มีรายงานว่า เขมรบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้ความร่วมมือปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์-สแกมเมอร์ รวมทั้งการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แม้ไทยเสนอตัวเข้าช่วยก็ตาม ด้านพลเอง "เตีย เซียฮา อ้างเหตุผลว่า การประชุมครั้งนี้ขอคุยแค่เรื่องข้อตกลงหยุดยิง ส่วนเรื่องอื่นขอให้ไปคุยในการประชุม GBC ครั้งหน้าต่อไปที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า
พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการราชการแทน รมว.กลาโหม ในฐานะ ประธาน GBC ฝ่ายไทย ลงนามเห็นชอบ บันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป GBC ไทย-กัมพูชา ร่วมกับ พล.อ.เตีย เซียฮา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา โดยได้เห็นชอบข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ
พลเอกณัฐพล แถลงในช่วงหนึ่งว่า มีอีก 2 ประเด็นสำคัญที่หยิบยกขึ้นมาแต่กัมพูชา ยังไม่ได้ตอบรับ โดยขอพูดคุยแต่เรื่องการหยุดยิงก่อน และให้หารือในการประชุม GBC ครั้งต่อไป ในอีก 1 เดือนข้างหน้าคือ
1. เรื่องการเก็บกู้ทุนระเบิดที่ทำให้เกิดความตึงเครียด นำไปสู่การใช้กำลังระหว่างกัน โดยที่ฝ่ายไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับกัมพูชาในการเก็บกู้ทุนระเบิดในพื้นที่ที่มีการปะทะตลอดแนวชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย
2. ขอความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติการหลอกลวงออนไลน์ สแกมออนไลน์ ที่ส่งผลต่อพี่น้องประชาชนคนไทยและประเทศอื่นในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง
พลเอกณัฐพลย้ำว่า สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันในวันนี้จะเกิดผลที่เป็นรูปธรรมได้ต้องอาศัยความร่วมมือและความจริงใจของทั้งสองฝ่าย
"ผมยืนยันว่าฝ่ายไทยยึดมั่นและให้ความร่วมมือในการพูดคุยอย่างสุจริตใจและจริงใจ บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และหวังว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตาม"
"ท้ายที่สุด แล้วไทยและกัมพูชาซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน จะย้ายหนีกันไปไม่ได้ เราเป็นสมาชิกครอบครัวอาเซียนด้วยกัน หากสามารถ ปฏิบัติตามข้อตกลงได้รวดเร็ว ก็จะนำสันติภาพมาสู่ชายแดน และกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้ง" พลเอกณัฐพล กล่าว
พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการราชการแทน รมว.กลาโหม ในฐานะ ประธาน GBC ฝ่ายไทย ลงนามเห็นชอบ บันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป GBC ไทย-กัมพูชา ร่วมกับ พล.อ.เตีย เซียฮา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา โดยได้เห็นชอบข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ
พลเอกณัฐพล แถลงในช่วงหนึ่งว่า มีอีก 2 ประเด็นสำคัญที่หยิบยกขึ้นมาแต่กัมพูชา ยังไม่ได้ตอบรับ โดยขอพูดคุยแต่เรื่องการหยุดยิงก่อน และให้หารือในการประชุม GBC ครั้งต่อไป ในอีก 1 เดือนข้างหน้าคือ
1. เรื่องการเก็บกู้ทุนระเบิดที่ทำให้เกิดความตึงเครียด นำไปสู่การใช้กำลังระหว่างกัน โดยที่ฝ่ายไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับกัมพูชาในการเก็บกู้ทุนระเบิดในพื้นที่ที่มีการปะทะตลอดแนวชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย
2. ขอความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติการหลอกลวงออนไลน์ สแกมออนไลน์ ที่ส่งผลต่อพี่น้องประชาชนคนไทยและประเทศอื่นในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง
พลเอกณัฐพลย้ำว่า สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันในวันนี้จะเกิดผลที่เป็นรูปธรรมได้ต้องอาศัยความร่วมมือและความจริงใจของทั้งสองฝ่าย
"ผมยืนยันว่าฝ่ายไทยยึดมั่นและให้ความร่วมมือในการพูดคุยอย่างสุจริตใจและจริงใจ บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และหวังว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตาม"
"ท้ายที่สุด แล้วไทยและกัมพูชาซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน จะย้ายหนีกันไปไม่ได้ เราเป็นสมาชิกครอบครัวอาเซียนด้วยกัน หากสามารถ ปฏิบัติตามข้อตกลงได้รวดเร็ว ก็จะนำสันติภาพมาสู่ชายแดน และกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้ง" พลเอกณัฐพล กล่าว
มีรายงานว่า เขมรบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้ความร่วมมือปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์-สแกมเมอร์ รวมทั้งการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แม้ไทยเสนอตัวเข้าช่วยก็ตาม ด้านพลเอง "เตีย เซียฮา อ้างเหตุผลว่า การประชุมครั้งนี้ขอคุยแค่เรื่องข้อตกลงหยุดยิง ส่วนเรื่องอื่นขอให้ไปคุยในการประชุม GBC ครั้งหน้าต่อไปที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า
พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการราชการแทน รมว.กลาโหม ในฐานะ ประธาน GBC ฝ่ายไทย ลงนามเห็นชอบ บันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป GBC ไทย-กัมพูชา ร่วมกับ พล.อ.เตีย เซียฮา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา โดยได้เห็นชอบข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ
พลเอกณัฐพล แถลงในช่วงหนึ่งว่า มีอีก 2 ประเด็นสำคัญที่หยิบยกขึ้นมาแต่กัมพูชา ยังไม่ได้ตอบรับ โดยขอพูดคุยแต่เรื่องการหยุดยิงก่อน และให้หารือในการประชุม GBC ครั้งต่อไป ในอีก 1 เดือนข้างหน้าคือ
1. เรื่องการเก็บกู้ทุนระเบิดที่ทำให้เกิดความตึงเครียด นำไปสู่การใช้กำลังระหว่างกัน โดยที่ฝ่ายไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับกัมพูชาในการเก็บกู้ทุนระเบิดในพื้นที่ที่มีการปะทะตลอดแนวชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย
2. ขอความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติการหลอกลวงออนไลน์ สแกมออนไลน์ ที่ส่งผลต่อพี่น้องประชาชนคนไทยและประเทศอื่นในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง
พลเอกณัฐพลย้ำว่า สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันในวันนี้จะเกิดผลที่เป็นรูปธรรมได้ต้องอาศัยความร่วมมือและความจริงใจของทั้งสองฝ่าย
"ผมยืนยันว่าฝ่ายไทยยึดมั่นและให้ความร่วมมือในการพูดคุยอย่างสุจริตใจและจริงใจ บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และหวังว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตาม"
"ท้ายที่สุด แล้วไทยและกัมพูชาซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน จะย้ายหนีกันไปไม่ได้ เราเป็นสมาชิกครอบครัวอาเซียนด้วยกัน หากสามารถ ปฏิบัติตามข้อตกลงได้รวดเร็ว ก็จะนำสันติภาพมาสู่ชายแดน และกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้ง" พลเอกณัฐพล กล่าว
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
8 มุมมอง
0 รีวิว