• สมัยที่ผมยังเด็ก...

    ลมหนาวจางๆ เริ่มพัดมาแล้ว...
    ระดับนํ้าในแม่นํ้าโขงเริ่มลดลง พอให้ชาวบ้านที่อยู่ติดริมนํ้าได้เริ่มลงมือปลูกผักสวนครัวไว้ใช้ในบ้าน

    เมื่อลมหนาว เริ่มพัดมา ก็หมายความว่า ฤดูฝนกำลังจะหมดไป
    งานบุญเดือน 11 กำลังมาถึง..

    งานบุญออกพรรษา...

    สิ่งที่มีมาคู่กับงานออกพรรษาคือ
    งานบุญแข่งเรือ

    ช่วงก่อนจะใกล้งานบุญแข่งเรือสักหนึ่งเดือน...
    ช่วงเย็นๆ ที่ลำนํ้าโขงจะปรากฎเสียงกระตุ้นเร้าเป็นระยะๆ ดังพร้อมๆ กับเสียงนกหวีด ให้ออกแรง พายจํ้า
    เรือแข่งหลายสิบฝีพาย หลายๆลำมักจะใช้แม่นํ้าโขงเป็นสนามฝึกซ้อม

    หน้าต่างฝั่งนํ้าโขงของบ้านผมนั้น เป็นที่ที่ผมปีนขึ้นไปนั่งได้อย่างสะดวก แค่เหยียบเก้าอี้ขึ้นไป ก็นั่งขอบหน้าต่างได้แล้ว

    ปกติแล้วผมมักจะชอบนั่งดูแม่นํ้าอยู่ริมหน้าต่างที่บ้านเก่า และบ่อยครั้งก็อุตริขึ้นไปนั่งอ่านนิยายที่ขอบหน้าต่าง

    คราวที่ กำลังง่วนกับการละเล่น พอได้ยินเสียงนกหวีดให้จังหวะฝีพาย ผมจะทิ้งทุกอย่างวิ่งมาเกาะหน้าต่างดู ฝีพายที่ขะมักเขม้น จ้วงพายลงในนํ้า ในจังหวะที่พร้อมเพรียงกัน

    ฝีพายทั้งหลายต่างพร้อมใจกันมาซ้อมทุกเช้าเย็น...

    จวบจนวันบุญแข่งเรือ และงานวันออกพรรษา มาถึง....

    ถนนสุนทรวิจิตร หน้าบ้านผมในสมัย40กว่าปีก่อนนั้น...
    นับได้ว่าเป็นถนนเศรษฐกิจเลยทีเดียว ทั้งรถราวิ่งกันขวักไขว่ ร้านอาหาร บาร์ ก็ผุดเป็นดอกเห็ดยามหน้าฝน
    เวลามีงานบุญต่างๆ ขบวนแห่ทั้งหลาย ก็ต้องผ่านเส้นนี้ทั้งนั้น

    วันออกพรรษา ที่เป็นวันเต็ง คือวันขึ้น15 คํ่าเดือน11 .....

    ลานหญ้าริมเขื่อนฝั่งโขง หน้าบ้านพักผู้พิพากษา ยาวไปถึงสถานีตำรวจ และเลยไปถึงโรงเรียนสุนทรวิจิตร
    จะเต็มไปด้วยซุ้มต่างๆของแต่ละอำเภอ แต่ละท้องถิ่น พากันมาออกร้าน ทั้งไม้ไผ่ ทางมะพร้าว ไพหญ้า ต่างถูกใช้เป็นวัสดุหลักในการทำโครงสร้างรวมทั้งการตกแต่ง ที่เรียบง่าย แต่น่าสนใจเหลือเกินสำหรับเด็กในวัย6-7ขวบอย่างผม

    ตั้งแต่เช้า....
    ผู้คนเริ่มทะยอยกัน ออกมาเดินเท้าบนถนน ถนนหน้าบ้านผมคราครํ่าไปด้วยผู้คน

    แม่บ้านที่เลี้ยงผมในยามนั้น
    แกชอบออกมานั่งดู ผู้คนเดินไปมา ผมซึ่งยังเป็นเด็กมากในขณะนั้นกลับรู้สึกว่า ไม่เห็นจะน่าสนใจอะไรเลย
    สู้ลูกโป่งสีสวยในมือพ่อค้าไม่ได้

    หรือเสาไม้ไผ่ที่พ่อค้าแบกพาดไว้บนไหล่ถูกเจาะรู รอบๆเป็นระยะๆ เอาไว้เสียบเครื่องเล่น ของเล่น นานาชนิด...

    เครื่องบินที่แพนหางเป็นกระดาษ ส่วนหัว มีเชือกป่านผูกกับปลายไม้ที่เป็นก้านจับ พอแกว่งให้ปะทะอากาศก็จะมีเสียงดังวี้ด ๆ

    ยังมี "จั๊กจั่น" ที่เป็นกล่องกระดาษทรงกระบอกเล็กๆ ฝั่งหนึ่งเจาะรูมีเชือกร้อยห้อยติดกับไม้ พอเหวี่ยงกล่องกระดาษที่ปลายมันจะเกิดเสียงแหลมๆคล้ายจั๊กจั่น

    และที่ลืมไม่ได้...
    ป๋องแป๋งกระดาษแก้ว..
    ที่หน้าของตัวป๋องแป๋งขึงด้วยการะดาษแก้วหลากสี
    ตัวป๋องแป๋งมีลักษณะคล้ายกลองขนาดเล็ก ขึงหน้าด้วยกระดาษแก้วสี ด้านข้างมีเชือกป่านร้อยไว้ทั้ง2ด้านปลายด้านหนึ่ง มีดินเหนียวแห้งเป็นตุ้มถ่วง พอแกว่งป๋องแป๋ง ดินเหนียวนี้ก็จะไปปะทะหน้าป๋องแป๋ง เกิดเสียงกังวานขึ้น
    เตี่ยผมเคย ช่วยซ่อมป๋องแป๋งนี้ในยามที่หน้ากระดาษแก้วมันหย่อน
    แกเอาผ้าชุบนํ้าพอหมาดๆ แล้วเช็ดหน้ากระดาษแก้วไวๆ น่าประหลาดที่มันกลับมาตึงและดังกังวานได้อีกครั้ง

    แกบอกว่า กระดาษแก้วพอถูกนํ้าจะตึงขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ทำบ่อยๆก็ไม่ไหว มันจะหมดสภาพไป...
    .
    .
    .
    ฝูงชนยังคงคราครํ่า บนถนน...
    แม่บ้านผมก็ยังคงนั่งมองผู้คนอยู่อย่างนั้น...

    มาบัดนี้ ด้วยที่ผ่านวัยนั้นมา ผมเข้าใจแล้วว่า
    แกคงมองดูหนุ่มสาวที่มาด้วยกัน บางครั้งคงแอบมองหนุ่มๆที่มาคนเดียว หรือมาร่วมกลุ่มกัน นั่นก็คงทำให้แกมีความสุขเล็กๆได้
    .
    .
    พอตกบ่าย...
    หลังจากการแข่งเรือในท้องนํ้าที่กว้างใหญ่ผ่านไป
    มักจะมีเรือเล็กติดเครื่องยนต์ วิ่งไปมาใกล้ตลิ่ง
    หนุ่มๆบนเรือ บ้างก็เปลื้องผ้าท่อนบน บ้างก็มีสภาพมึนเมา บ่อยครั้งที่จะมีคำร้องกลอนพื้นบ้าน พร้อมเสียงกลองเสียงเคาะขวด ลอยตามเรือมาเป็นระยะๆ
    สาวบ้านไหนอยู่ในระยะสายตา มักจะโดนหนุ่มๆขี้เมาทั้งหลายในเรือลำจิ๋ว แซวไปซะทุกครั้ง และแน่นอน คำร้องแซว นั้น อยู่ในระดับ หยาบถึงหยาบมาก
    .
    .
    ขบวนแห่ปราสาทผึ้งเริ่มแล้ว
    การตกแต่ง ริ้วขบวนเป็นไปด้วยความเรียบง่าย ทั้งดนตรีปี่กลอง ผู้ร่วมขบวนนั้นมีมากมาย และมีทุกวัย
    บางคราวก็จะเห็น ตา หรือ ยายแก่ๆ ฟ้อนเข้าจังหวะ แต่จังหวะสับขานั้นเต็มไปด้วยควมสับสนอาจจะเพราะฤทธิ์ 40 ดีกรี ที่ดวดเข้าไปเต็มคราบ ถึงกับถอยหน้าถอยหลัง ไปไม่ถึงไหน
    ร้อนถึงเพื่อน ในขบวนต้องช่วยกันรุนหลังให้ตามขบวนไป
    บ้างก็หมดสภาพขนาดเพื่อนๆ ต้องหิ้วปีกตามขบวนกันเลย ก็ยังเคยมีให้เห็น
    .
    .
    งานบุญแบบนี้ สิ่งที่เด็กๆอย่างผมตั้งตารอ ก็คงจะหนีไม่พ้น ขนม นม เนย ที่วางขายกัน

    ของกิน ของซื้อมากมายเหลือเกินในงานออกร้าน

    รถเข็นขายลูกชิ้นปิ้ง
    ซึ่งผมและเด็กอีกหลายๆคนมักจะทำคล้ายๆกัน คือ ใช้ไม้ที่มีลูกชิ้นนั้น จิ้มนํ้าจิ้ม และดูดกินนํ้าจิ้มนั้น เรื่อยๆก่อน เหมือนกลัวว่า ถ้ารีบกินลูกชิ้นนั้น จะหมดลงไวเกินไป อีกมือที่ว่างก็ล้วงไปที่ถุงพลาสติกที่มีกระหลํ่าปลีหั่น เอาออกมาจิ้มนํ้าจิ้มกินอย่างเอร็ดอร่อย
    จนควรแก่เวลา ถึงได้บรรเลงลูกชิ้นที่เหลือไว้ ลงท้อง

    รถเข็นขายซาละเปา
    ซาละเปาร้อนๆ หอมฉุยทุกครั้งที่เปิดฝาซึ้งที่ใช้นึ่งซาละเปา ยังมีขนมปังที่กินกับไอศครีมตัก พ่อค้านำมาประยุกต์ ใส่ไส้สังขยาลงไป แล้วเอามานึ่งพร้อมซาละเปา ก็อร่อยไปอีกแบบ

    และสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานออกพรรษาสมัยนั้น คือ ลูกเดือยต้ม

    มันจะถูกแบ่งเป็นกำๆ กำหนึ่งมีหลายก้าน ปลายก้านจะมีลูกเดือยอยู่แต่มันถูกหุ้มด้วยเปลือกแข็งๆ ต้องแทะเปลือกออกถึงจะได้ลิ้มรส ไอ้ลูกเดือยนี่แหละทำให้คนกวาดถนนออกมาบ่นทุกครั้งที่จบงาน เพราะมันถูกทิ้งเกลื่อนและเปลือกมีขนาดเล็ก ทำให้ยากต่อการเก็บกวาด

    งานดำเนินไปค่อนคืน...
    งานเลี้ยงก็ถึงเวลาต้องเลิกรา...
    .
    .
    .
    หลายสิบปีผ่านไป...
    งานออกพรรษา เปลี่ยนไปแล้ว...

    ความเรียบง่ายแฝงเสน่ห์บ้านๆถูกแทนที่ด้วยความยิ่งใหญ่ จ้าแจ่ม ของความทันสมัยที่ถูกใส่เข้ามาแทนที่

    ของเล่นในวัยเด็กที่พ่อค้าแบกท่อนไม้ไผ่เจาะรู ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว

    ของกินที่แสนอร่อยในวัยเด็กถูกแทนที่ด้วยของกินหน้าตาแปลกใหม่ และอาจจะอร่อยกว่าของเดิม

    ลูกเดือยต้ม แทบจะหาไม่ได้อีกแล้วในงานบุญออกพรรษา

    พร้อมๆกับที่ หนุ่มวัยรุ่นขี้เมาล่องเรือแซวสาว...
    ก็หายไปจากท้องนํ้า....
    .
    .
    .
    มีเพียงความทรงจำสีจางๆ...
    ภาพเก่าๆ ให้ระลึกถึง...

    ก็ทำให้ ใครบางคน...
    สถานที่บางสถานที่...
    ที่เคยสลายไปแล้วนั้น
    กลับมามีชีวิตอีกครั้ง...
    แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ ก็ตาม....
    .
    .
    .
    ***ปล. ขอบคุณท่านเจ้าของภาพที่ผมนำมาใช้ประกอบบทความครับ

    ***ออกพรรษา
    เผยแพร่ครั้งแรก เมื่อ 7 ตุลาคม 2560 ที่เพจ ล ม ห ว น
    สมัยที่ผมยังเด็ก... ลมหนาวจางๆ เริ่มพัดมาแล้ว... ระดับนํ้าในแม่นํ้าโขงเริ่มลดลง พอให้ชาวบ้านที่อยู่ติดริมนํ้าได้เริ่มลงมือปลูกผักสวนครัวไว้ใช้ในบ้าน เมื่อลมหนาว เริ่มพัดมา ก็หมายความว่า ฤดูฝนกำลังจะหมดไป งานบุญเดือน 11 กำลังมาถึง.. งานบุญออกพรรษา... สิ่งที่มีมาคู่กับงานออกพรรษาคือ งานบุญแข่งเรือ ช่วงก่อนจะใกล้งานบุญแข่งเรือสักหนึ่งเดือน... ช่วงเย็นๆ ที่ลำนํ้าโขงจะปรากฎเสียงกระตุ้นเร้าเป็นระยะๆ ดังพร้อมๆ กับเสียงนกหวีด ให้ออกแรง พายจํ้า เรือแข่งหลายสิบฝีพาย หลายๆลำมักจะใช้แม่นํ้าโขงเป็นสนามฝึกซ้อม หน้าต่างฝั่งนํ้าโขงของบ้านผมนั้น เป็นที่ที่ผมปีนขึ้นไปนั่งได้อย่างสะดวก แค่เหยียบเก้าอี้ขึ้นไป ก็นั่งขอบหน้าต่างได้แล้ว ปกติแล้วผมมักจะชอบนั่งดูแม่นํ้าอยู่ริมหน้าต่างที่บ้านเก่า และบ่อยครั้งก็อุตริขึ้นไปนั่งอ่านนิยายที่ขอบหน้าต่าง คราวที่ กำลังง่วนกับการละเล่น พอได้ยินเสียงนกหวีดให้จังหวะฝีพาย ผมจะทิ้งทุกอย่างวิ่งมาเกาะหน้าต่างดู ฝีพายที่ขะมักเขม้น จ้วงพายลงในนํ้า ในจังหวะที่พร้อมเพรียงกัน ฝีพายทั้งหลายต่างพร้อมใจกันมาซ้อมทุกเช้าเย็น... จวบจนวันบุญแข่งเรือ และงานวันออกพรรษา มาถึง.... ถนนสุนทรวิจิตร หน้าบ้านผมในสมัย40กว่าปีก่อนนั้น... นับได้ว่าเป็นถนนเศรษฐกิจเลยทีเดียว ทั้งรถราวิ่งกันขวักไขว่ ร้านอาหาร บาร์ ก็ผุดเป็นดอกเห็ดยามหน้าฝน เวลามีงานบุญต่างๆ ขบวนแห่ทั้งหลาย ก็ต้องผ่านเส้นนี้ทั้งนั้น วันออกพรรษา ที่เป็นวันเต็ง คือวันขึ้น15 คํ่าเดือน11 ..... ลานหญ้าริมเขื่อนฝั่งโขง หน้าบ้านพักผู้พิพากษา ยาวไปถึงสถานีตำรวจ และเลยไปถึงโรงเรียนสุนทรวิจิตร จะเต็มไปด้วยซุ้มต่างๆของแต่ละอำเภอ แต่ละท้องถิ่น พากันมาออกร้าน ทั้งไม้ไผ่ ทางมะพร้าว ไพหญ้า ต่างถูกใช้เป็นวัสดุหลักในการทำโครงสร้างรวมทั้งการตกแต่ง ที่เรียบง่าย แต่น่าสนใจเหลือเกินสำหรับเด็กในวัย6-7ขวบอย่างผม ตั้งแต่เช้า.... ผู้คนเริ่มทะยอยกัน ออกมาเดินเท้าบนถนน ถนนหน้าบ้านผมคราครํ่าไปด้วยผู้คน แม่บ้านที่เลี้ยงผมในยามนั้น แกชอบออกมานั่งดู ผู้คนเดินไปมา ผมซึ่งยังเป็นเด็กมากในขณะนั้นกลับรู้สึกว่า ไม่เห็นจะน่าสนใจอะไรเลย สู้ลูกโป่งสีสวยในมือพ่อค้าไม่ได้ หรือเสาไม้ไผ่ที่พ่อค้าแบกพาดไว้บนไหล่ถูกเจาะรู รอบๆเป็นระยะๆ เอาไว้เสียบเครื่องเล่น ของเล่น นานาชนิด... เครื่องบินที่แพนหางเป็นกระดาษ ส่วนหัว มีเชือกป่านผูกกับปลายไม้ที่เป็นก้านจับ พอแกว่งให้ปะทะอากาศก็จะมีเสียงดังวี้ด ๆ ยังมี "จั๊กจั่น" ที่เป็นกล่องกระดาษทรงกระบอกเล็กๆ ฝั่งหนึ่งเจาะรูมีเชือกร้อยห้อยติดกับไม้ พอเหวี่ยงกล่องกระดาษที่ปลายมันจะเกิดเสียงแหลมๆคล้ายจั๊กจั่น และที่ลืมไม่ได้... ป๋องแป๋งกระดาษแก้ว.. ที่หน้าของตัวป๋องแป๋งขึงด้วยการะดาษแก้วหลากสี ตัวป๋องแป๋งมีลักษณะคล้ายกลองขนาดเล็ก ขึงหน้าด้วยกระดาษแก้วสี ด้านข้างมีเชือกป่านร้อยไว้ทั้ง2ด้านปลายด้านหนึ่ง มีดินเหนียวแห้งเป็นตุ้มถ่วง พอแกว่งป๋องแป๋ง ดินเหนียวนี้ก็จะไปปะทะหน้าป๋องแป๋ง เกิดเสียงกังวานขึ้น เตี่ยผมเคย ช่วยซ่อมป๋องแป๋งนี้ในยามที่หน้ากระดาษแก้วมันหย่อน แกเอาผ้าชุบนํ้าพอหมาดๆ แล้วเช็ดหน้ากระดาษแก้วไวๆ น่าประหลาดที่มันกลับมาตึงและดังกังวานได้อีกครั้ง แกบอกว่า กระดาษแก้วพอถูกนํ้าจะตึงขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ทำบ่อยๆก็ไม่ไหว มันจะหมดสภาพไป... . . . ฝูงชนยังคงคราครํ่า บนถนน... แม่บ้านผมก็ยังคงนั่งมองผู้คนอยู่อย่างนั้น... มาบัดนี้ ด้วยที่ผ่านวัยนั้นมา ผมเข้าใจแล้วว่า แกคงมองดูหนุ่มสาวที่มาด้วยกัน บางครั้งคงแอบมองหนุ่มๆที่มาคนเดียว หรือมาร่วมกลุ่มกัน นั่นก็คงทำให้แกมีความสุขเล็กๆได้ . . พอตกบ่าย... หลังจากการแข่งเรือในท้องนํ้าที่กว้างใหญ่ผ่านไป มักจะมีเรือเล็กติดเครื่องยนต์ วิ่งไปมาใกล้ตลิ่ง หนุ่มๆบนเรือ บ้างก็เปลื้องผ้าท่อนบน บ้างก็มีสภาพมึนเมา บ่อยครั้งที่จะมีคำร้องกลอนพื้นบ้าน พร้อมเสียงกลองเสียงเคาะขวด ลอยตามเรือมาเป็นระยะๆ สาวบ้านไหนอยู่ในระยะสายตา มักจะโดนหนุ่มๆขี้เมาทั้งหลายในเรือลำจิ๋ว แซวไปซะทุกครั้ง และแน่นอน คำร้องแซว นั้น อยู่ในระดับ หยาบถึงหยาบมาก . . ขบวนแห่ปราสาทผึ้งเริ่มแล้ว การตกแต่ง ริ้วขบวนเป็นไปด้วยความเรียบง่าย ทั้งดนตรีปี่กลอง ผู้ร่วมขบวนนั้นมีมากมาย และมีทุกวัย บางคราวก็จะเห็น ตา หรือ ยายแก่ๆ ฟ้อนเข้าจังหวะ แต่จังหวะสับขานั้นเต็มไปด้วยควมสับสนอาจจะเพราะฤทธิ์ 40 ดีกรี ที่ดวดเข้าไปเต็มคราบ ถึงกับถอยหน้าถอยหลัง ไปไม่ถึงไหน ร้อนถึงเพื่อน ในขบวนต้องช่วยกันรุนหลังให้ตามขบวนไป บ้างก็หมดสภาพขนาดเพื่อนๆ ต้องหิ้วปีกตามขบวนกันเลย ก็ยังเคยมีให้เห็น . . งานบุญแบบนี้ สิ่งที่เด็กๆอย่างผมตั้งตารอ ก็คงจะหนีไม่พ้น ขนม นม เนย ที่วางขายกัน ของกิน ของซื้อมากมายเหลือเกินในงานออกร้าน รถเข็นขายลูกชิ้นปิ้ง ซึ่งผมและเด็กอีกหลายๆคนมักจะทำคล้ายๆกัน คือ ใช้ไม้ที่มีลูกชิ้นนั้น จิ้มนํ้าจิ้ม และดูดกินนํ้าจิ้มนั้น เรื่อยๆก่อน เหมือนกลัวว่า ถ้ารีบกินลูกชิ้นนั้น จะหมดลงไวเกินไป อีกมือที่ว่างก็ล้วงไปที่ถุงพลาสติกที่มีกระหลํ่าปลีหั่น เอาออกมาจิ้มนํ้าจิ้มกินอย่างเอร็ดอร่อย จนควรแก่เวลา ถึงได้บรรเลงลูกชิ้นที่เหลือไว้ ลงท้อง รถเข็นขายซาละเปา ซาละเปาร้อนๆ หอมฉุยทุกครั้งที่เปิดฝาซึ้งที่ใช้นึ่งซาละเปา ยังมีขนมปังที่กินกับไอศครีมตัก พ่อค้านำมาประยุกต์ ใส่ไส้สังขยาลงไป แล้วเอามานึ่งพร้อมซาละเปา ก็อร่อยไปอีกแบบ และสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานออกพรรษาสมัยนั้น คือ ลูกเดือยต้ม มันจะถูกแบ่งเป็นกำๆ กำหนึ่งมีหลายก้าน ปลายก้านจะมีลูกเดือยอยู่แต่มันถูกหุ้มด้วยเปลือกแข็งๆ ต้องแทะเปลือกออกถึงจะได้ลิ้มรส ไอ้ลูกเดือยนี่แหละทำให้คนกวาดถนนออกมาบ่นทุกครั้งที่จบงาน เพราะมันถูกทิ้งเกลื่อนและเปลือกมีขนาดเล็ก ทำให้ยากต่อการเก็บกวาด งานดำเนินไปค่อนคืน... งานเลี้ยงก็ถึงเวลาต้องเลิกรา... . . . หลายสิบปีผ่านไป... งานออกพรรษา เปลี่ยนไปแล้ว... ความเรียบง่ายแฝงเสน่ห์บ้านๆถูกแทนที่ด้วยความยิ่งใหญ่ จ้าแจ่ม ของความทันสมัยที่ถูกใส่เข้ามาแทนที่ ของเล่นในวัยเด็กที่พ่อค้าแบกท่อนไม้ไผ่เจาะรู ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว ของกินที่แสนอร่อยในวัยเด็กถูกแทนที่ด้วยของกินหน้าตาแปลกใหม่ และอาจจะอร่อยกว่าของเดิม ลูกเดือยต้ม แทบจะหาไม่ได้อีกแล้วในงานบุญออกพรรษา พร้อมๆกับที่ หนุ่มวัยรุ่นขี้เมาล่องเรือแซวสาว... ก็หายไปจากท้องนํ้า.... . . . มีเพียงความทรงจำสีจางๆ... ภาพเก่าๆ ให้ระลึกถึง... ก็ทำให้ ใครบางคน... สถานที่บางสถานที่... ที่เคยสลายไปแล้วนั้น กลับมามีชีวิตอีกครั้ง... แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ ก็ตาม.... . . . ***ปล. ขอบคุณท่านเจ้าของภาพที่ผมนำมาใช้ประกอบบทความครับ ***ออกพรรษา เผยแพร่ครั้งแรก เมื่อ 7 ตุลาคม 2560 ที่เพจ ล ม ห ว น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • งานเลี้ยงขอบคุณผู้หาความจริงที่มีหนึ่งเดียว
    เดินสุดซอยแรกเข้าสู่ซอยที่ 2 กับดีเอสไอ
    .
    เมื่อวานซืนนี้ (22ม.ค.68 )ผมจัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันที่บ้านพระอาทิตย์ เพื่อขอบคุณอาสาสมัครที่ร่วมช่วยเหลือจำลองเหตุการณ์ในการตกเรือสปีดโบ๊ตเสียชีวิตของน้องแตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ คนที่เข้ามาร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน มี อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, คุณหมอธวัชชัย กาญจนรินทร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมอุบัติเหตุ , คุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล พามิสแกรนด์ที่ร่วมพิสูจน์ความจริงมาในการแสดงเป็นน้องแตงโมที่ตกน้ำ ประกอบด้วย น้องปอย มิสแกรนด์นครพนม น้องเฟ-ริน มิสแกรนด์นครสวรรค์ น้องบาร์บี้ มิสแกรนด์เชียงใหม่ น้องนิวหยก มิสแกรนด์ชุมพร น้องหนูวรรณ มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา นอกจากนี้ ยังมีครูลิต้า ครูว่ายน้ำสอนนางเงือก มาด้วย
    .
    ส่วนคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ มาไม่ได้ เนื่องจากเข้ารับการผ่าตัดนิ่ว ยังไม่พอ ยังต้องถ่อสังขารออกจากโรงพยาบาลไปศาลอาญา เพื่อให้ไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล
    .
    เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ช่วงบ่ายๆอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ได้เปิดเผยหนังสือที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อนุมัติสืบสวนคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม ภัทรธิดา ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยส่งต่อผู้เชี่ยวชาญด้านคดีพิเศษรับผิดชอบดำเนินการ พร้อมหลักฐานเอกสารคำร้อง 55 แผ่น โดยท่านอธิบดีมอบหมาย พ.ต.ต.ณัฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ และแจ้งให้ผู้รับเรื่องร้องทุกข์ทราบต่อไป
    .
    ท่านผู้ชมครับ การเดินทางเพื่อหาความจริงที่มีหนึ่งเดียวของคดีน้องแตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ก็ได้เดินทางมาถึงอย่างน้อยที่สุด ซอยแรก มาถึงสุดซอยแล้ว เรากำลังเดินเข้าซอยที่ 2 อยู่ ทั้งหมดนี้ไม่ได้มีเรื่องราวส่วนตัวกับใครเลยแม้แต่นิดเดียว
    .
    มีคนพูดว่าทำไมเราต้องไปยุ่งเรื่องนี้ คนที่พูดเรื่องนี้น่าจะเป็นคนที่ไร้เดียงสา เพราะปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นก็เพราะว่าตำรวจ อัยการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอาจจะมีส่วนรับรู้หรือรับเห็น หรือจงใจทำให้เกิดช่องโหว่นี้ขึ้นมา ที่สำคัญคือเขาได้ปิดกั้นความเห็นและข้อมูลที่แตกต่างไม่ให้นำเสนอ เมื่อกระบวนการขึ้นสู่ศาล ศาลก็ไม่มีทางเลือก ก็ต้องพิจารณาเฉพาะหลักฐานที่ตำรวจและอัยการส่งมา ตรงนี้เป็นจุดอ่อนของกระบวนการยุติธรรมของไทยมาก
    .
    ตรงนี้ล่ะครับท่านผู้ชม เราไม่ได้เข้าข้างน้องแตงโม และเราไม่ได้เข้าข้างตำรวจหรือว่าคุณแม่ หรือทนายความของน้องแตงโม แต่เรายืนอยู่บนความจริงมีหนึ่งเดียว นี่คือหลักการในชีวิตของผม ซึ่งถ่ายทอดต่อไป และเป็นหลักการของอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และเผอิญมันก็ไปตรงกับหลักการของคุณหมอธวัชชัย แล้วก็มีส่วนในการที่คุณอัจฉริยะ เป็นคนเปิดประเด็นขึ้นมา
    .
    บ้านพระอาทิตย์ สนธิ ลิ้มทองกุล ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ไม่ได้สนใจข้อมูลอันนี้จะไปกระเทือนใครบ้าง ถ้าข้อมูลอันนี้ออกมาแล้วพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า เรื่องนี้จะหยุดแค่นี้ไม่ได้ ก็ต้องเดินหน้าต่อไป
    .
    แล้วเราก็มีที่พึ่งที่เดียว คือ ดีเอสไอ ถ้าคดีมีมูล สิ่งที่เราพิสูจน์แล้วดีเอสไอเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริง เขาก็ต้องเอาเรื่องทั้งหมดที่สืบสวนสอบสวนมาแล้ว มีบทสรุปเข้าคณะกรรมการชุดใหญ่ทั้งหมด 21 คน ท่านนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นประธาน เมื่อตกลงแล้วข้อมูลที่ทำขึ้นมาจากการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอนั้น เขาคิดว่าน่าจะรับเป็นคดีพิเศษได้หรือเปล่า ถ้าเขารับเป็นคดีพิเศษ กระบวนการทั้งหมดก็จะเริ่มต้นจากหนึ่งใหม่
    .
    ถ้ารับเป็นคดีพิเศษ เขาก็ต้องถามว่า ผู้ใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ มีตำรวจยศอะไรบ้างที่เกี่ยวข้อง ต้องเรียกมาสอบทีละคนๆๆ ผมถึงบอกว่า เราเพิ่งผ่านซอยแรกไปแล้ว ตอนนี้เรากำลังเริ่มเดินเข้าซอยที่สอง แต่อย่างน้อย ปรัชญาของความจริงมีหนึ่งเดียวของเรานั้น ก็ได้รับการยืนยันว่าทุกคนกำลังเดินหน้าเข้าไปหาความจริงที่มีหนึ่งเดียว
    งานเลี้ยงขอบคุณผู้หาความจริงที่มีหนึ่งเดียว เดินสุดซอยแรกเข้าสู่ซอยที่ 2 กับดีเอสไอ . เมื่อวานซืนนี้ (22ม.ค.68 )ผมจัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันที่บ้านพระอาทิตย์ เพื่อขอบคุณอาสาสมัครที่ร่วมช่วยเหลือจำลองเหตุการณ์ในการตกเรือสปีดโบ๊ตเสียชีวิตของน้องแตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ คนที่เข้ามาร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน มี อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, คุณหมอธวัชชัย กาญจนรินทร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมอุบัติเหตุ , คุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล พามิสแกรนด์ที่ร่วมพิสูจน์ความจริงมาในการแสดงเป็นน้องแตงโมที่ตกน้ำ ประกอบด้วย น้องปอย มิสแกรนด์นครพนม น้องเฟ-ริน มิสแกรนด์นครสวรรค์ น้องบาร์บี้ มิสแกรนด์เชียงใหม่ น้องนิวหยก มิสแกรนด์ชุมพร น้องหนูวรรณ มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา นอกจากนี้ ยังมีครูลิต้า ครูว่ายน้ำสอนนางเงือก มาด้วย . ส่วนคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ มาไม่ได้ เนื่องจากเข้ารับการผ่าตัดนิ่ว ยังไม่พอ ยังต้องถ่อสังขารออกจากโรงพยาบาลไปศาลอาญา เพื่อให้ไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล . เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ช่วงบ่ายๆอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ได้เปิดเผยหนังสือที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อนุมัติสืบสวนคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม ภัทรธิดา ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยส่งต่อผู้เชี่ยวชาญด้านคดีพิเศษรับผิดชอบดำเนินการ พร้อมหลักฐานเอกสารคำร้อง 55 แผ่น โดยท่านอธิบดีมอบหมาย พ.ต.ต.ณัฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ และแจ้งให้ผู้รับเรื่องร้องทุกข์ทราบต่อไป . ท่านผู้ชมครับ การเดินทางเพื่อหาความจริงที่มีหนึ่งเดียวของคดีน้องแตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ก็ได้เดินทางมาถึงอย่างน้อยที่สุด ซอยแรก มาถึงสุดซอยแล้ว เรากำลังเดินเข้าซอยที่ 2 อยู่ ทั้งหมดนี้ไม่ได้มีเรื่องราวส่วนตัวกับใครเลยแม้แต่นิดเดียว . มีคนพูดว่าทำไมเราต้องไปยุ่งเรื่องนี้ คนที่พูดเรื่องนี้น่าจะเป็นคนที่ไร้เดียงสา เพราะปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นก็เพราะว่าตำรวจ อัยการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอาจจะมีส่วนรับรู้หรือรับเห็น หรือจงใจทำให้เกิดช่องโหว่นี้ขึ้นมา ที่สำคัญคือเขาได้ปิดกั้นความเห็นและข้อมูลที่แตกต่างไม่ให้นำเสนอ เมื่อกระบวนการขึ้นสู่ศาล ศาลก็ไม่มีทางเลือก ก็ต้องพิจารณาเฉพาะหลักฐานที่ตำรวจและอัยการส่งมา ตรงนี้เป็นจุดอ่อนของกระบวนการยุติธรรมของไทยมาก . ตรงนี้ล่ะครับท่านผู้ชม เราไม่ได้เข้าข้างน้องแตงโม และเราไม่ได้เข้าข้างตำรวจหรือว่าคุณแม่ หรือทนายความของน้องแตงโม แต่เรายืนอยู่บนความจริงมีหนึ่งเดียว นี่คือหลักการในชีวิตของผม ซึ่งถ่ายทอดต่อไป และเป็นหลักการของอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และเผอิญมันก็ไปตรงกับหลักการของคุณหมอธวัชชัย แล้วก็มีส่วนในการที่คุณอัจฉริยะ เป็นคนเปิดประเด็นขึ้นมา . บ้านพระอาทิตย์ สนธิ ลิ้มทองกุล ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ไม่ได้สนใจข้อมูลอันนี้จะไปกระเทือนใครบ้าง ถ้าข้อมูลอันนี้ออกมาแล้วพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า เรื่องนี้จะหยุดแค่นี้ไม่ได้ ก็ต้องเดินหน้าต่อไป . แล้วเราก็มีที่พึ่งที่เดียว คือ ดีเอสไอ ถ้าคดีมีมูล สิ่งที่เราพิสูจน์แล้วดีเอสไอเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริง เขาก็ต้องเอาเรื่องทั้งหมดที่สืบสวนสอบสวนมาแล้ว มีบทสรุปเข้าคณะกรรมการชุดใหญ่ทั้งหมด 21 คน ท่านนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นประธาน เมื่อตกลงแล้วข้อมูลที่ทำขึ้นมาจากการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอนั้น เขาคิดว่าน่าจะรับเป็นคดีพิเศษได้หรือเปล่า ถ้าเขารับเป็นคดีพิเศษ กระบวนการทั้งหมดก็จะเริ่มต้นจากหนึ่งใหม่ . ถ้ารับเป็นคดีพิเศษ เขาก็ต้องถามว่า ผู้ใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ มีตำรวจยศอะไรบ้างที่เกี่ยวข้อง ต้องเรียกมาสอบทีละคนๆๆ ผมถึงบอกว่า เราเพิ่งผ่านซอยแรกไปแล้ว ตอนนี้เรากำลังเริ่มเดินเข้าซอยที่สอง แต่อย่างน้อย ปรัชญาของความจริงมีหนึ่งเดียวของเรานั้น ก็ได้รับการยืนยันว่าทุกคนกำลังเดินหน้าเข้าไปหาความจริงที่มีหนึ่งเดียว
    Like
    Love
    22
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1167 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อช่วงสายวันที่ 22 ม.ค. 68 “สนธิ ลิ้มทองกุล” ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ผู้จัดการ ได้จัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อขอบคุณอาสาสมัครที่มาร่วมจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา พัชระวีรพงษ์”เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา ณ บ้านพระอาทิตย์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000006866

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เมื่อช่วงสายวันที่ 22 ม.ค. 68 “สนธิ ลิ้มทองกุล” ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ผู้จัดการ ได้จัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อขอบคุณอาสาสมัครที่มาร่วมจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา พัชระวีรพงษ์”เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา ณ บ้านพระอาทิตย์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000006866 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 750 มุมมอง 1 รีวิว
  • บรรยากาศงานเลี้ยงขอบคุณ #อาสาสมัคร จำลองการ #ตกน้ำ #แตงโม #บ้านพระอาทิตย์ #สนธิลิ้มทองกุล #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ #มิสแกรนด์
    https://m.facebook.com/watch/?v=9719980928012489
    บรรยากาศงานเลี้ยงขอบคุณ #อาสาสมัคร จำลองการ #ตกน้ำ #แตงโม #บ้านพระอาทิตย์ #สนธิลิ้มทองกุล #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ #มิสแกรนด์ https://m.facebook.com/watch/?v=9719980928012489
    M.FACEBOOK.COM
    Live บ้านพระอาทิตย์ | LIVE : บรรยากาศการเลี้ยงขอบคุณอาสาสมัครมิสแกรนด์ ที่มาจำลองสถานการณ์การเสียชีวิตของ “แตงโม” และ ให้สัมภาษณ์ ที่บ้านพระอาทิตย์ | By คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    LIVE : บรรยากาศการเลี้ยงขอบคุณอาสาสมัครมิสแกรนด์ ที่มาจำลองสถานการณ์การเสียชีวิตของ “แตงโม” และ ให้สัมภาษณ์ ที่บ้านพระอาทิตย์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ได้จัดงานเลี้ยงสุดหรูที่ไต้หวัน! งานนี้มีชื่อว่า "trillion dollar banquet" และมีผู้บริหารจากบริษัทชิป AI ชั้นนำของ Nvidia มาร่วมงานถึง 35 คนเลยทีเดียว ในงานนี้มีผู้บริหารจาก Quanta, Asus, Acer, Inventec, Gigabyte, ASRock, และ MSI มาร่วมงานด้วย

    นอกจากนี้ Jensen Huang ยังได้ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ร่วมกับ CC Wei ประธานของ TSMC ซึ่งทั้งสองคนได้กล่าวชื่นชมกันและกันอย่างมาก Huang กล่าวว่า "ถ้าไม่มี TSMC, Nvidia ก็คงไม่มีทางเป็นไปได้" และ Wei ก็เสริมว่า "Jensen Huang นำมันมาที่ไต้หวัน จำไว้นะ"

    นอกจากการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจแล้ว ดูเหมือนว่า Jensen Huang และ CC Wei ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นในวงการนี้

    Jensen Huang ยังมีความเป็นกันเองกับผู้คนมากๆ เขาเคยถูกพบเห็นกินอาหารข้างทางในเวียดนามและเข้าร่วมงาน LAN party ที่ฮานอย ในการเยือนไต้หวันครั้งนี้ เขายังได้แจกไส้กรอกและขนมปังงาให้กับผู้คนที่รอเขาอยู่หน้าร้านอาหาร และยังเซ็นลายเซ็นและถ่ายรูปกับแฟนๆ อีกด้วย

    นอกจากนี้ เขายังแจก "hongbao" หรือซองแดงที่มีเงิน NT$1,000 หรือประมาณ US$30 ให้กับเด็กๆ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความสุข และโชคดีในช่วงเทศกาลตรุษจีน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidias-huang-enjoys-trillion-dollar-banquet-with-35-taiwanese-semiconductor-industry-chiefs
    Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ได้จัดงานเลี้ยงสุดหรูที่ไต้หวัน! งานนี้มีชื่อว่า "trillion dollar banquet" และมีผู้บริหารจากบริษัทชิป AI ชั้นนำของ Nvidia มาร่วมงานถึง 35 คนเลยทีเดียว ในงานนี้มีผู้บริหารจาก Quanta, Asus, Acer, Inventec, Gigabyte, ASRock, และ MSI มาร่วมงานด้วย นอกจากนี้ Jensen Huang ยังได้ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ร่วมกับ CC Wei ประธานของ TSMC ซึ่งทั้งสองคนได้กล่าวชื่นชมกันและกันอย่างมาก Huang กล่าวว่า "ถ้าไม่มี TSMC, Nvidia ก็คงไม่มีทางเป็นไปได้" และ Wei ก็เสริมว่า "Jensen Huang นำมันมาที่ไต้หวัน จำไว้นะ" นอกจากการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจแล้ว ดูเหมือนว่า Jensen Huang และ CC Wei ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นในวงการนี้ Jensen Huang ยังมีความเป็นกันเองกับผู้คนมากๆ เขาเคยถูกพบเห็นกินอาหารข้างทางในเวียดนามและเข้าร่วมงาน LAN party ที่ฮานอย ในการเยือนไต้หวันครั้งนี้ เขายังได้แจกไส้กรอกและขนมปังงาให้กับผู้คนที่รอเขาอยู่หน้าร้านอาหาร และยังเซ็นลายเซ็นและถ่ายรูปกับแฟนๆ อีกด้วย นอกจากนี้ เขายังแจก "hongbao" หรือซองแดงที่มีเงิน NT$1,000 หรือประมาณ US$30 ให้กับเด็กๆ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความสุข และโชคดีในช่วงเทศกาลตรุษจีน https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidias-huang-enjoys-trillion-dollar-banquet-with-35-taiwanese-semiconductor-industry-chiefs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่ง เช่น Apple, Google, Microsoft, Meta, Amazon, OpenAI และ Uber กำลังถูกตั้งคำถามจากวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เกี่ยวกับการบริจาคเงินจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ให้กับการเข้ารับตำแหน่งของ Donald Trump! วุฒิสมาชิก Elizabeth Warren และ Michael Bennet กำลังสงสัยว่าการบริจาคเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อ "ซื้อความโปรดปราน" จากรัฐบาลใหม่หรือไม่

    การบริจาคเงินจำนวนมากนี้ทำให้เกิดความสงสัย เนื่องจากเงินที่บริจาคให้กับการเข้ารับตำแหน่งของ Trump สูงกว่าที่บริจาคให้กับการเข้ารับตำแหน่งของ Biden อย่างมาก ตัวอย่างเช่น Apple บริจาคเงินให้กับการเข้ารับตำแหน่งของ Trump ถึง 23 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาคให้กับ Biden

    นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่าผู้บริหารบางคน เช่น Mark Zuckerberg จาก Meta ได้พบกับ Donald Trump และจัดงานเลี้ยงฉลองการเข้ารับตำแหน่งของเขา วุฒิสมาชิก Warren และ Bennet ได้ส่งจดหมายถึงบริษัทเหล่านี้เพื่อขอคำอธิบายเกี่ยวกับการบริจาคเงินจำนวนมากนี้

    https://wccftech.com/us-senators-are-questioning-apple-google-microsoft-others-over-the-1-million-trump-donation/
    บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่ง เช่น Apple, Google, Microsoft, Meta, Amazon, OpenAI และ Uber กำลังถูกตั้งคำถามจากวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เกี่ยวกับการบริจาคเงินจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ให้กับการเข้ารับตำแหน่งของ Donald Trump! วุฒิสมาชิก Elizabeth Warren และ Michael Bennet กำลังสงสัยว่าการบริจาคเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อ "ซื้อความโปรดปราน" จากรัฐบาลใหม่หรือไม่ การบริจาคเงินจำนวนมากนี้ทำให้เกิดความสงสัย เนื่องจากเงินที่บริจาคให้กับการเข้ารับตำแหน่งของ Trump สูงกว่าที่บริจาคให้กับการเข้ารับตำแหน่งของ Biden อย่างมาก ตัวอย่างเช่น Apple บริจาคเงินให้กับการเข้ารับตำแหน่งของ Trump ถึง 23 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาคให้กับ Biden นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่าผู้บริหารบางคน เช่น Mark Zuckerberg จาก Meta ได้พบกับ Donald Trump และจัดงานเลี้ยงฉลองการเข้ารับตำแหน่งของเขา วุฒิสมาชิก Warren และ Bennet ได้ส่งจดหมายถึงบริษัทเหล่านี้เพื่อขอคำอธิบายเกี่ยวกับการบริจาคเงินจำนวนมากนี้ https://wccftech.com/us-senators-are-questioning-apple-google-microsoft-others-over-the-1-million-trump-donation/
    WCCFTECH.COM
    Apple, Google, Microsoft and Others Are Under The Prying Eyes Of U.S. Senators For Their $1 Million Donations To Trump’s Inauguration, Seemingly To ‘Buy Favor’
    Two U.S. senators are questioning why technology giants like Apple, Google and Microsoft donating high amounts to the Trump administration
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • 40 คำคมทรงพลังจากเพลโต ปราชญ์ผู้วางรากฐานปัญญาตะวันตก
    .
    กว่าสองพันสี่ร้อยปีผ่านไป เสียงกังวานแห่งปัญญาของเพลโต (Plato, 428-348 BC) ยังคงก้องกึกในโลกแห่งความคิด Plato เป็นหนึ่งในเป็นผู้วางรากฐานการคิดเชิงปรัชญาให้แก่อารยธรรมตะวันตก จนมีผู้กล่าวว่า "Western philosophy is but a series of footnotes to Plato" (ปรัชญาตะวันตกทั้งมวลเป็นเพียงเชิงอรรถของเพลโต)
    .
    ในฐานะผู้ก่อตั้ง Platonic Academy (สำนักปรัชญาอคาเดมี) สถาบันการศึกษาแห่งแรกของโลกตะวันตก เพลโตได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญาที่งอกงามเป็นต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านไปทั่วโลก
    .
    ผลงานอมตะของเพลโตที่ยังคงทรงอิทธิพลจวบจนปัจจุบัน อาทิ "Allegory of the Cave" (อุปมาถ้ำ) ที่เปรียบเทียบมนุษย์ผู้ติดอยู่กับโลกแห่งเงา และ "Theory of Forms" (ทฤษฎีแบบ) ที่เสนอว่าทุกสิ่งในโลกวัตถุล้วนเป็นเพียงเงาสะท้อนของแบบ หรือแม่แบบที่สมบูรณ์แบบในโลกแห่งความคิด
    .
    งานเขียนสำคัญของเขาอย่าง "The Republic" (รัฐ) วางรากฐานแนวคิดทางการเมืองและการปกครอง ขณะที่ "Symposium" (งานเลี้ยงสนทนา) ถกประเด็นความรักและความงามอันเป็นนิรันดร์
    .
    แนวคิดของเพลโตได้หล่อหลอมวิธีคิดของโลกในทุกแขนง ทั้งปรัชญา ศาสนา การเมือง การศึกษา วิทยาศาสตร์ และศิลปะ อิทธิพลของเขาแผ่ขยายจากกรีกโบราณ ผ่านจักรวรรดิโรมัน ผ่านยุคกลาง ผ่านยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา จนถึงโลกสมัยใหม่ ทั้งในโลกตะวันตกและตะวันออก จนกลายเป็นรากฐานสำคัญของอารยธรรมโลก
    .
    40 คำคมของเพลโตที่รวบรวมมานี้สะท้อนถึงความลุ่มลึกทางความคิดที่เชื่อมโยงสวรรค์กับโลก อุดมคติกับความเป็นจริง และชี้นำมนุษย์สู่การแสวงหาสัจธรรมอันสูงสุด
    .
    .
    1. "Music gives a soul to the universe, wings to the mind, flight to the imagination and life to everything."

    "ดนตรีมอบจิตวิญญาณให้จักรวาล มอบปีกให้ความคิด มอบการโบยบินให้จินตนาการ และมอบชีวิตให้ทุกสิ่ง"
    .
    .
    2. "Wise men speak because they have something to say; fools because they have to say something."

    "คนฉลาดพูดเพราะมีสิ่งที่ต้องการจะบอก คนโง่พูดเพราะต้องพูดอะไรสักอย่าง"
    .
    .
    3. "The beginning is the most important part of the work."

    "จุดเริ่มต้นคือส่วนสำคัญที่สุดของงาน"
    .
    .
    4. "No one is more hated than he who speaks the truth."

    "ไม่มีใครถูกเกลียดมากไปกว่าผู้ที่พูดความจริง"
    .
    .
    5. "Necessity is the mother of invention."
    "ความจำเป็นคือบ่อเกิดแห่งการประดิษฐ์คิดค้น"
    .
    .
    6. "Human behavior flows from three main sources: desire, emotion, and knowledge."

    "พฤติกรรมมนุษย์หลั่งไหลมาจากสามแหล่งหลัก: ความปรารถนา อารมณ์ และความรู้"
    .
    .
    7. "The measure of a man is what he does with power."

    "เครื่องวัดคุณค่าของมนุษย์คือสิ่งที่เขาทำเมื่อมีอำนาจ"
    .
    .
    8. "The first and best victory is to conquer self."

    "ชัยชนะแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดคือการชนะใจตนเอง"
    .
    .
    9. "The penalty that good men pay for not being interested in politics is to be governed by men worse than themselves."

    "บทลงโทษที่คนดีต้องจ่ายสำหรับการไม่สนใจการเมืองคือการถูกปกครองโดยคนที่เลวร้ายกว่าตน"
    .
    .
    10. "Those who tell the stories rule society."

    "ผู้ที่เล่าเรื่องราวคือผู้ปกครองสังคม"
    .
    .
    11. "No wealth can ever make a bad man at peace with himself."

    "ไม่มีความมั่งคั่งใดจะทำให้คนเลวอยู่อย่างสงบกับตัวเองได้"
    .
    .
    12. "Ignorance, the root and the stem of every evil."

    "ความโง่เขลาคือรากเหง้าและลำต้นของความชั่วร้ายทั้งปวง"
    .
    .
    13. "We can easily forgive a child who is afraid of the dark; the real tragedy of life is when men are afraid of the light."

    "เราให้อภัยเด็กที่กลัวความมืดได้ง่าย แต่โศกนาฏกรรมที่แท้จริงของชีวิตคือเมื่อผู้คนกลัวแสงสว่าง"
    .
    .
    14. "The worst form of injustice is pretended justice."

    "ความอยุติธรรมที่เลวร้ายที่สุดคือความยุติธรรมจอมปลอม"
    .
    .
    15. "Opinion is the medium between knowledge and ignorance."

    "ความคิดเห็นคือสิ่งที่อยู่ระหว่างความรู้และความโง่เขลา"
    .
    .
    16. "Geometry existed before creation."

    "เรขาคณิตมีอยู่ก่อนการสร้างสรรค์"
    .
    .
    17. "Writing is the geometry of the soul."
    "การเขียนคือเรขาคณิตของจิตวิญญาณ"
    .
    .
    18. "Courage is knowing what not to fear."

    "ความกล้าหาญคือการรู้ว่าอะไรไม่ควรกลัว"
    .
    .
    19. "An empty vessel makes the loudest sound, so they that have the least wit are the greatest babblers."

    "ภาชนะที่ว่างเปล่าส่งเสียงดังที่สุด เช่นเดียวกับผู้ที่มีสติปัญญาน้อยที่สุดมักเป็นผู้พูดมากที่สุด"
    .
    .
    20. "Education is teaching our children to desire the right things."

    "การศึกษาคือการสอนลูกหลานของเราให้ปรารถนาในสิ่งที่ถูกต้อง"
    .
    .
    21. "Philosophy is the highest music."

    "ปรัชญาคือดนตรีที่สูงส่งที่สุด"
    .
    .
    22. "There are three classes of men; lovers of wisdom, lovers of honor, and lovers of gain."

    "มนุษย์มีสามประเภท: ผู้รักปัญญา ผู้รักเกียรติยศ และผู้รักผลประโยชน์"
    .
    .
    23. "Do not train a child to learn by force or harshness; but direct them to it by what amuses their minds, so that you may be better able to discover with accuracy the peculiar bent of the genius of each."

    "อย่าฝึกเด็กให้เรียนรู้ด้วยการบังคับหรือความรุนแรง แต่จงชี้นำพวกเขาด้วยสิ่งที่สร้างความเพลิดเพลินให้จิตใจ เพื่อที่คุณจะสามารถค้นพบความโน้มเอียงพิเศษของอัจฉริยภาพในตัวพวกเขาแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ"
    .
    .
    24. "You should not honor men more than truth."

    "อย่าให้เกียรติมนุษย์มากกว่าความจริง"
    .
    .
    25. "A hero is born among a hundred, a wise man is found among a thousand, but an accomplished one might not be found even among a hundred thousand men."

    "วีรบุรุษเกิดขึ้นในหนึ่งร้อย ปราชญ์พบได้ในหนึ่งพัน แต่ผู้ที่สมบูรณ์แบบอาจไม่พบแม้ในหนึ่งแสนคน"
    .
    .
    26. "At the touch of love everyone becomes a poet."

    "เมื่อสัมผัสความรัก ทุกคนกลายเป็นกวี"
    .
    .
    27. "There should exist among the citizens neither extreme poverty nor again excessive wealth, for both are productive of great evil."

    "ในหมู่พลเมืองไม่ควรมีทั้งความยากจนสุดขั้วหรือความมั่งคั่งล้นเหลือ เพราะทั้งสองสิ่งล้วนก่อให้เกิดความชั่วร้ายอันใหญ่หลวง"
    .
    .
    28. "As the builders say, the larger stones do not lie well without the lesser."

    "ดังที่ช่างก่อสร้างว่า หินก้อนใหญ่ไม่อาจวางได้ดีหากปราศจากหินก้อนเล็ก"
    .
    .
    29. "The most virtuous are those who content themselves with being virtuous without seeking to appear so."

    "ผู้ที่มีคุณธรรมที่สุดคือผู้ที่พอใจในการมีคุณธรรมโดยไม่พยายามทำให้ดูเหมือนว่ามี"
    .
    .
    30. "For this feeling of wonder shows that you are a philosopher, since wonder is the only beginning of philosophy."

    "ความรู้สึกประหลาดใจนี้แสดงว่าคุณเป็นนักปรัชญา เพราะความประหลาดใจคือจุดเริ่มต้นเพียงหนึ่งเดียวของปรัชญา"
    .
    .
    31. "Courage is a kind of salvation."

    "ความกล้าหาญคือรูปแบบหนึ่งของการหลุดพ้น"
    .
    .
    32. "The highest reach of injustice is to be deemed just when you are not."

    "จุดสูงสุดของความอยุติธรรมคือการถูกมองว่ายุติธรรมทั้งที่ไม่ใช่"
    .
    .
    33. "No science or art considers or enjoins the interest of the stronger or superior, but only the interest of the subject and weaker."

    "ไม่มีวิทยาศาสตร์หรือศิลปะใดพิจารณาหรือบังคับผลประโยชน์ของผู้แข็งแกร่งหรือผู้เหนือกว่า แต่เพียงผลประโยชน์ของผู้อยู่ใต้ปกครองและผู้อ่อนแอกว่า"
    .
    .
    34. "For the uneducated, when they engage in argument about anything, give no thought to the truth about the subject of discussion but are only eager that those present will accept the position they have set forth."

    "สำหรับผู้ไร้การศึกษา เมื่อพวกเขาโต้แย้งเรื่องใดก็ตาม พวกเขาไม่คิดถึงความจริงเกี่ยวกับหัวข้อที่กำลังอภิปราย แต่กระตือรือร้นเพียงให้ผู้ที่อยู่ที่นั่นยอมรับจุดยืนที่พวกเขานำเสนอเท่านั้น"
    .
    .
    35. "Neither do the ignorant seek after wisdom. For herein is the evil of ignorance, that he who is neither good nor wise is nevertheless satisfied with himself: he has no desire for that of which he feels no want."

    "คนโง่เขลาไม่แสวงหาปัญญา เพราะนี่คือความชั่วร้ายของความโง่เขลา ที่ผู้ซึ่งไม่ดีและไม่ฉลาดกลับพอใจในตัวเอง: เขาไม่มีความปรารถนาในสิ่งที่เขารู้สึกว่าไม่ขาด"
    .
    .
    36. "The man who finds that in the course of his life he has done a lot of wrong often wakes up at night in terror, like a child with a nightmare, and his life is full of foreboding: but the man who is conscious of no wrongdoing is filled with cheerfulness and with the comfort of old age."

    "ผู้ที่พบว่าในช่วงชีวิตของเขาได้ทำผิดมากมักตื่นขึ้นมาตอนกลางคืนด้วยความหวาดกลัว เหมือนเด็กที่ฝันร้าย และชีวิตของเขาเต็มไปด้วยลางร้าย แต่ผู้ที่ไม่รู้สึกว่าได้ทำผิดจะเต็มไปด้วยความร่าเริงและความสบายใจในวัยชรา"
    .
    .
    37. "Now early life is very impressible, and children ought not to learn what they will have to unlearn when they grow up; we must therefore have a censorship of nursery tales, banishing some and keeping others."

    "ชีวิตในวัยต้นนั้นรับอิทธิพลได้ง่าย และเด็กๆ ไม่ควรเรียนรู้สิ่งที่พวกเขาจะต้องลืมเมื่อโตขึ้น เราจึงต้องมีการกลั่นกรองนิทานสำหรับเด็ก กำจัดบางเรื่องและเก็บบางเรื่องไว้"
    .
    .
    38. "There's no difficulty in choosing vice in abundance: the road is smooth and it's hardly any distance to where it lives. But the gods have put sweat in the way of goodness, and a long, rough, steep road."

    "ไม่มีความยากลำบากในการเลือกความชั่วที่มีอยู่มากมาย: ถนนราบเรียบและแทบไม่มีระยะทางไปถึงที่อยู่ของมัน แต่เทพเจ้าได้วางเหงื่อไว้ในเส้นทางแห่งความดี และเป็นถนนที่ยาว ขรุขระ และชัน"
    .
    .
    39. "It is not Love absolutely that is good or praiseworthy, but only that Love which impels meant to love aright."

    "ไม่ใช่ความรักทั้งหมดที่ดีหรือน่าสรรเสริญ แต่เป็นเพียงความรักที่ผลักดันให้รักอย่างถูกต้องเท่านั้น"
    .
    .
    40. "Both knowledge and truth are beautiful things, but the good is other and more beautiful than they."

    "ทั้งความรู้และความจริงเป็นสิ่งงดงาม แต่ความดีนั้นแตกต่างและงดงามยิ่งกว่า"
    .
    .
    .
    .
    #SuccessStrategies #Quotes #Plato #Mindset #Politic
    40 คำคมทรงพลังจากเพลโต ปราชญ์ผู้วางรากฐานปัญญาตะวันตก . กว่าสองพันสี่ร้อยปีผ่านไป เสียงกังวานแห่งปัญญาของเพลโต (Plato, 428-348 BC) ยังคงก้องกึกในโลกแห่งความคิด Plato เป็นหนึ่งในเป็นผู้วางรากฐานการคิดเชิงปรัชญาให้แก่อารยธรรมตะวันตก จนมีผู้กล่าวว่า "Western philosophy is but a series of footnotes to Plato" (ปรัชญาตะวันตกทั้งมวลเป็นเพียงเชิงอรรถของเพลโต) . ในฐานะผู้ก่อตั้ง Platonic Academy (สำนักปรัชญาอคาเดมี) สถาบันการศึกษาแห่งแรกของโลกตะวันตก เพลโตได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญาที่งอกงามเป็นต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านไปทั่วโลก . ผลงานอมตะของเพลโตที่ยังคงทรงอิทธิพลจวบจนปัจจุบัน อาทิ "Allegory of the Cave" (อุปมาถ้ำ) ที่เปรียบเทียบมนุษย์ผู้ติดอยู่กับโลกแห่งเงา และ "Theory of Forms" (ทฤษฎีแบบ) ที่เสนอว่าทุกสิ่งในโลกวัตถุล้วนเป็นเพียงเงาสะท้อนของแบบ หรือแม่แบบที่สมบูรณ์แบบในโลกแห่งความคิด . งานเขียนสำคัญของเขาอย่าง "The Republic" (รัฐ) วางรากฐานแนวคิดทางการเมืองและการปกครอง ขณะที่ "Symposium" (งานเลี้ยงสนทนา) ถกประเด็นความรักและความงามอันเป็นนิรันดร์ . แนวคิดของเพลโตได้หล่อหลอมวิธีคิดของโลกในทุกแขนง ทั้งปรัชญา ศาสนา การเมือง การศึกษา วิทยาศาสตร์ และศิลปะ อิทธิพลของเขาแผ่ขยายจากกรีกโบราณ ผ่านจักรวรรดิโรมัน ผ่านยุคกลาง ผ่านยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา จนถึงโลกสมัยใหม่ ทั้งในโลกตะวันตกและตะวันออก จนกลายเป็นรากฐานสำคัญของอารยธรรมโลก . 40 คำคมของเพลโตที่รวบรวมมานี้สะท้อนถึงความลุ่มลึกทางความคิดที่เชื่อมโยงสวรรค์กับโลก อุดมคติกับความเป็นจริง และชี้นำมนุษย์สู่การแสวงหาสัจธรรมอันสูงสุด . . 1. "Music gives a soul to the universe, wings to the mind, flight to the imagination and life to everything." "ดนตรีมอบจิตวิญญาณให้จักรวาล มอบปีกให้ความคิด มอบการโบยบินให้จินตนาการ และมอบชีวิตให้ทุกสิ่ง" . . 2. "Wise men speak because they have something to say; fools because they have to say something." "คนฉลาดพูดเพราะมีสิ่งที่ต้องการจะบอก คนโง่พูดเพราะต้องพูดอะไรสักอย่าง" . . 3. "The beginning is the most important part of the work." "จุดเริ่มต้นคือส่วนสำคัญที่สุดของงาน" . . 4. "No one is more hated than he who speaks the truth." "ไม่มีใครถูกเกลียดมากไปกว่าผู้ที่พูดความจริง" . . 5. "Necessity is the mother of invention." "ความจำเป็นคือบ่อเกิดแห่งการประดิษฐ์คิดค้น" . . 6. "Human behavior flows from three main sources: desire, emotion, and knowledge." "พฤติกรรมมนุษย์หลั่งไหลมาจากสามแหล่งหลัก: ความปรารถนา อารมณ์ และความรู้" . . 7. "The measure of a man is what he does with power." "เครื่องวัดคุณค่าของมนุษย์คือสิ่งที่เขาทำเมื่อมีอำนาจ" . . 8. "The first and best victory is to conquer self." "ชัยชนะแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดคือการชนะใจตนเอง" . . 9. "The penalty that good men pay for not being interested in politics is to be governed by men worse than themselves." "บทลงโทษที่คนดีต้องจ่ายสำหรับการไม่สนใจการเมืองคือการถูกปกครองโดยคนที่เลวร้ายกว่าตน" . . 10. "Those who tell the stories rule society." "ผู้ที่เล่าเรื่องราวคือผู้ปกครองสังคม" . . 11. "No wealth can ever make a bad man at peace with himself." "ไม่มีความมั่งคั่งใดจะทำให้คนเลวอยู่อย่างสงบกับตัวเองได้" . . 12. "Ignorance, the root and the stem of every evil." "ความโง่เขลาคือรากเหง้าและลำต้นของความชั่วร้ายทั้งปวง" . . 13. "We can easily forgive a child who is afraid of the dark; the real tragedy of life is when men are afraid of the light." "เราให้อภัยเด็กที่กลัวความมืดได้ง่าย แต่โศกนาฏกรรมที่แท้จริงของชีวิตคือเมื่อผู้คนกลัวแสงสว่าง" . . 14. "The worst form of injustice is pretended justice." "ความอยุติธรรมที่เลวร้ายที่สุดคือความยุติธรรมจอมปลอม" . . 15. "Opinion is the medium between knowledge and ignorance." "ความคิดเห็นคือสิ่งที่อยู่ระหว่างความรู้และความโง่เขลา" . . 16. "Geometry existed before creation." "เรขาคณิตมีอยู่ก่อนการสร้างสรรค์" . . 17. "Writing is the geometry of the soul." "การเขียนคือเรขาคณิตของจิตวิญญาณ" . . 18. "Courage is knowing what not to fear." "ความกล้าหาญคือการรู้ว่าอะไรไม่ควรกลัว" . . 19. "An empty vessel makes the loudest sound, so they that have the least wit are the greatest babblers." "ภาชนะที่ว่างเปล่าส่งเสียงดังที่สุด เช่นเดียวกับผู้ที่มีสติปัญญาน้อยที่สุดมักเป็นผู้พูดมากที่สุด" . . 20. "Education is teaching our children to desire the right things." "การศึกษาคือการสอนลูกหลานของเราให้ปรารถนาในสิ่งที่ถูกต้อง" . . 21. "Philosophy is the highest music." "ปรัชญาคือดนตรีที่สูงส่งที่สุด" . . 22. "There are three classes of men; lovers of wisdom, lovers of honor, and lovers of gain." "มนุษย์มีสามประเภท: ผู้รักปัญญา ผู้รักเกียรติยศ และผู้รักผลประโยชน์" . . 23. "Do not train a child to learn by force or harshness; but direct them to it by what amuses their minds, so that you may be better able to discover with accuracy the peculiar bent of the genius of each." "อย่าฝึกเด็กให้เรียนรู้ด้วยการบังคับหรือความรุนแรง แต่จงชี้นำพวกเขาด้วยสิ่งที่สร้างความเพลิดเพลินให้จิตใจ เพื่อที่คุณจะสามารถค้นพบความโน้มเอียงพิเศษของอัจฉริยภาพในตัวพวกเขาแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ" . . 24. "You should not honor men more than truth." "อย่าให้เกียรติมนุษย์มากกว่าความจริง" . . 25. "A hero is born among a hundred, a wise man is found among a thousand, but an accomplished one might not be found even among a hundred thousand men." "วีรบุรุษเกิดขึ้นในหนึ่งร้อย ปราชญ์พบได้ในหนึ่งพัน แต่ผู้ที่สมบูรณ์แบบอาจไม่พบแม้ในหนึ่งแสนคน" . . 26. "At the touch of love everyone becomes a poet." "เมื่อสัมผัสความรัก ทุกคนกลายเป็นกวี" . . 27. "There should exist among the citizens neither extreme poverty nor again excessive wealth, for both are productive of great evil." "ในหมู่พลเมืองไม่ควรมีทั้งความยากจนสุดขั้วหรือความมั่งคั่งล้นเหลือ เพราะทั้งสองสิ่งล้วนก่อให้เกิดความชั่วร้ายอันใหญ่หลวง" . . 28. "As the builders say, the larger stones do not lie well without the lesser." "ดังที่ช่างก่อสร้างว่า หินก้อนใหญ่ไม่อาจวางได้ดีหากปราศจากหินก้อนเล็ก" . . 29. "The most virtuous are those who content themselves with being virtuous without seeking to appear so." "ผู้ที่มีคุณธรรมที่สุดคือผู้ที่พอใจในการมีคุณธรรมโดยไม่พยายามทำให้ดูเหมือนว่ามี" . . 30. "For this feeling of wonder shows that you are a philosopher, since wonder is the only beginning of philosophy." "ความรู้สึกประหลาดใจนี้แสดงว่าคุณเป็นนักปรัชญา เพราะความประหลาดใจคือจุดเริ่มต้นเพียงหนึ่งเดียวของปรัชญา" . . 31. "Courage is a kind of salvation." "ความกล้าหาญคือรูปแบบหนึ่งของการหลุดพ้น" . . 32. "The highest reach of injustice is to be deemed just when you are not." "จุดสูงสุดของความอยุติธรรมคือการถูกมองว่ายุติธรรมทั้งที่ไม่ใช่" . . 33. "No science or art considers or enjoins the interest of the stronger or superior, but only the interest of the subject and weaker." "ไม่มีวิทยาศาสตร์หรือศิลปะใดพิจารณาหรือบังคับผลประโยชน์ของผู้แข็งแกร่งหรือผู้เหนือกว่า แต่เพียงผลประโยชน์ของผู้อยู่ใต้ปกครองและผู้อ่อนแอกว่า" . . 34. "For the uneducated, when they engage in argument about anything, give no thought to the truth about the subject of discussion but are only eager that those present will accept the position they have set forth." "สำหรับผู้ไร้การศึกษา เมื่อพวกเขาโต้แย้งเรื่องใดก็ตาม พวกเขาไม่คิดถึงความจริงเกี่ยวกับหัวข้อที่กำลังอภิปราย แต่กระตือรือร้นเพียงให้ผู้ที่อยู่ที่นั่นยอมรับจุดยืนที่พวกเขานำเสนอเท่านั้น" . . 35. "Neither do the ignorant seek after wisdom. For herein is the evil of ignorance, that he who is neither good nor wise is nevertheless satisfied with himself: he has no desire for that of which he feels no want." "คนโง่เขลาไม่แสวงหาปัญญา เพราะนี่คือความชั่วร้ายของความโง่เขลา ที่ผู้ซึ่งไม่ดีและไม่ฉลาดกลับพอใจในตัวเอง: เขาไม่มีความปรารถนาในสิ่งที่เขารู้สึกว่าไม่ขาด" . . 36. "The man who finds that in the course of his life he has done a lot of wrong often wakes up at night in terror, like a child with a nightmare, and his life is full of foreboding: but the man who is conscious of no wrongdoing is filled with cheerfulness and with the comfort of old age." "ผู้ที่พบว่าในช่วงชีวิตของเขาได้ทำผิดมากมักตื่นขึ้นมาตอนกลางคืนด้วยความหวาดกลัว เหมือนเด็กที่ฝันร้าย และชีวิตของเขาเต็มไปด้วยลางร้าย แต่ผู้ที่ไม่รู้สึกว่าได้ทำผิดจะเต็มไปด้วยความร่าเริงและความสบายใจในวัยชรา" . . 37. "Now early life is very impressible, and children ought not to learn what they will have to unlearn when they grow up; we must therefore have a censorship of nursery tales, banishing some and keeping others." "ชีวิตในวัยต้นนั้นรับอิทธิพลได้ง่าย และเด็กๆ ไม่ควรเรียนรู้สิ่งที่พวกเขาจะต้องลืมเมื่อโตขึ้น เราจึงต้องมีการกลั่นกรองนิทานสำหรับเด็ก กำจัดบางเรื่องและเก็บบางเรื่องไว้" . . 38. "There's no difficulty in choosing vice in abundance: the road is smooth and it's hardly any distance to where it lives. But the gods have put sweat in the way of goodness, and a long, rough, steep road." "ไม่มีความยากลำบากในการเลือกความชั่วที่มีอยู่มากมาย: ถนนราบเรียบและแทบไม่มีระยะทางไปถึงที่อยู่ของมัน แต่เทพเจ้าได้วางเหงื่อไว้ในเส้นทางแห่งความดี และเป็นถนนที่ยาว ขรุขระ และชัน" . . 39. "It is not Love absolutely that is good or praiseworthy, but only that Love which impels meant to love aright." "ไม่ใช่ความรักทั้งหมดที่ดีหรือน่าสรรเสริญ แต่เป็นเพียงความรักที่ผลักดันให้รักอย่างถูกต้องเท่านั้น" . . 40. "Both knowledge and truth are beautiful things, but the good is other and more beautiful than they." "ทั้งความรู้และความจริงเป็นสิ่งงดงาม แต่ความดีนั้นแตกต่างและงดงามยิ่งกว่า" . . . . #SuccessStrategies #Quotes #Plato #Mindset #Politic
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 792 มุมมอง 0 รีวิว
  • สุขนิยมอุ๊งอิ๊ง ไม่ชอบก็ปล่อยผ่าน

    ฉายารัฐบาลประจำปี 2567 รัฐบาล "พ่อ" เลี้ยง" ฉายา "แพทองโพย" และวาทะแห่งปี "สามีเป็นคนใต้" ของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เจ้าตัวจะใจดีสู้เสือยังยิ้มได้ หยอกล้อกับสื่ออย่างอารมณ์ดีว่า "ไม่ใช่ เราเป็นแพทองแพด เราใช้ไอแพดไม่ได้ใช้โพย ทำไมถึงเป็นโพย โพยคือกระดาษใช่ไหม" และยืนยันว่าไม่โกรธ จะโกรธอะไร

    เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. แพทองธารกล่าวทำนองว่า ต้องหัดมองมุมที่ดีบ้าง ถ้าต้องดรามาทะเลาะกันอย่างนั้นเหนื่อย อยากให้ทุกคนคิดว่าทำงานมา 1 ปีมีความสุขอะไรบ้าง ภูมิใจในตัวเองเรื่องอะไรบ้าง และอยากปรับปรุงอะไร อย่าไปบี้ตัวเองหรือทำให้รู้สึกว่าแย่ และอย่าไปเครียดมาก เพราะมีเรื่องเครียดในชีวิตเยอะแล้ว

    "เป็นหนึ่งคนที่ผ่านอะไรมาเยอะในชีวิตตั้งแต่เด็ก ที่เจอเรื่องการเมืองหรืออะไรก็ตาม แต่ถ้าให้นึกว่าเกลียดใครจริงๆ นึกไม่ออก เพราะไม่ค่อยเกลียดใคร เกลียดแล้วเหนื่อย รู้สึกว่าไม่ต้องเกลียดหรอก สมมติถ้าเราไม่ชอบ หรือเรากับบุคคลนั้นไปกันไม่ได้ก็แค่ถอยออกมา จะไปเกลียดไม่ชอบใคร มันเหนื่อย"

    แม้แพทองธารจะไม่ทราบว่ามีภูมิต้านทานทางการเมืองมาตั้งแต่เด็ก แต่รู้สึกว่าถ้าไม่ชอบตรงไหนก็ถอยออกมาอยู่ในจุดที่ลงตัว มีความสุข และเป็นประโยชน์ได้ก็อยู่ตรงนั้น อย่าไปเกลียดใครมากมันเหนื่อย

    วันต่อมาในงานเลี้ยงสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า อยากให้เข้าใจคาแรกเตอร์ส่วนตัว เป็นคนตรงๆ อาจจะดูโผงผาง พูดตรง เสียงดัง แต่ไม่ได้คิดร้ายกับใคร ถ้าไม่ชอบหรือไม่แฮปปี้ ก็บอกไปแล้วว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร เป็นแบบนี้มานานแล้ว ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรมาก พร้อมกล่าวติดตลกว่า "หน้าอาจจะเหลี่ยมบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมมากมาย"

    "อยากให้ทุกคนมีความสุขในทุกๆวัน แม้บางวันที่มันยาก บางวันที่ไม่น่าจะมีความสุขเลยก็น่าจะหาความสุขให้ได้ในวันนั้น เพื่อรักษาใจตัวเองให้วันต่อไป ... เราเริ่มจากอะไรเล็กๆ ใกล้ๆ ตัวก่อน รักตัวเองให้ได้เพื่อจะมีแรงไปรักคนอื่น มีแรงไปทำดีให้คนอื่น ขอให้มีพลังบวกแบบนี้ไปเยอะๆ แต่อย่าบวกกันเยอะ"

    ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.ย. มีคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งพาดหัวบทความว่า "ประเทศในมือนายกฯ ฟันน้ำนม" ว่ากันว่าแพทองธารไม่พอใจคำว่า "นายกฯ ฟันน้ำนม" อย่างมาก ทีมงานนายกรัฐมนตรี วิม รุ่งวัฒนจินดา จี้ให้ลบบทความออกจากเว็บไซต์ สุดท้ายบทความนั้นหายไปจากระบบ

    แต่วันนี้ท่าทีที่ออกมาดูแตกต่างกันพอสมควร มองจากภายนอกเสมือนรู้ตัวว่าต้องทำอย่างไรในฐานะบุคคลสาธารณะ ส่วนจะเข้าใจโลกเข้าใจชีวิตหรือไม่ ไม่มีใครรู้ เพราะไม่ได้อยู่คฤหาสน์หรูย่านนวมินทร์-รามอินทรา

    #Newskit
    สุขนิยมอุ๊งอิ๊ง ไม่ชอบก็ปล่อยผ่าน ฉายารัฐบาลประจำปี 2567 รัฐบาล "พ่อ" เลี้ยง" ฉายา "แพทองโพย" และวาทะแห่งปี "สามีเป็นคนใต้" ของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เจ้าตัวจะใจดีสู้เสือยังยิ้มได้ หยอกล้อกับสื่ออย่างอารมณ์ดีว่า "ไม่ใช่ เราเป็นแพทองแพด เราใช้ไอแพดไม่ได้ใช้โพย ทำไมถึงเป็นโพย โพยคือกระดาษใช่ไหม" และยืนยันว่าไม่โกรธ จะโกรธอะไร เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. แพทองธารกล่าวทำนองว่า ต้องหัดมองมุมที่ดีบ้าง ถ้าต้องดรามาทะเลาะกันอย่างนั้นเหนื่อย อยากให้ทุกคนคิดว่าทำงานมา 1 ปีมีความสุขอะไรบ้าง ภูมิใจในตัวเองเรื่องอะไรบ้าง และอยากปรับปรุงอะไร อย่าไปบี้ตัวเองหรือทำให้รู้สึกว่าแย่ และอย่าไปเครียดมาก เพราะมีเรื่องเครียดในชีวิตเยอะแล้ว "เป็นหนึ่งคนที่ผ่านอะไรมาเยอะในชีวิตตั้งแต่เด็ก ที่เจอเรื่องการเมืองหรืออะไรก็ตาม แต่ถ้าให้นึกว่าเกลียดใครจริงๆ นึกไม่ออก เพราะไม่ค่อยเกลียดใคร เกลียดแล้วเหนื่อย รู้สึกว่าไม่ต้องเกลียดหรอก สมมติถ้าเราไม่ชอบ หรือเรากับบุคคลนั้นไปกันไม่ได้ก็แค่ถอยออกมา จะไปเกลียดไม่ชอบใคร มันเหนื่อย" แม้แพทองธารจะไม่ทราบว่ามีภูมิต้านทานทางการเมืองมาตั้งแต่เด็ก แต่รู้สึกว่าถ้าไม่ชอบตรงไหนก็ถอยออกมาอยู่ในจุดที่ลงตัว มีความสุข และเป็นประโยชน์ได้ก็อยู่ตรงนั้น อย่าไปเกลียดใครมากมันเหนื่อย วันต่อมาในงานเลี้ยงสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า อยากให้เข้าใจคาแรกเตอร์ส่วนตัว เป็นคนตรงๆ อาจจะดูโผงผาง พูดตรง เสียงดัง แต่ไม่ได้คิดร้ายกับใคร ถ้าไม่ชอบหรือไม่แฮปปี้ ก็บอกไปแล้วว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร เป็นแบบนี้มานานแล้ว ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรมาก พร้อมกล่าวติดตลกว่า "หน้าอาจจะเหลี่ยมบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมมากมาย" "อยากให้ทุกคนมีความสุขในทุกๆวัน แม้บางวันที่มันยาก บางวันที่ไม่น่าจะมีความสุขเลยก็น่าจะหาความสุขให้ได้ในวันนั้น เพื่อรักษาใจตัวเองให้วันต่อไป ... เราเริ่มจากอะไรเล็กๆ ใกล้ๆ ตัวก่อน รักตัวเองให้ได้เพื่อจะมีแรงไปรักคนอื่น มีแรงไปทำดีให้คนอื่น ขอให้มีพลังบวกแบบนี้ไปเยอะๆ แต่อย่าบวกกันเยอะ" ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.ย. มีคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งพาดหัวบทความว่า "ประเทศในมือนายกฯ ฟันน้ำนม" ว่ากันว่าแพทองธารไม่พอใจคำว่า "นายกฯ ฟันน้ำนม" อย่างมาก ทีมงานนายกรัฐมนตรี วิม รุ่งวัฒนจินดา จี้ให้ลบบทความออกจากเว็บไซต์ สุดท้ายบทความนั้นหายไปจากระบบ แต่วันนี้ท่าทีที่ออกมาดูแตกต่างกันพอสมควร มองจากภายนอกเสมือนรู้ตัวว่าต้องทำอย่างไรในฐานะบุคคลสาธารณะ ส่วนจะเข้าใจโลกเข้าใจชีวิตหรือไม่ ไม่มีใครรู้ เพราะไม่ได้อยู่คฤหาสน์หรูย่านนวมินทร์-รามอินทรา #Newskit
    Like
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 643 มุมมอง 0 รีวิว
  • บุคคลเปราะบาง เหยื่อคอนเทนต์

    การเสียชีวิตของนายธนาคาร คันธี หรือแบงค์ เลสเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์วัย 27 ปี เมื่อเวลา 03.40 น. วันที่ 26 ธ.ค. 2567 หลังรับคำท้าดื่มสุรา 350 มิลลิลิตรแบบรวดเดียวหมดแบน เพื่อแลกกับเงิน 30,000 บาท แล้วเกิดพิษแอลกอฮอล์เฉียบพลัน ภายในงานเลี้ยงร้านออมสินการเกษตร ของนายเอกชาติ มีพร้อม หรือเอ็ม เอกชาติ ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ซึ่งวันเกิดเหตุ แบงค์ เลสเตอร์ มากับนายธีระวัฒน์ ศรีรอด หรือเบิร์ด วันว่างๆ อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง

    ที่น่าเศร้าก็คือ ครั้งหนึ่งแบงค์ เลสเตอร์ เคยโพสต์ข้อความว่า "ชีวิตคนเราไม่สามารถเลือกเกิดได้ ผมยอมโดนแกล้ง ยอมโดนดูถูก เพื่อแลกกับเงินมาจุนเจือครอบครัว" พร้อมกับคลิปที่ตัวเองโดนแกล้งเอาแตงโมมาลูบหน้าบนช่องติ๊กต็อกเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2566 สังคมไทยเริ่มตื่นรู้กับพฤติกรรมที่เรียกว่าสวนสัตว์มนุษย์ (Human Zoo) ยุคนี้หมายถึงการนำบุคคลเปราะบางมากลั่นแกล้งแล้วผลิตคอนเทนต์เพื่อความบันเทิง แลกกับชื่อเสียงในวงการและรายได้ที่ตามมา

    ที่ผ่านมามีวีดีโอคลิปที่แบงค์ เลสเตอร์ ถูกอินฟลูเอนเซอร์บางคนกลั่นแกล้งเพื่อความสนุกในรูปแบบต่างๆ ทั้งการทำร้ายร่างกายหรือปะทะด้วยสิ่งของ การบังคับให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กินเจลหล่อลื่นที่ใช้ในการเพศสัมพันธ์ การนำปัสสาวะผสมเบียร์แล้วหลอกให้ดื่ม ต่างกรรมต่างวาระ แม้จะอ้างได้ว่าแบงค์ เลสเตอร์ ยินยอม แต่เป็นการยินยอมในลักษณะทำเพื่อเงิน ถูกบังคับทางอ้อมเพราะเป็นบุคคลเปราะบาง

    ที่น่าเศร้าก็คือ ยังมีคนที่เสพคอนเทนต์แบบนี้ เคยเหยียดบุคคลเปราะบาง เคยกดถูกใจ กดไลค์กดแชร์เพราะตลกขบขัน สะใจ ให้ความบันเทิงสนุกสนาน ไร้การกลั่นกรอง ปราศจากความรับผิดชอบ หนำซ้ำอัลกอริทึม (Algorithm) ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ทำให้อินฟลูเอนเซอร์ผู้กระทำมีชื่อเสียงขึ้นมา โซเชียลมีเดียตะวันตกแทบทุกค่าย ล้วนคัดเลือกคอนเทนต์เฉพาะสิ่งที่ผู้ใช้งานสนใจ หรืออยากรู้อยากเห็น แล้วระบบจะปรับจูนให้ ในขณะที่คอนเทนต์ดีๆ ถ้าไม่ใช้เงินซื้อจำนวนมากก็แทบถูกปิดกั้น

    เมื่อยอดไลค์ ยอดแชร์ ยอดวิว ทำให้อินฟลูเอนเซอร์บางคนหิวกระหาย ทำอะไรก็ได้เพื่อให้มีคนดู แต่ลืมความเป็นมนุษย์ จึงเกิดเหตุสลดขึ้นถึงขั้นพรากชีวิตไป แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้เลิกสนับสนุนอินฟลูเอนเซอร์ที่ไร้ความรับผิดชอบต่อเยาวชนและสังคม หันมาสนับสนุนคนทำคอนเทนต์ดีๆ แต่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียไม่ดันให้ หนำซ้ำสังคมไทยเป็นพวกมือถือสากปากถือศีล ปากบอกว่าไม่แต่ใจถลำลึก วันเวลาผ่านไปเมื่อมีเหตุการณ์ใหม่เข้ามา สุดท้ายเรื่องนี้ก็ถูกลืมจากสังคม จางหายไปกับสายลมเช่นเคย

    #Newskit
    บุคคลเปราะบาง เหยื่อคอนเทนต์ การเสียชีวิตของนายธนาคาร คันธี หรือแบงค์ เลสเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์วัย 27 ปี เมื่อเวลา 03.40 น. วันที่ 26 ธ.ค. 2567 หลังรับคำท้าดื่มสุรา 350 มิลลิลิตรแบบรวดเดียวหมดแบน เพื่อแลกกับเงิน 30,000 บาท แล้วเกิดพิษแอลกอฮอล์เฉียบพลัน ภายในงานเลี้ยงร้านออมสินการเกษตร ของนายเอกชาติ มีพร้อม หรือเอ็ม เอกชาติ ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ซึ่งวันเกิดเหตุ แบงค์ เลสเตอร์ มากับนายธีระวัฒน์ ศรีรอด หรือเบิร์ด วันว่างๆ อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ที่น่าเศร้าก็คือ ครั้งหนึ่งแบงค์ เลสเตอร์ เคยโพสต์ข้อความว่า "ชีวิตคนเราไม่สามารถเลือกเกิดได้ ผมยอมโดนแกล้ง ยอมโดนดูถูก เพื่อแลกกับเงินมาจุนเจือครอบครัว" พร้อมกับคลิปที่ตัวเองโดนแกล้งเอาแตงโมมาลูบหน้าบนช่องติ๊กต็อกเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2566 สังคมไทยเริ่มตื่นรู้กับพฤติกรรมที่เรียกว่าสวนสัตว์มนุษย์ (Human Zoo) ยุคนี้หมายถึงการนำบุคคลเปราะบางมากลั่นแกล้งแล้วผลิตคอนเทนต์เพื่อความบันเทิง แลกกับชื่อเสียงในวงการและรายได้ที่ตามมา ที่ผ่านมามีวีดีโอคลิปที่แบงค์ เลสเตอร์ ถูกอินฟลูเอนเซอร์บางคนกลั่นแกล้งเพื่อความสนุกในรูปแบบต่างๆ ทั้งการทำร้ายร่างกายหรือปะทะด้วยสิ่งของ การบังคับให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กินเจลหล่อลื่นที่ใช้ในการเพศสัมพันธ์ การนำปัสสาวะผสมเบียร์แล้วหลอกให้ดื่ม ต่างกรรมต่างวาระ แม้จะอ้างได้ว่าแบงค์ เลสเตอร์ ยินยอม แต่เป็นการยินยอมในลักษณะทำเพื่อเงิน ถูกบังคับทางอ้อมเพราะเป็นบุคคลเปราะบาง ที่น่าเศร้าก็คือ ยังมีคนที่เสพคอนเทนต์แบบนี้ เคยเหยียดบุคคลเปราะบาง เคยกดถูกใจ กดไลค์กดแชร์เพราะตลกขบขัน สะใจ ให้ความบันเทิงสนุกสนาน ไร้การกลั่นกรอง ปราศจากความรับผิดชอบ หนำซ้ำอัลกอริทึม (Algorithm) ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ทำให้อินฟลูเอนเซอร์ผู้กระทำมีชื่อเสียงขึ้นมา โซเชียลมีเดียตะวันตกแทบทุกค่าย ล้วนคัดเลือกคอนเทนต์เฉพาะสิ่งที่ผู้ใช้งานสนใจ หรืออยากรู้อยากเห็น แล้วระบบจะปรับจูนให้ ในขณะที่คอนเทนต์ดีๆ ถ้าไม่ใช้เงินซื้อจำนวนมากก็แทบถูกปิดกั้น เมื่อยอดไลค์ ยอดแชร์ ยอดวิว ทำให้อินฟลูเอนเซอร์บางคนหิวกระหาย ทำอะไรก็ได้เพื่อให้มีคนดู แต่ลืมความเป็นมนุษย์ จึงเกิดเหตุสลดขึ้นถึงขั้นพรากชีวิตไป แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้เลิกสนับสนุนอินฟลูเอนเซอร์ที่ไร้ความรับผิดชอบต่อเยาวชนและสังคม หันมาสนับสนุนคนทำคอนเทนต์ดีๆ แต่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียไม่ดันให้ หนำซ้ำสังคมไทยเป็นพวกมือถือสากปากถือศีล ปากบอกว่าไม่แต่ใจถลำลึก วันเวลาผ่านไปเมื่อมีเหตุการณ์ใหม่เข้ามา สุดท้ายเรื่องนี้ก็ถูกลืมจากสังคม จางหายไปกับสายลมเช่นเคย #Newskit
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 643 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัประยุทธ์ “ธรรมะ-อธรรม” #เปลวสีเงินplewเปลว สีเงิน“กฎหมาย” มีไว้สร้างสมดุลทาง “สังคมเป็นธรรม”แต่ทุกวันนี้คนใน “๓ สถาบันอำนาจ” คือ อำนาจนิติบัญญัติ, อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ “บางคน”ใช้กฎหมายสร้าง “สังคมอยุติธรรม” ทำลายสมดุลความเป็นคนที่เท่าเทียมทางกฎหมาย จนเกิดคำว่า “ป่วยทิพย์-คุกทิพย์”บ่งบอกถึง “เลือกปฎิบัติ-สองมาตรฐาน” ซึ่งชาวบ้านทั่วไป ไม่มีสิทธิได้รับโอกาสนั้น (เว้นแต่มีเงิน)คนใน ๓ สถาบันอำนาจเท่านั้น….ที่จะทำให้ “สังคมเป็นธรรม” กลายเป็น “สังคมระยำ” เช่นนั้นได้!มันก็แปลก คนกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนที่เรียกเรียก “เจ้าหน้าที่รัฐ” กลับมีอำนาจ “เหนือชีวิตประชาชน”นายจ้าง คือคนเสียภาษีแท้ๆ กลับถูก “ส้นตีนอำนาจ” ยัดปากตลอดกาลแค่จะคุกเข่า ยกสองมืออ่อนล้า วอนเมตตาและความเป็นธรรม ก็ยังถูกตราหน้า “พวกทำให้บ้านเมืองเสียโอกาส”โอกาสโกงบ้าน-กินเมืองละก็ใช่แต่ไมใช่โอกาสคืนความชอบธรรมให้กับบ้านเมือง!สังคมชาติที่ผู้คน “ตัวใคร-ตัวมัน” เห็นประโยชน์ชาติ ไม่ใช่ประโยชน์กู แล้วต่างทอดธุระและชาวบ้านก็เอาแต่ “ชะแง้รอแจก”ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ สยบยอมโจร ใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่เป็นกุญแจไข เปิดทางให้มัน “ปล้นบ้าน-ชำเราเมือง” จนย่ามใจ กร่างใหญ่คับประเทศผมก็ได้แต่ทอดถอนใจ ทำได้เพียง “รักบ้าน-รักเมือง” ด้วยปากไปวันๆเมื่อสัปดาห์ก่อน เห็นคนที่ไม่เอาแต่นั่งทอดถอนใจอย่างผม เขาเห็นการประทำย่ำยีบ้านเมืองจากไอ้ตัวกาลีเมืองแล้ว พวกเขาร้อนใจนัดกันไปคุยตามประสาคนห่วงบ้าน-ห่วงเมือง ผมอ่านข่าว ก็มีท่านเหล่านี้แก้วสรร อติโพธิ, ดร.เจิม ศักดิ์ ปิ่นทอง, ดร.กิตติศักดิ์ ปรกติ, ขวัญสรวง อติโพธิ, พลเอกสมเจตน์ บุญถนอมจตุพร พรหมพันธุ์, ทนายนกเขา, ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์,สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, พิชิต ไชยมงคล,สาวิทย์ แก้วหวาน, ประสาร มฤคพิทักษ์, ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว), แซมดิน เลิศบุศย์สมชาย แสวงการ, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม, นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์, ชาญชัย อิสระเสนารักษ์, ปรีดา เตียสุวรรณ์ และฯลฯหลายท่าน รู้จักมักคุ้น หลายท่านได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยพบสรุป ท่านเหล่านั้น มีที่มาเดียวกันบ้าง ต่างกันบ้าง คิดและทำเหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้างแต่ที่สุดแล้ว หนีหลักธรรมชาติไม่พ้นธรรมะ คือธรรมชาติ สิ่งจัดสรรมนุษย์คือธรรมชาติ รวงข้าว เมื่อแก่ ย่อมค้อมรวงบัว เกิดจากโคลนตม เมื่อพ้นน้ำ ย่อมปลดเปลื้องจากโคลนตม พิสุทธิ์แทนใจ บูชาธรรมคณะบุคคลเหล่านั้น ก็ประมาณนี้ …..ในความต่างที่มา ที่คิด ที่ทำ ในความเป็นบัณฑิตแห่งธาตุคน ที่สุดแล้ว คนธาตุบัณฑิตย่อมไหลรวมในหมู่บัณฑิตด้วยกันจะเรียกเขาเหล่านั้นว่าอะไรดีล่ะ?เพราะมีทั้ง พันธมิตรฯ ทั้ง กปปส. ทั้งกลุ่มหลอมรวม ทั้งเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย ทั้งกลุ่มสันติอโศกเรียกคณะ “ปชพช.” ดีมั้ย ….เป็นอักษรรวมความเพื่อให้ “เรียกง่าย-จำง่าย”ปชพช. “คณะปัญญาชนพิทักษ์ชาติ” ดูเหมาะสมกับสิ่งที่พวกเขาทำเมื่อวาน (๑๘ ธค.๖๗)คือ คณะปัญญาชนพากันเดินไปที่ “สำนักงานคณะกรรมการ​ป้องกัน​และ​ปราบปราม​การ​ทุจริต​แห่งชาติ “​(ป.ป.ช.​)ไม่ได้ไปก่อกวน ก้าวร้าว เยี่ยงอันธพาลเมือง แต่ไปเยี่ยงบัณฑิต กระทำเยี่ยงบัณฑิตเพื่อยื่นหนังสือให้ป.ป.ช.ตระหนักคิด กรณี ป.ป.ช.​ รับพิจารณาข้อกล่าวหา….“นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่เรือนจำ แพทย์รพ.ราชทัณฑ์ และรพ.ตำรวจ รวม ๑๒ คนส่งตัวผู้ต้องขังรายนายทักษิณ ชินวัตร จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบ​ให้ป.ป.ช.เร่งรัดพิจารณาเรื่องนี้และดำเนินคดีขึ้นสู่ศาลโดยเร็ว​ ในหนังสือ มี ๔ ข้อ๑.คดีส่งตัวไปรักษานอกเรือนจำพบว่า มีพยานเป็นบุคคลชัดเจน ได้เข้าไปเยี่ยมและพบว่าไม่มีอาการเจ็บป่วย อีกทั้งยังไม่มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุม หรือประจำอยู่ห้องพิเศษดังกล่าวและยังไม่ปรากฏหลักฐานการตรวจ หรือหลักฐานความเห็นของแพทย์ที่อนุญาตให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจซึ่งพิธีการทั้งหมดนี้ ขัดต่อขั้นตอนกฎกระทรวงทั้งสิ้น และไม่ว่าป.ป.ช.จะขอความร่วมมือไปเท่าไร ก็ไม่ได้รับจึงเป็นหลักฐานที่เพียงพอว่า พฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายทุจริตช่วยเหลือกันโดยมิชอบส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ของกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง ป.ป.ช.จึงต้องเร่งไต่สวน๒.คดีให้อยู่บ้านพักโทษ โดยมติการให้พักโทษ โดยอ้าง นักโทษมีสภาพร่างกายที่ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งการนั่ง เดินขึ้นบันได อาบน้ำ แต่งตัวรับประทานอาหาร จึงจำเป็นต้องพักโทษให้แต่ปรากฏว่า หลังการพักโทษ นักโทษกลับแข็งแรงขึ้นมาโดยพลัน เดินทางไปทั่วประเทศ ขึ้นปราศรัย ร่วมงานเลี้ยง ใช้ชีวิตปกติได้ทุกอย่าง จึงไม่อาจเชื่อได้ว่าการพักโทษมาจากการประเมินสภาพร่างกายโดยสุจริตและถูกต้อง​ดังนั้น จึงอยากให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าไปเป็นอีกหนึ่งคดีในชั้นการพิจารณาของป.ป.ช.ด้วย๓.เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย กฎหมายไทยพยายามปราบปรามคดีทุจริตคอร์รัปชันเป็นพิเศษแต่ปรากฏว่า หลังดำเนินคดีไปแล้วไม่มีกรอบเกณฑ์​การตรวจสอบที่เคร่งครัดปล่อยให้กระบวนการทุจริต ตัดทอนโทษทัณฑ์ตามคำพิพากษา กำเริบเสิบสานเป็นผลให้ความยุติธรรมเสื่อมสลาย จนประชาชนสิ้นศรัทธา๔.เข้าข่ายเป็นกระบวนการทุจริตระดับชาติ ใช้เงินสร้างอำนาจ แล้วใช้อำนาจมา​สร้างเงิน​ สร้างพวก​ สร้างสื่อ สร้างผลงานทุจริตไว้ ๒ ทศวรรษ​ จนเสียหายไปกว่าแสนล้าน และหัวหน้าขบวนการ ก็ยังยอมรับคำขออภัยโทษ ว่าได้ทำผิดไปแล้วจริงๆ แต่มาบัดนี้ แทนที่จะยอมรับโทษกลับหลีกเลี่ยง แสดงตน เข้าครอบงำพรรค​ ผลักดันนโยบายทุจริต สร้างประชานิยมไม่หยุดยั้งและล่าสุดยังประกาศจะพาน้องสาวที่เป็นจำเลยหนีคดีทุจริตรับจำนำข้าวกลับมาด้วยถือเป็นพฤติการณ์ทุจริตฉ้อฉลรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมหยุดบทบาทการเมือง และพาประเทศไปในทางต่ำ“นี่คือหายนะที่เห็นได้ชัดเจน และอนาคตที่มืดมิดเช่นนี้ จึงฝาก ป.ป.ช.ตระหนักและทุ่มเท รับผิดชอบ กู้อนาคตบ้านเมืองอย่างเต็มสติกำลัง”ขณะเดียวกัน ​”คณะปชพช.” ยังบอกว่า….จะยื่นให้สอบบุคคลเพิ่มเติม​ทั้ง ​”พ.ต.อ.ทวี​ สอดส่อง” ​รมว.ยุติธรรม และ “​นางพงษ์สวาท นีละโยธิน” ปลัดฯ ยุติธรรม เพราะมองว่าอยู่ในกระบวนการที่ช่วยนายทักษิณ​อาจารย์ “แก้วสรร อติโพธิ” อดีตอาจารย์คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์และรองอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวต่อหน้าเลขาฯ ป.ป.ช.ว่า“มั่นใจในการทำงาน ป.ป.ช.และคิดว่ากฎหมายกำลังเดินไปตามทางที่ถูก-ที่ควร​ จึงขอให้เดินหน้าเต็มที่​และคิดว่าจะใช้เวลาไม่นานพร้อมขอให้แพทย์ที่รักษานายทักษิณออกมาพูด โดยขอให้เอาตัวการจริงๆ มาลงโทษ​หลายคนถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนายทักษิณ คำตอบในทางกฎหมาย ถ้าหมายศาลให้ขังและหากไม่มีการขังตามหมายต้องออกหมายใหม่ กลับไปเข้าคุกเป็นอำนาจ “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง” ที่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ กำลังจะไปร้อง ซึ่งศาลสามารถเรียกสำนวนจากป.ป.ช.ไปดูและวินิจฉัยได้“จุดสำคัญ ศาลสั่งกลับเข้าคุกได้ ถ้าหลักฐานชัดเจน โดยไม่ต้องรอคำวินิจฉัยของป.ป.ช.เพราะคดีนี้ เป็นคดีเจ้าหน้าที่ ดังนั้น นายทักษิณ​ เตรียมตัวได้​”อาจารย์แก้วสรร ยังสัมโมทนียกถาว่า “หากป.ป.ช.ทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง จะยอมกราบเลย”“จตุพร พรหมพันธุ์” อดีตแกนนำนปช.ผู้พ้นขอบเหวคืนสู่ฟากฝั่ง กล่าวว่า“มาให้กำลังใจป.ป.ช.ทั้งมีความไม่สบายใจในอนาคต เพราะคดีของนายทักษิณ ป.ป.ช.เป็นผู้ชี้มูลเองวันนี้มาด้วยความหวังในการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.อย่างตรงไปตรงมา ในจำนวนผู้ที่ถูกตั้งองค์คณะไต่สวน ๑๒ คนนี้ ใครไม่ผิด คือไม่ผิด ไม่ได้ต้องการมาทำให้ “ดำเป็นขาว- ขาวเป็นดำ” แต่ต้องการมาให้ “ถูกเป็นถูก-ผิดเป็นผิด, ดีเป็นดี- ชั่วเป็นชั่ว”ยอมรับว่าเรื่องการไต่สวน วันนี้ “ยังไม่ไว้ใจป.ป.ช.” จนกว่าจะได้พิสูจน์จนสิ้นข้อสงสัยแล้ว และได้ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตถึงวันนั้น ผมและคณะจะมาขอบคุณอีกครั้งขณะนี้ เป็นที่ประจักษ์ นายทักษิณไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว เราต้องการเห็นน้ำยาของ ป.ป.ช.ไม่ต้องการเห็นขนมจีน….”ครับ….ผมก็เกรงว่า คุณจตุพรจะเห็นแต่ “ขนมจีน” เท่านั้นแหละ ตามกฎหมายป.ป.ช.มาตรา ๕๑ ให้กรอบเวลาไว้ว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนเองทั้งคณะ ต้องทำให้เสร็จภายใน ๒ ปี ถ้าไม่เสร็จ ขยายเวลาได้อีก ๑ ปีสรุป “รอไปอีก ๓ ปี” กว่าจะเสร็จขั้นไต่สวน!ตอนนี้ ป.ป.ช.ครบวาระ ๓ ท่าน อยู่ช่วงกรรมการสรรหากำลังพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัคร กว่าจะได้ครบ ก็คงกลางปีหน้าโน่นและถ้าถึงขั้นชี้มูลความผิด ต้องเรียก ๑๒ ผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำ กี่ปีถึงครบ ๑๒ ปากล่ะ ?เอาว่า “๕ ปี” เร็วสุด!ที่อาจารย์แก้วสรรบอก “คิดว่าจะใช้เวลาไม่นาน” นั้นรออีก ๕-๘ ปี นานมั้ย?เห็นที คณะปชพช.คงต้องทำหน้าที่ “ไม้แยงก้น” ป.ป.ช.เป็นรายการ “ทวงถามรายเดือน” แล้วหละไม่งั้น “กราบป.ป.ช.” ของอาจารย์แก้วสรรสู้ “กราบแผ่นดิน” ของ “พระเจ้ามูลเมือง” ผู้กลับชาติมาเกิดไม่ได้หรอก!เปลว สีเงิน๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๗
    สัประยุทธ์ “ธรรมะ-อธรรม” #เปลวสีเงินplewเปลว สีเงิน“กฎหมาย” มีไว้สร้างสมดุลทาง “สังคมเป็นธรรม”แต่ทุกวันนี้คนใน “๓ สถาบันอำนาจ” คือ อำนาจนิติบัญญัติ, อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ “บางคน”ใช้กฎหมายสร้าง “สังคมอยุติธรรม” ทำลายสมดุลความเป็นคนที่เท่าเทียมทางกฎหมาย จนเกิดคำว่า “ป่วยทิพย์-คุกทิพย์”บ่งบอกถึง “เลือกปฎิบัติ-สองมาตรฐาน” ซึ่งชาวบ้านทั่วไป ไม่มีสิทธิได้รับโอกาสนั้น (เว้นแต่มีเงิน)คนใน ๓ สถาบันอำนาจเท่านั้น….ที่จะทำให้ “สังคมเป็นธรรม” กลายเป็น “สังคมระยำ” เช่นนั้นได้!มันก็แปลก คนกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนที่เรียกเรียก “เจ้าหน้าที่รัฐ” กลับมีอำนาจ “เหนือชีวิตประชาชน”นายจ้าง คือคนเสียภาษีแท้ๆ กลับถูก “ส้นตีนอำนาจ” ยัดปากตลอดกาลแค่จะคุกเข่า ยกสองมืออ่อนล้า วอนเมตตาและความเป็นธรรม ก็ยังถูกตราหน้า “พวกทำให้บ้านเมืองเสียโอกาส”โอกาสโกงบ้าน-กินเมืองละก็ใช่แต่ไมใช่โอกาสคืนความชอบธรรมให้กับบ้านเมือง!สังคมชาติที่ผู้คน “ตัวใคร-ตัวมัน” เห็นประโยชน์ชาติ ไม่ใช่ประโยชน์กู แล้วต่างทอดธุระและชาวบ้านก็เอาแต่ “ชะแง้รอแจก”ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ สยบยอมโจร ใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่เป็นกุญแจไข เปิดทางให้มัน “ปล้นบ้าน-ชำเราเมือง” จนย่ามใจ กร่างใหญ่คับประเทศผมก็ได้แต่ทอดถอนใจ ทำได้เพียง “รักบ้าน-รักเมือง” ด้วยปากไปวันๆเมื่อสัปดาห์ก่อน เห็นคนที่ไม่เอาแต่นั่งทอดถอนใจอย่างผม เขาเห็นการประทำย่ำยีบ้านเมืองจากไอ้ตัวกาลีเมืองแล้ว พวกเขาร้อนใจนัดกันไปคุยตามประสาคนห่วงบ้าน-ห่วงเมือง ผมอ่านข่าว ก็มีท่านเหล่านี้แก้วสรร อติโพธิ, ดร.เจิม ศักดิ์ ปิ่นทอง, ดร.กิตติศักดิ์ ปรกติ, ขวัญสรวง อติโพธิ, พลเอกสมเจตน์ บุญถนอมจตุพร พรหมพันธุ์, ทนายนกเขา, ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์,สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, พิชิต ไชยมงคล,สาวิทย์ แก้วหวาน, ประสาร มฤคพิทักษ์, ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว), แซมดิน เลิศบุศย์สมชาย แสวงการ, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม, นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์, ชาญชัย อิสระเสนารักษ์, ปรีดา เตียสุวรรณ์ และฯลฯหลายท่าน รู้จักมักคุ้น หลายท่านได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยพบสรุป ท่านเหล่านั้น มีที่มาเดียวกันบ้าง ต่างกันบ้าง คิดและทำเหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้างแต่ที่สุดแล้ว หนีหลักธรรมชาติไม่พ้นธรรมะ คือธรรมชาติ สิ่งจัดสรรมนุษย์คือธรรมชาติ รวงข้าว เมื่อแก่ ย่อมค้อมรวงบัว เกิดจากโคลนตม เมื่อพ้นน้ำ ย่อมปลดเปลื้องจากโคลนตม พิสุทธิ์แทนใจ บูชาธรรมคณะบุคคลเหล่านั้น ก็ประมาณนี้ …..ในความต่างที่มา ที่คิด ที่ทำ ในความเป็นบัณฑิตแห่งธาตุคน ที่สุดแล้ว คนธาตุบัณฑิตย่อมไหลรวมในหมู่บัณฑิตด้วยกันจะเรียกเขาเหล่านั้นว่าอะไรดีล่ะ?เพราะมีทั้ง พันธมิตรฯ ทั้ง กปปส. ทั้งกลุ่มหลอมรวม ทั้งเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย ทั้งกลุ่มสันติอโศกเรียกคณะ “ปชพช.” ดีมั้ย ….เป็นอักษรรวมความเพื่อให้ “เรียกง่าย-จำง่าย”ปชพช. “คณะปัญญาชนพิทักษ์ชาติ” ดูเหมาะสมกับสิ่งที่พวกเขาทำเมื่อวาน (๑๘ ธค.๖๗)คือ คณะปัญญาชนพากันเดินไปที่ “สำนักงานคณะกรรมการ​ป้องกัน​และ​ปราบปราม​การ​ทุจริต​แห่งชาติ “​(ป.ป.ช.​)ไม่ได้ไปก่อกวน ก้าวร้าว เยี่ยงอันธพาลเมือง แต่ไปเยี่ยงบัณฑิต กระทำเยี่ยงบัณฑิตเพื่อยื่นหนังสือให้ป.ป.ช.ตระหนักคิด กรณี ป.ป.ช.​ รับพิจารณาข้อกล่าวหา….“นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่เรือนจำ แพทย์รพ.ราชทัณฑ์ และรพ.ตำรวจ รวม ๑๒ คนส่งตัวผู้ต้องขังรายนายทักษิณ ชินวัตร จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบ​ให้ป.ป.ช.เร่งรัดพิจารณาเรื่องนี้และดำเนินคดีขึ้นสู่ศาลโดยเร็ว​ ในหนังสือ มี ๔ ข้อ๑.คดีส่งตัวไปรักษานอกเรือนจำพบว่า มีพยานเป็นบุคคลชัดเจน ได้เข้าไปเยี่ยมและพบว่าไม่มีอาการเจ็บป่วย อีกทั้งยังไม่มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุม หรือประจำอยู่ห้องพิเศษดังกล่าวและยังไม่ปรากฏหลักฐานการตรวจ หรือหลักฐานความเห็นของแพทย์ที่อนุญาตให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจซึ่งพิธีการทั้งหมดนี้ ขัดต่อขั้นตอนกฎกระทรวงทั้งสิ้น และไม่ว่าป.ป.ช.จะขอความร่วมมือไปเท่าไร ก็ไม่ได้รับจึงเป็นหลักฐานที่เพียงพอว่า พฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายทุจริตช่วยเหลือกันโดยมิชอบส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ของกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง ป.ป.ช.จึงต้องเร่งไต่สวน๒.คดีให้อยู่บ้านพักโทษ โดยมติการให้พักโทษ โดยอ้าง นักโทษมีสภาพร่างกายที่ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งการนั่ง เดินขึ้นบันได อาบน้ำ แต่งตัวรับประทานอาหาร จึงจำเป็นต้องพักโทษให้แต่ปรากฏว่า หลังการพักโทษ นักโทษกลับแข็งแรงขึ้นมาโดยพลัน เดินทางไปทั่วประเทศ ขึ้นปราศรัย ร่วมงานเลี้ยง ใช้ชีวิตปกติได้ทุกอย่าง จึงไม่อาจเชื่อได้ว่าการพักโทษมาจากการประเมินสภาพร่างกายโดยสุจริตและถูกต้อง​ดังนั้น จึงอยากให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าไปเป็นอีกหนึ่งคดีในชั้นการพิจารณาของป.ป.ช.ด้วย๓.เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย กฎหมายไทยพยายามปราบปรามคดีทุจริตคอร์รัปชันเป็นพิเศษแต่ปรากฏว่า หลังดำเนินคดีไปแล้วไม่มีกรอบเกณฑ์​การตรวจสอบที่เคร่งครัดปล่อยให้กระบวนการทุจริต ตัดทอนโทษทัณฑ์ตามคำพิพากษา กำเริบเสิบสานเป็นผลให้ความยุติธรรมเสื่อมสลาย จนประชาชนสิ้นศรัทธา๔.เข้าข่ายเป็นกระบวนการทุจริตระดับชาติ ใช้เงินสร้างอำนาจ แล้วใช้อำนาจมา​สร้างเงิน​ สร้างพวก​ สร้างสื่อ สร้างผลงานทุจริตไว้ ๒ ทศวรรษ​ จนเสียหายไปกว่าแสนล้าน และหัวหน้าขบวนการ ก็ยังยอมรับคำขออภัยโทษ ว่าได้ทำผิดไปแล้วจริงๆ แต่มาบัดนี้ แทนที่จะยอมรับโทษกลับหลีกเลี่ยง แสดงตน เข้าครอบงำพรรค​ ผลักดันนโยบายทุจริต สร้างประชานิยมไม่หยุดยั้งและล่าสุดยังประกาศจะพาน้องสาวที่เป็นจำเลยหนีคดีทุจริตรับจำนำข้าวกลับมาด้วยถือเป็นพฤติการณ์ทุจริตฉ้อฉลรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมหยุดบทบาทการเมือง และพาประเทศไปในทางต่ำ“นี่คือหายนะที่เห็นได้ชัดเจน และอนาคตที่มืดมิดเช่นนี้ จึงฝาก ป.ป.ช.ตระหนักและทุ่มเท รับผิดชอบ กู้อนาคตบ้านเมืองอย่างเต็มสติกำลัง”ขณะเดียวกัน ​”คณะปชพช.” ยังบอกว่า….จะยื่นให้สอบบุคคลเพิ่มเติม​ทั้ง ​”พ.ต.อ.ทวี​ สอดส่อง” ​รมว.ยุติธรรม และ “​นางพงษ์สวาท นีละโยธิน” ปลัดฯ ยุติธรรม เพราะมองว่าอยู่ในกระบวนการที่ช่วยนายทักษิณ​อาจารย์ “แก้วสรร อติโพธิ” อดีตอาจารย์คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์และรองอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวต่อหน้าเลขาฯ ป.ป.ช.ว่า“มั่นใจในการทำงาน ป.ป.ช.และคิดว่ากฎหมายกำลังเดินไปตามทางที่ถูก-ที่ควร​ จึงขอให้เดินหน้าเต็มที่​และคิดว่าจะใช้เวลาไม่นานพร้อมขอให้แพทย์ที่รักษานายทักษิณออกมาพูด โดยขอให้เอาตัวการจริงๆ มาลงโทษ​หลายคนถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนายทักษิณ คำตอบในทางกฎหมาย ถ้าหมายศาลให้ขังและหากไม่มีการขังตามหมายต้องออกหมายใหม่ กลับไปเข้าคุกเป็นอำนาจ “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง” ที่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ กำลังจะไปร้อง ซึ่งศาลสามารถเรียกสำนวนจากป.ป.ช.ไปดูและวินิจฉัยได้“จุดสำคัญ ศาลสั่งกลับเข้าคุกได้ ถ้าหลักฐานชัดเจน โดยไม่ต้องรอคำวินิจฉัยของป.ป.ช.เพราะคดีนี้ เป็นคดีเจ้าหน้าที่ ดังนั้น นายทักษิณ​ เตรียมตัวได้​”อาจารย์แก้วสรร ยังสัมโมทนียกถาว่า “หากป.ป.ช.ทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง จะยอมกราบเลย”“จตุพร พรหมพันธุ์” อดีตแกนนำนปช.ผู้พ้นขอบเหวคืนสู่ฟากฝั่ง กล่าวว่า“มาให้กำลังใจป.ป.ช.ทั้งมีความไม่สบายใจในอนาคต เพราะคดีของนายทักษิณ ป.ป.ช.เป็นผู้ชี้มูลเองวันนี้มาด้วยความหวังในการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.อย่างตรงไปตรงมา ในจำนวนผู้ที่ถูกตั้งองค์คณะไต่สวน ๑๒ คนนี้ ใครไม่ผิด คือไม่ผิด ไม่ได้ต้องการมาทำให้ “ดำเป็นขาว- ขาวเป็นดำ” แต่ต้องการมาให้ “ถูกเป็นถูก-ผิดเป็นผิด, ดีเป็นดี- ชั่วเป็นชั่ว”ยอมรับว่าเรื่องการไต่สวน วันนี้ “ยังไม่ไว้ใจป.ป.ช.” จนกว่าจะได้พิสูจน์จนสิ้นข้อสงสัยแล้ว และได้ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตถึงวันนั้น ผมและคณะจะมาขอบคุณอีกครั้งขณะนี้ เป็นที่ประจักษ์ นายทักษิณไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว เราต้องการเห็นน้ำยาของ ป.ป.ช.ไม่ต้องการเห็นขนมจีน….”ครับ….ผมก็เกรงว่า คุณจตุพรจะเห็นแต่ “ขนมจีน” เท่านั้นแหละ ตามกฎหมายป.ป.ช.มาตรา ๕๑ ให้กรอบเวลาไว้ว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนเองทั้งคณะ ต้องทำให้เสร็จภายใน ๒ ปี ถ้าไม่เสร็จ ขยายเวลาได้อีก ๑ ปีสรุป “รอไปอีก ๓ ปี” กว่าจะเสร็จขั้นไต่สวน!ตอนนี้ ป.ป.ช.ครบวาระ ๓ ท่าน อยู่ช่วงกรรมการสรรหากำลังพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัคร กว่าจะได้ครบ ก็คงกลางปีหน้าโน่นและถ้าถึงขั้นชี้มูลความผิด ต้องเรียก ๑๒ ผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำ กี่ปีถึงครบ ๑๒ ปากล่ะ ?เอาว่า “๕ ปี” เร็วสุด!ที่อาจารย์แก้วสรรบอก “คิดว่าจะใช้เวลาไม่นาน” นั้นรออีก ๕-๘ ปี นานมั้ย?เห็นที คณะปชพช.คงต้องทำหน้าที่ “ไม้แยงก้น” ป.ป.ช.เป็นรายการ “ทวงถามรายเดือน” แล้วหละไม่งั้น “กราบป.ป.ช.” ของอาจารย์แก้วสรรสู้ “กราบแผ่นดิน” ของ “พระเจ้ามูลเมือง” ผู้กลับชาติมาเกิดไม่ได้หรอก!เปลว สีเงิน๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๗
    Love
    Like
    Yay
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 993 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันที่ 18 ธ.ค. 67 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สนามบินน้ำ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีตแกนนำเสื้อเหลือง และอดีตแกนนำเสื้อแดงประกอบด้วย นายแก้วสรร อติโพธิ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นายคมสัน โพธิ์คง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นายประพันธ์ คูณมี นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ นายปรีดา เตียสุวรรณ์ นายแซมดิน เลิศบุศย์ นายเสน่ห์ หงษ์ทอง น.ส.นีรนุช จิตต์สม นายมานพ เกื้อรัตน์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา นายอานนท์ กลิ่นแก้ว นายใจเพชร กล้าจน นายพิชิต ไชยมงคล นายนัสเซอร์ ยีหมะ คอนเทนต์แนะนำพร้อมมวลชนจำนวนหนึ่ง เดินทางมาทำกิจกรรม พร้อมอ่านแถลงการณ์ และยื่นหนังสือให้กำลังใจป.ป.ช. ภายหลังมีมติสั่งสอบ 12 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ปมนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารับการรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้เร่งรัดพิจารณาเรื่องนี้ และดำเนินคดีขึ้นสู่ศาลโดยเร็ว​ โดยมีนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นตัวแทนรับหนังสือ โดยนายพิชิต​ ได้อ่านแถลงการณ์ ดังนี้​ ข้อ​ 1 คดีส่งตัวไปรักษานอกเรือนจำพบว่ามีพยานเป็นบุคคลชัดเจน ได้เข้าไปเยี่ยมและพบว่าไม่มีอาการเจ็บป่วย อีกทั้งยังไม่มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุม หรือประจำอยู่ห้องพิเศษดังกล่าว และยังไม่ปรากฏ หลักฐานการตรวจ หรือหลักฐานความเห็นของแพทย์ที่อนุญาต ให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งพิธีการทั้งหมดขัดต่อขั้นตอนกฎกระทรวง ทั้งสิ้น และไม่ว่าป.ป.ช.จะขอความร่วมมือไปเท่าไรก็ไม่ได้รับ จึงเป็นหลักฐานที่เพียงพอว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าขทุจริตช่วยเหลือกัน โดยมิชอบ ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ของกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง ป.ป.ช.จึงต้องเร่งไต่สวน ข้อ​ 2 คดีให้อยู่บ้านพักโทษ โดยมติการให้พักโทษ โดยอ้างว่า​ นักโทษมีสภาพร่างกายที่ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งการนั่งเดินขึ้นบันไดอาบน้ำแต่งตัวรับประทานอาหาร จึงจำเป็นต้องพักโทษให้ แต่ปรากฏว่าหลังการพักโทษ นักโทษกับแข็งแรงขึ้นมาโดยพลัน เดินทางไปทั่วประเทศ ขึ้นปราศรัย ร่วมงานเลี้ยง ใช้ชีวิตปกติได้ทุกอย่างจึงไม่อาจเชื่อได้ว่า การพักโทษ มาจากการประเมินสภาพร่างกายโดยสุจริตและถูกต้อง​ ดังนั้นจึงอยากให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าไปเป็นอีกหนึ่งคดีในชั้นการพิจารณาของป.ป.ช.ด้วย ข้อ 3 เรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย โดยกฎหมายไทยพยายาม ปราบปรามคดีทุจริตคอรัปชั่นเป็นพิเศษ แต่ปรากฏว่า หลังดำเนินคดีไปแล้วไม่มีกรอบ เกณฑ์​การตรวจสอบที่เคร่ง ปล่อยให้กระบวนการทุจริตตัดทอน โทษทัณฑ์ตามคำพิพากษา กำเริบเสิบสาน เป็นผลให้ความยุติธรรมเสื่อมสลาย จนประชาชนสิ้นศรัทธา ข้อ 4 เข้าข่ายเป็นกระบวนการทุจริตระดับชาติ ใช้เงินสร้างอำนาจ แล้วใช้อำนาจมา​ สร้างเงิน​ สร้างพวก​ สร้างสื่อ สร้างผลงานทุจริตไว้ 2 ทศวรรษ​ จนเสียหายไปกว่าแสนล้าน และ หัวหน้ากระบวนการก็ยังยอมรับคำขออภัยโทษ ว่าได้ทำผิดไปแล้วจริงๆ แต่มาบัดนี้แทนที่จะยอมรับโทษ กับหลีกเลี่ยงแสงตน เข้าครอบงำพรรค​ ผลักดันนโยบายทุจริต สร้างประชานิยมไม่หยุดยั้งและล่าสุด ยังประกาศจะพาน้องสาวที่เป็นจำเลยหนีคดีทุจริตรับจำนำข้าวกลับมาด้วย ถือเป็นพฤติการณ์ทุจริตฉ้อฉลรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมหยุดบทบาทการเมือง และพาประเทศไปในทางต่ำ พร้อมกับย้ำว่านี่คือหายนะ ที่เห็นได้อย่างชัดเจน และอนาคตที่มืดมิดเช่นนี้ จึงฝากปปช ตระหนักและทุ่มเท รับผิดชอบ กู้อนาคตบ้านเมืองอย่างเต็มสติกำลัง​ขณะเดียวกัน​ ยังจะมีการยื่นให้สอบบุคคลเพิ่มเติม​ ทั้ง​พันตำรวจเอกทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ยุติธรรม และ​ นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม​ เพราะมองว่าอยู่ในกระบวนการที่ช่วยนายทักษิณ​ จากนั้นนายแก้วสรร กล่าวว่า ตนก็รู้สึกดีใจที่ ป.ป.ช.มีมติสั่งสอบ 12 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจดังกล่าว เพราะไม่เช่นนั้นก็จะหาว่าพวกเรามาบีบบังคับแล้วท่านก็คล้อยตามพวกเรา โดยไม่มีเหตุผล ซึ่งไม่ใช่อย่างนั้น ในฐานะนักกฎหมาย และเคยตรวจสอบยึดทรัพย์นายทักษิณมาแล้ว ก็อยากจะบอกว่างานนี้ทั้งหลักฐานและข้อกฎหมายมันชัดเจนเห็นตรงกันว่ามีมูล และ ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่มาแล้ว ในฐานะที่ตนเคยตรวจสอบมาพออ่านเกมออก งานนี้ถ้าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจมีหลักฐานว่าป่วยจริงก็แค่เอามาให้ ป.ป.ช. ซึ่งก็จะไม่มามาถึงวันนี้แน่นอน แต่การที่กลบหลักฐาน ไม่ยอมให้หลักฐานอะไรเลย รวมถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เสรีพิศุทธ์ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย บอกว่าเห็นนายทักษิณนั่งยิ้มกินข้าวเหนียวมะม่วง แถมออกจากโรงพยาบาลมาแล้วก็ใส่ปลอกคอแค่พักเดียว ก็เดินไปทั่วประเทศ เพียงเท่านี้ก็มีมูลชัดเจนแล้วว่าคุณไม่ยอมให้ความร่วมมือ นายแก้วสรร กล่าวว่า ดังนั้นวันนี้ตนมั่นใจใน ป.ป.ช. ว่ากฎหมายกำลังเดินไปตามทางที่ถูกที่ควร งานนี้ไม่ใช่งานการเมือง แต่เป็นกระบวนการยุติธรรมที่สร้างขึ้นมา วันนี้ ป.ป.ช.กำลังเจอกับกระบวนการทุจริตแห่งชาติ เพราะฉะนั้นกำลังใจจึงสำคัญ ตนและประชาชนขอให้ท่านเดินหน้าเต็มที่ ใครไม่ผิดก็ปล่อยเขาไป แต่ใครที่เป็นตัวการจริงๆ และให้ความเห็นว่าหากนายทักษิณอยู่เรือนจำต้องต้องตายแน่ ถามว่ามีหรือไม่ และหมอคนนั้นคือใคร ขอให้นำหลักฐานมา เพราะฉะนั้นนับแต่นี้ต่อไปเมื่อไต่สวนคดี สิ่งที่เราจะเห็นคืออำนาจเด็ดขาด หากไม่ให้เอกสาร ไม่ให้ปากคำจะต้องติดคุก แค่ถามว่าป่วยจริงไหม ใครเกี่ยวข้อง ใครให้ความเห็นเท่านั้น เรื่องจะไม่ช้าแน่นอน เมื่อตรวจสอบเพียงพอแล้วต้องสรุปข้อกล่าวหาส่งให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจง ใครเห็นว่าไม่ทุจริตก็ปล่อยเขาไป ไม่ต้องตั้งข้อกล่าวหา แต่ใครที่นั่งเงียบๆ แล้วหลักฐานไปถึง ขอให้เรียกเข้ามาตั้งข้อหาเพิ่ม จากนั้นแจ้งข้อหาให้มีการต่อสู้ เชื่อว่างานนี้จะไม่นาน นายแก้วสรร กล่าวว่า ส่วนที่หลายคนถามว่าจะเกิดอะไรกับนายทักษิณ ในทางกฎหมาย ถ้าหมายศาลให้ขังแล้วไม่มีการขังตามหมาย ก็ต้องออกหมายใหม่ เพื่อให้กลับไปเข้าคุก เป็นอำนาจ ของศาลคดีอาญาทางการเมือง ศาลสั่งกลับเข้าคุกได้ ถ้าหลักฐานชัดเจน โดยไม่ต้องรอผลคดีนี้ ที่เป็นคดีของเจ้าหน้าที่ว่าปล่อยตัวให้ไปรักษาถูกต้องหรือไม่ และมีใครทุจริตหรือไม่ ส่วนการขังที่ไม่เกิดขึ้นนั้นไม่ว่าจะมีคนทุจริตกี่คนหรือทุจริตหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยว ดังนั้นนายทักษิณเตรียมตัวได้ ด้านนายจตุพร กล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจ ป.ป.ช.ในการตรวจสอบ เพราะนายทักษิณไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว เราต้องการเห็นน้ำยาของ ป.ป.ช. ส่วนเรื่องเวชระเบียน หากโรงพยาบาลตำรวจไม่ให้ ป.ป.ช.ต้องดำเนินคดีตั้งแต่ ผบ.ตร. โรงพยาบาลตำรวจ แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้การทำการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช. ทำให้แผ่นดินนี้สูงขึ้นเยอะ ณ วันนี้เรามาด้วยความหวัง และให้กำลังใจ ป.ป.ช.ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เจ้าหน้าที่ในจำนวน 12 คนนี้ ถ้าใครไม่ผิดก็คือไม่ผิด แต่ถ้าใครผิดก็ว่าตามผิด วันนี้ไม่ได้ต้องการมาทำให้ดำเป็นขาว หรือขาวเป็นดำ แต่ต้องการมาทำให้ถูกเป็นถูก ผิดเป็นผิด ดีเป็นดี ชั่วเป็นชั่ว ไม่เช่นนั้นเราจะมีความหวังได้อย่างไร เพราะฉะนั้นตนฝากไปถึงเลขา ป.ป.ช.ตนวาดหวังว่า ป.ป.ช.จะทำหน้าที่ แต่ก็ยังไม่ไว้ใจการไต่สวน จนกว่าจะมีการพิสูจน์ให้สิ้นสงสัยแล้วว่าได้ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ส่วน นพ.วรงค์ กล่าวว่า การพักโทษกรณีพิเศษในช่วง 6 เดือนหลัง ถือว่านักโทษอายุเกิน 70 ปีต้องช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือช่วยเหลือตัวเองได้น้อย และนักโทษคนนี้ต้องไม่เป็นอันตรายต่อสังคม หรือโอกาสที่จะทำผิดซ้ำนั้นมีน้อยมาก ถามว่าแล้ววันนี้เป็นอย่างไร ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อสังคม สังคมจะกลียุคและฆ่ากันตาย ดังนั้น ป.ป.ช.ต้องรีบดำเนินการ และยืนยันว่าการพักโทษกรณีนี้ไม่ได้ไปใช้บั้นปลายชีวิตกับครอบครัว ทั้งนี้ ป.ป.ช.ต้องทำหน้าที่อิสระอย่างแท้จริง ต้องตรวจสอบและถ่วงดุล เพราะสภาฯทำหน้าที่ไม่ได้ จึงต้องมาอาศัย ป.ป.ช. เพื่อให้เป็นที่พึ่งของประชาชน เพื่อให้ประเทศอยู่ได้และประชาธิปไตยอยู่รอด ถ้า ป.ป.ช.ไม่เป็นที่พึ่งของประชาชน ประเทศก็จะอยู่ไม่ได้ และ ป.ป.ช.ก็จะไม่มีอีกต่อไป ขณะที่เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ขอขอบคุณที่มาให้กำลังใจในวันนี้ ซึ่งตอนนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งองค์คณะได้ตั้งไต่สวนบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว ในการดำเนินการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ก็มีมติค่อนข้างชัดเจนว่า หากไต่สวนพบบุคคลอื่นที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ก็ให้ดำเนินการไต่สวนต่อไปด้วย ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตามความคาดหวังของประชาชน และความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ ขอยืนยันว่าในส่วนของ ป.ป.ช. เราทำหน้าที่ไต่สวนและรวบรวมพยานหลักฐานตามพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงเป็นหลัก ดังนั้นในบางเรื่องอาจจะไม่ตรงตามใจที่ประชาชนรับทราบข้อมูลจากสื่อโซเชียลต่างๆ เพราะการพิจารณาต้องดูพยานหลักฐานเป็นหลัก และพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและเป็นเสาหลักในกระบวนการยุติธรรมของบ้านเมืองต่อไป
    วันที่ 18 ธ.ค. 67 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สนามบินน้ำ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีตแกนนำเสื้อเหลือง และอดีตแกนนำเสื้อแดงประกอบด้วย นายแก้วสรร อติโพธิ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นายคมสัน โพธิ์คง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นายประพันธ์ คูณมี นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ นายปรีดา เตียสุวรรณ์ นายแซมดิน เลิศบุศย์ นายเสน่ห์ หงษ์ทอง น.ส.นีรนุช จิตต์สม นายมานพ เกื้อรัตน์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา นายอานนท์ กลิ่นแก้ว นายใจเพชร กล้าจน นายพิชิต ไชยมงคล นายนัสเซอร์ ยีหมะ คอนเทนต์แนะนำพร้อมมวลชนจำนวนหนึ่ง เดินทางมาทำกิจกรรม พร้อมอ่านแถลงการณ์ และยื่นหนังสือให้กำลังใจป.ป.ช. ภายหลังมีมติสั่งสอบ 12 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ปมนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารับการรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้เร่งรัดพิจารณาเรื่องนี้ และดำเนินคดีขึ้นสู่ศาลโดยเร็ว​ โดยมีนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นตัวแทนรับหนังสือ โดยนายพิชิต​ ได้อ่านแถลงการณ์ ดังนี้​ ข้อ​ 1 คดีส่งตัวไปรักษานอกเรือนจำพบว่ามีพยานเป็นบุคคลชัดเจน ได้เข้าไปเยี่ยมและพบว่าไม่มีอาการเจ็บป่วย อีกทั้งยังไม่มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุม หรือประจำอยู่ห้องพิเศษดังกล่าว และยังไม่ปรากฏ หลักฐานการตรวจ หรือหลักฐานความเห็นของแพทย์ที่อนุญาต ให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งพิธีการทั้งหมดขัดต่อขั้นตอนกฎกระทรวง ทั้งสิ้น และไม่ว่าป.ป.ช.จะขอความร่วมมือไปเท่าไรก็ไม่ได้รับ จึงเป็นหลักฐานที่เพียงพอว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าขทุจริตช่วยเหลือกัน โดยมิชอบ ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ของกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง ป.ป.ช.จึงต้องเร่งไต่สวน ข้อ​ 2 คดีให้อยู่บ้านพักโทษ โดยมติการให้พักโทษ โดยอ้างว่า​ นักโทษมีสภาพร่างกายที่ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งการนั่งเดินขึ้นบันไดอาบน้ำแต่งตัวรับประทานอาหาร จึงจำเป็นต้องพักโทษให้ แต่ปรากฏว่าหลังการพักโทษ นักโทษกับแข็งแรงขึ้นมาโดยพลัน เดินทางไปทั่วประเทศ ขึ้นปราศรัย ร่วมงานเลี้ยง ใช้ชีวิตปกติได้ทุกอย่างจึงไม่อาจเชื่อได้ว่า การพักโทษ มาจากการประเมินสภาพร่างกายโดยสุจริตและถูกต้อง​ ดังนั้นจึงอยากให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าไปเป็นอีกหนึ่งคดีในชั้นการพิจารณาของป.ป.ช.ด้วย ข้อ 3 เรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย โดยกฎหมายไทยพยายาม ปราบปรามคดีทุจริตคอรัปชั่นเป็นพิเศษ แต่ปรากฏว่า หลังดำเนินคดีไปแล้วไม่มีกรอบ เกณฑ์​การตรวจสอบที่เคร่ง ปล่อยให้กระบวนการทุจริตตัดทอน โทษทัณฑ์ตามคำพิพากษา กำเริบเสิบสาน เป็นผลให้ความยุติธรรมเสื่อมสลาย จนประชาชนสิ้นศรัทธา ข้อ 4 เข้าข่ายเป็นกระบวนการทุจริตระดับชาติ ใช้เงินสร้างอำนาจ แล้วใช้อำนาจมา​ สร้างเงิน​ สร้างพวก​ สร้างสื่อ สร้างผลงานทุจริตไว้ 2 ทศวรรษ​ จนเสียหายไปกว่าแสนล้าน และ หัวหน้ากระบวนการก็ยังยอมรับคำขออภัยโทษ ว่าได้ทำผิดไปแล้วจริงๆ แต่มาบัดนี้แทนที่จะยอมรับโทษ กับหลีกเลี่ยงแสงตน เข้าครอบงำพรรค​ ผลักดันนโยบายทุจริต สร้างประชานิยมไม่หยุดยั้งและล่าสุด ยังประกาศจะพาน้องสาวที่เป็นจำเลยหนีคดีทุจริตรับจำนำข้าวกลับมาด้วย ถือเป็นพฤติการณ์ทุจริตฉ้อฉลรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมหยุดบทบาทการเมือง และพาประเทศไปในทางต่ำ พร้อมกับย้ำว่านี่คือหายนะ ที่เห็นได้อย่างชัดเจน และอนาคตที่มืดมิดเช่นนี้ จึงฝากปปช ตระหนักและทุ่มเท รับผิดชอบ กู้อนาคตบ้านเมืองอย่างเต็มสติกำลัง​ขณะเดียวกัน​ ยังจะมีการยื่นให้สอบบุคคลเพิ่มเติม​ ทั้ง​พันตำรวจเอกทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ยุติธรรม และ​ นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม​ เพราะมองว่าอยู่ในกระบวนการที่ช่วยนายทักษิณ​ จากนั้นนายแก้วสรร กล่าวว่า ตนก็รู้สึกดีใจที่ ป.ป.ช.มีมติสั่งสอบ 12 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจดังกล่าว เพราะไม่เช่นนั้นก็จะหาว่าพวกเรามาบีบบังคับแล้วท่านก็คล้อยตามพวกเรา โดยไม่มีเหตุผล ซึ่งไม่ใช่อย่างนั้น ในฐานะนักกฎหมาย และเคยตรวจสอบยึดทรัพย์นายทักษิณมาแล้ว ก็อยากจะบอกว่างานนี้ทั้งหลักฐานและข้อกฎหมายมันชัดเจนเห็นตรงกันว่ามีมูล และ ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่มาแล้ว ในฐานะที่ตนเคยตรวจสอบมาพออ่านเกมออก งานนี้ถ้าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจมีหลักฐานว่าป่วยจริงก็แค่เอามาให้ ป.ป.ช. ซึ่งก็จะไม่มามาถึงวันนี้แน่นอน แต่การที่กลบหลักฐาน ไม่ยอมให้หลักฐานอะไรเลย รวมถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เสรีพิศุทธ์ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย บอกว่าเห็นนายทักษิณนั่งยิ้มกินข้าวเหนียวมะม่วง แถมออกจากโรงพยาบาลมาแล้วก็ใส่ปลอกคอแค่พักเดียว ก็เดินไปทั่วประเทศ เพียงเท่านี้ก็มีมูลชัดเจนแล้วว่าคุณไม่ยอมให้ความร่วมมือ นายแก้วสรร กล่าวว่า ดังนั้นวันนี้ตนมั่นใจใน ป.ป.ช. ว่ากฎหมายกำลังเดินไปตามทางที่ถูกที่ควร งานนี้ไม่ใช่งานการเมือง แต่เป็นกระบวนการยุติธรรมที่สร้างขึ้นมา วันนี้ ป.ป.ช.กำลังเจอกับกระบวนการทุจริตแห่งชาติ เพราะฉะนั้นกำลังใจจึงสำคัญ ตนและประชาชนขอให้ท่านเดินหน้าเต็มที่ ใครไม่ผิดก็ปล่อยเขาไป แต่ใครที่เป็นตัวการจริงๆ และให้ความเห็นว่าหากนายทักษิณอยู่เรือนจำต้องต้องตายแน่ ถามว่ามีหรือไม่ และหมอคนนั้นคือใคร ขอให้นำหลักฐานมา เพราะฉะนั้นนับแต่นี้ต่อไปเมื่อไต่สวนคดี สิ่งที่เราจะเห็นคืออำนาจเด็ดขาด หากไม่ให้เอกสาร ไม่ให้ปากคำจะต้องติดคุก แค่ถามว่าป่วยจริงไหม ใครเกี่ยวข้อง ใครให้ความเห็นเท่านั้น เรื่องจะไม่ช้าแน่นอน เมื่อตรวจสอบเพียงพอแล้วต้องสรุปข้อกล่าวหาส่งให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจง ใครเห็นว่าไม่ทุจริตก็ปล่อยเขาไป ไม่ต้องตั้งข้อกล่าวหา แต่ใครที่นั่งเงียบๆ แล้วหลักฐานไปถึง ขอให้เรียกเข้ามาตั้งข้อหาเพิ่ม จากนั้นแจ้งข้อหาให้มีการต่อสู้ เชื่อว่างานนี้จะไม่นาน นายแก้วสรร กล่าวว่า ส่วนที่หลายคนถามว่าจะเกิดอะไรกับนายทักษิณ ในทางกฎหมาย ถ้าหมายศาลให้ขังแล้วไม่มีการขังตามหมาย ก็ต้องออกหมายใหม่ เพื่อให้กลับไปเข้าคุก เป็นอำนาจ ของศาลคดีอาญาทางการเมือง ศาลสั่งกลับเข้าคุกได้ ถ้าหลักฐานชัดเจน โดยไม่ต้องรอผลคดีนี้ ที่เป็นคดีของเจ้าหน้าที่ว่าปล่อยตัวให้ไปรักษาถูกต้องหรือไม่ และมีใครทุจริตหรือไม่ ส่วนการขังที่ไม่เกิดขึ้นนั้นไม่ว่าจะมีคนทุจริตกี่คนหรือทุจริตหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยว ดังนั้นนายทักษิณเตรียมตัวได้ ด้านนายจตุพร กล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจ ป.ป.ช.ในการตรวจสอบ เพราะนายทักษิณไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว เราต้องการเห็นน้ำยาของ ป.ป.ช. ส่วนเรื่องเวชระเบียน หากโรงพยาบาลตำรวจไม่ให้ ป.ป.ช.ต้องดำเนินคดีตั้งแต่ ผบ.ตร. โรงพยาบาลตำรวจ แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้การทำการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช. ทำให้แผ่นดินนี้สูงขึ้นเยอะ ณ วันนี้เรามาด้วยความหวัง และให้กำลังใจ ป.ป.ช.ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เจ้าหน้าที่ในจำนวน 12 คนนี้ ถ้าใครไม่ผิดก็คือไม่ผิด แต่ถ้าใครผิดก็ว่าตามผิด วันนี้ไม่ได้ต้องการมาทำให้ดำเป็นขาว หรือขาวเป็นดำ แต่ต้องการมาทำให้ถูกเป็นถูก ผิดเป็นผิด ดีเป็นดี ชั่วเป็นชั่ว ไม่เช่นนั้นเราจะมีความหวังได้อย่างไร เพราะฉะนั้นตนฝากไปถึงเลขา ป.ป.ช.ตนวาดหวังว่า ป.ป.ช.จะทำหน้าที่ แต่ก็ยังไม่ไว้ใจการไต่สวน จนกว่าจะมีการพิสูจน์ให้สิ้นสงสัยแล้วว่าได้ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ส่วน นพ.วรงค์ กล่าวว่า การพักโทษกรณีพิเศษในช่วง 6 เดือนหลัง ถือว่านักโทษอายุเกิน 70 ปีต้องช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือช่วยเหลือตัวเองได้น้อย และนักโทษคนนี้ต้องไม่เป็นอันตรายต่อสังคม หรือโอกาสที่จะทำผิดซ้ำนั้นมีน้อยมาก ถามว่าแล้ววันนี้เป็นอย่างไร ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อสังคม สังคมจะกลียุคและฆ่ากันตาย ดังนั้น ป.ป.ช.ต้องรีบดำเนินการ และยืนยันว่าการพักโทษกรณีนี้ไม่ได้ไปใช้บั้นปลายชีวิตกับครอบครัว ทั้งนี้ ป.ป.ช.ต้องทำหน้าที่อิสระอย่างแท้จริง ต้องตรวจสอบและถ่วงดุล เพราะสภาฯทำหน้าที่ไม่ได้ จึงต้องมาอาศัย ป.ป.ช. เพื่อให้เป็นที่พึ่งของประชาชน เพื่อให้ประเทศอยู่ได้และประชาธิปไตยอยู่รอด ถ้า ป.ป.ช.ไม่เป็นที่พึ่งของประชาชน ประเทศก็จะอยู่ไม่ได้ และ ป.ป.ช.ก็จะไม่มีอีกต่อไป ขณะที่เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ขอขอบคุณที่มาให้กำลังใจในวันนี้ ซึ่งตอนนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งองค์คณะได้ตั้งไต่สวนบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว ในการดำเนินการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ก็มีมติค่อนข้างชัดเจนว่า หากไต่สวนพบบุคคลอื่นที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ก็ให้ดำเนินการไต่สวนต่อไปด้วย ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตามความคาดหวังของประชาชน และความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ ขอยืนยันว่าในส่วนของ ป.ป.ช. เราทำหน้าที่ไต่สวนและรวบรวมพยานหลักฐานตามพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงเป็นหลัก ดังนั้นในบางเรื่องอาจจะไม่ตรงตามใจที่ประชาชนรับทราบข้อมูลจากสื่อโซเชียลต่างๆ เพราะการพิจารณาต้องดูพยานหลักฐานเป็นหลัก และพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและเป็นเสาหลักในกระบวนการยุติธรรมของบ้านเมืองต่อไป
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 748 มุมมอง 0 รีวิว
  • #อุ๊ยคำถามน่าคิด
    พอดีเพื่อนในหมู่บ้านคอมเม้นถามมาด้วยความสงสัย
    ว่าทำไมอิ 4 ป้าในหมู่บ้าน สังเกตุ ไม่ได้ทำงานอะไรกันเลยหรา
    จะคิดว่าเปิดบริษัทแบบน้องสุดท้องคงไม่ใช่
    เพราะวันๆก็พ่นพรรณาว่าลำบาก
    น้อยอกน้อยใจ ค่าเทอมลูก น้องไม่ยอมออกให้
    ลืมไปว่าเป็นหน้าที่พ่อแม่มันนั่นแหละที่ต้องหาให้ลูก
    เรียกร้องความสงสารว่า นี่ทำงานเลี้ยงลูกนะเคอะ
    อ้าว ชาวบ้านในหมู่บ้านก็ถามดิ แล้วผัวไปไหนอะ
    สรุป ผัวไม่ทำหน้าที่ ตัวเองนอนงอมืองอเท้า
    แล้วโยนทุกความผิดให้น้อง เช็ดดดเขร้้
    ถามว่า เอาจริงๆนะ อิ 4 ป้ามหาภัยในภาพอะ
    ไม่เกี่ยวกับใครนะ
    อยากถามว่า ดูหน้าดิ ใครรู้จักมันบ้าง
    สาระรูปไม่ได้โดดเด่น ความสามารถไม่ปรากฏ
    คนในหมู่บ้านแทบไม่มีใครรู้จัก
    ที่คนรู้จัก เพราะน้องเป็นคนดังในหมู่บ้านแค่นั้น
    ที่เค้าหนับหนุน ก็เพราะรักน้องก็เลยรักพี่ด้วย อิฟาย
    แล้ววันนี้ไปเชื่อผจก.นิติ อย่างอิปูเสี้ยม
    มาเล่นงานน้องชายตัวเอง แล้วยืนหน้าหมู่บ้าน
    ต่อว่าน้องชาย คิดว่าน้องจะขายหน้า
    ไม่รู้ตัวว่า คนขายหน้าคืออิ 4 ป้าในรูปนี้แหละ
    แล้วจะเอาที่ไหน คนรักน้องชายคนไหนมันจะไปซัพพอตอีก
    สรุป อิ 4 ป้า ได้สาวกอิป้าศรีธังญ่ามาแทน
    กรรูขรรม เปลี่ยนทาเก็ตไปแล้ว
    แล้ววันนี้ เพื่อนบ้านที่อยู่ต้นซอย มาเล่าให้ฟังว่า
    พี่ชายก็เข้าข้าง 4 ป้า กรรูก็ไม่รู้มาก่อนว่าครอบครัวนี้
    มันมีพี่น้องกี่คนนะ แต่ถ้าเป็นพี่จริงๆ
    ครอบครัวนี้ สงสารแม่กับน้องคนสุดท้องอิ๊บอ๋าย
    ถ้าเป็นเรื่องจริง แม่มีลูก 5 คน คนที่รักแม่ดูแลแม่
    เชื่อฟังแม่ และทำทุกอย่างเพื่อแม่ คือไอ่น้องคนนี้คนเดียว
    มิน่าละ ทำงานหนักตั้งแต่เด็กๆ เคยสงสัย ทำไมน้องมันดูโต
    กว่าวัยเดียวกัน เก็บเป็นที่ดินในหมู่บ้านข้างๆ ที่แท้ น้องมันห่วงแม่
    ว่าถ้าน้องมันเป็นอะไรขึ้นมา พี่ๆแม่มไม่ได้เป็นที่พึ่งพา
    ยอมทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง
    ทำลายได้แม้กระทั่้งน้อง ยอมไปเข้าข้างคนที่ให้ร้ายแม่กับน้อง
    นี่แหละ เรื่องเล่าคนข้างบ้านพี่คิงส์
    แค่อยากเล่าให้แฟนเพจอ่านกัน
    ว่าพี่เฮี้ยๆแบบนี้ ก็มีด้วย
    เออ แล้วนี่กรูก็เล่าเรื่องคนข้างบ้าน
    คนอื่นไม่เกี่ยว อย่าเฉือกโยงแล้วร้อนไปดิ้นเองอีกหละ
    อิฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #อุ๊ยคำถามน่าคิด พอดีเพื่อนในหมู่บ้านคอมเม้นถามมาด้วยความสงสัย ว่าทำไมอิ 4 ป้าในหมู่บ้าน สังเกตุ ไม่ได้ทำงานอะไรกันเลยหรา จะคิดว่าเปิดบริษัทแบบน้องสุดท้องคงไม่ใช่ เพราะวันๆก็พ่นพรรณาว่าลำบาก น้อยอกน้อยใจ ค่าเทอมลูก น้องไม่ยอมออกให้ ลืมไปว่าเป็นหน้าที่พ่อแม่มันนั่นแหละที่ต้องหาให้ลูก เรียกร้องความสงสารว่า นี่ทำงานเลี้ยงลูกนะเคอะ อ้าว ชาวบ้านในหมู่บ้านก็ถามดิ แล้วผัวไปไหนอะ สรุป ผัวไม่ทำหน้าที่ ตัวเองนอนงอมืองอเท้า แล้วโยนทุกความผิดให้น้อง เช็ดดดเขร้้ ถามว่า เอาจริงๆนะ อิ 4 ป้ามหาภัยในภาพอะ ไม่เกี่ยวกับใครนะ อยากถามว่า ดูหน้าดิ ใครรู้จักมันบ้าง สาระรูปไม่ได้โดดเด่น ความสามารถไม่ปรากฏ คนในหมู่บ้านแทบไม่มีใครรู้จัก ที่คนรู้จัก เพราะน้องเป็นคนดังในหมู่บ้านแค่นั้น ที่เค้าหนับหนุน ก็เพราะรักน้องก็เลยรักพี่ด้วย อิฟาย แล้ววันนี้ไปเชื่อผจก.นิติ อย่างอิปูเสี้ยม มาเล่นงานน้องชายตัวเอง แล้วยืนหน้าหมู่บ้าน ต่อว่าน้องชาย คิดว่าน้องจะขายหน้า ไม่รู้ตัวว่า คนขายหน้าคืออิ 4 ป้าในรูปนี้แหละ แล้วจะเอาที่ไหน คนรักน้องชายคนไหนมันจะไปซัพพอตอีก สรุป อิ 4 ป้า ได้สาวกอิป้าศรีธังญ่ามาแทน กรรูขรรม เปลี่ยนทาเก็ตไปแล้ว แล้ววันนี้ เพื่อนบ้านที่อยู่ต้นซอย มาเล่าให้ฟังว่า พี่ชายก็เข้าข้าง 4 ป้า กรรูก็ไม่รู้มาก่อนว่าครอบครัวนี้ มันมีพี่น้องกี่คนนะ แต่ถ้าเป็นพี่จริงๆ ครอบครัวนี้ สงสารแม่กับน้องคนสุดท้องอิ๊บอ๋าย ถ้าเป็นเรื่องจริง แม่มีลูก 5 คน คนที่รักแม่ดูแลแม่ เชื่อฟังแม่ และทำทุกอย่างเพื่อแม่ คือไอ่น้องคนนี้คนเดียว มิน่าละ ทำงานหนักตั้งแต่เด็กๆ เคยสงสัย ทำไมน้องมันดูโต กว่าวัยเดียวกัน เก็บเป็นที่ดินในหมู่บ้านข้างๆ ที่แท้ น้องมันห่วงแม่ ว่าถ้าน้องมันเป็นอะไรขึ้นมา พี่ๆแม่มไม่ได้เป็นที่พึ่งพา ยอมทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ทำลายได้แม้กระทั่้งน้อง ยอมไปเข้าข้างคนที่ให้ร้ายแม่กับน้อง นี่แหละ เรื่องเล่าคนข้างบ้านพี่คิงส์ แค่อยากเล่าให้แฟนเพจอ่านกัน ว่าพี่เฮี้ยๆแบบนี้ ก็มีด้วย เออ แล้วนี่กรูก็เล่าเรื่องคนข้างบ้าน คนอื่นไม่เกี่ยว อย่าเฉือกโยงแล้วร้อนไปดิ้นเองอีกหละ อิฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 412 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพลงยอม หินเหล็กไฟ cover โดย ANT(อาร์ต แนท เต้)#ร้องเพลง #งานโชว์ #รับจ้างร้องเพลง #งานเลี้ยง #เพลง #thankstomeetyou #coversong #thailand #viralvideo
    เพลงยอม หินเหล็กไฟ cover โดย ANT(อาร์ต แนท เต้)#ร้องเพลง #งานโชว์ #รับจ้างร้องเพลง #งานเลี้ยง #เพลง #thankstomeetyou #coversong #thailand #viralvideo
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 428 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • เพลงยอม หินเหล็กไฟ cover โดย ANT(อาร์ต แนท เต้)#ร้องเพลง #งานโชว์ #รับจ้างร้องเพลง #งานเลี้ยง #เพลง #thankstomeetyou #coversong #thailand #viralvideo
    เพลงยอม หินเหล็กไฟ cover โดย ANT(อาร์ต แนท เต้)#ร้องเพลง #งานโชว์ #รับจ้างร้องเพลง #งานเลี้ยง #เพลง #thankstomeetyou #coversong #thailand #viralvideo
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 422 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • เมื่อวานวันพ่อ เห็นหลายโพสแนวนี้แล้วคลื่นไส้ เสียดายตอนพ่ออยู่ผม่ไม่ได้บอกรักพ่อ ไม่ได้ทำดีกับพ่อ เพราะภารกิจมากมาย ไม่มีเวลาเลย ตลกดี...ชีวิตผมเองเคยมีธุรกิจ 3 แห่ง ไม่นับเป็นที่ปรึกษาเฉพาะบุคคล และบริษัทอีกหลายแห่ง เพื่อนฝูงก็มาก งานเลี้ยงสารพัด ไหนจะครอบครัวอีก แต่ผมไม่เคยอ้างคำว่า ไม่มีเวลาสักครั้งเดียว กับพ่อแม่ เพราะคำนั้นมันไม่มีจริง ความจริงคือ ถ้าเราให้ความสำคัญกับสิ่งใด..เรามีเวลาเสมอ....นี่คือที่มาของคำว่า เห็นแล้วคลื่นไส้..
    เมื่อวานวันพ่อ เห็นหลายโพสแนวนี้แล้วคลื่นไส้ เสียดายตอนพ่ออยู่ผม่ไม่ได้บอกรักพ่อ ไม่ได้ทำดีกับพ่อ เพราะภารกิจมากมาย ไม่มีเวลาเลย ตลกดี...ชีวิตผมเองเคยมีธุรกิจ 3 แห่ง ไม่นับเป็นที่ปรึกษาเฉพาะบุคคล และบริษัทอีกหลายแห่ง เพื่อนฝูงก็มาก งานเลี้ยงสารพัด ไหนจะครอบครัวอีก แต่ผมไม่เคยอ้างคำว่า ไม่มีเวลาสักครั้งเดียว กับพ่อแม่ เพราะคำนั้นมันไม่มีจริง ความจริงคือ ถ้าเราให้ความสำคัญกับสิ่งใด..เรามีเวลาเสมอ....นี่คือที่มาของคำว่า เห็นแล้วคลื่นไส้..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนประกาศว่าจะไม่ยอมรับข้อต่อรองใดๆ ที่น้อยกว่าการได้เป็นสมาชิกนาโต เพื่อรับประกันความมั่นคงในอนาคต อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนพันธมิตรทหารแห่งนี้จะเพิกเฉยต่อแรงกดดันจากเคียฟ เมินเสียงเรียกร้องให้เชิญเข้าร่วมกลุ่มในทันที ณ ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของนาโต
    .
    ในหนังสือที่ส่งถึงบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของนาโต ก่อนหน้าการประชุม ทาง อันดรี ซีบิฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน อ้างว่าคำเชิญจะช่วยปลดหนึ่งในคำกล่าวอ้างหลักของรัสเซียในการทำสงคราม นั่นคือขัดขวางยูเครนจากการเข้าร่วมพันธมิตรทหารแห่งนี้
    .
    แม้นาโตเน้นย้ำว่าเส้นทางการเข้าเป็นสมาชิกของยูเครน เป็นสิ่งที่ไม่อาจย้อนกลับได้ แต่พันธมิตรทหารแห่งนี้ไม่เคยกำหนดกรอบเวลาหรือออกคำเชิญใดๆ ในขณะที่บรรดาผู้แทนทูตทั้งหลายเผยว่า ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ในชาติสมาชิกทั้ง 32 ประเทศ ในการดำเนินการดังกล่าว
    .
    พวกเจ้าหน้าที่บอกว่าบางประเทศกำลังรอตัดสินใจเกี่ยวกับจุดยืนของตนเอง จนกว่าจะทราบท่าทีของว่าที่รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ ของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เนื่องจากอเมริกา เป็นมหาอำนาจที่สำคัญของนาโต
    .
    ตามหลังการพูดคุยระหว่าง ซีบิฮา และเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศนาโต ณ งานเลี้ยงดินเนอร์ที่สำนักงานใหญ่ของพันธมิตรทหารแห่งนี้ ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ทาง กาเบรียลิอุส แลนด์สเบอร์กิส รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีความคืบหน้าในประเด็นความเป็นรัฐสมาชิก
    .
    ส่วน ยาน ลิพาฟสกี รัฐมนตรีต่างประเทศสาธารณรัฐเช็ก บอกว่าประเทศของเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติที่มองว่าคำเชิญเข้าร่วม "เป็นก้าวย่างที่จำเป็น" แต่ "ผมไม่คิดว่าจะมีข้อตกลงในเรื่องดังกล่าว"
    .
    ด้านปีเตอร์ ซียาร์โต รัฐมนตรีต่างประเทศฮังการี ซึ่งรัฐบาลมีความใกล้ชิดกับรัสเซีย และเพิ่งเดินทางเยือนมอสโกในช่วงต้นสัปดาห์ บอกว่าบูดาเปสต์ ยังคงคัดค้านการเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน "ประเทศนี้อยู่ในสงคราม และประเทศหนึ่งๆ ที่กำลังอยู่ในสงคราม ไม่อาจส่งเสริมความมั่นคงของพันธมิตรได้" เขาบอกกับรอยเตอร์
    .
    พวกนักวิเคราะห์บางส่วนและเหล่าผู้แทนทูต มองว่ายูเครนอาจได้รับคำประกันจากบรรดาชาติตะวันตกเป็นรายประเทศ แทนที่จะได้รับจากนาโตทั้งมวล
    .
    คีธ เคลลอก อดีตนายพลที่เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับการเสนอชื่อจากทรัมป์ ให้เป็นทูตพิเศษด้านยูเครนและรัสเซีย เป็นผู้เขียนร่วมในเอกสารฉบับหนึ่งที่เผยแพร่เมื่อช่วงกลางปี ซึ่งเรียกร้องให้ผัดผ่อนการเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน "ออกไประยะหนึ่งเป็นเวลานาน" แลกกับข้อตกลงสันติภาพ ที่จะมาพร้อมกับคำรับประกันด้านความมั่นคง
    .
    อย่างไรก็ตาม ยูเครนยืนยันว่าจะไม่ยอมรับข้อเสนอใดๆ ที่น้อยไปกว่าการเป็นสมาชิกนาโต อ้างถึงประสบการณ์ที่มีกับข้อตกลงหนึ่งเมื่อ 30 ปีก่อน ที่พวกเขายอมปลดอาวุธนิวเคลียร์แลกกับคำรับประกันด้านความมั่นคงจากเหล่าชาติมหาอำนาจ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าไม่มีค่าใดๆ
    .
    "เอกสารนั้นล้มเหลวรับประกันความมั่นคงของยูเครนและความมั่นคงข้ามแอตแลนติก ดังนั้นเราควรต้องหลีกเลี่ยงก่อความผิดพลาดดังกล่าวซ้ำรอย" เขากล่าวระหว่างเดินทางมาถึงนาโต พร้อมกับชูสำเนาข้อตกลงฉบับดังกล่าว ที่เรียกว่าบันทึกความเข้าใจบูดาเปสต์
    .
    อย่างไรก็ตาม มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต บอกว่าพันธมิตรกำลังสร้างสะพานสู่การเป็นสมาชิกของยูเครน แต่ประเด็นเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือการมอบอาวุธเพิ่มเติมแก่เคียฟ เพื่อขับไล่กองกำลังรัสเซีย เนื่องจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ดูเหมือนจะไม่สนใจสันติภาพ
    .
    เขาเน้นว่าที่ประชุมจะมุ่งเน้นไปที่การรับประกันว่ายูเครน จะอยู่ในสถานะที่เข้มแข็ง ไม่ว่าฝ่ายใดเป็นคนเลือกเข้าสู่การเจรจาสันติภาพก็ตาม "เพื่อไปให้ถึงจุดนั้น ความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง และจะต้องป้อนเข้าสู่ยูเครน"
    .
    ยูเครนกำลังเจอกับฤดูหนาวที่แสนสาหัส ด้วยกองกำลังมอสโกกำลังรุกคืบทางภาคตะวันออก และปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซียเล็งเป้าเล่นงานเครือข่ายพลังงานอันง่อนแง่นของประเทศ
    .
    รุตต์ แสดงความยินดีกับแพกเกจความช่วยเหลือทางทหารรอบใหม่ที่มอบแก่ยูเครน จากสหรัฐฯ เยอรมนี สวีเดน เอสโตเนีย ลิทัวเนียและนอร์เวย์ โดยที่เมื่อวันจันทร์ (2 ธ.ค.) อเมริกาแถลงแพกเกจอาวุธใหม่แก่เคียฟ มูลค่า 725 ล้านดอลลาร์
    .
    แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ บอกกับพวกผู้สื่อข่าว ณ ที่สำนักงานใหญ่ของนาโต ว่าอเมริกา "มีความมุ่งมั่นร่วม ในการทำทุกอย่างเท่าที่จำเป็นสำหรับยูเครน เพื่อที่ยูเครนจะสามารถปกป้องตนเองและปกป้องประชาชนขอตนเอง และท้ายที่สุดแล้วเพื่อที่จะสามารถหาทางออกคลี่คลายการรุกรานของรัสเซียอย่างยั่งยืน"
    .
    ยูเครน มองว่าการเข้าเป็นรัฐสมาชิกนาโต คือการประกันที่ดีที่สุดสำหรับความมั่นคงในอนาคตของพวกเขา ภายใต้ข้อตกลงกลาโหมร่วม บรรดารัฐสมาชิกของพันธมิตรทหารแห่งนี้ เห็นพ้องจะปฏิบัติกับการโจมตีใส่ประเทศสมาชิกหนึ่ง เทียบเท่ากับเป็นการโจมตีนาโตทั้งหมด และทั้งหมดจะเข้าช่วยเหลือกันและกัน
    .............
    Sondhi X
    ยูเครนประกาศว่าจะไม่ยอมรับข้อต่อรองใดๆ ที่น้อยกว่าการได้เป็นสมาชิกนาโต เพื่อรับประกันความมั่นคงในอนาคต อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนพันธมิตรทหารแห่งนี้จะเพิกเฉยต่อแรงกดดันจากเคียฟ เมินเสียงเรียกร้องให้เชิญเข้าร่วมกลุ่มในทันที ณ ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของนาโต . ในหนังสือที่ส่งถึงบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของนาโต ก่อนหน้าการประชุม ทาง อันดรี ซีบิฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน อ้างว่าคำเชิญจะช่วยปลดหนึ่งในคำกล่าวอ้างหลักของรัสเซียในการทำสงคราม นั่นคือขัดขวางยูเครนจากการเข้าร่วมพันธมิตรทหารแห่งนี้ . แม้นาโตเน้นย้ำว่าเส้นทางการเข้าเป็นสมาชิกของยูเครน เป็นสิ่งที่ไม่อาจย้อนกลับได้ แต่พันธมิตรทหารแห่งนี้ไม่เคยกำหนดกรอบเวลาหรือออกคำเชิญใดๆ ในขณะที่บรรดาผู้แทนทูตทั้งหลายเผยว่า ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ในชาติสมาชิกทั้ง 32 ประเทศ ในการดำเนินการดังกล่าว . พวกเจ้าหน้าที่บอกว่าบางประเทศกำลังรอตัดสินใจเกี่ยวกับจุดยืนของตนเอง จนกว่าจะทราบท่าทีของว่าที่รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ ของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เนื่องจากอเมริกา เป็นมหาอำนาจที่สำคัญของนาโต . ตามหลังการพูดคุยระหว่าง ซีบิฮา และเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศนาโต ณ งานเลี้ยงดินเนอร์ที่สำนักงานใหญ่ของพันธมิตรทหารแห่งนี้ ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ทาง กาเบรียลิอุส แลนด์สเบอร์กิส รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีความคืบหน้าในประเด็นความเป็นรัฐสมาชิก . ส่วน ยาน ลิพาฟสกี รัฐมนตรีต่างประเทศสาธารณรัฐเช็ก บอกว่าประเทศของเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติที่มองว่าคำเชิญเข้าร่วม "เป็นก้าวย่างที่จำเป็น" แต่ "ผมไม่คิดว่าจะมีข้อตกลงในเรื่องดังกล่าว" . ด้านปีเตอร์ ซียาร์โต รัฐมนตรีต่างประเทศฮังการี ซึ่งรัฐบาลมีความใกล้ชิดกับรัสเซีย และเพิ่งเดินทางเยือนมอสโกในช่วงต้นสัปดาห์ บอกว่าบูดาเปสต์ ยังคงคัดค้านการเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน "ประเทศนี้อยู่ในสงคราม และประเทศหนึ่งๆ ที่กำลังอยู่ในสงคราม ไม่อาจส่งเสริมความมั่นคงของพันธมิตรได้" เขาบอกกับรอยเตอร์ . พวกนักวิเคราะห์บางส่วนและเหล่าผู้แทนทูต มองว่ายูเครนอาจได้รับคำประกันจากบรรดาชาติตะวันตกเป็นรายประเทศ แทนที่จะได้รับจากนาโตทั้งมวล . คีธ เคลลอก อดีตนายพลที่เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับการเสนอชื่อจากทรัมป์ ให้เป็นทูตพิเศษด้านยูเครนและรัสเซีย เป็นผู้เขียนร่วมในเอกสารฉบับหนึ่งที่เผยแพร่เมื่อช่วงกลางปี ซึ่งเรียกร้องให้ผัดผ่อนการเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน "ออกไประยะหนึ่งเป็นเวลานาน" แลกกับข้อตกลงสันติภาพ ที่จะมาพร้อมกับคำรับประกันด้านความมั่นคง . อย่างไรก็ตาม ยูเครนยืนยันว่าจะไม่ยอมรับข้อเสนอใดๆ ที่น้อยไปกว่าการเป็นสมาชิกนาโต อ้างถึงประสบการณ์ที่มีกับข้อตกลงหนึ่งเมื่อ 30 ปีก่อน ที่พวกเขายอมปลดอาวุธนิวเคลียร์แลกกับคำรับประกันด้านความมั่นคงจากเหล่าชาติมหาอำนาจ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าไม่มีค่าใดๆ . "เอกสารนั้นล้มเหลวรับประกันความมั่นคงของยูเครนและความมั่นคงข้ามแอตแลนติก ดังนั้นเราควรต้องหลีกเลี่ยงก่อความผิดพลาดดังกล่าวซ้ำรอย" เขากล่าวระหว่างเดินทางมาถึงนาโต พร้อมกับชูสำเนาข้อตกลงฉบับดังกล่าว ที่เรียกว่าบันทึกความเข้าใจบูดาเปสต์ . อย่างไรก็ตาม มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต บอกว่าพันธมิตรกำลังสร้างสะพานสู่การเป็นสมาชิกของยูเครน แต่ประเด็นเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือการมอบอาวุธเพิ่มเติมแก่เคียฟ เพื่อขับไล่กองกำลังรัสเซีย เนื่องจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ดูเหมือนจะไม่สนใจสันติภาพ . เขาเน้นว่าที่ประชุมจะมุ่งเน้นไปที่การรับประกันว่ายูเครน จะอยู่ในสถานะที่เข้มแข็ง ไม่ว่าฝ่ายใดเป็นคนเลือกเข้าสู่การเจรจาสันติภาพก็ตาม "เพื่อไปให้ถึงจุดนั้น ความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง และจะต้องป้อนเข้าสู่ยูเครน" . ยูเครนกำลังเจอกับฤดูหนาวที่แสนสาหัส ด้วยกองกำลังมอสโกกำลังรุกคืบทางภาคตะวันออก และปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซียเล็งเป้าเล่นงานเครือข่ายพลังงานอันง่อนแง่นของประเทศ . รุตต์ แสดงความยินดีกับแพกเกจความช่วยเหลือทางทหารรอบใหม่ที่มอบแก่ยูเครน จากสหรัฐฯ เยอรมนี สวีเดน เอสโตเนีย ลิทัวเนียและนอร์เวย์ โดยที่เมื่อวันจันทร์ (2 ธ.ค.) อเมริกาแถลงแพกเกจอาวุธใหม่แก่เคียฟ มูลค่า 725 ล้านดอลลาร์ . แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ บอกกับพวกผู้สื่อข่าว ณ ที่สำนักงานใหญ่ของนาโต ว่าอเมริกา "มีความมุ่งมั่นร่วม ในการทำทุกอย่างเท่าที่จำเป็นสำหรับยูเครน เพื่อที่ยูเครนจะสามารถปกป้องตนเองและปกป้องประชาชนขอตนเอง และท้ายที่สุดแล้วเพื่อที่จะสามารถหาทางออกคลี่คลายการรุกรานของรัสเซียอย่างยั่งยืน" . ยูเครน มองว่าการเข้าเป็นรัฐสมาชิกนาโต คือการประกันที่ดีที่สุดสำหรับความมั่นคงในอนาคตของพวกเขา ภายใต้ข้อตกลงกลาโหมร่วม บรรดารัฐสมาชิกของพันธมิตรทหารแห่งนี้ เห็นพ้องจะปฏิบัติกับการโจมตีใส่ประเทศสมาชิกหนึ่ง เทียบเท่ากับเป็นการโจมตีนาโตทั้งหมด และทั้งหมดจะเข้าช่วยเหลือกันและกัน ............. Sondhi X
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 902 มุมมอง 0 รีวิว

  • ครอบครัวสายเลือดอิลลูมินาติและการตื่นรู้ครั้งยิ่งใหญ่

    ครอบครัวสายเลือดอิลลูมินาติ 13 ครอบครัว มีสำนักงานใหญ่ในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี เคยปกครองโลกผ่านการควบคุมระบบการเงินโลก โดยที่พวกเขาทำพิธีกรรมชั่วร้ายและบูชาซาตาน กลุ่มนี้ซึ่งปัจจุบันมักเรียกกันว่าดีพสเตต เป็นผู้บงการเครือข่ายการสังเวยเด็ก งานเลี้ยงสำส่อนทางเพศ และการทดลองควบคุมจิตใจกับเหยื่อที่ถูกจับตัวไปและผลิตขึ้นทั่วโลก

    ครอบครัวเหล่านี้ ซึ่งอ้างว่าสืบเชื้อสายมาจากคาอิน ได้แก่ โพเซอร์ เคนเนดี ร็อคกี้เฟลเลอร์ โอนาสซิส คาร์เนจ บุช และรอธส์ไชลด์ ในปี 1832 พวกเขาได้ยึดครองธนาคารวาติกันและสร้างความโดดเด่นเหนือธนาคารกลางหลักๆ ทั่วโลก เช่น เจพีมอร์แกน โกลด์แมนแซคส์ บาร์เคลย์ เอชเอสบีซี และเชส

    ในปี 1871 พวกเขาได้ตราพระราชบัญญัติที่ก่อตั้งองค์กรสหรัฐอเมริกาแห่งอเมริกา ซึ่งมีผลทำให้รัฐธรรมนูญฉบับเดิมถูกลบล้างไป ในปี 1914 พวกเขาได้ลงนามในสัญญาเช่าทองคำของผู้เฒ่าชาวจีนเป็นเวลา 99 ปี โดยใช้ธนาคารกลาง กรมสรรพากร และสถาบันการเงินอื่นๆ เพื่อฟอกเงินภาษีของประชาชนในสหรัฐอเมริกา ในขณะที่การดำเนินงานของพวกเขาขยายไปยังธนาคารวาติกัน ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านบทบาทในการค้าเด็ก ยาเสพติด และการค้าอาวุธ

    จุดเปลี่ยนมาถึงในปี 1903 เมื่อ Nikola Tesla และ Van de Graaf เริ่มคลี่คลายความลับของ Deep State ในปี 1993 สัญญาเช่าทองคำของจีนของพวกเขาสิ้นสุดลง และในช่วงต้นทศวรรษปี 2000 พันธมิตรได้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อทำลายล้างกลุ่มลับ พันธมิตรนี้ในปี 2020 ประกอบด้วยประธานาธิบดีทรัมป์ วลาดิมีร์ ปูติน สีจิ้นผิง มุสตาฟา อัล-กาดิมี นเรนทรา โมดี บุคคลทรงอิทธิพลของ Q, QAnon (นำโดย JFK Jr?) นายพลเพนตากอน เอ็นเอสเอ และอินเตอร์โพล

    ในปี 2008 การพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ของกลุ่มคาบาลทำให้เกิดวิกฤตสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ผลิตขึ้น ซึ่งทำให้ผู้เสียภาษีของสหรัฐฯ สูญเสียรายได้มากขึ้น เหตุการณ์นี้กระตุ้นให้เกิดการก่อตั้งกลุ่ม BRICS Alliance ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูระบบการเงินที่ได้รับการสนับสนุนด้วยทองคำ/สินทรัพย์ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2013 สนธิสัญญาทองคำได้รับการลงนามโดย 209 ประเทศ

    ในปี 2018 ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ตราพระราชบัญญัติ National Quantum Initiative ซึ่งก่อตั้งระบบการเงินควอนตัมใหม่และระบบการลงคะแนนเสียงที่โปร่งใส เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2019 นาวิกโยธินและกองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ ได้ช่วยเหลือเด็กกว่า 2,100 คนจากใต้ฐานทัพเรือ China Lake ในแคลิฟอร์เนีย โดยเปิดเผยเครือข่ายฐานทัพใต้ดินที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกลุ่มคาบาล

    เมื่อเดือนตุลาคม 2019 วาติกันถูกบุกเข้าค้น ซึ่งเผยให้เห็นปฏิบัติการฟอกเงินของกลุ่มชนชั้นนำระดับโลก ทองคำและเงินสดกว่า 650 ลำถูกยึดและส่งกลับไปยังกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ภายในเดือนมีนาคม 2020 พันธมิตรได้กำจัดหัวหน้าครอบครัว Illuminati จำนวน 13 ครอบครัวในเวนิส และเริ่มการจับกุมและการพิจารณาคดีทางทหารสำหรับชนชั้นนำทางการเมืองของสหรัฐฯ

    คาดว่าจะมีการพัฒนาเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลและการจับกุมที่สำคัญในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ภายในปลายปี 2024 การเปลี่ยนแปลงทั่วโลกจะเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มที่เหลือของกลุ่ม Illuminati ถูกทำลายล้างและความยุติธรรมได้รับการเสิร์ฟ

    ทรัมป์เปิดเผยแผนทำลายล้างดีพสเตต
    https://www.zerohedge.com/political/trump-outlines-plan-decimate-deep-state

    ทรัมป์เผยแพร่แผนอันน่าตกตะลึงเพื่อกำหนดเป้าหมาย การทุจริตในวอชิงตัน ยุบ 'ดีพสเตต'
    https://www.wnd.com/2024/11/trump-releases-stunning-plan-to-target-washington-corruption-dismantle-deep-state/

    บูม!!! เมื่อสักครู่: ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยแผนของเขาที่จะรื้อถอน DEEP STATE! [วิดีโอ] จุดจบของดีปสเตต: ประธานาธิบดีทรัมป์เผยแผนบุกเบิกในการทำลายล้างดีปสเตต กำจัดการทุจริต และคืนอำนาจให้กับชาวอเมริกัน! ตั้งแต่การไล่ข้าราชการที่ประพฤติตัวไม่ดีออกไปจนถึงการบังคับใช้ข้อจำกัดวาระการดำรงตำแหน่ง การต่อสู้ของทรัมป์กับกลุ่มคนชั้นสูงนั้นไม่ลดละ ไร้ความกลัว และเป็นสิ่งที่อเมริกาต้องการอย่างแท้จริง ค้นพบว่าทรัมป์กำลังต่อสู้กับการทุจริตที่ฝังรากลึกในวอชิงตันด้วยความก้าวร้าวที่ไม่มีใครเทียบได้เพื่อนำประชาธิปไตยของเรากลับคืนมาได้อย่างไร!
    https://amg-news.com/boom-just-now-president-trump-releases-his-plans-to-dismantle-the-deep-state-video/
    ครอบครัวสายเลือดอิลลูมินาติและการตื่นรู้ครั้งยิ่งใหญ่ ครอบครัวสายเลือดอิลลูมินาติ 13 ครอบครัว มีสำนักงานใหญ่ในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี เคยปกครองโลกผ่านการควบคุมระบบการเงินโลก โดยที่พวกเขาทำพิธีกรรมชั่วร้ายและบูชาซาตาน กลุ่มนี้ซึ่งปัจจุบันมักเรียกกันว่าดีพสเตต เป็นผู้บงการเครือข่ายการสังเวยเด็ก งานเลี้ยงสำส่อนทางเพศ และการทดลองควบคุมจิตใจกับเหยื่อที่ถูกจับตัวไปและผลิตขึ้นทั่วโลก ครอบครัวเหล่านี้ ซึ่งอ้างว่าสืบเชื้อสายมาจากคาอิน ได้แก่ โพเซอร์ เคนเนดี ร็อคกี้เฟลเลอร์ โอนาสซิส คาร์เนจ บุช และรอธส์ไชลด์ ในปี 1832 พวกเขาได้ยึดครองธนาคารวาติกันและสร้างความโดดเด่นเหนือธนาคารกลางหลักๆ ทั่วโลก เช่น เจพีมอร์แกน โกลด์แมนแซคส์ บาร์เคลย์ เอชเอสบีซี และเชส ในปี 1871 พวกเขาได้ตราพระราชบัญญัติที่ก่อตั้งองค์กรสหรัฐอเมริกาแห่งอเมริกา ซึ่งมีผลทำให้รัฐธรรมนูญฉบับเดิมถูกลบล้างไป ในปี 1914 พวกเขาได้ลงนามในสัญญาเช่าทองคำของผู้เฒ่าชาวจีนเป็นเวลา 99 ปี โดยใช้ธนาคารกลาง กรมสรรพากร และสถาบันการเงินอื่นๆ เพื่อฟอกเงินภาษีของประชาชนในสหรัฐอเมริกา ในขณะที่การดำเนินงานของพวกเขาขยายไปยังธนาคารวาติกัน ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านบทบาทในการค้าเด็ก ยาเสพติด และการค้าอาวุธ จุดเปลี่ยนมาถึงในปี 1903 เมื่อ Nikola Tesla และ Van de Graaf เริ่มคลี่คลายความลับของ Deep State ในปี 1993 สัญญาเช่าทองคำของจีนของพวกเขาสิ้นสุดลง และในช่วงต้นทศวรรษปี 2000 พันธมิตรได้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อทำลายล้างกลุ่มลับ พันธมิตรนี้ในปี 2020 ประกอบด้วยประธานาธิบดีทรัมป์ วลาดิมีร์ ปูติน สีจิ้นผิง มุสตาฟา อัล-กาดิมี นเรนทรา โมดี บุคคลทรงอิทธิพลของ Q, QAnon (นำโดย JFK Jr?) นายพลเพนตากอน เอ็นเอสเอ และอินเตอร์โพล ในปี 2008 การพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ของกลุ่มคาบาลทำให้เกิดวิกฤตสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ผลิตขึ้น ซึ่งทำให้ผู้เสียภาษีของสหรัฐฯ สูญเสียรายได้มากขึ้น เหตุการณ์นี้กระตุ้นให้เกิดการก่อตั้งกลุ่ม BRICS Alliance ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูระบบการเงินที่ได้รับการสนับสนุนด้วยทองคำ/สินทรัพย์ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2013 สนธิสัญญาทองคำได้รับการลงนามโดย 209 ประเทศ ในปี 2018 ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ตราพระราชบัญญัติ National Quantum Initiative ซึ่งก่อตั้งระบบการเงินควอนตัมใหม่และระบบการลงคะแนนเสียงที่โปร่งใส เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2019 นาวิกโยธินและกองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ ได้ช่วยเหลือเด็กกว่า 2,100 คนจากใต้ฐานทัพเรือ China Lake ในแคลิฟอร์เนีย โดยเปิดเผยเครือข่ายฐานทัพใต้ดินที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกลุ่มคาบาล เมื่อเดือนตุลาคม 2019 วาติกันถูกบุกเข้าค้น ซึ่งเผยให้เห็นปฏิบัติการฟอกเงินของกลุ่มชนชั้นนำระดับโลก ทองคำและเงินสดกว่า 650 ลำถูกยึดและส่งกลับไปยังกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ภายในเดือนมีนาคม 2020 พันธมิตรได้กำจัดหัวหน้าครอบครัว Illuminati จำนวน 13 ครอบครัวในเวนิส และเริ่มการจับกุมและการพิจารณาคดีทางทหารสำหรับชนชั้นนำทางการเมืองของสหรัฐฯ คาดว่าจะมีการพัฒนาเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลและการจับกุมที่สำคัญในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ภายในปลายปี 2024 การเปลี่ยนแปลงทั่วโลกจะเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มที่เหลือของกลุ่ม Illuminati ถูกทำลายล้างและความยุติธรรมได้รับการเสิร์ฟ ทรัมป์เปิดเผยแผนทำลายล้างดีพสเตต https://www.zerohedge.com/political/trump-outlines-plan-decimate-deep-state ทรัมป์เผยแพร่แผนอันน่าตกตะลึงเพื่อกำหนดเป้าหมาย การทุจริตในวอชิงตัน ยุบ 'ดีพสเตต' https://www.wnd.com/2024/11/trump-releases-stunning-plan-to-target-washington-corruption-dismantle-deep-state/ บูม!!! เมื่อสักครู่: ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยแผนของเขาที่จะรื้อถอน DEEP STATE! [วิดีโอ] จุดจบของดีปสเตต: ประธานาธิบดีทรัมป์เผยแผนบุกเบิกในการทำลายล้างดีปสเตต กำจัดการทุจริต และคืนอำนาจให้กับชาวอเมริกัน! ตั้งแต่การไล่ข้าราชการที่ประพฤติตัวไม่ดีออกไปจนถึงการบังคับใช้ข้อจำกัดวาระการดำรงตำแหน่ง การต่อสู้ของทรัมป์กับกลุ่มคนชั้นสูงนั้นไม่ลดละ ไร้ความกลัว และเป็นสิ่งที่อเมริกาต้องการอย่างแท้จริง ค้นพบว่าทรัมป์กำลังต่อสู้กับการทุจริตที่ฝังรากลึกในวอชิงตันด้วยความก้าวร้าวที่ไม่มีใครเทียบได้เพื่อนำประชาธิปไตยของเรากลับคืนมาได้อย่างไร! https://amg-news.com/boom-just-now-president-trump-releases-his-plans-to-dismantle-the-deep-state-video/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 932 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถึงจะอยู่ห่างกันในระยะทาง, แต่อยู่ไกลกันในประสบการณ์: ไบเดนไม่เข้าร่วมงานรวมตัวหาเสียงเลือกตั้งของแฮร์ริส

    ประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงเฝ้าติดตามคืนเลือกตั้งของรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส, รายงานของ Washington Examiner, ซึ่ง, น่าจะบอกอะไรได้หลายอย่าง

    แม้ว่าไบเดนและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งจะอยู่ที่ทำเนียบขาวเพื่อติดตามความคืบหน้าการเลือกตั้ง, แต่แฮร์ริสจะจัดงานของเธอที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด, ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงสองไมล์

    ความสัมพันธ์ระหว่างไบเดนและแฮร์ริสตึงเครียด, โดยแฮร์ริสวางตำแหน่งตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นใหม่, โดยสัญญาว่าจะมี "หนทางใหม่ข้างหน้า" และกล่าวว่า "เราจะไม่หันหลังกลับ" อย่างไรก็ตาม, อาชีพการงานของเธอเป็นหนี้บุญคุณไบเดนมาก, ซึ่งเลือกเธอเป็นคู่หูในปี 2020 และสนับสนุนเธอหลังจากถอนตัวจากการแข่งขัน
    .
    MILES APART, WORLDS AWAY: BIDEN PASSES ON HARRIS’S ELECTION NIGHT GATHERING

    President Joe Biden will not attend Vice President Kamala Harris's election night watch party, the Washington Examiner reports, which, probably, speaks volumes.

    While Biden and the first lady will stay at the White House for election updates, Harris is hosting her event at Howard University, just two miles away.

    The Biden-Harris relationship has been strained, with Harris positioning herself as a fresh start, promising a “new way forward” and saying “We are not going back.” Yet, her career owes much to Biden, who chose her as his running mate in 2020 and endorsed her after withdrawing from the race.
    .
    6:34 AM · Nov 6, 2024 · 1,710 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1853944121901383724
    ถึงจะอยู่ห่างกันในระยะทาง, แต่อยู่ไกลกันในประสบการณ์: ไบเดนไม่เข้าร่วมงานรวมตัวหาเสียงเลือกตั้งของแฮร์ริส ประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงเฝ้าติดตามคืนเลือกตั้งของรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส, รายงานของ Washington Examiner, ซึ่ง, น่าจะบอกอะไรได้หลายอย่าง แม้ว่าไบเดนและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งจะอยู่ที่ทำเนียบขาวเพื่อติดตามความคืบหน้าการเลือกตั้ง, แต่แฮร์ริสจะจัดงานของเธอที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด, ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงสองไมล์ ความสัมพันธ์ระหว่างไบเดนและแฮร์ริสตึงเครียด, โดยแฮร์ริสวางตำแหน่งตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นใหม่, โดยสัญญาว่าจะมี "หนทางใหม่ข้างหน้า" และกล่าวว่า "เราจะไม่หันหลังกลับ" อย่างไรก็ตาม, อาชีพการงานของเธอเป็นหนี้บุญคุณไบเดนมาก, ซึ่งเลือกเธอเป็นคู่หูในปี 2020 และสนับสนุนเธอหลังจากถอนตัวจากการแข่งขัน . MILES APART, WORLDS AWAY: BIDEN PASSES ON HARRIS’S ELECTION NIGHT GATHERING President Joe Biden will not attend Vice President Kamala Harris's election night watch party, the Washington Examiner reports, which, probably, speaks volumes. While Biden and the first lady will stay at the White House for election updates, Harris is hosting her event at Howard University, just two miles away. The Biden-Harris relationship has been strained, with Harris positioning herself as a fresh start, promising a “new way forward” and saying “We are not going back.” Yet, her career owes much to Biden, who chose her as his running mate in 2020 and endorsed her after withdrawing from the race. . 6:34 AM · Nov 6, 2024 · 1,710 Views https://x.com/SputnikInt/status/1853944121901383724
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 0 รีวิว
  • 30-10-67/01 : หมี CNN / "เล่าสู่กันฟัง" EP.11 ตอน "NEW HERO BORN IN EVERYDAY" ไม่ใช่ MARVEL ไม่ใช่ DC แต่เป็นทหารราชองครักษ์ สั่งสอนเด็กอมมือ ไม่รู้กาลเทศะ มือกัน ไม่ให้เดินเทียบเจ้า ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ รหัสลับ DNA ตามพ่องแม่งเป๊ะเด๊ะ ครั้งนึง ในงานเลี้ยงส่วนพระองค์กับแขกอาคันตุกะทั่วโลก อีพ่อเหลี่ยมไม่ได้ถูกเชิญ แต่เสือกเสนอหน้า อยากจะเกิด แต่เสือกดับกลางหน้าประตูงานเลี้ยง เพราะมันงานเลี้ยงของพระเจ้าแผ่นดิน ไม่ใช่หน้าที่นายกฯ บรรดากษัตริย์ ราชวงศ์ชั้นสูงจากทั่วโลก แห่กันเข้ามาร่วมแสดงความยินดี อีเหลี่ยมหัวหมอ อยากยกระดับโดยไม่เจียมกะลาหัวตัวเอง เป็นแค่นายกฯ ใต้ตรีนฝ่าพระบาท โดนเจ้าหน้าที่วังถีบออก สั่งไสหัวออกไป นั่นคือจุดเดือด ความเครียดแค้นที่มีต่อวังนับแต่นั้นมา หมายังรู้ มรึงแค่ขี้ข้าเหี้ย CIA ขึ้นมาได้เพราะเงินวอชิงตัน ซื้อเสียงมาทั้งนั้น หลอกควายไทยบัดซบ 10 ล้านเสียง ครั้นอีลูกสาวร่านขึ้นแท่นบ้าง อยากจะเดินตามรอยพ่อเหลี่ยมเหี้ยบ้าง คิดวัดรอยตรีน แต่งวดนี้ หน้าแหก หมอไม่รับเย็บ โดนท่านปีใหม่ เอาแขนกันไว้ ไม่ให้เดินเทียบ ภาษาแถวบ้านเรียก "เสียหมา" ระดับนายก ก็แค่ข้าราชบริพาร อย่าริสะเออะเสนอหน้าเทียบเจ้า มรึงเป็นได้แค่เศษสวะ คิดล้มเจ้าทั้งตระกูล ฝันเปียกไปเหอะ ตระกูลมรึงจะสิ้นชาติพันธุ์ในพศ.นี้แหละ เหมือนทหารแตงโม ถูกแช่ ถูกดองกันเกลื่อนยามนี้ รู้ชะตากรรม วังเล่นบทพระเดชแล้ว อย่าต๊กกะใจ พ่อท่านร.10 ทรงมีเมตตาต่อทุกสรรพสิ่ง แต่จะไม่ละเว้นไอ้อีที่คิดกบฎขายชาติ ขายแผ่นดิน เชื่อกูเหอะว่า "ใครที่พ่อท่านไม่ปลื้ม" มรึงเตรียมเยี่ยวแตกได้เลย ระดับท่านไม่เสียเวลาดอก แค่ราชองครักษ์มรึงก็เละเทะแล้ว วังไม่ใช่เพื่อนเล่นมรึง ดีออก! จำใส่กระโหลกสมองหมาปัญญาควายมรึงไว้ให้ดีดี! กูว่าแล้ว ทรงมันมาชัวร์ ทำไมไทยต้องสร้าง "ซูปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เริ่ดสุด เร็วสุด แรงสุดในอาเซียน" ไทยถูกจีนวางตัวเป็นศูนย์กลางผลิตชิปแห่งอาเซียนนั่นเอง เทคโนโลยีเราได้จากจีนมาเต็มตรีน บวกมันสมองคนไทยที่ต่อยอดสำเร็จ เรากำลังจะกลายเป็นฮับอาเซียน แล้วฮับอาเซียนต้องมีอะไรล่ะ? ศูนย์กลางพลังงาน ศูนย์กลางเทคโนโลยี ศูนย์กลางอาหาร ศูนย์การตลาดอาเซียนเชื่อมโลก ศูนย์กลางเงิน ศูนย์การธนาคารอาเซียน เงินบาทหอมหวล ยังจะแข็งโป๊กได้อีกยาวไป ศูนย์กลางโลจิสติค ขนส่ง ไทยเรามีหมด ที่มาว่าทำไม เมื่อเราโตขึ้น สิ่งที่ตามมาคือภาคแรงงานมหาศาล และเพื่อนบ้านจะแห่กันเข้ามาอยู่เมืองไทยเพี๊ยบ เพราะหาเงินคล้อง เศรษฐกิจพุ่ง การค้าดี มั่นคง ร่มเย็น เป็นสุข แถมของอร่อยมีมากที่สุดในโลก ชีวิตดี๊ดี! ใครมาหลงเสน่ห์หมด ไม่อยากกลับบ้าน ขนาดหมูเด้ง ฮิปโปแคระยังดังระดับจักรวาลมาเวล ใครมาก็แจ้งเกิดได้ง่ายดาย เมืองไทย มันคือ "ที่สุดของที่สุดความหลากหลายโลก" ข้ามมาสู่โลกความเป็นจริงต่อ : อิเหนาโชว์ป๋า! สั่งห้ามขายไอโฟน 16 เพราะผิดเงื่อนไขสัญญา ไม่เป็นตามข้อตกลง ที่ต้องใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ 40% นั่นคือข้ออ้าง แท้จริงคือตบหน้าสั่งสอนเหี้ยนั่นเอง เพราะมันคือเครื่องมือดักฟัง สอดแนมของเหี้ย CIA ใครยังจะโง่ใช้อีไอโฟนอยู่อีก หัวเว่ย มาแรง แซงทะลุนรกไปแล้ว ดีกว่า เริ่ดกว่า แจ่มกว่า คุ้มค่าและประสิทธิภาพเทียบกันไม่ติด 6G กลายเป็นเรื่องรองทันที ยิ่งหัวเว่ยออก HARMONY 5.0 ปฎิบัติการอนาคต ทุบ ANDROID ทิ้งไปเลย มันคือระบบมือถือแห่งอนาคต ที่เชื่อมทั้งโลกเข้าหากันอย่างสมบูรณ์ แถวบ้านกูยังใช้กระป๋องผูกเชือกอยู่เลย เสียงดัง ฟังชัด ยกเว้นตอนฝนตก! ทำไม อิเหนา ถึงได้ช่างกล้าขนาดนี้ คำตอบคือ SU-35/ S-400 กำลังจะเข้ามาเติม พ่วงเรือรบใหม่ เรือดำน้ำนิวเคลียร์ เพราะอิเหนามีหมู่เกาะเยอะมาก เรือดำน้ำจำเป็น และมีท่าเรือน้ำลึกมากมาย ใครจะวัดกับอิเหนา ไม่ง่ายอีกต่อไป อิเหนาพึ่งพาจีนด้านการลงทุน พึ่งพารัสเซีย ด้านพลังงาน อาวุธ เวียดนามตามรอยทันที ไม่แปลก รายชื่อสมาชิกใหม่ BRICS ถึงมีอาเซียนไปโผล่เพี๊ยบ เพราะเค้าคุยกันมาก่อนแล้ว แค่รอดูจังหวะเวลาที่ใช่ ค่อยประกาศตัว? ไอ้สัส! กลัวจุงเบย อย่าขู่กูน่ะ กูยิ่งปอดแหกอยู่ หลังล่าสุด อีวอชิงตันขู่อิหร่าน ห้ามโจมตีกลับอียิวเหี้ยเด็ดขาด หลังเพิ่งจะโชว์โง่ เสียหมา ดาหน้าบินไปถล่มเค้า แต่ถูกสกัดได้หมด หมากว่านี้ไม่มีอีกแล้ว แต่ดันเสือกกลัวเค้าเอาคืน? อิหร่านกลัวจัด เลยรีบสั่ง 3 ฮอ ดาหน้าถล่มยับทันที ภายใน 24 ชม. ท่าเรือ สนามบิน ศูนย์บัญชาการย่อย คลังแสงย่อย โดนอีก ไม่เหลือเป้าหมายแล้วลวกเพ่? อย่าขู่กูบ่อย มือมันสั่น มือมันลั่น เดี๋ยวมรึงจะตายห่าไม่มีเหลือ แค่กดปุ่ม ชีวิตเปลี่ยนเลยมรึง? ด้านพรมแดนเลบานอน กองทัพอียิวลากสังขารถอยหลังไปอีก 20 กม. จากไปรุกรานเค้า กลับเสียดินแดนหน้าด่านจนเกลี้ยง เลบานอนรุกกลับกินพื้นที่เข้าไปในแผ่นดินมรึงแล้ว งวดนี้ ไม่ต้องถามสื่อ ถามกูนี่แหละ ดอกนี้ อียิวตายห่าไปแล้ว 3000 ตัว ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มาว่าทำไมต้องสั่งเกณฑ์ทหารใหม่เพิ่มรอบที่ 6 เหลือแต่หมาแล้วมั้ง? โลกอาหรับ อิหร่าน คุยกันรู้เรื่อง ค่อยๆ บดขยี้ กินมันไปเรื่อยๆ จนมันอ่อนแรง บีบให้มันย้ายออกไปดีดี จะได้ไม่ต้องสูญเสียชีวิตผู้บริสุทธิ์ ล่าสุด ตัวเลขพลเรือนอิสราเอล ที่เสียชีวิต นับตั้งแต่ฮามาสจุดเค็กวันเกิดฉลอง ตอนนี้ ตายห่าไปแล้วกว่า 30000 ตัว สื่อไม่มาบอกมรึงดอก เพราะมันถูกซากตึกทับตายกันเกลื่อน ส่วนอีไทยเนรคุณ ที่เสือกไปรับจ้างรบให้อิสราเอล ไม่ต้องถาม มันตายห่าตั้งแต่วันแรกแล้ว สูตรอียิว ส่งทหารรับจ้างไปตายห่าก่อน ทหารอียิวเหลือน้อย มีเอาไว้แค่สั่งการ ตายห่าไปเหอะ มรึงไม่ใช่คนไทย แค่อาศัยแผ่นดินพ่อกูมาเกิด แต่ไม่ได้ทำประโยชน์ห่าอะไรให้กับแผ่นดินเกิดมรึงเลย มีแต่จะชักศึกเข้าบ้าน จงตายห่าไปซะน่ะ กูไม่สนชีวิตเหี้ยๆ ของมรึงดอก ไอ้ระยำ?

    ปล.ลุงสนธิ ฝากมาบอก อีชาติชั่ว มรึงเตรียมแดร๊กเยี่ยวแล้วรึยัง? ท้าใครไม่ท้า 71 แก้ว แก้วเดียวมรึงก็อ๊วกแตกแล้ว! กรรมชั่ว ทำระยำ โกหกตอแหล ปลิ้นปล้อน 18 มงกุฎ ตายเพราะปากมรึงเอง! อยู่ดีดี ก็เอาเรตติ้งมาให้สนธิ ทอล์ก NEWS1 พุ่งกระฉูด ทุกสำนักข่าวต้องมาลากไส้อีทนายเหี้ยผ่านลุงสนธิ อาจารย์ปานเทพ เพราะเจ้าทุกข์ขอเอง กูจะคุยกับลุงสนธิเท่านั้น จ่ายค่าจ้างสุดถูก ไวน์ราคา 100 ล้าน ช็อคโกแลตราคาพันล้าน รวยมั้ย ไอ้สัส! บิดเบือนกันจัง ดีออก? เพ่อ้อย สุดท้ายก็ต้องพึ่งคนจริง ใครเดือดร้อน มีที่ไหนที่เป็นปากกระบอกเสียงได้จริง ดังนั้น ตอนนี้ งานเข้า NEWS1 กับอีโหนกระแส อีหนุ่มบอก กูอาจจะตายวันไหนไม่ยู้? ล่อแต่ละดอก ของหนักทั้งนั้น! จำเอาไว้ว่า "อะไรที่โกงเค้ามา ก็ต้องคืนเค้าไป" อะไรที่ไม่ใช่ของตน ยึดครองไว้ก็คือคำสาปแช่ง ชีวิตคนแค่ 100 ปี แต่สิ่งที่รอลงโทษมรึงอยู่ ไร้กาลเวลา คุ้มค่ามั้ยล่ะ? เพราะขาดสติ จึงไร้ปัญญา เพราะโลภ จึงมองไม่เห็นความจริง! ไอ้อี ที่เคยอวดมั่ง อวดมี โชว์ป๋า โชว์บินส่วนตัว บ้านคฤหาสน์ มันใช่ของมรึงจริงๆ มั้ยล่ะ? เสพสุขแค่ชั่วคืน เสพคุกทั้งชีวิต อิสรภาพคือสิ่งที่มนุษย์ขาดมิได้ อยากรู้ ให้ไปถามไอ้อีทะลุเหี้ยทั้งหลาย แดร๊กบาทาอร่อยเช้าเย็น ชีวิตบัดซบ ยิ่งกว่าตาย? ล่าสุด ไอ้อี 3 นิ้วครึ่งที่ล้มเจ้า ที่แห่หนีไปต่างแดน ชีวิตตกระกำลำบาก เงินเดือนไม่ให้ ดิ้นรน เลี้ยงปากท้องเอง อยู่แบบผิดกฎหมาย ทำงานไม่ได้ เหี้ยไม่เลี้ยงคือบีบให้กลับบ้านไปตายเอาดาบหน้าไงล่ะ หมาซะยิ่งกว่าหมา ขนาดอีพรรคส้มเน่ายังไม่เหลือ กระแสดิ่งเหว ควายตื่น ไทยบัดซบตื่น โง่กว่าควายคือกู! ชีวิตพอเพียงไม่เอา จะอยากอยู่คุกตลอดชีวิต ความโง่ที่มรึงคู่ควร แค่เศษเงินซื้อมรึงได้ ชีวิตมรึงก็แค่ "ขี้หมา" ไร้ราคา สุดท้ายนี้ ขอไว้อาลัย แด่วีรชน ผู้กล้าทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปก่อนหน้านี้ สิ่งที่ทุกท่านทำไป มันคือคุณประโยชน์ต่อชาติ แผ่นดิน ระลึกถึงเสมอ 7 ตุลาคม มิเคยลืมเลือน เทียนแห่งธรรมถูกจุดขึ้นนับแต่นั้นมา เสียใจกับเพ่โสและครอบครัว ไม่อยากพูด แต่อดไม่ได้ เพ่โส แฉเหี้ยมานมนาน จนคนตื่นรู้ ขออานิสงค์แห่งปัญญาส่งดวงวิญญานผู้กล้าทุกท่าน ไปสู่ดวงดาวแห่งสรวงสวรรค์ ภพภูมิที่ดีกว่านี้ หน้าที่ของท่านจบลงแล้วบนแผ่นดินโลก เป็นหน้าที่รับไม้ต่อสู่ลูกหลานไทย ไม่มีมรึง ก็ไม่มีกู ไม่มีพ่อ ก็ไม่มีแผ่นดิน นี่คือรุ่นสุดท้ายของศตวรรษนี้แล้ว ปลายกลียุค ทุกอย่างของความอัปรีย์จัญไร สิ่งโสมม ทั้งสากลโลก จะต้องจบในพศ.นี้ ต้องจบในรุ่นนี้เท่านั้น จะไม่ปล่อยผ่านไปให้ถึงมือลูกหลานต้องมานั่งแก้ปัญหาต่อเด็ดขาด จบที่กูกับมรึง! ไม่มีถูก ไม่มีผิด มีแค่ ความจริง ศรัทธา และความถูกต้องชอบธรรม ที่จะดำรงอยู่

    หมี CNN(ฮีโร่ที่แท้จริง อยู่ในใจเราทุกคน ผู้ที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ล้วนมีสิ่งนี้อยู่ในตัวเองอยู่แล้ว แค่มันยังไม่ถึงเวลาออกมาใช้ในยามจำเป็นแท้จริง ดังนั้น เมื่อถึงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ย่อมจะก่อเกิดฮีโร่เสมอ เพราะสายเลือดหมู่บ้านบางระจัน มันฝังอยู่ใน DNA ลูกหลานไทยทุกคน คิดดี ได้ดี ปกป้องแผ่นดินเกิด เชิดชู สถาบันสูงสุด คือหน้าที่ของคนไทยทุกคน ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญระบุชัดเจน กฎอะไรก็ไม่สำคัญเท่า หากมีพ่อปกครองลูก ร่มเย็น เป็นสุข ด้วยพระบารมี ราชวงศ์จักรี ยั้งยืนยง ชั่วกาลปาวสาน)
    30 ตุลาคม 67
    10.59 น.

    https://linevoom.line.me/post/1173026253201001564
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    30-10-67/01 : หมี CNN / "เล่าสู่กันฟัง" EP.11 ตอน "NEW HERO BORN IN EVERYDAY" ไม่ใช่ MARVEL ไม่ใช่ DC แต่เป็นทหารราชองครักษ์ สั่งสอนเด็กอมมือ ไม่รู้กาลเทศะ มือกัน ไม่ให้เดินเทียบเจ้า ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ รหัสลับ DNA ตามพ่องแม่งเป๊ะเด๊ะ ครั้งนึง ในงานเลี้ยงส่วนพระองค์กับแขกอาคันตุกะทั่วโลก อีพ่อเหลี่ยมไม่ได้ถูกเชิญ แต่เสือกเสนอหน้า อยากจะเกิด แต่เสือกดับกลางหน้าประตูงานเลี้ยง เพราะมันงานเลี้ยงของพระเจ้าแผ่นดิน ไม่ใช่หน้าที่นายกฯ บรรดากษัตริย์ ราชวงศ์ชั้นสูงจากทั่วโลก แห่กันเข้ามาร่วมแสดงความยินดี อีเหลี่ยมหัวหมอ อยากยกระดับโดยไม่เจียมกะลาหัวตัวเอง เป็นแค่นายกฯ ใต้ตรีนฝ่าพระบาท โดนเจ้าหน้าที่วังถีบออก สั่งไสหัวออกไป นั่นคือจุดเดือด ความเครียดแค้นที่มีต่อวังนับแต่นั้นมา หมายังรู้ มรึงแค่ขี้ข้าเหี้ย CIA ขึ้นมาได้เพราะเงินวอชิงตัน ซื้อเสียงมาทั้งนั้น หลอกควายไทยบัดซบ 10 ล้านเสียง ครั้นอีลูกสาวร่านขึ้นแท่นบ้าง อยากจะเดินตามรอยพ่อเหลี่ยมเหี้ยบ้าง คิดวัดรอยตรีน แต่งวดนี้ หน้าแหก หมอไม่รับเย็บ โดนท่านปีใหม่ เอาแขนกันไว้ ไม่ให้เดินเทียบ ภาษาแถวบ้านเรียก "เสียหมา" ระดับนายก ก็แค่ข้าราชบริพาร อย่าริสะเออะเสนอหน้าเทียบเจ้า มรึงเป็นได้แค่เศษสวะ คิดล้มเจ้าทั้งตระกูล ฝันเปียกไปเหอะ ตระกูลมรึงจะสิ้นชาติพันธุ์ในพศ.นี้แหละ เหมือนทหารแตงโม ถูกแช่ ถูกดองกันเกลื่อนยามนี้ รู้ชะตากรรม วังเล่นบทพระเดชแล้ว อย่าต๊กกะใจ พ่อท่านร.10 ทรงมีเมตตาต่อทุกสรรพสิ่ง แต่จะไม่ละเว้นไอ้อีที่คิดกบฎขายชาติ ขายแผ่นดิน เชื่อกูเหอะว่า "ใครที่พ่อท่านไม่ปลื้ม" มรึงเตรียมเยี่ยวแตกได้เลย ระดับท่านไม่เสียเวลาดอก แค่ราชองครักษ์มรึงก็เละเทะแล้ว วังไม่ใช่เพื่อนเล่นมรึง ดีออก! จำใส่กระโหลกสมองหมาปัญญาควายมรึงไว้ให้ดีดี! กูว่าแล้ว ทรงมันมาชัวร์ ทำไมไทยต้องสร้าง "ซูปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เริ่ดสุด เร็วสุด แรงสุดในอาเซียน" ไทยถูกจีนวางตัวเป็นศูนย์กลางผลิตชิปแห่งอาเซียนนั่นเอง เทคโนโลยีเราได้จากจีนมาเต็มตรีน บวกมันสมองคนไทยที่ต่อยอดสำเร็จ เรากำลังจะกลายเป็นฮับอาเซียน แล้วฮับอาเซียนต้องมีอะไรล่ะ? ศูนย์กลางพลังงาน ศูนย์กลางเทคโนโลยี ศูนย์กลางอาหาร ศูนย์การตลาดอาเซียนเชื่อมโลก ศูนย์กลางเงิน ศูนย์การธนาคารอาเซียน เงินบาทหอมหวล ยังจะแข็งโป๊กได้อีกยาวไป ศูนย์กลางโลจิสติค ขนส่ง ไทยเรามีหมด ที่มาว่าทำไม เมื่อเราโตขึ้น สิ่งที่ตามมาคือภาคแรงงานมหาศาล และเพื่อนบ้านจะแห่กันเข้ามาอยู่เมืองไทยเพี๊ยบ เพราะหาเงินคล้อง เศรษฐกิจพุ่ง การค้าดี มั่นคง ร่มเย็น เป็นสุข แถมของอร่อยมีมากที่สุดในโลก ชีวิตดี๊ดี! ใครมาหลงเสน่ห์หมด ไม่อยากกลับบ้าน ขนาดหมูเด้ง ฮิปโปแคระยังดังระดับจักรวาลมาเวล ใครมาก็แจ้งเกิดได้ง่ายดาย เมืองไทย มันคือ "ที่สุดของที่สุดความหลากหลายโลก" ข้ามมาสู่โลกความเป็นจริงต่อ : อิเหนาโชว์ป๋า! สั่งห้ามขายไอโฟน 16 เพราะผิดเงื่อนไขสัญญา ไม่เป็นตามข้อตกลง ที่ต้องใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ 40% นั่นคือข้ออ้าง แท้จริงคือตบหน้าสั่งสอนเหี้ยนั่นเอง เพราะมันคือเครื่องมือดักฟัง สอดแนมของเหี้ย CIA ใครยังจะโง่ใช้อีไอโฟนอยู่อีก หัวเว่ย มาแรง แซงทะลุนรกไปแล้ว ดีกว่า เริ่ดกว่า แจ่มกว่า คุ้มค่าและประสิทธิภาพเทียบกันไม่ติด 6G กลายเป็นเรื่องรองทันที ยิ่งหัวเว่ยออก HARMONY 5.0 ปฎิบัติการอนาคต ทุบ ANDROID ทิ้งไปเลย มันคือระบบมือถือแห่งอนาคต ที่เชื่อมทั้งโลกเข้าหากันอย่างสมบูรณ์ แถวบ้านกูยังใช้กระป๋องผูกเชือกอยู่เลย เสียงดัง ฟังชัด ยกเว้นตอนฝนตก! ทำไม อิเหนา ถึงได้ช่างกล้าขนาดนี้ คำตอบคือ SU-35/ S-400 กำลังจะเข้ามาเติม พ่วงเรือรบใหม่ เรือดำน้ำนิวเคลียร์ เพราะอิเหนามีหมู่เกาะเยอะมาก เรือดำน้ำจำเป็น และมีท่าเรือน้ำลึกมากมาย ใครจะวัดกับอิเหนา ไม่ง่ายอีกต่อไป อิเหนาพึ่งพาจีนด้านการลงทุน พึ่งพารัสเซีย ด้านพลังงาน อาวุธ เวียดนามตามรอยทันที ไม่แปลก รายชื่อสมาชิกใหม่ BRICS ถึงมีอาเซียนไปโผล่เพี๊ยบ เพราะเค้าคุยกันมาก่อนแล้ว แค่รอดูจังหวะเวลาที่ใช่ ค่อยประกาศตัว? ไอ้สัส! กลัวจุงเบย อย่าขู่กูน่ะ กูยิ่งปอดแหกอยู่ หลังล่าสุด อีวอชิงตันขู่อิหร่าน ห้ามโจมตีกลับอียิวเหี้ยเด็ดขาด หลังเพิ่งจะโชว์โง่ เสียหมา ดาหน้าบินไปถล่มเค้า แต่ถูกสกัดได้หมด หมากว่านี้ไม่มีอีกแล้ว แต่ดันเสือกกลัวเค้าเอาคืน? อิหร่านกลัวจัด เลยรีบสั่ง 3 ฮอ ดาหน้าถล่มยับทันที ภายใน 24 ชม. ท่าเรือ สนามบิน ศูนย์บัญชาการย่อย คลังแสงย่อย โดนอีก ไม่เหลือเป้าหมายแล้วลวกเพ่? อย่าขู่กูบ่อย มือมันสั่น มือมันลั่น เดี๋ยวมรึงจะตายห่าไม่มีเหลือ แค่กดปุ่ม ชีวิตเปลี่ยนเลยมรึง? ด้านพรมแดนเลบานอน กองทัพอียิวลากสังขารถอยหลังไปอีก 20 กม. จากไปรุกรานเค้า กลับเสียดินแดนหน้าด่านจนเกลี้ยง เลบานอนรุกกลับกินพื้นที่เข้าไปในแผ่นดินมรึงแล้ว งวดนี้ ไม่ต้องถามสื่อ ถามกูนี่แหละ ดอกนี้ อียิวตายห่าไปแล้ว 3000 ตัว ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มาว่าทำไมต้องสั่งเกณฑ์ทหารใหม่เพิ่มรอบที่ 6 เหลือแต่หมาแล้วมั้ง? โลกอาหรับ อิหร่าน คุยกันรู้เรื่อง ค่อยๆ บดขยี้ กินมันไปเรื่อยๆ จนมันอ่อนแรง บีบให้มันย้ายออกไปดีดี จะได้ไม่ต้องสูญเสียชีวิตผู้บริสุทธิ์ ล่าสุด ตัวเลขพลเรือนอิสราเอล ที่เสียชีวิต นับตั้งแต่ฮามาสจุดเค็กวันเกิดฉลอง ตอนนี้ ตายห่าไปแล้วกว่า 30000 ตัว สื่อไม่มาบอกมรึงดอก เพราะมันถูกซากตึกทับตายกันเกลื่อน ส่วนอีไทยเนรคุณ ที่เสือกไปรับจ้างรบให้อิสราเอล ไม่ต้องถาม มันตายห่าตั้งแต่วันแรกแล้ว สูตรอียิว ส่งทหารรับจ้างไปตายห่าก่อน ทหารอียิวเหลือน้อย มีเอาไว้แค่สั่งการ ตายห่าไปเหอะ มรึงไม่ใช่คนไทย แค่อาศัยแผ่นดินพ่อกูมาเกิด แต่ไม่ได้ทำประโยชน์ห่าอะไรให้กับแผ่นดินเกิดมรึงเลย มีแต่จะชักศึกเข้าบ้าน จงตายห่าไปซะน่ะ กูไม่สนชีวิตเหี้ยๆ ของมรึงดอก ไอ้ระยำ? ปล.ลุงสนธิ ฝากมาบอก อีชาติชั่ว มรึงเตรียมแดร๊กเยี่ยวแล้วรึยัง? ท้าใครไม่ท้า 71 แก้ว แก้วเดียวมรึงก็อ๊วกแตกแล้ว! กรรมชั่ว ทำระยำ โกหกตอแหล ปลิ้นปล้อน 18 มงกุฎ ตายเพราะปากมรึงเอง! อยู่ดีดี ก็เอาเรตติ้งมาให้สนธิ ทอล์ก NEWS1 พุ่งกระฉูด ทุกสำนักข่าวต้องมาลากไส้อีทนายเหี้ยผ่านลุงสนธิ อาจารย์ปานเทพ เพราะเจ้าทุกข์ขอเอง กูจะคุยกับลุงสนธิเท่านั้น จ่ายค่าจ้างสุดถูก ไวน์ราคา 100 ล้าน ช็อคโกแลตราคาพันล้าน รวยมั้ย ไอ้สัส! บิดเบือนกันจัง ดีออก? เพ่อ้อย สุดท้ายก็ต้องพึ่งคนจริง ใครเดือดร้อน มีที่ไหนที่เป็นปากกระบอกเสียงได้จริง ดังนั้น ตอนนี้ งานเข้า NEWS1 กับอีโหนกระแส อีหนุ่มบอก กูอาจจะตายวันไหนไม่ยู้? ล่อแต่ละดอก ของหนักทั้งนั้น! จำเอาไว้ว่า "อะไรที่โกงเค้ามา ก็ต้องคืนเค้าไป" อะไรที่ไม่ใช่ของตน ยึดครองไว้ก็คือคำสาปแช่ง ชีวิตคนแค่ 100 ปี แต่สิ่งที่รอลงโทษมรึงอยู่ ไร้กาลเวลา คุ้มค่ามั้ยล่ะ? เพราะขาดสติ จึงไร้ปัญญา เพราะโลภ จึงมองไม่เห็นความจริง! ไอ้อี ที่เคยอวดมั่ง อวดมี โชว์ป๋า โชว์บินส่วนตัว บ้านคฤหาสน์ มันใช่ของมรึงจริงๆ มั้ยล่ะ? เสพสุขแค่ชั่วคืน เสพคุกทั้งชีวิต อิสรภาพคือสิ่งที่มนุษย์ขาดมิได้ อยากรู้ ให้ไปถามไอ้อีทะลุเหี้ยทั้งหลาย แดร๊กบาทาอร่อยเช้าเย็น ชีวิตบัดซบ ยิ่งกว่าตาย? ล่าสุด ไอ้อี 3 นิ้วครึ่งที่ล้มเจ้า ที่แห่หนีไปต่างแดน ชีวิตตกระกำลำบาก เงินเดือนไม่ให้ ดิ้นรน เลี้ยงปากท้องเอง อยู่แบบผิดกฎหมาย ทำงานไม่ได้ เหี้ยไม่เลี้ยงคือบีบให้กลับบ้านไปตายเอาดาบหน้าไงล่ะ หมาซะยิ่งกว่าหมา ขนาดอีพรรคส้มเน่ายังไม่เหลือ กระแสดิ่งเหว ควายตื่น ไทยบัดซบตื่น โง่กว่าควายคือกู! ชีวิตพอเพียงไม่เอา จะอยากอยู่คุกตลอดชีวิต ความโง่ที่มรึงคู่ควร แค่เศษเงินซื้อมรึงได้ ชีวิตมรึงก็แค่ "ขี้หมา" ไร้ราคา สุดท้ายนี้ ขอไว้อาลัย แด่วีรชน ผู้กล้าทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปก่อนหน้านี้ สิ่งที่ทุกท่านทำไป มันคือคุณประโยชน์ต่อชาติ แผ่นดิน ระลึกถึงเสมอ 7 ตุลาคม มิเคยลืมเลือน เทียนแห่งธรรมถูกจุดขึ้นนับแต่นั้นมา เสียใจกับเพ่โสและครอบครัว ไม่อยากพูด แต่อดไม่ได้ เพ่โส แฉเหี้ยมานมนาน จนคนตื่นรู้ ขออานิสงค์แห่งปัญญาส่งดวงวิญญานผู้กล้าทุกท่าน ไปสู่ดวงดาวแห่งสรวงสวรรค์ ภพภูมิที่ดีกว่านี้ หน้าที่ของท่านจบลงแล้วบนแผ่นดินโลก เป็นหน้าที่รับไม้ต่อสู่ลูกหลานไทย ไม่มีมรึง ก็ไม่มีกู ไม่มีพ่อ ก็ไม่มีแผ่นดิน นี่คือรุ่นสุดท้ายของศตวรรษนี้แล้ว ปลายกลียุค ทุกอย่างของความอัปรีย์จัญไร สิ่งโสมม ทั้งสากลโลก จะต้องจบในพศ.นี้ ต้องจบในรุ่นนี้เท่านั้น จะไม่ปล่อยผ่านไปให้ถึงมือลูกหลานต้องมานั่งแก้ปัญหาต่อเด็ดขาด จบที่กูกับมรึง! ไม่มีถูก ไม่มีผิด มีแค่ ความจริง ศรัทธา และความถูกต้องชอบธรรม ที่จะดำรงอยู่ หมี CNN(ฮีโร่ที่แท้จริง อยู่ในใจเราทุกคน ผู้ที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ล้วนมีสิ่งนี้อยู่ในตัวเองอยู่แล้ว แค่มันยังไม่ถึงเวลาออกมาใช้ในยามจำเป็นแท้จริง ดังนั้น เมื่อถึงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ย่อมจะก่อเกิดฮีโร่เสมอ เพราะสายเลือดหมู่บ้านบางระจัน มันฝังอยู่ใน DNA ลูกหลานไทยทุกคน คิดดี ได้ดี ปกป้องแผ่นดินเกิด เชิดชู สถาบันสูงสุด คือหน้าที่ของคนไทยทุกคน ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญระบุชัดเจน กฎอะไรก็ไม่สำคัญเท่า หากมีพ่อปกครองลูก ร่มเย็น เป็นสุข ด้วยพระบารมี ราชวงศ์จักรี ยั้งยืนยง ชั่วกาลปาวสาน) 30 ตุลาคม 67 10.59 น. https://linevoom.line.me/post/1173026253201001564 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1697 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สี จิ้นผิง" พบ "ปูติน" ในการประชุมสุดยอดผู้นำ ซัมมิต BRICS ครั้งที่ 16 ที่เมืองโบราณ คาซานของรัสเซีย

    โกลบอลไทมส์สื่อของทางการจีนรายงานว่า ระหว่างพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในพิธีเปิดการประชุมผู้นำชาติกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 16 ที่เมืองคาซาน สาธารณรัฐตาตาร์สถานของรัสเซีย เมื่อวันอังคาร (22 ต.ค.) นั้น

    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนได้กล่าวยกย่องการก่อตั้งกลไกความร่วมมือบริกส์ ซึ่งมีชาติทั้งสองเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ว่า จีนและรัสเซียได้พบหนทางที่ถูกต้องแล้วในการอยู่ร่วมกันระหว่างชาติใหญ่ๆ ในลักษณะที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่มีการเผชิญหน้า และไม่มีการล็อกเป้าหมายใดๆ ทั้งสิ้นกับฝ่ายที่สาม

    ผู้นำจีนระบุว่า กลไกความร่วมมือบริกส์ถือเป็นกำลังหลักในการส่งเสริมโลกที่มีหลายขั้วอำนาจอย่างเท่าเทียมกันและเป็นระเบียบ ตลอดจนส่งเสริมการสร้างโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์อย่างครอบคลุมทั่วโลก

    นอกจากนั้น สี จิ้นผิงยังกล่าวด้วยว่า ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียเดินมาไกลและบุกเบิกสร้างความสำเร็จมาด้วยกันหลายประการ

    ด้านรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ สี จิ้นผิงได้กล่าวกับผู้นำรัสเซียว่า ขณะนี้โลกกำลังประสบกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในรอบหนึ่งร้อยปี สถานการณ์ระหว่างประเทศพัวพันกันยุ่งเหยิงวุ่นวาย “แต่ผมเชื่อมั่นหนักแน่นว่า มิตรภาพระหว่างจีนกับรัสเซียจะดำเนินต่อไปหลายชั่วอายุคน และชาติที่ยิ่งใหญ่จะมีความรับผิดชอบต่อประชาชนของตนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง”

    ขณะที่ปูตินเรียกสี จิ้นผิงว่า “เพื่อนรัก” และกล่าวว่า ความร่วมมือรัสเซีย-จีนบนเวทีโลกเป็นปัจจัยหลักอันหนึ่งในการสร้างเสถียรภาพในโลก

    ทั้งนี้ กลุ่มบริกส์ประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ โดยคำว่า BRICS เป็นอักษรตัวแรกของชื่อชาติสมาชิกเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม จีนมองคำว่า BRICS นี้คือ “ก้อนทองคำ” (gold bricks) สำหรับจีน ซึ่งบ่งบอกถึงการมองศักยภาพและอนาคตอันสดใสของกลุ่มบริกส์ในแง่ดีนั่นเอง

    ภาพประกอบข่าว
    1ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 16 เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 - ภาพ: ซินหัว
    2 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 16 เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 - ภาพ : รอยเตอร์
    3 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ชมคอนเสิร์ตก่อนงานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างไม่เป็นทางการระหว่างการประชุมสุดยอด BRICS ที่เมืองคาซาน รัสเซีย เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 - ภาพ : รอยเตอร์

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/oFBNCmDeuDCUXw9G/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    "สี จิ้นผิง" พบ "ปูติน" ในการประชุมสุดยอดผู้นำ ซัมมิต BRICS ครั้งที่ 16 ที่เมืองโบราณ คาซานของรัสเซีย โกลบอลไทมส์สื่อของทางการจีนรายงานว่า ระหว่างพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในพิธีเปิดการประชุมผู้นำชาติกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 16 ที่เมืองคาซาน สาธารณรัฐตาตาร์สถานของรัสเซีย เมื่อวันอังคาร (22 ต.ค.) นั้น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนได้กล่าวยกย่องการก่อตั้งกลไกความร่วมมือบริกส์ ซึ่งมีชาติทั้งสองเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ว่า จีนและรัสเซียได้พบหนทางที่ถูกต้องแล้วในการอยู่ร่วมกันระหว่างชาติใหญ่ๆ ในลักษณะที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่มีการเผชิญหน้า และไม่มีการล็อกเป้าหมายใดๆ ทั้งสิ้นกับฝ่ายที่สาม ผู้นำจีนระบุว่า กลไกความร่วมมือบริกส์ถือเป็นกำลังหลักในการส่งเสริมโลกที่มีหลายขั้วอำนาจอย่างเท่าเทียมกันและเป็นระเบียบ ตลอดจนส่งเสริมการสร้างโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์อย่างครอบคลุมทั่วโลก นอกจากนั้น สี จิ้นผิงยังกล่าวด้วยว่า ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียเดินมาไกลและบุกเบิกสร้างความสำเร็จมาด้วยกันหลายประการ ด้านรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ สี จิ้นผิงได้กล่าวกับผู้นำรัสเซียว่า ขณะนี้โลกกำลังประสบกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในรอบหนึ่งร้อยปี สถานการณ์ระหว่างประเทศพัวพันกันยุ่งเหยิงวุ่นวาย “แต่ผมเชื่อมั่นหนักแน่นว่า มิตรภาพระหว่างจีนกับรัสเซียจะดำเนินต่อไปหลายชั่วอายุคน และชาติที่ยิ่งใหญ่จะมีความรับผิดชอบต่อประชาชนของตนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง” ขณะที่ปูตินเรียกสี จิ้นผิงว่า “เพื่อนรัก” และกล่าวว่า ความร่วมมือรัสเซีย-จีนบนเวทีโลกเป็นปัจจัยหลักอันหนึ่งในการสร้างเสถียรภาพในโลก ทั้งนี้ กลุ่มบริกส์ประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ โดยคำว่า BRICS เป็นอักษรตัวแรกของชื่อชาติสมาชิกเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม จีนมองคำว่า BRICS นี้คือ “ก้อนทองคำ” (gold bricks) สำหรับจีน ซึ่งบ่งบอกถึงการมองศักยภาพและอนาคตอันสดใสของกลุ่มบริกส์ในแง่ดีนั่นเอง ภาพประกอบข่าว 1ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 16 เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 - ภาพ: ซินหัว 2 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 16 เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 - ภาพ : รอยเตอร์ 3 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ชมคอนเสิร์ตก่อนงานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างไม่เป็นทางการระหว่างการประชุมสุดยอด BRICS ที่เมืองคาซาน รัสเซีย เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 - ภาพ : รอยเตอร์ ที่มา https://www.facebook.com/share/p/oFBNCmDeuDCUXw9G/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 438 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇺🇦🇪 งานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างไม่เป็นทางการระหว่างประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โมฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัล นายาน เริ่มต้นขึ้นที่บ้านพักโนโว-โอการีโวของปูติน

    ก่อนหน้านี้ ปูตินประกาศว่าผู้นำของทั้งสองประเทศ "จะรับประทานอาหารค่ำ, ใช้เวลาช่วงเย็นร่วมกัน และหารือเกี่ยวกับปัญหาปัจจุบันทั้งหมด"

    ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สอดคล้องกับระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์, ปูตินกล่าว
    .
    🇷🇺🇦🇪 An informal dinner between Russian President Vladimir Putin and UAE President Mohammed bin Zayed Al Nahyan began in Putin's Novo-Ogaryovo residence

    Putin had previously announced that the heads of the two states "will have dinner, spend the evening together and discuss all current issues."

    Relations between Russia and the UAE correspond to the level of strategic partnership, Putin said.
    .
    12:05 AM · Oct 21, 2024 · 18K Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1848047800824574243
    🇷🇺🇦🇪 งานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างไม่เป็นทางการระหว่างประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โมฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัล นายาน เริ่มต้นขึ้นที่บ้านพักโนโว-โอการีโวของปูติน ก่อนหน้านี้ ปูตินประกาศว่าผู้นำของทั้งสองประเทศ "จะรับประทานอาหารค่ำ, ใช้เวลาช่วงเย็นร่วมกัน และหารือเกี่ยวกับปัญหาปัจจุบันทั้งหมด" ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สอดคล้องกับระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์, ปูตินกล่าว . 🇷🇺🇦🇪 An informal dinner between Russian President Vladimir Putin and UAE President Mohammed bin Zayed Al Nahyan began in Putin's Novo-Ogaryovo residence Putin had previously announced that the heads of the two states "will have dinner, spend the evening together and discuss all current issues." Relations between Russia and the UAE correspond to the level of strategic partnership, Putin said. . 12:05 AM · Oct 21, 2024 · 18K Views https://x.com/SputnikInt/status/1848047800824574243
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • “บิ๊กต่อ“ ส่งมอบตำแหน่งหน้าที่ให้ "บิ๊กต่าย" ในฐานะรอง ผบ.ตร.อาวุโสสูงสุด เผยทิ้งท้ายงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา จากนี้ขอให้ตำรวจตั้งใจทำงานเพื่อองค์กร ส่วนตัวเองขอพักผ่อน
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000092192

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “บิ๊กต่อ“ ส่งมอบตำแหน่งหน้าที่ให้ "บิ๊กต่าย" ในฐานะรอง ผบ.ตร.อาวุโสสูงสุด เผยทิ้งท้ายงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา จากนี้ขอให้ตำรวจตั้งใจทำงานเพื่อองค์กร ส่วนตัวเองขอพักผ่อน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000092192 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Sad
    Love
    Yay
    46
    3 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 3546 มุมมอง 1 รีวิว
  • ย้อนอดีตเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2554 กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พระราชทาน “กระต่ายเป่าทรัมโบน” เป็นตราสัญลักษณ์ ของ สำนักงานมาตรฐานการเลี้ยงและใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์

    สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานภาพฝีพระหัตถ์ "กระต่ายเป่าทรัมโบน" เป็นสัญลักษณ์ ของ สำนักงานมาตรฐานการเลี้ยงและใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ (สลช.) เพื่อเป็นสิริมงคลในการดำเนินงานด้านการส่งเสริมและกำกับการพัฒนางานเลี้ยงและใช้สัตว์ เพื่องานทางวิทยาศาสตร์

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/knzSSmrvY6vy62Bp/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    ย้อนอดีตเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2554 กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พระราชทาน “กระต่ายเป่าทรัมโบน” เป็นตราสัญลักษณ์ ของ สำนักงานมาตรฐานการเลี้ยงและใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานภาพฝีพระหัตถ์ "กระต่ายเป่าทรัมโบน" เป็นสัญลักษณ์ ของ สำนักงานมาตรฐานการเลี้ยงและใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ (สลช.) เพื่อเป็นสิริมงคลในการดำเนินงานด้านการส่งเสริมและกำกับการพัฒนางานเลี้ยงและใช้สัตว์ เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/knzSSmrvY6vy62Bp/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Love
    14
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1550 มุมมอง 0 รีวิว
  • หกทักษะของสุภาพบุรุษจีนโบราณ ตอน 1 ‘หลี่’

    สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดู <องค์หญิงใหญ่> จะจำได้ว่าองค์หญิงหลี่หรงจัดงานเลี้ยงเพื่อทำความรู้จักกับแคนดิเดทราชบุตรเขย โดยในระหว่างงานเลี้ยงได้กำหนดให้เหล่าคุณชายแสดงความสามารถตาม ‘จวินจื่อลิ่วอี้’ (君子六艺) หรือหกทักษะของสุภาพบุรุษ (หมายเหตุ อี้ แปลได้ว่าทักษะความสามารถ) และหกทักษะนี้ได้รับการกล่าวถึงในหลากหลายละครและนิยายจีนโบราณด้วยเช่นกัน

    หกทักษะนี้คือพื้นฐานความรู้ด้านต่างๆ อันแฝงไว้ซึ่งปรัชญาและคำสอนของขงจื๊อ เชื่อว่าเพื่อนเพจเคยผ่านตาผ่านหูว่า หกทักษะนี้คือ พิธีการ (หลี่/礼) ดนตรี (เยวี่ย/乐) ยิงธนู (เซ่อ/射) ขับขี่ (อวี้/御) อักษรศาสตร์ (ซู/书) และคำนวณ (ซู่/数) แต่เชื่อว่าเพื่อนเพจคงไม่รู้ถึงรายละเอียดของมัน

    หกทักษะปรากฏอยู่ในบันทึกพิธีการโจวหลี่ (เป็นบันทึกที่จัดทำขึ้นในสมัยราชวงศ์ฮั่นเพื่อรวมรวมข้อมูลพิธีการและความรู้ด้านต่างๆ จากสมัยราชวงศ์โจว) ในรายละเอียดประกอบด้วย ห้าพิธีการ หกดนตรี ห้าธนู ห้าขับขี่ หกอักษร และเก้าคำนวณ และมีการอธิบายไว้ชัดเจนว่าองค์ประกอบของมันมีอะไรบ้าง Storyฯ อ่านแล้วก็รู้สึกว่ามีหลายอย่างที่เหนือความคาดหมาย เลยมาเล่าสู่กันฟัง แต่ขอแบ่งเล่าเป็นหลายตอนเพื่อไม่ให้บทความยาวเกินไป

    ทักษะแรกคือ ‘หลี่’ (礼) ซึ่งแปลได้ว่าพิธีการหรือมารยาท โดยบัณฑิตต้องรู้ถึงรายละเอียดของการเตรียมงาน ขั้นตอนในงาน กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการวางตัว เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ และคำพูดที่ถูกต้องเหมาะสม และห้า ‘หลี่’ ที่บัณฑิตต้องรู้คือ
    (1) จี๋หลี่ (吉礼) หมายถึงพิธีการเสริมดวงเสริมบารมี คืองานเซ่นไหว้สักการะและงานบวงสรวงทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ ตามเทศกาลสำคัญหรือกราบไหว้บรรพบุรุษ
    (2) ซยงหลี่ (凶礼) หมายถึงพิธีการเกี่ยวกับภยันตราย โดยหลักคืองานศพ และหมายรวมถึงพิธีการขับไล่สิ่งอัปมงคลในยามที่เกิดอุทกภัยหรือโรคระบาด หรือพิธีการเซ่นไหว้ไว้อาลัยหลังสงคราม
    (3) จวินหลี่ (军礼) หมายถึงพิธีการด้านการทหาร (การจัดขบวน การเคลื่อนทัพ การบวงสรวงต่างๆ เมื่อองค์กษัตริย์ทรงยาตราทัพเอง การเยี่ยมชมและตรวจการกองทัพ และการต้อนรับกองทัพที่กลับจากสงคราม โดยพิธีการมีจำแนกว่าชนะศึกหรือพ่ายศึกกลับมา ฯลฯ) และยังรวมถึงพิธีการเกี่ยวกับงานล่าสัตว์ประจำฤดูของกษัตริย์ และหมายรวมงานก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องเกณฑ์ชาวบ้านมาร่วมทำเช่นอารามหลวง พระราชวัง ฯลฯ
    (4) ปินหลี่ (宾礼) หมายถึงมารยาทและพิธีการในการต้อนรับแขก โดยจำแนกตามยศศักดิ์ของแขกและผู้ที่ให้การต้อนรับ เช่น กษัตริย์ต้อนรับกษัตริย์แขกเมืองหรือขุนนาง ข้าราชการต้อนรับประชาชนธรรมดา ต้อนรับแขกเมืองระดับต่างๆ ฯลฯ
    (5) เจียหลี่ (嘉礼) หมายถึงพิธีการมงคล ซึ่งจำแนกรายละเอียดตามยศศักดิ์ของเจ้าของงาน เช่นงานราชพิธีต่างๆ (พิธีราชาภิเษก งานแต่งตั้งองค์รัชทายาท งานเลือกชายาและสนม ฯลฯ) งานมงคลสมรส พิธีปักปิ่น พิธีสวมหมวกกวาน พิธีการขอบคุณ พิธีการอำลา งานเลี้ยงสังสรรค์ทั่วไป เป็นต้น

    แน่นอนว่าแต่ละพิธีการเหล่านี้มีรายละเอียดอีกมากมายที่เราไม่ได้ลงรายละเอียดในที่นี้ (หมายเหตุ Storyฯ เคยกล่าวถึงบางพิธีการ เช่นพิธีการปักปิ่น ฯลฯ ลองค้นอ่านบทความเก่าได้จากสารบัญนะคะ) แต่โดยภาพรวมเราจะเห็นได้ว่า ทักษะว่าด้วย ‘หลี่’ นี้ หมายรวมถึงความเข้าใจอย่างละเอียดถึงพิธีการต่างๆ หลักการปฏิบัติและวางตนต่อผู้อื่นและมารยาททางสังคม โดยมาจากแนวคำสอนของขงจื๊อที่ว่า ผู้ที่บกพร่องในทักษะนี้ จะขาดการวางตนที่ดี ไม่รู้ว่าควรปฏิบัติต่อผู้อื่นหรืออยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างไร ทำให้สูญเสียความมั่นใจในตนเอง หรือทำให้เกิดความวุ่นวายสร้างความขุ่นเคืองหรือสับสนต่อผู้อื่นได้ และทำให้สังคมไม่สมานฉันท์

    สัปดาห์หน้าเรามาคุยกันต่อค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.upmedia.mg/news_info.php?Type=196&SerialNo=204949
    https://guoxue.ifeng.com/c/7qhsbaO24FU
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_20109083
    https://baike.baidu.com/item/六艺/238715
    http://www.dfg.cn/gb/ssht/ly/07-junli.htm
    https://baike.baidu.com/item/五礼/491424

    #องค์หญิงใหญ่ #ทักษะสุภาพบุรุษจีน #ศิลปะสุภาพบุรุษจีน #คำสอนขงจื๊อ #จวินจื่อลิ่วอี้ #สาระจีน

    หกทักษะของสุภาพบุรุษจีนโบราณ ตอน 1 ‘หลี่’ สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดู <องค์หญิงใหญ่> จะจำได้ว่าองค์หญิงหลี่หรงจัดงานเลี้ยงเพื่อทำความรู้จักกับแคนดิเดทราชบุตรเขย โดยในระหว่างงานเลี้ยงได้กำหนดให้เหล่าคุณชายแสดงความสามารถตาม ‘จวินจื่อลิ่วอี้’ (君子六艺) หรือหกทักษะของสุภาพบุรุษ (หมายเหตุ อี้ แปลได้ว่าทักษะความสามารถ) และหกทักษะนี้ได้รับการกล่าวถึงในหลากหลายละครและนิยายจีนโบราณด้วยเช่นกัน หกทักษะนี้คือพื้นฐานความรู้ด้านต่างๆ อันแฝงไว้ซึ่งปรัชญาและคำสอนของขงจื๊อ เชื่อว่าเพื่อนเพจเคยผ่านตาผ่านหูว่า หกทักษะนี้คือ พิธีการ (หลี่/礼) ดนตรี (เยวี่ย/乐) ยิงธนู (เซ่อ/射) ขับขี่ (อวี้/御) อักษรศาสตร์ (ซู/书) และคำนวณ (ซู่/数) แต่เชื่อว่าเพื่อนเพจคงไม่รู้ถึงรายละเอียดของมัน หกทักษะปรากฏอยู่ในบันทึกพิธีการโจวหลี่ (เป็นบันทึกที่จัดทำขึ้นในสมัยราชวงศ์ฮั่นเพื่อรวมรวมข้อมูลพิธีการและความรู้ด้านต่างๆ จากสมัยราชวงศ์โจว) ในรายละเอียดประกอบด้วย ห้าพิธีการ หกดนตรี ห้าธนู ห้าขับขี่ หกอักษร และเก้าคำนวณ และมีการอธิบายไว้ชัดเจนว่าองค์ประกอบของมันมีอะไรบ้าง Storyฯ อ่านแล้วก็รู้สึกว่ามีหลายอย่างที่เหนือความคาดหมาย เลยมาเล่าสู่กันฟัง แต่ขอแบ่งเล่าเป็นหลายตอนเพื่อไม่ให้บทความยาวเกินไป ทักษะแรกคือ ‘หลี่’ (礼) ซึ่งแปลได้ว่าพิธีการหรือมารยาท โดยบัณฑิตต้องรู้ถึงรายละเอียดของการเตรียมงาน ขั้นตอนในงาน กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการวางตัว เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ และคำพูดที่ถูกต้องเหมาะสม และห้า ‘หลี่’ ที่บัณฑิตต้องรู้คือ (1) จี๋หลี่ (吉礼) หมายถึงพิธีการเสริมดวงเสริมบารมี คืองานเซ่นไหว้สักการะและงานบวงสรวงทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ ตามเทศกาลสำคัญหรือกราบไหว้บรรพบุรุษ (2) ซยงหลี่ (凶礼) หมายถึงพิธีการเกี่ยวกับภยันตราย โดยหลักคืองานศพ และหมายรวมถึงพิธีการขับไล่สิ่งอัปมงคลในยามที่เกิดอุทกภัยหรือโรคระบาด หรือพิธีการเซ่นไหว้ไว้อาลัยหลังสงคราม (3) จวินหลี่ (军礼) หมายถึงพิธีการด้านการทหาร (การจัดขบวน การเคลื่อนทัพ การบวงสรวงต่างๆ เมื่อองค์กษัตริย์ทรงยาตราทัพเอง การเยี่ยมชมและตรวจการกองทัพ และการต้อนรับกองทัพที่กลับจากสงคราม โดยพิธีการมีจำแนกว่าชนะศึกหรือพ่ายศึกกลับมา ฯลฯ) และยังรวมถึงพิธีการเกี่ยวกับงานล่าสัตว์ประจำฤดูของกษัตริย์ และหมายรวมงานก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องเกณฑ์ชาวบ้านมาร่วมทำเช่นอารามหลวง พระราชวัง ฯลฯ (4) ปินหลี่ (宾礼) หมายถึงมารยาทและพิธีการในการต้อนรับแขก โดยจำแนกตามยศศักดิ์ของแขกและผู้ที่ให้การต้อนรับ เช่น กษัตริย์ต้อนรับกษัตริย์แขกเมืองหรือขุนนาง ข้าราชการต้อนรับประชาชนธรรมดา ต้อนรับแขกเมืองระดับต่างๆ ฯลฯ (5) เจียหลี่ (嘉礼) หมายถึงพิธีการมงคล ซึ่งจำแนกรายละเอียดตามยศศักดิ์ของเจ้าของงาน เช่นงานราชพิธีต่างๆ (พิธีราชาภิเษก งานแต่งตั้งองค์รัชทายาท งานเลือกชายาและสนม ฯลฯ) งานมงคลสมรส พิธีปักปิ่น พิธีสวมหมวกกวาน พิธีการขอบคุณ พิธีการอำลา งานเลี้ยงสังสรรค์ทั่วไป เป็นต้น แน่นอนว่าแต่ละพิธีการเหล่านี้มีรายละเอียดอีกมากมายที่เราไม่ได้ลงรายละเอียดในที่นี้ (หมายเหตุ Storyฯ เคยกล่าวถึงบางพิธีการ เช่นพิธีการปักปิ่น ฯลฯ ลองค้นอ่านบทความเก่าได้จากสารบัญนะคะ) แต่โดยภาพรวมเราจะเห็นได้ว่า ทักษะว่าด้วย ‘หลี่’ นี้ หมายรวมถึงความเข้าใจอย่างละเอียดถึงพิธีการต่างๆ หลักการปฏิบัติและวางตนต่อผู้อื่นและมารยาททางสังคม โดยมาจากแนวคำสอนของขงจื๊อที่ว่า ผู้ที่บกพร่องในทักษะนี้ จะขาดการวางตนที่ดี ไม่รู้ว่าควรปฏิบัติต่อผู้อื่นหรืออยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างไร ทำให้สูญเสียความมั่นใจในตนเอง หรือทำให้เกิดความวุ่นวายสร้างความขุ่นเคืองหรือสับสนต่อผู้อื่นได้ และทำให้สังคมไม่สมานฉันท์ สัปดาห์หน้าเรามาคุยกันต่อค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.upmedia.mg/news_info.php?Type=196&SerialNo=204949 https://guoxue.ifeng.com/c/7qhsbaO24FU Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_20109083 https://baike.baidu.com/item/六艺/238715 http://www.dfg.cn/gb/ssht/ly/07-junli.htm https://baike.baidu.com/item/五礼/491424 #องค์หญิงใหญ่ #ทักษะสุภาพบุรุษจีน #ศิลปะสุภาพบุรุษจีน #คำสอนขงจื๊อ #จวินจื่อลิ่วอี้ #สาระจีน
    WWW.UPMEDIA.MG
    張凌赫新劇《度華年》對打王星越《墨雨雲間》 他與趙今麥演歡喜冤家3關鍵獲好評--上報
    張凌赫近年事業蒸蒸日上,他2022年擔任王鶴棣、虞書欣的爆款劇《蒼蘭訣》男配嶄露頭角,接著又在2023年與虞......
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 718 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าเลือกได้ อยากทำงานเลี้ยงชีวิต หรือเลือกทำงานสร้างชีวิตดีค่ะ เลือกแบบไหนดี #ซ้อหลินวัดพระยาไกร #มิหลินพาสวย #ครูมิหลินสอนขายออนไลน์ #MilhinTheiCon
    ถ้าเลือกได้ อยากทำงานเลี้ยงชีวิต หรือเลือกทำงานสร้างชีวิตดีค่ะ เลือกแบบไหนดี #ซ้อหลินวัดพระยาไกร #มิหลินพาสวย #ครูมิหลินสอนขายออนไลน์ #MilhinTheiCon
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts