• ตั้งแต่เดือนหน้า (3 ก.พ.) เป็นต้นไป เปลี่ยนเวลาตีพิมพ์ Newskit เป็นวันจันทร์-ศุกร์ เพราะที่ผ่านมาไม่มีเวลาพักผ่อนเลยครับ

    ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ
    ตั้งแต่เดือนหน้า (3 ก.พ.) เป็นต้นไป เปลี่ยนเวลาตีพิมพ์ Newskit เป็นวันจันทร์-ศุกร์ เพราะที่ผ่านมาไม่มีเวลาพักผ่อนเลยครับ ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ
    พระราม 2 เจ็บแต่จบ? ปิดทางหลักเร็วขึ้น 1 ทุ่มตรง

    วันจันทร์ที่ 3 ก.พ.2568 คนที่บ้านอยู่โซนถนนพระรามที่ 2 ช่วงมหาชัยเมืองใหม่ ถึงทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร หากทำงานที่กรุงเทพฯ หลังเลิกงานคงต้องเดินทางกลับบ้านเร็วขึ้น หรือคนที่จะไปยังภาคใต้ คงต้องเผื่อเวลาในช่วงเย็นเป็นพิเศษ เพราะกรมทางหลวงจะปิดช่องทางหลักเร็วขึ้น จาก 2 ทุ่มเป็น 1 ทุ่มตรงทุกคืน เพื่อเร่งการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว จนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ

    นับเป็นไพ่ใบสุดท้ายที่กรมทางหลวงตัดสินใจเจ็บแต่จบ ยอมรับเสียงตำหนิจากผู้ใช้รถใช้ถนนกว่า 256,000 คันต่อวัน เพื่อให้ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธามีเวลาเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายแล้วเสร็จภายในปลายปี 2568 ตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม หลังจากที่ผ่านมาพบว่าการก่อสร้างเป็นไปอย่างล่าช้า เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งต้องหยุดก่อสร้าง โดยเฉพาะเหตุการณ์คานสะพานถล่มลงมา บริเวณทางแยกต่างระดับเอกชัย มีผู้เสียชีวิต 6 ราย

    ย้อนกลับไปก่อนเทศกาลปีใหม่ 2567 แหล่งข่าวจากกรมทางหลวงเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาการก่อสร้างโดยปิดช่องทางหลัก ตั้งแต่เวลา 3 ทุ่มถึงตี 4 นั้นไม่เพียงพอ เพราะกว่าจะเตรียมการทั้งก่อนและหลังปิดถนนก็ใช้เวลานาน อีกทั้งระยะเวลาในการก่อสร้างก็มีเวลาให้น้อยมาก เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน บางครั้งก็เกิดปัญหาทางเทคนิคระหว่างก่อสร้างก็มี ที่ผ่านมาเคยมีแนวคิดขยายเวลาปิดช่องทางหลัก แม้จะมีผลกระทบกับผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มขึ้น ซึ่งโดยปกติก็เจอแบบนี้อยู่แล้ว แต่ก็น้อมรับ

    กระทั่งวันที่ 1 เม.ย.2567 ได้ขยายเวลาเป็น 2 ทุ่มถึงตีห้าครึ่ง และในปี 2568 กำลังจะขยายเวลาเป็น 1 ทุ่มถึงตี 5 ครึ่ง

    โครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 82 เริ่มต้นก่อสร้างช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย ระยะทาง 8.2 กิโลเมตร มาตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. 2562 แบ่งเป็น 3 สัญญา ใช้งบประมาณแผ่นดิน 10,477.386 ล้านบาท ผ่านมาแล้วกว่า 5 ปีครึ่ง คืบหน้า 98.253% ส่วนช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ระยะทาง 16.4 กิโลเมตร ลงนามสัญญาเมื่อวันที่ 2 ก.พ.2565 แบ่งเป็น 10 สัญญา วงเงินก่อสร้าง 18,759 ล้านบาท ใช้เงินกองทุนมอเตอร์เวย์ ผ่านมาแล้ว 3 ปีเต็ม คืบหน้าเพียง 67.556%

    เดิมนายสุริยะประกาศว่าทั้งโครงการทางพิเศษสายพระราม 3–ดาวคะนอง–วงแหวนฯ ตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และมอเตอร์เวย์หมายเลข 82 ต้องแล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือน มิ.ย.2568 แต่เมื่อเจออุบัติเหตุใหญ่ ประกอบกับช่วงเทศกาลปีใหม่ต้องหยุดก่อสร้าง จึงเลื่อนเป้าหมายภายในปลายปี 2568 ถึงกระนั้นตำนานถนนเจ็ดชั่วโคตร ถึงวันนี้ก็ไม่อาจหมดไป

    #Newskit
    -----
    [วันนี้วันสุดท้าย] ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9

    ประกาศรายชื่อผู้โชคดี 3 ก.พ. 2568 ที่เพจ Newskit ใน Thaitimes

    0 Comments 0 Shares 35 Views 0 Reviews
  • อนาคต Dog Walker🤣 #พักผ่อน #สบายใจ #จูงหมาเดินเล่น #สัตว์เลี้ยงแสนรัก #สัตว์โลกน่ารัก #funny #หมา #dog #animal #อาราเล่หมาดื้อ
    อนาคต Dog Walker🤣 #พักผ่อน #สบายใจ #จูงหมาเดินเล่น #สัตว์เลี้ยงแสนรัก #สัตว์โลกน่ารัก #funny #หมา #dog #animal #อาราเล่หมาดื้อ
    0 Comments 0 Shares 125 Views 1 0 Reviews
  • นาเกลือผืนสุดท้ายของชลบุรี เกลือคุณภาพดีของไทย ปัจจุบันเหลือผู้ประกอบการเพียง 6 รายเท่านั้น นาเกลือคลองตำหรุ #ชลบุรี #ท่องเที่ยว #travel #สบายใจ #พักผ่อน #thailand #thaitimes #kaiaminute
    นาเกลือผืนสุดท้ายของชลบุรี เกลือคุณภาพดีของไทย ปัจจุบันเหลือผู้ประกอบการเพียง 6 รายเท่านั้น นาเกลือคลองตำหรุ #ชลบุรี #ท่องเที่ยว #travel #สบายใจ #พักผ่อน #thailand #thaitimes #kaiaminute
    0 Comments 0 Shares 153 Views 2 0 Reviews
  • ชอบคำนี้"สามีอันเป็นที่รักยิ่ง"😁 ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน วัดบุญญราศรี #ชลบุรี #ท่องเที่ยว #พักผ่อน #สบายใจ #travel #thailand #thaitimes #kaiaminute
    ชอบคำนี้"สามีอันเป็นที่รักยิ่ง"😁 ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน วัดบุญญราศรี #ชลบุรี #ท่องเที่ยว #พักผ่อน #สบายใจ #travel #thailand #thaitimes #kaiaminute
    0 Comments 0 Shares 227 Views 1 0 Reviews
  • แชร์ข่าวนี้ให้ไปถึงหัวหน้าของทุกคนด้วยครับ ฮาาา

    จากรายงานล่าสุดของ ActivTrak Productivity Lab พบว่าพนักงานที่ทำงานจากระยะไกลมีประสิทธิภาพการทำงานสูงกว่าพนักงานที่ทำงานในสำนักงาน พนักงานที่ทำงานจากระยะไกลมีชั่วโมงการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าและมีการขัดจังหวะน้อยกว่า

    ในขณะที่พนักงานในอุตสาหกรรมการเงินมีเวลาทำงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าพนักงานในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ถึง 30 นาทีต่อวัน และมีอัตราการใช้งานที่ดีต่อสุขภาพสูงกว่า 9% พนักงานในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพมีเวลาทำงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอื่น ๆ ถึง 36 นาทีต่อวัน แต่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการเบิร์นเอาท์หรือการไม่สนใจงาน

    นอกจากนี้ พนักงานที่ทำงานจากระยะไกลมีเวลาทำงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเนื่องจากมีการประชุมและการขัดจังหวะน้อยกว่า ในทางกลับกัน พนักงานที่ทำงานในสำนักงานมีรูปแบบการทำงานที่สมดุลที่สุด โดยใช้เวลาเกือบ 70% ของเวลาทำงานในสภาวะที่ดีต่อสุขภาพ

    การทำงานแบบไฮบริดกำลังได้รับความนิยมเนื่องจากความยืดหยุ่น แต่พนักงานที่ทำงานแบบไฮบริดมีเวลาพักที่สั้นกว่าเล็กน้อย ActivTrak เตือนว่าพนักงานที่ใช้เวลามากกว่า 75% ของเวลาทำงานในสภาวะที่ใช้งานมากเกินไปมีความเสี่ยงที่จะเกิดการเบิร์นเอาท์

    การเบิร์นเอาท์ (Burnout) เป็นภาวะที่เกิดจากความเครียดเรื้อรังในที่ทำงาน ซึ่งส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้าทางกายและจิตใจ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่ทำงานหนักและมีความเครียดสูงเป็นเวลานาน การป้องกันการเบิร์นเอาท์สามารถทำได้โดยการจัดการความเครียดอย่างเหมาะสม เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกาย การทำกิจกรรมที่ชอบ และการพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานหรือผู้บังคับบัญชาเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน

    การทำงานจากระยะไกลมีข้อดีหลายประการ เช่น การลดการขัดจังหวะและการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องระวังเช่นกัน

    https://www.techradar.com/pro/Remote-workers-are-more-productive-and-face-less-interruptions-than-their-office-only-co-workers
    แชร์ข่าวนี้ให้ไปถึงหัวหน้าของทุกคนด้วยครับ ฮาาา จากรายงานล่าสุดของ ActivTrak Productivity Lab พบว่าพนักงานที่ทำงานจากระยะไกลมีประสิทธิภาพการทำงานสูงกว่าพนักงานที่ทำงานในสำนักงาน พนักงานที่ทำงานจากระยะไกลมีชั่วโมงการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าและมีการขัดจังหวะน้อยกว่า ในขณะที่พนักงานในอุตสาหกรรมการเงินมีเวลาทำงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าพนักงานในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ถึง 30 นาทีต่อวัน และมีอัตราการใช้งานที่ดีต่อสุขภาพสูงกว่า 9% พนักงานในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพมีเวลาทำงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอื่น ๆ ถึง 36 นาทีต่อวัน แต่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการเบิร์นเอาท์หรือการไม่สนใจงาน นอกจากนี้ พนักงานที่ทำงานจากระยะไกลมีเวลาทำงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเนื่องจากมีการประชุมและการขัดจังหวะน้อยกว่า ในทางกลับกัน พนักงานที่ทำงานในสำนักงานมีรูปแบบการทำงานที่สมดุลที่สุด โดยใช้เวลาเกือบ 70% ของเวลาทำงานในสภาวะที่ดีต่อสุขภาพ การทำงานแบบไฮบริดกำลังได้รับความนิยมเนื่องจากความยืดหยุ่น แต่พนักงานที่ทำงานแบบไฮบริดมีเวลาพักที่สั้นกว่าเล็กน้อย ActivTrak เตือนว่าพนักงานที่ใช้เวลามากกว่า 75% ของเวลาทำงานในสภาวะที่ใช้งานมากเกินไปมีความเสี่ยงที่จะเกิดการเบิร์นเอาท์ การเบิร์นเอาท์ (Burnout) เป็นภาวะที่เกิดจากความเครียดเรื้อรังในที่ทำงาน ซึ่งส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้าทางกายและจิตใจ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่ทำงานหนักและมีความเครียดสูงเป็นเวลานาน การป้องกันการเบิร์นเอาท์สามารถทำได้โดยการจัดการความเครียดอย่างเหมาะสม เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกาย การทำกิจกรรมที่ชอบ และการพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานหรือผู้บังคับบัญชาเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน การทำงานจากระยะไกลมีข้อดีหลายประการ เช่น การลดการขัดจังหวะและการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องระวังเช่นกัน https://www.techradar.com/pro/Remote-workers-are-more-productive-and-face-less-interruptions-than-their-office-only-co-workers
    WWW.TECHRADAR.COM
    Remote workers are more productive and face less interruptions than their office-only co-workers
    Remote-first is most productive while hybrid and office-first approaches offer healthier utilization of employee time
    0 Comments 0 Shares 95 Views 0 Reviews
  • มาแล้ว! เรือ USS Carl Vinson บรรทุกทหารเรืออเมริกัน 5,400 นาย ขึ้นบก ณ ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อท่องเที่ยวและพักผ่อนในเมืองพัทยา เป็นเวลา 5 วัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000008389

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    มาแล้ว! เรือ USS Carl Vinson บรรทุกทหารเรืออเมริกัน 5,400 นาย ขึ้นบก ณ ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อท่องเที่ยวและพักผ่อนในเมืองพัทยา เป็นเวลา 5 วัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000008389 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Wow
    7
    1 Comments 1 Shares 658 Views 0 Reviews
  • วัดบุญญราศรี หลวงปู่เมี้ยน #ชลบุรี #วันหยุด #ไหว้พระ #ท่องเที่ยว #พักผ่อน #สบายใจ #travel #thailand #thaitimes #kaiaminute
    วัดบุญญราศรี หลวงปู่เมี้ยน #ชลบุรี #วันหยุด #ไหว้พระ #ท่องเที่ยว #พักผ่อน #สบายใจ #travel #thailand #thaitimes #kaiaminute
    0 Comments 0 Shares 234 Views 7 0 Reviews
  • พักผ่อนวันหยุด กับลำธารสายน้ำไหลหลังบ้าน #ชุมชนบ้านคีรีวง #นครศรีธรรมราช
    พักผ่อนวันหยุด กับลำธารสายน้ำไหลหลังบ้าน #ชุมชนบ้านคีรีวง #นครศรีธรรมราช
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 248 Views 2 0 Reviews
  • คำคมใหม่ แต่เป็นสัจธรรมเก่า 80
    เหนื่อยใจแย่กว่าเหนื่อยกาย เพราะว่าเหนื่อยกายนั้นเราพักสักหน่อยมันก็หาย แต่เหนื่อยใจนั้นแม้ว่าเราจะพักผ่อนสักเพียงไรมันก็ไม่หายเหนื่อยใจอยู่นั่นเอง
    คำคมใหม่ แต่เป็นสัจธรรมเก่า 80 เหนื่อยใจแย่กว่าเหนื่อยกาย เพราะว่าเหนื่อยกายนั้นเราพักสักหน่อยมันก็หาย แต่เหนื่อยใจนั้นแม้ว่าเราจะพักผ่อนสักเพียงไรมันก็ไม่หายเหนื่อยใจอยู่นั่นเอง
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • คำอธิบายการเป็นราชาผู้พิทักษ์แห่งความมืดของฉัน
    ราชาผู้พิทักษ์มีอยู่สองแบบ คือ
    หนึ่ง เป็นโดยกำเนิด ซึ่งก็คือการที่มีพรสวรรค์ที่พิเศษมาตั้งแต่กำเนิด โดยอาศัยปัจจัยที่สำคัญมากยิ่ง หนึ่งในนั้นก็คือ บุญญาธิการ หรือ บุญกุศลบุญบารมี ที่เคยได้เคยกระทำมาแล้วในอดีตชาตินั่นเอง
    สอง เป็นโดยความสามรถ ซึ่งก็คือการฝึกฝนอบรมขัดเกลาความสามารถในด้านต่างๆโดยได้รับการอบรมสั่งสอนจากผู้อื่น หรือ โดยบังคับโดยสภาวะแวดล้อมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจกระทำด้วยตนเองก็ตาม
    ซึ่งโดยในตัวของฉันนั้นเองนั้นเป็นโดยความสามารถนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลยในการเป็นราชาผู้พิทักษ์ของฉันนั้น ฉันฝึกฝนตนเองโดยใช้ธรรมะในการฝึกฝนความสามารถพิเศษต่างๆจากการศึกษาหาความรู้จากในหนังสือธรรมะ การปฏิบัติธรรมในรูปแบบต่างๆมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมบุญกุศลบุญบารมีในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน รักษาศีล และการภาวนา(สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน นั่งสมาธิ)และก็จะต้องทำทุกวันทุกคืนไม่ได้ขาดเลย เพราะว่าของมันจะเสื่อมลง ยกเว้นตอนป่วย เพราะตอนคนเราป่วยไข้นั้น มันจะทำให้เราไม่สามารถทำได้อย่างสบาย หรือ ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่นัก(ก็คนมันป่วยนี่นะ มันมีคนป่วยที่ไหนมันเดินมันวิ่งได้ล่ะ ไม่มีหรอก ฮ่าๆๆ)ซึ่งแต่ก่อนที่ฉันจะหันมาเข้าสู่ทางธรรมนั้น ฉันก็ได้พลังมาโดยการเป็นบ้า คลั่ง ฟุ้งซ่าน และได้รับพลังมาโดยการถูกมารร้ายเข้าสิงร่าง ซึ่งในตอนนั้นฉันนั้นไม่สามารถควบคุมพลังของมารร้ายได้ และได้รับพลังเข้ามามากจนเกินกำลังความสามารถที่ฉันนั้นจะสามารถควบคุมพลังของมารร้ายตนนั้นได้ ซึ่งอย่าว่าแต่คิดที่จะควบคุมพลังเลย แค่ควบคุมตัวเองฉันยังทำไม่ได้เลย(ให้ตายสิว่ะ)ซึ่งมันก็เหมือนกับคนถูกของสั่งใส่หรือคนถูกผีเข้านั่นแหล่ะ แต่มันจะต่างกันตรงที่คนที่ถูกผีเข้าจะไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่มีสติ และก็จะจำอะไรไม่ได้เลย ในตอนที่ถูกผีเข้าสิงร่าง แต่การถูกมารร้ายเข้าสิงมันไม่เหมือนกัน มันต่างกันตรงที่มีสติ พูดจารู้เรื่อง แต่จะปวดหัวมาก เหมือนหัวมันจะระเบิดออกมาให้ได้เลยยังไงยังงั้น แต่มันไม่ระเบิดออกมาจริงๆก็เท่านั้นเอง(ถ้าหัวคนเรามันระเบิดออกมาจริงๆ มันก็ตายคาที่ตรงนั้นไปแล้ว)และก็จะต้องระบายอารมณ์ความโกรธเกรี้ยวกราดออกมาเพื่อที่จะทำให้มันหายปวดหัวนั่นเองแหล่ะ มันเหมือนกับการทำให้ตัวเองหายเหนื่อยโดยการพักผ่อนนั่นเอง แต่ตอนนี้มันไม่เป็นอย่างนั้นแล้วล่ะ ฉันสามารถควบคุมมันและพลังได้แล้ว โดยใช้ธรรมะเป็นตัวควบคุมและเป็นแรงผลักดันในการเพิ่มพลังความสามารถของฉันให้มีมากขึ้นยิ่งๆขึ้นไปเรื่อยๆ(ทุกวันนี้ฉันยังไม่เคยใช้พลังของตัวเองที่มีอย่างสูงสุดขีดอย่างเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มเลย ไม่มีโอกาสใช้เลยว่ะ)และความสามารถที่แท้จริงของฉันก็ยังไม่ถึงขีดสุดเลย เพราะขีดสูงสุดของพลังที่แท้จริงนั้นมันจะต้องเปิดพลังจักรวาล ซึ่งมีอยู่ทางเดียวนั่นเองก็คือการบรรลุมรรคผลนิพพานเท่านั้น พอถึงจุดนั้นแล้วก็ไม่มีผู้ใดต่อต้านฉันได้อีกต่อไป นอกจากตัวเอง แต่แม้แต่พระพุทธเจ้าและเหล่าพระอรหันต์ยังตายเลย ฉันเองก็ต้องตายเหมือนกัน ไม่มีใครอยู่ยงค้ำฟ้าไปตลอดกาลหรอก ซึ่งมันก็จะมีคนรุ่นใหม่ๆมาทดแทนเป็นยุคสมัยใหม่ต่อไปนั่นแหล่ะ
    ที่ฉันเป็นราชาได้ไม่ใช่เพราะว่าฉันแข็งแกร่งแต่เพียงอย่างเดียวหรอกนะ มันต้องมีองค์ประกอบปัจจัยในหลายๆอย่างมันถึงจะแข็งแกร่งได้ เช่น มีร่างกายที่แข็งแรง มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ มีธรรมะ มีความดีงาม มีบุญกุศลบุญบารมี มีคุณธรรม มีศีลธรรม มีปัญญาญาณ และก็ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมายหลายอย่างเลยนะ และคนชั่ว คนเลว คนไม่ดี คนไม่มีศีลมีธรรม มันเป็นราชาไม่ได้หรอก เค้าไม่ให้มันเป็น(ฉันหมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะ)มันจะต้องได้รับความอนุญาตอนุเคราะห์จากเค้าก่อนนะ ถึงจะเป็นราชากันได้ ซึ่งจะรับรู้ได้โดยญาณของตนเอง เมื่อฝึกฝนมาเต็มที่เต็มภูมิแล้วนั่นเอง แค่เป็นคนเก่งอย่างเดียวมันไม่พอหรอกนะ มันต้องเป็นคนดีด้วย มันถึงจะเป็นราชากันได้ ซึ่งฉันเห็นไอ้พวกที่มันอยากจะเป็นอย่างฉันนั้นมันมีมากมายเยอะแยะกันเสียเหลือเกินนักหนา แต่มันก็เป็นไม่ได้หรอก เผลอๆดีไม่ดีมันจะกลายเป็นบ้ากันไปหมดทุกคนเลยนะ เพราะเค้าไม่อนุญาตให้มันเป็น แล้วก็อีกอย่างนึงนะ ไอ้พวกนี้มันชอบเลียนแบบฉันกันนักเชียว กะอีแค่ชื่อนามแฝงของฉันมันก็เอาไป(ฉันหมายถึงชื่อ Dark Danger นะ)ตำแหน่งของฉันมันก็เอาไป(ฉันหมายถึง The King Of Dark นะ แต่ตำแหน่งนี้มันเป็นแค่ราชาแห่งความมืดธรรมดาทั่วไป)ซึ่งแค่ตำแหน่งมันก็ไม่เท่าไหร่ เพราะว่าผู้ที่มีคุณสมบัติของราชาแห่งความมืดนี้มีถึง หนึ่ง ใน หนึ่งล้าน คน แต่ว่าผู้ที่เป็นราชาแห่งความมืดนั้นมีเพียงแค่ หนึ่ง ใน หนึ่งพันล้าน คน เท่านั้น แต่ผู้ที่เป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงนั้นมีเพียง หนึ่ง ใน หนึ่งล้านล้าน คน เท่านั้นเอง ซึ่งประชากรในโลกนี้มีเพียงหลายพันล้านคนในปัจจุบัน และฉันก็ปรารถนาที่จะเป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงในอนาคตให้จงได้เลย(เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเสียใจในภายหลังว่าชาติหนึ่งนี้จะไม่ได้เป็น ฉันจะเป็นให้จงได้)ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปในอนาคตอันไกลข้างหน้า ไม่ใช่เพื่อตัวของฉันเองเพียงแค่คนเดียว เพราะว่าการเป็นราชานั้นมันจะต้องแลกกับการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เป็นราชาแล้วมันดูเท่ ดูดี เป็นแล้วมันสบาย ไม่ใช่อย่างนั้นอย่างแน่นอน มีตำแหน่งก็ต้องมีภาระหน้าที่ที่ต้องทำ ไม่ใช่ไม่มี ซึ่งมันก็เหมือนกันกับในหนังไอ้แมงมุมและหนังอื่นๆที่ว่า “พลังที่ยิ่งใหญ่ มักจะมากับภาระที่ใหญ่ยิ่ง” นั่นเอง และคนที่เคยได้ไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของตำแหน่งราชาที่แท้จริงก็มีให้เห็นเป็นประจักษ์พยานแล้วอยู่คนหนึ่ง คนที่ทุกคนรักและเทิดทูนบูชายิ่งกว่าราชาทั่วไป ราชาที่แท้จริง ราชาเหนือราชาทั้งปวง แค่เอ่ยแค่นี้ก็คงจะนึกออกได้ทันทีทันใด ถ้ายังนึกไม่ออกก็จะบอกให้ คนๆนั้นก็คือ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ นั่งเองไง
    “ฉันจะเป็นราชาที่แท้จริงให้จงได้ เป็นให้ได้อย่างท่านให้จงได้ ท่านพ่อหลวง(ในหลวงรัชกาลที่ ๙)”
    “ชั่วชีวิตนี้ลูกขอมอบไว้ให้กับพวกท่าน แด่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ตราบใดที่ลูกยังอยู่ ลูกจะขอสืบทอดสานต่อซึ่งเจตจำนงบรรพชน อุดมการณ์พันธมิตรฯ และภารกิจของพวกท่านต่อไป และตลอดไป”
    ป.ล.ใครอยากจะเป็นราชาแห่งความมืดก็เป็นไป แต่จงจำไว้อย่างนึง คือ ใครที่มันล้อเล่นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มันไม่มีทางได้ดีมีความสุขอย่างแน่นอน(เผลอๆมันจะตายโหงตายห่าโดยไม่รู้ตัว ถ้าไม่ตายก็ทรมาน เป็นบ้ากัน ทนทุกขเวทนาตลอดชีวิต ตกลงนรกหมกไหม้กันทังเป็นและตายไป)ฉันเตือนแล้วนะ ถ้าไม่อยากเป็นบ้า ก็ขอให้เลิกเป็นซะ แล้วจะหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ
    คำอธิบายการเป็นราชาผู้พิทักษ์แห่งความมืดของฉัน ราชาผู้พิทักษ์มีอยู่สองแบบ คือ หนึ่ง เป็นโดยกำเนิด ซึ่งก็คือการที่มีพรสวรรค์ที่พิเศษมาตั้งแต่กำเนิด โดยอาศัยปัจจัยที่สำคัญมากยิ่ง หนึ่งในนั้นก็คือ บุญญาธิการ หรือ บุญกุศลบุญบารมี ที่เคยได้เคยกระทำมาแล้วในอดีตชาตินั่นเอง สอง เป็นโดยความสามรถ ซึ่งก็คือการฝึกฝนอบรมขัดเกลาความสามารถในด้านต่างๆโดยได้รับการอบรมสั่งสอนจากผู้อื่น หรือ โดยบังคับโดยสภาวะแวดล้อมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจกระทำด้วยตนเองก็ตาม ซึ่งโดยในตัวของฉันนั้นเองนั้นเป็นโดยความสามารถนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลยในการเป็นราชาผู้พิทักษ์ของฉันนั้น ฉันฝึกฝนตนเองโดยใช้ธรรมะในการฝึกฝนความสามารถพิเศษต่างๆจากการศึกษาหาความรู้จากในหนังสือธรรมะ การปฏิบัติธรรมในรูปแบบต่างๆมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมบุญกุศลบุญบารมีในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน รักษาศีล และการภาวนา(สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน นั่งสมาธิ)และก็จะต้องทำทุกวันทุกคืนไม่ได้ขาดเลย เพราะว่าของมันจะเสื่อมลง ยกเว้นตอนป่วย เพราะตอนคนเราป่วยไข้นั้น มันจะทำให้เราไม่สามารถทำได้อย่างสบาย หรือ ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่นัก(ก็คนมันป่วยนี่นะ มันมีคนป่วยที่ไหนมันเดินมันวิ่งได้ล่ะ ไม่มีหรอก ฮ่าๆๆ)ซึ่งแต่ก่อนที่ฉันจะหันมาเข้าสู่ทางธรรมนั้น ฉันก็ได้พลังมาโดยการเป็นบ้า คลั่ง ฟุ้งซ่าน และได้รับพลังมาโดยการถูกมารร้ายเข้าสิงร่าง ซึ่งในตอนนั้นฉันนั้นไม่สามารถควบคุมพลังของมารร้ายได้ และได้รับพลังเข้ามามากจนเกินกำลังความสามารถที่ฉันนั้นจะสามารถควบคุมพลังของมารร้ายตนนั้นได้ ซึ่งอย่าว่าแต่คิดที่จะควบคุมพลังเลย แค่ควบคุมตัวเองฉันยังทำไม่ได้เลย(ให้ตายสิว่ะ)ซึ่งมันก็เหมือนกับคนถูกของสั่งใส่หรือคนถูกผีเข้านั่นแหล่ะ แต่มันจะต่างกันตรงที่คนที่ถูกผีเข้าจะไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่มีสติ และก็จะจำอะไรไม่ได้เลย ในตอนที่ถูกผีเข้าสิงร่าง แต่การถูกมารร้ายเข้าสิงมันไม่เหมือนกัน มันต่างกันตรงที่มีสติ พูดจารู้เรื่อง แต่จะปวดหัวมาก เหมือนหัวมันจะระเบิดออกมาให้ได้เลยยังไงยังงั้น แต่มันไม่ระเบิดออกมาจริงๆก็เท่านั้นเอง(ถ้าหัวคนเรามันระเบิดออกมาจริงๆ มันก็ตายคาที่ตรงนั้นไปแล้ว)และก็จะต้องระบายอารมณ์ความโกรธเกรี้ยวกราดออกมาเพื่อที่จะทำให้มันหายปวดหัวนั่นเองแหล่ะ มันเหมือนกับการทำให้ตัวเองหายเหนื่อยโดยการพักผ่อนนั่นเอง แต่ตอนนี้มันไม่เป็นอย่างนั้นแล้วล่ะ ฉันสามารถควบคุมมันและพลังได้แล้ว โดยใช้ธรรมะเป็นตัวควบคุมและเป็นแรงผลักดันในการเพิ่มพลังความสามารถของฉันให้มีมากขึ้นยิ่งๆขึ้นไปเรื่อยๆ(ทุกวันนี้ฉันยังไม่เคยใช้พลังของตัวเองที่มีอย่างสูงสุดขีดอย่างเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มเลย ไม่มีโอกาสใช้เลยว่ะ)และความสามารถที่แท้จริงของฉันก็ยังไม่ถึงขีดสุดเลย เพราะขีดสูงสุดของพลังที่แท้จริงนั้นมันจะต้องเปิดพลังจักรวาล ซึ่งมีอยู่ทางเดียวนั่นเองก็คือการบรรลุมรรคผลนิพพานเท่านั้น พอถึงจุดนั้นแล้วก็ไม่มีผู้ใดต่อต้านฉันได้อีกต่อไป นอกจากตัวเอง แต่แม้แต่พระพุทธเจ้าและเหล่าพระอรหันต์ยังตายเลย ฉันเองก็ต้องตายเหมือนกัน ไม่มีใครอยู่ยงค้ำฟ้าไปตลอดกาลหรอก ซึ่งมันก็จะมีคนรุ่นใหม่ๆมาทดแทนเป็นยุคสมัยใหม่ต่อไปนั่นแหล่ะ ที่ฉันเป็นราชาได้ไม่ใช่เพราะว่าฉันแข็งแกร่งแต่เพียงอย่างเดียวหรอกนะ มันต้องมีองค์ประกอบปัจจัยในหลายๆอย่างมันถึงจะแข็งแกร่งได้ เช่น มีร่างกายที่แข็งแรง มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ มีธรรมะ มีความดีงาม มีบุญกุศลบุญบารมี มีคุณธรรม มีศีลธรรม มีปัญญาญาณ และก็ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมายหลายอย่างเลยนะ และคนชั่ว คนเลว คนไม่ดี คนไม่มีศีลมีธรรม มันเป็นราชาไม่ได้หรอก เค้าไม่ให้มันเป็น(ฉันหมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะ)มันจะต้องได้รับความอนุญาตอนุเคราะห์จากเค้าก่อนนะ ถึงจะเป็นราชากันได้ ซึ่งจะรับรู้ได้โดยญาณของตนเอง เมื่อฝึกฝนมาเต็มที่เต็มภูมิแล้วนั่นเอง แค่เป็นคนเก่งอย่างเดียวมันไม่พอหรอกนะ มันต้องเป็นคนดีด้วย มันถึงจะเป็นราชากันได้ ซึ่งฉันเห็นไอ้พวกที่มันอยากจะเป็นอย่างฉันนั้นมันมีมากมายเยอะแยะกันเสียเหลือเกินนักหนา แต่มันก็เป็นไม่ได้หรอก เผลอๆดีไม่ดีมันจะกลายเป็นบ้ากันไปหมดทุกคนเลยนะ เพราะเค้าไม่อนุญาตให้มันเป็น แล้วก็อีกอย่างนึงนะ ไอ้พวกนี้มันชอบเลียนแบบฉันกันนักเชียว กะอีแค่ชื่อนามแฝงของฉันมันก็เอาไป(ฉันหมายถึงชื่อ Dark Danger นะ)ตำแหน่งของฉันมันก็เอาไป(ฉันหมายถึง The King Of Dark นะ แต่ตำแหน่งนี้มันเป็นแค่ราชาแห่งความมืดธรรมดาทั่วไป)ซึ่งแค่ตำแหน่งมันก็ไม่เท่าไหร่ เพราะว่าผู้ที่มีคุณสมบัติของราชาแห่งความมืดนี้มีถึง หนึ่ง ใน หนึ่งล้าน คน แต่ว่าผู้ที่เป็นราชาแห่งความมืดนั้นมีเพียงแค่ หนึ่ง ใน หนึ่งพันล้าน คน เท่านั้น แต่ผู้ที่เป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงนั้นมีเพียง หนึ่ง ใน หนึ่งล้านล้าน คน เท่านั้นเอง ซึ่งประชากรในโลกนี้มีเพียงหลายพันล้านคนในปัจจุบัน และฉันก็ปรารถนาที่จะเป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงในอนาคตให้จงได้เลย(เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเสียใจในภายหลังว่าชาติหนึ่งนี้จะไม่ได้เป็น ฉันจะเป็นให้จงได้)ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปในอนาคตอันไกลข้างหน้า ไม่ใช่เพื่อตัวของฉันเองเพียงแค่คนเดียว เพราะว่าการเป็นราชานั้นมันจะต้องแลกกับการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เป็นราชาแล้วมันดูเท่ ดูดี เป็นแล้วมันสบาย ไม่ใช่อย่างนั้นอย่างแน่นอน มีตำแหน่งก็ต้องมีภาระหน้าที่ที่ต้องทำ ไม่ใช่ไม่มี ซึ่งมันก็เหมือนกันกับในหนังไอ้แมงมุมและหนังอื่นๆที่ว่า “พลังที่ยิ่งใหญ่ มักจะมากับภาระที่ใหญ่ยิ่ง” นั่นเอง และคนที่เคยได้ไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของตำแหน่งราชาที่แท้จริงก็มีให้เห็นเป็นประจักษ์พยานแล้วอยู่คนหนึ่ง คนที่ทุกคนรักและเทิดทูนบูชายิ่งกว่าราชาทั่วไป ราชาที่แท้จริง ราชาเหนือราชาทั้งปวง แค่เอ่ยแค่นี้ก็คงจะนึกออกได้ทันทีทันใด ถ้ายังนึกไม่ออกก็จะบอกให้ คนๆนั้นก็คือ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ นั่งเองไง “ฉันจะเป็นราชาที่แท้จริงให้จงได้ เป็นให้ได้อย่างท่านให้จงได้ ท่านพ่อหลวง(ในหลวงรัชกาลที่ ๙)” “ชั่วชีวิตนี้ลูกขอมอบไว้ให้กับพวกท่าน แด่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ตราบใดที่ลูกยังอยู่ ลูกจะขอสืบทอดสานต่อซึ่งเจตจำนงบรรพชน อุดมการณ์พันธมิตรฯ และภารกิจของพวกท่านต่อไป และตลอดไป” ป.ล.ใครอยากจะเป็นราชาแห่งความมืดก็เป็นไป แต่จงจำไว้อย่างนึง คือ ใครที่มันล้อเล่นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มันไม่มีทางได้ดีมีความสุขอย่างแน่นอน(เผลอๆมันจะตายโหงตายห่าโดยไม่รู้ตัว ถ้าไม่ตายก็ทรมาน เป็นบ้ากัน ทนทุกขเวทนาตลอดชีวิต ตกลงนรกหมกไหม้กันทังเป็นและตายไป)ฉันเตือนแล้วนะ ถ้าไม่อยากเป็นบ้า ก็ขอให้เลิกเป็นซะ แล้วจะหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ
    0 Comments 0 Shares 191 Views 0 Reviews
  • 21/1/68

    การต่อสายดิน หรือ การต่อลงดินคืออะไร?
    การต่อลงดินเป็นเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อร่างกายเข้ากับพื้นผิวโลกเพื่อให้สามารถถ่ายโอนอิเล็กตรอนจากโลกเข้าสู่ร่างกายได้

    หากต้องการทำความเข้าใจว่าการต่อลงดินทำงานอย่างไร สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจบทบาทของอิเล็กตรอนในร่างกายมนุษย์เสียก่อน ดังนั้น เรามาเริ่มต้นที่ชั้นเรียนชีววิทยากันก่อน อิเล็กตรอนเป็นอนุภาคย่อยของอะตอมที่มีประจุลบ ซึ่งมีอยู่ในสสารทุกชนิด รวมทั้งร่างกายมนุษย์ด้วย อิเล็กตรอนมีบทบาทสำคัญในปฏิกิริยาทางชีวเคมี การผลิตพลังงาน และการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน

    เมื่อร่างกายสัมผัสกับมลพิษในสิ่งแวดล้อม สารพิษ และสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (EMF) ร่างกายอาจเกิดภาวะเครียดออกซิเดชัน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่ออนุมูลอิสระและสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายไม่สมดุล อนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียรซึ่งอาจทำให้เซลล์ โปรตีน และ DNA เสียหายได้ สารต้านอนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลที่สามารถทำให้อนุมูลอิสระเป็นกลางและป้องกันความเสียหายจากออกซิเดชันได้

    พื้นผิวโลกมีประจุลบ ซึ่งหมายความว่ามีอิเล็กตรอนจำนวนมากที่สามารถถ่ายโอนไปยังร่างกายได้โดยการสัมผัสโดยตรงกับพื้นผิวโลกเมื่อร่างกายสัมผัสกับโลก อิเล็กตรอนจะไหลจากโลกเข้าสู่ร่างกาย ทำให้อนุมูลอิสระเป็นกลางและลดการอักเสบโดยพื้นฐานแล้ว พลังงานของโลกจะถูกใช้ในการรักษาตามธรรมชาติ

    เมื่อร่างกายถูกตัดขาดจากสนามไฟฟ้าของโลก อาจเกิดภาวะไฟฟ้าไม่สมดุล ซึ่งอาจนำไปสู่อาการอักเสบเรื้อรัง ความเจ็บปวด และระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ การต่อสายดินสามารถช่วยฟื้นฟูสมดุลไฟฟ้าตามธรรมชาติของร่างกาย และปรับปรุงสุขภาพและความเป็นอยู่โดยรวมให้ดีขึ้น

    วิทยาศาสตร์บอกอะไรเกี่ยวกับการต่อสายดิน
    การเชื่อมต่อกับโลกอาจฟังดูเป็นเรื่องลึกลับ แต่ว่ามันได้ผลจริงหรือไม่ มาดูทางวิทยาศาสตร์กันดีกว่า

    * การนอนหลับที่ดีขึ้น: การศึกษาวิจัยหนึ่งได้คัดเลือกผู้เข้าร่วม 60 คนที่มีปัญหาด้านการนอนหลับและปวดข้อหรือกล้ามเนื้อ นักวิจัยให้ผู้เข้าร่วมนอนบนเสื่อรองดิน (ที่ต่อสายดินกับพื้นด้วยลวดทองแดง) หรือเสื่อรองนอนแบบหลอกเป็นเวลาหนึ่งเดือน ในกลุ่มทดลองที่ต่อสายดิน: 
    * 74% มีอาการปวดดีขึ้น (0% สำหรับกลุ่มควบคุม)
    * 78% รายงานว่าความเป็นอยู่โดยทั่วไปดีขึ้น (13% สำหรับกลุ่มควบคุม)
    * 82% มีอาการกล้ามเนื้อตึงและปวดน้อยลง (0% สำหรับกลุ่มควบคุม)
    * 85% ปรับปรุงเวลาในการนอนหลับ (13% สำหรับกลุ่มควบคุม)
    * 93% มีคุณภาพการนอนหลับที่ดีขึ้น (13% สำหรับกลุ่มควบคุม)
    * ตื่นมารู้สึกสดชื่น 100% (13% สำหรับควบคุม)


    * ลดอาการปวดและการอักเสบ: การศึกษาวิจัย ขนาดเล็กในปี 2010ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Alternative and Complementary Medicine พบว่าการกราวด์ช่วยลดเครื่องหมายของการอักเสบในร่างกาย ซึ่งรวมถึงโปรตีนซี-รีแอคทีฟ (CRP) ด้วย


    * ความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ (HRV)และระดับความเครียดที่ดีขึ้นการศึกษาแบบปกปิดสองชั้นในปี 2011ได้ให้ผู้เข้าร่วม 27 คนสัมผัสกับการต่อสายดิน ผลลัพธ์บ่งชี้ว่าการทำงานของระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (การพักผ่อน การย่อยอาหาร การซ่อมแซม) เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในกลุ่มที่ได้รับการต่อสายดินเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมหลังจากช่วงเวลา 40 นาที ผู้เขียนเขียนว่า "การต่อสายดินทำให้ค่า HRV ดีขึ้น ซึ่งเกินกว่าการผ่อนคลายแบบธรรมดา"


    * การนอนหลับดีขึ้น ความเจ็บปวด อัตราการเต้นของหัวใจ และเลือดแข็งตัวมากเกินไปบทวิจารณ์ในปี 2012ในวารสารสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุขพบว่าการใช้สายดินอาจเป็น "กลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการต่อต้านความเครียดเรื้อรัง ความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง การอักเสบ ความเจ็บปวด การนอนหลับไม่เพียงพอ อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ เลือดแข็งตัวมากเกินไป และความผิดปกติทางสุขภาพทั่วไปหลายอย่าง รวมถึงโรคหัวใจและหลอดเลือด"


    * ความเหนื่อยล้าลดลงการทดลองแบบสุ่มควบคุมในปี 2019วัดไบโอมาร์กเกอร์ของนักกายภาพบำบัด 16 คนในการทดลองแบบสุ่มควบคุมแบบปกปิดสองชั้นขณะที่พวกเขาถูกวางอยู่บนพื้นระหว่างทำงานและขณะนอนหลับ พบว่า "นักกายภาพบำบัดมีสมรรถภาพทางกายและพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และอาการเหนื่อยล้า อารมณ์ซึมเศร้า ความเหนื่อยล้า และความเจ็บปวดลดลงอย่างมีนัยสำคัญในขณะที่ถูกวางอยู่บนพื้นเมื่อเทียบกับตอนที่ไม่ได้ถูกวางอยู่บนพื้น"


    * การฟื้นฟูที่ดีขึ้นหลังการออกกำลังกายในการศึกษาวิจัยในปี 2015กลุ่มบุคคลที่มีสุขภาพแข็งแรงจำนวน 32 คนถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มที่เน้นการลงกราวด์และกลุ่มที่เน้นการลงกราวด์แบบแกล้งทำ หลังจากทำการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงโดยงอเข่าครึ่งข้าง 200 ครั้ง พบว่าระดับครีเอทีนไคเนสแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีระดับของมาร์กเกอร์การอักเสบที่สูงขึ้นในกลุ่มแกล้งทำ กลุ่มที่เน้นการลงกราวด์ยังแสดงให้เห็นระดับเกล็ดเลือดและนิวโทรฟิลที่สูงขึ้นในช่วงไม่กี่วันหลังการออกกำลังกาย การศึกษาวิจัยรายงานว่า "การลงกราวด์ช่วยลดการสูญเสีย CK จากกล้ามเนื้อที่ได้รับบาดเจ็บได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบ่งชี้ว่ากล้ามเนื้อได้รับความเสียหายน้อยลง"


    * การสมานแผลดีขึ้นบทความ ในวารสาร Journal of Inflammation Research เมื่อปี 2014ได้รายงานเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างการลงกราวด์และการปรับปรุงไซโตไคน์ เซลล์เม็ดเลือดขาว และ “โมเลกุลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อการอักเสบ” ผู้เขียนกล่าวต่อไปว่า “การรักษาจะเร็วขึ้นมาก และสัญญาณหลักของการอักเสบจะลดลงหรือถูกกำจัดออกไป โปรไฟล์ของตัวบ่งชี้การอักเสบต่างๆ ในช่วงเวลาต่างๆ จะแตกต่างกันมากในบุคคลที่ลงกราวด์”

การต่อสายดินเป็นแนวทางปฏิบัติที่นิยมกันในการแข่งขันตูร์ เดอ ฟรองซ์ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ดูเหมือนจะก้าวหน้ากว่าด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬา เสมอ นักปั่นหลายคนมักจะนำการต่อสายดินมาใช้ในชีวิตประจำวัน และนักปั่นที่เกิดบาดแผล รอยถลอก หรือถลอกจากอุบัติเหตุ จะใช้แผ่นต่อสายดินเหนือและใต้บาดแผลเพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น


    * ความดันโลหิตลดลงการศึกษาวิจัยในปี 2018ได้ทำการศึกษากับผู้ป่วยความดันโลหิตสูงจำนวน 10 ราย ซึ่งทำการออกกำลังกายแบบกราวด์เป็นเวลา 10 ชั่วโมงต่อวันเป็นเวลาหลายเดือน เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว ผู้เข้าร่วมทั้งหมดมีความดันโลหิตซิสโตลิกลดลง โดยลดลงตั้งแต่ 8.6% ถึง 22.7% และลดลงโดยเฉลี่ย 14.3%

    ภาพด้านล่างซึ่งถ่ายจากการศึกษาในปี 2020 นี้แสดงให้เห็นภาพผลลัพธ์ของการต่อสายดิน ภาพความร้อนแสดงให้เห็นผู้ป่วยที่มีอาการปวดเข่า โดยถ่ายห่างกันครึ่งชั่วโมง ก่อนและหลังการต่อสายดิน ภาพด้านซ้ายแสดงสีร้อนที่แสดงถึงความเสียหายของเนื้อเยื่อและการอักเสบในบริเวณหัวเข่า ภาพด้านขวาซึ่งถ่ายหลังจากต่อสายดิน แสดงให้เห็นการลดลงของการอักเสบอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบ่งชี้ด้วยสีที่เย็นกว่า

    การต่อสายดินได้ผลหรือไม่? แม้ว่าจะมีหลักฐานมากมายที่สนับสนุน แต่การศึกษาเหล่านี้ไม่มีการศึกษาใดที่เหมาะสมที่สุด การศึกษาจำนวนมากขาดผู้เข้าร่วมจำนวนมากหรือการทดลองควบคุมแบบสุ่ม จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมอีกมากเพื่อพิจารณาว่าการต่อสายดินหรือการต่อสายดินได้ผลหรือไม่ แต่สามารถพูดได้อย่างปลอดภัยว่าแทบไม่มีข้อเสียเลย และควรทำการ ทดลอง n=1เพื่อค้นหาคำตอบด้วยตัวคุณเอง
    วิธีการต่อสายดินหรือกราวด์
    ความสวยงามของการต่อสายดินอยู่ที่ความเรียบง่าย ไม่มีเทคนิคการต่อสายดินหรือโปรโตคอลการต่อสายดินที่เฉพาะเจาะจง คุณเพียงแค่ต้องสัมผัสกับพื้นโลก ซึ่งอาจเป็นการสัมผัสโดยตรงหรือผ่านพื้นผิวที่มีสภาพเป็นสื่อไฟฟ้า เช่น แผ่นต่อสายดินหรือรองเท้าเฉพาะ
    * เดินเท้าเปล่า การเดินเท้าเปล่าบนพื้นผิวดินตามธรรมชาติ เช่น หญ้า ทราย หรือดิน ถือเป็นวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการต่อลงดิน วิธีนี้ช่วยให้สัมผัสกับพื้นผิวโลกโดยตรง และช่วยให้ร่างกายดูดซับประจุไฟฟ้าตามธรรมชาติของโลกได้

    * แผ่นกันดินการใช้แผ่นกันดิน แผ่น หรือแผ่นแปะที่เสียบลงดินเป็นวิธีที่สะดวกในการลงดินภายในอาคาร ถือเป็นแนวทางที่ดีหากคุณไม่สามารถเดินเท้าเปล่านอกบ้านได้อย่างสม่ำเสมอ ฉันยืนบนแผ่นกันดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็ก ราคาไม่แพง ขณะเขียนหนังสือ ซึ่งมีสายไฟที่ต่อเข้ากับรูที่สามของปลั๊กไฟ 3 ขาแบบมาตรฐานในเต้าเสียบ คุณสามารถเพิ่มขั้นตอนนี้ได้อีกโดยหาแผ่นกันดินที่ใหญ่กว่ามาปูรองนอน

    รองเท้าแตะ Earth Runners

    * รองเท้าที่มีคุณสมบัติเป็นสื่อไฟฟ้าการใช้รองเท้าที่มีคุณสมบัติเป็นสื่อไฟฟ้า เช่น รองเท้าที่มีแผ่นทองแดง เป็นอีกวิธีหนึ่งในการต่อสายดิน รองเท้าประเภทนี้ช่วยให้สัมผัสพื้นได้โดยตรง ซึ่งเหมาะมากเมื่ออากาศหนาวเย็นหรือเมื่อเดินเท้าเปล่าซึ่งไม่เหมาะสมต่อการเข้าสังคม ฉันจะสวมรองเท้าแตะ Earth Runner เป็นครั้งคราว ซึ่งมีสายทองแดงที่เชื่อมเท้าของคุณกับพื้น

    พื้นผิวที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับการต่อสายดิน
    โดยทั่วไป พื้นผิวธรรมชาติ เช่น ดิน ทราย และหญ้า เหมาะที่สุดสำหรับการลงกราวด์ พื้นผิว เช่น คอนกรีต อาจไม่นำไฟฟ้าได้มากเท่า แต่ยังคงมีประสิทธิภาพ

    อย่างไรก็ตาม พื้นผิวด้านล่างไม่นำไฟฟ้าได้ดี และจึงไม่มีประสิทธิภาพในการต่อลงดิน
    * ยางมะตอย
    * ไม้
    * ไวนิล
    * พลาสติก
    * พรม
    * ยาง(รวมรองเท้า)

    คุณควรลงดินนานแค่ไหน?
    ปริมาณการต่อสายดินที่มีประสิทธิภาพขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 20 นาที ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำให้ต่อสายดินวันละ 20-30 นาทีเพื่อดูประโยชน์ ในขณะที่บางคนสามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงได้เกือบจะทันที

    สิ่งที่ฉันทำ
    เป้าหมายของฉันคือการได้กราวด์อย่างน้อย 20 นาทีต่อวัน ในช่วงเดือนที่อากาศหนาวเย็น ฉันจะใช้แผ่นกราวด์ (ดังที่กล่าวข้างต้น) ซึ่งฉันจะวางไว้ใต้เท้าขณะเขียนบทความเหล่านี้
    ในช่วงเดือนที่อากาศอบอุ่น ครอบครัวของเราใช้ประโยชน์จากสนามหญ้าอย่างเต็มที่ด้วยการใช้เวลาอยู่กลางแจ้งโดยไม่สวมรองเท้า (และมักจะไม่สวมถุงเท้าด้วย) นอกเหนือจากประโยชน์อื่นๆ ที่ได้รับจากการเดินเท้าเปล่าแล้ว เรายังถือว่าการเดินเท้าเปล่าเป็นเรื่องปกติทั้งในบ้านและนอกบ้านเมื่ออากาศดี การพัดใบไม้บนทางเท้าและทางเข้าบ้านเป็นครั้งคราวจะช่วยลดกิ่งไม้หรืออันตรายอื่นๆ ในบริเวณนั้นได้

    บทสรุป
    โดยสรุป การต่อสายดินเป็นวิธีปฏิบัติง่ายๆ ที่เป็นธรรมชาติซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย การเชื่อมต่อร่างกายของเรากับพื้นผิวโลกจะช่วยให้เราดูดซับประจุไฟฟ้าตามธรรมชาติของโลกได้ ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลระบบไฟฟ้าของร่างกายและลดการอักเสบได้ ซึ่งอาจส่งผลให้เรานอนหลับได้ดีขึ้น ความเครียดและความวิตกกังวลลดลง กล้ามเนื้อฟื้นตัวได้ดีขึ้น พลังงานเพิ่มขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย

    มีหลายวิธีในการฝึกลงกราวด์หรือต่อสายดิน ตั้งแต่การเดินเท้าเปล่านอกบ้านบนพื้นผิวธรรมชาติไปจนถึงการใช้เสื่อหรือแผ่นลงกราวด์ที่เสียบปลั๊กลงดิน การเลือกพื้นผิวที่นำไฟฟ้าได้ เช่น หญ้า ดิน หรือทราย ถือเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากจะเสี่ยงต่อการโดนหินกระแทกเมื่อเหยียบลงบนหญ้าแล้ว ความเสี่ยงยังต่ำและยังมีข้อดีอีกมากมาย ดังนั้นควรถอดรองเท้าแล้วออกไปข้างนอก
    cr:MBD
    21/1/68 การต่อสายดิน หรือ การต่อลงดินคืออะไร? การต่อลงดินเป็นเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อร่างกายเข้ากับพื้นผิวโลกเพื่อให้สามารถถ่ายโอนอิเล็กตรอนจากโลกเข้าสู่ร่างกายได้ หากต้องการทำความเข้าใจว่าการต่อลงดินทำงานอย่างไร สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจบทบาทของอิเล็กตรอนในร่างกายมนุษย์เสียก่อน ดังนั้น เรามาเริ่มต้นที่ชั้นเรียนชีววิทยากันก่อน อิเล็กตรอนเป็นอนุภาคย่อยของอะตอมที่มีประจุลบ ซึ่งมีอยู่ในสสารทุกชนิด รวมทั้งร่างกายมนุษย์ด้วย อิเล็กตรอนมีบทบาทสำคัญในปฏิกิริยาทางชีวเคมี การผลิตพลังงาน และการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อร่างกายสัมผัสกับมลพิษในสิ่งแวดล้อม สารพิษ และสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (EMF) ร่างกายอาจเกิดภาวะเครียดออกซิเดชัน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่ออนุมูลอิสระและสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายไม่สมดุล อนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียรซึ่งอาจทำให้เซลล์ โปรตีน และ DNA เสียหายได้ สารต้านอนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลที่สามารถทำให้อนุมูลอิสระเป็นกลางและป้องกันความเสียหายจากออกซิเดชันได้ พื้นผิวโลกมีประจุลบ ซึ่งหมายความว่ามีอิเล็กตรอนจำนวนมากที่สามารถถ่ายโอนไปยังร่างกายได้โดยการสัมผัสโดยตรงกับพื้นผิวโลกเมื่อร่างกายสัมผัสกับโลก อิเล็กตรอนจะไหลจากโลกเข้าสู่ร่างกาย ทำให้อนุมูลอิสระเป็นกลางและลดการอักเสบโดยพื้นฐานแล้ว พลังงานของโลกจะถูกใช้ในการรักษาตามธรรมชาติ
 เมื่อร่างกายถูกตัดขาดจากสนามไฟฟ้าของโลก อาจเกิดภาวะไฟฟ้าไม่สมดุล ซึ่งอาจนำไปสู่อาการอักเสบเรื้อรัง ความเจ็บปวด และระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ การต่อสายดินสามารถช่วยฟื้นฟูสมดุลไฟฟ้าตามธรรมชาติของร่างกาย และปรับปรุงสุขภาพและความเป็นอยู่โดยรวมให้ดีขึ้น วิทยาศาสตร์บอกอะไรเกี่ยวกับการต่อสายดิน การเชื่อมต่อกับโลกอาจฟังดูเป็นเรื่องลึกลับ แต่ว่ามันได้ผลจริงหรือไม่ มาดูทางวิทยาศาสตร์กันดีกว่า * การนอนหลับที่ดีขึ้น: การศึกษาวิจัยหนึ่งได้คัดเลือกผู้เข้าร่วม 60 คนที่มีปัญหาด้านการนอนหลับและปวดข้อหรือกล้ามเนื้อ นักวิจัยให้ผู้เข้าร่วมนอนบนเสื่อรองดิน (ที่ต่อสายดินกับพื้นด้วยลวดทองแดง) หรือเสื่อรองนอนแบบหลอกเป็นเวลาหนึ่งเดือน ในกลุ่มทดลองที่ต่อสายดิน:  * 74% มีอาการปวดดีขึ้น (0% สำหรับกลุ่มควบคุม) * 78% รายงานว่าความเป็นอยู่โดยทั่วไปดีขึ้น (13% สำหรับกลุ่มควบคุม) * 82% มีอาการกล้ามเนื้อตึงและปวดน้อยลง (0% สำหรับกลุ่มควบคุม) * 85% ปรับปรุงเวลาในการนอนหลับ (13% สำหรับกลุ่มควบคุม) * 93% มีคุณภาพการนอนหลับที่ดีขึ้น (13% สำหรับกลุ่มควบคุม) * ตื่นมารู้สึกสดชื่น 100% (13% สำหรับควบคุม)

 * ลดอาการปวดและการอักเสบ: การศึกษาวิจัย ขนาดเล็กในปี 2010ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Alternative and Complementary Medicine พบว่าการกราวด์ช่วยลดเครื่องหมายของการอักเสบในร่างกาย ซึ่งรวมถึงโปรตีนซี-รีแอคทีฟ (CRP) ด้วย

 * ความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ (HRV)และระดับความเครียดที่ดีขึ้นการศึกษาแบบปกปิดสองชั้นในปี 2011ได้ให้ผู้เข้าร่วม 27 คนสัมผัสกับการต่อสายดิน ผลลัพธ์บ่งชี้ว่าการทำงานของระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (การพักผ่อน การย่อยอาหาร การซ่อมแซม) เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในกลุ่มที่ได้รับการต่อสายดินเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมหลังจากช่วงเวลา 40 นาที ผู้เขียนเขียนว่า "การต่อสายดินทำให้ค่า HRV ดีขึ้น ซึ่งเกินกว่าการผ่อนคลายแบบธรรมดา"

 * การนอนหลับดีขึ้น ความเจ็บปวด อัตราการเต้นของหัวใจ และเลือดแข็งตัวมากเกินไปบทวิจารณ์ในปี 2012ในวารสารสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุขพบว่าการใช้สายดินอาจเป็น "กลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการต่อต้านความเครียดเรื้อรัง ความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง การอักเสบ ความเจ็บปวด การนอนหลับไม่เพียงพอ อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ เลือดแข็งตัวมากเกินไป และความผิดปกติทางสุขภาพทั่วไปหลายอย่าง รวมถึงโรคหัวใจและหลอดเลือด"

 * ความเหนื่อยล้าลดลงการทดลองแบบสุ่มควบคุมในปี 2019วัดไบโอมาร์กเกอร์ของนักกายภาพบำบัด 16 คนในการทดลองแบบสุ่มควบคุมแบบปกปิดสองชั้นขณะที่พวกเขาถูกวางอยู่บนพื้นระหว่างทำงานและขณะนอนหลับ พบว่า "นักกายภาพบำบัดมีสมรรถภาพทางกายและพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และอาการเหนื่อยล้า อารมณ์ซึมเศร้า ความเหนื่อยล้า และความเจ็บปวดลดลงอย่างมีนัยสำคัญในขณะที่ถูกวางอยู่บนพื้นเมื่อเทียบกับตอนที่ไม่ได้ถูกวางอยู่บนพื้น"

 * การฟื้นฟูที่ดีขึ้นหลังการออกกำลังกายในการศึกษาวิจัยในปี 2015กลุ่มบุคคลที่มีสุขภาพแข็งแรงจำนวน 32 คนถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มที่เน้นการลงกราวด์และกลุ่มที่เน้นการลงกราวด์แบบแกล้งทำ หลังจากทำการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงโดยงอเข่าครึ่งข้าง 200 ครั้ง พบว่าระดับครีเอทีนไคเนสแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีระดับของมาร์กเกอร์การอักเสบที่สูงขึ้นในกลุ่มแกล้งทำ กลุ่มที่เน้นการลงกราวด์ยังแสดงให้เห็นระดับเกล็ดเลือดและนิวโทรฟิลที่สูงขึ้นในช่วงไม่กี่วันหลังการออกกำลังกาย การศึกษาวิจัยรายงานว่า "การลงกราวด์ช่วยลดการสูญเสีย CK จากกล้ามเนื้อที่ได้รับบาดเจ็บได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบ่งชี้ว่ากล้ามเนื้อได้รับความเสียหายน้อยลง"

 * การสมานแผลดีขึ้นบทความ ในวารสาร Journal of Inflammation Research เมื่อปี 2014ได้รายงานเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างการลงกราวด์และการปรับปรุงไซโตไคน์ เซลล์เม็ดเลือดขาว และ “โมเลกุลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อการอักเสบ” ผู้เขียนกล่าวต่อไปว่า “การรักษาจะเร็วขึ้นมาก และสัญญาณหลักของการอักเสบจะลดลงหรือถูกกำจัดออกไป โปรไฟล์ของตัวบ่งชี้การอักเสบต่างๆ ในช่วงเวลาต่างๆ จะแตกต่างกันมากในบุคคลที่ลงกราวด์”

การต่อสายดินเป็นแนวทางปฏิบัติที่นิยมกันในการแข่งขันตูร์ เดอ ฟรองซ์ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ดูเหมือนจะก้าวหน้ากว่าด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬา เสมอ นักปั่นหลายคนมักจะนำการต่อสายดินมาใช้ในชีวิตประจำวัน และนักปั่นที่เกิดบาดแผล รอยถลอก หรือถลอกจากอุบัติเหตุ จะใช้แผ่นต่อสายดินเหนือและใต้บาดแผลเพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น

 * ความดันโลหิตลดลงการศึกษาวิจัยในปี 2018ได้ทำการศึกษากับผู้ป่วยความดันโลหิตสูงจำนวน 10 ราย ซึ่งทำการออกกำลังกายแบบกราวด์เป็นเวลา 10 ชั่วโมงต่อวันเป็นเวลาหลายเดือน เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว ผู้เข้าร่วมทั้งหมดมีความดันโลหิตซิสโตลิกลดลง โดยลดลงตั้งแต่ 8.6% ถึง 22.7% และลดลงโดยเฉลี่ย 14.3% ภาพด้านล่างซึ่งถ่ายจากการศึกษาในปี 2020 นี้แสดงให้เห็นภาพผลลัพธ์ของการต่อสายดิน ภาพความร้อนแสดงให้เห็นผู้ป่วยที่มีอาการปวดเข่า โดยถ่ายห่างกันครึ่งชั่วโมง ก่อนและหลังการต่อสายดิน ภาพด้านซ้ายแสดงสีร้อนที่แสดงถึงความเสียหายของเนื้อเยื่อและการอักเสบในบริเวณหัวเข่า ภาพด้านขวาซึ่งถ่ายหลังจากต่อสายดิน แสดงให้เห็นการลดลงของการอักเสบอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบ่งชี้ด้วยสีที่เย็นกว่า การต่อสายดินได้ผลหรือไม่? แม้ว่าจะมีหลักฐานมากมายที่สนับสนุน แต่การศึกษาเหล่านี้ไม่มีการศึกษาใดที่เหมาะสมที่สุด การศึกษาจำนวนมากขาดผู้เข้าร่วมจำนวนมากหรือการทดลองควบคุมแบบสุ่ม จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมอีกมากเพื่อพิจารณาว่าการต่อสายดินหรือการต่อสายดินได้ผลหรือไม่ แต่สามารถพูดได้อย่างปลอดภัยว่าแทบไม่มีข้อเสียเลย และควรทำการ ทดลอง n=1เพื่อค้นหาคำตอบด้วยตัวคุณเอง วิธีการต่อสายดินหรือกราวด์ ความสวยงามของการต่อสายดินอยู่ที่ความเรียบง่าย ไม่มีเทคนิคการต่อสายดินหรือโปรโตคอลการต่อสายดินที่เฉพาะเจาะจง คุณเพียงแค่ต้องสัมผัสกับพื้นโลก ซึ่งอาจเป็นการสัมผัสโดยตรงหรือผ่านพื้นผิวที่มีสภาพเป็นสื่อไฟฟ้า เช่น แผ่นต่อสายดินหรือรองเท้าเฉพาะ * เดินเท้าเปล่า การเดินเท้าเปล่าบนพื้นผิวดินตามธรรมชาติ เช่น หญ้า ทราย หรือดิน ถือเป็นวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการต่อลงดิน วิธีนี้ช่วยให้สัมผัสกับพื้นผิวโลกโดยตรง และช่วยให้ร่างกายดูดซับประจุไฟฟ้าตามธรรมชาติของโลกได้
 * แผ่นกันดินการใช้แผ่นกันดิน แผ่น หรือแผ่นแปะที่เสียบลงดินเป็นวิธีที่สะดวกในการลงดินภายในอาคาร ถือเป็นแนวทางที่ดีหากคุณไม่สามารถเดินเท้าเปล่านอกบ้านได้อย่างสม่ำเสมอ ฉันยืนบนแผ่นกันดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็ก ราคาไม่แพง ขณะเขียนหนังสือ ซึ่งมีสายไฟที่ต่อเข้ากับรูที่สามของปลั๊กไฟ 3 ขาแบบมาตรฐานในเต้าเสียบ คุณสามารถเพิ่มขั้นตอนนี้ได้อีกโดยหาแผ่นกันดินที่ใหญ่กว่ามาปูรองนอน รองเท้าแตะ Earth Runners * รองเท้าที่มีคุณสมบัติเป็นสื่อไฟฟ้าการใช้รองเท้าที่มีคุณสมบัติเป็นสื่อไฟฟ้า เช่น รองเท้าที่มีแผ่นทองแดง เป็นอีกวิธีหนึ่งในการต่อสายดิน รองเท้าประเภทนี้ช่วยให้สัมผัสพื้นได้โดยตรง ซึ่งเหมาะมากเมื่ออากาศหนาวเย็นหรือเมื่อเดินเท้าเปล่าซึ่งไม่เหมาะสมต่อการเข้าสังคม ฉันจะสวมรองเท้าแตะ Earth Runner เป็นครั้งคราว ซึ่งมีสายทองแดงที่เชื่อมเท้าของคุณกับพื้น 
 พื้นผิวที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับการต่อสายดิน โดยทั่วไป พื้นผิวธรรมชาติ เช่น ดิน ทราย และหญ้า เหมาะที่สุดสำหรับการลงกราวด์ พื้นผิว เช่น คอนกรีต อาจไม่นำไฟฟ้าได้มากเท่า แต่ยังคงมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม พื้นผิวด้านล่างไม่นำไฟฟ้าได้ดี และจึงไม่มีประสิทธิภาพในการต่อลงดิน * ยางมะตอย * ไม้ * ไวนิล * พลาสติก * พรม * ยาง(รวมรองเท้า) คุณควรลงดินนานแค่ไหน? ปริมาณการต่อสายดินที่มีประสิทธิภาพขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 20 นาที ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำให้ต่อสายดินวันละ 20-30 นาทีเพื่อดูประโยชน์ ในขณะที่บางคนสามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงได้เกือบจะทันที สิ่งที่ฉันทำ เป้าหมายของฉันคือการได้กราวด์อย่างน้อย 20 นาทีต่อวัน ในช่วงเดือนที่อากาศหนาวเย็น ฉันจะใช้แผ่นกราวด์ (ดังที่กล่าวข้างต้น) ซึ่งฉันจะวางไว้ใต้เท้าขณะเขียนบทความเหล่านี้ ในช่วงเดือนที่อากาศอบอุ่น ครอบครัวของเราใช้ประโยชน์จากสนามหญ้าอย่างเต็มที่ด้วยการใช้เวลาอยู่กลางแจ้งโดยไม่สวมรองเท้า (และมักจะไม่สวมถุงเท้าด้วย) นอกเหนือจากประโยชน์อื่นๆ ที่ได้รับจากการเดินเท้าเปล่าแล้ว เรายังถือว่าการเดินเท้าเปล่าเป็นเรื่องปกติทั้งในบ้านและนอกบ้านเมื่ออากาศดี การพัดใบไม้บนทางเท้าและทางเข้าบ้านเป็นครั้งคราวจะช่วยลดกิ่งไม้หรืออันตรายอื่นๆ ในบริเวณนั้นได้ บทสรุป โดยสรุป การต่อสายดินเป็นวิธีปฏิบัติง่ายๆ ที่เป็นธรรมชาติซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย การเชื่อมต่อร่างกายของเรากับพื้นผิวโลกจะช่วยให้เราดูดซับประจุไฟฟ้าตามธรรมชาติของโลกได้ ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลระบบไฟฟ้าของร่างกายและลดการอักเสบได้ ซึ่งอาจส่งผลให้เรานอนหลับได้ดีขึ้น ความเครียดและความวิตกกังวลลดลง กล้ามเนื้อฟื้นตัวได้ดีขึ้น พลังงานเพิ่มขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย มีหลายวิธีในการฝึกลงกราวด์หรือต่อสายดิน ตั้งแต่การเดินเท้าเปล่านอกบ้านบนพื้นผิวธรรมชาติไปจนถึงการใช้เสื่อหรือแผ่นลงกราวด์ที่เสียบปลั๊กลงดิน การเลือกพื้นผิวที่นำไฟฟ้าได้ เช่น หญ้า ดิน หรือทราย ถือเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากจะเสี่ยงต่อการโดนหินกระแทกเมื่อเหยียบลงบนหญ้าแล้ว ความเสี่ยงยังต่ำและยังมีข้อดีอีกมากมาย ดังนั้นควรถอดรองเท้าแล้วออกไปข้างนอก cr:MBD
    0 Comments 0 Shares 285 Views 0 Reviews
  • กฎทองแห่งความสำเร็จ💰🥇

    —ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน – รู้ว่าต้องการอะไรในชีวิต

    —วางแผนและลงมือทำทันที – อย่ารอจนทุกอย่างสมบูรณ์แบบ

    —บริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ – จัดลำดับความสำคัญ

    —พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง – เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา

    —ลงมือทำทีละขั้น – แบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นเป้าหมายย่อย

    —มีวินัยในตัวเอง – ทำสิ่งสำคัญแม้ในวันที่ไม่อยากทำ

    —คิดบวก – มองทุกปัญหาเป็นโอกาส

    —สร้างนิสัยที่ดี – เช่น การอ่านหนังสือหรือออกกำลังกาย

    —เชื่อมั่นในตัวเอง – อย่าปล่อยให้ความกลัวมาขวางทาง

    —รู้จักเรียนรู้จากความล้มเหลว – ใช้มันเป็นบทเรียน

    —ล้อมรอบตัวเองด้วยคนที่เป็นแรงบันดาลใจ

    —อย่ายอมแพ้ – ความสำเร็จต้องใช้เวลา

    —กล้าออกจาก Comfort Zone

    —ตั้งเป้าหมายให้สูงขึ้นเสมอ – อย่าหยุดที่ความสำเร็จแรก

    —สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ

    —สร้างเครือข่ายที่ดี – Networking สำคัญมาก

    —ใช้เงินอย่างฉลาด – ลงทุนในสิ่งที่มีค่า

    —รับผิดชอบต่อชีวิตตัวเอง

    —อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง

    —มีความยืดหยุ่น – พร้อมปรับแผนตามสถานการณ์

    —โฟกัสที่สิ่งสำคัญที่สุด

    —เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

    —สร้างแรงจูงใจให้ตัวเองทุกวัน

    —มีเป้าหมายที่เป็นไปได้

    —ทำงานหนักและฉลาด – ใช้ทั้งพลังและความคิด

    —จัดการความเครียด – รักษาสมดุลชีวิต

    —มีสุขภาพดี – ออกกำลังกายและกินอาหารที่ดี

    —รู้จักขอบคุณสิ่งที่มี – ฝึกความกตัญญู

    —กล้าตัดสินใจ – แม้จะเสี่ยง

    —สม่ำเสมอ – ความสำเร็จมาจากการทำซ้ำ ๆ

    —มองหาโอกาสใหม่ – อย่ากลัวการเริ่มต้นใหม่

    —อย่ายึดติดกับความสำเร็จเก่า

    —มองหาความรู้เพิ่มเติมเสมอ

    —เข้าใจคุณค่าของเวลา

    —แบ่งปันความสำเร็จ – ช่วยเหลือผู้อื่น

    —ฝึกความอดทน

    —เรียนรู้จากผู้ที่ประสบความสำเร็จ

    —อย่าหยุดพัฒนาเทคโนโลยีที่คุณใช้

    —ทำงานเป็นทีม – รู้จักการทำงานร่วมกับผู้อื่น

    —ตั้งคำถามกับตัวเองบ่อย ๆ – เพื่อพัฒนาต่อไป

    —รู้จักปฏิเสธสิ่งที่ไม่สำคัญ

    —รักษาความน่าเชื่อถือ

    —อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ

    —ลงทุนในตัวเอง – เช่น การศึกษา การพัฒนาทักษะ

    —ฝึกสมาธิและจดจ่อ

    —มุ่งมั่นในเป้าหมายจนกว่าจะสำเร็จ

    —รู้จักการพักผ่อน – ไม่ทำงานจนเกินไป

    —สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองและคนรอบข้าง

    —ทบทวนความสำเร็จและความผิดพลาด – เพื่อพัฒนา

    —อย่าหยุดฝัน – ทุกสิ่งเริ่มต้นจากความฝัน

    หนังสือที่แนะนำให้อ่าน📖🧠
    กฎทองแห่งความสำเร็จ💰🥇 —ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน – รู้ว่าต้องการอะไรในชีวิต —วางแผนและลงมือทำทันที – อย่ารอจนทุกอย่างสมบูรณ์แบบ —บริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ – จัดลำดับความสำคัญ —พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง – เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา —ลงมือทำทีละขั้น – แบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นเป้าหมายย่อย —มีวินัยในตัวเอง – ทำสิ่งสำคัญแม้ในวันที่ไม่อยากทำ —คิดบวก – มองทุกปัญหาเป็นโอกาส —สร้างนิสัยที่ดี – เช่น การอ่านหนังสือหรือออกกำลังกาย —เชื่อมั่นในตัวเอง – อย่าปล่อยให้ความกลัวมาขวางทาง —รู้จักเรียนรู้จากความล้มเหลว – ใช้มันเป็นบทเรียน —ล้อมรอบตัวเองด้วยคนที่เป็นแรงบันดาลใจ —อย่ายอมแพ้ – ความสำเร็จต้องใช้เวลา —กล้าออกจาก Comfort Zone —ตั้งเป้าหมายให้สูงขึ้นเสมอ – อย่าหยุดที่ความสำเร็จแรก —สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ —สร้างเครือข่ายที่ดี – Networking สำคัญมาก —ใช้เงินอย่างฉลาด – ลงทุนในสิ่งที่มีค่า —รับผิดชอบต่อชีวิตตัวเอง —อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง —มีความยืดหยุ่น – พร้อมปรับแผนตามสถานการณ์ —โฟกัสที่สิ่งสำคัญที่สุด —เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น —สร้างแรงจูงใจให้ตัวเองทุกวัน —มีเป้าหมายที่เป็นไปได้ —ทำงานหนักและฉลาด – ใช้ทั้งพลังและความคิด —จัดการความเครียด – รักษาสมดุลชีวิต —มีสุขภาพดี – ออกกำลังกายและกินอาหารที่ดี —รู้จักขอบคุณสิ่งที่มี – ฝึกความกตัญญู —กล้าตัดสินใจ – แม้จะเสี่ยง —สม่ำเสมอ – ความสำเร็จมาจากการทำซ้ำ ๆ —มองหาโอกาสใหม่ – อย่ากลัวการเริ่มต้นใหม่ —อย่ายึดติดกับความสำเร็จเก่า —มองหาความรู้เพิ่มเติมเสมอ —เข้าใจคุณค่าของเวลา —แบ่งปันความสำเร็จ – ช่วยเหลือผู้อื่น —ฝึกความอดทน —เรียนรู้จากผู้ที่ประสบความสำเร็จ —อย่าหยุดพัฒนาเทคโนโลยีที่คุณใช้ —ทำงานเป็นทีม – รู้จักการทำงานร่วมกับผู้อื่น —ตั้งคำถามกับตัวเองบ่อย ๆ – เพื่อพัฒนาต่อไป —รู้จักปฏิเสธสิ่งที่ไม่สำคัญ —รักษาความน่าเชื่อถือ —อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ —ลงทุนในตัวเอง – เช่น การศึกษา การพัฒนาทักษะ —ฝึกสมาธิและจดจ่อ —มุ่งมั่นในเป้าหมายจนกว่าจะสำเร็จ —รู้จักการพักผ่อน – ไม่ทำงานจนเกินไป —สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองและคนรอบข้าง —ทบทวนความสำเร็จและความผิดพลาด – เพื่อพัฒนา —อย่าหยุดฝัน – ทุกสิ่งเริ่มต้นจากความฝัน หนังสือที่แนะนำให้อ่าน📖🧠
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 130 Views 0 Reviews
  • กฎทองแห่งความสำเร็จ💰🥇

    —ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน – รู้ว่าต้องการอะไรในชีวิต

    —วางแผนและลงมือทำทันที – อย่ารอจนทุกอย่างสมบูรณ์แบบ

    —บริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ – จัดลำดับความสำคัญ

    —พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง – เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา

    —ลงมือทำทีละขั้น – แบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นเป้าหมายย่อย

    —มีวินัยในตัวเอง – ทำสิ่งสำคัญแม้ในวันที่ไม่อยากทำ

    —คิดบวก – มองทุกปัญหาเป็นโอกาส

    —สร้างนิสัยที่ดี – เช่น การอ่านหนังสือหรือออกกำลังกาย

    —เชื่อมั่นในตัวเอง – อย่าปล่อยให้ความกลัวมาขวางทาง

    —รู้จักเรียนรู้จากความล้มเหลว – ใช้มันเป็นบทเรียน

    —ล้อมรอบตัวเองด้วยคนที่เป็นแรงบันดาลใจ

    —อย่ายอมแพ้ – ความสำเร็จต้องใช้เวลา

    —กล้าออกจาก Comfort Zone

    —ตั้งเป้าหมายให้สูงขึ้นเสมอ – อย่าหยุดที่ความสำเร็จแรก

    —สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ

    —สร้างเครือข่ายที่ดี – Networking สำคัญมาก

    —ใช้เงินอย่างฉลาด – ลงทุนในสิ่งที่มีค่า

    —รับผิดชอบต่อชีวิตตัวเอง

    —อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง

    —มีความยืดหยุ่น – พร้อมปรับแผนตามสถานการณ์

    —โฟกัสที่สิ่งสำคัญที่สุด

    —เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

    —สร้างแรงจูงใจให้ตัวเองทุกวัน

    —มีเป้าหมายที่เป็นไปได้

    —ทำงานหนักและฉลาด – ใช้ทั้งพลังและความคิด

    —จัดการความเครียด – รักษาสมดุลชีวิต

    —มีสุขภาพดี – ออกกำลังกายและกินอาหารที่ดี

    —รู้จักขอบคุณสิ่งที่มี – ฝึกความกตัญญู

    —กล้าตัดสินใจ – แม้จะเสี่ยง

    —สม่ำเสมอ – ความสำเร็จมาจากการทำซ้ำ ๆ

    —มองหาโอกาสใหม่ – อย่ากลัวการเริ่มต้นใหม่

    —อย่ายึดติดกับความสำเร็จเก่า

    —มองหาความรู้เพิ่มเติมเสมอ

    —เข้าใจคุณค่าของเวลา

    —แบ่งปันความสำเร็จ – ช่วยเหลือผู้อื่น

    —ฝึกความอดทน

    —เรียนรู้จากผู้ที่ประสบความสำเร็จ

    —อย่าหยุดพัฒนาเทคโนโลยีที่คุณใช้

    —ทำงานเป็นทีม – รู้จักการทำงานร่วมกับผู้อื่น

    —ตั้งคำถามกับตัวเองบ่อย ๆ – เพื่อพัฒนาต่อไป

    —รู้จักปฏิเสธสิ่งที่ไม่สำคัญ

    —รักษาความน่าเชื่อถือ

    —อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ

    —ลงทุนในตัวเอง – เช่น การศึกษา การพัฒนาทักษะ

    —ฝึกสมาธิและจดจ่อ

    —มุ่งมั่นในเป้าหมายจนกว่าจะสำเร็จ

    —รู้จักการพักผ่อน – ไม่ทำงานจนเกินไป

    —สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองและคนรอบข้าง

    —ทบทวนความสำเร็จและความผิดพลาด – เพื่อพัฒนา

    —อย่าหยุดฝัน – ทุกสิ่งเริ่มต้นจากความฝัน

    หนังสือที่แนะนำให้อ่าน📖🧠
    กฎทองแห่งความสำเร็จ💰🥇 —ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน – รู้ว่าต้องการอะไรในชีวิต —วางแผนและลงมือทำทันที – อย่ารอจนทุกอย่างสมบูรณ์แบบ —บริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ – จัดลำดับความสำคัญ —พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง – เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา —ลงมือทำทีละขั้น – แบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นเป้าหมายย่อย —มีวินัยในตัวเอง – ทำสิ่งสำคัญแม้ในวันที่ไม่อยากทำ —คิดบวก – มองทุกปัญหาเป็นโอกาส —สร้างนิสัยที่ดี – เช่น การอ่านหนังสือหรือออกกำลังกาย —เชื่อมั่นในตัวเอง – อย่าปล่อยให้ความกลัวมาขวางทาง —รู้จักเรียนรู้จากความล้มเหลว – ใช้มันเป็นบทเรียน —ล้อมรอบตัวเองด้วยคนที่เป็นแรงบันดาลใจ —อย่ายอมแพ้ – ความสำเร็จต้องใช้เวลา —กล้าออกจาก Comfort Zone —ตั้งเป้าหมายให้สูงขึ้นเสมอ – อย่าหยุดที่ความสำเร็จแรก —สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ —สร้างเครือข่ายที่ดี – Networking สำคัญมาก —ใช้เงินอย่างฉลาด – ลงทุนในสิ่งที่มีค่า —รับผิดชอบต่อชีวิตตัวเอง —อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง —มีความยืดหยุ่น – พร้อมปรับแผนตามสถานการณ์ —โฟกัสที่สิ่งสำคัญที่สุด —เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น —สร้างแรงจูงใจให้ตัวเองทุกวัน —มีเป้าหมายที่เป็นไปได้ —ทำงานหนักและฉลาด – ใช้ทั้งพลังและความคิด —จัดการความเครียด – รักษาสมดุลชีวิต —มีสุขภาพดี – ออกกำลังกายและกินอาหารที่ดี —รู้จักขอบคุณสิ่งที่มี – ฝึกความกตัญญู —กล้าตัดสินใจ – แม้จะเสี่ยง —สม่ำเสมอ – ความสำเร็จมาจากการทำซ้ำ ๆ —มองหาโอกาสใหม่ – อย่ากลัวการเริ่มต้นใหม่ —อย่ายึดติดกับความสำเร็จเก่า —มองหาความรู้เพิ่มเติมเสมอ —เข้าใจคุณค่าของเวลา —แบ่งปันความสำเร็จ – ช่วยเหลือผู้อื่น —ฝึกความอดทน —เรียนรู้จากผู้ที่ประสบความสำเร็จ —อย่าหยุดพัฒนาเทคโนโลยีที่คุณใช้ —ทำงานเป็นทีม – รู้จักการทำงานร่วมกับผู้อื่น —ตั้งคำถามกับตัวเองบ่อย ๆ – เพื่อพัฒนาต่อไป —รู้จักปฏิเสธสิ่งที่ไม่สำคัญ —รักษาความน่าเชื่อถือ —อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ —ลงทุนในตัวเอง – เช่น การศึกษา การพัฒนาทักษะ —ฝึกสมาธิและจดจ่อ —มุ่งมั่นในเป้าหมายจนกว่าจะสำเร็จ —รู้จักการพักผ่อน – ไม่ทำงานจนเกินไป —สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองและคนรอบข้าง —ทบทวนความสำเร็จและความผิดพลาด – เพื่อพัฒนา —อย่าหยุดฝัน – ทุกสิ่งเริ่มต้นจากความฝัน หนังสือที่แนะนำให้อ่าน📖🧠
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 122 Views 0 Reviews
  • 🌟 20 วิธีเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นใน 1 เดือน 🌟
    พัฒนาตัวเองไปทีละก้าว ให้ชีวิตดีกว่าเดิม! 💪✨
    1. ตั้งเป้าหมายระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ..จงยึดมั่น..ต่อเป้าหมายนั้น ไม่ใช่ยึดติดกับบุคคล หรือ สิ่งของ..

    2. คนสำเร็จในโลกนี้ล้วนแตกต่าง แต่สิ่งนึงที่เหมือนกัน คือ เขาเหล่านั้น มีนิสัย รักการอ่าน...
    3. จัดระเบียบชีวิต ให้ถูก นับ 1234 ให้เป็น..อะไรก่อนหลัง..เรียงให้ถูก ประหยัดเวลา ทั้งตนเอง และผู้อื่นที่มีเรื่องราวร่วมกัน
    .4. ตื่นเช้า..นกที่ตื่นก่อน ก็จะเจอหนอนก่อน..โอกาสดีๆ อาจจะมาเมื่อไรก็ได้..แบะเราต้องพร้อม.
    .5.ถ้าสวดมนต์นั่งสมาธิได้ จะดีมาก. มันทำให้เรามีความ นิ่ง ..เป็นการฝึกจิต
    .6.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย เดิน เอาตามสุขภาพ และอายุ..
    .7.จงเป็นผู้ฟังที่ดี ..มีส่วนร่วมในเรื่องราวของผู้อื่น..ไอ้แบบที่ ใครคุยอะไรไม่รู้ .และไม่สน.กูจะพูดในส่วนของกู เรื่องราวของกู..แบบนั้นคือ เข้าสังคมไม่เป็น.
    .8. พัฒนาทักษะเฉพาะทาง ..อาจไม่ต้องเป็นสิ่งใหม่..แต่ต้องเป็น spacialist ในทางนั้น..เลือกเอาจากความชอบส่วนตัว และดูความค้องการของตลาดแรงงานประกอบไปด้วย.
    .9.เลิกผัดวันประกันพรุ่ง คำว่า แปป เดี๋ยว เปลี่ยนเป็น now ถ้าไม่ได้ ระบุไปเลย 30 นาที 1 ชั่วโมง 4 โมง 5 โมง ว่าไป..คำว่า แปป พวกละอ่อนเขาใช้กัน
    .10. ดื่มน้ำมากๆ คนส่วนใหญ่ดื่มน้ำน้อย.
    .
    .11.ตั้งเวลาพักผ่อน เช่น อ่านหนังสือ เล่นโซเชี่ยล นอนอย่าเกิน 22.30น. เพราะเวลานี้น คือ ข่วงที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้ดี่ที่สุด.
    .
    12. อ่านหรือฟังแรงบันดาลใจ จากสิ่งที่เราเลือก แต่ต้องคัดกรอง ประเภทตัวจริง..เพราะของปลอมในสื่อต่างๆ มันมีมาก
    .
    13 ชื่นชมธรรมชาติบ้าง ..สีเขียวๆ เดินเหยียบสนามหญ้า บ้าง.
    .
    14 ให้ความสำคัญกับคนสำคัญ อย่างทั่วถึง. คำว่า ไม่มีเวลา ไม่มีจริง เป็นแค่คำอ้าง ของความไม่สำคัญ
    .15. ยอมรับและปล่อยวางสิ่งที่ติดค้างใจ..อาจไม่ต้องอภัย เพราะมันจะโลกสวยเกินไป..เอาแค่ ทดเอาไว้ก่อน..เมื่ออะไรผ่านไป .ค่อยกลับมาคิด.ว่า ทิ้ง..หรือ อะไร ..แค่มันต้องเป็นเรื่อง รองๆ ไปเยอะเลย
    .
    16. เรียนรู้จากคนสำเร็จ อ่านหนังสือของคนที่ประสบความสำเร็จ เอาตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มคนที่สำเร็จ จากการกระทำจริง
    .
    ลองทำตาม ถ้าคุณมีวินัยมากพอ ชีวิตอาจเปลี่ยนไปในแบบที่ไม่เคยคิด..ทัศนคติ และ วินัย ..เมื้อคุณสร้างมัน..มันก็จะกลับมาสร้างคุณ.. 🧧 Kriz
    🌟 20 วิธีเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นใน 1 เดือน 🌟 พัฒนาตัวเองไปทีละก้าว ให้ชีวิตดีกว่าเดิม! 💪✨ 1. ตั้งเป้าหมายระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ..จงยึดมั่น..ต่อเป้าหมายนั้น ไม่ใช่ยึดติดกับบุคคล หรือ สิ่งของ.. 2. คนสำเร็จในโลกนี้ล้วนแตกต่าง แต่สิ่งนึงที่เหมือนกัน คือ เขาเหล่านั้น มีนิสัย รักการอ่าน... 3. จัดระเบียบชีวิต ให้ถูก นับ 1234 ให้เป็น..อะไรก่อนหลัง..เรียงให้ถูก ประหยัดเวลา ทั้งตนเอง และผู้อื่นที่มีเรื่องราวร่วมกัน .4. ตื่นเช้า..นกที่ตื่นก่อน ก็จะเจอหนอนก่อน..โอกาสดีๆ อาจจะมาเมื่อไรก็ได้..แบะเราต้องพร้อม. .5.ถ้าสวดมนต์นั่งสมาธิได้ จะดีมาก. มันทำให้เรามีความ นิ่ง ..เป็นการฝึกจิต .6.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย เดิน เอาตามสุขภาพ และอายุ.. .7.จงเป็นผู้ฟังที่ดี ..มีส่วนร่วมในเรื่องราวของผู้อื่น..ไอ้แบบที่ ใครคุยอะไรไม่รู้ .และไม่สน.กูจะพูดในส่วนของกู เรื่องราวของกู..แบบนั้นคือ เข้าสังคมไม่เป็น. .8. พัฒนาทักษะเฉพาะทาง ..อาจไม่ต้องเป็นสิ่งใหม่..แต่ต้องเป็น spacialist ในทางนั้น..เลือกเอาจากความชอบส่วนตัว และดูความค้องการของตลาดแรงงานประกอบไปด้วย. .9.เลิกผัดวันประกันพรุ่ง คำว่า แปป เดี๋ยว เปลี่ยนเป็น now ถ้าไม่ได้ ระบุไปเลย 30 นาที 1 ชั่วโมง 4 โมง 5 โมง ว่าไป..คำว่า แปป พวกละอ่อนเขาใช้กัน .10. ดื่มน้ำมากๆ คนส่วนใหญ่ดื่มน้ำน้อย. . .11.ตั้งเวลาพักผ่อน เช่น อ่านหนังสือ เล่นโซเชี่ยล นอนอย่าเกิน 22.30น. เพราะเวลานี้น คือ ข่วงที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้ดี่ที่สุด. . 12. อ่านหรือฟังแรงบันดาลใจ จากสิ่งที่เราเลือก แต่ต้องคัดกรอง ประเภทตัวจริง..เพราะของปลอมในสื่อต่างๆ มันมีมาก . 13 ชื่นชมธรรมชาติบ้าง ..สีเขียวๆ เดินเหยียบสนามหญ้า บ้าง. . 14 ให้ความสำคัญกับคนสำคัญ อย่างทั่วถึง. คำว่า ไม่มีเวลา ไม่มีจริง เป็นแค่คำอ้าง ของความไม่สำคัญ .15. ยอมรับและปล่อยวางสิ่งที่ติดค้างใจ..อาจไม่ต้องอภัย เพราะมันจะโลกสวยเกินไป..เอาแค่ ทดเอาไว้ก่อน..เมื่ออะไรผ่านไป .ค่อยกลับมาคิด.ว่า ทิ้ง..หรือ อะไร ..แค่มันต้องเป็นเรื่อง รองๆ ไปเยอะเลย . 16. เรียนรู้จากคนสำเร็จ อ่านหนังสือของคนที่ประสบความสำเร็จ เอาตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มคนที่สำเร็จ จากการกระทำจริง . ลองทำตาม ถ้าคุณมีวินัยมากพอ ชีวิตอาจเปลี่ยนไปในแบบที่ไม่เคยคิด..ทัศนคติ และ วินัย ..เมื้อคุณสร้างมัน..มันก็จะกลับมาสร้างคุณ.. 🧧 Kriz
    3 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • River of Life ฟื้นชีวิตสายน้ำมาเลย์

    กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นอกจากจะมีอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ หรือตึกแฝด ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวแล้ว อีกจุดเช็กอินหนึ่งซึ่งเป็นที่พูดถึง คือ ริเวอร์ ออฟ ไลฟ์ (River of Life) บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Masjid Jamek ซึ่งมีมัสยิดเก่าแก่อย่างมัสยิดจาเม็ก ที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นที่บรรจบกันของแม่น้ำสองสาย ได้แก่ แม่น้ำแคลง (Klang River) กับแม่น้ำกอมบัค (Gombak River) ก่อนเข้าสู่รัฐสลังงอร์ ลงสู่ทะเลที่พอร์ตแคลง ท่าเรือน้ำลึกของประเทศ

    โครงการริเวอร์ออฟไลฟ์ ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2555 โดยมีจุดมุ่งหมายเปลี่ยนพื้นที่สาธารณะในเมือง ให้มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม จากเดิมเป็นเพียงแม่น้ำสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำเน่าเสีย ขยะ และสิ่งสกปรกต่างๆ ได้เปลี่ยนไป โดยการนำน้ำไปผ่านการบำบัดให้มีความสะอาด เพียงพอที่จะสัมผัสต่อร่างกายและการพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมกับสร้างทางเดินเลียบแม่น้ำ ความยาว 8 กิโลเมตร ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ ผ่านอาคารและสถานที่น่าสนใจหลายแห่งในเมือง

    แลนด์มาร์คที่สำคัญอยู่ที่เลโบห์ ปาซาร์ เบซาร์ (Leboh Pasar Besar) เชื่อมโยงระหว่างศูนย์กลางการบริหารของรัฐบาลอาณานิคมของอังกฤษที่ฝั่งตะวันตก กับชุมชนการค้าและการทำเหมืองของชาวเอเชียที่ฝั่งตะวันออก เดิมเคยเป็นสะพานไม้ ก่อนแทนที่ด้วยคานเหล็กและสะพานเหล็กหล่อ เป็นสัญลักษณ์ของยุคปฎิวัติอุตสาหกรรมในพื้นที่ ภายหลังได้รื้อลงมาในปี 2537 เพื่อก่อสร้างสะพานคอนกรีต เมื่อยืนจากสะพานจะมองเห็นแม่น้ำสองสายบรรจบกัน โดยมีมัสยิดจาเม็กอยู่เบื้องหลัง

    ลูกเล่นที่นำมาใช้ในโครงการนี้ ในยามกลางวันจะมีการพ่นละอองน้ำบริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำและมัสยิดจาเม็ก ราวกับเมืองในหมอก ส่วนเวลากลางคืนจะฉายไฟแอลอีดีโทนสีฟ้า เพื่อให้สวยงามราวกับเมืองในเทพนิยาย นอกจากนี้ การเข้มงวดกฎระเบียบก็เป็นสิ่งสำคัญ จะเห็นได้ว่าไม่มีขยะในแม่น้ำ ตามทางเดินไม่มีเศษบุหรี่ ไม่มีคนไร้บ้านเข้ามาพักอาศัยหลับนอน ตากเสื้อผ้า ตั้งเพิงพักใต้สะพาน จะมีก็แต่เดินเข้ามาปะปนกับผู้คนที่สัญจรไปมาโดยทั่วไปเท่านั้น

    กลับมาที่กรุงเทพมหานคร ที่ผ่านมาสมัย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นผู้ว่าฯ กทม. มีการพัฒนาแหล่งน้ำให้เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม ได้แก่ คลองโอ่งอ่าง คลองผดุงกรุงเกษม และคลองช่องนนทรี ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แต่มาถึงสมัยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ในปัจจุบันพบว่าแทบไม่ได้รับการสานต่อ ส่วนจุดที่เคยปรับภูมิทัศน์มีสภาพเสื่อมโทรม จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายเมื่อเปรียบเทียบกับเมืองหลวงประเทศเพื่อนบ้านที่พัฒนาก้าวหน้าแบบทิ้งห่างเช่นนี้

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    River of Life ฟื้นชีวิตสายน้ำมาเลย์ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นอกจากจะมีอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ หรือตึกแฝด ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวแล้ว อีกจุดเช็กอินหนึ่งซึ่งเป็นที่พูดถึง คือ ริเวอร์ ออฟ ไลฟ์ (River of Life) บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Masjid Jamek ซึ่งมีมัสยิดเก่าแก่อย่างมัสยิดจาเม็ก ที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นที่บรรจบกันของแม่น้ำสองสาย ได้แก่ แม่น้ำแคลง (Klang River) กับแม่น้ำกอมบัค (Gombak River) ก่อนเข้าสู่รัฐสลังงอร์ ลงสู่ทะเลที่พอร์ตแคลง ท่าเรือน้ำลึกของประเทศ โครงการริเวอร์ออฟไลฟ์ ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2555 โดยมีจุดมุ่งหมายเปลี่ยนพื้นที่สาธารณะในเมือง ให้มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม จากเดิมเป็นเพียงแม่น้ำสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำเน่าเสีย ขยะ และสิ่งสกปรกต่างๆ ได้เปลี่ยนไป โดยการนำน้ำไปผ่านการบำบัดให้มีความสะอาด เพียงพอที่จะสัมผัสต่อร่างกายและการพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมกับสร้างทางเดินเลียบแม่น้ำ ความยาว 8 กิโลเมตร ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ ผ่านอาคารและสถานที่น่าสนใจหลายแห่งในเมือง แลนด์มาร์คที่สำคัญอยู่ที่เลโบห์ ปาซาร์ เบซาร์ (Leboh Pasar Besar) เชื่อมโยงระหว่างศูนย์กลางการบริหารของรัฐบาลอาณานิคมของอังกฤษที่ฝั่งตะวันตก กับชุมชนการค้าและการทำเหมืองของชาวเอเชียที่ฝั่งตะวันออก เดิมเคยเป็นสะพานไม้ ก่อนแทนที่ด้วยคานเหล็กและสะพานเหล็กหล่อ เป็นสัญลักษณ์ของยุคปฎิวัติอุตสาหกรรมในพื้นที่ ภายหลังได้รื้อลงมาในปี 2537 เพื่อก่อสร้างสะพานคอนกรีต เมื่อยืนจากสะพานจะมองเห็นแม่น้ำสองสายบรรจบกัน โดยมีมัสยิดจาเม็กอยู่เบื้องหลัง ลูกเล่นที่นำมาใช้ในโครงการนี้ ในยามกลางวันจะมีการพ่นละอองน้ำบริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำและมัสยิดจาเม็ก ราวกับเมืองในหมอก ส่วนเวลากลางคืนจะฉายไฟแอลอีดีโทนสีฟ้า เพื่อให้สวยงามราวกับเมืองในเทพนิยาย นอกจากนี้ การเข้มงวดกฎระเบียบก็เป็นสิ่งสำคัญ จะเห็นได้ว่าไม่มีขยะในแม่น้ำ ตามทางเดินไม่มีเศษบุหรี่ ไม่มีคนไร้บ้านเข้ามาพักอาศัยหลับนอน ตากเสื้อผ้า ตั้งเพิงพักใต้สะพาน จะมีก็แต่เดินเข้ามาปะปนกับผู้คนที่สัญจรไปมาโดยทั่วไปเท่านั้น กลับมาที่กรุงเทพมหานคร ที่ผ่านมาสมัย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นผู้ว่าฯ กทม. มีการพัฒนาแหล่งน้ำให้เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม ได้แก่ คลองโอ่งอ่าง คลองผดุงกรุงเกษม และคลองช่องนนทรี ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แต่มาถึงสมัยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ในปัจจุบันพบว่าแทบไม่ได้รับการสานต่อ ส่วนจุดที่เคยปรับภูมิทัศน์มีสภาพเสื่อมโทรม จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายเมื่อเปรียบเทียบกับเมืองหลวงประเทศเพื่อนบ้านที่พัฒนาก้าวหน้าแบบทิ้งห่างเช่นนี้ #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    Love
    5
    0 Comments 0 Shares 403 Views 0 Reviews
  • วันนี้ขอพาทุกคนมาสัมผัสความสงบและงดงามที่ “วัดปัญญานันทาราม” ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

    จุดเด่นของวัดปัญญานันทาราม:
    • เจดีย์พุทธคยา: จำลองมาจากประเทศอินเดีย โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์ ชั้นบนของเจดีย์เรียกว่า ชั้นพุทธเมตตา มีรูปหล่อของหลวงพ่อปัญญาประดิษฐานให้กราบไหว้

    • ภาพปริศนาธรรมแบบ 3 มิติ: ตั้งอยู่ที่ชั้นพุทธบารมี ใต้เจดีย์พุทธคยา เป็นภาพที่สื่อถึงธรรมะและแง่คิดในการดำเนินชีวิต

    • บรรยากาศเงียบสงบ: เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมและพักผ่อนจิตใจ

    💡 Tips:
    • แต่งกายสุภาพและถอดรองเท้าก่อนเข้าพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์

    📍 พิกัด: วัดปัญญานันทาราม คลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
    วันนี้ขอพาทุกคนมาสัมผัสความสงบและงดงามที่ “วัดปัญญานันทาราม” ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จุดเด่นของวัดปัญญานันทาราม: • เจดีย์พุทธคยา: จำลองมาจากประเทศอินเดีย โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์ ชั้นบนของเจดีย์เรียกว่า ชั้นพุทธเมตตา มีรูปหล่อของหลวงพ่อปัญญาประดิษฐานให้กราบไหว้ • ภาพปริศนาธรรมแบบ 3 มิติ: ตั้งอยู่ที่ชั้นพุทธบารมี ใต้เจดีย์พุทธคยา เป็นภาพที่สื่อถึงธรรมะและแง่คิดในการดำเนินชีวิต • บรรยากาศเงียบสงบ: เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมและพักผ่อนจิตใจ 💡 Tips: • แต่งกายสุภาพและถอดรองเท้าก่อนเข้าพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ 📍 พิกัด: วัดปัญญานันทาราม คลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 371 Views 0 Reviews
  • วัดหงษ์ทอง #ฉะเชิงเทรา #ไหว้พระ #ท่องเที่ยว #วันหยุด #พักผ่อน #สบายใจ #travel #thailand #thaitimes #kaiaminute
    วัดหงษ์ทอง #ฉะเชิงเทรา #ไหว้พระ #ท่องเที่ยว #วันหยุด #พักผ่อน #สบายใจ #travel #thailand #thaitimes #kaiaminute
    0 Comments 0 Shares 346 Views 4 0 Reviews
  • Saloma Link สะพานที่มากกว่าไฟสวย

    มาเลเซียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนันทนาการ (Recreational Attraction) จำนวนมาก ซึ่งมนุษย์สร้างขึ้นเพื่อการพักผ่อนและเสริมสร้างสุขภาพ ให้ความสนุกสนาน บันเทิง และการศึกษาหาความรู้ แม้ไม่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม แต่มีลักษณะเป็นแหล่งท่องเที่ยวร่วมสมัย ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ River of Life บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Masjid Jamek และสะพาน Saloma Link บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru

    กล่าวถึงสะพาน Saloma Link (ซาโลมาลิงก์) เป็นสะพานขนาดไม่ใหญ่ ยาว 69 เมตร กว้าง 3 เมตร สูง 7 เมตร ข้ามทางด่วนสาย E12 อัมปัง-กัวลาลัมเปอร์ (AKLEH) และแม่น้ำแคลงที่อยู่เกาะกลาง มีทางลาดลงไปยังด้านข้างสุสานอิสลามจาลันอัมปัง แล้วออกทางแยกหน้าอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ ย่าน KLCC เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2563 โดยมีบริษัท VERITAS Design Group ออกแบบโครงสร้าง ใช้งบก่อสร้าง 31 ล้านริงกิต (237 ล้านบาท)

    จุดเด่นของสะพานซาโลมาลิงก์ คือการออกแบบโครงสร้างเหล็ก โดยได้แรงบันดาลใจจากการจัดช่อดอกไม้มงคลที่เรียกว่า ซิเระ จุนจุง (Sireh Junjung) ในพิธีแต่งงานของชาวมาเลย์ ประดับด้วยกระจกและแผงไฟ LED รูปทรงเพชร ฉายแสงในรูปแบบต่างๆ หลากสีสัน ชื่อสะพานมาจาก ซาโลมา ชื่อเรียกของ ซัลมาห์ อิสมาอิล (Salmah Ismail) นักร้อง นักแสดงชื่อดังชาวสิงคโปร์-มาเลเซีย ฉายามาริลิน มอนโรแห่งเอเชีย ที่เสียชีวิตเมื่อปี 2526 ด้วยวัย 48 ปี และถูกฝังอยู่ในสุสานอิสลามจาลันอัมปัง

    ก่อนจะมาเป็นสะพานที่สวยงามแห่งนี้ แต่เดิมเคยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแคลง จากกัวลาลัมเปอร์ไปยังกำปุงบารู (Kampung Baru) ชุมชนที่อยู่อีกฝั่ง แต่ได้รื้อสะพานเมื่อปี 2539 เพื่อก่อสร้างทางด่วนที่ยกสูงขึ้น เสมือนเป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำที่อยู่ตรงกลาง

    ในยามค่ำคืน สะพานแห่งนี้จะเปิดไฟ LED หลากสีสันอย่างสวยงาม ล้อไปกับตึกแฝดปิโตรนาสทาวเวอร์ ที่เปิดไฟส่องไสวไปทั่วตึกเช่นกัน นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปสะพานโดยเฉพาะฝั่งกำปุงบารู จะเห็นด้านหลังทั้งสะพานและตึกปิโตรนาส เป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมาเลเซียต้องไม่พลาด ซึ่งฝั่งกำปุงบารูจะเป็นชุมชนเก่าแก่ขนาดเล็ก มีร้านอาหารแบบสตรีทฟู้ดจำหน่าย ขึ้นลงได้จากบันไดและลิฟต์ และมีทางเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru ซึ่งเป็นสถานีใต้ดิน

    สะพานแห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่ 05.00-24.00 น. โปรดปฎิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ใช้ความระมัดระวังในการถ่ายรูป ไม่ปีนป่ายราวสะพาน และระวังสิ่งของที่ติดตัวตกจากสะพาน

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Saloma Link สะพานที่มากกว่าไฟสวย มาเลเซียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนันทนาการ (Recreational Attraction) จำนวนมาก ซึ่งมนุษย์สร้างขึ้นเพื่อการพักผ่อนและเสริมสร้างสุขภาพ ให้ความสนุกสนาน บันเทิง และการศึกษาหาความรู้ แม้ไม่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม แต่มีลักษณะเป็นแหล่งท่องเที่ยวร่วมสมัย ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ River of Life บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Masjid Jamek และสะพาน Saloma Link บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru กล่าวถึงสะพาน Saloma Link (ซาโลมาลิงก์) เป็นสะพานขนาดไม่ใหญ่ ยาว 69 เมตร กว้าง 3 เมตร สูง 7 เมตร ข้ามทางด่วนสาย E12 อัมปัง-กัวลาลัมเปอร์ (AKLEH) และแม่น้ำแคลงที่อยู่เกาะกลาง มีทางลาดลงไปยังด้านข้างสุสานอิสลามจาลันอัมปัง แล้วออกทางแยกหน้าอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ ย่าน KLCC เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2563 โดยมีบริษัท VERITAS Design Group ออกแบบโครงสร้าง ใช้งบก่อสร้าง 31 ล้านริงกิต (237 ล้านบาท) จุดเด่นของสะพานซาโลมาลิงก์ คือการออกแบบโครงสร้างเหล็ก โดยได้แรงบันดาลใจจากการจัดช่อดอกไม้มงคลที่เรียกว่า ซิเระ จุนจุง (Sireh Junjung) ในพิธีแต่งงานของชาวมาเลย์ ประดับด้วยกระจกและแผงไฟ LED รูปทรงเพชร ฉายแสงในรูปแบบต่างๆ หลากสีสัน ชื่อสะพานมาจาก ซาโลมา ชื่อเรียกของ ซัลมาห์ อิสมาอิล (Salmah Ismail) นักร้อง นักแสดงชื่อดังชาวสิงคโปร์-มาเลเซีย ฉายามาริลิน มอนโรแห่งเอเชีย ที่เสียชีวิตเมื่อปี 2526 ด้วยวัย 48 ปี และถูกฝังอยู่ในสุสานอิสลามจาลันอัมปัง ก่อนจะมาเป็นสะพานที่สวยงามแห่งนี้ แต่เดิมเคยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแคลง จากกัวลาลัมเปอร์ไปยังกำปุงบารู (Kampung Baru) ชุมชนที่อยู่อีกฝั่ง แต่ได้รื้อสะพานเมื่อปี 2539 เพื่อก่อสร้างทางด่วนที่ยกสูงขึ้น เสมือนเป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำที่อยู่ตรงกลาง ในยามค่ำคืน สะพานแห่งนี้จะเปิดไฟ LED หลากสีสันอย่างสวยงาม ล้อไปกับตึกแฝดปิโตรนาสทาวเวอร์ ที่เปิดไฟส่องไสวไปทั่วตึกเช่นกัน นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปสะพานโดยเฉพาะฝั่งกำปุงบารู จะเห็นด้านหลังทั้งสะพานและตึกปิโตรนาส เป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมาเลเซียต้องไม่พลาด ซึ่งฝั่งกำปุงบารูจะเป็นชุมชนเก่าแก่ขนาดเล็ก มีร้านอาหารแบบสตรีทฟู้ดจำหน่าย ขึ้นลงได้จากบันไดและลิฟต์ และมีทางเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้า LRT Kampung Baru ซึ่งเป็นสถานีใต้ดิน สะพานแห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่ 05.00-24.00 น. โปรดปฎิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ใช้ความระมัดระวังในการถ่ายรูป ไม่ปีนป่ายราวสะพาน และระวังสิ่งของที่ติดตัวตกจากสะพาน #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    Wow
    6
    0 Comments 0 Shares 616 Views 0 Reviews
  • “อ่าวเขาควาย เกาะกำตก” อ่าวโค้งแสนสวยแห่งทะเลระนอง

    อ่าวเขาควาย มีความสวยงามแปลกตาไม่เหมือนหาดไหน ๆ เพราะมีลักษณะเป็นโค้งอ่าวครึ่งวงกลมดูคล้ายกับเขาควาย ทั้งยังมีชายหาดที่ขาวเนียนละเอียด สะอาด น้ำทะเลโดยรอบสีฟ้าใส สามารถลงไปเล่นน้ำ ชมปะการังความสวยงามปะการังใต้ท้องทะเลกันได้อย่างเพลิดเพลิน
    นอกจากนี้ด้านบนเกาะยังธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ยังมีต้นสน ขึ้นเรียงรายเต็มแนวชายหาดอีกด้วย ส่วนตามแนวชายหาด ก็มีต้นหูกวาง และต้นจิกทะเล ที่คอยให้ร่มเงา สร้างความสบาย ร่มรื่นให้กับหาดนี้อย่างมาก ที่สำคัญ เงียบสงบมากๆ เพราะ ไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พัก หรือสถานบันเทิงใดๆ ที่นี่จึงเหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนอย่างแท้จริง
    #อ่าวเขาควาย
    #ระนอง
    “อ่าวเขาควาย เกาะกำตก” อ่าวโค้งแสนสวยแห่งทะเลระนอง อ่าวเขาควาย มีความสวยงามแปลกตาไม่เหมือนหาดไหน ๆ เพราะมีลักษณะเป็นโค้งอ่าวครึ่งวงกลมดูคล้ายกับเขาควาย ทั้งยังมีชายหาดที่ขาวเนียนละเอียด สะอาด น้ำทะเลโดยรอบสีฟ้าใส สามารถลงไปเล่นน้ำ ชมปะการังความสวยงามปะการังใต้ท้องทะเลกันได้อย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ด้านบนเกาะยังธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ยังมีต้นสน ขึ้นเรียงรายเต็มแนวชายหาดอีกด้วย ส่วนตามแนวชายหาด ก็มีต้นหูกวาง และต้นจิกทะเล ที่คอยให้ร่มเงา สร้างความสบาย ร่มรื่นให้กับหาดนี้อย่างมาก ที่สำคัญ เงียบสงบมากๆ เพราะ ไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พัก หรือสถานบันเทิงใดๆ ที่นี่จึงเหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนอย่างแท้จริง #อ่าวเขาควาย #ระนอง
    0 Comments 0 Shares 164 Views 0 Reviews
  • #ยาลดกรด

    ถ้าคุณใช้ยาลดกรดไม่ว่าจะตามคำสั่งแพทย์หรือฟังจากโฆษณาแล้วเชื่อตามนั้น ลองอ่านให้จบว่าอาการเหล่านี้ได้เกิดกับตัวคุณแล้วหรือยัง

    จากการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ (1) การใช้สาร proton pump inhibitors ในระยะยาวอย่างเช่น Prilosec, Prevacid และ Nexium (ยาเม็ดสีม่วง) - ยาที่ช่วยลดปริมาณกรดในกระเพาะอาหาร - เกี่ยวข้องกับการขาดวิตามินบี 12

    ผู้เข้าร่วมที่กินยาลดกรดมานานกว่าสองปีมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นร้อยละ 65 ของการขาดวิตามินบี 12 ซึ่งอาจนำไปโรค :

    -โรคโลหิตจาง
    -ความเสียหายของเส้นประสาท
    -ปัญหาเกี่ยวกับจิต
    -สมองเสื่อม (Dementia)

    ยิ่งกินในปริมาณที่สูงกว่าก็มีความเสี่ยงที่สูงกว่า ตามที่อธิบายไว้โดยนักวิจัยอาวุโส Dr. Douglas Corley (2) Gastroenterologist ที่ Kaiser Permanente:

    "ยาลดกรดชนิดนี้อาจทำให้เกิดการขาดวิตามินบี 12 เนื่องจากเซลล์ที่สร้างกรดในกระเพาะอาหารยังสร้างโปรตีนที่ช่วยให้วิตามินบี 12 ถูกดูดซึมได้"

    การขาดวิตามินบี 12 จะทำให้สุขภาพของคุณแย่ลงได้อย่างไร

    เมื่อระดับวิตามินบี 12 ของคุณเริ่มลดลง ร่างกายจะส่งสัญญาณบางอย่างเริ่มให้เห็นรวมถึง การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์อาทิเช่นการขาดแรงจูงใจหรือความรู้สึกไม่แยแสและถ้าระดับต่ำมาก ๆ ยังสามารถนำไปสู่ความหดหู่ ปัญหาเกี่ยวกับความจำ ความอ่อนแอของกล้ามเนื้อและ – สัญญาณที่เด่นชัดที่สุดคือ- ความเมื่อยล้า

    วิตามินบี 12 เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นวิตามินแห่งพลังงานและร่างกายของคุณต้องการสำหรับกิจกรรมที่สำคัญหลายชนิดรวมทั้งการผลิตพลังงานและ :

    การย่อยอาหารที่เหมาะสม การดูดซึมอาหาร การใช้ธาตุเหล็ก การเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมัน การทำงานของระบบประสาทที่ดี มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเส้นประสาทตามปกติ ช่วยในการควบคุมการสร้างเม็ดเลือดแดง การก่อตัวของเซลล์และอายุการใช้งานที่ยาวนาน

    การผลิตฮอร์โมน เพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง สนับสนุนความเป็นสตรีเพศและการตั้งครรภ์
    สร้างความรู้สึกให้พอใจกับความเป็นอยู่และการควบคุมอารมณ์ การมีสมาธิ ส่งเสริมความจำ เพิ่มความเข้มข้นในด้านสมรรถภาพทางกาย อารมณ์และจิตใจ

    การวิจัยล่าสุดยังชี้ให้เห็นว่าการมีวิตามินบี 12 ต่ำอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหักในชายสูงวัย ความเสี่ยงนี้ยังคงอยู่แม้หลังจากคำนึงถึงปัจจัยที่สำคัญอื่น ๆ เช่นการสูบบุหรี่ สถานะของวิตามินดีและปริมาณแคลเซียม medicinenet.com: (3) กล่าวว่า :

    “ผู้ชายที่อยู่ในกลุ่มที่มีระดับ B-12 ต่ำสุดมีโอกาสเกิดการแตกหักของกระดูกมากกว่าร้อยละ 70 ในการศึกษานี้พบว่าความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจากการแตกหักของกระดูกสันหลังส่วนเอวซึ่งมีโอกาสเกิดการแตกหักมากขึ้นถึงร้อยละ 120 เมื่อเทียบกับกระดูกส่วนอื่น "

    และถ้าหากขาดวิตามินบี 12 เรื้อรังในระยะยาวก็อาจทำให้เกิดภาวะร้ายแรงอื่น ๆ ได้แก่ :

    -โรคซึมเศร้า
    -ภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์
    -ความอุดมสมบูรณ์ของหญิงและปัญหาการคลอดบุตร
    -โรคหัวใจและมะเร็ง

    รูปแบบตามธรรมชาติของ B12 จะมีอยู่ในสัตว์และไม่จำเป็นต้องเป็นเนื้อ แต่อาจเป็นไข่และนมก็ได้ อาหารที่มี B12 สูงรวมถึง:

    -ไข่อินทรีย์
    -เนื้อวัวและตับวัวที่เลี้ยงดวยหญ้าอินทรีย์
    -ไก่อินทรีย์
    -ปลาแซลมอนอลาสก้าที่จับได้ในป่า
    -นมดิบของสัตว์ที่เลี้ยงแบบอินทรีย์และไม่ผ่านกระบวนการ

    ถ้าคุณมีอาการข้างต้นและไม่บริโภคสัตว์หรือสิ่งที่ได้จากสัตว์ ขอแนะนำให้หาวิตามินบี 12 มารับประทานตามความเหมาะสมของอายุและมวลกายรายการ หมอนอกกะลา

    ยาลดกรด 2

    ตอนที่ 1 ได้พูดถึงสองในสี่ผลกระทบหลักของยาลดกรด:
    คือแบคทีเรียเลว ๆ มากเกินไปและความบกพร่องในการดูดซึมสารอาหาร

    อีก 2 ผลกระทบที่เหลือ

    ลดความต้านทานต่อการติดเชื้อและเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งและโรคอื่น ๆ

    เบื้องแรกในการป้องกันร่างกายของเรา:

    ปาก หลอดอาหารและลำไส้เป็นบ้านของระหว่าง 400-1,000 สายพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรีย แต่อย่างไรก็ตาม กระเพาะอาหารที่ดีจะมีการฆ่าเชื้ออยู่เสมอ ทำไมน่ะรึ !! เพราะกรดในกระเพาะอาหารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

    ในความเป็นจริง กรดคือบทบาทที่สำคัญที่สุดที่จะสร้างการขัดขวางสองทางที่ช่วยปกป้องกระเพาะอาหารจากเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรค ลำดับแรกแรก : กรดในกระเพาะอาหารจะป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายซึ่งอาจจะอยู่ในอาหารหรือเครื่องดื่มที่เรากินหรืออากาศที่เราหายใจเข้ามาในลำไส้และในเวลาเดียวกัน กรดในกระเพาะอาหารยังช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียตามปกติจากลำไส้ซึ่งจะย้ายเข้าสู่กระเพาะอาหารและหลอดอาหารซึ่งพวกมันอาจทำให้เกิดปัญหา

    สภาพแวดล้อมของกระเพาะอาหารค่า pH ต่ำ (กรดสูง) เป็นหนึ่งในกลไกการป้องกันที่ไม่เฉพาะเจาะจงที่สำคัญของร่างกาย เมื่อค่าความเป็นกรดของกระเพาะอาหารมีค่าที่ 3 หรือต่ำกว่าถือว่าเป็นปรกติของช่วงท้องว่างหรือ "พักผ่อน" แบคทีเรียจะอยู่ได้ไม่เกินสิบห้านาที แต่ในขณะที่pH เพิ่มขึ้นถึง 5 หรือมากกว่า สายพันธุ์ต่าง ๆ ของแบคทีเรียสามารถหลีกเลี่ยงการกำจัดของกรดและเริ่มที่จะเจริญเติบโต

    แต่น่าเสียดาย มันจะเกิดอะไรขึ้นหากคุณกินยาลดกรด ทั้ง Tagamet และ Zantac จะเพิ่มค่า pHของกระเพาะอาหารจากประมาณ 1-2 ก่อนการรักษาเป็น 5.5-6.5 อย่างมีนัยสำคัญ ตามลำดับ

    Prilosec และ PPIs และอื่น ๆ จะยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่ เพียงหนึ่งเม็ดของยาเหล่านี้สามารถลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารได้ถึงร้อยละ90 ถึง 95เพื่อส่วนที่ดีกว่าของวัน การกิน PPIs ในปริมาณที่สูงขึ้นหรือบ่อยมากขึ้น ซึ่งมักจะถูกแนะนำ จะทำให้เกิดภาวะ achlorydia (แทบไม่มีกรดในกระเพาะอาหารเลย) ในการศึกษาของผู้ชายที่มีสุขภาพดี10 คนอายุ 22-55 ปี การให้กิน Prilosec 20 หรือ 40 มิลลิกรัมลดระดับกรดในกระเพาะอาหารจนเกือบหมด

    กระเพาะอาหารที่เป็นกรดไม่มากพอเชื้อแบคทีเรียก่อโรคก็อุดมสมบูรณ์ สนุกสนาน เพราะมันมันทั้งมืดทั้งอบอุ่น ทั้งชื้นและเต็มไปด้วยสารอาหาร แบคทีเรียจะไม่ฆ่าเรา – อย่างน้อยก็ไม่ทันที- แต่บางส่วนของพวกมันสามารถ คนที่มีค่าความเป็นกรดด่างในกระเพาะอาหารสูงพอที่จะส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียร้ายแรงได้อย่างง่ายดาย

    การทบทวนที่ผ่านมาเกี่ยวกับยาลดกรดในกระเพาะอาหารชี้ให้เห็นว่าพวกมันเป็นต้นเหตุจริงของการเพิ่มความไวต่อการติดเชื้อ(PDF) ผู้เขียนพบหลักฐานยืนยันว่า การใช้ยาลดกรดสามารถเพิ่มโอกาสของการติดเชื้อต่อไปนี้:

    Salmonella
    Campylobacter
    อหิวาตกโรค
    Listeria
    Giardia
    C. difficile
    การศึกษาอื่น ๆ พบว่ายาลดกรดยังเพิ่มความเสี่ยงสำหรับ:
    โรคปอดบวม
    วัณโรค
    ไทฟอยด์
    บิด

    ยาลดกรดไม่เพียงแต่เพิ่มความไวต่อการติดเชื้อแต่มันยังไปลดลงความสามารถของระบบภูมิคุ้มกันของเราในการต่อสู้กับการติดเชื้อเมื่อเราได้รับเชื้อ จากการศึกษาในหลอดทดลองได้แสดงให้เห็นว่า PPIs ทำให้การทำหน้าที่ของเม็ดเลือดขาว nuetrophil ทำงานผิดพลาด ลดการยึดเกาะกับเซลล์ endothelial ลดการฆ่าเชื้อแบคทีเรียของจุลินทรีย์และยับยั้งเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ทำลายอย่าง neutrophil และเพิ่มกรดใน phagolysosome

    ประตูสู่โรคร้ายแรงอื่น ๆ

    อย่างที่เราได้กล่าวถึงในบทความแรกไว้ว่า การลดลงของการหลั่งกรดตามอายุเป็นเรื่องที่มีเอกสารยืนยัน เมื่อเร็ว ๆ นี้ในปี 1996 แพทย์ชาวอังกฤษตั้งข้อสังเกตว่า กระเพาะอาหารเกี่ยวข้องกับการลดลงของกรดตามอายุเนื่องจากการเสียหายของเซลล์ผลิตกรด สภาพนี้เรียกว่าโรคกระเพาะอาหารอักเสบ(atrophic gastritis)

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเนื้อหาต่อไปนี้ กระเพาะอาหารอักเสบ (สภาพที่กรดในกระเพาะอาหารอยู่ในระดับที่ต่ำมาก) มีความเกี่ยวข้องกับความหลากหลายของความผิดปกติร้ายแรงที่ไปไกลเกินกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร ซึ่งรวมถึง:

    มะเร็งกระเพาะอาหาร
    โรคภูมิแพ้
    โรคหอบหืด
    อาการซึมเศร้า วิตกกังวล ความผิดปกติของอารมณ์
    โลหิตจาง
    โรคผิวหนังรวมทั้งการเกิดสิว, โรคผิวหนังกลากและลมพิษ
    โรคนิ่วในถุงน้ำดี
    โรคแพ้ภูมิเช่นโรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์และโรคเกรฟส์
    อาการลำไส้แปรปรวน (IBS) โรค Crohn (CD), ลำไส้ใหญ่ (UC)
    โรคไวรัสตับอักเสบ
    โรคกระดูกพรุน
    โรคเบาหวานประเภท 1
    และอย่าลืมนะว่ากรดในกระเพาะอาหารต่ำอาจทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนและแสบร้อนกลางอก!

    มะเร็งกระเพาะอาหาร

    โรคกระเพาะอาหารอักเสบเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร เชื้อ H. pylori เป็นสาเหตุหลักของโรคนี้ และยาลดกรดก็ยิ่งทำให้อาการเหล่านี้เลวลงและเพิ่มอัตราการติดเชื้อ

    ดังนั้นจึงไม่ได้เป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่อะไรนักหรอกที่จะสงสัยว่ายาลดกรดเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารในผู้ที่ติดเชื้อ H.pylori ในบทความที่ผ่านมาของ Julie Parsonnet, M.D. of Standford University Medical School เขียนไว้ว่า :
    โดยหลักการแล้ว การรักษาด้วยยาลดกรดในปัจจุบันนี้ อาจเป็นตัวเร่งโรคมะเร็งโดยการแปลงการอักเสบเพียงเล็กน้อยของกระเพาะอาหารเป็นทำลายขั้นรุนแรงในกระบวนการก่อมะเร็ง

    แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น

    ประมาณ 90% ของลำไส้เล็กส่วนต้น (ลำไส้) และ 65% ของแผลในกระเพาะอาหารเกิดจากเชื้อ H. pylori
    ในการทดลองฉีดวัคซีนในมนุษย์ การติดเชื้อไม่สามารถเกิดขึ้นได้เว้นแต่ค่า pH ของกระเพาะอาหารสูงขึ้น(ลดความเป็นกรดลง) โดยการใช้สารต้านฮิสตามีนซึ่งไปลดกรดในกระเพาะอาหารและเพิ่มค่าความเป็นด่าง ยาลดกรดในกระเพาะอาหารจะไปเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ H. pylori และตามมาด้วยการพัฒนาไปเป็นแผลในลำไส้เล็กส่วนต้นหรือกระเพาะอาหาร

    อาการลำไส้แปรปรวน โรค Crohn และลำไส้ใหญ่อักเสบ

    สารอะดีโนซีน(Adenosine)เป็นตัวกลางหลักของการอักเสบในระบบทางเดินอาหารและสารอะดีโนซีนในระดับสูงจะไปกดและแก้ไขปัญหาการอักเสบเรื้อรังของทั้งโรค Crohn และลำไส้ใหญ่อักเสบ การใช้ PPIs อย่างต่อเนื่องได้รับการยืนยันว่าไปลดความเข้มข้นของสารอะดีโนซีน จึงส่งผลในการเพิ่มขึ้นของการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าการใช้งานยาลดกรดในระยะยาว อาจพัฒนาความผิดปกติของลำไส้ให้อักเสบอย่างรุนแรงได้

    ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวลและความผิดปกติทางอารมณ์

    ในขณะที่ยังไม่มีงานวิจัยที่ระบุ (เท่าที่ผมรู้) การเชื่อมโยงของยาลดกรดกับความผิดปกติทางอารมณ์หรือภาวะซึมเศร้า ความเข้าใจพื้นฐานในความสัมพันธ์ระหว่างการย่อยโปรตีนและสุขภาพจิตแสดงให้เห็นว่าอาจจะมีการเชื่อมกัน ในระหว่างการย่อยอาหาร การหลั่งกรดในกระเพาะอาหารจะปล่อยน้ำย่อยซึ่งเรียกว่า เพพซิน (pepsin) น้ำย่อยนี้เป็นเอนไซม์ที่มีความรับผิดชอบต่อการสลายพันธะโปรตีนไปเป็นกรดอะมิโนและเปปไทด์ กรดอะมิโนที่เรียกว่า "จำเป็น" ก็เพราะเราไม่สามารถผลิตได้เองในร่างกายของเรา เราจะต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น

    หากขาดน้ำย่อยโปรตีน (Pepsin) โปรตีนที่เรากินเข้าไปจะไม่ถูกทำลายไปเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นและส่วนประกอบเปปไทด์ และเนื่องจากกรดอะมิโนจำเป็นเหล่านี้เช่น phenylalanine และ tryptophan มีบทบาทสำคัญในด้านสุขภาพจิตและพฤติกรรม กรดในกระเพาะอาหารที่ต่ำอาจเป็นตัวชักนำต่อการพัฒนาความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้าหรือความผิดปกติทางอารมณ์

    โรคแพ้ภูมิ

    กรดในกระเพาะอาหารต่ำและต่อมาก็มีแบคทีเรียมากเกินไปทำให้เกิดลำไส้ที่ซึมผ่านได้ง่ายแล้วปล่อยให้โปรตีนที่ไม่ได้รับการย่อยเข้าสู่กระแสเลือด ภาวะนี้มักจะถูกเรียกว่า "กลุ่มอาการของโรคลำไส้รั่ว" Salzman และเพื่อนได้แสดงให้เห็นว่า
    การซึมผ่านได้ง่ายของเซลล์ลำไส้ ทั้งtranscellular และ paracellular เพิ่มขึ้นอย่างมากในผู้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบเมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ควบคุม

    เมื่อโปรตีนที่ไม่ผ่านการย่อยไปเข้าอยู่ในกระแสเลือดพวกมันจะถูกถือว่าเป็น "ผู้รุกราน" โดยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายระดมการป้องกันของมัน (อาทิ T เซลล์ Bเซลล์และแอนติบอดี ) เพื่อที่จะกำจัดการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย

    ประเภทของการตอบสนองจากภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนที่เรากินนี้ก่อให้เกิดการแพ้อาหาร กลไกที่คล้ายกันนี้ที่ยังไม่เป็นที่เข้าใจในคนที่มีลำไส้รั่ว การพัฒนาโรคแพ้ภูมิรุนแรงมากขึ้นจนกลายไปเป็นอาทิ โรคลูปัส (พุ่มพวง เอสแอลอี), โรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์, โรคเบาหวานชนิดที่ 1 (เบาหวานแห้ง)โรคเกรฟส์และความผิดปกติของลำไส้อักเสบเช่น Crohn และลำไส้ใหญ่อักเสบ

    ความสัมพันธ์ระหว่างโรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์ (RA) และกรดในกระเพาะอาหารยังมีรายงานไว้ในงานเขียนและงานวิจัยมากมาย การตรวจสอบปริมาณกรดในกระเพาะอาหารของผู้ป่วยโรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์ RA 45 คน ของนักวิจัยชาวสวีเดนพบว่า 16 คน(36 เปอร์เซ็นต์) แทบจะไม่มีกรดในกระเพาะอาหารเลย คนที่ได้รับความทรมานจาก RA ที่ยาวที่สุดมีกรดในกระเพาะอาหารน้อยที่สุด กลุ่มนักวิจัยอิตาลียังพบอีกว่าคนที่มี RA มีอัตราของโรคกระเพาะอาหารอักเสบที่สูงมากด้วยค่าความเป็นกรดในกระเพาะอาหารที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับบุคคลปกติ

    โรคหอบหืด

    ในรอบสิบปีที่ผ่านมา มากกว่าสี่ร้อยบทความทางวิทยาศาสตร์ให้กังวลเกี่ยวกับการเชื่อมโยงระหว่างโรคหอบหืดและความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร หนึ่งในคุณสมบัติที่พบบ่อยที่สุดของโรคหอบหืดนอกเหนือไปจากการหายใจก็คือเป็นกรดไหลย้อน เป็นที่คาดการณ์กันว่าร้อยละ 80 ของผู้ที่มีโรคหอบหืดยังมีโรคกรดไหลย้อนพ่วงท้ายอีกต่างหาก เมื่อเทียบกับคนที่มีสุขภาพดี และมีการระคายเคืองจากกรดเกินมากขึ้นในเยื่อบุหลอดอาหารของพวกเขา

    เมื่อกรดเข้าไปในหลอดลม จะทำให้ความสามารถของปอดในการหายใจเข้าออกลดลงเป็นสิบเท่า แพทย์ที่มีความตระหนักถึงสิ่งนี้ก็เริ่มจ่ายยาลดกรดให้กับผู้ป่วยโรคหอบหืดที่ทุกข์ทรมานจากโรคกรดไหลย้อน ในขณะที่ยาลดกรดนี้อาจช่วยบรรเทาอาการชั่วคราว แต่มันไม่ใช่การรักษาที่ต้นเหตุของความผิดปกติที่กรดไหลย้อนเข้าไปในหลอดอาหารในคราวแรก

    ในความเป็นจริง มีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่ายาลดกรดทำให้ทุกปัญหาพื้นฐานแย่ลง (กรดในกระเพาะอาหารน้อยเกินไปและเพิ่มแบคทีเรีย) ดังนั้นทำให้อาการยาวนานและรุนแรง

    สรุป

    อย่างที่เราได้อ่านจากบทความก่อนหน้านี้ในตอนที่ 1 แสบร้อนกลางอกและโรคกรดไหลย้อนมันเกิดจากการน้อยเกินไป - และไม่มากพอ – ของกรดในกระเพาะอาหาร แต่น่าเสียดายที่กรดในกระเพาะอาหารไม่เพียงพอนี้ยังไปเกี่ยวข้องกับการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียมากจนเกินไป การดูดซึมสารอาหารด้อยคุณภาพลง การลดลงของความต้านทานต่อการติดเชื้อและเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร, แผลในกระเพาะอาหาร,ลำไส้แปรปรวน และโรคทางเดินอาหารอื่น ๆ ภาวะซึมเศร้าและความผิดปกติทางอารมณ์และโรคแพ้ภูมิตัวเองและโรคหอบหืด

    การบรรเทาอาการชั่วคราวของยาลดกรดเหล่านี้ให้ความคุ้มค่าต่อความเสี่ยงหรือไม่ นั่นคือสิ่งเดียวที่คุณสามารถตัดสินใจได้เอง

    Cr. Santi Manadee
    #ยาลดกรด ถ้าคุณใช้ยาลดกรดไม่ว่าจะตามคำสั่งแพทย์หรือฟังจากโฆษณาแล้วเชื่อตามนั้น ลองอ่านให้จบว่าอาการเหล่านี้ได้เกิดกับตัวคุณแล้วหรือยัง จากการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ (1) การใช้สาร proton pump inhibitors ในระยะยาวอย่างเช่น Prilosec, Prevacid และ Nexium (ยาเม็ดสีม่วง) - ยาที่ช่วยลดปริมาณกรดในกระเพาะอาหาร - เกี่ยวข้องกับการขาดวิตามินบี 12 ผู้เข้าร่วมที่กินยาลดกรดมานานกว่าสองปีมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นร้อยละ 65 ของการขาดวิตามินบี 12 ซึ่งอาจนำไปโรค : -โรคโลหิตจาง -ความเสียหายของเส้นประสาท -ปัญหาเกี่ยวกับจิต -สมองเสื่อม (Dementia) ยิ่งกินในปริมาณที่สูงกว่าก็มีความเสี่ยงที่สูงกว่า ตามที่อธิบายไว้โดยนักวิจัยอาวุโส Dr. Douglas Corley (2) Gastroenterologist ที่ Kaiser Permanente: "ยาลดกรดชนิดนี้อาจทำให้เกิดการขาดวิตามินบี 12 เนื่องจากเซลล์ที่สร้างกรดในกระเพาะอาหารยังสร้างโปรตีนที่ช่วยให้วิตามินบี 12 ถูกดูดซึมได้" การขาดวิตามินบี 12 จะทำให้สุขภาพของคุณแย่ลงได้อย่างไร เมื่อระดับวิตามินบี 12 ของคุณเริ่มลดลง ร่างกายจะส่งสัญญาณบางอย่างเริ่มให้เห็นรวมถึง การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์อาทิเช่นการขาดแรงจูงใจหรือความรู้สึกไม่แยแสและถ้าระดับต่ำมาก ๆ ยังสามารถนำไปสู่ความหดหู่ ปัญหาเกี่ยวกับความจำ ความอ่อนแอของกล้ามเนื้อและ – สัญญาณที่เด่นชัดที่สุดคือ- ความเมื่อยล้า วิตามินบี 12 เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นวิตามินแห่งพลังงานและร่างกายของคุณต้องการสำหรับกิจกรรมที่สำคัญหลายชนิดรวมทั้งการผลิตพลังงานและ : การย่อยอาหารที่เหมาะสม การดูดซึมอาหาร การใช้ธาตุเหล็ก การเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมัน การทำงานของระบบประสาทที่ดี มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเส้นประสาทตามปกติ ช่วยในการควบคุมการสร้างเม็ดเลือดแดง การก่อตัวของเซลล์และอายุการใช้งานที่ยาวนาน การผลิตฮอร์โมน เพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง สนับสนุนความเป็นสตรีเพศและการตั้งครรภ์ สร้างความรู้สึกให้พอใจกับความเป็นอยู่และการควบคุมอารมณ์ การมีสมาธิ ส่งเสริมความจำ เพิ่มความเข้มข้นในด้านสมรรถภาพทางกาย อารมณ์และจิตใจ การวิจัยล่าสุดยังชี้ให้เห็นว่าการมีวิตามินบี 12 ต่ำอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหักในชายสูงวัย ความเสี่ยงนี้ยังคงอยู่แม้หลังจากคำนึงถึงปัจจัยที่สำคัญอื่น ๆ เช่นการสูบบุหรี่ สถานะของวิตามินดีและปริมาณแคลเซียม medicinenet.com: (3) กล่าวว่า : “ผู้ชายที่อยู่ในกลุ่มที่มีระดับ B-12 ต่ำสุดมีโอกาสเกิดการแตกหักของกระดูกมากกว่าร้อยละ 70 ในการศึกษานี้พบว่าความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจากการแตกหักของกระดูกสันหลังส่วนเอวซึ่งมีโอกาสเกิดการแตกหักมากขึ้นถึงร้อยละ 120 เมื่อเทียบกับกระดูกส่วนอื่น " และถ้าหากขาดวิตามินบี 12 เรื้อรังในระยะยาวก็อาจทำให้เกิดภาวะร้ายแรงอื่น ๆ ได้แก่ : -โรคซึมเศร้า -ภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์ -ความอุดมสมบูรณ์ของหญิงและปัญหาการคลอดบุตร -โรคหัวใจและมะเร็ง รูปแบบตามธรรมชาติของ B12 จะมีอยู่ในสัตว์และไม่จำเป็นต้องเป็นเนื้อ แต่อาจเป็นไข่และนมก็ได้ อาหารที่มี B12 สูงรวมถึง: -ไข่อินทรีย์ -เนื้อวัวและตับวัวที่เลี้ยงดวยหญ้าอินทรีย์ -ไก่อินทรีย์ -ปลาแซลมอนอลาสก้าที่จับได้ในป่า -นมดิบของสัตว์ที่เลี้ยงแบบอินทรีย์และไม่ผ่านกระบวนการ ถ้าคุณมีอาการข้างต้นและไม่บริโภคสัตว์หรือสิ่งที่ได้จากสัตว์ ขอแนะนำให้หาวิตามินบี 12 มารับประทานตามความเหมาะสมของอายุและมวลกายรายการ หมอนอกกะลา ยาลดกรด 2 ตอนที่ 1 ได้พูดถึงสองในสี่ผลกระทบหลักของยาลดกรด: คือแบคทีเรียเลว ๆ มากเกินไปและความบกพร่องในการดูดซึมสารอาหาร อีก 2 ผลกระทบที่เหลือ ลดความต้านทานต่อการติดเชื้อและเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งและโรคอื่น ๆ เบื้องแรกในการป้องกันร่างกายของเรา: ปาก หลอดอาหารและลำไส้เป็นบ้านของระหว่าง 400-1,000 สายพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรีย แต่อย่างไรก็ตาม กระเพาะอาหารที่ดีจะมีการฆ่าเชื้ออยู่เสมอ ทำไมน่ะรึ !! เพราะกรดในกระเพาะอาหารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ในความเป็นจริง กรดคือบทบาทที่สำคัญที่สุดที่จะสร้างการขัดขวางสองทางที่ช่วยปกป้องกระเพาะอาหารจากเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรค ลำดับแรกแรก : กรดในกระเพาะอาหารจะป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายซึ่งอาจจะอยู่ในอาหารหรือเครื่องดื่มที่เรากินหรืออากาศที่เราหายใจเข้ามาในลำไส้และในเวลาเดียวกัน กรดในกระเพาะอาหารยังช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียตามปกติจากลำไส้ซึ่งจะย้ายเข้าสู่กระเพาะอาหารและหลอดอาหารซึ่งพวกมันอาจทำให้เกิดปัญหา สภาพแวดล้อมของกระเพาะอาหารค่า pH ต่ำ (กรดสูง) เป็นหนึ่งในกลไกการป้องกันที่ไม่เฉพาะเจาะจงที่สำคัญของร่างกาย เมื่อค่าความเป็นกรดของกระเพาะอาหารมีค่าที่ 3 หรือต่ำกว่าถือว่าเป็นปรกติของช่วงท้องว่างหรือ "พักผ่อน" แบคทีเรียจะอยู่ได้ไม่เกินสิบห้านาที แต่ในขณะที่pH เพิ่มขึ้นถึง 5 หรือมากกว่า สายพันธุ์ต่าง ๆ ของแบคทีเรียสามารถหลีกเลี่ยงการกำจัดของกรดและเริ่มที่จะเจริญเติบโต แต่น่าเสียดาย มันจะเกิดอะไรขึ้นหากคุณกินยาลดกรด ทั้ง Tagamet และ Zantac จะเพิ่มค่า pHของกระเพาะอาหารจากประมาณ 1-2 ก่อนการรักษาเป็น 5.5-6.5 อย่างมีนัยสำคัญ ตามลำดับ Prilosec และ PPIs และอื่น ๆ จะยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่ เพียงหนึ่งเม็ดของยาเหล่านี้สามารถลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารได้ถึงร้อยละ90 ถึง 95เพื่อส่วนที่ดีกว่าของวัน การกิน PPIs ในปริมาณที่สูงขึ้นหรือบ่อยมากขึ้น ซึ่งมักจะถูกแนะนำ จะทำให้เกิดภาวะ achlorydia (แทบไม่มีกรดในกระเพาะอาหารเลย) ในการศึกษาของผู้ชายที่มีสุขภาพดี10 คนอายุ 22-55 ปี การให้กิน Prilosec 20 หรือ 40 มิลลิกรัมลดระดับกรดในกระเพาะอาหารจนเกือบหมด กระเพาะอาหารที่เป็นกรดไม่มากพอเชื้อแบคทีเรียก่อโรคก็อุดมสมบูรณ์ สนุกสนาน เพราะมันมันทั้งมืดทั้งอบอุ่น ทั้งชื้นและเต็มไปด้วยสารอาหาร แบคทีเรียจะไม่ฆ่าเรา – อย่างน้อยก็ไม่ทันที- แต่บางส่วนของพวกมันสามารถ คนที่มีค่าความเป็นกรดด่างในกระเพาะอาหารสูงพอที่จะส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียร้ายแรงได้อย่างง่ายดาย การทบทวนที่ผ่านมาเกี่ยวกับยาลดกรดในกระเพาะอาหารชี้ให้เห็นว่าพวกมันเป็นต้นเหตุจริงของการเพิ่มความไวต่อการติดเชื้อ(PDF) ผู้เขียนพบหลักฐานยืนยันว่า การใช้ยาลดกรดสามารถเพิ่มโอกาสของการติดเชื้อต่อไปนี้: Salmonella Campylobacter อหิวาตกโรค Listeria Giardia C. difficile การศึกษาอื่น ๆ พบว่ายาลดกรดยังเพิ่มความเสี่ยงสำหรับ: โรคปอดบวม วัณโรค ไทฟอยด์ บิด ยาลดกรดไม่เพียงแต่เพิ่มความไวต่อการติดเชื้อแต่มันยังไปลดลงความสามารถของระบบภูมิคุ้มกันของเราในการต่อสู้กับการติดเชื้อเมื่อเราได้รับเชื้อ จากการศึกษาในหลอดทดลองได้แสดงให้เห็นว่า PPIs ทำให้การทำหน้าที่ของเม็ดเลือดขาว nuetrophil ทำงานผิดพลาด ลดการยึดเกาะกับเซลล์ endothelial ลดการฆ่าเชื้อแบคทีเรียของจุลินทรีย์และยับยั้งเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ทำลายอย่าง neutrophil และเพิ่มกรดใน phagolysosome ประตูสู่โรคร้ายแรงอื่น ๆ อย่างที่เราได้กล่าวถึงในบทความแรกไว้ว่า การลดลงของการหลั่งกรดตามอายุเป็นเรื่องที่มีเอกสารยืนยัน เมื่อเร็ว ๆ นี้ในปี 1996 แพทย์ชาวอังกฤษตั้งข้อสังเกตว่า กระเพาะอาหารเกี่ยวข้องกับการลดลงของกรดตามอายุเนื่องจากการเสียหายของเซลล์ผลิตกรด สภาพนี้เรียกว่าโรคกระเพาะอาหารอักเสบ(atrophic gastritis) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเนื้อหาต่อไปนี้ กระเพาะอาหารอักเสบ (สภาพที่กรดในกระเพาะอาหารอยู่ในระดับที่ต่ำมาก) มีความเกี่ยวข้องกับความหลากหลายของความผิดปกติร้ายแรงที่ไปไกลเกินกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร ซึ่งรวมถึง: มะเร็งกระเพาะอาหาร โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด อาการซึมเศร้า วิตกกังวล ความผิดปกติของอารมณ์ โลหิตจาง โรคผิวหนังรวมทั้งการเกิดสิว, โรคผิวหนังกลากและลมพิษ โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคแพ้ภูมิเช่นโรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์และโรคเกรฟส์ อาการลำไส้แปรปรวน (IBS) โรค Crohn (CD), ลำไส้ใหญ่ (UC) โรคไวรัสตับอักเสบ โรคกระดูกพรุน โรคเบาหวานประเภท 1 และอย่าลืมนะว่ากรดในกระเพาะอาหารต่ำอาจทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนและแสบร้อนกลางอก! มะเร็งกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะอาหารอักเสบเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร เชื้อ H. pylori เป็นสาเหตุหลักของโรคนี้ และยาลดกรดก็ยิ่งทำให้อาการเหล่านี้เลวลงและเพิ่มอัตราการติดเชื้อ ดังนั้นจึงไม่ได้เป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่อะไรนักหรอกที่จะสงสัยว่ายาลดกรดเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารในผู้ที่ติดเชื้อ H.pylori ในบทความที่ผ่านมาของ Julie Parsonnet, M.D. of Standford University Medical School เขียนไว้ว่า : โดยหลักการแล้ว การรักษาด้วยยาลดกรดในปัจจุบันนี้ อาจเป็นตัวเร่งโรคมะเร็งโดยการแปลงการอักเสบเพียงเล็กน้อยของกระเพาะอาหารเป็นทำลายขั้นรุนแรงในกระบวนการก่อมะเร็ง แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น ประมาณ 90% ของลำไส้เล็กส่วนต้น (ลำไส้) และ 65% ของแผลในกระเพาะอาหารเกิดจากเชื้อ H. pylori ในการทดลองฉีดวัคซีนในมนุษย์ การติดเชื้อไม่สามารถเกิดขึ้นได้เว้นแต่ค่า pH ของกระเพาะอาหารสูงขึ้น(ลดความเป็นกรดลง) โดยการใช้สารต้านฮิสตามีนซึ่งไปลดกรดในกระเพาะอาหารและเพิ่มค่าความเป็นด่าง ยาลดกรดในกระเพาะอาหารจะไปเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ H. pylori และตามมาด้วยการพัฒนาไปเป็นแผลในลำไส้เล็กส่วนต้นหรือกระเพาะอาหาร อาการลำไส้แปรปรวน โรค Crohn และลำไส้ใหญ่อักเสบ สารอะดีโนซีน(Adenosine)เป็นตัวกลางหลักของการอักเสบในระบบทางเดินอาหารและสารอะดีโนซีนในระดับสูงจะไปกดและแก้ไขปัญหาการอักเสบเรื้อรังของทั้งโรค Crohn และลำไส้ใหญ่อักเสบ การใช้ PPIs อย่างต่อเนื่องได้รับการยืนยันว่าไปลดความเข้มข้นของสารอะดีโนซีน จึงส่งผลในการเพิ่มขึ้นของการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าการใช้งานยาลดกรดในระยะยาว อาจพัฒนาความผิดปกติของลำไส้ให้อักเสบอย่างรุนแรงได้ ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวลและความผิดปกติทางอารมณ์ ในขณะที่ยังไม่มีงานวิจัยที่ระบุ (เท่าที่ผมรู้) การเชื่อมโยงของยาลดกรดกับความผิดปกติทางอารมณ์หรือภาวะซึมเศร้า ความเข้าใจพื้นฐานในความสัมพันธ์ระหว่างการย่อยโปรตีนและสุขภาพจิตแสดงให้เห็นว่าอาจจะมีการเชื่อมกัน ในระหว่างการย่อยอาหาร การหลั่งกรดในกระเพาะอาหารจะปล่อยน้ำย่อยซึ่งเรียกว่า เพพซิน (pepsin) น้ำย่อยนี้เป็นเอนไซม์ที่มีความรับผิดชอบต่อการสลายพันธะโปรตีนไปเป็นกรดอะมิโนและเปปไทด์ กรดอะมิโนที่เรียกว่า "จำเป็น" ก็เพราะเราไม่สามารถผลิตได้เองในร่างกายของเรา เราจะต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น หากขาดน้ำย่อยโปรตีน (Pepsin) โปรตีนที่เรากินเข้าไปจะไม่ถูกทำลายไปเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นและส่วนประกอบเปปไทด์ และเนื่องจากกรดอะมิโนจำเป็นเหล่านี้เช่น phenylalanine และ tryptophan มีบทบาทสำคัญในด้านสุขภาพจิตและพฤติกรรม กรดในกระเพาะอาหารที่ต่ำอาจเป็นตัวชักนำต่อการพัฒนาความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้าหรือความผิดปกติทางอารมณ์ โรคแพ้ภูมิ กรดในกระเพาะอาหารต่ำและต่อมาก็มีแบคทีเรียมากเกินไปทำให้เกิดลำไส้ที่ซึมผ่านได้ง่ายแล้วปล่อยให้โปรตีนที่ไม่ได้รับการย่อยเข้าสู่กระแสเลือด ภาวะนี้มักจะถูกเรียกว่า "กลุ่มอาการของโรคลำไส้รั่ว" Salzman และเพื่อนได้แสดงให้เห็นว่า การซึมผ่านได้ง่ายของเซลล์ลำไส้ ทั้งtranscellular และ paracellular เพิ่มขึ้นอย่างมากในผู้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบเมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ควบคุม เมื่อโปรตีนที่ไม่ผ่านการย่อยไปเข้าอยู่ในกระแสเลือดพวกมันจะถูกถือว่าเป็น "ผู้รุกราน" โดยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายระดมการป้องกันของมัน (อาทิ T เซลล์ Bเซลล์และแอนติบอดี ) เพื่อที่จะกำจัดการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ประเภทของการตอบสนองจากภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนที่เรากินนี้ก่อให้เกิดการแพ้อาหาร กลไกที่คล้ายกันนี้ที่ยังไม่เป็นที่เข้าใจในคนที่มีลำไส้รั่ว การพัฒนาโรคแพ้ภูมิรุนแรงมากขึ้นจนกลายไปเป็นอาทิ โรคลูปัส (พุ่มพวง เอสแอลอี), โรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์, โรคเบาหวานชนิดที่ 1 (เบาหวานแห้ง)โรคเกรฟส์และความผิดปกติของลำไส้อักเสบเช่น Crohn และลำไส้ใหญ่อักเสบ ความสัมพันธ์ระหว่างโรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์ (RA) และกรดในกระเพาะอาหารยังมีรายงานไว้ในงานเขียนและงานวิจัยมากมาย การตรวจสอบปริมาณกรดในกระเพาะอาหารของผู้ป่วยโรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์ RA 45 คน ของนักวิจัยชาวสวีเดนพบว่า 16 คน(36 เปอร์เซ็นต์) แทบจะไม่มีกรดในกระเพาะอาหารเลย คนที่ได้รับความทรมานจาก RA ที่ยาวที่สุดมีกรดในกระเพาะอาหารน้อยที่สุด กลุ่มนักวิจัยอิตาลียังพบอีกว่าคนที่มี RA มีอัตราของโรคกระเพาะอาหารอักเสบที่สูงมากด้วยค่าความเป็นกรดในกระเพาะอาหารที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับบุคคลปกติ โรคหอบหืด ในรอบสิบปีที่ผ่านมา มากกว่าสี่ร้อยบทความทางวิทยาศาสตร์ให้กังวลเกี่ยวกับการเชื่อมโยงระหว่างโรคหอบหืดและความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร หนึ่งในคุณสมบัติที่พบบ่อยที่สุดของโรคหอบหืดนอกเหนือไปจากการหายใจก็คือเป็นกรดไหลย้อน เป็นที่คาดการณ์กันว่าร้อยละ 80 ของผู้ที่มีโรคหอบหืดยังมีโรคกรดไหลย้อนพ่วงท้ายอีกต่างหาก เมื่อเทียบกับคนที่มีสุขภาพดี และมีการระคายเคืองจากกรดเกินมากขึ้นในเยื่อบุหลอดอาหารของพวกเขา เมื่อกรดเข้าไปในหลอดลม จะทำให้ความสามารถของปอดในการหายใจเข้าออกลดลงเป็นสิบเท่า แพทย์ที่มีความตระหนักถึงสิ่งนี้ก็เริ่มจ่ายยาลดกรดให้กับผู้ป่วยโรคหอบหืดที่ทุกข์ทรมานจากโรคกรดไหลย้อน ในขณะที่ยาลดกรดนี้อาจช่วยบรรเทาอาการชั่วคราว แต่มันไม่ใช่การรักษาที่ต้นเหตุของความผิดปกติที่กรดไหลย้อนเข้าไปในหลอดอาหารในคราวแรก ในความเป็นจริง มีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่ายาลดกรดทำให้ทุกปัญหาพื้นฐานแย่ลง (กรดในกระเพาะอาหารน้อยเกินไปและเพิ่มแบคทีเรีย) ดังนั้นทำให้อาการยาวนานและรุนแรง สรุป อย่างที่เราได้อ่านจากบทความก่อนหน้านี้ในตอนที่ 1 แสบร้อนกลางอกและโรคกรดไหลย้อนมันเกิดจากการน้อยเกินไป - และไม่มากพอ – ของกรดในกระเพาะอาหาร แต่น่าเสียดายที่กรดในกระเพาะอาหารไม่เพียงพอนี้ยังไปเกี่ยวข้องกับการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียมากจนเกินไป การดูดซึมสารอาหารด้อยคุณภาพลง การลดลงของความต้านทานต่อการติดเชื้อและเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร, แผลในกระเพาะอาหาร,ลำไส้แปรปรวน และโรคทางเดินอาหารอื่น ๆ ภาวะซึมเศร้าและความผิดปกติทางอารมณ์และโรคแพ้ภูมิตัวเองและโรคหอบหืด การบรรเทาอาการชั่วคราวของยาลดกรดเหล่านี้ให้ความคุ้มค่าต่อความเสี่ยงหรือไม่ นั่นคือสิ่งเดียวที่คุณสามารถตัดสินใจได้เอง Cr. Santi Manadee
    0 Comments 0 Shares 639 Views 0 Reviews
  • รวบรวม 61ความระยำของ ทักษิณ บันทึกไว้ให้ลูกหลานมันจำ" 🧐เครดิต:ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิทย์ แชร์ให้โลกรู้
    9 ธค.นี้ 10.00 น.หน้าทำเนียบรัฐบาลไทยทุกคน

    1. แก้ พรบ.สรรพสามิตโทรคมนาคม ให้เสียภาษีน้อยลง ได้ผลประโยชน์ 8,000 ล้าน
    2. ลดสัมปทาน itv ได้ผลประโยชน์ 20,000 ล้าน แถมได้สถานีโทรทัศน์ที่เคยมีอุดมการณ์เปลี่ยนมาทำลายวัฒนธรรม โดยการเอาหนังเกาหลีมาฉาย และปิดสื่อความไม่ดีสร้างภาพดีๆให้ตัวเอง (กลุ่มชินคอร์ป ถือหุ้น itv 53%)
    3. ตั้ง ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็น ผบ.ทบ. ก็ได้พี่ชายตนเองคุมทหาร
    4. ตั้ง เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ เป็น รอง ผบ.ตร. ก็ได้พี่เขยตนเองคุมตำรวจ
    5. ตั้ง วาสนา เพิ่มลาภ เป็น ประธาน กกต ก็ได้ตำรวจพวกพ้องตัวเองคุม กกต.
    6. ตั้ง สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เป็น ผอ.กองสลาก ก็ได้ตำรวจพวกพ้องตัวเองคุม กองสลาก
    7. ตั้ง คงศักดิ์ วันทนา เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สามีลูกน้ำเพื่อนรักที่ช่วยแลกเช็คให้สมัยยังจนอยู่ก็ได้เพื่อนคุณหญิงอ้อ…มาคุมทุกเหล่า
    8. กล่าวคําพูดท้าทายพวกก่อการร้ายในภาคใต้ว่าเป็นแค่โจรกระจอก อย่าไปใส่ใจ ทําให้เกิดความรุนแรงคนตายมากมายและหลุดปากด่าทหารว่า “สมควรตาย”
    9. ปล่อยเงินกู้ให้พม่า 4,000ล้าน เพื่อนำมาเช่าช่องสัญญาณ IP Star ของตัวเอง ถึงกำหนดแล้วพม่ายังไม่ใช้หนี้เลย
    10. เจรจาเซ็น FTA กับจีน ให้จีนนำเข้า หอม กระเทียม เข้ามาไม่เสียภาษี เกษตรกรที่ปลูกหอมปลูกกระเทียมทางเหนือก็ตายหมด ส่วนไทยได้ขายธุรกิจช่อง สัญญาณดาวเทียม IP Star
    11. เจรจาเซ็น FTA กับออสเตรเลีย ให้นำเข้า นม ไวน์ เข้ามาไม่เสียภาษี ทำลายเหล้าไวน์พื้นบ้าน OTOP ทำลายนมพระราชดำริ ส่วนไทยได้ขายธุรกิจช่องสัญญาณ IP Star
    12. ในเดือนพฤศจิกายน 2546 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีมติส่งเสริมการลงทุนโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์ของ ชินแซทเทิลไลท์ โดยให้การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉพาะรายได้ที่ได้รับจากต่างประเทศ ทั้ง ๆที่เป็นกิจการที่ลงทุนเดิมอยู่แล้วไม่รู้ไปยกเว้นภาษีทำไม บริษัทจึงได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้อีก 16,459 ล้านบาทต่อปี
    13. แปรรูปขายหุ้น ปตท วันแรกเปิดขายหุ้นหมดภายใน 1 นาที 17 วินาที ตระกูลใครละที่ได้ซื้อหุ้นไปหลังจากแปรรูป น้ำมันก็แพงขึ้นทุกวัน ให้กองทุนน้ำมันของคนไทยขาดทุนกว่า 70,000 ล้านบาท แต่ ปตท ได้กำไรปี 2548 จำนวน 160,000 ล้านบาท แล้วกำไรแทนที่จะเป็นของรัฐก็กลายเป็นกำไรของตระกูลพวกถือหุ้น
    14. ซุกหุ้นภาคแรกให้เมียตัวเองขึ้นศาลรับผิด ซุกหุ้นภาค 2 ให้ลูกชายตัวเองขึ้นศาลรับผิดไหนบอกว่ารักครอบครัวไง
    15. บริษัทของลูกท่านได้เงินกู้ 5,000 ล้าน จาก ICT ดอกเบี้ย0% ไม่กำหนดเวลาชำระคืนแถมได้รับการเว้นภาษีจาก บีโอไอ อีกทำสวนสนุกได้รับการเว้นภาษี
    16. ได้รับสัมปทานสื่อโฆษณาที่รถไฟใต้ดิน โดยที่ไม่ได้รับการเปิดประมูลเพื่อแข่งขันกับบริษัทอื่น
    17. ทักษิณ สั่ง รมต. กลางวง ครม. ลดค่าเช่าพื้นที่ย่านสยามสแควร์ เปิดทางลูก-หลานเปิด สตูดิโอ – ร้านกาแฟ อ้างค่าเช่าแพงเกินจริง
    18. ลดเงินค่ารถไฟฟ้า-ใต้ดิน พอดีกับงานสวนสนุกธุรกิจของลูกๆ สอดคล้องสนับสนุนกันพอดี บังเอิญจริงๆ
    19. ทักษิณพูดว่า”จังหวัดไหนเลือกไทยรักไทย จะให้ความดูแลก่อน” น้ำท่วมภาคใต้ 5 วันแล้ว แต่ทักษิณไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ไปกินก๋วยเตี๋ยวสร้างภาพ ไปเดินตลาดหาเสียง ทั้งๆที่มี สส อยู่เต็มสภาแล้วแต่ที่ต้องลงใต้ไปดูน้ำท่วมวันศุกร์เช้า เนื่องจากกลัวสนธิพูดตอนเย็นในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์
    20. การที่มีพวกพ้องตัวเองเป็น กกต. จึงเปลี่ยนรูปแบบการเลือกตั้งให้สามารถโกงการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นได้อีก 2 วิธี
    20.1 ปั๊มตรายางอีกชุดรอเวลาเปลี่ยนกล่องบัตรได้ทุกเวลา
    20.2 หมึกมีแบบล่องหน และ แบบโผล่ขึ้นมาได้ (ในทางเคมีสามารถทำได้)
    21. ปิดข่าวเรื่องไข้หวัดนกทําให้ชาวบ้านที่ไม่ทราบต้องตายแล้วยังไปแสดงการกินไก่ไปหัวเราะไป เพื่อ ซีพี.นายทุนพรรคเท่านั้น
    22. ทําให้เกิดการฆ่าตัดตอนประชาชนผู้บริสุทธิ์กว่า 2000 คน จากการปราบยาบ้าสั่งฆ่าคนได้หน้าตาเฉย โหดร้ายทารุณ
    23. ซุกหุ้นปั่นหุ้น ซุกซ่อนทรัพย์สินไว้กับญาติพี่น้องเอาเงินไปฟอกต่างประเทศเอาเปรียบใน การทําธุรกิจผูกขาด
    ทั้งรับทั้งจ่ายใต้โต๊ะจนคนในวงการธุรกิจ เขารู้กันหมด ค้ากำไรเกินควร จนรํ่ารวยมหาศาล
    24. โกงที่ดินวัดของสนามกอล์ฟอัลไพน์มีคนโกงที่ดินธรณีสงฆ์เอามาทำสนามกอล์ฟ แล้วทักษิณไปซื้อต่อทั้ง ๆ รู้ว่าที่ดินนั้นได้มา ไม่ถูกต้องเพราะไม่กลัวบาปกรรม
    25. ประชาชนเสียรู้ทักษิณ เรียนฟรี 12 ปี นโยบายรัฐที่เปิดช่องให้โรงเรียนนำค่าใช้จ่ายอย่างอื่นมาเพิ่มแทนค่าเทอม นั่นแหละ สุดท้ายก็ไม่ได้เรียนฟรีอยู่ดี เป็นความล้มเหลวที่เห็นได้ชัดเจนของการปฎิรูปการศึกษาไทย ประชาชนจะถูกหลอกอีก 4 ปี เอาเข้าไป เป็นความจริงที่สุดเลย นี่คือการโกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในโลกนี้ซึ่งหาดูไม่ได้ที่ไหนนอกจากประเทศไทยที่กฎหมายบอกว่าเรียนฟรี แต่ความจริงมีใครบ้างที่เรียนฟรีถามผู้ปกครองทุกคนดูได้เลย
    26. ชั่วเวลาแค่ปีเศษ ๆ รัฐบาลชุดนี้ก็ทำให้สถานการณ์ภาคใต้ที่ร่มเย็นเป็นสุขมานานหลายสิบปี กลับร้อนระอุกลายเป็นแดนมิคสัญญี
    27. เช่าน่านฟ้า เช่าผืนแผ่นดินไทย ราคาเช่าช่างถูกจัง มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า ตนเองน่าจะรู้ดี ไหนบอกว่าแผ่นดินไทยจะไม่ให้หายแม้แต่ตารางนิ้วเดียวไงใช้อำนาจจนเลยเถิดไม่เห็นด้วย คิดไงท่านนายก ที่ให้เช่า 15 ปี แถมมีเปลียนสัญญาได้ทุกๆ 5 ปี เหมือนทำธรุกิจเลยขอเชิญชาวไทยเรียกร้องอธิปไตยชาติไทยกลับมาด้วยขอให้มี สส สว ที่ยังพอมีความเป็นไทยที่มิใช่มีความเป็น ทรท. ช่วยกันคัดค้าน ล่ารายชื่อด้วยครับผมว่ามันเกี่ยวกันหมดแหละครับ ตั้งแต่ AIS (มือถือ) ไทยคม1 ไทยคม 2 IPstar ชินคอร์ป ธนาคาร ธุรกิจ การเมือง อยู่ในมือสิงคโปร์ทั้งหมดแล้วครับ ชัดเจน มีผลประโยชน์ทับซ้อนแหง๋ ไม่งั้นไม่งุบงิบกันทำหรอก อย่านึกว่าประชาชนโง่นะคุณ ยุคทักษิณคือ ยุคของเงินเหนือรัฐ ยุคตำรวจรังแกประชาชน ยุคทหารฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ยุคความรุนแรงอยู่เหนือเหตุผล
    28. ฉลาด อย่างตัวจับยาก เอาเงินหลวงไปหว่านให้รากหญ้าแล้ว ผ่านกระเป๋ารากหญ้าแบบเคาะกะลาให้หมาดีใจ ผ่านธุรกิจมือถือเข้ากระเป๋ามันเอง
    29. ยุบสภาหนีความผิด เนื่องจากนายกองค์การนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ล่า 50,000 รายชื่อ เพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง
    30. ยุบสภาได้ยังไงไม่ได้มีปัญหาภายในสภาสักหน่อย อภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่ได้ ฝ่ายค้านมีไม่พอ
    31. วันที่ประกาศยุบสภาประกาศพร้อมกันว่าให้ไปเลือกตั้งวันที่ 2 เมษา ได้ยังไง รู้ได้ยังไง ไหนว่า กกต. เป็นกลางไง
    32. คุณหญิงพจมาน อยากมีสมเด็จพระสังฆราชประจำตระกูลตัวเอง จึงให้นายวิษณุ เครืองา ลงนามแต่งตั้ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ เกี่ยว อุปเสโณ วัดสระเกศ ขึ้นปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2547 เสมอกับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนา อ้างว่า สมเด็จญาณฯ ทรงประชวร ไม่สามารถประกอบศาสนกิจได้ ทั้งๆที่มี VDO วันที่ 13 มีนาคม 2547 สมเด็จพระสังฆราชพระราชทานรางวัลให้กับเด็กนักเรียนที่ได้รับทุนของมหามกุฏราชวิทยาลัยในการประกวดเรียงความเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช 90 พรรษา
    33. คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่า สตง. ตรวจเจอการทุจริตของรัฐบาลหลายเรื่อง ล่าสุดตรวจสอบเจอการทุจริต CTX ทางรัฐบาลจึงอ้างว่ากระบวนการสรรหา คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่าการ สตง.) มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ (ทั้งๆที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) คุณหญิงปิดห้องทำงานแล้ว ยังไปงัดห้องคุณหญิง คิดจะหาหลักฐานทุจริตที่ห้องคุณหญิง ต่อมาคนดีอย่างคุณหญิงก็ได้กลับมาทำงานเหมือนเดิม
    34. จัดซื้อเครื่องบินรบ ซู30 ตั้งงบประมาณไว้ 35,000 ล้าน ทั้งที่รัสเซียบอกว่าขายแค่ 20,000 ล้าน กะจะกินตั้ง 15,000 ล้าน เครื่องบินเป็นแบบบินระยะไกล เสียค่าซ่อมเยอะ (ไทยนี้รักสงบ) เราเป็นพวกบุกรุก หรือ ตั้งรับถ้าเราเป็นฝ่ายตั้งรับ แล้วจะซื้อเครื่องบินระยะไกลทำไม ให้ช่างทหารอากาศเลือกซื้อทำไมไม่ให้นักบินเป็นคนเลือก เพราะฝ่ายช่างอยู่ในความดูแลของ คงศักดิ์ วัณทนา สามีของเพื่อน คุณหญิงพจมาน…
    35. ก่อนขายหุ้นบอกว่าจะไปพักผ่อนที่สิงคโปร์ 4 วัน เดินเล่นที่สิงคโปร์ไปเดินครึ่งวัน อย่างมากก็วันเดียวก็ไม่รู้จะไปเดิน ที่ไหนแล้วนี่ไปถึง 4 วันเจรจาขายหุ้น แต่โกหกประชาชนคนไทยว่าจะไปพักผ่อน บอกตรงๆก็ได้
    36. จัดซื้อ CTX ราคา ระหว่าง บทม.และใบแจ้งราคาสินค้าของบริษัท อินวิชั่นฯ เป็นเงินประมาณ 283,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 11.30 ล้านบาทต่อเครื่อง หากคิดรวม 26 เครื่อง เป็นเงิน 7.36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 294.4 ล้านบาทซึ่ง “ส่วนต่าง”ราคานี้ถูกนำไปใช้บันทึกซ้ำซ้อน โดยอ้างว่าเป็นอุปกรณ์ที่ต้องการซื้อเพิ่มเติม ทั้งที่รวมอยู่ในราคา 35.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ1,432 ล้านบาทกะจะกิน1,432 ล้าน – 294.4 ล้าน = ?
    37. ร่วมทุนชินคอร์ปกับมาเลเซีย เปิดธุรกิจสายการบิน Low Cost แล้วสั่งยกเลิกเที่ยวบินการบินไทยที่ได้กำไร แล้วเอาสายการบินของตัวเองไปบินทับที่แทน ทำให้การบินไทยซึ่ง เป็นสายการบินของคนไทยขาดทุน แล้วทำหนังสือถึงหน่วยงานราชการว่านอกจากการบินไทยแล้ว สามารถใช้งบหลวงเบิกค่านั่งเครื่องบิน Low Cost ได้ด้วย แล้วยังขายหุ้น Low Cost ให้สิงคโปร์อีก ทำให้ Low Cost ที่มีเที่ยวบินที่กำไรดีที่สุด (แย่ง จากการบินไทย) เป็นเที่ยวบินของ มาเลเซีย+สิงคโปร์ (ขายชาติ)
    38. โทรศัพท์เครื่องที่ระบบ 1900 “ไทยโมบาย” ของ ทีโอที มันให้ ทีโอทีตั้งเสาเฉพาะใน กทม. ส่วนในต่างจังหวัด มันไม่ยอมให้ตั้งเสาทั้งๆที่ ทีโอทีมีที่ดินอยู่มากมายในต่างจังหวัด มันสั่งให้ ระบบ 1900 ของทีโอที ในต่างจังหวัดใช้เสาสัญญาณของAISโดยโทร 3 บาท ทีโอที ต้องจ่ายให้ AIS 2 บาท ทีโอที ได้ 1 บาท ..สุดยอดไหมละ
    39. ปี 2535 – วิ่งเต้นจนได้รับสัมปทานดาวเทียมไทยคมโดยการสนับสนุนอย่างดีจากรัฐบาลเผด็จ การ รสช. โดยอิงความสัมพันธ์ที่สนิทแนบแน่นกับ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ซึ่งก็ชดใช้บุญคุณมาจนถึงสนับสนุน 2 คนสนิทของท่านให้ได้ดีในยุคนี้คือ พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันท์ ได้เป็นรมว.กลาโหม และพล.อ.เรืองโรจน์ มหาสรานนท์ ได้เป็นผบ.สูงสุด
    40. การพูดจาบจ้วงดูหมิ่นพระบรมฯ
    40.1. สำนัก ราชเลขาฯ ขอให้รัฐบาลพิจารณาเครื่องบินราชพาหนะลำใหม่.. แทนลำเก่าที่ ชำรุดมากแล้ว …..ทักษิณ อ้างว่า ไม่มีงบประมาณ แต่สุดท้าย ซื้อเครื่องบินไทยคู่ฟ้าให้ตนเองและครอบครัวนั่งก่อน..จาก ข่าวที่น้องสาว ทักษิณใช้เครื่องบินไปฉลองวันเกิดที่เชียงใหม่……………
    40.2. ทักษิณ ชินวัตร ใช้อุโบสถวัดพระแก้วในการทำบุญประเทศ (แต่แต่งกายในชุดสบายๆ ไม่เป็นทางการ) ทั้งๆที่ประธานในการทำบุญระดับประเทศควรเป็นพระองค์ท่านมากกว่า…ที่ สำคัญอุโบสถวัดพระแก้วเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับประกอบ ศาสนพิธีของพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน.. ไม่มีการขอพระบรมราชานุญาต… .พอ มีคนรู้ทัน.. รีบขอพระบรมราชานุญาตย้อนหลัง… จนพระองค์ท่านออกมาตรัสใน วันที่ 4 ธันวาคมว่า นายกฯจะให้ท่านทำอะไรก็ทำให้หมด แต่ควรพิจารณาด้วยว่าสมควรหรือไม่
    40.3. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี ”ผีที่ไหนจะจงรักภักดี….”
    คนระดับทักษิณ มีการศึกษาสูงพอ ผ่านงานพระราชพิธีมามากมาย..ย่อมควรรู้ดีว่าสมควรพูดเช่นนี้ หรือไม่….ถ้ามีปัญญาก็ควรพูดว่า ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี ใครเล่าที่จะจงรักภักดี มากกว่า
    40.4. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ถ้าในหลวงมากระซิบข้างหู…(พูดว่าข้างหู) ว่าออกเถอะจะกราบบังคมลาทันที…คำหลังยังใช้ราชาศัพท์เป็น แต่คำหน้าไหงใช้คำว่ามากระซิบข้างหู… ทักษิณ ไม่ควรทำตัวเสมอพระองค์ท่าน
    40.5. แม่ยายของทักษิณ กล่าวจาบจ้วงว่า บางทีตนอาจขอม็อบพระราชทานบ้าง คำว่า สิ่งพระราชทาน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มงคล เป็นสิ่งที่ดีแต่คำว่า “ม็อบ” หมายถึง กลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องบางอย่าง พระองค์ท่านจะพระราชทานได้อย่าง ไร…ไม่สมควรพูด
    40.6. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ตนเป็นนายกฯพระราชทานอยู่แล้ว ถ้าได้กลับมาอีกครั้งพระองค์ท่านต้อง …ใช้คำว่า “ต้อง” เซ็นให้ตนเป็นนายกฯอยู่วันยังค่ำ
    40.7. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า โผทหารที่นายกฯเซ็นแล้ว ใครจะกล้าเปลี่…
    รวบรวม 61ความระยำของ ทักษิณ บันทึกไว้ให้ลูกหลานมันจำ" 🧐เครดิต:ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิทย์ แชร์ให้โลกรู้ 9 ธค.นี้ 10.00 น.หน้าทำเนียบรัฐบาลไทยทุกคน 1. แก้ พรบ.สรรพสามิตโทรคมนาคม ให้เสียภาษีน้อยลง ได้ผลประโยชน์ 8,000 ล้าน 2. ลดสัมปทาน itv ได้ผลประโยชน์ 20,000 ล้าน แถมได้สถานีโทรทัศน์ที่เคยมีอุดมการณ์เปลี่ยนมาทำลายวัฒนธรรม โดยการเอาหนังเกาหลีมาฉาย และปิดสื่อความไม่ดีสร้างภาพดีๆให้ตัวเอง (กลุ่มชินคอร์ป ถือหุ้น itv 53%) 3. ตั้ง ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็น ผบ.ทบ. ก็ได้พี่ชายตนเองคุมทหาร 4. ตั้ง เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ เป็น รอง ผบ.ตร. ก็ได้พี่เขยตนเองคุมตำรวจ 5. ตั้ง วาสนา เพิ่มลาภ เป็น ประธาน กกต ก็ได้ตำรวจพวกพ้องตัวเองคุม กกต. 6. ตั้ง สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เป็น ผอ.กองสลาก ก็ได้ตำรวจพวกพ้องตัวเองคุม กองสลาก 7. ตั้ง คงศักดิ์ วันทนา เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สามีลูกน้ำเพื่อนรักที่ช่วยแลกเช็คให้สมัยยังจนอยู่ก็ได้เพื่อนคุณหญิงอ้อ…มาคุมทุกเหล่า 8. กล่าวคําพูดท้าทายพวกก่อการร้ายในภาคใต้ว่าเป็นแค่โจรกระจอก อย่าไปใส่ใจ ทําให้เกิดความรุนแรงคนตายมากมายและหลุดปากด่าทหารว่า “สมควรตาย” 9. ปล่อยเงินกู้ให้พม่า 4,000ล้าน เพื่อนำมาเช่าช่องสัญญาณ IP Star ของตัวเอง ถึงกำหนดแล้วพม่ายังไม่ใช้หนี้เลย 10. เจรจาเซ็น FTA กับจีน ให้จีนนำเข้า หอม กระเทียม เข้ามาไม่เสียภาษี เกษตรกรที่ปลูกหอมปลูกกระเทียมทางเหนือก็ตายหมด ส่วนไทยได้ขายธุรกิจช่อง สัญญาณดาวเทียม IP Star 11. เจรจาเซ็น FTA กับออสเตรเลีย ให้นำเข้า นม ไวน์ เข้ามาไม่เสียภาษี ทำลายเหล้าไวน์พื้นบ้าน OTOP ทำลายนมพระราชดำริ ส่วนไทยได้ขายธุรกิจช่องสัญญาณ IP Star 12. ในเดือนพฤศจิกายน 2546 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีมติส่งเสริมการลงทุนโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์ของ ชินแซทเทิลไลท์ โดยให้การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉพาะรายได้ที่ได้รับจากต่างประเทศ ทั้ง ๆที่เป็นกิจการที่ลงทุนเดิมอยู่แล้วไม่รู้ไปยกเว้นภาษีทำไม บริษัทจึงได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้อีก 16,459 ล้านบาทต่อปี 13. แปรรูปขายหุ้น ปตท วันแรกเปิดขายหุ้นหมดภายใน 1 นาที 17 วินาที ตระกูลใครละที่ได้ซื้อหุ้นไปหลังจากแปรรูป น้ำมันก็แพงขึ้นทุกวัน ให้กองทุนน้ำมันของคนไทยขาดทุนกว่า 70,000 ล้านบาท แต่ ปตท ได้กำไรปี 2548 จำนวน 160,000 ล้านบาท แล้วกำไรแทนที่จะเป็นของรัฐก็กลายเป็นกำไรของตระกูลพวกถือหุ้น 14. ซุกหุ้นภาคแรกให้เมียตัวเองขึ้นศาลรับผิด ซุกหุ้นภาค 2 ให้ลูกชายตัวเองขึ้นศาลรับผิดไหนบอกว่ารักครอบครัวไง 15. บริษัทของลูกท่านได้เงินกู้ 5,000 ล้าน จาก ICT ดอกเบี้ย0% ไม่กำหนดเวลาชำระคืนแถมได้รับการเว้นภาษีจาก บีโอไอ อีกทำสวนสนุกได้รับการเว้นภาษี 16. ได้รับสัมปทานสื่อโฆษณาที่รถไฟใต้ดิน โดยที่ไม่ได้รับการเปิดประมูลเพื่อแข่งขันกับบริษัทอื่น 17. ทักษิณ สั่ง รมต. กลางวง ครม. ลดค่าเช่าพื้นที่ย่านสยามสแควร์ เปิดทางลูก-หลานเปิด สตูดิโอ – ร้านกาแฟ อ้างค่าเช่าแพงเกินจริง 18. ลดเงินค่ารถไฟฟ้า-ใต้ดิน พอดีกับงานสวนสนุกธุรกิจของลูกๆ สอดคล้องสนับสนุนกันพอดี บังเอิญจริงๆ 19. ทักษิณพูดว่า”จังหวัดไหนเลือกไทยรักไทย จะให้ความดูแลก่อน” น้ำท่วมภาคใต้ 5 วันแล้ว แต่ทักษิณไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ไปกินก๋วยเตี๋ยวสร้างภาพ ไปเดินตลาดหาเสียง ทั้งๆที่มี สส อยู่เต็มสภาแล้วแต่ที่ต้องลงใต้ไปดูน้ำท่วมวันศุกร์เช้า เนื่องจากกลัวสนธิพูดตอนเย็นในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ 20. การที่มีพวกพ้องตัวเองเป็น กกต. จึงเปลี่ยนรูปแบบการเลือกตั้งให้สามารถโกงการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นได้อีก 2 วิธี 20.1 ปั๊มตรายางอีกชุดรอเวลาเปลี่ยนกล่องบัตรได้ทุกเวลา 20.2 หมึกมีแบบล่องหน และ แบบโผล่ขึ้นมาได้ (ในทางเคมีสามารถทำได้) 21. ปิดข่าวเรื่องไข้หวัดนกทําให้ชาวบ้านที่ไม่ทราบต้องตายแล้วยังไปแสดงการกินไก่ไปหัวเราะไป เพื่อ ซีพี.นายทุนพรรคเท่านั้น 22. ทําให้เกิดการฆ่าตัดตอนประชาชนผู้บริสุทธิ์กว่า 2000 คน จากการปราบยาบ้าสั่งฆ่าคนได้หน้าตาเฉย โหดร้ายทารุณ 23. ซุกหุ้นปั่นหุ้น ซุกซ่อนทรัพย์สินไว้กับญาติพี่น้องเอาเงินไปฟอกต่างประเทศเอาเปรียบใน การทําธุรกิจผูกขาด ทั้งรับทั้งจ่ายใต้โต๊ะจนคนในวงการธุรกิจ เขารู้กันหมด ค้ากำไรเกินควร จนรํ่ารวยมหาศาล 24. โกงที่ดินวัดของสนามกอล์ฟอัลไพน์มีคนโกงที่ดินธรณีสงฆ์เอามาทำสนามกอล์ฟ แล้วทักษิณไปซื้อต่อทั้ง ๆ รู้ว่าที่ดินนั้นได้มา ไม่ถูกต้องเพราะไม่กลัวบาปกรรม 25. ประชาชนเสียรู้ทักษิณ เรียนฟรี 12 ปี นโยบายรัฐที่เปิดช่องให้โรงเรียนนำค่าใช้จ่ายอย่างอื่นมาเพิ่มแทนค่าเทอม นั่นแหละ สุดท้ายก็ไม่ได้เรียนฟรีอยู่ดี เป็นความล้มเหลวที่เห็นได้ชัดเจนของการปฎิรูปการศึกษาไทย ประชาชนจะถูกหลอกอีก 4 ปี เอาเข้าไป เป็นความจริงที่สุดเลย นี่คือการโกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในโลกนี้ซึ่งหาดูไม่ได้ที่ไหนนอกจากประเทศไทยที่กฎหมายบอกว่าเรียนฟรี แต่ความจริงมีใครบ้างที่เรียนฟรีถามผู้ปกครองทุกคนดูได้เลย 26. ชั่วเวลาแค่ปีเศษ ๆ รัฐบาลชุดนี้ก็ทำให้สถานการณ์ภาคใต้ที่ร่มเย็นเป็นสุขมานานหลายสิบปี กลับร้อนระอุกลายเป็นแดนมิคสัญญี 27. เช่าน่านฟ้า เช่าผืนแผ่นดินไทย ราคาเช่าช่างถูกจัง มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า ตนเองน่าจะรู้ดี ไหนบอกว่าแผ่นดินไทยจะไม่ให้หายแม้แต่ตารางนิ้วเดียวไงใช้อำนาจจนเลยเถิดไม่เห็นด้วย คิดไงท่านนายก ที่ให้เช่า 15 ปี แถมมีเปลียนสัญญาได้ทุกๆ 5 ปี เหมือนทำธรุกิจเลยขอเชิญชาวไทยเรียกร้องอธิปไตยชาติไทยกลับมาด้วยขอให้มี สส สว ที่ยังพอมีความเป็นไทยที่มิใช่มีความเป็น ทรท. ช่วยกันคัดค้าน ล่ารายชื่อด้วยครับผมว่ามันเกี่ยวกันหมดแหละครับ ตั้งแต่ AIS (มือถือ) ไทยคม1 ไทยคม 2 IPstar ชินคอร์ป ธนาคาร ธุรกิจ การเมือง อยู่ในมือสิงคโปร์ทั้งหมดแล้วครับ ชัดเจน มีผลประโยชน์ทับซ้อนแหง๋ ไม่งั้นไม่งุบงิบกันทำหรอก อย่านึกว่าประชาชนโง่นะคุณ ยุคทักษิณคือ ยุคของเงินเหนือรัฐ ยุคตำรวจรังแกประชาชน ยุคทหารฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ยุคความรุนแรงอยู่เหนือเหตุผล 28. ฉลาด อย่างตัวจับยาก เอาเงินหลวงไปหว่านให้รากหญ้าแล้ว ผ่านกระเป๋ารากหญ้าแบบเคาะกะลาให้หมาดีใจ ผ่านธุรกิจมือถือเข้ากระเป๋ามันเอง 29. ยุบสภาหนีความผิด เนื่องจากนายกองค์การนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ล่า 50,000 รายชื่อ เพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง 30. ยุบสภาได้ยังไงไม่ได้มีปัญหาภายในสภาสักหน่อย อภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่ได้ ฝ่ายค้านมีไม่พอ 31. วันที่ประกาศยุบสภาประกาศพร้อมกันว่าให้ไปเลือกตั้งวันที่ 2 เมษา ได้ยังไง รู้ได้ยังไง ไหนว่า กกต. เป็นกลางไง 32. คุณหญิงพจมาน อยากมีสมเด็จพระสังฆราชประจำตระกูลตัวเอง จึงให้นายวิษณุ เครืองา ลงนามแต่งตั้ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ เกี่ยว อุปเสโณ วัดสระเกศ ขึ้นปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2547 เสมอกับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนา อ้างว่า สมเด็จญาณฯ ทรงประชวร ไม่สามารถประกอบศาสนกิจได้ ทั้งๆที่มี VDO วันที่ 13 มีนาคม 2547 สมเด็จพระสังฆราชพระราชทานรางวัลให้กับเด็กนักเรียนที่ได้รับทุนของมหามกุฏราชวิทยาลัยในการประกวดเรียงความเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช 90 พรรษา 33. คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่า สตง. ตรวจเจอการทุจริตของรัฐบาลหลายเรื่อง ล่าสุดตรวจสอบเจอการทุจริต CTX ทางรัฐบาลจึงอ้างว่ากระบวนการสรรหา คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่าการ สตง.) มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ (ทั้งๆที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) คุณหญิงปิดห้องทำงานแล้ว ยังไปงัดห้องคุณหญิง คิดจะหาหลักฐานทุจริตที่ห้องคุณหญิง ต่อมาคนดีอย่างคุณหญิงก็ได้กลับมาทำงานเหมือนเดิม 34. จัดซื้อเครื่องบินรบ ซู30 ตั้งงบประมาณไว้ 35,000 ล้าน ทั้งที่รัสเซียบอกว่าขายแค่ 20,000 ล้าน กะจะกินตั้ง 15,000 ล้าน เครื่องบินเป็นแบบบินระยะไกล เสียค่าซ่อมเยอะ (ไทยนี้รักสงบ) เราเป็นพวกบุกรุก หรือ ตั้งรับถ้าเราเป็นฝ่ายตั้งรับ แล้วจะซื้อเครื่องบินระยะไกลทำไม ให้ช่างทหารอากาศเลือกซื้อทำไมไม่ให้นักบินเป็นคนเลือก เพราะฝ่ายช่างอยู่ในความดูแลของ คงศักดิ์ วัณทนา สามีของเพื่อน คุณหญิงพจมาน… 35. ก่อนขายหุ้นบอกว่าจะไปพักผ่อนที่สิงคโปร์ 4 วัน เดินเล่นที่สิงคโปร์ไปเดินครึ่งวัน อย่างมากก็วันเดียวก็ไม่รู้จะไปเดิน ที่ไหนแล้วนี่ไปถึง 4 วันเจรจาขายหุ้น แต่โกหกประชาชนคนไทยว่าจะไปพักผ่อน บอกตรงๆก็ได้ 36. จัดซื้อ CTX ราคา ระหว่าง บทม.และใบแจ้งราคาสินค้าของบริษัท อินวิชั่นฯ เป็นเงินประมาณ 283,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 11.30 ล้านบาทต่อเครื่อง หากคิดรวม 26 เครื่อง เป็นเงิน 7.36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 294.4 ล้านบาทซึ่ง “ส่วนต่าง”ราคานี้ถูกนำไปใช้บันทึกซ้ำซ้อน โดยอ้างว่าเป็นอุปกรณ์ที่ต้องการซื้อเพิ่มเติม ทั้งที่รวมอยู่ในราคา 35.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ1,432 ล้านบาทกะจะกิน1,432 ล้าน – 294.4 ล้าน = ? 37. ร่วมทุนชินคอร์ปกับมาเลเซีย เปิดธุรกิจสายการบิน Low Cost แล้วสั่งยกเลิกเที่ยวบินการบินไทยที่ได้กำไร แล้วเอาสายการบินของตัวเองไปบินทับที่แทน ทำให้การบินไทยซึ่ง เป็นสายการบินของคนไทยขาดทุน แล้วทำหนังสือถึงหน่วยงานราชการว่านอกจากการบินไทยแล้ว สามารถใช้งบหลวงเบิกค่านั่งเครื่องบิน Low Cost ได้ด้วย แล้วยังขายหุ้น Low Cost ให้สิงคโปร์อีก ทำให้ Low Cost ที่มีเที่ยวบินที่กำไรดีที่สุด (แย่ง จากการบินไทย) เป็นเที่ยวบินของ มาเลเซีย+สิงคโปร์ (ขายชาติ) 38. โทรศัพท์เครื่องที่ระบบ 1900 “ไทยโมบาย” ของ ทีโอที มันให้ ทีโอทีตั้งเสาเฉพาะใน กทม. ส่วนในต่างจังหวัด มันไม่ยอมให้ตั้งเสาทั้งๆที่ ทีโอทีมีที่ดินอยู่มากมายในต่างจังหวัด มันสั่งให้ ระบบ 1900 ของทีโอที ในต่างจังหวัดใช้เสาสัญญาณของAISโดยโทร 3 บาท ทีโอที ต้องจ่ายให้ AIS 2 บาท ทีโอที ได้ 1 บาท ..สุดยอดไหมละ 39. ปี 2535 – วิ่งเต้นจนได้รับสัมปทานดาวเทียมไทยคมโดยการสนับสนุนอย่างดีจากรัฐบาลเผด็จ การ รสช. โดยอิงความสัมพันธ์ที่สนิทแนบแน่นกับ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ซึ่งก็ชดใช้บุญคุณมาจนถึงสนับสนุน 2 คนสนิทของท่านให้ได้ดีในยุคนี้คือ พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันท์ ได้เป็นรมว.กลาโหม และพล.อ.เรืองโรจน์ มหาสรานนท์ ได้เป็นผบ.สูงสุด 40. การพูดจาบจ้วงดูหมิ่นพระบรมฯ 40.1. สำนัก ราชเลขาฯ ขอให้รัฐบาลพิจารณาเครื่องบินราชพาหนะลำใหม่.. แทนลำเก่าที่ ชำรุดมากแล้ว …..ทักษิณ อ้างว่า ไม่มีงบประมาณ แต่สุดท้าย ซื้อเครื่องบินไทยคู่ฟ้าให้ตนเองและครอบครัวนั่งก่อน..จาก ข่าวที่น้องสาว ทักษิณใช้เครื่องบินไปฉลองวันเกิดที่เชียงใหม่…………… 40.2. ทักษิณ ชินวัตร ใช้อุโบสถวัดพระแก้วในการทำบุญประเทศ (แต่แต่งกายในชุดสบายๆ ไม่เป็นทางการ) ทั้งๆที่ประธานในการทำบุญระดับประเทศควรเป็นพระองค์ท่านมากกว่า…ที่ สำคัญอุโบสถวัดพระแก้วเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับประกอบ ศาสนพิธีของพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน.. ไม่มีการขอพระบรมราชานุญาต… .พอ มีคนรู้ทัน.. รีบขอพระบรมราชานุญาตย้อนหลัง… จนพระองค์ท่านออกมาตรัสใน วันที่ 4 ธันวาคมว่า นายกฯจะให้ท่านทำอะไรก็ทำให้หมด แต่ควรพิจารณาด้วยว่าสมควรหรือไม่ 40.3. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี ”ผีที่ไหนจะจงรักภักดี….” คนระดับทักษิณ มีการศึกษาสูงพอ ผ่านงานพระราชพิธีมามากมาย..ย่อมควรรู้ดีว่าสมควรพูดเช่นนี้ หรือไม่….ถ้ามีปัญญาก็ควรพูดว่า ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี ใครเล่าที่จะจงรักภักดี มากกว่า 40.4. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ถ้าในหลวงมากระซิบข้างหู…(พูดว่าข้างหู) ว่าออกเถอะจะกราบบังคมลาทันที…คำหลังยังใช้ราชาศัพท์เป็น แต่คำหน้าไหงใช้คำว่ามากระซิบข้างหู… ทักษิณ ไม่ควรทำตัวเสมอพระองค์ท่าน 40.5. แม่ยายของทักษิณ กล่าวจาบจ้วงว่า บางทีตนอาจขอม็อบพระราชทานบ้าง คำว่า สิ่งพระราชทาน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มงคล เป็นสิ่งที่ดีแต่คำว่า “ม็อบ” หมายถึง กลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องบางอย่าง พระองค์ท่านจะพระราชทานได้อย่าง ไร…ไม่สมควรพูด 40.6. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ตนเป็นนายกฯพระราชทานอยู่แล้ว ถ้าได้กลับมาอีกครั้งพระองค์ท่านต้อง …ใช้คำว่า “ต้อง” เซ็นให้ตนเป็นนายกฯอยู่วันยังค่ำ 40.7. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า โผทหารที่นายกฯเซ็นแล้ว ใครจะกล้าเปลี่…
    0 Comments 0 Shares 962 Views 0 Reviews
  • ก่อนนอนเจริญพุทธมนต์
    หนทางหลับนอนสบาย
    พุทโธมโนอาศัย
    ให้ความสงบร่มเย็น

    พากายพักผ่อนหลับนอน
    พรดีสถิตโดดเด่น
    อากาศยังคงหนาวเย็น
    เร้นกายในผ้าห่มเถิด

    ราตรีสวัสดิ์ หลับสบายไร้กังวลนะ
    ก่อนนอนเจริญพุทธมนต์ หนทางหลับนอนสบาย พุทโธมโนอาศัย ให้ความสงบร่มเย็น พากายพักผ่อนหลับนอน พรดีสถิตโดดเด่น อากาศยังคงหนาวเย็น เร้นกายในผ้าห่มเถิด ราตรีสวัสดิ์ หลับสบายไร้กังวลนะ
    0 Comments 0 Shares 97 Views 0 Reviews
  • Google เตรียมอัปเกรด Google TV ครั้งใหญ่ในปี 2025 ด้วยฟีเจอร์ใหม่ 3 อย่างที่น่าตื่นเต้นครับ

    Google ได้ประกาศการอัปเกรดครั้งใหญ่สำหรับ Google TV ในปี 2025 โดยจะมีการนำ Gemini assistant เข้ามาใช้แทน Google Assistant เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองคำสั่งเสียงและการค้นหาข้อมูลที่ซับซ้อนมากขึ้น

    ฟีเจอร์ใหม่มีดังนี้

    1) Gemini assistant จะเข้ามาแทนที่ Google Assistant บน Google TV ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยไม่ต้องพูดคำว่า "Hey Google" และสามารถใช้คำสั่งที่ซับซ้อนมากขึ้นได้
    2) ผู้ใช้สามารถถามคำถามที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น "บอกเกี่ยวกับระบบสุริยะสำหรับเด็กประถม" หรือ "ช่วยวางแผนสถานที่พักผ่อนที่มีชายหาดสวย" และ Gemini จะสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและแสดงผลบนหน้าจอทีวี
    3) Google มีแผนที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่ออัปเกรดฮาร์ดแวร์ของ Google TV โดยจะมีการติดตั้งไมโครโฟนระยะไกลเพื่อให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานทีวีได้โดยไม่ต้องใช้รีโมท และมีการพัฒนาประสบการณ์การใช้งานแบบ ambient ที่สามารถแสดงข้อมูลส่วนตัวและวิดเจ็ตที่น่าสนใจเมื่อผู้ใช้เข้าใกล้ทีวี

    การอัปเกรดครั้งนี้จะทำให้การใช้งาน Google TV เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการนำ Gemini assistant เข้ามาใช้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานทีวีได้อย่างเป็นธรรมชาติและสะดวกสบายมากขึ้น

    ลุงว่า การใส่ไมค์มาใน TV มันจะน่ากลัวว่าจะโดนเก็บข้อมูลตลอดเวลาหน่ะสิ

    https://www.zdnet.com/home-and-office/home-entertainment/google-tvs-are-getting-a-major-gemini-upgrade-in-2025-here-are-the-3-best-features/
    Google เตรียมอัปเกรด Google TV ครั้งใหญ่ในปี 2025 ด้วยฟีเจอร์ใหม่ 3 อย่างที่น่าตื่นเต้นครับ Google ได้ประกาศการอัปเกรดครั้งใหญ่สำหรับ Google TV ในปี 2025 โดยจะมีการนำ Gemini assistant เข้ามาใช้แทน Google Assistant เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองคำสั่งเสียงและการค้นหาข้อมูลที่ซับซ้อนมากขึ้น ฟีเจอร์ใหม่มีดังนี้ 1) Gemini assistant จะเข้ามาแทนที่ Google Assistant บน Google TV ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยไม่ต้องพูดคำว่า "Hey Google" และสามารถใช้คำสั่งที่ซับซ้อนมากขึ้นได้ 2) ผู้ใช้สามารถถามคำถามที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น "บอกเกี่ยวกับระบบสุริยะสำหรับเด็กประถม" หรือ "ช่วยวางแผนสถานที่พักผ่อนที่มีชายหาดสวย" และ Gemini จะสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและแสดงผลบนหน้าจอทีวี 3) Google มีแผนที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่ออัปเกรดฮาร์ดแวร์ของ Google TV โดยจะมีการติดตั้งไมโครโฟนระยะไกลเพื่อให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานทีวีได้โดยไม่ต้องใช้รีโมท และมีการพัฒนาประสบการณ์การใช้งานแบบ ambient ที่สามารถแสดงข้อมูลส่วนตัวและวิดเจ็ตที่น่าสนใจเมื่อผู้ใช้เข้าใกล้ทีวี การอัปเกรดครั้งนี้จะทำให้การใช้งาน Google TV เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการนำ Gemini assistant เข้ามาใช้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานทีวีได้อย่างเป็นธรรมชาติและสะดวกสบายมากขึ้น ลุงว่า การใส่ไมค์มาใน TV มันจะน่ากลัวว่าจะโดนเก็บข้อมูลตลอดเวลาหน่ะสิ https://www.zdnet.com/home-and-office/home-entertainment/google-tvs-are-getting-a-major-gemini-upgrade-in-2025-here-are-the-3-best-features/
    WWW.ZDNET.COM
    Google TVs are getting a major Gemini upgrade in 2025 - here are the 3 best features
    You will finally be able to speak to your Google TV like you would speak to a person. And future models will support ambient sensors for a hands-free viewing experience.
    0 Comments 0 Shares 253 Views 0 Reviews
  • ลอสแองเจลีสส่งเครื่องบินพ่นน้ำและสารหน่วงไฟเข้าดับไฟป่าบนภูเขาเพื่อสกัดไม่ให้พาลิเซดส์ไฟร์ลามไปยังด้านตะวันออก ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงภาคพื้นดินเพิ่มความพยายามในการต่อสู้กับไฟป่าบรรลัยกัลป์ท่ามกลางลมกรรโชกที่มีความเร็วสูงสุด 112.6 กม./ชม.ที่อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง นอกจากนั้น ยังมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสุขภาพจากควันพิษหนาทึบ และบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวท่ามกลางการปล้นจี้และแอบพกพาอาวุธ
    .
    เจ้าหน้าที่เผยว่า ช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้นไฟป่าพาลิเซดส์ไฟร์ลุกลามครอบคลุมพื้นที่อีก 404 เฮกตาร์ และเผาผลาญบ้านเรือนจำนวนมาก ท็อดด์ ฮอปกินส์ เจ้าหน้าที่สำนักงานป่าไม้และการป้องกันอัคคีภัยรัฐแคลิฟอร์เนีย (แคลไฟร์) แถลงเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ว่า สามารถควบคุมพาลิเซดส์ไฟร์ได้ 11% และมีพื้นที่ที่ถูกไฟป่าเผาผลาญรวมกว่า 8,900 เฮกตาร์
    .
    ฮอปกินส์แจงว่า พาลิเซดส์ไฟน์ลามไปยังย่านแมนเดวิลล์แคนยอน และอาจเข้าสู่เบรนต์วูด ซึ่งเป็นย่านที่พักผ่อนหย่อนใจของเหล่าเซเลบ รวมถึงซาน เฟอร์นันโด แวลลีย์ อีกทั้งมุ่งหน้าไปยังทางหลวงหลัก 405 ที่เชื่อมด้านเหนือกับด้านใต้ของเขตแคลิฟอร์เนียใต้
    .
    ขณะเดียวกัน บริการสภาพอากาศแห่งชาติ (เอ็นดับเบิลยูเอส) เตือนว่า ลมซานตาแอนาจะทวีกำลังแรงยิ่งขึ้นในช่วงคืนวันเสาร์จนถึงเช้าวันอาทิตย์ (12 ม.ค.) ในเทศมนฑลต่างๆ ของเมืองลอสแองเจลีสและเวนจูรา และระหว่างคืนวันจันทร์จนถึงเช้าวันอังคาร (13-14 ม.ค.) โดยมีความเร็วลมคงที่ที่ 48 กม./ชม. และความเร็วลมสูงสุด 112.6 กม./ชม.
    .
    โรส ชอนเฟลด์ นักอุตุนิยมวิทยาของเอ็นดับเบิลยูเอส ระบุว่า สภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเกิดไฟป่าจะยังคงอยู่ต่อไปตลอดวันพุธ (15 ม.ค.) ก่อนลดลงสู่ระดับปานกลางในวันพฤหัสฯ (16 ม.ค.)
    .
    ทางด้านโรเบิร์ต ลูนา เจ้าหน้าที่ปกครองเทศมณฑลลอสแองเจลีส เผยว่า จนถึงวันเสาร์คำสั่งอพยพครอบคลุมประชาชน 153,000 คน และสิ่งปลูกสร้าง 57,000 หลังอยู่ในความเสี่ยง โดยอาจมีการอพยพคนเพิ่มอีก 166,000 คน
    .
    อย่างไรก็ดี สตีเวน พาวเวลล์ ซีอีโอเซาธ์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย เอดิสันเผยว่า จำนวนลูกค้าที่ยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ลดจากกว่า 500,000 รายในช่วง 2-3 วันก่อนหน้านั้น อยู่ที่ราว 50,000 รายเมื่อวันเสาร์ และไม่มีหลักฐานว่า อุปกรณ์ของเอดิสันทำให้เกิดไฟป่าเฮิร์สต์ไฟร์ซึ่งกำลังมีการสอบสวนหาสาเหตุอยู่
    .
    ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐแคลิฟอร์เนียและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกำลังเร่งต่อสู้กับไฟป่าที่โหมกระพือขึ้นในหลายๆ จุดทั่วลอสแองเจลิสในขณะนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้หารือทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่บางส่วนเพื่ออัปเดตสถานการณ์ รวมทั้งฟังบรรยายสรุปจากผู้ช่วยอาวุโสเกี่ยวกับการจัดส่งความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางไปยังลอสแองเจลีส
    .
    การประกาศภัยพิบัติใหญ่ของไบเดนทำให้รัฐบาลกลางสามารถจัดส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ประสบภัยและเปิดทางให้สำนักงานจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินกลาง (ฟีมา) ให้การสนับสนุนการดำเนินการเหล่านี้ ซึ่งอาจครอบคลุมตั้งแต่การให้เงินช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้าน การให้เงินชดเชยสำหรับการสูญเสียอาหารหรือยาที่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วัน
    .
    ทั้งนี้ ไฟป่าร้ายแรงที่เกิดขึ้นพร้อมกัน 6 จุดทั่วเทศมณฑลลอสแองเจลีสตั้งแต่วันอังคาร (7 ม.ค.) ซึ่งถือเป็นไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ลอสแองเจลีสนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน และคาดว่า มีผู้สูญหาย 13 คน สร้างความเสียหายหรือทำลายสิ่งปลูกสร้าง 12,000 หลัง นอกจากนั้น ยังคาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถเข้าไปตรวจค้นในบ้านแต่ละหลัง
    .
    ก่อนที่ไฟป่าจะปะทุระลอกล่าสุด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรายงานความคืบหน้าในการควบคุมไฟป่าพาลิเซดส์ไฟร์และอีตันไฟร์ที่เชิงเขาทางตะวันออกของเมือง หลังจากที่ไฟลุกลามเกินความควบคุมนานหลายวันก่อนหน้านั้น โดยในวันเสาร์สามารถควบคุมพาลิเซดส์ไฟร์ 11% และอีตันไฟร์ 15% ไฟป่าทั้งสองจุดนี้เผาผลาญพื้นที่ 14,500 เฮกตาร์ หรือ 2.5 เท่าของพื้นที่ทั้งหมดของแมนฮัตตัน
    .
    7 มลรัฐที่อยู่ใกล้เคียง รวมถึงรัฐบาลกลาง แคนาดา และเม็กซิโกจัดส่งความช่วยเหลือและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไปยังแคลิฟอร์เนียอย่างรวดเร็ว และมีการเพิ่มทีมดับเพลิงทางอากาศทำการพ่นน้ำและสารหน่วงไฟบนภูเขาที่ไฟไหม้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงภาคพื้นดินรีบเร่งจัดการแนวควบคุมไฟ
    .
    นอกจากนั้น ยังมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสุขภาพจากควันพิษหนาทึบ และเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเตือนประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการเคอร์ฟิว ขณะที่มีการจับกุมและตั้งข้อหาลักทรัพย์ ปล้น และครอบครองอาวุธปืนที่ซุกซ่อน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003508
    ..............
    Sondhi X
    ลอสแองเจลีสส่งเครื่องบินพ่นน้ำและสารหน่วงไฟเข้าดับไฟป่าบนภูเขาเพื่อสกัดไม่ให้พาลิเซดส์ไฟร์ลามไปยังด้านตะวันออก ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงภาคพื้นดินเพิ่มความพยายามในการต่อสู้กับไฟป่าบรรลัยกัลป์ท่ามกลางลมกรรโชกที่มีความเร็วสูงสุด 112.6 กม./ชม.ที่อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง นอกจากนั้น ยังมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสุขภาพจากควันพิษหนาทึบ และบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวท่ามกลางการปล้นจี้และแอบพกพาอาวุธ . เจ้าหน้าที่เผยว่า ช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้นไฟป่าพาลิเซดส์ไฟร์ลุกลามครอบคลุมพื้นที่อีก 404 เฮกตาร์ และเผาผลาญบ้านเรือนจำนวนมาก ท็อดด์ ฮอปกินส์ เจ้าหน้าที่สำนักงานป่าไม้และการป้องกันอัคคีภัยรัฐแคลิฟอร์เนีย (แคลไฟร์) แถลงเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ว่า สามารถควบคุมพาลิเซดส์ไฟร์ได้ 11% และมีพื้นที่ที่ถูกไฟป่าเผาผลาญรวมกว่า 8,900 เฮกตาร์ . ฮอปกินส์แจงว่า พาลิเซดส์ไฟน์ลามไปยังย่านแมนเดวิลล์แคนยอน และอาจเข้าสู่เบรนต์วูด ซึ่งเป็นย่านที่พักผ่อนหย่อนใจของเหล่าเซเลบ รวมถึงซาน เฟอร์นันโด แวลลีย์ อีกทั้งมุ่งหน้าไปยังทางหลวงหลัก 405 ที่เชื่อมด้านเหนือกับด้านใต้ของเขตแคลิฟอร์เนียใต้ . ขณะเดียวกัน บริการสภาพอากาศแห่งชาติ (เอ็นดับเบิลยูเอส) เตือนว่า ลมซานตาแอนาจะทวีกำลังแรงยิ่งขึ้นในช่วงคืนวันเสาร์จนถึงเช้าวันอาทิตย์ (12 ม.ค.) ในเทศมนฑลต่างๆ ของเมืองลอสแองเจลีสและเวนจูรา และระหว่างคืนวันจันทร์จนถึงเช้าวันอังคาร (13-14 ม.ค.) โดยมีความเร็วลมคงที่ที่ 48 กม./ชม. และความเร็วลมสูงสุด 112.6 กม./ชม. . โรส ชอนเฟลด์ นักอุตุนิยมวิทยาของเอ็นดับเบิลยูเอส ระบุว่า สภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเกิดไฟป่าจะยังคงอยู่ต่อไปตลอดวันพุธ (15 ม.ค.) ก่อนลดลงสู่ระดับปานกลางในวันพฤหัสฯ (16 ม.ค.) . ทางด้านโรเบิร์ต ลูนา เจ้าหน้าที่ปกครองเทศมณฑลลอสแองเจลีส เผยว่า จนถึงวันเสาร์คำสั่งอพยพครอบคลุมประชาชน 153,000 คน และสิ่งปลูกสร้าง 57,000 หลังอยู่ในความเสี่ยง โดยอาจมีการอพยพคนเพิ่มอีก 166,000 คน . อย่างไรก็ดี สตีเวน พาวเวลล์ ซีอีโอเซาธ์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย เอดิสันเผยว่า จำนวนลูกค้าที่ยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ลดจากกว่า 500,000 รายในช่วง 2-3 วันก่อนหน้านั้น อยู่ที่ราว 50,000 รายเมื่อวันเสาร์ และไม่มีหลักฐานว่า อุปกรณ์ของเอดิสันทำให้เกิดไฟป่าเฮิร์สต์ไฟร์ซึ่งกำลังมีการสอบสวนหาสาเหตุอยู่ . ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐแคลิฟอร์เนียและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกำลังเร่งต่อสู้กับไฟป่าที่โหมกระพือขึ้นในหลายๆ จุดทั่วลอสแองเจลิสในขณะนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้หารือทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่บางส่วนเพื่ออัปเดตสถานการณ์ รวมทั้งฟังบรรยายสรุปจากผู้ช่วยอาวุโสเกี่ยวกับการจัดส่งความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางไปยังลอสแองเจลีส . การประกาศภัยพิบัติใหญ่ของไบเดนทำให้รัฐบาลกลางสามารถจัดส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ประสบภัยและเปิดทางให้สำนักงานจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินกลาง (ฟีมา) ให้การสนับสนุนการดำเนินการเหล่านี้ ซึ่งอาจครอบคลุมตั้งแต่การให้เงินช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้าน การให้เงินชดเชยสำหรับการสูญเสียอาหารหรือยาที่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วัน . ทั้งนี้ ไฟป่าร้ายแรงที่เกิดขึ้นพร้อมกัน 6 จุดทั่วเทศมณฑลลอสแองเจลีสตั้งแต่วันอังคาร (7 ม.ค.) ซึ่งถือเป็นไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ลอสแองเจลีสนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน และคาดว่า มีผู้สูญหาย 13 คน สร้างความเสียหายหรือทำลายสิ่งปลูกสร้าง 12,000 หลัง นอกจากนั้น ยังคาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถเข้าไปตรวจค้นในบ้านแต่ละหลัง . ก่อนที่ไฟป่าจะปะทุระลอกล่าสุด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรายงานความคืบหน้าในการควบคุมไฟป่าพาลิเซดส์ไฟร์และอีตันไฟร์ที่เชิงเขาทางตะวันออกของเมือง หลังจากที่ไฟลุกลามเกินความควบคุมนานหลายวันก่อนหน้านั้น โดยในวันเสาร์สามารถควบคุมพาลิเซดส์ไฟร์ 11% และอีตันไฟร์ 15% ไฟป่าทั้งสองจุดนี้เผาผลาญพื้นที่ 14,500 เฮกตาร์ หรือ 2.5 เท่าของพื้นที่ทั้งหมดของแมนฮัตตัน . 7 มลรัฐที่อยู่ใกล้เคียง รวมถึงรัฐบาลกลาง แคนาดา และเม็กซิโกจัดส่งความช่วยเหลือและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไปยังแคลิฟอร์เนียอย่างรวดเร็ว และมีการเพิ่มทีมดับเพลิงทางอากาศทำการพ่นน้ำและสารหน่วงไฟบนภูเขาที่ไฟไหม้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงภาคพื้นดินรีบเร่งจัดการแนวควบคุมไฟ . นอกจากนั้น ยังมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสุขภาพจากควันพิษหนาทึบ และเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเตือนประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการเคอร์ฟิว ขณะที่มีการจับกุมและตั้งข้อหาลักทรัพย์ ปล้น และครอบครองอาวุธปืนที่ซุกซ่อน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003508 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    5
    0 Comments 0 Shares 1215 Views 0 Reviews
  • ป้องกัน โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer's disease)

    ฉันมีเชื้อพันธุกรรมจากแม่ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้
    จึงเตรียมหาวิธีป้องกัน หรือ ขะลอให้เกิดช้า+อาการน้อยๆ
    ลูกชายของฉันเป็นแพทย์ทางสมองและไขสันหลัง
    สรุป วิธีป้องกัน ที่ทำได้ ไม่ยาก โดย

    1. อาหารที่ดีต่อสมอง ให้กิน Real Foods จากธรรมชาติแท้ๆ
    เน้น Omega3+AntiOxidants
    หลีกเลี่ยง Processed Foods

    2. ลดความเครียด ความเครียด(เรื้อรัง)ส่งผลต่อการอักเสบของสมอง
    ลดได้โดย ฝึกลมหายใจ การทำสมาธิ พิลาทิส เทคนิคโยคะ/สมาธิแบบง่ายๆ 12 นาที Kirtan Kriya ช่วยเสริมสร้างฟื้นฟูสมองได้ดี และหากิจกรรมผ่อนคลายที่ชอบ.

    3. ออกกำลังร่างกาย และ สมอง ต้องครบทั้ง คาร์ดิโอ+เวทเทรนนิ่ง อย่างน้อย 150 นาที ต่อสัปดาห์ อ่านหนังสือ เล่นเกมส์ที่ใช้ทั้งความคิด+ความจำ เรียนภาษาใหม่ๆ

    4. สร้างความเป็นอยู่ที่ดีทางจิตใจ ยอมรับตัวเอง สร้างความรู้สึกเชิง+ ตั้งเป้าหมายเริ่มจากง่ายๆและทำได้สำเร็จ และ พักผ่อนให้มีความสุขใจ.
    ป้องกัน โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer's disease) ฉันมีเชื้อพันธุกรรมจากแม่ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ จึงเตรียมหาวิธีป้องกัน หรือ ขะลอให้เกิดช้า+อาการน้อยๆ ลูกชายของฉันเป็นแพทย์ทางสมองและไขสันหลัง สรุป วิธีป้องกัน ที่ทำได้ ไม่ยาก โดย 1. อาหารที่ดีต่อสมอง ให้กิน Real Foods จากธรรมชาติแท้ๆ เน้น Omega3+AntiOxidants หลีกเลี่ยง Processed Foods 2. ลดความเครียด ความเครียด(เรื้อรัง)ส่งผลต่อการอักเสบของสมอง ลดได้โดย ฝึกลมหายใจ การทำสมาธิ พิลาทิส เทคนิคโยคะ/สมาธิแบบง่ายๆ 12 นาที Kirtan Kriya ช่วยเสริมสร้างฟื้นฟูสมองได้ดี และหากิจกรรมผ่อนคลายที่ชอบ. 3. ออกกำลังร่างกาย และ สมอง ต้องครบทั้ง คาร์ดิโอ+เวทเทรนนิ่ง อย่างน้อย 150 นาที ต่อสัปดาห์ อ่านหนังสือ เล่นเกมส์ที่ใช้ทั้งความคิด+ความจำ เรียนภาษาใหม่ๆ 4. สร้างความเป็นอยู่ที่ดีทางจิตใจ ยอมรับตัวเอง สร้างความรู้สึกเชิง+ ตั้งเป้าหมายเริ่มจากง่ายๆและทำได้สำเร็จ และ พักผ่อนให้มีความสุขใจ.
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 283 Views 0 Reviews
More Results