• "พ่อนายกฯ" ให้โอวาทพรรคร่วมรัฐบาล บอกบ้านเมืองเสียหายไปมากบริหารผิดพลาด-ระบบราชการที่เติบโต
    https://www.thai-tai.tv/news/20452/
    .
    #ทักษิณชินวัตร #แพทองธาร #พรรคเพื่อไทย #พรรคร่วมรัฐบาล #สามัคคีประเทศไทย #ปราบปรามยาเสพติด #กัญชาเสรี #การเมืองไทย #เศรษฐกิจ #บริหารประเทศ
    "พ่อนายกฯ" ให้โอวาทพรรคร่วมรัฐบาล บอกบ้านเมืองเสียหายไปมากบริหารผิดพลาด-ระบบราชการที่เติบโต https://www.thai-tai.tv/news/20452/ . #ทักษิณชินวัตร #แพทองธาร #พรรคเพื่อไทย #พรรคร่วมรัฐบาล #สามัคคีประเทศไทย #ปราบปรามยาเสพติด #กัญชาเสรี #การเมืองไทย #เศรษฐกิจ #บริหารประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • นครสวรรค์ - ตำรวจสอบสวนกลางตามค้นตู้เซฟ “ทิดสฤษดิ์” ถึงกุฏิเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ขยายผลสอบเส้นเงินวัด..พบโฉนดสีกาเศรษฐินีอสังหาฯ อยู่ในตู้ด้วย พระเลขาฯ รับคุ้นชื่อแต่ไม่รู้ที่มาโฉนดโผล่กุฏิ

    ความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง ซึ่งอดีตเจ้าอาวาสเพิ่งลาสิกขา หลังถูกร้องเรียนพัวพันสีกาและเงินวัดจำนวนมาก ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (22 ก.ค. 68) พ.ต.อ.สมรภูมิ ไทยเขียว รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ป.) พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนที่กลับจากการตรวจสอบพื้นที่พุทธอุทยานจังหวัดนครสวรรค์ ได้เข้าสอบสวนพยานเพิ่มเติมภายในวัดนครสวรรค์ โดยเฉพาะกลุ่มไวยาวัจกร เพื่อขยายผลเกี่ยวกับที่มาที่ไปของเงินวัดและการบริหารจัดการที่ผ่านมา

    จากนั้นพนักงานสอบสวนได้เข้าตรวจสอบ “ตู้เซฟขนาดใหญ่” บนกุฏิของอดีตเจ้าอาวาส โดยอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวขึ้นไปเป็นตัวแทนร่วมสังเกตการณ์จำนวน 5 คน ซึ่งเมื่อเปิดตู้เซฟออกมาพบเอกสารบางส่วน เงินสดธนบัตรใบละ 20 บาท จำนวน 3 ปึก และพบ “โฉนดที่ดิน” ซึ่งระบุชื่อ นางสาวภูธินี กวินพิศาล เป็นเจ้าของอยู่ในตู้เซฟด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000069044

    #Thaitimes #MGROnline #ทิดสฤษดิ์
    นครสวรรค์ - ตำรวจสอบสวนกลางตามค้นตู้เซฟ “ทิดสฤษดิ์” ถึงกุฏิเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ขยายผลสอบเส้นเงินวัด..พบโฉนดสีกาเศรษฐินีอสังหาฯ อยู่ในตู้ด้วย พระเลขาฯ รับคุ้นชื่อแต่ไม่รู้ที่มาโฉนดโผล่กุฏิ • ความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง ซึ่งอดีตเจ้าอาวาสเพิ่งลาสิกขา หลังถูกร้องเรียนพัวพันสีกาและเงินวัดจำนวนมาก ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (22 ก.ค. 68) พ.ต.อ.สมรภูมิ ไทยเขียว รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ป.) พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนที่กลับจากการตรวจสอบพื้นที่พุทธอุทยานจังหวัดนครสวรรค์ ได้เข้าสอบสวนพยานเพิ่มเติมภายในวัดนครสวรรค์ โดยเฉพาะกลุ่มไวยาวัจกร เพื่อขยายผลเกี่ยวกับที่มาที่ไปของเงินวัดและการบริหารจัดการที่ผ่านมา • จากนั้นพนักงานสอบสวนได้เข้าตรวจสอบ “ตู้เซฟขนาดใหญ่” บนกุฏิของอดีตเจ้าอาวาส โดยอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวขึ้นไปเป็นตัวแทนร่วมสังเกตการณ์จำนวน 5 คน ซึ่งเมื่อเปิดตู้เซฟออกมาพบเอกสารบางส่วน เงินสดธนบัตรใบละ 20 บาท จำนวน 3 ปึก และพบ “โฉนดที่ดิน” ซึ่งระบุชื่อ นางสาวภูธินี กวินพิศาล เป็นเจ้าของอยู่ในตู้เซฟด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000069044 • #Thaitimes #MGROnline #ทิดสฤษดิ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับตาชายแดนเดือด! ทบ.ชี้แจงสถานการณ์ไทย-กัมพูชาแก่ผู้บังคับหน่วย ย้ำป้องกันข้อมูลบิดเบือนสู่สังคม
    https://www.thai-tai.tv/news/20446/
    .
    #กองทัพบก #ผบ.ทบ. #ยาเสพติด #สกัดกั้นยาเสพติด #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปราบปรามสิ่งผิดกฎหมาย #ความมั่นคง #สวัสดิการกำลังพล #พลเอกพนา #พลตรีวินธัย

    จับตาชายแดนเดือด! ทบ.ชี้แจงสถานการณ์ไทย-กัมพูชาแก่ผู้บังคับหน่วย ย้ำป้องกันข้อมูลบิดเบือนสู่สังคม https://www.thai-tai.tv/news/20446/ . #กองทัพบก #ผบ.ทบ. #ยาเสพติด #สกัดกั้นยาเสพติด #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปราบปรามสิ่งผิดกฎหมาย #ความมั่นคง #สวัสดิการกำลังพล #พลเอกพนา #พลตรีวินธัย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • รอง ผบช.ก.เผยพบทองคำบางส่วนแล้ว หลังถูกซักหนัก เจ้าอาวาสวัดม่วงอ้างหลง ๆ ลืมๆ เร่งตรวจสอบทุกบัญชีรายได้ไหลเข้าวัด

    วันนี้ ( 21 ก.ค.)ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี “พระราชวัชรพัฒนาทร” หรือ ”เจ้าคุณณรงค์“ เจ้าอาวาสวัดม่วง แจ้งความถูกคนร้ายลักเงินสด 10 ล้านบาท และทองคำหนัก 250 บาทว่าเรื่องนี้ค่อนข้างอลเวง เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่ บก.ปปป.ซักถามเจ้าอาวาสหนักเข้าล่าสุดได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชา ว่าท่านหลง ๆ ลืม ๆ และเริ่มจำได้บ้างแล้วว่าเจอทองบางส่วน แต่จำนวนเท่าไหร่ยังไม่ได้รับรายงาน ยืนยันเจ้าอาวาสไม่ได้เป็นอัลไซเมอร์

    พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ทิ้งเรื่องวัดม่วง เพราะเป็นเป้าหมายหนึ่งของเรา เหตุจากมีเงินเกินตัว และมีหลายบัญชีที่ยังไม่ชัดเจน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบทุกบัญชี ทุกรายได้ที่เข้ามาในวัด ตลอดจนเส้นเงินที่ไหลเข้ามาว่ามาจากไหน อย่างไร และเจ้าอาวาสบริหารเงินอย่างไร เพราะที่วัด ไวยาวัจกรไม่ได้มีอำนาจบริหารเงิน ดังนั้นเจ้าอาวาสต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000068587

    #Thaitimes #MGROnline #เจ้าอาวาสวัดม่วง
    รอง ผบช.ก.เผยพบทองคำบางส่วนแล้ว หลังถูกซักหนัก เจ้าอาวาสวัดม่วงอ้างหลง ๆ ลืมๆ เร่งตรวจสอบทุกบัญชีรายได้ไหลเข้าวัด • วันนี้ ( 21 ก.ค.)ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี “พระราชวัชรพัฒนาทร” หรือ ”เจ้าคุณณรงค์“ เจ้าอาวาสวัดม่วง แจ้งความถูกคนร้ายลักเงินสด 10 ล้านบาท และทองคำหนัก 250 บาทว่าเรื่องนี้ค่อนข้างอลเวง เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่ บก.ปปป.ซักถามเจ้าอาวาสหนักเข้าล่าสุดได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชา ว่าท่านหลง ๆ ลืม ๆ และเริ่มจำได้บ้างแล้วว่าเจอทองบางส่วน แต่จำนวนเท่าไหร่ยังไม่ได้รับรายงาน ยืนยันเจ้าอาวาสไม่ได้เป็นอัลไซเมอร์ • พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ทิ้งเรื่องวัดม่วง เพราะเป็นเป้าหมายหนึ่งของเรา เหตุจากมีเงินเกินตัว และมีหลายบัญชีที่ยังไม่ชัดเจน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบทุกบัญชี ทุกรายได้ที่เข้ามาในวัด ตลอดจนเส้นเงินที่ไหลเข้ามาว่ามาจากไหน อย่างไร และเจ้าอาวาสบริหารเงินอย่างไร เพราะที่วัด ไวยาวัจกรไม่ได้มีอำนาจบริหารเงิน ดังนั้นเจ้าอาวาสต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000068587 • #Thaitimes #MGROnline #เจ้าอาวาสวัดม่วง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • ๒รอง ผบช.ก.เผยพบเส้นเงินโอนให้สองสีกาคนสนิท"ทิดสฤษดิ์" เร่งตรวจสอบโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานฯ-มจร.นครสวรรค์ มูลค่านับร้อยล้าน ย้ำยังไม่มีจับพระระดับสูงกว่านี้

    วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี "ทิดสฤษดิ์" หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า ในส่วนของการตรวจสอบความผิดอาญาเกี่ยวกับเรื่องทุจริต ขณะนี้พบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และในวันนี้มีการจัดกำลังลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และ จังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน

    พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงกรณีตรวจสอบโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานและโครงการอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จ ว่า 2-3 ปีที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนมาที่ บก.ปปป. ครั้งหนึ่งแล้วในการก่อสร้างอุทยานมีการระดมทุนหลายร้อยล้าน นอกจากนี้ยังมีการหยิบยืมเงินจากวัดส่วนกลางอีก ซึ่งมีการร้องเรียนว่าใช้เงินมหาศาลมาก่อสร้างนาน 10 ปี แต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จ และยังพบว่ามีเส้นเงินสามารถจะไปซื้อที่ดินแจกให้หมอดูได้ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่จะจริงหรือไม่ ไม่ทราบ และมีบ้านขนาดใหญ่, รถและทรัพย์สินอีกหลายอย่าง ตำรวจยังเห็นข้อมูลไม่หมดขอเวลาได้ทำงานก่อน เพราะยังมีบัญชีพระลูกวัดโอนให้อีกด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000068580

    #Thaitimes #MGROnline #ทิดสฤษดิ์ #สองสีกา
    ๒รอง ผบช.ก.เผยพบเส้นเงินโอนให้สองสีกาคนสนิท"ทิดสฤษดิ์" เร่งตรวจสอบโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานฯ-มจร.นครสวรรค์ มูลค่านับร้อยล้าน ย้ำยังไม่มีจับพระระดับสูงกว่านี้ • วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี "ทิดสฤษดิ์" หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า ในส่วนของการตรวจสอบความผิดอาญาเกี่ยวกับเรื่องทุจริต ขณะนี้พบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และในวันนี้มีการจัดกำลังลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และ จังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน • พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงกรณีตรวจสอบโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานและโครงการอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จ ว่า 2-3 ปีที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนมาที่ บก.ปปป. ครั้งหนึ่งแล้วในการก่อสร้างอุทยานมีการระดมทุนหลายร้อยล้าน นอกจากนี้ยังมีการหยิบยืมเงินจากวัดส่วนกลางอีก ซึ่งมีการร้องเรียนว่าใช้เงินมหาศาลมาก่อสร้างนาน 10 ปี แต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จ และยังพบว่ามีเส้นเงินสามารถจะไปซื้อที่ดินแจกให้หมอดูได้ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่จะจริงหรือไม่ ไม่ทราบ และมีบ้านขนาดใหญ่, รถและทรัพย์สินอีกหลายอย่าง ตำรวจยังเห็นข้อมูลไม่หมดขอเวลาได้ทำงานก่อน เพราะยังมีบัญชีพระลูกวัดโอนให้อีกด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000068580 • #Thaitimes #MGROnline #ทิดสฤษดิ์ #สองสีกา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ภูมิธรรม' ประกาศสงครามยาเสพติด ยก 'ทักษิณ' ต้นแบบ ลั่น! พร้อมย้ายข้าราชการเอี่ยวส่วยทันที
    https://www.thai-tai.tv/news/20411/
    .
    #ยาเสพติด #ภูมิธรรม #กระทรวงมหาดไทย #ปราบปรามยาเสพติด #คอร์รัปชัน #วาระชาติ #ทักษิณโมเดล #แพทองธาร #เจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวยาเสพติด #ความมั่นคง

    'ภูมิธรรม' ประกาศสงครามยาเสพติด ยก 'ทักษิณ' ต้นแบบ ลั่น! พร้อมย้ายข้าราชการเอี่ยวส่วยทันที https://www.thai-tai.tv/news/20411/ . #ยาเสพติด #ภูมิธรรม #กระทรวงมหาดไทย #ปราบปรามยาเสพติด #คอร์รัปชัน #วาระชาติ #ทักษิณโมเดล #แพทองธาร #เจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวยาเสพติด #ความมั่นคง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พระยาละแวก” นักตีท้ายครัวในประวัติศาสตร์! ถูกชำระแค้นจนเมืองละแวกหายไปทั้งเมือง!!

    “พระยาละแวก” เป็นคำที่พงศาวดารไทยเรียกกษัตริย์เขมรที่ครองราชย์เมืองละแวก ส่วนใหญ่แล้วเขมรจะตั้งเมืองหลวงอยู่ที่พนมเปญและอุดงมีชัย ในปี ๒๐๔๖ สมเด็จพระศรีสุคนธบท ครองราชย์อยู่เมืองพนมเปญ ถูกกบฏปลงพระชนม์ แต่ นักองค์จัน ผู้เป็นอนุชา หนีมาพึ่งกรุงศรีอยุธยาและได้กองทัพไทยไปช่วยปราบปรามจนได้ราชสมบัติคืนใน พ.ศ.๒๐๕๙ สถาปนานักองค์จันขึ้นครองราชย์ เป็น พระบรมราชาที่ ๓ และได้ย้ายเมืองหลวงมาอยู่เมืองละแวก เหนือกรุงพนมเปญขึ้นไป

    ใน พ.ศ.๒๑๐๙ นักพระสัตถา พระราชโอรส ขึ้นครองราชย์ต่อ เป็น พระบรมราชา ที่ ๔ ใน พ.ศ.๒๑๑๙ ทรงสถาปนา พระราชโองการ พระราชโอรสขึ้นเป็นพระบรมราชาที่ ๕

    จนถึง พ.ศ.๒๑๓๖ หลังจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงจัดการกับพม่าเรียบร้อยแล้ว ก็หันมาชำระแค้นกับพระยาละแวกที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวมาตลอด เผาเมืองละแวกจนย่อยยับ กลายเป็นแค่อำเภอหนึ่งในจังหวัดกำปงชนังของกัมพูชาขณะนี้

    แม้ไทยจะช่วยกษัตริย์เขมรมาตลอด แต่ความไม่ไว้วางใจและความแค้นฝังใจที่ขอมเคยเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในย่านนี้มาก่อน แต่ถูกกรุงศรีอยุธยาทำลายจนย่อยยับมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าสามพระยา ซึ่งเขมรก็ไม่อาจแก้แค้นได้เพราะความเข้มแข็งต่างกันมาก จนเมื่อใดที่ไทยอ่อนแอลง เขมรจึงถือเป็นโอกาส อย่างสมัยที่เสียกรุงครั้งที่ ๑ ถูกพม่ายึดอาวุธไปหมด ผู้คนส่วนใหญ่หนีไปหลบซ่อนอยู่ในป่า ยังไม่ทันกลับเข้าเมือง จึงเป็นโอกาสดีของเขมร ในปี ๒๑๑๓ พระบรมราชาที่ ๔ ได้นำกำลัง ๓๐,๐๐๐ คนมุ่งมาตีกรุงศรีอยุธยา ฝ่ายไทยเห็นว่าไม่มีกำลังจะสู้เขมรได้ คิดจะถอยขึ้นไปเมืองพิษณุโลก แต่มาทราบว่าเจ้าเมืองเพชรบูรณ์คนเก่าตั้งกองโจรดักปล้นอยู่กลางทาง จึงต้องตัดสินใจปักหลักสู้พระยาละแวกที่กรุงศรีอยุธยา แต่พอสู้กันจริงๆ กองทัพพระยาละแวกก็แหยงฝีมือไทย ถอยกลับไปโดยกวาดต้อนผู้คนรายทางกลับไปมาก

    ต่อมาอีก ๕ ปี พระบรมราชที่ ๔ เจ้าเก่า ได้ข่าวว่าสมเด็จพระมหาธรรมราชายกกองทัพไปช่วยพระเจ้ากรุงหงสาวดีตีกรุงศรีสัตนาคนหุต จึงยกกองทัพเรือเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยาถึงวัดพนัญเชิง แต่เผอิญสมเด็จพระนเรศวรซึ่งติดตามพระราชบิดาไปทัพด้วย เกิดเป็นไข้ทรพิษกลางทาง พระเจ้าบุเรงนองเลยให้กองทัพไทยกลับมาก่อน มาเจอเอากองทัพของพระยาละแวกแอบเข้ามาตีท้ายครัวเข้าพอดี เลยตีเสียกระเจิง แต่ตอนถอยออกไปพระยาละแวกก็ถือโอกาสขนเอาเทวรูปสัมฤทธิ์ ๒ องค์ที่เมืองพระประแดงและกวาดต้อนราษฎรไทยตามหัวเมืองชายทะเลกลับไปอีก

    รุ่งขึ้นอีกปี ใน พ.ศ.๒๑๑๔ พระบรมราชาธิราชที่ ๕ ขึ้นครองราชย์เมืองละแวก ได้ยกกองทัพเรือมีกำลังถึง ๗๐,๐๐๐ คนข้ามทะเลมาตีเมืองเพชรบุรี ล้อมถึง ๓ วันก็ไม่สามารถเข้าเมืองได้ เสียทหารไปเป็นจำนวนมาก พระยาละแวกต้องถอยไปตั้งหลักใหม่ และตัดสินใจเข้าตีอีกครั้ง หากไม่สำเร็จก็จะกลับ แต่การตั้งรับศึกครั้งใหม่แม่ทัพไทยเกิดแตกคอกัน ต่างคนต่างตั้งรับด้านของตัวไม่ยอมประสานกัน พระยาละแวกเลยเข้าเมืองได้ ๓ แม่ทัพไทยที่แตกคอกันเองตายในที่รบ พระยาละแวกกวาดต้อนผู้คนไปอีกมาก

    ต่อมาอีก ๒ ปี เขมรก็เอาอีก เพราะช่วงนั้นไทยยังไม่พ้นความอ่อนแอ พระยาละแวกก็ส่งกองทัพม้าทัพช้าง ๕,๐๐๐ คนมาลาดตระเวนด้านตะวันออกของไทย สมเด็จพระนเรศวรทราบข่าวขณะประทับอยู่เมืองพิษณุโลก รับสั่งให้กองทัพเมืองชัยบุรีและเมืองถมอรัตน์ (เพชรบูรณ์) ป้องกันด้านในด่านไว้ ส่วนพระองค์นำทหาร ๓,๐๐๐ คนเข้าขับไล่กองทัพพระยาละแวกจนถอยกลับไป
    หลังการประกาศอิสรภาพ สมเด็จพระนเรศวรทรงปรับปรุงกองทัพไทยให้เข้มแข็ง เมื่อพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงกรีฑาทัพมาปราบ ก็ต้องแตกพ่ายไป ในปี พ.ศ.๒๑๒๘ พระบรมราชาที่ ๕ ที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวเป็นประจำ กลัวว่าจะถูกคิดบัญชีแค้น จึงแต่งราชทูตและถือศุภอักษรเข้ามาขอเป็นไมตรี สมเด็จพระนเรศวรทรงเห็นว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับพม่า หากสงบศึกกับเขมรได้ ก็ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง จึงทรงรับเป็นไมตรี

    เมื่อไทยเกิดศึกกับกรุงหงสาวดีครั้งที่ ๒ พระบรมราชาที่ ๕ ได้ส่งพระศรีสุพรรณมาธิราช พระอนุชา คุมกำลังเข้ามาช่วย แต่พระศรีสุพรรณมาธิราชกลับแสดงกิริยากระด้างกระเดื่อง ตอนพระนเรศวรทรงเรือพระที่นั่งกลับมาจากชนะศึกที่เชียงใหม่ ขณะที่ผ่านกองเรือเขมร พระศรีสุพรรณฯก็นั่งอยู่ในเรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ยอมแสดงความเคารพ ทำให้พระองค์ดำทรงพิโรธ รับสั่งให้ตัดศีรษะเชลยศึกที่จับมาไปเสียบไว้ที่กราบเรือพระศรีสุพรรณฯ

    ในปี พ.ศ.๒๑๓๐ ขณะพระเจ้ากรุงหงสาวดีส่งกำลังมาล้อมกรุงศรีอยุธยาอีก พระบรมราชาที่ ๕ ซึ่งเคยส่งกำลังมาช่วย ได้ส่งฟ้าทะละหะนำกำลังเข้ามาตีเมืองปราจีน สมเด็จพระนเรศวรทรงส่งพระยาศรีไสยณรงค์กับพระยาสีหราชเดโชชัยยกกองทัพไปป้องกัน พอถึงเมืองนครนายกก็ปะทะกับกองทัพเขมร จึงเข้าตีจนแตกพ่าย และตามตีจนพ้นเขตแดนไทย

    เมื่อสมเด็จพระนเรศวรขึ้นครองราชย์แล้ว ศึกทางพม่าว่างเว้น ทรงเห็นว่าจะต้องกำราบเขมรที่คอยตีท้ายครัวให้เข็ดหลาบเสียที ทรงร่วมกับสมเด็จพระเอกาทศรถยกกองทัพไป ให้พระราชมนูเป็นกองทัพหน้า พระยาละแวกยกมาสกัดที่เมืองโพธิสัตว์และพระตะบอง พระราชมนูถลำเข้าไปไม่รู้ตัว เลยถูกตีถอยมาถึงทัพหลวง สมเด็จพระนเรศวรทรงพิโรธจะให้ประหารชีวิตแม่ทัพเสีย แต่สมเด็จพระเอกาทศรถทูลขอชีวิตให้โอกาสแก้ตัว พระราชมนูจึงกลับไปตีเมืองโพธิสัตว์และพระตะบองได้ กองทัพหลวงเข้าล้อมเมืองละแวก แต่ก็ขาดเสบียงอาหาร จึงต้องยกกลับ

    ในปี พ.ศ.๒๑๓๖ สมเด็จพระนเรศวรทรงนำกองทัพไปตีเมืองละแวกเป็นครั้งที่ ๒ จับพระยาละแวกได้ แล้วทำพิธีกรรมให้ประหารชีวิตเอาโลหิตล้างพระบาท

    แต่มีบันทึกของบาทหลวงฝรั่งเศสกล่าวว่า พระบรมราชาที่ ๕ ไม่ได้ถูกสมเด็จพระนเรศวรประหาร แต่ได้หนีข้ามแดนไปอยู่ที่เมืองเชียงแตงในลาวพร้อมกับพระราชบุตร ๒ องค์ กองทัพไทยได้เผาเมืองละแวกวอดและกวาดต้อนผู้คนมา ต่อมาพระบรมราชาที่ ๕ พร้อมพระราชบุตรทั้ง ๒ ได้สิ้นพระชนม์ที่เมืองเชียงแตง

    การทำพิธีกรรมเอาโลหิตล้างพระบาท จึงอาจคลาดเคลื่อนมาจากพิธีกรรมอย่างอื่นก็เป็นได้ หรือเป็นรสชาติของประวัติศาสตร์ตามเจตนาของคนบันทึก

    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000124260
    “พระยาละแวก” นักตีท้ายครัวในประวัติศาสตร์! ถูกชำระแค้นจนเมืองละแวกหายไปทั้งเมือง!! “พระยาละแวก” เป็นคำที่พงศาวดารไทยเรียกกษัตริย์เขมรที่ครองราชย์เมืองละแวก ส่วนใหญ่แล้วเขมรจะตั้งเมืองหลวงอยู่ที่พนมเปญและอุดงมีชัย ในปี ๒๐๔๖ สมเด็จพระศรีสุคนธบท ครองราชย์อยู่เมืองพนมเปญ ถูกกบฏปลงพระชนม์ แต่ นักองค์จัน ผู้เป็นอนุชา หนีมาพึ่งกรุงศรีอยุธยาและได้กองทัพไทยไปช่วยปราบปรามจนได้ราชสมบัติคืนใน พ.ศ.๒๐๕๙ สถาปนานักองค์จันขึ้นครองราชย์ เป็น พระบรมราชาที่ ๓ และได้ย้ายเมืองหลวงมาอยู่เมืองละแวก เหนือกรุงพนมเปญขึ้นไป ใน พ.ศ.๒๑๐๙ นักพระสัตถา พระราชโอรส ขึ้นครองราชย์ต่อ เป็น พระบรมราชา ที่ ๔ ใน พ.ศ.๒๑๑๙ ทรงสถาปนา พระราชโองการ พระราชโอรสขึ้นเป็นพระบรมราชาที่ ๕ จนถึง พ.ศ.๒๑๓๖ หลังจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงจัดการกับพม่าเรียบร้อยแล้ว ก็หันมาชำระแค้นกับพระยาละแวกที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวมาตลอด เผาเมืองละแวกจนย่อยยับ กลายเป็นแค่อำเภอหนึ่งในจังหวัดกำปงชนังของกัมพูชาขณะนี้ แม้ไทยจะช่วยกษัตริย์เขมรมาตลอด แต่ความไม่ไว้วางใจและความแค้นฝังใจที่ขอมเคยเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในย่านนี้มาก่อน แต่ถูกกรุงศรีอยุธยาทำลายจนย่อยยับมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าสามพระยา ซึ่งเขมรก็ไม่อาจแก้แค้นได้เพราะความเข้มแข็งต่างกันมาก จนเมื่อใดที่ไทยอ่อนแอลง เขมรจึงถือเป็นโอกาส อย่างสมัยที่เสียกรุงครั้งที่ ๑ ถูกพม่ายึดอาวุธไปหมด ผู้คนส่วนใหญ่หนีไปหลบซ่อนอยู่ในป่า ยังไม่ทันกลับเข้าเมือง จึงเป็นโอกาสดีของเขมร ในปี ๒๑๑๓ พระบรมราชาที่ ๔ ได้นำกำลัง ๓๐,๐๐๐ คนมุ่งมาตีกรุงศรีอยุธยา ฝ่ายไทยเห็นว่าไม่มีกำลังจะสู้เขมรได้ คิดจะถอยขึ้นไปเมืองพิษณุโลก แต่มาทราบว่าเจ้าเมืองเพชรบูรณ์คนเก่าตั้งกองโจรดักปล้นอยู่กลางทาง จึงต้องตัดสินใจปักหลักสู้พระยาละแวกที่กรุงศรีอยุธยา แต่พอสู้กันจริงๆ กองทัพพระยาละแวกก็แหยงฝีมือไทย ถอยกลับไปโดยกวาดต้อนผู้คนรายทางกลับไปมาก ต่อมาอีก ๕ ปี พระบรมราชที่ ๔ เจ้าเก่า ได้ข่าวว่าสมเด็จพระมหาธรรมราชายกกองทัพไปช่วยพระเจ้ากรุงหงสาวดีตีกรุงศรีสัตนาคนหุต จึงยกกองทัพเรือเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยาถึงวัดพนัญเชิง แต่เผอิญสมเด็จพระนเรศวรซึ่งติดตามพระราชบิดาไปทัพด้วย เกิดเป็นไข้ทรพิษกลางทาง พระเจ้าบุเรงนองเลยให้กองทัพไทยกลับมาก่อน มาเจอเอากองทัพของพระยาละแวกแอบเข้ามาตีท้ายครัวเข้าพอดี เลยตีเสียกระเจิง แต่ตอนถอยออกไปพระยาละแวกก็ถือโอกาสขนเอาเทวรูปสัมฤทธิ์ ๒ องค์ที่เมืองพระประแดงและกวาดต้อนราษฎรไทยตามหัวเมืองชายทะเลกลับไปอีก รุ่งขึ้นอีกปี ใน พ.ศ.๒๑๑๔ พระบรมราชาธิราชที่ ๕ ขึ้นครองราชย์เมืองละแวก ได้ยกกองทัพเรือมีกำลังถึง ๗๐,๐๐๐ คนข้ามทะเลมาตีเมืองเพชรบุรี ล้อมถึง ๓ วันก็ไม่สามารถเข้าเมืองได้ เสียทหารไปเป็นจำนวนมาก พระยาละแวกต้องถอยไปตั้งหลักใหม่ และตัดสินใจเข้าตีอีกครั้ง หากไม่สำเร็จก็จะกลับ แต่การตั้งรับศึกครั้งใหม่แม่ทัพไทยเกิดแตกคอกัน ต่างคนต่างตั้งรับด้านของตัวไม่ยอมประสานกัน พระยาละแวกเลยเข้าเมืองได้ ๓ แม่ทัพไทยที่แตกคอกันเองตายในที่รบ พระยาละแวกกวาดต้อนผู้คนไปอีกมาก ต่อมาอีก ๒ ปี เขมรก็เอาอีก เพราะช่วงนั้นไทยยังไม่พ้นความอ่อนแอ พระยาละแวกก็ส่งกองทัพม้าทัพช้าง ๕,๐๐๐ คนมาลาดตระเวนด้านตะวันออกของไทย สมเด็จพระนเรศวรทราบข่าวขณะประทับอยู่เมืองพิษณุโลก รับสั่งให้กองทัพเมืองชัยบุรีและเมืองถมอรัตน์ (เพชรบูรณ์) ป้องกันด้านในด่านไว้ ส่วนพระองค์นำทหาร ๓,๐๐๐ คนเข้าขับไล่กองทัพพระยาละแวกจนถอยกลับไป หลังการประกาศอิสรภาพ สมเด็จพระนเรศวรทรงปรับปรุงกองทัพไทยให้เข้มแข็ง เมื่อพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงกรีฑาทัพมาปราบ ก็ต้องแตกพ่ายไป ในปี พ.ศ.๒๑๒๘ พระบรมราชาที่ ๕ ที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวเป็นประจำ กลัวว่าจะถูกคิดบัญชีแค้น จึงแต่งราชทูตและถือศุภอักษรเข้ามาขอเป็นไมตรี สมเด็จพระนเรศวรทรงเห็นว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับพม่า หากสงบศึกกับเขมรได้ ก็ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง จึงทรงรับเป็นไมตรี เมื่อไทยเกิดศึกกับกรุงหงสาวดีครั้งที่ ๒ พระบรมราชาที่ ๕ ได้ส่งพระศรีสุพรรณมาธิราช พระอนุชา คุมกำลังเข้ามาช่วย แต่พระศรีสุพรรณมาธิราชกลับแสดงกิริยากระด้างกระเดื่อง ตอนพระนเรศวรทรงเรือพระที่นั่งกลับมาจากชนะศึกที่เชียงใหม่ ขณะที่ผ่านกองเรือเขมร พระศรีสุพรรณฯก็นั่งอยู่ในเรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ยอมแสดงความเคารพ ทำให้พระองค์ดำทรงพิโรธ รับสั่งให้ตัดศีรษะเชลยศึกที่จับมาไปเสียบไว้ที่กราบเรือพระศรีสุพรรณฯ ในปี พ.ศ.๒๑๓๐ ขณะพระเจ้ากรุงหงสาวดีส่งกำลังมาล้อมกรุงศรีอยุธยาอีก พระบรมราชาที่ ๕ ซึ่งเคยส่งกำลังมาช่วย ได้ส่งฟ้าทะละหะนำกำลังเข้ามาตีเมืองปราจีน สมเด็จพระนเรศวรทรงส่งพระยาศรีไสยณรงค์กับพระยาสีหราชเดโชชัยยกกองทัพไปป้องกัน พอถึงเมืองนครนายกก็ปะทะกับกองทัพเขมร จึงเข้าตีจนแตกพ่าย และตามตีจนพ้นเขตแดนไทย เมื่อสมเด็จพระนเรศวรขึ้นครองราชย์แล้ว ศึกทางพม่าว่างเว้น ทรงเห็นว่าจะต้องกำราบเขมรที่คอยตีท้ายครัวให้เข็ดหลาบเสียที ทรงร่วมกับสมเด็จพระเอกาทศรถยกกองทัพไป ให้พระราชมนูเป็นกองทัพหน้า พระยาละแวกยกมาสกัดที่เมืองโพธิสัตว์และพระตะบอง พระราชมนูถลำเข้าไปไม่รู้ตัว เลยถูกตีถอยมาถึงทัพหลวง สมเด็จพระนเรศวรทรงพิโรธจะให้ประหารชีวิตแม่ทัพเสีย แต่สมเด็จพระเอกาทศรถทูลขอชีวิตให้โอกาสแก้ตัว พระราชมนูจึงกลับไปตีเมืองโพธิสัตว์และพระตะบองได้ กองทัพหลวงเข้าล้อมเมืองละแวก แต่ก็ขาดเสบียงอาหาร จึงต้องยกกลับ ในปี พ.ศ.๒๑๓๖ สมเด็จพระนเรศวรทรงนำกองทัพไปตีเมืองละแวกเป็นครั้งที่ ๒ จับพระยาละแวกได้ แล้วทำพิธีกรรมให้ประหารชีวิตเอาโลหิตล้างพระบาท แต่มีบันทึกของบาทหลวงฝรั่งเศสกล่าวว่า พระบรมราชาที่ ๕ ไม่ได้ถูกสมเด็จพระนเรศวรประหาร แต่ได้หนีข้ามแดนไปอยู่ที่เมืองเชียงแตงในลาวพร้อมกับพระราชบุตร ๒ องค์ กองทัพไทยได้เผาเมืองละแวกวอดและกวาดต้อนผู้คนมา ต่อมาพระบรมราชาที่ ๕ พร้อมพระราชบุตรทั้ง ๒ ได้สิ้นพระชนม์ที่เมืองเชียงแตง การทำพิธีกรรมเอาโลหิตล้างพระบาท จึงอาจคลาดเคลื่อนมาจากพิธีกรรมอย่างอื่นก็เป็นได้ หรือเป็นรสชาติของประวัติศาสตร์ตามเจตนาของคนบันทึก https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000124260
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อเขมรวอนชาวโลกอย่าตัดสินกัมพูชาจากปัญหาในอดีตว่าเป็นศูนย์กลางแก๊งสแกมเมอร์ ขอให้ดูการกระทำปัจจุบันและวิสัยทัศน์ในอนาคตของรัฐบาล ยันมุ่งมั่นกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์จริงจัง ไม่ใช่แค่สร้างภาพ กัมพูชาไม่ใช่ปัญหาแต่จะเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาระดับโลก

    ภายหลังจากนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลงนามในคำสั่งกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในกัมพูชา เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีการจับกุมแก๊งอชญากรรมออนไลน์ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เช่น ในกรุงพนมเปญ เมืองสีหนุวิลล์ เมืองปอยเปต จังหวัดกระแจะ จังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดกัมปงสปือ เป็นต้น ล่าสุด วันนี้(18 ก.ค.) สำนักข่าว Khmer Times เผยแพร่รายงานพิเศษในหัวข้อ “สงครามอันไม่หยุดยั้งของกัมพูชาต่อการฉ้อโกงออนไลน์: จากวิกฤตชาติสู่ความรับผิดชอบระดับโลก” มีใจความว่า ปัจจุบันกัมพูชากำลังมุ่งมั่นและเป็นกำลังสำคัญระดับแนวหน้าของการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ระดับโลก ในยุคที่กลุ่มอาชญากรใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากกลุ่มเปราะบาง ฟอกเงินจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย และลักลอบค้ามนุษย์ข้ามพรมแดน รัฐบาลกัมพูชา ภายใต้การนำอันเข้มแข็งของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ได้ริเริ่มการรณรงค์อย่างไม่ลดละและต่อเนื่องเพื่อกำจัดภัยร้ายนี้ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินกัมพูชา

    นี่ไม่ใช่การแสดงออกทางการเมืองชั่วคราว แต่เป็นการระดมกำลังจากรัฐบาลทั้งหมด ซึ่งได้รับการประสานงาน การบังคับบัญชา และการหนุนหลังจากผู้มีอำนาจสูงสุด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000067683

    #Thaitimes #MGROnline #ศูนย์กลางแก๊งสแกมเมอร์ #กัมพูชา
    สื่อเขมรวอนชาวโลกอย่าตัดสินกัมพูชาจากปัญหาในอดีตว่าเป็นศูนย์กลางแก๊งสแกมเมอร์ ขอให้ดูการกระทำปัจจุบันและวิสัยทัศน์ในอนาคตของรัฐบาล ยันมุ่งมั่นกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์จริงจัง ไม่ใช่แค่สร้างภาพ กัมพูชาไม่ใช่ปัญหาแต่จะเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาระดับโลก • ภายหลังจากนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลงนามในคำสั่งกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในกัมพูชา เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีการจับกุมแก๊งอชญากรรมออนไลน์ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เช่น ในกรุงพนมเปญ เมืองสีหนุวิลล์ เมืองปอยเปต จังหวัดกระแจะ จังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดกัมปงสปือ เป็นต้น ล่าสุด วันนี้(18 ก.ค.) สำนักข่าว Khmer Times เผยแพร่รายงานพิเศษในหัวข้อ “สงครามอันไม่หยุดยั้งของกัมพูชาต่อการฉ้อโกงออนไลน์: จากวิกฤตชาติสู่ความรับผิดชอบระดับโลก” มีใจความว่า ปัจจุบันกัมพูชากำลังมุ่งมั่นและเป็นกำลังสำคัญระดับแนวหน้าของการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ระดับโลก ในยุคที่กลุ่มอาชญากรใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากกลุ่มเปราะบาง ฟอกเงินจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย และลักลอบค้ามนุษย์ข้ามพรมแดน รัฐบาลกัมพูชา ภายใต้การนำอันเข้มแข็งของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ได้ริเริ่มการรณรงค์อย่างไม่ลดละและต่อเนื่องเพื่อกำจัดภัยร้ายนี้ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินกัมพูชา • นี่ไม่ใช่การแสดงออกทางการเมืองชั่วคราว แต่เป็นการระดมกำลังจากรัฐบาลทั้งหมด ซึ่งได้รับการประสานงาน การบังคับบัญชา และการหนุนหลังจากผู้มีอำนาจสูงสุด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000067683 • #Thaitimes #MGROnline #ศูนย์กลางแก๊งสแกมเมอร์ #กัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 359 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษก ศบ.ทก.ด้านการต่างประเทศ เผยสถานการณ์ภาพรวมจุดผ่านแดนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เรียกร้องกัมพูชาประสานเวลาเปิดด่านกับฝ่ายไทย เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน พร้อมเรียกร้องกัมพูชาตระหนักถึงผลกระทบต่อการค้าในภูมิภาคจากการปิดด่านโดยไม่มีเหตุผล ยืนยัน กต.ไม่นิ่งนอนใจ รอผลตรวจสอบจากกองทัพ หากพบกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ พร้อมส่งหนังสือประท้วงตามกลไกทวิภาคีและช่องทางที่เหมาะสม

    วันนี้(18 ก.ค.) นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ ด้านการต่างประเทศ แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.ว่า สถานการณ์ในพื้นที่โดยรวมจุดผ่านแดนทุกแห่ง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ฝ่ายไทยยังคงความเข้มงวดในการควบคุมจุดผ่านแดนต่างๆ เพื่อความมั่นคง ปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ ยืนยันว่าไม่ได้ปิดด่าน เป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลเพิ่มเติม ที่มุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ แต่ยังอนุโลมการผ่านแดนสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นตามหลักมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำในข้อเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาประสานเวลาการเปิดปิดด่านกับฝ่ายไทย เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองฝ่าย เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนที่มีความจำเป็นที่จะข้ามแดน และเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมความร่วมมือต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันทั้งสองประเทศ หากฝ่ายกัมพูชามีความจริงใจที่จะจัดการกับเรื่องดังกล่าวตามที่ได้มีการประกาศไว้ ก็ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก แต่สื่อจากต่างประเทศบางแห่งก็ได้ตั้งข้อสังเกต ถึงการจริงจังของฝ่ายกัมพูชา ว่าจะมีมาตรการเหล่านี้อย่างไร พร้อมย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวได้ผลต่อเมื่อมีการประสานงานในเรื่องบริหารจุดผ่านแดนกับฝ่ายไทย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000067650

    #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา
    โฆษก ศบ.ทก.ด้านการต่างประเทศ เผยสถานการณ์ภาพรวมจุดผ่านแดนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เรียกร้องกัมพูชาประสานเวลาเปิดด่านกับฝ่ายไทย เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน พร้อมเรียกร้องกัมพูชาตระหนักถึงผลกระทบต่อการค้าในภูมิภาคจากการปิดด่านโดยไม่มีเหตุผล ยืนยัน กต.ไม่นิ่งนอนใจ รอผลตรวจสอบจากกองทัพ หากพบกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ พร้อมส่งหนังสือประท้วงตามกลไกทวิภาคีและช่องทางที่เหมาะสม • วันนี้(18 ก.ค.) นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ ด้านการต่างประเทศ แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.ว่า สถานการณ์ในพื้นที่โดยรวมจุดผ่านแดนทุกแห่ง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ฝ่ายไทยยังคงความเข้มงวดในการควบคุมจุดผ่านแดนต่างๆ เพื่อความมั่นคง ปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ ยืนยันว่าไม่ได้ปิดด่าน เป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลเพิ่มเติม ที่มุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ แต่ยังอนุโลมการผ่านแดนสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นตามหลักมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำในข้อเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาประสานเวลาการเปิดปิดด่านกับฝ่ายไทย เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองฝ่าย เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนที่มีความจำเป็นที่จะข้ามแดน และเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมความร่วมมือต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันทั้งสองประเทศ หากฝ่ายกัมพูชามีความจริงใจที่จะจัดการกับเรื่องดังกล่าวตามที่ได้มีการประกาศไว้ ก็ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก แต่สื่อจากต่างประเทศบางแห่งก็ได้ตั้งข้อสังเกต ถึงการจริงจังของฝ่ายกัมพูชา ว่าจะมีมาตรการเหล่านี้อย่างไร พร้อมย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวได้ผลต่อเมื่อมีการประสานงานในเรื่องบริหารจุดผ่านแดนกับฝ่ายไทย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000067650 • #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 301 มุมมอง 0 รีวิว
  • พอเป็นพิธี? 'ฮุน มาเนต' สั่งปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ กำชับทุกหน่วยงานร่วมมือ หากปล่อยปละละเลยโดนย้าย-ไล่ออกแน่
    https://www.thai-tai.tv/news/20317/
    .
    #กัมพูชา #ฮุนมาเนต #อาชญากรรมออนไลน์ #แก๊งสแกมเมอร์ #ปราบปราม #ควบคุมชายแดน #ต่างชาติผิดกฎหมาย #คาสิโน #การทุจริตไซเบอร์ #เข้มงวดข้าราชการ
    พอเป็นพิธี? 'ฮุน มาเนต' สั่งปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ กำชับทุกหน่วยงานร่วมมือ หากปล่อยปละละเลยโดนย้าย-ไล่ออกแน่ https://www.thai-tai.tv/news/20317/ . #กัมพูชา #ฮุนมาเนต #อาชญากรรมออนไลน์ #แก๊งสแกมเมอร์ #ปราบปราม #ควบคุมชายแดน #ต่างชาติผิดกฎหมาย #คาสิโน #การทุจริตไซเบอร์ #เข้มงวดข้าราชการ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • 15 กรกฎาคม 2568 -รายงานข่าวระบุว่า ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลงนามประกาศกวาดล้างแก๊งค์คอลเซนเตอร์-เว็บฉ้อโกงการพนันออนไลน์ทุกชนิดทั่วประเทศ! ลบข้อครหาดินแดน SCAMBODIA ฟาด UN หลังแฉเขมรมีแต่แก๊งค์คอลเซนเตอร์-เป็นที่ตั้งเว็บการพนันออนไลน์ข้ามชาติ Kampuchea Thmey Daily รายงานว่า ฮุนมาเน็ต นายกรัฐมนตรี ได้ออกประกาศว่ารัฐบาลกัมพูชาได้สังเกตเห็นว่าปัจจุบันการหลอกลวงทางออนไลน์ในราชอาณาจักรกัมพูชากำลังก่อให้เกิดภัยคุกคามและความไม่ปลอดภัยทั้งในโลกและภูมิภาค กลุ่มอาชญากรต่างชาติก็ได้แทรกซึมเข้ามาในการหลอกลวงทางออนไลน์เช่นกัน เพื่อป้องกัน ควบคุมและปราบปรามการฉ้อโกงโดยใช้ระบบเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง มุ่งหวังที่จะมีส่วนสนับสนุนในการดูแลรักษาและคุ้มครองความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยของประชาชนและความปลอดภัยทางสังคม รัฐบาลจึงออกกฎระเบียบดังต่อไปนี้ 1. ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการบริหารส่วนจังหวัด นายอำเภอเมือง หัวหน้าคณะกรรมการบริหารส่วนจังหวัด และผู้บัญชาการตำรวจจังหวัด มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการปราบปรามการทุจริตทางเทคโนโลยีในทุกพื้นที่ภายในพื้นที่และเขตอำนาจศาลของตนตามกฎหมาย ระเบียบ และบรรทัดฐานทางกฎหมายที่บังคับใช้2. กระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและกรมตรวจคนเข้าเมือง เป็นหัวหน้าหน่วยงาน มีหน้าที่จัดทำขั้นตอนการขับไล่ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับต่างด้าวที่เข้ามาโดยผิดกฎหมาย อาศัยอยู่โดยผิดกฎหมายหรือประกอบกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย3. กรมตำรวจแห่งชาติ กรมตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการกลางองค์การบริหารส่วนจังหวัด กองบังคับตำรวจภูมิภาค และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนในจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน มีหน้าที่รับผิดชอบในการป้องกัน ปิดกั้น และห้ามคนต่างด้าวลักลอบข้ามพรมแดนทางบกภายในพื้นที่และเขตอำนาจของตน4. คณะกรรมการความมั่นคงทางทะเลแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการกลางปกครองส่วนท้องถิ่นตามแนวชายแดนทางทะเล กองบัญชาการทหารเรือ และกรมตำรวจตระเวนชายแดนทางน้ำ มีหน้าที่ป้องกัน ปิดกั้น และห้ามมิให้คนต่างด้าวลักลอบเข้า-ออกชายแดนทางน่านน้ำภายในเขตพื้นที่และเขตอำนาจศาลของตน5. ให้กระทรวงยุติธรรม สั่งการไปยังศาลและอัยการที่สังกัดศาลทุกระดับ ให้ความสำคัญและรับผิดชอบอย่างยิ่งในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตผ่านระบบเทคโนโลยีให้เป็นไปตามกฎหมายและขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง และให้การสนับสนุนทางกฎหมายแก่สถาบันและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการปฏิบัติงานตามความจำเป็น6. ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพกัมพูชา ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาพระองค์ ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติ และผู้บัญชาการกองพลที่ 70 ต้องจัดเตรียมกำลังพล เครื่องมือ และอุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการเมื่อได้รับคำสั่ง7. กระทรวงสถาบันวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง และศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ ต้องร่วมมือและมีส่วนร่วมในการปราบปรามการทุจริตผ่านระบบเทคโนโลยี8. คณะกรรมการการพนันเชิงพาณิชย์ของกัมพูชาจะต้องเข้มงวดกับการจัดการและการกำกับดูแลคาสิโนหรือศูนย์การพนันที่ได้รับอนุญาตทั้งหมด โดยมีข้อห้ามอย่างเคร่งครัดดังต่อไปนี้: • การฉ้อโกงทางเทคโนโลยี• การลักพาตัว การทรมาน และการคุมขังที่ผิดกฎหมาย• การค้ามนุษย์และการแสวงประโยชน์ทางเพศทุกรูปแบบ• การค้าอาวุธ การครอบครอง และการใช้อาวุธที่ผิดกฎหมาย • การสร้างกำลังที่ผิดกฎหมายผ่านบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนและการใช้กองกำลังตำรวจติดอาวุธ • การค้า การใช้ และการจัดเก็บยาเสพติดและสารเสพติดที่ผิดกฎหมาย9. ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเมือง หัวหน้ากองบัญชาการร่วมของสำนักงานบริหารจังหวัดและเมืองหลวง ผู้บัญชาการตำรวจประจำเมืองหลวง ผู้บัญชาการหน่วยงาน กระทรวงและสถาบันที่เกี่ยวข้อง ต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัดและมีความรับผิดชอบ หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้หรือไม่ให้ความร่วมมือใดๆ จะถูกประเมินผลในการแต่งตั้ง โยกย้าย หรือปลดออกจากตำแหน่งโดยทันที กระทรวง สถาบัน คณะกรรมการความมั่นคงทางทะเลแห่งชาติ สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์ กองบัญชาการร่วม ฝ่ายบริหารระดับจังหวัด หน่วยงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้ด้วยความเข้มงวดและมีประสิทธิภาพสูงสุดตั้งแต่วันที่ลงนาม
    15 กรกฎาคม 2568 -รายงานข่าวระบุว่า ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลงนามประกาศกวาดล้างแก๊งค์คอลเซนเตอร์-เว็บฉ้อโกงการพนันออนไลน์ทุกชนิดทั่วประเทศ! ลบข้อครหาดินแดน SCAMBODIA ฟาด UN หลังแฉเขมรมีแต่แก๊งค์คอลเซนเตอร์-เป็นที่ตั้งเว็บการพนันออนไลน์ข้ามชาติ Kampuchea Thmey Daily รายงานว่า ฮุนมาเน็ต นายกรัฐมนตรี ได้ออกประกาศว่ารัฐบาลกัมพูชาได้สังเกตเห็นว่าปัจจุบันการหลอกลวงทางออนไลน์ในราชอาณาจักรกัมพูชากำลังก่อให้เกิดภัยคุกคามและความไม่ปลอดภัยทั้งในโลกและภูมิภาค กลุ่มอาชญากรต่างชาติก็ได้แทรกซึมเข้ามาในการหลอกลวงทางออนไลน์เช่นกัน เพื่อป้องกัน ควบคุมและปราบปรามการฉ้อโกงโดยใช้ระบบเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง มุ่งหวังที่จะมีส่วนสนับสนุนในการดูแลรักษาและคุ้มครองความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยของประชาชนและความปลอดภัยทางสังคม รัฐบาลจึงออกกฎระเบียบดังต่อไปนี้ 1. ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการบริหารส่วนจังหวัด นายอำเภอเมือง หัวหน้าคณะกรรมการบริหารส่วนจังหวัด และผู้บัญชาการตำรวจจังหวัด มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการปราบปรามการทุจริตทางเทคโนโลยีในทุกพื้นที่ภายในพื้นที่และเขตอำนาจศาลของตนตามกฎหมาย ระเบียบ และบรรทัดฐานทางกฎหมายที่บังคับใช้2. กระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและกรมตรวจคนเข้าเมือง เป็นหัวหน้าหน่วยงาน มีหน้าที่จัดทำขั้นตอนการขับไล่ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับต่างด้าวที่เข้ามาโดยผิดกฎหมาย อาศัยอยู่โดยผิดกฎหมายหรือประกอบกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย3. กรมตำรวจแห่งชาติ กรมตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการกลางองค์การบริหารส่วนจังหวัด กองบังคับตำรวจภูมิภาค และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนในจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน มีหน้าที่รับผิดชอบในการป้องกัน ปิดกั้น และห้ามคนต่างด้าวลักลอบข้ามพรมแดนทางบกภายในพื้นที่และเขตอำนาจของตน4. คณะกรรมการความมั่นคงทางทะเลแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการกลางปกครองส่วนท้องถิ่นตามแนวชายแดนทางทะเล กองบัญชาการทหารเรือ และกรมตำรวจตระเวนชายแดนทางน้ำ มีหน้าที่ป้องกัน ปิดกั้น และห้ามมิให้คนต่างด้าวลักลอบเข้า-ออกชายแดนทางน่านน้ำภายในเขตพื้นที่และเขตอำนาจศาลของตน5. ให้กระทรวงยุติธรรม สั่งการไปยังศาลและอัยการที่สังกัดศาลทุกระดับ ให้ความสำคัญและรับผิดชอบอย่างยิ่งในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตผ่านระบบเทคโนโลยีให้เป็นไปตามกฎหมายและขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง และให้การสนับสนุนทางกฎหมายแก่สถาบันและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการปฏิบัติงานตามความจำเป็น6. ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพกัมพูชา ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาพระองค์ ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติ และผู้บัญชาการกองพลที่ 70 ต้องจัดเตรียมกำลังพล เครื่องมือ และอุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการเมื่อได้รับคำสั่ง7. กระทรวงสถาบันวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง และศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ ต้องร่วมมือและมีส่วนร่วมในการปราบปรามการทุจริตผ่านระบบเทคโนโลยี8. คณะกรรมการการพนันเชิงพาณิชย์ของกัมพูชาจะต้องเข้มงวดกับการจัดการและการกำกับดูแลคาสิโนหรือศูนย์การพนันที่ได้รับอนุญาตทั้งหมด โดยมีข้อห้ามอย่างเคร่งครัดดังต่อไปนี้: • การฉ้อโกงทางเทคโนโลยี• การลักพาตัว การทรมาน และการคุมขังที่ผิดกฎหมาย• การค้ามนุษย์และการแสวงประโยชน์ทางเพศทุกรูปแบบ• การค้าอาวุธ การครอบครอง และการใช้อาวุธที่ผิดกฎหมาย • การสร้างกำลังที่ผิดกฎหมายผ่านบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนและการใช้กองกำลังตำรวจติดอาวุธ • การค้า การใช้ และการจัดเก็บยาเสพติดและสารเสพติดที่ผิดกฎหมาย9. ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเมือง หัวหน้ากองบัญชาการร่วมของสำนักงานบริหารจังหวัดและเมืองหลวง ผู้บัญชาการตำรวจประจำเมืองหลวง ผู้บัญชาการหน่วยงาน กระทรวงและสถาบันที่เกี่ยวข้อง ต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัดและมีความรับผิดชอบ หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้หรือไม่ให้ความร่วมมือใดๆ จะถูกประเมินผลในการแต่งตั้ง โยกย้าย หรือปลดออกจากตำแหน่งโดยทันที กระทรวง สถาบัน คณะกรรมการความมั่นคงทางทะเลแห่งชาติ สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์ กองบัญชาการร่วม ฝ่ายบริหารระดับจังหวัด หน่วยงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้ด้วยความเข้มงวดและมีประสิทธิภาพสูงสุดตั้งแต่วันที่ลงนาม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 392 มุมมอง 0 รีวิว
  • สีกากอล์ฟพิฆาตพระ นึกว่ารอดแต่โดนรวบ!

    การจับกุมสีกากอล์ฟ หรือ น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ วัย 35 ปี ที่เสพเมถุนและมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับพระชั้นผู้ใหญ่หลายคน ถึงขั้นปาราชิก ลาสิกขาราวกับใบไม้ร่วง เกิดวิกฤตศรัทธาวงการพระพุทธศาสนา สังคมพากันโล่งใจไปบ้าง เพราะกว่าตำรวจสอบสวนกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาผิดได้ ต้องใช้เวลาและพยานหลักฐานหนักมาก

    สีกากอล์ฟถูกเอาผิดใน 3 คดี เป็นของ บก.ปปป. ขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง (ตลิ่งชัน) ออกหมายจับ ได้แก่ สนับสนุนเจ้าพนักงาน คือ อดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ยักยอกเงินบัญชีวัด 3.8 แสนบาทใส่บัญชีตัวเองแล้วโอนให้สีกากอล์ฟ ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร

    ส่วนอีก 2 คดีเป็นของกองปราบปราม ขอศาลอาญา (รัชดาภิเษก) ออกหมายจับ ได้แก่ คดีฉ้อโกงหลอกเอาเงินอดีต ผอ.พระพุทธศาสนาพิจิตร 4 แสนบาท อ้างว่ามีข้อมูลเสพเมถุนกับพระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร แล้วก็ไม่ส่ง ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านร้องเรียนว่าเสพเมถุนและทุจริตเงินวัดตั้งแต่ปี 2559 แต่สุดท้าย ผอ.ถูกเจ้าคณะจังหวัดเด้งไปอยู่ที่อื่น

    กับคดีรีดเอาทรัพย์และทำให้เสื่อมเสีย ที่อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม ถูกขู่ให้โอนเงิน 15,000 บาท แลกกับการไม่ถูกแฉเรื่องเสพเมถุน อดีตพระครูฯ ต้องยอมโอนเงินให้ 8,000 บาท กับบังคับให้ทำหนังสือร้องเรียนอดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือเจ้าคุณอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เรื่องเสพเมถุนเพื่อหวังรีดเงิน 7.2 ล้านบาท อ้างว่าท้องขอค่าเลี้ยงลูก

    น่าเสียดายที่เจ้าคุณอาชว์รู้สึกอับอาย หลังลาสิกขาเลือกที่จะหนีหาย ทั้งที่กรณีที่สีกากอล์ฟขู่เรียกเงิน 7.2 ล้านบาท เข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ ถ้าลาสิกขาและให้ความร่วมมือกับตำรวจ บก.ปปป. ให้ข้อมูลก็สามารถเอาผิดสีกากอล์ฟได้ แม้เจ้าคุณอาชว์จะจ่ายเงินส่วนตัวให้สีกากอล์ฟหลักล้านบาท แลกกับการไม่ต้องถูกร้องเรียน ก่อนที่เรื่องจะบานปลายกลายเป็นข่าว

    การแถลงข่าวของตำรวจสอบสวนกลางเมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ระบุว่า พระที่ยอมรับว่าเสพเมถุนกับสีกากอล์ฟมี 9 รูป เหลือพระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ที่ยังไม่สึกออกมา ส่วนพระที่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวมี 3 รูป หนึ่งในนั้นคือพระมหาทิวากร อาภทฺโท เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ยังหลบหนี นอกเหนือจากยักยอกเงินวัดกว่า 1 ล้านบาท

    ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บัญชีธนาคารของสีกากอล์ฟมีเงินหมุนเวียนกว่า 380 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่โอนออกไปยังเว็บพนัน แต่ละครั้งสูงสุด 500,000 บาท ปัจจุบันเหลือติดบัญชี 8,000 บาท ตำรวจไซเบอร์กำลังแกะรอยอยู่

    #Newskit
    สีกากอล์ฟพิฆาตพระ นึกว่ารอดแต่โดนรวบ! การจับกุมสีกากอล์ฟ หรือ น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ วัย 35 ปี ที่เสพเมถุนและมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับพระชั้นผู้ใหญ่หลายคน ถึงขั้นปาราชิก ลาสิกขาราวกับใบไม้ร่วง เกิดวิกฤตศรัทธาวงการพระพุทธศาสนา สังคมพากันโล่งใจไปบ้าง เพราะกว่าตำรวจสอบสวนกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาผิดได้ ต้องใช้เวลาและพยานหลักฐานหนักมาก สีกากอล์ฟถูกเอาผิดใน 3 คดี เป็นของ บก.ปปป. ขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง (ตลิ่งชัน) ออกหมายจับ ได้แก่ สนับสนุนเจ้าพนักงาน คือ อดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ยักยอกเงินบัญชีวัด 3.8 แสนบาทใส่บัญชีตัวเองแล้วโอนให้สีกากอล์ฟ ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร ส่วนอีก 2 คดีเป็นของกองปราบปราม ขอศาลอาญา (รัชดาภิเษก) ออกหมายจับ ได้แก่ คดีฉ้อโกงหลอกเอาเงินอดีต ผอ.พระพุทธศาสนาพิจิตร 4 แสนบาท อ้างว่ามีข้อมูลเสพเมถุนกับพระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร แล้วก็ไม่ส่ง ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านร้องเรียนว่าเสพเมถุนและทุจริตเงินวัดตั้งแต่ปี 2559 แต่สุดท้าย ผอ.ถูกเจ้าคณะจังหวัดเด้งไปอยู่ที่อื่น กับคดีรีดเอาทรัพย์และทำให้เสื่อมเสีย ที่อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม ถูกขู่ให้โอนเงิน 15,000 บาท แลกกับการไม่ถูกแฉเรื่องเสพเมถุน อดีตพระครูฯ ต้องยอมโอนเงินให้ 8,000 บาท กับบังคับให้ทำหนังสือร้องเรียนอดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือเจ้าคุณอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เรื่องเสพเมถุนเพื่อหวังรีดเงิน 7.2 ล้านบาท อ้างว่าท้องขอค่าเลี้ยงลูก น่าเสียดายที่เจ้าคุณอาชว์รู้สึกอับอาย หลังลาสิกขาเลือกที่จะหนีหาย ทั้งที่กรณีที่สีกากอล์ฟขู่เรียกเงิน 7.2 ล้านบาท เข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ ถ้าลาสิกขาและให้ความร่วมมือกับตำรวจ บก.ปปป. ให้ข้อมูลก็สามารถเอาผิดสีกากอล์ฟได้ แม้เจ้าคุณอาชว์จะจ่ายเงินส่วนตัวให้สีกากอล์ฟหลักล้านบาท แลกกับการไม่ต้องถูกร้องเรียน ก่อนที่เรื่องจะบานปลายกลายเป็นข่าว การแถลงข่าวของตำรวจสอบสวนกลางเมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ระบุว่า พระที่ยอมรับว่าเสพเมถุนกับสีกากอล์ฟมี 9 รูป เหลือพระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ที่ยังไม่สึกออกมา ส่วนพระที่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวมี 3 รูป หนึ่งในนั้นคือพระมหาทิวากร อาภทฺโท เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ยังหลบหนี นอกเหนือจากยักยอกเงินวัดกว่า 1 ล้านบาท ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บัญชีธนาคารของสีกากอล์ฟมีเงินหมุนเวียนกว่า 380 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่โอนออกไปยังเว็บพนัน แต่ละครั้งสูงสุด 500,000 บาท ปัจจุบันเหลือติดบัญชี 8,000 บาท ตำรวจไซเบอร์กำลังแกะรอยอยู่ #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 475 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ร่ำไห้ ถูกซักปม "สีกากอล์ฟ" - รอง ผบช.ก.เผยพระบางรูปหัวหมอตั้งทนายสู้อ้างคลิปตัดต่อ ลั่นหากรูปไหนดื้อจะไล่เก็บให้จบ

    วันนี้ (12 ก.ค.)ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.กล่าวภายหลังเข้าร่วมสอบปากคำ "ทิดแหล่" หรืออดีตพระครูสิริวิริยธาดา อดีต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปมมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีการกอล์ฟว่าการสอบปากคำในวันนี้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมาก ทำให้ตำรวจเข้าใจในพฤติกรรมที่ทำให้พระตกเป็นเหยื่อของสีกากอล์ฟ และเรื่องเงินก็ให้การสอดคล้องกับพยานหลักฐานที่ตำรวจได้มา แต่เดี๋ยวให้ท่านได้กลับไปตั้งสติก่อน แล้วจะนัดหมายมาให้ปากคำอีกที ส่วนพฤติการณ์ที่ท่านตกเป็นเหยื่อ ก็แล้วแต่ความประสงค์ของท่านว่าจะให้การกับตำรวจในรายละเอียดอีกครั้งหรือไม่ทางเราไม่ได้บังคับ

    รอง ผบช.ก.กล่าวต่อว่า ส่วนวันนี้ได้ไปหารือกับสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหารนั้น ก็เพื่อให้พระชั้นผู้ใหญ่ได้มีส่วนร่วมจัดการกับปัญหานี้ให้จบโดยเร็ว เพราะก่อนหน้านี้ตำรวจได้ให้โอกาสพระที่เกี่ยวข้องไปสึกแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายรูปที่ยังไม่สึก บางรูปปล่อยข่าวว่าสึกแต่ก็ยังไม่ได้สึก ตำรวจจึงได้ประสานทั้ง 2 นิกาย คือ มหานิกาย และธรรมยุต เพื่อส่งพยานหลักฐานให้ไปดำเนินการทางวินัยกับพระเหล่านี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000065644

    #Thaitimes #MGROnline #สีกากอล์ฟ
    อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ร่ำไห้ ถูกซักปม "สีกากอล์ฟ" - รอง ผบช.ก.เผยพระบางรูปหัวหมอตั้งทนายสู้อ้างคลิปตัดต่อ ลั่นหากรูปไหนดื้อจะไล่เก็บให้จบ • วันนี้ (12 ก.ค.)ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.กล่าวภายหลังเข้าร่วมสอบปากคำ "ทิดแหล่" หรืออดีตพระครูสิริวิริยธาดา อดีต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปมมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีการกอล์ฟว่าการสอบปากคำในวันนี้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมาก ทำให้ตำรวจเข้าใจในพฤติกรรมที่ทำให้พระตกเป็นเหยื่อของสีกากอล์ฟ และเรื่องเงินก็ให้การสอดคล้องกับพยานหลักฐานที่ตำรวจได้มา แต่เดี๋ยวให้ท่านได้กลับไปตั้งสติก่อน แล้วจะนัดหมายมาให้ปากคำอีกที ส่วนพฤติการณ์ที่ท่านตกเป็นเหยื่อ ก็แล้วแต่ความประสงค์ของท่านว่าจะให้การกับตำรวจในรายละเอียดอีกครั้งหรือไม่ทางเราไม่ได้บังคับ • รอง ผบช.ก.กล่าวต่อว่า ส่วนวันนี้ได้ไปหารือกับสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหารนั้น ก็เพื่อให้พระชั้นผู้ใหญ่ได้มีส่วนร่วมจัดการกับปัญหานี้ให้จบโดยเร็ว เพราะก่อนหน้านี้ตำรวจได้ให้โอกาสพระที่เกี่ยวข้องไปสึกแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายรูปที่ยังไม่สึก บางรูปปล่อยข่าวว่าสึกแต่ก็ยังไม่ได้สึก ตำรวจจึงได้ประสานทั้ง 2 นิกาย คือ มหานิกาย และธรรมยุต เพื่อส่งพยานหลักฐานให้ไปดำเนินการทางวินัยกับพระเหล่านี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000065644 • #Thaitimes #MGROnline #สีกากอล์ฟ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?
    #12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง

    สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว

    เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย

    บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย

    จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน

    นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์

    ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”

    การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง

    การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย

    ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน

    อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน

    “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ

    อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ”

    แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

    นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย

    ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น

    อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ

    ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา

    ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา

    เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย

    แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?

    คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น

    ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม?

    นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป

    โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก

    แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ

    โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้

    ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"

    โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด

    ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

    ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ

    หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก

    แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ

    ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา

    ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง"

    คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า

    หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้

    ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย

    ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ

    การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้

    ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา

    การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น

    ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน

    การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้

    แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด

    จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง

    สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา

    การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน

    นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย

    เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน

    โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า

    กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ
    🤠#เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?🤠 🤠#12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง🤠 สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์ 🥰ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”🥰 การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ” แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย 🥰แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?🥰 คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น 🥰ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม? 🥰 นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้ 🥰ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"🥰 โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง" คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า 🥰หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้🥰 ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้ 🥰ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา🥰 การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้ แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด 🥰จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง🥰 สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน 💓โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า💓 😍กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ😍
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 542 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.129 : Scambodia เชื้อชั่วไม่ยอมตาย?
    .
    ถ้าลองสังเกตดูจะพบว่า หลายเดือนก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่า บรรดาแก๊งคอลเซนเตอร์จะสงบไปพักหนึ่ง หลังจากถูกปราบปรามอย่างหนัก...แต่ว่า ตอนนี้ ขบวนการอาชญากรรมออนไลน์ ได้ฟื้นคืนชีพกลับมาแล้วครับ เจ้าหน้าที่ตำรวจยอมรับว่า สถิติการแจ้งความคดีหลอกลวงทางโทรคมนาคม มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น บูรพาไม่แพ้ ในตอนนี้ เราจะมาหาคำตอบกันครับว่า ทำไมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถึงฆ่าไม่ตาย ปราบไม่สิ้น ขบวนการอาชญากรรมหลอกลวงยังวนเวียนอยู่ในเมียนมา ไทย และกัมพูชา ...
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=NuFhZse7NNw
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #สแกมเมอร์ #Scambodia
    บูรพาไม่แพ้ Ep.129 : Scambodia เชื้อชั่วไม่ยอมตาย? . ถ้าลองสังเกตดูจะพบว่า หลายเดือนก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่า บรรดาแก๊งคอลเซนเตอร์จะสงบไปพักหนึ่ง หลังจากถูกปราบปรามอย่างหนัก...แต่ว่า ตอนนี้ ขบวนการอาชญากรรมออนไลน์ ได้ฟื้นคืนชีพกลับมาแล้วครับ เจ้าหน้าที่ตำรวจยอมรับว่า สถิติการแจ้งความคดีหลอกลวงทางโทรคมนาคม มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น บูรพาไม่แพ้ ในตอนนี้ เราจะมาหาคำตอบกันครับว่า ทำไมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถึงฆ่าไม่ตาย ปราบไม่สิ้น ขบวนการอาชญากรรมหลอกลวงยังวนเวียนอยู่ในเมียนมา ไทย และกัมพูชา ... . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=NuFhZse7NNw . #บูรพาไม่แพ้ #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #สแกมเมอร์ #Scambodia
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร แอบย่องเงียบเข้าให้ข้อมูลตำรวจ ปปป. ชี้แจงปมสัมพันธ์ฉาว "สีกากอล์ฟ" ด้านเจ้าตัวปัดตอบคำถามสื่อ

    วันนี้ (12 ก.ค.) ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เมื่อเวลา 12.10 น. อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีกากอล์ฟ

    สำหรับการเดินทางเข้าพบตำรวจในวันนี้ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา เป็นการปรากฎตัวครั้งแรกหลังตกเป็นข่าวอื้อฉาว โดยเจ้าตัวมาชุดเสื้อโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เจ้าตัวปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด ก่อนเดินขึ้นอาคารเข้าไปพบเจ้าหน้าที่ทันที

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000065587

    #Thaitimes #MGROnline #อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร #อดีตพระครูสิริวิริยธาดา #ผู้ช่วยเจ้าอาวาส #วัดโสธรวรารามวรวิหาร
    อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร แอบย่องเงียบเข้าให้ข้อมูลตำรวจ ปปป. ชี้แจงปมสัมพันธ์ฉาว "สีกากอล์ฟ" ด้านเจ้าตัวปัดตอบคำถามสื่อ • วันนี้ (12 ก.ค.) ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เมื่อเวลา 12.10 น. อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีกากอล์ฟ • สำหรับการเดินทางเข้าพบตำรวจในวันนี้ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา เป็นการปรากฎตัวครั้งแรกหลังตกเป็นข่าวอื้อฉาว โดยเจ้าตัวมาชุดเสื้อโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เจ้าตัวปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด ก่อนเดินขึ้นอาคารเข้าไปพบเจ้าหน้าที่ทันที • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000065587 • #Thaitimes #MGROnline #อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร #อดีตพระครูสิริวิริยธาดา #ผู้ช่วยเจ้าอาวาส #วัดโสธรวรารามวรวิหาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนเสนอตัวเป็นกลาง ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเน้นย้ำปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
    https://www.thai-tai.tv/news/20205/
    .
    #จีน #ไทย #กัมพูชา #ข้อพิพาทชายแดน #หวังอี้ #มาริษเสงี่ยมพงษ์ #ปรักสุคน #อาเซียน #อาชญากรรมข้ามชาติ #พนันออนไลน์
    จีนเสนอตัวเป็นกลาง ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเน้นย้ำปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ https://www.thai-tai.tv/news/20205/ . #จีน #ไทย #กัมพูชา #ข้อพิพาทชายแดน #หวังอี้ #มาริษเสงี่ยมพงษ์ #ปรักสุคน #อาเซียน #อาชญากรรมข้ามชาติ #พนันออนไลน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุปสำนวนเอาผิด"ฮุนเซน"ลุ้นหมายจับ-หมายแดง : [NEWS UPDATE]

    พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1(ผบก.สอท.1) เผยความคืบหน้ากรณี นายสมคิด เชื้อคง แจ้งความเอาผิดนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่คลิปเสียงสนทนาน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ขณะนี้สามารถสรุปสำนวนได้แล้ว โดยจะส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดในวันที่ 14 ก.ค.นี้ ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ว่าด้วยการกระทำอันเป็นภัยต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หากมีการเอาผิดจะออกหมายจับและประสานกับอินเตอร์โพล เพื่อออกหมายแดงต่อไป

    -อายัดทรัพย์"ก๊ก อาน"พันล้าน

    -เงินร้อยล้านโยงแก๊งรีดหัวคิว

    -ภาษีทุบ 47 อุตสาหกรรม

    -เตือนฝนตกหนัก-สะสม
    สรุปสำนวนเอาผิด"ฮุนเซน"ลุ้นหมายจับ-หมายแดง : [NEWS UPDATE] พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1(ผบก.สอท.1) เผยความคืบหน้ากรณี นายสมคิด เชื้อคง แจ้งความเอาผิดนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่คลิปเสียงสนทนาน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ขณะนี้สามารถสรุปสำนวนได้แล้ว โดยจะส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดในวันที่ 14 ก.ค.นี้ ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ว่าด้วยการกระทำอันเป็นภัยต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หากมีการเอาผิดจะออกหมายจับและประสานกับอินเตอร์โพล เพื่อออกหมายแดงต่อไป -อายัดทรัพย์"ก๊ก อาน"พันล้าน -เงินร้อยล้านโยงแก๊งรีดหัวคิว -ภาษีทุบ 47 อุตสาหกรรม -เตือนฝนตกหนัก-สะสม
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 637 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • อายัดทรัพย์เครือข่าย 'ก๊ก อาน' 1.1 พันล้าน ออกหมายแดงล่าตัวคนสนิทฮุนเซน
    https://www.thai-tai.tv/news/20186/
    .
    #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ค้ามนุษย์ #ปราบปรามอาชญากรรม #ตำรวจไทย #UNODC #อินเตอร์โพล #เมียนมา #กัมพูชา #ลาว #ข่าวอาชญากรรม #ประเทศไทย #อายัดทรัพย์ #ก๊กอาน
    อายัดทรัพย์เครือข่าย 'ก๊ก อาน' 1.1 พันล้าน ออกหมายแดงล่าตัวคนสนิทฮุนเซน https://www.thai-tai.tv/news/20186/ . #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ค้ามนุษย์ #ปราบปรามอาชญากรรม #ตำรวจไทย #UNODC #อินเตอร์โพล #เมียนมา #กัมพูชา #ลาว #ข่าวอาชญากรรม #ประเทศไทย #อายัดทรัพย์ #ก๊กอาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'เท้ง' กระตุก 'ทักษิณ' ต่อรองกัมพูชา เย้ยซอฟต์พาวเวอร์เน้นอีเวนท์ เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
    https://www.thai-tai.tv/news/20142/
    .
    #ทักษิณชินวัตร #ซอฟต์พาวเวอร์ #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #พรรคประชาชน #ฮุนเซน #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #การเมืองไทย #นโยบายรัฐบาล #รัฐบาลเพื่อไทย #กระทรวงวัฒนธรรม #กระทรวงมหาดไทย #ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ #กัมพูชา #เจรจาชายแดน
    'เท้ง' กระตุก 'ทักษิณ' ต่อรองกัมพูชา เย้ยซอฟต์พาวเวอร์เน้นอีเวนท์ เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ https://www.thai-tai.tv/news/20142/ . #ทักษิณชินวัตร #ซอฟต์พาวเวอร์ #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #พรรคประชาชน #ฮุนเซน #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #การเมืองไทย #นโยบายรัฐบาล #รัฐบาลเพื่อไทย #กระทรวงวัฒนธรรม #กระทรวงมหาดไทย #ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ #กัมพูชา #เจรจาชายแดน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ฮุนเซน" โพสต์เดือด! หลังไทยจับคนสนิท ลั่น "ประเทศไทยทิ้งหินลงบนเท้าตัวเอง" จี้สอบ "ทักษิณ" ด้วย
    https://www.thai-tai.tv/news/20129/
    .
    #ฮุนเซน #ทักษิณชินวัตร #กัมพูชา #ประเทศไทย #อาชญากรรมไซเบอร์ #ก๊กอาน #ตำรวจไซเบอร์ #ปราบปรามอาชญากรรม #ศาลไทย #ข่าวร้อน
    "ฮุนเซน" โพสต์เดือด! หลังไทยจับคนสนิท ลั่น "ประเทศไทยทิ้งหินลงบนเท้าตัวเอง" จี้สอบ "ทักษิณ" ด้วย https://www.thai-tai.tv/news/20129/ . #ฮุนเซน #ทักษิณชินวัตร #กัมพูชา #ประเทศไทย #อาชญากรรมไซเบอร์ #ก๊กอาน #ตำรวจไซเบอร์ #ปราบปรามอาชญากรรม #ศาลไทย #ข่าวร้อน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ทวี' เผยเป็นเรื่องดี รัฐบาลถอน 'กาสิโน' วันนี้ต้องแก้ปัญหาวิกฤตประเทศก่อน​
    https://www.thai-tai.tv/news/20119/
    .
    #ทวีสอดส่อง #กระทรวงยุติธรรม #เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ #กฎหมายใหม่ #ข่าวการเมือง #รัฐบาลไทย #นโยบายรัฐบาล #การปราบปรามทุจริต
    'ทวี' เผยเป็นเรื่องดี รัฐบาลถอน 'กาสิโน' วันนี้ต้องแก้ปัญหาวิกฤตประเทศก่อน​ https://www.thai-tai.tv/news/20119/ . #ทวีสอดส่อง #กระทรวงยุติธรรม #เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ #กฎหมายใหม่ #ข่าวการเมือง #รัฐบาลไทย #นโยบายรัฐบาล #การปราบปรามทุจริต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทวี” ปัด พุ่งเป้า “ก๊ก อาน” เหตุใกล้ชิด “ฮุน เซน” ลั่นต้องจัดการเบื้องหลังขบวนการคอลเซ็นเตอร์
    https://www.thai-tai.tv/news/20113/
    .
    #กระทรวงยุติธรรม #คอลเซ็นเตอร์ #ยาเสพติด #อาชญากรรมข้ามชาติ #ปราบปรามยาเสพติด #กัญชา #ความมั่นคงแห่งชาติ #ข่าวอาชญากรรม
    “ทวี” ปัด พุ่งเป้า “ก๊ก อาน” เหตุใกล้ชิด “ฮุน เซน” ลั่นต้องจัดการเบื้องหลังขบวนการคอลเซ็นเตอร์ https://www.thai-tai.tv/news/20113/ . #กระทรวงยุติธรรม #คอลเซ็นเตอร์ #ยาเสพติด #อาชญากรรมข้ามชาติ #ปราบปรามยาเสพติด #กัญชา #ความมั่นคงแห่งชาติ #ข่าวอาชญากรรม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • กินรวบกุมอำนาจ หน่วยงานความมั่นคง : [NEWS UPDATE]

    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1.กระทรวงกลาโหม 2.กระทรวงการต่างประเทศ 3.กระทรวงมหาดไทย 4.กระทรวงยุติธรรม 5.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 6.สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ 7.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ 8.สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 9.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และ 10.ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้

    -ถอยวาระร้อน

    -สอบพยานฟอกเงิน สว.เพิ่ม

    -เตือนภัย 33 จังหวัด

    -ไม่ต้องพึ่งศาลโลก
    กินรวบกุมอำนาจ หน่วยงานความมั่นคง : [NEWS UPDATE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1.กระทรวงกลาโหม 2.กระทรวงการต่างประเทศ 3.กระทรวงมหาดไทย 4.กระทรวงยุติธรรม 5.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 6.สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ 7.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ 8.สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 9.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และ 10.ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ -ถอยวาระร้อน -สอบพยานฟอกเงิน สว.เพิ่ม -เตือนภัย 33 จังหวัด -ไม่ต้องพึ่งศาลโลก
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 604 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เมื่อพรรคประชาชน ที่พยายามสร้างภาพมาตลอดว่าเป็นนักการเมืองของคนรุ่นใหม่ที่ทำอะไรเปิดเผย โปร่งใส และเป็นการเมืองแนวใหม่!!

    หลังจาก "โรม" ถูกแฉว่าแอบนัดทานข้าวกับ "อนุทิน" ท่ามกลางกระแสเปิดดีล นายกฯ ชั่วคราว เพื่อผ่าทางตันการเมือง

    ทางด้าน "ทอม เครือโสภณ" ได้กล่าวว่า รังสิมันต์ โรม เป็นฝ่ายบอกให้โทรนัด อนุทิน มาพูดคุยกัน ทำให้ "โรม" ถึงทางตันจนต้องยอมรับว่ามีการนัดจริง แต่เป็นการไปพูดคุยเรื่องการการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เท่านั้นไม่ใช่ดีลลับอย่างที่ใครคิดกัน

    ส่วนตัว "ช่อ" พยายามแก้ตัวแทน "โรม" ว่า เป็นเพียงกระแสข่าวที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่โดน "ทอม เครือโสภณ" ตอกกลับว่ายืนยันแน่นอน เพราะเป็นคนจัดการนัดให้ "โรม" และ "อนุทิน" เอง
    เมื่อพรรคประชาชน ที่พยายามสร้างภาพมาตลอดว่าเป็นนักการเมืองของคนรุ่นใหม่ที่ทำอะไรเปิดเผย โปร่งใส และเป็นการเมืองแนวใหม่!! 👉หลังจาก "โรม" ถูกแฉว่าแอบนัดทานข้าวกับ "อนุทิน" ท่ามกลางกระแสเปิดดีล นายกฯ ชั่วคราว เพื่อผ่าทางตันการเมือง 👉ทางด้าน "ทอม เครือโสภณ" ได้กล่าวว่า รังสิมันต์ โรม เป็นฝ่ายบอกให้โทรนัด อนุทิน มาพูดคุยกัน ทำให้ "โรม" ถึงทางตันจนต้องยอมรับว่ามีการนัดจริง แต่เป็นการไปพูดคุยเรื่องการการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เท่านั้นไม่ใช่ดีลลับอย่างที่ใครคิดกัน 👉ส่วนตัว "ช่อ" พยายามแก้ตัวแทน "โรม" ว่า เป็นเพียงกระแสข่าวที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่โดน "ทอม เครือโสภณ" ตอกกลับว่ายืนยันแน่นอน เพราะเป็นคนจัดการนัดให้ "โรม" และ "อนุทิน" เอง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts