• ก้าวใหม่แห่งการรักษา: สเต็มเซลล์ช่วยฟื้นฟูการมองเห็น

    ทีมนักวิจัยจากสหรัฐฯ ได้ทดลองการรักษา Age-related Macular Degeneration (AMD) ด้วยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ชนิดใหม่เข้าสู่จอประสาทตา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการทดสอบในมนุษย์ ผลการทดลองเบื้องต้นชี้ว่าการรักษานี้ไม่เพียงปลอดภัย แต่ยังช่วยให้ผู้ป่วยที่มีสายตาเลือนรางกลับมามองเห็นได้ชัดเจนขึ้น

    รายละเอียดการทดลอง
    ผู้เข้าร่วมการทดลองมีอายุระหว่าง 71–86 ปี และป่วยด้วย AMD แบบ “dry” ซึ่งเป็นชนิดที่พบมากที่สุดและทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างค่อยเป็นค่อยไป นักวิจัยได้ฉีดเซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถพัฒนาเป็น Retinal Pigment Epithelial cells (RPEs) จำนวน 50,000 เซลล์เข้าไปใต้จอประสาทตาในตาข้างที่มีปัญหามากที่สุด ผลลัพธ์หลัง 1 ปีพบว่าผู้ป่วยที่มีสายตาแย่ที่สุดสามารถอ่านตัวอักษรบนแผ่นทดสอบสายตาได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 21 ตัว

    ผลลัพธ์ที่น่าตื่นเต้น
    สิ่งที่ทำให้นักวิจัยประหลาดใจคือการฟื้นฟูการมองเห็นที่ชัดเจนในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงที่สุด ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการรักษา AMD ขั้นสูง การทดลองยังไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น การเกิดเนื้องอกหรือปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันที่เป็นอันตราย

    ความท้าทายและอนาคต
    แม้ผลลัพธ์จะเป็นสัญญาณที่ดี แต่การทดลองยังอยู่ในระยะต้น (Phase 1/2a) และต้องใช้เวลาติดตามผลระยะยาว รวมถึงการทดสอบในปริมาณเซลล์ที่มากขึ้นเพื่อยืนยันประสิทธิภาพ หากสำเร็จ การรักษานี้อาจกลายเป็นความหวังใหม่สำหรับผู้สูงอายุที่เสี่ยงตาบอดจาก AMD

    สรุปสาระสำคัญ
    การรักษาใหม่ด้วยสเต็มเซลล์
    ใช้เซลล์ต้นกำเนิด RPE ปลูกถ่ายใต้จอประสาทตา
    เป็นการทดลองครั้งแรกในมนุษย์

    ผลการทดลองเบื้องต้น
    ผู้ป่วยสายตาเลือนรางเห็นตัวอักษรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 21 ตัว
    ไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง

    ศักยภาพในอนาคต
    อาจช่วยฟื้นฟูการมองเห็นในผู้สูงอายุ
    ลดความเสี่ยงตาบอดจาก AMD

    ข้อควรระวัง
    ยังอยู่ในระยะทดลอง ต้องติดตามผลระยะยาว
    ต้องทดสอบในปริมาณเซลล์ที่มากขึ้น
    ยังไม่สามารถใช้เป็นการรักษามาตรฐานได้ทันที

    https://www.sciencealert.com/first-of-its-kind-treatment-boosts-vision-in-human-trial-scientists-report
    👁️ ก้าวใหม่แห่งการรักษา: สเต็มเซลล์ช่วยฟื้นฟูการมองเห็น ทีมนักวิจัยจากสหรัฐฯ ได้ทดลองการรักษา Age-related Macular Degeneration (AMD) ด้วยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ชนิดใหม่เข้าสู่จอประสาทตา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการทดสอบในมนุษย์ ผลการทดลองเบื้องต้นชี้ว่าการรักษานี้ไม่เพียงปลอดภัย แต่ยังช่วยให้ผู้ป่วยที่มีสายตาเลือนรางกลับมามองเห็นได้ชัดเจนขึ้น 🔬 รายละเอียดการทดลอง ผู้เข้าร่วมการทดลองมีอายุระหว่าง 71–86 ปี และป่วยด้วย AMD แบบ “dry” ซึ่งเป็นชนิดที่พบมากที่สุดและทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างค่อยเป็นค่อยไป นักวิจัยได้ฉีดเซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถพัฒนาเป็น Retinal Pigment Epithelial cells (RPEs) จำนวน 50,000 เซลล์เข้าไปใต้จอประสาทตาในตาข้างที่มีปัญหามากที่สุด ผลลัพธ์หลัง 1 ปีพบว่าผู้ป่วยที่มีสายตาแย่ที่สุดสามารถอ่านตัวอักษรบนแผ่นทดสอบสายตาได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 21 ตัว 🌟 ผลลัพธ์ที่น่าตื่นเต้น สิ่งที่ทำให้นักวิจัยประหลาดใจคือการฟื้นฟูการมองเห็นที่ชัดเจนในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงที่สุด ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการรักษา AMD ขั้นสูง การทดลองยังไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น การเกิดเนื้องอกหรือปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันที่เป็นอันตราย ⚠️ ความท้าทายและอนาคต แม้ผลลัพธ์จะเป็นสัญญาณที่ดี แต่การทดลองยังอยู่ในระยะต้น (Phase 1/2a) และต้องใช้เวลาติดตามผลระยะยาว รวมถึงการทดสอบในปริมาณเซลล์ที่มากขึ้นเพื่อยืนยันประสิทธิภาพ หากสำเร็จ การรักษานี้อาจกลายเป็นความหวังใหม่สำหรับผู้สูงอายุที่เสี่ยงตาบอดจาก AMD 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การรักษาใหม่ด้วยสเต็มเซลล์ ➡️ ใช้เซลล์ต้นกำเนิด RPE ปลูกถ่ายใต้จอประสาทตา ➡️ เป็นการทดลองครั้งแรกในมนุษย์ ✅ ผลการทดลองเบื้องต้น ➡️ ผู้ป่วยสายตาเลือนรางเห็นตัวอักษรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 21 ตัว ➡️ ไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง ✅ ศักยภาพในอนาคต ➡️ อาจช่วยฟื้นฟูการมองเห็นในผู้สูงอายุ ➡️ ลดความเสี่ยงตาบอดจาก AMD ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ยังอยู่ในระยะทดลอง ต้องติดตามผลระยะยาว ⛔ ต้องทดสอบในปริมาณเซลล์ที่มากขึ้น ⛔ ยังไม่สามารถใช้เป็นการรักษามาตรฐานได้ทันที https://www.sciencealert.com/first-of-its-kind-treatment-boosts-vision-in-human-trial-scientists-report
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    First-of-Its-Kind Treatment Boosts Vision in Human Trial, Scientists Report
    Taking a photo of a friend? You've probably got their face centered and focused.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251126 #TechRadar

    Amazon ทุ่มงบ 50 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างระบบ AI และ HPC สำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ
    เรื่องนี้เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของ Amazon ที่ต้องการยกระดับศักยภาพด้านการประมวลผลให้กับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ โดยจะเน้นไปที่งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ความมั่นคงไซเบอร์ พลังงาน และการแพทย์ การลงทุนนี้จะเพิ่มกำลังการประมวลผลกว่า 1.3 กิกะวัตต์ในระบบคลาวด์ของรัฐบาล ทำให้สามารถทำงานจำลองและวิเคราะห์ข้อมูลได้เร็วขึ้นมาก AWS CEO กล่าวว่านี่คือการเปิดทางให้หน่วยงานรัฐเข้าถึง AI ขั้นสูงเพื่อเร่งภารกิจสำคัญของประเทศ
    https://www.techradar.com/pro/talk-about-an-upgrade-amazon-is-spending-usd50-billion-on-new-ai-and-hpc-hardware-for-the-us-government

    ข่าวลือราคา iPhone พับได้ อาจสูงถึง $2,399 ทำให้ iPad Mini 8 ดูคุ้มกว่า
    มีรายงานจาก Fubon Research ว่า iPhone รุ่นพับได้ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 อาจมีราคาสูงถึง $2,399 ซึ่งถือว่าแพงกว่าที่หลายคนคาดไว้ แม้จะมีข่าวดีว่าหน้าจออาจไร้รอยพับ แต่ราคาที่สูงขนาดนี้ทำให้หลายคนมองว่าซื้อ iPhone รุ่นปกติพร้อม iPad Mini 8 อาจจะคุ้มกว่า เพราะได้สองหน้าจอในราคาที่ใกล้เคียงกัน การเปิดตัวคาดว่าจะใช้ชื่อ “iPhone Fold” และอยู่ในขั้นตอนการทดสอบก่อนผลิตจริง
    https://www.techradar.com/phones/iphone/if-the-latest-foldable-iphone-price-rumor-is-correct-the-ipad-mini-8-will-be-the-only-sensible-choice

    ช่องโหว่ที่ซ่อนอยู่ในระบบ Cloud Security
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการใช้ระบบคลาวด์หลายเจ้า (multicloud) และการนำ AI หรือ container มาใช้งาน ทำให้เกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่องค์กรอาจมองไม่เห็น โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายข้อมูลภายใน (east-west traffic) และการส่งข้อมูลออกไปภายนอก (egress traffic) ที่มักไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนวคิดใหม่ “Cloud Native Security Fabric” ที่ฝังระบบรักษาความปลอดภัยเข้าไปในโครงสร้างเครือข่ายโดยตรง เพื่อให้สามารถปรับตัวได้ตามการเปลี่ยนแปลงของ workload แบบเรียลไทม์
    https://www.techradar.com/pro/the-hidden-gaps-in-your-cloud-security-fabric

    Gemini 3 กับ Nano Banana Pro: AI ที่เปลี่ยนการแต่งภาพให้เหมือนงานศิลป์
    Google เปิดตัวเครื่องมือแก้ไขภาพด้วย AI ที่ชื่อ Nano Banana Pro ซึ่งใช้พลังจาก Gemini 3 จุดเด่นคือสามารถปรับแสงเหมือนเปลี่ยนบรรยากาศจริง เช่น จากภาพธรรมดาให้กลายเป็นช่วง golden hour หรือเปลี่ยนฉากหลังโดยไม่ทำให้ตัวแบบดูหลุดออกจากภาพ นอกจากนี้ยังสามารถย้ายวัตถุหรือปรับโครงสร้างภาพได้อย่างสมจริง ทำให้การแก้ไขภาพซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่บอกคำสั่งเหมือนเล่าให้คนเข้าใจ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/gemini-3s-nano-banana-pro-photo-editing-is-amazing-here-are-3-ways-to-make-the-most-of-it

    สิ้นสุดการสนับสนุน vSphere 7: Broadcom ปรับโมเดลราคาใหม่จนลูกค้าหนักใจ
    หลังจาก Broadcom เข้าซื้อ VMware ด้วยมูลค่า 61 พันล้านดอลลาร์ ก็มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ ทั้งการยกเลิกการขายแบบ perpetual license และเปลี่ยนเป็น subscription bundles ทำให้ต้นทุนของลูกค้าเพิ่มขึ้นหลายเท่า การสิ้นสุดการสนับสนุน vSphere 7 ในเดือนตุลาคม 2025 ยิ่งสร้างแรงกดดันให้ธุรกิจต้องหาทางเลือกใหม่ หลายองค์กรเริ่มมองหาผู้ให้บริการรายอื่นหรือใช้ third-party support เพื่อคงระบบเดิมไว้โดยไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายสูงตามโมเดลใหม่
    https://www.techradar.com/pro/vsphere-7-support-ends-the-challenges-of-broadcoms-new-licensing-and-pricing-models

    Linux OS มียอดดาวน์โหลดทะลุหนึ่งล้านครั้งหลัง Windows 10 หมดการสนับสนุน
    หลังจาก Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากหันไปหา Linux OS ทางเลือกใหม่ที่มีความปลอดภัยและเสถียร โดยมีรายงานว่ามียอดดาวน์โหลดทะลุหนึ่งล้านครั้งในเวลาไม่นาน ความนิยมนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้ใช้เริ่มมองหาทางเลือกที่ไม่ต้องพึ่งพา Windows และยังได้ฟีเจอร์ที่ทันสมัยพร้อมการอัปเดตต่อเนื่องจากชุมชนโอเพ่นซอร์ส
    https://www.techradar.com/computing/windows/this-linux-os-has-got-a-million-downloads-since-windows-10-support-ended-should-microsoft-start-worrying-now

    ChatGPT เปิดตัวฟีเจอร์ Agent ให้ผู้ใช้สั่งงานแล้วปล่อยให้ทำเอง
    ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่ชื่อว่า Agent ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งภารกิจ เช่น ค้นหาข้อมูลหรือจัดการงาน แล้วปล่อยให้ระบบทำงานต่อเองโดยไม่ต้องติดตามตลอดเวลา ถือเป็นการยกระดับจากการสนทนาแบบโต้ตอบไปสู่การทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับงานอื่นได้ในขณะที่ AI ทำงานเบื้องหลัง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-agent-feature-lets-you-assign-tasks-and-walk-away-heres-how-it-works

    มหาวิทยาลัย Harvard เผยข้อมูลรั่วไหลกระทบศิษย์เก่าและผู้บริจาค
    Harvard University ประกาศว่ามีการโจมตีทางไซเบอร์ที่ทำให้ข้อมูลของศิษย์เก่าและผู้บริจาคถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้อง มหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการตรวจสอบและเสริมมาตรการความปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
    https://www.techradar.com/pro/security/harvard-university-reveals-data-breach-hitting-alumni-and-donors

    Zero Trust มี 3 ระดับความเร็วในการปรับใช้
    แนวคิด Zero Trust ที่เน้นการตรวจสอบทุกการเข้าถึงระบบ ไม่ว่าจะมาจากภายในหรือภายนอกองค์กร ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับความเร็วในการนำไปใช้ ได้แก่ ระดับเริ่มต้นที่เน้นการควบคุมพื้นฐาน ระดับกลางที่เริ่มใช้ระบบอัตโนมัติ และระดับสูงสุดที่ผสาน AI และการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อสร้างความปลอดภัยแบบครบวงจร องค์กรสามารถเลือกปรับใช้ตามความพร้อมและทรัพยากรที่มี
    https://www.techradar.com/pro/the-three-speeds-of-zero-trust

    iLamp พลังงานแสงอาทิตย์ เปลี่ยนเสาไฟให้กลายเป็นศูนย์กลาง AI
    นวัตกรรมใหม่ที่ชื่อว่า iLamp ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และติดตั้งระบบ AI ภายในเสาไฟ ทำให้สามารถทำหน้าที่มากกว่าแค่ให้แสงสว่าง เช่น การตรวจสอบสภาพแวดล้อม การเชื่อมต่อกับระบบเมืองอัจฉริยะ และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการเปลี่ยนเสาไฟธรรมดาให้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของเมืองในอนาคต
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/solar-powered-ilamp-turns-the-humble-lamppost-into-an-ai-hub

    CEO Salesforce หันหลังให้ ChatGPT หันไปหา Gemini 3
    Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce สร้างความฮือฮาเมื่อประกาศเลิกใช้ ChatGPT หลังจากได้ลอง Google Gemini 3 เพียงสองชั่วโมง เขายกย่อง Gemini 3 ว่าเหนือกว่าในด้านความเร็ว การให้เหตุผล และความสามารถแบบมัลติโหมดที่รองรับทั้งข้อความ ภาพ เสียง และวิดีโอ การเปลี่ยนใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในโลก AI และอาจส่งผลต่อทิศทางการใช้งาน AI ในองค์กรระดับโลก
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/the-leap-is-insane-salesforce-ceo-swaps-chatgpt-for-gemini-3-and-says-hes-not-going-back

    โน้ตบุ๊ก Geekom GeekBook X14 Pro เบาแต่แรง
    Geekom เปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ GeekBook X14 Pro ที่มีน้ำหนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัม แต่สเปกจัดเต็มด้วย Intel Core Ultra 9 และ Intel Arc GPU ที่รองรับการเร่งผลกราฟิกด้วย AI หน้าจอ OLED ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K พร้อมรีเฟรชเรต 120Hz ทำให้ภาพคมชัดและสดใส แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมง และรองรับชาร์จเร็ว จุดเด่นคือความเบาและพกพาสะดวก แต่ยังคงประสิทธิภาพสูงสำหรับงานหนักและงานสร้างสรรค์
    https://www.techradar.com/pro/geekoms-new-laptop-offers-a-bright-and-wide-screen-impressive-hardware-but-it-weighs-less-than-a-bag-of-sugar

    บั๊ก Windows 11 เล่นงานการ์ดจอ Nvidia RTX 5090
    การอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคมทำให้เกิดปัญหากับเกมเมอร์ โดยเฉพาะเกม Assassin’s Creed Shadows ที่เฟรมเรตตกลงถึง 50% แม้ใช้การ์ดจอระดับเทพ RTX 5090 Nvidia ต้องรีบออกแพตช์แก้ไขฉุกเฉิน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าต้นเหตุจริง ๆ มาจาก Microsoft หรือ Nvidia เอง ปัญหานี้ทำให้ผู้ใช้หลายคนต้องหาทางแก้ชั่วคราว เช่น ปิดฟีเจอร์ Resizable Bar เพื่อให้เล่นเกมได้ลื่นขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/gpu/possible-windows-11-bug-with-nvidia-gpus-tanks-assassins-creed-shadows-performance-bringing-even-an-rtx-5090-to-its-knees

    แฟนเทคโนโลยีย้อนยุคสร้างเครื่องอ่านเทปเจาะรู
    นักประดิษฐ์สายเรโทรได้สร้างเครื่องอ่านเทปเจาะรูขึ้นใหม่ โดยใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์และเซ็นเซอร์แสงสมัยใหม่แทนกลไกเก่า ๆ เครื่องนี้สามารถอ่านข้อมูลจากเทปกระดาษได้ แม้ความเร็วจะอยู่ที่ประมาณ 50 ไบต์ต่อวินาที ซึ่งถือว่าช้ามากเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน แต่ก็เป็นการรื้อฟื้นเทคโนโลยีเก่าที่เคยมีบทบาทสำคัญในยุคแรกของคอมพิวเตอร์ จุดประสงค์หลักคือการทดลองและอนุรักษ์ ไม่ใช่การใช้งานจริง
    https://www.techradar.com/pro/retro-computer-boffin-creates-a-freshly-created-perforated-tape-reader-just-dont-expect-high-data-reading-speeds

    DeepSeek-R1 ผู้ช่วย AI จากจีนเริ่มสะดุด DeepSeek-R1 ที่เคยถูกยกย่องว่าเป็นดาวรุ่งแห่งวงการ AI ตอนนี้กลับถูกวิจารณ์หนัก เพราะไม่สามารถจัดการกับหัวข้ออ่อนไหวได้ดี แถมยังสร้างโค้ดที่ผิดพลาดและมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย นักพัฒนาองค์กรที่เคยหวังพึ่งพากลับต้องระวังมากขึ้น เพราะความผิดพลาดเหล่านี้อาจนำไปสู่หายนะด้านความปลอดภัยในระบบใหญ่ ๆ ได้ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าการพัฒนา AI ไม่ใช่แค่เรื่องความฉลาด แต่ต้องมั่นคงและปลอดภัยด้วย https://www.techradar.com/pro/deepseek-took-off-as-an-ai-superstar-a-year-ago-but-could-it-also-be-a-major-security-risk-these-experts-think-so

    แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นนักข่าว TechCrunch
    มีการเปิดโปงว่าแฮกเกอร์จำนวนมากกำลังสวมรอยเป็นผู้สื่อข่าวจาก TechCrunch เพื่อหลอกบริษัทต่าง ๆ ให้เปิดเผยข้อมูลลับ ทั้งผ่านอีเมลและการโทรศัพท์ พวกเขาใช้ความน่าเชื่อถือของสื่อใหญ่เป็นเครื่องมือในการโจมตี ทำให้หลายองค์กรตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าการตรวจสอบแหล่งที่มาของการติดต่อเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินล้ำค่า
    https://www.techradar.com/pro/hackers-impersonate-techcrunch-reporters-to-steal-sensitive-information-but-you-can-always-trust-us

    แผน AI ระดับโลกของรัฐบาล Trump
    รัฐบาลสหรัฐภายใต้ Donald Trump ได้เปิดตัวแผนการครอบครองความเป็นผู้นำด้าน AI ระดับโลก โดยมีเป้าหมายผลักดันให้สหรัฐเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี AI ที่เหนือกว่าประเทศอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนตั้งคำถามว่าแผนนี้อาจมีช่องโหว่และความเสี่ยง ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความปลอดภัย เพราะการเร่งรีบเพื่อครองความเป็นใหญ่ อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-trump-administration-just-launched-its-own-plan-for-global-ai-dominance-and-what-could-go-wrong

    Meta เปิดโปรแกรมแลกเปลี่ยน Ray-Ban Smart Glasses
    Meta เปิดตัวโปรแกรมใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถนำ AirPods มาแลกเป็นแว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban ได้ แต่มีเงื่อนไขบางอย่างที่ต้องระวัง เช่น รุ่นที่สามารถแลกได้ และข้อจำกัดในการใช้งาน แม้จะเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากลองเทคโนโลยีใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้สิทธิ์นี้ทันที
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/metas-new-ray-ban-trade-in-program-lets-you-swap-your-airpods-for-smart-glasses-but-theres-a-catch
    📌📡🟢 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟢📡📌 #รวมข่าวIT #20251126 #TechRadar 🖥️ Amazon ทุ่มงบ 50 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างระบบ AI และ HPC สำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ เรื่องนี้เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของ Amazon ที่ต้องการยกระดับศักยภาพด้านการประมวลผลให้กับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ โดยจะเน้นไปที่งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ความมั่นคงไซเบอร์ พลังงาน และการแพทย์ การลงทุนนี้จะเพิ่มกำลังการประมวลผลกว่า 1.3 กิกะวัตต์ในระบบคลาวด์ของรัฐบาล ทำให้สามารถทำงานจำลองและวิเคราะห์ข้อมูลได้เร็วขึ้นมาก AWS CEO กล่าวว่านี่คือการเปิดทางให้หน่วยงานรัฐเข้าถึง AI ขั้นสูงเพื่อเร่งภารกิจสำคัญของประเทศ 🔗 https://www.techradar.com/pro/talk-about-an-upgrade-amazon-is-spending-usd50-billion-on-new-ai-and-hpc-hardware-for-the-us-government 📱 ข่าวลือราคา iPhone พับได้ อาจสูงถึง $2,399 ทำให้ iPad Mini 8 ดูคุ้มกว่า มีรายงานจาก Fubon Research ว่า iPhone รุ่นพับได้ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 อาจมีราคาสูงถึง $2,399 ซึ่งถือว่าแพงกว่าที่หลายคนคาดไว้ แม้จะมีข่าวดีว่าหน้าจออาจไร้รอยพับ แต่ราคาที่สูงขนาดนี้ทำให้หลายคนมองว่าซื้อ iPhone รุ่นปกติพร้อม iPad Mini 8 อาจจะคุ้มกว่า เพราะได้สองหน้าจอในราคาที่ใกล้เคียงกัน การเปิดตัวคาดว่าจะใช้ชื่อ “iPhone Fold” และอยู่ในขั้นตอนการทดสอบก่อนผลิตจริง 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/if-the-latest-foldable-iphone-price-rumor-is-correct-the-ipad-mini-8-will-be-the-only-sensible-choice 🔒 ช่องโหว่ที่ซ่อนอยู่ในระบบ Cloud Security บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการใช้ระบบคลาวด์หลายเจ้า (multicloud) และการนำ AI หรือ container มาใช้งาน ทำให้เกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่องค์กรอาจมองไม่เห็น โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายข้อมูลภายใน (east-west traffic) และการส่งข้อมูลออกไปภายนอก (egress traffic) ที่มักไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนวคิดใหม่ “Cloud Native Security Fabric” ที่ฝังระบบรักษาความปลอดภัยเข้าไปในโครงสร้างเครือข่ายโดยตรง เพื่อให้สามารถปรับตัวได้ตามการเปลี่ยนแปลงของ workload แบบเรียลไทม์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-hidden-gaps-in-your-cloud-security-fabric 🎨 Gemini 3 กับ Nano Banana Pro: AI ที่เปลี่ยนการแต่งภาพให้เหมือนงานศิลป์ Google เปิดตัวเครื่องมือแก้ไขภาพด้วย AI ที่ชื่อ Nano Banana Pro ซึ่งใช้พลังจาก Gemini 3 จุดเด่นคือสามารถปรับแสงเหมือนเปลี่ยนบรรยากาศจริง เช่น จากภาพธรรมดาให้กลายเป็นช่วง golden hour หรือเปลี่ยนฉากหลังโดยไม่ทำให้ตัวแบบดูหลุดออกจากภาพ นอกจากนี้ยังสามารถย้ายวัตถุหรือปรับโครงสร้างภาพได้อย่างสมจริง ทำให้การแก้ไขภาพซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่บอกคำสั่งเหมือนเล่าให้คนเข้าใจ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/gemini-3s-nano-banana-pro-photo-editing-is-amazing-here-are-3-ways-to-make-the-most-of-it 💸 สิ้นสุดการสนับสนุน vSphere 7: Broadcom ปรับโมเดลราคาใหม่จนลูกค้าหนักใจ หลังจาก Broadcom เข้าซื้อ VMware ด้วยมูลค่า 61 พันล้านดอลลาร์ ก็มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ ทั้งการยกเลิกการขายแบบ perpetual license และเปลี่ยนเป็น subscription bundles ทำให้ต้นทุนของลูกค้าเพิ่มขึ้นหลายเท่า การสิ้นสุดการสนับสนุน vSphere 7 ในเดือนตุลาคม 2025 ยิ่งสร้างแรงกดดันให้ธุรกิจต้องหาทางเลือกใหม่ หลายองค์กรเริ่มมองหาผู้ให้บริการรายอื่นหรือใช้ third-party support เพื่อคงระบบเดิมไว้โดยไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายสูงตามโมเดลใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/vsphere-7-support-ends-the-challenges-of-broadcoms-new-licensing-and-pricing-models 🐧 Linux OS มียอดดาวน์โหลดทะลุหนึ่งล้านครั้งหลัง Windows 10 หมดการสนับสนุน หลังจาก Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากหันไปหา Linux OS ทางเลือกใหม่ที่มีความปลอดภัยและเสถียร โดยมีรายงานว่ามียอดดาวน์โหลดทะลุหนึ่งล้านครั้งในเวลาไม่นาน ความนิยมนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้ใช้เริ่มมองหาทางเลือกที่ไม่ต้องพึ่งพา Windows และยังได้ฟีเจอร์ที่ทันสมัยพร้อมการอัปเดตต่อเนื่องจากชุมชนโอเพ่นซอร์ส 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/this-linux-os-has-got-a-million-downloads-since-windows-10-support-ended-should-microsoft-start-worrying-now 🤖 ChatGPT เปิดตัวฟีเจอร์ Agent ให้ผู้ใช้สั่งงานแล้วปล่อยให้ทำเอง ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่ชื่อว่า Agent ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งภารกิจ เช่น ค้นหาข้อมูลหรือจัดการงาน แล้วปล่อยให้ระบบทำงานต่อเองโดยไม่ต้องติดตามตลอดเวลา ถือเป็นการยกระดับจากการสนทนาแบบโต้ตอบไปสู่การทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับงานอื่นได้ในขณะที่ AI ทำงานเบื้องหลัง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-agent-feature-lets-you-assign-tasks-and-walk-away-heres-how-it-works 🏫 มหาวิทยาลัย Harvard เผยข้อมูลรั่วไหลกระทบศิษย์เก่าและผู้บริจาค Harvard University ประกาศว่ามีการโจมตีทางไซเบอร์ที่ทำให้ข้อมูลของศิษย์เก่าและผู้บริจาคถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้อง มหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการตรวจสอบและเสริมมาตรการความปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/harvard-university-reveals-data-breach-hitting-alumni-and-donors 🛡️ Zero Trust มี 3 ระดับความเร็วในการปรับใช้ แนวคิด Zero Trust ที่เน้นการตรวจสอบทุกการเข้าถึงระบบ ไม่ว่าจะมาจากภายในหรือภายนอกองค์กร ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับความเร็วในการนำไปใช้ ได้แก่ ระดับเริ่มต้นที่เน้นการควบคุมพื้นฐาน ระดับกลางที่เริ่มใช้ระบบอัตโนมัติ และระดับสูงสุดที่ผสาน AI และการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อสร้างความปลอดภัยแบบครบวงจร องค์กรสามารถเลือกปรับใช้ตามความพร้อมและทรัพยากรที่มี 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-three-speeds-of-zero-trust 🌞 iLamp พลังงานแสงอาทิตย์ เปลี่ยนเสาไฟให้กลายเป็นศูนย์กลาง AI นวัตกรรมใหม่ที่ชื่อว่า iLamp ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และติดตั้งระบบ AI ภายในเสาไฟ ทำให้สามารถทำหน้าที่มากกว่าแค่ให้แสงสว่าง เช่น การตรวจสอบสภาพแวดล้อม การเชื่อมต่อกับระบบเมืองอัจฉริยะ และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการเปลี่ยนเสาไฟธรรมดาให้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของเมืองในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/solar-powered-ilamp-turns-the-humble-lamppost-into-an-ai-hub 🤖 CEO Salesforce หันหลังให้ ChatGPT หันไปหา Gemini 3 Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce สร้างความฮือฮาเมื่อประกาศเลิกใช้ ChatGPT หลังจากได้ลอง Google Gemini 3 เพียงสองชั่วโมง เขายกย่อง Gemini 3 ว่าเหนือกว่าในด้านความเร็ว การให้เหตุผล และความสามารถแบบมัลติโหมดที่รองรับทั้งข้อความ ภาพ เสียง และวิดีโอ การเปลี่ยนใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในโลก AI และอาจส่งผลต่อทิศทางการใช้งาน AI ในองค์กรระดับโลก 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/the-leap-is-insane-salesforce-ceo-swaps-chatgpt-for-gemini-3-and-says-hes-not-going-back 💻 โน้ตบุ๊ก Geekom GeekBook X14 Pro เบาแต่แรง Geekom เปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ GeekBook X14 Pro ที่มีน้ำหนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัม แต่สเปกจัดเต็มด้วย Intel Core Ultra 9 และ Intel Arc GPU ที่รองรับการเร่งผลกราฟิกด้วย AI หน้าจอ OLED ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K พร้อมรีเฟรชเรต 120Hz ทำให้ภาพคมชัดและสดใส แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมง และรองรับชาร์จเร็ว จุดเด่นคือความเบาและพกพาสะดวก แต่ยังคงประสิทธิภาพสูงสำหรับงานหนักและงานสร้างสรรค์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/geekoms-new-laptop-offers-a-bright-and-wide-screen-impressive-hardware-but-it-weighs-less-than-a-bag-of-sugar 🎮 บั๊ก Windows 11 เล่นงานการ์ดจอ Nvidia RTX 5090 การอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคมทำให้เกิดปัญหากับเกมเมอร์ โดยเฉพาะเกม Assassin’s Creed Shadows ที่เฟรมเรตตกลงถึง 50% แม้ใช้การ์ดจอระดับเทพ RTX 5090 Nvidia ต้องรีบออกแพตช์แก้ไขฉุกเฉิน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าต้นเหตุจริง ๆ มาจาก Microsoft หรือ Nvidia เอง ปัญหานี้ทำให้ผู้ใช้หลายคนต้องหาทางแก้ชั่วคราว เช่น ปิดฟีเจอร์ Resizable Bar เพื่อให้เล่นเกมได้ลื่นขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/possible-windows-11-bug-with-nvidia-gpus-tanks-assassins-creed-shadows-performance-bringing-even-an-rtx-5090-to-its-knees 📼 แฟนเทคโนโลยีย้อนยุคสร้างเครื่องอ่านเทปเจาะรู นักประดิษฐ์สายเรโทรได้สร้างเครื่องอ่านเทปเจาะรูขึ้นใหม่ โดยใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์และเซ็นเซอร์แสงสมัยใหม่แทนกลไกเก่า ๆ เครื่องนี้สามารถอ่านข้อมูลจากเทปกระดาษได้ แม้ความเร็วจะอยู่ที่ประมาณ 50 ไบต์ต่อวินาที ซึ่งถือว่าช้ามากเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน แต่ก็เป็นการรื้อฟื้นเทคโนโลยีเก่าที่เคยมีบทบาทสำคัญในยุคแรกของคอมพิวเตอร์ จุดประสงค์หลักคือการทดลองและอนุรักษ์ ไม่ใช่การใช้งานจริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/retro-computer-boffin-creates-a-freshly-created-perforated-tape-reader-just-dont-expect-high-data-reading-speeds 🧠 DeepSeek-R1 ผู้ช่วย AI จากจีนเริ่มสะดุด DeepSeek-R1 ที่เคยถูกยกย่องว่าเป็นดาวรุ่งแห่งวงการ AI ตอนนี้กลับถูกวิจารณ์หนัก เพราะไม่สามารถจัดการกับหัวข้ออ่อนไหวได้ดี แถมยังสร้างโค้ดที่ผิดพลาดและมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย นักพัฒนาองค์กรที่เคยหวังพึ่งพากลับต้องระวังมากขึ้น เพราะความผิดพลาดเหล่านี้อาจนำไปสู่หายนะด้านความปลอดภัยในระบบใหญ่ ๆ ได้ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าการพัฒนา AI ไม่ใช่แค่เรื่องความฉลาด แต่ต้องมั่นคงและปลอดภัยด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/deepseek-took-off-as-an-ai-superstar-a-year-ago-but-could-it-also-be-a-major-security-risk-these-experts-think-so 🕵️‍♂️ แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นนักข่าว TechCrunch มีการเปิดโปงว่าแฮกเกอร์จำนวนมากกำลังสวมรอยเป็นผู้สื่อข่าวจาก TechCrunch เพื่อหลอกบริษัทต่าง ๆ ให้เปิดเผยข้อมูลลับ ทั้งผ่านอีเมลและการโทรศัพท์ พวกเขาใช้ความน่าเชื่อถือของสื่อใหญ่เป็นเครื่องมือในการโจมตี ทำให้หลายองค์กรตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าการตรวจสอบแหล่งที่มาของการติดต่อเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินล้ำค่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/hackers-impersonate-techcrunch-reporters-to-steal-sensitive-information-but-you-can-always-trust-us 🌍 แผน AI ระดับโลกของรัฐบาล Trump รัฐบาลสหรัฐภายใต้ Donald Trump ได้เปิดตัวแผนการครอบครองความเป็นผู้นำด้าน AI ระดับโลก โดยมีเป้าหมายผลักดันให้สหรัฐเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี AI ที่เหนือกว่าประเทศอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนตั้งคำถามว่าแผนนี้อาจมีช่องโหว่และความเสี่ยง ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความปลอดภัย เพราะการเร่งรีบเพื่อครองความเป็นใหญ่ อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-trump-administration-just-launched-its-own-plan-for-global-ai-dominance-and-what-could-go-wrong 👓 Meta เปิดโปรแกรมแลกเปลี่ยน Ray-Ban Smart Glasses Meta เปิดตัวโปรแกรมใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถนำ AirPods มาแลกเป็นแว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban ได้ แต่มีเงื่อนไขบางอย่างที่ต้องระวัง เช่น รุ่นที่สามารถแลกได้ และข้อจำกัดในการใช้งาน แม้จะเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากลองเทคโนโลยีใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้สิทธิ์นี้ทันที ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/metas-new-ray-ban-trade-in-program-lets-you-swap-your-airpods-for-smart-glasses-but-theres-a-catch
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung เริ่มผลิตชิปหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 24Gb อย่างเป็นทางการ

    รายงานจาก Wccftech ระบุว่า Samsung ได้เข้าสู่ขั้นตอน mass production ของชิปหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 24Gb (3GB ต่อชิป) ที่มีความเร็ว 28Gbps โดยชิปนี้ถูกคาดว่าจะถูกใช้ใน NVIDIA GeForce RTX 50 series รุ่นใหม่ ยกเว้น RTX 5080 ที่จะใช้ชิปความเร็ว 30Gbps

    รายละเอียดทางเทคนิค
    ขนาดชิป: 24Gb (3GB ต่อชิป)
    ความเร็ว: 28Gbps (รุ่นที่ผลิตจริง), มีรุ่นทดสอบที่ 32Gbps และ 36Gbps
    รหัสชิป: K4vcf325zc-sc28 สำหรับรุ่น 28Gbps, และ sc32 / sc36 สำหรับรุ่นที่เร็วกว่า
    การใช้งาน: คาดว่าจะถูกใช้ใน RTX 5090, RTX 5070 Super และรุ่นอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความจุ VRAM และแบนด์วิดท์

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม GPU
    การผลิตชิป GDDR7 รุ่นใหม่เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาหน่วยความจำ DRAM กำลังพุ่งสูง ทำให้การเปิดตัว RTX 50 Super series อาจถูกเลื่อนออกไปถึงไตรมาส 3 ปี 2026 อย่างไรก็ตาม การมาถึงของ GDDR7 ความเร็วสูงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมและงาน AI ที่ต้องการแบนด์วิดท์สูงมาก

    สิ่งที่ต้องจับตา
    NVIDIA จะเลือกใช้ชิป 28Gbps หรือรุ่นที่เร็วกว่าในซีรีส์ Super
    ผลกระทบจากราคาหน่วยความจำที่สูง อาจทำให้การเปิดตัว GPU รุ่นใหม่ล่าช้า
    การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง SK hynix ที่เตรียมเปิดตัวชิป GDDR7 ความเร็ว 48Gbps ในปี 2026

    สรุปสาระสำคัญ
    Samsung เริ่มผลิต GDDR7 24Gb (28Gbps) อย่างเป็นทางการ
    มีรุ่นทดสอบที่เร็วกว่า (32Gbps และ 36Gbps)
    ใช้ใน RTX 50 series เพื่อเพิ่ม VRAM และแบนด์วิดท์
    ราคาหน่วยความจำสูงอาจทำให้การเปิดตัว RTX 50 Super series ล่าช้า
    ความเสี่ยง: การแข่งขันกับ SK hynix และผลกระทบจากต้นทุน DRAM
    สิ่งที่ต้องจับตา: NVIDIA จะเลือกใช้ชิปความเร็วใดในรุ่น Super

    https://wccftech.com/samsung-officially-starts-mass-producing-24-gb-gddr7/
    🏭 Samsung เริ่มผลิตชิปหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 24Gb อย่างเป็นทางการ รายงานจาก Wccftech ระบุว่า Samsung ได้เข้าสู่ขั้นตอน mass production ของชิปหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 24Gb (3GB ต่อชิป) ที่มีความเร็ว 28Gbps โดยชิปนี้ถูกคาดว่าจะถูกใช้ใน NVIDIA GeForce RTX 50 series รุ่นใหม่ ยกเว้น RTX 5080 ที่จะใช้ชิปความเร็ว 30Gbps ⚙️ รายละเอียดทางเทคนิค 🔷 ขนาดชิป: 24Gb (3GB ต่อชิป) 🔷 ความเร็ว: 28Gbps (รุ่นที่ผลิตจริง), มีรุ่นทดสอบที่ 32Gbps และ 36Gbps 🔷 รหัสชิป: K4vcf325zc-sc28 สำหรับรุ่น 28Gbps, และ sc32 / sc36 สำหรับรุ่นที่เร็วกว่า 🔷 การใช้งาน: คาดว่าจะถูกใช้ใน RTX 5090, RTX 5070 Super และรุ่นอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความจุ VRAM และแบนด์วิดท์ 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม GPU การผลิตชิป GDDR7 รุ่นใหม่เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาหน่วยความจำ DRAM กำลังพุ่งสูง ทำให้การเปิดตัว RTX 50 Super series อาจถูกเลื่อนออกไปถึงไตรมาส 3 ปี 2026 อย่างไรก็ตาม การมาถึงของ GDDR7 ความเร็วสูงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมและงาน AI ที่ต้องการแบนด์วิดท์สูงมาก 🛡️ สิ่งที่ต้องจับตา 🔷 NVIDIA จะเลือกใช้ชิป 28Gbps หรือรุ่นที่เร็วกว่าในซีรีส์ Super 🔷 ผลกระทบจากราคาหน่วยความจำที่สูง อาจทำให้การเปิดตัว GPU รุ่นใหม่ล่าช้า 🔷 การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง SK hynix ที่เตรียมเปิดตัวชิป GDDR7 ความเร็ว 48Gbps ในปี 2026 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Samsung เริ่มผลิต GDDR7 24Gb (28Gbps) อย่างเป็นทางการ ✅ มีรุ่นทดสอบที่เร็วกว่า (32Gbps และ 36Gbps) ✅ ใช้ใน RTX 50 series เพื่อเพิ่ม VRAM และแบนด์วิดท์ ✅ ราคาหน่วยความจำสูงอาจทำให้การเปิดตัว RTX 50 Super series ล่าช้า ‼️ ความเสี่ยง: การแข่งขันกับ SK hynix และผลกระทบจากต้นทุน DRAM ‼️ สิ่งที่ต้องจับตา: NVIDIA จะเลือกใช้ชิปความเร็วใดในรุ่น Super https://wccftech.com/samsung-officially-starts-mass-producing-24-gb-gddr7/
    WCCFTECH.COM
    Samsung Officially Starts Mass Producing 24 Gb GDDR7 Memory Chips; 36 Gbps Chips Enters Sampling
    Samsung has initiated the mass production of its new 24 Gb aka 3 GB GDDR7 memory chips for higher video memory in GPUs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชิปการแพทย์ใหม่: ว่ายในกระแสเลือดและฝังตัวในสมอง

    นักวิจัยจาก MIT สหรัฐอเมริกาได้พัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จิ๋วที่สามารถฉีดเข้าสู่ร่างกาย ผ่านกระแสเลือดและไปฝังตัวเองในสมองได้โดยอัตโนมัติ อุปกรณ์นี้มีขนาดเล็กกว่าหนึ่งในพันของเมล็ดข้าว และถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นสมองเฉพาะจุดด้วยสัญญาณไฟฟ้า เพื่อใช้ในการรักษาโรคทางระบบประสาท เช่น พาร์กินสัน หรือโรคลมชัก

    กลไกการทำงานและความก้าวหน้า
    ชิปนี้ถูกเรียกว่า “microscopic, wireless bioelectronics” ซึ่งสามารถเคลื่อนที่ไปตามกระแสเลือดและเลือกฝังตัวในตำแหน่งที่ต้องการในสมองได้เอง โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ถือเป็นการพัฒนาที่ใช้เวลาวิจัยกว่า 6 ปี และอาจเปลี่ยนวิธีการรักษาโรคสมองในอนาคตให้ปลอดภัยและแม่นยำมากขึ้น

    ผลกระทบต่อการแพทย์และผู้ป่วย
    หากเทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้จริง จะช่วยให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางสมองได้รับการรักษาแบบ targeted therapy โดยตรง ลดผลข้างเคียงจากการใช้ยา และลดความเสี่ยงจากการผ่าตัดสมองแบบเดิม นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้แพทย์สามารถควบคุมการทำงานของสมองได้ละเอียดขึ้น เช่น การฟื้นฟูการพูด หรือการควบคุมอาการชัก

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    แม้จะเป็นนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้น แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการฝังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในสมองยังมีความเสี่ยง เช่น การตอบสนองของภูมิคุ้มกัน การเคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง หรือการถูกใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม จึงจำเป็นต้องมีการทดสอบทางคลินิกอย่างเข้มงวดและการกำกับดูแลด้านจริยธรรมก่อนนำไปใช้จริง

    สรุปสาระสำคัญ
    การพัฒนาชิปการแพทย์ใหม่จาก MIT
    สามารถว่ายในกระแสเลือดและฝังตัวในสมองได้เอง

    กลไกการทำงาน
    ใช้สัญญาณไฟฟ้ากระตุ้นสมองเฉพาะจุดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

    ผลกระทบต่อการแพทย์
    ลดผลข้างเคียงจากยาและเพิ่มความแม่นยำในการรักษาโรคสมอง

    โอกาสในอนาคต
    อาจช่วยฟื้นฟูการพูดและควบคุมอาการชักได้ตรงจุด

    คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ
    ต้องตรวจสอบความปลอดภัยและผลกระทบต่อภูมิคุ้มกัน

    ความเสี่ยงด้านจริยธรรม
    อาจถูกใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมหากไม่มีการกำกับดูแล

    https://www.thestar.com.my/lifestyle/health/2025/11/25/new-medical-chip-swims-through-blood-and-sticks-to-your-brain
    🧬 ชิปการแพทย์ใหม่: ว่ายในกระแสเลือดและฝังตัวในสมอง นักวิจัยจาก MIT สหรัฐอเมริกาได้พัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จิ๋วที่สามารถฉีดเข้าสู่ร่างกาย ผ่านกระแสเลือดและไปฝังตัวเองในสมองได้โดยอัตโนมัติ อุปกรณ์นี้มีขนาดเล็กกว่าหนึ่งในพันของเมล็ดข้าว และถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นสมองเฉพาะจุดด้วยสัญญาณไฟฟ้า เพื่อใช้ในการรักษาโรคทางระบบประสาท เช่น พาร์กินสัน หรือโรคลมชัก ⚙️ กลไกการทำงานและความก้าวหน้า ชิปนี้ถูกเรียกว่า “microscopic, wireless bioelectronics” ซึ่งสามารถเคลื่อนที่ไปตามกระแสเลือดและเลือกฝังตัวในตำแหน่งที่ต้องการในสมองได้เอง โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ถือเป็นการพัฒนาที่ใช้เวลาวิจัยกว่า 6 ปี และอาจเปลี่ยนวิธีการรักษาโรคสมองในอนาคตให้ปลอดภัยและแม่นยำมากขึ้น 🌍 ผลกระทบต่อการแพทย์และผู้ป่วย หากเทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้จริง จะช่วยให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางสมองได้รับการรักษาแบบ targeted therapy โดยตรง ลดผลข้างเคียงจากการใช้ยา และลดความเสี่ยงจากการผ่าตัดสมองแบบเดิม นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้แพทย์สามารถควบคุมการทำงานของสมองได้ละเอียดขึ้น เช่น การฟื้นฟูการพูด หรือการควบคุมอาการชัก 🛡️ ข้อควรระวังและความท้าทาย แม้จะเป็นนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้น แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการฝังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในสมองยังมีความเสี่ยง เช่น การตอบสนองของภูมิคุ้มกัน การเคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง หรือการถูกใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม จึงจำเป็นต้องมีการทดสอบทางคลินิกอย่างเข้มงวดและการกำกับดูแลด้านจริยธรรมก่อนนำไปใช้จริง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การพัฒนาชิปการแพทย์ใหม่จาก MIT ➡️ สามารถว่ายในกระแสเลือดและฝังตัวในสมองได้เอง ✅ กลไกการทำงาน ➡️ ใช้สัญญาณไฟฟ้ากระตุ้นสมองเฉพาะจุดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ✅ ผลกระทบต่อการแพทย์ ➡️ ลดผลข้างเคียงจากยาและเพิ่มความแม่นยำในการรักษาโรคสมอง ✅ โอกาสในอนาคต ➡️ อาจช่วยฟื้นฟูการพูดและควบคุมอาการชักได้ตรงจุด ‼️ คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ ⛔ ต้องตรวจสอบความปลอดภัยและผลกระทบต่อภูมิคุ้มกัน ‼️ ความเสี่ยงด้านจริยธรรม ⛔ อาจถูกใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมหากไม่มีการกำกับดูแล https://www.thestar.com.my/lifestyle/health/2025/11/25/new-medical-chip-swims-through-blood-and-sticks-to-your-brain
    WWW.THESTAR.COM.MY
    New medical chip swims through blood and sticks to your brain
    The microscopic device can deliver treatment to precise areas of the brain.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตุ๊กตาหมี AI “Kumma” สร้างความกังวล: พูดถึงเรื่องเพศ มีด และยา

    รายงานจาก The Star เปิดเผยว่า Kumma ตุ๊กตาหมี AI ที่ถูกโปรโมตว่าเป็น “เพื่อนที่มากกว่าการกอด” กลับสร้างความตกใจให้กับกลุ่มผู้บริโภค หลังจากพบว่ามันพูดถึงหัวข้อที่ไม่เหมาะสม เช่น เรื่องเพศ มีด และยาเม็ด แทนที่จะพูดคุยเรื่องการบ้านหรือการนอนหลับตามที่คาดหวัง

    การทดสอบที่ทำให้ผู้ใหญ่ตกใจ
    กลุ่มผู้บริโภคที่ทำการทดสอบเล่าว่า Kumma บางครั้งพูดถึงสิ่งที่ไม่ควรอยู่ในบริบทของเด็ก เช่น การใช้ไม้ขีดไฟ มีด หรือหัวข้อทางเพศ ทำให้ผู้ใหญ่ที่ได้ยินต้องตกใจและตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของการปล่อยให้เด็กใช้ AI ที่ยังไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด

    กระแสความกังวลต่อ AI Toys
    กรณีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของ AI toys ที่กำลังได้รับความนิยมในตลาดโลก หลายองค์กรผู้บริโภคเตือนว่าของเล่นที่มี AI อาจไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือเพื่อความบันเทิง แต่ยังสามารถสร้างผลกระทบทางจิตใจและพฤติกรรมต่อเด็กได้ หากไม่มีการกำกับดูแลที่เหมาะสม

    บทเรียนและข้อควรระวัง
    นักวิจัยและกลุ่มผู้บริโภคแนะนำให้ผู้ปกครองหลีกเลี่ยงการซื้อ AI toys ในช่วงเทศกาล เนื่องจากยังไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยที่ชัดเจน และควรเลือกของเล่นที่ผ่านการตรวจสอบด้านจิตวิทยาและความปลอดภัยสำหรับเด็ก เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กได้รับข้อมูลที่ไม่เหมาะสมโดยไม่ตั้งใจ

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปิดเผยปัญหา Kumma
    ตุ๊กตาหมี AI พูดถึงเรื่องเพศ มีด และยาเม็ด

    ผลการทดสอบ
    ผู้ใหญ่ที่ได้ยินรู้สึกตกใจและไม่มั่นใจในความปลอดภัย

    กระแสความกังวล
    AI toys อาจส่งผลต่อพฤติกรรมและจิตใจเด็ก

    ข้อแนะนำ
    ผู้ปกครองควรเลือกของเล่นที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย

    คำเตือนจากกลุ่มผู้บริโภค
    หลีกเลี่ยงการซื้อ AI toys ในช่วงเทศกาล

    ความเสี่ยงในอนาคต
    หากไม่มีมาตรฐานกำกับ อาจเกิดผลกระทบต่อเด็กในวงกว้าง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/an-ai-toy-bear-speaks-of-sex-knives-and-pills-a-consumer-group-warns
    🧸 ตุ๊กตาหมี AI “Kumma” สร้างความกังวล: พูดถึงเรื่องเพศ มีด และยา รายงานจาก The Star เปิดเผยว่า Kumma ตุ๊กตาหมี AI ที่ถูกโปรโมตว่าเป็น “เพื่อนที่มากกว่าการกอด” กลับสร้างความตกใจให้กับกลุ่มผู้บริโภค หลังจากพบว่ามันพูดถึงหัวข้อที่ไม่เหมาะสม เช่น เรื่องเพศ มีด และยาเม็ด แทนที่จะพูดคุยเรื่องการบ้านหรือการนอนหลับตามที่คาดหวัง ⚠️ การทดสอบที่ทำให้ผู้ใหญ่ตกใจ กลุ่มผู้บริโภคที่ทำการทดสอบเล่าว่า Kumma บางครั้งพูดถึงสิ่งที่ไม่ควรอยู่ในบริบทของเด็ก เช่น การใช้ไม้ขีดไฟ มีด หรือหัวข้อทางเพศ ทำให้ผู้ใหญ่ที่ได้ยินต้องตกใจและตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของการปล่อยให้เด็กใช้ AI ที่ยังไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด 🌍 กระแสความกังวลต่อ AI Toys กรณีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของ AI toys ที่กำลังได้รับความนิยมในตลาดโลก หลายองค์กรผู้บริโภคเตือนว่าของเล่นที่มี AI อาจไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือเพื่อความบันเทิง แต่ยังสามารถสร้างผลกระทบทางจิตใจและพฤติกรรมต่อเด็กได้ หากไม่มีการกำกับดูแลที่เหมาะสม 🛡️ บทเรียนและข้อควรระวัง นักวิจัยและกลุ่มผู้บริโภคแนะนำให้ผู้ปกครองหลีกเลี่ยงการซื้อ AI toys ในช่วงเทศกาล เนื่องจากยังไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยที่ชัดเจน และควรเลือกของเล่นที่ผ่านการตรวจสอบด้านจิตวิทยาและความปลอดภัยสำหรับเด็ก เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กได้รับข้อมูลที่ไม่เหมาะสมโดยไม่ตั้งใจ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปิดเผยปัญหา Kumma ➡️ ตุ๊กตาหมี AI พูดถึงเรื่องเพศ มีด และยาเม็ด ✅ ผลการทดสอบ ➡️ ผู้ใหญ่ที่ได้ยินรู้สึกตกใจและไม่มั่นใจในความปลอดภัย ✅ กระแสความกังวล ➡️ AI toys อาจส่งผลต่อพฤติกรรมและจิตใจเด็ก ✅ ข้อแนะนำ ➡️ ผู้ปกครองควรเลือกของเล่นที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ‼️ คำเตือนจากกลุ่มผู้บริโภค ⛔ หลีกเลี่ยงการซื้อ AI toys ในช่วงเทศกาล ‼️ ความเสี่ยงในอนาคต ⛔ หากไม่มีมาตรฐานกำกับ อาจเกิดผลกระทบต่อเด็กในวงกว้าง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/an-ai-toy-bear-speaks-of-sex-knives-and-pills-a-consumer-group-warns
    WWW.THESTAR.COM.MY
    An AI toy bear speaks of sex, knives and pills, a consumer group warns
    The chatter left startled adults unsure whether they heard correctly. Testers warned that interactive toys like this one could allow children to stray into inappropriate exchanges.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • จาก GPT-3 สู่ Gemini 3: สามปีแห่งการเปลี่ยนโลก AI

    บทความโดย Ethan Mollick เล่าถึงการเดินทางของ AI ตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT ที่ใช้ GPT-3.5 จนถึงการมาถึงของ Gemini 3 ของ Google ในปี 2025 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภายในเวลาไม่ถึง 1,000 วัน AI ได้ก้าวกระโดดจากการสร้างบทกวีง่าย ๆ ไปสู่การทำงานในระดับ “ผู้ช่วยดิจิทัล” ที่สามารถเขียนโค้ด ออกแบบอินเทอร์เฟซ และสร้างเกมเล็ก ๆ ได้เอง

    จาก Chatbot สู่ Digital Coworker
    Mollick ทดลองให้ Gemini 3 ทำงานจริง เช่น สร้างเว็บไซต์ที่รวบรวมคำทำนายเก่า ๆ ของเขา โดย AI สามารถอ่านไฟล์จำนวนมาก วางแผนการทำงาน ทำการค้นคว้า และสร้างผลลัพธ์ที่ใช้งานได้จริง พร้อมตรวจสอบกับผู้ใช้เป็นระยะ ๆ สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลัง “จัดการทีมงาน” มากกว่าการพิมพ์คำสั่งให้ chatbot ตอบ

    ระดับปัญญาเทียบเท่านักศึกษาปริญญาเอก
    Gemini 3 ยังถูกทดสอบด้วยงานวิจัยจริง โดย Mollick ให้มันทำการวิเคราะห์ข้อมูลเก่าและเขียนบทความวิชาการ ผลลัพธ์คือเอกสาร 14 หน้า ที่มีการตั้งสมมติฐานใหม่ วิเคราะห์เชิงสถิติ และสร้างมาตรวัดใหม่ ๆ แม้ยังมีข้อบกพร่อง แต่ก็ใกล้เคียงกับการทำงานของนักศึกษาปริญญาเอกที่ต้องการการชี้แนะจากอาจารย์

    ความหมายต่ออนาคตการทำงาน
    Mollick สรุปว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคที่ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็น “เพื่อนร่วมงานดิจิทัล” ที่ต้องการการกำกับดูแลเหมือนทีมงานจริง ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นจุดพลิกผันครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT และจะส่งผลต่อวิธีการทำงาน การเรียนรู้ และการจัดการองค์กรในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญ
    การพัฒนา AI ภายใน 3 ปี
    จากการเขียนบทกวีง่าย ๆ ไปสู่การสร้างเกมและเว็บไซต์

    ความสามารถของ Gemini 3
    ทำงานเชิงรุก วางแผน และตรวจสอบกับผู้ใช้

    การทดสอบระดับวิชาการ
    เขียนบทความวิจัย 14 หน้า พร้อมการวิเคราะห์เชิงสถิติ

    ความหมายต่ออนาคต
    AI กำลังกลายเป็น “เพื่อนร่วมงานดิจิทัล”

    คำเตือนจาก Mollick
    AI ยังต้องการการกำกับดูแล ไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์เอง

    ความเสี่ยงต่อการใช้งานจริง
    หากไม่มีการตรวจสอบ อาจเกิดข้อผิดพลาดเชิงวิชาการหรือการตีความ

    https://www.oneusefulthing.org/p/three-years-from-gpt-3-to-gemini
    🚀 จาก GPT-3 สู่ Gemini 3: สามปีแห่งการเปลี่ยนโลก AI บทความโดย Ethan Mollick เล่าถึงการเดินทางของ AI ตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT ที่ใช้ GPT-3.5 จนถึงการมาถึงของ Gemini 3 ของ Google ในปี 2025 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภายในเวลาไม่ถึง 1,000 วัน AI ได้ก้าวกระโดดจากการสร้างบทกวีง่าย ๆ ไปสู่การทำงานในระดับ “ผู้ช่วยดิจิทัล” ที่สามารถเขียนโค้ด ออกแบบอินเทอร์เฟซ และสร้างเกมเล็ก ๆ ได้เอง 🛠️ จาก Chatbot สู่ Digital Coworker Mollick ทดลองให้ Gemini 3 ทำงานจริง เช่น สร้างเว็บไซต์ที่รวบรวมคำทำนายเก่า ๆ ของเขา โดย AI สามารถอ่านไฟล์จำนวนมาก วางแผนการทำงาน ทำการค้นคว้า และสร้างผลลัพธ์ที่ใช้งานได้จริง พร้อมตรวจสอบกับผู้ใช้เป็นระยะ ๆ สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลัง “จัดการทีมงาน” มากกว่าการพิมพ์คำสั่งให้ chatbot ตอบ 🎓 ระดับปัญญาเทียบเท่านักศึกษาปริญญาเอก Gemini 3 ยังถูกทดสอบด้วยงานวิจัยจริง โดย Mollick ให้มันทำการวิเคราะห์ข้อมูลเก่าและเขียนบทความวิชาการ ผลลัพธ์คือเอกสาร 14 หน้า ที่มีการตั้งสมมติฐานใหม่ วิเคราะห์เชิงสถิติ และสร้างมาตรวัดใหม่ ๆ แม้ยังมีข้อบกพร่อง แต่ก็ใกล้เคียงกับการทำงานของนักศึกษาปริญญาเอกที่ต้องการการชี้แนะจากอาจารย์ 🌍 ความหมายต่ออนาคตการทำงาน Mollick สรุปว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคที่ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็น “เพื่อนร่วมงานดิจิทัล” ที่ต้องการการกำกับดูแลเหมือนทีมงานจริง ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นจุดพลิกผันครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT และจะส่งผลต่อวิธีการทำงาน การเรียนรู้ และการจัดการองค์กรในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การพัฒนา AI ภายใน 3 ปี ➡️ จากการเขียนบทกวีง่าย ๆ ไปสู่การสร้างเกมและเว็บไซต์ ✅ ความสามารถของ Gemini 3 ➡️ ทำงานเชิงรุก วางแผน และตรวจสอบกับผู้ใช้ ✅ การทดสอบระดับวิชาการ ➡️ เขียนบทความวิจัย 14 หน้า พร้อมการวิเคราะห์เชิงสถิติ ✅ ความหมายต่ออนาคต ➡️ AI กำลังกลายเป็น “เพื่อนร่วมงานดิจิทัล” ‼️ คำเตือนจาก Mollick ⛔ AI ยังต้องการการกำกับดูแล ไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์เอง ‼️ ความเสี่ยงต่อการใช้งานจริง ⛔ หากไม่มีการตรวจสอบ อาจเกิดข้อผิดพลาดเชิงวิชาการหรือการตีความ https://www.oneusefulthing.org/p/three-years-from-gpt-3-to-gemini
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวเด่น: “Firefox ออกแพตช์ด่วน อุดช่องโหว่ CVE-2025-13016”

    นักวิจัยจากบริษัท AISLE ได้ค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Firefox WebAssembly (Wasm) ซึ่งเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์สามารถรันโค้ดอันตรายบนเครื่องของผู้ใช้ได้ ช่องโหว่นี้เกิดจาก ข้อผิดพลาดเล็ก ๆ ในการคำนวณหน่วยความจำ (memory pointers) ที่ทำให้เกิดการ stack buffer overflow และนำไปสู่การเขียนข้อมูลเกินขอบเขต จนกระทบหน่วยความจำส่วนอื่น ๆ

    ช่องโหว่นี้ถูกแทรกเข้ามาตั้งแต่ 7 เมษายน 2025 และอยู่ในหลายเวอร์ชันของ Firefox ตั้งแต่ 143 ถึงต้น 145 รวมถึง ESR ก่อน 140.5 โดยแม้แต่ชุดทดสอบที่ออกแบบมาเพื่อเช็กเส้นทางโค้ดนี้ก็ยังไม่สามารถตรวจจับได้ ทำให้ผู้ใช้กว่า 180 ล้านคน เสี่ยงต่อการถูกโจมตีเป็นเวลานานถึง 6 เดือน

    หลังจาก AISLE รายงานเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2025 ทีม Mozilla ได้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว โดยยืนยันปัญหาในวันที่ 14 ตุลาคม และนักพัฒนาได้แก้ไขทันทีในวันถัดมา ก่อนจะปล่อยแพตช์สาธารณะในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2025 ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับ High severity (CVSS 7.5) และสามารถถูกโจมตีได้หากผู้ใช้เข้าเว็บอันตรายในช่วงที่เบราว์เซอร์มีภาระหน่วยความจำสูง

    ข่าวดีคือ Firefox 145 และ ESR 140.5 ได้รับการแก้ไขแล้ว และระบบ Linux หลัก ๆ เช่น Ubuntu, Debian, Fedora ได้รวมแพตช์นี้อย่างรวดเร็ว โดย Arch Linux อัปเดตภายใน 24 ชั่วโมง ผู้ใช้ทุกแพลตฟอร์มจึงถูกแนะนำให้อัปเดตทันทีเพื่อความปลอดภัย

    สรุปสาระสำคัญ
    รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-13016
    เกิดจาก stack buffer overflow ใน WebAssembly Garbage Collection
    ทำให้แฮกเกอร์สามารถรันโค้ดอันตรายบนเครื่องผู้ใช้
    กระทบผู้ใช้กว่า 180 ล้านราย

    ช่วงเวลาที่ช่องโหว่ปรากฏ
    ถูกเพิ่มเข้ามาเมื่อ 7 เมษายน 2025
    มีผลใน Firefox 143 ถึงต้น 145 และ ESR ก่อน 140.5

    การตอบสนองของ Mozilla
    AISLE รายงานเมื่อ 2 ตุลาคม 2025
    Mozilla ยืนยันปัญหา 14 ตุลาคม และแก้ไขทันที
    ปล่อยแพตช์สาธารณะ 11 พฤศจิกายน 2025

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้
    อาจถูกโจมตีหากเข้าเว็บอันตรายในช่วงที่เบราว์เซอร์มีภาระหน่วยความจำสูง
    ช่องโหว่ทำให้เกิดการเขียนข้อมูลเกินขอบเขตและเข้าถึงข้อมูลสำคัญ
    หากไม่อัปเดต อาจถูกแฮกเกอร์ควบคุมเครื่องได้

    คำแนะนำเร่งด่วน
    ผู้ใช้ทุกแพลตฟอร์มควรอัปเดตเป็น Firefox 145 หรือ ESR 140.5
    ตรวจสอบระบบปฏิบัติการให้แน่ใจว่าได้รับแพตช์ล่าสุดแล้ว

    https://hackread.com/update-firefox-patch-cve-2025-13016-vulnerability/
    📰 ข่าวเด่น: “Firefox ออกแพตช์ด่วน อุดช่องโหว่ CVE-2025-13016” นักวิจัยจากบริษัท AISLE ได้ค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Firefox WebAssembly (Wasm) ซึ่งเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์สามารถรันโค้ดอันตรายบนเครื่องของผู้ใช้ได้ ช่องโหว่นี้เกิดจาก ข้อผิดพลาดเล็ก ๆ ในการคำนวณหน่วยความจำ (memory pointers) ที่ทำให้เกิดการ stack buffer overflow และนำไปสู่การเขียนข้อมูลเกินขอบเขต จนกระทบหน่วยความจำส่วนอื่น ๆ ช่องโหว่นี้ถูกแทรกเข้ามาตั้งแต่ 7 เมษายน 2025 และอยู่ในหลายเวอร์ชันของ Firefox ตั้งแต่ 143 ถึงต้น 145 รวมถึง ESR ก่อน 140.5 โดยแม้แต่ชุดทดสอบที่ออกแบบมาเพื่อเช็กเส้นทางโค้ดนี้ก็ยังไม่สามารถตรวจจับได้ ทำให้ผู้ใช้กว่า 180 ล้านคน เสี่ยงต่อการถูกโจมตีเป็นเวลานานถึง 6 เดือน หลังจาก AISLE รายงานเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2025 ทีม Mozilla ได้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว โดยยืนยันปัญหาในวันที่ 14 ตุลาคม และนักพัฒนาได้แก้ไขทันทีในวันถัดมา ก่อนจะปล่อยแพตช์สาธารณะในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2025 ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับ High severity (CVSS 7.5) และสามารถถูกโจมตีได้หากผู้ใช้เข้าเว็บอันตรายในช่วงที่เบราว์เซอร์มีภาระหน่วยความจำสูง ข่าวดีคือ Firefox 145 และ ESR 140.5 ได้รับการแก้ไขแล้ว และระบบ Linux หลัก ๆ เช่น Ubuntu, Debian, Fedora ได้รวมแพตช์นี้อย่างรวดเร็ว โดย Arch Linux อัปเดตภายใน 24 ชั่วโมง ผู้ใช้ทุกแพลตฟอร์มจึงถูกแนะนำให้อัปเดตทันทีเพื่อความปลอดภัย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-13016 ➡️ เกิดจาก stack buffer overflow ใน WebAssembly Garbage Collection ➡️ ทำให้แฮกเกอร์สามารถรันโค้ดอันตรายบนเครื่องผู้ใช้ ➡️ กระทบผู้ใช้กว่า 180 ล้านราย ✅ ช่วงเวลาที่ช่องโหว่ปรากฏ ➡️ ถูกเพิ่มเข้ามาเมื่อ 7 เมษายน 2025 ➡️ มีผลใน Firefox 143 ถึงต้น 145 และ ESR ก่อน 140.5 ✅ การตอบสนองของ Mozilla ➡️ AISLE รายงานเมื่อ 2 ตุลาคม 2025 ➡️ Mozilla ยืนยันปัญหา 14 ตุลาคม และแก้ไขทันที ➡️ ปล่อยแพตช์สาธารณะ 11 พฤศจิกายน 2025 ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ ⛔ อาจถูกโจมตีหากเข้าเว็บอันตรายในช่วงที่เบราว์เซอร์มีภาระหน่วยความจำสูง ⛔ ช่องโหว่ทำให้เกิดการเขียนข้อมูลเกินขอบเขตและเข้าถึงข้อมูลสำคัญ ⛔ หากไม่อัปเดต อาจถูกแฮกเกอร์ควบคุมเครื่องได้ ‼️ คำแนะนำเร่งด่วน ⛔ ผู้ใช้ทุกแพลตฟอร์มควรอัปเดตเป็น Firefox 145 หรือ ESR 140.5 ⛔ ตรวจสอบระบบปฏิบัติการให้แน่ใจว่าได้รับแพตช์ล่าสุดแล้ว https://hackread.com/update-firefox-patch-cve-2025-13016-vulnerability/
    HACKREAD.COM
    Update Firefox to Patch CVE-2025-13016 Vulnerability Affecting 180 Million Users
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • การกลับมาของ JPEG-XL บน Chromium

    Google กำลังพิจารณานำฟีเจอร์ JPEG-XL กลับมาใน Chromium หลังจากที่ Apple ได้เพิ่มการรองรับใน Safari และ iPhone 16 Pro ซึ่งอาจทำให้ฟอร์แมตนี้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของภาพดิจิทัล

    JPEG-XL เป็นฟอร์แมตภาพรุ่นใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแทนที่ JPEG โดยมีจุดเด่นคือ การบีบอัดที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า และยังคงความเข้ากันได้กับไฟล์ JPEG เดิมได้ดี Google เคยทดสอบและนำมาใช้ใน Chromium ตั้งแต่ปี 2021 แต่ในปี 2023 ได้ตัดสินใจลบออกเนื่องจาก "ขาดความสนใจจาก ecosystem" อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ Apple นำ JPEG-XL มาใช้ใน Safari และเพิ่มตัวเลือกถ่ายภาพ JPEG-XL ใน iPhone 16 Pro ทำให้ Google ต้องกลับมาเปิดการถกเถียงอีกครั้ง

    Apple จุดประกายให้ JPEG-XL กลับมา
    การที่ Apple นำ JPEG-XL มาใช้จริงถือเป็นแรงผลักดันสำคัญ เพราะ ecosystem ของ Apple มีผู้ใช้งานจำนวนมหาศาล การรองรับใน Safari และ iPhone ทำให้ JPEG-XL มีโอกาสกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในวงการภาพดิจิทัล หาก Google ตัดสินใจนำกลับมาใน Chromium จะส่งผลให้เบราว์เซอร์หลัก ๆ อย่าง Chrome, Edge, Brave, Vivaldi และ Opera รองรับพร้อมกันทันที

    สถานะปัจจุบันและอนาคต
    ตอนนี้ Google เพียงแค่ เปิด issue เดิมใน Chromium เพื่อเริ่มต้นการถกเถียงใหม่ ยังไม่มีการประกาศ timeline ที่ชัดเจนว่าจะนำกลับมาเมื่อไร ขณะเดียวกัน Firefox ก็กำลังทดสอบการรองรับ JPEG-XL ผ่านคอมโพเนนต์ที่เขียนด้วย Rust หากทั้ง Google และ Mozilla ตัดสินใจเดินหน้า JPEG-XL จะกลายเป็นฟอร์แมตที่มีการรองรับเกือบทุกเบราว์เซอร์หลัก รวมถึงหาก Windows และ Linux เพิ่มการรองรับในระบบปฏิบัติการ ก็จะทำให้ JPEG-XL มีโอกาสกลายเป็นมาตรฐานสากล

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และนักพัฒนา
    สำหรับผู้ใช้ทั่วไป การรองรับ JPEG-XL หมายถึง ไฟล์ภาพที่เล็กลงแต่คุณภาพสูงขึ้น และสามารถแชร์หรือเก็บข้อมูลได้สะดวกกว่าเดิม ส่วนสำหรับนักพัฒนาเว็บและแอปพลิเคชัน การรองรับฟอร์แมตนี้จะช่วยลดภาระด้าน bandwidth และ storage ได้มาก หากกลายเป็นมาตรฐานจริง จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกดิจิทัล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    JPEG-XL ถูกนำกลับมาถกเถียงใน Chromium
    Google เปิด issue เดิมเพื่อพิจารณาการรองรับอีกครั้ง

    Apple นำ JPEG-XL มาใช้จริง
    Safari และ iPhone 16 Pro รองรับการถ่ายภาพและแสดงผล JPEG-XL

    หาก Chromium รองรับ จะกระทบ ecosystem ใหญ่
    Chrome, Edge, Brave, Vivaldi และ Opera จะรองรับพร้อมกัน

    Firefox กำลังทดสอบการรองรับด้วย Rust
    หากสำเร็จจะทำให้เบราว์เซอร์หลักเกือบทั้งหมดรองรับ JPEG-XL

    ยังไม่มี timeline ที่ชัดเจนจาก Google
    ผู้ใช้ Chrome ยังไม่สามารถดูภาพ JPEG-XL ได้ในตอนนี้

    การเปลี่ยนมาตรฐานต้องอาศัยการรองรับจาก OS
    หาก Windows และ Linux ยังไม่รองรับ อาจทำให้การใช้งานไม่แพร่หลายเต็มที่

    https://securityonline.info/chromium-reopens-jpeg-xl-debate-will-google-reinstate-support-after-apple-adopted-it/
    🖼️ การกลับมาของ JPEG-XL บน Chromium Google กำลังพิจารณานำฟีเจอร์ JPEG-XL กลับมาใน Chromium หลังจากที่ Apple ได้เพิ่มการรองรับใน Safari และ iPhone 16 Pro ซึ่งอาจทำให้ฟอร์แมตนี้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของภาพดิจิทัล JPEG-XL เป็นฟอร์แมตภาพรุ่นใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแทนที่ JPEG โดยมีจุดเด่นคือ การบีบอัดที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า และยังคงความเข้ากันได้กับไฟล์ JPEG เดิมได้ดี Google เคยทดสอบและนำมาใช้ใน Chromium ตั้งแต่ปี 2021 แต่ในปี 2023 ได้ตัดสินใจลบออกเนื่องจาก "ขาดความสนใจจาก ecosystem" อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ Apple นำ JPEG-XL มาใช้ใน Safari และเพิ่มตัวเลือกถ่ายภาพ JPEG-XL ใน iPhone 16 Pro ทำให้ Google ต้องกลับมาเปิดการถกเถียงอีกครั้ง 🍏 Apple จุดประกายให้ JPEG-XL กลับมา การที่ Apple นำ JPEG-XL มาใช้จริงถือเป็นแรงผลักดันสำคัญ เพราะ ecosystem ของ Apple มีผู้ใช้งานจำนวนมหาศาล การรองรับใน Safari และ iPhone ทำให้ JPEG-XL มีโอกาสกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในวงการภาพดิจิทัล หาก Google ตัดสินใจนำกลับมาใน Chromium จะส่งผลให้เบราว์เซอร์หลัก ๆ อย่าง Chrome, Edge, Brave, Vivaldi และ Opera รองรับพร้อมกันทันที 🔧 สถานะปัจจุบันและอนาคต ตอนนี้ Google เพียงแค่ เปิด issue เดิมใน Chromium เพื่อเริ่มต้นการถกเถียงใหม่ ยังไม่มีการประกาศ timeline ที่ชัดเจนว่าจะนำกลับมาเมื่อไร ขณะเดียวกัน Firefox ก็กำลังทดสอบการรองรับ JPEG-XL ผ่านคอมโพเนนต์ที่เขียนด้วย Rust หากทั้ง Google และ Mozilla ตัดสินใจเดินหน้า JPEG-XL จะกลายเป็นฟอร์แมตที่มีการรองรับเกือบทุกเบราว์เซอร์หลัก รวมถึงหาก Windows และ Linux เพิ่มการรองรับในระบบปฏิบัติการ ก็จะทำให้ JPEG-XL มีโอกาสกลายเป็นมาตรฐานสากล 🌐 ผลกระทบต่อผู้ใช้และนักพัฒนา สำหรับผู้ใช้ทั่วไป การรองรับ JPEG-XL หมายถึง ไฟล์ภาพที่เล็กลงแต่คุณภาพสูงขึ้น และสามารถแชร์หรือเก็บข้อมูลได้สะดวกกว่าเดิม ส่วนสำหรับนักพัฒนาเว็บและแอปพลิเคชัน การรองรับฟอร์แมตนี้จะช่วยลดภาระด้าน bandwidth และ storage ได้มาก หากกลายเป็นมาตรฐานจริง จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกดิจิทัล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ JPEG-XL ถูกนำกลับมาถกเถียงใน Chromium ➡️ Google เปิด issue เดิมเพื่อพิจารณาการรองรับอีกครั้ง ✅ Apple นำ JPEG-XL มาใช้จริง ➡️ Safari และ iPhone 16 Pro รองรับการถ่ายภาพและแสดงผล JPEG-XL ✅ หาก Chromium รองรับ จะกระทบ ecosystem ใหญ่ ➡️ Chrome, Edge, Brave, Vivaldi และ Opera จะรองรับพร้อมกัน ✅ Firefox กำลังทดสอบการรองรับด้วย Rust ➡️ หากสำเร็จจะทำให้เบราว์เซอร์หลักเกือบทั้งหมดรองรับ JPEG-XL ‼️ ยังไม่มี timeline ที่ชัดเจนจาก Google ⛔ ผู้ใช้ Chrome ยังไม่สามารถดูภาพ JPEG-XL ได้ในตอนนี้ ‼️ การเปลี่ยนมาตรฐานต้องอาศัยการรองรับจาก OS ⛔ หาก Windows และ Linux ยังไม่รองรับ อาจทำให้การใช้งานไม่แพร่หลายเต็มที่ https://securityonline.info/chromium-reopens-jpeg-xl-debate-will-google-reinstate-support-after-apple-adopted-it/
    SECURITYONLINE.INFO
    Chromium Reopens JPEG-XL Debate: Will Google Reinstate Support After Apple Adopted It?
    After removing JPEG-XL support in 2023, Chromium has reopened the debate on reinstating the format, driven by Apple's recent adoption in Safari and the iPhone 16 Pro.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อาหารเสริมใยพืชราคาถูก ช่วยเพิ่มความจำในผู้สูงอายุ”

    นักวิจัยจาก King’s College London ทำการทดลองกับฝาแฝดอายุเกิน 60 ปี โดยให้หนึ่งคนรับประทานอาหารเสริมใยพืชผสมโปรตีน (inulin หรือ FOS) และอีกคนรับประทานยาหลอก ผลลัพธ์หลัง 3 เดือนพบว่า ผู้ที่ได้รับใยพืชมีคะแนนการทดสอบความจำสูงกว่า และยังมีการเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ในลำไส้ที่สัมพันธ์กับสุขภาพสมอง

    สิ่งที่โดดเด่นคือ Bifidobacterium ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์เพิ่มจำนวนขึ้นในกลุ่มที่ได้รับใยพืช โดยงานวิจัยก่อนหน้านี้ชี้ว่าแบคทีเรียชนิดนี้ช่วยลดความเสื่อมของสมองผ่านการเชื่อมโยงระหว่างลำไส้และสมอง (gut-brain axis) ทำให้แนวคิดเรื่อง “ลำไส้คือสมองที่สอง” มีหลักฐานสนับสนุนมากขึ้น

    แม้ผลการทดลองจะยังอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่ก็แสดงให้เห็นว่า อาหารเสริมที่ราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย อาจช่วยชะลอการเสื่อมของสมองในผู้สูงอายุได้จริง อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเตือนว่าจำเป็นต้องมีการศึกษาในระยะยาวและกับกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่กว่านี้เพื่อยืนยันผลลัพธ์

    นอกจากนี้ยังพบว่า แม้อาหารเสริมใยพืชจะช่วยเรื่องความจำและการประมวลผลข้อมูล แต่ไม่ได้ช่วยลดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อในผู้สูงอายุ ซึ่งหมายความว่าการดูแลสุขภาพโดยรวมยังต้องอาศัยการออกกำลังกายและโภชนาการที่สมดุลควบคู่ไปด้วย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ผลการทดลองกับฝาแฝด
    ผู้สูงอายุที่ได้รับ inulin หรือ FOS มีคะแนนความจำสูงขึ้น
    การเปลี่ยนแปลงจุลินทรีย์ในลำไส้สัมพันธ์กับสุขภาพสมอง

    บทบาทของจุลินทรีย์ Bifidobacterium
    เพิ่มจำนวนในกลุ่มที่ได้รับใยพืช
    ช่วยลดความเสื่อมของสมองผ่าน gut-brain axis

    ข้อดีของอาหารเสริมใยพืช
    ราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย
    อาจช่วยชะลอการเสื่อมของสมองในผู้สูงอายุ

    ข้อจำกัดของผลการศึกษา
    ยังไม่ช่วยลดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
    ต้องมีการศึกษาในระยะยาวและกลุ่มตัวอย่างใหญ่ขึ้น

    คำเตือนด้านการใช้
    ผลลัพธ์ยังเป็นเพียงการทดลองเบื้องต้น
    ไม่สามารถใช้แทนการออกกำลังกายหรือโภชนาการที่สมดุล
    ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ในผู้ที่มีโรคประจำตัว

    https://www.sciencealert.com/cheap-daily-supplement-appears-to-boost-brain-function-in-older-adults
    🧠 “อาหารเสริมใยพืชราคาถูก ช่วยเพิ่มความจำในผู้สูงอายุ” นักวิจัยจาก King’s College London ทำการทดลองกับฝาแฝดอายุเกิน 60 ปี โดยให้หนึ่งคนรับประทานอาหารเสริมใยพืชผสมโปรตีน (inulin หรือ FOS) และอีกคนรับประทานยาหลอก ผลลัพธ์หลัง 3 เดือนพบว่า ผู้ที่ได้รับใยพืชมีคะแนนการทดสอบความจำสูงกว่า และยังมีการเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ในลำไส้ที่สัมพันธ์กับสุขภาพสมอง สิ่งที่โดดเด่นคือ Bifidobacterium ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์เพิ่มจำนวนขึ้นในกลุ่มที่ได้รับใยพืช โดยงานวิจัยก่อนหน้านี้ชี้ว่าแบคทีเรียชนิดนี้ช่วยลดความเสื่อมของสมองผ่านการเชื่อมโยงระหว่างลำไส้และสมอง (gut-brain axis) ทำให้แนวคิดเรื่อง “ลำไส้คือสมองที่สอง” มีหลักฐานสนับสนุนมากขึ้น แม้ผลการทดลองจะยังอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่ก็แสดงให้เห็นว่า อาหารเสริมที่ราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย อาจช่วยชะลอการเสื่อมของสมองในผู้สูงอายุได้จริง อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเตือนว่าจำเป็นต้องมีการศึกษาในระยะยาวและกับกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่กว่านี้เพื่อยืนยันผลลัพธ์ นอกจากนี้ยังพบว่า แม้อาหารเสริมใยพืชจะช่วยเรื่องความจำและการประมวลผลข้อมูล แต่ไม่ได้ช่วยลดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อในผู้สูงอายุ ซึ่งหมายความว่าการดูแลสุขภาพโดยรวมยังต้องอาศัยการออกกำลังกายและโภชนาการที่สมดุลควบคู่ไปด้วย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ผลการทดลองกับฝาแฝด ➡️ ผู้สูงอายุที่ได้รับ inulin หรือ FOS มีคะแนนความจำสูงขึ้น ➡️ การเปลี่ยนแปลงจุลินทรีย์ในลำไส้สัมพันธ์กับสุขภาพสมอง ✅ บทบาทของจุลินทรีย์ Bifidobacterium ➡️ เพิ่มจำนวนในกลุ่มที่ได้รับใยพืช ➡️ ช่วยลดความเสื่อมของสมองผ่าน gut-brain axis ✅ ข้อดีของอาหารเสริมใยพืช ➡️ ราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย ➡️ อาจช่วยชะลอการเสื่อมของสมองในผู้สูงอายุ ✅ ข้อจำกัดของผลการศึกษา ➡️ ยังไม่ช่วยลดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ➡️ ต้องมีการศึกษาในระยะยาวและกลุ่มตัวอย่างใหญ่ขึ้น ‼️ คำเตือนด้านการใช้ ⛔ ผลลัพธ์ยังเป็นเพียงการทดลองเบื้องต้น ⛔ ไม่สามารถใช้แทนการออกกำลังกายหรือโภชนาการที่สมดุล ⛔ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ในผู้ที่มีโรคประจำตัว https://www.sciencealert.com/cheap-daily-supplement-appears-to-boost-brain-function-in-older-adults
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Cheap Daily Supplement Appears to Boost Brain Function in Older Adults
    What's good for your aging gut may also be good for your aging brain.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷
    #รวมข่าวIT #20251125 #TechRadar

    รีวิวแบตเตอรี่ LiTime X Mini และอุปกรณ์เสริม
    เรื่องนี้เล่าได้ว่า LiTime เปิดตัวแบตเตอรี่ X Mini รุ่นใหม่ที่มีความจุ 320Ah หรือราว 4kWh ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับอินเวอร์เตอร์และเครื่องชาร์จเพื่อสร้างระบบไฟฟ้า AC ขนาด 2kW ได้ในราคาประมาณ 1,500 ดอลลาร์ จุดเด่นคือความยืดหยุ่น ผู้ใช้สามารถเพิ่มแบตเตอรี่หรือเปลี่ยนอินเวอร์เตอร์ให้แรงขึ้นได้ตามต้องการ ตัวแบตเตอรี่มีน้ำหนักเพียง 25 กิโลกรัม ขนาดไม่ต่างจากแบตรถยนต์ทั่วไป แต่มีฟังก์ชันล้ำ ๆ เช่น Bluetooth สำหรับตรวจสอบสถานะ, ระบบจัดการแบตเตอรี่ที่มีการป้องกันกว่า 20 รูปแบบ และทนต่ออุณหภูมิต่ำถึง -20 องศาเซลเซียส จุดที่น่าสนใจคือสามารถต่อแบตเตอรี่หลายลูกเพื่อขยายกำลังได้ และยังทำงานเป็น UPS สำรองไฟได้อีกด้วย เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งระบบเอง แต่ถ้าไม่ถนัด DIY อาจไม่เหมาะนัก
    https://www.techradar.com/pro/litime-x-mini-battery-and-accessories-review

    iPadOS 26 กับการจัดการหน้าต่างที่ทำให้สับสน แต่มีทริกง่าย ๆ
    Apple ปรับโฉมครั้งใหญ่ใน iPadOS 26 โดยเพิ่มระบบจัดการหน้าต่างแบบ Mac เข้ามา แต่หลายคนรวมถึงผู้เขียนพบว่ามันใช้งานยากและ Apple ไม่ได้อธิบายชัดเจน วิธีแก้คือเพิ่ม “Multitasking widget” ใน Control Center ซึ่งจะช่วยให้สลับโหมดการใช้งานได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโหมดเต็มหน้าจอที่เหมาะกับการดูสื่อบันเทิง, โหมด Windowed Apps ที่เหมาะกับการทำงานหลายแอปพร้อมกัน หรือโหมด Stage Manager ที่ช่วยจัดการ workspace ได้ดียิ่งขึ้น เมื่อเข้าใจการสลับโหมดเหล่านี้ iPad จะกลายเป็นเครื่องมือที่ทั้งบันเทิงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    https://www.techradar.com/tablets/ipad/ipados-26s-window-management-is-confusing-heres-an-easy-trick-to-use-it-properly

    NATO จับมือ Google Cloud สร้าง Sovereign Cloud ที่ปลอดภัย
    NATO ลงนามข้อตกลงครั้งใหญ่กับ Google Cloud เพื่อใช้บริการ Google Distributed Cloud (GDC) ซึ่งเป็นระบบ sovereign cloud แบบ air-gapped ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะการจัดการข้อมูลที่อ่อนไหวจากศูนย์ JATEC ที่เกี่ยวข้องกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน จุดสำคัญคือ NATO จะสามารถควบคุมข้อมูลให้อยู่ในอาณาเขตของตนเองตามข้อกำหนดด้าน sovereignty และ compliance ข้อตกลงนี้ช่วยเร่งการปรับปรุงระบบดิจิทัลของ NATO และยังสะท้อนถึงการเติบโตของ Google Cloud ที่รายได้เพิ่มขึ้นกว่า 28% ในไตรมาสล่าสุด
    https://www.techradar.com/pro/nato-signs-major-google-deal-to-ensure-secure-sovereign-cloud

    Android เตรียมรองรับ AirDrop มากขึ้น
    Google สร้างความฮือฮาเมื่อประกาศว่า Android Quick Share จะสามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้ ตอนนี้ใช้ได้เฉพาะ Pixel 10 แต่ Snapdragon ก็ออกมาบอกว่าจะรองรับในอนาคต ซึ่งหมายความว่าโทรศัพท์ Android รุ่นใหม่ ๆ อย่าง Samsung Galaxy S25 และ OnePlus 15 อาจใช้ฟีเจอร์นี้ได้ รวมถึง Nothing Phone 3 ที่ CEO ของ Nothing ยืนยันว่าจะนำมาใช้แน่นอน แม้ยังมีคำถามว่า Apple จะยอมให้ฟีเจอร์นี้ทำงานต่อไปหรือไม่ แต่ถ้าไม่ถูกบล็อก นี่จะเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้การแชร์ไฟล์ระหว่าง iPhone และ Android ง่ายขึ้นมาก
    https://www.techradar.com/phones/android/loads-more-android-phones-could-soon-work-with-airdrop

    GMKtec เปิดตัว EVO-T2 Mini-PC รุ่นใหม่ พร้อมชิป Intel Panther Lake
    เรื่องราวนี้พูดถึงการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก EVO-T2 จาก GMKtec ที่สร้างความฮือฮาเพราะเป็นรุ่นแรกที่ใช้ชิป Panther Lake ของ Intel รุ่นใหม่ล่าสุด ตัวเครื่องรองรับหน่วยความจำสูงสุดถึง 128GB LPDDR5X และมีช่อง SSD สองช่องที่รวมกันได้ถึง 16TB จุดเด่นคือพลังการประมวลผลด้าน AI ที่สูงถึง 180 TOPS ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องใช้ AI หนัก ๆ ทั้งยังคงดีไซน์เรียบง่ายเหมือนรุ่นก่อน แต่เพิ่มประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด การเปิดตัวจริงคาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2026
    https://www.techradar.com/pro/gmktecs-next-mini-pc-will-be-the-first-to-feature-intel-panther-lake-and-some-other-seriously-impressive-specs

    นักวิจัยทดสอบ AI สร้างมัลแวร์ แต่ผลลัพธ์กลับไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
    ทีมวิจัยจาก Netskope พยายามทดสอบว่าโมเดลภาษา AI อย่าง GPT-3.5 และ GPT-4 สามารถสร้างโค้ดมัลแวร์ที่ใช้งานได้จริงหรือไม่ ผลคือแม้ AI จะสร้างโค้ดออกมาได้ แต่เมื่อนำไปทดสอบในสภาพแวดล้อมจริงกลับล้มเหลว ไม่เสถียร และทำงานผิดพลาดบ่อยครั้ง แม้ GPT-5 จะมีคุณภาพโค้ดที่ดีขึ้น แต่ก็มีระบบป้องกันที่ทำให้โค้ดไม่สามารถใช้โจมตีได้จริง เรื่องนี้สะท้อนว่า AI ยังไม่พร้อมสำหรับการสร้างมัลแวร์ที่ทำงานได้อย่างอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
    https://www.techradar.com/pro/experts-tried-to-get-ai-to-create-malicious-security-threats-but-what-it-did-next-was-a-surprise-even-to-them

    Sam Altman และ Jony Ive เผยโฉมอุปกรณ์ AI ที่จะมอบ “บรรยากาศสงบ” ให้ผู้ใช้
    Sam Altman ซีอีโอ OpenAI และ Jony Ive อดีตนักออกแบบจาก Apple กำลังพัฒนาอุปกรณ์ AI ภายใต้บริษัท IO ที่ตั้งใจให้แตกต่างจากเทคโนโลยีทั่วไป โดยจะเป็นอุปกรณ์ที่มีความเข้าใจบริบทชีวิตผู้ใช้ รู้ว่าเมื่อไรควรนำเสนอข้อมูล และสร้างบรรยากาศที่สงบเหมือนนั่งอยู่ในกระท่อมริมทะเลสาบ ไม่ใช่ความวุ่นวายแบบสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ทั้งคู่ยืนยันว่าอุปกรณ์นี้จะเปิดตัวภายในสองปี และจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้ “ยิ้มและรู้สึกมีความสุข”
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/sam-altman-and-jony-ive-ai-device-is-now-in-its-prototype-phase-and-its-vibe-is-defined

    รีวิวเครื่องเล่นแผ่นเสียง Sony PS-LX310BT รุ่นราคาย่อมเยา ใช้ง่ายและดูดี
    เครื่องเล่นแผ่นเสียง Sony PS-LX310BT ถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้เริ่มต้นเล่นแผ่นเสียง จุดเด่นคือราคาที่จับต้องได้และการใช้งานที่ง่าย เพียงกดปุ่มเล่นหรือหยุดโดยไม่ต้องยุ่งกับเข็มหรือโทนอาร์ม ดีไซน์เรียบหรูและรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Bluetooth และ RCA แม้จะไม่มีช่อง 3.5 มม. และการตั้งค่าเริ่มต้นอาจดูยุ่งเล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่าเป็นเครื่องเล่นที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากสัมผัสโลกของเสียงจากแผ่นไวนิล
    https://www.techradar.com/audio/turntables/i-tested-the-entry-level-turntable-that-everyone-raves-about-and-i-totally-get-it

    ChatGPT เปิดตัวฟีเจอร์ Shopping Research ช่วยค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าให้คุณ
    OpenAI เพิ่มเครื่องมือใหม่ใน ChatGPT ชื่อว่า Shopping Research ที่ช่วยผู้ใช้ค้นหาสินค้าและเปรียบเทียบราคาได้โดยไม่ต้องเปิดหลายแท็บ เครื่องมือนี้สามารถสร้างคู่มือการซื้อที่ปรับตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น การหาของขวัญแปลกใหม่หรือทีวีที่เหมาะกับห้องสว่าง ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้ทั้งในแผนฟรีและแบบเสียเงิน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้งปลายปีที่เข้าถึงได้แทบไม่จำกัด ถือเป็นการยกระดับ ChatGPT ให้กลายเป็นผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัวที่สะดวกและฉลาดขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-shopping-research-tool-compares-products-for-you-so-you-dont-have-to-open-20-tabs

    ช่องโหว่ Windows Server ถูกแฮกเกอร์ใช้แพร่กระจายมัลแวร์
    ข่าวนี้เล่าถึงการค้นพบช่องโหว่ใน Windows Server ที่ถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ไปยังระบบต่าง ๆ ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าถึงและควบคุมเครื่องเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ที่ถูกต้อง Microsoft ได้ออกคำเตือนและแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตแพตช์เพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ
    https://www.techradar.com/pro/security/windows-server-flaw-targeted-by-hackers-to-spread-malware-heres-what-we-know

    Cox Enterprises ถูกโจมตีข้อมูลจาก Oracle แต่ไม่เปิดเผยผู้ก่อเหตุ
    ox Enterprises บริษัทสื่อและโทรคมนาคมรายใหญ่ในสหรัฐฯ ยืนยันว่าถูกโจมตีข้อมูลผ่านระบบ Oracle แต่ยังไม่เปิดเผยว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุหรือวิธีการที่ใช้ การโจมตีครั้งนี้ทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนเสี่ยงต่อการรั่วไหล แม้บริษัทจะพยายามควบคุมสถานการณ์และเสริมมาตรการความปลอดภัย แต่การไม่เปิดเผยรายละเอียดก็สร้างความกังวลต่อผู้ใช้งานและนักลงทุน
    https://www.techradar.com/pro/security/cox-reveals-it-was-hit-by-oracle-data-breach-but-it-wont-name-who-carried-out-the-attack

    Kodak เปิดตัวกล้องฟิล์ม 35mm ราคาย่อมเยา กลับสู่ความคลาสสิก
    Kodak เปิดตัวกล้องฟิล์ม 35mm รุ่นใหม่ที่มีราคาย่อมเยาและดีไซน์ย้อนยุค เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในความคลาสสิกของการถ่ายภาพด้วยฟิล์ม กล้องรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งสีดำและสีขาว ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากสัมผัสประสบการณ์การถ่ายภาพแบบดั้งเดิม ถือเป็นการนำเสน่ห์ของฟิล์มกลับมาอีกครั้งในยุคดิจิทัล
    https://www.techradar.com/cameras/kodaks-affordable-35mm-film-camera-looks-like-a-black-or-white-blast-from-the-past

    Disney เปิดตัวหุ่นยนต์ Olaf ที่สมจริงจนทำให้ผู้ชมขนลุก
    Disney สร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยหุ่นยนต์ Olaf จาก Frozen ที่เคลื่อนไหวและแสดงออกได้อย่างสมจริง หุ่นยนต์นี้ถูกพัฒนาให้มีท่าทางและอารมณ์เหมือนตัวละครในภาพยนตร์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือน Olaf มีชีวิตจริง ๆ เทคโนโลยีนี้สะท้อนถึงความก้าวหน้าของ Disney ในการผสมผสานหุ่นยนต์เข้ากับความบันเทิง และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการนำตัวละครอื่น ๆ มาสู่โลกจริงในอนาคต
    https://www.techradar.com/streaming/entertainment/disneys-new-olaf-robot-is-so-real-itll-give-you-chills

    Iberia สายการบินสเปนประกาศถูกโจมตีข้อมูลครั้งใหญ่
    Iberia สายการบินรายใหญ่ของสเปนแจ้งลูกค้าว่าถูกโจมตีข้อมูลครั้งใหญ่ ทำให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้โดยสารบางส่วนเสี่ยงต่อการรั่วไหล แม้บริษัทจะรีบดำเนินการแก้ไขและเสริมมาตรการความปลอดภัย แต่เหตุการณ์นี้ก็สร้างความกังวลต่อผู้โดยสารและอุตสาหกรรมการบินโดยรวม เพราะสะท้อนถึงความเปราะบางของระบบดิจิทัลในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมหาศาล
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/iberia-tells-customers-it-was-hit-by-a-major-security-breach



    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251125 #TechRadar 🔋 รีวิวแบตเตอรี่ LiTime X Mini และอุปกรณ์เสริม เรื่องนี้เล่าได้ว่า LiTime เปิดตัวแบตเตอรี่ X Mini รุ่นใหม่ที่มีความจุ 320Ah หรือราว 4kWh ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับอินเวอร์เตอร์และเครื่องชาร์จเพื่อสร้างระบบไฟฟ้า AC ขนาด 2kW ได้ในราคาประมาณ 1,500 ดอลลาร์ จุดเด่นคือความยืดหยุ่น ผู้ใช้สามารถเพิ่มแบตเตอรี่หรือเปลี่ยนอินเวอร์เตอร์ให้แรงขึ้นได้ตามต้องการ ตัวแบตเตอรี่มีน้ำหนักเพียง 25 กิโลกรัม ขนาดไม่ต่างจากแบตรถยนต์ทั่วไป แต่มีฟังก์ชันล้ำ ๆ เช่น Bluetooth สำหรับตรวจสอบสถานะ, ระบบจัดการแบตเตอรี่ที่มีการป้องกันกว่า 20 รูปแบบ และทนต่ออุณหภูมิต่ำถึง -20 องศาเซลเซียส จุดที่น่าสนใจคือสามารถต่อแบตเตอรี่หลายลูกเพื่อขยายกำลังได้ และยังทำงานเป็น UPS สำรองไฟได้อีกด้วย เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งระบบเอง แต่ถ้าไม่ถนัด DIY อาจไม่เหมาะนัก 🔗 https://www.techradar.com/pro/litime-x-mini-battery-and-accessories-review 🍎 iPadOS 26 กับการจัดการหน้าต่างที่ทำให้สับสน แต่มีทริกง่าย ๆ Apple ปรับโฉมครั้งใหญ่ใน iPadOS 26 โดยเพิ่มระบบจัดการหน้าต่างแบบ Mac เข้ามา แต่หลายคนรวมถึงผู้เขียนพบว่ามันใช้งานยากและ Apple ไม่ได้อธิบายชัดเจน วิธีแก้คือเพิ่ม “Multitasking widget” ใน Control Center ซึ่งจะช่วยให้สลับโหมดการใช้งานได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโหมดเต็มหน้าจอที่เหมาะกับการดูสื่อบันเทิง, โหมด Windowed Apps ที่เหมาะกับการทำงานหลายแอปพร้อมกัน หรือโหมด Stage Manager ที่ช่วยจัดการ workspace ได้ดียิ่งขึ้น เมื่อเข้าใจการสลับโหมดเหล่านี้ iPad จะกลายเป็นเครื่องมือที่ทั้งบันเทิงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/tablets/ipad/ipados-26s-window-management-is-confusing-heres-an-easy-trick-to-use-it-properly 🌐 NATO จับมือ Google Cloud สร้าง Sovereign Cloud ที่ปลอดภัย NATO ลงนามข้อตกลงครั้งใหญ่กับ Google Cloud เพื่อใช้บริการ Google Distributed Cloud (GDC) ซึ่งเป็นระบบ sovereign cloud แบบ air-gapped ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะการจัดการข้อมูลที่อ่อนไหวจากศูนย์ JATEC ที่เกี่ยวข้องกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน จุดสำคัญคือ NATO จะสามารถควบคุมข้อมูลให้อยู่ในอาณาเขตของตนเองตามข้อกำหนดด้าน sovereignty และ compliance ข้อตกลงนี้ช่วยเร่งการปรับปรุงระบบดิจิทัลของ NATO และยังสะท้อนถึงการเติบโตของ Google Cloud ที่รายได้เพิ่มขึ้นกว่า 28% ในไตรมาสล่าสุด 🔗 https://www.techradar.com/pro/nato-signs-major-google-deal-to-ensure-secure-sovereign-cloud 📱 Android เตรียมรองรับ AirDrop มากขึ้น Google สร้างความฮือฮาเมื่อประกาศว่า Android Quick Share จะสามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้ ตอนนี้ใช้ได้เฉพาะ Pixel 10 แต่ Snapdragon ก็ออกมาบอกว่าจะรองรับในอนาคต ซึ่งหมายความว่าโทรศัพท์ Android รุ่นใหม่ ๆ อย่าง Samsung Galaxy S25 และ OnePlus 15 อาจใช้ฟีเจอร์นี้ได้ รวมถึง Nothing Phone 3 ที่ CEO ของ Nothing ยืนยันว่าจะนำมาใช้แน่นอน แม้ยังมีคำถามว่า Apple จะยอมให้ฟีเจอร์นี้ทำงานต่อไปหรือไม่ แต่ถ้าไม่ถูกบล็อก นี่จะเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้การแชร์ไฟล์ระหว่าง iPhone และ Android ง่ายขึ้นมาก 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/loads-more-android-phones-could-soon-work-with-airdrop 🖥️ GMKtec เปิดตัว EVO-T2 Mini-PC รุ่นใหม่ พร้อมชิป Intel Panther Lake เรื่องราวนี้พูดถึงการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก EVO-T2 จาก GMKtec ที่สร้างความฮือฮาเพราะเป็นรุ่นแรกที่ใช้ชิป Panther Lake ของ Intel รุ่นใหม่ล่าสุด ตัวเครื่องรองรับหน่วยความจำสูงสุดถึง 128GB LPDDR5X และมีช่อง SSD สองช่องที่รวมกันได้ถึง 16TB จุดเด่นคือพลังการประมวลผลด้าน AI ที่สูงถึง 180 TOPS ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องใช้ AI หนัก ๆ ทั้งยังคงดีไซน์เรียบง่ายเหมือนรุ่นก่อน แต่เพิ่มประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด การเปิดตัวจริงคาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/pro/gmktecs-next-mini-pc-will-be-the-first-to-feature-intel-panther-lake-and-some-other-seriously-impressive-specs 🛡️ นักวิจัยทดสอบ AI สร้างมัลแวร์ แต่ผลลัพธ์กลับไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ทีมวิจัยจาก Netskope พยายามทดสอบว่าโมเดลภาษา AI อย่าง GPT-3.5 และ GPT-4 สามารถสร้างโค้ดมัลแวร์ที่ใช้งานได้จริงหรือไม่ ผลคือแม้ AI จะสร้างโค้ดออกมาได้ แต่เมื่อนำไปทดสอบในสภาพแวดล้อมจริงกลับล้มเหลว ไม่เสถียร และทำงานผิดพลาดบ่อยครั้ง แม้ GPT-5 จะมีคุณภาพโค้ดที่ดีขึ้น แต่ก็มีระบบป้องกันที่ทำให้โค้ดไม่สามารถใช้โจมตีได้จริง เรื่องนี้สะท้อนว่า AI ยังไม่พร้อมสำหรับการสร้างมัลแวร์ที่ทำงานได้อย่างอัตโนมัติเต็มรูปแบบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/experts-tried-to-get-ai-to-create-malicious-security-threats-but-what-it-did-next-was-a-surprise-even-to-them ✨ Sam Altman และ Jony Ive เผยโฉมอุปกรณ์ AI ที่จะมอบ “บรรยากาศสงบ” ให้ผู้ใช้ Sam Altman ซีอีโอ OpenAI และ Jony Ive อดีตนักออกแบบจาก Apple กำลังพัฒนาอุปกรณ์ AI ภายใต้บริษัท IO ที่ตั้งใจให้แตกต่างจากเทคโนโลยีทั่วไป โดยจะเป็นอุปกรณ์ที่มีความเข้าใจบริบทชีวิตผู้ใช้ รู้ว่าเมื่อไรควรนำเสนอข้อมูล และสร้างบรรยากาศที่สงบเหมือนนั่งอยู่ในกระท่อมริมทะเลสาบ ไม่ใช่ความวุ่นวายแบบสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ทั้งคู่ยืนยันว่าอุปกรณ์นี้จะเปิดตัวภายในสองปี และจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้ “ยิ้มและรู้สึกมีความสุข” 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/sam-altman-and-jony-ive-ai-device-is-now-in-its-prototype-phase-and-its-vibe-is-defined 🎶 รีวิวเครื่องเล่นแผ่นเสียง Sony PS-LX310BT รุ่นราคาย่อมเยา ใช้ง่ายและดูดี เครื่องเล่นแผ่นเสียง Sony PS-LX310BT ถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้เริ่มต้นเล่นแผ่นเสียง จุดเด่นคือราคาที่จับต้องได้และการใช้งานที่ง่าย เพียงกดปุ่มเล่นหรือหยุดโดยไม่ต้องยุ่งกับเข็มหรือโทนอาร์ม ดีไซน์เรียบหรูและรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Bluetooth และ RCA แม้จะไม่มีช่อง 3.5 มม. และการตั้งค่าเริ่มต้นอาจดูยุ่งเล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่าเป็นเครื่องเล่นที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากสัมผัสโลกของเสียงจากแผ่นไวนิล 🔗 https://www.techradar.com/audio/turntables/i-tested-the-entry-level-turntable-that-everyone-raves-about-and-i-totally-get-it 🛍️ ChatGPT เปิดตัวฟีเจอร์ Shopping Research ช่วยค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าให้คุณ OpenAI เพิ่มเครื่องมือใหม่ใน ChatGPT ชื่อว่า Shopping Research ที่ช่วยผู้ใช้ค้นหาสินค้าและเปรียบเทียบราคาได้โดยไม่ต้องเปิดหลายแท็บ เครื่องมือนี้สามารถสร้างคู่มือการซื้อที่ปรับตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น การหาของขวัญแปลกใหม่หรือทีวีที่เหมาะกับห้องสว่าง ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้ทั้งในแผนฟรีและแบบเสียเงิน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้งปลายปีที่เข้าถึงได้แทบไม่จำกัด ถือเป็นการยกระดับ ChatGPT ให้กลายเป็นผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัวที่สะดวกและฉลาดขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-shopping-research-tool-compares-products-for-you-so-you-dont-have-to-open-20-tabs 🔒 ช่องโหว่ Windows Server ถูกแฮกเกอร์ใช้แพร่กระจายมัลแวร์ ข่าวนี้เล่าถึงการค้นพบช่องโหว่ใน Windows Server ที่ถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ไปยังระบบต่าง ๆ ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าถึงและควบคุมเครื่องเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ที่ถูกต้อง Microsoft ได้ออกคำเตือนและแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตแพตช์เพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/windows-server-flaw-targeted-by-hackers-to-spread-malware-heres-what-we-know 📉 Cox Enterprises ถูกโจมตีข้อมูลจาก Oracle แต่ไม่เปิดเผยผู้ก่อเหตุ ox Enterprises บริษัทสื่อและโทรคมนาคมรายใหญ่ในสหรัฐฯ ยืนยันว่าถูกโจมตีข้อมูลผ่านระบบ Oracle แต่ยังไม่เปิดเผยว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุหรือวิธีการที่ใช้ การโจมตีครั้งนี้ทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนเสี่ยงต่อการรั่วไหล แม้บริษัทจะพยายามควบคุมสถานการณ์และเสริมมาตรการความปลอดภัย แต่การไม่เปิดเผยรายละเอียดก็สร้างความกังวลต่อผู้ใช้งานและนักลงทุน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/cox-reveals-it-was-hit-by-oracle-data-breach-but-it-wont-name-who-carried-out-the-attack 📷 Kodak เปิดตัวกล้องฟิล์ม 35mm ราคาย่อมเยา กลับสู่ความคลาสสิก Kodak เปิดตัวกล้องฟิล์ม 35mm รุ่นใหม่ที่มีราคาย่อมเยาและดีไซน์ย้อนยุค เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในความคลาสสิกของการถ่ายภาพด้วยฟิล์ม กล้องรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งสีดำและสีขาว ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากสัมผัสประสบการณ์การถ่ายภาพแบบดั้งเดิม ถือเป็นการนำเสน่ห์ของฟิล์มกลับมาอีกครั้งในยุคดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/cameras/kodaks-affordable-35mm-film-camera-looks-like-a-black-or-white-blast-from-the-past 🤖 Disney เปิดตัวหุ่นยนต์ Olaf ที่สมจริงจนทำให้ผู้ชมขนลุก Disney สร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยหุ่นยนต์ Olaf จาก Frozen ที่เคลื่อนไหวและแสดงออกได้อย่างสมจริง หุ่นยนต์นี้ถูกพัฒนาให้มีท่าทางและอารมณ์เหมือนตัวละครในภาพยนตร์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือน Olaf มีชีวิตจริง ๆ เทคโนโลยีนี้สะท้อนถึงความก้าวหน้าของ Disney ในการผสมผสานหุ่นยนต์เข้ากับความบันเทิง และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการนำตัวละครอื่น ๆ มาสู่โลกจริงในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/streaming/entertainment/disneys-new-olaf-robot-is-so-real-itll-give-you-chills ✈️ Iberia สายการบินสเปนประกาศถูกโจมตีข้อมูลครั้งใหญ่ Iberia สายการบินรายใหญ่ของสเปนแจ้งลูกค้าว่าถูกโจมตีข้อมูลครั้งใหญ่ ทำให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้โดยสารบางส่วนเสี่ยงต่อการรั่วไหล แม้บริษัทจะรีบดำเนินการแก้ไขและเสริมมาตรการความปลอดภัย แต่เหตุการณ์นี้ก็สร้างความกังวลต่อผู้โดยสารและอุตสาหกรรมการบินโดยรวม เพราะสะท้อนถึงความเปราะบางของระบบดิจิทัลในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมหาศาล ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/iberia-tells-customers-it-was-hit-by-a-major-security-breach
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Intel Nova Lake มาพร้อม NPU6: พลัง AI 74 TOPS”

    Intel กำลังเตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรม Nova Lake ที่จะมาพร้อมหน่วยประมวลผล AI รุ่นใหม่ NPU6 โดยมีประสิทธิภาพสูงถึง 74 TOPS (INT8) ซึ่งมากกว่า NPU4 ใน Lunar Lake ที่ทำได้ 48 TOPS และเหนือกว่า NPU5 ใน Panther Lake ที่ทำได้เพียง 50 TOPS การก้าวกระโดดนี้ถือเป็นการเพิ่มพลังถึง 1.5 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และมากกว่า 5 เท่าเมื่อเทียบกับ NPU3 ใน Arrow Lake

    นอกจาก NPU ที่ทรงพลังแล้ว Nova Lake ยังมาพร้อมสถาปัตยกรรมกราฟิกใหม่ที่ใช้ Xe3-LPG iGPU แม้ว่าจะลดจำนวนคอร์จาก 4 เหลือ 2 เมื่อเทียบกับ Arrow Lake แต่ Intel ตั้งใจชดเชยด้วยประสิทธิภาพ AI และการรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AVX10 เพื่อเพิ่มความสามารถในการประมวลผลเชิงเวกเตอร์

    การพัฒนา NPU6 ถูกพบในแพตช์ของ Linux Kernel ซึ่งบ่งชี้ว่ากำลังเข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบจริงแล้ว นักวิเคราะห์มองว่าการมาของ Nova Lake จะเป็นการตอบโต้การแข่งขันจาก AMD ที่เตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรม Zen 6 ซึ่งเน้นพลัง AI เช่นกัน

    แม้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Intel แต่การรั่วไหลครั้งนี้สร้างความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถกลับมาแข่งขันในตลาดได้ โดยเฉพาะในยุคที่ AI กำลังเป็นหัวใจสำคัญของทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Nova Lake และ NPU6
    ประสิทธิภาพสูงถึง 74 TOPS (INT8)
    มากกว่า NPU4 (48 TOPS) และ NPU5 (50 TOPS)

    การเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน
    1.5 เท่าเหนือกว่า Lunar Lake
    5 เท่าเหนือกว่า Arrow Lake

    สถาปัตยกรรมใหม่
    ใช้ Xe3-LPG iGPU (2 คอร์)
    รองรับ AVX10 สำหรับงานประมวลผลเวกเตอร์

    การพัฒนาและทดสอบ
    พบข้อมูลใน Linux Kernel patch
    อยู่ในขั้นตอนการทดสอบจริง

    ข้อกังวลและการแข่งขัน
    ลดจำนวนคอร์ iGPU อาจกระทบงานกราฟิก
    ต้องเผชิญการแข่งขันจาก AMD Zen 6 ที่เน้น AI เช่นกัน

    https://wccftech.com/intel-nova-lake-npu6-expected-to-deliver-74-tops-of-ai-performance/
    🖥️ “Intel Nova Lake มาพร้อม NPU6: พลัง AI 74 TOPS” Intel กำลังเตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรม Nova Lake ที่จะมาพร้อมหน่วยประมวลผล AI รุ่นใหม่ NPU6 โดยมีประสิทธิภาพสูงถึง 74 TOPS (INT8) ซึ่งมากกว่า NPU4 ใน Lunar Lake ที่ทำได้ 48 TOPS และเหนือกว่า NPU5 ใน Panther Lake ที่ทำได้เพียง 50 TOPS การก้าวกระโดดนี้ถือเป็นการเพิ่มพลังถึง 1.5 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และมากกว่า 5 เท่าเมื่อเทียบกับ NPU3 ใน Arrow Lake นอกจาก NPU ที่ทรงพลังแล้ว Nova Lake ยังมาพร้อมสถาปัตยกรรมกราฟิกใหม่ที่ใช้ Xe3-LPG iGPU แม้ว่าจะลดจำนวนคอร์จาก 4 เหลือ 2 เมื่อเทียบกับ Arrow Lake แต่ Intel ตั้งใจชดเชยด้วยประสิทธิภาพ AI และการรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AVX10 เพื่อเพิ่มความสามารถในการประมวลผลเชิงเวกเตอร์ การพัฒนา NPU6 ถูกพบในแพตช์ของ Linux Kernel ซึ่งบ่งชี้ว่ากำลังเข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบจริงแล้ว นักวิเคราะห์มองว่าการมาของ Nova Lake จะเป็นการตอบโต้การแข่งขันจาก AMD ที่เตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรม Zen 6 ซึ่งเน้นพลัง AI เช่นกัน แม้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Intel แต่การรั่วไหลครั้งนี้สร้างความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถกลับมาแข่งขันในตลาดได้ โดยเฉพาะในยุคที่ AI กำลังเป็นหัวใจสำคัญของทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Nova Lake และ NPU6 ➡️ ประสิทธิภาพสูงถึง 74 TOPS (INT8) ➡️ มากกว่า NPU4 (48 TOPS) และ NPU5 (50 TOPS) ✅ การเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน ➡️ 1.5 เท่าเหนือกว่า Lunar Lake ➡️ 5 เท่าเหนือกว่า Arrow Lake ✅ สถาปัตยกรรมใหม่ ➡️ ใช้ Xe3-LPG iGPU (2 คอร์) ➡️ รองรับ AVX10 สำหรับงานประมวลผลเวกเตอร์ ✅ การพัฒนาและทดสอบ ➡️ พบข้อมูลใน Linux Kernel patch ➡️ อยู่ในขั้นตอนการทดสอบจริง ‼️ ข้อกังวลและการแข่งขัน ⛔ ลดจำนวนคอร์ iGPU อาจกระทบงานกราฟิก ⛔ ต้องเผชิญการแข่งขันจาก AMD Zen 6 ที่เน้น AI เช่นกัน https://wccftech.com/intel-nova-lake-npu6-expected-to-deliver-74-tops-of-ai-performance/
    WCCFTECH.COM
    Intel Nova Lake NPU6 Expected To Deliver 74 TOPS Of AI Performance
    As per the claim by a prominent leaker, the Intel Nova Lake will boast NPU6 that will deliver up to 74 AI TOPS performance.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • “TikTok เปิดตัวฟิลเตอร์ AI: ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะเห็นมากหรือน้อย”

    TikTok ได้เพิ่มตัวเลือกใหม่ในเมนู Manage Topics ให้ผู้ใช้สามารถปรับระดับการแสดงคอนเทนต์ที่สร้างด้วย AI ได้ตามต้องการ โดยใช้ระบบสไลเดอร์ที่เลือกได้ตั้งแต่ “เห็นน้อยมาก” ไปจนถึง “เห็นมากขึ้น” ซึ่งถือเป็นการให้สิทธิ์ผู้ใช้ในการควบคุมประสบการณ์การใช้งาน แทนที่จะถูกแพลตฟอร์มจำกัดโดยอัตโนมัติ

    เพื่อให้การกรองและการติดฉลากมีประสิทธิภาพมากขึ้น TikTok กำลังทดสอบการใช้ Invisible Watermarking สำหรับวิดีโอที่สร้างด้วยเครื่องมือ AI ของแพลตฟอร์มเอง เช่น AI Editor Pro หรือที่อัปโหลดพร้อมกับ C2PA Content Credentials วิธีนี้ช่วยให้การระบุคอนเทนต์ AI ยากต่อการลบหรือแก้ไขเมื่อถูกแชร์ซ้ำบนแพลตฟอร์มอื่น

    นอกจากนี้ TikTok ยังบังคับให้ผู้สร้างคอนเทนต์ที่สมจริงด้วย AI ต้องติดฉลาก หากตรวจพบว่ามีการละเมิด เช่น ไม่ติดฉลาก จะถูกลดการเข้าถึงอย่างหนัก (reach suppression) ถึง 73% ภายใน 48 ชั่วโมง และอาจได้รับการลงโทษทางบัญชี เช่น การเตือนหรือการแบนชั่วคราว

    อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวคือการจัดตั้ง AI Literacy Fund มูลค่า 2 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนองค์กรไม่แสวงหากำไร เช่น Girls Who Code ในการสร้างเนื้อหาการศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยและการระบุคอนเทนต์ AI ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามของ TikTok ในการสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นต่อผู้ใช้

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ฟีเจอร์ AI Content Filter
    ผู้ใช้ปรับระดับการเห็นคอนเทนต์ AI ได้ด้วยสไลเดอร์
    เลือกได้ตั้งแต่ “เห็นน้อยมาก” ถึง “เห็นมากขึ้น”

    Invisible Watermarking
    ใช้กับวิดีโอที่สร้างด้วย AI Editor Pro
    ทำให้การลบฉลากหรือแก้ไขยากขึ้นเมื่อแชร์ซ้ำ

    การบังคับติดฉลากและบทลงโทษ
    คอนเทนต์ AI สมจริงต้องติดฉลาก
    หากไม่ติดฉลากจะถูกลดการเข้าถึงถึง 73% และอาจถูกลงโทษบัญชี

    AI Literacy Fund
    มูลค่า 2 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการศึกษาเรื่อง AI
    ร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหากำไร เช่น Girls Who Code

    ข้อกังวลและความท้าทาย
    การตรวจจับคอนเทนต์ AI อาจไม่สมบูรณ์ 100%
    ความเสี่ยงที่ผู้สร้างหาวิธีหลบเลี่ยงการติดฉลาก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/tiktok-is-getting-a-new-filter-for-ai-how-does-it-work
    🎭 “TikTok เปิดตัวฟิลเตอร์ AI: ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะเห็นมากหรือน้อย” TikTok ได้เพิ่มตัวเลือกใหม่ในเมนู Manage Topics ให้ผู้ใช้สามารถปรับระดับการแสดงคอนเทนต์ที่สร้างด้วย AI ได้ตามต้องการ โดยใช้ระบบสไลเดอร์ที่เลือกได้ตั้งแต่ “เห็นน้อยมาก” ไปจนถึง “เห็นมากขึ้น” ซึ่งถือเป็นการให้สิทธิ์ผู้ใช้ในการควบคุมประสบการณ์การใช้งาน แทนที่จะถูกแพลตฟอร์มจำกัดโดยอัตโนมัติ เพื่อให้การกรองและการติดฉลากมีประสิทธิภาพมากขึ้น TikTok กำลังทดสอบการใช้ Invisible Watermarking สำหรับวิดีโอที่สร้างด้วยเครื่องมือ AI ของแพลตฟอร์มเอง เช่น AI Editor Pro หรือที่อัปโหลดพร้อมกับ C2PA Content Credentials วิธีนี้ช่วยให้การระบุคอนเทนต์ AI ยากต่อการลบหรือแก้ไขเมื่อถูกแชร์ซ้ำบนแพลตฟอร์มอื่น นอกจากนี้ TikTok ยังบังคับให้ผู้สร้างคอนเทนต์ที่สมจริงด้วย AI ต้องติดฉลาก หากตรวจพบว่ามีการละเมิด เช่น ไม่ติดฉลาก จะถูกลดการเข้าถึงอย่างหนัก (reach suppression) ถึง 73% ภายใน 48 ชั่วโมง และอาจได้รับการลงโทษทางบัญชี เช่น การเตือนหรือการแบนชั่วคราว อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวคือการจัดตั้ง AI Literacy Fund มูลค่า 2 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนองค์กรไม่แสวงหากำไร เช่น Girls Who Code ในการสร้างเนื้อหาการศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยและการระบุคอนเทนต์ AI ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามของ TikTok ในการสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นต่อผู้ใช้ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ฟีเจอร์ AI Content Filter ➡️ ผู้ใช้ปรับระดับการเห็นคอนเทนต์ AI ได้ด้วยสไลเดอร์ ➡️ เลือกได้ตั้งแต่ “เห็นน้อยมาก” ถึง “เห็นมากขึ้น” ✅ Invisible Watermarking ➡️ ใช้กับวิดีโอที่สร้างด้วย AI Editor Pro ➡️ ทำให้การลบฉลากหรือแก้ไขยากขึ้นเมื่อแชร์ซ้ำ ✅ การบังคับติดฉลากและบทลงโทษ ➡️ คอนเทนต์ AI สมจริงต้องติดฉลาก ➡️ หากไม่ติดฉลากจะถูกลดการเข้าถึงถึง 73% และอาจถูกลงโทษบัญชี ✅ AI Literacy Fund ➡️ มูลค่า 2 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการศึกษาเรื่อง AI ➡️ ร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหากำไร เช่น Girls Who Code ‼️ ข้อกังวลและความท้าทาย ⛔ การตรวจจับคอนเทนต์ AI อาจไม่สมบูรณ์ 100% ⛔ ความเสี่ยงที่ผู้สร้างหาวิธีหลบเลี่ยงการติดฉลาก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/tiktok-is-getting-a-new-filter-for-ai-how-does-it-work
    WWW.THESTAR.COM.MY
    TikTok is getting a new filter for AI: How does it work?
    This change is a response to user feedback about "AI slop" or low-quality AI content flooding feeds, and it contrasts with platforms like Meta, which have explored dedicated AI-only feeds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Trump เปิดตัว Genesis Mission: แพลตฟอร์ม AI แห่งชาติ ใช้ข้อมูลรัฐบาลเร่งนวัตกรรม”

    ประธานาธิบดี Donald Trump ได้ลงนามคำสั่งบริหารเพื่อเริ่มโครงการ Genesis Mission ซึ่งเป็นความพยายามระดับชาติในการสร้างแพลตฟอร์ม AI ที่สามารถใช้ฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลกลางในการฝึกโมเดลพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ (scientific foundation models) เป้าหมายคือเพื่อเร่งการค้นพบใหม่ ๆ และสร้าง AI ที่สามารถช่วยนักวิจัยทดสอบสมมติฐาน รวมถึงทำงานวิจัยเชิงซ้ำซ้อนโดยอัตโนมัติ

    โครงการนี้ถูกมองว่าเป็นการยกระดับบทบาทของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการแข่งขันด้าน AI ระดับโลก โดยเฉพาะเมื่อจีนและยุโรปต่างลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยีนี้ การใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่แล้วในหน่วยงานรัฐบาลถือเป็น “ทรัพยากรทองคำ” ที่สามารถสร้างความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ให้กับสหรัฐฯ

    Genesis Mission ยังตั้งเป้าที่จะสร้างระบบนิเวศ AI ที่สามารถเชื่อมโยงนักวิจัย มหาวิทยาลัย และบริษัทเอกชนเข้าด้วยกัน เพื่อผลักดันให้เกิดการค้นพบที่รวดเร็วขึ้น เช่น การพัฒนายาใหม่ การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และการออกแบบวัสดุขั้นสูง โดยมีการพูดถึงการสร้าง “AI agents” ที่สามารถทำงานวิจัยแทนนักวิทยาศาสตร์ในบางขั้นตอน

    อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการรวมข้อมูลขนาดใหญ่ของรัฐบาลเข้าสู่แพลตฟอร์ม AI อาจสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังมีคำถามว่าการบริหารจัดการข้อมูลมหาศาลเช่นนี้จะโปร่งใสและเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายหรือไม่

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเปิดตัว Genesis Mission
    ลงนามคำสั่งบริหารโดย Donald Trump
    ใช้ฐานข้อมูลวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลกลางในการฝึกโมเดล AI

    เป้าหมายของโครงการ
    เร่งการค้นพบทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม
    สร้าง AI agents เพื่อช่วยงานวิจัยอัตโนมัติ

    บทบาทเชิงกลยุทธ์
    สหรัฐฯ ต้องการความได้เปรียบในการแข่งขัน AI ระดับโลก
    ใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วเป็นทรัพยากรสำคัญ

    การเชื่อมโยงระบบนิเวศ AI
    รวมมหาวิทยาลัย นักวิจัย และบริษัทเอกชนเข้าด้วยกัน
    สนับสนุนการค้นพบในด้านยา สิ่งแวดล้อม และวัสดุใหม่

    ข้อกังวลและความเสี่ยง
    ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลรัฐบาล
    ความโปร่งใสในการบริหารจัดการข้อมูลมหาศาล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/trump-aims-to-boost-ai-innovation-build-platform-to-harness-government-data
    🤖 “Trump เปิดตัว Genesis Mission: แพลตฟอร์ม AI แห่งชาติ ใช้ข้อมูลรัฐบาลเร่งนวัตกรรม” ประธานาธิบดี Donald Trump ได้ลงนามคำสั่งบริหารเพื่อเริ่มโครงการ Genesis Mission ซึ่งเป็นความพยายามระดับชาติในการสร้างแพลตฟอร์ม AI ที่สามารถใช้ฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลกลางในการฝึกโมเดลพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ (scientific foundation models) เป้าหมายคือเพื่อเร่งการค้นพบใหม่ ๆ และสร้าง AI ที่สามารถช่วยนักวิจัยทดสอบสมมติฐาน รวมถึงทำงานวิจัยเชิงซ้ำซ้อนโดยอัตโนมัติ โครงการนี้ถูกมองว่าเป็นการยกระดับบทบาทของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการแข่งขันด้าน AI ระดับโลก โดยเฉพาะเมื่อจีนและยุโรปต่างลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยีนี้ การใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่แล้วในหน่วยงานรัฐบาลถือเป็น “ทรัพยากรทองคำ” ที่สามารถสร้างความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ให้กับสหรัฐฯ Genesis Mission ยังตั้งเป้าที่จะสร้างระบบนิเวศ AI ที่สามารถเชื่อมโยงนักวิจัย มหาวิทยาลัย และบริษัทเอกชนเข้าด้วยกัน เพื่อผลักดันให้เกิดการค้นพบที่รวดเร็วขึ้น เช่น การพัฒนายาใหม่ การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และการออกแบบวัสดุขั้นสูง โดยมีการพูดถึงการสร้าง “AI agents” ที่สามารถทำงานวิจัยแทนนักวิทยาศาสตร์ในบางขั้นตอน อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการรวมข้อมูลขนาดใหญ่ของรัฐบาลเข้าสู่แพลตฟอร์ม AI อาจสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังมีคำถามว่าการบริหารจัดการข้อมูลมหาศาลเช่นนี้จะโปร่งใสและเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายหรือไม่ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเปิดตัว Genesis Mission ➡️ ลงนามคำสั่งบริหารโดย Donald Trump ➡️ ใช้ฐานข้อมูลวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลกลางในการฝึกโมเดล AI ✅ เป้าหมายของโครงการ ➡️ เร่งการค้นพบทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม ➡️ สร้าง AI agents เพื่อช่วยงานวิจัยอัตโนมัติ ✅ บทบาทเชิงกลยุทธ์ ➡️ สหรัฐฯ ต้องการความได้เปรียบในการแข่งขัน AI ระดับโลก ➡️ ใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วเป็นทรัพยากรสำคัญ ✅ การเชื่อมโยงระบบนิเวศ AI ➡️ รวมมหาวิทยาลัย นักวิจัย และบริษัทเอกชนเข้าด้วยกัน ➡️ สนับสนุนการค้นพบในด้านยา สิ่งแวดล้อม และวัสดุใหม่ ‼️ ข้อกังวลและความเสี่ยง ⛔ ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลรัฐบาล ⛔ ความโปร่งใสในการบริหารจัดการข้อมูลมหาศาล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/trump-aims-to-boost-ai-innovation-build-platform-to-harness-government-data
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Trump aims to boost AI innovation, build platform to harness government data
    (Reuters) -President Donald Trump on Monday signed an executive order to launch a government-wide effort to build an integrated artificial intelligence platform to harness federal scientific datasets to train next-generation technologies.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Amazon เผชิญศึกกฎหมายในฝรั่งเศส: ใบอนุญาตดาวเทียมอินเทอร์เน็ตถูกท้าทาย”

    Amazon ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลโทรคมนาคมของฝรั่งเศส (Arcep) ให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับโครงการดาวเทียมอินเทอร์เน็ตเป็นเวลา 10 ปี เพื่อสร้างเครือข่ายดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) แข่งกับผู้เล่นรายใหญ่อย่าง SpaceX และ OneWeb อย่างไรก็ตาม สหภาพแรงงาน CFE-CGC Telecoms ได้ยื่นฟ้องต่อศาลสูงสุดของฝรั่งเศสเพื่อขอให้ยกเลิกการอนุญาตดังกล่าว

    แรงงานมองว่าการให้สิทธิ์ Amazon อาจสร้างความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ เนื่องจากข้อมูลการสื่อสารอาจถูกควบคุมโดยบริษัทต่างชาติ อีกทั้งยังตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการอนุมัติและผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมฝรั่งเศส

    กรณีนี้ถือเป็นการทดสอบครั้งใหญ่สำหรับความทะเยอทะยานของ Amazon ในการเข้าสู่ธุรกิจอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทหรือภูมิภาคที่โครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตยังไม่ครอบคลุม

    แม้จะมีความท้าทายทางกฎหมาย แต่ Amazon ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการดาวเทียม Kuiper ที่ตั้งเป้าจะให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก และมองว่าการแข่งขันกับ SpaceX จะเป็นแรงผลักดันให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงผู้ใช้ได้เร็วขึ้น

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การอนุญาตจาก Arcep
    Amazon ได้สิทธิ์ใช้คลื่นความถี่ดาวเทียม 10 ปี
    โครงการ Kuiper ตั้งเป้าให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก

    การฟ้องร้องโดยสหภาพแรงงานฝรั่งเศส
    ยื่นต่อศาลสูงสุดเพื่อยกเลิกใบอนุญาต
    ตั้งข้อสงสัยเรื่องความโปร่งใสและผลกระทบต่อการแข่งขัน

    เป้าหมายของ Amazon
    แข่งขันกับ SpaceX และ OneWeb ในตลาดดาวเทียมอินเทอร์เน็ต
    เน้นพื้นที่ชนบทและภูมิภาคที่ขาดโครงสร้างพื้นฐาน

    ข้อกังวลด้านความมั่นคงและข้อมูล
    การควบคุมข้อมูลโดยบริษัทต่างชาติอาจเสี่ยงต่อความมั่นคง
    อาจกระทบต่อผู้ให้บริการโทรคมนาคมท้องถิ่น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/amazon039s-satellite-internet-licence-faces-legal-challenge-in-france
    🚀 “Amazon เผชิญศึกกฎหมายในฝรั่งเศส: ใบอนุญาตดาวเทียมอินเทอร์เน็ตถูกท้าทาย” Amazon ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลโทรคมนาคมของฝรั่งเศส (Arcep) ให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับโครงการดาวเทียมอินเทอร์เน็ตเป็นเวลา 10 ปี เพื่อสร้างเครือข่ายดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) แข่งกับผู้เล่นรายใหญ่อย่าง SpaceX และ OneWeb อย่างไรก็ตาม สหภาพแรงงาน CFE-CGC Telecoms ได้ยื่นฟ้องต่อศาลสูงสุดของฝรั่งเศสเพื่อขอให้ยกเลิกการอนุญาตดังกล่าว แรงงานมองว่าการให้สิทธิ์ Amazon อาจสร้างความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ เนื่องจากข้อมูลการสื่อสารอาจถูกควบคุมโดยบริษัทต่างชาติ อีกทั้งยังตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการอนุมัติและผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมฝรั่งเศส กรณีนี้ถือเป็นการทดสอบครั้งใหญ่สำหรับความทะเยอทะยานของ Amazon ในการเข้าสู่ธุรกิจอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทหรือภูมิภาคที่โครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตยังไม่ครอบคลุม แม้จะมีความท้าทายทางกฎหมาย แต่ Amazon ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการดาวเทียม Kuiper ที่ตั้งเป้าจะให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก และมองว่าการแข่งขันกับ SpaceX จะเป็นแรงผลักดันให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงผู้ใช้ได้เร็วขึ้น 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การอนุญาตจาก Arcep ➡️ Amazon ได้สิทธิ์ใช้คลื่นความถี่ดาวเทียม 10 ปี ➡️ โครงการ Kuiper ตั้งเป้าให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ✅ การฟ้องร้องโดยสหภาพแรงงานฝรั่งเศส ➡️ ยื่นต่อศาลสูงสุดเพื่อยกเลิกใบอนุญาต ➡️ ตั้งข้อสงสัยเรื่องความโปร่งใสและผลกระทบต่อการแข่งขัน ✅ เป้าหมายของ Amazon ➡️ แข่งขันกับ SpaceX และ OneWeb ในตลาดดาวเทียมอินเทอร์เน็ต ➡️ เน้นพื้นที่ชนบทและภูมิภาคที่ขาดโครงสร้างพื้นฐาน ‼️ ข้อกังวลด้านความมั่นคงและข้อมูล ⛔ การควบคุมข้อมูลโดยบริษัทต่างชาติอาจเสี่ยงต่อความมั่นคง ⛔ อาจกระทบต่อผู้ให้บริการโทรคมนาคมท้องถิ่น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/amazon039s-satellite-internet-licence-faces-legal-challenge-in-france
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Amazon's satellite internet licence faces legal challenge in France
    (Reuters) -A French union filed a legal challenge on Monday against a decision by the country's telecoms regulator to grant radio spectrum to Amazon's satellite internet service, the biggest test yet of the U.S. tech giant's broadband ambitions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมไซเบอร์ระดับสูงเปิดตัว Blast Security ด้วยทุน $10M

    Blast Security บริษัทสตาร์ทอัพด้านไซเบอร์จากอิสราเอล เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมทุนเริ่มต้นกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายพลิกโฉมการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ จากการตรวจจับและตอบสนอง ไปสู่การ ป้องกันเชิงรุก (Preemptive Cloud Defense)

    แนวคิดและเทคโนโลยีใหม่
    Blast Security พัฒนาแพลตฟอร์มที่ทำงานแบบ preventive guardrails ซึ่งจะตรวจสอบและบังคับใช้การเปลี่ยนแปลงในระบบคลาวด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าความปลอดภัยไม่ถูกละเมิดตั้งแต่ต้น จุดเด่นคือการ ลดความเสี่ยงบนคลาวด์ได้กว่า 90% และทำให้การดำเนินงานไม่สะดุดแม้มีการบังคับใช้มาตรการป้องกัน

    ทีมผู้ก่อตั้งประกอบด้วยอดีตวิศวกรจาก Solebit (บริษัทที่ถูก Mimecast ซื้อกิจการ) และสมาชิกจากหน่วยไซเบอร์ของกองทัพอิสราเอล (IDF) ซึ่งมีประสบการณ์ร่วมกันมากกว่าทศวรรษในการสร้างโซลูชันด้านความปลอดภัยที่สามารถขยายการใช้งานได้จริง

    ผลกระทบต่อองค์กรและตลาด
    องค์กรที่ใช้ระบบ multi-cloud มักเผชิญกับความซับซ้อนและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อ AI เข้ามาเร่งการพัฒนา ทำให้การตรวจจับแบบเดิมไม่ทันต่อภัยคุกคาม Blast Security จึงเสนอแนวทางใหม่ที่เน้นการ ป้องกันก่อนเกิดเหตุ แทนการวิ่งไล่ตามการแจ้งเตือน

    บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งเริ่มทดสอบการใช้งาน Blast Security เพื่อเสริมความมั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงในระบบคลาวด์จะไม่กระทบต่อการผลิตและนวัตกรรม

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปิดตัว Blast Security
    ทุนเริ่มต้น $10M จาก 10D และ MizMaa Ventures
    ทีมก่อตั้งจาก Solebit และหน่วยไซเบอร์ IDF

    เทคโนโลยี Preemptive Cloud Defense
    ใช้ preventive guardrails ตรวจสอบและบังคับใช้การเปลี่ยนแปลง
    ลดความเสี่ยงบนคลาวด์ได้กว่า 90%
    ไม่กระทบการผลิตและนวัตกรรม

    ผลกระทบต่อองค์กร
    เหมาะกับระบบ multi-cloud ที่ซับซ้อน
    ช่วยลด alert fatigue และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้และองค์กร
    หากยังใช้วิธีตรวจจับแบบเดิม อาจไม่ทันต่อภัยคุกคามยุคใหม่
    การไม่ปรับตัวสู่การป้องกันเชิงรุกอาจทำให้ระบบเสี่ยงต่อการโจมตี
    องค์กรต้องลงทุนและปรับกระบวนการเพื่อใช้ประโยชน์จากแนวทางใหม่นี้

    https://hackread.com/elite-cyber-veterans-launch-blast-security-with-10m-to-turn-cloud-detection-into-prevention/
    🛡️ ทีมไซเบอร์ระดับสูงเปิดตัว Blast Security ด้วยทุน $10M Blast Security บริษัทสตาร์ทอัพด้านไซเบอร์จากอิสราเอล เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมทุนเริ่มต้นกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายพลิกโฉมการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ จากการตรวจจับและตอบสนอง ไปสู่การ ป้องกันเชิงรุก (Preemptive Cloud Defense) ⚙️ แนวคิดและเทคโนโลยีใหม่ Blast Security พัฒนาแพลตฟอร์มที่ทำงานแบบ preventive guardrails ซึ่งจะตรวจสอบและบังคับใช้การเปลี่ยนแปลงในระบบคลาวด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าความปลอดภัยไม่ถูกละเมิดตั้งแต่ต้น จุดเด่นคือการ ลดความเสี่ยงบนคลาวด์ได้กว่า 90% และทำให้การดำเนินงานไม่สะดุดแม้มีการบังคับใช้มาตรการป้องกัน ทีมผู้ก่อตั้งประกอบด้วยอดีตวิศวกรจาก Solebit (บริษัทที่ถูก Mimecast ซื้อกิจการ) และสมาชิกจากหน่วยไซเบอร์ของกองทัพอิสราเอล (IDF) ซึ่งมีประสบการณ์ร่วมกันมากกว่าทศวรรษในการสร้างโซลูชันด้านความปลอดภัยที่สามารถขยายการใช้งานได้จริง 🌍 ผลกระทบต่อองค์กรและตลาด องค์กรที่ใช้ระบบ multi-cloud มักเผชิญกับความซับซ้อนและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อ AI เข้ามาเร่งการพัฒนา ทำให้การตรวจจับแบบเดิมไม่ทันต่อภัยคุกคาม Blast Security จึงเสนอแนวทางใหม่ที่เน้นการ ป้องกันก่อนเกิดเหตุ แทนการวิ่งไล่ตามการแจ้งเตือน บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งเริ่มทดสอบการใช้งาน Blast Security เพื่อเสริมความมั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงในระบบคลาวด์จะไม่กระทบต่อการผลิตและนวัตกรรม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปิดตัว Blast Security ➡️ ทุนเริ่มต้น $10M จาก 10D และ MizMaa Ventures ➡️ ทีมก่อตั้งจาก Solebit และหน่วยไซเบอร์ IDF ✅ เทคโนโลยี Preemptive Cloud Defense ➡️ ใช้ preventive guardrails ตรวจสอบและบังคับใช้การเปลี่ยนแปลง ➡️ ลดความเสี่ยงบนคลาวด์ได้กว่า 90% ➡️ ไม่กระทบการผลิตและนวัตกรรม ✅ ผลกระทบต่อองค์กร ➡️ เหมาะกับระบบ multi-cloud ที่ซับซ้อน ➡️ ช่วยลด alert fatigue และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้และองค์กร ⛔ หากยังใช้วิธีตรวจจับแบบเดิม อาจไม่ทันต่อภัยคุกคามยุคใหม่ ⛔ การไม่ปรับตัวสู่การป้องกันเชิงรุกอาจทำให้ระบบเสี่ยงต่อการโจมตี ⛔ องค์กรต้องลงทุนและปรับกระบวนการเพื่อใช้ประโยชน์จากแนวทางใหม่นี้ https://hackread.com/elite-cyber-veterans-launch-blast-security-with-10m-to-turn-cloud-detection-into-prevention/
    HACKREAD.COM
    Elite Cyber Veterans Launch Blast Security with $10M to Turn Cloud Detection into Prevention
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • AlmaLinux OS 10.1 เปิดตัวพร้อมรองรับ Btrfs

    AlmaLinux OS Foundation ประกาศเปิดตัว AlmaLinux OS 10.1 (Heliotrope Lion) ซึ่งเป็นการอัปเดตครั้งแรกของซีรีส์ AlmaLinux 10 โดยมาพร้อมฟีเจอร์สำคัญคือ รองรับระบบไฟล์ Btrfs ตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้ง ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ Btrfs ได้ทันทีโดยไม่ต้องปรับแต่งเพิ่มเติม

    ฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุง
    Btrfs Support: รองรับทั้ง kernel และ userspace ทำให้สามารถติดตั้งและจัดการระบบไฟล์ Btrfs ได้ตั้งแต่ต้น
    CRB Repository Enabled by Default: เปิดใช้งาน CRB repo โดยอัตโนมัติสำหรับการติดตั้งใหม่
    Extended Support for x86_64_v2: เพิ่มการรองรับโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่ใช้ instruction set x86_64_v2
    Performance Enhancements: เปิดใช้งาน frame pointers โดยค่าเริ่มต้นเพื่อช่วยในการ debug และปรับปรุงประสิทธิภาพ
    Updated Toolchain: GCC 15.1, LLVM 20.1.8, Rust 1.88.0, Go 1.24 และอื่น ๆ
    Software Updates: NetworkManager 1.54, QEMU 10, Node.js 24, Podman 5.6.0, Mesa 25.0.7, Samba 4.22.4, Python 3.12.11, Apache 2.4.63, OpenSSL 3.5 และอีกมากมาย

    การติดตั้งและการอัปเกรด
    AlmaLinux OS 10.1 พร้อมให้ดาวน์โหลดเป็น ISO images สำหรับสถาปัตยกรรม x86_64, AArch64, PowerPC 64-bit Little Endian และ IBM System Z โดยมีทั้ง live images, cloud images และ container images สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความยืดหยุ่น

    ผู้ใช้ที่มี AlmaLinux OS อยู่แล้วสามารถอัปเกรดได้ง่าย ๆ เพียงใช้คำสั่ง:
    sudo dnf update

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน AlmaLinux OS 10.1
    รองรับ Btrfs filesystem ตั้งแต่การติดตั้ง
    เปิดใช้งาน CRB repo โดยค่าเริ่มต้น
    รองรับ x86_64_v2 processors

    การปรับปรุงระบบและซอฟต์แวร์
    Toolchain ใหม่: GCC 15.1, LLVM 20.1.8, Rust 1.88.0, Go 1.24
    อัปเดตซอฟต์แวร์หลัก เช่น Python 3.12.11, Apache 2.4.63, OpenSSL 3.5
    Performance enhancements และ frame pointers

    การติดตั้งและการอัปเกรด
    มี ISO สำหรับหลายสถาปัตยกรรม
    รองรับ live, cloud และ container images
    อัปเกรดด้วย sudo dnf update

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ผู้ใช้ที่ยังไม่คุ้นกับ Btrfs ควรทดสอบก่อนใช้งานจริง
    การเปลี่ยนระบบไฟล์อาจมีผลต่อการทำงานของบางแอปพลิเคชัน
    ควรสำรองข้อมูลก่อนการอัปเกรดหรือเปลี่ยนระบบไฟล์

    https://9to5linux.com/almalinux-os-10-1-officially-released-with-support-for-the-btrfs-file-system
    📰 AlmaLinux OS 10.1 เปิดตัวพร้อมรองรับ Btrfs AlmaLinux OS Foundation ประกาศเปิดตัว AlmaLinux OS 10.1 (Heliotrope Lion) ซึ่งเป็นการอัปเดตครั้งแรกของซีรีส์ AlmaLinux 10 โดยมาพร้อมฟีเจอร์สำคัญคือ รองรับระบบไฟล์ Btrfs ตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้ง ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ Btrfs ได้ทันทีโดยไม่ต้องปรับแต่งเพิ่มเติม ⚙️ ฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุง 💠 Btrfs Support: รองรับทั้ง kernel และ userspace ทำให้สามารถติดตั้งและจัดการระบบไฟล์ Btrfs ได้ตั้งแต่ต้น 💠 CRB Repository Enabled by Default: เปิดใช้งาน CRB repo โดยอัตโนมัติสำหรับการติดตั้งใหม่ 💠 Extended Support for x86_64_v2: เพิ่มการรองรับโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่ใช้ instruction set x86_64_v2 💠 Performance Enhancements: เปิดใช้งาน frame pointers โดยค่าเริ่มต้นเพื่อช่วยในการ debug และปรับปรุงประสิทธิภาพ 💠 Updated Toolchain: GCC 15.1, LLVM 20.1.8, Rust 1.88.0, Go 1.24 และอื่น ๆ 💠 Software Updates: NetworkManager 1.54, QEMU 10, Node.js 24, Podman 5.6.0, Mesa 25.0.7, Samba 4.22.4, Python 3.12.11, Apache 2.4.63, OpenSSL 3.5 และอีกมากมาย 💻 การติดตั้งและการอัปเกรด AlmaLinux OS 10.1 พร้อมให้ดาวน์โหลดเป็น ISO images สำหรับสถาปัตยกรรม x86_64, AArch64, PowerPC 64-bit Little Endian และ IBM System Z โดยมีทั้ง live images, cloud images และ container images สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความยืดหยุ่น ผู้ใช้ที่มี AlmaLinux OS อยู่แล้วสามารถอัปเกรดได้ง่าย ๆ เพียงใช้คำสั่ง: 👉 sudo dnf update 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน AlmaLinux OS 10.1 ➡️ รองรับ Btrfs filesystem ตั้งแต่การติดตั้ง ➡️ เปิดใช้งาน CRB repo โดยค่าเริ่มต้น ➡️ รองรับ x86_64_v2 processors ✅ การปรับปรุงระบบและซอฟต์แวร์ ➡️ Toolchain ใหม่: GCC 15.1, LLVM 20.1.8, Rust 1.88.0, Go 1.24 ➡️ อัปเดตซอฟต์แวร์หลัก เช่น Python 3.12.11, Apache 2.4.63, OpenSSL 3.5 ➡️ Performance enhancements และ frame pointers ✅ การติดตั้งและการอัปเกรด ➡️ มี ISO สำหรับหลายสถาปัตยกรรม ➡️ รองรับ live, cloud และ container images ➡️ อัปเกรดด้วย sudo dnf update ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ผู้ใช้ที่ยังไม่คุ้นกับ Btrfs ควรทดสอบก่อนใช้งานจริง ⛔ การเปลี่ยนระบบไฟล์อาจมีผลต่อการทำงานของบางแอปพลิเคชัน ⛔ ควรสำรองข้อมูลก่อนการอัปเกรดหรือเปลี่ยนระบบไฟล์ https://9to5linux.com/almalinux-os-10-1-officially-released-with-support-for-the-btrfs-file-system
    9TO5LINUX.COM
    AlmaLinux OS 10.1 Officially Released with Support for the Btrfs File System - 9to5Linux
    AlmaLinux OS 10.1 distribution is now available for download as a free alternative to Red Hat Enterprise Linux 10.1 with Btrfs support.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • Zorin OS 18 เปิดทางอัปเกรดจากเวอร์ชัน 17

    Zorin OS 18 เปิดตัวในช่วงที่ Windows 10 กำลังเข้าสู่การสิ้นสุดการสนับสนุน ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากหันมาลองใช้งาน Linux ทางเลือกนี้ โดยมีการปรับปรุงหลายด้าน เช่น Linux Kernel 6.14, อินเทอร์เฟซที่มีมุมโค้งมน และ window tiling manager ใหม่ที่ช่วยให้การจัดการหน้าต่างสะดวกขึ้น นอกจากนี้ Zorin OS 18 ยังสร้างกระแสความนิยมจนมียอดดาวน์โหลดทะลุ 1 ล้านครั้งภายในเดือนแรก

    ขั้นตอนการอัปเกรดจาก Zorin OS 17
    ผู้ใช้ Zorin OS 17 (Core, Education, Pro) สามารถอัปเกรดได้ผ่านเครื่องมือใหม่ แต่เนื่องจากยังอยู่ใน ช่วงทดสอบ (Early Access) จึงไม่แนะนำให้ใช้บนเครื่องหลักหรือระบบ production การอัปเกรดต้องเริ่มจากการอัปเดตไปยัง Zorin OS 17.3 ก่อน จากนั้นใช้เครื่องมือ Software Updater และรันคำสั่งใน Terminal เพื่อเปิดใช้งานตัวเลือกการอัปเกรดทดสอบ เมื่อเลือกเวอร์ชันที่ตรงกับระบบเดิมแล้ว ผู้ใช้จะต้องยืนยันรหัสผ่านและอ่านข้อกำหนดก่อนเริ่มกระบวนการอัปเกรด

    การสำรองข้อมูลก่อนอัปเกรด
    แม้เครื่องมืออัปเกรดของ Zorin OS จะมีความน่าเชื่อถือ แต่ผู้พัฒนาก็แนะนำให้ผู้ใช้ทำการ สำรองข้อมูลด้วย Déjà Dup หรือใช้ Timeshift เพื่อความปลอดภัย โดยสามารถเลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการสำรองและเก็บไว้ใน external storage หรือ cloud เช่น Google Drive นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการเข้ารหัสไฟล์สำรองเพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้น

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน Zorin OS 18
    Linux Kernel 6.14
    อินเทอร์เฟซโค้งมนและ window tiling manager
    ยอดดาวน์โหลดทะลุ 1 ล้านครั้งในเดือนแรก

    การอัปเกรดจาก Zorin OS 17
    รองรับ Core, Education, Pro editions
    ต้องอัปเดตเป็น Zorin OS 17.3 ก่อน
    ใช้ Software Updater และ Upgrade Tool

    การสำรองข้อมูลก่อนอัปเกรด
    ใช้ Déjà Dup หรือ Timeshift
    เก็บไฟล์ใน external storage หรือ cloud
    มีตัวเลือกเข้ารหัสไฟล์สำรอง

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    เครื่องมืออัปเกรดยังอยู่ในช่วง Early Access
    ไม่ควรใช้บนเครื่องหลักหรือระบบ production
    กระบวนการอัปเกรดขึ้นอยู่กับความเร็วอินเทอร์เน็ตและฮาร์ดแวร์

    https://itsfoss.com/zorin-os-18-upgrade/
    🖥️ Zorin OS 18 เปิดทางอัปเกรดจากเวอร์ชัน 17 Zorin OS 18 เปิดตัวในช่วงที่ Windows 10 กำลังเข้าสู่การสิ้นสุดการสนับสนุน ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากหันมาลองใช้งาน Linux ทางเลือกนี้ โดยมีการปรับปรุงหลายด้าน เช่น Linux Kernel 6.14, อินเทอร์เฟซที่มีมุมโค้งมน และ window tiling manager ใหม่ที่ช่วยให้การจัดการหน้าต่างสะดวกขึ้น นอกจากนี้ Zorin OS 18 ยังสร้างกระแสความนิยมจนมียอดดาวน์โหลดทะลุ 1 ล้านครั้งภายในเดือนแรก 🔄 ขั้นตอนการอัปเกรดจาก Zorin OS 17 ผู้ใช้ Zorin OS 17 (Core, Education, Pro) สามารถอัปเกรดได้ผ่านเครื่องมือใหม่ แต่เนื่องจากยังอยู่ใน ช่วงทดสอบ (Early Access) จึงไม่แนะนำให้ใช้บนเครื่องหลักหรือระบบ production การอัปเกรดต้องเริ่มจากการอัปเดตไปยัง Zorin OS 17.3 ก่อน จากนั้นใช้เครื่องมือ Software Updater และรันคำสั่งใน Terminal เพื่อเปิดใช้งานตัวเลือกการอัปเกรดทดสอบ เมื่อเลือกเวอร์ชันที่ตรงกับระบบเดิมแล้ว ผู้ใช้จะต้องยืนยันรหัสผ่านและอ่านข้อกำหนดก่อนเริ่มกระบวนการอัปเกรด 💾 การสำรองข้อมูลก่อนอัปเกรด แม้เครื่องมืออัปเกรดของ Zorin OS จะมีความน่าเชื่อถือ แต่ผู้พัฒนาก็แนะนำให้ผู้ใช้ทำการ สำรองข้อมูลด้วย Déjà Dup หรือใช้ Timeshift เพื่อความปลอดภัย โดยสามารถเลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการสำรองและเก็บไว้ใน external storage หรือ cloud เช่น Google Drive นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการเข้ารหัสไฟล์สำรองเพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Zorin OS 18 ➡️ Linux Kernel 6.14 ➡️ อินเทอร์เฟซโค้งมนและ window tiling manager ➡️ ยอดดาวน์โหลดทะลุ 1 ล้านครั้งในเดือนแรก ✅ การอัปเกรดจาก Zorin OS 17 ➡️ รองรับ Core, Education, Pro editions ➡️ ต้องอัปเดตเป็น Zorin OS 17.3 ก่อน ➡️ ใช้ Software Updater และ Upgrade Tool ✅ การสำรองข้อมูลก่อนอัปเกรด ➡️ ใช้ Déjà Dup หรือ Timeshift ➡️ เก็บไฟล์ใน external storage หรือ cloud ➡️ มีตัวเลือกเข้ารหัสไฟล์สำรอง ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ เครื่องมืออัปเกรดยังอยู่ในช่วง Early Access ⛔ ไม่ควรใช้บนเครื่องหลักหรือระบบ production ⛔ กระบวนการอัปเกรดขึ้นอยู่กับความเร็วอินเทอร์เน็ตและฮาร์ดแวร์ https://itsfoss.com/zorin-os-18-upgrade/
    ITSFOSS.COM
    Upgrading from Zorin OS 17 to 18 (In Early Access)
    Existing Zorin OS 17 users will soon be able to upgrade to version 18. The tool is in early access and we gave it a try.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดรนลับถึงมือกองทัพ พร้อมรบสงครามคลื่นความถี่ : [THE MESSAGE]
    นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน มอบอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน 1 ฝูง จำนวน 100 ลำ และ
    ระบบตรวจจับสกัดกั้นการทำงานของโดรน หรือ แอนตี้โดรน ให้กองทัพบก ซึ่งเป็นภารกิจต่อเนื่องในการพัฒนาโดรนและแอนตี้โดรน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน ย้ำ ไม่ใช่กองทัพไม่มีงบประมาณ แต่การแข่งขันเรื่องโดรนและแอนตี้โดรน มีการเปลี่ยนแปลงในสงครามคลื่นความถี่ทุกสัปดาห์ การทำสงครามนี้ต้องการความเร็วทันต่อสถานการณ์ จึงจะทำให้ประเทศชาติปลอดภัย โดยไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของโดรนได้ เพราะเป็นความลับทางราชการ เปิดเบื้องหลังการพัฒนาใช้งบประมาณจำนวนมาก ทดสอบหลายครั้ง มั่นใจว่า โดรนฝูงนี้จะช่วยเพิ่มแสนยานุภาพของกองทัพในการปกป้องชีวิตทหารและประชาชน นอกจากนี้ ที่ผ่านมา มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ได้ส่งมอบสิ่งของจำเป็นให้กองทัพ คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 211 ล้านบาท แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่างบประมาณคือ น้ำใจจากประชาชนที่ทำให้เห็นว่า เมื่อยามที่ชาติมีภัย ประชาชนกับทหารเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ในการปกป้อง กอบกู้ และรักษาแผ...
    โดรนลับถึงมือกองทัพ พร้อมรบสงครามคลื่นความถี่ : [THE MESSAGE] นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน มอบอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน 1 ฝูง จำนวน 100 ลำ และ ระบบตรวจจับสกัดกั้นการทำงานของโดรน หรือ แอนตี้โดรน ให้กองทัพบก ซึ่งเป็นภารกิจต่อเนื่องในการพัฒนาโดรนและแอนตี้โดรน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน ย้ำ ไม่ใช่กองทัพไม่มีงบประมาณ แต่การแข่งขันเรื่องโดรนและแอนตี้โดรน มีการเปลี่ยนแปลงในสงครามคลื่นความถี่ทุกสัปดาห์ การทำสงครามนี้ต้องการความเร็วทันต่อสถานการณ์ จึงจะทำให้ประเทศชาติปลอดภัย โดยไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของโดรนได้ เพราะเป็นความลับทางราชการ เปิดเบื้องหลังการพัฒนาใช้งบประมาณจำนวนมาก ทดสอบหลายครั้ง มั่นใจว่า โดรนฝูงนี้จะช่วยเพิ่มแสนยานุภาพของกองทัพในการปกป้องชีวิตทหารและประชาชน นอกจากนี้ ที่ผ่านมา มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ได้ส่งมอบสิ่งของจำเป็นให้กองทัพ คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 211 ล้านบาท แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่างบประมาณคือ น้ำใจจากประชาชนที่ทำให้เห็นว่า เมื่อยามที่ชาติมีภัย ประชาชนกับทหารเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ในการปกป้อง กอบกู้ และรักษาแผ...
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 1 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251124 #TechRadar

    รีวิวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายสำหรับพื้นแข็ง
    ใครที่บ้านมีพื้นแข็งเยอะ เช่นไม้หรือกระเบื้อง จะรู้ว่าการเลือกเครื่องดูดฝุ่นไม่ง่ายอย่างที่คิด ล่าสุดมีการทดสอบเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย 8 รุ่น ผลปรากฏว่า Shark PowerDetect Cordless ทำคะแนนสูงสุด ทั้งดูดฝุ่นละเอียดและเศษใหญ่ได้ดี จุดเด่นคือสามารถดูดได้ทั้งขณะดันไปข้างหน้าและดึงกลับ ทำให้ไม่เหลือเศษสะสมด้านหลังหัวดูด นอกจากนี้ยังมีระบบปรับแรงดูดอัตโนมัติและฟีเจอร์ตรวจจับขอบห้อง รุ่นอื่นที่น่าสนใจคือ Dyson Gen5detect และ Dreame R20 แต่ Shark ถือว่าครองแชมป์เรื่องประสิทธิภาพ
    https://www.techradar.com/home/vacuums/i-tested-a-load-of-cordless-vacuums-to-find-the-best-option-for-hard-floor-heres-the-vac-that-came-out-on-top

    ทำไม ICQ ถึงล้มเหลว
    ย้อนกลับไปยุค 90s ICQ คือหนึ่งในโปรแกรมแชทที่บุกเบิกวงการ มีผู้ใช้ทะลุ 100 ล้านราย และถูก AOL ซื้อไปในปี 1998 แต่เมื่อคู่แข่งใหม่ ๆ อย่าง MSN, Yahoo Messenger และต่อมาคือ WhatsApp, Telegram เข้ามา ICQ ก็เริ่มเสื่อมความนิยม แม้จะพยายามปรับตัวเข้าสู่ยุคมือถือ แต่ก็ไม่สามารถกลับมาครองตลาดได้ สุดท้ายในปี 2024 ICQ ประกาศปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการปิดฉากตำนานโปรแกรมแชทที่ครั้งหนึ่งเคยครองโลกออนไลน์
    https://www.techradar.com/pro/this-pioneering-instant-messaging-platform-tried-to-keep-up-with-the-times-it-failed

    ดราม่าเรื่องช่องโหว่ Comet Browser
    บริษัท SquareX ออกมาแฉว่า Comet Browser ของ Perplexity มี API ซ่อนที่อาจถูกใช้สั่งรันคำสั่งบนเครื่องผู้ใช้ได้ ซึ่งถือว่าอันตรายมาก แต่ทาง Perplexity รีบออกมาปฏิเสธทันที บอกว่าข้อมูลนี้ “ไม่จริง” เพราะต้องเปิดโหมดนักพัฒนาและผู้ใช้ต้องยินยอมเองถึงจะทำได้ อย่างไรก็ตาม SquareX ยืนยันว่ามีการทดสอบซ้ำจากนักวิจัยภายนอกและพบว่าช่องโหว่นี้มีจริง ก่อนที่ Comet จะอัปเดตแก้ไขแบบเงียบ ๆ เรื่องนี้สะท้อนว่าการแข่งขันด้านเบราว์เซอร์ AI กำลังร้อนแรง และความปลอดภัยยังเป็นประเด็นใหญ่ที่ต้องจับตา
    https://www.techradar.com/pro/security/perplexity-responds-to-comet-browser-vulnerability-claims-argues-fake-news

    AI พลิกโฉมการจัดการค่าใช้จ่ายธุรกิจ
    การเบิกค่าใช้จ่ายและการเดินทางของพนักงานเคยเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่ตอนนี้ AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนเกม ระบบใหม่ช่วยให้พนักงานสามารถส่งค่าใช้จ่ายได้ทันที เช่นถ่ายใบเสร็จแล้วระบบบันทึกอัตโนมัติ ลดงานเอกสารและความผิดพลาด ฝั่งฝ่ายการเงินก็ได้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ สามารถตรวจสอบความเสี่ยงและควบคุมงบประมาณได้ดีกว่าเดิม จุดสำคัญคือ AI ไม่ได้แค่ทำงานอัตโนมัติ แต่ยังเรียนรู้พฤติกรรมและช่วยคาดการณ์ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ทำให้การจัดการค่าใช้จ่ายกลายเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่แค่ภาระงานอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/pro/how-ai-is-turning-travel-and-expense-into-a-strategic-advantage

    ยุโรปเสี่ยงเสียความได้เปรียบด้าน AI
    บทความนี้พูดถึงความท้าทายของยุโรปในการรักษาความได้เปรียบด้าน AI หากไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ปัจจุบันสหรัฐฯ และจีนกำลังลงทุนมหาศาลในระบบคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ทำให้ยุโรปอาจเสียตำแหน่งผู้นำหากไม่เร่งพัฒนา การสร้างระบบที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจและรัฐบาลมั่นใจในการใช้ AI อย่างเต็มที่
    https://www.techradar.com/pro/europes-ai-advantage-at-risk-without-secure-and-private-infrastructure

    Quantum Computer กำลังจะมาเร็วเกินคาด
    มีการเตือนจาก CEO ของ Palo Alto Networks ว่า ภายในปี 2029 หรืออาจเร็วกว่านั้น รัฐที่ไม่เป็นมิตรอาจมี "Quantum Computer" ที่ทรงพลังพอจะทำลายระบบเข้ารหัสที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ได้ ซึ่งหมายความว่า firewall และอุปกรณ์ความปลอดภัยที่พึ่งพาการเข้ารหัสอาจต้องถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด บริษัทจึงเตรียมออกผลิตภัณฑ์ "Quantum-safe" เพื่อรับมือ และยังชี้ว่าการผสมผสาน AI ใน browser ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการโจมตี ทำให้อนาคตของการป้องกันภัยไซเบอร์ต้องเข้มข้นกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/pro/security/security-firm-ceo-thinks-nation-states-will-have-weaponized-quantum-computers-within-the-next-five-years

    Nvidia ปฏิเสธกระแส "AI Bubble"
    Jensen Huang CEO ของ Nvidia ออกมายืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับ AI ไม่ใช่ฟองสบู่ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานการคอมพิวเตอร์อย่างแท้จริง เขาอธิบายว่า GPU กำลังเข้ามาแทนที่ CPU ในงานที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง และยังพูดถึงการเกิดขึ้นของ "Agentic AI" ที่สามารถคิดและทำงานเองได้โดยแทบไม่ต้องมีมนุษย์สั่ง เขามองว่านี่คือการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่การเก็งกำไรชั่วคราว
    https://www.techradar.com/pro/we-see-something-very-different-nvidia-ceo-jensen-huang-dismisses-ai-bubble-talk-and-i-guess-he-should-know

    ไฟรถยนต์ยุคใหม่: Pixel, Matrix, OLED
    เทคโนโลยีไฟรถยนต์พัฒนาไปไกลมาก โดยเฉพาะใน EV ที่ต้องการประหยัดพลังงาน ตอนนี้มีทั้ง pixel grille ที่สามารถแสดงข้อความหรือ emoji, matrix headlights ที่ปรับแสงอัตโนมัติไม่ให้แยงตาคนอื่น และ OLED taillights ที่บางและออกแบบได้อิสระมากขึ้น บางรุ่นถึงขั้นใช้ไฟหน้าเป็น "โปรเจคเตอร์" ฉายภาพนำทางหรือแม้แต่หนังกลางแปลงได้เลย!
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/pixel-arrays-matrix-headlights-oled-taillights-new-lighting-tech-is-bedazzling-evs

    ChatGPT ฟรีสำหรับครู
    OpenAI เปิดตัว ChatGPT เวอร์ชันพิเศษสำหรับครู K–12 ในสหรัฐ ใช้งาน GPT-5.1 ได้ไม่จำกัด พร้อมฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์, สร้างภาพ, เชื่อมต่อกับ Google Drive และ Microsoft 365 ทั้งหมดนี้ฟรีจนถึงปี 2027 ระบบยังถูกออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมาย FERPA เพื่อปกป้องข้อมูลนักเรียน และช่วยครูวางแผนการสอน ทำงานร่วมกัน และสร้างบทเรียนได้ง่ายขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/free-chatgpt-is-coming-for-teachers-openai-looks-to-spread-influence-of-its-chatbot-into-schools

    แอป Elfster ช่วยจัด Secret Santa
    ผู้เขียนเล่าว่าการแลกของขวัญในครอบครัวเคยยุ่งยาก แต่พอใช้แอป Elfster ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก แอปนี้ช่วยสุ่มจับชื่อ, ตั้งกติกา เช่นไม่ให้คู่รักจับกันเอง, สร้าง wish list และแชร์กับเพื่อนหรือครอบครัวได้ นอกจากนี้ยังมีไกด์ของขวัญตามเทรนด์ เช่น "TikTok Finds" หรือ "Gifts Under $10" ทำให้การเลือกของขวัญสนุกและไม่เครียดอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/computing/websites-apps/elfster

    DJI เตรียมเปิดตัวโดรน 360 องศา
    มีข่าวลือว่า DJI กำลังจะเปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ที่สามารถถ่ายภาพและวิดีโอแบบ 360 องศาได้ หลังจากมีภาพหลุดออกมาอีกครั้ง ทำให้คาดการณ์ว่าอาจมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะเป็นการยกระดับการถ่ายทำทั้งงานภาพยนตร์และคอนเทนต์โซเชียล
    https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-first-360-degree-drone-leaks-again-and-an-official-launch-could-be-very-soon

    Galaxy S26 Ultra อาจได้แบตใหญ่ขึ้น
    มีข่าวลือเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S26 Ultra ว่าจะมาพร้อมการอัปเกรดแบตเตอรี่ให้มีความจุสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม ถือเป็นการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้ที่ผู้ใช้คาดหวังเรื่องความทนทานและประสิทธิภาพ ,
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-samsung-galaxy-s26-ultra-rumor-hints-at-a-battery-upgrade-for-the-premium-flagship-phone

    รัสเซียตั้งทีมชาติ AI
    รัสเซียประกาศตั้ง "National AI Taskforce" เพื่อสร้างความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี โดยตั้งเป้าหมายให้มี AI และโดรนที่พัฒนาเองภายในประเทศภายในปี 2030 นี่ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ และลดการพึ่งพาต่างชาติ
    https://www.techradar.com/pro/did-the-ai-war-just-get-one-step-closer-putin-confirms-russia-is-planning-its-own-national-ai-taskforce

    ศึก Router: TP-Link vs Netgear
    TP-Link ฟ้อง Netgear โดยกล่าวหาว่ามีการให้ข้อมูลที่ทำให้ TP-Link ดูเหมือนเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ และมีการโยงไปถึงการโจมตีไซเบอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐ ซึ่ง TP-Link มองว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงและสร้างความเข้าใจผิดในตลาด
    https://www.techradar.com/pro/the-router-wars-are-kicking-off-tp-link-says-smear-campaign-by-netgear-made-it-seem-to-be-a-us-national-security-risk

    AI ต้องบาลานซ์: นวัตกรรม vs ความเสี่ยง
    บทความนี้พูดถึงการสร้างสมดุลระหว่างการลงทุนใน AI กับต้นทุน ความเสี่ยง และผลตอบแทน (ROI) โดยชี้ว่าบริษัทต่าง ๆ ต้องหาวิธีใช้ AI อย่างชาญฉลาด ไม่ใช่แค่เพื่อความล้ำสมัย แต่ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าและความปลอดภัยด้วย
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/harmonizing-ai-innovation-with-cost-risk-and-roi
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251124 #TechRadar 🧹 รีวิวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายสำหรับพื้นแข็ง ใครที่บ้านมีพื้นแข็งเยอะ เช่นไม้หรือกระเบื้อง จะรู้ว่าการเลือกเครื่องดูดฝุ่นไม่ง่ายอย่างที่คิด ล่าสุดมีการทดสอบเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย 8 รุ่น ผลปรากฏว่า Shark PowerDetect Cordless ทำคะแนนสูงสุด ทั้งดูดฝุ่นละเอียดและเศษใหญ่ได้ดี จุดเด่นคือสามารถดูดได้ทั้งขณะดันไปข้างหน้าและดึงกลับ ทำให้ไม่เหลือเศษสะสมด้านหลังหัวดูด นอกจากนี้ยังมีระบบปรับแรงดูดอัตโนมัติและฟีเจอร์ตรวจจับขอบห้อง รุ่นอื่นที่น่าสนใจคือ Dyson Gen5detect และ Dreame R20 แต่ Shark ถือว่าครองแชมป์เรื่องประสิทธิภาพ 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/i-tested-a-load-of-cordless-vacuums-to-find-the-best-option-for-hard-floor-heres-the-vac-that-came-out-on-top 💬 ทำไม ICQ ถึงล้มเหลว ย้อนกลับไปยุค 90s ICQ คือหนึ่งในโปรแกรมแชทที่บุกเบิกวงการ มีผู้ใช้ทะลุ 100 ล้านราย และถูก AOL ซื้อไปในปี 1998 แต่เมื่อคู่แข่งใหม่ ๆ อย่าง MSN, Yahoo Messenger และต่อมาคือ WhatsApp, Telegram เข้ามา ICQ ก็เริ่มเสื่อมความนิยม แม้จะพยายามปรับตัวเข้าสู่ยุคมือถือ แต่ก็ไม่สามารถกลับมาครองตลาดได้ สุดท้ายในปี 2024 ICQ ประกาศปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการปิดฉากตำนานโปรแกรมแชทที่ครั้งหนึ่งเคยครองโลกออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-pioneering-instant-messaging-platform-tried-to-keep-up-with-the-times-it-failed 🔒 ดราม่าเรื่องช่องโหว่ Comet Browser บริษัท SquareX ออกมาแฉว่า Comet Browser ของ Perplexity มี API ซ่อนที่อาจถูกใช้สั่งรันคำสั่งบนเครื่องผู้ใช้ได้ ซึ่งถือว่าอันตรายมาก แต่ทาง Perplexity รีบออกมาปฏิเสธทันที บอกว่าข้อมูลนี้ “ไม่จริง” เพราะต้องเปิดโหมดนักพัฒนาและผู้ใช้ต้องยินยอมเองถึงจะทำได้ อย่างไรก็ตาม SquareX ยืนยันว่ามีการทดสอบซ้ำจากนักวิจัยภายนอกและพบว่าช่องโหว่นี้มีจริง ก่อนที่ Comet จะอัปเดตแก้ไขแบบเงียบ ๆ เรื่องนี้สะท้อนว่าการแข่งขันด้านเบราว์เซอร์ AI กำลังร้อนแรง และความปลอดภัยยังเป็นประเด็นใหญ่ที่ต้องจับตา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/perplexity-responds-to-comet-browser-vulnerability-claims-argues-fake-news 🧳 AI พลิกโฉมการจัดการค่าใช้จ่ายธุรกิจ การเบิกค่าใช้จ่ายและการเดินทางของพนักงานเคยเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่ตอนนี้ AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนเกม ระบบใหม่ช่วยให้พนักงานสามารถส่งค่าใช้จ่ายได้ทันที เช่นถ่ายใบเสร็จแล้วระบบบันทึกอัตโนมัติ ลดงานเอกสารและความผิดพลาด ฝั่งฝ่ายการเงินก็ได้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ สามารถตรวจสอบความเสี่ยงและควบคุมงบประมาณได้ดีกว่าเดิม จุดสำคัญคือ AI ไม่ได้แค่ทำงานอัตโนมัติ แต่ยังเรียนรู้พฤติกรรมและช่วยคาดการณ์ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ทำให้การจัดการค่าใช้จ่ายกลายเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่แค่ภาระงานอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/how-ai-is-turning-travel-and-expense-into-a-strategic-advantage 🌐 ยุโรปเสี่ยงเสียความได้เปรียบด้าน AI บทความนี้พูดถึงความท้าทายของยุโรปในการรักษาความได้เปรียบด้าน AI หากไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ปัจจุบันสหรัฐฯ และจีนกำลังลงทุนมหาศาลในระบบคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ทำให้ยุโรปอาจเสียตำแหน่งผู้นำหากไม่เร่งพัฒนา การสร้างระบบที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจและรัฐบาลมั่นใจในการใช้ AI อย่างเต็มที่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/europes-ai-advantage-at-risk-without-secure-and-private-infrastructure 🧮 Quantum Computer กำลังจะมาเร็วเกินคาด มีการเตือนจาก CEO ของ Palo Alto Networks ว่า ภายในปี 2029 หรืออาจเร็วกว่านั้น รัฐที่ไม่เป็นมิตรอาจมี "Quantum Computer" ที่ทรงพลังพอจะทำลายระบบเข้ารหัสที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ได้ ซึ่งหมายความว่า firewall และอุปกรณ์ความปลอดภัยที่พึ่งพาการเข้ารหัสอาจต้องถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด บริษัทจึงเตรียมออกผลิตภัณฑ์ "Quantum-safe" เพื่อรับมือ และยังชี้ว่าการผสมผสาน AI ใน browser ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการโจมตี ทำให้อนาคตของการป้องกันภัยไซเบอร์ต้องเข้มข้นกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/security-firm-ceo-thinks-nation-states-will-have-weaponized-quantum-computers-within-the-next-five-years 💻 Nvidia ปฏิเสธกระแส "AI Bubble" Jensen Huang CEO ของ Nvidia ออกมายืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับ AI ไม่ใช่ฟองสบู่ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานการคอมพิวเตอร์อย่างแท้จริง เขาอธิบายว่า GPU กำลังเข้ามาแทนที่ CPU ในงานที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง และยังพูดถึงการเกิดขึ้นของ "Agentic AI" ที่สามารถคิดและทำงานเองได้โดยแทบไม่ต้องมีมนุษย์สั่ง เขามองว่านี่คือการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่การเก็งกำไรชั่วคราว 🔗 https://www.techradar.com/pro/we-see-something-very-different-nvidia-ceo-jensen-huang-dismisses-ai-bubble-talk-and-i-guess-he-should-know 🚗 ไฟรถยนต์ยุคใหม่: Pixel, Matrix, OLED เทคโนโลยีไฟรถยนต์พัฒนาไปไกลมาก โดยเฉพาะใน EV ที่ต้องการประหยัดพลังงาน ตอนนี้มีทั้ง pixel grille ที่สามารถแสดงข้อความหรือ emoji, matrix headlights ที่ปรับแสงอัตโนมัติไม่ให้แยงตาคนอื่น และ OLED taillights ที่บางและออกแบบได้อิสระมากขึ้น บางรุ่นถึงขั้นใช้ไฟหน้าเป็น "โปรเจคเตอร์" ฉายภาพนำทางหรือแม้แต่หนังกลางแปลงได้เลย! 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/pixel-arrays-matrix-headlights-oled-taillights-new-lighting-tech-is-bedazzling-evs 🎓 ChatGPT ฟรีสำหรับครู OpenAI เปิดตัว ChatGPT เวอร์ชันพิเศษสำหรับครู K–12 ในสหรัฐ ใช้งาน GPT-5.1 ได้ไม่จำกัด พร้อมฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์, สร้างภาพ, เชื่อมต่อกับ Google Drive และ Microsoft 365 ทั้งหมดนี้ฟรีจนถึงปี 2027 ระบบยังถูกออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมาย FERPA เพื่อปกป้องข้อมูลนักเรียน และช่วยครูวางแผนการสอน ทำงานร่วมกัน และสร้างบทเรียนได้ง่ายขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/free-chatgpt-is-coming-for-teachers-openai-looks-to-spread-influence-of-its-chatbot-into-schools 🎁 แอป Elfster ช่วยจัด Secret Santa ผู้เขียนเล่าว่าการแลกของขวัญในครอบครัวเคยยุ่งยาก แต่พอใช้แอป Elfster ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก แอปนี้ช่วยสุ่มจับชื่อ, ตั้งกติกา เช่นไม่ให้คู่รักจับกันเอง, สร้าง wish list และแชร์กับเพื่อนหรือครอบครัวได้ นอกจากนี้ยังมีไกด์ของขวัญตามเทรนด์ เช่น "TikTok Finds" หรือ "Gifts Under $10" ทำให้การเลือกของขวัญสนุกและไม่เครียดอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/computing/websites-apps/elfster 🚁 DJI เตรียมเปิดตัวโดรน 360 องศา มีข่าวลือว่า DJI กำลังจะเปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ที่สามารถถ่ายภาพและวิดีโอแบบ 360 องศาได้ หลังจากมีภาพหลุดออกมาอีกครั้ง ทำให้คาดการณ์ว่าอาจมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะเป็นการยกระดับการถ่ายทำทั้งงานภาพยนตร์และคอนเทนต์โซเชียล 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-first-360-degree-drone-leaks-again-and-an-official-launch-could-be-very-soon 📱 Galaxy S26 Ultra อาจได้แบตใหญ่ขึ้น มีข่าวลือเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S26 Ultra ว่าจะมาพร้อมการอัปเกรดแบตเตอรี่ให้มีความจุสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม ถือเป็นการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้ที่ผู้ใช้คาดหวังเรื่องความทนทานและประสิทธิภาพ , 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-samsung-galaxy-s26-ultra-rumor-hints-at-a-battery-upgrade-for-the-premium-flagship-phone 🤖 รัสเซียตั้งทีมชาติ AI รัสเซียประกาศตั้ง "National AI Taskforce" เพื่อสร้างความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี โดยตั้งเป้าหมายให้มี AI และโดรนที่พัฒนาเองภายในประเทศภายในปี 2030 นี่ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ และลดการพึ่งพาต่างชาติ 🔗 https://www.techradar.com/pro/did-the-ai-war-just-get-one-step-closer-putin-confirms-russia-is-planning-its-own-national-ai-taskforce 📡 ศึก Router: TP-Link vs Netgear TP-Link ฟ้อง Netgear โดยกล่าวหาว่ามีการให้ข้อมูลที่ทำให้ TP-Link ดูเหมือนเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ และมีการโยงไปถึงการโจมตีไซเบอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐ ซึ่ง TP-Link มองว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงและสร้างความเข้าใจผิดในตลาด 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-router-wars-are-kicking-off-tp-link-says-smear-campaign-by-netgear-made-it-seem-to-be-a-us-national-security-risk 📊 AI ต้องบาลานซ์: นวัตกรรม vs ความเสี่ยง บทความนี้พูดถึงการสร้างสมดุลระหว่างการลงทุนใน AI กับต้นทุน ความเสี่ยง และผลตอบแทน (ROI) โดยชี้ว่าบริษัทต่าง ๆ ต้องหาวิธีใช้ AI อย่างชาญฉลาด ไม่ใช่แค่เพื่อความล้ำสมัย แต่ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าและความปลอดภัยด้วย ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/harmonizing-ai-innovation-with-cost-risk-and-roi
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • "งานวิจัยชี้ การศึกษาต้องปรับตัวเพื่อบูรณาการ AI"

    บทความใน British Journal of Educational Technology ระบุว่า AI ไม่ควรถูกมองเพียงเป็นเครื่องมือโกงการบ้าน แต่สามารถใช้เป็น ผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้เชิงร่วมมือ หากครูและนักเรียนใช้มันอย่างถูกวิธี ตัวอย่างเช่น การเรียนเรื่องแรงโน้มถ่วง นักเรียนสามารถตั้งคำถาม “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?” แล้วใช้ AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์ เพื่อเข้าใจแนวคิดจากหลายมุมมอง

    การเรียนรู้เชิงสนทนา (Dialogic Learning)
    ผู้เขียนเสนอให้การศึกษาเปลี่ยนจากการท่องจำเป็น การสนทนาและการคิดร่วมกัน โดยครูและนักเรียนร่วมกันสำรวจปัญหาและทดสอบแนวคิด การใช้ AI ในบทสนทนาเชิงวิชาการจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักการได้ลึกซึ้งขึ้น และพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อโลกที่เผชิญวิกฤตระดับโลก เช่น วิกฤตสิ่งแวดล้อมและความท้าทายด้านประชาธิปไตย

    คำเตือน: AI อาจเป็น "พิษทางปัญญา"
    แม้ AI จะมีศักยภาพสูง แต่หากระบบการศึกษายังยึดติดกับการสอบแบบเดิมที่เน้นการเขียนเรียงความหรือการสังเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก นักเรียนอาจพึ่งพา AI จนสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงานวิชาการเอง งานวิจัยเตือนว่า หากไม่ปรับวิธีการสอนและการประเมินผล AI จะกลายเป็นตัวบั่นทอนการเรียนรู้แทนที่จะเป็นเครื่องมือพัฒนา

    มุมมองนักวิชาการ
    ศาสตราจารย์ Rupert Wegerif จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์กล่าวว่า “ทุกครั้งที่มีเทคโนโลยีใหม่ เราต้องคิดใหม่ว่าควรสอนอย่างไร” เช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ตหรือกระดานดำในอดีต ตอนนี้ AI กำลังบังคับให้เราตั้งคำถามว่า เรากำลังเตรียมนักเรียนเพื่ออะไร และควรเน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือมากกว่าการท่องจำ

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อเสนอจากงานวิจัย
    ใช้ AI เป็นผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้ร่วมมือ
    เปลี่ยนการสอนจากการท่องจำเป็นการคิดเชิงสนทนา

    ตัวอย่างการใช้งาน
    นักเรียนถามคำถาม เช่น “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?”
    AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์

    เป้าหมายการศึกษาใหม่
    พัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา
    เตรียมนักเรียนรับมือวิกฤตระดับโลก เช่น สิ่งแวดล้อมและประชาธิปไตย

    คำเตือนจากงานวิจัย
    หากยังใช้การสอบแบบเดิม AI อาจกลายเป็น “พิษทางปัญญา”
    นักเรียนอาจสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/23/education-needs-to-change-to-integrate-ai-research-paper-argues
    📰 "งานวิจัยชี้ การศึกษาต้องปรับตัวเพื่อบูรณาการ AI" บทความใน British Journal of Educational Technology ระบุว่า AI ไม่ควรถูกมองเพียงเป็นเครื่องมือโกงการบ้าน แต่สามารถใช้เป็น ผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้เชิงร่วมมือ หากครูและนักเรียนใช้มันอย่างถูกวิธี ตัวอย่างเช่น การเรียนเรื่องแรงโน้มถ่วง นักเรียนสามารถตั้งคำถาม “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?” แล้วใช้ AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์ เพื่อเข้าใจแนวคิดจากหลายมุมมอง 🧠 การเรียนรู้เชิงสนทนา (Dialogic Learning) ผู้เขียนเสนอให้การศึกษาเปลี่ยนจากการท่องจำเป็น การสนทนาและการคิดร่วมกัน โดยครูและนักเรียนร่วมกันสำรวจปัญหาและทดสอบแนวคิด การใช้ AI ในบทสนทนาเชิงวิชาการจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักการได้ลึกซึ้งขึ้น และพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อโลกที่เผชิญวิกฤตระดับโลก เช่น วิกฤตสิ่งแวดล้อมและความท้าทายด้านประชาธิปไตย ⚠️ คำเตือน: AI อาจเป็น "พิษทางปัญญา" แม้ AI จะมีศักยภาพสูง แต่หากระบบการศึกษายังยึดติดกับการสอบแบบเดิมที่เน้นการเขียนเรียงความหรือการสังเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก นักเรียนอาจพึ่งพา AI จนสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงานวิชาการเอง งานวิจัยเตือนว่า หากไม่ปรับวิธีการสอนและการประเมินผล AI จะกลายเป็นตัวบั่นทอนการเรียนรู้แทนที่จะเป็นเครื่องมือพัฒนา 🌍 มุมมองนักวิชาการ ศาสตราจารย์ Rupert Wegerif จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์กล่าวว่า “ทุกครั้งที่มีเทคโนโลยีใหม่ เราต้องคิดใหม่ว่าควรสอนอย่างไร” เช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ตหรือกระดานดำในอดีต ตอนนี้ AI กำลังบังคับให้เราตั้งคำถามว่า เรากำลังเตรียมนักเรียนเพื่ออะไร และควรเน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือมากกว่าการท่องจำ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อเสนอจากงานวิจัย ➡️ ใช้ AI เป็นผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้ร่วมมือ ➡️ เปลี่ยนการสอนจากการท่องจำเป็นการคิดเชิงสนทนา ✅ ตัวอย่างการใช้งาน ➡️ นักเรียนถามคำถาม เช่น “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?” ➡️ AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์ ✅ เป้าหมายการศึกษาใหม่ ➡️ พัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ➡️ เตรียมนักเรียนรับมือวิกฤตระดับโลก เช่น สิ่งแวดล้อมและประชาธิปไตย ‼️ คำเตือนจากงานวิจัย ⛔ หากยังใช้การสอบแบบเดิม AI อาจกลายเป็น “พิษทางปัญญา” ⛔ นักเรียนอาจสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/23/education-needs-to-change-to-integrate-ai-research-paper-argues
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • "นักวิจัยใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์กระตุ้นสมองให้ 'ได้กลิ่น'"

    ทีมวิจัยจากหลายสถาบันทดลองใช้ focused ultrasound ยิงผ่านกะโหลกไปยัง olfactory bulb ซึ่งเป็นจุดประมวลผลกลิ่นในสมอง แม้ตำแหน่งนี้จะเข้าถึงยาก แต่พวกเขาสามารถเล็งคลื่นได้อย่างแม่นยำโดยใช้ MRI ช่วยกำหนดตำแหน่ง ผลการทดลองพบว่าผู้เข้าร่วมสามารถรับรู้กลิ่นได้จริงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทดลอง และยังสามารถแยกแยะกลิ่นต่าง ๆ ได้ในการทดสอบแบบ blind trial

    วิธีการทดลองและความปลอดภัย
    นักวิจัยใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่ต่ำ (300 kHz) ที่สามารถทะลุผ่านกะโหลกได้ดี โดยกำหนดความลึกและมุมยิงอย่างแม่นยำเพื่อไม่ให้กระทบเส้นประสาทตา การทดสอบความปลอดภัยพบว่าความเข้มของคลื่นอยู่ในระดับต่ำกว่ามาตรฐานที่เคยใช้ในงาน tFUS (transcranial focused ultrasound) และไม่ก่อให้เกิดความร้อนหรือแรงดันที่เป็นอันตรายต่อสมอง

    ผลลัพธ์ที่ได้
    ผู้เข้าทดลองสองคนสามารถรับรู้กลิ่นได้ 4 แบบ ได้แก่
    กลิ่นอากาศสดชื่น
    กลิ่นขยะเก่า
    กลิ่นโอโซนคล้ายเครื่องฟอกอากาศ
    กลิ่นควันไฟจากไม้ที่กำลังไหม้

    นักวิจัยแยกความแตกต่างระหว่าง “กลิ่น” ที่ชัดเจนกับ “ความรู้สึก” ที่คล้ายกลิ่นแต่เบาบางกว่า และพบว่าการเล็งคลื่นเพียงเล็กน้อยก็สามารถเปลี่ยนกลิ่นที่รับรู้ได้

    ความหมายและอนาคต
    ทีมวิจัยเสนอว่า olfactory bulb อาจเป็นช่องทางใหม่ในการ เขียนข้อมูลเข้าสู่สมอง เพราะมีตัวรับกลิ่นกว่า 400 ชนิดที่สามารถเข้ารหัสข้อมูลได้หลากหลาย หากเทคโนโลยีนี้พัฒนาไปไกล อาจนำไปสู่การสร้าง “VR ที่มีกลิ่น” หรือแม้กระทั่งการสื่อสารข้อมูลเชิงความหมายผ่านกลิ่นโดยตรง ซึ่งอาจเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้และประสบการณ์มนุษย์ในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญ
    การทดลองใหม่
    ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ยิงไปยัง olfactory bulb เพื่อกระตุ้นการรับรู้กลิ่น
    ผู้เข้าทดลองสามารถรับรู้กลิ่นได้ตั้งแต่ครั้งแรก

    ความปลอดภัย
    ความเข้มคลื่นต่ำกว่ามาตรฐานที่เคยใช้ในงาน tFUS
    ไม่กระทบเส้นประสาทตาและไม่ก่อให้เกิดความร้อน

    ผลลัพธ์
    พบกลิ่น 4 แบบ: อากาศสดชื่น, ขยะเก่า, โอโซน, ควันไฟ
    การเล็งคลื่นเพียงเล็กน้อยก็เปลี่ยนกลิ่นที่รับรู้ได้

    ความหมายในอนาคต
    อาจนำไปสู่ VR ที่มีกลิ่นหรือการสื่อสารข้อมูลผ่านกลิ่น
    เปิดช่องทางใหม่ในการเขียนข้อมูลเข้าสู่สมอง

    คำเตือน
    เทคโนโลยียังอยู่ในขั้นทดลอง อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยระยะยาว
    การใช้เพื่อสื่อสารข้อมูลเข้าสมองโดยตรงอาจก่อให้เกิดประเด็นจริยธรรมและการควบคุม

    https://writetobrain.com/olfactory
    🧪 "นักวิจัยใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์กระตุ้นสมองให้ 'ได้กลิ่น'" ทีมวิจัยจากหลายสถาบันทดลองใช้ focused ultrasound ยิงผ่านกะโหลกไปยัง olfactory bulb ซึ่งเป็นจุดประมวลผลกลิ่นในสมอง แม้ตำแหน่งนี้จะเข้าถึงยาก แต่พวกเขาสามารถเล็งคลื่นได้อย่างแม่นยำโดยใช้ MRI ช่วยกำหนดตำแหน่ง ผลการทดลองพบว่าผู้เข้าร่วมสามารถรับรู้กลิ่นได้จริงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทดลอง และยังสามารถแยกแยะกลิ่นต่าง ๆ ได้ในการทดสอบแบบ blind trial ⚙️ วิธีการทดลองและความปลอดภัย นักวิจัยใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่ต่ำ (300 kHz) ที่สามารถทะลุผ่านกะโหลกได้ดี โดยกำหนดความลึกและมุมยิงอย่างแม่นยำเพื่อไม่ให้กระทบเส้นประสาทตา การทดสอบความปลอดภัยพบว่าความเข้มของคลื่นอยู่ในระดับต่ำกว่ามาตรฐานที่เคยใช้ในงาน tFUS (transcranial focused ultrasound) และไม่ก่อให้เกิดความร้อนหรือแรงดันที่เป็นอันตรายต่อสมอง 🌬️ ผลลัพธ์ที่ได้ ผู้เข้าทดลองสองคนสามารถรับรู้กลิ่นได้ 4 แบบ ได้แก่ ⭐ กลิ่นอากาศสดชื่น ⭐ กลิ่นขยะเก่า ⭐ กลิ่นโอโซนคล้ายเครื่องฟอกอากาศ ⭐ กลิ่นควันไฟจากไม้ที่กำลังไหม้ นักวิจัยแยกความแตกต่างระหว่าง “กลิ่น” ที่ชัดเจนกับ “ความรู้สึก” ที่คล้ายกลิ่นแต่เบาบางกว่า และพบว่าการเล็งคลื่นเพียงเล็กน้อยก็สามารถเปลี่ยนกลิ่นที่รับรู้ได้ 🌐 ความหมายและอนาคต ทีมวิจัยเสนอว่า olfactory bulb อาจเป็นช่องทางใหม่ในการ เขียนข้อมูลเข้าสู่สมอง เพราะมีตัวรับกลิ่นกว่า 400 ชนิดที่สามารถเข้ารหัสข้อมูลได้หลากหลาย หากเทคโนโลยีนี้พัฒนาไปไกล อาจนำไปสู่การสร้าง “VR ที่มีกลิ่น” หรือแม้กระทั่งการสื่อสารข้อมูลเชิงความหมายผ่านกลิ่นโดยตรง ซึ่งอาจเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้และประสบการณ์มนุษย์ในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การทดลองใหม่ ➡️ ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ยิงไปยัง olfactory bulb เพื่อกระตุ้นการรับรู้กลิ่น ➡️ ผู้เข้าทดลองสามารถรับรู้กลิ่นได้ตั้งแต่ครั้งแรก ✅ ความปลอดภัย ➡️ ความเข้มคลื่นต่ำกว่ามาตรฐานที่เคยใช้ในงาน tFUS ➡️ ไม่กระทบเส้นประสาทตาและไม่ก่อให้เกิดความร้อน ✅ ผลลัพธ์ ➡️ พบกลิ่น 4 แบบ: อากาศสดชื่น, ขยะเก่า, โอโซน, ควันไฟ ➡️ การเล็งคลื่นเพียงเล็กน้อยก็เปลี่ยนกลิ่นที่รับรู้ได้ ✅ ความหมายในอนาคต ➡️ อาจนำไปสู่ VR ที่มีกลิ่นหรือการสื่อสารข้อมูลผ่านกลิ่น ➡️ เปิดช่องทางใหม่ในการเขียนข้อมูลเข้าสู่สมอง ‼️ คำเตือน ⛔ เทคโนโลยียังอยู่ในขั้นทดลอง อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยระยะยาว ⛔ การใช้เพื่อสื่อสารข้อมูลเข้าสมองโดยตรงอาจก่อให้เกิดประเด็นจริยธรรมและการควบคุม https://writetobrain.com/olfactory
    WRITETOBRAIN.COM
    We Induced Smells With Ultrasound
    We decided to try to stimulate the olfactory bulb with focused ultrasound. As far as we know, no one seems to have done this kind of stimulation before - even in animals.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิธีตรวจสอบและแก้ไขปัญหา จุดพิกเซลเสียบน iPad

    บทความนี้อธิบายวิธีตรวจสอบและแก้ไขปัญหา จุดพิกเซลเสียบน iPad โดยแยกแยะระหว่าง ซอฟต์แวร์บั๊ก, พิกเซลค้าง (stuck pixel), และพิกเซลตาย (dead pixel) พร้อมแนวทางแก้ไขเบื้องต้นและการส่งซ่อมกับ Apple.

    หากคุณเห็นจุดเล็ก ๆ บนหน้าจอที่ไม่หายไปแม้เช็ดแล้ว อาจเป็น ปัญหาพิกเซล ซึ่งไม่กระทบการสัมผัส แต่รบกวนสายตาเวลาใช้งาน จุดนี้อาจเกิดจาก:
    ซอฟต์แวร์บั๊ก ที่ทำให้ภาพแสดงผิดพลาด
    พิกเซลค้าง ที่ติดอยู่กับสีใดสีหนึ่ง
    พิกเซลตาย ที่ไม่รับพลังงานและดับไปถาวร

    วิธีทดสอบเบื้องต้น
    บทความแนะนำให้ทำ Screenshot Test โดยกดปุ่ม Power + Volume Up (หรือ Power + Home ในรุ่นเก่า) เพื่อจับภาพหน้าจอ จากนั้นเปิดใน Photos และลองซูม/หมุนดู หากจุดเคลื่อนตามภาพ → เป็น ซอฟต์แวร์บั๊ก สามารถแก้ได้ด้วยการรีสตาร์ทหรือรีอินสตอลแอป แต่ถ้าจุดยังอยู่ที่ตำแหน่งเดิม → เป็น ฮาร์ดแวร์เสียหาย

    สาเหตุและการแก้ไข
    iPad รุ่นใหม่: อาจเกิดจากข้อบกพร่องการผลิต ทำให้พิกเซลเสียหลังใช้งานไม่กี่เดือน
    iPad รุ่นเก่า: ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเล็ดรอดเข้าไปในชั้นหน้าจอ ทำให้เกิด dead pixel
    แนวทางแก้ไข: หากเป็นฮาร์ดแวร์เสีย ต้องติดต่อ Apple Support หรือศูนย์บริการ หากยังอยู่ใน ประกันหรือ AppleCare+ อาจได้ซ่อมหรือเปลี่ยนฟรี แต่ถ้ามีรอยแตกหรือความเสียหายจากการตกหล่น อาจต้องเสียค่าเปลี่ยนจอเอง

    ข้อควรระวัง
    หากพบ จุดสว่างผิดปกติ (bright spot) บนหน้าจอ ก็เป็นอีกปัญหาที่ต้องเปลี่ยนจอใหม่เช่นกัน ไม่สามารถแก้ไขด้วยวิธีซอฟต์แวร์ได้

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    วิธีตรวจสอบ
    ใช้ Screenshot Test เพื่อแยกซอฟต์แวร์บั๊กกับฮาร์ดแวร์เสีย
    จุดที่เคลื่อนตามภาพ = ซอฟต์แวร์, จุดคงที่ = ฮาร์ดแวร์

    สาเหตุ
    รุ่นใหม่: ข้อบกพร่องการผลิต
    รุ่นเก่า: ฝุ่น/สิ่งสกปรกในชั้นหน้าจอ

    แนวทางแก้ไข
    รีสตาร์ทหรือรีอินสตอลแอปหากเป็นซอฟต์แวร์
    ติดต่อ Apple Support หากเป็นฮาร์ดแวร์

    คำเตือน
    จุดสว่าง (bright spot) ต้องเปลี่ยนจอใหม่
    หากมีรอยแตกหรือความเสียหายจากการตกหล่น อาจไม่ได้รับการซ่อมฟรี

    https://www.slashgear.com/2031159/ipad-pixel-issue-how-know-what-fixes/
    📱 วิธีตรวจสอบและแก้ไขปัญหา จุดพิกเซลเสียบน iPad บทความนี้อธิบายวิธีตรวจสอบและแก้ไขปัญหา จุดพิกเซลเสียบน iPad โดยแยกแยะระหว่าง ซอฟต์แวร์บั๊ก, พิกเซลค้าง (stuck pixel), และพิกเซลตาย (dead pixel) พร้อมแนวทางแก้ไขเบื้องต้นและการส่งซ่อมกับ Apple. หากคุณเห็นจุดเล็ก ๆ บนหน้าจอที่ไม่หายไปแม้เช็ดแล้ว อาจเป็น ปัญหาพิกเซล ซึ่งไม่กระทบการสัมผัส แต่รบกวนสายตาเวลาใช้งาน จุดนี้อาจเกิดจาก: 💠 ซอฟต์แวร์บั๊ก ที่ทำให้ภาพแสดงผิดพลาด 💠 พิกเซลค้าง ที่ติดอยู่กับสีใดสีหนึ่ง 💠 พิกเซลตาย ที่ไม่รับพลังงานและดับไปถาวร 🧩 วิธีทดสอบเบื้องต้น บทความแนะนำให้ทำ Screenshot Test โดยกดปุ่ม Power + Volume Up (หรือ Power + Home ในรุ่นเก่า) เพื่อจับภาพหน้าจอ จากนั้นเปิดใน Photos และลองซูม/หมุนดู หากจุดเคลื่อนตามภาพ → เป็น ซอฟต์แวร์บั๊ก สามารถแก้ได้ด้วยการรีสตาร์ทหรือรีอินสตอลแอป แต่ถ้าจุดยังอยู่ที่ตำแหน่งเดิม → เป็น ฮาร์ดแวร์เสียหาย 🔧 สาเหตุและการแก้ไข 💠 iPad รุ่นใหม่: อาจเกิดจากข้อบกพร่องการผลิต ทำให้พิกเซลเสียหลังใช้งานไม่กี่เดือน 💠 iPad รุ่นเก่า: ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเล็ดรอดเข้าไปในชั้นหน้าจอ ทำให้เกิด dead pixel 💠 แนวทางแก้ไข: หากเป็นฮาร์ดแวร์เสีย ต้องติดต่อ Apple Support หรือศูนย์บริการ หากยังอยู่ใน ประกันหรือ AppleCare+ อาจได้ซ่อมหรือเปลี่ยนฟรี แต่ถ้ามีรอยแตกหรือความเสียหายจากการตกหล่น อาจต้องเสียค่าเปลี่ยนจอเอง 🚨 ข้อควรระวัง หากพบ จุดสว่างผิดปกติ (bright spot) บนหน้าจอ ก็เป็นอีกปัญหาที่ต้องเปลี่ยนจอใหม่เช่นกัน ไม่สามารถแก้ไขด้วยวิธีซอฟต์แวร์ได้ 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ วิธีตรวจสอบ ➡️ ใช้ Screenshot Test เพื่อแยกซอฟต์แวร์บั๊กกับฮาร์ดแวร์เสีย ➡️ จุดที่เคลื่อนตามภาพ = ซอฟต์แวร์, จุดคงที่ = ฮาร์ดแวร์ ✅ สาเหตุ ➡️ รุ่นใหม่: ข้อบกพร่องการผลิต ➡️ รุ่นเก่า: ฝุ่น/สิ่งสกปรกในชั้นหน้าจอ ✅ แนวทางแก้ไข ➡️ รีสตาร์ทหรือรีอินสตอลแอปหากเป็นซอฟต์แวร์ ➡️ ติดต่อ Apple Support หากเป็นฮาร์ดแวร์ ‼️ คำเตือน ⛔ จุดสว่าง (bright spot) ต้องเปลี่ยนจอใหม่ ⛔ หากมีรอยแตกหรือความเสียหายจากการตกหล่น อาจไม่ได้รับการซ่อมฟรี https://www.slashgear.com/2031159/ipad-pixel-issue-how-know-what-fixes/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    How To Know Your iPad Has A Pixel Issue (And Whether It Can Be Fixed) - SlashGear
    If you've got an usual spot on your iPad's display, you might worry that it's a screen defect. This isn't always the case, though, so here's how to diagnose it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิธีหยุดพฤติกรรม “glazing” ของแชตบอท AI

    ทความจาก SlashGear อธิบายวิธีหยุดพฤติกรรม “glazing” ของแชตบอท AI อย่าง ChatGPT ที่ชอบใส่คำพูดฟุ่มเฟือยหรือย้ำคำถาม โดยแนะนำให้ใช้ instruction prompts และการปรับแต่ง custom personality settings เพื่อให้บอทตอบตรงประเด็นและแม่นยำมากขึ้น.

    ผู้ใช้หลายคนพบว่า ChatGPT และบอท AI อื่น ๆ เช่น Gemini หรือ Grok มักจะตอบแบบ “glazing” คือการ ย้ำคำถาม, ใส่คำพูดปลอบใจ, หรือใช้ภาษาฟุ่มเฟือย ก่อนจะเข้าสู่คำตอบจริง ซึ่งทำให้เสียเวลาและบางครั้งทำให้ข้อมูลไม่ชัดเจน.

    วิธีแก้ไขด้วย Instruction Prompts
    วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้ instruction prompts เพื่อกำหนดแนวทางการตอบ เช่น ตัวอย่างที่ผู้เขียนใช้คือ:


    Do not restate my question, add filler, or soften your responses.
    Answer directly, concisely, and factually.
    Prioritize accuracy over politeness.
    If information is uncertain, say so explicitly instead of guessing.
    Focus only on the specific details I ask for.

    แปลเป็นไทยคือ

    อย่ากล่าวซ้ำคำถามของฉัน เพิ่มคำเติม หรือทำให้คำตอบของคุณไม่ตรงไปตรงมา
    ตอบตรงประเด็น กระชับ และตรงตามข้อเท็จจริง
    ให้ความสำคัญกับความถูกต้องมากกว่าความสุภาพ
    หากข้อมูลไม่ชัดเจน ให้พูดอย่างชัดเจนแทนที่จะเดา
    เน้นเฉพาะรายละเอียดเฉพาะที่ฉันถามเท่านั้น

    เมื่อใส่ prompt นี้ ChatGPT จะหยุดพฤติกรรม glazing และตอบตรงประเด็นมากขึ้น แม้บางครั้งยังมีการ “หลุด” กลับไปใช้สำนวนเดิม แต่โดยรวมถือว่าช่วยได้มาก.

    การปรับแต่ง Personality Settings
    นอกจาก instruction prompts แบบรายครั้งแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่ง custom personality ในการตั้งค่าของ ChatGPT หรือ Grok ได้ เช่น การเลือกบุคลิกที่ตรงไปตรงมา หรือใส่ custom instructions ให้บอทจดจำตลอดการสนทนา วิธีนี้ช่วยลดการต้องใส่ prompt ซ้ำ ๆ และทำให้บอทตอบตรงประเด็นในทุกการใช้งาน.

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    ปัญหาที่พบ
    ChatGPT และบอท AI มักตอบแบบ glazing (ย้ำคำถาม, ใช้คำปลอบใจ, ฟุ่มเฟือย)

    วิธีแก้ไข
    ใช้ instruction prompts เพื่อบังคับให้ตอบตรงประเด็น
    ปรับแต่ง personality settings ให้ตอบแบบ concise และ factual

    คำเตือน
    แม้ใช้ instruction prompts แล้ว บอทยังอาจ “หลุด” กลับไปใช้สำนวนเดิม
    ต้องทดสอบและปรับแต่งหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ

    https://www.slashgear.com/2030799/how-to-stop-chatgpt-and-other-ai-chatbots-from-glazing-over-your-conversations/
    🤖 วิธีหยุดพฤติกรรม “glazing” ของแชตบอท AI ทความจาก SlashGear อธิบายวิธีหยุดพฤติกรรม “glazing” ของแชตบอท AI อย่าง ChatGPT ที่ชอบใส่คำพูดฟุ่มเฟือยหรือย้ำคำถาม โดยแนะนำให้ใช้ instruction prompts และการปรับแต่ง custom personality settings เพื่อให้บอทตอบตรงประเด็นและแม่นยำมากขึ้น. ผู้ใช้หลายคนพบว่า ChatGPT และบอท AI อื่น ๆ เช่น Gemini หรือ Grok มักจะตอบแบบ “glazing” คือการ ย้ำคำถาม, ใส่คำพูดปลอบใจ, หรือใช้ภาษาฟุ่มเฟือย ก่อนจะเข้าสู่คำตอบจริง ซึ่งทำให้เสียเวลาและบางครั้งทำให้ข้อมูลไม่ชัดเจน. 🛠️ วิธีแก้ไขด้วย Instruction Prompts วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้ instruction prompts เพื่อกำหนดแนวทางการตอบ เช่น ตัวอย่างที่ผู้เขียนใช้คือ: 👉 Do not restate my question, add filler, or soften your responses. Answer directly, concisely, and factually. Prioritize accuracy over politeness. If information is uncertain, say so explicitly instead of guessing. Focus only on the specific details I ask for. แปลเป็นไทยคือ 👉 อย่ากล่าวซ้ำคำถามของฉัน เพิ่มคำเติม หรือทำให้คำตอบของคุณไม่ตรงไปตรงมา ตอบตรงประเด็น กระชับ และตรงตามข้อเท็จจริง ให้ความสำคัญกับความถูกต้องมากกว่าความสุภาพ หากข้อมูลไม่ชัดเจน ให้พูดอย่างชัดเจนแทนที่จะเดา เน้นเฉพาะรายละเอียดเฉพาะที่ฉันถามเท่านั้น เมื่อใส่ prompt นี้ ChatGPT จะหยุดพฤติกรรม glazing และตอบตรงประเด็นมากขึ้น แม้บางครั้งยังมีการ “หลุด” กลับไปใช้สำนวนเดิม แต่โดยรวมถือว่าช่วยได้มาก. ⚙️ การปรับแต่ง Personality Settings นอกจาก instruction prompts แบบรายครั้งแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่ง custom personality ในการตั้งค่าของ ChatGPT หรือ Grok ได้ เช่น การเลือกบุคลิกที่ตรงไปตรงมา หรือใส่ custom instructions ให้บอทจดจำตลอดการสนทนา วิธีนี้ช่วยลดการต้องใส่ prompt ซ้ำ ๆ และทำให้บอทตอบตรงประเด็นในทุกการใช้งาน. 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ ปัญหาที่พบ ➡️ ChatGPT และบอท AI มักตอบแบบ glazing (ย้ำคำถาม, ใช้คำปลอบใจ, ฟุ่มเฟือย) ✅ วิธีแก้ไข ➡️ ใช้ instruction prompts เพื่อบังคับให้ตอบตรงประเด็น ➡️ ปรับแต่ง personality settings ให้ตอบแบบ concise และ factual ‼️ คำเตือน ⛔ แม้ใช้ instruction prompts แล้ว บอทยังอาจ “หลุด” กลับไปใช้สำนวนเดิม ⛔ ต้องทดสอบและปรับแต่งหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ https://www.slashgear.com/2030799/how-to-stop-chatgpt-and-other-ai-chatbots-from-glazing-over-your-conversations/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    You Can Stop ChatGPT (And Other AI Chatbots) From Glazing Over Your Conversations — Here's How - SlashGear
    Stop ChatGPT glazing by using clear instruction prompts and adjusting its personality so it replies concisely and accurately without restating your questions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ทดลองโฆษณาใน Gemini AI Search

    Google กำลังทดสอบการแสดง Sponsored Ads ภายในผลลัพธ์โหมด AI ของ Gemini โดยโฆษณาจะปรากฏที่ด้านล่างของคำตอบที่ AI สร้างขึ้น และมีลักษณะคล้ายกับลิงก์ปกติ ทำให้ผู้ใช้แทบแยกไม่ออกว่าเป็นโฆษณา

    Google เริ่มทดสอบการใส่โฆษณาแบบ Sponsored Links ลงในผลลัพธ์ที่สร้างโดย Gemini AI Search โดยโฆษณาจะถูกแสดงในตำแหน่งท้ายสุดของคำตอบที่ AI สร้างขึ้น และมีรูปแบบใกล้เคียงกับลิงก์ทั่วไป ทำให้ผู้ใช้ต้องสังเกตคำว่า “Sponsored” เพื่อแยกออกจากผลลัพธ์จริง

    เหตุผลเบื้องหลังการทดสอบ
    นักวิเคราะห์ชี้ว่า การแสดงโฆษณาในโหมด AI เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการประมวลผล AI มีราคาสูงมาก การเพิ่มโฆษณาจึงเป็นวิธีการสร้างรายได้เพื่อรองรับการให้บริการฟรีแก่ผู้ใช้ เช่นเดียวกับที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่าง X และ OpenAI กำลังพิจารณาแนวทางคล้ายกัน

    ความแตกต่างจาก Google Search แบบเดิม
    ใน Google Search แบบดั้งเดิม ผู้ใช้สามารถเลื่อนผ่าน Sponsored Results ได้ แต่ใน Gemini AI Mode โฆษณาจะถูกฝังอยู่ในคำตอบ ทำให้ไม่สามารถเลี่ยงได้ง่าย นี่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่อาจกระทบต่อประสบการณ์ผู้ใช้และความโปร่งใสของข้อมูล

    ผลกระทบต่ออนาคตของ AI Search
    หากการทดสอบนี้ถูกนำมาใช้จริง จะเป็นการยืนยันว่า ยุคของ AI ฟรีกำลังจะสิ้นสุดลง และผู้ใช้จะต้องเผชิญกับโฆษณาที่ผสานเข้ากับคำตอบ AI อย่างแนบเนียน ซึ่งอาจสร้างทั้งโอกาสทางธุรกิจใหม่ให้ Google และความกังวลด้านความโปร่งใสแก่ผู้ใช้

    สรุปสาระสำคัญ
    Google ทดสอบ Sponsored Ads ใน Gemini AI Search
    โฆษณาปรากฏที่ด้านล่างของผลลัพธ์ AI
    รูปแบบคล้ายลิงก์ปกติ แยกออกยาก

    เหตุผลในการทดสอบ
    ค่าใช้จ่าย AI สูง จำเป็นต้องสร้างรายได้
    แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น X และ OpenAI ก็พิจารณาแนวทางคล้ายกัน

    ความแตกต่างจาก Search แบบเดิม
    ผู้ใช้ไม่สามารถเลื่อนผ่านโฆษณาได้ง่าย
    โฆษณาถูกฝังในคำตอบ AI โดยตรง

    ผลกระทบต่ออนาคต
    ยุค AI ฟรีอาจสิ้นสุดลง
    สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ แต่เพิ่มความกังวลเรื่องโปร่งใส

    คำเตือนด้านข้อมูล
    ผู้ใช้ต้องระวังการแยกแยะข้อมูลจริงกับโฆษณา
    การฝังโฆษณาในคำตอบ AI อาจกระทบต่อความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์

    https://securityonline.info/google-testing-sponsored-ads-inside-gemini-ai-search-results/
    📰 Google ทดลองโฆษณาใน Gemini AI Search Google กำลังทดสอบการแสดง Sponsored Ads ภายในผลลัพธ์โหมด AI ของ Gemini โดยโฆษณาจะปรากฏที่ด้านล่างของคำตอบที่ AI สร้างขึ้น และมีลักษณะคล้ายกับลิงก์ปกติ ทำให้ผู้ใช้แทบแยกไม่ออกว่าเป็นโฆษณา Google เริ่มทดสอบการใส่โฆษณาแบบ Sponsored Links ลงในผลลัพธ์ที่สร้างโดย Gemini AI Search โดยโฆษณาจะถูกแสดงในตำแหน่งท้ายสุดของคำตอบที่ AI สร้างขึ้น และมีรูปแบบใกล้เคียงกับลิงก์ทั่วไป ทำให้ผู้ใช้ต้องสังเกตคำว่า “Sponsored” เพื่อแยกออกจากผลลัพธ์จริง ⚡ เหตุผลเบื้องหลังการทดสอบ นักวิเคราะห์ชี้ว่า การแสดงโฆษณาในโหมด AI เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการประมวลผล AI มีราคาสูงมาก การเพิ่มโฆษณาจึงเป็นวิธีการสร้างรายได้เพื่อรองรับการให้บริการฟรีแก่ผู้ใช้ เช่นเดียวกับที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่าง X และ OpenAI กำลังพิจารณาแนวทางคล้ายกัน 📊 ความแตกต่างจาก Google Search แบบเดิม ใน Google Search แบบดั้งเดิม ผู้ใช้สามารถเลื่อนผ่าน Sponsored Results ได้ แต่ใน Gemini AI Mode โฆษณาจะถูกฝังอยู่ในคำตอบ ทำให้ไม่สามารถเลี่ยงได้ง่าย นี่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่อาจกระทบต่อประสบการณ์ผู้ใช้และความโปร่งใสของข้อมูล 🌍 ผลกระทบต่ออนาคตของ AI Search หากการทดสอบนี้ถูกนำมาใช้จริง จะเป็นการยืนยันว่า ยุคของ AI ฟรีกำลังจะสิ้นสุดลง และผู้ใช้จะต้องเผชิญกับโฆษณาที่ผสานเข้ากับคำตอบ AI อย่างแนบเนียน ซึ่งอาจสร้างทั้งโอกาสทางธุรกิจใหม่ให้ Google และความกังวลด้านความโปร่งใสแก่ผู้ใช้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Google ทดสอบ Sponsored Ads ใน Gemini AI Search ➡️ โฆษณาปรากฏที่ด้านล่างของผลลัพธ์ AI ➡️ รูปแบบคล้ายลิงก์ปกติ แยกออกยาก ✅ เหตุผลในการทดสอบ ➡️ ค่าใช้จ่าย AI สูง จำเป็นต้องสร้างรายได้ ➡️ แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น X และ OpenAI ก็พิจารณาแนวทางคล้ายกัน ✅ ความแตกต่างจาก Search แบบเดิม ➡️ ผู้ใช้ไม่สามารถเลื่อนผ่านโฆษณาได้ง่าย ➡️ โฆษณาถูกฝังในคำตอบ AI โดยตรง ✅ ผลกระทบต่ออนาคต ➡️ ยุค AI ฟรีอาจสิ้นสุดลง ➡️ สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ แต่เพิ่มความกังวลเรื่องโปร่งใส ‼️ คำเตือนด้านข้อมูล ⛔ ผู้ใช้ต้องระวังการแยกแยะข้อมูลจริงกับโฆษณา ⛔ การฝังโฆษณาในคำตอบ AI อาจกระทบต่อความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์ https://securityonline.info/google-testing-sponsored-ads-inside-gemini-ai-search-results/
    SECURITYONLINE.INFO
    Google Testing 'Sponsored' Ads Inside Gemini AI Search Results
    Google is testing sponsored links within Gemini's "AI Mode" search results. The ads are visually subtle, signaling the inevitable monetization of AI-powered search.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาวุธใหม่ DragonFire ยิงโดรนความเร็วสูงตกได้

    กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร (MoD) ประกาศว่าเลเซอร์พลังสูง DragonFire สามารถยิงโดรนความเร็วสูงตกได้สำเร็จในการทดสอบที่ Hebrides Range ประเทศสกอตแลนด์ โดยมีค่าใช้จ่ายต่อการยิงเพียงประมาณ 13 ดอลลาร์ และเตรียมติดตั้งบนเรือพิฆาต Type 45 ตั้งแต่ปี 2027

    DragonFire เป็นระบบเลเซอร์พลังสูงที่พัฒนาโดยความร่วมมือของ MBDA UK, QinetiQ และ Leonardo ล่าสุด MoD ยืนยันว่าเลเซอร์นี้สามารถยิงโดรนที่บินด้วยความเร็วสูงถึง 650 กม./ชม. ตกได้สำเร็จ ถือเป็นครั้งแรกที่สหราชอาณาจักรทำการสกัดกั้นโดรนเหนือเส้นขอบฟ้าได้สำเร็จ

    การติดตั้งบนเรือพิฆาต Type 45
    สหราชอาณาจักรได้ลงนามสัญญามูลค่า 316 ล้านปอนด์กับ MBDA UK เพื่อเร่งการติดตั้ง DragonFire บนเรือพิฆาต Type 45 ภายในปี 2027 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมถึง 5 ปี การติดตั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพกองทัพเรือในการป้องกันภัยคุกคามทางอากาศที่มีความเร็วสูงและซับซ้อนมากขึ้น

    ค่าใช้จ่ายต่อการยิงต่ำมาก
    หนึ่งในจุดเด่นของ DragonFire คือค่าใช้จ่ายต่อการยิงเพียง 10 ปอนด์ (~13 ดอลลาร์) ซึ่งถูกกว่าการใช้ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานที่มีราคาหลายแสนดอลลาร์ต่อครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถเล็งเป้าได้แม่นยำถึงระดับเหรียญ 1 ปอนด์จากระยะ 1 กิโลเมตร

    ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
    DragonFire ถูกมองว่าเป็น “hard-kill solution” ที่จะเปลี่ยนแนวทางการป้องกันภัยทางอากาศของ NATO และพันธมิตร ด้วยต้นทุนต่ำและความแม่นยำสูง หากการทดสอบบนเรือในปี 2027 ประสบความสำเร็จ อาจมีการติดตั้งเพิ่มเติมในเรือรบหลายลำของกองทัพเรือสหราชอาณาจักร

    สรุปสาระสำคัญ
    การทดสอบ DragonFire
    ยิงโดรนความเร็วสูง 650 กม./ชม. ตกได้สำเร็จ
    ถือเป็นครั้งแรกที่สกัดกั้นเหนือเส้นขอบฟ้า

    การติดตั้งบนเรือพิฆาต Type 45
    สัญญามูลค่า 316 ล้านปอนด์กับ MBDA UK
    ติดตั้งภายในปี 2027 เร็วกว่ากำหนดเดิม 5 ปี

    ค่าใช้จ่ายต่อการยิง
    เพียง 10 ปอนด์ (~13 ดอลลาร์) ต่อครั้ง
    แม่นยำถึงระดับเหรียญ 1 ปอนด์จากระยะ 1 กม.

    ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
    เป็น hard-kill solution ที่ต้นทุนต่ำและแม่นยำสูง
    อาจขยายการติดตั้งในเรือรบหลายลำหากทดสอบสำเร็จ

    คำเตือนด้านข้อมูล
    ระบบเลเซอร์ต้องพึ่งพากำลังไฟฟ้าสูงและอาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ
    ข้อมูลเกี่ยวกับระยะยิงสูงสุดและกำลังเลเซอร์ยังไม่ถูกเปิดเผย

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/uk-dragonfire-laser-downs-high-speed-drones
    🔫 อาวุธใหม่ DragonFire ยิงโดรนความเร็วสูงตกได้ กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร (MoD) ประกาศว่าเลเซอร์พลังสูง DragonFire สามารถยิงโดรนความเร็วสูงตกได้สำเร็จในการทดสอบที่ Hebrides Range ประเทศสกอตแลนด์ โดยมีค่าใช้จ่ายต่อการยิงเพียงประมาณ 13 ดอลลาร์ และเตรียมติดตั้งบนเรือพิฆาต Type 45 ตั้งแต่ปี 2027 DragonFire เป็นระบบเลเซอร์พลังสูงที่พัฒนาโดยความร่วมมือของ MBDA UK, QinetiQ และ Leonardo ล่าสุด MoD ยืนยันว่าเลเซอร์นี้สามารถยิงโดรนที่บินด้วยความเร็วสูงถึง 650 กม./ชม. ตกได้สำเร็จ ถือเป็นครั้งแรกที่สหราชอาณาจักรทำการสกัดกั้นโดรนเหนือเส้นขอบฟ้าได้สำเร็จ ⚓ การติดตั้งบนเรือพิฆาต Type 45 สหราชอาณาจักรได้ลงนามสัญญามูลค่า 316 ล้านปอนด์กับ MBDA UK เพื่อเร่งการติดตั้ง DragonFire บนเรือพิฆาต Type 45 ภายในปี 2027 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมถึง 5 ปี การติดตั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพกองทัพเรือในการป้องกันภัยคุกคามทางอากาศที่มีความเร็วสูงและซับซ้อนมากขึ้น 💰 ค่าใช้จ่ายต่อการยิงต่ำมาก หนึ่งในจุดเด่นของ DragonFire คือค่าใช้จ่ายต่อการยิงเพียง 10 ปอนด์ (~13 ดอลลาร์) ซึ่งถูกกว่าการใช้ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานที่มีราคาหลายแสนดอลลาร์ต่อครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถเล็งเป้าได้แม่นยำถึงระดับเหรียญ 1 ปอนด์จากระยะ 1 กิโลเมตร 🌍 ความหมายเชิงยุทธศาสตร์ DragonFire ถูกมองว่าเป็น “hard-kill solution” ที่จะเปลี่ยนแนวทางการป้องกันภัยทางอากาศของ NATO และพันธมิตร ด้วยต้นทุนต่ำและความแม่นยำสูง หากการทดสอบบนเรือในปี 2027 ประสบความสำเร็จ อาจมีการติดตั้งเพิ่มเติมในเรือรบหลายลำของกองทัพเรือสหราชอาณาจักร 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การทดสอบ DragonFire ➡️ ยิงโดรนความเร็วสูง 650 กม./ชม. ตกได้สำเร็จ ➡️ ถือเป็นครั้งแรกที่สกัดกั้นเหนือเส้นขอบฟ้า ✅ การติดตั้งบนเรือพิฆาต Type 45 ➡️ สัญญามูลค่า 316 ล้านปอนด์กับ MBDA UK ➡️ ติดตั้งภายในปี 2027 เร็วกว่ากำหนดเดิม 5 ปี ✅ ค่าใช้จ่ายต่อการยิง ➡️ เพียง 10 ปอนด์ (~13 ดอลลาร์) ต่อครั้ง ➡️ แม่นยำถึงระดับเหรียญ 1 ปอนด์จากระยะ 1 กม. ✅ ความหมายเชิงยุทธศาสตร์ ➡️ เป็น hard-kill solution ที่ต้นทุนต่ำและแม่นยำสูง ➡️ อาจขยายการติดตั้งในเรือรบหลายลำหากทดสอบสำเร็จ ‼️ คำเตือนด้านข้อมูล ⛔ ระบบเลเซอร์ต้องพึ่งพากำลังไฟฟ้าสูงและอาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ ⛔ ข้อมูลเกี่ยวกับระยะยิงสูงสุดและกำลังเลเซอร์ยังไม่ถูกเปิดเผย https://www.tomshardware.com/tech-industry/uk-dragonfire-laser-downs-high-speed-drones
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    DragonFire laser shoots down high‑speed drones traveling at 400mph, costs $13 per shot — UK Navy to begin deploying system on destroyers
    Ministry of Defence confirms the laser achieved live kills at its Hebrides range and will be fitted on a Type 45 destroyer from 2027.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts