• ตกแต่งจนทางเดินแคบ ต้องลดผนังปล่องลิฟต์ : [NEWS UPDATE]
    สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้แจงการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์บางจุดในอาคารที่ทำการแห่งใหม่ เกิดขึ้นระหว่างก่อสร้าง โดยผู้รับจ้างก่อสร้าง กิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด พบว่าแบบงานโครงสร้างขัดกับแบบสถาปัตยกรรมภายใน ขนาดของผนังปล่องลิฟต์บริเวณทางเดินเมื่อรวมกับวัสดุตกแต่งตามแบบ ทำให้ทางเดินมีความกว้างไม่เป็นไปตามกฎกระทรวง ตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ผู้รับจ้างออกแบบจึงปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์(Core Lift) จากความหนา
    0.30 ม. เป็น 0.25 เมตร และเพิ่มปริมาณเหล็กเสริมให้มั่นคงแข็งแรงตามหลักวิศวกรรม พร้อมจัดทำรายการคำนวณ โดยผู้รับจ้างก่อสร้างได้เสนอราคางานที่เปลี่ยนแปลงลดลง 515,195 บาท จากนั้นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินเสนอคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเพื่อพิจารณาให้ความเห็นแก้ไข โดยไม่เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพัน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย



    โรงงานลักไก่หลอมเหล็ก

    แค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง

    ดีเอสไอรับคดีอั้งยี่เลือก สว.

    เร่งส่งออกหนีภาษีสหรัฐ
    ตกแต่งจนทางเดินแคบ ต้องลดผนังปล่องลิฟต์ : [NEWS UPDATE] สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้แจงการปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์บางจุดในอาคารที่ทำการแห่งใหม่ เกิดขึ้นระหว่างก่อสร้าง โดยผู้รับจ้างก่อสร้าง กิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด พบว่าแบบงานโครงสร้างขัดกับแบบสถาปัตยกรรมภายใน ขนาดของผนังปล่องลิฟต์บริเวณทางเดินเมื่อรวมกับวัสดุตกแต่งตามแบบ ทำให้ทางเดินมีความกว้างไม่เป็นไปตามกฎกระทรวง ตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ผู้รับจ้างออกแบบจึงปรับแก้ผนังปล่องลิฟต์(Core Lift) จากความหนา 0.30 ม. เป็น 0.25 เมตร และเพิ่มปริมาณเหล็กเสริมให้มั่นคงแข็งแรงตามหลักวิศวกรรม พร้อมจัดทำรายการคำนวณ โดยผู้รับจ้างก่อสร้างได้เสนอราคางานที่เปลี่ยนแปลงลดลง 515,195 บาท จากนั้นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินเสนอคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเพื่อพิจารณาให้ความเห็นแก้ไข โดยไม่เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพัน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย โรงงานลักไก่หลอมเหล็ก แค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง ดีเอสไอรับคดีอั้งยี่เลือก สว. เร่งส่งออกหนีภาษีสหรัฐ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • 78 ปี วิสามัญ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ จากผู้ใหญ่บ้าน สู่ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อตำรวจน่ากลัวกว่าเสือ จึงถูกหลอกซ้ำซาก ล่อติดคุก-ลวงยิงทิ้ง 🐅

    เมื่อผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่รัฐกลัวที่สุด ย้อนตำนาน “เสือฝ้าย” จอมโจรผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองสุพรรณ กับบทสรุปที่กลายเป็นปริศนา เสือจริงหรือตำรวจคือภัยร้ายกว่า?

    เรื่องราวของ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้กล้าท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม กลายเป็นตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวบ้านรัก และตำรวจหวาดกลัว 🕵️‍♂️🔥

    เมื่อความอยุติธรรม สร้างตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ หากพูดถึง "เสือ" ในตำนานไทย หลายคนอาจนึกถึง “เสือใบ”, “เสือดำ” หรือ “เสือมเหศวร” แต่มีอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ “เสือฝ้าย” 🐯 จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นโจร แต่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกระบบรังแก

    "เสือฝ้าย" หรือ "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเดิมบาง เป็นนักรบเสรีไทย และเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำดีเพื่อบ้านเกิด แต่เมื่อความดี ถูกตอบแทนด้วยความอยุติธรรม จึงเลือกหนทางของ "เสือ"

    “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!” เสือฝ้าย กล่าวไว้ หลังพ้นโทษจำคุก 8 ปี

    😇👉😈 "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2431 ที่ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นลูกของชาวนา ครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เติบโตมาอย่างเรียบง่าย กระทั่งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าใหญ่ หมู่ที่ 5”

    ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สอง เสือฝ้ายมีบทบาทสำคัญใน “ขบวนการเสรีไทย” ต่อต้านทหารญี่ปุ่น และได้รับฉายา “จอมพลฝ้าย” จากประชาชน

    แต่เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป เมื่อถูกใส่ร้ายจากหลานเขย ผู้มีสายสัมพันธ์กับตำรวจ ถูกตัดสินให้ติดคุกถึง 8 ปี ทั้งที่ไม่มีความผิด นี่คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง 🧨

    ✊ เสือฝ้ายผู้รักความยุติธรรม แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็น “โจร” แต่เสือฝ้ายไม่เหมือนโจรทั่วไป

    สิ่งที่ “ปล้น” ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยส่วนตัว เสือฝ้ายตั้งเป้าเล่นงานเฉพาะ “ผู้มีอำนาจที่ฉ้อโกง” ไม่ปล้นคนจน ไม่แตะต้องชาวบ้าน แจกจ่ายทรัพย์สินที่ปล้นมา ให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน

    🔥 ชาวบ้านจึงเปรียบเสือฝ้ายเสมือน “ฮีโร่” มากกว่า “ผู้ร้าย” ❤️

    “ชาวบ้านรักเสือฝ้าย เพราะไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่มีอำนาจ”

    🏴‍☠️ ชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เสือฝ้ายไม่ใช่โจรเดี่ยว นำกองกำลังชุมโจรที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่ไทยเคยมี สมุนไม่ต่ำกว่า 100-200 คน เทียบกับกลุ่มโจรทั่วไปในยุคนั้น ที่มีเพียง 10-20 คน

    เสือฝ้ายใช้เส้นทางป่าในเขตเดิมบางนางบวช ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าทึบ เป็นที่หลบซ่อนและตั้งฐานปฏิบัติการ

    “บางคนว่าทั้งสุพรรณบุรี คือบ้านของเสือฝ้าย เพราะทุกคนต่างพร้อมใจ ให้การช่วยเหลือ”

    🌆 เมืองสุพรรณยุคโจรครองเมือง 🧧 ย้อนกลับไปในยุคต้นรัชกาลที่ 6 เมืองสุพรรณฯ เต็มไปด้วยข่าวปล้น คนจีนอพยพมาตั้งตลาด หอดูโจรถูกสร้างไว้ทั่วเมือง

    จนมีคำพูดติดปากว่า “ใครไปรับราชการที่สุพรรณฯ ต้องเตรียมหม้อใส่กระดูกกลับบ้าน”

    สุพรรณกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในแง่ลบ แต่ก็เป็นบ้านของวีรบุรุษนอกกฎหมาย ที่ชาวบ้านศรัทธา

    📜 การลวงฆ่าเสือฝ้าย ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการ 🔫 วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก...

    ตำรวจกองปราบหลอกเสือฝ้ายว่า จะพาไปรับรางวัลที่กรุงเทพฯ แล้วนำตัวไปพักที่โรงแรมศรีธงชัย ปัจจุบันคือธนาคารกรุงศรีฯ แต่รุ่งเช้ากลับมีข่าวว่า เสือฝ้ายถูกยิงตายที่ป่าช้าบ้านบางกะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยอ้างว่า “กระโดดน้ำหนี” ❌

    แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ เพราะ “ไม่มีทางที่เสือฝ้ายจะหนี ทั้งที่เชื่อว่ากำลังจะได้รางวัล”

    😰 ปากคำชาวบ้าน ตำรวจน่ากลัวกว่าโจร

    “ตำรวจกองปราบน่ากลัวกว่าเสือเสียอีก พวกเขาอำพรางข่าว หลอกลวง และฆ่าคนบริสุทธิ์” ยายเกียด ทรัพย์จีน กล่าวไว้

    เธอเผยว่าเคยต้องปลอมตัว เอาโคลนทาทั่วตัว เพื่อส่งเสบียงให้ชุมโจรแบบลับ ๆ

    🧘‍♂️ เสือฝ้ายกับขุนพันธ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมรับสินบน ⚖️ เสือฝ้ายเคยพยายามติดสินบน “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้ปราบโจรในตำนาน แต่ขุนพันธ์ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ" และไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตำรวจ ด้วยการรับสินบนจากโจร

    🐯 เสือฝ้ายในโลกภาพยนตร์ 🎬 เสือฝ้ายยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ ภาค 2" แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด "พันโทวันชนะ สวัสดี" เพิ่มความเหนือธรรมชาติ เช่น วิชานะจังงัง, รอยสักยันต์ช้างเอราวัณ และยันต์ท้าวเวสสุวรรณ

    🔥 ความตายที่กลายเป็นตำนาน แม้เสือฝ้ายจะถูกฆ่าตาย แต่ตำนานของเขายังอยู่...

    เสือฝ้ายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถูกระบบกดขี่ แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นเสียงของผู้ไร้เสียง และเป็นเสือที่ถูกฆ่าโดย “สัตว์ที่ร้ายกว่า”

    คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓

    ใครสั่งวิสามัญเสือฝ้ายจริง ๆ?

    ตำรวจเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีเจตนาแอบแฝง?

    ทำไมข่าวถูกกลบอย่างรวดเร็ว?

    🐾 เสือที่ยังคงคำรามในประวัติศาสตร์ 📚 เรื่องราวของเสือฝ้าย ไม่ใช่เพียงเรื่องของโจร หรือเรื่องของตำรวจ
    แต่คือ “ภาพสะท้อนของสังคม” ที่ยังคงเป็นจริงแม้ผ่านไป 78 ปี

    เสือฝ้ายคือผู้ที่ระบบผลักให้กลายเป็นโจร แต่ชาวบ้านกลับยกย่องว่า “วีรบุรุษ” และตราบใดที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่ เสียงคำรามของ “เสือฝ้าย” ก็ยังดังก้องในใจของคนรุ่นหลัง ✊

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251009 เม.ย. 2568

    📢 #เสือฝ้าย #ตำนานเสือสุพรรณ #จอมโจรไทย #ประวัติศาสตร์โจร #ขุนพันธ์ #เสรีไทย #วิสามัญฆาตกรรม #สุพรรณบุรี #วีรบุรุษโจร #เสือฝ้ายผู้ยิ่งใหญ่
    78 ปี วิสามัญ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ จากผู้ใหญ่บ้าน สู่ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อตำรวจน่ากลัวกว่าเสือ จึงถูกหลอกซ้ำซาก ล่อติดคุก-ลวงยิงทิ้ง 🐅 เมื่อผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่รัฐกลัวที่สุด ย้อนตำนาน “เสือฝ้าย” จอมโจรผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองสุพรรณ กับบทสรุปที่กลายเป็นปริศนา เสือจริงหรือตำรวจคือภัยร้ายกว่า? เรื่องราวของ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้กล้าท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม กลายเป็นตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวบ้านรัก และตำรวจหวาดกลัว 🕵️‍♂️🔥 เมื่อความอยุติธรรม สร้างตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ หากพูดถึง "เสือ" ในตำนานไทย หลายคนอาจนึกถึง “เสือใบ”, “เสือดำ” หรือ “เสือมเหศวร” แต่มีอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ “เสือฝ้าย” 🐯 จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นโจร แต่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกระบบรังแก "เสือฝ้าย" หรือ "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเดิมบาง เป็นนักรบเสรีไทย และเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำดีเพื่อบ้านเกิด แต่เมื่อความดี ถูกตอบแทนด้วยความอยุติธรรม จึงเลือกหนทางของ "เสือ" “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!” เสือฝ้าย กล่าวไว้ หลังพ้นโทษจำคุก 8 ปี 😇👉😈 "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2431 ที่ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นลูกของชาวนา ครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เติบโตมาอย่างเรียบง่าย กระทั่งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าใหญ่ หมู่ที่ 5” ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สอง เสือฝ้ายมีบทบาทสำคัญใน “ขบวนการเสรีไทย” ต่อต้านทหารญี่ปุ่น และได้รับฉายา “จอมพลฝ้าย” จากประชาชน แต่เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป เมื่อถูกใส่ร้ายจากหลานเขย ผู้มีสายสัมพันธ์กับตำรวจ ถูกตัดสินให้ติดคุกถึง 8 ปี ทั้งที่ไม่มีความผิด นี่คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง 🧨 ✊ เสือฝ้ายผู้รักความยุติธรรม แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็น “โจร” แต่เสือฝ้ายไม่เหมือนโจรทั่วไป สิ่งที่ “ปล้น” ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยส่วนตัว เสือฝ้ายตั้งเป้าเล่นงานเฉพาะ “ผู้มีอำนาจที่ฉ้อโกง” ไม่ปล้นคนจน ไม่แตะต้องชาวบ้าน แจกจ่ายทรัพย์สินที่ปล้นมา ให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน 🔥 ชาวบ้านจึงเปรียบเสือฝ้ายเสมือน “ฮีโร่” มากกว่า “ผู้ร้าย” ❤️ “ชาวบ้านรักเสือฝ้าย เพราะไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่มีอำนาจ” 🏴‍☠️ ชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เสือฝ้ายไม่ใช่โจรเดี่ยว นำกองกำลังชุมโจรที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่ไทยเคยมี สมุนไม่ต่ำกว่า 100-200 คน เทียบกับกลุ่มโจรทั่วไปในยุคนั้น ที่มีเพียง 10-20 คน เสือฝ้ายใช้เส้นทางป่าในเขตเดิมบางนางบวช ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าทึบ เป็นที่หลบซ่อนและตั้งฐานปฏิบัติการ “บางคนว่าทั้งสุพรรณบุรี คือบ้านของเสือฝ้าย เพราะทุกคนต่างพร้อมใจ ให้การช่วยเหลือ” 🌆 เมืองสุพรรณยุคโจรครองเมือง 🧧 ย้อนกลับไปในยุคต้นรัชกาลที่ 6 เมืองสุพรรณฯ เต็มไปด้วยข่าวปล้น คนจีนอพยพมาตั้งตลาด หอดูโจรถูกสร้างไว้ทั่วเมือง จนมีคำพูดติดปากว่า “ใครไปรับราชการที่สุพรรณฯ ต้องเตรียมหม้อใส่กระดูกกลับบ้าน” สุพรรณกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในแง่ลบ แต่ก็เป็นบ้านของวีรบุรุษนอกกฎหมาย ที่ชาวบ้านศรัทธา 📜 การลวงฆ่าเสือฝ้าย ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการ 🔫 วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก... ตำรวจกองปราบหลอกเสือฝ้ายว่า จะพาไปรับรางวัลที่กรุงเทพฯ แล้วนำตัวไปพักที่โรงแรมศรีธงชัย ปัจจุบันคือธนาคารกรุงศรีฯ แต่รุ่งเช้ากลับมีข่าวว่า เสือฝ้ายถูกยิงตายที่ป่าช้าบ้านบางกะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยอ้างว่า “กระโดดน้ำหนี” ❌ แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ เพราะ “ไม่มีทางที่เสือฝ้ายจะหนี ทั้งที่เชื่อว่ากำลังจะได้รางวัล” 😰 ปากคำชาวบ้าน ตำรวจน่ากลัวกว่าโจร “ตำรวจกองปราบน่ากลัวกว่าเสือเสียอีก พวกเขาอำพรางข่าว หลอกลวง และฆ่าคนบริสุทธิ์” ยายเกียด ทรัพย์จีน กล่าวไว้ เธอเผยว่าเคยต้องปลอมตัว เอาโคลนทาทั่วตัว เพื่อส่งเสบียงให้ชุมโจรแบบลับ ๆ 🧘‍♂️ เสือฝ้ายกับขุนพันธ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมรับสินบน ⚖️ เสือฝ้ายเคยพยายามติดสินบน “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้ปราบโจรในตำนาน แต่ขุนพันธ์ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ" และไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตำรวจ ด้วยการรับสินบนจากโจร 🐯 เสือฝ้ายในโลกภาพยนตร์ 🎬 เสือฝ้ายยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ ภาค 2" แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด "พันโทวันชนะ สวัสดี" เพิ่มความเหนือธรรมชาติ เช่น วิชานะจังงัง, รอยสักยันต์ช้างเอราวัณ และยันต์ท้าวเวสสุวรรณ 🔥 ความตายที่กลายเป็นตำนาน แม้เสือฝ้ายจะถูกฆ่าตาย แต่ตำนานของเขายังอยู่... เสือฝ้ายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถูกระบบกดขี่ แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นเสียงของผู้ไร้เสียง และเป็นเสือที่ถูกฆ่าโดย “สัตว์ที่ร้ายกว่า” คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓ ใครสั่งวิสามัญเสือฝ้ายจริง ๆ? ตำรวจเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีเจตนาแอบแฝง? ทำไมข่าวถูกกลบอย่างรวดเร็ว? 🐾 เสือที่ยังคงคำรามในประวัติศาสตร์ 📚 เรื่องราวของเสือฝ้าย ไม่ใช่เพียงเรื่องของโจร หรือเรื่องของตำรวจ แต่คือ “ภาพสะท้อนของสังคม” ที่ยังคงเป็นจริงแม้ผ่านไป 78 ปี เสือฝ้ายคือผู้ที่ระบบผลักให้กลายเป็นโจร แต่ชาวบ้านกลับยกย่องว่า “วีรบุรุษ” และตราบใดที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่ เสียงคำรามของ “เสือฝ้าย” ก็ยังดังก้องในใจของคนรุ่นหลัง ✊ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251009 เม.ย. 2568 📢 #เสือฝ้าย #ตำนานเสือสุพรรณ #จอมโจรไทย #ประวัติศาสตร์โจร #ขุนพันธ์ #เสรีไทย #วิสามัญฆาตกรรม #สุพรรณบุรี #วีรบุรุษโจร #เสือฝ้ายผู้ยิ่งใหญ่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรีระยะนี้ถือว่ามีความดุเดือดพอสมควร เพราะเริ่มมีการปล่อยโผรายชื่อตัวเต็งที่ได้ตำแหน่งและตัวเต็งที่จะโดนปรับมาแล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000038695

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรีระยะนี้ถือว่ามีความดุเดือดพอสมควร เพราะเริ่มมีการปล่อยโผรายชื่อตัวเต็งที่ได้ตำแหน่งและตัวเต็งที่จะโดนปรับมาแล้ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000038695 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานจาก Mandiant เปิดเผยว่ากลุ่มแฮกเกอร์ในปี 2024 มีแรงจูงใจทางการเงินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 55% ของกลุ่มภัยคุกคามมุ่งเน้นการขโมยหรือรีดไถเงินจากเหยื่อ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับแรนซัมแวร์คิดเป็น 21% ของการบุกรุกทั้งหมด และเกือบสองในสามของเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรายได้

    วิธีการโจมตีที่นิยมมากที่สุดคือการใช้ช่องโหว่ (33%) ตามด้วยการใช้ข้อมูลรับรองที่ถูกขโมย (16%) การฟิชชิง (14%) การบุกรุกเว็บไซต์ (9%) และการใช้ช่องโหว่ที่มีอยู่ก่อนหน้า (8%)

    อุตสาหกรรมที่ถูกโจมตีมากที่สุดคือการเงิน (17%) ตามด้วยธุรกิจและบริการวิชาชีพ (11%) อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง (10%) รัฐบาล (10%) และการดูแลสุขภาพ (9%)

    นักวิจัยเตือนว่า AI กำลังเพิ่มความซับซ้อนและความสามารถในการโจมตี โดยช่วยให้แฮกเกอร์สามารถดำเนินการโจมตีที่มีเป้าหมายและหลบหลีกได้มากขึ้น

    ✅ แรงจูงใจทางการเงินของกลุ่มแฮกเกอร์
    - 55% ของกลุ่มภัยคุกคามมุ่งเน้นการขโมยหรือรีดไถเงินจากเหยื่อ
    - การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับแรนซัมแวร์คิดเป็น 21% ของการบุกรุกทั้งหมด

    ✅ วิธีการโจมตีที่นิยม
    - การใช้ช่องโหว่ (33%)
    - การใช้ข้อมูลรับรองที่ถูกขโมย (16%)
    - การฟิชชิง (14%)

    ✅ อุตสาหกรรมที่ถูกโจมตีมากที่สุด
    - การเงิน (17%)
    - ธุรกิจและบริการวิชาชีพ (11%)
    - รัฐบาล (10%)

    ✅ ผลกระทบจาก AI
    - AI เพิ่มความซับซ้อนและความสามารถในการโจมตี

    https://www.techradar.com/pro/security/hacking-groups-are-now-increasingly-in-it-for-the-money-not-the-chaos
    รายงานจาก Mandiant เปิดเผยว่ากลุ่มแฮกเกอร์ในปี 2024 มีแรงจูงใจทางการเงินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 55% ของกลุ่มภัยคุกคามมุ่งเน้นการขโมยหรือรีดไถเงินจากเหยื่อ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับแรนซัมแวร์คิดเป็น 21% ของการบุกรุกทั้งหมด และเกือบสองในสามของเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรายได้ วิธีการโจมตีที่นิยมมากที่สุดคือการใช้ช่องโหว่ (33%) ตามด้วยการใช้ข้อมูลรับรองที่ถูกขโมย (16%) การฟิชชิง (14%) การบุกรุกเว็บไซต์ (9%) และการใช้ช่องโหว่ที่มีอยู่ก่อนหน้า (8%) อุตสาหกรรมที่ถูกโจมตีมากที่สุดคือการเงิน (17%) ตามด้วยธุรกิจและบริการวิชาชีพ (11%) อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง (10%) รัฐบาล (10%) และการดูแลสุขภาพ (9%) นักวิจัยเตือนว่า AI กำลังเพิ่มความซับซ้อนและความสามารถในการโจมตี โดยช่วยให้แฮกเกอร์สามารถดำเนินการโจมตีที่มีเป้าหมายและหลบหลีกได้มากขึ้น ✅ แรงจูงใจทางการเงินของกลุ่มแฮกเกอร์ - 55% ของกลุ่มภัยคุกคามมุ่งเน้นการขโมยหรือรีดไถเงินจากเหยื่อ - การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับแรนซัมแวร์คิดเป็น 21% ของการบุกรุกทั้งหมด ✅ วิธีการโจมตีที่นิยม - การใช้ช่องโหว่ (33%) - การใช้ข้อมูลรับรองที่ถูกขโมย (16%) - การฟิชชิง (14%) ✅ อุตสาหกรรมที่ถูกโจมตีมากที่สุด - การเงิน (17%) - ธุรกิจและบริการวิชาชีพ (11%) - รัฐบาล (10%) ✅ ผลกระทบจาก AI - AI เพิ่มความซับซ้อนและความสามารถในการโจมตี https://www.techradar.com/pro/security/hacking-groups-are-now-increasingly-in-it-for-the-money-not-the-chaos
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้กล่าวถึงการรั่วไหลของข้อมูลสุขภาพที่สำคัญของลูกค้ากว่า 4.7 ล้านคน ของบริษัทประกันสุขภาพ Blue Shield of California โดยข้อมูลดังกล่าวถูกส่งไปยังแพลตฟอร์ม Google Analytics และ Google Ads เนื่องจากการตั้งค่าที่ผิดพลาดในเว็บไซต์ของบริษัทระหว่างเดือนเมษายน 2021 ถึงมกราคม 2024 ข้อมูลที่รั่วไหลรวมถึงชื่อผู้ป่วย ข้อมูลแผนประกันสุขภาพ วันที่ให้บริการ และข้อมูลทางการเงินของผู้ป่วย

    Blue Shield ยืนยันว่าไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหมายเลขประกันสังคม บัตรเครดิต หรือใบขับขี่ที่ถูกเปิดเผย และไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลเหล่านี้ถูกใช้โดยบุคคลที่ไม่หวังดี อย่างไรก็ตาม Google อาจใช้ข้อมูลนี้เพื่อการโฆษณาแบบเจาะจง

    บริษัทได้ดำเนินการแก้ไขโดยตัดการเชื่อมต่อระหว่าง Google Analytics และ Google Ads พร้อมทั้งปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอนาคต

    ✅ การรั่วไหลของข้อมูลสุขภาพ
    - ข้อมูลของลูกค้ากว่า 4.7 ล้านคนถูกส่งไปยัง Google Analytics และ Google Ads
    - ข้อมูลที่รั่วไหลรวมถึงชื่อผู้ป่วย ข้อมูลแผนประกันสุขภาพ และข้อมูลทางการเงิน

    ✅ การตอบสนองของ Blue Shield
    - ตัดการเชื่อมต่อระหว่าง Google Analytics และ Google Ads
    - ปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอนาคต

    ✅ การยืนยันจากบริษัท
    - ไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหมายเลขประกันสังคม บัตรเครดิต หรือใบขับขี่ที่ถูกเปิดเผย
    - ไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลถูกใช้โดยบุคคลที่ไม่หวังดี

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน
    - Google อาจใช้ข้อมูลนี้เพื่อการโฆษณาแบบเจาะจง

    https://www.techradar.com/pro/security/breach-at-health-insurance-giant-blue-shield-of-california-leaked-health-data-of-millions-to-google
    ข่าวนี้กล่าวถึงการรั่วไหลของข้อมูลสุขภาพที่สำคัญของลูกค้ากว่า 4.7 ล้านคน ของบริษัทประกันสุขภาพ Blue Shield of California โดยข้อมูลดังกล่าวถูกส่งไปยังแพลตฟอร์ม Google Analytics และ Google Ads เนื่องจากการตั้งค่าที่ผิดพลาดในเว็บไซต์ของบริษัทระหว่างเดือนเมษายน 2021 ถึงมกราคม 2024 ข้อมูลที่รั่วไหลรวมถึงชื่อผู้ป่วย ข้อมูลแผนประกันสุขภาพ วันที่ให้บริการ และข้อมูลทางการเงินของผู้ป่วย Blue Shield ยืนยันว่าไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหมายเลขประกันสังคม บัตรเครดิต หรือใบขับขี่ที่ถูกเปิดเผย และไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลเหล่านี้ถูกใช้โดยบุคคลที่ไม่หวังดี อย่างไรก็ตาม Google อาจใช้ข้อมูลนี้เพื่อการโฆษณาแบบเจาะจง บริษัทได้ดำเนินการแก้ไขโดยตัดการเชื่อมต่อระหว่าง Google Analytics และ Google Ads พร้อมทั้งปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอนาคต ✅ การรั่วไหลของข้อมูลสุขภาพ - ข้อมูลของลูกค้ากว่า 4.7 ล้านคนถูกส่งไปยัง Google Analytics และ Google Ads - ข้อมูลที่รั่วไหลรวมถึงชื่อผู้ป่วย ข้อมูลแผนประกันสุขภาพ และข้อมูลทางการเงิน ✅ การตอบสนองของ Blue Shield - ตัดการเชื่อมต่อระหว่าง Google Analytics และ Google Ads - ปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอนาคต ✅ การยืนยันจากบริษัท - ไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหมายเลขประกันสังคม บัตรเครดิต หรือใบขับขี่ที่ถูกเปิดเผย - ไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลถูกใช้โดยบุคคลที่ไม่หวังดี ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน - Google อาจใช้ข้อมูลนี้เพื่อการโฆษณาแบบเจาะจง https://www.techradar.com/pro/security/breach-at-health-insurance-giant-blue-shield-of-california-leaked-health-data-of-millions-to-google
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานจากคณะกรรมการพิเศษของรัฐสภาสหรัฐฯ เปิดเผยว่า DeepSeek AI ซึ่งเป็นแชทบอท AI จากจีน มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน โดยพบว่ามีการรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน เช่น ประวัติการแชท รายละเอียดอุปกรณ์ และรูปแบบการพิมพ์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถูกส่งกลับไปยังจีนผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมโยงกับบริษัทโทรคมนาคมจีนที่มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพจีน

    DeepSeek ยังถูกวิจารณ์ว่ามีการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของจีน การเซ็นเซอร์ข้อมูล และการใช้โมเดล AI ของสหรัฐฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการใช้ชิป Nvidia ที่ถูกจำกัดการส่งออก

    คณะกรรมการแนะนำให้ขยายการควบคุมการส่งออกและจัดการความเสี่ยงจากโมเดล AI ของจีน พร้อมเตรียมรับมือกับความท้าทายทางยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ขั้นสูง

    ✅ การรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน
    - รวบรวมข้อมูล เช่น ประวัติการแชท รายละเอียดอุปกรณ์ และรูปแบบการพิมพ์
    - ข้อมูลถูกส่งกลับไปยังจีนผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ปลอดภัย

    ✅ การเชื่อมโยงกับบริษัทโทรคมนาคมจีน
    - เชื่อมโยงกับ China Mobile ซึ่งถูกสหรัฐฯ แบนในปี 2019 และถูกจัดว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงในปี 2022

    ✅ การเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อและการเซ็นเซอร์ข้อมูล
    - มีการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของจีนและการเซ็นเซอร์ข้อมูลตามกฎหมายจีน

    ✅ การใช้โมเดล AI และชิป Nvidia โดยไม่ได้รับอนุญาต
    - ใช้โมเดล AI ของสหรัฐฯ และชิป Nvidia ที่ถูกจำกัดการส่งออก

    ✅ คำแนะนำจากคณะกรรมการ
    - ขยายการควบคุมการส่งออกและจัดการความเสี่ยงจากโมเดล AI ของจีน
    - เตรียมรับมือกับความท้าทายทางยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ขั้นสูง

    https://www.techradar.com/computing/cyber-security/deepseek-is-a-profound-threat-to-national-security-and-privacy-according-to-the-us-congress
    รายงานจากคณะกรรมการพิเศษของรัฐสภาสหรัฐฯ เปิดเผยว่า DeepSeek AI ซึ่งเป็นแชทบอท AI จากจีน มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน โดยพบว่ามีการรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน เช่น ประวัติการแชท รายละเอียดอุปกรณ์ และรูปแบบการพิมพ์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถูกส่งกลับไปยังจีนผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมโยงกับบริษัทโทรคมนาคมจีนที่มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพจีน DeepSeek ยังถูกวิจารณ์ว่ามีการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของจีน การเซ็นเซอร์ข้อมูล และการใช้โมเดล AI ของสหรัฐฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการใช้ชิป Nvidia ที่ถูกจำกัดการส่งออก คณะกรรมการแนะนำให้ขยายการควบคุมการส่งออกและจัดการความเสี่ยงจากโมเดล AI ของจีน พร้อมเตรียมรับมือกับความท้าทายทางยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ขั้นสูง ✅ การรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน - รวบรวมข้อมูล เช่น ประวัติการแชท รายละเอียดอุปกรณ์ และรูปแบบการพิมพ์ - ข้อมูลถูกส่งกลับไปยังจีนผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ปลอดภัย ✅ การเชื่อมโยงกับบริษัทโทรคมนาคมจีน - เชื่อมโยงกับ China Mobile ซึ่งถูกสหรัฐฯ แบนในปี 2019 และถูกจัดว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงในปี 2022 ✅ การเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อและการเซ็นเซอร์ข้อมูล - มีการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของจีนและการเซ็นเซอร์ข้อมูลตามกฎหมายจีน ✅ การใช้โมเดล AI และชิป Nvidia โดยไม่ได้รับอนุญาต - ใช้โมเดล AI ของสหรัฐฯ และชิป Nvidia ที่ถูกจำกัดการส่งออก ✅ คำแนะนำจากคณะกรรมการ - ขยายการควบคุมการส่งออกและจัดการความเสี่ยงจากโมเดล AI ของจีน - เตรียมรับมือกับความท้าทายทางยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ขั้นสูง https://www.techradar.com/computing/cyber-security/deepseek-is-a-profound-threat-to-national-security-and-privacy-according-to-the-us-congress
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานจาก Verizon Business ในปี 2025 เปิดเผยว่าการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่สามเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยคิดเป็น 30% ของการโจมตีทั้งหมด การโจมตีเหล่านี้มักใช้บุคคลที่สามเป็นช่องทางในการเข้าถึงระบบของเป้าหมาย เช่น การโจมตีซัพพลายเชนและพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่ง 81% ของการโจมตีบุคคลที่สามเกี่ยวข้องกับการเจาะระบบของเหยื่อ

    ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการโจมตี SolarWinds ในปี 2020 ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยผู้โจมตีได้แทรกโค้ดที่เป็นอันตรายลงในซอฟต์แวร์ Orion ของ SolarWinds และกระจายไปยังลูกค้าประมาณ 18,000 ราย การโจมตีนี้ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ และบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง

    นักวิจัยเตือนว่าผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ควรตรวจสอบโค้ดอย่างละเอียดก่อนใช้งาน โดยเฉพาะโค้ดจากแหล่งโอเพ่นซอร์ส เช่น GitHub ซึ่งมักเป็นเป้าหมายของผู้โจมตี

    ✅ การเพิ่มขึ้นของการโจมตีบุคคลที่สาม
    - การโจมตีบุคคลที่สามเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
    - คิดเป็น 30% ของการโจมตีทางไซเบอร์ทั้งหมด

    ✅ ตัวอย่างการโจมตีที่สำคัญ
    - การโจมตี SolarWinds ในปี 2020 เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุด
    - ผู้โจมตีแทรกโค้ดที่เป็นอันตรายลงในซอฟต์แวร์ Orion และกระจายไปยังลูกค้า

    ✅ คำแนะนำสำหรับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์
    - ตรวจสอบโค้ดอย่างละเอียดก่อนใช้งาน
    - ระมัดระวังโค้ดจากแหล่งโอเพ่นซอร์ส เช่น GitHub

    ✅ ผลกระทบต่อระบบซัพพลายเชน
    - การโจมตีซัพพลายเชนและพันธมิตรทางธุรกิจเพิ่มขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/security/cyberattacks-surged-in-2025-with-third-party-attacks-seeing-a-huge-rise
    รายงานจาก Verizon Business ในปี 2025 เปิดเผยว่าการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่สามเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยคิดเป็น 30% ของการโจมตีทั้งหมด การโจมตีเหล่านี้มักใช้บุคคลที่สามเป็นช่องทางในการเข้าถึงระบบของเป้าหมาย เช่น การโจมตีซัพพลายเชนและพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่ง 81% ของการโจมตีบุคคลที่สามเกี่ยวข้องกับการเจาะระบบของเหยื่อ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการโจมตี SolarWinds ในปี 2020 ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยผู้โจมตีได้แทรกโค้ดที่เป็นอันตรายลงในซอฟต์แวร์ Orion ของ SolarWinds และกระจายไปยังลูกค้าประมาณ 18,000 ราย การโจมตีนี้ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ และบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง นักวิจัยเตือนว่าผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ควรตรวจสอบโค้ดอย่างละเอียดก่อนใช้งาน โดยเฉพาะโค้ดจากแหล่งโอเพ่นซอร์ส เช่น GitHub ซึ่งมักเป็นเป้าหมายของผู้โจมตี ✅ การเพิ่มขึ้นของการโจมตีบุคคลที่สาม - การโจมตีบุคคลที่สามเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า - คิดเป็น 30% ของการโจมตีทางไซเบอร์ทั้งหมด ✅ ตัวอย่างการโจมตีที่สำคัญ - การโจมตี SolarWinds ในปี 2020 เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุด - ผู้โจมตีแทรกโค้ดที่เป็นอันตรายลงในซอฟต์แวร์ Orion และกระจายไปยังลูกค้า ✅ คำแนะนำสำหรับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ - ตรวจสอบโค้ดอย่างละเอียดก่อนใช้งาน - ระมัดระวังโค้ดจากแหล่งโอเพ่นซอร์ส เช่น GitHub ✅ ผลกระทบต่อระบบซัพพลายเชน - การโจมตีซัพพลายเชนและพันธมิตรทางธุรกิจเพิ่มขึ้น https://www.techradar.com/pro/security/cyberattacks-surged-in-2025-with-third-party-attacks-seeing-a-huge-rise
    WWW.TECHRADAR.COM
    Cyberattacks surged in 2025, with third party attacks seeing a huge rise
    Third-party attacks have doubled in recent months, study finds
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • ASUS ได้ออกแพตช์เพื่อแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่อาจทำให้เซิร์ฟเวอร์เสียหายได้ โดยช่องโหว่นี้ถูกติดตามในชื่อ CVE-2024-54085 และได้รับการจัดอันดับความรุนแรงสูงสุดที่ 10/10 ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับ MegaRAC Baseboard Management Controller (BMC) ซึ่งเป็นเฟิร์มแวร์ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการเซิร์ฟเวอร์จากระยะไกล แม้ในขณะที่เซิร์ฟเวอร์ปิดอยู่

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Eclypsium ระบุว่าช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้ในการโจมตีด้วยมัลแวร์ แรนซัมแวร์ และการปรับแต่งเฟิร์มแวร์ ซึ่งอาจนำไปสู่การทำลายฮาร์ดแวร์ เช่น การทำให้เมนบอร์ดเสียหายหรือรีบูตเซิร์ฟเวอร์อย่างไม่สิ้นสุด

    ASUS ได้ออกแพตช์สำหรับเมนบอร์ด 4 รุ่น และแนะนำให้ผู้ใช้งานอัปเดตเฟิร์มแวร์ทันทีเพื่อป้องกันความเสี่ยง

    ✅ ช่องโหว่ใน MegaRAC BMC
    - ช่องโหว่นี้อนุญาตให้ผู้โจมตีข้ามการยืนยันตัวตนผ่าน Redfish Host Interface
    - อาจนำไปสู่การสูญเสียความลับ ความสมบูรณ์ และความพร้อมใช้งานของระบบ

    ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    - การควบคุมเซิร์ฟเวอร์จากระยะไกล
    - การติดตั้งมัลแวร์หรือแรนซัมแวร์
    - การทำลายฮาร์ดแวร์ เช่น เมนบอร์ด

    ✅ การตอบสนองของ ASUS
    - ออกแพตช์สำหรับเมนบอร์ด 4 รุ่น ได้แก่ PRO WS W790E-SAGE SE, PRO WS W680M-ACE SE, PRO WS WRX90E-SAGE SE, และ Pro WS WRX80E-SAGE SE WIFI
    - แนะนำให้อัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที

    ✅ การตอบสนองของผู้ผลิตรายอื่น
    - HPE ได้ออกอัปเดตความปลอดภัยสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ MegaRAC BMC

    https://www.techradar.com/pro/security/asus-patches-security-flaw-which-could-have-bricked-servers
    ASUS ได้ออกแพตช์เพื่อแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่อาจทำให้เซิร์ฟเวอร์เสียหายได้ โดยช่องโหว่นี้ถูกติดตามในชื่อ CVE-2024-54085 และได้รับการจัดอันดับความรุนแรงสูงสุดที่ 10/10 ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับ MegaRAC Baseboard Management Controller (BMC) ซึ่งเป็นเฟิร์มแวร์ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการเซิร์ฟเวอร์จากระยะไกล แม้ในขณะที่เซิร์ฟเวอร์ปิดอยู่ นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Eclypsium ระบุว่าช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้ในการโจมตีด้วยมัลแวร์ แรนซัมแวร์ และการปรับแต่งเฟิร์มแวร์ ซึ่งอาจนำไปสู่การทำลายฮาร์ดแวร์ เช่น การทำให้เมนบอร์ดเสียหายหรือรีบูตเซิร์ฟเวอร์อย่างไม่สิ้นสุด ASUS ได้ออกแพตช์สำหรับเมนบอร์ด 4 รุ่น และแนะนำให้ผู้ใช้งานอัปเดตเฟิร์มแวร์ทันทีเพื่อป้องกันความเสี่ยง ✅ ช่องโหว่ใน MegaRAC BMC - ช่องโหว่นี้อนุญาตให้ผู้โจมตีข้ามการยืนยันตัวตนผ่าน Redfish Host Interface - อาจนำไปสู่การสูญเสียความลับ ความสมบูรณ์ และความพร้อมใช้งานของระบบ ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น - การควบคุมเซิร์ฟเวอร์จากระยะไกล - การติดตั้งมัลแวร์หรือแรนซัมแวร์ - การทำลายฮาร์ดแวร์ เช่น เมนบอร์ด ✅ การตอบสนองของ ASUS - ออกแพตช์สำหรับเมนบอร์ด 4 รุ่น ได้แก่ PRO WS W790E-SAGE SE, PRO WS W680M-ACE SE, PRO WS WRX90E-SAGE SE, และ Pro WS WRX80E-SAGE SE WIFI - แนะนำให้อัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที ✅ การตอบสนองของผู้ผลิตรายอื่น - HPE ได้ออกอัปเดตความปลอดภัยสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ MegaRAC BMC https://www.techradar.com/pro/security/asus-patches-security-flaw-which-could-have-bricked-servers
    WWW.TECHRADAR.COM
    Asus patches security flaw which could have bricked servers
    Flaw spotted in MegaRAC Baseboard Management Controller
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • LinkedIn ได้ขยายฟีเจอร์ Verified on LinkedIn เพื่อช่วยแก้ปัญหาการขโมยข้อมูลและการฉ้อโกงออนไลน์ โดยฟีเจอร์นี้อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถยืนยันตัวตน สถานที่ทำงาน หรือการศึกษา ผ่านการใช้บัตรประจำตัวที่ออกโดยรัฐบาล อีเมลที่ทำงาน หรือบริการของบุคคลที่สาม เช่น CLEAR และ Microsoft Entra ผู้ใช้งานที่ยืนยันตัวตนจะได้รับตราสัญลักษณ์บนหน้าโปรไฟล์เพื่อแสดงความน่าเชื่อถือ

    ล่าสุด LinkedIn ได้ขยายการใช้งานฟีเจอร์นี้ไปยังเว็บไซต์ภายนอก เช่น Adobe Content Authenticity และ Behance ซึ่งช่วยให้ผู้สร้างเนื้อหาสามารถแสดงตราสัญลักษณ์ Verified on LinkedIn บนโปรไฟล์ของตนได้เช่นกัน

    ✅ การยืนยันตัวตนบน LinkedIn
    - ผู้ใช้งานสามารถยืนยันตัวตน สถานที่ทำงาน หรือการศึกษา ผ่านบัตรประจำตัว อีเมลที่ทำงาน หรือบริการของบุคคลที่สาม
    - ผู้ใช้งานที่ยืนยันตัวตนจะได้รับตราสัญลักษณ์บนหน้าโปรไฟล์

    ✅ การขยายการใช้งานไปยังเว็บไซต์ภายนอก
    - เว็บไซต์ Adobe Content Authenticity และ Behance สามารถแสดงตราสัญลักษณ์ Verified on LinkedIn บนโปรไฟล์ของผู้ใช้งานได้

    ✅ เป้าหมายของฟีเจอร์นี้
    - ช่วยแก้ปัญหาการขโมยข้อมูลและการฉ้อโกงออนไลน์
    - เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผู้ใช้งานในโลกออนไลน์

    ✅ การพัฒนาฟีเจอร์เพิ่มเติม
    - LinkedIn ได้เพิ่มการยืนยันตัวตนสำหรับผู้สรรหางานเพื่อป้องกันการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับงาน

    https://www.techradar.com/pro/security/linkedin-adds-new-verification-tool-to-ensure-security-across-the-internet
    LinkedIn ได้ขยายฟีเจอร์ Verified on LinkedIn เพื่อช่วยแก้ปัญหาการขโมยข้อมูลและการฉ้อโกงออนไลน์ โดยฟีเจอร์นี้อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถยืนยันตัวตน สถานที่ทำงาน หรือการศึกษา ผ่านการใช้บัตรประจำตัวที่ออกโดยรัฐบาล อีเมลที่ทำงาน หรือบริการของบุคคลที่สาม เช่น CLEAR และ Microsoft Entra ผู้ใช้งานที่ยืนยันตัวตนจะได้รับตราสัญลักษณ์บนหน้าโปรไฟล์เพื่อแสดงความน่าเชื่อถือ ล่าสุด LinkedIn ได้ขยายการใช้งานฟีเจอร์นี้ไปยังเว็บไซต์ภายนอก เช่น Adobe Content Authenticity และ Behance ซึ่งช่วยให้ผู้สร้างเนื้อหาสามารถแสดงตราสัญลักษณ์ Verified on LinkedIn บนโปรไฟล์ของตนได้เช่นกัน ✅ การยืนยันตัวตนบน LinkedIn - ผู้ใช้งานสามารถยืนยันตัวตน สถานที่ทำงาน หรือการศึกษา ผ่านบัตรประจำตัว อีเมลที่ทำงาน หรือบริการของบุคคลที่สาม - ผู้ใช้งานที่ยืนยันตัวตนจะได้รับตราสัญลักษณ์บนหน้าโปรไฟล์ ✅ การขยายการใช้งานไปยังเว็บไซต์ภายนอก - เว็บไซต์ Adobe Content Authenticity และ Behance สามารถแสดงตราสัญลักษณ์ Verified on LinkedIn บนโปรไฟล์ของผู้ใช้งานได้ ✅ เป้าหมายของฟีเจอร์นี้ - ช่วยแก้ปัญหาการขโมยข้อมูลและการฉ้อโกงออนไลน์ - เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผู้ใช้งานในโลกออนไลน์ ✅ การพัฒนาฟีเจอร์เพิ่มเติม - LinkedIn ได้เพิ่มการยืนยันตัวตนสำหรับผู้สรรหางานเพื่อป้องกันการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับงาน https://www.techradar.com/pro/security/linkedin-adds-new-verification-tool-to-ensure-security-across-the-internet
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel กำลังเผชิญกับความท้าทายในการขายชิป AI PC รุ่นใหม่ เช่น Lunar Lake และ Meteor Lake ซึ่งมีราคาสูงกว่าชิป Raptor Lake รุ่นก่อนหน้าอย่างมาก ผู้บริโภคและ OEMs เลือกใช้ชิปรุ่นเก่าที่มีราคาย่อมเยาแทน ส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนกำลังการผลิตสำหรับชิปรุ่นเก่าในกระบวนการผลิต Intel 7 นอกจากนี้ Intel ยังประกาศแผนการปรับโครงสร้างองค์กรและการลดต้นทุน รวมถึงการเลิกจ้างพนักงานเพื่อรับมือกับผลประกอบการที่ลดลง

    Intel ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสร้างระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนาเพื่อเพิ่มการใช้งานชิป AI PC อย่างไรก็ตาม การขาดแคลนแอปพลิเคชันที่ดึงดูดผู้บริโภคยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ

    ✅ ปัญหาการขายชิป AI PC รุ่นใหม่
    - Lunar Lake และ Meteor Lake มีราคาสูงกว่าชิปรุ่นก่อนหน้า
    - ผู้บริโภคและ OEMs เลือกใช้ชิปรุ่นเก่า เช่น Raptor Lake

    ✅ ปัญหาขาดแคลนกำลังการผลิต
    - Intel เผชิญกับปัญหาขาดแคลนกำลังการผลิตสำหรับชิปรุ่นเก่าในกระบวนการผลิต Intel 7
    - ความต้องการชิปรุ่นเก่าเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาที่เหมาะสม

    ✅ แผนการปรับโครงสร้างองค์กร
    - Intel ประกาศแผนการลดต้นทุนและการเลิกจ้างพนักงาน
    - มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสร้างระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนา

    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยี AI
    - Intel ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสร้างระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนา

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-ai-pc-chips-arent-selling-instead-last-gen-raptor-lake-booms-and-creates-a-shortage
    Intel กำลังเผชิญกับความท้าทายในการขายชิป AI PC รุ่นใหม่ เช่น Lunar Lake และ Meteor Lake ซึ่งมีราคาสูงกว่าชิป Raptor Lake รุ่นก่อนหน้าอย่างมาก ผู้บริโภคและ OEMs เลือกใช้ชิปรุ่นเก่าที่มีราคาย่อมเยาแทน ส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนกำลังการผลิตสำหรับชิปรุ่นเก่าในกระบวนการผลิต Intel 7 นอกจากนี้ Intel ยังประกาศแผนการปรับโครงสร้างองค์กรและการลดต้นทุน รวมถึงการเลิกจ้างพนักงานเพื่อรับมือกับผลประกอบการที่ลดลง Intel ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสร้างระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนาเพื่อเพิ่มการใช้งานชิป AI PC อย่างไรก็ตาม การขาดแคลนแอปพลิเคชันที่ดึงดูดผู้บริโภคยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ ✅ ปัญหาการขายชิป AI PC รุ่นใหม่ - Lunar Lake และ Meteor Lake มีราคาสูงกว่าชิปรุ่นก่อนหน้า - ผู้บริโภคและ OEMs เลือกใช้ชิปรุ่นเก่า เช่น Raptor Lake ✅ ปัญหาขาดแคลนกำลังการผลิต - Intel เผชิญกับปัญหาขาดแคลนกำลังการผลิตสำหรับชิปรุ่นเก่าในกระบวนการผลิต Intel 7 - ความต้องการชิปรุ่นเก่าเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาที่เหมาะสม ✅ แผนการปรับโครงสร้างองค์กร - Intel ประกาศแผนการลดต้นทุนและการเลิกจ้างพนักงาน - มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสร้างระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนา ✅ การพัฒนาเทคโนโลยี AI - Intel ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสร้างระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนา https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-ai-pc-chips-arent-selling-instead-last-gen-raptor-lake-booms-and-creates-a-shortage
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ได้เปิดตัวไดรเวอร์ GIM (GPU-IOV) แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับการใช้งานด้านการจำลองเสมือน (virtualization) โดยไดรเวอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ GPU ในกลุ่ม Instinct accelerators และในอนาคตจะขยายการรองรับไปยัง GPU สำหรับเดสก์ท็อปในตระกูล Radeon ตามแผนงานของ AMD

    ปัจจุบัน GIM driver รองรับเฉพาะ Instinct MI300X ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Ubuntu 22.04 LTS และใช้ ROCm 6.4 โดยยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการขยายความเข้ากันได้หรือการรวมไดรเวอร์นี้เข้าสู่ Linux kernel หลัก

    การเปิดตัว GIM driver เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ AMD ในการเปิดซอร์สซอฟต์แวร์ของตน ซึ่งเริ่มต้นจากการตอบสนองต่อคำเรียกร้องจากนักพัฒนาและบริษัท AI เช่น Tiny Corp ที่ต้องการซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สเพื่อปรับแต่ง GPU สำหรับเซิร์ฟเวอร์ของตน

    ✅ การเปิดตัว GIM driver แบบโอเพ่นซอร์ส
    - รองรับการจำลองเสมือนสำหรับ GPU ในกลุ่ม Instinct accelerators
    - ปัจจุบันรองรับเฉพาะ Instinct MI300X บน Ubuntu 22.04 LTS

    ✅ แผนการขยายการรองรับในอนาคต
    - AMD มีแผนที่จะเพิ่มการรองรับ GPU สำหรับเดสก์ท็อปในตระกูล Radeon
    - ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการรวมไดรเวอร์นี้เข้าสู่ Linux kernel หลัก

    ✅ การตอบสนองต่อคำเรียกร้องจากนักพัฒนา
    - Tiny Corp เป็นหนึ่งในบริษัทที่เรียกร้องให้ AMD เปิดซอร์สซอฟต์แวร์
    - การเปิดซอร์สช่วยให้นักพัฒนาสามารถปรับแต่ง GPU ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

    ✅ การพัฒนาเพิ่มเติมในอนาคต
    - AMD จะเปิดซอร์ส Micro Engine Scheduler (MES) ในเดือนพฤษภาคม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/amd-releases-open-source-gim-driver-aimed-at-gpu-virtualization-support-for-mainstream-radeon-gpus-coming-later
    AMD ได้เปิดตัวไดรเวอร์ GIM (GPU-IOV) แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับการใช้งานด้านการจำลองเสมือน (virtualization) โดยไดรเวอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ GPU ในกลุ่ม Instinct accelerators และในอนาคตจะขยายการรองรับไปยัง GPU สำหรับเดสก์ท็อปในตระกูล Radeon ตามแผนงานของ AMD ปัจจุบัน GIM driver รองรับเฉพาะ Instinct MI300X ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Ubuntu 22.04 LTS และใช้ ROCm 6.4 โดยยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการขยายความเข้ากันได้หรือการรวมไดรเวอร์นี้เข้าสู่ Linux kernel หลัก การเปิดตัว GIM driver เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ AMD ในการเปิดซอร์สซอฟต์แวร์ของตน ซึ่งเริ่มต้นจากการตอบสนองต่อคำเรียกร้องจากนักพัฒนาและบริษัท AI เช่น Tiny Corp ที่ต้องการซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สเพื่อปรับแต่ง GPU สำหรับเซิร์ฟเวอร์ของตน ✅ การเปิดตัว GIM driver แบบโอเพ่นซอร์ส - รองรับการจำลองเสมือนสำหรับ GPU ในกลุ่ม Instinct accelerators - ปัจจุบันรองรับเฉพาะ Instinct MI300X บน Ubuntu 22.04 LTS ✅ แผนการขยายการรองรับในอนาคต - AMD มีแผนที่จะเพิ่มการรองรับ GPU สำหรับเดสก์ท็อปในตระกูล Radeon - ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการรวมไดรเวอร์นี้เข้าสู่ Linux kernel หลัก ✅ การตอบสนองต่อคำเรียกร้องจากนักพัฒนา - Tiny Corp เป็นหนึ่งในบริษัทที่เรียกร้องให้ AMD เปิดซอร์สซอฟต์แวร์ - การเปิดซอร์สช่วยให้นักพัฒนาสามารถปรับแต่ง GPU ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ✅ การพัฒนาเพิ่มเติมในอนาคต - AMD จะเปิดซอร์ส Micro Engine Scheduler (MES) ในเดือนพฤษภาคม https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/amd-releases-open-source-gim-driver-aimed-at-gpu-virtualization-support-for-mainstream-radeon-gpus-coming-later
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC ได้เปิดเผยแผนการพัฒนาโปรเซสเซอร์แบบ multi-chiplet ที่มีขนาดใหญ่และทรงพลังที่สุดในโลก โดยใช้เทคโนโลยี CoWoS-L ซึ่งสามารถรองรับ interposer ขนาดใหญ่ถึง 7,885 mm² และใช้ substrate ขนาด 120×150 mm ซึ่งใหญ่กว่ากล่อง CD ทั่วไป การออกแบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้ถึง 40 เท่า เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์มาตรฐาน

    โปรเซสเซอร์เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลและ AI ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง โดยมีการใช้ HBM4 memory stacks และ SoICs ที่ช่วยเพิ่มความเร็วและลดการใช้พลังงาน นอกจากนี้ TSMC ยังได้พัฒนาเทคโนโลยีการจัดการพลังงานที่สามารถรองรับการใช้พลังงานระดับ kilowatt-class เพื่อเพิ่มความเสถียรและประสิทธิภาพของระบบ

    ✅ การใช้เทคโนโลยี CoWoS-L
    - รองรับ interposer ขนาดใหญ่ถึง 7,885 mm²
    - ใช้ substrate ขนาด 120×150 mm ซึ่งใหญ่กว่ากล่อง CD

    ✅ การเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล
    - เพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้ถึง 40 เท่าเมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์มาตรฐาน
    - ใช้ HBM4 memory stacks และ SoICs เพื่อเพิ่มความเร็วและลดการใช้พลังงาน

    ✅ การจัดการพลังงานระดับ kilowatt-class
    - ใช้ monolithic power management ICs (PMICs) และ embedded deep trench capacitors (eDTC)
    - ช่วยลดความต้านทานและเพิ่มความเสถียรของระบบ

    ✅ การตอบสนองต่อความต้องการในตลาด AI
    - โปรเซสเซอร์เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลและ AI

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/tsmc-mulls-massive-1000w-class-multi-chiplet-processors-with-40x-the-performance-of-standard-models
    TSMC ได้เปิดเผยแผนการพัฒนาโปรเซสเซอร์แบบ multi-chiplet ที่มีขนาดใหญ่และทรงพลังที่สุดในโลก โดยใช้เทคโนโลยี CoWoS-L ซึ่งสามารถรองรับ interposer ขนาดใหญ่ถึง 7,885 mm² และใช้ substrate ขนาด 120×150 mm ซึ่งใหญ่กว่ากล่อง CD ทั่วไป การออกแบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้ถึง 40 เท่า เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์มาตรฐาน โปรเซสเซอร์เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลและ AI ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง โดยมีการใช้ HBM4 memory stacks และ SoICs ที่ช่วยเพิ่มความเร็วและลดการใช้พลังงาน นอกจากนี้ TSMC ยังได้พัฒนาเทคโนโลยีการจัดการพลังงานที่สามารถรองรับการใช้พลังงานระดับ kilowatt-class เพื่อเพิ่มความเสถียรและประสิทธิภาพของระบบ ✅ การใช้เทคโนโลยี CoWoS-L - รองรับ interposer ขนาดใหญ่ถึง 7,885 mm² - ใช้ substrate ขนาด 120×150 mm ซึ่งใหญ่กว่ากล่อง CD ✅ การเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล - เพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้ถึง 40 เท่าเมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์มาตรฐาน - ใช้ HBM4 memory stacks และ SoICs เพื่อเพิ่มความเร็วและลดการใช้พลังงาน ✅ การจัดการพลังงานระดับ kilowatt-class - ใช้ monolithic power management ICs (PMICs) และ embedded deep trench capacitors (eDTC) - ช่วยลดความต้านทานและเพิ่มความเสถียรของระบบ ✅ การตอบสนองต่อความต้องการในตลาด AI - โปรเซสเซอร์เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลและ AI https://www.tomshardware.com/tech-industry/tsmc-mulls-massive-1000w-class-multi-chiplet-processors-with-40x-the-performance-of-standard-models
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้กล่าวถึงการเปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ AMD RX 9070 GRE (Great Radeon Edition) ซึ่งเป็นการ์ดจอที่มีราคาย่อมเยาที่สุดในซีรีส์ RX 9070 โดยใช้ชิป Navi 48 GPU ที่ถูกปรับลดสเปกลงเพื่อให้เหมาะสมกับตลาดที่ต้องการราคาประหยัด การ์ดจอรุ่นนี้มีหน่วยความจำ 12GB GDDR6 และอินเทอร์เฟซหน่วยความจำแบบ 192-bit พร้อมความเร็วสูงสุดที่ 2.79 GHz

    การ์ดจอ RX 9070 GRE มีการออกแบบที่เน้นการระบายความร้อนด้วยพัดลมสามตัว และมีการใช้พลังงานขั้นต่ำที่ 650W โดยมีการคาดการณ์ว่าการ์ดจอรุ่นนี้อาจเป็นผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายเฉพาะในตลาดจีน

    ✅ การใช้ชิป Navi 48 GPU
    - มี 3,072 คอร์ที่เปิดใช้งาน
    - อินเทอร์เฟซหน่วยความจำแบบ 192-bit และหน่วยความจำ 12GB GDDR6

    ✅ การออกแบบและการใช้พลังงาน
    - ใช้พัดลมสามตัวสำหรับการระบายความร้อน
    - ต้องการพลังงานขั้นต่ำที่ 650W

    ✅ การเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
    - มีความคล้ายคลึงกับ RX 7700 XT ในแง่ของจำนวนคอร์และอินเทอร์เฟซหน่วยความจำ
    - RX 9070 GRE ถูกออกแบบมาเพื่อแทนที่ RX 7700 XT

    ✅ การวางจำหน่ายและตลาดเป้าหมาย
    - คาดว่าจะวางจำหน่ายในตลาดจีนเป็นหลัก
    - มีการออกแบบกล่องที่มีข้อความทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/amd-rx-9070-gre-allegedly-ready-for-launch-navi-48-gpu-trimmed-down-to-12gb-vram-and-48-compute-units
    ข่าวนี้กล่าวถึงการเปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ AMD RX 9070 GRE (Great Radeon Edition) ซึ่งเป็นการ์ดจอที่มีราคาย่อมเยาที่สุดในซีรีส์ RX 9070 โดยใช้ชิป Navi 48 GPU ที่ถูกปรับลดสเปกลงเพื่อให้เหมาะสมกับตลาดที่ต้องการราคาประหยัด การ์ดจอรุ่นนี้มีหน่วยความจำ 12GB GDDR6 และอินเทอร์เฟซหน่วยความจำแบบ 192-bit พร้อมความเร็วสูงสุดที่ 2.79 GHz การ์ดจอ RX 9070 GRE มีการออกแบบที่เน้นการระบายความร้อนด้วยพัดลมสามตัว และมีการใช้พลังงานขั้นต่ำที่ 650W โดยมีการคาดการณ์ว่าการ์ดจอรุ่นนี้อาจเป็นผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายเฉพาะในตลาดจีน ✅ การใช้ชิป Navi 48 GPU - มี 3,072 คอร์ที่เปิดใช้งาน - อินเทอร์เฟซหน่วยความจำแบบ 192-bit และหน่วยความจำ 12GB GDDR6 ✅ การออกแบบและการใช้พลังงาน - ใช้พัดลมสามตัวสำหรับการระบายความร้อน - ต้องการพลังงานขั้นต่ำที่ 650W ✅ การเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า - มีความคล้ายคลึงกับ RX 7700 XT ในแง่ของจำนวนคอร์และอินเทอร์เฟซหน่วยความจำ - RX 9070 GRE ถูกออกแบบมาเพื่อแทนที่ RX 7700 XT ✅ การวางจำหน่ายและตลาดเป้าหมาย - คาดว่าจะวางจำหน่ายในตลาดจีนเป็นหลัก - มีการออกแบบกล่องที่มีข้อความทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/amd-rx-9070-gre-allegedly-ready-for-launch-navi-48-gpu-trimmed-down-to-12gb-vram-and-48-compute-units
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD RX 9070 GRE allegedly ready for launch — Navi 48 GPU trimmed down to 12GB VRAM and 48 compute units
    AMD's third RDNA4 GPU is ready to roll, but it might be exclusive to Chinese customers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้เปิดตัวแผนพัฒนาชิปสำหรับยานยนต์รุ่นใหม่ในงาน Auto Shanghai 2025 โดยชิปที่เรียกว่า Frisco Lake ซึ่งเป็นรุ่นที่สองของ SoC (System-on-Chip) สำหรับยานยนต์ที่พัฒนาขึ้นจากสถาปัตยกรรม Panther Lake และมีการคาดการณ์ว่ารุ่นถัดไปจะใช้สถาปัตยกรรม Nova Lake ชิปเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ (Software-Defined Vehicles) ซึ่งเน้นการใช้ซอฟต์แวร์ในการควบคุมฟังก์ชันต่างๆ แทนที่จะใช้ส่วนประกอบทางกลไกหรืออิเล็กทรอนิกส์แบบดั้งเดิม

    Frisco Lake มีประสิทธิภาพ AI สูงกว่ารุ่นก่อนถึง 10 เท่า และประหยัดพลังงานมากขึ้น 61% โดยใช้เทคโนโลยีการผลิต Intel 18A และมีการปรับปรุงสถาปัตยกรรมจาก Raptor Cove เป็น Cougar Cove

    ✅ การเปิดตัว Frisco Lake
    - เป็น SoC รุ่นที่สองสำหรับยานยนต์ที่พัฒนาจากสถาปัตยกรรม Panther Lake
    - มีประสิทธิภาพ AI สูงกว่ารุ่นก่อนถึง 10 เท่า และประหยัดพลังงานมากขึ้น 61%

    ✅ การใช้เทคโนโลยี Intel 18A
    - ใช้เทคโนโลยีการผลิต Intel 18A เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน
    - มีการปรับปรุงสถาปัตยกรรมจาก Raptor Cove เป็น Cougar Cove

    ✅ การพัฒนารุ่นถัดไป
    - รุ่นถัดไปที่เรียกว่า Grizzly Lake จะใช้สถาปัตยกรรม Nova Lake
    - มีการคาดการณ์ว่าจะมี 32 คอร์ และ GPU ที่รองรับ 7 TFLOPS

    ✅ การตอบสนองต่อความต้องการในตลาดยานยนต์
    - รองรับการใช้งานในยานยนต์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น ADAS และการขับขี่อัตโนมัติ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/panther-lake-and-nova-lake-reportedly-power-intels-next-gen-automotive-socs-intel-releases-new-roadmap
    Intel ได้เปิดตัวแผนพัฒนาชิปสำหรับยานยนต์รุ่นใหม่ในงาน Auto Shanghai 2025 โดยชิปที่เรียกว่า Frisco Lake ซึ่งเป็นรุ่นที่สองของ SoC (System-on-Chip) สำหรับยานยนต์ที่พัฒนาขึ้นจากสถาปัตยกรรม Panther Lake และมีการคาดการณ์ว่ารุ่นถัดไปจะใช้สถาปัตยกรรม Nova Lake ชิปเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ (Software-Defined Vehicles) ซึ่งเน้นการใช้ซอฟต์แวร์ในการควบคุมฟังก์ชันต่างๆ แทนที่จะใช้ส่วนประกอบทางกลไกหรืออิเล็กทรอนิกส์แบบดั้งเดิม Frisco Lake มีประสิทธิภาพ AI สูงกว่ารุ่นก่อนถึง 10 เท่า และประหยัดพลังงานมากขึ้น 61% โดยใช้เทคโนโลยีการผลิต Intel 18A และมีการปรับปรุงสถาปัตยกรรมจาก Raptor Cove เป็น Cougar Cove ✅ การเปิดตัว Frisco Lake - เป็น SoC รุ่นที่สองสำหรับยานยนต์ที่พัฒนาจากสถาปัตยกรรม Panther Lake - มีประสิทธิภาพ AI สูงกว่ารุ่นก่อนถึง 10 เท่า และประหยัดพลังงานมากขึ้น 61% ✅ การใช้เทคโนโลยี Intel 18A - ใช้เทคโนโลยีการผลิต Intel 18A เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน - มีการปรับปรุงสถาปัตยกรรมจาก Raptor Cove เป็น Cougar Cove ✅ การพัฒนารุ่นถัดไป - รุ่นถัดไปที่เรียกว่า Grizzly Lake จะใช้สถาปัตยกรรม Nova Lake - มีการคาดการณ์ว่าจะมี 32 คอร์ และ GPU ที่รองรับ 7 TFLOPS ✅ การตอบสนองต่อความต้องการในตลาดยานยนต์ - รองรับการใช้งานในยานยนต์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น ADAS และการขับขี่อัตโนมัติ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/panther-lake-and-nova-lake-reportedly-power-intels-next-gen-automotive-socs-intel-releases-new-roadmap
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC ได้ประกาศเริ่มการผลิตชิป N2 (2nm-class) ในปริมาณมากในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยเทคโนโลยีนี้ใช้ Gate-All-Around (GAA) nanosheet transistors ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงาน และเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ นอกจากนี้ TSMC ยังได้เปิดเผยแผนการพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติม เช่น N2P และ A16 ที่จะเข้าสู่การผลิตในปี 2026 และ N2X ที่มุ่งเน้นการเพิ่มความเร็วสูงสุดในปี 2027

    ✅ การเริ่มต้นการผลิตชิป N2
    - ใช้ Gate-All-Around (GAA) nanosheet transistors เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน
    - ช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 25–30% และเพิ่มประสิทธิภาพ 10–15% เมื่อเทียบกับ N3E

    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติม
    - N2P: เพิ่มประสิทธิภาพ 5–10% และลดการใช้พลังงาน 5–10% เมื่อเทียบกับ N2
    - A16: ใช้ Super Power Rail (SPR) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่งพลังงาน
    - N2X: มุ่งเน้นการเพิ่มความเร็วสูงสุดสำหรับ CPU และศูนย์ข้อมูล

    ✅ การนำไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ต่างๆ
    - AMD EPYC 'Venice' CPUs สำหรับศูนย์ข้อมูล
    - ชิปสำหรับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และ PC ของ Apple ในปี 2025

    ✅ การตอบสนองของตลาด
    - N2 มีการนำไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ใหม่มากกว่า N5 ถึง 4 เท่าในปีที่สอง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/tsmcs-2nm-n2-process-node-enters-production-this-year-a16-and-n2p-arriving-next-year
    TSMC ได้ประกาศเริ่มการผลิตชิป N2 (2nm-class) ในปริมาณมากในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยเทคโนโลยีนี้ใช้ Gate-All-Around (GAA) nanosheet transistors ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงาน และเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ นอกจากนี้ TSMC ยังได้เปิดเผยแผนการพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติม เช่น N2P และ A16 ที่จะเข้าสู่การผลิตในปี 2026 และ N2X ที่มุ่งเน้นการเพิ่มความเร็วสูงสุดในปี 2027 ✅ การเริ่มต้นการผลิตชิป N2 - ใช้ Gate-All-Around (GAA) nanosheet transistors เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน - ช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 25–30% และเพิ่มประสิทธิภาพ 10–15% เมื่อเทียบกับ N3E ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติม - N2P: เพิ่มประสิทธิภาพ 5–10% และลดการใช้พลังงาน 5–10% เมื่อเทียบกับ N2 - A16: ใช้ Super Power Rail (SPR) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่งพลังงาน - N2X: มุ่งเน้นการเพิ่มความเร็วสูงสุดสำหรับ CPU และศูนย์ข้อมูล ✅ การนำไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ต่างๆ - AMD EPYC 'Venice' CPUs สำหรับศูนย์ข้อมูล - ชิปสำหรับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และ PC ของ Apple ในปี 2025 ✅ การตอบสนองของตลาด - N2 มีการนำไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ใหม่มากกว่า N5 ถึง 4 เท่าในปีที่สอง https://www.tomshardware.com/tech-industry/tsmcs-2nm-n2-process-node-enters-production-this-year-a16-and-n2p-arriving-next-year
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้กล่าวถึงผลกระทบจากนโยบายภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งผลให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ เช่น Lenovo, HP และ Dell ต้องพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย โดยนโยบายภาษีที่สูงถึง 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

    ซาอุดีอาระเบียได้เสนอสิ่งจูงใจที่น่าสนใจ เช่น การรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด และการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) ซึ่งมีมูลค่าถึง 620 พันล้านดอลลาร์ โดย Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบียเพื่อขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา

    ✅ การย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย
    - Lenovo, HP และ Dell กำลังพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย
    - Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบีย

    ✅ สิ่งจูงใจจากซาอุดีอาระเบีย
    - ซาอุดีอาระเบียเสนอการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด
    - กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

    ✅ ผลกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์
    - ภาษี 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิต
    - ซาอุดีอาระเบียมีภาษีเพียง 10% ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

    ✅ การขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา
    - การย้ายฐานการผลิตช่วยเพิ่มการเข้าถึงตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา

    https://www.techspot.com/news/107672-trump-tariffs-push-world-top-pc-makers-toward.html
    ข่าวนี้กล่าวถึงผลกระทบจากนโยบายภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งผลให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ เช่น Lenovo, HP และ Dell ต้องพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย โดยนโยบายภาษีที่สูงถึง 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซาอุดีอาระเบียได้เสนอสิ่งจูงใจที่น่าสนใจ เช่น การรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด และการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) ซึ่งมีมูลค่าถึง 620 พันล้านดอลลาร์ โดย Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบียเพื่อขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา ✅ การย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย - Lenovo, HP และ Dell กำลังพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย - Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบีย ✅ สิ่งจูงใจจากซาอุดีอาระเบีย - ซาอุดีอาระเบียเสนอการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด - กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ✅ ผลกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์ - ภาษี 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิต - ซาอุดีอาระเบียมีภาษีเพียง 10% ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ✅ การขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา - การย้ายฐานการผลิตช่วยเพิ่มการเข้าถึงตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา https://www.techspot.com/news/107672-trump-tariffs-push-world-top-pc-makers-toward.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Trump tariffs push top PC makers Lenovo, HP, and Dell toward Saudi Arabia
    The so-called "reciprocal tariffs" imposed by the Trump administration could push major PC manufacturers to find new production hubs, and it likely won't be in the US....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้ทำข้อตกลงกับ Samsung เพื่อให้ Gemini AI ซึ่งเป็นแชทบอท AI ของ Google ถูกติดตั้งล่วงหน้าบนอุปกรณ์มือถือรุ่นใหม่ของ Samsung โดยข้อตกลงนี้มีระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี และ Google จะจ่ายเงินให้ Samsung เป็นรายเดือนสำหรับอุปกรณ์ที่ติดตั้ง Gemini AI นอกจากนี้ Samsung ยังได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินและรายได้จากโฆษณาในอนาคต

    Gemini AI ยังไม่มีโฆษณาในขณะนี้ แต่ Google กำลังพิจารณาเพิ่มฟีเจอร์นี้ในอนาคตเพื่อเพิ่มรายได้ อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้อาจต้องถูกพิจารณาใหม่ เนื่องจาก Google กำลังเผชิญกับคดีการผูกขาดทางโฆษณาในศาลสหรัฐฯ

    ✅ Gemini AI ถูกติดตั้งล่วงหน้าบนอุปกรณ์ Samsung
    - ข้อตกลงมีระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี
    - Google จ่ายเงินให้ Samsung เป็นรายเดือนสำหรับอุปกรณ์ที่ติดตั้ง Gemini AI

    ✅ ส่วนแบ่งรายได้จากการสมัครสมาชิกและโฆษณา
    - Samsung ได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการสมัครสมาชิกแบบชำระเงิน
    - รายได้จากโฆษณาในอนาคตจะถูกแบ่งปันกับ Samsung

    ✅ การพิจารณาเพิ่มโฆษณาใน Gemini AI
    - Google กำลังพิจารณาเพิ่มโฆษณาใน Gemini AI เพื่อเพิ่มรายได้
    - การตัดสินใจนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของแชทบอทในการช่วยเหลือผู้ใช้งาน

    ✅ การแข่งขันในตลาด AI
    - Samsung ได้รับข้อเสนอจากบริษัทอื่นก่อนที่จะเลือก Google

    https://www.techspot.com/news/107664-google-shelling-out-big-bucks-put-gemini-ai.html
    Google ได้ทำข้อตกลงกับ Samsung เพื่อให้ Gemini AI ซึ่งเป็นแชทบอท AI ของ Google ถูกติดตั้งล่วงหน้าบนอุปกรณ์มือถือรุ่นใหม่ของ Samsung โดยข้อตกลงนี้มีระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี และ Google จะจ่ายเงินให้ Samsung เป็นรายเดือนสำหรับอุปกรณ์ที่ติดตั้ง Gemini AI นอกจากนี้ Samsung ยังได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินและรายได้จากโฆษณาในอนาคต Gemini AI ยังไม่มีโฆษณาในขณะนี้ แต่ Google กำลังพิจารณาเพิ่มฟีเจอร์นี้ในอนาคตเพื่อเพิ่มรายได้ อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้อาจต้องถูกพิจารณาใหม่ เนื่องจาก Google กำลังเผชิญกับคดีการผูกขาดทางโฆษณาในศาลสหรัฐฯ ✅ Gemini AI ถูกติดตั้งล่วงหน้าบนอุปกรณ์ Samsung - ข้อตกลงมีระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี - Google จ่ายเงินให้ Samsung เป็นรายเดือนสำหรับอุปกรณ์ที่ติดตั้ง Gemini AI ✅ ส่วนแบ่งรายได้จากการสมัครสมาชิกและโฆษณา - Samsung ได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการสมัครสมาชิกแบบชำระเงิน - รายได้จากโฆษณาในอนาคตจะถูกแบ่งปันกับ Samsung ✅ การพิจารณาเพิ่มโฆษณาใน Gemini AI - Google กำลังพิจารณาเพิ่มโฆษณาใน Gemini AI เพื่อเพิ่มรายได้ - การตัดสินใจนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของแชทบอทในการช่วยเหลือผู้ใช้งาน ✅ การแข่งขันในตลาด AI - Samsung ได้รับข้อเสนอจากบริษัทอื่นก่อนที่จะเลือก Google https://www.techspot.com/news/107664-google-shelling-out-big-bucks-put-gemini-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google is shelling out big bucks to put Gemini AI on Samsung devices
    Alphabet is spending an "enormous sum of money" to keep its Gemini chatbot preinstalled on Samsung phones. According to Google's vice president of platforms and device partnerships,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้ประกาศนโยบายใหม่ที่เข้มงวดขึ้นสำหรับพนักงานที่ทำงานจากระยะไกล โดยกำหนดให้พนักงานที่ทำงานจากบ้านต้องกลับมาทำงานที่สำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ มิฉะนั้นอาจต้องเผชิญกับการเลิกจ้าง นโยบายนี้เริ่มต้นในปี 2023 โดย Google ได้ติดตามการเข้าทำงานของพนักงานผ่านบัตรประจำตัว และใช้ข้อมูลนี้ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน

    ในปี 2025 Google ได้ขยายมาตรการนี้ไปยังพนักงานในหน่วยงานต่างๆ เช่น Google Technical Services และ People Operations โดยเสนอแพ็กเกจการออกจากงานโดยสมัครใจ และค่าใช้จ่ายในการย้ายที่อยู่สำหรับพนักงานที่ต้องการย้ายไปอยู่ใกล้สำนักงาน

    ✅ การกำหนดให้พนักงานกลับมาทำงานที่สำนักงาน
    - พนักงานที่ทำงานจากบ้านต้องกลับมาทำงานที่สำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์
    - พนักงานที่ไม่ปฏิบัติตามอาจต้องเผชิญกับการเลิกจ้าง

    ✅ การติดตามการเข้าทำงานของพนักงาน
    - Google ใช้ข้อมูลจากบัตรประจำตัวในการติดตามการเข้าทำงาน
    - ข้อมูลนี้ถูกนำมาใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน

    ✅ การขยายมาตรการไปยังหน่วยงานต่างๆ
    - Google Technical Services และ People Operations ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้
    - มีการเสนอแพ็กเกจการออกจากงานโดยสมัครใจ และค่าใช้จ่ายในการย้ายที่อยู่

    ✅ เป้าหมายของนโยบาย
    - เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสนับสนุนการพัฒนา AI ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง

    https://www.techspot.com/news/107669-google-tells-remote-workers-return-office-or-face.html
    Google ได้ประกาศนโยบายใหม่ที่เข้มงวดขึ้นสำหรับพนักงานที่ทำงานจากระยะไกล โดยกำหนดให้พนักงานที่ทำงานจากบ้านต้องกลับมาทำงานที่สำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ มิฉะนั้นอาจต้องเผชิญกับการเลิกจ้าง นโยบายนี้เริ่มต้นในปี 2023 โดย Google ได้ติดตามการเข้าทำงานของพนักงานผ่านบัตรประจำตัว และใช้ข้อมูลนี้ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน ในปี 2025 Google ได้ขยายมาตรการนี้ไปยังพนักงานในหน่วยงานต่างๆ เช่น Google Technical Services และ People Operations โดยเสนอแพ็กเกจการออกจากงานโดยสมัครใจ และค่าใช้จ่ายในการย้ายที่อยู่สำหรับพนักงานที่ต้องการย้ายไปอยู่ใกล้สำนักงาน ✅ การกำหนดให้พนักงานกลับมาทำงานที่สำนักงาน - พนักงานที่ทำงานจากบ้านต้องกลับมาทำงานที่สำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ - พนักงานที่ไม่ปฏิบัติตามอาจต้องเผชิญกับการเลิกจ้าง ✅ การติดตามการเข้าทำงานของพนักงาน - Google ใช้ข้อมูลจากบัตรประจำตัวในการติดตามการเข้าทำงาน - ข้อมูลนี้ถูกนำมาใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน ✅ การขยายมาตรการไปยังหน่วยงานต่างๆ - Google Technical Services และ People Operations ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้ - มีการเสนอแพ็กเกจการออกจากงานโดยสมัครใจ และค่าใช้จ่ายในการย้ายที่อยู่ ✅ เป้าหมายของนโยบาย - เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสนับสนุนการพัฒนา AI ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง https://www.techspot.com/news/107669-google-tells-remote-workers-return-office-or-face.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google tells some remote workers to return to the office or face termination
    Google was one of the companies who decided to play it safe when it came to bringing workers back following the pandemic. It introduced hybrid work models...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nintendo ได้เปิดตัว Nintendo Switch 2 ซึ่งเป็นคอนโซลรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับการอัปเกรดฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่น่าประทับใจ โดยมีการเปิดเผยข้อมูลจากการถอดชิ้นส่วนที่ยืนยันว่าอุปกรณ์นี้ใช้ชิป Nvidia Tegra T239 และหน่วยความจำจาก SK Hynix นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ 256GB UFS 3.1 และรองรับการแสดงผล 4K สำหรับการเชื่อมต่อกับทีวี

    Switch 2 มีการปรับปรุงในหลายด้าน เช่น หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น การควบคุมที่ดีขึ้น และระบบเสียงที่ได้รับการปรับปรุง โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ $449.99 และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 5 มิถุนายน 2025

    ✅ การใช้ชิป Nvidia Tegra T239
    - ชิปนี้มาพร้อมกับ Arm Cortex X1 HP-core, Cortex A78 performance cores และ Cortex A55 efficiency cores
    - GPU แบบ Ampere-based มี 12 SMs และ 1,536 CUDA cores

    ✅ หน่วยความจำและพื้นที่เก็บข้อมูล
    - ใช้หน่วยความจำจาก SK Hynix คาดว่าเป็น LPDDR5 RAM ขนาด 12GB
    - มีพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ 256GB UFS 3.1

    ✅ การออกแบบและฟีเจอร์ใหม่
    - หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นและการควบคุมที่ได้รับการปรับปรุง
    - รองรับการแสดงผล 4K สำหรับการเชื่อมต่อกับทีวี

    ✅ การวางจำหน่ายและราคา
    - ราคา $449.99 และเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 5 มิถุนายน 2025

    https://www.techspot.com/news/107668-nintendo-switch-2-teardown-confirms-nvidia-tegra-t239.html
    Nintendo ได้เปิดตัว Nintendo Switch 2 ซึ่งเป็นคอนโซลรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับการอัปเกรดฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่น่าประทับใจ โดยมีการเปิดเผยข้อมูลจากการถอดชิ้นส่วนที่ยืนยันว่าอุปกรณ์นี้ใช้ชิป Nvidia Tegra T239 และหน่วยความจำจาก SK Hynix นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ 256GB UFS 3.1 และรองรับการแสดงผล 4K สำหรับการเชื่อมต่อกับทีวี Switch 2 มีการปรับปรุงในหลายด้าน เช่น หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น การควบคุมที่ดีขึ้น และระบบเสียงที่ได้รับการปรับปรุง โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ $449.99 และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 5 มิถุนายน 2025 ✅ การใช้ชิป Nvidia Tegra T239 - ชิปนี้มาพร้อมกับ Arm Cortex X1 HP-core, Cortex A78 performance cores และ Cortex A55 efficiency cores - GPU แบบ Ampere-based มี 12 SMs และ 1,536 CUDA cores ✅ หน่วยความจำและพื้นที่เก็บข้อมูล - ใช้หน่วยความจำจาก SK Hynix คาดว่าเป็น LPDDR5 RAM ขนาด 12GB - มีพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ 256GB UFS 3.1 ✅ การออกแบบและฟีเจอร์ใหม่ - หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นและการควบคุมที่ได้รับการปรับปรุง - รองรับการแสดงผล 4K สำหรับการเชื่อมต่อกับทีวี ✅ การวางจำหน่ายและราคา - ราคา $449.99 และเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 5 มิถุนายน 2025 https://www.techspot.com/news/107668-nintendo-switch-2-teardown-confirms-nvidia-tegra-t239.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nintendo Switch 2 teardown confirms Nvidia Tegra T239 chip, SK Hynix memory, more details
    The teardown was performed by YouTuber and X user @KurnalSalts, known for his deep dive videos on Arm chips used in smartphones, laptops, AR headsets, and other...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้กล่าวถึงการที่บริษัท Ziff Davis ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่สื่อดิจิทัล ได้ยื่นฟ้อง OpenAI ในศาลรัฐบาลกลางเดลาแวร์ โดยกล่าวหาว่า OpenAI ใช้เนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์จากสื่อของบริษัท เช่น ZDNet, PCMag, CNET และ IGN เพื่อฝึกโมเดล AI ของตนโดยไม่ได้รับอนุญาต การฟ้องร้องนี้เป็นส่วนหนึ่งของคดีลิขสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้เนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์ในการฝึก AI ซึ่งมีการฟ้องร้องจากสำนักข่าว ผู้เขียน และศิลปินหลายราย

    OpenAI ได้ตอบกลับข้อกล่าวหานี้โดยระบุว่าโมเดล AI ของตนถูกฝึกด้วยข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะและอยู่ภายใต้หลักการใช้งานที่เป็นธรรม (fair use) อย่างไรก็ตาม คดีนี้สะท้อนถึงความท้าทายทางกฎหมายที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรม AI

    ✅ ข้อกล่าวหาของ Ziff Davis ต่อ OpenAI
    - Ziff Davis กล่าวหาว่า OpenAI ใช้เนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์จากสื่อของบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาต
    - สื่อที่เกี่ยวข้องได้แก่ ZDNet, PCMag, CNET และ IGN

    ✅ การตอบกลับของ OpenAI
    - OpenAI ระบุว่าโมเดล AI ของตนถูกฝึกด้วยข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ
    - ยืนยันว่าการใช้งานข้อมูลอยู่ภายใต้หลักการใช้งานที่เป็นธรรม (fair use)

    ✅ ความสำคัญของคดีนี้
    - คดีนี้เป็นส่วนหนึ่งของคดีลิขสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้เนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์ในการฝึก AI
    - มีการฟ้องร้องจากสำนักข่าว ผู้เขียน และศิลปินหลายราย

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    - คดีนี้อาจส่งผลต่อการพัฒนาและการใช้งาน AI ในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/25/publisher-ziff-davis-sues-openai-for-copyright-infringement
    ข่าวนี้กล่าวถึงการที่บริษัท Ziff Davis ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่สื่อดิจิทัล ได้ยื่นฟ้อง OpenAI ในศาลรัฐบาลกลางเดลาแวร์ โดยกล่าวหาว่า OpenAI ใช้เนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์จากสื่อของบริษัท เช่น ZDNet, PCMag, CNET และ IGN เพื่อฝึกโมเดล AI ของตนโดยไม่ได้รับอนุญาต การฟ้องร้องนี้เป็นส่วนหนึ่งของคดีลิขสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้เนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์ในการฝึก AI ซึ่งมีการฟ้องร้องจากสำนักข่าว ผู้เขียน และศิลปินหลายราย OpenAI ได้ตอบกลับข้อกล่าวหานี้โดยระบุว่าโมเดล AI ของตนถูกฝึกด้วยข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะและอยู่ภายใต้หลักการใช้งานที่เป็นธรรม (fair use) อย่างไรก็ตาม คดีนี้สะท้อนถึงความท้าทายทางกฎหมายที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรม AI ✅ ข้อกล่าวหาของ Ziff Davis ต่อ OpenAI - Ziff Davis กล่าวหาว่า OpenAI ใช้เนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์จากสื่อของบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาต - สื่อที่เกี่ยวข้องได้แก่ ZDNet, PCMag, CNET และ IGN ✅ การตอบกลับของ OpenAI - OpenAI ระบุว่าโมเดล AI ของตนถูกฝึกด้วยข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ - ยืนยันว่าการใช้งานข้อมูลอยู่ภายใต้หลักการใช้งานที่เป็นธรรม (fair use) ✅ ความสำคัญของคดีนี้ - คดีนี้เป็นส่วนหนึ่งของคดีลิขสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้เนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์ในการฝึก AI - มีการฟ้องร้องจากสำนักข่าว ผู้เขียน และศิลปินหลายราย ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI - คดีนี้อาจส่งผลต่อการพัฒนาและการใช้งาน AI ในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/25/publisher-ziff-davis-sues-openai-for-copyright-infringement
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Publisher Ziff Davis sues OpenAI for copyright infringement
    (Reuters) -Digital media publisher Ziff Davis sued OpenAI in Delaware federal court on Thursday, accusing the Microsoft-backed artificial-intelligence company of misusing its publications to train the model behind popular chatbot ChatGPT.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในงาน RSA 2025 มีคำถามสำคัญ 10 ข้อที่ผู้นำด้านความปลอดภัยควรพิจารณาเพื่อปรับกลยุทธ์และตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์:

    1️⃣ Google-Wiz มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยอย่างไร?
    - การเข้าซื้อ Wiz ของ Alphabet มูลค่า 32 พันล้านดอลลาร์ส่งผลต่อกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยบนคลาวด์อย่างไร?

    2️⃣ Agentic AI เป็นความจริงหรือเพียงแค่ความหวัง?
    - AI ที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เองจะมีบทบาทสำคัญในอนาคตหรือไม่?

    3️⃣ แพลตฟอร์มสามารถครองตลาดองค์กรได้หรือไม่?
    - การรวมระบบและการลดความซับซ้อนของแพลตฟอร์มจะตอบโจทย์องค์กรขนาดใหญ่ได้หรือไม่?

    4️⃣ การปฏิวัติระบบไร้รหัสผ่านมาถึงแล้วหรือยัง?
    - การเปลี่ยนผ่านจากรหัสผ่านไปสู่ passkeys และ FIDO2 จะเปลี่ยนแปลงวิธีการยืนยันตัวตนอย่างไร?

    5️⃣ การเดินทางของ Zero Trust จะไปในทิศทางใดในปี 2025?
    - Zero Trust จะพัฒนาไปพร้อมกับการนำ SASE และ FIDO2 มาใช้ได้อย่างไร?

    6️⃣ กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงกำลังพัฒนาไปอย่างไร?
    - การจัดการความเสี่ยงแบบต่อเนื่อง (CTEM) และการใช้ AI ในการจัดลำดับความสำคัญของสินทรัพย์จะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างไร?

    7️⃣ CISOs สามารถเรียนรู้อะไรจากนวัตกรรมของ MSSP?
    - ผู้ให้บริการความปลอดภัยที่มีการจัดการ (MSSP) ใช้ AI และระบบอัตโนมัติในการแก้ปัญหาความปลอดภัยอย่างไร?

    8️⃣ ความปลอดภัยเครือข่ายกำลังกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งหรือไม่?
    - การตรวจสอบการเคลื่อนไหวของข้อมูลในเครือข่ายยังคงมีความสำคัญในยุคของ EDR หรือไม่?

    9️⃣ ผู้ขายเข้าใจความเป็นจริงของ Cyber Resilience หรือไม่?
    - ความยืดหยุ่นทางไซเบอร์ (Cyber Resilience) เป็นเพียงคำโฆษณาหรือเป็นกลยุทธ์ที่แท้จริง?

    🔟 ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองส่งผลต่ออุตสาหกรรมอย่างไร?
    - การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเมือง เช่น ภาษีและการลดงบประมาณ จะส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างไร?

    https://www.csoonline.com/article/3965415/10-key-questions-security-leaders-must-ask-at-rsa-2025.html
    ในงาน RSA 2025 มีคำถามสำคัญ 10 ข้อที่ผู้นำด้านความปลอดภัยควรพิจารณาเพื่อปรับกลยุทธ์และตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์: 1️⃣ Google-Wiz มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยอย่างไร? - การเข้าซื้อ Wiz ของ Alphabet มูลค่า 32 พันล้านดอลลาร์ส่งผลต่อกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยบนคลาวด์อย่างไร? 2️⃣ Agentic AI เป็นความจริงหรือเพียงแค่ความหวัง? - AI ที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เองจะมีบทบาทสำคัญในอนาคตหรือไม่? 3️⃣ แพลตฟอร์มสามารถครองตลาดองค์กรได้หรือไม่? - การรวมระบบและการลดความซับซ้อนของแพลตฟอร์มจะตอบโจทย์องค์กรขนาดใหญ่ได้หรือไม่? 4️⃣ การปฏิวัติระบบไร้รหัสผ่านมาถึงแล้วหรือยัง? - การเปลี่ยนผ่านจากรหัสผ่านไปสู่ passkeys และ FIDO2 จะเปลี่ยนแปลงวิธีการยืนยันตัวตนอย่างไร? 5️⃣ การเดินทางของ Zero Trust จะไปในทิศทางใดในปี 2025? - Zero Trust จะพัฒนาไปพร้อมกับการนำ SASE และ FIDO2 มาใช้ได้อย่างไร? 6️⃣ กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงกำลังพัฒนาไปอย่างไร? - การจัดการความเสี่ยงแบบต่อเนื่อง (CTEM) และการใช้ AI ในการจัดลำดับความสำคัญของสินทรัพย์จะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างไร? 7️⃣ CISOs สามารถเรียนรู้อะไรจากนวัตกรรมของ MSSP? - ผู้ให้บริการความปลอดภัยที่มีการจัดการ (MSSP) ใช้ AI และระบบอัตโนมัติในการแก้ปัญหาความปลอดภัยอย่างไร? 8️⃣ ความปลอดภัยเครือข่ายกำลังกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งหรือไม่? - การตรวจสอบการเคลื่อนไหวของข้อมูลในเครือข่ายยังคงมีความสำคัญในยุคของ EDR หรือไม่? 9️⃣ ผู้ขายเข้าใจความเป็นจริงของ Cyber Resilience หรือไม่? - ความยืดหยุ่นทางไซเบอร์ (Cyber Resilience) เป็นเพียงคำโฆษณาหรือเป็นกลยุทธ์ที่แท้จริง? 🔟 ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองส่งผลต่ออุตสาหกรรมอย่างไร? - การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเมือง เช่น ภาษีและการลดงบประมาณ จะส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างไร? https://www.csoonline.com/article/3965415/10-key-questions-security-leaders-must-ask-at-rsa-2025.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    10 key questions security leaders must ask at RSA 2025
    Agentic AI, platform hype, identity management, and economic uncertainty will dominate the RSA agenda. But discussions with fellow attendees will provide the real payoff.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • Perplexity ซึ่งเป็นบริษัท AI-powered answer engine ได้ประกาศแผนการพัฒนาเบราว์เซอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Comet โดยมีเป้าหมายเพื่อรวบรวมข้อมูลการใช้งานออนไลน์ของผู้ใช้ เพื่อสร้างโฆษณาที่มีความเฉพาะเจาะจงสูง (hyper-personalized ads) CEO ของ Perplexity, Aravind Srinivas ระบุว่า การรวบรวมข้อมูลจากการค้นหาในแอป Perplexity เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ครอบคลุม การพัฒนาเบราว์เซอร์ Comet จึงเป็นก้าวสำคัญในการเก็บข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ประวัติการซื้อสินค้า แผนการเดินทาง และความชอบในการรับประทานอาหาร

    นอกจากนี้ Perplexity ยังตั้งเป้าที่จะใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อพัฒนา feed การค้นพบ (discover feed) ที่สามารถแสดงโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเปิดตัวเบราว์เซอร์ Comet คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2025

    ✅ การพัฒนาเบราว์เซอร์ Comet
    - เบราว์เซอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรวบรวมข้อมูลการใช้งานออนไลน์ของผู้ใช้
    - ข้อมูลที่เก็บรวมถึงประวัติการซื้อสินค้า แผนการเดินทาง และความชอบในการรับประทานอาหาร

    ✅ เป้าหมายของการพัฒนา
    - สร้างโฆษณาที่มีความเฉพาะเจาะจงสูง (hyper-personalized ads)
    - ใช้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ครอบคลุม

    ✅ การเปิดตัวเบราว์เซอร์ Comet
    - คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2025
    - Srinivas ระบุว่า Comet จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญอันดับสองของ Perplexity

    ✅ การแข่งขันในตลาด
    - Perplexity ตั้งเป้าที่จะแข่งขันกับธุรกิจโฆษณาหลักของ Google
    - Perplexity และ OpenAI แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย

    https://www.neowin.net/news/perplexity-wants-to-collect-data-on-everything-users-do-online-for-hyper-personalized-ads/
    Perplexity ซึ่งเป็นบริษัท AI-powered answer engine ได้ประกาศแผนการพัฒนาเบราว์เซอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Comet โดยมีเป้าหมายเพื่อรวบรวมข้อมูลการใช้งานออนไลน์ของผู้ใช้ เพื่อสร้างโฆษณาที่มีความเฉพาะเจาะจงสูง (hyper-personalized ads) CEO ของ Perplexity, Aravind Srinivas ระบุว่า การรวบรวมข้อมูลจากการค้นหาในแอป Perplexity เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ครอบคลุม การพัฒนาเบราว์เซอร์ Comet จึงเป็นก้าวสำคัญในการเก็บข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ประวัติการซื้อสินค้า แผนการเดินทาง และความชอบในการรับประทานอาหาร นอกจากนี้ Perplexity ยังตั้งเป้าที่จะใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อพัฒนา feed การค้นพบ (discover feed) ที่สามารถแสดงโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเปิดตัวเบราว์เซอร์ Comet คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2025 ✅ การพัฒนาเบราว์เซอร์ Comet - เบราว์เซอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรวบรวมข้อมูลการใช้งานออนไลน์ของผู้ใช้ - ข้อมูลที่เก็บรวมถึงประวัติการซื้อสินค้า แผนการเดินทาง และความชอบในการรับประทานอาหาร ✅ เป้าหมายของการพัฒนา - สร้างโฆษณาที่มีความเฉพาะเจาะจงสูง (hyper-personalized ads) - ใช้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ครอบคลุม ✅ การเปิดตัวเบราว์เซอร์ Comet - คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2025 - Srinivas ระบุว่า Comet จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญอันดับสองของ Perplexity ✅ การแข่งขันในตลาด - Perplexity ตั้งเป้าที่จะแข่งขันกับธุรกิจโฆษณาหลักของ Google - Perplexity และ OpenAI แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย https://www.neowin.net/news/perplexity-wants-to-collect-data-on-everything-users-do-online-for-hyper-personalized-ads/
    WWW.NEOWIN.NET
    Perplexity wants to collect data on everything users do online for 'hyper personalized' ads
    On TBPN, Perplexity's CEO outlined plans to tackle challenges by tracking users online and using that data for ads.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI ได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ของเครื่องมือ Deep Research ซึ่งเป็น AI ที่ออกแบบมาเพื่อการวิจัยเชิงลึก โดยเวอร์ชันใหม่นี้เป็นแบบ lightweight ที่ใช้โมเดล o4-mini ซึ่งมีต้นทุนการใช้งานต่ำกว่าเวอร์ชันเดิม ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนงานวิจัยที่ผู้ใช้งานสามารถทำได้ในแต่ละเดือน โดยยังคงรักษาคุณภาพและความลึกของการวิเคราะห์ในระดับที่ดี

    เครื่องมือ Deep Research ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยค้นหา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลออนไลน์จำนวนมาก โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างรายงานที่ครอบคลุมพร้อมการอ้างอิงที่ชัดเจน เวอร์ชันใหม่นี้เปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้งานฟรีทันที และจะขยายไปยังผู้ใช้งานในแผน Enterprise และการศึกษาในอนาคต

    ✅ การเปิดตัวเวอร์ชัน lightweight
    - ใช้โมเดล o4-mini ที่มีต้นทุนการใช้งานต่ำกว่า
    - เพิ่มจำนวนงานวิจัยที่ผู้ใช้งานสามารถทำได้ในแต่ละเดือน

    ✅ การใช้งานสำหรับผู้ใช้งานฟรี
    - เวอร์ชัน lightweight เปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้งานฟรีทันที
    - จะขยายไปยังผู้ใช้งานในแผน Enterprise และการศึกษาในอนาคต

    ✅ คุณสมบัติของ Deep Research
    - ค้นหา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลออนไลน์จำนวนมาก
    - สร้างรายงานที่ครอบคลุมพร้อมการอ้างอิงที่ชัดเจน

    ✅ การพัฒนาโมเดล AI
    - ใช้โมเดล o3 สำหรับการทำงานที่ต้องการความละเอียดสูง
    - เวอร์ชัน lightweight ใช้โมเดล o4-mini เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน

    https://www.neowin.net/news/openai-launches-lightweight-version-of-deep-research-for-free-users/
    OpenAI ได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ของเครื่องมือ Deep Research ซึ่งเป็น AI ที่ออกแบบมาเพื่อการวิจัยเชิงลึก โดยเวอร์ชันใหม่นี้เป็นแบบ lightweight ที่ใช้โมเดล o4-mini ซึ่งมีต้นทุนการใช้งานต่ำกว่าเวอร์ชันเดิม ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนงานวิจัยที่ผู้ใช้งานสามารถทำได้ในแต่ละเดือน โดยยังคงรักษาคุณภาพและความลึกของการวิเคราะห์ในระดับที่ดี เครื่องมือ Deep Research ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยค้นหา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลออนไลน์จำนวนมาก โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างรายงานที่ครอบคลุมพร้อมการอ้างอิงที่ชัดเจน เวอร์ชันใหม่นี้เปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้งานฟรีทันที และจะขยายไปยังผู้ใช้งานในแผน Enterprise และการศึกษาในอนาคต ✅ การเปิดตัวเวอร์ชัน lightweight - ใช้โมเดล o4-mini ที่มีต้นทุนการใช้งานต่ำกว่า - เพิ่มจำนวนงานวิจัยที่ผู้ใช้งานสามารถทำได้ในแต่ละเดือน ✅ การใช้งานสำหรับผู้ใช้งานฟรี - เวอร์ชัน lightweight เปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้งานฟรีทันที - จะขยายไปยังผู้ใช้งานในแผน Enterprise และการศึกษาในอนาคต ✅ คุณสมบัติของ Deep Research - ค้นหา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลออนไลน์จำนวนมาก - สร้างรายงานที่ครอบคลุมพร้อมการอ้างอิงที่ชัดเจน ✅ การพัฒนาโมเดล AI - ใช้โมเดล o3 สำหรับการทำงานที่ต้องการความละเอียดสูง - เวอร์ชัน lightweight ใช้โมเดล o4-mini เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน https://www.neowin.net/news/openai-launches-lightweight-version-of-deep-research-for-free-users/
    WWW.NEOWIN.NET
    OpenAI launches lightweight version of Deep Research for Free users
    Deep Research is a popular offering among LLM chatbots. Now, OpenAI is offering a lightweight version for many users.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ประกาศการสนับสนุน PyTorch บน Windows สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ชิป ARM โดยการอัปเดตนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถติดตั้ง PyTorch ได้ง่ายขึ้นผ่าน pip โดยไม่ต้องคอมไพล์จากซอร์สโค้ด ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน การสนับสนุนนี้มาพร้อมกับ PyTorch เวอร์ชัน 2.7 ที่รองรับ Python 3.12 และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm64 เช่น Copilot+ PC

    นอกจากนี้ Microsoft ยังได้แนะนำการใช้งาน PyTorch สำหรับการพัฒนา AI เช่น การจำแนกภาพ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และ Generative AI เช่น Stable Diffusion โดยนักพัฒนาสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วยคำแนะนำที่ชัดเจนและการติดตั้งที่สะดวก

    ✅ การติดตั้ง PyTorch บน Windows สำหรับ ARM
    - PyTorch เวอร์ชัน 2.7 รองรับ Python 3.12 และสามารถติดตั้งผ่าน pip ได้
    - นักพัฒนาต้องติดตั้ง Visual Studio Build Tools และ Rust เพื่อใช้งาน

    ✅ การใช้งาน PyTorch สำหรับ AI
    - รองรับการพัฒนา AI เช่น การจำแนกภาพ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และ Generative AI
    - Microsoft แนะนำให้สร้าง Virtual Environment (venv) เพื่อจัดการ dependencies

    ✅ การสนับสนุน LibTorch
    - LibTorch ซึ่งเป็น front-end ของ PyTorch สำหรับ C++ มี native binaries สำหรับ Windows บน ARM

    ✅ การปรับปรุงประสิทธิภาพของ Arm64
    - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm64

    https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-native-pytorch-arm-support-to-windows-devices/
    Microsoft ได้ประกาศการสนับสนุน PyTorch บน Windows สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ชิป ARM โดยการอัปเดตนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถติดตั้ง PyTorch ได้ง่ายขึ้นผ่าน pip โดยไม่ต้องคอมไพล์จากซอร์สโค้ด ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน การสนับสนุนนี้มาพร้อมกับ PyTorch เวอร์ชัน 2.7 ที่รองรับ Python 3.12 และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm64 เช่น Copilot+ PC นอกจากนี้ Microsoft ยังได้แนะนำการใช้งาน PyTorch สำหรับการพัฒนา AI เช่น การจำแนกภาพ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และ Generative AI เช่น Stable Diffusion โดยนักพัฒนาสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วยคำแนะนำที่ชัดเจนและการติดตั้งที่สะดวก ✅ การติดตั้ง PyTorch บน Windows สำหรับ ARM - PyTorch เวอร์ชัน 2.7 รองรับ Python 3.12 และสามารถติดตั้งผ่าน pip ได้ - นักพัฒนาต้องติดตั้ง Visual Studio Build Tools และ Rust เพื่อใช้งาน ✅ การใช้งาน PyTorch สำหรับ AI - รองรับการพัฒนา AI เช่น การจำแนกภาพ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และ Generative AI - Microsoft แนะนำให้สร้าง Virtual Environment (venv) เพื่อจัดการ dependencies ✅ การสนับสนุน LibTorch - LibTorch ซึ่งเป็น front-end ของ PyTorch สำหรับ C++ มี native binaries สำหรับ Windows บน ARM ✅ การปรับปรุงประสิทธิภาพของ Arm64 - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm64 https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-native-pytorch-arm-support-to-windows-devices/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft brings native PyTorch Arm support to Windows devices
    The Windows on Arm developer tent just got bigger, as Microsoft has announced native PyTorch builds for the platform.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ปรับปรุงฟีเจอร์ Comments ใน PowerPoint เพื่อให้การทำงานร่วมกันง่ายขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถย้ายหรือคัดลอกเนื้อหาที่มีความคิดเห็นแนบอยู่ได้โดยที่ความคิดเห็นจะติดตามไปยังตำแหน่งใหม่โดยอัตโนมัติ การอัปเดตนี้ช่วยลดความสับสนเมื่อมีการแก้ไขสไลด์และความคิดเห็นสูญเสียบริบท นอกจากนี้ Microsoft ยังได้ปรับปรุงฟีเจอร์อื่นๆ ใน Office เช่น การอ้างอิงใน Word และการบันทึกเสียงในรูปแบบเอกสารผ่าน Copilot

    ✅ การย้ายหรือคัดลอกเนื้อหาพร้อมความคิดเห็น
    - ผู้ใช้งานสามารถย้ายข้อความ กล่องข้อความ ตาราง รูปร่าง และ SmartArt พร้อมความคิดเห็นไปยังตำแหน่งใหม่ได้
    - ความคิดเห็นสำหรับเนื้อหาที่ไม่ได้ถูกย้ายหรือถูกลบจะยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม

    ✅ การใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ
    - ย้ายเนื้อหาในสไลด์เดียวกัน: ความคิดเห็นจะติดตามเนื้อหาไปยังตำแหน่งใหม่
    - ย้ายเนื้อหาระหว่างสไลด์: ความคิดเห็นจะย้ายไปยังสไลด์ใหม่
    - คัดลอกเนื้อหา: ความคิดเห็นจะยังคงอยู่กับเนื้อหาต้นฉบับ แต่เนื้อหาที่คัดลอกจะไม่มีความคิดเห็น

    ✅ การอัปเดตในแพลตฟอร์มต่างๆ
    - ฟีเจอร์นี้เริ่มใช้งานใน PowerPoint บนเว็บ Windows (เวอร์ชัน 2503) และ macOS (เวอร์ชัน 16.96)

    ✅ การปรับปรุงฟีเจอร์อื่นๆ ใน Office
    - Word มีการปรับปรุงการอ้างอิงเพื่อความสะดวกในการใช้งาน
    - Copilot สามารถถอดเสียงบันทึกเป็นเอกสารที่มีคุณภาพสูง

    https://www.neowin.net/news/microsoft-makes-it-easier-to-keep-comments-when-editing-powerpoint-presentations/
    Microsoft ได้ปรับปรุงฟีเจอร์ Comments ใน PowerPoint เพื่อให้การทำงานร่วมกันง่ายขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถย้ายหรือคัดลอกเนื้อหาที่มีความคิดเห็นแนบอยู่ได้โดยที่ความคิดเห็นจะติดตามไปยังตำแหน่งใหม่โดยอัตโนมัติ การอัปเดตนี้ช่วยลดความสับสนเมื่อมีการแก้ไขสไลด์และความคิดเห็นสูญเสียบริบท นอกจากนี้ Microsoft ยังได้ปรับปรุงฟีเจอร์อื่นๆ ใน Office เช่น การอ้างอิงใน Word และการบันทึกเสียงในรูปแบบเอกสารผ่าน Copilot ✅ การย้ายหรือคัดลอกเนื้อหาพร้อมความคิดเห็น - ผู้ใช้งานสามารถย้ายข้อความ กล่องข้อความ ตาราง รูปร่าง และ SmartArt พร้อมความคิดเห็นไปยังตำแหน่งใหม่ได้ - ความคิดเห็นสำหรับเนื้อหาที่ไม่ได้ถูกย้ายหรือถูกลบจะยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม ✅ การใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ - ย้ายเนื้อหาในสไลด์เดียวกัน: ความคิดเห็นจะติดตามเนื้อหาไปยังตำแหน่งใหม่ - ย้ายเนื้อหาระหว่างสไลด์: ความคิดเห็นจะย้ายไปยังสไลด์ใหม่ - คัดลอกเนื้อหา: ความคิดเห็นจะยังคงอยู่กับเนื้อหาต้นฉบับ แต่เนื้อหาที่คัดลอกจะไม่มีความคิดเห็น ✅ การอัปเดตในแพลตฟอร์มต่างๆ - ฟีเจอร์นี้เริ่มใช้งานใน PowerPoint บนเว็บ Windows (เวอร์ชัน 2503) และ macOS (เวอร์ชัน 16.96) ✅ การปรับปรุงฟีเจอร์อื่นๆ ใน Office - Word มีการปรับปรุงการอ้างอิงเพื่อความสะดวกในการใช้งาน - Copilot สามารถถอดเสียงบันทึกเป็นเอกสารที่มีคุณภาพสูง https://www.neowin.net/news/microsoft-makes-it-easier-to-keep-comments-when-editing-powerpoint-presentations/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft makes it easier to keep comments when editing PowerPoint presentations
    Microsoft is adding a welcome change to PowerPoint for those who often leave comments when editing or collaborating on presentations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts