• ♣️ บาปกรรมไหลหลากยิ่งกว่าน้ำป่า ไวดั่งอินเทอร์เน็ต 10G ต่อให้ขอแบ่งชีวิตบิ๊กโจ๊กมาสู้ก็ไม่รอด
    #7ดอกจิก
    #ทนายตั้ม
    ♣️ บาปกรรมไหลหลากยิ่งกว่าน้ำป่า ไวดั่งอินเทอร์เน็ต 10G ต่อให้ขอแบ่งชีวิตบิ๊กโจ๊กมาสู้ก็ไม่รอด #7ดอกจิก #ทนายตั้ม
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย ได้ให้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่20ตุลาคมนี้ ให้ข้อมูลความรู้ปรากฏการณ์เมฆระเบิด กรณีอุทกภัยจากฝนตกหนักที่พื้นที่อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี เนื้อหาดังต่อไปนี้

    เมฆระเบิด(Cloudburst) ทำให้เกิดฝนกระ หน่ำ(RainBomb)หนัก จะเกิดขึ้นบ่อยที่ประเทศไทยในทุกฤดูฝน

    1.กรณีที่เกิดฝนตกอย่างหนัก4ชั่วโมงริมเชิงเขา เกิดน้ำป่าไหลหลากน้ำท่วมหนักในพื้นที่อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี เกิดความเสียหายมหาศาลอาจเกิดมาจากปรากฎการณ์ CloudburstและRain Bomb

    2 สภาวะการเกิดเมฆระเบิด (Cloudburst)
    ส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ใกล้เชิงเขาในกรณีที่อากาศบนพื้นดินและอากาศบนยอดเขามีอุณหภูมิที่แตกต่างกันค่อนข้างมากทำให้อากาศร้อนหรือมวลความกดอากาศต่ำที่อยู่ใกล้เชิงเขาจะพัดเคลื่อนที่ขึ้นในแนวดิ่งไปยังยอดเขาซึ่งมีอากาศเย็นกว่าอย่างกะ ทันหัน ทำให้สภาพภูมิอากาศใกล้พื้นโลกเย็นลงอย่างรวดเร็ว เกิดความชื้นสัมพัทธ์สูงขึ้นและความชื้นรวมตัวกันเป็นเมฆฝนมากขึ้น นอกจากนี้ลมที่พัดในแนวราบได้พัดพานำเมฆที่กระจัดกระจายมารวมกันอยู่ที่เชิงเขารวมตัวกันเป็นเมฆก้อนใหญ่ที่มีความชื้นสูง เมื่อมีมวลอากาศเย็นจากมหา สมุทรพัดหรือจากแผ่นดินใหญ่พัดเข้ามาปะทะจึงทำให้เกิดปรากฎการณ์เมฆระเบิดเกิดการกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ และกลายเป็นฝนที่ตกลงมากระหน่ำหรือRain Bombทำอาจให้เกิดน้ำท่วมอย่างกะทันหันได้

    3.จากนี้เป็นต้นไปการเกิดเมฆระเบิด และการเกิดฝนตกกระหน่ำอย่างรุนแรงในพื้น ที่ใดพื้นที่หนึ่ง จะเกิดขึ้นบ่อยมากขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีลักษณะภูมิประเทศต่างกันเช่น เป็นภูเขาสูงที่มีป่าไม้หนาแน่นหรือในเมืองที่มีตึกและอาคารค่อนข้างสูงจะทำ ให้อุณหภูมิระหว่างพื้นดินกับระดับความสูงขึ้นไปเกิดความแตกต่างกันมากขึ้น การเกิดปรากฎการณ์ดังกล่าวจะคาดการณ์ได้ค่อนข้างยากเนื่องจากภาวะโลกร้อนที่รุน แรงขึ้นทำให้เกิดอากาศแปรปรวนและทำ ให้น้ำในมหาสมุทรและทะเลระเหยขึ้นไปรวมกันเป็นความชื้นในอากาศมากกว่าปรก ติ นอกจากนี้ยังทำให้อุณหภูมิเกิดความแตกต่างกันมากขึ้นระหว่างระดับพื้นดินและระดับที่สูงขึ้นไป ดังนั้นการเกิดสภาวะเมฆระเบิดและฝนตกกระหน่ำจึงคาดเดาได้ยากแต่มักจะเกิดในช่วงที่มีร่องมรสุมความกดอากาศต่ำพัดผ่านและช่วงที่มวล อากาศเย็นพัดจากแผ่นดินใหญ่หรือทะเลมหาสมุทรมาปะทะ

    4. คาดว่าช่วงเดือนพฤศจิกายนมวลความกดอากาศสูงหรืออากาศเย็นจากแผ่นดินใหญ่จะพัดลงมารุนแรงมากขึ้นและร่องมร สุมจะเคลื่อนที่ลงสู่ภาคใต้ตอนล่างจะทำ ให้ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดลดน้อลง..แต่มวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมาซึ่งเป็นความกดอากาศสูงจะกดทับอากาศบนพื้นโลกไว้ ทำให้การระบายอากาศ จากแหล่งกำเนิดมลพิษต่างๆบนพื้นโลกในแนวดิ่งจะระบายได้น้อยลง ..ฝุ่น PM2.5 จะเริ่มกลับมา..

    ที่มา https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02PiJQCYxCAuMQ8nxg2gUkukfixV5TA7Zz4iC2SQShyvBeXdgwH5bK8JVqpUqefBQUl&id=100000260097650

    #Thaitimes
    ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย ได้ให้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่20ตุลาคมนี้ ให้ข้อมูลความรู้ปรากฏการณ์เมฆระเบิด กรณีอุทกภัยจากฝนตกหนักที่พื้นที่อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี เนื้อหาดังต่อไปนี้ เมฆระเบิด(Cloudburst) ทำให้เกิดฝนกระ หน่ำ(RainBomb)หนัก จะเกิดขึ้นบ่อยที่ประเทศไทยในทุกฤดูฝน 1.กรณีที่เกิดฝนตกอย่างหนัก4ชั่วโมงริมเชิงเขา เกิดน้ำป่าไหลหลากน้ำท่วมหนักในพื้นที่อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี เกิดความเสียหายมหาศาลอาจเกิดมาจากปรากฎการณ์ CloudburstและRain Bomb 2 สภาวะการเกิดเมฆระเบิด (Cloudburst) ส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ใกล้เชิงเขาในกรณีที่อากาศบนพื้นดินและอากาศบนยอดเขามีอุณหภูมิที่แตกต่างกันค่อนข้างมากทำให้อากาศร้อนหรือมวลความกดอากาศต่ำที่อยู่ใกล้เชิงเขาจะพัดเคลื่อนที่ขึ้นในแนวดิ่งไปยังยอดเขาซึ่งมีอากาศเย็นกว่าอย่างกะ ทันหัน ทำให้สภาพภูมิอากาศใกล้พื้นโลกเย็นลงอย่างรวดเร็ว เกิดความชื้นสัมพัทธ์สูงขึ้นและความชื้นรวมตัวกันเป็นเมฆฝนมากขึ้น นอกจากนี้ลมที่พัดในแนวราบได้พัดพานำเมฆที่กระจัดกระจายมารวมกันอยู่ที่เชิงเขารวมตัวกันเป็นเมฆก้อนใหญ่ที่มีความชื้นสูง เมื่อมีมวลอากาศเย็นจากมหา สมุทรพัดหรือจากแผ่นดินใหญ่พัดเข้ามาปะทะจึงทำให้เกิดปรากฎการณ์เมฆระเบิดเกิดการกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ และกลายเป็นฝนที่ตกลงมากระหน่ำหรือRain Bombทำอาจให้เกิดน้ำท่วมอย่างกะทันหันได้ 3.จากนี้เป็นต้นไปการเกิดเมฆระเบิด และการเกิดฝนตกกระหน่ำอย่างรุนแรงในพื้น ที่ใดพื้นที่หนึ่ง จะเกิดขึ้นบ่อยมากขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีลักษณะภูมิประเทศต่างกันเช่น เป็นภูเขาสูงที่มีป่าไม้หนาแน่นหรือในเมืองที่มีตึกและอาคารค่อนข้างสูงจะทำ ให้อุณหภูมิระหว่างพื้นดินกับระดับความสูงขึ้นไปเกิดความแตกต่างกันมากขึ้น การเกิดปรากฎการณ์ดังกล่าวจะคาดการณ์ได้ค่อนข้างยากเนื่องจากภาวะโลกร้อนที่รุน แรงขึ้นทำให้เกิดอากาศแปรปรวนและทำ ให้น้ำในมหาสมุทรและทะเลระเหยขึ้นไปรวมกันเป็นความชื้นในอากาศมากกว่าปรก ติ นอกจากนี้ยังทำให้อุณหภูมิเกิดความแตกต่างกันมากขึ้นระหว่างระดับพื้นดินและระดับที่สูงขึ้นไป ดังนั้นการเกิดสภาวะเมฆระเบิดและฝนตกกระหน่ำจึงคาดเดาได้ยากแต่มักจะเกิดในช่วงที่มีร่องมรสุมความกดอากาศต่ำพัดผ่านและช่วงที่มวล อากาศเย็นพัดจากแผ่นดินใหญ่หรือทะเลมหาสมุทรมาปะทะ 4. คาดว่าช่วงเดือนพฤศจิกายนมวลความกดอากาศสูงหรืออากาศเย็นจากแผ่นดินใหญ่จะพัดลงมารุนแรงมากขึ้นและร่องมร สุมจะเคลื่อนที่ลงสู่ภาคใต้ตอนล่างจะทำ ให้ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดลดน้อลง..แต่มวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมาซึ่งเป็นความกดอากาศสูงจะกดทับอากาศบนพื้นโลกไว้ ทำให้การระบายอากาศ จากแหล่งกำเนิดมลพิษต่างๆบนพื้นโลกในแนวดิ่งจะระบายได้น้อยลง ..ฝุ่น PM2.5 จะเริ่มกลับมา.. ที่มา https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02PiJQCYxCAuMQ8nxg2gUkukfixV5TA7Zz4iC2SQShyvBeXdgwH5bK8JVqpUqefBQUl&id=100000260097650 #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 341 มุมมอง 0 รีวิว
  • จ.กาญจน์ เตือน 4 อำเภอ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 19-23 ต.ค.นี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000100742

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    จ.กาญจน์ เตือน 4 อำเภอ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 19-23 ต.ค.นี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000100742 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    26
    1 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 2251 มุมมอง 0 รีวิว
  • 6 ตุลาคม 2567-อ.สนธิ คชวัตร วิเคราะห์ น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ในรอบร้อยปี ว่าสาเหตุสำคัญคือฝนตกหนักบนดอยที่ถูกเปลี่ยนสภาพเป็นเกษตรกรรมพืชเชิงเดี่ยว...

    1.สาเหตุของน้ำท่วมหนักในเมืองเชียงใหม่เกิดจากฝนตกหนักหลายวันโดยช่วงต้นเดือนตุลาคม 2567 มีฝนหนักติดต่อกัน3วันวัดปริมาณน้ำฝนได้200ถึง300มิลลิเมตรทั้งที่ไม่มีพายุเข้าแต่เกิดจากมวลอากาศเย็นเคลื่อนลงมาจากแผ่นดินใหญ่มาปะทะร่องมรสุมความกดอากาศต่ำ(อากาศร้อน) ที่พาดผ่านทำให้เกิดฝนตกหนักในเขตอำ เภอเชียงดาว อำเภอแม่แตง อำเภอแม่ริมและอำเภอพร้าวจนเกิดน้ำท่วมอย่างหนักในพื้นที่ราบเชิงเขาของอำเภอเชียงดาว อำเภอแม่แตงและอำเภอเมืองเชียงใหม่โดยทั้งแม่น้ำแม่งัด แม่น้ำแม่แตงและแม่น้ำปิงมีปริมาณน้ำไหลเชี่ยวกรากลงมาท่วมพื้นที่เมืองเชียงใหม่

    2.แม่น้ำปิงมีต้นกำเนิดจากเทือกเขาผีปันน้ำในพื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียง ใหม่ไหลลงมาทางทิศไต้ผ่านหุบเขาเข้าสู่เขตอำเภอแม่แตง มีแม่น้ำแม่งัดไหลมาบรร จบทางฝั่งซ้ายและน้ำแม่แตงไหลมาบรร จบทางฝั่งขวาเข้าสู่พื้นที่ราบลุ่มผ่านอำ เภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และมีน้ำแม่กวง ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำปิงไหลมาบรรจบทางฝั่งซ้าย บริเวณพื้นที่อำเภอป่าซาง จัง หวัดลำพูน จากนั้นแม่น้ำปิงจะไหลไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้โดยมีแม่น้ำลี้ ซึ่งไหลผ่านจากอำเภอลี้ มาบรรจบกับแม่น้ำปิงที่อำเภอจอมทองทางฝั่งซ้ายและจากอำเภอจอมทอง แม่น้ำปิงจะไหลลงไปทางใต้โดย มีแม่น้ำแม่แจ่มไหลมาบรรจบทางฝั่งขวาที่อำเภอฮอดก่อนจะไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำของเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ที่อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ต่อไป
    เมื่อเกิดฝนตกหนักติดต่อกันยาวนานในพื้นที่ต้นน้ำจะเป็นผลให้ระดับน้ำและปริ มาณน้ำในแม่ปิงสะสมตัวเพิ่มสูงขึ้น จนเกิดล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำใกล้เคียง เกิดอุทกภัยสร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่บ้านเรือน ชีวิตและทรัพย์สินขึ้นได้ โดยเฉพาะในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ โดยจะเกิดขึ้นเมื่อปริมาณน้ำเพิ่มสูงเกินความจุของลำน้ำโดยความจุของน้ำปิงที่ตัวเมืองเชียงใหม่คือ 440 ลบ.เมตร/วินาที และระ ดับวิกฤติที่น้ำจะเริ่มล้นฝั่งไหลท่วมอยู่ที่ 3.70 เมตร

    3. ปี2566/67 จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จำนวน 285,004 ไร่ ที่อำเภอเชียงดาวมีพื้นที่ปลูกข้าวโพด 19,878 ไร่ และอำเภอแม่แตงมีพื้นที่ปลูกข้าวโพดประมาณ1636.75ไร่ ส่วนใหญ่จะปลูกบนดอยสูง นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำ ให้น้ำป่าบนภูเขาต้นน้ำไหลลงมาได้รวด เร็วและเชี่ยวกรากไหลลงมาท่วมพื้นที่ราบเชิงเขาได้
    ...หากฝนตกบนภูเขาที่เต็มไปด้วยป่าใหญ่ น้ำฝนจะขังอยู่ในป่าประมาณเก้าส่วน อีกหนึ่งส่วนไหลลงข้างล่าง และค่อยๆไหลรินไปหล่อเลี้ยงผู้คนด้านล่างตลอดทั้งปี แต่หากเป็นภูเขาหัวโล้น น้ำฝนจะขังอยู่หนึ่งส่วน อีกเก้าส่วนไหลลงข้างล่างทำให้เกิดมหาอุทกภัยใหญ่หลวง...

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/pfkBEHemaUuFdGYg/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    6 ตุลาคม 2567-อ.สนธิ คชวัตร วิเคราะห์ น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ในรอบร้อยปี ว่าสาเหตุสำคัญคือฝนตกหนักบนดอยที่ถูกเปลี่ยนสภาพเป็นเกษตรกรรมพืชเชิงเดี่ยว... 1.สาเหตุของน้ำท่วมหนักในเมืองเชียงใหม่เกิดจากฝนตกหนักหลายวันโดยช่วงต้นเดือนตุลาคม 2567 มีฝนหนักติดต่อกัน3วันวัดปริมาณน้ำฝนได้200ถึง300มิลลิเมตรทั้งที่ไม่มีพายุเข้าแต่เกิดจากมวลอากาศเย็นเคลื่อนลงมาจากแผ่นดินใหญ่มาปะทะร่องมรสุมความกดอากาศต่ำ(อากาศร้อน) ที่พาดผ่านทำให้เกิดฝนตกหนักในเขตอำ เภอเชียงดาว อำเภอแม่แตง อำเภอแม่ริมและอำเภอพร้าวจนเกิดน้ำท่วมอย่างหนักในพื้นที่ราบเชิงเขาของอำเภอเชียงดาว อำเภอแม่แตงและอำเภอเมืองเชียงใหม่โดยทั้งแม่น้ำแม่งัด แม่น้ำแม่แตงและแม่น้ำปิงมีปริมาณน้ำไหลเชี่ยวกรากลงมาท่วมพื้นที่เมืองเชียงใหม่ 2.แม่น้ำปิงมีต้นกำเนิดจากเทือกเขาผีปันน้ำในพื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียง ใหม่ไหลลงมาทางทิศไต้ผ่านหุบเขาเข้าสู่เขตอำเภอแม่แตง มีแม่น้ำแม่งัดไหลมาบรร จบทางฝั่งซ้ายและน้ำแม่แตงไหลมาบรร จบทางฝั่งขวาเข้าสู่พื้นที่ราบลุ่มผ่านอำ เภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และมีน้ำแม่กวง ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำปิงไหลมาบรรจบทางฝั่งซ้าย บริเวณพื้นที่อำเภอป่าซาง จัง หวัดลำพูน จากนั้นแม่น้ำปิงจะไหลไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้โดยมีแม่น้ำลี้ ซึ่งไหลผ่านจากอำเภอลี้ มาบรรจบกับแม่น้ำปิงที่อำเภอจอมทองทางฝั่งซ้ายและจากอำเภอจอมทอง แม่น้ำปิงจะไหลลงไปทางใต้โดย มีแม่น้ำแม่แจ่มไหลมาบรรจบทางฝั่งขวาที่อำเภอฮอดก่อนจะไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำของเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ที่อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ต่อไป เมื่อเกิดฝนตกหนักติดต่อกันยาวนานในพื้นที่ต้นน้ำจะเป็นผลให้ระดับน้ำและปริ มาณน้ำในแม่ปิงสะสมตัวเพิ่มสูงขึ้น จนเกิดล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำใกล้เคียง เกิดอุทกภัยสร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่บ้านเรือน ชีวิตและทรัพย์สินขึ้นได้ โดยเฉพาะในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ โดยจะเกิดขึ้นเมื่อปริมาณน้ำเพิ่มสูงเกินความจุของลำน้ำโดยความจุของน้ำปิงที่ตัวเมืองเชียงใหม่คือ 440 ลบ.เมตร/วินาที และระ ดับวิกฤติที่น้ำจะเริ่มล้นฝั่งไหลท่วมอยู่ที่ 3.70 เมตร 3. ปี2566/67 จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จำนวน 285,004 ไร่ ที่อำเภอเชียงดาวมีพื้นที่ปลูกข้าวโพด 19,878 ไร่ และอำเภอแม่แตงมีพื้นที่ปลูกข้าวโพดประมาณ1636.75ไร่ ส่วนใหญ่จะปลูกบนดอยสูง นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำ ให้น้ำป่าบนภูเขาต้นน้ำไหลลงมาได้รวด เร็วและเชี่ยวกรากไหลลงมาท่วมพื้นที่ราบเชิงเขาได้ ...หากฝนตกบนภูเขาที่เต็มไปด้วยป่าใหญ่ น้ำฝนจะขังอยู่ในป่าประมาณเก้าส่วน อีกหนึ่งส่วนไหลลงข้างล่าง และค่อยๆไหลรินไปหล่อเลี้ยงผู้คนด้านล่างตลอดทั้งปี แต่หากเป็นภูเขาหัวโล้น น้ำฝนจะขังอยู่หนึ่งส่วน อีกเก้าส่วนไหลลงข้างล่างทำให้เกิดมหาอุทกภัยใหญ่หลวง... ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/pfkBEHemaUuFdGYg/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 786 มุมมอง 0 รีวิว
  • บันทึกเตือนความจำ
    ภัยธรรมชาติที่เกิดจากภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงสุดขั้วนำมาซึ่งปริมาณน้ำฝนที่ไหลหลั่งลงสู่แหล่งน้ำ จำนวนมหาศาล ไหลบ่าจากป่าสู่เมืองในที่ลุ่มต่ำ ในทางกลับกันเชื่อแน่ว่าไม่ช้าก็เร็วเราน่าจะเจอกับเหตุการณ์ในขั้วตรงกันข้ามคือแล้ง ร้อนสุดโต่งแน่

    กันยายนต่อเนื่องถึงตุลาคม ฝนตกต่อเนื่องจนเกิดมวลน้ำจำนวนมหาศาลจากต้นน้ำแม่แตง ไหลเข้าสู่ลำน้ำแม่แตง สายน้ำแห่งการท่องเที่ยวธรรมชาติของเชียงใหม่ ที่ตลอดสองข้างลำน้ำมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมทั้งปางช้างต่างๆเรียงรายตลอดลำน้ำแม่แตง ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาจากรายงานของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (๒๕๕๘-๒๕๖๗) พบว่ามีปางช้างถึง ๔๙ ปาง (ช้างจำนวน ๕๔๖ เชือก)

    เหตุระทึกเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บ่ายวันพฤหัสที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ มวลน้ำจำนวนมากไหลบ่าล้นตลิ่งทั้งสองฝั่งของลำน้ำแม่แตงอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องจนถึงเช้ามืดวันศุกร์ น้ำเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว ช้างส่วนใหญ่ถูกอพยพนำขึ้นไปผูกล่ามไว้ในที่สูง ในขณะที่ปางช้างขนาดใหญ่ (มีช้างมากกว่าหนึ่งร้อยเชือก) ของมูลนิธิช้างและสิ่งแวดล้อม ยังคงสาละวนและพยายามขนย้ายช้างและสัตว์อื่นๆอีกนับพันอาทิ สุนัข แมว แพะ โค กระบือ และสุกร ซึ่งยังคงไม่ทันการณ์ เป็นผลให้มวลน้ำจำนวนมหึมาไหลเข้าสู่ปางช้าง (ระดับน้ำสูงมากกว่า ๑.๕-๒.๐ เมตร เมื่อประเมินด้วยสายตา) การขนย้ายช้างนับร้อย เป็นเรื่องที่ยากและสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียมากทั้งชีวิตคนและช้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อช้างเหล่านี้มิได้ถูกฝึกหรือสื่อสารกับคนเลี้ยงอย่างใกล้ชิดมาก่อน เราเริ่มจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะพอช่วยเหลือสนับสนุนอะไรได้บ้าง

    คณะของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เริ่มเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อเช้าตรู่ของวันศุกร์ จากการร้องขอของเจ้าหน้าที่มูลนิธิทางโทรศัพท์ โดยเบื้องต้นรับทราบมาว่าให้ช่วยเคลื่อนย้ายและดูแลช้างเพศผู้ที่ยังอยู่ในคอกแต่ไม่สามารถออกมาได้ ในขณะที่ระดับน้ำกำลงัเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คณะทำงานถูกตามตัว รวมทีมและประชุมอย่างเร่งด่วน และออกเดินทางในช่วงสายของวันนั้น
    เมื่อแรกไปถึงพบว่าเส้นทางเข้าถึงปางช้างถูกตัดขาด ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก การติดต่อด้วยโทรศัพท์ไม่สามารถทำได้ ต้องสื่อสารผ่านวิทยุสื่อสารคลื่นสั้นเท่านั้น คณะจึงต้องรอจนถึงบ่ายแก่ๆจึงได้เรือจากหน่วยกู้ภัย จ.กาฬสินธิ์ ข้ามน้ำเพื่อไปดูช้างตัวผู้ในคอกต่างๆเพื่อประเมินสถานการณ์ เราพบว่าช้างตัวผู้ยังอยู่ครบทั้งสิบเชือก ในสภาพที่ช้างลอยคออยู่ภายในคอก แต่ที่แปลกใจคือยังมีช้างตัวเมียอีกหลายสิบเชือกติดค้างอยู่ในคอกด้วย บ้างก็พิการขาเป๋ ตาบอด และยังทราบอีกว่าช้างอีกหลายเชือกได้สูญหายลอยไปกับน้ำด้วย เมื่อช่วงก่อนหน้า ซึ่งต่อมาพบ
    ซากของช้างฟ้าใส(วันเฉลิม)และพลอยทอง เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสีย
    คณะจึงตัดสินใจแบ่งทีมงานออกเป็น ๒ ทีมเพื่อช่วยเหลือช้างให้ครอบคลุมทั้งสองกลุ่ม

    การดำเนินการในภาวะวิกฤติและเร่งด่วนเช่นนี้
    โดยหลักการแล้ว หากพบว่าช้างกับควาญสามารถสื่อสารกันได้ก็จะให้ควาญช้างเป็นผู้นำและกำหนดทิศทางการเดินของช้างเพื่อความปลอดภัย เพราะช้างเองมักเดินเฉพาะเส้นทางที่เคยชิน ซึ่งในกรณีนี้ช้างมักคุ้นชินกับการเดินแบบอิสระในทุ่งกว้างที่อยู่ติดกับน้ำแม่แตง ที่กำลังไหลเชี่ยว นับว่าอันตรายอย่างยิ่ง ฉะนั้นจึงจำเป็นที่ช้างเหล่านี้จะต้องมีควาญเป็นผู้ควบคุมทิศทาง

    ในกรณีช้างเพศเมียหรือช้างที่ไม่ดุร้าย
    หากช้างกับควาญมิได้มีปฏิสัมพันธ์กันมาก่อน หรือมีแต่เพียงเล็กน้อย ในทางทฤษฎีที่มีการเคลื่อนย้ายช้างป่ามักวางยาซึมและนำทางด้วยผ้าพรางแสงตลอดทางเดินเพื่อนำช้างไปยังจุดที่ต้องการ แต่ในกรณีนี้มีน้ำท่วมสูงจึงค่อนข้างเสี่ยงที่จะวางยาซึม (ยาซึมช้างมีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ทำให้งวงตกลงสู่พื้น) โดยในวันนั้นคณะทำงานที่ประกอบด้วยสัตวแพทย์ ควาญช้างจากสถาบันคชบาลแห่งชาติ ควาญพี่เบิ้ม(ปางที่อยู่ติดกัน) และภัทรฟาร์ม ซึ่งมีความชำนาญ ร่วมกับควาญช้างของมูลนิธิช่วยกันควบคุมและกำหนดเส้นทางด้วยเชือกให้ช้างเดินไปยังจุดที่ปลอดภัย แต่ก็ทุลักทุเลพอควรด้วยเพราะควาญกับช้างสื่อสารกันแทบไม่รู้เรื่อง วันนั้นทีมเราช่วยเหลือช้างตัวเมียได้บางส่วนจนกระทั่งมืดค่ำจึงยุติภารกิจในเวลา ๑๙.๓๐ น.

    ในกรณีช้างเพศผู้ เราไม่สามารถวางยาซึมช้างในขณะที่ยังอยู่ในน้ำได้ ซึ่งจากข้อมูลที่ทีมงานได้รับพบว่าช้างทุกเชือกไม่เคยผ่านการฝึกและบางเชือกมีประวัติทำร้ายคนมาก่อน จึงเกิดคำถามว่าหากเคลื่อนย้ายออกมาได้แล้วจะนำช้างไปผูกล่ามอย่างไร ที่ไหน ทั้งในภาวะซึมหรือปกติ ด้วยเพราะช้างไม่คุ้นเคยกับคนหรือช้างใดๆ ช้างแต่ละเชือกอยุ่ตัวเดียวในคอกมานาน ซึ่งจากการประเมินพบว่าช้างทุกเชือกยังมีสภาพร่างกายปกติ (ยกเว้นพลายขุนเดชที่บาดเจ็บที่ขาหน้า) ดังนั้นจึงใช้วิธีวางแท่นพยุงให้ช้างสามารถใช้งวงยึดพยุงมิให้จมน้ำ หากพบว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะจากประสบการณ์ตรงของคณะทำงานพบว่าช้างมักลอยน้ำและอยู่ในน้ำได้นานถึง ๒ วัน ๑ คืนในสภาพน้ำนิ่ง โดยไม่เกิดอันตราย ซึ่งจากสภาพช้างภายในคอกพบว่ากระแสน้ำยังคงไหลแต่ไม่เชี่ยวมากนักเมื่อเทียบกับในลำน้ำ ช้างน่าจะยังพอพยุงตัวเองไว้ได้ในระยะเวลาหนึ่ง ด้วยเพราะธรรมชาติของน้ำทางภาคเหนือมักมาเร็วไปเร็ว ไม่น่าจะท่วมนาน เราจึงกำหนดให้ทำแพต้นกล้วยไว้ให้ช้างเพื่อช่วยพยุง ต้นกล้วยยังเป็นอาหารและมีน้ำช่วยประทังชีวิตให้ช้างได้อีกด้วย ทั้งนี้ให้เฝ้าระวังพลายขุนเดชเป็นพิเศษ
    โชคดีในช่วงเย็นของวันเดียวกันระดับน้ำเริ่มลดระดับลง เป็นสัญญาณว่าน้ำน่าจะลดลงเป็นปกติในไม่ช้า

    วันรุ่งขึ้นระดับน้ำลดลง เหลือเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ ช้างเพศเมียถูกเคลื่อนย้ายขึ้นที่สูง ช้างตัวผู้ยังอยู่ในคอกของตัวเอง แต่ทุกตัวยังมีชีวิตอยู่แม้บางเชือกอาจแสดงอาการอ่อนเพลียบ้าง ดังนั้นการฟื้นฟูสุขภาพกาย และสภาวะจิตใจของช้างและควาญจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะโรคต่างๆที่มาหลังน้ำท่วม ก็ดี น้ำป่าที่อาจเข้าสู่ร่างกายช้างในช่วงก่อนหน้าทั้งทางเดินหายใจ ทางเดินอาหารก็ดี ดินโคลนที่มีรสชาดเย้ายวนต่อการลิ้มลองของช้างก็ดี หรือแม้กระทั่งอาหารที่อาจปนเปื้อน ที่ล้วนนำมาซึ่งความเจ็บป่วยของช้างเหล่านี้ได้ และสภาพจิตใจของช้างที่อาจตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การไม่คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เหล่านี้จำเป็นต้องฟื้นฟูและเฝ้าระวังกันต่อไป

    สรุปยอดรวมช้างในปางก่อนเกิดเหตุ จำนวน ๑๑๘ เชือก ภายหลังน้ำลด พบช้างเพศเมีย ๑๐๖ เชือก เป็นช้างเพศผู้ ๑๐ เชือก สูญหายและเสียชีวิต ๒ เชือก

    วันนี้ฝนตกเบาบางลงแล้ว แต่หากเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันอีก การเรียนรู้บทเรียนและเตรียมแผนเผชิญเหตุทั้งของปางและผู้เกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่ต้องจัดทำ
    แม้ในวันนี้ช้างบ้านของไทยจะมีสถานะเป็นทรัพย์สินของผู้ถือครองตามกฎหมาย (พรบ.สัตว์พาหนะ ) แต่จากเหตุการณ์หลายๆครั้งที่ผ่านมา ล้วนกระทบจิตใจคนไทยส่วนใหญ่ หลายส่วนยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองติดตามอย่างใกล้ชิด จึงเป็นสิ่งที่ทุกท่านพึงตระหนักให้ดีว่า "ช้าง" มีสถานะยิ่งกว่าทรัพย์สิน แต่เขาคือสิ่งที่มีคุณค่า ที่สูงค่าอันประเมินมูลค่ามิได้ ซึ่งเป็นสมบัติของคนไทยเราทุกคน

    ปล. ขอบคุณภาพมุมสูงจากคุณน้ำหนึ่ง

    https://www.facebook.com/share/p/zPKFtdBiFkUnLwdL/
    บันทึกเตือนความจำ ภัยธรรมชาติที่เกิดจากภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงสุดขั้วนำมาซึ่งปริมาณน้ำฝนที่ไหลหลั่งลงสู่แหล่งน้ำ จำนวนมหาศาล ไหลบ่าจากป่าสู่เมืองในที่ลุ่มต่ำ ในทางกลับกันเชื่อแน่ว่าไม่ช้าก็เร็วเราน่าจะเจอกับเหตุการณ์ในขั้วตรงกันข้ามคือแล้ง ร้อนสุดโต่งแน่ กันยายนต่อเนื่องถึงตุลาคม ฝนตกต่อเนื่องจนเกิดมวลน้ำจำนวนมหาศาลจากต้นน้ำแม่แตง ไหลเข้าสู่ลำน้ำแม่แตง สายน้ำแห่งการท่องเที่ยวธรรมชาติของเชียงใหม่ ที่ตลอดสองข้างลำน้ำมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมทั้งปางช้างต่างๆเรียงรายตลอดลำน้ำแม่แตง ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาจากรายงานของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (๒๕๕๘-๒๕๖๗) พบว่ามีปางช้างถึง ๔๙ ปาง (ช้างจำนวน ๕๔๖ เชือก) เหตุระทึกเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บ่ายวันพฤหัสที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ มวลน้ำจำนวนมากไหลบ่าล้นตลิ่งทั้งสองฝั่งของลำน้ำแม่แตงอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องจนถึงเช้ามืดวันศุกร์ น้ำเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว ช้างส่วนใหญ่ถูกอพยพนำขึ้นไปผูกล่ามไว้ในที่สูง ในขณะที่ปางช้างขนาดใหญ่ (มีช้างมากกว่าหนึ่งร้อยเชือก) ของมูลนิธิช้างและสิ่งแวดล้อม ยังคงสาละวนและพยายามขนย้ายช้างและสัตว์อื่นๆอีกนับพันอาทิ สุนัข แมว แพะ โค กระบือ และสุกร ซึ่งยังคงไม่ทันการณ์ เป็นผลให้มวลน้ำจำนวนมหึมาไหลเข้าสู่ปางช้าง (ระดับน้ำสูงมากกว่า ๑.๕-๒.๐ เมตร เมื่อประเมินด้วยสายตา) การขนย้ายช้างนับร้อย เป็นเรื่องที่ยากและสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียมากทั้งชีวิตคนและช้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อช้างเหล่านี้มิได้ถูกฝึกหรือสื่อสารกับคนเลี้ยงอย่างใกล้ชิดมาก่อน เราเริ่มจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะพอช่วยเหลือสนับสนุนอะไรได้บ้าง คณะของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เริ่มเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อเช้าตรู่ของวันศุกร์ จากการร้องขอของเจ้าหน้าที่มูลนิธิทางโทรศัพท์ โดยเบื้องต้นรับทราบมาว่าให้ช่วยเคลื่อนย้ายและดูแลช้างเพศผู้ที่ยังอยู่ในคอกแต่ไม่สามารถออกมาได้ ในขณะที่ระดับน้ำกำลงัเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คณะทำงานถูกตามตัว รวมทีมและประชุมอย่างเร่งด่วน และออกเดินทางในช่วงสายของวันนั้น เมื่อแรกไปถึงพบว่าเส้นทางเข้าถึงปางช้างถูกตัดขาด ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก การติดต่อด้วยโทรศัพท์ไม่สามารถทำได้ ต้องสื่อสารผ่านวิทยุสื่อสารคลื่นสั้นเท่านั้น คณะจึงต้องรอจนถึงบ่ายแก่ๆจึงได้เรือจากหน่วยกู้ภัย จ.กาฬสินธิ์ ข้ามน้ำเพื่อไปดูช้างตัวผู้ในคอกต่างๆเพื่อประเมินสถานการณ์ เราพบว่าช้างตัวผู้ยังอยู่ครบทั้งสิบเชือก ในสภาพที่ช้างลอยคออยู่ภายในคอก แต่ที่แปลกใจคือยังมีช้างตัวเมียอีกหลายสิบเชือกติดค้างอยู่ในคอกด้วย บ้างก็พิการขาเป๋ ตาบอด และยังทราบอีกว่าช้างอีกหลายเชือกได้สูญหายลอยไปกับน้ำด้วย เมื่อช่วงก่อนหน้า ซึ่งต่อมาพบ ซากของช้างฟ้าใส(วันเฉลิม)และพลอยทอง เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสีย คณะจึงตัดสินใจแบ่งทีมงานออกเป็น ๒ ทีมเพื่อช่วยเหลือช้างให้ครอบคลุมทั้งสองกลุ่ม การดำเนินการในภาวะวิกฤติและเร่งด่วนเช่นนี้ โดยหลักการแล้ว หากพบว่าช้างกับควาญสามารถสื่อสารกันได้ก็จะให้ควาญช้างเป็นผู้นำและกำหนดทิศทางการเดินของช้างเพื่อความปลอดภัย เพราะช้างเองมักเดินเฉพาะเส้นทางที่เคยชิน ซึ่งในกรณีนี้ช้างมักคุ้นชินกับการเดินแบบอิสระในทุ่งกว้างที่อยู่ติดกับน้ำแม่แตง ที่กำลังไหลเชี่ยว นับว่าอันตรายอย่างยิ่ง ฉะนั้นจึงจำเป็นที่ช้างเหล่านี้จะต้องมีควาญเป็นผู้ควบคุมทิศทาง ในกรณีช้างเพศเมียหรือช้างที่ไม่ดุร้าย หากช้างกับควาญมิได้มีปฏิสัมพันธ์กันมาก่อน หรือมีแต่เพียงเล็กน้อย ในทางทฤษฎีที่มีการเคลื่อนย้ายช้างป่ามักวางยาซึมและนำทางด้วยผ้าพรางแสงตลอดทางเดินเพื่อนำช้างไปยังจุดที่ต้องการ แต่ในกรณีนี้มีน้ำท่วมสูงจึงค่อนข้างเสี่ยงที่จะวางยาซึม (ยาซึมช้างมีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ทำให้งวงตกลงสู่พื้น) โดยในวันนั้นคณะทำงานที่ประกอบด้วยสัตวแพทย์ ควาญช้างจากสถาบันคชบาลแห่งชาติ ควาญพี่เบิ้ม(ปางที่อยู่ติดกัน) และภัทรฟาร์ม ซึ่งมีความชำนาญ ร่วมกับควาญช้างของมูลนิธิช่วยกันควบคุมและกำหนดเส้นทางด้วยเชือกให้ช้างเดินไปยังจุดที่ปลอดภัย แต่ก็ทุลักทุเลพอควรด้วยเพราะควาญกับช้างสื่อสารกันแทบไม่รู้เรื่อง วันนั้นทีมเราช่วยเหลือช้างตัวเมียได้บางส่วนจนกระทั่งมืดค่ำจึงยุติภารกิจในเวลา ๑๙.๓๐ น. ในกรณีช้างเพศผู้ เราไม่สามารถวางยาซึมช้างในขณะที่ยังอยู่ในน้ำได้ ซึ่งจากข้อมูลที่ทีมงานได้รับพบว่าช้างทุกเชือกไม่เคยผ่านการฝึกและบางเชือกมีประวัติทำร้ายคนมาก่อน จึงเกิดคำถามว่าหากเคลื่อนย้ายออกมาได้แล้วจะนำช้างไปผูกล่ามอย่างไร ที่ไหน ทั้งในภาวะซึมหรือปกติ ด้วยเพราะช้างไม่คุ้นเคยกับคนหรือช้างใดๆ ช้างแต่ละเชือกอยุ่ตัวเดียวในคอกมานาน ซึ่งจากการประเมินพบว่าช้างทุกเชือกยังมีสภาพร่างกายปกติ (ยกเว้นพลายขุนเดชที่บาดเจ็บที่ขาหน้า) ดังนั้นจึงใช้วิธีวางแท่นพยุงให้ช้างสามารถใช้งวงยึดพยุงมิให้จมน้ำ หากพบว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะจากประสบการณ์ตรงของคณะทำงานพบว่าช้างมักลอยน้ำและอยู่ในน้ำได้นานถึง ๒ วัน ๑ คืนในสภาพน้ำนิ่ง โดยไม่เกิดอันตราย ซึ่งจากสภาพช้างภายในคอกพบว่ากระแสน้ำยังคงไหลแต่ไม่เชี่ยวมากนักเมื่อเทียบกับในลำน้ำ ช้างน่าจะยังพอพยุงตัวเองไว้ได้ในระยะเวลาหนึ่ง ด้วยเพราะธรรมชาติของน้ำทางภาคเหนือมักมาเร็วไปเร็ว ไม่น่าจะท่วมนาน เราจึงกำหนดให้ทำแพต้นกล้วยไว้ให้ช้างเพื่อช่วยพยุง ต้นกล้วยยังเป็นอาหารและมีน้ำช่วยประทังชีวิตให้ช้างได้อีกด้วย ทั้งนี้ให้เฝ้าระวังพลายขุนเดชเป็นพิเศษ โชคดีในช่วงเย็นของวันเดียวกันระดับน้ำเริ่มลดระดับลง เป็นสัญญาณว่าน้ำน่าจะลดลงเป็นปกติในไม่ช้า วันรุ่งขึ้นระดับน้ำลดลง เหลือเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ ช้างเพศเมียถูกเคลื่อนย้ายขึ้นที่สูง ช้างตัวผู้ยังอยู่ในคอกของตัวเอง แต่ทุกตัวยังมีชีวิตอยู่แม้บางเชือกอาจแสดงอาการอ่อนเพลียบ้าง ดังนั้นการฟื้นฟูสุขภาพกาย และสภาวะจิตใจของช้างและควาญจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะโรคต่างๆที่มาหลังน้ำท่วม ก็ดี น้ำป่าที่อาจเข้าสู่ร่างกายช้างในช่วงก่อนหน้าทั้งทางเดินหายใจ ทางเดินอาหารก็ดี ดินโคลนที่มีรสชาดเย้ายวนต่อการลิ้มลองของช้างก็ดี หรือแม้กระทั่งอาหารที่อาจปนเปื้อน ที่ล้วนนำมาซึ่งความเจ็บป่วยของช้างเหล่านี้ได้ และสภาพจิตใจของช้างที่อาจตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การไม่คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เหล่านี้จำเป็นต้องฟื้นฟูและเฝ้าระวังกันต่อไป สรุปยอดรวมช้างในปางก่อนเกิดเหตุ จำนวน ๑๑๘ เชือก ภายหลังน้ำลด พบช้างเพศเมีย ๑๐๖ เชือก เป็นช้างเพศผู้ ๑๐ เชือก สูญหายและเสียชีวิต ๒ เชือก วันนี้ฝนตกเบาบางลงแล้ว แต่หากเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันอีก การเรียนรู้บทเรียนและเตรียมแผนเผชิญเหตุทั้งของปางและผู้เกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่ต้องจัดทำ แม้ในวันนี้ช้างบ้านของไทยจะมีสถานะเป็นทรัพย์สินของผู้ถือครองตามกฎหมาย (พรบ.สัตว์พาหนะ ) แต่จากเหตุการณ์หลายๆครั้งที่ผ่านมา ล้วนกระทบจิตใจคนไทยส่วนใหญ่ หลายส่วนยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองติดตามอย่างใกล้ชิด จึงเป็นสิ่งที่ทุกท่านพึงตระหนักให้ดีว่า "ช้าง" มีสถานะยิ่งกว่าทรัพย์สิน แต่เขาคือสิ่งที่มีคุณค่า ที่สูงค่าอันประเมินมูลค่ามิได้ ซึ่งเป็นสมบัติของคนไทยเราทุกคน ปล. ขอบคุณภาพมุมสูงจากคุณน้ำหนึ่ง https://www.facebook.com/share/p/zPKFtdBiFkUnLwdL/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • น้ำป่าแม่แตงทะลักท่วมศูนย์บริบาลช้าง ซ้ำเป็นรอบที่ 2 หลังวานนี้ต้องเร่งช่วยเหลืออพยพช้างชราและพิการกว่า 100 เชือก รวมทั้งสารพัดสัตว์ในความดูแลหลายพันชีวิตไปอยู่ในที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามล่าสุดยังมีช้าง 9 เชือกและวัวควายอีกกว่า 100 ตัว ติดค้างอยู่ พร้อมกับอาสาสมัครอีกกว่า 20 คน เบื้องต้นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสั่งการระดมกำลัง จนท.ให้การช่วยเหลือแล้ว แต่ยังติดอุปสรรคการเข้าถึงเนื่องจากเส้นทางถูกตัดขาด พบระดับน้ำท่วมสูงมิดหลังคา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094107

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    น้ำป่าแม่แตงทะลักท่วมศูนย์บริบาลช้าง ซ้ำเป็นรอบที่ 2 หลังวานนี้ต้องเร่งช่วยเหลืออพยพช้างชราและพิการกว่า 100 เชือก รวมทั้งสารพัดสัตว์ในความดูแลหลายพันชีวิตไปอยู่ในที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามล่าสุดยังมีช้าง 9 เชือกและวัวควายอีกกว่า 100 ตัว ติดค้างอยู่ พร้อมกับอาสาสมัครอีกกว่า 20 คน เบื้องต้นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสั่งการระดมกำลัง จนท.ให้การช่วยเหลือแล้ว แต่ยังติดอุปสรรคการเข้าถึงเนื่องจากเส้นทางถูกตัดขาด พบระดับน้ำท่วมสูงมิดหลังคา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094107 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Love
    32
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3105 มุมมอง 1 รีวิว
  • #thaitimesข่าว
    ☆IKEA x มูลนิธิกระจกเงา รับซื้อคืนเฟอร์นิเจอร์ ช่วยฟื้นฟูบ้านผู้ประสบภัย
    อุทกภัยภาคเหนือทิ้งร่องรอยความเสียหายเป็นวงกว้าง แม้ว่าน้ำจะพัดผ่านไปแล้วแต่ยังคงทิ้งความเสียหายให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ต่างๆ ที่ถูกน้ำซัด
    .
    มูลนิธิกระจกเงาจึงชวนสาวก IKEA ส่งต่อเฟอร์นิเจอร์ เป็นของตั้งต้นให้ผู้ประสบอุทกภัย ผ่าน IKEA ทุกสาขา
    .
    ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 67 – 31 ต.ค. นี้ IKEA มีแคมเปญ รับบริจาคและซื้อคืน เฟอร์นิเจอร์อิเกีย,เครื่องนอนอิเกียทุกชนิด เพื่อส่งต่อให้บ้านผู้ประสบอุทกภัย ผ่านภารกิจฟื้นฟู เติมของตั้งต้นกับอาสาล้างบ้าน มูลนิธิกระจกเงา
    .
    หากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่ใช้งานเฟอร์นิเจอร์จาก IKEA อาสาล้างบ้านมูลนิธิกระจกเงา ชวนมาส่งต่อเฟอร์นิเจอร์ด้วยกัน เพื่อให้บ้านที่โดนน้ำท่วมกลับมาเป็นบ้าน ที่สามารถกลับเข้าไปใช้ชีวิต ได้อีกครั้ง
    .
    ทั้งนี้ อิเกียรับซื้อคืนเฟอร์นิเจอร์ ผ่านบริการรับซื้อ-ขายเฟอร์นิเจอร์อิเกียเพื่อนำไปส่งต่อ หรือ ลูกค้าสามารถบริจาคเฟอร์นิเจอร์อิเกียได้ที่ อิเกีย บางนา อิเกีย บางใหญ่ และอิเกีย สุขุมวิท
    .
    ลูกค้าที่ต้องการขายเฟอร์นิเจอร์คืนให้กับอิเกีย สามารถเข้ารับบริการได้ที่​
    .
    อิเกีย บางนา บริเวณ Exchange & Return
    ​อิเกีย บางใหญ่ บริเวณ Exchange & Return
    อิเกีย สุขุมวิท ชั้น 4 บริเวณ Exchange & Return
    .
    ขั้นตอนการใช้บริการ
    .
    ขั้นตอนที่ 1
    อ่านคำแนะนำการใช้บริการรับซื้อ-ขายเฟอร์นิเจอร์อิเกีย
    .
    ขั้นตอนที่ 2
    นำเฟอร์นิเจอร์อิเกียที่ประกอบแล้วมาที่ อิเกีย บางใหญ่ หรือ อิเกีย บางนา พนักงานอิเกียจะเป็นผู้ตรวจสอบและประเมินเฟอร์นิเจอร์ของคุณเพื่อประเมินราคารับซื้อ
    .
    ขั้นตอนที่ 3
    เมื่อตกลงที่จะขายเฟอร์นิเจอร์ ในราคาดังกล่าว คุณจะได้รับบัตรของขวัญอิเกียเป็นจำนวนเงินดังกล่าวเพื่อนำไปใช้ซื้อสินค้าในสโตร์อิเกีย โดยบัตรของขวัญจะมีอายุ 2 ปี พนักงานอิเกียจะตรวจสอบสภาพเฟอร์นิเจอร์ของคุณที่สโตร์อิเกียก่อนแจ้งราคาประเมินตามสภาพสินค้า สินค้าที่นำมาขายคืนจะต้องเป็นสินค้าที่เข้าเงื่อนไขการรับซื้อคืนของอิเกีย
    .
    สินค้าใดบ้างที่อิเกียรับซื้อคืน
    .
    ณ ปัจจุบัน เรารับซื้อเฟอร์นิเจอร์อิเกียที่ใช้งานในครัวเรือนส่วนบุคคล ซึ่งยังใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ในจำนวนไม่เกิน 10 ชิ้นต่อวัน/ต่อคน
    .
    อิเกีย ยังไม่มีบริการรับซื้อคืนเฟอร์นิเจอร์ที่ลูกค้าซื้อจากเซอร์คิวลาร์ ช็อป หรือแผนกสินค้าตามสภาพ สินค้าตกแต่งบ้านจากมาร์เก็ตฮอล และเฟอร์นิเจอร์ที่ผ่านการใช้งานเชิงพาณิชย์
    .
    ☆ข้อมูลจากเพจ Brand Inside
    》》》
    https://www.facebook.com/share/GhXQziRFKsyoHn2A/?mibextid=qi2Omg
    ■■■■■■
    #BrandInide #ธุรกิจคิดใหม่ #IKEA #มูลนิธิกระจกเงา #อุทกภัย #น้ำป่า #บริจาคของ #thaitimes
    #thaitimesข่าว ☆IKEA x มูลนิธิกระจกเงา รับซื้อคืนเฟอร์นิเจอร์ ช่วยฟื้นฟูบ้านผู้ประสบภัย อุทกภัยภาคเหนือทิ้งร่องรอยความเสียหายเป็นวงกว้าง แม้ว่าน้ำจะพัดผ่านไปแล้วแต่ยังคงทิ้งความเสียหายให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ต่างๆ ที่ถูกน้ำซัด . มูลนิธิกระจกเงาจึงชวนสาวก IKEA ส่งต่อเฟอร์นิเจอร์ เป็นของตั้งต้นให้ผู้ประสบอุทกภัย ผ่าน IKEA ทุกสาขา . ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 67 – 31 ต.ค. นี้ IKEA มีแคมเปญ รับบริจาคและซื้อคืน เฟอร์นิเจอร์อิเกีย,เครื่องนอนอิเกียทุกชนิด เพื่อส่งต่อให้บ้านผู้ประสบอุทกภัย ผ่านภารกิจฟื้นฟู เติมของตั้งต้นกับอาสาล้างบ้าน มูลนิธิกระจกเงา . หากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่ใช้งานเฟอร์นิเจอร์จาก IKEA อาสาล้างบ้านมูลนิธิกระจกเงา ชวนมาส่งต่อเฟอร์นิเจอร์ด้วยกัน เพื่อให้บ้านที่โดนน้ำท่วมกลับมาเป็นบ้าน ที่สามารถกลับเข้าไปใช้ชีวิต ได้อีกครั้ง . ทั้งนี้ อิเกียรับซื้อคืนเฟอร์นิเจอร์ ผ่านบริการรับซื้อ-ขายเฟอร์นิเจอร์อิเกียเพื่อนำไปส่งต่อ หรือ ลูกค้าสามารถบริจาคเฟอร์นิเจอร์อิเกียได้ที่ อิเกีย บางนา อิเกีย บางใหญ่ และอิเกีย สุขุมวิท . ลูกค้าที่ต้องการขายเฟอร์นิเจอร์คืนให้กับอิเกีย สามารถเข้ารับบริการได้ที่​ . อิเกีย บางนา บริเวณ Exchange & Return ​อิเกีย บางใหญ่ บริเวณ Exchange & Return อิเกีย สุขุมวิท ชั้น 4 บริเวณ Exchange & Return . ขั้นตอนการใช้บริการ . ขั้นตอนที่ 1 อ่านคำแนะนำการใช้บริการรับซื้อ-ขายเฟอร์นิเจอร์อิเกีย . ขั้นตอนที่ 2 นำเฟอร์นิเจอร์อิเกียที่ประกอบแล้วมาที่ อิเกีย บางใหญ่ หรือ อิเกีย บางนา พนักงานอิเกียจะเป็นผู้ตรวจสอบและประเมินเฟอร์นิเจอร์ของคุณเพื่อประเมินราคารับซื้อ . ขั้นตอนที่ 3 เมื่อตกลงที่จะขายเฟอร์นิเจอร์ ในราคาดังกล่าว คุณจะได้รับบัตรของขวัญอิเกียเป็นจำนวนเงินดังกล่าวเพื่อนำไปใช้ซื้อสินค้าในสโตร์อิเกีย โดยบัตรของขวัญจะมีอายุ 2 ปี พนักงานอิเกียจะตรวจสอบสภาพเฟอร์นิเจอร์ของคุณที่สโตร์อิเกียก่อนแจ้งราคาประเมินตามสภาพสินค้า สินค้าที่นำมาขายคืนจะต้องเป็นสินค้าที่เข้าเงื่อนไขการรับซื้อคืนของอิเกีย . สินค้าใดบ้างที่อิเกียรับซื้อคืน . ณ ปัจจุบัน เรารับซื้อเฟอร์นิเจอร์อิเกียที่ใช้งานในครัวเรือนส่วนบุคคล ซึ่งยังใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ในจำนวนไม่เกิน 10 ชิ้นต่อวัน/ต่อคน . อิเกีย ยังไม่มีบริการรับซื้อคืนเฟอร์นิเจอร์ที่ลูกค้าซื้อจากเซอร์คิวลาร์ ช็อป หรือแผนกสินค้าตามสภาพ สินค้าตกแต่งบ้านจากมาร์เก็ตฮอล และเฟอร์นิเจอร์ที่ผ่านการใช้งานเชิงพาณิชย์ . ☆ข้อมูลจากเพจ Brand Inside 》》》 https://www.facebook.com/share/GhXQziRFKsyoHn2A/?mibextid=qi2Omg ■■■■■■ #BrandInide #ธุรกิจคิดใหม่ #IKEA #มูลนิธิกระจกเงา #อุทกภัย #น้ำป่า #บริจาคของ #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 776 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/XvY2jAc1IAc?si=CCk0be0sl4bWGoPm
    การตัดไม้ทำไมป่าการปลูกต้นยางการบุกรุกทำลายป่าเป็นสาเหตุที่ทำให้กินโคนถล่มน้ำป่าไหลหลาก
    https://youtu.be/XvY2jAc1IAc?si=CCk0be0sl4bWGoPm การตัดไม้ทำไมป่าการปลูกต้นยางการบุกรุกทำลายป่าเป็นสาเหตุที่ทำให้กินโคนถล่มน้ำป่าไหลหลาก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • 26 กันยายน 2567-ทัศนะของดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อม ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์สาเหตุน้ำท่วมภาคเหนือว่า

    “ ปลูกพืช ทำเกษตรกรรมบนภูเขาทำได้อย่างไร? กฎหมายชัดเจนแต่ปล่อยปะละเลย สาเหตุหลักของการทำให้เกิดน้ำท่วมภาคเหนือรุนแรงในปีนี้

    1..คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2528 เห็นชอบด้วยกับนโยบายป่าไม้แห่งชาติตามมติของคณะกรรมการสิ่งแวด
    ล้อมแห่งชาติ กำหนดให้พื้นที่ที่มีความลาดชันโดยเฉลี่ย 35% ขึ้นไปเป็นพื้นที่ป่าไม้โดยไม่อนุญาตให้มีการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามประมวลกฎหมายที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่ที่มีความลาดชันโดยเฉลี่ย 35 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปเป็นพื้นที่ที่มีการชะล้างหน้าดินสูงไม่เหมาะสมแก่ การทำเกษตรกรรม สมควรเป็นพื้นที่ป่าไม้และไม่อนุญาตให้มีการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน แต่ไม่รวมถึงที่ดินซึ่งผู้ครอบครองมีสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายที่ดินคือครอบครองมาก่อนอย่างถูกกฎหมายก่อนวันที่1ธค. 2497หรือมีหลักฐานครอบครอง เช่น นส 3 ก หรือ สค.1

    2. กฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497ข้อ14 (2)กำหนดให้พื้นที่เขา ที่ภูเขาและปริมณ ฑลรอบที่เขาหรือภูเขาระยะ40เมตร เป็นพื้นที่ต้องห้ามไม่ให้ออกโฉนดที่ดิน แต่ไม่รวมถึงที่ดินที่ผู้ครอบครองมีสิทธิครอบครองโดยชอบตามประมวลกฎหมายที่ ดิน(ได้มาก่อน1ธค.2497)

    3.คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 9 พฤษภา คม 2538กำหนดนิยามของ เขา หมายถึง ส่วนของพื้นที่ที่สูงจากบริเวณรอบ ๆ (Surrounding) น้อยกว่า 600 เมตร ปรากฎในแผนที่ว่าเป็นเขา พื้นลาดชันร้อยละ 20- 35และที่ภูเขา หมายถึงส่วนของพื้นที่ที่สูงจากบริเวณรอบๆ (Surrounding) ตั้งแต่ 600 เมตร ขึ้นไปพื้นที่ลาดชันมากกว่าร้อยละ 35

    4.ผู้บุกรุกป่าที่ถูกจับในกรณีแผ่วถ้างหรือเผาป่า เพื่อที่จะได้ครอบครองที่ดินนั้นในเขตอุทยานแห่งชาติ หรืออุทยานต่างๆ ของประเทศไทยจะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี หรือปรับสูงถึง 2 ล้านบาท นอกจากนี้ห้ามยึดถือ/ครอบครอง/ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัย/ก่อสร้าง/แผ้วถาง/เผาป่า/ทำไม้/เก็บหาของป่า หรือทำให้ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมสภาพ บทลงโทษ : จำคุก 1 – 10 ปี และปรับ 20,000 – 200,000 บาท

    5. จากกฎหมายดังกล่าว ประชาชนได้บุก รุกภูเขาไปปลูกพืช ทำเกษตรกรรมได้อย่างไร? หน่วยงานภาครัฐที่ดูแลพื้นที่ยินยอมได้อย่างไร?..สุดท้าย ฝนตกหนัก น้ำป่าจากภูเขาไหลเชี่ยวกราก พัดพาดินโคลนจากภูเขามาถล่มเมืองในพื้นที่ราบ ทั้งเชียงราย เชียงใหม่ แพร่ น่าน ลำปาง เป็นต้นในปี2567เพราะทำลายทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โค่นป่า ปลูกพืชล้มลุกบนภูเขาทำผิดกฎหมายแต่เจ้าหน้าปล่อยปะละเลย”

    #Thaitimes
    26 กันยายน 2567-ทัศนะของดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อม ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์สาเหตุน้ำท่วมภาคเหนือว่า “ ปลูกพืช ทำเกษตรกรรมบนภูเขาทำได้อย่างไร? กฎหมายชัดเจนแต่ปล่อยปะละเลย สาเหตุหลักของการทำให้เกิดน้ำท่วมภาคเหนือรุนแรงในปีนี้ 1..คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2528 เห็นชอบด้วยกับนโยบายป่าไม้แห่งชาติตามมติของคณะกรรมการสิ่งแวด ล้อมแห่งชาติ กำหนดให้พื้นที่ที่มีความลาดชันโดยเฉลี่ย 35% ขึ้นไปเป็นพื้นที่ป่าไม้โดยไม่อนุญาตให้มีการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามประมวลกฎหมายที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่ที่มีความลาดชันโดยเฉลี่ย 35 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปเป็นพื้นที่ที่มีการชะล้างหน้าดินสูงไม่เหมาะสมแก่ การทำเกษตรกรรม สมควรเป็นพื้นที่ป่าไม้และไม่อนุญาตให้มีการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน แต่ไม่รวมถึงที่ดินซึ่งผู้ครอบครองมีสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายที่ดินคือครอบครองมาก่อนอย่างถูกกฎหมายก่อนวันที่1ธค. 2497หรือมีหลักฐานครอบครอง เช่น นส 3 ก หรือ สค.1 2. กฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497ข้อ14 (2)กำหนดให้พื้นที่เขา ที่ภูเขาและปริมณ ฑลรอบที่เขาหรือภูเขาระยะ40เมตร เป็นพื้นที่ต้องห้ามไม่ให้ออกโฉนดที่ดิน แต่ไม่รวมถึงที่ดินที่ผู้ครอบครองมีสิทธิครอบครองโดยชอบตามประมวลกฎหมายที่ ดิน(ได้มาก่อน1ธค.2497) 3.คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 9 พฤษภา คม 2538กำหนดนิยามของ เขา หมายถึง ส่วนของพื้นที่ที่สูงจากบริเวณรอบ ๆ (Surrounding) น้อยกว่า 600 เมตร ปรากฎในแผนที่ว่าเป็นเขา พื้นลาดชันร้อยละ 20- 35และที่ภูเขา หมายถึงส่วนของพื้นที่ที่สูงจากบริเวณรอบๆ (Surrounding) ตั้งแต่ 600 เมตร ขึ้นไปพื้นที่ลาดชันมากกว่าร้อยละ 35 4.ผู้บุกรุกป่าที่ถูกจับในกรณีแผ่วถ้างหรือเผาป่า เพื่อที่จะได้ครอบครองที่ดินนั้นในเขตอุทยานแห่งชาติ หรืออุทยานต่างๆ ของประเทศไทยจะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี หรือปรับสูงถึง 2 ล้านบาท นอกจากนี้ห้ามยึดถือ/ครอบครอง/ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัย/ก่อสร้าง/แผ้วถาง/เผาป่า/ทำไม้/เก็บหาของป่า หรือทำให้ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมสภาพ บทลงโทษ : จำคุก 1 – 10 ปี และปรับ 20,000 – 200,000 บาท 5. จากกฎหมายดังกล่าว ประชาชนได้บุก รุกภูเขาไปปลูกพืช ทำเกษตรกรรมได้อย่างไร? หน่วยงานภาครัฐที่ดูแลพื้นที่ยินยอมได้อย่างไร?..สุดท้าย ฝนตกหนัก น้ำป่าจากภูเขาไหลเชี่ยวกราก พัดพาดินโคลนจากภูเขามาถล่มเมืองในพื้นที่ราบ ทั้งเชียงราย เชียงใหม่ แพร่ น่าน ลำปาง เป็นต้นในปี2567เพราะทำลายทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โค่นป่า ปลูกพืชล้มลุกบนภูเขาทำผิดกฎหมายแต่เจ้าหน้าปล่อยปะละเลย” #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1604 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยและทรงพระเมตตา ทรงจัดทำถุงพระราชทานสำหรับเด็กเพื่อเชิญไปพระราชแก่ผู้ประสบอุทกภัยในภาคต่างๆ

    เมื่อวันอังคารที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๘.๒๗ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรงบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ลงในถุงพระราชทานสำหรับเด็ก จำนวน ๑,๐๐๐ ถุง เพื่อเชิญไปพระราชทานแก่เด็กในพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคต่างๆ

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กแรกเกิดและเด็กเล็กที่ประสบอุทกภัยร้ายแรง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดทำถุงพระราชทานสำหรับเด็กเล็กและจัดหาสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็กบรรจุลงในถุงพระราชทาน อาทิ ตุ๊กตาผ้าห่ม เป้อุ้มเด็ก นมผง อาหารเด็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป สำลี ฟองน้ำเช็ดตัว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์ซักล้างสำหรับเด็ก โดยจัดพระราชทานสำหรับเด็กตั้งแต่
    แรกเกิดถึงอายุ ๒ ปี เพิ่มเติมจากถุงพระราชทานทั่วไป

    ทั้งนี้ จากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศไทย เป็นเหตุให้เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ในบริเวณพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อยู่ติดแม่น้ำโขง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน บาดเจ็บ และเสียชีวิต รวมถึงเกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ องคมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับหน่วยราชการในพระองค์ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของราษฎรในเบื้องต้น โดยนำสิ่งของพระราชทานไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ ตาก พิษณุโลก หนองคาย และจังหวัดเลย อีกทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน และจัดรถครัวสนามปรุงอาหารให้กับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ที่ประสบภัยต่าง ๆ เมื่อสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย แต่ยังมีความจำเป็นในการฟื้นฟูและ
    ทำความสะอาดบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีดินโคลนที่มากับน้ำเป็นจำนวนมากทับถมอยู่ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง พร้อมอุปกรณ์ประกอบ ให้แก่กองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สำหรับนำไปช่วยเหลือราษฎร ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่ช่วยทุ่นแรงในการทำความสะอาดและฟื้นฟูบ้านเรือน ที่สาธารณประโยชน์ วัด ถนน และสถานที่ราชการ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และช่วยให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปรกติโดยเร็ว นอกจากนั้น พระมหากรุณาธิคุณยังครอบคลุมถึงกลุ่มบุคคลที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนด้วยจิตสาธารณะ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่และจิตอาสาเสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติงาน ในการนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพวงมาลาไปวางที่หน้าหีบศพผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการศพแก่จิตอาสาที่เสียชีวิต พระราชทานทุนการศึกษาแก่บุตรของผู้เสียชีวิต รวมทั้งทรงรับจิตอาสาที่ได้รับบาดเจ็บไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงติดตามสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด โดยมีพระเมตตาและพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณในการพระราชทานความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมทั้งได้มีพระราชกระแสทรงห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยจากเหตุดังกล่าว และมีพระราชกระแสทรงชื่นชม และพระราชทานกำลังใจ แก่จิตอาสาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งต่างเสียสละกำลังกาย กำลังปัญญา และกำลังทรัพย์ มาร่วมกันปฏิบัติการให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย แม้การช่วยเหลือจะเป็นไปอย่างยากลำบากท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยว และข้อจำกัดต่าง ๆ แต่ทุกภาคส่วน และจิตอาสา ต่างร่วมมือร่วมใจกันอย่างเต็มกำลัง ด้วยความรัก ความปรารถนาดี
    ต่อกัน เป็นเครื่องมือสำคัญทำให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เป็นไปตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในการให้ทุกคนมีจิตอาสา พร้อมที่จะเสียสละ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนสามารถทำให้สถานการณ์รุนแรงคลี่คลายลงได้ตามลำดับ

    #ทรงพระเจริญ
    #สืบสานรักษาต่อยอด
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยและทรงพระเมตตา ทรงจัดทำถุงพระราชทานสำหรับเด็กเพื่อเชิญไปพระราชแก่ผู้ประสบอุทกภัยในภาคต่างๆ เมื่อวันอังคารที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๘.๒๗ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรงบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ลงในถุงพระราชทานสำหรับเด็ก จำนวน ๑,๐๐๐ ถุง เพื่อเชิญไปพระราชทานแก่เด็กในพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคต่างๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กแรกเกิดและเด็กเล็กที่ประสบอุทกภัยร้ายแรง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดทำถุงพระราชทานสำหรับเด็กเล็กและจัดหาสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็กบรรจุลงในถุงพระราชทาน อาทิ ตุ๊กตาผ้าห่ม เป้อุ้มเด็ก นมผง อาหารเด็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป สำลี ฟองน้ำเช็ดตัว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์ซักล้างสำหรับเด็ก โดยจัดพระราชทานสำหรับเด็กตั้งแต่ แรกเกิดถึงอายุ ๒ ปี เพิ่มเติมจากถุงพระราชทานทั่วไป ทั้งนี้ จากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศไทย เป็นเหตุให้เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ในบริเวณพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อยู่ติดแม่น้ำโขง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน บาดเจ็บ และเสียชีวิต รวมถึงเกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ องคมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับหน่วยราชการในพระองค์ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของราษฎรในเบื้องต้น โดยนำสิ่งของพระราชทานไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ ตาก พิษณุโลก หนองคาย และจังหวัดเลย อีกทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน และจัดรถครัวสนามปรุงอาหารให้กับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ที่ประสบภัยต่าง ๆ เมื่อสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย แต่ยังมีความจำเป็นในการฟื้นฟูและ ทำความสะอาดบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีดินโคลนที่มากับน้ำเป็นจำนวนมากทับถมอยู่ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง พร้อมอุปกรณ์ประกอบ ให้แก่กองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สำหรับนำไปช่วยเหลือราษฎร ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่ช่วยทุ่นแรงในการทำความสะอาดและฟื้นฟูบ้านเรือน ที่สาธารณประโยชน์ วัด ถนน และสถานที่ราชการ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และช่วยให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปรกติโดยเร็ว นอกจากนั้น พระมหากรุณาธิคุณยังครอบคลุมถึงกลุ่มบุคคลที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนด้วยจิตสาธารณะ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่และจิตอาสาเสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติงาน ในการนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพวงมาลาไปวางที่หน้าหีบศพผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการศพแก่จิตอาสาที่เสียชีวิต พระราชทานทุนการศึกษาแก่บุตรของผู้เสียชีวิต รวมทั้งทรงรับจิตอาสาที่ได้รับบาดเจ็บไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงติดตามสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด โดยมีพระเมตตาและพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณในการพระราชทานความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมทั้งได้มีพระราชกระแสทรงห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยจากเหตุดังกล่าว และมีพระราชกระแสทรงชื่นชม และพระราชทานกำลังใจ แก่จิตอาสาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งต่างเสียสละกำลังกาย กำลังปัญญา และกำลังทรัพย์ มาร่วมกันปฏิบัติการให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย แม้การช่วยเหลือจะเป็นไปอย่างยากลำบากท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยว และข้อจำกัดต่าง ๆ แต่ทุกภาคส่วน และจิตอาสา ต่างร่วมมือร่วมใจกันอย่างเต็มกำลัง ด้วยความรัก ความปรารถนาดี ต่อกัน เป็นเครื่องมือสำคัญทำให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เป็นไปตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในการให้ทุกคนมีจิตอาสา พร้อมที่จะเสียสละ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนสามารถทำให้สถานการณ์รุนแรงคลี่คลายลงได้ตามลำดับ #ทรงพระเจริญ #สืบสานรักษาต่อยอด
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 48 0 รีวิว
  • ♣ น้ำป่าหลากภาคเหนือ ซัดสะเทือนถึงนักการเมือง
    #7ดอกจิก
    ♣ น้ำป่าหลากภาคเหนือ ซัดสะเทือนถึงนักการเมือง #7ดอกจิก
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 248 0 รีวิว
  • ขายที่ดินแบ่งขายแก่งคอยสระบุรี ฮวงจุ้ยดีเยี่ยม ที่ดินท้องมังกร
    ขายที่ดินแบ่งขายแก่งคอยสระบุรี ฮวงจุ้ยดีเยี่ยม ที่ดินท้องมังกร

    ที่ดินแบ่งขาย ติดแม่น้ำป่าสัก แก่งคอย ใจกลางเมืองแก่งคอย
    ถนนสุดบรรทัด ใกล้ห้างโลตัสแก่งคอย ที่ดินท้องมังกร ตามหลัก
    ฮวงจุ้ย การเดินทางสะดวก ใกล้สถานีรถไฟความเร็วสูงสระบุรี แก่งคอย จ.สระบุรี

    **ราคาแปลง 100 ตรว. : 1,600,000 บาท

    **รายละเอียด**
    -ที่ดินแบ่งขายเริ่มต้นที่ 100 ตรว.
    -ราคาเริ่มต้น (ผังสีแดง/ผังสีเขียว) ตรว.ละ 16,000 บาท /ตรว.
    -ราคาเริ่มต้น (ผังสีฟ้า) ตรว.ละ 25,000 บาท /ตรว.

    *ที่ดินแบ่งเป็น 3 โซน
    (1) ที่ดินโซน - สีแดง : ราคา 16,000 บาท / ตรว.
    (2) ที่ดินโซน-สีเขียว : ราคา 16,000 บาท / ตรว.
    (3) ที่ดินโซน-สีฟ้า (ติดแม่น้ำ) : ราคา 25,000 บาท / ตรว.

    **จุดเด่นภายในโครงการ**
    -ที่ดินถมแล้ว
    -ถนนสาธารณะภายในโครงการ กว้าง 10 เมตร
    -มีลานกิจกรรม และทางเดินลงสูุ่แม่น้ำป่าสัก ให้ลูกบ้าน
    ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
    -โครงการตั้งอยู่ถนนสุดบรรทัด ใจกลางเมืองแก่งคอย
    -อนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติ ร่มรื่น
    -อยู่ใกล้ชุมชน ร้านค้า ห้างสะดวกสบายในการใช้ชีวิต
    -เหมาะเป็นบ้านพักตากอากาศ
    -ที่ดินศักยภาพสูง ราคาถูก เหมาะกับการลงทุน
    -ที่ดินสามารถซื้อสด หรือทำสินเชื่อธนาคาร ยื่นกู้ที่ดินเปล่าได้ถึง 80% จากราคาขาย

    **เงื่อนไขการจองที่ดิน
    -ซื้อสด
    -ชำระโดยสินเชื่อธนาคาร
    -ยื่นขอสินเชื่อ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง
    -ผ่อนชำระกับทางบริษัท เริ่มผ่อนต่อกับโครงการได้ 120 งวดแบบโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าและจดจำนองกับบริษัท ดอกเบี้ย 8.5%ต่อปี แบบลดต้นลดดอก

    **สถานที่ใกล้เคียง**
    -ห้างโลตัส แก่งคอย และโรบินสัน แก่งคอย
    -โรงเรียนแก่งคอยวิทยา
    -ตลาดสด
    -ธนาคาร ปั๊มน้ำมัน
    -ใกล้สถานีรถไฟความเร็วสูงสระบุรี แก่งคอย
    ทางด่วนพิเศษ บางปะอิน-โคราช , และทางด่วน
    โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี

    **สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม :
    โทร : 081-822-6553

    รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์
    ทุกชนิด "ฟรี" ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้
    พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ
    จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน

    #ขายที่ดิน #ที่ดินแก่งคอย
    ขายที่ดินแบ่งขายแก่งคอยสระบุรี ฮวงจุ้ยดีเยี่ยม ที่ดินท้องมังกร ขายที่ดินแบ่งขายแก่งคอยสระบุรี ฮวงจุ้ยดีเยี่ยม ที่ดินท้องมังกร ที่ดินแบ่งขาย ติดแม่น้ำป่าสัก แก่งคอย ใจกลางเมืองแก่งคอย ถนนสุดบรรทัด ใกล้ห้างโลตัสแก่งคอย ที่ดินท้องมังกร ตามหลัก ฮวงจุ้ย การเดินทางสะดวก ใกล้สถานีรถไฟความเร็วสูงสระบุรี แก่งคอย จ.สระบุรี **ราคาแปลง 100 ตรว. : 1,600,000 บาท **รายละเอียด** -ที่ดินแบ่งขายเริ่มต้นที่ 100 ตรว. -ราคาเริ่มต้น (ผังสีแดง/ผังสีเขียว) ตรว.ละ 16,000 บาท /ตรว. -ราคาเริ่มต้น (ผังสีฟ้า) ตรว.ละ 25,000 บาท /ตรว. *ที่ดินแบ่งเป็น 3 โซน (1) ที่ดินโซน - สีแดง : ราคา 16,000 บาท / ตรว. (2) ที่ดินโซน-สีเขียว : ราคา 16,000 บาท / ตรว. (3) ที่ดินโซน-สีฟ้า (ติดแม่น้ำ) : ราคา 25,000 บาท / ตรว. **จุดเด่นภายในโครงการ** -ที่ดินถมแล้ว -ถนนสาธารณะภายในโครงการ กว้าง 10 เมตร -มีลานกิจกรรม และทางเดินลงสูุ่แม่น้ำป่าสัก ให้ลูกบ้าน ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน -โครงการตั้งอยู่ถนนสุดบรรทัด ใจกลางเมืองแก่งคอย -อนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติ ร่มรื่น -อยู่ใกล้ชุมชน ร้านค้า ห้างสะดวกสบายในการใช้ชีวิต -เหมาะเป็นบ้านพักตากอากาศ -ที่ดินศักยภาพสูง ราคาถูก เหมาะกับการลงทุน -ที่ดินสามารถซื้อสด หรือทำสินเชื่อธนาคาร ยื่นกู้ที่ดินเปล่าได้ถึง 80% จากราคาขาย **เงื่อนไขการจองที่ดิน -ซื้อสด -ชำระโดยสินเชื่อธนาคาร -ยื่นขอสินเชื่อ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง -ผ่อนชำระกับทางบริษัท เริ่มผ่อนต่อกับโครงการได้ 120 งวดแบบโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าและจดจำนองกับบริษัท ดอกเบี้ย 8.5%ต่อปี แบบลดต้นลดดอก **สถานที่ใกล้เคียง** -ห้างโลตัส แก่งคอย และโรบินสัน แก่งคอย -โรงเรียนแก่งคอยวิทยา -ตลาดสด -ธนาคาร ปั๊มน้ำมัน -ใกล้สถานีรถไฟความเร็วสูงสระบุรี แก่งคอย ทางด่วนพิเศษ บางปะอิน-โคราช , และทางด่วน โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี **สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : โทร : 081-822-6553 รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์ ทุกชนิด "ฟรี" ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้ พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน #ขายที่ดิน #ที่ดินแก่งคอย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 685 มุมมอง 0 รีวิว
  • ที่ดินแปลงสวยแบ่งขาย วิวแม่น้ำป่าสัก ที่ดินเปล่าราคาถูก ที่ทำเลดี โครงการแก่งคอย ริเวอร์ไซด์ จ.สระบุรี
    ที่ดินแบ่งขาย (ซื้อสด/ผ่อนธนาคาร)
    ที่ดินศักยภาพสูง กู้ Bank ได้ 80%

    ขายที่ดินแก่งคอยสระบุรี
    - เริ่มต้น 100 ตร.ว ขึ้นไป
    - ผังสีเขียว ราคา ตร.ว ละ 16,000 บาท
    - ผังสีแดง ราคา ตร.ว ละ 16,000 บาท
    - ผังสีฟ้า ราคา ตร.ว ละ 25,000 บาท
    - ขายที่ดินเปล่า ผ่อนตรงบริษัทได้
    - ไม่มีเครดิตก็กู้ได้ / ผ่อนตรง / จำนองกับบริษัท โอนโฉนดให้เลย

    จุดเด่นที่น่าสนใจ
    - โครงการตั้งอยู่ถนนสุดบรรทัด ใจกลางเมืองแก่งคอย
    - อนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติ ร่มรื่น
    - อยู่ใกล้ชุมชน ร้านค้า ห้างสะดวกสบายในการใช้ชีวิต
    - เหมาะเป็นบ้านพักตากอากาศ

    สถานที่ใกล้เคียง
    - ห้างโลตัส แก่งคอย
    - โรงเรียนแก่งคอยวิทยา
    - ตลาดสด
    - ธนาคาร ปั๊มน้ำมัน
    - สถานีรถไฟ

    #ขายที่ดินสระบุรี #ขายที่ดิน
    ที่ดินแปลงสวยแบ่งขาย วิวแม่น้ำป่าสัก ที่ดินเปล่าราคาถูก ที่ทำเลดี โครงการแก่งคอย ริเวอร์ไซด์ จ.สระบุรี ที่ดินแบ่งขาย (ซื้อสด/ผ่อนธนาคาร) ที่ดินศักยภาพสูง กู้ Bank ได้ 80% ขายที่ดินแก่งคอยสระบุรี - เริ่มต้น 100 ตร.ว ขึ้นไป - ผังสีเขียว ราคา ตร.ว ละ 16,000 บาท - ผังสีแดง ราคา ตร.ว ละ 16,000 บาท - ผังสีฟ้า ราคา ตร.ว ละ 25,000 บาท - ขายที่ดินเปล่า ผ่อนตรงบริษัทได้ - ไม่มีเครดิตก็กู้ได้ / ผ่อนตรง / จำนองกับบริษัท โอนโฉนดให้เลย จุดเด่นที่น่าสนใจ - โครงการตั้งอยู่ถนนสุดบรรทัด ใจกลางเมืองแก่งคอย - อนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติ ร่มรื่น - อยู่ใกล้ชุมชน ร้านค้า ห้างสะดวกสบายในการใช้ชีวิต - เหมาะเป็นบ้านพักตากอากาศ สถานที่ใกล้เคียง - ห้างโลตัส แก่งคอย - โรงเรียนแก่งคอยวิทยา - ตลาดสด - ธนาคาร ปั๊มน้ำมัน - สถานีรถไฟ #ขายที่ดินสระบุรี #ขายที่ดิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 57 0 รีวิว
  • ข้าวเหนียวห่อใบตอง จากใจฅนดอยคำ

    เมื่อวันก่อนมีภาพข้าวเหนียวไก่ย่างห่อใบตองติดป้ายดอยคำ ที่นำไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดเชียงราย ถูกนำไปโจมตี ผลก็คือมีชาวเน็ตจำนวนมากตอบโต้ ถึงข้อดีของการนำอาหารห่อใบตอง เมื่อเทียบกับกล่องพลาสติกหรือโฟม เพราะเมื่อทิ้งเป็นขยะ ใบตองสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ นอกจากนี้ เมนูข้าวเหนียวสามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่เน่าเสียง่าย

    ต่อมาเฟซบุ๊กเพจ ดอยคำ - Doi Kham ของบริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เผยแพร่ภาพที่บริษัทฯ มอบหมายให้โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 2 (แม่จัน) พร้อมด้วยฅนดอยคำ ร่วมแรงร่วมใจกัน จัดทำข้าวเหนียวไก่ทอดห่อใบตองเพิ่มจำนวน 500 ชุด สำหรับนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอแม่สาย และ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยได้รับสนับสนุนเงินบริจาคจากเจ้าหน้าที่ พนักงานฅนดอยคำ ประจำสำนักงานใหญ่และโรงงานหลวงฯ ทั้ง 3 แห่ง นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม น้ำผลไม้พร้อมดื่ม ข้าวสารและอาหารแห้งอีกด้วย

    หนึ่งในภาพที่นำมาเผยแพร่ เป็นกระบวนการผลิตข้าวเหนียวไก่ทอดห่อใบตอง ที่พบว่าพนักงานพิถีพัถัน โดยเฉพาะการสวมหมวกคุมศีรษะ การใช้ถุงมือในการปรุงอาหาร และหยิบจับอาหารมาบรรจุลงในใบตอง แสดงให้เห็นถึงการปฎิบัติตามหลักความปลอดภัยทางอาหาร (Food Safety) อย่างสม่ำเสมอ แม้จะเป็นกิจกรรมทำอาหารเพื่อแจกจ่ายก็ตาม

    สำหรับดอยคำก่อตั้งเมื่อปี 2537 ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมผลไม้แปรรูป ในรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ส่งเสริมการเพาะปลูกและรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรในราคาที่เป็นธรรม โดยมีกำไรพอเพียงเลี้ยงตัวเองได้ ใช้ในการดูแลพนักงาน นำกลับมารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด และวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ปัจจุบันมีโรงงานอาหารสำเร็จรูป 3 แห่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และสกลนคร

    ข้อมูลจากสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30 กล่าวถึงการใช้ประโยชน์จากใบตองว่า ใช้ในการห่อผักสดและอาหาร เนื่องจากใบตองสดมีความชื้น ช่วยรักษาผักหรืออาหารให้สดอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังทนทานต่อความเย็นและความร้อน เมื่อนำใบตองห่ออาหารแล้วเอาไปปิ้ง นึ่ง ต้ม จะไม่สลายหรือละลายเหมือนพลาสติก จึงมีอาหารหลายอย่างที่ห่อใบตองแล้วนำไปนึ่ง เช่น ห่อหมก ข้าวต้มผัด ขนมกล้วย ขนมตาล ขนมใส่ไส้ หรือเอาไปปิ้ง เช่น ข้าวเหนียวปิ้ง หรือนำไปต้ม เช่น ข้าวต้มมัด หรือข้าวต้มจิ้ม อาหารเหล่านี้ยังทำให้เกิดความหอมของใบตองอีกด้วย สำหรับใบตองแห้ง นำมาใช้ทำกระทงเพื่อใส่อาหาร ห่อกะละแม มวนบุหรี่ โดยใบตองแห้งก็จะมีกลิ่นหอมเช่นกัน

    #Newskit #น้ำท่วมเชียงราย #ดอยคำ
    ข้าวเหนียวห่อใบตอง จากใจฅนดอยคำ เมื่อวันก่อนมีภาพข้าวเหนียวไก่ย่างห่อใบตองติดป้ายดอยคำ ที่นำไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดเชียงราย ถูกนำไปโจมตี ผลก็คือมีชาวเน็ตจำนวนมากตอบโต้ ถึงข้อดีของการนำอาหารห่อใบตอง เมื่อเทียบกับกล่องพลาสติกหรือโฟม เพราะเมื่อทิ้งเป็นขยะ ใบตองสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ นอกจากนี้ เมนูข้าวเหนียวสามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่เน่าเสียง่าย ต่อมาเฟซบุ๊กเพจ ดอยคำ - Doi Kham ของบริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เผยแพร่ภาพที่บริษัทฯ มอบหมายให้โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 2 (แม่จัน) พร้อมด้วยฅนดอยคำ ร่วมแรงร่วมใจกัน จัดทำข้าวเหนียวไก่ทอดห่อใบตองเพิ่มจำนวน 500 ชุด สำหรับนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอแม่สาย และ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยได้รับสนับสนุนเงินบริจาคจากเจ้าหน้าที่ พนักงานฅนดอยคำ ประจำสำนักงานใหญ่และโรงงานหลวงฯ ทั้ง 3 แห่ง นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม น้ำผลไม้พร้อมดื่ม ข้าวสารและอาหารแห้งอีกด้วย หนึ่งในภาพที่นำมาเผยแพร่ เป็นกระบวนการผลิตข้าวเหนียวไก่ทอดห่อใบตอง ที่พบว่าพนักงานพิถีพัถัน โดยเฉพาะการสวมหมวกคุมศีรษะ การใช้ถุงมือในการปรุงอาหาร และหยิบจับอาหารมาบรรจุลงในใบตอง แสดงให้เห็นถึงการปฎิบัติตามหลักความปลอดภัยทางอาหาร (Food Safety) อย่างสม่ำเสมอ แม้จะเป็นกิจกรรมทำอาหารเพื่อแจกจ่ายก็ตาม สำหรับดอยคำก่อตั้งเมื่อปี 2537 ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมผลไม้แปรรูป ในรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ส่งเสริมการเพาะปลูกและรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรในราคาที่เป็นธรรม โดยมีกำไรพอเพียงเลี้ยงตัวเองได้ ใช้ในการดูแลพนักงาน นำกลับมารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด และวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ปัจจุบันมีโรงงานอาหารสำเร็จรูป 3 แห่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และสกลนคร ข้อมูลจากสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30 กล่าวถึงการใช้ประโยชน์จากใบตองว่า ใช้ในการห่อผักสดและอาหาร เนื่องจากใบตองสดมีความชื้น ช่วยรักษาผักหรืออาหารให้สดอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังทนทานต่อความเย็นและความร้อน เมื่อนำใบตองห่ออาหารแล้วเอาไปปิ้ง นึ่ง ต้ม จะไม่สลายหรือละลายเหมือนพลาสติก จึงมีอาหารหลายอย่างที่ห่อใบตองแล้วนำไปนึ่ง เช่น ห่อหมก ข้าวต้มผัด ขนมกล้วย ขนมตาล ขนมใส่ไส้ หรือเอาไปปิ้ง เช่น ข้าวเหนียวปิ้ง หรือนำไปต้ม เช่น ข้าวต้มมัด หรือข้าวต้มจิ้ม อาหารเหล่านี้ยังทำให้เกิดความหอมของใบตองอีกด้วย สำหรับใบตองแห้ง นำมาใช้ทำกระทงเพื่อใส่อาหาร ห่อกะละแม มวนบุหรี่ โดยใบตองแห้งก็จะมีกลิ่นหอมเช่นกัน #Newskit #น้ำท่วมเชียงราย #ดอยคำ
    Like
    Love
    10
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1161 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
    ออกประกาศแจ้งเตือน 16 จังหวัด เฝ้าระวังภัยแผ่นดินถล่ม
    น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 13-15 กันยายน ได้แก่
    เชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, น่าน, เลย, หนองคาย,
    ศรีษะเกษ, อุบลราชธานี, จันทบุรี, ตราด, ระนอง, พังงา,
    ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง และ สตูล
    ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #กรมทรัพยากรธรณี
    #พื้นที่เฝ้าระวัง #thaitimes
    🔥🔥กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ออกประกาศแจ้งเตือน 16 จังหวัด เฝ้าระวังภัยแผ่นดินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 13-15 กันยายน ได้แก่ เชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, น่าน, เลย, หนองคาย, ศรีษะเกษ, อุบลราชธานี, จันทบุรี, ตราด, ระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง และ สตูล ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #กรมทรัพยากรธรณี #พื้นที่เฝ้าระวัง #thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1244 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม หยิบหมอก หยอกกระเจียว เที่ยวผาสุดแผ่นดิน🌷

    สายฝนเริ่มโปรยปรายเราเลยจะชวนทุกคนไปเที่ยวหน้าฝน ชมดอกกระเจียวสวย ๆ กันที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รายล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่ ป่าไม้เขียวขจี อากาศเย็นสบาย ได้สูดออกซิเจนให้เต็มปอด ก่อนจะวางแผนเดินทางไปเที่ยวกัน มารู้จักกับเรื่องน่ารู้ของอุทยานแห่งชาติป่าหินงามก่อนดีกว่า

    อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ตั้งอยู่บนเทือกเขาพังเหย อยู่ในพื้นที่อำเภอเทพสถิต และอำเภอซับใหญ่ จังหวัดชัยภูมิ มีเนื้อที่ประมาณ 62,437.50 ไร่ หรือ 99.9 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นเนินเขาสลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของลุ่มน้ำชีและแม่น้ำป่าสัก มีสภาพป่าสมบูรณ์ ปกคลุมด้วยป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณ ทำให้มีความหลากหลายของระบบนิเวศ และมีไม้ดอกจำพวกดุสิตา เอนอ้า และกล้วยไม้ ขึ้นอยู่จำนวนมาก รวมถึงมีสัตว์ป่านานาพรรณ ที่สำคัญยังมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่งโดยเฉพาะ “ทุ่งดอกกระเจียว” ซึ่งจะบานสะพรั่งสวยงามในราวเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ของทุกปี

    ทุ่งดอกกระเจียว ดอกกระเจียว หรือดอกบัวสวรรค์ ราชินีแห่งมวลไม้ในขุนเขา เป็นพืชล้มลุกประเภทหัว จำพวกขิง-ข่า พบขึ้นกระจายอยู่ทั่วไปตั้งแต่ลานหินงามไปจนถึงจุดชมวิวสุดแผ่นดิน รวมเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวชมความสวยงามของดอกกระเจียวที่เบ่งบานผลิดอกสีชมพูอมม่วงขึ้นเต็มทั่วผืนป่า คือในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ของทุกปี ทั้งนี้ ดอกกระเจียวที่บานในอุทยานค้นพบทั้งหมด 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ปทุมมา สายพันธุ์กระเจียวดิน และสายพันธุ์กระเจียวขาว

    ลานหินงาม เป็นบริเวณลานหินที่มีโขดหินใหญ่รูปร่างแปลกตากระจายอยู่ในพื้นที่กว่า 10 ไร่ ซึ่งโขดหินดังกล่าวเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยเป็นการกัดเซาะเนื้อดินและหินในส่วนที่จับตัวกันอย่างเบาบางหลุดออกไป นานวันเข้าจึงเกิดโขดหินที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกัน สามารถจินตนาการเป็นรูปต่าง ๆ เช่น ตะปู เรด้าร์ แม่ไก่ รูปสัตว์ ปราสาทโบราณ หินรูปถ้วยรางวัลฟุตบอลโลก รูปดอกเห็ด เป็นต้น สำหรับลานหินงามนี้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพื้นที่ทำการอุทยานแห่งชาติมีทางรถยนต์เข้าถึง

    สุดแผ่นดิน หน้าผาสูงชันและจุดสูงสุดของเทือกเขาพังเหย อยู่ทางด้านทิศเหนือห่างจากที่ทำการอุทยาน ประมาณ 2 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 846 เมตร เป็นแนวหน้าผาซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน ที่จุดชมวิวสุดแผ่นดินจะมองเห็นทิวทัศน์สันเขาพังเหยและเขตพื้นที่ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา และมีสายลมพัดเย็นสบายตลอดวัน จึงเป็นจุดชมวิวสำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดูสายหมอกตอนเช้าและพระอาทิตย์ตกในตอนเย็น รวมถึงแวะมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันด้วย

    #ป่าหินงาม
    #ชัยภูมิ
    #ดอกกระเจียว


    อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม หยิบหมอก หยอกกระเจียว เที่ยวผาสุดแผ่นดิน🌷 สายฝนเริ่มโปรยปรายเราเลยจะชวนทุกคนไปเที่ยวหน้าฝน ชมดอกกระเจียวสวย ๆ กันที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รายล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่ ป่าไม้เขียวขจี อากาศเย็นสบาย ได้สูดออกซิเจนให้เต็มปอด ก่อนจะวางแผนเดินทางไปเที่ยวกัน มารู้จักกับเรื่องน่ารู้ของอุทยานแห่งชาติป่าหินงามก่อนดีกว่า อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ตั้งอยู่บนเทือกเขาพังเหย อยู่ในพื้นที่อำเภอเทพสถิต และอำเภอซับใหญ่ จังหวัดชัยภูมิ มีเนื้อที่ประมาณ 62,437.50 ไร่ หรือ 99.9 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นเนินเขาสลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของลุ่มน้ำชีและแม่น้ำป่าสัก มีสภาพป่าสมบูรณ์ ปกคลุมด้วยป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณ ทำให้มีความหลากหลายของระบบนิเวศ และมีไม้ดอกจำพวกดุสิตา เอนอ้า และกล้วยไม้ ขึ้นอยู่จำนวนมาก รวมถึงมีสัตว์ป่านานาพรรณ ที่สำคัญยังมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่งโดยเฉพาะ “ทุ่งดอกกระเจียว” ซึ่งจะบานสะพรั่งสวยงามในราวเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ของทุกปี ทุ่งดอกกระเจียว ดอกกระเจียว หรือดอกบัวสวรรค์ ราชินีแห่งมวลไม้ในขุนเขา เป็นพืชล้มลุกประเภทหัว จำพวกขิง-ข่า พบขึ้นกระจายอยู่ทั่วไปตั้งแต่ลานหินงามไปจนถึงจุดชมวิวสุดแผ่นดิน รวมเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวชมความสวยงามของดอกกระเจียวที่เบ่งบานผลิดอกสีชมพูอมม่วงขึ้นเต็มทั่วผืนป่า คือในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ของทุกปี ทั้งนี้ ดอกกระเจียวที่บานในอุทยานค้นพบทั้งหมด 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ปทุมมา สายพันธุ์กระเจียวดิน และสายพันธุ์กระเจียวขาว ลานหินงาม เป็นบริเวณลานหินที่มีโขดหินใหญ่รูปร่างแปลกตากระจายอยู่ในพื้นที่กว่า 10 ไร่ ซึ่งโขดหินดังกล่าวเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยเป็นการกัดเซาะเนื้อดินและหินในส่วนที่จับตัวกันอย่างเบาบางหลุดออกไป นานวันเข้าจึงเกิดโขดหินที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกัน สามารถจินตนาการเป็นรูปต่าง ๆ เช่น ตะปู เรด้าร์ แม่ไก่ รูปสัตว์ ปราสาทโบราณ หินรูปถ้วยรางวัลฟุตบอลโลก รูปดอกเห็ด เป็นต้น สำหรับลานหินงามนี้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพื้นที่ทำการอุทยานแห่งชาติมีทางรถยนต์เข้าถึง สุดแผ่นดิน หน้าผาสูงชันและจุดสูงสุดของเทือกเขาพังเหย อยู่ทางด้านทิศเหนือห่างจากที่ทำการอุทยาน ประมาณ 2 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 846 เมตร เป็นแนวหน้าผาซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน ที่จุดชมวิวสุดแผ่นดินจะมองเห็นทิวทัศน์สันเขาพังเหยและเขตพื้นที่ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา และมีสายลมพัดเย็นสบายตลอดวัน จึงเป็นจุดชมวิวสำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดูสายหมอกตอนเช้าและพระอาทิตย์ตกในตอนเย็น รวมถึงแวะมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันด้วย #ป่าหินงาม #ชัยภูมิ #ดอกกระเจียว
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 415 มุมมอง 0 รีวิว
  • คาดหมายอากาศทั่วไป
    ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567
    ในช่วงวันที่ 28 - 29 ก.ค. ส.ค. 67 ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
    ส่วนในช่วงวันที่ 30 ก.ค. – 3 ส.ค. 67 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมาและลาวตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
    ข้อควรระวัง
    ในช่วงวันที่ 28 - 29 ก.ค. 67 ประชาชนบริเวณประเทศไทย ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง
    ออกประกาศ 28 กรกฎาคม 2567 12:00 น.
    คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ในช่วงวันที่ 28 - 29 ก.ค. ส.ค. 67 ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 30 ก.ค. – 3 ส.ค. 67 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมาและลาวตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 28 - 29 ก.ค. 67 ประชาชนบริเวณประเทศไทย ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง ออกประกาศ 28 กรกฎาคม 2567 12:00 น.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้องรีบกำจัดปลาหมอคางดำ ตามแนวชายฝั่ง หากระบาดหนักอาจทำลายสิ้น สัตว์น้ำป่าชายเลย หญ้าทะเล
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ปลาหมอคางดำ
    #พบเห็นแจ้งเบาะแส
    ต้องรีบกำจัดปลาหมอคางดำ ตามแนวชายฝั่ง หากระบาดหนักอาจทำลายสิ้น สัตว์น้ำป่าชายเลย หญ้าทะเล #คิงส์โพธิ์แดง #ปลาหมอคางดำ #พบเห็นแจ้งเบาะแส
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว