• GCC 16 รองรับ Zen 6 แล้ว

    ทีมพัฒนา GCC (GNU Compiler Collection) ได้เพิ่ม Zen 6 target เข้าไปในเวอร์ชัน 16 ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2026 การอัปเดตนี้ช่วยให้ซอฟต์แวร์สามารถปรับแต่งการคอมไพล์ให้เหมาะสมกับสถาปัตยกรรม Zen 6 ได้ทันทีที่ฮาร์ดแวร์ออกสู่ตลาด ถือเป็นการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าสำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้ Linux

    ความสำคัญของการรองรับล่วงหน้า
    การเพิ่ม target ใน GCC มีความสำคัญมาก เพราะ GCC เป็นหนึ่งในคอมไพเลอร์หลักของโลกโอเพ่นซอร์ส การรองรับ Zen 6 ล่วงหน้าช่วยให้ ecosystem ของ Linux และ HPC (High-Performance Computing) สามารถใช้ประโยชน์จากสถาปัตยกรรมใหม่ได้ตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว โดยเฉพาะ workloads ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI, cloud และ supercomputing

    บริบทของ Zen 6
    Zen 6 คาดว่าจะใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 (2nm) และอาจมาพร้อมกับการปรับปรุงด้าน cache, memory subsystem และการจัดการพลังงาน ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญต่อจาก Zen 5 ที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2024 การที่ GCC รองรับแล้วจึงเป็นสัญญาณว่า AMD กำลังเดินหน้าเข้าสู่การทดสอบและเตรียมการผลิตจริง

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    แม้ GCC จะรองรับแล้ว แต่ยังไม่มีรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับ instruction set หรือ optimization ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับ Zen 6 การใช้งานจริงอาจต้องรอการปรับปรุงเพิ่มเติมเมื่อ AMD เปิดเผยข้อมูลเต็มรูปแบบ

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การอัปเดต GCC 16
    เพิ่ม target สำหรับ AMD Zen 6
    เปิดทางให้ Linux และ HPC ใช้งานได้ทันทีเมื่อเปิดตัว

    ความสำคัญต่อ ecosystem
    GCC เป็นคอมไพเลอร์หลักของโอเพ่นซอร์ส
    รองรับล่วงหน้าช่วยให้ AI, cloud และ supercomputing ใช้งานได้เร็วขึ้น

    บริบทของ Zen 6
    คาดว่าจะใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 (2nm)
    ปรับปรุง cache, memory subsystem และการจัดการพลังงาน

    ข้อควรระวัง
    ยังไม่มีรายละเอียด instruction set เฉพาะของ Zen 6
    การปรับแต่ง optimization ต้องรอข้อมูลจาก AMD เพิ่มเติม

    https://wccftech.com/amd-zen-6-support-added-to-gcc-16-ahead-of-launch/
    🖥️ GCC 16 รองรับ Zen 6 แล้ว ทีมพัฒนา GCC (GNU Compiler Collection) ได้เพิ่ม Zen 6 target เข้าไปในเวอร์ชัน 16 ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2026 การอัปเดตนี้ช่วยให้ซอฟต์แวร์สามารถปรับแต่งการคอมไพล์ให้เหมาะสมกับสถาปัตยกรรม Zen 6 ได้ทันทีที่ฮาร์ดแวร์ออกสู่ตลาด ถือเป็นการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าสำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้ Linux ⚡ ความสำคัญของการรองรับล่วงหน้า การเพิ่ม target ใน GCC มีความสำคัญมาก เพราะ GCC เป็นหนึ่งในคอมไพเลอร์หลักของโลกโอเพ่นซอร์ส การรองรับ Zen 6 ล่วงหน้าช่วยให้ ecosystem ของ Linux และ HPC (High-Performance Computing) สามารถใช้ประโยชน์จากสถาปัตยกรรมใหม่ได้ตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว โดยเฉพาะ workloads ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI, cloud และ supercomputing 🌐 บริบทของ Zen 6 Zen 6 คาดว่าจะใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 (2nm) และอาจมาพร้อมกับการปรับปรุงด้าน cache, memory subsystem และการจัดการพลังงาน ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญต่อจาก Zen 5 ที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2024 การที่ GCC รองรับแล้วจึงเป็นสัญญาณว่า AMD กำลังเดินหน้าเข้าสู่การทดสอบและเตรียมการผลิตจริง ⚠️ ผลกระทบและข้อควรระวัง แม้ GCC จะรองรับแล้ว แต่ยังไม่มีรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับ instruction set หรือ optimization ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับ Zen 6 การใช้งานจริงอาจต้องรอการปรับปรุงเพิ่มเติมเมื่อ AMD เปิดเผยข้อมูลเต็มรูปแบบ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การอัปเดต GCC 16 ➡️ เพิ่ม target สำหรับ AMD Zen 6 ➡️ เปิดทางให้ Linux และ HPC ใช้งานได้ทันทีเมื่อเปิดตัว ✅ ความสำคัญต่อ ecosystem ➡️ GCC เป็นคอมไพเลอร์หลักของโอเพ่นซอร์ส ➡️ รองรับล่วงหน้าช่วยให้ AI, cloud และ supercomputing ใช้งานได้เร็วขึ้น ✅ บริบทของ Zen 6 ➡️ คาดว่าจะใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 (2nm) ➡️ ปรับปรุง cache, memory subsystem และการจัดการพลังงาน ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ยังไม่มีรายละเอียด instruction set เฉพาะของ Zen 6 ⛔ การปรับแต่ง optimization ต้องรอข้อมูลจาก AMD เพิ่มเติม https://wccftech.com/amd-zen-6-support-added-to-gcc-16-ahead-of-launch/
    WCCFTECH.COM
    AMD Zen 6 Support Added To GCC 16 Ahead Of Launch
    AMD's upcoming Zen 6 architecture is now officially added in the GCC 16 open-source compiler, making a significant progress.
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • Windows Server 2025: ยุคใหม่ของ Native NVMe

    Microsoft ได้ปรับปรุงสถาปัตยกรรมการจัดการ I/O ของ Windows Server 2025 โดยตัดการแปลงคำสั่ง NVMe ไปเป็น SCSI ที่เคยเป็นคอขวดมานาน ทำให้ระบบสามารถสื่อสารกับ NVMe SSD ได้โดยตรง ผลลัพธ์คือประสิทธิภาพการอ่านเขียนข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล โดยเฉพาะในงานที่ต้องการ throughput สูง เช่น virtualization, AI/ML workloads และฐานข้อมูลขนาดใหญ่

    ประสิทธิภาพที่พิสูจน์ได้
    การทดสอบภายในของ Microsoft แสดงให้เห็นว่า Native NVMe สามารถเพิ่ม IOPS ได้ถึง 80% และลดการใช้ CPU ลง 45% เมื่อเทียบกับ Windows Server 2022 การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากการใช้ multi-queue architecture ของ NVMe ที่รองรับได้ถึง 64,000 queues และ 64,000 commands ต่อ queue ซึ่งต่างจาก SCSI ที่จำกัดเพียง 32 commands ต่อ queue

    ผลกระทบต่อองค์กร
    สำหรับองค์กรที่ใช้ SQL Server, Hyper-V หรือระบบไฟล์เซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ การเปิดใช้งาน Native NVMe จะช่วยให้การทำงานเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น VM boot เร็วขึ้น, live migration ลื่นไหลขึ้น และการประมวลผลข้อมูล AI/ML มี latency ต่ำลง นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและฮาร์ดแวร์ เพราะสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    แม้ฟีเจอร์นี้จะพร้อมใช้งานแล้ว แต่ Microsoft เลือกที่จะปิดไว้เป็นค่าเริ่มต้น เพื่อให้ผู้ดูแลระบบทดสอบก่อนนำไปใช้จริง ต้องเปิดใช้งานด้วยการแก้ Registry หรือ Group Policy และยังมีข้อจำกัดว่าต้องใช้ไดรเวอร์ StorNVMe.sys ของ Windows เอง หากใช้ไดรเวอร์จากผู้ผลิตอื่น ฟีเจอร์นี้จะไม่ทำงาน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าบาง consumer SSD อาจไม่เข้ากับสถาปัตยกรรมใหม่และอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเปลี่ยนแปลงหลักใน Windows Server 2025
    รองรับ Native NVMe โดยตรง ไม่ต้องผ่าน SCSI translation
    เพิ่ม IOPS ได้สูงสุด 80% และลด CPU usage 45%

    ผลลัพธ์ต่อองค์กรและ workload
    SQL Server, Hyper-V, และ AI/ML workloads ทำงานเร็วขึ้น
    ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและฮาร์ดแวร์

    ข้อควรระวังในการใช้งาน
    ฟีเจอร์ถูกปิดเป็นค่าเริ่มต้น ต้องเปิดเองผ่าน Registry/Group Policy
    ต้องใช้ไดรเวอร์ StorNVMe.sys ของ Windows เท่านั้น
    บาง consumer SSD อาจไม่เข้ากับสถาปัตยกรรมใหม่ ทำให้ประสิทธิภาพลดลง

    https://www.tomshardware.com/desktops/servers/windows-server-2025-gains-native-nvme-support-14-years-after-its-introduction-groundbreaking-i-o-stack-drops-scsi-emulation-limitations-for-massive-throughput-and-cpu-efficiency-gains
    🖥️ Windows Server 2025: ยุคใหม่ของ Native NVMe Microsoft ได้ปรับปรุงสถาปัตยกรรมการจัดการ I/O ของ Windows Server 2025 โดยตัดการแปลงคำสั่ง NVMe ไปเป็น SCSI ที่เคยเป็นคอขวดมานาน ทำให้ระบบสามารถสื่อสารกับ NVMe SSD ได้โดยตรง ผลลัพธ์คือประสิทธิภาพการอ่านเขียนข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล โดยเฉพาะในงานที่ต้องการ throughput สูง เช่น virtualization, AI/ML workloads และฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ⚡ ประสิทธิภาพที่พิสูจน์ได้ การทดสอบภายในของ Microsoft แสดงให้เห็นว่า Native NVMe สามารถเพิ่ม IOPS ได้ถึง 80% และลดการใช้ CPU ลง 45% เมื่อเทียบกับ Windows Server 2022 การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากการใช้ multi-queue architecture ของ NVMe ที่รองรับได้ถึง 64,000 queues และ 64,000 commands ต่อ queue ซึ่งต่างจาก SCSI ที่จำกัดเพียง 32 commands ต่อ queue 🏢 ผลกระทบต่อองค์กร สำหรับองค์กรที่ใช้ SQL Server, Hyper-V หรือระบบไฟล์เซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ การเปิดใช้งาน Native NVMe จะช่วยให้การทำงานเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น VM boot เร็วขึ้น, live migration ลื่นไหลขึ้น และการประมวลผลข้อมูล AI/ML มี latency ต่ำลง นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและฮาร์ดแวร์ เพราะสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ⚠️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด แม้ฟีเจอร์นี้จะพร้อมใช้งานแล้ว แต่ Microsoft เลือกที่จะปิดไว้เป็นค่าเริ่มต้น เพื่อให้ผู้ดูแลระบบทดสอบก่อนนำไปใช้จริง ต้องเปิดใช้งานด้วยการแก้ Registry หรือ Group Policy และยังมีข้อจำกัดว่าต้องใช้ไดรเวอร์ StorNVMe.sys ของ Windows เอง หากใช้ไดรเวอร์จากผู้ผลิตอื่น ฟีเจอร์นี้จะไม่ทำงาน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าบาง consumer SSD อาจไม่เข้ากับสถาปัตยกรรมใหม่และอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเปลี่ยนแปลงหลักใน Windows Server 2025 ➡️ รองรับ Native NVMe โดยตรง ไม่ต้องผ่าน SCSI translation ➡️ เพิ่ม IOPS ได้สูงสุด 80% และลด CPU usage 45% ✅ ผลลัพธ์ต่อองค์กรและ workload ➡️ SQL Server, Hyper-V, และ AI/ML workloads ทำงานเร็วขึ้น ➡️ ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและฮาร์ดแวร์ ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน ⛔ ฟีเจอร์ถูกปิดเป็นค่าเริ่มต้น ต้องเปิดเองผ่าน Registry/Group Policy ⛔ ต้องใช้ไดรเวอร์ StorNVMe.sys ของ Windows เท่านั้น ⛔ บาง consumer SSD อาจไม่เข้ากับสถาปัตยกรรมใหม่ ทำให้ประสิทธิภาพลดลง https://www.tomshardware.com/desktops/servers/windows-server-2025-gains-native-nvme-support-14-years-after-its-introduction-groundbreaking-i-o-stack-drops-scsi-emulation-limitations-for-massive-throughput-and-cpu-efficiency-gains
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • วิธีติดตั้ง Linux Kernel 6.18 LTS บน Ubuntu 25.10 และ 25.04
    Linux Kernel 6.18 ได้รับการประกาศเป็น LTS (Long-Term Support) ซึ่งจะได้รับการดูแลจนถึงเดือนธันวาคม 2027 ทำให้ผู้ใช้ Ubuntu รุ่นใหม่อย่าง 25.10 (Questing Quokka) และ 25.04 (Plucky Puffin) สามารถอัปเดตไปใช้ kernel รุ่นนี้เพื่อความเสถียรและการรองรับฮาร์ดแวร์ล่าสุดได้

    ขั้นตอนการติดตั้ง
    1️⃣ เพิ่ม Ubuntu Mainline Kernel PPA Archive ดาวน์โหลดไฟล์ .deb ที่เกี่ยวข้องจาก PPA ของ Ubuntu mainline kernel

    2️⃣ ไฟล์ที่ต้องติดตั้ง
    linux-image-unsigned-6.18.0-061800-generic_amd64.deb
    linux-modules-6.18.0-061800-generic_amd64.deb
    linux-headers-6.18.0-061800-generic_amd64.deb
    linux-headers-6.18.0-061800_all.deb

    3️⃣ ติดตั้งด้วย dpkg ใช้คำสั่ง:

    sudo dpkg -i *.deb

    4️⃣ รีบูตเครื่อง หลังการติดตั้ง ให้รีบูตเพื่อเข้าสู่ kernel ใหม่

    สิ่งที่ได้รับจาก Kernel 6.18 LTS
    รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ ๆ รวมถึงอุปกรณ์จาก Intel และ AMD
    ปรับปรุงประสิทธิภาพและความเสถียรของระบบไฟล์
    แก้ไขบั๊กและเพิ่มความปลอดภัยในระดับ kernel
    ได้รับการดูแลระยะยาวจนถึงปี 2027

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    Linux Kernel 6.18 ได้รับสถานะ LTS
    จะได้รับการดูแลจนถึงเดือนธันวาคม 2027

    รองรับ Ubuntu 25.10 และ 25.04
    สามารถติดตั้งผ่านไฟล์ .deb จาก mainline PPA

    ขั้นตอนติดตั้งง่าย
    ดาวน์โหลดไฟล์, ใช้ dpkg -i, และรีบูตเครื่อง

    ประโยชน์จาก Kernel ใหม่
    รองรับฮาร์ดแวร์ล่าสุด, ปรับปรุงเสถียรภาพ และเพิ่มความปลอดภัย

    คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป
    การติดตั้ง kernel mainline อาจทำให้บาง driver หรือโมดูลไม่เข้ากันกับระบบ

    ความเสี่ยงด้านระบบ production
    ควรทดสอบบนเครื่องทดลองก่อนนำไปใช้จริง เพื่อหลีกเลี่ยง downtime

    https://9to5linux.com/how-to-install-linux-kernel-6-18-lts-on-ubuntu-25-10-and-ubuntu-25-04
    🐧 วิธีติดตั้ง Linux Kernel 6.18 LTS บน Ubuntu 25.10 และ 25.04 Linux Kernel 6.18 ได้รับการประกาศเป็น LTS (Long-Term Support) ซึ่งจะได้รับการดูแลจนถึงเดือนธันวาคม 2027 ทำให้ผู้ใช้ Ubuntu รุ่นใหม่อย่าง 25.10 (Questing Quokka) และ 25.04 (Plucky Puffin) สามารถอัปเดตไปใช้ kernel รุ่นนี้เพื่อความเสถียรและการรองรับฮาร์ดแวร์ล่าสุดได้ ⚙️ ขั้นตอนการติดตั้ง 1️⃣ เพิ่ม Ubuntu Mainline Kernel PPA Archive ดาวน์โหลดไฟล์ .deb ที่เกี่ยวข้องจาก PPA ของ Ubuntu mainline kernel 2️⃣ ไฟล์ที่ต้องติดตั้ง 🎗️ linux-image-unsigned-6.18.0-061800-generic_amd64.deb 🎗️ linux-modules-6.18.0-061800-generic_amd64.deb 🎗️ linux-headers-6.18.0-061800-generic_amd64.deb 🎗️ linux-headers-6.18.0-061800_all.deb 3️⃣ ติดตั้งด้วย dpkg ใช้คำสั่ง: sudo dpkg -i *.deb 4️⃣ รีบูตเครื่อง หลังการติดตั้ง ให้รีบูตเพื่อเข้าสู่ kernel ใหม่ 🛡️ สิ่งที่ได้รับจาก Kernel 6.18 LTS 🎗️ รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ ๆ รวมถึงอุปกรณ์จาก Intel และ AMD 🎗️ ปรับปรุงประสิทธิภาพและความเสถียรของระบบไฟล์ 🎗️ แก้ไขบั๊กและเพิ่มความปลอดภัยในระดับ kernel 🎗️ ได้รับการดูแลระยะยาวจนถึงปี 2027 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ Linux Kernel 6.18 ได้รับสถานะ LTS ➡️ จะได้รับการดูแลจนถึงเดือนธันวาคม 2027 ✅ รองรับ Ubuntu 25.10 และ 25.04 ➡️ สามารถติดตั้งผ่านไฟล์ .deb จาก mainline PPA ✅ ขั้นตอนติดตั้งง่าย ➡️ ดาวน์โหลดไฟล์, ใช้ dpkg -i, และรีบูตเครื่อง ✅ ประโยชน์จาก Kernel ใหม่ ➡️ รองรับฮาร์ดแวร์ล่าสุด, ปรับปรุงเสถียรภาพ และเพิ่มความปลอดภัย ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป ⛔ การติดตั้ง kernel mainline อาจทำให้บาง driver หรือโมดูลไม่เข้ากันกับระบบ ‼️ ความเสี่ยงด้านระบบ production ⛔ ควรทดสอบบนเครื่องทดลองก่อนนำไปใช้จริง เพื่อหลีกเลี่ยง downtime https://9to5linux.com/how-to-install-linux-kernel-6-18-lts-on-ubuntu-25-10-and-ubuntu-25-04
    9TO5LINUX.COM
    How to Install Linux Kernel 6.18 LTS on Ubuntu 25.10 and Ubuntu 25.04 - 9to5Linux
    You can now install the latest and greatest Linux 6.18 LTS kernel series on your Ubuntu 25.04 and Ubuntu 25.10 distributions. Here’s how!
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews
  • OpenZFS 2.4: รองรับ Linux 6.18 LTS พร้อมฟีเจอร์ใหม่

    OpenZFS 2.4 ได้รับการปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2025 โดยเป็นการอัปเดตใหญ่ที่เพิ่มการรองรับ Linux Kernel 6.18 LTS และฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการจัดการระบบไฟล์ ZFS ซึ่งเป็นที่นิยมในงานเซิร์ฟเวอร์และระบบจัดเก็บข้อมูล

    ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญ
    Uncached I/O: เพิ่มกลไก fallback สำหรับ direct I/O ที่ไม่จัด alignment โดยใช้ lightweight uncached I/O ช่วยให้การอ่าน–เขียนข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้นในบาง workload
    Quota Improvements: ปรับปรุงระบบ quota ให้แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในระบบที่มีผู้ใช้หลายราย
    Fragmentation Algorithm ใหม่: ใช้อัลกอริทึมที่ออกแบบมาเพื่อลดการ fragmentation ของ vdev ทำให้การจัดเก็บข้อมูลมีความเสถียรมากขึ้น

    การแก้ไขและปรับปรุงเพิ่มเติม
    นอกจากฟีเจอร์ใหม่แล้ว OpenZFS 2.4 ยังแก้ไขบั๊กและปรับปรุงหลายจุด เช่น การทำงานร่วมกับระบบ RAIDZ, การจัดการ deduplication และการปรับปรุงประสิทธิภาพของ snapshot รวมถึงการรองรับการอัปเดตจากเวอร์ชันก่อนหน้าได้อย่างราบรื่น

    ความสำคัญต่อผู้ใช้และองค์กร
    การรองรับ Linux 6.18 LTS ทำให้ OpenZFS 2.4 เป็นตัวเลือกที่มั่นคงสำหรับองค์กรที่ต้องการระบบไฟล์ที่มีความเสถียรและปลอดภัยในระยะยาว ฟีเจอร์ใหม่อย่าง uncached I/O และ quota improvements ยังช่วยตอบโจทย์ workload ที่ซับซ้อน เช่น ระบบฐานข้อมูลและคลาวด์สตอเรจ

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    รองรับ Linux Kernel 6.18 LTS
    ทำให้ OpenZFS ใช้งานได้กับระบบล่าสุดที่มีการสนับสนุนระยะยาว

    เพิ่มฟีเจอร์ Uncached I/O
    ช่วยให้ direct I/O ที่ไม่ align ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ปรับปรุงระบบ Quota และ Fragmentation Algorithm
    ลดปัญหา fragmentation และเพิ่มความแม่นยำในการจัดการ quota

    แก้ไขบั๊กและปรับปรุง RAIDZ, deduplication, snapshot
    เพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพโดยรวมของระบบไฟล์

    คำเตือนต่อผู้ใช้ที่อัปเดตทันที
    ควรทดสอบบนระบบ staging ก่อนนำไปใช้จริงใน production

    ความเสี่ยงจากการ migration
    หากอัปเดตจากเวอร์ชันเก่าโดยไม่ตรวจสอบ compatibility อาจเกิดปัญหากับ workload เฉพาะทาง

    https://9to5linux.com/openzfs-2-4-released-with-linux-6-18-lts-support-quotas-uncached-io-and-more
    💾 OpenZFS 2.4: รองรับ Linux 6.18 LTS พร้อมฟีเจอร์ใหม่ OpenZFS 2.4 ได้รับการปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2025 โดยเป็นการอัปเดตใหญ่ที่เพิ่มการรองรับ Linux Kernel 6.18 LTS และฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการจัดการระบบไฟล์ ZFS ซึ่งเป็นที่นิยมในงานเซิร์ฟเวอร์และระบบจัดเก็บข้อมูล ⚙️ ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญ 🎗️ Uncached I/O: เพิ่มกลไก fallback สำหรับ direct I/O ที่ไม่จัด alignment โดยใช้ lightweight uncached I/O ช่วยให้การอ่าน–เขียนข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้นในบาง workload 🎗️ Quota Improvements: ปรับปรุงระบบ quota ให้แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในระบบที่มีผู้ใช้หลายราย 🎗️ Fragmentation Algorithm ใหม่: ใช้อัลกอริทึมที่ออกแบบมาเพื่อลดการ fragmentation ของ vdev ทำให้การจัดเก็บข้อมูลมีความเสถียรมากขึ้น 🛠️ การแก้ไขและปรับปรุงเพิ่มเติม นอกจากฟีเจอร์ใหม่แล้ว OpenZFS 2.4 ยังแก้ไขบั๊กและปรับปรุงหลายจุด เช่น การทำงานร่วมกับระบบ RAIDZ, การจัดการ deduplication และการปรับปรุงประสิทธิภาพของ snapshot รวมถึงการรองรับการอัปเดตจากเวอร์ชันก่อนหน้าได้อย่างราบรื่น 🌐 ความสำคัญต่อผู้ใช้และองค์กร การรองรับ Linux 6.18 LTS ทำให้ OpenZFS 2.4 เป็นตัวเลือกที่มั่นคงสำหรับองค์กรที่ต้องการระบบไฟล์ที่มีความเสถียรและปลอดภัยในระยะยาว ฟีเจอร์ใหม่อย่าง uncached I/O และ quota improvements ยังช่วยตอบโจทย์ workload ที่ซับซ้อน เช่น ระบบฐานข้อมูลและคลาวด์สตอเรจ 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ รองรับ Linux Kernel 6.18 LTS ➡️ ทำให้ OpenZFS ใช้งานได้กับระบบล่าสุดที่มีการสนับสนุนระยะยาว ✅ เพิ่มฟีเจอร์ Uncached I/O ➡️ ช่วยให้ direct I/O ที่ไม่ align ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ปรับปรุงระบบ Quota และ Fragmentation Algorithm ➡️ ลดปัญหา fragmentation และเพิ่มความแม่นยำในการจัดการ quota ✅ แก้ไขบั๊กและปรับปรุง RAIDZ, deduplication, snapshot ➡️ เพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพโดยรวมของระบบไฟล์ ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ที่อัปเดตทันที ⛔ ควรทดสอบบนระบบ staging ก่อนนำไปใช้จริงใน production ‼️ ความเสี่ยงจากการ migration ⛔ หากอัปเดตจากเวอร์ชันเก่าโดยไม่ตรวจสอบ compatibility อาจเกิดปัญหากับ workload เฉพาะทาง https://9to5linux.com/openzfs-2-4-released-with-linux-6-18-lts-support-quotas-uncached-io-and-more
    9TO5LINUX.COM
    OpenZFS 2.4 Released with Linux 6.18 LTS Support, Quotas, Uncached IO, and More - 9to5Linux
    OpenZFS 2.4 file system and volume manager is now available for download with support for Linux kernel 6.18 LTS and several new features.
    0 Comments 0 Shares 58 Views 0 Reviews
  • Red Hat เสริมแกร่งด้าน AI Safety ด้วยการซื้อกิจการ Chatterbox Labs

    Red Hat ประกาศเข้าซื้อ Chatterbox Labs บริษัทด้าน AI Safety จากลอนดอน เพื่อเสริมความมั่นใจให้ลูกค้าในการนำ AI ไปใช้ในระดับองค์กร โดยมีแผนจะ เปิดซอร์สเทคโนโลยีของ Chatterbox Labs ตามแนวทางที่ Red Hat ใช้กับการเข้าซื้อกิจการอื่น ๆ

    เทคโนโลยี AIMI: เครื่องมือทดสอบความปลอดภัยของ AI
    Chatterbox Labs พัฒนาแพลตฟอร์ม AIMI ที่สามารถตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงของระบบ AI ได้แบบ model-agnostic โดยมี 3 ส่วนสำคัญ:
    AIMI for Gen AI: ให้ตัวชี้วัดเชิงปริมาณเกี่ยวกับความเสี่ยงของ LLMs
    AIMI for Predictive AI: ตรวจสอบความแข็งแกร่ง ความเป็นธรรม และความสามารถในการอธิบายของโมเดล AI แบบดั้งเดิม
    Guardrails: ระบบที่ช่วยดักจับ prompt ที่ไม่ปลอดภัย มีพิษ หรือมีอคติ ก่อนนำไปใช้จริง

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด
    สำหรับลูกค้า Red Hat การซื้อกิจการครั้งนี้หมายถึงการได้ เครื่องมือด้านความปลอดภัยที่ฝังอยู่ในแพลตฟอร์มตั้งแต่ต้น ไม่ใช่การเพิ่มเข้ามาภายหลัง ช่วยให้การนำ AI ไปใช้ในระดับ production มีความมั่นใจมากขึ้น และยังสร้างภาพลักษณ์ว่า Red Hat เป็นผู้นำด้าน “Security for AI” ในตลาดองค์กร

    มุมมองจากผู้บริหาร Red Hat
    Steven Huels รองประธานฝ่าย AI Engineering ของ Red Hat กล่าวว่าการนำ AI จากห้องทดลองไปสู่การใช้งานจริงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการด้าน ความโปร่งใสและความปลอดภัย มีความสำคัญมากขึ้น การรวมเทคโนโลยีของ Chatterbox Labs เข้ามาจะช่วยให้ Red Hat สามารถมอบแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างและปลอดภัยแก่ลูกค้าได้อย่างแท้จริง

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    Red Hat เข้าซื้อ Chatterbox Labs
    เสริมความสามารถด้าน AI Safety และมีแผนเปิดซอร์สเทคโนโลยี

    แพลตฟอร์ม AIMI ของ Chatterbox Labs
    ตรวจสอบความเสี่ยงของ Gen AI, Predictive AI และมี Guardrails สำหรับ prompt

    ผลดีต่อผู้ใช้ Red Hat
    ได้เครื่องมือความปลอดภัยที่ฝังในแพลตฟอร์มตั้งแต่ต้น

    ภาพลักษณ์เชิงกลยุทธ์
    Red Hat วางตัวเป็นผู้นำด้าน “Security for AI” ในตลาดองค์กร

    คำเตือนต่อการนำ AI ไปใช้จริง
    หากไม่มีระบบตรวจสอบและ guardrails อาจเสี่ยงต่อ prompt injection, jailbreaking และ data leakage

    https://itsfoss.com/news/red-hat-acquires-chatterbox-labs/
    🛡️ Red Hat เสริมแกร่งด้าน AI Safety ด้วยการซื้อกิจการ Chatterbox Labs Red Hat ประกาศเข้าซื้อ Chatterbox Labs บริษัทด้าน AI Safety จากลอนดอน เพื่อเสริมความมั่นใจให้ลูกค้าในการนำ AI ไปใช้ในระดับองค์กร โดยมีแผนจะ เปิดซอร์สเทคโนโลยีของ Chatterbox Labs ตามแนวทางที่ Red Hat ใช้กับการเข้าซื้อกิจการอื่น ๆ 🤖 เทคโนโลยี AIMI: เครื่องมือทดสอบความปลอดภัยของ AI Chatterbox Labs พัฒนาแพลตฟอร์ม AIMI ที่สามารถตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงของระบบ AI ได้แบบ model-agnostic โดยมี 3 ส่วนสำคัญ: 💠 AIMI for Gen AI: ให้ตัวชี้วัดเชิงปริมาณเกี่ยวกับความเสี่ยงของ LLMs 💠 AIMI for Predictive AI: ตรวจสอบความแข็งแกร่ง ความเป็นธรรม และความสามารถในการอธิบายของโมเดล AI แบบดั้งเดิม 💠 Guardrails: ระบบที่ช่วยดักจับ prompt ที่ไม่ปลอดภัย มีพิษ หรือมีอคติ ก่อนนำไปใช้จริง 🌐 ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด สำหรับลูกค้า Red Hat การซื้อกิจการครั้งนี้หมายถึงการได้ เครื่องมือด้านความปลอดภัยที่ฝังอยู่ในแพลตฟอร์มตั้งแต่ต้น ไม่ใช่การเพิ่มเข้ามาภายหลัง ช่วยให้การนำ AI ไปใช้ในระดับ production มีความมั่นใจมากขึ้น และยังสร้างภาพลักษณ์ว่า Red Hat เป็นผู้นำด้าน “Security for AI” ในตลาดองค์กร 📣 มุมมองจากผู้บริหาร Red Hat Steven Huels รองประธานฝ่าย AI Engineering ของ Red Hat กล่าวว่าการนำ AI จากห้องทดลองไปสู่การใช้งานจริงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการด้าน ความโปร่งใสและความปลอดภัย มีความสำคัญมากขึ้น การรวมเทคโนโลยีของ Chatterbox Labs เข้ามาจะช่วยให้ Red Hat สามารถมอบแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างและปลอดภัยแก่ลูกค้าได้อย่างแท้จริง 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ Red Hat เข้าซื้อ Chatterbox Labs ➡️ เสริมความสามารถด้าน AI Safety และมีแผนเปิดซอร์สเทคโนโลยี ✅ แพลตฟอร์ม AIMI ของ Chatterbox Labs ➡️ ตรวจสอบความเสี่ยงของ Gen AI, Predictive AI และมี Guardrails สำหรับ prompt ✅ ผลดีต่อผู้ใช้ Red Hat ➡️ ได้เครื่องมือความปลอดภัยที่ฝังในแพลตฟอร์มตั้งแต่ต้น ✅ ภาพลักษณ์เชิงกลยุทธ์ ➡️ Red Hat วางตัวเป็นผู้นำด้าน “Security for AI” ในตลาดองค์กร ‼️ คำเตือนต่อการนำ AI ไปใช้จริง ⛔ หากไม่มีระบบตรวจสอบและ guardrails อาจเสี่ยงต่อ prompt injection, jailbreaking และ data leakage https://itsfoss.com/news/red-hat-acquires-chatterbox-labs/
    ITSFOSS.COM
    Red Hat Buys an AI Safety Company, Promises to Open Source Its Tech
    The new addition brings custom AI security and safety tooling to Red Hat.
    0 Comments 0 Shares 40 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251219 #securityonline

    FreeBSD เจอช่องโหว่ร้ายแรงจาก IPv6
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในระบบเครือข่ายของ FreeBSD ที่อันตรายมาก เพราะแค่มีคนส่งแพ็กเก็ต IPv6 ที่ถูกปรับแต่งมาอย่างเจาะจง ก็สามารถทำให้เครื่องเป้าหมายรันคำสั่งของผู้โจมตีได้ทันที ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่โปรแกรม rtsol และ rtsold ซึ่งใช้จัดการการตั้งค่า IPv6 แบบอัตโนมัติ ไปส่งข้อมูลต่อให้กับ resolvconf โดยไม่ตรวจสอบความถูกต้อง ผลคือคำสั่งที่แฝงมาในข้อมูลสามารถถูกประมวลผลเหมือนเป็นคำสั่ง shell จริง ๆ แม้การโจมตีจะจำกัดอยู่ในเครือข่ายท้องถิ่น เช่น Wi-Fi สาธารณะหรือ LAN ที่ไม่ปลอดภัย แต่ก็ถือว่าเสี่ยงมาก ผู้ใช้ที่เปิด IPv6 และยังไม่ได้อัปเดตต้องรีบแพตช์ทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดเครื่อง
    https://securityonline.info/freebsd-network-alert-malicious-ipv6-packets-can-trigger-remote-code-execution-via-resolvconf-cve-2025-14558

    ช่องโหว่ใหม่ใน Roundcube Webmail
    ระบบอีเมลโอเพนซอร์สชื่อดัง Roundcube ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงสองจุดที่อาจทำให้ผู้โจมตีแอบรันสคริปต์หรือดึงข้อมูลจากกล่องอีเมลได้ ช่องโหว่แรกคือ XSS ที่ซ่อนอยู่ในไฟล์ SVG โดยใช้แท็ก animate ทำให้เมื่อผู้ใช้เปิดอีเมลที่มีภาพ SVG ที่ถูกปรับแต่ง JavaScript ก็จะทำงานทันที อีกช่องโหว่คือการจัดการ CSS ที่ผิดพลาด ทำให้ผู้โจมตีสามารถเลี่ยงตัวกรองและดึงข้อมูลจากอินเทอร์เฟซเว็บเมลได้ ทั้งสองช่องโหว่ถูกจัดระดับความรุนแรงสูง ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดของ Roundcube 1.6 และ 1.5 LTS เพื่อความปลอดภัย
    https://securityonline.info/roundcube-alert-high-severity-svg-xss-and-css-sanitizer-flaws-threaten-webmail-privacy

    YouTube Ghost Network และมัลแวร์ GachiLoader
    นักวิจัยจาก Check Point Research พบการโจมตีใหม่ที่ใช้ YouTube เป็นช่องทางแพร่กระจายมัลแวร์ โดยกลุ่มผู้โจมตีจะยึดบัญชี YouTube ที่มีชื่อเสียง แล้วอัปโหลดวิดีโอที่โฆษณาซอฟต์แวร์เถื่อนหรือสูตรโกงเกม พร้อมใส่ลิงก์ดาวน์โหลดที่แท้จริงคือมัลแวร์ GachiLoader เขียนด้วย Node.js ที่ถูกทำให้ซับซ้อนเพื่อหลบการตรวจจับ เมื่อรันแล้วจะโหลดตัวขโมยข้อมูล Rhadamanthys เข้ามาเพื่อดึงรหัสผ่านและข้อมูลสำคัญ จุดเด่นคือเทคนิคการฉีดโค้ดผ่าน DLL โดยใช้ Vectored Exception Handling ทำให้ยากต่อการตรวจจับ ผู้ใช้ควรระวังการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ฟรีจากลิงก์ใน YouTube เพราะอาจเป็นกับดักที่ซ่อนมัลแวร์ไว้
    https://securityonline.info/youtube-ghost-network-the-new-gachiloader-malware-hiding-in-your-favorite-video-links

    Supply Chain Attack บน NuGet: Nethereum.All ปลอม
    มีการค้นพบแคมเปญโจมตีที่ซับซ้อนซึ่งมุ่งเป้าไปที่นักพัฒนา .NET ที่ทำงานกับคริปโต โดยผู้โจมตีสร้างแพ็กเกจปลอมชื่อ Nethereum.All เลียนแบบไลบรารีจริงที่ใช้เชื่อมต่อ Ethereum และเผยแพร่บน NuGet พร้อมตัวเลขดาวน์โหลดปลอมกว่า 10 ล้านครั้งเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ภายในโค้ดมีฟังก์ชันแอบซ่อนเพื่อขโมยเงินจากธุรกรรมหรือดึงข้อมูลลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจปลอมอื่น ๆ เช่น NBitcoin.Unified และ SolnetAll ที่เลียนแบบไลบรารีของ Bitcoin และ Solana การโจมตีนี้ใช้เทคนิคการปลอมแปลงอย่างแนบเนียน ทำให้นักพัฒนาที่ไม่ตรวจสอบผู้เขียนแพ็กเกจอาจตกเป็นเหยื่อได้ง่าย
    https://securityonline.info/poisoned-dependencies-how-nethereum-all-and-10m-fake-downloads-looted-net-crypto-developers

    ช่องโหว่ UEFI บนเมนบอร์ด
    ASRock, ASUS, MSI CERT/CCเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ที่เกิดขึ้นในเฟิร์มแวร์ UEFI ของหลายผู้ผลิต เช่น ASRock, ASUS, GIGABYTE และ MSI โดยปัญหาคือระบบรายงานว่ามีการเปิดการป้องกัน DMA แล้ว แต่จริง ๆ IOMMU ไม่ได้ถูกตั้งค่าอย่างถูกต้อง ทำให้ในช่วง early-boot ผู้โจมตีที่มีอุปกรณ์ PCIe สามารถเข้าถึงและแก้ไขหน่วยความจำได้ก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะเริ่มทำงาน ผลคือสามารถฉีดโค้ดหรือดึงข้อมูลลับออกมาได้โดยที่ซอฟต์แวร์ป้องกันไม่สามารถตรวจจับได้ ช่องโหว่นี้มีความรุนแรงสูงและต้องรีบอัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที โดยเฉพาะในองค์กรที่ไม่สามารถควบคุมการเข้าถึงทางกายภาพได้อย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/early-boot-attack-uefi-flaw-in-asrock-asus-msi-boards-lets-hackers-bypass-os-security-via-pcie

    VPN Betrayal: ส่วนขยาย VPN ฟรีที่หักหลังผู้ใช้
    เรื่องนี้เป็นการเปิดโปงครั้งใหญ่จากบริษัทด้านความปลอดภัย KOI ที่พบว่า Urban VPN Proxy และส่วนขยาย VPN ฟรีอื่น ๆ กำลังแอบเก็บข้อมูลการสนทนาของผู้ใช้กับแพลตฟอร์ม AI โดยตรง ทั้งข้อความที่ผู้ใช้พิมพ์และคำตอบที่ AI ตอบกลับมา ถูกส่งต่อไปยังบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลและการตลาดเพื่อใช้ยิงโฆษณาเจาะจงพฤติกรรมผู้ใช้ แม้ผู้ใช้จะปิดฟังก์ชัน VPN หรือการบล็อกโฆษณา แต่สคริปต์ที่ฝังไว้ก็ยังทำงานอยู่ วิธีเดียวที่จะหยุดได้คือการถอนการติดตั้งออกไปเลย เหตุการณ์นี้กระทบแพลตฟอร์ม AI แทบทั้งหมด ตั้งแต่ ChatGPT, Claude, Gemini, Copilot ไปจนถึง Meta AI และ Perplexity ทำให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
    https://securityonline.info/vpn-betrayal-popular-free-extensions-caught-siphoning-8-million-users-private-ai-chats

    The Final Cut: ออสการ์ย้ายบ้านไป YouTube ในปี 2029
    วงการภาพยนตร์กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อ Academy Awards หรือออสการ์ประกาศว่าจะยุติการถ่ายทอดสดทาง ABC หลังครบรอบ 100 ปีในปี 2028 และตั้งแต่ปี 2029 เป็นต้นไปจะถ่ายทอดสดผ่าน YouTube เพียงช่องทางเดียว การย้ายครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแพลตฟอร์ม แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ชมทั่วโลกเข้าถึงได้ฟรีและมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้นผ่านฟีเจอร์ของ YouTube นอกจากนี้ Google Arts & Culture จะเข้ามาช่วยดิจิไทซ์คลังภาพยนตร์และประวัติศาสตร์ของ Academy เพื่อเผยแพร่สู่สาธารณะ ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญเพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่หันไปเสพสื่อออนไลน์มากกว่าทีวี
    https://securityonline.info/the-final-cut-why-the-oscars-are-leaving-abc-for-a-youtube-only-future-in-2029

    Phantom v3.5: มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Adobe Update
    ภัยใหม่มาในรูปแบบที่ดูเหมือนธรรมดา Phantom v3.5 แฝงตัวเป็นไฟล์ติดตั้ง Adobe เวอร์ชันปลอม เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ มันจะรันสคริปต์ที่ดึง Payload จากโดเมนอันตราย แล้วเริ่มดูดข้อมูลทุกอย่าง ตั้งแต่รหัสผ่าน คุกกี้ เบราว์เซอร์ ไปจนถึงกระเป๋าเงินคริปโต ความพิเศษคือมันไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมแบบทั่วไป แต่ส่งข้อมูลออกไปผ่านอีเมล SMTP โดยตรง ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ใช้ระวังการดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ และตรวจสอบเวอร์ชันหรือไฟล์ที่อ้างว่าเป็น Installer ให้ดี
    https://securityonline.info/phantom-v3-5-alert-new-info-stealer-disguised-as-adobe-update-uses-smtp-to-loot-digital-lives

    Kubernetes Alert: ช่องโหว่ Headlamp เสี่ยงถูกยึด Cluster
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Headlamp ซึ่งเป็น UI สำหรับ Kubernetes ที่ทำให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้รับสิทธิ์สามารถใช้ Credential ที่ถูกแคชไว้เพื่อเข้าถึงฟังก์ชัน Helm ได้โดยตรง หากผู้ดูแลระบบเคยใช้งาน Helm ผ่าน Headlamp แล้ว Credential ถูกเก็บไว้ ผู้โจมตีที่เข้าถึง Dashboard สามารถสั่ง Deploy หรือแก้ไข Release ได้ทันทีโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.8 และกระทบเวอร์ชัน v0.38.0 ลงไป ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์ v0.39.0 เพื่อแก้ไขแล้ว ผู้ดูแลระบบควรอัปเดตทันทีหรือปิดการเข้าถึงสาธารณะเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/kubernetes-alert-headlamp-flaw-cve-2025-14269-lets-unauthenticated-users-hijack-helm-clusters

    WatchGuard Under Siege: ช่องโหว่ Zero-Day รุนแรง CVSS 9.3 ถูกโจมตีจริงเพื่อยึดครอง Firewall
    เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ใน WatchGuard Firebox ที่ถูกระบุว่า CVE-2025-14733 มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.3 ทำให้แฮกเกอร์สามารถส่งคำสั่งจากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน และเข้าควบคุมระบบไฟร์วอลล์ได้ทันที ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการผิดพลาดในกระบวนการ IKEv2 ของ VPN ที่ทำให้เกิดการเขียนข้อมูลเกินขอบเขต (Out-of-bounds Write) ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายลงไปในระบบได้ แม้ผู้ดูแลระบบจะปิดการใช้งาน VPN แบบ Mobile User หรือ Branch Office ไปแล้ว แต่หากมีการตั้งค่าเก่าอยู่ก็ยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอยู่ดี WatchGuard ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว แต่ก็เตือนว่าผู้ที่ถูกโจมตีไปแล้วควรเปลี่ยนรหัสผ่านและคีย์ทั้งหมด เพราะข้อมูลอาจถูกขโมยไปก่อนหน้านี้แล้ว
    https://securityonline.info/watchguard-under-siege-critical-cvss-9-3-zero-day-exploited-in-the-wild-to-hijack-corporate-firewalls

    Log4j’s Security Blind Spot: ช่องโหว่ TLS ใหม่เปิดทางให้ดักข้อมูล Log
    Apache ได้ออกอัปเดตแก้ไขช่องโหว่ใน Log4j ที่ถูกระบุว่า CVE-2025-68161 ซึ่งเกิดจากการตรวจสอบ TLS hostname verification ที่ผิดพลาด แม้ผู้ดูแลระบบจะตั้งค่าให้ตรวจสอบชื่อโฮสต์แล้ว แต่ระบบกลับไม่ทำตาม ทำให้ผู้โจมตีสามารถแทรกตัวกลาง (Man-in-the-Middle) และดักข้อมูล log ที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ได้ ข้อมูลเหล่านี้อาจมีรายละเอียดการทำงานของระบบหรือกิจกรรมผู้ใช้ที่สำคัญ ช่องโหว่นี้ถูกแก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 2.25.3 และผู้ใช้ควรรีบอัปเดตทันที หากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ก็มีวิธีแก้ชั่วคราวคือการจำกัด trust root ให้เฉพาะใบรับรองของเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้จริง
    https://securityonline.info/log4js-security-blind-spot-new-tls-flaw-lets-attackers-intercept-sensitive-logs-despite-encryption

    Visualizations Weaponized: ช่องโหว่ใหม่ใน Kibana เปิดทางโจมตี XSS ผ่าน Vega Charts
    Elastic ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-68385 ที่มีคะแนนความรุนแรง 7.2 ซึ่งเกิดขึ้นใน Kibana โดยเฉพาะฟีเจอร์ Vega Visualization ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างกราฟและแผนภาพแบบกำหนดเอง ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์สามารถฝังโค้ดอันตรายลงไปในกราฟได้ และเมื่อผู้ใช้คนอื่นเปิดดูกราฟนั้น โค้ดก็จะทำงานในเบราว์เซอร์ทันที ส่งผลให้เกิดการขโมย session หรือสั่งการที่ไม่ได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้กระทบหลายเวอร์ชันตั้งแต่ 7.x จนถึง 9.x Elastic ได้ออกเวอร์ชันแก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลรีบอัปเดตโดยด่วน https://securityonline.info/visualizations-weaponized-new-kibana-flaw-allows-xss-attacks-via-vega-charts

    Rust’s First Breach: ช่องโหว่แรกของ Rust ใน Linux Kernel
    นี่คือครั้งแรกที่โค้ด Rust ใน Linux Kernel ถูกระบุช่องโหว่อย่างเป็นทางการ โดย CVE-2025-68260 เกิดขึ้นใน Android Binder driver ที่ถูกเขียนใหม่ด้วย Rust ปัญหาคือการจัดการ linked list ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้เกิด race condition เมื่อหลาย thread เข้ามาจัดการพร้อมกัน ส่งผลให้ pointer เสียหายและทำให้ระบบ crash ได้ การแก้ไขคือการปรับปรุงโค้ด Node::release ให้จัดการกับ list โดยตรงแทนการใช้ list ชั่วคราว ช่องโหว่นี้ถูกแก้ไขแล้วใน Linux 6.18.1 และ 6.19-rc1 ผู้ใช้ควรอัปเดต kernel เวอร์ชันล่าสุดเพื่อความปลอดภัย
    https://securityonline.info/rusts-first-breach-cve-2025-68260-marks-the-first-rust-vulnerability-in-the-linux-kernel

    The Grand Divorce: TikTok เซ็นสัญญา Landmark Deal ส่งมอบการควบคุมในสหรัฐให้กลุ่ม Oracle
    TikTok ได้เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการแยกกิจการในสหรัฐ โดยจะตั้งบริษัทใหม่ชื่อ TikTok US Data Security Joint Venture LLC ซึ่งจะดูแลข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐ การรักษาความปลอดภัยของอัลกอริทึม และการตรวจสอบเนื้อหา โครงสร้างใหม่จะทำให้กลุ่มนักลงทุนในสหรัฐถือหุ้น 45% นักลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ ByteDance ถือ 30% และ ByteDance เองถือ 20% ทำให้การควบคุมหลักอยู่ในมือของสหรัฐ ข้อตกลงนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 22 มกราคม 2026 ถือเป็นการปิดฉากความขัดแย้งยืดเยื้อเรื่องการควบคุม TikTok ในสหรัฐ
    https://securityonline.info/the-grand-divorce-tiktok-signs-landmark-deal-to-hand-u-s-control-to-oracle-led-group

    Fusion of Power: Trump Media จับมือ TAE Technologies สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชัน
    เรื่องนี้เล่ากันเหมือนเป็นการพลิกบทบาทครั้งใหญ่ของ Trump Media ที่เดิมทีเป็นบริษัทแม่ของ Truth Social และมือถือ Trump T1 แต่กลับหันมาจับมือกับ TAE Technologies ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านพลังงานฟิวชันที่มี Google และ Chevron หนุนหลัง การควบรวมครั้งนี้มีมูลค่าถึง 6 พันล้านดอลลาร์ เป้าหมายคือการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชันเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกภายใน 5 ปี แม้แวดวงวิทยาศาสตร์ยังคงสงสัยว่าฟิวชันจะพร้อมใช้งานจริงได้เร็วขนาดนั้นหรือไม่ แต่ดีลนี้ก็ทำให้หุ้น Trump Media พุ่งขึ้นทันที หลายคนมองว่าพลังที่แท้จริงอาจไม่ใช่ฟิวชัน แต่คืออิทธิพลทางการเมืองที่ช่วยเปิดทางให้ทุนและการอนุมัติจากรัฐบาล
    https://securityonline.info/fusion-of-power-trump-media-inks-6-billion-merger-to-build-worlds-first-fusion-power-plant

    The AI Super App: OpenAI เปิดตัว ChatGPT App Directory
    OpenAI กำลังผลักดัน ChatGPT ให้กลายเป็น “ซูเปอร์แอป” โดยเปิดตัว App Directory ที่เชื่อมต่อกับบริการภายนอกอย่าง Spotify, Dropbox, Apple Music และ DoorDash ผู้ใช้สามารถสั่งงานผ่านการสนทนา เช่น ให้สรุปรายงานจาก Google Drive หรือสร้างเพลย์ลิสต์เพลงใน Apple Music ได้ทันที นี่คือการเปลี่ยน ChatGPT จากเครื่องมือสร้างข้อความให้กลายเป็นผู้ช่วยที่ทำงานแทนเราได้จริง นอกจากนี้ OpenAI ยังเปิดโอกาสให้นักพัฒนาภายนอกสร้างแอปเข้ามาในระบบ พร้อมแนวทางหารายได้ที่อาจคล้ายกับ App Store ของ Apple จุดสำคัญคือการยกระดับ AI จากการ “ตอบคำถาม” ไปสู่การ “ทำงานแทน”
    https://securityonline.info/the-ai-super-app-arrives-openai-launches-chatgpt-app-directory-to-rule-your-digital-life

    Pay to Post: Meta ทดลองจำกัดการแชร์ลิงก์บน Facebook
    Meta กำลังทดสอบนโยบายใหม่ที่อาจทำให้ผู้สร้างคอนเทนต์บน Facebook ต้องจ่ายเงินเพื่อแชร์ลิงก์ โดยผู้ใช้ที่ไม่ได้สมัครบริการยืนยันตัวตน (blue-check) จะถูกจำกัดให้โพสต์ลิงก์ได้เพียง 2 ครั้งต่อเดือน หากต้องการมากกว่านั้นต้องจ่ายค่าสมัครรายเดือน 14.99 ดอลลาร์ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องการควบคุมการ “ไหลออกของทราฟฟิก” และหันไปหารายได้จากการบังคับให้ผู้ใช้จ่ายเพื่อสิทธิ์ที่เคยฟรีมาก่อน หลายคนมองว่านี่คือการผลัก Facebook เข้าสู่ระบบ “pay-to-play” อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจทำให้ผู้สร้างรายเล็กๆ ต้องคิดหนักว่าจะอยู่ต่อหรือย้ายออก
    https://securityonline.info/pay-to-post-meta-tests-2-link-monthly-limit-for-unverified-facebook-creators

    Criminal IP จับมือ Palo Alto Networks Cortex XSOAR เสริมการตอบสนองภัยไซเบอร์ด้วย AI
    Criminal IP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม threat intelligence ที่ใช้ AI ได้เข้ารวมกับ Cortex XSOAR ของ Palo Alto Networks เพื่อยกระดับการตอบสนองเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย จุดเด่นคือการเพิ่มข้อมูลเชิงลึกจากภายนอก เช่น พฤติกรรมของ IP, ประวัติการโจมตี, การเชื่อมโยงกับมัลแวร์ และการสแกนหลายขั้นตอนแบบอัตโนมัติ ทำให้ทีม SOC สามารถจัดการเหตุการณ์ได้เร็วและแม่นยำขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการตรวจสอบแบบ manual การผสานนี้สะท้อนแนวโน้มใหม่ของโลกไซเบอร์ที่กำลังเดินหน้าไปสู่ “การป้องกันอัตโนมัติ” ที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก
    https://securityonline.info/criminal-ip-and-palo-alto-networks-cortex-xsoar-integrate-to-bring-ai-driven-exposure-intelligence-to-automated-incident-response

    FIFA ร่วมมือ Netflix เปิดเกมฟุตบอลใหม่รับบอลโลก 2026
    หลังจากแยกทางกับ EA ที่สร้าง FIFA มานานเกือบ 30 ปี องค์กร FIFA ก็ยังไม่สามารถหาคู่หูที่สร้างเกมฟุตบอลระดับเรือธงได้ จนล่าสุด Netflix ประกาศว่าจะเปิดตัวเกมฟุตบอลใหม่ภายใต้แบรนด์ FIFA ในปี 2026 โดยให้ Delphi Interactive เป็นผู้พัฒนา จุดต่างสำคัญคือเกมนี้จะใช้สมาร์ทโฟนเป็นคอนโทรลเลอร์ ทำให้เล่นง่ายและเข้าถึงผู้เล่นทั่วไปมากขึ้น แทนที่จะเน้นความสมจริงแบบ EA Sports FC การจับมือกับ Netflix แสดงให้เห็นว่า FIFA เลือกเส้นทางใหม่ที่ไม่ชนตรงกับ EA แต่หันไปสร้างประสบการณ์แบบ “เกมปาร์ตี้” ที่เข้ากับแนวทางของ Netflix Games ซึ่งกำลังมุ่งไปที่เกมที่เล่นง่ายและเชื่อมโยงกับผู้ชมจำนวนมาก
    https://securityonline.info/fifas-post-ea-comeback-netflix-to-launch-a-reimagined-football-game-for-the-2026-world-cup

    Mario’s Deadly Upgrade: RansomHouse เปิดตัว Dual-Key Encryption
    กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่ชื่อ Jolly Scorpius ซึ่งอยู่เบื้องหลังบริการ RansomHouse (ransomware-as-a-service) ได้ปรับปรุงเครื่องมือเข้ารหัสหลักของพวกเขาที่ชื่อ “Mario” จากเดิมที่ใช้วิธีเข้ารหัสแบบเส้นตรงธรรมดา กลายเป็นระบบที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นมากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ Mario เวอร์ชันใหม่ไม่เพียงแค่เข้ารหัสไฟล์แบบตรงๆ แต่ใช้วิธี chunked processing คือแบ่งไฟล์ออกเป็นชิ้นๆ ที่มีขนาดเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้การวิเคราะห์ย้อนกลับยากขึ้นมากสำหรับนักวิจัยด้านความปลอดภัย และที่น่ากังวลที่สุดคือการเพิ่ม dual-key encryption ซึ่งทำงานเหมือนระบบความปลอดภัยจริงๆ ที่ต้องใช้กุญแจสองชุดในการถอดรหัส หากผู้ป้องกันได้กุญแจเพียงชุดเดียว ข้อมูลก็ยังคงถูกล็อกแน่นหนา
    https://securityonline.info/marios-deadly-upgrade-ransomhouse-unveils-dual-key-encryption-to-defeat-backups-and-recovery/
    📌🔐🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵🔐📌 #รวมข่าวIT #20251219 #securityonline 🛡️ FreeBSD เจอช่องโหว่ร้ายแรงจาก IPv6 เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในระบบเครือข่ายของ FreeBSD ที่อันตรายมาก เพราะแค่มีคนส่งแพ็กเก็ต IPv6 ที่ถูกปรับแต่งมาอย่างเจาะจง ก็สามารถทำให้เครื่องเป้าหมายรันคำสั่งของผู้โจมตีได้ทันที ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่โปรแกรม rtsol และ rtsold ซึ่งใช้จัดการการตั้งค่า IPv6 แบบอัตโนมัติ ไปส่งข้อมูลต่อให้กับ resolvconf โดยไม่ตรวจสอบความถูกต้อง ผลคือคำสั่งที่แฝงมาในข้อมูลสามารถถูกประมวลผลเหมือนเป็นคำสั่ง shell จริง ๆ แม้การโจมตีจะจำกัดอยู่ในเครือข่ายท้องถิ่น เช่น Wi-Fi สาธารณะหรือ LAN ที่ไม่ปลอดภัย แต่ก็ถือว่าเสี่ยงมาก ผู้ใช้ที่เปิด IPv6 และยังไม่ได้อัปเดตต้องรีบแพตช์ทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดเครื่อง 🔗 https://securityonline.info/freebsd-network-alert-malicious-ipv6-packets-can-trigger-remote-code-execution-via-resolvconf-cve-2025-14558 📧 ช่องโหว่ใหม่ใน Roundcube Webmail ระบบอีเมลโอเพนซอร์สชื่อดัง Roundcube ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงสองจุดที่อาจทำให้ผู้โจมตีแอบรันสคริปต์หรือดึงข้อมูลจากกล่องอีเมลได้ ช่องโหว่แรกคือ XSS ที่ซ่อนอยู่ในไฟล์ SVG โดยใช้แท็ก animate ทำให้เมื่อผู้ใช้เปิดอีเมลที่มีภาพ SVG ที่ถูกปรับแต่ง JavaScript ก็จะทำงานทันที อีกช่องโหว่คือการจัดการ CSS ที่ผิดพลาด ทำให้ผู้โจมตีสามารถเลี่ยงตัวกรองและดึงข้อมูลจากอินเทอร์เฟซเว็บเมลได้ ทั้งสองช่องโหว่ถูกจัดระดับความรุนแรงสูง ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดของ Roundcube 1.6 และ 1.5 LTS เพื่อความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/roundcube-alert-high-severity-svg-xss-and-css-sanitizer-flaws-threaten-webmail-privacy 🎥 YouTube Ghost Network และมัลแวร์ GachiLoader นักวิจัยจาก Check Point Research พบการโจมตีใหม่ที่ใช้ YouTube เป็นช่องทางแพร่กระจายมัลแวร์ โดยกลุ่มผู้โจมตีจะยึดบัญชี YouTube ที่มีชื่อเสียง แล้วอัปโหลดวิดีโอที่โฆษณาซอฟต์แวร์เถื่อนหรือสูตรโกงเกม พร้อมใส่ลิงก์ดาวน์โหลดที่แท้จริงคือมัลแวร์ GachiLoader เขียนด้วย Node.js ที่ถูกทำให้ซับซ้อนเพื่อหลบการตรวจจับ เมื่อรันแล้วจะโหลดตัวขโมยข้อมูล Rhadamanthys เข้ามาเพื่อดึงรหัสผ่านและข้อมูลสำคัญ จุดเด่นคือเทคนิคการฉีดโค้ดผ่าน DLL โดยใช้ Vectored Exception Handling ทำให้ยากต่อการตรวจจับ ผู้ใช้ควรระวังการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ฟรีจากลิงก์ใน YouTube เพราะอาจเป็นกับดักที่ซ่อนมัลแวร์ไว้ 🔗 https://securityonline.info/youtube-ghost-network-the-new-gachiloader-malware-hiding-in-your-favorite-video-links 💰 Supply Chain Attack บน NuGet: Nethereum.All ปลอม มีการค้นพบแคมเปญโจมตีที่ซับซ้อนซึ่งมุ่งเป้าไปที่นักพัฒนา .NET ที่ทำงานกับคริปโต โดยผู้โจมตีสร้างแพ็กเกจปลอมชื่อ Nethereum.All เลียนแบบไลบรารีจริงที่ใช้เชื่อมต่อ Ethereum และเผยแพร่บน NuGet พร้อมตัวเลขดาวน์โหลดปลอมกว่า 10 ล้านครั้งเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ภายในโค้ดมีฟังก์ชันแอบซ่อนเพื่อขโมยเงินจากธุรกรรมหรือดึงข้อมูลลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจปลอมอื่น ๆ เช่น NBitcoin.Unified และ SolnetAll ที่เลียนแบบไลบรารีของ Bitcoin และ Solana การโจมตีนี้ใช้เทคนิคการปลอมแปลงอย่างแนบเนียน ทำให้นักพัฒนาที่ไม่ตรวจสอบผู้เขียนแพ็กเกจอาจตกเป็นเหยื่อได้ง่าย 🔗 https://securityonline.info/poisoned-dependencies-how-nethereum-all-and-10m-fake-downloads-looted-net-crypto-developers 💻 ช่องโหว่ UEFI บนเมนบอร์ด ASRock, ASUS, MSI CERT/CCเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ที่เกิดขึ้นในเฟิร์มแวร์ UEFI ของหลายผู้ผลิต เช่น ASRock, ASUS, GIGABYTE และ MSI โดยปัญหาคือระบบรายงานว่ามีการเปิดการป้องกัน DMA แล้ว แต่จริง ๆ IOMMU ไม่ได้ถูกตั้งค่าอย่างถูกต้อง ทำให้ในช่วง early-boot ผู้โจมตีที่มีอุปกรณ์ PCIe สามารถเข้าถึงและแก้ไขหน่วยความจำได้ก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะเริ่มทำงาน ผลคือสามารถฉีดโค้ดหรือดึงข้อมูลลับออกมาได้โดยที่ซอฟต์แวร์ป้องกันไม่สามารถตรวจจับได้ ช่องโหว่นี้มีความรุนแรงสูงและต้องรีบอัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที โดยเฉพาะในองค์กรที่ไม่สามารถควบคุมการเข้าถึงทางกายภาพได้อย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/early-boot-attack-uefi-flaw-in-asrock-asus-msi-boards-lets-hackers-bypass-os-security-via-pcie 🛡️ VPN Betrayal: ส่วนขยาย VPN ฟรีที่หักหลังผู้ใช้ เรื่องนี้เป็นการเปิดโปงครั้งใหญ่จากบริษัทด้านความปลอดภัย KOI ที่พบว่า Urban VPN Proxy และส่วนขยาย VPN ฟรีอื่น ๆ กำลังแอบเก็บข้อมูลการสนทนาของผู้ใช้กับแพลตฟอร์ม AI โดยตรง ทั้งข้อความที่ผู้ใช้พิมพ์และคำตอบที่ AI ตอบกลับมา ถูกส่งต่อไปยังบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลและการตลาดเพื่อใช้ยิงโฆษณาเจาะจงพฤติกรรมผู้ใช้ แม้ผู้ใช้จะปิดฟังก์ชัน VPN หรือการบล็อกโฆษณา แต่สคริปต์ที่ฝังไว้ก็ยังทำงานอยู่ วิธีเดียวที่จะหยุดได้คือการถอนการติดตั้งออกไปเลย เหตุการณ์นี้กระทบแพลตฟอร์ม AI แทบทั้งหมด ตั้งแต่ ChatGPT, Claude, Gemini, Copilot ไปจนถึง Meta AI และ Perplexity ทำให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง 🔗 https://securityonline.info/vpn-betrayal-popular-free-extensions-caught-siphoning-8-million-users-private-ai-chats 🎬 The Final Cut: ออสการ์ย้ายบ้านไป YouTube ในปี 2029 วงการภาพยนตร์กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อ Academy Awards หรือออสการ์ประกาศว่าจะยุติการถ่ายทอดสดทาง ABC หลังครบรอบ 100 ปีในปี 2028 และตั้งแต่ปี 2029 เป็นต้นไปจะถ่ายทอดสดผ่าน YouTube เพียงช่องทางเดียว การย้ายครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแพลตฟอร์ม แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ชมทั่วโลกเข้าถึงได้ฟรีและมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้นผ่านฟีเจอร์ของ YouTube นอกจากนี้ Google Arts & Culture จะเข้ามาช่วยดิจิไทซ์คลังภาพยนตร์และประวัติศาสตร์ของ Academy เพื่อเผยแพร่สู่สาธารณะ ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญเพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่หันไปเสพสื่อออนไลน์มากกว่าทีวี 🔗 https://securityonline.info/the-final-cut-why-the-oscars-are-leaving-abc-for-a-youtube-only-future-in-2029 ⚠️ Phantom v3.5: มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Adobe Update ภัยใหม่มาในรูปแบบที่ดูเหมือนธรรมดา Phantom v3.5 แฝงตัวเป็นไฟล์ติดตั้ง Adobe เวอร์ชันปลอม เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ มันจะรันสคริปต์ที่ดึง Payload จากโดเมนอันตราย แล้วเริ่มดูดข้อมูลทุกอย่าง ตั้งแต่รหัสผ่าน คุกกี้ เบราว์เซอร์ ไปจนถึงกระเป๋าเงินคริปโต ความพิเศษคือมันไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมแบบทั่วไป แต่ส่งข้อมูลออกไปผ่านอีเมล SMTP โดยตรง ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ใช้ระวังการดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ และตรวจสอบเวอร์ชันหรือไฟล์ที่อ้างว่าเป็น Installer ให้ดี 🔗 https://securityonline.info/phantom-v3-5-alert-new-info-stealer-disguised-as-adobe-update-uses-smtp-to-loot-digital-lives ☸️ Kubernetes Alert: ช่องโหว่ Headlamp เสี่ยงถูกยึด Cluster มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Headlamp ซึ่งเป็น UI สำหรับ Kubernetes ที่ทำให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้รับสิทธิ์สามารถใช้ Credential ที่ถูกแคชไว้เพื่อเข้าถึงฟังก์ชัน Helm ได้โดยตรง หากผู้ดูแลระบบเคยใช้งาน Helm ผ่าน Headlamp แล้ว Credential ถูกเก็บไว้ ผู้โจมตีที่เข้าถึง Dashboard สามารถสั่ง Deploy หรือแก้ไข Release ได้ทันทีโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.8 และกระทบเวอร์ชัน v0.38.0 ลงไป ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์ v0.39.0 เพื่อแก้ไขแล้ว ผู้ดูแลระบบควรอัปเดตทันทีหรือปิดการเข้าถึงสาธารณะเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/kubernetes-alert-headlamp-flaw-cve-2025-14269-lets-unauthenticated-users-hijack-helm-clusters 🛡️ WatchGuard Under Siege: ช่องโหว่ Zero-Day รุนแรง CVSS 9.3 ถูกโจมตีจริงเพื่อยึดครอง Firewall เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ใน WatchGuard Firebox ที่ถูกระบุว่า CVE-2025-14733 มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.3 ทำให้แฮกเกอร์สามารถส่งคำสั่งจากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน และเข้าควบคุมระบบไฟร์วอลล์ได้ทันที ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการผิดพลาดในกระบวนการ IKEv2 ของ VPN ที่ทำให้เกิดการเขียนข้อมูลเกินขอบเขต (Out-of-bounds Write) ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายลงไปในระบบได้ แม้ผู้ดูแลระบบจะปิดการใช้งาน VPN แบบ Mobile User หรือ Branch Office ไปแล้ว แต่หากมีการตั้งค่าเก่าอยู่ก็ยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอยู่ดี WatchGuard ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว แต่ก็เตือนว่าผู้ที่ถูกโจมตีไปแล้วควรเปลี่ยนรหัสผ่านและคีย์ทั้งหมด เพราะข้อมูลอาจถูกขโมยไปก่อนหน้านี้แล้ว 🔗 https://securityonline.info/watchguard-under-siege-critical-cvss-9-3-zero-day-exploited-in-the-wild-to-hijack-corporate-firewalls 🔒 Log4j’s Security Blind Spot: ช่องโหว่ TLS ใหม่เปิดทางให้ดักข้อมูล Log Apache ได้ออกอัปเดตแก้ไขช่องโหว่ใน Log4j ที่ถูกระบุว่า CVE-2025-68161 ซึ่งเกิดจากการตรวจสอบ TLS hostname verification ที่ผิดพลาด แม้ผู้ดูแลระบบจะตั้งค่าให้ตรวจสอบชื่อโฮสต์แล้ว แต่ระบบกลับไม่ทำตาม ทำให้ผู้โจมตีสามารถแทรกตัวกลาง (Man-in-the-Middle) และดักข้อมูล log ที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ได้ ข้อมูลเหล่านี้อาจมีรายละเอียดการทำงานของระบบหรือกิจกรรมผู้ใช้ที่สำคัญ ช่องโหว่นี้ถูกแก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 2.25.3 และผู้ใช้ควรรีบอัปเดตทันที หากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ก็มีวิธีแก้ชั่วคราวคือการจำกัด trust root ให้เฉพาะใบรับรองของเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้จริง 🔗 https://securityonline.info/log4js-security-blind-spot-new-tls-flaw-lets-attackers-intercept-sensitive-logs-despite-encryption 📊 Visualizations Weaponized: ช่องโหว่ใหม่ใน Kibana เปิดทางโจมตี XSS ผ่าน Vega Charts Elastic ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-68385 ที่มีคะแนนความรุนแรง 7.2 ซึ่งเกิดขึ้นใน Kibana โดยเฉพาะฟีเจอร์ Vega Visualization ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างกราฟและแผนภาพแบบกำหนดเอง ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์สามารถฝังโค้ดอันตรายลงไปในกราฟได้ และเมื่อผู้ใช้คนอื่นเปิดดูกราฟนั้น โค้ดก็จะทำงานในเบราว์เซอร์ทันที ส่งผลให้เกิดการขโมย session หรือสั่งการที่ไม่ได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้กระทบหลายเวอร์ชันตั้งแต่ 7.x จนถึง 9.x Elastic ได้ออกเวอร์ชันแก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลรีบอัปเดตโดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/visualizations-weaponized-new-kibana-flaw-allows-xss-attacks-via-vega-charts 🦀 Rust’s First Breach: ช่องโหว่แรกของ Rust ใน Linux Kernel นี่คือครั้งแรกที่โค้ด Rust ใน Linux Kernel ถูกระบุช่องโหว่อย่างเป็นทางการ โดย CVE-2025-68260 เกิดขึ้นใน Android Binder driver ที่ถูกเขียนใหม่ด้วย Rust ปัญหาคือการจัดการ linked list ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้เกิด race condition เมื่อหลาย thread เข้ามาจัดการพร้อมกัน ส่งผลให้ pointer เสียหายและทำให้ระบบ crash ได้ การแก้ไขคือการปรับปรุงโค้ด Node::release ให้จัดการกับ list โดยตรงแทนการใช้ list ชั่วคราว ช่องโหว่นี้ถูกแก้ไขแล้วใน Linux 6.18.1 และ 6.19-rc1 ผู้ใช้ควรอัปเดต kernel เวอร์ชันล่าสุดเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/rusts-first-breach-cve-2025-68260-marks-the-first-rust-vulnerability-in-the-linux-kernel 🇺🇸 The Grand Divorce: TikTok เซ็นสัญญา Landmark Deal ส่งมอบการควบคุมในสหรัฐให้กลุ่ม Oracle TikTok ได้เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการแยกกิจการในสหรัฐ โดยจะตั้งบริษัทใหม่ชื่อ TikTok US Data Security Joint Venture LLC ซึ่งจะดูแลข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐ การรักษาความปลอดภัยของอัลกอริทึม และการตรวจสอบเนื้อหา โครงสร้างใหม่จะทำให้กลุ่มนักลงทุนในสหรัฐถือหุ้น 45% นักลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ ByteDance ถือ 30% และ ByteDance เองถือ 20% ทำให้การควบคุมหลักอยู่ในมือของสหรัฐ ข้อตกลงนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 22 มกราคม 2026 ถือเป็นการปิดฉากความขัดแย้งยืดเยื้อเรื่องการควบคุม TikTok ในสหรัฐ 🔗 https://securityonline.info/the-grand-divorce-tiktok-signs-landmark-deal-to-hand-u-s-control-to-oracle-led-group ⚡ Fusion of Power: Trump Media จับมือ TAE Technologies สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชัน เรื่องนี้เล่ากันเหมือนเป็นการพลิกบทบาทครั้งใหญ่ของ Trump Media ที่เดิมทีเป็นบริษัทแม่ของ Truth Social และมือถือ Trump T1 แต่กลับหันมาจับมือกับ TAE Technologies ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านพลังงานฟิวชันที่มี Google และ Chevron หนุนหลัง การควบรวมครั้งนี้มีมูลค่าถึง 6 พันล้านดอลลาร์ เป้าหมายคือการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชันเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกภายใน 5 ปี แม้แวดวงวิทยาศาสตร์ยังคงสงสัยว่าฟิวชันจะพร้อมใช้งานจริงได้เร็วขนาดนั้นหรือไม่ แต่ดีลนี้ก็ทำให้หุ้น Trump Media พุ่งขึ้นทันที หลายคนมองว่าพลังที่แท้จริงอาจไม่ใช่ฟิวชัน แต่คืออิทธิพลทางการเมืองที่ช่วยเปิดทางให้ทุนและการอนุมัติจากรัฐบาล 🔗 https://securityonline.info/fusion-of-power-trump-media-inks-6-billion-merger-to-build-worlds-first-fusion-power-plant 🤖 The AI Super App: OpenAI เปิดตัว ChatGPT App Directory OpenAI กำลังผลักดัน ChatGPT ให้กลายเป็น “ซูเปอร์แอป” โดยเปิดตัว App Directory ที่เชื่อมต่อกับบริการภายนอกอย่าง Spotify, Dropbox, Apple Music และ DoorDash ผู้ใช้สามารถสั่งงานผ่านการสนทนา เช่น ให้สรุปรายงานจาก Google Drive หรือสร้างเพลย์ลิสต์เพลงใน Apple Music ได้ทันที นี่คือการเปลี่ยน ChatGPT จากเครื่องมือสร้างข้อความให้กลายเป็นผู้ช่วยที่ทำงานแทนเราได้จริง นอกจากนี้ OpenAI ยังเปิดโอกาสให้นักพัฒนาภายนอกสร้างแอปเข้ามาในระบบ พร้อมแนวทางหารายได้ที่อาจคล้ายกับ App Store ของ Apple จุดสำคัญคือการยกระดับ AI จากการ “ตอบคำถาม” ไปสู่การ “ทำงานแทน” 🔗 https://securityonline.info/the-ai-super-app-arrives-openai-launches-chatgpt-app-directory-to-rule-your-digital-life 💸 Pay to Post: Meta ทดลองจำกัดการแชร์ลิงก์บน Facebook Meta กำลังทดสอบนโยบายใหม่ที่อาจทำให้ผู้สร้างคอนเทนต์บน Facebook ต้องจ่ายเงินเพื่อแชร์ลิงก์ โดยผู้ใช้ที่ไม่ได้สมัครบริการยืนยันตัวตน (blue-check) จะถูกจำกัดให้โพสต์ลิงก์ได้เพียง 2 ครั้งต่อเดือน หากต้องการมากกว่านั้นต้องจ่ายค่าสมัครรายเดือน 14.99 ดอลลาร์ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องการควบคุมการ “ไหลออกของทราฟฟิก” และหันไปหารายได้จากการบังคับให้ผู้ใช้จ่ายเพื่อสิทธิ์ที่เคยฟรีมาก่อน หลายคนมองว่านี่คือการผลัก Facebook เข้าสู่ระบบ “pay-to-play” อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจทำให้ผู้สร้างรายเล็กๆ ต้องคิดหนักว่าจะอยู่ต่อหรือย้ายออก 🔗 https://securityonline.info/pay-to-post-meta-tests-2-link-monthly-limit-for-unverified-facebook-creators 🛡️ Criminal IP จับมือ Palo Alto Networks Cortex XSOAR เสริมการตอบสนองภัยไซเบอร์ด้วย AI Criminal IP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม threat intelligence ที่ใช้ AI ได้เข้ารวมกับ Cortex XSOAR ของ Palo Alto Networks เพื่อยกระดับการตอบสนองเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย จุดเด่นคือการเพิ่มข้อมูลเชิงลึกจากภายนอก เช่น พฤติกรรมของ IP, ประวัติการโจมตี, การเชื่อมโยงกับมัลแวร์ และการสแกนหลายขั้นตอนแบบอัตโนมัติ ทำให้ทีม SOC สามารถจัดการเหตุการณ์ได้เร็วและแม่นยำขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการตรวจสอบแบบ manual การผสานนี้สะท้อนแนวโน้มใหม่ของโลกไซเบอร์ที่กำลังเดินหน้าไปสู่ “การป้องกันอัตโนมัติ” ที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก 🔗 https://securityonline.info/criminal-ip-and-palo-alto-networks-cortex-xsoar-integrate-to-bring-ai-driven-exposure-intelligence-to-automated-incident-response 🎮 FIFA ร่วมมือ Netflix เปิดเกมฟุตบอลใหม่รับบอลโลก 2026 หลังจากแยกทางกับ EA ที่สร้าง FIFA มานานเกือบ 30 ปี องค์กร FIFA ก็ยังไม่สามารถหาคู่หูที่สร้างเกมฟุตบอลระดับเรือธงได้ จนล่าสุด Netflix ประกาศว่าจะเปิดตัวเกมฟุตบอลใหม่ภายใต้แบรนด์ FIFA ในปี 2026 โดยให้ Delphi Interactive เป็นผู้พัฒนา จุดต่างสำคัญคือเกมนี้จะใช้สมาร์ทโฟนเป็นคอนโทรลเลอร์ ทำให้เล่นง่ายและเข้าถึงผู้เล่นทั่วไปมากขึ้น แทนที่จะเน้นความสมจริงแบบ EA Sports FC การจับมือกับ Netflix แสดงให้เห็นว่า FIFA เลือกเส้นทางใหม่ที่ไม่ชนตรงกับ EA แต่หันไปสร้างประสบการณ์แบบ “เกมปาร์ตี้” ที่เข้ากับแนวทางของ Netflix Games ซึ่งกำลังมุ่งไปที่เกมที่เล่นง่ายและเชื่อมโยงกับผู้ชมจำนวนมาก 🔗 https://securityonline.info/fifas-post-ea-comeback-netflix-to-launch-a-reimagined-football-game-for-the-2026-world-cup 🔒 Mario’s Deadly Upgrade: RansomHouse เปิดตัว Dual-Key Encryption กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่ชื่อ Jolly Scorpius ซึ่งอยู่เบื้องหลังบริการ RansomHouse (ransomware-as-a-service) ได้ปรับปรุงเครื่องมือเข้ารหัสหลักของพวกเขาที่ชื่อ “Mario” จากเดิมที่ใช้วิธีเข้ารหัสแบบเส้นตรงธรรมดา กลายเป็นระบบที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นมากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ Mario เวอร์ชันใหม่ไม่เพียงแค่เข้ารหัสไฟล์แบบตรงๆ แต่ใช้วิธี chunked processing คือแบ่งไฟล์ออกเป็นชิ้นๆ ที่มีขนาดเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้การวิเคราะห์ย้อนกลับยากขึ้นมากสำหรับนักวิจัยด้านความปลอดภัย และที่น่ากังวลที่สุดคือการเพิ่ม dual-key encryption ซึ่งทำงานเหมือนระบบความปลอดภัยจริงๆ ที่ต้องใช้กุญแจสองชุดในการถอดรหัส หากผู้ป้องกันได้กุญแจเพียงชุดเดียว ข้อมูลก็ยังคงถูกล็อกแน่นหนา 🔗 https://securityonline.info/marios-deadly-upgrade-ransomhouse-unveils-dual-key-encryption-to-defeat-backups-and-recovery/
    0 Comments 0 Shares 122 Views 0 Reviews
  • Intel Battlemage GPU: หลักฐานใหม่ยืนยันชิป BMG-G31

    รายงานล่าสุดจาก Tom’s Hardware เผยว่า Intel กำลังเดินหน้าพัฒนา GPU รุ่นใหม่ในตระกูล Battlemage โดยมีการพบหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิป BMG-G31 ในซอฟต์แวร์ XPU Manager เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับตรวจสอบ GPU ของ Intel ในศูนย์ข้อมูล การปรากฏของรหัสชิปนี้บ่งชี้ว่า Intel กำลังทดสอบและเตรียมเปิดตัว GPU ขนาดใหญ่กว่ารุ่น Arc B580 ที่ใช้ชิป G21

    ข้อมูลจากการรั่วไหลและการอัปเดตไดรเวอร์โอเพนซอร์สชี้ว่า BMG-G31 อาจมี 32 Xe2/Xe cores, บัสหน่วยความจำ 256-bit และหน่วยความจำ GDDR6 อย่างน้อย 16GB พร้อมค่า TDP ที่อาจสูงถึง 300W หากเป็นรุ่นสำหรับเดสก์ท็อป สิ่งนี้ทำให้ Battlemage รุ่นใหม่ถูกคาดหวังว่าจะสามารถแข่งขันกับ GPU ระดับกลางของ Nvidia และ AMD ได้จริงในตลาด 1440p

    อย่างไรก็ตาม การผลิตชิปขนาดใหญ่เช่นนี้มีความเสี่ยงด้านต้นทุนและผลผลิตต่อเวเฟอร์ที่ต่ำลง ซึ่งอาจทำให้ Intel ต้องเผชิญกับความท้าทายในการตั้งราคาที่แข่งขันได้โดยไม่กระทบต่อกำไร นอกจากนี้ ความสำเร็จของ Battlemage จะขึ้นอยู่กับ ความสมบูรณ์ของไดรเวอร์ ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่ Intel พยายามแก้ไขมาตลอดในรุ่นก่อนหน้า

    หาก Intel สามารถเปิดตัว Battlemage ได้ตามที่คาดการณ์ไว้ในปี 2026 จะเป็นการยกระดับความน่าเชื่อถือของแบรนด์ในตลาด GPU และอาจสร้างแรงกดดันต่อคู่แข่งที่ครองตลาดมานาน แต่หากการพัฒนาไม่เป็นไปตามเป้า ก็อาจทำให้ Intel สูญเสียโอกาสสำคัญในการสร้างฐานผู้ใช้ใหม่ในตลาดเกมและเวิร์กสเตชัน

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    การยืนยันชิป BMG-G31
    พบใน XPU Manager และไดรเวอร์โอเพนซอร์ส ยืนยันการพัฒนา Battlemage รุ่นใหม่

    สเปกที่คาดการณ์
    32 Xe2 cores, บัส 256-bit, GDDR6 16GB, TDP สูงสุด ~300W

    เป้าหมายตลาด
    แข่งขันกับ GPU ระดับกลางของ Nvidia และ AMD ในตลาด 1440p

    ความท้าทายด้านต้นทุน
    ชิปขนาดใหญ่ทำให้ผลผลิตต่อเวเฟอร์ต่ำลง กดดันการตั้งราคา

    คำเตือนด้านไดรเวอร์และการเปิดตัว
    ความสำเร็จขึ้นอยู่กับคุณภาพไดรเวอร์ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของ Intel ในอดีต
    หากเปิดตัวล่าช้าหรือไม่สามารถแข่งขันได้ อาจทำให้ Intel สูญเสียโอกาสในตลาด GPU

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/evidence-of-intels-big-battlemage-gpu-continues-to-mount-as-bmg-g31-chip-gets-another-official-confirmation
    🎮 Intel Battlemage GPU: หลักฐานใหม่ยืนยันชิป BMG-G31 รายงานล่าสุดจาก Tom’s Hardware เผยว่า Intel กำลังเดินหน้าพัฒนา GPU รุ่นใหม่ในตระกูล Battlemage โดยมีการพบหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิป BMG-G31 ในซอฟต์แวร์ XPU Manager เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับตรวจสอบ GPU ของ Intel ในศูนย์ข้อมูล การปรากฏของรหัสชิปนี้บ่งชี้ว่า Intel กำลังทดสอบและเตรียมเปิดตัว GPU ขนาดใหญ่กว่ารุ่น Arc B580 ที่ใช้ชิป G21 ข้อมูลจากการรั่วไหลและการอัปเดตไดรเวอร์โอเพนซอร์สชี้ว่า BMG-G31 อาจมี 32 Xe2/Xe cores, บัสหน่วยความจำ 256-bit และหน่วยความจำ GDDR6 อย่างน้อย 16GB พร้อมค่า TDP ที่อาจสูงถึง 300W หากเป็นรุ่นสำหรับเดสก์ท็อป สิ่งนี้ทำให้ Battlemage รุ่นใหม่ถูกคาดหวังว่าจะสามารถแข่งขันกับ GPU ระดับกลางของ Nvidia และ AMD ได้จริงในตลาด 1440p อย่างไรก็ตาม การผลิตชิปขนาดใหญ่เช่นนี้มีความเสี่ยงด้านต้นทุนและผลผลิตต่อเวเฟอร์ที่ต่ำลง ซึ่งอาจทำให้ Intel ต้องเผชิญกับความท้าทายในการตั้งราคาที่แข่งขันได้โดยไม่กระทบต่อกำไร นอกจากนี้ ความสำเร็จของ Battlemage จะขึ้นอยู่กับ ความสมบูรณ์ของไดรเวอร์ ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่ Intel พยายามแก้ไขมาตลอดในรุ่นก่อนหน้า หาก Intel สามารถเปิดตัว Battlemage ได้ตามที่คาดการณ์ไว้ในปี 2026 จะเป็นการยกระดับความน่าเชื่อถือของแบรนด์ในตลาด GPU และอาจสร้างแรงกดดันต่อคู่แข่งที่ครองตลาดมานาน แต่หากการพัฒนาไม่เป็นไปตามเป้า ก็อาจทำให้ Intel สูญเสียโอกาสสำคัญในการสร้างฐานผู้ใช้ใหม่ในตลาดเกมและเวิร์กสเตชัน 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ การยืนยันชิป BMG-G31 ➡️ พบใน XPU Manager และไดรเวอร์โอเพนซอร์ส ยืนยันการพัฒนา Battlemage รุ่นใหม่ ✅ สเปกที่คาดการณ์ ➡️ 32 Xe2 cores, บัส 256-bit, GDDR6 16GB, TDP สูงสุด ~300W ✅ เป้าหมายตลาด ➡️ แข่งขันกับ GPU ระดับกลางของ Nvidia และ AMD ในตลาด 1440p ✅ ความท้าทายด้านต้นทุน ➡️ ชิปขนาดใหญ่ทำให้ผลผลิตต่อเวเฟอร์ต่ำลง กดดันการตั้งราคา ‼️ คำเตือนด้านไดรเวอร์และการเปิดตัว ⛔ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับคุณภาพไดรเวอร์ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของ Intel ในอดีต ⛔ หากเปิดตัวล่าช้าหรือไม่สามารถแข่งขันได้ อาจทำให้ Intel สูญเสียโอกาสในตลาด GPU https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/evidence-of-intels-big-battlemage-gpu-continues-to-mount-as-bmg-g31-chip-gets-another-official-confirmation
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Evidence of Intel's 'Big Battlemage' GPU continues to mount, as BMG-G31 chip gets another official confirmation
    The XPU Manager tool is for monitoring Intel's datacenter GPUs, meaning it's very likely these parts are coming soon.
    0 Comments 0 Shares 132 Views 0 Reviews
  • Kernel 6.17 ถึงจุดสิ้นสุดการสนับสนุน – อัปเกรดสู่ 6.18 LTS
    Linux Kernel เวอร์ชัน 6.17 ได้ถูกประกาศให้เป็น End of Life (EOL) แล้วโดย Greg Kroah-Hartman ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยหรือบั๊กอีกต่อไป ผู้ใช้ที่ยังคงใช้ Kernel รุ่นนี้จึงควรรีบอัปเกรดไปยัง Linux Kernel 6.18 LTS ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับการสนับสนุนระยะยาวและมีการแก้ไขบั๊กจำนวนมาก.

    Kernel 6.18 LTS มาพร้อมกับการปรับปรุงหลายด้าน เช่น การรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ ๆ, การปรับปรุงประสิทธิภาพ และการแก้ไขบั๊กที่สะสมจากรุ่นก่อนหน้า โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความปลอดภัยที่สำคัญ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าระบบจะมีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้นเมื่อใช้งานในระยะยาว.

    การประกาศ EOL ของ Kernel 6.17 สะท้อนถึงธรรมชาติของการพัฒนา Linux ที่มีการออกเวอร์ชันใหม่อย่างต่อเนื่อง รุ่นที่ไม่ใช่ LTS มักจะมีวงจรชีวิตสั้นเพียงไม่กี่เดือน และถูกแทนที่ด้วยรุ่นใหม่ที่มีการสนับสนุนยาวกว่า การเลือกใช้ LTS จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรที่ต้องการความมั่นคง.

    ผู้ใช้สามารถอัปเดตไปยัง Kernel 6.18.1 หรือทดสอบ 6.19 RC1 ได้แล้ว โดยการอัปเดตนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ระบบปลอดภัยขึ้น แต่ยังทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการรองรับฮาร์ดแวร์ล่าสุดได้เต็มที่.

    สรุปสาระสำคัญ
    Linux Kernel 6.17 EOL แล้ว
    ไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยหรือบั๊กอีกต่อไป
    ผู้ใช้ควรอัปเกรดทันที

    Kernel 6.18 LTS คือรุ่นที่แนะนำ
    ได้รับการสนับสนุนระยะยาว
    มีการแก้ไขบั๊กและปรับปรุงประสิทธิภาพ

    วงจรชีวิต Kernel รุ่นสั้น
    รุ่น non-LTS มักอยู่ได้เพียงไม่กี่เดือน
    LTS เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    หากยังใช้ Kernel 6.17 จะเสี่ยงต่อช่องโหว่และบั๊กที่ไม่ได้รับการแก้ไข
    ควรอัปเดตเป็น 6.18.1 หรือทดสอบ 6.19 RC1 เพื่อความปลอดภัยและเสถียรภาพ

    https://9to5linux.com/linux-kernel-6-17-reaches-end-of-life-its-time-to-upgrade-to-linux-kernel-6-18-lts
    🐧 Kernel 6.17 ถึงจุดสิ้นสุดการสนับสนุน – อัปเกรดสู่ 6.18 LTS Linux Kernel เวอร์ชัน 6.17 ได้ถูกประกาศให้เป็น End of Life (EOL) แล้วโดย Greg Kroah-Hartman ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยหรือบั๊กอีกต่อไป ผู้ใช้ที่ยังคงใช้ Kernel รุ่นนี้จึงควรรีบอัปเกรดไปยัง Linux Kernel 6.18 LTS ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับการสนับสนุนระยะยาวและมีการแก้ไขบั๊กจำนวนมาก. Kernel 6.18 LTS มาพร้อมกับการปรับปรุงหลายด้าน เช่น การรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ ๆ, การปรับปรุงประสิทธิภาพ และการแก้ไขบั๊กที่สะสมจากรุ่นก่อนหน้า โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความปลอดภัยที่สำคัญ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าระบบจะมีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้นเมื่อใช้งานในระยะยาว. การประกาศ EOL ของ Kernel 6.17 สะท้อนถึงธรรมชาติของการพัฒนา Linux ที่มีการออกเวอร์ชันใหม่อย่างต่อเนื่อง รุ่นที่ไม่ใช่ LTS มักจะมีวงจรชีวิตสั้นเพียงไม่กี่เดือน และถูกแทนที่ด้วยรุ่นใหม่ที่มีการสนับสนุนยาวกว่า การเลือกใช้ LTS จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรที่ต้องการความมั่นคง. ผู้ใช้สามารถอัปเดตไปยัง Kernel 6.18.1 หรือทดสอบ 6.19 RC1 ได้แล้ว โดยการอัปเดตนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ระบบปลอดภัยขึ้น แต่ยังทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการรองรับฮาร์ดแวร์ล่าสุดได้เต็มที่. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Linux Kernel 6.17 EOL แล้ว ➡️ ไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยหรือบั๊กอีกต่อไป ➡️ ผู้ใช้ควรอัปเกรดทันที ✅ Kernel 6.18 LTS คือรุ่นที่แนะนำ ➡️ ได้รับการสนับสนุนระยะยาว ➡️ มีการแก้ไขบั๊กและปรับปรุงประสิทธิภาพ ✅ วงจรชีวิต Kernel รุ่นสั้น ➡️ รุ่น non-LTS มักอยู่ได้เพียงไม่กี่เดือน ➡️ LTS เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ หากยังใช้ Kernel 6.17 จะเสี่ยงต่อช่องโหว่และบั๊กที่ไม่ได้รับการแก้ไข ⛔ ควรอัปเดตเป็น 6.18.1 หรือทดสอบ 6.19 RC1 เพื่อความปลอดภัยและเสถียรภาพ https://9to5linux.com/linux-kernel-6-17-reaches-end-of-life-its-time-to-upgrade-to-linux-kernel-6-18-lts
    9TO5LINUX.COM
    Linux Kernel 6.17 Reaches End of Life, It’s Time to Upgrade to Linux Kernel 6.18 LTS - 9to5Linux
    Linux kernel 6.17 reached end of life and all users are now recommended to upgrade their systems to the latest Linux 6.18 kernel series.
    0 Comments 0 Shares 76 Views 0 Reviews
  • Armbian Imager – เครื่องมือแฟลช OS สำหรับ SBC กว่า 300 รุ่น

    ผู้ใช้ Raspberry Pi คุ้นเคยกับ Raspberry Pi Imager ที่ช่วยดาวน์โหลดและติดตั้งระบบปฏิบัติการได้สะดวก แต่สำหรับผู้ใช้บอร์ด SBC อื่น ๆ เช่น ArmSom AIM7 ตอนนี้มีทางเลือกใหม่คือ Armbian Imager ซึ่งถูกพัฒนาโดยทีม Armbian เพื่อให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกัน โดยรองรับบอร์ดกว่า 300 รุ่นจาก 70+ ผู้ผลิต.

    Armbian Imager ทำงานแบบครบวงจร ตั้งแต่เลือกบอร์ด เลือกประเภท image (desktop, server, minimal) ไปจนถึงดาวน์โหลดและแฟลชลง SD card พร้อมตรวจสอบความถูกต้องด้วย SHA256 checksum เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ยังรองรับ custom images ในหลายรูปแบบ เช่น .img, .img.xz, .img.gz, .img.bz2, และ .img.zst.

    สิ่งที่โดดเด่นคือ Armbian Imager ถูกสร้างด้วย Tauri และ Rust แทนที่จะใช้ Electron ทำให้ไฟล์ติดตั้งมีขนาดเพียง ~15 MB ซึ่งเล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับแอป Electron ที่มักมีขนาด 150–200 MB เนื่องจากต้องบรรจุ Chromium มาด้วย ฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์มก็ถูกใส่มา เช่น UDisks2 + pkexec บน Linux, UAC prompt บน Windows และ Touch ID บน macOS.

    แม้ยังอยู่ในช่วง Public Preview และยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้จาก GitHub แล้วทดลองใช้งานได้ทันที จุดนี้สะท้อนว่า Armbian กำลังทดสอบตลาดก่อนเปิดตัวเต็มรูปแบบ และเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ SBC ที่ไม่ใช่ Raspberry Pi มีเครื่องมือแฟลช OS ที่สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น.

    สรุปสาระสำคัญ
    Armbian Imager เปิดตัวสำหรับ SBC
    รองรับกว่า 300 บอร์ดจาก 70+ ผู้ผลิต
    เลือก image ได้ทั้ง desktop, server, minimal

    ฟีเจอร์ความปลอดภัยและความสะดวก
    ตรวจสอบไฟล์ด้วย SHA256 checksum
    รองรับ custom image หลายรูปแบบ

    เทคโนโลยีเบาและทันสมัย
    ใช้ Tauri + Rust ทำให้ไฟล์ติดตั้งเพียง ~15 MB
    มีฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์ม เช่น UAC, Touch ID

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ยังอยู่ในช่วง Public Preview อาจมีบั๊กหรือปัญหาการใช้งาน
    ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและติดตามอัปเดตจากทีม Armbian

    https://itsfoss.com/news/armbian-imager-quietly-debuts/
    🛠️ Armbian Imager – เครื่องมือแฟลช OS สำหรับ SBC กว่า 300 รุ่น ผู้ใช้ Raspberry Pi คุ้นเคยกับ Raspberry Pi Imager ที่ช่วยดาวน์โหลดและติดตั้งระบบปฏิบัติการได้สะดวก แต่สำหรับผู้ใช้บอร์ด SBC อื่น ๆ เช่น ArmSom AIM7 ตอนนี้มีทางเลือกใหม่คือ Armbian Imager ซึ่งถูกพัฒนาโดยทีม Armbian เพื่อให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกัน โดยรองรับบอร์ดกว่า 300 รุ่นจาก 70+ ผู้ผลิต. Armbian Imager ทำงานแบบครบวงจร ตั้งแต่เลือกบอร์ด เลือกประเภท image (desktop, server, minimal) ไปจนถึงดาวน์โหลดและแฟลชลง SD card พร้อมตรวจสอบความถูกต้องด้วย SHA256 checksum เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ยังรองรับ custom images ในหลายรูปแบบ เช่น .img, .img.xz, .img.gz, .img.bz2, และ .img.zst. สิ่งที่โดดเด่นคือ Armbian Imager ถูกสร้างด้วย Tauri และ Rust แทนที่จะใช้ Electron ทำให้ไฟล์ติดตั้งมีขนาดเพียง ~15 MB ซึ่งเล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับแอป Electron ที่มักมีขนาด 150–200 MB เนื่องจากต้องบรรจุ Chromium มาด้วย ฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์มก็ถูกใส่มา เช่น UDisks2 + pkexec บน Linux, UAC prompt บน Windows และ Touch ID บน macOS. แม้ยังอยู่ในช่วง Public Preview และยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้จาก GitHub แล้วทดลองใช้งานได้ทันที จุดนี้สะท้อนว่า Armbian กำลังทดสอบตลาดก่อนเปิดตัวเต็มรูปแบบ และเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ SBC ที่ไม่ใช่ Raspberry Pi มีเครื่องมือแฟลช OS ที่สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Armbian Imager เปิดตัวสำหรับ SBC ➡️ รองรับกว่า 300 บอร์ดจาก 70+ ผู้ผลิต ➡️ เลือก image ได้ทั้ง desktop, server, minimal ✅ ฟีเจอร์ความปลอดภัยและความสะดวก ➡️ ตรวจสอบไฟล์ด้วย SHA256 checksum ➡️ รองรับ custom image หลายรูปแบบ ✅ เทคโนโลยีเบาและทันสมัย ➡️ ใช้ Tauri + Rust ทำให้ไฟล์ติดตั้งเพียง ~15 MB ➡️ มีฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์ม เช่น UAC, Touch ID ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ยังอยู่ในช่วง Public Preview อาจมีบั๊กหรือปัญหาการใช้งาน ⛔ ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและติดตามอัปเดตจากทีม Armbian https://itsfoss.com/news/armbian-imager-quietly-debuts/
    ITSFOSS.COM
    The Upcoming Armbian Imager Tool is a Godsend for Non-Raspberry Pi SBC Owners
    Official Armbian utility supports over 300 boards with smart image filtering and verified writes.
    0 Comments 0 Shares 97 Views 0 Reviews
  • Mozilla ก้าวสู่บทใหม่ภายใต้ CEO คนใหม่

    Anthony Enzor-DeMeo เข้ารับตำแหน่ง CEO ของ Mozilla Corporation เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2025 โดยเขาเน้นว่าความไว้วางใจจะเป็น “ประเด็นนิยาม” ของเทคโนโลยีในยุคนี้ และเบราว์เซอร์คือสนามรบหลักที่เรื่องความโปร่งใสและการควบคุมข้อมูลจะถูกทดสอบ เขาขอบคุณ Laura Chambers อดีต CEO ชั่วคราวที่นำ Mozilla ผ่านช่วงสำคัญ ทั้งการมาถึงของ AI, คดีต่อต้านการผูกขาด, การเติบโตของ Firefox บนมือถือ และการเริ่มต้นกลยุทธ์กระจายรายได้.

    Enzor-DeMeo ระบุว่า Mozilla จะมุ่งสู่การเป็น Trusted Software Company โดยมีสามเสาหลัก ได้แก่ (1) ทุกผลิตภัณฑ์ต้องให้ผู้ใช้มีสิทธิ์ควบคุมและเข้าใจได้ง่าย โดยเฉพาะเรื่อง AI และข้อมูล, (2) โมเดลธุรกิจต้องโปร่งใสและสอดคล้องกับความไว้วางใจ, และ (3) Firefox จะขยายจากเบราว์เซอร์ไปสู่ ecosystem ของซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้ โดยยังคงเป็น “anchor” ขององค์กร.

    Mozilla วางเป้าหมายในสามปีข้างหน้าเพื่อสร้างความแตกต่างในตลาด ได้แก่ การลงทุนใน AI ที่สะท้อน Mozilla Manifesto, การกระจายรายได้ให้พ้นจากการพึ่งพาการค้นหา, และการสร้างเครื่องมือใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้หลายเจเนอเรชัน โดยจะวัดผลด้วย “double bottom line” คือทั้งความสำเร็จทางธุรกิจและการขับเคลื่อนพันธกิจด้านความโปร่งใสและสิทธิผู้ใช้.

    Enzor-DeMeo ย้ำว่า AI กำลังเปลี่ยนซอฟต์แวร์และเบราว์เซอร์กำลังกลายเป็นจุดควบคุมชีวิตดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบและความคาดหวังของผู้ใช้เป็นโอกาสที่ Mozilla สามารถใช้จุดแข็งด้านแบรนด์และความไว้วางใจเพื่อสร้างความยั่งยืนและความเป็นอิสระในตลาด เขาสรุปว่า Mozilla พร้อมสำหรับบทใหม่ที่จะยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การแต่งตั้ง CEO คนใหม่
    Anthony Enzor-DeMeo รับตำแหน่ง CEO Mozilla
    ขอบคุณ Laura Chambers ที่นำองค์กรผ่านช่วงสำคัญ

    กลยุทธ์ Trusted Software Company
    ทุกผลิตภัณฑ์ต้องโปร่งใสและให้ผู้ใช้ควบคุมได้
    โมเดลธุรกิจต้องสอดคล้องกับความไว้วางใจ
    Firefox จะขยายสู่ ecosystem ของซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้

    เป้าหมาย 3 ปีข้างหน้า
    ลงทุนใน AI ที่สะท้อน Mozilla Manifesto
    กระจายรายได้พ้นจากการพึ่งพาการค้นหา
    วัดผลด้วย double bottom line (พันธกิจ + ธุรกิจ)

    คำเตือนและความท้าทาย
    การผสาน AI ต้องโปร่งใสและให้ผู้ใช้เลือกได้ ไม่เช่นนั้นอาจบั่นทอนความเชื่อมั่น
    การขยาย Firefox สู่ ecosystem ใหม่เสี่ยงต่อการสูญเสียเอกลักษณ์หากไม่รักษาจุดแข็งเดิม

    https://blog.mozilla.org/en/mozilla/leadership/mozillas-next-chapter-anthony-enzor-demeo-new-ceo/
    🌐 Mozilla ก้าวสู่บทใหม่ภายใต้ CEO คนใหม่ Anthony Enzor-DeMeo เข้ารับตำแหน่ง CEO ของ Mozilla Corporation เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2025 โดยเขาเน้นว่าความไว้วางใจจะเป็น “ประเด็นนิยาม” ของเทคโนโลยีในยุคนี้ และเบราว์เซอร์คือสนามรบหลักที่เรื่องความโปร่งใสและการควบคุมข้อมูลจะถูกทดสอบ เขาขอบคุณ Laura Chambers อดีต CEO ชั่วคราวที่นำ Mozilla ผ่านช่วงสำคัญ ทั้งการมาถึงของ AI, คดีต่อต้านการผูกขาด, การเติบโตของ Firefox บนมือถือ และการเริ่มต้นกลยุทธ์กระจายรายได้. Enzor-DeMeo ระบุว่า Mozilla จะมุ่งสู่การเป็น Trusted Software Company โดยมีสามเสาหลัก ได้แก่ (1) ทุกผลิตภัณฑ์ต้องให้ผู้ใช้มีสิทธิ์ควบคุมและเข้าใจได้ง่าย โดยเฉพาะเรื่อง AI และข้อมูล, (2) โมเดลธุรกิจต้องโปร่งใสและสอดคล้องกับความไว้วางใจ, และ (3) Firefox จะขยายจากเบราว์เซอร์ไปสู่ ecosystem ของซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้ โดยยังคงเป็น “anchor” ขององค์กร. Mozilla วางเป้าหมายในสามปีข้างหน้าเพื่อสร้างความแตกต่างในตลาด ได้แก่ การลงทุนใน AI ที่สะท้อน Mozilla Manifesto, การกระจายรายได้ให้พ้นจากการพึ่งพาการค้นหา, และการสร้างเครื่องมือใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้หลายเจเนอเรชัน โดยจะวัดผลด้วย “double bottom line” คือทั้งความสำเร็จทางธุรกิจและการขับเคลื่อนพันธกิจด้านความโปร่งใสและสิทธิผู้ใช้. Enzor-DeMeo ย้ำว่า AI กำลังเปลี่ยนซอฟต์แวร์และเบราว์เซอร์กำลังกลายเป็นจุดควบคุมชีวิตดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบและความคาดหวังของผู้ใช้เป็นโอกาสที่ Mozilla สามารถใช้จุดแข็งด้านแบรนด์และความไว้วางใจเพื่อสร้างความยั่งยืนและความเป็นอิสระในตลาด เขาสรุปว่า Mozilla พร้อมสำหรับบทใหม่ที่จะยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การแต่งตั้ง CEO คนใหม่ ➡️ Anthony Enzor-DeMeo รับตำแหน่ง CEO Mozilla ➡️ ขอบคุณ Laura Chambers ที่นำองค์กรผ่านช่วงสำคัญ ✅ กลยุทธ์ Trusted Software Company ➡️ ทุกผลิตภัณฑ์ต้องโปร่งใสและให้ผู้ใช้ควบคุมได้ ➡️ โมเดลธุรกิจต้องสอดคล้องกับความไว้วางใจ ➡️ Firefox จะขยายสู่ ecosystem ของซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้ ✅ เป้าหมาย 3 ปีข้างหน้า ➡️ ลงทุนใน AI ที่สะท้อน Mozilla Manifesto ➡️ กระจายรายได้พ้นจากการพึ่งพาการค้นหา ➡️ วัดผลด้วย double bottom line (พันธกิจ + ธุรกิจ) ‼️ คำเตือนและความท้าทาย ⛔ การผสาน AI ต้องโปร่งใสและให้ผู้ใช้เลือกได้ ไม่เช่นนั้นอาจบั่นทอนความเชื่อมั่น ⛔ การขยาย Firefox สู่ ecosystem ใหม่เสี่ยงต่อการสูญเสียเอกลักษณ์หากไม่รักษาจุดแข็งเดิม https://blog.mozilla.org/en/mozilla/leadership/mozillas-next-chapter-anthony-enzor-demeo-new-ceo/
    BLOG.MOZILLA.ORG
    Mozilla’s next chapter: Building the world’s most trusted software company
    Today, I step into the role of CEO of Mozilla Corporation. It is a privilege to lead an organization with a long history of standing up for people and buil
    0 Comments 0 Shares 123 Views 0 Reviews
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 8
    “ข่าวลือ ข่าวลวง”

    ตอน 8

    เยเมน เป็นเหมือนหนามตำตีน ซาอุดิอารเบียมาตลอดเวลากว่า 70 ปีมาแล้ว

    อิบน์ ซาอูด เคยยกพลไปทำสงครามกับเยเมน เมื่อปี ค.ศ.1934 กองทัพซาอุ ยึดพื้นที่ริมทะเลแดงได้ แต่ไม่สามารถยึดพื้นที่ตามแนวภูเขาและตัวเมืองชั้นในได้สัญญาสงบศึกระหว่าง 2 ประเทศ ที่ทำขึ้น ทำให้เยเมนต้องเสียหลายเมืองตามแนวเขตแดนให้แก่ซาอุดิอารเบีย และทำให้ขบวนการทวงดินแดนของเยเมนไม่เคยหมดไป

    เมื่อตอนปี ค.ศ.1960 ซาอุ สนับสนุนราชวงศ์เซดี ที่ปกครองเยเมน ในการต่อสู้กับฝ่ายอียิปต์ ที่ให้การสนับสนุนขบวนการเป็นสาธารณรัฐของเยเมน ที่ประกาศว่า จะโค่นล้มระบบกษัตริย์ทั้งคาบสมุทรอารเบีย

    แต่พอถึงเดือนมีนาคมปีนี้ (2015) ฝ่ายซาอุ ดันยิงจรวดเข้าถล่มกลุ่มฮูตติ ที่เป็นพวกกับกบฏเซดี ซึ่งกำลังรุกเข้าไปครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในเยเมนได้ และขับไล่รัฐบาลเยเมนที่พวกซาอุดิอารเบียสนับสนุน พ่ายแพ้หนีออกไปจากเมืองซานะ เข้าไปพึ่งใบบุญของซาอุดิอารเบีย ตั้งแต่ปีที่แล้ว

    โอ้ย วุ่นกันฉิบหาย…. อย่าเพิ่งงงนะครับ อ่านช้าๆ หลายหนก็ได้ เพราะนี่เรากำลังจะเข้าไปสู่จุดชี้ชะตา ของซาอุดิอารเบีย และก็อาจจะเป็นจุดชี้ชะตา ของอเมริกาด้วยก็ได้….

    เขาว่า ซาอุ ตัดสินใจส่งจรวดให้เยเมน เพียงเพราะฝ่ายซาอุไปได้ข่าวมาว่า พวกเซดีตกลงใจที่จะให้เส้นทางบินแก่อิหร่าน ที่จะบินตรงจากเตหะรานมาเยเมน และเยเมนยังตกลงใจที่จะให้อิหร่านใช้ท่าเรือฮูเดดาห์ Hudaydah ของเยเมน แถมกำลังมีการเจรจาจะซื้อน้ำมันราคาถูกระหว่างเยเมนกับอิหร่านอีกด้วย

    สรุปว่า เยเมนได้รับจรวด เพราะซาอุดิอารเบียประสาทกินเรื่องอิหร่าน

    เรื่องนี้ทำให้ซาอุ ออกแขกจริงๆ และไปรวบรวมเพื่อนขี่อูฐด้วยกัน ให้มาไล่ถล่มเยเมน นอกจากพรรคพวกแถวอ่าวแล้ว ยังมี จอร์แดน โมรอคโค และอิยิปต์บอกเอาด้วย แต่ที่น่าสนใจ โอมานและปากีสถาน เพื่อนเก่าบอก ไม่เอากับซาอุด้วย เออ น่าคิด

    สำหรับโอมาน เข้าใจว่าพยายามจะวางตัวเป็นกลาง เพราะยืนอยู่ใกล้ปากอิหร่านเหลือเกิน และยิ่งเป็นอิหร่านที่กำลังมาแรงเสียด้วย ก็ไม่แปลกเท่าไหร่ ที่โอมานจะทิ้งระยะห่างจากซาอุ

    แต่สำหรับปากีสถาน ซึ่งเคยว่าไงว่ากันกับอเมริกา และ อยู่ในบัญชี ประเภทสามารถรูดบัตรเติมเงินกับซาอุดิอารเบียได้มาตลอดนี่ … ยิ่งกว่าน่าสนใจ

    อเมริกาอ้างว่า ตัวเองให้การสนับสนุนซาอุในเรื่องยิงจรวดใส่เยเมนเฉพาะ ด้านงานข่าวกรอง และด้านสภาพพื้นที่ในเยเมน แม้ว่าทางริยาร์ดจะแจ้งทางอเมริกาล่วงหน้า ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะยิงจรวดลูกแรกใส่เยเมน

    การบุกเยเมนในครั้งนี้ของซาอุดิอารเบีย ถือเป็นนโยบายต่างประเทศเชิงรุก มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของซาอุดิอารเบีย ที่ผ่านๆมา ซาอุ จะทำอย่างไม่เปิดเผย แถมซ่อนไปซ้อนมาเสียอีกด้วยซ้ำ

    ในความเห็นของอเมริกา การที่ซาอุดิอารเบียยิงจรวดใส่เยเมนในครั้งนี้ นับว่าเป็นเรื่องอันตรายกับซาอุเองอย่างยิ่ง

    …อ้าว แล้วทำไมไม่เตือนเพื่อนรักกันเลย จริงๆ ต้องด่าด้วยซ้ำ อยู่ๆจะไปยิงจรวดใส่บ้านคนอื่นเขาง่ายๆ อย่างนี้ได้ไงวะ ที่แค่ยังไม่มีการเลือกตั้ง มึงยังเสือกปากเข้ามาไม่เลิก…
    และจนถึงทุกวันนี้ การสู้รบที่เยเมน ก็ไม่ได้เกิดผลดีกับซาอุแต่อย่างใด ต่างฝ่ายต่างยังยันกันอยู่ ฝ่ายซาอุกับพวกอ้างว่าคุมได้แล้วทางอากาศ ชายฝั่งและท่าเรือทางใต้ของเอเดน ขณะที่ฝ่ายซาดีฮูตติและพวก ก็อ้างว่าควบคุมทางเหนือของเยเมนได้เกือบหมดแล้ว

    และระหว่างที่ซาอุและพวกฟาดฟันยุ่งอยู่กับพวกฮูตติ จึงเป็นโอกาสให้อัลไดดาขยายฐานเข้าไปยึดได้เมืองใหญ่ ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นถิ่นเดิม ที่พ่อของบิน ลาเดน เคยอยู่มาก่อนที่จะอพยพไปอยู่ในซาอุดิอารเบีย

    สงครามเยเมน จึงเสมือนเป็นบททดสอบ บทแรกของกษัตริย์ซัลมาน เกี่ยวกับกิจการต่างประเทศ ที่อาจจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงของซาอุดิอารเบีย คาบสมุทรอารเบีย และรวมไปถึงภูมิภาคด้วย

    การรบเยเมน มีทั้งมิติเรื่องระหว่างนิกาย และเรื่องชิงความเป็นใหญ่ในภูมิภาค ระหว่างซาอุกับอิหร่าน แต่ที่สำคัญ ในความคิดของอเมริกา สงครามเยเมนยังเป็นสงครามที่แสดงให้เห็นว่า เทศกาลอาหรับสปริง ที่ซาอุดิอารเบียต่อต้านมาตลอดนั้น ยังไม่จบลง…

    อเมริกาเชื่อว่า การต่อสู้ที่เยเมน จะดึงฝ่ายอื่นๆเข้ามาร่วมรายการเพิ่มขึ้นอีก จะยืดเยื้อ และขยายวงออกไปนอกเยเมนถึงประเทศอื่นๆอีกด้วย …เป็นการวิจารณ์ ที่ทำให้มองเห็น เยเมน กำลังเป็นไฟลามทุ่ง….

    นอกจากนี้ อเมริกายังคาดการณ์ เหมือนเป็นลางร้ายอีกว่า เยเมนอาจจบลง อย่างเป็นจุดด่างของการครองราชย์ของกษัตริย์ซาลมาน และเป็นการจบสิ้นของความทะเยอทะยานของทั้ง บิน นาเยฟ และ บิน ซาลมาน ไม่ว่าทั้ง 2 คน จะได้มีส่วนร่วมกับสงครามนี้อย่างไร ชัดเจนว่า บิน ซาลมานที่เป็นรัฐมนตรีกลาโหม คงเป็นคนที่สูญเสียมากที่สุด ที่ผ่านมา เขาเป็นคนที่พ่อเชื่อใจมาก เป็นตัวแทนพ่อ ไปเยี่ยมรัสเซียและฝรั่งเศส และเมื่อกษัตริย์ซาลมาน ยกเลิกแผนที่จะไปพบโอบามา ที่แคมป์เดวิด เพื่อที่จะไปบอกกับโอบามา ว่าตนเองขุ่นเคืองขนาดไหน เกี่ยวกับเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่าน กษัตริย์ซัลมาน ก็ส่งเจ้าชายทั้ง 2 คน ทั้ง MBN และ MBS ไปพบโอบามาแทนตน ซึ่งโอบามา กลับพูดเร่งรัดเรื่องการปฏิรูปประเทศ แต่ก็สนับสนุนเรื่องสงครามกับเยเมน

    และในที่สุด เมื่อถึงเวลาที่กษัตริย์ซัลมานเดินทางไปวอชิงตันเข้าจริงๆ การสนทนากลับสั้น และฝ่ายซาอุกลับเป็นฝ่าย (ต้อง)ฟัง และการสนทนากลับเน้นไปที่ลูกมากกว่าพ่อ

    …แต่ โปรดสังเกตดูรูปภาพการสนทนา ระหว่างนายโอบามา กับ กษัตริย์ซาลมาน ที่ผมเอามาลงประกอบนิทานตอนนี้ ผมกลับเห็นสวนทาง กับไอ้เขี้ยวซีไอเอ ผมดูว่า ใบตองแห้งน่าจะเป็นฝ่าย ใกล้จะลงไปนั่งกับพื้น พนมมือพูดกับกษัตริย์ซาลมานร่อมร่อแล้ว เหมือนกับเป็นตัวปลอม คนละคน กับที่พูด กับคุณพี่ปูติน หรือ อาเฮียสี ช่วงวันประชุมสหประชาชาติ อย่างไม่น่าเชื่อ น่าสนใจนะครับ

    ไอ้เขี้ยวยาวซีไอเอ ยังบอกว่า บิน นาเยฟ อาจจะเป็นคนที่เข้ากับอเมริกันได้มากที่สุด ในจำนวนผู้ที่อยู่ในเส้นทางที่จะครองบัลลังค์ซาอูด และเขาอาจจะเป็นคนที่เก่งเรื่องข่าวกรองมากที่สุดในโลกตะวันออกกลาง ที่อเมริกาชื่นชม ถึงขนาดบอกว่า ฉลาดที่สุดในรุ่นเดียวกัน และต่างกับพ่อของเขา the Black Price และ บิน นาเยฟ ดูเหมือนจะพอทำงานร่วมกับอเมริกันได้ และเข้ากับโอบามาได้ดี ที่แคมป์เดวิด แต่ บิน นาเยฟ มีเรื่องต้องรับผิดชอบมากกว่าทุกคนในรุ่นเดียวกัน และมันจะมากขึ้น หลังเทศกาลอาหรับสปริงจบจริงๆ ในตะวันออกกลาง อเมริกาบอกว่า บิน นาเยฟ น่าจะรู้ดีว่า เขาต้องมีเพื่อนในยามนั้น…

    ที่เล่ามาทั้ง 8 ตอนนี้ สรุปได้ว่า เป็นรายการ ทั้งขู่เข็ญ ทั้งเปิดโปง ทั้งปิดปาก ของอเมริกา ต่อเพื่อนรัก ที่คบกันมากว่า 70 ปี อย่างน่าชื่นชมในฝีมือการเขียน
    ซีไอเอเก๋า เขี้ยวยาวเจ้าของบทความขู่สท้านโลก ตบท้ายว่า…. แต่วอชิงตัน จะทำใจยอมรับ อย่างไม่หลอกตัวเอง ไม่มีภาพลวงตา หรือเหมาเอาเอง ได้หรือไม่ว่า ซาอุดิอารเบียที่เป็นประเทศ ที่ยังปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชที่ใหญ่ที่สุด ที่ยังเหลืออยู่ในโลก กับราชวงศ์ซาอูด จะไม่มีวันยอมเปลี่ยนแปลง การปกครองประเทศของตน ไปจากแบบที่เป็นอยู่ปัจจุบันอย่างง่ายๆ และราชวงศ์ซาอูด ก็จะไม่มีวันตัดขาดกับกลุ่มวะฮาบีและเปลี่ยนแปลงความเชื่อของเขา และไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ซัลมาน เจ้าชายบิน นาเยฟ หรือเจ้าชายบิน ซาลมาน รวมทั้งราชวงศ์ที่เหลือทุกคน ต่างมีความเชื่อว่า พวกเขาอยู่รอดมาได้เช่นนี้กว่า 250 ปีแล้ว ท่ามกลางการเมืองที่ร้อนระอุ และรุนแรง และพวกเขาก็คิดว่า จะอยู่รอดแบบนี้ ต่อไป…

    ซาอุดิอารเบียและอเมริกา จะจับมือกันต่อไปไหม จะจับมือแบบอยู่รอดด้วยกัน หรือจับมือฉิบหายไปด้วยกัน หรือพวกเขาจะแยกทางกันเดิน และแยกทางกันเละ … รออ่านตอนสุดท้ายของนิทานเรื่องนี้ อย่าพลาดนะครับ!

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    24 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนที่ 8 “ข่าวลือ ข่าวลวง” ตอน 8 เยเมน เป็นเหมือนหนามตำตีน ซาอุดิอารเบียมาตลอดเวลากว่า 70 ปีมาแล้ว อิบน์ ซาอูด เคยยกพลไปทำสงครามกับเยเมน เมื่อปี ค.ศ.1934 กองทัพซาอุ ยึดพื้นที่ริมทะเลแดงได้ แต่ไม่สามารถยึดพื้นที่ตามแนวภูเขาและตัวเมืองชั้นในได้สัญญาสงบศึกระหว่าง 2 ประเทศ ที่ทำขึ้น ทำให้เยเมนต้องเสียหลายเมืองตามแนวเขตแดนให้แก่ซาอุดิอารเบีย และทำให้ขบวนการทวงดินแดนของเยเมนไม่เคยหมดไป เมื่อตอนปี ค.ศ.1960 ซาอุ สนับสนุนราชวงศ์เซดี ที่ปกครองเยเมน ในการต่อสู้กับฝ่ายอียิปต์ ที่ให้การสนับสนุนขบวนการเป็นสาธารณรัฐของเยเมน ที่ประกาศว่า จะโค่นล้มระบบกษัตริย์ทั้งคาบสมุทรอารเบีย แต่พอถึงเดือนมีนาคมปีนี้ (2015) ฝ่ายซาอุ ดันยิงจรวดเข้าถล่มกลุ่มฮูตติ ที่เป็นพวกกับกบฏเซดี ซึ่งกำลังรุกเข้าไปครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในเยเมนได้ และขับไล่รัฐบาลเยเมนที่พวกซาอุดิอารเบียสนับสนุน พ่ายแพ้หนีออกไปจากเมืองซานะ เข้าไปพึ่งใบบุญของซาอุดิอารเบีย ตั้งแต่ปีที่แล้ว โอ้ย วุ่นกันฉิบหาย…. อย่าเพิ่งงงนะครับ อ่านช้าๆ หลายหนก็ได้ เพราะนี่เรากำลังจะเข้าไปสู่จุดชี้ชะตา ของซาอุดิอารเบีย และก็อาจจะเป็นจุดชี้ชะตา ของอเมริกาด้วยก็ได้…. เขาว่า ซาอุ ตัดสินใจส่งจรวดให้เยเมน เพียงเพราะฝ่ายซาอุไปได้ข่าวมาว่า พวกเซดีตกลงใจที่จะให้เส้นทางบินแก่อิหร่าน ที่จะบินตรงจากเตหะรานมาเยเมน และเยเมนยังตกลงใจที่จะให้อิหร่านใช้ท่าเรือฮูเดดาห์ Hudaydah ของเยเมน แถมกำลังมีการเจรจาจะซื้อน้ำมันราคาถูกระหว่างเยเมนกับอิหร่านอีกด้วย สรุปว่า เยเมนได้รับจรวด เพราะซาอุดิอารเบียประสาทกินเรื่องอิหร่าน เรื่องนี้ทำให้ซาอุ ออกแขกจริงๆ และไปรวบรวมเพื่อนขี่อูฐด้วยกัน ให้มาไล่ถล่มเยเมน นอกจากพรรคพวกแถวอ่าวแล้ว ยังมี จอร์แดน โมรอคโค และอิยิปต์บอกเอาด้วย แต่ที่น่าสนใจ โอมานและปากีสถาน เพื่อนเก่าบอก ไม่เอากับซาอุด้วย เออ น่าคิด สำหรับโอมาน เข้าใจว่าพยายามจะวางตัวเป็นกลาง เพราะยืนอยู่ใกล้ปากอิหร่านเหลือเกิน และยิ่งเป็นอิหร่านที่กำลังมาแรงเสียด้วย ก็ไม่แปลกเท่าไหร่ ที่โอมานจะทิ้งระยะห่างจากซาอุ แต่สำหรับปากีสถาน ซึ่งเคยว่าไงว่ากันกับอเมริกา และ อยู่ในบัญชี ประเภทสามารถรูดบัตรเติมเงินกับซาอุดิอารเบียได้มาตลอดนี่ … ยิ่งกว่าน่าสนใจ อเมริกาอ้างว่า ตัวเองให้การสนับสนุนซาอุในเรื่องยิงจรวดใส่เยเมนเฉพาะ ด้านงานข่าวกรอง และด้านสภาพพื้นที่ในเยเมน แม้ว่าทางริยาร์ดจะแจ้งทางอเมริกาล่วงหน้า ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะยิงจรวดลูกแรกใส่เยเมน การบุกเยเมนในครั้งนี้ของซาอุดิอารเบีย ถือเป็นนโยบายต่างประเทศเชิงรุก มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของซาอุดิอารเบีย ที่ผ่านๆมา ซาอุ จะทำอย่างไม่เปิดเผย แถมซ่อนไปซ้อนมาเสียอีกด้วยซ้ำ ในความเห็นของอเมริกา การที่ซาอุดิอารเบียยิงจรวดใส่เยเมนในครั้งนี้ นับว่าเป็นเรื่องอันตรายกับซาอุเองอย่างยิ่ง …อ้าว แล้วทำไมไม่เตือนเพื่อนรักกันเลย จริงๆ ต้องด่าด้วยซ้ำ อยู่ๆจะไปยิงจรวดใส่บ้านคนอื่นเขาง่ายๆ อย่างนี้ได้ไงวะ ที่แค่ยังไม่มีการเลือกตั้ง มึงยังเสือกปากเข้ามาไม่เลิก… และจนถึงทุกวันนี้ การสู้รบที่เยเมน ก็ไม่ได้เกิดผลดีกับซาอุแต่อย่างใด ต่างฝ่ายต่างยังยันกันอยู่ ฝ่ายซาอุกับพวกอ้างว่าคุมได้แล้วทางอากาศ ชายฝั่งและท่าเรือทางใต้ของเอเดน ขณะที่ฝ่ายซาดีฮูตติและพวก ก็อ้างว่าควบคุมทางเหนือของเยเมนได้เกือบหมดแล้ว และระหว่างที่ซาอุและพวกฟาดฟันยุ่งอยู่กับพวกฮูตติ จึงเป็นโอกาสให้อัลไดดาขยายฐานเข้าไปยึดได้เมืองใหญ่ ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นถิ่นเดิม ที่พ่อของบิน ลาเดน เคยอยู่มาก่อนที่จะอพยพไปอยู่ในซาอุดิอารเบีย สงครามเยเมน จึงเสมือนเป็นบททดสอบ บทแรกของกษัตริย์ซัลมาน เกี่ยวกับกิจการต่างประเทศ ที่อาจจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงของซาอุดิอารเบีย คาบสมุทรอารเบีย และรวมไปถึงภูมิภาคด้วย การรบเยเมน มีทั้งมิติเรื่องระหว่างนิกาย และเรื่องชิงความเป็นใหญ่ในภูมิภาค ระหว่างซาอุกับอิหร่าน แต่ที่สำคัญ ในความคิดของอเมริกา สงครามเยเมนยังเป็นสงครามที่แสดงให้เห็นว่า เทศกาลอาหรับสปริง ที่ซาอุดิอารเบียต่อต้านมาตลอดนั้น ยังไม่จบลง… อเมริกาเชื่อว่า การต่อสู้ที่เยเมน จะดึงฝ่ายอื่นๆเข้ามาร่วมรายการเพิ่มขึ้นอีก จะยืดเยื้อ และขยายวงออกไปนอกเยเมนถึงประเทศอื่นๆอีกด้วย …เป็นการวิจารณ์ ที่ทำให้มองเห็น เยเมน กำลังเป็นไฟลามทุ่ง…. นอกจากนี้ อเมริกายังคาดการณ์ เหมือนเป็นลางร้ายอีกว่า เยเมนอาจจบลง อย่างเป็นจุดด่างของการครองราชย์ของกษัตริย์ซาลมาน และเป็นการจบสิ้นของความทะเยอทะยานของทั้ง บิน นาเยฟ และ บิน ซาลมาน ไม่ว่าทั้ง 2 คน จะได้มีส่วนร่วมกับสงครามนี้อย่างไร ชัดเจนว่า บิน ซาลมานที่เป็นรัฐมนตรีกลาโหม คงเป็นคนที่สูญเสียมากที่สุด ที่ผ่านมา เขาเป็นคนที่พ่อเชื่อใจมาก เป็นตัวแทนพ่อ ไปเยี่ยมรัสเซียและฝรั่งเศส และเมื่อกษัตริย์ซาลมาน ยกเลิกแผนที่จะไปพบโอบามา ที่แคมป์เดวิด เพื่อที่จะไปบอกกับโอบามา ว่าตนเองขุ่นเคืองขนาดไหน เกี่ยวกับเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่าน กษัตริย์ซัลมาน ก็ส่งเจ้าชายทั้ง 2 คน ทั้ง MBN และ MBS ไปพบโอบามาแทนตน ซึ่งโอบามา กลับพูดเร่งรัดเรื่องการปฏิรูปประเทศ แต่ก็สนับสนุนเรื่องสงครามกับเยเมน และในที่สุด เมื่อถึงเวลาที่กษัตริย์ซัลมานเดินทางไปวอชิงตันเข้าจริงๆ การสนทนากลับสั้น และฝ่ายซาอุกลับเป็นฝ่าย (ต้อง)ฟัง และการสนทนากลับเน้นไปที่ลูกมากกว่าพ่อ …แต่ โปรดสังเกตดูรูปภาพการสนทนา ระหว่างนายโอบามา กับ กษัตริย์ซาลมาน ที่ผมเอามาลงประกอบนิทานตอนนี้ ผมกลับเห็นสวนทาง กับไอ้เขี้ยวซีไอเอ ผมดูว่า ใบตองแห้งน่าจะเป็นฝ่าย ใกล้จะลงไปนั่งกับพื้น พนมมือพูดกับกษัตริย์ซาลมานร่อมร่อแล้ว เหมือนกับเป็นตัวปลอม คนละคน กับที่พูด กับคุณพี่ปูติน หรือ อาเฮียสี ช่วงวันประชุมสหประชาชาติ อย่างไม่น่าเชื่อ น่าสนใจนะครับ ไอ้เขี้ยวยาวซีไอเอ ยังบอกว่า บิน นาเยฟ อาจจะเป็นคนที่เข้ากับอเมริกันได้มากที่สุด ในจำนวนผู้ที่อยู่ในเส้นทางที่จะครองบัลลังค์ซาอูด และเขาอาจจะเป็นคนที่เก่งเรื่องข่าวกรองมากที่สุดในโลกตะวันออกกลาง ที่อเมริกาชื่นชม ถึงขนาดบอกว่า ฉลาดที่สุดในรุ่นเดียวกัน และต่างกับพ่อของเขา the Black Price และ บิน นาเยฟ ดูเหมือนจะพอทำงานร่วมกับอเมริกันได้ และเข้ากับโอบามาได้ดี ที่แคมป์เดวิด แต่ บิน นาเยฟ มีเรื่องต้องรับผิดชอบมากกว่าทุกคนในรุ่นเดียวกัน และมันจะมากขึ้น หลังเทศกาลอาหรับสปริงจบจริงๆ ในตะวันออกกลาง อเมริกาบอกว่า บิน นาเยฟ น่าจะรู้ดีว่า เขาต้องมีเพื่อนในยามนั้น… ที่เล่ามาทั้ง 8 ตอนนี้ สรุปได้ว่า เป็นรายการ ทั้งขู่เข็ญ ทั้งเปิดโปง ทั้งปิดปาก ของอเมริกา ต่อเพื่อนรัก ที่คบกันมากว่า 70 ปี อย่างน่าชื่นชมในฝีมือการเขียน ซีไอเอเก๋า เขี้ยวยาวเจ้าของบทความขู่สท้านโลก ตบท้ายว่า…. แต่วอชิงตัน จะทำใจยอมรับ อย่างไม่หลอกตัวเอง ไม่มีภาพลวงตา หรือเหมาเอาเอง ได้หรือไม่ว่า ซาอุดิอารเบียที่เป็นประเทศ ที่ยังปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชที่ใหญ่ที่สุด ที่ยังเหลืออยู่ในโลก กับราชวงศ์ซาอูด จะไม่มีวันยอมเปลี่ยนแปลง การปกครองประเทศของตน ไปจากแบบที่เป็นอยู่ปัจจุบันอย่างง่ายๆ และราชวงศ์ซาอูด ก็จะไม่มีวันตัดขาดกับกลุ่มวะฮาบีและเปลี่ยนแปลงความเชื่อของเขา และไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ซัลมาน เจ้าชายบิน นาเยฟ หรือเจ้าชายบิน ซาลมาน รวมทั้งราชวงศ์ที่เหลือทุกคน ต่างมีความเชื่อว่า พวกเขาอยู่รอดมาได้เช่นนี้กว่า 250 ปีแล้ว ท่ามกลางการเมืองที่ร้อนระอุ และรุนแรง และพวกเขาก็คิดว่า จะอยู่รอดแบบนี้ ต่อไป… ซาอุดิอารเบียและอเมริกา จะจับมือกันต่อไปไหม จะจับมือแบบอยู่รอดด้วยกัน หรือจับมือฉิบหายไปด้วยกัน หรือพวกเขาจะแยกทางกันเดิน และแยกทางกันเละ … รออ่านตอนสุดท้ายของนิทานเรื่องนี้ อย่าพลาดนะครับ! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 24 ต.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 174 Views 0 Reviews
  • “Arctic เปิดตัว MX-7 – Thermal Paste รุ่นใหม่ เย็นกว่าเดิม 3%”

    Arctic เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงในตลาด Thermal Paste โดยรุ่น MX-6 เคยถูกยกให้เป็นหนึ่งในซิลิโคนระบายความร้อนที่ดีที่สุดในตลาด ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัว MX-7 ที่มาพร้อมสูตรใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายความร้อนและความทนทานในการใช้งาน

    จากการทดสอบภายในของ Arctic โดยใช้ CPU Intel Core Ultra 9 285K ที่ทำงานที่ 4.5GHz และกินไฟกว่า 284W ในอุณหภูมิห้อง 25°C พบว่า MX-7 สามารถทำงานได้เย็นกว่า MX-6 ประมาณ 3% และเย็นกว่า MX-4 ถึง 6% ซึ่งถือเป็นการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญในตลาดที่แข่งขันสูง

    MX-7 มีคุณสมบัติเด่นคือ ความหนืดต่ำกว่า MX-6 ถึง 22% ทำให้กระจายตัวได้ง่ายขึ้น และมีความหนาแน่นมากกว่าเดิม 12% เพื่อเพิ่มความทนทานต่อการใช้งานระยะยาว Arctic ยังแนะนำให้ผู้ใช้ทาซิลิโคนในรูปแบบ “cross pattern” แล้วปล่อยให้แรงกดจากฮีตซิงค์ช่วยกระจายเนื้อซิลิโคนเอง ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

    นอกจากนี้ MX-7 ยังถูกออกแบบให้ ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้าและไม่เป็นตัวเก็บประจุ ทำให้ปลอดภัยต่อการใช้งานแม้ในระบบ Direct-Die Cooling ที่ซิลิโคนสัมผัสโดยตรงกับชิป โดยมีราคาจำหน่ายตั้งแต่ 6–10 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับขนาดบรรจุ และยังมีแพ็กเกจที่รวม MX-Cleaner wipes สำหรับทำความสะอาดซิลิโคนเก่าอีกด้วย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Arctic เปิดตัว MX-7 Thermal Paste รุ่นใหม่
    เย็นกว่า MX-6 ประมาณ 3% และเย็นกว่า MX-4 ถึง 6%

    คุณสมบัติเด่นของ MX-7
    ความหนืดต่ำลง 22% และความหนาแน่นสูงขึ้น 12%
    ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้าและไม่เป็นตัวเก็บประจุ

    วิธีการใช้งานที่แนะนำ
    ทาแบบ cross pattern แล้วปล่อยให้แรงกดจากฮีตซิงค์ช่วยกระจาย

    ราคาจำหน่าย
    อยู่ระหว่าง 6–10 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับขนาดบรรจุ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    หากทาซิลิโคนผิดวิธี อาจทำให้การกระจายความร้อนไม่มีประสิทธิภาพ
    ควรซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้เพื่อหลีกเลี่ยงสินค้าลอกเลียนแบบ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/thermal-paste/arctic-launches-its-best-thermal-paste-yet-for-chips-of-all-types-claims-new-mx-7-formulation-runs-3-percent-cooler-than-its-predecessor
    📰 “Arctic เปิดตัว MX-7 – Thermal Paste รุ่นใหม่ เย็นกว่าเดิม 3%” Arctic เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงในตลาด Thermal Paste โดยรุ่น MX-6 เคยถูกยกให้เป็นหนึ่งในซิลิโคนระบายความร้อนที่ดีที่สุดในตลาด ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัว MX-7 ที่มาพร้อมสูตรใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายความร้อนและความทนทานในการใช้งาน จากการทดสอบภายในของ Arctic โดยใช้ CPU Intel Core Ultra 9 285K ที่ทำงานที่ 4.5GHz และกินไฟกว่า 284W ในอุณหภูมิห้อง 25°C พบว่า MX-7 สามารถทำงานได้เย็นกว่า MX-6 ประมาณ 3% และเย็นกว่า MX-4 ถึง 6% ซึ่งถือเป็นการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญในตลาดที่แข่งขันสูง MX-7 มีคุณสมบัติเด่นคือ ความหนืดต่ำกว่า MX-6 ถึง 22% ทำให้กระจายตัวได้ง่ายขึ้น และมีความหนาแน่นมากกว่าเดิม 12% เพื่อเพิ่มความทนทานต่อการใช้งานระยะยาว Arctic ยังแนะนำให้ผู้ใช้ทาซิลิโคนในรูปแบบ “cross pattern” แล้วปล่อยให้แรงกดจากฮีตซิงค์ช่วยกระจายเนื้อซิลิโคนเอง ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด นอกจากนี้ MX-7 ยังถูกออกแบบให้ ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้าและไม่เป็นตัวเก็บประจุ ทำให้ปลอดภัยต่อการใช้งานแม้ในระบบ Direct-Die Cooling ที่ซิลิโคนสัมผัสโดยตรงกับชิป โดยมีราคาจำหน่ายตั้งแต่ 6–10 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับขนาดบรรจุ และยังมีแพ็กเกจที่รวม MX-Cleaner wipes สำหรับทำความสะอาดซิลิโคนเก่าอีกด้วย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Arctic เปิดตัว MX-7 Thermal Paste รุ่นใหม่ ➡️ เย็นกว่า MX-6 ประมาณ 3% และเย็นกว่า MX-4 ถึง 6% ✅ คุณสมบัติเด่นของ MX-7 ➡️ ความหนืดต่ำลง 22% และความหนาแน่นสูงขึ้น 12% ➡️ ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้าและไม่เป็นตัวเก็บประจุ ✅ วิธีการใช้งานที่แนะนำ ➡️ ทาแบบ cross pattern แล้วปล่อยให้แรงกดจากฮีตซิงค์ช่วยกระจาย ✅ ราคาจำหน่าย ➡️ อยู่ระหว่าง 6–10 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับขนาดบรรจุ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ หากทาซิลิโคนผิดวิธี อาจทำให้การกระจายความร้อนไม่มีประสิทธิภาพ ⛔ ควรซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้เพื่อหลีกเลี่ยงสินค้าลอกเลียนแบบ https://www.tomshardware.com/pc-components/thermal-paste/arctic-launches-its-best-thermal-paste-yet-for-chips-of-all-types-claims-new-mx-7-formulation-runs-3-percent-cooler-than-its-predecessor
    0 Comments 0 Shares 138 Views 0 Reviews
  • “เด็กชายทำลาย SSD 50 ตัว – พ่อสูญเสียพื้นที่เก็บข้อมูล 25TB ท่ามกลางวิกฤต NAND”

    ภาพที่แชร์ในกลุ่ม Facebook “Build a PC is easy” ของเวียดนามเผยให้เห็น SSD Samsung PM991a ขนาด 512GB จำนวน 50 ตัวที่ถูกงอจนใช้การไม่ได้ เด็กชายวัย 10 ปีซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของ ได้ทำการ “ทดสอบความทนทาน” โดยไม่รู้ว่ากำลังทำลายอุปกรณ์ที่มีมูลค่ารวมกว่า 3,800–4,000 ดอลลาร์

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดหน่วยความจำ NAND กำลังเผชิญวิกฤตราคาพุ่งสูง โดยราคาของ SSD และ RAM เพิ่มขึ้นเร็วกว่าทองคำ ทำให้การสูญเสียครั้งนี้ยิ่งเจ็บปวดสำหรับผู้เป็นพ่อที่ถูกเรียกว่า “the most miserable dad in the world” ในโพสต์ต้นทาง

    แม้ SSD ที่ถูกงออาจยังมีบางตัวที่สามารถใช้งานได้ หากชิ้นส่วน PCB ไม่เสียหาย แต่โดยทั่วไปแล้วการบิดงอทำให้โอกาสใช้งานต่อแทบเป็นศูนย์ และหากไม่สามารถซ่อมได้ก็ต้องนำไปรีไซเคิล NAND chips เท่านั้น

    เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเปราะบางของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และเป็นบทเรียนว่าการเก็บรักษาอุปกรณ์ไอทีควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาหน่วยความจำทั่วโลกกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เด็กชายวัย 10 ปีทำลาย SSD Samsung PM991a จำนวน 50 ตัว
    แต่ละตัวมีความจุ 512GB รวมทั้งหมดกว่า 25,600GB

    มูลค่าความเสียหายประมาณ 3,800–4,000 ดอลลาร์
    เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาหน่วยความจำ NAND พุ่งสูง

    เหตุการณ์ถูกแชร์ในกลุ่ม Facebook เวียดนาม
    เจ้าของถูกเรียกว่า “the most miserable dad in the world”

    ความเสี่ยงต่อการใช้งาน SSD ที่ถูกงอ
    โอกาสใช้งานต่อแทบไม่มี หาก PCB เสียหาย
    ทางออกเดียวคือการรีไซเคิล NAND chips

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/boy-breaks-50-of-his-fathers-samsung-m-2-nvme-ssds-worth-nearly-usd4-000-25-600-gb-of-storage-ruined-by-ten-year-old-oblivious-to-global-nand-crisis
    📰 “เด็กชายทำลาย SSD 50 ตัว – พ่อสูญเสียพื้นที่เก็บข้อมูล 25TB ท่ามกลางวิกฤต NAND” ภาพที่แชร์ในกลุ่ม Facebook “Build a PC is easy” ของเวียดนามเผยให้เห็น SSD Samsung PM991a ขนาด 512GB จำนวน 50 ตัวที่ถูกงอจนใช้การไม่ได้ เด็กชายวัย 10 ปีซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของ ได้ทำการ “ทดสอบความทนทาน” โดยไม่รู้ว่ากำลังทำลายอุปกรณ์ที่มีมูลค่ารวมกว่า 3,800–4,000 ดอลลาร์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดหน่วยความจำ NAND กำลังเผชิญวิกฤตราคาพุ่งสูง โดยราคาของ SSD และ RAM เพิ่มขึ้นเร็วกว่าทองคำ ทำให้การสูญเสียครั้งนี้ยิ่งเจ็บปวดสำหรับผู้เป็นพ่อที่ถูกเรียกว่า “the most miserable dad in the world” ในโพสต์ต้นทาง แม้ SSD ที่ถูกงออาจยังมีบางตัวที่สามารถใช้งานได้ หากชิ้นส่วน PCB ไม่เสียหาย แต่โดยทั่วไปแล้วการบิดงอทำให้โอกาสใช้งานต่อแทบเป็นศูนย์ และหากไม่สามารถซ่อมได้ก็ต้องนำไปรีไซเคิล NAND chips เท่านั้น เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเปราะบางของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และเป็นบทเรียนว่าการเก็บรักษาอุปกรณ์ไอทีควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาหน่วยความจำทั่วโลกกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เด็กชายวัย 10 ปีทำลาย SSD Samsung PM991a จำนวน 50 ตัว ➡️ แต่ละตัวมีความจุ 512GB รวมทั้งหมดกว่า 25,600GB ✅ มูลค่าความเสียหายประมาณ 3,800–4,000 ดอลลาร์ ➡️ เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาหน่วยความจำ NAND พุ่งสูง ✅ เหตุการณ์ถูกแชร์ในกลุ่ม Facebook เวียดนาม ➡️ เจ้าของถูกเรียกว่า “the most miserable dad in the world” ‼️ ความเสี่ยงต่อการใช้งาน SSD ที่ถูกงอ ⛔ โอกาสใช้งานต่อแทบไม่มี หาก PCB เสียหาย ⛔ ทางออกเดียวคือการรีไซเคิล NAND chips https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/boy-breaks-50-of-his-fathers-samsung-m-2-nvme-ssds-worth-nearly-usd4-000-25-600-gb-of-storage-ruined-by-ten-year-old-oblivious-to-global-nand-crisis
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • “AI ออกแบบคอมพิวเตอร์เสร็จใน 1 สัปดาห์ – Project Speedrun สร้างสถิติใหม่”

    การออกแบบแผงวงจร (PCB) มักเป็นงานที่ใช้เวลานานและซับซ้อน โดยปกติวิศวกรต้องใช้เวลาหลายเดือนในการวางแผนและทดสอบ แต่ Quilter AI ได้แสดงให้เห็นว่า AI สามารถลดเวลาจาก 430 ชั่วโมงเหลือเพียง 38.5 ชั่วโมง พร้อมสร้างคอมพิวเตอร์ที่บูตระบบปฏิบัติการ Debian ได้สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก ถือเป็นการพิสูจน์ศักยภาพของ AI ในการออกแบบฮาร์ดแวร์ที่ซับซ้อน

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Quilter AI ไม่ได้ถูกฝึกจากตัวอย่าง PCB ที่มนุษย์ออกแบบมาก่อน แต่ใช้การ “เล่นเกมกับกฎฟิสิกส์” เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมที่สุด ทำให้ระบบไม่ถูกจำกัดด้วยข้อผิดพลาดที่มนุษย์เคยทำ และสามารถสร้างการออกแบบที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

    การทดลองนี้ยังสะท้อนถึงอนาคตของอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ ที่อาจเปิดโอกาสให้ สตาร์ทอัพหรือผู้เล่นรายเล็กเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น เพราะ AI สามารถลดต้นทุนเวลาและแรงงานลงอย่างมหาศาล ทำให้การสร้างคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ใหม่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องใช้ทีมวิศวกรขนาดใหญ่เสมอไป

    ในระยะยาว Quilter ตั้งเป้าว่า AI จะไม่เพียงแค่ “ทำงานแทนมนุษย์” แต่จะสามารถออกแบบ PCB ที่ดีกว่าที่มนุษย์เคยทำได้ ซึ่งหากสำเร็จจริง อาจเป็นการพลิกโฉมวงการอิเล็กทรอนิกส์และการผลิตคอมพิวเตอร์ทั่วโลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Project Speedrun ของ Quilter AI
    ออกแบบคอมพิวเตอร์ Linux แบบ Dual-PCB มีชิ้นส่วน 843 ชิ้น

    ลดเวลาออกแบบอย่างมหาศาล
    ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์ และแรงงานมนุษย์ 38.5 ชั่วโมง จากเดิม 430 ชั่วโมง

    บูต Debian สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก
    แสดงถึงความแม่นยำและประสิทธิภาพของการออกแบบโดย AI

    แนวทางการฝึก AI
    ไม่ใช้ตัวอย่างมนุษย์ แต่เรียนรู้จากกฎฟิสิกส์โดยตรง

    ความท้าทายและความเสี่ยง
    หาก AI ออกแบบผิดพลาด อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อวงจรหรือระบบที่ซับซ้อน
    การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้มนุษย์สูญเสียทักษะการออกแบบเชิงลึก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/dual-pcb-linux-computer-with-843-components-designed-by-ai-boots-on-first-attempt-project-speedrun-was-made-in-just-one-week-and-required-less-than-40-hours-of-human-work
    📰 “AI ออกแบบคอมพิวเตอร์เสร็จใน 1 สัปดาห์ – Project Speedrun สร้างสถิติใหม่” การออกแบบแผงวงจร (PCB) มักเป็นงานที่ใช้เวลานานและซับซ้อน โดยปกติวิศวกรต้องใช้เวลาหลายเดือนในการวางแผนและทดสอบ แต่ Quilter AI ได้แสดงให้เห็นว่า AI สามารถลดเวลาจาก 430 ชั่วโมงเหลือเพียง 38.5 ชั่วโมง พร้อมสร้างคอมพิวเตอร์ที่บูตระบบปฏิบัติการ Debian ได้สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก ถือเป็นการพิสูจน์ศักยภาพของ AI ในการออกแบบฮาร์ดแวร์ที่ซับซ้อน สิ่งที่น่าสนใจคือ Quilter AI ไม่ได้ถูกฝึกจากตัวอย่าง PCB ที่มนุษย์ออกแบบมาก่อน แต่ใช้การ “เล่นเกมกับกฎฟิสิกส์” เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมที่สุด ทำให้ระบบไม่ถูกจำกัดด้วยข้อผิดพลาดที่มนุษย์เคยทำ และสามารถสร้างการออกแบบที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม การทดลองนี้ยังสะท้อนถึงอนาคตของอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ ที่อาจเปิดโอกาสให้ สตาร์ทอัพหรือผู้เล่นรายเล็กเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น เพราะ AI สามารถลดต้นทุนเวลาและแรงงานลงอย่างมหาศาล ทำให้การสร้างคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ใหม่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องใช้ทีมวิศวกรขนาดใหญ่เสมอไป ในระยะยาว Quilter ตั้งเป้าว่า AI จะไม่เพียงแค่ “ทำงานแทนมนุษย์” แต่จะสามารถออกแบบ PCB ที่ดีกว่าที่มนุษย์เคยทำได้ ซึ่งหากสำเร็จจริง อาจเป็นการพลิกโฉมวงการอิเล็กทรอนิกส์และการผลิตคอมพิวเตอร์ทั่วโลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Project Speedrun ของ Quilter AI ➡️ ออกแบบคอมพิวเตอร์ Linux แบบ Dual-PCB มีชิ้นส่วน 843 ชิ้น ✅ ลดเวลาออกแบบอย่างมหาศาล ➡️ ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์ และแรงงานมนุษย์ 38.5 ชั่วโมง จากเดิม 430 ชั่วโมง ✅ บูต Debian สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก ➡️ แสดงถึงความแม่นยำและประสิทธิภาพของการออกแบบโดย AI ✅ แนวทางการฝึก AI ➡️ ไม่ใช้ตัวอย่างมนุษย์ แต่เรียนรู้จากกฎฟิสิกส์โดยตรง ‼️ ความท้าทายและความเสี่ยง ⛔ หาก AI ออกแบบผิดพลาด อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อวงจรหรือระบบที่ซับซ้อน ⛔ การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้มนุษย์สูญเสียทักษะการออกแบบเชิงลึก https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/dual-pcb-linux-computer-with-843-components-designed-by-ai-boots-on-first-attempt-project-speedrun-was-made-in-just-one-week-and-required-less-than-40-hours-of-human-work
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Dual-PCB Linux computer with 843 components designed by AI boots on first attempt — Project Speedrun was made in just one week and required less than 40 hours of human work
    Quilter, the LA-based startup behind this feat, says its dual-PCB Linux computer with 843 components was designed in just one week.
    0 Comments 0 Shares 153 Views 0 Reviews
  • ดาวเทียมยุคใหม่ทำได้มากกว่าที่คิด

    จำนวนดาวเทียมในวงโคจรโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 11,000 ดวง ณ พฤษภาคม 2025 และไม่ได้มีแค่จำนวนที่มากขึ้น แต่ยังมีความสามารถที่หลากหลายและซับซ้อนกว่าเดิม ดาวเทียมไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสื่อสารหรือ GPS อีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถผลิตสินค้า, ตรวจสอบภัยพิบัติ และแม้แต่ตัดสินใจเองได้โดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์

    การผลิตในอวกาศและการมองทะลุเมฆ
    บริษัทเอกชนเริ่มส่งดาวเทียมขึ้นไปเพื่อทดลอง การผลิตในสภาวะไร้น้ำหนัก เช่น การสร้างผลึกโมเลกุลสำหรับอุตสาหกรรมยา และการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ยากต่อการทำบนโลก นอกจากนี้ เทคโนโลยี Synthetic Aperture Radar (SAR) ทำให้ดาวเทียมสามารถมองทะลุเมฆและกลางคืนได้ ซึ่งถูกใช้จริงในการตรวจสอบการเคลื่อนทัพของรัสเซียในสงครามยูเครน และช่วยประเมินผลกระทบจากภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็ว

    ดาวเทียมฝูงและระบบหลบหลีกอัตโนมัติ
    จากเดิมที่ดาวเทียมถูกส่งขึ้นไปแบบเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มเรียงแถว ปัจจุบัน NASA กำลังทดสอบการเคลื่อนที่แบบ swarm ที่ดาวเทียมสามารถสื่อสารและประสานงานกันเองเพื่อหลบหลีกเศษซากอวกาศและดาวเทียมอื่น ๆ โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากโลก ระบบนี้ช่วยลดความเสี่ยงการชนและเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการวงโคจร

    ดาวเทียมกับ “X-ray vision”
    นอกจากการสังเกตจักรวาลด้วยกล้อง X-ray แล้ว ปัจจุบันมีการพัฒนาดาวเทียมที่สามารถใช้ X-ray ตรวจสอบภายในดาวเทียมอื่น เพื่อดูว่ามีการเสียหายหรือถูกเศษซากอวกาศชนหรือไม่ ความสามารถนี้ยังถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในยุคการแข่งขันด้านอวกาศที่มีความตึงเครียดทางการเมืองเพิ่มขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    จำนวนดาวเทียมเพิ่มขึ้นกว่า 11,000 ดวงในปี 2025
    สะท้อนการเติบโตของอุตสาหกรรมอวกาศ

    การผลิตในอวกาศ
    ผลึกโมเลกุลสำหรับยา
    เซมิคอนดักเตอร์ในสภาวะไร้น้ำหนัก

    เทคโนโลยี SAR
    มองทะลุเมฆและกลางคืน
    ใช้ตรวจสอบสงครามและภัยพิบัติ

    ดาวเทียมฝูงและระบบหลบหลีกอัตโนมัติ
    ประสานงานกันเองโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากโลก

    X-ray vision ของดาวเทียม
    ตรวจสอบภายในดาวเทียมอื่น
    ใช้ทั้งด้านวิทยาศาสตร์และความมั่นคง

    คำเตือน
    การเพิ่มจำนวนดาวเทียมทำให้ความเสี่ยงการชนสูงขึ้น
    ความสามารถ X-ray อาจถูกใช้ในเชิงการทหารและการสอดแนม

    https://www.slashgear.com/2049270/satellite-facts-didnt-teach-in-school/
    🛰️ ดาวเทียมยุคใหม่ทำได้มากกว่าที่คิด จำนวนดาวเทียมในวงโคจรโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 11,000 ดวง ณ พฤษภาคม 2025 และไม่ได้มีแค่จำนวนที่มากขึ้น แต่ยังมีความสามารถที่หลากหลายและซับซ้อนกว่าเดิม ดาวเทียมไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสื่อสารหรือ GPS อีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถผลิตสินค้า, ตรวจสอบภัยพิบัติ และแม้แต่ตัดสินใจเองได้โดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์ ⚡ การผลิตในอวกาศและการมองทะลุเมฆ บริษัทเอกชนเริ่มส่งดาวเทียมขึ้นไปเพื่อทดลอง การผลิตในสภาวะไร้น้ำหนัก เช่น การสร้างผลึกโมเลกุลสำหรับอุตสาหกรรมยา และการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ยากต่อการทำบนโลก นอกจากนี้ เทคโนโลยี Synthetic Aperture Radar (SAR) ทำให้ดาวเทียมสามารถมองทะลุเมฆและกลางคืนได้ ซึ่งถูกใช้จริงในการตรวจสอบการเคลื่อนทัพของรัสเซียในสงครามยูเครน และช่วยประเมินผลกระทบจากภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็ว 🌐 ดาวเทียมฝูงและระบบหลบหลีกอัตโนมัติ จากเดิมที่ดาวเทียมถูกส่งขึ้นไปแบบเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มเรียงแถว ปัจจุบัน NASA กำลังทดสอบการเคลื่อนที่แบบ swarm ที่ดาวเทียมสามารถสื่อสารและประสานงานกันเองเพื่อหลบหลีกเศษซากอวกาศและดาวเทียมอื่น ๆ โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากโลก ระบบนี้ช่วยลดความเสี่ยงการชนและเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการวงโคจร 🔎 ดาวเทียมกับ “X-ray vision” นอกจากการสังเกตจักรวาลด้วยกล้อง X-ray แล้ว ปัจจุบันมีการพัฒนาดาวเทียมที่สามารถใช้ X-ray ตรวจสอบภายในดาวเทียมอื่น เพื่อดูว่ามีการเสียหายหรือถูกเศษซากอวกาศชนหรือไม่ ความสามารถนี้ยังถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในยุคการแข่งขันด้านอวกาศที่มีความตึงเครียดทางการเมืองเพิ่มขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ จำนวนดาวเทียมเพิ่มขึ้นกว่า 11,000 ดวงในปี 2025 ➡️ สะท้อนการเติบโตของอุตสาหกรรมอวกาศ ✅ การผลิตในอวกาศ ➡️ ผลึกโมเลกุลสำหรับยา ➡️ เซมิคอนดักเตอร์ในสภาวะไร้น้ำหนัก ✅ เทคโนโลยี SAR ➡️ มองทะลุเมฆและกลางคืน ➡️ ใช้ตรวจสอบสงครามและภัยพิบัติ ✅ ดาวเทียมฝูงและระบบหลบหลีกอัตโนมัติ ➡️ ประสานงานกันเองโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากโลก ✅ X-ray vision ของดาวเทียม ➡️ ตรวจสอบภายในดาวเทียมอื่น ➡️ ใช้ทั้งด้านวิทยาศาสตร์และความมั่นคง ‼️ คำเตือน ⛔ การเพิ่มจำนวนดาวเทียมทำให้ความเสี่ยงการชนสูงขึ้น ⛔ ความสามารถ X-ray อาจถูกใช้ในเชิงการทหารและการสอดแนม https://www.slashgear.com/2049270/satellite-facts-didnt-teach-in-school/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Things About Satellites They Didn't Teach You In School - SlashGear
    Satellites have come a long way in the last couple years, and what you learned about them in school is likely far different from their current uses.
    0 Comments 0 Shares 122 Views 0 Reviews
  • PayPal ยื่นขอใบอนุญาตธนาคารอุตสาหกรรม SMEs

    PayPal ไม่ต้องการเป็นเพียง “ตัวกลางโอนเงิน” อีกต่อไป บริษัทได้ยื่นขออนุญาตจัดตั้ง Industrial Bank ในรัฐ Utah และต่อ FDIC เพื่อให้สามารถทำธุรกิจธนาคารเต็มรูปแบบ ทั้งการรับฝากและปล่อยกู้โดยตรง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะลดการพึ่งพาธนาคารคู่ค้า และเพิ่มกำไรจากการดำเนินงานทางการเงินโดยตรง

    จุดเปลี่ยนสำคัญ: SMEs และการเข้าถึงเงินทุน
    หนึ่งในเหตุผลหลักคือการช่วยเหลือ ธุรกิจขนาดเล็กและกลาง (SMEs) ที่มักประสบปัญหาเข้าถึงเงินทุนจากธนาคารดั้งเดิมที่มีมาตรฐานการปล่อยกู้เข้มงวด PayPal มองว่าตนเองมีข้อมูลเชิงลึกจากธุรกรรมของผู้ค้าออนไลน์และธุรกิจเล็ก ๆ ซึ่งสามารถใช้เป็นฐานในการประเมินเครดิตได้แม่นยำกว่า ทำให้การปล่อยกู้มีความเสี่ยงต่ำลงและสร้างผลตอบแทนสูงขึ้น

    มิติใหม่: การรองรับคริปโตและ Stablecoin
    นอกจากการปล่อยกู้ PayPal ยังวางแผนใช้ใบอนุญาตนี้เพื่อขยายการดำเนินงานด้าน คริปโตและ Stablecoin (PYUSD) ภายใต้กรอบกฎหมายที่ชัดเจน การมีสถานะเป็นธนาคารจะช่วยให้ PayPal จัดการการแปลงค่าเงิน Fiat-คริปโตได้อย่างปลอดภัย และลดความเสี่ยงจากการที่ธนาคารคู่ค้าปฏิเสธให้บริการอย่างกะทันหัน

    มุมมองเชิงกลยุทธ์
    การยื่นขอใบอนุญาตนี้ถูกมองว่าเป็น “Endgame” ของ Fintech เพราะจะทำให้ PayPal มีอิสระในการดำเนินงานทางการเงินมากขึ้น คล้ายกับที่ Block (Square) เคยทำสำเร็จมาก่อน อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำกับดูแลสหรัฐฯ มีท่าทีระมัดระวังต่อบริษัทเทคโนโลยีที่เข้าสู่ธุรกิจธนาคาร ทำให้การอนุมัติครั้งนี้เป็นบททดสอบสำคัญต่ออนาคตของการกำกับดูแลการเงินในสหรัฐฯ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    PayPal ยื่นขอใบอนุญาต Industrial Bank Charter
    ยื่นต่อรัฐ Utah และ FDIC
    เปลี่ยนจากแพลตฟอร์มโอนเงินเป็นธนาคารเต็มรูปแบบ

    เป้าหมายหลักคือ SMEs
    ลดข้อจำกัดจากธนาคารดั้งเดิม
    ใช้ข้อมูลธุรกรรมออนไลน์ในการประเมินเครดิต

    ขยายสู่คริปโตและ Stablecoin
    รองรับ PYUSD ภายใต้กรอบกฎหมาย
    ลดความเสี่ยงจากการถูกตัดบริการโดยธนาคารคู่ค้า

    ผลเชิงกลยุทธ์
    ลดต้นทุนการดำเนินงาน
    เพิ่มกำไรจากการปล่อยกู้และการจัดการข้อมูล

    คำเตือนและความเสี่ยง
    การอนุมัติขึ้นอยู่กับท่าทีระมัดระวังของหน่วยงานกำกับดูแลสหรัฐฯ
    หากถูกปฏิเสธ อาจกระทบต่อแผนการขยายธุรกิจและการลงทุนด้านคริปโต

    https://securityonline.info/fintech-endgame-paypal-applies-for-industrial-bank-charter-to-fund-smes-and-support-crypto/
    💳 PayPal ยื่นขอใบอนุญาตธนาคารอุตสาหกรรม SMEs PayPal ไม่ต้องการเป็นเพียง “ตัวกลางโอนเงิน” อีกต่อไป บริษัทได้ยื่นขออนุญาตจัดตั้ง Industrial Bank ในรัฐ Utah และต่อ FDIC เพื่อให้สามารถทำธุรกิจธนาคารเต็มรูปแบบ ทั้งการรับฝากและปล่อยกู้โดยตรง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะลดการพึ่งพาธนาคารคู่ค้า และเพิ่มกำไรจากการดำเนินงานทางการเงินโดยตรง 🏦 จุดเปลี่ยนสำคัญ: SMEs และการเข้าถึงเงินทุน หนึ่งในเหตุผลหลักคือการช่วยเหลือ ธุรกิจขนาดเล็กและกลาง (SMEs) ที่มักประสบปัญหาเข้าถึงเงินทุนจากธนาคารดั้งเดิมที่มีมาตรฐานการปล่อยกู้เข้มงวด PayPal มองว่าตนเองมีข้อมูลเชิงลึกจากธุรกรรมของผู้ค้าออนไลน์และธุรกิจเล็ก ๆ ซึ่งสามารถใช้เป็นฐานในการประเมินเครดิตได้แม่นยำกว่า ทำให้การปล่อยกู้มีความเสี่ยงต่ำลงและสร้างผลตอบแทนสูงขึ้น 🪙 มิติใหม่: การรองรับคริปโตและ Stablecoin นอกจากการปล่อยกู้ PayPal ยังวางแผนใช้ใบอนุญาตนี้เพื่อขยายการดำเนินงานด้าน คริปโตและ Stablecoin (PYUSD) ภายใต้กรอบกฎหมายที่ชัดเจน การมีสถานะเป็นธนาคารจะช่วยให้ PayPal จัดการการแปลงค่าเงิน Fiat-คริปโตได้อย่างปลอดภัย และลดความเสี่ยงจากการที่ธนาคารคู่ค้าปฏิเสธให้บริการอย่างกะทันหัน 📊 มุมมองเชิงกลยุทธ์ การยื่นขอใบอนุญาตนี้ถูกมองว่าเป็น “Endgame” ของ Fintech เพราะจะทำให้ PayPal มีอิสระในการดำเนินงานทางการเงินมากขึ้น คล้ายกับที่ Block (Square) เคยทำสำเร็จมาก่อน อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำกับดูแลสหรัฐฯ มีท่าทีระมัดระวังต่อบริษัทเทคโนโลยีที่เข้าสู่ธุรกิจธนาคาร ทำให้การอนุมัติครั้งนี้เป็นบททดสอบสำคัญต่ออนาคตของการกำกับดูแลการเงินในสหรัฐฯ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ PayPal ยื่นขอใบอนุญาต Industrial Bank Charter ➡️ ยื่นต่อรัฐ Utah และ FDIC ➡️ เปลี่ยนจากแพลตฟอร์มโอนเงินเป็นธนาคารเต็มรูปแบบ ✅ เป้าหมายหลักคือ SMEs ➡️ ลดข้อจำกัดจากธนาคารดั้งเดิม ➡️ ใช้ข้อมูลธุรกรรมออนไลน์ในการประเมินเครดิต ✅ ขยายสู่คริปโตและ Stablecoin ➡️ รองรับ PYUSD ภายใต้กรอบกฎหมาย ➡️ ลดความเสี่ยงจากการถูกตัดบริการโดยธนาคารคู่ค้า ✅ ผลเชิงกลยุทธ์ ➡️ ลดต้นทุนการดำเนินงาน ➡️ เพิ่มกำไรจากการปล่อยกู้และการจัดการข้อมูล ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ การอนุมัติขึ้นอยู่กับท่าทีระมัดระวังของหน่วยงานกำกับดูแลสหรัฐฯ ⛔ หากถูกปฏิเสธ อาจกระทบต่อแผนการขยายธุรกิจและการลงทุนด้านคริปโต https://securityonline.info/fintech-endgame-paypal-applies-for-industrial-bank-charter-to-fund-smes-and-support-crypto/
    SECURITYONLINE.INFO
    Fintech Endgame: PayPal Applies for Industrial Bank Charter to Fund SMEs and Support Crypto
    PayPal seeks an industrial bank charter in Utah to cut reliance on partners, fund small businesses directly, and consolidate its growing cryptocurrency and PYUSD stablecoin operations.
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • เครื่องมือคัดกรองความเสี่ยงโรคหัวใจที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันอาจไม่แม่นยำ

    การประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจในสหรัฐฯ มักใช้คะแนน ASCVD (Atherosclerotic Cardiovascular Disease) ซึ่งวัดจากปัจจัยอย่างความดันโลหิต คอเลสเตอรอล อายุ และเชื้อชาติ แต่ผลการศึกษาพบว่า 45% ของผู้ป่วยที่เกิดหัวใจวายในอีกสองวันถัดมา ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “ความเสี่ยงต่ำหรือปานกลาง” ทำให้ไม่ได้รับการตรวจเพิ่มเติมหรือการรักษาป้องกัน

    การเปรียบเทียบกับเครื่องมืออื่น
    นักวิจัยยังทดสอบคะแนน PREVENT ซึ่งเป็นเกณฑ์ใหม่ แต่กลับพบว่ามีถึง 61% ของผู้ป่วยที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่ำเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าทั้งสองเครื่องมืออาจไม่สามารถสะท้อนความเสี่ยงที่แท้จริงของผู้ป่วยรายบุคคลได้

    ความท้าทายในการประเมินความเสี่ยง
    แม้เครื่องมือเหล่านี้จะมีประโยชน์ในระดับประชากร แต่เมื่อใช้กับบุคคลจริง ๆ อาจไม่แม่นยำพอ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีอาการชัดเจน เช่น เจ็บหน้าอกหรือหายใจติดขัด ทำให้หลายคนไม่ได้รับการป้องกันก่อนเกิดหัวใจวาย

    ความหมายต่อการแพทย์
    นักวิจัยเสนอว่าควรพัฒนาแนวทางใหม่ที่เน้นการตรวจหาสัญญาณของหลอดเลือดตีบ (atherosclerosis) โดยตรง เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคัดกรอง และช่วยป้องกันหัวใจวายในกลุ่มที่ดูเหมือน “ปลอดภัย” แต่จริง ๆ แล้วมีความเสี่ยงสูง

    สรุปสาระสำคัญ
    ผลการศึกษาใหม่
    ASCVD และ PREVENT พลาดการตรวจพบผู้ป่วยหัวใจวายเกือบครึ่งหนึ่ง

    ข้อจำกัดของเครื่องมือ
    ใช้ได้ดีในระดับประชากร แต่ไม่แม่นยำในรายบุคคล

    ความท้าทายทางคลินิก
    ผู้ไม่มีอาการชัดเจนมักถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่ำ

    แนวทางใหม่ที่เสนอ
    ตรวจหาสัญญาณหลอดเลือดตีบโดยตรงเพื่อเพิ่มความแม่นยำ

    ความเสี่ยงจากการพลาดการตรวจ
    ผู้ป่วยอาจไม่ได้รับการรักษาป้องกันก่อนเกิดหัวใจวาย

    ความเปราะบางของระบบคัดกรอง
    การพึ่งพาเพียงคะแนนความเสี่ยงอาจทำให้แพทย์มองข้ามผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงจริง

    https://www.sciencealert.com/nearly-half-of-all-heart-attacks-may-be-missed-by-current-screening-tools
    ❤️เครื่องมือคัดกรองความเสี่ยงโรคหัวใจที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันอาจไม่แม่นยำ การประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจในสหรัฐฯ มักใช้คะแนน ASCVD (Atherosclerotic Cardiovascular Disease) ซึ่งวัดจากปัจจัยอย่างความดันโลหิต คอเลสเตอรอล อายุ และเชื้อชาติ แต่ผลการศึกษาพบว่า 45% ของผู้ป่วยที่เกิดหัวใจวายในอีกสองวันถัดมา ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “ความเสี่ยงต่ำหรือปานกลาง” ทำให้ไม่ได้รับการตรวจเพิ่มเติมหรือการรักษาป้องกัน 🔬 การเปรียบเทียบกับเครื่องมืออื่น นักวิจัยยังทดสอบคะแนน PREVENT ซึ่งเป็นเกณฑ์ใหม่ แต่กลับพบว่ามีถึง 61% ของผู้ป่วยที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่ำเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าทั้งสองเครื่องมืออาจไม่สามารถสะท้อนความเสี่ยงที่แท้จริงของผู้ป่วยรายบุคคลได้ 🧩 ความท้าทายในการประเมินความเสี่ยง แม้เครื่องมือเหล่านี้จะมีประโยชน์ในระดับประชากร แต่เมื่อใช้กับบุคคลจริง ๆ อาจไม่แม่นยำพอ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีอาการชัดเจน เช่น เจ็บหน้าอกหรือหายใจติดขัด ทำให้หลายคนไม่ได้รับการป้องกันก่อนเกิดหัวใจวาย 🌍 ความหมายต่อการแพทย์ นักวิจัยเสนอว่าควรพัฒนาแนวทางใหม่ที่เน้นการตรวจหาสัญญาณของหลอดเลือดตีบ (atherosclerosis) โดยตรง เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคัดกรอง และช่วยป้องกันหัวใจวายในกลุ่มที่ดูเหมือน “ปลอดภัย” แต่จริง ๆ แล้วมีความเสี่ยงสูง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ผลการศึกษาใหม่ ➡️ ASCVD และ PREVENT พลาดการตรวจพบผู้ป่วยหัวใจวายเกือบครึ่งหนึ่ง ✅ ข้อจำกัดของเครื่องมือ ➡️ ใช้ได้ดีในระดับประชากร แต่ไม่แม่นยำในรายบุคคล ✅ ความท้าทายทางคลินิก ➡️ ผู้ไม่มีอาการชัดเจนมักถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่ำ ✅ แนวทางใหม่ที่เสนอ ➡️ ตรวจหาสัญญาณหลอดเลือดตีบโดยตรงเพื่อเพิ่มความแม่นยำ ‼️ ความเสี่ยงจากการพลาดการตรวจ ⛔ ผู้ป่วยอาจไม่ได้รับการรักษาป้องกันก่อนเกิดหัวใจวาย ‼️ ความเปราะบางของระบบคัดกรอง ⛔ การพึ่งพาเพียงคะแนนความเสี่ยงอาจทำให้แพทย์มองข้ามผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงจริง https://www.sciencealert.com/nearly-half-of-all-heart-attacks-may-be-missed-by-current-screening-tools
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Nearly Half of All Heart Attacks May Be Missed by Current Screening Tools
    Current medical screening techniques could be failing to catch nearly half of those who experience a heart attack, according to new research, suggesting many of the millions of heart attacks that happen each year could be prevented with improved methods.
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews
  • การกะพริบตา อาจเป็นสัญญาณบอกได้ว่าคนกำลังตั้งใจฟังหรือไม่

    นักวิจัยพบว่าเมื่อเราฟังใครพูด โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน เรามักจะกะพริบตาน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ การลดจำนวนครั้งที่กะพริบตาเกิดขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการพลาดข้อมูลสำคัญที่เข้ามาในสมอง

    การทดลองและผลลัพธ์
    ทีมวิจัยทำการทดลองกับอาสาสมัคร 49 คน โดยให้ฟังประโยคที่ถูกอ่านออกเสียงในสภาพแวดล้อมที่มีการปรับแสงและเสียงรบกวน ผลปรากฏว่าอัตราการกะพริบตาลดลงชัดเจนระหว่างการฟัง และยิ่งเสียงรบกวนมาก อัตราการกะพริบตายิ่งลดลง

    กลไกที่เชื่อมโยงการฟังกับการกะพริบ
    นักวิทยาศาสตร์เสนอว่า การกะพริบตาน้อยลงอาจเป็นกลไกที่สมองใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียข้อมูลทั้งทางสายตาและการได้ยิน คล้ายกับการ “หยุดพักทางจิตใจ” เพื่อประมวลผลข้อมูลที่ได้รับ

    ความเป็นไปได้ในอนาคต
    หากมีการศึกษาเพิ่มเติม รูปแบบการกะพริบตาอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือใหม่ในการวัดภาระทางสมองและการประมวลผลข้อมูล เช่นเดียวกับการใช้การพูดหรือการได้ยินเป็นตัวชี้วัดในปัจจุบัน

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบใหม่
    คนกะพริบตาน้อยลงเมื่อฟังข้อมูลสำคัญ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมมีเสียงรบกวน

    การทดลอง
    อาสาสมัคร 49 คนถูกทดสอบในสภาพแสงและเสียงต่าง ๆ

    กลไกสมอง
    การกะพริบตาน้อยลงช่วยลดการสูญเสียข้อมูลทั้งภาพและเสียง

    ศักยภาพการประยุกต์ใช้
    อาจใช้รูปแบบการกะพริบตาเป็นเครื่องมือวัดภาระทางสมองในอนาคต

    ข้อจำกัดของงานวิจัย
    ยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างการกะพริบตากับการฟัง

    ความเสี่ยงในการตีความ
    การกะพริบตาอาจได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอื่น เช่น ความแห้งของตา หรือสภาพร่างกาย

    https://www.sciencealert.com/want-to-know-if-somebody-is-truly-listening-count-their-blinks
    👀 การกะพริบตา อาจเป็นสัญญาณบอกได้ว่าคนกำลังตั้งใจฟังหรือไม่ นักวิจัยพบว่าเมื่อเราฟังใครพูด โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน เรามักจะกะพริบตาน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ การลดจำนวนครั้งที่กะพริบตาเกิดขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการพลาดข้อมูลสำคัญที่เข้ามาในสมอง 🔬 การทดลองและผลลัพธ์ ทีมวิจัยทำการทดลองกับอาสาสมัคร 49 คน โดยให้ฟังประโยคที่ถูกอ่านออกเสียงในสภาพแวดล้อมที่มีการปรับแสงและเสียงรบกวน ผลปรากฏว่าอัตราการกะพริบตาลดลงชัดเจนระหว่างการฟัง และยิ่งเสียงรบกวนมาก อัตราการกะพริบตายิ่งลดลง 🧠 กลไกที่เชื่อมโยงการฟังกับการกะพริบ นักวิทยาศาสตร์เสนอว่า การกะพริบตาน้อยลงอาจเป็นกลไกที่สมองใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียข้อมูลทั้งทางสายตาและการได้ยิน คล้ายกับการ “หยุดพักทางจิตใจ” เพื่อประมวลผลข้อมูลที่ได้รับ 🌍 ความเป็นไปได้ในอนาคต หากมีการศึกษาเพิ่มเติม รูปแบบการกะพริบตาอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือใหม่ในการวัดภาระทางสมองและการประมวลผลข้อมูล เช่นเดียวกับการใช้การพูดหรือการได้ยินเป็นตัวชี้วัดในปัจจุบัน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบใหม่ ➡️ คนกะพริบตาน้อยลงเมื่อฟังข้อมูลสำคัญ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมมีเสียงรบกวน ✅ การทดลอง ➡️ อาสาสมัคร 49 คนถูกทดสอบในสภาพแสงและเสียงต่าง ๆ ✅ กลไกสมอง ➡️ การกะพริบตาน้อยลงช่วยลดการสูญเสียข้อมูลทั้งภาพและเสียง ✅ ศักยภาพการประยุกต์ใช้ ➡️ อาจใช้รูปแบบการกะพริบตาเป็นเครื่องมือวัดภาระทางสมองในอนาคต ‼️ ข้อจำกัดของงานวิจัย ⛔ ยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างการกะพริบตากับการฟัง ‼️ ความเสี่ยงในการตีความ ⛔ การกะพริบตาอาจได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอื่น เช่น ความแห้งของตา หรือสภาพร่างกาย https://www.sciencealert.com/want-to-know-if-somebody-is-truly-listening-count-their-blinks
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Want to Know if Somebody Is Truly Listening? Count Their Blinks.
    Blinking handles essential eye maintenance, and we usually blink multiple times a minute without thinking much about it, though you might be more self-conscious about your own after the results of a new study on their connection to cognitive load.
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷
    #รวมข่าวIT #20251216 #TechRadar

    LG เปิดตัวทีวี Micro RGB evo ที่ CES 2026
    LG กำลังสร้างความฮือฮาในงาน CES 2026 ด้วยการเปิดตัวทีวีรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Micro RGB evo ซึ่งเปลี่ยนหลอดไฟ LED แบบเดิมไปเป็นหลอดไฟสีแดง เขียว และน้ำเงินขนาดจิ๋ว เพื่อควบคุมแสงและสีได้ละเอียดขึ้น ผลลัพธ์คือภาพที่สว่างสดใสและสีสันจัดเต็มใกล้เคียง OLED แต่ยังคงความสว่างสูงของ LCD จุดเด่นคือการครอบคลุมสีครบทั้ง BT.2020, DCI-P3 และ Adobe RGB พร้อมระบบประมวลผล α11 AI Gen 3 ที่ช่วยอัปสเกลภาพให้คมชัดขึ้น ถือเป็นการพยายามปิดช่องว่างระหว่าง LCD และ OLED ที่น่าสนใจมากสำหรับคนรักภาพคมชัดและสีสดใส
    https://www.techradar.com/televisions/lg-reveals-micro-rgb-evo-tv-with-bold-claims-of-perfect-color

    Netflix เลิกใช้ Google Cast แต่ Apple TV บน Android นำกลับมาอีกครั้ง
    Netflix เคยยกเลิกฟีเจอร์ Google Cast ที่ให้ผู้ใช้ส่งภาพจากมือถือขึ้นจอทีวี แต่ล่าสุด Apple TV บน Android กลับนำฟีเจอร์นี้กลับมา ทำให้ผู้ใช้สามารถสตรีมคอนเทนต์จากมือถือไปยังทีวีได้อีกครั้ง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการแข่งขันในตลาดสตรีมมิ่งที่ยังคงดุเดือด และการที่ Apple พยายามทำให้บริการของตนเข้าถึงผู้ใช้ Android ได้สะดวกขึ้น
    https://www.techradar.com/streaming/apple-tv-plus/netflix-dropped-google-cast-now-apple-tv-for-android-just-brought-it-back

    NAS พกพาใส่ SSD 4 ตัว พร้อมพลัง Intel N150
    มีการเปิดตัวอุปกรณ์ NAS ขนาดเล็กที่ดูเหมือนวิทยุทรานซิสเตอร์เก่า แต่ภายในบรรจุ SSD ได้ถึง 4 ตัว ใช้พลังจาก Intel N150 และมีพอร์ต LAN 2.5Gb สองช่อง รวมถึง RAM 12GB จุดขายคือความสามารถในการพกพาและเก็บข้อมูลได้มาก แต่ก็มีค่าใช้จ่ายแฝงที่อาจเกินความคาดหมาย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการระบบจัดเก็บข้อมูลที่คล่องตัวและมีสไตล์ไม่เหมือนใคร
    https://www.techradar.com/pro/is-that-your-grandads-transistor-radio-no-its-a-4-ssd-nas-with-two-2-5gb-lan-ports-12gb-ram-and-a-cracking-name-the-orange-colored-youyeetoo-nestdisk

    นักพัฒนาสร้างกล่องสำรองข้อมูล iPhone แบบออฟไลน์
    นักพัฒนารายหนึ่งได้สร้างอุปกรณ์สำรองข้อมูล iPhone ที่ไม่ต้องพึ่งพาคลาวด์ แต่ใช้การเชื่อมต่อผ่าน USB และเข้ารหัสข้อมูลเพื่อเก็บไว้ในเครื่องโดยตรง ถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายค่าบริการ iCloud หรือกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลบนคลาวด์ แม้จะยังไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงความต้องการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/want-to-back-up-your-iphone-securely-without-paying-the-apple-tax-theres-a-hack-for-that-but-it-isnt-for-everyone-yet

    วิกฤติ RAM อาจกระทบหนักต่อโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง
    ตลาดโน้ตบุ๊กเกมมิ่งกำลังเผชิญปัญหาวิกฤติ RAM ที่อาจทำให้เครื่องเล่นเกมประสิทธิภาพสูงมีราคาสูงขึ้นและหายากขึ้น เหตุผลมาจากความต้องการหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ทั้งจาก AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ส่งผลให้ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กเกมมิ่งต้องปรับตัวและอาจทำให้ผู้เล่นเกมต้องจ่ายแพงกว่าเดิมเพื่อได้เครื่องที่แรงพอ
    https://www.techradar.com/computing/memory/the-ram-crisis-will-be-a-disaster-for-gaming-laptops-heres-why

    Slop: คำแห่งปีที่สะท้อนอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยขยะดิจิทัล
    ปีนี้ Merriam-Webster เลือกคำว่า “Slop” เป็น Word of the Year 2025 เพื่ออธิบายเนื้อหาดิจิทัลคุณภาพต่ำที่ถูกผลิตขึ้นอย่างมหาศาลด้วย AI ไม่ว่าจะเป็นบทความ ภาพ วิดีโอ หรือพอดแคสต์ หลายอย่างดูเหมือนจะสร้างได้ง่ายแต่กลับทำให้โลกออนไลน์เต็มไปด้วยสิ่งที่คนเรียกว่า “AI slop” จนยากจะแยกออกว่าอะไรคือผลงานมนุษย์จริงๆ และอะไรคือสิ่งที่เครื่องจักรสร้างขึ้นมา เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของเครื่องมือ AI ถูกส่งถึงมือผู้ใช้เร็วเกินไปโดยที่ยังไม่ทันคิดถึงผลกระทบ ทำให้เราต้องเผชิญกับทะเลข้อมูลที่ปะปนทั้งคุณภาพและขยะไปพร้อมกัน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/we-filled-the-internet-with-garbage-and-now-slop-is-the-word-of-the-year-nice-going-ai

    Super X: แท็บเล็ตลูกผสมที่แรงระดับเดสก์ท็อป
    OneXPlayer เปิดตัว Super X อุปกรณ์ลูกผสมที่รวมแท็บเล็ตกับพลังการประมวลผลระดับเดสก์ท็อป หน้าจอใหญ่ถึง 14 นิ้ว มาพร้อมซีพียู 16 คอร์ GPU ระดับ 5060-class และ RAM สูงสุด 128GB จุดเด่นคือการออกแบบระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ทำให้เครื่องเล็กแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง เหมาะกับคนที่อยากได้ความแรงแบบ PC แต่ยังพกพาได้สะดวก แม้ราคาคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 2000 ดอลลาร์ แต่ถือเป็นการยกระดับแท็บเล็ตให้ก้าวไปอีกขั้น
    https://www.techradar.com/pro/a-water-cooled-amd-ai-14-inch-tablet-with-16-cpu-cores-a-5060-class-gpu-and-128gb-ram-is-exactly-what-i-need-for-christmas-i-dont-think-it-will-cost-less-than-usd2000-though

    SSD จิ๋วแต่แรง: Samsung เปิดตัว PCIe Gen5 รุ่นใหม่
    Samsung เผยโฉม SSD รุ่น PM9E1 ที่มาในขนาดเล็กเพียง 22 x 42 มม. แต่รองรับมาตรฐาน PCIe Gen5 ทำให้ได้ความเร็วสูงและความจุที่จริงจัง แม้จะมาแบบเงียบๆ แต่ถือเป็นการขยายตลาดสู่กลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการอุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดเล็กแต่ไม่ลดทอนประสิทธิภาพ เหมาะกับโน้ตบุ๊กหรืออุปกรณ์พกพาที่ต้องการความเร็วระดับสูงสุดในพื้นที่จำกัด
    https://www.techradar.com/pro/samsungs-surprising-stealth-superfast-ssd-surfaces-silently-pm9e1-turns-out-to-be-a-mini-9100-pro-measuring-just-22-x-42mm-with-pcie-gen5-capabilities

    DoomScroll: เว็บไซต์ใหม่รวมแผนที่ Doom แบบไม่รู้จบ
    แฟนเกม Doom ได้เฮ เมื่อมีเว็บไซต์ใหม่ชื่อ DoomScroll ที่รวบรวมแผนที่เกม Doom ไว้ให้เลือกเล่นได้ไม่รู้จบผ่านเบราว์เซอร์ ผู้เล่นสามารถเข้าไปเลือกแผนที่ที่ชอบแล้วเล่นได้ทันที ถือเป็นการเปิดคลังเกมคลาสสิกให้เข้าถึงง่ายขึ้น และยังทำให้ชุมชนผู้เล่นสามารถแชร์ผลงานกันได้สะดวกขึ้นด้วย
    https://www.techradar.com/gaming/pc-gaming/new-doomscroll-website-is-an-endless-library-of-doom-maps-you-can-pick-from-and-play-in-your-browser

    หน่วยความจำแห่งอนาคต: Kioxia พัฒนา 3D DRAM
    Kioxia ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยี 3D DRAM โดยใช้ stacked oxide-semiconductors ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความหนาแน่นของหน่วยความจำ แม้จะยังไม่พร้อมสู่ตลาดผู้บริโภคในทันที แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมหน่วยความจำในทศวรรษหน้า ทำให้คาดหวังได้ว่าอนาคตเราจะได้เห็น RAM ที่เร็วขึ้นและราคาถูกลง
    https://www.techradar.com/pro/crying-over-expensive-ram-kioxia-may-have-cracked-the-3d-ram-puzzle-paving-the-way-for-cheaper-faster-memory-but-it-probably-wont-reach-the-market-till-the-next-decade

    Apple อุดช่องโหว่ Zero-Day สุดอันตราย
    Apple ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงใน WebKit ที่ถูกใช้โจมตีแบบเจาะจงบุคคลระดับสูง โดยช่องโหว่นี้อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ ทีม Google TAG และ Apple ร่วมกันค้นพบและแก้ไข ซึ่งถือเป็นการทำงานร่วมกันที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก การอัปเดตครอบคลุมทั้ง iOS, iPadOS, macOS, watchOS, tvOS, visionOS และ Safari ผู้ใช้ทั่วไปแม้จะไม่ใช่เป้าหมายหลัก แต่ก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตเพื่อความปลอดภัยทันที
    https://www.techradar.com/pro/security/apple-says-it-fixed-zero-day-flaws-used-for-sophisticated-attacks

    CEO Windscribe วิจารณ์การแบน VPN สำหรับเด็ก
    Windscribe ผู้ให้บริการ VPN ออกมาแสดงความเห็นว่าการห้ามเด็กใช้ VPN เป็น “วิธีแก้ที่แย่ที่สุด” เพราะ VPN ไม่ใช่เครื่องมืออันตราย แต่กลับเป็นสิ่งที่ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย การแบนอาจทำให้เด็กขาดโอกาสในการเรียนรู้การใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย และยังไม่แก้ปัญหาที่แท้จริงของการใช้งานออนไลน์
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/banning-vpns-for-kids-is-the-dumbest-possible-fix-windscribe-ceo

    กล้องวงจรปิดแบตเตอรี่ไร้ขีดจำกัด
    มีการเปิดตัวกล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ที่ชูจุดขายเรื่อง “แบตเตอรี่ไม่จำกัด” สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อย ๆ ราคาก็ไม่สูงอย่างที่คิด ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น กล้องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยต่อเนื่องโดยไม่ต้องยุ่งยากกับการบำรุงรักษาแบตเตอรี่
    https://www.techradar.com/home/smart-home/this-home-security-cam-monitors-your-property-24-7-with-unlimited-battery-life-and-it-costs-less-than-you-might-expect

    Garmin เผลอหลุดข้อมูล Vivosmart 6
    Garmin มีข่าวหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทแทร็กเกอร์รุ่นใหม่ Vivosmart 6 ที่คาดว่าจะมาพร้อมการอัปเกรดสำคัญเหนือรุ่นก่อน แม้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม แต่คาดว่าจะมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการติดตามการออกกำลังกายที่แม่นยำขึ้น การหลุดครั้งนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่ติดตามอุปกรณ์สวมใส่ของ Garmin อยู่แล้ว
    https://www.techradar.com/health-fitness/fitness-trackers/garmin-just-leaked-its-vivosmart-6-tracker-and-it-might-come-with-one-major-upgrade-over-its-predecessor

    แอป Freedom Chat ทำข้อมูลผู้ใช้หลุด
    มีรายงานว่าแอปแชทชื่อ Freedom Chat เผยข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งหมายเลขโทรศัพท์และรายละเอียดอื่น ๆ ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แอปนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าขาดมาตรการป้องกันที่รัดกุม และอาจทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหรือการละเมิดข้อมูล
    https://www.techradar.com/pro/security/messaging-app-freedom-chat-exposes-user-phone-numbers-and-more-heres-what-we-know

    Google เปิดฟีเจอร์แปลสดผ่านหูฟัง
    Google กำลังยกระดับการสื่อสารข้ามภาษาให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ “Live Translation” ที่สามารถใช้งานได้กับหูฟังทุกยี่ห้อ ไม่จำกัดเฉพาะ Pixel Buds อีกต่อไป โดยเริ่มทดสอบในสหรัฐฯ เม็กซิโก และอินเดีย ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงแค่แปลคำต่อคำ แต่ยังรักษาน้ำเสียง จังหวะ และอารมณ์ของผู้พูด ทำให้การสนทนาเป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ Google ยังปรับปรุงระบบ Gemini ให้เข้าใจสำนวนและภาษาพูด เช่น “stealing my thunder” ที่ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ พร้อมทั้งเพิ่มเครื่องมือช่วยเรียนภาษา เช่น การให้คำแนะนำด้านการออกเสียง และระบบติดตามความก้าวหน้า ฟีเจอร์นี้รองรับกว่า 70 ภาษา และมีแผนจะขยายไปยัง iOS ในปี 2026
    https://www.techradar.com/computing/software/google-smashes-language-barriers-with-live-translation-for-any-earbuds-on-android-heres-how-it-works

    อีเมลไม่ใช่จุดอ่อน แต่การตั้งค่าคลาวด์ต่างหาก
    หลายครั้งที่เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล อีเมลมักถูกมองว่าเป็นตัวการ แต่จริง ๆ แล้วปัญหามาจากการตั้งค่าคลาวด์ที่ผิดพลาดมากกว่า กว่า 99% ของความล้มเหลวด้านความปลอดภัยเกิดจากผู้ใช้เอง เช่น คลิกลิงก์ฟิชชิ่ง ใช้รหัสผ่านซ้ำ หรือจัดการข้อมูลผิดพลาด การโทษอีเมลจึงเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจไปจากต้นเหตุที่แท้จริง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการป้องกันควรเริ่มจากการเข้ารหัสข้อมูล การเสริมความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ และการฝึกอบรมผู้ใช้ให้รู้เท่าทันภัยไซเบอร์ เมื่อผู้ใช้มีความรู้และระบบถูกเข้ารหัสอย่างดี อีเมลก็จะกลายเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/your-email-app-isnt-the-weak-link-but-your-cloud-configuration-probably-is

    Microsoft ขยายโครงการ Bug Bounty
    Microsoft ประกาศปรับโครงการ Bug Bounty ครั้งใหญ่ เปิดให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถส่งรายงานช่องโหว่ได้ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์และบริการ แม้บางโปรแกรมจะไม่มีการตั้งค่ารางวัลอย่างเป็นทางการก็ตาม แนวทางใหม่นี้เรียกว่า “In Scope by Default” ซึ่งหมายความว่าหากช่องโหว่มีผลกระทบต่อบริการออนไลน์ของ Microsoft ก็จะได้รับเงินรางวัลตามระดับความรุนแรง โดยปีที่ผ่านมา Microsoft จ่ายเงินรางวัลไปกว่า 17 ล้านดอลลาร์ มากกว่า Google ที่จ่ายราว 11.8 ล้านดอลลาร์ การขยายนี้ครอบคลุมทั้งโค้ดของ Microsoft โค้ดจากบุคคลที่สาม และโอเพ่นซอร์ส ถือเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบความปลอดภัยในวงกว้างยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-will-expand-bug-bounties-even-on-programs-without-official-payouts

    Oracle ทุ่มมหาศาลกับดีลศูนย์ข้อมูล
    Oracle กำลังเดินเกมครั้งใหญ่ในโลกคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ล่าสุดมีการเปิดเผยว่าได้ทำสัญญาเช่าศูนย์ข้อมูลและคลาวด์รวมมูลค่าถึง 248 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทยอยเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2026 ไปจนถึง 2028 และกินเวลายาวนานถึง 15–19 ปี การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากลูกค้าใหญ่ ๆ อย่าง Meta, Nvidia และ OpenAI ที่เพิ่งเซ็นสัญญาเพิ่มอีก 300 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ Oracle ต้องเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าและลงทุนเพิ่มหนี้อีกหลายหมื่นล้าน แม้จะเป็นภาระ แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทกำลังเดิมพันอนาคตไว้กับการเติบโตของตลาด AI และคลาวด์อย่างเต็มที่
    https://www.techradar.com/pro/oracle-reportedly-signs-major-huge-cloud-data-center-deals-in-the-last-quarter-nearly-usd250-billion-in-new-commitments-revealed

    ChatGPT 5.2 vs Gemini 3
    มีการทดสอบเปรียบเทียบสองแชตบอทที่โด่งดังที่สุดในโลกตอนนี้ คือ ChatGPT 5.2 และ Gemini 3 ผู้เขียนลองใช้งานจริงเพื่อดูว่าใครตอบโจทย์ได้ดีกว่า ผลลัพธ์ออกมาน่าสนใจเพราะแต่ละตัวมีจุดแข็งต่างกัน ChatGPT 5.2 โดดเด่นเรื่องการให้คำตอบที่ละเอียดและมีความคิดเชิงลึก ส่วน Gemini 3 เน้นความเร็วและความกระชับในการสื่อสาร การแข่งขันนี้สะท้อนว่าตลาด AI กำลังร้อนแรง และผู้ใช้ก็มีทางเลือกมากขึ้นตามสไตล์ที่ต้องการ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-5-2-vs-gemini-3-i-tried-the-worlds-most-popular-chatbots-to-see-which-is-best-and-the-result-might-surprise-you

    โลกเสมือนที่มีหัวใจมนุษย์
    เรื่องราวของ Victoria Fard ศิลปินที่ใช้พลังของคอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon สร้างโลกเสมือนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและความเป็นมนุษย์ เธอไม่ได้มองเทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือ แต่ใช้มันเพื่อถ่ายทอดความทรงจำ ความรู้สึก และเรื่องราวที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน ผลงานของเธอจึงไม่ใช่แค่ภาพสวย ๆ แต่เป็นการสร้างพื้นที่ที่ผู้คนสามารถสัมผัสความเป็นมนุษย์ผ่านโลกดิจิทัลได้อย่างลึกซึ้ง
    https://www.techradar.com/tech/memories-in-pixel-how-victoria-fard-uses-a-pc-powered-by-snapdragon-to-build-worlds-that-are-deeply-human

    ซีอีโอยังเดินหน้าลงทุน AI แม้ผลลัพธ์ไม่ชัด
    แม้หลายบริษัทจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากการลงทุนใน AI แต่ซีอีโอจำนวนมากก็ยังคงเดินหน้าทุ่มงบต่อไป เหตุผลคือพวกเขามองว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่ไม่สามารถมองข้ามได้ และหากหยุดลงทุนอาจเสียโอกาสในอนาคต ถึงแม้จะมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน แต่การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่าการลงทุนใน AI จะเป็นกุญแจสำคัญในการแข่งขันระยะยาว
    https://www.techradar.com/pro/ceos-seem-determined-to-keep-spending-on-ai-despite-mixed-success

    ศาลรัสเซียสั่งอายัดทรัพย์ Google ในฝรั่งเศส
    มีข่าวใหญ่จากยุโรป เมื่อศาลรัสเซียมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของ Google ในฝรั่งเศสมูลค่ากว่า 129 ล้านดอลลาร์ สาเหตุเกี่ยวข้องกับข้อพิพาททางกฎหมายและการดำเนินธุรกิจที่ซับซ้อนในหลายประเทศ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงแรงกดดันที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีต้องเผชิญในระดับโลก ทั้งจากกฎระเบียบและความขัดแย้งทางการเมืองที่ส่งผลต่อการดำเนินงาน
    https://www.techradar.com/pro/security/russian-court-ruling-could-see-usd129-million-freeze-on-some-of-googles-french-assets

    Microsoft เจอศึกใหญ่เรื่อง Cloud Licensing ในสหราชอาณาจักร
    เรื่องนี้เริ่มจากการที่ Microsoft ถูกกล่าวหาว่ากำหนดเงื่อนไขการใช้งาน Windows Server บน Cloud ของคู่แข่งอย่าง AWS และ Google Cloud ให้ยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายสูง จนทำให้หลายองค์กรในสหราชอาณาจักรเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก คดีนี้ถูกยื่นต่อศาล Competition Appeal Tribunal โดยมีองค์กรกว่า 59,000 แห่งเข้าร่วมเป็นกลุ่มฟ้องร้อง หาก Microsoft ถูกตัดสินว่าผิดจริง อาจต้องจ่ายค่าชดเชยสูงถึง 2 พันล้านปอนด์ ขณะที่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นเพียงการกล่าวหาเกินจริงจากกลุ่มทนายและผู้สนับสนุน แต่แรงกดดันก็ยังคงมีต่อเนื่อง เพราะ Google เองก็เคยร้องเรียนเรื่องนี้ต่อ EU มาก่อนแล้ว
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-is-back-in-court-in-the-uk-over-unfair-cloud-licensing-claims

    UGreen เปิดตัว eGPU Dock ท้าชน Razer ในตลาด eGPU ที่กำลังร้อนแรง
    UGreen ได้เปิดตัว Linkstation eGPU Dock ที่มาพร้อมพลังงานในตัวถึง 850W และพอร์ตเชื่อมต่อใหม่อย่าง Oculink และ USB4 จุดเด่นคือราคาประมาณ 325 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับ Razer Core X V2 แต่เหนือกว่าตรงที่มี PSU ในตัวและรองรับการ์ดจอขนาดใหญ่ถึง 370 มม. อย่างไรก็ตาม ดีไซน์ของ UGreen ยังเปิดโล่งมากกว่า Razer ที่มีโครงสร้างปิด ทำให้บางคนกังวลเรื่องความปลอดภัยของการ์ดจอ ถึงอย่างนั้น นี่ก็ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ตลาดใหม่ที่น่าจับตามองของ UGreen ที่เดิมทำอุปกรณ์เสริมอย่าง Dock และ Charger
    https://www.techradar.com/computing/gpu/its-a-great-time-to-buy-an-egpu-and-ugreens-new-razer-rival-has-two-major-tricks-up-its-sleeve

    วิกฤติ RAM อาจทำให้สมาร์ทโฟนถอยหลังในปี 2026
    นักวิเคราะห์เตือนว่าความต้องการ RAM ที่สูงขึ้นจากศูนย์ข้อมูล AI กำลังทำให้ราคาพุ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอาจต้องลดสเปกลง แทนที่จะเพิ่ม RAM เป็น 16GB ในรุ่นเรือธงใหม่ อาจยังคงอยู่ที่ 12GB หรือบางรุ่นอาจลดลงเหลือ 8GB สำหรับรุ่นกลาง และ 4GB สำหรับรุ่นล่าง ทั้งนี้แม้จะเป็นการคาดการณ์ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะตลาด AI กำลังดูดซับทรัพยากรไปอย่างมหาศาล ซึ่งอาจย้อนแย้งกับการพัฒนา AI บนมือถือที่ต้องใช้ RAM มากเช่นกัน
    https://www.techradar.com/phones/the-ram-crisis-will-see-smartphone-specs-go-backwards-in-2026-experts-warn-heres-why

    Apple ควรทำ Smart Ring เพื่อแก้ปัญหาความยุ่งยากของ Smartwatch
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าแม้ Apple Watch จะมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม แต่ก็สร้างความลำบากใจเพราะเขาเป็นคนรักนาฬิกากลไกและไม่อยากละทิ้งการใส่นาฬิกาแบบดั้งเดิม จนต้องใส่นาฬิกาสองเรือนบนข้อมือเดียวกัน ซึ่งทั้งไม่สะดวกและน่าขัน เขาจึงเสนอว่า Apple ควรทำ Smart Ring ที่สามารถติดตามสุขภาพได้เหมือน Apple Watch แต่เล็กกะทัดรัดและไม่รบกวนการใส่นาฬิกาแบบดั้งเดิม หาก Apple ทำจริงก็อาจกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่พลิกเกมในปี 2026
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/apple-needs-to-make-a-smart-ring-to-save-me-from-this-ridiculous-situation

    รีวิวซอฟต์แวร์ Idea Spectrum Realtime Landscaping Pro 2025
    นี่คือโปรแกรมออกแบบภูมิทัศน์ที่ให้คุณสร้างสวนเสมือนจริงได้จากคอมพิวเตอร์ Windows จุดเด่นคืออินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย มีคลังพืชกว่า 6,000 ชนิด และวัตถุสามมิติหลากหลาย ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงรถยนต์ พร้อมระบบแอนิเมชันที่ทำให้งานออกแบบดูมีชีวิตชีวา โปรแกรมยังมี Wizard ที่ช่วยให้การสร้างบ้าน สระน้ำ หรือสวนทำได้รวดเร็ว แม้จะมีข้อจำกัดว่าใช้ได้เฉพาะ Windows และอาจหน่วงเมื่อโปรเจ็กต์ซับซ้อน แต่ก็ถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ
    https://www.techradar.com/pro/software-services/idea-spectrum-realtime-landscaping-pro-review

    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251216 #TechRadar 🖥️ LG เปิดตัวทีวี Micro RGB evo ที่ CES 2026 LG กำลังสร้างความฮือฮาในงาน CES 2026 ด้วยการเปิดตัวทีวีรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Micro RGB evo ซึ่งเปลี่ยนหลอดไฟ LED แบบเดิมไปเป็นหลอดไฟสีแดง เขียว และน้ำเงินขนาดจิ๋ว เพื่อควบคุมแสงและสีได้ละเอียดขึ้น ผลลัพธ์คือภาพที่สว่างสดใสและสีสันจัดเต็มใกล้เคียง OLED แต่ยังคงความสว่างสูงของ LCD จุดเด่นคือการครอบคลุมสีครบทั้ง BT.2020, DCI-P3 และ Adobe RGB พร้อมระบบประมวลผล α11 AI Gen 3 ที่ช่วยอัปสเกลภาพให้คมชัดขึ้น ถือเป็นการพยายามปิดช่องว่างระหว่าง LCD และ OLED ที่น่าสนใจมากสำหรับคนรักภาพคมชัดและสีสดใส 🔗 https://www.techradar.com/televisions/lg-reveals-micro-rgb-evo-tv-with-bold-claims-of-perfect-color 📺 Netflix เลิกใช้ Google Cast แต่ Apple TV บน Android นำกลับมาอีกครั้ง Netflix เคยยกเลิกฟีเจอร์ Google Cast ที่ให้ผู้ใช้ส่งภาพจากมือถือขึ้นจอทีวี แต่ล่าสุด Apple TV บน Android กลับนำฟีเจอร์นี้กลับมา ทำให้ผู้ใช้สามารถสตรีมคอนเทนต์จากมือถือไปยังทีวีได้อีกครั้ง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการแข่งขันในตลาดสตรีมมิ่งที่ยังคงดุเดือด และการที่ Apple พยายามทำให้บริการของตนเข้าถึงผู้ใช้ Android ได้สะดวกขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/streaming/apple-tv-plus/netflix-dropped-google-cast-now-apple-tv-for-android-just-brought-it-back 💾 NAS พกพาใส่ SSD 4 ตัว พร้อมพลัง Intel N150 มีการเปิดตัวอุปกรณ์ NAS ขนาดเล็กที่ดูเหมือนวิทยุทรานซิสเตอร์เก่า แต่ภายในบรรจุ SSD ได้ถึง 4 ตัว ใช้พลังจาก Intel N150 และมีพอร์ต LAN 2.5Gb สองช่อง รวมถึง RAM 12GB จุดขายคือความสามารถในการพกพาและเก็บข้อมูลได้มาก แต่ก็มีค่าใช้จ่ายแฝงที่อาจเกินความคาดหมาย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการระบบจัดเก็บข้อมูลที่คล่องตัวและมีสไตล์ไม่เหมือนใคร 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-that-your-grandads-transistor-radio-no-its-a-4-ssd-nas-with-two-2-5gb-lan-ports-12gb-ram-and-a-cracking-name-the-orange-colored-youyeetoo-nestdisk 🔐 นักพัฒนาสร้างกล่องสำรองข้อมูล iPhone แบบออฟไลน์ นักพัฒนารายหนึ่งได้สร้างอุปกรณ์สำรองข้อมูล iPhone ที่ไม่ต้องพึ่งพาคลาวด์ แต่ใช้การเชื่อมต่อผ่าน USB และเข้ารหัสข้อมูลเพื่อเก็บไว้ในเครื่องโดยตรง ถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายค่าบริการ iCloud หรือกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลบนคลาวด์ แม้จะยังไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงความต้องการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/want-to-back-up-your-iphone-securely-without-paying-the-apple-tax-theres-a-hack-for-that-but-it-isnt-for-everyone-yet 🎮 วิกฤติ RAM อาจกระทบหนักต่อโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง ตลาดโน้ตบุ๊กเกมมิ่งกำลังเผชิญปัญหาวิกฤติ RAM ที่อาจทำให้เครื่องเล่นเกมประสิทธิภาพสูงมีราคาสูงขึ้นและหายากขึ้น เหตุผลมาจากความต้องการหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ทั้งจาก AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ส่งผลให้ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กเกมมิ่งต้องปรับตัวและอาจทำให้ผู้เล่นเกมต้องจ่ายแพงกว่าเดิมเพื่อได้เครื่องที่แรงพอ 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/the-ram-crisis-will-be-a-disaster-for-gaming-laptops-heres-why 🗑️ Slop: คำแห่งปีที่สะท้อนอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยขยะดิจิทัล ปีนี้ Merriam-Webster เลือกคำว่า “Slop” เป็น Word of the Year 2025 เพื่ออธิบายเนื้อหาดิจิทัลคุณภาพต่ำที่ถูกผลิตขึ้นอย่างมหาศาลด้วย AI ไม่ว่าจะเป็นบทความ ภาพ วิดีโอ หรือพอดแคสต์ หลายอย่างดูเหมือนจะสร้างได้ง่ายแต่กลับทำให้โลกออนไลน์เต็มไปด้วยสิ่งที่คนเรียกว่า “AI slop” จนยากจะแยกออกว่าอะไรคือผลงานมนุษย์จริงๆ และอะไรคือสิ่งที่เครื่องจักรสร้างขึ้นมา เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของเครื่องมือ AI ถูกส่งถึงมือผู้ใช้เร็วเกินไปโดยที่ยังไม่ทันคิดถึงผลกระทบ ทำให้เราต้องเผชิญกับทะเลข้อมูลที่ปะปนทั้งคุณภาพและขยะไปพร้อมกัน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/we-filled-the-internet-with-garbage-and-now-slop-is-the-word-of-the-year-nice-going-ai 💻 Super X: แท็บเล็ตลูกผสมที่แรงระดับเดสก์ท็อป OneXPlayer เปิดตัว Super X อุปกรณ์ลูกผสมที่รวมแท็บเล็ตกับพลังการประมวลผลระดับเดสก์ท็อป หน้าจอใหญ่ถึง 14 นิ้ว มาพร้อมซีพียู 16 คอร์ GPU ระดับ 5060-class และ RAM สูงสุด 128GB จุดเด่นคือการออกแบบระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ทำให้เครื่องเล็กแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง เหมาะกับคนที่อยากได้ความแรงแบบ PC แต่ยังพกพาได้สะดวก แม้ราคาคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 2000 ดอลลาร์ แต่ถือเป็นการยกระดับแท็บเล็ตให้ก้าวไปอีกขั้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/a-water-cooled-amd-ai-14-inch-tablet-with-16-cpu-cores-a-5060-class-gpu-and-128gb-ram-is-exactly-what-i-need-for-christmas-i-dont-think-it-will-cost-less-than-usd2000-though 💾 SSD จิ๋วแต่แรง: Samsung เปิดตัว PCIe Gen5 รุ่นใหม่ Samsung เผยโฉม SSD รุ่น PM9E1 ที่มาในขนาดเล็กเพียง 22 x 42 มม. แต่รองรับมาตรฐาน PCIe Gen5 ทำให้ได้ความเร็วสูงและความจุที่จริงจัง แม้จะมาแบบเงียบๆ แต่ถือเป็นการขยายตลาดสู่กลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการอุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดเล็กแต่ไม่ลดทอนประสิทธิภาพ เหมาะกับโน้ตบุ๊กหรืออุปกรณ์พกพาที่ต้องการความเร็วระดับสูงสุดในพื้นที่จำกัด 🔗 https://www.techradar.com/pro/samsungs-surprising-stealth-superfast-ssd-surfaces-silently-pm9e1-turns-out-to-be-a-mini-9100-pro-measuring-just-22-x-42mm-with-pcie-gen5-capabilities 🎮 DoomScroll: เว็บไซต์ใหม่รวมแผนที่ Doom แบบไม่รู้จบ แฟนเกม Doom ได้เฮ เมื่อมีเว็บไซต์ใหม่ชื่อ DoomScroll ที่รวบรวมแผนที่เกม Doom ไว้ให้เลือกเล่นได้ไม่รู้จบผ่านเบราว์เซอร์ ผู้เล่นสามารถเข้าไปเลือกแผนที่ที่ชอบแล้วเล่นได้ทันที ถือเป็นการเปิดคลังเกมคลาสสิกให้เข้าถึงง่ายขึ้น และยังทำให้ชุมชนผู้เล่นสามารถแชร์ผลงานกันได้สะดวกขึ้นด้วย 🔗 https://www.techradar.com/gaming/pc-gaming/new-doomscroll-website-is-an-endless-library-of-doom-maps-you-can-pick-from-and-play-in-your-browser 🧠 หน่วยความจำแห่งอนาคต: Kioxia พัฒนา 3D DRAM Kioxia ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยี 3D DRAM โดยใช้ stacked oxide-semiconductors ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความหนาแน่นของหน่วยความจำ แม้จะยังไม่พร้อมสู่ตลาดผู้บริโภคในทันที แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมหน่วยความจำในทศวรรษหน้า ทำให้คาดหวังได้ว่าอนาคตเราจะได้เห็น RAM ที่เร็วขึ้นและราคาถูกลง 🔗 https://www.techradar.com/pro/crying-over-expensive-ram-kioxia-may-have-cracked-the-3d-ram-puzzle-paving-the-way-for-cheaper-faster-memory-but-it-probably-wont-reach-the-market-till-the-next-decade 🛡️ Apple อุดช่องโหว่ Zero-Day สุดอันตราย Apple ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงใน WebKit ที่ถูกใช้โจมตีแบบเจาะจงบุคคลระดับสูง โดยช่องโหว่นี้อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ ทีม Google TAG และ Apple ร่วมกันค้นพบและแก้ไข ซึ่งถือเป็นการทำงานร่วมกันที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก การอัปเดตครอบคลุมทั้ง iOS, iPadOS, macOS, watchOS, tvOS, visionOS และ Safari ผู้ใช้ทั่วไปแม้จะไม่ใช่เป้าหมายหลัก แต่ก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตเพื่อความปลอดภัยทันที 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/apple-says-it-fixed-zero-day-flaws-used-for-sophisticated-attacks 🌐 CEO Windscribe วิจารณ์การแบน VPN สำหรับเด็ก Windscribe ผู้ให้บริการ VPN ออกมาแสดงความเห็นว่าการห้ามเด็กใช้ VPN เป็น “วิธีแก้ที่แย่ที่สุด” เพราะ VPN ไม่ใช่เครื่องมืออันตราย แต่กลับเป็นสิ่งที่ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย การแบนอาจทำให้เด็กขาดโอกาสในการเรียนรู้การใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย และยังไม่แก้ปัญหาที่แท้จริงของการใช้งานออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/banning-vpns-for-kids-is-the-dumbest-possible-fix-windscribe-ceo 📷 กล้องวงจรปิดแบตเตอรี่ไร้ขีดจำกัด มีการเปิดตัวกล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ที่ชูจุดขายเรื่อง “แบตเตอรี่ไม่จำกัด” สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อย ๆ ราคาก็ไม่สูงอย่างที่คิด ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น กล้องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยต่อเนื่องโดยไม่ต้องยุ่งยากกับการบำรุงรักษาแบตเตอรี่ 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/this-home-security-cam-monitors-your-property-24-7-with-unlimited-battery-life-and-it-costs-less-than-you-might-expect ⌚ Garmin เผลอหลุดข้อมูล Vivosmart 6 Garmin มีข่าวหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทแทร็กเกอร์รุ่นใหม่ Vivosmart 6 ที่คาดว่าจะมาพร้อมการอัปเกรดสำคัญเหนือรุ่นก่อน แม้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม แต่คาดว่าจะมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการติดตามการออกกำลังกายที่แม่นยำขึ้น การหลุดครั้งนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่ติดตามอุปกรณ์สวมใส่ของ Garmin อยู่แล้ว 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/fitness-trackers/garmin-just-leaked-its-vivosmart-6-tracker-and-it-might-come-with-one-major-upgrade-over-its-predecessor 🔒 แอป Freedom Chat ทำข้อมูลผู้ใช้หลุด มีรายงานว่าแอปแชทชื่อ Freedom Chat เผยข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งหมายเลขโทรศัพท์และรายละเอียดอื่น ๆ ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แอปนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าขาดมาตรการป้องกันที่รัดกุม และอาจทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหรือการละเมิดข้อมูล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/messaging-app-freedom-chat-exposes-user-phone-numbers-and-more-heres-what-we-know 🎧 Google เปิดฟีเจอร์แปลสดผ่านหูฟัง Google กำลังยกระดับการสื่อสารข้ามภาษาให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ “Live Translation” ที่สามารถใช้งานได้กับหูฟังทุกยี่ห้อ ไม่จำกัดเฉพาะ Pixel Buds อีกต่อไป โดยเริ่มทดสอบในสหรัฐฯ เม็กซิโก และอินเดีย ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงแค่แปลคำต่อคำ แต่ยังรักษาน้ำเสียง จังหวะ และอารมณ์ของผู้พูด ทำให้การสนทนาเป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ Google ยังปรับปรุงระบบ Gemini ให้เข้าใจสำนวนและภาษาพูด เช่น “stealing my thunder” ที่ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ พร้อมทั้งเพิ่มเครื่องมือช่วยเรียนภาษา เช่น การให้คำแนะนำด้านการออกเสียง และระบบติดตามความก้าวหน้า ฟีเจอร์นี้รองรับกว่า 70 ภาษา และมีแผนจะขยายไปยัง iOS ในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/computing/software/google-smashes-language-barriers-with-live-translation-for-any-earbuds-on-android-heres-how-it-works 📧 อีเมลไม่ใช่จุดอ่อน แต่การตั้งค่าคลาวด์ต่างหาก หลายครั้งที่เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล อีเมลมักถูกมองว่าเป็นตัวการ แต่จริง ๆ แล้วปัญหามาจากการตั้งค่าคลาวด์ที่ผิดพลาดมากกว่า กว่า 99% ของความล้มเหลวด้านความปลอดภัยเกิดจากผู้ใช้เอง เช่น คลิกลิงก์ฟิชชิ่ง ใช้รหัสผ่านซ้ำ หรือจัดการข้อมูลผิดพลาด การโทษอีเมลจึงเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจไปจากต้นเหตุที่แท้จริง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการป้องกันควรเริ่มจากการเข้ารหัสข้อมูล การเสริมความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ และการฝึกอบรมผู้ใช้ให้รู้เท่าทันภัยไซเบอร์ เมื่อผู้ใช้มีความรู้และระบบถูกเข้ารหัสอย่างดี อีเมลก็จะกลายเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/your-email-app-isnt-the-weak-link-but-your-cloud-configuration-probably-is 🛡️ Microsoft ขยายโครงการ Bug Bounty Microsoft ประกาศปรับโครงการ Bug Bounty ครั้งใหญ่ เปิดให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถส่งรายงานช่องโหว่ได้ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์และบริการ แม้บางโปรแกรมจะไม่มีการตั้งค่ารางวัลอย่างเป็นทางการก็ตาม แนวทางใหม่นี้เรียกว่า “In Scope by Default” ซึ่งหมายความว่าหากช่องโหว่มีผลกระทบต่อบริการออนไลน์ของ Microsoft ก็จะได้รับเงินรางวัลตามระดับความรุนแรง โดยปีที่ผ่านมา Microsoft จ่ายเงินรางวัลไปกว่า 17 ล้านดอลลาร์ มากกว่า Google ที่จ่ายราว 11.8 ล้านดอลลาร์ การขยายนี้ครอบคลุมทั้งโค้ดของ Microsoft โค้ดจากบุคคลที่สาม และโอเพ่นซอร์ส ถือเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบความปลอดภัยในวงกว้างยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-will-expand-bug-bounties-even-on-programs-without-official-payouts 🏢 Oracle ทุ่มมหาศาลกับดีลศูนย์ข้อมูล Oracle กำลังเดินเกมครั้งใหญ่ในโลกคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ล่าสุดมีการเปิดเผยว่าได้ทำสัญญาเช่าศูนย์ข้อมูลและคลาวด์รวมมูลค่าถึง 248 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทยอยเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2026 ไปจนถึง 2028 และกินเวลายาวนานถึง 15–19 ปี การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากลูกค้าใหญ่ ๆ อย่าง Meta, Nvidia และ OpenAI ที่เพิ่งเซ็นสัญญาเพิ่มอีก 300 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ Oracle ต้องเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าและลงทุนเพิ่มหนี้อีกหลายหมื่นล้าน แม้จะเป็นภาระ แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทกำลังเดิมพันอนาคตไว้กับการเติบโตของตลาด AI และคลาวด์อย่างเต็มที่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/oracle-reportedly-signs-major-huge-cloud-data-center-deals-in-the-last-quarter-nearly-usd250-billion-in-new-commitments-revealed 🤖 ChatGPT 5.2 vs Gemini 3 มีการทดสอบเปรียบเทียบสองแชตบอทที่โด่งดังที่สุดในโลกตอนนี้ คือ ChatGPT 5.2 และ Gemini 3 ผู้เขียนลองใช้งานจริงเพื่อดูว่าใครตอบโจทย์ได้ดีกว่า ผลลัพธ์ออกมาน่าสนใจเพราะแต่ละตัวมีจุดแข็งต่างกัน ChatGPT 5.2 โดดเด่นเรื่องการให้คำตอบที่ละเอียดและมีความคิดเชิงลึก ส่วน Gemini 3 เน้นความเร็วและความกระชับในการสื่อสาร การแข่งขันนี้สะท้อนว่าตลาด AI กำลังร้อนแรง และผู้ใช้ก็มีทางเลือกมากขึ้นตามสไตล์ที่ต้องการ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-5-2-vs-gemini-3-i-tried-the-worlds-most-popular-chatbots-to-see-which-is-best-and-the-result-might-surprise-you 🎨 โลกเสมือนที่มีหัวใจมนุษย์ เรื่องราวของ Victoria Fard ศิลปินที่ใช้พลังของคอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon สร้างโลกเสมือนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและความเป็นมนุษย์ เธอไม่ได้มองเทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือ แต่ใช้มันเพื่อถ่ายทอดความทรงจำ ความรู้สึก และเรื่องราวที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน ผลงานของเธอจึงไม่ใช่แค่ภาพสวย ๆ แต่เป็นการสร้างพื้นที่ที่ผู้คนสามารถสัมผัสความเป็นมนุษย์ผ่านโลกดิจิทัลได้อย่างลึกซึ้ง 🔗 https://www.techradar.com/tech/memories-in-pixel-how-victoria-fard-uses-a-pc-powered-by-snapdragon-to-build-worlds-that-are-deeply-human 💼 ซีอีโอยังเดินหน้าลงทุน AI แม้ผลลัพธ์ไม่ชัด แม้หลายบริษัทจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากการลงทุนใน AI แต่ซีอีโอจำนวนมากก็ยังคงเดินหน้าทุ่มงบต่อไป เหตุผลคือพวกเขามองว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่ไม่สามารถมองข้ามได้ และหากหยุดลงทุนอาจเสียโอกาสในอนาคต ถึงแม้จะมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน แต่การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่าการลงทุนใน AI จะเป็นกุญแจสำคัญในการแข่งขันระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/pro/ceos-seem-determined-to-keep-spending-on-ai-despite-mixed-success ⚖️ ศาลรัสเซียสั่งอายัดทรัพย์ Google ในฝรั่งเศส มีข่าวใหญ่จากยุโรป เมื่อศาลรัสเซียมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของ Google ในฝรั่งเศสมูลค่ากว่า 129 ล้านดอลลาร์ สาเหตุเกี่ยวข้องกับข้อพิพาททางกฎหมายและการดำเนินธุรกิจที่ซับซ้อนในหลายประเทศ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงแรงกดดันที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีต้องเผชิญในระดับโลก ทั้งจากกฎระเบียบและความขัดแย้งทางการเมืองที่ส่งผลต่อการดำเนินงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/russian-court-ruling-could-see-usd129-million-freeze-on-some-of-googles-french-assets 📰 Microsoft เจอศึกใหญ่เรื่อง Cloud Licensing ในสหราชอาณาจักร เรื่องนี้เริ่มจากการที่ Microsoft ถูกกล่าวหาว่ากำหนดเงื่อนไขการใช้งาน Windows Server บน Cloud ของคู่แข่งอย่าง AWS และ Google Cloud ให้ยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายสูง จนทำให้หลายองค์กรในสหราชอาณาจักรเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก คดีนี้ถูกยื่นต่อศาล Competition Appeal Tribunal โดยมีองค์กรกว่า 59,000 แห่งเข้าร่วมเป็นกลุ่มฟ้องร้อง หาก Microsoft ถูกตัดสินว่าผิดจริง อาจต้องจ่ายค่าชดเชยสูงถึง 2 พันล้านปอนด์ ขณะที่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นเพียงการกล่าวหาเกินจริงจากกลุ่มทนายและผู้สนับสนุน แต่แรงกดดันก็ยังคงมีต่อเนื่อง เพราะ Google เองก็เคยร้องเรียนเรื่องนี้ต่อ EU มาก่อนแล้ว 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-is-back-in-court-in-the-uk-over-unfair-cloud-licensing-claims 🎮 UGreen เปิดตัว eGPU Dock ท้าชน Razer ในตลาด eGPU ที่กำลังร้อนแรง UGreen ได้เปิดตัว Linkstation eGPU Dock ที่มาพร้อมพลังงานในตัวถึง 850W และพอร์ตเชื่อมต่อใหม่อย่าง Oculink และ USB4 จุดเด่นคือราคาประมาณ 325 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับ Razer Core X V2 แต่เหนือกว่าตรงที่มี PSU ในตัวและรองรับการ์ดจอขนาดใหญ่ถึง 370 มม. อย่างไรก็ตาม ดีไซน์ของ UGreen ยังเปิดโล่งมากกว่า Razer ที่มีโครงสร้างปิด ทำให้บางคนกังวลเรื่องความปลอดภัยของการ์ดจอ ถึงอย่างนั้น นี่ก็ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ตลาดใหม่ที่น่าจับตามองของ UGreen ที่เดิมทำอุปกรณ์เสริมอย่าง Dock และ Charger 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/its-a-great-time-to-buy-an-egpu-and-ugreens-new-razer-rival-has-two-major-tricks-up-its-sleeve 📱 วิกฤติ RAM อาจทำให้สมาร์ทโฟนถอยหลังในปี 2026 นักวิเคราะห์เตือนว่าความต้องการ RAM ที่สูงขึ้นจากศูนย์ข้อมูล AI กำลังทำให้ราคาพุ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอาจต้องลดสเปกลง แทนที่จะเพิ่ม RAM เป็น 16GB ในรุ่นเรือธงใหม่ อาจยังคงอยู่ที่ 12GB หรือบางรุ่นอาจลดลงเหลือ 8GB สำหรับรุ่นกลาง และ 4GB สำหรับรุ่นล่าง ทั้งนี้แม้จะเป็นการคาดการณ์ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะตลาด AI กำลังดูดซับทรัพยากรไปอย่างมหาศาล ซึ่งอาจย้อนแย้งกับการพัฒนา AI บนมือถือที่ต้องใช้ RAM มากเช่นกัน 🔗 https://www.techradar.com/phones/the-ram-crisis-will-see-smartphone-specs-go-backwards-in-2026-experts-warn-heres-why 💍 Apple ควรทำ Smart Ring เพื่อแก้ปัญหาความยุ่งยากของ Smartwatch ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าแม้ Apple Watch จะมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม แต่ก็สร้างความลำบากใจเพราะเขาเป็นคนรักนาฬิกากลไกและไม่อยากละทิ้งการใส่นาฬิกาแบบดั้งเดิม จนต้องใส่นาฬิกาสองเรือนบนข้อมือเดียวกัน ซึ่งทั้งไม่สะดวกและน่าขัน เขาจึงเสนอว่า Apple ควรทำ Smart Ring ที่สามารถติดตามสุขภาพได้เหมือน Apple Watch แต่เล็กกะทัดรัดและไม่รบกวนการใส่นาฬิกาแบบดั้งเดิม หาก Apple ทำจริงก็อาจกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่พลิกเกมในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/apple-needs-to-make-a-smart-ring-to-save-me-from-this-ridiculous-situation 🌳 รีวิวซอฟต์แวร์ Idea Spectrum Realtime Landscaping Pro 2025 นี่คือโปรแกรมออกแบบภูมิทัศน์ที่ให้คุณสร้างสวนเสมือนจริงได้จากคอมพิวเตอร์ Windows จุดเด่นคืออินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย มีคลังพืชกว่า 6,000 ชนิด และวัตถุสามมิติหลากหลาย ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงรถยนต์ พร้อมระบบแอนิเมชันที่ทำให้งานออกแบบดูมีชีวิตชีวา โปรแกรมยังมี Wizard ที่ช่วยให้การสร้างบ้าน สระน้ำ หรือสวนทำได้รวดเร็ว แม้จะมีข้อจำกัดว่าใช้ได้เฉพาะ Windows และอาจหน่วงเมื่อโปรเจ็กต์ซับซ้อน แต่ก็ถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/idea-spectrum-realtime-landscaping-pro-review
    0 Comments 0 Shares 545 Views 0 Reviews
  • SparkyLinux 2025.12 “Tiamat” เปิดตัวแล้ว

    ทีมพัฒนา SparkyLinux ได้ปล่อยเวอร์ชันใหม่ในซีรีส์ semi-rolling คือ 2025.12 (codename Tiamat) โดยใช้ฐานจาก Debian Forky (Testing) และมาพร้อม Linux Kernel 6.17 เป็นค่าเริ่มต้น ผู้ใช้ยังสามารถติดตั้ง Kernel 6.18 ได้จาก repository เพื่อรองรับฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่

    อัปเดตเดสก์ท็อปและซอฟต์แวร์
    เวอร์ชันนี้มาพร้อมกับเดสก์ท็อปที่อัปเดต เช่น LXQt 2.2, KDE Plasma 6.5.3, และ Cinnamon 6.6 รวมถึง Firefox 146 และเครื่องมืออื่น ๆ ที่ปรับปรุงให้เข้ากับระบบใหม่ ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกสภาพแวดล้อมการทำงานที่เหมาะสมกับตนเองได้มากขึ้น

    จุดเด่นของการออกแบบ semi-rolling
    SparkyLinux ใช้โมเดล semi-rolling release ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้จะได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องติดตั้งระบบใหม่ทุกครั้ง แต่ยังคงมี snapshot release เช่น 2025.12 เพื่อให้ผู้ใช้ใหม่สามารถติดตั้งได้ง่ายและมั่นใจว่าได้ระบบที่เสถียร

    ความสำคัญต่อชุมชน Linux
    การออกเวอร์ชันนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ SparkyLinux ในการเป็นทางเลือกที่เบาและยืดหยุ่นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการระบบที่ทันสมัย แต่ไม่ซับซ้อนเกินไป เหมาะทั้งสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนาที่ต้องการทดสอบฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ Debian Testing

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ฐานระบบและ Kernel
    ใช้ Debian Forky (Testing)
    มาพร้อม Linux Kernel 6.17 และรองรับ Kernel 6.18

    เดสก์ท็อปและซอฟต์แวร์
    LXQt 2.2, KDE Plasma 6.5.3, Cinnamon 6.6
    Firefox 146 และเครื่องมือรุ่นใหม่

    โมเดล semi-rolling
    ได้รับอัปเดตต่อเนื่องโดยไม่ต้องติดตั้งใหม่
    มี snapshot release เพื่อความเสถียร

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    การใช้ Debian Testing อาจมีบั๊กหรือความไม่เข้ากันของแพ็กเกจ
    ควรตรวจสอบ compatibility ของฮาร์ดแวร์ก่อนอัปเดต Kernel

    https://9to5linux.com/sparkylinux-2025-12-tiamat-released-with-debian-forky-base-linux-kernel-6-17
    🐉 SparkyLinux 2025.12 “Tiamat” เปิดตัวแล้ว ทีมพัฒนา SparkyLinux ได้ปล่อยเวอร์ชันใหม่ในซีรีส์ semi-rolling คือ 2025.12 (codename Tiamat) โดยใช้ฐานจาก Debian Forky (Testing) และมาพร้อม Linux Kernel 6.17 เป็นค่าเริ่มต้น ผู้ใช้ยังสามารถติดตั้ง Kernel 6.18 ได้จาก repository เพื่อรองรับฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ ⚙️ อัปเดตเดสก์ท็อปและซอฟต์แวร์ เวอร์ชันนี้มาพร้อมกับเดสก์ท็อปที่อัปเดต เช่น LXQt 2.2, KDE Plasma 6.5.3, และ Cinnamon 6.6 รวมถึง Firefox 146 และเครื่องมืออื่น ๆ ที่ปรับปรุงให้เข้ากับระบบใหม่ ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกสภาพแวดล้อมการทำงานที่เหมาะสมกับตนเองได้มากขึ้น 📦 จุดเด่นของการออกแบบ semi-rolling SparkyLinux ใช้โมเดล semi-rolling release ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้จะได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องติดตั้งระบบใหม่ทุกครั้ง แต่ยังคงมี snapshot release เช่น 2025.12 เพื่อให้ผู้ใช้ใหม่สามารถติดตั้งได้ง่ายและมั่นใจว่าได้ระบบที่เสถียร 🌍 ความสำคัญต่อชุมชน Linux การออกเวอร์ชันนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ SparkyLinux ในการเป็นทางเลือกที่เบาและยืดหยุ่นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการระบบที่ทันสมัย แต่ไม่ซับซ้อนเกินไป เหมาะทั้งสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนาที่ต้องการทดสอบฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ Debian Testing 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ฐานระบบและ Kernel ➡️ ใช้ Debian Forky (Testing) ➡️ มาพร้อม Linux Kernel 6.17 และรองรับ Kernel 6.18 ✅ เดสก์ท็อปและซอฟต์แวร์ ➡️ LXQt 2.2, KDE Plasma 6.5.3, Cinnamon 6.6 ➡️ Firefox 146 และเครื่องมือรุ่นใหม่ ✅ โมเดล semi-rolling ➡️ ได้รับอัปเดตต่อเนื่องโดยไม่ต้องติดตั้งใหม่ ➡️ มี snapshot release เพื่อความเสถียร ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ การใช้ Debian Testing อาจมีบั๊กหรือความไม่เข้ากันของแพ็กเกจ ⛔ ควรตรวจสอบ compatibility ของฮาร์ดแวร์ก่อนอัปเดต Kernel https://9to5linux.com/sparkylinux-2025-12-tiamat-released-with-debian-forky-base-linux-kernel-6-17
    9TO5LINUX.COM
    SparkyLinux 2025.12 "Tiamat" Released with Debian Forky Base, Linux Kernel 6.17 - 9to5Linux
    SparkyLinux 2025.12 distribution is now available for download based on Debian Testing/Forky and powered by Linux kernel 6.17.
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • Scribus 1.6.5: ก้าวใหม่ของซอฟต์แวร์ Desktop Publishing

    ทีมพัฒนา Scribus ได้ปล่อยเวอร์ชัน 1.6.5 ซึ่งเป็นการอัปเดตต่อเนื่องจากสาย 1.6 stable โดยมุ่งเน้นการแก้ไขและปรับปรุงฟีเจอร์ที่ผู้ใช้เรียกร้องมากที่สุด จุดเด่นคือการปรับปรุง PDF export ให้มีความเสถียรและยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้การสร้างเอกสารสำหรับงานพิมพ์หรือเผยแพร่ดิจิทัลมีคุณภาพสูงขึ้น

    ปรับปรุง Light/Dark Mode และ Eyedropper
    หนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ใช้สมัยใหม่ให้ความสำคัญคือ การรองรับ light/dark mode ซึ่ง Scribus 1.6.5 ได้ปรับปรุงให้ทำงานได้ราบรื่นขึ้นบนหลายแพลตฟอร์ม นอกจากนี้เครื่องมือ color eyedropper ก็ได้รับการปรับปรุงให้แม่นยำและใช้งานง่ายขึ้น ช่วยให้นักออกแบบสามารถเลือกสีจากงานได้ตรงตามต้องการ

    พลังใหม่ของ Scripter Functions
    สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทำงานอัตโนมัติ Scribus 1.6.5 ได้เพิ่มและปรับปรุง scripter functions ทำให้สามารถเขียนสคริปต์เพื่อควบคุมการทำงานได้หลากหลายขึ้น เช่น การจัดการเลย์เอาต์ การสร้างเอกสารจำนวนมาก หรือการปรับแต่งการส่งออกไฟล์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานระดับมืออาชีพ

    ความสำคัญต่อชุมชนโอเพ่นซอร์ส
    การอัปเดตครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า Scribus ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือ Desktop Publishing แบบโอเพ่นซอร์สที่แข็งแกร่งที่สุด และเป็นทางเลือกแทนซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์อย่าง Adobe InDesign สำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นและไม่ต้องพึ่งพา license ที่มีค่าใช้จ่ายสูง

    สรุปประเด็นสำคัญ

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Scribus 1.6.5
    ปรับปรุง PDF export ให้เสถียรและยืดหยุ่น
    รองรับ light/dark mode ดีขึ้น
    Eyedropper เลือกสีได้แม่นยำขึ้น
    เพิ่มความสามารถใน scripter functions

    ผลต่อผู้ใช้
    นักออกแบบสามารถสร้างงานพิมพ์คุณภาพสูงได้ง่ายขึ้น
    ผู้ใช้ที่ทำงานอัตโนมัติสามารถใช้สคริปต์ได้หลากหลาย

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    หากยังใช้เวอร์ชันเก่า อาจพลาดฟีเจอร์ใหม่และการแก้ไขบั๊กสำคัญ
    การอัปเดตควรทดสอบกับไฟล์งานจริงเพื่อป้องกันความไม่เข้ากันของปลั๊กอินหรือสคริปต์เดิม

    https://9to5linux.com/scribus-1-6-5-open-source-desktop-publishing-app-released-with-various-changes
    📰 Scribus 1.6.5: ก้าวใหม่ของซอฟต์แวร์ Desktop Publishing ทีมพัฒนา Scribus ได้ปล่อยเวอร์ชัน 1.6.5 ซึ่งเป็นการอัปเดตต่อเนื่องจากสาย 1.6 stable โดยมุ่งเน้นการแก้ไขและปรับปรุงฟีเจอร์ที่ผู้ใช้เรียกร้องมากที่สุด จุดเด่นคือการปรับปรุง PDF export ให้มีความเสถียรและยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้การสร้างเอกสารสำหรับงานพิมพ์หรือเผยแพร่ดิจิทัลมีคุณภาพสูงขึ้น 🌗 ปรับปรุง Light/Dark Mode และ Eyedropper หนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ใช้สมัยใหม่ให้ความสำคัญคือ การรองรับ light/dark mode ซึ่ง Scribus 1.6.5 ได้ปรับปรุงให้ทำงานได้ราบรื่นขึ้นบนหลายแพลตฟอร์ม นอกจากนี้เครื่องมือ color eyedropper ก็ได้รับการปรับปรุงให้แม่นยำและใช้งานง่ายขึ้น ช่วยให้นักออกแบบสามารถเลือกสีจากงานได้ตรงตามต้องการ ⚙️ พลังใหม่ของ Scripter Functions สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทำงานอัตโนมัติ Scribus 1.6.5 ได้เพิ่มและปรับปรุง scripter functions ทำให้สามารถเขียนสคริปต์เพื่อควบคุมการทำงานได้หลากหลายขึ้น เช่น การจัดการเลย์เอาต์ การสร้างเอกสารจำนวนมาก หรือการปรับแต่งการส่งออกไฟล์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานระดับมืออาชีพ 🌍 ความสำคัญต่อชุมชนโอเพ่นซอร์ส การอัปเดตครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า Scribus ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือ Desktop Publishing แบบโอเพ่นซอร์สที่แข็งแกร่งที่สุด และเป็นทางเลือกแทนซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์อย่าง Adobe InDesign สำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นและไม่ต้องพึ่งพา license ที่มีค่าใช้จ่ายสูง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Scribus 1.6.5 ➡️ ปรับปรุง PDF export ให้เสถียรและยืดหยุ่น ➡️ รองรับ light/dark mode ดีขึ้น ➡️ Eyedropper เลือกสีได้แม่นยำขึ้น ➡️ เพิ่มความสามารถใน scripter functions ✅ ผลต่อผู้ใช้ ➡️ นักออกแบบสามารถสร้างงานพิมพ์คุณภาพสูงได้ง่ายขึ้น ➡️ ผู้ใช้ที่ทำงานอัตโนมัติสามารถใช้สคริปต์ได้หลากหลาย ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ หากยังใช้เวอร์ชันเก่า อาจพลาดฟีเจอร์ใหม่และการแก้ไขบั๊กสำคัญ ⛔ การอัปเดตควรทดสอบกับไฟล์งานจริงเพื่อป้องกันความไม่เข้ากันของปลั๊กอินหรือสคริปต์เดิม https://9to5linux.com/scribus-1-6-5-open-source-desktop-publishing-app-released-with-various-changes
    9TO5LINUX.COM
    Scribus 1.6.5 Open-Source Desktop Publishing App Released with Various Changes - 9to5Linux
    Scribus 1.6.5 free and open-source desktop publishing software is now available for download with various updates and bug fixes.
    0 Comments 0 Shares 98 Views 0 Reviews
  • สื่อมะกันได้ทีจุดไฟ! เชื่อจีนใช้ความขัดแย้งไทย–กัมพูชาเป็นสนามทดสอบอาวุธ หลังทหารไทยยึดจรวดและขีปนาวุธสมัยใหม่สัญชาติจีนได้กลางสมรภูมิ
    .
    นิตยสาร The Week สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เปิดโอกาสให้จีนประเมินประสิทธิภาพอาวุธของตนเอง ในการต่อกรกับยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ที่กองทัพไทยใช้งานอยู่
    .
    รายงานระบุว่า กัมพูชาพึ่งพายุทโธปกรณ์จากจีนเป็นหลัก ทั้งระบบยิงจรวดหลายลำกล้อง PHL-03 ปืนใหญ่ และจรวดพิสัยไกล ซึ่งถูกนำมาใช้สกัดกั้นกองทัพไทยที่มีศักยภาพเหนือกว่า
    .
    ขณะเดียวกัน ไทยใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 พร้อมระเบิดนำวิถีของสหรัฐฯ โจมตีทำลายฐานยิงและคลังอาวุธของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งกลายเป็นข้อมูลจริงในสนามรบให้จีนสามารถวิเคราะห์ขีดความสามารถของอาวุธตนเอง
    .
    The Week ยังชี้ว่า การที่ไทยสามารถยึดขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถี GAM-102LR รุ่น 5 ของจีนได้ เป็นอีกหลักฐานที่ทำให้สมรภูมิไทย–กัมพูชาถูกจับตามองในฐานะ “สนามทดลองอาวุธโดยพฤตินัย”
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120797
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #จีน #อาวุธจีน #สนามรบเอเชีย #สงครามข้อมูลข่าวสาร
    สื่อมะกันได้ทีจุดไฟ! เชื่อจีนใช้ความขัดแย้งไทย–กัมพูชาเป็นสนามทดสอบอาวุธ หลังทหารไทยยึดจรวดและขีปนาวุธสมัยใหม่สัญชาติจีนได้กลางสมรภูมิ . นิตยสาร The Week สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เปิดโอกาสให้จีนประเมินประสิทธิภาพอาวุธของตนเอง ในการต่อกรกับยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ที่กองทัพไทยใช้งานอยู่ . รายงานระบุว่า กัมพูชาพึ่งพายุทโธปกรณ์จากจีนเป็นหลัก ทั้งระบบยิงจรวดหลายลำกล้อง PHL-03 ปืนใหญ่ และจรวดพิสัยไกล ซึ่งถูกนำมาใช้สกัดกั้นกองทัพไทยที่มีศักยภาพเหนือกว่า . ขณะเดียวกัน ไทยใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 พร้อมระเบิดนำวิถีของสหรัฐฯ โจมตีทำลายฐานยิงและคลังอาวุธของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งกลายเป็นข้อมูลจริงในสนามรบให้จีนสามารถวิเคราะห์ขีดความสามารถของอาวุธตนเอง . The Week ยังชี้ว่า การที่ไทยสามารถยึดขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถี GAM-102LR รุ่น 5 ของจีนได้ เป็นอีกหลักฐานที่ทำให้สมรภูมิไทย–กัมพูชาถูกจับตามองในฐานะ “สนามทดลองอาวุธโดยพฤตินัย” . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120797 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #จีน #อาวุธจีน #สนามรบเอเชีย #สงครามข้อมูลข่าวสาร
    0 Comments 0 Shares 192 Views 0 Reviews
  • ปฏิบัติการซินดูร์ จีนใช้โอกาสทดสอบอาวุธกับขีปนาวุธและเครื่องบินรบที่สร้างโดยรัสเซียและฝรั่งเศส คลังแสงของปากีสถานเต็มไปด้วยยุทโธปกรณ์ของปักกิ่ง และมันถูกใช้ทดสอบกับเครื่องบินรบราฟาลของอินเดียและระบบป้องกันขีปนาวุธ S-400 เช่นเดียวกับอื่นๆ ในความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาก็เช่นกัน มันมอบโอกาสให้จีนวิเคราะห์ว่าจรวดและขีปนาวุธของพวกเขา มีประสิทธิภาพแค่ไหนในการต่อกรกับยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ตามรายงานของนิตยสารเดอะวีค สื่อมวลชนที่มีสำนักงานในนิวยอร์ก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000120797

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ปฏิบัติการซินดูร์ จีนใช้โอกาสทดสอบอาวุธกับขีปนาวุธและเครื่องบินรบที่สร้างโดยรัสเซียและฝรั่งเศส คลังแสงของปากีสถานเต็มไปด้วยยุทโธปกรณ์ของปักกิ่ง และมันถูกใช้ทดสอบกับเครื่องบินรบราฟาลของอินเดียและระบบป้องกันขีปนาวุธ S-400 เช่นเดียวกับอื่นๆ ในความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาก็เช่นกัน มันมอบโอกาสให้จีนวิเคราะห์ว่าจรวดและขีปนาวุธของพวกเขา มีประสิทธิภาพแค่ไหนในการต่อกรกับยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ตามรายงานของนิตยสารเดอะวีค สื่อมวลชนที่มีสำนักงานในนิวยอร์ก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000120797 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 351 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251215 #TechRadar

    iPadOS 26.2: อัปเดตใหม่ที่ทำให้การทำงานหลายแอปง่ายขึ้น
    Apple ปล่อย iPadOS 26.2 ให้ผู้ใช้ทั่วโลกแล้ว จุดเด่นคือการปรับปรุงระบบ multitasking ที่เคยถูกถอดออกไปในเวอร์ชันก่อน ตอนนี้กลับมาอีกครั้ง คุณสามารถลากไอคอนแอปจาก Dock หรือ Spotlight ไปเปิดในโหมด Split View หรือ Slide Over ได้สะดวกขึ้น ทำให้การทำงานหลายแอปบนหน้าจอเดียวเป็นเรื่องง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น การปรับแต่ง Liquid Glass บนหน้าล็อกสกรีน, ระบบแจ้งเตือนเร่งด่วนใน Reminders, การรองรับตารางใน Freeform, การสร้าง chapter ด้วย AI ใน Podcasts และเนื้อเพลงแบบออฟไลน์ใน Apple Music รวมถึงการปรับปรุงการค้นหาเกมใน Apple Games และดีไซน์ใหม่ใน Apple News เรียกได้ว่าเป็นการอัปเดตที่ยกระดับประสบการณ์ใช้งาน iPad ให้ครบเครื่องมากขึ้น
    https://www.techradar.com/tablets/ipad/ipados-26-2-is-rolling-out-now-and-it-makes-multitasking-much-easier-heres-whats-new

    Biwin Mini SSD: สตอเรจจิ๋วที่เร็วแรง แต่อนาคตยังไม่แน่ชัด
    Biwin เปิดตัว Mini SSD รุ่น CL100 ที่มีขนาดเล็กมากเพียง 15 x 17 x 1.4 มม. น้ำหนักแค่ 1 กรัม แต่ให้ความเร็วอ่านสูงสุด 3700MB/s และเขียน 3400MB/s พร้อมความทนทานกันน้ำ กันฝุ่น และกันตกจากความสูง 3 เมตร ใช้ถอดเปลี่ยนแบบถาด SIM ทำให้สะดวกต่อการใช้งานในอุปกรณ์พกพา นอกจากนี้ยังมี RD510 Enclosure ที่แปลง Mini SSD ให้เป็นฮาร์ดดิสก์พกพาแบบ USB4 ความเร็วสูง จุดแข็งคือเล็ก ทน และเร็ว แต่ปัญหาคือยังไม่มีผู้ผลิตรายอื่นเข้ามาร่วมมาตรฐานนี้ ทำให้อนาคตของ Mini SSD อาจซ้ำรอยกับฟอร์แมตเฉพาะที่เคยหายไปในอดีต หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากหลายบริษัท
    https://www.techradar.com/pro/is-this-the-next-minidisc-exciting-mini-ssd-format-could-suffer-fate-of-sonys-data-format-if-it-doesnt-get-further-backing

    AMD FSR Redstone: เทคโนโลยีอัปสเกลใหม่ที่ยังทำให้หลายคนงง
    AMD เปิดตัว FSR Redstone ที่รวม 4 เทคโนโลยี ได้แก่ FSR Upscaling, Frame Generation, Ray Regeneration และ Radiance Caching แต่การสื่อสารกลับทำให้ผู้ใช้สับสน เพราะบางฟีเจอร์เป็นของเดิมที่เปลี่ยนชื่อ บางฟีเจอร์ยังไม่พร้อมใช้งานจริง เช่น Radiance Caching ที่ยังอยู่ในขั้นทดลอง จุดที่น่าสนใจคือ Frame Generation แบบใหม่ใช้ AI สร้างเฟรมเสริม ทำให้ภาพลื่นขึ้นและคุณภาพดีขึ้น แต่ทั้งหมดนี้รองรับเฉพาะการ์ดจอ RDNA 4 เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้รุ่นเก่าอดใช้ แม้จะลงทุนซื้อการ์ดจอราคาแพงไปแล้ว การเปิดตัวครั้งนี้จึงถูกมองว่าขาดความชัดเจน แต่ก็ยังเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ AMD ไล่ทันคู่แข่งอย่าง Nvidia
    https://www.techradar.com/computing/gpu/confused-about-amds-fsr-redstone-update-youre-not-alone-heres-what-it-all-means-for-pc-gamers

    Affinity & Canva: ปฏิวัติวงการด้วยซอฟต์แวร์ดีไซน์ฟรี
    Ash Hewson ซีอีโอของ Affinity ประกาศว่าแพลตฟอร์มดีไซน์ระดับโปรจะเปิดให้ใช้ฟรีทั้งหมด โดยร่วมมือกับ Canva เพื่อผลักดันแนวคิดว่า “ความคิดสร้างสรรค์ไม่ควรถูกจำกัดด้วยราคา” การเปลี่ยนแปลงนี้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในวงการที่เคยถูกครอบงำด้วยซอฟต์แวร์แบบสมัครสมาชิกแพง ๆ Affinity รุ่นใหม่รวมเครื่องมือเวกเตอร์ การแต่งภาพ และการจัดเลย์เอาต์ไว้ในที่เดียว ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำโดยไม่ลดทอนคุณภาพ จุดยืนคือไม่มีการซ่อนเงื่อนไข ไม่มีการเก็บข้อมูลลับ และไม่มีการบังคับใช้ AI ที่ไม่โปร่งใส นี่คือการยืนยันว่าซอฟต์แวร์ดีไซน์สามารถเป็น “สาธารณประโยชน์” ที่ทุกคนเข้าถึงได้ฟรีตลอดไป
    https://www.techradar.com/pro/software-services/affinity-ceo-reveals-why-canva-and-affinity-made-pro-design-software-free-and-what-that-means-for-creativity

    Amadeus: ซีรีส์ใหม่ที่เล่า rivalry ของ Mozart และ Salieri
    Sky เปิดตัวซีรีส์ Amadeus ที่หยิบเรื่องราวการแข่งขันและความสัมพันธ์ซับซ้อนระหว่าง Mozart และ Salieri มาถ่ายทอดใหม่ในรูปแบบดราม่าเข้มข้น ซีรีส์นี้ผสมผสานความบันเทิงและความดราม่าได้อย่างลงตัว แม้บางตอนจะมีจังหวะช้าลง แต่การแสดงของ Will Sharpe และ Paul Bettany ถูกยกให้เป็นผลงานที่ดีที่สุดในชีวิตการแสดงของพวกเขา จุดเด่นคือการตีความใหม่ที่ไม่ซ้ำกับเวอร์ชันภาพยนตร์ปี 1984 และยังเพิ่มมิติใหม่ด้วยการเล่าเรื่องการสร้างบทละครของ Peter Shaffer เอง ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เล่าความขัดแย้ง แต่ยังสะท้อนพลังของดนตรีคลาสสิกที่ยังคงมีอิทธิพลต่อผู้ชมยุคใหม่
    https://www.techradar.com/streaming/entertainment/amadeus-review-sky

    Toshiba เดินหน้าสู่ยุค HDD ความจุ 55TB
    Toshiba กำลังวางแผนพัฒนา HDD ที่มีความจุสูงถึง 55TB ภายในปี 2030 โดยเริ่มจากรุ่น 40TB ที่จะเปิดตัวในปี 2026–2027 ความก้าวหน้าครั้งนี้เกิดจากการเพิ่มจำนวนแผ่นจาน (platters) และการใช้เทคโนโลยีใหม่อย่าง MAMR และ HAMR ซึ่งช่วยให้สามารถบันทึกข้อมูลได้หนาแน่นขึ้นกว่าเดิม เส้นทางนี้สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจาก HDD รุ่น 10TB ในปี 2017 มาจนถึง 24TB ในปัจจุบัน และกำลังจะก้าวไปสู่ระดับที่ใหญ่ที่สุดในตลาด การเปลี่ยนจากแผ่นอลูมิเนียมเป็นแก้วก็ช่วยให้ทนทานและบางลง ทำให้สามารถซ้อนแผ่นได้มากขึ้น ถือเป็นการปูทางสู่ยุคใหม่ของการจัดเก็บข้อมูลขนาดมหึมา
    https://www.techradar.com/pro/toshiba-wants-to-launch-a-55tb-hard-drive-by-2030-40tb-model-set-to-appear-in-2026-new-slides-show

    Android 17 เตรียมเพิ่ม Motion Cues ลดอาการเมารถ
    Google กำลังพัฒนา Motion Cues ฟีเจอร์ใหม่ใน Android 17 ที่ช่วยลดอาการเวียนหัวหรือเมารถเวลามองหน้าจอมือถือระหว่างการเดินทาง ฟีเจอร์นี้จะสร้างจุดเคลื่อนไหวบนหน้าจอให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวจริงของโทรศัพท์ ทำให้สมองไม่สับสนระหว่างภาพที่เห็นกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย แนวคิดนี้คล้ายกับ Vehicle Motion Cues ที่ Apple เปิดตัวใน iOS 18 แต่การนำมาใช้ใน Android ต้องปรับระบบความปลอดภัยเพื่อให้สามารถแสดงผลทับบนหน้าจอได้เต็มรูปแบบ หากการทดสอบผ่านไปด้วยดี เราอาจได้เห็น Motion Cues เปิดตัวพร้อม Android 17 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
    https://www.techradar.com/phones/android/android-17-could-finally-introduce-motion-cues-to-combat-motion-sickness-matching-the-same-feature-in-ios

    AI โจมตี SaaS ผ่านการปลอมแปลงตัวตน
    ภัยคุกคามใหม่ในโลกไซเบอร์ไม่ได้เริ่มจากมัลแวร์อีกต่อไป แต่เริ่มจาก “ตัวตน” ที่ถูกขโมยหรือสร้างขึ้นมาอย่างแนบเนียนด้วย AI แฮกเกอร์ใช้เทคโนโลยีสร้างอีเมลปลอมที่เหมือนจริง สร้างภาพถ่ายหรือบุคคลเสมือนเพื่อหลอกลวง และแม้กระทั่งใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลบัญชีที่ถูกขโมยเพื่อหาบัญชีที่มีสิทธิ์เข้าถึงสูงสุด เมื่อได้ตัวตนที่น่าเชื่อถือแล้ว พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญในระบบ SaaS ได้โดยตรงโดยไม่ถูกตรวจจับ นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้ “ตัวตน” กลายเป็นแนวรบหลักของการรักษาความปลอดภัยในยุค AI
    https://www.techradar.com/pro/inside-the-ai-powered-assault-on-saas-why-identity-is-the-weakest-link

    สมาร์ทโฟนปี 2026 ที่จะทำให้คุณตื่นเต้นอีกครั้ง
    แม้หลายคนจะรู้สึกเบื่อกับสมาร์ทโฟนที่ดูคล้ายกันไปหมด แต่ปี 2026 จะมีรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ เช่น Xiaomi 17 Pro Max ที่มีหน้าจอด้านหลังและแบตเตอรี่ใหญ่ถึง 7,500mAh, Samsung Galaxy Z TriFold ที่พับได้สามตอนกลายเป็นแท็บเล็ต 10 นิ้ว, iPhone Fold ที่คาดว่าจะเปิดตัวพร้อม iPhone 18 และอาจเป็นรุ่นแรกที่ไม่มีรอยพับให้เห็น รวมถึง OnePlus 16 ที่สืบต่อความแรงจากรุ่นก่อน และ Ayaneo Pocket Play ที่รวมมือถือกับเครื่องเล่นเกมพกพาในเครื่องเดียว ทั้งหมดนี้คือการกลับมาของความตื่นเต้นในโลกสมาร์ทโฟน
    https://www.techradar.com/phones/bored-with-smartphones-these-5-upcoming-flagships-could-change-your-mind-in-2026

    รีวิว Ring Outdoor Cam Pro กล้องรักษาความปลอดภัย 4K
    Ring เปิดตัว Outdoor Cam Pro กล้องรักษาความปลอดภัยที่มาพร้อมความละเอียด 4K และซูมได้ถึง 10 เท่า ทำให้ภาพคมชัดกว่ารุ่นก่อนมาก กล้องนี้ต้องใช้ไฟบ้านเท่านั้น แต่ข้อดีคือสามารถบันทึกวิดีโอ 24/7 ได้เต็มรูปแบบ หากสมัครแพ็กเกจ Premium ที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ฟีเจอร์เด่นคือ Smart Video Search ที่ใช้ AI ค้นหาภาพจากคำ เช่น “คนใส่เสื้อสีแดง” และยังมีเสียงไซเรน 85dB รวมถึงระบบเสียงสองทางเพื่อสื่อสารกับผู้ที่อยู่หน้ากล้อง แม้ราคาจะสูงและต้องพึ่งพาการสมัครสมาชิก แต่คุณภาพของภาพและความสามารถขั้นสูงทำให้มันเป็นตัวเลือกที่จริงจังสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/home/home-security/ring-outdoor-cam-pro-review
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251215 #TechRadar 📱 iPadOS 26.2: อัปเดตใหม่ที่ทำให้การทำงานหลายแอปง่ายขึ้น Apple ปล่อย iPadOS 26.2 ให้ผู้ใช้ทั่วโลกแล้ว จุดเด่นคือการปรับปรุงระบบ multitasking ที่เคยถูกถอดออกไปในเวอร์ชันก่อน ตอนนี้กลับมาอีกครั้ง คุณสามารถลากไอคอนแอปจาก Dock หรือ Spotlight ไปเปิดในโหมด Split View หรือ Slide Over ได้สะดวกขึ้น ทำให้การทำงานหลายแอปบนหน้าจอเดียวเป็นเรื่องง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น การปรับแต่ง Liquid Glass บนหน้าล็อกสกรีน, ระบบแจ้งเตือนเร่งด่วนใน Reminders, การรองรับตารางใน Freeform, การสร้าง chapter ด้วย AI ใน Podcasts และเนื้อเพลงแบบออฟไลน์ใน Apple Music รวมถึงการปรับปรุงการค้นหาเกมใน Apple Games และดีไซน์ใหม่ใน Apple News เรียกได้ว่าเป็นการอัปเดตที่ยกระดับประสบการณ์ใช้งาน iPad ให้ครบเครื่องมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/tablets/ipad/ipados-26-2-is-rolling-out-now-and-it-makes-multitasking-much-easier-heres-whats-new 💾 Biwin Mini SSD: สตอเรจจิ๋วที่เร็วแรง แต่อนาคตยังไม่แน่ชัด Biwin เปิดตัว Mini SSD รุ่น CL100 ที่มีขนาดเล็กมากเพียง 15 x 17 x 1.4 มม. น้ำหนักแค่ 1 กรัม แต่ให้ความเร็วอ่านสูงสุด 3700MB/s และเขียน 3400MB/s พร้อมความทนทานกันน้ำ กันฝุ่น และกันตกจากความสูง 3 เมตร ใช้ถอดเปลี่ยนแบบถาด SIM ทำให้สะดวกต่อการใช้งานในอุปกรณ์พกพา นอกจากนี้ยังมี RD510 Enclosure ที่แปลง Mini SSD ให้เป็นฮาร์ดดิสก์พกพาแบบ USB4 ความเร็วสูง จุดแข็งคือเล็ก ทน และเร็ว แต่ปัญหาคือยังไม่มีผู้ผลิตรายอื่นเข้ามาร่วมมาตรฐานนี้ ทำให้อนาคตของ Mini SSD อาจซ้ำรอยกับฟอร์แมตเฉพาะที่เคยหายไปในอดีต หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากหลายบริษัท 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-this-the-next-minidisc-exciting-mini-ssd-format-could-suffer-fate-of-sonys-data-format-if-it-doesnt-get-further-backing 🎮 AMD FSR Redstone: เทคโนโลยีอัปสเกลใหม่ที่ยังทำให้หลายคนงง AMD เปิดตัว FSR Redstone ที่รวม 4 เทคโนโลยี ได้แก่ FSR Upscaling, Frame Generation, Ray Regeneration และ Radiance Caching แต่การสื่อสารกลับทำให้ผู้ใช้สับสน เพราะบางฟีเจอร์เป็นของเดิมที่เปลี่ยนชื่อ บางฟีเจอร์ยังไม่พร้อมใช้งานจริง เช่น Radiance Caching ที่ยังอยู่ในขั้นทดลอง จุดที่น่าสนใจคือ Frame Generation แบบใหม่ใช้ AI สร้างเฟรมเสริม ทำให้ภาพลื่นขึ้นและคุณภาพดีขึ้น แต่ทั้งหมดนี้รองรับเฉพาะการ์ดจอ RDNA 4 เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้รุ่นเก่าอดใช้ แม้จะลงทุนซื้อการ์ดจอราคาแพงไปแล้ว การเปิดตัวครั้งนี้จึงถูกมองว่าขาดความชัดเจน แต่ก็ยังเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ AMD ไล่ทันคู่แข่งอย่าง Nvidia 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/confused-about-amds-fsr-redstone-update-youre-not-alone-heres-what-it-all-means-for-pc-gamers 🎨 Affinity & Canva: ปฏิวัติวงการด้วยซอฟต์แวร์ดีไซน์ฟรี Ash Hewson ซีอีโอของ Affinity ประกาศว่าแพลตฟอร์มดีไซน์ระดับโปรจะเปิดให้ใช้ฟรีทั้งหมด โดยร่วมมือกับ Canva เพื่อผลักดันแนวคิดว่า “ความคิดสร้างสรรค์ไม่ควรถูกจำกัดด้วยราคา” การเปลี่ยนแปลงนี้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในวงการที่เคยถูกครอบงำด้วยซอฟต์แวร์แบบสมัครสมาชิกแพง ๆ Affinity รุ่นใหม่รวมเครื่องมือเวกเตอร์ การแต่งภาพ และการจัดเลย์เอาต์ไว้ในที่เดียว ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำโดยไม่ลดทอนคุณภาพ จุดยืนคือไม่มีการซ่อนเงื่อนไข ไม่มีการเก็บข้อมูลลับ และไม่มีการบังคับใช้ AI ที่ไม่โปร่งใส นี่คือการยืนยันว่าซอฟต์แวร์ดีไซน์สามารถเป็น “สาธารณประโยชน์” ที่ทุกคนเข้าถึงได้ฟรีตลอดไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/affinity-ceo-reveals-why-canva-and-affinity-made-pro-design-software-free-and-what-that-means-for-creativity 🎼 Amadeus: ซีรีส์ใหม่ที่เล่า rivalry ของ Mozart และ Salieri Sky เปิดตัวซีรีส์ Amadeus ที่หยิบเรื่องราวการแข่งขันและความสัมพันธ์ซับซ้อนระหว่าง Mozart และ Salieri มาถ่ายทอดใหม่ในรูปแบบดราม่าเข้มข้น ซีรีส์นี้ผสมผสานความบันเทิงและความดราม่าได้อย่างลงตัว แม้บางตอนจะมีจังหวะช้าลง แต่การแสดงของ Will Sharpe และ Paul Bettany ถูกยกให้เป็นผลงานที่ดีที่สุดในชีวิตการแสดงของพวกเขา จุดเด่นคือการตีความใหม่ที่ไม่ซ้ำกับเวอร์ชันภาพยนตร์ปี 1984 และยังเพิ่มมิติใหม่ด้วยการเล่าเรื่องการสร้างบทละครของ Peter Shaffer เอง ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เล่าความขัดแย้ง แต่ยังสะท้อนพลังของดนตรีคลาสสิกที่ยังคงมีอิทธิพลต่อผู้ชมยุคใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/streaming/entertainment/amadeus-review-sky 🖥️ Toshiba เดินหน้าสู่ยุค HDD ความจุ 55TB Toshiba กำลังวางแผนพัฒนา HDD ที่มีความจุสูงถึง 55TB ภายในปี 2030 โดยเริ่มจากรุ่น 40TB ที่จะเปิดตัวในปี 2026–2027 ความก้าวหน้าครั้งนี้เกิดจากการเพิ่มจำนวนแผ่นจาน (platters) และการใช้เทคโนโลยีใหม่อย่าง MAMR และ HAMR ซึ่งช่วยให้สามารถบันทึกข้อมูลได้หนาแน่นขึ้นกว่าเดิม เส้นทางนี้สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจาก HDD รุ่น 10TB ในปี 2017 มาจนถึง 24TB ในปัจจุบัน และกำลังจะก้าวไปสู่ระดับที่ใหญ่ที่สุดในตลาด การเปลี่ยนจากแผ่นอลูมิเนียมเป็นแก้วก็ช่วยให้ทนทานและบางลง ทำให้สามารถซ้อนแผ่นได้มากขึ้น ถือเป็นการปูทางสู่ยุคใหม่ของการจัดเก็บข้อมูลขนาดมหึมา 🔗 https://www.techradar.com/pro/toshiba-wants-to-launch-a-55tb-hard-drive-by-2030-40tb-model-set-to-appear-in-2026-new-slides-show 📱 Android 17 เตรียมเพิ่ม Motion Cues ลดอาการเมารถ Google กำลังพัฒนา Motion Cues ฟีเจอร์ใหม่ใน Android 17 ที่ช่วยลดอาการเวียนหัวหรือเมารถเวลามองหน้าจอมือถือระหว่างการเดินทาง ฟีเจอร์นี้จะสร้างจุดเคลื่อนไหวบนหน้าจอให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวจริงของโทรศัพท์ ทำให้สมองไม่สับสนระหว่างภาพที่เห็นกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย แนวคิดนี้คล้ายกับ Vehicle Motion Cues ที่ Apple เปิดตัวใน iOS 18 แต่การนำมาใช้ใน Android ต้องปรับระบบความปลอดภัยเพื่อให้สามารถแสดงผลทับบนหน้าจอได้เต็มรูปแบบ หากการทดสอบผ่านไปด้วยดี เราอาจได้เห็น Motion Cues เปิดตัวพร้อม Android 17 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/android-17-could-finally-introduce-motion-cues-to-combat-motion-sickness-matching-the-same-feature-in-ios 🔒 AI โจมตี SaaS ผ่านการปลอมแปลงตัวตน ภัยคุกคามใหม่ในโลกไซเบอร์ไม่ได้เริ่มจากมัลแวร์อีกต่อไป แต่เริ่มจาก “ตัวตน” ที่ถูกขโมยหรือสร้างขึ้นมาอย่างแนบเนียนด้วย AI แฮกเกอร์ใช้เทคโนโลยีสร้างอีเมลปลอมที่เหมือนจริง สร้างภาพถ่ายหรือบุคคลเสมือนเพื่อหลอกลวง และแม้กระทั่งใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลบัญชีที่ถูกขโมยเพื่อหาบัญชีที่มีสิทธิ์เข้าถึงสูงสุด เมื่อได้ตัวตนที่น่าเชื่อถือแล้ว พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญในระบบ SaaS ได้โดยตรงโดยไม่ถูกตรวจจับ นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้ “ตัวตน” กลายเป็นแนวรบหลักของการรักษาความปลอดภัยในยุค AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/inside-the-ai-powered-assault-on-saas-why-identity-is-the-weakest-link 📲 สมาร์ทโฟนปี 2026 ที่จะทำให้คุณตื่นเต้นอีกครั้ง แม้หลายคนจะรู้สึกเบื่อกับสมาร์ทโฟนที่ดูคล้ายกันไปหมด แต่ปี 2026 จะมีรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ เช่น Xiaomi 17 Pro Max ที่มีหน้าจอด้านหลังและแบตเตอรี่ใหญ่ถึง 7,500mAh, Samsung Galaxy Z TriFold ที่พับได้สามตอนกลายเป็นแท็บเล็ต 10 นิ้ว, iPhone Fold ที่คาดว่าจะเปิดตัวพร้อม iPhone 18 และอาจเป็นรุ่นแรกที่ไม่มีรอยพับให้เห็น รวมถึง OnePlus 16 ที่สืบต่อความแรงจากรุ่นก่อน และ Ayaneo Pocket Play ที่รวมมือถือกับเครื่องเล่นเกมพกพาในเครื่องเดียว ทั้งหมดนี้คือการกลับมาของความตื่นเต้นในโลกสมาร์ทโฟน 🔗 https://www.techradar.com/phones/bored-with-smartphones-these-5-upcoming-flagships-could-change-your-mind-in-2026 🏡 รีวิว Ring Outdoor Cam Pro กล้องรักษาความปลอดภัย 4K Ring เปิดตัว Outdoor Cam Pro กล้องรักษาความปลอดภัยที่มาพร้อมความละเอียด 4K และซูมได้ถึง 10 เท่า ทำให้ภาพคมชัดกว่ารุ่นก่อนมาก กล้องนี้ต้องใช้ไฟบ้านเท่านั้น แต่ข้อดีคือสามารถบันทึกวิดีโอ 24/7 ได้เต็มรูปแบบ หากสมัครแพ็กเกจ Premium ที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ฟีเจอร์เด่นคือ Smart Video Search ที่ใช้ AI ค้นหาภาพจากคำ เช่น “คนใส่เสื้อสีแดง” และยังมีเสียงไซเรน 85dB รวมถึงระบบเสียงสองทางเพื่อสื่อสารกับผู้ที่อยู่หน้ากล้อง แม้ราคาจะสูงและต้องพึ่งพาการสมัครสมาชิก แต่คุณภาพของภาพและความสามารถขั้นสูงทำให้มันเป็นตัวเลือกที่จริงจังสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/home/home-security/ring-outdoor-cam-pro-review
    0 Comments 0 Shares 473 Views 0 Reviews
  • สมองมนุษย์ยังเหนือกว่า AI ด้วย "เลโก้ทางปัญญา"

    งานวิจัยจาก Princeton University เผยว่าแม้ AI จะทำงานได้เก่งในงานเฉพาะ แต่สมองมนุษย์ยังมีความสามารถที่เหนือกว่าในการ โอนย้ายทักษะจากงานหนึ่งไปสู่อีกงานหนึ่ง ผ่านสิ่งที่นักวิจัยเรียกว่า “cognitive Legos” หรือบล็อกทางปัญญาที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่และประกอบเข้าด้วยกันเพื่อสร้างการแก้ปัญหาใหม่ ๆ

    การทดลองกับลิง Rhesus
    ทีมวิจัยใช้ลิง Rhesus macaques ในการทดลอง โดยให้พวกมันแยกแยะรูปทรงและสีบนหน้าจอ พร้อมตอบสนองด้วยการมองไปในทิศทางที่ถูกต้อง ขณะเดียวกันมีการสแกนสมองเพื่อดูรูปแบบการทำงาน พบว่าเซลล์ประสาทในสมองสามารถจัดกลุ่มเป็นบล็อกที่ใช้ซ้ำได้ในหลายงาน ซึ่งต่างจาก AI ที่มักเกิดปัญหา catastrophic forgetting คือเมื่อเรียนงานใหม่แล้วลืมงานเก่า

    ความยืดหยุ่นของสมอง
    นักวิจัยอธิบายว่า สมองสามารถ “ปิด” บล็อกที่ไม่จำเป็นในขณะทำงาน และ “เปิด” บล็อกที่เกี่ยวข้องได้ตามสถานการณ์ คล้ายกับการเรียกใช้ฟังก์ชันในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สิ่งนี้ทำให้มนุษย์สามารถปรับตัวกับงานใหม่ ๆ ได้รวดเร็ว โดยอาศัยความรู้เดิมที่มีอยู่แล้ว ซึ่งเป็นจุดที่ AI ยังไม่สามารถเลียนแบบได้เต็มที่

    ความหมายต่ออนาคต
    การค้นพบนี้ไม่เพียงช่วยให้เข้าใจความยืดหยุ่นของสมองมนุษย์ แต่ยังอาจนำไปใช้ในการพัฒนา AI ที่สามารถเรียนรู้หลายงานโดยไม่ลืมงานเดิม รวมถึงการรักษาโรคทางระบบประสาทและจิตเวชที่เกี่ยวข้องกับการขาดความสามารถในการปรับใช้ทักษะในบริบทใหม่ ๆ

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบจากงานวิจัย
    สมองมนุษย์ใช้ “cognitive Legos” เพื่อโอนย้ายทักษะ
    สามารถปรับตัวกับงานใหม่ได้ดีกว่า AI

    การทดลอง
    ใช้ลิง Rhesus macaques ในการทดสอบ
    พบการจัดกลุ่มเซลล์สมองเป็นบล็อกที่ใช้ซ้ำได้

    ความหมาย
    อธิบายความยืดหยุ่นของสมองมนุษย์
    ช่วยพัฒนา AI และการรักษาโรคทางสมอง

    ข้อจำกัด
    AI ยังมีปัญหา catastrophic forgetting
    ต้องการการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อประยุกต์ใช้กับมนุษย์และการแพทย์

    https://www.sciencealert.com/our-brains-can-still-outsmart-ai-using-one-clever-trick
    🧠 สมองมนุษย์ยังเหนือกว่า AI ด้วย "เลโก้ทางปัญญา" งานวิจัยจาก Princeton University เผยว่าแม้ AI จะทำงานได้เก่งในงานเฉพาะ แต่สมองมนุษย์ยังมีความสามารถที่เหนือกว่าในการ โอนย้ายทักษะจากงานหนึ่งไปสู่อีกงานหนึ่ง ผ่านสิ่งที่นักวิจัยเรียกว่า “cognitive Legos” หรือบล็อกทางปัญญาที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่และประกอบเข้าด้วยกันเพื่อสร้างการแก้ปัญหาใหม่ ๆ 🔬 การทดลองกับลิง Rhesus ทีมวิจัยใช้ลิง Rhesus macaques ในการทดลอง โดยให้พวกมันแยกแยะรูปทรงและสีบนหน้าจอ พร้อมตอบสนองด้วยการมองไปในทิศทางที่ถูกต้อง ขณะเดียวกันมีการสแกนสมองเพื่อดูรูปแบบการทำงาน พบว่าเซลล์ประสาทในสมองสามารถจัดกลุ่มเป็นบล็อกที่ใช้ซ้ำได้ในหลายงาน ซึ่งต่างจาก AI ที่มักเกิดปัญหา catastrophic forgetting คือเมื่อเรียนงานใหม่แล้วลืมงานเก่า 🛠️ ความยืดหยุ่นของสมอง นักวิจัยอธิบายว่า สมองสามารถ “ปิด” บล็อกที่ไม่จำเป็นในขณะทำงาน และ “เปิด” บล็อกที่เกี่ยวข้องได้ตามสถานการณ์ คล้ายกับการเรียกใช้ฟังก์ชันในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สิ่งนี้ทำให้มนุษย์สามารถปรับตัวกับงานใหม่ ๆ ได้รวดเร็ว โดยอาศัยความรู้เดิมที่มีอยู่แล้ว ซึ่งเป็นจุดที่ AI ยังไม่สามารถเลียนแบบได้เต็มที่ 🌍 ความหมายต่ออนาคต การค้นพบนี้ไม่เพียงช่วยให้เข้าใจความยืดหยุ่นของสมองมนุษย์ แต่ยังอาจนำไปใช้ในการพัฒนา AI ที่สามารถเรียนรู้หลายงานโดยไม่ลืมงานเดิม รวมถึงการรักษาโรคทางระบบประสาทและจิตเวชที่เกี่ยวข้องกับการขาดความสามารถในการปรับใช้ทักษะในบริบทใหม่ ๆ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบจากงานวิจัย ➡️ สมองมนุษย์ใช้ “cognitive Legos” เพื่อโอนย้ายทักษะ ➡️ สามารถปรับตัวกับงานใหม่ได้ดีกว่า AI ✅ การทดลอง ➡️ ใช้ลิง Rhesus macaques ในการทดสอบ ➡️ พบการจัดกลุ่มเซลล์สมองเป็นบล็อกที่ใช้ซ้ำได้ ✅ ความหมาย ➡️ อธิบายความยืดหยุ่นของสมองมนุษย์ ➡️ ช่วยพัฒนา AI และการรักษาโรคทางสมอง ‼️ ข้อจำกัด ⛔ AI ยังมีปัญหา catastrophic forgetting ⛔ ต้องการการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อประยุกต์ใช้กับมนุษย์และการแพทย์ https://www.sciencealert.com/our-brains-can-still-outsmart-ai-using-one-clever-trick
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Our Brains Can Still Outsmart AI Using One Clever Trick
    Despite the rapid advances in artificial intelligence in recent years, the humble human brain still has the edge over computers in its ability to transfer skills and learn across tasks.
    0 Comments 0 Shares 172 Views 0 Reviews
More Results