• ข่าวนี้เล่าถึงการขยายการรองรับ Windows on Arm runners ใน GitHub Actions สำหรับ ทุก public repository ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของ Microsoft ในการสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์ม Arm

    ย้อนกลับไปในเดือนกันยายน 2022 Microsoft เปิดตัว self-hosted runners สำหรับ Windows on Arm ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดสอบและสร้างซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ที่ใช้ Arm-based Windows ได้โดยไม่ต้องตั้งค่าโครงสร้างพื้นฐานเอง จากนั้นในปี 2024 GitHub ได้เปิดตัว public beta สำหรับ Arm-based Linux และ Windows runners และในเดือนกันยายน 2024 ฟีเจอร์นี้ก็ได้รับการเปิดให้ใช้งานทั่วไป

    ล่าสุด Microsoft ได้ประกาศขยายการรองรับ Windows on Arm runners ไปยัง ทุก public repository รวมถึงบัญชีที่ใช้ GitHub Free tier ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้ Arm runners ได้โดยไม่ต้องมีโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม

    Windows on Arm กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะจากนักพัฒนา เนื่องจาก Microsoft ได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงเครื่องมือสำหรับ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Qualcomm

    ✅ การขยายการรองรับ Windows on Arm runners
    - Microsoft เปิดให้ใช้งาน Windows on Arm runners ในทุก public repository
    - รวมถึงบัญชีที่ใช้ GitHub Free tier

    ✅ ประโยชน์ของการใช้ Arm runners
    - ช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดสอบและสร้างซอฟต์แวร์บน Arm-based Windows ได้ง่ายขึ้น
    - ไม่ต้องตั้งค่าโครงสร้างพื้นฐานเอง

    ✅ การลงทุนของ Microsoft ใน Windows on Arm
    - Microsoft ปรับปรุงเครื่องมือสำหรับ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Qualcomm
    - Windows on Arm ได้รับความสนใจมากขึ้นจากนักพัฒนา

    ℹ️ ข้อจำกัดของ Windows on Arm runners
    - นักพัฒนาอาจต้องปรับแต่ง workflow เพื่อรองรับ Arm architecture
    - การใช้งานบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์เท่ากับแพลตฟอร์ม x86

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมซอฟต์แวร์
    - การขยายการรองรับ Arm อาจช่วยให้แพลตฟอร์มนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้น
    - นักพัฒนาอาจต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสถาปัตยกรรม

    https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-windows-on-arm-runner-support-to-github-actions-for-all-public-repositories/
    ข่าวนี้เล่าถึงการขยายการรองรับ Windows on Arm runners ใน GitHub Actions สำหรับ ทุก public repository ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของ Microsoft ในการสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์ม Arm ย้อนกลับไปในเดือนกันยายน 2022 Microsoft เปิดตัว self-hosted runners สำหรับ Windows on Arm ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดสอบและสร้างซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ที่ใช้ Arm-based Windows ได้โดยไม่ต้องตั้งค่าโครงสร้างพื้นฐานเอง จากนั้นในปี 2024 GitHub ได้เปิดตัว public beta สำหรับ Arm-based Linux และ Windows runners และในเดือนกันยายน 2024 ฟีเจอร์นี้ก็ได้รับการเปิดให้ใช้งานทั่วไป ล่าสุด Microsoft ได้ประกาศขยายการรองรับ Windows on Arm runners ไปยัง ทุก public repository รวมถึงบัญชีที่ใช้ GitHub Free tier ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้ Arm runners ได้โดยไม่ต้องมีโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม Windows on Arm กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะจากนักพัฒนา เนื่องจาก Microsoft ได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงเครื่องมือสำหรับ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Qualcomm ✅ การขยายการรองรับ Windows on Arm runners - Microsoft เปิดให้ใช้งาน Windows on Arm runners ในทุก public repository - รวมถึงบัญชีที่ใช้ GitHub Free tier ✅ ประโยชน์ของการใช้ Arm runners - ช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดสอบและสร้างซอฟต์แวร์บน Arm-based Windows ได้ง่ายขึ้น - ไม่ต้องตั้งค่าโครงสร้างพื้นฐานเอง ✅ การลงทุนของ Microsoft ใน Windows on Arm - Microsoft ปรับปรุงเครื่องมือสำหรับ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Qualcomm - Windows on Arm ได้รับความสนใจมากขึ้นจากนักพัฒนา ℹ️ ข้อจำกัดของ Windows on Arm runners - นักพัฒนาอาจต้องปรับแต่ง workflow เพื่อรองรับ Arm architecture - การใช้งานบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์เท่ากับแพลตฟอร์ม x86 ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ - การขยายการรองรับ Arm อาจช่วยให้แพลตฟอร์มนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้น - นักพัฒนาอาจต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสถาปัตยกรรม https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-windows-on-arm-runner-support-to-github-actions-for-all-public-repositories/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft brings Windows on Arm runner support to GitHub Actions for all public repositories
    Developers can now finally integrate Windows on Arm runners into their CI workflows across all public GitHub repositories.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 0 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงผลการวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า การฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของโมเดล โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐฯ เช่น Carnegie Mellon, Stanford, Harvard และ Princeton ได้ค้นพบปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Catastrophic Overtraining”

    นักวิจัยพบว่าเมื่อโมเดล AI ถูกฝึกอบรมด้วยข้อมูลจำนวนมากเกินไป เช่น การเพิ่มจำนวนโทเค็นจาก 2.3 ล้านล้านเป็น 3 ล้านล้านในโมเดล OLMo-1B ประสิทธิภาพของโมเดลกลับลดลงถึง 3% ในการทดสอบมาตรฐาน เช่น AlpacaEval และ ARC สาเหตุหลักมาจาก “Progressive Sensitivity” ซึ่งทำให้โมเดลมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น การปรับแต่งหรือการเพิ่มเสียงรบกวน

    นักวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า “Inflection Point” หรือจุดที่การฝึกอบรมเพิ่มเติมเริ่มส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพ มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้านในโมเดลขนาดเล็ก การค้นพบนี้เรียกร้องให้มีการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับขนาดโมเดล AI โดยเน้นที่กระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนที่จะมุ่งเน้นที่การเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว

    ✅ การค้นพบปรากฏการณ์ Catastrophic Overtraining
    - การฝึกอบรม AI มากเกินไปอาจลดประสิทธิภาพของโมเดล
    - Progressive Sensitivity ทำให้โมเดลเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

    ✅ ผลกระทบของการฝึกอบรมเพิ่มเติม
    - โมเดล OLMo-1B ที่ฝึกอบรมด้วยข้อมูล 3 ล้านล้านโทเค็นมีประสิทธิภาพลดลงถึง 3%
    - Inflection Point มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้าน

    ✅ ข้อเสนอแนะจากนักวิจัย
    - ควรพิจารณากระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนการเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว
    - การปรับขนาดโมเดล AI ควรคำนึงถึงความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร

    ℹ️ ความเสี่ยงจากการฝึกอบรมมากเกินไป
    - การฝึกอบรมมากเกินไปอาจทำให้โมเดลเปราะบางและลดประสิทธิภาพ
    - การเพิ่มเสียงรบกวนหรือการปรับแต่งอาจส่งผลเสียต่อโมเดลที่ฝึกอบรมมากเกินไป

    ℹ️ คำแนะนำสำหรับนักพัฒนา AI
    - ควรพิจารณาจำนวนข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการฝึกอบรม
    - การพัฒนาโมเดล AI ควรเน้นที่ความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร

    https://www.techradar.com/pro/catastrophic-overtraining-could-harm-large-language-ai-models-that-are-trained-on-more-data-for-the-sake-of-training
    ข่าวนี้เล่าถึงผลการวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า การฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของโมเดล โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐฯ เช่น Carnegie Mellon, Stanford, Harvard และ Princeton ได้ค้นพบปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Catastrophic Overtraining” นักวิจัยพบว่าเมื่อโมเดล AI ถูกฝึกอบรมด้วยข้อมูลจำนวนมากเกินไป เช่น การเพิ่มจำนวนโทเค็นจาก 2.3 ล้านล้านเป็น 3 ล้านล้านในโมเดล OLMo-1B ประสิทธิภาพของโมเดลกลับลดลงถึง 3% ในการทดสอบมาตรฐาน เช่น AlpacaEval และ ARC สาเหตุหลักมาจาก “Progressive Sensitivity” ซึ่งทำให้โมเดลมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น การปรับแต่งหรือการเพิ่มเสียงรบกวน นักวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า “Inflection Point” หรือจุดที่การฝึกอบรมเพิ่มเติมเริ่มส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพ มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้านในโมเดลขนาดเล็ก การค้นพบนี้เรียกร้องให้มีการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับขนาดโมเดล AI โดยเน้นที่กระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนที่จะมุ่งเน้นที่การเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว ✅ การค้นพบปรากฏการณ์ Catastrophic Overtraining - การฝึกอบรม AI มากเกินไปอาจลดประสิทธิภาพของโมเดล - Progressive Sensitivity ทำให้โมเดลเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ✅ ผลกระทบของการฝึกอบรมเพิ่มเติม - โมเดล OLMo-1B ที่ฝึกอบรมด้วยข้อมูล 3 ล้านล้านโทเค็นมีประสิทธิภาพลดลงถึง 3% - Inflection Point มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้าน ✅ ข้อเสนอแนะจากนักวิจัย - ควรพิจารณากระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนการเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว - การปรับขนาดโมเดล AI ควรคำนึงถึงความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร ℹ️ ความเสี่ยงจากการฝึกอบรมมากเกินไป - การฝึกอบรมมากเกินไปอาจทำให้โมเดลเปราะบางและลดประสิทธิภาพ - การเพิ่มเสียงรบกวนหรือการปรับแต่งอาจส่งผลเสียต่อโมเดลที่ฝึกอบรมมากเกินไป ℹ️ คำแนะนำสำหรับนักพัฒนา AI - ควรพิจารณาจำนวนข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการฝึกอบรม - การพัฒนาโมเดล AI ควรเน้นที่ความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร https://www.techradar.com/pro/catastrophic-overtraining-could-harm-large-language-ai-models-that-are-trained-on-more-data-for-the-sake-of-training
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการพัฒนา Broadband Optical SSD ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาโดยบริษัทญี่ปุ่นชั้นนำ ได้แก่ Kioxia, AIO Core และ Kyocera โดย SSD รุ่นใหม่นี้ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า

    Broadband Optical SSD ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ต้องการการจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาล เช่น การประมวลผล AI และการจัดเก็บข้อมูลในระดับเพตะไบต์ การใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลช่วยลดข้อจำกัดทางกายภาพของการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า และยังช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบปัจจุบัน

    โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียวของญี่ปุ่น (Next Generation Green Data Center Technology Development) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    ✅ การพัฒนา Broadband Optical SSD
    - พัฒนาโดย Kioxia, AIO Core และ Kyocera
    - ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า

    ✅ ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้
    - รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่
    - ลดการใช้พลังงานได้ถึง 40%

    ✅ โครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียว
    - เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Next Generation Green Data Center Technology Development
    - ได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO

    ℹ️ ข้อจำกัดของเทคโนโลยี
    - การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนต้นแบบ
    - อาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรเพิ่มเติมในการทดสอบและปรับปรุง

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้บริษัทอื่นๆ ต้องปรับตัว
    - การแข่งขันในวงการเซมิคอนดักเตอร์อาจเข้มข้นขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/its-broadband-jim-but-not-as-we-know-it-japanese-tech-giants-are-developing-a-broadband-optical-ssd-for-data-centers
    ข่าวนี้เล่าถึงการพัฒนา Broadband Optical SSD ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาโดยบริษัทญี่ปุ่นชั้นนำ ได้แก่ Kioxia, AIO Core และ Kyocera โดย SSD รุ่นใหม่นี้ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า Broadband Optical SSD ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ต้องการการจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาล เช่น การประมวลผล AI และการจัดเก็บข้อมูลในระดับเพตะไบต์ การใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลช่วยลดข้อจำกัดทางกายภาพของการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า และยังช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบปัจจุบัน โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียวของญี่ปุ่น (Next Generation Green Data Center Technology Development) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ✅ การพัฒนา Broadband Optical SSD - พัฒนาโดย Kioxia, AIO Core และ Kyocera - ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า ✅ ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้ - รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ - ลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% ✅ โครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียว - เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Next Generation Green Data Center Technology Development - ได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO ℹ️ ข้อจำกัดของเทคโนโลยี - การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนต้นแบบ - อาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรเพิ่มเติมในการทดสอบและปรับปรุง ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้บริษัทอื่นๆ ต้องปรับตัว - การแข่งขันในวงการเซมิคอนดักเตอร์อาจเข้มข้นขึ้น https://www.techradar.com/pro/its-broadband-jim-but-not-as-we-know-it-japanese-tech-giants-are-developing-a-broadband-optical-ssd-for-data-centers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการค้นพบวิธีใหม่ในการลดอาการเมารถหรือ Motion Sickness โดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้คลื่นเสียงกระตุ้นระบบประสาทในหูชั้นใน ซึ่งช่วยลดอาการเวียนหัวและคลื่นไส้ได้ภายในเวลาเพียง 1 นาที

    ทีมวิจัยนำโดย Takumi Kagawa และ Masashi Kato พบว่าการใช้คลื่นเสียงที่มีความถี่ 100 Hz ซึ่งเป็นเสียงระดับ Mid-Bass สามารถกระตุ้นระบบประสาทในหูชั้นในที่ควบคุมการทรงตัวและการรับรู้ตำแหน่งในอวกาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคลื่นเสียงนี้ช่วยกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติกที่มักเสียสมดุลในผู้ที่มีอาการเมารถ

    การทดลองใช้คลื่นเสียงนี้กับผู้เข้าร่วมที่ถูกกระตุ้นอาการเมารถด้วยการนั่งรถจำลองและการแกว่ง พบว่าผู้เข้าร่วมมีอาการลดลงอย่างชัดเจน เช่น อาการเวียนหัวและคลื่นไส้ นอกจากนี้ยังมีการวัดผลด้วยการทดสอบการทรงตัว การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และแบบสอบถามเกี่ยวกับอาการเมารถ

    ✅ การค้นพบวิธีลดอาการเมารถ
    - ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยนาโกย่าพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้คลื่นเสียงกระตุ้นระบบประสาทในหูชั้นใน
    - คลื่นเสียงที่มีความถี่ 100 Hz ช่วยลดอาการเวียนหัวและคลื่นไส้

    ✅ ผลการทดลอง
    - ผู้เข้าร่วมมีอาการเมารถลดลงหลังการใช้คลื่นเสียง
    - การวัดผลด้วยการทดสอบการทรงตัวและการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแสดงผลลัพธ์ที่ดี

    ✅ ความปลอดภัยของเทคโนโลยี
    - คลื่นเสียงนี้มีระดับต่ำกว่ามาตรฐานความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน
    - เทคโนโลยีนี้คาดว่าจะปลอดภัยเมื่อใช้งานอย่างเหมาะสม

    ℹ️ ข้อจำกัดของการใช้งาน
    - การใช้งานต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีอุปกรณ์ส่งคลื่นเสียง
    - อาจต้องมีการปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อรองรับการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ

    ℹ️ ผลกระทบต่อการเดินทาง
    - เทคโนโลยีนี้อาจช่วยลดอาการเมารถในการเดินทางทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ
    - การพัฒนาเพิ่มเติมอาจช่วยให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงผู้ใช้งานได้มากขึ้น

    https://www.neowin.net/news/are-you-motion-sick-study-shows-how-just-a-minute-of-a-mid-bass-frequency-could-help-you/
    ข่าวนี้เล่าถึงการค้นพบวิธีใหม่ในการลดอาการเมารถหรือ Motion Sickness โดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้คลื่นเสียงกระตุ้นระบบประสาทในหูชั้นใน ซึ่งช่วยลดอาการเวียนหัวและคลื่นไส้ได้ภายในเวลาเพียง 1 นาที ทีมวิจัยนำโดย Takumi Kagawa และ Masashi Kato พบว่าการใช้คลื่นเสียงที่มีความถี่ 100 Hz ซึ่งเป็นเสียงระดับ Mid-Bass สามารถกระตุ้นระบบประสาทในหูชั้นในที่ควบคุมการทรงตัวและการรับรู้ตำแหน่งในอวกาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคลื่นเสียงนี้ช่วยกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติกที่มักเสียสมดุลในผู้ที่มีอาการเมารถ การทดลองใช้คลื่นเสียงนี้กับผู้เข้าร่วมที่ถูกกระตุ้นอาการเมารถด้วยการนั่งรถจำลองและการแกว่ง พบว่าผู้เข้าร่วมมีอาการลดลงอย่างชัดเจน เช่น อาการเวียนหัวและคลื่นไส้ นอกจากนี้ยังมีการวัดผลด้วยการทดสอบการทรงตัว การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และแบบสอบถามเกี่ยวกับอาการเมารถ ✅ การค้นพบวิธีลดอาการเมารถ - ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยนาโกย่าพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้คลื่นเสียงกระตุ้นระบบประสาทในหูชั้นใน - คลื่นเสียงที่มีความถี่ 100 Hz ช่วยลดอาการเวียนหัวและคลื่นไส้ ✅ ผลการทดลอง - ผู้เข้าร่วมมีอาการเมารถลดลงหลังการใช้คลื่นเสียง - การวัดผลด้วยการทดสอบการทรงตัวและการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแสดงผลลัพธ์ที่ดี ✅ ความปลอดภัยของเทคโนโลยี - คลื่นเสียงนี้มีระดับต่ำกว่ามาตรฐานความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน - เทคโนโลยีนี้คาดว่าจะปลอดภัยเมื่อใช้งานอย่างเหมาะสม ℹ️ ข้อจำกัดของการใช้งาน - การใช้งานต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีอุปกรณ์ส่งคลื่นเสียง - อาจต้องมีการปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อรองรับการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ ℹ️ ผลกระทบต่อการเดินทาง - เทคโนโลยีนี้อาจช่วยลดอาการเมารถในการเดินทางทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ - การพัฒนาเพิ่มเติมอาจช่วยให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงผู้ใช้งานได้มากขึ้น https://www.neowin.net/news/are-you-motion-sick-study-shows-how-just-a-minute-of-a-mid-bass-frequency-could-help-you/
    WWW.NEOWIN.NET
    Are you motion sick? Study shows how just a minute of bass could help you
    Scientists conducted a study and found that just a minute of a particular mid-bass sound frequency can help cure motion sicknesses like car sickness.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่น่าตื่นเต้นในวงการเซมิคอนดักเตอร์ โดยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของญี่ปุ่น ได้แก่ Kioxia, AIO Core และ Kyocera ได้ร่วมมือกันพัฒนา Broadband Optical SSD ซึ่งเป็น SSD ที่ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า

    Broadband Optical SSD นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ต้องการการจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาล เช่น การประมวลผล AI และการจัดเก็บข้อมูลในระดับเพตะไบต์ การใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลช่วยลดข้อจำกัดทางกายภาพของการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า และยังช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบปัจจุบัน

    โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียวของญี่ปุ่น (Next Generation Green Data Center Technology Development) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    ✅ การพัฒนา Broadband Optical SSD
    - พัฒนาโดย Kioxia, AIO Core และ Kyocera
    - ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า

    ✅ ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้
    - รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่
    - ลดการใช้พลังงานได้ถึง 40%

    ✅ โครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียว
    - เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Next Generation Green Data Center Technology Development
    - ได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO

    ℹ️ ข้อจำกัดของเทคโนโลยี
    - การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนต้นแบบ
    - อาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรเพิ่มเติมในการทดสอบและปรับปรุง

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้บริษัทอื่นๆ ต้องปรับตัว
    - การแข่งขันในวงการเซมิคอนดักเตอร์อาจเข้มข้นขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/its-broadband-jim-but-not-as-we-know-it-japanese-tech-giants-are-developing-a-broadband-optical-ssd-for-data-centers
    ข่าวนี้เล่าถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่น่าตื่นเต้นในวงการเซมิคอนดักเตอร์ โดยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของญี่ปุ่น ได้แก่ Kioxia, AIO Core และ Kyocera ได้ร่วมมือกันพัฒนา Broadband Optical SSD ซึ่งเป็น SSD ที่ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า Broadband Optical SSD นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ต้องการการจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาล เช่น การประมวลผล AI และการจัดเก็บข้อมูลในระดับเพตะไบต์ การใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลช่วยลดข้อจำกัดทางกายภาพของการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า และยังช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบปัจจุบัน โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียวของญี่ปุ่น (Next Generation Green Data Center Technology Development) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ✅ การพัฒนา Broadband Optical SSD - พัฒนาโดย Kioxia, AIO Core และ Kyocera - ใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคัลแทนการเชื่อมต่อแบบไฟฟ้า ✅ ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้ - รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ - ลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% ✅ โครงการพัฒนาเทคโนโลยีศูนย์ข้อมูลสีเขียว - เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Next Generation Green Data Center Technology Development - ได้รับการสนับสนุนจากองค์กร NEDO ℹ️ ข้อจำกัดของเทคโนโลยี - การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนต้นแบบ - อาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรเพิ่มเติมในการทดสอบและปรับปรุง ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้บริษัทอื่นๆ ต้องปรับตัว - การแข่งขันในวงการเซมิคอนดักเตอร์อาจเข้มข้นขึ้น https://www.techradar.com/pro/its-broadband-jim-but-not-as-we-know-it-japanese-tech-giants-are-developing-a-broadband-optical-ssd-for-data-centers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta ได้เปิดตัว Llama 4 ซึ่งเป็นชุดโมเดล AI ที่ประกอบด้วย Scout, Maverick และ Behemoth โดยในช่วงแรก Llama 4 Maverick ได้รับการจัดอันดับสูงในผลการทดสอบ แต่ต่อมาผู้ใช้พบว่าเวอร์ชันที่ใช้ในการทดสอบแตกต่างจากเวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานจริง ทำให้เกิดข้อกล่าวหาว่า Meta ใช้วิธีการที่ไม่โปร่งใส

    Meta ได้ออกมาชี้แจงว่าเวอร์ชันทดสอบได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อการสนทนา และยืนยันว่าเวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานจริงยังคงมีศักยภาพสูง นอกจากนี้ Meta ยังได้เผยแพร่ผลการทดสอบกว่า 2,000 รายการเพื่อความโปร่งใส

    ✅ การเปิดตัว Llama 4
    - Meta เปิดตัวโมเดล AI รุ่นใหม่ Llama 4 ซึ่งประกอบด้วย Scout, Maverick และ Behemoth
    - Llama 4 Maverick ได้รับการจัดอันดับสูงในผลการทดสอบ

    ✅ ข้อกล่าวหาเรื่องความโปร่งใส
    - ผู้ใช้พบว่าเวอร์ชันทดสอบแตกต่างจากเวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานจริง
    - Meta ถูกกล่าวหาว่าใช้วิธีการที่ไม่โปร่งใสในการทดสอบ

    ✅ การตอบสนองของ Meta
    - Meta ชี้แจงว่าเวอร์ชันทดสอบได้รับการปรับแต่งเพื่อการสนทนา
    - เผยแพร่ผลการทดสอบกว่า 2,000 รายการเพื่อความโปร่งใส

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือ
    - ข้อกล่าวหาอาจลดความเชื่อมั่นของผู้ใช้ในผลิตภัณฑ์ของ Meta
    - การใช้เวอร์ชันทดสอบที่แตกต่างอาจถูกมองว่าเป็นการหลอกลวง

    ℹ️ ผลกระทบต่อวงการ AI
    -กรณีนี้อาจกระตุ้นให้บริษัทอื่นๆ ต้องเพิ่มความโปร่งใสในการทดสอบ AI
    - การแข่งขันในวงการ AI อาจเข้มข้นขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์

    https://www.neowin.net/news/unmodified-llama-4-maverick-ranks-below-rivals-following-meta-cheating-allegations/
    Meta ได้เปิดตัว Llama 4 ซึ่งเป็นชุดโมเดล AI ที่ประกอบด้วย Scout, Maverick และ Behemoth โดยในช่วงแรก Llama 4 Maverick ได้รับการจัดอันดับสูงในผลการทดสอบ แต่ต่อมาผู้ใช้พบว่าเวอร์ชันที่ใช้ในการทดสอบแตกต่างจากเวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานจริง ทำให้เกิดข้อกล่าวหาว่า Meta ใช้วิธีการที่ไม่โปร่งใส Meta ได้ออกมาชี้แจงว่าเวอร์ชันทดสอบได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อการสนทนา และยืนยันว่าเวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานจริงยังคงมีศักยภาพสูง นอกจากนี้ Meta ยังได้เผยแพร่ผลการทดสอบกว่า 2,000 รายการเพื่อความโปร่งใส ✅ การเปิดตัว Llama 4 - Meta เปิดตัวโมเดล AI รุ่นใหม่ Llama 4 ซึ่งประกอบด้วย Scout, Maverick และ Behemoth - Llama 4 Maverick ได้รับการจัดอันดับสูงในผลการทดสอบ ✅ ข้อกล่าวหาเรื่องความโปร่งใส - ผู้ใช้พบว่าเวอร์ชันทดสอบแตกต่างจากเวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานจริง - Meta ถูกกล่าวหาว่าใช้วิธีการที่ไม่โปร่งใสในการทดสอบ ✅ การตอบสนองของ Meta - Meta ชี้แจงว่าเวอร์ชันทดสอบได้รับการปรับแต่งเพื่อการสนทนา - เผยแพร่ผลการทดสอบกว่า 2,000 รายการเพื่อความโปร่งใส ℹ️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือ - ข้อกล่าวหาอาจลดความเชื่อมั่นของผู้ใช้ในผลิตภัณฑ์ของ Meta - การใช้เวอร์ชันทดสอบที่แตกต่างอาจถูกมองว่าเป็นการหลอกลวง ℹ️ ผลกระทบต่อวงการ AI -กรณีนี้อาจกระตุ้นให้บริษัทอื่นๆ ต้องเพิ่มความโปร่งใสในการทดสอบ AI - การแข่งขันในวงการ AI อาจเข้มข้นขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ https://www.neowin.net/news/unmodified-llama-4-maverick-ranks-below-rivals-following-meta-cheating-allegations/
    WWW.NEOWIN.NET
    Unmodified Llama 4 Maverick ranks below rivals following Meta cheating allegations
    Meta's Llama 4 release was no doubt controversial for its ranking on the LMArena dashboard. Now, an unmodified version of Llama 4 Maverick has seen its ranking fall below months-old rivals.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • Maxwell Labs กำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้เลเซอร์ในการระบายความร้อนจากชิปประมวลผล โดยเทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพและลดการสูญเสียพลังงานในระบบคอมพิวเตอร์ขั้นสูง

    ✅ การใช้เลเซอร์ในการระบายความร้อน:
    - Maxwell Labs ใช้แผ่นเย็นที่ทำจาก Gallium Arsenide (GaAs) ซึ่งสามารถระบายความร้อนเมื่อได้รับแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะ
    - เทคนิคนี้ช่วยระบายความร้อนเฉพาะจุดที่มีความร้อนสูงในชิปประมวลผล

    ✅ การเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน:
    - พลังงานความร้อนที่ถูกดึงออกจากชิปสามารถเปลี่ยนเป็นโฟตอนที่นำกลับมาใช้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานในระบบคอมพิวเตอร์

    ✅ ความท้าทายด้านต้นทุน:
    - การผลิต GaAs ที่มีความบริสุทธิ์สูงต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อนและมีต้นทุนสูง เช่น Molecular Beam Epitaxy (MBE)
    - แผ่น GaAs ขนาด 200 มม. มีราคาประมาณ $5,000 เทียบกับแผ่นซิลิคอนที่มีราคาเพียง $5

    ✅ สถานะปัจจุบันของโครงการ:
    - เทคโนโลยียังอยู่ในขั้นตอนการทดลองและการจำลอง โดยคาดว่าจะมีต้นแบบที่ใช้งานได้ในปี 2025

    ⚠️ ความท้าทายด้านการผลิต:
    - การผลิต GaAs ที่มีความบริสุทธิ์สูงอาจเป็นอุปสรรคต่อการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์

    ⚠️ การพัฒนาเทคโนโลยี:
    - Maxwell Labs ควรเร่งการพัฒนาและทดสอบต้นแบบเพื่อพิสูจน์ความสามารถของเทคโนโลยีนี้

    ⚠️ การลดต้นทุน:
    - ควรมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาวิธีลดต้นทุนการผลิต GaAs เพื่อให้เทคโนโลยีนี้สามารถเข้าถึงตลาดได้กว้างขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cooling-chips-with-lasers-innovative-cooling-method-removes-heat-precisely-from-hot-spots-recycles-heat-into-energy
    Maxwell Labs กำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้เลเซอร์ในการระบายความร้อนจากชิปประมวลผล โดยเทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพและลดการสูญเสียพลังงานในระบบคอมพิวเตอร์ขั้นสูง ✅ การใช้เลเซอร์ในการระบายความร้อน: - Maxwell Labs ใช้แผ่นเย็นที่ทำจาก Gallium Arsenide (GaAs) ซึ่งสามารถระบายความร้อนเมื่อได้รับแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะ - เทคนิคนี้ช่วยระบายความร้อนเฉพาะจุดที่มีความร้อนสูงในชิปประมวลผล ✅ การเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน: - พลังงานความร้อนที่ถูกดึงออกจากชิปสามารถเปลี่ยนเป็นโฟตอนที่นำกลับมาใช้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้ - เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานในระบบคอมพิวเตอร์ ✅ ความท้าทายด้านต้นทุน: - การผลิต GaAs ที่มีความบริสุทธิ์สูงต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อนและมีต้นทุนสูง เช่น Molecular Beam Epitaxy (MBE) - แผ่น GaAs ขนาด 200 มม. มีราคาประมาณ $5,000 เทียบกับแผ่นซิลิคอนที่มีราคาเพียง $5 ✅ สถานะปัจจุบันของโครงการ: - เทคโนโลยียังอยู่ในขั้นตอนการทดลองและการจำลอง โดยคาดว่าจะมีต้นแบบที่ใช้งานได้ในปี 2025 ⚠️ ความท้าทายด้านการผลิต: - การผลิต GaAs ที่มีความบริสุทธิ์สูงอาจเป็นอุปสรรคต่อการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ⚠️ การพัฒนาเทคโนโลยี: - Maxwell Labs ควรเร่งการพัฒนาและทดสอบต้นแบบเพื่อพิสูจน์ความสามารถของเทคโนโลยีนี้ ⚠️ การลดต้นทุน: - ควรมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาวิธีลดต้นทุนการผลิต GaAs เพื่อให้เทคโนโลยีนี้สามารถเข้าถึงตลาดได้กว้างขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/cooling-chips-with-lasers-innovative-cooling-method-removes-heat-precisely-from-hot-spots-recycles-heat-into-energy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI กำลังเผชิญกับข้อวิจารณ์เกี่ยวกับการลดระยะเวลาการทดสอบความปลอดภัยของโมเดล AI รุ่นใหม่ ซึ่งอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในระยะยาว

    ✅ การลดระยะเวลาการทดสอบ:
    - OpenAI เคยใช้เวลามากกว่า 6 เดือนในการทดสอบ GPT-4 แต่สำหรับ GPT-4 Omni ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์เพื่อให้ทันกำหนดการเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2024
    - การลดระยะเวลาการทดสอบเกิดจากการแข่งขันในตลาด AI ที่มีความเร่งรีบในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์

    ✅ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น:
    - การลดการทดสอบอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหา เช่น การสร้างข้อมูลที่ผิดพลาดหรือความเสียหายจากผลลัพธ์ของโมเดล
    - ผู้เชี่ยวชาญบางคนเรียกการลดระยะเวลานี้ว่า "ประมาท" และ "สูตรสำหรับหายนะ"

    ✅ การปรับปรุงกระบวนการทดสอบ:
    - OpenAI อ้างว่าใช้ AI ในกระบวนการทดสอบเพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ
    - มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการความปลอดภัยและความมั่นคงให้มีอำนาจในการชะลอการเปิดตัวโมเดล

    https://www.csoonline.com/article/3960456/openai-slammed-for-putting-speed-over-safety.html
    OpenAI กำลังเผชิญกับข้อวิจารณ์เกี่ยวกับการลดระยะเวลาการทดสอบความปลอดภัยของโมเดล AI รุ่นใหม่ ซึ่งอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในระยะยาว ✅ การลดระยะเวลาการทดสอบ: - OpenAI เคยใช้เวลามากกว่า 6 เดือนในการทดสอบ GPT-4 แต่สำหรับ GPT-4 Omni ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์เพื่อให้ทันกำหนดการเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2024 - การลดระยะเวลาการทดสอบเกิดจากการแข่งขันในตลาด AI ที่มีความเร่งรีบในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ✅ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น: - การลดการทดสอบอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหา เช่น การสร้างข้อมูลที่ผิดพลาดหรือความเสียหายจากผลลัพธ์ของโมเดล - ผู้เชี่ยวชาญบางคนเรียกการลดระยะเวลานี้ว่า "ประมาท" และ "สูตรสำหรับหายนะ" ✅ การปรับปรุงกระบวนการทดสอบ: - OpenAI อ้างว่าใช้ AI ในกระบวนการทดสอบเพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ - มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการความปลอดภัยและความมั่นคงให้มีอำนาจในการชะลอการเปิดตัวโมเดล https://www.csoonline.com/article/3960456/openai-slammed-for-putting-speed-over-safety.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    OpenAI slammed for putting speed over safety
    Testers allege newer models are being pushed for launch with much-reduced testing time.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชียงราย – เผยหลังเหมืองทองทุนจีน โผล่ทั้งพื้นที่เมืองยอน เขตอุทธิพลว้าแดง-ตอนเหนือท่าขี้เหล็ก..พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐาน ทั้งน้ำกก ที่ไหลเข้าไทยทางแม่อาย เชียงใหม่-เชียงแสน เชียงราย / น้ำสาย เส้นกั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ด้านแม่สาย

    หลังจากสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) แจ้งว่าแม่น้ำกกตั้งแต่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ปนปื้อนสารหนูเกินมาตรฐานโดยที่ อ.แม่อาย สูงถึง 0.026 มิลลิกรัมต่อลิตร และ อ.เมืองเชียงราย 0.012-13 มิลลิกรัมต่อลิตร ขณะที่ค่ามาตรฐานคือไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร

    ล่าสุดที่ว่าการ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งมีแม่น้ำสายไหลมาจากประเทศเมียนมา ได้เผยแพร่ข้อมูลคุณภาพน้ำในแม่น้ำสาย ว่าการประปาส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สาขาเชียงราย ได้เก็บตัวอย่างน้ำสายตั้งแต่ 17 ก.พ.ค ส่งหน่วยงานภายนอกคือบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด วิเคราะห์ทดสอบ ผลออกมาเมื่อวันที่ 9 เม.ย.พบแม่น้ำสายมีสารหนูปนเปื้อนเกินกว่ามาตรฐาน แต่ในการผลิตน้ำประปามีการใช้กระบวนการผลิตกำจัดโลหะหนักทำให้คุณภาพน้ำยังคงได้มาตรฐานสามารถอุปโภคบริโภคได้ตามปกติ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000034555

    #MGROnline #เชียงราย #สารหนูปนเปื้อน
    เชียงราย – เผยหลังเหมืองทองทุนจีน โผล่ทั้งพื้นที่เมืองยอน เขตอุทธิพลว้าแดง-ตอนเหนือท่าขี้เหล็ก..พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐาน ทั้งน้ำกก ที่ไหลเข้าไทยทางแม่อาย เชียงใหม่-เชียงแสน เชียงราย / น้ำสาย เส้นกั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ด้านแม่สาย • หลังจากสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) แจ้งว่าแม่น้ำกกตั้งแต่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ปนปื้อนสารหนูเกินมาตรฐานโดยที่ อ.แม่อาย สูงถึง 0.026 มิลลิกรัมต่อลิตร และ อ.เมืองเชียงราย 0.012-13 มิลลิกรัมต่อลิตร ขณะที่ค่ามาตรฐานคือไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร • ล่าสุดที่ว่าการ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งมีแม่น้ำสายไหลมาจากประเทศเมียนมา ได้เผยแพร่ข้อมูลคุณภาพน้ำในแม่น้ำสาย ว่าการประปาส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สาขาเชียงราย ได้เก็บตัวอย่างน้ำสายตั้งแต่ 17 ก.พ.ค ส่งหน่วยงานภายนอกคือบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด วิเคราะห์ทดสอบ ผลออกมาเมื่อวันที่ 9 เม.ย.พบแม่น้ำสายมีสารหนูปนเปื้อนเกินกว่ามาตรฐาน แต่ในการผลิตน้ำประปามีการใช้กระบวนการผลิตกำจัดโลหะหนักทำให้คุณภาพน้ำยังคงได้มาตรฐานสามารถอุปโภคบริโภคได้ตามปกติ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000034555 • #MGROnline #เชียงราย #สารหนูปนเปื้อน
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia RTX 5060 Ti ซึ่งยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ได้มีการรั่วไหลของข้อมูลการทดสอบประสิทธิภาพที่แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า RTX 4060 Ti โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีราคาถูกกว่า แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับราคาที่อาจเพิ่มขึ้นในตลาด GPU ปัจจุบัน

    ✅ การปรับปรุงประสิทธิภาพ:
    - RTX 5060 Ti มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 14% เมื่อเทียบกับ RTX 4060 Ti ในการทดสอบด้วย Vulkan API
    - GPU รุ่นใหม่นี้มีฟีเจอร์ Multi-Frame Generation ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมด้วยการสร้างเฟรมเพิ่มเติมโดยใช้ AI

    ✅ ความจุ VRAM:
    - RTX 5060 Ti มีรุ่น 16GB และ 8GB ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับ RTX 5070 ที่มี VRAM 12GB

    ✅ ความกังวลด้านราคา:
    - แม้จะมีการคาดการณ์ว่าราคาจะถูกกว่า RTX 4060 Ti แต่ตลาด GPU ปัจจุบันยังคงมีปัญหาเรื่องราคาที่สูงเกินไป

    ✅ การเปิดตัว:
    - มีการคาดการณ์ว่า RTX 5060 Ti จะเปิดตัวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

    https://www.techradar.com/computing/gpu/nvidia-rtx-5060-ti-benchmark-leak-hints-at-performance-boost-over-its-predecessor-but-it-wont-matter-if-it-doesnt-stay-at-retail-price
    Nvidia RTX 5060 Ti ซึ่งยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ได้มีการรั่วไหลของข้อมูลการทดสอบประสิทธิภาพที่แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า RTX 4060 Ti โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีราคาถูกกว่า แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับราคาที่อาจเพิ่มขึ้นในตลาด GPU ปัจจุบัน ✅ การปรับปรุงประสิทธิภาพ: - RTX 5060 Ti มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 14% เมื่อเทียบกับ RTX 4060 Ti ในการทดสอบด้วย Vulkan API - GPU รุ่นใหม่นี้มีฟีเจอร์ Multi-Frame Generation ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมด้วยการสร้างเฟรมเพิ่มเติมโดยใช้ AI ✅ ความจุ VRAM: - RTX 5060 Ti มีรุ่น 16GB และ 8GB ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับ RTX 5070 ที่มี VRAM 12GB ✅ ความกังวลด้านราคา: - แม้จะมีการคาดการณ์ว่าราคาจะถูกกว่า RTX 4060 Ti แต่ตลาด GPU ปัจจุบันยังคงมีปัญหาเรื่องราคาที่สูงเกินไป ✅ การเปิดตัว: - มีการคาดการณ์ว่า RTX 5060 Ti จะเปิดตัวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า https://www.techradar.com/computing/gpu/nvidia-rtx-5060-ti-benchmark-leak-hints-at-performance-boost-over-its-predecessor-but-it-wont-matter-if-it-doesnt-stay-at-retail-price
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโอไฮโอได้พัฒนาแบตเตอรี่ชนิดใหม่ที่ใช้รังสีจากกากนิวเคลียร์ในการผลิตไฟฟ้า โดยแบตเตอรี่นี้มีศักยภาพในการใช้งานในพื้นที่ที่มีรังสีสูง เช่น โรงเก็บกากนิวเคลียร์ หรือระบบสำรวจอวกาศและใต้น้ำ

    ✅ การทำงานของแบตเตอรี่:
    - ใช้คริสตัลชนิดพิเศษที่เรียกว่า Scintillator Crystals ซึ่งสามารถเปลี่ยนรังสีแกมมาให้กลายเป็นแสง
    - แสงที่เกิดขึ้นจะถูกเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าผ่านเซลล์แสงอาทิตย์

    ✅ การทดสอบวัสดุ:
    - ทดสอบกับวัสดุที่มีรังสี เช่น Cesium-137 และ Cobalt-60
    - Cesium-137 ผลิตไฟฟ้าได้ 288 นาโนวัตต์ ส่วน Cobalt-60 ผลิตไฟฟ้าได้ 1.5 ไมโครวัตต์ ซึ่งเพียงพอสำหรับเซ็นเซอร์ขนาดเล็ก

    ✅ ความปลอดภัย:
    - แบตเตอรี่ไม่มีวัสดุกัมมันตรังสีในตัว ทำให้ปลอดภัยต่อการสัมผัส

    ✅ การพัฒนาในอนาคต:
    - นักวิจัยเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้สามารถขยายขนาดเพื่อผลิตไฟฟ้าในปริมาณมากขึ้น
    - การผลิตในระดับอุตสาหกรรมอาจมีค่าใช้จ่ายสูง แต่มีศักยภาพในการใช้งานระยะยาวโดยไม่ก่อมลพิษ

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความท้าทายด้านการผลิต:
    - การผลิตแบตเตอรี่ในระดับอุตสาหกรรมอาจมีค่าใช้จ่ายสูงและต้องการการพัฒนาเพิ่มเติม

    ⚠️ การใช้งานในพื้นที่เฉพาะ:
    - แบตเตอรี่นี้เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีรังสีสูงเท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป

    https://www.neowin.net/news/scientists-create-new-battery-powered-by-chernobyl-like-nuclear-wastelands-and-light/
    นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโอไฮโอได้พัฒนาแบตเตอรี่ชนิดใหม่ที่ใช้รังสีจากกากนิวเคลียร์ในการผลิตไฟฟ้า โดยแบตเตอรี่นี้มีศักยภาพในการใช้งานในพื้นที่ที่มีรังสีสูง เช่น โรงเก็บกากนิวเคลียร์ หรือระบบสำรวจอวกาศและใต้น้ำ ✅ การทำงานของแบตเตอรี่: - ใช้คริสตัลชนิดพิเศษที่เรียกว่า Scintillator Crystals ซึ่งสามารถเปลี่ยนรังสีแกมมาให้กลายเป็นแสง - แสงที่เกิดขึ้นจะถูกเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าผ่านเซลล์แสงอาทิตย์ ✅ การทดสอบวัสดุ: - ทดสอบกับวัสดุที่มีรังสี เช่น Cesium-137 และ Cobalt-60 - Cesium-137 ผลิตไฟฟ้าได้ 288 นาโนวัตต์ ส่วน Cobalt-60 ผลิตไฟฟ้าได้ 1.5 ไมโครวัตต์ ซึ่งเพียงพอสำหรับเซ็นเซอร์ขนาดเล็ก ✅ ความปลอดภัย: - แบตเตอรี่ไม่มีวัสดุกัมมันตรังสีในตัว ทำให้ปลอดภัยต่อการสัมผัส ✅ การพัฒนาในอนาคต: - นักวิจัยเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้สามารถขยายขนาดเพื่อผลิตไฟฟ้าในปริมาณมากขึ้น - การผลิตในระดับอุตสาหกรรมอาจมีค่าใช้จ่ายสูง แต่มีศักยภาพในการใช้งานระยะยาวโดยไม่ก่อมลพิษ == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความท้าทายด้านการผลิต: - การผลิตแบตเตอรี่ในระดับอุตสาหกรรมอาจมีค่าใช้จ่ายสูงและต้องการการพัฒนาเพิ่มเติม ⚠️ การใช้งานในพื้นที่เฉพาะ: - แบตเตอรี่นี้เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีรังสีสูงเท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป https://www.neowin.net/news/scientists-create-new-battery-powered-by-chernobyl-like-nuclear-wastelands-and-light/
    WWW.NEOWIN.NET
    Scientists create new battery powered by Chernobyl-like nuclear wastelands and light
    Scientists recently developed a novel battery technology that can use atomic or nuclear waste to convert electricity.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ประกาศว่า Edge 134 มีการปรับปรุงประสิทธิภาพที่สำคัญ โดยเร็วกว่าเวอร์ชันก่อนหน้าถึง 9% ตามการทดสอบด้วย Speedometer 3.0 ซึ่งเป็นการพัฒนาที่มุ่งเน้นการเพิ่มความเร็วและความตอบสนองของเบราว์เซอร์

    == ข้อมูลสำคัญในข่าว ==
    ✅ การปรับปรุงประสิทธิภาพ:
    - Edge 134 มีความเร็วเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับ Edge 133 ตามการทดสอบ Speedometer 3.0
    - การนำทางเร็วขึ้น 1.3%, การเริ่มต้นเร็วขึ้น 2%, และการตอบสนองของหน้าเว็บดีขึ้น 5-7%

    ✅ การเปลี่ยนแปลงในโค้ด:
    - Microsoft ปรับปรุงโค้ดใน Edge และ Chromium engine เพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ

    ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Edge 134:
    - การลบตัวเลือก “Add account” สำหรับผู้ใช้ Entra ID
    - การปรับปรุงการเปิดลิงก์ใน Teams บน macOS
    - การแสดงตัวอย่างนโยบายใหม่เพื่อป้องกันการโจมตีแบบ scareware

    ✅ การปรับปรุงอินเทอร์เฟซ:
    - Edge settings มีการปรับปรุงให้ตอบสนองได้ดีขึ้น

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความแตกต่างในประสิทธิภาพ:
    - ผู้ใช้อาจไม่ได้รับประสบการณ์ที่เหมือนกัน เนื่องจากประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์และจำนวนแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งาน

    ⚠️ การใช้งานฟีเจอร์ใหม่:
    - ผู้ใช้ควรตรวจสอบการตั้งค่าใหม่และนโยบายที่เพิ่มเข้ามา เพื่อให้แน่ใจว่าตรงกับความต้องการ

    https://www.neowin.net/news/microsoft-brags-about-significant-performance-improvements-in-edge-134/
    Microsoft ได้ประกาศว่า Edge 134 มีการปรับปรุงประสิทธิภาพที่สำคัญ โดยเร็วกว่าเวอร์ชันก่อนหน้าถึง 9% ตามการทดสอบด้วย Speedometer 3.0 ซึ่งเป็นการพัฒนาที่มุ่งเน้นการเพิ่มความเร็วและความตอบสนองของเบราว์เซอร์ == ข้อมูลสำคัญในข่าว == ✅ การปรับปรุงประสิทธิภาพ: - Edge 134 มีความเร็วเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับ Edge 133 ตามการทดสอบ Speedometer 3.0 - การนำทางเร็วขึ้น 1.3%, การเริ่มต้นเร็วขึ้น 2%, และการตอบสนองของหน้าเว็บดีขึ้น 5-7% ✅ การเปลี่ยนแปลงในโค้ด: - Microsoft ปรับปรุงโค้ดใน Edge และ Chromium engine เพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Edge 134: - การลบตัวเลือก “Add account” สำหรับผู้ใช้ Entra ID - การปรับปรุงการเปิดลิงก์ใน Teams บน macOS - การแสดงตัวอย่างนโยบายใหม่เพื่อป้องกันการโจมตีแบบ scareware ✅ การปรับปรุงอินเทอร์เฟซ: - Edge settings มีการปรับปรุงให้ตอบสนองได้ดีขึ้น == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความแตกต่างในประสิทธิภาพ: - ผู้ใช้อาจไม่ได้รับประสบการณ์ที่เหมือนกัน เนื่องจากประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์และจำนวนแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งาน ⚠️ การใช้งานฟีเจอร์ใหม่: - ผู้ใช้ควรตรวจสอบการตั้งค่าใหม่และนโยบายที่เพิ่มเข้ามา เพื่อให้แน่ใจว่าตรงกับความต้องการ https://www.neowin.net/news/microsoft-brags-about-significant-performance-improvements-in-edge-134/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft brags about 'significant performance improvements' in Edge 134
    Microsoft is making several claims about its recent Edge 134 release, pointing to a range of performance improvements.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก.อุตสาหกรรมผนึกดีเอสไอลงพื้นที่เก็บตัวอย่างเหล็กจากซากอาคาร สตง.ถล่มเพิ่มเติมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ หลังชงกรณี “ซินเคอหยวน” เป็นคดีพิเศษ “เอกนัฏ” จ่อรื้อ มอก.เหล็กเส้นจากเตา IF ด้าน “ซินเคอหยวน” ยังไม่ปรับปรุงสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ตามหนังสือแจ้งเตือนจาก สมอ. อ้างถูกสั่งปิดโรงงานชั่วคราว

    นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (11 เม.ย.) เจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมโดยทีมสุดซอย ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าพื้นที่เพื่อเก็บตัวอย่างเหล็กจากซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยจะจัดเก็บเหล็กในพื้นที่ทั้ง 4 จุดทุกมุมเพื่อให้ได้ตัวอย่างเหล็กมากที่สุด ก่อนนำส่งตรวจสอบค่าทางเคมีและค่าทางกล ที่สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย

    กระทรวงอุตสาหกรรมได้เข้าหารือและร่วมวางแผนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าพื้นที่เพื่อให้เกิดความเป็นระบบและตรงตามวัตถุประสงค์ให้มากที่สุด

    “เราจะเก็บตัวอย่างในส่วนที่ไม่ได้รับความเสียหายจากการถล่ม เพราะต้องการเหล็กที่มีสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด โดยจะส่งตรวจที่สถาบันเหล็กฯ ส่วนการใช้แล็บกลางหรือไม่นั้นเราจะไม่เปลี่ยนที่ทดสอบ”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000034297

    #MGROnline #กระทรวงอุตสาหกรรม
    ก.อุตสาหกรรมผนึกดีเอสไอลงพื้นที่เก็บตัวอย่างเหล็กจากซากอาคาร สตง.ถล่มเพิ่มเติมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ หลังชงกรณี “ซินเคอหยวน” เป็นคดีพิเศษ “เอกนัฏ” จ่อรื้อ มอก.เหล็กเส้นจากเตา IF ด้าน “ซินเคอหยวน” ยังไม่ปรับปรุงสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ตามหนังสือแจ้งเตือนจาก สมอ. อ้างถูกสั่งปิดโรงงานชั่วคราว • นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (11 เม.ย.) เจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมโดยทีมสุดซอย ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าพื้นที่เพื่อเก็บตัวอย่างเหล็กจากซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยจะจัดเก็บเหล็กในพื้นที่ทั้ง 4 จุดทุกมุมเพื่อให้ได้ตัวอย่างเหล็กมากที่สุด ก่อนนำส่งตรวจสอบค่าทางเคมีและค่าทางกล ที่สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย • กระทรวงอุตสาหกรรมได้เข้าหารือและร่วมวางแผนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าพื้นที่เพื่อให้เกิดความเป็นระบบและตรงตามวัตถุประสงค์ให้มากที่สุด • “เราจะเก็บตัวอย่างในส่วนที่ไม่ได้รับความเสียหายจากการถล่ม เพราะต้องการเหล็กที่มีสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด โดยจะส่งตรวจที่สถาบันเหล็กฯ ส่วนการใช้แล็บกลางหรือไม่นั้นเราจะไม่เปลี่ยนที่ทดสอบ” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000034297 • #MGROnline #กระทรวงอุตสาหกรรม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • เก็บเหล็กตึกสตง.ตรวจเพิ่ม ชงดีเอสไอรับคดีพิเศษ : [THE MESSAGE]
    นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรมว.อุตสาหกรรม และโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เผยถึงการตรวจสอบเหล็กที่ใช้ก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) บริษัท ซินเคอหยวน สตีล จำกัด ถูกแจ้งเตือนก่อนสั่งพักใช้ใบอนุญาตตามมาตรา 40 ตามมาตรฐานห้ามผลิต ห้ามจำหน่าย สินค้าเหล็กเส้นที่ทดสอบไม่ผ่านมาตรฐาน ลงวันที่ 20 ก.พ. 2568 ไม่ได้มีการต่ออายุใบอนุญาต มอก. ตามที่เผยแพร่บนสื่อออนไลน์ จากนี้ได้เรียงลำดับหน่วยงานที่จะเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ คิวแรก เป็นของกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่ง สมอ. จะเก็บตัวอย่างเหล็กในที่เกิดเหตุเพิ่มในวันที่ 11 เม.ย. นี้ เพื่อตรวจสอบว่าเหล็กมีคุณภาพจริงหรือไม่ หรือเจือปนวัตถุอื่นๆ ขณะเดียวกัน จะเอาผิดโรงงานผลิตเหล็กดังกล่าวตามกฏหมายของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) สามารถรับเป็นคดีพิเศษได้ เนื่องจากมีความซับซ้อน กระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม
    เก็บเหล็กตึกสตง.ตรวจเพิ่ม ชงดีเอสไอรับคดีพิเศษ : [THE MESSAGE] นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรมว.อุตสาหกรรม และโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เผยถึงการตรวจสอบเหล็กที่ใช้ก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) บริษัท ซินเคอหยวน สตีล จำกัด ถูกแจ้งเตือนก่อนสั่งพักใช้ใบอนุญาตตามมาตรา 40 ตามมาตรฐานห้ามผลิต ห้ามจำหน่าย สินค้าเหล็กเส้นที่ทดสอบไม่ผ่านมาตรฐาน ลงวันที่ 20 ก.พ. 2568 ไม่ได้มีการต่ออายุใบอนุญาต มอก. ตามที่เผยแพร่บนสื่อออนไลน์ จากนี้ได้เรียงลำดับหน่วยงานที่จะเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ คิวแรก เป็นของกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่ง สมอ. จะเก็บตัวอย่างเหล็กในที่เกิดเหตุเพิ่มในวันที่ 11 เม.ย. นี้ เพื่อตรวจสอบว่าเหล็กมีคุณภาพจริงหรือไม่ หรือเจือปนวัตถุอื่นๆ ขณะเดียวกัน จะเอาผิดโรงงานผลิตเหล็กดังกล่าวตามกฏหมายของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) สามารถรับเป็นคดีพิเศษได้ เนื่องจากมีความซับซ้อน กระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 688 มุมมอง 18 0 รีวิว
  • Google กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ในแอป Gemini ที่เรียกว่า “Power Up” ซึ่งช่วยปรับปรุงคำสั่งที่ผู้ใช้งานพิมพ์ให้มีความชัดเจนและละเอียดมากขึ้น โดยไม่ต้องเสียเวลาลองเขียนคำสั่งหลายครั้ง

    🌐 จุดเด่นของฟีเจอร์ Power Up:
    - ✨ ปรับปรุงคำสั่งอัตโนมัติ: ฟีเจอร์นี้ช่วยเปลี่ยนคำสั่งที่ยังไม่สมบูรณ์ให้กลายเป็นคำสั่งที่มีรายละเอียดและชัดเจนมากขึ้น
    - 🕹️ ลดความยุ่งยาก: ผู้ใช้งานไม่ต้องเสียเวลาปรับแต่งคำสั่งด้วยตนเอง เพียงแค่กดปุ่ม Power Up และปล่อยให้ Gemini ทำงาน

    ⚠️ ผลกระทบต่อประสบการณ์ผู้ใช้งาน:
    - 💡 เพิ่มความโปร่งใส: ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจการปรับปรุงคำสั่งได้ชัดเจนมากขึ้น แทนที่จะเป็นการปรับเบื้องหลังที่มองไม่เห็น
    - 🔄 ลดความหงุดหงิด: ช่วยลดความยุ่งยากในการเขียนคำสั่งที่เหมาะสม ซึ่งเป็นปัญหาที่ผู้ใช้งาน AI หลายคนเผชิญ

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/google-gemini-could-soon-get-a-super-useful-power-up-button-heres-what-it-does
    Google กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ในแอป Gemini ที่เรียกว่า “Power Up” ซึ่งช่วยปรับปรุงคำสั่งที่ผู้ใช้งานพิมพ์ให้มีความชัดเจนและละเอียดมากขึ้น โดยไม่ต้องเสียเวลาลองเขียนคำสั่งหลายครั้ง 🌐 จุดเด่นของฟีเจอร์ Power Up: - ✨ ปรับปรุงคำสั่งอัตโนมัติ: ฟีเจอร์นี้ช่วยเปลี่ยนคำสั่งที่ยังไม่สมบูรณ์ให้กลายเป็นคำสั่งที่มีรายละเอียดและชัดเจนมากขึ้น - 🕹️ ลดความยุ่งยาก: ผู้ใช้งานไม่ต้องเสียเวลาปรับแต่งคำสั่งด้วยตนเอง เพียงแค่กดปุ่ม Power Up และปล่อยให้ Gemini ทำงาน ⚠️ ผลกระทบต่อประสบการณ์ผู้ใช้งาน: - 💡 เพิ่มความโปร่งใส: ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจการปรับปรุงคำสั่งได้ชัดเจนมากขึ้น แทนที่จะเป็นการปรับเบื้องหลังที่มองไม่เห็น - 🔄 ลดความหงุดหงิด: ช่วยลดความยุ่งยากในการเขียนคำสั่งที่เหมาะสม ซึ่งเป็นปัญหาที่ผู้ใช้งาน AI หลายคนเผชิญ https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/google-gemini-could-soon-get-a-super-useful-power-up-button-heres-what-it-does
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI กำลังพิจารณาซื้อกิจการ io Products ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่ก่อตั้งโดย Jony Ive และ Sam Altman ด้วยมูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาอุปกรณ์ AI ที่อาจเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้งานเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน

    🌐 เป้าหมายของ OpenAI:
    - 📱 อุปกรณ์ AI ที่ล้ำสมัย: io Products กำลังพัฒนาอุปกรณ์ที่อาจเข้ามาแทนที่สมาร์ทโฟนแบบดั้งเดิม โดยเน้นการใช้งาน AI ในการจัดการงานประจำวัน

    - 💡 การสร้างรายได้: โครงการนี้อาจช่วยให้ OpenAI มีช่องทางสร้างรายได้ใหม่ หลังจากที่เทคโนโลยี AI ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

    ⚠️ ความท้าทายและบทเรียนจากอดีต:
    - 🛠️ ความล้มเหลวของ Humane AI Pin: อุปกรณ์ AI ที่เคยสร้างความตื่นเต้นในตลาด แต่ล้มเหลวจากการทดสอบที่ไม่ดีและยอดขายที่ต่ำ

    - 🔄 การปรับปรุง Rabbit R1: แม้ Rabbit จะยังคงพัฒนาอุปกรณ์ AI แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างความเชื่อมั่นในตลาด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/10/coming-soon-an-ai-powered-smartphone-alternative-boosted-by-chatgpt
    OpenAI กำลังพิจารณาซื้อกิจการ io Products ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่ก่อตั้งโดย Jony Ive และ Sam Altman ด้วยมูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาอุปกรณ์ AI ที่อาจเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้งานเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน 🌐 เป้าหมายของ OpenAI: - 📱 อุปกรณ์ AI ที่ล้ำสมัย: io Products กำลังพัฒนาอุปกรณ์ที่อาจเข้ามาแทนที่สมาร์ทโฟนแบบดั้งเดิม โดยเน้นการใช้งาน AI ในการจัดการงานประจำวัน - 💡 การสร้างรายได้: โครงการนี้อาจช่วยให้ OpenAI มีช่องทางสร้างรายได้ใหม่ หลังจากที่เทคโนโลยี AI ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ⚠️ ความท้าทายและบทเรียนจากอดีต: - 🛠️ ความล้มเหลวของ Humane AI Pin: อุปกรณ์ AI ที่เคยสร้างความตื่นเต้นในตลาด แต่ล้มเหลวจากการทดสอบที่ไม่ดีและยอดขายที่ต่ำ - 🔄 การปรับปรุง Rabbit R1: แม้ Rabbit จะยังคงพัฒนาอุปกรณ์ AI แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างความเชื่อมั่นในตลาด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/10/coming-soon-an-ai-powered-smartphone-alternative-boosted-by-chatgpt
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Coming soon: an AI-powered smartphone alternative boosted by ChatGPT?
    OpenAI is reportedly considering buying a hardware startup called io Products, founded by Jony Ive and Sam Altman, with the aim of creating a revolutionary consumer device entirely managed by artificial intelligence.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • Corsair ออกมาชี้แจงถึงประเด็นที่ได้รับการพูดถึงในกลุ่มผู้ใช้เกี่ยวกับ 12V-2x6 connectors ที่มีการ "ขยับตัว" ได้เล็กน้อย โดยทางบริษัทระบุว่านี่เป็นการออกแบบที่ตั้งใจไว้ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อให้เหมาะสม และลดการสึกหรอของขั้วต่อในระยะยาว

    ✅ ลดปัญหาขั้วต่อเสียหาย:
    - Corsair ระบุว่า การที่ขั้วต่อสามารถขยับได้เล็กน้อย (ประมาณ 0.25mm ถึง 0.55mm) ช่วยให้การจัดวางขั้วต่อกับพินใน GPU ทำได้แม่นยำขึ้น
    - การออกแบบนี้ยังช่วยลดแรงที่เกิดจากการเสียบและถอดซ้ำ ๆ ซึ่งปกติอาจทำให้ขั้วต่อเสียหายได้

    ✅ ความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว:
    - การขยับเล็กน้อยในขั้วต่อไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานแต่อย่างใด เนื่องจาก Corsair ได้ทดสอบอย่างละเอียดแล้วว่าขั้วต่อต่าง ๆ ยังคงสามารถส่งไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์

    ✅ ตัวเลือกที่รองรับมาตรฐาน:
    - Corsair ใช้ผู้ผลิตหลายรายในการผลิตสายไฟที่รองรับมาตรฐานนี้ รวมถึงสายที่ถูกหุ้มอย่างดีและมีความหนากว่าปกติ

    == ความสำคัญสำหรับผู้ใช้งาน Nvidia RTX ==
    ✅ ปัญหาการหลอมละลายของสายไฟใน GPU ซีรีส์ RTX 50 เป็นเรื่องที่ผู้ใช้งานกังวล แต่ Corsair ชี้แจงว่าการออกแบบขั้วต่อที่มีช่องว่างนี้ไม่ใช่สาเหตุของปัญหา

    ✅ ขณะเดียวกัน Corsair ยืนยันว่า หากผู้ใช้งานพบปัญหาการหลวมมากเกินไป ควรติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าทันที

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/corsair-confirms-the-slight-wiggle-room-in-its-16-pin-connectors-for-nvidia-gpus-is-by-design
    Corsair ออกมาชี้แจงถึงประเด็นที่ได้รับการพูดถึงในกลุ่มผู้ใช้เกี่ยวกับ 12V-2x6 connectors ที่มีการ "ขยับตัว" ได้เล็กน้อย โดยทางบริษัทระบุว่านี่เป็นการออกแบบที่ตั้งใจไว้ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อให้เหมาะสม และลดการสึกหรอของขั้วต่อในระยะยาว ✅ ลดปัญหาขั้วต่อเสียหาย: - Corsair ระบุว่า การที่ขั้วต่อสามารถขยับได้เล็กน้อย (ประมาณ 0.25mm ถึง 0.55mm) ช่วยให้การจัดวางขั้วต่อกับพินใน GPU ทำได้แม่นยำขึ้น - การออกแบบนี้ยังช่วยลดแรงที่เกิดจากการเสียบและถอดซ้ำ ๆ ซึ่งปกติอาจทำให้ขั้วต่อเสียหายได้ ✅ ความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว: - การขยับเล็กน้อยในขั้วต่อไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานแต่อย่างใด เนื่องจาก Corsair ได้ทดสอบอย่างละเอียดแล้วว่าขั้วต่อต่าง ๆ ยังคงสามารถส่งไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์ ✅ ตัวเลือกที่รองรับมาตรฐาน: - Corsair ใช้ผู้ผลิตหลายรายในการผลิตสายไฟที่รองรับมาตรฐานนี้ รวมถึงสายที่ถูกหุ้มอย่างดีและมีความหนากว่าปกติ == ความสำคัญสำหรับผู้ใช้งาน Nvidia RTX == ✅ ปัญหาการหลอมละลายของสายไฟใน GPU ซีรีส์ RTX 50 เป็นเรื่องที่ผู้ใช้งานกังวล แต่ Corsair ชี้แจงว่าการออกแบบขั้วต่อที่มีช่องว่างนี้ไม่ใช่สาเหตุของปัญหา ✅ ขณะเดียวกัน Corsair ยืนยันว่า หากผู้ใช้งานพบปัญหาการหลวมมากเกินไป ควรติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าทันที https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/corsair-confirms-the-slight-wiggle-room-in-its-16-pin-connectors-for-nvidia-gpus-is-by-design
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=6rZ6fTm6U4I
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาวันสงกรานต์
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #สงกรานต์

    The conversations from the clip :

    Tom: Hey Mia, wow, this water fight is so much fun! I can't believe how crazy it is around here!
    Mia: Hey Tom! I know, right? It’s really lively! But I’m starting to get a bit tired. How about we head to Silom next? It’s one of the best places for Songkran!
    Tom: Sounds awesome! I’ve heard Silom is packed during Songkran. But before we go, I’m getting hungry. Where should we grab something to eat?
    Mia: Good idea, Tom! There are so many street food stalls near here. How about we get some mango sticky rice and grilled pork skewers?
    Tom: Yum, that sounds perfect! I’m also craving some coconut ice cream. Let’s go for it!
    Mia: Great choice! After eating, we can take the BTS to Silom. We’ll get there quickly and easily.
    Tom: Yeah, taking the BTS from here sounds perfect. We can get off at Sala Daeng Station, and then we’ll be right in the heart of the action!
    Mia: Exactly! Once we’re done there, how about we head to Thonglor? I’ve heard it’s a bit more laid-back but still fun during Songkran.
    Tom: I love that idea, Mia! Thonglor has some cool places, and it’s less crowded than Silom. It’ll be a nice change.
    Mia: Right! Plus, it’s easy to get there from Silom. We can take the BTS from Sala Daeng to Thong Lo Station.
    Tom: Oh, that’s so convenient! It’ll only take a few stops. I’m excited for Thonglor! It’ll be a perfect way to end the day.
    Mia: Me too, Tom! So, we’ll eat first, head to Silom by BTS for more water fun, and then go to Thonglor to relax and enjoy the vibe.
    Tom: Sounds like a plan, Mia! It’s going to be a fun-filled day of water fights, food, and good times.
    Mia: For sure! I can’t wait. Let’s grab some food now and get ready for the next stop!
    Tom: Absolutely! Let’s go eat, then!

    Tom: สวัสดี Mia ว้าว, การเล่นน้ำสนุกมากเลย! ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะบ้าคลั่งขนาดนี้ที่นี่!
    Mia: สวัสดี Tom! ฉันรู้ใช่ไหม? มันคึกคักจริงๆ เลย! แต่ฉันเริ่มรู้สึกเหนื่อยแล้วนะ ไปที่สีลมต่อดีไหม? มันเป็นหนึ่งในที่ดีที่สุดสำหรับสงกรานต์!
    Tom: ฟังดูดีมาก! ฉันได้ยินมาว่าที่สีลมคนเยอะมากช่วงสงกรานต์เลยนะ แต่ก่อนที่เราจะไป ฉันหิวแล้ว แถวนี้มีที่ไหนที่เราจะไปหากินกันไหม?
    Mia: ความคิดดีเลย Tom! ที่นี่มีร้านอาหารข้างทางเยอะมากเลยนะ เราจะกินข้าวเหนียวมะม่วงกับหมูปิ้งไหม?
    Tom: อืม, ฟังดูอร่อยมาก! ฉันก็อยากกินไอศกรีมมะพร้าวด้วย ลองไปกินกันเถอะ!
    Mia: ตัวเลือกดีมาก! หลังจากกินเสร็จ เราจะนั่งรถไฟฟ้าไปที่สีลมกันนะ เราจะไปถึงเร็วมากเลย
    Tom: ใช่แล้ว นั่ง BTS จากที่นี่ก็ดีเลย เราจะลงที่สถานีศาลาแดง แล้วก็จะอยู่ตรงกลางของความสนุกเลย!
    Mia: ใช่เลย! หลังจากที่เราจบที่สีลมแล้ว ไปทองหล่อกันดีไหม? ฉันได้ยินมาว่ามันจะเงียบกว่าหน่อยแต่ก็สนุกในช่วงสงกรานต์
    Tom: ฉันชอบความคิดนี้ Mia! ทองหล่อมีที่เจ๋งๆ เยอะเลย และมันไม่พลุกพล่านเหมือนสีลม มันน่าจะเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศที่ดี
    Mia: ใช่เลย! อีกอย่างมันก็ไปที่ทองหล่อได้ง่ายจากสีลม เราสามารถนั่ง BTS จากสถานีศาลาแดงไปสถานีทองหล่อ
    Tom: โอ้, นั่นสะดวกมาก! มันจะใช้เวลาแค่ไม่กี่สถานีเอง ฉันตื่นเต้นกับทองหล่อมาก! มันจะเป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบในการจบวัน
    Mia: ฉันก็เช่นกัน Tom! ดังนั้นเราจะไปกินก่อน จากนั้นไปที่สีลมด้วย BTS เพื่อเล่นน้ำต่อ และสุดท้ายไปทองหล่อเพื่อผ่อนคลายและสนุกกับบรรยากาศ
    Tom: ฟังดูเป็นแผนที่ดีเลย Mia! มันจะเป็นวันเต็มไปด้วยการเล่นน้ำ อาหาร และช่วงเวลาที่ดี
    Mia: แน่นอน! ฉันรอไม่ไหวแล้ว เรามากินกันเถอะ แล้วค่อยไปสถานที่ถัดไป!
    Tom: แน่นอน! ไปกินกันเถอะ!

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Water fight (วอ-เทอร์ ไฟต์) n. - การสู้ด้วยน้ำ
    Lively (ไล-ฟลี) adj. - มีชีวิตชีวา, คึกคัก
    Tired (ไท-เอิด) adj. - เหนื่อย
    Street food (สตรีท ฟู้ด) n. - อาหารข้างทาง
    Sticky rice (สติกกี้ ไรซ) n. - ข้าวเหนียว
    Skewers (สกิว-เวอร์) n. - ไม้เสียบ
    Coconut (โค-โค-นัท) n. - มะพร้าว
    Ice cream (ไอซ์ ครีม) n. - ไอศกรีม
    BTS (บีทีเอส) n. - ระบบขนส่งมวลชน (รถไฟฟ้า)
    Convenient (คอน-วี-เนียนท) adj. - สะดวก
    Laid-back (เลด-แบค) adj. - สบายๆ, ผ่อนคลาย
    Crowded (เครา-ดิด) adj. - แออัด
    Relax (รี-แลกซ์) v. - ผ่อนคลาย
    Vibe (ไวบ์) n. - บรรยากาศ, ความรู้สึก
    Fun-filled (ฟัน-ฟิลด์) adj. - เต็มไปด้วยความสนุก
    https://www.youtube.com/watch?v=6rZ6fTm6U4I (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาวันสงกรานต์ มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #สงกรานต์ The conversations from the clip : Tom: Hey Mia, wow, this water fight is so much fun! I can't believe how crazy it is around here! Mia: Hey Tom! I know, right? It’s really lively! But I’m starting to get a bit tired. How about we head to Silom next? It’s one of the best places for Songkran! Tom: Sounds awesome! I’ve heard Silom is packed during Songkran. But before we go, I’m getting hungry. Where should we grab something to eat? Mia: Good idea, Tom! There are so many street food stalls near here. How about we get some mango sticky rice and grilled pork skewers? Tom: Yum, that sounds perfect! I’m also craving some coconut ice cream. Let’s go for it! Mia: Great choice! After eating, we can take the BTS to Silom. We’ll get there quickly and easily. Tom: Yeah, taking the BTS from here sounds perfect. We can get off at Sala Daeng Station, and then we’ll be right in the heart of the action! Mia: Exactly! Once we’re done there, how about we head to Thonglor? I’ve heard it’s a bit more laid-back but still fun during Songkran. Tom: I love that idea, Mia! Thonglor has some cool places, and it’s less crowded than Silom. It’ll be a nice change. Mia: Right! Plus, it’s easy to get there from Silom. We can take the BTS from Sala Daeng to Thong Lo Station. Tom: Oh, that’s so convenient! It’ll only take a few stops. I’m excited for Thonglor! It’ll be a perfect way to end the day. Mia: Me too, Tom! So, we’ll eat first, head to Silom by BTS for more water fun, and then go to Thonglor to relax and enjoy the vibe. Tom: Sounds like a plan, Mia! It’s going to be a fun-filled day of water fights, food, and good times. Mia: For sure! I can’t wait. Let’s grab some food now and get ready for the next stop! Tom: Absolutely! Let’s go eat, then! Tom: สวัสดี Mia ว้าว, การเล่นน้ำสนุกมากเลย! ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะบ้าคลั่งขนาดนี้ที่นี่! Mia: สวัสดี Tom! ฉันรู้ใช่ไหม? มันคึกคักจริงๆ เลย! แต่ฉันเริ่มรู้สึกเหนื่อยแล้วนะ ไปที่สีลมต่อดีไหม? มันเป็นหนึ่งในที่ดีที่สุดสำหรับสงกรานต์! Tom: ฟังดูดีมาก! ฉันได้ยินมาว่าที่สีลมคนเยอะมากช่วงสงกรานต์เลยนะ แต่ก่อนที่เราจะไป ฉันหิวแล้ว แถวนี้มีที่ไหนที่เราจะไปหากินกันไหม? Mia: ความคิดดีเลย Tom! ที่นี่มีร้านอาหารข้างทางเยอะมากเลยนะ เราจะกินข้าวเหนียวมะม่วงกับหมูปิ้งไหม? Tom: อืม, ฟังดูอร่อยมาก! ฉันก็อยากกินไอศกรีมมะพร้าวด้วย ลองไปกินกันเถอะ! Mia: ตัวเลือกดีมาก! หลังจากกินเสร็จ เราจะนั่งรถไฟฟ้าไปที่สีลมกันนะ เราจะไปถึงเร็วมากเลย Tom: ใช่แล้ว นั่ง BTS จากที่นี่ก็ดีเลย เราจะลงที่สถานีศาลาแดง แล้วก็จะอยู่ตรงกลางของความสนุกเลย! Mia: ใช่เลย! หลังจากที่เราจบที่สีลมแล้ว ไปทองหล่อกันดีไหม? ฉันได้ยินมาว่ามันจะเงียบกว่าหน่อยแต่ก็สนุกในช่วงสงกรานต์ Tom: ฉันชอบความคิดนี้ Mia! ทองหล่อมีที่เจ๋งๆ เยอะเลย และมันไม่พลุกพล่านเหมือนสีลม มันน่าจะเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศที่ดี Mia: ใช่เลย! อีกอย่างมันก็ไปที่ทองหล่อได้ง่ายจากสีลม เราสามารถนั่ง BTS จากสถานีศาลาแดงไปสถานีทองหล่อ Tom: โอ้, นั่นสะดวกมาก! มันจะใช้เวลาแค่ไม่กี่สถานีเอง ฉันตื่นเต้นกับทองหล่อมาก! มันจะเป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบในการจบวัน Mia: ฉันก็เช่นกัน Tom! ดังนั้นเราจะไปกินก่อน จากนั้นไปที่สีลมด้วย BTS เพื่อเล่นน้ำต่อ และสุดท้ายไปทองหล่อเพื่อผ่อนคลายและสนุกกับบรรยากาศ Tom: ฟังดูเป็นแผนที่ดีเลย Mia! มันจะเป็นวันเต็มไปด้วยการเล่นน้ำ อาหาร และช่วงเวลาที่ดี Mia: แน่นอน! ฉันรอไม่ไหวแล้ว เรามากินกันเถอะ แล้วค่อยไปสถานที่ถัดไป! Tom: แน่นอน! ไปกินกันเถอะ! Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Water fight (วอ-เทอร์ ไฟต์) n. - การสู้ด้วยน้ำ Lively (ไล-ฟลี) adj. - มีชีวิตชีวา, คึกคัก Tired (ไท-เอิด) adj. - เหนื่อย Street food (สตรีท ฟู้ด) n. - อาหารข้างทาง Sticky rice (สติกกี้ ไรซ) n. - ข้าวเหนียว Skewers (สกิว-เวอร์) n. - ไม้เสียบ Coconut (โค-โค-นัท) n. - มะพร้าว Ice cream (ไอซ์ ครีม) n. - ไอศกรีม BTS (บีทีเอส) n. - ระบบขนส่งมวลชน (รถไฟฟ้า) Convenient (คอน-วี-เนียนท) adj. - สะดวก Laid-back (เลด-แบค) adj. - สบายๆ, ผ่อนคลาย Crowded (เครา-ดิด) adj. - แออัด Relax (รี-แลกซ์) v. - ผ่อนคลาย Vibe (ไวบ์) n. - บรรยากาศ, ความรู้สึก Fun-filled (ฟัน-ฟิลด์) adj. - เต็มไปด้วยความสนุก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในเมืองเดียร์ อัล บาลาห์ และอัล มาวาซี เมืองคาน ยูนิส ในฉนวนกาซา

    หลายครั้งที่อาวุธใหม่ของอิสราเอลจะถูกนำมาใช้และทดสอบโดยใช้ชาวปาเลสไตน์เป็นเหยื่อ
    ภาพการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในเมืองเดียร์ อัล บาลาห์ และอัล มาวาซี เมืองคาน ยูนิส ในฉนวนกาซา หลายครั้งที่อาวุธใหม่ของอิสราเอลจะถูกนำมาใช้และทดสอบโดยใช้ชาวปาเลสไตน์เป็นเหยื่อ
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 36 0 รีวิว
  • AMD EPYC 9005 'Turin' CPUs ชิปประมวลผลที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 ได้รับการยกระดับประสิทธิภาพด้วยการเปิดตัวของระบบปฏิบัติการใหม่ Ubuntu 25.04 Beta ซึ่งมาพร้อมกับการปรับปรุงประสิทธิภาพที่โดดเด่น โดยเฉพาะในด้านการรองรับงานเซิร์ฟเวอร์และงานองค์กร

    == จุดเด่นของ Ubuntu 25.04 Beta ที่เพิ่มประสิทธิภาพ CPU ==
    ✅ การปรับปรุงไดรเวอร์ AMD P-State: Ubuntu 25.04 เลือกใช้ ไดรเวอร์ AMD P-State แทนไดรเวอร์ ACPI CPUFreq เดิม ซึ่งเปิดตัวใน Linux Kernel 6.13 การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ถึง 74.7% ในบางการทดสอบ (เช่น Pennant)

    ✅ การใช้งานทรัพยากรขั้นสูง:
    - การทดสอบ CPU EPYC 9755 จำนวน 2 ตัว (รวม 128 คอร์ / 256 เธรด) บนระบบเซิร์ฟเวอร์ AMD Volcano Server ที่มาพร้อมหน่วยความจำ DDR5-6000 ขนาด 1,536 GB พบว่า Ubuntu 25.04 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเฉลี่ยถึง 14% เมื่อเทียบกับ Ubuntu 24.04 LTS

    ✅ เหมาะสมกับงานที่ซับซ้อน:
    - ฟีเจอร์ใหม่ เช่น HDR Support, Grouping Notifications, และ GNOME 48 ยังช่วยเสริมความสะดวกในการใช้งาน และรองรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    แม้ Ubuntu 25.04 จะไม่ใช่เวอร์ชัน LTS (Long Term Support) แต่การปรับปรุงในครั้งนี้ส่งสัญญาณบวกต่อการเปิดตัว LTS รุ่นถัดไปในปี 2026 ซึ่งคาดว่าอาจช่วยขยายการใช้งาน CPU AMD EPYC ในตลาดองค์กรได้มากยิ่งขึ้น

    นอกจากนี้ มีความเป็นไปได้ว่าประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจาก Ubuntu 25.04 อาจส่งผลดีต่อ Intel Xeon 'Granite Rapids' CPUs ที่กำลังจะมาถึง แม้ยังไม่ได้รับการยืนยัน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-epyc-9005-turin-cpus-see-14-percent-higher-performance-on-average-with-ubuntu-25-04-beta-release
    AMD EPYC 9005 'Turin' CPUs ชิปประมวลผลที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 ได้รับการยกระดับประสิทธิภาพด้วยการเปิดตัวของระบบปฏิบัติการใหม่ Ubuntu 25.04 Beta ซึ่งมาพร้อมกับการปรับปรุงประสิทธิภาพที่โดดเด่น โดยเฉพาะในด้านการรองรับงานเซิร์ฟเวอร์และงานองค์กร == จุดเด่นของ Ubuntu 25.04 Beta ที่เพิ่มประสิทธิภาพ CPU == ✅ การปรับปรุงไดรเวอร์ AMD P-State: Ubuntu 25.04 เลือกใช้ ไดรเวอร์ AMD P-State แทนไดรเวอร์ ACPI CPUFreq เดิม ซึ่งเปิดตัวใน Linux Kernel 6.13 การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ถึง 74.7% ในบางการทดสอบ (เช่น Pennant) ✅ การใช้งานทรัพยากรขั้นสูง: - การทดสอบ CPU EPYC 9755 จำนวน 2 ตัว (รวม 128 คอร์ / 256 เธรด) บนระบบเซิร์ฟเวอร์ AMD Volcano Server ที่มาพร้อมหน่วยความจำ DDR5-6000 ขนาด 1,536 GB พบว่า Ubuntu 25.04 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเฉลี่ยถึง 14% เมื่อเทียบกับ Ubuntu 24.04 LTS ✅ เหมาะสมกับงานที่ซับซ้อน: - ฟีเจอร์ใหม่ เช่น HDR Support, Grouping Notifications, และ GNOME 48 ยังช่วยเสริมความสะดวกในการใช้งาน และรองรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง แม้ Ubuntu 25.04 จะไม่ใช่เวอร์ชัน LTS (Long Term Support) แต่การปรับปรุงในครั้งนี้ส่งสัญญาณบวกต่อการเปิดตัว LTS รุ่นถัดไปในปี 2026 ซึ่งคาดว่าอาจช่วยขยายการใช้งาน CPU AMD EPYC ในตลาดองค์กรได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ มีความเป็นไปได้ว่าประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจาก Ubuntu 25.04 อาจส่งผลดีต่อ Intel Xeon 'Granite Rapids' CPUs ที่กำลังจะมาถึง แม้ยังไม่ได้รับการยืนยัน https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-epyc-9005-turin-cpus-see-14-percent-higher-performance-on-average-with-ubuntu-25-04-beta-release
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทคโนโลยีหน่วยความจำกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการเปิดตัว DRAM+ ซึ่งพัฒนาร่วมกันโดย Ferroelectric Memory Co. (FMC) และ Neumonda โดยใช้วัสดุที่เป็นนวัตกรรมอย่าง hafnium oxide (HfO₂) เพื่อผสมผสานคุณสมบัติความเร็วสูงแบบ DRAM กับการเก็บข้อมูลแบบ SSD (non-volatile)

    ✅ ประสิทธิภาพสูงพร้อมการประหยัดพลังงาน:
    - วัสดุ hafnium oxide ทำให้ DRAM+ สามารถ รักษาข้อมูลได้แม้ไม่มีพลังงาน ซึ่งแตกต่างจาก DRAM แบบเดิมที่ต้องใช้พลังงานต่อเนื่อง

    ✅ ความจุสูงและเหมาะกับการใช้งานหลากหลาย:
    - DRAM+ FeRAM รองรับการใช้งานตั้งแต่ปัญญาประดิษฐ์ (AI), อุตสาหกรรมยานยนต์, ไปจนถึงการแพทย์

    ✅ เทคโนโลยีที่ปรับปรุงจากเดิม:
    - ก่อนหน้านี้ FeRAM ใช้ lead zirconate titanate (PZT) ซึ่งมีข้อจำกัดในเรื่องความจุและการลดขนาด แต่ HfO₂ ที่ใช้งานใน DRAM+ ใหม่สามารถ ทำงานกับชิปที่มีโครงสร้างเล็กกว่า 10nm และผสานกับกระบวนการผลิต CMOS ได้อย่างสมบูรณ์

    ✅ FMC: เป็นผู้นำในการใช้คุณสมบัติ ferroelectric effect ของ HfO₂ เพื่อสร้างหน่วยความจำที่ลดการใช้พลังงาน พร้อมกับให้ประสิทธิภาพสูง

    ✅ Neumonda: นำเทคโนโลยีทดสอบหน่วยความจำ เช่น Rhinoe, Octopus, และ Raptor มาปรับปรุงการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยเน้นการลดต้นทุนและเพิ่มความแม่นยำ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/dram-memory-designed-to-provide-dram-performance-with-ssd-like-storage-capabilities-uses-feram-tech
    เทคโนโลยีหน่วยความจำกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการเปิดตัว DRAM+ ซึ่งพัฒนาร่วมกันโดย Ferroelectric Memory Co. (FMC) และ Neumonda โดยใช้วัสดุที่เป็นนวัตกรรมอย่าง hafnium oxide (HfO₂) เพื่อผสมผสานคุณสมบัติความเร็วสูงแบบ DRAM กับการเก็บข้อมูลแบบ SSD (non-volatile) ✅ ประสิทธิภาพสูงพร้อมการประหยัดพลังงาน: - วัสดุ hafnium oxide ทำให้ DRAM+ สามารถ รักษาข้อมูลได้แม้ไม่มีพลังงาน ซึ่งแตกต่างจาก DRAM แบบเดิมที่ต้องใช้พลังงานต่อเนื่อง ✅ ความจุสูงและเหมาะกับการใช้งานหลากหลาย: - DRAM+ FeRAM รองรับการใช้งานตั้งแต่ปัญญาประดิษฐ์ (AI), อุตสาหกรรมยานยนต์, ไปจนถึงการแพทย์ ✅ เทคโนโลยีที่ปรับปรุงจากเดิม: - ก่อนหน้านี้ FeRAM ใช้ lead zirconate titanate (PZT) ซึ่งมีข้อจำกัดในเรื่องความจุและการลดขนาด แต่ HfO₂ ที่ใช้งานใน DRAM+ ใหม่สามารถ ทำงานกับชิปที่มีโครงสร้างเล็กกว่า 10nm และผสานกับกระบวนการผลิต CMOS ได้อย่างสมบูรณ์ ✅ FMC: เป็นผู้นำในการใช้คุณสมบัติ ferroelectric effect ของ HfO₂ เพื่อสร้างหน่วยความจำที่ลดการใช้พลังงาน พร้อมกับให้ประสิทธิภาพสูง ✅ Neumonda: นำเทคโนโลยีทดสอบหน่วยความจำ เช่น Rhinoe, Octopus, และ Raptor มาปรับปรุงการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยเน้นการลดต้นทุนและเพิ่มความแม่นยำ https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/dram-memory-designed-to-provide-dram-performance-with-ssd-like-storage-capabilities-uses-feram-tech
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • แพ็กเกจ Python บน PyPI (Python Package Index) ถูกพบว่ามีมัลแวร์แฝงอยู่ โดยนักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก ReversingLabs และ Socket เผยถึงการโจมตีที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้หลายหมื่นราย แพ็กเกจดังกล่าวถูกดาวน์โหลดรวมกว่า 40,000 ครั้ง ทำให้เกิดข้อกังวลในชุมชนโอเพนซอร์ส

    ✅ แพ็กเกจที่แฝงมัลแวร์:
    - bitcoinlibdbfix และ bitcoinlib-dev: ถูกออกแบบมาเพื่อหลอกนักพัฒนาด้านคริปโต โดยอ้างว่าเป็นการแก้ไขปัญหาของโมดูล bitcoinlib ที่ถูกต้อง
    - disgrasya: มุ่งเป้าไปยังร้านค้า WooCommerce โดยทำหน้าที่เป็น carding script ที่เปิดเผยเจตนาโจมตีอย่างตรงไปตรงมา

    ✅ กระบวนการโจมตี:
    - มัลแวร์ใน bitcoinlibdbfix และ bitcoinlib-dev ทำการเขียนคำสั่ง malicious ลงในระบบเพื่อดึงข้อมูลสำคัญ
    - ส่วน disgrasya ใช้เพื่อทดสอบข้อมูลบัตรเครดิต และอาจสร้างผลกำไรให้แก่ผู้โจมตีจากการนำข้อมูลไปขายในตลาดมืด

    ✅ ปัญหาของระบบโอเพนซอร์ส:
    - PyPI ซึ่งเป็นชุมชนโอเพนซอร์สยอดนิยม ถูกโจมตีโดยผู้ประสงค์ร้ายที่ฉวยโอกาสจากการเปิดกว้างของแพลตฟอร์ม

    ✅ การรับมือจากชุมชน:
    - แพ็กเกจเหล่านี้ถูกนำออกจาก PyPI หลังจากมีการรายงานอย่างรวดเร็ว

    ✅ ความท้าทายในการป้องกัน:
    - เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้งานและนักพัฒนาควรเพิ่มความระมัดระวังเมื่อดาวน์โหลดแพ็กเกจ และควรตรวจสอบผู้เผยแพร่แพ็กเกจอย่างละเอียด

    https://www.techradar.com/pro/security/malicious-python-packages-are-stealing-vital-data-and-have-been-downloaded-thousands-of-times-already
    แพ็กเกจ Python บน PyPI (Python Package Index) ถูกพบว่ามีมัลแวร์แฝงอยู่ โดยนักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก ReversingLabs และ Socket เผยถึงการโจมตีที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้หลายหมื่นราย แพ็กเกจดังกล่าวถูกดาวน์โหลดรวมกว่า 40,000 ครั้ง ทำให้เกิดข้อกังวลในชุมชนโอเพนซอร์ส ✅ แพ็กเกจที่แฝงมัลแวร์: - bitcoinlibdbfix และ bitcoinlib-dev: ถูกออกแบบมาเพื่อหลอกนักพัฒนาด้านคริปโต โดยอ้างว่าเป็นการแก้ไขปัญหาของโมดูล bitcoinlib ที่ถูกต้อง - disgrasya: มุ่งเป้าไปยังร้านค้า WooCommerce โดยทำหน้าที่เป็น carding script ที่เปิดเผยเจตนาโจมตีอย่างตรงไปตรงมา ✅ กระบวนการโจมตี: - มัลแวร์ใน bitcoinlibdbfix และ bitcoinlib-dev ทำการเขียนคำสั่ง malicious ลงในระบบเพื่อดึงข้อมูลสำคัญ - ส่วน disgrasya ใช้เพื่อทดสอบข้อมูลบัตรเครดิต และอาจสร้างผลกำไรให้แก่ผู้โจมตีจากการนำข้อมูลไปขายในตลาดมืด ✅ ปัญหาของระบบโอเพนซอร์ส: - PyPI ซึ่งเป็นชุมชนโอเพนซอร์สยอดนิยม ถูกโจมตีโดยผู้ประสงค์ร้ายที่ฉวยโอกาสจากการเปิดกว้างของแพลตฟอร์ม ✅ การรับมือจากชุมชน: - แพ็กเกจเหล่านี้ถูกนำออกจาก PyPI หลังจากมีการรายงานอย่างรวดเร็ว ✅ ความท้าทายในการป้องกัน: - เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้งานและนักพัฒนาควรเพิ่มความระมัดระวังเมื่อดาวน์โหลดแพ็กเกจ และควรตรวจสอบผู้เผยแพร่แพ็กเกจอย่างละเอียด https://www.techradar.com/pro/security/malicious-python-packages-are-stealing-vital-data-and-have-been-downloaded-thousands-of-times-already
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มผู้ชื่นชอบพีซีในชุมชนออนไลน์ได้ทดลอง แฟลช (Flash) vBIOS ของการ์ดจอ AMD RX 9070 โดยใช้ vBIOS ของรุ่น RX 9070 XT ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง ด้วยสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 15-20% เมื่อปรับการทำงาน รวมถึงยังมีรายงานว่าหลังโอเวอร์คล็อกแล้ว RX 9070 ที่ปรับแต่งนี้สามารถเอาชนะ RX 9070 XT ได้ในบางกรณี

    ✅ พลังงานเพิ่มขึ้น:
    - RX 9070 ปกติถูกจำกัดการใช้พลังงานที่ 220 วัตต์ ขณะที่รุ่น XT ใช้พลังงานสูงถึง 304 วัตต์ การแฟลช vBIOS จะเพิ่มพลังงานเป็น 317 วัตต์ พร้อมกับเพิ่มคล็อกความเร็วสูงถึง 3.1 GHz

    ✅ สมรรถนะในการเล่นเกมและการทดสอบ:
    - ในการทดสอบ 3DMark RX 9070 ที่ปรับแต่งสามารถทำคะแนนได้สูงกว่ารุ่นปกติถึง 20% และในบางกรณียังเอาชนะ RX 9070 XT ได้ด้วยการปรับจูนเพิ่ม

    ✅ ข้อควรระวัง:
    - การแฟลช vBIOS มีความเสี่ยงที่จะทำให้การ์ดจอเสียหายและหมดประกัน โดยเฉพาะหากการจัดการความร้อนหรือไฟฟ้าไม่ได้รับการตรวจสอบที่ดี

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-rx-9070-vbios-flash-offers-up-to-20-percent-performance-boost-modders-claim-oc-beats-9070-xt
    กลุ่มผู้ชื่นชอบพีซีในชุมชนออนไลน์ได้ทดลอง แฟลช (Flash) vBIOS ของการ์ดจอ AMD RX 9070 โดยใช้ vBIOS ของรุ่น RX 9070 XT ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง ด้วยสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 15-20% เมื่อปรับการทำงาน รวมถึงยังมีรายงานว่าหลังโอเวอร์คล็อกแล้ว RX 9070 ที่ปรับแต่งนี้สามารถเอาชนะ RX 9070 XT ได้ในบางกรณี ✅ พลังงานเพิ่มขึ้น: - RX 9070 ปกติถูกจำกัดการใช้พลังงานที่ 220 วัตต์ ขณะที่รุ่น XT ใช้พลังงานสูงถึง 304 วัตต์ การแฟลช vBIOS จะเพิ่มพลังงานเป็น 317 วัตต์ พร้อมกับเพิ่มคล็อกความเร็วสูงถึง 3.1 GHz ✅ สมรรถนะในการเล่นเกมและการทดสอบ: - ในการทดสอบ 3DMark RX 9070 ที่ปรับแต่งสามารถทำคะแนนได้สูงกว่ารุ่นปกติถึง 20% และในบางกรณียังเอาชนะ RX 9070 XT ได้ด้วยการปรับจูนเพิ่ม ✅ ข้อควรระวัง: - การแฟลช vBIOS มีความเสี่ยงที่จะทำให้การ์ดจอเสียหายและหมดประกัน โดยเฉพาะหากการจัดการความร้อนหรือไฟฟ้าไม่ได้รับการตรวจสอบที่ดี https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-rx-9070-vbios-flash-offers-up-to-20-percent-performance-boost-modders-claim-oc-beats-9070-xt
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เราอยู่ในภาวะสงครามแล้วนะ และคนไทยเราไม่รู้ตัว.

    ..กฎหมายสภาพอากาศ ผ่านในสภาไทยแล้วนะ

    ..นี้คือ #สงครามเคมีของการควบคุมสภาพอากาศ
    ..แผ่นดินไหวถึงไทย ตลอดตึก สตง.ถล่ม ไม่ใช่แค่บิดเบือนสงครามHAARPนี้ว่าเกิดจากธรรมชาติแต่แท้จริงมันคือสัตว์ที่อยู่ในโลกประเภทหนึ่งทำ แรปทีเลียนชั่ว มนุษย์ชั่วเข้าร่วมทำร่วมกับชาติมหาอำนาจโลกควบคุมในนามชื่อเดอะแก๊งdeep state นี้ก็ว่าซึ่งมาสร้างบรรยากาศบันเทิงต่อโลกรับบทเป็นฝ่ายไม่ดีฝ่ายมืดก่อการและควบคุมมันก็ว่าอีกล่ะ.

    ..พวกมันพ่นสารเคมีใส่เราเหมือนแมลง สารเคมีในอากาศ สารเคมีในอากาศ และสารเคมีในอากาศที่ปนเปื้อนในอากาศ

    ไม่ใช่การควบแน่น ไม่ใช่เมฆ สิ่งที่คุณเห็นบนท้องฟ้าคือการโจมตีด้วยละอองลอยในอากาศของกองทหารที่ประสานงานกันอย่างประสานงานกัน ซึ่งเป็นสงครามเคมีที่ปลอมตัวมาในรูปแบบของ "การควบคุมสภาพอากาศ" รูปแบบที่สลับไปมา หมอกควันที่ขยายตัว นี่คือวิศวกรรมธรณีวิทยา และในปี 2025 สารเคมีเหล่านี้จะขยายขนาดจนไม่สามารถละเลยได้

    อะลูมิเนียม แบเรียม สตรอนเทียม ลิเธียม สารเคมีเหล่านี้ถูกทิ้งใส่เราทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นจากเครื่องบินที่ไม่มีเครื่องหมาย ใต้เส้นทางการบินของกองทหาร และสื่อก็ปฏิเสธมาตลอด เป้าหมายคืออะไร? การครอบงำด้วยสเปกตรัมเต็มรูปแบบ อากาศ ดิน อาหาร ร่างกายของคุณ ทุกสิ่งทุกอย่างอิ่มตัวด้วยโลหะที่นำไฟฟ้าได้

    นี่ไม่ใช่การทำให้โลกเย็นลง แต่เป็นการสร้างบรรยากาศที่ไวต่อความถี่และสามารถตั้งโปรแกรมได้ ท้องฟ้ากลายเป็นแผงควบคุม ประชากรกลายเป็นเครื่องรับสัญญาณ คุณไม่ได้แค่หายใจเอาสารพิษเข้าไปเท่านั้น แต่คุณยังดูดซับอิทธิพลจากระยะไกลอีกด้วย

    การทดสอบอิสระในปี 2025 แสดงให้เห็นว่าระดับอะลูมิเนียมในน้ำฝนสูงขึ้นถึง 70 เท่าของปกติ ต้นไม้ตาย ผึ้งหายไป ผู้คนรายงานว่าสมองมึนงงอย่างกะทันหัน อ่อนล้า อารมณ์แปรปรวน ซึ่งเพิ่มขึ้นทันทีหลังจากฉีดพ่นสารอย่างหนัก เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่? ไม่มีทางเป็นไปได้

    ทำไมเส้นทางจึงก่อตัวเป็นตารางและเกลียว ทำไมพายุ "ประหลาด" จึงพัดถล่มพื้นที่หนึ่งในขณะที่พื้นที่อื่นๆ ถูกฝังอยู่ภายใต้ภัยแล้งที่ไม่เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันคือสงครามสภาพอากาศที่ควบคุมได้ HAARP EISCAT SuperDARN สิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธจริงที่กระตุ้นไอโอโนสเฟียร์และควบคุมกระแสลมกรดและเส้นทางพายุ

    นี่ไม่ใช่ทฤษฎี มันคือปฏิบัติการทางทหารที่ยังคงดำเนินอยู่ ผู้รับเหมากำลังฉีดพ่นอนุภาคที่มีตัวนำ เครื่องทำความร้อนไอโอโนสเฟียร์ปล่อยพลังงานขึ้นสู่ท้องฟ้า ดาวเทียมและหอส่งสัญญาณ 5G ทำหน้าที่ควบคุม คุณกลายเป็นส่วนหนึ่งของกริดอาวุธ ระบบประสาท คลื่นสมอง ความคิดของคุณ เปิดเผยทุกอย่าง

    คุณคือสนามรบ

    ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เมืองในชนบทในยูทาห์ โอเรกอน เพนซิลเวเนีย รายงานเสียงลึกลับ สัตว์ตายเกลื่อน และไฟดับ การทดสอบภาคสนาม อาวุธเงียบ ไม่มีการรายงาน ไม่มีความรับผิดชอบ

    และพวกเขากำลังเพิ่มลิเธียม ซึ่งเป็นยาจิตเวช เพื่อทำให้สงบ ระงับ เพื่อควบคุม เมื่อรวมกับความถี่ มันจะลอกเอาความตั้งใจ ความโกรธ และความสามารถในการต่อต้านของคุณออกไป

    26 มีนาคม 2025 นี่ไม่ใช่โลกดิสโทเปียในอนาคต แต่เป็นตอนนี้

    สิ่งที่คุณเห็น ไม่ใช่เมฆ สงคราม
    สิ่งที่คุณรู้สึก ไม่ใช่ธรรมชาติ ถูกสร้างขึ้น
    สิ่งที่คุณหายใจ ไม่ใช่อากาศ การยอมจำนนทางเคมี

    ตื่นขึ้น หรือไม่ก็ถูกลบ

    ..เราอยู่ในภาวะสงครามแล้วนะ และคนไทยเราไม่รู้ตัว. ..กฎหมายสภาพอากาศ ผ่านในสภาไทยแล้วนะ ..นี้คือ #สงครามเคมีของการควบคุมสภาพอากาศ ..แผ่นดินไหวถึงไทย ตลอดตึก สตง.ถล่ม ไม่ใช่แค่บิดเบือนสงครามHAARPนี้ว่าเกิดจากธรรมชาติแต่แท้จริงมันคือสัตว์ที่อยู่ในโลกประเภทหนึ่งทำ แรปทีเลียนชั่ว มนุษย์ชั่วเข้าร่วมทำร่วมกับชาติมหาอำนาจโลกควบคุมในนามชื่อเดอะแก๊งdeep state นี้ก็ว่าซึ่งมาสร้างบรรยากาศบันเทิงต่อโลกรับบทเป็นฝ่ายไม่ดีฝ่ายมืดก่อการและควบคุมมันก็ว่าอีกล่ะ. ..พวกมันพ่นสารเคมีใส่เราเหมือนแมลง สารเคมีในอากาศ สารเคมีในอากาศ และสารเคมีในอากาศที่ปนเปื้อนในอากาศ ไม่ใช่การควบแน่น ไม่ใช่เมฆ สิ่งที่คุณเห็นบนท้องฟ้าคือการโจมตีด้วยละอองลอยในอากาศของกองทหารที่ประสานงานกันอย่างประสานงานกัน ซึ่งเป็นสงครามเคมีที่ปลอมตัวมาในรูปแบบของ "การควบคุมสภาพอากาศ" รูปแบบที่สลับไปมา หมอกควันที่ขยายตัว นี่คือวิศวกรรมธรณีวิทยา และในปี 2025 สารเคมีเหล่านี้จะขยายขนาดจนไม่สามารถละเลยได้ อะลูมิเนียม แบเรียม สตรอนเทียม ลิเธียม สารเคมีเหล่านี้ถูกทิ้งใส่เราทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นจากเครื่องบินที่ไม่มีเครื่องหมาย ใต้เส้นทางการบินของกองทหาร และสื่อก็ปฏิเสธมาตลอด เป้าหมายคืออะไร? การครอบงำด้วยสเปกตรัมเต็มรูปแบบ อากาศ ดิน อาหาร ร่างกายของคุณ ทุกสิ่งทุกอย่างอิ่มตัวด้วยโลหะที่นำไฟฟ้าได้ นี่ไม่ใช่การทำให้โลกเย็นลง แต่เป็นการสร้างบรรยากาศที่ไวต่อความถี่และสามารถตั้งโปรแกรมได้ ท้องฟ้ากลายเป็นแผงควบคุม ประชากรกลายเป็นเครื่องรับสัญญาณ คุณไม่ได้แค่หายใจเอาสารพิษเข้าไปเท่านั้น แต่คุณยังดูดซับอิทธิพลจากระยะไกลอีกด้วย การทดสอบอิสระในปี 2025 แสดงให้เห็นว่าระดับอะลูมิเนียมในน้ำฝนสูงขึ้นถึง 70 เท่าของปกติ ต้นไม้ตาย ผึ้งหายไป ผู้คนรายงานว่าสมองมึนงงอย่างกะทันหัน อ่อนล้า อารมณ์แปรปรวน ซึ่งเพิ่มขึ้นทันทีหลังจากฉีดพ่นสารอย่างหนัก เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่? ไม่มีทางเป็นไปได้ ทำไมเส้นทางจึงก่อตัวเป็นตารางและเกลียว ทำไมพายุ "ประหลาด" จึงพัดถล่มพื้นที่หนึ่งในขณะที่พื้นที่อื่นๆ ถูกฝังอยู่ภายใต้ภัยแล้งที่ไม่เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันคือสงครามสภาพอากาศที่ควบคุมได้ HAARP EISCAT SuperDARN สิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธจริงที่กระตุ้นไอโอโนสเฟียร์และควบคุมกระแสลมกรดและเส้นทางพายุ นี่ไม่ใช่ทฤษฎี มันคือปฏิบัติการทางทหารที่ยังคงดำเนินอยู่ ผู้รับเหมากำลังฉีดพ่นอนุภาคที่มีตัวนำ เครื่องทำความร้อนไอโอโนสเฟียร์ปล่อยพลังงานขึ้นสู่ท้องฟ้า ดาวเทียมและหอส่งสัญญาณ 5G ทำหน้าที่ควบคุม คุณกลายเป็นส่วนหนึ่งของกริดอาวุธ ระบบประสาท คลื่นสมอง ความคิดของคุณ เปิดเผยทุกอย่าง คุณคือสนามรบ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เมืองในชนบทในยูทาห์ โอเรกอน เพนซิลเวเนีย รายงานเสียงลึกลับ สัตว์ตายเกลื่อน และไฟดับ การทดสอบภาคสนาม อาวุธเงียบ ไม่มีการรายงาน ไม่มีความรับผิดชอบ และพวกเขากำลังเพิ่มลิเธียม ซึ่งเป็นยาจิตเวช เพื่อทำให้สงบ ระงับ เพื่อควบคุม เมื่อรวมกับความถี่ มันจะลอกเอาความตั้งใจ ความโกรธ และความสามารถในการต่อต้านของคุณออกไป 26 มีนาคม 2025 นี่ไม่ใช่โลกดิสโทเปียในอนาคต แต่เป็นตอนนี้ สิ่งที่คุณเห็น ไม่ใช่เมฆ สงคราม สิ่งที่คุณรู้สึก ไม่ใช่ธรรมชาติ ถูกสร้างขึ้น สิ่งที่คุณหายใจ ไม่ใช่อากาศ การยอมจำนนทางเคมี ตื่นขึ้น หรือไม่ก็ถูกลบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว

  • ..HAARPคือสงครามของทุกๆชาวโลก ต้องร่วมกันหยุดมัน.,เพราะถูกใช้ในทางที่ผิด ทั้งไม่เป็นไปตามธรรมชาติด้วย ,อาจใช้ในทางที่ถูกร่วมกับธรรมชาติที่เหมาะสมได้.

    HAARP: อาวุธโลกที่ทำให้อาวุธนิวเคลียร์ดูอ่อนแอ

    คุณเคยได้ยินมาว่านั่นเป็นเพียงการวิจัยเท่านั้น พวกเขาโกหก HAARP คืออาวุธพลังงานสนามรบที่ปลอมตัวมาเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งสามารถทำลายท้องฟ้า ทำให้เกิดแผ่นดินไหว ลบการสื่อสาร และทำลายบรรยากาศที่อยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์

    ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ชนชั้นนำระดับโลกได้ทดสอบขีดจำกัดของเกราะป้องกันของโลก ซึ่งได้แก่ แถบแวนอัลเลน ไอโอโนสเฟียร์ แมกนีโตสเฟียร์ ด้วยระเบิดนิวเคลียร์ คลื่นความถี่สูง และแถบรังสีทดลอง ในปี 1958 โปรเจกต์อาร์กัสได้จุดชนวนระเบิดในอวกาศ ในปี 1962 สตาร์ฟิช ไพรม์เกือบจะทำให้ไอโอโนสเฟียร์เหนือมหาสมุทรแปซิฟิกระเหยไป นี่ไม่ใช่การทดสอบ แต่เป็นการทดลองทำสงครามโลกในอวกาศ

    ในช่วงทศวรรษ 1980 NASA, DARPA และกระทรวงกลาโหมได้เริ่มปรับปรุงการควบคุมไอโอโนสเฟียร์ให้สมบูรณ์แบบ การปล่อยจรวดทำให้เกิด "หลุมไอโอโนสเฟียร์" ซึ่งเป็นโซนขนาดใหญ่ที่รังสีสามารถรวมตัวและนำไปใช้ในการทำสงครามกับสภาพอากาศหรือจิตใจ ระบบการเคลื่อนตัวในวงโคจรของกระสวยอวกาศได้เผาช่องว่างบนท้องฟ้าอย่างแท้จริง

    พบกับ HAARP—โครงการวิจัยออโรร่าความถี่สูงที่ใช้งานได้ตั้งแต่ปี 1993 โดยส่งพลังงาน 3.6 กิกะวัตต์ขึ้นสู่ท้องฟ้าจากอลาสก้า ซึ่งเทียบเท่ากับอาวุธนิวเคลียร์ขนาดเล็กที่ส่งตรงขึ้นสู่ท้องฟ้า เป้าหมายคือคุณ และความจริง

    เป้าหมายของ HAARP นั้นชวนสะเทือนขวัญ:
    —กระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหว น้ำท่วม พายุเฮอริเคน
    —ขัดขวางการสื่อสารของศัตรูหรือควบคุมจิตใจของพวกมัน
    —จำลองคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าระดับนิวเคลียร์โดยไม่ต้องยิงขีปนาวุธ
    —ทำให้ชั้นไอโอโนสเฟียร์ร้อนขึ้นเพื่อทำลายระบบสภาพอากาศ

    แต่ยังไม่จบแค่นั้น ระบบนี้ทำงานร่วมกับโครงการจรวดลับ อาวุธแม่เหล็กไฟฟ้า และแพลตฟอร์มเลเซอร์บนอวกาศที่สามารถส่งพลังงานจากวงโคจรได้ โครงการสตาร์วอร์สไม่เคยตาย แค่เปลี่ยนชื่อเท่านั้น

    ที่น่ากังวลยิ่งกว่านั้น: ในช่วงพายุทะเลทราย สหรัฐฯ ได้ทดสอบอาวุธ EMP ที่เลียนแบบการระเบิดนิวเคลียร์โดยไม่มีร่องรอย และในปี 1986 การทดลอง Mighty Oaks ได้รั่วไหลกัมมันตภาพรังสีไปทั่วอเมริกา ซึ่งโทษว่าเป็นความผิดของเชอร์โนบิล

    พวกเขากำลังสร้างกรงที่มองไม่เห็นของกัมมันตภาพรังสี ความถี่ และความหวาดกลัว และทุกๆ วัน พวกเขาก็พลิกสวิตช์ให้สูงขึ้น

    HAARP ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ แต่เป็นสงครามเงียบ และกำลังเกิดขึ้นในขณะนี้

    พายุที่คุณรู้สึกไม่ใช่สภาพอากาศ แต่เป็นอาวุธ

    #ร่วมสร้างชุมชนthaitimeกันเถอะ.
    ..HAARPคือสงครามของทุกๆชาวโลก ต้องร่วมกันหยุดมัน.,เพราะถูกใช้ในทางที่ผิด ทั้งไม่เป็นไปตามธรรมชาติด้วย ,อาจใช้ในทางที่ถูกร่วมกับธรรมชาติที่เหมาะสมได้. HAARP: อาวุธโลกที่ทำให้อาวุธนิวเคลียร์ดูอ่อนแอ คุณเคยได้ยินมาว่านั่นเป็นเพียงการวิจัยเท่านั้น พวกเขาโกหก HAARP คืออาวุธพลังงานสนามรบที่ปลอมตัวมาเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งสามารถทำลายท้องฟ้า ทำให้เกิดแผ่นดินไหว ลบการสื่อสาร และทำลายบรรยากาศที่อยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์ ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ชนชั้นนำระดับโลกได้ทดสอบขีดจำกัดของเกราะป้องกันของโลก ซึ่งได้แก่ แถบแวนอัลเลน ไอโอโนสเฟียร์ แมกนีโตสเฟียร์ ด้วยระเบิดนิวเคลียร์ คลื่นความถี่สูง และแถบรังสีทดลอง ในปี 1958 โปรเจกต์อาร์กัสได้จุดชนวนระเบิดในอวกาศ ในปี 1962 สตาร์ฟิช ไพรม์เกือบจะทำให้ไอโอโนสเฟียร์เหนือมหาสมุทรแปซิฟิกระเหยไป นี่ไม่ใช่การทดสอบ แต่เป็นการทดลองทำสงครามโลกในอวกาศ ในช่วงทศวรรษ 1980 NASA, DARPA และกระทรวงกลาโหมได้เริ่มปรับปรุงการควบคุมไอโอโนสเฟียร์ให้สมบูรณ์แบบ การปล่อยจรวดทำให้เกิด "หลุมไอโอโนสเฟียร์" ซึ่งเป็นโซนขนาดใหญ่ที่รังสีสามารถรวมตัวและนำไปใช้ในการทำสงครามกับสภาพอากาศหรือจิตใจ ระบบการเคลื่อนตัวในวงโคจรของกระสวยอวกาศได้เผาช่องว่างบนท้องฟ้าอย่างแท้จริง พบกับ HAARP—โครงการวิจัยออโรร่าความถี่สูงที่ใช้งานได้ตั้งแต่ปี 1993 โดยส่งพลังงาน 3.6 กิกะวัตต์ขึ้นสู่ท้องฟ้าจากอลาสก้า ซึ่งเทียบเท่ากับอาวุธนิวเคลียร์ขนาดเล็กที่ส่งตรงขึ้นสู่ท้องฟ้า เป้าหมายคือคุณ และความจริง เป้าหมายของ HAARP นั้นชวนสะเทือนขวัญ: —กระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหว น้ำท่วม พายุเฮอริเคน —ขัดขวางการสื่อสารของศัตรูหรือควบคุมจิตใจของพวกมัน —จำลองคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าระดับนิวเคลียร์โดยไม่ต้องยิงขีปนาวุธ —ทำให้ชั้นไอโอโนสเฟียร์ร้อนขึ้นเพื่อทำลายระบบสภาพอากาศ แต่ยังไม่จบแค่นั้น ระบบนี้ทำงานร่วมกับโครงการจรวดลับ อาวุธแม่เหล็กไฟฟ้า และแพลตฟอร์มเลเซอร์บนอวกาศที่สามารถส่งพลังงานจากวงโคจรได้ โครงการสตาร์วอร์สไม่เคยตาย แค่เปลี่ยนชื่อเท่านั้น ที่น่ากังวลยิ่งกว่านั้น: ในช่วงพายุทะเลทราย สหรัฐฯ ได้ทดสอบอาวุธ EMP ที่เลียนแบบการระเบิดนิวเคลียร์โดยไม่มีร่องรอย และในปี 1986 การทดลอง Mighty Oaks ได้รั่วไหลกัมมันตภาพรังสีไปทั่วอเมริกา ซึ่งโทษว่าเป็นความผิดของเชอร์โนบิล พวกเขากำลังสร้างกรงที่มองไม่เห็นของกัมมันตภาพรังสี ความถี่ และความหวาดกลัว และทุกๆ วัน พวกเขาก็พลิกสวิตช์ให้สูงขึ้น HAARP ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ แต่เป็นสงครามเงียบ และกำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ พายุที่คุณรู้สึกไม่ใช่สภาพอากาศ แต่เป็นอาวุธ #ร่วมสร้างชุมชนthaitimeกันเถอะ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts