนำไปใช้กับ MacBook Air และอุปกรณ์อื่น ➡️ รองรับการใช้งานที่ต้องการระบบ passive cooling ✅ กำหนดการเปิดตัว ➡️ คาดว่าจะเปิดตัวในฤดูใบไม้ผลิปี 2027 ➡️ อยู่ในรอบการรีเฟรชผลิตภัณฑ์ทุก 18 เดือน ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้งานระดับมืออาชีพ ⛔ หากใช้งานหนักโดยไม่มีระบบระบายความร้อนที่ดี อาจทำให้เครื่องร้อนและช้าลง ⛔ อุปกรณ์ที่ไม่มีพัดลมอาจไม่เหมาะกับงานที่ใช้ทรัพยากรสูงต่อเนื่อง https://securityonline.info/next-gen-power-ipad-pro-gets-vapor-chamber-cooling-for-m6-chip/
    SECURITYONLINE.INFO
    Next-Gen Power: iPad Pro Gets Vapor Chamber Cooling for M6 Chip
    Apple plans to add vapor chamber cooling to the M6-powered iPad Pro (expected 2027) to prevent thermal throttling during intensive professional workloads.
    0 Comments 0 Shares 2 Views 0 Reviews
  • “Caminho” มัลแวร์สายลับจากบราซิล ใช้ภาพจาก Archive.org ซ่อนโค้ดอันตรายด้วยเทคนิคลับ LSB Steganography

    นักวิจัยจาก Arctic Wolf Labs เปิดโปงแคมเปญมัลแวร์ใหม่ชื่อ “Caminho” ซึ่งเป็นบริการ Loader-as-a-Service (LaaS) ที่มีต้นกำเนิดจากบราซิล โดยใช้เทคนิคซ่อนโค้ดอันตรายไว้ในภาพจากเว็บไซต์ Archive.org ผ่านวิธีการที่เรียกว่า LSB Steganography ซึ่งมักพบในงานจารกรรมมากกว่าการโจมตีเพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน

    Caminho เป็นมัลแวร์ที่ถูกออกแบบมาให้ทำงานแบบ “ไร้ร่องรอย” โดยไม่เขียนไฟล์ลงดิสก์ แต่โหลดโค้ดอันตรายเข้าสู่หน่วยความจำโดยตรง ทำให้หลบเลี่ยงการตรวจจับจากแอนตี้ไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    วิธีการทำงานของ Caminho: 1️⃣ เริ่มจากอีเมลฟิชชิ่งที่แนบไฟล์ JavaScript หรือ VBScript ในรูปแบบ ZIP/RAR 2️⃣ เมื่อเปิดไฟล์ สคริปต์จะเรียกใช้ PowerShell เพื่อดึงภาพจาก Archive.org 3️⃣ ภาพเหล่านั้นมีโค้ด .NET ที่ถูกซ่อนไว้ในบิตต่ำสุดของพิกเซล (LSB) 4️⃣ PowerShell จะถอดรหัสโค้ดและโหลดเข้าสู่หน่วยความจำ 5️⃣ จากนั้นมัลแวร์จะถูกฉีดเข้าไปในโปรเซส calc.exe เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ

    มัลแวร์นี้ยังมีระบบตั้งเวลาให้กลับมาทำงานซ้ำ และมีฟีเจอร์ตรวจจับ sandbox, VM และเครื่องมือ debug เพื่อหลบเลี่ยงการวิเคราะห์จากนักวิจัย

    Arctic Wolf พบว่า Caminho ถูกใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่พูดภาษาโปรตุเกส และมีเป้าหมายในหลายประเทศ เช่น บราซิล แอฟริกาใต้ ยูเครน และโปแลนด์ โดยมีการให้บริการแบบ “เช่าใช้” ซึ่งลูกค้าสามารถเลือก payload ที่ต้องการได้ เช่น REMCOS RAT, XWorm หรือ Katz Stealer

    ลักษณะของ Caminho Loader
    เป็นบริการ Loader-as-a-Service จากบราซิล
    ใช้เทคนิค LSB Steganography ซ่อนโค้ดในภาพ
    โหลดโค้ดเข้าสู่หน่วยความจำโดยไม่เขียนไฟล์ลงดิสก์
    ฉีดโค้ดเข้าสู่โปรเซส calc.exe เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ

    วิธีการแพร่กระจาย
    เริ่มจากอีเมลฟิชชิ่งที่แนบไฟล์สคริปต์
    ใช้ PowerShell ดึงภาพจาก Archive.org
    ถอดรหัส payload จากภาพแล้วโหลดเข้าสู่ระบบ

    ความสามารถพิเศษของมัลแวร์
    ตรวจจับ sandbox, VM และเครื่องมือ debug
    ตั้งเวลาให้กลับมาทำงานซ้ำผ่าน scheduled tasks
    รองรับการโหลด payload หลายชนิดตามความต้องการของลูกค้า

    การใช้บริการแบบเช่า
    ลูกค้าสามารถเลือก payload ที่ต้องการ
    ใช้ภาพเดียวกันในหลายแคมเปญเพื่อประหยัดต้นทุน
    ใช้บริการเว็บที่น่าเชื่อถือ เช่น Archive.org, paste.ee เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อก

    คำเตือนเกี่ยวกับภัยคุกคามจาก Caminho
    อีเมลฟิชชิ่งที่แนบไฟล์ ZIP/RAR อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการติดมัลแวร์
    ภาพจากเว็บที่ดูปลอดภัยอาจมีโค้ดอันตรายซ่อนอยู่
    การโหลดโค้ดเข้าสู่หน่วยความจำโดยตรงทำให้ตรวจจับได้ยาก

    https://securityonline.info/caminho-loader-as-a-service-uses-lsb-steganography-to-hide-net-payloads-in-archive-org-images/
    🕵️‍♂️ “Caminho” มัลแวร์สายลับจากบราซิล ใช้ภาพจาก Archive.org ซ่อนโค้ดอันตรายด้วยเทคนิคลับ LSB Steganography นักวิจัยจาก Arctic Wolf Labs เปิดโปงแคมเปญมัลแวร์ใหม่ชื่อ “Caminho” ซึ่งเป็นบริการ Loader-as-a-Service (LaaS) ที่มีต้นกำเนิดจากบราซิล โดยใช้เทคนิคซ่อนโค้ดอันตรายไว้ในภาพจากเว็บไซต์ Archive.org ผ่านวิธีการที่เรียกว่า LSB Steganography ซึ่งมักพบในงานจารกรรมมากกว่าการโจมตีเพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน Caminho เป็นมัลแวร์ที่ถูกออกแบบมาให้ทำงานแบบ “ไร้ร่องรอย” โดยไม่เขียนไฟล์ลงดิสก์ แต่โหลดโค้ดอันตรายเข้าสู่หน่วยความจำโดยตรง ทำให้หลบเลี่ยงการตรวจจับจากแอนตี้ไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🔍 วิธีการทำงานของ Caminho: 1️⃣ เริ่มจากอีเมลฟิชชิ่งที่แนบไฟล์ JavaScript หรือ VBScript ในรูปแบบ ZIP/RAR 2️⃣ เมื่อเปิดไฟล์ สคริปต์จะเรียกใช้ PowerShell เพื่อดึงภาพจาก Archive.org 3️⃣ ภาพเหล่านั้นมีโค้ด .NET ที่ถูกซ่อนไว้ในบิตต่ำสุดของพิกเซล (LSB) 4️⃣ PowerShell จะถอดรหัสโค้ดและโหลดเข้าสู่หน่วยความจำ 5️⃣ จากนั้นมัลแวร์จะถูกฉีดเข้าไปในโปรเซส calc.exe เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ มัลแวร์นี้ยังมีระบบตั้งเวลาให้กลับมาทำงานซ้ำ และมีฟีเจอร์ตรวจจับ sandbox, VM และเครื่องมือ debug เพื่อหลบเลี่ยงการวิเคราะห์จากนักวิจัย Arctic Wolf พบว่า Caminho ถูกใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่พูดภาษาโปรตุเกส และมีเป้าหมายในหลายประเทศ เช่น บราซิล แอฟริกาใต้ ยูเครน และโปแลนด์ โดยมีการให้บริการแบบ “เช่าใช้” ซึ่งลูกค้าสามารถเลือก payload ที่ต้องการได้ เช่น REMCOS RAT, XWorm หรือ Katz Stealer ✅ ลักษณะของ Caminho Loader ➡️ เป็นบริการ Loader-as-a-Service จากบราซิล ➡️ ใช้เทคนิค LSB Steganography ซ่อนโค้ดในภาพ ➡️ โหลดโค้ดเข้าสู่หน่วยความจำโดยไม่เขียนไฟล์ลงดิสก์ ➡️ ฉีดโค้ดเข้าสู่โปรเซส calc.exe เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ✅ วิธีการแพร่กระจาย ➡️ เริ่มจากอีเมลฟิชชิ่งที่แนบไฟล์สคริปต์ ➡️ ใช้ PowerShell ดึงภาพจาก Archive.org ➡️ ถอดรหัส payload จากภาพแล้วโหลดเข้าสู่ระบบ ✅ ความสามารถพิเศษของมัลแวร์ ➡️ ตรวจจับ sandbox, VM และเครื่องมือ debug ➡️ ตั้งเวลาให้กลับมาทำงานซ้ำผ่าน scheduled tasks ➡️ รองรับการโหลด payload หลายชนิดตามความต้องการของลูกค้า ✅ การใช้บริการแบบเช่า ➡️ ลูกค้าสามารถเลือก payload ที่ต้องการ ➡️ ใช้ภาพเดียวกันในหลายแคมเปญเพื่อประหยัดต้นทุน ➡️ ใช้บริการเว็บที่น่าเชื่อถือ เช่น Archive.org, paste.ee เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อก ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับภัยคุกคามจาก Caminho ⛔ อีเมลฟิชชิ่งที่แนบไฟล์ ZIP/RAR อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการติดมัลแวร์ ⛔ ภาพจากเว็บที่ดูปลอดภัยอาจมีโค้ดอันตรายซ่อนอยู่ ⛔ การโหลดโค้ดเข้าสู่หน่วยความจำโดยตรงทำให้ตรวจจับได้ยาก https://securityonline.info/caminho-loader-as-a-service-uses-lsb-steganography-to-hide-net-payloads-in-archive-org-images/
    SECURITYONLINE.INFO
    Caminho Loader-as-a-Service Uses LSB Steganography to Hide .NET Payloads in Archive.org Images
    Arctic Wolf exposed Caminho, a Brazilian Loader-as-a-Service that hides .NET payloads in images via LSB steganography. It operates filelessly and is deployed via phishing and legitimate Archive.org.
    0 Comments 0 Shares 5 Views 0 Reviews
  • 1inch จับมือ Innerworks เสริมเกราะ DeFi ด้วย AI ตรวจจับภัยคุกคามล่วงหน้า

    แพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ชั้นนำอย่าง 1inch ประกาศความร่วมมือกับ Innerworks บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อยกระดับการป้องกันภัยคุกคามในโลกคริปโต โดยใช้เทคโนโลยี AI เชิงคาดการณ์ (predictive AI) และการเจาะระบบเชิงจริยธรรม (RedTeam) เพื่อสร้าง “ระบบภูมิคุ้มกัน” ให้กับระบบนิเวศ DeFi

    ในยุคที่แฮกเกอร์เริ่มใช้ AI เพื่อเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์และโจมตีระบบอย่างแนบเนียน 1inch จึงตัดสินใจร่วมมือกับ Innerworks เพื่อเปลี่ยนแนวทางจาก “ตั้งรับ” เป็น “เชิงรุก” โดยใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมของภัยคุกคามล่วงหน้า และส่งข้อมูลให้ระบบป้องกันของ 1inch แบบอัตโนมัติ

    Innerworks ใช้แพลตฟอร์มที่เรียกว่า “Synthetic Threat Intelligence” ซึ่งรวมเอา AI, การฝึกแบบกระจาย (decentralized training) และการเจาะระบบเชิงจริยธรรม เพื่อเปิดโปง “playbook” ของแฮกเกอร์ก่อนที่พวกเขาจะลงมือจริง

    Sergej Kunz ผู้ร่วมก่อตั้ง 1inch กล่าวว่า “เรากำลังพลิกเกมกับแฮกเกอร์ โดยใช้ AI คาดการณ์การเคลื่อนไหวของพวกเขา และปรับระบบป้องกันให้ทันก่อนที่ภัยจะเกิดขึ้นจริง”

    Oli Quie ซีอีโอของ Innerworks เสริมว่า “แฮกเกอร์ยุคใหม่ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป แต่เป็น AI ที่สามารถเจาะระบบได้เกือบทุกแบบ เราจึงต้องสร้างภูมิคุ้มกันแบบรวมหมู่ให้กับโลกคริปโต”

    ความร่วมมือระหว่าง 1inch และ Innerworks
    ใช้ AI เชิงคาดการณ์เพื่อวิเคราะห์และป้องกันภัยคุกคามล่วงหน้า
    ใช้ RedTeam เจาะระบบเชิงจริยธรรมเพื่อเปิดโปงวิธีการของแฮกเกอร์
    ส่งข้อมูลภัยคุกคามเข้าสู่ระบบป้องกันของ 1inch แบบอัตโนมัติ

    จุดเด่นของเทคโนโลยี Innerworks
    แพลตฟอร์ม Synthetic Threat Intelligence
    ผสาน AI, การฝึกแบบกระจาย และการเจาะระบบ
    ป้องกันภัยไซเบอร์โดยไม่ต้องพึ่งการแจ้งเตือนจากผู้ใช้

    เป้าหมายของความร่วมมือ
    สร้าง “ระบบภูมิคุ้มกันรวม” ให้กับระบบนิเวศ DeFi
    ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของวงการคริปโต
    ปรับระบบให้ตอบสนองภัยคุกคามได้แบบเรียลไทม์

    คำเตือนเกี่ยวกับภัยคุกคามในโลก DeFi
    แฮกเกอร์เริ่มใช้ AI เลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์เพื่อหลอกระบบ
    การพึ่งพาการแจ้งเตือนจากผู้ใช้อาจไม่ทันต่อภัยคุกคาม
    ระบบที่ไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยอาจตกเป็นเป้าหมายง่ายขึ้น

    https://securityonline.info/1inch-partners-with-innerworks-to-strengthen-defi-security-through-ai-powered-threat-detection/
    🛡️ 1inch จับมือ Innerworks เสริมเกราะ DeFi ด้วย AI ตรวจจับภัยคุกคามล่วงหน้า แพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ชั้นนำอย่าง 1inch ประกาศความร่วมมือกับ Innerworks บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อยกระดับการป้องกันภัยคุกคามในโลกคริปโต โดยใช้เทคโนโลยี AI เชิงคาดการณ์ (predictive AI) และการเจาะระบบเชิงจริยธรรม (RedTeam) เพื่อสร้าง “ระบบภูมิคุ้มกัน” ให้กับระบบนิเวศ DeFi ในยุคที่แฮกเกอร์เริ่มใช้ AI เพื่อเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์และโจมตีระบบอย่างแนบเนียน 1inch จึงตัดสินใจร่วมมือกับ Innerworks เพื่อเปลี่ยนแนวทางจาก “ตั้งรับ” เป็น “เชิงรุก” โดยใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมของภัยคุกคามล่วงหน้า และส่งข้อมูลให้ระบบป้องกันของ 1inch แบบอัตโนมัติ Innerworks ใช้แพลตฟอร์มที่เรียกว่า “Synthetic Threat Intelligence” ซึ่งรวมเอา AI, การฝึกแบบกระจาย (decentralized training) และการเจาะระบบเชิงจริยธรรม เพื่อเปิดโปง “playbook” ของแฮกเกอร์ก่อนที่พวกเขาจะลงมือจริง Sergej Kunz ผู้ร่วมก่อตั้ง 1inch กล่าวว่า “เรากำลังพลิกเกมกับแฮกเกอร์ โดยใช้ AI คาดการณ์การเคลื่อนไหวของพวกเขา และปรับระบบป้องกันให้ทันก่อนที่ภัยจะเกิดขึ้นจริง” Oli Quie ซีอีโอของ Innerworks เสริมว่า “แฮกเกอร์ยุคใหม่ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป แต่เป็น AI ที่สามารถเจาะระบบได้เกือบทุกแบบ เราจึงต้องสร้างภูมิคุ้มกันแบบรวมหมู่ให้กับโลกคริปโต” ✅ ความร่วมมือระหว่าง 1inch และ Innerworks ➡️ ใช้ AI เชิงคาดการณ์เพื่อวิเคราะห์และป้องกันภัยคุกคามล่วงหน้า ➡️ ใช้ RedTeam เจาะระบบเชิงจริยธรรมเพื่อเปิดโปงวิธีการของแฮกเกอร์ ➡️ ส่งข้อมูลภัยคุกคามเข้าสู่ระบบป้องกันของ 1inch แบบอัตโนมัติ ✅ จุดเด่นของเทคโนโลยี Innerworks ➡️ แพลตฟอร์ม Synthetic Threat Intelligence ➡️ ผสาน AI, การฝึกแบบกระจาย และการเจาะระบบ ➡️ ป้องกันภัยไซเบอร์โดยไม่ต้องพึ่งการแจ้งเตือนจากผู้ใช้ ✅ เป้าหมายของความร่วมมือ ➡️ สร้าง “ระบบภูมิคุ้มกันรวม” ให้กับระบบนิเวศ DeFi ➡️ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของวงการคริปโต ➡️ ปรับระบบให้ตอบสนองภัยคุกคามได้แบบเรียลไทม์ ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับภัยคุกคามในโลก DeFi ⛔ แฮกเกอร์เริ่มใช้ AI เลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์เพื่อหลอกระบบ ⛔ การพึ่งพาการแจ้งเตือนจากผู้ใช้อาจไม่ทันต่อภัยคุกคาม ⛔ ระบบที่ไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยอาจตกเป็นเป้าหมายง่ายขึ้น https://securityonline.info/1inch-partners-with-innerworks-to-strengthen-defi-security-through-ai-powered-threat-detection/
    0 Comments 0 Shares 5 Views 0 Reviews
  • บริการ Virtual CISO กำลังมาแรง แต่เลือกผิดอาจเสี่ยงถูกเจาะระบบ — ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้ดูให้ดี ก่อนจ้าง

    บริการ Virtual CISO (Chief Information Security Officer) หรือผู้บริหารด้านความปลอดภัยไซเบอร์แบบจ้างภายนอก กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในองค์กรขนาดกลางที่ไม่สามารถจ้าง CISO เต็มเวลาได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หากเลือกผิด อาจได้แค่ “ที่ปรึกษาแพงๆ” ที่ไม่สามารถป้องกันภัยคุกคามได้จริง

    Sergei Beliachkov อดีต CISO ที่เคยดูแลระบบให้กับองค์กรขนาดใหญ่กว่า 7,000 ผู้ใช้ และปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการ Virtual CISO ได้แบ่งปันประสบการณ์ตรงว่า ทำไมบริการนี้ถึงเติบโต และอะไรคือ “ธงแดง” ที่ควรระวัง

    ความต้องการ Virtual CISO เพิ่มขึ้นเพราะ:

    ขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ทั่วโลกกว่า 4.8 ล้านตำแหน่ง
    ค่าจ้าง CISO เต็มเวลาสูงเกินเอื้อม (มากกว่า $300,000 ต่อปี)
    กฎหมายใหม่ เช่น NIS2 และ DORA บังคับให้องค์กรต้องมีการกำกับดูแลด้านความปลอดภัย

    แต่ปัญหาคือ หลายองค์กรจ้าง Virtual CISO โดยไม่เข้าใจบทบาทที่แท้จริง ทำให้ได้เพียง “ที่ปรึกษา” ที่ไม่สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์หรือรับผิดชอบเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง

    Beliachkov แนะนำว่า Virtual CISO ที่ดีต้องมีประสบการณ์ทั้งด้านเทคนิคและการบริหาร มีแผนการทำงานชัดเจน และสามารถสื่อสารกับผู้บริหารระดับสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    เหตุผลที่บริการ Virtual CISO กำลังเติบโต
    ค่าจ้าง CISO เต็มเวลาสูงเกินไปสำหรับองค์กรขนาดกลาง
    กฎหมายใหม่บังคับให้มีการกำกับดูแลด้านความปลอดภัย
    Virtual CISO ช่วยลดต้นทุนโดยไม่ต้องจ้างพนักงานประจำ

    บทบาทของ Virtual CISO ที่แท้จริง
    วางกลยุทธ์ความปลอดภัยระดับองค์กร
    กำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐาน
    ไม่ใช่ผู้ปฏิบัติงาน เช่น การตั้งค่าไฟร์วอลล์หรือดูแลระบบ

    โมเดลการให้บริการที่ดีควรมี
    SLA ชัดเจนเรื่องเวลาตอบสนองเมื่อเกิดเหตุ
    ขอบเขตงานที่ระบุชัดเจนว่า “ทำอะไร” และ “ไม่ทำอะไร”
    แผนการส่งมอบความรู้และเอกสารเมื่อสิ้นสุดสัญญา

    คำเตือนในการเลือก Virtual CISO
    ผู้ให้บริการที่ไม่สามารถอธิบายวิธีจัดการความขัดแย้งผลประโยชน์
    ไม่ยอมระบุ SLA หรือเวลาตอบสนองเมื่อเกิดเหตุ
    โฆษณาว่าทำได้เหมือน CISO เต็มเวลาในราคาถูก — เสี่ยงสูง
    ไม่เคยพูดถึงความล้มเหลวหรือบทเรียนจากเหตุการณ์จริง

    https://securityonline.info/why-virtual-ciso-services-are-booming-and-how-to-avoid-hiring-the-wrong-one/
    🛡️ บริการ Virtual CISO กำลังมาแรง แต่เลือกผิดอาจเสี่ยงถูกเจาะระบบ — ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้ดูให้ดี ก่อนจ้าง บริการ Virtual CISO (Chief Information Security Officer) หรือผู้บริหารด้านความปลอดภัยไซเบอร์แบบจ้างภายนอก กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในองค์กรขนาดกลางที่ไม่สามารถจ้าง CISO เต็มเวลาได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หากเลือกผิด อาจได้แค่ “ที่ปรึกษาแพงๆ” ที่ไม่สามารถป้องกันภัยคุกคามได้จริง Sergei Beliachkov อดีต CISO ที่เคยดูแลระบบให้กับองค์กรขนาดใหญ่กว่า 7,000 ผู้ใช้ และปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการ Virtual CISO ได้แบ่งปันประสบการณ์ตรงว่า ทำไมบริการนี้ถึงเติบโต และอะไรคือ “ธงแดง” ที่ควรระวัง 📈 ความต้องการ Virtual CISO เพิ่มขึ้นเพราะ: 🎗️ ขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ทั่วโลกกว่า 4.8 ล้านตำแหน่ง 🎗️ ค่าจ้าง CISO เต็มเวลาสูงเกินเอื้อม (มากกว่า $300,000 ต่อปี) 🎗️ กฎหมายใหม่ เช่น NIS2 และ DORA บังคับให้องค์กรต้องมีการกำกับดูแลด้านความปลอดภัย แต่ปัญหาคือ หลายองค์กรจ้าง Virtual CISO โดยไม่เข้าใจบทบาทที่แท้จริง ทำให้ได้เพียง “ที่ปรึกษา” ที่ไม่สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์หรือรับผิดชอบเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง Beliachkov แนะนำว่า Virtual CISO ที่ดีต้องมีประสบการณ์ทั้งด้านเทคนิคและการบริหาร มีแผนการทำงานชัดเจน และสามารถสื่อสารกับผู้บริหารระดับสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ เหตุผลที่บริการ Virtual CISO กำลังเติบโต ➡️ ค่าจ้าง CISO เต็มเวลาสูงเกินไปสำหรับองค์กรขนาดกลาง ➡️ กฎหมายใหม่บังคับให้มีการกำกับดูแลด้านความปลอดภัย ➡️ Virtual CISO ช่วยลดต้นทุนโดยไม่ต้องจ้างพนักงานประจำ ✅ บทบาทของ Virtual CISO ที่แท้จริง ➡️ วางกลยุทธ์ความปลอดภัยระดับองค์กร ➡️ กำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐาน ➡️ ไม่ใช่ผู้ปฏิบัติงาน เช่น การตั้งค่าไฟร์วอลล์หรือดูแลระบบ ✅ โมเดลการให้บริการที่ดีควรมี ➡️ SLA ชัดเจนเรื่องเวลาตอบสนองเมื่อเกิดเหตุ ➡️ ขอบเขตงานที่ระบุชัดเจนว่า “ทำอะไร” และ “ไม่ทำอะไร” ➡️ แผนการส่งมอบความรู้และเอกสารเมื่อสิ้นสุดสัญญา ‼️ คำเตือนในการเลือก Virtual CISO ⛔ ผู้ให้บริการที่ไม่สามารถอธิบายวิธีจัดการความขัดแย้งผลประโยชน์ ⛔ ไม่ยอมระบุ SLA หรือเวลาตอบสนองเมื่อเกิดเหตุ ⛔ โฆษณาว่าทำได้เหมือน CISO เต็มเวลาในราคาถูก — เสี่ยงสูง ⛔ ไม่เคยพูดถึงความล้มเหลวหรือบทเรียนจากเหตุการณ์จริง https://securityonline.info/why-virtual-ciso-services-are-booming-and-how-to-avoid-hiring-the-wrong-one/
    SECURITYONLINE.INFO
    Why Virtual CISO Services Are Booming—And How to Avoid Hiring the Wrong One
    Sergei Beliachkov, who managed security for 7,000+ users as a virtual CISO and later launched the service for
    0 Comments 0 Shares 3 Views 0 Reviews
  • Amazon เปิดตัวหุ่นยนต์ Blue Jay และ AI Eluna พลิกโฉมโลจิสติกส์ เพิ่มประสิทธิภาพ ลดภาระพนักงาน

    Amazon เผยโฉมนวัตกรรมใหม่ในระบบโลจิสติกส์ ได้แก่ “Blue Jay” หุ่นยนต์แขนกลอัจฉริยะ และ “Project Eluna” ผู้ช่วย AI สำหรับผู้จัดการคลังสินค้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดงานซ้ำซ้อน และยกระดับประสิทธิภาพการจัดส่ง

    Amazon กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการทำงานในคลังสินค้า โดยเปิดตัว 2 เทคโนโลยีใหม่ ได้แก่:

    1️⃣ Blue Jay – หุ่นยนต์แขนกลหลายแขนที่สามารถทำงานร่วมกับพนักงานได้อย่างคล่องตัว เช่น หยิบของ เก็บของ และจัดเรียงสินค้าในพื้นที่เดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปรียบเสมือน “นักเล่นกลที่ไม่เคยทำของตก” และ “วาทยกร” ที่ควบคุมการเคลื่อนไหวอย่างแม่นยำ โดยใช้พื้นที่น้อยลงแต่ทำงานได้มากขึ้น ปัจจุบันกำลังทดสอบในศูนย์ของ Amazon ที่เซาท์แคโรไลนา และสามารถจัดการสินค้ากว่า 75% ของคลังได้แล้ว

    2️⃣ Project Eluna – ผู้ช่วย AI สำหรับผู้จัดการคลังสินค้า ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเรียลไทม์และประวัติการทำงาน เพื่อแนะนำการตัดสินใจ เช่น การจัดสรรพนักงานเพื่อหลีกเลี่ยงคอขวดในระบบ โดยผู้จัดการสามารถถามคำถามเชิงกลยุทธ์ เช่น “ควรย้ายพนักงานไปตรงไหนเพื่อป้องกันความล่าช้า?” แล้ว Eluna จะให้คำตอบที่มีข้อมูลรองรับ

    ทั้งสองเทคโนโลยีนี้มีเป้าหมายร่วมกันคือ ลดภาระงานซ้ำซ้อน เพิ่มความปลอดภัยทางกายภาพ และเปิดโอกาสให้พนักงานได้พัฒนาทักษะในงานที่มีคุณค่ามากขึ้น

    หุ่นยนต์ Blue Jay
    เป็นระบบแขนกลหลายแขนที่ทำงานร่วมกับพนักงาน
    รวม 3 สถานีงาน (หยิบ-เก็บ-รวมสินค้า) ไว้ในจุดเดียว
    ใช้พื้นที่น้อยลงแต่ทำงานได้มากขึ้น
    ทดสอบแล้วในศูนย์ Amazon ที่เซาท์แคโรไลนา

    AI ผู้ช่วย Project Eluna
    วิเคราะห์ข้อมูลเรียลไทม์และประวัติการทำงาน
    แนะนำการจัดสรรทรัพยากรเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา
    ช่วยให้ผู้จัดการวางแผนเชิงรุก แทนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

    เป้าหมายของเทคโนโลยี
    ลดงานซ้ำซ้อน เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน
    สนับสนุนการเติบโตของพนักงานในบทบาทที่มีคุณค่ามากขึ้น

    คำเตือนเกี่ยวกับการใช้ AI และหุ่นยนต์ในที่ทำงาน
    ควรมีการฝึกอบรมพนักงานให้เข้าใจการทำงานร่วมกับ AI
    ต้องมีมาตรการป้องกันการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป
    ควรติดตามผลกระทบต่อแรงงานในระยะยาวอย่างใกล้ชิด

    https://securityonline.info/future-of-logistics-amazon-unveils-blue-jay-robot-and-eluna-ai-assistant/
    🤖 Amazon เปิดตัวหุ่นยนต์ Blue Jay และ AI Eluna พลิกโฉมโลจิสติกส์ เพิ่มประสิทธิภาพ ลดภาระพนักงาน Amazon เผยโฉมนวัตกรรมใหม่ในระบบโลจิสติกส์ ได้แก่ “Blue Jay” หุ่นยนต์แขนกลอัจฉริยะ และ “Project Eluna” ผู้ช่วย AI สำหรับผู้จัดการคลังสินค้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดงานซ้ำซ้อน และยกระดับประสิทธิภาพการจัดส่ง Amazon กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการทำงานในคลังสินค้า โดยเปิดตัว 2 เทคโนโลยีใหม่ ได้แก่: 1️⃣ Blue Jay – หุ่นยนต์แขนกลหลายแขนที่สามารถทำงานร่วมกับพนักงานได้อย่างคล่องตัว เช่น หยิบของ เก็บของ และจัดเรียงสินค้าในพื้นที่เดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปรียบเสมือน “นักเล่นกลที่ไม่เคยทำของตก” และ “วาทยกร” ที่ควบคุมการเคลื่อนไหวอย่างแม่นยำ โดยใช้พื้นที่น้อยลงแต่ทำงานได้มากขึ้น ปัจจุบันกำลังทดสอบในศูนย์ของ Amazon ที่เซาท์แคโรไลนา และสามารถจัดการสินค้ากว่า 75% ของคลังได้แล้ว 2️⃣ Project Eluna – ผู้ช่วย AI สำหรับผู้จัดการคลังสินค้า ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเรียลไทม์และประวัติการทำงาน เพื่อแนะนำการตัดสินใจ เช่น การจัดสรรพนักงานเพื่อหลีกเลี่ยงคอขวดในระบบ โดยผู้จัดการสามารถถามคำถามเชิงกลยุทธ์ เช่น “ควรย้ายพนักงานไปตรงไหนเพื่อป้องกันความล่าช้า?” แล้ว Eluna จะให้คำตอบที่มีข้อมูลรองรับ ทั้งสองเทคโนโลยีนี้มีเป้าหมายร่วมกันคือ ลดภาระงานซ้ำซ้อน เพิ่มความปลอดภัยทางกายภาพ และเปิดโอกาสให้พนักงานได้พัฒนาทักษะในงานที่มีคุณค่ามากขึ้น ✅ หุ่นยนต์ Blue Jay ➡️ เป็นระบบแขนกลหลายแขนที่ทำงานร่วมกับพนักงาน ➡️ รวม 3 สถานีงาน (หยิบ-เก็บ-รวมสินค้า) ไว้ในจุดเดียว ➡️ ใช้พื้นที่น้อยลงแต่ทำงานได้มากขึ้น ➡️ ทดสอบแล้วในศูนย์ Amazon ที่เซาท์แคโรไลนา ✅ AI ผู้ช่วย Project Eluna ➡️ วิเคราะห์ข้อมูลเรียลไทม์และประวัติการทำงาน ➡️ แนะนำการจัดสรรทรัพยากรเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ➡️ ช่วยให้ผู้จัดการวางแผนเชิงรุก แทนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ✅ เป้าหมายของเทคโนโลยี ➡️ ลดงานซ้ำซ้อน เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน ➡️ สนับสนุนการเติบโตของพนักงานในบทบาทที่มีคุณค่ามากขึ้น ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับการใช้ AI และหุ่นยนต์ในที่ทำงาน ⛔ ควรมีการฝึกอบรมพนักงานให้เข้าใจการทำงานร่วมกับ AI ⛔ ต้องมีมาตรการป้องกันการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป ⛔ ควรติดตามผลกระทบต่อแรงงานในระยะยาวอย่างใกล้ชิด https://securityonline.info/future-of-logistics-amazon-unveils-blue-jay-robot-and-eluna-ai-assistant/
    SECURITYONLINE.INFO
    Future of Logistics: Amazon Unveils Blue Jay Robot and Eluna AI Assistant
    Amazon introduced Blue Jay, a multi-arm robot for packing, and Project Eluna, an AI assistant for managers, promising safer, faster operations.
    0 Comments 0 Shares 3 Views 0 Reviews
  • Meta และ TikTok ถูก EU ตั้งข้อหา ละเมิดกฎหมาย DSA หลายประเด็น เสี่ยงโดนปรับสูงถึง 6% ของรายได้ทั่วโลก

    คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ได้ตั้งข้อหาต่อ Meta (เจ้าของ Facebook และ Instagram) และ TikTok ฐานละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรปที่มุ่งควบคุมแพลตฟอร์มออนไลน์ให้มีความรับผิดชอบมากขึ้น โดยข้อกล่าวหาหลักคือการจัดการเนื้อหาผิดกฎหมายอย่างไม่มีประสิทธิภาพ และการขัดขวางการเข้าถึงข้อมูลของนักวิจัย

    สำหรับ Meta มีข้อกล่าวหาหลัก 2 ประเด็นคือ

    1️⃣ ระบบแจ้งเนื้อหาผิดกฎหมายที่ยุ่งยากและใช้ “dark design patterns” ทำให้ผู้ใช้สับสนและไม่กล้าแจ้งเนื้อหา เช่น CSAM (เนื้อหาเกี่ยวกับการล่วงละเมิดเด็ก)

    2️⃣ กระบวนการอุทธรณ์ที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ชี้แจงหรือส่งหลักฐานเมื่อถูกลบเนื้อหาหรือระงับบัญชี

    ทั้ง Meta และ TikTok ยังถูกกล่าวหาว่าทำให้การเข้าถึงข้อมูลสาธารณะของนักวิจัยเป็นเรื่องยากเกินควร ซึ่งขัดต่อข้อกำหนดด้านความโปร่งใสของ DSA โดยเฉพาะการศึกษาผลกระทบต่อเยาวชนจากเนื้อหาที่เป็นอันตราย

    หากไม่ปรับปรุงตามคำแนะนำของคณะกรรมาธิการ ทั้งสองบริษัทอาจถูกปรับสูงสุดถึง 6% ของรายได้ทั่วโลก โดย Meta ยืนยันว่าตนได้ปรับปรุงระบบให้สอดคล้องกับกฎหมายแล้ว ส่วน TikTok โต้แย้งว่าข้อกำหนดของ DSA ขัดกับกฎหมาย GDPR ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเรียกร้องให้มีแนวทางที่ชัดเจนในการปรับใช้ทั้งสองกฎหมายร่วมกัน

    ข้อกล่าวหาต่อ Meta และ TikTok จาก EU
    ไม่สามารถจัดการเนื้อหาผิดกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    ขัดขวางการเข้าถึงข้อมูลของนักวิจัย
    Meta ใช้ดีไซน์ที่ทำให้ผู้ใช้สับสนในการแจ้งเนื้อหา
    ระบบอุทธรณ์ของ Meta ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ชี้แจง

    ผลกระทบตามกฎหมาย DSA
    หากไม่แก้ไข อาจถูกปรับสูงสุด 6% ของรายได้ทั่วโลก
    ต้องปรับปรุงระบบให้สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านความโปร่งใส

    การตอบโต้จากบริษัท
    Meta ยืนยันว่าปรับปรุงระบบแล้วให้สอดคล้องกับ DSA
    TikTok โต้แย้งว่าข้อกำหนดของ DSA ขัดกับ GDPR
    TikTok เรียกร้องให้มีแนวทางชัดเจนในการบังคับใช้กฎหมายร่วมกัน

    คำเตือนเกี่ยวกับการใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบสิทธิ์ในการอุทธรณ์เมื่อถูกลบเนื้อหา
    ควรระวังการให้ข้อมูลส่วนตัวในระบบที่ไม่โปร่งใส
    นักวิจัยอาจได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วนจากแพลตฟอร์ม

    https://securityonline.info/eu-charges-meta-and-tiktok-with-widespread-dsa-violations/
    ⚖️ Meta และ TikTok ถูก EU ตั้งข้อหา ละเมิดกฎหมาย DSA หลายประเด็น เสี่ยงโดนปรับสูงถึง 6% ของรายได้ทั่วโลก คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ได้ตั้งข้อหาต่อ Meta (เจ้าของ Facebook และ Instagram) และ TikTok ฐานละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรปที่มุ่งควบคุมแพลตฟอร์มออนไลน์ให้มีความรับผิดชอบมากขึ้น โดยข้อกล่าวหาหลักคือการจัดการเนื้อหาผิดกฎหมายอย่างไม่มีประสิทธิภาพ และการขัดขวางการเข้าถึงข้อมูลของนักวิจัย สำหรับ Meta มีข้อกล่าวหาหลัก 2 ประเด็นคือ 1️⃣ ระบบแจ้งเนื้อหาผิดกฎหมายที่ยุ่งยากและใช้ “dark design patterns” ทำให้ผู้ใช้สับสนและไม่กล้าแจ้งเนื้อหา เช่น CSAM (เนื้อหาเกี่ยวกับการล่วงละเมิดเด็ก) 2️⃣ กระบวนการอุทธรณ์ที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ชี้แจงหรือส่งหลักฐานเมื่อถูกลบเนื้อหาหรือระงับบัญชี ทั้ง Meta และ TikTok ยังถูกกล่าวหาว่าทำให้การเข้าถึงข้อมูลสาธารณะของนักวิจัยเป็นเรื่องยากเกินควร ซึ่งขัดต่อข้อกำหนดด้านความโปร่งใสของ DSA โดยเฉพาะการศึกษาผลกระทบต่อเยาวชนจากเนื้อหาที่เป็นอันตราย หากไม่ปรับปรุงตามคำแนะนำของคณะกรรมาธิการ ทั้งสองบริษัทอาจถูกปรับสูงสุดถึง 6% ของรายได้ทั่วโลก โดย Meta ยืนยันว่าตนได้ปรับปรุงระบบให้สอดคล้องกับกฎหมายแล้ว ส่วน TikTok โต้แย้งว่าข้อกำหนดของ DSA ขัดกับกฎหมาย GDPR ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเรียกร้องให้มีแนวทางที่ชัดเจนในการปรับใช้ทั้งสองกฎหมายร่วมกัน ✅ ข้อกล่าวหาต่อ Meta และ TikTok จาก EU ➡️ ไม่สามารถจัดการเนื้อหาผิดกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ➡️ ขัดขวางการเข้าถึงข้อมูลของนักวิจัย ➡️ Meta ใช้ดีไซน์ที่ทำให้ผู้ใช้สับสนในการแจ้งเนื้อหา ➡️ ระบบอุทธรณ์ของ Meta ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ชี้แจง ✅ ผลกระทบตามกฎหมาย DSA ➡️ หากไม่แก้ไข อาจถูกปรับสูงสุด 6% ของรายได้ทั่วโลก ➡️ ต้องปรับปรุงระบบให้สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านความโปร่งใส ✅ การตอบโต้จากบริษัท ➡️ Meta ยืนยันว่าปรับปรุงระบบแล้วให้สอดคล้องกับ DSA ➡️ TikTok โต้แย้งว่าข้อกำหนดของ DSA ขัดกับ GDPR ➡️ TikTok เรียกร้องให้มีแนวทางชัดเจนในการบังคับใช้กฎหมายร่วมกัน ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับการใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ ⛔ ผู้ใช้ควรตรวจสอบสิทธิ์ในการอุทธรณ์เมื่อถูกลบเนื้อหา ⛔ ควรระวังการให้ข้อมูลส่วนตัวในระบบที่ไม่โปร่งใส ⛔ นักวิจัยอาจได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วนจากแพลตฟอร์ม https://securityonline.info/eu-charges-meta-and-tiktok-with-widespread-dsa-violations/
    SECURITYONLINE.INFO
    EU Charges Meta and TikTok with Widespread DSA Violations
    The European Commission has formally accused Meta and TikTok of violating the DSA by hiding illegal content reporting and obstructing access for researchers.
    0 Comments 0 Shares 3 Views 0 Reviews
  • "Microsoft Edge เปิดตัว Copilot Actions และ Journeys ยกระดับการท่องเว็บด้วย AI อัจฉริยะ"

    ไมโครซอฟท์กำลังยกระดับประสบการณ์การใช้งานเบราว์เซอร์ Edge ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สองตัวในโหมด Copilot ได้แก่ Copilot Actions และ Journeys ซึ่งเป็นการผสานพลังของ AI เข้ากับการท่องเว็บอย่างลึกซึ้งและชาญฉลาดยิ่งขึ้น

    ฟีเจอร์แรก Copilot Actions ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานผ่านข้อความหรือเสียง เช่น “เช็คอีเมลให้หน่อย” หรือ “จองร้านอาหารให้หน่อย” แล้ว Copilot จะดำเนินการให้โดยอัตโนมัติ ตั้งแต่เปิดเว็บไซต์ ล็อกอิน กรอกฟอร์ม ไปจนถึงทำงานข้ามเว็บไซต์ได้เลย

    อีกฟีเจอร์คือ Journeys ซึ่งจะจัดระเบียบประวัติการท่องเว็บของผู้ใช้ตามหัวข้อหรือโปรเจกต์ เช่น ถ้าเคยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นไว้ แล้วกลับมาเปิดอีกครั้ง Journeys จะเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ทันที พร้อมแนะนำสิ่งที่อาจสนใจต่อเนื่องจากพฤติกรรมการใช้งานที่ผ่านมา

    ทั้งสองฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในช่วงทดลองใช้เฉพาะในสหรัฐฯ และผู้ใช้สามารถควบคุมการเปิด-ปิดได้ตลอดเวลา โดยไมโครซอฟท์เน้นย้ำเรื่องความเป็นส่วนตัวและความโปร่งใสในการเข้าถึงข้อมูล

    นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลน่าสนใจจากวงการเบราว์เซอร์ AI ที่กำลังร้อนแรง เช่น Perplexity เปิดตัว Comet และ OpenAI ก็มี ChatGPT Atlas ที่เน้นการใช้งานร่วมกับเว็บเบราว์เซอร์เช่นกัน แสดงให้เห็นว่า “AI + เบราว์เซอร์” กำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่ทุกค่ายกำลังเร่งพัฒนา

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Microsoft Edge
    Copilot Actions ช่วยสั่งงานผ่านข้อความหรือเสียง เช่น เปิดเว็บ เช็คเมล จองร้านอาหาร
    Journeys จัดระเบียบประวัติการท่องเว็บตามหัวข้อ พร้อมแนะนำสิ่งที่เกี่ยวข้อง

    การทำงานของ Copilot
    สามารถทำงานข้ามเว็บไซต์ เช่น ล็อกอิน กรอกฟอร์ม และดำเนินการอัตโนมัติ
    ใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานเพื่อให้คำแนะนำที่ตรงใจ

    ความเป็นส่วนตัวและการควบคุม
    ผู้ใช้สามารถเปิดหรือปิดฟีเจอร์ได้ตลอดเวลา
    มีการแสดงสัญลักษณ์ชัดเจนเมื่อมีการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว

    สถานะการใช้งาน
    ฟีเจอร์ยังอยู่ในช่วงทดลองใช้ในสหรัฐฯ เท่านั้น
    มีแผนขยายการใช้งานไปยังประเทศอื่นในอนาคต

    แนวโน้มของเบราว์เซอร์ AI
    Perplexity เปิดตัว Comet และ OpenAI มี ChatGPT Atlas
    การผสาน AI กับเบราว์เซอร์กำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ในวงการเทคโนโลยี

    ข้อควรระวังในการใช้งาน AI บนเบราว์เซอร์
    การให้สิทธิ์ AI เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวควรทำด้วยความระมัดระวัง
    ควรตรวจสอบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวอย่างสม่ำเสมอ

    https://securityonline.info/beyond-chatbots-microsoft-edge-unveils-new-ai-features-for-automated-browsing/
    🪟 "Microsoft Edge เปิดตัว Copilot Actions และ Journeys ยกระดับการท่องเว็บด้วย AI อัจฉริยะ" ไมโครซอฟท์กำลังยกระดับประสบการณ์การใช้งานเบราว์เซอร์ Edge ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สองตัวในโหมด Copilot ได้แก่ Copilot Actions และ Journeys ซึ่งเป็นการผสานพลังของ AI เข้ากับการท่องเว็บอย่างลึกซึ้งและชาญฉลาดยิ่งขึ้น ฟีเจอร์แรก Copilot Actions ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานผ่านข้อความหรือเสียง เช่น “เช็คอีเมลให้หน่อย” หรือ “จองร้านอาหารให้หน่อย” แล้ว Copilot จะดำเนินการให้โดยอัตโนมัติ ตั้งแต่เปิดเว็บไซต์ ล็อกอิน กรอกฟอร์ม ไปจนถึงทำงานข้ามเว็บไซต์ได้เลย อีกฟีเจอร์คือ Journeys ซึ่งจะจัดระเบียบประวัติการท่องเว็บของผู้ใช้ตามหัวข้อหรือโปรเจกต์ เช่น ถ้าเคยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นไว้ แล้วกลับมาเปิดอีกครั้ง Journeys จะเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ทันที พร้อมแนะนำสิ่งที่อาจสนใจต่อเนื่องจากพฤติกรรมการใช้งานที่ผ่านมา ทั้งสองฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในช่วงทดลองใช้เฉพาะในสหรัฐฯ และผู้ใช้สามารถควบคุมการเปิด-ปิดได้ตลอดเวลา โดยไมโครซอฟท์เน้นย้ำเรื่องความเป็นส่วนตัวและความโปร่งใสในการเข้าถึงข้อมูล นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลน่าสนใจจากวงการเบราว์เซอร์ AI ที่กำลังร้อนแรง เช่น Perplexity เปิดตัว Comet และ OpenAI ก็มี ChatGPT Atlas ที่เน้นการใช้งานร่วมกับเว็บเบราว์เซอร์เช่นกัน แสดงให้เห็นว่า “AI + เบราว์เซอร์” กำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่ทุกค่ายกำลังเร่งพัฒนา ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Microsoft Edge ➡️ Copilot Actions ช่วยสั่งงานผ่านข้อความหรือเสียง เช่น เปิดเว็บ เช็คเมล จองร้านอาหาร ➡️ Journeys จัดระเบียบประวัติการท่องเว็บตามหัวข้อ พร้อมแนะนำสิ่งที่เกี่ยวข้อง ✅ การทำงานของ Copilot ➡️ สามารถทำงานข้ามเว็บไซต์ เช่น ล็อกอิน กรอกฟอร์ม และดำเนินการอัตโนมัติ ➡️ ใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานเพื่อให้คำแนะนำที่ตรงใจ ✅ ความเป็นส่วนตัวและการควบคุม ➡️ ผู้ใช้สามารถเปิดหรือปิดฟีเจอร์ได้ตลอดเวลา ➡️ มีการแสดงสัญลักษณ์ชัดเจนเมื่อมีการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว ✅ สถานะการใช้งาน ➡️ ฟีเจอร์ยังอยู่ในช่วงทดลองใช้ในสหรัฐฯ เท่านั้น ➡️ มีแผนขยายการใช้งานไปยังประเทศอื่นในอนาคต ✅ แนวโน้มของเบราว์เซอร์ AI ➡️ Perplexity เปิดตัว Comet และ OpenAI มี ChatGPT Atlas ➡️ การผสาน AI กับเบราว์เซอร์กำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ในวงการเทคโนโลยี ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน AI บนเบราว์เซอร์ ⛔ การให้สิทธิ์ AI เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวควรทำด้วยความระมัดระวัง ⛔ ควรตรวจสอบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวอย่างสม่ำเสมอ https://securityonline.info/beyond-chatbots-microsoft-edge-unveils-new-ai-features-for-automated-browsing/
    SECURITYONLINE.INFO
    Beyond Chatbots: Microsoft Edge Unveils New AI Features for Automated Browsing
    Microsoft Edge adds two new AI features, Copilot Actions and Journeys, enabling automated, multi-step web tasks and context-aware browsing history.
    0 Comments 0 Shares 5 Views 0 Reviews
  • Winter มาแล้ว!! ❄ ยุโรปตะวันออก 53,999

    🗓 จำนวนวัน 8วัน 5คืน
    ✈ DE-คอนดอร์
    พักโรงแรม &

    เยอรมนี
    ▪ไฮเดลเบิร์ก
    ▪มหาวิหารโคโลญ
    เนเธอร์แลนด์
    ▪อัมสเตอร์ดัม
    ▪หมู่บ้านกังหันลม ซานส์สคันส์
    เบลเยี่ยม
    ▪เกนต์
    ▪อะตอมเมียม
    ลักเซมเบิร์ก
    ▪เมืองเก่าลักเซมเบิร์ก
    ฝรั่งเศส
    ▪กอลมาร์
    ▪สตราสบูร์ก

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์ยุโรปตะวันออก #easterneurope #europe #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    Winter มาแล้ว!! ❄ ยุโรปตะวันออก 📍 53,999 🔥😍 🗓 จำนวนวัน 8วัน 5คืน ✈ DE-คอนดอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ & ⭐⭐⭐⭐ 📍 เยอรมนี ▪ไฮเดลเบิร์ก ▪มหาวิหารโคโลญ 📍 เนเธอร์แลนด์ ▪อัมสเตอร์ดัม ▪หมู่บ้านกังหันลม ซานส์สคันส์ 📍 เบลเยี่ยม ▪เกนต์ ▪อะตอมเมียม 📍 ลักเซมเบิร์ก ▪เมืองเก่าลักเซมเบิร์ก 📍 ฝรั่งเศส ▪กอลมาร์ ▪สตราสบูร์ก รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์ยุโรปตะวันออก #easterneurope #europe #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 Comments 0 Shares 4 Views 0 0 Reviews
  • ดร.เอ้ สุชัชวีร์ ลั่น "การศึกษา-การวิจัย" คือความมั่นคงของชาติ จี้รัฐบาลให้เป้าหมายชัดปม "แร่แรร์เอิร์ธ" https://www.thai-tai.tv/news/22075/
    .
    #ไทยไท #สุชัชวีร์ #มหาวิทยาลัยไทย #แร่แรร์เอิร์ธ #งานวิจัย #ความมั่นคงของชาติ
    ดร.เอ้ สุชัชวีร์ ลั่น "การศึกษา-การวิจัย" คือความมั่นคงของชาติ จี้รัฐบาลให้เป้าหมายชัดปม "แร่แรร์เอิร์ธ" https://www.thai-tai.tv/news/22075/ . #ไทยไท #สุชัชวีร์ #มหาวิทยาลัยไทย #แร่แรร์เอิร์ธ #งานวิจัย #ความมั่นคงของชาติ
    0 Comments 0 Shares 3 Views 0 Reviews
  • 2 ปีผ่านไป
    “เอม อยากทำงานอะไรเหรอลูก?”
    ผมถามลูกสาวเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้
    เอมไม่เคยตอบตรง ๆ สักครั้ง แต่จะยิ้มแล้วพูดคำเดิมทุกทีว่า “หนูอยากรวย!”
    โอเค... จุดหมายชัด แต่เส้นทางยังเบลอมาก ตอนไปเรียนอังกฤษใหม่ ๆ เอมเริ่มจากงานง่าย ๆ ช่วยป้าแจ๊คกี้ทำสวน เก็บใบไม้ ตัดกิ่ง ขุดดิน จนเล็บดำกลับบ้านทุกเย็น โทรมาบอกพ่อว่า “ป๊า หนูได้งานแล้วนะ!” ผมดีใจสุดขีด คิดว่าได้ทำงานในออฟฟิศหรู ๆ สุดท้าย... “งานขุดหลุมปลูกต้นไม้ค่ะป๊า!”
    จากนั้นก็รับจ๊อบเป็นติวเตอร์ สอน online กับรุ่นน้องๆ ที่เมืองไทย มีรายได้พออวดพ่อแม่ได้บ้างแถมยังภูมิใจสุด ๆ ตอนบอกว่า“หนูมีนักเรียนแล้วนะป๊า ทั้งหมด 4 คน! (รวมไอ้อิ๊งน้องสาวคนเดียวที่หนูหลอกมาฝึกฟรีด้วย)
    ไม่นานก็ได้เป็น Student Ambassador ของมหาวิทยาลัย คอยต้อนรับ ดูแลนักศึกษาใหม่ และช่วยงานในวัน Open House ตามที่มหาวิทยาลัยมอบหมาย
    ตอนนั้นผมเริ่มเห็นแล้วว่า “หนูอยากรวย” ของเอม ไม่ได้หมายถึงอยากได้เงิน แต่มันแปลว่า “หนูอยากเก่ง อยากลอง อยากโต”
    จนวันหนึ่ง เอมบอกว่าได้งานที่ Pfizer “อู้หู ยิ่งใหญ่เลยนะลูก!” ผมพูดด้วยความภูมิใจ เอมยักไหล่ “ก็แค่เด็กฝึกงานธรรมดาเองป๊า”
    แต่ความไม่ธรรมดาก็คือ...เอมกล้า “ให้คะแนนหัวหน้า” ในระบบ feedback ของบริษัท ผมถาม “ทำไมถึงทำอย่างน้้นละลูก เดี๋ยวหัวหน้าไม่ปลื้มเอานะ”
    เอมตอบอย่างมั่นใจ “ก็อยากให้เขาเห็นว่าเรากล้า feedback ไงป๊า เผื่อเขาจะให้คะแนนกลับมาบ้าง 555” คะแนนเอาไปแลกของได้ แต่เรื่องมันไม่จบสวย เพราะหัวหน้าไม่เคยให้คะแนนกลับเลยครับ เรียกว่าให้ไปข้างเดียว เหมือนรักข้างเดียวแต่เป็นแบบในที่ทำงาน
    จนสัปดาห์ที่แล้ว หัวหน้าคนนั้นส่งอีเมลมาบอกเอมว่า “เอม เราอยากให้เธอมาช่วยสัมภาษณ์และคัดเลือกพนักงานใหม่กับทีมเรา”
    เอมอึ้ง “หนูเหรอคะ?! หรือจะให้หนูเป็นตัวอย่างว่าคนแบบนี้ไม่ควรรับ?”
    แต่หัวหน้าหัวเราะแล้วตอบว่า
    “ใช่สิ ปีนี้เรารับสองตำแหน่งเท่าเดิม มีคนสมัคร 550 คน (ปีที่แล้วมีคนสมัครมากกว่านี้อีก หัวหน้าบอก) เราอยากให้เธอเห็นว่าการคัดคน มันไม่ใช่เลือกคนเก่งที่สุด แต่เลือกคนที่อยากทำงานจริง ๆ”
    เอมเล่าให้ฟังถึงการสมัครงานที่ Pfizer ว่า
    “การสมัครงานที่ Pfizer เขาไม่ได้มองแค่คนที่เก่งหรือมีผลการเรียนดีเท่านั้นนะป๊า”
    “จริงเหรอลูก?” ผมถามด้วยความสนใจ
    “ใช่ค่ะ เขาเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ผลการเรียนดีสุด ๆ ก็ได้” เอมพูดด้วยความมั่นใจ
    “วันนั้นอาจจะมีคนที่ผลการเรียนไม่ดี แต่เขาอาจจะเก่งก็ได้ หรืออาจจะมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ผลการเรียนไม่ดี ตอนที่เขาเลือกคนเข้ามาทำงาน เขาไม่ได้ตัดสินแค่ผลการเรียน แต่เลือกคนที่มีทัศนคติที่ดี และมีความอยากทำงานจริง ๆ”
    “ถ้าเราแค่เลือกคนที่ผลการเรียนดีสุด ๆ โดยไม่สนใจคนที่อาจจะมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ทำให้ผลการเรียนไม่ดี เราก็อาจจะพลาดคนที่มีศักยภาพมาก ๆ ที่เราอยากได้ก็ได้นะ”
    ผมฟังแล้วก็รู้สึกภูมิใจในตัวลูกสาวขึ้นมาอีกนิด
    “Pfizer เขาเปิดกว้างจริง ๆ เลยนะลูก” ผมพูดด้วยความชื่นชม
    เอมยิ้มตอบ “ใช่ค่ะ ป๊า แล้วการให้โอกาสกับทุกคนก็ทำให้เราเจอคนที่หลากหลาย และทุกคนก็มีโอกาสเติบโตในทางของตัวเอง”
    วันนั้นเอม video call มาด้วยความภูมิใจที่ ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ใช่รอยยิ้มของ “คนอยากรวย” แต่เป็นรอยยิ้มของ “คนที่เริ่มเข้าใจว่า ความรวยจริง ๆ มันอยู่ตรงไหน”
    หนูน้อยผู้มากประสบการณ์ของปะป๊า
    (ตอนนี้ยังไม่รวย...แต่ท่าทางจะไปได้ไกลแน่นอน )
    2 ปีผ่านไป 📆⏳👣 “เอม อยากทำงานอะไรเหรอลูก?” ผมถามลูกสาวเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ เอมไม่เคยตอบตรง ๆ สักครั้ง แต่จะยิ้มแล้วพูดคำเดิมทุกทีว่า “หนูอยากรวย!” โอเค... จุดหมายชัด แต่เส้นทางยังเบลอมาก ตอนไปเรียนอังกฤษใหม่ ๆ เอมเริ่มจากงานง่าย ๆ ช่วยป้าแจ๊คกี้ทำสวน เก็บใบไม้ ตัดกิ่ง ขุดดิน จนเล็บดำกลับบ้านทุกเย็น โทรมาบอกพ่อว่า “ป๊า หนูได้งานแล้วนะ!” ผมดีใจสุดขีด คิดว่าได้ทำงานในออฟฟิศหรู ๆ สุดท้าย... “งานขุดหลุมปลูกต้นไม้ค่ะป๊า!” จากนั้นก็รับจ๊อบเป็นติวเตอร์ สอน online กับรุ่นน้องๆ ที่เมืองไทย มีรายได้พออวดพ่อแม่ได้บ้างแถมยังภูมิใจสุด ๆ ตอนบอกว่า“หนูมีนักเรียนแล้วนะป๊า ทั้งหมด 4 คน! (รวมไอ้อิ๊งน้องสาวคนเดียวที่หนูหลอกมาฝึกฟรีด้วย) ไม่นานก็ได้เป็น Student Ambassador ของมหาวิทยาลัย คอยต้อนรับ ดูแลนักศึกษาใหม่ และช่วยงานในวัน Open House ตามที่มหาวิทยาลัยมอบหมาย ตอนนั้นผมเริ่มเห็นแล้วว่า “หนูอยากรวย” ของเอม ไม่ได้หมายถึงอยากได้เงิน แต่มันแปลว่า “หนูอยากเก่ง อยากลอง อยากโต” จนวันหนึ่ง เอมบอกว่าได้งานที่ Pfizer “อู้หู ยิ่งใหญ่เลยนะลูก!” ผมพูดด้วยความภูมิใจ เอมยักไหล่ “ก็แค่เด็กฝึกงานธรรมดาเองป๊า” แต่ความไม่ธรรมดาก็คือ...เอมกล้า “ให้คะแนนหัวหน้า” ในระบบ feedback ของบริษัท ผมถาม “ทำไมถึงทำอย่างน้้นละลูก เดี๋ยวหัวหน้าไม่ปลื้มเอานะ” เอมตอบอย่างมั่นใจ “ก็อยากให้เขาเห็นว่าเรากล้า feedback ไงป๊า เผื่อเขาจะให้คะแนนกลับมาบ้าง 555” คะแนนเอาไปแลกของได้ แต่เรื่องมันไม่จบสวย เพราะหัวหน้าไม่เคยให้คะแนนกลับเลยครับ เรียกว่าให้ไปข้างเดียว เหมือนรักข้างเดียวแต่เป็นแบบในที่ทำงาน จนสัปดาห์ที่แล้ว หัวหน้าคนนั้นส่งอีเมลมาบอกเอมว่า “เอม เราอยากให้เธอมาช่วยสัมภาษณ์และคัดเลือกพนักงานใหม่กับทีมเรา” เอมอึ้ง “หนูเหรอคะ?! หรือจะให้หนูเป็นตัวอย่างว่าคนแบบนี้ไม่ควรรับ?” แต่หัวหน้าหัวเราะแล้วตอบว่า “ใช่สิ ปีนี้เรารับสองตำแหน่งเท่าเดิม มีคนสมัคร 550 คน (ปีที่แล้วมีคนสมัครมากกว่านี้อีก หัวหน้าบอก) เราอยากให้เธอเห็นว่าการคัดคน มันไม่ใช่เลือกคนเก่งที่สุด แต่เลือกคนที่อยากทำงานจริง ๆ” เอมเล่าให้ฟังถึงการสมัครงานที่ Pfizer ว่า “การสมัครงานที่ Pfizer เขาไม่ได้มองแค่คนที่เก่งหรือมีผลการเรียนดีเท่านั้นนะป๊า” “จริงเหรอลูก?” ผมถามด้วยความสนใจ “ใช่ค่ะ เขาเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ผลการเรียนดีสุด ๆ ก็ได้” เอมพูดด้วยความมั่นใจ “วันนั้นอาจจะมีคนที่ผลการเรียนไม่ดี แต่เขาอาจจะเก่งก็ได้ หรืออาจจะมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ผลการเรียนไม่ดี ตอนที่เขาเลือกคนเข้ามาทำงาน เขาไม่ได้ตัดสินแค่ผลการเรียน แต่เลือกคนที่มีทัศนคติที่ดี และมีความอยากทำงานจริง ๆ” “ถ้าเราแค่เลือกคนที่ผลการเรียนดีสุด ๆ โดยไม่สนใจคนที่อาจจะมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ทำให้ผลการเรียนไม่ดี เราก็อาจจะพลาดคนที่มีศักยภาพมาก ๆ ที่เราอยากได้ก็ได้นะ” ผมฟังแล้วก็รู้สึกภูมิใจในตัวลูกสาวขึ้นมาอีกนิด “Pfizer เขาเปิดกว้างจริง ๆ เลยนะลูก” ผมพูดด้วยความชื่นชม เอมยิ้มตอบ “ใช่ค่ะ ป๊า แล้วการให้โอกาสกับทุกคนก็ทำให้เราเจอคนที่หลากหลาย และทุกคนก็มีโอกาสเติบโตในทางของตัวเอง” วันนั้นเอม video call มาด้วยความภูมิใจที่ ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ใช่รอยยิ้มของ “คนอยากรวย” แต่เป็นรอยยิ้มของ “คนที่เริ่มเข้าใจว่า ความรวยจริง ๆ มันอยู่ตรงไหน” หนูน้อยผู้มากประสบการณ์ของปะป๊า ❤️ (ตอนนี้ยังไม่รวย...แต่ท่าทางจะไปได้ไกลแน่นอน 😆)
    0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • สื่อมวลชนกัมพูชาตีข่าว ภาคธุรกิจของไทยกำลังร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล เตือนว่าการปิดชายแดนกับกัมพูชาในปัจจุบัน อาจก่อความสูญเสียทางเศรษฐกิจ 100,000 ล้านบาท ในช่วงสิ้นปี 2025

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000102697

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    สื่อมวลชนกัมพูชาตีข่าว ภาคธุรกิจของไทยกำลังร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล เตือนว่าการปิดชายแดนกับกัมพูชาในปัจจุบัน อาจก่อความสูญเสียทางเศรษฐกิจ 100,000 ล้านบาท ในช่วงสิ้นปี 2025 อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000102697 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • สหรัฐฯคาดหวังว่าไทยจะทำงานร่วมกับกัมพูชา สำหรับเริ่มปล่อยตัวทหาร 18 นายในทันที จากคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาในวันจันทร์(27ต.ค.) หลังจากผู้นำทั้ง 2 ชาติ ลงนามในข้อตกลงหยุดยิงฉบับปรับปรุงเมื่อวันอาทิตย์(28ต.ค.) ต่อหน้าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000102701

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สหรัฐฯคาดหวังว่าไทยจะทำงานร่วมกับกัมพูชา สำหรับเริ่มปล่อยตัวทหาร 18 นายในทันที จากคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาในวันจันทร์(27ต.ค.) หลังจากผู้นำทั้ง 2 ชาติ ลงนามในข้อตกลงหยุดยิงฉบับปรับปรุงเมื่อวันอาทิตย์(28ต.ค.) ต่อหน้าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000102701 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • มีรายงานข่าวว่า เฉิงตู J-20 เครื่องบินล่องหนรุ่น 5 ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน บินผ่านอีสเทิร์นชาแนลของช่องแคบเกาหลี โดยไม่ถูกตรวจจับใดๆเมื่อวันที่ 27 กรกฏาคม ตามรายงานของเซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์ในวันจันทร์(27ต.ค.) ว่ากันว่าเกาหลีใต้และญี่ปุ่นไม่สามารถติดตามแกะรอยเครื่องบินลำดังกล่าวระหว่างบินผ่าน คำกล่าวอ้างที่ก่อความกังวลเกี่ยวกับความพร้อมของระบบป้องกันภัยทางอากาศในภูมิภาค
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000102694

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    มีรายงานข่าวว่า เฉิงตู J-20 เครื่องบินล่องหนรุ่น 5 ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน บินผ่านอีสเทิร์นชาแนลของช่องแคบเกาหลี โดยไม่ถูกตรวจจับใดๆเมื่อวันที่ 27 กรกฏาคม ตามรายงานของเซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์ในวันจันทร์(27ต.ค.) ว่ากันว่าเกาหลีใต้และญี่ปุ่นไม่สามารถติดตามแกะรอยเครื่องบินลำดังกล่าวระหว่างบินผ่าน คำกล่าวอ้างที่ก่อความกังวลเกี่ยวกับความพร้อมของระบบป้องกันภัยทางอากาศในภูมิภาค . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000102694 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
  • "ทรัมป์" ได้อ้างถึงกรณีที่เขาเองตัดสินใจเคลื่อนเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ 2 ลำ เข้าไปใกล้น่านน้ำของรัสเซีย โดยบอกว่า "เราไม่จำเป็นต้องเข้าไปในระยะ 8,000 ไมล์(ราว 12,800 กิโลเมตร)" ระยะทางที่มีรายงานข่าวขีปนาวุธของรัสเซียพุ่งไปได้ไกลระหว่างการทดสอบ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000102692

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    "ทรัมป์" ได้อ้างถึงกรณีที่เขาเองตัดสินใจเคลื่อนเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ 2 ลำ เข้าไปใกล้น่านน้ำของรัสเซีย โดยบอกว่า "เราไม่จำเป็นต้องเข้าไปในระยะ 8,000 ไมล์(ราว 12,800 กิโลเมตร)" ระยะทางที่มีรายงานข่าวขีปนาวุธของรัสเซียพุ่งไปได้ไกลระหว่างการทดสอบ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000102692 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • สหรัฐฯจะถอนมาตรการปิดล้อมทางอาวุธที่กำหนดเล่นงานกัมพูชา และขยายความร่วมมือในด้านต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ในนั้นรวมถึงพวกค้ายาเสพติดและศูนย์สแกมเมอร์ออนไลน์ โดยทำเนียบขาวอ้างถึงความขยันขันแข็งของกัพูชาในการเสาะแสวงหาสันติภาพและความมั่นคง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000102693

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สหรัฐฯจะถอนมาตรการปิดล้อมทางอาวุธที่กำหนดเล่นงานกัมพูชา และขยายความร่วมมือในด้านต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ในนั้นรวมถึงพวกค้ายาเสพติดและศูนย์สแกมเมอร์ออนไลน์ โดยทำเนียบขาวอ้างถึงความขยันขันแข็งของกัพูชาในการเสาะแสวงหาสันติภาพและความมั่นคง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000102693 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 Comments 0 Shares 27 Views 0 Reviews
  • เฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ และจากนั้นก็เป็นเครื่องบินขับไล่อีก 1 ลำ ที่ประจำการอยู่บนเรือบรรทุกเครื่องบินนิมิตซ์ ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ตกลงในทะเลจีนใต้ห่างกันแค่ครึ่งชั่วโมง ระหว่างการปฏิบัติภารกิจปกติเมื่อวันอาทิตย์ (26 ต.ค.) โดยลูกเรือทุกคนได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย ขณะที่ทรัมป์ตัดความเป็นไปได้เรื่องการโจมตี คาดสาเหตุอาจมาจากเชื้อเพลิงไม่ได้ประสิทธิภาพ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000102684

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ และจากนั้นก็เป็นเครื่องบินขับไล่อีก 1 ลำ ที่ประจำการอยู่บนเรือบรรทุกเครื่องบินนิมิตซ์ ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ตกลงในทะเลจีนใต้ห่างกันแค่ครึ่งชั่วโมง ระหว่างการปฏิบัติภารกิจปกติเมื่อวันอาทิตย์ (26 ต.ค.) โดยลูกเรือทุกคนได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย ขณะที่ทรัมป์ตัดความเป็นไปได้เรื่องการโจมตี คาดสาเหตุอาจมาจากเชื้อเพลิงไม่ได้ประสิทธิภาพ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000102684 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews
  • ยึดเงินเทา อนุมัติขายอาวุธให้กัมพูชา ผลประโยชน์ไม่มีมิตรแท้ เมื่อไหร่คนเลือกตั้งจะตาสว่าง เราหวังนักการเมืองที่อยู่ในสภา คนไหน พรรคไหน ได้บ้าง

    https://mgronline.com/around/detail/9680000102676
    ยึดเงินเทา อนุมัติขายอาวุธให้กัมพูชา ผลประโยชน์ไม่มีมิตรแท้ เมื่อไหร่คนเลือกตั้งจะตาสว่าง เราหวังนักการเมืองที่อยู่ในสภา คนไหน พรรคไหน ได้บ้าง https://mgronline.com/around/detail/9680000102676
    MGRONLINE.COM
    งานเข้าไทย!สหรัฐฯเตรียมยกเลิกห้ามขายอาวุธให้กัมพูชา อ้างขมีขมันเสาะหาสันติภาพ
    สหรัฐฯจะถอนมาตรการปิดล้อมทางอาวุธที่กำหนดเล่นงานกัมพูชา และขยายความร่วมมือในด้านต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ในนั้นรวมถึงพวกค้ายาเสพติดและศูนย์สแกมเมอร์ออนไลน์ โดยทำเนียบขาวอ้างถึงความขยันขันแข็งของกัพูชาในการเสาะแสวงหาสันติภา
    0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
More Results