• พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ในโอกาสนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงกิตติมศักดิ์ (Women’s Global Ambassador) คนแรก ตามคำกราบบังคมทูลเขิญของสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (International Ice Hockey Federation) “IIHF” ทรงนำทีมไอซ์ฮอกกี้ราชอาณาจักรไทยแข่งขันกับทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน นัดกระชับมิตรในครั้งนี้ด้วย
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : MGR PHOTO
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ในโอกาสนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงกิตติมศักดิ์ (Women’s Global Ambassador) คนแรก ตามคำกราบบังคมทูลเขิญของสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (International Ice Hockey Federation) “IIHF” ทรงนำทีมไอซ์ฮอกกี้ราชอาณาจักรไทยแข่งขันกับทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน นัดกระชับมิตรในครั้งนี้ด้วย #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : MGR PHOTO
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระราชินี ทรงนำไอซ์ฮอกกี้ทีมชาติไทย เสมอทีมจีน ในการแข่งขันนัดกระชับมิตร
    เมื่อเวลา 18.26 น. วันที่ 6 ตุลาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศไทย ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
    ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงกิตติมศักดิ์ (Women’s Global Ambassador) คนแรก ตามคำกราบบังคมทูลเขิญของสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (International Ice Hockey Federation) “IIHF” ทรงนำทีมไอซ์ฮอกกี้ราชอาณาจักรไทยแข่งขันกับทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน นัดกระชับมิตรในครั้งนี้ด้วย
    กระทั่งเวลา 19.34 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงนำทัพนักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ประเทศไทย ลงสนามพบกับนักกีฬาทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงนำทีมนักกีฬาไทยทำคะแนนขึ้นนำตั้งแต่นาทีแรกของการแข่งขัน และตลอดการแข่งขันทั้ง 2 ทีมต่างผลัดกันต่อสู้ทำคะแนนอย่างดุเดือด
    เมื่อจบเกมแรกทีมไทยเป็นฝ่ายทำคะแนนขึ้นนำทีมจีนด้วย คะแนน 6:2 ส่วนเกมที่ 2 ทั้ง 2 ทีมต่างสู้กันอย่างดุเดือดไม่แพ้เกมแรก ต่างฝ่ายต่างขับเคี่ยวทำคะแนนกันอย่างสูสี ทีมจีนเริ่มทำคะแนนตีตื้นขึ้นมาและเฉือนเอาชนะทีมไทยไปได้ด้วยคะแนน 4:3
    ต่อมากรรมการเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขันเกมที่ 3 อันเป็นเกมสุดท้ายทั้ง 2 ทีมต่างสู้ไม่ถอยโดยเฉพาะทีมไทยที่มี สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นแรงกำลังพระราชหฤทัยอันสำคัญ จึงทำให้ทั้งทีมไทยและทีมจีนต่างผลัดกันทำคะแนนอย่างเต็มกำลัง
    จบปิดเกมการแข่งขันทั้งสองทีมทำคะแนนเสมอกันที่ 6:6 สรุปผลการแข่งขันทั้ง 3 เกม ทีมไทยและทีมจีน เสมอกันด้วยคะแนน 6:2 ,4:3 และ 6:6
    #ทรงพระเจริญ

    ที่มา : @เดินตามพ่อ
    https://www.facebook.com/share/vbHWKX5itUPaVQCs/
    พระราชินี ทรงนำไอซ์ฮอกกี้ทีมชาติไทย เสมอทีมจีน ในการแข่งขันนัดกระชับมิตร เมื่อเวลา 18.26 น. วันที่ 6 ตุลาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศไทย ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงกิตติมศักดิ์ (Women’s Global Ambassador) คนแรก ตามคำกราบบังคมทูลเขิญของสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (International Ice Hockey Federation) “IIHF” ทรงนำทีมไอซ์ฮอกกี้ราชอาณาจักรไทยแข่งขันกับทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน นัดกระชับมิตรในครั้งนี้ด้วย กระทั่งเวลา 19.34 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงนำทัพนักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ประเทศไทย ลงสนามพบกับนักกีฬาทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงนำทีมนักกีฬาไทยทำคะแนนขึ้นนำตั้งแต่นาทีแรกของการแข่งขัน และตลอดการแข่งขันทั้ง 2 ทีมต่างผลัดกันต่อสู้ทำคะแนนอย่างดุเดือด เมื่อจบเกมแรกทีมไทยเป็นฝ่ายทำคะแนนขึ้นนำทีมจีนด้วย คะแนน 6:2 ส่วนเกมที่ 2 ทั้ง 2 ทีมต่างสู้กันอย่างดุเดือดไม่แพ้เกมแรก ต่างฝ่ายต่างขับเคี่ยวทำคะแนนกันอย่างสูสี ทีมจีนเริ่มทำคะแนนตีตื้นขึ้นมาและเฉือนเอาชนะทีมไทยไปได้ด้วยคะแนน 4:3 ต่อมากรรมการเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขันเกมที่ 3 อันเป็นเกมสุดท้ายทั้ง 2 ทีมต่างสู้ไม่ถอยโดยเฉพาะทีมไทยที่มี สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นแรงกำลังพระราชหฤทัยอันสำคัญ จึงทำให้ทั้งทีมไทยและทีมจีนต่างผลัดกันทำคะแนนอย่างเต็มกำลัง จบปิดเกมการแข่งขันทั้งสองทีมทำคะแนนเสมอกันที่ 6:6 สรุปผลการแข่งขันทั้ง 3 เกม ทีมไทยและทีมจีน เสมอกันด้วยคะแนน 6:2 ,4:3 และ 6:6 #ทรงพระเจริญ ที่มา : @เดินตามพ่อ https://www.facebook.com/share/vbHWKX5itUPaVQCs/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • แนะนำคอร์ส "Mini OKR + NLP Course in LEADING SELF With Love + Work "
    คอร์ส 13 ตอน สั้นๆ ที่ตั้งใจทำแบ่งปันโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

    คอร์สนี้ผสานศาสตร์การตั้งเป้าแบบ OKR กับศาสตร์ NLP (Neuro - Linguistic Programming) และการทำในสิ่งที่มีความรัก (Love + Work) เพื่อผู้ที่สนใจการพัฒนาตนเอง และทีม หรือแม้กระทั่งองค์กรสมัยใหม่ที่เน้นการใช้จิตวิทยาบวก และจุดเด่นที่เน้นจุดแกร่งนำไปใช้อย่างกว้างขวาง

    ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ ดร.วสิษฐ์ พรหมบุตร หรือ อ.หม่อม นอกจากกลั่นสาระ และโนว์ฮาวจาก Best of the best ในศาสตร์ แล้วยังใช้ศาสตร์ที่นำมาแบ่งปันด้วยตนเองจนสามารถถอดแบบให้ผู้สนใจสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันอย่างง่ายดาย

    หากเห็นว่าสิ่งที่แบ่งปันเป็นประโยชน์กับผู้ที่ท่านรู้จัก - ปรารถนาดี แบ่งปันให้ผู้ที่ท่านรู้จักได้ติดตามสาระ และโนว์ฮาวดีๆ ได้ที่ https://youtu.be/aDlmktfRaRo ช่องทาง TikTok ในชื่อ "หม่อมเมืองช้าง" (https://www.tiktok.com/@wasitprombutr) และทาง www.lifealignmentor.com

    สนใจติดต่อศาสตราจารย์พิศิษฐ์ ดร.วสิษฐ์ พรหมบุตร หรือ อ.หม่อม ได้ที่ wasit.p@lifealignmentor.com
    แนะนำคอร์ส "Mini OKR + NLP Course in LEADING SELF With Love + Work " คอร์ส 13 ตอน สั้นๆ ที่ตั้งใจทำแบ่งปันโดยไม่มีค่าใช้จ่าย คอร์สนี้ผสานศาสตร์การตั้งเป้าแบบ OKR กับศาสตร์ NLP (Neuro - Linguistic Programming) และการทำในสิ่งที่มีความรัก (Love + Work) เพื่อผู้ที่สนใจการพัฒนาตนเอง และทีม หรือแม้กระทั่งองค์กรสมัยใหม่ที่เน้นการใช้จิตวิทยาบวก และจุดเด่นที่เน้นจุดแกร่งนำไปใช้อย่างกว้างขวาง ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ ดร.วสิษฐ์ พรหมบุตร หรือ อ.หม่อม นอกจากกลั่นสาระ และโนว์ฮาวจาก Best of the best ในศาสตร์ แล้วยังใช้ศาสตร์ที่นำมาแบ่งปันด้วยตนเองจนสามารถถอดแบบให้ผู้สนใจสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันอย่างง่ายดาย หากเห็นว่าสิ่งที่แบ่งปันเป็นประโยชน์กับผู้ที่ท่านรู้จัก - ปรารถนาดี แบ่งปันให้ผู้ที่ท่านรู้จักได้ติดตามสาระ และโนว์ฮาวดีๆ ได้ที่ https://youtu.be/aDlmktfRaRo ช่องทาง TikTok ในชื่อ "หม่อมเมืองช้าง" (https://www.tiktok.com/@wasitprombutr) และทาง www.lifealignmentor.com สนใจติดต่อศาสตราจารย์พิศิษฐ์ ดร.วสิษฐ์ พรหมบุตร หรือ อ.หม่อม ได้ที่ wasit.p@lifealignmentor.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลโลก
    รับฟ้อง "พญาอินทรีย์" ปล่อยโควิด-19
    ในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิดเผย โดย ผู้ตัดต่อพันธุกรรมเชื้อโควิด 19 คือ พญาอินทรีย์เอง...
    **************
    โควิด19 มาจากฝีมือมนุษย์
    มีแหล่งที่มาจากห้องแลป ไวรัส P3 รัฐคาโรไลน่าเหนือของอเมริกา!!!
    นาย Greg Roubini ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองชื่อดังของอเมริกาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทีวีที่ 1 ของอเมริกาได้เป็นผู้เผยความลับนี้
    นาย Greg เผยว่า ไวรัสโควิด19 ได้รับการออกแบบทางพันธุกรรมเพื่อใช้เป็นอาวุธชีวภาพ

    - มีแหล่งที่มาจากห้องแลป BSL-3 รัฐ คาโรไลน่าเหนือ พัฒนาโดย ศาสตราจารย์ ราล์ฟ บาร์ริก
    - พร้อมกันนั้น เขาระบุว่า ไวรัสถูก “รัฐบาลมืด” จากรัฐคาโรไลน่าเหนือส่งไปแพร่ระบาดในประเทศจีน อิตาลี และอเมริกาทั้งประเทศ
    ##..ก่อนหน้านี้ในวันที่ 15 มีนาคม นายเกรก ก็ได้ทวิตข้อความถามนายทรัมป์ว่า
    - เหตุใดจึงไม่บอกประชาชนอเมริกาว่า ไวรัสผลิตจากอเมริกา? ทำไมไม่อธิบายให้ชัดเจนว่า ตัวไวรัสเองแท้จริงแล้ว คือ อาวุธชีวภาพ?

    **บังเอิญ ศาสตราจารย์ Luc Montanier ผู้ได้รับรางวัลโนเบลเนื่องจากเป็นผู้ค้นพบไวรัสเอชไอวีได้เปิดเผยกับนักข่าวชาวฝรั่งเศสเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า

    - โควิด19 ไม่ใช่มาจากธรรมชาติ หากแต่ได้รับการพัฒนาอย่างประณีตโดยนักวิทยาศาสตร์ชีวโมเลกุล
    ***ศาสตราจารย์ Luc Montanier ยืนยันว่า เป็นเรื่องเด่นชัด ที่เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้นำเชื้อไวรัสที่มาจาก

    ค้างคาวเข้าไปเพิ่ม

    ความเข้มข้นของเชื้อเอชไอวีเข้าไปด้วย
    - นี่คือ การวางยาพิษที่ชั่วร้ายที่สุด ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลก
    ***นั่นคือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 สุดโหด ข่าวเกี่ยวกับ “เชื้อโควิด19 เป็นอาวุธชีวภาพ ที่มาจากการตัดต่อพันธุกรรมโดยฝีมือมนุษย์” มีมาโดยตลอด
    ***นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกพยายามทำงานหาแหล่งที่มาของเชื้อไวรัสโดยนักวิทยาศาสตร์อินเดียค้นพบว่า เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่

    มีเชื้อเอชไอวีแทรกอยู่ด้วย นี่แสดงให้เห็นว่า ไวรัสตัวนี้มาจากการตัดต่อทางพันธุกรรม
    ***กลางเดือนมีนาคม นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์พบว่าเชื้อไวรัสโควิด19 จากผู้ป่วยรายหนึ่งในรัฐวอชิงตันพบว่า วัฏจักรวิวัฒนาการของมันมียาวนานกว่าครึ่งปีมาแล้ว พร้อมๆ กับการศึกษาลึกซึ้งลงไปว่า ประเทศต่างๆในโลกไม่น้อยได้เบนสายตาแห่งความสงสัยไปที่อเมริกา ประเทศต่างๆ ทั้งญี่ปุ่น อิตาลี ออสเตรเลีย ล้วนมีผู้ป่วยทียืนยันว่า มีแหล่งที่มาจากอเมริกาทั้งสิ้น
    *** ในเวลาต่อมา ROBERT REDFIELD ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกายอมรับว่า ผู้ป่วยตายจากไข้หวัดใหญ่ในเดือนกันยายน 2019 มีอยู่ไม่น้อยที่ตายจากเชื้อไวรัสโควิด19 นี้
    - ต่อปัญหานี้โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน นายจ้าวลี่เจียงได้ทวิตข้อความในทวิตเตอร์ถามผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา ว่า
    ผู้ป่วยรายแรกของอเมริกาเกิดขึ้นตอนไหน? ชื่ออะไร? อยู่โรงพยาบาลอะไร? และเป็นไปได้อย่างมาก ที่ทหารอเมริกานำเชื้อมาแพร่ที่อู่ฮั่น.
    >>>>อเมริกาต้องโปร่งใส ต้องเปิดเผยข้อมูลนี้ให้โลกได้รู้ความจริง
    **ด้วยความพยายามอย่างสุดความสามารถของคณะผู้สื่อข่าวคณะหนึ่งแห่งรัฐเวอร์จิเนีย ในที่สุดก็ได้ตามหาผู้ป่วยรายแรกจนพบ นั่นก็คือ ทหารอเมริกา ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทหารที่อู่ฮั่นของจีนในเดือนตุลาคม 2019 นางมีชื่อว่า "Maatje Benassi"
    >>>นายทหารหญิงของอเมริกาคนนี้ มีภูมิหลังพิเศษตรงที่นางมีความเกี่ยวข้องกับห้องปฏิบัติการชีวเคมี P4 ของนาย FORT DETRICK
    *** คนในครอบครัวก็มีหลายคน ที่ยืนยันว่า ผู้ติดเชื้อในจำนวนนี้ มีอยู่คนหนึ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อรายแรกในฮอลแลนด์ ก่อนติดเชื้อเขาเคยไปในเขตพื้นที่ลอมบาร์เดียของอิตาลี ทำให้เขตพื้นที่นั้นเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19
    ***มาถึงตรงนี้ หลักฐานเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด19 มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกาอย่างแน่นอน มีห่วงโซ่เชื่อมร้อยอย่างครบถ้วน ทหารพิเศษ 5 คนที่อเมริกาส่งเครื่องบินมารับกลับไปภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสและห้องแลป ที่ถูกปิดตาย ก็สามารถนำมาปะติดปะต่อกันได้แล้ว
    หากว่ากันตามตรรกะของนายทรัมป์ เราก็สามารถเรียกเชื้อโควิด19 เป็น "ไวรัสนอร์ธคาโรไลนา" (Virus North Carolina) หรือ "ไวรัสอเมริกา"
    ***ในขณะที่หลักฐานทั้งหมดต่างชี้ไปที่อเมริกา
    เจ้าหน้าที่ชั้นสูงของอเมริกายอมรับอย่างเปิดเผยว่า เชื้อโควิด19 ไม่จัดอยู่ในชั้นของโรคระบาด แต่จัดอยู่ในชั้นของอาวุธชีวภาพ

    >>># ”ความไร้ยางอายทำให้โลกตะลึงและได้เพิ่มข้อน่าสงสัยว่า อเมริกาเป็นผู้วางยาพิษคนทั้งโลก เพื่อขายวัคซีนป้องกันมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ขาดดุลการค้า”
    >>>เรื่องทั้งหมดได้ปรากฏชัดเจนแล้ว แต่ทว่าทรัมป์ยังพยายามโยนบาปอย่างไม่คิดชีวิตให้จีนรับเคราะห์แทน อย่างน่ารังเกลียดที่สุด
    ***เชื้อโควิด19 ได้ก่อให้เกิดภัยพิบัติและความสูญเสียที่ยากจะประเมินได้ บาปนี้มันใหญ่หลวงเกินกว่าจะโยนออกไปแล้วโทษคนอื่น
    ***ยังมีข้อน่าสงสัย ที่นายเกรกได้ตีแผ่ออกมา นายราล์ฟ บาร์ริค ผู้รับผิดชอบพัฒนาไวรัส รัฐคาโรไลนาเหนือคนนี้เป็นใคร
    *** นาย บาร์ริค มาจากมหาวิทยาลัยคาโรไลนาเหนือ เขาเป็นหัวหน้านักไวรัสวิทยาที่เปลี่ยนโฉมใหม่ของโรคซาร์สโคโรนาไวรัสโดยการตัดต่อยีนในปี 2015
    - และเขายังเป็นผู้นำในการวิจัยและพัฒนาไวรัสดังกล่าวอีกด้วย ที่น่าตกใจก็คือ เขาเป็นบุคคลที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาทางคลินิกของยาวิเศษ "RADEXIVIR" เป็นไป
    อย่างที่โบราณว่าไว้ คนที่วางยาพิษก่อนอื่นต้องเตรียม# ยาแก้พิษไว้ก่อนเสมอ!!!
    - ยา RIDESIVIR ภายหลังจากปฏิบัติการทางคลินิกและถูกตั้งข้อสงสัยโดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของมันจึงทำให้ตกกระป๋องไปพร้อมๆ กับการแพร่ระบาดที่ลุกลามออกไปทั่วโลก
    ***อเมริกากลายเป็น “ศูนย์กลางการล้างโลก” ไปแล้ว
    - การแพร่ระบาดในช่วงแรกของอเมริกา ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้ให้ความสาคัญกับมันเลยโดยมองว่า เป็นไข้หวัดใหญ่ที่หนักกว่าปกติเท่านั้นเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าคนของตนเองผลิตมันขึ้นมาจนกระทั่งเพื่อนรักของเขา คือ "นายสแตนลี่ย์ เชล่า" เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่แห่งนิวยอร์กเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด19
    >>>>ถึงเวลานี้จีนได้ฟ้องร้องต่อศาลโลกว่า อเมริกาเป็นต้นเหตุในการแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างตั้งใจ เพื่อทำลายล้างจีนและ ปชช ทั่วโลก***
    >>>ตอนนี้คงต้องรอดูการสืบสวนของศาลโลกว่า จะตัดสินออกมาเช่นไร? ซึ่งถึง ณ เวลานี้ ทรัมป์เริ่มรู้สึกตัวและให้ความสาคัญในระดับสูง #แต่ว่าสายไปเสียแล้ว!!!

    **Ny Ny*
    ขอบคุณข้อมูลจาก

    นพ.ขวัญชัย เสธนันท์
    ศาลโลก รับฟ้อง "พญาอินทรีย์" ปล่อยโควิด-19 ในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิดเผย โดย ผู้ตัดต่อพันธุกรรมเชื้อโควิด 19 คือ พญาอินทรีย์เอง... ************** โควิด19 มาจากฝีมือมนุษย์ มีแหล่งที่มาจากห้องแลป ไวรัส P3 รัฐคาโรไลน่าเหนือของอเมริกา!!! นาย Greg Roubini ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองชื่อดังของอเมริกาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทีวีที่ 1 ของอเมริกาได้เป็นผู้เผยความลับนี้ นาย Greg เผยว่า ไวรัสโควิด19 ได้รับการออกแบบทางพันธุกรรมเพื่อใช้เป็นอาวุธชีวภาพ - มีแหล่งที่มาจากห้องแลป BSL-3 รัฐ คาโรไลน่าเหนือ พัฒนาโดย ศาสตราจารย์ ราล์ฟ บาร์ริก - พร้อมกันนั้น เขาระบุว่า ไวรัสถูก “รัฐบาลมืด” จากรัฐคาโรไลน่าเหนือส่งไปแพร่ระบาดในประเทศจีน อิตาลี และอเมริกาทั้งประเทศ ##..ก่อนหน้านี้ในวันที่ 15 มีนาคม นายเกรก ก็ได้ทวิตข้อความถามนายทรัมป์ว่า - เหตุใดจึงไม่บอกประชาชนอเมริกาว่า ไวรัสผลิตจากอเมริกา? ทำไมไม่อธิบายให้ชัดเจนว่า ตัวไวรัสเองแท้จริงแล้ว คือ อาวุธชีวภาพ? **บังเอิญ ศาสตราจารย์ Luc Montanier ผู้ได้รับรางวัลโนเบลเนื่องจากเป็นผู้ค้นพบไวรัสเอชไอวีได้เปิดเผยกับนักข่าวชาวฝรั่งเศสเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า - โควิด19 ไม่ใช่มาจากธรรมชาติ หากแต่ได้รับการพัฒนาอย่างประณีตโดยนักวิทยาศาสตร์ชีวโมเลกุล ***ศาสตราจารย์ Luc Montanier ยืนยันว่า เป็นเรื่องเด่นชัด ที่เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้นำเชื้อไวรัสที่มาจาก ค้างคาวเข้าไปเพิ่ม ความเข้มข้นของเชื้อเอชไอวีเข้าไปด้วย - นี่คือ การวางยาพิษที่ชั่วร้ายที่สุด ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลก ***นั่นคือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 สุดโหด ข่าวเกี่ยวกับ “เชื้อโควิด19 เป็นอาวุธชีวภาพ ที่มาจากการตัดต่อพันธุกรรมโดยฝีมือมนุษย์” มีมาโดยตลอด ***นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกพยายามทำงานหาแหล่งที่มาของเชื้อไวรัสโดยนักวิทยาศาสตร์อินเดียค้นพบว่า เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่ มีเชื้อเอชไอวีแทรกอยู่ด้วย นี่แสดงให้เห็นว่า ไวรัสตัวนี้มาจากการตัดต่อทางพันธุกรรม ***กลางเดือนมีนาคม นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์พบว่าเชื้อไวรัสโควิด19 จากผู้ป่วยรายหนึ่งในรัฐวอชิงตันพบว่า วัฏจักรวิวัฒนาการของมันมียาวนานกว่าครึ่งปีมาแล้ว พร้อมๆ กับการศึกษาลึกซึ้งลงไปว่า ประเทศต่างๆในโลกไม่น้อยได้เบนสายตาแห่งความสงสัยไปที่อเมริกา ประเทศต่างๆ ทั้งญี่ปุ่น อิตาลี ออสเตรเลีย ล้วนมีผู้ป่วยทียืนยันว่า มีแหล่งที่มาจากอเมริกาทั้งสิ้น *** ในเวลาต่อมา ROBERT REDFIELD ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกายอมรับว่า ผู้ป่วยตายจากไข้หวัดใหญ่ในเดือนกันยายน 2019 มีอยู่ไม่น้อยที่ตายจากเชื้อไวรัสโควิด19 นี้ - ต่อปัญหานี้โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน นายจ้าวลี่เจียงได้ทวิตข้อความในทวิตเตอร์ถามผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา ว่า ผู้ป่วยรายแรกของอเมริกาเกิดขึ้นตอนไหน? ชื่ออะไร? อยู่โรงพยาบาลอะไร? และเป็นไปได้อย่างมาก ที่ทหารอเมริกานำเชื้อมาแพร่ที่อู่ฮั่น. >>>>อเมริกาต้องโปร่งใส ต้องเปิดเผยข้อมูลนี้ให้โลกได้รู้ความจริง **ด้วยความพยายามอย่างสุดความสามารถของคณะผู้สื่อข่าวคณะหนึ่งแห่งรัฐเวอร์จิเนีย ในที่สุดก็ได้ตามหาผู้ป่วยรายแรกจนพบ นั่นก็คือ ทหารอเมริกา ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทหารที่อู่ฮั่นของจีนในเดือนตุลาคม 2019 นางมีชื่อว่า "Maatje Benassi" >>>นายทหารหญิงของอเมริกาคนนี้ มีภูมิหลังพิเศษตรงที่นางมีความเกี่ยวข้องกับห้องปฏิบัติการชีวเคมี P4 ของนาย FORT DETRICK *** คนในครอบครัวก็มีหลายคน ที่ยืนยันว่า ผู้ติดเชื้อในจำนวนนี้ มีอยู่คนหนึ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อรายแรกในฮอลแลนด์ ก่อนติดเชื้อเขาเคยไปในเขตพื้นที่ลอมบาร์เดียของอิตาลี ทำให้เขตพื้นที่นั้นเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 ***มาถึงตรงนี้ หลักฐานเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด19 มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกาอย่างแน่นอน มีห่วงโซ่เชื่อมร้อยอย่างครบถ้วน ทหารพิเศษ 5 คนที่อเมริกาส่งเครื่องบินมารับกลับไปภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสและห้องแลป ที่ถูกปิดตาย ก็สามารถนำมาปะติดปะต่อกันได้แล้ว หากว่ากันตามตรรกะของนายทรัมป์ เราก็สามารถเรียกเชื้อโควิด19 เป็น "ไวรัสนอร์ธคาโรไลนา" (Virus North Carolina) หรือ "ไวรัสอเมริกา" ***ในขณะที่หลักฐานทั้งหมดต่างชี้ไปที่อเมริกา เจ้าหน้าที่ชั้นสูงของอเมริกายอมรับอย่างเปิดเผยว่า เชื้อโควิด19 ไม่จัดอยู่ในชั้นของโรคระบาด แต่จัดอยู่ในชั้นของอาวุธชีวภาพ >>># ”ความไร้ยางอายทำให้โลกตะลึงและได้เพิ่มข้อน่าสงสัยว่า อเมริกาเป็นผู้วางยาพิษคนทั้งโลก เพื่อขายวัคซีนป้องกันมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ขาดดุลการค้า” >>>เรื่องทั้งหมดได้ปรากฏชัดเจนแล้ว แต่ทว่าทรัมป์ยังพยายามโยนบาปอย่างไม่คิดชีวิตให้จีนรับเคราะห์แทน อย่างน่ารังเกลียดที่สุด ***เชื้อโควิด19 ได้ก่อให้เกิดภัยพิบัติและความสูญเสียที่ยากจะประเมินได้ บาปนี้มันใหญ่หลวงเกินกว่าจะโยนออกไปแล้วโทษคนอื่น ***ยังมีข้อน่าสงสัย ที่นายเกรกได้ตีแผ่ออกมา นายราล์ฟ บาร์ริค ผู้รับผิดชอบพัฒนาไวรัส รัฐคาโรไลนาเหนือคนนี้เป็นใคร *** นาย บาร์ริค มาจากมหาวิทยาลัยคาโรไลนาเหนือ เขาเป็นหัวหน้านักไวรัสวิทยาที่เปลี่ยนโฉมใหม่ของโรคซาร์สโคโรนาไวรัสโดยการตัดต่อยีนในปี 2015 - และเขายังเป็นผู้นำในการวิจัยและพัฒนาไวรัสดังกล่าวอีกด้วย ที่น่าตกใจก็คือ เขาเป็นบุคคลที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาทางคลินิกของยาวิเศษ "RADEXIVIR" เป็นไป อย่างที่โบราณว่าไว้ คนที่วางยาพิษก่อนอื่นต้องเตรียม# ยาแก้พิษไว้ก่อนเสมอ!!! - ยา RIDESIVIR ภายหลังจากปฏิบัติการทางคลินิกและถูกตั้งข้อสงสัยโดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของมันจึงทำให้ตกกระป๋องไปพร้อมๆ กับการแพร่ระบาดที่ลุกลามออกไปทั่วโลก ***อเมริกากลายเป็น “ศูนย์กลางการล้างโลก” ไปแล้ว - การแพร่ระบาดในช่วงแรกของอเมริกา ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้ให้ความสาคัญกับมันเลยโดยมองว่า เป็นไข้หวัดใหญ่ที่หนักกว่าปกติเท่านั้นเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าคนของตนเองผลิตมันขึ้นมาจนกระทั่งเพื่อนรักของเขา คือ "นายสแตนลี่ย์ เชล่า" เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่แห่งนิวยอร์กเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด19 >>>>ถึงเวลานี้จีนได้ฟ้องร้องต่อศาลโลกว่า อเมริกาเป็นต้นเหตุในการแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างตั้งใจ เพื่อทำลายล้างจีนและ ปชช ทั่วโลก*** >>>ตอนนี้คงต้องรอดูการสืบสวนของศาลโลกว่า จะตัดสินออกมาเช่นไร? ซึ่งถึง ณ เวลานี้ ทรัมป์เริ่มรู้สึกตัวและให้ความสาคัญในระดับสูง #แต่ว่าสายไปเสียแล้ว!!! **Ny Ny* ขอบคุณข้อมูลจาก นพ.ขวัญชัย เสธนันท์
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • "หนูอยากเป็นนายกฯ" มันไม่ใช่แค่คำพูด แต่มีสติและปัญญามากพอไหม
    .
    ท่านนายกฯ ขึ้นมาเป็นนายกฯ ครั้งนี้ แม่ไม่ต้องการให้เป็น คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร พูดกับคนใกล้ชิดหมดเลย ขอร้อง อย่าเอาอุ๊งอิ๊งค์มาเป็นนายกฯ ขอร้อง แต่ปรากฏว่าพ่อคุณ ท่านนายกฯ ต้องการให้ท่านเป็น แต่ก็ขัดแม่ไม่ได้ ทั้งสองคนผัวเมียเลยตัดสินใจว่าให้ลูกสาวตัดสินใจก็แล้วกัน ใช่หรือเปล่า อย่าโกหกผม
    .
    เมื่อท่านนายกฯ ตัดสินใจจะก้าวเข้าสู่สนามสงครามแล้ว ท่านนายกฯ ต้องยอมรับหอก ดาบ ง้าว กระสุนปืน ที่ถั่งโถมหาท่านนายกฯ ท่านนายกฯ ต้องเข้มแข็ง ต้องอดทน อย่าควันออกหูเพียงเพราะว่าหนังสือพิมพ์ คอลัมน์ประจำคอลัมน์หนึ่งของนายสุรวิชช์ วีรวรรณ พาดหัวข่าวว่า "นายกฯ ฟันน้ำนม"ท่านสติแตกเลย
    .
    ท่านนายกฯ ครับ การที่พ่อท่านเลือกท่าน ท่านรู้หรือเปล่าว่าเพราะอะไร ง่ายนิดเดียว พ่อท่านไม่เคยไว้ใจใครเลย ไม่เคย ไม่เคยไว้ใจใครเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นลูกสาวตัวเอง โอเค ได้ แต่ความที่แม่ คือคุณหญิงพจมาน ขัดขวาง ไม่ยอมให้เป็น เพราะรู้ว่าจะมีปัญหา ก็เลยต้องตัดสินใจว่าโยนให้ท่านนายกฯ แพทองธารเป็นคนตัดสินใจ
    .
    ผมรู้ท่านนายกฯรักลูก คิดถึงลูก อยากจะใช้ชีวิตวันเสาร์-อาทิตย์อยู่กับลูก ในฐานะที่เป็นแม่ ไม่ผิด ถ้าเป็นอย่างนั้น ท่านอย่ามาเป็นนายกฯ เพราะประเทศไทยปัญหาชาติบ้านเมืองไม่มีวันหยุด ไม่มีวันหยุด ท่านนายกฯต้องรู้จักตัวเองบ้างว่าท่านสวมหมวกอะไรอยู่ในขณะนี้
    .
    ผมรู้ว่าคุณพ่อคุณเป็นห่วงท่าน ส่งทีมงานมา ตั้งคณะที่ปรึกษา ที่ผมเล่าให้ฟังแล้ว ประธานคือพันศักดิ์ วิญญรัตน์ เข้ามาล้อมรอบ นั่งคุยด้วย ออกมาหมอเลี้ยบก็ให้สัมภาษณ์ทันทีเลยว่าจะอยู่จนครบ 4 ปี จะทำให้ประชาชนร่ำรวยขึ้น ประเด็นไม่ใช่ปัญหาประชาชนจะร่ำรวยหรือไม่ร่ำรวย ประเด็นปัญหาอยู่ที่ว่า ท่านนายกฯเป็นตัวของตัวเองได้ไหม
    .
    แต่เผอิญการเป็นตัวของตัวเองนั้น ท่านนายกฯ‘ต้องมีปัญญา’ คำถามคือ ท่านนายกฯ มีสติและมีปัญญามากพอที่จะเป็นนายกฯ ได้ไหม ไม่ใช่ที่ท่านผิดพลาดไปในเรื่องของค่าเงินบาทแข็ง พอค่าเงินบาทแข็ง ท่านก็บอกว่า ดี ทำให้การส่งออกดีขึ้น นี่คือข้อผิดพลาดที่เรือหายไปแล้วนะ ท่านพูดมาแล้วหลายครั้งเรื่องนี้ ตั้งแต่ต้น แต่ผมไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์ท่านเลย ผมเฉย ผมคิดในใจว่าท่านคงไม่รู้ ไม่เข้าใจเรื่องเศรษฐศาสตร์ น่าเห็นใจ
    .
    ท่านนายกฯ ครับ การศึกษาบ้านเราจะไปอย่างไร อนาคตบ้านเราจะเป็นอย่างไร คุณพิชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทะเลาะกับคุณเศรษฐพุฒิ ท่านต้องบอกคุณพิชัยให้หยุดพูด ไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้น คุณเศรษฐพุฒิท่านจะว่าอย่างไรก็ว่าไป ตั้งใจทำงานไป
    .
    ท่านนายกฯ ครับ ผมเป็นคนที่มีเหตุมีผล ผมไม่ใช่นักเลงหัวไม้ ผมไม่รังแกคน แต่ผมจะไม่ยอมให้ใครมารังแกผม ท่านไม่ต้องกังวล ท่านทำงานไป ท่านตรวจสอบไป
    .
    ผมขอเถอะท่านนายกฯ ท่านตั้งใจทำงานเพื่อชาติ ท่านทำได้หรือเปล่า เพื่อชาติจริงๆ ท่านต้องบอกพ่อ พ่อ หนูขอทำงานเพื่อส่วนรวมได้ไหม พ่ออย่ามายุ่งกับการงานของหนูได้ไหม พ่อหาคนมาแนะนำหนูได้ แต่พ่ออย่าสอดแทรกอะไรเข้ามาให้หนูทำ เป้าหมายของหนูต้องการให้ประเทศชาติไปรอด เอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง เมื่อส่วนรวมเป็นตัวตั้งแล้ว หนูถือว่าหนูทำงานได้สำเร็จแล้วแต่ที่สำคัญที่สุด ท่านนายกฯ ท่านอย่าลืมตัวท่านเอง ท่านตัดสินใจจะเข้าสู่สงครามนี้ด้วยตัวท่านเอง
    .
    ถ้าท่านรับไม่ไหว ท่านก็ถอยออกมา แต่ท่านเข้าไปแล้ว ท่านต้องสู้ ท่านอย่ามาโอดครวญบนพื้นฐานที่ไม่ใช่ความจริง บอกว่าเพิ่งทำงานได้เดือนเดียว บอกคุณสนธิอย่าเพิ่งมาเดินถนนไล่ ท่านนายกฯ ท่านโกหก
    .
    ท่านนายกฯ ท่านเป็นคนรุ่นใหม่ ท่านอาจจะไม่เข้าใจเรื่องของกฎแห่งกรรม ผมอายุ 78 แล้ว ผมแก่กว่าคุณพ่อท่านนายกฯ 2 ปี โดยวัยวุฒิตามสังคมไทย ผมต้องเป็นลุงท่านนายกฯ แต่ผมไม่กล้าไปนับญาติกับท่านนายกฯ ไม่กล้า ผมอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ถ้าเป็นเรื่องชาติบ้านเมือง ท่านนายกฯ ครับ ผมไม่เจียมเนื้อเจียมตัวหรอก
    .
    พฤศจิกายนนี้ ผม78 ผมตายเมื่อไรก็ไม่รู้ แต่ถ้าจะตายทั้งทีให้มันลือลั่นไปทั่วในประวัติศาสตร์ ท่านนายกฯ ไม่ต้องกังวล และให้รู้ด้วยว่าถ้าผมประท้วงท่านนายกฯ ในอนาคต ไม่ใช่ตอนนี้ ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังผม ไม่ต้องมาหาเลยว่าจะเป็นทหารคนไหน ไม่มี ผมไม่ใช่สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้นำ กปปส. ที่มีกองทัพอยู่ข้างหลัง ผมตัวคนเดียว แต่ผมมีประชาชนที่รักความเป็นธรรม และเขารักผม และเขารู้ว่าผมทำงานโดยไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง แต่ทำงานให้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทำงานให้ชาติจริงๆ วันที่ผมออกไปสู้กับคุณพ่อท่านนายกฯ ผมบอกกับทุกคนเลย เฮ้ย ถ้าจะมีกูคนเดียว กูก็จะไป เพราะกูเชื่อของกูอย่างนี้
    .
    ถ้าผมจำเป็นต้องประท้วงท่านนายกฯ ในอนาคต ซึ่งผมไม่รู้ว่าเมื่อไร สุดแล้วแต่การทำงานของท่านนายกฯ ผมมีทางเลือกอยู่ทางเดียว ผมต้องชนะ ไม่อย่างนั้นผมยอมตาย
    .
    หวังว่าสิ่งที่ผมพูดนี้จะเป็นประโยชน์ ถ้าท่านนายกฯ เปิดใจรับฟังความเห็นของผม นี่กล่าวจากความจริงใจในใจ เพราะโดยวัยวุฒิแล้วท่านก็เหมือนหลานผม แต่ผมไม่กล้านับลุงนับหลานกับท่าน แต่ผมแก่กว่าพ่อท่านนายกฯ 2 ปี ผมอยู่อีกไม่กี่ปีก็จะตายแล้ว ท่านนายกฯ ก็ต้องตายสักวันหนึ่ง คุณพ่อท่านนายกฯ ก็ต้องตายสักวันหนึ่ง คำถาม ถ้าคุณพ่อท่านนายกฯ ตายไปวันนี้ พรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ ตายอย่างมีสง่าราศีหรือเปล่า ? ไม่มี ท่านนายกฯ ต้องเข้ามากู้ศักดิ์ศรีของคุณพ่อท่านนายก ด้วยการทำความดี ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่าไปใส่ใจพวกญาติพี่น้องท่าน
    .
    แล้วท่านนายกฯ ต้องไม่สติแตกง่ายๆ ถ้าตัดสินใจมาลงเล่นสงครามแล้ว ต้องพร้อมจะเจ็บ เท่านั้นล่ะครับ
    "หนูอยากเป็นนายกฯ" มันไม่ใช่แค่คำพูด แต่มีสติและปัญญามากพอไหม . ท่านนายกฯ ขึ้นมาเป็นนายกฯ ครั้งนี้ แม่ไม่ต้องการให้เป็น คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร พูดกับคนใกล้ชิดหมดเลย ขอร้อง อย่าเอาอุ๊งอิ๊งค์มาเป็นนายกฯ ขอร้อง แต่ปรากฏว่าพ่อคุณ ท่านนายกฯ ต้องการให้ท่านเป็น แต่ก็ขัดแม่ไม่ได้ ทั้งสองคนผัวเมียเลยตัดสินใจว่าให้ลูกสาวตัดสินใจก็แล้วกัน ใช่หรือเปล่า อย่าโกหกผม . เมื่อท่านนายกฯ ตัดสินใจจะก้าวเข้าสู่สนามสงครามแล้ว ท่านนายกฯ ต้องยอมรับหอก ดาบ ง้าว กระสุนปืน ที่ถั่งโถมหาท่านนายกฯ ท่านนายกฯ ต้องเข้มแข็ง ต้องอดทน อย่าควันออกหูเพียงเพราะว่าหนังสือพิมพ์ คอลัมน์ประจำคอลัมน์หนึ่งของนายสุรวิชช์ วีรวรรณ พาดหัวข่าวว่า "นายกฯ ฟันน้ำนม"ท่านสติแตกเลย . ท่านนายกฯ ครับ การที่พ่อท่านเลือกท่าน ท่านรู้หรือเปล่าว่าเพราะอะไร ง่ายนิดเดียว พ่อท่านไม่เคยไว้ใจใครเลย ไม่เคย ไม่เคยไว้ใจใครเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นลูกสาวตัวเอง โอเค ได้ แต่ความที่แม่ คือคุณหญิงพจมาน ขัดขวาง ไม่ยอมให้เป็น เพราะรู้ว่าจะมีปัญหา ก็เลยต้องตัดสินใจว่าโยนให้ท่านนายกฯ แพทองธารเป็นคนตัดสินใจ . ผมรู้ท่านนายกฯรักลูก คิดถึงลูก อยากจะใช้ชีวิตวันเสาร์-อาทิตย์อยู่กับลูก ในฐานะที่เป็นแม่ ไม่ผิด ถ้าเป็นอย่างนั้น ท่านอย่ามาเป็นนายกฯ เพราะประเทศไทยปัญหาชาติบ้านเมืองไม่มีวันหยุด ไม่มีวันหยุด ท่านนายกฯต้องรู้จักตัวเองบ้างว่าท่านสวมหมวกอะไรอยู่ในขณะนี้ . ผมรู้ว่าคุณพ่อคุณเป็นห่วงท่าน ส่งทีมงานมา ตั้งคณะที่ปรึกษา ที่ผมเล่าให้ฟังแล้ว ประธานคือพันศักดิ์ วิญญรัตน์ เข้ามาล้อมรอบ นั่งคุยด้วย ออกมาหมอเลี้ยบก็ให้สัมภาษณ์ทันทีเลยว่าจะอยู่จนครบ 4 ปี จะทำให้ประชาชนร่ำรวยขึ้น ประเด็นไม่ใช่ปัญหาประชาชนจะร่ำรวยหรือไม่ร่ำรวย ประเด็นปัญหาอยู่ที่ว่า ท่านนายกฯเป็นตัวของตัวเองได้ไหม . แต่เผอิญการเป็นตัวของตัวเองนั้น ท่านนายกฯ‘ต้องมีปัญญา’ คำถามคือ ท่านนายกฯ มีสติและมีปัญญามากพอที่จะเป็นนายกฯ ได้ไหม ไม่ใช่ที่ท่านผิดพลาดไปในเรื่องของค่าเงินบาทแข็ง พอค่าเงินบาทแข็ง ท่านก็บอกว่า ดี ทำให้การส่งออกดีขึ้น นี่คือข้อผิดพลาดที่เรือหายไปแล้วนะ ท่านพูดมาแล้วหลายครั้งเรื่องนี้ ตั้งแต่ต้น แต่ผมไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์ท่านเลย ผมเฉย ผมคิดในใจว่าท่านคงไม่รู้ ไม่เข้าใจเรื่องเศรษฐศาสตร์ น่าเห็นใจ . ท่านนายกฯ ครับ การศึกษาบ้านเราจะไปอย่างไร อนาคตบ้านเราจะเป็นอย่างไร คุณพิชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทะเลาะกับคุณเศรษฐพุฒิ ท่านต้องบอกคุณพิชัยให้หยุดพูด ไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้น คุณเศรษฐพุฒิท่านจะว่าอย่างไรก็ว่าไป ตั้งใจทำงานไป . ท่านนายกฯ ครับ ผมเป็นคนที่มีเหตุมีผล ผมไม่ใช่นักเลงหัวไม้ ผมไม่รังแกคน แต่ผมจะไม่ยอมให้ใครมารังแกผม ท่านไม่ต้องกังวล ท่านทำงานไป ท่านตรวจสอบไป . ผมขอเถอะท่านนายกฯ ท่านตั้งใจทำงานเพื่อชาติ ท่านทำได้หรือเปล่า เพื่อชาติจริงๆ ท่านต้องบอกพ่อ พ่อ หนูขอทำงานเพื่อส่วนรวมได้ไหม พ่ออย่ามายุ่งกับการงานของหนูได้ไหม พ่อหาคนมาแนะนำหนูได้ แต่พ่ออย่าสอดแทรกอะไรเข้ามาให้หนูทำ เป้าหมายของหนูต้องการให้ประเทศชาติไปรอด เอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง เมื่อส่วนรวมเป็นตัวตั้งแล้ว หนูถือว่าหนูทำงานได้สำเร็จแล้วแต่ที่สำคัญที่สุด ท่านนายกฯ ท่านอย่าลืมตัวท่านเอง ท่านตัดสินใจจะเข้าสู่สงครามนี้ด้วยตัวท่านเอง . ถ้าท่านรับไม่ไหว ท่านก็ถอยออกมา แต่ท่านเข้าไปแล้ว ท่านต้องสู้ ท่านอย่ามาโอดครวญบนพื้นฐานที่ไม่ใช่ความจริง บอกว่าเพิ่งทำงานได้เดือนเดียว บอกคุณสนธิอย่าเพิ่งมาเดินถนนไล่ ท่านนายกฯ ท่านโกหก . ท่านนายกฯ ท่านเป็นคนรุ่นใหม่ ท่านอาจจะไม่เข้าใจเรื่องของกฎแห่งกรรม ผมอายุ 78 แล้ว ผมแก่กว่าคุณพ่อท่านนายกฯ 2 ปี โดยวัยวุฒิตามสังคมไทย ผมต้องเป็นลุงท่านนายกฯ แต่ผมไม่กล้าไปนับญาติกับท่านนายกฯ ไม่กล้า ผมอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ถ้าเป็นเรื่องชาติบ้านเมือง ท่านนายกฯ ครับ ผมไม่เจียมเนื้อเจียมตัวหรอก . พฤศจิกายนนี้ ผม78 ผมตายเมื่อไรก็ไม่รู้ แต่ถ้าจะตายทั้งทีให้มันลือลั่นไปทั่วในประวัติศาสตร์ ท่านนายกฯ ไม่ต้องกังวล และให้รู้ด้วยว่าถ้าผมประท้วงท่านนายกฯ ในอนาคต ไม่ใช่ตอนนี้ ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังผม ไม่ต้องมาหาเลยว่าจะเป็นทหารคนไหน ไม่มี ผมไม่ใช่สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้นำ กปปส. ที่มีกองทัพอยู่ข้างหลัง ผมตัวคนเดียว แต่ผมมีประชาชนที่รักความเป็นธรรม และเขารักผม และเขารู้ว่าผมทำงานโดยไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง แต่ทำงานให้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทำงานให้ชาติจริงๆ วันที่ผมออกไปสู้กับคุณพ่อท่านนายกฯ ผมบอกกับทุกคนเลย เฮ้ย ถ้าจะมีกูคนเดียว กูก็จะไป เพราะกูเชื่อของกูอย่างนี้ . ถ้าผมจำเป็นต้องประท้วงท่านนายกฯ ในอนาคต ซึ่งผมไม่รู้ว่าเมื่อไร สุดแล้วแต่การทำงานของท่านนายกฯ ผมมีทางเลือกอยู่ทางเดียว ผมต้องชนะ ไม่อย่างนั้นผมยอมตาย . หวังว่าสิ่งที่ผมพูดนี้จะเป็นประโยชน์ ถ้าท่านนายกฯ เปิดใจรับฟังความเห็นของผม นี่กล่าวจากความจริงใจในใจ เพราะโดยวัยวุฒิแล้วท่านก็เหมือนหลานผม แต่ผมไม่กล้านับลุงนับหลานกับท่าน แต่ผมแก่กว่าพ่อท่านนายกฯ 2 ปี ผมอยู่อีกไม่กี่ปีก็จะตายแล้ว ท่านนายกฯ ก็ต้องตายสักวันหนึ่ง คุณพ่อท่านนายกฯ ก็ต้องตายสักวันหนึ่ง คำถาม ถ้าคุณพ่อท่านนายกฯ ตายไปวันนี้ พรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ ตายอย่างมีสง่าราศีหรือเปล่า ? ไม่มี ท่านนายกฯ ต้องเข้ามากู้ศักดิ์ศรีของคุณพ่อท่านนายก ด้วยการทำความดี ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่าไปใส่ใจพวกญาติพี่น้องท่าน . แล้วท่านนายกฯ ต้องไม่สติแตกง่ายๆ ถ้าตัดสินใจมาลงเล่นสงครามแล้ว ต้องพร้อมจะเจ็บ เท่านั้นล่ะครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทวิเคราะห์ UGC (User-Generated Content )เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” โดย ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน เจ้าของนามปากกา “นกป่า อุษาคเนย์” อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนมา 25 ปี เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า

    “หากนำทฤษฎี UGC มาจับกับปรากฏการณ์ “หมูเด้ง” ก็จะเห็นได้ว่า กระแสความโด่งดังของ “หมูเด้ง” ตรงตามรูปแบบของการทำ UGC ทุกประการ

    แม้ในตอนเริ่มต้น ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อครั้งที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” จัดประกวดตั้งชื่อ “หมูเด้ง” ในช่วงแรก ที่ชื่อ “หมูเด้ง” ชนะ VOTE “หมูแดง” และ “หมูสับ” ด้วยคะแนน 20,000 กว่า เรียกได้ว่าขาดลอย

    ในช่วงนั้น ยังไม่เกิดกระแส “หมูเด้ง” แต่อย่างใด มิหนำซ้ำ หลังจากได้ชื่อแล้ว ก็เหลือคนสนใจ “หมูเด้ง” น้อยมาก

    เพราะค่าเฉลี่ยความสนใจลูกสัตว์เกิดใหม่ จะมีอยู่เพียงสั้นๆ คือประมาณ 7 วัน ที่ประชาชนให้ความสนใจ ทำให้สื่อมวลชนต้องคอยตามติดในช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นก็จะเริ่มซาลง และเริ่มห่างหาย จนกระแสเงียบไปในที่สุด

    ซึ่งทาง “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ก็อาจมีการนำเสนอลูกสัตว์เกิดใหม่รายอื่นๆ ตามมาอีกเรื่อยๆ พอผลตัดสินการประกวดจบสิ้นลงแล้ว กระแสก็จะกลับไปเงียบอีกครั้ง วนเวียนอยู่เช่นนี้

    ต่างจาก “หมูเด้ง” โดยสิ้นเชิง

    เป็นเพราะว่า “หมูเด้ง” เกิดในยุคที่ทุกคนบนโลกเข้าถึง Social Media โดยเรื่องราวที่น่าสนใจจะไม่จำกัดอยู่ภายในประเทศใดประเทศหนึ่งอีกต่อไป ไม่เหมือนกระแสลูกสัตว์เกิดใหม่ที่ผ่านมาของ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว”

    แต่ทันทีที่ “อรรถพล หนุนดี” หรือ “พี่เบนซ์” เจ้าของ Facebook Fanpage “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ได้เริ่มทำ Content “หมูเด้ง” กระแส “หมูเด้ง” ก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น

    ฐาน “แฟนคลับ” ที่เหนียวแน่น หรือที่เรียกว่า “ลูกเพจ” ดั้งเดิมของ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ที่มีปริมาณมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มี Empathy หรือ “ความผูกพัน” อย่างสูง ยิ่งช่วยต่อยอด Content ในแบบฉบับ UGC ได้เป็นอย่างดี

    ผนวกกับการที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” อยู่ใกล้ศรีราชา จุดที่มีชาวญี่ปุ่นพำนักในเมืองไทยเป็นชุมชน ทำให้มีการแชร์ Content “หมูเด้ง” ต่อๆ กันไปในหมู่ชาวญี่ปุ่น จากเมืองไทยไปญี่ปุ่น และแพร่กระจายไปทั่วโลก

    สำทับด้วยสำนักข่าวตะวันตก ได้แห่กันมาทำข่าว “หมูเด้ง” ติดๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น AP, AFP, BBC, VOA, CNN ก็ยิ่งช่วยสร้าง UGC ให้กับ “หมูเด้ง” จนกลายเป็น Viral ระดับโลกไปแล้ว

    จากความน่ารัก น่าเอ็นดู การสัมผัสได้ถึงการไม่มีผลประโยชน์ใดแอบแฝงใน Content เนื่องจากเป็นลูกสัตว์เกิดใหม่ในสวนสัตว์ที่ค่าเข้าชมไม่ได้มากมายอะไร และการขายสินค้าของสวนสัตว์ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึกต่างๆ ก็ไม่ได้มีราคาค่างวดที่แพงจนจับต้องไม่ได้

    แปลไทยเป็นไทยก็คือ Brand “หมูเด้ง” เป็น Brand บริสุทธิ์ ผนวกกับความทะลึ่ง สะดีดสะดิ้ง น่ารักน่าชัง เมื่อรวมกับบุคลิกดั้งเดิมของ “หมูเด้ง” ที่เป็นลูกฮิปโปแคระที่มีลีลาตลกเป็นพื้นเพอยู่แล้ว ยิ่งเรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความประทับใจได้ไม่ยาก

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรู้สึกลึกๆ ในใจมนุษย์เกี่ยวกับ “ลูกสัตว์” หรือ Baby Animal ทั้งลูกมนุษย์ด้วยกันที่ถือเป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง และลูกสัตว์ต่างๆ ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกน่ารัก น่าเอ็นดู อยากอุ้ม อยากเลี้ยง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์เป็นทุนเดิม

    ประกอบกับคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ที่แอบเกรี้ยวกราด น่ารัก น่าหยิก ทำให้เป็น UGC ที่ถูกนำไปต่อยอดได้ง่ายใน “วัฒนธรรมมีม” หรือ Meme Culture

    ยกระดับสู่การเป็น “วัฒนธรรมร่วม” ผ่าน Social Media

    เบื้องหลังความสำเร็จของ UGC “หมูเด้ง” คงต้องยกเครดิตให้ “พี่เบนซ์” ไปเต็มๆ ที่สามารถดึงคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ออกมาเล่าได้อย่างน่ารัก

    พูดอีกแบบก็คือ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” มาถูกที่ ถูกเวลา และเล่นได้ถูกจุด จับจุด อารมณ์ร่วมของผู้คนได้อยู่หมัด สร้างการเชื่อมต่อ และเชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน เข้ากับ “หมูเด้ง” ได้ตรงจุด

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เสพ Social Media ที่อยู่ไกลจาก “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ที่ไม่สะดวกเดินทางมาสัมผัสกับ “หมูเด้ง” ได้ด้วยตัวเอง

    ตอบสนองธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความรักสัตว์เป็นทุนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ลูกสัตว์” น่ารัก ที่ตนไม่สามารถเลี้ยงเอาไว้ในบ้านได้

    จึงสามารถสรุปได้ว่า UGC อยู่เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง”

    https://www.salika.co/2024/10/04/user-generated-content-moodeng/

    #Thaitimes
    บทวิเคราะห์ UGC (User-Generated Content )เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” โดย ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน เจ้าของนามปากกา “นกป่า อุษาคเนย์” อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนมา 25 ปี เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า “หากนำทฤษฎี UGC มาจับกับปรากฏการณ์ “หมูเด้ง” ก็จะเห็นได้ว่า กระแสความโด่งดังของ “หมูเด้ง” ตรงตามรูปแบบของการทำ UGC ทุกประการ แม้ในตอนเริ่มต้น ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อครั้งที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” จัดประกวดตั้งชื่อ “หมูเด้ง” ในช่วงแรก ที่ชื่อ “หมูเด้ง” ชนะ VOTE “หมูแดง” และ “หมูสับ” ด้วยคะแนน 20,000 กว่า เรียกได้ว่าขาดลอย ในช่วงนั้น ยังไม่เกิดกระแส “หมูเด้ง” แต่อย่างใด มิหนำซ้ำ หลังจากได้ชื่อแล้ว ก็เหลือคนสนใจ “หมูเด้ง” น้อยมาก เพราะค่าเฉลี่ยความสนใจลูกสัตว์เกิดใหม่ จะมีอยู่เพียงสั้นๆ คือประมาณ 7 วัน ที่ประชาชนให้ความสนใจ ทำให้สื่อมวลชนต้องคอยตามติดในช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นก็จะเริ่มซาลง และเริ่มห่างหาย จนกระแสเงียบไปในที่สุด ซึ่งทาง “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ก็อาจมีการนำเสนอลูกสัตว์เกิดใหม่รายอื่นๆ ตามมาอีกเรื่อยๆ พอผลตัดสินการประกวดจบสิ้นลงแล้ว กระแสก็จะกลับไปเงียบอีกครั้ง วนเวียนอยู่เช่นนี้ ต่างจาก “หมูเด้ง” โดยสิ้นเชิง เป็นเพราะว่า “หมูเด้ง” เกิดในยุคที่ทุกคนบนโลกเข้าถึง Social Media โดยเรื่องราวที่น่าสนใจจะไม่จำกัดอยู่ภายในประเทศใดประเทศหนึ่งอีกต่อไป ไม่เหมือนกระแสลูกสัตว์เกิดใหม่ที่ผ่านมาของ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” แต่ทันทีที่ “อรรถพล หนุนดี” หรือ “พี่เบนซ์” เจ้าของ Facebook Fanpage “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ได้เริ่มทำ Content “หมูเด้ง” กระแส “หมูเด้ง” ก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ฐาน “แฟนคลับ” ที่เหนียวแน่น หรือที่เรียกว่า “ลูกเพจ” ดั้งเดิมของ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ที่มีปริมาณมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มี Empathy หรือ “ความผูกพัน” อย่างสูง ยิ่งช่วยต่อยอด Content ในแบบฉบับ UGC ได้เป็นอย่างดี ผนวกกับการที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” อยู่ใกล้ศรีราชา จุดที่มีชาวญี่ปุ่นพำนักในเมืองไทยเป็นชุมชน ทำให้มีการแชร์ Content “หมูเด้ง” ต่อๆ กันไปในหมู่ชาวญี่ปุ่น จากเมืองไทยไปญี่ปุ่น และแพร่กระจายไปทั่วโลก สำทับด้วยสำนักข่าวตะวันตก ได้แห่กันมาทำข่าว “หมูเด้ง” ติดๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น AP, AFP, BBC, VOA, CNN ก็ยิ่งช่วยสร้าง UGC ให้กับ “หมูเด้ง” จนกลายเป็น Viral ระดับโลกไปแล้ว จากความน่ารัก น่าเอ็นดู การสัมผัสได้ถึงการไม่มีผลประโยชน์ใดแอบแฝงใน Content เนื่องจากเป็นลูกสัตว์เกิดใหม่ในสวนสัตว์ที่ค่าเข้าชมไม่ได้มากมายอะไร และการขายสินค้าของสวนสัตว์ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึกต่างๆ ก็ไม่ได้มีราคาค่างวดที่แพงจนจับต้องไม่ได้ แปลไทยเป็นไทยก็คือ Brand “หมูเด้ง” เป็น Brand บริสุทธิ์ ผนวกกับความทะลึ่ง สะดีดสะดิ้ง น่ารักน่าชัง เมื่อรวมกับบุคลิกดั้งเดิมของ “หมูเด้ง” ที่เป็นลูกฮิปโปแคระที่มีลีลาตลกเป็นพื้นเพอยู่แล้ว ยิ่งเรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความประทับใจได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรู้สึกลึกๆ ในใจมนุษย์เกี่ยวกับ “ลูกสัตว์” หรือ Baby Animal ทั้งลูกมนุษย์ด้วยกันที่ถือเป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง และลูกสัตว์ต่างๆ ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกน่ารัก น่าเอ็นดู อยากอุ้ม อยากเลี้ยง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์เป็นทุนเดิม ประกอบกับคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ที่แอบเกรี้ยวกราด น่ารัก น่าหยิก ทำให้เป็น UGC ที่ถูกนำไปต่อยอดได้ง่ายใน “วัฒนธรรมมีม” หรือ Meme Culture ยกระดับสู่การเป็น “วัฒนธรรมร่วม” ผ่าน Social Media เบื้องหลังความสำเร็จของ UGC “หมูเด้ง” คงต้องยกเครดิตให้ “พี่เบนซ์” ไปเต็มๆ ที่สามารถดึงคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ออกมาเล่าได้อย่างน่ารัก พูดอีกแบบก็คือ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” มาถูกที่ ถูกเวลา และเล่นได้ถูกจุด จับจุด อารมณ์ร่วมของผู้คนได้อยู่หมัด สร้างการเชื่อมต่อ และเชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน เข้ากับ “หมูเด้ง” ได้ตรงจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เสพ Social Media ที่อยู่ไกลจาก “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ที่ไม่สะดวกเดินทางมาสัมผัสกับ “หมูเด้ง” ได้ด้วยตัวเอง ตอบสนองธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความรักสัตว์เป็นทุนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ลูกสัตว์” น่ารัก ที่ตนไม่สามารถเลี้ยงเอาไว้ในบ้านได้ จึงสามารถสรุปได้ว่า UGC อยู่เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” https://www.salika.co/2024/10/04/user-generated-content-moodeng/ #Thaitimes
    WWW.SALIKA.CO
    UGC เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง”
    User-Generated Content (UGC) หมายถึง Story ที่ผู้บริโภค หรือลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมาย สร้างขึ้นมาเอง โดยผู้คนเหล่านั้น จะพูดถึงเรื่องราวที่พวกเขาประทับใจ หรือให้ความสนใจ โดยที่ต้นเรื่องไม่ต้องเสียเงินจ้างแม้แต่บาทเดียว
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองสูงขึ้น

    1. การปรับตัวขึ้นหรือลงของเงินดอลลาร์สหรัฐ
    - ค่าเงิน USD ลดลง - ราคาทองคำ เพิ่มขึ้น

    2. เงินเฟ้อ
    - เงินเฟ้อ เพิ่มขึ้น - ราคาทอง เพิ่มขึ้น
    - ราคาน้ำมันดิบ สูงขึ้น มักเป็นสัญญานบอกว่ากำลังเกิดสภาวะเงินเฟ้อ
    - ราคาน้ำมันดิบ สูงขึ้น - ราคาทอง เพิ่มขึ้น

    3 อุปสงค์ และอุปทานของทองคำ
    - มีคนซื้อเยอะ ราคาทอง เพิ่มขึ้น

    4. ความเสี่ยงทางการเมือง และระบบเศรษฐกิจโลก
    - ในช่วงที่มีความขัดแย้ง หรือมีสงคราม ราคาทองก็จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
    --------------------

    ผู้กำหนดราคาทองคำในประเทศไทย
    สมาคมค้าทองคำคือผู้กำหนดราคา ซึ่งมีที่มาจาก 3 กลุ่มคือ
    1. ผู้นำเข้า และส่งออก
    2. ผู้ค้าส่ง
    3. ผู้ค้าปลีกรายใหญ่
    โดยยึดหลักประชาธิปไตยในการกำหนดราคาทอง ถือเสียงส่วนมาก 3 ใน 5 เสียงในการตัดสินใจ ซึ่งคณะกรรมการประกอบไปด้วย

    1. ห้างทอง จินฮั่วเฮง
    2. ห้างทอง ฮั่วเซ่งเฮง
    3. ห้างทอง เลี่ยงเส็งเฮงพาณิชย์
    4. ห้างทอง หลูชั้งฮวด
    5. ห้างทอง แต้จิบฮุย
    --------------------

    ปัจจัยสำคัญในการกำหนดราคาทอง
    1. ราคาทอง Gold Spot คือราคาทองคำต่างประเทศ
    2. ค่าใช้จ่ายต่างๆจากการนำเข้าหรือส่งออก (ประมาณ 1-2 ดอล)
    3. ค่าเงิน US
    4. Demand และ Supply ภายในประเทศ
    --------------------

    สูตรคำนวนราคาทอง
    ( Spot Gold + 2 ) x อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท x 0.473
    ** การจะใช้เลข + 1 หรือ + 2 ขึ้นกับสมาคมค้าทองคำจะเห็นสมควรว่าควร + เท่าไหร่ เพื่อไม่ให้ราคาทองคำแกว่งมากเกินไป
    ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองสูงขึ้น 1. การปรับตัวขึ้นหรือลงของเงินดอลลาร์สหรัฐ - ค่าเงิน USD ลดลง - ราคาทองคำ เพิ่มขึ้น 2. เงินเฟ้อ - เงินเฟ้อ เพิ่มขึ้น - ราคาทอง เพิ่มขึ้น - ราคาน้ำมันดิบ สูงขึ้น มักเป็นสัญญานบอกว่ากำลังเกิดสภาวะเงินเฟ้อ - ราคาน้ำมันดิบ สูงขึ้น - ราคาทอง เพิ่มขึ้น 3 อุปสงค์ และอุปทานของทองคำ - มีคนซื้อเยอะ ราคาทอง เพิ่มขึ้น 4. ความเสี่ยงทางการเมือง และระบบเศรษฐกิจโลก - ในช่วงที่มีความขัดแย้ง หรือมีสงคราม ราคาทองก็จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น -------------------- ผู้กำหนดราคาทองคำในประเทศไทย สมาคมค้าทองคำคือผู้กำหนดราคา ซึ่งมีที่มาจาก 3 กลุ่มคือ 1. ผู้นำเข้า และส่งออก 2. ผู้ค้าส่ง 3. ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ โดยยึดหลักประชาธิปไตยในการกำหนดราคาทอง ถือเสียงส่วนมาก 3 ใน 5 เสียงในการตัดสินใจ ซึ่งคณะกรรมการประกอบไปด้วย 1. ห้างทอง จินฮั่วเฮง 2. ห้างทอง ฮั่วเซ่งเฮง 3. ห้างทอง เลี่ยงเส็งเฮงพาณิชย์ 4. ห้างทอง หลูชั้งฮวด 5. ห้างทอง แต้จิบฮุย -------------------- ปัจจัยสำคัญในการกำหนดราคาทอง 1. ราคาทอง Gold Spot คือราคาทองคำต่างประเทศ 2. ค่าใช้จ่ายต่างๆจากการนำเข้าหรือส่งออก (ประมาณ 1-2 ดอล) 3. ค่าเงิน US 4. Demand และ Supply ภายในประเทศ -------------------- สูตรคำนวนราคาทอง ( Spot Gold + 2 ) x อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท x 0.473 ** การจะใช้เลข + 1 หรือ + 2 ขึ้นกับสมาคมค้าทองคำจะเห็นสมควรว่าควร + เท่าไหร่ เพื่อไม่ให้ราคาทองคำแกว่งมากเกินไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7 ตุลารำลึก 16 ปี ถึงความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 4
    .
    งาน "ความจริงมีหนึ่งเดียว"ครั้งต่อไป ผมประกาศไปแล้วจะจัด วันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 แต่งวดนี้เราจัดที่หอประชุมใหญ่ ธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) เดิมทีค่าบัตรเราคิด 500 บาท แต่วันนี้เราจะลดเหลือแค่ 300 บาท เดิมทีตั้งไว้ 200 บาท แล้วก็ไปซื้อข้าวกินตอนเที่ยงกันเอง แต่ตอนนี้เป็น 300 บาทแล้ว เพื่ออะไร ? ใครซื้อบัตรจ่าย 300 บาท ได้อาหารกล่องที่เราทำให้ทานทุกครั้ง อร่อยมาก 1 กล่อง มูลค่า 100 บาท
    .
    ถ้าใครไม่อยากพลาด ตอนนี้เราเริ่มเปิดให้จองผ่านไลน์ (LINE) @sondhitalk ผมเตือนหน่อยครับ เพราะที่นั่งโซนหน้าเต็มเร็วมาก แล้วงานครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ ไปเลยนะครับ หอประชุมใหญ่ จะครื้นเครงมาก สิบโมงเช้า เราจะเปิดด้วยวงดนตรีหลายวง ซึ่งตอนนี้กำลังติดต่อมาลีฮวนนาอยู่ ยังไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ได้ แต่ว่าคาราวาน แฮมเมอร์ และศิลปินอีกหลายคนที่เคยเป็นแฟนเก่าๆ ของพวกเรา พอเที่ยงก็จะมีการรับประทานอาหารกันก่อน บ่ายโมงค่อยเริ่มรายการต่อไป และจะเป็นรายการที่มีความหลากหลายมาก ท่านผู้ชมจะไม่มีวันผิดหวังอย่างแน่นอน
    .
    วันที่ 7 ตุลาคมนี้ ครบรอบ 16 ปีของการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนที่เสียชีวิตไป จะเป็นการทำบุญใหญ่ ณ บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ เจ็ดโมงเช้า ทำบุญตักบาตรพระป่า หลังจากนั้นจะมีการปราศรัยจากอดีตแกนนำ มีผม มีอาจารย์ปานเทพ มีคุณมาลีรัตน์ แก้วก่า โน่นนี่นั่น แล้วต่อด้วยคอนเสิร์ตแฮมเมอร์ พร้อมด้วยศิลปินอื่นๆ ท่านผู้ชมอย่าลืมนะครับ
    7 ตุลารำลึก 16 ปี ถึงความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 4 . งาน "ความจริงมีหนึ่งเดียว"ครั้งต่อไป ผมประกาศไปแล้วจะจัด วันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 แต่งวดนี้เราจัดที่หอประชุมใหญ่ ธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) เดิมทีค่าบัตรเราคิด 500 บาท แต่วันนี้เราจะลดเหลือแค่ 300 บาท เดิมทีตั้งไว้ 200 บาท แล้วก็ไปซื้อข้าวกินตอนเที่ยงกันเอง แต่ตอนนี้เป็น 300 บาทแล้ว เพื่ออะไร ? ใครซื้อบัตรจ่าย 300 บาท ได้อาหารกล่องที่เราทำให้ทานทุกครั้ง อร่อยมาก 1 กล่อง มูลค่า 100 บาท . ถ้าใครไม่อยากพลาด ตอนนี้เราเริ่มเปิดให้จองผ่านไลน์ (LINE) @sondhitalk ผมเตือนหน่อยครับ เพราะที่นั่งโซนหน้าเต็มเร็วมาก แล้วงานครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ ไปเลยนะครับ หอประชุมใหญ่ จะครื้นเครงมาก สิบโมงเช้า เราจะเปิดด้วยวงดนตรีหลายวง ซึ่งตอนนี้กำลังติดต่อมาลีฮวนนาอยู่ ยังไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ได้ แต่ว่าคาราวาน แฮมเมอร์ และศิลปินอีกหลายคนที่เคยเป็นแฟนเก่าๆ ของพวกเรา พอเที่ยงก็จะมีการรับประทานอาหารกันก่อน บ่ายโมงค่อยเริ่มรายการต่อไป และจะเป็นรายการที่มีความหลากหลายมาก ท่านผู้ชมจะไม่มีวันผิดหวังอย่างแน่นอน . วันที่ 7 ตุลาคมนี้ ครบรอบ 16 ปีของการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนที่เสียชีวิตไป จะเป็นการทำบุญใหญ่ ณ บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ เจ็ดโมงเช้า ทำบุญตักบาตรพระป่า หลังจากนั้นจะมีการปราศรัยจากอดีตแกนนำ มีผม มีอาจารย์ปานเทพ มีคุณมาลีรัตน์ แก้วก่า โน่นนี่นั่น แล้วต่อด้วยคอนเสิร์ตแฮมเมอร์ พร้อมด้วยศิลปินอื่นๆ ท่านผู้ชมอย่าลืมนะครับ
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ แซนดี้ อะโลฮ่า ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความ รูปช้างเดินส่งเสบียงช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในเขตเทศบาลเมืองเชียงใหม่

    โดยมีข้อความระบุว่า "ล่าสุดเชียงใหม่เอาช้างมาช่วยส่งเสบียงให้ผู้ประสบภัย เป็นช้างที่พระครูอ๊อดดูแล ชื่อคุณเเสน & แสนทัพ รถหกล้อเข้าไม่ได้ ยังมีช้างเข้าไปส่งให้ มีคนเรียกเเสนทัพ พี่เขาหันไปทักกลับด้วย น่ารัก"

    #Thaitimes
    ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ แซนดี้ อะโลฮ่า ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความ รูปช้างเดินส่งเสบียงช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในเขตเทศบาลเมืองเชียงใหม่ โดยมีข้อความระบุว่า "ล่าสุดเชียงใหม่เอาช้างมาช่วยส่งเสบียงให้ผู้ประสบภัย เป็นช้างที่พระครูอ๊อดดูแล ชื่อคุณเเสน & แสนทัพ รถหกล้อเข้าไม่ได้ ยังมีช้างเข้าไปส่งให้ มีคนเรียกเเสนทัพ พี่เขาหันไปทักกลับด้วย น่ารัก" #Thaitimes
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวดมนต์ประจำวัน >>> วันที่ 249
    วันอาทิตย์: ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง
    วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๗ (6 October 2024)

    บทสวดมนต์ ๒๒ บท
    บทที่ 01: คำบูชาพระรัตนตรัย
    อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง ปูเชมิ
    อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง ปูเชมิ
    อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง ปูเชมิ.

    บทที่ 02: สวดบูชาพระรัตนตรัย
    อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ
    สฺวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมัง นะมัสสามิ
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ.

    บทที่ 03: สวดนมัสการพระพุทธเจ้า.
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. (๓ จบ)

    บทที่ 04: ไตรสรณคมน์
    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

    บทที่ 05: สมาทานศีลห้า
    ๑. ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    ๒. อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    ๓. กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    ๔. มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    ๕. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ.

    บทที่ 06: สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย
    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
    วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
    อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ
    สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวา ติ.

    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
    สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก
    โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหี ติ.

    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    ยะทิทัง จิตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
    เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย
    ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย
    อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ.

    บทที่ 07: บทพุทธชัยมงคลคาถา
    ๑. พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง
    ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
    ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ.
    ๒. มาราติเรกมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง
    โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
    ขันติสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ.
    ๓. นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง
    ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
    เมตตัมพุเสกะวิธนา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ.
    ๔. อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง
    ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
    อิทธีภิสังขะตะมะโน วิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ.
    ๕. กัตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา
    จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
    สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ.
    ๖. สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง
    วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
    ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ.
    ๗. นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง
    ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปปะยันโต
    อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ.
    ๘. ทุคคาหะทิฏฐิพุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง
    พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
    ญาณะคะเทนะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ.
    เอตาปิ พุทธะชัยมังคะละอัฏฐะคาถา โย
    วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
    หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททวานิ
    โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ.

    บทที่ 08: บทสวดชัยปริตร
    มหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง
    ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง
    เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลังฯ
    ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง นันทิวัฑฒะโน
    เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล
    อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร
    อะภิเสเก สัพพะ พุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติฯ
    สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ
    สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะจารีสุ ปะทักขิณัง
    กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง
    มโนกัมมัง ปะณิธี เต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ
    กัตวานะ ละภันตัดเถ ปะทักขิเณฯ

    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุสัพพะเทวะตา
    สัพพะพุทธา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุสัพพะเทวะตา
    สัพพะธัมมา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุสัพพะเทวะตา
    สัพพะสังฆา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต.

    บทที่ 09: คาถาชินบัญชร
    ปุตตะกาโม ละเภปุตตัง ธะนะกาโม ละเภธะนัง
    อัตถิกาเย กายะ ญายะ เทวานัง ปิยะตัง สุตตะวา
    อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ
    มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ.

    ๐๑.ชะยาสะนาคะตา พุทธา เชต๎วา มารัง สะวาหะนัง
    จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เย ปิวิงสุ นะราสะภา.
    ๐๒.ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา
    สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเกเต มุนิสสะรา.
    ๐๓.สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน
    สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร.
    ๐๔.หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะทักขิเณ
    โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะ วามะเก.
    ๐๕.ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะ ราหุโล
    กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก.
    ๐๖.เกสะโต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโย วะ ปะภังกะโร
    นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิปุงคะโว.
    ๐๗.กุมาระกัสสโป เถโร มะเหสี จิตตะ วาทะโก
    โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง ปะติฏฐาสิคุณากะโร.
    ๐๘.ปุณโณ อังคุลิมาโร จะ อุปาลี นันทะ สีวะลี
    เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา นะลาเต ติละกา มะมะ.
    ๐๙.เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา
    เอเตสีติ มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา
    ชะลันตา สีละเตเชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา.
    ๑๐.ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะ สุตตะกัง
    ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง.
    ๑๑.ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะ สุตตะกัง
    อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา.
    ๑๒.ชินา นานาวะระสังยุตตา สัตตัปปาการะ ลังกะตา
    วาตะปิตตาทะสัญชาตา พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา.
    ๑๓.อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะ เตชะสา
    วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร.
    ๑๔.ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ วิหะรันตัง มะฮี ตะเล
    สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ เต มะหาปุริสาสะภา.
    ๑๕.อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข
    ชินานุภาเวนะ ชิตุปัททะโว
    ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ
    สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย
    สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ.

    บทที่ 10: อิติปิโสถอยหลัง
    ติ วา คะ ภะ โธ พุท นัง สา
    นุส มะ วะ เท ถา สัต ถิ ระ
    สา มะ ทัม สะ ริ ปุ โร ตะ
    นุต อะ ทู วิ กะ โล โต คะ
    สุ โน ปัน สัม ณะ ระ จะ ชา
    วิช โธ พุท สัม มา สัม หัง ระ
    อะ วา คะ ภะ โส ปิ ติ อิฯ.

    บทที่ 11: คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า
    อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ
    อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ. (๙ จบ)

    บทที่ 12: คาถามหาจักรพรรดิ
    นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ
    มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
    พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
    อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง
    อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย
    อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ.

    บทที่ 13: คาถาบูชาหลวงปู่ทวด
    นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา. (๓ จบ)

    บทที่ 14: คาถาบูชาหลวงปู่ดู่
    นะโม โพธิสัตโต พรหมะปัญโญ. (๓ จบ)

    บทที่ 15: คาถาโมรปริตร
    นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา. (๓ จบ)

    บทที่ 16: คาถาบูชาท้าวโลกบาล
    ปุริมัง ทิสัง ธะตะรัฏ โฐ ทักขิเณนะ วิรุฬหะโก
    ปัจฉิเมนะ รูปักโข กุเวโร อุตตะรัง ทิสัง
    จัตตาโร เต มะหาราชา สะมันตา จะตุโร ทิสา
    ทัพทัฬหะมานะ อัฏฐังสุ สะทา โสตถิง กะโรนตุโน.

    บทที่ 17: บูชาท้าวเวสสุวรรณ
    อิติปิโส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ
    มะระณัง สุขัง อะระหัง สุคะโต นะโม พุทธายะ
    ท้าวเวสสุวรรณโณ จาตุมะหาราชิกา ยักขะพันตา
    ภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ
    ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโม พุทธายะ.

    บทที่ 18: บูชาพญายมราช
    ปะโตเมตัง ปะระชีวินัง สุขะโตจุติ
    จิตตะเมตะ นิพพานัง สุขะโตจุติ. (๓ จบ)

    บทที่ 19: คาถาแก้วสารพัดนึก
    นะ โม พุท ธา ยะ ,
    นะ มะ พะ ทะ ,
    มะ อะ อุ ,
    สัง วิ ทา ปุ กะ ยะ ปะ ,
    สะ ทะ วิ ปิ ปะ สะ อุ ,
    อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ

    บทที่ 20: คำเชิญพระเข้าตัว
    สัพเพ พุทธา สัพเพ ธัมมา สัพเพ สังฆา
    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะ ยัง พะลัง
    อะระหันตานัญจะ เตเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโส.

    บทที่ 21: คำอธิษฐานจิต
    พุทธัง อธิฏฐามิ ธัมมัง อธิฏฐามิ สังฆัง อธิฏฐามิ.

    บทที่ 22: แผ่เมตตาให้ตนเอง
    อะหัง สุขิโต โหมิ
    อะหัง นิททุกโข โหมิ
    อะหัง อะเวโร โหมิ
    อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ
    สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ.
    ~~~∆ด้วยความศรัทธาและวิริยะ.

    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๒๙ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    #สวดมนต์ #สวดมนต์ไหว้พระ #สวดมนต์ทุกวัน
    #praying #prayers #payrespect #lordbuddha
    สวดมนต์ประจำวัน >>> วันที่ 249 วันอาทิตย์: ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๗ (6 October 2024) บทสวดมนต์ ๒๒ บท บทที่ 01: คำบูชาพระรัตนตรัย อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง ปูเชมิ อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง ปูเชมิ อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง ปูเชมิ. บทที่ 02: สวดบูชาพระรัตนตรัย อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ สฺวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมัง นะมัสสามิ สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ. บทที่ 03: สวดนมัสการพระพุทธเจ้า. นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. (๓ จบ) บทที่ 04: ไตรสรณคมน์ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ บทที่ 05: สมาทานศีลห้า ๑. ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ๒. อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ๓. กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ๔. มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ๕. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. บทที่ 06: สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวา ติ. สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหี ติ. สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จิตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ. บทที่ 07: บทพุทธชัยมงคลคาถา ๑. พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ. ๒. มาราติเรกมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง ขันติสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ. ๓. นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธนา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ. ๔. อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ. ๕. กัตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ. ๖. สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ. ๗. นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปปะยันโต อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ. ๘. ทุคคาหะทิฏฐิพุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณะคะเทนะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ. เอตาปิ พุทธะชัยมังคะละอัฏฐะคาถา โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ. บทที่ 08: บทสวดชัยปริตร มหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลังฯ ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะ พุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะจารีสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มโนกัมมัง ปะณิธี เต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภันตัดเถ ปะทักขิเณฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุสัพพะเทวะตา สัพพะพุทธา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุสัพพะเทวะตา สัพพะธัมมา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุสัพพะเทวะตา สัพพะสังฆา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต. บทที่ 09: คาถาชินบัญชร ปุตตะกาโม ละเภปุตตัง ธะนะกาโม ละเภธะนัง อัตถิกาเย กายะ ญายะ เทวานัง ปิยะตัง สุตตะวา อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ. ๐๑.ชะยาสะนาคะตา พุทธา เชต๎วา มารัง สะวาหะนัง จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เย ปิวิงสุ นะราสะภา. ๐๒.ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเกเต มุนิสสะรา. ๐๓.สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร. ๐๔.หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะทักขิเณ โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะ วามะเก. ๐๕.ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะ ราหุโล กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก. ๐๖.เกสะโต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโย วะ ปะภังกะโร นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิปุงคะโว. ๐๗.กุมาระกัสสโป เถโร มะเหสี จิตตะ วาทะโก โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง ปะติฏฐาสิคุณากะโร. ๐๘.ปุณโณ อังคุลิมาโร จะ อุปาลี นันทะ สีวะลี เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา นะลาเต ติละกา มะมะ. ๐๙.เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา เอเตสีติ มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา ชะลันตา สีละเตเชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา. ๑๐.ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะ สุตตะกัง ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง. ๑๑.ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะ สุตตะกัง อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา. ๑๒.ชินา นานาวะระสังยุตตา สัตตัปปาการะ ลังกะตา วาตะปิตตาทะสัญชาตา พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา. ๑๓.อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะ เตชะสา วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร. ๑๔.ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ วิหะรันตัง มะฮี ตะเล สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ เต มะหาปุริสาสะภา. ๑๕.อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข ชินานุภาเวนะ ชิตุปัททะโว ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ. บทที่ 10: อิติปิโสถอยหลัง ติ วา คะ ภะ โธ พุท นัง สา นุส มะ วะ เท ถา สัต ถิ ระ สา มะ ทัม สะ ริ ปุ โร ตะ นุต อะ ทู วิ กะ โล โต คะ สุ โน ปัน สัม ณะ ระ จะ ชา วิช โธ พุท สัม มา สัม หัง ระ อะ วา คะ ภะ โส ปิ ติ อิฯ. บทที่ 11: คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ. (๙ จบ) บทที่ 12: คาถามหาจักรพรรดิ นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ. บทที่ 13: คาถาบูชาหลวงปู่ทวด นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา. (๓ จบ) บทที่ 14: คาถาบูชาหลวงปู่ดู่ นะโม โพธิสัตโต พรหมะปัญโญ. (๓ จบ) บทที่ 15: คาถาโมรปริตร นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา. (๓ จบ) บทที่ 16: คาถาบูชาท้าวโลกบาล ปุริมัง ทิสัง ธะตะรัฏ โฐ ทักขิเณนะ วิรุฬหะโก ปัจฉิเมนะ รูปักโข กุเวโร อุตตะรัง ทิสัง จัตตาโร เต มะหาราชา สะมันตา จะตุโร ทิสา ทัพทัฬหะมานะ อัฏฐังสุ สะทา โสตถิง กะโรนตุโน. บทที่ 17: บูชาท้าวเวสสุวรรณ อิติปิโส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ มะระณัง สุขัง อะระหัง สุคะโต นะโม พุทธายะ ท้าวเวสสุวรรณโณ จาตุมะหาราชิกา ยักขะพันตา ภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโม พุทธายะ. บทที่ 18: บูชาพญายมราช ปะโตเมตัง ปะระชีวินัง สุขะโตจุติ จิตตะเมตะ นิพพานัง สุขะโตจุติ. (๓ จบ) บทที่ 19: คาถาแก้วสารพัดนึก นะ โม พุท ธา ยะ , นะ มะ พะ ทะ , มะ อะ อุ , สัง วิ ทา ปุ กะ ยะ ปะ , สะ ทะ วิ ปิ ปะ สะ อุ , อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ บทที่ 20: คำเชิญพระเข้าตัว สัพเพ พุทธา สัพเพ ธัมมา สัพเพ สังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะ ยัง พะลัง อะระหันตานัญจะ เตเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโส. บทที่ 21: คำอธิษฐานจิต พุทธัง อธิฏฐามิ ธัมมัง อธิฏฐามิ สังฆัง อธิฏฐามิ. บทที่ 22: แผ่เมตตาให้ตนเอง อะหัง สุขิโต โหมิ อะหัง นิททุกโข โหมิ อะหัง อะเวโร โหมิ อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ. ~~~∆ด้วยความศรัทธาและวิริยะ. * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๒๙ วัน I am willing to depart this life at the age of 75. #สวดมนต์ #สวดมนต์ไหว้พระ #สวดมนต์ทุกวัน #praying #prayers #payrespect #lordbuddha
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวดมนต์ประจำวัน >>> วันที่ 249
    วันอาทิตย์: ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง
    วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๗ (6 October 2024)

    บทสวดมนต์ ๒๒ บท
    บทที่ 01: คำบูชาพระรัตนตรัย
    อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง ปูเชมิ
    อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง ปูเชมิ
    อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง ปูเชมิ.

    บทที่ 02: สวดบูชาพระรัตนตรัย
    อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ
    สฺวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมัง นะมัสสามิ
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ.

    บทที่ 03: สวดนมัสการพระพุทธเจ้า.
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. (๓ จบ)

    บทที่ 04: ไตรสรณคมน์
    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

    บทที่ 05: สมาทานศีลห้า
    ๑. ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    ๒. อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    ๓. กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    ๔. มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    ๕. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ.

    บทที่ 06: สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย
    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
    วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
    อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ
    สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวา ติ.

    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
    สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก
    โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหี ติ.

    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    ยะทิทัง จิตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
    เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย
    ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย
    อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ.

    บทที่ 07: บทพุทธชัยมงคลคาถา
    ๑. พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง
    ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
    ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ.
    ๒. มาราติเรกมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง
    โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
    ขันติสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ.
    ๓. นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง
    ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
    เมตตัมพุเสกะวิธนา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ.
    ๔. อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง
    ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
    อิทธีภิสังขะตะมะโน วิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ.
    ๕. กัตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา
    จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
    สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ.
    ๖. สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง
    วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
    ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ.
    ๗. นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง
    ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปปะยันโต
    อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ.
    ๘. ทุคคาหะทิฏฐิพุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง
    พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
    ญาณะคะเทนะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ.
    เอตาปิ พุทธะชัยมังคะละอัฏฐะคาถา โย
    วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
    หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททวานิ
    โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ.

    บทที่ 08: บทสวดชัยปริตร
    มหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง
    ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง
    เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลังฯ
    ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง นันทิวัฑฒะโน
    เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล
    อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร
    อะภิเสเก สัพพะ พุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติฯ
    สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ
    สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะจารีสุ ปะทักขิณัง
    กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง
    มโนกัมมัง ปะณิธี เต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ
    กัตวานะ ละภันตัดเถ ปะทักขิเณฯ

    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุสัพพะเทวะตา
    สัพพะพุทธา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุสัพพะเทวะตา
    สัพพะธัมมา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุสัพพะเทวะตา
    สัพพะสังฆา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต.

    บทที่ 09: คาถาชินบัญชร
    ปุตตะกาโม ละเภปุตตัง ธะนะกาโม ละเภธะนัง
    อัตถิกาเย กายะ ญายะ เทวานัง ปิยะตัง สุตตะวา
    อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ
    มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ.

    ๐๑.ชะยาสะนาคะตา พุทธา เชต๎วา มารัง สะวาหะนัง
    จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เย ปิวิงสุ นะราสะภา.
    ๐๒.ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา
    สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเกเต มุนิสสะรา.
    ๐๓.สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน
    สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร.
    ๐๔.หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะทักขิเณ
    โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะ วามะเก.
    ๐๕.ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะ ราหุโล
    กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก.
    ๐๖.เกสะโต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโย วะ ปะภังกะโร
    นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิปุงคะโว.
    ๐๗.กุมาระกัสสโป เถโร มะเหสี จิตตะ วาทะโก
    โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง ปะติฏฐาสิคุณากะโร.
    ๐๘.ปุณโณ อังคุลิมาโร จะ อุปาลี นันทะ สีวะลี
    เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา นะลาเต ติละกา มะมะ.
    ๐๙.เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา
    เอเตสีติ มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา
    ชะลันตา สีละเตเชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา.
    ๑๐.ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะ สุตตะกัง
    ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง.
    ๑๑.ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะ สุตตะกัง
    อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา.
    ๑๒.ชินา นานาวะระสังยุตตา สัตตัปปาการะ ลังกะตา
    วาตะปิตตาทะสัญชาตา พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา.
    ๑๓.อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะ เตชะสา
    วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร.
    ๑๔.ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ วิหะรันตัง มะฮี ตะเล
    สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ เต มะหาปุริสาสะภา.
    ๑๕.อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข
    ชินานุภาเวนะ ชิตุปัททะโว
    ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ
    สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย
    สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ.

    บทที่ 10: อิติปิโสถอยหลัง
    ติ วา คะ ภะ โธ พุท นัง สา
    นุส มะ วะ เท ถา สัต ถิ ระ
    สา มะ ทัม สะ ริ ปุ โร ตะ
    นุต อะ ทู วิ กะ โล โต คะ
    สุ โน ปัน สัม ณะ ระ จะ ชา
    วิช โธ พุท สัม มา สัม หัง ระ
    อะ วา คะ ภะ โส ปิ ติ อิฯ.

    บทที่ 11: คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า
    อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ
    อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ. (๙ จบ)

    บทที่ 12: คาถามหาจักรพรรดิ
    นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ
    มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
    พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
    อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง
    อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย
    อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ.

    บทที่ 13: คาถาบูชาหลวงปู่ทวด
    นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา. (๓ จบ)

    บทที่ 14: คาถาบูชาหลวงปู่ดู่
    นะโม โพธิสัตโต พรหมะปัญโญ. (๓ จบ)

    บทที่ 15: คาถาโมรปริตร
    นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา. (๓ จบ)

    บทที่ 16: คาถาบูชาท้าวโลกบาล
    ปุริมัง ทิสัง ธะตะรัฏ โฐ ทักขิเณนะ วิรุฬหะโก
    ปัจฉิเมนะ รูปักโข กุเวโร อุตตะรัง ทิสัง
    จัตตาโร เต มะหาราชา สะมันตา จะตุโร ทิสา
    ทัพทัฬหะมานะ อัฏฐังสุ สะทา โสตถิง กะโรนตุโน.

    บทที่ 17: บูชาท้าวเวสสุวรรณ
    อิติปิโส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ
    มะระณัง สุขัง อะระหัง สุคะโต นะโม พุทธายะ
    ท้าวเวสสุวรรณโณ จาตุมะหาราชิกา ยักขะพันตา
    ภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ
    ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโม พุทธายะ.

    บทที่ 18: บูชาพญายมราช
    ปะโตเมตัง ปะระชีวินัง สุขะโตจุติ
    จิตตะเมตะ นิพพานัง สุขะโตจุติ. (๓ จบ)

    บทที่ 19: คาถาแก้วสารพัดนึก
    นะ โม พุท ธา ยะ ,
    นะ มะ พะ ทะ ,
    มะ อะ อุ ,
    สัง วิ ทา ปุ กะ ยะ ปะ ,
    สะ ทะ วิ ปิ ปะ สะ อุ ,
    อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ

    บทที่ 20: คำเชิญพระเข้าตัว
    สัพเพ พุทธา สัพเพ ธัมมา สัพเพ สังฆา
    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะ ยัง พะลัง
    อะระหันตานัญจะ เตเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโส.

    บทที่ 21: คำอธิษฐานจิต
    พุทธัง อธิฏฐามิ ธัมมัง อธิฏฐามิ สังฆัง อธิฏฐามิ.

    บทที่ 22: แผ่เมตตาให้ตนเอง
    อะหัง สุขิโต โหมิ
    อะหัง นิททุกโข โหมิ
    อะหัง อะเวโร โหมิ
    อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ
    สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ.
    ~~~∆ด้วยความศรัทธาและวิริยะ.

    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๒๙ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    #สวดมนต์ #สวดมนต์ไหว้พระ #สวดมนต์ทุกวัน
    #praying #prayers #payrespect #lordbuddha
    สวดมนต์ประจำวัน >>> วันที่ 249 วันอาทิตย์: ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๗ (6 October 2024) บทสวดมนต์ ๒๒ บท บทที่ 01: คำบูชาพระรัตนตรัย อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง ปูเชมิ อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง ปูเชมิ อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง ปูเชมิ. บทที่ 02: สวดบูชาพระรัตนตรัย อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ สฺวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมัง นะมัสสามิ สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ. บทที่ 03: สวดนมัสการพระพุทธเจ้า. นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. (๓ จบ) บทที่ 04: ไตรสรณคมน์ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ บทที่ 05: สมาทานศีลห้า ๑. ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ๒. อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ๓. กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ๔. มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ๕. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ. บทที่ 06: สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวา ติ. สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหี ติ. สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จิตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ. บทที่ 07: บทพุทธชัยมงคลคาถา ๑. พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ. ๒. มาราติเรกมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง ขันติสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ. ๓. นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธนา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ. ๔. อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ. ๕. กัตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ. ๖. สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ. ๗. นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปปะยันโต อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ. ๘. ทุคคาหะทิฏฐิพุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณะคะเทนะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิ. เอตาปิ พุทธะชัยมังคะละอัฏฐะคาถา โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ. บทที่ 08: บทสวดชัยปริตร มหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลังฯ ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะ พุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะจารีสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มโนกัมมัง ปะณิธี เต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภันตัดเถ ปะทักขิเณฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุสัพพะเทวะตา สัพพะพุทธา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุสัพพะเทวะตา สัพพะธัมมา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุสัพพะเทวะตา สัพพะสังฆา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต. บทที่ 09: คาถาชินบัญชร ปุตตะกาโม ละเภปุตตัง ธะนะกาโม ละเภธะนัง อัตถิกาเย กายะ ญายะ เทวานัง ปิยะตัง สุตตะวา อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ. ๐๑.ชะยาสะนาคะตา พุทธา เชต๎วา มารัง สะวาหะนัง จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เย ปิวิงสุ นะราสะภา. ๐๒.ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเกเต มุนิสสะรา. ๐๓.สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร. ๐๔.หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะทักขิเณ โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะ วามะเก. ๐๕.ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะ ราหุโล กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก. ๐๖.เกสะโต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโย วะ ปะภังกะโร นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิปุงคะโว. ๐๗.กุมาระกัสสโป เถโร มะเหสี จิตตะ วาทะโก โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง ปะติฏฐาสิคุณากะโร. ๐๘.ปุณโณ อังคุลิมาโร จะ อุปาลี นันทะ สีวะลี เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา นะลาเต ติละกา มะมะ. ๐๙.เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา เอเตสีติ มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา ชะลันตา สีละเตเชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา. ๑๐.ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะ สุตตะกัง ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง. ๑๑.ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะ สุตตะกัง อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา. ๑๒.ชินา นานาวะระสังยุตตา สัตตัปปาการะ ลังกะตา วาตะปิตตาทะสัญชาตา พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา. ๑๓.อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะ เตชะสา วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร. ๑๔.ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ วิหะรันตัง มะฮี ตะเล สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ เต มะหาปุริสาสะภา. ๑๕.อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข ชินานุภาเวนะ ชิตุปัททะโว ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ. บทที่ 10: อิติปิโสถอยหลัง ติ วา คะ ภะ โธ พุท นัง สา นุส มะ วะ เท ถา สัต ถิ ระ สา มะ ทัม สะ ริ ปุ โร ตะ นุต อะ ทู วิ กะ โล โต คะ สุ โน ปัน สัม ณะ ระ จะ ชา วิช โธ พุท สัม มา สัม หัง ระ อะ วา คะ ภะ โส ปิ ติ อิฯ. บทที่ 11: คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ. (๙ จบ) บทที่ 12: คาถามหาจักรพรรดิ นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ. บทที่ 13: คาถาบูชาหลวงปู่ทวด นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา. (๓ จบ) บทที่ 14: คาถาบูชาหลวงปู่ดู่ นะโม โพธิสัตโต พรหมะปัญโญ. (๓ จบ) บทที่ 15: คาถาโมรปริตร นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา. (๓ จบ) บทที่ 16: คาถาบูชาท้าวโลกบาล ปุริมัง ทิสัง ธะตะรัฏ โฐ ทักขิเณนะ วิรุฬหะโก ปัจฉิเมนะ รูปักโข กุเวโร อุตตะรัง ทิสัง จัตตาโร เต มะหาราชา สะมันตา จะตุโร ทิสา ทัพทัฬหะมานะ อัฏฐังสุ สะทา โสตถิง กะโรนตุโน. บทที่ 17: บูชาท้าวเวสสุวรรณ อิติปิโส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ มะระณัง สุขัง อะระหัง สุคะโต นะโม พุทธายะ ท้าวเวสสุวรรณโณ จาตุมะหาราชิกา ยักขะพันตา ภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโม พุทธายะ. บทที่ 18: บูชาพญายมราช ปะโตเมตัง ปะระชีวินัง สุขะโตจุติ จิตตะเมตะ นิพพานัง สุขะโตจุติ. (๓ จบ) บทที่ 19: คาถาแก้วสารพัดนึก นะ โม พุท ธา ยะ , นะ มะ พะ ทะ , มะ อะ อุ , สัง วิ ทา ปุ กะ ยะ ปะ , สะ ทะ วิ ปิ ปะ สะ อุ , อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ บทที่ 20: คำเชิญพระเข้าตัว สัพเพ พุทธา สัพเพ ธัมมา สัพเพ สังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะ ยัง พะลัง อะระหันตานัญจะ เตเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโส. บทที่ 21: คำอธิษฐานจิต พุทธัง อธิฏฐามิ ธัมมัง อธิฏฐามิ สังฆัง อธิฏฐามิ. บทที่ 22: แผ่เมตตาให้ตนเอง อะหัง สุขิโต โหมิ อะหัง นิททุกโข โหมิ อะหัง อะเวโร โหมิ อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ. ~~~∆ด้วยความศรัทธาและวิริยะ. * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๒๙ วัน I am willing to depart this life at the age of 75. #สวดมนต์ #สวดมนต์ไหว้พระ #สวดมนต์ทุกวัน #praying #prayers #payrespect #lordbuddha
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง……“จากสนธิ ลิ้มทองกุล ถึงนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์"
    .
    ในรายการ "สนธิเล่าเรื่อง" เมื่อวันพุธที่2ตุลาคมที่ผ่านมา ผมพูดจาโดยตรงกับท่านนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ ที่ท่านพูดโอดครวญว่าทำงานยังไม่ถึงเดือนเลย ผมจะมาไล่ท่านแล้วหรือ ท่านใช้ความเป็นเด็ก ความน่าสงสาร ทำให้ตัวท่านเหมือนกับถูกผู้ใหญ่อย่างผมรังแก ฟังเสียก่อนแล้วจะรู้ว่าผมไม่ได้รังแกอะไรเขา เขาทำตัวเขาเองทั้งสิ้น
    .
    ท่านนายกฯ แพทองธารครับ ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะต้องใช้สติปัญญาในการพิจารณาข้อความ เรื่องราวต่างๆ ของท่าน ท่านอย่าไปเที่ยวให้นักข่าวถามท่าน หรือว่าให้คนใกล้ชิดใส่ร้ายป้ายสี
    .
    ในรายการ "ความจริงมีหนึ่งเดียว" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน ผมบอกว่าผมจะทำ 3 เรื่อง -เรื่องแรกที่ผมจะทำก็คือว่า ไม่เกินสิ้นปีนี้ผมจะไปยื่นขอความเป็นธรรมกับกรณีที่ผมโดนลอบสังหาร เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2552 โดนยิง 200 นัด บาดเจ็บสาหัส จากวันนั้นถึงวันนี้คดีความไม่ไปไหนเลย
    .
    -เรื่องที่สอง เรื่องปริมาณพม่าลี้ภัยเข้ามาในเมืองไทยเยอะเหลือเกิน สมุทรปราการ มหาชัย แม่สอดกลายเป็นเมืองพม่า พม่าเริ่มเข้ามาเป็นเจ้าของกิจการหลายกิจการ อันนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ พรรคภูมิใจไทยมีส่วนเกี่ยวข้อง 3 แห่ง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และ กระทรวงมหาดไทย แล้วเรามีพรรคการเมือง คือ พรรคประชาชน (พม่า) หนุนหลังพวกลี้ภัยพม่าพวกนี้ทั้งหมดเลย นี่คือความเป็นห่วงที่ผมมีอยู่ นั่นคือจดหมายคำร้องเรียนเรื่องที่สองที่จะตามไป
    .
    เรื่องสุดท้ายผมบอกว่าผมจะติดตามการทำงานของท่านนายกฯ แพทองธารตลอดเวลา แล้วถ้าท่านทำถูกต้อง ผมให้กำลังใจ แต่ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้อง มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง ขายชาติ ขายแผ่นดิน ยกเกาะกูดให้กับเขมร ซึ่งท่านนายกฯ แพทองธารก็ต้องรู้ว่า ตระกูล "ชินวัตร" โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพ่อของท่าน มีความสนิทสนมกับสมเด็จฮุน เซน มาก
    .
    ตรงนี้ถ้าท่านนายกฯ ไม่ลงมาจัดการหรือระมัดระวังตัว แล้วเราต้องยกชาติยกแผ่นดิน ยกพื้นที่ให้กับเขมร ขโมยพื้นที่เกาะกูดไป รวมเบ็ดเสร็จ รวมทั้งฉ้อราษฎร์บังหลวง ช่วยเหลือผู้คนในเครือข่ายตัวเอง ผมบอกว่า ถ้ามันเป็นอย่างนี้ ผมจะขอลงถนนเพื่อที่จะไล่ท่าน แต่ผมไม่ได้บอกว่าทันที ผมบอกจะรอจนถึงปีหน้า ขึ้นอยู่กับการกระทำของท่านนายกฯ
    .
    แต่ถ้าท่านยังรักพ่อมากกว่ารักชาติ ซึ่งเป็นอย่างนั้นผมก็ไม่ประหลาดใจ ทิศทางมันน่าจะไปทางด้านนั้น แต่ผมบอกท่านนายกฯแล้วหลายเรื่องนะ การคอร์รัปชัน ความไม่โปร่งใสในการทำงาน ความที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรมที่ควรจะได้รับ เหมือนผมโดนยิงไปแล้ว 12 ปี ไม่ได้รับความยุติธรรม ผมกำลังจะทดสอบท่านว่าท่านจะหาความยุติธรรมให้ผมได้หรือเปล่า มีที่ไหน โดนลอบสังหารด้วยอาวุธสงคราม 200 นัด 12 ปีแล้ว เรื่องราวไม่ได้ไปไหนเลย
    .
    แต่ที่สำคัญที่สุด นอกเหนือกว่าสิ่งอื่นใด ท่านต้องไม่ขายชาติ ท่านต้องไม่ยกแผ่นดินเกาะกูดให้กับเขมร เพื่อแลกกับสิทธิในการขุดน้ำมันด้วยกัน พื้นที่ทับซ้อนในทะเลเขมรยอมรับว่าที่นี้เป็นที่ของไทย ไม่รุกเข้ามา เมื่อยอมรับแล้ว การเจรจาเพื่อที่จะลงทุนร่วมกันในที่นั้นย่อมเป็นไปได้ ถูกไหมท่านนายกฯ แต่ไม่ใช่มาตัดให้เขมรเพื่อให้เขมรมีสิทธิ์ นี่คือสิ่งที่ผมจะยอมให้ไม่ได้
    โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง……“จากสนธิ ลิ้มทองกุล ถึงนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์" . ในรายการ "สนธิเล่าเรื่อง" เมื่อวันพุธที่2ตุลาคมที่ผ่านมา ผมพูดจาโดยตรงกับท่านนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ ที่ท่านพูดโอดครวญว่าทำงานยังไม่ถึงเดือนเลย ผมจะมาไล่ท่านแล้วหรือ ท่านใช้ความเป็นเด็ก ความน่าสงสาร ทำให้ตัวท่านเหมือนกับถูกผู้ใหญ่อย่างผมรังแก ฟังเสียก่อนแล้วจะรู้ว่าผมไม่ได้รังแกอะไรเขา เขาทำตัวเขาเองทั้งสิ้น . ท่านนายกฯ แพทองธารครับ ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะต้องใช้สติปัญญาในการพิจารณาข้อความ เรื่องราวต่างๆ ของท่าน ท่านอย่าไปเที่ยวให้นักข่าวถามท่าน หรือว่าให้คนใกล้ชิดใส่ร้ายป้ายสี . ในรายการ "ความจริงมีหนึ่งเดียว" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน ผมบอกว่าผมจะทำ 3 เรื่อง -เรื่องแรกที่ผมจะทำก็คือว่า ไม่เกินสิ้นปีนี้ผมจะไปยื่นขอความเป็นธรรมกับกรณีที่ผมโดนลอบสังหาร เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2552 โดนยิง 200 นัด บาดเจ็บสาหัส จากวันนั้นถึงวันนี้คดีความไม่ไปไหนเลย . -เรื่องที่สอง เรื่องปริมาณพม่าลี้ภัยเข้ามาในเมืองไทยเยอะเหลือเกิน สมุทรปราการ มหาชัย แม่สอดกลายเป็นเมืองพม่า พม่าเริ่มเข้ามาเป็นเจ้าของกิจการหลายกิจการ อันนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ พรรคภูมิใจไทยมีส่วนเกี่ยวข้อง 3 แห่ง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และ กระทรวงมหาดไทย แล้วเรามีพรรคการเมือง คือ พรรคประชาชน (พม่า) หนุนหลังพวกลี้ภัยพม่าพวกนี้ทั้งหมดเลย นี่คือความเป็นห่วงที่ผมมีอยู่ นั่นคือจดหมายคำร้องเรียนเรื่องที่สองที่จะตามไป . เรื่องสุดท้ายผมบอกว่าผมจะติดตามการทำงานของท่านนายกฯ แพทองธารตลอดเวลา แล้วถ้าท่านทำถูกต้อง ผมให้กำลังใจ แต่ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้อง มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง ขายชาติ ขายแผ่นดิน ยกเกาะกูดให้กับเขมร ซึ่งท่านนายกฯ แพทองธารก็ต้องรู้ว่า ตระกูล "ชินวัตร" โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพ่อของท่าน มีความสนิทสนมกับสมเด็จฮุน เซน มาก . ตรงนี้ถ้าท่านนายกฯ ไม่ลงมาจัดการหรือระมัดระวังตัว แล้วเราต้องยกชาติยกแผ่นดิน ยกพื้นที่ให้กับเขมร ขโมยพื้นที่เกาะกูดไป รวมเบ็ดเสร็จ รวมทั้งฉ้อราษฎร์บังหลวง ช่วยเหลือผู้คนในเครือข่ายตัวเอง ผมบอกว่า ถ้ามันเป็นอย่างนี้ ผมจะขอลงถนนเพื่อที่จะไล่ท่าน แต่ผมไม่ได้บอกว่าทันที ผมบอกจะรอจนถึงปีหน้า ขึ้นอยู่กับการกระทำของท่านนายกฯ . แต่ถ้าท่านยังรักพ่อมากกว่ารักชาติ ซึ่งเป็นอย่างนั้นผมก็ไม่ประหลาดใจ ทิศทางมันน่าจะไปทางด้านนั้น แต่ผมบอกท่านนายกฯแล้วหลายเรื่องนะ การคอร์รัปชัน ความไม่โปร่งใสในการทำงาน ความที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรมที่ควรจะได้รับ เหมือนผมโดนยิงไปแล้ว 12 ปี ไม่ได้รับความยุติธรรม ผมกำลังจะทดสอบท่านว่าท่านจะหาความยุติธรรมให้ผมได้หรือเปล่า มีที่ไหน โดนลอบสังหารด้วยอาวุธสงคราม 200 นัด 12 ปีแล้ว เรื่องราวไม่ได้ไปไหนเลย . แต่ที่สำคัญที่สุด นอกเหนือกว่าสิ่งอื่นใด ท่านต้องไม่ขายชาติ ท่านต้องไม่ยกแผ่นดินเกาะกูดให้กับเขมร เพื่อแลกกับสิทธิในการขุดน้ำมันด้วยกัน พื้นที่ทับซ้อนในทะเลเขมรยอมรับว่าที่นี้เป็นที่ของไทย ไม่รุกเข้ามา เมื่อยอมรับแล้ว การเจรจาเพื่อที่จะลงทุนร่วมกันในที่นั้นย่อมเป็นไปได้ ถูกไหมท่านนายกฯ แต่ไม่ใช่มาตัดให้เขมรเพื่อให้เขมรมีสิทธิ์ นี่คือสิ่งที่ผมจะยอมให้ไม่ได้
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • 6 ตุลาคม 2567-อ.สนธิ คชวัตร วิเคราะห์ น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ในรอบร้อยปี ว่าสาเหตุสำคัญคือฝนตกหนักบนดอยที่ถูกเปลี่ยนสภาพเป็นเกษตรกรรมพืชเชิงเดี่ยว...

    1.สาเหตุของน้ำท่วมหนักในเมืองเชียงใหม่เกิดจากฝนตกหนักหลายวันโดยช่วงต้นเดือนตุลาคม 2567 มีฝนหนักติดต่อกัน3วันวัดปริมาณน้ำฝนได้200ถึง300มิลลิเมตรทั้งที่ไม่มีพายุเข้าแต่เกิดจากมวลอากาศเย็นเคลื่อนลงมาจากแผ่นดินใหญ่มาปะทะร่องมรสุมความกดอากาศต่ำ(อากาศร้อน) ที่พาดผ่านทำให้เกิดฝนตกหนักในเขตอำ เภอเชียงดาว อำเภอแม่แตง อำเภอแม่ริมและอำเภอพร้าวจนเกิดน้ำท่วมอย่างหนักในพื้นที่ราบเชิงเขาของอำเภอเชียงดาว อำเภอแม่แตงและอำเภอเมืองเชียงใหม่โดยทั้งแม่น้ำแม่งัด แม่น้ำแม่แตงและแม่น้ำปิงมีปริมาณน้ำไหลเชี่ยวกรากลงมาท่วมพื้นที่เมืองเชียงใหม่

    2.แม่น้ำปิงมีต้นกำเนิดจากเทือกเขาผีปันน้ำในพื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียง ใหม่ไหลลงมาทางทิศไต้ผ่านหุบเขาเข้าสู่เขตอำเภอแม่แตง มีแม่น้ำแม่งัดไหลมาบรร จบทางฝั่งซ้ายและน้ำแม่แตงไหลมาบรร จบทางฝั่งขวาเข้าสู่พื้นที่ราบลุ่มผ่านอำ เภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และมีน้ำแม่กวง ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำปิงไหลมาบรรจบทางฝั่งซ้าย บริเวณพื้นที่อำเภอป่าซาง จัง หวัดลำพูน จากนั้นแม่น้ำปิงจะไหลไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้โดยมีแม่น้ำลี้ ซึ่งไหลผ่านจากอำเภอลี้ มาบรรจบกับแม่น้ำปิงที่อำเภอจอมทองทางฝั่งซ้ายและจากอำเภอจอมทอง แม่น้ำปิงจะไหลลงไปทางใต้โดย มีแม่น้ำแม่แจ่มไหลมาบรรจบทางฝั่งขวาที่อำเภอฮอดก่อนจะไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำของเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ที่อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ต่อไป
    เมื่อเกิดฝนตกหนักติดต่อกันยาวนานในพื้นที่ต้นน้ำจะเป็นผลให้ระดับน้ำและปริ มาณน้ำในแม่ปิงสะสมตัวเพิ่มสูงขึ้น จนเกิดล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำใกล้เคียง เกิดอุทกภัยสร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่บ้านเรือน ชีวิตและทรัพย์สินขึ้นได้ โดยเฉพาะในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ โดยจะเกิดขึ้นเมื่อปริมาณน้ำเพิ่มสูงเกินความจุของลำน้ำโดยความจุของน้ำปิงที่ตัวเมืองเชียงใหม่คือ 440 ลบ.เมตร/วินาที และระ ดับวิกฤติที่น้ำจะเริ่มล้นฝั่งไหลท่วมอยู่ที่ 3.70 เมตร

    3. ปี2566/67 จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จำนวน 285,004 ไร่ ที่อำเภอเชียงดาวมีพื้นที่ปลูกข้าวโพด 19,878 ไร่ และอำเภอแม่แตงมีพื้นที่ปลูกข้าวโพดประมาณ1636.75ไร่ ส่วนใหญ่จะปลูกบนดอยสูง นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำ ให้น้ำป่าบนภูเขาต้นน้ำไหลลงมาได้รวด เร็วและเชี่ยวกรากไหลลงมาท่วมพื้นที่ราบเชิงเขาได้
    ...หากฝนตกบนภูเขาที่เต็มไปด้วยป่าใหญ่ น้ำฝนจะขังอยู่ในป่าประมาณเก้าส่วน อีกหนึ่งส่วนไหลลงข้างล่าง และค่อยๆไหลรินไปหล่อเลี้ยงผู้คนด้านล่างตลอดทั้งปี แต่หากเป็นภูเขาหัวโล้น น้ำฝนจะขังอยู่หนึ่งส่วน อีกเก้าส่วนไหลลงข้างล่างทำให้เกิดมหาอุทกภัยใหญ่หลวง...

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/pfkBEHemaUuFdGYg/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    6 ตุลาคม 2567-อ.สนธิ คชวัตร วิเคราะห์ น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ในรอบร้อยปี ว่าสาเหตุสำคัญคือฝนตกหนักบนดอยที่ถูกเปลี่ยนสภาพเป็นเกษตรกรรมพืชเชิงเดี่ยว... 1.สาเหตุของน้ำท่วมหนักในเมืองเชียงใหม่เกิดจากฝนตกหนักหลายวันโดยช่วงต้นเดือนตุลาคม 2567 มีฝนหนักติดต่อกัน3วันวัดปริมาณน้ำฝนได้200ถึง300มิลลิเมตรทั้งที่ไม่มีพายุเข้าแต่เกิดจากมวลอากาศเย็นเคลื่อนลงมาจากแผ่นดินใหญ่มาปะทะร่องมรสุมความกดอากาศต่ำ(อากาศร้อน) ที่พาดผ่านทำให้เกิดฝนตกหนักในเขตอำ เภอเชียงดาว อำเภอแม่แตง อำเภอแม่ริมและอำเภอพร้าวจนเกิดน้ำท่วมอย่างหนักในพื้นที่ราบเชิงเขาของอำเภอเชียงดาว อำเภอแม่แตงและอำเภอเมืองเชียงใหม่โดยทั้งแม่น้ำแม่งัด แม่น้ำแม่แตงและแม่น้ำปิงมีปริมาณน้ำไหลเชี่ยวกรากลงมาท่วมพื้นที่เมืองเชียงใหม่ 2.แม่น้ำปิงมีต้นกำเนิดจากเทือกเขาผีปันน้ำในพื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียง ใหม่ไหลลงมาทางทิศไต้ผ่านหุบเขาเข้าสู่เขตอำเภอแม่แตง มีแม่น้ำแม่งัดไหลมาบรร จบทางฝั่งซ้ายและน้ำแม่แตงไหลมาบรร จบทางฝั่งขวาเข้าสู่พื้นที่ราบลุ่มผ่านอำ เภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และมีน้ำแม่กวง ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำปิงไหลมาบรรจบทางฝั่งซ้าย บริเวณพื้นที่อำเภอป่าซาง จัง หวัดลำพูน จากนั้นแม่น้ำปิงจะไหลไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้โดยมีแม่น้ำลี้ ซึ่งไหลผ่านจากอำเภอลี้ มาบรรจบกับแม่น้ำปิงที่อำเภอจอมทองทางฝั่งซ้ายและจากอำเภอจอมทอง แม่น้ำปิงจะไหลลงไปทางใต้โดย มีแม่น้ำแม่แจ่มไหลมาบรรจบทางฝั่งขวาที่อำเภอฮอดก่อนจะไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำของเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ที่อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ต่อไป เมื่อเกิดฝนตกหนักติดต่อกันยาวนานในพื้นที่ต้นน้ำจะเป็นผลให้ระดับน้ำและปริ มาณน้ำในแม่ปิงสะสมตัวเพิ่มสูงขึ้น จนเกิดล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำใกล้เคียง เกิดอุทกภัยสร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่บ้านเรือน ชีวิตและทรัพย์สินขึ้นได้ โดยเฉพาะในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ โดยจะเกิดขึ้นเมื่อปริมาณน้ำเพิ่มสูงเกินความจุของลำน้ำโดยความจุของน้ำปิงที่ตัวเมืองเชียงใหม่คือ 440 ลบ.เมตร/วินาที และระ ดับวิกฤติที่น้ำจะเริ่มล้นฝั่งไหลท่วมอยู่ที่ 3.70 เมตร 3. ปี2566/67 จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จำนวน 285,004 ไร่ ที่อำเภอเชียงดาวมีพื้นที่ปลูกข้าวโพด 19,878 ไร่ และอำเภอแม่แตงมีพื้นที่ปลูกข้าวโพดประมาณ1636.75ไร่ ส่วนใหญ่จะปลูกบนดอยสูง นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำ ให้น้ำป่าบนภูเขาต้นน้ำไหลลงมาได้รวด เร็วและเชี่ยวกรากไหลลงมาท่วมพื้นที่ราบเชิงเขาได้ ...หากฝนตกบนภูเขาที่เต็มไปด้วยป่าใหญ่ น้ำฝนจะขังอยู่ในป่าประมาณเก้าส่วน อีกหนึ่งส่วนไหลลงข้างล่าง และค่อยๆไหลรินไปหล่อเลี้ยงผู้คนด้านล่างตลอดทั้งปี แต่หากเป็นภูเขาหัวโล้น น้ำฝนจะขังอยู่หนึ่งส่วน อีกเก้าส่วนไหลลงข้างล่างทำให้เกิดมหาอุทกภัยใหญ่หลวง... ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/pfkBEHemaUuFdGYg/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในหลวง ทอดพระเนตร พระราชินี ทรงร่วมแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย

    วันนี้ (วันอาทิตย์ที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๗) เวลา ๑๘.๒๖ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายสรวงศ์ เทือนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายหานจื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย นายก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย หม่อมหลวงกฤษฎา เกษมสันต์ นายกสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแข็งแห่งประเทศไทยพร้อมคณะกรรมการ และคณะทำงาน ฯ เฝ้า ฯ รับเสด็จ

    ในโอกาสนี้สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงกิตติมศักดิ์ (Women’s Global Ambassador) คนแรก ตามคำกราบบังคมทูลเขิญของสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (International Ice Hockey Federation) “IIHF” ทรงนำทีมไอซ์ฮอกกี้ราชอาณาจักรไทยแข่งขันกับทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน นัดกระชับมิตรในครั้งนี้ด้วย

    การนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ ร่วมกับ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ นักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง ตามลำดับ

    จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทยกราบบังคมทูลรายงานและกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล และพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้แทนจากสมาคมฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึกแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ นายลุค ทาร์ดิฟ ประธานสหพันธ์ International Ice Hockey Federation (IHF) ทูลเกล้า ฯ ถวายโล่สัญลักษณ์ทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงกิตติมศักดิ์ของสหพันธ์ ฯ พร้อมใบประกาศ (IIHF Women's Global Ambassador) แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี

    โดยสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (International Ice Hockey Federation) “IIHF” ได้กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เป็นทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิง(Women’s Global Ambassador) คนแรกของสหพันธ์ ด้วยพระปรีชาสามารถด้านกีฬาไอซ์ฮอกกี้อันเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาปวงพสกนิกรชาวไทยและทั่วโลก เมื่อครั้งโดยเสด็จพระราชดำเนิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ทรงเปิด ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชันแนล ไอซ์ ฮอกกี้ อารีนา เชียงใหม่ (Thailand International Ice Hockey Arena Chiangmai) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๖ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงร่วมการแข่งขันในนัดเปิดสนามในครั้งนั้นด้วย ทรงสร้างความประทับใจและทรงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาหญิงจำนวนมาก และทรงเป็นแบบอย่างให้กับนักกีฬาในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก

    ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทอดพระเนตรการแสดงโชว์ในการแข่งขันกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย

    จากนั้น สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงเปลี่ยนฉลองพระองค์เป็นฉลองพระองค์นักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งทีมราชอาณาจักรไทย เพื่อทรงร่วมแข่งขันกับทีมนักกีฬาฮอกกี้สาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน ๓ Period ซึ่งระหว่างที่ทรงแข่งขันอยู่ในสนามนั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงทุ่มเทพระวรกายในการแข่งขันอย่างเต็มพระกำลัง โดยเกมการแข่งขันของทั้งสองทีม ดำเนินไปอย่างสูสีผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างเข้มข้นจนจบการแข่งขัน

    ประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๑๘ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงให้ความสำคัญและทรงตั้งพระราชหฤทัยในการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างทั้งสองประเทศที่มีมาอย่างยาวนานให้ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จพระราชดำเนินเยือนและการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างสองประเทศในโอกาสต่างๆ ดังต่อไปนี้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายไฉ เจ๋อหมิน เอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทยคนแรก เข้าเฝ้าฯถวายสาส์นตราตั้ง ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๑๙

    เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๓ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นผู้แทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนจีนอย่างเป็นทางการ (State Visit) ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของรัฐบาลจีน

    วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของรัฐบาลจีน โดยนายว่าน หลี่ รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน จัดพิธีต้อนรับณ จัตุรัสด้านตะวันออก ของมหาศาลาประชาชนกรุงปักกิ่ง และวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงรับ นาย สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนพร้อมด้วยคู่สมรส เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมการประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย– แปซิฟิก หรือ เอเปค (Asia – Pacific Economic Cooperation : APEC) ครั้งที่ ๒๙ ระหว่างวันที่ ๑๘ - ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร เป็นต้น

    การแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena ในครั้งนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ และในโอกาสครบ ๗๕ ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน นับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่ทั้งสองประเทศได้กระชับสัมพันธไมตรีที่ดี ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อันนำไปสู่ความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกันในทุกระดับ เพื่อประโยชน์สุขของราษฎรทั้งสองประเทศสืบไป

    #ทรงพระเจริญ #สืบสานรักษาต่อยอด
    #การแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตร
    #สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทยจีน

    ที่มา : @พระลาน
    https://www.facebook.com/share/2aTmWcVP1wpm3egn/
    ในหลวง ทอดพระเนตร พระราชินี ทรงร่วมแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย วันนี้ (วันอาทิตย์ที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๗) เวลา ๑๘.๒๖ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายสรวงศ์ เทือนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายหานจื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย นายก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย หม่อมหลวงกฤษฎา เกษมสันต์ นายกสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแข็งแห่งประเทศไทยพร้อมคณะกรรมการ และคณะทำงาน ฯ เฝ้า ฯ รับเสด็จ ในโอกาสนี้สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงกิตติมศักดิ์ (Women’s Global Ambassador) คนแรก ตามคำกราบบังคมทูลเขิญของสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (International Ice Hockey Federation) “IIHF” ทรงนำทีมไอซ์ฮอกกี้ราชอาณาจักรไทยแข่งขันกับทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน นัดกระชับมิตรในครั้งนี้ด้วย การนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ ร่วมกับ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ นักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง ตามลำดับ จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทยกราบบังคมทูลรายงานและกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล และพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้แทนจากสมาคมฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึกแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ นายลุค ทาร์ดิฟ ประธานสหพันธ์ International Ice Hockey Federation (IHF) ทูลเกล้า ฯ ถวายโล่สัญลักษณ์ทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงกิตติมศักดิ์ของสหพันธ์ ฯ พร้อมใบประกาศ (IIHF Women's Global Ambassador) แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี โดยสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (International Ice Hockey Federation) “IIHF” ได้กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เป็นทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิง(Women’s Global Ambassador) คนแรกของสหพันธ์ ด้วยพระปรีชาสามารถด้านกีฬาไอซ์ฮอกกี้อันเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาปวงพสกนิกรชาวไทยและทั่วโลก เมื่อครั้งโดยเสด็จพระราชดำเนิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ทรงเปิด ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชันแนล ไอซ์ ฮอกกี้ อารีนา เชียงใหม่ (Thailand International Ice Hockey Arena Chiangmai) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๖ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงร่วมการแข่งขันในนัดเปิดสนามในครั้งนั้นด้วย ทรงสร้างความประทับใจและทรงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาหญิงจำนวนมาก และทรงเป็นแบบอย่างให้กับนักกีฬาในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทอดพระเนตรการแสดงโชว์ในการแข่งขันกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย จากนั้น สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงเปลี่ยนฉลองพระองค์เป็นฉลองพระองค์นักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งทีมราชอาณาจักรไทย เพื่อทรงร่วมแข่งขันกับทีมนักกีฬาฮอกกี้สาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน ๓ Period ซึ่งระหว่างที่ทรงแข่งขันอยู่ในสนามนั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงทุ่มเทพระวรกายในการแข่งขันอย่างเต็มพระกำลัง โดยเกมการแข่งขันของทั้งสองทีม ดำเนินไปอย่างสูสีผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างเข้มข้นจนจบการแข่งขัน ประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๑๘ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงให้ความสำคัญและทรงตั้งพระราชหฤทัยในการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างทั้งสองประเทศที่มีมาอย่างยาวนานให้ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จพระราชดำเนินเยือนและการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างสองประเทศในโอกาสต่างๆ ดังต่อไปนี้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายไฉ เจ๋อหมิน เอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทยคนแรก เข้าเฝ้าฯถวายสาส์นตราตั้ง ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๑๙ เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๓ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นผู้แทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนจีนอย่างเป็นทางการ (State Visit) ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของรัฐบาลจีน วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของรัฐบาลจีน โดยนายว่าน หลี่ รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน จัดพิธีต้อนรับณ จัตุรัสด้านตะวันออก ของมหาศาลาประชาชนกรุงปักกิ่ง และวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงรับ นาย สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนพร้อมด้วยคู่สมรส เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมการประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย– แปซิฟิก หรือ เอเปค (Asia – Pacific Economic Cooperation : APEC) ครั้งที่ ๒๙ ระหว่างวันที่ ๑๘ - ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร เป็นต้น การแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและราชอาณาจักรไทย ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena ในครั้งนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ และในโอกาสครบ ๗๕ ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน นับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่ทั้งสองประเทศได้กระชับสัมพันธไมตรีที่ดี ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อันนำไปสู่ความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกันในทุกระดับ เพื่อประโยชน์สุขของราษฎรทั้งสองประเทศสืบไป #ทรงพระเจริญ #สืบสานรักษาต่อยอด #การแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตร #สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทยจีน ที่มา : @พระลาน https://www.facebook.com/share/2aTmWcVP1wpm3egn/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • ว้าวววว… ชาติที่แล้วทำบุญด้วยอะไรมาจ๊ะ หมูเด้ง "นักธุรกิจดูไบ" บินตรงมามอบเงินให้หมูเด้ง เพื่อสนับสนุนภารกิจของสวนสัตว์ 5 ล้านบาท

    กระแสความน่ารัก ตะมุตะมิของสาวน้อยหมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ดังไปไกลทั่วโลก โดยยังไม่มีทีท่าว่าจะแผ่วลง นักท่องเที่ยวแห่เข้ารอชมหมูเด้งกันตั้งแต่สวนสัตว์ยังไม่เปิดทุกวัน

    https://mgronline.com/local/detail/9670000094811

    #Thaitimes
    ว้าวววว… ชาติที่แล้วทำบุญด้วยอะไรมาจ๊ะ หมูเด้ง "นักธุรกิจดูไบ" บินตรงมามอบเงินให้หมูเด้ง เพื่อสนับสนุนภารกิจของสวนสัตว์ 5 ล้านบาท กระแสความน่ารัก ตะมุตะมิของสาวน้อยหมูเด้ง ลูกฮิปโปแคระ ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ดังไปไกลทั่วโลก โดยยังไม่มีทีท่าว่าจะแผ่วลง นักท่องเที่ยวแห่เข้ารอชมหมูเด้งกันตั้งแต่สวนสัตว์ยังไม่เปิดทุกวัน https://mgronline.com/local/detail/9670000094811 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    เกินต้านจริงๆ เศรษฐีดูไบบินตรงหา “หมูเด้ง” มอบเงินให้ 5 ล้านบาท
    ศูนย์ข่าวศรีราชา - ว้าวววว … ชาติที่แล้วทำบุญด้วยอะไรมาจ๊ะ หมูเด้ง “นักธุรกิจ ดูไบ“ บินตรงมามอบเงินให้หมูเด้ง เพื่อสนับสนุนภารกิจของสวนสัตว์ 5 ล้านบาท
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • เตือนคนเกษียณระวังหมดตัวจากข้อมูลกรมบัญชีกลาง 23,089 รายชื่อหลุดรั่ว
    .
    ข้าราชการเกษียณอายุ ระวังตัวให้ดีๆ เพราะว่าข้อมูลกรมบัญชีกลางหลุดออกไปเยอะเลย โดนแฮก หรือโดนคนภายในเอาไปขายให้กับพวกคอลเซ็นเตอร์
    .
    เมื่อต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา วันที่ 5 สิงหาคม 2567 ตำรวจสอบสวนภูธรภาค 2 มี พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 หรือที่เขาเรียกว่า ผู้การสืบภาค 2 ขนลูกน้องไปทำลายรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง แห่งหนึ่งที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี พอบุกเข้าไปในบ้านก็ได้จับผู้ต้องหาเป็นผู้ชายไทยได้ 4 คน ตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ 10 เครื่อง พร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก
    .
    ไฮไลต์เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ตำรวจสืบภาค 2 จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนสีเทาแล้ว ประเด็นสำคัญคือหลักฐานที่ตำรวจชุดจับกุมเข้าตรวจพบ มันเป็นไฟล์ข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนกว่า 23,089 รายชื่อ ที่เป็นชื่อของข้าราชการบำเหน็จบำนาญที่เกษียณแล้วทั้งหมด บันทึกอยู่ในคอมพิวเตอร์ของกลางทุกเครื่อง
    .
    ในแต่ละรายชื่อประกอบด้วย ชื่อจริง นามสกุลจริง ที่อยู่อาศัย เลขบัตรประชาชน 13 หลัก ข้อมูลธนาคาร เลขบัญชีที่ผูกกับบัญชีเงินเดือน หรือบัญชีรับเงินบำเหน็จบำนาญ ข้อที่สำคัญคือ ข้อมูลสถานพยาบาล สิทธิการรักษาพยาบาลต่างๆ ของข้าราชการบำเหน็จบำนาญที่เกษียณแล้ว มันหลุดไปได้อย่างไรคุณแพทริเซีย อธิบดีกรมบัญชีกลางครับ ตอบผมหน่อย
    .
    ทีมงานผมไปสืบ วิเคราะห์เจาะลึกมาแล้ว ว่าเมื่อช่วงกลางปี 2565 หรือสองปีมาแล้ว กรมบัญชีกลางจ้าง Outsource หรือคนนอกมาปรับปรุงระบบระบบฐานข้อมูลต่างๆ ท่านผู้ชมฟังแล้วอึ้งไหม ที่น่าตกใจคือกรมบัญชีกลางจ้างบริษัทไอที จ้างโปรแกรมเมอร์ที่ไหนเข้ามาปรับปรุงหรือพัฒนาระบบข้อมูลพื้นฐาน ที่กำกับดูแลการเงินภาครัฐที่ต้องถือว่ามีความสำคัญมาก และควรเป็นความลับสุดยอดระดับ Restricted Confidential หรือ Highly Confidential คือเป็นข้อมูลที่ลับมาก
    .
    สำหรับเรื่องข้อมูลข้าราชการเกษียณจำนวน 23,000 กว่ารายชื่อจากกรมบัญชีกลาง หลุดรอดไปถึงแก๊งจีนเทาครั้งนี้ ผมขออนุญาตขยายความได้ไหม ประเด็นความเสียหายนี้สันนิษฐานเกิดได้หลายกรณี คือ (1) เกลือเป็นหนอน เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางที่ดูแลในส่วนนี้ นำข้อมูลไปขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ (2) เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางที่รู้เห็นเป็นใจกับคนนอก ที่เข้ามาดูแลพัฒนาระบบ เปิดทางให้ข้อมูลรั่วไหลไปสู่บรรดามิจฉาชีพ (3) เลินเล่อ (4) ระบบโดนแฮก
    .
    ที่ผมพูดแบบนี้เพราะมันสันนิษฐานได้ทุกมิติ เพราะวันนี้ยังจับมือใครดมไม่ได้ แต่คุณแพทริเซีย มงคลวนิช ท่านอธิบดีกรมบัญชีกลางต้องเข้าใจนะครับว่า ข้าราชการรุ่นพี่ รุ่นพ่อ รุ่นแม่ ที่เกษียณอายุ ต้องตกเป็นเหยื่อทั้งหมดจากความหละหลวมของกรมบัญชีกลางนั้น คุณแพทริเซียจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะคนเหล่านี้ต้องมาทนทุกข์กับปัญหาที่เขาไม่ได้ก่อ บางคนสิ้นเนื้อประดาตัว เงินที่สะสมจากการทำงานมาชั่วชีวิตต้องสูญหายไปเป็นหลักแสนบ้าง หลักล้านบ้าง บางคนต้องเก็บเรื่องเงียบไว้คนเดียว เพราะว่าอายชาวบ้าน หรือกลัวถูกลูกหลานตำหนิ ด่าทอ ปัญหาทั้งหมดนี้ต้นเหตุมาจากกรมบัญชีกลาง ใช่หรือเปล่า
    .
    ฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมครับ ถ้าจะให้ปัญหาพวกนี้น้อยลง หน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ มีหน้าที่ดูแลข้อมูลส่วนบุคคล ถ้ามีการกระทำความผิดต้องมีทั้งโทษอาญาและโทษทางแพ่ง ไล่ตั้งแต่ระดับผู้บังคับบัญชาไปจนถึงเจ้าหน้าที่ ต้องรับโทษทางอาญา หน่วยงานรับผิดชอบเรื่องแพ่ง ชดใช้เยียวยาความเสียหายของเหยื่อ ต้องรับผิดชอบที่ทำข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล นี่คือการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ ส่วนกลางทาง และปลายทางนั้น เป็นหน้าที่ตำรวจเขาทำกันอยู่แล้ว คือกวาดล้างและจับกุม
    .
    คุณแพทริเซียครับ ผมอยากจะฝากไว้ด้วยว่า ผมจะจับตาดูเรื่องนี้อยู่ และจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไปตามสายลมอย่างแน่นอน
    เตือนคนเกษียณระวังหมดตัวจากข้อมูลกรมบัญชีกลาง 23,089 รายชื่อหลุดรั่ว . ข้าราชการเกษียณอายุ ระวังตัวให้ดีๆ เพราะว่าข้อมูลกรมบัญชีกลางหลุดออกไปเยอะเลย โดนแฮก หรือโดนคนภายในเอาไปขายให้กับพวกคอลเซ็นเตอร์ . เมื่อต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา วันที่ 5 สิงหาคม 2567 ตำรวจสอบสวนภูธรภาค 2 มี พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 หรือที่เขาเรียกว่า ผู้การสืบภาค 2 ขนลูกน้องไปทำลายรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง แห่งหนึ่งที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี พอบุกเข้าไปในบ้านก็ได้จับผู้ต้องหาเป็นผู้ชายไทยได้ 4 คน ตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ 10 เครื่อง พร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก . ไฮไลต์เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ตำรวจสืบภาค 2 จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนสีเทาแล้ว ประเด็นสำคัญคือหลักฐานที่ตำรวจชุดจับกุมเข้าตรวจพบ มันเป็นไฟล์ข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนกว่า 23,089 รายชื่อ ที่เป็นชื่อของข้าราชการบำเหน็จบำนาญที่เกษียณแล้วทั้งหมด บันทึกอยู่ในคอมพิวเตอร์ของกลางทุกเครื่อง . ในแต่ละรายชื่อประกอบด้วย ชื่อจริง นามสกุลจริง ที่อยู่อาศัย เลขบัตรประชาชน 13 หลัก ข้อมูลธนาคาร เลขบัญชีที่ผูกกับบัญชีเงินเดือน หรือบัญชีรับเงินบำเหน็จบำนาญ ข้อที่สำคัญคือ ข้อมูลสถานพยาบาล สิทธิการรักษาพยาบาลต่างๆ ของข้าราชการบำเหน็จบำนาญที่เกษียณแล้ว มันหลุดไปได้อย่างไรคุณแพทริเซีย อธิบดีกรมบัญชีกลางครับ ตอบผมหน่อย . ทีมงานผมไปสืบ วิเคราะห์เจาะลึกมาแล้ว ว่าเมื่อช่วงกลางปี 2565 หรือสองปีมาแล้ว กรมบัญชีกลางจ้าง Outsource หรือคนนอกมาปรับปรุงระบบระบบฐานข้อมูลต่างๆ ท่านผู้ชมฟังแล้วอึ้งไหม ที่น่าตกใจคือกรมบัญชีกลางจ้างบริษัทไอที จ้างโปรแกรมเมอร์ที่ไหนเข้ามาปรับปรุงหรือพัฒนาระบบข้อมูลพื้นฐาน ที่กำกับดูแลการเงินภาครัฐที่ต้องถือว่ามีความสำคัญมาก และควรเป็นความลับสุดยอดระดับ Restricted Confidential หรือ Highly Confidential คือเป็นข้อมูลที่ลับมาก . สำหรับเรื่องข้อมูลข้าราชการเกษียณจำนวน 23,000 กว่ารายชื่อจากกรมบัญชีกลาง หลุดรอดไปถึงแก๊งจีนเทาครั้งนี้ ผมขออนุญาตขยายความได้ไหม ประเด็นความเสียหายนี้สันนิษฐานเกิดได้หลายกรณี คือ (1) เกลือเป็นหนอน เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางที่ดูแลในส่วนนี้ นำข้อมูลไปขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ (2) เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางที่รู้เห็นเป็นใจกับคนนอก ที่เข้ามาดูแลพัฒนาระบบ เปิดทางให้ข้อมูลรั่วไหลไปสู่บรรดามิจฉาชีพ (3) เลินเล่อ (4) ระบบโดนแฮก . ที่ผมพูดแบบนี้เพราะมันสันนิษฐานได้ทุกมิติ เพราะวันนี้ยังจับมือใครดมไม่ได้ แต่คุณแพทริเซีย มงคลวนิช ท่านอธิบดีกรมบัญชีกลางต้องเข้าใจนะครับว่า ข้าราชการรุ่นพี่ รุ่นพ่อ รุ่นแม่ ที่เกษียณอายุ ต้องตกเป็นเหยื่อทั้งหมดจากความหละหลวมของกรมบัญชีกลางนั้น คุณแพทริเซียจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะคนเหล่านี้ต้องมาทนทุกข์กับปัญหาที่เขาไม่ได้ก่อ บางคนสิ้นเนื้อประดาตัว เงินที่สะสมจากการทำงานมาชั่วชีวิตต้องสูญหายไปเป็นหลักแสนบ้าง หลักล้านบ้าง บางคนต้องเก็บเรื่องเงียบไว้คนเดียว เพราะว่าอายชาวบ้าน หรือกลัวถูกลูกหลานตำหนิ ด่าทอ ปัญหาทั้งหมดนี้ต้นเหตุมาจากกรมบัญชีกลาง ใช่หรือเปล่า . ฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมครับ ถ้าจะให้ปัญหาพวกนี้น้อยลง หน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ มีหน้าที่ดูแลข้อมูลส่วนบุคคล ถ้ามีการกระทำความผิดต้องมีทั้งโทษอาญาและโทษทางแพ่ง ไล่ตั้งแต่ระดับผู้บังคับบัญชาไปจนถึงเจ้าหน้าที่ ต้องรับโทษทางอาญา หน่วยงานรับผิดชอบเรื่องแพ่ง ชดใช้เยียวยาความเสียหายของเหยื่อ ต้องรับผิดชอบที่ทำข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล นี่คือการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ ส่วนกลางทาง และปลายทางนั้น เป็นหน้าที่ตำรวจเขาทำกันอยู่แล้ว คือกวาดล้างและจับกุม . คุณแพทริเซียครับ ผมอยากจะฝากไว้ด้วยว่า ผมจะจับตาดูเรื่องนี้อยู่ และจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไปตามสายลมอย่างแน่นอน
    Like
    Sad
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชีวิตผู้นำของพี่ปู……ความวัวไม่ทันหาย……ความแอร์ไลน์เข้ามาแทรก……ติ่งแสนจะเหนื่อยใจแทนจริงจิ๊งงงงง……!!

    ตอนยี่สิบสี่……คดีที่โยนกลองกันไปมา……ป่านนี้ยังหาที่ลงไม่ได้……!!!

    การแลกเปลี่ยนการสอยร่วงระหว่างยูเครนและรัสเซียที่เหมือนกับการแลกหมัดนั้น……
    วันที่ 17 กรกฏาคม 2014 ได้เกิดโศกนาฏกรรมของเครื่องบิน Malaysia Airways Boeing 777 ที่มีผู้โดยสาร 283 คนพร้อมลูกเรือ อีก 15 คน จากแอมสเตอร์ดัม สู่ กัวลาลัมเปอร์
    ร่วงลงสู่พื้นดิน ในเขตแนว 50 ไมล์ ชายแดน ยูเครน-รัสเซีย
    ในเขต Donetsk (การตกอยู่ในดินแดนของยูเครน)
    สาเหตุ จากการสันนิษฐานชั้นแรก คือ โดนขีปนาวุธ Buk 9M83 ที่เป็นของรัสเซียที่ส่งยิงมาจากทางภาคพื้นดิน

    ปูตินที่เพิ่งกลับจากการประชุมฟีฟ่าที่บราซิล ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธใดๆในเรื่องนี้ แต่เขาได้ให้ความเห็นว่า……
    “สายการบินควรจะเลี่ยงเส้นทางที่เป็นแนวของการสู้รบ และการเกิดโศกนาฏกรรมแบบนี้…ไม่ควรเอามาเป็นการป้ายสีกันทางการเมือง ควรที่จะให้ความสำคัญกับผู้ที่สูญเสียและครอบครัวของเขาก่อนจะดีกว่า……”
    แต่……สื่อที่ออกมาที่ส่วนใหญ่คือสื่อทางตะวันตก ได้ต่างออกมาตำหนิรัสเซียไปแล้ว
    สื่ออังกฤษ……พาดหัวว่า เป็นเพราะขีปนาวุธของฆาตกรปูติน……

    ความแตกร้าวระหว่างรัสเซียกับตะวันตกได้ขยายแยกออกห่างขึ้น ……อเมริกาได้ถือข้อนี้ ยืดเวลาการแซงชั่นยึดทรัพย์ออกไปอีก
    เศรษฐกิจของรัสเซียเริ่มสั่นคลอน ค่าเงินรูเบิ้ลตก ราคาน้ำมันถูกกด……ทางตะวันตกเริ่มยิ้มเยาะอย่างสะใจ เพราะมันเหมือนกับตีถูกที่หน้าแข้งให้รัสเซียคุกเข่าลงได้
    ปูตินเชื่อว่าเป็นการร่วมมือกันระหว่าง สหรัฐอเมริกาและซาอุดิอาระเบีย……

    ยังไม่ทันที่จะได้คิดอ่านทำอะไร ไม่กี่วันต่อมาจากการเกิดโศกนาฏกรรมนั้น
    ศาลโลกที่กรุงเฮกได้รีบตัดสินคดีที่ Mikhail Khodorkovsky (ในนามของบริษัท Yukos) ที่ฟ้องรัฐบาลรัสเซีย……ศาลได้ตัดสินให้รัสเซียจ่ายค่าเสียหายให้โจทก์ ห้าหมื่นล้านเหรียญ
    ปูตินได้บอกกับเพื่อนสนิทในกลุ่มว่า ……จากนี้ไป เขาจะไม่แคร์เลยว่าทางตะวันตกจะคิดอย่างไรกับรัสเซีย เพราะหน้าฉากที่งานโอลิมปิกที่คุยกันแสนหวาน สมัครสมานสามัคคี กลมเกลียวชื่นมื่น……
    แต่……เมื่อถึงจังหวะที่เปิดหน้ากาก………พวกเขามาพร้อมมีดที่พร้อมจะปักลงที่กลางหลัง

    ปูตินเป็นคนที่ยิ่งตี……ก็ยิ่งโต เขารู้สึกดีใจที่ได้จัดการกับไครเมียและยูเครนตะวันออกไปก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน เพราะอย่างไรเสีย……รัสเซียก็คือผู้ร้ายในสายตาของใครต่อใครอยู่แล้ว ในยามที่กองทัพยูเครนได้ทำทารุณกรรรมต่อประชาชน
    ชายขอบ……มีทั้งพวกนีโอนาซีที่ออกมาตบตี ตบทรัพย์นักท่องเที่ยวอยู่บ่อยๆ………ทุกคนไม่ปริปาก……

    กลุ่มที่ต่อต้านปูติน เริ่มฉวยโอกาสนี้ไหวตัวกันอีกครั้ง เช่น
    Alexsei Navalny, Pavel Durov (หรือ Mark Zuckerberg แห่งรัสเซีย), Boris Berezovsky, Boris Nemtov และคนที่เพิ่งได้รับอภัยโทษไปหมาดๆคือ Mikhail Khodorovsky ที่ไปอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์
    ในวันที่ 31 กรกฏาคม เหล่ามหาเศรษฐีอีกหลายๆคนที่ถือเอาโอกาสนี้ไปรวมตัว…ประชุมแบบลับๆที่ ศูนย์อำนวยการฟุตบอล, มอสโคว์ เพื่อที่จะพบปะหารือปรับทุกข์กันในเรื่องการที่ยึดไครเมีย จนเกิดการแซงชั่นทางธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม……ที่พวกเขาจะพลอยเดือดร้อน……
    หนึ่งในนั้น คือ Vladimir Yakunin ประธานรถไฟ Moskva
    ทุกคนได้เริ่มสาธยายความอึดอัดที่ต้องผจญกับอุปสรรคต่างๆ
    เพราะตะวันตกไม่ยอมรับการเข้ายึดไครเมีย
    หลายคนเริ่มตำหนิปูติน….
    แต่ยาคุนิน ได้ลุกขึ้นยืนกล่าวเป็นคนสุดท้ายด้วยเสียงที่ดังฟังชัดว่า……
    “ ใช่……ประเทศเรากำลังถูกเขาแซงชั่น……ประธานาธิบดีของเรากำลังยืนหยัดสู้อย่างกล้าหาญ แต่พวกคุณที่เสียผลประโยชน์เพียงเล็กน้อยช่างทุกข์ร้อนกันเกินเหตุ เรื่องที่จะโดนอะไรมากกว่านี้จากตะวันตกที่พวกคุณกังวลกัน……
    ผมขอบอกตรงนี้เลยว่า ……เขาทำแน่ ไม่ว่ารัสเซียจะทำอะไร
    พวกเขาก็หาเหตุจนได้ ต่อให้พวกคุณไปคุกเข่าขอความปรานี
    เขาก็จะถีบคุณออกมา……ดังนั้น แทนที่จะมาก่นด่ากัน……หันมาสนับสนุนชาติของตัวเองอย่างพลเมืองที่ดี……ดีกว่าไหม ?”

    คนที่เคลื่อนไหวต่อต้านในทุกอย่างที่เป็นปูติน คือ Boris Nemtsov นักการเมืองฝ่ายลิเบอรัล ที่เคยเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรีสมัยเยลซิน ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่สมัยเมื่อครั้งที่ปูตินได้ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีในสมัยแรก ที่เขาดำเนินการต่อต้านทั้งใต้ดินและบนดิน
    ไม่ว่าจะมีการประท้วงในครั้งไหน หรือ เรื่องอะไร เนมซอฟจะเดินนำหน้าเสียงดังฟังชัดเสมอ
    เรื่อง Sochi……เขาได้ทำเอกสารแจกนักข่าวถึงความไม่ชอบมาพากลเรื่องการก่อสร้างและงบประมาณ
    เมื่อมาถึงไครเมีย และ ยูเครน เนมซอฟ……จะเข้าข้างทางฝั่งยูเครนแบบเต็มตัว เขาเริ่มใช้ถ้อยคำที่รุนแรงขึ้นทุกที
    พอมาถึง เรื่องเครื่องบินตก……เขาออกโรงด่าปูตินแบบไม่ไว้หน้า ทั้งๆที่การพิสูจน์หลักฐานยังไม่เสร็จสิ้น

    เขารับงานสัมภาษณ์ในทุกสื่อตะวันตกที่เปิดโอกาสให้โจมตีรัฐบาลรัสเซีย
    ที่สุดๆคือ ในการสัมภาษณ์ของเขาในเดือนเมษายน 2014 ที่เขาเรียกปูตินเป็นคนโรคจิต เอางบประมาณไปละลายกับเชเชน……และ…ใครจะรู้ว่าเท่าไหร่…นอกจากพระอัลเลาะห์เจ้า…!!!
    ต้องเรียกว่า……นั่นคือการให้สัมภาษณ์แบบผีเจาะปากมาพูดแท้ๆ เพราะข้อความนี้ได้ไปสร้างความดือดดาลให้กับพวกนักรบเชเชน……

    วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2015 เวลา 23:31 ในขณะที่เนมซอฟกำลังเดินทอดน่องเกี่ยวแขนไปกับแฟนสาว Anna Durytka บนสะพานหน้าพระราชวังเครมลิน
    มีรถยนต์วิ่งผ่านมา…;เสียงปืนลั่นมาแปดนัด……เนมซอฟล้มลง สิ้นใจ
    แต่แฟนสาว……ที่เคียงข้าง……ปลอดภัยไม่มีอันตรายใดๆ
    (มืออาชีพจริงๆ……)

    การตายของเนมซอฟเป็นข่าวดังไปทั่วโลก
    เดือนมีนาคม ทางตำรวจได้จับกุมมือปืนได้สองคน คือ Anzor Gubashev และ Zaur Dadaev ทั้งคู่เป็นชาวมุสลิม จากทางเหนือของคอเคซัส
    ข่าวจากรัสเซีย……ว่า จำเลยยอมรับสารภาพว่า โกรธที่หมิ่นพระอัลเลาะห์ และหยามกองทัพเชเชน
    ข่าวจากตะวันตก……ว่า……ทั้งคู่รับจ้างวานมาเป็นเงินจำนวนสิบห้าล้านรูเบิ้ล

    หลังจากที่เรื่องนี้เกิดขึ้น ปูตินได้หายไปจากหน้าสื่อถึงสิบวัน
    ทีเล่นเอาทุกคนสงสัยไปหมด ว่า เขาไปไหน……อะไรเกิดขึ้น……
    ป่วย……หรือโดนปฎิวัติเงียบ……??
    ข่าวนี้มาพร้อมกับข่าวที่ Alina Kaayeva ได้เพิ่งคลอดลูก
    แต่เสียงจากวงในได้แย้มออกมาว่า เขาได้พักรักษาหลังและไหล่ (จากการเล่นยูโดมานาน)

    แต่ที่แน่ๆ คือ การพิสูจน์หลักฐานของการตกของสายการบิน Malaysia Airlines ยังไม่จบในทุกวันนี้ คาดว่า ศาลจะตัดสินว่าใครผิดใครถูกในปลายปี 2022 นี้……
    ทางรัสเซีย……ได้อ้างว่า เขาได้ส่งข้อความไปยังสายการบินพานิชย์ต่างๆแล้วว่า ขอให้เลี่ยงการใช้เส้นทางผ่านดินแดนที่เป็นกรณีพิพาท หรือจะต้องบินสูงกว่า สามหมื่นหกพันฟุต
    และที่เกิดเหตุ……ไม่ใช่ในรัสเซีย แต่เป็นยูเครน
    ส่วนขีปนาวุธที่ต้องสงสัย คือ Buk นั้น มีใช้ทั้งรัสเซียและยูเครน

    ทางยูเครน…บอกว่า เป็นฝีมือของรัสเซีย เพราะหลังจากที่เกิดเหตุ มีวิทยุจากฝ่ายรัสเซียที่โห่ร้องว่า ได้สอย AN-26 ของยูเครนไปอีกหนึ่งลำ (คงเข้าใจว่าเป็น AN-26)

    ส่วนทางตะวันตก……ต่างขานรับเข้าข้างยูเครนไปทั้งหมดแล้ว…!!!

    Wiwanda W. Vichit
    ชีวิตผู้นำของพี่ปู……ความวัวไม่ทันหาย……ความแอร์ไลน์เข้ามาแทรก……ติ่งแสนจะเหนื่อยใจแทนจริงจิ๊งงงงง……!! ตอนยี่สิบสี่……คดีที่โยนกลองกันไปมา……ป่านนี้ยังหาที่ลงไม่ได้……!!! การแลกเปลี่ยนการสอยร่วงระหว่างยูเครนและรัสเซียที่เหมือนกับการแลกหมัดนั้น…… วันที่ 17 กรกฏาคม 2014 ได้เกิดโศกนาฏกรรมของเครื่องบิน Malaysia Airways Boeing 777 ที่มีผู้โดยสาร 283 คนพร้อมลูกเรือ อีก 15 คน จากแอมสเตอร์ดัม สู่ กัวลาลัมเปอร์ ร่วงลงสู่พื้นดิน ในเขตแนว 50 ไมล์ ชายแดน ยูเครน-รัสเซีย ในเขต Donetsk (การตกอยู่ในดินแดนของยูเครน) สาเหตุ จากการสันนิษฐานชั้นแรก คือ โดนขีปนาวุธ Buk 9M83 ที่เป็นของรัสเซียที่ส่งยิงมาจากทางภาคพื้นดิน ปูตินที่เพิ่งกลับจากการประชุมฟีฟ่าที่บราซิล ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธใดๆในเรื่องนี้ แต่เขาได้ให้ความเห็นว่า…… “สายการบินควรจะเลี่ยงเส้นทางที่เป็นแนวของการสู้รบ และการเกิดโศกนาฏกรรมแบบนี้…ไม่ควรเอามาเป็นการป้ายสีกันทางการเมือง ควรที่จะให้ความสำคัญกับผู้ที่สูญเสียและครอบครัวของเขาก่อนจะดีกว่า……” แต่……สื่อที่ออกมาที่ส่วนใหญ่คือสื่อทางตะวันตก ได้ต่างออกมาตำหนิรัสเซียไปแล้ว สื่ออังกฤษ……พาดหัวว่า เป็นเพราะขีปนาวุธของฆาตกรปูติน…… ความแตกร้าวระหว่างรัสเซียกับตะวันตกได้ขยายแยกออกห่างขึ้น ……อเมริกาได้ถือข้อนี้ ยืดเวลาการแซงชั่นยึดทรัพย์ออกไปอีก เศรษฐกิจของรัสเซียเริ่มสั่นคลอน ค่าเงินรูเบิ้ลตก ราคาน้ำมันถูกกด……ทางตะวันตกเริ่มยิ้มเยาะอย่างสะใจ เพราะมันเหมือนกับตีถูกที่หน้าแข้งให้รัสเซียคุกเข่าลงได้ ปูตินเชื่อว่าเป็นการร่วมมือกันระหว่าง สหรัฐอเมริกาและซาอุดิอาระเบีย…… ยังไม่ทันที่จะได้คิดอ่านทำอะไร ไม่กี่วันต่อมาจากการเกิดโศกนาฏกรรมนั้น ศาลโลกที่กรุงเฮกได้รีบตัดสินคดีที่ Mikhail Khodorkovsky (ในนามของบริษัท Yukos) ที่ฟ้องรัฐบาลรัสเซีย……ศาลได้ตัดสินให้รัสเซียจ่ายค่าเสียหายให้โจทก์ ห้าหมื่นล้านเหรียญ ปูตินได้บอกกับเพื่อนสนิทในกลุ่มว่า ……จากนี้ไป เขาจะไม่แคร์เลยว่าทางตะวันตกจะคิดอย่างไรกับรัสเซีย เพราะหน้าฉากที่งานโอลิมปิกที่คุยกันแสนหวาน สมัครสมานสามัคคี กลมเกลียวชื่นมื่น…… แต่……เมื่อถึงจังหวะที่เปิดหน้ากาก………พวกเขามาพร้อมมีดที่พร้อมจะปักลงที่กลางหลัง ปูตินเป็นคนที่ยิ่งตี……ก็ยิ่งโต เขารู้สึกดีใจที่ได้จัดการกับไครเมียและยูเครนตะวันออกไปก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน เพราะอย่างไรเสีย……รัสเซียก็คือผู้ร้ายในสายตาของใครต่อใครอยู่แล้ว ในยามที่กองทัพยูเครนได้ทำทารุณกรรรมต่อประชาชน ชายขอบ……มีทั้งพวกนีโอนาซีที่ออกมาตบตี ตบทรัพย์นักท่องเที่ยวอยู่บ่อยๆ………ทุกคนไม่ปริปาก…… กลุ่มที่ต่อต้านปูติน เริ่มฉวยโอกาสนี้ไหวตัวกันอีกครั้ง เช่น Alexsei Navalny, Pavel Durov (หรือ Mark Zuckerberg แห่งรัสเซีย), Boris Berezovsky, Boris Nemtov และคนที่เพิ่งได้รับอภัยโทษไปหมาดๆคือ Mikhail Khodorovsky ที่ไปอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 31 กรกฏาคม เหล่ามหาเศรษฐีอีกหลายๆคนที่ถือเอาโอกาสนี้ไปรวมตัว…ประชุมแบบลับๆที่ ศูนย์อำนวยการฟุตบอล, มอสโคว์ เพื่อที่จะพบปะหารือปรับทุกข์กันในเรื่องการที่ยึดไครเมีย จนเกิดการแซงชั่นทางธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม……ที่พวกเขาจะพลอยเดือดร้อน…… หนึ่งในนั้น คือ Vladimir Yakunin ประธานรถไฟ Moskva ทุกคนได้เริ่มสาธยายความอึดอัดที่ต้องผจญกับอุปสรรคต่างๆ เพราะตะวันตกไม่ยอมรับการเข้ายึดไครเมีย หลายคนเริ่มตำหนิปูติน…. แต่ยาคุนิน ได้ลุกขึ้นยืนกล่าวเป็นคนสุดท้ายด้วยเสียงที่ดังฟังชัดว่า…… “ ใช่……ประเทศเรากำลังถูกเขาแซงชั่น……ประธานาธิบดีของเรากำลังยืนหยัดสู้อย่างกล้าหาญ แต่พวกคุณที่เสียผลประโยชน์เพียงเล็กน้อยช่างทุกข์ร้อนกันเกินเหตุ เรื่องที่จะโดนอะไรมากกว่านี้จากตะวันตกที่พวกคุณกังวลกัน…… ผมขอบอกตรงนี้เลยว่า ……เขาทำแน่ ไม่ว่ารัสเซียจะทำอะไร พวกเขาก็หาเหตุจนได้ ต่อให้พวกคุณไปคุกเข่าขอความปรานี เขาก็จะถีบคุณออกมา……ดังนั้น แทนที่จะมาก่นด่ากัน……หันมาสนับสนุนชาติของตัวเองอย่างพลเมืองที่ดี……ดีกว่าไหม ?” คนที่เคลื่อนไหวต่อต้านในทุกอย่างที่เป็นปูติน คือ Boris Nemtsov นักการเมืองฝ่ายลิเบอรัล ที่เคยเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรีสมัยเยลซิน ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่สมัยเมื่อครั้งที่ปูตินได้ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีในสมัยแรก ที่เขาดำเนินการต่อต้านทั้งใต้ดินและบนดิน ไม่ว่าจะมีการประท้วงในครั้งไหน หรือ เรื่องอะไร เนมซอฟจะเดินนำหน้าเสียงดังฟังชัดเสมอ เรื่อง Sochi……เขาได้ทำเอกสารแจกนักข่าวถึงความไม่ชอบมาพากลเรื่องการก่อสร้างและงบประมาณ เมื่อมาถึงไครเมีย และ ยูเครน เนมซอฟ……จะเข้าข้างทางฝั่งยูเครนแบบเต็มตัว เขาเริ่มใช้ถ้อยคำที่รุนแรงขึ้นทุกที พอมาถึง เรื่องเครื่องบินตก……เขาออกโรงด่าปูตินแบบไม่ไว้หน้า ทั้งๆที่การพิสูจน์หลักฐานยังไม่เสร็จสิ้น เขารับงานสัมภาษณ์ในทุกสื่อตะวันตกที่เปิดโอกาสให้โจมตีรัฐบาลรัสเซีย ที่สุดๆคือ ในการสัมภาษณ์ของเขาในเดือนเมษายน 2014 ที่เขาเรียกปูตินเป็นคนโรคจิต เอางบประมาณไปละลายกับเชเชน……และ…ใครจะรู้ว่าเท่าไหร่…นอกจากพระอัลเลาะห์เจ้า…!!! ต้องเรียกว่า……นั่นคือการให้สัมภาษณ์แบบผีเจาะปากมาพูดแท้ๆ เพราะข้อความนี้ได้ไปสร้างความดือดดาลให้กับพวกนักรบเชเชน…… วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2015 เวลา 23:31 ในขณะที่เนมซอฟกำลังเดินทอดน่องเกี่ยวแขนไปกับแฟนสาว Anna Durytka บนสะพานหน้าพระราชวังเครมลิน มีรถยนต์วิ่งผ่านมา…;เสียงปืนลั่นมาแปดนัด……เนมซอฟล้มลง สิ้นใจ แต่แฟนสาว……ที่เคียงข้าง……ปลอดภัยไม่มีอันตรายใดๆ (มืออาชีพจริงๆ……) การตายของเนมซอฟเป็นข่าวดังไปทั่วโลก เดือนมีนาคม ทางตำรวจได้จับกุมมือปืนได้สองคน คือ Anzor Gubashev และ Zaur Dadaev ทั้งคู่เป็นชาวมุสลิม จากทางเหนือของคอเคซัส ข่าวจากรัสเซีย……ว่า จำเลยยอมรับสารภาพว่า โกรธที่หมิ่นพระอัลเลาะห์ และหยามกองทัพเชเชน ข่าวจากตะวันตก……ว่า……ทั้งคู่รับจ้างวานมาเป็นเงินจำนวนสิบห้าล้านรูเบิ้ล หลังจากที่เรื่องนี้เกิดขึ้น ปูตินได้หายไปจากหน้าสื่อถึงสิบวัน ทีเล่นเอาทุกคนสงสัยไปหมด ว่า เขาไปไหน……อะไรเกิดขึ้น…… ป่วย……หรือโดนปฎิวัติเงียบ……?? ข่าวนี้มาพร้อมกับข่าวที่ Alina Kaayeva ได้เพิ่งคลอดลูก แต่เสียงจากวงในได้แย้มออกมาว่า เขาได้พักรักษาหลังและไหล่ (จากการเล่นยูโดมานาน) แต่ที่แน่ๆ คือ การพิสูจน์หลักฐานของการตกของสายการบิน Malaysia Airlines ยังไม่จบในทุกวันนี้ คาดว่า ศาลจะตัดสินว่าใครผิดใครถูกในปลายปี 2022 นี้…… ทางรัสเซีย……ได้อ้างว่า เขาได้ส่งข้อความไปยังสายการบินพานิชย์ต่างๆแล้วว่า ขอให้เลี่ยงการใช้เส้นทางผ่านดินแดนที่เป็นกรณีพิพาท หรือจะต้องบินสูงกว่า สามหมื่นหกพันฟุต และที่เกิดเหตุ……ไม่ใช่ในรัสเซีย แต่เป็นยูเครน ส่วนขีปนาวุธที่ต้องสงสัย คือ Buk นั้น มีใช้ทั้งรัสเซียและยูเครน ทางยูเครน…บอกว่า เป็นฝีมือของรัสเซีย เพราะหลังจากที่เกิดเหตุ มีวิทยุจากฝ่ายรัสเซียที่โห่ร้องว่า ได้สอย AN-26 ของยูเครนไปอีกหนึ่งลำ (คงเข้าใจว่าเป็น AN-26) ส่วนทางตะวันตก……ต่างขานรับเข้าข้างยูเครนไปทั้งหมดแล้ว…!!! Wiwanda W. Vichit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์กลางเศรษฐกิจที่อ่อนไหวในอิสราเอลซึ่งอาจถูกอิหร่านโจมตี - สื่ออิหร่าน

    โรงไฟฟ้า ๖ แห่ง

    แหล่งน้ำมัน ๒ แห่ง

    โรงกลั่น ๒ แห่ง

    คลังน้ำมัน ๑ แห่ง

    แหล่งก๊าซ ๓ แห่ง, ก๊าซธรรมชาติในอิสราเอลเป็นแหล่งพลังงานหลักของประเทศสำหรับการผลิตไฟฟ้า

    โรงงานแยกเกลือ ๕ แห่ง, ปัจจุบันจัดหาน้ำประปาให้กับครัวเรือนของอิสราเอลประมาณ ๕๐ เปอร์เซ็นต์

    ท่าเรือ ๖ แห่ง, ท่าเรือไฮฟาเป็นท่าเรือชั้นนำในอิสราเอล
    .
    Sensitive Economic Centers in Israel which can be struck by Iran - Iranian media

    6 power plants

    2 oil fields

    2 refineries

    1 oil terminal

    3 gas fields, Natural gas in Israel is the country's primary energy source for electricity production

    5 desalination plants, currently supplies approximately 50 percent of Israel's domestic water needs

    6 ports, Haifa Port is the leading port in Israel
    .
    4:32 PM · Oct 6, 2024 · 90.3K Views
    https://x.com/IranObserver0/status/1842860597563584731
    ศูนย์กลางเศรษฐกิจที่อ่อนไหวในอิสราเอลซึ่งอาจถูกอิหร่านโจมตี - สื่ออิหร่าน โรงไฟฟ้า ๖ แห่ง แหล่งน้ำมัน ๒ แห่ง โรงกลั่น ๒ แห่ง คลังน้ำมัน ๑ แห่ง แหล่งก๊าซ ๓ แห่ง, ก๊าซธรรมชาติในอิสราเอลเป็นแหล่งพลังงานหลักของประเทศสำหรับการผลิตไฟฟ้า โรงงานแยกเกลือ ๕ แห่ง, ปัจจุบันจัดหาน้ำประปาให้กับครัวเรือนของอิสราเอลประมาณ ๕๐ เปอร์เซ็นต์ ท่าเรือ ๖ แห่ง, ท่าเรือไฮฟาเป็นท่าเรือชั้นนำในอิสราเอล . Sensitive Economic Centers in Israel which can be struck by Iran - Iranian media 6 power plants 2 oil fields 2 refineries 1 oil terminal 3 gas fields, Natural gas in Israel is the country's primary energy source for electricity production 5 desalination plants, currently supplies approximately 50 percent of Israel's domestic water needs 6 ports, Haifa Port is the leading port in Israel . 4:32 PM · Oct 6, 2024 · 90.3K Views https://x.com/IranObserver0/status/1842860597563584731
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขีปนาวุธโจมตีภาคใต้, ภาคกลางของอิสราเอล

    ฮิซบุลเลาะห์ยิงขีปนาวุธจากเลบานอนโจมตีภาคใต้และภาคกลางของอิสราเอล, รายงานยืนยัน
    .
    ⚡🇱🇧 BREAKING NEWS

    Ballistic Missiles Strike Southern, Central Israel

    Hezbollah fires Ballistic missiles from Lebanon hit southern and central Israel, reports confirm.
    .
    4:53 PM · Oct 6, 2024 · 1,747 Views
    https://x.com/Monitor1514/status/1842865874924949807
    ขีปนาวุธโจมตีภาคใต้, ภาคกลางของอิสราเอล ฮิซบุลเลาะห์ยิงขีปนาวุธจากเลบานอนโจมตีภาคใต้และภาคกลางของอิสราเอล, รายงานยืนยัน . ⚡🇱🇧 BREAKING NEWS Ballistic Missiles Strike Southern, Central Israel Hezbollah fires Ballistic missiles from Lebanon hit southern and central Israel, reports confirm. . 4:53 PM · Oct 6, 2024 · 1,747 Views https://x.com/Monitor1514/status/1842865874924949807
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮิลลารี คลินตัน ไปที่ CNN เพื่อประกาศว่า 🤣พวกเขากำลังสูญเสียการควบคุม และบริษัทโซเชียลมีเดียควรเพิ่มการเซ็นเซอร์ข้อมูลเท็จของพรรคอนุรักษ์นิยม🤣

    🤣ฮิลลารี คลินตัน: "เราสูญเสียการควบคุมทั้งหมด"🤣

    (📌กรรมของอเมริกุ๊ย กำลังทำงานหนักมาก📌)
    .
    🔥🚨BREAKING: Hillary Clinton went to CNN to announce that they are losing control and that Social Media companies should increase their censorship on Conservative misinformation.

    Hillary Clinton: "we lose total control."
    .
    2:10 AM · Oct 6, 2024 · 2.3M Views
    https://x.com/dom_lucre/status/1842643445015347571
    ฮิลลารี คลินตัน ไปที่ CNN เพื่อประกาศว่า 🤣พวกเขากำลังสูญเสียการควบคุม และบริษัทโซเชียลมีเดียควรเพิ่มการเซ็นเซอร์ข้อมูลเท็จของพรรคอนุรักษ์นิยม🤣 🤣ฮิลลารี คลินตัน: "เราสูญเสียการควบคุมทั้งหมด"🤣 (📌กรรมของอเมริกุ๊ย กำลังทำงานหนักมาก📌) . 🔥🚨BREAKING: Hillary Clinton went to CNN to announce that they are losing control and that Social Media companies should increase their censorship on Conservative misinformation. Hillary Clinton: "we lose total control." . 2:10 AM · Oct 6, 2024 · 2.3M Views https://x.com/dom_lucre/status/1842643445015347571
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 39 0 รีวิว
  • กู้ภัยฮุก 31 โคราช เผยภาพมุมสูงน้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เป็นบริเวณกว้าง จมน้ำกว่า 1 เมตร บางจุดท่วมสูงกว่า 2 เมตร เร่งใช้เรือยางติดเครื่องยนต์ฝ่ากระแสน้ำช่วยเหลือชาวไทยและชาวต่างชาติที่ติดอยู่ในบ้านเรือน อพยพไปอยู่ที่สูง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000095002

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กู้ภัยฮุก 31 โคราช เผยภาพมุมสูงน้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เป็นบริเวณกว้าง จมน้ำกว่า 1 เมตร บางจุดท่วมสูงกว่า 2 เมตร เร่งใช้เรือยางติดเครื่องยนต์ฝ่ากระแสน้ำช่วยเหลือชาวไทยและชาวต่างชาติที่ติดอยู่ในบ้านเรือน อพยพไปอยู่ที่สูง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000095002 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Love
    29
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 662 มุมมอง 1 รีวิว
  • 🇸🇪 สวีเดนเผยแพร่คลิปวิดีโอของ Pansarbandvagn 302 APC ที่ถูกส่งไปยังยูเครน

    อุปกรณ์จากยุค ๑๙๖๐ เหล่านี้ถูกเก็บรักษาไว้ในช่วงต้นปี ๒๐๐๐, เมื่อคณะกรรมาธิการกระทรวงกลาโหมของสวีเดนพบว่า 🤣แม้แต่การเปลี่ยนระบบส่งกำลังและส่วนประกอบอื่นๆจำนวนมากก็ไม่สามารถช่วยชีวิต APC เหล่านี้ไว้ได้🤣

    แต่สตอกโฮล์มไม่ละเว้นความพยายามใดๆในการกำจัดยูเครน ในไม่ช้านี้พวกเขาจะเริ่มย้ายปืนใหญ่จากพิพิธภัณฑ์ของสงครามภาคเหนือ
    .
    🇸🇪 Sweden releases video of Pansarbandvagn 302 APCs being sent to Ukraine

    This equipment from the 1960s went into storage in early 2000, when a Swedish Defence Ministry commission found that even a mass replacement of transmissions and other components would not save these APCs.

    But Stockholm spares no effort to exterminate the Ukrainians. Soon they will start transferring cannons from the museums of the Northern War.

    http://T.me/ukraine_watch
    .
    4:14 PM · Oct 6, 2024 · 431 Views
    https://x.com/Zlatti_71/status/1842855829289976185
    🇸🇪 สวีเดนเผยแพร่คลิปวิดีโอของ Pansarbandvagn 302 APC ที่ถูกส่งไปยังยูเครน อุปกรณ์จากยุค ๑๙๖๐ เหล่านี้ถูกเก็บรักษาไว้ในช่วงต้นปี ๒๐๐๐, เมื่อคณะกรรมาธิการกระทรวงกลาโหมของสวีเดนพบว่า 🤣แม้แต่การเปลี่ยนระบบส่งกำลังและส่วนประกอบอื่นๆจำนวนมากก็ไม่สามารถช่วยชีวิต APC เหล่านี้ไว้ได้🤣 แต่สตอกโฮล์มไม่ละเว้นความพยายามใดๆในการกำจัดยูเครน ในไม่ช้านี้พวกเขาจะเริ่มย้ายปืนใหญ่จากพิพิธภัณฑ์ของสงครามภาคเหนือ . 🇸🇪 Sweden releases video of Pansarbandvagn 302 APCs being sent to Ukraine This equipment from the 1960s went into storage in early 2000, when a Swedish Defence Ministry commission found that even a mass replacement of transmissions and other components would not save these APCs. But Stockholm spares no effort to exterminate the Ukrainians. Soon they will start transferring cannons from the museums of the Northern War. http://T.me/ukraine_watch . 4:14 PM · Oct 6, 2024 · 431 Views https://x.com/Zlatti_71/status/1842855829289976185
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 52 0 รีวิว
  • 🤠#เรื่องเล่าของสองเพื่อนร่วมชั้นเรียนแต่ต่างอุดมการณ์🤠

    ปัจจุบันไต้หวันกลายเป็นความเจ็บปวดในใจคนจีน และสหรัฐฯ มักใช้ไต้หวันเพื่อยั่วยุจีน จุดประสงค์ของสหรัฐฯนั้นชัดเจน นั่นคือเพื่อยั่วยุกระตุ้นให้จีนดำเนินการด้วยวิธีรุนแรง หลังจากนั้นแล้วขัดขวางก่อกวนยุทธศาสตร์ของจีน ซึ่งจะทำให้จีนอ่อนแอลงอีก ดังนั้นปัญหาไต้หวันถึงจุดที่ต้องแก้ไข หากไม่ได้รับการแก้ไข สหรัฐฯ จะยังคงเล่นเกมไพ่ไต้หวัน พวกเขายังจะสนับสนุนกองกำลัง "ปลดปล่อยเอกราชของไต้หวัน" ให้ก่อปัญหาอีกด้วย เมื่อถึงเวลานั้นก็จะตกอยู่ในสภาพถูกกระทำขณะทำการแก้ไขปัญหา

    ในความเป็นจริงแล้ว ประเด็นของไต้หวันมีขึ้นตั้งแต่ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 เติ้งกง(邓公)ได้ส่งเสริมนำการแก้ปัญหาของไต้หวันมาดำเนินการ น่าเสียดายที่มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป และการเปลี่ยนแปลงนี้มาจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนของ เติ้งกง(邓公)

    🥳หนึ่ง🥳

    เพื่อนร่วมชั้นเรียนของ เติ้งกง(邓公) คือ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ทั้งสองเรียนในชั้นเรียนเดียวกันที่มหาวิทยาลัยซุนยัตเซ็น(Sun Yat-sen University中山大学)ในสหภาพโซเวียตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1926 ถึง ค.ศ. 1927

    ในปี ค.ศ. 1925 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปศึกษาที่สหภาพโซเวียต ส่วนเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปศึกษาต่อต่างประเทศอาจกล่าวได้ว่าเขาถูกบังคับให้ทำเช่นนั้น หรืออาจจะว่าเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)หวังว่าลูกชายของเขาไปที่สหภาพโซเวียตเพื่อเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างที่แท้จริงกลับมา

    เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) ชื่อรอง เจี้ยนเฟิง(建丰) เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เป็นชื่อบรรพบุรุษของเขา และยังเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของเขาด้วย เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เกิดที่เมืองเฟิงฮว่า(奉化)เจ้อเจียง(浙江)เมื่อวันที่ 27 เมษายน ค.ศ. 1910 เขาเป็นบุตรชายคนโตของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)และเหมา ฝูเหมย(毛福梅)ภรรยาคนแรกของเขา หลังจากที่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เกิด เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ก็ทำงานหนักนอกบ้านตลอด ดังนั้นเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)จึงเติบโตมากับแม่และยายของเขา สิ่งนี้ทำให้เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ค่อนข้างขี้ขลาด ตามที่ครูผู้สอนหนังสือ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)กล่าวไว้ ตอนนั้นเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)มีอะไรนิดหน่อยมักจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา นี่อาจเป็นลักษณะเฉพาะของครอบครัวที่ไม่มีผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่อยู่ในบ้าน

    ในปีค.ศ. 1924 เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ส่งเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปโรงเรียนมัธยมต้นเซี่ยงไฮ้ผู่ตง(浦东) ในเวลานี้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)วัย 14 ปีเป็นผู้ใหญ่มาก ในปี ค.ศ. 1925 หลังจากการสังหารหมู่30 พฤษภาคม(五卅惨案) เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)วัย 15 ปีก็เข้าร่วมในการประท้วงด้วยความรักชาติด้วย แต่หลังจากที่ทางโรงเรียนค้นพบ เขาถูกไล่ออกจากโรงเรียนเนื่องจากในความผิดว่า "ความคิดที่เป็นอันตรายและพฤติกรรมเบี่ยงเบน"

    หลังจากถูกไล่ออกจากโรงเรียน เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ตัดสินใจไปศึกษาต่อต่างประเทศ เขาจึงไปปักกิ่งเพื่อเรียนภาษาต่างประเทศ ในช่วงเวลานี้ เขาถูกจำคุกเป็นเวลาสองสัปดาห์เนื่องจากการเข้าร่วมขบวนการนักเรียนต่อต้านขุนศึกเป่ยหยาง(北洋)

    ขณะอยู่ในปักกิ่ง เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ได้พบกับหลี่ ต้าเจวา(李大钊) และสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์คนอื่น ๆ เขาชื่นชมความรู้และความเชื่อของหลี่ ต้าเจวา(李大钊) ต่อมา หลี่ ต้าเจวา(李大钊)ได้แนะนำชาวโซเวียตจำนวนมากให้รู้จักกับ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)

    เกี่ยวกับประสบการณ์นี้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เล่าในภายหลังว่า:

    “เป่ยผิง(北平)เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งมิตรภาพระหว่างพรรคก๊กมินตั๋ง(國民黨)และพรรคคอมมิวนิสต์(共產黨) ในใจของฉันก็สับสนกับสภาพแวดล้อมนี้ และเปลี่ยนแผนการเรียนในฝรั่งเศสเดิมอย่างสิ้นเชิง”

    การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ตัดสินใจศึกษาต่อในสหภาพโซเวียต ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1925 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)มาถึงสหภาพโซเวียต ในเวลานั้น มีบุตรของเจ้านายใหญ่หลายคน เช่น เซ่าจวื่อกาง(邵志刚)ลูกชาย ของเซ่า ลี่จวื๋อ(邵力子), เฝิงหงกั๋ว(冯洪国)ลูกชายของ เฝิง อวิ้เสียง(冯玉祥) พร้อมกับลูกสาว เฝิงฝูเหนิ่ง(冯弗能) และ อวิ้ ซิ่วจวือ(于秀芝) ลูกสาวของ อวิ้โย่วเยิ่น(于右任) รวมถึง จาง ซีย่วน(张锡媛) ภรรยาคนแรกของ เติ้งกง(邓公), หวังหมิง(王明)และคนอื่นๆ

    ระหว่างทางไปสหภาพโซเวียต เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ได้อ่านหนังสือเล่มแรกเกี่ยวกับลัทธิคอมมิวนิสต์ "ABC of Communism" หนังสือเล่มนี้สร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้งให้กับเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)

    ปีที่สองก็คือปี ค.ศ.1926 ในชั้นเรียนของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)มีนักเรียนที่ย้ายมาจากปารีส ประเทศฝรั่งเศสคนหนึ่ง เขาคือเติ้งเสี่ยวผิง(邓小平) ในเวลานั้น เติ้งกง(邓公)ชื่อเติ้ง ซีเสียน(邓希贤) เติ้งกง(邓公)มีอายุมากกว่าเจียงจิงกัว 5 ปี และยังมีชื่อภาษารัสเซียว่า "อีวาน เชโกวิช(Ivan Shegovich)"

    ในความประทับใจของ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) เติ้งกง(邓公)เป็นคนร่าเริงมาก สามารถพูดได้ดีบนเวที และมีทักษะในการจัดองค์กรที่แข็งแกร่ง ในเวลานั้นเพื่อนร่วมชั้นของเขาตั้งฉายาให้เขาว่า "ปืนใหญ่เหล็กน้อย(小钢炮)"

    เติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เข้ากันได้ดี และทั้งสองคนรูปร่างไม่สูงนักเช่นกัน ทั้งสองมักจะเดินคุยกันริมแม่น้ำมอสโก ดังนั้น เติ้งกง(邓公)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)จึงไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมชั้นเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีมากอีกด้วย

    ในปี ค.ศ. 1927 เติ้งกง(邓公)ได้รับมอบหมายจากองค์กรให้กลับไปทำงานที่ประเทศจีน และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ยังคงศึกษาต่อในสหภาพโซเวียตในเวลานี้ เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ได้เปิดฉากเหตุการณ์ต่อต้านการปฏิวัติ "4.12"(“4.12”反革命事件) และสังหารหมู่สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จำนวนมาก ในฐานะบุตรชายของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石) เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)จึงถูกสหภาพโซเวียตตั้งคำถาม และหวังหมิง(王明)และคนอื่นๆ ก็ไม่ชอบเช่นกัน ต่อมาเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปทำงานในโรงงานและแต่งงานกับหญิงชาวโซเวียต จนกระทั่งถึงหลังสงครามต่อต้านญี่ปุ่น ด้วยการประสานงานของ โจวกง(周公)ถึงทำให้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)สามารถเดินทางกลับประเทศจีนได้

    🥳สอง🥳

    หลังจากที่เติ้งกง(邓公)เดินทางกลับจากสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ. 1927 จนกระทั่งมีการสถาปนาจีนใหม่ เติ้งกง(邓公)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็ไม่มีทางอื่นที่จะเลือกเดินอีกต่อไป ในเวลานั้น เติ้งกง(邓公)เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่มีชื่อเสียงของกองทัพของหลิว(刘)และเติ้ง(邓) เขาถูกมองว่าเป็นเสี้ยนหนามในฝ่ายของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)มานานแล้ว และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็ละทิ้งความเชื่ออุดมการณ์แบบคอมมิวนิสต์ของเขาด้วย ได้ตัดสินใจที่จะทำตามพ่อซึ่งเป็นผู้นำของเขาและเตรียมพร้อมที่จะรับช่วงต่อ

    หลังจากที่เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)พ่ายแพ้และถอยไปไต้หวันแล้ว เขาก็เริ่มติดต่อกับกลุ่มรัฐมนตรีผู้มีประสบการณ์ซึ่งเคยเป็นลูกน้องของเขา จุดประสงค์ของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ในการทำเช่นนี้คือปูทางเพื่อให้เชียงจิงกัวสามารถสืบทอดตำแหน่งได้ ท้ายที่สุดแล้วในจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้เฒ่าเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ยังไม่กล้าส่งสัญญาณออกไปว่าให้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เข้ามารับหน้าที่สืบทอดแทน เขายังต้องคำนึงถึงหน้าตาความรู้สึกของรัฐมนตรีเก่าผู้มีประสบการณ์บางคนด้วย หากลูกชายเข้ามารับช่วงต่อ หลี่จงเหริน(李宗仁)จะไม่เต็มใจอย่างแน่นอน แม้ว่าเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)จะไม่ทำอย่างนี้ ใครก็ตามที่มีสายตาเฉียบแหลมก็สามารถเห็นได้

    หลังจากที่ผู้เฒ่าเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)มาถึงไต้หวัน เมื่ออำนาจของเขาก็มั่นคงขึ้นแล้วหลังจากดูแลจัดการรัฐมนตรีคนเก่าของเขา และเขาก็เริ่มปล่อยมือให้ลูกชายทำงาน หลังจากที่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ขึ้นเป็นประธานฝ่ายบริหาร สร้างไต้หวันตามแนวทางการปกครองของเขา ขณะนั้นไต้หวันมีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็ง และเจี่ยงน้อย(小蒋)ก็ทำสิ่งที่ถูกต้องอย่างหนึ่ง นั่นคือการพัฒนาบริษัทผลิตชิป แม้จะมีราคาแพงสูงมาก แต่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็เลือกเส้นทางที่ถูกต้อง

    ภายใต้การปกครองของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) ไต้หวันมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และในช่วงทศวรรษ 1980 ไต้หวันก็กลายเป็นภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชีย

    แต่หลังจากที่พ่อลูกตระกูลเจี่ยง(蒋)เข้าบริหารปกครองไต้หวัน ก็เป็นตอนที่ผู้เฒ่าเจี่ยง(蒋)มอบอำนาจเกือบทั้งหมดให้กับเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) ด้วยมีบางอย่างเกิดขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่เช่นกัน เติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)กลับมาอีกครั้ง นี่เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดของประธานเหมา(毛)

    หลังจากที่เติ้งกง(邓公)กลับคืนสู่รัฐบาลกลาง โจวกง(周公)ก็มอบงานการต่างประเทศจำนวนมากให้กับเติ้งกง(邓公) จากนั้นเติ้งกง(邓公)ก็ประกาศบางอย่างต่อสาธารณะ:

    เตรียมหารือปัญหาการรวมตัวกับไทเป(台北)โดยตรง

    สมาชิกก๊กมิ่นตั๋ง(国民党)บางคนในแผ่นดินใหญ่ยังสื่อสารส่งข้อความถึงพ่อลูกครอบครัวตระกูลเจี่ยง(蒋)ผ่านช่องทางสาธารณะหรือส่วนตัว เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ซึ่งล้มป่วยอยู่นั้นก็ไม่มีแรงจะจัดการกับเรื่องเหล่านี้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ซึ่งได้รับอำนาจเต็มในเวลานี้แล้ว ก็ยังเพิกเฉยไม่แยแสต่อความคิดริเริ่มของเติ้งกง(邓公)

    ในปีค.ศ. 1975 ผู้เฒ่าเจี่ยง(蒋)เสียชีวิต และหยาน เจียก้าน(严家淦) เข้ามารับช่วงต่อ สามปีต่อมา หยาน เจียก้าน(严家淦)ได้มอบอำนาจคืนโดยอัตโนมัติ วันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 1978 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ขึ้นสืบทอดตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

    แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้เฒ่าเจี่ยง(蒋)และเจี่ยงน้อย(小蒋)ไม่คาดคิด

    ในปีค.ศ. 1972 พ่อลูกตระกูลเจี่ยง(蒋) ไม่ทราบเกี่ยวกับการเยือนจีนของริชาร์ด นิกสัน(Richard Nixon理查德·尼克松) เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ซึ่งโกรธมากจนสาปแช่ง นิกสัน(Nixon尼克松)ว่า “ไม่ใช่สิ่งของ” และแม้ว่าเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็มี "แวดวงสนับสนุนไต้หวัน(亲台圈子)" ในสหรัฐอเมริกา ต่อมาเมื่อสหรัฐอเมริกาโดย จิมมี คาร์เตอร์(Jimmy Carter吉米·卡特) และเติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)หารือกันเรื่องการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็ยังคงถูกเก็บซ่อนไว้ในความมืด

    เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 1978 สิบสองชั่วโมงก่อนการประกาศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ลีโอนาร์ด ไซด์มาน อังเกอร์ (Leonard Seidman Unger安克志)ซึ่งขณะนั้นเป็นตัวแทนของสหรัฐฯ ในไต้หวัน ได้รับโทรศัพท์ลับจากรัฐบาลสหรัฐฯ โดยขอให้เขาโทรหา ซ่งฉู่อวิ้(宋楚瑜James Soong Chu-yu)เลขาของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ในตอนเช้า

    อังเกอร์ (Unger安克志)บอก ซ่งฉู่อวิ้(宋楚瑜James Soong Chu-yu)ว่าเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องพบ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) เมื่อเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ตื่นขึ้นมากลางดึกและได้พบอังเกอร์ (Unger安克志)จึงเพิ่งทราบข่าวการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

    อังเกอร์ (Unger安克志)บอกกับเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ว่าอย่าให้ข่าวนี้รั่วไหลสู่โลกภายนอกก่อน 8 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)โกรธมาก เขาไม่เห็นด้วย แต่ไม่มีวิธีใดที่จะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของสหรัฐฯ แน่นอนว่าหลังจากมีข่าวตลาดหุ้นไทเป(台北)ก็ร่วงลง 10%

    นี่เป็นการแข่งขันประลองฝีมือครั้งแรกระหว่างเติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ในฐานะเพื่อนร่วมชั้น

    🥳สาม🥳

    เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1979 จอมพล สวีเซี่ยงเฉียน(徐向前)ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้นกล่าว:

    ยุติการยิงปืนใหญ่โจมตีจินเหมิน(金门)อย่างเป็นทางการ

    ในวันนี้ สภาประชาชนแห่งชาติ(全国人大)ยังได้ออก "ข้อความถึงเพื่อนร่วมชาติในไต้หวัน(告台湾同胞书)" และเหลียว เฉิงจือ(廖承志)ซึ่งรับผิดชอบกิจการไต้หวัน ก็เผยแพร่จดหมายถึงเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ต่อสาธารณะด้วย: เสนอความร่วมมือครั้งที่สามระหว่างพรรคก๊กมินตั๋ง(國民黨)และ พรรคคอมมิวนิสต์(共產黨)

    ถึงเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)รู้สึกอ่อนไหวต่อความคิดริเริ่มด้านสันติภาพของเติ้งกง(邓公)มาก เขาปฏิเสธการเยือนไต้หวันของเหลียว เฉิงจือ(廖承志) แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมข้ามช่องแคบ โดยเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อไต้หวัน การแลกเปลี่ยนข้ามช่องแคบเริ่มขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    ในปีค.ศ. 1981 เติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)ได้อนุญาตให้ ซีโข่ว(溪口) เจ้อเจียง(浙江)ปรับปรุงที่พักอาศัยเดิมของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石) และสุสานของมาดาม เหมา (毛)ซึ่งเป็นยายของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) ว่ากันว่าทั้ง เติ้งกง(邓公)และ เหลียว เฉิงจือ(廖承志)รู้ว่าเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เป็นลูกกตัญญู ภาพถ่ายสิ่งต่างๆที่ได้รับการซ่อมแซมได้ถูกส่งไปยังเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)อย่างรวดเร็ว

    หลังจากที่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) เห็นรูปถ่ายเหล่านี้ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อสาธารณะ แต่เขาคงจะรู้สึกอะไรบางอย่างในใจ

    หลังจากนั้นไม่นาน เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็เชื่อว่าถึงเวลาสำหรับการเจรจาแล้ว เขาจึงค้นเลือกหาคนกลาง และคนกลางคนนี้คือ ลี กวนยู(Lee Kuan Yew李光耀) เขาคิดว่าลี กวนยู(Lee Kuan Yew李光耀)ทำหน้าที่เป็นคนกลางน่าจะเหมาะสมกว่า

    ในปีค.ศ. 1981 เติ้ง เสี่ยวผิง(邓小平) เยือนสิงคโปร์เพื่อตรวจสอบประสบการณ์ของสิงคโปร์ในด้านการปกครองระดับชาติ

    ในปีค.ศ. 1983 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)กล่าวกับลี กวนยู(Lee Kuan Yew李光耀)เป็นการส่วนตัวว่า:

    ภายใต้การปฏิรูปและการทูตเชิงปฏิบัติของเติ้ง เสี่ยวผิง(邓小平) แผ่นดินใหญ่จะแข็งแกร่งขึ้น “หากแผ่นดินใหญ่และไต้หวันรวมกัน อนาคตของจีนจะมีอนาคตที่ดีอย่างแน่นอน”

    หลังจากนั้นจีนและอังกฤษบรรลุข้อตกลงในการคืนฮ่องกง ในปี ค.ศ. 1986 ลี กวนยู(Lee Kuan Yew李光耀)เดินทางไปไต้หวันอีกครั้งเพื่อพูดคุยกับเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)กล่าวว่า: เขาจะเปลี่ยนแปลงไต้หวัน แต่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเฉพาะเจาะจงว่าการเปลี่ยนแปลงจะเป็นเช่นไร

    ในปี ค.ศ. 1987 มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในไต้หวัน พรรคก๊กมินตั๋ง(国民党)นอกเหนือจากการยกเลิกคำสั่งห้ามพรรคและการห้ามหนังสือพิมพ์แล้ว ยังอนุญาตให้ผู้คนเดินทางไปยังแผ่นดินใหญ่ได้ แต่เมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1988 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็เสียชีวิตกะทันหันด้วยอาการป่วย

    หลังจากข่าวการเสียชีวิตของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปถึงปักกิ่ง เติ้งกง(邓公)ก็จัดการประชุมระดับสูงทันที หลังจากได้ฟังรายงานเกี่ยวกับการทำงานเรื่องไต้หวันแล้ว เขาเชื่อว่าการรวมชาติเป็นเรื่องใหญ่สำคัญ เมื่อเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)จากไป การรวมชาติอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ยากลำบาก เขาคร่ำครวญ: "เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ตายเร็วเกินไป"

    เมื่อพิจารณาจากช่วงเวลาของประวัติศาสตร์นี้ เติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ได้เผชิญหน้ากันสองครั้ง ครั้งแรกคือตอนที่พวกเขากำลังศึกษาอยู่ในสหภาพโซเวียต ทั้งสองมีความเชื่อร่วมกัน ต่อมาเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ทรยศต่อศรัทธาและติดตามเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石) จนกระทั่งเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ขึ้นสู่อำนาจที่ทั้งสองได้พบกัน แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้พบกันมาห้าสิบหรือหกสิบปีแล้ว แต่ทั้งสองก็คิดถึงประเด็นการรวมชาติ

    🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    🤠#เรื่องเล่าของสองเพื่อนร่วมชั้นเรียนแต่ต่างอุดมการณ์🤠 ปัจจุบันไต้หวันกลายเป็นความเจ็บปวดในใจคนจีน และสหรัฐฯ มักใช้ไต้หวันเพื่อยั่วยุจีน จุดประสงค์ของสหรัฐฯนั้นชัดเจน นั่นคือเพื่อยั่วยุกระตุ้นให้จีนดำเนินการด้วยวิธีรุนแรง หลังจากนั้นแล้วขัดขวางก่อกวนยุทธศาสตร์ของจีน ซึ่งจะทำให้จีนอ่อนแอลงอีก ดังนั้นปัญหาไต้หวันถึงจุดที่ต้องแก้ไข หากไม่ได้รับการแก้ไข สหรัฐฯ จะยังคงเล่นเกมไพ่ไต้หวัน พวกเขายังจะสนับสนุนกองกำลัง "ปลดปล่อยเอกราชของไต้หวัน" ให้ก่อปัญหาอีกด้วย เมื่อถึงเวลานั้นก็จะตกอยู่ในสภาพถูกกระทำขณะทำการแก้ไขปัญหา ในความเป็นจริงแล้ว ประเด็นของไต้หวันมีขึ้นตั้งแต่ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 เติ้งกง(邓公)ได้ส่งเสริมนำการแก้ปัญหาของไต้หวันมาดำเนินการ น่าเสียดายที่มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป และการเปลี่ยนแปลงนี้มาจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนของ เติ้งกง(邓公) 🥳หนึ่ง🥳 เพื่อนร่วมชั้นเรียนของ เติ้งกง(邓公) คือ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ทั้งสองเรียนในชั้นเรียนเดียวกันที่มหาวิทยาลัยซุนยัตเซ็น(Sun Yat-sen University中山大学)ในสหภาพโซเวียตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1926 ถึง ค.ศ. 1927 ในปี ค.ศ. 1925 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปศึกษาที่สหภาพโซเวียต ส่วนเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปศึกษาต่อต่างประเทศอาจกล่าวได้ว่าเขาถูกบังคับให้ทำเช่นนั้น หรืออาจจะว่าเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)หวังว่าลูกชายของเขาไปที่สหภาพโซเวียตเพื่อเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างที่แท้จริงกลับมา เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) ชื่อรอง เจี้ยนเฟิง(建丰) เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เป็นชื่อบรรพบุรุษของเขา และยังเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของเขาด้วย เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เกิดที่เมืองเฟิงฮว่า(奉化)เจ้อเจียง(浙江)เมื่อวันที่ 27 เมษายน ค.ศ. 1910 เขาเป็นบุตรชายคนโตของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)และเหมา ฝูเหมย(毛福梅)ภรรยาคนแรกของเขา หลังจากที่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เกิด เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ก็ทำงานหนักนอกบ้านตลอด ดังนั้นเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)จึงเติบโตมากับแม่และยายของเขา สิ่งนี้ทำให้เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ค่อนข้างขี้ขลาด ตามที่ครูผู้สอนหนังสือ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)กล่าวไว้ ตอนนั้นเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)มีอะไรนิดหน่อยมักจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา นี่อาจเป็นลักษณะเฉพาะของครอบครัวที่ไม่มีผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่อยู่ในบ้าน ในปีค.ศ. 1924 เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ส่งเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปโรงเรียนมัธยมต้นเซี่ยงไฮ้ผู่ตง(浦东) ในเวลานี้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)วัย 14 ปีเป็นผู้ใหญ่มาก ในปี ค.ศ. 1925 หลังจากการสังหารหมู่30 พฤษภาคม(五卅惨案) เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)วัย 15 ปีก็เข้าร่วมในการประท้วงด้วยความรักชาติด้วย แต่หลังจากที่ทางโรงเรียนค้นพบ เขาถูกไล่ออกจากโรงเรียนเนื่องจากในความผิดว่า "ความคิดที่เป็นอันตรายและพฤติกรรมเบี่ยงเบน" หลังจากถูกไล่ออกจากโรงเรียน เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ตัดสินใจไปศึกษาต่อต่างประเทศ เขาจึงไปปักกิ่งเพื่อเรียนภาษาต่างประเทศ ในช่วงเวลานี้ เขาถูกจำคุกเป็นเวลาสองสัปดาห์เนื่องจากการเข้าร่วมขบวนการนักเรียนต่อต้านขุนศึกเป่ยหยาง(北洋) ขณะอยู่ในปักกิ่ง เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ได้พบกับหลี่ ต้าเจวา(李大钊) และสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์คนอื่น ๆ เขาชื่นชมความรู้และความเชื่อของหลี่ ต้าเจวา(李大钊) ต่อมา หลี่ ต้าเจวา(李大钊)ได้แนะนำชาวโซเวียตจำนวนมากให้รู้จักกับ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) เกี่ยวกับประสบการณ์นี้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เล่าในภายหลังว่า: “เป่ยผิง(北平)เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งมิตรภาพระหว่างพรรคก๊กมินตั๋ง(國民黨)และพรรคคอมมิวนิสต์(共產黨) ในใจของฉันก็สับสนกับสภาพแวดล้อมนี้ และเปลี่ยนแผนการเรียนในฝรั่งเศสเดิมอย่างสิ้นเชิง” การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ตัดสินใจศึกษาต่อในสหภาพโซเวียต ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1925 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)มาถึงสหภาพโซเวียต ในเวลานั้น มีบุตรของเจ้านายใหญ่หลายคน เช่น เซ่าจวื่อกาง(邵志刚)ลูกชาย ของเซ่า ลี่จวื๋อ(邵力子), เฝิงหงกั๋ว(冯洪国)ลูกชายของ เฝิง อวิ้เสียง(冯玉祥) พร้อมกับลูกสาว เฝิงฝูเหนิ่ง(冯弗能) และ อวิ้ ซิ่วจวือ(于秀芝) ลูกสาวของ อวิ้โย่วเยิ่น(于右任) รวมถึง จาง ซีย่วน(张锡媛) ภรรยาคนแรกของ เติ้งกง(邓公), หวังหมิง(王明)และคนอื่นๆ ระหว่างทางไปสหภาพโซเวียต เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ได้อ่านหนังสือเล่มแรกเกี่ยวกับลัทธิคอมมิวนิสต์ "ABC of Communism" หนังสือเล่มนี้สร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้งให้กับเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) ปีที่สองก็คือปี ค.ศ.1926 ในชั้นเรียนของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)มีนักเรียนที่ย้ายมาจากปารีส ประเทศฝรั่งเศสคนหนึ่ง เขาคือเติ้งเสี่ยวผิง(邓小平) ในเวลานั้น เติ้งกง(邓公)ชื่อเติ้ง ซีเสียน(邓希贤) เติ้งกง(邓公)มีอายุมากกว่าเจียงจิงกัว 5 ปี และยังมีชื่อภาษารัสเซียว่า "อีวาน เชโกวิช(Ivan Shegovich)" ในความประทับใจของ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) เติ้งกง(邓公)เป็นคนร่าเริงมาก สามารถพูดได้ดีบนเวที และมีทักษะในการจัดองค์กรที่แข็งแกร่ง ในเวลานั้นเพื่อนร่วมชั้นของเขาตั้งฉายาให้เขาว่า "ปืนใหญ่เหล็กน้อย(小钢炮)" เติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เข้ากันได้ดี และทั้งสองคนรูปร่างไม่สูงนักเช่นกัน ทั้งสองมักจะเดินคุยกันริมแม่น้ำมอสโก ดังนั้น เติ้งกง(邓公)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)จึงไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมชั้นเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีมากอีกด้วย ในปี ค.ศ. 1927 เติ้งกง(邓公)ได้รับมอบหมายจากองค์กรให้กลับไปทำงานที่ประเทศจีน และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ยังคงศึกษาต่อในสหภาพโซเวียตในเวลานี้ เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ได้เปิดฉากเหตุการณ์ต่อต้านการปฏิวัติ "4.12"(“4.12”反革命事件) และสังหารหมู่สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จำนวนมาก ในฐานะบุตรชายของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石) เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)จึงถูกสหภาพโซเวียตตั้งคำถาม และหวังหมิง(王明)และคนอื่นๆ ก็ไม่ชอบเช่นกัน ต่อมาเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปทำงานในโรงงานและแต่งงานกับหญิงชาวโซเวียต จนกระทั่งถึงหลังสงครามต่อต้านญี่ปุ่น ด้วยการประสานงานของ โจวกง(周公)ถึงทำให้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)สามารถเดินทางกลับประเทศจีนได้ 🥳สอง🥳 หลังจากที่เติ้งกง(邓公)เดินทางกลับจากสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ. 1927 จนกระทั่งมีการสถาปนาจีนใหม่ เติ้งกง(邓公)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็ไม่มีทางอื่นที่จะเลือกเดินอีกต่อไป ในเวลานั้น เติ้งกง(邓公)เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่มีชื่อเสียงของกองทัพของหลิว(刘)และเติ้ง(邓) เขาถูกมองว่าเป็นเสี้ยนหนามในฝ่ายของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)มานานแล้ว และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็ละทิ้งความเชื่ออุดมการณ์แบบคอมมิวนิสต์ของเขาด้วย ได้ตัดสินใจที่จะทำตามพ่อซึ่งเป็นผู้นำของเขาและเตรียมพร้อมที่จะรับช่วงต่อ หลังจากที่เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)พ่ายแพ้และถอยไปไต้หวันแล้ว เขาก็เริ่มติดต่อกับกลุ่มรัฐมนตรีผู้มีประสบการณ์ซึ่งเคยเป็นลูกน้องของเขา จุดประสงค์ของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ในการทำเช่นนี้คือปูทางเพื่อให้เชียงจิงกัวสามารถสืบทอดตำแหน่งได้ ท้ายที่สุดแล้วในจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้เฒ่าเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ยังไม่กล้าส่งสัญญาณออกไปว่าให้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เข้ามารับหน้าที่สืบทอดแทน เขายังต้องคำนึงถึงหน้าตาความรู้สึกของรัฐมนตรีเก่าผู้มีประสบการณ์บางคนด้วย หากลูกชายเข้ามารับช่วงต่อ หลี่จงเหริน(李宗仁)จะไม่เต็มใจอย่างแน่นอน แม้ว่าเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)จะไม่ทำอย่างนี้ ใครก็ตามที่มีสายตาเฉียบแหลมก็สามารถเห็นได้ หลังจากที่ผู้เฒ่าเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)มาถึงไต้หวัน เมื่ออำนาจของเขาก็มั่นคงขึ้นแล้วหลังจากดูแลจัดการรัฐมนตรีคนเก่าของเขา และเขาก็เริ่มปล่อยมือให้ลูกชายทำงาน หลังจากที่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ขึ้นเป็นประธานฝ่ายบริหาร สร้างไต้หวันตามแนวทางการปกครองของเขา ขณะนั้นไต้หวันมีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็ง และเจี่ยงน้อย(小蒋)ก็ทำสิ่งที่ถูกต้องอย่างหนึ่ง นั่นคือการพัฒนาบริษัทผลิตชิป แม้จะมีราคาแพงสูงมาก แต่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็เลือกเส้นทางที่ถูกต้อง ภายใต้การปกครองของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) ไต้หวันมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และในช่วงทศวรรษ 1980 ไต้หวันก็กลายเป็นภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชีย แต่หลังจากที่พ่อลูกตระกูลเจี่ยง(蒋)เข้าบริหารปกครองไต้หวัน ก็เป็นตอนที่ผู้เฒ่าเจี่ยง(蒋)มอบอำนาจเกือบทั้งหมดให้กับเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) ด้วยมีบางอย่างเกิดขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่เช่นกัน เติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)กลับมาอีกครั้ง นี่เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดของประธานเหมา(毛) หลังจากที่เติ้งกง(邓公)กลับคืนสู่รัฐบาลกลาง โจวกง(周公)ก็มอบงานการต่างประเทศจำนวนมากให้กับเติ้งกง(邓公) จากนั้นเติ้งกง(邓公)ก็ประกาศบางอย่างต่อสาธารณะ: เตรียมหารือปัญหาการรวมตัวกับไทเป(台北)โดยตรง สมาชิกก๊กมิ่นตั๋ง(国民党)บางคนในแผ่นดินใหญ่ยังสื่อสารส่งข้อความถึงพ่อลูกครอบครัวตระกูลเจี่ยง(蒋)ผ่านช่องทางสาธารณะหรือส่วนตัว เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ซึ่งล้มป่วยอยู่นั้นก็ไม่มีแรงจะจัดการกับเรื่องเหล่านี้ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ซึ่งได้รับอำนาจเต็มในเวลานี้แล้ว ก็ยังเพิกเฉยไม่แยแสต่อความคิดริเริ่มของเติ้งกง(邓公) ในปีค.ศ. 1975 ผู้เฒ่าเจี่ยง(蒋)เสียชีวิต และหยาน เจียก้าน(严家淦) เข้ามารับช่วงต่อ สามปีต่อมา หยาน เจียก้าน(严家淦)ได้มอบอำนาจคืนโดยอัตโนมัติ วันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 1978 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ขึ้นสืบทอดตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้เฒ่าเจี่ยง(蒋)และเจี่ยงน้อย(小蒋)ไม่คาดคิด ในปีค.ศ. 1972 พ่อลูกตระกูลเจี่ยง(蒋) ไม่ทราบเกี่ยวกับการเยือนจีนของริชาร์ด นิกสัน(Richard Nixon理查德·尼克松) เจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石)ซึ่งโกรธมากจนสาปแช่ง นิกสัน(Nixon尼克松)ว่า “ไม่ใช่สิ่งของ” และแม้ว่าเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็มี "แวดวงสนับสนุนไต้หวัน(亲台圈子)" ในสหรัฐอเมริกา ต่อมาเมื่อสหรัฐอเมริกาโดย จิมมี คาร์เตอร์(Jimmy Carter吉米·卡特) และเติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)หารือกันเรื่องการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็ยังคงถูกเก็บซ่อนไว้ในความมืด เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 1978 สิบสองชั่วโมงก่อนการประกาศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ลีโอนาร์ด ไซด์มาน อังเกอร์ (Leonard Seidman Unger安克志)ซึ่งขณะนั้นเป็นตัวแทนของสหรัฐฯ ในไต้หวัน ได้รับโทรศัพท์ลับจากรัฐบาลสหรัฐฯ โดยขอให้เขาโทรหา ซ่งฉู่อวิ้(宋楚瑜James Soong Chu-yu)เลขาของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ในตอนเช้า อังเกอร์ (Unger安克志)บอก ซ่งฉู่อวิ้(宋楚瑜James Soong Chu-yu)ว่าเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องพบ เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) เมื่อเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ตื่นขึ้นมากลางดึกและได้พบอังเกอร์ (Unger安克志)จึงเพิ่งทราบข่าวการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อังเกอร์ (Unger安克志)บอกกับเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ว่าอย่าให้ข่าวนี้รั่วไหลสู่โลกภายนอกก่อน 8 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)โกรธมาก เขาไม่เห็นด้วย แต่ไม่มีวิธีใดที่จะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของสหรัฐฯ แน่นอนว่าหลังจากมีข่าวตลาดหุ้นไทเป(台北)ก็ร่วงลง 10% นี่เป็นการแข่งขันประลองฝีมือครั้งแรกระหว่างเติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ในฐานะเพื่อนร่วมชั้น 🥳สาม🥳 เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1979 จอมพล สวีเซี่ยงเฉียน(徐向前)ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้นกล่าว: ยุติการยิงปืนใหญ่โจมตีจินเหมิน(金门)อย่างเป็นทางการ ในวันนี้ สภาประชาชนแห่งชาติ(全国人大)ยังได้ออก "ข้อความถึงเพื่อนร่วมชาติในไต้หวัน(告台湾同胞书)" และเหลียว เฉิงจือ(廖承志)ซึ่งรับผิดชอบกิจการไต้หวัน ก็เผยแพร่จดหมายถึงเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ต่อสาธารณะด้วย: เสนอความร่วมมือครั้งที่สามระหว่างพรรคก๊กมินตั๋ง(國民黨)และ พรรคคอมมิวนิสต์(共產黨) ถึงเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)รู้สึกอ่อนไหวต่อความคิดริเริ่มด้านสันติภาพของเติ้งกง(邓公)มาก เขาปฏิเสธการเยือนไต้หวันของเหลียว เฉิงจือ(廖承志) แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมข้ามช่องแคบ โดยเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อไต้หวัน การแลกเปลี่ยนข้ามช่องแคบเริ่มขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในปีค.ศ. 1981 เติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)ได้อนุญาตให้ ซีโข่ว(溪口) เจ้อเจียง(浙江)ปรับปรุงที่พักอาศัยเดิมของเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石) และสุสานของมาดาม เหมา (毛)ซึ่งเป็นยายของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) ว่ากันว่าทั้ง เติ้งกง(邓公)และ เหลียว เฉิงจือ(廖承志)รู้ว่าเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)เป็นลูกกตัญญู ภาพถ่ายสิ่งต่างๆที่ได้รับการซ่อมแซมได้ถูกส่งไปยังเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)อย่างรวดเร็ว หลังจากที่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) เห็นรูปถ่ายเหล่านี้ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อสาธารณะ แต่เขาคงจะรู้สึกอะไรบางอย่างในใจ หลังจากนั้นไม่นาน เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็เชื่อว่าถึงเวลาสำหรับการเจรจาแล้ว เขาจึงค้นเลือกหาคนกลาง และคนกลางคนนี้คือ ลี กวนยู(Lee Kuan Yew李光耀) เขาคิดว่าลี กวนยู(Lee Kuan Yew李光耀)ทำหน้าที่เป็นคนกลางน่าจะเหมาะสมกว่า ในปีค.ศ. 1981 เติ้ง เสี่ยวผิง(邓小平) เยือนสิงคโปร์เพื่อตรวจสอบประสบการณ์ของสิงคโปร์ในด้านการปกครองระดับชาติ ในปีค.ศ. 1983 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)กล่าวกับลี กวนยู(Lee Kuan Yew李光耀)เป็นการส่วนตัวว่า: ภายใต้การปฏิรูปและการทูตเชิงปฏิบัติของเติ้ง เสี่ยวผิง(邓小平) แผ่นดินใหญ่จะแข็งแกร่งขึ้น “หากแผ่นดินใหญ่และไต้หวันรวมกัน อนาคตของจีนจะมีอนาคตที่ดีอย่างแน่นอน” หลังจากนั้นจีนและอังกฤษบรรลุข้อตกลงในการคืนฮ่องกง ในปี ค.ศ. 1986 ลี กวนยู(Lee Kuan Yew李光耀)เดินทางไปไต้หวันอีกครั้งเพื่อพูดคุยกับเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國) และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)กล่าวว่า: เขาจะเปลี่ยนแปลงไต้หวัน แต่เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเฉพาะเจาะจงว่าการเปลี่ยนแปลงจะเป็นเช่นไร ในปี ค.ศ. 1987 มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในไต้หวัน พรรคก๊กมินตั๋ง(国民党)นอกเหนือจากการยกเลิกคำสั่งห้ามพรรคและการห้ามหนังสือพิมพ์แล้ว ยังอนุญาตให้ผู้คนเดินทางไปยังแผ่นดินใหญ่ได้ แต่เมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1988 เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ก็เสียชีวิตกะทันหันด้วยอาการป่วย หลังจากข่าวการเสียชีวิตของเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ไปถึงปักกิ่ง เติ้งกง(邓公)ก็จัดการประชุมระดับสูงทันที หลังจากได้ฟังรายงานเกี่ยวกับการทำงานเรื่องไต้หวันแล้ว เขาเชื่อว่าการรวมชาติเป็นเรื่องใหญ่สำคัญ เมื่อเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)จากไป การรวมชาติอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ยากลำบาก เขาคร่ำครวญ: "เจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ตายเร็วเกินไป" เมื่อพิจารณาจากช่วงเวลาของประวัติศาสตร์นี้ เติ้งเสี่ยวผิง(邓小平)และเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ได้เผชิญหน้ากันสองครั้ง ครั้งแรกคือตอนที่พวกเขากำลังศึกษาอยู่ในสหภาพโซเวียต ทั้งสองมีความเชื่อร่วมกัน ต่อมาเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ทรยศต่อศรัทธาและติดตามเจียง ไคเชก (Chiang Kai-shek蔣介石) จนกระทั่งเจี่ยง จิงกั๋ว(Chiang Ching-kuo蔣經國)ขึ้นสู่อำนาจที่ทั้งสองได้พบกัน แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้พบกันมาห้าสิบหรือหกสิบปีแล้ว แต่ทั้งสองก็คิดถึงประเด็นการรวมชาติ 🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาติตะวันตกประเมินชายคนนี้ต่ำเกินไปอย่างมาก เมื่อเขาเข้าไปแทรกแซงในซีเรียและหยุดไม่ให้สหรัฐฯก่อความไม่สงบในประเทศ, ทุกคนควรจะเข้าใจชัดเจนว่า: ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่จะมองข้ามได้ ตอนนี้, เขาเดินหน้าตามแผนของเขาต่อไป เพราะเขารู้สึกว่าไม่มีทางเลือกอื่น รัสเซียต้องผลักดันนาโต้ให้ถอยห่างมากพอเพื่อไม่ให้เป็นภัยคุกคามอีกต่อไป ด้วยความพยายามร่วมกัน, รัสเซียจะไม่เพียงแต่บรรลุเป้าหมายนี้เท่านั้น แต่ยังแยกตัวออกจากระบบการเงินของชาติตะวันตกในที่สุด ร่วมกับประเทศ BRICS, พวกเขาจะกำจัดดอลลาร์ในเขตเศรษฐกิจของพวกเขาและสร้างสมดุลที่โลกต้องการอย่างยิ่ง

    ชาติตะวันตกไม่ได้แค่ต่อสู้กับปูตินเท่านั้น, แต่ยังรวมถึงพลังทางปัญญาของรัสเซียทั้งหมดด้วย - ซึ่งเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เชื่อมั่นอย่างลึกซึ้งในสหพันธรัฐรัสเซียและไม่สามารถโน้มน้าวให้ทรยศต่อชาติของตนเพื่อชิ้นหนึ่งของพิซซ่าฮัทได้อีกต่อไป

    หลายปีแห่งความพยายามของรัสเซียที่จะเข้าหาชาติตะวันตกนั้นผ่านไปนานแล้ว รัสเซียตระหนักแล้วว่าสันติภาพที่แท้จริงกับชาติตะวันตกนั้นไม่สามารถบรรลุได้ด้วยสนธิสัญญาและข้อตกลง ในทางการเมือง, รัสเซียจะแยกตัวออกจาก "เพื่อน" ชาติตะวันตกในอดีตอย่างเด็ดขาด, เนื่องจากสิ่งนี้กลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในทางเศรษฐกิจ, รัสเซียจะยังคงใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ได้รับ, ทั้งในปัจจุบันและอนาคต แต่หลังจากทุกอย่างที่เกิดขึ้น, ความไว้วางใจจะไม่สามารถดำรงอยู่ได้อีกต่อไป

    ม่านใหม่จะถูกดึงออก, แต่คราวนี้ ชาติตะวันตกจะถูกแยกออกจากการเติบโต - ซึ่งเป็นผลจากความหิวโหยในอำนาจและความโลภของตนเองฅ, ซึ่งต้องโทษตัวเองเท่านั้น
    .
    The West gravely underestimated this man. When he intervened in Syria and stopped the U.S. from destabilizing the country, it should have been clear to everyone: this is not someone to take lightly. Now, he’s moving forward with his plans because he feels he has no choice. Russia must push NATO back far enough that it no longer poses a threat. With collective efforts, Russia will not only achieve this goal but also finally detach itself from the Western financial system. Together with the BRICS nations, they will eliminate the dollar in their economic zone and create the counterbalance the world has desperately needed.

    The West hasn’t just taken on Putin, but the intellectual power of all of Russia - a country filled with people who believe deeply in the Russian Federation and can no longer be persuaded to betray their nation for a pizza slice of Pizza Hut.

    The years of Russia’s attempts to approach the West are long gone. It has realized that true peace with the West cannot be achieved through treaties and agreements. Politically, Russia will now definitively distance itself from its former Western “friends,” as this has become inevitable. Economically, it will continue to take advantage of what benefits it can, both now and in the future, but after everything that has happened, trust can no longer exist.

    A new curtain will be drawn, but this time the West will be excluded from the growth - a consequence of its own hunger for power and greed, for which it has only itself to blame.
    .
    2:02 AM · Oct 6, 2024 · 105.8K Views
    https://x.com/Zlatti_71/status/1842641606601515171
    ชาติตะวันตกประเมินชายคนนี้ต่ำเกินไปอย่างมาก เมื่อเขาเข้าไปแทรกแซงในซีเรียและหยุดไม่ให้สหรัฐฯก่อความไม่สงบในประเทศ, ทุกคนควรจะเข้าใจชัดเจนว่า: ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่จะมองข้ามได้ ตอนนี้, เขาเดินหน้าตามแผนของเขาต่อไป เพราะเขารู้สึกว่าไม่มีทางเลือกอื่น รัสเซียต้องผลักดันนาโต้ให้ถอยห่างมากพอเพื่อไม่ให้เป็นภัยคุกคามอีกต่อไป ด้วยความพยายามร่วมกัน, รัสเซียจะไม่เพียงแต่บรรลุเป้าหมายนี้เท่านั้น แต่ยังแยกตัวออกจากระบบการเงินของชาติตะวันตกในที่สุด ร่วมกับประเทศ BRICS, พวกเขาจะกำจัดดอลลาร์ในเขตเศรษฐกิจของพวกเขาและสร้างสมดุลที่โลกต้องการอย่างยิ่ง ชาติตะวันตกไม่ได้แค่ต่อสู้กับปูตินเท่านั้น, แต่ยังรวมถึงพลังทางปัญญาของรัสเซียทั้งหมดด้วย - ซึ่งเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เชื่อมั่นอย่างลึกซึ้งในสหพันธรัฐรัสเซียและไม่สามารถโน้มน้าวให้ทรยศต่อชาติของตนเพื่อชิ้นหนึ่งของพิซซ่าฮัทได้อีกต่อไป หลายปีแห่งความพยายามของรัสเซียที่จะเข้าหาชาติตะวันตกนั้นผ่านไปนานแล้ว รัสเซียตระหนักแล้วว่าสันติภาพที่แท้จริงกับชาติตะวันตกนั้นไม่สามารถบรรลุได้ด้วยสนธิสัญญาและข้อตกลง ในทางการเมือง, รัสเซียจะแยกตัวออกจาก "เพื่อน" ชาติตะวันตกในอดีตอย่างเด็ดขาด, เนื่องจากสิ่งนี้กลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในทางเศรษฐกิจ, รัสเซียจะยังคงใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ได้รับ, ทั้งในปัจจุบันและอนาคต แต่หลังจากทุกอย่างที่เกิดขึ้น, ความไว้วางใจจะไม่สามารถดำรงอยู่ได้อีกต่อไป ม่านใหม่จะถูกดึงออก, แต่คราวนี้ ชาติตะวันตกจะถูกแยกออกจากการเติบโต - ซึ่งเป็นผลจากความหิวโหยในอำนาจและความโลภของตนเองฅ, ซึ่งต้องโทษตัวเองเท่านั้น . The West gravely underestimated this man. When he intervened in Syria and stopped the U.S. from destabilizing the country, it should have been clear to everyone: this is not someone to take lightly. Now, he’s moving forward with his plans because he feels he has no choice. Russia must push NATO back far enough that it no longer poses a threat. With collective efforts, Russia will not only achieve this goal but also finally detach itself from the Western financial system. Together with the BRICS nations, they will eliminate the dollar in their economic zone and create the counterbalance the world has desperately needed. The West hasn’t just taken on Putin, but the intellectual power of all of Russia - a country filled with people who believe deeply in the Russian Federation and can no longer be persuaded to betray their nation for a pizza slice of Pizza Hut. The years of Russia’s attempts to approach the West are long gone. It has realized that true peace with the West cannot be achieved through treaties and agreements. Politically, Russia will now definitively distance itself from its former Western “friends,” as this has become inevitable. Economically, it will continue to take advantage of what benefits it can, both now and in the future, but after everything that has happened, trust can no longer exist. A new curtain will be drawn, but this time the West will be excluded from the growth - a consequence of its own hunger for power and greed, for which it has only itself to blame. . 2:02 AM · Oct 6, 2024 · 105.8K Views https://x.com/Zlatti_71/status/1842641606601515171
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

    เดือนนี้ จะตัดสินใจลงนามในหนังสือเอกสารสัญญาใดๆควรไตร่ตรองคิดพิจารณาให้รอบคอบรอบด้าน เป็นเพราะการเอาแต่ใจตนเองคิดเป็นใหญ่เกินตัวจะถูกฟ้องร้องฟ้องศาลให้แพ้คดีความในภายหลัง อีกทั้งลูกหลานและบริวารจะเป็นต้นเหตุให้เสียหาย รู้จักการวางเฉยปล่อยวางตั้งสติให้มั่น เพราะการคิดไม่ตกจากเรื่องที่ต้องขบคิดทำให้เกิดความเครียดเข้าครอบงำ ควรพิจารณาให้ถึงต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงเพราะทุกๆปัญหาย่อมมีหนทางการแก้ไข อีกทั้งยามค่ำคืนควรจะหลีกเลี่ยงที่เปลี่ยวอย่าไปที่ไหนเพียงลำพังคนเดียวอาจจะเกิดเหตุโศกนาฏกรรมอุบัติเหตุเภทภัยได้ ควรรู้จักนอนหลับพักผ่อนออกกำลังกายให้พอเหมาะ สุขภาพร่างกายจะได้ไม่เจ็บป่วยไม่ต้องเสียทรัพย์ไปกับการรักษาพยาบาล
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เดือนนี้ จะตัดสินใจลงนามในหนังสือเอกสารสัญญาใดๆควรไตร่ตรองคิดพิจารณาให้รอบคอบรอบด้าน เป็นเพราะการเอาแต่ใจตนเองคิดเป็นใหญ่เกินตัวจะถูกฟ้องร้องฟ้องศาลให้แพ้คดีความในภายหลัง อีกทั้งลูกหลานและบริวารจะเป็นต้นเหตุให้เสียหาย รู้จักการวางเฉยปล่อยวางตั้งสติให้มั่น เพราะการคิดไม่ตกจากเรื่องที่ต้องขบคิดทำให้เกิดความเครียดเข้าครอบงำ ควรพิจารณาให้ถึงต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงเพราะทุกๆปัญหาย่อมมีหนทางการแก้ไข อีกทั้งยามค่ำคืนควรจะหลีกเลี่ยงที่เปลี่ยวอย่าไปที่ไหนเพียงลำพังคนเดียวอาจจะเกิดเหตุโศกนาฏกรรมอุบัติเหตุเภทภัยได้ ควรรู้จักนอนหลับพักผ่อนออกกำลังกายให้พอเหมาะ สุขภาพร่างกายจะได้ไม่เจ็บป่วยไม่ต้องเสียทรัพย์ไปกับการรักษาพยาบาล ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • 06-10-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.3

    เป็นไงล่ะ? อีโครแอต เตรียมชิ่ง ยุโรปตะวันออกก่อกบฎ ไม่เอา NATO ไม่รบรัสเซีย เดี๋ยวมรึงจะได้เห็นอสรพิษอีกเยอะ ไอ้ที่รอ เค้ารอมรึงฉิบหายก่อน เมื่ออ่อนยวบ ก็ไม่มีแรงจะมาขู่กูได้อีก สัญญานยุโรปตะวันออกแยกตัวเริ่มชัด! หลังรัสเซียยึดยูเครนเบ็ดเสร็จแล้ว แบบไม่เป็นทางการ เชื่อมเส้นทางลำเลียงไคร์เมียร์ฉลุย ยิ่งทำให้ไคร์เมียร์มีแผ่นดินเชื่อมต่อง่ายขึ้น ฐานทัพรัสเซียโยกเข้าไปแทนที่แล้ว มรึงเสร็จ! อยู่ที่ว่าจะกินพื้นที่เท่าไหร่ดี เอาแม่งให้หมดทั้งแผ่นดินเพื่อเป็นเกาะกันชนเลยดีมุย? อีโปลหนาวสุดตรีน เมื่อยูเครนไป แล้วอีโปลเสี้ยนจะทำสงครามต่อ เท่ากับยื่นใบเสร็จเส้นทางท่อแก็สอาร์คติคให้ปูตินนั่นเอง หากฉลาด ประกาศยุติสงคราม หันมาจับมือรัสเซีย อาจจะยังเหลือประเทศโปแลนด์อยู่? แต่คนยาก เพราะอียิวเหี้ยไซออนนิสต์มันกลืนอีโปลมาเป็นชาติแล้ว แผ่นดินที่เต็มไปด้วยอียิว ยิ่งแผ่นดินแม่เยรูซาเล็มใกล้แตก มรึงจะไปหาที่อพยพที่ไหนได้อีกล่ะ? ปล่อยข่าวอีล่ะ? อียิวเหี้ยไม่มีอะไรนอกจากปั่นหัวควาย กระแสล่อนุ๊กใส่เลบานอน เค้ารออยู่ อาวุธเหี้ยมะกันทั้งนั้น ปฎิเสธไม่ได้ มรึงมีส่วนทุกสงครามที่เกิด ดอกนี้ จะสมหวัง 3 ประการ 1.อียิวโดนหนักถึงขัดแผ่นดินแตก 2.อีวอชิงตันจะดิ้นพล่าน ฐานทัพเหี้ยทั่วโลกถูกลงแขก จัดหนัก 3.เกมส์ยุโรปปิดเกมส์เร็ว เพราะไม่เหลือใครเติมอาวุธให้อีกแล้ว ต่างป้องกันตัวเองสิ้น เฮซบอเลาะห์มีอาวุธไฮเทครุ่นใหม่ครบ พูดง่ายๆ ใครที่อิหร่านส่งเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน? จะได้ของครบมือทั้งสิ้น ไม่ใช่แค่นั้น อาวุธไฮเทค ต้องใช้เวลาฝึกฝนและเรียนรู้เยอะ ใครล่ะ? ควบคุมบังคับการใช้งาน หากไม่ใช่ WAGNER ใช่แล้ว ผีพริโกซินล่องลอยไปตามอากาศ หลอกหลอนเหี้ยยิวทุกสมรภูมิรบ? รัสเซีย จีน อิหร่าน วางแผนหลายชั้น ไม่ใช่ให้เดาทางง่ายดอกน่ะ ดูภาพรวมแล้วจะเข้าใจ สงครามในเยรูซาเล็ม มีเพื่อตัดกำลังเหี้ย NATO เพื่อที่ปูตินจะเขมือบยูเครนง่ายดาย แถมตัดกำลังพล อาวุธ คลังแสง คลังเงิน จนยุโรปถังแตกไปทั่ว แค่หาพลังงานใช้ยังยาก ต้องจ่ายเป็นรูเบิล? ที่มาว่า EU ถอยหมด แล้ว NATO จะเหลือใคร? ทุกอย่างมันเชื่อมโยงกันหมด โจมตีที่ไหน เพื่อเป้าหมายที่อื่น? ไม่ใช่เหี้ยขี้ข้ามะกันจะไม่ช่วยลวกเพ่ใหญ่ยิวดอกน่ะ แต่มันไม่เหลืออะไรแล้ว? ล่าสุด อีเอ๋อ(ตัวโคลน) ส่งสัญญานชัด แผนเด็ดหัวอีทรัมปป์ เดาไม่ยากดอก จะมีเลือกตั้งหรือไม่ ไม่สำคัญ เป้าหมายแท้จริงคือนำอเมริกาไปตายโหงตายห่าในสงครามต่างหากล่ะ ตายไม่ถึงล้าน อียิวไม่มีสิทธิ์เข้า ต้องให้แตกเป็นเสี่ยงๆ แยกรัฐย่อย อียิวถึงจะได้แผ่นดินมาตั้งต้นรัฐยิวใหม่ นิวยอร์ค แคลิฟอร์เนีย เสร็จอียิวชัวร์! แผนพลิกน่ะสิ เพราะโลกต่อต้านอียิวกันสุดโต่งแล้ว เลือกตั้งอเมริกาแค่ละคร อีตาเพนเตรียมปฎิวัติแล้วจ๊ะ CIVIL WAR ต้องมา ไม่ต้องให้มรึงมาฆ่า เดี๋ยวพวกกูจะฆ่ากันเองโชว์ให้มรึงดู? สู้กับมรึง มีแต่ตายโหงกับตายห่า แต่สู้กับควายมะกันด้วยกันเอง ชนะใสใส เพราะกูเก่งแต่ของกระจอกไงล่ะ? มรึงเอาดิ? F-35 หันหัวกลับหลังรู้ว่าถูกล็อคเป้า จะลอบกัดโจมตีอิหร่าน ไม่ง่ายดอก หากไม่อนุญาตให้จัดฉาก เพราะความเป็นจริง S-400/S-350s รอดักอยู่ SU-35s ก็มีทั้งฝูง แถมรัสเซียเพิ่งส่งปืนเลเซอร์ รัศมี 4 กม. ตัวจี๊ด ทำลายโดรนได้อย่างไวพร้อมกัน ล่าสุด รัสเซียคุ้มกันเครื่องบินบรรทุกหนักไปส่งถึงกรุงเบรุต ไม่ต้องเดา ของดี ของหนักมาครบ เฮซบอเลาะห์ถึงได้มั่นใจ งวดนี้ กูเอาจริง! ภาพข่าวทั่วโลกถูกสื่อปลอมยิวหลอกควายไปโฟกัสยิวถล่มเลบานอน แต่ของจริง อียิวนอนตายพะงาบพะงาบ มรึงดูภาพรวม อีเบียร์ทรุดทั้งเศรษฐกิจ การคลัง การทหาร อีเศษฝรั่งถอย เพราะรู้ดีว่า งานนี้จะต้องแลกด้วยอะไร? เพราะปูตินเบื่ออีน้ำเน่ามว๊าก ตอแหลไม่เลิก! อาวุธหนักทุกชิ้นของรัสเซียตอนนี้ พ่วงไฮเปอร์โซนิค 8-15 มัค ทั้งหมด ไม่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศใดของชาติเหี้ยจะสกัดได้ เหมือนที่อิหร่านทำให้ดู ลงกลางหัวเทลอาวีฟจนแถไม่ออก! โลกอาหรับยกพลขึ้นบกแล้ว โดยเสริมกำลังไปทางเลบานอน ซีเรีย อิรัก ปูพรมเข้า 3 ทิศทาง ลูกยาวนำ ภาคพื้นเก็บงาน อียิวถูกบีบให้ถอยไปตอนกลาง อยู่รวมกันที่นั่น เท่ากับว่ามรึงถูกล้อมนอก ล้อมใน จนไม่มีทางถอย เยเมนคือคีย์สำคัญ ที่จะเปิดทางให้ทั้ง 3 กองรบได้ไปเจอะหน้ากันในเวสต์แบงค์ อิหร่านแต่คุมเกมส์ข้างนอก ปิดไม่ให้เรือเหี้ยมะกันเข้ามาช่วยอียิวได้ เรือรบรัสเซีย จีน อยู่ในทะลดำ สามารถยิงสกัดอาวุธยาวได้ อิหร่านมีระบบป้องกันภัยทางอากาศ ล่ออียิวได้ทุกเมื่อ ที่ผ่านมา คือปล่อยให้มันถล่มแค่หน้าฉาก ประปราย เพื่อเอาใบเสร็จโลกเท่านั้นเอง ส่วนแผนผู้นำแห่กันตายถี่ ตายแล้วตายอีก ก็เพื่อจะสับราง ไม่ให้เหี้ยเดาทางถูก เพราะคนใหม่มา คือเพชรฆาต ไม่พูดเยอะ สั่งลุยท่าเดียว ยังต้องมีผู้นำตายห่าอีกต่อเนื่อง ก็เพื่อความปลอดภัย และลดการจับตาจากฝ่ายตรงกันข้าม เวลาเดินทางไปไหนมาไหนมันรู้หมด เปลี่ยนกล้องจับตา สายลับให้ไปที่อื่นแทน นี่คือ "สงคราม" ยามศึก ไม่สนวิธีการ เพื่อเป้าหมายใหญ่ งัดมาใช้ได้หมด! ช่วงนี้ ใช้ตัวโคลนเปลือง เพราะเกมส์มันหลายชั้นน่ะจ๊ะ? สิ่งที่เหี้ยไม่รู้เลยคือ ขั้วใหม่เค้ารู้อาวุธมรึงหมดเกลี้ยง เอาไปโชว์พิพิธภัณฑ์ของกระจอกที่มอสโคว์ทั้ง NATO แต่อาวุธรุ่นใหม่ของอิหร่าน จีน รัสเซีย ยังออกมาไม่เท่าไหร่ ส่วนใหญ่ใช้ทดสอบกับมรึงผ่านเฮซบอเลาะห์ ฮูตี เนี่ยแหละ รู้ตัวมั้ยว่า มรึงมีค่าแค่หนูทดลองอาวุธ? อาวุธรัสเซียโหดสุด ไม่ใช่แค่ทำลายพื้นที่เป้าหมาย แต่ทำลายโสตประสาททุกชีวิตในบริเวณนั่นด้วย รัศมี 15 กม. ที่มาว่าทำไมทหารมะกัน นาโต้ พิการไปกว่าครึ่งกองทัพ หลอนไปเลยมรึง ขนาดทหารรับจ้าง อย่างอี "น้ำดำ" ยังเคยออกมาให้ข่าวว่า "ไม่ไหวแล้ว รับไม่ได้" นี่ไม่ใช่สงคราม แต่มันคือการฆ่าตัวตายชัดๆ จ้างไอ้โง่ไปตายห่าไงล่ะ ไอ้สัส! อย่าคิดว่ามรึงจะรอด? ทั้งอีโปล อีสวิงกิ้ง อีฟินน์ อีลอนดอน ทุกอย่างมันปูทางไปหามรึงทั้งสิ้น WAGNER กระจายอยู่เต็มยุโรป อยากรู้ให้ไปถามลูคาเชนโก รู้ทะลุ ตับไตไส้พุง อีโปล หมดเกลี้ยง! แค่จะสั่งเก็บตอนไหน เท่านั้นเอง ISKANDER ว่าโหดแล้ว เกิดพ่วงหัวรบมินิคุ๊กกี้รสชาเชียวเข้าไปอีก กูบอกเลย อิ่มยันไปถึงชาติหน้า?

    ปล.ส่วนประเทศกูมี ประเทศสารขัณฑ์ ทรงมาแล้วจ๊ะ แผนลงถนนขับไล่รัฐบาลชาติชั่ว บอกก่อนเลยว่า "หมีจะออก ก็เพียงเรื่องวัง เท่านั้น" ใครมีแรง มีอยากเกิด ใครทนไม่ไหว จะไปร่วมก็ดูแลตัวเองหน่อย เพราะหมีอ่านเกมส์ทะลุแล้วว่า ไม่ต้องลงถนน ศาลไคฟงก็ฟันตายคาที่แล้ว แต่แผนนี้ที่เรียกขึ้นมา ก็เพื่อเร่งเวลาตายให้เร็วขึ้น เท่านั้นเอง ชงเพื่อสร้างสถานการณ์ บีบให้นำไปสู่การตัดสินใจครั้งใหญ่ของแผ่นดิน อย่าลืมว่า เสรีก็กำลังชงอยู่อีกเรื่อง ชั้น 14 ตายห่ายกแก๊งค์ ปปช.งานเข้า มรึงจะหมกเม็ดต่อไป แอบช่วยต่อ ไม่ได้อีกแล้ว โดนกันหมด เพราะงานนี้ ศาลใหญ่มาเอง? ยื่นทูลความเท็จ โทษหนักสถานใด ไม่ต้องบอก? ทุกอย่างที่มรึงเคยช้ำใจ นั่นแค่ละคร ที่วังชงให้ศาล เพื่อหาใบเสร็จ มาวันนี้ มรึงเข้าใจกันรึยัง? อะไรที่ให้ได้ ก็เอาคืนได้ กูพูดบ่อยไปป่ะ? ตัวพ่อไม่รอด แล้วตัวลูกสาวร่านจะเหลือเหรอ? คดีค้างไว้เพี๊ยบ ชงมาเป็น 100 รอตบแค่วันเดียว ไปหมดทั้งกะปิเหี้ย? ทุกอย่างคือละคร แต่ 10000 นึงได้จริง ควายปลื้ม 3 วันหมด ตามสติปัญญา มันไม่สนดอกว่า ใครเป็นคนจ่าย เพราะควายไม่มีจ่าย มีแต่ขอ? วังเมตตา โปรดสัด เดี๋ยวกูไปเอาคืนจากไอ้อีนักการเมืองเหี้ยเอง บทเค้าชงให้วังเป็นพระเอก พวกมรึงรอด! แต่ไอ้คนเซ็นต์ อนุมัติ เสนอนโยบาย คาคุกทั้งพรรค ทั้งคน เดี๋ยวมรึงได้เห็นแน่ มาพร้อมกันหมด 100 คดี เนื้อหาแก่นแท้มีแค่ "บ่อนทำลายแผ่นดิน ล้มวัง แยกดินแดน ชักศึกเข้าบ้าน" อยู่ดีดี คดีตากใบก็กลับมาเช็คบิลอีกครั้ง มันคือสัญญานบอกถึงอีบ้านเหี้ยส่องหล้าโดยตรงไงล่ะ? นิ่ง สงบ รอดูความเคลื่อนไหว ช่วงนี้ เหี้ยมันจะแฉกันเอง เชือดกันเอง สุดท้ายเขียวคาบไปแดร๊กตามใบสั่ง เพราะทุกอย่างเค้าขีดเขียนให้มรึงเดิน อีเหลี่ยมที่คิดว่าแน่ มรึงพลาดตั้งแต่เข้ามาเหยียบแผ่นดินสวรรค์แล้ว มันคือ "แสงทำงาน หลอกมาสำเร็จ" ตัวประกันอยู่ในมือ ยังไงก็ชนะ เพราะที่นี่มีแค่กติกาเดียว "ใต้พระบารมี" การโยกย้ายตำแหน่งสำคัญในกองทัพบกที่ผ่านมา คือภาพสะท้อนว่า กองทัพไทยรวมเป็น 1 เดียวกันหมดแล้ว ทหารขายชาติจะถูกเขี่ยทิ้ง ทหารล้มเจ้าจะถูกดองเค็มจนหมดวาระ เสธ.แดง ไม่ได้มามือเปล่า งวดนี้ ยกทั้ง 3 เหล่าทัพมาพร้อมกันขยี้เหี้ยล้างแผ่นดินกันไปเลย! เกมส์โลกกำลังเข้าทาง เกมส์ไทยกำลังเข้าตรีน อีจตุพรเนี่ยตัวชงเลย พาคนลงถนน ไม่มีใบสั่ง ใครจะนำ? ย้อนเกล็ดเหี้ยไงล่ะ รู้ทางกันดี PUT THE RIGHT MAN ON THE RIGHT JOB ทหารเค้าเป็นงานไม่ต้องสอนดอก? จำไว้ว่า ละครลงถนน แค่หน้าฉาก เพื่อเงื่อนไขการนำไปสู่ "รัฐประหาร" เวลาของมรึง หมดแล้ว! ภาพใหญ่ตอนนี้ ยิ่งตะวันออกกลางเดือดมากเท่าไหร่ ยุโรปยิ่งยวบลงมากเท่านั้น เพราะต้องเติมไม่อั้น เติมไม่หยุด เพราะอีเหี้ยมะกันมันเจ๊งแล้ว สุดท้ายก็นำไปสู่การแยกย้าย แตก NATO แตก EU เพราะทั้งโลกเดินตามขั้วใหม่หมดแล้ว มรึงยังจะเหลือใครในองค์กรสากลตอแหลบัดซบอีก? สงครามแค่หน้าฉาก ของจริงคือใครคุมปัจจัย 4 โลก? มันจบแล้วครับนาย! ย้ำอีกที "สงครามข่าวสาร" ไม่รู้ที่มา อย่าเชื่อ สื่อเหี้ยยิวรายงาน ให้ตีเป็น 0 ดูของจริง ผลลัพธ์จริง และใครได้ประโยชน์? จะจับทางได้ไม่ยาก ทุกอย่างไม่มีของฟรี โลกต้องจ่าย เพื่อเปลี่ยน เช่นกัน!

    หมี CNN(เมื่อวานไม่ได้โพส ไม่ว่างจ๊ะ แถมไม่มีอารมณ์ เตรียมจะเขียนตอนเย็นแล้ว แต่เปลี่ยนใจ เพราะมันไร้อารมณ์ ตื่นมาเช้านี้ เห็น หงส์แดงจ่าฝูง เลยมีอารมณ์เขียนทันที สรุปคือ "หมาจะกัดกัน อย่าเข้าไปห้าม" ปล่อยให้โลกกำจัดสิ่งชั่วร้ายด้วยตัวมันเอง กลียุคใกล้จะจบลงแล้ว ทุกความระยำ ชาติชั่ว ที่เห็นในชาตินี้ มันจะหมดไป แล้วตามมาเกิดใหม่อีก 100 ปีข้างหน้า ดังนั้น หากมรึงเป็นอมตะ มรึงจะเห็นวัฎจักรจักรวาลเวียนว่ายไม่รู้จบ ดังนั้น อย่าอินเยอะ ปล่อยให้มันเป็นไปซะ ใครก็ห้ามไม่ได้ อียิวตายโหงชัวร์!)
    06 ตุลาคม 67
    10.58 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u


    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    06-10-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.3 เป็นไงล่ะ? อีโครแอต เตรียมชิ่ง ยุโรปตะวันออกก่อกบฎ ไม่เอา NATO ไม่รบรัสเซีย เดี๋ยวมรึงจะได้เห็นอสรพิษอีกเยอะ ไอ้ที่รอ เค้ารอมรึงฉิบหายก่อน เมื่ออ่อนยวบ ก็ไม่มีแรงจะมาขู่กูได้อีก สัญญานยุโรปตะวันออกแยกตัวเริ่มชัด! หลังรัสเซียยึดยูเครนเบ็ดเสร็จแล้ว แบบไม่เป็นทางการ เชื่อมเส้นทางลำเลียงไคร์เมียร์ฉลุย ยิ่งทำให้ไคร์เมียร์มีแผ่นดินเชื่อมต่อง่ายขึ้น ฐานทัพรัสเซียโยกเข้าไปแทนที่แล้ว มรึงเสร็จ! อยู่ที่ว่าจะกินพื้นที่เท่าไหร่ดี เอาแม่งให้หมดทั้งแผ่นดินเพื่อเป็นเกาะกันชนเลยดีมุย? อีโปลหนาวสุดตรีน เมื่อยูเครนไป แล้วอีโปลเสี้ยนจะทำสงครามต่อ เท่ากับยื่นใบเสร็จเส้นทางท่อแก็สอาร์คติคให้ปูตินนั่นเอง หากฉลาด ประกาศยุติสงคราม หันมาจับมือรัสเซีย อาจจะยังเหลือประเทศโปแลนด์อยู่? แต่คนยาก เพราะอียิวเหี้ยไซออนนิสต์มันกลืนอีโปลมาเป็นชาติแล้ว แผ่นดินที่เต็มไปด้วยอียิว ยิ่งแผ่นดินแม่เยรูซาเล็มใกล้แตก มรึงจะไปหาที่อพยพที่ไหนได้อีกล่ะ? ปล่อยข่าวอีล่ะ? อียิวเหี้ยไม่มีอะไรนอกจากปั่นหัวควาย กระแสล่อนุ๊กใส่เลบานอน เค้ารออยู่ อาวุธเหี้ยมะกันทั้งนั้น ปฎิเสธไม่ได้ มรึงมีส่วนทุกสงครามที่เกิด ดอกนี้ จะสมหวัง 3 ประการ 1.อียิวโดนหนักถึงขัดแผ่นดินแตก 2.อีวอชิงตันจะดิ้นพล่าน ฐานทัพเหี้ยทั่วโลกถูกลงแขก จัดหนัก 3.เกมส์ยุโรปปิดเกมส์เร็ว เพราะไม่เหลือใครเติมอาวุธให้อีกแล้ว ต่างป้องกันตัวเองสิ้น เฮซบอเลาะห์มีอาวุธไฮเทครุ่นใหม่ครบ พูดง่ายๆ ใครที่อิหร่านส่งเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน? จะได้ของครบมือทั้งสิ้น ไม่ใช่แค่นั้น อาวุธไฮเทค ต้องใช้เวลาฝึกฝนและเรียนรู้เยอะ ใครล่ะ? ควบคุมบังคับการใช้งาน หากไม่ใช่ WAGNER ใช่แล้ว ผีพริโกซินล่องลอยไปตามอากาศ หลอกหลอนเหี้ยยิวทุกสมรภูมิรบ? รัสเซีย จีน อิหร่าน วางแผนหลายชั้น ไม่ใช่ให้เดาทางง่ายดอกน่ะ ดูภาพรวมแล้วจะเข้าใจ สงครามในเยรูซาเล็ม มีเพื่อตัดกำลังเหี้ย NATO เพื่อที่ปูตินจะเขมือบยูเครนง่ายดาย แถมตัดกำลังพล อาวุธ คลังแสง คลังเงิน จนยุโรปถังแตกไปทั่ว แค่หาพลังงานใช้ยังยาก ต้องจ่ายเป็นรูเบิล? ที่มาว่า EU ถอยหมด แล้ว NATO จะเหลือใคร? ทุกอย่างมันเชื่อมโยงกันหมด โจมตีที่ไหน เพื่อเป้าหมายที่อื่น? ไม่ใช่เหี้ยขี้ข้ามะกันจะไม่ช่วยลวกเพ่ใหญ่ยิวดอกน่ะ แต่มันไม่เหลืออะไรแล้ว? ล่าสุด อีเอ๋อ(ตัวโคลน) ส่งสัญญานชัด แผนเด็ดหัวอีทรัมปป์ เดาไม่ยากดอก จะมีเลือกตั้งหรือไม่ ไม่สำคัญ เป้าหมายแท้จริงคือนำอเมริกาไปตายโหงตายห่าในสงครามต่างหากล่ะ ตายไม่ถึงล้าน อียิวไม่มีสิทธิ์เข้า ต้องให้แตกเป็นเสี่ยงๆ แยกรัฐย่อย อียิวถึงจะได้แผ่นดินมาตั้งต้นรัฐยิวใหม่ นิวยอร์ค แคลิฟอร์เนีย เสร็จอียิวชัวร์! แผนพลิกน่ะสิ เพราะโลกต่อต้านอียิวกันสุดโต่งแล้ว เลือกตั้งอเมริกาแค่ละคร อีตาเพนเตรียมปฎิวัติแล้วจ๊ะ CIVIL WAR ต้องมา ไม่ต้องให้มรึงมาฆ่า เดี๋ยวพวกกูจะฆ่ากันเองโชว์ให้มรึงดู? สู้กับมรึง มีแต่ตายโหงกับตายห่า แต่สู้กับควายมะกันด้วยกันเอง ชนะใสใส เพราะกูเก่งแต่ของกระจอกไงล่ะ? มรึงเอาดิ? F-35 หันหัวกลับหลังรู้ว่าถูกล็อคเป้า จะลอบกัดโจมตีอิหร่าน ไม่ง่ายดอก หากไม่อนุญาตให้จัดฉาก เพราะความเป็นจริง S-400/S-350s รอดักอยู่ SU-35s ก็มีทั้งฝูง แถมรัสเซียเพิ่งส่งปืนเลเซอร์ รัศมี 4 กม. ตัวจี๊ด ทำลายโดรนได้อย่างไวพร้อมกัน ล่าสุด รัสเซียคุ้มกันเครื่องบินบรรทุกหนักไปส่งถึงกรุงเบรุต ไม่ต้องเดา ของดี ของหนักมาครบ เฮซบอเลาะห์ถึงได้มั่นใจ งวดนี้ กูเอาจริง! ภาพข่าวทั่วโลกถูกสื่อปลอมยิวหลอกควายไปโฟกัสยิวถล่มเลบานอน แต่ของจริง อียิวนอนตายพะงาบพะงาบ มรึงดูภาพรวม อีเบียร์ทรุดทั้งเศรษฐกิจ การคลัง การทหาร อีเศษฝรั่งถอย เพราะรู้ดีว่า งานนี้จะต้องแลกด้วยอะไร? เพราะปูตินเบื่ออีน้ำเน่ามว๊าก ตอแหลไม่เลิก! อาวุธหนักทุกชิ้นของรัสเซียตอนนี้ พ่วงไฮเปอร์โซนิค 8-15 มัค ทั้งหมด ไม่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศใดของชาติเหี้ยจะสกัดได้ เหมือนที่อิหร่านทำให้ดู ลงกลางหัวเทลอาวีฟจนแถไม่ออก! โลกอาหรับยกพลขึ้นบกแล้ว โดยเสริมกำลังไปทางเลบานอน ซีเรีย อิรัก ปูพรมเข้า 3 ทิศทาง ลูกยาวนำ ภาคพื้นเก็บงาน อียิวถูกบีบให้ถอยไปตอนกลาง อยู่รวมกันที่นั่น เท่ากับว่ามรึงถูกล้อมนอก ล้อมใน จนไม่มีทางถอย เยเมนคือคีย์สำคัญ ที่จะเปิดทางให้ทั้ง 3 กองรบได้ไปเจอะหน้ากันในเวสต์แบงค์ อิหร่านแต่คุมเกมส์ข้างนอก ปิดไม่ให้เรือเหี้ยมะกันเข้ามาช่วยอียิวได้ เรือรบรัสเซีย จีน อยู่ในทะลดำ สามารถยิงสกัดอาวุธยาวได้ อิหร่านมีระบบป้องกันภัยทางอากาศ ล่ออียิวได้ทุกเมื่อ ที่ผ่านมา คือปล่อยให้มันถล่มแค่หน้าฉาก ประปราย เพื่อเอาใบเสร็จโลกเท่านั้นเอง ส่วนแผนผู้นำแห่กันตายถี่ ตายแล้วตายอีก ก็เพื่อจะสับราง ไม่ให้เหี้ยเดาทางถูก เพราะคนใหม่มา คือเพชรฆาต ไม่พูดเยอะ สั่งลุยท่าเดียว ยังต้องมีผู้นำตายห่าอีกต่อเนื่อง ก็เพื่อความปลอดภัย และลดการจับตาจากฝ่ายตรงกันข้าม เวลาเดินทางไปไหนมาไหนมันรู้หมด เปลี่ยนกล้องจับตา สายลับให้ไปที่อื่นแทน นี่คือ "สงคราม" ยามศึก ไม่สนวิธีการ เพื่อเป้าหมายใหญ่ งัดมาใช้ได้หมด! ช่วงนี้ ใช้ตัวโคลนเปลือง เพราะเกมส์มันหลายชั้นน่ะจ๊ะ? สิ่งที่เหี้ยไม่รู้เลยคือ ขั้วใหม่เค้ารู้อาวุธมรึงหมดเกลี้ยง เอาไปโชว์พิพิธภัณฑ์ของกระจอกที่มอสโคว์ทั้ง NATO แต่อาวุธรุ่นใหม่ของอิหร่าน จีน รัสเซีย ยังออกมาไม่เท่าไหร่ ส่วนใหญ่ใช้ทดสอบกับมรึงผ่านเฮซบอเลาะห์ ฮูตี เนี่ยแหละ รู้ตัวมั้ยว่า มรึงมีค่าแค่หนูทดลองอาวุธ? อาวุธรัสเซียโหดสุด ไม่ใช่แค่ทำลายพื้นที่เป้าหมาย แต่ทำลายโสตประสาททุกชีวิตในบริเวณนั่นด้วย รัศมี 15 กม. ที่มาว่าทำไมทหารมะกัน นาโต้ พิการไปกว่าครึ่งกองทัพ หลอนไปเลยมรึง ขนาดทหารรับจ้าง อย่างอี "น้ำดำ" ยังเคยออกมาให้ข่าวว่า "ไม่ไหวแล้ว รับไม่ได้" นี่ไม่ใช่สงคราม แต่มันคือการฆ่าตัวตายชัดๆ จ้างไอ้โง่ไปตายห่าไงล่ะ ไอ้สัส! อย่าคิดว่ามรึงจะรอด? ทั้งอีโปล อีสวิงกิ้ง อีฟินน์ อีลอนดอน ทุกอย่างมันปูทางไปหามรึงทั้งสิ้น WAGNER กระจายอยู่เต็มยุโรป อยากรู้ให้ไปถามลูคาเชนโก รู้ทะลุ ตับไตไส้พุง อีโปล หมดเกลี้ยง! แค่จะสั่งเก็บตอนไหน เท่านั้นเอง ISKANDER ว่าโหดแล้ว เกิดพ่วงหัวรบมินิคุ๊กกี้รสชาเชียวเข้าไปอีก กูบอกเลย อิ่มยันไปถึงชาติหน้า? ปล.ส่วนประเทศกูมี ประเทศสารขัณฑ์ ทรงมาแล้วจ๊ะ แผนลงถนนขับไล่รัฐบาลชาติชั่ว บอกก่อนเลยว่า "หมีจะออก ก็เพียงเรื่องวัง เท่านั้น" ใครมีแรง มีอยากเกิด ใครทนไม่ไหว จะไปร่วมก็ดูแลตัวเองหน่อย เพราะหมีอ่านเกมส์ทะลุแล้วว่า ไม่ต้องลงถนน ศาลไคฟงก็ฟันตายคาที่แล้ว แต่แผนนี้ที่เรียกขึ้นมา ก็เพื่อเร่งเวลาตายให้เร็วขึ้น เท่านั้นเอง ชงเพื่อสร้างสถานการณ์ บีบให้นำไปสู่การตัดสินใจครั้งใหญ่ของแผ่นดิน อย่าลืมว่า เสรีก็กำลังชงอยู่อีกเรื่อง ชั้น 14 ตายห่ายกแก๊งค์ ปปช.งานเข้า มรึงจะหมกเม็ดต่อไป แอบช่วยต่อ ไม่ได้อีกแล้ว โดนกันหมด เพราะงานนี้ ศาลใหญ่มาเอง? ยื่นทูลความเท็จ โทษหนักสถานใด ไม่ต้องบอก? ทุกอย่างที่มรึงเคยช้ำใจ นั่นแค่ละคร ที่วังชงให้ศาล เพื่อหาใบเสร็จ มาวันนี้ มรึงเข้าใจกันรึยัง? อะไรที่ให้ได้ ก็เอาคืนได้ กูพูดบ่อยไปป่ะ? ตัวพ่อไม่รอด แล้วตัวลูกสาวร่านจะเหลือเหรอ? คดีค้างไว้เพี๊ยบ ชงมาเป็น 100 รอตบแค่วันเดียว ไปหมดทั้งกะปิเหี้ย? ทุกอย่างคือละคร แต่ 10000 นึงได้จริง ควายปลื้ม 3 วันหมด ตามสติปัญญา มันไม่สนดอกว่า ใครเป็นคนจ่าย เพราะควายไม่มีจ่าย มีแต่ขอ? วังเมตตา โปรดสัด เดี๋ยวกูไปเอาคืนจากไอ้อีนักการเมืองเหี้ยเอง บทเค้าชงให้วังเป็นพระเอก พวกมรึงรอด! แต่ไอ้คนเซ็นต์ อนุมัติ เสนอนโยบาย คาคุกทั้งพรรค ทั้งคน เดี๋ยวมรึงได้เห็นแน่ มาพร้อมกันหมด 100 คดี เนื้อหาแก่นแท้มีแค่ "บ่อนทำลายแผ่นดิน ล้มวัง แยกดินแดน ชักศึกเข้าบ้าน" อยู่ดีดี คดีตากใบก็กลับมาเช็คบิลอีกครั้ง มันคือสัญญานบอกถึงอีบ้านเหี้ยส่องหล้าโดยตรงไงล่ะ? นิ่ง สงบ รอดูความเคลื่อนไหว ช่วงนี้ เหี้ยมันจะแฉกันเอง เชือดกันเอง สุดท้ายเขียวคาบไปแดร๊กตามใบสั่ง เพราะทุกอย่างเค้าขีดเขียนให้มรึงเดิน อีเหลี่ยมที่คิดว่าแน่ มรึงพลาดตั้งแต่เข้ามาเหยียบแผ่นดินสวรรค์แล้ว มันคือ "แสงทำงาน หลอกมาสำเร็จ" ตัวประกันอยู่ในมือ ยังไงก็ชนะ เพราะที่นี่มีแค่กติกาเดียว "ใต้พระบารมี" การโยกย้ายตำแหน่งสำคัญในกองทัพบกที่ผ่านมา คือภาพสะท้อนว่า กองทัพไทยรวมเป็น 1 เดียวกันหมดแล้ว ทหารขายชาติจะถูกเขี่ยทิ้ง ทหารล้มเจ้าจะถูกดองเค็มจนหมดวาระ เสธ.แดง ไม่ได้มามือเปล่า งวดนี้ ยกทั้ง 3 เหล่าทัพมาพร้อมกันขยี้เหี้ยล้างแผ่นดินกันไปเลย! เกมส์โลกกำลังเข้าทาง เกมส์ไทยกำลังเข้าตรีน อีจตุพรเนี่ยตัวชงเลย พาคนลงถนน ไม่มีใบสั่ง ใครจะนำ? ย้อนเกล็ดเหี้ยไงล่ะ รู้ทางกันดี PUT THE RIGHT MAN ON THE RIGHT JOB ทหารเค้าเป็นงานไม่ต้องสอนดอก? จำไว้ว่า ละครลงถนน แค่หน้าฉาก เพื่อเงื่อนไขการนำไปสู่ "รัฐประหาร" เวลาของมรึง หมดแล้ว! ภาพใหญ่ตอนนี้ ยิ่งตะวันออกกลางเดือดมากเท่าไหร่ ยุโรปยิ่งยวบลงมากเท่านั้น เพราะต้องเติมไม่อั้น เติมไม่หยุด เพราะอีเหี้ยมะกันมันเจ๊งแล้ว สุดท้ายก็นำไปสู่การแยกย้าย แตก NATO แตก EU เพราะทั้งโลกเดินตามขั้วใหม่หมดแล้ว มรึงยังจะเหลือใครในองค์กรสากลตอแหลบัดซบอีก? สงครามแค่หน้าฉาก ของจริงคือใครคุมปัจจัย 4 โลก? มันจบแล้วครับนาย! ย้ำอีกที "สงครามข่าวสาร" ไม่รู้ที่มา อย่าเชื่อ สื่อเหี้ยยิวรายงาน ให้ตีเป็น 0 ดูของจริง ผลลัพธ์จริง และใครได้ประโยชน์? จะจับทางได้ไม่ยาก ทุกอย่างไม่มีของฟรี โลกต้องจ่าย เพื่อเปลี่ยน เช่นกัน! หมี CNN(เมื่อวานไม่ได้โพส ไม่ว่างจ๊ะ แถมไม่มีอารมณ์ เตรียมจะเขียนตอนเย็นแล้ว แต่เปลี่ยนใจ เพราะมันไร้อารมณ์ ตื่นมาเช้านี้ เห็น หงส์แดงจ่าฝูง เลยมีอารมณ์เขียนทันที สรุปคือ "หมาจะกัดกัน อย่าเข้าไปห้าม" ปล่อยให้โลกกำจัดสิ่งชั่วร้ายด้วยตัวมันเอง กลียุคใกล้จะจบลงแล้ว ทุกความระยำ ชาติชั่ว ที่เห็นในชาตินี้ มันจะหมดไป แล้วตามมาเกิดใหม่อีก 100 ปีข้างหน้า ดังนั้น หากมรึงเป็นอมตะ มรึงจะเห็นวัฎจักรจักรวาลเวียนว่ายไม่รู้จบ ดังนั้น อย่าอินเยอะ ปล่อยให้มันเป็นไปซะ ใครก็ห้ามไม่ได้ อียิวตายโหงชัวร์!) 06 ตุลาคม 67 10.58 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนทันยาฮูประกาศจะเอาชนะ "กลุ่มตัวแทนอิหร่าน" โดยไม่ต้องให้ประเทศต่างๆเข้ามาช่วยเหลือ

    🤣"ในขณะที่อิสราเอลกำลังต่อสู้กับกองกำลังป่าเถื่อนที่นำโดยอิหร่าน, ประเทศที่เจริญแล้วทุกประเทศต้องยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอลอย่างมั่นคง อย่างไรก็ตาม, ประธานาธิบดี [เอ็มมานูเอล] มาครง [ฝรั่งเศส] และผู้นำชาติตะวันตกคนอื่นๆ เรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรอาวุธต่ออิสราเอล พวกเขาน่าอับอายมาก... อิสราเอลจะชนะไม่ว่าจะได้รับการสนับสนุนหรือไม่ก็ตาม,"🤣 นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวในการปราศรัยต่อประเทศชาติ

    ก่อนหน้านี้, มาครงกล่าวว่าเขาสนับสนุนการระงับการส่งอาวุธให้กับอิสราเอล, ซึ่งใช้สำหรับปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซา, และเรียกร้องให้การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นลำดับความสำคัญในการแก้ไขความตึงเครียดในภูมิภาค
    .
    NETANYAHU VOWS TO DEFEAT 'IRANIAN PROXIES' WITHOUT HELP OF NATIONS MULLING ARMS EMBARGO

    "While Israel is fighting the forces of barbarism led by Iran, all civilized nations must stand firmly by Israel's side. However, [French] President [Emmanuel] Macron and other Western leaders are calling for an arms embargo on Israel. Shame on them ... Israel will win with or without their support," Israeli Prime Minister Benjamin Netanyahu said in his address to the nation.

    Earlier, Macron said he stood in favor of suspending arms supplies to Israel, which is used for military operations in the Gaza Strip, and called such a move a priority for resolving tensions in the region.
    .
    12:55 PM · Oct 6, 2024 · 1,594 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1842805941391008183
    เนทันยาฮูประกาศจะเอาชนะ "กลุ่มตัวแทนอิหร่าน" โดยไม่ต้องให้ประเทศต่างๆเข้ามาช่วยเหลือ 🤣"ในขณะที่อิสราเอลกำลังต่อสู้กับกองกำลังป่าเถื่อนที่นำโดยอิหร่าน, ประเทศที่เจริญแล้วทุกประเทศต้องยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอลอย่างมั่นคง อย่างไรก็ตาม, ประธานาธิบดี [เอ็มมานูเอล] มาครง [ฝรั่งเศส] และผู้นำชาติตะวันตกคนอื่นๆ เรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรอาวุธต่ออิสราเอล พวกเขาน่าอับอายมาก... อิสราเอลจะชนะไม่ว่าจะได้รับการสนับสนุนหรือไม่ก็ตาม,"🤣 นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวในการปราศรัยต่อประเทศชาติ ก่อนหน้านี้, มาครงกล่าวว่าเขาสนับสนุนการระงับการส่งอาวุธให้กับอิสราเอล, ซึ่งใช้สำหรับปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซา, และเรียกร้องให้การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นลำดับความสำคัญในการแก้ไขความตึงเครียดในภูมิภาค . NETANYAHU VOWS TO DEFEAT 'IRANIAN PROXIES' WITHOUT HELP OF NATIONS MULLING ARMS EMBARGO "While Israel is fighting the forces of barbarism led by Iran, all civilized nations must stand firmly by Israel's side. However, [French] President [Emmanuel] Macron and other Western leaders are calling for an arms embargo on Israel. Shame on them ... Israel will win with or without their support," Israeli Prime Minister Benjamin Netanyahu said in his address to the nation. Earlier, Macron said he stood in favor of suspending arms supplies to Israel, which is used for military operations in the Gaza Strip, and called such a move a priority for resolving tensions in the region. . 12:55 PM · Oct 6, 2024 · 1,594 Views https://x.com/SputnikInt/status/1842805941391008183
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚡🇮🇷 พลเอกอามีร์-อาลี ฮัจจิซาเดห์:

    เร็วๆนี้ เราจะนำสิ่งที่มากกว่าโดรน, ขีปนาวุธ และเทคโนโลยีนิวเคลียร์มาวางบนโต๊ะ เพื่อเปลี่ยนแปลงสมการทั้งหมด
    .
    ⚡🇮🇷 General Amir-Ali Hajizadeh:

    We will soon put on the table something more than drones, missiles and nuclear technology that will change all the equations.
    .
    11:44 AM · Oct 6, 2024 · 2,156 Views
    https://x.com/Monitor1514/status/1842787870756774376
    ⚡🇮🇷 พลเอกอามีร์-อาลี ฮัจจิซาเดห์: เร็วๆนี้ เราจะนำสิ่งที่มากกว่าโดรน, ขีปนาวุธ และเทคโนโลยีนิวเคลียร์มาวางบนโต๊ะ เพื่อเปลี่ยนแปลงสมการทั้งหมด . ⚡🇮🇷 General Amir-Ali Hajizadeh: We will soon put on the table something more than drones, missiles and nuclear technology that will change all the equations. . 11:44 AM · Oct 6, 2024 · 2,156 Views https://x.com/Monitor1514/status/1842787870756774376
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลโจมตีสถานีบริการน้ำมัน TotalEnergies บริษัทข้ามชาติสัญชาติฝรั่งเศสในกรุงเบรุต

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ เอ็มมานูเอล มาครง สั่งห้ามส่งความช่วยเหลือทางทหารให้กับอิสราเอล

    🤣เนทันยาฮู เป็นโรคจิต และตอนนี้เขากำลังโจมตีบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งของฝรั่งเศส...🤣 🇫🇷🇮🇱
    .
    BREAKING🚨

    Israel has targeted *FRENCH* Multinational Company TotalEnergies gas station in Beirut.

    This comes after Emmanuel Macron BANNED military aid to Israel.

    Netanyahu is a psychopath and has now targeted a major French company…🇫🇷🇮🇱
    .
    5:51 AM · Oct 6, 2024 · 2.4M Views
    https://x.com/Resist_05/status/1842699165161099383
    อิสราเอลโจมตีสถานีบริการน้ำมัน TotalEnergies บริษัทข้ามชาติสัญชาติฝรั่งเศสในกรุงเบรุต เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ เอ็มมานูเอล มาครง สั่งห้ามส่งความช่วยเหลือทางทหารให้กับอิสราเอล 🤣เนทันยาฮู เป็นโรคจิต และตอนนี้เขากำลังโจมตีบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งของฝรั่งเศส...🤣 🇫🇷🇮🇱 . BREAKING🚨 Israel has targeted *FRENCH* Multinational Company TotalEnergies gas station in Beirut. This comes after Emmanuel Macron BANNED military aid to Israel. Netanyahu is a psychopath and has now targeted a major French company…🇫🇷🇮🇱 . 5:51 AM · Oct 6, 2024 · 2.4M Views https://x.com/Resist_05/status/1842699165161099383
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • 🇮🇱🇫🇷 นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เนทันยาฮู โจมตีประธานาธิบดีมาครงแห่งฝรั่งเศส หลังจากเขาเรียกร้องให้หยุดการส่งอาวุธไปให้อิสราเอลเพื่อนำไปใช้ในฉนวนกาซา

    "น่าละอายจริงๆ อิสราเอลจะต้องชนะ, ไม่ว่าจะได้รับการสนับสนุนหรือไม่ก็ตาม"
    .
    JUST IN: 🇮🇱🇫🇷 Israeli Prime Minister Netanyahu slams French President Macron after he called for a halt in sending weapons to Israel for use in Gaza.

    "What a disgrace. Israel will win, with or without their support."
    .
    From Benjamin Netanyahu - בנימין נתניהו
    1:44 AM · Oct 6, 2024 · 334.4K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1842636909245329449
    🇮🇱🇫🇷 นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เนทันยาฮู โจมตีประธานาธิบดีมาครงแห่งฝรั่งเศส หลังจากเขาเรียกร้องให้หยุดการส่งอาวุธไปให้อิสราเอลเพื่อนำไปใช้ในฉนวนกาซา "น่าละอายจริงๆ อิสราเอลจะต้องชนะ, ไม่ว่าจะได้รับการสนับสนุนหรือไม่ก็ตาม" . JUST IN: 🇮🇱🇫🇷 Israeli Prime Minister Netanyahu slams French President Macron after he called for a halt in sending weapons to Israel for use in Gaza. "What a disgrace. Israel will win, with or without their support." . From Benjamin Netanyahu - בנימין נתניהו 1:44 AM · Oct 6, 2024 · 334.4K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1842636909245329449
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • ญี่ปุ่นเอามั่ง! เปิดตัว คาปิฯ "แฝด 3" ที่สวนสัตว์ฟุกุโอกะ หวังดึงดูดนักท่องเที่ยว
    .
    สัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อญี่ปุ่นต่างรายงานว่าที่สวนสัตว์อุมิโนะนากามิจิ ในฟุกุโอกะ บนเกาะคิวชู ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ได้เมีการเผยโฉมเปิดตัวลูกคาปิบาราแฝด 3 อายุเพียงเดือนกว่า ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชม
    .
    สำหรับลูกคาปิบาราเกิดใหม่ทั้ง 3 ตัวนั้นเกิดเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ณ สวนสัตว์อุมิโนะนากามิจิ (Uminonakamichi Seaside Park) โดยแรกเกิดมีความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร และน้ำหนักราว 1.5 กิโลกรัม
    .
    อิริเอะ ฮิคารุ ผู้ดูแลกล่าวว่า ลูกคาปิบาร่าแฝด 3 มีลักษณะที่แตกต่างกันมาก โดยตัวหนึ่งมีลักษณะที่ค่อนข้างซุกซน ส่วนอีกตัวนึงค่อนข้างชิล ๆ พร้อมกล่าวว่าอยากให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสวนสัตว์ได้เห็นคาปิบาร่ากระโดดโลดเต้นไปมา และหวังว่าบรรดาลูก ๆ คาปิฯ เมื่อโตกว่านี้จะคุ้นเคยกับมนุษย์
    .
    อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันยังไม่มีการตั้งชื่อ ลูกคาปิบาร่าแฝด 3 แต่อย่างใด
    .
    สำหรับคาปิบรารา (Capybara) ถือเป็นสัตว์ฟันแทะขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีเชื้อสายใกล้ชิดกับ หนูตะเภา โดยถิ่นอาศัยของมันอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ ในสะวันนาและป่าหนาทึบใกล้กับแหล่งน้ำ เป็นสัตว์สังคมที่อยู่รวมกันเป็นฝูงจำนวนมาก อาจพบได้มากถึง 100 ตัว แต่ส่วนมากจะอยู่เป็นฝูงราว 10-20 ตัว ทั้งนี้ คาปิบาราเมื่อโตเต็มที่อายุ 15–18 เดือน จะมีน้ำหนักมากถึง 35 ถึง 66 กิโลกรัม โดยลำตัวอาจยาวได้ถึงราว 45-60 เซนติเมตร
    .
    .
    ชมคลิปวีดิโอความน่ารักของ คาปิฯ แฝด 3 ที่สวนสัตว์ฟุกุโอกะได้ที่ >> https://www.youtube.com/watch?v=NMNJADrkjI4
    ญี่ปุ่นเอามั่ง! เปิดตัว คาปิฯ "แฝด 3" ที่สวนสัตว์ฟุกุโอกะ หวังดึงดูดนักท่องเที่ยว . สัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อญี่ปุ่นต่างรายงานว่าที่สวนสัตว์อุมิโนะนากามิจิ ในฟุกุโอกะ บนเกาะคิวชู ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ได้เมีการเผยโฉมเปิดตัวลูกคาปิบาราแฝด 3 อายุเพียงเดือนกว่า ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชม . สำหรับลูกคาปิบาราเกิดใหม่ทั้ง 3 ตัวนั้นเกิดเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ณ สวนสัตว์อุมิโนะนากามิจิ (Uminonakamichi Seaside Park) โดยแรกเกิดมีความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร และน้ำหนักราว 1.5 กิโลกรัม . อิริเอะ ฮิคารุ ผู้ดูแลกล่าวว่า ลูกคาปิบาร่าแฝด 3 มีลักษณะที่แตกต่างกันมาก โดยตัวหนึ่งมีลักษณะที่ค่อนข้างซุกซน ส่วนอีกตัวนึงค่อนข้างชิล ๆ พร้อมกล่าวว่าอยากให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสวนสัตว์ได้เห็นคาปิบาร่ากระโดดโลดเต้นไปมา และหวังว่าบรรดาลูก ๆ คาปิฯ เมื่อโตกว่านี้จะคุ้นเคยกับมนุษย์ . อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันยังไม่มีการตั้งชื่อ ลูกคาปิบาร่าแฝด 3 แต่อย่างใด . สำหรับคาปิบรารา (Capybara) ถือเป็นสัตว์ฟันแทะขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีเชื้อสายใกล้ชิดกับ หนูตะเภา โดยถิ่นอาศัยของมันอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ ในสะวันนาและป่าหนาทึบใกล้กับแหล่งน้ำ เป็นสัตว์สังคมที่อยู่รวมกันเป็นฝูงจำนวนมาก อาจพบได้มากถึง 100 ตัว แต่ส่วนมากจะอยู่เป็นฝูงราว 10-20 ตัว ทั้งนี้ คาปิบาราเมื่อโตเต็มที่อายุ 15–18 เดือน จะมีน้ำหนักมากถึง 35 ถึง 66 กิโลกรัม โดยลำตัวอาจยาวได้ถึงราว 45-60 เซนติเมตร . . ชมคลิปวีดิโอความน่ารักของ คาปิฯ แฝด 3 ที่สวนสัตว์ฟุกุโอกะได้ที่ >> https://www.youtube.com/watch?v=NMNJADrkjI4
    Like
    Haha
    Yay
    Wow
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇮🇷 อิหร่านกล่าวว่า "ไม่มีการหยุดยิงถาวรในฉนวนกาซา, ก็จะไม่มีการหยุดยิงในเลบานอน; ฮิซบุลเลาะห์จะสู้รบจนกว่าปาเลสไตน์จะสงบสุข ไม่มีการประนีประนอมใดๆ"
    .
    🇮🇷 Iran's says "without a permanent ceasefire in Gaza, there will be no ceasefire in Lebanon; Hezbollah will fight until Palestine is at peace. No compromises."
    .
    5:27 AM · Oct 5, 2024 · 238.7K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1842330669281665100
    🇮🇷 อิหร่านกล่าวว่า "ไม่มีการหยุดยิงถาวรในฉนวนกาซา, ก็จะไม่มีการหยุดยิงในเลบานอน; ฮิซบุลเลาะห์จะสู้รบจนกว่าปาเลสไตน์จะสงบสุข ไม่มีการประนีประนอมใดๆ" . 🇮🇷 Iran's says "without a permanent ceasefire in Gaza, there will be no ceasefire in Lebanon; Hezbollah will fight until Palestine is at peace. No compromises." . 5:27 AM · Oct 5, 2024 · 238.7K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1842330669281665100
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอเชิญประชาชนเฝ้ารับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทอดพระเนตรการแข่งขันการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรไทย-จีน
    ในโอกาสนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ลงแข่งขันในนามทีมชาติไทย ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 6 ตุลาคม 2567 เวลา 18.00 น. ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ทั้งสองประเทศมีสัมพันธ์ไมตรีที่ดีกันมาอย่างยาวนาน

    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB: สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 4 กรมประชาสัมพันธ์
    ขอเชิญประชาชนเฝ้ารับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทอดพระเนตรการแข่งขันการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรไทย-จีน ในโอกาสนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ลงแข่งขันในนามทีมชาติไทย ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 6 ตุลาคม 2567 เวลา 18.00 น. ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ทั้งสองประเทศมีสัมพันธ์ไมตรีที่ดีกันมาอย่างยาวนาน #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB: สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 4 กรมประชาสัมพันธ์
    Love
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เป็นอีกครั้งที่ออกมาประกาศจะตอบโต้อิหร่านที่รัวยิงขีปนาวุธแก้แค้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา อ้างว่าประเทศของเขามีสิทธิทำเช่นนั้น และในความเคลื่อนไหวสอดรับกัน ทางกองทัพอิสราเอลเผยว่าพวกเขาอยู่ระหว่างเตรียมการแก้แค้น
    .
    ระหว่างปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ (5 ต.ค.) เนทันยาฮู เน้นย้ำว่าอิสราเอลจะตอบโต้การโจมตีของอิหร่าน "อิหร่านยิงขีปนาวุธหลายร้อยลูกเข้าใส่ดินแดนและเมืองต่างๆ ของเราถึง 2 รอบ มันเป็นหนึ่งในการโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์" เขากล่าว อ้างถึงเหตุโจมตีในสัปดาห์นี้ และเหตุโจมตีก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเมษายน
    .
    เขากล่าวต่อว่า "อิสราเอลมีหน้าที่และมีสิทธิปกป้องตนเอง และตอบโต้เหตุโจมตีเหล่านี้ และเราจะทำเช่นนั้น"
    .
    คำประกาศของเนทันยาฮู ในขึ้นพร้อมๆ กับที่ เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของอิสราเอลบอกกับเอเอฟพีในวันเสาร์ (5 ต.ค.) ว่ากองทัพกำลังเตรียมพร้อมตอบโต้ กรณีอิหร่านรัวยิงขีปนาวุธเล็งเป้าเล่นงานอิสราเอลเมื่อช่วงต้นสัปดาห์
    .
    "กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอลกำลังเตรียมการตอบโต้ต่อเหตุโจมตีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนและไม่ชอบธรรมของอิหร่าน ใส่พลเมืองอิสราเอล และอิสราเอล" เจ้าหน้าที่กองทัพระบุ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รายนี้ไม่ประสงค์เอ่ยนาม เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยเรื่องนี้กับสาธารณะ
    .
    เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะหรือกรอบเวลาในการตอบโต้ แต่หนังสือพิมพ์เอียงซ้าย Haaretz อ้างแหล่งข่าวกองทัพรายงานว่าการตอบโต้ของกองทัพเป็นไปอย่างหนักหน่วง
    .
    "กองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอลกำลังเตรียมการโจมตีหนักหน่วงในอิหร่าน ตามหลังอิหร่านโจมตีด้วยห่าขีปนาวุธในสัปดาห์นี้" หนังสือพิมพ์แห่งนี้รายงาน "กองทัพไม่ตัดความเป็นไปได้ที่อิหร่านอาจยิงขีปนาวุธเข้าใส่ดินแดนของอิสราเอลอีกรอบ หลังอิสราเอลโจมตีแก้แค้น"
    .
    เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม อิหร่านยิงขีปนาวุธราว 200 ลูกเข้าใส่อิสราเอล มันถือเป็นครั้งที่ 2 ในรอบไม่ถึง 6 เดือน ที่เตหะรานยิงขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอล
    .
    ขีปนาวุธส่วนใหญ่ถูกสกัดไว้ได้โดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอล แต่บางส่วนเล็ดลอดไปโดยฐานทัพทหาร แต่ไม่ก่อความเสียหายร้ายแรงหรือความสูญเสียใดๆ
    .
    อิหร่านบอกว่ายิงห่าขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอล เพื่อแก้แค้นเหตุลอบสังหาร นัสซัน ฮัสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ ที่เสียชีวิตในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล เล่นงานกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน เมื่อวันที่ 27 กันยายน
    .
    นอกจากนี้ การรัวขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอลของอิหร่านยังเป็นการแก้แค้นเหตุลอบสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส ซึ่งเสียชีวิตในกรุงเตหะราน เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม
    .
    ทั้งอิหร่านและฮามาส ต่างกล่าวโทษอิสราเอล สำหรับเหตุลอบสังหารฮานิเยห์ แต่อิสราเอลไม่แสดงความคิดเห็นต่อการตายของเขา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000094765
    ..............
    Sondhi X
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เป็นอีกครั้งที่ออกมาประกาศจะตอบโต้อิหร่านที่รัวยิงขีปนาวุธแก้แค้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา อ้างว่าประเทศของเขามีสิทธิทำเช่นนั้น และในความเคลื่อนไหวสอดรับกัน ทางกองทัพอิสราเอลเผยว่าพวกเขาอยู่ระหว่างเตรียมการแก้แค้น . ระหว่างปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ (5 ต.ค.) เนทันยาฮู เน้นย้ำว่าอิสราเอลจะตอบโต้การโจมตีของอิหร่าน "อิหร่านยิงขีปนาวุธหลายร้อยลูกเข้าใส่ดินแดนและเมืองต่างๆ ของเราถึง 2 รอบ มันเป็นหนึ่งในการโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์" เขากล่าว อ้างถึงเหตุโจมตีในสัปดาห์นี้ และเหตุโจมตีก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเมษายน . เขากล่าวต่อว่า "อิสราเอลมีหน้าที่และมีสิทธิปกป้องตนเอง และตอบโต้เหตุโจมตีเหล่านี้ และเราจะทำเช่นนั้น" . คำประกาศของเนทันยาฮู ในขึ้นพร้อมๆ กับที่ เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของอิสราเอลบอกกับเอเอฟพีในวันเสาร์ (5 ต.ค.) ว่ากองทัพกำลังเตรียมพร้อมตอบโต้ กรณีอิหร่านรัวยิงขีปนาวุธเล็งเป้าเล่นงานอิสราเอลเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ . "กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอลกำลังเตรียมการตอบโต้ต่อเหตุโจมตีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนและไม่ชอบธรรมของอิหร่าน ใส่พลเมืองอิสราเอล และอิสราเอล" เจ้าหน้าที่กองทัพระบุ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รายนี้ไม่ประสงค์เอ่ยนาม เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยเรื่องนี้กับสาธารณะ . เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะหรือกรอบเวลาในการตอบโต้ แต่หนังสือพิมพ์เอียงซ้าย Haaretz อ้างแหล่งข่าวกองทัพรายงานว่าการตอบโต้ของกองทัพเป็นไปอย่างหนักหน่วง . "กองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอลกำลังเตรียมการโจมตีหนักหน่วงในอิหร่าน ตามหลังอิหร่านโจมตีด้วยห่าขีปนาวุธในสัปดาห์นี้" หนังสือพิมพ์แห่งนี้รายงาน "กองทัพไม่ตัดความเป็นไปได้ที่อิหร่านอาจยิงขีปนาวุธเข้าใส่ดินแดนของอิสราเอลอีกรอบ หลังอิสราเอลโจมตีแก้แค้น" . เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม อิหร่านยิงขีปนาวุธราว 200 ลูกเข้าใส่อิสราเอล มันถือเป็นครั้งที่ 2 ในรอบไม่ถึง 6 เดือน ที่เตหะรานยิงขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอล . ขีปนาวุธส่วนใหญ่ถูกสกัดไว้ได้โดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอล แต่บางส่วนเล็ดลอดไปโดยฐานทัพทหาร แต่ไม่ก่อความเสียหายร้ายแรงหรือความสูญเสียใดๆ . อิหร่านบอกว่ายิงห่าขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอล เพื่อแก้แค้นเหตุลอบสังหาร นัสซัน ฮัสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ ที่เสียชีวิตในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล เล่นงานกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน เมื่อวันที่ 27 กันยายน . นอกจากนี้ การรัวขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอลของอิหร่านยังเป็นการแก้แค้นเหตุลอบสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส ซึ่งเสียชีวิตในกรุงเตหะราน เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม . ทั้งอิหร่านและฮามาส ต่างกล่าวโทษอิสราเอล สำหรับเหตุลอบสังหารฮานิเยห์ แต่อิสราเอลไม่แสดงความคิดเห็นต่อการตายของเขา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000094765 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรือรบและเครื่องบินขับไล่ของกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ทิ้งบอมบ์ถล่มที่ตั้งมากกว่า 10 แห่ง ตามพื้นที่ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกฮูตีในเยเมน ในนั้นรวมถึงกรุงซานา และเมืองท่าโฮเดดาห์ อ้างว่าเพื่อพิทักษ์สิทธิการเดินเรือและเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้นของน่านน้ำสากล
    .
    พวกฮูตีคือกลุ่มชีอะห์ที่กล่าวอ้าวตนเองในฐานะรัฐบาลเยเมน และควบคุมพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ พวกเขาขัดขวางการเดินเรือของอิสราเอลและตะวันตกในทะเลแดงมานานเกือบ 1 ปี เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนนักรบปาเลสไตน์ฮามาส และกดดันอิสราเอลให้หยุดโจมตีฉนวนกาซา
    .
    อ้างอิงจากกองทัพสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีเล็งเป้าเล่นงานเป้าหมายต่างๆ ของพวกฮูตี 15 แห่งในช่วงบ่ายวันศุกร์ (4 ต.ค.) สำแดงแสนยานุภาพทางทหารเชิงรุก เพื่อปกป้องไว้ซึ่งเสรีภาพในการเดินเรือและทำให้น่านน้ำสากลมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น รวมถึงสร้างความอุ่นใจแก่เรือของสหรัฐฯ พันธมิตรและเรือสินค้าต่างๆ
    .
    ก่อนหน้าถ้อยแถลงของกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รายหนึ่งของอเมริกาเปิดเผยกับสำนักข่าวเอพีว่า ปฏิบัติการโจมตีเล็งเป้าเล่นงาน "ระบบอาวุธ ฐานที่มั่นและยุทโธปกรณ์อื่นๆ ใน 5 ตำแหน่ง"
    .
    อ้างอิงรายงานข่าวของสื่อมวลชนเยเมน ระบุว่ามีการโจมตี 7 รอบ เล่นงานสนามบินโฮเดดาห์ และฐานทัพในเมืองคาเตอิบ นอกจากนี้ ยังมีรายงานการระเบิด 2 รอบในจังหวัดดามาร์และ 3 รอบในจังหวัดบายดา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงซานา ขณะที่ตัวเมืองหลวงตกเป็นเป้าหมายของการโจมตี 4 รอบ
    .
    การโจมตีในวันศุกร์ (4 ต.ค.) ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่สหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีพวกฮูตี ในขณะที่ฝูงบินรบของอิสราเอลเปิดฉากถล่มเมืองโฮเดดาห์เช่นกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังพวกฮูตียิงขีปนาวุธลูกหนึ่งเข้าใส่อิสราเอล
    .
    พวกติดอาวุธในเยเมนกลุ่มนี้ ยิงขีปนาวุธและปล่อยโดรนเล่นงานเรือสินค้าไปแล้วมากกว่า 80 ลำ นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน ครั้งที่อิสราเอลประกาศสงครามกับฮามาสในกาซา ตามหลังกลุ่มนักรบปาเลสไตน์บุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอล ในวันที่ 7 ตุลาคม
    .
    เบื้องต้น พวกฮูตีเล็งเป้าเล่นงานเฉพาะเรือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล แต่ขยายขอบเขตปฏิบัติการไปยังเรือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรด้วย หลังจากทั้ง 2 ประเทศจับมือกันโจมตีทางอากาศในเดือนมกราคม
    .
    วอชิงตันส่งเรือรบหลายลำเข้าสู่ภูมิภาค ส่วนหนึ่งในสิ่งที่เรียกว่า "ปฏิบัติการผู้พิทักษ์ความเจริญรุ่งเรือง (Operation Prosperity Guardian)'" ความพยายามไม่ให้มีการปิดกั้นช่องแคบบับ เอล-มันเดบ อย่างไรก็ตามกองทัพเรือสหรัฐฯ ไม่อาจป้องปรามพวกฮูตีได้ ส่งผลให้เรือสินค้าต่างๆ ของตะวันตกต้องหลีกเลี่ยงคลองสุเอซ และเบี่ยงเส้นทางไปอ้อมแอฟริกาแทน
    .
    ฮูตีอ้างว่าพวกเขาสอยร่วงโดรนสอดแนมของสหรัฐฯ หลายสิบลำ เช่นเดียวกับการโจมตีด้วยโดรน ขณะเดียวกันพวกเขาก็ยิงเข้าใส่บรรดาเรือรบของอเมริกาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทางกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ยืนยันว่าขีปนาวุธและโดรนที่พุ่งเข้ามาทั้งหมดถูกสกัดเอาไว้ได้
    .
    สหรัฐฯ กล่าวหาพวกฮูตีเป็นตัวแทนของอิหร่าน แต่ทางกลุ่มปฏิเสธ ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ อิหร่านรัวยิงขีปนาวุธห่าใหญ่เข้าใส่อิสราเอล แก้แค้นเหตุลอบสังหารพวกผู้นำฮามาสและฮิซบอลเลาะห์เมื่อเร็วๆ นี้ เช่นเดียวกับนายพลระดับสูงรายหนึ่งของกองกำลังพิทักษ์การปฏิบัติอิสลามแห่งอิหร่านในเลบานอน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000094761
    ..................
    Sondhi X
    เรือรบและเครื่องบินขับไล่ของกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ทิ้งบอมบ์ถล่มที่ตั้งมากกว่า 10 แห่ง ตามพื้นที่ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกฮูตีในเยเมน ในนั้นรวมถึงกรุงซานา และเมืองท่าโฮเดดาห์ อ้างว่าเพื่อพิทักษ์สิทธิการเดินเรือและเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้นของน่านน้ำสากล . พวกฮูตีคือกลุ่มชีอะห์ที่กล่าวอ้าวตนเองในฐานะรัฐบาลเยเมน และควบคุมพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ พวกเขาขัดขวางการเดินเรือของอิสราเอลและตะวันตกในทะเลแดงมานานเกือบ 1 ปี เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนนักรบปาเลสไตน์ฮามาส และกดดันอิสราเอลให้หยุดโจมตีฉนวนกาซา . อ้างอิงจากกองทัพสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีเล็งเป้าเล่นงานเป้าหมายต่างๆ ของพวกฮูตี 15 แห่งในช่วงบ่ายวันศุกร์ (4 ต.ค.) สำแดงแสนยานุภาพทางทหารเชิงรุก เพื่อปกป้องไว้ซึ่งเสรีภาพในการเดินเรือและทำให้น่านน้ำสากลมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น รวมถึงสร้างความอุ่นใจแก่เรือของสหรัฐฯ พันธมิตรและเรือสินค้าต่างๆ . ก่อนหน้าถ้อยแถลงของกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รายหนึ่งของอเมริกาเปิดเผยกับสำนักข่าวเอพีว่า ปฏิบัติการโจมตีเล็งเป้าเล่นงาน "ระบบอาวุธ ฐานที่มั่นและยุทโธปกรณ์อื่นๆ ใน 5 ตำแหน่ง" . อ้างอิงรายงานข่าวของสื่อมวลชนเยเมน ระบุว่ามีการโจมตี 7 รอบ เล่นงานสนามบินโฮเดดาห์ และฐานทัพในเมืองคาเตอิบ นอกจากนี้ ยังมีรายงานการระเบิด 2 รอบในจังหวัดดามาร์และ 3 รอบในจังหวัดบายดา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงซานา ขณะที่ตัวเมืองหลวงตกเป็นเป้าหมายของการโจมตี 4 รอบ . การโจมตีในวันศุกร์ (4 ต.ค.) ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่สหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีพวกฮูตี ในขณะที่ฝูงบินรบของอิสราเอลเปิดฉากถล่มเมืองโฮเดดาห์เช่นกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังพวกฮูตียิงขีปนาวุธลูกหนึ่งเข้าใส่อิสราเอล . พวกติดอาวุธในเยเมนกลุ่มนี้ ยิงขีปนาวุธและปล่อยโดรนเล่นงานเรือสินค้าไปแล้วมากกว่า 80 ลำ นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน ครั้งที่อิสราเอลประกาศสงครามกับฮามาสในกาซา ตามหลังกลุ่มนักรบปาเลสไตน์บุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอล ในวันที่ 7 ตุลาคม . เบื้องต้น พวกฮูตีเล็งเป้าเล่นงานเฉพาะเรือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล แต่ขยายขอบเขตปฏิบัติการไปยังเรือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรด้วย หลังจากทั้ง 2 ประเทศจับมือกันโจมตีทางอากาศในเดือนมกราคม . วอชิงตันส่งเรือรบหลายลำเข้าสู่ภูมิภาค ส่วนหนึ่งในสิ่งที่เรียกว่า "ปฏิบัติการผู้พิทักษ์ความเจริญรุ่งเรือง (Operation Prosperity Guardian)'" ความพยายามไม่ให้มีการปิดกั้นช่องแคบบับ เอล-มันเดบ อย่างไรก็ตามกองทัพเรือสหรัฐฯ ไม่อาจป้องปรามพวกฮูตีได้ ส่งผลให้เรือสินค้าต่างๆ ของตะวันตกต้องหลีกเลี่ยงคลองสุเอซ และเบี่ยงเส้นทางไปอ้อมแอฟริกาแทน . ฮูตีอ้างว่าพวกเขาสอยร่วงโดรนสอดแนมของสหรัฐฯ หลายสิบลำ เช่นเดียวกับการโจมตีด้วยโดรน ขณะเดียวกันพวกเขาก็ยิงเข้าใส่บรรดาเรือรบของอเมริกาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทางกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ยืนยันว่าขีปนาวุธและโดรนที่พุ่งเข้ามาทั้งหมดถูกสกัดเอาไว้ได้ . สหรัฐฯ กล่าวหาพวกฮูตีเป็นตัวแทนของอิหร่าน แต่ทางกลุ่มปฏิเสธ ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ อิหร่านรัวยิงขีปนาวุธห่าใหญ่เข้าใส่อิสราเอล แก้แค้นเหตุลอบสังหารพวกผู้นำฮามาสและฮิซบอลเลาะห์เมื่อเร็วๆ นี้ เช่นเดียวกับนายพลระดับสูงรายหนึ่งของกองกำลังพิทักษ์การปฏิบัติอิสลามแห่งอิหร่านในเลบานอน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000094761 .................. Sondhi X
    Like
    Sad
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักรในวันเสาร์ (5 ต.ค.) ระบุรายงานข่าวที่ว่า อิสราเอลโจมตีที่ตั้งทางการแพทย์และบุคลากรสนับสนุนในเลบานอน เป็นสิ่งที่น่ากระวนกระวายใจอย่างยิ่ง พร้อมเรียกร้องให้เคารพกฎหมายมนุษยธรรมสากล
    .
    "ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามกฎหมายมุษยธรรมระหว่างประเทศ" แลมมีกล่าว พร้อมระบุในถ้อยแถลงที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ หลังมีโรงพยาบาลอย่างน้อย 4 แห่งในเลบานอนที่แถลงระงับปฏิบัติการ และทางข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เตือนเกี่ยวกับกรณีการโจมตีโดนสถานพยาบาลต่างๆ แม้ทางอิสราเอลอ้างว่าพวกเขาเล็งเป้าโจมตีเป้าหมายต่างๆ ของพวกฮิซบอลเลาะห์
    .
    แลมมี กล่าวด้วยว่าไม่มีใครอยากหวนกลับสู่อดีต ครั้งที่อิสราเอลสู้รบในทางใต้ของเลบานอนเป็นเวลานาน และสิ่งที่ต้องชดใช้ในสงครามระดับภูมิภาคในตะวันออกกลางนั้น จะมีราคาแพงมาก "ในบรรดาพวกเรา ไม่มีใครต้องการกลับสู่หลายขวบปีที่อิสราเอลพบว่าตนเองจมอยู่ในหล่มทางใต้ของเลบานอน"
    .
    "ไม่มีใครต้องการเห็นสงครามระดับภูมิภาค ตะวันออกกลางจะต้องชดใช้ราคาแพงอย่างมหาศาล และมันจะก่อผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก" เขากล่าว
    .
    รายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุโจมตีโรงพยาบาลในเลบานอน มีขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับที่แหล่งข่าวระดับสูงของฮิซบอลเลาะห์ เปิดเผยในวันเสาร์ (5 ต.ค.) ว่าได้ขาดการติดต่อกับ ฮาเชม ซาเฟดดิน ผู้ซึ่งถูกมองออย่างกว้างขวางว่าจะก้าวมาเป็นผู้นำคนใหม่ของกลุ่ม ตามหลังปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอลในสัปดาห์นี้
    .
    ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ตอบโต้รายงานข่าวของเอเอฟพี ทางกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ระบุว่า "ไม่มีแหล่งข่าวฮิซบอลเลาะห์รายใด และมุมมองของเราจะมีการเผยแพร่อยู่ในถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการเท่านั้น" อย่างไรก็ตามถ้อยแถลงของฮิซบอลเลาะห์ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธเกี่ยวกับข่าวการขาดการติดต่อกับซาเฟดดิน
    .
    "การติดต่อกับฮาเซม ซาเฟดดิน ขาดหายไปตั้งแต่ปฏิบัติการโจมตีรุนแรงถล่มชายเมืองทางใต้ของกรุงเบรุตในตอนเช้าวันศุกร์ (4 ต.ค.) เจ้าหน้าที่บอกกับเอเอฟพี "เราไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่สถานที่ที่เป็นเป้าหมายหรือไม่ หรือมีใครบ้างที่อยู่กับเขา"
    .
    เอเอฟพีรายงานว่าแหล่งข่าวใกล้ชิดกับฮิซบอลเลาะห์อีกคน ยืนยันเช่นกันว่าขาดการติดต่อกับ ซาเฟดดิน และไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน "ฮิซบอลเลาะห์กำลังพยายามเข้าถึงกองบัญชาการใต้ดินที่ตกเป็นเป้าหมาย แต่ทุกๆ ครั้งที่อิสราเอลเริ่มโจมตีรอบใหม่ มันเป็นอุปสรรคต่อความพยายามกู้ภัย"
    .
    "ซาเฟดดิน อยู่กับหัวหน้าข่าวกรองของฮิซบอลเลาะห์ ที่มีชื่อวา อัจจ์ มูร์ตาดา ตอนที่เหตุโจมตีเกิดขึ้น" แหล่งข่าวระบุ
    .
    ในตอนเช้าวันศุกร์ (4 ต.ค.) แหล่งข่าวใกล้ชิดกับฮิซบอลเลาะห์ ระบุว่าอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ 11 เที่ยวซ้อน ถล่มป้อมปราการของพวกฮิซบอลเลาะห์ในทางใต้ของเบรุต ถือเป็นหนึ่งในปฏิบัติการจู่โจมครั้งหนักหน่วงที่สุด นับตั้งแต่อิสราเอลยกระดับยุทธการทิ้งบอมบ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
    .
    กองทัพอิราเอลเผยว่าเป้าหมายต่างๆ ที่พวกเขาโจมตีนั้น เป็นของกองบัญชาการข่าวกรองของฮิซบอลเลาะห์ในเบรุต
    .
    ปฏิบัติการโจมตีเป็นชุดๆ มีขึ้นราว 1 สัปดาห์ หลังจากกองทัพอิสราเอลเผยว่าสามารถปลิดชีพ นัสซัน ฮัสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเล่นงานกองบัญชาการทางกลุ่มทางใต้ของกรุงเบรุต
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000094759
    ..............
    Sondhi X
    เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักรในวันเสาร์ (5 ต.ค.) ระบุรายงานข่าวที่ว่า อิสราเอลโจมตีที่ตั้งทางการแพทย์และบุคลากรสนับสนุนในเลบานอน เป็นสิ่งที่น่ากระวนกระวายใจอย่างยิ่ง พร้อมเรียกร้องให้เคารพกฎหมายมนุษยธรรมสากล . "ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามกฎหมายมุษยธรรมระหว่างประเทศ" แลมมีกล่าว พร้อมระบุในถ้อยแถลงที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ หลังมีโรงพยาบาลอย่างน้อย 4 แห่งในเลบานอนที่แถลงระงับปฏิบัติการ และทางข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เตือนเกี่ยวกับกรณีการโจมตีโดนสถานพยาบาลต่างๆ แม้ทางอิสราเอลอ้างว่าพวกเขาเล็งเป้าโจมตีเป้าหมายต่างๆ ของพวกฮิซบอลเลาะห์ . แลมมี กล่าวด้วยว่าไม่มีใครอยากหวนกลับสู่อดีต ครั้งที่อิสราเอลสู้รบในทางใต้ของเลบานอนเป็นเวลานาน และสิ่งที่ต้องชดใช้ในสงครามระดับภูมิภาคในตะวันออกกลางนั้น จะมีราคาแพงมาก "ในบรรดาพวกเรา ไม่มีใครต้องการกลับสู่หลายขวบปีที่อิสราเอลพบว่าตนเองจมอยู่ในหล่มทางใต้ของเลบานอน" . "ไม่มีใครต้องการเห็นสงครามระดับภูมิภาค ตะวันออกกลางจะต้องชดใช้ราคาแพงอย่างมหาศาล และมันจะก่อผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก" เขากล่าว . รายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุโจมตีโรงพยาบาลในเลบานอน มีขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับที่แหล่งข่าวระดับสูงของฮิซบอลเลาะห์ เปิดเผยในวันเสาร์ (5 ต.ค.) ว่าได้ขาดการติดต่อกับ ฮาเชม ซาเฟดดิน ผู้ซึ่งถูกมองออย่างกว้างขวางว่าจะก้าวมาเป็นผู้นำคนใหม่ของกลุ่ม ตามหลังปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอลในสัปดาห์นี้ . ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ตอบโต้รายงานข่าวของเอเอฟพี ทางกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ระบุว่า "ไม่มีแหล่งข่าวฮิซบอลเลาะห์รายใด และมุมมองของเราจะมีการเผยแพร่อยู่ในถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการเท่านั้น" อย่างไรก็ตามถ้อยแถลงของฮิซบอลเลาะห์ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธเกี่ยวกับข่าวการขาดการติดต่อกับซาเฟดดิน . "การติดต่อกับฮาเซม ซาเฟดดิน ขาดหายไปตั้งแต่ปฏิบัติการโจมตีรุนแรงถล่มชายเมืองทางใต้ของกรุงเบรุตในตอนเช้าวันศุกร์ (4 ต.ค.) เจ้าหน้าที่บอกกับเอเอฟพี "เราไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่สถานที่ที่เป็นเป้าหมายหรือไม่ หรือมีใครบ้างที่อยู่กับเขา" . เอเอฟพีรายงานว่าแหล่งข่าวใกล้ชิดกับฮิซบอลเลาะห์อีกคน ยืนยันเช่นกันว่าขาดการติดต่อกับ ซาเฟดดิน และไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน "ฮิซบอลเลาะห์กำลังพยายามเข้าถึงกองบัญชาการใต้ดินที่ตกเป็นเป้าหมาย แต่ทุกๆ ครั้งที่อิสราเอลเริ่มโจมตีรอบใหม่ มันเป็นอุปสรรคต่อความพยายามกู้ภัย" . "ซาเฟดดิน อยู่กับหัวหน้าข่าวกรองของฮิซบอลเลาะห์ ที่มีชื่อวา อัจจ์ มูร์ตาดา ตอนที่เหตุโจมตีเกิดขึ้น" แหล่งข่าวระบุ . ในตอนเช้าวันศุกร์ (4 ต.ค.) แหล่งข่าวใกล้ชิดกับฮิซบอลเลาะห์ ระบุว่าอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ 11 เที่ยวซ้อน ถล่มป้อมปราการของพวกฮิซบอลเลาะห์ในทางใต้ของเบรุต ถือเป็นหนึ่งในปฏิบัติการจู่โจมครั้งหนักหน่วงที่สุด นับตั้งแต่อิสราเอลยกระดับยุทธการทิ้งบอมบ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว . กองทัพอิราเอลเผยว่าเป้าหมายต่างๆ ที่พวกเขาโจมตีนั้น เป็นของกองบัญชาการข่าวกรองของฮิซบอลเลาะห์ในเบรุต . ปฏิบัติการโจมตีเป็นชุดๆ มีขึ้นราว 1 สัปดาห์ หลังจากกองทัพอิสราเอลเผยว่าสามารถปลิดชีพ นัสซัน ฮัสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเล่นงานกองบัญชาการทางกลุ่มทางใต้ของกรุงเบรุต . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000094759 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Angry
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 392 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เรียกร้องในวันเสาร์ (5 ต.ค.) ให้ระงับป้อนอาวุธแก่อิสราเอลที่ใช้ในฉนวนกาซา ความเคลื่อนไหวที่กระตุ้นเสียงตอบโต้อย่างดุเดือดจากเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล
    .
    นอกจากนี้ มาครง ยังวิพากษ์วิจารณ์อิสราเอล ต่อการตัดสินใจเปิดปฏิบัติการทางภาคพื้นที่ในเลบานอนด้วยเช่นกัน "ผมคิดว่าวันนี้ เป้าหมายลำดับต้นๆ คือการกลับสู่ทางออกทางการเมือง เราควรหยุดป้อนอาวุธที่ใช้สู้รบในกาซา" ผู้นำฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแดนน้ำหอม "ฝรั่งเศสจะไม่ป้อนอาวุธใดๆ"
    .
    มาครง เน้นย้ำความกังวลของเขาที่มีต่อความขัดแย้งในกาซาที่ยังคงเป็นไปอย่างเลวร้าย แม้มีเสียงเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าสำหรับข้อตกลงหยุดยิง "เราคิดว่าพวกเขาไม่ได้ยินเสียงของเรา ผมคิดว่ามันคือความผิดพลาด ในนั้นรวมถึงสำหรับความมั่นคงของอิสราเอล" เขากล่าว พร้อมระบุว่าความขัดแย้งกำลังนำมาซึ่งความเกลียดชัง
    .
    ความเห็นของเขาเรียกเสียงตอบโต้อย่างดุเดือดมาจาก เนทันยาฮู "ในขณะที่อิสราเอลกำลังสู้รบกับกองกำลังที่ป่าเถื่อนทั้งหลายที่นำโดยอิหร่าน พวกประเทศศิวิไลซ์ทั้งหมดควรยืนหยัดอยู่เคียงข้างอิสราเอล" เนทันยาฮูระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดยทำเนียบนายกรัฐมตรีอิสราเอล "แต่ประธานาธิบดีมาครง และพวกผู้นำตะวันตกคนอื่นๆ ตอนนี้กลับมาเรียกร้องให้ใช้มาตรการปิดล้อมทางอาวุธกับอิสราเอล พวกเขามันน่าอดสู"
    .
    อิสราเอลสู้รบในสงครามในหลายแนวหน้ากับบรรดากลุ่มติดอาวุธทั้งหลายที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน คู่อริตัวฉกาจ
    .
    ทำเนียบของประธานาธิบดีมาครง เผยแพร่ถ้อยแถลงของตนเองเช่นกันในช่วงค่ำวันเสาร์ (5 ต.ค.) ตอบโต้ความเห็นของผู้นำอิสราเอล "ฝรั่งเศสเป็นมิตรที่แน่วแน่ของอิสราเอล" พร้อมระบุปฏิกิริยาตอบสนองของเนทันยาฮู "นั้นเลยเถิดเกินไปและไม่ใกล้เคียงความเป็นมิตรระหว่างฝรั่งเศสกับอิสราเอล"
    .
    ระหว่างการให้สัมภาษณ์ มาครง ยังบอกว่าควรให้ความสำคัญลำดับต้นๆ ในการหลีกเลี่ยงสถานการณ์ลุกลามบานปลายในเลบานอน "เลบานอนไม่อาจเป็นอีกหนึ่งกาซา" เขากล่าว พร้อมเน้นย้ำเสียงเรียกร้องของปารีสและวอชิงตันเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง "ผมเสียใจที่นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูเลือกทางเลือกอื่น เขาต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับปฏิบัติการทางภาคพื้นในแผ่นดินของเลบานอน"
    .
    สมาชิก 88 รัฐขององค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (OIF) ในนั้นรวมถึงฝรั่งเศสและแคนาดา เรียกร้องการหยุดยิงในทันทีและยั่งยืนในเลบานอน อย่างไรก็ตาม มาครง เน้นย้ำเกี่ยวกับสิทธิในการป้องกันตนเองของอิสราเอล และเปิดเผยว่าเขาจะพบปะกับบรรดาญาติๆ ของตัวประกันเชื้อสายฝรั่งเศส-อิสราอล ที่เคยถูกควบคุมตัวในกาซา ในวันจันทร์ (7 ต.ค.)
    .
    ในวันจันทร์ (7 ต.ค.) ถือเป็นวาระครบรอบ 1 ปี ที่อิสราเอลถูกพวกนักรบปาเลสไตน์ฮามาสบุกจู่โจมอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 โหมกระพือสงครามในกาซา และเวลานี้แผ่ลามไปยังเลบานอน ประเทศที่อยู่ติดกัน ก่อวิกฤตในภูมิภาค
    .
    ผลจากปฏิบัติการโจมตีของฮามาส ได้ปลิดชีพไป 1,205 คนในอิสราเอล ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ในขณะที่ปฏิบัติการรุกรานแก้แค้นของอิสราเอลถล่มกาซา ได้สังหารไปแล้วอย่างน้อย 41,825 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนเช่นกัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000094758
    ..................
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เรียกร้องในวันเสาร์ (5 ต.ค.) ให้ระงับป้อนอาวุธแก่อิสราเอลที่ใช้ในฉนวนกาซา ความเคลื่อนไหวที่กระตุ้นเสียงตอบโต้อย่างดุเดือดจากเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล . นอกจากนี้ มาครง ยังวิพากษ์วิจารณ์อิสราเอล ต่อการตัดสินใจเปิดปฏิบัติการทางภาคพื้นที่ในเลบานอนด้วยเช่นกัน "ผมคิดว่าวันนี้ เป้าหมายลำดับต้นๆ คือการกลับสู่ทางออกทางการเมือง เราควรหยุดป้อนอาวุธที่ใช้สู้รบในกาซา" ผู้นำฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแดนน้ำหอม "ฝรั่งเศสจะไม่ป้อนอาวุธใดๆ" . มาครง เน้นย้ำความกังวลของเขาที่มีต่อความขัดแย้งในกาซาที่ยังคงเป็นไปอย่างเลวร้าย แม้มีเสียงเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าสำหรับข้อตกลงหยุดยิง "เราคิดว่าพวกเขาไม่ได้ยินเสียงของเรา ผมคิดว่ามันคือความผิดพลาด ในนั้นรวมถึงสำหรับความมั่นคงของอิสราเอล" เขากล่าว พร้อมระบุว่าความขัดแย้งกำลังนำมาซึ่งความเกลียดชัง . ความเห็นของเขาเรียกเสียงตอบโต้อย่างดุเดือดมาจาก เนทันยาฮู "ในขณะที่อิสราเอลกำลังสู้รบกับกองกำลังที่ป่าเถื่อนทั้งหลายที่นำโดยอิหร่าน พวกประเทศศิวิไลซ์ทั้งหมดควรยืนหยัดอยู่เคียงข้างอิสราเอล" เนทันยาฮูระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดยทำเนียบนายกรัฐมตรีอิสราเอล "แต่ประธานาธิบดีมาครง และพวกผู้นำตะวันตกคนอื่นๆ ตอนนี้กลับมาเรียกร้องให้ใช้มาตรการปิดล้อมทางอาวุธกับอิสราเอล พวกเขามันน่าอดสู" . อิสราเอลสู้รบในสงครามในหลายแนวหน้ากับบรรดากลุ่มติดอาวุธทั้งหลายที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน คู่อริตัวฉกาจ . ทำเนียบของประธานาธิบดีมาครง เผยแพร่ถ้อยแถลงของตนเองเช่นกันในช่วงค่ำวันเสาร์ (5 ต.ค.) ตอบโต้ความเห็นของผู้นำอิสราเอล "ฝรั่งเศสเป็นมิตรที่แน่วแน่ของอิสราเอล" พร้อมระบุปฏิกิริยาตอบสนองของเนทันยาฮู "นั้นเลยเถิดเกินไปและไม่ใกล้เคียงความเป็นมิตรระหว่างฝรั่งเศสกับอิสราเอล" . ระหว่างการให้สัมภาษณ์ มาครง ยังบอกว่าควรให้ความสำคัญลำดับต้นๆ ในการหลีกเลี่ยงสถานการณ์ลุกลามบานปลายในเลบานอน "เลบานอนไม่อาจเป็นอีกหนึ่งกาซา" เขากล่าว พร้อมเน้นย้ำเสียงเรียกร้องของปารีสและวอชิงตันเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง "ผมเสียใจที่นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูเลือกทางเลือกอื่น เขาต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับปฏิบัติการทางภาคพื้นในแผ่นดินของเลบานอน" . สมาชิก 88 รัฐขององค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (OIF) ในนั้นรวมถึงฝรั่งเศสและแคนาดา เรียกร้องการหยุดยิงในทันทีและยั่งยืนในเลบานอน อย่างไรก็ตาม มาครง เน้นย้ำเกี่ยวกับสิทธิในการป้องกันตนเองของอิสราเอล และเปิดเผยว่าเขาจะพบปะกับบรรดาญาติๆ ของตัวประกันเชื้อสายฝรั่งเศส-อิสราอล ที่เคยถูกควบคุมตัวในกาซา ในวันจันทร์ (7 ต.ค.) . ในวันจันทร์ (7 ต.ค.) ถือเป็นวาระครบรอบ 1 ปี ที่อิสราเอลถูกพวกนักรบปาเลสไตน์ฮามาสบุกจู่โจมอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 โหมกระพือสงครามในกาซา และเวลานี้แผ่ลามไปยังเลบานอน ประเทศที่อยู่ติดกัน ก่อวิกฤตในภูมิภาค . ผลจากปฏิบัติการโจมตีของฮามาส ได้ปลิดชีพไป 1,205 คนในอิสราเอล ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ในขณะที่ปฏิบัติการรุกรานแก้แค้นของอิสราเอลถล่มกาซา ได้สังหารไปแล้วอย่างน้อย 41,825 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนเช่นกัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000094758 .................. Sondhi X
    Like
    Yay
    Haha
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 392 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇵🇸 ⚔️ 🇮🇱 1 ปีในฉนวนกาซาตั้งแต่การโจมตี 7 ตุลาคม – เรียงความภาพ
    .
    Ali Jadallah ช่างภาพจาก Anadolu Agency ประจำกาซา พูดถึงภาพถ่ายทรงพลังที่สุดบางส่วนที่เขาถ่ายไว้ในปีนี้ นับตั้งแต่การโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่จุดชนวนให้เกิดสงครามกาซา

    🔘 คำเตือน : มีเนื้อหาที่รุนแรง รวมถึงการเสียชีวิต

    #Jadallah : เป็นช่างภาพชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ในฉนวนกาซา ซึ่งทำงานให้กับ Anadolu Agency ตั้งแต่ปี 2012 เขาบันทึกภาพสงครามอิสราเอล-ฉนวนกาซาตั้งแต่เริ่มต้น โดยเผชิญกับความท้าทายมากมาย

    • Jadallah ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ และระดับท้องถิ่นหลายรางวัลจากภาพถ่ายของเขา
    • สูญเสียญาติไป 4 คน จากการโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซา
    • เขายังคงรายงานเกี่ยวกับสงครามในภูมิภาคนี้ต่อไป
    .
    ▪ ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังอุ้มเด็กกำลังหลบหนีการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่โจมตีพื้นที่หนึ่งในเมืองกาซา เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม
    ▪ จนท.ป้องกันพลเรือนชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของอิสราเอลกำลังได้รับการ CPR บนเปลที่โรงพยาบาลอัลชิฟาในกาซา เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 66
    ▪ หญิงและเด็กที่ได้รับบาดเจ็บรวมอยู่ในกลุ่มผู้คนจำนวนมากที่ถูกนำส่งร.พ.อัลชิฟา หลังเกิดระเบิดที่ร.พ.แบปทิสต์ ในเมืองกาซา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 ราย เมื่อ 17 ต.ค.
    ▪ เปลวไฟและควันพวยพุ่งขึ้นในย่านเทลอัลฮาวา ขณะที่การโจมตีของอิสราเอลยังคงดำเนินต่อไป ในวันที่ 30 ต.ค.
    ▪ ชาวปาเลสไตน์ดำเนินการค้นหาและกู้ภัยหลังจากถูกโจมตีเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 24 ชม. ที่ค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลียในเมืองกาซา เมื่อ 1 พ.ย.
    ▪ พลุสัญญาณส่องสว่างขึ้นบนท้องฟ้าเหนือค่ายผู้ลี้ภัยอัลชาติ ในฉนวนกาซา ในระหว่างการโจมตีของอิสราเอล เมื่อ 6 พ.ย.
    ▪ ทารกวัย 2 เดือน ซึ่งเสียชีวิตในการโจมตีบ้านหลังหนึ่งของอิสราเอล 17 มี.ค.
    ▪ ฟาดี ซานต์ วัย 9 ขวบ ได้รับการรักษาภาวะทุพโภชนาการ หลังจากได้รับการอพยพจากกาซาตอนเหนือไปยังร.พ.สนามในเมืองราฟาห์ เมื่อ 24 มี.ค.
    ▪ ชาวปาเลสไตน์บางส่วนเริ่มเดินทางกลับบ้านของตนที่เมืองคานยูนิส หลังจากที่อิสราเอลถอนกำลังออกไป และทิ้งร่องรอยการทำลายล้างอันยิ่งใหญ่ไว้ เมื่อวันที่ 7 เม.ษ.
    ▪ ชาวปาเลสไตน์มองดูประกายไฟ เปลวไฟ และควันที่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าหลังการโจมตีของอิสราเอลในเมืองเดียร์ อัล บาลาห์ เมื่อ 6 มิ.ย.
    ▪ ผู้รอดชีวิตกำลังหนีจากซากปรักหักพังของอาคารที่ถูกทำลายหลังจากการโจมตีบ้านของครอบครัวอาบูไอชาในเดียร์อัลบาลาห์ เมื่อ 14 มิ.ย.
    ...........................................................
    Amir Levy เป็นช่างภาพข่าวชาวอเมริกันเชื้อสายอิสราเอลที่มีประสบการณ์ 15 ปี ช่างภาพของ Getty Images พูดถึงภาพถ่ายทรงพลังที่สุดของเขาที่ถ่ายตลอดทั้งปี

    ▪ ผู้คนซ่อนตัวอยู่ในบันไดอาคารขณะที่เสียงไซเรนดังขึ้น เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 66 ในเมืองเทลอาวีฟ อิสราเอล
    ▪ ทหารอิสราเอลนำศพของพลเรือนที่เสียชีวิตก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ในการโจมตีของปาเลสไตน์ในคิบบุตซ์ ใกล้พรมแดนกาซา เมื่อ 10 ต.ค. 66 ในเมืองคฟาร์อาซา อิสราเอล
    ▪ ทหารอิสราเอลกำลังรักษาความปลอดภัยในอุโมงค์ใกล้ชายแดนอิสราเอลในฉนวนกาซาตอนเหนือ เมื่อ ธ.ค. 66 กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า นี่คืออุโมงค์ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยพบในกาซา โดยประกอบด้วยสาขาที่ทอดยาวกว่า 4 กม.
    ▪ อามิต ซูสซานา (ขวา) ซึ่งถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน และได้รับการปล่อยตัว เมื่อ 29 ม.ค. 67 ในเมืองคฟาร์อาซา
    ▪ ชาวยิวออร์โธดอกซ์สุดโต่งกับเศษซากขีปนาวุธใกล้เมืองอารัด เมื่อ 30 เม.ษ. 67 ซึ่งเป็นผลมาจากการโจมตีทางอากาศของอิหร่าน เมื่อวันที่ 13 เม.ษ. ซึ่งมีรายงานว่าอิหร่านได้ยิงโดรน 170 ลำ และขีปนาวุธกว่า 150 ลูกโจมตีประเทศและบริเวณที่ราบสูงโกลันที่ถูกอิสราเอลยึดครอง
    ▪ จนท.ดับเพลิงกำลังดับไฟ หลังจากถูกโจมตีด้วยจรวดจากเลบานอน เมื่อ 4 ก.ค. 67 ทางตอนเหนือของอิสราเอล
    ▪ ผู้ไว้อาลัยเข้าร่วมงานศพที่จัดขึ้นเพื่อเหยื่อจากการโจมตีด้วยจรวด เมื่อ 28 ก.ค. ใน Majdal Shams บนที่ราบสูงโกลัน
    ▪ ชายชาวยิวออร์โธดอกซ์สุดโต่ง ปะทะกับตำรวจขี่ม้าระหว่างการชุมนุมประท้วงการเกณฑ์ทหารของอิสราเอล ใกล้ฐานรับสมัคร เมื่อ 5 ส.ค. ในพื้นที่เทลฮาโชเมอร์ เมืองรามัตกัน ประเทศอิสราเอล
    ▪ ครอบครัวของตัวประกันที่ถูกจับกุมในฉนวนกาซาและผู้สนับสนุน จุดพลุสัญญาณขณะปิดกั้นถนนสายหลักระหว่างการชุมนุมเรียกร้องให้มีข้อตกลงจับตัวประกัน เมื่อ 13 ก.ย. ในเมืองเทลอาวีฟ
    .
    แหล่งข้อมูลภาพทั้งหมด มาจากสื่อหลักอังกฤษ The Guardian 🇬🇧

    อ่านคำบรรยายในแต่ละภาพเพิ่มเติมได้ที่
    https://www.theguardian.com/world/2024/oct/05/one-year-in-gaza-since-the-7-october-attack-photo-essay

    https://www.theguardian.com/world/2024/oct/05/one-year-in-israel-since-the-7-october-attack-photo-essay



    Noraseth Tuntasiri
    🇵🇸 ⚔️ 🇮🇱 1 ปีในฉนวนกาซาตั้งแต่การโจมตี 7 ตุลาคม – เรียงความภาพ . Ali Jadallah ช่างภาพจาก Anadolu Agency ประจำกาซา พูดถึงภาพถ่ายทรงพลังที่สุดบางส่วนที่เขาถ่ายไว้ในปีนี้ นับตั้งแต่การโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่จุดชนวนให้เกิดสงครามกาซา 🔘 คำเตือน : มีเนื้อหาที่รุนแรง รวมถึงการเสียชีวิต #Jadallah : เป็นช่างภาพชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ในฉนวนกาซา ซึ่งทำงานให้กับ Anadolu Agency ตั้งแต่ปี 2012 เขาบันทึกภาพสงครามอิสราเอล-ฉนวนกาซาตั้งแต่เริ่มต้น โดยเผชิญกับความท้าทายมากมาย • Jadallah ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ และระดับท้องถิ่นหลายรางวัลจากภาพถ่ายของเขา • สูญเสียญาติไป 4 คน จากการโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซา • เขายังคงรายงานเกี่ยวกับสงครามในภูมิภาคนี้ต่อไป . ▪ ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังอุ้มเด็กกำลังหลบหนีการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่โจมตีพื้นที่หนึ่งในเมืองกาซา เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ▪ จนท.ป้องกันพลเรือนชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของอิสราเอลกำลังได้รับการ CPR บนเปลที่โรงพยาบาลอัลชิฟาในกาซา เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 66 ▪ หญิงและเด็กที่ได้รับบาดเจ็บรวมอยู่ในกลุ่มผู้คนจำนวนมากที่ถูกนำส่งร.พ.อัลชิฟา หลังเกิดระเบิดที่ร.พ.แบปทิสต์ ในเมืองกาซา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 ราย เมื่อ 17 ต.ค. ▪ เปลวไฟและควันพวยพุ่งขึ้นในย่านเทลอัลฮาวา ขณะที่การโจมตีของอิสราเอลยังคงดำเนินต่อไป ในวันที่ 30 ต.ค. ▪ ชาวปาเลสไตน์ดำเนินการค้นหาและกู้ภัยหลังจากถูกโจมตีเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 24 ชม. ที่ค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลียในเมืองกาซา เมื่อ 1 พ.ย. ▪ พลุสัญญาณส่องสว่างขึ้นบนท้องฟ้าเหนือค่ายผู้ลี้ภัยอัลชาติ ในฉนวนกาซา ในระหว่างการโจมตีของอิสราเอล เมื่อ 6 พ.ย. ▪ ทารกวัย 2 เดือน ซึ่งเสียชีวิตในการโจมตีบ้านหลังหนึ่งของอิสราเอล 17 มี.ค. ▪ ฟาดี ซานต์ วัย 9 ขวบ ได้รับการรักษาภาวะทุพโภชนาการ หลังจากได้รับการอพยพจากกาซาตอนเหนือไปยังร.พ.สนามในเมืองราฟาห์ เมื่อ 24 มี.ค. ▪ ชาวปาเลสไตน์บางส่วนเริ่มเดินทางกลับบ้านของตนที่เมืองคานยูนิส หลังจากที่อิสราเอลถอนกำลังออกไป และทิ้งร่องรอยการทำลายล้างอันยิ่งใหญ่ไว้ เมื่อวันที่ 7 เม.ษ. ▪ ชาวปาเลสไตน์มองดูประกายไฟ เปลวไฟ และควันที่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าหลังการโจมตีของอิสราเอลในเมืองเดียร์ อัล บาลาห์ เมื่อ 6 มิ.ย. ▪ ผู้รอดชีวิตกำลังหนีจากซากปรักหักพังของอาคารที่ถูกทำลายหลังจากการโจมตีบ้านของครอบครัวอาบูไอชาในเดียร์อัลบาลาห์ เมื่อ 14 มิ.ย. ........................................................... Amir Levy เป็นช่างภาพข่าวชาวอเมริกันเชื้อสายอิสราเอลที่มีประสบการณ์ 15 ปี ช่างภาพของ Getty Images พูดถึงภาพถ่ายทรงพลังที่สุดของเขาที่ถ่ายตลอดทั้งปี ▪ ผู้คนซ่อนตัวอยู่ในบันไดอาคารขณะที่เสียงไซเรนดังขึ้น เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 66 ในเมืองเทลอาวีฟ อิสราเอล ▪ ทหารอิสราเอลนำศพของพลเรือนที่เสียชีวิตก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ในการโจมตีของปาเลสไตน์ในคิบบุตซ์ ใกล้พรมแดนกาซา เมื่อ 10 ต.ค. 66 ในเมืองคฟาร์อาซา อิสราเอล ▪ ทหารอิสราเอลกำลังรักษาความปลอดภัยในอุโมงค์ใกล้ชายแดนอิสราเอลในฉนวนกาซาตอนเหนือ เมื่อ ธ.ค. 66 กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า นี่คืออุโมงค์ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยพบในกาซา โดยประกอบด้วยสาขาที่ทอดยาวกว่า 4 กม. ▪ อามิต ซูสซานา (ขวา) ซึ่งถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน และได้รับการปล่อยตัว เมื่อ 29 ม.ค. 67 ในเมืองคฟาร์อาซา ▪ ชาวยิวออร์โธดอกซ์สุดโต่งกับเศษซากขีปนาวุธใกล้เมืองอารัด เมื่อ 30 เม.ษ. 67 ซึ่งเป็นผลมาจากการโจมตีทางอากาศของอิหร่าน เมื่อวันที่ 13 เม.ษ. ซึ่งมีรายงานว่าอิหร่านได้ยิงโดรน 170 ลำ และขีปนาวุธกว่า 150 ลูกโจมตีประเทศและบริเวณที่ราบสูงโกลันที่ถูกอิสราเอลยึดครอง ▪ จนท.ดับเพลิงกำลังดับไฟ หลังจากถูกโจมตีด้วยจรวดจากเลบานอน เมื่อ 4 ก.ค. 67 ทางตอนเหนือของอิสราเอล ▪ ผู้ไว้อาลัยเข้าร่วมงานศพที่จัดขึ้นเพื่อเหยื่อจากการโจมตีด้วยจรวด เมื่อ 28 ก.ค. ใน Majdal Shams บนที่ราบสูงโกลัน ▪ ชายชาวยิวออร์โธดอกซ์สุดโต่ง ปะทะกับตำรวจขี่ม้าระหว่างการชุมนุมประท้วงการเกณฑ์ทหารของอิสราเอล ใกล้ฐานรับสมัคร เมื่อ 5 ส.ค. ในพื้นที่เทลฮาโชเมอร์ เมืองรามัตกัน ประเทศอิสราเอล ▪ ครอบครัวของตัวประกันที่ถูกจับกุมในฉนวนกาซาและผู้สนับสนุน จุดพลุสัญญาณขณะปิดกั้นถนนสายหลักระหว่างการชุมนุมเรียกร้องให้มีข้อตกลงจับตัวประกัน เมื่อ 13 ก.ย. ในเมืองเทลอาวีฟ . แหล่งข้อมูลภาพทั้งหมด มาจากสื่อหลักอังกฤษ The Guardian 🇬🇧 อ่านคำบรรยายในแต่ละภาพเพิ่มเติมได้ที่ https://www.theguardian.com/world/2024/oct/05/one-year-in-gaza-since-the-7-october-attack-photo-essay https://www.theguardian.com/world/2024/oct/05/one-year-in-israel-since-the-7-october-attack-photo-essay Noraseth Tuntasiri
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • รำลึก 16 ปี 7 ตุลา

    เชิญพี่น้องพันธมิตรทำบุญครบรอบ 16 ปี 7 ตุลา รำลึก
    ณ บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์

    - ทำบุญตักบาตรพระป่า
    - ฟังการปราศรัยจากอดีตแกนนำพันธมิตรฯ
    อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ , รสนา โตสิตระกูล , มาลีรัตน์ แก้วก่า , ศิริชัย ไม้งาม
    - คอนเสิร์ตแฮมเมอร์ พร้อมด้วยศิลปินอื่นๆ

    16 ปี 7 ตุลา รำลึก 16 ปีแห่งการจากลาต้องไม่สูญเปล่า
    รำลึก 16 ปี 7 ตุลา เชิญพี่น้องพันธมิตรทำบุญครบรอบ 16 ปี 7 ตุลา รำลึก ณ บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ - ทำบุญตักบาตรพระป่า - ฟังการปราศรัยจากอดีตแกนนำพันธมิตรฯ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ , รสนา โตสิตระกูล , มาลีรัตน์ แก้วก่า , ศิริชัย ไม้งาม - คอนเสิร์ตแฮมเมอร์ พร้อมด้วยศิลปินอื่นๆ 16 ปี 7 ตุลา รำลึก 16 ปีแห่งการจากลาต้องไม่สูญเปล่า
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • FENGSHUI DAILY
    อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว
    สีเสริมดวง เสริมความเฮง
    ทิศมงคล เวลามงคล
    อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่
    วันจันทร์ที่ 7 เดือนตุลาคม พ.ศ.2567
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    FENGSHUI DAILY อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว สีเสริมดวง เสริมความเฮง ทิศมงคล เวลามงคล อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่ วันจันทร์ที่ 7 เดือนตุลาคม พ.ศ.2567 ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ไปศูนย์สิริกิติ์ ไปดูงาน SX Sustainability Expo ที่ปกติเน้นไปเดินกินข้าวที่ชั้นล่าง 😆

    แต่ปีนี้มีส่วนจัดแสดงบอร์ดโครงการ The Ten ของ วปอ. 66 เลยไปเดินดูงานด้านบนก่อน แล้วไปเจอ ส่วนจัดแสดงของโรงเรียนมีชัยพัฒนา (Meechai Bamboo School) ซึ่งมีเด็กนักเรียนยืนอยู่ 4-5 คน กับบอร์ดภาพเกี่ยวกับการเษตร และ ชุมชน

    ผมถามเด็กๆว่า ที่ร.ร.ทำอะไรกัน เพราะใจสงสัยว่าทำไมถึงมีร.ร.นี้แห่งเดียวที่มาออกงาน แถมชื่อก็แปลกๆ เกี่ยวอะไรกับไม้ไผ่

    น้อง ๆ เล่าว่า ร.ร.ของเขาตั้งอยู่ที่จ.บุรีรัมย์เป็นโรงเรียนประจำของเอกชน มีสอนทำเกษตร กับ มีกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน นอกจากสอนวิชาทั่วไป

    ผมก็คิดว่า อ๋อ คงเป็นร.ร.เอกชนนานาชาติ เหมือนในกรุงเทพฯกระมัง เลยถามต่อว่าค่าเทอมเท่าไหร่?

    เด็กๆตอบว่าเรียนฟรีค่ะ! ผมก็งง ว่าทำไมถึงเรียนฟรี?

    น้องบอกว่า ร.ร.นี้ เปิดมา 15 ปีแล้ว ทั้งร.ร.สร้างด้วยไม้ไผ่ นักเรียนทุกคนต้องจ่ายค่าเทอมเป็นการทำดีให้กับชุมชน รวมถึงทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโรงเรียนตามความรับผิดชอบของตัวเอง มีนักเรียน ม.1-ม.6 ระดับชั้นละ 20 กว่าคน มีครู 10 กว่าคน โดยให้นักเรียนกินนอนที่ร.ร. ไม่ให้กลับบ้านจนกว่าจะปิดเทอม และห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์

    ผมก็ถามว่า แล้วอยู่กันยังไง ไม่เหงาเหรอ?

    น้องตอบกลับว่า หนูมีหนังสือต่างๆให้อ่านเยอะแยะ และ แต่ละวันมีกิจกรรมให้ทำมากมาย และที่ร.ร.ก็กำหนดให้นักเรียนร่วมกันจัดการบริหารดูแลร.ร.กันเอง โดยมีคุณครูช่วยให้คำแนะนำ เรียกว่าทั้งฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายตรวจรับ และฝ่ายต่าง ๆ ของร.ร.ถูกดูแลโดยนักเรียนเอง มีแค่งานครัวที่มีแม่ครัวเป็นคนปรุงอาหารให้กิน

    น้อง ๆ เขาคิดว่า ชีวิตของเขามีกิจกรรมอื่นให้ทำมากกว่าจะมานั่งเล่นโทรศัพท์เลยไม่ติดเกม ติดซีรี่ส์แบบเด็กวัยเดียวกัน

    ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา พี่ ๆ ที่จบไปมักจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ทุกคน และมักจะติดตั้งแต่รอบ Portfolio และส่วนใหญ่จะเรียนต่อมหาวิทยาลัยใกล้บ้าน ทั้งด้านเกษตร หรือด้านบริหารก็มี เพราะนักเรียนจะมีทั้งเด็กในจังหวัดบุรีรัมย์ และ ใกล้เคียง แต่ก็มีบางคนที่มาจาก เวียดนาม หรือ เป็นเด็กชาติพันธุ์จากกาญจนบุรี / แม่ฮ่องสอน

    ฟังน้อง ๆ เล่าแล้วผมถึงกับอึ้งกับแนวคิดของ ผ.อ. ซึ่งก็คือ อ.มีชัย วีระไวทยะ แถมยังอยากเขกหัวตัวเองว่า ไม่รู้จักโรงเรียนนี้ได้ยังไง แต่ก็ได้คำตอบว่า ทำไม ผู้จัดงานถึงได้เลือกโรงเรียนนี้มาจัดนิทรรศการในงานนี้

    งานนี้น่าจะจัดถึงวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค. หากมีเวลาอยากชวนให้ไปดูงานนี้ แล้วไปฟังน้อง ๆ เล่าถึงโรงเรียนของเขากันนะครับ ❤️
    วันนี้ไปศูนย์สิริกิติ์ ไปดูงาน SX Sustainability Expo ที่ปกติเน้นไปเดินกินข้าวที่ชั้นล่าง 😆 แต่ปีนี้มีส่วนจัดแสดงบอร์ดโครงการ The Ten ของ วปอ. 66 เลยไปเดินดูงานด้านบนก่อน แล้วไปเจอ ส่วนจัดแสดงของโรงเรียนมีชัยพัฒนา (Meechai Bamboo School) ซึ่งมีเด็กนักเรียนยืนอยู่ 4-5 คน กับบอร์ดภาพเกี่ยวกับการเษตร และ ชุมชน ผมถามเด็กๆว่า ที่ร.ร.ทำอะไรกัน เพราะใจสงสัยว่าทำไมถึงมีร.ร.นี้แห่งเดียวที่มาออกงาน แถมชื่อก็แปลกๆ เกี่ยวอะไรกับไม้ไผ่ น้อง ๆ เล่าว่า ร.ร.ของเขาตั้งอยู่ที่จ.บุรีรัมย์เป็นโรงเรียนประจำของเอกชน มีสอนทำเกษตร กับ มีกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน นอกจากสอนวิชาทั่วไป ผมก็คิดว่า อ๋อ คงเป็นร.ร.เอกชนนานาชาติ เหมือนในกรุงเทพฯกระมัง เลยถามต่อว่าค่าเทอมเท่าไหร่? เด็กๆตอบว่าเรียนฟรีค่ะ! ผมก็งง ว่าทำไมถึงเรียนฟรี? น้องบอกว่า ร.ร.นี้ เปิดมา 15 ปีแล้ว ทั้งร.ร.สร้างด้วยไม้ไผ่ นักเรียนทุกคนต้องจ่ายค่าเทอมเป็นการทำดีให้กับชุมชน รวมถึงทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโรงเรียนตามความรับผิดชอบของตัวเอง มีนักเรียน ม.1-ม.6 ระดับชั้นละ 20 กว่าคน มีครู 10 กว่าคน โดยให้นักเรียนกินนอนที่ร.ร. ไม่ให้กลับบ้านจนกว่าจะปิดเทอม และห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์ ผมก็ถามว่า แล้วอยู่กันยังไง ไม่เหงาเหรอ? น้องตอบกลับว่า หนูมีหนังสือต่างๆให้อ่านเยอะแยะ และ แต่ละวันมีกิจกรรมให้ทำมากมาย และที่ร.ร.ก็กำหนดให้นักเรียนร่วมกันจัดการบริหารดูแลร.ร.กันเอง โดยมีคุณครูช่วยให้คำแนะนำ เรียกว่าทั้งฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายตรวจรับ และฝ่ายต่าง ๆ ของร.ร.ถูกดูแลโดยนักเรียนเอง มีแค่งานครัวที่มีแม่ครัวเป็นคนปรุงอาหารให้กิน น้อง ๆ เขาคิดว่า ชีวิตของเขามีกิจกรรมอื่นให้ทำมากกว่าจะมานั่งเล่นโทรศัพท์เลยไม่ติดเกม ติดซีรี่ส์แบบเด็กวัยเดียวกัน ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา พี่ ๆ ที่จบไปมักจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ทุกคน และมักจะติดตั้งแต่รอบ Portfolio และส่วนใหญ่จะเรียนต่อมหาวิทยาลัยใกล้บ้าน ทั้งด้านเกษตร หรือด้านบริหารก็มี เพราะนักเรียนจะมีทั้งเด็กในจังหวัดบุรีรัมย์ และ ใกล้เคียง แต่ก็มีบางคนที่มาจาก เวียดนาม หรือ เป็นเด็กชาติพันธุ์จากกาญจนบุรี / แม่ฮ่องสอน ฟังน้อง ๆ เล่าแล้วผมถึงกับอึ้งกับแนวคิดของ ผ.อ. ซึ่งก็คือ อ.มีชัย วีระไวทยะ แถมยังอยากเขกหัวตัวเองว่า ไม่รู้จักโรงเรียนนี้ได้ยังไง แต่ก็ได้คำตอบว่า ทำไม ผู้จัดงานถึงได้เลือกโรงเรียนนี้มาจัดนิทรรศการในงานนี้ งานนี้น่าจะจัดถึงวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค. หากมีเวลาอยากชวนให้ไปดูงานนี้ แล้วไปฟังน้อง ๆ เล่าถึงโรงเรียนของเขากันนะครับ ❤️
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • #อ่านแล้วประยุกต์ใช้ได้กับวิชามารยาท

    สมัยเรียนมัธยม ก่อนคุณครูเข้าห้อง ก็ธรรมชาติเด็ก พอคุณครูเข้ามา ก็จะอบรมแบบครูโบราณ ประโยคที่ครูอบรมนักเรียนทั้งชั้น ที่จำได้ไม่ลืม ว่า "หนังสือสมบัติผู้ดีให้ไปอ่านซะ ถ้ามันไม่เข้าก็ให้ไปต้มกิน" แรง! ครูสอนภาษาอังกฤษ แต่อบรมมารยาทไทย ผมไปหาซื้อมาอ่าน เพราะอยากรู้หนังสือเป็นอย่างไร เล่มเล็ก บางๆ แต่อ่านแล้วก็ลืมเนื้อหาไปแล้ว แต่มารยาทอะไร ที่สามัญสำนึกพึงกระทำ เบสิค คือเดินโค้งศีรษะก้มตัว เดินอ้ออม ถอดรองเท้า แต่งกายให้สุภาพแก่สถานที่และเจ้าภาพ ตามฐานะ
    ท่าแกว่งแขนเดินแบบทหาร เรียนจากวิชาทหารรักษาดินแดน คือแกว่งปลายแขนมือเฉียงออกจากลำตัว พอมาเรียนวิชาฮวงจุ้ย ก็แขว่งปลายแขนมือออกจากลำตัว (แกว่งปลายแขนมือออกจากก้น แบบจิ๊กโก๋ คือปัดเงินออกตัว) เข้าเรื่องเลย อ่านบทความแล้ว เป็นวิชามารยาท เรียนไว้ ประยุกต์ใช้ได้กับทุกคน

    https://mgronline.com/daily/detail/9670000094676
    #อ่านแล้วประยุกต์ใช้ได้กับวิชามารยาท สมัยเรียนมัธยม ก่อนคุณครูเข้าห้อง ก็ธรรมชาติเด็ก พอคุณครูเข้ามา ก็จะอบรมแบบครูโบราณ ประโยคที่ครูอบรมนักเรียนทั้งชั้น ที่จำได้ไม่ลืม ว่า "หนังสือสมบัติผู้ดีให้ไปอ่านซะ ถ้ามันไม่เข้าก็ให้ไปต้มกิน" แรง! ครูสอนภาษาอังกฤษ แต่อบรมมารยาทไทย ผมไปหาซื้อมาอ่าน เพราะอยากรู้หนังสือเป็นอย่างไร เล่มเล็ก บางๆ แต่อ่านแล้วก็ลืมเนื้อหาไปแล้ว แต่มารยาทอะไร ที่สามัญสำนึกพึงกระทำ เบสิค คือเดินโค้งศีรษะก้มตัว เดินอ้ออม ถอดรองเท้า แต่งกายให้สุภาพแก่สถานที่และเจ้าภาพ ตามฐานะ ท่าแกว่งแขนเดินแบบทหาร เรียนจากวิชาทหารรักษาดินแดน คือแกว่งปลายแขนมือเฉียงออกจากลำตัว พอมาเรียนวิชาฮวงจุ้ย ก็แขว่งปลายแขนมือออกจากลำตัว (แกว่งปลายแขนมือออกจากก้น แบบจิ๊กโก๋ คือปัดเงินออกตัว) เข้าเรื่องเลย อ่านบทความแล้ว เป็นวิชามารยาท เรียนไว้ ประยุกต์ใช้ได้กับทุกคน https://mgronline.com/daily/detail/9670000094676
    MGRONLINE.COM
    ศักดินา-กิริยา เจ้านาย-ไพร่
    เช้านี้เห็นภาพที่เด็กหนุ่มผู้เป็นไอดอลนักข่าวขวัญใจวัยรุ่นสีส้มผู้เปี่ยมไปด้วยความยโสโอหังห่อหุ้มอัตตาอันแข็งแกร่ง ปราศจากความอ่อนน้อมถ่อมต้น แสดงให้เห็นว่าศักดินานั้นไม่มีแล้วอีกต่อไป ที่ยังคงหลงเหลืออยู่มากมายคือกิริยาไพร่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • (พี๊นพีนเฮยฟู่นเหน๋ย)..偏偏喜歡你 "ขอเพียงแค่ได้รักเธอ"
    ผลงานกลางยุค80 ของ แดนนี่ ชาน หรือ "เฉินไป่เฉียง" 陳百強
    https://www.youtube.com/watch?v=rDEkEfEmPqE
    (พี๊นพีนเฮยฟู่นเหน๋ย)..偏偏喜歡你 "ขอเพียงแค่ได้รักเธอ" ผลงานกลางยุค80 ของ แดนนี่ ชาน หรือ "เฉินไป่เฉียง" 陳百強 https://www.youtube.com/watch?v=rDEkEfEmPqE
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพลงกวางตุ้งเก่าฮิต..(หมุ่ยหยัดวายหยิ่นเหน่ย์) 每日怀念你 "คิดถึงคุณในทุกๆวัน"
    https://www.youtube.com/watch?v=RRFngP1uHSg
    เพลงกวางตุ้งเก่าฮิต..(หมุ่ยหยัดวายหยิ่นเหน่ย์) 每日怀念你 "คิดถึงคุณในทุกๆวัน" https://www.youtube.com/watch?v=RRFngP1uHSg
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดีเบตผู้ท้าชิงรอง ปธน. สหรัฐฯ ดันหรือถ่วงทรัมป์-แฮร์ริส : [คุยผ่าโลก Worldtalk]
    ดีเบตผู้ท้าชิงรอง ปธน. สหรัฐฯ ดันหรือถ่วงทรัมป์-แฮร์ริส : [คุยผ่าโลก Worldtalk]
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 137 0 รีวิว
  • เหงาๆกันหน่อยนะคะ แต่ก็เฉพาะพวกเราเท่านั้นแหละ แต่……พี่ปูเขาไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น………!!!

    ตอนยี่สิบสาม…………เอาจริงละนะ……แผ่นดินของข้า….ใครอย่าแตะ…!!!

    ในช่วงของความโอ่อ่าตระการตาจากพิธีโอลิมปิกฤดูหนาวที่ Sochi ที่รัสเซียทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อแสดงแสนยานุภาพแห่งเทคโนโยลีสู่สายตาชาวโลกนั้น สิ่งที่กวนใจปูตินได้เกิดขึ้นที่ยูเครน ทั้งๆที่ปธน. Yanukovych ที่เพิ่งรับเงินไปหมื่นห้าพันล้านดอลล่าร์หมาดๆ นั่นคือการเดินขบวนของประชาชนที่เรียกร้องอยากจะเข้าสู่โลกของตะวันตก ที่คราวนี้ออกแนวทำลายตึกรามบ้านช่อง
    ซึ่งสภาพเหมือนสงครามกลางเมืองเข้าไปทุกที ทหาร ตำรวจ ต้องระดมกำลังกันปราบปราม ป้องกัน
    ภาพที่ปูตินเห็นจากข่าวในทีวี คือ องค์กรต่างๆจากนอกประเทศ นอกจากจะช่วยยุแยงจากใต้ดินแล้ว คราวนี้เปิดหน้าชกแบบขึ้นมาบนดิน เพราะตั้งเต้นท์แจกอาหารและเครื่องดื่มให้กับกลุ่มผู้ก่อการอยู่ทั่วไป

    สามชาติที่ส่งตัวแทนเข้ามาในกรุงเคียฟ คือ ฝรั่งเศส เยอรมัน และ โปแลนด์ ใันวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์ และเจรจากับยานุโควิชในเรื่องขอให้ยุติการที่ใช้กำลังรุนแรงกับกลุ่มม็อบ
    ปูติน…ยังนิ่ง เพราะโอลิมปิกยังไม่จบ
    แต่ยานุโควิช……ได้ติดต่อไปหาทางโทรศัพท์ เพื่อบอกว่า เขาอ่อนแรงแล้ว
    พร้อมที่จะลาออก ไม่อยากอยู่ต่อจนจบเทอม (ในปี 2014) เขาอยากจะถอนกำลังในการคุมสถานการณ์ออกให้หมด ……
    แต่ปูตินเห็นว่า…นั่นคือสัญญาณของคนขี้แพ้ และ ถึงจะลาออกก็ไม่มีอะไรดีขึ้น นอกจากจะเป็นภาวะที่ล่มสลาย ประเทศจะกลายเป็นอนาธิปไตย……คิดดูใหม่ดีๆ…!!

    ยานุโควิชโอนเอียงไปทางการหวานล้อมของตะวันตกในที่สุด เขาประกาศลาออกในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ และหลบออกจากเมืองหลวงสู่ไครเมียก่อนที่จะเข้าสู่ทางตอนใต้ของรัสเซีย
    ปูตินเรียกประชุมคณะมนตรีฝ่ายความมั่นคงในกลางดึกของวันเดียวกัน
    เพื่อที่จะรับมือกับสถานการณ์ในยูเครนต่อไป เพราะเชื่อว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ การตั้งสมาชิกสภากันขึ้นมาใหม่ แก้ไขกฎหมายเก่าที่ผูกพันกับรัสเซีย เช่นในเรื่องภาษา และเรื่องการที่จะเป็นเอกเทศ (เอียงไปทางตะวันตก)
    และสิ่งที่ปูตินเชื่อว่ามันคงจะเกิดขึ้น นั่นคือ การที่ฝ่ายชาตินิยมที่มีสหรัฐอเมริกาและฝั่งยุโรปสนับสนุนอยู่เบื้องหลังจะไฮแจคการชุมนุมนี้……ไปเป็นผลประโยชน์ของตัวเอง……และหันมาทิ่มแทงรัสเซีย……!!

    วันที่ 23 เป็นพิธีปิดโอลิมปิก……ที่รัสเซียกวาดเหรียญทองไป 13 และ
    เหรียญอื่นๆทั้งหมด รวม 33 ………เป็นเวลารวม 16 วันที่รัสเซียได้เป็นดาราดวงเด่น ฉายแสงจ้าในโลกของศตวรรษที่ 21
    ภาพของปูตินที่ใครต่อใครเห็นคือ แจ่มเจิด……ทรงภูมิ และ รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเมตตา
    แต่เบื้องหลังนั้น ……เขาได้เตรียมตัวพร้อมกับการที่จะรับมือและโต้กลับ
    โดยไม่ต้องไว้หน้าใครอีกแล้ว แม้แต่เพื่อนรัก อย่างนาง แอนเจล่า
    เมอร์เคิล ที่ทำทีโทรมาถามเรื่องยูเครน……
    เขาตอบกลับไปว่า……อย่ามาทำเป็นถาม…รู้ดีกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?

    แต่นั่นเป็นสิ่งที่ใครๆก็อยากรู้ สื่อทุกสื่อรู้ดีว่า……ปูตินจะไม่เฉยแน่นอน…
    ทางฝ่ายโฆษกรัฐบาลของรัสเซีย……ได้ยืนยันชัดเจนว่า จะไม่แทรกแซงกิจการทางการเมืองของยูเครนอย่างแน่นอน……
    (ก็ปาวๆไปอย่างนั้นเอง……แต่ทางกลาโหมได้จัดทัพแล้ว…)
    แล้วจากนั้น……ก็มีการซ้อมรบที่ฝั่งรัสเซียใกล้ชายแดนยูเครนพร้อมกันทั้งบกและอากาศ ……แบบว่าท้าทายนาโต้อย่างสุดฤทธิ์
    ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์……กลุ่มกองทัพและหน่วยคอมมานโดจากฐานที่ทะเลดำ เข้ายึดไครเมีย……!!!
    แต่ทหารทุกคน…แต่งกายด้วยยูนิฟอร์มสีเขียวที่ไม่มีตราติดสัญชาติ
    จากนั้นภายใน 24 ชั่วโมงต่อมา……ไครเมียได้ถูกควบคุมโดยกองทัพนับหมื่นๆนาย(ที่ไม่ปรากฎสัญชาติ) และไม่มีใครต่อต้าน……ทุกอย่างเกิดขึ้นในความสงบ สงบยิ่งกว่าการปฏิวัติเงียบ……
    เพราะทหารทุกคนช่างเรียบร้อยและแสนสุภาพกับประชาชน……

    ทางสภาเคียฟที่กำลังเฟ้นหาผู้นำ…ไม่มีน้ำยาที่จะทำอะไรได้ จึงเลือกที่จะไม่ทำการต่อต้านใดๆ ทุกคนต่างลงความเห็นว่าให้ปล่อยผ่านไปก่อน
    เพราะไครเมียก็คือดินแดนของยูเครน ใครจะมาเอาไปก็ไม่ได้…
    แต่นั่นใช้ไม่ได้กับปูติน……เพราะรัสเซียให้มีการลงคะแนนเสียงในไครเมีย ว่าจะเลือกเป็นเอกเทศ เป็นสาธารณรัฐ(ในสายของรัสเซีย) หรือเป็นจังหวัดหนึ่งของยูเครน ในวันที่ 25 มีนาคม
    แน่นอนว่า….คำว่า สาธารณรัฐ……ย่อมทำให้การเลือกตั้งได้รับชัยชนะอย่างถล่มทะลาย……
    นี่คือการหักหน้าฝั่งตะวันตก….ที่ปูตินได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับตัวเองว่า พอกันที.………จะไม่ให้คนพวกนี้ก้าวล่วงเข้ามาได้อีกแม้แต่ก้าวเดียว……!!

    เพราะในอดีตที่ซีเรีย……สองปีก่อนตอนที่ซีเรียเริ่มกรุ่นด้วยสงครามกลางเมือง
    ปูตินได้พบกับโอบามา ที่การประชุม G20 ที่โอบามาได้บอกเขาว่า
    “ถ้าเมื่อไหร่……ทางรัฐบาลซีเรียเล่น”สกปรก” ใช้อาวุธเคมีกับประชาชนละก้อ……ผมไม่เอามันไว้แน่……” (พล๊อตเก่าสมัยซัดดัม ฮูเซน)
    จากนั้นไม่นาน……ก็มีจรวดติดหัวสารพิษยิงเข้าไปในชนบทใกล้กับเมือง ดามัสกัส อันเป็นเมืองหลวงของซีเรีย ที่ทำให้มีคนตายถึง 1400 คน
    และจากนั้นทัพอเมริกันก็เข้ามาเพื่อโค่นประธานาธิบดี Bashar al-Assad
    ด้วยเหตุผลที่ว่า ใช้อาวุธร้ายแรงผิดหลักของนาโต้
    ซึ่งปูตินรู้ดีว่า…ทางกองทัพซีเรียไม่มีอาวุธชนิดนี้ และถึงมีก็คงไม่ใช้กับประชาชนของตัวเองที่อยู่ใกล้เมืองหลวงขนาดนั้น
    การสร้าง”แพะ” ของอเมริกาและพรรคพวกจึงไม่เนียน…!!

    ปูตินได้แต่สงสารอัล-อัสสาด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะนาโต้ประกาศปิดน่านฟ้า……เพื่อที่พวกของตัวจะได้รุมถล่มซีเรียได้อย่างสะดวกๆนั่นเอง
    ฉะนั้น……การเป็นไปในยูเครน……จึงเป็นแค่ละครเรื่องใหม่ในพล๊อตเดิมๆ

    ปูตินได้เสนอไปทางสภาในเรื่องการส่งกองกำลังเข้าไปควบคุมที่เคียฟ ซึ่งเป็นโอกาสเหมาะเพราะตอนนี้คือสูญญากาศทางการเมืองของยูเครน
    ซึ่งทางสภาได้มีเสียงข้างมากในทางที่เห็นด้วย (ทั้งที่กองทัพนิรนามบุกไครเมียไปแล้ว……ตลกการเมืองจริงๆ)

    วันที่ 2 มีนาคม ปูตินได้เรียกยานุโควิชเข้ามาพบเพราะในทางกฏหมาย ยานุโควิชยังเป็นประธานาธิบดีอยู่ ให้ร่างจดหมายเซ็นชื่อ (โดยไม่มีวันที่กำกับ ละเว้นไว้) ในเนื้อความของจดหมายคือการที่รัฐบาลยูเครนยินยอมและขอร้องให้รัสเซียส่งกองกำลังไปช่วย และอ้างถึงสาเหตุของการก่อความวุ่นวายเกิดขึ้นจากการแทรกแซงจากตะวันตก จึงจำเป็นที่จะต้องขอความร่วมมือจากรัสเซียเพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองและประชาชนชาวยูเครน……ลงชื่อ…!!!

    สองวันก่อนที่จะเกิดจดหมายฉบับนี้ ปูตินได้โทรศัพท์ติดต่อกับแองเจล่า เมอร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมันนี ที่เขาปฎิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นกับ
    การบุกไครเมีย (เลยจริงๆ……)
    แองเจล่าที่เคยเป็นเพื่อนสนิทของปูติน เริ่มไม่พูดจาภาษาดอกไม้ด้วยแล้ว
    เพราะตอนนี้ ใครก็ไว้ใจใครไม่ได้ เธอได้เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดการสนทนาทุกคำให้กับบารัค โอบามา ที่คำรามฮึ่มๆ บอกว่า
    “ในเมื่อไว้ใจกันไม่ได้……ก็คงต้องตัดรัสเซียออกไปจาก G8… “

    วันที่ 4 มีนาคม ที่ปูตินได้พบกับนักข่าว เขาก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้ในเรื่องของยูเครน แบบว่า…ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไร และไม่มีศัตรูในยูเครน
    แต่เขาตีตรงๆไปที่สหรัฐอเมริกาและพรรคพวกในเรื่องของอาฟกานิสถาน ลิเบีย และ ซีเรีย ที่สร้างแต่ความเดือดร้อน ทางเราก็เพียงแต่ซ้อมรบเตรียมพร้อมไว้เท่านั้น”
    เมื่อถูกถามเรื่องทหารที่ไครเมีย ที่อยู่ในชุดพรางพร้อมรบ ว่า……เหมือนกับชุดของทหารรัสเซีย
    ปูตินตอบว่า……ชุดแบบนี้……ไปหาซื้อที่ไหนก็ได้นี่นา……!!!

    ช่วงการดำเนินการลงเสียงของประชาชนในไครเมีย ที่ปูตินบอกว่า ไม่ขอยุ่ง……เป็นความตัดสินใจของประชาชนล้วนๆนั้น
    แต่ทางเครมลินได้จัดให้มีการเดินขบวน พาเหรดสวยงาม ทำเพลงปลุกใจรักชาติ ที่เน้นว่า…ไครเมียคือดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซียแต่เก่าก่อน ป้ายและธง “Krim nash ! “ หรือ Crimea is ours ! ขึ้นพรึ่บไปทั่วทุกที่……
    มีการนำการเต้นรำ Sevastopol Waltz (1953) ได้นำขึ้นมาปัดฝุ่น
    เต้นมาร้องกันใหม่……

    การปฏิบัติการที่ไครเมีย คือการมองการณ์ไกลของปูตินที่เขาขยับงบประมาณทางทหารขึ้นมาสามสี่เท่าตัว จากสงครามที่จอร์เจีย
    นับว่ารัสเซียมีงบประมาณกองทัพที่สูสีกับสหรัฐอเมริกา และ จีน ที่มีจำนวนเกือบแสนล้าน……
    นี่คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้อเมริกาไม่กล้าขยับในเรื่องของไครเมีย
    เพียงแต่ยังงงๆ ในการปฏิบัติการที่เงียบเชียบ ไม่มีการสาดกระสุนหรือจับกุมทุบตีแต่อย่างใด ผิดกับที่กรุงเคียฟที่มีการนองเลือด
    ได้แต่หวังว่า……การลงมติของประชาชนจะออกมาในทางที่สวนกัน
    แต่เมื่อผิดคาด……ก็ได้แต่ขู่ฟ่อ.……

    ปูตินที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับโอบามามาตั้งแต่เรื่องของ Edward Snowden
    แล้วก็เรื่องของซีเรีย……ต่อให้ขู่ยังไง……จะเป็นหนึ่งใน G8 หรือ จะเหลือกันแค่ G7 ……เขาก็ไม่แคร์
    สิ่งที่อเมริกาและยุโรปได้ทำคือ……การแซงชั่นทางการเงินและทางธนาคาร
    กระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศรายชื่อของผู้ที่ใกล้ชิดกับปูตินออกมายาวเป็นหางว่าว ห้ามเข้าประเทศ และยึดทรัพย์สินในธุรกรรมที่อเมริกาและประเทศที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมเงินดอลล่าร์

    เมื่อการลงมติที่ไครเมียผ่านไป.……ทุกอย่างเป็นไปตามความคาดหมาย
    ไม่กี่วันต่อมา…ชาวยูเครนตะวันออก ได้เริ่มเดินขบวนในเมืองใหญ่สองเมือง คือ Donetsk และ Luhansk เพื่อยื่นข้อเสนอให้กับเคียฟเพื่อที่จะขอแยกตัวเป็นอิสระ โดยจะมีการลงมติจากประชาชน (แบบไครเมีย) ในเดือนพฤษภาคม
    เพราะชนในเขตนี้ คือ ชาวรัสเซียที่ใกล้ชิดกับฝั่งตะวันออกมากกว่าทางยูเครน ซึ่งในระยะหลังๆมานี่ พวกเขาถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม
    มีกลุ่มขวาจัดได้เข้ามาแทรกแซงทำร้าย และ หลายครั้งที่ถึงแก่ชีวิต
    ทางรัสเซียได้ส่งกองกำลังเข้าไปควบคุมดูแล และเรียกดินแดนส่วนนี้ว่า
    Novorossiya อันหมายถึง New Russia…

    ทางรัสเซีย……ก็เดินหน้าจัดการเรียกดินแดนคืนต่อไป จากโดเนทค์, ลูฮังค์
    ในเดือนพฤษภาคม……คราวนี้ใน Odessa ที่มีฝ่ายโปร-รัสเซียเดินขบวน
    ที่มีการนองเลือด……เผา……มีคนตาย 48 คน แกนนำถูกจับตัวไป……

    ยูเครนได้จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ ผู้ที่เข้ามารับตำแหน่งคือ
    Viktor Yushchenko ( อดีตประธานาธิบดีคนที่สาม ที่โดนยาพิษ)

    วันที่ 6 มิถุนายน ปูตินได้ไปร่วมในงานระลึกครบรอบวันยกพลขึ้นบก (D-Day) ที่นอร์มังดี ……ผู้นำอื่นๆพร้อมใจกันทำทีท่าชาเย็น เฉยเมย เพราะบัดนี้รัสเซียไม่ได้อยู่ในกลุ่ม G อีกแล้ว
    แต่แองเจล่าและฟรองซัวส์ ออลลังด์ ปธน. ฝรั่งเศส ได้เข้ามาคุยด้วยในเรื่องการขอร้องให้มีสันติภาพในยูเครน…
    เดือนต่อมา ปูตินได้พบกับแองเจล่า เมอร์เคิลที่บราซิล ในการประชุม FIFA World Cup ระหว่างเยอรมันนี กับ อาร์เจนตินา ในฐานะที่รัสเซียเสนอที่จะเป็นเจ้าภาพในครั้งต่อไป (2018) ที่ปูตินทุ่มทุนมหาศาลในการจัดสร้าง
    สเตเดี้ยมให้ใหญ่โตสมศักดิ์ศรี
    จากการพบปะ……เธอยังขอร้องในเรื่องเดิม ปูตินก็ว่า……พร้อมที่จะถอยออกไป
    แต่ขณะที่สองผู้นำคุยกัน……… ข่าวออกมาว่า กองทัพรัสเซียได้ป้วนเปี้ยนอยู่แนวชายแดน
    วันต่อมา…มีข่าวว่า เครื่องบินลำเลียง AN-26 ของยูเครนที่บินสูงกว่าสองหมื่นฟุตได้ถูกยิงตกแถวลูฮังสค์
    ต่อมา…เครื่องบิน Sukhoi ของรัสเซียถูกสอยร่วงจากภาคพื้นดิน ด้วยขีปนาวุธที่ไม่ปรากฎสัญชาติ……!!

    ผลสะท้อนกลับคือ การสอย AN-26 แบบรัวๆ และ การประกาศตามมาจากรัสเซียว่า….อย่าบังอาจแม้แต่จะคิด……!!!


    Wiwanda W. Vichit
    เหงาๆกันหน่อยนะคะ แต่ก็เฉพาะพวกเราเท่านั้นแหละ แต่……พี่ปูเขาไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น………!!! ตอนยี่สิบสาม…………เอาจริงละนะ……แผ่นดินของข้า….ใครอย่าแตะ…!!! ในช่วงของความโอ่อ่าตระการตาจากพิธีโอลิมปิกฤดูหนาวที่ Sochi ที่รัสเซียทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อแสดงแสนยานุภาพแห่งเทคโนโยลีสู่สายตาชาวโลกนั้น สิ่งที่กวนใจปูตินได้เกิดขึ้นที่ยูเครน ทั้งๆที่ปธน. Yanukovych ที่เพิ่งรับเงินไปหมื่นห้าพันล้านดอลล่าร์หมาดๆ นั่นคือการเดินขบวนของประชาชนที่เรียกร้องอยากจะเข้าสู่โลกของตะวันตก ที่คราวนี้ออกแนวทำลายตึกรามบ้านช่อง ซึ่งสภาพเหมือนสงครามกลางเมืองเข้าไปทุกที ทหาร ตำรวจ ต้องระดมกำลังกันปราบปราม ป้องกัน ภาพที่ปูตินเห็นจากข่าวในทีวี คือ องค์กรต่างๆจากนอกประเทศ นอกจากจะช่วยยุแยงจากใต้ดินแล้ว คราวนี้เปิดหน้าชกแบบขึ้นมาบนดิน เพราะตั้งเต้นท์แจกอาหารและเครื่องดื่มให้กับกลุ่มผู้ก่อการอยู่ทั่วไป สามชาติที่ส่งตัวแทนเข้ามาในกรุงเคียฟ คือ ฝรั่งเศส เยอรมัน และ โปแลนด์ ใันวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์ และเจรจากับยานุโควิชในเรื่องขอให้ยุติการที่ใช้กำลังรุนแรงกับกลุ่มม็อบ ปูติน…ยังนิ่ง เพราะโอลิมปิกยังไม่จบ แต่ยานุโควิช……ได้ติดต่อไปหาทางโทรศัพท์ เพื่อบอกว่า เขาอ่อนแรงแล้ว พร้อมที่จะลาออก ไม่อยากอยู่ต่อจนจบเทอม (ในปี 2014) เขาอยากจะถอนกำลังในการคุมสถานการณ์ออกให้หมด …… แต่ปูตินเห็นว่า…นั่นคือสัญญาณของคนขี้แพ้ และ ถึงจะลาออกก็ไม่มีอะไรดีขึ้น นอกจากจะเป็นภาวะที่ล่มสลาย ประเทศจะกลายเป็นอนาธิปไตย……คิดดูใหม่ดีๆ…!! ยานุโควิชโอนเอียงไปทางการหวานล้อมของตะวันตกในที่สุด เขาประกาศลาออกในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ และหลบออกจากเมืองหลวงสู่ไครเมียก่อนที่จะเข้าสู่ทางตอนใต้ของรัสเซีย ปูตินเรียกประชุมคณะมนตรีฝ่ายความมั่นคงในกลางดึกของวันเดียวกัน เพื่อที่จะรับมือกับสถานการณ์ในยูเครนต่อไป เพราะเชื่อว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ การตั้งสมาชิกสภากันขึ้นมาใหม่ แก้ไขกฎหมายเก่าที่ผูกพันกับรัสเซีย เช่นในเรื่องภาษา และเรื่องการที่จะเป็นเอกเทศ (เอียงไปทางตะวันตก) และสิ่งที่ปูตินเชื่อว่ามันคงจะเกิดขึ้น นั่นคือ การที่ฝ่ายชาตินิยมที่มีสหรัฐอเมริกาและฝั่งยุโรปสนับสนุนอยู่เบื้องหลังจะไฮแจคการชุมนุมนี้……ไปเป็นผลประโยชน์ของตัวเอง……และหันมาทิ่มแทงรัสเซีย……!! วันที่ 23 เป็นพิธีปิดโอลิมปิก……ที่รัสเซียกวาดเหรียญทองไป 13 และ เหรียญอื่นๆทั้งหมด รวม 33 ………เป็นเวลารวม 16 วันที่รัสเซียได้เป็นดาราดวงเด่น ฉายแสงจ้าในโลกของศตวรรษที่ 21 ภาพของปูตินที่ใครต่อใครเห็นคือ แจ่มเจิด……ทรงภูมิ และ รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเมตตา แต่เบื้องหลังนั้น ……เขาได้เตรียมตัวพร้อมกับการที่จะรับมือและโต้กลับ โดยไม่ต้องไว้หน้าใครอีกแล้ว แม้แต่เพื่อนรัก อย่างนาง แอนเจล่า เมอร์เคิล ที่ทำทีโทรมาถามเรื่องยูเครน…… เขาตอบกลับไปว่า……อย่ามาทำเป็นถาม…รู้ดีกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ? แต่นั่นเป็นสิ่งที่ใครๆก็อยากรู้ สื่อทุกสื่อรู้ดีว่า……ปูตินจะไม่เฉยแน่นอน… ทางฝ่ายโฆษกรัฐบาลของรัสเซีย……ได้ยืนยันชัดเจนว่า จะไม่แทรกแซงกิจการทางการเมืองของยูเครนอย่างแน่นอน…… (ก็ปาวๆไปอย่างนั้นเอง……แต่ทางกลาโหมได้จัดทัพแล้ว…) แล้วจากนั้น……ก็มีการซ้อมรบที่ฝั่งรัสเซียใกล้ชายแดนยูเครนพร้อมกันทั้งบกและอากาศ ……แบบว่าท้าทายนาโต้อย่างสุดฤทธิ์ ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์……กลุ่มกองทัพและหน่วยคอมมานโดจากฐานที่ทะเลดำ เข้ายึดไครเมีย……!!! แต่ทหารทุกคน…แต่งกายด้วยยูนิฟอร์มสีเขียวที่ไม่มีตราติดสัญชาติ จากนั้นภายใน 24 ชั่วโมงต่อมา……ไครเมียได้ถูกควบคุมโดยกองทัพนับหมื่นๆนาย(ที่ไม่ปรากฎสัญชาติ) และไม่มีใครต่อต้าน……ทุกอย่างเกิดขึ้นในความสงบ สงบยิ่งกว่าการปฏิวัติเงียบ…… เพราะทหารทุกคนช่างเรียบร้อยและแสนสุภาพกับประชาชน…… ทางสภาเคียฟที่กำลังเฟ้นหาผู้นำ…ไม่มีน้ำยาที่จะทำอะไรได้ จึงเลือกที่จะไม่ทำการต่อต้านใดๆ ทุกคนต่างลงความเห็นว่าให้ปล่อยผ่านไปก่อน เพราะไครเมียก็คือดินแดนของยูเครน ใครจะมาเอาไปก็ไม่ได้… แต่นั่นใช้ไม่ได้กับปูติน……เพราะรัสเซียให้มีการลงคะแนนเสียงในไครเมีย ว่าจะเลือกเป็นเอกเทศ เป็นสาธารณรัฐ(ในสายของรัสเซีย) หรือเป็นจังหวัดหนึ่งของยูเครน ในวันที่ 25 มีนาคม แน่นอนว่า….คำว่า สาธารณรัฐ……ย่อมทำให้การเลือกตั้งได้รับชัยชนะอย่างถล่มทะลาย…… นี่คือการหักหน้าฝั่งตะวันตก….ที่ปูตินได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับตัวเองว่า พอกันที.………จะไม่ให้คนพวกนี้ก้าวล่วงเข้ามาได้อีกแม้แต่ก้าวเดียว……!! เพราะในอดีตที่ซีเรีย……สองปีก่อนตอนที่ซีเรียเริ่มกรุ่นด้วยสงครามกลางเมือง ปูตินได้พบกับโอบามา ที่การประชุม G20 ที่โอบามาได้บอกเขาว่า “ถ้าเมื่อไหร่……ทางรัฐบาลซีเรียเล่น”สกปรก” ใช้อาวุธเคมีกับประชาชนละก้อ……ผมไม่เอามันไว้แน่……” (พล๊อตเก่าสมัยซัดดัม ฮูเซน) จากนั้นไม่นาน……ก็มีจรวดติดหัวสารพิษยิงเข้าไปในชนบทใกล้กับเมือง ดามัสกัส อันเป็นเมืองหลวงของซีเรีย ที่ทำให้มีคนตายถึง 1400 คน และจากนั้นทัพอเมริกันก็เข้ามาเพื่อโค่นประธานาธิบดี Bashar al-Assad ด้วยเหตุผลที่ว่า ใช้อาวุธร้ายแรงผิดหลักของนาโต้ ซึ่งปูตินรู้ดีว่า…ทางกองทัพซีเรียไม่มีอาวุธชนิดนี้ และถึงมีก็คงไม่ใช้กับประชาชนของตัวเองที่อยู่ใกล้เมืองหลวงขนาดนั้น การสร้าง”แพะ” ของอเมริกาและพรรคพวกจึงไม่เนียน…!! ปูตินได้แต่สงสารอัล-อัสสาด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะนาโต้ประกาศปิดน่านฟ้า……เพื่อที่พวกของตัวจะได้รุมถล่มซีเรียได้อย่างสะดวกๆนั่นเอง ฉะนั้น……การเป็นไปในยูเครน……จึงเป็นแค่ละครเรื่องใหม่ในพล๊อตเดิมๆ ปูตินได้เสนอไปทางสภาในเรื่องการส่งกองกำลังเข้าไปควบคุมที่เคียฟ ซึ่งเป็นโอกาสเหมาะเพราะตอนนี้คือสูญญากาศทางการเมืองของยูเครน ซึ่งทางสภาได้มีเสียงข้างมากในทางที่เห็นด้วย (ทั้งที่กองทัพนิรนามบุกไครเมียไปแล้ว……ตลกการเมืองจริงๆ) วันที่ 2 มีนาคม ปูตินได้เรียกยานุโควิชเข้ามาพบเพราะในทางกฏหมาย ยานุโควิชยังเป็นประธานาธิบดีอยู่ ให้ร่างจดหมายเซ็นชื่อ (โดยไม่มีวันที่กำกับ ละเว้นไว้) ในเนื้อความของจดหมายคือการที่รัฐบาลยูเครนยินยอมและขอร้องให้รัสเซียส่งกองกำลังไปช่วย และอ้างถึงสาเหตุของการก่อความวุ่นวายเกิดขึ้นจากการแทรกแซงจากตะวันตก จึงจำเป็นที่จะต้องขอความร่วมมือจากรัสเซียเพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองและประชาชนชาวยูเครน……ลงชื่อ…!!! สองวันก่อนที่จะเกิดจดหมายฉบับนี้ ปูตินได้โทรศัพท์ติดต่อกับแองเจล่า เมอร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมันนี ที่เขาปฎิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นกับ การบุกไครเมีย (เลยจริงๆ……) แองเจล่าที่เคยเป็นเพื่อนสนิทของปูติน เริ่มไม่พูดจาภาษาดอกไม้ด้วยแล้ว เพราะตอนนี้ ใครก็ไว้ใจใครไม่ได้ เธอได้เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดการสนทนาทุกคำให้กับบารัค โอบามา ที่คำรามฮึ่มๆ บอกว่า “ในเมื่อไว้ใจกันไม่ได้……ก็คงต้องตัดรัสเซียออกไปจาก G8… “ วันที่ 4 มีนาคม ที่ปูตินได้พบกับนักข่าว เขาก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้ในเรื่องของยูเครน แบบว่า…ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไร และไม่มีศัตรูในยูเครน แต่เขาตีตรงๆไปที่สหรัฐอเมริกาและพรรคพวกในเรื่องของอาฟกานิสถาน ลิเบีย และ ซีเรีย ที่สร้างแต่ความเดือดร้อน ทางเราก็เพียงแต่ซ้อมรบเตรียมพร้อมไว้เท่านั้น” เมื่อถูกถามเรื่องทหารที่ไครเมีย ที่อยู่ในชุดพรางพร้อมรบ ว่า……เหมือนกับชุดของทหารรัสเซีย ปูตินตอบว่า……ชุดแบบนี้……ไปหาซื้อที่ไหนก็ได้นี่นา……!!! ช่วงการดำเนินการลงเสียงของประชาชนในไครเมีย ที่ปูตินบอกว่า ไม่ขอยุ่ง……เป็นความตัดสินใจของประชาชนล้วนๆนั้น แต่ทางเครมลินได้จัดให้มีการเดินขบวน พาเหรดสวยงาม ทำเพลงปลุกใจรักชาติ ที่เน้นว่า…ไครเมียคือดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซียแต่เก่าก่อน ป้ายและธง “Krim nash ! “ หรือ Crimea is ours ! ขึ้นพรึ่บไปทั่วทุกที่…… มีการนำการเต้นรำ Sevastopol Waltz (1953) ได้นำขึ้นมาปัดฝุ่น เต้นมาร้องกันใหม่…… การปฏิบัติการที่ไครเมีย คือการมองการณ์ไกลของปูตินที่เขาขยับงบประมาณทางทหารขึ้นมาสามสี่เท่าตัว จากสงครามที่จอร์เจีย นับว่ารัสเซียมีงบประมาณกองทัพที่สูสีกับสหรัฐอเมริกา และ จีน ที่มีจำนวนเกือบแสนล้าน…… นี่คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้อเมริกาไม่กล้าขยับในเรื่องของไครเมีย เพียงแต่ยังงงๆ ในการปฏิบัติการที่เงียบเชียบ ไม่มีการสาดกระสุนหรือจับกุมทุบตีแต่อย่างใด ผิดกับที่กรุงเคียฟที่มีการนองเลือด ได้แต่หวังว่า……การลงมติของประชาชนจะออกมาในทางที่สวนกัน แต่เมื่อผิดคาด……ก็ได้แต่ขู่ฟ่อ.…… ปูตินที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับโอบามามาตั้งแต่เรื่องของ Edward Snowden แล้วก็เรื่องของซีเรีย……ต่อให้ขู่ยังไง……จะเป็นหนึ่งใน G8 หรือ จะเหลือกันแค่ G7 ……เขาก็ไม่แคร์ สิ่งที่อเมริกาและยุโรปได้ทำคือ……การแซงชั่นทางการเงินและทางธนาคาร กระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศรายชื่อของผู้ที่ใกล้ชิดกับปูตินออกมายาวเป็นหางว่าว ห้ามเข้าประเทศ และยึดทรัพย์สินในธุรกรรมที่อเมริกาและประเทศที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมเงินดอลล่าร์ เมื่อการลงมติที่ไครเมียผ่านไป.……ทุกอย่างเป็นไปตามความคาดหมาย ไม่กี่วันต่อมา…ชาวยูเครนตะวันออก ได้เริ่มเดินขบวนในเมืองใหญ่สองเมือง คือ Donetsk และ Luhansk เพื่อยื่นข้อเสนอให้กับเคียฟเพื่อที่จะขอแยกตัวเป็นอิสระ โดยจะมีการลงมติจากประชาชน (แบบไครเมีย) ในเดือนพฤษภาคม เพราะชนในเขตนี้ คือ ชาวรัสเซียที่ใกล้ชิดกับฝั่งตะวันออกมากกว่าทางยูเครน ซึ่งในระยะหลังๆมานี่ พวกเขาถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม มีกลุ่มขวาจัดได้เข้ามาแทรกแซงทำร้าย และ หลายครั้งที่ถึงแก่ชีวิต ทางรัสเซียได้ส่งกองกำลังเข้าไปควบคุมดูแล และเรียกดินแดนส่วนนี้ว่า Novorossiya อันหมายถึง New Russia… ทางรัสเซีย……ก็เดินหน้าจัดการเรียกดินแดนคืนต่อไป จากโดเนทค์, ลูฮังค์ ในเดือนพฤษภาคม……คราวนี้ใน Odessa ที่มีฝ่ายโปร-รัสเซียเดินขบวน ที่มีการนองเลือด……เผา……มีคนตาย 48 คน แกนนำถูกจับตัวไป…… ยูเครนได้จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ ผู้ที่เข้ามารับตำแหน่งคือ Viktor Yushchenko ( อดีตประธานาธิบดีคนที่สาม ที่โดนยาพิษ) วันที่ 6 มิถุนายน ปูตินได้ไปร่วมในงานระลึกครบรอบวันยกพลขึ้นบก (D-Day) ที่นอร์มังดี ……ผู้นำอื่นๆพร้อมใจกันทำทีท่าชาเย็น เฉยเมย เพราะบัดนี้รัสเซียไม่ได้อยู่ในกลุ่ม G อีกแล้ว แต่แองเจล่าและฟรองซัวส์ ออลลังด์ ปธน. ฝรั่งเศส ได้เข้ามาคุยด้วยในเรื่องการขอร้องให้มีสันติภาพในยูเครน… เดือนต่อมา ปูตินได้พบกับแองเจล่า เมอร์เคิลที่บราซิล ในการประชุม FIFA World Cup ระหว่างเยอรมันนี กับ อาร์เจนตินา ในฐานะที่รัสเซียเสนอที่จะเป็นเจ้าภาพในครั้งต่อไป (2018) ที่ปูตินทุ่มทุนมหาศาลในการจัดสร้าง สเตเดี้ยมให้ใหญ่โตสมศักดิ์ศรี จากการพบปะ……เธอยังขอร้องในเรื่องเดิม ปูตินก็ว่า……พร้อมที่จะถอยออกไป แต่ขณะที่สองผู้นำคุยกัน……… ข่าวออกมาว่า กองทัพรัสเซียได้ป้วนเปี้ยนอยู่แนวชายแดน วันต่อมา…มีข่าวว่า เครื่องบินลำเลียง AN-26 ของยูเครนที่บินสูงกว่าสองหมื่นฟุตได้ถูกยิงตกแถวลูฮังสค์ ต่อมา…เครื่องบิน Sukhoi ของรัสเซียถูกสอยร่วงจากภาคพื้นดิน ด้วยขีปนาวุธที่ไม่ปรากฎสัญชาติ……!! ผลสะท้อนกลับคือ การสอย AN-26 แบบรัวๆ และ การประกาศตามมาจากรัสเซียว่า….อย่าบังอาจแม้แต่จะคิด……!!! Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเอาเรื่อง Ep.79 : วอร์เกม 2002

    ในปี 2002 กองทัพสหรัฐเกิดความคิดขึ้นว่า อยากจะสมมติสถานการณ์การรบ หรือ ”วอร์เกม“ ว่าถ้าเกิดกองทัพสหรัฐต้องรบกับอิหร่านแบบเต็มรูปแบบแล้ว ผลการรบจะออกมาเป็นอย่างไร ใครจะสูญเสียเท่าไร

    กระทรวงกลาโหมสหรัฐหรือ “เพนตากอน” จึงทุ่มงบประมาณไป 250 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเล่นวอร์เกมนี้ ซึ่งก็มีทั้งการใช้เรือรบและเครื่องบินรบ ทหารจริงกว่า 13,000 คนเข้าร่วม และผสมกับการใช้คอมพิวเตอร์จำลองการรบหรือซิมูเลเตอร์ด้วยครับ

    เป็นวอร์เกมที่ใช้งบประมาณมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเพนตากอน

    การฝึกนี้ชื่อว่า “มิลเลนเนียม ชาเล้นจ์ 2002“ ครับ เพนตากอนกำหนดไว้ว่าเขาจะเล่นวอร์เกมส์นี้กัน 14 วันถ้วน

    ในการฝึกนี้เขาแบ่งออกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายน้ำเงินซึ่งหมายถึงกองทัพสหรัฐ นำโดยกองทัพเรือ

    ส่วนฝ่ายแดง คือ ฝ่ายอิหร่าน เพนตากอนเขาได้ตั้งพลเรือโทพอล แวน ริพเพอร์ มาเป็นแม่ทัพฝ่ายแดง ซึ่งนายพลผู้นี้ท่านเป็นทหารนาวิกโยธินอเมริกันที่เกษียณอายุแล้วครับ

    เงื่อนไขในการรบก็คือ ”อยู่ดีๆก็เกิดสงครามขึ้นซะยังงั้นแหละ“ นั่นหมายความว่า ในท้องทะเลก็ยังมีเรือสินค้า เรือเดินสมุทรแล่นไปแล่นมาอยู่ ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว

    และไฮไลท์ซึ่งเป็นมูลเหตุของวอร์เกมนี้คือ ให้ฝ่ายแดง(อิหร่าน)ใช้อาวุธและยุทธวิธีโลว์เทคในการรบ

    เพราะเพนตากอนอยากรู้ว่า ถ้ากองทัพสหรัฐต้องมาเจอกองทัพศัตรูที่ใช้อาวุธแสวงเครื่องและยุทโธปกรณ์ที่โลว์เทค หรือ Asymmetric warfare แล้ว กองทัพสหรัฐจะเป็นอย่างไร

    โดยเพนตากอนบอกท่านนายพลริพเพอร์ หรือ แม่ทัพฝ่ายแดงว่า “เล่นได้เต็มที่แบบ Free play เลย”

    ผลที่ได้คือ…
    .
    .
    .
    เปิดฉากมาวันแรกปุ๊บ ฝ่ายน้ำเงินหรือสหรัฐก็ส่งสาส์นมายังฝ่ายแดงตามธรรมเนียมว่า “พลานุภาพกำลังรบและรี้พลของฝ่ายข้าพเจ้านั้นเหนือกว่าท่านมากมายนัก ขอให้ท่านจงยอมแพ้แต่โดยดีเถิด หาไม่แล้วอาณาประชาราษฎร์จะได้ยาก”

    ท่านนายพลริพเพอร์ก็ไม่ได้ยอมแพ้ และเริ่มเล่นยุทธวิธีที่เตรียมไว้คือ ใช้รถมอเตอร์ไซค์ในการนำสาร ไม่มีการใช้วิทยุใดๆทั้งสิ้น เพื่อไม่ให้กองทัพสหรัฐดักฟังหรือแจมระบบสื่อสารได้

    บรรดาฝูงรถมอเตอร์ไซค์พวกนี้นำคำสั่งของนายพลริพเพอร์วิ่งไปยังกองเรือเร็วขนาดเล็กที่บรรทุกมิสไซล์จอดเทียบอยู่ตามท่าเรือต่างๆ

    เมื่อรับคำสั่งปุ๊บบรรดาเรือสปีดโบ๊ทเหล่านี้ก็พร้อมใจกันแล่นมุ่งหน้าไปยังกองเรือสหรัฐที่ลอยลำอยู่นอกชายฝั่งอิหร่าน

    ด้วยความที่วอร์เกมนี้ระบุว่า “อยู่ดีๆสงครามก็ปะทุ” ทำให้กองทัพเรือสหรัฐต้องแล่นเรือเข้ามาลอยลำใกล้ชายฝั่งอิหร่านมากกว่าปกติ เพราะต้องเว้นระยะห่างจากเส้นทางเรือสินค้าครับ

    เมื่อฝูงเรือสปีดโบ๊ทฝ่ายแดงแล่นเข้ามาได้ระยะยิงปุ๊บ ก็พร้อมใจกันระดมยิงขีปนาวุธห่าใหญ่ใส่กองเรือสหรัฐ จำนวนขีปนาวุธนี้มากมายท่วมท้นเสียจนระบบเรด้าร์และระบบป้องกันของเรือรบสหรัฐเอาไม่อยู่

    นอกจากนี้ยังมีเรือสปีดโบ๊ทบางลำใช้วิธีกามิกาเซ่ คือ บรรทุกระเบิดแล้วพุ่งเข้าชนเรือรบสหรัฐเพื่อให้ระเบิดไปด้วยกัน

    ผลที่ได้คือ เรือรบสหรัฐจมไป 16 ลำ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ เรือยกพลขึ้นบก 5 ลำ และเรือลาดตระเวนอีก 10 ลำ

    จากนั้นท่านนายพลริพเพอร์ก็ใช้กระจกสะท้อนแสง เพื่อส่งสัญญาณให้เครื่องบินรบฝ่ายแดงขึ้นบิน ซึ่งเป็นวิธีดั้งเดิมที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่สองครับ

    คีย์สำคัญคือ ฝ่ายแดงไม่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เลยไม่ว่าจะเป็นวิทยุหรือเรด้าร์ ทำให้ฝ่ายสหรัฐไม่สามารถแจมหรือสแกนหาที่ตั้งสถานีเรด้าร์ได้

    ภายใน 24 ชั่วโมงแรกของวอร์เกม เรือของกองทัพเรือฝ่ายสหรัฐจมไป 16 ลำ ซึ่งถ้าเป็นเหตุการณ์จริงๆแล้ว จะหมายถึงชีวิตของทหาร 20,000 คนเลยเชียว
    .
    .
    .
    เมื่อการณ์เป็นเช่นนี้ แม่ทัพน้ำเงินหรือฝ่ายสหรัฐก็เต้นผาง โวยกับแม่ทัพฝ่ายแดงว่า “ยูฆ่าไอตายตั้งแต่วันแรก แล้วเวลาที่เหลืออีก 13 วันไอจะทำอะไรล่ะ เอางี้ละกันเรามารีสตาร์ทเริ่มเล่นกันใหม่ก็แล้วกัน“

    แล้วก็มีการแก้บทในวอร์เกมใหม่ว่า ให้ฝ่ายแดงเปิดใช้สถานีเรด้าร์ เพื่อที่ฝ่ายสหรัฐจะได้สแกนหาเจอและส่งเครื่องบินเข้าไปถล่มได้สะดวก ตามด้วยส่งทหารกองพลพลร่มที่ 82 กระโดดร่มลงไปยังที่หมาย

    ในระหว่างนี้ คนคุมวอร์เกมได้บอกแม่ทัพฝ่ายแดงว่าห้ามยิงเครื่องบินสหรัฐที่บินเข้ามา แม่ทัพฝ่ายแดงหรือนายพลริพเพอร์จึงไม่พอใจอย่างมากที่วอร์เกมนี้ไม่สมจริงและไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้แต่ต้น

    เมื่อสคริปท์ได้เปลี่ยนไปเพื่อการันตีว่าฝ่ายน้ำเงินหรือสหรัฐจะต้องเป็นฝ่ายชนะเท่านั้น นายพลริพเพอร์จึงประท้วงด้วยการขอถอนตัวออกจากวอร์เกมกลางคัน เพราะท่านบอกว่า “เปลืองเงิน”

    ตามมาด้วยวิวาทะของแม่ทัพทั้งสองฝ่ายในวอร์เกมนี้ ต่างฝ่ายต่างด่ากันคนละนิดละหน่อยพอหอมปากหอมคอ

    ส่วนเพนตากอนนั้นก็ออกมาแถลงว่า บทเรียนที่ได้จากวอร์เกมนี้จะถูกส่งไปให้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดเพื่อพัฒนาหลักนิยมในการรบต่อไปในอนาคต
    .
    .
    .
    ที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่าก็เพราะอยากจะเล่าว่า ในเวลานี้ก็เกิดเหตุการณ์ใกล้เคียงกับในวอร์เกมดังกล่าวขึ้นจริงๆที่แถวเยเมนครับ

    อย่างที่เราทราบว่า เยเมนนั้นเป็นที่มั่นของพวกกองโจรฮูติ ซึ่งพวกฮูตินี้ได้ยึดครองชายฝั่งทะเลตรงปากทางเข้าทะเลแดง

    ทะเลแดงนี้เป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของเรือสินค้าจำนวนมหาศาลครับ พวกฮูตินี้เริ่มมีอิทธิพลตรงปากทางเข้าทะเลแดงและยิงจรวดไปจมเรือสินค้าหลายๆลำตั้งแต่ปี 2023 ที่ผ่านมา

    กองทัพเรือสหรัฐส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าไปคุ้มครองความปลอดภัยของเรือสินค้า ส่วนทางยุโรปก็ส่งกองทัพเรือผสมหลายๆชาติเข้าไปเช่นกัน

    แต่ฝ่ายฮูติก็ไม่ได้สนใจใยดี ยังคงยิงจรวดใส่เรือสินค้าเล่นไปอย่างนั้นมาได้ 6 เดือนแล้ว เกิดเหตุร้ายกับเรือสินค้านับได้ 100 กว่าเหตุการณ์

    แม้กองเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐจะพร้อมรบเต็มที่ แต่ก็ยังกล้าๆกลัวๆที่จะเปิดฉากถล่มฮูติเต็มเหนี่ยว เพราะมันจะดูเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตน

    ด้วยเหตุว่าอาวุธของฮูตินั้นเป็นอาวุธราคาประหยัดแต่มีประสิทธิภาพ เช่น ขีปนาวุธที่ยิงได้เป็นระยะ 200-300 กิโลเมตรและโดรนติดอาวุธราคาไม่เกินลำละ 2,000 ดอลล่าร์ ทั้งหมดนี้ได้รับสปอนเซอร์จากอิหร่านซึ่งเป็นเจ้าพ่อแห่งการก๊อปปี้และสร้างอาวุธราคาถูกได้ทีละมากๆ

    ส่วนอาวุธของฝ่ายสหรัฐนั้นราคาแพง เช่น ขีปนาวุธครูซลูกหนึ่งราคาไม่ต่ำกว่า 1-4 ล้านดอลล่าร์

    เรือพิฆาตของสหรัฐลำหนึ่ง ราคา 2 พันล้านดอลล่าร์ และค่าใช้จ่ายในการที่จะทำให้มันแล่นเป็นเรือรบอยู่ได้ก็ตกเดือนละ 7 ล้านเหรียญ

    การรบระหว่างกองทัพสหรัฐกับกองโจรฮูติ จึงไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจโดยสิ้นเชิง เพราะเผลอๆเรือรบแพงๆอาจโดนขีปนาวุธราคาถูกยิงจมเอาได้ง่ายๆ

    .....เอามาเล่าสู่กันฟังครับ…..


    นัทแนะ
    อ่านเอาเรื่อง Ep.79 : วอร์เกม 2002 ในปี 2002 กองทัพสหรัฐเกิดความคิดขึ้นว่า อยากจะสมมติสถานการณ์การรบ หรือ ”วอร์เกม“ ว่าถ้าเกิดกองทัพสหรัฐต้องรบกับอิหร่านแบบเต็มรูปแบบแล้ว ผลการรบจะออกมาเป็นอย่างไร ใครจะสูญเสียเท่าไร กระทรวงกลาโหมสหรัฐหรือ “เพนตากอน” จึงทุ่มงบประมาณไป 250 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเล่นวอร์เกมนี้ ซึ่งก็มีทั้งการใช้เรือรบและเครื่องบินรบ ทหารจริงกว่า 13,000 คนเข้าร่วม และผสมกับการใช้คอมพิวเตอร์จำลองการรบหรือซิมูเลเตอร์ด้วยครับ เป็นวอร์เกมที่ใช้งบประมาณมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเพนตากอน การฝึกนี้ชื่อว่า “มิลเลนเนียม ชาเล้นจ์ 2002“ ครับ เพนตากอนกำหนดไว้ว่าเขาจะเล่นวอร์เกมส์นี้กัน 14 วันถ้วน ในการฝึกนี้เขาแบ่งออกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายน้ำเงินซึ่งหมายถึงกองทัพสหรัฐ นำโดยกองทัพเรือ ส่วนฝ่ายแดง คือ ฝ่ายอิหร่าน เพนตากอนเขาได้ตั้งพลเรือโทพอล แวน ริพเพอร์ มาเป็นแม่ทัพฝ่ายแดง ซึ่งนายพลผู้นี้ท่านเป็นทหารนาวิกโยธินอเมริกันที่เกษียณอายุแล้วครับ เงื่อนไขในการรบก็คือ ”อยู่ดีๆก็เกิดสงครามขึ้นซะยังงั้นแหละ“ นั่นหมายความว่า ในท้องทะเลก็ยังมีเรือสินค้า เรือเดินสมุทรแล่นไปแล่นมาอยู่ ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว และไฮไลท์ซึ่งเป็นมูลเหตุของวอร์เกมนี้คือ ให้ฝ่ายแดง(อิหร่าน)ใช้อาวุธและยุทธวิธีโลว์เทคในการรบ เพราะเพนตากอนอยากรู้ว่า ถ้ากองทัพสหรัฐต้องมาเจอกองทัพศัตรูที่ใช้อาวุธแสวงเครื่องและยุทโธปกรณ์ที่โลว์เทค หรือ Asymmetric warfare แล้ว กองทัพสหรัฐจะเป็นอย่างไร โดยเพนตากอนบอกท่านนายพลริพเพอร์ หรือ แม่ทัพฝ่ายแดงว่า “เล่นได้เต็มที่แบบ Free play เลย” ผลที่ได้คือ… . . . เปิดฉากมาวันแรกปุ๊บ ฝ่ายน้ำเงินหรือสหรัฐก็ส่งสาส์นมายังฝ่ายแดงตามธรรมเนียมว่า “พลานุภาพกำลังรบและรี้พลของฝ่ายข้าพเจ้านั้นเหนือกว่าท่านมากมายนัก ขอให้ท่านจงยอมแพ้แต่โดยดีเถิด หาไม่แล้วอาณาประชาราษฎร์จะได้ยาก” ท่านนายพลริพเพอร์ก็ไม่ได้ยอมแพ้ และเริ่มเล่นยุทธวิธีที่เตรียมไว้คือ ใช้รถมอเตอร์ไซค์ในการนำสาร ไม่มีการใช้วิทยุใดๆทั้งสิ้น เพื่อไม่ให้กองทัพสหรัฐดักฟังหรือแจมระบบสื่อสารได้ บรรดาฝูงรถมอเตอร์ไซค์พวกนี้นำคำสั่งของนายพลริพเพอร์วิ่งไปยังกองเรือเร็วขนาดเล็กที่บรรทุกมิสไซล์จอดเทียบอยู่ตามท่าเรือต่างๆ เมื่อรับคำสั่งปุ๊บบรรดาเรือสปีดโบ๊ทเหล่านี้ก็พร้อมใจกันแล่นมุ่งหน้าไปยังกองเรือสหรัฐที่ลอยลำอยู่นอกชายฝั่งอิหร่าน ด้วยความที่วอร์เกมนี้ระบุว่า “อยู่ดีๆสงครามก็ปะทุ” ทำให้กองทัพเรือสหรัฐต้องแล่นเรือเข้ามาลอยลำใกล้ชายฝั่งอิหร่านมากกว่าปกติ เพราะต้องเว้นระยะห่างจากเส้นทางเรือสินค้าครับ เมื่อฝูงเรือสปีดโบ๊ทฝ่ายแดงแล่นเข้ามาได้ระยะยิงปุ๊บ ก็พร้อมใจกันระดมยิงขีปนาวุธห่าใหญ่ใส่กองเรือสหรัฐ จำนวนขีปนาวุธนี้มากมายท่วมท้นเสียจนระบบเรด้าร์และระบบป้องกันของเรือรบสหรัฐเอาไม่อยู่ นอกจากนี้ยังมีเรือสปีดโบ๊ทบางลำใช้วิธีกามิกาเซ่ คือ บรรทุกระเบิดแล้วพุ่งเข้าชนเรือรบสหรัฐเพื่อให้ระเบิดไปด้วยกัน ผลที่ได้คือ เรือรบสหรัฐจมไป 16 ลำ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ เรือยกพลขึ้นบก 5 ลำ และเรือลาดตระเวนอีก 10 ลำ จากนั้นท่านนายพลริพเพอร์ก็ใช้กระจกสะท้อนแสง เพื่อส่งสัญญาณให้เครื่องบินรบฝ่ายแดงขึ้นบิน ซึ่งเป็นวิธีดั้งเดิมที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่สองครับ คีย์สำคัญคือ ฝ่ายแดงไม่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เลยไม่ว่าจะเป็นวิทยุหรือเรด้าร์ ทำให้ฝ่ายสหรัฐไม่สามารถแจมหรือสแกนหาที่ตั้งสถานีเรด้าร์ได้ ภายใน 24 ชั่วโมงแรกของวอร์เกม เรือของกองทัพเรือฝ่ายสหรัฐจมไป 16 ลำ ซึ่งถ้าเป็นเหตุการณ์จริงๆแล้ว จะหมายถึงชีวิตของทหาร 20,000 คนเลยเชียว . . . เมื่อการณ์เป็นเช่นนี้ แม่ทัพน้ำเงินหรือฝ่ายสหรัฐก็เต้นผาง โวยกับแม่ทัพฝ่ายแดงว่า “ยูฆ่าไอตายตั้งแต่วันแรก แล้วเวลาที่เหลืออีก 13 วันไอจะทำอะไรล่ะ เอางี้ละกันเรามารีสตาร์ทเริ่มเล่นกันใหม่ก็แล้วกัน“ แล้วก็มีการแก้บทในวอร์เกมใหม่ว่า ให้ฝ่ายแดงเปิดใช้สถานีเรด้าร์ เพื่อที่ฝ่ายสหรัฐจะได้สแกนหาเจอและส่งเครื่องบินเข้าไปถล่มได้สะดวก ตามด้วยส่งทหารกองพลพลร่มที่ 82 กระโดดร่มลงไปยังที่หมาย ในระหว่างนี้ คนคุมวอร์เกมได้บอกแม่ทัพฝ่ายแดงว่าห้ามยิงเครื่องบินสหรัฐที่บินเข้ามา แม่ทัพฝ่ายแดงหรือนายพลริพเพอร์จึงไม่พอใจอย่างมากที่วอร์เกมนี้ไม่สมจริงและไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้แต่ต้น เมื่อสคริปท์ได้เปลี่ยนไปเพื่อการันตีว่าฝ่ายน้ำเงินหรือสหรัฐจะต้องเป็นฝ่ายชนะเท่านั้น นายพลริพเพอร์จึงประท้วงด้วยการขอถอนตัวออกจากวอร์เกมกลางคัน เพราะท่านบอกว่า “เปลืองเงิน” ตามมาด้วยวิวาทะของแม่ทัพทั้งสองฝ่ายในวอร์เกมนี้ ต่างฝ่ายต่างด่ากันคนละนิดละหน่อยพอหอมปากหอมคอ ส่วนเพนตากอนนั้นก็ออกมาแถลงว่า บทเรียนที่ได้จากวอร์เกมนี้จะถูกส่งไปให้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดเพื่อพัฒนาหลักนิยมในการรบต่อไปในอนาคต . . . ที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่าก็เพราะอยากจะเล่าว่า ในเวลานี้ก็เกิดเหตุการณ์ใกล้เคียงกับในวอร์เกมดังกล่าวขึ้นจริงๆที่แถวเยเมนครับ อย่างที่เราทราบว่า เยเมนนั้นเป็นที่มั่นของพวกกองโจรฮูติ ซึ่งพวกฮูตินี้ได้ยึดครองชายฝั่งทะเลตรงปากทางเข้าทะเลแดง ทะเลแดงนี้เป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของเรือสินค้าจำนวนมหาศาลครับ พวกฮูตินี้เริ่มมีอิทธิพลตรงปากทางเข้าทะเลแดงและยิงจรวดไปจมเรือสินค้าหลายๆลำตั้งแต่ปี 2023 ที่ผ่านมา กองทัพเรือสหรัฐส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าไปคุ้มครองความปลอดภัยของเรือสินค้า ส่วนทางยุโรปก็ส่งกองทัพเรือผสมหลายๆชาติเข้าไปเช่นกัน แต่ฝ่ายฮูติก็ไม่ได้สนใจใยดี ยังคงยิงจรวดใส่เรือสินค้าเล่นไปอย่างนั้นมาได้ 6 เดือนแล้ว เกิดเหตุร้ายกับเรือสินค้านับได้ 100 กว่าเหตุการณ์ แม้กองเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐจะพร้อมรบเต็มที่ แต่ก็ยังกล้าๆกลัวๆที่จะเปิดฉากถล่มฮูติเต็มเหนี่ยว เพราะมันจะดูเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตน ด้วยเหตุว่าอาวุธของฮูตินั้นเป็นอาวุธราคาประหยัดแต่มีประสิทธิภาพ เช่น ขีปนาวุธที่ยิงได้เป็นระยะ 200-300 กิโลเมตรและโดรนติดอาวุธราคาไม่เกินลำละ 2,000 ดอลล่าร์ ทั้งหมดนี้ได้รับสปอนเซอร์จากอิหร่านซึ่งเป็นเจ้าพ่อแห่งการก๊อปปี้และสร้างอาวุธราคาถูกได้ทีละมากๆ ส่วนอาวุธของฝ่ายสหรัฐนั้นราคาแพง เช่น ขีปนาวุธครูซลูกหนึ่งราคาไม่ต่ำกว่า 1-4 ล้านดอลล่าร์ เรือพิฆาตของสหรัฐลำหนึ่ง ราคา 2 พันล้านดอลล่าร์ และค่าใช้จ่ายในการที่จะทำให้มันแล่นเป็นเรือรบอยู่ได้ก็ตกเดือนละ 7 ล้านเหรียญ การรบระหว่างกองทัพสหรัฐกับกองโจรฮูติ จึงไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจโดยสิ้นเชิง เพราะเผลอๆเรือรบแพงๆอาจโดนขีปนาวุธราคาถูกยิงจมเอาได้ง่ายๆ .....เอามาเล่าสู่กันฟังครับ….. นัทแนะ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇮🇱 ⚔️ 🇱🇧 ภาพความพ่ายแพ้ของ IDF ทางตอนใต้ของเลบานอน
    .
    💀 🇮🇱 #ทหารอิสราเอล เสียชีวิต 8 ศพ ☠ เพียงแค่ 1 วัน ➡ ➡ หลังระบุในแถลงการณ์ว่า : ได้เริ่มการโจมตีกลุ่มฮิซบัลเลาะห์ในปฏิบัติการภาคพื้นดิน "ในวงจำกัด"😁
    .
    #IDF กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล ประกาศเมื่อ 3 ต.ค. ว่า : ทหารอิสราเอล 8 นาย เสียชีวิตในเลบานอนตอนใต้
    .
    เบื้องต้น กองทัพอิสราเอลได้ระบุชื่อทหารที่เสียชีวิต 1 นาย คือ
    • ร้อยเอกอีตัน อิทซัค โอสเตอร์ อายุ 22 ปี

    ต่อมา กองทัพได้เผยแพร่รายชื่อทหารที่เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 7 นาย
    • ร้อยเอกฮาเรล เอทิงเกอร์ อายุ 23 ปี ผู้บัญชาการในหน่วยคอมมานโดเอโกซ Egoz
    • ร้อยเอกอิไต อาเรียล จิอาต อายุ 23 ปี จากหน่วยวิศวกรรมการรบยาฮาลอม Yahalom
    • จ่าสิบเอก โนอาม บาร์ซิเลย์ อายุ 22 ปี จากหน่วยคอมมานโด Egoz
    • จ่าสิบเอกออร์มันซูร์ อายุ 21 ปี จากหน่วยคอมมานโด Egoz
    • จ่าสิบเอก นาซาร์ อิทกิน อายุ 21 ปี จากหน่วยคอมมานโด Egoz
    • จ่าสิบเอก อัลม์เคน เทเรเฟ อายุ 21 ปี จากหน่วยลาดตระเวนกองพลน้อยโกลานี Golani
    • จ่าสิบเอก อิโด บรอยเออร์ อายุ 21 ปี จากกองพลน้อยโกลานี
    .
    👿 👻 หน่วยคอมมานโด Egoz ทั้งหมด ถูกสังหารระหว่างการยิงปะทะกับกลุ่ม Hezbollah ในหมู่บ้านทางตอนใต้ของเลบานอน
    • ทหารอีก 4 นาย และเจ้าหน้าที่อีก 1 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์เดียวกันนี้
    .
    ในเหตุการณ์ที่สาม
    • แพทย์ทหารจากกองพันที่ 51 ของกองพลน้อยโกลานี ได้รับบาดเจ็บสาหัส
    .
    ตามรายงานของกองทัพ #IDF ทหารบางส่วนถูกสังหารด้วย ATGM ขีปนาวุธต่อต้านรถถัง ที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยิงมา
    • ขณะที่บางนายถูกยิงด้วยปืนครก ระหว่างพยายามอพยพผู้ได้รับบาดเจ็บ
    .
    #Egoz : ชื่ออย่างเป็นทางการคือหน่วย 621 เป็นหน่วยรบพิเศษ คอมมานโดชั้นยอด ของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF)
    #บทบาท : เชี่ยวชาญในการต่อต้านการรบแบบกองโจร, การลาดตระเวนพิเศษ และการปฏิบัติภารกิจโดยตรง
    • มีความเชี่ยวชาญด้านการสู้รบในภูมิประเทศที่ซับซ้อน ภาคสนาม การอำพรางตัว
    .
    🇮🇱 🇮🇱 🇮🇱 🇮🇱 🇮🇱 นับตั้งแต่เริ่มต้นสงครามเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
    💀 ทหารอิสราเอล เสียชีวิต 716 นาย
    💀 รวมถึงทหาร 346 นาย ที่เสียชีวิตในการปฏิบัติการภาคพื้นดินในฉนวนกาซา
    💀 ทหารที่เสียชีวิต 56 นาย จากอุบัติเหตุในการปฏิบัติการภายในฉนวนกาซา รวมถึงเหตุการณ์ยิงพวกเดียวกัน 33 ครั้ง
    💀 ทหาร ได้รับบาดเจ็บ 4,490 นาย

    https://www.timesofisrael.com/liveblog_entry/idf-announces-deaths-of-seven-soldiers-killed-during-fighting-in-southern-lebanon-today/

    https://www.haaretz.com/israel-news/2024-10-02/ty-article/israeli-soldier-killed-in-southern-lebanon-ground-offensive/00000192-4d76-d3f4-a3f3-fdfe60f90000
    .
    💥🚀 จากการโจมตี จากขีปนาวุธของอิหร่าน

    #ฐานทัพอากาศเนวาติม เป็นการยากที่จะประเมินความเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่โรงเก็บเครื่องบินเสียหาย และยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นโรงเก็บ F-35

    Noraseth Tuntasiri
    🇮🇱 ⚔️ 🇱🇧 ภาพความพ่ายแพ้ของ IDF ทางตอนใต้ของเลบานอน . 💀 🇮🇱 #ทหารอิสราเอล เสียชีวิต 8 ศพ ☠ เพียงแค่ 1 วัน ➡ ➡ หลังระบุในแถลงการณ์ว่า : ได้เริ่มการโจมตีกลุ่มฮิซบัลเลาะห์ในปฏิบัติการภาคพื้นดิน "ในวงจำกัด"😁 . #IDF กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล ประกาศเมื่อ 3 ต.ค. ว่า : ทหารอิสราเอล 8 นาย เสียชีวิตในเลบานอนตอนใต้ . เบื้องต้น กองทัพอิสราเอลได้ระบุชื่อทหารที่เสียชีวิต 1 นาย คือ • ร้อยเอกอีตัน อิทซัค โอสเตอร์ อายุ 22 ปี ต่อมา กองทัพได้เผยแพร่รายชื่อทหารที่เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 7 นาย • ร้อยเอกฮาเรล เอทิงเกอร์ อายุ 23 ปี ผู้บัญชาการในหน่วยคอมมานโดเอโกซ Egoz • ร้อยเอกอิไต อาเรียล จิอาต อายุ 23 ปี จากหน่วยวิศวกรรมการรบยาฮาลอม Yahalom • จ่าสิบเอก โนอาม บาร์ซิเลย์ อายุ 22 ปี จากหน่วยคอมมานโด Egoz • จ่าสิบเอกออร์มันซูร์ อายุ 21 ปี จากหน่วยคอมมานโด Egoz • จ่าสิบเอก นาซาร์ อิทกิน อายุ 21 ปี จากหน่วยคอมมานโด Egoz • จ่าสิบเอก อัลม์เคน เทเรเฟ อายุ 21 ปี จากหน่วยลาดตระเวนกองพลน้อยโกลานี Golani • จ่าสิบเอก อิโด บรอยเออร์ อายุ 21 ปี จากกองพลน้อยโกลานี . 👿 👻 หน่วยคอมมานโด Egoz ทั้งหมด ถูกสังหารระหว่างการยิงปะทะกับกลุ่ม Hezbollah ในหมู่บ้านทางตอนใต้ของเลบานอน • ทหารอีก 4 นาย และเจ้าหน้าที่อีก 1 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์เดียวกันนี้ . ในเหตุการณ์ที่สาม • แพทย์ทหารจากกองพันที่ 51 ของกองพลน้อยโกลานี ได้รับบาดเจ็บสาหัส . ตามรายงานของกองทัพ #IDF ทหารบางส่วนถูกสังหารด้วย ATGM ขีปนาวุธต่อต้านรถถัง ที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยิงมา • ขณะที่บางนายถูกยิงด้วยปืนครก ระหว่างพยายามอพยพผู้ได้รับบาดเจ็บ . #Egoz : ชื่ออย่างเป็นทางการคือหน่วย 621 เป็นหน่วยรบพิเศษ คอมมานโดชั้นยอด ของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) • #บทบาท : เชี่ยวชาญในการต่อต้านการรบแบบกองโจร, การลาดตระเวนพิเศษ และการปฏิบัติภารกิจโดยตรง • มีความเชี่ยวชาญด้านการสู้รบในภูมิประเทศที่ซับซ้อน ภาคสนาม การอำพรางตัว . 🇮🇱 🇮🇱 🇮🇱 🇮🇱 🇮🇱 นับตั้งแต่เริ่มต้นสงครามเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 💀 ทหารอิสราเอล เสียชีวิต 716 นาย 💀 รวมถึงทหาร 346 นาย ที่เสียชีวิตในการปฏิบัติการภาคพื้นดินในฉนวนกาซา 💀 ทหารที่เสียชีวิต 56 นาย จากอุบัติเหตุในการปฏิบัติการภายในฉนวนกาซา รวมถึงเหตุการณ์ยิงพวกเดียวกัน 33 ครั้ง 💀 ทหาร ได้รับบาดเจ็บ 4,490 นาย https://www.timesofisrael.com/liveblog_entry/idf-announces-deaths-of-seven-soldiers-killed-during-fighting-in-southern-lebanon-today/ https://www.haaretz.com/israel-news/2024-10-02/ty-article/israeli-soldier-killed-in-southern-lebanon-ground-offensive/00000192-4d76-d3f4-a3f3-fdfe60f90000 . 💥🚀 จากการโจมตี จากขีปนาวุธของอิหร่าน #ฐานทัพอากาศเนวาติม เป็นการยากที่จะประเมินความเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่โรงเก็บเครื่องบินเสียหาย และยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นโรงเก็บ F-35 Noraseth Tuntasiri
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • Smith&Wesson Model 629 .44 Magnum

    โดย. พีระพงษ์ กลั่นกรอง

    เมื่อ คลิ้นท์ อี้สต์วู้ด (Clint Eastwood) ในบทของสารวัตรมือปราบ ฮาร์รี่ คาลาแฮน (Harry Callahan) พูดกับคนร้ายในฉากแรกของภาพยนต์เรื่อง “มือปราบปืนโหด” หรือ Dirty Harry ภาพยนต์ซีรี่ส์บู้แอ๊คชั่นที่ยิงกันสนั่นจอเรื่องที่โด่งดังที่สุดในโลกเมื่อ 40 ปีที่แล้ว

    ด้วยทุนสร้าง 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มือปราบปืนโหด(ภาคแรก-ปีค.ศ.1971)ทำรายได้สูงถึง 35 ล้านเหรียญ, ภาคที่สอง คือ Magnum Force (ปี 1973), ภาคที่สาม-The Enforcer (ปี 1976), ภาคที่สี่-Sudden Impact (ปี 1983), และภาคสุดท้าย คือ The Dead Pool (ปี 1988)

    ไม่ว่าภาพยนต์เรื่องนี้จะออกมากี่ภาคก็ตาม ผลตอบรับ ก็คือ ปลุกกระแสความนิยมปืน “สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 สี่สี่แม็กนั่ม” จนตลาดปืนทั่วโลกยอดขายถล่มทลาย แม้ว่าบริษัทผลิตปืนสมิธฯกำลังจะขุดหลุมฝัง(เลิกผลิต)ปืนสั้นกระสุนโหดรุ่นนี้อยู่ก่อนหน้านั้นก็ตาม
    ................

    อเมริกัน ได้ชื่อว่าเก่งในเรื่องการต่อสู้ด้วยอาวุธปืน เรียนรู้ด้วยประสบการณ์ที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน นับแต่ครั้งที่ต่อสู้แย่งผืนดินที่ทำกินกับอินเดียนแดงเผ่าต่างๆ จนกระทั่งถึงสงครามกลางเมือง สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง-สอง และสงครามเวียดนาม

    อานุภาพกระสุนปืน(อำนาจหยุดยั้ง, ประหัตประหาร, และทะลุทะลวง)เป็นข้อสำคัญประการแรกสำหรับงานล่า ป้องกันตัว และจู่โจม ความแม่นยำเป็นอันดับที่สองโดยเฉพาะกรณีที่ระยะยิงตั้งแต่ 75 หลา(หรือ 68.6 เมตร)ขึ้นไป หรือในระยะที่ความหนาของใบศูนย์หน้าใหญ่ทับเป้าหรือตัวคน

    ดังที่ทราบกัน โดยหลักการ การเพิ่มอานุภาพกระสุนปืนมากขึ้นได้ก็ต้องอาศัย หนึ่ง-แรงดันในรังเพลิง(Chamber Pressure) ซึ่งจะให้ประโยชน์โดยปริยายในข้อที่สอง-คือ ความเร็วหัวกระสุน(Velocity), สาม-รูปแบบหัวกระสุน(Bullet type), ส่วนข้อที่สี่ คือ ขนาด-น้ำหนักหัวกระสุน(Bore & Weight) นั้น กลายเป็นเรื่องท้ายสุด หากว่าความเร็วกระสุนเกิน 3,000 ฟุตต่อวินาทีขึ้นไป ก็จะเกิดแรงปะทะคลื่นอากาศหรือ Shock Wave ทำให้บาดแผลแหกฉกรรจ์และกระเด็นล้มคว่ำได้ทันใด

    ยกตัวอย่าง กระสุนเอ็ม 16 หรือกระสุนปืนไรเฟิลล่าสัตว์ขนาด .223 หรือ 5.56x45 ม.ม.นาโต้(NATO) หัวกระสุนเล็กเท่ากับกระสุนลูกกรด คือ .22 นิ้วฟุต น้ำหนักหัวกระสุน 55 เกรนมากกว่ากระสุนลูกกรด(40 เกรน)นิดเดียว ความเร็วต้น 3,250 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 1,325 ฟุต-ปอนด์ ฯลฯ เป็นต้น

    “สี่สี่แม็กนั่ม” หรือในชื่อเป็นทางการว่า .44 Remington Magnum เมื่อ 40 ปีที่แล้วเป็นกระสุนปืนสั้นที่อานุภาพเอกอุที่สุดในโลก(The Most Powerful Handgun in the World)

    ประดิษฐ์คิดค้นโดย เอลเม่อร์ คีธ (Elmer Keith) นักเขียนเรื่องปืนและนักผจญภัยกลางแจ้ง(Outdoor Adventurer)ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมากในสหรัฐอเมริกา โดยร่วมกับบริษัทผลิตปืน สมิธแอนด์เวสสัน(Smith&Wesson)และบริษัทปืนและกระสุนยี่ห้อเรมิงตัน(Remington) ผลิตจำหน่ายในปีค.ศ.1955 (ปีพ.ศ.2498) จนปัจจุบัน

    เอลเม่อร์ คีธ นำกระสุนขนาด “สี่สี่-สเปเชี่ยล” หรือ .44 S&W Special (ผลิตในปีค.ศ.1907 แรงดันรังเพลิง 15,500 ปอนด์/ตร.นิ้วฟุต ปลอกกระสุนยาว 1.16 นิ้วฟุต น้ำหนักหัวกระสุน 246 เกรน ความเร็วต้น 755 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 310 ฟุต-ปอนด์) มาทดลองพัฒนาเพิ่มแรงดันในรังเพลิง ซึ่งก็หมายถึงกระสุนความเร็วสูงโดยปริยาย เพื่อให้เป็น “สี่สี่-แม็กนั่ม”

    โดยไม่คิดนำกระสุนหน้าตัดใหญ่ที่โด่งดังในยุคโคบาลตะวันตก(Wild Western) คือ “สี่ห้า-โค้ลท์” หรือ .45 Colt (ผลิตในปีค.ศ.1872 แรงดันรังเพลิง 14,000 ปอนด์/ตร.นิ้วฟุต ปลอกกระสุนยาว 1.285 นิ้วฟุต หัวกระสุนหนัก 250 เกรน ความเร็วต้น 929 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 479 ฟุต-ปอนด์ และแบบ Buffalo Bore หัวกระสุนหนัก 325 เกรน ความเร็วต้น 1,325 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 1,267 ฟุต-ปอนด์) มาพัฒนา

    หลักการง่ายๆ ก็คือ กระสุนหน้าตัดใหญ่(Big Bore), หัวกระสุนหนักอึ้ง(Heavy Bullet), และ กระสุนความเร็วสูง(Higher Velocity) เปรียบง่ายๆว่า ซุงหนึ่งต้นหนัก 500 กิโลกรัมวางไว้เฉยๆข้างถนน รถยนต์ที่พุ่งชนต้นซุงต้นนี้ย่อมเสียหายน้อยกว่าการที่ถูกต้นซุงพุ่งมาด้วยความเร็ว 60 กม./ชม.ชนเข้ากับรถยนต์ที่จอดอยู่เฉยๆ (อ่านและคิดทบทวนอีกครั้งนะครับ)

    วัตถุประสงค์หลักในการประดิษฐ์คิดค้น ก็เพื่อล่าสัตว์เท้ากีบขนาดเขื่อง เช่น กวางเอ้ลค์(Elk) สูงถึงหัวไหล่ 1.50 เมตร หนักประมาณ 250-450 กิโลกรัม จนกระทั่งถึงควายป่าที่เรียกว่า Cape Buffalo ที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ แต่น้ำหนักไม่มากเท่ากระทิงในบ้านเรา โดยการยิงจากปืนสั้นลูกโม่ลำกล้องยาว 7-8 นิ้วฟุต

    จึงเป็นจุดกำเนิดปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ๊คชั่น Smith&Wesson Model 29
    สมิธแอนด์เวสสัน “สี่สี่-แม็กนั่ม”

    56 ปีมาแล้วที่ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 ปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ็คชั่น(Double-Action Revolver) กระสุนสี่สี่แม็กนั่มผลิตจำหน่าย อันที่จริงก็ด้วยวัตถุประสงค์ของการล่าสัตว์ด้วยปืนสั้น ซึ่งเป็นความคลาสสิคและใช้ศิลปะการล่ามากกว่าปืนยาว ยิ่งปืนสั้นลูกโม่แม้จะลำกล้องยาว 7-8 นิ้วฟุต หากได้ติดศูนย์กล้องเล็งขยาย 4-8 เท่า ก็ยิ่งทวีความยากลำบากในการเล็งยิงมากขึ้น

    แม้ปืนโมเดลนี้(ซึ่งรวมทั้งกระสุนด้วย)จะขายดิบดีในช่วงต้นๆของการเปิดจำหน่ายก็ตาม แต่แล้วยอดขายก็ตกฮวบตามวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เช่นเดียวกับรถ 4x4 Off-Road เพราะมนุษย์หันมาอนุรักษ์สัตว์ป่าและธรรมชาติ ออกกำลังกายในร่มมากกว่ากีฬากลางแจ้งเช่นก่อน

    จนกระทั่ง ในปีค.ศ.1971 ที่ภาพยนต์บู้แอ๊คชั่นเรื่อง “มือปราบปืนโหด” ออกฉาย ทำให้ปืนและกระสุนสี่สี่แม๊กนั่มกลับขายดีถล่มทลาย เพราะผู้ชายส่วนมากอย่างเก่งกล้าหรือมีอาวุธที่อานุภาพเอกอุเหมือนพระเอก คลิ้นท์ อี้สต์วู้ด นั้น จะเป็นกลยุทธ์การตลาดเช่นเดียวกับที่ภาพยนต์เรื่อง เจมส์ บอนด์ ปลุกกระแสความนิยมรถสปอร์ตอังกฤษยี่ห้อ แอสตัน มาร์ติน(Aston Martin) เป็นเหตุผลอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ

    สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29
    -ปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ๊คชั่นบรรจุกระสุน 6 นัด โครงปืนใหญ่(S&W N-Frame)
    -ลูกโม่หมุนทวนเข็มนาฬิกา(Anti-Clockwise)
    -กระสุนปืนสั้นลูกโม่ชนวนกลาง(Revolver/Center-Fire Cartridge)ขนาด .44 Remington Magnum
    -ตัวปืนเสนอตลาดด้วย 7 ขนาดความยาวลำกล้อง ได้แก่ 3, 4, 5, 6, 6 ½ , 8 3/8 และหลังสุด 10 5/8 นิ้วฟุต
    -เฉพาะลำกล้อง 5 นิ้วฟุตเท่านั้นที่ฟักก้านกระทุ้งปลอกกระสุนยาวเต็มความยาวลำกล้องหรือ Full Barrel Length Underlug

    โมเดล 29 เสนออยู่ 2 แบบ ได้แก่ แบบรมดำผิวหนา(Highly Polished Blued Finish) กับแบบนิเกิ้ลโครเมี่ยม(Nickle-Plated Surface)

    ในปีค.ศ.1960 โมเดล 29-1 ผลิตสู่ตลาดภายใต้การปรับปรุงด้านเทคนิคเล็กน้อย อาทิ สกรูยึดก้านกระทุ้งปลอกกระสุน(Ejector Rod Screw) ให้หลังหนึ่งปี โมเดล 29-2 ก็ปรากฏสู่ตลาดโดยเพิ่มสกรูตัวขันยึดความแน่นหนาให้กับสปริงสลักล็อคลูกโม่(Cylinder Stop Spring) ในปีค.ศ. 1979 หั่นลำกล้องจาก 6 ½ เหลือแค่ 6 นิ้วฟุต

    ทั้งโมเดล 29-1 และ 29-2 เพิ่มเทคนิคพิเศษอีกนิดนึง คือ ตัวลำกล้องขันเกลียวยึดแน่นกับโครงปืนพร้อมหมุดตอกย้ำ ส่วนตัวลูกโม่เซาะร่องฝังจานคัดปลอกกระสุนให้เรียบหน้าโม่ เรียกเทคนิคนี้ว่า Pinned & Recessed Model

    ปีค.ศ.1967-1971 บริษัทสนับสนุนทางยุทโธปกรณ์สหรัฐอเมริกา ชื่อ AAI Corporation (Aircraft Armaments, Inc.) สั่งผลิตปืนสมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 จำนวนหนึ่ง

    ลำกล้องสั้นแค่ 1.375 นิ้วฟุต ใช้ยิงกับกระสุน .40 หรือว่า 10 มอมอ และกระสุนลูกซองขนาด .410 เพื่อใช้ในปฏิบัติการพิเศษที่เรียกว่า QAPR (Quiet Special Purpose Revolver) เพื่อให้ทหารอเมริกันบุกเข้าจู่โจมและตรวจค้น “ถ้ำรูหนู” หรือ Tunnel Rats ที่ทหารเวียดนามอาศัยเป็นช่องทางหลบหนีหลบซ่อน

    ในปีค.ศ. 1982 โมเดล 29-3 ยกเลิกเทคนิคพิเศษดังกล่าวเพิ่มลดต้นทุนและระยะเวลาในการผลิต โดยหันมาใช้เทคนิค Crush-Fit Barrel หรือคล้ายๆกับ โคนลำกล้องตีปลอกฟิตแน่นกับโครงปืน ซึ่งได้ผลเท่าเทียมกันแต่ประหยัดต้นทุนและเวลาผลิตมากกว่า

    ในปีค.ศ.1988 (โมเดล 29-4) และปี 1990 (โมเดล 29-5) เสริมแรงให้กับชิ้นส่วนและโครงสร้างตัวปืนเพื่อให้ใช้งานได้อย่างสมบุกสมบันมากขึ้น โดยเฉพาะทนแรงดันรังเพลิงและแรงสะบัดสะท้อนจากกระสุนแรงสูงสมัยใหม่ ปีค.ศ.1994 โมเดล 29-6 ผลิตจำหน่ายพร้อมกับด้ามยาง Monogrip กระชับมือยี่ห้อ ฮ้อว์ก(Hogue) สันบนโครงปืนมีรูไว้สำหรับขันสกรูติดตั้งศูนย์กล้องล่าสัตว์

    ในปีค.ศ.1998 โมเดล 29-7 ออกตลาดภายใต้การปรับปรุงชิ้นส่วนลั่นไก เช่น เข็มแทงชนวน, นกปืน, ไกปืน, ฯลฯ ล้วนผลิตจากกรรมวิธีฉีดโลหะขึ้นรูป(Metal Injection Molding Process) เพื่อป้องกันปัญหาแตกหักขณะใช้งานหนัก

    สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 ถูกยกเลิกการผลิตไปอย่างถาวรในปีค.ศ.1999 ด้วยเหตุผลของอายุสินค้า(Model Life)ในเชิงการตลาด ปัจจุบัน ทั้งตลาดนอกและตลาดไทย นักเล่นปืนต่างมองหาสี่สี่แม็กนั่มรุ่นนี้ไว้สะสม เพราะตัวปืนมีความสวยงามมากกว่าปืนรุ่นใหม่ของสมิธฯ

    โดยเฉพาะ โมเดล 29 ในรุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี (50th Anniversary Model 29) ที่ผลิตขึ้นจำกัดจำนวนเมื่อวันที่ 26 มกราคมปี 2006 ลักษณะพิเศษ ได้แก่ ลูกโม่กลมกลึงไม่มีร่อง(Non-Fluted Cylinder), สลักลายทองด้วยแสงเลเซอร์บนตัวปืน, ระบบสลักนิรภัยภายใน(Interlock Mechanism), ฯลฯ

    วันที่ 1 มกราคมปี 2007 โมเดล 29 คลาสสิคไลน์ รุ่นพิเศษแกะลายสวยหรู(Engraved Model)

    สมิธแอนด์เวสสัน “โมเดล 629”
    ในยุคที่โลหะวิทยาหันมาสนใจเหล็กสแตนเลส(Stainless Steel)กันอย่างบ้าคลั่ง

    ด้วยคุณสมบัติบางประการที่ให้ประโยชน์ใช้งานเหนือกว่าเหล็ก(Steel) เช่น ไม่เป็นสนิมเหล็ก, ทนสภาวะกัดกร่อนได้สูง(Anti-Corrosion), เนื้อโลหะเหนียวแน่น(High-Density)จากการหล่อขึ้นรูปได้มากกว่า, เนื้อผิวสวยงามดูน่าใช้น่าจับต้องมากกว่า, ฯลฯ
    สมิธแอนด์เวสสัน “โมเดล 629” จึงกำเนิดขึ้นมาด้วยเหล็กสแตนเลสแทนโมเดล 29 ที่เป็นเหล็ก ด้วยประการเช่นนี้

    โมเดล 629 สี่สี่แม็กนั่ม เปิดตัวครั้งแรกในปีค.ศ.1978 ในขนาดลำกล้องยาว 6 นิ้วฟุต ส่วนลำกล้อง 4 และ 8 3/8 นิ้วฟุตออกสู่ตลาดในปีค.ศ.1980

    ในปีค.ศ.1982 โมเดล 629-1 ใช้เทคนิคพิเศษ Crush-Fit Barrel ตามอย่างโมเดล 29-3 ในปีค.ศ.1988 โมเดล 629-1 เพิ่มรุ่นพิเศษลำกล้องสั้น 3 นิ้วฟุต ส้นด้ามมน(Round Butt) ชิ้นส่วนกลไกภายในเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับโมเดล 29-4 กรณีที่ตัวปืนปั๊ม 629-2E นั่นหมายถึงว่า บานพับหน้าลูกโม่หรือ Cylinder Crane ปรับให้ผิวเนื้อมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

    ปีค.ศ.1990 โมเดล 629-3 มาในรูปแบบของด้ามยางฮ้อว์ก(Hogue), สันบนโครงปืนมีสกรูพร้อมติดตั้งศูนย์กล้องเล็ง, เปลี่ยนก้านกระทุ้งปลอกกระสุน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโมเดล 629-4 ที่เปิดตัวภายหลังในคุณสมบัติของปืนสั้นแข่งขันยิงเป้ามากขึ้น อาทิ นกปืน-ไกปืนใหญ่แบบปืนสั้นแข่งขันยิงเป้า, ศูนย์หน้ากระโดงปลาแถบแดง(Red Ramp Front Sight), ใบศูนย์หลังเส้นขาว(White Outline Rear Sight), ฯลฯ เป็นต้น

    ในปีเดียวกันนี้(1990) โมเดล 629 คลาสสิค(Classic) เสนอตลาดด้วยรูปแบบของ “ฝักเต็ม” หรือ Full Barrel Underlug หมายถึง มีแท่งตันถ่วงน้ำหนักต่อจากฝักก้านกระทุ้งปลอกกระสุนใต้ลำกล้องยาวจรดปากกระบอกปืน

    ภายใต้รหัส 629-4s ลำกล้องยาว 5, 6 และ 8 3/8 นิ้วฟุต ปีค.ศ.1991 โมเดล 629 คลาสสิค ดีเอ๊กซ์ (629 Classic DX) ออกสู่ตลาดพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษเหนือใคร คือ เปลี่ยนใบศูนย์หน้าได้ 5 แบบ

    ปีค.ศ.1988 โมเดล 629-5 เปลี่ยนนกและไกปืน MIM และใช้เข็มแทงชนวนแบบฝังลอยในโครงปืน แทนเข็มแทงชนวนแบบนกสับเช่นก่อน

    โมเดล 629 คลาสสิค มิได้เป็นแค่สินค้ารุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงให้มีคุณภาพดีมากกว่าโมเดล 29 และโมเดล 629 เท่านั้น

    ในเชิงการตลาดถือว่าเป็นการ “ยกระดับ” สินค้า(Product Repositioning)ให้สูงขึ้น ซึ่งหมายถึง ราคาแพงขึ้นตามคุณภาพสินค้า ขณะเดียวกัน ก็ยกระดับชื่อยี่ห้อและตัวสินค้าให้สูงขึ้นเพื่อตลาดระดับไฮเอ็น(High-end) คือ เศรษฐีและนักสะสมปืน

    ดังนี้ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 629 คลาสสิค ยุคหลังๆจึงมีสินค้ารุ่นพิเศษสู่ตลาด อาทิ แม๊กน่าคลาสสิค(MagnaClassic), วี-ค้อมพ์(V-Comp), สเต็ลท์ฮันเตอร์(Stealth Hunter), ฯลฯ เป็นต้น รวมทั้งความยาวลำกล้อง 7 ½ นิ้วฟุตที่มาคั่นกลางเป็นทางเลือกใหม่ ระหว่างลำกล้อง 6 และ 8 3/8 นิ้วฟุต อีกด้วย

    บทวิพากย์….
    ในแง่มุมของนักสะสมปืน(Gun Collectors) ยังมีข้อมูลอีกมากมายที่ไม่สามารถลงพิมพ์ในจำนวนหน้ากระดาษจำกัดนี้ได้หมด เช่น รุ่นลำกล้องสั้น 3 นิ้วฟุต, เมาเท่นกันส์(Mountain Gun), และอื่นๆ

    แต่ในมุมของผู้ใช้ปืนทั่วไปก็พอที่จะใช้เนื้อที่หน้ากระดาษที่เหลือนั่งจับเข่าคุยกันได้ดังนี้ครับ

    คำถาม: “ใครบ้างที่ซื้อปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่ม? และทำไมต้องเป็นสมิธแอนด์เวสสัน?”

    ตอบ: แม้กระสุนสี่สี่แม็กนั่มจะออกแบบมาแต่อ้อนออกให้ใช้กับปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ็คชั่น เพื่อกีฬาล่าสัตว์และป้องกันตัวจากสัตว์ร้ายในงานสำรวจท่องเที่ยวป่า

    แต่กลุ่มผู้ซื้อปืนสั้นกระสุนดุขนาดนี้ส่วนมากกลับเป็นนักสะสมปืน นักเลงปืน และตำรวจทหารตามชายแดนหรือในท้องที่ทุรกันดาร ทั้งในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเมืองไทย

    ด้วยราคาตัวปืนและกระสุนที่แพงกว่าปืนอื่นในตลาด ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ผู้ที่ซื้อปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่ม ก็คือ คนที่มีใจรักปืนสั้นกระสุนดุขนาดนี้จริงๆ

    ขณะที่ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 สี่สี่แม็กนั่ม คลอดสู่ตลาดเมื่อ 56 ปีที่แล้ว ก็มีบริษัทผลิตปืนยี่ห้อ รูเก้อร์ (Ruger) สหรัฐอเมริกา ผลิตปืนสั้นที่ใช้กระสุนขนาดเดียวกันนี้ออกแข่งตลาด แต่เป็นปืนสั้นซิงเกิ้ลแอ๊คชั่น(Single Action Revolver)

    นัยว่า เป็นเพราะพนักงานของบริษัทผลิตกระสุนเรมิงตันนำปลอกกระสุนขนาดใหม่ล่านี้ไปให้รูเก้อร์

    ปัจจุบัน แม้ว่าจะมีปืนสั้นหลายยี่ห้อที่แข่งค้ากับปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มของสมิธฯ เช่น โค้ลท์ อะนาคอนด้า(Colt Anaconda), รูเก้อร์ ซูเปอร์ เรดฮอว์ก(Ruger Super Redhawk)ดับเบิ้ลแอ๊คชั่น, รูเก้อร์ ซูเปอร์ แบล็คฮอว์ก(Ruger Super Blackhawk)ซิงเกิ้ลแอ๊คชั่น, ฯลฯ

    ยังไม่นับปืนพกกึ่งอัตโนมัติ(Semi-Automatic Pistol)ชื่อดังที่ใช้กระสุนสี่สี่แม๊กนั่มของปืนสั้นลูกโม่ เช่น เดสเสิร์ต อีเกิ้ล (IMI Desert Eagle), และอื่นๆ เป็นต้น

    แต่ที่เมืองนอกเมืองไทยพูดกันมากที่สุด ก็คือ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29, 629 และ 629 คลาสสิค ประณีตแม่นยำที่สุดในกระบวนปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มด้วยกัน

    ถาม: “ปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มใช้กระสุนอื่นยิงแทนได้ไหมในเมื่อไม่มีลูกซ้อมยิง?”

    ตอบ: ได้ คือ .44 สเปเชี่ยล(.44 S&W Special) ที่ปลอกหรือนัดกระสุนสั้นกว่าสี่สี่แม็กนั่มนิดเดียว (0.125 นิ้วฟุต)

    ทำนองเดียวกับที่เราใช้กระสุนสามแปดสเปฯ (.38 Special) ยิงซ้อมมือกับปืนสั้นลูกโม่สามห้าเจ็ดแม็กนั่ม(.357 Magnum) เพราะขนาดหน้าตัดหัวกระสุนและความโตของปลอกกระสุนใกล้เคียงกันมาก แต่หลักการนี้ใช้ได้เฉพาะปืนสั้นลูกโม่เท่านั้น ปืนพกกึ่งอัตโนมัติหรือปืนสั้นออโตเมติคจะมีปัญหา

    ถาม: “สมมุติว่าขอใบอนุญาตและซื้อปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มมาได้แล้วจะไปยิงซ้อมที่สนามยิงปืนที่ไหน?”

    ตอบ: เดี๋ยวนี้ยากมากครับ สนามยิงปืนของราชการและเอกชนทั่วไปในบ้านเราไม่ค่อยอนุญาตให้ยิงปืนกระสุนสี่สี่แม็กนั่ม ซึ่งรวมทั้งปืนไรเฟิลขนาดต่างๆ ด้วย

    ปืนกระสุนดุที่อนุญาตให้ยิงซ้อมกันในสนาม อย่างมากก็แค่สิบเอ็ดมอมอ(.45 ACP), ลูกซองกระสุนลูกปราย, สามห้าเจ็ดแม็กนั่ม(.357 Magnum)เป็นบางสนาม จริงๆจังๆก็คงเป็นสนามยิงปืนของทหารที่ Backstop (กำแพงหยุดกระสุนหลังเป้า) เตรียมไว้สำหรับเอ็ม 16 ก็พอจะพูดคุยขอกันได้บ้าง

    ถาม: “สี่สี่แม็กนั่มกระสุนนอกราคานัดละเท่าไร? กระสุนไทยมีผลิตไหม?”

    ตอบ: กระสุนสี่สี่แม็กนั่มที่พอจะหาซื้อได้ในตลาดปืนบ้านเรามีค่อนข้างน้อยมาก ถ้ามีก็ตกนัดละเกือบๆร้อยบาทหรือกว่านี้ เท่าที่ทราบ สี่สี่แม็กนั่มไม่มีผลิตขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพราะขาดวัสดุและดินปืนที่ต้องขออนุญาตกลาโหมเพื่อนำเข้า ยอดจำหน่ายมีแค่นิดเดียว จึงไม่คุ้มที่จะผลิตในประเทศไทย

    ถาม: “ที่ว่า ปืนสมิธฯสี่สี่แม็กนั่มแม่นยำกว่าปืนอื่นนั้นเป็นอย่างไร?”

    ตอบ: จากบทความต่างประเทศ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 629 แม็กน่าคลาสสิค ลำกล้องยาว 8 3/8 นิ้วฟุต ยิงด้วยกระสุน Garrett Cartridges หัวกระสุนหนัก 320 เกรน ความเร็วต้น 1,315 ฟุต/วินาที จากระยะยิง 25 หลา(ประมาณ 23 เมตร)จำนวน 6 นัดทำกลุ่มกระสุนได้ 1 นิ้วฟุต

    กระสุน Carbon Hunter หัวกระสุนหนัก 260 เกรน หัวรู(Hollow Point) ความเร็วต้น 1,450 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 1,214 ฟุต-ปอนด์ ระยะยิง 25 หลา จำนวน 6 นัดทำกลุ่มได้ 1x2 นิ้วฟุต

    ทั้งนี้ยังไม่มีการยิงพิสูจน์ความแม่นยำเทียบระหว่าง Smith&Wesson, Colt Anaconda, Ruger Super Redhawk ทั้งเมืองนอกและในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

    ถาม: “ถ้าจะซื้อปืนสั้นลูกโม่สี่สี่แม็กนั่มสักกระบอกในชีวิตจะเลือกอะไรดี?”

    ตอบ: ถ้าเลือกความประณีตแม่นยำ(Precision/Accuracy)ก็ต้องสมิธแอนด์เวสสัน ถ้าชอบความแข็งแรงบึกบึนทนทาน(Strong, Durability & Reliability)ก็ต้องฟันธงว่ารูเก้อร์ ส่วนอะนาคอนด้า(Anaconda)เป็นอะไรๆ ที่ต้องเป็นยี่ห้อโค้ลท์ไว้ก่อน

    ถาม: “ปืนสั้นลูกโม่เล่นกระสุนสี่สี่แม็กนั่มแบบไหนดี?”

    ตอบ: นักเลงสี่สี่แม็กนั่มตัวจริงจะเล่นกระสุน “หัวตัน-หัวหนัก” ไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็น Jacketed Soft Point, Semi-Wadcutter, Flat/Leaded Nose, รวมทั้งกระสุนพิเศษซาบ้อต(Sabot)

    จากประสบการณ์ส่วนตัว สี่สี่แม็กนั่มหัวรู น้ำหนัก 240 เกรน แม้จะมีความเร็วสูงถึงขั้น 1,400 ฟุต/วินาที จะมีปัญหา “เหินลม” ทำให้วิถีกระสุน(Trajectory)ไม่ราบเรียบไม่แม่นยำเท่าควร

    ขณะที่กระสุนหัวตัน น้ำหนักหัวกระสุนมากๆ (หรือบางทีก็น้ำหนัก 240 เกรนเท่ากัน) แต่ปลอกกระสุนมีเข็มขัดรัดหรือรอยย้ำ 2 แถว แม้ความเร็วน้อยกว่าแต่ให้ความแม่นยำหนักแน่นสูงกว่ามาก เรียกว่าได้ใจทุกนัดไป ข้อเสีย คือ ยิงสะบัดกัดมือมากกว่ากระสุนรุ่นใหม่ๆ ประมาณ +15%-20%

    ถาม: “ปืนสี่สี่แม็กนั่มต้องระวังอะไรบ้าง? ติดศูนย์กล้องดีไหม?”

    ตอบ: ข้อหนึ่ง-ถ้าเป็นเหล็กสแตนเลส เช่น โมเดล 629 และ 629 คลาสสิค ควรใส่กล่องเก็บหรือไม่ก็ตัดซองหนังใส่ปืนเก็บรักษา เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน รอยขนแมว ที่เกิดขึ้นเพราะผิวเหล็กสแตนเลสเนื้ออ่อนกว่าเหล็ก

    ข้อสอง-ไม่ควรใช้ยาขัดโลหะชนิดที่มีสารชะล้าง(Solven)ขัดถูกตัวปืน เพราะจะทำให้ตัวอักษรที่แกะสลักด้วยเลเซอร์เคลือบสีทองไว้ลางเลือนจางหาย

    ข้อสาม-หมั่นตรวจขันหมุดสกรูที่ตัวปืนทั้งก่อนและหลังการยิง เนื่องจากแรงสะบัดสะท้อนรุนแรงทำให้หมุดสกรูคลายตัวและอาจหลุดกระเด็นหาย

    ข้อสี่-ถึงจะหาซื้อกระสุนได้มากก็ไม่ควรยิงเล่นบ่อยๆ เพราะจะทำให้ตัวปืนทรุดโทรมเร็วกว่าที่ควรอย่างน่าเสียดาย

    ข้อห้า-อย่านำมายิงแห้งหรือเหนี่ยวไกเล่น(โดยไม่บรรจุกระสุนในตัวปืน)บ่อยๆ กลไกปืนอาจชำรุดเสียหาย โดยเฉพาะเข็มแทงชนวนอาจหักโดยไม่รู้ตัว

    ข้อหก-ติดศูนย์กล้องเล็งได้ในกำลังขยายภาพไม่เกิน 4 เท่า สูงกว่านั้นจะเล็งยิงได้ลำบาก มือสั่นสายตาพร่ามัวเพราะไม่กล้าลั่นกระสุน(เพราะภาพมันฟ้องว่าศูนย์ปืนไม่เข้าเป้าเนื่องจากมือผู้ยิงสั่นไปมา) แต่สุดท้ายก็ต้องถอดศูนย์กล้องเล็งออกเพราะรู้สึกเกะกะหนักตัวปืนเปล่าๆ

    สรุปท้ายเรื่อง...

    สมิธแอนด์เวสสัน สี่สี่แม็กนั่ม เป็นทรัพย์สมบัติที่คู่ควรต่อผู้มีบารมีและนักสะสมปืนมากกว่าการมีใช้เพื่อต่อสู้ป้องกันชีวิตทรัพย์สิน ไม่ใช่ปืนสั้นประจำกายอย่างแน่นอน แต่จะเหมาะที่สุดในกรณีท่องไพรสำรวจป่าที่พกไว้ข้างเอวหรือข้างสีข้างลำตัวเพื่อป้องกันสัตว์เขี้ยวยาวดุร้ายต่างๆ

    แม้ปัจจุบัน ตลาดปืนโลกจะมี “ปืนโหดกระสุนดุ” รุ่นใหม่ๆที่มีอานุภาพสูงกว่าสี่สี่แม็กนั่ม ไม่ว่าจะเป็น .454 Casull, .460 S&W Magnum, .500 S&W Magnum, และอื่นๆ แต่

    “สี่สี่แม็กนั่มยังจะเป็นเพื่อนที่ดีของนักเล่นปืนตลอดไป”
    ขอบคุณครับ...

    Smith&Wesson Model 629 .44 Magnum โดย. พีระพงษ์ กลั่นกรอง เมื่อ คลิ้นท์ อี้สต์วู้ด (Clint Eastwood) ในบทของสารวัตรมือปราบ ฮาร์รี่ คาลาแฮน (Harry Callahan) พูดกับคนร้ายในฉากแรกของภาพยนต์เรื่อง “มือปราบปืนโหด” หรือ Dirty Harry ภาพยนต์ซีรี่ส์บู้แอ๊คชั่นที่ยิงกันสนั่นจอเรื่องที่โด่งดังที่สุดในโลกเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ด้วยทุนสร้าง 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มือปราบปืนโหด(ภาคแรก-ปีค.ศ.1971)ทำรายได้สูงถึง 35 ล้านเหรียญ, ภาคที่สอง คือ Magnum Force (ปี 1973), ภาคที่สาม-The Enforcer (ปี 1976), ภาคที่สี่-Sudden Impact (ปี 1983), และภาคสุดท้าย คือ The Dead Pool (ปี 1988) ไม่ว่าภาพยนต์เรื่องนี้จะออกมากี่ภาคก็ตาม ผลตอบรับ ก็คือ ปลุกกระแสความนิยมปืน “สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 สี่สี่แม็กนั่ม” จนตลาดปืนทั่วโลกยอดขายถล่มทลาย แม้ว่าบริษัทผลิตปืนสมิธฯกำลังจะขุดหลุมฝัง(เลิกผลิต)ปืนสั้นกระสุนโหดรุ่นนี้อยู่ก่อนหน้านั้นก็ตาม ................ อเมริกัน ได้ชื่อว่าเก่งในเรื่องการต่อสู้ด้วยอาวุธปืน เรียนรู้ด้วยประสบการณ์ที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน นับแต่ครั้งที่ต่อสู้แย่งผืนดินที่ทำกินกับอินเดียนแดงเผ่าต่างๆ จนกระทั่งถึงสงครามกลางเมือง สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง-สอง และสงครามเวียดนาม อานุภาพกระสุนปืน(อำนาจหยุดยั้ง, ประหัตประหาร, และทะลุทะลวง)เป็นข้อสำคัญประการแรกสำหรับงานล่า ป้องกันตัว และจู่โจม ความแม่นยำเป็นอันดับที่สองโดยเฉพาะกรณีที่ระยะยิงตั้งแต่ 75 หลา(หรือ 68.6 เมตร)ขึ้นไป หรือในระยะที่ความหนาของใบศูนย์หน้าใหญ่ทับเป้าหรือตัวคน ดังที่ทราบกัน โดยหลักการ การเพิ่มอานุภาพกระสุนปืนมากขึ้นได้ก็ต้องอาศัย หนึ่ง-แรงดันในรังเพลิง(Chamber Pressure) ซึ่งจะให้ประโยชน์โดยปริยายในข้อที่สอง-คือ ความเร็วหัวกระสุน(Velocity), สาม-รูปแบบหัวกระสุน(Bullet type), ส่วนข้อที่สี่ คือ ขนาด-น้ำหนักหัวกระสุน(Bore & Weight) นั้น กลายเป็นเรื่องท้ายสุด หากว่าความเร็วกระสุนเกิน 3,000 ฟุตต่อวินาทีขึ้นไป ก็จะเกิดแรงปะทะคลื่นอากาศหรือ Shock Wave ทำให้บาดแผลแหกฉกรรจ์และกระเด็นล้มคว่ำได้ทันใด ยกตัวอย่าง กระสุนเอ็ม 16 หรือกระสุนปืนไรเฟิลล่าสัตว์ขนาด .223 หรือ 5.56x45 ม.ม.นาโต้(NATO) หัวกระสุนเล็กเท่ากับกระสุนลูกกรด คือ .22 นิ้วฟุต น้ำหนักหัวกระสุน 55 เกรนมากกว่ากระสุนลูกกรด(40 เกรน)นิดเดียว ความเร็วต้น 3,250 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 1,325 ฟุต-ปอนด์ ฯลฯ เป็นต้น “สี่สี่แม็กนั่ม” หรือในชื่อเป็นทางการว่า .44 Remington Magnum เมื่อ 40 ปีที่แล้วเป็นกระสุนปืนสั้นที่อานุภาพเอกอุที่สุดในโลก(The Most Powerful Handgun in the World) ประดิษฐ์คิดค้นโดย เอลเม่อร์ คีธ (Elmer Keith) นักเขียนเรื่องปืนและนักผจญภัยกลางแจ้ง(Outdoor Adventurer)ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมากในสหรัฐอเมริกา โดยร่วมกับบริษัทผลิตปืน สมิธแอนด์เวสสัน(Smith&Wesson)และบริษัทปืนและกระสุนยี่ห้อเรมิงตัน(Remington) ผลิตจำหน่ายในปีค.ศ.1955 (ปีพ.ศ.2498) จนปัจจุบัน เอลเม่อร์ คีธ นำกระสุนขนาด “สี่สี่-สเปเชี่ยล” หรือ .44 S&W Special (ผลิตในปีค.ศ.1907 แรงดันรังเพลิง 15,500 ปอนด์/ตร.นิ้วฟุต ปลอกกระสุนยาว 1.16 นิ้วฟุต น้ำหนักหัวกระสุน 246 เกรน ความเร็วต้น 755 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 310 ฟุต-ปอนด์) มาทดลองพัฒนาเพิ่มแรงดันในรังเพลิง ซึ่งก็หมายถึงกระสุนความเร็วสูงโดยปริยาย เพื่อให้เป็น “สี่สี่-แม็กนั่ม” โดยไม่คิดนำกระสุนหน้าตัดใหญ่ที่โด่งดังในยุคโคบาลตะวันตก(Wild Western) คือ “สี่ห้า-โค้ลท์” หรือ .45 Colt (ผลิตในปีค.ศ.1872 แรงดันรังเพลิง 14,000 ปอนด์/ตร.นิ้วฟุต ปลอกกระสุนยาว 1.285 นิ้วฟุต หัวกระสุนหนัก 250 เกรน ความเร็วต้น 929 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 479 ฟุต-ปอนด์ และแบบ Buffalo Bore หัวกระสุนหนัก 325 เกรน ความเร็วต้น 1,325 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 1,267 ฟุต-ปอนด์) มาพัฒนา หลักการง่ายๆ ก็คือ กระสุนหน้าตัดใหญ่(Big Bore), หัวกระสุนหนักอึ้ง(Heavy Bullet), และ กระสุนความเร็วสูง(Higher Velocity) เปรียบง่ายๆว่า ซุงหนึ่งต้นหนัก 500 กิโลกรัมวางไว้เฉยๆข้างถนน รถยนต์ที่พุ่งชนต้นซุงต้นนี้ย่อมเสียหายน้อยกว่าการที่ถูกต้นซุงพุ่งมาด้วยความเร็ว 60 กม./ชม.ชนเข้ากับรถยนต์ที่จอดอยู่เฉยๆ (อ่านและคิดทบทวนอีกครั้งนะครับ) วัตถุประสงค์หลักในการประดิษฐ์คิดค้น ก็เพื่อล่าสัตว์เท้ากีบขนาดเขื่อง เช่น กวางเอ้ลค์(Elk) สูงถึงหัวไหล่ 1.50 เมตร หนักประมาณ 250-450 กิโลกรัม จนกระทั่งถึงควายป่าที่เรียกว่า Cape Buffalo ที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ แต่น้ำหนักไม่มากเท่ากระทิงในบ้านเรา โดยการยิงจากปืนสั้นลูกโม่ลำกล้องยาว 7-8 นิ้วฟุต จึงเป็นจุดกำเนิดปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ๊คชั่น Smith&Wesson Model 29 สมิธแอนด์เวสสัน “สี่สี่-แม็กนั่ม” 56 ปีมาแล้วที่ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 ปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ็คชั่น(Double-Action Revolver) กระสุนสี่สี่แม็กนั่มผลิตจำหน่าย อันที่จริงก็ด้วยวัตถุประสงค์ของการล่าสัตว์ด้วยปืนสั้น ซึ่งเป็นความคลาสสิคและใช้ศิลปะการล่ามากกว่าปืนยาว ยิ่งปืนสั้นลูกโม่แม้จะลำกล้องยาว 7-8 นิ้วฟุต หากได้ติดศูนย์กล้องเล็งขยาย 4-8 เท่า ก็ยิ่งทวีความยากลำบากในการเล็งยิงมากขึ้น แม้ปืนโมเดลนี้(ซึ่งรวมทั้งกระสุนด้วย)จะขายดิบดีในช่วงต้นๆของการเปิดจำหน่ายก็ตาม แต่แล้วยอดขายก็ตกฮวบตามวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เช่นเดียวกับรถ 4x4 Off-Road เพราะมนุษย์หันมาอนุรักษ์สัตว์ป่าและธรรมชาติ ออกกำลังกายในร่มมากกว่ากีฬากลางแจ้งเช่นก่อน จนกระทั่ง ในปีค.ศ.1971 ที่ภาพยนต์บู้แอ๊คชั่นเรื่อง “มือปราบปืนโหด” ออกฉาย ทำให้ปืนและกระสุนสี่สี่แม๊กนั่มกลับขายดีถล่มทลาย เพราะผู้ชายส่วนมากอย่างเก่งกล้าหรือมีอาวุธที่อานุภาพเอกอุเหมือนพระเอก คลิ้นท์ อี้สต์วู้ด นั้น จะเป็นกลยุทธ์การตลาดเช่นเดียวกับที่ภาพยนต์เรื่อง เจมส์ บอนด์ ปลุกกระแสความนิยมรถสปอร์ตอังกฤษยี่ห้อ แอสตัน มาร์ติน(Aston Martin) เป็นเหตุผลอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 -ปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ๊คชั่นบรรจุกระสุน 6 นัด โครงปืนใหญ่(S&W N-Frame) -ลูกโม่หมุนทวนเข็มนาฬิกา(Anti-Clockwise) -กระสุนปืนสั้นลูกโม่ชนวนกลาง(Revolver/Center-Fire Cartridge)ขนาด .44 Remington Magnum -ตัวปืนเสนอตลาดด้วย 7 ขนาดความยาวลำกล้อง ได้แก่ 3, 4, 5, 6, 6 ½ , 8 3/8 และหลังสุด 10 5/8 นิ้วฟุต -เฉพาะลำกล้อง 5 นิ้วฟุตเท่านั้นที่ฟักก้านกระทุ้งปลอกกระสุนยาวเต็มความยาวลำกล้องหรือ Full Barrel Length Underlug โมเดล 29 เสนออยู่ 2 แบบ ได้แก่ แบบรมดำผิวหนา(Highly Polished Blued Finish) กับแบบนิเกิ้ลโครเมี่ยม(Nickle-Plated Surface) ในปีค.ศ.1960 โมเดล 29-1 ผลิตสู่ตลาดภายใต้การปรับปรุงด้านเทคนิคเล็กน้อย อาทิ สกรูยึดก้านกระทุ้งปลอกกระสุน(Ejector Rod Screw) ให้หลังหนึ่งปี โมเดล 29-2 ก็ปรากฏสู่ตลาดโดยเพิ่มสกรูตัวขันยึดความแน่นหนาให้กับสปริงสลักล็อคลูกโม่(Cylinder Stop Spring) ในปีค.ศ. 1979 หั่นลำกล้องจาก 6 ½ เหลือแค่ 6 นิ้วฟุต ทั้งโมเดล 29-1 และ 29-2 เพิ่มเทคนิคพิเศษอีกนิดนึง คือ ตัวลำกล้องขันเกลียวยึดแน่นกับโครงปืนพร้อมหมุดตอกย้ำ ส่วนตัวลูกโม่เซาะร่องฝังจานคัดปลอกกระสุนให้เรียบหน้าโม่ เรียกเทคนิคนี้ว่า Pinned & Recessed Model ปีค.ศ.1967-1971 บริษัทสนับสนุนทางยุทโธปกรณ์สหรัฐอเมริกา ชื่อ AAI Corporation (Aircraft Armaments, Inc.) สั่งผลิตปืนสมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 จำนวนหนึ่ง ลำกล้องสั้นแค่ 1.375 นิ้วฟุต ใช้ยิงกับกระสุน .40 หรือว่า 10 มอมอ และกระสุนลูกซองขนาด .410 เพื่อใช้ในปฏิบัติการพิเศษที่เรียกว่า QAPR (Quiet Special Purpose Revolver) เพื่อให้ทหารอเมริกันบุกเข้าจู่โจมและตรวจค้น “ถ้ำรูหนู” หรือ Tunnel Rats ที่ทหารเวียดนามอาศัยเป็นช่องทางหลบหนีหลบซ่อน ในปีค.ศ. 1982 โมเดล 29-3 ยกเลิกเทคนิคพิเศษดังกล่าวเพิ่มลดต้นทุนและระยะเวลาในการผลิต โดยหันมาใช้เทคนิค Crush-Fit Barrel หรือคล้ายๆกับ โคนลำกล้องตีปลอกฟิตแน่นกับโครงปืน ซึ่งได้ผลเท่าเทียมกันแต่ประหยัดต้นทุนและเวลาผลิตมากกว่า ในปีค.ศ.1988 (โมเดล 29-4) และปี 1990 (โมเดล 29-5) เสริมแรงให้กับชิ้นส่วนและโครงสร้างตัวปืนเพื่อให้ใช้งานได้อย่างสมบุกสมบันมากขึ้น โดยเฉพาะทนแรงดันรังเพลิงและแรงสะบัดสะท้อนจากกระสุนแรงสูงสมัยใหม่ ปีค.ศ.1994 โมเดล 29-6 ผลิตจำหน่ายพร้อมกับด้ามยาง Monogrip กระชับมือยี่ห้อ ฮ้อว์ก(Hogue) สันบนโครงปืนมีรูไว้สำหรับขันสกรูติดตั้งศูนย์กล้องล่าสัตว์ ในปีค.ศ.1998 โมเดล 29-7 ออกตลาดภายใต้การปรับปรุงชิ้นส่วนลั่นไก เช่น เข็มแทงชนวน, นกปืน, ไกปืน, ฯลฯ ล้วนผลิตจากกรรมวิธีฉีดโลหะขึ้นรูป(Metal Injection Molding Process) เพื่อป้องกันปัญหาแตกหักขณะใช้งานหนัก สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 ถูกยกเลิกการผลิตไปอย่างถาวรในปีค.ศ.1999 ด้วยเหตุผลของอายุสินค้า(Model Life)ในเชิงการตลาด ปัจจุบัน ทั้งตลาดนอกและตลาดไทย นักเล่นปืนต่างมองหาสี่สี่แม็กนั่มรุ่นนี้ไว้สะสม เพราะตัวปืนมีความสวยงามมากกว่าปืนรุ่นใหม่ของสมิธฯ โดยเฉพาะ โมเดล 29 ในรุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี (50th Anniversary Model 29) ที่ผลิตขึ้นจำกัดจำนวนเมื่อวันที่ 26 มกราคมปี 2006 ลักษณะพิเศษ ได้แก่ ลูกโม่กลมกลึงไม่มีร่อง(Non-Fluted Cylinder), สลักลายทองด้วยแสงเลเซอร์บนตัวปืน, ระบบสลักนิรภัยภายใน(Interlock Mechanism), ฯลฯ วันที่ 1 มกราคมปี 2007 โมเดล 29 คลาสสิคไลน์ รุ่นพิเศษแกะลายสวยหรู(Engraved Model) สมิธแอนด์เวสสัน “โมเดล 629” ในยุคที่โลหะวิทยาหันมาสนใจเหล็กสแตนเลส(Stainless Steel)กันอย่างบ้าคลั่ง ด้วยคุณสมบัติบางประการที่ให้ประโยชน์ใช้งานเหนือกว่าเหล็ก(Steel) เช่น ไม่เป็นสนิมเหล็ก, ทนสภาวะกัดกร่อนได้สูง(Anti-Corrosion), เนื้อโลหะเหนียวแน่น(High-Density)จากการหล่อขึ้นรูปได้มากกว่า, เนื้อผิวสวยงามดูน่าใช้น่าจับต้องมากกว่า, ฯลฯ สมิธแอนด์เวสสัน “โมเดล 629” จึงกำเนิดขึ้นมาด้วยเหล็กสแตนเลสแทนโมเดล 29 ที่เป็นเหล็ก ด้วยประการเช่นนี้ โมเดล 629 สี่สี่แม็กนั่ม เปิดตัวครั้งแรกในปีค.ศ.1978 ในขนาดลำกล้องยาว 6 นิ้วฟุต ส่วนลำกล้อง 4 และ 8 3/8 นิ้วฟุตออกสู่ตลาดในปีค.ศ.1980 ในปีค.ศ.1982 โมเดล 629-1 ใช้เทคนิคพิเศษ Crush-Fit Barrel ตามอย่างโมเดล 29-3 ในปีค.ศ.1988 โมเดล 629-1 เพิ่มรุ่นพิเศษลำกล้องสั้น 3 นิ้วฟุต ส้นด้ามมน(Round Butt) ชิ้นส่วนกลไกภายในเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับโมเดล 29-4 กรณีที่ตัวปืนปั๊ม 629-2E นั่นหมายถึงว่า บานพับหน้าลูกโม่หรือ Cylinder Crane ปรับให้ผิวเนื้อมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ปีค.ศ.1990 โมเดล 629-3 มาในรูปแบบของด้ามยางฮ้อว์ก(Hogue), สันบนโครงปืนมีสกรูพร้อมติดตั้งศูนย์กล้องเล็ง, เปลี่ยนก้านกระทุ้งปลอกกระสุน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโมเดล 629-4 ที่เปิดตัวภายหลังในคุณสมบัติของปืนสั้นแข่งขันยิงเป้ามากขึ้น อาทิ นกปืน-ไกปืนใหญ่แบบปืนสั้นแข่งขันยิงเป้า, ศูนย์หน้ากระโดงปลาแถบแดง(Red Ramp Front Sight), ใบศูนย์หลังเส้นขาว(White Outline Rear Sight), ฯลฯ เป็นต้น ในปีเดียวกันนี้(1990) โมเดล 629 คลาสสิค(Classic) เสนอตลาดด้วยรูปแบบของ “ฝักเต็ม” หรือ Full Barrel Underlug หมายถึง มีแท่งตันถ่วงน้ำหนักต่อจากฝักก้านกระทุ้งปลอกกระสุนใต้ลำกล้องยาวจรดปากกระบอกปืน ภายใต้รหัส 629-4s ลำกล้องยาว 5, 6 และ 8 3/8 นิ้วฟุต ปีค.ศ.1991 โมเดล 629 คลาสสิค ดีเอ๊กซ์ (629 Classic DX) ออกสู่ตลาดพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษเหนือใคร คือ เปลี่ยนใบศูนย์หน้าได้ 5 แบบ ปีค.ศ.1988 โมเดล 629-5 เปลี่ยนนกและไกปืน MIM และใช้เข็มแทงชนวนแบบฝังลอยในโครงปืน แทนเข็มแทงชนวนแบบนกสับเช่นก่อน โมเดล 629 คลาสสิค มิได้เป็นแค่สินค้ารุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงให้มีคุณภาพดีมากกว่าโมเดล 29 และโมเดล 629 เท่านั้น ในเชิงการตลาดถือว่าเป็นการ “ยกระดับ” สินค้า(Product Repositioning)ให้สูงขึ้น ซึ่งหมายถึง ราคาแพงขึ้นตามคุณภาพสินค้า ขณะเดียวกัน ก็ยกระดับชื่อยี่ห้อและตัวสินค้าให้สูงขึ้นเพื่อตลาดระดับไฮเอ็น(High-end) คือ เศรษฐีและนักสะสมปืน ดังนี้ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 629 คลาสสิค ยุคหลังๆจึงมีสินค้ารุ่นพิเศษสู่ตลาด อาทิ แม๊กน่าคลาสสิค(MagnaClassic), วี-ค้อมพ์(V-Comp), สเต็ลท์ฮันเตอร์(Stealth Hunter), ฯลฯ เป็นต้น รวมทั้งความยาวลำกล้อง 7 ½ นิ้วฟุตที่มาคั่นกลางเป็นทางเลือกใหม่ ระหว่างลำกล้อง 6 และ 8 3/8 นิ้วฟุต อีกด้วย บทวิพากย์…. ในแง่มุมของนักสะสมปืน(Gun Collectors) ยังมีข้อมูลอีกมากมายที่ไม่สามารถลงพิมพ์ในจำนวนหน้ากระดาษจำกัดนี้ได้หมด เช่น รุ่นลำกล้องสั้น 3 นิ้วฟุต, เมาเท่นกันส์(Mountain Gun), และอื่นๆ แต่ในมุมของผู้ใช้ปืนทั่วไปก็พอที่จะใช้เนื้อที่หน้ากระดาษที่เหลือนั่งจับเข่าคุยกันได้ดังนี้ครับ คำถาม: “ใครบ้างที่ซื้อปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่ม? และทำไมต้องเป็นสมิธแอนด์เวสสัน?” ตอบ: แม้กระสุนสี่สี่แม็กนั่มจะออกแบบมาแต่อ้อนออกให้ใช้กับปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ็คชั่น เพื่อกีฬาล่าสัตว์และป้องกันตัวจากสัตว์ร้ายในงานสำรวจท่องเที่ยวป่า แต่กลุ่มผู้ซื้อปืนสั้นกระสุนดุขนาดนี้ส่วนมากกลับเป็นนักสะสมปืน นักเลงปืน และตำรวจทหารตามชายแดนหรือในท้องที่ทุรกันดาร ทั้งในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเมืองไทย ด้วยราคาตัวปืนและกระสุนที่แพงกว่าปืนอื่นในตลาด ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ผู้ที่ซื้อปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่ม ก็คือ คนที่มีใจรักปืนสั้นกระสุนดุขนาดนี้จริงๆ ขณะที่ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 สี่สี่แม็กนั่ม คลอดสู่ตลาดเมื่อ 56 ปีที่แล้ว ก็มีบริษัทผลิตปืนยี่ห้อ รูเก้อร์ (Ruger) สหรัฐอเมริกา ผลิตปืนสั้นที่ใช้กระสุนขนาดเดียวกันนี้ออกแข่งตลาด แต่เป็นปืนสั้นซิงเกิ้ลแอ๊คชั่น(Single Action Revolver) นัยว่า เป็นเพราะพนักงานของบริษัทผลิตกระสุนเรมิงตันนำปลอกกระสุนขนาดใหม่ล่านี้ไปให้รูเก้อร์ ปัจจุบัน แม้ว่าจะมีปืนสั้นหลายยี่ห้อที่แข่งค้ากับปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มของสมิธฯ เช่น โค้ลท์ อะนาคอนด้า(Colt Anaconda), รูเก้อร์ ซูเปอร์ เรดฮอว์ก(Ruger Super Redhawk)ดับเบิ้ลแอ๊คชั่น, รูเก้อร์ ซูเปอร์ แบล็คฮอว์ก(Ruger Super Blackhawk)ซิงเกิ้ลแอ๊คชั่น, ฯลฯ ยังไม่นับปืนพกกึ่งอัตโนมัติ(Semi-Automatic Pistol)ชื่อดังที่ใช้กระสุนสี่สี่แม๊กนั่มของปืนสั้นลูกโม่ เช่น เดสเสิร์ต อีเกิ้ล (IMI Desert Eagle), และอื่นๆ เป็นต้น แต่ที่เมืองนอกเมืองไทยพูดกันมากที่สุด ก็คือ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29, 629 และ 629 คลาสสิค ประณีตแม่นยำที่สุดในกระบวนปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มด้วยกัน ถาม: “ปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มใช้กระสุนอื่นยิงแทนได้ไหมในเมื่อไม่มีลูกซ้อมยิง?” ตอบ: ได้ คือ .44 สเปเชี่ยล(.44 S&W Special) ที่ปลอกหรือนัดกระสุนสั้นกว่าสี่สี่แม็กนั่มนิดเดียว (0.125 นิ้วฟุต) ทำนองเดียวกับที่เราใช้กระสุนสามแปดสเปฯ (.38 Special) ยิงซ้อมมือกับปืนสั้นลูกโม่สามห้าเจ็ดแม็กนั่ม(.357 Magnum) เพราะขนาดหน้าตัดหัวกระสุนและความโตของปลอกกระสุนใกล้เคียงกันมาก แต่หลักการนี้ใช้ได้เฉพาะปืนสั้นลูกโม่เท่านั้น ปืนพกกึ่งอัตโนมัติหรือปืนสั้นออโตเมติคจะมีปัญหา ถาม: “สมมุติว่าขอใบอนุญาตและซื้อปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มมาได้แล้วจะไปยิงซ้อมที่สนามยิงปืนที่ไหน?” ตอบ: เดี๋ยวนี้ยากมากครับ สนามยิงปืนของราชการและเอกชนทั่วไปในบ้านเราไม่ค่อยอนุญาตให้ยิงปืนกระสุนสี่สี่แม็กนั่ม ซึ่งรวมทั้งปืนไรเฟิลขนาดต่างๆ ด้วย ปืนกระสุนดุที่อนุญาตให้ยิงซ้อมกันในสนาม อย่างมากก็แค่สิบเอ็ดมอมอ(.45 ACP), ลูกซองกระสุนลูกปราย, สามห้าเจ็ดแม็กนั่ม(.357 Magnum)เป็นบางสนาม จริงๆจังๆก็คงเป็นสนามยิงปืนของทหารที่ Backstop (กำแพงหยุดกระสุนหลังเป้า) เตรียมไว้สำหรับเอ็ม 16 ก็พอจะพูดคุยขอกันได้บ้าง ถาม: “สี่สี่แม็กนั่มกระสุนนอกราคานัดละเท่าไร? กระสุนไทยมีผลิตไหม?” ตอบ: กระสุนสี่สี่แม็กนั่มที่พอจะหาซื้อได้ในตลาดปืนบ้านเรามีค่อนข้างน้อยมาก ถ้ามีก็ตกนัดละเกือบๆร้อยบาทหรือกว่านี้ เท่าที่ทราบ สี่สี่แม็กนั่มไม่มีผลิตขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพราะขาดวัสดุและดินปืนที่ต้องขออนุญาตกลาโหมเพื่อนำเข้า ยอดจำหน่ายมีแค่นิดเดียว จึงไม่คุ้มที่จะผลิตในประเทศไทย ถาม: “ที่ว่า ปืนสมิธฯสี่สี่แม็กนั่มแม่นยำกว่าปืนอื่นนั้นเป็นอย่างไร?” ตอบ: จากบทความต่างประเทศ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 629 แม็กน่าคลาสสิค ลำกล้องยาว 8 3/8 นิ้วฟุต ยิงด้วยกระสุน Garrett Cartridges หัวกระสุนหนัก 320 เกรน ความเร็วต้น 1,315 ฟุต/วินาที จากระยะยิง 25 หลา(ประมาณ 23 เมตร)จำนวน 6 นัดทำกลุ่มกระสุนได้ 1 นิ้วฟุต กระสุน Carbon Hunter หัวกระสุนหนัก 260 เกรน หัวรู(Hollow Point) ความเร็วต้น 1,450 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 1,214 ฟุต-ปอนด์ ระยะยิง 25 หลา จำนวน 6 นัดทำกลุ่มได้ 1x2 นิ้วฟุต ทั้งนี้ยังไม่มีการยิงพิสูจน์ความแม่นยำเทียบระหว่าง Smith&Wesson, Colt Anaconda, Ruger Super Redhawk ทั้งเมืองนอกและในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ถาม: “ถ้าจะซื้อปืนสั้นลูกโม่สี่สี่แม็กนั่มสักกระบอกในชีวิตจะเลือกอะไรดี?” ตอบ: ถ้าเลือกความประณีตแม่นยำ(Precision/Accuracy)ก็ต้องสมิธแอนด์เวสสัน ถ้าชอบความแข็งแรงบึกบึนทนทาน(Strong, Durability & Reliability)ก็ต้องฟันธงว่ารูเก้อร์ ส่วนอะนาคอนด้า(Anaconda)เป็นอะไรๆ ที่ต้องเป็นยี่ห้อโค้ลท์ไว้ก่อน ถาม: “ปืนสั้นลูกโม่เล่นกระสุนสี่สี่แม็กนั่มแบบไหนดี?” ตอบ: นักเลงสี่สี่แม็กนั่มตัวจริงจะเล่นกระสุน “หัวตัน-หัวหนัก” ไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็น Jacketed Soft Point, Semi-Wadcutter, Flat/Leaded Nose, รวมทั้งกระสุนพิเศษซาบ้อต(Sabot) จากประสบการณ์ส่วนตัว สี่สี่แม็กนั่มหัวรู น้ำหนัก 240 เกรน แม้จะมีความเร็วสูงถึงขั้น 1,400 ฟุต/วินาที จะมีปัญหา “เหินลม” ทำให้วิถีกระสุน(Trajectory)ไม่ราบเรียบไม่แม่นยำเท่าควร ขณะที่กระสุนหัวตัน น้ำหนักหัวกระสุนมากๆ (หรือบางทีก็น้ำหนัก 240 เกรนเท่ากัน) แต่ปลอกกระสุนมีเข็มขัดรัดหรือรอยย้ำ 2 แถว แม้ความเร็วน้อยกว่าแต่ให้ความแม่นยำหนักแน่นสูงกว่ามาก เรียกว่าได้ใจทุกนัดไป ข้อเสีย คือ ยิงสะบัดกัดมือมากกว่ากระสุนรุ่นใหม่ๆ ประมาณ +15%-20% ถาม: “ปืนสี่สี่แม็กนั่มต้องระวังอะไรบ้าง? ติดศูนย์กล้องดีไหม?” ตอบ: ข้อหนึ่ง-ถ้าเป็นเหล็กสแตนเลส เช่น โมเดล 629 และ 629 คลาสสิค ควรใส่กล่องเก็บหรือไม่ก็ตัดซองหนังใส่ปืนเก็บรักษา เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน รอยขนแมว ที่เกิดขึ้นเพราะผิวเหล็กสแตนเลสเนื้ออ่อนกว่าเหล็ก ข้อสอง-ไม่ควรใช้ยาขัดโลหะชนิดที่มีสารชะล้าง(Solven)ขัดถูกตัวปืน เพราะจะทำให้ตัวอักษรที่แกะสลักด้วยเลเซอร์เคลือบสีทองไว้ลางเลือนจางหาย ข้อสาม-หมั่นตรวจขันหมุดสกรูที่ตัวปืนทั้งก่อนและหลังการยิง เนื่องจากแรงสะบัดสะท้อนรุนแรงทำให้หมุดสกรูคลายตัวและอาจหลุดกระเด็นหาย ข้อสี่-ถึงจะหาซื้อกระสุนได้มากก็ไม่ควรยิงเล่นบ่อยๆ เพราะจะทำให้ตัวปืนทรุดโทรมเร็วกว่าที่ควรอย่างน่าเสียดาย ข้อห้า-อย่านำมายิงแห้งหรือเหนี่ยวไกเล่น(โดยไม่บรรจุกระสุนในตัวปืน)บ่อยๆ กลไกปืนอาจชำรุดเสียหาย โดยเฉพาะเข็มแทงชนวนอาจหักโดยไม่รู้ตัว ข้อหก-ติดศูนย์กล้องเล็งได้ในกำลังขยายภาพไม่เกิน 4 เท่า สูงกว่านั้นจะเล็งยิงได้ลำบาก มือสั่นสายตาพร่ามัวเพราะไม่กล้าลั่นกระสุน(เพราะภาพมันฟ้องว่าศูนย์ปืนไม่เข้าเป้าเนื่องจากมือผู้ยิงสั่นไปมา) แต่สุดท้ายก็ต้องถอดศูนย์กล้องเล็งออกเพราะรู้สึกเกะกะหนักตัวปืนเปล่าๆ สรุปท้ายเรื่อง... สมิธแอนด์เวสสัน สี่สี่แม็กนั่ม เป็นทรัพย์สมบัติที่คู่ควรต่อผู้มีบารมีและนักสะสมปืนมากกว่าการมีใช้เพื่อต่อสู้ป้องกันชีวิตทรัพย์สิน ไม่ใช่ปืนสั้นประจำกายอย่างแน่นอน แต่จะเหมาะที่สุดในกรณีท่องไพรสำรวจป่าที่พกไว้ข้างเอวหรือข้างสีข้างลำตัวเพื่อป้องกันสัตว์เขี้ยวยาวดุร้ายต่างๆ แม้ปัจจุบัน ตลาดปืนโลกจะมี “ปืนโหดกระสุนดุ” รุ่นใหม่ๆที่มีอานุภาพสูงกว่าสี่สี่แม็กนั่ม ไม่ว่าจะเป็น .454 Casull, .460 S&W Magnum, .500 S&W Magnum, และอื่นๆ แต่ “สี่สี่แม็กนั่มยังจะเป็นเพื่อนที่ดีของนักเล่นปืนตลอดไป” ขอบคุณครับ...
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮิซบุลเลาะห์รายงานการโจมตีฐานทัพอากาศอิสราเอลด้วยขีปนาวุธฟาดี-๑

    กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอนได้โจมตีฐานทัพอากาศ รามัต เดวิด ของอิสราเอล ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองไฮฟา, สำนักข่าวของกลุ่มรายงานเมื่อวันเสาร์

    “นักรบอิสลามต่อต้านโจมตีฐานทัพ รามัต เดวิด ด้วยขีปนาวุธฟาดี-๑” แถลงการณ์ระบุ
    .
    HEZBOLLAH REPORTS STRIKING ISRAELI AIRBASE WITH FADI-1 MISSILE

    The Lebanese movement Hezbollah have struck Israel's Ramat David Airbase located north of the city of Haifa, the movement's press service said on Saturday.

    "Islamic resistance fighters attacked Ramat David base with Fadi-1 missiles," the statement read.
    .
    3:53 PM · Oct 5, 2024 · 1,093 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1842488227728347329
    ฮิซบุลเลาะห์รายงานการโจมตีฐานทัพอากาศอิสราเอลด้วยขีปนาวุธฟาดี-๑ กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอนได้โจมตีฐานทัพอากาศ รามัต เดวิด ของอิสราเอล ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองไฮฟา, สำนักข่าวของกลุ่มรายงานเมื่อวันเสาร์ “นักรบอิสลามต่อต้านโจมตีฐานทัพ รามัต เดวิด ด้วยขีปนาวุธฟาดี-๑” แถลงการณ์ระบุ . HEZBOLLAH REPORTS STRIKING ISRAELI AIRBASE WITH FADI-1 MISSILE The Lebanese movement Hezbollah have struck Israel's Ramat David Airbase located north of the city of Haifa, the movement's press service said on Saturday. "Islamic resistance fighters attacked Ramat David base with Fadi-1 missiles," the statement read. . 3:53 PM · Oct 5, 2024 · 1,093 Views https://x.com/SputnikInt/status/1842488227728347329
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts