• Exynos 2600 ยังไม่เข้าสู่การผลิตจำนวนมาก

    รายงานล่าสุดเผยว่า Samsung Exynos 2600 ซึ่งเป็นชิป 2nm GAA รุ่นใหม่ ยังไม่ได้เข้าสู่การผลิตจำนวนมาก แม้บริษัทจะประกาศเปิดตัวไปแล้ว ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจกระทบต่อการเปิดตัว Galaxy S26 ในปี 2026

    แม้ Samsung จะโชว์ตัวอย่าง Exynos 2600 ไปแล้ว แต่ข้อมูลจากสื่อเกาหลีระบุว่า ยังไม่มีการผลิตจริงในระดับ mass production โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการทดลองเพื่อปรับปรุงอัตราผลผลิต (yield) ที่ยังต่ำอยู่ราว 50% ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ในวงกว้าง

    ความท้าทายด้านเทคโนโลยี
    Samsung ตั้งเป้าเพิ่ม yield ให้ถึง 70% ภายในสิ้นปี 2025 เพื่อให้สามารถรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้า เช่น Tesla และผู้ผลิตเครื่องขุดคริปโตในจีน แต่การผลิตด้วยเทคโนโลยี 2nm GAA (Gate-All-Around) ถือเป็นความท้าทายใหญ่ เนื่องจากต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดชิ้นส่วนเสียหาย

    ผลกระทบต่อ Galaxy S26 และตลาด
    Galaxy S26 มีกำหนดเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า Samsung จะมีชิปเพียงพอสำหรับการผลิตสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หรือไม่ หาก yield ยังไม่ดีขึ้น อาจทำให้รุ่นที่ใช้ Exynos 2600 ถูกจำกัดเฉพาะตลาดเกาหลีใต้ ขณะที่ตลาดโลกอาจต้องพึ่งพา Qualcomm Snapdragon แทน

    ความเสี่ยงและข้อควรระวัง
    แม้ Samsung จะประกาศตัวเลขประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานของ Exynos 2600 แล้ว แต่หากการผลิตยังไม่เสถียร อาจทำให้บริษัทสูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้าและนักลงทุน อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งอย่าง TSMC ที่มีความพร้อมมากกว่าในการผลิตชิปขั้นสูง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Exynos 2600 ยังไม่เข้าสู่ mass production
    Yield อยู่ที่ราว 50% ต้องเพิ่มถึง 70% ภายในสิ้นปี 2025

    Samsung ตั้งเป้ารองรับลูกค้ารายใหญ่
    Tesla และผู้ผลิตเครื่องขุดคริปโตในจีน

    ผลกระทบต่อ Galaxy S26
    อาจมีชิปไม่เพียงพอ ทำให้รุ่น Exynos จำกัดตลาดเฉพาะเกาหลีใต้

    คำเตือนต่อ Samsung
    หาก yield ไม่เสถียร อาจสูญเสียความเชื่อมั่นและส่วนแบ่งตลาด
    เสี่ยงถูก Qualcomm และ TSMC แย่งความได้เปรียบในตลาดชิปขั้นสูง

    https://wccftech.com/exynos-2600-yet-to-enter-mass-production-despite-samsung-announcing-it/
    📰 Exynos 2600 ยังไม่เข้าสู่การผลิตจำนวนมาก รายงานล่าสุดเผยว่า Samsung Exynos 2600 ซึ่งเป็นชิป 2nm GAA รุ่นใหม่ ยังไม่ได้เข้าสู่การผลิตจำนวนมาก แม้บริษัทจะประกาศเปิดตัวไปแล้ว ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจกระทบต่อการเปิดตัว Galaxy S26 ในปี 2026 แม้ Samsung จะโชว์ตัวอย่าง Exynos 2600 ไปแล้ว แต่ข้อมูลจากสื่อเกาหลีระบุว่า ยังไม่มีการผลิตจริงในระดับ mass production โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการทดลองเพื่อปรับปรุงอัตราผลผลิต (yield) ที่ยังต่ำอยู่ราว 50% ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ในวงกว้าง 🔧 ความท้าทายด้านเทคโนโลยี Samsung ตั้งเป้าเพิ่ม yield ให้ถึง 70% ภายในสิ้นปี 2025 เพื่อให้สามารถรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้า เช่น Tesla และผู้ผลิตเครื่องขุดคริปโตในจีน แต่การผลิตด้วยเทคโนโลยี 2nm GAA (Gate-All-Around) ถือเป็นความท้าทายใหญ่ เนื่องจากต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดชิ้นส่วนเสียหาย 🌍 ผลกระทบต่อ Galaxy S26 และตลาด Galaxy S26 มีกำหนดเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า Samsung จะมีชิปเพียงพอสำหรับการผลิตสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หรือไม่ หาก yield ยังไม่ดีขึ้น อาจทำให้รุ่นที่ใช้ Exynos 2600 ถูกจำกัดเฉพาะตลาดเกาหลีใต้ ขณะที่ตลาดโลกอาจต้องพึ่งพา Qualcomm Snapdragon แทน ⚠️ ความเสี่ยงและข้อควรระวัง แม้ Samsung จะประกาศตัวเลขประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานของ Exynos 2600 แล้ว แต่หากการผลิตยังไม่เสถียร อาจทำให้บริษัทสูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้าและนักลงทุน อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งอย่าง TSMC ที่มีความพร้อมมากกว่าในการผลิตชิปขั้นสูง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Exynos 2600 ยังไม่เข้าสู่ mass production ➡️ Yield อยู่ที่ราว 50% ต้องเพิ่มถึง 70% ภายในสิ้นปี 2025 ✅ Samsung ตั้งเป้ารองรับลูกค้ารายใหญ่ ➡️ Tesla และผู้ผลิตเครื่องขุดคริปโตในจีน ✅ ผลกระทบต่อ Galaxy S26 ➡️ อาจมีชิปไม่เพียงพอ ทำให้รุ่น Exynos จำกัดตลาดเฉพาะเกาหลีใต้ ‼️ คำเตือนต่อ Samsung ⛔ หาก yield ไม่เสถียร อาจสูญเสียความเชื่อมั่นและส่วนแบ่งตลาด ⛔ เสี่ยงถูก Qualcomm และ TSMC แย่งความได้เปรียบในตลาดชิปขั้นสูง https://wccftech.com/exynos-2600-yet-to-enter-mass-production-despite-samsung-announcing-it/
    WCCFTECH.COM
    Exynos 2600 Has Yet To Enter Mass Production, With Latest Report Downplaying Previous Updates Regarding Samsung’s First 2nm GAA Chipset’s Progress
    The Exynos 2600 was recently announced in a small trailer, but a new update states that Samsung’s first 2nm GAA SoC has yet to enter mass production
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • Arm ตั้งศูนย์ฝึกอบรมชิปในเกาหลีใต้

    เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2025 SoftBank Group และ Arm Holdings ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับกระทรวงอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ เพื่อจัดตั้ง Chip Design School ในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์และ AI ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของเกาหลีใต้

    ความร่วมมือระดับรัฐบาลและเอกชน
    การลงนามครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างการพบปะของประธานาธิบดี Lee Jae Myung และ Masayoshi Son ซีอีโอของ SoftBank ที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซล รัฐบาลเกาหลีใต้หวังว่าความร่วมมือกับ Arm จะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก โดยเฉพาะในยุคที่ความต้องการชิป AI และชิปประสิทธิภาพสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและบุคลากร
    ศูนย์ฝึกอบรมนี้จะเป็นแหล่งบ่มเพาะนักออกแบบชิปและนักวิจัยรุ่นใหม่ ช่วยลดการพึ่งพาต่างประเทศ และสร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพด้าน AI และฮาร์ดแวร์ในเกาหลีใต้เติบโตได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมความมั่นคงทางเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในตลาดเซมิคอนดักเตอร์

    ความท้าทายและข้อควรระวัง
    แม้โครงการนี้จะเป็นโอกาสสำคัญ แต่ก็มีความท้าทาย เช่น การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะสูง การลงทุนที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก และการแข่งขันจากประเทศอื่น ๆ เช่น ไต้หวันและจีน หากไม่สามารถสร้างระบบนิเวศที่แข็งแรงพอ เกาหลีใต้อาจยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าชิปขั้นสูงจากต่างประเทศ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    SoftBank และ Arm ลงนามตั้งศูนย์ฝึกอบรมชิปในเกาหลีใต้
    เป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์และ AI

    ความร่วมมือระดับสูงระหว่างรัฐบาลและเอกชน
    ประธานาธิบดี Lee Jae Myung พบ Masayoshi Son เพื่อผลักดันโครงการ

    ผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมและบุคลากร
    สร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพและลดการพึ่งพาต่างประเทศ

    คำเตือนและความท้าทาย
    การขาดบุคลากรที่มีทักษะสูงอาจทำให้โครงการเดินหน้าได้ช้า
    การแข่งขันจากจีนและไต้หวันยังคงเป็นแรงกดดันต่อเกาหลีใต้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/05/softbank039s-arm-plans-to-set-up-chip-training-facility-in-south-korea
    🏭 Arm ตั้งศูนย์ฝึกอบรมชิปในเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2025 SoftBank Group และ Arm Holdings ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับกระทรวงอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ เพื่อจัดตั้ง Chip Design School ในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์และ AI ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของเกาหลีใต้ 🤝 ความร่วมมือระดับรัฐบาลและเอกชน การลงนามครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างการพบปะของประธานาธิบดี Lee Jae Myung และ Masayoshi Son ซีอีโอของ SoftBank ที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซล รัฐบาลเกาหลีใต้หวังว่าความร่วมมือกับ Arm จะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก โดยเฉพาะในยุคที่ความต้องการชิป AI และชิปประสิทธิภาพสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 📈 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและบุคลากร ศูนย์ฝึกอบรมนี้จะเป็นแหล่งบ่มเพาะนักออกแบบชิปและนักวิจัยรุ่นใหม่ ช่วยลดการพึ่งพาต่างประเทศ และสร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพด้าน AI และฮาร์ดแวร์ในเกาหลีใต้เติบโตได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมความมั่นคงทางเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ ⚠️ ความท้าทายและข้อควรระวัง แม้โครงการนี้จะเป็นโอกาสสำคัญ แต่ก็มีความท้าทาย เช่น การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะสูง การลงทุนที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก และการแข่งขันจากประเทศอื่น ๆ เช่น ไต้หวันและจีน หากไม่สามารถสร้างระบบนิเวศที่แข็งแรงพอ เกาหลีใต้อาจยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าชิปขั้นสูงจากต่างประเทศ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ SoftBank และ Arm ลงนามตั้งศูนย์ฝึกอบรมชิปในเกาหลีใต้ ➡️ เป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์และ AI ✅ ความร่วมมือระดับสูงระหว่างรัฐบาลและเอกชน ➡️ ประธานาธิบดี Lee Jae Myung พบ Masayoshi Son เพื่อผลักดันโครงการ ✅ ผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมและบุคลากร ➡️ สร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพและลดการพึ่งพาต่างประเทศ ‼️ คำเตือนและความท้าทาย ⛔ การขาดบุคลากรที่มีทักษะสูงอาจทำให้โครงการเดินหน้าได้ช้า ⛔ การแข่งขันจากจีนและไต้หวันยังคงเป็นแรงกดดันต่อเกาหลีใต้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/05/softbank039s-arm-plans-to-set-up-chip-training-facility-in-south-korea
    WWW.THESTAR.COM.MY
    SoftBank's Arm plans to set up chip training facility in South Korea
    SEOUL, Dec 5 (Reuters) - South Korea's industry ministry and SoftBank's chip unit, Arm Holdings, have signed an agreement to strengthen the country's semiconductor and Artificial Intelligence sectors, a presidential policy adviser said on Friday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251203 #securityonline

    AI กำลังถูกใช้อย่างแพร่หลาย แต่การกำกับดูแลยังตามไม่ทัน
    รายงานใหม่ปี 2025 ชี้ให้เห็นว่าองค์กรกว่า 83% ใช้ AI ในการทำงานประจำวันแล้ว แต่มีเพียง 13% เท่านั้นที่บอกว่ามีการตรวจสอบการจัดการข้อมูลที่ชัดเจน ปัญหาคือ AI เริ่มทำงานเหมือน “ตัวตนใหม่” ที่ไม่เคยหยุดพักและเข้าถึงข้อมูลได้มากกว่ามนุษย์ แต่ระบบการจัดการยังคงใช้โมเดลที่ออกแบบมาเพื่อมนุษย์ ทำให้เกิดช่องโหว่ เช่น AI เข้าถึงข้อมูลเกินสิทธิ์ หรือไม่มีการควบคุมคำสั่งและผลลัพธ์ หลายองค์กรยอมรับว่าพวกเขาแทบไม่มีทีมกำกับดูแล AI และไม่พร้อมต่อกฎระเบียบใหม่ที่กำลังจะมา เสียงเตือนคือ “คุณไม่สามารถปกป้องสิ่งที่คุณไม่เห็น”
    https://securityonline.info/ai-adoption-surges-while-governance-lags-report-warns-of-growing-shadow-identity-risk

    Apple ปรับทีม AI ครั้งใหญ่ เปลี่ยนผู้นำเพื่อเร่งเครื่องตามคู่แข่ง
    John Giannandrea ผู้บริหารระดับสูงด้าน AI ของ Apple ที่เคยเป็นหัวหอกจาก Google จะก้าวลงจากตำแหน่งในปีหน้า หลังถูกวิจารณ์ว่าการพัฒนา AI ของ Apple ล่าช้ากว่าคู่แข่งหลายปี ทั้ง Siri ที่ปรับปรุงไม่ทันและ Apple Intelligence ที่เปิดตัวช้าเกินไป Tim Cook จึงตัดสินใจดึง Amar Subramanya อดีตหัวหน้าทีม Gemini ของ Google เข้ามาแทน โดยจะเน้นการพัฒนาโมเดลพื้นฐานและความปลอดภัยของ AI การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Apple ที่ต้องการผสาน AI เข้ากับทุกผลิตภัณฑ์อย่างจริงจัง แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาการสูญเสียบุคลากรด้านวิจัยหุ่นยนต์และทีมโมเดลหลักที่ทยอยลาออกไปยังบริษัทคู่แข่ง
    https://securityonline.info/apple-ai-shakeup-giannandrea-out-former-google-gemini-chief-amar-subramanya-hired

    Sonesta Hotels ยกระดับความปลอดภัยบนคลาวด์ด้วย AccuKnox
    เครือโรงแรม Sonesta International Hotels ประกาศความร่วมมือกับ AccuKnox เพื่อนำระบบ Zero Trust CNAPP มาใช้บน Microsoft Azure จุดเด่นคือการตรวจจับการตั้งค่าที่ผิดพลาดในระบบคลาวด์ การป้องกันการโจมตีแบบ Zero-Day และการทำงานร่วมกับ DevSecOps อย่างเต็มรูปแบบ Gartner เคยเตือนว่าหากองค์กรไม่ใช้ CNAPP จะขาดการมองเห็นภาพรวมของความเสี่ยงบนคลาวด์ Sonesta เลือก AccuKnox หลังทดสอบหลายเจ้า เพราะสามารถลดภาระงานวิศวกรได้ถึง 45% และมีฟีเจอร์ด้าน API Security และ AI/LLM Security ที่ตอบโจทย์อนาคต
    https://securityonline.info/sonesta-international-hotels-implements-industry-leading-cloud-security-through-accuknox-collaboration

    Coupang เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหลครั้งใหญ่ กระทบผู้ใช้กว่า 33.7 ล้านราย
    แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ Coupang เผชิญเหตุการณ์ร้ายแรงเมื่อข้อมูลผู้ใช้กว่า 33.7 ล้านรายถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งชื่อ อีเมล เบอร์โทร และที่อยู่จัดส่ง แม้ข้อมูลทางการเงินจะไม่ถูกเปิดเผย แต่ก็เสี่ยงต่อการถูกนำไปใช้ทำ Social Engineering หรือหลอกลวงทางออนไลน์ เดิมทีบริษัทคิดว่ามีเพียง 4,500 บัญชีที่ได้รับผลกระทบ แต่การสอบสวนพบว่ามีการเชื่อมต่อฐานข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศตั้งแต่กลางปี 2025 และถูกดูดข้อมูลออกไป ปัจจุบันมีการระบุผู้ต้องสงสัยว่าเป็นอดีตพนักงานที่หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว
    https://securityonline.info/alarm-coupang-data-breach-exposes-33-7-million-users-over-half-of-south-korea

    Europol ปิดบริการ CryptoMixer ยึด Bitcoin มูลค่า 25 ล้านยูโร
    หน่วยงาน Europol ประกาศความสำเร็จในการปิดแพลตฟอร์ม CryptoMixer ที่ถูกใช้เพื่อปกปิดเส้นทางการเงินของอาชญากรไซเบอร์ โดยสามารถยึด Bitcoin มูลค่ากว่า 25 ล้านยูโร และข้อมูลกว่า 12TB CryptoMixer เคยประมวลผลธุรกรรมมากกว่า 1.3 พันล้านยูโรตั้งแต่ปี 2016 การทำงานของมันคือรวมเงินฝากของผู้ใช้แล้วกระจายใหม่แบบสุ่ม ทำให้ติดตามเส้นทางได้ยาก แม้บริการลักษณะนี้จะมีผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ก็ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญของการฟอกเงิน การปิดครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าบริการแบบรวมศูนย์มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกยึดทรัพย์และปิดระบบ ต่างจากบริการแบบกระจายศูนย์ที่แทบไม่สามารถจัดการได้
    https://securityonline.info/europol-shuts-down-cryptomixer-seizes-e25-million-in-bitcoin-12-tb-of-data

    AWS เปิดตัว Agentic AI ช่วยลดหนี้ทางเทคนิคและปรับปรุงโค้ดเก่า
    AWS ประกาศโครงการใหม่ชื่อว่า Transform ที่ใช้ Agentic AI เพื่อช่วยองค์กรปรับปรุงโค้ดเดิมให้ทันสมัย ลดภาระงานที่สะสมมานานจากระบบเก่า จุดเด่นคือการทำงานอัตโนมัติที่สามารถวิเคราะห์โค้ดและปรับปรุงให้เข้ากับมาตรฐานใหม่ได้ทันที โดยไม่ต้องใช้แรงงานมนุษย์มากเหมือนเดิม สิ่งนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาสามารถโฟกัสไปที่นวัตกรรมแทนการแก้ไขงานซ้ำซาก ถือเป็นอีกก้าวที่ AWS พยายามผลักดัน AI ให้เข้าไปอยู่ในทุกมิติของการทำงานด้านเทคโนโลยี
    https://securityonline.info/aws-transform-agentic-ai-automates-legacy-code-modernization-and-reduces-technical-debt

    AWS re:Invent 2025 เปิดตัว Marengo 3.0 และจับมือ Visa
    งานใหญ่ประจำปีของ AWS ครั้งนี้มีไฮไลต์คือการเปิดตัว Marengo 3.0 โมเดลวิดีโอใหม่ที่สามารถสร้างคอนเทนต์ภาพเคลื่อนไหวได้สมจริงมากขึ้น พร้อมทั้งเปิดตัวความร่วมมือกับ Visa ในด้านการชำระเงินดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีการนำ Agentic AI มาใช้ในหลายบริการเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานอัตโนมัติ การประกาศเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า AWS กำลังเร่งขยายขอบเขต AI จากระบบคลาวด์ไปสู่การสร้างสรรค์คอนเทนต์และการเงินดิจิทัล
    https://securityonline.info/aws-reinvent-2025-agentic-ai-marengo-3-0-video-model-and-visa-payment-partnership

    AWS เปิดตัว Nova Sonic Voice และจับมือ Google Cloud
    อีกหนึ่งประกาศจาก AWS re:Invent คือการเปิดตัว Nova Sonic Voice เทคโนโลยีเสียงใหม่ที่ใช้ Agentic AI เพื่อสร้างเสียงพูดที่เป็นธรรมชาติและตอบสนองได้ทันที พร้อมทั้งจับมือกับ Google Cloud ในด้านระบบเครือข่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ นี่เป็นการขยายความร่วมมือที่น่าสนใจ เพราะสองยักษ์ใหญ่ด้านคลาวด์มักถูกมองว่าเป็นคู่แข่ง แต่ครั้งนี้กลับเลือกทำงานร่วมกันเพื่อผลักดัน AI ให้ก้าวไปอีกขั้น
    https://securityonline.info/aws-reinvent-agentic-ai-launches-with-nova-sonic-voice-partners-with-google-cloud-on-networking

    NVIDIA ลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์ใน Synopsys เพื่อพัฒนา AI สำหรับออกแบบชิป
    NVIDIA ประกาศลงทุนมหาศาลกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ใน Synopsys บริษัทซอฟต์แวร์ออกแบบชิป เพื่อผสาน Agentic AI เข้ากับกระบวนการออกแบบฮาร์ดแวร์ จุดมุ่งหมายคือการเร่งการพัฒนาชิปที่ซับซ้อนให้เสร็จเร็วขึ้นและลดข้อผิดพลาด การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่า AI จะเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบฮาร์ดแวร์ในอนาคต และยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้ NVIDIA ในฐานะผู้นำด้าน AI และการประมวลผล
    https://securityonline.info/nvidia-invests-2-billion-in-synopsys-to-integrate-agentic-ai-into-chip-design

    อินเดียบังคับติดตั้งแอป Sanchar Saathi ที่ลบไม่ได้บนสมาร์ทโฟนใหม่
    รัฐบาลอินเดียออกกฎใหม่ให้สมาร์ทโฟนทุกเครื่องที่ขายในประเทศต้องติดตั้งแอป Sanchar Saathi โดยไม่สามารถลบออกได้ แอปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกหลอกลวงหรือถูกขโมย แต่ก็สร้างความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและสิทธิของผู้ใช้ เพราะการบังคับติดตั้งและไม่สามารถลบออกได้อาจเปิดช่องให้เกิดการติดตามหรือควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการที่รัฐบาลพยายามใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหา แต่ก็ต้องแลกมากับคำถามด้านสิทธิและเสรีภาพ
    https://securityonline.info/privacy-alert-india-mandates-undeletable-sanchar-saathi-app-on-all-new-smartphones

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Longwatch ทำให้ระบบเฝ้าระวังถูกยึด
    มีรายงานจาก CISA ว่าพบช่องโหว่ร้ายแรงในระบบ Longwatch ซึ่งใช้สำหรับการเฝ้าระวังและตรวจสอบในอุตสาหกรรม OT ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP GET โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน และสามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ SYSTEM ได้ทันที เท่ากับว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมเซิร์ฟเวอร์เฝ้าระวังได้ทั้งหมด ปัญหานี้เกิดขึ้นในเวอร์ชัน 6.309 ถึง 6.334 และผู้พัฒนาก็ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 6.335 แล้ว ใครที่ยังใช้เวอร์ชันเก่าจำเป็นต้องอัปเดตโดยด่วนเพื่อป้องกันความเสี่ยง
    https://securityonline.info/cisa-warns-critical-longwatch-rce-flaw-cve-2025-13658-cvss-9-8-allows-unauthenticated-system-takeover-of-ot-surveillance

    แพ็กเกจ Rust อันตราย "evm-units"
    นักพัฒนาที่ทำงานกับ Rust ต้องระวัง เพราะมีการค้นพบแพ็กเกจชื่อ "evm-units" ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อโจมตีแบบลับ ๆ โดยมุ่งเป้าไปที่นักพัฒนาในสายคริปโต ตัวแพ็กเกจนี้ถูกปล่อยออกมาเหมือนเป็นเครื่องมือปกติ แต่จริง ๆ แล้วมีโค้ดแฝงที่สามารถเปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงระบบได้โดยไม่รู้ตัว ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความไว้ใจของนักพัฒนาเป็นเครื่องมือ
    https://securityonline.info/malicious-rust-package-evm-units-exposes-crypto-developers-to-stealth-attacks

    DOJ ปิดโดเมนแก๊งหลอกลวง "Tai Chang" ในพม่า
    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) ได้เข้ายึดโดเมนที่เชื่อมโยงกับคอมพาวด์หลอกลวงชื่อ Tai Chang ในพม่า ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางของการทำ "Pig Butchering" หรือการหลอกลวงทางการเงินที่ใช้การสร้างความสัมพันธ์หลอกเหยื่อให้ลงทุนก่อนจะเชิดเงินหนี การปิดโดเมนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสกัดกั้นเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังระบาดหนักในภูมิภาค
    https://securityonline.info/doj-seizes-domain-of-burmas-notorious-tai-chang-scam-compound-to-disrupt-pig-butchering-fraud

    Chrome 143 อัปเดตแก้ช่องโหว่ 13 จุด
    Google ได้ปล่อย Chrome เวอร์ชัน 143 ที่มาพร้อมการแก้ไขช่องโหว่ถึง 13 จุด โดยหนึ่งในนั้นคือปัญหาใหญ่ใน V8 ที่ทำให้เกิด Type Confusion ซึ่งมีนักวิจัยด้านความปลอดภัยรายหนึ่งได้รับเงินรางวัลถึง 11,000 ดอลลาร์จากการค้นพบนี้ การอัปเดตครั้งนี้ถือว่าสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ทุกคน เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีผ่านเบราว์เซอร์ที่ใช้งานอยู่ทุกวัน
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/chrome-143-stable-fixes-13-flaws-high-severity-v8-type-confusion-earns-11000-bounty

    Django พบช่องโหว่ SQL Injection ใน PostgreSQL
    เฟรมเวิร์ก Django ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการพัฒนาเว็บ ถูกพบช่องโหว่ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ FilteredRelation ร่วมกับ PostgreSQL ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้เกิด SQL Injection ได้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการโจมตีที่อันตรายที่สุด เพราะสามารถทำให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลในฐานข้อมูลโดยตรง ทีม Django ได้ออกคำเตือนและแนะนำให้อัปเดตเวอร์ชันเพื่อปิดช่องโหว่โดยเร็ว
    https://securityonline.info/django-flaw-cve-2025-13372-allows-sql-injection-in-postgresql-filteredrelation

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Iskra iHUB
    CISA ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในอุปกรณ์ Iskra iHUB ที่ใช้สำหรับระบบสมาร์ทมิเตอร์ ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ายึดระบบได้โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน ซึ่งหมายความว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมการทำงานของระบบสมาร์ทมิเตอร์ได้ทั้งหมด ถือเป็นภัยคุกคามต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่สำคัญ การอัปเดตแพตช์จึงเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน
    https://securityonline.info/cisa-warns-critical-iskra-ihub-flaw-cve-2025-13510-allows-unauthenticated-smart-metering-takeover

    ปลั๊กอิน Elementor มีช่องโหว่ร้ายแรง กำลังถูกโจมตี
    ปลั๊กอินยอดนิยมของ WordPress อย่าง Elementor ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ายึดสิทธิ์แอดมินได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 9.8 และที่น่ากังวลคือกำลังถูกโจมตีจริงในขณะนี้ ผู้ที่ใช้ปลั๊กอินนี้จำเป็นต้องอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการสูญเสียการควบคุมเว็บไซต์
    https://securityonline.info/critical-elementor-plugin-flaw-cve-2025-8489-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-admin-takeover

    Angular พบช่องโหว่ Stored XSS
    เฟรมเวิร์ก Angular ถูกค้นพบช่องโหว่ที่เปิดโอกาสให้เกิดการโจมตีแบบ Stored XSS ผ่านการใช้ SVG และ MathML โดยสามารถหลบเลี่ยงการตรวจสอบได้ ช่องโหว่นี้ถือว่ามีความรุนแรงสูง เพราะทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังโค้ดอันตรายลงในเว็บและส่งผลต่อผู้ใช้งานที่เข้ามาเยี่ยมชมได้ทันที
    https://securityonline.info/high-severity-angular-flaw-cve-2025-66412-allows-stored-xss-via-svg-and-mathml-bypass

    ไลบรารี lz4-java ถูกยกเลิก พร้อมพบช่องโหว่ร้ายแรง
    มีการประกาศว่าไลบรารี lz4-java ถูกยกเลิกการพัฒนา และถูกค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบย้ายไปใช้ community fork โดยทันที ช่องโหว่นี้สร้างความเสี่ยงต่อระบบที่ยังคงใช้งานไลบรารีเวอร์ชันเดิมอยู่ การย้ายไปใช้เวอร์ชันใหม่จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
    https://securityonline.info/discontinued-library-high-severity-lz4-java-flaw-cve%E2%80%902025%E2%80%9012183-forces-immediate-migration-to-community-fork

    สตาร์ทอัพ Frenetik เปิดตัวเทคโนโลยีหลอกลวง AI
    บริษัทสตาร์ทอัพด้านไซเบอร์ชื่อ Frenetik เปิดตัวด้วยเทคโนโลยีการหลอกลวงที่จดสิทธิบัตร โดยตั้งเป้าใช้เทคนิคนี้เพื่อรับมือกับการแข่งขันด้าน AI ที่ทวีความรุนแรงขึ้น เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างกับดักและทำให้ผู้โจมตีสับสน ถือเป็นแนวทางใหม่ที่น่าสนใจในการป้องกันภัยไซเบอร์
    https://securityonline.info/cyber-startup-frenetik-launches-with-patented-deception-technology-that-bets-against-the-ai-arms-race
    📌🔐🟢 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟢🔐📌 #รวมข่าวIT #20251203 #securityonline 🧠 AI กำลังถูกใช้อย่างแพร่หลาย แต่การกำกับดูแลยังตามไม่ทัน รายงานใหม่ปี 2025 ชี้ให้เห็นว่าองค์กรกว่า 83% ใช้ AI ในการทำงานประจำวันแล้ว แต่มีเพียง 13% เท่านั้นที่บอกว่ามีการตรวจสอบการจัดการข้อมูลที่ชัดเจน ปัญหาคือ AI เริ่มทำงานเหมือน “ตัวตนใหม่” ที่ไม่เคยหยุดพักและเข้าถึงข้อมูลได้มากกว่ามนุษย์ แต่ระบบการจัดการยังคงใช้โมเดลที่ออกแบบมาเพื่อมนุษย์ ทำให้เกิดช่องโหว่ เช่น AI เข้าถึงข้อมูลเกินสิทธิ์ หรือไม่มีการควบคุมคำสั่งและผลลัพธ์ หลายองค์กรยอมรับว่าพวกเขาแทบไม่มีทีมกำกับดูแล AI และไม่พร้อมต่อกฎระเบียบใหม่ที่กำลังจะมา เสียงเตือนคือ “คุณไม่สามารถปกป้องสิ่งที่คุณไม่เห็น” 🔗 https://securityonline.info/ai-adoption-surges-while-governance-lags-report-warns-of-growing-shadow-identity-risk 🍏 Apple ปรับทีม AI ครั้งใหญ่ เปลี่ยนผู้นำเพื่อเร่งเครื่องตามคู่แข่ง John Giannandrea ผู้บริหารระดับสูงด้าน AI ของ Apple ที่เคยเป็นหัวหอกจาก Google จะก้าวลงจากตำแหน่งในปีหน้า หลังถูกวิจารณ์ว่าการพัฒนา AI ของ Apple ล่าช้ากว่าคู่แข่งหลายปี ทั้ง Siri ที่ปรับปรุงไม่ทันและ Apple Intelligence ที่เปิดตัวช้าเกินไป Tim Cook จึงตัดสินใจดึง Amar Subramanya อดีตหัวหน้าทีม Gemini ของ Google เข้ามาแทน โดยจะเน้นการพัฒนาโมเดลพื้นฐานและความปลอดภัยของ AI การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Apple ที่ต้องการผสาน AI เข้ากับทุกผลิตภัณฑ์อย่างจริงจัง แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาการสูญเสียบุคลากรด้านวิจัยหุ่นยนต์และทีมโมเดลหลักที่ทยอยลาออกไปยังบริษัทคู่แข่ง 🔗 https://securityonline.info/apple-ai-shakeup-giannandrea-out-former-google-gemini-chief-amar-subramanya-hired 🏨 Sonesta Hotels ยกระดับความปลอดภัยบนคลาวด์ด้วย AccuKnox เครือโรงแรม Sonesta International Hotels ประกาศความร่วมมือกับ AccuKnox เพื่อนำระบบ Zero Trust CNAPP มาใช้บน Microsoft Azure จุดเด่นคือการตรวจจับการตั้งค่าที่ผิดพลาดในระบบคลาวด์ การป้องกันการโจมตีแบบ Zero-Day และการทำงานร่วมกับ DevSecOps อย่างเต็มรูปแบบ Gartner เคยเตือนว่าหากองค์กรไม่ใช้ CNAPP จะขาดการมองเห็นภาพรวมของความเสี่ยงบนคลาวด์ Sonesta เลือก AccuKnox หลังทดสอบหลายเจ้า เพราะสามารถลดภาระงานวิศวกรได้ถึง 45% และมีฟีเจอร์ด้าน API Security และ AI/LLM Security ที่ตอบโจทย์อนาคต 🔗 https://securityonline.info/sonesta-international-hotels-implements-industry-leading-cloud-security-through-accuknox-collaboration ⚠️ Coupang เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหลครั้งใหญ่ กระทบผู้ใช้กว่า 33.7 ล้านราย แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ Coupang เผชิญเหตุการณ์ร้ายแรงเมื่อข้อมูลผู้ใช้กว่า 33.7 ล้านรายถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งชื่อ อีเมล เบอร์โทร และที่อยู่จัดส่ง แม้ข้อมูลทางการเงินจะไม่ถูกเปิดเผย แต่ก็เสี่ยงต่อการถูกนำไปใช้ทำ Social Engineering หรือหลอกลวงทางออนไลน์ เดิมทีบริษัทคิดว่ามีเพียง 4,500 บัญชีที่ได้รับผลกระทบ แต่การสอบสวนพบว่ามีการเชื่อมต่อฐานข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศตั้งแต่กลางปี 2025 และถูกดูดข้อมูลออกไป ปัจจุบันมีการระบุผู้ต้องสงสัยว่าเป็นอดีตพนักงานที่หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว 🔗 https://securityonline.info/alarm-coupang-data-breach-exposes-33-7-million-users-over-half-of-south-korea 💰 Europol ปิดบริการ CryptoMixer ยึด Bitcoin มูลค่า 25 ล้านยูโร หน่วยงาน Europol ประกาศความสำเร็จในการปิดแพลตฟอร์ม CryptoMixer ที่ถูกใช้เพื่อปกปิดเส้นทางการเงินของอาชญากรไซเบอร์ โดยสามารถยึด Bitcoin มูลค่ากว่า 25 ล้านยูโร และข้อมูลกว่า 12TB CryptoMixer เคยประมวลผลธุรกรรมมากกว่า 1.3 พันล้านยูโรตั้งแต่ปี 2016 การทำงานของมันคือรวมเงินฝากของผู้ใช้แล้วกระจายใหม่แบบสุ่ม ทำให้ติดตามเส้นทางได้ยาก แม้บริการลักษณะนี้จะมีผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ก็ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญของการฟอกเงิน การปิดครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าบริการแบบรวมศูนย์มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกยึดทรัพย์และปิดระบบ ต่างจากบริการแบบกระจายศูนย์ที่แทบไม่สามารถจัดการได้ 🔗 https://securityonline.info/europol-shuts-down-cryptomixer-seizes-e25-million-in-bitcoin-12-tb-of-data 💻 AWS เปิดตัว Agentic AI ช่วยลดหนี้ทางเทคนิคและปรับปรุงโค้ดเก่า AWS ประกาศโครงการใหม่ชื่อว่า Transform ที่ใช้ Agentic AI เพื่อช่วยองค์กรปรับปรุงโค้ดเดิมให้ทันสมัย ลดภาระงานที่สะสมมานานจากระบบเก่า จุดเด่นคือการทำงานอัตโนมัติที่สามารถวิเคราะห์โค้ดและปรับปรุงให้เข้ากับมาตรฐานใหม่ได้ทันที โดยไม่ต้องใช้แรงงานมนุษย์มากเหมือนเดิม สิ่งนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาสามารถโฟกัสไปที่นวัตกรรมแทนการแก้ไขงานซ้ำซาก ถือเป็นอีกก้าวที่ AWS พยายามผลักดัน AI ให้เข้าไปอยู่ในทุกมิติของการทำงานด้านเทคโนโลยี 🔗 https://securityonline.info/aws-transform-agentic-ai-automates-legacy-code-modernization-and-reduces-technical-debt 🎤 AWS re:Invent 2025 เปิดตัว Marengo 3.0 และจับมือ Visa งานใหญ่ประจำปีของ AWS ครั้งนี้มีไฮไลต์คือการเปิดตัว Marengo 3.0 โมเดลวิดีโอใหม่ที่สามารถสร้างคอนเทนต์ภาพเคลื่อนไหวได้สมจริงมากขึ้น พร้อมทั้งเปิดตัวความร่วมมือกับ Visa ในด้านการชำระเงินดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีการนำ Agentic AI มาใช้ในหลายบริการเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานอัตโนมัติ การประกาศเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า AWS กำลังเร่งขยายขอบเขต AI จากระบบคลาวด์ไปสู่การสร้างสรรค์คอนเทนต์และการเงินดิจิทัล 🔗 https://securityonline.info/aws-reinvent-2025-agentic-ai-marengo-3-0-video-model-and-visa-payment-partnership 🔊 AWS เปิดตัว Nova Sonic Voice และจับมือ Google Cloud อีกหนึ่งประกาศจาก AWS re:Invent คือการเปิดตัว Nova Sonic Voice เทคโนโลยีเสียงใหม่ที่ใช้ Agentic AI เพื่อสร้างเสียงพูดที่เป็นธรรมชาติและตอบสนองได้ทันที พร้อมทั้งจับมือกับ Google Cloud ในด้านระบบเครือข่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ นี่เป็นการขยายความร่วมมือที่น่าสนใจ เพราะสองยักษ์ใหญ่ด้านคลาวด์มักถูกมองว่าเป็นคู่แข่ง แต่ครั้งนี้กลับเลือกทำงานร่วมกันเพื่อผลักดัน AI ให้ก้าวไปอีกขั้น 🔗 https://securityonline.info/aws-reinvent-agentic-ai-launches-with-nova-sonic-voice-partners-with-google-cloud-on-networking 💸 NVIDIA ลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์ใน Synopsys เพื่อพัฒนา AI สำหรับออกแบบชิป NVIDIA ประกาศลงทุนมหาศาลกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ใน Synopsys บริษัทซอฟต์แวร์ออกแบบชิป เพื่อผสาน Agentic AI เข้ากับกระบวนการออกแบบฮาร์ดแวร์ จุดมุ่งหมายคือการเร่งการพัฒนาชิปที่ซับซ้อนให้เสร็จเร็วขึ้นและลดข้อผิดพลาด การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่า AI จะเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบฮาร์ดแวร์ในอนาคต และยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้ NVIDIA ในฐานะผู้นำด้าน AI และการประมวลผล 🔗 https://securityonline.info/nvidia-invests-2-billion-in-synopsys-to-integrate-agentic-ai-into-chip-design 📱 อินเดียบังคับติดตั้งแอป Sanchar Saathi ที่ลบไม่ได้บนสมาร์ทโฟนใหม่ รัฐบาลอินเดียออกกฎใหม่ให้สมาร์ทโฟนทุกเครื่องที่ขายในประเทศต้องติดตั้งแอป Sanchar Saathi โดยไม่สามารถลบออกได้ แอปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกหลอกลวงหรือถูกขโมย แต่ก็สร้างความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและสิทธิของผู้ใช้ เพราะการบังคับติดตั้งและไม่สามารถลบออกได้อาจเปิดช่องให้เกิดการติดตามหรือควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการที่รัฐบาลพยายามใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหา แต่ก็ต้องแลกมากับคำถามด้านสิทธิและเสรีภาพ 🔗 https://securityonline.info/privacy-alert-india-mandates-undeletable-sanchar-saathi-app-on-all-new-smartphones 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Longwatch ทำให้ระบบเฝ้าระวังถูกยึด มีรายงานจาก CISA ว่าพบช่องโหว่ร้ายแรงในระบบ Longwatch ซึ่งใช้สำหรับการเฝ้าระวังและตรวจสอบในอุตสาหกรรม OT ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP GET โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน และสามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ SYSTEM ได้ทันที เท่ากับว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมเซิร์ฟเวอร์เฝ้าระวังได้ทั้งหมด ปัญหานี้เกิดขึ้นในเวอร์ชัน 6.309 ถึง 6.334 และผู้พัฒนาก็ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 6.335 แล้ว ใครที่ยังใช้เวอร์ชันเก่าจำเป็นต้องอัปเดตโดยด่วนเพื่อป้องกันความเสี่ยง 🔗 https://securityonline.info/cisa-warns-critical-longwatch-rce-flaw-cve-2025-13658-cvss-9-8-allows-unauthenticated-system-takeover-of-ot-surveillance 🐍 แพ็กเกจ Rust อันตราย "evm-units" นักพัฒนาที่ทำงานกับ Rust ต้องระวัง เพราะมีการค้นพบแพ็กเกจชื่อ "evm-units" ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อโจมตีแบบลับ ๆ โดยมุ่งเป้าไปที่นักพัฒนาในสายคริปโต ตัวแพ็กเกจนี้ถูกปล่อยออกมาเหมือนเป็นเครื่องมือปกติ แต่จริง ๆ แล้วมีโค้ดแฝงที่สามารถเปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงระบบได้โดยไม่รู้ตัว ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความไว้ใจของนักพัฒนาเป็นเครื่องมือ 🔗 https://securityonline.info/malicious-rust-package-evm-units-exposes-crypto-developers-to-stealth-attacks ⚖️ DOJ ปิดโดเมนแก๊งหลอกลวง "Tai Chang" ในพม่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) ได้เข้ายึดโดเมนที่เชื่อมโยงกับคอมพาวด์หลอกลวงชื่อ Tai Chang ในพม่า ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางของการทำ "Pig Butchering" หรือการหลอกลวงทางการเงินที่ใช้การสร้างความสัมพันธ์หลอกเหยื่อให้ลงทุนก่อนจะเชิดเงินหนี การปิดโดเมนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสกัดกั้นเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังระบาดหนักในภูมิภาค 🔗 https://securityonline.info/doj-seizes-domain-of-burmas-notorious-tai-chang-scam-compound-to-disrupt-pig-butchering-fraud 🌐 Chrome 143 อัปเดตแก้ช่องโหว่ 13 จุด Google ได้ปล่อย Chrome เวอร์ชัน 143 ที่มาพร้อมการแก้ไขช่องโหว่ถึง 13 จุด โดยหนึ่งในนั้นคือปัญหาใหญ่ใน V8 ที่ทำให้เกิด Type Confusion ซึ่งมีนักวิจัยด้านความปลอดภัยรายหนึ่งได้รับเงินรางวัลถึง 11,000 ดอลลาร์จากการค้นพบนี้ การอัปเดตครั้งนี้ถือว่าสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ทุกคน เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีผ่านเบราว์เซอร์ที่ใช้งานอยู่ทุกวัน ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/chrome-143-stable-fixes-13-flaws-high-severity-v8-type-confusion-earns-11000-bounty 🐘 Django พบช่องโหว่ SQL Injection ใน PostgreSQL เฟรมเวิร์ก Django ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการพัฒนาเว็บ ถูกพบช่องโหว่ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ FilteredRelation ร่วมกับ PostgreSQL ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้เกิด SQL Injection ได้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการโจมตีที่อันตรายที่สุด เพราะสามารถทำให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลในฐานข้อมูลโดยตรง ทีม Django ได้ออกคำเตือนและแนะนำให้อัปเดตเวอร์ชันเพื่อปิดช่องโหว่โดยเร็ว 🔗 https://securityonline.info/django-flaw-cve-2025-13372-allows-sql-injection-in-postgresql-filteredrelation ⚡ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Iskra iHUB CISA ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในอุปกรณ์ Iskra iHUB ที่ใช้สำหรับระบบสมาร์ทมิเตอร์ ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ายึดระบบได้โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน ซึ่งหมายความว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมการทำงานของระบบสมาร์ทมิเตอร์ได้ทั้งหมด ถือเป็นภัยคุกคามต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่สำคัญ การอัปเดตแพตช์จึงเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน 🔗 https://securityonline.info/cisa-warns-critical-iskra-ihub-flaw-cve-2025-13510-allows-unauthenticated-smart-metering-takeover 🖥️ ปลั๊กอิน Elementor มีช่องโหว่ร้ายแรง กำลังถูกโจมตี ปลั๊กอินยอดนิยมของ WordPress อย่าง Elementor ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ายึดสิทธิ์แอดมินได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 9.8 และที่น่ากังวลคือกำลังถูกโจมตีจริงในขณะนี้ ผู้ที่ใช้ปลั๊กอินนี้จำเป็นต้องอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการสูญเสียการควบคุมเว็บไซต์ 🔗 https://securityonline.info/critical-elementor-plugin-flaw-cve-2025-8489-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-admin-takeover 🕸️ Angular พบช่องโหว่ Stored XSS เฟรมเวิร์ก Angular ถูกค้นพบช่องโหว่ที่เปิดโอกาสให้เกิดการโจมตีแบบ Stored XSS ผ่านการใช้ SVG และ MathML โดยสามารถหลบเลี่ยงการตรวจสอบได้ ช่องโหว่นี้ถือว่ามีความรุนแรงสูง เพราะทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังโค้ดอันตรายลงในเว็บและส่งผลต่อผู้ใช้งานที่เข้ามาเยี่ยมชมได้ทันที 🔗 https://securityonline.info/high-severity-angular-flaw-cve-2025-66412-allows-stored-xss-via-svg-and-mathml-bypass 📦 ไลบรารี lz4-java ถูกยกเลิก พร้อมพบช่องโหว่ร้ายแรง มีการประกาศว่าไลบรารี lz4-java ถูกยกเลิกการพัฒนา และถูกค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบย้ายไปใช้ community fork โดยทันที ช่องโหว่นี้สร้างความเสี่ยงต่อระบบที่ยังคงใช้งานไลบรารีเวอร์ชันเดิมอยู่ การย้ายไปใช้เวอร์ชันใหม่จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 🔗 https://securityonline.info/discontinued-library-high-severity-lz4-java-flaw-cve%E2%80%902025%E2%80%9012183-forces-immediate-migration-to-community-fork 🚀 สตาร์ทอัพ Frenetik เปิดตัวเทคโนโลยีหลอกลวง AI บริษัทสตาร์ทอัพด้านไซเบอร์ชื่อ Frenetik เปิดตัวด้วยเทคโนโลยีการหลอกลวงที่จดสิทธิบัตร โดยตั้งเป้าใช้เทคนิคนี้เพื่อรับมือกับการแข่งขันด้าน AI ที่ทวีความรุนแรงขึ้น เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างกับดักและทำให้ผู้โจมตีสับสน ถือเป็นแนวทางใหม่ที่น่าสนใจในการป้องกันภัยไซเบอร์ 🔗 https://securityonline.info/cyber-startup-frenetik-launches-with-patented-deception-technology-that-bets-against-the-ai-arms-race
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Samsung เปิดตัว Galaxy Z TriFold – มือถือพับสามตอนรุ่นแรก”

    Samsung Electronics เปิดตัว Galaxy Z TriFold ที่กรุงโซล โดยเป็นสมาร์ตโฟนพับได้แบบสามตอน (สองบานพับ) ซึ่งสามารถกางออกเป็นหน้าจอขนาด 10 นิ้ว ให้ประสบการณ์เหมือนแท็บเล็ต และสามารถรันแอปได้หลายตัวพร้อมกัน จุดเด่นคือการใช้ DeX mode ที่ปรับแต่งใหม่ ทำให้เครื่องสามารถทำงานเหมือนเดสก์ท็อปได้โดยตรงบนหน้าจอใหญ่

    TriFold จะเริ่มวางขายในเกาหลีใต้วันที่ 12 ธันวาคม 2025 ด้วยราคา 3.59 ล้านวอน (ประมาณ 2,450 ดอลลาร์สหรัฐ / 10,120 ริงกิต) และจะขยายไปยังตลาดสหรัฐ จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และ UAE โดยยังไม่ประกาศราคาในสหรัฐ ขณะที่ Apple คาดว่าจะเปิดตัว iPhone พับได้รุ่นแรกในปี 2026 แบบ “book-style” คล้าย Galaxy Z Fold 7

    แม้ตลาดมือถือพับได้ยังมีสัดส่วนเพียง 2.5% ของตลาดสมาร์ตโฟนทั้งหมด แต่ Samsung ครองส่วนแบ่งถึง 64% และการเปิดตัว TriFold ถือเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี โดยมีคู่แข่งอย่าง Huawei ที่เปิดตัว Mate XT และ Mate XTs มาก่อน แต่ยังขาดความเข้ากันได้กับแอป Android ที่ Samsung มีความได้เปรียบ

    Samsung ยังเน้นความทนทาน โดยปรับปรุงบานพับ โครงอะลูมิเนียม และหน้าจอ พร้อมเสนอส่วนลด 50% สำหรับการซ่อมหน้าจอหากเกิดความเสียหาย นอกจากนี้ยังใส่แบตเตอรี่ขนาด 5,600 mAh ซึ่งใหญ่ที่สุดในมือถือพับของ Samsung ให้ใช้งานวิดีโอต่อเนื่องได้นานถึง 17 ชั่วโมง

    สรุปเป็นหัวข้อ
    คุณสมบัติ Galaxy Z TriFold
    มือถือพับสามตอน (สองบานพับ)
    หน้าจอ 10 นิ้ว ใช้งานหลายแอปพร้อมกัน
    DeX mode ทำงานเหมือนเดสก์ท็อป

    การวางจำหน่าย
    เปิดตัวที่โซล 3 ธ.ค. 2025
    เริ่มขายในเกาหลีใต้ 12 ธ.ค. ราคา 3.59 ล้านวอน (~2,450 USD)
    ขยายไปสหรัฐ จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และ UAE

    สถานการณ์ตลาด
    ตลาดมือถือพับได้มีสัดส่วน 2.5% ของตลาดรวม
    Samsung ครอง 64% ของตลาด foldable
    Huawei Mate XT แข่งในจีน แต่ขาดความเข้ากันได้กับ Android apps

    ข้อควรระวัง
    มือถือพับได้ยังเป็นตลาดเล็กและราคาแพง
    ความทนทานยังเป็นข้อกังวล แม้ Samsung ปรับปรุงบานพับและโครงสร้าง
    Apple เตรียมเปิดตัว iPhone พับได้ในปี 2026 อาจเปลี่ยนการแข่งขัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/03/samsung-debuts-first-trifold-phone-ahead-of-folding-iphone
    📱 “Samsung เปิดตัว Galaxy Z TriFold – มือถือพับสามตอนรุ่นแรก” Samsung Electronics เปิดตัว Galaxy Z TriFold ที่กรุงโซล โดยเป็นสมาร์ตโฟนพับได้แบบสามตอน (สองบานพับ) ซึ่งสามารถกางออกเป็นหน้าจอขนาด 10 นิ้ว ให้ประสบการณ์เหมือนแท็บเล็ต และสามารถรันแอปได้หลายตัวพร้อมกัน จุดเด่นคือการใช้ DeX mode ที่ปรับแต่งใหม่ ทำให้เครื่องสามารถทำงานเหมือนเดสก์ท็อปได้โดยตรงบนหน้าจอใหญ่ TriFold จะเริ่มวางขายในเกาหลีใต้วันที่ 12 ธันวาคม 2025 ด้วยราคา 3.59 ล้านวอน (ประมาณ 2,450 ดอลลาร์สหรัฐ / 10,120 ริงกิต) และจะขยายไปยังตลาดสหรัฐ จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และ UAE โดยยังไม่ประกาศราคาในสหรัฐ ขณะที่ Apple คาดว่าจะเปิดตัว iPhone พับได้รุ่นแรกในปี 2026 แบบ “book-style” คล้าย Galaxy Z Fold 7 แม้ตลาดมือถือพับได้ยังมีสัดส่วนเพียง 2.5% ของตลาดสมาร์ตโฟนทั้งหมด แต่ Samsung ครองส่วนแบ่งถึง 64% และการเปิดตัว TriFold ถือเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี โดยมีคู่แข่งอย่าง Huawei ที่เปิดตัว Mate XT และ Mate XTs มาก่อน แต่ยังขาดความเข้ากันได้กับแอป Android ที่ Samsung มีความได้เปรียบ Samsung ยังเน้นความทนทาน โดยปรับปรุงบานพับ โครงอะลูมิเนียม และหน้าจอ พร้อมเสนอส่วนลด 50% สำหรับการซ่อมหน้าจอหากเกิดความเสียหาย นอกจากนี้ยังใส่แบตเตอรี่ขนาด 5,600 mAh ซึ่งใหญ่ที่สุดในมือถือพับของ Samsung ให้ใช้งานวิดีโอต่อเนื่องได้นานถึง 17 ชั่วโมง 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ คุณสมบัติ Galaxy Z TriFold ➡️ มือถือพับสามตอน (สองบานพับ) ➡️ หน้าจอ 10 นิ้ว ใช้งานหลายแอปพร้อมกัน ➡️ DeX mode ทำงานเหมือนเดสก์ท็อป ✅ การวางจำหน่าย ➡️ เปิดตัวที่โซล 3 ธ.ค. 2025 ➡️ เริ่มขายในเกาหลีใต้ 12 ธ.ค. ราคา 3.59 ล้านวอน (~2,450 USD) ➡️ ขยายไปสหรัฐ จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และ UAE ✅ สถานการณ์ตลาด ➡️ ตลาดมือถือพับได้มีสัดส่วน 2.5% ของตลาดรวม ➡️ Samsung ครอง 64% ของตลาด foldable ➡️ Huawei Mate XT แข่งในจีน แต่ขาดความเข้ากันได้กับ Android apps ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ มือถือพับได้ยังเป็นตลาดเล็กและราคาแพง ⛔ ความทนทานยังเป็นข้อกังวล แม้ Samsung ปรับปรุงบานพับและโครงสร้าง ⛔ Apple เตรียมเปิดตัว iPhone พับได้ในปี 2026 อาจเปลี่ยนการแข่งขัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/03/samsung-debuts-first-trifold-phone-ahead-of-folding-iphone
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Samsung debuts first trifold phone ahead of folding iPhone
    To preempt concerns about potential breakage, Samsung said it has refined the phone's hinges, aluminum frame and display technology to improve long-term durability.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷

    #รวมข่าวIT #20251202 #TechRadar

    กลยุทธ์ AI ที่ทรงพลังยังคงเริ่มต้นและจบลงที่ “คน”
    เรื่องราวนี้เล่าถึงความจริงที่ว่าแม้ AI จะเข้ามาช่วยทำงานซับซ้อนและสร้างประสิทธิภาพ แต่หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงยังคงอยู่ที่มนุษย์ ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่า AI เป็นตัวเร่ง แต่ไม่ใช่ผู้เล่นหลักที่จะเปลี่ยนธุรกิจได้เอง หากไม่มีความคิดสร้างสรรค์ การตัดสินใจ และการนำทีมของคนจริง ๆ องค์กรที่ประสบความสำเร็จคือองค์กรที่ลงทุนในศักยภาพมนุษย์ และใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่ตัวแทน การแข่งขันหาคนเก่งด้าน AI กำลังดุเดือด และนั่นสะท้อนว่าคนยังคงเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” ที่แท้จริง
    https://www.techradar.com/pro/why-the-most-impactful-ai-strategies-still-start-and-end-with-people

    สร้างออฟฟิศโทนขาวมินิมอลด้วยไอเท็ม Cyber Monday
    บทความนี้เล่าถึงการจัดออฟฟิศบ้านให้เป็นโทนขาวมินิมอลที่ช่วยสร้างบรรยากาศสงบและเพิ่มสมาธิ ผู้เขียนซึ่งทำงานจากบ้านมานานกว่า 10 ปี ได้คัดสรรไอเท็มตั้งแต่โต๊ะทำงาน เก้าอี้ ไปจนถึงของตกแต่งเล็ก ๆ อย่างเทียนหอมและต้นไม้เล็ก ๆ ที่ช่วยเติมบรรยากาศให้สดชื่น ที่น่าสนใจคือหลายชิ้นกำลังลดราคาพิเศษในช่วง Cyber Monday ทำให้การเปลี่ยนโฉมออฟฟิศไม่ใช่เรื่องแพงอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/pro/website-building/19-carefully-curated-items-for-a-white-minimalist-home-office

    นักวิจัยพบความลับกว่า 17,000 รายการใน GitLab สาธารณะ
    นี่คือการค้นพบที่สะเทือนวงการนักพัฒนา เมื่อ Luke Marshall นักวิจัยด้านความปลอดภัยสแกน GitLab Cloud และพบว่ามีข้อมูลลับกว่า 17,000 รายการถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น API keys, รหัสผ่าน หรือ token ที่สามารถนำไปใช้โจมตีได้ เขาใช้เวลาเพียง 24 ชั่วโมงและงบประมาณไม่ถึง 800 ดอลลาร์ในการสแกน แต่กลับพบข้อมูลที่อาจทำให้ระบบองค์กรเสี่ยงต่อการถูกเจาะลึก ผลงานนี้ยังทำให้เขาได้รับเงินรางวัลกว่า 9,000 ดอลลาร์จากการแจ้งเตือนผู้พัฒนา แม้หลายคนจะรีบแก้ไข แต่ก็ยังมีบางโปรเจกต์ที่ยังเปิดเผยอยู่จนถึงตอนนี้
    https://www.techradar.com/pro/security/security-researcher-uncovers-17-000-secrets-in-public-gitlab-repositories

    OnePlus 15R เผยสเปกแรง จอ 165Hz พร้อม Snapdragon 8 Gen 5
    OnePlus กำลังจะเปิดตัว 15R ในวันที่ 17 ธันวาคม แต่ก่อนถึงวันนั้นก็มีการเปิดเผยสเปกสำคัญออกมาแล้ว รุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอ AMOLED รีเฟรชเรตสูงถึง 165Hz ซึ่งเหนือกว่าหลายรุ่นเรือธงในตลาด ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 5 ที่แม้จะไม่ใช่รุ่น Elite แต่ก็ยังทรงพลัง พร้อมระบบกล้องที่ใช้ซอฟต์แวร์ Detailmax Engine ทำให้ภาพถ่ายคมชัดและมีโหมดพิเศษอย่าง Ultra Clear และ Clear Night จุดเด่นอีกอย่างคือการตอบสนองสัมผัสที่เร็วขึ้นด้วยชิปเฉพาะด้านการสัมผัส ถือเป็นการอัปเกรดที่น่าสนใจสำหรับสายเกมและคนที่ชอบมือถือแรง ๆ
    https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/oneplus-15r-screen-chipset-and-camera-specs-confirmed

    Windows 11 แก้ปัญหา File Explorer ช้า แต่ยังสะท้อนปัญหาใหญ่ของระบบ
    Microsoft ได้ออกแพตช์แก้ไข File Explorer ที่เปิดโฟลเดอร์ช้า โดยใช้วิธี “preload” ให้ระบบโหลดตัวโปรแกรมไว้ตั้งแต่เริ่มบูตเครื่อง ผลคือการเปิดโฟลเดอร์เร็วขึ้นเกือบหนึ่งวินาที แต่ก็ต้องแลกกับการใช้ RAM เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้หลายคนจะบอกว่าการแก้ไขนี้ช่วยได้ แต่ก็ยังมีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการแก้ปัญหาแบบ “ชั่วคราว” เพราะจริง ๆ แล้ว Windows 11 ยังมีปัญหาด้านประสิทธิภาพโดยรวม การแก้ด้วยการโหลดล่วงหน้าอาจไม่ใช่คำตอบที่ยั่งยืน และสะท้อนว่าระบบยังขาดการวางแผนที่ชัดเจนในการปรับปรุงประสิทธิภาพ
    https://www.techradar.com/computing/windows/complaints-about-windows-11s-fix-for-file-explorer-sluggishness-are-overblown-but-they-underline-a-fundamental-problem-with-the-os

    Apple Watch Series 10 บางรุ่นได้เปลี่ยนเครื่องฟรีเพราะปัญหาสีหลุด
    มีรายงานว่าผู้ใช้ Apple Watch Series 10 บางคนพบปัญหาสีเคลือบตัวเรือนหลุดลอกออกมา ซึ่งถือเป็นข้อบกพร่องด้านการผลิตที่ไม่ควรเกิดขึ้น ล่าสุด Apple จึงตัดสินใจให้ผู้ใช้บางรายได้รับการเปลี่ยนเครื่องใหม่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แม้จะไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่มีผู้ใช้หลายคนยืนยันว่าพวกเขาได้รับสิทธิ์นี้แล้ว เรื่องนี้สะท้อนถึงมาตรฐานการควบคุมคุณภาพที่ Apple ต้องรักษาไว้ และยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในระยะยาว
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/some-apple-watch-series-10-owners-are-reportedly-getting-free-replacements-due-to-a-paint-flaw

    AWS เสริมพลังให้ AI Agents ฉลาดและเป็นมนุษย์มากขึ้น
    AWS เปิดตัวการอัปเกรดใหม่ในงาน re:Invent 2025 สำหรับ Amazon Connect ที่จะทำให้ AI agents สามารถเข้าใจ วิเคราะห์ และตอบสนองได้ใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้น ทั้งในด้านน้ำเสียง จังหวะ และการสื่อสารหลายภาษา จุดมุ่งหมายคือการสร้าง “การทำงานร่วมกันจริง” ระหว่างคนกับ AI โดยให้ AI จัดการงานเบื้องหลัง เช่น วิเคราะห์บริบท สนับสนุนการตัดสินใจ และทำงานซ้ำ ๆ เพื่อให้มนุษย์มีเวลาไปโฟกัสกับการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า การพัฒนาใหม่นี้ยังมาพร้อมระบบตรวจสอบการทำงานของ AI ที่โปร่งใส ทำให้ผู้ใช้เห็นชัดว่า AI เข้าใจอะไร ใช้เครื่องมือไหน และตัดสินใจอย่างไร
    https://www.techradar.com/pro/aws-wants-to-make-your-ai-agents-more-intelligent-and-more-human

    AWS แก้ปัญหา Multicloud เชื่อมต่อกับ Google Cloud ได้ง่ายขึ้น
    การใช้หลายระบบคลาวด์พร้อมกันมักสร้างความยุ่งยาก โดยเฉพาะเรื่องการเชื่อมต่อ AWS จึงเปิดตัวบริการใหม่ชื่อ AWS Interconnect - multicloud ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อกับ Google Cloud เป็นไปอย่างราบรื่นและมีมาตรฐานเดียวกัน ลูกค้าสามารถสร้างการเชื่อมต่อแบบส่วนตัวที่มีแบนด์วิดท์สูงได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องจัดการอุปกรณ์หรือระบบซับซ้อนเอง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้การทำงานแบบ multicloud มีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/aws-thinks-it-has-the-answer-to-your-multi-cloud-interoperability-issues

    James Cameron ไม่เอาด้วยกับนักแสดง AI
    ผู้กำกับชื่อดัง James Cameron ออกมาแสดงความกังวลต่อการเกิดขึ้นของนักแสดงที่สร้างด้วย AI อย่าง Tilly Norwood เขาเรียกสิ่งนี้ว่า “น่าขนลุก” เพราะมันแทนที่การแสดงจริงของมนุษย์ และทำให้ศิลปะการแสดงสูญเสียแก่นแท้ Cameron ย้ำว่าการใช้ CGI หรือ motion capture ยังมีมนุษย์เป็นแกนกลาง แต่การสร้างนักแสดงจากข้อความเพียงอย่างเดียวคือการลบตัวตนของมนุษย์ออกไป ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกเชื่อมโยงกับการแสดงอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/ai-actors-horrify-james-cameron-and-he-wants-no-part-of-it

    IDE ใหม่จาก Google เจอปัญหาความปลอดภัยทันที
    Google เปิดตัว Antigravity IDE ที่ออกแบบมาให้ AI agents ทำงานอัตโนมัติ แต่กลับถูกนักวิจัยพบช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอย่างร้ายแรง เช่น การโจมตีแบบ prompt injection ที่ทำให้รันคำสั่งโดยไม่ได้ตั้งใจ และการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญอย่าง credentials ผ่าน Markdown หรือคำสั่งที่ซ่อนอยู่ แม้จะมีระบบป้องกัน แต่ยังมีช่องว่างที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถดึงข้อมูลออกไปได้อย่างรวดเร็ว ปัญหานี้สะท้อนถึงความเสี่ยงเมื่อให้ AI มีอิสระมากเกินไปโดยไม่มีโครงสร้างป้องกันที่แข็งแรง
    https://www.techradar.com/pro/googles-ai-powered-antigravity-ide-already-has-some-worrying-security-issues

    UX แบบเรียบง่ายคือกุญแจสู่ยอดขายช่วงพีค
    ในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ หลายร้านมักใส่ป้ายลดราคา ป๊อปอัพ และฟีเจอร์มากมายเพื่อดึงลูกค้า แต่ผลลัพธ์กลับทำให้ผู้ใช้สับสนและละทิ้งการซื้อ งานวิจัยชี้ว่าการออกแบบ UX ที่เรียบง่ายและชัดเจนช่วยเพิ่มอัตราการซื้อสำเร็จได้ถึง 35% เพราะลูกค้าต้องการประสบการณ์ที่เร็วและไม่ซับซ้อน โดยเฉพาะบนมือถือที่การใช้งานต้องลื่นไหล Minimal UX จึงไม่ใช่การทำให้น้อย แต่คือการตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก เพื่อสร้างเส้นทางการซื้อที่สั้นและน่าเชื่อถือมากที่สุด
    https://www.techradar.com/pro/why-a-minimal-ux-philosophy-outperforms-during-peak-season

    ระวัง! แจ้งเตือนปฏิทินอาจแฝงมัลแวร์
    มีการค้นพบว่าการแจ้งเตือนจากปฏิทิน เช่นการนัดหมายหรือ reminder อาจถูกใช้เป็นช่องทางแพร่มัลแวร์ได้ ผู้โจมตีสามารถฝังลิงก์อันตรายหรือไฟล์แนบที่ดูเหมือนปกติไว้ใน notification ทำให้ผู้ใช้เผลอกดโดยไม่ทันระวัง วิธีป้องกันคืออย่ากดลิงก์ที่ไม่แน่ใจ ตรวจสอบแหล่งที่มา และใช้ระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยเพื่อกรองภัยคุกคามก่อนถึงผู้ใช้
    https://www.techradar.com/pro/security/careful-that-calendar-notification-could-be-loaded-with-malware-heres-how-to-stay-safe

    กฎใหม่ Missouri กำลังกลายเป็นการเซ็นเซอร์มากกว่าการยืนยันอายุ
    รัฐ Missouri ออกกฎใหม่ที่บังคับให้เว็บไซต์ต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้งาน แต่ผลลัพธ์กลับไปไกลกว่าการป้องกันเว็บสำหรับผู้ใหญ่ เพราะมันยังบังคับใช้กับเว็บที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น แพลตฟอร์มโซเชียลหรือเว็บข่าว ทำให้เกิดข้อถกเถียงว่ากฎนี้คือการปกป้องเยาวชน หรือจริง ๆ แล้วคือการจำกัดเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูลของประชาชน
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/age-verification-or-censorship-missouris-new-rules-are-age-gating-way-more-than-adult-sites

    Yahoo และ AOL Mail ล่มครั้งใหญ่
    ผู้ใช้จำนวนมากประสบปัญหาเข้าใช้งาน Yahoo และ AOL Mail ไม่ได้ในช่วง outage ล่าสุด เหตุการณ์นี้ทำให้การสื่อสารและการทำงานสะดุด โดยเฉพาะผู้ใช้ที่ยังพึ่งพาอีเมลเหล่านี้เป็นหลัก แม้ทีมงานจะเร่งแก้ไข แต่ความเสียหายด้านความเชื่อมั่นก็เกิดขึ้นแล้ว และสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบอีเมลที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาล
    https://www.techradar.com/news/live/yahoo-aol-email-outage-december-2025

    Coupang เกาหลีใต้โดนเจาะข้อมูลครั้งใหญ่
    Coupang ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของเกาหลีใต้ถูกโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ ส่งผลให้ข้อมูลบัญชีผู้ใช้กว่า 33 ล้านรายรั่วไหล เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อผู้บริโภคและทำให้บริษัทต้องเร่งหามาตรการป้องกันเพิ่มเติม การรั่วไหลครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย
    https://www.techradar.com/pro/security/south-korean-ecommerce-giant-coupang-suffers-huge-data-breach-over-33-million-accounts-affected-heres-what-we-know

    Samsung เปิดตัว Galaxy Z Trifold มือถือพับสามทบ
    Samsung สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว Galaxy Z Trifold สมาร์ทโฟนที่สามารถพับได้สามทบจริง ๆ ดีไซน์นี้ช่วยให้ผู้ใช้มีหน้าจอใหญ่ขึ้นในขนาดที่พกพาได้สะดวก และยังคงความทนทานของบานพับที่พัฒนาใหม่ ถือเป็นการยกระดับเทคโนโลยี foldable ไปอีกขั้น และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดสมาร์ทโฟน
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsung-unveils-the-galaxy-z-trifold-a-foldable-that-lives-up-to-its-name
    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251202 #TechRadar 🧑‍🤝‍🧑 กลยุทธ์ AI ที่ทรงพลังยังคงเริ่มต้นและจบลงที่ “คน” เรื่องราวนี้เล่าถึงความจริงที่ว่าแม้ AI จะเข้ามาช่วยทำงานซับซ้อนและสร้างประสิทธิภาพ แต่หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงยังคงอยู่ที่มนุษย์ ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่า AI เป็นตัวเร่ง แต่ไม่ใช่ผู้เล่นหลักที่จะเปลี่ยนธุรกิจได้เอง หากไม่มีความคิดสร้างสรรค์ การตัดสินใจ และการนำทีมของคนจริง ๆ องค์กรที่ประสบความสำเร็จคือองค์กรที่ลงทุนในศักยภาพมนุษย์ และใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่ตัวแทน การแข่งขันหาคนเก่งด้าน AI กำลังดุเดือด และนั่นสะท้อนว่าคนยังคงเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” ที่แท้จริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-the-most-impactful-ai-strategies-still-start-and-end-with-people 🪑 สร้างออฟฟิศโทนขาวมินิมอลด้วยไอเท็ม Cyber Monday บทความนี้เล่าถึงการจัดออฟฟิศบ้านให้เป็นโทนขาวมินิมอลที่ช่วยสร้างบรรยากาศสงบและเพิ่มสมาธิ ผู้เขียนซึ่งทำงานจากบ้านมานานกว่า 10 ปี ได้คัดสรรไอเท็มตั้งแต่โต๊ะทำงาน เก้าอี้ ไปจนถึงของตกแต่งเล็ก ๆ อย่างเทียนหอมและต้นไม้เล็ก ๆ ที่ช่วยเติมบรรยากาศให้สดชื่น ที่น่าสนใจคือหลายชิ้นกำลังลดราคาพิเศษในช่วง Cyber Monday ทำให้การเปลี่ยนโฉมออฟฟิศไม่ใช่เรื่องแพงอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/website-building/19-carefully-curated-items-for-a-white-minimalist-home-office 🔐 นักวิจัยพบความลับกว่า 17,000 รายการใน GitLab สาธารณะ นี่คือการค้นพบที่สะเทือนวงการนักพัฒนา เมื่อ Luke Marshall นักวิจัยด้านความปลอดภัยสแกน GitLab Cloud และพบว่ามีข้อมูลลับกว่า 17,000 รายการถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น API keys, รหัสผ่าน หรือ token ที่สามารถนำไปใช้โจมตีได้ เขาใช้เวลาเพียง 24 ชั่วโมงและงบประมาณไม่ถึง 800 ดอลลาร์ในการสแกน แต่กลับพบข้อมูลที่อาจทำให้ระบบองค์กรเสี่ยงต่อการถูกเจาะลึก ผลงานนี้ยังทำให้เขาได้รับเงินรางวัลกว่า 9,000 ดอลลาร์จากการแจ้งเตือนผู้พัฒนา แม้หลายคนจะรีบแก้ไข แต่ก็ยังมีบางโปรเจกต์ที่ยังเปิดเผยอยู่จนถึงตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/security-researcher-uncovers-17-000-secrets-in-public-gitlab-repositories 📱 OnePlus 15R เผยสเปกแรง จอ 165Hz พร้อม Snapdragon 8 Gen 5 OnePlus กำลังจะเปิดตัว 15R ในวันที่ 17 ธันวาคม แต่ก่อนถึงวันนั้นก็มีการเปิดเผยสเปกสำคัญออกมาแล้ว รุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอ AMOLED รีเฟรชเรตสูงถึง 165Hz ซึ่งเหนือกว่าหลายรุ่นเรือธงในตลาด ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 5 ที่แม้จะไม่ใช่รุ่น Elite แต่ก็ยังทรงพลัง พร้อมระบบกล้องที่ใช้ซอฟต์แวร์ Detailmax Engine ทำให้ภาพถ่ายคมชัดและมีโหมดพิเศษอย่าง Ultra Clear และ Clear Night จุดเด่นอีกอย่างคือการตอบสนองสัมผัสที่เร็วขึ้นด้วยชิปเฉพาะด้านการสัมผัส ถือเป็นการอัปเกรดที่น่าสนใจสำหรับสายเกมและคนที่ชอบมือถือแรง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/oneplus-15r-screen-chipset-and-camera-specs-confirmed 💻 Windows 11 แก้ปัญหา File Explorer ช้า แต่ยังสะท้อนปัญหาใหญ่ของระบบ Microsoft ได้ออกแพตช์แก้ไข File Explorer ที่เปิดโฟลเดอร์ช้า โดยใช้วิธี “preload” ให้ระบบโหลดตัวโปรแกรมไว้ตั้งแต่เริ่มบูตเครื่อง ผลคือการเปิดโฟลเดอร์เร็วขึ้นเกือบหนึ่งวินาที แต่ก็ต้องแลกกับการใช้ RAM เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้หลายคนจะบอกว่าการแก้ไขนี้ช่วยได้ แต่ก็ยังมีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการแก้ปัญหาแบบ “ชั่วคราว” เพราะจริง ๆ แล้ว Windows 11 ยังมีปัญหาด้านประสิทธิภาพโดยรวม การแก้ด้วยการโหลดล่วงหน้าอาจไม่ใช่คำตอบที่ยั่งยืน และสะท้อนว่าระบบยังขาดการวางแผนที่ชัดเจนในการปรับปรุงประสิทธิภาพ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/complaints-about-windows-11s-fix-for-file-explorer-sluggishness-are-overblown-but-they-underline-a-fundamental-problem-with-the-os ⌚ Apple Watch Series 10 บางรุ่นได้เปลี่ยนเครื่องฟรีเพราะปัญหาสีหลุด มีรายงานว่าผู้ใช้ Apple Watch Series 10 บางคนพบปัญหาสีเคลือบตัวเรือนหลุดลอกออกมา ซึ่งถือเป็นข้อบกพร่องด้านการผลิตที่ไม่ควรเกิดขึ้น ล่าสุด Apple จึงตัดสินใจให้ผู้ใช้บางรายได้รับการเปลี่ยนเครื่องใหม่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แม้จะไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่มีผู้ใช้หลายคนยืนยันว่าพวกเขาได้รับสิทธิ์นี้แล้ว เรื่องนี้สะท้อนถึงมาตรฐานการควบคุมคุณภาพที่ Apple ต้องรักษาไว้ และยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/some-apple-watch-series-10-owners-are-reportedly-getting-free-replacements-due-to-a-paint-flaw 🧠🤖 AWS เสริมพลังให้ AI Agents ฉลาดและเป็นมนุษย์มากขึ้น AWS เปิดตัวการอัปเกรดใหม่ในงาน re:Invent 2025 สำหรับ Amazon Connect ที่จะทำให้ AI agents สามารถเข้าใจ วิเคราะห์ และตอบสนองได้ใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้น ทั้งในด้านน้ำเสียง จังหวะ และการสื่อสารหลายภาษา จุดมุ่งหมายคือการสร้าง “การทำงานร่วมกันจริง” ระหว่างคนกับ AI โดยให้ AI จัดการงานเบื้องหลัง เช่น วิเคราะห์บริบท สนับสนุนการตัดสินใจ และทำงานซ้ำ ๆ เพื่อให้มนุษย์มีเวลาไปโฟกัสกับการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า การพัฒนาใหม่นี้ยังมาพร้อมระบบตรวจสอบการทำงานของ AI ที่โปร่งใส ทำให้ผู้ใช้เห็นชัดว่า AI เข้าใจอะไร ใช้เครื่องมือไหน และตัดสินใจอย่างไร 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-wants-to-make-your-ai-agents-more-intelligent-and-more-human ☁️🔗 AWS แก้ปัญหา Multicloud เชื่อมต่อกับ Google Cloud ได้ง่ายขึ้น การใช้หลายระบบคลาวด์พร้อมกันมักสร้างความยุ่งยาก โดยเฉพาะเรื่องการเชื่อมต่อ AWS จึงเปิดตัวบริการใหม่ชื่อ AWS Interconnect - multicloud ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อกับ Google Cloud เป็นไปอย่างราบรื่นและมีมาตรฐานเดียวกัน ลูกค้าสามารถสร้างการเชื่อมต่อแบบส่วนตัวที่มีแบนด์วิดท์สูงได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องจัดการอุปกรณ์หรือระบบซับซ้อนเอง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้การทำงานแบบ multicloud มีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-thinks-it-has-the-answer-to-your-multi-cloud-interoperability-issues 🎬😨 James Cameron ไม่เอาด้วยกับนักแสดง AI ผู้กำกับชื่อดัง James Cameron ออกมาแสดงความกังวลต่อการเกิดขึ้นของนักแสดงที่สร้างด้วย AI อย่าง Tilly Norwood เขาเรียกสิ่งนี้ว่า “น่าขนลุก” เพราะมันแทนที่การแสดงจริงของมนุษย์ และทำให้ศิลปะการแสดงสูญเสียแก่นแท้ Cameron ย้ำว่าการใช้ CGI หรือ motion capture ยังมีมนุษย์เป็นแกนกลาง แต่การสร้างนักแสดงจากข้อความเพียงอย่างเดียวคือการลบตัวตนของมนุษย์ออกไป ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกเชื่อมโยงกับการแสดงอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/ai-actors-horrify-james-cameron-and-he-wants-no-part-of-it ⚠️🔐 IDE ใหม่จาก Google เจอปัญหาความปลอดภัยทันที Google เปิดตัว Antigravity IDE ที่ออกแบบมาให้ AI agents ทำงานอัตโนมัติ แต่กลับถูกนักวิจัยพบช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอย่างร้ายแรง เช่น การโจมตีแบบ prompt injection ที่ทำให้รันคำสั่งโดยไม่ได้ตั้งใจ และการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญอย่าง credentials ผ่าน Markdown หรือคำสั่งที่ซ่อนอยู่ แม้จะมีระบบป้องกัน แต่ยังมีช่องว่างที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถดึงข้อมูลออกไปได้อย่างรวดเร็ว ปัญหานี้สะท้อนถึงความเสี่ยงเมื่อให้ AI มีอิสระมากเกินไปโดยไม่มีโครงสร้างป้องกันที่แข็งแรง 🔗 https://www.techradar.com/pro/googles-ai-powered-antigravity-ide-already-has-some-worrying-security-issues 🛍️📱 UX แบบเรียบง่ายคือกุญแจสู่ยอดขายช่วงพีค ในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ หลายร้านมักใส่ป้ายลดราคา ป๊อปอัพ และฟีเจอร์มากมายเพื่อดึงลูกค้า แต่ผลลัพธ์กลับทำให้ผู้ใช้สับสนและละทิ้งการซื้อ งานวิจัยชี้ว่าการออกแบบ UX ที่เรียบง่ายและชัดเจนช่วยเพิ่มอัตราการซื้อสำเร็จได้ถึง 35% เพราะลูกค้าต้องการประสบการณ์ที่เร็วและไม่ซับซ้อน โดยเฉพาะบนมือถือที่การใช้งานต้องลื่นไหล Minimal UX จึงไม่ใช่การทำให้น้อย แต่คือการตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก เพื่อสร้างเส้นทางการซื้อที่สั้นและน่าเชื่อถือมากที่สุด 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-a-minimal-ux-philosophy-outperforms-during-peak-season 🛡️📅 ระวัง! แจ้งเตือนปฏิทินอาจแฝงมัลแวร์ มีการค้นพบว่าการแจ้งเตือนจากปฏิทิน เช่นการนัดหมายหรือ reminder อาจถูกใช้เป็นช่องทางแพร่มัลแวร์ได้ ผู้โจมตีสามารถฝังลิงก์อันตรายหรือไฟล์แนบที่ดูเหมือนปกติไว้ใน notification ทำให้ผู้ใช้เผลอกดโดยไม่ทันระวัง วิธีป้องกันคืออย่ากดลิงก์ที่ไม่แน่ใจ ตรวจสอบแหล่งที่มา และใช้ระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยเพื่อกรองภัยคุกคามก่อนถึงผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/careful-that-calendar-notification-could-be-loaded-with-malware-heres-how-to-stay-safe 🔞⚖️ กฎใหม่ Missouri กำลังกลายเป็นการเซ็นเซอร์มากกว่าการยืนยันอายุ รัฐ Missouri ออกกฎใหม่ที่บังคับให้เว็บไซต์ต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้งาน แต่ผลลัพธ์กลับไปไกลกว่าการป้องกันเว็บสำหรับผู้ใหญ่ เพราะมันยังบังคับใช้กับเว็บที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น แพลตฟอร์มโซเชียลหรือเว็บข่าว ทำให้เกิดข้อถกเถียงว่ากฎนี้คือการปกป้องเยาวชน หรือจริง ๆ แล้วคือการจำกัดเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูลของประชาชน 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/age-verification-or-censorship-missouris-new-rules-are-age-gating-way-more-than-adult-sites 📧🚨 Yahoo และ AOL Mail ล่มครั้งใหญ่ ผู้ใช้จำนวนมากประสบปัญหาเข้าใช้งาน Yahoo และ AOL Mail ไม่ได้ในช่วง outage ล่าสุด เหตุการณ์นี้ทำให้การสื่อสารและการทำงานสะดุด โดยเฉพาะผู้ใช้ที่ยังพึ่งพาอีเมลเหล่านี้เป็นหลัก แม้ทีมงานจะเร่งแก้ไข แต่ความเสียหายด้านความเชื่อมั่นก็เกิดขึ้นแล้ว และสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบอีเมลที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาล 🔗 https://www.techradar.com/news/live/yahoo-aol-email-outage-december-2025 🛒🇰🇷 Coupang เกาหลีใต้โดนเจาะข้อมูลครั้งใหญ่ Coupang ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของเกาหลีใต้ถูกโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ ส่งผลให้ข้อมูลบัญชีผู้ใช้กว่า 33 ล้านรายรั่วไหล เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อผู้บริโภคและทำให้บริษัทต้องเร่งหามาตรการป้องกันเพิ่มเติม การรั่วไหลครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/south-korean-ecommerce-giant-coupang-suffers-huge-data-breach-over-33-million-accounts-affected-heres-what-we-know 📱📖 Samsung เปิดตัว Galaxy Z Trifold มือถือพับสามทบ Samsung สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว Galaxy Z Trifold สมาร์ทโฟนที่สามารถพับได้สามทบจริง ๆ ดีไซน์นี้ช่วยให้ผู้ใช้มีหน้าจอใหญ่ขึ้นในขนาดที่พกพาได้สะดวก และยังคงความทนทานของบานพับที่พัฒนาใหม่ ถือเป็นการยกระดับเทคโนโลยี foldable ไปอีกขั้น และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดสมาร์ทโฟน 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsung-unveils-the-galaxy-z-trifold-a-foldable-that-lives-up-to-its-name
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 439 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาเลเซียกวาดล้างซาวนาชาย เอ็นจีโอโวยละเมิดเลือกปฎิบัติ

    การกวาดล้างสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ที่ระบุว่าแฝงกิจกรรมทางเพศแบบเพศเดียวกันในมาเลเซีย เริ่มจากเมื่อวันที่ 29 พ.ย. กองบังคับการ 7 (D7) ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอั่งยี่ การพนันและอบายมุข ของตำรวจกัวลาลัมเปอร์ ร่วมกับกรมศาสนาแห่งดินแดนสหพันธ์ (JAWI) และศาลาว่าการกรุงกัวลาลัมเปอร์ (DKBL) เข้าทลายคลับสุขภาพย่านโจวคิต (Chow Kit) หลังมีประชาชนร้องเรียน ก่อนสืบสวนและเฝ้าติดตามกว่า 2 สัปดาห์ รวบผู้ต้องสงสัยเป็นลูกค้า 201 ราย พนักงาน 7 ราย อายุระหว่าง 19-60 ปี พร้อมของกลางถุงยางอนามัยและสิ่งของอื่นๆ ที่เชื่อว่าถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดศีลธรรม

    อาคารมีทั้งหมด 2 ชั้น เปิดมานานกว่า 8-10 เดือน มีการโปรโมตสถานที่ผ่านโซเชียลมีเดีย และบอกเล่าแบบปากต่อปากจากลูกค้าประจำ ผู้เข้าใช้บริการต้องลงทะเบียน 10 ริงกิตเพื่อเปิดบัตรสมาชิก หลังจากนั้นเสียค่าบริการครั้งละ 35 ริงกิต ลูกค้ามีทั้งผู้ประกอบวิชาชีพ นักศึกษา นักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ อินโดนีเซีย เยอรมนี และจีน อย่างไรก็ตาม ภายหลังผู้ต้องหา 171 รายได้รับการปล่อยตัว เพราะศาลไปฎิเสธคำร้องขอส่งตัวผู้ต้องหา เนื่องจากยื่นคำร้องล่าช้า ส่วนชาวต่างชาติ 31 ราย ถูกควบคุมตัว

    ต่อมาวันที่ 30 พ.ย. กองกำกับการ 7 ของสำนักงานตำรวจเขตเซเบอรังเปอไร (Seberang Perai) รัฐปีนัง ร่วมกับหน่วยปฎิบัติการด้านใบอนุญาตของสภาเขตเซเบอรังเปอไร บุกซาวนาในอาคาร 3 ชั้น ย่านบูกิตเมอร์ตาจัม (Bukit Mertajam) หลังถูกร้องเรียนว่าถูกใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางเพศที่ผิดกฎหมาย รวบผู้ดูแลสถานที่ 2 ราย ลูกค้า 11 ราย อายุระหว่าง 19 ถึง 66 ปี รวมถึงชาวต่างชาติ 2 คน ประกอบด้วยคนไทย 1 คน และชาวจีน 1 คน พร้อมตรวจยึดถุงยางอนามัย สารหล่อลื่น และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จากการสืบสวนพบว่าซาวนาแห่งนี้เปิดมานานกว่า 5 ปี แต่เพิ่งเริ่มดึงดูดลูกค้าเข้าร่วมทำกิจกรรมทางเพศเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา

    การบุกทลายสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ด้วยข้อหามีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ซึ่งผิดกฎหมายอาญาและกฎหมายชารีอะห์ตามหลักศาสนาอิสลาม กำลังเป็นที่วิจารณ์จากองค์กรพัฒนาเอกชน 2 แห่ง ตำหนิว่ามีสื่อมวลชนละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ถูกจับกุม ส่งผลกระทบในทางลบต่อชีวิต และการดำรงชีวิตของคนที่เปราะบางอยู่แล้วในสังคม เนื่องจากการเลือกปฏิบัติ รวมถึงกระทบต่อความพยายามของรัฐบาลมาเลเซีย ในการยับยั้งการติดเชื้อเอชไอวีในประเทศ อีกทั้งบทบัญญัติตามกฎหมายดังกล่าวหลงเหลือจากศีลธรรมในยุคอาณานิคม ที่มุ่งเป้า ตีตรา และเป็นอันตรายต่อชุมชนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+)

    #Newskit
    มาเลเซียกวาดล้างซาวนาชาย เอ็นจีโอโวยละเมิดเลือกปฎิบัติ การกวาดล้างสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ที่ระบุว่าแฝงกิจกรรมทางเพศแบบเพศเดียวกันในมาเลเซีย เริ่มจากเมื่อวันที่ 29 พ.ย. กองบังคับการ 7 (D7) ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอั่งยี่ การพนันและอบายมุข ของตำรวจกัวลาลัมเปอร์ ร่วมกับกรมศาสนาแห่งดินแดนสหพันธ์ (JAWI) และศาลาว่าการกรุงกัวลาลัมเปอร์ (DKBL) เข้าทลายคลับสุขภาพย่านโจวคิต (Chow Kit) หลังมีประชาชนร้องเรียน ก่อนสืบสวนและเฝ้าติดตามกว่า 2 สัปดาห์ รวบผู้ต้องสงสัยเป็นลูกค้า 201 ราย พนักงาน 7 ราย อายุระหว่าง 19-60 ปี พร้อมของกลางถุงยางอนามัยและสิ่งของอื่นๆ ที่เชื่อว่าถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดศีลธรรม อาคารมีทั้งหมด 2 ชั้น เปิดมานานกว่า 8-10 เดือน มีการโปรโมตสถานที่ผ่านโซเชียลมีเดีย และบอกเล่าแบบปากต่อปากจากลูกค้าประจำ ผู้เข้าใช้บริการต้องลงทะเบียน 10 ริงกิตเพื่อเปิดบัตรสมาชิก หลังจากนั้นเสียค่าบริการครั้งละ 35 ริงกิต ลูกค้ามีทั้งผู้ประกอบวิชาชีพ นักศึกษา นักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ อินโดนีเซีย เยอรมนี และจีน อย่างไรก็ตาม ภายหลังผู้ต้องหา 171 รายได้รับการปล่อยตัว เพราะศาลไปฎิเสธคำร้องขอส่งตัวผู้ต้องหา เนื่องจากยื่นคำร้องล่าช้า ส่วนชาวต่างชาติ 31 ราย ถูกควบคุมตัว ต่อมาวันที่ 30 พ.ย. กองกำกับการ 7 ของสำนักงานตำรวจเขตเซเบอรังเปอไร (Seberang Perai) รัฐปีนัง ร่วมกับหน่วยปฎิบัติการด้านใบอนุญาตของสภาเขตเซเบอรังเปอไร บุกซาวนาในอาคาร 3 ชั้น ย่านบูกิตเมอร์ตาจัม (Bukit Mertajam) หลังถูกร้องเรียนว่าถูกใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางเพศที่ผิดกฎหมาย รวบผู้ดูแลสถานที่ 2 ราย ลูกค้า 11 ราย อายุระหว่าง 19 ถึง 66 ปี รวมถึงชาวต่างชาติ 2 คน ประกอบด้วยคนไทย 1 คน และชาวจีน 1 คน พร้อมตรวจยึดถุงยางอนามัย สารหล่อลื่น และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จากการสืบสวนพบว่าซาวนาแห่งนี้เปิดมานานกว่า 5 ปี แต่เพิ่งเริ่มดึงดูดลูกค้าเข้าร่วมทำกิจกรรมทางเพศเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา การบุกทลายสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ด้วยข้อหามีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ซึ่งผิดกฎหมายอาญาและกฎหมายชารีอะห์ตามหลักศาสนาอิสลาม กำลังเป็นที่วิจารณ์จากองค์กรพัฒนาเอกชน 2 แห่ง ตำหนิว่ามีสื่อมวลชนละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ถูกจับกุม ส่งผลกระทบในทางลบต่อชีวิต และการดำรงชีวิตของคนที่เปราะบางอยู่แล้วในสังคม เนื่องจากการเลือกปฏิบัติ รวมถึงกระทบต่อความพยายามของรัฐบาลมาเลเซีย ในการยับยั้งการติดเชื้อเอชไอวีในประเทศ อีกทั้งบทบัญญัติตามกฎหมายดังกล่าวหลงเหลือจากศีลธรรมในยุคอาณานิคม ที่มุ่งเป้า ตีตรา และเป็นอันตรายต่อชุมชนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 20

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 20 (จบ)
    เรื่องญี่ปุ่น ตั้งแต่การปฏิรูปประเทศ การเข้าสู่สงคราม การแพ้สงคราม เหมือนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ของประเทศที่ถูกรุกราน ก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิรูป ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเขา การเข้าไปทำสงคราม ก็เหมือนเป็นไปโดยธรรมชาติอีกนั่นแหละ ก็เมื่อใหญ่โตขึ้นมา จะให้อยู่เฉยไงไหว พลเมืองก็เพิ่ม ทรัพยากรก็ขาด ก็ต้องไปบุก ไปรบ ไปปล้นหาเอามาจากบ้านเมืองอื่น ใครๆก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้น ทำไมญี่ปุ่นจะทำมั่งไม่ได้ ถ้าเรามองแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องวิเคราะห์ วิตกวิจารณ์ โลกก็คงยังสวยเหมือนเดิม ไม่ต้องเขียนนืทานกันให้เมื่อยมือ จริงๆ เมื่อยทั้งตัวเลยครับ
    แต่มันเป็นไปโดยธรรมชาติ อย่างนั้นจริงหรือ หรือมันเป็น “ธรรมชาติ” ที่ถูกจัดสร้าง ให้เหมือนจริงจนดูไม่ออกว่าเป็นการสร้าง เหมือนเกือบหลายๆเรื่อง ที่ดำเนินอยู่ในโลกใบนี้เป็นเวลานาน ไม่น้อยกว่าร้อยปีมานี้
    บางเรื่อง ถ้าเราดู ณ จุดใดจุดหนึ่ง หรือเหตุการณ์ใด เหตุการณ์หนึ่ง มันอาจจะมองไม่เห็น หรือเห็นไม่ชัด อาจจะต้องดูทางตรงบ้าง ทางขวางบ้าง มองหลายเหตุการณ์ เอามาประกอบการพิจารณา ดูย้อนขึ้นบ้าง ดูย้อนลงมาบ้าง จึงอาจจะพอทำให้เห็น และเข้าใจมากขึ้น
    เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม ภาพญี่ปุ่น ที่(ถูกทำให้) เห็นคือ ญี่ปุ่น ฉิบหายยับเยินจากสงคราม ทั้งด้านชีวิตผู้คน ที่โดนกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป และเศรษฐกิจของประเทศ จริงอยู่การทำสงครามก็ทำให้ทั้งทรัพยากร และ กระเป๋าญี่ปุ่นแห้งลงไป แต่ปรากฏว่า นักธุรกิจใหญ่ นายธนาคารของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ยังมีขนหน้าแข้งเต็ม กระเป๋าตุงกันทั้งนั้น แต่แอบซุกซ่อนกันอย่างมิดชิด เพราะพวกเขาร่วมเป็นนายทุน และร่วมปล้น ประเทศที่ญี่ปุ่นเข้าไปบุกทั้งนั้น
    ประมาณว่า แค่รายได้จากการค้าเฮโรอีนอย่างเดียว ภายใต้การอำนวยการผลิตของกองทัพที่แมนจูเรีย และการตลาดโดยนักธุรกิจใหญ่เหล่านั้น ก็มีมูลค่าเกินกว่า 3 พันล้านเหรียญ (ในสมัยนั้น) แล้ว นี่เป็นรายได้เฉพาะที่ขายกันเอเซีย ที่อื่นยังไม่ได้รวมบัญชี หักบัญชีกัน
    ก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยอมแพ้ไม่กี่วัน บรรดาบริษัทการค้าธุรกิจ ธนาคาร ต่างๆเหล่านั้น ก็พากันเผาเอกสาร ทำลายหลักฐาน ตัดเชือก ตัดใย ที่จะโยงพวกเขากับกองทัพอย่างเร่งรีบ ทางการเองก็ให้ความร่วมมืออย่างดี รัฐมนตรีคลัง รีบสั่งจ่ายเงินให้กับใบเรียกเก็บเงินที่เร่งออก เพื่อให้รีบจ่ายกันก่อนอเมริกันมาถึง ร่วมมือกันน่ารักดีมาก
    แต่คนที่รวยมหาศาลที่สุดจากสงครามญี่ปุ่น เขาว่า คือ เจ้าพ่อยากูซ่า โคดามะ Kodama Yoshio ซึ่งตลอดเวลาที่ญี่ปุ่นเข้ายึด เข้าตี ที่ไหน เจ้าพ่อจะเป็นคนไปสำรวจเส้นทาง วางแผน ไม่ต่างกับเป็นผู้บัญชาการรบคนหนึ่ง ในที่สุดเจ้าพ่อ ก็ได้รับตำแหน่งจริงๆ โดยแม่ทัพเรือ Admiral Yonai ตั้งเจ้าพ่อให้เป็นนายพลเรือ เพื่อให้เจ้าพ่อใช้เรือรบญี่ปุ่นเดินทางไปมา ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา ขนของที่ยึดมาได้ ใส่เรือรบจนเพียบกลับญี่ปุ่น เขาว่า นอกเหนือจากทอง และเพชรแล้ว เจ้าพ่อได้แร่ทองคำขาวไปแยะ และแยกเก็บไว้เป็นส่วนของตัว
    ส่วนนายพลแมค เมื่อเข้ามาทำหน้าที่ SCAP ในปี ค.ศ.1945 และได้รับใบสั่ง ให้จับหัวกะทินักธุรกิจ ที่วุ่นกับการทำสงคราม ใบสั่งบอก ให้เอามาตั้งแต่ชุดที่ไปบุกจีน ค.ศ.1937 นั่นเลยนะ เพราะมันควรจะเป็นของเรา เขาว่า ครั้งแรกเลย จับปลาใหญ่มาได้ 3 ตัว ตัวแรกคือ องค์ชาย Nashimoto อาของจักรพรรดิ แต่ดูเหมือน เป็นการ จับผิดตัว อามีหลายคน องค์ชายมีหลายคน ชื่อก็ กิกะอะไรไม่รู้ จำยากจะตาย ปลาตัวแรก เลยถูกจับฟรี หรือเป็นการขู่ ไม่แน่ใจ แต่อีก 2 ตัวที่จับได้ คนหนึ่งเป็นประธาน มิตซุบิชิ ซึ่งผลิตอาวุธให้กองทัพ อีกคนเป็นผู้จัดการใหญ่ของมิตซุย ที่ไม่ใช่ธรรมดา รากเหง้ายาวพอๆกับเกาะญี่ปุ่นเอง
    หลังจากการนั้นก็มีการคายความออกมา ว่า มีทองแท่งมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญ (ในขณะนั้น) อยู่ในเรือ ที่ตั้งใจจมไว้ที่อ่าวหน้าเมืองโตเกียว เป็นทองที่ขนมาจากเกาหลีโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศญี่ปุ่น ภายใต้การบัญชาการของผู้ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ บรรจุไว้ในหีบทองแดง และทิ้งไว้ก้นทะเล เมื่อรู้ว่ารบไม่ชนะ
    ฝ่ายประสานงานของ SCAP บอกว่า จะขอกู้เอาทองขึ้นเอามาเก็บไว้ที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่น เพื่อเอาไว้ช่วยพัฒนาประเทศญี่ปุ่น นายพลแมคบอกไม่มีปัญหา เป็นความตั้งใจของเขาอยู่แล้ว ที่จะดูแลชาวญี่ปุ่น พูดได้หล่อ …. เมื่อนายพลแมคแจ้งไปทางวอชืงตัน มีฝรั่งออกงิ้วว่า ควรส่งทองมาเก็บไว้ที่วอชิงตัน เพื่อเป็นประกันหนี้ให้กลุ่มมอร์แกน ซึ่งญี่ปุ่นยังใช้หนี้ให้ ไม่หมดมากกว่า แต่นายพลแมคไม่เปลี่ยนใจ สรุปว่า จริงๆแล้ว ทองแท่งมีทั้งหมดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ และในที่สุดเก็บไว้ที่ไหนบ้างก็ไม่รู้ แต่น่าจะมีคนอมยิ้มพอใจ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
    ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีการปล่อยตัวท่านอา ประธานมิตซุบิชิ และผู้จัดการใหญ่มิตซุย ออกจากคุก พ้นข้อหาทั้งปวง
    แค่ จับปลา 3 ตัว ยังได้ผลขนาดนี้ คำสั่ง FEC-230 ก็ต้องรีบออกมาบีบจนหน้าเขียว ตามแผน
    แล้วเดือนธันวาคม ค.ศ.1948 SCAP ก็สั่งปล่อย นักโทษ A Class (โทษสูงสุด) 17 คน ใน 17 คน มี นาย คิชิ Kishi Nobusuke คงยังจำกัน ไอ้คนหัวแหลม ช่างคิดวิธีให้กองทัพญี่ปุ่น ที่แมนจูเรียหากินร่ำรวย และต่อมา เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี ของญี่ปุ่น คนต่อมาคือ โคดามะ Kodama Yoshio เจ้าพ่อยากูซ่า และซาซากาวา Sasagawa Ryochi เจ้าพ่อ ยากูซ่าอีกราย
    ทั้ง 3 คนนี้ ต่อมา ร่วมกันตั้งพรรค รวมพรรค ซื้อนักการเมืองจากคอกอื่น มารวมอยู่ในพรรคที่พวกเขาร่วมกันสร้างคือ พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP และทั้ง 3 คนนี้ ก็เป็นมือที่ชักใย LDP ถึง 50 ปี หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน เกือบทุกคน (90%) คือผู้ที่กลุ่ม 3 คนนี้ หรือผู้ที่สืบทอดอำนาจเขา เป็นผู้เลือก หรือ ให้ความเห็นชอบทั้งนั้น และคงไม่เกินไป ที่จะบอกว่า ด้วยวิธีการนี้ อเมริกาก็คือผู้ปกครองญี่ปุ่น ตั้งแต่วันปล่อยผีขึ้นมาจากนรกนั่นแหละ
    และคงพอจะทำให้เราเข้าใจว่า ทำไม นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คนปัจจุบัน นาย ชินโซะ อาเบะ Shinzo Abe ถึงพร้อมใจรับหน้าที่แบกถาด ถ้ารู้ว่าเขาเป็นหลานตาแท้ๆ ของ นาย คิชิ คนเปิดประตูเมืองญี่ปุ่นให้อเมริกาเข้า และเขาไม่ใช่หลานธรรมดา แต่เป็นหลานรัก ที่ตาเลี้ยงอย่างใกล้ชิด และตั้งใจให้สืบทอดมรดก…
    ยังมีอีก 3 ใน 17 คนที่ออกมาด้วย คือ Sankichi Takahashi, Shumi Okawa และ Yoshihisa Kuzu
    Kuzu เป็นอดีตหัวหน้าใหญ่ของสมาคมมังกรดำ Black Dragon Society รุ่นใหญ่กว่าโคดามะ
    สมาคมมังกรดำ เป็นสมาคมขวาจัด ทำหน้าที่พิทักษ์จักรพรรดิ ที่มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น เน้นสร้างคนรุ่นหนุ่ม ให้มีความรักชาติและ จงรักภักดีต่อจักรพรรดิ เลือดลูกพระอาทิตย์เข้มข้น นาย Toyama Mitsuru ที่ลึกลับ และเป็นคนสนิทของราชวงศ์ และมีเครือข่ายสายลับทั่วญี่ปุ่น เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมมังกรดำนี้ขึ้น เมื่อปี ค.ศ.1901 โตยาม่า เป็นหนึ่งในคนธรรมดาไม่กี่คน ที่เป็น แขกรับเชิญที่มีแต่พระราชวงศ์ และบุคคลชั้นสูง ในวันแต่งงานของจักรพรรดิฮิโฮิโตกับจักรพรรดินีนากาโน
    นายพล Takahashi ก็เป็นนายทหารใหญ่ ที่สังกัดมังกรดำ
    ส่วนนาย Shumi Okawa นั้น เป็นหัวหน้าสายลับ ที่ข่าวว่า สังกัดราชวงศ์เช่นกัน
    นายโคดามะ ภายหลัง ทำงานให้กับ CIA ของอเมริกา อย่างใกล้ชิด ผลงาน เข้าตา เมื่ออเมริกาคิดทำสงครามเกาหลี นายโคโดมะ เป็นผู้จัดกองกำลังพิเศษ ให้นายพลแมคไปรบที่เกาหลี แถมไปคุมกองกำลังด้วยตัวเอง ในฐานะผู้ชำนาญพื้นที่
    หลังจากความดีความชอบเรื่องสงครามเกาหลี CIA เปลี่ยนเป็นใช้บริการของโคดามะ แบบพนักงานประจำ ไม่ใช่พนักงานชั่วคราว ในเรื่องของการปราบปรามคอมมิวนิสต์ รวมถึงในปี ค.ศ.1949 CIA ให้เขานำกำลังไปช่วย นายพลเจียง ไคเช็ค ปราบชาวฟอร์โมซา ที่เกาะไต้หวัน จนตายเกลื่อน เมื่อออกมาประท้วงการยึดเกาะของกองทัพนายพลเจียง เขาว่า การปราบคราวนั้น มันก็โหดร้ายทารุณ ไม่แพ้เหตุการณ์ที่นานกิง แต่ CIA เก็บหลักฐานจนเกลี้ยงเกลา
    ส่วนในการไปรบเกาหลี ในปี ค.ศ.1950 นายพลแมค หอบเอา นาย Shiro Ishii อดีตหัวหน้าหน่วย 731 อันลือชื่อ พร้อมด้วยคณะทำงานไปเกาหลีด้วย ในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งจนถึงขณะนี้ สงครามยังไม่จบ แค่สงบศึกกันชั่วคราว นายพลแมค ให้ทดลองปล่อย แมงมุม ตัวหมัด แมลงสาระพัด ซึ่ง ใส่เชื้อโรคไว้ ส่งให้พลเมืองฝ่ายเกาหลีเหนือ ผลปรากฎว่า เกิดโรคระบาด ไข้เหลือง ไทฟอยด์ อหิวาต์ มีชาวบ้านเจ็บป่วยล้มตายเป็นอันมาก ทำให้หลายฝ่ายชื่นชมในผลงานในที่สุด นายชิโร นี่ นอกจากไม่ถูกลงโทษ เขาว่ายังได้เงินรางวัล แลกกับสูตรลับที่อเมริกา หรือร้อกกี้ the great เอาไปเล่นต่อ
    ส่วนนายซาซากาวา ได้บทใหม่เป็นเจ้าพ่อ ที่ด้านหนึ่ง คุมบ่อนการพนันทั้งเกาะญี่ปุ่น รวมทั้งการแข่งเรือยนตร์ ที่ทำรายได้มหาศาลให้เขา อีกด้าน เขาเดินงานของ MRA ต่อให้กับ CIA เกี่ยวกับเกาหลีใต้ และทำไปจนถึงเรื่อง ตะวันออกกลาง และกลายเป็นเพื่อนรักของอดีตประธานาธิบดี Jimmy Carter และตัวแสบ Henry Kissinger อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา ซึ่งเป็นคนรับใช้ตัวจริงถาวรของร้อกกี้ the great
    Dean Atchson ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศ ที่พรรค Republican ส่งมาดูการทำงานของ SCAP ตั้งแต่ต้น เห็นการทำงานของ SCAP และการ กลับตาลปัตร ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เขารวบรวมเอกสารหลายลัง และตัดสินใจเดินทางกลับวอชิงตัน เพื่อรายงานรัฐบาลด้วยตนเอง เขาเดินทางพร้อมกับคณะทำงาน ด้วยเครื่องบินที่รัฐบาลอเมริกันจัดมาให้ เครื่องบิน เติมน้ำมันไว้เต็มถัง แต่ขณะที่เครื่องบิน บินอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างทางไปฮอนโนลูลู ผ่านเกาะ Johnston เครื่องบินเกิดน้ำมันหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างที่เครื่องบินดิ่งหัวลงทะเล คณะทำงานคนหนึ่งที่รอดตาย เห็น Atcheson ส่ายหน้า แล้วบอกว่า… มันคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว….
    (ยังมีบทส่งท้าย นะครับ รออ่านหน่อย กำลังเร่งเครื่องเขียนอยู่ พบกัน พรุ่งนี้ 8 โมงเช้าเหมือนเดิม)

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    31 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 20 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 20 (จบ) เรื่องญี่ปุ่น ตั้งแต่การปฏิรูปประเทศ การเข้าสู่สงคราม การแพ้สงคราม เหมือนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ของประเทศที่ถูกรุกราน ก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิรูป ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเขา การเข้าไปทำสงคราม ก็เหมือนเป็นไปโดยธรรมชาติอีกนั่นแหละ ก็เมื่อใหญ่โตขึ้นมา จะให้อยู่เฉยไงไหว พลเมืองก็เพิ่ม ทรัพยากรก็ขาด ก็ต้องไปบุก ไปรบ ไปปล้นหาเอามาจากบ้านเมืองอื่น ใครๆก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้น ทำไมญี่ปุ่นจะทำมั่งไม่ได้ ถ้าเรามองแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องวิเคราะห์ วิตกวิจารณ์ โลกก็คงยังสวยเหมือนเดิม ไม่ต้องเขียนนืทานกันให้เมื่อยมือ จริงๆ เมื่อยทั้งตัวเลยครับ แต่มันเป็นไปโดยธรรมชาติ อย่างนั้นจริงหรือ หรือมันเป็น “ธรรมชาติ” ที่ถูกจัดสร้าง ให้เหมือนจริงจนดูไม่ออกว่าเป็นการสร้าง เหมือนเกือบหลายๆเรื่อง ที่ดำเนินอยู่ในโลกใบนี้เป็นเวลานาน ไม่น้อยกว่าร้อยปีมานี้ บางเรื่อง ถ้าเราดู ณ จุดใดจุดหนึ่ง หรือเหตุการณ์ใด เหตุการณ์หนึ่ง มันอาจจะมองไม่เห็น หรือเห็นไม่ชัด อาจจะต้องดูทางตรงบ้าง ทางขวางบ้าง มองหลายเหตุการณ์ เอามาประกอบการพิจารณา ดูย้อนขึ้นบ้าง ดูย้อนลงมาบ้าง จึงอาจจะพอทำให้เห็น และเข้าใจมากขึ้น เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม ภาพญี่ปุ่น ที่(ถูกทำให้) เห็นคือ ญี่ปุ่น ฉิบหายยับเยินจากสงคราม ทั้งด้านชีวิตผู้คน ที่โดนกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป และเศรษฐกิจของประเทศ จริงอยู่การทำสงครามก็ทำให้ทั้งทรัพยากร และ กระเป๋าญี่ปุ่นแห้งลงไป แต่ปรากฏว่า นักธุรกิจใหญ่ นายธนาคารของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ยังมีขนหน้าแข้งเต็ม กระเป๋าตุงกันทั้งนั้น แต่แอบซุกซ่อนกันอย่างมิดชิด เพราะพวกเขาร่วมเป็นนายทุน และร่วมปล้น ประเทศที่ญี่ปุ่นเข้าไปบุกทั้งนั้น ประมาณว่า แค่รายได้จากการค้าเฮโรอีนอย่างเดียว ภายใต้การอำนวยการผลิตของกองทัพที่แมนจูเรีย และการตลาดโดยนักธุรกิจใหญ่เหล่านั้น ก็มีมูลค่าเกินกว่า 3 พันล้านเหรียญ (ในสมัยนั้น) แล้ว นี่เป็นรายได้เฉพาะที่ขายกันเอเซีย ที่อื่นยังไม่ได้รวมบัญชี หักบัญชีกัน ก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยอมแพ้ไม่กี่วัน บรรดาบริษัทการค้าธุรกิจ ธนาคาร ต่างๆเหล่านั้น ก็พากันเผาเอกสาร ทำลายหลักฐาน ตัดเชือก ตัดใย ที่จะโยงพวกเขากับกองทัพอย่างเร่งรีบ ทางการเองก็ให้ความร่วมมืออย่างดี รัฐมนตรีคลัง รีบสั่งจ่ายเงินให้กับใบเรียกเก็บเงินที่เร่งออก เพื่อให้รีบจ่ายกันก่อนอเมริกันมาถึง ร่วมมือกันน่ารักดีมาก แต่คนที่รวยมหาศาลที่สุดจากสงครามญี่ปุ่น เขาว่า คือ เจ้าพ่อยากูซ่า โคดามะ Kodama Yoshio ซึ่งตลอดเวลาที่ญี่ปุ่นเข้ายึด เข้าตี ที่ไหน เจ้าพ่อจะเป็นคนไปสำรวจเส้นทาง วางแผน ไม่ต่างกับเป็นผู้บัญชาการรบคนหนึ่ง ในที่สุดเจ้าพ่อ ก็ได้รับตำแหน่งจริงๆ โดยแม่ทัพเรือ Admiral Yonai ตั้งเจ้าพ่อให้เป็นนายพลเรือ เพื่อให้เจ้าพ่อใช้เรือรบญี่ปุ่นเดินทางไปมา ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา ขนของที่ยึดมาได้ ใส่เรือรบจนเพียบกลับญี่ปุ่น เขาว่า นอกเหนือจากทอง และเพชรแล้ว เจ้าพ่อได้แร่ทองคำขาวไปแยะ และแยกเก็บไว้เป็นส่วนของตัว ส่วนนายพลแมค เมื่อเข้ามาทำหน้าที่ SCAP ในปี ค.ศ.1945 และได้รับใบสั่ง ให้จับหัวกะทินักธุรกิจ ที่วุ่นกับการทำสงคราม ใบสั่งบอก ให้เอามาตั้งแต่ชุดที่ไปบุกจีน ค.ศ.1937 นั่นเลยนะ เพราะมันควรจะเป็นของเรา เขาว่า ครั้งแรกเลย จับปลาใหญ่มาได้ 3 ตัว ตัวแรกคือ องค์ชาย Nashimoto อาของจักรพรรดิ แต่ดูเหมือน เป็นการ จับผิดตัว อามีหลายคน องค์ชายมีหลายคน ชื่อก็ กิกะอะไรไม่รู้ จำยากจะตาย ปลาตัวแรก เลยถูกจับฟรี หรือเป็นการขู่ ไม่แน่ใจ แต่อีก 2 ตัวที่จับได้ คนหนึ่งเป็นประธาน มิตซุบิชิ ซึ่งผลิตอาวุธให้กองทัพ อีกคนเป็นผู้จัดการใหญ่ของมิตซุย ที่ไม่ใช่ธรรมดา รากเหง้ายาวพอๆกับเกาะญี่ปุ่นเอง หลังจากการนั้นก็มีการคายความออกมา ว่า มีทองแท่งมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญ (ในขณะนั้น) อยู่ในเรือ ที่ตั้งใจจมไว้ที่อ่าวหน้าเมืองโตเกียว เป็นทองที่ขนมาจากเกาหลีโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศญี่ปุ่น ภายใต้การบัญชาการของผู้ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ บรรจุไว้ในหีบทองแดง และทิ้งไว้ก้นทะเล เมื่อรู้ว่ารบไม่ชนะ ฝ่ายประสานงานของ SCAP บอกว่า จะขอกู้เอาทองขึ้นเอามาเก็บไว้ที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่น เพื่อเอาไว้ช่วยพัฒนาประเทศญี่ปุ่น นายพลแมคบอกไม่มีปัญหา เป็นความตั้งใจของเขาอยู่แล้ว ที่จะดูแลชาวญี่ปุ่น พูดได้หล่อ …. เมื่อนายพลแมคแจ้งไปทางวอชืงตัน มีฝรั่งออกงิ้วว่า ควรส่งทองมาเก็บไว้ที่วอชิงตัน เพื่อเป็นประกันหนี้ให้กลุ่มมอร์แกน ซึ่งญี่ปุ่นยังใช้หนี้ให้ ไม่หมดมากกว่า แต่นายพลแมคไม่เปลี่ยนใจ สรุปว่า จริงๆแล้ว ทองแท่งมีทั้งหมดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ และในที่สุดเก็บไว้ที่ไหนบ้างก็ไม่รู้ แต่น่าจะมีคนอมยิ้มพอใจ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีการปล่อยตัวท่านอา ประธานมิตซุบิชิ และผู้จัดการใหญ่มิตซุย ออกจากคุก พ้นข้อหาทั้งปวง แค่ จับปลา 3 ตัว ยังได้ผลขนาดนี้ คำสั่ง FEC-230 ก็ต้องรีบออกมาบีบจนหน้าเขียว ตามแผน แล้วเดือนธันวาคม ค.ศ.1948 SCAP ก็สั่งปล่อย นักโทษ A Class (โทษสูงสุด) 17 คน ใน 17 คน มี นาย คิชิ Kishi Nobusuke คงยังจำกัน ไอ้คนหัวแหลม ช่างคิดวิธีให้กองทัพญี่ปุ่น ที่แมนจูเรียหากินร่ำรวย และต่อมา เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี ของญี่ปุ่น คนต่อมาคือ โคดามะ Kodama Yoshio เจ้าพ่อยากูซ่า และซาซากาวา Sasagawa Ryochi เจ้าพ่อ ยากูซ่าอีกราย ทั้ง 3 คนนี้ ต่อมา ร่วมกันตั้งพรรค รวมพรรค ซื้อนักการเมืองจากคอกอื่น มารวมอยู่ในพรรคที่พวกเขาร่วมกันสร้างคือ พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP และทั้ง 3 คนนี้ ก็เป็นมือที่ชักใย LDP ถึง 50 ปี หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน เกือบทุกคน (90%) คือผู้ที่กลุ่ม 3 คนนี้ หรือผู้ที่สืบทอดอำนาจเขา เป็นผู้เลือก หรือ ให้ความเห็นชอบทั้งนั้น และคงไม่เกินไป ที่จะบอกว่า ด้วยวิธีการนี้ อเมริกาก็คือผู้ปกครองญี่ปุ่น ตั้งแต่วันปล่อยผีขึ้นมาจากนรกนั่นแหละ และคงพอจะทำให้เราเข้าใจว่า ทำไม นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คนปัจจุบัน นาย ชินโซะ อาเบะ Shinzo Abe ถึงพร้อมใจรับหน้าที่แบกถาด ถ้ารู้ว่าเขาเป็นหลานตาแท้ๆ ของ นาย คิชิ คนเปิดประตูเมืองญี่ปุ่นให้อเมริกาเข้า และเขาไม่ใช่หลานธรรมดา แต่เป็นหลานรัก ที่ตาเลี้ยงอย่างใกล้ชิด และตั้งใจให้สืบทอดมรดก… ยังมีอีก 3 ใน 17 คนที่ออกมาด้วย คือ Sankichi Takahashi, Shumi Okawa และ Yoshihisa Kuzu Kuzu เป็นอดีตหัวหน้าใหญ่ของสมาคมมังกรดำ Black Dragon Society รุ่นใหญ่กว่าโคดามะ สมาคมมังกรดำ เป็นสมาคมขวาจัด ทำหน้าที่พิทักษ์จักรพรรดิ ที่มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น เน้นสร้างคนรุ่นหนุ่ม ให้มีความรักชาติและ จงรักภักดีต่อจักรพรรดิ เลือดลูกพระอาทิตย์เข้มข้น นาย Toyama Mitsuru ที่ลึกลับ และเป็นคนสนิทของราชวงศ์ และมีเครือข่ายสายลับทั่วญี่ปุ่น เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมมังกรดำนี้ขึ้น เมื่อปี ค.ศ.1901 โตยาม่า เป็นหนึ่งในคนธรรมดาไม่กี่คน ที่เป็น แขกรับเชิญที่มีแต่พระราชวงศ์ และบุคคลชั้นสูง ในวันแต่งงานของจักรพรรดิฮิโฮิโตกับจักรพรรดินีนากาโน นายพล Takahashi ก็เป็นนายทหารใหญ่ ที่สังกัดมังกรดำ ส่วนนาย Shumi Okawa นั้น เป็นหัวหน้าสายลับ ที่ข่าวว่า สังกัดราชวงศ์เช่นกัน นายโคดามะ ภายหลัง ทำงานให้กับ CIA ของอเมริกา อย่างใกล้ชิด ผลงาน เข้าตา เมื่ออเมริกาคิดทำสงครามเกาหลี นายโคโดมะ เป็นผู้จัดกองกำลังพิเศษ ให้นายพลแมคไปรบที่เกาหลี แถมไปคุมกองกำลังด้วยตัวเอง ในฐานะผู้ชำนาญพื้นที่ หลังจากความดีความชอบเรื่องสงครามเกาหลี CIA เปลี่ยนเป็นใช้บริการของโคดามะ แบบพนักงานประจำ ไม่ใช่พนักงานชั่วคราว ในเรื่องของการปราบปรามคอมมิวนิสต์ รวมถึงในปี ค.ศ.1949 CIA ให้เขานำกำลังไปช่วย นายพลเจียง ไคเช็ค ปราบชาวฟอร์โมซา ที่เกาะไต้หวัน จนตายเกลื่อน เมื่อออกมาประท้วงการยึดเกาะของกองทัพนายพลเจียง เขาว่า การปราบคราวนั้น มันก็โหดร้ายทารุณ ไม่แพ้เหตุการณ์ที่นานกิง แต่ CIA เก็บหลักฐานจนเกลี้ยงเกลา ส่วนในการไปรบเกาหลี ในปี ค.ศ.1950 นายพลแมค หอบเอา นาย Shiro Ishii อดีตหัวหน้าหน่วย 731 อันลือชื่อ พร้อมด้วยคณะทำงานไปเกาหลีด้วย ในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งจนถึงขณะนี้ สงครามยังไม่จบ แค่สงบศึกกันชั่วคราว นายพลแมค ให้ทดลองปล่อย แมงมุม ตัวหมัด แมลงสาระพัด ซึ่ง ใส่เชื้อโรคไว้ ส่งให้พลเมืองฝ่ายเกาหลีเหนือ ผลปรากฎว่า เกิดโรคระบาด ไข้เหลือง ไทฟอยด์ อหิวาต์ มีชาวบ้านเจ็บป่วยล้มตายเป็นอันมาก ทำให้หลายฝ่ายชื่นชมในผลงานในที่สุด นายชิโร นี่ นอกจากไม่ถูกลงโทษ เขาว่ายังได้เงินรางวัล แลกกับสูตรลับที่อเมริกา หรือร้อกกี้ the great เอาไปเล่นต่อ ส่วนนายซาซากาวา ได้บทใหม่เป็นเจ้าพ่อ ที่ด้านหนึ่ง คุมบ่อนการพนันทั้งเกาะญี่ปุ่น รวมทั้งการแข่งเรือยนตร์ ที่ทำรายได้มหาศาลให้เขา อีกด้าน เขาเดินงานของ MRA ต่อให้กับ CIA เกี่ยวกับเกาหลีใต้ และทำไปจนถึงเรื่อง ตะวันออกกลาง และกลายเป็นเพื่อนรักของอดีตประธานาธิบดี Jimmy Carter และตัวแสบ Henry Kissinger อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา ซึ่งเป็นคนรับใช้ตัวจริงถาวรของร้อกกี้ the great Dean Atchson ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศ ที่พรรค Republican ส่งมาดูการทำงานของ SCAP ตั้งแต่ต้น เห็นการทำงานของ SCAP และการ กลับตาลปัตร ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เขารวบรวมเอกสารหลายลัง และตัดสินใจเดินทางกลับวอชิงตัน เพื่อรายงานรัฐบาลด้วยตนเอง เขาเดินทางพร้อมกับคณะทำงาน ด้วยเครื่องบินที่รัฐบาลอเมริกันจัดมาให้ เครื่องบิน เติมน้ำมันไว้เต็มถัง แต่ขณะที่เครื่องบิน บินอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างทางไปฮอนโนลูลู ผ่านเกาะ Johnston เครื่องบินเกิดน้ำมันหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างที่เครื่องบินดิ่งหัวลงทะเล คณะทำงานคนหนึ่งที่รอดตาย เห็น Atcheson ส่ายหน้า แล้วบอกว่า… มันคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว…. (ยังมีบทส่งท้าย นะครับ รออ่านหน่อย กำลังเร่งเครื่องเขียนอยู่ พบกัน พรุ่งนี้ 8 โมงเช้าเหมือนเดิม) สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 31 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 422 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาหลีใต้จัดหนัก! ออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ที่สุด เล่นงานเครือข่ายสแกมในกัมพูชา หลังพลเมืองเกาหลีถูกล่อลวงไปตกเป็นเหยื่อเพิ่มขึ้นรวดเร็ว ขึ้นบัญชีดำองค์กร 132 แห่ง บุคคล 15 ราย รวม “ปรินซ์กรุ๊ป–ฮุยวันกรุ๊ป” ที่ถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมข้ามชาติและฟอกเงิน
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000113958
    .
    #เกาหลีใต้ #กัมพูชา #ปรินซ์กรุ๊ป #ฮุยวันกรุ๊ป #อาชญากรรมข้ามชาติ #สแกมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ #News1live #News1
    เกาหลีใต้จัดหนัก! ออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ที่สุด เล่นงานเครือข่ายสแกมในกัมพูชา หลังพลเมืองเกาหลีถูกล่อลวงไปตกเป็นเหยื่อเพิ่มขึ้นรวดเร็ว ขึ้นบัญชีดำองค์กร 132 แห่ง บุคคล 15 ราย รวม “ปรินซ์กรุ๊ป–ฮุยวันกรุ๊ป” ที่ถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมข้ามชาติและฟอกเงิน . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000113958 . #เกาหลีใต้ #กัมพูชา #ปรินซ์กรุ๊ป #ฮุยวันกรุ๊ป #อาชญากรรมข้ามชาติ #สแกมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ #News1live #News1
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 499 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline
    #รวมข่าวIT #20251128 #securityonline

    The “Korean Leaks” Siege: Qilin & North Korea Cripple Financial Sector via MSP Hack
    เรื่องนี้เป็นการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สั่นสะเทือนระบบการเงินของเกาหลีใต้ กลุ่มแฮกเกอร์ Qilin ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ Ransomware-as-a-Service ได้ร่วมมือกับกลุ่มที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลเกาหลีเหนือ ใช้ช่องโหว่จากผู้ให้บริการ IT รายหนึ่งที่ดูแลบริษัทการเงินหลายแห่ง ทำให้สามารถเจาะเข้าถึงข้อมูลและระบบของเหยื่อจำนวนมากในคราวเดียว การโจมตีครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเรียกค่าไถ่ธรรมดา แต่ถูกนำเสนอในเชิงการเมือง มีการเผยแพร่ข้อมูลออกมาเป็นระลอก พร้อมคำขู่ที่จะทำลายเสถียรภาพของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างอาชญากรรมไซเบอร์เพื่อผลประโยชน์และการจารกรรมที่มีเป้าหมายทางการเมือง
    https://securityonline.info/the-korean-leaks-siege-qilin-north-korea-cripple-financial-sector-via-msp-hack

    One Identity Safeguard Named a Visionary in the 2025 Gartner Magic Quadrant for PAM
    ข่าวนี้เล่าถึงการที่ One Identity ได้รับการจัดอันดับเป็น “Visionary” ในรายงาน Gartner Magic Quadrant สำหรับ Privileged Access Management ปี 2025 จุดเด่นคือการใช้ AI มาช่วยจัดการสิทธิ์การเข้าถึง การออกแบบที่ใช้งานง่าย และราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งในตลาด ทำให้เป็นโซลูชันที่ทั้งมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า Gartner ยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกที่นำเสนอแนวทางใหม่ ๆ ในการจัดการสิทธิ์พิเศษ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาความปลอดภัยองค์กรในยุคดิจิทัล
    https://securityonline.info/one-identity-safeguard-named-a-visionary-in-the-2025-gartner-magic-quadrant-for-pam

    Quttera Launches “Evidence-as-Code” API to Automate Security Compliance for SOC 2 and PCI DSS v4.0
    Quttera เปิดตัว API ใหม่ที่ช่วยให้การตรวจสอบความปลอดภัยและการเตรียมหลักฐานสำหรับการตรวจสอบมาตรฐาน SOC 2 และ PCI DSS v4.0 เป็นไปโดยอัตโนมัติ ลดภาระงานที่ต้องใช้เวลาหลายสิบชั่วโมงในการรวบรวมข้อมูลด้วยมือ ระบบใหม่นี้สามารถสร้างหลักฐานแบบเรียลไทม์และเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม GRC ได้ทันที พร้อมทั้งมี Threat Encyclopedia ที่ใช้ AI ในการอธิบายพฤติกรรมมัลแวร์และแนวทางแก้ไข ถือเป็นการเปลี่ยนการทำงานจากแบบแมนนวลไปสู่การจัดการแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
    https://securityonline.info/quttera-launches-evidence-as-code-api-to-automate-security-compliance-for-soc-2-and-pci-dss-v4-0

    Crypto Crisis: UPBIT Hacked for $369 Million in Solana-Based Tokens
    ตลาดคริปโตของเกาหลีใต้สะเทือนเมื่อ UPBIT ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุด ถูกแฮกเกอร์โจมตีและขโมยเหรียญดิจิทัลมูลค่ากว่า 369 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหรียญที่ถูกขโมยส่วนใหญ่เป็น Solana-based tokens หลังจากพบความผิดปกติ UPBIT รีบย้ายทรัพย์สินที่เหลือไปเก็บใน cold wallet และร่วมมือกับหน่วยงานรัฐเพื่อสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายเงินที่ถูกขโมย ข่าวดีคือมีบางส่วนถูกแช่แข็งไว้ได้ทัน แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของการเก็บสินทรัพย์ใน hot wallet และความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยของตลาดคริปโต
    https://securityonline.info/crypto-crisis-upbit-hacked-for-369-million-in-solana-based-tokens

    500M PCs Stranded: Windows 11 Adoption Lags as Windows 10 Support Ends
    Microsoft ประกาศยุติการสนับสนุน Windows 10 อย่างเป็นทางการ ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากต้องพิจารณาการอัปเกรดไป Windows 11 แต่ปัญหาคือมีคอมพิวเตอร์กว่า 500 ล้านเครื่องที่ไม่สามารถอัปเกรดได้เพราะไม่ผ่านข้อกำหนดฮาร์ดแวร์ใหม่ แม้ Microsoft จะเปิดโปรแกรม ESU ให้ผู้ใช้ Windows 10 ยังได้รับอัปเดตความปลอดภัยต่อไปอีกหนึ่งปี แต่การย้ายไป Windows 11 กลับเป็นไปอย่างเชื่องช้า หลายคนยังคงมองว่า Windows 10 มีความเสถียรมากกว่า และไม่เห็นความจำเป็นในการซื้อเครื่องใหม่เพียงเพื่อเปลี่ยนระบบปฏิบัติการ ทำให้การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้อาจกินเวลาหลายปี
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/500m-pcs-stranded-windows-11-adoption-lags-as-windows-10-support-ends
    📌🔐🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵🔐📌 #รวมข่าวIT #20251128 #securityonline 🛡️ The “Korean Leaks” Siege: Qilin & North Korea Cripple Financial Sector via MSP Hack เรื่องนี้เป็นการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สั่นสะเทือนระบบการเงินของเกาหลีใต้ กลุ่มแฮกเกอร์ Qilin ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ Ransomware-as-a-Service ได้ร่วมมือกับกลุ่มที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลเกาหลีเหนือ ใช้ช่องโหว่จากผู้ให้บริการ IT รายหนึ่งที่ดูแลบริษัทการเงินหลายแห่ง ทำให้สามารถเจาะเข้าถึงข้อมูลและระบบของเหยื่อจำนวนมากในคราวเดียว การโจมตีครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเรียกค่าไถ่ธรรมดา แต่ถูกนำเสนอในเชิงการเมือง มีการเผยแพร่ข้อมูลออกมาเป็นระลอก พร้อมคำขู่ที่จะทำลายเสถียรภาพของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างอาชญากรรมไซเบอร์เพื่อผลประโยชน์และการจารกรรมที่มีเป้าหมายทางการเมือง 🔗 https://securityonline.info/the-korean-leaks-siege-qilin-north-korea-cripple-financial-sector-via-msp-hack ✨ One Identity Safeguard Named a Visionary in the 2025 Gartner Magic Quadrant for PAM ข่าวนี้เล่าถึงการที่ One Identity ได้รับการจัดอันดับเป็น “Visionary” ในรายงาน Gartner Magic Quadrant สำหรับ Privileged Access Management ปี 2025 จุดเด่นคือการใช้ AI มาช่วยจัดการสิทธิ์การเข้าถึง การออกแบบที่ใช้งานง่าย และราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งในตลาด ทำให้เป็นโซลูชันที่ทั้งมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า Gartner ยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกที่นำเสนอแนวทางใหม่ ๆ ในการจัดการสิทธิ์พิเศษ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาความปลอดภัยองค์กรในยุคดิจิทัล 🔗 https://securityonline.info/one-identity-safeguard-named-a-visionary-in-the-2025-gartner-magic-quadrant-for-pam ⚙️ Quttera Launches “Evidence-as-Code” API to Automate Security Compliance for SOC 2 and PCI DSS v4.0 Quttera เปิดตัว API ใหม่ที่ช่วยให้การตรวจสอบความปลอดภัยและการเตรียมหลักฐานสำหรับการตรวจสอบมาตรฐาน SOC 2 และ PCI DSS v4.0 เป็นไปโดยอัตโนมัติ ลดภาระงานที่ต้องใช้เวลาหลายสิบชั่วโมงในการรวบรวมข้อมูลด้วยมือ ระบบใหม่นี้สามารถสร้างหลักฐานแบบเรียลไทม์และเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม GRC ได้ทันที พร้อมทั้งมี Threat Encyclopedia ที่ใช้ AI ในการอธิบายพฤติกรรมมัลแวร์และแนวทางแก้ไข ถือเป็นการเปลี่ยนการทำงานจากแบบแมนนวลไปสู่การจัดการแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ 🔗 https://securityonline.info/quttera-launches-evidence-as-code-api-to-automate-security-compliance-for-soc-2-and-pci-dss-v4-0 💰 Crypto Crisis: UPBIT Hacked for $369 Million in Solana-Based Tokens ตลาดคริปโตของเกาหลีใต้สะเทือนเมื่อ UPBIT ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุด ถูกแฮกเกอร์โจมตีและขโมยเหรียญดิจิทัลมูลค่ากว่า 369 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหรียญที่ถูกขโมยส่วนใหญ่เป็น Solana-based tokens หลังจากพบความผิดปกติ UPBIT รีบย้ายทรัพย์สินที่เหลือไปเก็บใน cold wallet และร่วมมือกับหน่วยงานรัฐเพื่อสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายเงินที่ถูกขโมย ข่าวดีคือมีบางส่วนถูกแช่แข็งไว้ได้ทัน แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของการเก็บสินทรัพย์ใน hot wallet และความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยของตลาดคริปโต 🔗 https://securityonline.info/crypto-crisis-upbit-hacked-for-369-million-in-solana-based-tokens 💻 500M PCs Stranded: Windows 11 Adoption Lags as Windows 10 Support Ends Microsoft ประกาศยุติการสนับสนุน Windows 10 อย่างเป็นทางการ ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากต้องพิจารณาการอัปเกรดไป Windows 11 แต่ปัญหาคือมีคอมพิวเตอร์กว่า 500 ล้านเครื่องที่ไม่สามารถอัปเกรดได้เพราะไม่ผ่านข้อกำหนดฮาร์ดแวร์ใหม่ แม้ Microsoft จะเปิดโปรแกรม ESU ให้ผู้ใช้ Windows 10 ยังได้รับอัปเดตความปลอดภัยต่อไปอีกหนึ่งปี แต่การย้ายไป Windows 11 กลับเป็นไปอย่างเชื่องช้า หลายคนยังคงมองว่า Windows 10 มีความเสถียรมากกว่า และไม่เห็นความจำเป็นในการซื้อเครื่องใหม่เพียงเพื่อเปลี่ยนระบบปฏิบัติการ ทำให้การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้อาจกินเวลาหลายปี ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/500m-pcs-stranded-windows-11-adoption-lags-as-windows-10-support-ends
    SECURITYONLINE.INFO
    The "Korean Leaks" Siege: Qilin & North Korea Cripple Financial Sector via MSP Hack
    Qilin & North Korean hackers launch "Korean Leaks," a massive supply chain attack on South Korea's financial sector via a compromised MSP.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • การโจมตีครั้งใหญ่ต่อ Upbit

    ตลาดคริปโตสะเทือนเมื่อ Upbit แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ถูกแฮ็กสูญเงินกว่า 30 ล้านดอลลาร์ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ Naver บริษัทเสิร์ชเอนจินยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ประกาศดีลมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อกิจการบริษัทแม่ของ Upbit

    Upbit ตรวจพบการโอนสินทรัพย์บนเครือข่าย Solana มูลค่ากว่า 44.5 พันล้านวอน (ประมาณ 30 ล้านดอลลาร์) ไปยังวอลเล็ตที่ไม่รู้จักทันทีที่เกิดการโจมตี บริษัทจึงรีบระงับการฝากและถอนทั้งหมด พร้อมย้ายสินทรัพย์ไปเก็บไว้ใน cold wallet เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม

    ดีลยักษ์ของ Naver กับ Dunamu
    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก Naver Corp. ประกาศซื้อกิจการ Dunamu บริษัทแม่ของ Upbit ด้วยมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์ ดีลนี้มีเป้าหมายเพื่อขยายธุรกิจไปสู่ คริปโตและฟินเทค พร้อมลงทุนเพิ่มกว่า 6.8 พันล้านดอลลาร์ ใน AI และบล็อกเชนภายใน 5 ปีข้างหน้า

    ผลกระทบต่อตลาดและนักลงทุน
    แม้การโจมตีครั้งนี้ถือว่าเล็กเมื่อเทียบกับการแฮ็กคริปโตที่สูญเงินระดับพันล้านดอลลาร์ในอดีต แต่การเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับดีลใหญ่ ทำให้ตลาดเกิดความกังวลต่อความมั่นคงของ Upbit และอาจส่งผลให้หุ้นของ Naver มีแรงกดดันระยะสั้น

    มุมมองเชิงบวก
    นักวิเคราะห์มองว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็น “สัญญาณเตือน” ที่ช่วยให้ Naver ตรวจสอบระบบความปลอดภัยของ Upbit ก่อนการควบรวมอย่างสมบูรณ์ หากแก้ไขได้ทันเวลา อาจช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่ใหญ่กว่านี้ในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การแฮ็ก Upbit สูญเงินกว่า 30 ล้านดอลลาร์
    โอนสินทรัพย์ Solana ไปยังวอลเล็ตไม่ทราบที่มา

    การเข้าซื้อกิจการโดย Naver
    ดีลมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์เพื่อขยายสู่คริปโตและฟินเทค

    ผลกระทบต่อตลาด
    นักลงทุนกังวลต่อความมั่นคงและราคาหุ้น Naver

    มุมมองเชิงบวก
    โอกาสในการตรวจสอบและเสริมความปลอดภัยก่อนการควบรวม

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของแพลตฟอร์มคริปโต
    หากไม่แก้ไข อาจนำไปสู่การโจมตีที่ใหญ่กว่าและสูญเงินมหาศาล

    ความไม่แน่นอนต่อดีลการเข้าซื้อ
    อาจทำให้นักลงทุนลังเลและตลาดผันผวนในระยะสั้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/south-korean-crypto-exchange-upbit-reports-usd30-million-theft-hack-discovered-hours-after-countrys-largest-search-engine-announced-usd10-billion-acquisition-of-crypto-platforms-parent-company
    💰 การโจมตีครั้งใหญ่ต่อ Upbit ตลาดคริปโตสะเทือนเมื่อ Upbit แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ถูกแฮ็กสูญเงินกว่า 30 ล้านดอลลาร์ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ Naver บริษัทเสิร์ชเอนจินยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ประกาศดีลมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อกิจการบริษัทแม่ของ Upbit Upbit ตรวจพบการโอนสินทรัพย์บนเครือข่าย Solana มูลค่ากว่า 44.5 พันล้านวอน (ประมาณ 30 ล้านดอลลาร์) ไปยังวอลเล็ตที่ไม่รู้จักทันทีที่เกิดการโจมตี บริษัทจึงรีบระงับการฝากและถอนทั้งหมด พร้อมย้ายสินทรัพย์ไปเก็บไว้ใน cold wallet เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม 🏢 ดีลยักษ์ของ Naver กับ Dunamu เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก Naver Corp. ประกาศซื้อกิจการ Dunamu บริษัทแม่ของ Upbit ด้วยมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์ ดีลนี้มีเป้าหมายเพื่อขยายธุรกิจไปสู่ คริปโตและฟินเทค พร้อมลงทุนเพิ่มกว่า 6.8 พันล้านดอลลาร์ ใน AI และบล็อกเชนภายใน 5 ปีข้างหน้า ⚠️ ผลกระทบต่อตลาดและนักลงทุน แม้การโจมตีครั้งนี้ถือว่าเล็กเมื่อเทียบกับการแฮ็กคริปโตที่สูญเงินระดับพันล้านดอลลาร์ในอดีต แต่การเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับดีลใหญ่ ทำให้ตลาดเกิดความกังวลต่อความมั่นคงของ Upbit และอาจส่งผลให้หุ้นของ Naver มีแรงกดดันระยะสั้น 🔍 มุมมองเชิงบวก นักวิเคราะห์มองว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็น “สัญญาณเตือน” ที่ช่วยให้ Naver ตรวจสอบระบบความปลอดภัยของ Upbit ก่อนการควบรวมอย่างสมบูรณ์ หากแก้ไขได้ทันเวลา อาจช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่ใหญ่กว่านี้ในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การแฮ็ก Upbit สูญเงินกว่า 30 ล้านดอลลาร์ ➡️ โอนสินทรัพย์ Solana ไปยังวอลเล็ตไม่ทราบที่มา ✅ การเข้าซื้อกิจการโดย Naver ➡️ ดีลมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์เพื่อขยายสู่คริปโตและฟินเทค ✅ ผลกระทบต่อตลาด ➡️ นักลงทุนกังวลต่อความมั่นคงและราคาหุ้น Naver ✅ มุมมองเชิงบวก ➡️ โอกาสในการตรวจสอบและเสริมความปลอดภัยก่อนการควบรวม ‼️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของแพลตฟอร์มคริปโต ⛔ หากไม่แก้ไข อาจนำไปสู่การโจมตีที่ใหญ่กว่าและสูญเงินมหาศาล ‼️ ความไม่แน่นอนต่อดีลการเข้าซื้อ ⛔ อาจทำให้นักลงทุนลังเลและตลาดผันผวนในระยะสั้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/south-korean-crypto-exchange-upbit-reports-usd30-million-theft-hack-discovered-hours-after-countrys-largest-search-engine-announced-usd10-billion-acquisition-of-crypto-platforms-parent-company
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตม.เข้ม Visa Run สกัดอาชญากรรมสีเทา

    นับตั้งแต่กลางเดือน พ.ย. 2568 เป็นต้นมา สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ได้ออกมาตรการเพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าประเทศไทยโดยใช้สิทธิ์ฟรีวีซ่า (Free Visa) เป็นเวลา 90 วัน หลังพบว่ามีช่องโหว่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในฐานะนักท่องเที่ยว แต่กลับเข้าไปทำธุรกรรมต่างๆ ส่วนหนึ่งพัวพันกับอาชญากรรมไซเบอร์ ธุรกิจสีเทา การฟอกเงิน และการค้ามนุษย์

    โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยในลักษณะวีซ่ารัน (Visa Run) หรือการใช้ฟรีวีซ่าพำนักอยู่ในประเทศไทย ครั้งละไม่เกิน 90 วัน แล้วเมื่อออกจากประเทศไม่ได้กลับประเทศภูมิลำเนา แต่กลับไปยังประเทศใกล้เคียงในระยะเวลาอันสั้น ก่อนกลับเข้าประเทศไทยโดยใช้ฟรีวีซ่า เพื่อพำนักครั้งละไม่เกิน 90 วันอีกครั้ง นับจากนี้จะจำกัดการขอวีซ่าได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น หากต้องการเข้าประเทศไทยมากกว่านี้ ต้องไปยื่นขอวีซ่าให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริง

    หากพบว่าชาวต่างชาติรายใดทำวีซ่ารันซ้ำเกินกว่า 2 ครั้ง โดยไม่มีเหตุผลที่ชี้แจงได้ ตม. จะพิจารณาปฎิเสธเข้าประเทศ แล้วให้ไปยื่นขอวีซ่าให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริง

    นอกจากนี้ ยังสกัดชาวต่างชาติที่เคยมีประวัติเคยถูกผลักดันจากชายแดนแหล่งสแกมเมอร์ หากพบว่าเดินทางเข้าประเทศไทยอีก จะถูกปฎิเสธการเข้าประเทศโดยไม่มีข้อยกเว้น รวมทั้งกำชับ ตม. ทุกจังหวัดเพิ่มความเข้มงวดในการอนุญาตให้ขออยู่ต่อเป็นการชั่วคราวสำหรับกลุ่มคนต่างด้าวที่ทำวีซ่ารันแล้วมายื่นขออยู่ต่อ และกวาดล้างชาวต่างชาติที่อยู่เกินกำหนด (Overstay) เป็นต้น

    หลังใช้มาตรการดังกล่าวเริ่มมีการปล่อยข่าวว่า ตม. จะตรวจเข้มเฉพาะชาวจีนหรือชาวต่างชาติ 16 สัญชาติ เช่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ รัสเซีย ทำให้กระทบการท่องเที่ยว พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี รองผู้บัญชาการและโฆษก สตม. กล่าวว่า เริ่มมีต่างชาติที่เสียประโยชน์ รวมถึงผู้ประกอบการบางรายที่ทำธุรกิจวีซ่ารัน ปล่อยข่าวทางโซเชียล ทำให้ต่างชาติที่เป็นนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวในไทยจริงๆ มีความกังวล โดยเฉพาะชาวจีน และนักท่องเที่ยว 16 สัญชาติ

    ยืนยันว่ามาตรการนี้เป็นการคัดแยกนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยว สร้างรายได้ให้ไทยอย่างชัดเจนมากขึ้น ซึ่งตามสถิตินักท่องเที่ยวจริงจะใช้เวลาพำนักเฉลี่ยครั้งละ 15 วัน มีแผนท่องเที่ยว มีที่พัก และวันเดินทางกลับที่ชัดเจน กลุ่มนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่อาจกระทบกับชาวต่างชาติที่ใช้วีซ่ารันแฝงเข้าไทยมานานจนเคยตัว รวมถึงผู้ประกอบการวีซ่ารันแก่ชาวต่างชาติที่เสียประโยชน์ มาตรการนี้จะใช้กับคนต่างชาติทุกสัญชาติ ไม่ใช่เฉพาะ 16 สัญชาติ

    #Newskit
    ตม.เข้ม Visa Run สกัดอาชญากรรมสีเทา นับตั้งแต่กลางเดือน พ.ย. 2568 เป็นต้นมา สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ได้ออกมาตรการเพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าประเทศไทยโดยใช้สิทธิ์ฟรีวีซ่า (Free Visa) เป็นเวลา 90 วัน หลังพบว่ามีช่องโหว่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในฐานะนักท่องเที่ยว แต่กลับเข้าไปทำธุรกรรมต่างๆ ส่วนหนึ่งพัวพันกับอาชญากรรมไซเบอร์ ธุรกิจสีเทา การฟอกเงิน และการค้ามนุษย์ โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยในลักษณะวีซ่ารัน (Visa Run) หรือการใช้ฟรีวีซ่าพำนักอยู่ในประเทศไทย ครั้งละไม่เกิน 90 วัน แล้วเมื่อออกจากประเทศไม่ได้กลับประเทศภูมิลำเนา แต่กลับไปยังประเทศใกล้เคียงในระยะเวลาอันสั้น ก่อนกลับเข้าประเทศไทยโดยใช้ฟรีวีซ่า เพื่อพำนักครั้งละไม่เกิน 90 วันอีกครั้ง นับจากนี้จะจำกัดการขอวีซ่าได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น หากต้องการเข้าประเทศไทยมากกว่านี้ ต้องไปยื่นขอวีซ่าให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริง หากพบว่าชาวต่างชาติรายใดทำวีซ่ารันซ้ำเกินกว่า 2 ครั้ง โดยไม่มีเหตุผลที่ชี้แจงได้ ตม. จะพิจารณาปฎิเสธเข้าประเทศ แล้วให้ไปยื่นขอวีซ่าให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริง นอกจากนี้ ยังสกัดชาวต่างชาติที่เคยมีประวัติเคยถูกผลักดันจากชายแดนแหล่งสแกมเมอร์ หากพบว่าเดินทางเข้าประเทศไทยอีก จะถูกปฎิเสธการเข้าประเทศโดยไม่มีข้อยกเว้น รวมทั้งกำชับ ตม. ทุกจังหวัดเพิ่มความเข้มงวดในการอนุญาตให้ขออยู่ต่อเป็นการชั่วคราวสำหรับกลุ่มคนต่างด้าวที่ทำวีซ่ารันแล้วมายื่นขออยู่ต่อ และกวาดล้างชาวต่างชาติที่อยู่เกินกำหนด (Overstay) เป็นต้น หลังใช้มาตรการดังกล่าวเริ่มมีการปล่อยข่าวว่า ตม. จะตรวจเข้มเฉพาะชาวจีนหรือชาวต่างชาติ 16 สัญชาติ เช่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ รัสเซีย ทำให้กระทบการท่องเที่ยว พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี รองผู้บัญชาการและโฆษก สตม. กล่าวว่า เริ่มมีต่างชาติที่เสียประโยชน์ รวมถึงผู้ประกอบการบางรายที่ทำธุรกิจวีซ่ารัน ปล่อยข่าวทางโซเชียล ทำให้ต่างชาติที่เป็นนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวในไทยจริงๆ มีความกังวล โดยเฉพาะชาวจีน และนักท่องเที่ยว 16 สัญชาติ ยืนยันว่ามาตรการนี้เป็นการคัดแยกนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยว สร้างรายได้ให้ไทยอย่างชัดเจนมากขึ้น ซึ่งตามสถิตินักท่องเที่ยวจริงจะใช้เวลาพำนักเฉลี่ยครั้งละ 15 วัน มีแผนท่องเที่ยว มีที่พัก และวันเดินทางกลับที่ชัดเจน กลุ่มนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่อาจกระทบกับชาวต่างชาติที่ใช้วีซ่ารันแฝงเข้าไทยมานานจนเคยตัว รวมถึงผู้ประกอบการวีซ่ารันแก่ชาวต่างชาติที่เสียประโยชน์ มาตรการนี้จะใช้กับคนต่างชาติทุกสัญชาติ ไม่ใช่เฉพาะ 16 สัญชาติ #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sora 2 ก้าวกระโดดเหนือ Sora รุ่นแรก

    OpenAI เปิดตัว Sora 2 ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งสำคัญจาก Sora รุ่นแรก โดยเพิ่มความสามารถด้าน เสียง (Audio) และปรับปรุงความสมจริงของวิดีโอที่สร้างขึ้น ทำให้ Sora 2 ถูกมองว่าเป็น “GPT-3.5 moment” ของวงการวิดีโอ AI เพราะสามารถทำสิ่งที่ก่อนหน้านี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ในโมเดลรุ่นก่อน

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Sora 2
    Audio Integration: เพิ่มเสียงพูดและเอฟเฟกต์ที่ซิงก์กับภาพได้อย่างแม่นยำ
    Improved Realism: ลดปัญหาวิดีโอที่ไม่สอดคล้องกับกฎฟิสิกส์ เช่น การเคลื่อนไหวที่ไม่สมจริง
    Cameos Feature: ผู้ใช้สามารถใส่ตัวเอง (หรือสัตว์/วัตถุ) ลงในวิดีโอที่สร้างขึ้นได้ โดยใช้การบันทึกสั้น ๆ เพื่อยืนยันตัวตน
    iOS App Integration: เปิดตัวพร้อมแอป Sora บน iOS ที่รองรับการใช้งาน Cameos

    การเปิดตัวและการเข้าถึง
    Sora 2 เปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐฯ และแคนาดาแบบ invite-only ก่อนจะขยายไปยังเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไทย, เวียดนาม และไต้หวัน ผู้ใช้ต้องเข้าร่วม waitlist บน iOS app เพื่อใช้งานฟรีในรุ่นมาตรฐาน ส่วนรุ่น Sora 2 Pro จะเปิดให้เฉพาะผู้สมัครสมาชิก ChatGPT Pro ($200/เดือน) โดยรองรับการสร้างวิดีโอคุณภาพสูงและจำนวนครั้งมากกว่า

    โครงสร้างราคาและเครดิต
    Sora 2 Standard (ฟรีสำหรับ invitees)
    วิดีโอ 10 วินาที = 10 credits (1 generation)
    วิดีโอ 15 วินาที = 20 credits (2 generations)

    Sora 2 Pro (รวมใน ChatGPT Pro)
    วิดีโอ 10 วินาที = 40 credits (4 generations)
    วิดีโอ 15 วินาที = 80 credits (8 generations)
    วิดีโอ 25 วินาที = 120 credits (12 generations)
    วิดีโอความละเอียดสูง 10–15 วินาที = 250–500 credits (25–50 generations)

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน Sora 2
    เพิ่มเสียงพูดและเอฟเฟกต์
    ปรับปรุงความสมจริงของวิดีโอ
    ฟีเจอร์ Cameos ใส่ตัวเองลงในวิดีโอ

    การเปิดตัวและการเข้าถึง
    เริ่มในสหรัฐฯ และแคนาดาแบบ invite-only
    ขยายไปยังหลายประเทศในเอเชีย
    ใช้งานฟรีในรุ่นมาตรฐานผ่าน iOS waitlist

    โครงสร้างราคาและเครดิต
    Standard: 10–20 credits ต่อวิดีโอ
    Pro: 40–500 credits ต่อวิดีโอ ขึ้นกับความยาวและความละเอียด

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    รุ่น Pro ใช้งานได้เฉพาะผู้สมัคร ChatGPT Pro ($200/เดือน)
    ระบบยังอยู่ในช่วง invite-only ไม่เปิดให้ทุกคนเข้าถึงทันที
    วิดีโอความละเอียดสูงใช้เครดิตจำนวนมาก

    https://www.slashgear.com/2031927/sora-vs-sora-2-ai-video-capabilities-explained/
    🎬 Sora 2 ก้าวกระโดดเหนือ Sora รุ่นแรก OpenAI เปิดตัว Sora 2 ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งสำคัญจาก Sora รุ่นแรก โดยเพิ่มความสามารถด้าน เสียง (Audio) และปรับปรุงความสมจริงของวิดีโอที่สร้างขึ้น ทำให้ Sora 2 ถูกมองว่าเป็น “GPT-3.5 moment” ของวงการวิดีโอ AI เพราะสามารถทำสิ่งที่ก่อนหน้านี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ในโมเดลรุ่นก่อน 🔊 ฟีเจอร์ใหม่ใน Sora 2 🎗️ Audio Integration: เพิ่มเสียงพูดและเอฟเฟกต์ที่ซิงก์กับภาพได้อย่างแม่นยำ 🎗️ Improved Realism: ลดปัญหาวิดีโอที่ไม่สอดคล้องกับกฎฟิสิกส์ เช่น การเคลื่อนไหวที่ไม่สมจริง 🎗️ Cameos Feature: ผู้ใช้สามารถใส่ตัวเอง (หรือสัตว์/วัตถุ) ลงในวิดีโอที่สร้างขึ้นได้ โดยใช้การบันทึกสั้น ๆ เพื่อยืนยันตัวตน 🎗️ iOS App Integration: เปิดตัวพร้อมแอป Sora บน iOS ที่รองรับการใช้งาน Cameos 🌍 การเปิดตัวและการเข้าถึง Sora 2 เปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐฯ และแคนาดาแบบ invite-only ก่อนจะขยายไปยังเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไทย, เวียดนาม และไต้หวัน ผู้ใช้ต้องเข้าร่วม waitlist บน iOS app เพื่อใช้งานฟรีในรุ่นมาตรฐาน ส่วนรุ่น Sora 2 Pro จะเปิดให้เฉพาะผู้สมัครสมาชิก ChatGPT Pro ($200/เดือน) โดยรองรับการสร้างวิดีโอคุณภาพสูงและจำนวนครั้งมากกว่า 💰 โครงสร้างราคาและเครดิต ⭐ Sora 2 Standard (ฟรีสำหรับ invitees) ➡️ วิดีโอ 10 วินาที = 10 credits (1 generation) ➡️ วิดีโอ 15 วินาที = 20 credits (2 generations) ⭐ Sora 2 Pro (รวมใน ChatGPT Pro) ➡️ วิดีโอ 10 วินาที = 40 credits (4 generations) ➡️ วิดีโอ 15 วินาที = 80 credits (8 generations) ➡️ วิดีโอ 25 วินาที = 120 credits (12 generations) ➡️ วิดีโอความละเอียดสูง 10–15 วินาที = 250–500 credits (25–50 generations) 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Sora 2 ➡️ เพิ่มเสียงพูดและเอฟเฟกต์ ➡️ ปรับปรุงความสมจริงของวิดีโอ ➡️ ฟีเจอร์ Cameos ใส่ตัวเองลงในวิดีโอ ✅ การเปิดตัวและการเข้าถึง ➡️ เริ่มในสหรัฐฯ และแคนาดาแบบ invite-only ➡️ ขยายไปยังหลายประเทศในเอเชีย ➡️ ใช้งานฟรีในรุ่นมาตรฐานผ่าน iOS waitlist ✅ โครงสร้างราคาและเครดิต ➡️ Standard: 10–20 credits ต่อวิดีโอ ➡️ Pro: 40–500 credits ต่อวิดีโอ ขึ้นกับความยาวและความละเอียด ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ รุ่น Pro ใช้งานได้เฉพาะผู้สมัคร ChatGPT Pro ($200/เดือน) ⛔ ระบบยังอยู่ในช่วง invite-only ไม่เปิดให้ทุกคนเข้าถึงทันที ⛔ วิดีโอความละเอียดสูงใช้เครดิตจำนวนมาก https://www.slashgear.com/2031927/sora-vs-sora-2-ai-video-capabilities-explained/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Sora Vs Sora 2: Here's What OpenAI's Newest Video Model Can Do - SlashGear
    OpenAI's video generator, Sora, has rapidly grown in popularity since it's release, but now, users can access the newest model. Here's what you need to know.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • สั่งลบข้อมูล 1.2 ล้านราย สแกนม่านตาแลกเหรียญ

    ในช่วงกลางปี 2568 มีประชาชนจำนวนมาก รวมตัวกันที่ร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์รายใหญ่นับร้อยแห่ง เพื่อรอคิวสแกนม่านตา แล้วจะได้รับเหรียญคริปโทเคอเรนซีที่ชื่อว่า เวิลด์คอยน์ เพื่อแลกเป็นเงินสด หรือเพื่อเก็งกำไรและใช้แลกเปลี่ยนระหว่างกัน บางคนบอกว่าสแกนเสร็จแล้วจะได้รับเงินโอนประมาณ 500-1,000 บาท กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องความเสี่ยงด้านข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากยังไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมทั้งกรมการปกครองไม่มีนโยบายให้ประชาชนสแกนม่านตา เกรงว่าอาจกลายเป็นการหลอกลวงประชาชน

    ที่สุดแล้ว เมื่อวันที่ 24 พ.ย. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) มีคำสั่งทางปกครองให้ World ประเทศไทย และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ระงับหรืองดสแกนม่านตา เพื่อรับเหรียญคริปโทเคอเรนซีเพิ่มเติมโดยทันที และรายงานผลการดำเนินการแก่ สคส.ภายใน 7 วัน หลังจากตรวจสอบพบว่าใช้วิธีแจกเหรียญคริปโทฯ จูงใจประชาชน เพื่อแลกกับความยินยอมเก็บรวบรวมข้อมูลม่านตา ซึ่งไม่เป็นไปโดยอิสระตามที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งผู้ที่เคยสแกนม่านตาไปแล้ว ไม่สามารถสแกนซ้ำได้ จึงเกินขอบเขตวัตถุประสงค์ที่ขอความยินยอมเพื่อยืนยันความเป็นมนุษย์เท่านั้น

    อีกทั้งสั่งให้ลบทำลายข้อมูลม่านตา และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องของประชาชน 1.2 ล้านคนทั้งหมด เพื่อป้องกันการโอนย้ายถ่ายเทข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปยังต่างประเทศ โดยไม่ถูกกฎหมาย นอกจากนี้ ยังให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และหน่วยงานอื่นๆ ตรวจสอบประเด็นที่น่าสงสัยอื่นๆ เช่น กรณีมีขบวนการจ้างคนมาสแกนม่านตาแลกเหรียญ เพื่อนำไปให้บุคคคอื่นใช้ ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต.และตำรวจไซเบอร์ตรวจพบ และจับกุมผู้รับแลกเหรียญดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาตมาแล้วหลายราย และพบว่าประเทศอื่นมีคำสั่งระงับชัดเจน 5 ประเทศ ได้แก่ เยอรมนี สเปน เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย และบราซิล

    ด้าน World ประเทศไทย ชี้แจงว่าได้ระงับกระบวนการยืนยันความเป็นมนุษย์จริงในประเทศไทยชั่วคราว แม้ได้ให้ข้อมูลและความร่วมมือกับหน่วยงานกํากับดูแลอย่างเปิดเผย โปร่งใส และตรงไปตรงมาในทุกขั้นตอน ซึ่งยังคงหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในไทยอย่างใกล้ชิด รวมถึงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ สคส. เพื่อร่วมกันกําหนดแนวทางดําเนินงานที่เหมาะสมและยั่งยืนต่อไป ขณะที่สมาชิกที่เคยสแกนม่านตาไปแล้วบางส่วน ออกมาคัดค้านการสั่งลบข้อมูลแบบเหมาเข่ง อ้างว่ามีเพียง IrisCode และภาพถ่ายใบหน้าเท่านั้น และเกรงว่าจะกระทบกับเวิลด์คอยน์ที่ตนเองมีอยู่

    #Newskit
    สั่งลบข้อมูล 1.2 ล้านราย สแกนม่านตาแลกเหรียญ ในช่วงกลางปี 2568 มีประชาชนจำนวนมาก รวมตัวกันที่ร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์รายใหญ่นับร้อยแห่ง เพื่อรอคิวสแกนม่านตา แล้วจะได้รับเหรียญคริปโทเคอเรนซีที่ชื่อว่า เวิลด์คอยน์ เพื่อแลกเป็นเงินสด หรือเพื่อเก็งกำไรและใช้แลกเปลี่ยนระหว่างกัน บางคนบอกว่าสแกนเสร็จแล้วจะได้รับเงินโอนประมาณ 500-1,000 บาท กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องความเสี่ยงด้านข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากยังไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมทั้งกรมการปกครองไม่มีนโยบายให้ประชาชนสแกนม่านตา เกรงว่าอาจกลายเป็นการหลอกลวงประชาชน ที่สุดแล้ว เมื่อวันที่ 24 พ.ย. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) มีคำสั่งทางปกครองให้ World ประเทศไทย และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ระงับหรืองดสแกนม่านตา เพื่อรับเหรียญคริปโทเคอเรนซีเพิ่มเติมโดยทันที และรายงานผลการดำเนินการแก่ สคส.ภายใน 7 วัน หลังจากตรวจสอบพบว่าใช้วิธีแจกเหรียญคริปโทฯ จูงใจประชาชน เพื่อแลกกับความยินยอมเก็บรวบรวมข้อมูลม่านตา ซึ่งไม่เป็นไปโดยอิสระตามที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งผู้ที่เคยสแกนม่านตาไปแล้ว ไม่สามารถสแกนซ้ำได้ จึงเกินขอบเขตวัตถุประสงค์ที่ขอความยินยอมเพื่อยืนยันความเป็นมนุษย์เท่านั้น อีกทั้งสั่งให้ลบทำลายข้อมูลม่านตา และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องของประชาชน 1.2 ล้านคนทั้งหมด เพื่อป้องกันการโอนย้ายถ่ายเทข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปยังต่างประเทศ โดยไม่ถูกกฎหมาย นอกจากนี้ ยังให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และหน่วยงานอื่นๆ ตรวจสอบประเด็นที่น่าสงสัยอื่นๆ เช่น กรณีมีขบวนการจ้างคนมาสแกนม่านตาแลกเหรียญ เพื่อนำไปให้บุคคคอื่นใช้ ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต.และตำรวจไซเบอร์ตรวจพบ และจับกุมผู้รับแลกเหรียญดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาตมาแล้วหลายราย และพบว่าประเทศอื่นมีคำสั่งระงับชัดเจน 5 ประเทศ ได้แก่ เยอรมนี สเปน เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย และบราซิล ด้าน World ประเทศไทย ชี้แจงว่าได้ระงับกระบวนการยืนยันความเป็นมนุษย์จริงในประเทศไทยชั่วคราว แม้ได้ให้ข้อมูลและความร่วมมือกับหน่วยงานกํากับดูแลอย่างเปิดเผย โปร่งใส และตรงไปตรงมาในทุกขั้นตอน ซึ่งยังคงหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในไทยอย่างใกล้ชิด รวมถึงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ สคส. เพื่อร่วมกันกําหนดแนวทางดําเนินงานที่เหมาะสมและยั่งยืนต่อไป ขณะที่สมาชิกที่เคยสแกนม่านตาไปแล้วบางส่วน ออกมาคัดค้านการสั่งลบข้อมูลแบบเหมาเข่ง อ้างว่ามีเพียง IrisCode และภาพถ่ายใบหน้าเท่านั้น และเกรงว่าจะกระทบกับเวิลด์คอยน์ที่ตนเองมีอยู่ #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 440 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เกาหลีใต้ชี้มีช่องทางร่วมมือกับไต้หวันเรื่องภาษีชิปสหรัฐฯ"

    รัฐมนตรีการค้าของเกาหลีใต้ Yeo Han-koo กล่าวว่ามีพื้นที่สำหรับความร่วมมือกับไต้หวันในการเจรจาภาษีชิปกับสหรัฐฯ เนื่องจากทั้งสองประเทศต่างอยู่ในสถานะที่ต้องการเงื่อนไขที่เป็นธรรมและไม่เสียเปรียบในการแข่งขัน เขาย้ำว่าไต้หวันเองก็กำลังเจรจากับสหรัฐฯ และการร่วมมือกันอาจทำให้ทั้งสองฝ่ายได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

    ข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ
    เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2025 เกาหลีใต้ได้บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ เพื่อลดภาษีชิป โดยแลกกับการลงทุนจำนวนมากในภาคส่วนยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ข้อตกลงนี้ระบุว่า ภาษีชิปของเกาหลีใต้จะไม่เสียเปรียบกว่าเงื่อนไขที่สหรัฐฯ อาจให้กับประเทศอื่นในอนาคต ซึ่งหมายถึงการป้องกันไม่ให้ไต้หวันได้รับสิทธิพิเศษที่เหนือกว่า

    ผลกระทบต่อการส่งออกและตลาดโลก
    ข้อมูลศุลกากรเผยว่า การส่งออกชิปของเกาหลีใต้ไปยังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่า 51% ในเดือนตุลาคม 2025 คิดเป็นมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากความต้องการชิปขั้นสูงที่ใช้ใน AI และเทคโนโลยีใหม่ ๆ การเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของตลาดสหรัฐฯ ต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของเกาหลีใต้ และทำให้การเจรจาภาษีมีความสำคัญยิ่งขึ้น

    มิติทางการเมืองและเศรษฐกิจ
    แม้สหรัฐฯ จะประกาศนโยบายภาษีชิปเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ แต่ก็มีรายงานว่ารัฐบาลอาจชะลอการบังคับใช้ภาษีดังกล่าว ซึ่งอาจส่งผลต่อกลยุทธ์ของทั้งเกาหลีใต้และไต้หวัน การร่วมมือกันของสองประเทศเอเชียตะวันออกนี้จึงถูกมองว่าเป็นการสร้างพันธมิตรเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก และลดความเสี่ยงจากการถูกกีดกันทางการค้า

    สรุปสาระสำคัญ
    ท่าทีของเกาหลีใต้
    เห็นโอกาสร่วมมือกับไต้หวันในการเจรจาภาษีชิปกับสหรัฐฯ
    ต้องการเงื่อนไขที่เป็นธรรมและไม่เสียเปรียบในการแข่งขัน

    ข้อตกลงกับสหรัฐฯ
    เกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงลดภาษีชิป แลกกับการลงทุนในสหรัฐฯ
    ภาษีชิปของเกาหลีใต้จะไม่เสียเปรียบกว่าเงื่อนไขที่ประเทศอื่นได้รับ

    ผลกระทบต่อการส่งออก
    การส่งออกชิปไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 51% ในเดือนตุลาคม 2025
    ความต้องการชิปขั้นสูงสำหรับ AI และเทคโนโลยีใหม่เป็นตัวขับเคลื่อน

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีสหรัฐฯ อาจส่งผลต่อกลยุทธ์การค้า
    การแข่งขันระหว่างเกาหลีใต้และไต้หวันยังคงเป็นความเสี่ยง แม้มีแนวโน้มร่วมมือกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/24/south-korea-sees-room-for-cooperation-with-taiwan-on-us-chip-tariffs-trade-minister-says
    📰 "เกาหลีใต้ชี้มีช่องทางร่วมมือกับไต้หวันเรื่องภาษีชิปสหรัฐฯ" รัฐมนตรีการค้าของเกาหลีใต้ Yeo Han-koo กล่าวว่ามีพื้นที่สำหรับความร่วมมือกับไต้หวันในการเจรจาภาษีชิปกับสหรัฐฯ เนื่องจากทั้งสองประเทศต่างอยู่ในสถานะที่ต้องการเงื่อนไขที่เป็นธรรมและไม่เสียเปรียบในการแข่งขัน เขาย้ำว่าไต้หวันเองก็กำลังเจรจากับสหรัฐฯ และการร่วมมือกันอาจทำให้ทั้งสองฝ่ายได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า 💼 ข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2025 เกาหลีใต้ได้บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ เพื่อลดภาษีชิป โดยแลกกับการลงทุนจำนวนมากในภาคส่วนยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ข้อตกลงนี้ระบุว่า ภาษีชิปของเกาหลีใต้จะไม่เสียเปรียบกว่าเงื่อนไขที่สหรัฐฯ อาจให้กับประเทศอื่นในอนาคต ซึ่งหมายถึงการป้องกันไม่ให้ไต้หวันได้รับสิทธิพิเศษที่เหนือกว่า 📈 ผลกระทบต่อการส่งออกและตลาดโลก ข้อมูลศุลกากรเผยว่า การส่งออกชิปของเกาหลีใต้ไปยังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่า 51% ในเดือนตุลาคม 2025 คิดเป็นมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากความต้องการชิปขั้นสูงที่ใช้ใน AI และเทคโนโลยีใหม่ ๆ การเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของตลาดสหรัฐฯ ต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของเกาหลีใต้ และทำให้การเจรจาภาษีมีความสำคัญยิ่งขึ้น 🌍 มิติทางการเมืองและเศรษฐกิจ แม้สหรัฐฯ จะประกาศนโยบายภาษีชิปเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ แต่ก็มีรายงานว่ารัฐบาลอาจชะลอการบังคับใช้ภาษีดังกล่าว ซึ่งอาจส่งผลต่อกลยุทธ์ของทั้งเกาหลีใต้และไต้หวัน การร่วมมือกันของสองประเทศเอเชียตะวันออกนี้จึงถูกมองว่าเป็นการสร้างพันธมิตรเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก และลดความเสี่ยงจากการถูกกีดกันทางการค้า 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ท่าทีของเกาหลีใต้ ➡️ เห็นโอกาสร่วมมือกับไต้หวันในการเจรจาภาษีชิปกับสหรัฐฯ ➡️ ต้องการเงื่อนไขที่เป็นธรรมและไม่เสียเปรียบในการแข่งขัน ✅ ข้อตกลงกับสหรัฐฯ ➡️ เกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงลดภาษีชิป แลกกับการลงทุนในสหรัฐฯ ➡️ ภาษีชิปของเกาหลีใต้จะไม่เสียเปรียบกว่าเงื่อนไขที่ประเทศอื่นได้รับ ✅ ผลกระทบต่อการส่งออก ➡️ การส่งออกชิปไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 51% ในเดือนตุลาคม 2025 ➡️ ความต้องการชิปขั้นสูงสำหรับ AI และเทคโนโลยีใหม่เป็นตัวขับเคลื่อน ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีสหรัฐฯ อาจส่งผลต่อกลยุทธ์การค้า ⛔ การแข่งขันระหว่างเกาหลีใต้และไต้หวันยังคงเป็นความเสี่ยง แม้มีแนวโน้มร่วมมือกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/24/south-korea-sees-room-for-cooperation-with-taiwan-on-us-chip-tariffs-trade-minister-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    South Korea sees room for cooperation with Taiwan on US chip tariffs, trade minister says
    SEOUL (Reuters) -South Korea sees room for cooperation with Taiwan on U.S. President Donald Trump's tariffs on chips, the country's trade minister said on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • Trojanized VPN Installer ปล่อย Backdoor NKNShell

    นักวิจัยจาก AhnLab SEcurity Intelligence Center (ASEC) พบการโจมตีใหม่ที่ใช้ ตัวติดตั้ง VPN ปลอม ซึ่งถูกฝังมัลแวร์หลายชนิด โดยเฉพาะ NKNShell ที่เขียนด้วยภาษา Go และมีความสามารถขั้นสูงในการติดต่อกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน P2P Blockchain-style networking และ MQTT (โปรโตคอล IoT) ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก

    เมื่อผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งจากเว็บไซต์ที่ถูกแฮก ตัวติดตั้งจะทำงานเหมือนปกติ แต่เบื้องหลังจะรัน PowerShell script เพื่อดาวน์โหลด payload เพิ่มเติม เช่น MeshAgent, gs-netcat และ SQLMap malware โดยมีการใช้เทคนิค AMSI bypass, UAC bypass และ WMI persistence เพื่อให้มัลแวร์อยู่รอดแม้รีบูตเครื่องใหม่

    เทคนิคการซ่อนตัวที่ล้ำสมัย
    NKNShell ใช้ NKN (New Kind of Network) ซึ่งเป็นโปรโตคอล P2P แบบกระจายศูนย์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Blockchain ร่วมกับ MQTT ที่นิยมใช้ในอุปกรณ์ IoT เพื่อส่งข้อมูลระบบไปยังผู้โจมตีผ่าน broker สาธารณะ เช่น broker.emqx.io และ broker.mosquitto.org วิธีนี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถดึงข้อมูลจากเครื่องที่ติดเชื้อได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อโดยตรง

    นอกจากนี้ NKNShell ยังมีชุดคำสั่งที่กว้างมาก เช่น การอัปโหลด/ดาวน์โหลดไฟล์, การขโมย token, DLL sideloading, DDoS, การฉีดโค้ด, การจับภาพหน้าจอ และการรัน PowerShell/Python ซึ่งทำให้มันเป็น backdoor ที่ทรงพลังและยืดหยุ่นสูง

    ภัยคุกคามต่อผู้ใช้ VPN และองค์กร
    กลุ่มผู้โจมตีที่ถูกติดตามในชื่อ Larva-24010 มีประวัติการโจมตีผู้ใช้ VPN ในเกาหลีใต้มาตั้งแต่ปี 2023 และยังคงพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้มีหลักฐานว่าใช้ Generative AI ในการสร้างสคริปต์ PowerShell ที่ซับซ้อนขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอาชญากรไซเบอร์กำลังใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการโจมตี

    นี่เป็นสัญญาณเตือนว่า การดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จากแหล่งที่ไม่ปลอดภัย แม้จะดูเหมือนเป็นของจริง ก็อาจนำไปสู่การติดมัลแวร์ขั้นร้ายแรงที่ยากต่อการตรวจจับและกำจัด

    สรุปสาระสำคัญ
    การโจมตีผ่านตัวติดตั้ง VPN ปลอม
    ฝัง NKNShell และมัลแวร์อื่น ๆ เช่น MeshAgent, gs-netcat, SQLMap
    ใช้ PowerShell script พร้อม AMSI bypass และ WMI persistence

    คุณสมบัติของ NKNShell
    ใช้ P2P Blockchain (NKN) และ MQTT protocol ในการสื่อสาร
    มีคำสั่งหลากหลาย: อัปโหลดไฟล์, ขโมย token, DDoS, screenshot, code injection

    กลุ่มผู้โจมตี Larva-24010
    มีประวัติการโจมตี VPN provider ในเกาหลีใต้ตั้งแต่ปี 2023
    ใช้ Generative AI สร้างสคริปต์เพื่อเพิ่มความซับซ้อน

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ VPN
    หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    ตรวจสอบลายเซ็นดิจิทัลของไฟล์ก่อนติดตั้ง
    อัปเดตระบบรักษาความปลอดภัยและใช้เครื่องมือ EDR/AV ที่ทันสมัย

    https://securityonline.info/trojanized-vpn-installer-deploys-nknshell-backdoor-using-p2p-blockchain-and-mqtt-protocols-for-covert-c2/
    🕵️‍♂️ Trojanized VPN Installer ปล่อย Backdoor NKNShell นักวิจัยจาก AhnLab SEcurity Intelligence Center (ASEC) พบการโจมตีใหม่ที่ใช้ ตัวติดตั้ง VPN ปลอม ซึ่งถูกฝังมัลแวร์หลายชนิด โดยเฉพาะ NKNShell ที่เขียนด้วยภาษา Go และมีความสามารถขั้นสูงในการติดต่อกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน P2P Blockchain-style networking และ MQTT (โปรโตคอล IoT) ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก เมื่อผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งจากเว็บไซต์ที่ถูกแฮก ตัวติดตั้งจะทำงานเหมือนปกติ แต่เบื้องหลังจะรัน PowerShell script เพื่อดาวน์โหลด payload เพิ่มเติม เช่น MeshAgent, gs-netcat และ SQLMap malware โดยมีการใช้เทคนิค AMSI bypass, UAC bypass และ WMI persistence เพื่อให้มัลแวร์อยู่รอดแม้รีบูตเครื่องใหม่ 🌐 เทคนิคการซ่อนตัวที่ล้ำสมัย NKNShell ใช้ NKN (New Kind of Network) ซึ่งเป็นโปรโตคอล P2P แบบกระจายศูนย์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Blockchain ร่วมกับ MQTT ที่นิยมใช้ในอุปกรณ์ IoT เพื่อส่งข้อมูลระบบไปยังผู้โจมตีผ่าน broker สาธารณะ เช่น broker.emqx.io และ broker.mosquitto.org วิธีนี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถดึงข้อมูลจากเครื่องที่ติดเชื้อได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อโดยตรง นอกจากนี้ NKNShell ยังมีชุดคำสั่งที่กว้างมาก เช่น การอัปโหลด/ดาวน์โหลดไฟล์, การขโมย token, DLL sideloading, DDoS, การฉีดโค้ด, การจับภาพหน้าจอ และการรัน PowerShell/Python ซึ่งทำให้มันเป็น backdoor ที่ทรงพลังและยืดหยุ่นสูง ⚠️ ภัยคุกคามต่อผู้ใช้ VPN และองค์กร กลุ่มผู้โจมตีที่ถูกติดตามในชื่อ Larva-24010 มีประวัติการโจมตีผู้ใช้ VPN ในเกาหลีใต้มาตั้งแต่ปี 2023 และยังคงพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้มีหลักฐานว่าใช้ Generative AI ในการสร้างสคริปต์ PowerShell ที่ซับซ้อนขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอาชญากรไซเบอร์กำลังใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการโจมตี นี่เป็นสัญญาณเตือนว่า การดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จากแหล่งที่ไม่ปลอดภัย แม้จะดูเหมือนเป็นของจริง ก็อาจนำไปสู่การติดมัลแวร์ขั้นร้ายแรงที่ยากต่อการตรวจจับและกำจัด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การโจมตีผ่านตัวติดตั้ง VPN ปลอม ➡️ ฝัง NKNShell และมัลแวร์อื่น ๆ เช่น MeshAgent, gs-netcat, SQLMap ➡️ ใช้ PowerShell script พร้อม AMSI bypass และ WMI persistence ✅ คุณสมบัติของ NKNShell ➡️ ใช้ P2P Blockchain (NKN) และ MQTT protocol ในการสื่อสาร ➡️ มีคำสั่งหลากหลาย: อัปโหลดไฟล์, ขโมย token, DDoS, screenshot, code injection ✅ กลุ่มผู้โจมตี Larva-24010 ➡️ มีประวัติการโจมตี VPN provider ในเกาหลีใต้ตั้งแต่ปี 2023 ➡️ ใช้ Generative AI สร้างสคริปต์เพื่อเพิ่มความซับซ้อน ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ VPN ⛔ หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ⛔ ตรวจสอบลายเซ็นดิจิทัลของไฟล์ก่อนติดตั้ง ⛔ อัปเดตระบบรักษาความปลอดภัยและใช้เครื่องมือ EDR/AV ที่ทันสมัย https://securityonline.info/trojanized-vpn-installer-deploys-nknshell-backdoor-using-p2p-blockchain-and-mqtt-protocols-for-covert-c2/
    SECURITYONLINE.INFO
    Trojanized VPN Installer Deploys NKNShell Backdoor, Using P2P Blockchain and MQTT Protocols for Covert C2
    ASEC exposed a VPN supply chain attack deploying NKNShell, a Go-based backdoor that uses P2P NKN and MQTT for stealthy C2. The installer bypasses AMSI using AI-generated code and grants full remote access (MeshAgent, gs-netcat).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจาก TechRadar ประจำวัน 🩷
    #20251118 #techradar

    Google เปิดตัว AI พยากรณ์อากาศใหม่ WeatherNext 2
    Google พัฒนาโมเดล AI ชื่อ WeatherNext 2 ที่สามารถคาดการณ์สภาพอากาศได้เร็วและแม่นยำกว่าระบบเดิมถึง 8 เท่า ภายในเวลาไม่ถึงนาที AI นี้ไม่ได้ให้แค่ผลลัพธ์เดียว แต่สร้าง “หลายความเป็นไปได้” ของสภาพอากาศ ทำให้ผู้ใช้เห็นภาพรวมว่ามีโอกาสเกิดอะไรบ้าง เช่น ฝนตกหรือแดดออกในช่วงเวลาใด นอกจากนี้ยังถูกนำไปใช้ใน Google Search, Pixel Weather และ Google Maps เพื่อช่วยให้การวางแผนชีวิตประจำวันและการจัดการพลังงานหมุนเวียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    OWC Helios 5S: เพิ่มพลังให้ Mac เล็ก ๆ ด้วย Thunderbolt 5
    OWC เปิดตัว Helios 5S กล่องขยาย PCIe สำหรับเครื่อง Mac ขนาดเล็กที่ใช้ Thunderbolt 5 ความเร็วสูงถึง 80Gb/s ทำให้สามารถต่อการ์ด PCIe 4.0 และอุปกรณ์เสริมความเร็วสูงได้เต็มประสิทธิภาพ รองรับจอ 8K ได้ถึง 3 จอ เหมาะสำหรับงานสร้างสรรค์ที่ต้องการพลังการประมวลผลมากขึ้น แม้จะไม่รองรับ GPU ที่ใช้พลังงานสูง แต่ก็ถือเป็นการยกระดับเครื่องเล็กให้ใกล้เคียงเวิร์กสเตชัน

    Samsung ขยาย “The Wall” จอ LED ยักษ์สำหรับองค์กร
    Samsung เปิดตัวรุ่นใหม่ของ The Wall จอ LED ขนาดมหึมาที่ออกแบบมาเพื่อสำนักงานและพื้นที่ธุรกิจ ใช้ชิปประมวลผล AI Gen2 ที่ช่วยปรับภาพให้คมชัด ลดสัญญาณรบกวน และอัปสเกลภาพให้ใกล้เคียง 8K จุดเด่นคือความสว่างสูงถึง 1,000 nits และเทคโนโลยี Black Seal ที่ทำให้สีดำลึกขึ้น เหมาะกับการใช้งานในห้องประชุมใหญ่หรือพื้นที่ที่ต้องการภาพคมชัดต่อเนื่อง

    สัมภาษณ์พิเศษ Sundar Pichai: Running The Google Empire
    BBC จัดสัมภาษณ์พิเศษกับ Sundar Pichai CEO ของ Google ที่พูดถึงการนำบริษัทผ่านยุค AI ที่กำลังเปลี่ยนโลก เขาเล่าถึงความท้าทายของการลงทุนมหาศาลใน AI ผลกระทบต่อการจ้างงาน และบทบาทของ Google ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รายการนี้สามารถรับชมฟรีผ่าน BBC iPlayer

    Amazon พบการโจมตี npm ครั้งใหญ่กว่า 150,000 แพ็กเกจ
    นักวิจัยจาก Amazon ตรวจพบการแพร่กระจายแพ็กเกจ npm กว่า 150,000 ตัว ที่ถูกใช้ในแผนการหลอกลวงเพื่อสร้างรายได้จากโทเคน TEA แม้แพ็กเกจเหล่านี้จะไม่ขโมยข้อมูลโดยตรง แต่มีพฤติกรรม “self-replicating” และอาจถูกเปลี่ยนให้เป็นอันตรายได้ เหตุการณ์นี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในการโจมตีซัพพลายเชนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โอเพ่นซอร์ส

    OpenAI ทดลองให้ ChatGPT เข้าร่วมแชทกลุ่ม
    OpenAI เปิดฟีเจอร์ใหม่ให้ ChatGPT เข้าร่วมการสนทนาแบบกลุ่ม โดย AI จะเลือกเองว่าจะตอบเมื่อใด หรือผู้ใช้สามารถเรียกด้วยการแท็ก ฟีเจอร์นี้กำลังทดสอบในญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน รองรับผู้เข้าร่วมสูงสุด 20 คน จุดประสงค์คือช่วยให้การระดมสมองและวางแผนร่วมกันสะดวกขึ้น

    Google AI ช่วยวางแผนทริปได้ครบวงจร
    Google เปิดตัวเครื่องมือ AI สำหรับการท่องเที่ยว 3 อย่าง ได้แก่
    Canvas for Travel: สร้างแผนการเดินทางแบบกำหนดเอง
    Flight Deals: ค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกทั่วโลก
    Agentic Booking: จองร้านอาหารและกิจกรรมได้โดยตรงจาก Search ทั้งหมดนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการเปิดหลายแท็บและเปรียบเทียบข้อมูล ทำให้การวางแผนทริปง่ายขึ้นมาก

    แฮกเกอร์เกาหลีเหนือใช้ JSON ซ่อนมัลแวร์
    กลุ่ม Lazarus จากเกาหลีเหนือถูกพบว่าใช้บริการเก็บข้อมูล JSON เช่น JSON Keeper และ JSON Silo เพื่อซ่อนมัลแวร์ในแคมเปญ “Contagious Interview” โดยหลอกนักพัฒนาซอฟต์แวร์ผ่าน LinkedIn ให้ดาวน์โหลดโปรเจกต์ที่แฝงโค้ดอันตราย มัลแวร์เหล่านี้สามารถขโมยข้อมูล กระเป๋าเงินคริปโต และใช้เครื่องเหยื่อขุดเหรียญ Monero ได้

    Logitech ยืนยันถูกเจาะระบบ แต่ยังไม่รู้ข้อมูลที่หายไป
    Logitech รายงานการถูกโจมตีไซเบอร์ผ่านช่องโหว่ zero-day ของซอฟต์แวร์ภายนอก โดยกลุ่ม Cl0p ransomware อ้างว่าขโมยข้อมูลไปกว่า 1.8TB แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลที่สูญหาย “น่าจะมีเพียงบางส่วน” ของพนักงานและลูกค้า แต่ยังไม่แน่ชัดว่ามีข้อมูลสำคัญรั่วไหลหรือไม่

    LinkedIn เพิ่มฟีเจอร์ค้นหาคนด้วย AI
    LinkedIn เปิดตัวระบบค้นหาคนด้วย AI ที่ช่วยให้ผู้ใช้พิมพ์คำอธิบายเชิงธรรมชาติ เช่น “นักลงทุนด้านสุขภาพที่มีประสบการณ์ FDA” โดยไม่ต้องกรองด้วยตำแหน่งงานแบบเดิม ฟีเจอร์นี้เริ่มให้บริการกับผู้ใช้ Premium ในสหรัฐฯ ก่อน และจะขยายไปทั่วโลกในอนาคต

    ศาลสหราชอาณาจักรตัดสิน Microsoft แพ้คดีห้ามขายต่อไลเซนส์
    ศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักรตัดสินว่า Microsoft ไม่สามารถห้ามลูกค้าขายต่อไลเซนส์ซอฟต์แวร์แบบถาวรได้ บริษัท ValueLicensing ซึ่งเป็นคู่กรณีสามารถดำเนินธุรกิจขายต่อไลเซนส์ต่อไป และยังมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายกว่า 270 ล้านปอนด์จาก Microsoft ขณะที่ Microsoft เตรียมอุทธรณ์ต่อ

    ไปตามเจาะข่าวกันได้ที่ : https://www.techradar.com/
    📌🪛🩷 รวมข่าวจาก TechRadar ประจำวัน 🩷🪛📌 #20251118 #techradar 🌦️ Google เปิดตัว AI พยากรณ์อากาศใหม่ WeatherNext 2 Google พัฒนาโมเดล AI ชื่อ WeatherNext 2 ที่สามารถคาดการณ์สภาพอากาศได้เร็วและแม่นยำกว่าระบบเดิมถึง 8 เท่า ภายในเวลาไม่ถึงนาที AI นี้ไม่ได้ให้แค่ผลลัพธ์เดียว แต่สร้าง “หลายความเป็นไปได้” ของสภาพอากาศ ทำให้ผู้ใช้เห็นภาพรวมว่ามีโอกาสเกิดอะไรบ้าง เช่น ฝนตกหรือแดดออกในช่วงเวลาใด นอกจากนี้ยังถูกนำไปใช้ใน Google Search, Pixel Weather และ Google Maps เพื่อช่วยให้การวางแผนชีวิตประจำวันและการจัดการพลังงานหมุนเวียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ⚡ OWC Helios 5S: เพิ่มพลังให้ Mac เล็ก ๆ ด้วย Thunderbolt 5 OWC เปิดตัว Helios 5S กล่องขยาย PCIe สำหรับเครื่อง Mac ขนาดเล็กที่ใช้ Thunderbolt 5 ความเร็วสูงถึง 80Gb/s ทำให้สามารถต่อการ์ด PCIe 4.0 และอุปกรณ์เสริมความเร็วสูงได้เต็มประสิทธิภาพ รองรับจอ 8K ได้ถึง 3 จอ เหมาะสำหรับงานสร้างสรรค์ที่ต้องการพลังการประมวลผลมากขึ้น แม้จะไม่รองรับ GPU ที่ใช้พลังงานสูง แต่ก็ถือเป็นการยกระดับเครื่องเล็กให้ใกล้เคียงเวิร์กสเตชัน 🖥️ Samsung ขยาย “The Wall” จอ LED ยักษ์สำหรับองค์กร Samsung เปิดตัวรุ่นใหม่ของ The Wall จอ LED ขนาดมหึมาที่ออกแบบมาเพื่อสำนักงานและพื้นที่ธุรกิจ ใช้ชิปประมวลผล AI Gen2 ที่ช่วยปรับภาพให้คมชัด ลดสัญญาณรบกวน และอัปสเกลภาพให้ใกล้เคียง 8K จุดเด่นคือความสว่างสูงถึง 1,000 nits และเทคโนโลยี Black Seal ที่ทำให้สีดำลึกขึ้น เหมาะกับการใช้งานในห้องประชุมใหญ่หรือพื้นที่ที่ต้องการภาพคมชัดต่อเนื่อง 🎤 สัมภาษณ์พิเศษ Sundar Pichai: Running The Google Empire BBC จัดสัมภาษณ์พิเศษกับ Sundar Pichai CEO ของ Google ที่พูดถึงการนำบริษัทผ่านยุค AI ที่กำลังเปลี่ยนโลก เขาเล่าถึงความท้าทายของการลงทุนมหาศาลใน AI ผลกระทบต่อการจ้างงาน และบทบาทของ Google ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รายการนี้สามารถรับชมฟรีผ่าน BBC iPlayer 🛡️ Amazon พบการโจมตี npm ครั้งใหญ่กว่า 150,000 แพ็กเกจ นักวิจัยจาก Amazon ตรวจพบการแพร่กระจายแพ็กเกจ npm กว่า 150,000 ตัว ที่ถูกใช้ในแผนการหลอกลวงเพื่อสร้างรายได้จากโทเคน TEA แม้แพ็กเกจเหล่านี้จะไม่ขโมยข้อมูลโดยตรง แต่มีพฤติกรรม “self-replicating” และอาจถูกเปลี่ยนให้เป็นอันตรายได้ เหตุการณ์นี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในการโจมตีซัพพลายเชนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โอเพ่นซอร์ส 💬 OpenAI ทดลองให้ ChatGPT เข้าร่วมแชทกลุ่ม OpenAI เปิดฟีเจอร์ใหม่ให้ ChatGPT เข้าร่วมการสนทนาแบบกลุ่ม โดย AI จะเลือกเองว่าจะตอบเมื่อใด หรือผู้ใช้สามารถเรียกด้วยการแท็ก ฟีเจอร์นี้กำลังทดสอบในญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน รองรับผู้เข้าร่วมสูงสุด 20 คน จุดประสงค์คือช่วยให้การระดมสมองและวางแผนร่วมกันสะดวกขึ้น ✈️ Google AI ช่วยวางแผนทริปได้ครบวงจร Google เปิดตัวเครื่องมือ AI สำหรับการท่องเที่ยว 3 อย่าง ได้แก่ 🧩 Canvas for Travel: สร้างแผนการเดินทางแบบกำหนดเอง 🧩 Flight Deals: ค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกทั่วโลก 🧩 Agentic Booking: จองร้านอาหารและกิจกรรมได้โดยตรงจาก Search ทั้งหมดนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการเปิดหลายแท็บและเปรียบเทียบข้อมูล ทำให้การวางแผนทริปง่ายขึ้นมาก 🕵️‍♂️ แฮกเกอร์เกาหลีเหนือใช้ JSON ซ่อนมัลแวร์ กลุ่ม Lazarus จากเกาหลีเหนือถูกพบว่าใช้บริการเก็บข้อมูล JSON เช่น JSON Keeper และ JSON Silo เพื่อซ่อนมัลแวร์ในแคมเปญ “Contagious Interview” โดยหลอกนักพัฒนาซอฟต์แวร์ผ่าน LinkedIn ให้ดาวน์โหลดโปรเจกต์ที่แฝงโค้ดอันตราย มัลแวร์เหล่านี้สามารถขโมยข้อมูล กระเป๋าเงินคริปโต และใช้เครื่องเหยื่อขุดเหรียญ Monero ได้ 🔒 Logitech ยืนยันถูกเจาะระบบ แต่ยังไม่รู้ข้อมูลที่หายไป Logitech รายงานการถูกโจมตีไซเบอร์ผ่านช่องโหว่ zero-day ของซอฟต์แวร์ภายนอก โดยกลุ่ม Cl0p ransomware อ้างว่าขโมยข้อมูลไปกว่า 1.8TB แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลที่สูญหาย “น่าจะมีเพียงบางส่วน” ของพนักงานและลูกค้า แต่ยังไม่แน่ชัดว่ามีข้อมูลสำคัญรั่วไหลหรือไม่ 👥 LinkedIn เพิ่มฟีเจอร์ค้นหาคนด้วย AI LinkedIn เปิดตัวระบบค้นหาคนด้วย AI ที่ช่วยให้ผู้ใช้พิมพ์คำอธิบายเชิงธรรมชาติ เช่น “นักลงทุนด้านสุขภาพที่มีประสบการณ์ FDA” โดยไม่ต้องกรองด้วยตำแหน่งงานแบบเดิม ฟีเจอร์นี้เริ่มให้บริการกับผู้ใช้ Premium ในสหรัฐฯ ก่อน และจะขยายไปทั่วโลกในอนาคต ⚖️ ศาลสหราชอาณาจักรตัดสิน Microsoft แพ้คดีห้ามขายต่อไลเซนส์ ศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักรตัดสินว่า Microsoft ไม่สามารถห้ามลูกค้าขายต่อไลเซนส์ซอฟต์แวร์แบบถาวรได้ บริษัท ValueLicensing ซึ่งเป็นคู่กรณีสามารถดำเนินธุรกิจขายต่อไลเซนส์ต่อไป และยังมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายกว่า 270 ล้านปอนด์จาก Microsoft ขณะที่ Microsoft เตรียมอุทธรณ์ต่อ ไปตามเจาะข่าวกันได้ที่ : https://www.techradar.com/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 610 มุมมอง 0 รีวิว
  • Krafton ใช้ AI แทนมนุษย์ – ผู้เล่นเรียกร้องคว่ำบาตร

    Krafton บริษัทเกมยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ที่อยู่เบื้องหลัง PUBG ได้ประกาศว่า จะลงทุนครั้งใหญ่ใน Agentic AI เพื่อเข้ามาแทนที่งานที่เคยทำโดยมนุษย์ เช่น การสร้างภาพและทรัพยากรในเกม, การออกแบบตัวละคร, การเขียนบทสนทนา, การทดสอบเกม และการประเมินคุณภาพ การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกนำเสนอในรูปแบบ “การปรับโครงสร้างโดยสมัครใจ” แต่ในความจริงกลับทำให้พนักงานจำนวนมากต้องลาออก

    แม้ Krafton จะรายงานผลประกอบการสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่การตัดสินใจใช้ AI กลับสร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงในหมู่แฟนเกมและนักพัฒนา หลายคนกังวลว่าเกมจะสูญเสียคุณภาพและความเป็นมนุษย์ที่ทำให้เกมสนุกและมีชีวิตชีวา ขณะเดียวกันก็มีการตั้งคำถามถึงผลกระทบต่อแรงงานในอุตสาหกรรมเกมที่กำลังถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี

    การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสกว้างในวงการเกมที่หลายบริษัท เช่น Activision, Blizzard, Riot และ Square Enix ก็เริ่มนำ AI มาใช้ในกระบวนการพัฒนาเกมเช่นกัน แต่ผลลัพธ์กลับถูกวิจารณ์ว่าคุณภาพลดลง และยังมีความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและต้นทุนสูงจากการฝึก AI

    แฟนเกมจำนวนมากจึงออกมาเรียกร้องให้ คว่ำบาตรเกมของ Krafton โดยมองว่าการใช้ AI แทนมนุษย์ไม่เพียงแต่ทำลายคุณภาพเกม แต่ยังทำลายอนาคตของแรงงานในอุตสาหกรรมนี้ด้วย

    สรุปสาระสำคัญ
    การปรับโครงสร้างของ Krafton
    ใช้ Agentic AI แทนงานมนุษย์ เช่น การสร้างภาพ, ตัวละคร, บทสนทนา และการทดสอบเกม
    นำเสนอเป็น “การลาออกโดยสมัครใจ” แต่กระทบแรงงานจำนวนมาก

    ผลประกอบการและการลงทุน
    Krafton รายงานกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์
    ประกาศลงทุนครั้งใหญ่ใน AI เพื่ออนาคตของเกม

    กระแสในอุตสาหกรรมเกม
    หลายบริษัทใหญ่ เช่น Activision, Blizzard, Riot, Square Enix กำลังใช้ AI
    ผลลัพธ์ถูกวิจารณ์ว่าคุณภาพเกมลดลง

    ข้อควรระวังและเสียงวิจารณ์
    ผู้เล่นกังวลว่าเกมจะสูญเสียความเป็นมนุษย์และคุณภาพ
    การใช้ AI อาจทำลายอนาคตแรงงานในอุตสาหกรรมเกม

    https://www.slashgear.com/2028018/krafton-replacing-humans-ai-players-call-for-boycott/
    🎮 Krafton ใช้ AI แทนมนุษย์ – ผู้เล่นเรียกร้องคว่ำบาตร Krafton บริษัทเกมยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ที่อยู่เบื้องหลัง PUBG ได้ประกาศว่า จะลงทุนครั้งใหญ่ใน Agentic AI เพื่อเข้ามาแทนที่งานที่เคยทำโดยมนุษย์ เช่น การสร้างภาพและทรัพยากรในเกม, การออกแบบตัวละคร, การเขียนบทสนทนา, การทดสอบเกม และการประเมินคุณภาพ การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกนำเสนอในรูปแบบ “การปรับโครงสร้างโดยสมัครใจ” แต่ในความจริงกลับทำให้พนักงานจำนวนมากต้องลาออก แม้ Krafton จะรายงานผลประกอบการสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่การตัดสินใจใช้ AI กลับสร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงในหมู่แฟนเกมและนักพัฒนา หลายคนกังวลว่าเกมจะสูญเสียคุณภาพและความเป็นมนุษย์ที่ทำให้เกมสนุกและมีชีวิตชีวา ขณะเดียวกันก็มีการตั้งคำถามถึงผลกระทบต่อแรงงานในอุตสาหกรรมเกมที่กำลังถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสกว้างในวงการเกมที่หลายบริษัท เช่น Activision, Blizzard, Riot และ Square Enix ก็เริ่มนำ AI มาใช้ในกระบวนการพัฒนาเกมเช่นกัน แต่ผลลัพธ์กลับถูกวิจารณ์ว่าคุณภาพลดลง และยังมีความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและต้นทุนสูงจากการฝึก AI แฟนเกมจำนวนมากจึงออกมาเรียกร้องให้ คว่ำบาตรเกมของ Krafton โดยมองว่าการใช้ AI แทนมนุษย์ไม่เพียงแต่ทำลายคุณภาพเกม แต่ยังทำลายอนาคตของแรงงานในอุตสาหกรรมนี้ด้วย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การปรับโครงสร้างของ Krafton ➡️ ใช้ Agentic AI แทนงานมนุษย์ เช่น การสร้างภาพ, ตัวละคร, บทสนทนา และการทดสอบเกม ➡️ นำเสนอเป็น “การลาออกโดยสมัครใจ” แต่กระทบแรงงานจำนวนมาก ✅ ผลประกอบการและการลงทุน ➡️ Krafton รายงานกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ➡️ ประกาศลงทุนครั้งใหญ่ใน AI เพื่ออนาคตของเกม ✅ กระแสในอุตสาหกรรมเกม ➡️ หลายบริษัทใหญ่ เช่น Activision, Blizzard, Riot, Square Enix กำลังใช้ AI ➡️ ผลลัพธ์ถูกวิจารณ์ว่าคุณภาพเกมลดลง ‼️ ข้อควรระวังและเสียงวิจารณ์ ⛔ ผู้เล่นกังวลว่าเกมจะสูญเสียความเป็นมนุษย์และคุณภาพ ⛔ การใช้ AI อาจทำลายอนาคตแรงงานในอุตสาหกรรมเกม https://www.slashgear.com/2028018/krafton-replacing-humans-ai-players-call-for-boycott/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    This Gaming Company Is Replacing Humans With AI, And Players Are Calling For A Boycott - SlashGear
    Companies replacing human workers with AI are facing bigger and bigger backlashes, and one of the largest going on now may spark a full-on boycott.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • Frentree จับมือ AccuKnox ขยาย Zero Trust CNAPP ในเกาหลีใต้

    Frentree บริษัทโซลูชันด้านความปลอดภัยไซเบอร์จากเกาหลีใต้ ได้ประกาศความร่วมมือกับ AccuKnox ผู้เชี่ยวชาญด้าน Zero Trust CNAPP (Cloud-Native Application Protection Platform) เพื่อเสริมความปลอดภัยให้กับองค์กรในภูมิภาค โดยความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับการป้องกันภัยคุกคามในระบบคลาวด์ คอนเทนเนอร์ และ AI workloads ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดเกาหลีใต้

    การจับมือครั้งนี้เกิดขึ้นจากความต้องการขององค์กรในเกาหลีใต้ที่ต้องการระบบ Visibility ครอบคลุม, Runtime Protection ที่ปรับขยายได้ และ Compliance อัตโนมัติ เพื่อรับมือกับการโจมตีไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น โดย Frentree เลือก AccuKnox เพราะมีความเชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรม Zero Trust และเป็นผู้ร่วมพัฒนาโครงการโอเพนซอร์ส CNCF เช่น KubeArmor และ ModelArmor ซึ่งช่วยให้แพลตฟอร์มมีความยืดหยุ่นและน่าเชื่อถือ

    ในเชิงกลยุทธ์ ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงการที่ตลาดเกาหลีใต้กำลังเร่งการนำระบบคลาวด์มาใช้ในภาคการเงินและองค์กรขนาดใหญ่ การมีโซลูชันที่สามารถตรวจสอบและป้องกันภัยคุกคามได้ตั้งแต่ระดับโค้ดจนถึงการทำงานจริง จึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและผู้ลงทุน อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวดในภูมิภาค

    นอกจากนี้ แนวโน้มระดับโลกยังชี้ให้เห็นว่า Zero Trust และ CNAPP กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ ในการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่มีการลงทุนด้าน AI และคลาวด์สูง การที่ Frentree และ AccuKnox ร่วมมือกันจึงไม่เพียงแต่เป็นการเสริมความปลอดภัย แต่ยังเป็นการสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    สรุปสาระสำคัญ
    ความร่วมมือ Frentree – AccuKnox
    เสริมความปลอดภัยไซเบอร์ในเกาหลีใต้
    เน้นระบบ Zero Trust CNAPP ครอบคลุมคลาวด์ คอนเทนเนอร์ และ AI workloads

    จุดเด่นของ AccuKnox
    มีความเชี่ยวชาญด้าน Zero Trust Architecture
    เป็นผู้ร่วมพัฒนาโครงการโอเพนซอร์ส CNCF เช่น KubeArmor และ ModelArmor

    ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
    เพิ่ม Visibility และ Runtime Protection ที่ปรับขยายได้
    Compliance อัตโนมัติ รองรับข้อกำหนดเข้มงวดในเกาหลีใต้

    ความท้าทายและคำเตือน
    ภัยคุกคามไซเบอร์ในภูมิภาคมีความซับซ้อนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
    การเร่งนำระบบคลาวด์และ AI มาใช้ อาจเพิ่มช่องโหว่ใหม่ที่ต้องจัดการอย่างจริงจัง

    https://securityonline.info/frentree-partners-with-accuknox-to-expand-zero-trust-cnapp-security-in-south-korea/
    🌐 Frentree จับมือ AccuKnox ขยาย Zero Trust CNAPP ในเกาหลีใต้ Frentree บริษัทโซลูชันด้านความปลอดภัยไซเบอร์จากเกาหลีใต้ ได้ประกาศความร่วมมือกับ AccuKnox ผู้เชี่ยวชาญด้าน Zero Trust CNAPP (Cloud-Native Application Protection Platform) เพื่อเสริมความปลอดภัยให้กับองค์กรในภูมิภาค โดยความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับการป้องกันภัยคุกคามในระบบคลาวด์ คอนเทนเนอร์ และ AI workloads ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดเกาหลีใต้ การจับมือครั้งนี้เกิดขึ้นจากความต้องการขององค์กรในเกาหลีใต้ที่ต้องการระบบ Visibility ครอบคลุม, Runtime Protection ที่ปรับขยายได้ และ Compliance อัตโนมัติ เพื่อรับมือกับการโจมตีไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น โดย Frentree เลือก AccuKnox เพราะมีความเชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรม Zero Trust และเป็นผู้ร่วมพัฒนาโครงการโอเพนซอร์ส CNCF เช่น KubeArmor และ ModelArmor ซึ่งช่วยให้แพลตฟอร์มมีความยืดหยุ่นและน่าเชื่อถือ ในเชิงกลยุทธ์ ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงการที่ตลาดเกาหลีใต้กำลังเร่งการนำระบบคลาวด์มาใช้ในภาคการเงินและองค์กรขนาดใหญ่ การมีโซลูชันที่สามารถตรวจสอบและป้องกันภัยคุกคามได้ตั้งแต่ระดับโค้ดจนถึงการทำงานจริง จึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและผู้ลงทุน อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวดในภูมิภาค นอกจากนี้ แนวโน้มระดับโลกยังชี้ให้เห็นว่า Zero Trust และ CNAPP กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ ในการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่มีการลงทุนด้าน AI และคลาวด์สูง การที่ Frentree และ AccuKnox ร่วมมือกันจึงไม่เพียงแต่เป็นการเสริมความปลอดภัย แต่ยังเป็นการสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ความร่วมมือ Frentree – AccuKnox ➡️ เสริมความปลอดภัยไซเบอร์ในเกาหลีใต้ ➡️ เน้นระบบ Zero Trust CNAPP ครอบคลุมคลาวด์ คอนเทนเนอร์ และ AI workloads ✅ จุดเด่นของ AccuKnox ➡️ มีความเชี่ยวชาญด้าน Zero Trust Architecture ➡️ เป็นผู้ร่วมพัฒนาโครงการโอเพนซอร์ส CNCF เช่น KubeArmor และ ModelArmor ✅ ผลลัพธ์ที่คาดหวัง ➡️ เพิ่ม Visibility และ Runtime Protection ที่ปรับขยายได้ ➡️ Compliance อัตโนมัติ รองรับข้อกำหนดเข้มงวดในเกาหลีใต้ ‼️ ความท้าทายและคำเตือน ⛔ ภัยคุกคามไซเบอร์ในภูมิภาคมีความซับซ้อนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ⛔ การเร่งนำระบบคลาวด์และ AI มาใช้ อาจเพิ่มช่องโหว่ใหม่ที่ต้องจัดการอย่างจริงจัง https://securityonline.info/frentree-partners-with-accuknox-to-expand-zero-trust-cnapp-security-in-south-korea/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิบากกรรมทักษิณ คดี 112-ภาษีชินคอร์ปฯ

    17 พ.ย. ถือเป็นอีกวันหนึ่งที่มีข่าวใหญ่เกี่ยวกับอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร สองเรื่องในวันเดียว เรื่องแรก เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อัยการสูงสุด มีความเห็นควรที่จะยื่นอุทธรณ์คดีมาตรา 112 ที่นายทักษิณให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวแห่งหนึ่งที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อปี 2558 หลังศาลอาญาพิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ก่อนหน้านี้ อัยการสูงสุดยื่นขยายระยะเวลาต่อศาลอาญาครั้งที่ 2 ไปถึงวันที่ 21 พ.ย. หลังจากนี้ คำสั่งของอัยการสูงสุดจะถูกส่งไปยังอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 ซึ่งเป็นเจ้าของสำนวน เพื่อยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลอุทธรณ์ต่อไป

    ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา อัยการสูงสุดคนที่แล้ว มีคำสั่งให้นำเรื่องการยื่นอุทธรณ์คดีมาตรา 112 ของนายทักษิณเข้าสู่การพิจารณากลั่นกรองของคณะกรรมการพิจารณาคดีมาตรา 112 ของอัยการสูงสุด ขณะนั้นมีมติ 8 ต่อ 2 เห็นควรไม่อุทธรณ์

    ผ่านไปไม่นาน เรื่องที่สองตามมา ศาลฎีกาพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ และศาลภาษีอากรกลาง ยกฟ้องคดีที่นายทักษิณฟ้องกรมสรรพากร และคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งให้เพิกถอนการประเมินตามหนังสือแจ้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่แจ้งให้นายทักษิณจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการขายหุ้น บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีผลให้นายทักษิณ ต้องจ่ายภาษีตามคำสั่งเรียกเก็บจำนวน 1.76 หมื่นล้านบาท

    ศาลเห็นว่าการที่นายทักษิณปกปิดหุ้นชินคอร์ปฯ โดยให้บุคคลอื่น รวมถึงนายพานทองเเท้ และ น.ส.พินทองทา ถือหุ้นแทน เพราะจะเข้ารับตำแหน่งทางการเมืองที่กฎหมายห้ามมิให้โจทก์ถือหุ้น ส่งผลให้รัฐไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างถูกต้องและแน่นอนตามเจตนารมณ์แห่งกฎหมาย อีกทั้งเป็นธุรกรรมที่ไม่มีเหตุผลทางเศรษฐกิจ นอกเหนือจากการหาประโยชน์อื่น รวมถึงภาษีเงินได้ และเป็นธุรกรรมที่ทำขึ้นเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมายอย่างร้ายแรง จึงไม่มีเหตุงดและลดเบี้ยปรับและเงินเพิ่มแก่โจทก์

    คดีนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากนายทักษิณขายหุ้นชินคอร์ปฯ ให้กองทุนเทมาเส็กของสิงคโปร์ มูลค่า 73,271 ล้านบาท เมื่อปี 2549 ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นหุ้นที่ถือครองแทนนายทักษิณ ในชื่อนายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ซื้อมาจากบริษัท แอมเพิลริช ในราคาหุ้นละ 1 บาท แล้วนำไปขายต่อให้กลุ่มเทมาเส็กในราคาหุ้นละ 49.25 บาท ซึ่งเป็นการทำธุรกรรมนอกตลาดหลักทรัพย์ ต่อมามีคดียึดทรัพย์นายทักษิณ ซึ่งระบุว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่แท้จริง กรมสรรพากรจึงตีความว่านายทักษิณควรเป็นผู้มีเงินได้และต้องเสียภาษีในฐานะบุคคลธรรมดา

    #Newskit
    วิบากกรรมทักษิณ คดี 112-ภาษีชินคอร์ปฯ 17 พ.ย. ถือเป็นอีกวันหนึ่งที่มีข่าวใหญ่เกี่ยวกับอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร สองเรื่องในวันเดียว เรื่องแรก เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อัยการสูงสุด มีความเห็นควรที่จะยื่นอุทธรณ์คดีมาตรา 112 ที่นายทักษิณให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวแห่งหนึ่งที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อปี 2558 หลังศาลอาญาพิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ก่อนหน้านี้ อัยการสูงสุดยื่นขยายระยะเวลาต่อศาลอาญาครั้งที่ 2 ไปถึงวันที่ 21 พ.ย. หลังจากนี้ คำสั่งของอัยการสูงสุดจะถูกส่งไปยังอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 ซึ่งเป็นเจ้าของสำนวน เพื่อยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลอุทธรณ์ต่อไป ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา อัยการสูงสุดคนที่แล้ว มีคำสั่งให้นำเรื่องการยื่นอุทธรณ์คดีมาตรา 112 ของนายทักษิณเข้าสู่การพิจารณากลั่นกรองของคณะกรรมการพิจารณาคดีมาตรา 112 ของอัยการสูงสุด ขณะนั้นมีมติ 8 ต่อ 2 เห็นควรไม่อุทธรณ์ ผ่านไปไม่นาน เรื่องที่สองตามมา ศาลฎีกาพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ และศาลภาษีอากรกลาง ยกฟ้องคดีที่นายทักษิณฟ้องกรมสรรพากร และคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งให้เพิกถอนการประเมินตามหนังสือแจ้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่แจ้งให้นายทักษิณจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการขายหุ้น บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีผลให้นายทักษิณ ต้องจ่ายภาษีตามคำสั่งเรียกเก็บจำนวน 1.76 หมื่นล้านบาท ศาลเห็นว่าการที่นายทักษิณปกปิดหุ้นชินคอร์ปฯ โดยให้บุคคลอื่น รวมถึงนายพานทองเเท้ และ น.ส.พินทองทา ถือหุ้นแทน เพราะจะเข้ารับตำแหน่งทางการเมืองที่กฎหมายห้ามมิให้โจทก์ถือหุ้น ส่งผลให้รัฐไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างถูกต้องและแน่นอนตามเจตนารมณ์แห่งกฎหมาย อีกทั้งเป็นธุรกรรมที่ไม่มีเหตุผลทางเศรษฐกิจ นอกเหนือจากการหาประโยชน์อื่น รวมถึงภาษีเงินได้ และเป็นธุรกรรมที่ทำขึ้นเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมายอย่างร้ายแรง จึงไม่มีเหตุงดและลดเบี้ยปรับและเงินเพิ่มแก่โจทก์ คดีนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากนายทักษิณขายหุ้นชินคอร์ปฯ ให้กองทุนเทมาเส็กของสิงคโปร์ มูลค่า 73,271 ล้านบาท เมื่อปี 2549 ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นหุ้นที่ถือครองแทนนายทักษิณ ในชื่อนายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ซื้อมาจากบริษัท แอมเพิลริช ในราคาหุ้นละ 1 บาท แล้วนำไปขายต่อให้กลุ่มเทมาเส็กในราคาหุ้นละ 49.25 บาท ซึ่งเป็นการทำธุรกรรมนอกตลาดหลักทรัพย์ ต่อมามีคดียึดทรัพย์นายทักษิณ ซึ่งระบุว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่แท้จริง กรมสรรพากรจึงตีความว่านายทักษิณควรเป็นผู้มีเงินได้และต้องเสียภาษีในฐานะบุคคลธรรมดา #Newskit
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 458 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung DDR5 ราคาพุ่งทะยาน 3 เท่าในเกาหลีใต้

    รายงานจาก Wccftech ระบุว่าในช่วงเวลาเพียง 3 เดือน ราคาของโมดูล Samsung DDR5-5600 ขนาด 16GB ในตลาด DIY ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า จากเดิมราว US$47 (69,246 วอน) ในเดือนสิงหาคม ขึ้นไปถึง US$142 (208,090 วอน) ในเดือนพฤศจิกายน 2025 โดยบางร้านขายสูงถึง US$148 เลยทีเดียว.

    สาเหตุของการพุ่งขึ้น
    การเพิ่มขึ้นของราคามีสาเหตุหลักจาก ความต้องการด้าน AI ที่ทำให้ตลาด DRAM ตึงตัวทั่วโลก ผู้จัดจำหน่ายบางรายถึงขั้น “บังคับ” ให้ลูกค้าซื้อเมนบอร์ดควบคู่กับโมดูล DRAM เพื่อให้ได้สินค้า นอกจากนี้ยังมีการขาดแคลน DRAM ที่กระทบต่อทั้ง PC, mini PC, pre-built systems และ GPU ทำให้ราคาสินค้าอื่น ๆ ที่ใช้หน่วยความจำเพิ่มขึ้นตามไปด้วย.

    ผลกระทบต่อผู้บริโภคและตลาดโลก
    ในตลาดอื่น ๆ ราคาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แม้จะไม่รุนแรงเท่าเกาหลีใต้ โดยโมดูล DDR5 บางรุ่นในสหรัฐฯ เช่น Corsair Vengeance RGB 16GB 5200 MT/s ก็ถูกขายที่ US$125 บน Amazon การขาดแคลนนี้ยังส่งผลให้ AMD ประกาศขึ้นราคาการ์ดจออีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน หลังจากเพิ่งปรับขึ้นไปแล้วในเดือนตุลาคม.

    แนวโน้มในอนาคต
    นักวิเคราะห์คาดว่าราคาจะยังคงสูงต่อไปจนกว่าความต้องการด้าน AI จะเริ่มชะลอตัว และการผลิต DRAM จะกลับมาสมดุล หากสถานการณ์ยังดำเนินต่อไป ผู้บริโภคทั่วไปอาจต้องจ่ายแพงขึ้นมากเพื่ออัปเกรดเครื่องคอมพิวเตอร์ แม้เพียงแค่โมดูลพื้นฐานที่เคยราคาถูก.

    สรุปสาระสำคัญ
    ราคาของ Samsung DDR5-5600 16GB ในเกาหลีใต้
    เพิ่มจาก US$47 เป็น US$142 ภายใน 3 เดือน
    บางร้านขายสูงถึง US$148

    สาเหตุของการขึ้นราคา
    ความต้องการด้าน AI ทำให้ตลาด DRAM ตึงตัว
    ผู้จัดจำหน่ายบางรายบังคับขายพ่วงเมนบอร์ด

    ผลกระทบต่อผู้บริโภค
    ราคาสินค้าอื่น เช่น GPU และ mini PC เพิ่มขึ้นตาม
    Corsair Vengeance RGB 16GB ถูกขายที่ US$125 ในสหรัฐฯ

    แนวโน้มในอนาคต
    ราคายังสูงจนกว่าความต้องการ AI จะลดลง
    การผลิต DRAM ต้องกลับมาสมดุลเพื่อแก้ปัญหา

    https://wccftech.com/within-three-months-samsung-ddr5-5600-16-gb-module-price-rose-by-3x-in-south-korea/
    💹 Samsung DDR5 ราคาพุ่งทะยาน 3 เท่าในเกาหลีใต้ รายงานจาก Wccftech ระบุว่าในช่วงเวลาเพียง 3 เดือน ราคาของโมดูล Samsung DDR5-5600 ขนาด 16GB ในตลาด DIY ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า จากเดิมราว US$47 (69,246 วอน) ในเดือนสิงหาคม ขึ้นไปถึง US$142 (208,090 วอน) ในเดือนพฤศจิกายน 2025 โดยบางร้านขายสูงถึง US$148 เลยทีเดียว. 📈 สาเหตุของการพุ่งขึ้น การเพิ่มขึ้นของราคามีสาเหตุหลักจาก ความต้องการด้าน AI ที่ทำให้ตลาด DRAM ตึงตัวทั่วโลก ผู้จัดจำหน่ายบางรายถึงขั้น “บังคับ” ให้ลูกค้าซื้อเมนบอร์ดควบคู่กับโมดูล DRAM เพื่อให้ได้สินค้า นอกจากนี้ยังมีการขาดแคลน DRAM ที่กระทบต่อทั้ง PC, mini PC, pre-built systems และ GPU ทำให้ราคาสินค้าอื่น ๆ ที่ใช้หน่วยความจำเพิ่มขึ้นตามไปด้วย. 🖥️ ผลกระทบต่อผู้บริโภคและตลาดโลก ในตลาดอื่น ๆ ราคาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แม้จะไม่รุนแรงเท่าเกาหลีใต้ โดยโมดูล DDR5 บางรุ่นในสหรัฐฯ เช่น Corsair Vengeance RGB 16GB 5200 MT/s ก็ถูกขายที่ US$125 บน Amazon การขาดแคลนนี้ยังส่งผลให้ AMD ประกาศขึ้นราคาการ์ดจออีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน หลังจากเพิ่งปรับขึ้นไปแล้วในเดือนตุลาคม. ⚠️ แนวโน้มในอนาคต นักวิเคราะห์คาดว่าราคาจะยังคงสูงต่อไปจนกว่าความต้องการด้าน AI จะเริ่มชะลอตัว และการผลิต DRAM จะกลับมาสมดุล หากสถานการณ์ยังดำเนินต่อไป ผู้บริโภคทั่วไปอาจต้องจ่ายแพงขึ้นมากเพื่ออัปเกรดเครื่องคอมพิวเตอร์ แม้เพียงแค่โมดูลพื้นฐานที่เคยราคาถูก. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ราคาของ Samsung DDR5-5600 16GB ในเกาหลีใต้ ➡️ เพิ่มจาก US$47 เป็น US$142 ภายใน 3 เดือน ➡️ บางร้านขายสูงถึง US$148 ✅ สาเหตุของการขึ้นราคา ➡️ ความต้องการด้าน AI ทำให้ตลาด DRAM ตึงตัว ➡️ ผู้จัดจำหน่ายบางรายบังคับขายพ่วงเมนบอร์ด ✅ ผลกระทบต่อผู้บริโภค ➡️ ราคาสินค้าอื่น เช่น GPU และ mini PC เพิ่มขึ้นตาม ➡️ Corsair Vengeance RGB 16GB ถูกขายที่ US$125 ในสหรัฐฯ ✅ แนวโน้มในอนาคต ➡️ ราคายังสูงจนกว่าความต้องการ AI จะลดลง ➡️ การผลิต DRAM ต้องกลับมาสมดุลเพื่อแก้ปัญหา https://wccftech.com/within-three-months-samsung-ddr5-5600-16-gb-module-price-rose-by-3x-in-south-korea/
    WCCFTECH.COM
    Within Three Months, Samsung DDR5-5600 16 GB Module Price Rose By 3X In South Korea
    Samsung's DDR5-5600 16 GB module price have risen sharply in the last months in South Korea, bringing the price to 208,090 Won.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนีไม่พ้นกรรม อัยการสูงสุด พลิกมติ สั่งฟ้องทักษิณ คดี 112 เคยให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้
    #7ดอกจิก
    หนีไม่พ้นกรรม อัยการสูงสุด พลิกมติ สั่งฟ้องทักษิณ คดี 112 เคยให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้ #7ดอกจิก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • “KONNI APT โจมตีไซเบอร์สุดล้ำ! ใช้ Google Find Hub ล้างข้อมูล-ติดตามเหยื่อในเกาหลีใต้”

    ในโลกที่เทคโนโลยีเชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน กลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐอย่าง KONNI APT จากเกาหลีเหนือ ได้ยกระดับการโจมตีไซเบอร์ไปอีกขั้น ด้วยการใช้ฟีเจอร์ของ Google เอง — Find Hub — เพื่อควบคุมอุปกรณ์ Android ของเหยื่อในเกาหลีใต้แบบระยะไกล

    แคมเปญนี้ถูกเปิดโปงโดย Genians Security Center ซึ่งพบว่าผู้โจมตีสามารถรีเซ็ตอุปกรณ์ Android ของเหยื่อ ลบข้อมูลส่วนตัว และติดตามตำแหน่งได้ โดยทั้งหมดเกิดขึ้นผ่านบัญชี Google ที่ถูกแฮก

    วิธีการโจมตีของ KONNI APT
    เริ่มจากการหลอกล่อผ่าน KakaoTalk โดยปลอมตัวเป็นนักจิตวิทยาหรือเจ้าหน้าที่รัฐ
    ส่งไฟล์ชื่อ “Stress Clear.msi” ที่ดูเหมือนโปรแกรมคลายเครียด แต่แฝงมัลแวร์
    เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ มัลแวร์จะติดตั้งสคริปต์ AutoIt เพื่อควบคุมระบบ

    การใช้ Google Find Hub เป็นอาวุธ
    หลังแฮกบัญชี Google ของเหยื่อ ผู้โจมตีใช้ Find Hub เพื่อติดตามตำแหน่ง
    เมื่อเหยื่อไม่อยู่ใกล้อุปกรณ์ จะสั่งรีเซ็ตโรงงาน (factory reset) เพื่อลบข้อมูล
    ส่งคำสั่งรีเซ็ตซ้ำหลายครั้งเพื่อขัดขวางการกู้คืน

    ความสามารถของมัลแวร์
    ใช้ AutoIt script ที่ปลอมเป็นงานระบบ Windows
    เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมในเยอรมนีผ่าน WordPress C2
    ฝัง RAT หลายตัว เช่น RemcosRAT, QuasarRAT, RftRAT เพื่อควบคุมจากระยะไกล

    เทคนิคการหลบเลี่ยงการตรวจจับ
    ใช้ไฟล์ MSI ที่มีลายเซ็นดิจิทัลจากบริษัทในจีนเพื่อหลอกระบบความปลอดภัย
    ลบการแจ้งเตือนจาก Gmail และเคลียร์ log เพื่อไม่ให้เหยื่อรู้ตัว
    ใช้ KakaoTalk ของเหยื่อส่งมัลแวร์ต่อไปยังคนรู้จัก

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    บัญชี Google ที่ไม่มีการป้องกันแบบหลายขั้น (MFA) เสี่ยงต่อการถูกแฮก
    การใช้บริการที่ดูปลอดภัยอย่าง Find Hub อาจถูกนำไปใช้ในทางร้าย
    การส่งไฟล์ผ่านแอปแชทจากคนรู้จักอาจเป็นช่องทางโจมตีที่แนบเนียน

    https://securityonline.info/north-koreas-konni-apt-hijacks-google-find-hub-to-remotely-wipe-and-track-south-korean-android-devices/
    📱 “KONNI APT โจมตีไซเบอร์สุดล้ำ! ใช้ Google Find Hub ล้างข้อมูล-ติดตามเหยื่อในเกาหลีใต้” ในโลกที่เทคโนโลยีเชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน กลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐอย่าง KONNI APT จากเกาหลีเหนือ ได้ยกระดับการโจมตีไซเบอร์ไปอีกขั้น ด้วยการใช้ฟีเจอร์ของ Google เอง — Find Hub — เพื่อควบคุมอุปกรณ์ Android ของเหยื่อในเกาหลีใต้แบบระยะไกล แคมเปญนี้ถูกเปิดโปงโดย Genians Security Center ซึ่งพบว่าผู้โจมตีสามารถรีเซ็ตอุปกรณ์ Android ของเหยื่อ ลบข้อมูลส่วนตัว และติดตามตำแหน่งได้ โดยทั้งหมดเกิดขึ้นผ่านบัญชี Google ที่ถูกแฮก ✅ วิธีการโจมตีของ KONNI APT ➡️ เริ่มจากการหลอกล่อผ่าน KakaoTalk โดยปลอมตัวเป็นนักจิตวิทยาหรือเจ้าหน้าที่รัฐ ➡️ ส่งไฟล์ชื่อ “Stress Clear.msi” ที่ดูเหมือนโปรแกรมคลายเครียด แต่แฝงมัลแวร์ ➡️ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ มัลแวร์จะติดตั้งสคริปต์ AutoIt เพื่อควบคุมระบบ ✅ การใช้ Google Find Hub เป็นอาวุธ ➡️ หลังแฮกบัญชี Google ของเหยื่อ ผู้โจมตีใช้ Find Hub เพื่อติดตามตำแหน่ง ➡️ เมื่อเหยื่อไม่อยู่ใกล้อุปกรณ์ จะสั่งรีเซ็ตโรงงาน (factory reset) เพื่อลบข้อมูล ➡️ ส่งคำสั่งรีเซ็ตซ้ำหลายครั้งเพื่อขัดขวางการกู้คืน ✅ ความสามารถของมัลแวร์ ➡️ ใช้ AutoIt script ที่ปลอมเป็นงานระบบ Windows ➡️ เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมในเยอรมนีผ่าน WordPress C2 ➡️ ฝัง RAT หลายตัว เช่น RemcosRAT, QuasarRAT, RftRAT เพื่อควบคุมจากระยะไกล ✅ เทคนิคการหลบเลี่ยงการตรวจจับ ➡️ ใช้ไฟล์ MSI ที่มีลายเซ็นดิจิทัลจากบริษัทในจีนเพื่อหลอกระบบความปลอดภัย ➡️ ลบการแจ้งเตือนจาก Gmail และเคลียร์ log เพื่อไม่ให้เหยื่อรู้ตัว ➡️ ใช้ KakaoTalk ของเหยื่อส่งมัลแวร์ต่อไปยังคนรู้จัก ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ บัญชี Google ที่ไม่มีการป้องกันแบบหลายขั้น (MFA) เสี่ยงต่อการถูกแฮก ⛔ การใช้บริการที่ดูปลอดภัยอย่าง Find Hub อาจถูกนำไปใช้ในทางร้าย ⛔ การส่งไฟล์ผ่านแอปแชทจากคนรู้จักอาจเป็นช่องทางโจมตีที่แนบเนียน https://securityonline.info/north-koreas-konni-apt-hijacks-google-find-hub-to-remotely-wipe-and-track-south-korean-android-devices/
    SECURITYONLINE.INFO
    North Korea's KONNI APT Hijacks Google Find Hub to Remotely Wipe and Track South Korean Android Devices
    North Korea's KONNI APT is exploiting stolen Google accounts and the Find Hub service to remotely wipe South Korean Android devices for data destruction and surveillance, then spreading malware via KakaoTalk.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 347 มุมมอง 0 รีวิว
  • S.E.S. และ “Dreams Come True” ที่ทำให้ผมรู้จัก K-POP เป็นครั้งแรก: ปฐมบทของวงการ K-POP

    ในยุคที่เพลงป๊อปเกาหลียังไม่เป็นที่รู้จักในระดับโลก K-POP ได้เริ่มต้นก้าวแรกสู่การเป็นปรากฏการณ์วัฒนธรรมผ่านเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง S.E.S. สำหรับผมแล้ว การได้ฟังเพลง “Dreams Come True” คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลงรัก K-POP เป็นครั้งแรก มันไม่ใช่แค่เพลง แต่เป็นสัญลักษณ์ของความฝันที่กลายเป็นจริง และเป็นปฐมบทที่ปูทางให้อุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ก้าวสู่เวทีโลก S.E.S. ไม่เพียงเป็นไอดอลหญิงรุ่นบุกเบิก แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินรุ่นหลัง และช่วยจุดประกายกระแส Hallyu (Korean Wave) ที่เรารู้จักกันดีในวันนี้ บทความนี้จะพาไปสำรวจประวัติ ความดัง ผลกระทบของ S.E.S. และเรื่องราวเบื้องหลังเพลงฮิตอย่าง “Dreams Come True” ที่ยังคงเป็นตำนาน

    👩🏻‍🧒🏻‍👧🏻 S.E.S.: ผู้บุกเบิกเกิร์ลกรุ๊ปยุคแรกของ K-POP
    S.E.S. (ย่อมาจาก Sea, Eugene, Shoo) เป็นเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีใต้จากค่าย SM Entertainment ที่เดบิวต์เมื่อปี 1997 สมาชิกทั้งสามคนคือ Bada (หรือ Sea), Eugene และ Shoo ซึ่งชื่อวงมาจากชื่อจริงของพวกเธอโดยตรง. ในยุคนั้น K-POP ยังอยู่ในช่วงตั้งไข่ และ S.E.S. ได้กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มไอดอลหญิงกลุ่มแรกที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ด้วยภาพลักษณ์น่ารักบริสุทธิ์แบบ “fairies” (원조 요정) ที่ดึงดูดแฟนวัยรุ่น และพัฒนาไปสู่สไตล์ที่ซับซ้อนมากขึ้นในภายหลัง ทำให้พวกเธอครองชาร์ตเพลงและกลายเป็นคู่แข่งหลักกับ Fin.K.L. ในสมัยนั้น

    ความสำเร็จของ S.E.S. มาอย่างรวดเร็ว อัลบั้มเดบิวต์ I’m Your Girl ขายได้กว่า 650,000 ชุด ทำให้เป็นอัลบั้มเกิร์ลกรุ๊ปที่ขายดีอันดับ 3 ในเกาหลีใต้. อัลบั้มต่อ ๆ มาอย่าง Sea & Eugene & Shoo (ขายกว่า 650,000 ชุด), Love (กลายเป็นอัลบั้มเกิร์ลกรุ๊ปที่ขายดีอันดับ 2 ในขณะนั้น) และ A Letter from Greenland (ขายกว่า 635,000 ชุด) ยิ่งตอกย้ำความนิยม. เพลงฮิตที่ครองชาร์ตยาวนาน ได้แก่ “(‘Cause) I’m Your Girl”, “Dreams Come True” (ซึ่งขึ้นอันดับ 1 บน Music Bank 3 สัปดาห์ติด), “Love”, “Just in Love” และ “U”. เพลง “I’m Your Girl” ยังถูกยกให้เป็นหนึ่งใน 100 เพลงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ K-POP โดย Rolling Stone.

    พวกเธอไม่ได้จำกัดอยู่แค่เกาหลีใต้ แต่ขยายตลาดไปญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1998 กับซิงเกิล “Meguriau Sekai” ที่ขึ้นชาร์ต Oricon อันดับ 37 และขายกว่า 13,000 ชุด รวมถึงอัลบั้ม Reach Out ที่ขึ้นอันดับ 50. นอกจากนี้ ยังขายอัลบั้มได้กว่า 200,000 ชุดในไต้หวัน ทำให้ได้รับแผ่นประกาศเกียรติคุณจาก Rock Records. S.E.S. จัดคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในปี 2000 ที่ Olympic Gymnastics Arena ขายหมดเกลี้ยงกว่า 9,000 ที่นั่ง. แม้ยุบวงในปี 2002 แต่พวกเธอ reunite ในปี 2007, 2008, 2009 และอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2016-2017 ด้วยอัลบั้มพิเศษ Remember พร้อมคอนเสิร์ตและรายการเรียลลิตี้

    รางวัลที่ได้รับมากมาย เช่น Rookie of the Year จาก Golden Disc Awards (1998), Best Female Group จาก MAMA (2001, 2002), และ Bonsang จากหลายเวทีอย่าง KBS Song Festival, KMTV Music Awards และ Seoul Music Awards. พวกเธอยังได้รับการยกย่องจากรัฐบาลเกาหลี เช่น Commendation จากกระทรวงวัฒนธรรม (1999) และ Appreciation Plaques จากสหภาพศิลปิน (2000). ในลิสต์ต่าง ๆ S.E.S. ติดอันดับ 4 ในศิลปินหญิงที่ดีที่สุดโดยผู้เชี่ยวชาญจาก The Dong-a Ilbo (2016) และอันดับ 80 ใน Legend 100 Artists จาก Mnet (2013).

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้
    S.E.S. ถือเป็นผู้บุกเบิกที่เปิดยุคเกิร์ลกรุ๊ปใน K-POP โดยถูกเรียกว่า “original fairies” และตั้งมาตรฐานให้กับภาพลักษณ์ไอดอลหญิงที่ได้รับการยอมรับทั้งในด้านเพลงและภาพลักษณ์. นักวิจารณ์อย่าง Kim Bong-hyun ยกย่องพวกเธอว่าเป็น “กลุ่มไอดอลแรกที่ภาพลักษณ์และเพลงได้รับการยอมรับ” ขณะที่ Kang Myeong-seok ชี้ว่าเพลงอย่าง “Love” และ “Be Natural” เป็น “ตำนานของเพลงเกิร์ลกรุ๊ป” พวกเธอมีอิทธิพลต่อรุ่นหลัง เช่น Red Velvet ที่ remake “Be Natural” ในปี 2014.

    S.E.S. ช่วยยกระดับ SM Entertainment ให้เป็นค่ายยักษ์ใหญ่ และตั้งมาตรฐานการผลิต เช่น มิวสิกวิดีโอ “Love” ที่ถ่ายทำในนิวยอร์กด้วยงบ 1 พันล้านวอน ซึ่งเป็นการลงทุนสูงในยุคนั้น. พวกเธอยังมีส่วนในจุดเริ่มต้นของ Hallyu โดยขยาย K-POP ไปยังญี่ปุ่น ไต้หวัน และตลาดเอเชีย ซึ่งปูทางให้ศิลปินรุ่นหลังอย่าง BoA และ TVXQ. โดยรวมแล้ว S.E.S. ไม่เพียงทำให้เกิร์ลกรุ๊ปกลายเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรม แต่ยังช่วยให้ K-POP พัฒนาจากเพลงท้องถิ่นสู่ปรากฏการณ์ระดับโลกในเวลาต่อมา

    “Dreams Come True”: เพลงที่จุดประกายความฝันและ K-POP
    เพลง “Dreams Come True” ของ S.E.S. คือซิงเกิลที่สองจากอัลบั้มชุดที่สอง Sea & Eugene & Shoo ที่ออกเมื่อปี 1998 มันเป็นเพลงที่ทำให้ผมรู้จัก K-POP เป็นครั้งแรก ด้วยจังหวะ dance-pop ที่สดใสและเนื้อเพลงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง เพลงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากศูนย์ แต่เป็น cover จากเพลงฟินแลนด์ชื่อ “Rakastuin mä looseriin” (หรือ “Like a Fool”) ของวง Nylon Beat ที่ออกในปี 1996 ประพันธ์โดย Risto Asikainen และ Jukka Immonen. ค่าย SM ซื้อลิขสิทธิ์มาปรับให้เข้ากับตลาดเกาหลี โดย Yoo Young-jin ช่วยแต่งเพิ่ม และ Bada ร่วมเขียนเนื้อเพลงภาษาเกาหลี ทำให้เวอร์ชันนี้มีส่วนผสมใหม่ ๆ เช่น เสียงเติมและส่วน arrange เพิ่มในช่วงท้าย แต่ยังคงโครงสร้างดนตรีหลักไว้ เพลงถูกบันทึกที่ SM Digital Recording Studio ในโซล และปล่อยอย่างเป็นทางการเมื่อ 23 พฤศจิกายน 1998

    มิวสิกวิดีโอถ่ายทำในนิวยอร์กและฮาวาย เน้นภาพลักษณ์น่ารัก fairy-like และในปี 2021 ถูก remaster ใหม่ให้คมชัดขึ้น. ความหมายของเนื้อเพลงพูดถึงความฝันที่กลายเป็นจริงแบบไม่คาดคิด เปรียบเทียบกับความรู้สึกตกหลุมรักที่ทำให้ชีวิตสดใสขึ้น สะท้อนถึงความมองโลกในแง่ดีและความตื่นเต้น ต่างจากต้นฉบับฟินแลนด์ที่พูดถึงการตกหลุมรักคนไม่เอาไหน แต่เวอร์ชัน S.E.S. ปรับให้ positive มากขึ้น. ลิริคอย่าง “Dreams come true, yes, they do” ย้ำว่าฝันเป็นจริงได้ถ้าเราเชื่อมั่น

    เพลงนี้ดังเปรี้ยงปร้าง ขึ้นอันดับ 1 ในรายการเพลงเกาหลีหลายรายการ เช่น Music Bank (ชนะ 3 สัปดาห์), Inkigayo และ Music Camp ในปี 1998-1999 ช่วยให้อัลบั้มขายดี และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ S.E.S. ประสบความสำเร็จ. ในปี 2021 เพลงนี้ติดอันดับ 86 ในลิสต์ 100 เพลง K-POP ที่ดีที่สุดตลอดกาลโดย Melon และ Seoul Shinmun. มันยังถูก remake หลายครั้ง เช่น โดย aespa ในปี 2021 ซึ่งเพิ่ม element trap-hip hop และชาร์ตดีทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ รวมถึง cover จาก Girls’ Generation, Red Velvet, Twice และอื่น ๆ.

    Legacy ที่ยังคงอยู่: จากปฐมบทสู่ปรากฏการณ์โลก
    กาลเวลาผ่านไปกว่า 28 ปี แต่ legacy ของ S.E.S. และ “Dreams Come True” ยังคงถูกพูดถึงในฐานะตำนานที่เปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ เพลงนี้ไม่ใช่แค่เพลงฮิต แต่เป็นสัญลักษณ์ของ K-POP ยุคแรกที่ผสมผสานวัฒนธรรมต่างชาติเข้ากับสไตล์เกาหลีได้อย่างลงตัว สำหรับผม มันคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้จัก K-POP จนถึงทุกวันนี้ S.E.S. พิสูจน์ว่าความฝันสามารถเป็นจริงได้ และพวกเธอคือปฐมบทที่ทำให้ K-POP เติบโตเป็นอุตสาหกรรมพันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ถ้าคุณยังไม่เคยฟัง ลองเปิด “Dreams Come True” แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมมันถึงพิเศษ

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://www.youtube.com/watch?v=8uiR4SrDGZk
    🚩💿 S.E.S. และ “Dreams Come True” ที่ทำให้ผมรู้จัก K-POP เป็นครั้งแรก: ปฐมบทของวงการ K-POP ⌛ ในยุคที่เพลงป๊อปเกาหลียังไม่เป็นที่รู้จักในระดับโลก K-POP ได้เริ่มต้นก้าวแรกสู่การเป็นปรากฏการณ์วัฒนธรรมผ่านเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง S.E.S. สำหรับผมแล้ว การได้ฟังเพลง “Dreams Come True” คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลงรัก K-POP เป็นครั้งแรก มันไม่ใช่แค่เพลง แต่เป็นสัญลักษณ์ของความฝันที่กลายเป็นจริง และเป็นปฐมบทที่ปูทางให้อุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ก้าวสู่เวทีโลก S.E.S. ไม่เพียงเป็นไอดอลหญิงรุ่นบุกเบิก แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินรุ่นหลัง และช่วยจุดประกายกระแส Hallyu (Korean Wave) ที่เรารู้จักกันดีในวันนี้ บทความนี้จะพาไปสำรวจประวัติ ความดัง ผลกระทบของ S.E.S. และเรื่องราวเบื้องหลังเพลงฮิตอย่าง “Dreams Come True” ที่ยังคงเป็นตำนาน 👩‍👧‍👦👩🏻‍🧒🏻‍👧🏻 S.E.S.: ผู้บุกเบิกเกิร์ลกรุ๊ปยุคแรกของ K-POP S.E.S. (ย่อมาจาก Sea, Eugene, Shoo) เป็นเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีใต้จากค่าย SM Entertainment ที่เดบิวต์เมื่อปี 1997 สมาชิกทั้งสามคนคือ Bada (หรือ Sea), Eugene และ Shoo ซึ่งชื่อวงมาจากชื่อจริงของพวกเธอโดยตรง. ในยุคนั้น K-POP ยังอยู่ในช่วงตั้งไข่ และ S.E.S. ได้กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มไอดอลหญิงกลุ่มแรกที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ด้วยภาพลักษณ์น่ารักบริสุทธิ์แบบ “fairies” (원조 요정) ที่ดึงดูดแฟนวัยรุ่น และพัฒนาไปสู่สไตล์ที่ซับซ้อนมากขึ้นในภายหลัง ทำให้พวกเธอครองชาร์ตเพลงและกลายเป็นคู่แข่งหลักกับ Fin.K.L. ในสมัยนั้น ความสำเร็จของ S.E.S. มาอย่างรวดเร็ว อัลบั้มเดบิวต์ I’m Your Girl ขายได้กว่า 650,000 ชุด ทำให้เป็นอัลบั้มเกิร์ลกรุ๊ปที่ขายดีอันดับ 3 ในเกาหลีใต้. อัลบั้มต่อ ๆ มาอย่าง Sea & Eugene & Shoo (ขายกว่า 650,000 ชุด), Love (กลายเป็นอัลบั้มเกิร์ลกรุ๊ปที่ขายดีอันดับ 2 ในขณะนั้น) และ A Letter from Greenland (ขายกว่า 635,000 ชุด) ยิ่งตอกย้ำความนิยม. เพลงฮิตที่ครองชาร์ตยาวนาน ได้แก่ “(‘Cause) I’m Your Girl”, “Dreams Come True” (ซึ่งขึ้นอันดับ 1 บน Music Bank 3 สัปดาห์ติด), “Love”, “Just in Love” และ “U”. เพลง “I’m Your Girl” ยังถูกยกให้เป็นหนึ่งใน 100 เพลงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ K-POP โดย Rolling Stone. 🌏 พวกเธอไม่ได้จำกัดอยู่แค่เกาหลีใต้ แต่ขยายตลาดไปญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1998 กับซิงเกิล “Meguriau Sekai” ที่ขึ้นชาร์ต Oricon อันดับ 37 และขายกว่า 13,000 ชุด รวมถึงอัลบั้ม Reach Out ที่ขึ้นอันดับ 50. นอกจากนี้ ยังขายอัลบั้มได้กว่า 200,000 ชุดในไต้หวัน ทำให้ได้รับแผ่นประกาศเกียรติคุณจาก Rock Records. S.E.S. จัดคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในปี 2000 ที่ Olympic Gymnastics Arena ขายหมดเกลี้ยงกว่า 9,000 ที่นั่ง. แม้ยุบวงในปี 2002 แต่พวกเธอ reunite ในปี 2007, 2008, 2009 และอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2016-2017 ด้วยอัลบั้มพิเศษ Remember พร้อมคอนเสิร์ตและรายการเรียลลิตี้ 🥇🏆 รางวัลที่ได้รับมากมาย เช่น Rookie of the Year จาก Golden Disc Awards (1998), Best Female Group จาก MAMA (2001, 2002), และ Bonsang จากหลายเวทีอย่าง KBS Song Festival, KMTV Music Awards และ Seoul Music Awards. พวกเธอยังได้รับการยกย่องจากรัฐบาลเกาหลี เช่น Commendation จากกระทรวงวัฒนธรรม (1999) และ Appreciation Plaques จากสหภาพศิลปิน (2000). ในลิสต์ต่าง ๆ S.E.S. ติดอันดับ 4 ในศิลปินหญิงที่ดีที่สุดโดยผู้เชี่ยวชาญจาก The Dong-a Ilbo (2016) และอันดับ 80 ใน Legend 100 Artists จาก Mnet (2013). ⏯️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ 🏁 S.E.S. ถือเป็นผู้บุกเบิกที่เปิดยุคเกิร์ลกรุ๊ปใน K-POP โดยถูกเรียกว่า “original fairies” และตั้งมาตรฐานให้กับภาพลักษณ์ไอดอลหญิงที่ได้รับการยอมรับทั้งในด้านเพลงและภาพลักษณ์. นักวิจารณ์อย่าง Kim Bong-hyun ยกย่องพวกเธอว่าเป็น “กลุ่มไอดอลแรกที่ภาพลักษณ์และเพลงได้รับการยอมรับ” ขณะที่ Kang Myeong-seok ชี้ว่าเพลงอย่าง “Love” และ “Be Natural” เป็น “ตำนานของเพลงเกิร์ลกรุ๊ป” พวกเธอมีอิทธิพลต่อรุ่นหลัง เช่น Red Velvet ที่ remake “Be Natural” ในปี 2014. S.E.S. ช่วยยกระดับ SM Entertainment ให้เป็นค่ายยักษ์ใหญ่ และตั้งมาตรฐานการผลิต เช่น มิวสิกวิดีโอ “Love” ที่ถ่ายทำในนิวยอร์กด้วยงบ 1 พันล้านวอน ซึ่งเป็นการลงทุนสูงในยุคนั้น. พวกเธอยังมีส่วนในจุดเริ่มต้นของ Hallyu โดยขยาย K-POP ไปยังญี่ปุ่น ไต้หวัน และตลาดเอเชีย ซึ่งปูทางให้ศิลปินรุ่นหลังอย่าง BoA และ TVXQ. โดยรวมแล้ว S.E.S. ไม่เพียงทำให้เกิร์ลกรุ๊ปกลายเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรม แต่ยังช่วยให้ K-POP พัฒนาจากเพลงท้องถิ่นสู่ปรากฏการณ์ระดับโลกในเวลาต่อมา 🎶🎶 “Dreams Come True”: เพลงที่จุดประกายความฝันและ K-POP เพลง “Dreams Come True” ของ S.E.S. คือซิงเกิลที่สองจากอัลบั้มชุดที่สอง Sea & Eugene & Shoo ที่ออกเมื่อปี 1998 มันเป็นเพลงที่ทำให้ผมรู้จัก K-POP เป็นครั้งแรก ด้วยจังหวะ dance-pop ที่สดใสและเนื้อเพลงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง เพลงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากศูนย์ แต่เป็น cover จากเพลงฟินแลนด์ชื่อ “Rakastuin mä looseriin” (หรือ “Like a Fool”) ของวง Nylon Beat ที่ออกในปี 1996 ประพันธ์โดย Risto Asikainen และ Jukka Immonen. ค่าย SM ซื้อลิขสิทธิ์มาปรับให้เข้ากับตลาดเกาหลี โดย Yoo Young-jin ช่วยแต่งเพิ่ม และ Bada ร่วมเขียนเนื้อเพลงภาษาเกาหลี ทำให้เวอร์ชันนี้มีส่วนผสมใหม่ ๆ เช่น เสียงเติมและส่วน arrange เพิ่มในช่วงท้าย แต่ยังคงโครงสร้างดนตรีหลักไว้ เพลงถูกบันทึกที่ SM Digital Recording Studio ในโซล และปล่อยอย่างเป็นทางการเมื่อ 23 พฤศจิกายน 1998 🎥 มิวสิกวิดีโอถ่ายทำในนิวยอร์กและฮาวาย เน้นภาพลักษณ์น่ารัก fairy-like และในปี 2021 ถูก remaster ใหม่ให้คมชัดขึ้น. ความหมายของเนื้อเพลงพูดถึงความฝันที่กลายเป็นจริงแบบไม่คาดคิด เปรียบเทียบกับความรู้สึกตกหลุมรักที่ทำให้ชีวิตสดใสขึ้น สะท้อนถึงความมองโลกในแง่ดีและความตื่นเต้น ต่างจากต้นฉบับฟินแลนด์ที่พูดถึงการตกหลุมรักคนไม่เอาไหน แต่เวอร์ชัน S.E.S. ปรับให้ positive มากขึ้น. ลิริคอย่าง “Dreams come true, yes, they do” ย้ำว่าฝันเป็นจริงได้ถ้าเราเชื่อมั่น 📼 เพลงนี้ดังเปรี้ยงปร้าง ขึ้นอันดับ 1 ในรายการเพลงเกาหลีหลายรายการ เช่น Music Bank (ชนะ 3 สัปดาห์), Inkigayo และ Music Camp ในปี 1998-1999 ช่วยให้อัลบั้มขายดี และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ S.E.S. ประสบความสำเร็จ. ในปี 2021 เพลงนี้ติดอันดับ 86 ในลิสต์ 100 เพลง K-POP ที่ดีที่สุดตลอดกาลโดย Melon และ Seoul Shinmun. มันยังถูก remake หลายครั้ง เช่น โดย aespa ในปี 2021 ซึ่งเพิ่ม element trap-hip hop และชาร์ตดีทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ รวมถึง cover จาก Girls’ Generation, Red Velvet, Twice และอื่น ๆ. 🍾 🏆 Legacy ที่ยังคงอยู่: จากปฐมบทสู่ปรากฏการณ์โลก กาลเวลาผ่านไปกว่า 28 ปี แต่ legacy ของ S.E.S. และ “Dreams Come True” ยังคงถูกพูดถึงในฐานะตำนานที่เปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ เพลงนี้ไม่ใช่แค่เพลงฮิต แต่เป็นสัญลักษณ์ของ K-POP ยุคแรกที่ผสมผสานวัฒนธรรมต่างชาติเข้ากับสไตล์เกาหลีได้อย่างลงตัว สำหรับผม มันคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้จัก K-POP จนถึงทุกวันนี้ S.E.S. พิสูจน์ว่าความฝันสามารถเป็นจริงได้ และพวกเธอคือปฐมบทที่ทำให้ K-POP เติบโตเป็นอุตสาหกรรมพันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ถ้าคุณยังไม่เคยฟัง ลองเปิด “Dreams Come True” แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมมันถึงพิเศษ 💫 #ลุงเล่าหลานฟัง https://www.youtube.com/watch?v=8uiR4SrDGZk
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 782 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนสอยมังกร ตอนที่ 5 – 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง”แผนสอยมังกร”

    ตอน 5

    A2/AD หรือ anti access/area-denial เป็นยุทธศาสตร์ที่ใช้ในป้องกันประเทศจาก การรุกราน หรือรุกล้ำของศัตรู หรือสิ่งไม่พึงปรารถนา โดยการกำหนดเขต หรือบริเวณหวงห้าม ที่ต้องได้รับอนุญาต และแสดงตนก่อนเข้าเขต มิฉะนั้น เจ้าของเขตหวงห้ามหรือบริเวณ สามารถระงับการผ่านเข้าเขตได้ ด้วยกำลังอาวุธ ที่มีทั้งแบบใช้เดี่ยว และใช้เป็นระบบหลายประเภทร่วมกัน

    เมื่อมีข่าวออกมาประมาณปี ค.ศ.2012 ว่า จีนคิดใช้ยุทธศาสตร์นี้ แทบไม่มีใครสนใจไม่มีใครให้ราคา โดยเฉพาะอเมริกา เพราะการจะใช้ระบบ A2/AD ให้ได้ผลจริงๆ ต้องมีระบบ(อาวุธ)ป้องกันการละเมิด การรุกราน ครบชุด ทั้งใต้ดิน บนดิน บนฟ้า และต้องมีระบบนี้จำนวนมากพอ ถึงจะป้องกันได้จริงจัง ซึ่งอเมริกาคิดว่า จีนไม่มีทางทำได้สำเร็จ ไม่ว่าด้านความสามารถในการคิดค้นระบบ ความสามารถทางทหาร และความสามารถในงบประมาณ เพราะอเมริกา ประกาศเสมอว่า งบประมาณด้านความมั่นคงของอเมริกานั้น ก้อนใหญ่กว่าจีนหลายเท่านัก ขนาดนั้นยังไม่แน่ว่า อเมริกาจะมีระบบนี้ใช้ได้ครบเครื่อง

    เมื่อตอนที่อเมริกาและนาโต้ ขนโขยงทั้งทหารจริงและทหารรับจ้าง ไปบดขยี้กัดดาฟี่ที่ลิเบีย ในปี ค.ศ. 2011 นั้น ยังไม่มีใครใช้ระบบ A2/AD อย่างน้อย แถวนั้นก็ยังไม่มีใครใช้ ทำให้การขนพลขยี้โดยเรือรบ และเรือดำน้ำ ผ่านเข้าไปในลิเบีย จากฝั่งทะเลด้านเหนือของอาฟริกา รอดพ้นจากการต้อนรับ ด้วยเครื่องบินรบหรือจรวด ซึ่งจะมีพร้อมในระบบป้องกันของ A2/AD แต่วันฤกษ์สะดวกของเพชรฆาตเช่นวันนั้น สำหรับอเมริกา อาจจะไม่เกิดขึ้นง่ายๆ อย่างนั้นอีกแล้ว อย่างน้อยก็คงไม่ง่าย ถ้าอเมริกาคิดจะยกพลไปขยี้จีน เช่นเดียวกับที่ปฏิบัติการกับกัดดาฟี่
    ประมาณ 15 ปีมาแล้ว เมื่อตอนที่ประธานาธิบดีคลินตัน ขวัญใจเด็กฝึกงาน สั่งให้เรือรบ USS Independence กับเรือรบ USS Nimitz ขนกำลังทหาร ไปที่ช่องแคบไต้หวัน จ่อตรงหน้าประตูบ้านอาเฮีย เพื่อขู่ไม่ให้จีนมายุ่งกับไต้หวัน เรื่องแบบนี้คงมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดขึ้นอีก เพราะนับแต่วันที่จีนถูกอเมริกามาหยามถึงหน้าประตูบ้านเช่นนั้น จีนก็คร่ำเคร่ง ปรับปรุงระบบ A2/AD ของตนให้สมบูรณ์ขึ้นทุกวัน

    ข่าวว่า ขณะนี้ระบบ A2/AD ของจีน เมื่อใช้ร่วมกับระบบดาวเทียม ความแม่นยำในการสกัด สิ่งเล็ก สิ่งใหญ่ ที่จะเล็ดลอดผ่านเข้ามาในเขตแดนของจีน ไม่ว่าจะเป็นธิเบต ซินเจียง ช่องแคบไต้หวัน และบริเวณทะเลจีน ฯลฯ จีนบอกว่า “น่าจะใช้การได้นะ”

    ใช้ได้จริงหรือเปล่า และเชื่อได้แค่ไหน ผมคงตอบไม่ได้ แต่คนที่ดูเหมือนจะตอบได้ น่าจะเป็นไอ้สุดกร่าง CFR นั่นแหละ ที่เป็นคนประทับตรารับรองให้จีน ไม่งั้นคงไม่ออก ใบประกาศ ให้ไว้ในรายงาน Grand Strategy นั้นหรอก

    เรากลับไปดู Grand Strategy ของสุดกร่างกันอีกที เพื่อจะตรวจสอบ “อาการ” จริงของไอ้นักล่าใบตองแห้ง

    อย่างน้อยเกือบ 3 ปีมาแล้ว ที่มีข่าวในปี 2012 ว่าจีนใช้ระบบ A2/AD และนับตั้งแต่นั้น ยังไม่มีข่าวออกมาว่า อเมริกาจัดการถล่มระบบนี้ของจีนได้ ในทางตรงกันข้าม กลับมีข่าวว่า รัสเซีย และ จีน ได้ทดสอบการสยบการเคลื่อนไหว เครื่องบินรบ และเรือรบของอเมริกา ในน่านน้ำ และน่านฟ้า เขตของจีนและบริเวณรัสเซียอยู่หลายครั้ง และทุกครั้ง ฝ่ายอเมริกาจะออกมาให้ข่าวว่า เป็นเรื่องการปล่อยโคมลอยเสมอ แต่คราวนี้ สุดกร่างรับรองให้จีนเอง ในรายงาน Grand Strategy เตรียมพร้อมทั้งตัวเอง และลูกหาบให้รับมือกับระบบ A2/AD ของอาเฮีย !

    ตกลง Grand Strategy นี่มีเป้าหมายอะไรกันแน่ มัน Grand ตรงไหนนะ นอกจากหลอกด่าจีนและพวก จนหมดสีหมดไข่ไปแยะ อวดใหญ่คุยโว ว่ามีเด็กอยู่เต็มในกระเป๋า เดี๋ยวจะเอาของขวัญวันเด็ก แจกให้เด็กๆเอาไปเล่นกะอาเฮีย แต่ขณะเดียวกัน ก็บ่นว่ารัฐสภาต้องเพิ่มงบด้านความมั่นคงให้ อ้าว แล้วงี้จะเอาตังค์ที่ไหนไปซื้อของขวัญแจกเด็ก สงสัยเด็กๆ มีหวังได้ของขวัญ ประเภทเขาตัดค่าเสื่อมหมดแล้ว ถึงเอามาแจก มันดูเหมือนจะบรรยายความขัดกันเอง
    อเมริกาคิดอะไร จึงปล่อยให้ CFR ออกรายงานนี้ เนื้อความแบบนี้ มาในจังหวะช่วงเดือนกว่ามานี้

    แถมในตอนสรุป สุดกร่างบอกว่า เชื่อว่าผู้อ่านรายงานนี้ คงมีปฏิกิริยาต่างๆกัน หลายคนคงบอกว่า รายงานนี้จะเป็นการยั่วยุจีน สุดกร่างบอก จีนคงมีปฏกิริยาแน่ แต่ถึงมี ก็ไม่ได้ทำให้เราเปลี่ยนแปลงรายงาน หรือเปลี่ยนใจอะไร เพราะยังไงเราก็ต้องทำรายงานแบบนี้ และแนะนำให้ดำเนินการตามที่เราเสนออยู่ดี บางคนว่า เรามองจีนในแง่ร้ายไปหรือเปล่า ไม่เลย เราแน่ใจว่า เรามองอย่างตรงไปตรงมาที่สุด จากพฤติกรรมของจีนเอง นี่เรายังไม่ได้ใส่ลงไปนะ ว่าถ้าจีนเกิดเลียนแบบ พฤติกรรมของสหภาพโซเวียต ซึ่งเราคาดว่า จีนอาจจะทำ เรายิ่งต้องมองไปถึงเรื่องการปิดล้อมจีนเสียด้วยซ้ำ (containment) อย่านึกว่า ถ้าเราคิดปิดล้อมจีน จะไม่มีชาติเอเซียไม่เอาด้วยนะ และบางคนถามว่า รายงานนี้จะทำให้เกิดผลที่มีความหมายอะไรไหม (meaningful result) สุดกร่างบอก อย่าไปคิดเล้ย เป็นไปไม่ได้หรอก ตราบใดที่จีนคิดอยากเป็นขั้วอำนาจในเอเซียแทนที่อเมริกาอย่างนี้ มันจะมีผลมีดอกอะไรกัน

    สุดกร่างชักเบื่อ ถามทำไม คำถามพวกนี้ สิ่งที่สำคัญคือ จีนจะมีปฏิกิริยาตอบรับกับ Grand Strategy ของเรา อย่างไรมากกว่า … ใช่แล้ว อย่าว่าแต่เอ็งเลย ไอ้กร่าง ผมก็อยากรู้

    สุดกร่าง ยังกร่างไม่หยุด ผมต้องยอมมัน มันขอแถมท้ายว่า เรื่องทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับท่านประธานาธิบดีโอบามานั่นแหละครับ ท่านโอ ท่านดำเนินนโยบายแบบเมตตาต่อจีน มาตลอด เพราะท่านโอ รวมทั้งรัฐบาลก่อนๆ วิเคราะห์จีนผิดหมด ไปมองว่าจีนคิดแต่ค้าขาย ไม่ได้เฉลียวฉลาดมองว่า ที่แท้จีนกำลังวัดรอยเท้าท่านอย่างใกล้ชิด กะจะใส่รองเท้าเบอร์เดียว แบบเดียวกะท่านเลย แล้วทีมงานของท่านโอ ก็ดีแต่คิดนโยบายที่จะร่วมมือกับจีน แทนที่จะคิดนโยบายขวางกั้น มาถึงตอนนี้ ก็ต้องวัดขนาดของหัวใจของท่านโอแล้วละครับว่า อเมริกาคิดจะเล่นการเมืองระดับโลกกับจีนแบบไหน มีความกล้าที่จะปกป้องผลประโยชน์ของอเมริกาขนาดไหน
    แม่จ้าวโว้ย ต้องยอมรับว่า สุดกร่างมันใหญ่จริง มันคือตัวจริงเสียงจริง ของไอ้นักล่าใบตองแห้งเลย ไม่ใช่เป็นแค่ผู้ต้องสงสัย

    #####
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง”แผนสอยมังกร”

    ตอน 6 (จบ)
    (โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน)

    ลองไล่เรียงดูไทม์ไลน์ รายงาน Grand Strategy เขียนเสร็จ เมื่อปลายเดือนมีนาคม กลางเดือนเมษายน ปล่อยเอกสารออกมาให้อ่าน เวลาผ่านไปไม่ถึงเดือน Wall Sreet Journal ลงข่าวเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ว่า นาย Ash Carter รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ของนักล่าใบตองแห้ง แต่มาดออกไปทางเสมียน เตรียมเสนอให้กองทัพของอเมริกาใช้เรือรบ และเครื่องบินรบ ไปสำแดงแสนยานุภาพ ในแถบทะเลจีนที่มีข้อพิพาท เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่า ต้องมีเสรีภาพในการเดินเรือในแถบนั้น ข้อเสนอ ของพณท่านรัฐมนตรีมาดเสมียน เป็นไปตามข้อเสนอ 1 ใน 8 ข้อ ของ Grand Strategy

    แปลว่า อเมริกาน่าจะเห็นด้วย และเอาจริงกับแผนตาม Grand Strategy

    อเมริกาเอาจริงขนาดไหนล่ะ

    ตอนนี้ขนาดหัวใจของนายโอบามาใหญ่กว่าปากแล้วใช่ไหม ถ้าคิดแบบนั้นแปลว่าไม่รู้จักอเมริกาจริง ขนาดหัวใจของนายโอบามาใหญ่กว่าปากมาตั้งแต่ต้น อาจจะตั้งแต่วันรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก มันถึงเล่นบทได้เนียน

    อเมริกา “พร้อมรบ ” จีนและพวก แน่นอนครับ เพียงแต่จะรบอย่างไร และเมื่อไหร่เท่านั้น

    อเมริกาจะไม่มีวันยอมเสียตำแหน่งมหาอำนาจหมายเลขหนึ่งของโลกให้แก่จีนอย่างเด็ดขาด ความคิดของอเมริกาวันนี้ ไม่ได้ต่างอะไรกับความคิดของอังกฤษเมื่อ 100 ปีก่อน ที่อังกฤษกลัวเยอรมันโตแซงหน้า และขึ้นมาเป็นหมายเลขหนึ่งของโลกแทน แม้ตอนนั้นอังกฤษจะกระเป๋าแห้ง ซึ่งก็ไม่ต่างกับอเมริกาตอนนี้ ที่เศรษฐกิจก็กำลังถลาลง ถูกคู่แข่ง ไล่ตี ไล่ต้อนดอลล่าร์สาระพัดรูปแบบ
    Grand Strategy ไม่ได้เขียนให้นายโอบามาอ่าน Grand Strategy เขียนให้จีน พวกจีน และชาวโลกอย่างเราๆอ่าน ให้รู้ว่า อเมริกาคิดอย่างไรกับจีน และคิดจะจัดการอย่างไรกับจีน อเมริการังเกียจ อิจฉา ดูถูกจีน เหมือนกับอังกฤษมองเยอรมันและรัสเซียเมื่อ 100 ปีก่อนยังไง (และตอนนี้ก็ยังมองอย่างนั้นอยู่ ) ก็เช่นเดียวกันกับที่อเมริกามองจีนตอนนี้ และอีก 100 ปีข้างหน้า อเมริกา ก็คงไม่เปลี่ยนการมองจีน อเมริกามองจีนว่า ไม่เท่าเทียมกับอเมริกาเสียด้วยซ้ำ แล้วจะยอมให้จีนเป็นมังกรลอยละล่องอยู่บนฟ้า เหนือกว่าอินทรีย์ได้อย่างไร

    และอย่าลืมว่า Grand Strategy เขียนโดยถังขยะความคิด CFR ซึ่งเป็นผลผลิต ของกลุ่มผู้สร้างละครลวงโลก ต้มข้ามศตวรรษ

    นายโอบามา ก็ไม่ต่างกับประธานาธิบดีวิลสันของอเมริกา เมื่อปี ค.ศ.1917 ที่เล่นบทเป็นผู้รักสันติภาพ ไม่พาประเทศเข้าสู่สงคราม ขณะเดียวกัน เมื่อถึงเวลาอัน “เหมาะสม” อเมริกา ก็พร้อมที่จะประกาศสงคราม

    สงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษเป็นผู้นำ เยอรมันเป็นผู้ร้าย อเมริกาเป็นพระเอก ยิวเป็นตัวกระตุ้น รัสเซีย ออตโตมานเป็นเหยื่ออันดับ 1 ยุโรปเป็นเหยื่ออันดับ 2

    สงครามโลกครั้งที่ 2 อังกฤษเป็นผู้นำ เยอรมันเป็นผู้ร้ายอันดับ 1 ญี่ปุ่น(พร้อมใจรับบท) เป็นผู้ร้ายอันดับ 2 อเมริกาเป็นพระเอกตลอดกาล ยิวเป็นตัวกระตุ้น รัสเซียเป็นเหยื่อตลอดกาลอันดับ 1 ยุโรป เป็นเหยื่ออันดับ 2

    สงครามโลกครั้งที่ 3 !?! จะหน้าตาเป็นอย่างไร ใครจะเป็นผู้นำ ใครจะเป็นผู้ร้าย ใครจะเป็นพระเอก ใครจะเป็นเหยื่อ

    อเมริกา “พร้อมรบ” กับจีน แต่อเมริกาจะรบกับจีนอย่างไร

    Major Christopher J McCarthy แห่งกองทัพอากาศ ได้เขียนบทความเรื่อง Anti-Acess/Area Denial : The Evolution of Modern Warfare ซึ่งระบุไว้ตอนหนึ่งว่า
    จีนวางยุทธศาสตร์ A2/AD ได้เข้าท่ามาก ด้วยการดักทางอเมริกา ตั้งแต่โอกินาวาถึงกวม จีนมีจรวดพิสัยใกล้ และกลาง สำหรับระงับการยกพลมาจากโอกินาวา และจากการศึกษาของฝ่ายอเมริกา ล่าสุดบอกว่า จรวดสกัดสำหรับระยะทางยาวถึงกวม ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับจีนเช่นกัน แต่สำหรับอเมริกา ซึ่งถนัดในการใช้ยุทธศาสตร์ Air Sea Battle เคลื่อนกำลังทางเรือและโจมตีทางเครื่องบิน ถ้าอเมริกา ไม่สามารถใช้ฐานทัพที่โอกินาวา การเคลื่อนพลจากกวม ซึ่งเป็นฐานใหญ่ที่สุดของอเมริกาในแปซิฟิก เพื่อมาต่อสู้กับจีน ก็น่าจะมีปัญหาเช่นกัน เนื่องจากกวมต้องได้รับกำลังสนับสนุนจากโอกินาวาด้วย แปลว่าระบบ A2/AD ในปัจจุบันของจีน น่าจะสามารถสะกัดการเคลื่อนพลของอเมริกามาสู่จีน ทางแปซิฟิกได้เรียบร้อยแล้ว

    ตัวช่วยที่อเมริกาเคยเลือกไว้ และแน่ใจว่าอยู่ในกระเป๋าอเมริกามาตลอดเวลา คือ ไทยแลนด์ นี่แหละ ที่อเมริกาจะใช้เป็นฐานส่งกำลังพล และกำลังบำรุง ที่อเมริกาจะเคลื่อนมาไม่ว่าจากด้านแปซิฟิก หรือจากด้านมหาสมุทรอินเดีย อเมริกาจึงต้องจับมืออินเดียไว้ให้แน่นเช่นกัน แต่วันนี้ สัมพันธ์ไทย-อเมริกาไม่เหมือนเดิม แผนอเมริกาที่จะใช้ไทย จะเหมือนเดิมหรือไม่ และถ้าใช้ไม่ได้อเมริกาจะ “จัดการ” กับไทยอย่างไร (ไทยจะอยู่ในสถานะลำบาก ยอมอเมริกา ก็เจอ A2/AD จากจีน ไม่ยอมอเมริกา ก็คงจะได้รับของขวัญบ่อยๆ)

    ถ้าเป็นเช่นนั้น อเมริกา จะ “พร้อมรบ” จีนได้อย่างไร ถ้าเคลื่อนพลมาจากแปซิฟิกไม่สำเร็จ

    อเมริกาก็คงใช้ยุทธศาสตร์ หรือน่าจะเรียกว่า อุบาย หรือนิสัยเดิมๆ คือ ไม่มีตอนไหนที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ ได้ดีกว่า ตอนที่คู่ต่อสู่น่วม ใกล้เละแล้ว

    ขนาดจะเคลื่อนพลไปชิดจีน อเมริกายังทำยากเลย แล้วจะทำให้จีนน่วมได้อย่างไร

    Grand Strategy บอกใบ้ไว้แล้ว อเมริกาคงพยายามทำให้เอเซียวุ่นวาย และฉิบหายในที่สุด เพื่อสร้างความปั่นป่วนต่อจีนจากด้านนอก จีนใหญ่เกินไปและเข้าไปข้างในจีนยาก แต่ไม่ได้หมายความว่า สร้างความปั่นป่วนจากข้างนอกไม่ได้ และแน่นอน ญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ เวียตนาม คงจะรับบทนักป่วนแถวทะเลจีน ส่วนเด็กๆ ที่เหลือ ก็ป่วนมันรอบเอเซีย จากของขวัญวันเด็ก ที่อเมริกาจะทุ่มให้
    และจะต้องจับตา ออสเตรเลีย มาเลเซีย และทางทางภาคใต้ของเราเป็นพิเศษ ถ้าอเมริกาใช้เส้นทางแปซิฟิกไม่ได้ เส้นทางมหาสมุทรอินเดีย ก็เป็นทางเลือก และอเมริกาคงพยายามคุมช่องแคบมะละกา เพื่อใช้คุมเส้นทางเดินเรือของจีน และใช้เป็นเส้นทางของตนเอง แม้มาเลเซียจะไม่รักกับอเมริกานัก แต่มาเลเซียก็คงถูกนายท่านสั่งให้อยู่ในแถว และภาคใต้ของเราก็คงน่าเป็นห่วงตามไปด้วย ข่าวเรือรบของอเมริกาเคลื่อนตัวแถวแปซิฟิก ตั้งแต่เหนือลงใต้ ในทะเลจีน และทางมหาสมุทรอินเดีย จะเป็นข่าวที่เราจะได้ยินเกือบทุกวันจากนี้ไป และถ้าเป็นเช่นนั้น ก็หมายความว่า อเมริกา “ยกระดับ” ความพร้อมรบกับจีนขึ้นอีก

    แต่ทั้งนี้ รายการป่วนเอเซียของอเมริกา จะออกหัว ออกก้อย ก็ขึ้นกับจีนและพวกว่า จีนจะใช้ยุทธศาสตร์ใดรับมือ ซึ่งมีทั้งยุทธศาสตร์ที่ระงับความร้อนแรง และยุทธศาสตร์ที่เร่งความร้อน จนกลายเป็นสงครามโลก เห็นได้จาก Grand Strategy ว่า อเมริกาพยายามยั่วยุจีน เพื่อให้ฝ่ายจีนเป็นผู้เริ่มออกอาการ ออกอาวุธ และอเมริกาจะได้เล่นบทพระเอก ไม่ต่างกับบทการเล่นสงครามของอเมริกา ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2

    การเตรียมรบของอเมริกา มิได้มีเพียงเท่านี้ นี่เป็นการโหมโรงเท่านั้น

    อเมริกาเชื่อว่า จีนไม่รบเดี่ยวแน่นอน จีนก็มีเพื่อน และเพื่อนจีนไม่ใช่ระดับลูกหาบ หรือเด็กถือกระเป๋า เพื่อนของจีนระดับรุ่นใหญ่พิษลึกอย่างรัสเซีย หรือระดับพิษร้ายอิหร่าน หรือรุ่นเล็กแต่พิษแรง ชนิดอเมริกาก็แหยงอย่างเกาหลีเหนือ และตุรกีที่เลิกเล่นไต่ลวดแล้ว น่าจะทำให้อเมริกาสะเทือนได้เมื่อมีความพร้อม ถ้าเพื่อนของจีนพร้อมจะยืนเรียงแถวไล่ไปเป็นเส้นยาว ตั้งแต่เอเซีย ตะวันออกกลาง และยุโรป ทำให้อเมริกาก็ต้องคิดหนัก จะเลือกยุทธศาสตร์ไหนมาใช้

    อเมริกาอาจจะใช้แยกส่วน แยกซอย ใช้ยุทธศาสตร์ป่วน เล่นเกมยาว เช่นเดียวกันกับเอเซีย เป็นการซื้อเวลา และดูรูปมวยไปก่อน สำหรับรัสเซีย ก็ยกให้นาโต้กับประเทศที่อเมริกาบีบไข่ได้ ไปแหย่รัสเซียให้คุณพี่ปูเหนื่อ ยเหงื่อตก ทั้งที่หิมะยังขาวโพลน ตะวันออกกลางง่ายมาก ยุให้เจ้าของปั้มตีกันเอง อิหร่าน และตรุกี จะได้ไม่มีเวลาหันไปทางจีน ส่วนเกาหลีเหนือ อเมริกามอบแล้วให้เป็นภาระของเกาหลีใต้กับญี่ปุ่น ระหว่างนี้ก็ใช้สีเทใส่ สร้างข่าวให้เป็นตัวร้ายไปเรื่อยๆ
    ถ้าอเมริกาเลือกยุทธศาสตร์ป่วน ก็เหนื่อยกันไปทั้งโลก ขึ้นอยู่กับว่า ฝ่ายไหนจะอึดกว่ากัน ฝ่ายไหนออกอาการอึดไม่อยู่ การส่งเห็ดพิษให้กินก็คงเกิดขึ้น แล้วก็ฉิบหายกันเป็นแถบๆ

    แต่แผนทำให้จีนน่วมของอเมริกา คงไม่มีแค่การป่วน บอกแล้วว่าอเมริกาใกล้จะเป็นพระเจ้าอยู่แล้ว สั่งให้แผ่นดินไหว น้ำท่วม ทำได้หมด การทำให้จีนน่วมแบบนั้นแหละ คือ fundermental collapse อย่างแท้จริง จีนจะรับมือกับการรบนอกรูปแบบเช่นนี้ได้หรือไม่
    หรือไม่แน่ว่า จีนก็สั่งให้ภูเขาเคลื่อนที่ ไฟปะทุได้เหมือนกัน

    ถึงตอนนั้น บุญกุศลเท่านั้นกระมังที่จะคุ้มโลกและเราได้

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    16 พ.ค. 2558
    แผนสอยมังกร ตอนที่ 5 – 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง”แผนสอยมังกร” ตอน 5 A2/AD หรือ anti access/area-denial เป็นยุทธศาสตร์ที่ใช้ในป้องกันประเทศจาก การรุกราน หรือรุกล้ำของศัตรู หรือสิ่งไม่พึงปรารถนา โดยการกำหนดเขต หรือบริเวณหวงห้าม ที่ต้องได้รับอนุญาต และแสดงตนก่อนเข้าเขต มิฉะนั้น เจ้าของเขตหวงห้ามหรือบริเวณ สามารถระงับการผ่านเข้าเขตได้ ด้วยกำลังอาวุธ ที่มีทั้งแบบใช้เดี่ยว และใช้เป็นระบบหลายประเภทร่วมกัน เมื่อมีข่าวออกมาประมาณปี ค.ศ.2012 ว่า จีนคิดใช้ยุทธศาสตร์นี้ แทบไม่มีใครสนใจไม่มีใครให้ราคา โดยเฉพาะอเมริกา เพราะการจะใช้ระบบ A2/AD ให้ได้ผลจริงๆ ต้องมีระบบ(อาวุธ)ป้องกันการละเมิด การรุกราน ครบชุด ทั้งใต้ดิน บนดิน บนฟ้า และต้องมีระบบนี้จำนวนมากพอ ถึงจะป้องกันได้จริงจัง ซึ่งอเมริกาคิดว่า จีนไม่มีทางทำได้สำเร็จ ไม่ว่าด้านความสามารถในการคิดค้นระบบ ความสามารถทางทหาร และความสามารถในงบประมาณ เพราะอเมริกา ประกาศเสมอว่า งบประมาณด้านความมั่นคงของอเมริกานั้น ก้อนใหญ่กว่าจีนหลายเท่านัก ขนาดนั้นยังไม่แน่ว่า อเมริกาจะมีระบบนี้ใช้ได้ครบเครื่อง เมื่อตอนที่อเมริกาและนาโต้ ขนโขยงทั้งทหารจริงและทหารรับจ้าง ไปบดขยี้กัดดาฟี่ที่ลิเบีย ในปี ค.ศ. 2011 นั้น ยังไม่มีใครใช้ระบบ A2/AD อย่างน้อย แถวนั้นก็ยังไม่มีใครใช้ ทำให้การขนพลขยี้โดยเรือรบ และเรือดำน้ำ ผ่านเข้าไปในลิเบีย จากฝั่งทะเลด้านเหนือของอาฟริกา รอดพ้นจากการต้อนรับ ด้วยเครื่องบินรบหรือจรวด ซึ่งจะมีพร้อมในระบบป้องกันของ A2/AD แต่วันฤกษ์สะดวกของเพชรฆาตเช่นวันนั้น สำหรับอเมริกา อาจจะไม่เกิดขึ้นง่ายๆ อย่างนั้นอีกแล้ว อย่างน้อยก็คงไม่ง่าย ถ้าอเมริกาคิดจะยกพลไปขยี้จีน เช่นเดียวกับที่ปฏิบัติการกับกัดดาฟี่ ประมาณ 15 ปีมาแล้ว เมื่อตอนที่ประธานาธิบดีคลินตัน ขวัญใจเด็กฝึกงาน สั่งให้เรือรบ USS Independence กับเรือรบ USS Nimitz ขนกำลังทหาร ไปที่ช่องแคบไต้หวัน จ่อตรงหน้าประตูบ้านอาเฮีย เพื่อขู่ไม่ให้จีนมายุ่งกับไต้หวัน เรื่องแบบนี้คงมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดขึ้นอีก เพราะนับแต่วันที่จีนถูกอเมริกามาหยามถึงหน้าประตูบ้านเช่นนั้น จีนก็คร่ำเคร่ง ปรับปรุงระบบ A2/AD ของตนให้สมบูรณ์ขึ้นทุกวัน ข่าวว่า ขณะนี้ระบบ A2/AD ของจีน เมื่อใช้ร่วมกับระบบดาวเทียม ความแม่นยำในการสกัด สิ่งเล็ก สิ่งใหญ่ ที่จะเล็ดลอดผ่านเข้ามาในเขตแดนของจีน ไม่ว่าจะเป็นธิเบต ซินเจียง ช่องแคบไต้หวัน และบริเวณทะเลจีน ฯลฯ จีนบอกว่า “น่าจะใช้การได้นะ” ใช้ได้จริงหรือเปล่า และเชื่อได้แค่ไหน ผมคงตอบไม่ได้ แต่คนที่ดูเหมือนจะตอบได้ น่าจะเป็นไอ้สุดกร่าง CFR นั่นแหละ ที่เป็นคนประทับตรารับรองให้จีน ไม่งั้นคงไม่ออก ใบประกาศ ให้ไว้ในรายงาน Grand Strategy นั้นหรอก เรากลับไปดู Grand Strategy ของสุดกร่างกันอีกที เพื่อจะตรวจสอบ “อาการ” จริงของไอ้นักล่าใบตองแห้ง อย่างน้อยเกือบ 3 ปีมาแล้ว ที่มีข่าวในปี 2012 ว่าจีนใช้ระบบ A2/AD และนับตั้งแต่นั้น ยังไม่มีข่าวออกมาว่า อเมริกาจัดการถล่มระบบนี้ของจีนได้ ในทางตรงกันข้าม กลับมีข่าวว่า รัสเซีย และ จีน ได้ทดสอบการสยบการเคลื่อนไหว เครื่องบินรบ และเรือรบของอเมริกา ในน่านน้ำ และน่านฟ้า เขตของจีนและบริเวณรัสเซียอยู่หลายครั้ง และทุกครั้ง ฝ่ายอเมริกาจะออกมาให้ข่าวว่า เป็นเรื่องการปล่อยโคมลอยเสมอ แต่คราวนี้ สุดกร่างรับรองให้จีนเอง ในรายงาน Grand Strategy เตรียมพร้อมทั้งตัวเอง และลูกหาบให้รับมือกับระบบ A2/AD ของอาเฮีย ! ตกลง Grand Strategy นี่มีเป้าหมายอะไรกันแน่ มัน Grand ตรงไหนนะ นอกจากหลอกด่าจีนและพวก จนหมดสีหมดไข่ไปแยะ อวดใหญ่คุยโว ว่ามีเด็กอยู่เต็มในกระเป๋า เดี๋ยวจะเอาของขวัญวันเด็ก แจกให้เด็กๆเอาไปเล่นกะอาเฮีย แต่ขณะเดียวกัน ก็บ่นว่ารัฐสภาต้องเพิ่มงบด้านความมั่นคงให้ อ้าว แล้วงี้จะเอาตังค์ที่ไหนไปซื้อของขวัญแจกเด็ก สงสัยเด็กๆ มีหวังได้ของขวัญ ประเภทเขาตัดค่าเสื่อมหมดแล้ว ถึงเอามาแจก มันดูเหมือนจะบรรยายความขัดกันเอง อเมริกาคิดอะไร จึงปล่อยให้ CFR ออกรายงานนี้ เนื้อความแบบนี้ มาในจังหวะช่วงเดือนกว่ามานี้ แถมในตอนสรุป สุดกร่างบอกว่า เชื่อว่าผู้อ่านรายงานนี้ คงมีปฏิกิริยาต่างๆกัน หลายคนคงบอกว่า รายงานนี้จะเป็นการยั่วยุจีน สุดกร่างบอก จีนคงมีปฏกิริยาแน่ แต่ถึงมี ก็ไม่ได้ทำให้เราเปลี่ยนแปลงรายงาน หรือเปลี่ยนใจอะไร เพราะยังไงเราก็ต้องทำรายงานแบบนี้ และแนะนำให้ดำเนินการตามที่เราเสนออยู่ดี บางคนว่า เรามองจีนในแง่ร้ายไปหรือเปล่า ไม่เลย เราแน่ใจว่า เรามองอย่างตรงไปตรงมาที่สุด จากพฤติกรรมของจีนเอง นี่เรายังไม่ได้ใส่ลงไปนะ ว่าถ้าจีนเกิดเลียนแบบ พฤติกรรมของสหภาพโซเวียต ซึ่งเราคาดว่า จีนอาจจะทำ เรายิ่งต้องมองไปถึงเรื่องการปิดล้อมจีนเสียด้วยซ้ำ (containment) อย่านึกว่า ถ้าเราคิดปิดล้อมจีน จะไม่มีชาติเอเซียไม่เอาด้วยนะ และบางคนถามว่า รายงานนี้จะทำให้เกิดผลที่มีความหมายอะไรไหม (meaningful result) สุดกร่างบอก อย่าไปคิดเล้ย เป็นไปไม่ได้หรอก ตราบใดที่จีนคิดอยากเป็นขั้วอำนาจในเอเซียแทนที่อเมริกาอย่างนี้ มันจะมีผลมีดอกอะไรกัน สุดกร่างชักเบื่อ ถามทำไม คำถามพวกนี้ สิ่งที่สำคัญคือ จีนจะมีปฏิกิริยาตอบรับกับ Grand Strategy ของเรา อย่างไรมากกว่า … ใช่แล้ว อย่าว่าแต่เอ็งเลย ไอ้กร่าง ผมก็อยากรู้ สุดกร่าง ยังกร่างไม่หยุด ผมต้องยอมมัน มันขอแถมท้ายว่า เรื่องทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับท่านประธานาธิบดีโอบามานั่นแหละครับ ท่านโอ ท่านดำเนินนโยบายแบบเมตตาต่อจีน มาตลอด เพราะท่านโอ รวมทั้งรัฐบาลก่อนๆ วิเคราะห์จีนผิดหมด ไปมองว่าจีนคิดแต่ค้าขาย ไม่ได้เฉลียวฉลาดมองว่า ที่แท้จีนกำลังวัดรอยเท้าท่านอย่างใกล้ชิด กะจะใส่รองเท้าเบอร์เดียว แบบเดียวกะท่านเลย แล้วทีมงานของท่านโอ ก็ดีแต่คิดนโยบายที่จะร่วมมือกับจีน แทนที่จะคิดนโยบายขวางกั้น มาถึงตอนนี้ ก็ต้องวัดขนาดของหัวใจของท่านโอแล้วละครับว่า อเมริกาคิดจะเล่นการเมืองระดับโลกกับจีนแบบไหน มีความกล้าที่จะปกป้องผลประโยชน์ของอเมริกาขนาดไหน แม่จ้าวโว้ย ต้องยอมรับว่า สุดกร่างมันใหญ่จริง มันคือตัวจริงเสียงจริง ของไอ้นักล่าใบตองแห้งเลย ไม่ใช่เป็นแค่ผู้ต้องสงสัย ##### นิทานเรื่องจริง เรื่อง”แผนสอยมังกร” ตอน 6 (จบ) (โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน) ลองไล่เรียงดูไทม์ไลน์ รายงาน Grand Strategy เขียนเสร็จ เมื่อปลายเดือนมีนาคม กลางเดือนเมษายน ปล่อยเอกสารออกมาให้อ่าน เวลาผ่านไปไม่ถึงเดือน Wall Sreet Journal ลงข่าวเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ว่า นาย Ash Carter รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ของนักล่าใบตองแห้ง แต่มาดออกไปทางเสมียน เตรียมเสนอให้กองทัพของอเมริกาใช้เรือรบ และเครื่องบินรบ ไปสำแดงแสนยานุภาพ ในแถบทะเลจีนที่มีข้อพิพาท เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่า ต้องมีเสรีภาพในการเดินเรือในแถบนั้น ข้อเสนอ ของพณท่านรัฐมนตรีมาดเสมียน เป็นไปตามข้อเสนอ 1 ใน 8 ข้อ ของ Grand Strategy แปลว่า อเมริกาน่าจะเห็นด้วย และเอาจริงกับแผนตาม Grand Strategy อเมริกาเอาจริงขนาดไหนล่ะ ตอนนี้ขนาดหัวใจของนายโอบามาใหญ่กว่าปากแล้วใช่ไหม ถ้าคิดแบบนั้นแปลว่าไม่รู้จักอเมริกาจริง ขนาดหัวใจของนายโอบามาใหญ่กว่าปากมาตั้งแต่ต้น อาจจะตั้งแต่วันรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก มันถึงเล่นบทได้เนียน อเมริกา “พร้อมรบ ” จีนและพวก แน่นอนครับ เพียงแต่จะรบอย่างไร และเมื่อไหร่เท่านั้น อเมริกาจะไม่มีวันยอมเสียตำแหน่งมหาอำนาจหมายเลขหนึ่งของโลกให้แก่จีนอย่างเด็ดขาด ความคิดของอเมริกาวันนี้ ไม่ได้ต่างอะไรกับความคิดของอังกฤษเมื่อ 100 ปีก่อน ที่อังกฤษกลัวเยอรมันโตแซงหน้า และขึ้นมาเป็นหมายเลขหนึ่งของโลกแทน แม้ตอนนั้นอังกฤษจะกระเป๋าแห้ง ซึ่งก็ไม่ต่างกับอเมริกาตอนนี้ ที่เศรษฐกิจก็กำลังถลาลง ถูกคู่แข่ง ไล่ตี ไล่ต้อนดอลล่าร์สาระพัดรูปแบบ Grand Strategy ไม่ได้เขียนให้นายโอบามาอ่าน Grand Strategy เขียนให้จีน พวกจีน และชาวโลกอย่างเราๆอ่าน ให้รู้ว่า อเมริกาคิดอย่างไรกับจีน และคิดจะจัดการอย่างไรกับจีน อเมริการังเกียจ อิจฉา ดูถูกจีน เหมือนกับอังกฤษมองเยอรมันและรัสเซียเมื่อ 100 ปีก่อนยังไง (และตอนนี้ก็ยังมองอย่างนั้นอยู่ ) ก็เช่นเดียวกันกับที่อเมริกามองจีนตอนนี้ และอีก 100 ปีข้างหน้า อเมริกา ก็คงไม่เปลี่ยนการมองจีน อเมริกามองจีนว่า ไม่เท่าเทียมกับอเมริกาเสียด้วยซ้ำ แล้วจะยอมให้จีนเป็นมังกรลอยละล่องอยู่บนฟ้า เหนือกว่าอินทรีย์ได้อย่างไร และอย่าลืมว่า Grand Strategy เขียนโดยถังขยะความคิด CFR ซึ่งเป็นผลผลิต ของกลุ่มผู้สร้างละครลวงโลก ต้มข้ามศตวรรษ นายโอบามา ก็ไม่ต่างกับประธานาธิบดีวิลสันของอเมริกา เมื่อปี ค.ศ.1917 ที่เล่นบทเป็นผู้รักสันติภาพ ไม่พาประเทศเข้าสู่สงคราม ขณะเดียวกัน เมื่อถึงเวลาอัน “เหมาะสม” อเมริกา ก็พร้อมที่จะประกาศสงคราม สงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษเป็นผู้นำ เยอรมันเป็นผู้ร้าย อเมริกาเป็นพระเอก ยิวเป็นตัวกระตุ้น รัสเซีย ออตโตมานเป็นเหยื่ออันดับ 1 ยุโรปเป็นเหยื่ออันดับ 2 สงครามโลกครั้งที่ 2 อังกฤษเป็นผู้นำ เยอรมันเป็นผู้ร้ายอันดับ 1 ญี่ปุ่น(พร้อมใจรับบท) เป็นผู้ร้ายอันดับ 2 อเมริกาเป็นพระเอกตลอดกาล ยิวเป็นตัวกระตุ้น รัสเซียเป็นเหยื่อตลอดกาลอันดับ 1 ยุโรป เป็นเหยื่ออันดับ 2 สงครามโลกครั้งที่ 3 !?! จะหน้าตาเป็นอย่างไร ใครจะเป็นผู้นำ ใครจะเป็นผู้ร้าย ใครจะเป็นพระเอก ใครจะเป็นเหยื่อ อเมริกา “พร้อมรบ” กับจีน แต่อเมริกาจะรบกับจีนอย่างไร Major Christopher J McCarthy แห่งกองทัพอากาศ ได้เขียนบทความเรื่อง Anti-Acess/Area Denial : The Evolution of Modern Warfare ซึ่งระบุไว้ตอนหนึ่งว่า จีนวางยุทธศาสตร์ A2/AD ได้เข้าท่ามาก ด้วยการดักทางอเมริกา ตั้งแต่โอกินาวาถึงกวม จีนมีจรวดพิสัยใกล้ และกลาง สำหรับระงับการยกพลมาจากโอกินาวา และจากการศึกษาของฝ่ายอเมริกา ล่าสุดบอกว่า จรวดสกัดสำหรับระยะทางยาวถึงกวม ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับจีนเช่นกัน แต่สำหรับอเมริกา ซึ่งถนัดในการใช้ยุทธศาสตร์ Air Sea Battle เคลื่อนกำลังทางเรือและโจมตีทางเครื่องบิน ถ้าอเมริกา ไม่สามารถใช้ฐานทัพที่โอกินาวา การเคลื่อนพลจากกวม ซึ่งเป็นฐานใหญ่ที่สุดของอเมริกาในแปซิฟิก เพื่อมาต่อสู้กับจีน ก็น่าจะมีปัญหาเช่นกัน เนื่องจากกวมต้องได้รับกำลังสนับสนุนจากโอกินาวาด้วย แปลว่าระบบ A2/AD ในปัจจุบันของจีน น่าจะสามารถสะกัดการเคลื่อนพลของอเมริกามาสู่จีน ทางแปซิฟิกได้เรียบร้อยแล้ว ตัวช่วยที่อเมริกาเคยเลือกไว้ และแน่ใจว่าอยู่ในกระเป๋าอเมริกามาตลอดเวลา คือ ไทยแลนด์ นี่แหละ ที่อเมริกาจะใช้เป็นฐานส่งกำลังพล และกำลังบำรุง ที่อเมริกาจะเคลื่อนมาไม่ว่าจากด้านแปซิฟิก หรือจากด้านมหาสมุทรอินเดีย อเมริกาจึงต้องจับมืออินเดียไว้ให้แน่นเช่นกัน แต่วันนี้ สัมพันธ์ไทย-อเมริกาไม่เหมือนเดิม แผนอเมริกาที่จะใช้ไทย จะเหมือนเดิมหรือไม่ และถ้าใช้ไม่ได้อเมริกาจะ “จัดการ” กับไทยอย่างไร (ไทยจะอยู่ในสถานะลำบาก ยอมอเมริกา ก็เจอ A2/AD จากจีน ไม่ยอมอเมริกา ก็คงจะได้รับของขวัญบ่อยๆ) ถ้าเป็นเช่นนั้น อเมริกา จะ “พร้อมรบ” จีนได้อย่างไร ถ้าเคลื่อนพลมาจากแปซิฟิกไม่สำเร็จ อเมริกาก็คงใช้ยุทธศาสตร์ หรือน่าจะเรียกว่า อุบาย หรือนิสัยเดิมๆ คือ ไม่มีตอนไหนที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ ได้ดีกว่า ตอนที่คู่ต่อสู่น่วม ใกล้เละแล้ว ขนาดจะเคลื่อนพลไปชิดจีน อเมริกายังทำยากเลย แล้วจะทำให้จีนน่วมได้อย่างไร Grand Strategy บอกใบ้ไว้แล้ว อเมริกาคงพยายามทำให้เอเซียวุ่นวาย และฉิบหายในที่สุด เพื่อสร้างความปั่นป่วนต่อจีนจากด้านนอก จีนใหญ่เกินไปและเข้าไปข้างในจีนยาก แต่ไม่ได้หมายความว่า สร้างความปั่นป่วนจากข้างนอกไม่ได้ และแน่นอน ญี่ปุ่น เกาหลี ฟิลิปปินส์ เวียตนาม คงจะรับบทนักป่วนแถวทะเลจีน ส่วนเด็กๆ ที่เหลือ ก็ป่วนมันรอบเอเซีย จากของขวัญวันเด็ก ที่อเมริกาจะทุ่มให้ และจะต้องจับตา ออสเตรเลีย มาเลเซีย และทางทางภาคใต้ของเราเป็นพิเศษ ถ้าอเมริกาใช้เส้นทางแปซิฟิกไม่ได้ เส้นทางมหาสมุทรอินเดีย ก็เป็นทางเลือก และอเมริกาคงพยายามคุมช่องแคบมะละกา เพื่อใช้คุมเส้นทางเดินเรือของจีน และใช้เป็นเส้นทางของตนเอง แม้มาเลเซียจะไม่รักกับอเมริกานัก แต่มาเลเซียก็คงถูกนายท่านสั่งให้อยู่ในแถว และภาคใต้ของเราก็คงน่าเป็นห่วงตามไปด้วย ข่าวเรือรบของอเมริกาเคลื่อนตัวแถวแปซิฟิก ตั้งแต่เหนือลงใต้ ในทะเลจีน และทางมหาสมุทรอินเดีย จะเป็นข่าวที่เราจะได้ยินเกือบทุกวันจากนี้ไป และถ้าเป็นเช่นนั้น ก็หมายความว่า อเมริกา “ยกระดับ” ความพร้อมรบกับจีนขึ้นอีก แต่ทั้งนี้ รายการป่วนเอเซียของอเมริกา จะออกหัว ออกก้อย ก็ขึ้นกับจีนและพวกว่า จีนจะใช้ยุทธศาสตร์ใดรับมือ ซึ่งมีทั้งยุทธศาสตร์ที่ระงับความร้อนแรง และยุทธศาสตร์ที่เร่งความร้อน จนกลายเป็นสงครามโลก เห็นได้จาก Grand Strategy ว่า อเมริกาพยายามยั่วยุจีน เพื่อให้ฝ่ายจีนเป็นผู้เริ่มออกอาการ ออกอาวุธ และอเมริกาจะได้เล่นบทพระเอก ไม่ต่างกับบทการเล่นสงครามของอเมริกา ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 การเตรียมรบของอเมริกา มิได้มีเพียงเท่านี้ นี่เป็นการโหมโรงเท่านั้น อเมริกาเชื่อว่า จีนไม่รบเดี่ยวแน่นอน จีนก็มีเพื่อน และเพื่อนจีนไม่ใช่ระดับลูกหาบ หรือเด็กถือกระเป๋า เพื่อนของจีนระดับรุ่นใหญ่พิษลึกอย่างรัสเซีย หรือระดับพิษร้ายอิหร่าน หรือรุ่นเล็กแต่พิษแรง ชนิดอเมริกาก็แหยงอย่างเกาหลีเหนือ และตุรกีที่เลิกเล่นไต่ลวดแล้ว น่าจะทำให้อเมริกาสะเทือนได้เมื่อมีความพร้อม ถ้าเพื่อนของจีนพร้อมจะยืนเรียงแถวไล่ไปเป็นเส้นยาว ตั้งแต่เอเซีย ตะวันออกกลาง และยุโรป ทำให้อเมริกาก็ต้องคิดหนัก จะเลือกยุทธศาสตร์ไหนมาใช้ อเมริกาอาจจะใช้แยกส่วน แยกซอย ใช้ยุทธศาสตร์ป่วน เล่นเกมยาว เช่นเดียวกันกับเอเซีย เป็นการซื้อเวลา และดูรูปมวยไปก่อน สำหรับรัสเซีย ก็ยกให้นาโต้กับประเทศที่อเมริกาบีบไข่ได้ ไปแหย่รัสเซียให้คุณพี่ปูเหนื่อ ยเหงื่อตก ทั้งที่หิมะยังขาวโพลน ตะวันออกกลางง่ายมาก ยุให้เจ้าของปั้มตีกันเอง อิหร่าน และตรุกี จะได้ไม่มีเวลาหันไปทางจีน ส่วนเกาหลีเหนือ อเมริกามอบแล้วให้เป็นภาระของเกาหลีใต้กับญี่ปุ่น ระหว่างนี้ก็ใช้สีเทใส่ สร้างข่าวให้เป็นตัวร้ายไปเรื่อยๆ ถ้าอเมริกาเลือกยุทธศาสตร์ป่วน ก็เหนื่อยกันไปทั้งโลก ขึ้นอยู่กับว่า ฝ่ายไหนจะอึดกว่ากัน ฝ่ายไหนออกอาการอึดไม่อยู่ การส่งเห็ดพิษให้กินก็คงเกิดขึ้น แล้วก็ฉิบหายกันเป็นแถบๆ แต่แผนทำให้จีนน่วมของอเมริกา คงไม่มีแค่การป่วน บอกแล้วว่าอเมริกาใกล้จะเป็นพระเจ้าอยู่แล้ว สั่งให้แผ่นดินไหว น้ำท่วม ทำได้หมด การทำให้จีนน่วมแบบนั้นแหละ คือ fundermental collapse อย่างแท้จริง จีนจะรับมือกับการรบนอกรูปแบบเช่นนี้ได้หรือไม่ หรือไม่แน่ว่า จีนก็สั่งให้ภูเขาเคลื่อนที่ ไฟปะทุได้เหมือนกัน ถึงตอนนั้น บุญกุศลเท่านั้นกระมังที่จะคุ้มโลกและเราได้ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 16 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1001 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนสอยมังกร ตอนที่ 4
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนสอยมังกร”

    ตอน 4

    หลังจากอ่าน Grand Strategy ไปประมาณ 25 หน้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการประเมิน หรือประณาม จีน ด้วยวิธีกระทบกระแทกด่าอาเฮียกับพวก ( ซึ่งสงสัยว่าจะรวมเอาไทยแลนด์แดนสมันน้อยเข้าไปด้วย!?) เสียชอกช้ำ เป็นจ้ำไปทั้งตัวแล้ว ส่วนที่เหลือถึงจะเข้าเรื่องว่า พระเจ้านักล่าใบตองแห้ง คิดจะดำเนินการกับโลกส่วนเอเซียนี้ อย่างไรบ้าง

    สุดกร่างบอกว่า ส่วนสำคัญของอเมริกา ในการสอยมังกร คือเรื่องกองกำลัง ไม่มีใครโดยเฉพาะจีนเอง จะเกรงกลัวอเมริกา ถ้าอเมริกาไม่ปรับปรุงในเรื่องต่อไปนี้

    1. รัฐสภา ต้องยกเลิกเรื่องตัดงบการทหารแบบเหี้ยนเต้ทั้งกระดาน sequestion caps ที่ทำมา 2,3 ปีแล้ว และเปลี่ยนกลับมาเพิ่มงบด้านความมั่นคงและ ทำงานร่วมกับรัฐบาล ในการกำหนดงบประมาณด้านความมั่นคงเสียใหม่

    2. การถ่วงดุลย์เรื่องอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างจีนกับอเมริกา จะต้องทำให้เกิดขึ้น เพราะเป็นความจำเป็น ในการกำหนดการท่าทีของอเมริกาในเอเซีย

    3. วอชิงตัน จะต้องรีบแสดงท่าทีทางทหาร เพื่อเป็นการต่อต้านการกำหนดเขต A2/AD ของจีน โดยเฉพาะ ในบริเวณที่อเมริกายังมีความได้เปรียบอยู่ทางด้านอาวุธ ที่อเมริกาแอบซ่อนอยู่ทั้งบนน้ำและใต้น้ำ … ข้อนี้อ่านช้าๆ และให้ความสนใจเป็นพิเศษนะครับ มันอาจจะเป็นหัวไม่ขีด ที่เขาจะใช้จุดชนวนก็ได้ ..เพราะมันแปลว่า วอชิงตันกำลังคิดใช้อาวุธตอบโต้กับจีน ในบริเวณที่จีนกำหนดเขต A2/AD ( A2/AD คืออะไร ใจเย็นนิดนะครับ เดี๋ยวจะเล่าขยายในตอนต่อไป)

    4. วอชิงตัน จะต้องย้ำถึงความมีเสรีภาพในเส้นทางการเดินเรือและการบิน รวมทั้งสิทธิพิเศษในเขตเศรษฐกิจ สำหรับด้านทหารและพลเรือน และ” ตอบโต้จีน ” อย่างเหมาะสม เมื่อเสรีภาพดังกล่าวถูกละเมิด…. นี่ก็เป็นอีกข้อ ที่เราควรให้ความสนใจ ….

    4. วอชิงตัน ควรสร้างความสามารถทางทหาร และความสามารถที่จะร่วมงานทุกรูปแบบกับพันธมิตร และหุ้นส่วนในเอเซีย รวมทั้งความช่วยเหลืออื่นๆ เพื่อให้พวกเขากำหนดเขต A2/AD กับจีนด้วย
    5. วอชิงตัน จะต้องเร่งสร้างเครือข่ายระบบสะกัดกั้นการโจมตีจากจรวด และระบบอื่นเป็นการสนับสนุนให้กับพันธมิตรในเอเซีย

    6. วอชิงตัน จะต้องเพิ่มความพยายามในการปกป้องบริเวณชั้นอวกาศของตน และพัฒนาการสื่อสารระบบคลื่นความถี่สูง

    7. วอชิงตัน จะต้องเพิ่มความถี่ของการประจำการณ์ของเรือรบ และเครื่องบินรบในบริเวณทะเลจีนใต้ และตะวันออก

    8. วอชิงตัน จะต้องเพิ่มจำนวน และระยะเวลาการฝึกของกองทัพเรือ ในบริเวณทะเลจีนใต้ และ รอบฝั่งทะเล

    ถ้าขี้เกียจอ่าน 8 ข้อข้างต้นยาวๆ ผมสรุปให้ว่า เป็นข้อเสนอของไอ้สุดกร่าง ที่จะให้อเมริกาคิดใช้อาวุธ ตอบโต้กับจีนในเขต A2/AD ของจีน รวมทั้งติดอาวุธ ให้บรรดาพันธมิตรของอเมริกาในเอเซีย เพื่อให้ทำการขัดขืน และไม่ให้ความร่วมมือกับจีน

    ข้อเสนอแบบนี้ นอกจากจะทำให้อุณหภูมิสัมพันธ์ ระหว่างอเมริกากับจีน ร้อนระอุ หรือเย็นเป็นน้ำแข็ง อย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว ยังเป็นการแบ่งพวก กาหน้าประเทศในเอเซียให้ชัดว่า ใครพวกใคร ใครเป็นพวกอเมริกา ก็ยืด มีปลอกคอ มีอาวุธแจกให้ เป็นการสร้างบรรยากาศ ให้ประเทศในเอเซีย ตั้งการ์ดสูงใส่กัน ไม่ไว้ใจกัน ไม่ร่วมมือกัน ไม่ต่างกับ ที่อเมริกา ทำอยู่ในตะวันออกกลาง

    คราวนี้ ให้เอเซียเป็นสนามรบบ้าง จะได้ไม่น้อยหน้า ตะวันออกกลาง

    และเพื่อให้แน่ใจว่าเอเซีย จะได้มีโอกาสแตกคอกันจริง กัดกันเอง ตามที่อเมริกาต้องการ อเมริกาจะแบ่งหน้าที่ และแจกบทให้ พันธมิตร ลูกหาบ หรือขี้ข้า แต่ละรายดังนี้

    – ญี่ปุ่น : ซึ่งสุดกร่างบอกว่า ไม่เคยผิดหวังกับสอนง่าย สั่งให้นอนให้กลิ้งได้ของญี่ปุ่น ดังนั้น ญี่ปุ่นจะได้รับหน้าที่ใหญ่โต เป็นหัวหมู่ทลวงฟัน เป็นผู้จัดการภาค เป็นตัวแทนอเมริกา คราใดที่อเมริกาไม่ได้มาลูบหลัง ตบหัว บรรดาลูกหาบด้วยตัวเอง ให้หัวหมู่ทำหน้าที่แทน และในฐานะเป็นหัวหมู่ อเมริกาจะจัดเครื่องทรง ติดอาวุธเต็มยศ ชุดใหญ่ ให้แก่ญี่ปุ่น .. มีหวังได้ดู หนัง Pearl Habour รอบสอง

    – เกาหลีใต้ : นอกเหนือจากหน้าที่ทั่วไปแล้ว และได้พัดยศ เครื่องทรงติดอาวุธครบสูตรแล้ว เกาหลีใต้มีภาระกิจพิเศษ ที่จะต้องคิดยุทธศาสตร์ ร่วมกับ หัวหมู่ ในการกำจัดน้องคิมของผมและพรรคพวก ให้พ้นไปจากเกาหลีเหนืออย่างไม่เหลือทั้งเศษทั้งส่วน....น้องคิมครับ ถ้าลูกน้องเขารายงานน้องถึงตรงนี้ น้องก็ใจเย็นหน่อยนะครับ อย่าหุนหันใจร้อน … ใจร้อนเวลาเล็งเป้า เดี๋ยวมันไม่แม่น
    – ออสเตรเลีย : แม้จะอยู่ค่อนไปทางใต้ แต่ก็เป็นตัวเชื่อม อินโดแปซิฟิก ให้อเมริกา ที่สำคัญ มาจากโคตรเดียวกัน แองโกลแซกซอนด้วยกัน ยังไงพัดยศ ทั้งอาวุธ ทั้งทหารประจำฐานทัพ ก็ต้องส่งมาให้อุ่นใจเต็มที่ ติดเครื่องหมายพิเศษอยู่แล้ว สงสัยระบบสกัดกั้นการโจมตี คงจะเป็นรุ่นพิเศษ และติดตั้งให้รุ่นแรกๆ

    – อินเดีย : อันนี้มาแปลก อีนี่ มารวมกลุ่มกันไงเนี่ย ไม่รู้ใคร ต้มใคร แถมสุดกร่างบอกว่าอเมริกา จะต้องทำหูทวนลมเสียบ้าง ในเรื่องที่ลือกันว่า อินเดียก็มีนิวเคลียร์ แถมยังจะต้องสนับสนุนอาวุธให้อินเดียอีกด้วย เพราะอินเดียเป็นประเทศใหญ่ ที่มีเขตแดนติดกับจีนยาวเหยียด และมอบหน้าที่ให้อินเดียเป็นตำรวจน้ำ ดูแลมหาสมุทรอินเดีย อย่าให้เรือของจีนซ่าเข้ามา โดยอเมริกาจะให้ความร่วมมือ และสนับสนุนเทคโนโลยีด้านกองทัพเรือให้กับอินเดีย … รายการนี้ อีนี่ ลุงนิทาน บรรยายไม่ออกเลย เจอแขกเล่นกล คนโบราณนี่ท่านฉลาดจริงๆ

    – เอเซียอาคเณย์ : สุดกร่างบอก แถบนี้เป็นเป้าหมายการบีบของจีน ไม่ใช่แค่เรื่องปัญหาทะเลจีนเท่านั้น

    – ฟิลิปปินส์ : ลูกหาบของตาย ที่ไม่มีปัญญาจะดิ้นรนไปไหนได้ เจอแต่ใต้ฝุ่น จนหัวหมุน แบบนี้ต้องปลอบใจด้วยการเพิ่มกำลังอาวุธ ด้านกองทัพ แบบจัดเต็ม full range เพื่อไม่ให้ใครมาบุกรุกเขตแดนของลูกหาบเดนตายนี้ได้ ….ผมละสงสารประเทศนี้จริง ถูกใช้ซะโทรมไม่ฟื้นเลย เป็นตัวอย่างที่สมันน้อย ควรศึกษาไว้เป็นบทเรียน

    – อินโดนีเซีย : แม้อยู่ไกลปืน แต่ยังไงตาโอก็ต้องให้ดูแล เอ้า จัดไป ให้มีการฝึกร่วมกันให้บ่อยหน่อยแล้วกัน มีแค่นี้เองหรือ …แค่นี้จริงๆครับ แต่ไม่แปลกใจ

    – สิงคโปร์ : จัดการให้มีการยกระดับสมรรถนะ ของกองทัพอากาศ จาก F-16s เป็น F-35s ….อืม สงสัยรายการนี้ หลอกกันใช้นี่หว่า เห็นปู่ลีไปสวรรค์แล้ว ต้มลูกให้เละดีกว่า ให้อะไรไม่ให้ ดันให้เครื่องบิน สิงคโปร์น่ะ ฐานทัพอากาศยังไม่มีเลย เวลาจะฝึกบิน ยังต้องอาศัยฐานแถวบ้านเราเลย แล้ว F-35s เขาว่าขับยาก ฉ. ห. ต้องฝึกอย่างน้อย 1 ปี เครื่องทรงก็น้ำหนักมาก ร่างกายก็ต้องฟิตเปรียะ ถึงจะรับน้ำหนักไหว เออ ถ้าเจ้านายเกิดใจดี ให้มาจริง อาตี๋ผอมกระหร่อง จะขับไหวหรือ แล้วกว่าเครื่องจะมา กว่าจะฝึกเสร็จ ตอนนั้นเกาะสิงคโปร์ จะเหลืออยู่แค่ไหน ผมยังสงสัย
    – มาเลเซีย : จัดการให้มาเลเซียเข้าร่วมโครงการด้านความริเริ่มด้านความ มั่นคง และสนับสนุนให้มาเลเซีย มีส่วนร่วมในการฝึกร่วม ต่างๆ … ดูเหมือน สุดกร่างจะ ให้เข้า โครงการฝึกแยะหน่อย ท่าทาง มาเลเซียนี่ คงจะหนืดยืดยาดพิกล หรือว่า สั่งกันตรงไม่ได้ ต้องฝากชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ไปบอกกับเด็กของนายท่านเอง หรือยังมีเรื่องคาใจเคลียร์ไม่ออกค้างกันอยู่ ถูกสอยซ้ำซาก ใครมันจะอยากคุยด้วย

    – เวียตนาม : จะต้องมีการขยายการฝึกร่วมด้านกองทัพเรือ รวมทั้งฝึกด้านการบรรเทาทุกข์และภัยพิบัติ การค้นหา/การ ช่วยเหลือ โดยกองทัพเรืออเมริกา จะแวะเข้ามาใช้ท่าเรือ Cam Rahn ระยะสั้น แต่ถี่ขึ้น …. รายการนี้ น่าสนใจครับ ทำไม เน้นให้เวียตนามดูแล ด้านการบรรเทาทุกข์และภัยพิบัติ ทั้งๆที่ทหารเวียตนามนี่รบเก่งไม่เบา อ้อ ยังไม่แน่ใจว่า รัศมีของคุณพี่ปูติน จางจากเวียตนามหมดจริงหรือเปล่า หรือสาวเวียตนามยังแอบพกรูปคุณพี่ปูตินไว้ในเบื้องลึกอยู่

    – เมียนมาร์ หรือพม่า : จะมีการให้งบ IMET งบฝึกอบรมทางทหาร ที่อเมริกาเคยใช้หลอกเลี้ยงทหารไทยมา ประมาณ 60 ปี ตอนนี้ ตัดสัมพันธ์กับไทย เลยจะเอาเศษเงินที่เหลืออยู่ ไปหลอกเลี้ยงทหารพม่าแทน และพยายามที่จะดึงทหารพม่าเข้ามาร่วมการฝึกกับนานาชาติ … กำลังจะเป็นเด็กสร้างคนใหม่ เพราะเพิ่งเปิดประเทศ ทรัพยากรยังอยู่อื้อ ที่สำคัญ คุณน้าอองซาน แกชอบคบและซบฝรั่ง มากกว่าเอเซียด้วยกัน เอาเลยลูกพี่ แล้วจะได้รู้จักของจริง

    – ไต้หวัน : ความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับ ไต้หวัน อย่างไม่เป็นทางการ ใกล้ชิดอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ถ้านึกเรื่อง เจียงไคเช็ค พี่น้องสามสาวตระกูลซ่ง คงพอเข้าใจสัมพันธ์พิเศษนี้ สุดกร่างบอกว่า ไต้หวัน เป็นส่วนสำคัญใน Grand Strategy กับจีน แน่นอน … คงไม่แคล้ว ใช้คนกันเอง ไปเก็บกันเอง ตามถนัด แต่ก็มีพวกที่เห็นค่าของสายพันธ์ ที่สืบทอดจากที่เดียวกันมายาวนาน แบงค์กงเต๊กใช่ว่าจะซื้อได้หมด

    เอาละครับ ผมไล่เรียงให้ทั้งหมด ที่สุดกร่าง CFR เขาเขียนถึงบทบาท ของประเทศในเอเซีย และเอเซียอาคเณย์ ที่เป็นพรรคพวกของอเมริกาทั้งหมด และมีอยู่ เพียง 4 ประเทศ ที่ เขาไม่เอ่ยถึง คือ บรูไน ลาว กัมพูชา และ ไทย

    ทำไมไม่มีชื่อ ประเทศไทย ดี หรือ ไม่ดี เขามองเราอย่างไร และเราควรจัดสถานะของตนเองไว้ที่ไหนอย่างไร ยังควรให้เขามาใช้ ฐานทัพที่อู่ตะเภา ที่เขาอ้างว่า เพื่อช่วยเหลือในการบรรเทาทุกข์ให้แก่เนปาลหรือไม่

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    15 พ.ค. 2558
    แผนสอยมังกร ตอนที่ 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนสอยมังกร” ตอน 4 หลังจากอ่าน Grand Strategy ไปประมาณ 25 หน้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการประเมิน หรือประณาม จีน ด้วยวิธีกระทบกระแทกด่าอาเฮียกับพวก ( ซึ่งสงสัยว่าจะรวมเอาไทยแลนด์แดนสมันน้อยเข้าไปด้วย!?) เสียชอกช้ำ เป็นจ้ำไปทั้งตัวแล้ว ส่วนที่เหลือถึงจะเข้าเรื่องว่า พระเจ้านักล่าใบตองแห้ง คิดจะดำเนินการกับโลกส่วนเอเซียนี้ อย่างไรบ้าง สุดกร่างบอกว่า ส่วนสำคัญของอเมริกา ในการสอยมังกร คือเรื่องกองกำลัง ไม่มีใครโดยเฉพาะจีนเอง จะเกรงกลัวอเมริกา ถ้าอเมริกาไม่ปรับปรุงในเรื่องต่อไปนี้ 1. รัฐสภา ต้องยกเลิกเรื่องตัดงบการทหารแบบเหี้ยนเต้ทั้งกระดาน sequestion caps ที่ทำมา 2,3 ปีแล้ว และเปลี่ยนกลับมาเพิ่มงบด้านความมั่นคงและ ทำงานร่วมกับรัฐบาล ในการกำหนดงบประมาณด้านความมั่นคงเสียใหม่ 2. การถ่วงดุลย์เรื่องอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างจีนกับอเมริกา จะต้องทำให้เกิดขึ้น เพราะเป็นความจำเป็น ในการกำหนดการท่าทีของอเมริกาในเอเซีย 3. วอชิงตัน จะต้องรีบแสดงท่าทีทางทหาร เพื่อเป็นการต่อต้านการกำหนดเขต A2/AD ของจีน โดยเฉพาะ ในบริเวณที่อเมริกายังมีความได้เปรียบอยู่ทางด้านอาวุธ ที่อเมริกาแอบซ่อนอยู่ทั้งบนน้ำและใต้น้ำ … ข้อนี้อ่านช้าๆ และให้ความสนใจเป็นพิเศษนะครับ มันอาจจะเป็นหัวไม่ขีด ที่เขาจะใช้จุดชนวนก็ได้ ..เพราะมันแปลว่า วอชิงตันกำลังคิดใช้อาวุธตอบโต้กับจีน ในบริเวณที่จีนกำหนดเขต A2/AD ( A2/AD คืออะไร ใจเย็นนิดนะครับ เดี๋ยวจะเล่าขยายในตอนต่อไป) 4. วอชิงตัน จะต้องย้ำถึงความมีเสรีภาพในเส้นทางการเดินเรือและการบิน รวมทั้งสิทธิพิเศษในเขตเศรษฐกิจ สำหรับด้านทหารและพลเรือน และ” ตอบโต้จีน ” อย่างเหมาะสม เมื่อเสรีภาพดังกล่าวถูกละเมิด…. นี่ก็เป็นอีกข้อ ที่เราควรให้ความสนใจ …. 4. วอชิงตัน ควรสร้างความสามารถทางทหาร และความสามารถที่จะร่วมงานทุกรูปแบบกับพันธมิตร และหุ้นส่วนในเอเซีย รวมทั้งความช่วยเหลืออื่นๆ เพื่อให้พวกเขากำหนดเขต A2/AD กับจีนด้วย 5. วอชิงตัน จะต้องเร่งสร้างเครือข่ายระบบสะกัดกั้นการโจมตีจากจรวด และระบบอื่นเป็นการสนับสนุนให้กับพันธมิตรในเอเซีย 6. วอชิงตัน จะต้องเพิ่มความพยายามในการปกป้องบริเวณชั้นอวกาศของตน และพัฒนาการสื่อสารระบบคลื่นความถี่สูง 7. วอชิงตัน จะต้องเพิ่มความถี่ของการประจำการณ์ของเรือรบ และเครื่องบินรบในบริเวณทะเลจีนใต้ และตะวันออก 8. วอชิงตัน จะต้องเพิ่มจำนวน และระยะเวลาการฝึกของกองทัพเรือ ในบริเวณทะเลจีนใต้ และ รอบฝั่งทะเล ถ้าขี้เกียจอ่าน 8 ข้อข้างต้นยาวๆ ผมสรุปให้ว่า เป็นข้อเสนอของไอ้สุดกร่าง ที่จะให้อเมริกาคิดใช้อาวุธ ตอบโต้กับจีนในเขต A2/AD ของจีน รวมทั้งติดอาวุธ ให้บรรดาพันธมิตรของอเมริกาในเอเซีย เพื่อให้ทำการขัดขืน และไม่ให้ความร่วมมือกับจีน ข้อเสนอแบบนี้ นอกจากจะทำให้อุณหภูมิสัมพันธ์ ระหว่างอเมริกากับจีน ร้อนระอุ หรือเย็นเป็นน้ำแข็ง อย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว ยังเป็นการแบ่งพวก กาหน้าประเทศในเอเซียให้ชัดว่า ใครพวกใคร ใครเป็นพวกอเมริกา ก็ยืด มีปลอกคอ มีอาวุธแจกให้ เป็นการสร้างบรรยากาศ ให้ประเทศในเอเซีย ตั้งการ์ดสูงใส่กัน ไม่ไว้ใจกัน ไม่ร่วมมือกัน ไม่ต่างกับ ที่อเมริกา ทำอยู่ในตะวันออกกลาง คราวนี้ ให้เอเซียเป็นสนามรบบ้าง จะได้ไม่น้อยหน้า ตะวันออกกลาง และเพื่อให้แน่ใจว่าเอเซีย จะได้มีโอกาสแตกคอกันจริง กัดกันเอง ตามที่อเมริกาต้องการ อเมริกาจะแบ่งหน้าที่ และแจกบทให้ พันธมิตร ลูกหาบ หรือขี้ข้า แต่ละรายดังนี้ – ญี่ปุ่น : ซึ่งสุดกร่างบอกว่า ไม่เคยผิดหวังกับสอนง่าย สั่งให้นอนให้กลิ้งได้ของญี่ปุ่น ดังนั้น ญี่ปุ่นจะได้รับหน้าที่ใหญ่โต เป็นหัวหมู่ทลวงฟัน เป็นผู้จัดการภาค เป็นตัวแทนอเมริกา คราใดที่อเมริกาไม่ได้มาลูบหลัง ตบหัว บรรดาลูกหาบด้วยตัวเอง ให้หัวหมู่ทำหน้าที่แทน และในฐานะเป็นหัวหมู่ อเมริกาจะจัดเครื่องทรง ติดอาวุธเต็มยศ ชุดใหญ่ ให้แก่ญี่ปุ่น .. มีหวังได้ดู หนัง Pearl Habour รอบสอง – เกาหลีใต้ : นอกเหนือจากหน้าที่ทั่วไปแล้ว และได้พัดยศ เครื่องทรงติดอาวุธครบสูตรแล้ว เกาหลีใต้มีภาระกิจพิเศษ ที่จะต้องคิดยุทธศาสตร์ ร่วมกับ หัวหมู่ ในการกำจัดน้องคิมของผมและพรรคพวก ให้พ้นไปจากเกาหลีเหนืออย่างไม่เหลือทั้งเศษทั้งส่วน....น้องคิมครับ ถ้าลูกน้องเขารายงานน้องถึงตรงนี้ น้องก็ใจเย็นหน่อยนะครับ อย่าหุนหันใจร้อน … ใจร้อนเวลาเล็งเป้า เดี๋ยวมันไม่แม่น – ออสเตรเลีย : แม้จะอยู่ค่อนไปทางใต้ แต่ก็เป็นตัวเชื่อม อินโดแปซิฟิก ให้อเมริกา ที่สำคัญ มาจากโคตรเดียวกัน แองโกลแซกซอนด้วยกัน ยังไงพัดยศ ทั้งอาวุธ ทั้งทหารประจำฐานทัพ ก็ต้องส่งมาให้อุ่นใจเต็มที่ ติดเครื่องหมายพิเศษอยู่แล้ว สงสัยระบบสกัดกั้นการโจมตี คงจะเป็นรุ่นพิเศษ และติดตั้งให้รุ่นแรกๆ – อินเดีย : อันนี้มาแปลก อีนี่ มารวมกลุ่มกันไงเนี่ย ไม่รู้ใคร ต้มใคร แถมสุดกร่างบอกว่าอเมริกา จะต้องทำหูทวนลมเสียบ้าง ในเรื่องที่ลือกันว่า อินเดียก็มีนิวเคลียร์ แถมยังจะต้องสนับสนุนอาวุธให้อินเดียอีกด้วย เพราะอินเดียเป็นประเทศใหญ่ ที่มีเขตแดนติดกับจีนยาวเหยียด และมอบหน้าที่ให้อินเดียเป็นตำรวจน้ำ ดูแลมหาสมุทรอินเดีย อย่าให้เรือของจีนซ่าเข้ามา โดยอเมริกาจะให้ความร่วมมือ และสนับสนุนเทคโนโลยีด้านกองทัพเรือให้กับอินเดีย … รายการนี้ อีนี่ ลุงนิทาน บรรยายไม่ออกเลย เจอแขกเล่นกล คนโบราณนี่ท่านฉลาดจริงๆ – เอเซียอาคเณย์ : สุดกร่างบอก แถบนี้เป็นเป้าหมายการบีบของจีน ไม่ใช่แค่เรื่องปัญหาทะเลจีนเท่านั้น – ฟิลิปปินส์ : ลูกหาบของตาย ที่ไม่มีปัญญาจะดิ้นรนไปไหนได้ เจอแต่ใต้ฝุ่น จนหัวหมุน แบบนี้ต้องปลอบใจด้วยการเพิ่มกำลังอาวุธ ด้านกองทัพ แบบจัดเต็ม full range เพื่อไม่ให้ใครมาบุกรุกเขตแดนของลูกหาบเดนตายนี้ได้ ….ผมละสงสารประเทศนี้จริง ถูกใช้ซะโทรมไม่ฟื้นเลย เป็นตัวอย่างที่สมันน้อย ควรศึกษาไว้เป็นบทเรียน – อินโดนีเซีย : แม้อยู่ไกลปืน แต่ยังไงตาโอก็ต้องให้ดูแล เอ้า จัดไป ให้มีการฝึกร่วมกันให้บ่อยหน่อยแล้วกัน มีแค่นี้เองหรือ …แค่นี้จริงๆครับ แต่ไม่แปลกใจ – สิงคโปร์ : จัดการให้มีการยกระดับสมรรถนะ ของกองทัพอากาศ จาก F-16s เป็น F-35s ….อืม สงสัยรายการนี้ หลอกกันใช้นี่หว่า เห็นปู่ลีไปสวรรค์แล้ว ต้มลูกให้เละดีกว่า ให้อะไรไม่ให้ ดันให้เครื่องบิน สิงคโปร์น่ะ ฐานทัพอากาศยังไม่มีเลย เวลาจะฝึกบิน ยังต้องอาศัยฐานแถวบ้านเราเลย แล้ว F-35s เขาว่าขับยาก ฉ. ห. ต้องฝึกอย่างน้อย 1 ปี เครื่องทรงก็น้ำหนักมาก ร่างกายก็ต้องฟิตเปรียะ ถึงจะรับน้ำหนักไหว เออ ถ้าเจ้านายเกิดใจดี ให้มาจริง อาตี๋ผอมกระหร่อง จะขับไหวหรือ แล้วกว่าเครื่องจะมา กว่าจะฝึกเสร็จ ตอนนั้นเกาะสิงคโปร์ จะเหลืออยู่แค่ไหน ผมยังสงสัย – มาเลเซีย : จัดการให้มาเลเซียเข้าร่วมโครงการด้านความริเริ่มด้านความ มั่นคง และสนับสนุนให้มาเลเซีย มีส่วนร่วมในการฝึกร่วม ต่างๆ … ดูเหมือน สุดกร่างจะ ให้เข้า โครงการฝึกแยะหน่อย ท่าทาง มาเลเซียนี่ คงจะหนืดยืดยาดพิกล หรือว่า สั่งกันตรงไม่ได้ ต้องฝากชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ไปบอกกับเด็กของนายท่านเอง หรือยังมีเรื่องคาใจเคลียร์ไม่ออกค้างกันอยู่ ถูกสอยซ้ำซาก ใครมันจะอยากคุยด้วย – เวียตนาม : จะต้องมีการขยายการฝึกร่วมด้านกองทัพเรือ รวมทั้งฝึกด้านการบรรเทาทุกข์และภัยพิบัติ การค้นหา/การ ช่วยเหลือ โดยกองทัพเรืออเมริกา จะแวะเข้ามาใช้ท่าเรือ Cam Rahn ระยะสั้น แต่ถี่ขึ้น …. รายการนี้ น่าสนใจครับ ทำไม เน้นให้เวียตนามดูแล ด้านการบรรเทาทุกข์และภัยพิบัติ ทั้งๆที่ทหารเวียตนามนี่รบเก่งไม่เบา อ้อ ยังไม่แน่ใจว่า รัศมีของคุณพี่ปูติน จางจากเวียตนามหมดจริงหรือเปล่า หรือสาวเวียตนามยังแอบพกรูปคุณพี่ปูตินไว้ในเบื้องลึกอยู่ – เมียนมาร์ หรือพม่า : จะมีการให้งบ IMET งบฝึกอบรมทางทหาร ที่อเมริกาเคยใช้หลอกเลี้ยงทหารไทยมา ประมาณ 60 ปี ตอนนี้ ตัดสัมพันธ์กับไทย เลยจะเอาเศษเงินที่เหลืออยู่ ไปหลอกเลี้ยงทหารพม่าแทน และพยายามที่จะดึงทหารพม่าเข้ามาร่วมการฝึกกับนานาชาติ … กำลังจะเป็นเด็กสร้างคนใหม่ เพราะเพิ่งเปิดประเทศ ทรัพยากรยังอยู่อื้อ ที่สำคัญ คุณน้าอองซาน แกชอบคบและซบฝรั่ง มากกว่าเอเซียด้วยกัน เอาเลยลูกพี่ แล้วจะได้รู้จักของจริง – ไต้หวัน : ความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับ ไต้หวัน อย่างไม่เป็นทางการ ใกล้ชิดอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ถ้านึกเรื่อง เจียงไคเช็ค พี่น้องสามสาวตระกูลซ่ง คงพอเข้าใจสัมพันธ์พิเศษนี้ สุดกร่างบอกว่า ไต้หวัน เป็นส่วนสำคัญใน Grand Strategy กับจีน แน่นอน … คงไม่แคล้ว ใช้คนกันเอง ไปเก็บกันเอง ตามถนัด แต่ก็มีพวกที่เห็นค่าของสายพันธ์ ที่สืบทอดจากที่เดียวกันมายาวนาน แบงค์กงเต๊กใช่ว่าจะซื้อได้หมด เอาละครับ ผมไล่เรียงให้ทั้งหมด ที่สุดกร่าง CFR เขาเขียนถึงบทบาท ของประเทศในเอเซีย และเอเซียอาคเณย์ ที่เป็นพรรคพวกของอเมริกาทั้งหมด และมีอยู่ เพียง 4 ประเทศ ที่ เขาไม่เอ่ยถึง คือ บรูไน ลาว กัมพูชา และ ไทย ทำไมไม่มีชื่อ ประเทศไทย ดี หรือ ไม่ดี เขามองเราอย่างไร และเราควรจัดสถานะของตนเองไว้ที่ไหนอย่างไร ยังควรให้เขามาใช้ ฐานทัพที่อู่ตะเภา ที่เขาอ้างว่า เพื่อช่วยเหลือในการบรรเทาทุกข์ให้แก่เนปาลหรือไม่ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 15 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 813 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts