• มี่-เตอร์ คือผู้เสียหาย "ปานเทพ" เตือนอินฟลูฯอย่าเป็นเครื่องมือ 08/11/67 #ปานเทพ #มี่-ปีเตอร์ #ทนายตั้ม #ผู้เสียหาย
    มี่-เตอร์ คือผู้เสียหาย "ปานเทพ" เตือนอินฟลูฯอย่าเป็นเครื่องมือ 08/11/67 #ปานเทพ #มี่-ปีเตอร์ #ทนายตั้ม #ผู้เสียหาย
    Like
    Love
    15
    2 Comments 0 Shares 716 Views 536 0 Reviews
  • หมดเวลาหาแสง สอบสวนกลางห้ามใช้แถลงข่าว

    กรณีที่นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความ ถูกผู้ก่อเหตุนำโดยนายจารุเวศ พงษ์ฉวี อายุ 28 ปี บุกทำร้ายร่างกายระหว่างแถลงข่าวดำเนินคดีกับ "อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม" อินฟลูเอนเซอร์ ในข้อหาเหยียดหยามศาสนา ที่หน้าศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2567 ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ออกระเบียบห้ามบุคคลหรือคณะบุคคลมาใช้สถานที่ในการแถลงข่าวโดยเด็ดขาด

    สืบเนื่องจากปัจจุบัน มีบุคคลหลายกลุ่มหลายคณะ มาใช้สถานที่ศูนย์แจ้งความร้องทุกข์ของตำรวจสอบส่วนกลางจำนวนมาก หลายครั้งเกิดเหตุการณ์รุนแรง มีการใช้กำลัง ทำให้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของหน่วยงานราชการ เพื่อความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยจึงต้องออกกฎระเบียบดังกล่าว ประกอบด้วย 1. ห้ามบุคคลหรือคณะบุคคลมาใช้สถานที่ในการแถลงข่าวที่หน้าศูนย์แจ้งความตำรวจสอบสวนกลางโดยเด็ดขาด 2. หากเป็นการให้ข่าวหรือให้สัมภาษณ์ ให้ไปใช้สถานที่ด้านนอก

    3. ประชาชนที่จะเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ สามารถเดินทางเข้าร้องเรียนกับพนักงานสอบสวนของตำรวจสอบสวนกลางได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลางหรือตัวแทน เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงซ้ำซ้อน และ 4. ห้ามมาใช้สถานที่ถ่ายทำไลฟ์สด ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน หากจะถ่ายทำให้ขออนุญาตเป็นกรณี

    ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงข่าวเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2567 ในตอนหนึ่งกล่าวถึงกรณีที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นักการเมืองพรรคภูมิใจไทย นำพยานรายหนึ่ง อ้างว่า 1 ใน 18 บอสคดีดิไอคอน ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปเป็นคริปโตเคอร์เรนซี ปรากฎว่าพยานสารภาพว่าข้อมูลมั่ว ไม่มีที่มา เป็นการอุปโลกน์ขึ้นมา โดยอ้างว่าถามจากเพื่อนและเสิร์ชหาทางเว็บไซต์โดยที่ไม่มีข้อเท็จจริง คาดว่าอยากเรียกร้องความสนใจ

    “ขอบคุณผู้ที่มีจิตอาสาทุกคนที่เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน แต่ไม่อยากให้เข้ามาเพื่อหาแสง เพราะตอนนี้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแสงมันจ้าไปหมด คนถึงเข้ามากัน จึงขอเตือนบางคน ข้อมูลต่างๆ ถ้าคิดว่าจะช่วยเหลือสังคมจะต้องแม่นกฎหมาย ต้องรู้ว่าการกระทำจะไม่หมิ่นเหม่ในข้อกฎหมาย หากเข้ามาแล้วสร้างความวุ่นวาย สร้างความไขว้เขว อันนี้ต้องว่ากัน”

    สำหรับศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตั้งอยู่ที่กองปราบปราม ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เปิดเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2565 ตามนโยบายของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รวบรวมหน่วยงานในสังกัด 6 หน่วยงานมารวมกันที่นี่

    #Newskit #ตำรวจสอบสวนกลาง
    หมดเวลาหาแสง สอบสวนกลางห้ามใช้แถลงข่าว กรณีที่นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความ ถูกผู้ก่อเหตุนำโดยนายจารุเวศ พงษ์ฉวี อายุ 28 ปี บุกทำร้ายร่างกายระหว่างแถลงข่าวดำเนินคดีกับ "อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม" อินฟลูเอนเซอร์ ในข้อหาเหยียดหยามศาสนา ที่หน้าศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2567 ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ออกระเบียบห้ามบุคคลหรือคณะบุคคลมาใช้สถานที่ในการแถลงข่าวโดยเด็ดขาด สืบเนื่องจากปัจจุบัน มีบุคคลหลายกลุ่มหลายคณะ มาใช้สถานที่ศูนย์แจ้งความร้องทุกข์ของตำรวจสอบส่วนกลางจำนวนมาก หลายครั้งเกิดเหตุการณ์รุนแรง มีการใช้กำลัง ทำให้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของหน่วยงานราชการ เพื่อความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยจึงต้องออกกฎระเบียบดังกล่าว ประกอบด้วย 1. ห้ามบุคคลหรือคณะบุคคลมาใช้สถานที่ในการแถลงข่าวที่หน้าศูนย์แจ้งความตำรวจสอบสวนกลางโดยเด็ดขาด 2. หากเป็นการให้ข่าวหรือให้สัมภาษณ์ ให้ไปใช้สถานที่ด้านนอก 3. ประชาชนที่จะเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ สามารถเดินทางเข้าร้องเรียนกับพนักงานสอบสวนของตำรวจสอบสวนกลางได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลางหรือตัวแทน เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงซ้ำซ้อน และ 4. ห้ามมาใช้สถานที่ถ่ายทำไลฟ์สด ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน หากจะถ่ายทำให้ขออนุญาตเป็นกรณี ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงข่าวเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2567 ในตอนหนึ่งกล่าวถึงกรณีที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นักการเมืองพรรคภูมิใจไทย นำพยานรายหนึ่ง อ้างว่า 1 ใน 18 บอสคดีดิไอคอน ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปเป็นคริปโตเคอร์เรนซี ปรากฎว่าพยานสารภาพว่าข้อมูลมั่ว ไม่มีที่มา เป็นการอุปโลกน์ขึ้นมา โดยอ้างว่าถามจากเพื่อนและเสิร์ชหาทางเว็บไซต์โดยที่ไม่มีข้อเท็จจริง คาดว่าอยากเรียกร้องความสนใจ “ขอบคุณผู้ที่มีจิตอาสาทุกคนที่เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน แต่ไม่อยากให้เข้ามาเพื่อหาแสง เพราะตอนนี้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแสงมันจ้าไปหมด คนถึงเข้ามากัน จึงขอเตือนบางคน ข้อมูลต่างๆ ถ้าคิดว่าจะช่วยเหลือสังคมจะต้องแม่นกฎหมาย ต้องรู้ว่าการกระทำจะไม่หมิ่นเหม่ในข้อกฎหมาย หากเข้ามาแล้วสร้างความวุ่นวาย สร้างความไขว้เขว อันนี้ต้องว่ากัน” สำหรับศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตั้งอยู่ที่กองปราบปราม ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เปิดเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2565 ตามนโยบายของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รวบรวมหน่วยงานในสังกัด 6 หน่วยงานมารวมกันที่นี่ #Newskit #ตำรวจสอบสวนกลาง
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 224 Views 0 Reviews
  • จู่ๆ ต่อยกันได้ ต่อไปฆ่ากันตาย

    กรณีที่นายธรรมราช สาระปัญญา ถูกผู้ก่อเหตุนำโดยนายจารุเวศ พงษ์ฉวี อายุ 28 ปี บุกทำร้ายร่างกาย ใช้มือตบเข้าที่กลางหน้า และเกิดการชุลมุน ระหว่างแถลงข่าวดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้ชื่อ "อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม" อินฟลูเอนเซอร์ในข้อหาเหยียดหยามศาสนา ที่หน้าศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2567 เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงในสังคมที่ยังไม่หมดไป ทั้งที่เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น และเป็นตัวอย่างของพฤติกรรมเลียนแบบ ที่อาจจุดชนวนไปสู่ความรุนแรงที่สูงขึ้น เช่น การฆ่าผู้อื่นอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย

    ผลที่ตามมา ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ออกระเบียบห้ามบุคคลหรือคณะบุคคลมาใช้สถานที่ในการแถลงข่าว ที่หน้าศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางโดยเด็ดขาด หากเป็นการให้ข่าวหรือให้สัมภาษณ์ ให้ไปใช้สถานที่ด้านนอก ประชาชนที่จะเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์สามารถเดินทางเข้าร้องเรียนกับพนักงานสอบสวนของตำรวจสอบสวนกลางได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลางหรือตัวแทน เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงซ้ำซ้อน และห้ามมาใช้สถานที่ถ่ายทำไลฟ์สดซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน หากจะถ่ายทำให้ขออนุญาตเป็นกรณีไป

    ปฎิกิริยาของคนในสังคมส่วนหนึ่ง ที่แสดงท่าทีสะใจ ให้ท้ายสนับสนุน ไม่ต่างอะไรกับที่เคยเกิดขึ้นกับนายศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องเรียนในตำนาน ที่แพ้ภัยตัวเองจากคดีร่วมกันตบทรัพย์ข้าราชการระดับสูง ก่อนหน้านี้ก็เคยถูกทำร้ายร่างกายถึงสองครั้ง แต่ยังมีสังคมส่วนหนึ่งที่เห็นดีเห็นงาม ต่างพากันสะใจ สมน้ำหน้า เพราะรำคาญกับพฤติกรรมการร้องเรียนปรากฎเป็นข่าวบ่อยครั้ง ทั้งที่การร้องเรียนเป็นสิทธิเสรีภาพ ส่วนจะสมเหตุสมผลหรือไม่ก็มีสิทธิ์ที่จะวิจารณ์ และด้วยยุคนี้คนไทยโอนไว ส่วนหนึ่งก็โอนเงินไปยังผู้ก่อเหตุเพื่อสนับสนุน บางคนได้เงินไปหลักล้านบาท

    มีคนในสังคมอีกส่วนหนึ่งมักจะบอกตัวเองว่าไม่สนับสนุนความรุนแรง แต่กับคนที่ตัวเองไม่ชอบกลับมีข้ออ้างให้มองว่าเป็นเรื่องตลกขบขัน ทั้งที่ความรุนแรงไม่ว่าจะบาดเจ็บเล็กน้อยหรือสาหัสไม่ใช่เรื่องตลก และไม่ใช่เรื่องเวรกรรมเพราะเกิดขึ้นจากความจงใจของมนุษย์ ส่วนข้ออ้างที่ว่าคนที่เห็นแยกแยะได้ ก็อาจมีคนที่คิดไม่เป็น มองว่าเมื่อคนอื่นทำได้ตนเองก็ทำได้ สิ่งเหล่านี้เรียกว่า "พฤติกรรมเลียนแบบ" ส่งผลให้ความรุนแรงก่อตัวเป็นความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง วันดีคืนดีเกิดใครไม่ชอบก็เอาอาวุธปืนมายิงกันให้ตายไปข้าง บ้านเมืองจะกลับไปสู่ยุคบ้านป่าเมืองเถื่อน ทั้งที่เป็นเรื่องไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก

    #Newskit #ตำรวจสอบสวนกลาง
    จู่ๆ ต่อยกันได้ ต่อไปฆ่ากันตาย กรณีที่นายธรรมราช สาระปัญญา ถูกผู้ก่อเหตุนำโดยนายจารุเวศ พงษ์ฉวี อายุ 28 ปี บุกทำร้ายร่างกาย ใช้มือตบเข้าที่กลางหน้า และเกิดการชุลมุน ระหว่างแถลงข่าวดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้ชื่อ "อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม" อินฟลูเอนเซอร์ในข้อหาเหยียดหยามศาสนา ที่หน้าศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2567 เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงในสังคมที่ยังไม่หมดไป ทั้งที่เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น และเป็นตัวอย่างของพฤติกรรมเลียนแบบ ที่อาจจุดชนวนไปสู่ความรุนแรงที่สูงขึ้น เช่น การฆ่าผู้อื่นอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ผลที่ตามมา ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ออกระเบียบห้ามบุคคลหรือคณะบุคคลมาใช้สถานที่ในการแถลงข่าว ที่หน้าศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางโดยเด็ดขาด หากเป็นการให้ข่าวหรือให้สัมภาษณ์ ให้ไปใช้สถานที่ด้านนอก ประชาชนที่จะเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์สามารถเดินทางเข้าร้องเรียนกับพนักงานสอบสวนของตำรวจสอบสวนกลางได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลางหรือตัวแทน เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงซ้ำซ้อน และห้ามมาใช้สถานที่ถ่ายทำไลฟ์สดซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน หากจะถ่ายทำให้ขออนุญาตเป็นกรณีไป ปฎิกิริยาของคนในสังคมส่วนหนึ่ง ที่แสดงท่าทีสะใจ ให้ท้ายสนับสนุน ไม่ต่างอะไรกับที่เคยเกิดขึ้นกับนายศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องเรียนในตำนาน ที่แพ้ภัยตัวเองจากคดีร่วมกันตบทรัพย์ข้าราชการระดับสูง ก่อนหน้านี้ก็เคยถูกทำร้ายร่างกายถึงสองครั้ง แต่ยังมีสังคมส่วนหนึ่งที่เห็นดีเห็นงาม ต่างพากันสะใจ สมน้ำหน้า เพราะรำคาญกับพฤติกรรมการร้องเรียนปรากฎเป็นข่าวบ่อยครั้ง ทั้งที่การร้องเรียนเป็นสิทธิเสรีภาพ ส่วนจะสมเหตุสมผลหรือไม่ก็มีสิทธิ์ที่จะวิจารณ์ และด้วยยุคนี้คนไทยโอนไว ส่วนหนึ่งก็โอนเงินไปยังผู้ก่อเหตุเพื่อสนับสนุน บางคนได้เงินไปหลักล้านบาท มีคนในสังคมอีกส่วนหนึ่งมักจะบอกตัวเองว่าไม่สนับสนุนความรุนแรง แต่กับคนที่ตัวเองไม่ชอบกลับมีข้ออ้างให้มองว่าเป็นเรื่องตลกขบขัน ทั้งที่ความรุนแรงไม่ว่าจะบาดเจ็บเล็กน้อยหรือสาหัสไม่ใช่เรื่องตลก และไม่ใช่เรื่องเวรกรรมเพราะเกิดขึ้นจากความจงใจของมนุษย์ ส่วนข้ออ้างที่ว่าคนที่เห็นแยกแยะได้ ก็อาจมีคนที่คิดไม่เป็น มองว่าเมื่อคนอื่นทำได้ตนเองก็ทำได้ สิ่งเหล่านี้เรียกว่า "พฤติกรรมเลียนแบบ" ส่งผลให้ความรุนแรงก่อตัวเป็นความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง วันดีคืนดีเกิดใครไม่ชอบก็เอาอาวุธปืนมายิงกันให้ตายไปข้าง บ้านเมืองจะกลับไปสู่ยุคบ้านป่าเมืองเถื่อน ทั้งที่เป็นเรื่องไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก #Newskit #ตำรวจสอบสวนกลาง
    Like
    Sad
    6
    0 Comments 0 Shares 248 Views 0 Reviews
  • พรรคเดโมแครต พรรคที่ชูเสรีนิยม พยายามใช้ดารา และบรรดาอินฟลูฯ เพื่อใช้ความมีชื่อเสียงของพวกเขาชี้นำให้ประชาชนหันมาเลือก คามาลา แฮริส
    พรรคเดโมแครต พรรคที่ชูเสรีนิยม พยายามใช้ดารา และบรรดาอินฟลูฯ เพื่อใช้ความมีชื่อเสียงของพวกเขาชี้นำให้ประชาชนหันมาเลือก คามาลา แฮริส
    0 Comments 0 Shares 95 Views 23 0 Reviews
  • ลามถึงเพื่อนบ้าน! "ลาว" เร่งรวบรวมข้อมูลเหยื่อ "ดิไอคอน" เตรียมเล่นงานทางกฎหมาย
    .
    ทางการลาวมอบหมายกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเป็นแม่งาน รวมรวมรายชื่อและข้อมูลของเหยื่อ"ดิไอคอน กรุ๊ป ลาว" เตรียมดำเนินคดีทางกฏหมาย
    .
    วานนี้ (21 ต.ค.) กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป.ลาว ได้เผยแพร่หนังสือแจ้งการเลขที่ 405/กข.กค. ระบุว่า บริษัทห้างร้าน บุคคลทั่วไป ทุกราย ที่ได้รับความเสียหายจากการร่วมทำธุรกิจกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ลาว(The Icon Group Laos) ให้มาแจ้งข้อมูลความเสียหายที่ได้รับกับกรมแข่งขันทางธุรกิจและตรวจตราการค้า ผ่านช่องทางโทรศัพท์สายด่วน 1510 หรือที่เพจเฟสบุ๊คทางการของกรมฯ หรือแจ้งไปยังแผนกอุตสาหกรรมและการค้าในพื้นที่ตั้งธุรกิจของแต่ละคน
    .
    หนังสือแจ้งการดังกล่าว ออกมาเพื่อให้กรมแข่งขันทางธุรกิจและตรวจตราการค้า ได้เป็นเจ้าภาพ รวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการทางกฏหมายกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ลาว เช่นเดียวกับที่ทางการไทย กำลังดำเนินคดีกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป อยู่ในประเทศไทยขณะนี้
    .
    ลาวเป็นประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีจำนวนผู้เสียหายจากการเข้าร่วมเป็นเครือข่ายของดิไอคอน กรุ๊ป มากถึงกว่า 1,000 ราย
    .
    เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา บัญชีเฟสบุ๊ค Joseph Akaravong หรือที่รู้จักกันในนาม "ประธานโจ" อินฟลูเอนเซอร์ของลาวที่มีผู้ติดตามมากถึง 5.5 แสนคน ได้เผยแพร่ภาพชุดกิจกรรมของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ลาว และเขียนบรรยายว่า
    .
    "The Icon Group ที่เป็นข่าวดังในไทย ที่ผ่านมา เคยระบาดเข้ามาถึงในลาว มีสมาชิกจำนวนมาก บางครั้งก็ใช้หอประชุมแห่งชาติในการจัดงาน หลายคนถูกสูบเงินมากมาย แต่ไม่กล้าบอกใครเพราะอาย เก็บไว้ในใจคนเดียว ขอเจ็บคนเดียว"
    .
    ไม่เพียงเฉพาะลาว แต่เครือข่ายของดิไอคอนยังได้ขยายออกไปยังอีกหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 เพจ The iCon Group ได้เผยแพร่ภาพชุดที่ดิไอคอน กรุ๊ป ได้ที่เชิญชวนตัวแทนเครือข่ายจากประเทศต่างๆมาร่วมกิจกรรมซึ่งจัดขึ้นที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ในประเทศไทย (https://www.facebook.com/share/p/oR1btDyVteTE1wJ7/) โดยเขียนบรรยายว่า
    .
    "ครั้งแรกที่ครอบครัว The iCon Group จากประเทศเพื่อบ้าน ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ สิงคโปร์ ได้ร่วมกันสร้างปรากฏการณ์ เพื่อก้าวสู่การเติบโตที่มากขึ้นในประชาคม AEC ยิ่งใหญ่และน่าประทับใจมากๆเลยค่าาา"
    .
    ช่วงท้ายของโพสต์นี้ เพจ The iCon Group ได้ใส่แฮชแท็กว่า
    #TheiConGroup
    #iConEvolutionCashCloud
    #IE #ImpactArena
    #MuangThongThani
    #BossPaul #PaulTheiCon
    #Lao #Cambodia
    #Singapore #Myanmar
    #กันต์กันตถาวร #บอยปกรณ์
    #เวียร์ศุกลวัฒน์ #ป้องณวัฒน์
    #โดมปกรณ์ลัม
    ลามถึงเพื่อนบ้าน! "ลาว" เร่งรวบรวมข้อมูลเหยื่อ "ดิไอคอน" เตรียมเล่นงานทางกฎหมาย . ทางการลาวมอบหมายกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเป็นแม่งาน รวมรวมรายชื่อและข้อมูลของเหยื่อ"ดิไอคอน กรุ๊ป ลาว" เตรียมดำเนินคดีทางกฏหมาย . วานนี้ (21 ต.ค.) กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป.ลาว ได้เผยแพร่หนังสือแจ้งการเลขที่ 405/กข.กค. ระบุว่า บริษัทห้างร้าน บุคคลทั่วไป ทุกราย ที่ได้รับความเสียหายจากการร่วมทำธุรกิจกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ลาว(The Icon Group Laos) ให้มาแจ้งข้อมูลความเสียหายที่ได้รับกับกรมแข่งขันทางธุรกิจและตรวจตราการค้า ผ่านช่องทางโทรศัพท์สายด่วน 1510 หรือที่เพจเฟสบุ๊คทางการของกรมฯ หรือแจ้งไปยังแผนกอุตสาหกรรมและการค้าในพื้นที่ตั้งธุรกิจของแต่ละคน . หนังสือแจ้งการดังกล่าว ออกมาเพื่อให้กรมแข่งขันทางธุรกิจและตรวจตราการค้า ได้เป็นเจ้าภาพ รวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการทางกฏหมายกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ลาว เช่นเดียวกับที่ทางการไทย กำลังดำเนินคดีกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป อยู่ในประเทศไทยขณะนี้ . ลาวเป็นประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีจำนวนผู้เสียหายจากการเข้าร่วมเป็นเครือข่ายของดิไอคอน กรุ๊ป มากถึงกว่า 1,000 ราย . เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา บัญชีเฟสบุ๊ค Joseph Akaravong หรือที่รู้จักกันในนาม "ประธานโจ" อินฟลูเอนเซอร์ของลาวที่มีผู้ติดตามมากถึง 5.5 แสนคน ได้เผยแพร่ภาพชุดกิจกรรมของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ลาว และเขียนบรรยายว่า . "The Icon Group ที่เป็นข่าวดังในไทย ที่ผ่านมา เคยระบาดเข้ามาถึงในลาว มีสมาชิกจำนวนมาก บางครั้งก็ใช้หอประชุมแห่งชาติในการจัดงาน หลายคนถูกสูบเงินมากมาย แต่ไม่กล้าบอกใครเพราะอาย เก็บไว้ในใจคนเดียว ขอเจ็บคนเดียว" . ไม่เพียงเฉพาะลาว แต่เครือข่ายของดิไอคอนยังได้ขยายออกไปยังอีกหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 เพจ The iCon Group ได้เผยแพร่ภาพชุดที่ดิไอคอน กรุ๊ป ได้ที่เชิญชวนตัวแทนเครือข่ายจากประเทศต่างๆมาร่วมกิจกรรมซึ่งจัดขึ้นที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ในประเทศไทย (https://www.facebook.com/share/p/oR1btDyVteTE1wJ7/) โดยเขียนบรรยายว่า . "ครั้งแรกที่ครอบครัว The iCon Group จากประเทศเพื่อบ้าน ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ สิงคโปร์ ได้ร่วมกันสร้างปรากฏการณ์ เพื่อก้าวสู่การเติบโตที่มากขึ้นในประชาคม AEC ยิ่งใหญ่และน่าประทับใจมากๆเลยค่าาา" . ช่วงท้ายของโพสต์นี้ เพจ The iCon Group ได้ใส่แฮชแท็กว่า #TheiConGroup #iConEvolutionCashCloud #IE #ImpactArena #MuangThongThani #BossPaul #PaulTheiCon #Lao #Cambodia #Singapore #Myanmar #กันต์กันตถาวร #บอยปกรณ์ #เวียร์ศุกลวัฒน์ #ป้องณวัฒน์ #โดมปกรณ์ลัม
    Like
    Sad
    5
    0 Comments 1 Shares 416 Views 1 Reviews
  • พระว.วชิรเมธีพลาดหนักรับนิมนต์ดิไอคอน
    ปลายจีวรเฉียดตารางนิดเดียว
    หลังจากที่พระว.ไปเทศน์แล้วปล่อยมุกอวยดิไอคอน แค่อวยเล่นๆ
    ตอนสถานการณ์เดิมมันก็ไม่เป็นประเด็น แต่พอเรื่องแดงออกมาแล้วว่าดิไอคอน
    เป็นองค์กรอาชญากรสูบเลือดคนจนแค่พูดเล่นมันก็เลยเป็นปัญหาขึ้นมา
    ให้คนวิพากษ์วิจารณ์กันหนักมากโดยหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
    พระว.โพสต์ด่าหนุ่มกรรชัยแรงเกินเบอร์ถึงขั้นฟาดว่าหนุ่มกรรชัยเดี๋ยวนี้ทําตัวเป็นศาลเตี้ย
    เป็นทั้งฆตกต่อเนื่องในคนคนเดียวโพสต์แบบนี้มีแต่ทําตัวเองพังซ้ำพระว.จึงรีบลบโพสต์แทบไม่ทัน
    แต่นั่นก็ช้าเกินไป
    กลายเป็นเรื่องพระเปิดสงครามน้ําลายกับพิธีกรดัง
    ในสถานการณ์กวาดล้างดิไอคอนการที่สื่อหรือสังคมจะตรวจสอบอย่างเข้มข้นในทุกๆประเด็นถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก
    เพราะว.ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนร่วม
    ที่อาจมีส่วนได้เสียก็ต้องโดนสแกนอย่างไม่มีทางเลี่ยง
    ในเมื่อเคยไปอยู่ตรงนั้นพูดไว้แบบนั้นการโดนทดสอบหนนี้เผยให้เห็นว่าพระว.ยังไม่นิ่งพอ
    เกิดความหวั่นไหวว่าสังคมจะมองท่านเสียเสียหายหาย
    ที่สําคัญมือกฎหมายจะเอิ้อมมาถึงท่านหรือไม่
    พระว.ถือว่าพลาดแล้วพลาดอีกจริงๆ
    เรื่องนี้คนเลวตัวจริงเสียงจริงก็คือthe iconจึงหลอกนิมนต์พระว.เพื่อสร้างภาพลักษณ์
    องค์กรแหกตาเหยื่อล้วงเงินจากกระเป๋าเหยื่อ
    หลังจากสงครามกําลังดุเดือด
    อดีตพระอย่างแพรรี่ ไพรวัลย์ชี้ทางออกเรียบง่ายให้พระว.ยอมรับต่อสาธารณชนไปว่าพลาดแล้ว
    มองคนผิดจนตกเป็นเครื่องมือหลอกลวงของthe iconก็แค่นี้
    จากนี้ไปพระว.ก็ต้องพึ่งธรรมะให้เยอะๆ
    สงบจิตตัวเองให้นิ่งกว่าเดิม
    จะถูกพิธีกร ทนายความอินฟลูหน้าไหนแซะต่อเพื่อความบันเทิงก็ต้องใช้อุเบกขาเพื่อให้ทนได้
    ท่านไม่ได้หลอกลวงใครศาลเตี้ยไหนๆก็ทําอะไรท่านไม่ได้หรอก
    หรือว่าท่านทํา?
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่คิงส์โพธิ์ดํา
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #theicon
    พระว.วชิรเมธีพลาดหนักรับนิมนต์ดิไอคอน ปลายจีวรเฉียดตารางนิดเดียว หลังจากที่พระว.ไปเทศน์แล้วปล่อยมุกอวยดิไอคอน แค่อวยเล่นๆ ตอนสถานการณ์เดิมมันก็ไม่เป็นประเด็น แต่พอเรื่องแดงออกมาแล้วว่าดิไอคอน เป็นองค์กรอาชญากรสูบเลือดคนจนแค่พูดเล่นมันก็เลยเป็นปัญหาขึ้นมา ให้คนวิพากษ์วิจารณ์กันหนักมากโดยหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พระว.โพสต์ด่าหนุ่มกรรชัยแรงเกินเบอร์ถึงขั้นฟาดว่าหนุ่มกรรชัยเดี๋ยวนี้ทําตัวเป็นศาลเตี้ย เป็นทั้งฆตกต่อเนื่องในคนคนเดียวโพสต์แบบนี้มีแต่ทําตัวเองพังซ้ำพระว.จึงรีบลบโพสต์แทบไม่ทัน แต่นั่นก็ช้าเกินไป กลายเป็นเรื่องพระเปิดสงครามน้ําลายกับพิธีกรดัง ในสถานการณ์กวาดล้างดิไอคอนการที่สื่อหรือสังคมจะตรวจสอบอย่างเข้มข้นในทุกๆประเด็นถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะว.ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนร่วม ที่อาจมีส่วนได้เสียก็ต้องโดนสแกนอย่างไม่มีทางเลี่ยง ในเมื่อเคยไปอยู่ตรงนั้นพูดไว้แบบนั้นการโดนทดสอบหนนี้เผยให้เห็นว่าพระว.ยังไม่นิ่งพอ เกิดความหวั่นไหวว่าสังคมจะมองท่านเสียเสียหายหาย ที่สําคัญมือกฎหมายจะเอิ้อมมาถึงท่านหรือไม่ พระว.ถือว่าพลาดแล้วพลาดอีกจริงๆ เรื่องนี้คนเลวตัวจริงเสียงจริงก็คือthe iconจึงหลอกนิมนต์พระว.เพื่อสร้างภาพลักษณ์ องค์กรแหกตาเหยื่อล้วงเงินจากกระเป๋าเหยื่อ หลังจากสงครามกําลังดุเดือด อดีตพระอย่างแพรรี่ ไพรวัลย์ชี้ทางออกเรียบง่ายให้พระว.ยอมรับต่อสาธารณชนไปว่าพลาดแล้ว มองคนผิดจนตกเป็นเครื่องมือหลอกลวงของthe iconก็แค่นี้ จากนี้ไปพระว.ก็ต้องพึ่งธรรมะให้เยอะๆ สงบจิตตัวเองให้นิ่งกว่าเดิม จะถูกพิธีกร ทนายความอินฟลูหน้าไหนแซะต่อเพื่อความบันเทิงก็ต้องใช้อุเบกขาเพื่อให้ทนได้ ท่านไม่ได้หลอกลวงใครศาลเตี้ยไหนๆก็ทําอะไรท่านไม่ได้หรอก หรือว่าท่านทํา? ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่คิงส์โพธิ์ดํา #คิงส์โพธิ์ดำ #theicon
    0 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • ดร.กมล กมลตระกูลโพสต์ประเด็น“ เทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศจีนตอนนี้คือ Luxury Shame หรือ ความน่าละอายของชีวิตหรู

    กล่าวคือ ผู้คนรู้สึกกันว่าการใช้สินค้าแบรนด์เนมนั้นคือสิ่งน่าอาย ยิ่งถือกระเป๋าหรือแต่งตัวด้วยสินค้าหรู ใช้รถราคาแพงเท่าไร ก็ยิ่งน่าละอายเท่านั้น

    สื่ออเมริกันบอกว่า เทรนด์นี้เกิดขึ้นเพราะผู้นำจีนคือ ท่านสี จิ้นผิง และรัฐบาลจีน ได้ออกมารณรงค์ให้ผู้บริหารองค์กรใหญ่ๆของจีน รวมทั้งธนาคารใหญ่ๆในฮ่องกง ให้เลิกสวมเสื้อผ้าและนาฬิกาหรู ให้งดการเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจในสถานที่หรูหราจัดงาน และลดโบนัสก้อนโต

    คนจีนที่มีสตางค์ในเวลานี้นิยมแต่งตัวที่มีรสนิยมหรูเรียบๆ มากกว่าแต่งตัวแบบเรียกร้องความสนใจ

    ก็คือยังใช้ของแพงหรือแบรนด์เนมอยู่ตามฐานะ แต่ไม่ใช่รุ่นที่แพงระยับสะกดสายตาผู้คน

    โดยผู้นำจีนได้ทำตัวให้เป็นตัวอย่างด้วย

    บรรดาอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีนที่อวดและขายสินค้าแบรนด์เนมที่ราคาแพงเว่อร์ ก็ถูกทางการจีนสกัดดาวรุ่งไปแล้ว

    ศัพท์ที่เขาใช้เรียกอินฟลูแบรนด์เนมเหล่านี้คือ Wealth Fluanting ครับ มีความหมายว่า ”พวกอวดรวยให้คนอิจฉา“

    จิตวิทยาของสินค้าหรูหราราคาแพง คือ เป็นสินค้าที่ผู้ใช้ต้องการแสดงตัวในสังคมว่าเป็นคนมีฐานะดี มีชื่อเสียงหรือประสบความสำเร็จ แต่ถ้าหากสังคมมองว่าสินค้านั้นคือความน่าอาย ต้องการแสดงความแตกต่าง ความสูงส่ง เหนือผู้คนในสังคม คนที่เคยซื้อเขาก็เลิกซื้อ เพราะซื้อไปก็ไม่ได้อวดใคร

    แถมยังอาจตกเป็นเป้าสายตาของทางการอีก ด้วย ดีไม่ดีอาจจะถูกตรวจสอบที่มาของเงินการจ่ายภาษีย้อนหลังอีกด้วย

    เทรนด์ในจีนตอนนี้ก็คือ ”Quiet Luxury“ หรือ “หรูหราแบบเงียบ ” ครับ

    สื่ออเมริกันเขาบอกว่า จีนได้ใช้นโยบายนี้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของฐานะในสังคม ฟังดูแล้วผมก็ว่าดีนะ เพราะขนาดสื่ออเมริกันที่ปกติจะเหน็บจีนยังบอกว่า คนจีนนั้นฉลาดในการใช้เงินมากขึ้นเยอะ

    ...แชร์ มาเล่าสู่กันฟังครับ…”

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/D5Lvch3RTrXrH6K9/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    ดร.กมล กมลตระกูลโพสต์ประเด็น“ เทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศจีนตอนนี้คือ Luxury Shame หรือ ความน่าละอายของชีวิตหรู กล่าวคือ ผู้คนรู้สึกกันว่าการใช้สินค้าแบรนด์เนมนั้นคือสิ่งน่าอาย ยิ่งถือกระเป๋าหรือแต่งตัวด้วยสินค้าหรู ใช้รถราคาแพงเท่าไร ก็ยิ่งน่าละอายเท่านั้น สื่ออเมริกันบอกว่า เทรนด์นี้เกิดขึ้นเพราะผู้นำจีนคือ ท่านสี จิ้นผิง และรัฐบาลจีน ได้ออกมารณรงค์ให้ผู้บริหารองค์กรใหญ่ๆของจีน รวมทั้งธนาคารใหญ่ๆในฮ่องกง ให้เลิกสวมเสื้อผ้าและนาฬิกาหรู ให้งดการเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจในสถานที่หรูหราจัดงาน และลดโบนัสก้อนโต คนจีนที่มีสตางค์ในเวลานี้นิยมแต่งตัวที่มีรสนิยมหรูเรียบๆ มากกว่าแต่งตัวแบบเรียกร้องความสนใจ ก็คือยังใช้ของแพงหรือแบรนด์เนมอยู่ตามฐานะ แต่ไม่ใช่รุ่นที่แพงระยับสะกดสายตาผู้คน โดยผู้นำจีนได้ทำตัวให้เป็นตัวอย่างด้วย บรรดาอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีนที่อวดและขายสินค้าแบรนด์เนมที่ราคาแพงเว่อร์ ก็ถูกทางการจีนสกัดดาวรุ่งไปแล้ว ศัพท์ที่เขาใช้เรียกอินฟลูแบรนด์เนมเหล่านี้คือ Wealth Fluanting ครับ มีความหมายว่า ”พวกอวดรวยให้คนอิจฉา“ จิตวิทยาของสินค้าหรูหราราคาแพง คือ เป็นสินค้าที่ผู้ใช้ต้องการแสดงตัวในสังคมว่าเป็นคนมีฐานะดี มีชื่อเสียงหรือประสบความสำเร็จ แต่ถ้าหากสังคมมองว่าสินค้านั้นคือความน่าอาย ต้องการแสดงความแตกต่าง ความสูงส่ง เหนือผู้คนในสังคม คนที่เคยซื้อเขาก็เลิกซื้อ เพราะซื้อไปก็ไม่ได้อวดใคร แถมยังอาจตกเป็นเป้าสายตาของทางการอีก ด้วย ดีไม่ดีอาจจะถูกตรวจสอบที่มาของเงินการจ่ายภาษีย้อนหลังอีกด้วย เทรนด์ในจีนตอนนี้ก็คือ ”Quiet Luxury“ หรือ “หรูหราแบบเงียบ ” ครับ สื่ออเมริกันเขาบอกว่า จีนได้ใช้นโยบายนี้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของฐานะในสังคม ฟังดูแล้วผมก็ว่าดีนะ เพราะขนาดสื่ออเมริกันที่ปกติจะเหน็บจีนยังบอกว่า คนจีนนั้นฉลาดในการใช้เงินมากขึ้นเยอะ ...แชร์ มาเล่าสู่กันฟังครับ…” ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/D5Lvch3RTrXrH6K9/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    5
    0 Comments 1 Shares 251 Views 0 Reviews
  • "ทุนหมด หนำซ้ำ ไม่ทันได้ตั้งตัว เหนื่อยหน่ายเหลือเกิน กับ การสิ้นหวังซ้ำซาก กับ องค์กรที่ดูเหมือนค้าออนไลน์ ที่เน้นขายฝันการมีลูกทีมและเครือข่าย แต่ไม่เน้นขายสินค้า"

    หากคุณตั้งใจจะเป็นแม่ค้าออนไลน์ที่แท้จริง แต่ต้องอยู่ในสภาวะนี้ และ ไม่อยากชีวิตพังอีกแล้ว บทความนี้ คือ สิ่งที่เป็นประโยชน์กับคุณ

    -------------

    บริษัท #การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง ต้องเป็นอย่างไร ?

    1. บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง " #ต้องได้รายได้มาจากการขายปลีกไปยังลูกค้ารายสุดท้าย เท่านั้น" **ไม่ใช่ ได้รายได้ จากการซื้อเพื่อสต๊อกสินค้า ของตัวแทน**

    จึงจะสามารถเชื่อมั่นได้ว่า "สินค้า ที่บริษัทฯ นำมาให้จัดจำหน่ายนั้น มีคุณภาพ มีราคาสมเหตุสมผล" ที่ลูกค้ารายสุดท้ายจะสามารถซื้อซ้ำๆ ได้จริง ไม่ใช่ออกแบบสินค้า มาเพื่อให้คนที่มาเป็นตัวแทน "จ่ายเงินให้บริษัทฯ เพื่อสต๊อกสินค้า แต่ขายไม่ได้จริง"

    บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จึงควรต้องมีนโยบาย ที่ "ไม่เก็บค่าธรรมเนียมใดๆจากตัวแทน ไม่ให้ตัวแทนเปิดบิลหรือเป็นผู้สต๊อกสินค้า" บริษัท จะได้รายได้ ก็ต่อเมื่อ ตัวแทนสามารถปิดการขายสินค้า ให้กับลูกค้ารายสุดท้ายได้ เท่านั้น

    2. #โฟกัสที่การขายสินค้าไปยังลูกค้ารายสุดท้าย จึง #ไม่มีระบบแม่ทีมลูกทีม

    เพราะการมีระบบแม่ทีมลูกทีม จะส่งผลให้ "ไม่โฟกัส การทำงานขายสินค้า ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย" แต่จะมาโฟกัส หาลูกทีม ที่ส่งผลให้ไม่เกิดการพัฒนา "ทักษะขาย ที่แท้จริง" ที่เกิดจาก "การโฟกัส และฝึกฝนการทำงานขาย ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย อย่างซื่อสัตย์"

    และ ยังส่งผล ให้เกิด "โครงสร้างราคา ที่ไม่เท่าเทียม" ระหว่างคนมาก่อนที่เป็นแม่ทีมกับคนมาทีหลังที่เป็นลูกทีม ซึ่ง "โครงสร้างราคา ที่ไม่เท่าเทียม" นี้ ส่งผลให้ เกิดภาวะ "คนที่มาทีหลัง ต้องแบกคนที่มาก่อน"

    บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จึงต้อง รักษา "โครงสร้างราคา ให้เท่าเทียม ระหว่างตัวแทนทุกคน ไม่ว่าจะเข้ามาก่อนหรือเข้ามาทีหลัง" และ มุ่งเน้นให้ตัวแทน "โฟกัส ที่การขายสินค้า ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย เท่านั้น"

    3. #มุ่งเน้นการให้ข้อมูลสินค้า ไม่ใช่ภาพลักษณ์ของบริษัท ในการขาย

    บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จะจดจ่อ กับการขายสินค้า ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย และ "สิ่งที่ลูกค้ารายสุดท้าย จะซื้อ คือ สินค้า ไม่ใช่ ภาพลักษณ์ ของบริษัท"

    ดังนั้น ข้อมูลที่ลูกค้ารายสุดท้ายต้องการ เพื่อประเมินและตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อ คือ "ข้อมูลของสินค้า"

    บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จึงต้องเน้น การให้ข้อมูลสินค้า "โดยเฉพาะ ข้อมูลวิทยาศาสตร์ ที่เป็นข้อเท็จจริง ที่สามารถพิสูจน์ได้ ด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์" ไม่ใช่ ใช้การนำเสนอ ภาพลักษณ์ของบริษัท ในการขาย

    -------------

    "การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง นั้น ไม่ง่าย" แต่เป็น #สัมมาอาชีพ "ที่สามารถทำให้มั่นคงทางการเงินได้ ตลอดชีวิต"

    เพราะ เมื่อ "รายได้ มาจากการขายสินค้า ให้กับลูกค้ารายสุดท้าย เท่านั้น" การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง "จึง ไม่ใช่ การหลอกคนที่เข้ามาใหม่ ให้มาสต๊อกสินค้า"

    ดังนั้น "การขายออนไลน์ ที่แท้จริง จึง ไม่ได้ทำให้รวยได้ ในชั่วข้ามคืน อย่างที่หลายๆ คนฝันไว้"

    จำเป็นต้อง "อดทน​ กับ​ การทำสิ่งที่น่าเบื่อ​ ซ้ำๆ​ เดิมๆ​ ได้​ สามารถ​จดจ่อได้อย่างต่อเนื่อง​จริงๆ​" จนวันหนึ่งที่ คุณสามารถฝึกฝน จนมี "ทักษะขาย อย่างซื่อสัตย์" จนเริ่มมี "ลูกค้าประจำ"

    การ "การทำสิ่งที่น่าเบื่อ​ ซ้ำๆ​ เดิมๆ อย่างซื่อสัตย์" ในการขายออนไลน์ของคุณ จึงจะสามารถทำให้คุณมีกลุ่มลูกค้าประจำ และมีรายได้จนเพียงพอ ที่สามารถรับผิดชอบตนเอง และ ครอบครัวได้

    และ หาก คุณยังรักษา "ความซื่อสัตย์" ของคุณต่อไปได้

    อาชีพนี้ จะเป็น สัมมาอาชีพ "ที่คุณสามารถทำได้ ตลอดชีวิต" ที่จะช่วยให้คุณ มีความมั่นคงทางการเงิน สามารถรับผิดชอบ ตนเอง และ ครอบครัวของคุณได้

    เพราะทุกบาท ทุกสตางค์ ของรายได้ของคุณ มาจาก "การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง" "ไม่ได้ โกหก หลอกลวงใคร" ให้ต้องทุกข์ทรมาน อย่างที่คุณเคยเจอ

    -------------

    **หากคุณ ฝันที่จะมีสัมมาอาชีพเป็นแม่ค้าออนไลน์ ที่แท้จริง และ ต้องการหาบริษัทที่จะมาสนับสนุนความฝันนั้นของคุณ บริษัท ซุปเปอร์ชี คอร์ปอร์เรชัน คือ ระบบที่สามารถสนับสนุนฝันนั้น ของคุณได้**

    เพราะ ทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่ บริษัท ซุปเปอร์ชี คอร์ปอร์เรชัน เป็น มาตลอด 12 ปี ที่ก่อตั้งบริษัท

    และ เป็นมากกว่านั้น ตรงที่ "ไม่เคยจ้าง ดารา นางแบบ อินฟลูฯ ที่มีชื่อเสียง มาเป็นพรีเซนเตอร์ สินค้าที่บริษัทฯ จำหน่ายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ! "

    การให้ข้อมูลเพื่อขายทุกครั้ง คือ การให้ "ปรากฏการณ์จริง ที่เกิดจากการใช้สินค้าจริง ของผู้ใช้" และ "ข้อมูลวิทยาศาสตร์ ของสินค้า"

    *ตัวแทนขาย ทุกคน ของบริษัทฯ ล้วนมาจากลูกค้าประจำ ที่เป็นผู้ใช้สินค้าจริง*

    สินค้าของบริษัทฯ ทุกตัว! เป็นสินค้า "มาตรฐานคุณภาพระดับสากล ที่มีลูกค้าประจำใช้ต่อเนื่อง ไม่เคยเปลี่ยนสูตร ไม่เคยรีแบรนด์ ตลอดระยะเวลาที่ขาย"

    เมื่อตัวแทนปิดการขายได้ ค่อยนำเงินที่ได้จากลูกค้าที่หักส่วนของตัวแทนแล้ว มาจ่ายค่าสินค้าให้กับบริษัทฯ และ บริษัทฯ จะทำการส่งสินค้าไปให้ลูกค้ารายสุดท้าย โดยที่ตัวแทนไม่ต้องสต๊อก

    จึง สามารถเริ่มได้เลย ไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่ต้องเปิดบิล ไม่ต้องจ่ายเงินให้บริษัทฯก่อนที่จะขายได้ สักบาทเดียว "ไม่ต้องกลัวถูกหลอก ไม่ต้องกลัวสูญเงิน เพราะไม่ต้องจ่ายเงิน"

    "ใช้เพียง ความซื่อสัตย์ ขยัน อดทน สม่ำเสมอ ในการทำงานขายออนไลน์"

    บริษัทฯ ไม่เคยเรียกเก็บเงินจากตัวแทนแม้แต่บาทเดียว ไม่เคยบังคับให้ต้องสต๊อกเปิดบิล ไม่เคยให้จ่ายเงินลงทุน ตัวแทนได้ราคาเท่ากันทุกคน ไม่ว่าเข้ามาก่อน หรือ เข้ามาทีหลัง ตลอด 12 ปี ที่ผ่านมา

    -------------

    หากสนใจ เพียงติดต่อรับตัวอย่างสินค้าไปทดลองใช้ โดยจ่ายค่าจัดส่ง 30 บาทเท่านั้น! เรากำหนดค่าจัดส่งเพื่อคัดกรองผู้ที่สนใจจริงๆ ในการทดลองใช้และพิจารณาเข้าร่วมเป็นตัวแทนขาย ไม่ใช่เพียงแค่ต้องการของฟรี

    ไม่มีการบังคับซื้อ ไม่มีการหลอกมาลงทุน เพราะไม่ใช้เงินแม้แต่บาทเดียว !!
    "ทุนหมด หนำซ้ำ ไม่ทันได้ตั้งตัว เหนื่อยหน่ายเหลือเกิน กับ การสิ้นหวังซ้ำซาก กับ องค์กรที่ดูเหมือนค้าออนไลน์ ที่เน้นขายฝันการมีลูกทีมและเครือข่าย แต่ไม่เน้นขายสินค้า" หากคุณตั้งใจจะเป็นแม่ค้าออนไลน์ที่แท้จริง แต่ต้องอยู่ในสภาวะนี้ และ ไม่อยากชีวิตพังอีกแล้ว บทความนี้ คือ สิ่งที่เป็นประโยชน์กับคุณ ------------- บริษัท #การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง ต้องเป็นอย่างไร ? 1. บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง " #ต้องได้รายได้มาจากการขายปลีกไปยังลูกค้ารายสุดท้าย เท่านั้น" **ไม่ใช่ ได้รายได้ จากการซื้อเพื่อสต๊อกสินค้า ของตัวแทน** จึงจะสามารถเชื่อมั่นได้ว่า "สินค้า ที่บริษัทฯ นำมาให้จัดจำหน่ายนั้น มีคุณภาพ มีราคาสมเหตุสมผล" ที่ลูกค้ารายสุดท้ายจะสามารถซื้อซ้ำๆ ได้จริง ไม่ใช่ออกแบบสินค้า มาเพื่อให้คนที่มาเป็นตัวแทน "จ่ายเงินให้บริษัทฯ เพื่อสต๊อกสินค้า แต่ขายไม่ได้จริง" บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จึงควรต้องมีนโยบาย ที่ "ไม่เก็บค่าธรรมเนียมใดๆจากตัวแทน ไม่ให้ตัวแทนเปิดบิลหรือเป็นผู้สต๊อกสินค้า" บริษัท จะได้รายได้ ก็ต่อเมื่อ ตัวแทนสามารถปิดการขายสินค้า ให้กับลูกค้ารายสุดท้ายได้ เท่านั้น 2. #โฟกัสที่การขายสินค้าไปยังลูกค้ารายสุดท้าย จึง #ไม่มีระบบแม่ทีมลูกทีม เพราะการมีระบบแม่ทีมลูกทีม จะส่งผลให้ "ไม่โฟกัส การทำงานขายสินค้า ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย" แต่จะมาโฟกัส หาลูกทีม ที่ส่งผลให้ไม่เกิดการพัฒนา "ทักษะขาย ที่แท้จริง" ที่เกิดจาก "การโฟกัส และฝึกฝนการทำงานขาย ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย อย่างซื่อสัตย์" และ ยังส่งผล ให้เกิด "โครงสร้างราคา ที่ไม่เท่าเทียม" ระหว่างคนมาก่อนที่เป็นแม่ทีมกับคนมาทีหลังที่เป็นลูกทีม ซึ่ง "โครงสร้างราคา ที่ไม่เท่าเทียม" นี้ ส่งผลให้ เกิดภาวะ "คนที่มาทีหลัง ต้องแบกคนที่มาก่อน" บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จึงต้อง รักษา "โครงสร้างราคา ให้เท่าเทียม ระหว่างตัวแทนทุกคน ไม่ว่าจะเข้ามาก่อนหรือเข้ามาทีหลัง" และ มุ่งเน้นให้ตัวแทน "โฟกัส ที่การขายสินค้า ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย เท่านั้น" 3. #มุ่งเน้นการให้ข้อมูลสินค้า ไม่ใช่ภาพลักษณ์ของบริษัท ในการขาย บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จะจดจ่อ กับการขายสินค้า ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย และ "สิ่งที่ลูกค้ารายสุดท้าย จะซื้อ คือ สินค้า ไม่ใช่ ภาพลักษณ์ ของบริษัท" ดังนั้น ข้อมูลที่ลูกค้ารายสุดท้ายต้องการ เพื่อประเมินและตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อ คือ "ข้อมูลของสินค้า" บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จึงต้องเน้น การให้ข้อมูลสินค้า "โดยเฉพาะ ข้อมูลวิทยาศาสตร์ ที่เป็นข้อเท็จจริง ที่สามารถพิสูจน์ได้ ด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์" ไม่ใช่ ใช้การนำเสนอ ภาพลักษณ์ของบริษัท ในการขาย ------------- "การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง นั้น ไม่ง่าย" แต่เป็น #สัมมาอาชีพ "ที่สามารถทำให้มั่นคงทางการเงินได้ ตลอดชีวิต" เพราะ เมื่อ "รายได้ มาจากการขายสินค้า ให้กับลูกค้ารายสุดท้าย เท่านั้น" การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง "จึง ไม่ใช่ การหลอกคนที่เข้ามาใหม่ ให้มาสต๊อกสินค้า" ดังนั้น "การขายออนไลน์ ที่แท้จริง จึง ไม่ได้ทำให้รวยได้ ในชั่วข้ามคืน อย่างที่หลายๆ คนฝันไว้" จำเป็นต้อง "อดทน​ กับ​ การทำสิ่งที่น่าเบื่อ​ ซ้ำๆ​ เดิมๆ​ ได้​ สามารถ​จดจ่อได้อย่างต่อเนื่อง​จริงๆ​" จนวันหนึ่งที่ คุณสามารถฝึกฝน จนมี "ทักษะขาย อย่างซื่อสัตย์" จนเริ่มมี "ลูกค้าประจำ" การ "การทำสิ่งที่น่าเบื่อ​ ซ้ำๆ​ เดิมๆ อย่างซื่อสัตย์" ในการขายออนไลน์ของคุณ จึงจะสามารถทำให้คุณมีกลุ่มลูกค้าประจำ และมีรายได้จนเพียงพอ ที่สามารถรับผิดชอบตนเอง และ ครอบครัวได้ และ หาก คุณยังรักษา "ความซื่อสัตย์" ของคุณต่อไปได้ อาชีพนี้ จะเป็น สัมมาอาชีพ "ที่คุณสามารถทำได้ ตลอดชีวิต" ที่จะช่วยให้คุณ มีความมั่นคงทางการเงิน สามารถรับผิดชอบ ตนเอง และ ครอบครัวของคุณได้ เพราะทุกบาท ทุกสตางค์ ของรายได้ของคุณ มาจาก "การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง" "ไม่ได้ โกหก หลอกลวงใคร" ให้ต้องทุกข์ทรมาน อย่างที่คุณเคยเจอ ------------- **หากคุณ ฝันที่จะมีสัมมาอาชีพเป็นแม่ค้าออนไลน์ ที่แท้จริง และ ต้องการหาบริษัทที่จะมาสนับสนุนความฝันนั้นของคุณ บริษัท ซุปเปอร์ชี คอร์ปอร์เรชัน คือ ระบบที่สามารถสนับสนุนฝันนั้น ของคุณได้** เพราะ ทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่ บริษัท ซุปเปอร์ชี คอร์ปอร์เรชัน เป็น มาตลอด 12 ปี ที่ก่อตั้งบริษัท และ เป็นมากกว่านั้น ตรงที่ "ไม่เคยจ้าง ดารา นางแบบ อินฟลูฯ ที่มีชื่อเสียง มาเป็นพรีเซนเตอร์ สินค้าที่บริษัทฯ จำหน่ายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ! " การให้ข้อมูลเพื่อขายทุกครั้ง คือ การให้ "ปรากฏการณ์จริง ที่เกิดจากการใช้สินค้าจริง ของผู้ใช้" และ "ข้อมูลวิทยาศาสตร์ ของสินค้า" *ตัวแทนขาย ทุกคน ของบริษัทฯ ล้วนมาจากลูกค้าประจำ ที่เป็นผู้ใช้สินค้าจริง* สินค้าของบริษัทฯ ทุกตัว! เป็นสินค้า "มาตรฐานคุณภาพระดับสากล ที่มีลูกค้าประจำใช้ต่อเนื่อง ไม่เคยเปลี่ยนสูตร ไม่เคยรีแบรนด์ ตลอดระยะเวลาที่ขาย" เมื่อตัวแทนปิดการขายได้ ค่อยนำเงินที่ได้จากลูกค้าที่หักส่วนของตัวแทนแล้ว มาจ่ายค่าสินค้าให้กับบริษัทฯ และ บริษัทฯ จะทำการส่งสินค้าไปให้ลูกค้ารายสุดท้าย โดยที่ตัวแทนไม่ต้องสต๊อก จึง สามารถเริ่มได้เลย ไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่ต้องเปิดบิล ไม่ต้องจ่ายเงินให้บริษัทฯก่อนที่จะขายได้ สักบาทเดียว "ไม่ต้องกลัวถูกหลอก ไม่ต้องกลัวสูญเงิน เพราะไม่ต้องจ่ายเงิน" "ใช้เพียง ความซื่อสัตย์ ขยัน อดทน สม่ำเสมอ ในการทำงานขายออนไลน์" บริษัทฯ ไม่เคยเรียกเก็บเงินจากตัวแทนแม้แต่บาทเดียว ไม่เคยบังคับให้ต้องสต๊อกเปิดบิล ไม่เคยให้จ่ายเงินลงทุน ตัวแทนได้ราคาเท่ากันทุกคน ไม่ว่าเข้ามาก่อน หรือ เข้ามาทีหลัง ตลอด 12 ปี ที่ผ่านมา ------------- หากสนใจ เพียงติดต่อรับตัวอย่างสินค้าไปทดลองใช้ โดยจ่ายค่าจัดส่ง 30 บาทเท่านั้น! เรากำหนดค่าจัดส่งเพื่อคัดกรองผู้ที่สนใจจริงๆ ในการทดลองใช้และพิจารณาเข้าร่วมเป็นตัวแทนขาย ไม่ใช่เพียงแค่ต้องการของฟรี ไม่มีการบังคับซื้อ ไม่มีการหลอกมาลงทุน เพราะไม่ใช้เงินแม้แต่บาทเดียว !!
    0 Comments 1 Shares 54 Views 0 Reviews
  • ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สำรวจความคิดเห็น เรื่อง “ใครจะคุ้มครองผู้บริโภค” ระหว่างวันที่ 15-16 ต.ค. 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการโฆษณาสินค้าของดารา และอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) คนดัง

    การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

    ดาวน์โหลดผลสำรวจฉบับเต็มได้ที่ https://nidapoll.nida.ac.th
    X : https://twitter.com/NIDA_Poll
    YouTube : https://www.youtube.com/@nidapoll2824
    TikTok : https://www.tiktok.com/@nida_poll

    #Thaitimes
    ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สำรวจความคิดเห็น เรื่อง “ใครจะคุ้มครองผู้บริโภค” ระหว่างวันที่ 15-16 ต.ค. 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการโฆษณาสินค้าของดารา และอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) คนดัง การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0 ดาวน์โหลดผลสำรวจฉบับเต็มได้ที่ https://nidapoll.nida.ac.th X : https://twitter.com/NIDA_Poll YouTube : https://www.youtube.com/@nidapoll2824 TikTok : https://www.tiktok.com/@nida_poll #Thaitimes
    Like
    4
    1 Comments 1 Shares 278 Views 0 Reviews
  • 18 ตุลาคม 2567-The Mall Lifestore ประกาศรางวัลอินฟลูเอนเซอร์ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมแห่งปี จากงาน Thailand Influencer Awards 2024 (TIA2024) และแบรนด์ที่ทำแคมเปญร่วมกับอินฟลูฯ ได้อย่างยอดเยี่ยม

    ข้อมูลของ Tellscore ผู้จัดงาน Thailand Influencer Awarผู้จัดงาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 เปิดเผยว่า ในไทยมี Content Creators ประมาณเกือบ 9 ล้านคน โดยแบ่งเป็นครีเอเตอร์แบบ Full-time กว่า 2 ล้านคน และที่เหลือคือ Part-time เช่น Micro-influencers ที่มีผู้ติดตามอยู่ประมาณระหว่าง 1,000-20,000 followers ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในประเทศได้มากกว่า 45,000 ล้านบาทในปี 2024

    ทั้งนี้งาน Thailand Influencer Awards by Tellscore เป็นงานประกาศรางวัลสำหรับผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด หรือ Influencer และแบรนด์ชั้นนำทั่วประเทศ ที่สร้างสรรค์ผลงานยอดเยี่ยม และโดดเด่นในช่องทางดิจิทัล จัดขึ้นเพื่อปลูกฝังบรรทัดฐานการสร้างคอนเทนต์ที่ดี และแสดงออกซึ่งความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ มีพลังในการสื่อสาร และมีสำนึกในสังคมให้แก่วงการสื่อสาร และโฆษณา รวมถึงเล็งเห็นคุณค่าของผลงาน และความตั้งใจ เพื่อผลักดัน และสนับสนุนให้กลุ่ม Influencer และแบรนด์ต่างๆ มีกำลังใจที่จะพัฒนาผลงานอย่างสร้างสรรค์ และมีความรับผิดชอบต่อไป

    ที่มา https://www.thailandinfluencerawards.com/awards/2024

    https://www.facebook.com/share/p/cnkgCfiujz2xD2gf/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    18 ตุลาคม 2567-The Mall Lifestore ประกาศรางวัลอินฟลูเอนเซอร์ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมแห่งปี จากงาน Thailand Influencer Awards 2024 (TIA2024) และแบรนด์ที่ทำแคมเปญร่วมกับอินฟลูฯ ได้อย่างยอดเยี่ยม ข้อมูลของ Tellscore ผู้จัดงาน Thailand Influencer Awarผู้จัดงาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 เปิดเผยว่า ในไทยมี Content Creators ประมาณเกือบ 9 ล้านคน โดยแบ่งเป็นครีเอเตอร์แบบ Full-time กว่า 2 ล้านคน และที่เหลือคือ Part-time เช่น Micro-influencers ที่มีผู้ติดตามอยู่ประมาณระหว่าง 1,000-20,000 followers ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในประเทศได้มากกว่า 45,000 ล้านบาทในปี 2024 ทั้งนี้งาน Thailand Influencer Awards by Tellscore เป็นงานประกาศรางวัลสำหรับผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด หรือ Influencer และแบรนด์ชั้นนำทั่วประเทศ ที่สร้างสรรค์ผลงานยอดเยี่ยม และโดดเด่นในช่องทางดิจิทัล จัดขึ้นเพื่อปลูกฝังบรรทัดฐานการสร้างคอนเทนต์ที่ดี และแสดงออกซึ่งความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ มีพลังในการสื่อสาร และมีสำนึกในสังคมให้แก่วงการสื่อสาร และโฆษณา รวมถึงเล็งเห็นคุณค่าของผลงาน และความตั้งใจ เพื่อผลักดัน และสนับสนุนให้กลุ่ม Influencer และแบรนด์ต่างๆ มีกำลังใจที่จะพัฒนาผลงานอย่างสร้างสรรค์ และมีความรับผิดชอบต่อไป ที่มา https://www.thailandinfluencerawards.com/awards/2024 https://www.facebook.com/share/p/cnkgCfiujz2xD2gf/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 418 Views 0 Reviews
  • ""ธุรกิจขายสินค้าโดยวิธีการสมัครสมาชิก และให้สมาชิกซื้อสินค้านั้น จะเป็นการฉ้อโกงหรือไม่ จะดูจาก ""#รายได้"" ว่า ได้มาจากอะไร ซึ่งศาลฎีกาเองก็ดูจากรายได้เช่นกัน ว่า #รายได้ที่แท้จริงนั้นมาจากอะไร โดยแบ่งรายได้ออกเป็น 3 ประเภท

    ประเภทที่ 1. #รายได้จากการสมัครสมาชิก ถ้ารายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าสมัครสมาชิก และมีแนวทางการประกอบกิจการไปที่การแนะนำให้หาสมาชิกเป็นส่วนใหญ่ วิธีการแบบนี้ เข้าลักษณะแชร์ลูกโซ่ ถือว่าเป็นการฉ้อโกงประชาชนได้ #เพราะไม่ได้เน้นที่การขายสินค้าและรายได้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการขายสินค้า

    ประเภทที่ 2. #รายได้มาจากการสมัครสมาชิก และ #การบังคับซื้อสินค้า วิธีการนี้ดูเผินๆเหมือนจะเป็นการตั้งใจประกอบธุรกิจ แต่ถ้าดูให้ละเอียดจะพบว่า ไม่ได้มีเจตนาประกอบธุรกิจจริงๆ #แต่เป็นการหลอกให้ซื้อสินค้าไปเยอะๆแต่ไม่สามารถขายสินค้าได้ ฉะนั้น รายได้จริงๆของเจ้าของธุรกิจ จึงไม่ใช่ผลกำไรจากการขายสินค้าทั่วไป #แต่เป็นรายได้ที่ได้จากการให้สมาชิกต้องซื้อสินค้าจำนวนหนึ่ง [** รายได้ของธุรกิจ จะต้องได้จากการขายสินให้คนทั่วไป ไม่ใช่รายได้จากการบังคับให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวน มากๆ / เรียกว่า ""รายได้หรือกำไรเทียม"" ] วิธีการแบบนี้เข้าลักษณะแชร์ลูกโซ่เช่นกัน เพราะรายได้ที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากการขายสินค้าทั่วไป #แต่เกิดจากการหลอกลวงให้สมาชิกซื้อสินค้าจำนวนมากๆ

    ประเภที่ 3. #รายได้มาจากการาขายสินค้าทั่วไป ธุรกิจประเภทนี้ถือเป็นธุรกิจทั่วๆไป คือ นำสินออกขาย ถ้าขายได้ก็ได้กำไร ถ้าขายไม่ได้ก็ขาดทุน โดยจะไม่มีรายได้จากค่าสมาชิก หรือรายได้จากการบังคับซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ

    #ธุรกิจที่กำลังเป็นข่าวดังอยู่ในตอนนี้ เข้าลักษณะที่ 2. คือ มีสินค้าจริง แต่จะให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ #แต่สินค้าจะขายไม่ได้ หรือจะขายได้น้อย #และถ้าไปดูรายได้ของบริษัทแม่จริงๆ ก็จะพบว่ รายได้หรือกำไร #มาจากการซื้อสินค้าของสมาชิก ส่วนสมาชิกจะนำสินค้าไปขายได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    เมื่อรายได้หรือกำไรของบริษัท ไม่ได้เกิดจากการขายสินค้าให้แก่คนทั่วไป แต่เกิดจากการซื้ของสมาชิกเอง ก็แสดงว่า #รายได้หรือกำไรของบริษัทนั้นมีขึ้นก่อนที่จะนำสินค้าออกขายให้แก่คนทั่วไปโดยสมาชิก

    ดู ไทมไลน์ ดังนี้
    1. ผลิตสินค้า
    2.หาสมาชิก
    3. ให้สมาชิกซื้อสินค้าจำนวนมาก [** รายได้ของบริษัท]
    4. สมาชิกนำสินค้าที่ซื้อไปขาย

    จะเห็นว่า รายได้ของบริษัท #เกิดขึ้นก่อน ที่สมาชิกจะเอาสินค้าไปขาย และเป็นรายได้ที่มาจากสมาชิกเอง

    วิธีการที่จะหลอกสมาชิกให้มาสมัครเป็นสมาชิก และให้ซื้อสินค้าในจำนวนมากๆได้นั้น จะต้องอาศัยเครื่องมือ ที่เรียกว่า ""#ดาราหรืออินฟลูเอ็นเซอร์"" ธุรกิจพวกนี้จะให้ดาราหรืออินฟลูเอ็นเซอร์มาช่วยโปรโมทธุรกิจของตนเอง

    "" #โดยมีวัตถุประสงค์ให้สมาชิกตัดสินใจซื้อสินค้าให้เยอะขึ้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ให้สมาชิกนำสินค้าไปขายได้ง่ายขึ้น ..........""

    ดู คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 2901/2547 วินิจฉัยว่า
    "" ถ้ารายได้หรือผลกำไร มาจากค่าสมัครสมาชิก และจะได้มากขึ้นเมื่อสามารถชักชวนคนอื่นให้เข้ามาเป็นสมาชิกได้ #อันแสดงว่ารายได้หรือผลกำไรไม่ได้ขึ้นอยู่กับสินค้าหรือบริการ แต่ขึ้นอยู่กับการชักชวนหรือการหาสมาชิกให้ได้จำนวนมากๆ #และเมื่อรายได้หรือผลกำไรเกิดจากค่าสมัครสมาชิกไม่ได้เกิดจากสินค้าหรือบริการโดยตรง จึงต้องตามความหมายของบทนิยามคำว่า "กู้ยืมเงิน" และ "ผลประโยชน์ตอบแทน" ตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ ม. 3 จึงเป็นความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ....."

    ดู คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 1172/2566 วินิจฉัยว่า
    "" จำเลย ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนในกิจการและธุรกิจของจำเลย #แต่จำเลยกลับไม่มีกิจการใดๆเลยที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนได้ตามที่จำเลยโฆษณา ดังนั้น การโฆษณาชักชวนของจำเลยจึงเป็นการหลอกลวง อันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ""

    ดู คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 326/2566 วินิจฉัยว่า
    "" จำเลย ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน กับ บริษัท อ. แต่กลับพบว่า ในขณะที่จำเลยชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนนั้น บริษัท อ. #ไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทตามกฎหมาย ซึ่งการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทหรือไม่นั้น ถือเป็นสาระสำคัญที่ทำให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน เมื่อจำเลยรู้อยู่แล้วว่า บริษัท อ.นั้น ยังไม่ได้จดทะเบียนตั้งบริษัท #แต่กลับปกปิดความจริงข้อนี้เอาไว้ จึงเป็นความผิดฐานฉ้อโกง .....""

    #คดีตามข่าว เส้นแบ่งว่าจะเป็นฉ้อโกงหรือไม่ ให้ดูจากรายได้ของบริษัท ว่า รายได้หรือกำไรมาจากการที่สมาชิกขายสินค้าให้แก่บุคคลทั่วไปได้ หรือเป็นรายได้หรือกำไรที่ได้มาจากการซื้อสินค้าของสมาชิกเอง ถ้ารายได้ของบริษัท ไม่ได้เกิดจากการขายสินค้าให้แก่บุคคลทั่วๆไป แต่เกิดจากการบังคับหรือหลอกลวงให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ แบบนี้ก็จะเข้าข่ายฉ้อโกง โดยศาลจะถือว่า ""#รู้อยู่แล้วว่าสินค้าไม่สามารถขายได้"" และการใช้ดาราหรืออินฟลูเอ็นเซอร์มาโฆษณานั้น #ก็ด้วยวัตถุประสงค์ให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ส่งเสริมการขายหรือช่วยให้สมาชิกขายสินค้าได้แต่อย่างใด

    (1) รายได้บริษัท มาจากการซื้อสินค้าของสมาชิก
    (2) การใช้ดารามาโฆษณา เพื่อให้สมาชิกตัดสินใจซื้อสินค้าง่ายขึ้น
    (3) บริษัทได้รายได้ไปก่อนที่สมาชิกจะนำสินค้าไปขาย
    (4) พยายามชักจูงใจให้สมาชิกซื้อสินค้ามากกว่าขายสินค้าทั่วไป
    (5) สมาชิกตัดสินใจซื้อสินค้าเพราะโฆษณาไม่ใช่เกิดจากการใช้จริง
    (6) บริษัทเน้นรายได้ที่จะไดจากสมาชิกเป็นหลัก โดยไม่สนใจว่าสมาชิกจะขายสินค้าได้หรือไม่
    (7) สุดท้ายบริษัทเท่านั้นที่มีรายได้ ส่วนสมาชิกส่วนใหญ่ขาดทุน เพราะขายสินค้าไม่ได้ แต่ต้องจ่ายเงินให้บริษัทเพื่อซื้อสินค้าไปก่อน
    (8) สมาชิกสนใจธุรกิจ เพราะ การโฆษณาชวนเชื่อ #ไม่ได้สนใจ #เพราะสินค้าขายดี

    จะเห็นว่า ธุรกิจแบบนี้ มีลักษณะที่ดูยากว่าเป็นการฉ้อโกง เพราะเขามีตัวสินค้าอยู่จริง และสินค้าเขาอาจจะดีจริงก็ได้เช่นกัน #แต่ขอให้ดูรายได้ของบริษัทว่ามาจากอะไร เพราะศาลเองก็จะดูเช่นกันว่า ถ้ามีเจตนาจะขายสินค้าหรือบริการจริงๆ ก็จะต้องเน้นไปที่การขายสินค้าหรือบริการ #และรายได้หลักก็ควรเป็นรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการแก่บุคคลทั่วไป ไม่ใช่รายได้หลักเกิดจากการให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ รายได้หลักเกิดการการซื้อสินค้าของสมาชิก #ก็ย่อมแสดงว่า บริษัททราบอยู่ก่อนแล้ว่าสินค้าหรือบริการ ไม่สามารถขายได้หรือถ้าขายได้ก็ทำรายได้ไม่ถึงกับที่ตนเองโฆษณา #ซึ่งในที่สุดสมาชิกก็จะขาดทุนเพราะสินค้าขายไม่ได้ อันถือว่าผิดหลักการค้าขายทั่วไป ที่จะต้อนเน้นไปที่การขายสินค้าให้แก่บุคคลทั่วไปได้ ไม่ใช่เน้นส่งเสริมให้สมาชิกซื้อสินค้าเยอะๆ ""

    Cr: คดีโลกคดีธรรม
    ""ธุรกิจขายสินค้าโดยวิธีการสมัครสมาชิก และให้สมาชิกซื้อสินค้านั้น จะเป็นการฉ้อโกงหรือไม่ จะดูจาก ""#รายได้"" ว่า ได้มาจากอะไร ซึ่งศาลฎีกาเองก็ดูจากรายได้เช่นกัน ว่า #รายได้ที่แท้จริงนั้นมาจากอะไร โดยแบ่งรายได้ออกเป็น 3 ประเภท ประเภทที่ 1. #รายได้จากการสมัครสมาชิก ถ้ารายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าสมัครสมาชิก และมีแนวทางการประกอบกิจการไปที่การแนะนำให้หาสมาชิกเป็นส่วนใหญ่ วิธีการแบบนี้ เข้าลักษณะแชร์ลูกโซ่ ถือว่าเป็นการฉ้อโกงประชาชนได้ #เพราะไม่ได้เน้นที่การขายสินค้าและรายได้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการขายสินค้า ประเภทที่ 2. #รายได้มาจากการสมัครสมาชิก และ #การบังคับซื้อสินค้า วิธีการนี้ดูเผินๆเหมือนจะเป็นการตั้งใจประกอบธุรกิจ แต่ถ้าดูให้ละเอียดจะพบว่า ไม่ได้มีเจตนาประกอบธุรกิจจริงๆ #แต่เป็นการหลอกให้ซื้อสินค้าไปเยอะๆแต่ไม่สามารถขายสินค้าได้ ฉะนั้น รายได้จริงๆของเจ้าของธุรกิจ จึงไม่ใช่ผลกำไรจากการขายสินค้าทั่วไป #แต่เป็นรายได้ที่ได้จากการให้สมาชิกต้องซื้อสินค้าจำนวนหนึ่ง [** รายได้ของธุรกิจ จะต้องได้จากการขายสินให้คนทั่วไป ไม่ใช่รายได้จากการบังคับให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวน มากๆ / เรียกว่า ""รายได้หรือกำไรเทียม"" ] วิธีการแบบนี้เข้าลักษณะแชร์ลูกโซ่เช่นกัน เพราะรายได้ที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากการขายสินค้าทั่วไป #แต่เกิดจากการหลอกลวงให้สมาชิกซื้อสินค้าจำนวนมากๆ ประเภที่ 3. #รายได้มาจากการาขายสินค้าทั่วไป ธุรกิจประเภทนี้ถือเป็นธุรกิจทั่วๆไป คือ นำสินออกขาย ถ้าขายได้ก็ได้กำไร ถ้าขายไม่ได้ก็ขาดทุน โดยจะไม่มีรายได้จากค่าสมาชิก หรือรายได้จากการบังคับซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ #ธุรกิจที่กำลังเป็นข่าวดังอยู่ในตอนนี้ เข้าลักษณะที่ 2. คือ มีสินค้าจริง แต่จะให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ #แต่สินค้าจะขายไม่ได้ หรือจะขายได้น้อย #และถ้าไปดูรายได้ของบริษัทแม่จริงๆ ก็จะพบว่ รายได้หรือกำไร #มาจากการซื้อสินค้าของสมาชิก ส่วนสมาชิกจะนำสินค้าไปขายได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อรายได้หรือกำไรของบริษัท ไม่ได้เกิดจากการขายสินค้าให้แก่คนทั่วไป แต่เกิดจากการซื้ของสมาชิกเอง ก็แสดงว่า #รายได้หรือกำไรของบริษัทนั้นมีขึ้นก่อนที่จะนำสินค้าออกขายให้แก่คนทั่วไปโดยสมาชิก ดู ไทมไลน์ ดังนี้ 1. ผลิตสินค้า 2.หาสมาชิก 3. ให้สมาชิกซื้อสินค้าจำนวนมาก [** รายได้ของบริษัท] 4. สมาชิกนำสินค้าที่ซื้อไปขาย จะเห็นว่า รายได้ของบริษัท #เกิดขึ้นก่อน ที่สมาชิกจะเอาสินค้าไปขาย และเป็นรายได้ที่มาจากสมาชิกเอง วิธีการที่จะหลอกสมาชิกให้มาสมัครเป็นสมาชิก และให้ซื้อสินค้าในจำนวนมากๆได้นั้น จะต้องอาศัยเครื่องมือ ที่เรียกว่า ""#ดาราหรืออินฟลูเอ็นเซอร์"" ธุรกิจพวกนี้จะให้ดาราหรืออินฟลูเอ็นเซอร์มาช่วยโปรโมทธุรกิจของตนเอง "" #โดยมีวัตถุประสงค์ให้สมาชิกตัดสินใจซื้อสินค้าให้เยอะขึ้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ให้สมาชิกนำสินค้าไปขายได้ง่ายขึ้น .........."" ดู คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 2901/2547 วินิจฉัยว่า "" ถ้ารายได้หรือผลกำไร มาจากค่าสมัครสมาชิก และจะได้มากขึ้นเมื่อสามารถชักชวนคนอื่นให้เข้ามาเป็นสมาชิกได้ #อันแสดงว่ารายได้หรือผลกำไรไม่ได้ขึ้นอยู่กับสินค้าหรือบริการ แต่ขึ้นอยู่กับการชักชวนหรือการหาสมาชิกให้ได้จำนวนมากๆ #และเมื่อรายได้หรือผลกำไรเกิดจากค่าสมัครสมาชิกไม่ได้เกิดจากสินค้าหรือบริการโดยตรง จึงต้องตามความหมายของบทนิยามคำว่า "กู้ยืมเงิน" และ "ผลประโยชน์ตอบแทน" ตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ ม. 3 จึงเป็นความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ....." ดู คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 1172/2566 วินิจฉัยว่า "" จำเลย ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนในกิจการและธุรกิจของจำเลย #แต่จำเลยกลับไม่มีกิจการใดๆเลยที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนได้ตามที่จำเลยโฆษณา ดังนั้น การโฆษณาชักชวนของจำเลยจึงเป็นการหลอกลวง อันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน "" ดู คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 326/2566 วินิจฉัยว่า "" จำเลย ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน กับ บริษัท อ. แต่กลับพบว่า ในขณะที่จำเลยชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนนั้น บริษัท อ. #ไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทตามกฎหมาย ซึ่งการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทหรือไม่นั้น ถือเป็นสาระสำคัญที่ทำให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน เมื่อจำเลยรู้อยู่แล้วว่า บริษัท อ.นั้น ยังไม่ได้จดทะเบียนตั้งบริษัท #แต่กลับปกปิดความจริงข้อนี้เอาไว้ จึงเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ....."" #คดีตามข่าว เส้นแบ่งว่าจะเป็นฉ้อโกงหรือไม่ ให้ดูจากรายได้ของบริษัท ว่า รายได้หรือกำไรมาจากการที่สมาชิกขายสินค้าให้แก่บุคคลทั่วไปได้ หรือเป็นรายได้หรือกำไรที่ได้มาจากการซื้อสินค้าของสมาชิกเอง ถ้ารายได้ของบริษัท ไม่ได้เกิดจากการขายสินค้าให้แก่บุคคลทั่วๆไป แต่เกิดจากการบังคับหรือหลอกลวงให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ แบบนี้ก็จะเข้าข่ายฉ้อโกง โดยศาลจะถือว่า ""#รู้อยู่แล้วว่าสินค้าไม่สามารถขายได้"" และการใช้ดาราหรืออินฟลูเอ็นเซอร์มาโฆษณานั้น #ก็ด้วยวัตถุประสงค์ให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ส่งเสริมการขายหรือช่วยให้สมาชิกขายสินค้าได้แต่อย่างใด (1) รายได้บริษัท มาจากการซื้อสินค้าของสมาชิก (2) การใช้ดารามาโฆษณา เพื่อให้สมาชิกตัดสินใจซื้อสินค้าง่ายขึ้น (3) บริษัทได้รายได้ไปก่อนที่สมาชิกจะนำสินค้าไปขาย (4) พยายามชักจูงใจให้สมาชิกซื้อสินค้ามากกว่าขายสินค้าทั่วไป (5) สมาชิกตัดสินใจซื้อสินค้าเพราะโฆษณาไม่ใช่เกิดจากการใช้จริง (6) บริษัทเน้นรายได้ที่จะไดจากสมาชิกเป็นหลัก โดยไม่สนใจว่าสมาชิกจะขายสินค้าได้หรือไม่ (7) สุดท้ายบริษัทเท่านั้นที่มีรายได้ ส่วนสมาชิกส่วนใหญ่ขาดทุน เพราะขายสินค้าไม่ได้ แต่ต้องจ่ายเงินให้บริษัทเพื่อซื้อสินค้าไปก่อน (8) สมาชิกสนใจธุรกิจ เพราะ การโฆษณาชวนเชื่อ #ไม่ได้สนใจ #เพราะสินค้าขายดี จะเห็นว่า ธุรกิจแบบนี้ มีลักษณะที่ดูยากว่าเป็นการฉ้อโกง เพราะเขามีตัวสินค้าอยู่จริง และสินค้าเขาอาจจะดีจริงก็ได้เช่นกัน #แต่ขอให้ดูรายได้ของบริษัทว่ามาจากอะไร เพราะศาลเองก็จะดูเช่นกันว่า ถ้ามีเจตนาจะขายสินค้าหรือบริการจริงๆ ก็จะต้องเน้นไปที่การขายสินค้าหรือบริการ #และรายได้หลักก็ควรเป็นรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการแก่บุคคลทั่วไป ไม่ใช่รายได้หลักเกิดจากการให้สมาชิกซื้อสินค้าในจำนวนมากๆ รายได้หลักเกิดการการซื้อสินค้าของสมาชิก #ก็ย่อมแสดงว่า บริษัททราบอยู่ก่อนแล้ว่าสินค้าหรือบริการ ไม่สามารถขายได้หรือถ้าขายได้ก็ทำรายได้ไม่ถึงกับที่ตนเองโฆษณา #ซึ่งในที่สุดสมาชิกก็จะขาดทุนเพราะสินค้าขายไม่ได้ อันถือว่าผิดหลักการค้าขายทั่วไป ที่จะต้อนเน้นไปที่การขายสินค้าให้แก่บุคคลทั่วไปได้ ไม่ใช่เน้นส่งเสริมให้สมาชิกซื้อสินค้าเยอะๆ "" Cr: คดีโลกคดีธรรม
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 92 Views 0 Reviews
  • พูดถึงเรื่องดราม่าสกู๊ปข่าวการจ่ายเงินผ่าน QR code ในอาเซียนของสื่อ Nikkei Asia แล้ว นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่แสดงให้เห็นความจำเป็นที่ไทยเราต้องมีสื่อระดับนานาชาติของตัวเองครับ

    ลองนึกภาพตามนะครับ Nikkei Asia เสนอข่าวผิดพลาดเกี่ยวกับประเทศไทย ว่าประเทศไทยคนใช้จ่ายผ่าน QR code น้อยมาก รั้งท้ายอาเซียนตามหลังแม้กระทั่งกัมพูชา จากนั้นสื่อ นักวิชาการและอินฟลูเอนเซอร์ของไทยก็ออกมาช่วยกันชี้แจง แก้ไขข้อมูลที่ผิดพลาด แต่แทนที่สื่อ Nikkei Asia จะแก้ไขข้อมูล กลับตัดประเทศไทยออกจากการจัดอันดับอาเซียนเสียดื้อๆ

    ประเด็นคือจากที่สื่อ นักวิชาการ อินฟลูเอนเซอร์ของไทยออกมาช่วยกันชี้แจง คนไทยส่วนใหญ่น่าจะรู้ความจริงแล้วว่าประเทศไทยเราจริงๆ เป็นผู้นำด้านการใช้จ่ายผ่าน QR code ติดระดับโลก ไม่ได้รั้งท้ายอาเซียนแต่อย่างใด แต่ชาวต่างชาติอื่นๆ ที่เขาอ่านข่าวจากสื่อ Nikkei Asia จะรู้ความจริงนี้ไหม ? ในเมื่อ Nikkei Asia ไม่ยอมแก้ไขข้อมูล แต่ตัดเนื้อหาเกี่ยวกับประเทศไทยไปเฉยๆ เลย ส่วนที่คนไทยช่วยกันชี้แจงนี่ก็มีแต่ข้อมูลภาษาไทย อยู่ในสื่อหรือเพจโซเชียลที่คนไทยเป็นกลุ่มผู้ติดตามหลัก

    ผมคิดว่านี่เป็นปัญหาสำคัญ หลายครั้งที่มีข่าวผิดๆ เกี่ยวกับประเทศไทย เสนอภาพบ้านเราไปในทางลบ แต่เมื่อคนไทยมาช่วยกันเสนอความจริง กลับมีแต่ข้อมูลภาษาไทย รู้กันอยู่แค่ในประเทศไทยนี่แหละ ส่วนชาวต่างชาติประเทศอื่นๆ ที่ได้รับข้อมูลผิดๆ ไป กลับไม่รู้ความจริงที่คนไทยช่วยกันชี้แจงด้วย ถ้าโชคดีมีสื่อหรืออินฟลูเอนเซอร์ต่างชาติช่วยชี้แจงบ้างก็ดีไป แต่ผมว่าเราไม่ควรหวังพึ่งชาวต่างชาติช่วยชี้แจงแทนเราเสมอไป

    นี่จึงเป็นอีกหนึ่งกรณีที่แสดงให้เห็นว่าไทยเราควรมีสื่อระดับนานาชาติของตัวเอง ทำนองเดียวกับสื่อ Al Jazeera ของกาตาร์ RT ของรัสเซีย เป็นต้น เสนอข่าวเป็นภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษารัสเซีย เป็นต้น เพื่อเป็นปากเสียงให้ประเทศไทยในระดับนานาชาติครับ

    สวัสดี


    การทูตและการทหาร
    Military and Diplomacy

    22.09.2024


    พูดถึงเรื่องดราม่าสกู๊ปข่าวการจ่ายเงินผ่าน QR code ในอาเซียนของสื่อ Nikkei Asia แล้ว นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่แสดงให้เห็นความจำเป็นที่ไทยเราต้องมีสื่อระดับนานาชาติของตัวเองครับ ลองนึกภาพตามนะครับ Nikkei Asia เสนอข่าวผิดพลาดเกี่ยวกับประเทศไทย ว่าประเทศไทยคนใช้จ่ายผ่าน QR code น้อยมาก รั้งท้ายอาเซียนตามหลังแม้กระทั่งกัมพูชา จากนั้นสื่อ นักวิชาการและอินฟลูเอนเซอร์ของไทยก็ออกมาช่วยกันชี้แจง แก้ไขข้อมูลที่ผิดพลาด แต่แทนที่สื่อ Nikkei Asia จะแก้ไขข้อมูล กลับตัดประเทศไทยออกจากการจัดอันดับอาเซียนเสียดื้อๆ ประเด็นคือจากที่สื่อ นักวิชาการ อินฟลูเอนเซอร์ของไทยออกมาช่วยกันชี้แจง คนไทยส่วนใหญ่น่าจะรู้ความจริงแล้วว่าประเทศไทยเราจริงๆ เป็นผู้นำด้านการใช้จ่ายผ่าน QR code ติดระดับโลก ไม่ได้รั้งท้ายอาเซียนแต่อย่างใด แต่ชาวต่างชาติอื่นๆ ที่เขาอ่านข่าวจากสื่อ Nikkei Asia จะรู้ความจริงนี้ไหม ? ในเมื่อ Nikkei Asia ไม่ยอมแก้ไขข้อมูล แต่ตัดเนื้อหาเกี่ยวกับประเทศไทยไปเฉยๆ เลย ส่วนที่คนไทยช่วยกันชี้แจงนี่ก็มีแต่ข้อมูลภาษาไทย อยู่ในสื่อหรือเพจโซเชียลที่คนไทยเป็นกลุ่มผู้ติดตามหลัก ผมคิดว่านี่เป็นปัญหาสำคัญ หลายครั้งที่มีข่าวผิดๆ เกี่ยวกับประเทศไทย เสนอภาพบ้านเราไปในทางลบ แต่เมื่อคนไทยมาช่วยกันเสนอความจริง กลับมีแต่ข้อมูลภาษาไทย รู้กันอยู่แค่ในประเทศไทยนี่แหละ ส่วนชาวต่างชาติประเทศอื่นๆ ที่ได้รับข้อมูลผิดๆ ไป กลับไม่รู้ความจริงที่คนไทยช่วยกันชี้แจงด้วย ถ้าโชคดีมีสื่อหรืออินฟลูเอนเซอร์ต่างชาติช่วยชี้แจงบ้างก็ดีไป แต่ผมว่าเราไม่ควรหวังพึ่งชาวต่างชาติช่วยชี้แจงแทนเราเสมอไป นี่จึงเป็นอีกหนึ่งกรณีที่แสดงให้เห็นว่าไทยเราควรมีสื่อระดับนานาชาติของตัวเอง ทำนองเดียวกับสื่อ Al Jazeera ของกาตาร์ RT ของรัสเซีย เป็นต้น เสนอข่าวเป็นภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษารัสเซีย เป็นต้น เพื่อเป็นปากเสียงให้ประเทศไทยในระดับนานาชาติครับ สวัสดี การทูตและการทหาร Military and Diplomacy 22.09.2024
    1 Comments 0 Shares 305 Views 0 Reviews
  • #บทพิสูจน์ความจริงบนเพจคิงส์โพธิ์แดง
    เพจคิงส์โพธิ์แดงคือเพจแรกที่ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลสำคัญ
    เกี่ยวกับ กามิน เอเจนซี่ ขบวนการกลุ่มเงินดาร์คที่ใช้ตต.และการพีเค
    ในการซักอบรีดเงินดาร์คให้ขาวสะอาด เป็น อชญก ข้ามชาติ
    โดยมีคนไทย นำโดย โจมณฑานี ร่วมมือกับจีกามิน และเอเจน ที่เป็นบริษัทของกลุ่มทุนดาร์ค สร้างขบวนการสร้างกระแส
    แต่ดาราชายของไทย คือแน๊กชาลี ได้รับการชี้ชวนจากเอเจนซี่ แต่กลับปฏิเสธ เพราะไม่อยากทำให้คนไทยได้รับความเสียหาย
    แม้ชาลี จะไม่ทราบลึกถึงขนาดว่า พีเค บิ๊กแม็ต เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มทุนดาร์คก็ตาม แต่เพียงแค่การพีเค ต้องทำให้แฟนคลับ ต้องทุ่มเงินเพียงเพื่อให้ตนเองชนะ แน๊กทำไม่ได้ ต่อให้ได้รับผลประโยชน์มากแค่ไหน ก็ไม่เอา
    -จุดนี้คือจุดสำคัญ ที่ทำให้เอเจน กามิน และโจ มองเห็นแล้วว่า ต่อไป แน๊กจะเป็นตัวปัญหาของขบวนการ โจ ในฐานะผู้ดูแลกระแสโซเชียล จึงวางแผนสร้างสตอรี่ ให้แฟนคลับเข้าใจผิดว่า แน๊ก มีปัญหา ด้านจิต เพื่อดิ-ส-เ-ค-ร-ดิ-ต ดาราชาย หากมีการเปิดเผยข้อมูลในอนาคต จะได้ไม่มีคนเชื่อ ซึ่งกระบวนการนี้ทำมานานหลายเดือน จึงได้เห็นปรากฏการทัวร์ลงชาลีมากมาย และอวยกามินอย่างประหลาด
    -ในขณะที่แน๊กชาลี ไม่ยอม พีเค ลักษณะบิ๊กแม๊ต แต่กามิน และเอเจนซี่ รวมถึงโจ กลับปฏิบัติการ จัดบิ๊กแม็ตหลายครั้งและถี่มาก เพื่อสอดไส้เงินดาร์คเข้าระบบ ให้สมดุลกับยอดการเข้าชม โดยแทบไม่ต้องซื้อสติ๊กเกอร์ของขวัญเลยด้วยซ้ำ จากเงินดาร์ค เป็นเหรียญ จากเหรียญเป็นเงินที่มีการตกแต่งบัญชี ว่าได้มาจากค่าของขวัญและนำไปเสียภ-า-ษี-เพื่อให้เงินดาร์คสะอาด
    -เรื่องที่เล่ามานี้ เป็นสิ่งที่เพจคิงส์โพธิ์แดง ได้ทำการเปิดเผยมาก่อนหน้านี้ แต่ โจ มณฑานี กลับให้ขบวนการทั้งยูซผี และกองกำลังที่เป็นลูทีน ว่าเพจคิงส์นำเสนอสิ่งที่มโน วิเคราะห์มั่ว สารพัดตามแบบฉบับโจ และไอโอของกลุ่มเงินดาร์ค-
    -ในที่สุด โมเดลนี้ การซักอบรีดเงินดาร์คให้ขาว ก็ได้ไปถึงทั้งฝั่งยุโรป และตะวันออกกลาง นั่นคือสหรัฐ และตุรกี และได้มีการดำเนินคดีอย่างจริงจัง
    พร้อมเผยแพร่ข้อมูลนี้ สู่ชาวโลก
    -เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเจนว่า ข้อมูลที่คิงส์โพธิ์แดงให้นั้น เป็นความจริง
    ---------------------------------------------------------
    โดย ทางตุรกี จากตุรกีนิวส์ มีรายละเอียดดังนี้
    "สรุปข่าวย่อ ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีความกังวลเกี่ยวกับกิจกรรมการฟ-อ-ก-เ-งิ-นบน T..t โดยเฉพาะผ่านฟีเจอร์การถ่ายทอดสดและ
    #การให้ของขวัญทางดิจิทัลในประเทศตุรกี
    #เจ้าหน้าที่พบว่ามีการโอนเงินจำนวนมากผ่านแพลตฟอร์มนี้
    #โดยบางส่วนถูกสงสัยว่ามีความเชื่อมโยงกับกิจกรรมทางอาญา
    #รวมถึงการสนับสนุนทางการเงินให้กับกลุ่มก่อการร้าย
    #ระบบของขวัญดิจิทัลของ T..t
    #ช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งของขวัญเสมือนจริง
    #ซึ่งผู้สร้างเนื้อหาสามารถแลกเป็นเงินจริงได้
    #ทำให้เกิดช่องโหว่ที่อาจใช้สำหรับการฟอกเงิน
    กรณีที่มีชื่อเสียงในตุรกี พบว่า การสืบสวนเกี่ยวกับอินฟลูเอนเซอร์บนโซเชียลมีเดีย รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่าง Dilan และ Engin Polat เผยให้เห็นการโอนเงินจำนวนมากผ่าน T..t ซึ่งมักถูกปลอมแปลงว่าเป็นธุรกรรมทางธุรกิจที่ถูกต้อง อินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้ถูกกล่าวหาว่าใช้ระบบการเงินของ T..t เพื่อฟอกเงินผิดกฎหมาย โดยการจำลองการขายสินค้าหรือบริการที่มีมูลค่าสูงและซื้อสินค้าหรูหรา เช่น อสังหาริมทรัพย์และเครื่องประดับ ปัญหานี้ทำให้ T..tต้องเพิ่มมาตรการควบคุมการเงินที่เข้มงวดขึ้น แต่แพลตฟอร์มยังคงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด
    นอกจากนี้ ธนาคาร HSBC ยังได้ปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องT..t เนื่องจากไม่สามารถควบคุมการทำธุรกรรมทางการเงินได้เพียงพอ ซึ่งทำให้หน่วยงานกำกับดูแลในตุรกีและไอร์แลนด์เกิดความกังวลมากขึ้น"
    ส่วนฝั่งสหรัฐ
    ก็ได้เปิดเผยข้อมูลยืนยันเช่นกัน ว่าขบวนการ อชญก ข้ามชาติ
    ใช้ ตต. และการพีเค ในการฟอกจริง
    มีรายละเอียดดังนี้
    "ในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในรัฐยูทาห์ มีการดำเนินการทางกฎหมายต่อ T.. .. T.. ... เกี่ยวกับฟีเจอร์ T.. .. T.. .. LIVE (pk) ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นช่องทางในการทำกิจกรรมผิ..กฎห..าย เช่น ก..รค้า..นุษย์ การขาย..าเ..พติ.. และการฟ-อ-ก-เ-งิ-น ผ่านการใช้สกุลเงินดิจิทัลในแอป ในเดือนมิถุนายน 2024 อัยการสูงสุดของรัฐยูทาห์ได้ยื่นฟ้-อ-ง T..T.. โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ใช้กลวิธีเพื่อห..อกล..งผู้ใช้ให้ทำธุรกรรมผ่านแอป ซึ่งส่งผลให้เกิดการฟ-อ-ก-เ-งิ-น และ T..T..k ยังได้รับประโยชน์จากการเก็บค่าคอมมิ..ชั่นจำนวนมากจากแต่ละธุรกรรมอีกด้วย​"
    ข้อมูลทั้งหมดให้ไปดูในโพสที่พี่คิงส์แยกให้ ทั้งของสหรัฐและตุรกีมีลงไว้ใต้โพสครบถ้วน แหล่งอ้างอิงต่างๆ
    ----------------------------------------------------------
    ดังนั้น คิงส์โพธิ์แดงขอยืนหยัดในการนำเสนอข้อมูลที่เป็นความจริง
    ซึ่งหลายเรื่อง ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
    และในหลายๆประเด็น ก็มีข้อมูลที่สามารถยืนยันได้
    และเมื่อขบวนการเหล่านี้ มีจริง
    โจ และกองทัพไอโอ ก็มีอยู่จริง
    และทุกเรื่องที่เพจคิงส์โพธิ์แดงนำเสนอ
    ล้วนมีที่มาจากความเป็นจริง
    แล้วท่านจะรู้ว่า เพจคิงส์โพธิ์แดง
    กำลังต่อสู้กับอะไร
    ใครพร้อมไปให้สุดกับเพจคิงส์บ้าง ยกมือขึ้น
    แล้วลุยไปด้วยกันครับ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #บทพิสูจน์ความจริงบนเพจคิงส์โพธิ์แดง เพจคิงส์โพธิ์แดงคือเพจแรกที่ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลสำคัญ เกี่ยวกับ กามิน เอเจนซี่ ขบวนการกลุ่มเงินดาร์คที่ใช้ตต.และการพีเค ในการซักอบรีดเงินดาร์คให้ขาวสะอาด เป็น อชญก ข้ามชาติ โดยมีคนไทย นำโดย โจมณฑานี ร่วมมือกับจีกามิน และเอเจน ที่เป็นบริษัทของกลุ่มทุนดาร์ค สร้างขบวนการสร้างกระแส แต่ดาราชายของไทย คือแน๊กชาลี ได้รับการชี้ชวนจากเอเจนซี่ แต่กลับปฏิเสธ เพราะไม่อยากทำให้คนไทยได้รับความเสียหาย แม้ชาลี จะไม่ทราบลึกถึงขนาดว่า พีเค บิ๊กแม็ต เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มทุนดาร์คก็ตาม แต่เพียงแค่การพีเค ต้องทำให้แฟนคลับ ต้องทุ่มเงินเพียงเพื่อให้ตนเองชนะ แน๊กทำไม่ได้ ต่อให้ได้รับผลประโยชน์มากแค่ไหน ก็ไม่เอา -จุดนี้คือจุดสำคัญ ที่ทำให้เอเจน กามิน และโจ มองเห็นแล้วว่า ต่อไป แน๊กจะเป็นตัวปัญหาของขบวนการ โจ ในฐานะผู้ดูแลกระแสโซเชียล จึงวางแผนสร้างสตอรี่ ให้แฟนคลับเข้าใจผิดว่า แน๊ก มีปัญหา ด้านจิต เพื่อดิ-ส-เ-ค-ร-ดิ-ต ดาราชาย หากมีการเปิดเผยข้อมูลในอนาคต จะได้ไม่มีคนเชื่อ ซึ่งกระบวนการนี้ทำมานานหลายเดือน จึงได้เห็นปรากฏการทัวร์ลงชาลีมากมาย และอวยกามินอย่างประหลาด -ในขณะที่แน๊กชาลี ไม่ยอม พีเค ลักษณะบิ๊กแม๊ต แต่กามิน และเอเจนซี่ รวมถึงโจ กลับปฏิบัติการ จัดบิ๊กแม็ตหลายครั้งและถี่มาก เพื่อสอดไส้เงินดาร์คเข้าระบบ ให้สมดุลกับยอดการเข้าชม โดยแทบไม่ต้องซื้อสติ๊กเกอร์ของขวัญเลยด้วยซ้ำ จากเงินดาร์ค เป็นเหรียญ จากเหรียญเป็นเงินที่มีการตกแต่งบัญชี ว่าได้มาจากค่าของขวัญและนำไปเสียภ-า-ษี-เพื่อให้เงินดาร์คสะอาด -เรื่องที่เล่ามานี้ เป็นสิ่งที่เพจคิงส์โพธิ์แดง ได้ทำการเปิดเผยมาก่อนหน้านี้ แต่ โจ มณฑานี กลับให้ขบวนการทั้งยูซผี และกองกำลังที่เป็นลูทีน ว่าเพจคิงส์นำเสนอสิ่งที่มโน วิเคราะห์มั่ว สารพัดตามแบบฉบับโจ และไอโอของกลุ่มเงินดาร์ค- -ในที่สุด โมเดลนี้ การซักอบรีดเงินดาร์คให้ขาว ก็ได้ไปถึงทั้งฝั่งยุโรป และตะวันออกกลาง นั่นคือสหรัฐ และตุรกี และได้มีการดำเนินคดีอย่างจริงจัง พร้อมเผยแพร่ข้อมูลนี้ สู่ชาวโลก -เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเจนว่า ข้อมูลที่คิงส์โพธิ์แดงให้นั้น เป็นความจริง --------------------------------------------------------- โดย ทางตุรกี จากตุรกีนิวส์ มีรายละเอียดดังนี้ "สรุปข่าวย่อ ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีความกังวลเกี่ยวกับกิจกรรมการฟ-อ-ก-เ-งิ-นบน T..t โดยเฉพาะผ่านฟีเจอร์การถ่ายทอดสดและ #การให้ของขวัญทางดิจิทัลในประเทศตุรกี #เจ้าหน้าที่พบว่ามีการโอนเงินจำนวนมากผ่านแพลตฟอร์มนี้ #โดยบางส่วนถูกสงสัยว่ามีความเชื่อมโยงกับกิจกรรมทางอาญา #รวมถึงการสนับสนุนทางการเงินให้กับกลุ่มก่อการร้าย #ระบบของขวัญดิจิทัลของ T..t #ช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งของขวัญเสมือนจริง #ซึ่งผู้สร้างเนื้อหาสามารถแลกเป็นเงินจริงได้ #ทำให้เกิดช่องโหว่ที่อาจใช้สำหรับการฟอกเงิน กรณีที่มีชื่อเสียงในตุรกี พบว่า การสืบสวนเกี่ยวกับอินฟลูเอนเซอร์บนโซเชียลมีเดีย รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่าง Dilan และ Engin Polat เผยให้เห็นการโอนเงินจำนวนมากผ่าน T..t ซึ่งมักถูกปลอมแปลงว่าเป็นธุรกรรมทางธุรกิจที่ถูกต้อง อินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้ถูกกล่าวหาว่าใช้ระบบการเงินของ T..t เพื่อฟอกเงินผิดกฎหมาย โดยการจำลองการขายสินค้าหรือบริการที่มีมูลค่าสูงและซื้อสินค้าหรูหรา เช่น อสังหาริมทรัพย์และเครื่องประดับ ปัญหานี้ทำให้ T..tต้องเพิ่มมาตรการควบคุมการเงินที่เข้มงวดขึ้น แต่แพลตฟอร์มยังคงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ธนาคาร HSBC ยังได้ปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องT..t เนื่องจากไม่สามารถควบคุมการทำธุรกรรมทางการเงินได้เพียงพอ ซึ่งทำให้หน่วยงานกำกับดูแลในตุรกีและไอร์แลนด์เกิดความกังวลมากขึ้น" ส่วนฝั่งสหรัฐ ก็ได้เปิดเผยข้อมูลยืนยันเช่นกัน ว่าขบวนการ อชญก ข้ามชาติ ใช้ ตต. และการพีเค ในการฟอกจริง มีรายละเอียดดังนี้ "ในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในรัฐยูทาห์ มีการดำเนินการทางกฎหมายต่อ T.. .. T.. ... เกี่ยวกับฟีเจอร์ T.. .. T.. .. LIVE (pk) ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นช่องทางในการทำกิจกรรมผิ..กฎห..าย เช่น ก..รค้า..นุษย์ การขาย..าเ..พติ.. และการฟ-อ-ก-เ-งิ-น ผ่านการใช้สกุลเงินดิจิทัลในแอป ในเดือนมิถุนายน 2024 อัยการสูงสุดของรัฐยูทาห์ได้ยื่นฟ้-อ-ง T..T.. โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ใช้กลวิธีเพื่อห..อกล..งผู้ใช้ให้ทำธุรกรรมผ่านแอป ซึ่งส่งผลให้เกิดการฟ-อ-ก-เ-งิ-น และ T..T..k ยังได้รับประโยชน์จากการเก็บค่าคอมมิ..ชั่นจำนวนมากจากแต่ละธุรกรรมอีกด้วย​" ข้อมูลทั้งหมดให้ไปดูในโพสที่พี่คิงส์แยกให้ ทั้งของสหรัฐและตุรกีมีลงไว้ใต้โพสครบถ้วน แหล่งอ้างอิงต่างๆ ---------------------------------------------------------- ดังนั้น คิงส์โพธิ์แดงขอยืนหยัดในการนำเสนอข้อมูลที่เป็นความจริง ซึ่งหลายเรื่อง ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ และในหลายๆประเด็น ก็มีข้อมูลที่สามารถยืนยันได้ และเมื่อขบวนการเหล่านี้ มีจริง โจ และกองทัพไอโอ ก็มีอยู่จริง และทุกเรื่องที่เพจคิงส์โพธิ์แดงนำเสนอ ล้วนมีที่มาจากความเป็นจริง แล้วท่านจะรู้ว่า เพจคิงส์โพธิ์แดง กำลังต่อสู้กับอะไร ใครพร้อมไปให้สุดกับเพจคิงส์บ้าง ยกมือขึ้น แล้วลุยไปด้วยกันครับ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Love
    Haha
    Yay
    16
    1 Comments 0 Shares 3223 Views 0 Reviews
  • #ตุรกีจัดการแล้วมาแนวเดียวกับกามินและเอเจนซี่
    #รายละเอียดดังนี้
    "สรุปข่าวย่อ ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีความกังวลเกี่ยวกับกิจกรรมการฟ-อ-ก-เ-งิ-นบน T..t โดยเฉพาะผ่านฟีเจอร์การถ่ายทอดสดและ
    #การให้ของขวัญทางดิจิทัลในประเทศตุรกี
    #เจ้าหน้าที่พบว่ามีการโอนเงินจำนวนมากผ่านแพลตฟอร์มนี้
    #โดยบางส่วนถูกสงสัยว่ามีความเชื่อมโยงกับกิจกรรมทางอาญา
    #รวมถึงการสนับสนุนทางการเงินให้กับกลุ่มก่อการร้าย
    #ระบบของขวัญดิจิทัลของ T..t
    #ช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งของขวัญเสมือนจริง
    #ซึ่งผู้สร้างเนื้อหาสามารถแลกเป็นเงินจริงได้
    #ทำให้เกิดช่องโหว่ที่อาจใช้สำหรับการฟอกเงิน
    กรณีที่มีชื่อเสียงในตุรกี พบว่า การสืบสวนเกี่ยวกับอินฟลูเอนเซอร์บนโซเชียลมีเดีย รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่าง Dilan และ Engin Polat เผยให้เห็นการโอนเงินจำนวนมากผ่าน T..t ซึ่งมักถูกปลอมแปลงว่าเป็นธุรกรรมทางธุรกิจที่ถูกต้อง อินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้ถูกกล่าวหาว่าใช้ระบบการเงินของ T..t เพื่อฟอกเงินผิดกฎหมาย โดยการจำลองการขายสินค้าหรือบริการที่มีมูลค่าสูงและซื้อสินค้าหรูหรา เช่น อสังหาริมทรัพย์และเครื่องประดับ ปัญหานี้ทำให้ T..tต้องเพิ่มมาตรการควบคุมการเงินที่เข้มงวดขึ้น แต่แพลตฟอร์มยังคงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด
    นอกจากนี้ ธนาคาร HSBC ยังได้ปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องT..t เนื่องจากไม่สามารถควบคุมการทำธุรกรรมทางการเงินได้เพียงพอ ซึ่งทำให้หน่วยงานกำกับดูแลในตุรกีและไอร์แลนด์เกิดความกังวลมากขึ้น
    รายละเอียดอื่นๆใต้โพส
    -------------------------
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ตุรกีจัดการแล้วมาแนวเดียวกับกามินและเอเจนซี่ #รายละเอียดดังนี้ "สรุปข่าวย่อ ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีความกังวลเกี่ยวกับกิจกรรมการฟ-อ-ก-เ-งิ-นบน T..t โดยเฉพาะผ่านฟีเจอร์การถ่ายทอดสดและ #การให้ของขวัญทางดิจิทัลในประเทศตุรกี #เจ้าหน้าที่พบว่ามีการโอนเงินจำนวนมากผ่านแพลตฟอร์มนี้ #โดยบางส่วนถูกสงสัยว่ามีความเชื่อมโยงกับกิจกรรมทางอาญา #รวมถึงการสนับสนุนทางการเงินให้กับกลุ่มก่อการร้าย #ระบบของขวัญดิจิทัลของ T..t #ช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งของขวัญเสมือนจริง #ซึ่งผู้สร้างเนื้อหาสามารถแลกเป็นเงินจริงได้ #ทำให้เกิดช่องโหว่ที่อาจใช้สำหรับการฟอกเงิน กรณีที่มีชื่อเสียงในตุรกี พบว่า การสืบสวนเกี่ยวกับอินฟลูเอนเซอร์บนโซเชียลมีเดีย รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่าง Dilan และ Engin Polat เผยให้เห็นการโอนเงินจำนวนมากผ่าน T..t ซึ่งมักถูกปลอมแปลงว่าเป็นธุรกรรมทางธุรกิจที่ถูกต้อง อินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้ถูกกล่าวหาว่าใช้ระบบการเงินของ T..t เพื่อฟอกเงินผิดกฎหมาย โดยการจำลองการขายสินค้าหรือบริการที่มีมูลค่าสูงและซื้อสินค้าหรูหรา เช่น อสังหาริมทรัพย์และเครื่องประดับ ปัญหานี้ทำให้ T..tต้องเพิ่มมาตรการควบคุมการเงินที่เข้มงวดขึ้น แต่แพลตฟอร์มยังคงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ธนาคาร HSBC ยังได้ปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องT..t เนื่องจากไม่สามารถควบคุมการทำธุรกรรมทางการเงินได้เพียงพอ ซึ่งทำให้หน่วยงานกำกับดูแลในตุรกีและไอร์แลนด์เกิดความกังวลมากขึ้น รายละเอียดอื่นๆใต้โพส ------------------------- #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    Yay
    Wow
    12
    0 Comments 0 Shares 2935 Views 0 Reviews
  • มิติเรื่องของ"กามิน = เกาหลี แน็ก ชาลี = ประเทศไทย"
    .
    มิติเรื่องของ "กามิน = เกาหลี แน็ก ชาลี = ประเทศไทย" นั้น มันมีมิติหลายๆ อย่างที่ผมจะพูด นอกเหนือจากความกะล่อน การต้มตุ๋น มาหลอกลวงความรัก ความอบอุ่น ความหวังดีของคนไทยที่มองโลกในแง่ดี
    .
    สัปดาห์ที่แล้วจนถึงสัปดาห์นี้ ไม่มีกระแสใดจะแรงเท่ากระแสอินฟลูเอนเซอร์ของไทยและเกาหลี กระแสดาราไทยลูกเสี้ยวฮอลแลนด์ ชื่อ "ชาลี ปอทเจส" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "แน็ก ชาลี" กับ TikToker ชาวเกาหลี ชื่อ "จี กามิน" หรือที่คนไทยเรียกสั้นๆ ว่า "กามิน" อายุ 31 ปี พอๆ กับแน็ก
    .
    เรื่องนี้ให้บทเรียนกับคนไทยหลายๆ แง่มุมด้วยกัน คือ ข้อแรก อย่าโง่ ถูกเกาหลีปั่น สร้างกระแสโอนเงินหรือแจกสติกเกอร์ใครง่ายๆ คุณอาจจะยากจนกว่าคนที่รับเงินไปแบบเทียบไม่ได้
    .
    ข้อสอง ถ้าให้ผมวิเคราะห์ความเป็นมนุษย์ผู้หญิงในเกาหลีที่ไลฟ์สดหารายได้ กินอยู่อย่างประหยัด สะท้อนให้เห็นว่าความจริงแล้ว กามินเป็นคนปากกัดตีนถีบ เอาแต่ได้ ซึ่งเป็นสันดานของคนเกาหลีส่วนหนึ่ง เมื่อได้เงินมา รวยฉับพลัน จึงเหมือนสามล้อถูกหวยที่ปรับตัวไม่ทัน ไม่คำนึงถึงบุญคุณของคนอื่นที่ดึงตัวเองขึ้นมาจากความลำบาก และมองโลกในแง่ร้ายว่าตัวเองถูกเอาเปรียบ ไม่เป็นมืออาชีพ คิดจะกอบโกยอย่างเดียว
    .
    ข้อสาม ครูเดวิด วิลเลียม ชาวอเมริกันที่สอนภาษาอังกฤษในเมืองไทยมา และพูดภาษาไทยชัดมาก ออกมาเตือนสติว่า “ กามิน ไม่มีทางมีวันนี้ถ้าไม่มีคนไทย ถ้าใครรักประเทศใด ต้องลงทุนกับเวลา 2 เรื่อง คือ เรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมเขาหรือไปเที่ยวทั่วไทย ไม่ใช่มาประเทศไทยทำงานหาเงิน หาเงิน แล้วแยกย้ายกลับบ้าน มันไม่ใช่”
    .
    ข้อสี่ แน็ก ชาลี เป็นศิลปินนักแสดงที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่เด็กในภาพยนตร์เรื่องแฟนฉันเมื่อปี 2546 และเป็นศิลปินแบบที่พวกเราเรียกกันว่า "พวกติสท์แตก" เป็นผู้ให้ ช่วยและให้โอกาสคนที่ลำบากที่เอาแต่ใจตัวเองอย่างกามิน แต่การจีบกันในโซเชียลมีเดียไม่สามารถจะรู้นิสัยตัวตนที่แท้จริงได้ ดังนั้น พื้นฐานในเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะไปด้วยกันได้ เพราะว่า "ศีลไม่เสมอกัน" ความเป็นมืออาชีพไม่เสมอกัน
    .
    ข้อสุดท้าย สังคมเกาหลีส่วนใหญ่มีการแข่งขันกันสูงมาก จึงหาความจริงใจหรือการหวังจะมีจิตสำนึกบุญคุณจากคนเกาหลีได้ยากมาก ยกเว้นคนเกาหลีที่ตัดสินใจมาอยู่ในเมืองไทยจริงๆ อย่าง โค้ชเชและพี่เรืองที่ต่างกว่าเกาหลีทั่วไป
    .
    แต่ถ้าในอนาคต แน็ก ชาลี จะติสท์แตกจนหน้ามืดตามัวกลับไปคืนดีคบหากับ จี กามิน อีกครั้ง ด้วยความขี้สงสารหรือขี้ใจบุญ ผมคงไม่สามารถจะทำอะไรได้ แต่ผมจะต้องหันกลับมาด่า แน็ก ชาลี เพิ่มเติมอีกคนหนึ่ง
    .
    ท่านผู้ชมครับ พวกเราคนไทยเป็นคนเปิดกว้าง ไม่เคยเหยียดชนชั้น ชาติ หรือศาสนาใด อย่าให้พวกเกาหลีมาดูถูกพวกเราแบบนี้ ว่าคนไทยโง่และหลอกง่าย จึงงดที่จะสนับสนุนพวกดาราเกาหลี เลิกเที่ยวเกาหลี สถานที่เที่ยวไม่ได้มีอะไร อาหารก็ไม่ได้เรื่อง เรารักคนไทย รักประเทศไทยมากขึ้น หรือว่าไปเที่ยวประเทศอื่นๆ ดีกว่าครับ

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/iKQhhVuez7szj2is/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    มิติเรื่องของ"กามิน = เกาหลี แน็ก ชาลี = ประเทศไทย" . มิติเรื่องของ "กามิน = เกาหลี แน็ก ชาลี = ประเทศไทย" นั้น มันมีมิติหลายๆ อย่างที่ผมจะพูด นอกเหนือจากความกะล่อน การต้มตุ๋น มาหลอกลวงความรัก ความอบอุ่น ความหวังดีของคนไทยที่มองโลกในแง่ดี . สัปดาห์ที่แล้วจนถึงสัปดาห์นี้ ไม่มีกระแสใดจะแรงเท่ากระแสอินฟลูเอนเซอร์ของไทยและเกาหลี กระแสดาราไทยลูกเสี้ยวฮอลแลนด์ ชื่อ "ชาลี ปอทเจส" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "แน็ก ชาลี" กับ TikToker ชาวเกาหลี ชื่อ "จี กามิน" หรือที่คนไทยเรียกสั้นๆ ว่า "กามิน" อายุ 31 ปี พอๆ กับแน็ก . เรื่องนี้ให้บทเรียนกับคนไทยหลายๆ แง่มุมด้วยกัน คือ ข้อแรก อย่าโง่ ถูกเกาหลีปั่น สร้างกระแสโอนเงินหรือแจกสติกเกอร์ใครง่ายๆ คุณอาจจะยากจนกว่าคนที่รับเงินไปแบบเทียบไม่ได้ . ข้อสอง ถ้าให้ผมวิเคราะห์ความเป็นมนุษย์ผู้หญิงในเกาหลีที่ไลฟ์สดหารายได้ กินอยู่อย่างประหยัด สะท้อนให้เห็นว่าความจริงแล้ว กามินเป็นคนปากกัดตีนถีบ เอาแต่ได้ ซึ่งเป็นสันดานของคนเกาหลีส่วนหนึ่ง เมื่อได้เงินมา รวยฉับพลัน จึงเหมือนสามล้อถูกหวยที่ปรับตัวไม่ทัน ไม่คำนึงถึงบุญคุณของคนอื่นที่ดึงตัวเองขึ้นมาจากความลำบาก และมองโลกในแง่ร้ายว่าตัวเองถูกเอาเปรียบ ไม่เป็นมืออาชีพ คิดจะกอบโกยอย่างเดียว . ข้อสาม ครูเดวิด วิลเลียม ชาวอเมริกันที่สอนภาษาอังกฤษในเมืองไทยมา และพูดภาษาไทยชัดมาก ออกมาเตือนสติว่า “ กามิน ไม่มีทางมีวันนี้ถ้าไม่มีคนไทย ถ้าใครรักประเทศใด ต้องลงทุนกับเวลา 2 เรื่อง คือ เรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมเขาหรือไปเที่ยวทั่วไทย ไม่ใช่มาประเทศไทยทำงานหาเงิน หาเงิน แล้วแยกย้ายกลับบ้าน มันไม่ใช่” . ข้อสี่ แน็ก ชาลี เป็นศิลปินนักแสดงที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่เด็กในภาพยนตร์เรื่องแฟนฉันเมื่อปี 2546 และเป็นศิลปินแบบที่พวกเราเรียกกันว่า "พวกติสท์แตก" เป็นผู้ให้ ช่วยและให้โอกาสคนที่ลำบากที่เอาแต่ใจตัวเองอย่างกามิน แต่การจีบกันในโซเชียลมีเดียไม่สามารถจะรู้นิสัยตัวตนที่แท้จริงได้ ดังนั้น พื้นฐานในเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะไปด้วยกันได้ เพราะว่า "ศีลไม่เสมอกัน" ความเป็นมืออาชีพไม่เสมอกัน . ข้อสุดท้าย สังคมเกาหลีส่วนใหญ่มีการแข่งขันกันสูงมาก จึงหาความจริงใจหรือการหวังจะมีจิตสำนึกบุญคุณจากคนเกาหลีได้ยากมาก ยกเว้นคนเกาหลีที่ตัดสินใจมาอยู่ในเมืองไทยจริงๆ อย่าง โค้ชเชและพี่เรืองที่ต่างกว่าเกาหลีทั่วไป . แต่ถ้าในอนาคต แน็ก ชาลี จะติสท์แตกจนหน้ามืดตามัวกลับไปคืนดีคบหากับ จี กามิน อีกครั้ง ด้วยความขี้สงสารหรือขี้ใจบุญ ผมคงไม่สามารถจะทำอะไรได้ แต่ผมจะต้องหันกลับมาด่า แน็ก ชาลี เพิ่มเติมอีกคนหนึ่ง . ท่านผู้ชมครับ พวกเราคนไทยเป็นคนเปิดกว้าง ไม่เคยเหยียดชนชั้น ชาติ หรือศาสนาใด อย่าให้พวกเกาหลีมาดูถูกพวกเราแบบนี้ ว่าคนไทยโง่และหลอกง่าย จึงงดที่จะสนับสนุนพวกดาราเกาหลี เลิกเที่ยวเกาหลี สถานที่เที่ยวไม่ได้มีอะไร อาหารก็ไม่ได้เรื่อง เรารักคนไทย รักประเทศไทยมากขึ้น หรือว่าไปเที่ยวประเทศอื่นๆ ดีกว่าครับ ที่มา https://www.facebook.com/share/p/iKQhhVuez7szj2is/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 2160 Views 0 Reviews
  • Newsstory : กามินเข้าร่วมเอเจนซี่ ชี้ช่องอินฟลูโนเนมเกาหลี มาสร้างชื่อและหอบเงินบาทกลับบ้าน
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #กามิน
    Newsstory : กามินเข้าร่วมเอเจนซี่ ชี้ช่องอินฟลูโนเนมเกาหลี มาสร้างชื่อและหอบเงินบาทกลับบ้าน #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #กามิน
    Like
    Love
    Wow
    Sad
    Angry
    19
    3 Comments 0 Shares 4589 Views 1726 0 Reviews
  • #แน็คกามิน #ชีวิตติดเลข #casestudy

    เห็นข่าวช่วงที่ผ่ามาเกี่ยวกับอินฟลูสาวต่างชาติคนนึงที่มารับงานเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าหลากหลายร่วมกับดาราชายไทยจนโด่งดัง มีรายได้กลับไปเป็นกอบเป็นกำ ข่าวออกมาในเชิงไม่ค่อยจะดี ซึ่งก็ไม่พ้นในเรื่องของเงินทองผลประโยชน์

    เราเคยถอดค่าเลขของดาราชายไว้เมื่อนานมาแล้ว เพราะเคยฟังสัมภาษณ์ที่เค้าพูดถึงการใช้ชีวิตของตัวเองแล้วทำให้อยากเห็นเลขในชีวิตของเค้า ซึ่งประกอบไปด้วยเลขหลักสองชุดคือ 876 (จากชื่อสกุล) และ 162 (จากวันเกิด) เลขท้าทายในชีวิต 0.3.3.3 เลขกรรม 4

    จากเลขสองชุดนี้ ทำให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก (จุดนี้จากชุดเลขวันเกิดก็พอจะคาดเดาได้ – 19.01.1993) แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่ใส่ใจคนรอบข้าง ชอบช่วยเหลือคนอื่น แม้จะมีแนวทางในการช่วยที่แปลกจากความคิดของคนทั่วไป เป็นคนมีความรับผิดชอบ และไม่ได้ใส่ใจในเรื่องของเงินทองเสียเท่าไหร่ ไม่ได้หมายความว่าไม่เห็นคุณค่าของเงินทองนะ แต่หมายถึงว่ามีก็ได้ ไม่มีก็ได้ คือไม่ได้ยึดเป็นเรื่องสำคัญในชีวิต

    การมีเลขท้าทายในชีวิตเป็นเลข 3 ทำให้เป็นคนไม่ชอบออกงานสังคม (ตรงกับเลขเส้นทางชีวิตที่เป็นเลข 6 ที่ชอบอยู่บ้าน หรืออยู่กับคนวงเล็กๆ ที่คุ้นเคย) การสื่อสารอาจจะฟังแล้วงงๆ อยู่บ้าง หรือไม่ก็ฟังดูขัดหู เพราะออกแนวถ้าไม่พูดคือไม่พูดเลย แต่ถ้าพูดคือตีแสกหน้าได้ ซึ่งโยงไปได้ถึงเลขกรรม 4 ที่สามารถพูดออกมาตรงๆ โดยไม่เกรงใจใคร ทั้งยังรวมไปถึงการไม่ได้สนใจกฏเกณฑ์ของสังคมเท่าไหร่ การทำงานก็ทำบ้าง หยุดบ้าง ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าตัวเอง

    ทีนี้ เรามาลองดูเลขของอินฟลูสาวกันดูบ้าง
    เลขหลักสองชุดของเธอคือ 189 กับ 395 เลขท้าทาย 1.1.0.2 เลขกรรม 6

    มาดูเลขชุดแรกของเธอกัน จริงๆ แล้ว 189 เป็นเลขที่ดีมากๆ ถ้ามีอยู่ในตัวนะ เพราะเป็นเลขที่ทำให้มีความสามารถครบรอบด้านในตัว เริ่มตั้งแต่ความคิดริเริ่ม การมีวิสัยทัศน์ที่จะเลือกวิธีที่ดีที่สุดและลงมือทำเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่บังเอิญว่าเลข 8 ของเธออยู่ในตำแหน่งที่อ่อนไปนิดนึง ทำให้ความอดทนต่อเรื่องยุ่งยากวุ่นวายมีไม่มากพอที่จะก้าวไปถึงจุดของความสำเร็จ เรียกว่า เมื่อไหร่ที่เกิดปัญหา เมื่อไหร่ที่เกิดความเบื่อ ไม่รู้สึกสนุก ก็สามารถละทิ้งเรื่องนั้นๆ งานนั้นๆ ไปได้ง่ายๆ (ตรงนี้โยงไปหาเลขกรรม 6 ที่เป็นเลขของความรับผิดชอบ และการคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองที่ไม่มีอยู่ในตัวเอง)

    ส่วนเลขชุดที่สองของเธอ 395 เป็นเลขเสน่ห์จริงๆ ทำให้คนตกหลุมรักเธอได้ง่ายๆ มีออร่าที่โดดเด่น ในขณะเดียวกัน เลขชุดนี้ก็ยังทำให้เธอเป็นคนที่ไม่ชอบความยุ่งยาก มีความสนใจต่อเรื่องต่างๆ แบบชั่วครู่ชั่วยาม เบื่อเมื่อไหร่ก็โบกมือลาได้ง่ายๆ เช่นกัน

    เธอมีผลรวมชื่อเป็นเลข 26/8 เมื่อเอาไปอ่านร่วมกับเลขชุดที่สอง 395 ยิ่งตอบโจทย์กับสิ่งที่เธอเลือกทำเป็นอาชีพ งานที่ทำแล้วไม่ต้องเหนื่อยมาก อยู่ท่ามกลางผู้คนและมีสปอต์ไลท์ส่องที่เธอ มีคนชื่นชมและสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้มากๆ ไม่ชอบงานที่มีกฏเกณฑ์หรือยุ่งยากเหนื่อยแรง แล้วก็ต้องเป็นงานที่เป็นเรื่องๆ ไปด้วยนะ เลข 8 ในตำแหน่งนี้ของเธอทำให้เธอยึดเรื่องของผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก (อ่านคุ่กับชุดเลขในวันเกิด รวมถึงเลขท้าทายที่เป็น 1 รวมถึงการที่เธอมีเลข 9 เป็นเลขเส้นทางชีวิต ซึ่งยังมีเลขอีกชุดหนึ่งที่บอกถึงการยึดติดหรือให้ค่ากับวัตถุนิยม ไม่ได้ลงรายละเอียดเพิ่มเติมเพราะต้องอธิบายกันยาว)

    โดยสรุปจากตัวเลขในชีวิต ทำให้เราเห็นตัวตนของทั้งสองคนชัดเจนขึ้น ไม่ได้ตัดสินว่าใครผิดใครถูกนะคะ เพราะไม่ได้อยู่ในชีวิตของเค้า แต่เราเชื่อเรื่องอิทธิพลหรือพลังงานที่มีอยู่ในตัวคนแต่ละคนมากกว่า

    ยกมือให้กับดาราชายค่ะ
    #แน็คกามิน #ชีวิตติดเลข #casestudy เห็นข่าวช่วงที่ผ่ามาเกี่ยวกับอินฟลูสาวต่างชาติคนนึงที่มารับงานเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าหลากหลายร่วมกับดาราชายไทยจนโด่งดัง มีรายได้กลับไปเป็นกอบเป็นกำ ข่าวออกมาในเชิงไม่ค่อยจะดี ซึ่งก็ไม่พ้นในเรื่องของเงินทองผลประโยชน์ เราเคยถอดค่าเลขของดาราชายไว้เมื่อนานมาแล้ว เพราะเคยฟังสัมภาษณ์ที่เค้าพูดถึงการใช้ชีวิตของตัวเองแล้วทำให้อยากเห็นเลขในชีวิตของเค้า ซึ่งประกอบไปด้วยเลขหลักสองชุดคือ 876 (จากชื่อสกุล) และ 162 (จากวันเกิด) เลขท้าทายในชีวิต 0.3.3.3 เลขกรรม 4 จากเลขสองชุดนี้ ทำให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก (จุดนี้จากชุดเลขวันเกิดก็พอจะคาดเดาได้ – 19.01.1993) แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่ใส่ใจคนรอบข้าง ชอบช่วยเหลือคนอื่น แม้จะมีแนวทางในการช่วยที่แปลกจากความคิดของคนทั่วไป เป็นคนมีความรับผิดชอบ และไม่ได้ใส่ใจในเรื่องของเงินทองเสียเท่าไหร่ ไม่ได้หมายความว่าไม่เห็นคุณค่าของเงินทองนะ แต่หมายถึงว่ามีก็ได้ ไม่มีก็ได้ คือไม่ได้ยึดเป็นเรื่องสำคัญในชีวิต การมีเลขท้าทายในชีวิตเป็นเลข 3 ทำให้เป็นคนไม่ชอบออกงานสังคม (ตรงกับเลขเส้นทางชีวิตที่เป็นเลข 6 ที่ชอบอยู่บ้าน หรืออยู่กับคนวงเล็กๆ ที่คุ้นเคย) การสื่อสารอาจจะฟังแล้วงงๆ อยู่บ้าง หรือไม่ก็ฟังดูขัดหู เพราะออกแนวถ้าไม่พูดคือไม่พูดเลย แต่ถ้าพูดคือตีแสกหน้าได้ ซึ่งโยงไปได้ถึงเลขกรรม 4 ที่สามารถพูดออกมาตรงๆ โดยไม่เกรงใจใคร ทั้งยังรวมไปถึงการไม่ได้สนใจกฏเกณฑ์ของสังคมเท่าไหร่ การทำงานก็ทำบ้าง หยุดบ้าง ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าตัวเอง ทีนี้ เรามาลองดูเลขของอินฟลูสาวกันดูบ้าง เลขหลักสองชุดของเธอคือ 189 กับ 395 เลขท้าทาย 1.1.0.2 เลขกรรม 6 มาดูเลขชุดแรกของเธอกัน จริงๆ แล้ว 189 เป็นเลขที่ดีมากๆ ถ้ามีอยู่ในตัวนะ เพราะเป็นเลขที่ทำให้มีความสามารถครบรอบด้านในตัว เริ่มตั้งแต่ความคิดริเริ่ม การมีวิสัยทัศน์ที่จะเลือกวิธีที่ดีที่สุดและลงมือทำเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่บังเอิญว่าเลข 8 ของเธออยู่ในตำแหน่งที่อ่อนไปนิดนึง ทำให้ความอดทนต่อเรื่องยุ่งยากวุ่นวายมีไม่มากพอที่จะก้าวไปถึงจุดของความสำเร็จ เรียกว่า เมื่อไหร่ที่เกิดปัญหา เมื่อไหร่ที่เกิดความเบื่อ ไม่รู้สึกสนุก ก็สามารถละทิ้งเรื่องนั้นๆ งานนั้นๆ ไปได้ง่ายๆ (ตรงนี้โยงไปหาเลขกรรม 6 ที่เป็นเลขของความรับผิดชอบ และการคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองที่ไม่มีอยู่ในตัวเอง) ส่วนเลขชุดที่สองของเธอ 395 เป็นเลขเสน่ห์จริงๆ ทำให้คนตกหลุมรักเธอได้ง่ายๆ มีออร่าที่โดดเด่น ในขณะเดียวกัน เลขชุดนี้ก็ยังทำให้เธอเป็นคนที่ไม่ชอบความยุ่งยาก มีความสนใจต่อเรื่องต่างๆ แบบชั่วครู่ชั่วยาม เบื่อเมื่อไหร่ก็โบกมือลาได้ง่ายๆ เช่นกัน เธอมีผลรวมชื่อเป็นเลข 26/8 เมื่อเอาไปอ่านร่วมกับเลขชุดที่สอง 395 ยิ่งตอบโจทย์กับสิ่งที่เธอเลือกทำเป็นอาชีพ งานที่ทำแล้วไม่ต้องเหนื่อยมาก อยู่ท่ามกลางผู้คนและมีสปอต์ไลท์ส่องที่เธอ มีคนชื่นชมและสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้มากๆ ไม่ชอบงานที่มีกฏเกณฑ์หรือยุ่งยากเหนื่อยแรง แล้วก็ต้องเป็นงานที่เป็นเรื่องๆ ไปด้วยนะ เลข 8 ในตำแหน่งนี้ของเธอทำให้เธอยึดเรื่องของผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก (อ่านคุ่กับชุดเลขในวันเกิด รวมถึงเลขท้าทายที่เป็น 1 รวมถึงการที่เธอมีเลข 9 เป็นเลขเส้นทางชีวิต ซึ่งยังมีเลขอีกชุดหนึ่งที่บอกถึงการยึดติดหรือให้ค่ากับวัตถุนิยม ไม่ได้ลงรายละเอียดเพิ่มเติมเพราะต้องอธิบายกันยาว) โดยสรุปจากตัวเลขในชีวิต ทำให้เราเห็นตัวตนของทั้งสองคนชัดเจนขึ้น ไม่ได้ตัดสินว่าใครผิดใครถูกนะคะ เพราะไม่ได้อยู่ในชีวิตของเค้า แต่เราเชื่อเรื่องอิทธิพลหรือพลังงานที่มีอยู่ในตัวคนแต่ละคนมากกว่า ยกมือให้กับดาราชายค่ะ
    0 Comments 0 Shares 1542 Views 0 Reviews
  • สำหรับข่าวเตือนภัยวันนี้ นายTexhTips ก็มีเรื่องราวที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงมาเตือนอีกเเล้วครับ

    มิจฉาชีพดันโฆษณาเว็บแฝงมัลแวร์ไว้บนสุดของผลการค้นหาใน Google
    เว็บไซต์ BleepingComputer พบว่าแฮกเกอร์สร้างเว็บไซต์ปลอมที่แฝงมัลแวร์เอาไว้ขึ้นมา และจ่ายเงินโฆษณาผ่าน Google Ads ให้เว็บไซต์เหล่านี้ขึ้นไปอยู่ในผลการค้นหาแรก ๆ บนเสิร์ชเอนจินของ Google

    เว็บไซต์เหล่านี้มักเอาการแจกซอฟต์แวร์ฟรีมาล่อลวงให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดมัลแวร์เข้าไปยังอุปกรณ์ของตัวเอง

    หนึ่งในตัวอย่างสำคัญคือเว็บไซต์ปลอมที่อ้างว่าแจก Rufus เครื่องมือสร้างแฟลชไดรฟ์ฟรี โดยพบว่าแฮกเกอร์ได้จดทะเบียนโดเมนที่มีชื่อ URL คล้ายกับเว็บไซต์ของจริงมาก หน้าตาก็แทบจะถอดกันมาแบบเป๊ะ ๆ แต่มีการเพิ่มความน่าสนใจของซอฟต์แวร์ที่มีให้ดาวน์โหลดว่าเป็นตัวระดับสูงที่ใช้งานได้มากกว่าแบบปกติ แม้ว่าความจริงแล้ว Rufus จะมีไม่มีเวอร์ชันระดับสูงก็ตามที

    หลังจากที่ผู้ใช้งานลองกดดาวน์โหลด Rufus แล้ว เว็บไซต์ปลอมจะพาไปยังบริการส่งไฟล์ ซึ่งเป็นวิธีที่จะเล็ดลอดการตรวจจับของเครื่องมือต้านไวรัส

    อีกตัวอย่างของซอฟต์แวร์ที่แฮกเกอร์นำมาใช้หลอกคือ Noteppad++ ซอฟต์แวร์ปรับแต่งข้อความและซอร์สโค้ด ซึ่งก็ใช้วิธีเดียวกันคือสร้างโดเมนที่มีชื่อคล้ายกับเว็บไซต์ของจริง วิธีการนี้มีชื่อเรียกว่า Typosquatting

    วิลล์ ดอร์แมนน์ (Will Dormann) นักวิจัยด้านไซเบอร์พบว่าตัว Notepad++ ปลอมเดียวกันนี้ถูกพบในหลาย URL ซึ่งทุกไฟล์ถูก Virus Total ตรวจพบว่าอันตรายทั้งสิ้น

    จนถึงตอนนี้ ซอฟต์แวร์ปลอมที่ Bleeping Computer และเหล่าผู้เชี่ยวชาญพบบนเว็บไซต์ปลอมที่ดันผ่าน Google Ads ได้แก่ 7-Zip, Blender 3D, Capcut, CCleaner, Notepad++, OBS, Rufus, VirtualBox, VLC Media Player, WinRAR และ Putty
    นี่อาจแสดงว่าเหล่าแฮกเกอร์เงินหนาพอที่จะชนะการประมูลพื้นที่โฆษณาเหนือนักพัฒนาตัวจริงจนทำให้โฆษณาของมิจฉาชีพเหล่านี้แซงขึ้นไปอยู่สูงสุด ตัวอย่างเช่นกรณีของเว็บไซต์ CCleaner ของจริงที่โดนเว็บปลอมที่แฝงมัลแวร์เบียดขึ้นไปอยู่ที่ 1 ของ Google Ads

    เจอมัน เฟอร์นันเดซ (Germán Fernández) จากบริษัท CronUP เผยว่ามีโดเมนอย่างน้อย 70 โดเมนที่หลอกให้ดาวน์โหลดมัลแวร์ผ่านการโปรโมตบน Google Ads

    นอกจากนี้ ดอร์แมนน์ยังพบว่าซอฟต์แวร์ปลอมเหล่านี้ยังมีการใส่ลายเซ็นด้านความมั่นคงปลอดภัยปลอมจากบริษัทด้านไซเบอร์ชื่อดังอย่าง Bitdefender ด้วย

    BleepingComputer พบว่าซอฟต์แวร์ปลอมจากเว็บไซต์เลียนแบบเป็นอันตรายมาก หลายตัวแฝงมัลแวร์ขโมยข้อมูลอย่าง RedLine และ Vidar เอาไว้ บางตัวก็แฝงไว้ด้วยโทรจัน SectoRAT ที่เข้าควบคุมอุปกรณ์เหยื่อจากระยะไกล

    สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) ก็เคยออกมาเตือนเกี่ยวกับกรณีนี้ โดยระบุว่ามีโฆษณาที่ปรากฎในด้านบนสุดของผลการค้นหาบน Google ที่พยายามปลอมตัวเป็นเว็บไซต์ของบริษัทที่มีอยู่จริง

    หนึ่งในคนที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการเว็บไซต์ปลอมคือ Alex อินฟลูเอนเซอร์ด้านคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดังที่เผลอไปดาวน์โหลดไฟล์ Open Broadcaster Software (OBS) มาจากเว็บไซต์ปลอมที่ขึ้นอยู่ในรูปแบบโฆษณาของผลการค้นหาบน Google

    แม้ว่าตอนแรกที่เปิดใช้งานไฟล์ EXE ที่ดาวน์โหลดมาจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หลังจากนั้นไม่นาน บัญชี Twitter, Gmail, Substack และ Discord ก็ถูกแฮก รวมถึงเงินคริปโทฯ ที่อยู่ในครอบครองก็ถูกขโมยไปด้วย โดยเชื่อว่าเป็นเพราะไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาแฝงมัลแวร์ขโมยข้อมูลเอาไว้

    ทั้งนี้ BleepingComputer ได้ส่งผลการค้นพบบางส่วนให้ Google ซึ่งได้รับคำตอบว่าบริษัทมีนโยบายป้องกันการลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้าอยู่แล้ว ปกติยังได้มีการพิจารณาความถูกต้องของโฆษณาอยู่อย่างสม่ำเสมอด้วย

    แต่ทางบริษัทก็จะไปตรวจสอบโฆษณาและเว็บไซต์ที่ละเมิดนโยบายของบริษัทเพิ่มอีก เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยขณะนี้ได้ลบโฆษณาปลอมที่ BleepingComputer รายงานเข้าไปเรียบร้อยแล้ว

    สุดท้ายนี้ นายTechTips ก็อยากจะขอเตือนให้ทุกท่านยังคงต้องตรวจสองลิ้งต์ทุกลิ้งค์
    ที่จะทำการเข้าชมให้ดี ด้วยความระมัดระวังอย่างมากเลยนะครับ
    เพราะว่าทุกวันนี้วงการพี่มิจก็เตอิบโตมากขึ้นและสรรหาวิธีใหม่ๆมาหลอกเอาเงินในกระเป๋าเราออกไปอยู่ตลอดเวลาครับ

    วติคือเครื่องป้องกันปัญหาที่ดีที่สุด ครับผม
    วันนี้นายTechTips ลาไปก่อนครับ ขอให้ทุกท่านปลดภัยไม่โดนหลอกครับ
    สวัสดีครับ #TechTips
    สำหรับข่าวเตือนภัยวันนี้ นายTexhTips ก็มีเรื่องราวที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงมาเตือนอีกเเล้วครับ มิจฉาชีพดันโฆษณาเว็บแฝงมัลแวร์ไว้บนสุดของผลการค้นหาใน Google เว็บไซต์ BleepingComputer พบว่าแฮกเกอร์สร้างเว็บไซต์ปลอมที่แฝงมัลแวร์เอาไว้ขึ้นมา และจ่ายเงินโฆษณาผ่าน Google Ads ให้เว็บไซต์เหล่านี้ขึ้นไปอยู่ในผลการค้นหาแรก ๆ บนเสิร์ชเอนจินของ Google เว็บไซต์เหล่านี้มักเอาการแจกซอฟต์แวร์ฟรีมาล่อลวงให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดมัลแวร์เข้าไปยังอุปกรณ์ของตัวเอง หนึ่งในตัวอย่างสำคัญคือเว็บไซต์ปลอมที่อ้างว่าแจก Rufus เครื่องมือสร้างแฟลชไดรฟ์ฟรี โดยพบว่าแฮกเกอร์ได้จดทะเบียนโดเมนที่มีชื่อ URL คล้ายกับเว็บไซต์ของจริงมาก หน้าตาก็แทบจะถอดกันมาแบบเป๊ะ ๆ แต่มีการเพิ่มความน่าสนใจของซอฟต์แวร์ที่มีให้ดาวน์โหลดว่าเป็นตัวระดับสูงที่ใช้งานได้มากกว่าแบบปกติ แม้ว่าความจริงแล้ว Rufus จะมีไม่มีเวอร์ชันระดับสูงก็ตามที หลังจากที่ผู้ใช้งานลองกดดาวน์โหลด Rufus แล้ว เว็บไซต์ปลอมจะพาไปยังบริการส่งไฟล์ ซึ่งเป็นวิธีที่จะเล็ดลอดการตรวจจับของเครื่องมือต้านไวรัส อีกตัวอย่างของซอฟต์แวร์ที่แฮกเกอร์นำมาใช้หลอกคือ Noteppad++ ซอฟต์แวร์ปรับแต่งข้อความและซอร์สโค้ด ซึ่งก็ใช้วิธีเดียวกันคือสร้างโดเมนที่มีชื่อคล้ายกับเว็บไซต์ของจริง วิธีการนี้มีชื่อเรียกว่า Typosquatting วิลล์ ดอร์แมนน์ (Will Dormann) นักวิจัยด้านไซเบอร์พบว่าตัว Notepad++ ปลอมเดียวกันนี้ถูกพบในหลาย URL ซึ่งทุกไฟล์ถูก Virus Total ตรวจพบว่าอันตรายทั้งสิ้น จนถึงตอนนี้ ซอฟต์แวร์ปลอมที่ Bleeping Computer และเหล่าผู้เชี่ยวชาญพบบนเว็บไซต์ปลอมที่ดันผ่าน Google Ads ได้แก่ 7-Zip, Blender 3D, Capcut, CCleaner, Notepad++, OBS, Rufus, VirtualBox, VLC Media Player, WinRAR และ Putty นี่อาจแสดงว่าเหล่าแฮกเกอร์เงินหนาพอที่จะชนะการประมูลพื้นที่โฆษณาเหนือนักพัฒนาตัวจริงจนทำให้โฆษณาของมิจฉาชีพเหล่านี้แซงขึ้นไปอยู่สูงสุด ตัวอย่างเช่นกรณีของเว็บไซต์ CCleaner ของจริงที่โดนเว็บปลอมที่แฝงมัลแวร์เบียดขึ้นไปอยู่ที่ 1 ของ Google Ads เจอมัน เฟอร์นันเดซ (Germán Fernández) จากบริษัท CronUP เผยว่ามีโดเมนอย่างน้อย 70 โดเมนที่หลอกให้ดาวน์โหลดมัลแวร์ผ่านการโปรโมตบน Google Ads นอกจากนี้ ดอร์แมนน์ยังพบว่าซอฟต์แวร์ปลอมเหล่านี้ยังมีการใส่ลายเซ็นด้านความมั่นคงปลอดภัยปลอมจากบริษัทด้านไซเบอร์ชื่อดังอย่าง Bitdefender ด้วย BleepingComputer พบว่าซอฟต์แวร์ปลอมจากเว็บไซต์เลียนแบบเป็นอันตรายมาก หลายตัวแฝงมัลแวร์ขโมยข้อมูลอย่าง RedLine และ Vidar เอาไว้ บางตัวก็แฝงไว้ด้วยโทรจัน SectoRAT ที่เข้าควบคุมอุปกรณ์เหยื่อจากระยะไกล สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) ก็เคยออกมาเตือนเกี่ยวกับกรณีนี้ โดยระบุว่ามีโฆษณาที่ปรากฎในด้านบนสุดของผลการค้นหาบน Google ที่พยายามปลอมตัวเป็นเว็บไซต์ของบริษัทที่มีอยู่จริง หนึ่งในคนที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการเว็บไซต์ปลอมคือ Alex อินฟลูเอนเซอร์ด้านคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดังที่เผลอไปดาวน์โหลดไฟล์ Open Broadcaster Software (OBS) มาจากเว็บไซต์ปลอมที่ขึ้นอยู่ในรูปแบบโฆษณาของผลการค้นหาบน Google แม้ว่าตอนแรกที่เปิดใช้งานไฟล์ EXE ที่ดาวน์โหลดมาจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หลังจากนั้นไม่นาน บัญชี Twitter, Gmail, Substack และ Discord ก็ถูกแฮก รวมถึงเงินคริปโทฯ ที่อยู่ในครอบครองก็ถูกขโมยไปด้วย โดยเชื่อว่าเป็นเพราะไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาแฝงมัลแวร์ขโมยข้อมูลเอาไว้ ทั้งนี้ BleepingComputer ได้ส่งผลการค้นพบบางส่วนให้ Google ซึ่งได้รับคำตอบว่าบริษัทมีนโยบายป้องกันการลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้าอยู่แล้ว ปกติยังได้มีการพิจารณาความถูกต้องของโฆษณาอยู่อย่างสม่ำเสมอด้วย แต่ทางบริษัทก็จะไปตรวจสอบโฆษณาและเว็บไซต์ที่ละเมิดนโยบายของบริษัทเพิ่มอีก เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยขณะนี้ได้ลบโฆษณาปลอมที่ BleepingComputer รายงานเข้าไปเรียบร้อยแล้ว สุดท้ายนี้ นายTechTips ก็อยากจะขอเตือนให้ทุกท่านยังคงต้องตรวจสองลิ้งต์ทุกลิ้งค์ ที่จะทำการเข้าชมให้ดี ด้วยความระมัดระวังอย่างมากเลยนะครับ เพราะว่าทุกวันนี้วงการพี่มิจก็เตอิบโตมากขึ้นและสรรหาวิธีใหม่ๆมาหลอกเอาเงินในกระเป๋าเราออกไปอยู่ตลอดเวลาครับ วติคือเครื่องป้องกันปัญหาที่ดีที่สุด ครับผม วันนี้นายTechTips ลาไปก่อนครับ ขอให้ทุกท่านปลดภัยไม่โดนหลอกครับ สวัสดีครับ #TechTips
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 463 Views 0 Reviews
  • #จุ๊กกรูฟาดหมอเกศเฉย
    หมอเกศอาการไม่ดี ทนายจุ๊กกรูอ้างว่า ขอพูดในนามอินฟูลผู้ทรงอิทธิพล
    ไม่พูดในฐานะทนายนะ และฟาดหมอเกศไม่ยั้งทำเอาคนดูอึ้ง
    โดยเนื้อหา ได้พาดพิงถึงกุนซือที่ประกบตัวหมอเกศ ชื่อดร.ณัฐ
    ที่ให้หมอเกศเอาแต่หลบนักข่าว และมีเรื่องร้องเรียนทุกวัน
    ถ้าหนีแบบนี้ ศักดิ์ศรี และความน่าเชื่อถือก็หมดสิ้นลงไปทุกวัน
    จึงขอเตือนในฐานะอินฟลูเอนเซอร์ผู้ทรงอิทธิพลว่า
    มีอะไรก็ให้ชี้แจง ถ้าตอบคำถามกับนักข่าวได้ก็จบ
    แต่ถ้าหนีแบบนี้ก็ต้องหนีจนกว่าจะลาออก จะหนีไปได้อีกกี่วัน
    ตนก็มีผู้หลักผู้ใหญ่ ทั้งพี่สนธิ ทั้งบก.ข่าวบอกให้ออกจากเป็นทนาย
    แต่คนอย่างตน ก็จะออกต่อเมื่อเค้าไล่ออกแค่นั้น
    และยังย้ำอีกว่า ถ้าผิด ก็ยอมรับผิดขอโทษซะ สังคมก็พร้อมให้อภัย
    ที่ตนเคยรับคดีครูจุ๋ม คดีแตงโม ตัวเองก็โดนทัวร์ลง สุดท้ายตนเองก็แค่ขอโทษ สังคมก็ให้อภัย"
    คิงส์โพธิ์แดงคิดว่า ที่ทนายจุ๊กกรูจะออก ก็ต่อเมื่อถูกไล่นั้น ประเมินว่าอีกคงไม่นานได้สมดั่งใจแน่นอน
    ก็เป็นเทคนิคของทนายจุ๊กกรู ที่ทนายรุ่นหลังควรศึกษาไว้
    ว่าเมื่อไหร่ที่ต้องการจะเทลูกความ ก็ให้ทำแบบนี้ นับถือ นับถือ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #จุ๊กกรูฟาดหมอเกศเฉย หมอเกศอาการไม่ดี ทนายจุ๊กกรูอ้างว่า ขอพูดในนามอินฟูลผู้ทรงอิทธิพล ไม่พูดในฐานะทนายนะ และฟาดหมอเกศไม่ยั้งทำเอาคนดูอึ้ง โดยเนื้อหา ได้พาดพิงถึงกุนซือที่ประกบตัวหมอเกศ ชื่อดร.ณัฐ ที่ให้หมอเกศเอาแต่หลบนักข่าว และมีเรื่องร้องเรียนทุกวัน ถ้าหนีแบบนี้ ศักดิ์ศรี และความน่าเชื่อถือก็หมดสิ้นลงไปทุกวัน จึงขอเตือนในฐานะอินฟลูเอนเซอร์ผู้ทรงอิทธิพลว่า มีอะไรก็ให้ชี้แจง ถ้าตอบคำถามกับนักข่าวได้ก็จบ แต่ถ้าหนีแบบนี้ก็ต้องหนีจนกว่าจะลาออก จะหนีไปได้อีกกี่วัน ตนก็มีผู้หลักผู้ใหญ่ ทั้งพี่สนธิ ทั้งบก.ข่าวบอกให้ออกจากเป็นทนาย แต่คนอย่างตน ก็จะออกต่อเมื่อเค้าไล่ออกแค่นั้น และยังย้ำอีกว่า ถ้าผิด ก็ยอมรับผิดขอโทษซะ สังคมก็พร้อมให้อภัย ที่ตนเคยรับคดีครูจุ๋ม คดีแตงโม ตัวเองก็โดนทัวร์ลง สุดท้ายตนเองก็แค่ขอโทษ สังคมก็ให้อภัย" คิงส์โพธิ์แดงคิดว่า ที่ทนายจุ๊กกรูจะออก ก็ต่อเมื่อถูกไล่นั้น ประเมินว่าอีกคงไม่นานได้สมดั่งใจแน่นอน ก็เป็นเทคนิคของทนายจุ๊กกรู ที่ทนายรุ่นหลังควรศึกษาไว้ ว่าเมื่อไหร่ที่ต้องการจะเทลูกความ ก็ให้ทำแบบนี้ นับถือ นับถือ #คิงส์โพธิ์แดง
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 386 Views 0 Reviews
  • แอร์เอเชียร่วมวง e-Money ในไทย

    เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ "บิ๊กเพย์" (BigPay) ผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) รายล่าสุดในไทย จากกลุ่มแคปปิตอล เอ (Capital A) บริษัทแม่ของสายการบินแอร์เอเชีย งานนี้ โทนี เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแคปปิตอล เอ เดินทางมาเปิดตัวด้วยตัวเอง พร้อมทั้งอัดงบโฆษณาโปรโมต ผ่านอินฟลูเอนเซอร์สายท่องเที่ยว

    สำหรับแอปพลิเคชัน BigPay มาพร้อมบัตรเสมือน Visa Virtual Card สำหรับใช้จ่ายผ่านร้านค้าออนไลน์ และบัตรพลาสติก Visa Platinum Prepaid Card ที่มีค่าออกบัตร 150 บาทต่อใบ สำหรับใช้จ่ายผ่านร้านค้าทั่วไป และถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ที่ต่างประเทศ พร้อมฟังก์ชัน Stash กระเป๋าเก็บเงินย่อย และ Roundup ฟังก์ชันปัดเศษเงินทอนเพื่อเก็บเงินได้ทันที

    BigPay เปิดให้บริการครั้งแรกในมาเลเซียเมื่อกลางเดือนมกราคม 2561 ปรับปรุงจากผลิตภัณฑ์บัตรเติมเงิน Big Prepaid Mastercard จุดเด่นในขณะนั้นคือ เมื่อซื้อตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชียแล้วจ่ายผ่านบัตร BigPay ไม่เสียค่า Processing Fee เมื่อเทียบกับช่องทางอื่น ต่อมาได้ขยายบริการไปยังสิงคโปร์ และล่าสุดให้บริการในประเทศไทยเป็นแห่งที่สาม

    อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการการบินแห่งมาเลเซีย (MAVCOM) สั่งห้ามแอร์เอเชียเรียกเก็บค่า Processing Fee แยกจากค่าโดยสารเมื่อปี 2562 ทำให้จุดเด่นตรงนี้หายไป

    ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่ามีผลิตภัณฑ์ e-Money ในประเทศไทย 74 ผลิตภัณฑ์ แต่ที่มีลักษณะคล้ายกัน ได้แก่ ทรูมันนี่วอลเล็ต (TrueMoney Wallet) ดีพ พ็อกเก็ต (DeepPocket) เจ วอลเล็ต (J Wallet) ไว วอลเล็ต (Wi Wallet) เป๋าตังเปย์ (Paotang Pay) ยูทริป (YouTrip) พลาเน็ตเอสซีบี (Planet SCB) และกรุงศรีบอร์ดดิ้งการ์ด (Krungsri Boarding Card) เป็นต้น

    #Newskit #BigPay #เงินอิเล็กทรอนิกส์
    แอร์เอเชียร่วมวง e-Money ในไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ "บิ๊กเพย์" (BigPay) ผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) รายล่าสุดในไทย จากกลุ่มแคปปิตอล เอ (Capital A) บริษัทแม่ของสายการบินแอร์เอเชีย งานนี้ โทนี เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแคปปิตอล เอ เดินทางมาเปิดตัวด้วยตัวเอง พร้อมทั้งอัดงบโฆษณาโปรโมต ผ่านอินฟลูเอนเซอร์สายท่องเที่ยว สำหรับแอปพลิเคชัน BigPay มาพร้อมบัตรเสมือน Visa Virtual Card สำหรับใช้จ่ายผ่านร้านค้าออนไลน์ และบัตรพลาสติก Visa Platinum Prepaid Card ที่มีค่าออกบัตร 150 บาทต่อใบ สำหรับใช้จ่ายผ่านร้านค้าทั่วไป และถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ที่ต่างประเทศ พร้อมฟังก์ชัน Stash กระเป๋าเก็บเงินย่อย และ Roundup ฟังก์ชันปัดเศษเงินทอนเพื่อเก็บเงินได้ทันที BigPay เปิดให้บริการครั้งแรกในมาเลเซียเมื่อกลางเดือนมกราคม 2561 ปรับปรุงจากผลิตภัณฑ์บัตรเติมเงิน Big Prepaid Mastercard จุดเด่นในขณะนั้นคือ เมื่อซื้อตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชียแล้วจ่ายผ่านบัตร BigPay ไม่เสียค่า Processing Fee เมื่อเทียบกับช่องทางอื่น ต่อมาได้ขยายบริการไปยังสิงคโปร์ และล่าสุดให้บริการในประเทศไทยเป็นแห่งที่สาม อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการการบินแห่งมาเลเซีย (MAVCOM) สั่งห้ามแอร์เอเชียเรียกเก็บค่า Processing Fee แยกจากค่าโดยสารเมื่อปี 2562 ทำให้จุดเด่นตรงนี้หายไป ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่ามีผลิตภัณฑ์ e-Money ในประเทศไทย 74 ผลิตภัณฑ์ แต่ที่มีลักษณะคล้ายกัน ได้แก่ ทรูมันนี่วอลเล็ต (TrueMoney Wallet) ดีพ พ็อกเก็ต (DeepPocket) เจ วอลเล็ต (J Wallet) ไว วอลเล็ต (Wi Wallet) เป๋าตังเปย์ (Paotang Pay) ยูทริป (YouTrip) พลาเน็ตเอสซีบี (Planet SCB) และกรุงศรีบอร์ดดิ้งการ์ด (Krungsri Boarding Card) เป็นต้น #Newskit #BigPay #เงินอิเล็กทรอนิกส์
    Like
    4
    0 Comments 1 Shares 714 Views 0 Reviews
  • เปิดโปง “ต้นอ้อ” กับแก๊งอินฟลูฯจอมปลอม Ep250 (live)
    จาก แม่พระ กลายเป็น แม่มด เบื้องหน้าทำดีแต่เบื้องหลังจอมปลอม ตัวตนเนื้อแท้ของ "ต้นอ้อ" เป็นคนเช่นไร
    https://www.youtube.com/live/NIaFkzhdzVU?si=1jpCc2wCuEdNvV9b
    เปิดโปง “ต้นอ้อ” กับแก๊งอินฟลูฯจอมปลอม Ep250 (live) จาก แม่พระ กลายเป็น แม่มด เบื้องหน้าทำดีแต่เบื้องหลังจอมปลอม ตัวตนเนื้อแท้ของ "ต้นอ้อ" เป็นคนเช่นไร https://www.youtube.com/live/NIaFkzhdzVU?si=1jpCc2wCuEdNvV9b
    Like
    Love
    Sad
    21
    2 Comments 0 Shares 8020 Views 0 Reviews
  • เปิดโปง “ต้นอ้อ” กับแก๊งอินฟลูฯจอมปลอมEp250 (live)

    SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep250 (live)
    จาก แม่พระ กลายเป็น แม่มด เบื้องหน้าทำดีแต่เบื้องหลังจอมปลอม ตัวตนเนื้อแท้ของ "ต้นอ้อ" เป็นคนเช่นไร
    เปิดโปง “ต้นอ้อ” กับแก๊งอินฟลูฯจอมปลอมEp250 (live) SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep250 (live) จาก แม่พระ กลายเป็น แม่มด เบื้องหน้าทำดีแต่เบื้องหลังจอมปลอม ตัวตนเนื้อแท้ของ "ต้นอ้อ" เป็นคนเช่นไร
    Love
    1
    0 Comments 1 Shares 588 Views 0 Reviews
  • ก่อนที่จะสนับสนุนใคร เชียร์ใคร ต้องดูร่องรอยดูประวัติของคนๆนั้นด้วย เพราะถ้าดูไม่ดีก็จะเจออินฟลูเอนเซอร์จอมปลอม สร้างภาพเพื่อทำมาหากิน รวมถึงสื่อมวลชนบางเจ้าที่ปั้นอินฟลูฯ เหล่านี้ โดยไม่ดูตาม้าตาเรือ

    พรุ่งนี้สนธิ เล่าให้ฟัง 9.00 น.

    #สนธิ #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้ม #Sondhi #Sondhitalk #ต้นอ้อเป็นหนึ่ง #ต้นอ้อชลิดา #ซื้อขายตำแหน่ง #อีอ้อปากจัด
    ก่อนที่จะสนับสนุนใคร เชียร์ใคร ต้องดูร่องรอยดูประวัติของคนๆนั้นด้วย เพราะถ้าดูไม่ดีก็จะเจออินฟลูเอนเซอร์จอมปลอม สร้างภาพเพื่อทำมาหากิน รวมถึงสื่อมวลชนบางเจ้าที่ปั้นอินฟลูฯ เหล่านี้ โดยไม่ดูตาม้าตาเรือ พรุ่งนี้สนธิ เล่าให้ฟัง 9.00 น. #สนธิ #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้ม #Sondhi #Sondhitalk #ต้นอ้อเป็นหนึ่ง #ต้นอ้อชลิดา #ซื้อขายตำแหน่ง #อีอ้อปากจัด
    Like
    Love
    Haha
    Yay
    Wow
    18
    1 Comments 0 Shares 8205 Views 0 Reviews
  • Newsstory : เรื่องวุ่นๆของอินฟลูฯ หิวแสงกันหนัก ความป่วยของสังคมไทย
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิลิ้มทองกุล #เรื่องวุ่นๆ #อินฟลู #สังคมไทย
    Newsstory : เรื่องวุ่นๆของอินฟลูฯ หิวแสงกันหนัก ความป่วยของสังคมไทย #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิลิ้มทองกุล #เรื่องวุ่นๆ #อินฟลู #สังคมไทย
    0 Comments 0 Shares 563 Views 25 0 Reviews