• รัฐบาลอิสราเอลเพิ่งให้การอนุมัติขั้นสุดท้ายสำหรับการหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม ตั้งแต่เวลา 12.00 น. (ตามเวลาปาเลสไตน์)

    ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงนี้:
    - ในช่วงเฟสแรก จะมีการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลชุดแรกจำนวน 33 คน ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับอยู่ในกาซามานาน 15 เดือนแล้ว เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยคนจากเรือนจำอิสราเอล ขณะที่กองทัพอิสราเอลจะถอนทหารออกจากพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นในกาซาและชาวปาเลสไตน์ที่หนีภัยสู้รบจะสามารถกลับสู่บ้านเรือนของตนเองได้ และจะมีการเปิดทางให้รถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปนำส่งความช่วยเหลือในกาซาได้วันละ 600 คัน ในเฟสแรกนี้จะใช้เวลานาน 6 สัปดาห์ และอาจขยายเวลาออกไปได้ หากภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น

    - ก่อนเข้าสู่เฟสที่ 2 จะมีการเจรจากันเพิ่มเติมของข้อตกลงหยุดยิง โดยจะมีการปล่อยตัวประกันอิสราเอลที่เหลืออยู่ ขณะกองทัพอิสราเอลจะถอนกำลังออกไปทั้งหมด

    - ส่วนเฟสที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้าย จะเป็นระยะการฟื้นฟูกาซาที่อาจต้องใช้เวลาหลายปีและการส่งร่างของตัวประกันที่เสียชีวิตแล้วทั้งหมดคืนแก่อิสราเอล
    .
    ผู้ติดตามทางการเมืองหลายรายแสดงความเห็น ข้อตกลงหยุดยิงนี้ไม่ใช่การนิรโทษกรรมให้กับอิสราเอล หรือเนทันยาฮูที่กำลังโดนข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรมสงคราม พวกเขายังคงต้องถูกดำเนินคดี มิฉะนั้น หไม่มีใครควรอยู่เหนือกฎหมายระหว่างประเทศที่ประชาคมโลกใช้ร่วมกัน
    .
    (วิดีโอ1) อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ เวลา 12.00 น. อิสราเอลได้เพิ่มระดับความรุนแรงในการโจมตี โดยหนึ่งในเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบคือศูนย์การติดต่อสื่อสารแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของกาซา
    .
    นอกจากนี้ ตามรายงานของหน่วยงานสาธารณะสุขของปาเลสไตน์ มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 116 ราย รวมถึงผู้หญิงและเด็ก ตั้งแต่เย็นวันพุธ หลังการประกาศข้อตกงหยุดยิง เนื่องจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่โจมตีชุมชนหลายแห่งทั่วฉนวนกาซา รวมถึงจาบาเลีย และพื้นที่ตอนกลาง เช่น นูไซรัต


    รัฐบาลอิสราเอลเพิ่งให้การอนุมัติขั้นสุดท้ายสำหรับการหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม ตั้งแต่เวลา 12.00 น. (ตามเวลาปาเลสไตน์) ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงนี้: - ในช่วงเฟสแรก จะมีการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลชุดแรกจำนวน 33 คน ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับอยู่ในกาซามานาน 15 เดือนแล้ว เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยคนจากเรือนจำอิสราเอล ขณะที่กองทัพอิสราเอลจะถอนทหารออกจากพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นในกาซาและชาวปาเลสไตน์ที่หนีภัยสู้รบจะสามารถกลับสู่บ้านเรือนของตนเองได้ และจะมีการเปิดทางให้รถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปนำส่งความช่วยเหลือในกาซาได้วันละ 600 คัน ในเฟสแรกนี้จะใช้เวลานาน 6 สัปดาห์ และอาจขยายเวลาออกไปได้ หากภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น - ก่อนเข้าสู่เฟสที่ 2 จะมีการเจรจากันเพิ่มเติมของข้อตกลงหยุดยิง โดยจะมีการปล่อยตัวประกันอิสราเอลที่เหลืออยู่ ขณะกองทัพอิสราเอลจะถอนกำลังออกไปทั้งหมด - ส่วนเฟสที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้าย จะเป็นระยะการฟื้นฟูกาซาที่อาจต้องใช้เวลาหลายปีและการส่งร่างของตัวประกันที่เสียชีวิตแล้วทั้งหมดคืนแก่อิสราเอล . ผู้ติดตามทางการเมืองหลายรายแสดงความเห็น ข้อตกลงหยุดยิงนี้ไม่ใช่การนิรโทษกรรมให้กับอิสราเอล หรือเนทันยาฮูที่กำลังโดนข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรมสงคราม พวกเขายังคงต้องถูกดำเนินคดี มิฉะนั้น หไม่มีใครควรอยู่เหนือกฎหมายระหว่างประเทศที่ประชาคมโลกใช้ร่วมกัน . (วิดีโอ1) อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ เวลา 12.00 น. อิสราเอลได้เพิ่มระดับความรุนแรงในการโจมตี โดยหนึ่งในเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบคือศูนย์การติดต่อสื่อสารแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของกาซา . นอกจากนี้ ตามรายงานของหน่วยงานสาธารณะสุขของปาเลสไตน์ มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 116 ราย รวมถึงผู้หญิงและเด็ก ตั้งแต่เย็นวันพุธ หลังการประกาศข้อตกงหยุดยิง เนื่องจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่โจมตีชุมชนหลายแห่งทั่วฉนวนกาซา รวมถึงจาบาเลีย และพื้นที่ตอนกลาง เช่น นูไซรัต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • Saloma Link สะพานที่มากกว่าไฟสวย

    มาเลเซียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนันทนาการ (Recreational Attraction) จำนวนมาก ซึ่งมนุษย์สร้างขึ้นเพื่อการพักผ่อนและเสริมสร้างสุขภาพ ให้ความสนุกสนาน บันเทิง และการศึกษาหาความรู้ แม้ไม่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม แต่มีลักษณะเป็นแหล่งท่องเที่ยวร่วมสมัย ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ River of Life บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Masjid Jamek และสะพาน Saloma Link บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru

    กล่าวถึงสะพาน Saloma Link (ซาโลมาลิงก์) เป็นสะพานขนาดไม่ใหญ่ ยาว 69 เมตร กว้าง 3 เมตร สูง 7 เมตร ข้ามทางด่วนสาย E12 อัมปัง-กัวลาลัมเปอร์ (AKLEH) และแม่น้ำแคลงที่อยู่เกาะกลาง มีทางลาดลงไปยังด้านข้างสุสานอิสลามจาลันอัมปัง แล้วออกทางแยกหน้าอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ ย่าน KLCC เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2563 โดยมีบริษัท VERITAS Design Group ออกแบบโครงสร้าง ใช้งบก่อสร้าง 31 ล้านริงกิต (237 ล้านบาท)

    จุดเด่นของสะพานซาโลมาลิงก์ คือการออกแบบโครงสร้างเหล็ก โดยได้แรงบันดาลใจจากการจัดช่อดอกไม้มงคลที่เรียกว่า ซิเระ จุนจุง (Sireh Junjung) ในพิธีแต่งงานของชาวมาเลย์ ประดับด้วยกระจกและแผงไฟ LED รูปทรงเพชร ฉายแสงในรูปแบบต่างๆ หลากสีสัน ชื่อสะพานมาจาก ซาโลมา ชื่อเรียกของ ซัลมาห์ อิสมาอิล (Salmah Ismail) นักร้อง นักแสดงชื่อดังชาวสิงคโปร์-มาเลเซีย ฉายามาริลิน มอนโรแห่งเอเชีย ที่เสียชีวิตเมื่อปี 2526 ด้วยวัย 48 ปี และถูกฝังอยู่ในสุสานอิสลามจาลันอัมปัง

    ก่อนจะมาเป็นสะพานที่สวยงามแห่งนี้ แต่เดิมเคยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแคลง จากกัวลาลัมเปอร์ไปยังกำปุงบารู (Kampung Baru) ชุมชนที่อยู่อีกฝั่ง แต่ได้รื้อสะพานเมื่อปี 2539 เพื่อก่อสร้างทางด่วนที่ยกสูงขึ้น เสมือนเป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำที่อยู่ตรงกลาง

    ในยามค่ำคืน สะพานแห่งนี้จะเปิดไฟ LED หลากสีสันอย่างสวยงาม ล้อไปกับตึกแฝดปิโตรนาสทาวเวอร์ ที่เปิดไฟส่องไสวไปทั่วตึกเช่นกัน นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปสะพานโดยเฉพาะฝั่งกำปุงบารู จะเห็นด้านหลังทั้งสะพานและตึกปิโตรนาส เป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมาเลเซียต้องไม่พลาด ซึ่งฝั่งกำปุงบารูจะเป็นชุมชนเก่าแก่ขนาดเล็ก มีร้านอาหารแบบสตรีทฟู้ดจำหน่าย ขึ้นลงได้จากบันไดและลิฟต์ และมีทางเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru ซึ่งเป็นสถานีใต้ดิน

    สะพานแห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่ 05.00-24.00 น. โปรดปฎิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ใช้ความระมัดระวังในการถ่ายรูป ไม่ปีนป่ายราวสะพาน และระวังสิ่งของที่ติดตัวตกจากสะพาน

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Saloma Link สะพานที่มากกว่าไฟสวย มาเลเซียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนันทนาการ (Recreational Attraction) จำนวนมาก ซึ่งมนุษย์สร้างขึ้นเพื่อการพักผ่อนและเสริมสร้างสุขภาพ ให้ความสนุกสนาน บันเทิง และการศึกษาหาความรู้ แม้ไม่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม แต่มีลักษณะเป็นแหล่งท่องเที่ยวร่วมสมัย ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ River of Life บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Masjid Jamek และสะพาน Saloma Link บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru กล่าวถึงสะพาน Saloma Link (ซาโลมาลิงก์) เป็นสะพานขนาดไม่ใหญ่ ยาว 69 เมตร กว้าง 3 เมตร สูง 7 เมตร ข้ามทางด่วนสาย E12 อัมปัง-กัวลาลัมเปอร์ (AKLEH) และแม่น้ำแคลงที่อยู่เกาะกลาง มีทางลาดลงไปยังด้านข้างสุสานอิสลามจาลันอัมปัง แล้วออกทางแยกหน้าอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ ย่าน KLCC เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2563 โดยมีบริษัท VERITAS Design Group ออกแบบโครงสร้าง ใช้งบก่อสร้าง 31 ล้านริงกิต (237 ล้านบาท) จุดเด่นของสะพานซาโลมาลิงก์ คือการออกแบบโครงสร้างเหล็ก โดยได้แรงบันดาลใจจากการจัดช่อดอกไม้มงคลที่เรียกว่า ซิเระ จุนจุง (Sireh Junjung) ในพิธีแต่งงานของชาวมาเลย์ ประดับด้วยกระจกและแผงไฟ LED รูปทรงเพชร ฉายแสงในรูปแบบต่างๆ หลากสีสัน ชื่อสะพานมาจาก ซาโลมา ชื่อเรียกของ ซัลมาห์ อิสมาอิล (Salmah Ismail) นักร้อง นักแสดงชื่อดังชาวสิงคโปร์-มาเลเซีย ฉายามาริลิน มอนโรแห่งเอเชีย ที่เสียชีวิตเมื่อปี 2526 ด้วยวัย 48 ปี และถูกฝังอยู่ในสุสานอิสลามจาลันอัมปัง ก่อนจะมาเป็นสะพานที่สวยงามแห่งนี้ แต่เดิมเคยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแคลง จากกัวลาลัมเปอร์ไปยังกำปุงบารู (Kampung Baru) ชุมชนที่อยู่อีกฝั่ง แต่ได้รื้อสะพานเมื่อปี 2539 เพื่อก่อสร้างทางด่วนที่ยกสูงขึ้น เสมือนเป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำที่อยู่ตรงกลาง ในยามค่ำคืน สะพานแห่งนี้จะเปิดไฟ LED หลากสีสันอย่างสวยงาม ล้อไปกับตึกแฝดปิโตรนาสทาวเวอร์ ที่เปิดไฟส่องไสวไปทั่วตึกเช่นกัน นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปสะพานโดยเฉพาะฝั่งกำปุงบารู จะเห็นด้านหลังทั้งสะพานและตึกปิโตรนาส เป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมาเลเซียต้องไม่พลาด ซึ่งฝั่งกำปุงบารูจะเป็นชุมชนเก่าแก่ขนาดเล็ก มีร้านอาหารแบบสตรีทฟู้ดจำหน่าย ขึ้นลงได้จากบันไดและลิฟต์ และมีทางเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru ซึ่งเป็นสถานีใต้ดิน สะพานแห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่ 05.00-24.00 น. โปรดปฎิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ใช้ความระมัดระวังในการถ่ายรูป ไม่ปีนป่ายราวสะพาน และระวังสิ่งของที่ติดตัวตกจากสะพาน #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • "คุณแม๊" พลิกแล้ว ยอมให้รื้อคดี
    ยัน "แตงโม"ถูกฆาตกรรม
    ลั่น "มาฆ่าลูกชั้นทำไม?"
    .
    วันนี้ (17 ม.ค.) รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ หลังไมค์ ทางช่อง 3 ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของ “แตงโม” นิดา พัชรวีระพงศ์ เกี่ยวกับการจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของ "แตงโม" เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) โดยทีมงานของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม, นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์, อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และทีมงานรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ โดยนางภนิดาระบุว่า ตนยินดีให้รื้อคดีแตงโม หากมีพยานหลักฐานใหม่ ระบุจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่สูญเปล่า และเชื่อว่าสามารถช่วยในการคลี่คลายคดีได้
    .
    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเห็นแย้งกับการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่? นายภนิดาระบุว่า เห็นด้วย และเป็นสิ่งที่ดี
    "ไม่เลยค่ะ เห็นดี เห็นดี สิ่งที่ดีทำไปเถอะลูก น้องโมก็มาช่วยด้วยล่ะ ช่วยบอก 1-2-3 (หัวเราะ) ... มันก็ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลนะ ทำไปเถอะ ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ว่ามันจะแสวงหาอะไรได้หรือไม่เนี่ย มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง สมมติว่าเจอหลักฐานใหม่ที่เขาว่า ต้องเป็นหลักฐานที่ใหม่เอี่ยมเลยที่ไม่ซ้ำเก่า"
    .
    นางภนิดายังระบุด้วยว่า ตนเชื่อว่าแตงโมถูกฆาตกรรมบนเรือ โดยตนเก็บข้อมูลมาตลอด บางเรื่องยังไม่ได้เปิดเผย ซึ่งอยู่ที่ตนเก็บไว้หมด โดยจะเอาหลักฐานไปให้นายอัจฉริยะ ทั้งนี้่ตนยอมรับว่านายอัจฉริยะเก่ง จริง ๆ เป็นเรื่องเก่าเล่าใหม่ แต่เมื่อ 3 ปี ที่ผ่านมาไม่มีคนสืบแบบนี้ ตำรวจก็ไม่ได้สืบเหมือนทีม อาจารย์ปานเทพ และนายอัจฉริยะ ที่เอาจริงเอาจัง
    .
    นางภนิดา กล่าวกับทีมข่าวช่อง 3 ด้วยว่า ตอนนี้ทีมนายอัจฉริยะ เดินหน้าเรื่องฆาตกรรม ประชาชนก็มองออกว่าแตงโมเสียชีวิตเพราะอะไร แต่ยังต้องสืบว่าแตงโม เสียชีวิตแบบไหน ใครทำ เสียชีวิตด้วยวิธีใด ต้องเอาคนบนเรือทั้งหมดมาสอบใหม่เพราะทำร้ายแตงโมทุกคน มีบาดแผลกันทุกคน อย่าง ’แซน วิศาพัช’ ก็โดนนายอัจฉริยะ เปิดเผยอึกอักมาหลายวัน
    .
    ส่วนกรณีที่ "ปอ" ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ และ "แซน" นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ และเป็นจำเลยในคดีการเสียชีวิตของ "แตงโม" ออกมาตั้งโต๊ะแถลงตอบโต้ว่าการจำลองเหตุการณ์นั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง มารดาของแตงโม ตอบว่า ตนไม่รู้ว่า "ปอ" กับ "แซน" จะพูดเรื่องนี้ทำไม เพราะมันตลกสิ้นดี
    .
    "(หัวเราะ) เขาจะพูดคำพวกนี้ทำไม มันตลกสิ้นดี เขาจะพูดทำไมว่ามันไม่ตรง มันจะตรงหรือไม่ตรง ไม่สนใจหรอกนะ เอาเป็นว่า คุณฆ่าแตงโมทำไมดีกว่า? ไอ้กระโดดเรือข้างซ้ายข้างขวา มันไม่ใช่ประเด็นการตายของน้องโม
    .
    "คือมันทำร้ายกันจริงๆ อันนี้เรื่องจริงลูก ต้องเชื่อคุณแม่เลยว่า เรื่องจริงมันเป็นเช่นนี้ และมันรุนแรงมาก คุณแม่มีสติพูดได้ขนาดนี้ ไม่อยากมีสติหรอก จริงๆ มันต้องพูดอ่ะเนอะ" นางภนิดากล่าว
    .
    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคุณแม่เชื่อว่าเหตุการณ์เสียชีวิตของแตงโมเป็นการฆาตกรรมหรือไม่? นางภนิดาตอบว่า แน่นอน
    "อ๊ะ! ก็ฆ่าลูกเราในเรือ ฆาตกรรมไหมล่ะ? ก็ฆ่าลูกเรา เขาเรียกว่าอะไรล่ะ ฆาตกรรม คำว่าอำพรางมันหมายความว่ายังไง? แกล้งฆ่าเหรอ หรือ แอบๆ ฆ่า มันไม่ต้องใช้คำว่าอำพรางแล้ว ตอนนั้น วันนั้นมันไม่มีหลักฐานจริง ๆ แต่วันนี้มีแล้ว วันนี้มีเยอะด้วย"
    .
    เมื่อถามว่ามีคำพูดอะไรอยากฝากถึง ปอ แซน และโรเบิร์ต (นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์) บ้างหรือไม่ นางภนิดาตอบว่า ไม่พูดได้ไหม เพราะตอนนี้คนเหล่านี้ก็น่าจะหนาวแย่แล้ว ตนไม่ชอบทับถมใคร ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกาลเวลา เพราะคนพวกนี้รู้อยู่แล้วว่าจะต้องโดนอะไร
    .
    ส่วนกรณีที่ แซน วิศาพัช ออกมาตอบโต้คนโน้นคนนี้ผ่านสื่อนั้น นางภนิดาระบุว่า "ใช่ ต้องเรียกว่าปากแซ๋บ ปากแจ๋ว โอ้โห! เถียงไม่หยุดเลย ผิดกับแซนเมื่อก่อน แซนเมื่อปีที่แล้วเงียบ ๆ แต่แซนเวลานี้พูดเยอะมาก"
    .
    คลิกชม >> "แม่ภนิดา" ยินดีรื้อคดี "แตงโม" ถ้ามีหลักฐานใหม่ ไม่สน "แซน-ปอ" โต้แย้ง ลั่น "ฆ่าลูกฉันทำไม" https://www.youtube.com/watch?v=_BOMPCebicE
    "คุณแม๊" พลิกแล้ว ยอมให้รื้อคดี ยัน "แตงโม"ถูกฆาตกรรม ลั่น "มาฆ่าลูกชั้นทำไม?" . วันนี้ (17 ม.ค.) รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ หลังไมค์ ทางช่อง 3 ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของ “แตงโม” นิดา พัชรวีระพงศ์ เกี่ยวกับการจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของ "แตงโม" เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) โดยทีมงานของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม, นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์, อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และทีมงานรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ โดยนางภนิดาระบุว่า ตนยินดีให้รื้อคดีแตงโม หากมีพยานหลักฐานใหม่ ระบุจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่สูญเปล่า และเชื่อว่าสามารถช่วยในการคลี่คลายคดีได้ . เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเห็นแย้งกับการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่? นายภนิดาระบุว่า เห็นด้วย และเป็นสิ่งที่ดี "ไม่เลยค่ะ เห็นดี เห็นดี สิ่งที่ดีทำไปเถอะลูก น้องโมก็มาช่วยด้วยล่ะ ช่วยบอก 1-2-3 (หัวเราะ) ... มันก็ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลนะ ทำไปเถอะ ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ว่ามันจะแสวงหาอะไรได้หรือไม่เนี่ย มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง สมมติว่าเจอหลักฐานใหม่ที่เขาว่า ต้องเป็นหลักฐานที่ใหม่เอี่ยมเลยที่ไม่ซ้ำเก่า" . นางภนิดายังระบุด้วยว่า ตนเชื่อว่าแตงโมถูกฆาตกรรมบนเรือ โดยตนเก็บข้อมูลมาตลอด บางเรื่องยังไม่ได้เปิดเผย ซึ่งอยู่ที่ตนเก็บไว้หมด โดยจะเอาหลักฐานไปให้นายอัจฉริยะ ทั้งนี้่ตนยอมรับว่านายอัจฉริยะเก่ง จริง ๆ เป็นเรื่องเก่าเล่าใหม่ แต่เมื่อ 3 ปี ที่ผ่านมาไม่มีคนสืบแบบนี้ ตำรวจก็ไม่ได้สืบเหมือนทีม อาจารย์ปานเทพ และนายอัจฉริยะ ที่เอาจริงเอาจัง . นางภนิดา กล่าวกับทีมข่าวช่อง 3 ด้วยว่า ตอนนี้ทีมนายอัจฉริยะ เดินหน้าเรื่องฆาตกรรม ประชาชนก็มองออกว่าแตงโมเสียชีวิตเพราะอะไร แต่ยังต้องสืบว่าแตงโม เสียชีวิตแบบไหน ใครทำ เสียชีวิตด้วยวิธีใด ต้องเอาคนบนเรือทั้งหมดมาสอบใหม่เพราะทำร้ายแตงโมทุกคน มีบาดแผลกันทุกคน อย่าง ’แซน วิศาพัช’ ก็โดนนายอัจฉริยะ เปิดเผยอึกอักมาหลายวัน . ส่วนกรณีที่ "ปอ" ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ และ "แซน" นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ และเป็นจำเลยในคดีการเสียชีวิตของ "แตงโม" ออกมาตั้งโต๊ะแถลงตอบโต้ว่าการจำลองเหตุการณ์นั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง มารดาของแตงโม ตอบว่า ตนไม่รู้ว่า "ปอ" กับ "แซน" จะพูดเรื่องนี้ทำไม เพราะมันตลกสิ้นดี . "(หัวเราะ) เขาจะพูดคำพวกนี้ทำไม มันตลกสิ้นดี เขาจะพูดทำไมว่ามันไม่ตรง มันจะตรงหรือไม่ตรง ไม่สนใจหรอกนะ เอาเป็นว่า คุณฆ่าแตงโมทำไมดีกว่า? ไอ้กระโดดเรือข้างซ้ายข้างขวา มันไม่ใช่ประเด็นการตายของน้องโม . "คือมันทำร้ายกันจริงๆ อันนี้เรื่องจริงลูก ต้องเชื่อคุณแม่เลยว่า เรื่องจริงมันเป็นเช่นนี้ และมันรุนแรงมาก คุณแม่มีสติพูดได้ขนาดนี้ ไม่อยากมีสติหรอก จริงๆ มันต้องพูดอ่ะเนอะ" นางภนิดากล่าว . เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคุณแม่เชื่อว่าเหตุการณ์เสียชีวิตของแตงโมเป็นการฆาตกรรมหรือไม่? นางภนิดาตอบว่า แน่นอน "อ๊ะ! ก็ฆ่าลูกเราในเรือ ฆาตกรรมไหมล่ะ? ก็ฆ่าลูกเรา เขาเรียกว่าอะไรล่ะ ฆาตกรรม คำว่าอำพรางมันหมายความว่ายังไง? แกล้งฆ่าเหรอ หรือ แอบๆ ฆ่า มันไม่ต้องใช้คำว่าอำพรางแล้ว ตอนนั้น วันนั้นมันไม่มีหลักฐานจริง ๆ แต่วันนี้มีแล้ว วันนี้มีเยอะด้วย" . เมื่อถามว่ามีคำพูดอะไรอยากฝากถึง ปอ แซน และโรเบิร์ต (นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์) บ้างหรือไม่ นางภนิดาตอบว่า ไม่พูดได้ไหม เพราะตอนนี้คนเหล่านี้ก็น่าจะหนาวแย่แล้ว ตนไม่ชอบทับถมใคร ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกาลเวลา เพราะคนพวกนี้รู้อยู่แล้วว่าจะต้องโดนอะไร . ส่วนกรณีที่ แซน วิศาพัช ออกมาตอบโต้คนโน้นคนนี้ผ่านสื่อนั้น นางภนิดาระบุว่า "ใช่ ต้องเรียกว่าปากแซ๋บ ปากแจ๋ว โอ้โห! เถียงไม่หยุดเลย ผิดกับแซนเมื่อก่อน แซนเมื่อปีที่แล้วเงียบ ๆ แต่แซนเวลานี้พูดเยอะมาก" . คลิกชม >> "แม่ภนิดา" ยินดีรื้อคดี "แตงโม" ถ้ามีหลักฐานใหม่ ไม่สน "แซน-ปอ" โต้แย้ง ลั่น "ฆ่าลูกฉันทำไม" https://www.youtube.com/watch?v=_BOMPCebicE
    Like
    Haha
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/
    กองทัพรัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M จำนวน 2 ลูก ที่อาคารศูนย์ฝึกอบรมการบินของกองทัพยูเครน ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นค่ายที่พักของกองกำลังยูเครน ใน Krivoy Rog

    เบื้องต้นมีรายงานทหารยูเครนเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง

    พิกัดตำแหน่งเป้าหมายการโจมตี 47.925606118485334, 33.32610654674055

    เหตุการณ์การโจมตีศูนย์ฝึกอบรมของยูเครนจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่นนี้ เคยเกิดมาแล้วครั้งหนึ่งใน Poltava เมื่อต้นเดือนกันยายน 2024 ซึ่งในครั้งนั้นทหารยูเครนกำลังฝึกอบรมจากครูฝึกของนาโต้เป็นผู้ฝึกสอน ในครั้งนั้นมีเจ้าหน้าที่ยูเครนและครูฝึกต่างชาติเสียชีวิต 41 ราย บาดเจ็บกว่า 180 ราย
    2/ กองทัพรัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M จำนวน 2 ลูก ที่อาคารศูนย์ฝึกอบรมการบินของกองทัพยูเครน ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นค่ายที่พักของกองกำลังยูเครน ใน Krivoy Rog เบื้องต้นมีรายงานทหารยูเครนเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง พิกัดตำแหน่งเป้าหมายการโจมตี 47.925606118485334, 33.32610654674055 เหตุการณ์การโจมตีศูนย์ฝึกอบรมของยูเครนจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่นนี้ เคยเกิดมาแล้วครั้งหนึ่งใน Poltava เมื่อต้นเดือนกันยายน 2024 ซึ่งในครั้งนั้นทหารยูเครนกำลังฝึกอบรมจากครูฝึกของนาโต้เป็นผู้ฝึกสอน ในครั้งนั้นมีเจ้าหน้าที่ยูเครนและครูฝึกต่างชาติเสียชีวิต 41 ราย บาดเจ็บกว่า 180 ราย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • 1/
    กองทัพรัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M จำนวน 2 ลูก ที่อาคารศูนย์ฝึกอบรมการบินของกองทัพยูเครน ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นค่ายที่พักของกองกำลังยูเครน ใน Krivoy Rog

    เบื้องต้นมีรายงานทหารยูเครนเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง

    พิกัดตำแหน่งเป้าหมายการโจมตี 47.925606118485334, 33.32610654674055

    เหตุการณ์การโจมตีศูนย์ฝึกอบรมของยูเครนจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่นนี้ เคยเกิดมาแล้วครั้งหนึ่งใน Poltava เมื่อต้นเดือนกันยายน 2024 ซึ่งในครั้งนั้นทหารยูเครนกำลังฝึกอบรมจากครูฝึกของนาโต้เป็นผู้ฝึกสอน ในครั้งนั้นมีเจ้าหน้าที่ยูเครนและครูฝึกต่างชาติเสียชีวิต 41 ราย บาดเจ็บกว่า 180 ราย
    1/ กองทัพรัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M จำนวน 2 ลูก ที่อาคารศูนย์ฝึกอบรมการบินของกองทัพยูเครน ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นค่ายที่พักของกองกำลังยูเครน ใน Krivoy Rog เบื้องต้นมีรายงานทหารยูเครนเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง พิกัดตำแหน่งเป้าหมายการโจมตี 47.925606118485334, 33.32610654674055 เหตุการณ์การโจมตีศูนย์ฝึกอบรมของยูเครนจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่นนี้ เคยเกิดมาแล้วครั้งหนึ่งใน Poltava เมื่อต้นเดือนกันยายน 2024 ซึ่งในครั้งนั้นทหารยูเครนกำลังฝึกอบรมจากครูฝึกของนาโต้เป็นผู้ฝึกสอน ในครั้งนั้นมีเจ้าหน้าที่ยูเครนและครูฝึกต่างชาติเสียชีวิต 41 ราย บาดเจ็บกว่า 180 ราย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารยูเครนแฉ! ศพทหารถูกเผาทิ้งกลางสนามรบ เพื่อปิดบังยอดเสียชีวิตตามความจริง และหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินชดเชย

    อิวาน คุตส์ (Ivan Kuts / Иван Куц) หนึ่งในเจ้าหน้าที่รักษาชายแดนยูเครนจำนวน 6 นาย ที่เพิ่งเข้ามอบตัวโดยสมัครใจกับหน่วยป้องกันชายแดนของรัสเซียในเขตวาลูยกี้ (Valuyki) ภูมิภาคเบลโกรอด (Belgorod) เล่าผ่านวิดีโอการสอบสวนว่า

    ผู้บังคับบัญชาทอดทิ้งพวกเขาให้เผชิญชะตากรรมโดยไม่มีเสบียงอาหาร หรือการสื่อสารใดๆที่เหมาะสม

    นอกจากนี้ เขาและเพื่อนทหารคนอื่นยังถูกบังคับบัญชาของหน่วยยืมเงิน เพื่อนำไปเล่นการพนันออนไลน์ และไม่เคยได้เงินคืนเลย

    เรื่องที่น่าตกใจอย่างมากเมื่อคุตส์เล่าว่า มีทหารที่บาดเจ็บจำนวนมากที่แนวหน้าและเสียชีวิตลง เนื่องจากไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ดีพอ ยิ่งไปกว่านั้น เขาเห็นเตาเผาศพแบบเคลื่อนที่มาที่สนามรบเพื่อใช้งาน เนื่องจากเตาเผาศพในเมืองคาร์คีฟไม่สามารถจัดการได้ทันเวลา และเพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต
    คุตส์ยังยืนยันว่าพวกเขายังเผาศพของทหารรับจ้างต่างชาติอีกมากที่เสียชีวิตตามอาคารที่ถูกโจมตีจากรัสเซียอีกด้วย เพื่อปกปิดการมีอยู่ของพวกเขาในยูเครน

    คุตส์ยังพูดถึงเรื่องที่ทหารในหน่วยของเขาติดสุรา รวมทั้งยาเสพติดมากมาย เนื่องจากความเครียดและขวัญกำลังใจที่ตกต่ำถึงขีดสุด
    ทหารยูเครนแฉ! ศพทหารถูกเผาทิ้งกลางสนามรบ เพื่อปิดบังยอดเสียชีวิตตามความจริง และหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินชดเชย อิวาน คุตส์ (Ivan Kuts / Иван Куц) หนึ่งในเจ้าหน้าที่รักษาชายแดนยูเครนจำนวน 6 นาย ที่เพิ่งเข้ามอบตัวโดยสมัครใจกับหน่วยป้องกันชายแดนของรัสเซียในเขตวาลูยกี้ (Valuyki) ภูมิภาคเบลโกรอด (Belgorod) เล่าผ่านวิดีโอการสอบสวนว่า ผู้บังคับบัญชาทอดทิ้งพวกเขาให้เผชิญชะตากรรมโดยไม่มีเสบียงอาหาร หรือการสื่อสารใดๆที่เหมาะสม นอกจากนี้ เขาและเพื่อนทหารคนอื่นยังถูกบังคับบัญชาของหน่วยยืมเงิน เพื่อนำไปเล่นการพนันออนไลน์ และไม่เคยได้เงินคืนเลย เรื่องที่น่าตกใจอย่างมากเมื่อคุตส์เล่าว่า มีทหารที่บาดเจ็บจำนวนมากที่แนวหน้าและเสียชีวิตลง เนื่องจากไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ดีพอ ยิ่งไปกว่านั้น เขาเห็นเตาเผาศพแบบเคลื่อนที่มาที่สนามรบเพื่อใช้งาน เนื่องจากเตาเผาศพในเมืองคาร์คีฟไม่สามารถจัดการได้ทันเวลา และเพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต คุตส์ยังยืนยันว่าพวกเขายังเผาศพของทหารรับจ้างต่างชาติอีกมากที่เสียชีวิตตามอาคารที่ถูกโจมตีจากรัสเซียอีกด้วย เพื่อปกปิดการมีอยู่ของพวกเขาในยูเครน คุตส์ยังพูดถึงเรื่องที่ทหารในหน่วยของเขาติดสุรา รวมทั้งยาเสพติดมากมาย เนื่องจากความเครียดและขวัญกำลังใจที่ตกต่ำถึงขีดสุด
    Sad
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดอุบัติเหตุสุดสลด ยายชาวบางระกำ อายุ 74 จูงจักรยานข้ามถนนเตรียมไปเลี้ยงเพลพระลูกชาย ถูกรถตราโล่ขนผู้ต้องหาส่งศาลชนร่างกระเด็นเสียชีวิต รถ ตร.พลิกหงานท้องล้อชี้ฟ้า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000005277

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เกิดอุบัติเหตุสุดสลด ยายชาวบางระกำ อายุ 74 จูงจักรยานข้ามถนนเตรียมไปเลี้ยงเพลพระลูกชาย ถูกรถตราโล่ขนผู้ต้องหาส่งศาลชนร่างกระเด็นเสียชีวิต รถ ตร.พลิกหงานท้องล้อชี้ฟ้า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000005277 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Sad
    Like
    Angry
    10
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 661 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลลัพธ์จากการโจมตีด้วยระเบิดร่อน FAB ของรัสเซีย ที่อาคารฐานทัพทหารของยูเครนในเมือง Bilytske ทางเหนือของ Pokrovsk ส่งผลให้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่

    มีรายงานทหารยูเครนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตหลายราย
    ผลลัพธ์จากการโจมตีด้วยระเบิดร่อน FAB ของรัสเซีย ที่อาคารฐานทัพทหารของยูเครนในเมือง Bilytske ทางเหนือของ Pokrovsk ส่งผลให้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ มีรายงานทหารยูเครนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตหลายราย
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • อัจฉริยะ หอบหลักฐานจำลองเหตุการณ์แตงโมตกน้ำ ร้องดีเอสไอ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ จี้สอบ จนท.รัฐ เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้านโฆษกดีเอสไอ ระบุ สำนวนคดีหลักยังอยู่ในชั้นศาล ไม่อาจก้าวล่วงได้ และต้องรับข้อมูลประกอบการพิจารณาอย่างระมัดระวัง ต้องดูข้อกฎหมาย ดูว่ามีอำนาจหรือไม่ ก่อนชงอธิบดีฯ รับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ
    .
    วันนี้ (17 ม.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นเรื่องต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ขอให้ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นักแสดงชื่อดัง ขอให้สืบสวนสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี ซึ่งมีข้อพิรุธอันเป็นเหตุสงสัยที่เชื่อว่าไม่ตรงกับความเป็นจริง มีการบิดเบือนพยานหลักฐานกระบวนการยุติธรรมในคดี และพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ
    .
    นายอัจฉริยะ กล่าวว่า จากการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือ วันที่ 15-16 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีคำถามเกิดขึ้นมากมาย โดยตนเองได้นำหลักฐานทั้งหมดมาใช้ในคดีใหม่ และมามอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเป็นคดีพิเศษ ทำการสืบสวนสอบสวนเอาผิดกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสำนวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม รวมทั้งคนบนเรือ เนื่องจากการสืบสวนส่อในทางไม่สุจริต มีการให้การเท็จ พยานเท็จ มีลักษณะให้ความช่วยเหลือฝ่ายจำเลย เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
    .
    วันนี้ขอให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ รับดำเนินการตั้งเลขสืบสวน อ้างอิงจากคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส และคดีของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ที่เคยรับไว้เป็นคดีพิเศษก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีลักษณะคดีคล้ายกัน ทำให้สามารถเรียกพยานบุคคลมาสอบปากคำได้ ส่วนสาเหตุไม่ไปร้อง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เนื่องจากไม่เชื่อมั่นการทำงานหน่วยงานดังกล่าว เพราะเป็นองค์กรตำรวจ
    .
    นอกจากนี้ การยังไม่ไปร้องสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพราะมองว่าต้องการให้มีการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนโดยหากไปร้องทั้งที่ยังไม่มีการสอบสวน ก็ไม่มีประโยชน์อะไร บาดแผลแตงโมเกิดก่อนการตกน้ำเสียชีวิต และขาดอากาศหายใจ ซึ่งหมอก็ตอบไม่ได้ว่าการเสียชีวิตเกิดจากอะไร แต่ตำรวจสรุปว่าเสียชีวิตจากการพลัดตกกราบเรือด้านซ้ายโดนใบพัดเรือ
    .
    ประกอบกับศาลอาญาสืบพยานทั้ง 2 ฝ่ายเชื่อได้ว่าแตงโม ไม่ได้พลัดตกเรือ บาดแผลก็ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ ส่วนเส้นผม 3 เส้นบนเรือก็ไม่น่าเชื่อถือ ตนอยากเรียกร้องกระบวนการยุติธรรมเพราะบางคดีอาจมีการตั้งธงไว้ก่อน ทำให้ชาวบ้านไม่ศรัทธาหันไปร้องขอความช่วยเหลือจากเพจหรือคนที่ช่วยสังคม ซึ่งตนคาดหวังว่าคดีนี้ต้องมีคนรับโทษ
    .
    ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวหลังรับหนังสือ ว่า สำหรับประเด็นดังกล่าว ขอแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ประเด็นแรก ตัวคดีหลักอยู่ในการพิจารณาของศาล ดังนั้น เป็นสิ่งที่ดีเอสไอก้าวล่วงไม่ได้ ส่วนประเด็นที่สอง คือ กรณีที่ผู้ร้องได้มายื่นขอให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งก็ต้องมาพิจารณาในรายละเอียดว่าเป็นการยื่นขอให้มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคนใหม่ในข้อหาใหม่หรือไม่อย่างไร
    .
    ทั้งนี้ จะมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่ดีเอสไอจะรับไปดำเนินการนั้น ย้ำว่าเราต้องดูพยานหลักฐาน ซึ่งการจะรับเรื่องใดไว้เป็นคดีพิเศษ อย่างที่ย้ำไปว่าคดีหลักยังอยู่ในกระบวนการศาล ฉะนั้น สิ่งที่ดีเอสไอจะทำต่อก็ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพราะต้องดูข้อกฎหมายเป็นหลัก แต่ส่วนประเด็นที่ผู้ร้องได้ให้ข้อเท็จจริงมา อันนี้ก็ต้องนำไปพิจารณาประกอบกันว่าจะนำไปสู่การดำเนินการใหม่ได้หรือไม่
    .
    ส่วนกรณีเมื่อวันที่ 16 ม.ค. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การจำลองสถานการณ์การเสียชีวิตของคุณแตงโมของภาคประชาชน ทราบว่ารายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลไปแล้ว คาดว่าอาจนำไปดูประกอบกับข้อมูลของผู้ร้องในวันนี้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคดีใดที่อยู่ในระหว่างชั้นศาล ดีเอสไอต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพราะคดีดังกล่าวมีผู้กระทำความผิดที่อยู่ในกระบวนการชั้นศาล ซึ่งโดยหลักการเมื่อคดีไปอยู่ในชั้นศาล เจ้าพนักงานสอบสวนจะไม่มีอำนาจหน้าที่ เว้นแต่เป็นกรณีที่มีข้อเท็จจริงอย่างอื่นที่นำไปสู่การสอบสวนได้ ซึ่งก็ต้องไปดูรายละเอียดก่อน ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน
    .
    เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่สังคมค่อนข้างให้การจับตามองในประเด็นดังกล่าว พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า ตนมองว่าเป็นปรากฎการณ์ที่ดีเพราะการที่ภาคประชาชนให้ความสำคัญในเรื่องของการทำงานร่วมกับภาครัฐถือเป็นเรื่องที่ดี แต่กลไกทางกฎหมายก็ต้องมาดูรายละเอียดกันด้วย ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ ที่ภาคประชาชนได้มา คาดว่าทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่ไปร่วมสังเกตการณ์น่าจะได้มีการรายงานต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษไปแล้ว
    .
    โดยกรอบเวลาการทำงานเพื่อดูความชัดเจนนั้น เบื้องต้นทราบว่าเป็นเรื่องของการตรวจสอบอยู่ ถ้าหากมีการตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลใดของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก็ต้องการรายงานไปยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่ามีเหตุที่สามารถใช้อำนาจในการสืบสวนต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องทำตามขั้นตอน ส่วนกรอบระยะเวลาเร็วหรือช้า ต้องขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อนอย่าพึ่งไปบอกว่าเร็วหรือช้า ต้องดูก่อนว่าในเรื่องดังกล่าวดีเอสไอมีอำนาจหรือไม่ ถ้าหากผ่านขั้นตอนแรกไปแล้วก็จะได้ไปสู่ขั้นตอนที่สองในการพิจารณารับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005212
    .........
    Sondhi X
    อัจฉริยะ หอบหลักฐานจำลองเหตุการณ์แตงโมตกน้ำ ร้องดีเอสไอ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ จี้สอบ จนท.รัฐ เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้านโฆษกดีเอสไอ ระบุ สำนวนคดีหลักยังอยู่ในชั้นศาล ไม่อาจก้าวล่วงได้ และต้องรับข้อมูลประกอบการพิจารณาอย่างระมัดระวัง ต้องดูข้อกฎหมาย ดูว่ามีอำนาจหรือไม่ ก่อนชงอธิบดีฯ รับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ . วันนี้ (17 ม.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นเรื่องต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ขอให้ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นักแสดงชื่อดัง ขอให้สืบสวนสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี ซึ่งมีข้อพิรุธอันเป็นเหตุสงสัยที่เชื่อว่าไม่ตรงกับความเป็นจริง มีการบิดเบือนพยานหลักฐานกระบวนการยุติธรรมในคดี และพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ . นายอัจฉริยะ กล่าวว่า จากการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือ วันที่ 15-16 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีคำถามเกิดขึ้นมากมาย โดยตนเองได้นำหลักฐานทั้งหมดมาใช้ในคดีใหม่ และมามอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเป็นคดีพิเศษ ทำการสืบสวนสอบสวนเอาผิดกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสำนวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม รวมทั้งคนบนเรือ เนื่องจากการสืบสวนส่อในทางไม่สุจริต มีการให้การเท็จ พยานเท็จ มีลักษณะให้ความช่วยเหลือฝ่ายจำเลย เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ . วันนี้ขอให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ รับดำเนินการตั้งเลขสืบสวน อ้างอิงจากคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส และคดีของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ที่เคยรับไว้เป็นคดีพิเศษก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีลักษณะคดีคล้ายกัน ทำให้สามารถเรียกพยานบุคคลมาสอบปากคำได้ ส่วนสาเหตุไม่ไปร้อง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เนื่องจากไม่เชื่อมั่นการทำงานหน่วยงานดังกล่าว เพราะเป็นองค์กรตำรวจ . นอกจากนี้ การยังไม่ไปร้องสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพราะมองว่าต้องการให้มีการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนโดยหากไปร้องทั้งที่ยังไม่มีการสอบสวน ก็ไม่มีประโยชน์อะไร บาดแผลแตงโมเกิดก่อนการตกน้ำเสียชีวิต และขาดอากาศหายใจ ซึ่งหมอก็ตอบไม่ได้ว่าการเสียชีวิตเกิดจากอะไร แต่ตำรวจสรุปว่าเสียชีวิตจากการพลัดตกกราบเรือด้านซ้ายโดนใบพัดเรือ . ประกอบกับศาลอาญาสืบพยานทั้ง 2 ฝ่ายเชื่อได้ว่าแตงโม ไม่ได้พลัดตกเรือ บาดแผลก็ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ ส่วนเส้นผม 3 เส้นบนเรือก็ไม่น่าเชื่อถือ ตนอยากเรียกร้องกระบวนการยุติธรรมเพราะบางคดีอาจมีการตั้งธงไว้ก่อน ทำให้ชาวบ้านไม่ศรัทธาหันไปร้องขอความช่วยเหลือจากเพจหรือคนที่ช่วยสังคม ซึ่งตนคาดหวังว่าคดีนี้ต้องมีคนรับโทษ . ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวหลังรับหนังสือ ว่า สำหรับประเด็นดังกล่าว ขอแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ประเด็นแรก ตัวคดีหลักอยู่ในการพิจารณาของศาล ดังนั้น เป็นสิ่งที่ดีเอสไอก้าวล่วงไม่ได้ ส่วนประเด็นที่สอง คือ กรณีที่ผู้ร้องได้มายื่นขอให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งก็ต้องมาพิจารณาในรายละเอียดว่าเป็นการยื่นขอให้มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคนใหม่ในข้อหาใหม่หรือไม่อย่างไร . ทั้งนี้ จะมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่ดีเอสไอจะรับไปดำเนินการนั้น ย้ำว่าเราต้องดูพยานหลักฐาน ซึ่งการจะรับเรื่องใดไว้เป็นคดีพิเศษ อย่างที่ย้ำไปว่าคดีหลักยังอยู่ในกระบวนการศาล ฉะนั้น สิ่งที่ดีเอสไอจะทำต่อก็ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพราะต้องดูข้อกฎหมายเป็นหลัก แต่ส่วนประเด็นที่ผู้ร้องได้ให้ข้อเท็จจริงมา อันนี้ก็ต้องนำไปพิจารณาประกอบกันว่าจะนำไปสู่การดำเนินการใหม่ได้หรือไม่ . ส่วนกรณีเมื่อวันที่ 16 ม.ค. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การจำลองสถานการณ์การเสียชีวิตของคุณแตงโมของภาคประชาชน ทราบว่ารายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลไปแล้ว คาดว่าอาจนำไปดูประกอบกับข้อมูลของผู้ร้องในวันนี้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคดีใดที่อยู่ในระหว่างชั้นศาล ดีเอสไอต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพราะคดีดังกล่าวมีผู้กระทำความผิดที่อยู่ในกระบวนการชั้นศาล ซึ่งโดยหลักการเมื่อคดีไปอยู่ในชั้นศาล เจ้าพนักงานสอบสวนจะไม่มีอำนาจหน้าที่ เว้นแต่เป็นกรณีที่มีข้อเท็จจริงอย่างอื่นที่นำไปสู่การสอบสวนได้ ซึ่งก็ต้องไปดูรายละเอียดก่อน ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน . เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่สังคมค่อนข้างให้การจับตามองในประเด็นดังกล่าว พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า ตนมองว่าเป็นปรากฎการณ์ที่ดีเพราะการที่ภาคประชาชนให้ความสำคัญในเรื่องของการทำงานร่วมกับภาครัฐถือเป็นเรื่องที่ดี แต่กลไกทางกฎหมายก็ต้องมาดูรายละเอียดกันด้วย ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ ที่ภาคประชาชนได้มา คาดว่าทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่ไปร่วมสังเกตการณ์น่าจะได้มีการรายงานต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษไปแล้ว . โดยกรอบเวลาการทำงานเพื่อดูความชัดเจนนั้น เบื้องต้นทราบว่าเป็นเรื่องของการตรวจสอบอยู่ ถ้าหากมีการตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลใดของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก็ต้องการรายงานไปยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่ามีเหตุที่สามารถใช้อำนาจในการสืบสวนต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องทำตามขั้นตอน ส่วนกรอบระยะเวลาเร็วหรือช้า ต้องขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อนอย่าพึ่งไปบอกว่าเร็วหรือช้า ต้องดูก่อนว่าในเรื่องดังกล่าวดีเอสไอมีอำนาจหรือไม่ ถ้าหากผ่านขั้นตอนแรกไปแล้วก็จะได้ไปสู่ขั้นตอนที่สองในการพิจารณารับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษต่อไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005212 ......... Sondhi X
    Like
    Love
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 637 มุมมอง 0 รีวิว
  • "กลุ่มฮูตีประกาศหยุดยิงเช่นกัน แต่ก็พร้อมจะกลับมาดำเนินการอีกครั้งหากการสังหารหมู่ชาวกาซายังคงดำเนินต่อไป"

    ผู้นำกลุ่มอันซารุลเลาะห์ หรือกลุ่มฮูตีในเยเมน อับดุล-มาลิก อัล-ฮูซี ประกาศหยุดปฏิบัติการโจมตีเรือที่แล่นผ่านทะเลแดง หลังอิสราเอลและฮามาส บรรลุข้อตกลงหยุดยิง แต่จะกลับมาโจมตีต่อทันทีหากอิสราเอลละเมิดข้อตกลงดังกล่าว

    คาดว่า ข้อตกลงหยุดยิงในกาซา จะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคมนี้ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 กลุ่มฮูตีปฏิบัติการโจมตีเรือมากกว่า 100 ครั้ง และจมเรือไป 2 ลำ, ยึดเรือได้ 1 ลำ และมีลูกเรือเสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย ซึ่งความรุนแรงของการโจมตีดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการเดินเรือทั่วโลกและกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนเส้นทางการเดินเรือด้วย
    "กลุ่มฮูตีประกาศหยุดยิงเช่นกัน แต่ก็พร้อมจะกลับมาดำเนินการอีกครั้งหากการสังหารหมู่ชาวกาซายังคงดำเนินต่อไป" ผู้นำกลุ่มอันซารุลเลาะห์ หรือกลุ่มฮูตีในเยเมน อับดุล-มาลิก อัล-ฮูซี ประกาศหยุดปฏิบัติการโจมตีเรือที่แล่นผ่านทะเลแดง หลังอิสราเอลและฮามาส บรรลุข้อตกลงหยุดยิง แต่จะกลับมาโจมตีต่อทันทีหากอิสราเอลละเมิดข้อตกลงดังกล่าว คาดว่า ข้อตกลงหยุดยิงในกาซา จะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคมนี้ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 กลุ่มฮูตีปฏิบัติการโจมตีเรือมากกว่า 100 ครั้ง และจมเรือไป 2 ลำ, ยึดเรือได้ 1 ลำ และมีลูกเรือเสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย ซึ่งความรุนแรงของการโจมตีดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการเดินเรือทั่วโลกและกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนเส้นทางการเดินเรือด้วย
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • ChatGPT ใช้น้ำเยอะเกินไปจนไม่พอดับไฟป่าแคลิฟอร์เนียจริงหรือ?

    ในช่วงที่เกิดไฟป่ารุนแรงในแคลิฟอร์เนีย ผู้ใช้โซเชียลมีเดียเริ่มมองหาผู้รับผิดชอบในการดับไฟป่า และมีการกล่าวโทษว่าโมเดล AI อย่าง ChatGPT ใช้น้ำเยอะเกินไปจนทำให้น้ำไม่พอดับไฟป่า โดยมีการรณรงค์ให้ชาวแคลิฟอร์เนียหยุดใช้งาน ChatGPT เพื่อประหยัดน้ำ

    การฝึกโมเดล AI ต้องใช้พลังประมวลผลมหาศาล ซึ่งทำให้เกิดความร้อนสูงและต้องใช้น้ำในการระบายความร้อน ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ขอให้ ChatGPT เขียนอีเมล 1 ฉบับต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 1 ปี ChatGPT จะใช้น้ำ 27 ลิตร และหากชาวอเมริกัน 1 ใน 10 คน หรือ 16 ล้านคนทำเช่นเดียวกันนี้ จะต้องใช้น้ำมากกว่า 435 ล้านลิตร

    อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการน้ำในเขตเมืองออกความเห็นว่า การใช้น้ำของ AI ไม่ใช่ตัวการทำให้มีน้ำไม่พอดับไฟ แต่เป็นเพราะระบบน้ำที่มีอยู่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือภัยพิบัติระดับนี้ เหตุไฟไหม้ป่าลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย ถือว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมือง โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คน และพื้นที่เสียหายกว่า 40,000 เอเคอร์

    ChatGPT รวมถึงโมเดล AI อื่นๆ มีรอยเท้าคาร์บอนจำนวนมาก ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้เกิดสภาพอากาศแห้งแล้งและอุณหภูมิที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดไฟป่าและลุกลามรวดเร็วเมื่อผนวกกับลมแรง

    การใช้น้ำของ ChatGPT และโมเดล AI อื่นๆ เป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดไฟป่าและน้ำไม่พอดับไฟ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการย้ายศูนย์ข้อมูลไปยังพื้นที่ที่อากาศหนาวเย็นกว่าเดิม หรือการใช้เทคโนโลยีการหล่อเย็นแบบจุ่ม (immersion cooling) อาจช่วยลดการใช้น้ำได้

    ในขณะที่นักรณรงค์บนโซเชียลมีเดียบอกว่า หากอยากประหยัดน้ำจริง หยุดใช้ ChatGPT คงไม่พอ คงต้องหยุดใช้โมเดล AI อื่นๆ ด้วย เช่น Claude, Grok, Gemini, Copilot, Midjourney, Leonardo, DALL-E, Firefly, ElevenLabs, Shortwave, Runway, Mem, Suno, Jasper, Notion, Bard, Alphacode, MetaAI, Wordtune และ Stable Diffusion

    การจัดการน้ำในแคลิฟอร์เนียยังคงเป็นปัญหาที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดภัยพิบัติระดับใหญ่เช่นนี้

    ขอบคุณบทความจากเวบ Thairath ครับ

    https://plus.thairath.co.th/topic/politics&society/105099
    ChatGPT ใช้น้ำเยอะเกินไปจนไม่พอดับไฟป่าแคลิฟอร์เนียจริงหรือ? ในช่วงที่เกิดไฟป่ารุนแรงในแคลิฟอร์เนีย ผู้ใช้โซเชียลมีเดียเริ่มมองหาผู้รับผิดชอบในการดับไฟป่า และมีการกล่าวโทษว่าโมเดล AI อย่าง ChatGPT ใช้น้ำเยอะเกินไปจนทำให้น้ำไม่พอดับไฟป่า โดยมีการรณรงค์ให้ชาวแคลิฟอร์เนียหยุดใช้งาน ChatGPT เพื่อประหยัดน้ำ การฝึกโมเดล AI ต้องใช้พลังประมวลผลมหาศาล ซึ่งทำให้เกิดความร้อนสูงและต้องใช้น้ำในการระบายความร้อน ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ขอให้ ChatGPT เขียนอีเมล 1 ฉบับต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 1 ปี ChatGPT จะใช้น้ำ 27 ลิตร และหากชาวอเมริกัน 1 ใน 10 คน หรือ 16 ล้านคนทำเช่นเดียวกันนี้ จะต้องใช้น้ำมากกว่า 435 ล้านลิตร อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการน้ำในเขตเมืองออกความเห็นว่า การใช้น้ำของ AI ไม่ใช่ตัวการทำให้มีน้ำไม่พอดับไฟ แต่เป็นเพราะระบบน้ำที่มีอยู่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือภัยพิบัติระดับนี้ เหตุไฟไหม้ป่าลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย ถือว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมือง โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คน และพื้นที่เสียหายกว่า 40,000 เอเคอร์ ChatGPT รวมถึงโมเดล AI อื่นๆ มีรอยเท้าคาร์บอนจำนวนมาก ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้เกิดสภาพอากาศแห้งแล้งและอุณหภูมิที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดไฟป่าและลุกลามรวดเร็วเมื่อผนวกกับลมแรง การใช้น้ำของ ChatGPT และโมเดล AI อื่นๆ เป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดไฟป่าและน้ำไม่พอดับไฟ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการย้ายศูนย์ข้อมูลไปยังพื้นที่ที่อากาศหนาวเย็นกว่าเดิม หรือการใช้เทคโนโลยีการหล่อเย็นแบบจุ่ม (immersion cooling) อาจช่วยลดการใช้น้ำได้ ในขณะที่นักรณรงค์บนโซเชียลมีเดียบอกว่า หากอยากประหยัดน้ำจริง หยุดใช้ ChatGPT คงไม่พอ คงต้องหยุดใช้โมเดล AI อื่นๆ ด้วย เช่น Claude, Grok, Gemini, Copilot, Midjourney, Leonardo, DALL-E, Firefly, ElevenLabs, Shortwave, Runway, Mem, Suno, Jasper, Notion, Bard, Alphacode, MetaAI, Wordtune และ Stable Diffusion การจัดการน้ำในแคลิฟอร์เนียยังคงเป็นปัญหาที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดภัยพิบัติระดับใหญ่เช่นนี้ ขอบคุณบทความจากเวบ Thairath ครับ https://plus.thairath.co.th/topic/politics&society/105099
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • 20 ปี รถไฟฟ้าใต้ดินชนกัน ที่ศูนย์วัฒนธรรม โทษคนเพื่อปกป้องระบบ ความสูญเสียที่กลายเป็นบทเรียนราคาแพง

    ย้อนไปเมื่อ 20 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2548 เกิดเหตุการณ์ที่สั่นสะเทือน วงการคมนาคมไทย เมื่อรถไฟฟ้าใต้ดินสองขบวน ชนกันที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จนทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 200 คน และกลายเป็นกรณีศึกษา เรื่องความปลอดภัย ของระบบขนส่งมวลชนในประเทศไทย

    เช้าวันที่ 17 มกราคม 2548 เวลา 9.15 น. ในชั่วโมงเร่งด่วน รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน ขบวนลาดพร้าว-หัวลำโพง หมายเลข 1015 ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารกว่า 700 คน ได้จอดรับส่งผู้โดยสา รที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยมีนายวิภูติ จันทนภริน เป็นพนักงานขับรถ ระหว่างที่ขบวนกำลังจะเคลื่อนออกจากสถานี กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน รถไฟฟ้าอีกขบวนหนึ่ง หมายเลข 1028 ซึ่งเป็นขบวนเปล่าสำหรับซ่อมบำรุง มีนายนิติพนธ์ นิธิโยสิยานนท์ เป็นพนักงานขับรถ ได้ไหลลงมาจากทางลาดชัน และพุ่งชนกับขบวนที่กำลังให้บริการ

    แรงชนทำให้หน้าขบวนรถ 1028 ยุบเข้าไปกว่า 70 เซนติเมตร อัดก๊อบปี้พนักงานขับรถ ติดคาซา ประตูฉุกเฉินของขบวน 1015 ไม่สามารถใช้งานได้ ส่งผลให้การอพยพผู้โดยสา รต้องรอกุญแจสำรองกว่า 10 นาที

    แรงจากการชน ส่งผลให้ผนังอุโมงค์ใต้ดินิพังถล่มลงมาทับขบวน 1015 ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนทั่วสถานี โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ แต่ผู้บาดเจ็บกว่า 200 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลพระราม 9 จำนวน 124 คน โรงพยาบาลกรุงเทพ 21 คน โรงพยาบาลราชวิถี 15 คน โรงพยาบาลตำรวจ 12 คน โรงพยาบาลวิภาวดีรามคำแหง 12 คน โรงพยาบาลวิภาวดี 11 คน โรงพยาบาลพระมงกุฏ 11 คน โรงพยาบาลเปาโลสยาม 11 คน โรงพยาบาลสมิติเวช 8 คน โรงพยาบาลเมโย 4 คน โรงพยาบาลปิยะเวท 3 คน โดยมีผู้บาดเจ็บสาหัสถึง 10 คน ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บ จากกระดูกแตก และแรงกระแทก

    สาเหตุที่แท้จริง เมื่อระบบและคน ทำงานผิดพลาดร่วมกัน
    หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น มีการสืบสวนอย่างละเอียด ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน หลักฐานจากกล่องดำของรถไฟฟ้า เผยว่า การชนครั้งนี้ เกิดจากการผสมผสาน ความผิดพลาดของมนุษย์ และปัญหาของระบบควบคุมอัตโนมัติ

    1. ความผิดพลาดในการควบคุมการเดินรถ
    รถไฟขบวน 1028 ซึ่งจอดอยู่ในศูนย์ซ่อมบำรุง ถูกสั่งปลดเบรกมือ ในขณะที่รถยังอยู่บนทางลาด
    เจ้าหน้าที่ควบคุมการเดินรถได้สั่งการให้ "ดัน" ขบวน 1028 เพื่อกลับเข้าสู่รางที่ 3 ซึ่งเป็นรางจ่ายไฟ
    การสั่งการดังกล่าวเกิดขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงความเสี่ยง ที่รถอาจไหลลงมาด้วยความเร็วสูง

    2. ปัญหาจากระบบควบคุมอัตโนมัติ
    ระบบรถไฟฟ้าใต้ดินของกรุงเทพฯ ในขณะนั้น พึ่งพาระบบอัตโนมัติเป็นหลัก แต่กลับพบว่า เกิดการขัดข้องในระบบ ที่ทำให้การควบคุมทั้งสองขบวนรถ ทำงานผิดปกติ ส่งผลให้ขบวนรถไฟฟ้า หลุดจากการควบคุม และไหลไปชน

    3. การจัดการเบรก และการตัดสินใจที่ผิดพลาด
    รถไฟฟ้าขบวน 1028 ถูกสั่งปลดเบรกมือ โดยไม่ควบคุมความเร็ว ส่งผลให้รถพุ่งชนขบวน 1015 ที่กำลังจอดรับผู้โดยสาร

    รถไฟฟ้าใต้ดิน สายเฉลิมรัชมงคล หรือสายสีน้ำเงิน เปิดใช้เร็วกว่ากำหนดถึง 4 เดือน แต่วิ่งได้เพียง 2 วัน ก็เกิดอุบัติเหตุครั้งแรกขึ้น เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2547 ที่สถานีคลองเตย เมื่อรถไฟฟ้าใต้ดินออกจากสถานีหัวลำโพง มุ่งหน้าสถานีบางซื่อ เมื่อระบบเบรกล็อกเองอัตโนมัติ ทำให้ล้อยางเสียดสีกับยาง จนเกิดกลุ่มควันพวยพุ่ง สร้างความแตกตื่นให้กับผู้โดยสาร ต้องอพยพกันชุลมุน

    ต่อมาวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 ก็เกิดเหตุการณ์​การจ่ายกระแสไฟฟ้าขัดข้อง ที่สถานีหัวลำโพงถึง 3 จุด ทำให้ไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้า ไปยังจุดสับเปลี่ยนรางได้ ทำให้ผู้โดยสารกว่าพันคน ต้องตกค้างที่สถานีสามย่าน และสถานีหัวลำโพง

    เหตุครั้งล่าสุดเมื่อ 20 ปี ที่ผ่านมา 17 มกราคม 2548 รถไฟฟ้าใต้ดินขบวน 1028 พุ่งชนประสานงานขบวน 1015 ที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 200 คน ส่วนพนักงานขับรถขบวน 1028 บาดเจ็บสาหัส เรียกได้ว่าเปิดใช้งานมายังไม่ถึง 1 ปี ก็มาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน

    เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงแต่ส่งผล ต่อภาพลักษณ์ของระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่ยังทำให้เกิดการตั้งคำถาม ถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ของระบบขนส่งมวลชนในประเทศไทย

    1. ความเชื่อมั่นของประชาชนที่ลดลง
    หลังจากเหตุการณ์นี้ ผู้โดยสารจำนวนมาก เริ่มมีความกังวล เกี่ยวกับความปลอดภัย ของการใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้บริการ ลดลงในช่วงเวลานั้น

    2. การปรับปรุงมาตรการความปลอดภัย
    ตรวจสอบระบบควบคุมการเดินรถ หลังเหตุการณ์นี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามาเร่งตรวจสอบ ระบบความปลอดภัย ของรถไฟฟ้าใต้ดิน พนักงานควบคุมการเดินรถ และคนขับ รับการอบรมอย่างเข้มข้นมากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดข้อผิดพลาด ในอนาคต

    ผลการสอบสวนชี้ว่า เป็นความผิดพลาดของพนักงานควบคุมการเดินรถ ที่อนุญาตให้ปลดเบรกขบวนรถ 1028 ได้ แต่ก็เชื่อได้ว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เป็นเพราะระบบ ไม่ใช่คน เพราะระบบจะควบคุมทั้งหมด สามารถสั่งให้รถวิ่ง หรือหยุดก็ได้คนขับมีหน้าที่เดียว หรือกดเปิดปิดเครื่องเท่านั้น

    แต่จำเป็นต้องมีความพยายามเบี่ยงประเด็น ให้คนเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะหากผลการสอบสอวนระบุว่า เกิดจากระบบ บริษัทที่เกี่ยวข้อง ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทางแพ่ง จำนวนหลายพันล้านบาท

    ทั้งนี้ผ่านมา เคยเกิดเหตุ ขบวนรถที่กลับเข้าศูนย์ซ่อม หยุดที่บริเวณดังกล่าว 2-3 ครั้ง และก็มีการลากจูงเพื่อแก้ปัญหา โชคดีที่ไม่มีการปลดเบรก แต่ครั้งนี้พนักงานปลดเบรกมือ จึงทำให้รถไหลเข้าไปในอุโมงค์ จนชนกันขึ้น

    เหตุการณ์ชนกันของรถไฟใต้ดิน ที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความผิดพลาด แต่เป็นบทเรียนสำคัญ ที่ทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญ ของมาตรฐานความปลอดภัย ในการขนส่งมวลชน

    1. ความสำคัญของระบบสำรองฉุกเฉิน
    การที่ประตูฉุกเฉิน ไม่สามารถเปิดใช้งานได้ในทันที เป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไข อย่างเร่งด่วน เหตุการณ์นี้ จึงนำไปสู่การปรับปรุง ระบบฉุกเฉินในรถไฟฟ้าทุกขบวน

    2. การฝึกอบรม และการปฏิบัติตามมาตรฐาน
    พนักงานที่เกี่ยวข้อง ควรมีความรู้ และการฝึกอบรมอย่างละเอียด ในทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

    3. การพัฒนาระบบควบคุมอัตโนมัติ
    การพึ่งพาระบบอัตโนมัติอย่างเดียว ไม่เพียงพอ ต้องมีการตรวจสอบระบบ และอัปเดตเทคโนโลยี อย่างสม่ำเสมอ

    การรับมือในอนาคต
    ตรวจสอบระบบอย่างต่อเนื่อง มีการตรวจสอบระบบรถไฟฟ้า และศูนย์ซ่อมบำรุงเป็นประจำ
    เพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น การติดตั้งระบบเบรกฉุกเฉิน ที่สามารถหยุดรถไฟได้ทันที ในกรณีฉุกเฉิน
    สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน การสื่อสารและรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัย จะช่วยสร้างความเชื่อมั่น ให้กับผู้ใช้บริการ

    เหตุการณ์รถไฟใต้ดินชนกัน เมื่อ 20 ปี ที่ผ่านมา ที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญ ในประวัติศาสตร์ของระบบขนส่งมวลชนไทย แม้จะไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้น ก็เพียงพอที่จะทำให้เราตระหนักถึง ความสำคัญของมาตรการความปลอดภัย ที่เข้มงวดมากขึ้น

    การพัฒนา และปรับปรุงระบบขนส่งมวลชน ให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ จะเป็นสิ่งที่ช่วยลดโอกาส ในการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในอนาคต ได้อย่างแน่นอน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 170912 ม.ค. 2568

    #รถไฟใต้ดิน #เหตุการณ์สำคัญ #ความปลอดภัยในระบบขนส่ง #บทเรียนราคาแพง #ระบบควบคุมอัตโนมัติ #20ปีแห่งบทเรียน #เหตุรถไฟชนกัน #การพัฒนาระบบขนส่ง #มาตรการความปลอดภัย
    20 ปี รถไฟฟ้าใต้ดินชนกัน ที่ศูนย์วัฒนธรรม โทษคนเพื่อปกป้องระบบ ความสูญเสียที่กลายเป็นบทเรียนราคาแพง ย้อนไปเมื่อ 20 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2548 เกิดเหตุการณ์ที่สั่นสะเทือน วงการคมนาคมไทย เมื่อรถไฟฟ้าใต้ดินสองขบวน ชนกันที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จนทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 200 คน และกลายเป็นกรณีศึกษา เรื่องความปลอดภัย ของระบบขนส่งมวลชนในประเทศไทย เช้าวันที่ 17 มกราคม 2548 เวลา 9.15 น. ในชั่วโมงเร่งด่วน รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน ขบวนลาดพร้าว-หัวลำโพง หมายเลข 1015 ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารกว่า 700 คน ได้จอดรับส่งผู้โดยสา รที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยมีนายวิภูติ จันทนภริน เป็นพนักงานขับรถ ระหว่างที่ขบวนกำลังจะเคลื่อนออกจากสถานี กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน รถไฟฟ้าอีกขบวนหนึ่ง หมายเลข 1028 ซึ่งเป็นขบวนเปล่าสำหรับซ่อมบำรุง มีนายนิติพนธ์ นิธิโยสิยานนท์ เป็นพนักงานขับรถ ได้ไหลลงมาจากทางลาดชัน และพุ่งชนกับขบวนที่กำลังให้บริการ แรงชนทำให้หน้าขบวนรถ 1028 ยุบเข้าไปกว่า 70 เซนติเมตร อัดก๊อบปี้พนักงานขับรถ ติดคาซา ประตูฉุกเฉินของขบวน 1015 ไม่สามารถใช้งานได้ ส่งผลให้การอพยพผู้โดยสา รต้องรอกุญแจสำรองกว่า 10 นาที แรงจากการชน ส่งผลให้ผนังอุโมงค์ใต้ดินิพังถล่มลงมาทับขบวน 1015 ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนทั่วสถานี โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ แต่ผู้บาดเจ็บกว่า 200 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลพระราม 9 จำนวน 124 คน โรงพยาบาลกรุงเทพ 21 คน โรงพยาบาลราชวิถี 15 คน โรงพยาบาลตำรวจ 12 คน โรงพยาบาลวิภาวดีรามคำแหง 12 คน โรงพยาบาลวิภาวดี 11 คน โรงพยาบาลพระมงกุฏ 11 คน โรงพยาบาลเปาโลสยาม 11 คน โรงพยาบาลสมิติเวช 8 คน โรงพยาบาลเมโย 4 คน โรงพยาบาลปิยะเวท 3 คน โดยมีผู้บาดเจ็บสาหัสถึง 10 คน ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บ จากกระดูกแตก และแรงกระแทก สาเหตุที่แท้จริง เมื่อระบบและคน ทำงานผิดพลาดร่วมกัน หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น มีการสืบสวนอย่างละเอียด ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน หลักฐานจากกล่องดำของรถไฟฟ้า เผยว่า การชนครั้งนี้ เกิดจากการผสมผสาน ความผิดพลาดของมนุษย์ และปัญหาของระบบควบคุมอัตโนมัติ 1. ความผิดพลาดในการควบคุมการเดินรถ รถไฟขบวน 1028 ซึ่งจอดอยู่ในศูนย์ซ่อมบำรุง ถูกสั่งปลดเบรกมือ ในขณะที่รถยังอยู่บนทางลาด เจ้าหน้าที่ควบคุมการเดินรถได้สั่งการให้ "ดัน" ขบวน 1028 เพื่อกลับเข้าสู่รางที่ 3 ซึ่งเป็นรางจ่ายไฟ การสั่งการดังกล่าวเกิดขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงความเสี่ยง ที่รถอาจไหลลงมาด้วยความเร็วสูง 2. ปัญหาจากระบบควบคุมอัตโนมัติ ระบบรถไฟฟ้าใต้ดินของกรุงเทพฯ ในขณะนั้น พึ่งพาระบบอัตโนมัติเป็นหลัก แต่กลับพบว่า เกิดการขัดข้องในระบบ ที่ทำให้การควบคุมทั้งสองขบวนรถ ทำงานผิดปกติ ส่งผลให้ขบวนรถไฟฟ้า หลุดจากการควบคุม และไหลไปชน 3. การจัดการเบรก และการตัดสินใจที่ผิดพลาด รถไฟฟ้าขบวน 1028 ถูกสั่งปลดเบรกมือ โดยไม่ควบคุมความเร็ว ส่งผลให้รถพุ่งชนขบวน 1015 ที่กำลังจอดรับผู้โดยสาร รถไฟฟ้าใต้ดิน สายเฉลิมรัชมงคล หรือสายสีน้ำเงิน เปิดใช้เร็วกว่ากำหนดถึง 4 เดือน แต่วิ่งได้เพียง 2 วัน ก็เกิดอุบัติเหตุครั้งแรกขึ้น เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2547 ที่สถานีคลองเตย เมื่อรถไฟฟ้าใต้ดินออกจากสถานีหัวลำโพง มุ่งหน้าสถานีบางซื่อ เมื่อระบบเบรกล็อกเองอัตโนมัติ ทำให้ล้อยางเสียดสีกับยาง จนเกิดกลุ่มควันพวยพุ่ง สร้างความแตกตื่นให้กับผู้โดยสาร ต้องอพยพกันชุลมุน ต่อมาวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 ก็เกิดเหตุการณ์​การจ่ายกระแสไฟฟ้าขัดข้อง ที่สถานีหัวลำโพงถึง 3 จุด ทำให้ไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้า ไปยังจุดสับเปลี่ยนรางได้ ทำให้ผู้โดยสารกว่าพันคน ต้องตกค้างที่สถานีสามย่าน และสถานีหัวลำโพง เหตุครั้งล่าสุดเมื่อ 20 ปี ที่ผ่านมา 17 มกราคม 2548 รถไฟฟ้าใต้ดินขบวน 1028 พุ่งชนประสานงานขบวน 1015 ที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 200 คน ส่วนพนักงานขับรถขบวน 1028 บาดเจ็บสาหัส เรียกได้ว่าเปิดใช้งานมายังไม่ถึง 1 ปี ก็มาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงแต่ส่งผล ต่อภาพลักษณ์ของระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่ยังทำให้เกิดการตั้งคำถาม ถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ของระบบขนส่งมวลชนในประเทศไทย 1. ความเชื่อมั่นของประชาชนที่ลดลง หลังจากเหตุการณ์นี้ ผู้โดยสารจำนวนมาก เริ่มมีความกังวล เกี่ยวกับความปลอดภัย ของการใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้บริการ ลดลงในช่วงเวลานั้น 2. การปรับปรุงมาตรการความปลอดภัย ตรวจสอบระบบควบคุมการเดินรถ หลังเหตุการณ์นี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามาเร่งตรวจสอบ ระบบความปลอดภัย ของรถไฟฟ้าใต้ดิน พนักงานควบคุมการเดินรถ และคนขับ รับการอบรมอย่างเข้มข้นมากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดข้อผิดพลาด ในอนาคต ผลการสอบสวนชี้ว่า เป็นความผิดพลาดของพนักงานควบคุมการเดินรถ ที่อนุญาตให้ปลดเบรกขบวนรถ 1028 ได้ แต่ก็เชื่อได้ว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เป็นเพราะระบบ ไม่ใช่คน เพราะระบบจะควบคุมทั้งหมด สามารถสั่งให้รถวิ่ง หรือหยุดก็ได้คนขับมีหน้าที่เดียว หรือกดเปิดปิดเครื่องเท่านั้น แต่จำเป็นต้องมีความพยายามเบี่ยงประเด็น ให้คนเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะหากผลการสอบสอวนระบุว่า เกิดจากระบบ บริษัทที่เกี่ยวข้อง ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทางแพ่ง จำนวนหลายพันล้านบาท ทั้งนี้ผ่านมา เคยเกิดเหตุ ขบวนรถที่กลับเข้าศูนย์ซ่อม หยุดที่บริเวณดังกล่าว 2-3 ครั้ง และก็มีการลากจูงเพื่อแก้ปัญหา โชคดีที่ไม่มีการปลดเบรก แต่ครั้งนี้พนักงานปลดเบรกมือ จึงทำให้รถไหลเข้าไปในอุโมงค์ จนชนกันขึ้น เหตุการณ์ชนกันของรถไฟใต้ดิน ที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความผิดพลาด แต่เป็นบทเรียนสำคัญ ที่ทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญ ของมาตรฐานความปลอดภัย ในการขนส่งมวลชน 1. ความสำคัญของระบบสำรองฉุกเฉิน การที่ประตูฉุกเฉิน ไม่สามารถเปิดใช้งานได้ในทันที เป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไข อย่างเร่งด่วน เหตุการณ์นี้ จึงนำไปสู่การปรับปรุง ระบบฉุกเฉินในรถไฟฟ้าทุกขบวน 2. การฝึกอบรม และการปฏิบัติตามมาตรฐาน พนักงานที่เกี่ยวข้อง ควรมีความรู้ และการฝึกอบรมอย่างละเอียด ในทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น 3. การพัฒนาระบบควบคุมอัตโนมัติ การพึ่งพาระบบอัตโนมัติอย่างเดียว ไม่เพียงพอ ต้องมีการตรวจสอบระบบ และอัปเดตเทคโนโลยี อย่างสม่ำเสมอ การรับมือในอนาคต ตรวจสอบระบบอย่างต่อเนื่อง มีการตรวจสอบระบบรถไฟฟ้า และศูนย์ซ่อมบำรุงเป็นประจำ เพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น การติดตั้งระบบเบรกฉุกเฉิน ที่สามารถหยุดรถไฟได้ทันที ในกรณีฉุกเฉิน สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน การสื่อสารและรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัย จะช่วยสร้างความเชื่อมั่น ให้กับผู้ใช้บริการ เหตุการณ์รถไฟใต้ดินชนกัน เมื่อ 20 ปี ที่ผ่านมา ที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญ ในประวัติศาสตร์ของระบบขนส่งมวลชนไทย แม้จะไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้น ก็เพียงพอที่จะทำให้เราตระหนักถึง ความสำคัญของมาตรการความปลอดภัย ที่เข้มงวดมากขึ้น การพัฒนา และปรับปรุงระบบขนส่งมวลชน ให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ จะเป็นสิ่งที่ช่วยลดโอกาส ในการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในอนาคต ได้อย่างแน่นอน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 170912 ม.ค. 2568 #รถไฟใต้ดิน #เหตุการณ์สำคัญ #ความปลอดภัยในระบบขนส่ง #บทเรียนราคาแพง #ระบบควบคุมอัตโนมัติ #20ปีแห่งบทเรียน #เหตุรถไฟชนกัน #การพัฒนาระบบขนส่ง #มาตรการความปลอดภัย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่คร่าชีวิตพลเรือนผู้ลี้ภัยไป 82 รายในฉนวนกาซา ซึ่งนับเป็นยอดผู้เสียชีวิตรายวันที่สูงสุดในรอบ 11 วันที่ผ่านมา

    ตามข้อมูลของทางการด้านสาธารณสุขของฉนวนกาซา ผู้เสียชีวิตประกอบด้วย "เด็ก 21 ราย" และ "ผู้หญิง 25 ราย"



    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่คร่าชีวิตพลเรือนผู้ลี้ภัยไป 82 รายในฉนวนกาซา ซึ่งนับเป็นยอดผู้เสียชีวิตรายวันที่สูงสุดในรอบ 11 วันที่ผ่านมา ตามข้อมูลของทางการด้านสาธารณสุขของฉนวนกาซา ผู้เสียชีวิตประกอบด้วย "เด็ก 21 ราย" และ "ผู้หญิง 25 ราย"
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮัสซัน อัล-ซานิน นักข่าวชาวปาเลสไตน์ รายงานจากสถานที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศที่อาคารที่พักอาศัยในเมืองจาบาเลีย ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา เมื่อคืนนี้

    การโจมตีเกิดขึ้นหลังจากมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิงไปแล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทันที 25 ราย และบาดเจ็บกว่า 200 ราย

    รายงานล่าสุด ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 82 ราย
    ฮัสซัน อัล-ซานิน นักข่าวชาวปาเลสไตน์ รายงานจากสถานที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศที่อาคารที่พักอาศัยในเมืองจาบาเลีย ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา เมื่อคืนนี้ การโจมตีเกิดขึ้นหลังจากมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิงไปแล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทันที 25 ราย และบาดเจ็บกว่า 200 ราย รายงานล่าสุด ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 82 ราย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 473 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • 3/

    อิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มกาซาที่อาคารหลังหนึ่งหลังข้อตกลงหยุดยิงสำเร็จเพียงไม่กี่ชั่วโมง เสียชีวิตทันที 18 ราย และบาดเจ็บกว่า 200 ราย

    ต่อมามีรายงานมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 82 ราย!!!

    อิสราเอลประกาศว่า อิสราเอลยังมีสิทธิโจมตีฮามาส และจะไม่ยอมรับข้อตกลงอย่างเป็นทางการ จนกว่าเรื่องนี้จะผ่านคณะมนตรีด้านความมั่นคงและรัฐบาลของประเทศ ซึ่งมีกำหนดการลงญัตติในวันพฤหัสที่ 16 มกราคม แต่มีการระงับออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยอ้างว่าฮามาสผิดสัญญาบางส่วนของข้อตกลง
    3/ อิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มกาซาที่อาคารหลังหนึ่งหลังข้อตกลงหยุดยิงสำเร็จเพียงไม่กี่ชั่วโมง เสียชีวิตทันที 18 ราย และบาดเจ็บกว่า 200 ราย ต่อมามีรายงานมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 82 ราย!!! อิสราเอลประกาศว่า อิสราเอลยังมีสิทธิโจมตีฮามาส และจะไม่ยอมรับข้อตกลงอย่างเป็นทางการ จนกว่าเรื่องนี้จะผ่านคณะมนตรีด้านความมั่นคงและรัฐบาลของประเทศ ซึ่งมีกำหนดการลงญัตติในวันพฤหัสที่ 16 มกราคม แต่มีการระงับออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยอ้างว่าฮามาสผิดสัญญาบางส่วนของข้อตกลง
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 510 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • 2/
    อิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มกาซาที่อาคารหลังหนึ่งหลังข้อตกลงหยุดยิงสำเร็จเพียงไม่กี่ชั่วโมง เสียชีวิตทันที 18 ราย และบาดเจ็บกว่า 200 ราย

    ต่อมามีรายงานมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 82 ราย!!!

    อิสราเอลประกาศว่า อิสราเอลยังมีสิทธิโจมตีฮามาส และจะไม่ยอมรับข้อตกลงอย่างเป็นทางการ จนกว่าเรื่องนี้จะผ่านคณะมนตรีด้านความมั่นคงและรัฐบาลของประเทศ ซึ่งมีกำหนดการลงญัตติในวันพฤหัสที่ 16 มกราคม แต่มีการระงับออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยอ้างว่าฮามาสผิดสัญญาบางส่วนของข้อตกลง
    2/ อิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มกาซาที่อาคารหลังหนึ่งหลังข้อตกลงหยุดยิงสำเร็จเพียงไม่กี่ชั่วโมง เสียชีวิตทันที 18 ราย และบาดเจ็บกว่า 200 ราย ต่อมามีรายงานมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 82 ราย!!! อิสราเอลประกาศว่า อิสราเอลยังมีสิทธิโจมตีฮามาส และจะไม่ยอมรับข้อตกลงอย่างเป็นทางการ จนกว่าเรื่องนี้จะผ่านคณะมนตรีด้านความมั่นคงและรัฐบาลของประเทศ ซึ่งมีกำหนดการลงญัตติในวันพฤหัสที่ 16 มกราคม แต่มีการระงับออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยอ้างว่าฮามาสผิดสัญญาบางส่วนของข้อตกลง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 465 มุมมอง 25 0 รีวิว
  • 1/
    ด่วน!
    อิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มกาซาที่อาคารหลังหนึ่งหลังข้อตกลงหยุดยิงสำเร็จเพียงไม่กี่ชั่วโมง เสียชีวิตทันที 18 ราย และบาดเจ็บกว่า 200 ราย

    ต่อมามีรายงานมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 82 ราย!!!

    อิสราเอลประกาศว่า อิสราเอลยังมีสิทธิโจมตีฮามาส และจะไม่ยอมรับข้อตกลงอย่างเป็นทางการ จนกว่าเรื่องนี้จะผ่านคณะมนตรีด้านความมั่นคงและรัฐบาลของประเทศ ซึ่งมีกำหนดการลงญัตติในวันพฤหัสที่ 16 มกราคม แต่มีการระงับออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยอ้างว่าฮามาสผิดสัญญาบางส่วนของข้อตกลง
    1/ ด่วน! อิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มกาซาที่อาคารหลังหนึ่งหลังข้อตกลงหยุดยิงสำเร็จเพียงไม่กี่ชั่วโมง เสียชีวิตทันที 18 ราย และบาดเจ็บกว่า 200 ราย ต่อมามีรายงานมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 82 ราย!!! อิสราเอลประกาศว่า อิสราเอลยังมีสิทธิโจมตีฮามาส และจะไม่ยอมรับข้อตกลงอย่างเป็นทางการ จนกว่าเรื่องนี้จะผ่านคณะมนตรีด้านความมั่นคงและรัฐบาลของประเทศ ซึ่งมีกำหนดการลงญัตติในวันพฤหัสที่ 16 มกราคม แต่มีการระงับออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยอ้างว่าฮามาสผิดสัญญาบางส่วนของข้อตกลง
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ต่อย ดายศ” พี่ชาย “แตงโม” ไปดูจำลองเหตุการณ์ตกน้ำ ยังทำใจไม่ได้ ซัดแค้น โกรธ เกลียด พวกมันทุกตัว! ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้น้องสาวเสียชีวิตลง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000004945

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes

    “ต่อย ดายศ” พี่ชาย “แตงโม” ไปดูจำลองเหตุการณ์ตกน้ำ ยังทำใจไม่ได้ ซัดแค้น โกรธ เกลียด พวกมันทุกตัว! ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้น้องสาวเสียชีวิตลง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000004945 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    12
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1054 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ปานเทพ" โต้ "ปอ-แซน" มีพิรุธ ย้ำจำลอง "แตงโม" ตกเรือ ค้นหา "ประเด็นแห่งคดี"
    .
    ปานเทพโต้ปอ-แซนแถลงข่าว กล่าวหาว่าจำลองแตงโม ภัทรธิดา นักแสดงสาวตกจากเรือไม่ตรงกัน ย้ำค้นหาประเด็นแห่งคดี นิติวิทยาศาสตร์ระบุแล้วว่าไม่มีดีเอ็นเอ และรู้อยู่แล้วว่าคนบนเรือจะต้องมีพิรุธ ร้อนตัว ถามถ้าแตงโมจับเรือ 10 วิ. จริงตามที่แถลง ทำไมไม่ช่วยเพื่อน
    .
    วันนี้ (16 ม.ค.) ที่โรงแรมริเวอร์ไลน์ เพลส โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ จ.นนทบุรี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ตอบโต้นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ และนายวิศาพัช มโนมันรัตน์ หรือแซน ที่แถลงข่าวการทดสอบเหตุการณ์จำลองการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงสาว ที่กล่าวหาว่าเป็นการจำลองไม่ตรงกัน 100% ว่า ที่การทดลองไม่ตกตรงนั้น ไม่ตกตรงนี้ เพราะไม่ใช่ประเด็นแห่งคดี ประเด็นคือคำให้การของแซน วิศาพัช ที่ให้การว่าแตงโมตกทางซ้ายมือของกาบท้ายเรือ และคนบนเรือทั้งหมดในการออกรายการโหนกระแส กล่าวว่าไม่เห็นการตกเรือและไม่เห็นอะไรเลย ตกแล้วหายไปเลย จึงเห็นว่าการพูดในครั้งนั้นเป็นประเด็นแห่งคดี
    .
    อีกทั้งในทางนิติวิทยาศาสตร์ตรวจแล้วพบว่า ไม่มีลายนิ้วมือและดีเอ็นเอของมนุษย์บนเครื่องยนต์ เพราะฉะนั้นที่บอกว่าเกาะท้ายเรือ กาบเรือนั้นไม่มี ส่วนบนเบาะเรือด้านท้ายสุดไม่มีดีเอ็นเอของแตงโม แม้กระทั่งแซน วิศาพัชก็ไม่มี เรื่องนี้จึงมีพิรุธตั้งแต่หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พอทดสอบตามคำให้การว่าแซน วิศาพัช เห็นคนเดียว จึงทดสอบตามนั้น เพราะเป็นประเด็นแห่งคดีที่อยู่ในสำนวนในชั้นศาล ซึ่งเราต้องยึดประเด็นนี้ คือตกทางซ้ายมือของกาบท้ายเรือ แม้จะมีการท้วงแต่ก็ได้พยายามทดลอง
    .
    ขณะเดียวกันได้ตั้งข้อสังเกตว่า ที่แซน วิศาพัช อ้างว่าจำชุดไม่ได้ เพราะเมื่อ 2-3 วันก่อนออกรายการหนึ่งว่าตัวเองถอดคอนแทคเลนส์ ถอดแว่นตา ตาเจ็บ มองไม่เห็นอะไรเลย จากเดิมที่บอกว่าเห็นอยู่คนเดียว คำแถลงหรือคำให้การไม่ย้อนแย้งหรือ เพราะอ้างว่าเล่นโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเล็กกว่าการมองเห็นคน ทำให้เราเห็นพิรุธจากสิ่งที่พูดออกมา และที่อาสาสมัครสวมเสื้อชูชีพ เพราะการทดสอบที่ผ่านมา ตำรวจและสื่อมวลชนก็สวมเสื้อชูชีพเช่นกัน ทำไมถึงตำหนิการทำงานของภาคประชาชน และมีอาสาสมัคร 3 คน ตัดสินใจไม่สวมเสื้อชูชีพให้ดู จะได้หมดข้ออ้าง และเป็นที่ชัดเจนว่าตำแหน่งดังกล่าวไม่เหมาะกับการปัสสาวะเพราะจะเปียกไปถึงเอว ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าเปิดของสงวนต่อหน้าผู้ชายที่นั่งอยู่เฉียงๆ และเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง ส่วนการตกด้านซ้ายหรือหงายหลัง ไม่ว่าตกไปทางไหนก็พิสูจน์ชัดว่าไม่โดนใบพัดเรือ
    .
    ส่วนที่นายตนุภัทรและแซน วิศาพัช แถลงข่าวในวันนี้ นายปานเทพเห็นว่ามีพิรุธอย่างมาก เพราะ 3 ปีที่แล้ว ปอ ตนุภัทร อ้างว่าขับเรือไม่เห็นอะไรเลย บัดนี้จะเห็นทุกอย่าง เกาะอยู่ที่เครื่องยนต์ รอ 10 วินาที เห็นไปหมด มันต่างจากคำให้การต่อศาล และสำนวนคดีที่แจ้งกับตำรวจหรือไม่ ถ้าคุณรู้ว่ามีการเกาะอยู่ 10 วินาทีจริง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ทำไมไม่ช่วยคุณแตงโม 10 วินาที ไม่เห็นหรือว่ามีคนตกน้ำแล้วช่วยไว้ได้ทัน แต่ 3 ปีที่แล้วให้การว่าตกน้ำแล้วหายไปเลย ไม่รู้อยู่ที่ไหน มืดมาก บัดนี้บอกว่าเห็น 10 วินาทีแต่ไม่ช่วยเพื่อน เราเห็นว่ามีพิรุธและเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และเราคิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าสิ่งที่ทำจะต้องมีคนดิ้น แต่ถ้าดิ้นเป็น ออกอาการสมเหตุสมผล สังคมก็เชื่อ แต่ทุกคนรู้ทันกันหมดว่าผิดปกติ ถ้ายอกว่าเป็นเท็จก็ต้องมีข้อเท็จจริงอย่างอื่นที่ไม่ใช่แบบนี้ ถ้าจะแสดงออกตามอำเภอใจเพื่อเป็นเหตุอ้าง ต้องทำเอง แต่บัดนี้ยังไม่เห็น และบาดแผลทางขวาของแตงโมเกิดขึ้นไม่ได้ และศาลอาญายกฟ้อง 21 ตำรวจที่ฟ้องนายอัจฉริย เรืองรัตนพงษ์ ว่า ต้นขาขวาเป็นแผลเดี่ยว ลึก เรียบ เป็นไปไม่ได้ที่เกิดจากใบพัดเรือในการตกด้านซ้าย ทุกอย่างขัดแย้งหมด
    .
    "จะพูดอะไรก็พูดได้ แต่ประชาชนเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นผมจึงเห็นว่าคำแถลงของคุณปอ (นายตนุภัทร) ซึ่งหายไปหลายปี แล้วคุณก็ยุติไปแล้วในคดีกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คงจะรับรู้แล้วใช่ไหมว่าเรื่องของผลทางกฎหมายและการตัดสินก็เรื่องหนึ่ง แต่ผลแห่งกรรมมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และสิ่งที่คุณพูดวันนี้ไม่สามารถมีคำอธิยายอย่างสมเหตุสมผลได้ในประเด็นแห่งคดี เราต้องไม่ตกในมายาคติที่เขาจะชวนไปตกหัวเรือ กระโดดตีลังกาด้านซ้าย ด้านขวา เอาประเด็นแห่งคดี และที่เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้อย่างไร"
    .
    นายปานเทพ กล่าวว่า ที่อ้างว่าต้องขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่ คนเหล่านี้ต่างหาก ที่เป็นอาสาสมัครที่ต้องขออนุญาต เพราะเขาเป็นคนเสียสละ ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณแม่เลย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณแม่ และเมื่อคนบนเรือขัดแย้งก็เป็นพยานหลักฐานเช่นเดียวกัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004962
    .........
    Sondhi X
    "ปานเทพ" โต้ "ปอ-แซน" มีพิรุธ ย้ำจำลอง "แตงโม" ตกเรือ ค้นหา "ประเด็นแห่งคดี" . ปานเทพโต้ปอ-แซนแถลงข่าว กล่าวหาว่าจำลองแตงโม ภัทรธิดา นักแสดงสาวตกจากเรือไม่ตรงกัน ย้ำค้นหาประเด็นแห่งคดี นิติวิทยาศาสตร์ระบุแล้วว่าไม่มีดีเอ็นเอ และรู้อยู่แล้วว่าคนบนเรือจะต้องมีพิรุธ ร้อนตัว ถามถ้าแตงโมจับเรือ 10 วิ. จริงตามที่แถลง ทำไมไม่ช่วยเพื่อน . วันนี้ (16 ม.ค.) ที่โรงแรมริเวอร์ไลน์ เพลส โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ จ.นนทบุรี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ตอบโต้นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ และนายวิศาพัช มโนมันรัตน์ หรือแซน ที่แถลงข่าวการทดสอบเหตุการณ์จำลองการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงสาว ที่กล่าวหาว่าเป็นการจำลองไม่ตรงกัน 100% ว่า ที่การทดลองไม่ตกตรงนั้น ไม่ตกตรงนี้ เพราะไม่ใช่ประเด็นแห่งคดี ประเด็นคือคำให้การของแซน วิศาพัช ที่ให้การว่าแตงโมตกทางซ้ายมือของกาบท้ายเรือ และคนบนเรือทั้งหมดในการออกรายการโหนกระแส กล่าวว่าไม่เห็นการตกเรือและไม่เห็นอะไรเลย ตกแล้วหายไปเลย จึงเห็นว่าการพูดในครั้งนั้นเป็นประเด็นแห่งคดี . อีกทั้งในทางนิติวิทยาศาสตร์ตรวจแล้วพบว่า ไม่มีลายนิ้วมือและดีเอ็นเอของมนุษย์บนเครื่องยนต์ เพราะฉะนั้นที่บอกว่าเกาะท้ายเรือ กาบเรือนั้นไม่มี ส่วนบนเบาะเรือด้านท้ายสุดไม่มีดีเอ็นเอของแตงโม แม้กระทั่งแซน วิศาพัชก็ไม่มี เรื่องนี้จึงมีพิรุธตั้งแต่หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พอทดสอบตามคำให้การว่าแซน วิศาพัช เห็นคนเดียว จึงทดสอบตามนั้น เพราะเป็นประเด็นแห่งคดีที่อยู่ในสำนวนในชั้นศาล ซึ่งเราต้องยึดประเด็นนี้ คือตกทางซ้ายมือของกาบท้ายเรือ แม้จะมีการท้วงแต่ก็ได้พยายามทดลอง . ขณะเดียวกันได้ตั้งข้อสังเกตว่า ที่แซน วิศาพัช อ้างว่าจำชุดไม่ได้ เพราะเมื่อ 2-3 วันก่อนออกรายการหนึ่งว่าตัวเองถอดคอนแทคเลนส์ ถอดแว่นตา ตาเจ็บ มองไม่เห็นอะไรเลย จากเดิมที่บอกว่าเห็นอยู่คนเดียว คำแถลงหรือคำให้การไม่ย้อนแย้งหรือ เพราะอ้างว่าเล่นโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเล็กกว่าการมองเห็นคน ทำให้เราเห็นพิรุธจากสิ่งที่พูดออกมา และที่อาสาสมัครสวมเสื้อชูชีพ เพราะการทดสอบที่ผ่านมา ตำรวจและสื่อมวลชนก็สวมเสื้อชูชีพเช่นกัน ทำไมถึงตำหนิการทำงานของภาคประชาชน และมีอาสาสมัคร 3 คน ตัดสินใจไม่สวมเสื้อชูชีพให้ดู จะได้หมดข้ออ้าง และเป็นที่ชัดเจนว่าตำแหน่งดังกล่าวไม่เหมาะกับการปัสสาวะเพราะจะเปียกไปถึงเอว ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าเปิดของสงวนต่อหน้าผู้ชายที่นั่งอยู่เฉียงๆ และเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง ส่วนการตกด้านซ้ายหรือหงายหลัง ไม่ว่าตกไปทางไหนก็พิสูจน์ชัดว่าไม่โดนใบพัดเรือ . ส่วนที่นายตนุภัทรและแซน วิศาพัช แถลงข่าวในวันนี้ นายปานเทพเห็นว่ามีพิรุธอย่างมาก เพราะ 3 ปีที่แล้ว ปอ ตนุภัทร อ้างว่าขับเรือไม่เห็นอะไรเลย บัดนี้จะเห็นทุกอย่าง เกาะอยู่ที่เครื่องยนต์ รอ 10 วินาที เห็นไปหมด มันต่างจากคำให้การต่อศาล และสำนวนคดีที่แจ้งกับตำรวจหรือไม่ ถ้าคุณรู้ว่ามีการเกาะอยู่ 10 วินาทีจริง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ทำไมไม่ช่วยคุณแตงโม 10 วินาที ไม่เห็นหรือว่ามีคนตกน้ำแล้วช่วยไว้ได้ทัน แต่ 3 ปีที่แล้วให้การว่าตกน้ำแล้วหายไปเลย ไม่รู้อยู่ที่ไหน มืดมาก บัดนี้บอกว่าเห็น 10 วินาทีแต่ไม่ช่วยเพื่อน เราเห็นว่ามีพิรุธและเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และเราคิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าสิ่งที่ทำจะต้องมีคนดิ้น แต่ถ้าดิ้นเป็น ออกอาการสมเหตุสมผล สังคมก็เชื่อ แต่ทุกคนรู้ทันกันหมดว่าผิดปกติ ถ้ายอกว่าเป็นเท็จก็ต้องมีข้อเท็จจริงอย่างอื่นที่ไม่ใช่แบบนี้ ถ้าจะแสดงออกตามอำเภอใจเพื่อเป็นเหตุอ้าง ต้องทำเอง แต่บัดนี้ยังไม่เห็น และบาดแผลทางขวาของแตงโมเกิดขึ้นไม่ได้ และศาลอาญายกฟ้อง 21 ตำรวจที่ฟ้องนายอัจฉริย เรืองรัตนพงษ์ ว่า ต้นขาขวาเป็นแผลเดี่ยว ลึก เรียบ เป็นไปไม่ได้ที่เกิดจากใบพัดเรือในการตกด้านซ้าย ทุกอย่างขัดแย้งหมด . "จะพูดอะไรก็พูดได้ แต่ประชาชนเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นผมจึงเห็นว่าคำแถลงของคุณปอ (นายตนุภัทร) ซึ่งหายไปหลายปี แล้วคุณก็ยุติไปแล้วในคดีกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คงจะรับรู้แล้วใช่ไหมว่าเรื่องของผลทางกฎหมายและการตัดสินก็เรื่องหนึ่ง แต่ผลแห่งกรรมมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และสิ่งที่คุณพูดวันนี้ไม่สามารถมีคำอธิยายอย่างสมเหตุสมผลได้ในประเด็นแห่งคดี เราต้องไม่ตกในมายาคติที่เขาจะชวนไปตกหัวเรือ กระโดดตีลังกาด้านซ้าย ด้านขวา เอาประเด็นแห่งคดี และที่เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้อย่างไร" . นายปานเทพ กล่าวว่า ที่อ้างว่าต้องขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่ คนเหล่านี้ต่างหาก ที่เป็นอาสาสมัครที่ต้องขออนุญาต เพราะเขาเป็นคนเสียสละ ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณแม่เลย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณแม่ และเมื่อคนบนเรือขัดแย้งก็เป็นพยานหลักฐานเช่นเดียวกัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004962 ......... Sondhi X
    Like
    Love
    21
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 973 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความไม่สงบชายแดนใต้ ปัญหาที่คอยตบหน้ารัฐบาลไม่มีวันจบ
    นับจากเหตุการณ์ปล้นปืนในปี 2547อันเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นเหตุการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จวบจนวันนี้เป็นเวลากว่า 20ปี ที่ผ่านมา ที่รัฐบาลไทยภายใต้การบริหารของรัฐบาล 10 ชุด นายกรัฐมนตรี 8 คนไม่สามารถแก้ไขปัญหาความรุนแรงได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
    ตัวเลขของผู้เสียชีวิต มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งไทยพุทธ และมุสลิมเสียชีวิตมากกว่าเจ็ดพันคน บาดเจ็บและพิการทุพพลภาพมากกว่า2พัน คนใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องรวมกันแล้วมากกว่า 3.13แสนล้านบาท
    ล่าสุดหลังผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ไปได้สัปดาห์เดียว 14 มกราคม 68โจรใต้ได้ก่อเหตุวางระเบิดและยิงซ้ําเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นครูโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนเสียชีวิตอีก 2 นายที่จังหวัดนราธิวาส สิ่งที่สร้างความสะเทือนใจจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็คือผู้เสียชีวิตทั้ง2 นายเป็นพ่อลูกทําหน้าที่ครูโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนในพื้นที่บ้านไอกึนเนาะ จังหวัดนราธิวาส โดยผู้เป็นพ่อคือพันตํารวจโทสุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์อายุ 56 ปีเป็นครูใหญ่ของโรงเรียน ส่วนลูกชายคือดาบตํารวจโดมช่วยเทวฤทธิ์ อายุ 35ปี เป็นครูอาสาโรงเรียนเดียวกัน
    ครูสุวิทย์เคยเปิดใจให้สัมภาษณ์ว่าผมตั้งใจไว้ตั้งแต่เด็กสักวันจะเป็นครูอยากช่วยเหลือเด็กในพื้นที่ที่ทุรกันดารจึงเข้ามาเป็นครู โดยได้สิทธิสอบบรรจุ ครูคุรุทายาทเมื่อได้จึงเลือกที่จะทํางานในพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาสที่ใครๆก็ไม่อยากมาแต่ผมกลับมองว่าเป็นโอกาสดี
    ที่จะได้ทํางานสนองงานพระราชดําริทุกพระองค์ได้อย่างเต็มที่ การสูญเสียวีรบุรุษครูตํารวจตระเวนชายแดนครั้งนี้ไม่ต่างอะไรกับการเย้ยหยันตบหน้ารัฐบาลไทยว่ารัฐไทยหมดน้ํายาแพ้พ่ายโจรก่อการร้ายชายแดนใต้ตลอดกาล งส์โพธิ์ดำขอไว้อาลัยแก่ครูผู้เสียสละจากเหตุการณ์ความไม่สงบในชายแดนใต้ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ความไม่สงบชายแดนใต้ ปัญหาที่คอยตบหน้ารัฐบาลไม่มีวันจบ นับจากเหตุการณ์ปล้นปืนในปี 2547อันเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นเหตุการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จวบจนวันนี้เป็นเวลากว่า 20ปี ที่ผ่านมา ที่รัฐบาลไทยภายใต้การบริหารของรัฐบาล 10 ชุด นายกรัฐมนตรี 8 คนไม่สามารถแก้ไขปัญหาความรุนแรงได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ตัวเลขของผู้เสียชีวิต มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งไทยพุทธ และมุสลิมเสียชีวิตมากกว่าเจ็ดพันคน บาดเจ็บและพิการทุพพลภาพมากกว่า2พัน คนใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องรวมกันแล้วมากกว่า 3.13แสนล้านบาท ล่าสุดหลังผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ไปได้สัปดาห์เดียว 14 มกราคม 68โจรใต้ได้ก่อเหตุวางระเบิดและยิงซ้ําเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นครูโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนเสียชีวิตอีก 2 นายที่จังหวัดนราธิวาส สิ่งที่สร้างความสะเทือนใจจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็คือผู้เสียชีวิตทั้ง2 นายเป็นพ่อลูกทําหน้าที่ครูโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนในพื้นที่บ้านไอกึนเนาะ จังหวัดนราธิวาส โดยผู้เป็นพ่อคือพันตํารวจโทสุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์อายุ 56 ปีเป็นครูใหญ่ของโรงเรียน ส่วนลูกชายคือดาบตํารวจโดมช่วยเทวฤทธิ์ อายุ 35ปี เป็นครูอาสาโรงเรียนเดียวกัน ครูสุวิทย์เคยเปิดใจให้สัมภาษณ์ว่าผมตั้งใจไว้ตั้งแต่เด็กสักวันจะเป็นครูอยากช่วยเหลือเด็กในพื้นที่ที่ทุรกันดารจึงเข้ามาเป็นครู โดยได้สิทธิสอบบรรจุ ครูคุรุทายาทเมื่อได้จึงเลือกที่จะทํางานในพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาสที่ใครๆก็ไม่อยากมาแต่ผมกลับมองว่าเป็นโอกาสดี ที่จะได้ทํางานสนองงานพระราชดําริทุกพระองค์ได้อย่างเต็มที่ การสูญเสียวีรบุรุษครูตํารวจตระเวนชายแดนครั้งนี้ไม่ต่างอะไรกับการเย้ยหยันตบหน้ารัฐบาลไทยว่ารัฐไทยหมดน้ํายาแพ้พ่ายโจรก่อการร้ายชายแดนใต้ตลอดกาล งส์โพธิ์ดำขอไว้อาลัยแก่ครูผู้เสียสละจากเหตุการณ์ความไม่สงบในชายแดนใต้ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ปอ-แซน" บิดอีก !?! อ้าง "แตงโม" เกาะเรือ 10 วิ จำลองเหตุไม่ตรงเรื่องจริง
    .
    "ปอ ตนุภัทร" พร้อมด้วย "แซน วิศาพัช" โต้กรณีจำลองเหตุการณ์ "แตงโม ภัทรธิดา" ตกน้ำ อ้างไม่ตรงกันเพราะตอนตกน้ำมีการเกาะเครื่องเอาต์บอร์ดท้ายเรือ ถูกใบพัดเรือ แนะลองแช่แล้วจุ่มสักครึ่งตัว เกาะเครื่อง 10 วิ.แล้วดูว่าขาถึงใบพัดไหม แต่ไม่อยากให้อุบัติเหตุซ้ำอีก ด้านแซนกล่าว ถ้าหมอธวัชชัยอยากจะทำ ติดเครื่องยนต์ก็ได้ อ้างไม่ตรงกันมีรายละเอียดปลีกย่อย ถามกลับมีเจตนาทวงคืนความยุติธรรมจริงหรือไม่
    .
    วันนี้ (16 ม.ค.) ที่โชว์รูมวัฒนาออโต้เซลล์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ พร้อมด้วย นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน สองผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ที่เสียชีวิตเพราะตกจากเรือสปีดโบ้ทลงแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองฯ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 หรือเมื่อ 3 ปีก่อน แถลงข่าวถึงปฎิกิริยาการทดสอบเหตุการณ์จำลองการตกเรือของแตงโม ภัทรธิดา นำโดย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    .
    นายตนุภัทร กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่มีการจำลองเหตุการณ์ตกเรือให้ชัดเจนและกระจ่าง ทำให้ประชาชนได้เห็นภาพจากเรือรุ่นเดียวกัน คือเรือโคบอลต์ 25 เอสซี แต่สิ่งที่รู้สึกว่าไม่ตรง คือ การตกไม่ได้ตกในลักษณะที่แซน วิศาพัช เคยให้ข้อมูลในการออกรายการโหนกระแส และให้การกับศาล ตนมองว่าไม่ตรง ทำไมไม่จำลองให้เหมือนกัน การที่แตงโมนั่งและจับขาแซน พบว่าการจำลองเหตุการณ์มีการเฉียงออกทางซ้ายของเรือ ไม่ตรงกับที่แซน วิศาพัช ให้การว่าตกไปแล้วต้องเกาะ แต่ไม่ใช่ดีดตัวออกจากเรือ เพราะฉะนั้นตำแหน่งที่คิดว่าควรจะเป็นคือ ตกเรือแล้วเกาะเครื่องยนต์ซึ่งจะถูกใบพัดดูด
    .
    แต่ถ้าตกแล้วดีดออกจากเรือ ถามผู้เชี่ยวชาญยังไงก็ไม่โดนใบพัดเรือ และจากการที่แซน วิศาพัช กล่าวและสาธิตในรายการโหนกระแส สาระก็คือตกไปแล้ว ต้องเกาะถึงจะหลุด แต่ถ้าตกแล้วดีดออกจากเรือเลย คนละเหตุการณ์กัน เพราะฉะนั้นมีคำถามว่า ทำไมการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ถึงจำลองไม่ตรง ฝากถึงทีมผู้จัดการทดสอบว่า เราเห็นด้วยและขอบคุณที่ให้ความกระจ่าง แต่มีคำถามว่าถ้าจำลองแล้วไม่เหมือนเหตุการณ์ 100% จะจำลองทำไม ถ้าจะจำลองให้เหมือนจะจำลองแบบไหน
    .
    ทั้งนี้ บนแพลตฟอร์มของเรือโคบอลต์ 25 เอสซี จะมีเครื่องยนต์อยู่ท้ายเรือ เรียกว่าเครื่องเอาต์บอร์ด (Outboard) จะมีใบพัดอยู่ด้านข้าง จากที่แซน วิศาพัช เล่าในรายการโหนกระแสและให้การในชั้นศาล ตนนั่งอยู่ที่เบาะหลังและยืดขา ตำแหน่งที่ตกขาจะยื่นอยู่ใกล้เครื่องเอาต์บอร์ด ขาจะยื่นอยู่ในช่วงใบพัด เพราะฉะนั้นการจำลองแบบง่ายๆ ต้องอยู่ใกล้เครื่องเอาต์บอร์ด ลักษณะที่ตกต้องตกอยู่ข้างเครื่อง แต่ไม่ใช่ตกทะแยง 45 องศา กระโดดออกนอกเรือ มันคนละเรื่องกัน และต้องเกาะเครื่องก่อนสักประมาณ 10 วินาทีแล้วค่อยนับ เพราะใบพัดจะปัด ดูวิถีร่างจะเข้าที่เครื่องไหม
    .
    ตนได้ทราบจากทนายความว่า ได้ไปขอคัดพยานหลักฐาน พบว่าทางตำรวจจำลองเหตุการณ์แล้ว ทดสอบว่าจุดที่ตกดูดไปทางไหน ถ้าสมมติตกแล้วอยู่ด้านข้างของเรือจะไม่มีการดูด แต่ถ้าตกแล้วอยู่โซนเครื่องเอาต์บอร์ดมันจะมีการดูด สิ่งที่ตำรวจทำเท่าที่ทราบคือการใช้สีเทลงไปเพื่อดูสีของน้ำ ให้เห็นว่าน้ำวนแล้วดูดมาทางใบพัดเรือหรือไม่ อย่างที่สอง ให้คนใส่เสื้อชูชีพแล้วเกาะโดยไม่ติดเครื่องยนต์ ดูทิศทางของน้ำที่มีแรงดัน คนจะไหลตรงใบพัดหรือไม่ เขาทดสอบแล้วมันไหลและพัดเข้ามา อย่างที่สาม ใช้สุกรที่มีน้ำหนักเท่ากับแตงโม ภัทรธิดา มาเกาะ แล้วใบพัดดูดเข้ามามีรอยฟันหรือไม่ พบว่าแผลเข้า ทำให้พบว่ามีข้อมูลที่มาที่ไป จึงบอกว่าถ้าจะจำลองเหตุการณ์ อยากให้จำลองให้ตรง แต่บอกตรงๆ ไม่อยากให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นอีก
    .
    "ถ้าจำลองง่ายๆ ลองจำลองตามที่ผมว่า ให้บุคคลที่มีอัตลักษณ์ความสูง 165 เซนติเมตร แล้วลองไปแช่ ไม่ต้องติดเครื่อง ลองจุ่มไปสักครึ่งตัว ดูที่ขาคุณจะถึงใบพัดไหม เอาแค่นี้พอ ถ้าถึง ผมว่าจบได้นะ"
    .
    ด้านนายวิศาพัช หรือแซน กล่าวตอบโต้ นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวคดีการเสียชีวิตของแตงโม ภัทรธิดา ว่า ถ้าคุณหมอฟังอยู่ นี่ก็คือคำตอบที่เมื่อกี้ท้ากันอยู่
    .
    นายตนุภัทร กล่าวว่า ขอย้ำว่าไม่อยากทดสอบโดยการติดเครื่องยนต์ เพราะถ้าตกอยู่ในวิถี ตำแหน่งอยู่ใกล้เครื่องเอาต์บอร์ดท้ายเรือ ไม่ได้อยู่นอกเรือ แล้วมีการดูด ตนเชื่อว่าใบพัดมีโอกาสสูงมาก ปัจจัยมีทั้งแรงดันของน้ำ ช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลง และความเร็วของเรือ เพราะฉะนั้นสิ่งที่อยากจะให้ทดสอบก็คือ ให้บุคคลที่บอกอัตลักษณ์เท่าแตงโม ภัทรธิดา ลองมาทาบดูก่อน เครื่องที่ไม่ติดมันคงไม่บาด แต่ถ้าเครื่องติดอาจจะเกิดความเสียหาย เท่านี้ตอบสังคมได้เพียงพอแล้ว
    .
    ส่วนเรื่องการทดสอบเรือนั้น ลักษณะของการล่อง เรือ 8 นอต เห็นว่าบางเหตุการณ์เรือจะเชิดขึ้น ถ้าจะเปียกน้ำไม่มีทางนั่งได้ เพราะเรือเพิ่งออกตัว เรือเวลาออกตัวใหม่ๆ หน้าจะเชิดขึ้น แต่พอเรือออกตัวไปถึงจุดหนึ่งแล้ว เรือจะบิน ทำให้เรือจะอยู่ในสถานการณ์ลอยตัว ตนเชื่อว่าความเร็วที่ 8 นอต ตนเดาว่าทำให้เพื่อนไม่กังวล ณ ตอนนั้น และเราดื่มไวน์เรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงเย็น ทำให้คนปวดปัสสาวะปราศจากความกังวลที่คิดเยอะ (แซน วิศาพัช กล่าวเสริมว่า เรือมันนิ่งมาก) เพราะฉะนั้นการจำลองอยากให้จำลองให้เหมือนจริง และอยากให้ความเป็นธรรมกับทุกคน หมายถึงผู้เสียหาย
    .
    "ถ้าจะจำลองต้องจำลองให้เหมือนจริง และเพื่อนผม (แตงโม) เขาไปสงบแล้ว เพื่อนผมเนี่ยเราสูญเสีย ต้องมาคิดว่ามีหลายๆ คนที่สูญเสียตามมา คือบุคคลรอบข้างที่เสียใจ เพราะฉะนั้นการที่เพื่อนผมสูญเสียไปแล้ว ยังมาเป็นประเด็น มาเป็นกระแส ผมไม่เห็นด้วย อย่างที่สอง ผมยังยืนยันว่า ถ้าคุณจะทดสอบ ทดสอบแบบตรงไปตรงมา ให้เหมือนเหตุการณ์เดียวกัน"
    .
    นายวิศาพัช หรือแซน กล่าวว่า ฝากไปถึง นพ.ธวัชชัย และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ว่ามาพูดหรือท้าอะไรกับตน สมควรที่จะปรึกษาผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ วัยวุฒิ คุณวุฒิทุกอย่างก่อน จะได้ดูเหมือนกลั่นกรองมาแล้วค่อยมาถาม ส่วนการท้าด้วยจำนวนเงิน 1 แสนบาท 5 ล้านบาทนั้น ตนไม่ติดการพนัน เพราะฉะนั้นไม่ชอบเล่นแบบท้าด้วยเงินอยู่แล้ว ไปดูเรื่องการพนันของตัวเองดีกว่าไหม ไม่ได้พูดถึงใคร อันนี้พูดลอยๆ
    .
    นายตนุภัทร กล่าวว่า ตนขอขยายว่า ขอบคุณทีมงานของนายอัจฉริยะที่ทำความกระจ่าง ตอนที่เกิดเหตุใหม่ๆ ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว มีประเด็นที่สังคมถามกันเยอะมากว่าท้ายเรือนั่งได้จริงไหม เพราะเรือมีหลายแพลตฟอร์ม มีเรือยอร์ช สปีดโบ้ท เรือพาย เรือแจว มันจะนั่งยังไง เชื่อว่าประชาชนได้เห็นแล้วว่า แตงโมตัวเล็ก แพทย์ที่นั่งทดสอบเมื่อวานตัวใหญ่กว่าแตงโมตั้งเยอะยังนั่งได้ เพราะฉะนั้นข้อแรกเราเห็นได้ชัดแล้วว่า นั่งท้ายเรือได้จริง ส่วนนั่งเสร็จแล้วปัสสาวะได้ไหม ขึ้นอยู่กับบุคคลว่าเขาเลือกจะทำอะไร เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ณ ช่วงเวลานั้นคนปวดปัสสาวะ เขาอยากจะปัสสาวะหรือใดๆ เราไปก้าวล่วงไม่ได้
    .
    "แต่ที่แน่ๆ ผมอยากถามว่าคนที่ใส่บอดี้สูทวันนี้ที่ไปทดสอบ คุณนั่งได้แน่ๆ ขนาดคุณหมอยังนั่งได้ คุณนั่งได้แน่ๆ คุณลองสิ นั่งแล้วเอามือทำท่าที่อย่างคุณแซนเล่า ทำได้ไหม อันนี้ที่ผมฝากทดสอบ ... และจุดตก ผมย้ำอีกที จุดตกต้องตกข้างเครื่อง (เอาต์บอร์ด) แล้วตกลงไปก่อน แล้วเกาะ (เครื่องเอาต์บอร์ด) ก่อน อย่างน้อยสัก 10 วินาที แต่ผมย้ำอีกที ผมไม่อยากทดสอบในลักษณะติดเครื่อง เพราะถ้าติดเครื่องแล้วเกิดความสูญเสีย ผมว่าเราจะเสียหายมากกว่าได้แค่ทดสอบ ติดเครื่องในลักษณะที่ใบพัดไม่ทำงานมันจะรู้แล้วว่าโดน ไม่โดน แช่อยู่ในน้ำ ขอคนที่ความสูง 165 เซนติเมตร ซึ่งผมเห็นพี่ณวัฒน์ (นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล) ได้คัดสรรมาอย่างดีแล้ว ขอบคุณพี่ณวัฒน์ด้วย"
    .
    "เพราะฉะนั้นผมขออนุญาตขยายว่า ขอบคุณสำหรับการทดสอบในครั้งนี้ แล้วมันจะดีมากๆ ที่สร้างความกระจ่างให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ สร้างความกระจ่างให้กับ 5 คนบนเรือ และครอบครัวของน้องแตงโม ที่จะได้รู้ข้อเท็จจริงว่าถ้าตกตามเหตุการณ์จริง ที่คุณแซนเป็นผู้เดียวที่เห็นเหตุการณ์ และได้ให้ปากคำ กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศที่ดูรายการโหนกระแส และได้ให้ปากคำในชั้นศาล เป็นข้อมูลเดิมทั้งหมด เพราะฉะนั้นคุณแซนยังไม่ได้บิดเบือน คุณแซนพูดทุกอย่างตามข้อเท็จจริง ทำไมวันนี้การทดสอบถึงบิดเบือนหรือไม่ตรง ในเมื่อเจ้าตัวยังพูดคำเดิม ผ่านมา 3 ปี คุณแซนยังยืนคำเดิมว่าตกท้ายเรือ เกาะไหม (แซน กล่าวว่า เกาะแปบนึง) เพราะฉะนั้นคุณแซนบอกแล้วว่าเกาะ ถ้าเกาะแล้วคุณต้องจำลองก่อน"
    .
    นายวิศาพัช หรือแซน กล่าวว่า ติดเครื่องยนต์เลยก็ได้ เพราะ นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า เขาจะจำลองเอง แล้วเขาถามแซน ตรงนี้ถ้าเขาบอกว่าปลอดภัย 100% คุณหมอลองทำดู จะไม่ท้า ถ้าอยากทำก็ทำ ส่วนนายอัจฉริยะท้าเดิมพัน 2 ล้านบาท ถ้าถนัดทางนั้นไปสนามมวยดีกว่า ไม่ต้องคุยกับตนเรื่องนี้ และว่า การทดสอบในวันนี้เป็นการละครเรื่องหนึ่งมากกว่า เอาไว้ดูเพื่อความบันเทิงเท่านั้น เพราะไม่ได้ใกล้เคียงกับข้อเท็จจริงเลย มันไม่ตรงตั้งแต่ที่เคยแนะนำไป 4 ข้อ ถ้าเกิดจะทำให้เหมือน และการตกท้ายเรือมีรายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆ น้อยๆ ถ้า นพ.ธวัชชัยอยากทราบ นายตนุภัทรก็ได้แจ้งไปแล้ว ให้ทำตามที่บอกแบบนั้นดู
    .
    ทั้งนี้ ตนไม่กังวลใจถึงการทดสอบและการร้องเรียนของนายอัจฉริยะ ยังยืนยันเหมือนเดิมว่ามั่นใจมากด้วยซ้ำ เพราะยังรอดูว่าจะเปิดอะไรออกมา จะใช้ข้อวิชาการ หลักวิทยาศาสตร์ข้อไหน เอามาสนับสนุนให้สิ่งที่กำลังทำมีเนื้อหาสาระสำคัญพอที่จะเอามาเปลี่ยนสำนวนคดีได้ ส่วนวัตถุประสงค์ในการทดสอบเหตุการณ์ตนไม่ทราบ ตนรู้สึกว่าโดนทำลายชื่อเสียงแต่ไม่รู้ว่าเจตนาเขาคืออะไร ส่วนจะฟ้องกลับคนที่ตัวตั้งตัวตีในการทดสอบนั้น เท่าที่คิดก็ไม่ทำ อโหสิกรรมไป เผื่อเจ้ากรรมนายเวรจะได้หมดสิ้นไปบ้าง ระหว่างนั้นทนายความกล่าวเสริมว่า ต้องดูว่ามากไปไหม กระทบถึงใครบ้าง ไปถึงครอบครัวไหมต้องพิจารณาดู แต่ส่วนตัวเชื่อว่าหน่วยงานรัฐคงไม่ได้เพิกเฉยอยู่แล้ว เพราะเรื่องนี้กระทบหน่วยงานรัฐหลายหน่วย
    .
    นายวิศาพัช หรือแซน กล่าวว่า อยากให้ประชาชนดูให้ดีว่าสิ่งที่เขาทำ เขามีเจตนาเพื่อหาความยุติธรรมจริงหรือเปล่า หรือหาประโยชน์ให้กับใคร กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น อันนี้ตนไม่ได้ยืนยัน แค่อยากให้ประชาชนตรองกันดูบ้าง จากสิ่งที่เราได้ยินเข้ามา แล้วก็กลั่นกรองกันหน่อย ไม่ใช่ได้ยินปุ๊บแล้วมาด่าเลย มันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นประเทศเราก็เป็นประเทศขวัญใจแก๊งคอลเซ็นเตอร์
    .
    นายตนุภัทร กล่าวว่า คนที่สูญเสียวันนี้ขั้นต้นคือเพื่อนเรา เพราะฉะนั้นวันนี้เราเชื่อมั่นว่าไม่มีใครอยากให้เกิด แต่การหาประโยชน์จากการสูญเสีย ตนว่าควรจะไม่เอาการสูญเสียมาเป็นโอกาส ถ้าถามว่ารู้สึกอย่างไร เรารู้สึกแบบนี้ เพราะฉะนั้นวันนี้เพื่อนเรา แตงโม ภัทรธิดา จากไปอย่างสงบแล้ว วันนี้ขอบคุณที่ได้มาทำการจำลอง แล้วขอให้ทำให้ตรงไปตรงมา มันจะได้ความชัดเจน
    .
    ขณะที่ทนายความกล่าวเสริมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับแตงโมนำมาจำลอง เห็นว่าเป็นการนำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่ออดีตมา คนที่สูญเสียอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้เสียหายจริงๆ คือคุณแม่ อยากให้มีการขออนุญาตคุณแม่สักนิดนึง กรณีการทำจำลองควรจะขออนุญาตกับผู้เสียหาย เพราะเขาเป็นแม่ของลูก การนำเรื่องราวของเขามานำเสนอเห็นว่าส่วนหนึ่งเหมือนซ้ำเติมคนตาย ส่วนการยื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รื้อฟื้นคดีอีกรอบ ในทางกฎหมายไม่กังวล เพราะพยานหลักฐานใหม่ ต้องเป็นพยานหลักฐานที่มีอยู่แล้ว และไม่ได้สร้างขึ้นมาใหม่ การสร้างขึ้นมาใหม่ต้องมีความน่าเชื่อถือต่อหน่วยงานรัฐ มีการสืบสวนสอบสวนที่ถูกต้อง
    .
    การทดสอบครั้งนี้ชัดเจนว่าเป็นการสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อที่จะพิสูจน์ความจริง แต่ต้องใกล้เคียงอย่างที่นายตนุภัทรพูด สิ่งที่นายตนุภัทรพูดทั้งหมดมีการเบิกความจากพยานผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้มีการทดลอง จำลอง อยู่ในสำนวนของศาล และได้เบิกความไปแล้ว แต่คดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ยังคงเปิดเผยอะไรมากไม่ได้ วันนี้เปิดเผยเท่าที่เห็นว่าเหมาะสมกับ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004865
    ..............
    Sondhi X
    "ปอ-แซน" บิดอีก !?! อ้าง "แตงโม" เกาะเรือ 10 วิ จำลองเหตุไม่ตรงเรื่องจริง . "ปอ ตนุภัทร" พร้อมด้วย "แซน วิศาพัช" โต้กรณีจำลองเหตุการณ์ "แตงโม ภัทรธิดา" ตกน้ำ อ้างไม่ตรงกันเพราะตอนตกน้ำมีการเกาะเครื่องเอาต์บอร์ดท้ายเรือ ถูกใบพัดเรือ แนะลองแช่แล้วจุ่มสักครึ่งตัว เกาะเครื่อง 10 วิ.แล้วดูว่าขาถึงใบพัดไหม แต่ไม่อยากให้อุบัติเหตุซ้ำอีก ด้านแซนกล่าว ถ้าหมอธวัชชัยอยากจะทำ ติดเครื่องยนต์ก็ได้ อ้างไม่ตรงกันมีรายละเอียดปลีกย่อย ถามกลับมีเจตนาทวงคืนความยุติธรรมจริงหรือไม่ . วันนี้ (16 ม.ค.) ที่โชว์รูมวัฒนาออโต้เซลล์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ พร้อมด้วย นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน สองผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ที่เสียชีวิตเพราะตกจากเรือสปีดโบ้ทลงแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองฯ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 หรือเมื่อ 3 ปีก่อน แถลงข่าวถึงปฎิกิริยาการทดสอบเหตุการณ์จำลองการตกเรือของแตงโม ภัทรธิดา นำโดย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต . นายตนุภัทร กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่มีการจำลองเหตุการณ์ตกเรือให้ชัดเจนและกระจ่าง ทำให้ประชาชนได้เห็นภาพจากเรือรุ่นเดียวกัน คือเรือโคบอลต์ 25 เอสซี แต่สิ่งที่รู้สึกว่าไม่ตรง คือ การตกไม่ได้ตกในลักษณะที่แซน วิศาพัช เคยให้ข้อมูลในการออกรายการโหนกระแส และให้การกับศาล ตนมองว่าไม่ตรง ทำไมไม่จำลองให้เหมือนกัน การที่แตงโมนั่งและจับขาแซน พบว่าการจำลองเหตุการณ์มีการเฉียงออกทางซ้ายของเรือ ไม่ตรงกับที่แซน วิศาพัช ให้การว่าตกไปแล้วต้องเกาะ แต่ไม่ใช่ดีดตัวออกจากเรือ เพราะฉะนั้นตำแหน่งที่คิดว่าควรจะเป็นคือ ตกเรือแล้วเกาะเครื่องยนต์ซึ่งจะถูกใบพัดดูด . แต่ถ้าตกแล้วดีดออกจากเรือ ถามผู้เชี่ยวชาญยังไงก็ไม่โดนใบพัดเรือ และจากการที่แซน วิศาพัช กล่าวและสาธิตในรายการโหนกระแส สาระก็คือตกไปแล้ว ต้องเกาะถึงจะหลุด แต่ถ้าตกแล้วดีดออกจากเรือเลย คนละเหตุการณ์กัน เพราะฉะนั้นมีคำถามว่า ทำไมการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ถึงจำลองไม่ตรง ฝากถึงทีมผู้จัดการทดสอบว่า เราเห็นด้วยและขอบคุณที่ให้ความกระจ่าง แต่มีคำถามว่าถ้าจำลองแล้วไม่เหมือนเหตุการณ์ 100% จะจำลองทำไม ถ้าจะจำลองให้เหมือนจะจำลองแบบไหน . ทั้งนี้ บนแพลตฟอร์มของเรือโคบอลต์ 25 เอสซี จะมีเครื่องยนต์อยู่ท้ายเรือ เรียกว่าเครื่องเอาต์บอร์ด (Outboard) จะมีใบพัดอยู่ด้านข้าง จากที่แซน วิศาพัช เล่าในรายการโหนกระแสและให้การในชั้นศาล ตนนั่งอยู่ที่เบาะหลังและยืดขา ตำแหน่งที่ตกขาจะยื่นอยู่ใกล้เครื่องเอาต์บอร์ด ขาจะยื่นอยู่ในช่วงใบพัด เพราะฉะนั้นการจำลองแบบง่ายๆ ต้องอยู่ใกล้เครื่องเอาต์บอร์ด ลักษณะที่ตกต้องตกอยู่ข้างเครื่อง แต่ไม่ใช่ตกทะแยง 45 องศา กระโดดออกนอกเรือ มันคนละเรื่องกัน และต้องเกาะเครื่องก่อนสักประมาณ 10 วินาทีแล้วค่อยนับ เพราะใบพัดจะปัด ดูวิถีร่างจะเข้าที่เครื่องไหม . ตนได้ทราบจากทนายความว่า ได้ไปขอคัดพยานหลักฐาน พบว่าทางตำรวจจำลองเหตุการณ์แล้ว ทดสอบว่าจุดที่ตกดูดไปทางไหน ถ้าสมมติตกแล้วอยู่ด้านข้างของเรือจะไม่มีการดูด แต่ถ้าตกแล้วอยู่โซนเครื่องเอาต์บอร์ดมันจะมีการดูด สิ่งที่ตำรวจทำเท่าที่ทราบคือการใช้สีเทลงไปเพื่อดูสีของน้ำ ให้เห็นว่าน้ำวนแล้วดูดมาทางใบพัดเรือหรือไม่ อย่างที่สอง ให้คนใส่เสื้อชูชีพแล้วเกาะโดยไม่ติดเครื่องยนต์ ดูทิศทางของน้ำที่มีแรงดัน คนจะไหลตรงใบพัดหรือไม่ เขาทดสอบแล้วมันไหลและพัดเข้ามา อย่างที่สาม ใช้สุกรที่มีน้ำหนักเท่ากับแตงโม ภัทรธิดา มาเกาะ แล้วใบพัดดูดเข้ามามีรอยฟันหรือไม่ พบว่าแผลเข้า ทำให้พบว่ามีข้อมูลที่มาที่ไป จึงบอกว่าถ้าจะจำลองเหตุการณ์ อยากให้จำลองให้ตรง แต่บอกตรงๆ ไม่อยากให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นอีก . "ถ้าจำลองง่ายๆ ลองจำลองตามที่ผมว่า ให้บุคคลที่มีอัตลักษณ์ความสูง 165 เซนติเมตร แล้วลองไปแช่ ไม่ต้องติดเครื่อง ลองจุ่มไปสักครึ่งตัว ดูที่ขาคุณจะถึงใบพัดไหม เอาแค่นี้พอ ถ้าถึง ผมว่าจบได้นะ" . ด้านนายวิศาพัช หรือแซน กล่าวตอบโต้ นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวคดีการเสียชีวิตของแตงโม ภัทรธิดา ว่า ถ้าคุณหมอฟังอยู่ นี่ก็คือคำตอบที่เมื่อกี้ท้ากันอยู่ . นายตนุภัทร กล่าวว่า ขอย้ำว่าไม่อยากทดสอบโดยการติดเครื่องยนต์ เพราะถ้าตกอยู่ในวิถี ตำแหน่งอยู่ใกล้เครื่องเอาต์บอร์ดท้ายเรือ ไม่ได้อยู่นอกเรือ แล้วมีการดูด ตนเชื่อว่าใบพัดมีโอกาสสูงมาก ปัจจัยมีทั้งแรงดันของน้ำ ช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลง และความเร็วของเรือ เพราะฉะนั้นสิ่งที่อยากจะให้ทดสอบก็คือ ให้บุคคลที่บอกอัตลักษณ์เท่าแตงโม ภัทรธิดา ลองมาทาบดูก่อน เครื่องที่ไม่ติดมันคงไม่บาด แต่ถ้าเครื่องติดอาจจะเกิดความเสียหาย เท่านี้ตอบสังคมได้เพียงพอแล้ว . ส่วนเรื่องการทดสอบเรือนั้น ลักษณะของการล่อง เรือ 8 นอต เห็นว่าบางเหตุการณ์เรือจะเชิดขึ้น ถ้าจะเปียกน้ำไม่มีทางนั่งได้ เพราะเรือเพิ่งออกตัว เรือเวลาออกตัวใหม่ๆ หน้าจะเชิดขึ้น แต่พอเรือออกตัวไปถึงจุดหนึ่งแล้ว เรือจะบิน ทำให้เรือจะอยู่ในสถานการณ์ลอยตัว ตนเชื่อว่าความเร็วที่ 8 นอต ตนเดาว่าทำให้เพื่อนไม่กังวล ณ ตอนนั้น และเราดื่มไวน์เรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงเย็น ทำให้คนปวดปัสสาวะปราศจากความกังวลที่คิดเยอะ (แซน วิศาพัช กล่าวเสริมว่า เรือมันนิ่งมาก) เพราะฉะนั้นการจำลองอยากให้จำลองให้เหมือนจริง และอยากให้ความเป็นธรรมกับทุกคน หมายถึงผู้เสียหาย . "ถ้าจะจำลองต้องจำลองให้เหมือนจริง และเพื่อนผม (แตงโม) เขาไปสงบแล้ว เพื่อนผมเนี่ยเราสูญเสีย ต้องมาคิดว่ามีหลายๆ คนที่สูญเสียตามมา คือบุคคลรอบข้างที่เสียใจ เพราะฉะนั้นการที่เพื่อนผมสูญเสียไปแล้ว ยังมาเป็นประเด็น มาเป็นกระแส ผมไม่เห็นด้วย อย่างที่สอง ผมยังยืนยันว่า ถ้าคุณจะทดสอบ ทดสอบแบบตรงไปตรงมา ให้เหมือนเหตุการณ์เดียวกัน" . นายวิศาพัช หรือแซน กล่าวว่า ฝากไปถึง นพ.ธวัชชัย และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ว่ามาพูดหรือท้าอะไรกับตน สมควรที่จะปรึกษาผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ วัยวุฒิ คุณวุฒิทุกอย่างก่อน จะได้ดูเหมือนกลั่นกรองมาแล้วค่อยมาถาม ส่วนการท้าด้วยจำนวนเงิน 1 แสนบาท 5 ล้านบาทนั้น ตนไม่ติดการพนัน เพราะฉะนั้นไม่ชอบเล่นแบบท้าด้วยเงินอยู่แล้ว ไปดูเรื่องการพนันของตัวเองดีกว่าไหม ไม่ได้พูดถึงใคร อันนี้พูดลอยๆ . นายตนุภัทร กล่าวว่า ตนขอขยายว่า ขอบคุณทีมงานของนายอัจฉริยะที่ทำความกระจ่าง ตอนที่เกิดเหตุใหม่ๆ ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว มีประเด็นที่สังคมถามกันเยอะมากว่าท้ายเรือนั่งได้จริงไหม เพราะเรือมีหลายแพลตฟอร์ม มีเรือยอร์ช สปีดโบ้ท เรือพาย เรือแจว มันจะนั่งยังไง เชื่อว่าประชาชนได้เห็นแล้วว่า แตงโมตัวเล็ก แพทย์ที่นั่งทดสอบเมื่อวานตัวใหญ่กว่าแตงโมตั้งเยอะยังนั่งได้ เพราะฉะนั้นข้อแรกเราเห็นได้ชัดแล้วว่า นั่งท้ายเรือได้จริง ส่วนนั่งเสร็จแล้วปัสสาวะได้ไหม ขึ้นอยู่กับบุคคลว่าเขาเลือกจะทำอะไร เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ณ ช่วงเวลานั้นคนปวดปัสสาวะ เขาอยากจะปัสสาวะหรือใดๆ เราไปก้าวล่วงไม่ได้ . "แต่ที่แน่ๆ ผมอยากถามว่าคนที่ใส่บอดี้สูทวันนี้ที่ไปทดสอบ คุณนั่งได้แน่ๆ ขนาดคุณหมอยังนั่งได้ คุณนั่งได้แน่ๆ คุณลองสิ นั่งแล้วเอามือทำท่าที่อย่างคุณแซนเล่า ทำได้ไหม อันนี้ที่ผมฝากทดสอบ ... และจุดตก ผมย้ำอีกที จุดตกต้องตกข้างเครื่อง (เอาต์บอร์ด) แล้วตกลงไปก่อน แล้วเกาะ (เครื่องเอาต์บอร์ด) ก่อน อย่างน้อยสัก 10 วินาที แต่ผมย้ำอีกที ผมไม่อยากทดสอบในลักษณะติดเครื่อง เพราะถ้าติดเครื่องแล้วเกิดความสูญเสีย ผมว่าเราจะเสียหายมากกว่าได้แค่ทดสอบ ติดเครื่องในลักษณะที่ใบพัดไม่ทำงานมันจะรู้แล้วว่าโดน ไม่โดน แช่อยู่ในน้ำ ขอคนที่ความสูง 165 เซนติเมตร ซึ่งผมเห็นพี่ณวัฒน์ (นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล) ได้คัดสรรมาอย่างดีแล้ว ขอบคุณพี่ณวัฒน์ด้วย" . "เพราะฉะนั้นผมขออนุญาตขยายว่า ขอบคุณสำหรับการทดสอบในครั้งนี้ แล้วมันจะดีมากๆ ที่สร้างความกระจ่างให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ สร้างความกระจ่างให้กับ 5 คนบนเรือ และครอบครัวของน้องแตงโม ที่จะได้รู้ข้อเท็จจริงว่าถ้าตกตามเหตุการณ์จริง ที่คุณแซนเป็นผู้เดียวที่เห็นเหตุการณ์ และได้ให้ปากคำ กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศที่ดูรายการโหนกระแส และได้ให้ปากคำในชั้นศาล เป็นข้อมูลเดิมทั้งหมด เพราะฉะนั้นคุณแซนยังไม่ได้บิดเบือน คุณแซนพูดทุกอย่างตามข้อเท็จจริง ทำไมวันนี้การทดสอบถึงบิดเบือนหรือไม่ตรง ในเมื่อเจ้าตัวยังพูดคำเดิม ผ่านมา 3 ปี คุณแซนยังยืนคำเดิมว่าตกท้ายเรือ เกาะไหม (แซน กล่าวว่า เกาะแปบนึง) เพราะฉะนั้นคุณแซนบอกแล้วว่าเกาะ ถ้าเกาะแล้วคุณต้องจำลองก่อน" . นายวิศาพัช หรือแซน กล่าวว่า ติดเครื่องยนต์เลยก็ได้ เพราะ นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า เขาจะจำลองเอง แล้วเขาถามแซน ตรงนี้ถ้าเขาบอกว่าปลอดภัย 100% คุณหมอลองทำดู จะไม่ท้า ถ้าอยากทำก็ทำ ส่วนนายอัจฉริยะท้าเดิมพัน 2 ล้านบาท ถ้าถนัดทางนั้นไปสนามมวยดีกว่า ไม่ต้องคุยกับตนเรื่องนี้ และว่า การทดสอบในวันนี้เป็นการละครเรื่องหนึ่งมากกว่า เอาไว้ดูเพื่อความบันเทิงเท่านั้น เพราะไม่ได้ใกล้เคียงกับข้อเท็จจริงเลย มันไม่ตรงตั้งแต่ที่เคยแนะนำไป 4 ข้อ ถ้าเกิดจะทำให้เหมือน และการตกท้ายเรือมีรายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆ น้อยๆ ถ้า นพ.ธวัชชัยอยากทราบ นายตนุภัทรก็ได้แจ้งไปแล้ว ให้ทำตามที่บอกแบบนั้นดู . ทั้งนี้ ตนไม่กังวลใจถึงการทดสอบและการร้องเรียนของนายอัจฉริยะ ยังยืนยันเหมือนเดิมว่ามั่นใจมากด้วยซ้ำ เพราะยังรอดูว่าจะเปิดอะไรออกมา จะใช้ข้อวิชาการ หลักวิทยาศาสตร์ข้อไหน เอามาสนับสนุนให้สิ่งที่กำลังทำมีเนื้อหาสาระสำคัญพอที่จะเอามาเปลี่ยนสำนวนคดีได้ ส่วนวัตถุประสงค์ในการทดสอบเหตุการณ์ตนไม่ทราบ ตนรู้สึกว่าโดนทำลายชื่อเสียงแต่ไม่รู้ว่าเจตนาเขาคืออะไร ส่วนจะฟ้องกลับคนที่ตัวตั้งตัวตีในการทดสอบนั้น เท่าที่คิดก็ไม่ทำ อโหสิกรรมไป เผื่อเจ้ากรรมนายเวรจะได้หมดสิ้นไปบ้าง ระหว่างนั้นทนายความกล่าวเสริมว่า ต้องดูว่ามากไปไหม กระทบถึงใครบ้าง ไปถึงครอบครัวไหมต้องพิจารณาดู แต่ส่วนตัวเชื่อว่าหน่วยงานรัฐคงไม่ได้เพิกเฉยอยู่แล้ว เพราะเรื่องนี้กระทบหน่วยงานรัฐหลายหน่วย . นายวิศาพัช หรือแซน กล่าวว่า อยากให้ประชาชนดูให้ดีว่าสิ่งที่เขาทำ เขามีเจตนาเพื่อหาความยุติธรรมจริงหรือเปล่า หรือหาประโยชน์ให้กับใคร กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น อันนี้ตนไม่ได้ยืนยัน แค่อยากให้ประชาชนตรองกันดูบ้าง จากสิ่งที่เราได้ยินเข้ามา แล้วก็กลั่นกรองกันหน่อย ไม่ใช่ได้ยินปุ๊บแล้วมาด่าเลย มันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นประเทศเราก็เป็นประเทศขวัญใจแก๊งคอลเซ็นเตอร์ . นายตนุภัทร กล่าวว่า คนที่สูญเสียวันนี้ขั้นต้นคือเพื่อนเรา เพราะฉะนั้นวันนี้เราเชื่อมั่นว่าไม่มีใครอยากให้เกิด แต่การหาประโยชน์จากการสูญเสีย ตนว่าควรจะไม่เอาการสูญเสียมาเป็นโอกาส ถ้าถามว่ารู้สึกอย่างไร เรารู้สึกแบบนี้ เพราะฉะนั้นวันนี้เพื่อนเรา แตงโม ภัทรธิดา จากไปอย่างสงบแล้ว วันนี้ขอบคุณที่ได้มาทำการจำลอง แล้วขอให้ทำให้ตรงไปตรงมา มันจะได้ความชัดเจน . ขณะที่ทนายความกล่าวเสริมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับแตงโมนำมาจำลอง เห็นว่าเป็นการนำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่ออดีตมา คนที่สูญเสียอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้เสียหายจริงๆ คือคุณแม่ อยากให้มีการขออนุญาตคุณแม่สักนิดนึง กรณีการทำจำลองควรจะขออนุญาตกับผู้เสียหาย เพราะเขาเป็นแม่ของลูก การนำเรื่องราวของเขามานำเสนอเห็นว่าส่วนหนึ่งเหมือนซ้ำเติมคนตาย ส่วนการยื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รื้อฟื้นคดีอีกรอบ ในทางกฎหมายไม่กังวล เพราะพยานหลักฐานใหม่ ต้องเป็นพยานหลักฐานที่มีอยู่แล้ว และไม่ได้สร้างขึ้นมาใหม่ การสร้างขึ้นมาใหม่ต้องมีความน่าเชื่อถือต่อหน่วยงานรัฐ มีการสืบสวนสอบสวนที่ถูกต้อง . การทดสอบครั้งนี้ชัดเจนว่าเป็นการสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อที่จะพิสูจน์ความจริง แต่ต้องใกล้เคียงอย่างที่นายตนุภัทรพูด สิ่งที่นายตนุภัทรพูดทั้งหมดมีการเบิกความจากพยานผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้มีการทดลอง จำลอง อยู่ในสำนวนของศาล และได้เบิกความไปแล้ว แต่คดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ยังคงเปิดเผยอะไรมากไม่ได้ วันนี้เปิดเผยเท่าที่เห็นว่าเหมาะสมกับ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004865 .............. Sondhi X
    Haha
    Like
    Love
    Sad
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 986 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ลุกขึ้นเหอะ สงครามสิ้นสุดแล้ว”
    ชายชาวปาเลสไตน์พูดกับน้องสาวของเขาซึ่งเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่บ้านหลังหนึ่งในย่านอัลดาราจ ใจกลางเมืองกาซา เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ไม่กี่อึดใจก่อนมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิง
    “ลุกขึ้นเหอะ สงครามสิ้นสุดแล้ว” ชายชาวปาเลสไตน์พูดกับน้องสาวของเขาซึ่งเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่บ้านหลังหนึ่งในย่านอัลดาราจ ใจกลางเมืองกาซา เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ไม่กี่อึดใจก่อนมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิง
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • รายชื่อผู้สาธิตการจำลองเหตุการณ์ตกเรือของ “แตงโม” จำนวน 6 คน ในวันนี้ (16 ม.ค.)
    .
    ผู้สาธิตแสดงเป็นคุณแตงโม 5 คน ตกน้ำคนละ 1 ครั้ง ได้แก่
    1. น้องเฟ-ริน วีรินท์ แก้วปุก มิสแกรนด์นครสววรค์ ส่วนสูง 167 ซม., น้ำหนัก 50 กก.
    2. น้องปอย เฌอลินณ์ ไกรอารยะพัทธ์ มิสแกรนด์นครพนม ส่วนสูง 167 ซม., น้ำหนัก 50 กก.
    3. น้องนิวหยก สุพรรณิการ์ นพรัตน์ มิสแกรนด์ชุมพร ส่วนสูง 172 ซม., น้ำหนัก 50 กก.
    4. น้องฟ้าบาร์บี้ วิศัลย์ศยา ภคศุภกุล มิสแกรนด์เชียงใหม่ ส่วนสูง 166 ซม., น้ำหนัก 42 กก.
    5. ครูลิต้า วีรินดา อัครวานิช ครูว่ายน้ำสอนนางเงือก ส่วนสูง 165 ซม., น้ำหนัก 49 กก.
    .
    โดยผู้สาธิตแสดงเป็น แซน คือ น้องหนูวรรณ กัลยาวรรณ เพ็ชร์อินทร์ มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา
    .
    อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ระบุว่า จะมีการนำทุกคนขึ้นเรือเพื่อทบทวนกระแสน้ำ หลังจากนั้นจะส่งทุกคนขึ้นบนเรือ พอขึ้นบนเรือแล้วจะกระโดดทีละคน จนจบที่น้องหนูวรรณ และครูลิต้า ซึ่งจะสลับบทบาทกันเป็น "แตงโม และแซน" นอกจากนี้ในท้ายที่สุดจะมีการรับ นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ เป็นคนสุดท้าย เพื่อทำให้คลายสงสัยของท่าทางการตกน้ำที่หลายคนยังสงสัยอยู่
    .
    *หมายเหตุ : สำหรับ "แตงโม" ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นั้นในช่วงที่เกิดเหตุและเสียชีวิตน่าจะมีส่วนสูง 168 ซม. และ น้ำหนักราว 45 กก.
    รายชื่อผู้สาธิตการจำลองเหตุการณ์ตกเรือของ “แตงโม” จำนวน 6 คน ในวันนี้ (16 ม.ค.) . ผู้สาธิตแสดงเป็นคุณแตงโม 5 คน ตกน้ำคนละ 1 ครั้ง ได้แก่ 1. น้องเฟ-ริน วีรินท์ แก้วปุก มิสแกรนด์นครสววรค์ ส่วนสูง 167 ซม., น้ำหนัก 50 กก. 2. น้องปอย เฌอลินณ์ ไกรอารยะพัทธ์ มิสแกรนด์นครพนม ส่วนสูง 167 ซม., น้ำหนัก 50 กก. 3. น้องนิวหยก สุพรรณิการ์ นพรัตน์ มิสแกรนด์ชุมพร ส่วนสูง 172 ซม., น้ำหนัก 50 กก. 4. น้องฟ้าบาร์บี้ วิศัลย์ศยา ภคศุภกุล มิสแกรนด์เชียงใหม่ ส่วนสูง 166 ซม., น้ำหนัก 42 กก. 5. ครูลิต้า วีรินดา อัครวานิช ครูว่ายน้ำสอนนางเงือก ส่วนสูง 165 ซม., น้ำหนัก 49 กก. . โดยผู้สาธิตแสดงเป็น แซน คือ น้องหนูวรรณ กัลยาวรรณ เพ็ชร์อินทร์ มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา . อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ระบุว่า จะมีการนำทุกคนขึ้นเรือเพื่อทบทวนกระแสน้ำ หลังจากนั้นจะส่งทุกคนขึ้นบนเรือ พอขึ้นบนเรือแล้วจะกระโดดทีละคน จนจบที่น้องหนูวรรณ และครูลิต้า ซึ่งจะสลับบทบาทกันเป็น "แตงโม และแซน" นอกจากนี้ในท้ายที่สุดจะมีการรับ นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ เป็นคนสุดท้าย เพื่อทำให้คลายสงสัยของท่าทางการตกน้ำที่หลายคนยังสงสัยอยู่ . *หมายเหตุ : สำหรับ "แตงโม" ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นั้นในช่วงที่เกิดเหตุและเสียชีวิตน่าจะมีส่วนสูง 168 ซม. และ น้ำหนักราว 45 กก.
    Like
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะผู้แทนเจรจา บรรลุข้อตกลงแบบเป็นขั้นเป็นตอน สำหรับหยุดสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในกาซา จากการเปิดเผยของสหรัฐฯ และกาตาร์ หลังฉนวนแห่งนี้ต้องเผชิญกับการนองเลือดที่ลากยาวมานานกว่า 15 เดือน เข่นฆ่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปหลายหมื่นคนและโหมกระพือไฟในตะวันออกกลาง
    .
    ข้อตกลงนี้วางกรอบสำหรับการหยุดยิงอย่างเป็นขั้นเป็นตอนไปในเบื้องต้น 6 สัปดาห์ และในนั้นยังรวมถึงการที่กองกำลังอิสราเอลค่อยๆ ถอยทหารออกจากฉนวนกาซา และปล่อยตัวประกันที่ถูกควบคุมตัวโดยฮามาส แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอล
    .
    ระหว่างแถลงข่าวในกรุงโดฮา นายกรัฐมนตรี เชคโมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน บิน จัสซิม อัล ธานี ของกาตาร์ กล่าวว่า ข้อตลงหยุดยิงจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ (19 ม.ค.) และเวลานี้คณะผู้แทนเจรจากำลังทำงานร่วมกับอิสราเอลและฮามาส สำหรับก้าวย่างต่างๆ ในการนำข้อตกลงไปปฏิบัติ
    .
    "ข้อตกลงนี้จะหยุดการสู้รบในกาซา เพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นป้อนสู่พลเมืองชาวปาเลสไตน์ และนำพาตัวประกันกลับสู่ครอบครัว หลังถูกคุมขังนานกว่า 15 เดือน" ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวในวอชิงตัน
    .
    ชาวปาเลสไตน์พากันออกมาฉลองบนท้องถนนในกาซา ดินแดนที่พวกเขาต้องเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมร้ายแรง ขาดแคลนอาหาร น้ำและเชื้อเพลิงอย่างหนัก
    .
    ข้อตกลงนี้มีขึ้นตามหลังการเจรจานานหลายเดือน ที่เต็มไปด้วยอุปสรรค วกไปวนมา ชักเข้าชักออก ที่ดำเนินการโดยคนกลางอย่างอียิปต์และกาตาร์ ภายใต้การสนับสนุนของสหรัฐฯ และมันมีขึ้นไม่นาน ก่อนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกา ในวันที่ 20 มกราคม
    .
    อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ประธานาธิบดีอียิปต์ โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ แสดงความยินดีกับข้อตกลงดังกล่าวเช่นกัน
    .
    ถ้ามันประสบความสำเร็จ แผนข้อตกลงหยุดยิงอย่างค่อยเป็นค่อยไปนี้ จะหยุดการสู้รบที่ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของกาซาเหลือแต่ซากปรักหักพัง และประชาชนส่วนใหญ่จากทั้งหมด 2.3 ล้านคน ในฉนวนเล็กๆ แห่งนี้ต้องไร้ถิ่นฐาน ในขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุดในแต่ละวัน
    .
    ขั้นหนึ่งของข้อตกลงคือการนำมาซึ่งการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 33 คน ประกอบด้วยผู้หญิงทั้งหมด เด็กๆ และชายที่มีอายุเกิน 50 ปี
    .
    ซามี อาบู ซูห์รี เจ้าหน้าที่ฮามาส เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า คณะผู้แทนของพวกเขาได้อนุมัติผ่านคนกลาง สำหรับข้อตกลงหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกัน
    .
    ในอิสราเอล ทำเนียบนายกรัฐมนตรีของเบนจามิน เนทันยาฮู ระบุว่า ฮามาส ถอนข้อเรียกร้องในนาทีสุดท้าย แต่ยังมีข้อแม้จำนวนหนึ่งที่ยังไม่คลี่คลายในข้อตกลงดังกล่าว "เราหวังว่าจะสามารถปิดรายละเอียดกันได้ในคืนนี้" ถ้อยแถลงระบุ
    .
    กองทัพอิสราเอลบุกเข้าไปยังฉนวนกาซา แก้แค้นกรณีที่กลุ่มมือปืนที่นำโดยฮามาส บุกจู่โจมข้ามชายแดน เล่นงานชุมชนต่างๆ ตามแนวชายแดนของอิสราเอล ในวันที่ 7 ตุลาคม 2023 สังหารทหารและพลเมืองไป 1,200 ราย และจับชาวต่างชาติและชาวอิสราเอล ไปเป็นตัวประกัน 250 คน
    .
    นับตั้งแต่นั้น สงครามทางอากาศและทางภาคพื้นของอิสราเอลในฉนวนกาซา ได้ปลิดชีพผู้คนไปกว่า 46,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และอีกหลายแสนคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งเวลานี้กำลังดิ้นรนฟันผ่าอากาศหนาวเหน็บตามเต็นท์และที่พักพิงชั่วคราว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004672
    ..............
    Sondhi X
    คณะผู้แทนเจรจา บรรลุข้อตกลงแบบเป็นขั้นเป็นตอน สำหรับหยุดสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในกาซา จากการเปิดเผยของสหรัฐฯ และกาตาร์ หลังฉนวนแห่งนี้ต้องเผชิญกับการนองเลือดที่ลากยาวมานานกว่า 15 เดือน เข่นฆ่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปหลายหมื่นคนและโหมกระพือไฟในตะวันออกกลาง . ข้อตกลงนี้วางกรอบสำหรับการหยุดยิงอย่างเป็นขั้นเป็นตอนไปในเบื้องต้น 6 สัปดาห์ และในนั้นยังรวมถึงการที่กองกำลังอิสราเอลค่อยๆ ถอยทหารออกจากฉนวนกาซา และปล่อยตัวประกันที่ถูกควบคุมตัวโดยฮามาส แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอล . ระหว่างแถลงข่าวในกรุงโดฮา นายกรัฐมนตรี เชคโมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน บิน จัสซิม อัล ธานี ของกาตาร์ กล่าวว่า ข้อตลงหยุดยิงจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ (19 ม.ค.) และเวลานี้คณะผู้แทนเจรจากำลังทำงานร่วมกับอิสราเอลและฮามาส สำหรับก้าวย่างต่างๆ ในการนำข้อตกลงไปปฏิบัติ . "ข้อตกลงนี้จะหยุดการสู้รบในกาซา เพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นป้อนสู่พลเมืองชาวปาเลสไตน์ และนำพาตัวประกันกลับสู่ครอบครัว หลังถูกคุมขังนานกว่า 15 เดือน" ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวในวอชิงตัน . ชาวปาเลสไตน์พากันออกมาฉลองบนท้องถนนในกาซา ดินแดนที่พวกเขาต้องเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมร้ายแรง ขาดแคลนอาหาร น้ำและเชื้อเพลิงอย่างหนัก . ข้อตกลงนี้มีขึ้นตามหลังการเจรจานานหลายเดือน ที่เต็มไปด้วยอุปสรรค วกไปวนมา ชักเข้าชักออก ที่ดำเนินการโดยคนกลางอย่างอียิปต์และกาตาร์ ภายใต้การสนับสนุนของสหรัฐฯ และมันมีขึ้นไม่นาน ก่อนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกา ในวันที่ 20 มกราคม . อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ประธานาธิบดีอียิปต์ โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ แสดงความยินดีกับข้อตกลงดังกล่าวเช่นกัน . ถ้ามันประสบความสำเร็จ แผนข้อตกลงหยุดยิงอย่างค่อยเป็นค่อยไปนี้ จะหยุดการสู้รบที่ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของกาซาเหลือแต่ซากปรักหักพัง และประชาชนส่วนใหญ่จากทั้งหมด 2.3 ล้านคน ในฉนวนเล็กๆ แห่งนี้ต้องไร้ถิ่นฐาน ในขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุดในแต่ละวัน . ขั้นหนึ่งของข้อตกลงคือการนำมาซึ่งการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 33 คน ประกอบด้วยผู้หญิงทั้งหมด เด็กๆ และชายที่มีอายุเกิน 50 ปี . ซามี อาบู ซูห์รี เจ้าหน้าที่ฮามาส เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า คณะผู้แทนของพวกเขาได้อนุมัติผ่านคนกลาง สำหรับข้อตกลงหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกัน . ในอิสราเอล ทำเนียบนายกรัฐมนตรีของเบนจามิน เนทันยาฮู ระบุว่า ฮามาส ถอนข้อเรียกร้องในนาทีสุดท้าย แต่ยังมีข้อแม้จำนวนหนึ่งที่ยังไม่คลี่คลายในข้อตกลงดังกล่าว "เราหวังว่าจะสามารถปิดรายละเอียดกันได้ในคืนนี้" ถ้อยแถลงระบุ . กองทัพอิสราเอลบุกเข้าไปยังฉนวนกาซา แก้แค้นกรณีที่กลุ่มมือปืนที่นำโดยฮามาส บุกจู่โจมข้ามชายแดน เล่นงานชุมชนต่างๆ ตามแนวชายแดนของอิสราเอล ในวันที่ 7 ตุลาคม 2023 สังหารทหารและพลเมืองไป 1,200 ราย และจับชาวต่างชาติและชาวอิสราเอล ไปเป็นตัวประกัน 250 คน . นับตั้งแต่นั้น สงครามทางอากาศและทางภาคพื้นของอิสราเอลในฉนวนกาซา ได้ปลิดชีพผู้คนไปกว่า 46,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และอีกหลายแสนคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งเวลานี้กำลังดิ้นรนฟันผ่าอากาศหนาวเหน็บตามเต็นท์และที่พักพิงชั่วคราว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004672 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 986 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีข้อมูลยืนยันจากฝ่ายบริหารภูมิภาคลวิฟแล้วว่า ศูนย์กลางและการจัดเก็บก๊าซ Bilche-Volitsko-Uher ใน Stryi ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

    “ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่มีการทำลายล้างอย่างรุนแรง” ตามรายงานของเจ้าหน้าที่

    จากข้อมูลเบื้องต้น มีขีปนาวุธจำนวนมากมุ่งเป้าหมายมาที่แห่งนี้ และมีการรายงานการระเบิดอย่างรุนแรงอย่างน้อย 5 ครั้ง

    ภาพวิดีโอแสดงให้เห็นหลุมลึกที่เกิดจากหนึ่งในขีปนาวุธที่โจมตีในทิศทางนี้
    มีข้อมูลยืนยันจากฝ่ายบริหารภูมิภาคลวิฟแล้วว่า ศูนย์กลางและการจัดเก็บก๊าซ Bilche-Volitsko-Uher ใน Stryi ได้รับความเสียหายอย่างหนัก “ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่มีการทำลายล้างอย่างรุนแรง” ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ จากข้อมูลเบื้องต้น มีขีปนาวุธจำนวนมากมุ่งเป้าหมายมาที่แห่งนี้ และมีการรายงานการระเบิดอย่างรุนแรงอย่างน้อย 5 ครั้ง ภาพวิดีโอแสดงให้เห็นหลุมลึกที่เกิดจากหนึ่งในขีปนาวุธที่โจมตีในทิศทางนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts